• เรื่องเล่าจากศูนย์หลอกลวง: เมื่อคนถูกล่อลวงให้กลายเป็นอาชญากรโดยไม่รู้ตัว

    ในวันต่อต้านการค้ามนุษย์โลก (30 ก.ค.) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ของ UN ได้ออกมาเตือนว่า ขณะนี้มีผู้คนหลายแสนคนถูกกักขังอยู่ในศูนย์หลอกลวงออนไลน์ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนของเมียนมา กัมพูชา ลาว ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย

    เหยื่อส่วนใหญ่เป็นแรงงานอพยพ คนหนุ่มสาว เด็ก และผู้พิการ ที่ถูกล่อลวงด้วยคำสัญญาเรื่องงานดีรายได้สูง แต่กลับถูกยึดหนังสือเดินทาง กักขัง และบังคับให้ทำอาชญากรรมออนไลน์ เช่น หลอกลงทุน หลอกรัก หรือหลอกให้โอนเงินผ่านคริปโต

    ที่น่าตกใจคือ เหยื่อเหล่านี้มักถูกจับกุมและลงโทษแทนที่จะได้รับความช่วยเหลือ ทั้งที่พวกเขาเป็นผู้ถูกบังคับ ไม่ใช่อาชญากร

    UN เตือนว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นศูนย์กลางการค้ามนุษย์เพื่ออาชญากรรมออนไลน์
    มีผู้คนหลายแสนคนถูกกักขังในศูนย์หลอกลวง
    สร้างรายได้กว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีให้กับองค์กรอาชญากรรม

    เหยื่อถูกล่อลวงด้วยงานดี แต่กลับถูกบังคับให้ทำอาชญากรรม
    หลอกให้ทำ scam ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น romance scam, crypto fraud
    ถูกยึดหนังสือเดินทาง กักขัง และใช้ความรุนแรง

    เหยื่อมักถูกจับกุมแทนที่จะได้รับความช่วยเหลือ
    หลายคนถูกดำเนินคดีในข้อหาที่ถูกบังคับให้ทำ
    UN เรียกร้องให้เปลี่ยนกฎหมายเพื่อปกป้องเหยื่อ

    IOM ช่วยเหลือเหยื่อกว่า 3,000 คนตั้งแต่ปี 2022
    ส่งกลับประเทศจากฟิลิปปินส์และเวียดนาม
    สนับสนุนเหยื่อในไทย เมียนมา และประเทศอื่น ๆ

    UN เรียกร้องให้รัฐบาลและภาคประชาสังคมร่วมกันแก้ปัญหา
    ต้องเปลี่ยนกฎหมายให้เหยื่อได้รับการคุ้มครอง
    ต้องไล่ล่าผู้ค้ามนุษย์ ไม่ใช่ลงโทษเหยื่อ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/31/un-sounds-alarm-on-se-asia-scam-centre-surge
    🧠 เรื่องเล่าจากศูนย์หลอกลวง: เมื่อคนถูกล่อลวงให้กลายเป็นอาชญากรโดยไม่รู้ตัว ในวันต่อต้านการค้ามนุษย์โลก (30 ก.ค.) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ของ UN ได้ออกมาเตือนว่า ขณะนี้มีผู้คนหลายแสนคนถูกกักขังอยู่ในศูนย์หลอกลวงออนไลน์ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนของเมียนมา กัมพูชา ลาว ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย เหยื่อส่วนใหญ่เป็นแรงงานอพยพ คนหนุ่มสาว เด็ก และผู้พิการ ที่ถูกล่อลวงด้วยคำสัญญาเรื่องงานดีรายได้สูง แต่กลับถูกยึดหนังสือเดินทาง กักขัง และบังคับให้ทำอาชญากรรมออนไลน์ เช่น หลอกลงทุน หลอกรัก หรือหลอกให้โอนเงินผ่านคริปโต ที่น่าตกใจคือ เหยื่อเหล่านี้มักถูกจับกุมและลงโทษแทนที่จะได้รับความช่วยเหลือ ทั้งที่พวกเขาเป็นผู้ถูกบังคับ ไม่ใช่อาชญากร ✅ UN เตือนว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นศูนย์กลางการค้ามนุษย์เพื่ออาชญากรรมออนไลน์ ➡️ มีผู้คนหลายแสนคนถูกกักขังในศูนย์หลอกลวง ➡️ สร้างรายได้กว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีให้กับองค์กรอาชญากรรม ✅ เหยื่อถูกล่อลวงด้วยงานดี แต่กลับถูกบังคับให้ทำอาชญากรรม ➡️ หลอกให้ทำ scam ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น romance scam, crypto fraud ➡️ ถูกยึดหนังสือเดินทาง กักขัง และใช้ความรุนแรง ✅ เหยื่อมักถูกจับกุมแทนที่จะได้รับความช่วยเหลือ ➡️ หลายคนถูกดำเนินคดีในข้อหาที่ถูกบังคับให้ทำ ➡️ UN เรียกร้องให้เปลี่ยนกฎหมายเพื่อปกป้องเหยื่อ ✅ IOM ช่วยเหลือเหยื่อกว่า 3,000 คนตั้งแต่ปี 2022 ➡️ ส่งกลับประเทศจากฟิลิปปินส์และเวียดนาม ➡️ สนับสนุนเหยื่อในไทย เมียนมา และประเทศอื่น ๆ ✅ UN เรียกร้องให้รัฐบาลและภาคประชาสังคมร่วมกันแก้ปัญหา ➡️ ต้องเปลี่ยนกฎหมายให้เหยื่อได้รับการคุ้มครอง ➡️ ต้องไล่ล่าผู้ค้ามนุษย์ ไม่ใช่ลงโทษเหยื่อ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/31/un-sounds-alarm-on-se-asia-scam-centre-surge
    WWW.THESTAR.COM.MY
    UN sounds alarm on SE Asia scam centre surge
    Too often, instead of getting help, victims are arrested for crimes they were forced to commit, the head of the UN's migration agency said on World Day Against Trafficking in Persons.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ “งานไอที” กลายเป็นช่องทางส่งเงินให้โครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ

    ลองจินตนาการว่าคุณเป็นบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ที่จ้างพนักงานไอทีทำงานจากระยะไกล โดยเชื่อว่าเขาเป็นพลเมืองอเมริกัน แต่จริงๆ แล้ว เขาคือเจ้าหน้าที่จากเกาหลีเหนือที่ใช้ตัวตนปลอม และเงินเดือนที่คุณจ่ายไปนั้นถูกส่งตรงไปยังรัฐบาลเปียงยางเพื่อใช้ในโครงการอาวุธนิวเคลียร์!

    นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในคดีของ Christina Marie Chapman หญิงวัย 50 ปีจากรัฐแอริโซนา ที่ถูกตัดสินจำคุก 8.5 ปีในเดือนกรกฎาคม 2025 จากการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ไอทีของเกาหลีเหนือให้ได้งานในบริษัทสหรัฐฯ กว่า 309 แห่ง รวมถึงบริษัทระดับ Fortune 500 โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า “ฟาร์มแล็ปท็อป” เพื่อหลอกให้บริษัทเชื่อว่าพนักงานเหล่านั้นทำงานจากในประเทศ

    Christina Chapman ถูกตัดสินจำคุก 102 เดือน ฐานช่วยเหลือขบวนการหลอกลวงงานไอทีให้เกาหลีเหนือ
    รับโทษจำคุก 8.5 ปี พร้อมถูกควบคุมหลังพ้นโทษอีก 3 ปี
    ต้องยึดทรัพย์ $284,555.92 และจ่ายค่าปรับ $176,850

    ขบวนการนี้สร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือกว่า $17.1 ล้าน
    ใช้ตัวตนปลอมของชาวอเมริกัน 68 คน
    ส่งข้อมูลเท็จไปยังหน่วยงานรัฐกว่า 100 ครั้ง

    Chapman ดำเนินการ “ฟาร์มแล็ปท็อป” ที่บ้านของเธอ
    รับเครื่องจากบริษัทสหรัฐฯ แล้วให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเข้าระบบจากต่างประเทศ
    ส่งแล็ปท็อป 49 เครื่องไปยังเมืองชายแดนจีน-เกาหลีเหนือ

    บริษัทที่ถูกหลอกรวมถึงเครือข่ายโทรทัศน์รายใหญ่, บริษัทเทคโนโลยีใน Silicon Valley, ผู้ผลิตรถยนต์และอากาศยาน
    มีความพยายามเข้าถึงหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ 2 แห่ง แต่ถูกสกัดไว้ได้
    บางบริษัทถูกขบวนการนี้ “เลือกเป้าหมาย” โดยเฉพาะ

    รายได้จากงานไอทีถูกส่งกลับไปยังเกาหลีเหนือผ่านการฟอกเงิน
    Chapman รับเงินเดือนแทน, ปลอมลายเซ็น, ฝากเช็ค และโอนเงินไปต่างประเทศ
    รายได้ถูกแจ้งเท็จต่อ IRS และ Social Security

    FBI และ IRS เป็นผู้สืบสวนหลักในคดีนี้
    ยึดแล็ปท็อปกว่า 90 เครื่องจากบ้านของ Chapman
    ถือเป็นหนึ่งในคดีใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงงานไอทีของเกาหลีเหนือ

    รัฐบาลสหรัฐฯ ออกคำแนะนำใหม่สำหรับบริษัทในการตรวจสอบพนักงานระยะไกล
    ตรวจสอบเอกสารตัวตน, ประวัติการศึกษาและการทำงาน
    ใช้วิดีโอสัมภาษณ์แบบเปิดกล้องและตรวจสอบภาพพื้นหลัง

    บริษัทที่ไม่ตรวจสอบพนักงานระยะไกลอย่างเข้มงวดเสี่ยงต่อการถูกแทรกซึม
    อาจถูกขโมยข้อมูล, ติดมัลแวร์ หรือถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน
    การใช้บริษัทจัดหางานภายนอกเพิ่มความเสี่ยง

    การใช้ตัวตนปลอมสร้างภาระให้กับพลเมืองสหรัฐฯ ที่ถูกขโมยข้อมูล
    เกิดภาระภาษีเท็จและข้อมูลผิดพลาดในระบบราชการ
    สร้างความเสียหายทางจิตใจและการเงินแก่ผู้ถูกแอบอ้าง

    รายได้จากงานไอทีถูกนำไปใช้สนับสนุนโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ
    เป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และสหประชาชาติ
    ส่งผลต่อความมั่นคงระดับโลก

    การใช้ AI และเทคโนโลยีใหม่เพิ่มความซับซ้อนในการปลอมตัว
    มีการใช้ AI เปลี่ยนภาพเอกสาร, ปรับเสียง และสร้างวิดีโอปลอม
    ทำให้การตรวจสอบตัวตนยากขึ้นสำหรับบริษัททั่วไป

    https://hackread.com/arizona-woman-jailed-help-north-korea-it-job-scam/
    🧑‍💻 เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ “งานไอที” กลายเป็นช่องทางส่งเงินให้โครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ ลองจินตนาการว่าคุณเป็นบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ที่จ้างพนักงานไอทีทำงานจากระยะไกล โดยเชื่อว่าเขาเป็นพลเมืองอเมริกัน แต่จริงๆ แล้ว เขาคือเจ้าหน้าที่จากเกาหลีเหนือที่ใช้ตัวตนปลอม และเงินเดือนที่คุณจ่ายไปนั้นถูกส่งตรงไปยังรัฐบาลเปียงยางเพื่อใช้ในโครงการอาวุธนิวเคลียร์! นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในคดีของ Christina Marie Chapman หญิงวัย 50 ปีจากรัฐแอริโซนา ที่ถูกตัดสินจำคุก 8.5 ปีในเดือนกรกฎาคม 2025 จากการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ไอทีของเกาหลีเหนือให้ได้งานในบริษัทสหรัฐฯ กว่า 309 แห่ง รวมถึงบริษัทระดับ Fortune 500 โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า “ฟาร์มแล็ปท็อป” เพื่อหลอกให้บริษัทเชื่อว่าพนักงานเหล่านั้นทำงานจากในประเทศ ✅ Christina Chapman ถูกตัดสินจำคุก 102 เดือน ฐานช่วยเหลือขบวนการหลอกลวงงานไอทีให้เกาหลีเหนือ ➡️ รับโทษจำคุก 8.5 ปี พร้อมถูกควบคุมหลังพ้นโทษอีก 3 ปี ➡️ ต้องยึดทรัพย์ $284,555.92 และจ่ายค่าปรับ $176,850 ✅ ขบวนการนี้สร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือกว่า $17.1 ล้าน ➡️ ใช้ตัวตนปลอมของชาวอเมริกัน 68 คน ➡️ ส่งข้อมูลเท็จไปยังหน่วยงานรัฐกว่า 100 ครั้ง ✅ Chapman ดำเนินการ “ฟาร์มแล็ปท็อป” ที่บ้านของเธอ ➡️ รับเครื่องจากบริษัทสหรัฐฯ แล้วให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเข้าระบบจากต่างประเทศ ➡️ ส่งแล็ปท็อป 49 เครื่องไปยังเมืองชายแดนจีน-เกาหลีเหนือ ✅ บริษัทที่ถูกหลอกรวมถึงเครือข่ายโทรทัศน์รายใหญ่, บริษัทเทคโนโลยีใน Silicon Valley, ผู้ผลิตรถยนต์และอากาศยาน ➡️ มีความพยายามเข้าถึงหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ 2 แห่ง แต่ถูกสกัดไว้ได้ ➡️ บางบริษัทถูกขบวนการนี้ “เลือกเป้าหมาย” โดยเฉพาะ ✅ รายได้จากงานไอทีถูกส่งกลับไปยังเกาหลีเหนือผ่านการฟอกเงิน ➡️ Chapman รับเงินเดือนแทน, ปลอมลายเซ็น, ฝากเช็ค และโอนเงินไปต่างประเทศ ➡️ รายได้ถูกแจ้งเท็จต่อ IRS และ Social Security ✅ FBI และ IRS เป็นผู้สืบสวนหลักในคดีนี้ ➡️ ยึดแล็ปท็อปกว่า 90 เครื่องจากบ้านของ Chapman ➡️ ถือเป็นหนึ่งในคดีใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงงานไอทีของเกาหลีเหนือ ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ ออกคำแนะนำใหม่สำหรับบริษัทในการตรวจสอบพนักงานระยะไกล ➡️ ตรวจสอบเอกสารตัวตน, ประวัติการศึกษาและการทำงาน ➡️ ใช้วิดีโอสัมภาษณ์แบบเปิดกล้องและตรวจสอบภาพพื้นหลัง ‼️ บริษัทที่ไม่ตรวจสอบพนักงานระยะไกลอย่างเข้มงวดเสี่ยงต่อการถูกแทรกซึม ⛔ อาจถูกขโมยข้อมูล, ติดมัลแวร์ หรือถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน ⛔ การใช้บริษัทจัดหางานภายนอกเพิ่มความเสี่ยง ‼️ การใช้ตัวตนปลอมสร้างภาระให้กับพลเมืองสหรัฐฯ ที่ถูกขโมยข้อมูล ⛔ เกิดภาระภาษีเท็จและข้อมูลผิดพลาดในระบบราชการ ⛔ สร้างความเสียหายทางจิตใจและการเงินแก่ผู้ถูกแอบอ้าง ‼️ รายได้จากงานไอทีถูกนำไปใช้สนับสนุนโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ ⛔ เป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และสหประชาชาติ ⛔ ส่งผลต่อความมั่นคงระดับโลก ‼️ การใช้ AI และเทคโนโลยีใหม่เพิ่มความซับซ้อนในการปลอมตัว ⛔ มีการใช้ AI เปลี่ยนภาพเอกสาร, ปรับเสียง และสร้างวิดีโอปลอม ⛔ ทำให้การตรวจสอบตัวตนยากขึ้นสำหรับบริษัททั่วไป https://hackread.com/arizona-woman-jailed-help-north-korea-it-job-scam/
    HACKREAD.COM
    Arizona Woman Jailed for Helping North Korea in $17M IT Job Scam
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกคนดัง: เมื่อ Keanu ต้องจ่ายเงินเพื่อปกป้อง “ตัวตนดิจิทัล” ของตัวเอง

    ในบทความจาก The Hollywood Reporter มีนักข่าวทดลองพูดคุยกับบัญชีปลอมชื่อ “Keanu_Reeves68667” ที่พยายามชวนให้ซื้อ “บัตรสมาชิกแฟนคลับ 600 ดอลลาร์” เพื่อแลกกับโอกาสเจอนักแสดงตัวจริง — ทั้งที่ Keanu อยู่บนพรมแดงกับ Alexandra Grant ในงานเปิดตัวหนัง Ballerina อยู่เลย

    ระบบปลอมเหล่านี้ใช้ภาพ Getty เดิมของเขา พร้อมแต่งให้ถือป้ายข้อความสนับสนุน Donald Trump หรือเรียกร้องสิทธิให้ชาวพื้นเมืองแคนาดา แสดงให้เห็นว่า “ไม่ใช่แค่ romance scam แต่รวมถึงการปลุกปั่นทางการเมืองด้วย”

    Keanu จึงว่าจ้างบริษัท Loti AI ซึ่งเชี่ยวชาญด้าน “likeness protection” มาคอยค้นหาและส่งคำสั่งลบบัญชีปลอมให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ โดยตลอดปีที่ผ่านมา Loti ออกคำสั่งลบกว่า 40,000 บัญชี บน TikTok, Meta และอื่น ๆ — แต่ถึงแม้จะลบภายใน 48 ชั่วโมง แฮกเกอร์ก็สามารถ “ทำลาย” ได้มากในเวลาสั้น ๆ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่โดนหลอกให้โอนเงิน

    เช่นในคดีของหญิงวัย 73 ที่ถูกปลอมเป็น Kevin Costner ล่อลวงให้โอน bitcoin ทุกสัปดาห์รวมกว่า $100,000 ด้วยข้อความหวานว่า “ผมรักคุณ...แล้วเจอกันเร็ว ๆ นี้”

    Loti AI ใช้ระบบ “likeness protection” ค้นหาภาพและข้อความปลอมที่ใช้คนดัง
    โดย Keanu ลงทุนหลายพันดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อบริการนี้

    FBI รายงานว่าในปี 2024 คนอเมริกันสูญเงินรวมจาก romance scam กว่า $672 ล้าน
    โดยเป้าหมายหลักคือผู้สูงวัยที่เหงาและไม่มีคนดูแลใกล้ตัว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/19/keanu-reeves-pays-ai-firm-thousands-a-month-to-stop-online-imitators-report
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกคนดัง: เมื่อ Keanu ต้องจ่ายเงินเพื่อปกป้อง “ตัวตนดิจิทัล” ของตัวเอง ในบทความจาก The Hollywood Reporter มีนักข่าวทดลองพูดคุยกับบัญชีปลอมชื่อ “Keanu_Reeves68667” ที่พยายามชวนให้ซื้อ “บัตรสมาชิกแฟนคลับ 600 ดอลลาร์” เพื่อแลกกับโอกาสเจอนักแสดงตัวจริง — ทั้งที่ Keanu อยู่บนพรมแดงกับ Alexandra Grant ในงานเปิดตัวหนัง Ballerina อยู่เลย ระบบปลอมเหล่านี้ใช้ภาพ Getty เดิมของเขา พร้อมแต่งให้ถือป้ายข้อความสนับสนุน Donald Trump หรือเรียกร้องสิทธิให้ชาวพื้นเมืองแคนาดา แสดงให้เห็นว่า “ไม่ใช่แค่ romance scam แต่รวมถึงการปลุกปั่นทางการเมืองด้วย” Keanu จึงว่าจ้างบริษัท Loti AI ซึ่งเชี่ยวชาญด้าน “likeness protection” มาคอยค้นหาและส่งคำสั่งลบบัญชีปลอมให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ โดยตลอดปีที่ผ่านมา Loti ออกคำสั่งลบกว่า 40,000 บัญชี บน TikTok, Meta และอื่น ๆ — แต่ถึงแม้จะลบภายใน 48 ชั่วโมง แฮกเกอร์ก็สามารถ “ทำลาย” ได้มากในเวลาสั้น ๆ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่โดนหลอกให้โอนเงิน เช่นในคดีของหญิงวัย 73 ที่ถูกปลอมเป็น Kevin Costner ล่อลวงให้โอน bitcoin ทุกสัปดาห์รวมกว่า $100,000 ด้วยข้อความหวานว่า “ผมรักคุณ...แล้วเจอกันเร็ว ๆ นี้” ✅ Loti AI ใช้ระบบ “likeness protection” ค้นหาภาพและข้อความปลอมที่ใช้คนดัง ➡️ โดย Keanu ลงทุนหลายพันดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อบริการนี้ ✅ FBI รายงานว่าในปี 2024 คนอเมริกันสูญเงินรวมจาก romance scam กว่า $672 ล้าน ➡️ โดยเป้าหมายหลักคือผู้สูงวัยที่เหงาและไม่มีคนดูแลใกล้ตัว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/19/keanu-reeves-pays-ai-firm-thousands-a-month-to-stop-online-imitators-report
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Keanu Reeves pays AI firm thousands a month to stop online imitators: report
    According to the latest data from the FBI, Americans reported US$672mil (RM2.bil) in losses to confidence and romance scams in 2024.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..พูดจริงๆนะ.,ประชาชนควรมีธนาคารกลางของประชาชนแยกออกต่างหากให้ชัดเชนไปจากแบงค์ชาติปัจจุบันนี้,ให้แบงค์ชาติไปทำหน้าที่เต็มที่กับแบงค์เอกชนมหาชนของนายทุนผู้ถือหุ้นต่างๆ,ส่วนธนาคารกลางภาคประชาชนถึงเวลาบริหารจัดการสภาพคล่องของประชาชนคนไทยเอง เป็นกองทุนภาคประชาชนภายใต้การกำกับตัวเองของธนาคารกลางของภาคประชาชนจริงๆ,เช่น เงินงบประมาณลงอัดไปในกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศก็ดึงมาบริหารจัดการเองแทนธกส.ทางตรง,สามารถตั้งธนาคารกองทุนหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้านได้จริงจังเต็มที่ในการบริหารจัดการสภาคคล่องเงินทุนสัมมาอาชีพช่วยประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนทางตรงติดบ้านใกล้บ้านจริงได้คือมีสำนักประจำทุกๆ80,000หมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศจริงนั้นเอง,ธนาคารกลางภาคประชาชนสามารถเปิดรับฝากออมตังได้จริงถอนตังได้จริงประจำหมู่บ้านนั้นๆทันที,สามารถให้เงินทุนสัมมาอาชีพแบบยืมไร้ดอกเบี้ยได้,และฝากไม่มีดอกเบี้ยด้วยเช่นกันนั้นเอง,เป็นสถานีรักษาตังแทนเก็บไว้ในบ้านนั้นเอง,เรียลไทม์อะเลิทป๊อบอัพหากมีการถอนเงินโอนเงินจากบัญชีหรือมีการเคลื่อนไหวตังนั้นเอง,ซึ่งเราจะผูกขาดยึดคลื่นความถี่หนึ่งไว้เป็นสาธารณะประโยชน์เพื่อเราประชาชนไว้มิให้ กสทช.ผูกขาดมอบคลื่นนั้นให้เอกชนไปทำแดก,เราจะมาใช้ประโยชน์ด้านอีกมุก,ป้องกันปัญหาจากผู้ไม่ประสงค์ดีดูดตังเราไปอีกชั้นหนึ่งหากมี,ใครต้องการตังมายืมที่กองทุนเรานี้ทันทีที่เกืดจากการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพเป็นระบบ,เชื่อมโครงการช่วยเหลือรัฐ,เช่นตังช่วยเหลือเกษตรกรปล่อยกู้ ปกติผ่านธกส. รัฐโอนงบประมาณหลวงให้ธกส.จัดการทั้งหมด ก็โอนมาที่เรากองทุนเราแทน ธนาคารกลางของประชาชนแทนเช่น200,000ล้านบาทหรือหลายกว่าล้านล้านบาทที่ช่วยอุ้มธนาคารเอกชนต่างๆสมัยยุคปี40นั้น โอนมาช่วยประชาชนคนเกษตร ประชาชนรับไป ตอนเอามาคืนก็หมุนเวียนตังนั้นฟรีๆช่วยประชาชนคนอื่นๆต่อไปได้ ทั้งเราสามารถหาตลาด จัดโปรส่งเสริมการขายออกไป การผลิตต้นทางให้ปลอดสารพิษต้นทุนต่ำได้ อาจติดต่อคนนำเข้าสายการเกษตรเองในนามภาคประชาชน อาจภาษีนำเข้า0%,ประชาชนคนชาวบ้านจะลดค่าปุ๋ยค่าอุปกรณ์ล้ำทุ่นแรงทางการเกษตรหรือนวัตกรรมล้ำๆจากต่างชาติมาไทยได้ไม่แพงนั้นเอง,ตัดตอนพ่อค้าคนกลางก็ว่าเพื่อผลักดันให้คนไทยเรายืนได้จริงพึ่งพาตนเองรอดจริงในทุกๆคนไทยเราจริงมิใช่แหกตาปลอมๆเหมือนในอดีตที่ผ่านๆมา,เมื่อประชาชนมีรายได้,แบบปลูกพืชสมุนไพรสกัดแปรรูปประยุกต์ผสมผสานในสินค้าทั่วไทยทั่วโลกขายสาระพัดตรึมก็ว่า อาทิอดีตกัญชาเสรีกำลังโปร ทั้งปลูกค้าขายในชาวบ้านทั้งส่งให้โรงพยาบาลรัฐเราสกัดฟรีๆทำยารักษาโรคครอบจักรวาล เม็ดที่ประยุกต์ค้าขายในสินค้าต่างๆด้วย จริงๆทั่วโลกอาจกว่า100ล้านล้านบาทเข้าประเทศไทยได้สบายมา เช่นชานมไข่มุกผสมสารสกัดกัญชาเสรี จะเพิ่มยอดคำสั่งซื้อขนาดไหน บำรุงร่างกายทางธรรมชาติ ยอดขายชานมไข่มุกทั่วโลกกว่าหมื่นล้านเหรียญต่อปี,ใยกัญชงกัญชาสามารถใช้ทำโครงสร้างรถยนต์ได้อีก ชุดเกราะกันกระสุนก็ด้วย,เครื่องบินก็ใช่อัดแน่นแข็งแกร่งและเบาอีกด้วย,สมมุติตังมากมายในมือประชาชนเราไว้ใจก็มาฝากตังที่กองทุนหมู่บ้านใครมันทั่วประเทศ ตังทั้งหมดอาจกว่า10ล้านล้านบาทส่วนของภาคครัวเรือนประชาชนที่เก็บออมจริงก็ว่า,จะมีดาต้าจริงในธนาคารกลางของประชาชนเราจริงอีกด้วย,เปรียบเทียบตังสะพัดต่อปีแบบอดีตกว่า 50-60ล้านล้านบาทในปีที่ผ่านๆมาในอดีตเก่าอาจหลายๆปีมาแล้วก่อนยุคเศรษฐกิจจะพังมาถึงไทยปัจจุบันนี้ก็ตาม,ทำสถิติสูงสุด จะสามารถรับรู้แยกชัดเจนว่าเป็นตังของภาคฝ่ายอุตสาหกรรมที่มีธนาคารเอกชนปล่อยกู้กำกับดูแลโดยแบงค์ชาติอีกทีสร้างสภาพสะพัดนั้นด้วยมั้ยในชนชั้นกลางชนชั้นสูงผู้ดีมีตังปกติมั้ยหรือภาคประชาชนชาวบ้านธรรมดาแบบเราๆคือธนาคารภาคประชาชนรวบรวมข้อมูลนี้เอง,เก็บสำรวจค้นคว้าพบเจอเองก็ว่าด้วย,จากนั้นเราสามารถบริหารจัดการตังนี้ในระบบหมุนสภาพคล่องจริงแก่ไทบ้านเราจริงๆได้,คล่องขึ้นแน่นอน ใครต้องการตังตรงไหนเบิกทันที เวลานั้นเช่นแต่ละวันฝากถอนแค่1ล้านล้านบาททั่วประเทศ, ตังในระบบเย็นคือ9ล้านล้านบาท ทดลองปล่อยยืมให้ชาวบ้านคนละ10,000บาทค้าขายทำสัมมาอาชีพเล็กๆน้อยๆและปล่อยยืมระหว่างรอเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ปลูกพืชผักระยะสั้นๆหรือหาบเร่แผงลอยรถเข็ญขายในบ้านในตลาดชุมชนตลาดนัดตลาดค่ำตลาดคลองถมชุมชนตนอีก10,000บาทรวมอาจ20,000บาท หมู่บ้านละ100คน,มี80,000หมู่บ้านทั่วประเทศชุมชนคือ160,000,000,000บาทหรือ160,000ล้านบาทเอง,ตังยังเหลือ8.84ล้านล้านบาทโน้นในธนาคารภาคประชาชนเรา,จากนั้นเราสามารถสร้างแพลตฟอร์มตลาดเสรีออนไลน์เองได้แบบซ็อปปี้ ลาซาด้า อะไรนั้นขึ้นเอง เรามีโลจิสต์ขนส่งเราเองศูนย์รวบรวมสินค้าเข้าและออกคือกองทุนร้านหมู่บ้านเรานั้นเอง เป็นไปรษณีย์ขนส่งในตัว รับสินค้าประชาชนช่วยค้าขายได้,อาจมีโดรนขนส่งประจำสำนักงานหมู่บ้านนั้นๆคนละ2-3ตัว ส่งถึงมือคนรับซื้อในหมู่บ้านตนเอง เข้าป่าเข้าเขาขึ้นดอยขึ้นภูลำบาก,ส่งผ่านโดรนตั้งพิกัดgpsประกอบคลื่นมือถือดาวเทียมรวมก็ได้อีก,สั่งผลิตดาวเทียมเน็ตแบบstarlinkก็ได้ตัวละไม่เกิน3,000ล้านบาทเอง,ภาคเหนือเรา4ดวง อีสาน4ดวง กลาง4ดวง ตะวันออก2ดวง ตะวันตก2ดวง ใต้4ดวง ชัดเจนคลื่นส่งแน่นอนรวม20ดวงคูณ3,000ล้านคือ60,000ล้านบาทเอง บวกระบบควบคุมดูแลทั้งหมดทั้งประเทศไม่เกิน100,000ล้านบาทต่อปีภายในประเทศไทยเรา,และเชื่อมstarlinkหรือดาวเทียมนานาชาติทั่วโลกอีก สะดวกในการค้าขายของประชาชนคนไทยเราอีกไม่เกิน1แสนล้านบาทต่อปี,ซึ่งแพลตฟอร์มเราจะรองรับชาวโลกสากลมาร่วมค้าขายเสรีแลกเปลี่ยนสินค้ากันได้คือเราสร้างฮับตลาดอีคอมเมิร์ซโลกประจำประเทศไทยนั้นเอง,รองรับสกุลเงินbricsในอนาคตด้วย,รายได้ในตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลกคือ30-40ล้านล้านเหรียญต่อปี,ไทยเราอาจสร้างปรากฎการณ์ครั้งใหม่เฉพาะภายในแพลตฟอร์มไทยเราเองอาจกว่าสะพัดถึง100ล้านล้านเหรียญก็ได้ คือGtG GtB BtB Btc CtC แพลตฟอร์มเราตอบสนองความสะดวกสบายให้ได้หมดก็ว่า,คือตังในบัญชีเงินฝากของประชาชนไทยเราจะเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นนั้นเอง,และนั้นคือเงินในธนาคารกลางภาคประชาชนเราที่ฝากเอาไว้ก็เพิ่มขึ้นมหาศาลด้วย,เรายิ่งสามารถช่วยเหลือชาวบ้านคนไทยเราประชาชนไทบ้านเราที่ขาดโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนแบบธนาึราเอกชนเอกชนเจ้าสัวไทย,เรายิ่งปล่อยยืมให้ชาวบ้านเราเองมากขึ้นเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆแบบไม่คิดกำไรดอกเบี้ยใดๆเลยนั้นเอง.,ตลอดขุดคลองคอดกระในอนาคต สร้างแลนด์บริดจ์ในภาคใต้ใดๆก็ตาม ,พื้นที่บริหารจัดการทั้งหมด เราประชาชนทั้งลงทุนสร้างเอง ขุดเองจ้างเองเป็นเจ้าของเองร่วมกันในนามภาคประชาชนไทยเราก็ว่า100%,พื้นที่บริหารแลนด์บริดจ์เิย พื้นที่บริหารคลองคอดกระเอย เราภาคประชาชนร่วมกันเป็นเจ้าของตัวจริงและบริหารจัดการตัวจริงร่วมกันนั้น อย่างเป็นรูปธรรม เช่น จัดตั้งกองทุนคาบมหาสมุทรประจำประเทศไทยขึ้น แจกหุ้นสามัญฟรีๆแก่คนไทยคนละ10,000หุ้นทันทีแม้พึงเกิดก็รับอัตโนมัติที่เป็นคนไทยเรา เป็นเจ้าของจริงจับต้องได้ มีหลักฐานพิสูจน์ได้,ไม่ใช่อ้างว่าทำในนามรัฐบาลแล้วรัฐบาลก็ยกสิทธิบริหารจัดการทั้งหมดและเงินทองก็ว่าผ่องถ่ายไปให้เอกชนไทยและเอกชนต่างชาติทำกินหาแดกเองจนร่ำรวยมั่งคั่งแบบบ่อน้ำมันไทยเรา,จึงต้องตัดตอนยุติการทำหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนไม่สุจริตต่อชาติไทยตนทันที,จากนั้นออกหุ้นเพิ่มทุนเพิ่มทันทีให้ประชาชนคนไทยสามารถซื้อสิทธิความเป็นเจ้าของเพิ่มได้อีกคนละไม่เกิน10,000หุ้นๆละ0.01บาท.,ความเป็นเจ้าของนี้ไม่สามารถซื้อขายต่อได้ทุกๆกรณีจะเป็นหุ้นสามัญหรือหุ้นเพิ่มทุนก็ตาม,และจะตายสูญทันทีไปพร้อมกับคนไทยนั้นๆไม่สามารถมอบเป็นมรดกสืบต่อได้,เพราะทุกๆคนไทยมีสถานะการได้มาเมื่อเกิดทันทีอยู่แล้วทุกๆคนและสิทธิซื้อเพิ่มก็เสมอกันหมดตลอดชีพ,ห้ามนำเข้าตลาดหุ้นทุกๆกรณีด้วย,อธิปไตยนี้จะเป็นของคนไทยเราจริงทันที100%,ทุนการก่อสร้างแลนด์บริดจ์ประมาณการคือ1ล้านล้านบาท, ขุดคลองคอดกระคือ2ล้านล้านบาท ถ้า2เลนก็4ล้านล้านบาท,เงินกองทุนเราเติบโตต่อเนื่องหรือขั้นต่ำมีในมือกว่า8ล้านล้านบาทก็ว่า สามารถโยกตังมาลงทุนได้,และเหลือพ้นบริหารจัดการทั้งหมดต่อไปในอนาคตด้วย,ไม่รวมเงินมากมายที่ไหลเข้าสะสมออมในธนาคารเราต่อเนื่องทุกวินาทีด้วยตลิดปีอาจกว่า100ล้านล้านบาทในแพลตฟอร์มตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยเราเอง,เมื่อขุดคลองคอดกระเสร็จ สร้างแลนด์บริดจ์เสร็จ เราประเทศไทยจะเป็นฮับสากลของโลกสาระพัดฮับทันที อาทิ ฮับการรักษาทางเทคโนโลยีและสมุนไพรของโลก ฮับโรงพยาบาลโลกนั่นเอง,ฮับการขนส่งทางเรือและทางบกของโลก,ฮับต่อเรือขนาดใหญ่ของโลก,ฮับยานยนต์ภายในโลกและยานยนต์อวกาศโลก, สรุปสาระพัดฮับก็ว่า เม็ดเงินโคตรมหาศาลในพื้นที่บริเวณบริหารจัเการนี้ขั่นต่ำในอนาคต1,000ล้านล้านบาทต่อปีที่เข้าสู่ประเทศไทยเรา เฉลี่ยประชาชนคนไทยเราจะได้ประโยชน์จริงจากการถือหุ้นสามัญหุ้นเพิ่มทุน20,000หุ้นนั้นแน่นอน,เข้าบัญชีคนไทยทุกๆคนต่อปีขั้นต่ำ10ล้านบาทต่อปีนั้นเอง.อนาคตเราอาจจะมีประชากร100ล้านคน,หรือวัคซีนออกฤทธิ์อาจเหลือแค่10ล้านคนก็ว่าอีก,รอด10%ก็ว่า,สรุปรายได้เราเข้ามาสารพัดทางนั้นเอง,เราคนไทยจะไม่ผีบ้าดิ้นรนบ้าคลั่งแบบๆในอดีตๆที่ผ่านๆมานั้นเอง,จะมีเวลาพัฒนาตนเองสู่ประเทศผู้นำแห่งจิตวิญญาณของโลกในอนาคตก็ด้วย,บันเทิงกันเลยแน่ล่ะ ทุกๆคนไทยจะได้ท่องเที่ยวผ่านจิตท่องอาณาจักรจักรวาลน้อยใหญ่เสรีเป็นอันมาก แล้วนำพาโลกเราสู่แสงสว่างแห่งธรรมจักรวาลของจริงนั้นเอง.,ประเทศไทยเราจึงธรรมดาที่ไหน?.,555มโนก็ว่า.

    https://youtube.com/shorts/-p9TQjRaM-o?si=Jyhv-HoJ5HiR0r_i
    ..พูดจริงๆนะ.,ประชาชนควรมีธนาคารกลางของประชาชนแยกออกต่างหากให้ชัดเชนไปจากแบงค์ชาติปัจจุบันนี้,ให้แบงค์ชาติไปทำหน้าที่เต็มที่กับแบงค์เอกชนมหาชนของนายทุนผู้ถือหุ้นต่างๆ,ส่วนธนาคารกลางภาคประชาชนถึงเวลาบริหารจัดการสภาพคล่องของประชาชนคนไทยเอง เป็นกองทุนภาคประชาชนภายใต้การกำกับตัวเองของธนาคารกลางของภาคประชาชนจริงๆ,เช่น เงินงบประมาณลงอัดไปในกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศก็ดึงมาบริหารจัดการเองแทนธกส.ทางตรง,สามารถตั้งธนาคารกองทุนหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้านได้จริงจังเต็มที่ในการบริหารจัดการสภาคคล่องเงินทุนสัมมาอาชีพช่วยประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนทางตรงติดบ้านใกล้บ้านจริงได้คือมีสำนักประจำทุกๆ80,000หมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศจริงนั้นเอง,ธนาคารกลางภาคประชาชนสามารถเปิดรับฝากออมตังได้จริงถอนตังได้จริงประจำหมู่บ้านนั้นๆทันที,สามารถให้เงินทุนสัมมาอาชีพแบบยืมไร้ดอกเบี้ยได้,และฝากไม่มีดอกเบี้ยด้วยเช่นกันนั้นเอง,เป็นสถานีรักษาตังแทนเก็บไว้ในบ้านนั้นเอง,เรียลไทม์อะเลิทป๊อบอัพหากมีการถอนเงินโอนเงินจากบัญชีหรือมีการเคลื่อนไหวตังนั้นเอง,ซึ่งเราจะผูกขาดยึดคลื่นความถี่หนึ่งไว้เป็นสาธารณะประโยชน์เพื่อเราประชาชนไว้มิให้ กสทช.ผูกขาดมอบคลื่นนั้นให้เอกชนไปทำแดก,เราจะมาใช้ประโยชน์ด้านอีกมุก,ป้องกันปัญหาจากผู้ไม่ประสงค์ดีดูดตังเราไปอีกชั้นหนึ่งหากมี,ใครต้องการตังมายืมที่กองทุนเรานี้ทันทีที่เกืดจากการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพเป็นระบบ,เชื่อมโครงการช่วยเหลือรัฐ,เช่นตังช่วยเหลือเกษตรกรปล่อยกู้ ปกติผ่านธกส. รัฐโอนงบประมาณหลวงให้ธกส.จัดการทั้งหมด ก็โอนมาที่เรากองทุนเราแทน ธนาคารกลางของประชาชนแทนเช่น200,000ล้านบาทหรือหลายกว่าล้านล้านบาทที่ช่วยอุ้มธนาคารเอกชนต่างๆสมัยยุคปี40นั้น โอนมาช่วยประชาชนคนเกษตร ประชาชนรับไป ตอนเอามาคืนก็หมุนเวียนตังนั้นฟรีๆช่วยประชาชนคนอื่นๆต่อไปได้ ทั้งเราสามารถหาตลาด จัดโปรส่งเสริมการขายออกไป การผลิตต้นทางให้ปลอดสารพิษต้นทุนต่ำได้ อาจติดต่อคนนำเข้าสายการเกษตรเองในนามภาคประชาชน อาจภาษีนำเข้า0%,ประชาชนคนชาวบ้านจะลดค่าปุ๋ยค่าอุปกรณ์ล้ำทุ่นแรงทางการเกษตรหรือนวัตกรรมล้ำๆจากต่างชาติมาไทยได้ไม่แพงนั้นเอง,ตัดตอนพ่อค้าคนกลางก็ว่าเพื่อผลักดันให้คนไทยเรายืนได้จริงพึ่งพาตนเองรอดจริงในทุกๆคนไทยเราจริงมิใช่แหกตาปลอมๆเหมือนในอดีตที่ผ่านๆมา,เมื่อประชาชนมีรายได้,แบบปลูกพืชสมุนไพรสกัดแปรรูปประยุกต์ผสมผสานในสินค้าทั่วไทยทั่วโลกขายสาระพัดตรึมก็ว่า อาทิอดีตกัญชาเสรีกำลังโปร ทั้งปลูกค้าขายในชาวบ้านทั้งส่งให้โรงพยาบาลรัฐเราสกัดฟรีๆทำยารักษาโรคครอบจักรวาล เม็ดที่ประยุกต์ค้าขายในสินค้าต่างๆด้วย จริงๆทั่วโลกอาจกว่า100ล้านล้านบาทเข้าประเทศไทยได้สบายมา เช่นชานมไข่มุกผสมสารสกัดกัญชาเสรี จะเพิ่มยอดคำสั่งซื้อขนาดไหน บำรุงร่างกายทางธรรมชาติ ยอดขายชานมไข่มุกทั่วโลกกว่าหมื่นล้านเหรียญต่อปี,ใยกัญชงกัญชาสามารถใช้ทำโครงสร้างรถยนต์ได้อีก ชุดเกราะกันกระสุนก็ด้วย,เครื่องบินก็ใช่อัดแน่นแข็งแกร่งและเบาอีกด้วย,สมมุติตังมากมายในมือประชาชนเราไว้ใจก็มาฝากตังที่กองทุนหมู่บ้านใครมันทั่วประเทศ ตังทั้งหมดอาจกว่า10ล้านล้านบาทส่วนของภาคครัวเรือนประชาชนที่เก็บออมจริงก็ว่า,จะมีดาต้าจริงในธนาคารกลางของประชาชนเราจริงอีกด้วย,เปรียบเทียบตังสะพัดต่อปีแบบอดีตกว่า 50-60ล้านล้านบาทในปีที่ผ่านๆมาในอดีตเก่าอาจหลายๆปีมาแล้วก่อนยุคเศรษฐกิจจะพังมาถึงไทยปัจจุบันนี้ก็ตาม,ทำสถิติสูงสุด จะสามารถรับรู้แยกชัดเจนว่าเป็นตังของภาคฝ่ายอุตสาหกรรมที่มีธนาคารเอกชนปล่อยกู้กำกับดูแลโดยแบงค์ชาติอีกทีสร้างสภาพสะพัดนั้นด้วยมั้ยในชนชั้นกลางชนชั้นสูงผู้ดีมีตังปกติมั้ยหรือภาคประชาชนชาวบ้านธรรมดาแบบเราๆคือธนาคารภาคประชาชนรวบรวมข้อมูลนี้เอง,เก็บสำรวจค้นคว้าพบเจอเองก็ว่าด้วย,จากนั้นเราสามารถบริหารจัดการตังนี้ในระบบหมุนสภาพคล่องจริงแก่ไทบ้านเราจริงๆได้,คล่องขึ้นแน่นอน ใครต้องการตังตรงไหนเบิกทันที เวลานั้นเช่นแต่ละวันฝากถอนแค่1ล้านล้านบาททั่วประเทศ, ตังในระบบเย็นคือ9ล้านล้านบาท ทดลองปล่อยยืมให้ชาวบ้านคนละ10,000บาทค้าขายทำสัมมาอาชีพเล็กๆน้อยๆและปล่อยยืมระหว่างรอเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ปลูกพืชผักระยะสั้นๆหรือหาบเร่แผงลอยรถเข็ญขายในบ้านในตลาดชุมชนตลาดนัดตลาดค่ำตลาดคลองถมชุมชนตนอีก10,000บาทรวมอาจ20,000บาท หมู่บ้านละ100คน,มี80,000หมู่บ้านทั่วประเทศชุมชนคือ160,000,000,000บาทหรือ160,000ล้านบาทเอง,ตังยังเหลือ8.84ล้านล้านบาทโน้นในธนาคารภาคประชาชนเรา,จากนั้นเราสามารถสร้างแพลตฟอร์มตลาดเสรีออนไลน์เองได้แบบซ็อปปี้ ลาซาด้า อะไรนั้นขึ้นเอง เรามีโลจิสต์ขนส่งเราเองศูนย์รวบรวมสินค้าเข้าและออกคือกองทุนร้านหมู่บ้านเรานั้นเอง เป็นไปรษณีย์ขนส่งในตัว รับสินค้าประชาชนช่วยค้าขายได้,อาจมีโดรนขนส่งประจำสำนักงานหมู่บ้านนั้นๆคนละ2-3ตัว ส่งถึงมือคนรับซื้อในหมู่บ้านตนเอง เข้าป่าเข้าเขาขึ้นดอยขึ้นภูลำบาก,ส่งผ่านโดรนตั้งพิกัดgpsประกอบคลื่นมือถือดาวเทียมรวมก็ได้อีก,สั่งผลิตดาวเทียมเน็ตแบบstarlinkก็ได้ตัวละไม่เกิน3,000ล้านบาทเอง,ภาคเหนือเรา4ดวง อีสาน4ดวง กลาง4ดวง ตะวันออก2ดวง ตะวันตก2ดวง ใต้4ดวง ชัดเจนคลื่นส่งแน่นอนรวม20ดวงคูณ3,000ล้านคือ60,000ล้านบาทเอง บวกระบบควบคุมดูแลทั้งหมดทั้งประเทศไม่เกิน100,000ล้านบาทต่อปีภายในประเทศไทยเรา,และเชื่อมstarlinkหรือดาวเทียมนานาชาติทั่วโลกอีก สะดวกในการค้าขายของประชาชนคนไทยเราอีกไม่เกิน1แสนล้านบาทต่อปี,ซึ่งแพลตฟอร์มเราจะรองรับชาวโลกสากลมาร่วมค้าขายเสรีแลกเปลี่ยนสินค้ากันได้คือเราสร้างฮับตลาดอีคอมเมิร์ซโลกประจำประเทศไทยนั้นเอง,รองรับสกุลเงินbricsในอนาคตด้วย,รายได้ในตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลกคือ30-40ล้านล้านเหรียญต่อปี,ไทยเราอาจสร้างปรากฎการณ์ครั้งใหม่เฉพาะภายในแพลตฟอร์มไทยเราเองอาจกว่าสะพัดถึง100ล้านล้านเหรียญก็ได้ คือGtG GtB BtB Btc CtC แพลตฟอร์มเราตอบสนองความสะดวกสบายให้ได้หมดก็ว่า,คือตังในบัญชีเงินฝากของประชาชนไทยเราจะเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นนั้นเอง,และนั้นคือเงินในธนาคารกลางภาคประชาชนเราที่ฝากเอาไว้ก็เพิ่มขึ้นมหาศาลด้วย,เรายิ่งสามารถช่วยเหลือชาวบ้านคนไทยเราประชาชนไทบ้านเราที่ขาดโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนแบบธนาึราเอกชนเอกชนเจ้าสัวไทย,เรายิ่งปล่อยยืมให้ชาวบ้านเราเองมากขึ้นเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆแบบไม่คิดกำไรดอกเบี้ยใดๆเลยนั้นเอง.,ตลอดขุดคลองคอดกระในอนาคต สร้างแลนด์บริดจ์ในภาคใต้ใดๆก็ตาม ,พื้นที่บริหารจัดการทั้งหมด เราประชาชนทั้งลงทุนสร้างเอง ขุดเองจ้างเองเป็นเจ้าของเองร่วมกันในนามภาคประชาชนไทยเราก็ว่า100%,พื้นที่บริหารแลนด์บริดจ์เิย พื้นที่บริหารคลองคอดกระเอย เราภาคประชาชนร่วมกันเป็นเจ้าของตัวจริงและบริหารจัดการตัวจริงร่วมกันนั้น อย่างเป็นรูปธรรม เช่น จัดตั้งกองทุนคาบมหาสมุทรประจำประเทศไทยขึ้น แจกหุ้นสามัญฟรีๆแก่คนไทยคนละ10,000หุ้นทันทีแม้พึงเกิดก็รับอัตโนมัติที่เป็นคนไทยเรา เป็นเจ้าของจริงจับต้องได้ มีหลักฐานพิสูจน์ได้,ไม่ใช่อ้างว่าทำในนามรัฐบาลแล้วรัฐบาลก็ยกสิทธิบริหารจัดการทั้งหมดและเงินทองก็ว่าผ่องถ่ายไปให้เอกชนไทยและเอกชนต่างชาติทำกินหาแดกเองจนร่ำรวยมั่งคั่งแบบบ่อน้ำมันไทยเรา,จึงต้องตัดตอนยุติการทำหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนไม่สุจริตต่อชาติไทยตนทันที,จากนั้นออกหุ้นเพิ่มทุนเพิ่มทันทีให้ประชาชนคนไทยสามารถซื้อสิทธิความเป็นเจ้าของเพิ่มได้อีกคนละไม่เกิน10,000หุ้นๆละ0.01บาท.,ความเป็นเจ้าของนี้ไม่สามารถซื้อขายต่อได้ทุกๆกรณีจะเป็นหุ้นสามัญหรือหุ้นเพิ่มทุนก็ตาม,และจะตายสูญทันทีไปพร้อมกับคนไทยนั้นๆไม่สามารถมอบเป็นมรดกสืบต่อได้,เพราะทุกๆคนไทยมีสถานะการได้มาเมื่อเกิดทันทีอยู่แล้วทุกๆคนและสิทธิซื้อเพิ่มก็เสมอกันหมดตลอดชีพ,ห้ามนำเข้าตลาดหุ้นทุกๆกรณีด้วย,อธิปไตยนี้จะเป็นของคนไทยเราจริงทันที100%,ทุนการก่อสร้างแลนด์บริดจ์ประมาณการคือ1ล้านล้านบาท, ขุดคลองคอดกระคือ2ล้านล้านบาท ถ้า2เลนก็4ล้านล้านบาท,เงินกองทุนเราเติบโตต่อเนื่องหรือขั้นต่ำมีในมือกว่า8ล้านล้านบาทก็ว่า สามารถโยกตังมาลงทุนได้,และเหลือพ้นบริหารจัดการทั้งหมดต่อไปในอนาคตด้วย,ไม่รวมเงินมากมายที่ไหลเข้าสะสมออมในธนาคารเราต่อเนื่องทุกวินาทีด้วยตลิดปีอาจกว่า100ล้านล้านบาทในแพลตฟอร์มตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยเราเอง,เมื่อขุดคลองคอดกระเสร็จ สร้างแลนด์บริดจ์เสร็จ เราประเทศไทยจะเป็นฮับสากลของโลกสาระพัดฮับทันที อาทิ ฮับการรักษาทางเทคโนโลยีและสมุนไพรของโลก ฮับโรงพยาบาลโลกนั่นเอง,ฮับการขนส่งทางเรือและทางบกของโลก,ฮับต่อเรือขนาดใหญ่ของโลก,ฮับยานยนต์ภายในโลกและยานยนต์อวกาศโลก, สรุปสาระพัดฮับก็ว่า เม็ดเงินโคตรมหาศาลในพื้นที่บริเวณบริหารจัเการนี้ขั่นต่ำในอนาคต1,000ล้านล้านบาทต่อปีที่เข้าสู่ประเทศไทยเรา เฉลี่ยประชาชนคนไทยเราจะได้ประโยชน์จริงจากการถือหุ้นสามัญหุ้นเพิ่มทุน20,000หุ้นนั้นแน่นอน,เข้าบัญชีคนไทยทุกๆคนต่อปีขั้นต่ำ10ล้านบาทต่อปีนั้นเอง.อนาคตเราอาจจะมีประชากร100ล้านคน,หรือวัคซีนออกฤทธิ์อาจเหลือแค่10ล้านคนก็ว่าอีก,รอด10%ก็ว่า,สรุปรายได้เราเข้ามาสารพัดทางนั้นเอง,เราคนไทยจะไม่ผีบ้าดิ้นรนบ้าคลั่งแบบๆในอดีตๆที่ผ่านๆมานั้นเอง,จะมีเวลาพัฒนาตนเองสู่ประเทศผู้นำแห่งจิตวิญญาณของโลกในอนาคตก็ด้วย,บันเทิงกันเลยแน่ล่ะ ทุกๆคนไทยจะได้ท่องเที่ยวผ่านจิตท่องอาณาจักรจักรวาลน้อยใหญ่เสรีเป็นอันมาก แล้วนำพาโลกเราสู่แสงสว่างแห่งธรรมจักรวาลของจริงนั้นเอง.,ประเทศไทยเราจึงธรรมดาที่ไหน?.,555มโนก็ว่า. https://youtube.com/shorts/-p9TQjRaM-o?si=Jyhv-HoJ5HiR0r_i
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 450 มุมมอง 0 รีวิว
  • สีกากอล์ฟพิฆาตพระ นึกว่ารอดแต่โดนรวบ!

    การจับกุมสีกากอล์ฟ หรือ น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ วัย 35 ปี ที่เสพเมถุนและมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่หลายคน ถึงขั้นปาราชิก ลาสิกขาราวกับใบไม้ร่วง เกิดวิกฤตศรัทธาวงการพระพุทธศาสนา สังคมพากันโล่งใจไปบ้าง เพราะกว่าตำรวจสอบสวนกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาผิดได้ ต้องใช้เวลาและพยานหลักฐานหนักมาก

    สีกากอล์ฟถูกเอาผิดใน 3 คดี เป็นของ บก.ปปป. ขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง (ตลิ่งชัน) ออกหมายจับ ได้แก่ สนับสนุนเจ้าพนักงาน คือ อดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ยักยอกเงินบัญชีวัด 3.8 แสนบาทใส่บัญชีตัวเองแล้วโอนให้สีกากอล์ฟ ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร

    ส่วนอีก 2 คดีเป็นของกองปราบปราม ขอศาลอาญา (รัชดาภิเษก) ออกหมายจับ ได้แก่ คดีฉ้อโกงหลอกเอาเงินอดีต ผอ.พระพุทธศาสนาพิจิตร 4 แสนบาท อ้างว่ามีข้อมูลเสพเมถุนกับพระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร แล้วก็ไม่ส่ง ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านร้องเรียนว่าเสพเมถุนและทุจริตเงินวัดตั้งแต่ปี 2559 แต่สุดท้าย ผอ.ถูกเจ้าคณะจังหวัดเด้งไปอยู่ที่อื่น

    กับคดีรีดเอาทรัพย์และทำให้เสื่อมเสีย ที่อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม ถูกขู่ให้โอนเงิน 15,000 บาท แลกกับการไม่ถูกแฉเรื่องเสพเมถุน อดีตพระครูฯ ต้องยอมโอนเงินให้ 8,000 บาท กับบังคับให้ทำหนังสือร้องเรียนอดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือเจ้าคุณอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เรื่องเสพเมถุนเพื่อหวังรีดเงิน 7.2 ล้านบาท อ้างว่าท้องขอค่าเลี้ยงลูก

    น่าเสียดายที่เจ้าคุณอาชว์รู้สึกอับอาย หลังลาสิกขาเลือกที่จะหนีหาย ทั้งที่กรณีที่สีกากอล์ฟขู่เรียกเงิน 7.2 ล้านบาท เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ ถ้าลาสิกขาและให้ความร่วมมือกับตำรวจ บก.ปปป. ให้ข้อมูลก็สามารถเอาผิดสีกากอล์ฟได้ แม้เจ้าคุณอาชว์จะจ่ายเงินส่วนตัวให้สีกากอล์ฟหลักล้านบาท แลกกับการไม่ต้องถูกร้องเรียน ก่อนที่เรื่องจะบานปลายกลายเป็นข่าว

    การแถลงข่าวของตำรวจสอบสวนกลางเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ระบุว่า พระที่ยอมรับว่าเสพเมถุนกับสีกากอล์ฟมี 9 รูป เหลือพระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ที่ยังไม่สึกออกมา ส่วนพระที่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวมี 3 รูป หนึ่งในนั้นคือพระมหาทิวากร อาภทฺโท เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ยังหลบหนี นอกเหนือจากยักยอกเงินวัดกว่า 1 ล้านบาท

    ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บัญชีธนาคารของสีกากอล์ฟมีเงินหมุนเวียนกว่า 380 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่โอนออกไปยังเว็บพนัน แต่ละครั้งสูงสุด 500,000 บาท ปัจจุบันเหลือติดบัญชี 8,000 บาท ตำรวจไซเบอร์กำลังแกะรอยอยู่

    #Newskit
    สีกากอล์ฟพิฆาตพระ นึกว่ารอดแต่โดนรวบ! การจับกุมสีกากอล์ฟ หรือ น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ วัย 35 ปี ที่เสพเมถุนและมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่หลายคน ถึงขั้นปาราชิก ลาสิกขาราวกับใบไม้ร่วง เกิดวิกฤตศรัทธาวงการพระพุทธศาสนา สังคมพากันโล่งใจไปบ้าง เพราะกว่าตำรวจสอบสวนกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาผิดได้ ต้องใช้เวลาและพยานหลักฐานหนักมาก สีกากอล์ฟถูกเอาผิดใน 3 คดี เป็นของ บก.ปปป. ขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง (ตลิ่งชัน) ออกหมายจับ ได้แก่ สนับสนุนเจ้าพนักงาน คือ อดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ยักยอกเงินบัญชีวัด 3.8 แสนบาทใส่บัญชีตัวเองแล้วโอนให้สีกากอล์ฟ ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร ส่วนอีก 2 คดีเป็นของกองปราบปราม ขอศาลอาญา (รัชดาภิเษก) ออกหมายจับ ได้แก่ คดีฉ้อโกงหลอกเอาเงินอดีต ผอ.พระพุทธศาสนาพิจิตร 4 แสนบาท อ้างว่ามีข้อมูลเสพเมถุนกับพระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร แล้วก็ไม่ส่ง ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านร้องเรียนว่าเสพเมถุนและทุจริตเงินวัดตั้งแต่ปี 2559 แต่สุดท้าย ผอ.ถูกเจ้าคณะจังหวัดเด้งไปอยู่ที่อื่น กับคดีรีดเอาทรัพย์และทำให้เสื่อมเสีย ที่อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม ถูกขู่ให้โอนเงิน 15,000 บาท แลกกับการไม่ถูกแฉเรื่องเสพเมถุน อดีตพระครูฯ ต้องยอมโอนเงินให้ 8,000 บาท กับบังคับให้ทำหนังสือร้องเรียนอดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือเจ้าคุณอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เรื่องเสพเมถุนเพื่อหวังรีดเงิน 7.2 ล้านบาท อ้างว่าท้องขอค่าเลี้ยงลูก น่าเสียดายที่เจ้าคุณอาชว์รู้สึกอับอาย หลังลาสิกขาเลือกที่จะหนีหาย ทั้งที่กรณีที่สีกากอล์ฟขู่เรียกเงิน 7.2 ล้านบาท เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ ถ้าลาสิกขาและให้ความร่วมมือกับตำรวจ บก.ปปป. ให้ข้อมูลก็สามารถเอาผิดสีกากอล์ฟได้ แม้เจ้าคุณอาชว์จะจ่ายเงินส่วนตัวให้สีกากอล์ฟหลักล้านบาท แลกกับการไม่ต้องถูกร้องเรียน ก่อนที่เรื่องจะบานปลายกลายเป็นข่าว การแถลงข่าวของตำรวจสอบสวนกลางเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ระบุว่า พระที่ยอมรับว่าเสพเมถุนกับสีกากอล์ฟมี 9 รูป เหลือพระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ที่ยังไม่สึกออกมา ส่วนพระที่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวมี 3 รูป หนึ่งในนั้นคือพระมหาทิวากร อาภทฺโท เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ยังหลบหนี นอกเหนือจากยักยอกเงินวัดกว่า 1 ล้านบาท ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บัญชีธนาคารของสีกากอล์ฟมีเงินหมุนเวียนกว่า 380 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่โอนออกไปยังเว็บพนัน แต่ละครั้งสูงสุด 500,000 บาท ปัจจุบันเหลือติดบัญชี 8,000 บาท ตำรวจไซเบอร์กำลังแกะรอยอยู่ #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 554 มุมมอง 0 รีวิว
  • KITS Style การรถไฟมาเลย์ทำซูเปอร์แอปฯ

    หลังจากที่การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) หรือ KTMB ประเทศมาเลเซีย พยายามผลักดันการซื้อตั๋วรถไฟแบบไร้เงินสดเต็มรูปแบบ มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 เป็นต้นมา ล่าสุดได้เปลี่ยนแพลตฟอร์มจำหน่ายตั๋วโดยสารออนไลน์แบบบูรณาการ KITS (KTMB Integrated Ticketing System) มาเป็นซูเปอร์แอปพลิเคชันที่ชื่อว่า คิทส์ สไตล์ (KITS Style) โดยได้เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยร่วมมือกันระหว่าง KTMB กับเอ็มเปย์ (MPay) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเงินดิจิทัลในมาเลเซีย

    โดยคุณสมบัติหลักของแอปฯ KITS Style คือ การซื้อตั๋วรถไฟของ KTMB ทั้งรถไฟ ETS/Intercity รถไฟชานเมือง KTM Komuter รถไฟข้ามแดน Shuttle Tebrau พ่วงไปกับการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ตั๋วรถไฟต่างประเทศ รถเช่า รถรับ-ส่งสนามบิน เรือสำราญ กิจกรรมการท่องเที่ยวโดย Trip.com บริการเรียกรถรับจ้างสาธารณะ (E-Hailing) นอกจากนี้ยังสามารถโอนเงินต่างประเทศ ประกัน ตากาฟูล จ่ายบิลและเติมเงินโทรศัพท์มือถือในมาเลเซียอีกด้วย

    พร้อมกันนี้ ยังเปิดตัวบัตร KITS Style Mastercard Prepaid Card ซึ่งประกาศว่าเป็นบัตรเติมเงินขนส่งสาธารณะแบบเปิดใบแรกในมาเลเซียและอาเซียน ที่ออกโดยผู้ให้บริการรถไฟ ปัจจุบันให้บริการในรูปแบบบัตรเสมือน (Virtual Card) โดยมีค่าธรรมเนียมออกบัตรเสมือน 10 ริงกิต ส่วนบัตรพลาสติกแบบชิปการ์ดจะเปิดตัวในเดือน ก.ย. 2568 อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานแอปฯ KTMB Mobile เดิม ระบบจะแจ้งเตือนการย้ายระบบไปยัง KITS Style แบบใหม่ โดยเฉพาะเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ใช้สมัครบริการ ให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนยืนยันการเปลี่ยนแปลง

    Newskit ทดลองสมัครบริการแอปฯ KITS Style เริ่มแรกด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน App Store หรือ Google Play จากนั้นลงทะเบียนโดยใช้โทรศัพท์มือถือแล้วรอรับ SMS OTP ซึ่งพบว่าเบอร์ต่างประเทศ รวมทั้งประเทศไทยสามารถสมัครได้ (ยกเว้นเอไอเอสที่พบปัญหาบล็อก SMS จากต่างประเทศ) จากนั้นกรอกรายละเอียดส่วนตัว กรณีชาวต่างชาติใช้ข้อมูลหนังสือเดินทาง แล้วตั้งรหัส PIN 6 หลักเป็นอันเสร็จสิ้น

    อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานต้องยืนยันการสร้างบัญชีผ่านการทำ e-KYC ด้วยการถ่ายภาพหนังสือเดินทาง เซลฟี่ใบหน้า ระบบจะอนุมัติภายใน 2 วันทำการ โดยจะมีข้อความแจ้งเตือนเมื่อการยืนยันตัวตนสำเร็จ ส่วนการเติมเงินขั้นต่ำ 10 ริงกิต สูงสุดไม่เกิน 1,000 ริงกิต สามารถเติมเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต VISA และ Mastercard ได้ทั้งบัตรในประเทศและต่างประเทศ ส่วนชาวมาเลเซียสามารถเติมเงินผ่านทางออนไลน์แบงกิ้งระบบ FPX และ DuitNow แต่ยังไม่รองรับ e-Wallet

    #Newskit
    KITS Style การรถไฟมาเลย์ทำซูเปอร์แอปฯ หลังจากที่การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) หรือ KTMB ประเทศมาเลเซีย พยายามผลักดันการซื้อตั๋วรถไฟแบบไร้เงินสดเต็มรูปแบบ มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 เป็นต้นมา ล่าสุดได้เปลี่ยนแพลตฟอร์มจำหน่ายตั๋วโดยสารออนไลน์แบบบูรณาการ KITS (KTMB Integrated Ticketing System) มาเป็นซูเปอร์แอปพลิเคชันที่ชื่อว่า คิทส์ สไตล์ (KITS Style) โดยได้เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยร่วมมือกันระหว่าง KTMB กับเอ็มเปย์ (MPay) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเงินดิจิทัลในมาเลเซีย โดยคุณสมบัติหลักของแอปฯ KITS Style คือ การซื้อตั๋วรถไฟของ KTMB ทั้งรถไฟ ETS/Intercity รถไฟชานเมือง KTM Komuter รถไฟข้ามแดน Shuttle Tebrau พ่วงไปกับการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ตั๋วรถไฟต่างประเทศ รถเช่า รถรับ-ส่งสนามบิน เรือสำราญ กิจกรรมการท่องเที่ยวโดย Trip.com บริการเรียกรถรับจ้างสาธารณะ (E-Hailing) นอกจากนี้ยังสามารถโอนเงินต่างประเทศ ประกัน ตากาฟูล จ่ายบิลและเติมเงินโทรศัพท์มือถือในมาเลเซียอีกด้วย พร้อมกันนี้ ยังเปิดตัวบัตร KITS Style Mastercard Prepaid Card ซึ่งประกาศว่าเป็นบัตรเติมเงินขนส่งสาธารณะแบบเปิดใบแรกในมาเลเซียและอาเซียน ที่ออกโดยผู้ให้บริการรถไฟ ปัจจุบันให้บริการในรูปแบบบัตรเสมือน (Virtual Card) โดยมีค่าธรรมเนียมออกบัตรเสมือน 10 ริงกิต ส่วนบัตรพลาสติกแบบชิปการ์ดจะเปิดตัวในเดือน ก.ย. 2568 อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานแอปฯ KTMB Mobile เดิม ระบบจะแจ้งเตือนการย้ายระบบไปยัง KITS Style แบบใหม่ โดยเฉพาะเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ใช้สมัครบริการ ให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนยืนยันการเปลี่ยนแปลง Newskit ทดลองสมัครบริการแอปฯ KITS Style เริ่มแรกด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน App Store หรือ Google Play จากนั้นลงทะเบียนโดยใช้โทรศัพท์มือถือแล้วรอรับ SMS OTP ซึ่งพบว่าเบอร์ต่างประเทศ รวมทั้งประเทศไทยสามารถสมัครได้ (ยกเว้นเอไอเอสที่พบปัญหาบล็อก SMS จากต่างประเทศ) จากนั้นกรอกรายละเอียดส่วนตัว กรณีชาวต่างชาติใช้ข้อมูลหนังสือเดินทาง แล้วตั้งรหัส PIN 6 หลักเป็นอันเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานต้องยืนยันการสร้างบัญชีผ่านการทำ e-KYC ด้วยการถ่ายภาพหนังสือเดินทาง เซลฟี่ใบหน้า ระบบจะอนุมัติภายใน 2 วันทำการ โดยจะมีข้อความแจ้งเตือนเมื่อการยืนยันตัวตนสำเร็จ ส่วนการเติมเงินขั้นต่ำ 10 ริงกิต สูงสุดไม่เกิน 1,000 ริงกิต สามารถเติมเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต VISA และ Mastercard ได้ทั้งบัตรในประเทศและต่างประเทศ ส่วนชาวมาเลเซียสามารถเติมเงินผ่านทางออนไลน์แบงกิ้งระบบ FPX และ DuitNow แต่ยังไม่รองรับ e-Wallet #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 465 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจ ปปป.แจ้งข้อหา"ยักยอกทรัพย์ -ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ" แก่อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ปมโอนเงินวัด 3.8 แสนบาทให้ "สีกากอล์ฟ"

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000066475

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ตำรวจ ปปป.แจ้งข้อหา"ยักยอกทรัพย์ -ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ" แก่อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ปมโอนเงินวัด 3.8 แสนบาทให้ "สีกากอล์ฟ" อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000066475 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ อยุธยา สึกจากความเป็นพระรายที่ 8 หลังตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. บุกตรวจสอบบัญชีวัด พัวพันสีกากอล์ฟ ยอมรับพลาด อ่อนต่อโลก เชื่อใจ อ้างพระผู้ใหญ่ โอนเงินให้กว่า 12 ล้าน หนึ่งในนั้นเป็นเงินวัดราว 4 แสนบาท ขณะที่สำนักพุทธฯ อัปเดตยอดถึงครึ่งวันเช้า พระสึกเพราะสีกากอล์ฟไปแล้ว 7 รูป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000066095

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ อยุธยา สึกจากความเป็นพระรายที่ 8 หลังตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. บุกตรวจสอบบัญชีวัด พัวพันสีกากอล์ฟ ยอมรับพลาด อ่อนต่อโลก เชื่อใจ อ้างพระผู้ใหญ่ โอนเงินให้กว่า 12 ล้าน หนึ่งในนั้นเป็นเงินวัดราว 4 แสนบาท ขณะที่สำนักพุทธฯ อัปเดตยอดถึงครึ่งวันเช้า พระสึกเพราะสีกากอล์ฟไปแล้ว 7 รูป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000066095 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 721 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวบแล้ว 4 คนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจก่อเหตุอุกอาจ อุ้ม-ปล้นชาวจีนกลางเมืองพัทยา รีดทรัพย์กว่า 2.3 แสนบาทหนี ที่แท้เป็นแก๊งจีนปล้นจีน ไม่ใช่ตำรวจตามที่อ้าง เร่งไล่ล่าผู้บงการนำตัวดำเนินคดี

    จากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจ ก่อเหตุฉุดกระชากก่อนอุ้ม ตัว นายหลิน อี้ฟาน อายุ 52 ปี ชาวจีน ขึ้นรถเอสยูวี สีขาว จากบริเวณหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว - อาหารจีน ริมถนนพัทยาเหนือสาย 3 ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และใช้อาวุธปืนจี้จับมือไพล่หลังปล้นเอาทรัพย์สินทั้ง โทรศัพท์มือถือ และเงินสดจนหมดตัว

    อีกทั้งยังโอนเงินในบัญชีธนาคารประเทศจีนจากแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์​มือถืออีกประมาณ 1.5 แสนบาท รวมทรัพย์สินที่ถูกปล้นชิงไปกว่า 2.3 แสนบาท เหตุเกิดเมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000065603

    #Thaitimes #MGROnline #แก๊งจีนปล้นจีน
    รวบแล้ว 4 คนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจก่อเหตุอุกอาจ อุ้ม-ปล้นชาวจีนกลางเมืองพัทยา รีดทรัพย์กว่า 2.3 แสนบาทหนี ที่แท้เป็นแก๊งจีนปล้นจีน ไม่ใช่ตำรวจตามที่อ้าง เร่งไล่ล่าผู้บงการนำตัวดำเนินคดี • จากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจ ก่อเหตุฉุดกระชากก่อนอุ้ม ตัว นายหลิน อี้ฟาน อายุ 52 ปี ชาวจีน ขึ้นรถเอสยูวี สีขาว จากบริเวณหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว - อาหารจีน ริมถนนพัทยาเหนือสาย 3 ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และใช้อาวุธปืนจี้จับมือไพล่หลังปล้นเอาทรัพย์สินทั้ง โทรศัพท์มือถือ และเงินสดจนหมดตัว • อีกทั้งยังโอนเงินในบัญชีธนาคารประเทศจีนจากแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์​มือถืออีกประมาณ 1.5 แสนบาท รวมทรัพย์สินที่ถูกปล้นชิงไปกว่า 2.3 แสนบาท เหตุเกิดเมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000065603 • #Thaitimes #MGROnline #แก๊งจีนปล้นจีน
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 380 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจ ปปป. เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบ 4 วัดดัง หาเส้นทางการเงินเชื่อมโยง "สีกากอล์ฟ" ตะลึง! พบพระวัดชูจิตฯ เคยโอนให้กว่า 11 ล้านบาท

    วันนี้ ( 12 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เตรียมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ บก.ปปป. ปูพรมลงพื้นที่เข้าตรวจสอบวัดชื่อดังจำนวน 4 แห่ง ที่มีพระลูกวัดหรือพระชั้นผู้ใหญ่ของวัดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันธ์กับสีกากอล์ฟ ประกอบด้วย วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา , วัดใหญ่จอมประสาท จ.สมุทรสาคร , วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร และ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพมหานคร

    สำหรับวัตถุประสงค์หลักของการลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งนี้ก็เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเส้นทางการเงินต่าง ๆ ของวัดมาดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด แม้ในทางพฤติกรรมจะยังไม่พบหลักฐานการกระทำความผิดทางวินัยสงฆ์เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับสีกากอล์ฟก็ตาม แต่เนื่องจากมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระลูกวัด หรือ พระชั้นผู้ใหญ่เหล่านี้บางรายมีเส้นเงินเชื่อมโยงกับสีกากอล์ฟ จึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเงินที่พระเหล่านี้โอนไปให้กับสีกากอล์ฟนั้นเป็นเงินของวัดหรือไม่ และ มีที่ไปที่มาของเงินอย่างไร โดยเฉพาะในส่วนของพระวัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีการตรวจสอบพบว่าเคยมีการโอนเงินให้กับสีกากอล์ฟ รวมเป็นเงินกว่า 11 ล้านบาท จึงต้องมีการตรวจสอบยอดเงินดังกล่าวนี้อย่างละเอียด เพื่อให้หายเคลือบแคลงข้อสงสัย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000065647

    #Thaitimes #MGROnline #สีกากอล์ฟ
    ตำรวจ ปปป. เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบ 4 วัดดัง หาเส้นทางการเงินเชื่อมโยง "สีกากอล์ฟ" ตะลึง! พบพระวัดชูจิตฯ เคยโอนให้กว่า 11 ล้านบาท • วันนี้ ( 12 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เตรียมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ บก.ปปป. ปูพรมลงพื้นที่เข้าตรวจสอบวัดชื่อดังจำนวน 4 แห่ง ที่มีพระลูกวัดหรือพระชั้นผู้ใหญ่ของวัดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันธ์กับสีกากอล์ฟ ประกอบด้วย วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา , วัดใหญ่จอมประสาท จ.สมุทรสาคร , วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร และ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพมหานคร • สำหรับวัตถุประสงค์หลักของการลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งนี้ก็เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเส้นทางการเงินต่าง ๆ ของวัดมาดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด แม้ในทางพฤติกรรมจะยังไม่พบหลักฐานการกระทำความผิดทางวินัยสงฆ์เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับสีกากอล์ฟก็ตาม แต่เนื่องจากมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระลูกวัด หรือ พระชั้นผู้ใหญ่เหล่านี้บางรายมีเส้นเงินเชื่อมโยงกับสีกากอล์ฟ จึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเงินที่พระเหล่านี้โอนไปให้กับสีกากอล์ฟนั้นเป็นเงินของวัดหรือไม่ และ มีที่ไปที่มาของเงินอย่างไร โดยเฉพาะในส่วนของพระวัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีการตรวจสอบพบว่าเคยมีการโอนเงินให้กับสีกากอล์ฟ รวมเป็นเงินกว่า 11 ล้านบาท จึงต้องมีการตรวจสอบยอดเงินดังกล่าวนี้อย่างละเอียด เพื่อให้หายเคลือบแคลงข้อสงสัย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000065647 • #Thaitimes #MGROnline #สีกากอล์ฟ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • พบเส้นเงิน "สีกากอล์ฟ"เชื่อมโยงพระชั้นผู้ใหญ่ 13 รูป เจ้าตัวยอมรับสัมพันธ์ลึกซึ้งแค่ 8 ที่เหลือเป็นพระที่เคารพนับถือเท่านั้น

    วันนี้ ( 10 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ เบื้องต้นพบว่า มีความเชื่อมโยงกับพระชั้นผู้ใหญ่ประมาณ 13 รูป ที่เคยมีการโอนเงินให้กันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประกอบกับเมื่อนำมาพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานทั้งรูปภาพ และ คลิปวิดีโอลับ รวมถึงแชตข้อความสนทนาต่าง ๆ เบื้องต้นพบการกระทำผิดว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวที่แน่ชัดแล้ว 8 ราย

    อย่างไรก็ตามจากคำให้การของ สีกากอล์ฟ เอง ก็ยอมรับว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งเชิงชู้สาวกับพระในจำนวนนี้ประมาณ 8 ราย ส่วนที่เหลืออีก 5-6 ราย นั้นเป็นพระที่เจ้าตัวนับถือ ส่วนที่มีการโอนเงินให้กันเป็นเพียงแค่การหยิบยืม แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ปักใจเชื่อ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบให้แน่ชัดว่าพระที่เหลือเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000065045

    #Thaitimes #MGROnline #สีกากอล์ฟ
    พบเส้นเงิน "สีกากอล์ฟ"เชื่อมโยงพระชั้นผู้ใหญ่ 13 รูป เจ้าตัวยอมรับสัมพันธ์ลึกซึ้งแค่ 8 ที่เหลือเป็นพระที่เคารพนับถือเท่านั้น • วันนี้ ( 10 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ เบื้องต้นพบว่า มีความเชื่อมโยงกับพระชั้นผู้ใหญ่ประมาณ 13 รูป ที่เคยมีการโอนเงินให้กันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประกอบกับเมื่อนำมาพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานทั้งรูปภาพ และ คลิปวิดีโอลับ รวมถึงแชตข้อความสนทนาต่าง ๆ เบื้องต้นพบการกระทำผิดว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวที่แน่ชัดแล้ว 8 ราย • อย่างไรก็ตามจากคำให้การของ สีกากอล์ฟ เอง ก็ยอมรับว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งเชิงชู้สาวกับพระในจำนวนนี้ประมาณ 8 ราย ส่วนที่เหลืออีก 5-6 ราย นั้นเป็นพระที่เจ้าตัวนับถือ ส่วนที่มีการโอนเงินให้กันเป็นเพียงแค่การหยิบยืม แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ปักใจเชื่อ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบให้แน่ชัดว่าพระที่เหลือเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000065045 • #Thaitimes #MGROnline #สีกากอล์ฟ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลโกงล่าสุด สำหรับคนอยากสวย อยากหล่อ...เปิดเพจรับการสนับสนุน ..เสริมความงาม ฉีดผิว botox ยกกระชับ สารพัด...และอ้างว่า เป็นโปร.ราคาถูกจำกัดจำนวน..ต้องโอนเงินเพื่อจองสิทธิ์ ..มีคนโดนกันหลายคนแล้ว ..แต่สำนักข่าวยังไม่มีใครหยิบมาเป็นข่าว...
    กลโกงล่าสุด สำหรับคนอยากสวย อยากหล่อ...เปิดเพจรับการสนับสนุน ..เสริมความงาม ฉีดผิว botox ยกกระชับ สารพัด...และอ้างว่า เป็นโปร.ราคาถูกจำกัดจำนวน..ต้องโอนเงินเพื่อจองสิทธิ์ ..มีคนโดนกันหลายคนแล้ว ..แต่สำนักข่าวยังไม่มีใครหยิบมาเป็นข่าว...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดีเอสไอ" ทยอยสอบปากคำพยานคดีฮั้ว สว. "อั้งยี่-ฟอกเงิน" ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. พร้อมออกหมายเรียกเพิ่มอีก 5 ราย พบหลักฐานโยงขบวนการฮั้ว

    วันนี้ (6 ก.ค.) คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีฮั้ว สว. "อั้งยี่-ฟอกเงิน" หลังออกหมายเรียกพยาน 7 ราย ตั้งแต่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า ดีเอสไอ มีการออกหมายเรียกพยานกลุ่มแรก จำนวน 7 ราย ประกอบด้วย 1.นายวรพจน์ (สงวนนามสกุล) 2.น.ส.สินิตา (สงวนนามสกุล) 3.นายสุบิน (สงวนนามสกุล) 4.น.ส.ญาณี (สงวนนามสกุล) 5.น.ส.ภัณนิภา (สงวนนามสกุล) 6.นายอากร (สงวนนามสกุล) และ 7.นายอาทร (สงวนนามสกุล) ให้เข้าชี้แจงเรื่องเส้นทางการเงิน เนื่องด้วยพนักงานสอบสวนตรวจสอบเส้นทางการเงินของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงพบพฤติการณ์ของทั้ง 7 พยานมีส่วนเชื่อมโยงสัมพันธ์ คือ มีการโอนเงินในลักษณะเครือข่ายที่มีการจ้างผู้สมัครใน 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ลำพูน และหนองบัวลำภู

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000063587

    #Thaitimes #MGROnline #ดีเอสไอ
    "ดีเอสไอ" ทยอยสอบปากคำพยานคดีฮั้ว สว. "อั้งยี่-ฟอกเงิน" ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. พร้อมออกหมายเรียกเพิ่มอีก 5 ราย พบหลักฐานโยงขบวนการฮั้ว • วันนี้ (6 ก.ค.) คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีฮั้ว สว. "อั้งยี่-ฟอกเงิน" หลังออกหมายเรียกพยาน 7 ราย ตั้งแต่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า ดีเอสไอ มีการออกหมายเรียกพยานกลุ่มแรก จำนวน 7 ราย ประกอบด้วย 1.นายวรพจน์ (สงวนนามสกุล) 2.น.ส.สินิตา (สงวนนามสกุล) 3.นายสุบิน (สงวนนามสกุล) 4.น.ส.ญาณี (สงวนนามสกุล) 5.น.ส.ภัณนิภา (สงวนนามสกุล) 6.นายอากร (สงวนนามสกุล) และ 7.นายอาทร (สงวนนามสกุล) ให้เข้าชี้แจงเรื่องเส้นทางการเงิน เนื่องด้วยพนักงานสอบสวนตรวจสอบเส้นทางการเงินของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงพบพฤติการณ์ของทั้ง 7 พยานมีส่วนเชื่อมโยงสัมพันธ์ คือ มีการโอนเงินในลักษณะเครือข่ายที่มีการจ้างผู้สมัครใน 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ลำพูน และหนองบัวลำภู • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000063587 • #Thaitimes #MGROnline #ดีเอสไอ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดีเอสไอ" เปิดโปง ขบวนการรีดหัวคิวแรงงานต่างด้าว รายละ 2,500 บาท โอนเงินผ่านบัญชีม้าไปยังเจ้าหน้าที่กัมพูชา ก่อนวนกลับเข้าไทย เล็งฟันฐานฟอกเงิน

    วันนี้ (3 ก.ค.) เวลา 13.30 น. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีดีเอสไอ , ร.ต.อ.ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ , พ.ต.ท.ธนวัฒน์ วงศ์อนันต์ชัย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ , นายจินกร แก้วศรี รองผู้อำนวยการกองคดีการฟอกเงินทางอาญา และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจค้น บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง รับปรึกษาด้านเอกสารแรงงานต่างด้าว เลขที่ 38/1501 ถนนไทยรามัญ แขวงคลองสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เพื่อเก็บพยานหลักฐาน ขบวนการรีดหัวคิวแรงงานนำไปฟอกเงินผ่านเจ้าหน้าที่กัมพูชา

    พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้ใช้ชื่อว่า “กลุ่มนายจ้าง ที่ได้รับความเดือดร้อน” ร้องเรียนว่า ตามที่กระทรวงแรงงานของไทย ได้มีประกาศกระทรวงแรงงาน ลงวันที่ 26 พ.ย.2567 ผ่อนผันให้มีการต่อใบอนุญาตทำงานให้กับแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ที่ครบกำหนดวันสิ้นสุดการอนุญาต ในวันที่ 13 ก.พ.2568 ซึ่งประกอบด้วย เมียนมา 2,012,856 คน กัมพูชา 287,557 คน ลาว 94,132 คน และเวียดนาม 3,673 คน โดยกำหนดเงื่อนไขใหม่ขึ้นมาว่าผู้ที่จะต่อใบอนุญาตทำงานได้ ต้องได้รับการรับรองจากสถานทูตและนายหน้าจัดหางาน (AGENCY) จากประเทศต้นทางเสียก่อน จึงทำให้เกิดมีขบวนการเรียกรับเงินจากแรงงานต่างด้าวที่ต้องการจะต่อใบอนุญาตทำงานดังกล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000062771

    #MGROnline #ดีเอสไอ
    "ดีเอสไอ" เปิดโปง ขบวนการรีดหัวคิวแรงงานต่างด้าว รายละ 2,500 บาท โอนเงินผ่านบัญชีม้าไปยังเจ้าหน้าที่กัมพูชา ก่อนวนกลับเข้าไทย เล็งฟันฐานฟอกเงิน • วันนี้ (3 ก.ค.) เวลา 13.30 น. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีดีเอสไอ , ร.ต.อ.ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ , พ.ต.ท.ธนวัฒน์ วงศ์อนันต์ชัย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ , นายจินกร แก้วศรี รองผู้อำนวยการกองคดีการฟอกเงินทางอาญา และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจค้น บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง รับปรึกษาด้านเอกสารแรงงานต่างด้าว เลขที่ 38/1501 ถนนไทยรามัญ แขวงคลองสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เพื่อเก็บพยานหลักฐาน ขบวนการรีดหัวคิวแรงงานนำไปฟอกเงินผ่านเจ้าหน้าที่กัมพูชา • พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้ใช้ชื่อว่า “กลุ่มนายจ้าง ที่ได้รับความเดือดร้อน” ร้องเรียนว่า ตามที่กระทรวงแรงงานของไทย ได้มีประกาศกระทรวงแรงงาน ลงวันที่ 26 พ.ย.2567 ผ่อนผันให้มีการต่อใบอนุญาตทำงานให้กับแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ที่ครบกำหนดวันสิ้นสุดการอนุญาต ในวันที่ 13 ก.พ.2568 ซึ่งประกอบด้วย เมียนมา 2,012,856 คน กัมพูชา 287,557 คน ลาว 94,132 คน และเวียดนาม 3,673 คน โดยกำหนดเงื่อนไขใหม่ขึ้นมาว่าผู้ที่จะต่อใบอนุญาตทำงานได้ ต้องได้รับการรับรองจากสถานทูตและนายหน้าจัดหางาน (AGENCY) จากประเทศต้นทางเสียก่อน จึงทำให้เกิดมีขบวนการเรียกรับเงินจากแรงงานต่างด้าวที่ต้องการจะต่อใบอนุญาตทำงานดังกล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000062771 • #MGROnline #ดีเอสไอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 0 รีวิว
  • 20 ชั่วโมง พลังของประชาชนหลั่งไหล โอนเงินสนับสนุนการชุมนุมแล้ว 7.7 ล้าน
    https://www.thai-tai.tv/news/19696/
    20 ชั่วโมง พลังของประชาชนหลั่งไหล โอนเงินสนับสนุนการชุมนุมแล้ว 7.7 ล้าน https://www.thai-tai.tv/news/19696/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## Huione ธุรกิจฟอกเงิน ของ ตระกูลฮุน...!!! ##
    ..
    ..
    ธุรกิจฟอกเงิน Huione ใช้ประเทศไทยเป็นจุดผ่านเงินจำนวนมหาศาล...
    .
    พบเบอร์โทรในกลุ่ม Telegram ที่ใช้รับโดนเงินจากเหยื่ออยู่ในประเทศไทย
    .
    พบเส้นทางการโอนเงินที่ไหลเข้าบัญชีไทยหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีชื่อ Huione อยู่ในเอกสารทางการไทยเลยแม้แต่ครั้งเดียว...
    ....
    ....
    นี่คือธุรกิจ ของ ตระกูล ไอ้สมเด็จจากนรก...!!!
    .
    ทำไมเรื่องนี้ในประเทศไทยถึงเงียบนัก...???
    .
    และ ใคร เป็นคนอยู่เบื้องหลัง Huione ในประเทศไทย...???
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=1WluUJSl8PQ
    ## Huione ธุรกิจฟอกเงิน ของ ตระกูลฮุน...!!! ## .. .. ธุรกิจฟอกเงิน Huione ใช้ประเทศไทยเป็นจุดผ่านเงินจำนวนมหาศาล... . พบเบอร์โทรในกลุ่ม Telegram ที่ใช้รับโดนเงินจากเหยื่ออยู่ในประเทศไทย . พบเส้นทางการโอนเงินที่ไหลเข้าบัญชีไทยหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีชื่อ Huione อยู่ในเอกสารทางการไทยเลยแม้แต่ครั้งเดียว... .... .... นี่คือธุรกิจ ของ ตระกูล ไอ้สมเด็จจากนรก...!!! . ทำไมเรื่องนี้ในประเทศไทยถึงเงียบนัก...??? . และ ใคร เป็นคนอยู่เบื้องหลัง Huione ในประเทศไทย...??? . https://www.youtube.com/watch?v=1WluUJSl8PQ
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถูกหลอกให้โอนเงินระหว่างทำภารกิจออนไลน์ ยิ่งรู้ตัวไว ยิ่งเสียหายไม่เยอะ

    เก็บหลักฐาน รีบติดต่อ “สายด่วน AOC” โทร. 1441 หรือสายด่วนของธนาคาร เพื่อขอให้ดำเนินการระงับบัญชี

    #แบงก์ชาติ #ทุกเดือนต้องเตือนกัน #เตือนภัย #ภัยการเงิน
    ถูกหลอกให้โอนเงินระหว่างทำภารกิจออนไลน์‼️ ยิ่งรู้ตัวไว‼️ ยิ่งเสียหายไม่เยอะ‼️ เก็บหลักฐาน รีบติดต่อ “สายด่วน AOC” 📞โทร. 1441 หรือสายด่วนของธนาคาร เพื่อขอให้ดำเนินการระงับบัญชี #แบงก์ชาติ #ทุกเดือนต้องเตือนกัน #เตือนภัย #ภัยการเงิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถูกหลอกให้โอนเงินระหว่างทำภารกิจออนไลน์ ยิ่งรู้ตัวไว ยิ่งเสียหายไม่เยอะ

    เก็บหลักฐาน รีบติดต่อ “สายด่วน AOC” โทร. 1441 หรือสายด่วนของธนาคาร เพื่อขอให้ดำเนินการระงับบัญชี

    #แบงก์ชาติ #ทุกเดือนต้องเตือนกัน #เตือนภัย #ภัยการเงิน
    ถูกหลอกให้โอนเงินระหว่างทำภารกิจออนไลน์‼️ ยิ่งรู้ตัวไว‼️ ยิ่งเสียหายไม่เยอะ‼️ เก็บหลักฐาน รีบติดต่อ “สายด่วน AOC” 📞โทร. 1441 หรือสายด่วนของธนาคาร เพื่อขอให้ดำเนินการระงับบัญชี #แบงก์ชาติ #ทุกเดือนต้องเตือนกัน #เตือนภัย #ภัยการเงิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมสมัครใจสนับสนุนคุณสนธิเดือนละ 100 บาท ไม่ได้สมัครผ่าน You tube ทำไมให้ You tube มาหักเงินผม และทำไมต้องไปพึ่งพาเว็บอื่น แล้วคุณจะทำ Thaitimes ขึ้นมาเพื่ออะไรกัน ผมโอนเงินผ่านบัญชี บจก.เอนิซซัน อยู่แล้ว ถ้าคุณยังไปพึ่งพาเว็บอื่นอยู่อย่างนี้ ผมจะลบ Thaitimes ออกจากอุปกรณ์ของผมทั้งหมด พร้อมทั้งเลิกสนับสนุนเดือนละร้อยด้วย
    ผมสมัครใจสนับสนุนคุณสนธิเดือนละ 100 บาท ไม่ได้สมัครผ่าน You tube ทำไมให้ You tube มาหักเงินผม และทำไมต้องไปพึ่งพาเว็บอื่น แล้วคุณจะทำ Thaitimes ขึ้นมาเพื่ออะไรกัน ผมโอนเงินผ่านบัญชี บจก.เอนิซซัน อยู่แล้ว ถ้าคุณยังไปพึ่งพาเว็บอื่นอยู่อย่างนี้ ผมจะลบ Thaitimes ออกจากอุปกรณ์ของผมทั้งหมด พร้อมทั้งเลิกสนับสนุนเดือนละร้อยด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุป 6 กลโกงยอดฮิตที่มิจฉาชีพใช้แอบอ้างหน่วยงานต่างๆ

    มาดูกันว่ามิจฉาชีพมีวิธีไหนบ้างที่ใช้หลอกเราให้โอนเงิน หรือล้วงข้อมูลสำคัญของเราไป เช่น อ้างว่าเป็นธนาคาร DSI ตำรวจ การไฟฟ้า แบงก์ชาติ หรือกรมบัญชีกลาง

    จำไว้เสมอว่า "ของจริงไม่ทำ ของปลอมเท่านั้นที่มาหลอก!" สงสัย ให้ " Double Check เช็กซ้ำก่อนโอน!" ถ้าไม่แน่ใจให้ตรวจสอบกับหน่วยงานโดยตรงเสมอ
    💡 สรุป 6 กลโกงยอดฮิตที่มิจฉาชีพใช้แอบอ้างหน่วยงานต่างๆ มาดูกันว่ามิจฉาชีพมีวิธีไหนบ้างที่ใช้หลอกเราให้โอนเงิน หรือล้วงข้อมูลสำคัญของเราไป เช่น อ้างว่าเป็นธนาคาร DSI ตำรวจ การไฟฟ้า แบงก์ชาติ หรือกรมบัญชีกลาง จำไว้เสมอว่า "ของจริงไม่ทำ ของปลอมเท่านั้นที่มาหลอก!" สงสัย ให้ " Double Check เช็กซ้ำก่อนโอน!" ถ้าไม่แน่ใจให้ตรวจสอบกับหน่วยงานโดยตรงเสมอ 🙌
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นี้ล่ะ,อีกส่วนหนึ่ง ว่าทำไม ในยุคสมัยนี้เขมรจึงคือภัยคุกคามอธิปไตยของประเทศไทยและภัยคุกคามการค้ามนุษย์ปล้นชิงคนไทยไปจากแผ่นดินไทยอาจผิดปกติโดยใช้ช่องโว่ของความเมตตากรุณาของสถานะเพื่อนบ้านติดกัน ค้าขายสัมพันธุ์กันอย่างสุจริต,แต่มัน..เขมรกลับไม่ใช่ ใช้เล่ห์กลอุบายมากมายหลอกลวงคนไทยที่บริสุทธิ์ไปกักขังในประเทศเขมรค่าแรงงานคนไทยแบบทารุนผิดมนุษย์ตลอดทำร้ายร่างกายถึงขั้นชีวิตคนไทยกันเลย,
    ..จึงถึงเวลาแบนเขมรแบนคนเขมรแบบทรัมป์ทำกันอย่างจริงจัง,ปิดด่านตลอดพรมแดนจนเขมรจะทำให้เราเชื่อใจได้ว่าเป็นประเทศที่ปลอดภัยจริงเหมือนเพื่อนบ้านคนอื่นๆ.,ตัดน้ำมัน ตัดไฟฟ้า ระเบิดสะพาน ระเบิดถนน ระเบิดทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับเขมร ปิดน่านน้ำพวมแดนทะเลทั้งหมดห้าเขมรเดินเรือผ่าน,ห้ามคนไทยทุกๆคนเดินทางเข้าเขมรทุกๆกรณีไม่มีกำหนด,เขมรหากมาลักพาตัวคนไทยหรือทราบว่าคนไทยถูกเขมรลักพาตัวไป,ระเบิดจะลงสถานที่ราชการเขมรทันทีและต้องส่งตัวคนไทยที่บริสุทธิ์กลับประเทศไทยอย่างมีชีวิตสุขภาพดีแข็งแรง,เช่นนั้นชุมชนคนเขมรจะถูกระเบิดทันที.ด้วยคนเขมรราชการเขมรกระทำผิดต่อคนไทย ลักพาตัวและหลอกลวงหลอกล่อคนไทยที่สุจริตใจไปจากครอบครัวอันเป็นที่รักของเขาคนไทยเรานั้นๆ.,เขมรกระทำตนไร้มนุษยธรรมก่อนก็ว่า.,ตำรวจสากลหรือทหารสากลโลกสามารถเข้าล้อมทั้งเมืองเพื่อตรวจค้นทุกๆตึกในประเทศเขมรทันที,ตึกใดใครเป็นเจ้าของกระทำสิ่งชั่ว คนๆนั้นจะถูกไล่ล่าระดับสากลโลกจะไม่มีที่ซ่อนในแต่ละประเทศที่มันหลบหนีไปทั้งหมดจะถูกจับกุมทุกๆกรณี.,
    ..โลกเราจะมีประเทศชั่วๆนี้ประจำโลกทำไมและเป็นสถานที่ให้คนชั่วทั่วโลกออกมาสร้างความชั่วอันเลวร้ายบนแผ่นดินประเทศลักษณะนี้ได้อย่างไร,มนุษย์ชาวโลกทุกๆคนมีสถานะเป็นไท อิสระแห่งสัมมาขีวิตตนมิใช่ให้ชาติคนแบบประเทศเขมรคนเขมรหรือคนที่มาใช้ประเทศเขมรมาหลอกลวงคนทั่วโลกล่อลวงมาอยู่ประเทศนั่นๆแบบประเทศเขมรนี้เป็นต้น จะจีนเทาเอง แขกเทาเอง ฝรั่งเทาเอง หรือเถื่อนๆคนเถื่อนๆเลวๆชั่วๆเทาๆใดๆก็ตามมาทำลักษณะนี้ต้องถูกกำจัดทั้งหมด ถูกไล่ล่าจริงเด็ดหัวทั้งหมดมันคือการค้ามนุษย์ระดับโลกเพื่อทำลายความสุขสงบของชาวโลกคนอื่นๆที่ปกติสุขปกติในวิถีชีวิตใครมันเขา,แต่เสือกมีประเทศลักษณะนี้ เป็นฐานใหญ่ เป็นระดับฮับสถานที่อาคารตึกพร้อมกระทำชั่วแบบนี้,ชาตินั้นๆไม่สมควรมีอยู่ประดับโลก,คนประเทศนั้นๆต้องถูกแบน,ผู้นำประเทศนั้นๆต้องถูกลงโทษสากลระดับโลก,ทหารสากลและตำรวจสากลโลกสามารถเข้าจับกุมช่วยมนุษยชาติโลกประเทศต่างๆนั้นๆที่ถูกลักพาตัวเข้ามาหรือล่อลวงล่อหลอกๆลวงเข้ามา สามารถตัดสินความผิดและลงโทษระดับสากลได้ทันที,ยุคเราต้องล้ำสมัยระดับนี้จริงๆ,องค์กรโลกนี้ต้องเป็นกลางจริงๆด้วยมิใช่อีลิทdeep stateก่อตั้งขึ้นหรือฝ่ายมืดซาตานก่อตั้งขึ้นแบบUNแบบWHOหรือแบบWFEและอื่นๆอีกตรึม,จนโลกไร้ซึ่งความยุติธรรมในปัจจุบัน,ศาลโลกเองก็เหี้ยdeep stateควบคุมครอบงำหมด.
    ..ปิดด่านทั้งหมดตลอดแนวพรมแดนเขมร,ตัดน้ำตัดน้ำมันตัดไฟฟ้า ตัดเน็ต แอปในไทยทั้งหมดให้ทหารสั่งปิดบัญชีและUSERที่เป็นคนเขมรทั้งหมด,บัญชีคนเขมรที่มีเงินฝากไว้ในไทยอายัดบัญชีคนเขมรทั้งหมด,แต่เฉพาะคนเขมรในไทยสามารถติดต่อขอเปิดตังได้เฉพาะตัวบุคคลและต้องออกจากประเทศไทยไปทุกๆกรณี,โดยมีเจ้านายคนไทยมาค้ำประกันด้วยว่ามิใช่เงินที่มาจากความผิดปกติหรือผิดกฎหมายหรือภัยด้านความมั่นคงก่ออาชญากรรมในประเทศไทยหรือก่อการร้ายสนับสนุนเงินทุนก่อการร้ายในไทย,จึงอายัดบัญชีการโอนเงินไปเขมรทั้งหมดตลอดเงินที่เขมรโอนเข้ามาไทยด้วย,จะระงับพักบัญชีอายัดไว้ที่แบงค์ชาติทุกๆกรณีจะมาในรูปแบบตังคริปโตฯดิจิดัลด้วยก็ตามหรือทรัพย์สินตีมูลค่าเป็นเงินใดๆก็ตาม,ตลอดตังที่โอนจากประเทศไทยไปประเทศอื่นแต่อ้อมเข้าเขมร ซึ่งสามารถตรวจสอบติดตามเรียลไทม์อ้างอิงได้,แบงค์ชาติสามารถปิดบัญชีนั้นๆได้ทันทีพร้อมอายัดเงินทั้งหมดได้ด้วย.,
    ..ทุกๆธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องกับเขมรจะหยุดนิ่งห้ามเคลื่อนไหวออกจากประเทศไทยทั้งหมด,เข้าก็ไม่ได้ ออกไปเขมรยิ่งไม่ได้,ใครอ้อมไปเขมรจะบัญชีใดๆจะถูกอายัดทุกๆธุรกรรมทั้งหมดทันทีในกฎอัยการศึกทางทหารนี้,เขมรและคนเขมรคือภัยคุกคามด้านความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศชาติไทยและความปลอดภัยขั้นสูงสุดแก่ประชาชนคนไทยทุกๆคนและทุกๆกรณี.,
    ..เขมรถ้าตามคลิปนี้จากกูรูแฉออกมาก่อนหน้านี้เป็นอันมาก มีมากมายหลากหลายประเทศที่ตกเป็นเหงื่อและทารุณในประเทศเขมรที่ถูกหลอกลวงล่อลวงเข้าไป,ดังนั้นเขมรไม่ใช่แค่ภัยคุกคามประเทศไทยแต่คือภัยคุกคามของคนอาเชียนของคนเอเชียและของคนทั่วโลกเพราะมีมากมายจากคนทั่วโลกที่ถูกหลอกลวงไปประเทศเขมรโดยทั้งคนเขมรเองและคนชั่วเลวที่อาศัยอยู่เขมร,นั้นคือผู้ปกครองเขมรคือภัยคุกคามร้ายแรงของโลก ละเมิดชีวิตมนุษยชาติบนโลก ไม่เร่งรีบกำจัดคนชั่วในประเทศตนเองที่ปกครอง ปล่อยปะละเลยให้เป็นฮับชั่วก่อสาระพัดเดอะแก๊งประจำประเทศเขมรแล้วปั่นป่วนไปทั่วโลก อาทิแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ไม่น้อยหน้าพม่าแต่อย่างใด,เคสเขมรจึงคือจุดเริ่มต้นในการเริ่มกวาดล้างคนระดับผู้นำที่ปกครองประเทศนั้นๆไปทางชั่วเลวมิให้โลกและคนบนโลกสงบสุขร่วมกันหรืออยู่ร่วมกันอย่างสันติสงบสุขนั้นเอง,ตกประเมินต้องคัดออก.

    https://youtu.be/Y1ZmMbCYwpc?si=3eCvJkaa8GVpKPG7
    ..นี้ล่ะ,อีกส่วนหนึ่ง ว่าทำไม ในยุคสมัยนี้เขมรจึงคือภัยคุกคามอธิปไตยของประเทศไทยและภัยคุกคามการค้ามนุษย์ปล้นชิงคนไทยไปจากแผ่นดินไทยอาจผิดปกติโดยใช้ช่องโว่ของความเมตตากรุณาของสถานะเพื่อนบ้านติดกัน ค้าขายสัมพันธุ์กันอย่างสุจริต,แต่มัน..เขมรกลับไม่ใช่ ใช้เล่ห์กลอุบายมากมายหลอกลวงคนไทยที่บริสุทธิ์ไปกักขังในประเทศเขมรค่าแรงงานคนไทยแบบทารุนผิดมนุษย์ตลอดทำร้ายร่างกายถึงขั้นชีวิตคนไทยกันเลย, ..จึงถึงเวลาแบนเขมรแบนคนเขมรแบบทรัมป์ทำกันอย่างจริงจัง,ปิดด่านตลอดพรมแดนจนเขมรจะทำให้เราเชื่อใจได้ว่าเป็นประเทศที่ปลอดภัยจริงเหมือนเพื่อนบ้านคนอื่นๆ.,ตัดน้ำมัน ตัดไฟฟ้า ระเบิดสะพาน ระเบิดถนน ระเบิดทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับเขมร ปิดน่านน้ำพวมแดนทะเลทั้งหมดห้าเขมรเดินเรือผ่าน,ห้ามคนไทยทุกๆคนเดินทางเข้าเขมรทุกๆกรณีไม่มีกำหนด,เขมรหากมาลักพาตัวคนไทยหรือทราบว่าคนไทยถูกเขมรลักพาตัวไป,ระเบิดจะลงสถานที่ราชการเขมรทันทีและต้องส่งตัวคนไทยที่บริสุทธิ์กลับประเทศไทยอย่างมีชีวิตสุขภาพดีแข็งแรง,เช่นนั้นชุมชนคนเขมรจะถูกระเบิดทันที.ด้วยคนเขมรราชการเขมรกระทำผิดต่อคนไทย ลักพาตัวและหลอกลวงหลอกล่อคนไทยที่สุจริตใจไปจากครอบครัวอันเป็นที่รักของเขาคนไทยเรานั้นๆ.,เขมรกระทำตนไร้มนุษยธรรมก่อนก็ว่า.,ตำรวจสากลหรือทหารสากลโลกสามารถเข้าล้อมทั้งเมืองเพื่อตรวจค้นทุกๆตึกในประเทศเขมรทันที,ตึกใดใครเป็นเจ้าของกระทำสิ่งชั่ว คนๆนั้นจะถูกไล่ล่าระดับสากลโลกจะไม่มีที่ซ่อนในแต่ละประเทศที่มันหลบหนีไปทั้งหมดจะถูกจับกุมทุกๆกรณี., ..โลกเราจะมีประเทศชั่วๆนี้ประจำโลกทำไมและเป็นสถานที่ให้คนชั่วทั่วโลกออกมาสร้างความชั่วอันเลวร้ายบนแผ่นดินประเทศลักษณะนี้ได้อย่างไร,มนุษย์ชาวโลกทุกๆคนมีสถานะเป็นไท อิสระแห่งสัมมาขีวิตตนมิใช่ให้ชาติคนแบบประเทศเขมรคนเขมรหรือคนที่มาใช้ประเทศเขมรมาหลอกลวงคนทั่วโลกล่อลวงมาอยู่ประเทศนั่นๆแบบประเทศเขมรนี้เป็นต้น จะจีนเทาเอง แขกเทาเอง ฝรั่งเทาเอง หรือเถื่อนๆคนเถื่อนๆเลวๆชั่วๆเทาๆใดๆก็ตามมาทำลักษณะนี้ต้องถูกกำจัดทั้งหมด ถูกไล่ล่าจริงเด็ดหัวทั้งหมดมันคือการค้ามนุษย์ระดับโลกเพื่อทำลายความสุขสงบของชาวโลกคนอื่นๆที่ปกติสุขปกติในวิถีชีวิตใครมันเขา,แต่เสือกมีประเทศลักษณะนี้ เป็นฐานใหญ่ เป็นระดับฮับสถานที่อาคารตึกพร้อมกระทำชั่วแบบนี้,ชาตินั้นๆไม่สมควรมีอยู่ประดับโลก,คนประเทศนั้นๆต้องถูกแบน,ผู้นำประเทศนั้นๆต้องถูกลงโทษสากลระดับโลก,ทหารสากลและตำรวจสากลโลกสามารถเข้าจับกุมช่วยมนุษยชาติโลกประเทศต่างๆนั้นๆที่ถูกลักพาตัวเข้ามาหรือล่อลวงล่อหลอกๆลวงเข้ามา สามารถตัดสินความผิดและลงโทษระดับสากลได้ทันที,ยุคเราต้องล้ำสมัยระดับนี้จริงๆ,องค์กรโลกนี้ต้องเป็นกลางจริงๆด้วยมิใช่อีลิทdeep stateก่อตั้งขึ้นหรือฝ่ายมืดซาตานก่อตั้งขึ้นแบบUNแบบWHOหรือแบบWFEและอื่นๆอีกตรึม,จนโลกไร้ซึ่งความยุติธรรมในปัจจุบัน,ศาลโลกเองก็เหี้ยdeep stateควบคุมครอบงำหมด. ..ปิดด่านทั้งหมดตลอดแนวพรมแดนเขมร,ตัดน้ำตัดน้ำมันตัดไฟฟ้า ตัดเน็ต แอปในไทยทั้งหมดให้ทหารสั่งปิดบัญชีและUSERที่เป็นคนเขมรทั้งหมด,บัญชีคนเขมรที่มีเงินฝากไว้ในไทยอายัดบัญชีคนเขมรทั้งหมด,แต่เฉพาะคนเขมรในไทยสามารถติดต่อขอเปิดตังได้เฉพาะตัวบุคคลและต้องออกจากประเทศไทยไปทุกๆกรณี,โดยมีเจ้านายคนไทยมาค้ำประกันด้วยว่ามิใช่เงินที่มาจากความผิดปกติหรือผิดกฎหมายหรือภัยด้านความมั่นคงก่ออาชญากรรมในประเทศไทยหรือก่อการร้ายสนับสนุนเงินทุนก่อการร้ายในไทย,จึงอายัดบัญชีการโอนเงินไปเขมรทั้งหมดตลอดเงินที่เขมรโอนเข้ามาไทยด้วย,จะระงับพักบัญชีอายัดไว้ที่แบงค์ชาติทุกๆกรณีจะมาในรูปแบบตังคริปโตฯดิจิดัลด้วยก็ตามหรือทรัพย์สินตีมูลค่าเป็นเงินใดๆก็ตาม,ตลอดตังที่โอนจากประเทศไทยไปประเทศอื่นแต่อ้อมเข้าเขมร ซึ่งสามารถตรวจสอบติดตามเรียลไทม์อ้างอิงได้,แบงค์ชาติสามารถปิดบัญชีนั้นๆได้ทันทีพร้อมอายัดเงินทั้งหมดได้ด้วย., ..ทุกๆธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องกับเขมรจะหยุดนิ่งห้ามเคลื่อนไหวออกจากประเทศไทยทั้งหมด,เข้าก็ไม่ได้ ออกไปเขมรยิ่งไม่ได้,ใครอ้อมไปเขมรจะบัญชีใดๆจะถูกอายัดทุกๆธุรกรรมทั้งหมดทันทีในกฎอัยการศึกทางทหารนี้,เขมรและคนเขมรคือภัยคุกคามด้านความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศชาติไทยและความปลอดภัยขั้นสูงสุดแก่ประชาชนคนไทยทุกๆคนและทุกๆกรณี., ..เขมรถ้าตามคลิปนี้จากกูรูแฉออกมาก่อนหน้านี้เป็นอันมาก มีมากมายหลากหลายประเทศที่ตกเป็นเหงื่อและทารุณในประเทศเขมรที่ถูกหลอกลวงล่อลวงเข้าไป,ดังนั้นเขมรไม่ใช่แค่ภัยคุกคามประเทศไทยแต่คือภัยคุกคามของคนอาเชียนของคนเอเชียและของคนทั่วโลกเพราะมีมากมายจากคนทั่วโลกที่ถูกหลอกลวงไปประเทศเขมรโดยทั้งคนเขมรเองและคนชั่วเลวที่อาศัยอยู่เขมร,นั้นคือผู้ปกครองเขมรคือภัยคุกคามร้ายแรงของโลก ละเมิดชีวิตมนุษยชาติบนโลก ไม่เร่งรีบกำจัดคนชั่วในประเทศตนเองที่ปกครอง ปล่อยปะละเลยให้เป็นฮับชั่วก่อสาระพัดเดอะแก๊งประจำประเทศเขมรแล้วปั่นป่วนไปทั่วโลก อาทิแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ไม่น้อยหน้าพม่าแต่อย่างใด,เคสเขมรจึงคือจุดเริ่มต้นในการเริ่มกวาดล้างคนระดับผู้นำที่ปกครองประเทศนั้นๆไปทางชั่วเลวมิให้โลกและคนบนโลกสงบสุขร่วมกันหรืออยู่ร่วมกันอย่างสันติสงบสุขนั้นเอง,ตกประเมินต้องคัดออก. https://youtu.be/Y1ZmMbCYwpc?si=3eCvJkaa8GVpKPG7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 487 มุมมอง 0 รีวิว
  • DSI จับพ่อค้าส้มตำเปิดบัญชีม้า รับโอนเงินเว็บพนันกว่า 5 ล้าน
    https://www.thai-tai.tv/news/19220/
    DSI จับพ่อค้าส้มตำเปิดบัญชีม้า รับโอนเงินเว็บพนันกว่า 5 ล้าน https://www.thai-tai.tv/news/19220/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้ยกเลิกคดีฟ้องร้อง Binance ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการตัดสินใจนี้สะท้อนถึงแนวทางใหม่ของ SEC ต่ออุตสาหกรรมคริปโตภายใต้การบริหารของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

    Binance เคยถูกกล่าวหาว่า เพิ่มปริมาณการซื้อขายโดยไม่โปร่งใส, โอนเงินลูกค้าไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแก่นักลงทุน อย่างไรก็ตาม การยกเลิกคดีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้ง Binance รับโทษจำคุก 4 เดือน จากคดีฟอกเงิน และ Binance ยอมจ่ายค่าปรับ 4.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

    นอกจากนี้ SEC ยังเคยยกเลิกคดีฟ้องร้อง Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่า Coinbase จัดการซื้อขายโทเคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนเป็นหลักทรัพย์

    ข้อมูลจากข่าว
    - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้อง Binance โดยระบุว่าเป็นการตัดสินใจเชิงนโยบาย
    - Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้ง Binance รับโทษจำคุก 4 เดือน จากคดีฟอกเงิน
    - Binance จ่ายค่าปรับ 4.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อยุติคดีอาญา
    - SEC เคยยกเลิกคดีฟ้องร้อง Coinbase ซึ่งถูกกล่าวหาว่าจัดการซื้อขายโทเคนที่ไม่ได้ลงทะเบียน

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การยกเลิกคดีไม่ได้หมายความว่า Binance ไม่มีความผิด แต่เป็นการตัดสินใจเชิงนโยบายของ SEC
    - นักลงทุนควรติดตามแนวทางใหม่ของ SEC ต่ออุตสาหกรรมคริปโตภายใต้การบริหารของทรัมป์
    - Binance ยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านกฎระเบียบในประเทศอื่น ๆ
    - ตลาดคริปโตยังคงมีความเสี่ยงสูง และนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

    การยกเลิกคดี Binance ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต และอาจส่งผลต่อแนวทางการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/us-sec-voluntarily-dismisses-lawsuit-against-binance
    คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้ยกเลิกคดีฟ้องร้อง Binance ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการตัดสินใจนี้สะท้อนถึงแนวทางใหม่ของ SEC ต่ออุตสาหกรรมคริปโตภายใต้การบริหารของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ Binance เคยถูกกล่าวหาว่า เพิ่มปริมาณการซื้อขายโดยไม่โปร่งใส, โอนเงินลูกค้าไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแก่นักลงทุน อย่างไรก็ตาม การยกเลิกคดีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้ง Binance รับโทษจำคุก 4 เดือน จากคดีฟอกเงิน และ Binance ยอมจ่ายค่าปรับ 4.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ SEC ยังเคยยกเลิกคดีฟ้องร้อง Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่า Coinbase จัดการซื้อขายโทเคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนเป็นหลักทรัพย์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้อง Binance โดยระบุว่าเป็นการตัดสินใจเชิงนโยบาย - Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้ง Binance รับโทษจำคุก 4 เดือน จากคดีฟอกเงิน - Binance จ่ายค่าปรับ 4.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อยุติคดีอาญา - SEC เคยยกเลิกคดีฟ้องร้อง Coinbase ซึ่งถูกกล่าวหาว่าจัดการซื้อขายโทเคนที่ไม่ได้ลงทะเบียน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การยกเลิกคดีไม่ได้หมายความว่า Binance ไม่มีความผิด แต่เป็นการตัดสินใจเชิงนโยบายของ SEC - นักลงทุนควรติดตามแนวทางใหม่ของ SEC ต่ออุตสาหกรรมคริปโตภายใต้การบริหารของทรัมป์ - Binance ยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านกฎระเบียบในประเทศอื่น ๆ - ตลาดคริปโตยังคงมีความเสี่ยงสูง และนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน การยกเลิกคดี Binance ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต และอาจส่งผลต่อแนวทางการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/us-sec-voluntarily-dismisses-lawsuit-against-binance
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US SEC dismisses lawsuit against Binance crypto exchange
    (Reuters) -The U.S. Securities and Exchange Commission on Thursday voluntarily dismissed its civil lawsuit against Binance, the world's largest cryptocurrency exchange, extending the regulator's new approach to cryptocurrencies since President Donald Trump reentered the White House.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 377 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระวัง! มิจฉาชีพใช้ Booking.com หลอกขโมยข้อมูลบัตรเครดิต

    นักท่องเที่ยวที่ใช้ Booking.com อาจตกเป็นเป้าหมายของกลโกงใหม่ที่ใช้ ระบบแชทของแพลตฟอร์ม เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิต โดยมิจฉาชีพ แฮ็กบัญชีของโรงแรมและที่พัก แล้วส่งข้อความแจ้งว่า การจองยังไม่สมบูรณ์และต้องยืนยันการชำระเงิน

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกลโกง Booking.com
    มิจฉาชีพใช้บัญชีของโรงแรมจริงเพื่อส่งข้อความหลอกลวงผ่านระบบแชทของ Booking.com
    - ทำให้ ผู้ใช้เชื่อว่าเป็นข้อความจากที่พักจริง

    ข้อความแจ้งว่า "การจองยังไม่สมบูรณ์" และต้องยืนยันการชำระเงิน
    - หากผู้ใช้กดลิงก์ จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบ Booking.com

    เมื่อกรอกข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลจะถูกขโมยทันที
    - มิจฉาชีพ สามารถนำข้อมูลไปใช้ซื้อสินค้าออนไลน์หรือถอนเงินจากบัญชี

    Booking.com แนะนำให้ตรวจสอบเงื่อนไขการชำระเงินในหน้ารายละเอียดที่พัก
    - หากมีข้อสงสัย ควรติดต่อโรงแรมโดยตรงทางโทรศัพท์

    นอกจากกลโกงการยืนยันการจอง ยังมีมิจฉาชีพที่สร้างรายการที่พักปลอม
    - เสนอราคาถูกผิดปกติ และขอให้ผู้ใช้โอนเงินผ่าน WhatsApp หรืออีเมล

    Booking.com ใช้มาตรการตรวจจับการฉ้อโกงและบล็อกการจองปลอมกว่า 1.5 ล้านครั้งในปี 2023
    - ในปี 2024 จำนวนการฉ้อโกงลดลงเหลือ 250,000 ครั้ง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/26/bookingcom-scams-watch-for-these-fake-emails-targeting-users
    ระวัง! มิจฉาชีพใช้ Booking.com หลอกขโมยข้อมูลบัตรเครดิต นักท่องเที่ยวที่ใช้ Booking.com อาจตกเป็นเป้าหมายของกลโกงใหม่ที่ใช้ ระบบแชทของแพลตฟอร์ม เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิต โดยมิจฉาชีพ แฮ็กบัญชีของโรงแรมและที่พัก แล้วส่งข้อความแจ้งว่า การจองยังไม่สมบูรณ์และต้องยืนยันการชำระเงิน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกลโกง Booking.com ✅ มิจฉาชีพใช้บัญชีของโรงแรมจริงเพื่อส่งข้อความหลอกลวงผ่านระบบแชทของ Booking.com - ทำให้ ผู้ใช้เชื่อว่าเป็นข้อความจากที่พักจริง ✅ ข้อความแจ้งว่า "การจองยังไม่สมบูรณ์" และต้องยืนยันการชำระเงิน - หากผู้ใช้กดลิงก์ จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบ Booking.com ✅ เมื่อกรอกข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลจะถูกขโมยทันที - มิจฉาชีพ สามารถนำข้อมูลไปใช้ซื้อสินค้าออนไลน์หรือถอนเงินจากบัญชี ✅ Booking.com แนะนำให้ตรวจสอบเงื่อนไขการชำระเงินในหน้ารายละเอียดที่พัก - หากมีข้อสงสัย ควรติดต่อโรงแรมโดยตรงทางโทรศัพท์ ✅ นอกจากกลโกงการยืนยันการจอง ยังมีมิจฉาชีพที่สร้างรายการที่พักปลอม - เสนอราคาถูกผิดปกติ และขอให้ผู้ใช้โอนเงินผ่าน WhatsApp หรืออีเมล ✅ Booking.com ใช้มาตรการตรวจจับการฉ้อโกงและบล็อกการจองปลอมกว่า 1.5 ล้านครั้งในปี 2023 - ในปี 2024 จำนวนการฉ้อโกงลดลงเหลือ 250,000 ครั้ง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/26/bookingcom-scams-watch-for-these-fake-emails-targeting-users
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Booking.com scams: Watch for these fake emails targeting users
    What's particularly perfidious is that, according to consumer protection website Watchlist Internet, contact is often made not via email or text message, but using the chat feature on Booking.com – the official communication channel between accommodation and guest.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 412 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชายชาวสหรัฐฯ สูญเงินกว่า 200,000 ดอลลาร์ หลังถูกหลอกผ่าน Instagram

    ชายคนหนึ่งในเมือง Trenton สหรัฐฯ ถูกหลอกให้โอนเงินกว่า 200,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 850,099 บาท) หลังจากกดไลก์รูปของ Angelina Jolie บน Instagram โดยเขาเชื่อว่า กำลังพูดคุยกับนักแสดงชื่อดังผ่านข้อความ แต่แท้จริงแล้ว เป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้กลยุทธ์หลอกลวงทางออนไลน์

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกลโกงนี้
    เหยื่อเริ่มพูดคุยกับมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็น Angelina Jolie ตั้งแต่เดือนกันยายน 2023
    - มิจฉาชีพ แนะนำให้เขาลงทุนใน Bitcoin โดยอ้างว่ามีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถช่วยได้

    เหยื่อซื้อบัตร Apple Gift Card และส่งรูปให้มิจฉาชีพ รวมมูลค่ากว่า 150,000 ดอลลาร์
    - มิจฉาชีพ ใช้ข้ออ้างต่าง ๆ เพื่อให้เหยื่อโอนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

    เมื่อเหยื่อเริ่มสงสัยว่าถูกหลอก เขาติดต่อบุคคลที่อ้างว่าเป็นนักข่าวเพื่อขอความช่วยเหลือ
    - นักข่าวปลอม แนะนำให้เขาติดต่อทนายความ ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นมิจฉาชีพอีกคนหนึ่ง

    ทนายความปลอมส่งรูปตัวเองพร้อมใบขับขี่เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
    - จากนั้น เรียกร้องให้เหยื่อจ่ายค่าบริการเป็น Bitcoin และออกใบเสร็จปลอม

    เหยื่อพบว่ามีการพยายามถอนเงิน 31,000 ดอลลาร์จากบัญชีของเขา
    - เขาสามารถ ยับยั้งการทำธุรกรรมได้ทัน และยื่นเรื่องร้องเรียนกับธนาคาร

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/24/man-taken-for-us200000-after-liking-instagram-picture-of-angelina-jolie
    ชายชาวสหรัฐฯ สูญเงินกว่า 200,000 ดอลลาร์ หลังถูกหลอกผ่าน Instagram ชายคนหนึ่งในเมือง Trenton สหรัฐฯ ถูกหลอกให้โอนเงินกว่า 200,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 850,099 บาท) หลังจากกดไลก์รูปของ Angelina Jolie บน Instagram โดยเขาเชื่อว่า กำลังพูดคุยกับนักแสดงชื่อดังผ่านข้อความ แต่แท้จริงแล้ว เป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้กลยุทธ์หลอกลวงทางออนไลน์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกลโกงนี้ ✅ เหยื่อเริ่มพูดคุยกับมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็น Angelina Jolie ตั้งแต่เดือนกันยายน 2023 - มิจฉาชีพ แนะนำให้เขาลงทุนใน Bitcoin โดยอ้างว่ามีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถช่วยได้ ✅ เหยื่อซื้อบัตร Apple Gift Card และส่งรูปให้มิจฉาชีพ รวมมูลค่ากว่า 150,000 ดอลลาร์ - มิจฉาชีพ ใช้ข้ออ้างต่าง ๆ เพื่อให้เหยื่อโอนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ✅ เมื่อเหยื่อเริ่มสงสัยว่าถูกหลอก เขาติดต่อบุคคลที่อ้างว่าเป็นนักข่าวเพื่อขอความช่วยเหลือ - นักข่าวปลอม แนะนำให้เขาติดต่อทนายความ ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นมิจฉาชีพอีกคนหนึ่ง ✅ ทนายความปลอมส่งรูปตัวเองพร้อมใบขับขี่เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ - จากนั้น เรียกร้องให้เหยื่อจ่ายค่าบริการเป็น Bitcoin และออกใบเสร็จปลอม ✅ เหยื่อพบว่ามีการพยายามถอนเงิน 31,000 ดอลลาร์จากบัญชีของเขา - เขาสามารถ ยับยั้งการทำธุรกรรมได้ทัน และยื่นเรื่องร้องเรียนกับธนาคาร https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/24/man-taken-for-us200000-after-liking-instagram-picture-of-angelina-jolie
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Man taken for US$200,000 after liking Instagram picture of Angelina Jolie
    According to a police report, the man first conversed via text message with a woman he thought was Jolie back in September 2023.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts