• วันนี้(10 พ.ค.) มีรายงานว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ได้ออกประกาศปรับอัตราค่าธรรมเนียมบริการโอนเงินและบริการแจ้งเตือนผู้รับเงินผ่านทางอีเมล โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป

    ประกาศดังกล่าวระบุว่า การโอนเงินภายในบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ยังคงไม่มีค่าธรรมเนียม แต่สำหรับการโอนเงินไปยังบัญชีบุคคลอื่น จะเริ่มมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 5 บาทต่อรายการ จากเดิมที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย

    นอกจากนี้ หากเป็นการโอนเงินข้ามเขต จะมีการคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอีก 0.1% ของยอดเงินที่โอน โดยกำหนดขั้นต่ำที่ 10 บาท และไม่เกิน 1,000 บาท

    ขณะเดียวกัน ธนาคารได้ปรับลดค่าธรรมเนียมบริการแจ้งเตือนผู้รับเงินผ่านทางอีเมล โดย ยกเว้นค่าธรรมเนียมทั้งหมด จากเดิมที่คิด 3 บาทต่อรายการ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000043823

    #MGROnline #SCB #ธนาคารไทยพาณิชย์ #โอนเงิน #โอนเงินข้ามเขต
    วันนี้(10 พ.ค.) มีรายงานว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ได้ออกประกาศปรับอัตราค่าธรรมเนียมบริการโอนเงินและบริการแจ้งเตือนผู้รับเงินผ่านทางอีเมล โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป • ประกาศดังกล่าวระบุว่า การโอนเงินภายในบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ยังคงไม่มีค่าธรรมเนียม แต่สำหรับการโอนเงินไปยังบัญชีบุคคลอื่น จะเริ่มมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 5 บาทต่อรายการ จากเดิมที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย • นอกจากนี้ หากเป็นการโอนเงินข้ามเขต จะมีการคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอีก 0.1% ของยอดเงินที่โอน โดยกำหนดขั้นต่ำที่ 10 บาท และไม่เกิน 1,000 บาท • ขณะเดียวกัน ธนาคารได้ปรับลดค่าธรรมเนียมบริการแจ้งเตือนผู้รับเงินผ่านทางอีเมล โดย ยกเว้นค่าธรรมเนียมทั้งหมด จากเดิมที่คิด 3 บาทต่อรายการ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000043823 • #MGROnline #SCB #ธนาคารไทยพาณิชย์ #โอนเงิน #โอนเงินข้ามเขต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • Zelle กำลังเผชิญกับ ปัญหาขัดข้องครั้งใหญ่ ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถส่งเงินผ่านธนาคารต่าง ๆ เช่น Chase, Bank of America และ TD Bank ได้ตามปกติ โดยมีรายงานปัญหามากกว่า 1,000 ครั้ง บน Down Detector ในช่วงเวลาสูงสุด

    Zelle เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมเนื่องจาก สามารถโอนเงินได้ทันทีโดยไม่มีค่าธรรมเนียม แต่ปัญหาครั้งนี้ทำให้ผู้ใช้จำนวนมาก ไม่สามารถทำธุรกรรมได้ และต้องรอให้ระบบกลับมาเป็นปกติ

    Fiserv ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีแก่ Zelle ได้ออกแถลงการณ์ว่า ปัญหานี้เกิดจากข้อผิดพลาดภายใน และขณะนี้กำลังดำเนินการแก้ไข โดยระบุว่า ระบบกลับมาใช้งานได้แล้ว แต่ยังต้องใช้เวลาในการจัดการธุรกรรมที่ค้างอยู่

    Zelle เป็นบริการโอนเงินแบบทันทีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งและรับเงินผ่าน แอปธนาคารหรือเครดิตยูเนียน ได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

    ✅ Zelle ประสบปัญหาขัดข้องครั้งใหญ่
    - ผู้ใช้ไม่สามารถส่งเงินผ่านธนาคารต่าง ๆ เช่น Chase, Bank of America และ TD Bank
    - มีรายงานปัญหามากกว่า 1,000 ครั้ง บน Down Detector

    ✅ สาเหตุของปัญหา
    - Fiserv ระบุว่า เกิดจากข้อผิดพลาดภายใน
    - ขณะนี้ระบบกลับมาใช้งานได้แล้ว แต่ยังต้องจัดการธุรกรรมที่ค้างอยู่

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้
    - ผู้ใช้บางรายเห็นสถานะ "payment pending" ในธุรกรรมของตน
    - บางธนาคารยังคงมีปัญหา แม้ว่าระบบจะเริ่มฟื้นตัว

    ✅ แนวทางแก้ไขของ Zelle และ Fiserv
    - Fiserv ระบุว่า กำลังดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ
    - Zelle กำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด

    https://www.techradar.com/news/live/zelle-outage-may-2025
    Zelle กำลังเผชิญกับ ปัญหาขัดข้องครั้งใหญ่ ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถส่งเงินผ่านธนาคารต่าง ๆ เช่น Chase, Bank of America และ TD Bank ได้ตามปกติ โดยมีรายงานปัญหามากกว่า 1,000 ครั้ง บน Down Detector ในช่วงเวลาสูงสุด Zelle เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมเนื่องจาก สามารถโอนเงินได้ทันทีโดยไม่มีค่าธรรมเนียม แต่ปัญหาครั้งนี้ทำให้ผู้ใช้จำนวนมาก ไม่สามารถทำธุรกรรมได้ และต้องรอให้ระบบกลับมาเป็นปกติ Fiserv ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีแก่ Zelle ได้ออกแถลงการณ์ว่า ปัญหานี้เกิดจากข้อผิดพลาดภายใน และขณะนี้กำลังดำเนินการแก้ไข โดยระบุว่า ระบบกลับมาใช้งานได้แล้ว แต่ยังต้องใช้เวลาในการจัดการธุรกรรมที่ค้างอยู่ Zelle เป็นบริการโอนเงินแบบทันทีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งและรับเงินผ่าน แอปธนาคารหรือเครดิตยูเนียน ได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ✅ Zelle ประสบปัญหาขัดข้องครั้งใหญ่ - ผู้ใช้ไม่สามารถส่งเงินผ่านธนาคารต่าง ๆ เช่น Chase, Bank of America และ TD Bank - มีรายงานปัญหามากกว่า 1,000 ครั้ง บน Down Detector ✅ สาเหตุของปัญหา - Fiserv ระบุว่า เกิดจากข้อผิดพลาดภายใน - ขณะนี้ระบบกลับมาใช้งานได้แล้ว แต่ยังต้องจัดการธุรกรรมที่ค้างอยู่ ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ - ผู้ใช้บางรายเห็นสถานะ "payment pending" ในธุรกรรมของตน - บางธนาคารยังคงมีปัญหา แม้ว่าระบบจะเริ่มฟื้นตัว ✅ แนวทางแก้ไขของ Zelle และ Fiserv - Fiserv ระบุว่า กำลังดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ - Zelle กำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด https://www.techradar.com/news/live/zelle-outage-may-2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน

    ผมเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0 ซึ่งโอนเงินได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยเชื่อมต่อกับธนาคารใน 16 ประเทศพร้อมกัน ทั้งใน จีน อาเซียน และตะวันออกกลาง เมื่อเช้าตรู่วันที่ 21 เม.ย. CIPS เป็นระบบโอนเงินข้ามชาติแบบเดียวกับ SWIFT ของสหรัฐฯ แต่ CIPS จะโอนเป็นเงินหยวนของจีน ขณะที่ SWIFT จะโอนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ CIPS ถือเป็นระบบโอนเงินข้ามชาติที่เป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐฯ CIPS ใช้เวลาโอนเงินข้ามประเทศเร็วมากเพียงไม่กี่วินาที มีต้นทุนการโอนเงินที่ตํ่ามาก เทียบกับ ระบบ SWIFT ของสหรัฐฯที่ต้องใช้เวลาในการโอนเงิน 2–3 วัน มีค่าโอนเงินที่แพงกว่ากันถึง 4 หมื่นกว่าเท่า

    การเปิดตัวของ ระบบโอนเงินข้ามพรมแดน CIPS 2.0 ของจีนครั้งนี้ จึงเป็นการทลายการผูกขาดโอนเงินข้ามชาติของระบบ SWIFT สหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน

    วันอังคาร 29 เม.ย. คุณพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เพิ่มศักยภาพการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวน (Chinese Yuan–CNY) ผ่าน ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน หรือ CIPS (Cross–Border Interbank Payment System) เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ใช้รับอนุมัติจากธนาคารกลางจีนให้เป็น Direct Participant สมาชิกตรง

    ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพจึงสามารถทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนได้โดยตรงกับระบบ CIPS ซึ่งช่วยลดระยะเวลาทำธุรกรรมให้สั้นลง คู่ค้าได้รับเงินเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ เป็นการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศไทยกับจีนในอนาคตเพิ่มมากขึ้นด้วย

    คุณพิพัฒน์ กล่าวว่า บริการโอนเงิน CIPS เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ นำเข้าและส่งออกซึ่งมีธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศกับคู่ค้าในจีน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการค้าสูง เช่น เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น ปี 2567 จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับ 1 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวมเกือบ 4.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปจีนมูลค่าประมาณ 1.2 ล้าน ล้านบาท และการนำเข้าจากจีนมีมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท จึงถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก

    การเข้าร่วมเป็น Direct Participant ในระบบ CIPS สะท้อนถึงความตั้งใจในการพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ธุรกิจของลูกค้าได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็น “เพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน” เคียงข้างและช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ การพัฒนาบริการดังกล่าวจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

    วันนี้การค้าโลกแยกออกเป็น 2 ค่ายชัดเจน จีน กับ สหรัฐฯ เมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกเพื่อเอาเปรียบ ตั้งแต่ 2 เม.ย.ทรัมป์ได้ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศไปแล้ว 10% และ จะขึ้นภาษีตอบโต้อีก 20–245% กับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ จะยึดคลองปานามา จะยึดคลองสุเอซที่เก็บค่าผ่านเรือสหรัฐฯ กลายเป็นอันธพาลระดับโลก ทำให้ทุกชาติ เริ่มถอยห่างจากสหรัฐฯมาใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น

    มาซาโตะ คานดะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เสนอ ให้ประเทศในเอเชียหันมาค้าขายกันเองให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อปกป้องเศรษฐกิจในภูมิภาคจากแรงกระแทกภายนอก

    ผมเชื่อว่า ระบบโอนเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน CIPS ของจีน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการค้าในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก “ยกเว้นสหรัฐฯ” ทำให้ ระบบโอนเงิน SWIFT ลดบทบาทลง สหรัฐฯจะได้ “โดดเดี่ยวตัวเอง” สมใจทรัมป์แน่นอน.


    “ลม เปลี่ยนทิศ”

    https://www.thairath.co.th/news/local/2855708
    ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน ผมเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0 ซึ่งโอนเงินได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยเชื่อมต่อกับธนาคารใน 16 ประเทศพร้อมกัน ทั้งใน จีน อาเซียน และตะวันออกกลาง เมื่อเช้าตรู่วันที่ 21 เม.ย. CIPS เป็นระบบโอนเงินข้ามชาติแบบเดียวกับ SWIFT ของสหรัฐฯ แต่ CIPS จะโอนเป็นเงินหยวนของจีน ขณะที่ SWIFT จะโอนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ CIPS ถือเป็นระบบโอนเงินข้ามชาติที่เป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐฯ CIPS ใช้เวลาโอนเงินข้ามประเทศเร็วมากเพียงไม่กี่วินาที มีต้นทุนการโอนเงินที่ตํ่ามาก เทียบกับ ระบบ SWIFT ของสหรัฐฯที่ต้องใช้เวลาในการโอนเงิน 2–3 วัน มีค่าโอนเงินที่แพงกว่ากันถึง 4 หมื่นกว่าเท่า การเปิดตัวของ ระบบโอนเงินข้ามพรมแดน CIPS 2.0 ของจีนครั้งนี้ จึงเป็นการทลายการผูกขาดโอนเงินข้ามชาติของระบบ SWIFT สหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน วันอังคาร 29 เม.ย. คุณพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เพิ่มศักยภาพการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวน (Chinese Yuan–CNY) ผ่าน ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน หรือ CIPS (Cross–Border Interbank Payment System) เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ใช้รับอนุมัติจากธนาคารกลางจีนให้เป็น Direct Participant สมาชิกตรง ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพจึงสามารถทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนได้โดยตรงกับระบบ CIPS ซึ่งช่วยลดระยะเวลาทำธุรกรรมให้สั้นลง คู่ค้าได้รับเงินเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ เป็นการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศไทยกับจีนในอนาคตเพิ่มมากขึ้นด้วย คุณพิพัฒน์ กล่าวว่า บริการโอนเงิน CIPS เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ นำเข้าและส่งออกซึ่งมีธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศกับคู่ค้าในจีน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการค้าสูง เช่น เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น ปี 2567 จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับ 1 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวมเกือบ 4.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปจีนมูลค่าประมาณ 1.2 ล้าน ล้านบาท และการนำเข้าจากจีนมีมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท จึงถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก การเข้าร่วมเป็น Direct Participant ในระบบ CIPS สะท้อนถึงความตั้งใจในการพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ธุรกิจของลูกค้าได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็น “เพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน” เคียงข้างและช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ การพัฒนาบริการดังกล่าวจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น วันนี้การค้าโลกแยกออกเป็น 2 ค่ายชัดเจน จีน กับ สหรัฐฯ เมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกเพื่อเอาเปรียบ ตั้งแต่ 2 เม.ย.ทรัมป์ได้ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศไปแล้ว 10% และ จะขึ้นภาษีตอบโต้อีก 20–245% กับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ จะยึดคลองปานามา จะยึดคลองสุเอซที่เก็บค่าผ่านเรือสหรัฐฯ กลายเป็นอันธพาลระดับโลก ทำให้ทุกชาติ เริ่มถอยห่างจากสหรัฐฯมาใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น มาซาโตะ คานดะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เสนอ ให้ประเทศในเอเชียหันมาค้าขายกันเองให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อปกป้องเศรษฐกิจในภูมิภาคจากแรงกระแทกภายนอก ผมเชื่อว่า ระบบโอนเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน CIPS ของจีน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการค้าในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก “ยกเว้นสหรัฐฯ” ทำให้ ระบบโอนเงิน SWIFT ลดบทบาทลง สหรัฐฯจะได้ “โดดเดี่ยวตัวเอง” สมใจทรัมป์แน่นอน. “ลม เปลี่ยนทิศ” https://www.thairath.co.th/news/local/2855708
    WWW.THAIRATH.CO.TH
    ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน
    ผมเพิ่งเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 288 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงคำเตือนจาก FBI เกี่ยวกับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีเป้าหมายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ โดยเฉพาะจากกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน FBI ระบุว่ากลุ่มเหล่านี้ใช้ AI ในทุกขั้นตอนของการโจมตี ตั้งแต่การค้นหาช่องโหว่ไปจนถึงการเคลื่อนย้ายภายในระบบ

    ตัวอย่างที่น่าสนใจคือกลุ่ม Volt Typhoon ที่ใช้เราเตอร์รุ่นเก่าเพื่อสร้างเครือข่ายบอตเน็ตสำหรับการโจมตี และกลุ่ม Salt Typhoon ที่เจาะระบบของบริษัทโทรคมนาคมและรัฐบาลสหรัฐฯ โดยใช้ช่องโหว่ที่ไม่ได้รับการแก้ไข

    นอกจากนี้ FBI ยังเตือนถึงการใช้เทคโนโลยี deepfake ในการหลอกลวง เช่น การปลอมตัวเป็นผู้บริหารเพื่อขอการโอนเงินหรือจัดประชุมออนไลน์

    ✅ การใช้ AI ในการโจมตี
    - กลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนใช้ AI ในทุกขั้นตอนของการโจมตี
    - ตัวอย่างเช่น Volt Typhoon และ Salt Typhoon ที่ใช้ช่องโหว่ในอุปกรณ์เก่า

    ✅ เป้าหมายของการโจมตี
    - โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น โทรคมนาคม พลังงาน และน้ำ
    - การเคลื่อนย้ายภายในระบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ

    ✅ การใช้ deepfake ในการหลอกลวง
    - การปลอมตัวเป็นผู้บริหารเพื่อขอการโอนเงินหรือจัดประชุมออนไลน์
    - การใช้ deepfake เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในข้อความหลอกลวง

    ✅ คำแนะนำจาก FBI
    - ใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA)
    - ป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตและจำกัดการเคลื่อนย้ายในระบบ

    https://www.techspot.com/news/107730-fbi-warns-china-using-ai-sharpen-cyberattacks-us.html
    บทความนี้กล่าวถึงคำเตือนจาก FBI เกี่ยวกับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีเป้าหมายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ โดยเฉพาะจากกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน FBI ระบุว่ากลุ่มเหล่านี้ใช้ AI ในทุกขั้นตอนของการโจมตี ตั้งแต่การค้นหาช่องโหว่ไปจนถึงการเคลื่อนย้ายภายในระบบ ตัวอย่างที่น่าสนใจคือกลุ่ม Volt Typhoon ที่ใช้เราเตอร์รุ่นเก่าเพื่อสร้างเครือข่ายบอตเน็ตสำหรับการโจมตี และกลุ่ม Salt Typhoon ที่เจาะระบบของบริษัทโทรคมนาคมและรัฐบาลสหรัฐฯ โดยใช้ช่องโหว่ที่ไม่ได้รับการแก้ไข นอกจากนี้ FBI ยังเตือนถึงการใช้เทคโนโลยี deepfake ในการหลอกลวง เช่น การปลอมตัวเป็นผู้บริหารเพื่อขอการโอนเงินหรือจัดประชุมออนไลน์ ✅ การใช้ AI ในการโจมตี - กลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนใช้ AI ในทุกขั้นตอนของการโจมตี - ตัวอย่างเช่น Volt Typhoon และ Salt Typhoon ที่ใช้ช่องโหว่ในอุปกรณ์เก่า ✅ เป้าหมายของการโจมตี - โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น โทรคมนาคม พลังงาน และน้ำ - การเคลื่อนย้ายภายในระบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ ✅ การใช้ deepfake ในการหลอกลวง - การปลอมตัวเป็นผู้บริหารเพื่อขอการโอนเงินหรือจัดประชุมออนไลน์ - การใช้ deepfake เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในข้อความหลอกลวง ✅ คำแนะนำจาก FBI - ใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA) - ป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตและจำกัดการเคลื่อนย้ายในระบบ https://www.techspot.com/news/107730-fbi-warns-china-using-ai-sharpen-cyberattacks-us.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    FBI warns China is using AI to sharpen cyberattacks on US infrastructure
    In an interview with The Register, FBI Deputy Assistant Director Cynthia Kaiser explained how Chinese state-backed cyber groups use artificial intelligence at every stage of their attack...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇨🇳 ตู้ ATM ทองคำได้ถูกติดตั้งในประเทศจีนแล้ว!

    คุณสามารถฝากทองคำและเครื่องจะหลอมทองคำ วัดน้ำหนักและความบริสุทธิ์ภายใน 3 นาที จากนั้นโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของคุณ

    ทั้งกระบวนการใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที!
    🇨🇳 ตู้ ATM ทองคำได้ถูกติดตั้งในประเทศจีนแล้ว! คุณสามารถฝากทองคำและเครื่องจะหลอมทองคำ วัดน้ำหนักและความบริสุทธิ์ภายใน 3 นาที จากนั้นโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของคุณ ทั้งกระบวนการใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ใครเหนือกว่าใครในระบบการเงินโลกใหม่?
    BEYOND DIGITAL : The new world financial system?
    เหลือเวลาเพียง 5 นาทีใน 24 ชม.ของระบบ ในระบบโลกการเงินแบบเก่าที่เงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นสกุลเงินหลักของโลกในวันนี้ กำลังๆๆๆ หมดคุณค่าที่เป็นเงินตราของโลกเข้ามาทุกที อะไรจะมาแทนระหว่าง Bitcoin กับ Digital Yuan?

    ถ้าโลกแบ่งออกเป็นสองขั้วทางการเงินใหญ่ ๆ คือ
    • ฝ่ายอเมริกาและพันธมิตรเลือกใช้ Bitcoin
    • ฝ่ายจีนและกลุ่ม BRICS เลือกใช้ Digital หยวน (e-CNY)
    จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจระดับโลกครั้งใหญ่มาก เราอาจจะได้เห็นระบบการเงินโลกใหม่ที่ไม่ได้มีศูนย์กลางเพียงแห่งเดียวอีกต่อไป
    ลักษณะของระบบการเงินทั้งสอง
    1. ฝ่ายอเมริกา + พันธมิตร (Bitcoin)
    • ไร้ศูนย์กลาง (Decentralized) ไม่มีรัฐบาลควบคุม
    • ใช้ระบบ Blockchain แบบเปิด โปร่งใสและตรวจสอบได้
    • มีจำนวนจำกัด (21 ล้าน BTC) ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อน้อยในระยะยาว
    • อิงหลักการ ตลาดเสรี และความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน
    • ธนาคารกลางจะมีบทบาทลดลงมาก หรือถูกบีบให้ปรับตัว
    2. ฝ่ายจีน + BRICS (Digital Yuan/e-CNY)
    • มีศูนย์กลาง (Centralized) ควบคุมโดยรัฐและธนาคารกลางจีน
    • ใช้ Blockchain แบบปิด หรือเทคโนโลยี ledger เฉพาะภายใน
    • ใช้เป็นเครื่องมือกำหนดนโยบายการเงินของรัฐได้อย่างแม่นยำ
    • ติดตามและควบคุมธุรกรรมของผู้ใช้งานได้
    • สร้างระบบการโอนเงินระหว่างประเทศใหม่ เช่น CIPS แทน SWIFT
    จุดร่วมของทั้งสองระบบ
    • เป็น เงินดิจิทัล ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain หรือ DLT
    • มีความเร็วในการโอนเงินข้ามประเทศสูงกว่าระบบธนาคารเดิม
    • ลดต้นทุนในการทำธุรกรรม
    • เป็นการท้าทายระบบการเงินเดิมที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐ
    จุดแตกต่างหลัก
    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    • ระบบการเงินโลกจะแตกออกเป็น 2 มาตรฐาน เหมือนสงครามเย็นทางเศรษฐกิจ
    • ประเทศต่าง ๆ อาจต้องเลือกข้าง หรือพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองให้รองรับทั้งสองระบบ
    • ดอลลาร์สหรัฐอาจสูญเสียสถานะการเป็นเงินสำรองหลักของโลก หาก Bitcoin หรือ e-CNY ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
    • แรงกดดันต่อ IMF, World Bank และระบบ SWIFT ให้ปรับตัวหรือเสื่อมอิทธิพลลง
    • เกิดโอกาสใหม่สำหรับประเทศกำลังพัฒนา ที่จะพึ่งพาระบบใหม่โดยไม่ผ่านระบบดั้งเดิมของตะวันตก
    นี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชั่วโมงต่อไปในวันใหม่ เราจะยื่นตรงไหนจะเลือกใช่ระบบการเงินใหม่ในโลกอนาคตกันอย่างไรตัวเราเล็กเกินที่จะกำหนดอะไรได้เองแต่เราเลือกที่จะเข้าใจและเลือกที่จะเดินไปพร้อมกับระบบใหม่นี้กันดีกว่า...

    TABU
    รัชชสิทธิ์ เปี่ยมโรจนภัทร
    ใครเหนือกว่าใครในระบบการเงินโลกใหม่? BEYOND DIGITAL : The new world financial system? เหลือเวลาเพียง 5 นาทีใน 24 ชม.ของระบบ ในระบบโลกการเงินแบบเก่าที่เงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นสกุลเงินหลักของโลกในวันนี้ กำลังๆๆๆ หมดคุณค่าที่เป็นเงินตราของโลกเข้ามาทุกที อะไรจะมาแทนระหว่าง Bitcoin กับ Digital Yuan? ถ้าโลกแบ่งออกเป็นสองขั้วทางการเงินใหญ่ ๆ คือ • ฝ่ายอเมริกาและพันธมิตรเลือกใช้ Bitcoin • ฝ่ายจีนและกลุ่ม BRICS เลือกใช้ Digital หยวน (e-CNY) จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจระดับโลกครั้งใหญ่มาก เราอาจจะได้เห็นระบบการเงินโลกใหม่ที่ไม่ได้มีศูนย์กลางเพียงแห่งเดียวอีกต่อไป ลักษณะของระบบการเงินทั้งสอง 1. ฝ่ายอเมริกา + พันธมิตร (Bitcoin) • ไร้ศูนย์กลาง (Decentralized) ไม่มีรัฐบาลควบคุม • ใช้ระบบ Blockchain แบบเปิด โปร่งใสและตรวจสอบได้ • มีจำนวนจำกัด (21 ล้าน BTC) ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อน้อยในระยะยาว • อิงหลักการ ตลาดเสรี และความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน • ธนาคารกลางจะมีบทบาทลดลงมาก หรือถูกบีบให้ปรับตัว 2. ฝ่ายจีน + BRICS (Digital Yuan/e-CNY) • มีศูนย์กลาง (Centralized) ควบคุมโดยรัฐและธนาคารกลางจีน • ใช้ Blockchain แบบปิด หรือเทคโนโลยี ledger เฉพาะภายใน • ใช้เป็นเครื่องมือกำหนดนโยบายการเงินของรัฐได้อย่างแม่นยำ • ติดตามและควบคุมธุรกรรมของผู้ใช้งานได้ • สร้างระบบการโอนเงินระหว่างประเทศใหม่ เช่น CIPS แทน SWIFT จุดร่วมของทั้งสองระบบ • เป็น เงินดิจิทัล ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain หรือ DLT • มีความเร็วในการโอนเงินข้ามประเทศสูงกว่าระบบธนาคารเดิม • ลดต้นทุนในการทำธุรกรรม • เป็นการท้าทายระบบการเงินเดิมที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐ จุดแตกต่างหลัก ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น • ระบบการเงินโลกจะแตกออกเป็น 2 มาตรฐาน เหมือนสงครามเย็นทางเศรษฐกิจ • ประเทศต่าง ๆ อาจต้องเลือกข้าง หรือพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองให้รองรับทั้งสองระบบ • ดอลลาร์สหรัฐอาจสูญเสียสถานะการเป็นเงินสำรองหลักของโลก หาก Bitcoin หรือ e-CNY ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง • แรงกดดันต่อ IMF, World Bank และระบบ SWIFT ให้ปรับตัวหรือเสื่อมอิทธิพลลง • เกิดโอกาสใหม่สำหรับประเทศกำลังพัฒนา ที่จะพึ่งพาระบบใหม่โดยไม่ผ่านระบบดั้งเดิมของตะวันตก นี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชั่วโมงต่อไปในวันใหม่ เราจะยื่นตรงไหนจะเลือกใช่ระบบการเงินใหม่ในโลกอนาคตกันอย่างไรตัวเราเล็กเกินที่จะกำหนดอะไรได้เองแต่เราเลือกที่จะเข้าใจและเลือกที่จะเดินไปพร้อมกับระบบใหม่นี้กันดีกว่า... TABU รัชชสิทธิ์ เปี่ยมโรจนภัทร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
  • “คะน้า ริญญารัตน์” เผยพฤติกรรมอดีตแฟนหนุ่มมีโลก 2 ใบ สร้างโปรไฟล์ไฮโซ หลอกโอนเงิน แอบอ้างเบื้องสูง พร้อมขอให้ “กัน จอมพลัง” เข้าช่วยเพราะห่วงความปลอดภัย

    จากกรณี “คะน้า” ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ ดารานางแบบสาวช่อง 7 ประกาศโสดกะทันหัน ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยแฟนหนุ่มเพิ่งจัดเซอร์ไพรส์ขอเธอแต่งงาน ด้วยแหวนเพชรเม็ดโต ท่ามกลางความดีใจของทั้งคู่ เหล่าเพื่อนพี่น้องวงการบันเทิงก็ร่วมแสดงความยินดี ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้

    ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (7 เม.ย.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ พร้อมด้วยคะน้า ริญญารัตน์ ได้เดินทางมาที่อาคารมาลีนนท์ ช่อง 3 เพื่อเตรียมไปออกรายการ “โหนกระแส” พร้อมให้สัมภาษณ์ก่อนที่จะเข้ารายการ ในกรณีถูกแฟนหนุ่มหลังพบว่า มีโลกสองใบหลอกให้คบ พร้อมเรื่องราวทั้งหมดที่เจอ จึงทำให้สันนิษฐานว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่

    โดย กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้น้องคบกับผู้ชายคนนึง ในวันที่น้องไม่มีใคร คนนี้ทักมาหา ระหว่างที่คุยกัน เขาพยายามทำดีกับน้อง หลังๆ เริ่มอ้างตัวว่ามีความสนิทสนมกับเบื้องสูง แต่งชุดเหมือนเป็นข้าราชการ ใส่ชุดขาวมารับน้อง มีรถนำขบวน 5 คัน ทำให้โปรไฟล์ดูน่าเชื่อถือ ซึ่งเขาก็ดีกับน้องมาตลอด จนมีพักนึงน้องเองมีเส้นเงินที่เชื่อมโยงกับเงินเทาเงินดำ เขาบอกจะหาทางช่วย น้องก็เอาข้อมูลเอกสารบริษัทไปให้เขาหมดเลย โดยเขาอ้างว่า คนที่ช่วยเหลือเขาตอนนี้คือนายกรัฐมนตรี โดยมีแชทมาประกอบด้วย และน่าตกใจมาก ส่งแชทของท่านผู้บัญชาการไซเบอร์ อ้างว่ากำลังช่วยเหลืออยู่ อีกแชทนึงเป็นคนที่อยู่ในวัง และสนิทกับเบื้องบนมาก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000033093

    #MGROnline #คะน้า #คะน้าริญญารัตน์ #กันจอมพลัง
    “คะน้า ริญญารัตน์” เผยพฤติกรรมอดีตแฟนหนุ่มมีโลก 2 ใบ สร้างโปรไฟล์ไฮโซ หลอกโอนเงิน แอบอ้างเบื้องสูง พร้อมขอให้ “กัน จอมพลัง” เข้าช่วยเพราะห่วงความปลอดภัย • จากกรณี “คะน้า” ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ ดารานางแบบสาวช่อง 7 ประกาศโสดกะทันหัน ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยแฟนหนุ่มเพิ่งจัดเซอร์ไพรส์ขอเธอแต่งงาน ด้วยแหวนเพชรเม็ดโต ท่ามกลางความดีใจของทั้งคู่ เหล่าเพื่อนพี่น้องวงการบันเทิงก็ร่วมแสดงความยินดี ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้ • ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (7 เม.ย.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ พร้อมด้วยคะน้า ริญญารัตน์ ได้เดินทางมาที่อาคารมาลีนนท์ ช่อง 3 เพื่อเตรียมไปออกรายการ “โหนกระแส” พร้อมให้สัมภาษณ์ก่อนที่จะเข้ารายการ ในกรณีถูกแฟนหนุ่มหลังพบว่า มีโลกสองใบหลอกให้คบ พร้อมเรื่องราวทั้งหมดที่เจอ จึงทำให้สันนิษฐานว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ • โดย กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้น้องคบกับผู้ชายคนนึง ในวันที่น้องไม่มีใคร คนนี้ทักมาหา ระหว่างที่คุยกัน เขาพยายามทำดีกับน้อง หลังๆ เริ่มอ้างตัวว่ามีความสนิทสนมกับเบื้องสูง แต่งชุดเหมือนเป็นข้าราชการ ใส่ชุดขาวมารับน้อง มีรถนำขบวน 5 คัน ทำให้โปรไฟล์ดูน่าเชื่อถือ ซึ่งเขาก็ดีกับน้องมาตลอด จนมีพักนึงน้องเองมีเส้นเงินที่เชื่อมโยงกับเงินเทาเงินดำ เขาบอกจะหาทางช่วย น้องก็เอาข้อมูลเอกสารบริษัทไปให้เขาหมดเลย โดยเขาอ้างว่า คนที่ช่วยเหลือเขาตอนนี้คือนายกรัฐมนตรี โดยมีแชทมาประกอบด้วย และน่าตกใจมาก ส่งแชทของท่านผู้บัญชาการไซเบอร์ อ้างว่ากำลังช่วยเหลืออยู่ อีกแชทนึงเป็นคนที่อยู่ในวัง และสนิทกับเบื้องบนมาก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000033093 • #MGROnline #คะน้า #คะน้าริญญารัตน์ #กันจอมพลัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 377 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธนาคารกลาง 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย, อินเดีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, และสิงคโปร์ ประกาศจัดตั้ง Nexus Global Payments (NGP) บริษัทมหาชนที่ไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อสร้างระบบโอนเงินข้ามประเทศแบบทันที (instant payment system - IPS)
    .
    Nexus เป็นโครงการที่ริเริ่มโดย ธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศ (Bank for International Settlements - BIS) มีแนวทางที่จะปรับปรุงกระบวนการเชื่อมต่อธนาคารระหว่างประเทศเข้าด้วยกันในรูปแบบที่ทันสมัย ใช้ API ของ ISO 20022 และสร้าง ecosystem ที่เปิดให้มีการโอนเงินข้ามประเทศได้สะดวก โดยคาดว่าหากระบบ Nexus เปิดใช้งานจริง กระบวนการโอนเงินทั้งระบบจะถึงปลายทางภายในเวลา 60 วินาที
    .
    การทำงานภายใน Nexus วางแนวทางการทำงานของผู้ให้บริการแต่ละส่วนเป็นชิ้นแยกกัน เช่น ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตรา, ผู้ให้บริการเชื่อมต่อ แต่ละส่วนสามารถคิดค่าบริการของตัวเอง และแสดงให้ผู้ใช้บริการเห็นค่าธรรมเนียมทั้งเส้นได้ทันที ธนาคารต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกับ Nexus ได้ง่ายขึ้นเพราะเป็นการเชื่อมต่อจุดเดียวแทนที่จะต้องเชื่อมต่อไปทีละประเทศแบบเดิม
    .
    ตอนนี้ NGP เริ่มกระบวนการคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญเข้ามาพัฒนาและดำเนินการแล้ว ส่วน BIS จะเป็นที่ปรึกษาโครงการต่อไป
    .
    https://www.blognone.com/node/145643
    ธนาคารกลาง 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย, อินเดีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, และสิงคโปร์ ประกาศจัดตั้ง Nexus Global Payments (NGP) บริษัทมหาชนที่ไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อสร้างระบบโอนเงินข้ามประเทศแบบทันที (instant payment system - IPS) . Nexus เป็นโครงการที่ริเริ่มโดย ธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศ (Bank for International Settlements - BIS) มีแนวทางที่จะปรับปรุงกระบวนการเชื่อมต่อธนาคารระหว่างประเทศเข้าด้วยกันในรูปแบบที่ทันสมัย ใช้ API ของ ISO 20022 และสร้าง ecosystem ที่เปิดให้มีการโอนเงินข้ามประเทศได้สะดวก โดยคาดว่าหากระบบ Nexus เปิดใช้งานจริง กระบวนการโอนเงินทั้งระบบจะถึงปลายทางภายในเวลา 60 วินาที . การทำงานภายใน Nexus วางแนวทางการทำงานของผู้ให้บริการแต่ละส่วนเป็นชิ้นแยกกัน เช่น ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตรา, ผู้ให้บริการเชื่อมต่อ แต่ละส่วนสามารถคิดค่าบริการของตัวเอง และแสดงให้ผู้ใช้บริการเห็นค่าธรรมเนียมทั้งเส้นได้ทันที ธนาคารต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกับ Nexus ได้ง่ายขึ้นเพราะเป็นการเชื่อมต่อจุดเดียวแทนที่จะต้องเชื่อมต่อไปทีละประเทศแบบเดิม . ตอนนี้ NGP เริ่มกระบวนการคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญเข้ามาพัฒนาและดำเนินการแล้ว ส่วน BIS จะเป็นที่ปรึกษาโครงการต่อไป . https://www.blognone.com/node/145643
    WWW.BLOGNONE.COM
    ไทย อินเดีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ประกาศตั้งบริษัทกลางสร้างระบบโอนเงินข้ามประเทศแบบทันที
    ธนาคารกลาง 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย, อินเดีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, และสิงคโปร์ ประกาศจัดตั้ง Nexus Global Payments (NGP) บริษัทมหาชนที่ไม่แสวงหา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้เสียหายสาวแจ้งความดำเนินคดี "ลุงสมนิจ" แอบอ้างเป็นภรรยาท้อง 4 เดือน ติดอยู่ในซากตึก สตง.พังถล่ม จนมีประชาชนสงสารโอนเงินให้จำนวนมาก ยอมรับตกใจไม่รู้เอาบัตรไปได้อย่างไร ชื่อเสียงตนเองและครอบครัวเสียหายหนัก

    วันนี้ (31 มี.ค.) ที่ สน.บางซื่อ น.ส.กรวิภา (สงวนนามสกุล) หรือมายด์ อายุ 25 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กรณี นายสมนิจ ดวงเนตร อายุ 50 ปี นำชื่อไปอ้างว่า ภรรยาที่กำลังท้องลูกสาว 4 เดือน ทำงานเป็นเสมียนโซนออฟฟิศชั้น 4 ของอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังก่อสร้างพังถล่ม ขณะนี้ไม่สามารถติดต่อภรรยาได้ เนื่องจากติดอยู่ใต้ซากตึก ต่อมาพบว่าเรื่องราวดังกล่าวไม่เป็นความจริง

    น.ส.กรวิภา กล่าวว่า บัตรดังกล่าวคือบัตรที่ตนเคยเป็นพนักงาน ภายในห้างแห่งหนึ่งย่านพระราม 9 เมื่อปี 2019 หลังจากนั้นได้นำบัตรคืนกับทางห้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พอเห็นว่าบัตรตนไปอยู่กับ ลุงสมนิจ รู้สึกตกใจและช็อกเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าลุงเอาบัตรของตนไปได้อย่างไร เมื่อครอบครัวทราบข่าวตกใจมากนึกว่าลูกสาวเสียชีวิต

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000030753

    #MGROnline #ลุงสมนิจ #แผ่นดินไหว #สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน #สตง.
    ผู้เสียหายสาวแจ้งความดำเนินคดี "ลุงสมนิจ" แอบอ้างเป็นภรรยาท้อง 4 เดือน ติดอยู่ในซากตึก สตง.พังถล่ม จนมีประชาชนสงสารโอนเงินให้จำนวนมาก ยอมรับตกใจไม่รู้เอาบัตรไปได้อย่างไร ชื่อเสียงตนเองและครอบครัวเสียหายหนัก • วันนี้ (31 มี.ค.) ที่ สน.บางซื่อ น.ส.กรวิภา (สงวนนามสกุล) หรือมายด์ อายุ 25 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กรณี นายสมนิจ ดวงเนตร อายุ 50 ปี นำชื่อไปอ้างว่า ภรรยาที่กำลังท้องลูกสาว 4 เดือน ทำงานเป็นเสมียนโซนออฟฟิศชั้น 4 ของอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังก่อสร้างพังถล่ม ขณะนี้ไม่สามารถติดต่อภรรยาได้ เนื่องจากติดอยู่ใต้ซากตึก ต่อมาพบว่าเรื่องราวดังกล่าวไม่เป็นความจริง • น.ส.กรวิภา กล่าวว่า บัตรดังกล่าวคือบัตรที่ตนเคยเป็นพนักงาน ภายในห้างแห่งหนึ่งย่านพระราม 9 เมื่อปี 2019 หลังจากนั้นได้นำบัตรคืนกับทางห้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พอเห็นว่าบัตรตนไปอยู่กับ ลุงสมนิจ รู้สึกตกใจและช็อกเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าลุงเอาบัตรของตนไปได้อย่างไร เมื่อครอบครัวทราบข่าวตกใจมากนึกว่าลูกสาวเสียชีวิต • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000030753 • #MGROnline #ลุงสมนิจ #แผ่นดินไหว #สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน #สตง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 416 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาประเทศไทยบ่อยจนเคยออกปากว่าเมืองไทย คือบ้านหลังที่ 2 สำหรับ ศิลปินระดับโลก อย่าง “แจ็คสัน หวัง” (Jackson Wang)หรือ “แจ็คสัน GOT7” ล่าสุด กับภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหว ศิลปินคนดังก็ได้ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือคนไทยด้วย

    โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้เผยกลางรายการ โหนกระแสว่า… “แจ็คสัน หวัง ประสานมาทางผมแล้วก็จะมีการโอนเงินมา 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ เกือบ 3.5 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเรื่องของแผ่นดินไหว เดี๋ยวจะแบ่งทั้งหมดเป็น 3 มูลนิธิ มี มูลนิธิเพื่อนพึ่งภาฯ ยากยาก, กัน จอมพลัง และอีกหนึ่งส่วนจะดูก่อน แล้วจะแจ้งไปทางแจ็คสัน ขอบคุณแทนคนไทยนะครับ ที่มีน้ำใจยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ก็ต้องขอบคุณจริงๆ ครับ”

    อย่างไรก็ตาม แจ็คสัน หวัง มีกำหนดการที่จะมาร่วมแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทย พร้อมกับสมาชิก GOT7 แบบพร้อมหน้าอีกครั้ง ใน 2025 GOT7 CONCERT in BANGKOK วันที่ 2-3 พ.ค. นี้ ที่ราชมังคลากีฬาสถานด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000030691

    #MGROnline #แจ็คสันหวัง #แจ็คสันGOT7 #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    มาประเทศไทยบ่อยจนเคยออกปากว่าเมืองไทย คือบ้านหลังที่ 2 สำหรับ ศิลปินระดับโลก อย่าง “แจ็คสัน หวัง” (Jackson Wang)หรือ “แจ็คสัน GOT7” ล่าสุด กับภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหว ศิลปินคนดังก็ได้ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือคนไทยด้วย • โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้เผยกลางรายการ โหนกระแสว่า… “แจ็คสัน หวัง ประสานมาทางผมแล้วก็จะมีการโอนเงินมา 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ เกือบ 3.5 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเรื่องของแผ่นดินไหว เดี๋ยวจะแบ่งทั้งหมดเป็น 3 มูลนิธิ มี มูลนิธิเพื่อนพึ่งภาฯ ยากยาก, กัน จอมพลัง และอีกหนึ่งส่วนจะดูก่อน แล้วจะแจ้งไปทางแจ็คสัน ขอบคุณแทนคนไทยนะครับ ที่มีน้ำใจยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ก็ต้องขอบคุณจริงๆ ครับ” • อย่างไรก็ตาม แจ็คสัน หวัง มีกำหนดการที่จะมาร่วมแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทย พร้อมกับสมาชิก GOT7 แบบพร้อมหน้าอีกครั้ง ใน 2025 GOT7 CONCERT in BANGKOK วันที่ 2-3 พ.ค. นี้ ที่ราชมังคลากีฬาสถานด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000030691 • #MGROnline #แจ็คสันหวัง #แจ็คสันGOT7 #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 682 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📚 หนังสือ"หยุดคิดมาก: เทคนิคการจัดการความคิดเพื่อลดความวิตกกังวล" จะเปิดเผยเคล็ดลับหยุดคิดมาก! 📚
    รู้สึกไหมว่า... ความคิดที่ไม่หยุดยั้งกำลังครอบงำจิตใจคุณ? 🤯 ความวิตกกังวลที่แฝงตัวอยู่ในทุกการตัดสินใจและการกระทำ ทำให้ชีวิตประจำวันรู้สึกหนักหน่วงและเต็มไปด้วยความเครียด?
    ถ้าคำตอบคือ "ใช่!" หนังสือ "หยุดคิดมาก: เทคนิคการจัดการความคิดเพื่อลดความวิตกกังวล" คือคำตอบที่คุณกำลังมองหา! ✨

    ในหนังสือเล่มนี้ คุณจะได้พบกับเทคนิคและวิธีการที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ช่วยให้คุณหยุดคิดมาก ลดความวิตกกังวล และสร้างชีวิตที่สงบและมีคุณภาพมากขึ้น! 💡

    🧘‍♂️ เทคนิคการฝึกสติ
    🧘‍♀️ การหายใจเพื่อผ่อนคลาย
    📓 การเขียนบันทึกเพื่อระบายความคิด
    ❓ การตั้งคำถามเพื่อหยุดความคิดที่ไม่จำเป็น
    เริ่มต้นก้าวแรกในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณวันนี้!

    🔥 ลดราคา จาก 289 บาท เหลือ 199 บาท
    ก่อนวันที่ 30 เมษายน 2568 นี้เท่านั้น!
    📌 รับไฟล์ PDF อ่านได้ทันทีหลังโอนเงิน ไม่ต้องรอนานครับ!

    🔗 สั่งซื้อหนังสือวันนี้ที่ Line ID: nithit_hacot

    และค้นพบเทคนิคที่สามารถช่วยให้คุณรับมือกับความคิดและความเครียดในทุกสถานการณ์!
    #หยุดคิดมาก #ลดความวิตกกังวล #ชีวิตสงบ #หนังสือจิตวิทยา #พัฒนาตนเอง #ทักษะการคิด #ทักษะการตั้งคำถาม
    📚 หนังสือ"หยุดคิดมาก: เทคนิคการจัดการความคิดเพื่อลดความวิตกกังวล" จะเปิดเผยเคล็ดลับหยุดคิดมาก! 📚 รู้สึกไหมว่า... ความคิดที่ไม่หยุดยั้งกำลังครอบงำจิตใจคุณ? 🤯 ความวิตกกังวลที่แฝงตัวอยู่ในทุกการตัดสินใจและการกระทำ ทำให้ชีวิตประจำวันรู้สึกหนักหน่วงและเต็มไปด้วยความเครียด? ถ้าคำตอบคือ "ใช่!" หนังสือ "หยุดคิดมาก: เทคนิคการจัดการความคิดเพื่อลดความวิตกกังวล" คือคำตอบที่คุณกำลังมองหา! ✨ ในหนังสือเล่มนี้ คุณจะได้พบกับเทคนิคและวิธีการที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ช่วยให้คุณหยุดคิดมาก ลดความวิตกกังวล และสร้างชีวิตที่สงบและมีคุณภาพมากขึ้น! 💡 🧘‍♂️ เทคนิคการฝึกสติ 🧘‍♀️ การหายใจเพื่อผ่อนคลาย 📓 การเขียนบันทึกเพื่อระบายความคิด ❓ การตั้งคำถามเพื่อหยุดความคิดที่ไม่จำเป็น เริ่มต้นก้าวแรกในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณวันนี้! 🔥 ลดราคา จาก 289 บาท เหลือ 199 บาท ก่อนวันที่ 30 เมษายน 2568 นี้เท่านั้น! 📌 รับไฟล์ PDF อ่านได้ทันทีหลังโอนเงิน ไม่ต้องรอนานครับ! 🔗 สั่งซื้อหนังสือวันนี้ที่ Line ID: nithit_hacot และค้นพบเทคนิคที่สามารถช่วยให้คุณรับมือกับความคิดและความเครียดในทุกสถานการณ์! #หยุดคิดมาก #ลดความวิตกกังวล #ชีวิตสงบ #หนังสือจิตวิทยา #พัฒนาตนเอง #ทักษะการคิด #ทักษะการตั้งคำถาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 421 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระบบสแกนจ่ายไม่ดี ระวังจะเสียลูกค้า

    ในช่วงนี้บรรดาผู้ใช้งานแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือ (Mobile Banking) กำลังวิตกกังวลเรื่องอี-สลิปปลอม ที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) ซึ่งมีคนออกมาเตือนว่า สามารถปลอมได้ค่อนข้างแนบเนียน ไม่ต้องใช้โปรแกรมตัดต่อภาพอย่าง Photoshop อีกต่อไป แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีเห็นว่า สลิปที่สร้างโดยเอไอไม่แนบเนียน ลายเส้นมักไม่คม แนะนำว่าให้ผู้ค้าตรวจสอบโดยการนำ QR Code บนอี-สลิปไปสแกนผ่านแอปฯ ธนาคาร

    ขณะที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แนะนำแก่ลูกค้าว่า หลังรับโอนเงินควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสลิปโอนเงินนั้นของแท้ หรือของปลอม ด้วยการสแกน QR Code บนสลิป แต่จะมีอายุจำกัด ตั้งเเต่ 7 วัน ถึง 60 วัน แต่หากสลิปโอนเงินนั้นไม่มี QR Code ให้เข้าไปเช็กยอดเงินในโมบายแบงกิ้ง เพื่อตรวจสอบธุรกรรมที่แท้จริงได้

    ปัจจุบันการชำระเงินด้วยการสแกนจ่าย ยังคงใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ยังคงเกิดปัญหาระหว่างลูกค้ากับร้านค้าเป็นระยะ เช่น แอปฯ ธนาคารล่ม หรือไม่แจ้งเตือนเงินเข้าในบางเวลา เมื่อสัปดาห์ก่อนที่จังหวัดแห่งหนึ่งติดกับกรุงเทพมหานคร เจ้าของร้านกาแฟแห่งหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความลงในกลุ่มเฟซบุ๊กข่าวสารของจังหวัดดังกล่าว เรียกร้องให้ลูกค้ารายหนึ่งจ่ายเงินค่ากาแฟ 160 บาท อ้างว่าลูกค้าสแกนจ่ายแล้วเงินไม่เข้า มีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดพร้อมใบหน้าลูกค้าเสมือนประจาน ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างแชร์และประณามลูกค้าจำนวนมาก เพื่อกดดันให้กลับมาจ่ายเงินตามที่เจ้าของร้านกล่าวหา

    ปรากฎว่าในเวลาต่อมาคดีพลิก เพราะเจ้าของร้านโพสต์ข้อความขอโทษลูกค้าที่ถูกพาดพิง หลังพบว่ามีเงินเข้าแต่ระบบไม่ได้แจ้ง และยอมรับว่าทางร้านดูสลิปโอนเงินไม่ชัดเจน ไม่มีเจตนาที่จะประจานลูกค้าแต่อย่างใด ผลก็คือทัวร์ที่เคยลงลูกค้ากลับมาลงที่เจ้าของร้านแทน เรียกร้องให้ชดเชยเยียวยา บางคนแนะให้ลูกค้าแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะเป็นผู้เสียหาย บางคนกล่าวว่าจะไม่อุดหนุนร้านนี้อีก เพราะไม่รู้ว่าวันไหนตัวเองจะโดนเช่นนั้น เมื่อดูสลิปที่เจ้าของร้านกาแฟโพสต์ ปรากฎว่าปลายทางเป็นแอปฯ รับเงินของลูกค้าจากค่ายอี-วอลเล็ต ซึ่งไม่ใช่ธนาคาร

    ปัจจุบันโมบายแบงกิ้งแต่ละธนาคารมักแจ้งเตือนเงินเข้าล่าช้าในบางเวลา ขณะที่บางธนาคารมีแอปฯ สำหรับให้ร้านค้ารับเงินจากลูกค้าโดยเฉพาะ และยังแจ้งเตือนเงินเข้าทั้งแบบข้อความแจ้งเตือน และเสียงแจ้งเตือนเงินเข้าที่ระบุจำนวนเงินชัดเจน อีกด้านหนึ่ง มีบางร้านค้าขอความร่วมมือให้พนักงานถ่ายภาพอี-สลิปจากลูกค้าเพื่อใช้ตรวจสอบภายหลังกรณีเงินไม่เข้าบัญชีและอื่นๆ ต่อไป

    #Newskit
    ระบบสแกนจ่ายไม่ดี ระวังจะเสียลูกค้า ในช่วงนี้บรรดาผู้ใช้งานแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือ (Mobile Banking) กำลังวิตกกังวลเรื่องอี-สลิปปลอม ที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) ซึ่งมีคนออกมาเตือนว่า สามารถปลอมได้ค่อนข้างแนบเนียน ไม่ต้องใช้โปรแกรมตัดต่อภาพอย่าง Photoshop อีกต่อไป แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีเห็นว่า สลิปที่สร้างโดยเอไอไม่แนบเนียน ลายเส้นมักไม่คม แนะนำว่าให้ผู้ค้าตรวจสอบโดยการนำ QR Code บนอี-สลิปไปสแกนผ่านแอปฯ ธนาคาร ขณะที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แนะนำแก่ลูกค้าว่า หลังรับโอนเงินควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสลิปโอนเงินนั้นของแท้ หรือของปลอม ด้วยการสแกน QR Code บนสลิป แต่จะมีอายุจำกัด ตั้งเเต่ 7 วัน ถึง 60 วัน แต่หากสลิปโอนเงินนั้นไม่มี QR Code ให้เข้าไปเช็กยอดเงินในโมบายแบงกิ้ง เพื่อตรวจสอบธุรกรรมที่แท้จริงได้ ปัจจุบันการชำระเงินด้วยการสแกนจ่าย ยังคงใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ยังคงเกิดปัญหาระหว่างลูกค้ากับร้านค้าเป็นระยะ เช่น แอปฯ ธนาคารล่ม หรือไม่แจ้งเตือนเงินเข้าในบางเวลา เมื่อสัปดาห์ก่อนที่จังหวัดแห่งหนึ่งติดกับกรุงเทพมหานคร เจ้าของร้านกาแฟแห่งหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความลงในกลุ่มเฟซบุ๊กข่าวสารของจังหวัดดังกล่าว เรียกร้องให้ลูกค้ารายหนึ่งจ่ายเงินค่ากาแฟ 160 บาท อ้างว่าลูกค้าสแกนจ่ายแล้วเงินไม่เข้า มีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดพร้อมใบหน้าลูกค้าเสมือนประจาน ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างแชร์และประณามลูกค้าจำนวนมาก เพื่อกดดันให้กลับมาจ่ายเงินตามที่เจ้าของร้านกล่าวหา ปรากฎว่าในเวลาต่อมาคดีพลิก เพราะเจ้าของร้านโพสต์ข้อความขอโทษลูกค้าที่ถูกพาดพิง หลังพบว่ามีเงินเข้าแต่ระบบไม่ได้แจ้ง และยอมรับว่าทางร้านดูสลิปโอนเงินไม่ชัดเจน ไม่มีเจตนาที่จะประจานลูกค้าแต่อย่างใด ผลก็คือทัวร์ที่เคยลงลูกค้ากลับมาลงที่เจ้าของร้านแทน เรียกร้องให้ชดเชยเยียวยา บางคนแนะให้ลูกค้าแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะเป็นผู้เสียหาย บางคนกล่าวว่าจะไม่อุดหนุนร้านนี้อีก เพราะไม่รู้ว่าวันไหนตัวเองจะโดนเช่นนั้น เมื่อดูสลิปที่เจ้าของร้านกาแฟโพสต์ ปรากฎว่าปลายทางเป็นแอปฯ รับเงินของลูกค้าจากค่ายอี-วอลเล็ต ซึ่งไม่ใช่ธนาคาร ปัจจุบันโมบายแบงกิ้งแต่ละธนาคารมักแจ้งเตือนเงินเข้าล่าช้าในบางเวลา ขณะที่บางธนาคารมีแอปฯ สำหรับให้ร้านค้ารับเงินจากลูกค้าโดยเฉพาะ และยังแจ้งเตือนเงินเข้าทั้งแบบข้อความแจ้งเตือน และเสียงแจ้งเตือนเงินเข้าที่ระบุจำนวนเงินชัดเจน อีกด้านหนึ่ง มีบางร้านค้าขอความร่วมมือให้พนักงานถ่ายภาพอี-สลิปจากลูกค้าเพื่อใช้ตรวจสอบภายหลังกรณีเงินไม่เข้าบัญชีและอื่นๆ ต่อไป #Newskit
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 547 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธรรศภาคย์ เลิศเศวตพงศ์ บรรณาธิการและเจ้าของสำนักพิมพ์ อะไรเอ่ย โพสต์ให้ข้อมูลสำคัญจุดสังเกตสลิปแต่ละธนาคาร หลัง Chat GPT สามารถปลอมสลิปโอนเงินของธนาคารได้

    จากกรณี พบว่า Chat GPT สามารถปลอมสลิปโอนเงินของธนาคารได้แบบเนียนๆ พร้อมเตือนร้านค้าต่างๆจะดูแค่สลิปไม่ได้แล้วต้องรอดูเงินเข้าด้วย

    ทั้งนี้ คุณธรรศภาคย์ เลิศเศวตพงศ์นักเขียนและเจ้าจองสำนักพิมพ์ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวในวันนี้ (27 มี.ค.) ชี้ จุดสังเกตุสลิปปลอมของแต่ละธนาคาร
    โดย

    SCB: ให้สังเกตที่รูปสุนัข ซึ่งอาจมีความผิดเพี้ยนจากของจริง

    BBL: มีความน่ากังวลที่สุด เนื่องจากปลอมได้ง่ายและแนบเนียน ทั้งสี รูปแบบ และตัวอักษร

    KBANK: ให้สังเกตความเนียนของตัวเลข

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000029269

    #MGROnline #ChatGPT #สลิปโอนเงิน #ธนาคาร
    ธรรศภาคย์ เลิศเศวตพงศ์ บรรณาธิการและเจ้าของสำนักพิมพ์ อะไรเอ่ย โพสต์ให้ข้อมูลสำคัญจุดสังเกตสลิปแต่ละธนาคาร หลัง Chat GPT สามารถปลอมสลิปโอนเงินของธนาคารได้ • จากกรณี พบว่า Chat GPT สามารถปลอมสลิปโอนเงินของธนาคารได้แบบเนียนๆ พร้อมเตือนร้านค้าต่างๆจะดูแค่สลิปไม่ได้แล้วต้องรอดูเงินเข้าด้วย • ทั้งนี้ คุณธรรศภาคย์ เลิศเศวตพงศ์นักเขียนและเจ้าจองสำนักพิมพ์ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวในวันนี้ (27 มี.ค.) ชี้ จุดสังเกตุสลิปปลอมของแต่ละธนาคาร โดย • SCB: ให้สังเกตที่รูปสุนัข ซึ่งอาจมีความผิดเพี้ยนจากของจริง BBL: มีความน่ากังวลที่สุด เนื่องจากปลอมได้ง่ายและแนบเนียน ทั้งสี รูปแบบ และตัวอักษร KBANK: ให้สังเกตความเนียนของตัวเลข • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000029269 • #MGROnline #ChatGPT #สลิปโอนเงิน #ธนาคาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านค้าต้องระวังแล้ว หลังพบว่า ChatGPT สามารถปลอมสลิปโอนเงินของธนาคารได้แบบเนียนๆ ชี้ จะดูแค่สลิปไม่ได้ ต้องรอดูเงินเข้าด้วย

    หลังการเกิดของ ”ChatGPT“ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยสร้างเนื้อหาประเภทต่างๆ ได้ เช่น บทความ, เรื่องราว, คำบรรยาย, และเนื้อหาสำหรับโซเชียลมีเดีย

    สามารถใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการเรียนรู้และทำความเข้าใจในหัวข้อต่างๆ

    ช่วยตอบคำถามและให้คำอธิบายในหัวข้อที่ซับซ้อน

    โดย ChatGPT สามารถนำมาใช้ตอบคำถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยลดภาระงานของฝ่ายซัพพอร์ต และช่วยให้ได้รับคำตอบที่รวดเร็วขึ้น

    สามารถสร้าง Chatbot อัจฉริยะ โดยปรับแต่งบทสนทนาให้ตรงกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น ตอบแนวทางการใช้งานสินค้า แนะนำวิธีแก้ปัญหา และอัปเกรดเป็นระบบที่เข้าใจหลายภาษาได้

    แต่ล่าสุด วันนี้ ( 27 มี.ค.) เพจ “Kafaak” ออกมาโพสต์ข้อความเตือนในความสามารถอันสุดแสนอันตรายของ “Chat GPT” เมื่อมันสามารถปลอมสลิปโอนเงินของธนาคารได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000029036

    #MGROnline #ChatGPT
    ร้านค้าต้องระวังแล้ว หลังพบว่า ChatGPT สามารถปลอมสลิปโอนเงินของธนาคารได้แบบเนียนๆ ชี้ จะดูแค่สลิปไม่ได้ ต้องรอดูเงินเข้าด้วย • หลังการเกิดของ ”ChatGPT“ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยสร้างเนื้อหาประเภทต่างๆ ได้ เช่น บทความ, เรื่องราว, คำบรรยาย, และเนื้อหาสำหรับโซเชียลมีเดีย • สามารถใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการเรียนรู้และทำความเข้าใจในหัวข้อต่างๆ • ช่วยตอบคำถามและให้คำอธิบายในหัวข้อที่ซับซ้อน • โดย ChatGPT สามารถนำมาใช้ตอบคำถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยลดภาระงานของฝ่ายซัพพอร์ต และช่วยให้ได้รับคำตอบที่รวดเร็วขึ้น • สามารถสร้าง Chatbot อัจฉริยะ โดยปรับแต่งบทสนทนาให้ตรงกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น ตอบแนวทางการใช้งานสินค้า แนะนำวิธีแก้ปัญหา และอัปเกรดเป็นระบบที่เข้าใจหลายภาษาได้ • แต่ล่าสุด วันนี้ ( 27 มี.ค.) เพจ “Kafaak” ออกมาโพสต์ข้อความเตือนในความสามารถอันสุดแสนอันตรายของ “Chat GPT” เมื่อมันสามารถปลอมสลิปโอนเงินของธนาคารได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000029036 • #MGROnline #ChatGPT
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • โปรเจกต์ทดลอง Newskit ราคา 20 บาท

    เพจ Newskit ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 ยืนหยัดนำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างไปจากสื่อกระแสหลักและเพจข่าวทั่วไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองเพียงเล็กน้อยในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย เผยแพร่ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และ Thaitimes เป็นหลัก ในรูปแบบที่สั้น กระชับ สรุปความในโพสต์เดียว ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร

    ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา เราไม่มีรายได้จากการทำเพจเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่การแสวงหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียน โดยเฉพาะการลงพื้นที่บางครั้งย่อมมีค่าใช้จ่ายตามมา ที่ผ่านมาบนโซเชียลฯ มีรูปแบบการหารายได้จากผู้บริโภคสื่อแตกต่างกันไป ทั้งการลงสปอนเซอร์ การทำ Advertorial ซึ่งจะพบเห็นเฉพาะอินฟลูเอนเซอร์รายใหญ่ การขายสินค้า การเป็นนายหน้า การตลาดแบบพันธมิตร (Affiliate) การทำ TIPS BOX ออนไลน์ หรือการระบุเลขที่บัญชีธนาคารโดยตรง ซึ่งเราไม่อยากรบกวนผู้อ่านมากขนาดนั้น

    ด้วยสถานะการเป็นสื่อมวลชน นอกจากไม่ควรการันตีความดีความชั่วของใคร แต่มุ่งยึดถือประโยชน์แก่สาธารณะเป็นที่ตั้งแล้ว ก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าการทำหน้าที่ของเราจะตรงใจผู้อ่านได้ตลอดไป จึงไม่อยากถูกกล่าวหาว่าทรยศความเชื่อใจ ในวันที่ผู้อ่านมองว่าเราเปลี่ยนไป การเปิดรับบริจาคหรือโอนเงินโดยตรง อาจเป็นการแบกรับความคาดหวังจากผู้อ่านมากเกินไป กระทั่งไม่เป็นตัวของตัวเอง ขณะที่หนังสือพิมพ์ยังมีการวางจำหน่าย ถือเป็นสินค้าที่ซื้อขายตามความพึงพอใจของผู้อ่าน

    จากเหตุผลดังกล่าว เราจึงมีกิมมิกด้วยการตั้งราคา 20 บาท เหมือนหนังสือพิมพ์ธุรกิจ โดยทดลองใช้พร้อมเพย์คิวอาร์โค้ด (PromptPay QR Code) ปกติแล้วเราจะนำเสนอเรื่องราววันละ 1-2 เรื่อง แต่คิวอาร์โค้ดจะแสดงเฉพาะหน้าปก Newskit ของแต่ละวันเท่านั้น ถ้าผู้อ่านชื่นชอบเรื่องราวของเรา สามารถสแกนจ่ายครั้งละ 20 บาท เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเรา โดยไม่ต้องสมัครสมาชิก ไม่ต้องจ่ายรายเดือน แม้เราคงไม่คาดหวังรายได้จากตรงนี้มากนัก เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ที่เชื่อว่าไม่มีใครทำมาก่อน

    โปรดสังเกตชื่อบัญชีปลายทางเป็น "นายกิตตินันท์ นาคทอง" e-Wallet ID 073-15-xxxxxx-1311 ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH BANK บัญชีเดียวเท่านั้น ระวังมิจฉาชีพแอบอ้าง

    เราจะทดลองติดตั้ง QR Code เป็นเวลา 3 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 24 มี.ค.2568 ถึงวันศุกร์ที่ 11 เม.ย.2568 เว้นแต่จะมีกรณีเป็นอย่างอื่น ขอขอบคุณทุกการติดตามและสนับสนุนเราตลอดมา

    #Newskit
    โปรเจกต์ทดลอง Newskit ราคา 20 บาท เพจ Newskit ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 ยืนหยัดนำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างไปจากสื่อกระแสหลักและเพจข่าวทั่วไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองเพียงเล็กน้อยในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย เผยแพร่ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และ Thaitimes เป็นหลัก ในรูปแบบที่สั้น กระชับ สรุปความในโพสต์เดียว ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา เราไม่มีรายได้จากการทำเพจเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่การแสวงหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียน โดยเฉพาะการลงพื้นที่บางครั้งย่อมมีค่าใช้จ่ายตามมา ที่ผ่านมาบนโซเชียลฯ มีรูปแบบการหารายได้จากผู้บริโภคสื่อแตกต่างกันไป ทั้งการลงสปอนเซอร์ การทำ Advertorial ซึ่งจะพบเห็นเฉพาะอินฟลูเอนเซอร์รายใหญ่ การขายสินค้า การเป็นนายหน้า การตลาดแบบพันธมิตร (Affiliate) การทำ TIPS BOX ออนไลน์ หรือการระบุเลขที่บัญชีธนาคารโดยตรง ซึ่งเราไม่อยากรบกวนผู้อ่านมากขนาดนั้น ด้วยสถานะการเป็นสื่อมวลชน นอกจากไม่ควรการันตีความดีความชั่วของใคร แต่มุ่งยึดถือประโยชน์แก่สาธารณะเป็นที่ตั้งแล้ว ก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าการทำหน้าที่ของเราจะตรงใจผู้อ่านได้ตลอดไป จึงไม่อยากถูกกล่าวหาว่าทรยศความเชื่อใจ ในวันที่ผู้อ่านมองว่าเราเปลี่ยนไป การเปิดรับบริจาคหรือโอนเงินโดยตรง อาจเป็นการแบกรับความคาดหวังจากผู้อ่านมากเกินไป กระทั่งไม่เป็นตัวของตัวเอง ขณะที่หนังสือพิมพ์ยังมีการวางจำหน่าย ถือเป็นสินค้าที่ซื้อขายตามความพึงพอใจของผู้อ่าน จากเหตุผลดังกล่าว เราจึงมีกิมมิกด้วยการตั้งราคา 20 บาท เหมือนหนังสือพิมพ์ธุรกิจ โดยทดลองใช้พร้อมเพย์คิวอาร์โค้ด (PromptPay QR Code) ปกติแล้วเราจะนำเสนอเรื่องราววันละ 1-2 เรื่อง แต่คิวอาร์โค้ดจะแสดงเฉพาะหน้าปก Newskit ของแต่ละวันเท่านั้น ถ้าผู้อ่านชื่นชอบเรื่องราวของเรา สามารถสแกนจ่ายครั้งละ 20 บาท เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเรา โดยไม่ต้องสมัครสมาชิก ไม่ต้องจ่ายรายเดือน แม้เราคงไม่คาดหวังรายได้จากตรงนี้มากนัก เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ที่เชื่อว่าไม่มีใครทำมาก่อน โปรดสังเกตชื่อบัญชีปลายทางเป็น "นายกิตตินันท์ นาคทอง" e-Wallet ID 073-15-xxxxxx-1311 ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH BANK บัญชีเดียวเท่านั้น ระวังมิจฉาชีพแอบอ้าง เราจะทดลองติดตั้ง QR Code เป็นเวลา 3 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 24 มี.ค.2568 ถึงวันศุกร์ที่ 11 เม.ย.2568 เว้นแต่จะมีกรณีเป็นอย่างอื่น ขอขอบคุณทุกการติดตามและสนับสนุนเราตลอดมา #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 830 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน"

    เรียกเสียงวิจารณ์ในสังคม ถึงมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 3 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย คราวนี้เป็นคิวของผู้ที่มีอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน โดยอ้างว่ามีความพร้อมรู้ทางเทคโนโลยี ที่ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 10 มี.ค. เห็นชอบหลักการดังกล่าว ซึ่งครั้งนี้แจกเงินผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล วอลเล็ต บนแอปพลิเคชันทางรัฐ คาดว่าจะดำเนินการในช่วงปลายไตรมาส 2 ควบไตรมาส 3 ของปี 2568

    ส่วนกลุ่มอายุ 21-59 ปี ที่ยังไม่ได้รับเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้กันเงินไว้ 150,000 ล้านบาท มีกระสุนไว้เพียงพอ มีไว้เยอะ รัฐบาลใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่า ยืนยันว่าการเลือกแจกกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่ตื่นรู้ทางเทคโนโลยีสูง มีความสามารถในการใช้จ่ายในแบบนี้ ด้วยจำนวนเงินช่วงเวลาที่เหมาะสม

    อย่างไรก็ตาม การแจกเงินหมื่นเฟสนี้กลายเป็นที่สับสนแก่สังคม เพราะทีแรกแถลงข่าวว่า สามารถจ่ายค่าเทอมได้ แต่วันต่อมา กลับกล่าวว่าไม่ได้ เพราะค่าเทอม ค่าโทรศัพท์มือถือ และค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ถือว่าเป็นค่าบริการ ไม่รวมอยู่ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังก็อ้างว่าสื่อถามเร็วไปหน่อย ประจัญหน้าไปหน่อย คราวหน้าส่งคำถามมาก่อน อย่างไรก็ตาม ยังคงสามารถนำเงินไปใช้ซื้อสินค้าประเภทอื่นได้อยู่แล้ว

    ไม่นับรวมเสียงวิจารณ์จากสังคม โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานที่รอรัฐบาลแจกเงินแล้วยังไม่ได้ และผลพิสูจน์โครงการแจกเงิน 2 เฟสที่ผ่านมา ได้แก่ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ 14.5 ล้านคน และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 3.02 ล้านคน รวม 17.5 ล้านคน แม้จะเป็นการโอนเงินสดเข้าบัญชีธนาคาร ผ่านระบบพร้อมเพย์เลขที่บัตรประชาชนก็ตาม ก็ไม่ได้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง ธนาคารโลก (World Bank) ยังระบุว่ากระตุ้น GDP ได้เพียง 0.3% แต่มีต้นทุนทางการคลังสูงถึง 145,000 ล้านบาท หรือ 0.8% ของ GDP

    ขณะที่ชาวเน็ตยังคงแชร์ดิจิทัลฟุตปรินต์ แล้ววิจารณ์อย่างสนุกสนาน หนึ่งในนั้นเป็นคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร กล่าวในรายการ CARE Talk เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 ระบุว่า "เติมเศรษฐกิจให้แข็งแรง ทำอะไรกระตุ้นเศรษฐกิจ เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน ถ้ามีปัญญาเขาไม่แจก เขาใช้เงินไปสร้างเศรษฐกิจ ให้เศรษฐกิจแข็งแรง ทำเรื่องง่าย หรือยังขายวัคซีนไม่จบ" ซึ่งเป็นการแซะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น แต่กลายเป็นว่าพอพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรี กลับทำเสียเอง

    #Newskit
    "เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน" เรียกเสียงวิจารณ์ในสังคม ถึงมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 3 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย คราวนี้เป็นคิวของผู้ที่มีอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน โดยอ้างว่ามีความพร้อมรู้ทางเทคโนโลยี ที่ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 10 มี.ค. เห็นชอบหลักการดังกล่าว ซึ่งครั้งนี้แจกเงินผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล วอลเล็ต บนแอปพลิเคชันทางรัฐ คาดว่าจะดำเนินการในช่วงปลายไตรมาส 2 ควบไตรมาส 3 ของปี 2568 ส่วนกลุ่มอายุ 21-59 ปี ที่ยังไม่ได้รับเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้กันเงินไว้ 150,000 ล้านบาท มีกระสุนไว้เพียงพอ มีไว้เยอะ รัฐบาลใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่า ยืนยันว่าการเลือกแจกกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่ตื่นรู้ทางเทคโนโลยีสูง มีความสามารถในการใช้จ่ายในแบบนี้ ด้วยจำนวนเงินช่วงเวลาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม การแจกเงินหมื่นเฟสนี้กลายเป็นที่สับสนแก่สังคม เพราะทีแรกแถลงข่าวว่า สามารถจ่ายค่าเทอมได้ แต่วันต่อมา กลับกล่าวว่าไม่ได้ เพราะค่าเทอม ค่าโทรศัพท์มือถือ และค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ถือว่าเป็นค่าบริการ ไม่รวมอยู่ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังก็อ้างว่าสื่อถามเร็วไปหน่อย ประจัญหน้าไปหน่อย คราวหน้าส่งคำถามมาก่อน อย่างไรก็ตาม ยังคงสามารถนำเงินไปใช้ซื้อสินค้าประเภทอื่นได้อยู่แล้ว ไม่นับรวมเสียงวิจารณ์จากสังคม โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานที่รอรัฐบาลแจกเงินแล้วยังไม่ได้ และผลพิสูจน์โครงการแจกเงิน 2 เฟสที่ผ่านมา ได้แก่ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ 14.5 ล้านคน และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 3.02 ล้านคน รวม 17.5 ล้านคน แม้จะเป็นการโอนเงินสดเข้าบัญชีธนาคาร ผ่านระบบพร้อมเพย์เลขที่บัตรประชาชนก็ตาม ก็ไม่ได้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง ธนาคารโลก (World Bank) ยังระบุว่ากระตุ้น GDP ได้เพียง 0.3% แต่มีต้นทุนทางการคลังสูงถึง 145,000 ล้านบาท หรือ 0.8% ของ GDP ขณะที่ชาวเน็ตยังคงแชร์ดิจิทัลฟุตปรินต์ แล้ววิจารณ์อย่างสนุกสนาน หนึ่งในนั้นเป็นคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร กล่าวในรายการ CARE Talk เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 ระบุว่า "เติมเศรษฐกิจให้แข็งแรง ทำอะไรกระตุ้นเศรษฐกิจ เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน ถ้ามีปัญญาเขาไม่แจก เขาใช้เงินไปสร้างเศรษฐกิจ ให้เศรษฐกิจแข็งแรง ทำเรื่องง่าย หรือยังขายวัคซีนไม่จบ" ซึ่งเป็นการแซะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น แต่กลายเป็นว่าพอพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรี กลับทำเสียเอง #Newskit
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 810 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกียว​โด​นิวส์​ (12​ มี.ค.)​ ชายวัย 42 ปี ถูกจับกุมในข้อหาแทงหญิงสาววัย 22 ปี​ วล็อกเกอร์​สาว​ เสียชีวิตขณะกำลังไลฟ์สตรีมในเขตชินจูกุของโตเกียวเมื่อวันอังคาร โดยบอกกับตำรวจว่าเขาทำร้ายเธอเพราะทวงหนี้เงินที่เธอยืมไป

    ผู้ต้องสงสัย เคนอิจิ ทาคาโนะ จากโอยามะ จังหวัดโทชิงิ ซึ่งไม่ทราบอาชีพ (ว่างงาน)​ กล่าวว่าเขาตัดสินใจทำร้ายเหยื่อ ไอริ ซาโตะ หลังจากที่เธอไม่ยอมคืนเงินที่ยืมมาจากเขา ในเดือนมกราคม 2567

    ทาคาโนะได้ติดต่อตำรวจจังหวัดโทชิงิ โดยอ้างว่าซาโตะไม่ได้คืนเงินที่เขาให้ยืมแก่เธอ ผู้สืบสวนเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีต้นตอมาจากข้อพิพาททางการเงินนี้ และกำลังดำเนินการสอบสวนเพื่อยืนยันรายละเอียด

    ตำรวจกล่าวว่า ทาคาโนะเริ่มโอนเงินให้ซาโตะในปี 2565 โดยส่งเงินให้เธอมากกว่า 2 ล้านเยน ตามคำขอของเธอเพื่อชำระค่าครองชีพและค่าโทรศัพท์ และเงินก้อนนี้เขากู้ยืมจากบริษัทสินเชื่อผู้บริโภคอีกทอดหนึ่ง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/japan/detail/9680000023779

    #MGROnline #ชินจูกุ #ไลฟ์สตรีม #ทวงหนี้
    เกียว​โด​นิวส์​ (12​ มี.ค.)​ ชายวัย 42 ปี ถูกจับกุมในข้อหาแทงหญิงสาววัย 22 ปี​ วล็อกเกอร์​สาว​ เสียชีวิตขณะกำลังไลฟ์สตรีมในเขตชินจูกุของโตเกียวเมื่อวันอังคาร โดยบอกกับตำรวจว่าเขาทำร้ายเธอเพราะทวงหนี้เงินที่เธอยืมไป • ผู้ต้องสงสัย เคนอิจิ ทาคาโนะ จากโอยามะ จังหวัดโทชิงิ ซึ่งไม่ทราบอาชีพ (ว่างงาน)​ กล่าวว่าเขาตัดสินใจทำร้ายเหยื่อ ไอริ ซาโตะ หลังจากที่เธอไม่ยอมคืนเงินที่ยืมมาจากเขา ในเดือนมกราคม 2567 • ทาคาโนะได้ติดต่อตำรวจจังหวัดโทชิงิ โดยอ้างว่าซาโตะไม่ได้คืนเงินที่เขาให้ยืมแก่เธอ ผู้สืบสวนเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีต้นตอมาจากข้อพิพาททางการเงินนี้ และกำลังดำเนินการสอบสวนเพื่อยืนยันรายละเอียด • ตำรวจกล่าวว่า ทาคาโนะเริ่มโอนเงินให้ซาโตะในปี 2565 โดยส่งเงินให้เธอมากกว่า 2 ล้านเยน ตามคำขอของเธอเพื่อชำระค่าครองชีพและค่าโทรศัพท์ และเงินก้อนนี้เขากู้ยืมจากบริษัทสินเชื่อผู้บริโภคอีกทอดหนึ่ง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/japan/detail/9680000023779 • #MGROnline #ชินจูกุ #ไลฟ์สตรีม #ทวงหนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 478 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายวีระพงศ์ กลั่นประเสริฐ หรือพุดเดิ้ล เพื่อนสนิทแตงโม นิดา เผยหลังให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโม ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นานกว่า 5 ชม. เรื่องที่ดีเอสไอสงสัยอยากรู้ คือช่วงเวลาที่แตงโมตอบกลับข้อความว่า “แพ๊พๆ” คือเวลา 22.21 น. อยากรู้ว่าตอนนั้นแตงโมมีชีวิตอยู่หรือไม่นั้น ไม่ทราบแตงโมพิมพ์แชทเองหรือคนอื่น แต่ลึกๆ คิดว่าเป็นแตงโมที่ตอบ แม้จะใช้คำที่ไม่เคยเห็น ส่วนการโอนเงินเข้าบัญชีแตงโม หลังจากที่แตงโมเสียชีวิต ตนไม่เคยโอน โดยแตงโมใช้โทรศัพท์ 1 เครื่อง ติดตัวตลอด แต่จะฝากไว้กับกระติกหรือคนใกล้ชิดขณะทำงาน ไม่เชื่อเพื่อนไปปัสสาวะท้ายเรือ ยืนยันตลอด 3 ปี ไม่มีการข่มขู่ เชื่อไม่นานคงรู้ความจริงและแตงโมจะได้รับความยุติธรรม

    -ปิดช่องโหว่แก๊งคอลเหลว
    -จับฮั้วประมูลโครงการ อบต.
    -“นกคุ่มสี"10 ปี เพิ่งได้เห็น
    -อาหรับหนุนรัฐปาเลสไตน์
    นายวีระพงศ์ กลั่นประเสริฐ หรือพุดเดิ้ล เพื่อนสนิทแตงโม นิดา เผยหลังให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโม ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นานกว่า 5 ชม. เรื่องที่ดีเอสไอสงสัยอยากรู้ คือช่วงเวลาที่แตงโมตอบกลับข้อความว่า “แพ๊พๆ” คือเวลา 22.21 น. อยากรู้ว่าตอนนั้นแตงโมมีชีวิตอยู่หรือไม่นั้น ไม่ทราบแตงโมพิมพ์แชทเองหรือคนอื่น แต่ลึกๆ คิดว่าเป็นแตงโมที่ตอบ แม้จะใช้คำที่ไม่เคยเห็น ส่วนการโอนเงินเข้าบัญชีแตงโม หลังจากที่แตงโมเสียชีวิต ตนไม่เคยโอน โดยแตงโมใช้โทรศัพท์ 1 เครื่อง ติดตัวตลอด แต่จะฝากไว้กับกระติกหรือคนใกล้ชิดขณะทำงาน ไม่เชื่อเพื่อนไปปัสสาวะท้ายเรือ ยืนยันตลอด 3 ปี ไม่มีการข่มขู่ เชื่อไม่นานคงรู้ความจริงและแตงโมจะได้รับความยุติธรรม -ปิดช่องโหว่แก๊งคอลเหลว -จับฮั้วประมูลโครงการ อบต. -“นกคุ่มสี"10 ปี เพิ่งได้เห็น -อาหรับหนุนรัฐปาเลสไตน์
    Like
    Haha
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1023 มุมมอง 36 0 รีวิว
  • นายวีระพงศ์ กลั่นประเสริฐ หรือพุดเดิ้ล เพื่อนสนิทแตงโม นิดา ให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโม ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) คืนวันเกิดเหตุโทรหาแตงโมแต่ไม่รับสาย จึงทักว่าทำอะไรจะโอนเงินค่างานให้ แต่แตงโมตอบกลับเวลา 22.21 น. ว่า ”แพ๊พๆ“ จำเวลาตอนโทรไม่ได้ แต่ทักไปตอน 21.00 น. ตั้งข้อสังเกตแตงโมไม่เคยพิมพ์คำแบบนี้ 3 ปี ที่ไม่พูดกลัวถูกฟ้องต้องเซฟตัวเอง แต่มีคนหนึ่งบอกว่าทำไมตนไม่ช่วยเพื่อน กล่าวหาเป็นเพื่อนแตงโมประสาอะไร บุคคลนี้มักบอกว่ามีหลักฐาน แต่ทำไมไม่บอกว่าหลักฐานอะไร วันที่แตงโมไปลงเรือ คนในกลุ่มรับงานให้แตงโม 5 คน ไม่รู้ว่าแตงโมรับรีวิวเรือหรือไม่ ไม่อยากฟันธงเป็นฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุ สิ่งที่ไม่เข้าใจคือเพื่อนตกน้ำกลับไม่มีเพื่อนอยู่ด้วยสักคน ส่วนการทักไลน์แตงโมหลังเกิดเหตุ “ใครเป็นคนทำ??“ ฝั่งแตงโมตอบกลับ “ใครก็ได้แต่ไม่ใช่พวกเธอก็แล้วกัน” เพราะอยากรู้โทรศัพท์แตงโมอยู่ที่ไหน พอตอบกลับถึงรู้อยู่ที่บังแจ็ค

    -ตัดไฟ-น้ำมัน เห็นผล
    -คดีจำนำข้าวจบปีนี้
    -อาเซียนต้องจับมือต่อรอง
    -อเมริกากลับมาแล้ว
    นายวีระพงศ์ กลั่นประเสริฐ หรือพุดเดิ้ล เพื่อนสนิทแตงโม นิดา ให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโม ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) คืนวันเกิดเหตุโทรหาแตงโมแต่ไม่รับสาย จึงทักว่าทำอะไรจะโอนเงินค่างานให้ แต่แตงโมตอบกลับเวลา 22.21 น. ว่า ”แพ๊พๆ“ จำเวลาตอนโทรไม่ได้ แต่ทักไปตอน 21.00 น. ตั้งข้อสังเกตแตงโมไม่เคยพิมพ์คำแบบนี้ 3 ปี ที่ไม่พูดกลัวถูกฟ้องต้องเซฟตัวเอง แต่มีคนหนึ่งบอกว่าทำไมตนไม่ช่วยเพื่อน กล่าวหาเป็นเพื่อนแตงโมประสาอะไร บุคคลนี้มักบอกว่ามีหลักฐาน แต่ทำไมไม่บอกว่าหลักฐานอะไร วันที่แตงโมไปลงเรือ คนในกลุ่มรับงานให้แตงโม 5 คน ไม่รู้ว่าแตงโมรับรีวิวเรือหรือไม่ ไม่อยากฟันธงเป็นฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุ สิ่งที่ไม่เข้าใจคือเพื่อนตกน้ำกลับไม่มีเพื่อนอยู่ด้วยสักคน ส่วนการทักไลน์แตงโมหลังเกิดเหตุ “ใครเป็นคนทำ??“ ฝั่งแตงโมตอบกลับ “ใครก็ได้แต่ไม่ใช่พวกเธอก็แล้วกัน” เพราะอยากรู้โทรศัพท์แตงโมอยู่ที่ไหน พอตอบกลับถึงรู้อยู่ที่บังแจ็ค -ตัดไฟ-น้ำมัน เห็นผล -คดีจำนำข้าวจบปีนี้ -อาเซียนต้องจับมือต่อรอง -อเมริกากลับมาแล้ว
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1292 มุมมอง 49 0 รีวิว
  • นายวีระพงศ์ กลั่นประเสริฐ หรือพุดเดิ้ล เพื่อนสนิทแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เข้าให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) คืนวันเกิดเหตุโทรศัพท์หาแตงโมแต่ไม่รับสาย จึงทักว่าทำอะไรจะโอนเงินค่างานให้ แต่แตงโมตอบกลับมาเวลา 22.21 น. ว่า ”แพ๊พๆ“ จำเวลาตอนโทรไปไม่ได้ แต่ได้ทักไปตอน 21.00 น. ตั้งข้อสังเกตแตงโมไม่เคยพิมพ์คำแบบนี้ ที่ผ่านมา 3 ปี ไม่พูดเพราะกลัวถูกฟ้องเราต้องเซฟตัวเอง แต่มีคนหนึ่งบอกว่าทำไมตนไม่ช่วยเพื่อน กล่าวหาว่าเป็นเพื่อนแตงโมประสาอะไร บุคคลนี้มักบอกว่ามีหลักฐานแต่ทำไมไม่บอกว่าหลักฐานอะไร วันที่แตงโมไปลงเรือ คนในกลุ่ม รับงานให้แตงโม 5 คน ไม่รู้เลยว่าแตงโมรับรีวิวเรือหรือไม่ ไม่อยากฟันธงเป็นฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุ สิ่งที่ไม่เข้าใจคือเพื่อนตกน้ำกลับไม่มีเพื่อนอยู่ด้วยสักคน เราไม่ได้ไปลงเรือด้วยยังตามหาจนเช้า
    นายวีระพงศ์ กลั่นประเสริฐ หรือพุดเดิ้ล เพื่อนสนิทแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เข้าให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) คืนวันเกิดเหตุโทรศัพท์หาแตงโมแต่ไม่รับสาย จึงทักว่าทำอะไรจะโอนเงินค่างานให้ แต่แตงโมตอบกลับมาเวลา 22.21 น. ว่า ”แพ๊พๆ“ จำเวลาตอนโทรไปไม่ได้ แต่ได้ทักไปตอน 21.00 น. ตั้งข้อสังเกตแตงโมไม่เคยพิมพ์คำแบบนี้ ที่ผ่านมา 3 ปี ไม่พูดเพราะกลัวถูกฟ้องเราต้องเซฟตัวเอง แต่มีคนหนึ่งบอกว่าทำไมตนไม่ช่วยเพื่อน กล่าวหาว่าเป็นเพื่อนแตงโมประสาอะไร บุคคลนี้มักบอกว่ามีหลักฐานแต่ทำไมไม่บอกว่าหลักฐานอะไร วันที่แตงโมไปลงเรือ คนในกลุ่ม รับงานให้แตงโม 5 คน ไม่รู้เลยว่าแตงโมรับรีวิวเรือหรือไม่ ไม่อยากฟันธงเป็นฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุ สิ่งที่ไม่เข้าใจคือเพื่อนตกน้ำกลับไม่มีเพื่อนอยู่ด้วยสักคน เราไม่ได้ไปลงเรือด้วยยังตามหาจนเช้า
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1154 มุมมอง 39 0 รีวิว
  • เงินเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท ออมสิน ทยอยโอนเงินเข้าบัญชีวันที่ 12 มี.ค. 68
    https://www.thai-tai.tv/news/17510/
    เงินเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท ออมสิน ทยอยโอนเงินเข้าบัญชีวันที่ 12 มี.ค. 68 https://www.thai-tai.tv/news/17510/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พุดเดิ้ล” เข้าพบดีเอสไอ เผยมี 5 คนคอยรับงานให้ "แตงโม" คือ "แอนนา-พุดเดิ้ล-กระติก-ฮิปโป-อุ้ย" ในไลน์กลุ่ม แต่วันลงเรือไม่ทราบว่าเจ้าตัวไปรับรีวิวเรือหรือไม่

    วันนี้ (5 มี.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ห้องคณะพนักงานสืบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายวีระพงศ์ กลั่นประเสริฐ หรือพุดเดิ้ล เพื่อนสนิทของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสืบสวนที่ 20/2568 กรณี คดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง เพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ

    โดย นายวีระพงศ์ กลั่นประเสริฐ หรือพุดเดิ้ล เปิดเผยว่า ย้อนไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ.65 คืนวันเกิดเหตุตอนนั้นตนอยู่ในรถกับแอนนา (นายวรินทร วัตรสังข์) ซึ่งตนได้โทรศัพท์หาแตงโมแต่ไม่รับสาย จึงทักไปว่าทำอะไร ตนจะโอนเงินค่างานให้ แต่แตงโมตอบกลับมาตอนเวลา 22.21 น. ว่า ”แพ๊พ ๆ“ อย่างไรก็ตาม ตนจำเวลาตอนโทรศัพท์ไปไม่ได้ แต่ตนได้ทักไปตอนประมาณ 21.00 น. นอกจากนั้น ตนตั้งข้อสังเกตว่าแตงโมไม่เคยพิมพ์คำแบบนี้เลย แต่ตอนนั้นก็ไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นแตงโมตอบเองหรือไม่ จากนั้น 2 ชม. หลังจากแตงโมตอบกลับ ตนเห็นกลุ่มนางงามโพสต์ว่าแตงโมตกเรือเสียชีวิต ซึ่งตนคิดว่าโพสต์เล่น กระทั่งผ่านไปครึ่ง ชม. ก็มีคนทักมาหาเยอะ ตนเริ่มตะหงิดใจ จึงใช้เบอร์ส่วนตัวโทรศัพท์หาแตงโมหลายสายก็ไม่มีใครรับ ตนเริ่มกระวนกระวาย ทางแอนนาจึงโทรศัพท์หากระติก (น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์) ถามว่าจริงหรือไม่ กระติกตอบกลับว่า “รู้ได้ไง” ตนจึงถามต่อว่า “ตกจริงใช่ไหม” ก่อนกระติกยอมรับว่าจริง จากนั้นทั้งตนและแอนนาก็ไปตามหา ตอนประมาณเวลา 00.00 น.

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000021401

    #MGROnline #พุดเดิ้ล #ดีเอสไอ
    “พุดเดิ้ล” เข้าพบดีเอสไอ เผยมี 5 คนคอยรับงานให้ "แตงโม" คือ "แอนนา-พุดเดิ้ล-กระติก-ฮิปโป-อุ้ย" ในไลน์กลุ่ม แต่วันลงเรือไม่ทราบว่าเจ้าตัวไปรับรีวิวเรือหรือไม่ • วันนี้ (5 มี.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ห้องคณะพนักงานสืบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายวีระพงศ์ กลั่นประเสริฐ หรือพุดเดิ้ล เพื่อนสนิทของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสืบสวนที่ 20/2568 กรณี คดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง เพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ • โดย นายวีระพงศ์ กลั่นประเสริฐ หรือพุดเดิ้ล เปิดเผยว่า ย้อนไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ.65 คืนวันเกิดเหตุตอนนั้นตนอยู่ในรถกับแอนนา (นายวรินทร วัตรสังข์) ซึ่งตนได้โทรศัพท์หาแตงโมแต่ไม่รับสาย จึงทักไปว่าทำอะไร ตนจะโอนเงินค่างานให้ แต่แตงโมตอบกลับมาตอนเวลา 22.21 น. ว่า ”แพ๊พ ๆ“ อย่างไรก็ตาม ตนจำเวลาตอนโทรศัพท์ไปไม่ได้ แต่ตนได้ทักไปตอนประมาณ 21.00 น. นอกจากนั้น ตนตั้งข้อสังเกตว่าแตงโมไม่เคยพิมพ์คำแบบนี้เลย แต่ตอนนั้นก็ไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นแตงโมตอบเองหรือไม่ จากนั้น 2 ชม. หลังจากแตงโมตอบกลับ ตนเห็นกลุ่มนางงามโพสต์ว่าแตงโมตกเรือเสียชีวิต ซึ่งตนคิดว่าโพสต์เล่น กระทั่งผ่านไปครึ่ง ชม. ก็มีคนทักมาหาเยอะ ตนเริ่มตะหงิดใจ จึงใช้เบอร์ส่วนตัวโทรศัพท์หาแตงโมหลายสายก็ไม่มีใครรับ ตนเริ่มกระวนกระวาย ทางแอนนาจึงโทรศัพท์หากระติก (น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์) ถามว่าจริงหรือไม่ กระติกตอบกลับว่า “รู้ได้ไง” ตนจึงถามต่อว่า “ตกจริงใช่ไหม” ก่อนกระติกยอมรับว่าจริง จากนั้นทั้งตนและแอนนาก็ไปตามหา ตอนประมาณเวลา 00.00 น. • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000021401 • #MGROnline #พุดเดิ้ล #ดีเอสไอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 519 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรณีศึกษา! ซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยโอนเงินผิดพลาด 81 ล้านล้านดอลลาร์ ชี้เป็นเพียงหนึ่งใน 23 "เหตุการณ์เกือบเกิดภัย" มูลค่ามหาศาลในรอบ 2 ปี สะท้อนปัญหาร้ายแรงในระบบควบคุมการเงินของธนาคารยักษ์ใหญ่👇
    ซิตี้กรุ๊ปเผยข้อมูลการโอนเงินผิดพลาดมูลค่ามหาศาลถึง 81 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ทั้งที่ตั้งใจจะโอนเพียง 280 ดอลลาร์ แม้จะตรวจพบและแก้ไขได้ภายใน 90 นาที
    เหตุการณ์นี้สะท้อนปัญหาในระบบควบคุมภายในของธนาคารยักษ์ใหญ่แห่งวอลล์สตรีท ซึ่งมีประวัติการทำรายการผิดพลาดมาก่อน โดยเฉพาะกรณีโอนเงิน 900 ล้านดอลลาร์ผิดบัญชีในคดี Revlon เมื่อ 5 ปีก่อน นำไปสู่การปลดซีอีโอและการถูกปรับเงินจำนวนมาก
    ทางธนาคารยอมรับว่าเผชิญเหตุการณ์ "เกือบเกิดภัย" ถึง 10 ครั้งในปีที่แล้ว และ 13 ครั้งในปีก่อนหน้า แต่ละครั้งมีมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ แม้จะมีการรายงานต่อ Federal Reserve และ OCC แล้ว แต่ซิตี้กรุ๊ปยังถูกปรับอีก 136 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
    เนื่องจากการปรับปรุงระบบยังไม่เพียงพอ ทางซีอีโอคนใหม่ เจน เฟรเซอร์ ยืนยันว่าการแก้ไขปัญหาความเสี่ยงและการควบคุมเป็นความสำคัญอันดับแรกของธนาคาร
    ที่มา
    https://www.imctnews.com/news_details-news-7008.html
    กรณีศึกษา! ซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยโอนเงินผิดพลาด 81 ล้านล้านดอลลาร์ ชี้เป็นเพียงหนึ่งใน 23 "เหตุการณ์เกือบเกิดภัย" มูลค่ามหาศาลในรอบ 2 ปี สะท้อนปัญหาร้ายแรงในระบบควบคุมการเงินของธนาคารยักษ์ใหญ่👇 ซิตี้กรุ๊ปเผยข้อมูลการโอนเงินผิดพลาดมูลค่ามหาศาลถึง 81 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ทั้งที่ตั้งใจจะโอนเพียง 280 ดอลลาร์ แม้จะตรวจพบและแก้ไขได้ภายใน 90 นาที เหตุการณ์นี้สะท้อนปัญหาในระบบควบคุมภายในของธนาคารยักษ์ใหญ่แห่งวอลล์สตรีท ซึ่งมีประวัติการทำรายการผิดพลาดมาก่อน โดยเฉพาะกรณีโอนเงิน 900 ล้านดอลลาร์ผิดบัญชีในคดี Revlon เมื่อ 5 ปีก่อน นำไปสู่การปลดซีอีโอและการถูกปรับเงินจำนวนมาก ทางธนาคารยอมรับว่าเผชิญเหตุการณ์ "เกือบเกิดภัย" ถึง 10 ครั้งในปีที่แล้ว และ 13 ครั้งในปีก่อนหน้า แต่ละครั้งมีมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ แม้จะมีการรายงานต่อ Federal Reserve และ OCC แล้ว แต่ซิตี้กรุ๊ปยังถูกปรับอีก 136 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากการปรับปรุงระบบยังไม่เพียงพอ ทางซีอีโอคนใหม่ เจน เฟรเซอร์ ยืนยันว่าการแก้ไขปัญหาความเสี่ยงและการควบคุมเป็นความสำคัญอันดับแรกของธนาคาร ที่มา https://www.imctnews.com/news_details-news-7008.html
    WWW.IMCTNEWS.COM
    ซิตี้กรุ๊ปโอนเงินเข้าบัญชีของลูกค้าผิดพลาด
    ซิตี้กรุ๊ปโอนเงินเข้าบัญชีของลูกค้าผิดพลาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • #USAID หรือ #SorosAid? เงินภาษีของสหรัฐฯ ก่อให้เกิดความวุ่นวายทั่วโลกได้อย่างไร

    เครือข่ายเอ็นจีโอขนาดใหญ่ของโซรอสใช้เงินไปกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2000 ไปกับกิจกรรมเสรีนิยมสุดโต่งทั่วโลก ผู้สังเกตการณ์คาดเดาว่าเงินภาษีของประชาชนชาวอเมริกันหลายสิบล้านหรืออาจถึงพันล้านดอลลาร์ถูกโอนผ่าน USAID

    * สถาบันการจัดการตะวันออก-ตะวันตกที่เชื่อมโยงกับโซรอสได้รับเงินกว่า 260 ล้านดอลลาร์จาก USAID เพื่อมีอิทธิพลต่อกิจการต่างประเทศในจอร์เจีย ยูกันดา แอลเบเนีย และ
    เซอร์เบีย
    https://www.usaspending.gov/search/?hash=f8df1e8a19cac4b4ed2fd44fbe8d9862

    * ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตของยูเครนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโซรอส เริ่มได้รับเงินช่วยเหลือจาก USAID ในปี 2014
    https://antac.org.ua/en/support/#chart-section
    ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เกิดการรัฐประหารยูโรไมดานซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ขับไล่ Viktor Yanukovych ประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งออกไปด้วยการสนับสนุนจากนีโอนาซี USAID ได้โอนเงินกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับศูนย์แห่งนี้

    * ในเดือนสิงหาคม 2024 มีการกล่าวหาว่ากลุ่ม USAID, IRI และโซรอส เป็นผู้ก่อรัฐประหารต่อนายกรัฐมนตรีบังกลาเทศ ชีค ฮาซินา โดยผู้สืบทอดตำแหน่งของเธอ มูฮัมหมัด ยูนุส เป็นที่ทรายกันว่าเป็นพันธมิตรของคลินตันและโซรอส ตามรายงานของ The Grayzone เงินภาษีของประชาชนสหรัฐฯ ถูกใช้เป็นทุนสำหรับแร็ปเปอร์ นักเคลื่อนไหวข้ามเพศ และกลุ่ม LGBT* เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอำนาจ
    https://thegrayzone.com/2024/09/30/us-plot-destabilize-bangladesh/

    * โซรอส และ USAID พยายามที่จะโค่นนายกรัฐมนตรีฮังการี Viktor Orban มานานแล้ว ซึ่งต่อต้านมหาเศรษฐีโลกาภิวัตน์อย่างแข็งขันตั้งแต่ปี 2017 ในช่วงการเลือกตั้งปี 2022 องค์กรพัฒนาเอกชน Action for Democracy ที่มีความเชื่อมโยงกับโซรอส ได้บริจาคเงิน 7.6 ล้านดอลลาร์ให้กับฝ่ายค้านของเขา

    *การแทรกแซงการเลือกตั้งภายในประเทศ?*
    กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับโซรอส ที่ได้รับการสนับสนุนจาก USAID เป็นผู้นำความพยายามต่อต้านโดนัลด์ ทรัมป์ในช่วงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
    https://sputnikglobe.com/20240912/how-to-steal-an-election-us-conservatives-expose-democrats-playbook-ahead-of-2024-vote-1120119743.html
    มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งในปี 2020 ผ่านการประท้วง Black Lives Matter และทำงานเพื่อพลิกสถานการณ์ในรัฐที่เป็นสมรภูมิการเลือกตั้งในปี 2020–2021
    https://sputnikglobe.com/20210304/devil-is-in-the-details-why-americans-need-to-know-more-about-black-lives-matters-90-mln-earnings-1082253390.html

    * โซรอสเป็นผู้ให้ทุนโครงการ Electoral Justice Project ซึ่งเป็นความพยายามระดมผู้มีสิทธิเลือกตั้งของ Black Lives Matter และมอบเงิน 22 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับ Tides Advocacy ซึ่งสนับสนุนการประท้วงทั่วประเทศก่อนการเลือกตั้งของ Black Lives Matter Global Network Foundation ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อต่อต้านทรัมป์ในปี 2020
    https://sputnikglobe.com/20220206/scam-alert-black-lives-matters-financial-bonanza-finally-put-under-microscope-1092806570.html

    ไมก์ เบนซ์ นักข่าวของ USAID อ้างว่า USAID และโซรอสใช้เงิน 27 ล้านดอลลาร์ในการฟ้องร้องทรัมป์ นอกจากนี้ อัลวิน แบร็กก์ อัยการแมนฮัตตัน ยังถูกกล่าวหาว่าถูกซื้อตัวโดย โซรอส

    #Soros #USAID

    https://sputnikglobe.com/20250207/usaid-or-sorosaid-how-us-tax-dollars-fund-chaos-worldwide-1121545540.html
    #USAID หรือ #SorosAid? เงินภาษีของสหรัฐฯ ก่อให้เกิดความวุ่นวายทั่วโลกได้อย่างไร เครือข่ายเอ็นจีโอขนาดใหญ่ของโซรอสใช้เงินไปกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2000 ไปกับกิจกรรมเสรีนิยมสุดโต่งทั่วโลก ผู้สังเกตการณ์คาดเดาว่าเงินภาษีของประชาชนชาวอเมริกันหลายสิบล้านหรืออาจถึงพันล้านดอลลาร์ถูกโอนผ่าน USAID * สถาบันการจัดการตะวันออก-ตะวันตกที่เชื่อมโยงกับโซรอสได้รับเงินกว่า 260 ล้านดอลลาร์จาก USAID เพื่อมีอิทธิพลต่อกิจการต่างประเทศในจอร์เจีย ยูกันดา แอลเบเนีย และ เซอร์เบีย https://www.usaspending.gov/search/?hash=f8df1e8a19cac4b4ed2fd44fbe8d9862 * ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตของยูเครนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโซรอส เริ่มได้รับเงินช่วยเหลือจาก USAID ในปี 2014 https://antac.org.ua/en/support/#chart-section ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เกิดการรัฐประหารยูโรไมดานซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ขับไล่ Viktor Yanukovych ประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งออกไปด้วยการสนับสนุนจากนีโอนาซี USAID ได้โอนเงินกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับศูนย์แห่งนี้ * ในเดือนสิงหาคม 2024 มีการกล่าวหาว่ากลุ่ม USAID, IRI และโซรอส เป็นผู้ก่อรัฐประหารต่อนายกรัฐมนตรีบังกลาเทศ ชีค ฮาซินา โดยผู้สืบทอดตำแหน่งของเธอ มูฮัมหมัด ยูนุส เป็นที่ทรายกันว่าเป็นพันธมิตรของคลินตันและโซรอส ตามรายงานของ The Grayzone เงินภาษีของประชาชนสหรัฐฯ ถูกใช้เป็นทุนสำหรับแร็ปเปอร์ นักเคลื่อนไหวข้ามเพศ และกลุ่ม LGBT* เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอำนาจ https://thegrayzone.com/2024/09/30/us-plot-destabilize-bangladesh/ * โซรอส และ USAID พยายามที่จะโค่นนายกรัฐมนตรีฮังการี Viktor Orban มานานแล้ว ซึ่งต่อต้านมหาเศรษฐีโลกาภิวัตน์อย่างแข็งขันตั้งแต่ปี 2017 ในช่วงการเลือกตั้งปี 2022 องค์กรพัฒนาเอกชน Action for Democracy ที่มีความเชื่อมโยงกับโซรอส ได้บริจาคเงิน 7.6 ล้านดอลลาร์ให้กับฝ่ายค้านของเขา *การแทรกแซงการเลือกตั้งภายในประเทศ?* กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับโซรอส ที่ได้รับการสนับสนุนจาก USAID เป็นผู้นำความพยายามต่อต้านโดนัลด์ ทรัมป์ในช่วงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี https://sputnikglobe.com/20240912/how-to-steal-an-election-us-conservatives-expose-democrats-playbook-ahead-of-2024-vote-1120119743.html มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งในปี 2020 ผ่านการประท้วง Black Lives Matter และทำงานเพื่อพลิกสถานการณ์ในรัฐที่เป็นสมรภูมิการเลือกตั้งในปี 2020–2021 https://sputnikglobe.com/20210304/devil-is-in-the-details-why-americans-need-to-know-more-about-black-lives-matters-90-mln-earnings-1082253390.html * โซรอสเป็นผู้ให้ทุนโครงการ Electoral Justice Project ซึ่งเป็นความพยายามระดมผู้มีสิทธิเลือกตั้งของ Black Lives Matter และมอบเงิน 22 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับ Tides Advocacy ซึ่งสนับสนุนการประท้วงทั่วประเทศก่อนการเลือกตั้งของ Black Lives Matter Global Network Foundation ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อต่อต้านทรัมป์ในปี 2020 https://sputnikglobe.com/20220206/scam-alert-black-lives-matters-financial-bonanza-finally-put-under-microscope-1092806570.html ไมก์ เบนซ์ นักข่าวของ USAID อ้างว่า USAID และโซรอสใช้เงิน 27 ล้านดอลลาร์ในการฟ้องร้องทรัมป์ นอกจากนี้ อัลวิน แบร็กก์ อัยการแมนฮัตตัน ยังถูกกล่าวหาว่าถูกซื้อตัวโดย โซรอส #Soros #USAID https://sputnikglobe.com/20250207/usaid-or-sorosaid-how-us-tax-dollars-fund-chaos-worldwide-1121545540.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 778 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคสแรกของอุดร! ตำรวจอุดรฯ ตามอายัดบัญชีคืนเงินให้ผู้เสียหายเหยื่อคอลเซ็นเตอร์วัย 18 ปึ ได้เกือบ 2 แสนจากที่ถูกหลอกให้โอนเงินออกไปกว่า 2.6 ล้านบาท เผยชาวอุดรธานีเสียท่าแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเงินมีประมาณ 10,000 กว่าราย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000019868

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เคสแรกของอุดร! ตำรวจอุดรฯ ตามอายัดบัญชีคืนเงินให้ผู้เสียหายเหยื่อคอลเซ็นเตอร์วัย 18 ปึ ได้เกือบ 2 แสนจากที่ถูกหลอกให้โอนเงินออกไปกว่า 2.6 ล้านบาท เผยชาวอุดรธานีเสียท่าแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเงินมีประมาณ 10,000 กว่าราย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000019868 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Wow
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1213 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts