• อี้ แทนคุณ ยื่นสภา สอบจริยธรรม สส.มะขิ่นแก้วตา เคสสูบบุรุษภาพหลี่ เป็นสส.แต่ไม่เคารพกฎหมาย รู้ว่าบุหรี่ไฟฟี้ผิดกฎหมายก็ยังทำ เหมือนตอนแก้วตาสูบบุรุษตั้งแต่อายุ18
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    อี้ แทนคุณ ยื่นสภา สอบจริยธรรม สส.มะขิ่นแก้วตา เคสสูบบุรุษภาพหลี่ เป็นสส.แต่ไม่เคารพกฎหมาย รู้ว่าบุหรี่ไฟฟี้ผิดกฎหมายก็ยังทำ เหมือนตอนแก้วตาสูบบุรุษตั้งแต่อายุ18 #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • การตอบแทนบุญคุณพระพุทธเจ้า

    พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า การตอบแทนบุญคุณของพระองค์ที่สมบูรณ์ที่สุดคือการ ปฏิบัติธรรมเป็นบูชา เพราะพระองค์ทรงมุ่งหมายให้สัตว์โลกหลุดพ้นจากความทุกข์ และการปฏิบัติธรรมคือหนทางที่นำไปสู่จุดมุ่งหมายนี้โดยตรง


    ---

    วิธีปฏิบัติธรรมเป็นบูชา

    1. เริ่มต้นด้วยการทำจิตดีๆ ให้เกิดขึ้น

    ด้วยทาน: เปิดใจด้วยการแบ่งปัน ช่วยเหลือผู้อื่น

    ด้วยศีล: รักษาความประพฤติของตนให้สะอาดบริสุทธิ์

    ด้วยสมาธิและสติ: ฝึกเจริญสติ รู้กายรู้ใจจนกระจ่างในความไม่เที่ยง



    2. การถวายจิตดีๆ เป็นบูชา

    หากสามารถทำจิตให้สงบและเบาสบายได้แม้เพียงชั่วครู่ ก็น้อมนำจิตดีๆ นั้นถวายแทนการบูชา

    การปฏิบัติที่นำไปสู่ความหลุดพ้นจากความทุกข์ของตัวเรา คือสิ่งที่ทำให้พระพุทธเจ้าทรงพอพระทัยที่สุด





    ---

    ทางเลือกสำหรับผู้เริ่มต้น

    หากยังไม่สามารถปฏิบัติธรรมได้ลึกซึ้งนัก ก็สามารถแสดงความกตัญญูต่อพระพุทธเจ้าได้ด้วยการ:

    นำรูปหรือพระพุทธรูปมาบูชา เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจในการปฏิบัติดี

    ทำบุญ ถวายทาน หรือร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา

    ศึกษาและเผยแผ่คำสอนของพระองค์



    ---

    การตอบแทนคุณครูบาอาจารย์

    ปฏิบัติตามคำสอน: งดเว้นจากสิ่งไม่ดีและลงมือปฏิบัติธรรม

    เผยแผ่คำสอน: ช่วยสืบทอดคำสอนของท่านให้กว้างไกล

    เคารพและระลึกถึงท่าน: ด้วยการประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี



    ---

    สรุป

    การตอบแทนบุญคุณพระพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์เริ่มต้นได้จากใจจริง ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ขอเพียงมีความตั้งใจจริง และลงมือทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทุกการกระทำที่ดีงาม ล้วนถือเป็นการตอบแทนคุณอันสมบูรณ์แล้ว.

    การตอบแทนบุญคุณพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า การตอบแทนบุญคุณของพระองค์ที่สมบูรณ์ที่สุดคือการ ปฏิบัติธรรมเป็นบูชา เพราะพระองค์ทรงมุ่งหมายให้สัตว์โลกหลุดพ้นจากความทุกข์ และการปฏิบัติธรรมคือหนทางที่นำไปสู่จุดมุ่งหมายนี้โดยตรง --- วิธีปฏิบัติธรรมเป็นบูชา 1. เริ่มต้นด้วยการทำจิตดีๆ ให้เกิดขึ้น ด้วยทาน: เปิดใจด้วยการแบ่งปัน ช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยศีล: รักษาความประพฤติของตนให้สะอาดบริสุทธิ์ ด้วยสมาธิและสติ: ฝึกเจริญสติ รู้กายรู้ใจจนกระจ่างในความไม่เที่ยง 2. การถวายจิตดีๆ เป็นบูชา หากสามารถทำจิตให้สงบและเบาสบายได้แม้เพียงชั่วครู่ ก็น้อมนำจิตดีๆ นั้นถวายแทนการบูชา การปฏิบัติที่นำไปสู่ความหลุดพ้นจากความทุกข์ของตัวเรา คือสิ่งที่ทำให้พระพุทธเจ้าทรงพอพระทัยที่สุด --- ทางเลือกสำหรับผู้เริ่มต้น หากยังไม่สามารถปฏิบัติธรรมได้ลึกซึ้งนัก ก็สามารถแสดงความกตัญญูต่อพระพุทธเจ้าได้ด้วยการ: นำรูปหรือพระพุทธรูปมาบูชา เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจในการปฏิบัติดี ทำบุญ ถวายทาน หรือร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา ศึกษาและเผยแผ่คำสอนของพระองค์ --- การตอบแทนคุณครูบาอาจารย์ ปฏิบัติตามคำสอน: งดเว้นจากสิ่งไม่ดีและลงมือปฏิบัติธรรม เผยแผ่คำสอน: ช่วยสืบทอดคำสอนของท่านให้กว้างไกล เคารพและระลึกถึงท่าน: ด้วยการประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี --- สรุป การตอบแทนบุญคุณพระพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์เริ่มต้นได้จากใจจริง ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ขอเพียงมีความตั้งใจจริง และลงมือทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทุกการกระทำที่ดีงาม ล้วนถือเป็นการตอบแทนคุณอันสมบูรณ์แล้ว.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • การหลุดพ้นจากบ่วงกรรมในครอบครัว

    1. รู้คุณท่าน (กตัญญู)

    เริ่มต้นจากการพิจารณาความจริง:

    พ่อแม่ให้ชีวิต ให้ร่างกายนี้แก่เรา ซึ่งเป็นพื้นฐานของโอกาสทั้งหมดในชีวิต

    หากขาดบุญคุณนี้ คุณจะไม่มีโอกาสรับรู้หรือสัมผัสความสว่างทางธรรม

    ให้อภัยในความผิดพลาดของพ่อแม่:

    เห็นว่าท่านก็เป็นมนุษย์ธรรมดาที่อาจผิดพลาดได้

    เลิกผูกพยาบาท เพราะการให้อภัยคือการปลดล็อกใจของตัวเอง

    ---

    2. สนองคุณท่าน (กตเวที)

    ทำให้พ่อแม่มีความสุข:

    ทั้งด้วยคำพูด การดูแลเอาใจใส่ และการกระทำที่แสดงถึงความรักและเคารพ

    นำพาท่านสู่ความดี:

    สนับสนุนให้พ่อแม่มีศรัทธาในสิ่งที่ถูกต้อง เช่น พระพุทธเจ้า กรรมวิบาก

    ช่วยให้พวกท่านรักษาศีล และละเว้นจากการกระทำที่ผิด

    ทำให้พ่อแม่พ้นจากความมืดบอดทางจิตใจ ไปสู่ปัญญาและความสว่าง

    ---

    3. วิธีปฏิบัติในทางธรรม

    เริ่มจากสิ่งเล็กๆ:

    ช่วยเหลือในชีวิตประจำวัน

    แผ่เมตตาให้พ่อแม่ มีความปรารถนาดีต่อพวกท่านเสมอ

    สื่อสารผ่านธรรมะ:

    วางหนังสือธรรมะ หรือสื่อที่พวกท่านสนใจ เพื่อเปิดโอกาสให้พ่อแม่เข้าถึงธรรมะ

    ใช้คำพูดที่อ่อนโยนและสร้างแรงบันดาลใจ

    ---

    4. ผลลัพธ์ของการปฏิบัติ

    เกิดความเบาสบายในจิตใจ:

    เมื่อรู้คุณและตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่ จะรู้สึกเหมือนปลดบ่วงบางอย่างออกไป

    ปลูกแนวโน้มแห่งความสว่างในชีวิต:

    การทำกรรมดีต่อพ่อแม่ คือการสร้างเหตุให้ชีวิตพบเจอสิ่งดีๆ

    พ้นจากแรงดึงดูดของกรรมเดิม:

    เมื่อเราทำดีต่อพ่อแม่อย่างจริงใจ กรรมที่เป็นบ่วงรัดกับพวกท่านจะค่อยๆ คลายลง

    ---

    สรุป

    การหลุดพ้นจากแรงกรรมในครอบครัว ไม่ได้หมายความว่าต้องเปลี่ยนแปลงพ่อแม่โดยทันที แต่คือการเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการรู้คุณ และตอบแทนคุณอย่างเต็มที่ การให้อภัยและการพยายามนำพาท่านสู่สิ่งที่ดี คือหนทางที่ช่วยให้เราหลุดพ้นจากบ่วงกรรมได้ทั้งในชาตินี้และภายภาคหน้า.
    การหลุดพ้นจากบ่วงกรรมในครอบครัว 1. รู้คุณท่าน (กตัญญู) เริ่มต้นจากการพิจารณาความจริง: พ่อแม่ให้ชีวิต ให้ร่างกายนี้แก่เรา ซึ่งเป็นพื้นฐานของโอกาสทั้งหมดในชีวิต หากขาดบุญคุณนี้ คุณจะไม่มีโอกาสรับรู้หรือสัมผัสความสว่างทางธรรม ให้อภัยในความผิดพลาดของพ่อแม่: เห็นว่าท่านก็เป็นมนุษย์ธรรมดาที่อาจผิดพลาดได้ เลิกผูกพยาบาท เพราะการให้อภัยคือการปลดล็อกใจของตัวเอง --- 2. สนองคุณท่าน (กตเวที) ทำให้พ่อแม่มีความสุข: ทั้งด้วยคำพูด การดูแลเอาใจใส่ และการกระทำที่แสดงถึงความรักและเคารพ นำพาท่านสู่ความดี: สนับสนุนให้พ่อแม่มีศรัทธาในสิ่งที่ถูกต้อง เช่น พระพุทธเจ้า กรรมวิบาก ช่วยให้พวกท่านรักษาศีล และละเว้นจากการกระทำที่ผิด ทำให้พ่อแม่พ้นจากความมืดบอดทางจิตใจ ไปสู่ปัญญาและความสว่าง --- 3. วิธีปฏิบัติในทางธรรม เริ่มจากสิ่งเล็กๆ: ช่วยเหลือในชีวิตประจำวัน แผ่เมตตาให้พ่อแม่ มีความปรารถนาดีต่อพวกท่านเสมอ สื่อสารผ่านธรรมะ: วางหนังสือธรรมะ หรือสื่อที่พวกท่านสนใจ เพื่อเปิดโอกาสให้พ่อแม่เข้าถึงธรรมะ ใช้คำพูดที่อ่อนโยนและสร้างแรงบันดาลใจ --- 4. ผลลัพธ์ของการปฏิบัติ เกิดความเบาสบายในจิตใจ: เมื่อรู้คุณและตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่ จะรู้สึกเหมือนปลดบ่วงบางอย่างออกไป ปลูกแนวโน้มแห่งความสว่างในชีวิต: การทำกรรมดีต่อพ่อแม่ คือการสร้างเหตุให้ชีวิตพบเจอสิ่งดีๆ พ้นจากแรงดึงดูดของกรรมเดิม: เมื่อเราทำดีต่อพ่อแม่อย่างจริงใจ กรรมที่เป็นบ่วงรัดกับพวกท่านจะค่อยๆ คลายลง --- สรุป การหลุดพ้นจากแรงกรรมในครอบครัว ไม่ได้หมายความว่าต้องเปลี่ยนแปลงพ่อแม่โดยทันที แต่คือการเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการรู้คุณ และตอบแทนคุณอย่างเต็มที่ การให้อภัยและการพยายามนำพาท่านสู่สิ่งที่ดี คือหนทางที่ช่วยให้เราหลุดพ้นจากบ่วงกรรมได้ทั้งในชาตินี้และภายภาคหน้า.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • #รวมคำสอนผิด คน…ธรรม (จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด...)

    1. พระอรหันต์ฆ่าตัวตาย ทำการุณยฆาต❌
    ที่ถูกคือ>> พระอรหันต์ไม่ฆ่าตัวตาย
    สมดังคำที่พระสารีบุตรกล่าวว่า
    เราไม่ยินดีความตาย
    ไม่ปรารถนาความเป็น
    แต่เรารอเวลาแตกดับ (ปรินิพพาน)
    เหมือนลูกจ้างรอค่าจ้างฉะนั้น.
    และการุณยฆาตไม่ใช่การฆ่าตัวเอง

    2. พระพุทธเจ้าไม่เคยใช้กุศโลบาย❌
    ที่ถูกคือ>> พระพุทธเจ้าเป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ด้วยอุบายเครื่องแนะนำอย่างวิจิตร มีอาฬวกยักษ์เป็นต้น. แม้คำสอนทั้งหมดก็มีอุบายสอน เช่นอุบายเครื่องสงบจิต.

    3. พุทธคุณในพระเครื่องไม่มี❌
    ที่ถูกคือ>> พุทธคุณในพระเครื่องมีทั้งมีและไม่มี ที่มีเพราะเหตุปัจจัยถึงพร้อม คือ ผู้สวดพระปริตรมีศีล ไม่มีความโลภอยากได้ลาภสักการะ สวดด้วยความอนุเคราะห์ ด้วยศรัทธา บาลีไม่ผิดเพี้ยน ย่อมมีอานุภาพ/ ส่วนที่ไม่มีอานุภาพก็ตรงกันข้ามกัน (ตัวอย่างตั่ง(ที่นั่ง)ที่พระองคุลิมาลนั่งทำสัจกิริยา ก็มีอานุภาพตลอดกัป)

    4. พระปริตรป้องกันภัยไม่ได้
    พระปริตรขัดกับหลักกรรมและสุขทุกข์ไม่มีใครบันดาล❌
    ที่ถูกคือ >> กรรมและสุขทุกข์ไม่มีใครบันดาลนั้นหมายความว่า “สุขทุกข์ไม่ได้เกิดจากพระผู้สร้าง เช่นพระอิศวรนิรมิต” / พระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธพระผู้สร้าง เพราะศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งเหตุและปัจจัย ไม่ได้เกิดขึ้นเองลอยๆหรือใครบันดาล >> พระปริตรเป็นกุศลกรรม ไม่ใช่ใครบันดาล แต่เกิดจากกรรมในปัจจุบัน ที่บุคคลนั้นได้กล่าวสัจจกิริยา หรือ สวดพระปริตร ซึ่งเป็นกุศลที่ให้ผลในปัจจุบัน ตามหลักแห่งกรรม เป็น ทิฐธรรมเวทนียกรรม
    >> และพระปริตรก็มีเหตุปัจจัยอื่นเป็นตัวแปรที่ให้ผลไม่ได้ทุกคน จึงแทนโรงพยาบาลไม่ได้ แต่ผู้มีศรัทธา ไม่ทำกรรมหนัก ไม่สวดด้วยกิเลส และยังไม่หมดอายุขัย พระปริตรย่อมช่วยได้.

    5. สร้างศาลาใหญ่ไว้ให้หมานอนเกาขี้กาก❌ ที่ถูกคือ ทำบุญในศาสนาของพระพุทธเจ้าผู้มีคุณหาประมาณมิได้ ไม่ควรกำหนดว่าเท่านั้นเท่านี้ มีตัวอย่างพระลกุณฏกะ ในอดีตท่านแนะนำชาวบ้านให้สร้างเจดีย์จากใหญ่ให้เหลือเล็กลง ด้วยวิบากกรรมนั้นท่านจึงเกิดมาตัวเล็กเตี้ยเหมือนสามเณร

    6. บวชพระ, บวชตามประเพณี, บวชหน้าไฟ ไม่เป็นการทดแทนบุญคุณพ่อแม่❌ ที่ถูกคือ>> การบวชแม้ไม่ใช่การทดแทนคุณพ่อแม่สูงสุด แต่ก็เป็นการทดแทนคุณได้ เพราะการบวชทำให้พ่อแม่เกิดกุศลจิต พ่อแม่ได้ทำบุญใส่บาตรพระลูกชายเป็นต้น การทำให้พ่อแม่เกิดกุศลจิตได้ เป็นการทดแทนคุณอย่างหนึ่ง

    7. สัมภเวสี คือช่วงรออัตภาพการเกิด คือเวลาที่กายแตกตายแต่สี่ขันธ์ยังยึดรูปอยู่ยังรู้อยู่เรียกช่วงนี้ว่าสัมภเวสี❌ ที่ถูกคือ >> สัมภเวสี คือ ผู้ที่แสวงหาที่เกิด, ผู้ที่ยังต้องเกิด คือ พระเสขะและปุถุชน ยกเว้นพระอรหันต์ เพราะยังละภวสังโยชน์ยังไม่ได้.
    👉 สัมภเวสี ตามนัยแห่งกำเนิด 4 คือ
    1. เกิดในไข่ (ขณะอยู่ในไข่ เรียกสัมภเวสี ออกจากไข่ได้แล้วเรียกว่าภูต คือเกิดแล้ว)
    2. เกิดในครรภ์ (ขณะอยู่ในรก เรียกสัมภเวสี คลอดออกมาแล้วเรียกว่าภูต คือเกิดแล้ว)
    3. เกิดในเถ้าไคล และ 4. เกิดแบบผุดเกิด
    (ขณะแห่งปฐมจิต เรียกสัมภเวสี
    ขณะแห่งจิตดวงที่สอง ชื่อว่าภูต คือเกิดแล้ว)
    มาใน : อรรถกถาเมตตสูตร

    8. อมตะธาตุยึดขันธ์ห้า❌
    ที่ถูกคือ>> อมตะธาตุยึดขันธ์๕ไม่ได้
    เพราะอมตะธาตุคือนิพพาน

    9. โสดาปัตติมรรค ละสังโยชน์ข้อแรก
    โสดาปัตติผล ละสังโยชน์อีกสองข้อ❌
    ที่ถูกคือ>> โสดาปัตติมัคคจิต เป็นจิตที่ประหาณจิตโลภที่เป็นทิฏฐิสัมปยุตต ๔ ดวง และโมหมูลจิตที่เป็นวิจิกิจฉาสัมปยุตต ๑ ดวง อย่างเด็ดขาด เป็นสมุจเฉทประหาณ รวมประหาณ อกุศลจิต ๕ ดวง เด็ดขาด /โสดาปัตติผลจิต เป็นจิตที่เกิดขึ้นเพื่อเสวยสุขจากการที่โสดาปัตติมรรคญาณได้ทำการประหาณแล้ว

    10. ลอยกระทง ไปขอขมาทำไมแม่น้ำ ไปทะเลาะกับแม่น้ำเหรอจึงต้องขอขมา / วันลอยกระทงตามหลักคำสอนพระพุทธเจ้าคือวันดอกโกมุทบาน❌
    ที่ถูกคือ>> การรู้คุณแม่น้ำถือว่าเป็นผู้รู้คุณในสรรพสิ่ง สมดังคำที่พระองค์ตรัสว่า "บุคคลนั่งหรือนอนที่ร่มเงาของต้นไม้ใด ไม่พึงหักรานกิ่งของต้นไม้นั้น เพราะผู้ประทุษร้ายมิตรเป็นคนเลวทราม" ดังนั้นสิ่งที่มีอุปการะแก่ชีวิตเราล้วนมีคุณเพียงแค่เราจะเห็นคุณนั้นหรือไม่ ส่วนน้ำนั้นคนโบราณเห็นว่าใช้น้ำมาทั้งปี ทำไร่ ทำนา ใช้ชำระกายทั้งดื่มกิน เขาก็ระลึกรู้คุณเป็นพิเศษ ก็ถือได้ว่าเขาเป็นคนดีเลยทีเดียว
    / และวันลอยกระทงตามหลักคำสอนพระพุทธเจ้าคือวันดอกโกมุทบาน❌ ไม่ควรกล่าวอ้างอย่างนั้น เพราะดอกโกมุทบานเป็นเพียงคำขยายของพระจันทร์ เพราะวันนั้นเป็นวันพระจันทร์เต็มดวงในฤดูฝน ดอกโกมุทบานก็บานทั้งฤดูอยู่แล้ว ดอกโกมุทบานเป็นเพียงผู้ร่วมงาน ประธานคือพระจันทร์เต็มดวง ดังนั้นจึงไม่ควรเอาแขกร่วมงานมาตั้งชื้อวัน

    11. ใครแย้งว่าสอนผิด จะอ้างว่าเขาอิจฉาริษยา❌
    ที่ถูกคือ>> ผู้ชี้โทษ ไม่ใช่เพราะอิจฉาริษยา แต่เป็นการติเตียนตามธรรม เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้ใครมาบิดเบือน / ทราบว่าที่คุณพูดเอามาจากสักกปัญหาสูตร
    ท้าวสักกะได้ทูลถามพระพุทธเจ้าว่า “ทำไมสัตว์ทั้งหลายมีความปรารถนาไม่มีเวร ไม่ถูกเบียดเบียนฯลฯ แต่เพราะอะไรพวกเขาจึงยังคงมีเวร ถูกเบียดเบียนอยู่”
    พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ”เพราะมีอิสสา(ความริษยา) และมัจฉริยะ(ความตระหนี่) สัตว์ทั้งหลายจึงจองเวรกัน เบียดเบียนกัน ซึ่งท่านใช้สูตรนี้มาสอนลูกศิษย์ และลูกศิษย์ก็เที่ยวไปว่าคนเห็นต่างว่าอิจฉาริษยาอาจารย์เขา /ทำไมคุณไม่ใช้สูตรผู้ชี้โทษคือผู้ชี้ขุมทรัพย์มาสอน.

    ✍️ที่สอนถูกก็มี ผิดก็ควรแก้ไข
    หวังว่าท่านจะระวังในการสอนมากขึ้น

    #แค่ผ่านตา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องชี้แจง
    >> ผู้เขียน : โลก กะ ธรรม กับม่อน

    Credit : เปรมวดี ก๋งชิน
    #รวมคำสอนผิด คน…ธรรม (จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด...) 1. พระอรหันต์ฆ่าตัวตาย ทำการุณยฆาต❌ ที่ถูกคือ>> พระอรหันต์ไม่ฆ่าตัวตาย สมดังคำที่พระสารีบุตรกล่าวว่า เราไม่ยินดีความตาย ไม่ปรารถนาความเป็น แต่เรารอเวลาแตกดับ (ปรินิพพาน) เหมือนลูกจ้างรอค่าจ้างฉะนั้น. และการุณยฆาตไม่ใช่การฆ่าตัวเอง 2. พระพุทธเจ้าไม่เคยใช้กุศโลบาย❌ ที่ถูกคือ>> พระพุทธเจ้าเป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ด้วยอุบายเครื่องแนะนำอย่างวิจิตร มีอาฬวกยักษ์เป็นต้น. แม้คำสอนทั้งหมดก็มีอุบายสอน เช่นอุบายเครื่องสงบจิต. 3. พุทธคุณในพระเครื่องไม่มี❌ ที่ถูกคือ>> พุทธคุณในพระเครื่องมีทั้งมีและไม่มี ที่มีเพราะเหตุปัจจัยถึงพร้อม คือ ผู้สวดพระปริตรมีศีล ไม่มีความโลภอยากได้ลาภสักการะ สวดด้วยความอนุเคราะห์ ด้วยศรัทธา บาลีไม่ผิดเพี้ยน ย่อมมีอานุภาพ/ ส่วนที่ไม่มีอานุภาพก็ตรงกันข้ามกัน (ตัวอย่างตั่ง(ที่นั่ง)ที่พระองคุลิมาลนั่งทำสัจกิริยา ก็มีอานุภาพตลอดกัป) 4. พระปริตรป้องกันภัยไม่ได้ พระปริตรขัดกับหลักกรรมและสุขทุกข์ไม่มีใครบันดาล❌ ที่ถูกคือ >> กรรมและสุขทุกข์ไม่มีใครบันดาลนั้นหมายความว่า “สุขทุกข์ไม่ได้เกิดจากพระผู้สร้าง เช่นพระอิศวรนิรมิต” / พระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธพระผู้สร้าง เพราะศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งเหตุและปัจจัย ไม่ได้เกิดขึ้นเองลอยๆหรือใครบันดาล >> พระปริตรเป็นกุศลกรรม ไม่ใช่ใครบันดาล แต่เกิดจากกรรมในปัจจุบัน ที่บุคคลนั้นได้กล่าวสัจจกิริยา หรือ สวดพระปริตร ซึ่งเป็นกุศลที่ให้ผลในปัจจุบัน ตามหลักแห่งกรรม เป็น ทิฐธรรมเวทนียกรรม >> และพระปริตรก็มีเหตุปัจจัยอื่นเป็นตัวแปรที่ให้ผลไม่ได้ทุกคน จึงแทนโรงพยาบาลไม่ได้ แต่ผู้มีศรัทธา ไม่ทำกรรมหนัก ไม่สวดด้วยกิเลส และยังไม่หมดอายุขัย พระปริตรย่อมช่วยได้. 5. สร้างศาลาใหญ่ไว้ให้หมานอนเกาขี้กาก❌ ที่ถูกคือ ทำบุญในศาสนาของพระพุทธเจ้าผู้มีคุณหาประมาณมิได้ ไม่ควรกำหนดว่าเท่านั้นเท่านี้ มีตัวอย่างพระลกุณฏกะ ในอดีตท่านแนะนำชาวบ้านให้สร้างเจดีย์จากใหญ่ให้เหลือเล็กลง ด้วยวิบากกรรมนั้นท่านจึงเกิดมาตัวเล็กเตี้ยเหมือนสามเณร 6. บวชพระ, บวชตามประเพณี, บวชหน้าไฟ ไม่เป็นการทดแทนบุญคุณพ่อแม่❌ ที่ถูกคือ>> การบวชแม้ไม่ใช่การทดแทนคุณพ่อแม่สูงสุด แต่ก็เป็นการทดแทนคุณได้ เพราะการบวชทำให้พ่อแม่เกิดกุศลจิต พ่อแม่ได้ทำบุญใส่บาตรพระลูกชายเป็นต้น การทำให้พ่อแม่เกิดกุศลจิตได้ เป็นการทดแทนคุณอย่างหนึ่ง 7. สัมภเวสี คือช่วงรออัตภาพการเกิด คือเวลาที่กายแตกตายแต่สี่ขันธ์ยังยึดรูปอยู่ยังรู้อยู่เรียกช่วงนี้ว่าสัมภเวสี❌ ที่ถูกคือ >> สัมภเวสี คือ ผู้ที่แสวงหาที่เกิด, ผู้ที่ยังต้องเกิด คือ พระเสขะและปุถุชน ยกเว้นพระอรหันต์ เพราะยังละภวสังโยชน์ยังไม่ได้. 👉 สัมภเวสี ตามนัยแห่งกำเนิด 4 คือ 1. เกิดในไข่ (ขณะอยู่ในไข่ เรียกสัมภเวสี ออกจากไข่ได้แล้วเรียกว่าภูต คือเกิดแล้ว) 2. เกิดในครรภ์ (ขณะอยู่ในรก เรียกสัมภเวสี คลอดออกมาแล้วเรียกว่าภูต คือเกิดแล้ว) 3. เกิดในเถ้าไคล และ 4. เกิดแบบผุดเกิด (ขณะแห่งปฐมจิต เรียกสัมภเวสี ขณะแห่งจิตดวงที่สอง ชื่อว่าภูต คือเกิดแล้ว) มาใน : อรรถกถาเมตตสูตร 8. อมตะธาตุยึดขันธ์ห้า❌ ที่ถูกคือ>> อมตะธาตุยึดขันธ์๕ไม่ได้ เพราะอมตะธาตุคือนิพพาน 9. โสดาปัตติมรรค ละสังโยชน์ข้อแรก โสดาปัตติผล ละสังโยชน์อีกสองข้อ❌ ที่ถูกคือ>> โสดาปัตติมัคคจิต เป็นจิตที่ประหาณจิตโลภที่เป็นทิฏฐิสัมปยุตต ๔ ดวง และโมหมูลจิตที่เป็นวิจิกิจฉาสัมปยุตต ๑ ดวง อย่างเด็ดขาด เป็นสมุจเฉทประหาณ รวมประหาณ อกุศลจิต ๕ ดวง เด็ดขาด /โสดาปัตติผลจิต เป็นจิตที่เกิดขึ้นเพื่อเสวยสุขจากการที่โสดาปัตติมรรคญาณได้ทำการประหาณแล้ว 10. ลอยกระทง ไปขอขมาทำไมแม่น้ำ ไปทะเลาะกับแม่น้ำเหรอจึงต้องขอขมา / วันลอยกระทงตามหลักคำสอนพระพุทธเจ้าคือวันดอกโกมุทบาน❌ ที่ถูกคือ>> การรู้คุณแม่น้ำถือว่าเป็นผู้รู้คุณในสรรพสิ่ง สมดังคำที่พระองค์ตรัสว่า "บุคคลนั่งหรือนอนที่ร่มเงาของต้นไม้ใด ไม่พึงหักรานกิ่งของต้นไม้นั้น เพราะผู้ประทุษร้ายมิตรเป็นคนเลวทราม" ดังนั้นสิ่งที่มีอุปการะแก่ชีวิตเราล้วนมีคุณเพียงแค่เราจะเห็นคุณนั้นหรือไม่ ส่วนน้ำนั้นคนโบราณเห็นว่าใช้น้ำมาทั้งปี ทำไร่ ทำนา ใช้ชำระกายทั้งดื่มกิน เขาก็ระลึกรู้คุณเป็นพิเศษ ก็ถือได้ว่าเขาเป็นคนดีเลยทีเดียว / และวันลอยกระทงตามหลักคำสอนพระพุทธเจ้าคือวันดอกโกมุทบาน❌ ไม่ควรกล่าวอ้างอย่างนั้น เพราะดอกโกมุทบานเป็นเพียงคำขยายของพระจันทร์ เพราะวันนั้นเป็นวันพระจันทร์เต็มดวงในฤดูฝน ดอกโกมุทบานก็บานทั้งฤดูอยู่แล้ว ดอกโกมุทบานเป็นเพียงผู้ร่วมงาน ประธานคือพระจันทร์เต็มดวง ดังนั้นจึงไม่ควรเอาแขกร่วมงานมาตั้งชื้อวัน 11. ใครแย้งว่าสอนผิด จะอ้างว่าเขาอิจฉาริษยา❌ ที่ถูกคือ>> ผู้ชี้โทษ ไม่ใช่เพราะอิจฉาริษยา แต่เป็นการติเตียนตามธรรม เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้ใครมาบิดเบือน / ทราบว่าที่คุณพูดเอามาจากสักกปัญหาสูตร ท้าวสักกะได้ทูลถามพระพุทธเจ้าว่า “ทำไมสัตว์ทั้งหลายมีความปรารถนาไม่มีเวร ไม่ถูกเบียดเบียนฯลฯ แต่เพราะอะไรพวกเขาจึงยังคงมีเวร ถูกเบียดเบียนอยู่” พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ”เพราะมีอิสสา(ความริษยา) และมัจฉริยะ(ความตระหนี่) สัตว์ทั้งหลายจึงจองเวรกัน เบียดเบียนกัน ซึ่งท่านใช้สูตรนี้มาสอนลูกศิษย์ และลูกศิษย์ก็เที่ยวไปว่าคนเห็นต่างว่าอิจฉาริษยาอาจารย์เขา /ทำไมคุณไม่ใช้สูตรผู้ชี้โทษคือผู้ชี้ขุมทรัพย์มาสอน. ✍️ที่สอนถูกก็มี ผิดก็ควรแก้ไข หวังว่าท่านจะระวังในการสอนมากขึ้น #แค่ผ่านตา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องชี้แจง >> ผู้เขียน : โลก กะ ธรรม กับม่อน Credit : เปรมวดี ก๋งชิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อี้ แทนคุณ"พาเหยื่อร้องสอบสวนกลางรับสำนวนคดี "หมอบุญ" แทนดีเอสไอ จี้เร่งจับกุมหมอมาดำเนินคดี พร้อมตามยึดทรัพย์เฉลี่ยคืนผู้เสียหายโดยเร็ว ยิ่งรอช้าจะตามคืนได้ยาก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122190

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "อี้ แทนคุณ"พาเหยื่อร้องสอบสวนกลางรับสำนวนคดี "หมอบุญ" แทนดีเอสไอ จี้เร่งจับกุมหมอมาดำเนินคดี พร้อมตามยึดทรัพย์เฉลี่ยคืนผู้เสียหายโดยเร็ว ยิ่งรอช้าจะตามคืนได้ยาก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122190 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 848 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้องประธานสภา เกรงคดีหมอบุญไม่ยุติธรรม 16/12/67 #อี้ แทนคุณ #หมอบุญ #คดีฉ้อโกงประชาชน
    ร้องประธานสภา เกรงคดีหมอบุญไม่ยุติธรรม 16/12/67 #อี้ แทนคุณ #หมอบุญ #คดีฉ้อโกงประชาชน
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 681 มุมมอง 44 0 รีวิว
  • สกลนคร-ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร โร่ขึ้นโรงพักสกลนคร แจ้งความชายหนุ่มทำร้ายบีบคอแมว หลังมีปากเสียงกับแฟนหนุ่ม ทำประชดบีบคอทุ่มแมวลงพื้น พร้อมอายัดแมวทั้ง 3 ตัวไว้ที่คลินิกรักษาสัตว์จนกว่าคดีความจะสิ้นสุด

    จากกรณีเหตุน้องแมว 3 ตัว ถูกชายหนุ่มทำร้าย ด้วยการบีบคอทุ่มลงพื้นอย่างแรง เหตุสองหนุ่มที่เป็นแฟนกันแล้วเกิดหึงหวง ลุกลามถึงทะเลาะวิวาท ถึงขั้นที่อีกฝ่ายบีบคอแมวที่เลี้ยงไว้ทั้ง 3 ตัว อ้างทำไปเพื่อประชดแฟนหนุ่ม เหตุเกิดที่อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร

    ล่าสุดวันนี้ ( 12 ธ.ค.) นายสัตวแพทย์สายฝน วงษาทุม ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์วิสุทธิ์ เอื้อกิ่งเพชร หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ ได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองสกลนคร เพื่อแจ้งความในข้อกล่าวหา “ทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร” กับนายแทนคุณ พลกุล และเดินทางต่อไปยังบ้านอุ่นใจรักษาสัตว์ หรือโรงพยาบาลสัตว์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่นายแทนคุณนำแมวทั้ง 3 ตัว คือดัมมี่ ชาร์โคล เต้าหู้ มาตรวจสุขภาพ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000119471

    #MGROnline #สกลนคร #ทำร้าย #บีบคอแมว
    สกลนคร-ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร โร่ขึ้นโรงพักสกลนคร แจ้งความชายหนุ่มทำร้ายบีบคอแมว หลังมีปากเสียงกับแฟนหนุ่ม ทำประชดบีบคอทุ่มแมวลงพื้น พร้อมอายัดแมวทั้ง 3 ตัวไว้ที่คลินิกรักษาสัตว์จนกว่าคดีความจะสิ้นสุด • จากกรณีเหตุน้องแมว 3 ตัว ถูกชายหนุ่มทำร้าย ด้วยการบีบคอทุ่มลงพื้นอย่างแรง เหตุสองหนุ่มที่เป็นแฟนกันแล้วเกิดหึงหวง ลุกลามถึงทะเลาะวิวาท ถึงขั้นที่อีกฝ่ายบีบคอแมวที่เลี้ยงไว้ทั้ง 3 ตัว อ้างทำไปเพื่อประชดแฟนหนุ่ม เหตุเกิดที่อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร • ล่าสุดวันนี้ ( 12 ธ.ค.) นายสัตวแพทย์สายฝน วงษาทุม ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์วิสุทธิ์ เอื้อกิ่งเพชร หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ ได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองสกลนคร เพื่อแจ้งความในข้อกล่าวหา “ทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร” กับนายแทนคุณ พลกุล และเดินทางต่อไปยังบ้านอุ่นใจรักษาสัตว์ หรือโรงพยาบาลสัตว์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่นายแทนคุณนำแมวทั้ง 3 ตัว คือดัมมี่ ชาร์โคล เต้าหู้ มาตรวจสุขภาพ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000119471 • #MGROnline #สกลนคร #ทำร้าย #บีบคอแมว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อี้ แทนคุณ” ร้อง “วันนอร์” ช่วยตรวจสอบการหลอกลวงการทำเหรียญที่ระลึกพระราชพิธีสำคัญในอดีต เหรียญเกจิวัดดังปลอม วางให้เช่าบูชาอย่างไม่เหมาะสม

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000118185

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “อี้ แทนคุณ” ร้อง “วันนอร์” ช่วยตรวจสอบการหลอกลวงการทำเหรียญที่ระลึกพระราชพิธีสำคัญในอดีต เหรียญเกจิวัดดังปลอม วางให้เช่าบูชาอย่างไม่เหมาะสม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000118185 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 763 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมคุก แจงกรณีผู้เสียหาย ถูกหลอกเรียกรับเงินมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้าน ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งปม 3 ประเด็นลวงเหยื่อ

    วันนี้ (5 ธ.ค.) กรมราชทัณฑ์ เผยแพร่เอกสาร โดยระบุว่า "จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม
นำผู้เสียหายที่เคยเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพเข้ายื่นหนังสือ เพื่อขอให้ตรวจสอบเครือข่ายการทุจริตหลอกลวงเงินผู้เสียหายในเรือนจำโดยอ้างมีกลุ่มมิจฉาชีพ ตัวย่อ ท. หลอกลวงขณะอยู่เรือนจำ มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้าน นั้น

    กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า กระทรวงยุติธรรม ได้รับเรื่องร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมจาก นายปัญญา กาลเศรษฐี กับกลุ่มผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้มอบหมายให้ กรมราชทัณฑ์ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีเจ้าหน้าที่รายใดมีส่วนให้การช่วยเหลือ และรู้เห็นเกี่ยวกับการที่ผู้ต้องขังรายนี้กระทำการหลอกลวงฉ้อโกงหรือไม่

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000117179

    #MGROnline #กรมราชทัณฑ์ #กระทรวงยุติธรรม
    กรมคุก แจงกรณีผู้เสียหาย ถูกหลอกเรียกรับเงินมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้าน ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งปม 3 ประเด็นลวงเหยื่อ • วันนี้ (5 ธ.ค.) กรมราชทัณฑ์ เผยแพร่เอกสาร โดยระบุว่า "จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม
นำผู้เสียหายที่เคยเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพเข้ายื่นหนังสือ เพื่อขอให้ตรวจสอบเครือข่ายการทุจริตหลอกลวงเงินผู้เสียหายในเรือนจำโดยอ้างมีกลุ่มมิจฉาชีพ ตัวย่อ ท. หลอกลวงขณะอยู่เรือนจำ มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้าน นั้น • กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า กระทรวงยุติธรรม ได้รับเรื่องร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมจาก นายปัญญา กาลเศรษฐี กับกลุ่มผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้มอบหมายให้ กรมราชทัณฑ์ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีเจ้าหน้าที่รายใดมีส่วนให้การช่วยเหลือ และรู้เห็นเกี่ยวกับการที่ผู้ต้องขังรายนี้กระทำการหลอกลวงฉ้อโกงหรือไม่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000117179 • #MGROnline #กรมราชทัณฑ์ #กระทรวงยุติธรรม
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 356 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณพ่อคุณแม่ รักษาลูกหลาน ให้รู้จักขอพรคุณของพ่อแม่ กราบเท่าพ่อแม่ ทดแทนคุณพ่อแม่เลี้ยงดูท่าน
    คุณพ่อคุณแม่ รักษาลูกหลาน ให้รู้จักขอพรคุณของพ่อแม่ กราบเท่าพ่อแม่ ทดแทนคุณพ่อแม่เลี้ยงดูท่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • อี้เผยหมายจับล็อต 3 หมอบุญเตรียมบินหนีไปยุโรป 04/12/67 #อี้ แทนคุณ #หมอบุญ #ฉ้อโกงประชาชน
    อี้เผยหมายจับล็อต 3 หมอบุญเตรียมบินหนีไปยุโรป 04/12/67 #อี้ แทนคุณ #หมอบุญ #ฉ้อโกงประชาชน
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 766 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • “อี้ แทนคุณ​” แฉต่อ​ มีผู้เสียหาย ถูกหมอบุญ​ โกง ล็อต 2 อีกกว่า 500​ ราย​ มูลค่า​ 2.5 หมื่นล้านบาท เผย​ นักลงทุนสามีภรรยาธุรกิจใหญ่สูญ​ 3พันล้าน​ ทำทรุดหนักเข้าโรงพยาบาล​ เผยผู้เสียหายส่วนใหญ่ไม่อยากให้ข้อมูล​ เหตุถูกโบกเกอร์ขู่เล่นงานภาษี​

    วันนี้(27 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม กล่าวถึงความคืบหน้า​กรณีนายแพทย์​บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้ง บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด​ ในคดีฉ้อโกง​ หลอกให้ลงทุน ว่า​ ในส่วนของผู้เสียหาย หลังจากวันที่ 12 ธันวาคม 2567​ ซึ่งจะครบกำหนด ในการชำระดอกเบี้ย ร้อยละ 7% จากการที่กู้ยืม จะออกมาแสดงตัวมากขึ้น เนื่องจากหลายคนกังวลใจ และรออยู่ว่าจะได้ดอกเบี้ยหรือไม่ เพราะตั๋วสัญญาใช้เงินมีกำหนดชำระดอกเบี้ย 2 รอบ คือ​ 12 มิถุนายน/ และ 12 ธันวาคม หากไม่ได้จะรวมตัวกันแจ้งความ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เสียหาย ไม่น้อยกว่า 500 ราย ซึ่งเป็นหนึ่งเท่าของผู้เสียหายปัจจุบัน พร้อมกับระบุว่าขณะนี้ผู้เสียหายยังแจ้งความไม่หมด ซึ่งเป็นผู้เสียหายล็อตเก่า ที่ปล่อยกู้ และออกเช็ค สัญญาต่างๆ แต่ปรากฏว่าเช็คเด้ง จึงมีการไปแจ้งความทั้งหมด 247 ราย ส่วนกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มใหม่จะเป็นผู้สูงอายุ หลักลงทุนสูงสุด 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นสามีภรรยาคู่ มีอายุมาก ซึ่งตนได้ติดต่อประสานงานไปแต่พบว่าผู้เสียหายดังกล่าวป่วยหนัก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล​ ซึ่งมูลค่าความเสียหายทั้งหมดของกลุ่มผู้สูงอายุ ประมาณ 25,000 ล้านบาท

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000114010

    #MGROnline #อี้แทนคุณ #หมอบุญ

    “อี้ แทนคุณ​” แฉต่อ​ มีผู้เสียหาย ถูกหมอบุญ​ โกง ล็อต 2 อีกกว่า 500​ ราย​ มูลค่า​ 2.5 หมื่นล้านบาท เผย​ นักลงทุนสามีภรรยาธุรกิจใหญ่สูญ​ 3พันล้าน​ ทำทรุดหนักเข้าโรงพยาบาล​ เผยผู้เสียหายส่วนใหญ่ไม่อยากให้ข้อมูล​ เหตุถูกโบกเกอร์ขู่เล่นงานภาษี​ • วันนี้(27 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม กล่าวถึงความคืบหน้า​กรณีนายแพทย์​บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้ง บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด​ ในคดีฉ้อโกง​ หลอกให้ลงทุน ว่า​ ในส่วนของผู้เสียหาย หลังจากวันที่ 12 ธันวาคม 2567​ ซึ่งจะครบกำหนด ในการชำระดอกเบี้ย ร้อยละ 7% จากการที่กู้ยืม จะออกมาแสดงตัวมากขึ้น เนื่องจากหลายคนกังวลใจ และรออยู่ว่าจะได้ดอกเบี้ยหรือไม่ เพราะตั๋วสัญญาใช้เงินมีกำหนดชำระดอกเบี้ย 2 รอบ คือ​ 12 มิถุนายน/ และ 12 ธันวาคม หากไม่ได้จะรวมตัวกันแจ้งความ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เสียหาย ไม่น้อยกว่า 500 ราย ซึ่งเป็นหนึ่งเท่าของผู้เสียหายปัจจุบัน พร้อมกับระบุว่าขณะนี้ผู้เสียหายยังแจ้งความไม่หมด ซึ่งเป็นผู้เสียหายล็อตเก่า ที่ปล่อยกู้ และออกเช็ค สัญญาต่างๆ แต่ปรากฏว่าเช็คเด้ง จึงมีการไปแจ้งความทั้งหมด 247 ราย ส่วนกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มใหม่จะเป็นผู้สูงอายุ หลักลงทุนสูงสุด 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นสามีภรรยาคู่ มีอายุมาก ซึ่งตนได้ติดต่อประสานงานไปแต่พบว่าผู้เสียหายดังกล่าวป่วยหนัก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล​ ซึ่งมูลค่าความเสียหายทั้งหมดของกลุ่มผู้สูงอายุ ประมาณ 25,000 ล้านบาท • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9670000114010 • #MGROnline #อี้แทนคุณ #หมอบุญ​
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 รีวิว
  • พบคลิปเสียง ฟิล์มชวนอี้แทนคุณ อ้างมีงบทำรายการแข่งหนุ่มกรรชัย ลั่นโหนกระแส มันSANเตี้ย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    พบคลิปเสียง ฟิล์มชวนอี้แทนคุณ อ้างมีงบทำรายการแข่งหนุ่มกรรชัย ลั่นโหนกระแส มันSANเตี้ย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 638 มุมมอง 0 รีวิว
  • "แทนคุณ" จี้ สคบ.ใช้ไอคอนเป็นไอดอล แก้ปัญหาระบบ 20/11/67 #แทนคุณ #ดิไอคอน #สคบ. #การฉ้อโกง
    "แทนคุณ" จี้ สคบ.ใช้ไอคอนเป็นไอดอล แก้ปัญหาระบบ 20/11/67 #แทนคุณ #ดิไอคอน #สคบ. #การฉ้อโกง
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1220 มุมมอง 58 0 รีวิว
  • "อี้ แทนคุณ" แฉหมอเจ้าของ รพ.ชื่อดัง หลอกคนมีอันจะกินลงทุนทิพย์ อ้างทำ Wellness Center ครบวงจร อึ้งความเสียหายพุ่ง 8-9 พันล้าน เตือนถ้าเชื่อใน "บุญ" เอาเงินมาคืนผู้เสียหายเถอะ ชี้ เงินที่เอาไปเป็นเงินบาปทั้งนั้น ไม่ใช้ชาตินี้ก็ต้องใช้ชาติหน้า แย้มข้อมูลเยอะมาก ขอเวลานิด เหตุอาจกระเทือนความเชื่อมั่นครั้งใหญ่

    วันนี้(20 พ.ย.) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนกว่า 30 ราย กรณีนายแพทย์เจ้าของโรงพยาบาลชื่อดัง หลอกให้ลงทุนมูลค่าความเสียหายกว่าพันล้าน โดยมีพฤติการณ์หลอกลงทุนทำ Wellness โดยระดมทุนจากประเทศหนึ่งจากตะวันออกกลางมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งใช้เงินประมาณ 20,000 ล้านบาท มีการระบุว่าจะยกระดับ Wellness ของไทย และอ้างว่าต้องมีเงินค้ำสัญญาก่อน ซึ่งผู้เสียหายเป็นหมอ เป็นผู้มีอันจะกิน เฉลี่ยแล้ว 50 ล้านบาทขึ้นไปในแต่ละราย ตนคิดว่ากรณีนี้ใหญ่มาก เท่าที่ทราบมีการระดมทุนไปถึง 8,000-9,000 ล้านบาทแล้ว

    "ท่านมีโมเดล มีแผนชัดเจนว่าท่านจะทำอย่างไร ทำตึกอย่างไร ทำครบวงจรอย่างไร แต่ว่าอันนี้ก็ไม่อยากจะไปกล่าวหาท่าน หากท่านไม่แสดงความบริสุทธิ์ใจ ลักษณะแบบนี้ ร่องรอยไม่ชอบมาพากลแบบนี้ ก็เชื่อได้ว่าท่านอาจจะตั้งใจที่จะปิดบังซ่อนเร้นข้อมูลด้วยหรือไม่ตั้งแต่แรก ซึ่งเรื่องนี้ต้องไปตรวจสอบดู แต่ว่าอย่างไรก็ดีที่มีข่าวว่าท่านออกไปต่างประเทศแล้ว ผมก็ติดตามอยู่จากผู้เสียหายจำนวนมาก ก็เป็นไปได้ เพราะติดต่ออะไรไม่ได้แล้ว" นายแทนคุณ กล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000111525

    #MGROnline #อี้แทนคุณ #WellnessCenter
    "อี้ แทนคุณ" แฉหมอเจ้าของ รพ.ชื่อดัง หลอกคนมีอันจะกินลงทุนทิพย์ อ้างทำ Wellness Center ครบวงจร อึ้งความเสียหายพุ่ง 8-9 พันล้าน เตือนถ้าเชื่อใน "บุญ" เอาเงินมาคืนผู้เสียหายเถอะ ชี้ เงินที่เอาไปเป็นเงินบาปทั้งนั้น ไม่ใช้ชาตินี้ก็ต้องใช้ชาติหน้า แย้มข้อมูลเยอะมาก ขอเวลานิด เหตุอาจกระเทือนความเชื่อมั่นครั้งใหญ่ • วันนี้(20 พ.ย.) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนกว่า 30 ราย กรณีนายแพทย์เจ้าของโรงพยาบาลชื่อดัง หลอกให้ลงทุนมูลค่าความเสียหายกว่าพันล้าน โดยมีพฤติการณ์หลอกลงทุนทำ Wellness โดยระดมทุนจากประเทศหนึ่งจากตะวันออกกลางมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งใช้เงินประมาณ 20,000 ล้านบาท มีการระบุว่าจะยกระดับ Wellness ของไทย และอ้างว่าต้องมีเงินค้ำสัญญาก่อน ซึ่งผู้เสียหายเป็นหมอ เป็นผู้มีอันจะกิน เฉลี่ยแล้ว 50 ล้านบาทขึ้นไปในแต่ละราย ตนคิดว่ากรณีนี้ใหญ่มาก เท่าที่ทราบมีการระดมทุนไปถึง 8,000-9,000 ล้านบาทแล้ว • "ท่านมีโมเดล มีแผนชัดเจนว่าท่านจะทำอย่างไร ทำตึกอย่างไร ทำครบวงจรอย่างไร แต่ว่าอันนี้ก็ไม่อยากจะไปกล่าวหาท่าน หากท่านไม่แสดงความบริสุทธิ์ใจ ลักษณะแบบนี้ ร่องรอยไม่ชอบมาพากลแบบนี้ ก็เชื่อได้ว่าท่านอาจจะตั้งใจที่จะปิดบังซ่อนเร้นข้อมูลด้วยหรือไม่ตั้งแต่แรก ซึ่งเรื่องนี้ต้องไปตรวจสอบดู แต่ว่าอย่างไรก็ดีที่มีข่าวว่าท่านออกไปต่างประเทศแล้ว ผมก็ติดตามอยู่จากผู้เสียหายจำนวนมาก ก็เป็นไปได้ เพราะติดต่ออะไรไม่ได้แล้ว" นายแทนคุณ กล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9670000111525 • #MGROnline #อี้แทนคุณ #WellnessCenter
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 431 มุมมอง 0 รีวิว
  • รอง ผบช.ก.เผยพยานหลักฐานคดี นักร้อง ก.ตบทรัพย์ครบแล้ว เหลือเพียงรอผลสอบ "บอสพอล" อุบตอบจะได้อยู่ลอยกระทงคืนนี้หรือไม่ ด้าน "อี้ แทนคุณ" แฉแหลกนักตบทรัพย์ชายก่อเหตุมาแล้วหลายคดี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000110049

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รอง ผบช.ก.เผยพยานหลักฐานคดี นักร้อง ก.ตบทรัพย์ครบแล้ว เหลือเพียงรอผลสอบ "บอสพอล" อุบตอบจะได้อยู่ลอยกระทงคืนนี้หรือไม่ ด้าน "อี้ แทนคุณ" แฉแหลกนักตบทรัพย์ชายก่อเหตุมาแล้วหลายคดี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000110049 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1841 มุมมอง 0 รีวิว
  • อี้เปิดฟิล์มชวนลงทุนธุรกิจ-พลังงาน อีก4รายจองกฐิน (15/11/67) #news1 #อี้แทนคุณ #ฟิล์มรัฐภูมิ #หลอกลงทุนธุรกิจพลังงาน
    อี้เปิดฟิล์มชวนลงทุนธุรกิจ-พลังงาน อีก4รายจองกฐิน (15/11/67) #news1 #อี้แทนคุณ #ฟิล์มรัฐภูมิ #หลอกลงทุนธุรกิจพลังงาน
    Like
    18
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1951 มุมมอง 158 0 รีวิว
  • อี้ไม่กังวลคลิปเสียงตนกับฟิล์ม (15/11/67) #news1 #อี้แทนคุณ #ฟิล์มรัฐภูมิ #ตบทรัพย์
    อี้ไม่กังวลคลิปเสียงตนกับฟิล์ม (15/11/67) #news1 #อี้แทนคุณ #ฟิล์มรัฐภูมิ #ตบทรัพย์
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1809 มุมมอง 120 0 รีวิว
  • "อี้" เปิด 60 ล้าน "ฟิล์ม" ตัวการร่วมหลอกลงทุน 14/11/67 #อี้ แทนคุณ #ฟิล์ม รัฐภูมิ #หลอกลงทุน #ดิ ไอคอน
    "อี้" เปิด 60 ล้าน "ฟิล์ม" ตัวการร่วมหลอกลงทุน 14/11/67 #อี้ แทนคุณ #ฟิล์ม รัฐภูมิ #หลอกลงทุน #ดิ ไอคอน
    Like
    Haha
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1604 มุมมอง 124 1 รีวิว
  • เปิดเอกสารสัญญา-หลักฐานถึงพี่เมียทนายตั้ม
    .
    วันนี้ผมเปิดเผยเอกสารชิ้นหนึ่งที่หลายๆ คนเฝ้ารอ และยังไม่มีใครเปิดเผยมาก่อน เอกสารชิ้นนี้คือสัญญาและหลักฐานสำคัญในการจ้างที่ปรึกษาดูแลผลประโยชน์ทางธุรกิจ ระหว่างคุณจตุพร อุบลเลิศ กับบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม อ้างอิงอยู่ในใบบันทึกคำให้การผู้กล่าวหา หรือใบแจ้งความของคุณจตุพร อุบลเลิศ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567
    .
    สิ่งที่น่าสนใจของสัญญาฉบับนี้ สัญญาฉบับนี้มีระยะเวลา 1 ปีตั้งแต่เมษายน 2565 มีการจ่ายเงินค่าจ้างเดือนละ 3 แสนบาท และจ่ายเงินค่าจ้างงวดสุดท้ายเมื่อเดือนมีนาคม 2566 ทำจดหมายยกเลิกสัญญาจ้างอย่างเป็นทางการ เนื่องจากสำนักทนายความของทนายตั้มไม่ได้ทำอะไรสมกับค่าจ้างที่ได้รับไปและยังขนครอบครัวไปต่างประเทศแทบทุกเดือน ไปพักโรงแรมหรูๆ แล้วให้เขารับผิดชอบค่าใช้จ่าย
    .
    แต่ประเด็นที่น่าสนใจมากคือ หลักฐานการเงินระบุชัดเจนว่าฝั่งพี่อ้อยไม่เคยโอนเงินเข้าบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม แต่ษิทราระบุว่าให้โอนเข้าบัญชีของบุคคลที่ชื่อ ปิณฑิรา การิวัลย์ โดยตลอด มีเพจ CSILA ที่ไม่กี่วันมานี้ ออกมาตั้งคำถามว่า "อยากให้ตำรวจและนักข่าวตรวจสอบพี่สาวเมียทนายตั้ม น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ซึ่งมีอาชีพคือคนใช้กับเลี้ยงลูกตั้ม แต่เงินในบัญชีเยอะมาก ถ้าตรวจสอบเส้นเงินได้ก็เกมส์"
    .
    เมื่อเราไปเปิดดูงบการเงินบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม ตั้งอยู่ที่อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ถนนสาทร แจ้งงบการเงิน 5 ปีย้อนหลัง มีรายได้รวมประมาณ 37 ล้านบาท มีรายได้ดีอยู่ปีเดียว คือปี 2565 ซึ่งมีรายได้รวม 21.9 ล้านบาท ก่อนหน้านั้นรายได้อยู่ในระดับประมาณ 2 ล้านบาทและขาดทุนมากกว่า
    .
    หลายคนถามว่า คุณษิทราเอาเงินที่ไหนไปซื้อบ้านราคาหลายสิบล้าน มีรถหรูอีกหลายคัน นาฬิกาหรู เสื้อแบรนด์เนมอีกเพียบ ส่วนที่ไปเที่ยวเมืองนอกบ่อยๆ คุณรู้แล้วใช่ไหมว่าคุณใช้เงินของพี่อ้อยนั่นเอง
    .
    ผมเอารูปรถให้ดูนะครับ Porsche Cayenne ที่ทนายตั้มขับมาที่กองปราบ วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2567 รถหรูราคาแพงที่นายษิทราใช้อยู่นั้น ซื้อด้วยเงินสด แต่ไม่มีชื่อนายษิทราเป็นเจ้าของเลยแม้แต่คันเดียว อนุมานได้ไหมครับคุณษิทรา ว่าคุณกำลังซ่อนเร้นเรื่องเงินก้อนนี้อยู่ โดยที่ให้คนอื่นมาเป็นเจ้าของรถแทนคุณ มันเป็นวิธีการง่ายๆ ของคนที่ชอบฟอกเงินในอดีต
    .
    ด้วยเหตุนี้ มีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีจึงชี้ให้เห็นว่า การกระทำของทนายตั้มในการรับค่าจ้างที่ปรึกษาพี่อ้อย แต่กลับโอนเงินเข้าคนอื่น ในทางภาษี ในทางกฎหมาย มันเข้าข่ายเลี่ยงภาษีอย่างชัดเจน
    .
    เรื่องนี้เป็นเหตุบังเอิญอย่างร้ายกาจ เรื่องราวที่คุณชูวิทย์เล่าเมื่อปีที่แล้ว มันช่างคล้ายๆ กับทนายแบรนด์เนมคนหนึ่งซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นใคร จะใช่ทนายตั้ม ษิทรา สำนักกฎหมายษิทรา ลอว์เฟิร์ม กับพี่สาวภรรยาที่ขึ้นต้นด้วย ป. ที่ชื่อ ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ กรุณาช่วยสืบค้นข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้ผมหน่อย
    .
    และผมอยากให้กรมสรรพากร ซึ่งผมจะไปยื่นเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการว่าคุณปิณฑิราได้รับเงินมาจากแหล่งที่มาที่ไม่ทราบ เป็นประจำเดือน มีหลักฐานเงินโอนเข้าบัญชีให้ เดือนละ 3 แสนบาท ปีหนึ่งเป็นเงิน 3 ล้าน 6 แสนบาท ผมใคร่จะถามด้วยความเคารพว่า ผู้รับเงินรายได้นี้ ได้เสียภาษีเงินได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้เสียเลยเป็นเวลา 12 เดือน ควรจะต้องถูกเสียภาษีย้อนหลังประมาณเท่าไร และจะต้องถูกเบี้ยปรับอีกเท่าไร ถ้าตอบผมได้ก็จะเป็นพระคุณยิ่ง อันนี้เข้าข่ายในการฟอกเงินหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับผู้เกี่ยวข้องที่ดูแลกฎหมายอยู่จะต้องเป็นคนตัดสินใจครับ
    เปิดเอกสารสัญญา-หลักฐานถึงพี่เมียทนายตั้ม . วันนี้ผมเปิดเผยเอกสารชิ้นหนึ่งที่หลายๆ คนเฝ้ารอ และยังไม่มีใครเปิดเผยมาก่อน เอกสารชิ้นนี้คือสัญญาและหลักฐานสำคัญในการจ้างที่ปรึกษาดูแลผลประโยชน์ทางธุรกิจ ระหว่างคุณจตุพร อุบลเลิศ กับบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม อ้างอิงอยู่ในใบบันทึกคำให้การผู้กล่าวหา หรือใบแจ้งความของคุณจตุพร อุบลเลิศ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 . สิ่งที่น่าสนใจของสัญญาฉบับนี้ สัญญาฉบับนี้มีระยะเวลา 1 ปีตั้งแต่เมษายน 2565 มีการจ่ายเงินค่าจ้างเดือนละ 3 แสนบาท และจ่ายเงินค่าจ้างงวดสุดท้ายเมื่อเดือนมีนาคม 2566 ทำจดหมายยกเลิกสัญญาจ้างอย่างเป็นทางการ เนื่องจากสำนักทนายความของทนายตั้มไม่ได้ทำอะไรสมกับค่าจ้างที่ได้รับไปและยังขนครอบครัวไปต่างประเทศแทบทุกเดือน ไปพักโรงแรมหรูๆ แล้วให้เขารับผิดชอบค่าใช้จ่าย . แต่ประเด็นที่น่าสนใจมากคือ หลักฐานการเงินระบุชัดเจนว่าฝั่งพี่อ้อยไม่เคยโอนเงินเข้าบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม แต่ษิทราระบุว่าให้โอนเข้าบัญชีของบุคคลที่ชื่อ ปิณฑิรา การิวัลย์ โดยตลอด มีเพจ CSILA ที่ไม่กี่วันมานี้ ออกมาตั้งคำถามว่า "อยากให้ตำรวจและนักข่าวตรวจสอบพี่สาวเมียทนายตั้ม น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ซึ่งมีอาชีพคือคนใช้กับเลี้ยงลูกตั้ม แต่เงินในบัญชีเยอะมาก ถ้าตรวจสอบเส้นเงินได้ก็เกมส์" . เมื่อเราไปเปิดดูงบการเงินบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม ตั้งอยู่ที่อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ถนนสาทร แจ้งงบการเงิน 5 ปีย้อนหลัง มีรายได้รวมประมาณ 37 ล้านบาท มีรายได้ดีอยู่ปีเดียว คือปี 2565 ซึ่งมีรายได้รวม 21.9 ล้านบาท ก่อนหน้านั้นรายได้อยู่ในระดับประมาณ 2 ล้านบาทและขาดทุนมากกว่า . หลายคนถามว่า คุณษิทราเอาเงินที่ไหนไปซื้อบ้านราคาหลายสิบล้าน มีรถหรูอีกหลายคัน นาฬิกาหรู เสื้อแบรนด์เนมอีกเพียบ ส่วนที่ไปเที่ยวเมืองนอกบ่อยๆ คุณรู้แล้วใช่ไหมว่าคุณใช้เงินของพี่อ้อยนั่นเอง . ผมเอารูปรถให้ดูนะครับ Porsche Cayenne ที่ทนายตั้มขับมาที่กองปราบ วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2567 รถหรูราคาแพงที่นายษิทราใช้อยู่นั้น ซื้อด้วยเงินสด แต่ไม่มีชื่อนายษิทราเป็นเจ้าของเลยแม้แต่คันเดียว อนุมานได้ไหมครับคุณษิทรา ว่าคุณกำลังซ่อนเร้นเรื่องเงินก้อนนี้อยู่ โดยที่ให้คนอื่นมาเป็นเจ้าของรถแทนคุณ มันเป็นวิธีการง่ายๆ ของคนที่ชอบฟอกเงินในอดีต . ด้วยเหตุนี้ มีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีจึงชี้ให้เห็นว่า การกระทำของทนายตั้มในการรับค่าจ้างที่ปรึกษาพี่อ้อย แต่กลับโอนเงินเข้าคนอื่น ในทางภาษี ในทางกฎหมาย มันเข้าข่ายเลี่ยงภาษีอย่างชัดเจน . เรื่องนี้เป็นเหตุบังเอิญอย่างร้ายกาจ เรื่องราวที่คุณชูวิทย์เล่าเมื่อปีที่แล้ว มันช่างคล้ายๆ กับทนายแบรนด์เนมคนหนึ่งซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นใคร จะใช่ทนายตั้ม ษิทรา สำนักกฎหมายษิทรา ลอว์เฟิร์ม กับพี่สาวภรรยาที่ขึ้นต้นด้วย ป. ที่ชื่อ ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ กรุณาช่วยสืบค้นข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้ผมหน่อย . และผมอยากให้กรมสรรพากร ซึ่งผมจะไปยื่นเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการว่าคุณปิณฑิราได้รับเงินมาจากแหล่งที่มาที่ไม่ทราบ เป็นประจำเดือน มีหลักฐานเงินโอนเข้าบัญชีให้ เดือนละ 3 แสนบาท ปีหนึ่งเป็นเงิน 3 ล้าน 6 แสนบาท ผมใคร่จะถามด้วยความเคารพว่า ผู้รับเงินรายได้นี้ ได้เสียภาษีเงินได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้เสียเลยเป็นเวลา 12 เดือน ควรจะต้องถูกเสียภาษีย้อนหลังประมาณเท่าไร และจะต้องถูกเบี้ยปรับอีกเท่าไร ถ้าตอบผมได้ก็จะเป็นพระคุณยิ่ง อันนี้เข้าข่ายในการฟอกเงินหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับผู้เกี่ยวข้องที่ดูแลกฎหมายอยู่จะต้องเป็นคนตัดสินใจครับ
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1072 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อี้ แทนคุณ” ลากไส้เทวดา ส. เปิดคลิปแฉ เคยหลอกจะช่วยผู้เสียหายแชร์ลูกโซ่ บ.อากริว แต่ทำคดีเงียบนาน 6 ปี เชื่อมีนอกมีใน ด้านผู้เสียหายโอดนึกว่าช่วยเหลือประชาชน ที่ไหนได้ตลบหลังตบทรัพย์ ปากชอบบอก “ห่วงชาติบ้านเมือง อยากให้ประเทศพ้นภัยแชร์ลูกโซ่”

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000102419

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “อี้ แทนคุณ” ลากไส้เทวดา ส. เปิดคลิปแฉ เคยหลอกจะช่วยผู้เสียหายแชร์ลูกโซ่ บ.อากริว แต่ทำคดีเงียบนาน 6 ปี เชื่อมีนอกมีใน ด้านผู้เสียหายโอดนึกว่าช่วยเหลือประชาชน ที่ไหนได้ตลบหลังตบทรัพย์ ปากชอบบอก “ห่วงชาติบ้านเมือง อยากให้ประเทศพ้นภัยแชร์ลูกโซ่” อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000102419 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Wow
    Angry
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3466 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลเกมคดี’ดิ ไอคอน’จะรอดเพราะเงินมันเยอะ
    .
    หลังจากที่ "บอสพอล" กับเหล่า "บอส" ทั้งหลายที่ถูกจับกุมตัวและทยอยยึดทรัพย์ไปหมดแล้ว ผมอยากจะเล่าให้ฟังถึงกลเกมคดีของ "ดิ ไอคอน"
    .
    ข้อที่หนึ่ง เบื้องหลังของนายพอล วรัตน์พล นอกจากมีนักการเมือง ข้าราชการ แบ็กอยู่แล้ว ยังมีผู้พิพากษาท่านหนึ่งคอยให้คำปรึกษาทางกฎหมาย วางเกมในการดำเนินคดีอีกด้วย
    .
    ข้อที่สอง-คาดว่าเกมคดีต่อจากนี้ไปอาจจะเป็นการเล่นละครตบตาด้วยการอำพรางคดี คือบริษัท "บอสพอล" ตัดตอนจากแม่ข่ายผู้กระทำการในการชักชวนคนเข้ามาสู่ขบวนการแชร์ลูกโซ่ โดยที่อ้างว่าบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ไม่รู้เรื่องด้วย ไม่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของแม่ข่ายและแม่ทีมอย่างเดียว ขณะที่แม่ข่ายก็จะพยายามผันตัวจากผู้สมรู้ร่วมคิด แบ่งงานกันทำกับเหล่า "บอส" แปลงร่างเป็นผู้เสียหายเป็นโจทก์ ถ้าแผนนี้เดินหน้าต่อไปโดยไม่มีการฟ้อง ทั้งขบวน "บอส" ทั้งหมดก็จะรอด เพราะไม่ได้เป็นผู้กระทำแชร์ลูกโซ่ แต่แม่ข่ายที่เป็นผู้กระทำแชร์ลูกโซ่ก็จะรอดเช่นกัน เพราะได้แปลงร่างกลายเป็นผู้เสียหายไปแล้ว
    .
    นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่น่าจับตาและน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งเกี่ยวกับคดีแชร์ลูกโซ่ "ดิ ไอคอน" อีกประเด็นหนึ่ง คือการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) กำลังจะเข้ามารับคดีเป็นคดีพิเศษต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แค่ข่าวนี้ออกมา ประชาชนออกมาโวยวาย เขาไม่ไว้ใจพวกคุณเลย คดีนี้เงินมันเยอะเหลือเกิน คุณแค่เอาจำเลยไปเขย่าเฉยๆ ก็ได้เศษสตางค์หล่นมาเยอะแล้ว เป็นจำนวนเป็นล้านๆ ผมบอกให้เลยว่าจำเลยทั้ง 18 คน และจำเลยที่จะตามมา ให้เตรียมวิ่งกับดีเอสไอได้แล้ว รับประกันว่าไม่ผิดหวัง เพราะดีเอสไอมีชื่อมากในเรื่องการรับเงินรับทอง
    .
    ผมก็ไม่แปลกที่ประชาชนจะไม่เชื่อมั่น เพราะคดีเดิมๆ ที่ดีเอสไอรับไป เรื่องหุ้น STARK เรื่อง EARTH เรื่องหมูเถื่อน แม้กระทั่งสต๊อกลม GGC บริษัทโกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน)ในเครือ ปตท. ที่ดีเอสไอดึงมาทำเอง ทั้งที่ตำรวจทำใกล้เสร็จ เตรียมส่งฟ้องต่ออัยการ สุดท้ายแล้วก็ยังแช่อยู่ที่ดีเอสไอ
    .
    คุณอายบ้างหรือเปล่า ผมนี่อายแทนคุณจริงๆ เลย ตั้งแต่นายคุณเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แล้วคุณก็มาเป็นรักษาการอธิบดี จนกระทั่งมาเป็นอธิบดี ดีเอสไอไม่มีผลงานอะไรออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว
    .
    คดีเดิมๆ ยังไม่มีผลงาน ถ้ารับคดี "ดิ ไอคอน" ไปแล้วยังเงียบหายอีก ประชาชนจะไม่เหลือศรัทธา แค่เมื่อเขาได้ยินชื่อคุณทวี สอดส่อง คุณยุทธนา แพรดำ ประชาชนเขาก็ยี้เลยก่อนฟังข้อมูล คุณช่วยทบทวนตัวเองหน่อยได้ไหม

    ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ

    #Thaitimes
    กลเกมคดี’ดิ ไอคอน’จะรอดเพราะเงินมันเยอะ . หลังจากที่ "บอสพอล" กับเหล่า "บอส" ทั้งหลายที่ถูกจับกุมตัวและทยอยยึดทรัพย์ไปหมดแล้ว ผมอยากจะเล่าให้ฟังถึงกลเกมคดีของ "ดิ ไอคอน" . ข้อที่หนึ่ง เบื้องหลังของนายพอล วรัตน์พล นอกจากมีนักการเมือง ข้าราชการ แบ็กอยู่แล้ว ยังมีผู้พิพากษาท่านหนึ่งคอยให้คำปรึกษาทางกฎหมาย วางเกมในการดำเนินคดีอีกด้วย . ข้อที่สอง-คาดว่าเกมคดีต่อจากนี้ไปอาจจะเป็นการเล่นละครตบตาด้วยการอำพรางคดี คือบริษัท "บอสพอล" ตัดตอนจากแม่ข่ายผู้กระทำการในการชักชวนคนเข้ามาสู่ขบวนการแชร์ลูกโซ่ โดยที่อ้างว่าบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ไม่รู้เรื่องด้วย ไม่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของแม่ข่ายและแม่ทีมอย่างเดียว ขณะที่แม่ข่ายก็จะพยายามผันตัวจากผู้สมรู้ร่วมคิด แบ่งงานกันทำกับเหล่า "บอส" แปลงร่างเป็นผู้เสียหายเป็นโจทก์ ถ้าแผนนี้เดินหน้าต่อไปโดยไม่มีการฟ้อง ทั้งขบวน "บอส" ทั้งหมดก็จะรอด เพราะไม่ได้เป็นผู้กระทำแชร์ลูกโซ่ แต่แม่ข่ายที่เป็นผู้กระทำแชร์ลูกโซ่ก็จะรอดเช่นกัน เพราะได้แปลงร่างกลายเป็นผู้เสียหายไปแล้ว . นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่น่าจับตาและน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งเกี่ยวกับคดีแชร์ลูกโซ่ "ดิ ไอคอน" อีกประเด็นหนึ่ง คือการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) กำลังจะเข้ามารับคดีเป็นคดีพิเศษต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แค่ข่าวนี้ออกมา ประชาชนออกมาโวยวาย เขาไม่ไว้ใจพวกคุณเลย คดีนี้เงินมันเยอะเหลือเกิน คุณแค่เอาจำเลยไปเขย่าเฉยๆ ก็ได้เศษสตางค์หล่นมาเยอะแล้ว เป็นจำนวนเป็นล้านๆ ผมบอกให้เลยว่าจำเลยทั้ง 18 คน และจำเลยที่จะตามมา ให้เตรียมวิ่งกับดีเอสไอได้แล้ว รับประกันว่าไม่ผิดหวัง เพราะดีเอสไอมีชื่อมากในเรื่องการรับเงินรับทอง . ผมก็ไม่แปลกที่ประชาชนจะไม่เชื่อมั่น เพราะคดีเดิมๆ ที่ดีเอสไอรับไป เรื่องหุ้น STARK เรื่อง EARTH เรื่องหมูเถื่อน แม้กระทั่งสต๊อกลม GGC บริษัทโกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน)ในเครือ ปตท. ที่ดีเอสไอดึงมาทำเอง ทั้งที่ตำรวจทำใกล้เสร็จ เตรียมส่งฟ้องต่ออัยการ สุดท้ายแล้วก็ยังแช่อยู่ที่ดีเอสไอ . คุณอายบ้างหรือเปล่า ผมนี่อายแทนคุณจริงๆ เลย ตั้งแต่นายคุณเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แล้วคุณก็มาเป็นรักษาการอธิบดี จนกระทั่งมาเป็นอธิบดี ดีเอสไอไม่มีผลงานอะไรออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว . คดีเดิมๆ ยังไม่มีผลงาน ถ้ารับคดี "ดิ ไอคอน" ไปแล้วยังเงียบหายอีก ประชาชนจะไม่เหลือศรัทธา แค่เมื่อเขาได้ยินชื่อคุณทวี สอดส่อง คุณยุทธนา แพรดำ ประชาชนเขาก็ยี้เลยก่อนฟังข้อมูล คุณช่วยทบทวนตัวเองหน่อยได้ไหม ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1169 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลเกมคดี ’ดิ ไอคอน’ จะรอดเพราะเงินมันเยอะ
    .
    หลังจากที่ "บอสพอล" กับเหล่า "บอส" ทั้งหลายที่ถูกจับกุมตัวและทยอยยึดทรัพย์ไปหมดแล้ว ผมอยากจะเล่าให้ฟังถึงกลเกมคดีของ "ดิ ไอคอน"
    .
    ข้อที่หนึ่ง เบื้องหลังของนายพอล วรัตน์พล นอกจากมีนักการเมือง ข้าราชการ แบ็กอยู่แล้ว ยังมีผู้พิพากษาท่านหนึ่งคอยให้คำปรึกษาทางกฎหมาย วางเกมในการดำเนินคดีอีกด้วย
    .
    ข้อที่สอง-คาดว่าเกมคดีต่อจากนี้ไปอาจจะเป็นการเล่นละครตบตาด้วยการอำพรางคดี คือบริษัท "บอสพอล" ตัดตอนจากแม่ข่ายผู้กระทำการในการชักชวนคนเข้ามาสู่ขบวนการแชร์ลูกโซ่ โดยที่อ้างว่าบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ไม่รู้เรื่องด้วย ไม่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของแม่ข่ายและแม่ทีมอย่างเดียว ขณะที่แม่ข่ายก็จะพยายามผันตัวจากผู้สมรู้ร่วมคิด แบ่งงานกันทำกับเหล่า "บอส" แปลงร่างเป็นผู้เสียหายเป็นโจทก์ ถ้าแผนนี้เดินหน้าต่อไปโดยไม่มีการฟ้อง ทั้งขบวน "บอส" ทั้งหมดก็จะรอด เพราะไม่ได้เป็นผู้กระทำแชร์ลูกโซ่ แต่แม่ข่ายที่เป็นผู้กระทำแชร์ลูกโซ่ก็จะรอดเช่นกัน เพราะได้แปลงร่างกลายเป็นผู้เสียหายไปแล้ว
    .
    นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่น่าจับตาและน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งเกี่ยวกับคดีแชร์ลูกโซ่ "ดิ ไอคอน" อีกประเด็นหนึ่ง คือการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) กำลังจะเข้ามารับคดีเป็นคดีพิเศษต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แค่ข่าวนี้ออกมา ประชาชนออกมาโวยวาย เขาไม่ไว้ใจพวกคุณเลย คดีนี้เงินมันเยอะเหลือเกิน คุณแค่เอาจำเลยไปเขย่าเฉยๆ ก็ได้เศษสตางค์หล่นมาเยอะแล้ว เป็นจำนวนเป็นล้านๆ ผมบอกให้เลยว่าจำเลยทั้ง 18 คน และจำเลยที่จะตามมา ให้เตรียมวิ่งกับดีเอสไอได้แล้ว รับประกันว่าไม่ผิดหวัง เพราะดีเอสไอมีชื่อมากในเรื่องการรับเงินรับทอง
    .
    ผมก็ไม่แปลกที่ประชาชนจะไม่เชื่อมั่น เพราะคดีเดิมๆ ที่ดีเอสไอรับไป เรื่องหุ้น STARK เรื่อง EARTH เรื่องหมูเถื่อน แม้กระทั่งสต๊อกลม GGC บริษัทโกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน)ในเครือ ปตท. ที่ดีเอสไอดึงมาทำเอง ทั้งที่ตำรวจทำใกล้เสร็จ เตรียมส่งฟ้องต่ออัยการ สุดท้ายแล้วก็ยังแช่อยู่ที่ดีเอสไอ
    .
    คุณอายบ้างหรือเปล่า ผมนี่อายแทนคุณจริงๆ เลย ตั้งแต่นายคุณเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แล้วคุณก็มาเป็นรักษาการอธิบดี จนกระทั่งมาเป็นอธิบดี ดีเอสไอไม่มีผลงานอะไรออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว
    .
    คดีเดิมๆ ยังไม่มีผลงาน ถ้ารับคดี "ดิ ไอคอน" ไปแล้วยังเงียบหายอีก ประชาชนจะไม่เหลือศรัทธา แค่เมื่อเขาได้ยินชื่อคุณทวี สอดส่อง คุณยุทธนา แพรดำ ประชาชนเขาก็ยี้เลยก่อนฟังข้อมูล คุณช่วยทบทวนตัวเองหน่อยได้ไหม
    กลเกมคดี ’ดิ ไอคอน’ จะรอดเพราะเงินมันเยอะ . หลังจากที่ "บอสพอล" กับเหล่า "บอส" ทั้งหลายที่ถูกจับกุมตัวและทยอยยึดทรัพย์ไปหมดแล้ว ผมอยากจะเล่าให้ฟังถึงกลเกมคดีของ "ดิ ไอคอน" . ข้อที่หนึ่ง เบื้องหลังของนายพอล วรัตน์พล นอกจากมีนักการเมือง ข้าราชการ แบ็กอยู่แล้ว ยังมีผู้พิพากษาท่านหนึ่งคอยให้คำปรึกษาทางกฎหมาย วางเกมในการดำเนินคดีอีกด้วย . ข้อที่สอง-คาดว่าเกมคดีต่อจากนี้ไปอาจจะเป็นการเล่นละครตบตาด้วยการอำพรางคดี คือบริษัท "บอสพอล" ตัดตอนจากแม่ข่ายผู้กระทำการในการชักชวนคนเข้ามาสู่ขบวนการแชร์ลูกโซ่ โดยที่อ้างว่าบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ไม่รู้เรื่องด้วย ไม่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของแม่ข่ายและแม่ทีมอย่างเดียว ขณะที่แม่ข่ายก็จะพยายามผันตัวจากผู้สมรู้ร่วมคิด แบ่งงานกันทำกับเหล่า "บอส" แปลงร่างเป็นผู้เสียหายเป็นโจทก์ ถ้าแผนนี้เดินหน้าต่อไปโดยไม่มีการฟ้อง ทั้งขบวน "บอส" ทั้งหมดก็จะรอด เพราะไม่ได้เป็นผู้กระทำแชร์ลูกโซ่ แต่แม่ข่ายที่เป็นผู้กระทำแชร์ลูกโซ่ก็จะรอดเช่นกัน เพราะได้แปลงร่างกลายเป็นผู้เสียหายไปแล้ว . นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่น่าจับตาและน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งเกี่ยวกับคดีแชร์ลูกโซ่ "ดิ ไอคอน" อีกประเด็นหนึ่ง คือการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) กำลังจะเข้ามารับคดีเป็นคดีพิเศษต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แค่ข่าวนี้ออกมา ประชาชนออกมาโวยวาย เขาไม่ไว้ใจพวกคุณเลย คดีนี้เงินมันเยอะเหลือเกิน คุณแค่เอาจำเลยไปเขย่าเฉยๆ ก็ได้เศษสตางค์หล่นมาเยอะแล้ว เป็นจำนวนเป็นล้านๆ ผมบอกให้เลยว่าจำเลยทั้ง 18 คน และจำเลยที่จะตามมา ให้เตรียมวิ่งกับดีเอสไอได้แล้ว รับประกันว่าไม่ผิดหวัง เพราะดีเอสไอมีชื่อมากในเรื่องการรับเงินรับทอง . ผมก็ไม่แปลกที่ประชาชนจะไม่เชื่อมั่น เพราะคดีเดิมๆ ที่ดีเอสไอรับไป เรื่องหุ้น STARK เรื่อง EARTH เรื่องหมูเถื่อน แม้กระทั่งสต๊อกลม GGC บริษัทโกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน)ในเครือ ปตท. ที่ดีเอสไอดึงมาทำเอง ทั้งที่ตำรวจทำใกล้เสร็จ เตรียมส่งฟ้องต่ออัยการ สุดท้ายแล้วก็ยังแช่อยู่ที่ดีเอสไอ . คุณอายบ้างหรือเปล่า ผมนี่อายแทนคุณจริงๆ เลย ตั้งแต่นายคุณเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แล้วคุณก็มาเป็นรักษาการอธิบดี จนกระทั่งมาเป็นอธิบดี ดีเอสไอไม่มีผลงานอะไรออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว . คดีเดิมๆ ยังไม่มีผลงาน ถ้ารับคดี "ดิ ไอคอน" ไปแล้วยังเงียบหายอีก ประชาชนจะไม่เหลือศรัทธา แค่เมื่อเขาได้ยินชื่อคุณทวี สอดส่อง คุณยุทธนา แพรดำ ประชาชนเขาก็ยี้เลยก่อนฟังข้อมูล คุณช่วยทบทวนตัวเองหน่อยได้ไหม
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 894 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทนายตั้ม” ฟันธง “บอสกันต์-บอสมิน-บอสแซม” ไม่รอดคดี โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง “อี้ แทนคุณ” ชี้เหล่าดาราทราบดีถึงแผนงานบริษัท อย่าบอกว่าไม่รู้เรื่องเพราะเป็นไปไม่ได้ ยิ่งออกมาปฎิเสธ ยิ่งทำเข้าตัวหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097553

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ทนายตั้ม” ฟันธง “บอสกันต์-บอสมิน-บอสแซม” ไม่รอดคดี โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง “อี้ แทนคุณ” ชี้เหล่าดาราทราบดีถึงแผนงานบริษัท อย่าบอกว่าไม่รู้เรื่องเพราะเป็นไปไม่ได้ ยิ่งออกมาปฎิเสธ ยิ่งทำเข้าตัวหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097553 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    43
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2717 มุมมอง 0 รีวิว
  • #แทนคุณแผ่นดิน

    🤠คำนำ🤠

    “ฉันสาบานว่าจะอุทิศด้วยเลือดในกายทั้งหมดของฉันเพื่อรับใช้มาตุภูมิ(我以我血荐轩辕)” นี่เป็นบทประพันธท่อนหนึ่งในถ้อยคำที่เขียนแล้วทำให้หัวใจคุกรุ่นซึ่งเขียนโดยหลู่ซวิ่น(鲁迅)ด้วยความรู้สึกรักชาติ เป็นเวลาหลายพันปีที่ความรักต่อมาตุภูมิเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวจีนจำนวนนับไม่ถ้วนต่อสู้เพื่อมาตุภูมิ และเราได้รู้จักผู้รักชาตินับไม่ถ้วนมาตั้งแต่เด็ก อย่างไรก็ตาม ในยุคสมัยที่ต่างกัน การแสดงความรักชาติก็แตกต่างกันไป ในยุคแห่งสงคราม ความรักชาติอาจหมายถึงการเข้าสู่สนามรบ และไม่เสียใจที่ต้องสละชีวิตเพื่อทำลายศัตรูเพื่อมาตุภูมิ ในยุคที่ประเทศสงบสุขประชาชนปลอดภัย ความรักชาติยังหมายถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตนให้สำเร็จและไม่สร้างปัญหาให้กับมาตุภูมิ

    หลังจากการสถาปนาจีนใหม่ ก็ไม่ต้องทนกับความวุ่นวายของสงครามอีกต่อไป และสถานการณ์ความรักชาติก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน สำหรับผู้ประกอบการจำนวนมาก ความรักชาติของพวกเขาสะท้อนให้เห็นจากการใช้ทรัพย์สมบัติของตนเพื่อตอบแทนมาตุภูมิ เคยมีผู้ประกอบการรายหนึ่ง เขาซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินจากต่างประเทศและบริจาคให้กับมาตุภูมิ จากนั้น สวี เจิงผิง(徐增平)ก็ประกาศให้บริษัทล้มละลาย เกิดอะไรขึ้นกับเขา

    🤠1. ตัดสินใจซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินส่งไปมาตุภูมิบ้านเกิด🤠

    สวี เจิงผิง(徐增平)เคยเป็นทหาร ในปีค.ศ. 1997 เขาเป็นประธานของ Hong Kong Chuanglu Group(香港创律集团)ข่าวที่เขาเห็นโดยบังเอิญทำให้หัวใจของเขาเต้นไหว ปรากฏว่ามีรายงานของสื่อว่ายูเครนต้องการขายเรือบรรทุกเครื่องบินที่ยังสร้างไม่เสร็จ และความรักชาติของเขาก็จุดประกายขึ้นมาทันที เขาตั้งใจจะซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินลำนั้นและมอบให้กับบ้านเกิดมาตุภูมิของเขา

    เนื่องจากเรือบรรทุกเครื่องบินเกี่ยวข้องกับการพัฒนาภารกิจด้านการป้องกันประเทศของประเทศ เรือบรรทุกเครื่องบินยูเครนไม่สามารถซื้อในนามของประเทศได้ เพราะจะทำให้ประเทศอื่นมีโอกาสเข้ามาแทรกแซงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สวี เจิงผิง(徐增平)จึงตัดสินใจซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินด้วยเงินของเขาเอง อย่างไรก็ตาม เรือบรรทุกเครื่องบินถือเป็นอาวุธที่ใช้ในการป้องกันประเทศ รัฐบาลยูเครนจะไม่เห็นด้วยกับการซื้อของเขาโดยไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม สวี เจิงผิง(徐增平)จึงเปิดบริษัทบันเทิงภายใต้ชื่อของเขาเอง ซึ่งมีชื่อเต็มว่า Chuanglu Tourism and Entertainment Company(创律旅游娱乐公司) และอ้างว่าเขาซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินด้วยความตั้งใจที่จะเปลี่ยนให้เป็นสถานบันเทิง

    ในปีค.ศ. 1998 สวี เจิงผิง(徐增平)ซึ่งไม่เข้าใจในเรื่องภาษาได้เดินทางมายังยูเครนอย่างมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว เขาเห็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำนี้ชื่อ "Varyag" สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าต่อตาเขาคือสถานการณ์เมื่อร้อยปีก่อน เมื่อกิจการทหารเรือของจีนตกต่ำจนขีดต่ำสุด และถูกรังแกโดยประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ เขามีความตั้งใจมากขึ้นที่จะมีส่วนร่วมวางพื้นฐานเรื่องเรือบรรทุกเครื่องบินในการพัฒนากองทัพเรือของมาตุภูมิ ที่โต๊ะไวน์ สวี เจิงผิง(徐增平)ไม่สามารถสื่อสารกับบุคคลที่รับผิดชอบฝ่ายยูเครนได้ดี เขาดื่มเหล้าหนัก 6 ปอนด์เพื่อแสดงความมุ่งมั่น ในท้ายที่สุด เขาก็เจรจาเรื่องเรือบรรทุกเครื่องบินได้สำเร็จ

    🤠2. อุปสรรคของการเดินทางกลับมาตุภูมิบ้านเกิดของเรือบรรทุกเครื่องบิน🤠

    ในเวลานั้น ยูเครนตกลงที่จะขายเรือบรรทุกเครื่องบินลำดังกล่าวให้กับ สวี เจิงผิง(徐增平)ในราคา 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐแต่ไม่รวมแบบร่างการออกแบบ สวี เจิงผิง(徐增平)รู้ดีว่าแบบการออกแบบเรือบรรทุกเครื่องบินมีความสำคัญมากกว่าตัวเรือบรรทุกเครื่องบิน การได้แบบดังกล่าวเท่านั้น จึงจะสามารถผลิตเรือบรรทุกเครื่องบินของจีนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นเขาจึงเจรจาอีกครั้ง และหลังจากการเจรจาบางอย่าง สวี เจิงผิง(徐增平)ก็ซื้อแบบของการออกแบบเรือในราคาสูงถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เดิมทีคิดว่าเรือบรรทุกเครื่องบินสามารถกลับบ้านได้ในเวลานี้ แต่เนื่องจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นร่วมมือกัน เรือบรรทุกเครื่องบินจึงเกือบจะไม่สามารถกลับได้

    สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นร่วมกันกดดันยูเครนให้หยุดขายเรือบรรทุกเครื่องบิน เมื่อหมดทางออกยูเครนจึงละทิ้งข้อตกลงทางวาจากับ สวี เจิงผิง(徐增平) และขายเรือบรรทุกเครื่องบินดังกล่าวในรูปแบบของการประมูลแทน เมื่อเห็นว่าเรือบรรทุกเครื่องบินที่เขากำลังจะได้มา แต่คนอื่นก็กำลังจะแย่งชิงเอาไป สวี เจิงผิง(徐增平)ระงับความขุ่นเคืองภายในของเขาและยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ เขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเข้าร่วมการประมูล และได้ประมูลซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินในราคาสูงถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ

    หลังจากเหตุการณ์นี้ สวี เจิงผิง(徐增平)ก็ยิ่งระมัดระวังมากขึ้น เพื่อที่จะนำเรือบรรทุกเครื่องบินกลับมาตุภูมิโดยเร็วที่สุด เขาได้จัดการเรื่องเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ของเรือบรรทุกเครื่องบินทันทีและปกป้องแบบของการออกแบบอย่างระมัดระวัง เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบินแล่นมุ่งหน้าสู่มาตุภูมิเขารู้สึกตื่นเต้นซาบซึ้งมากจนน้ำตาไหล แต่เมื่อแบบร่างการออกแบบถูกส่งกลับไปยังประเทศจีน ช่างเทคนิคพบว่าแบบร่างนั้นไม่สมบูรณ์และข้อมูลสำคัญจำนวนมากยังขาดหายไป สวี เจิงผิง(徐增平)จึงเดินทางไปยูเครนอีกครั้งเพื่อขอแบบร่างการออกแบบที่สมบูรณ์ นอกจากนี้ ระหว่างทางกลับบ้านมาตุภูมิ ยังถูกรัฐบาลตุรกีเข้าแทรกแซง ทำให้เรือบรรทุกเครื่องบินลำดังกล่าวลอยอยู่ในทะเลเป็นเวลาหนึ่งปี

    🤠3. เรือบรรทุกเครื่องบินมาถึงบ้านมาตุภูมิ และบริษัทล้มละลาย🤠

    ต่อมาการเจรจาระหว่างประเทศจีนกับตุรกีใช้เวลานานกว่าหนึ่งปี ในช่วงเวลานี้ บริษัทเรือลากจูงจำเป็นต้องใช้ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมท่าเทียบเรือของเรือบรรทุกเครื่องบินก็ต้องจ่ายด้วย ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมหลายแสนดอลลาร์ บริษัทของ สวี เจิงผิง(徐增平)ไม่สามารถจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อีกต่อไป ในปี ค.ศ. 2002 เรือบรรทุกเครื่องบินได้แล่นเข้าสู่น่านน้ำของมาตุภูมิและเข้าสู่อ้อมกอดของมาตุภูมิในที่สุด ตั้งแต่การซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินไปจนถึงการส่งกลับจีน ใช้เวลาทั้งหมด 5 ปี และ สวี เจิงผิง(徐增平)ใช้เงินมากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ

    เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบินเดินทางถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย สวี เจิงผิง(徐增平)ได้ประกาศว่าบริษัทบันเทิงของเขาล้มละลายอย่างเป็นทางการ เดิมทีนี่เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นเพื่อซื้อเรือบรรทุกเครื่องบิน คำโกหกนี้ปรากฏชัดออกมาในตัวเองทันทีที่เรือบรรทุกเครื่องบินมาถึงบ้านมาตุภูมิ สวี เจิงผิง(徐增平)จึงเปลี่ยนมือและบริจาคเรือบรรทุกเครื่องบินให้กับประเทศ แม้ว่าบริษัทบันเทิงในมาเก๊าจะล้มละลาย แต่ สวี เจิงผิง(徐增平)ก็ไม่ได้ตกอยู่ในสภาพความยากจน เขายังมีบริษัทอื่นในฮ่องกงและเขายังคงเป็นนักธุรกิจผู้รักชาติ

    “ตี๋น้อยต้องการรับใช้ชาติ ไม่ใช่เพื่อเป็นเจ้าขุนมูลนาย” ผู้รักชาติที่แท้จริงถือว่าความรักชาติเป็นความรับผิดชอบของเขาเอง และไม่สนใจความสำเร็จหรือความล้มเหลวส่วนบุคคล สวี เจิงผิง(徐增平)ก็คือคนเช่นนี้ เขาแสดงมิตรภาพอันลึกซึ้งต่อมาตุภูมิในรูปแบบของเขาเอง และสมควรได้รับความเคารพอย่างสุดซึ้งต่อเขา

    🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    #แทนคุณแผ่นดิน 🤠คำนำ🤠 “ฉันสาบานว่าจะอุทิศด้วยเลือดในกายทั้งหมดของฉันเพื่อรับใช้มาตุภูมิ(我以我血荐轩辕)” นี่เป็นบทประพันธท่อนหนึ่งในถ้อยคำที่เขียนแล้วทำให้หัวใจคุกรุ่นซึ่งเขียนโดยหลู่ซวิ่น(鲁迅)ด้วยความรู้สึกรักชาติ เป็นเวลาหลายพันปีที่ความรักต่อมาตุภูมิเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวจีนจำนวนนับไม่ถ้วนต่อสู้เพื่อมาตุภูมิ และเราได้รู้จักผู้รักชาตินับไม่ถ้วนมาตั้งแต่เด็ก อย่างไรก็ตาม ในยุคสมัยที่ต่างกัน การแสดงความรักชาติก็แตกต่างกันไป ในยุคแห่งสงคราม ความรักชาติอาจหมายถึงการเข้าสู่สนามรบ และไม่เสียใจที่ต้องสละชีวิตเพื่อทำลายศัตรูเพื่อมาตุภูมิ ในยุคที่ประเทศสงบสุขประชาชนปลอดภัย ความรักชาติยังหมายถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตนให้สำเร็จและไม่สร้างปัญหาให้กับมาตุภูมิ หลังจากการสถาปนาจีนใหม่ ก็ไม่ต้องทนกับความวุ่นวายของสงครามอีกต่อไป และสถานการณ์ความรักชาติก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน สำหรับผู้ประกอบการจำนวนมาก ความรักชาติของพวกเขาสะท้อนให้เห็นจากการใช้ทรัพย์สมบัติของตนเพื่อตอบแทนมาตุภูมิ เคยมีผู้ประกอบการรายหนึ่ง เขาซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินจากต่างประเทศและบริจาคให้กับมาตุภูมิ จากนั้น สวี เจิงผิง(徐增平)ก็ประกาศให้บริษัทล้มละลาย เกิดอะไรขึ้นกับเขา 🤠1. ตัดสินใจซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินส่งไปมาตุภูมิบ้านเกิด🤠 สวี เจิงผิง(徐增平)เคยเป็นทหาร ในปีค.ศ. 1997 เขาเป็นประธานของ Hong Kong Chuanglu Group(香港创律集团)ข่าวที่เขาเห็นโดยบังเอิญทำให้หัวใจของเขาเต้นไหว ปรากฏว่ามีรายงานของสื่อว่ายูเครนต้องการขายเรือบรรทุกเครื่องบินที่ยังสร้างไม่เสร็จ และความรักชาติของเขาก็จุดประกายขึ้นมาทันที เขาตั้งใจจะซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินลำนั้นและมอบให้กับบ้านเกิดมาตุภูมิของเขา เนื่องจากเรือบรรทุกเครื่องบินเกี่ยวข้องกับการพัฒนาภารกิจด้านการป้องกันประเทศของประเทศ เรือบรรทุกเครื่องบินยูเครนไม่สามารถซื้อในนามของประเทศได้ เพราะจะทำให้ประเทศอื่นมีโอกาสเข้ามาแทรกแซงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สวี เจิงผิง(徐增平)จึงตัดสินใจซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินด้วยเงินของเขาเอง อย่างไรก็ตาม เรือบรรทุกเครื่องบินถือเป็นอาวุธที่ใช้ในการป้องกันประเทศ รัฐบาลยูเครนจะไม่เห็นด้วยกับการซื้อของเขาโดยไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม สวี เจิงผิง(徐增平)จึงเปิดบริษัทบันเทิงภายใต้ชื่อของเขาเอง ซึ่งมีชื่อเต็มว่า Chuanglu Tourism and Entertainment Company(创律旅游娱乐公司) และอ้างว่าเขาซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินด้วยความตั้งใจที่จะเปลี่ยนให้เป็นสถานบันเทิง ในปีค.ศ. 1998 สวี เจิงผิง(徐增平)ซึ่งไม่เข้าใจในเรื่องภาษาได้เดินทางมายังยูเครนอย่างมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว เขาเห็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำนี้ชื่อ "Varyag" สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าต่อตาเขาคือสถานการณ์เมื่อร้อยปีก่อน เมื่อกิจการทหารเรือของจีนตกต่ำจนขีดต่ำสุด และถูกรังแกโดยประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ เขามีความตั้งใจมากขึ้นที่จะมีส่วนร่วมวางพื้นฐานเรื่องเรือบรรทุกเครื่องบินในการพัฒนากองทัพเรือของมาตุภูมิ ที่โต๊ะไวน์ สวี เจิงผิง(徐增平)ไม่สามารถสื่อสารกับบุคคลที่รับผิดชอบฝ่ายยูเครนได้ดี เขาดื่มเหล้าหนัก 6 ปอนด์เพื่อแสดงความมุ่งมั่น ในท้ายที่สุด เขาก็เจรจาเรื่องเรือบรรทุกเครื่องบินได้สำเร็จ 🤠2. อุปสรรคของการเดินทางกลับมาตุภูมิบ้านเกิดของเรือบรรทุกเครื่องบิน🤠 ในเวลานั้น ยูเครนตกลงที่จะขายเรือบรรทุกเครื่องบินลำดังกล่าวให้กับ สวี เจิงผิง(徐增平)ในราคา 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐแต่ไม่รวมแบบร่างการออกแบบ สวี เจิงผิง(徐增平)รู้ดีว่าแบบการออกแบบเรือบรรทุกเครื่องบินมีความสำคัญมากกว่าตัวเรือบรรทุกเครื่องบิน การได้แบบดังกล่าวเท่านั้น จึงจะสามารถผลิตเรือบรรทุกเครื่องบินของจีนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นเขาจึงเจรจาอีกครั้ง และหลังจากการเจรจาบางอย่าง สวี เจิงผิง(徐增平)ก็ซื้อแบบของการออกแบบเรือในราคาสูงถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เดิมทีคิดว่าเรือบรรทุกเครื่องบินสามารถกลับบ้านได้ในเวลานี้ แต่เนื่องจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นร่วมมือกัน เรือบรรทุกเครื่องบินจึงเกือบจะไม่สามารถกลับได้ สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นร่วมกันกดดันยูเครนให้หยุดขายเรือบรรทุกเครื่องบิน เมื่อหมดทางออกยูเครนจึงละทิ้งข้อตกลงทางวาจากับ สวี เจิงผิง(徐增平) และขายเรือบรรทุกเครื่องบินดังกล่าวในรูปแบบของการประมูลแทน เมื่อเห็นว่าเรือบรรทุกเครื่องบินที่เขากำลังจะได้มา แต่คนอื่นก็กำลังจะแย่งชิงเอาไป สวี เจิงผิง(徐增平)ระงับความขุ่นเคืองภายในของเขาและยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ เขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเข้าร่วมการประมูล และได้ประมูลซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินในราคาสูงถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากเหตุการณ์นี้ สวี เจิงผิง(徐增平)ก็ยิ่งระมัดระวังมากขึ้น เพื่อที่จะนำเรือบรรทุกเครื่องบินกลับมาตุภูมิโดยเร็วที่สุด เขาได้จัดการเรื่องเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ของเรือบรรทุกเครื่องบินทันทีและปกป้องแบบของการออกแบบอย่างระมัดระวัง เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบินแล่นมุ่งหน้าสู่มาตุภูมิเขารู้สึกตื่นเต้นซาบซึ้งมากจนน้ำตาไหล แต่เมื่อแบบร่างการออกแบบถูกส่งกลับไปยังประเทศจีน ช่างเทคนิคพบว่าแบบร่างนั้นไม่สมบูรณ์และข้อมูลสำคัญจำนวนมากยังขาดหายไป สวี เจิงผิง(徐增平)จึงเดินทางไปยูเครนอีกครั้งเพื่อขอแบบร่างการออกแบบที่สมบูรณ์ นอกจากนี้ ระหว่างทางกลับบ้านมาตุภูมิ ยังถูกรัฐบาลตุรกีเข้าแทรกแซง ทำให้เรือบรรทุกเครื่องบินลำดังกล่าวลอยอยู่ในทะเลเป็นเวลาหนึ่งปี 🤠3. เรือบรรทุกเครื่องบินมาถึงบ้านมาตุภูมิ และบริษัทล้มละลาย🤠 ต่อมาการเจรจาระหว่างประเทศจีนกับตุรกีใช้เวลานานกว่าหนึ่งปี ในช่วงเวลานี้ บริษัทเรือลากจูงจำเป็นต้องใช้ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมท่าเทียบเรือของเรือบรรทุกเครื่องบินก็ต้องจ่ายด้วย ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมหลายแสนดอลลาร์ บริษัทของ สวี เจิงผิง(徐增平)ไม่สามารถจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อีกต่อไป ในปี ค.ศ. 2002 เรือบรรทุกเครื่องบินได้แล่นเข้าสู่น่านน้ำของมาตุภูมิและเข้าสู่อ้อมกอดของมาตุภูมิในที่สุด ตั้งแต่การซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินไปจนถึงการส่งกลับจีน ใช้เวลาทั้งหมด 5 ปี และ สวี เจิงผิง(徐增平)ใช้เงินมากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบินเดินทางถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย สวี เจิงผิง(徐增平)ได้ประกาศว่าบริษัทบันเทิงของเขาล้มละลายอย่างเป็นทางการ เดิมทีนี่เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นเพื่อซื้อเรือบรรทุกเครื่องบิน คำโกหกนี้ปรากฏชัดออกมาในตัวเองทันทีที่เรือบรรทุกเครื่องบินมาถึงบ้านมาตุภูมิ สวี เจิงผิง(徐增平)จึงเปลี่ยนมือและบริจาคเรือบรรทุกเครื่องบินให้กับประเทศ แม้ว่าบริษัทบันเทิงในมาเก๊าจะล้มละลาย แต่ สวี เจิงผิง(徐增平)ก็ไม่ได้ตกอยู่ในสภาพความยากจน เขายังมีบริษัทอื่นในฮ่องกงและเขายังคงเป็นนักธุรกิจผู้รักชาติ “ตี๋น้อยต้องการรับใช้ชาติ ไม่ใช่เพื่อเป็นเจ้าขุนมูลนาย” ผู้รักชาติที่แท้จริงถือว่าความรักชาติเป็นความรับผิดชอบของเขาเอง และไม่สนใจความสำเร็จหรือความล้มเหลวส่วนบุคคล สวี เจิงผิง(徐增平)ก็คือคนเช่นนี้ เขาแสดงมิตรภาพอันลึกซึ้งต่อมาตุภูมิในรูปแบบของเขาเอง และสมควรได้รับความเคารพอย่างสุดซึ้งต่อเขา 🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 790 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts