• ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมส่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จสู่สวรรคาลัย
    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมส่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จสู่สวรรคาลัย 🙏
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘สุชัชวีร์’ เยือนตรัง เที่ยวชมเทศกาลกินเจ รับ ไทยก้าวใหม่ ให้ความสำคัญ กับคนภาคใต้ ขอฝากเนื้อฝากตัว
    https://www.thai-tai.tv/news/22033/
    .
    #ไทยไท #สุชัชวีร์ #ไทยก้าวใหม่ #ภาคใต้ #การศึกษา #ชวนหลีกภัย
    ‘สุชัชวีร์’ เยือนตรัง เที่ยวชมเทศกาลกินเจ รับ ไทยก้าวใหม่ ให้ความสำคัญ กับคนภาคใต้ ขอฝากเนื้อฝากตัว https://www.thai-tai.tv/news/22033/ . #ไทยไท #สุชัชวีร์ #ไทยก้าวใหม่ #ภาคใต้ #การศึกษา #ชวนหลีกภัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดร.เอ้" สุดดีใจ บังเอิญพบ "ชวน หลีกภัย" ที่สนามบินตรัง เผยแค่ทักทายผู้ใหญ่ ไม่ได้คุยการเมือง
    https://www.thai-tai.tv/news/22032/
    .
    #ไทยไท #สุชัชวีร์ #ชวนหลีกภัย #ไทยก้าวใหม่ #ประชาธิปัตย์ #สนามบินตรัง #ประเพณีกินเจ

    "ดร.เอ้" สุดดีใจ บังเอิญพบ "ชวน หลีกภัย" ที่สนามบินตรัง เผยแค่ทักทายผู้ใหญ่ ไม่ได้คุยการเมือง https://www.thai-tai.tv/news/22032/ . #ไทยไท #สุชัชวีร์ #ชวนหลีกภัย #ไทยก้าวใหม่ #ประชาธิปัตย์ #สนามบินตรัง #ประเพณีกินเจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านนี้มีอะไรดีนะ ถึงได้ไปซ้ำๆ ไทยรุ่งเรือง เย็นตาโฟเจริญผล ep.4 #ศรีนครินทร์ #สมุทรปราการ #อร่อยไม่อวย #อร่อยบอกต่อ #ร้านอร่อย #กินอะไรดี #eating #noodles #food #thaifood #thailand #streetfood #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    ✨ร้านนี้มีอะไรดีนะ ถึงได้ไปซ้ำๆ😁 ไทยรุ่งเรือง เย็นตาโฟเจริญผล ep.4 #ศรีนครินทร์ #สมุทรปราการ #อร่อยไม่อวย #อร่อยบอกต่อ #ร้านอร่อย #กินอะไรดี #eating #noodles #food #thaifood #thailand #streetfood #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่อง สันดาน
    “สันดาน”

    (1)

    ผมหายไปจากหน้าจอหลายวันมาก เพราะขี้เกียจดูข่าวและเขียนถึงไอ้นักล่าตอนนี้ บทมันซ้ำจนน่าเบื่อ แถมสะอิดสะเอียน เวลาดูมันพูด เล่นบทเป็นวีรบุรุษ ผู้เสียสละ จำเป็นต้องรักษาสันติสุขของมนุษยชาติ ฯลฯ ขืนดูต่อ ยาแก้คลื่นไส้ก็เอาไม่อยู่ ผมเลยไปค้นหาหนังสือเก่าๆมาอ่านประเทืองปัญญา ดีกว่าดูไอ้นักล่าตอแหล

    ปรากฏว่า อาการผมหนักกว่าคลื่นไส้!

    ผมไปเจอเอกสารเก่า เกือบ 100 ปี “The American and Russian Missions” ปี ค.ศ.1917 เป็นเอกสารของกระทรวงการต่างประเทศ อเมริกัน ที่เรียกว่า Foreign Relations of the United States (FRUS) ทนไม่ไหว ต้องเอามาเล่าสู่กันฟัง ถ้าไม่บอกว่า คนเขียนเอกสาร เขียนเมื่อไหร่ ท่านผู้อ่านอาจนึกว่าเป็นเรื่องในสมัยปัจจุบัน ผ่านมาเกือบ 100 ปี มันก็ยังใช้วิธีเดิมๆ ตามสันดาน…

    ปี ค.ศ.1917 ตามวิชาประวัติศาสตร์สากล สมัยที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยม เขาบอกว่า มีการปฏิวัติเกิดขึ้นในรัสเซีย คือการปฏิวัติอันโด่งดังของพวกบอลเชวิก (Bolsheviks) ที่โค่นพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 นั่นแหละ

    แต่ความจริง ในปี ค.ศ.1917 รัสเซีย มีการปฏิวัติ 2 ครั้ง ครั้งแรก ในเดือนมีนาคม ผู้นำการปฏิวัติ คือ นาย Aleksandr Kerensky ซึ่งยึดอำนาจจากพระเจ้าซาร์ ทำให้พระเจ้าซาร์ประกาศสละบัลลังก์ แต่ต่อมาพวกปฏิวัติก็จับท่านและราชวงค์ไปกักขัง ส่วนพวก Bolsheviks มาทำการปฏิวัติซ้ำในพฤศจิกายน ค.ศ.1917 ไล่คณะ นาย Kerensky ออกไป แล้วพวก Bolsheviks ก็ปกครองรัสเซียต่อ

    ในตอนที่ นาย Kerensky ทำการปฏิวัตินั้น สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ ปี ค.ศ.1914 กำลังโซ้ยกันอย่างดุเดือด สงครามโลกครั้งที่ 1 นี้ ความจริงเริ่มมาจากชาวเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เป็นฝ่ายกระสัน อยากจะทำสงครามนะครับ เพราะอังกฤษหมั่นไส้ ปนปอดแหกว่า เยอรมันกำลังจะโตใหญ่เกินหน้า ส่วนเรื่องอาชดยุกค์เฟอร์ดินานด์ แห่งปรัสเซียถูกยิง นั่นมันสาเหตุของสงครามโลก ตามประวัติศาสตร์หลักสูตรกระทรวงศึกษาฯ ลองไปหาประวัติศาสตร์นอกหลักสูตรมาอ่านกันบ้าง จะได้เห็นโลกกว้าง และลึกขึ้น

    ประมาณปี คศ 1899 เยอรมันส้มหล่นใส่ ไปได้สัมปทานจากออตโตมาน ให้สร้างทางรถไฟสาย Berlin Bagdad ยาวประมาณ 2,500 ไมล์ ภาพรางรถไฟวิ่งยาวจาก Berlin ผ่านไปกลางตะวันออกกลาง ที่เต็มไปด้วยแหล่งน้ำมันไปจนถึง Bagdad เลยไปอีกหน่อย ก็ถึงอ่าวเปอร์เซีย ที่อังกฤษตีตั๋วจองไว้ ภาพนี้มันทำให้ชาวเกาะใหญ่ฯนอนฝันร้าย ที่นอนเปียกชุ่มทุกคืน ตั้งแต่รู้ข่าว ชาวเกาะฯทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาวางแผนเตะตัดขาเยอรมัน ด้วยการไปชวนพรรคพวกมาร่วมรายการถล่มนักสร้างราง แต่ถ้ามีแค่พวกขาประจำอย่างฝรั่งเศส อืตาลีร่วม ชาวเกาะไม่แน่ใจว่า จะถีบนักสร้างรางให้ตกรางได้ ชาวเกาะเลยไปหลอกรัสเซีย ถึงจะอยู่ใกลหน่อย แต่ข่าวว่ากองทัพอึด ให้มาร่วมรายการถล่มนักสร้างรางด้วยกัน (รายละเอียดอยู่ในนิทาน เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือนก 2 หัว” และ นิทานชุด “เหยื่อ”)

    รัสเซีย จริงๆไม่มีเรื่องชังหน้ากับเยอรมันซักหน่อย แต่พออังกฤษเอาของขวัญมาล่อว่า ถ้าถีบมันตกรางได้ เอาไปเลย อาณาจักรออโตมาน เรายกให้ท่าน ไม่รู้รัสเซียกำลังมึนอะไร เดินหล่นพลั่กลงหลุม ที่ชาวเกาะขุดล่อ ออโตมานก็ไม่ใช่ของชาวเกาะใหญ่ฯ ซะหน่อย เขาเอาของคนอื่นมาล่อ ไปตกลงกับเขาได้ยังไง เนี่ย เหมือนเวลาคนดวงไม่ดี มีดาวประเภท เสาร์ ราหู ทับลัคน์อะไรทำนองนั้น เวลาดาวแรงอย่างนี้ทับลัคน์ อย่าไปเชื่ออะไรใครเขาง่ายๆนะครับ
    เมื่อ นาย Kerensky ทำปฏิวัติรัสเซีย สงครามเล่นไปแล้ว 3 ปี แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิก คนจัดรายการ ออกตั๋วเสริมมาขายเพิ่มอยู่เรื่อย แม้บ้านช่องจะพังพินาศฉิบหายกันเป็นแถบๆ แต่ชาวเกาะก็บอกให้สู้ต่อ ก็บทมันเขียนไว้อย่างนั้น ทีนี้ รัสเซียแนวร่วม ดันมีปฏิวัติ รัฐบาลใหม่จะเล่นสงครามต่อหรือ เปล่า ชาวเกาะชักเหงื่อแตก อเมริกาเด็กเรา (ตอนนั้น ไอ้นักล่ายังเป็นเด็ก อยู่ในอาณัติของอังกฤษ เรื่องมัน 100 ปีมาแล้วนะครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้ ถึงไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ก็อาจจะยังอยู่ ในอาณัติกันเหมือนเดิม) ก็ดันประกาศอยู่นั่นว่า เราเป็นกลาง (ยัง) ไม่เข้ามาช่วยรบ จำเราต้องใช้มันไปสืบความว่า รัสเซียหลังปฏิวัตินี่ จะสู้ต่อ หรือจะฝ่อหนี

    ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ไม้หลักปักเลน จึงจัดคณะละครเร่ ไปเจริญสัมพันธไมตรี ชื่อ The Roots Mission ให้ไปดูลาดเลารัสเซีย หลังปฏิวัติครั้งแรก ว่าหน้าตาเป็นยังไง หล่อเหลา หรือเหลาเหย่ คณะละครเร่เจริญสัมพันธไมตรีที่นำโดย นาย Elihu Roots ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอดีตทูต อดีตรัฐมนตรี อดีตอะไรเยอะแยะไปหมด ไปเปิดดูกูเกิลเอาแล้วกันนะครับ น่าเชื่อถือดี แต่คราวนี้ดูเหมือนจะไปทำหน้าที่เล่นละคร และทำหน้าที่นักสืบมากกว่า

    คณะนาย Roots มีด้วยกันกว่าสิบคน มีทั้ง นักการทูต นักธุรกิจ วิศวกร นักหนังสือพิมพ์ นักกิจกรรมสังคม (YMCA) นายทหารบก นายทหารเรือ เบิ้มๆทั้งนั้น มันเป็นคณะที่ต้องไปแสดงละครจริงๆ พวกเขาไปถึง เมือง Petrograd ของรัสเซีย เดือนพฤษภาคม 1917 ใช้เวลาเจริญสัมพันธไมตรีกับคณะปฏิวัติ Kerensky ประมาณ 4 เดือน ไปมันทั่วรัสเซียอันกว้างใหญ่ไพศาล ไปจนถึงไซบีเรียโน่น ต้องยอมรับว่า คณะนี้เขาเล่นละครเก่ง

    คงสงสัยกัน พวก YMCA ( Young Men’s Christain Association) นี่คณะละคร เอาไปทำอะไร ในสมัยนั้น (และสมัยนี้ ?!) เขาใช้ YMCA ทำหน้าที่เหมือน CIA ในคราบทูตวัฒนธรรม ใช้ศาสนา การกีฬา การบรรเทิง บังหน้า เข้าไปคลุกคลี กับชาวบ้าน ชาวเมือง และนักเรียนนักศึกษา มีทั้ง YMCA และ YWCA ของฝ่ายหญิง การจะเอาเจ้าหน้าที่ หน่วยงานราชการทหาร ไปคลุกกับชาวบ้านนี่ บางทีไม่ได้ผล ชาวบ้านไม่เปิดใจ ก็ใช้กิจกรรมนำโดยกลุ่มแบบนี้ สมัยนี้ ก็คงไม่ใช้ YMCA แล้ว เขามาในรูปแบบของกลุ่มอะไร ลองเดาดู

    (2)

    เดือนสิงหาคม คณะละครเร่ แสดงเสร็จ ก็ทำรายงานยาวเหยียด ส่งให้รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ นาย Robert Lansing พิจารณา
    ผมจะขอยกมาเฉพาะบางส่วน ที่น่าสนใจ แต่จะเอาฉบับเต็มลงให้อ่านกันด้วย เผื่อท่านใดอยากจะตั้งคณะละคร จะได้ใช้เป็นตัวอย่าง

    คณะละครได้ไปพบทั้งพวกทำปฏิวัติ ทหารฝ่ายเก่า ฝ่ายใหม่ ชาวบ้าน ชาววัด ครู นักเรียน พ่อค้า นักธุรกิจ สายลับ ฯลฯ พบมันหมด ไปคุย ไปถาม ไปเสือก ก็เหมือนที่ไอ้บ้าอะไรที่เพิ่ง มาเสือกที่บ้านเรา เมื่อต้นเดือนนี้ละครับ มันคงมาจากคณะละครเดียวกัน รูปแบบ การเจรจา ถึงได้ทำนองเดียวกัน เล่นกันแบบนี้มา 100 ปีแล้ว ยังไม่เลิก

    ข้อสรุปที่คณะละคร ได้จากการสำรวจ คือ ชาวรัสเซีย ถอดใจไม่อยากเล่นสงครามแล้ว ขนมปังก็จะไม่มีกิน บ้านก็พัง จนแทบไม่เหลือที่ให้ซุกหัว จะไปรบทำไมอีก คณะละครอ้างว่า เพราะฝ่ายเยอรมันขนสายลับเข้ามา เต็มเมืองรัสเซีย มากรอกหูชาวรัสเซีย และทหารรัสเซียว่า จะไปรบทำไม คนอยากรบน่ะ คือพระเจ้าซาร์ ตอนนี้ท่านก็ไปแล้ว พี่น้องก็ไม่ต้องไปรบแล้ว กลับบ้านไปทำไร่ทำนาต่อแล้วกัน

    ฝ่ายคณะละครได้ยินเข้าก็ลมแทบใส่ นี่ใกล้จะถึงคิวเราเข้าฉากไปรบต่อ ถ้าไม่มีรัสเซียอยู่แถวหน้าตายก่อน พวกเราก็ ฉ. ห. ละซิ เพราะฉนั้น สิ่งที่ฝ่ายเราต้องทำด่วน (ที่เปิดเผยได้) มี 2 เรื่อง

    เรื่องที่ 1 เราต้องเอาทีมอเมริกัน เข้ามาดูแลเรื่องถนนหนทาง รางรถไฟ ในรัสเซีย เพราะขณะนี้ อาวุธยุทธภัณท์ ที่ฝ่ายเราขนมาให้ ยังกองค้างอยูที่เมืองท่า Vladivostok ประมาณ 700,000 ตัน จะขนผ่านข้ามไป Moscow ยังไม่ได้ เพราะทั้งถนน ทั้งทางรถไฟ รับน้ำหนักไม่ไหว แล้วเมื่อเราจะเข้าทำสงคราม ของมันจะต้องขนมาอีกมากมาย เราจะทำยังไง ต้องแก้ไขเรื่องนี้ด่วนจี๋

    อืม คณะละครนี่ ไม่ใช่ย่อย ไม่ใช่มารำเฉิบๆ อย่างเดียว เขาไปสำรวจหมด ระยะทางรถไฟจาก Vladivostok ถึง Moscow น่ะ ประมาณ 5 ถึง 6,000 ไมล์ เชียวนะ รำไป สำรวจไปนี่ไม่ใช่งานเล็กๆ

    แล้วจำกันได้ไหมครับ เมื่อเขาจะรบกับเวียตนาม เขาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพ แต่ก่อนจะยกโขยงกองทัพกันเข้ามา เขาส่งคณะละครเร่แบบนี้ มาสำรวจบ้านเราไม่รู้กี่คณะ สำรวจอะไรไปบ้างก็ไม่รู้ แล้วเขาก็สร้างถนน จากสระบุรี กว้างขวางยาวเรียบไปถึงโคราช ให้เราชาวบ้านดีใจ แหม อเมริกาใจดีจัง ถนนเลยมีชื่อว่า มิตรภาพ เปล่าหรอกครับ เขาเตรียมไว้ขนส่ง อาวุธ ยุทธภัณท์ ที่เขาจะขนมาทางเรือ แต่กลัวมากองเป็นภูเขา อยู่แถวท่าเรือคลองเตย แบบ Vladivostock! มันก็เลย ต้องสร้างถนน สร้างสนามบิน ให้ประเทศไทย ฯลฯ (รายละเอียดมีอยู่ในนิทานเรื่อง “จิกโก๋ปากซอย” ถ้าอยากอ่านประวัติศาสตร์ นอกหลักสูตร กระทรวงศึกษาฯ)

    เรื่องที่ 2 ที่คณะละคร บอกสำคัญอย่างยิ่ง คือ เราต้องย้อมความคิค ย้อมสมองคนรัสเซียให้ “อยากทำสงคราม” ไม่ให้เชื่อฟังเยอรมัน อเมริกาจะทำได้อย่างไร รัสเซียไม่ใช่สมันน้อยนะ คณะละครบอกไม่มีปัญหา คนรัสเซีย ก็เหมือนเด็ก ที่ตัวโตนั่นแหละ
    เอ้า เจ้าหน้าที่รัสเซียที่ตามอ่านนิทาน ช่วยขีดเส้นใต้ 2 เส้น แล้วรายงานส่งคุณพี่ปูตินของผมด้วยนะครับ ว่าอเมริกาพูดแบบนี้ แปลว่าเห็นคนรัสเซียเป็นยังไง (เสี้ยม ซะหน่อย)

    คณะละครเร่ เขียนแผนการฟอกย้อมให้เสร็จ เขาระบุว่า เป้าหมายของแผนคือ:

    “To influence the attitude of the people of Russia for the prosecution of war as the only way of perpetuating their democracy ”

    ใครแปลเก่งๆ ลองแปลดูครับ

    สำหรับผม ผมเข้าใจความว่า เพื่อเป็นการย้อมความคิดของคนรัสเซีย ให้เชื่อว่า การเข้าทำสงคราม เป็นทางเดียวที่จะทำให้ประชาธิปไตยของเขาอยู่อย่างยั่งยืน

    ผมเขียนปูพื้น เล่ามาเสียยืดยาว เพื่อจะให้อ่านประโยคนี้กัน อ่านแล้วโปรดพิเคราะห์กันให้ดีๆ จะได้เห็น “สันดาน” อันอำมหิต ของอเมริกา (และของอังกฤษ) ที่ผ่านมาแล้วเกือบ 100 ปี แล้วก็ยังไม่เปลี่ยน และอีกกี่ร้อยปี ก็คงไม่มีวันเปลี่ยนความอำมหิต นี้ โดยใช้ความตอแหล แบบหน้าด้านๆ อ้างเรื่องประชาธิปไตย แบบตะหวักตะบวย เพื่อประโยชน์ของมัน หรือพวกมันเท่านั้น ใครจะเจ็บ ใครจะตาย ใครจะฉิบหาย ใครจะวิบัติ ขนาดไหน มันไม่สนใจ เลวถึงขนาดนี้ อำมหิต อย่างนี้ ยังมีคนอยากให้อเมริกา ครอบหัวสี่เหลี่ยมต่อไปอีกหรือครับ

    แผนการฟอกย้อม จะใช้วิธีหลักๆ อยู่ 5 อย่าง

    1. จัดกระบวนการ “สร้าง และย้อมข่าว” แล้วกระจายข่าว ที่สร้างและย้อมแล้ว ไปทั่วรัสเซีย โดยจะเอาทีมงานมาจากอเมริกา ทั้งด้านการเขียน และการแปล

    คือเอาช่างชำนาญการย้อมของอเมริกา มาตั้งโรงงานที่รัสเซีย เหมือนที่มีอยู่เกลื่อนในบ้านสมันน้อย ซื้อมันทุกช่อง ครอบมันทุกฉบับ

    2. การใช้เอกสารประเภทแผ่นพับ และใบปลิว เพื่อง่ายแก่การเสพข่าว
    สมัยนี้ก็คงเปลี่ยนเป็น เครื่องมือ ไอ้ป๊อด ไอ้แป้ด ไอ้โฟน โดยเฉพาะ พวกเล่นไลน์นี่เหยื่อชั้นดี ส่งข่าวย้อมอะไรเข้าไปแพลบเดียว กระจายทั่ว เรื่องโกหกทั้งนั้น เสพกันได้แยะและเร็วกว่า

    3. สร้างหนังประเภทต่างๆ เพื่อให้ชาวรัสเซียเสพ เช่น หนังเกี่ยวกับสงคราม หนังชีวิตคนอเมริกันในชนบท ในเมือง หนังเกี่ยวกับการทำอุตสาหกรรม การค้า หนังตลก และที่สำคัญ หนังที่แสดงถึงความรักชาติและการแสวงหาประชาธิปไตย

    ฮอลลีวู้ดรับไป เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นโรงย้อมที่สำคัญหมายเลขหนึ่ง

    4. การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะทำเป็นแผ่นโปสเตอร์สีสวยสดุดตา สื่อหัวข้อที่เหมาะสมกับรัสเซีย โดยให้สำนักงานประชาสัมพันธ์ ฝีมือเยี่ยมของอเมริกา

    รู้ไหมครับ พวกประชาสัมพันธ์เก่งๆ เขาย้อมโลกใบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว เขาเอาอะไรมาใส่หัวสมันน้อยบ้าง

    5. วิธีการที่แนบเนียนและใช้แพร่หลาย คือการพูด ซึ่งจำเป็นต้องใช้ นักพูด นักประชาสัมพันธ์ และครู เป็นจำนวนมาก โดยอเมริกาอาจจะเลือกอย่างเหมาะสม จากชาวรัสเซียก็ได้ นักพูดและครูนี้ ถือว่าเป็นเครื่องมือย้อมที่เยี่ยมที่สุด

    วิธีการนี้ บ้านสมันน้อยใช้แยะมาก ยิ่งตอนนี้ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของบ้านเมือง ช่างย้อมถูกจ้างมาทำหน้าที่เพิ่มขึ้นอีกมาก มาในสาระพัดคราบ หัดสังเกตกันบ้าง ใครของจริง ใครของปลอม ใครช่างย้อมฝีมือเนียน

    เป็นไงครับ 5 วิธีการหลัก ยังอยู่ครบในศตวรรษนี้ แค่เปลี่ยน เสื้อผ้า หน้าผม ถ้อยคำ ท่าทาง ให้เข้ากับสมัย ละครฉากเดิมๆก็ยังใช้ได้ เครื่องมือย้อมก็ยังใช้อยู่ แค่เปลี่ยนรุ่นใหม่ไปเรื่อยๆ เท่านั้น นี่ตกลงเราจะให้เขาเล่นแบบนี้ ไปเรื่อยๆ อีก 100 ปีหรือไงครับ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    26 กพ. 2558

    ####################
    เอกสารประกอบ
    FRUS
    https://www.dropbox.com/s/
    เรื่อง สันดาน “สันดาน” (1) ผมหายไปจากหน้าจอหลายวันมาก เพราะขี้เกียจดูข่าวและเขียนถึงไอ้นักล่าตอนนี้ บทมันซ้ำจนน่าเบื่อ แถมสะอิดสะเอียน เวลาดูมันพูด เล่นบทเป็นวีรบุรุษ ผู้เสียสละ จำเป็นต้องรักษาสันติสุขของมนุษยชาติ ฯลฯ ขืนดูต่อ ยาแก้คลื่นไส้ก็เอาไม่อยู่ ผมเลยไปค้นหาหนังสือเก่าๆมาอ่านประเทืองปัญญา ดีกว่าดูไอ้นักล่าตอแหล ปรากฏว่า อาการผมหนักกว่าคลื่นไส้! ผมไปเจอเอกสารเก่า เกือบ 100 ปี “The American and Russian Missions” ปี ค.ศ.1917 เป็นเอกสารของกระทรวงการต่างประเทศ อเมริกัน ที่เรียกว่า Foreign Relations of the United States (FRUS) ทนไม่ไหว ต้องเอามาเล่าสู่กันฟัง ถ้าไม่บอกว่า คนเขียนเอกสาร เขียนเมื่อไหร่ ท่านผู้อ่านอาจนึกว่าเป็นเรื่องในสมัยปัจจุบัน ผ่านมาเกือบ 100 ปี มันก็ยังใช้วิธีเดิมๆ ตามสันดาน… ปี ค.ศ.1917 ตามวิชาประวัติศาสตร์สากล สมัยที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยม เขาบอกว่า มีการปฏิวัติเกิดขึ้นในรัสเซีย คือการปฏิวัติอันโด่งดังของพวกบอลเชวิก (Bolsheviks) ที่โค่นพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 นั่นแหละ แต่ความจริง ในปี ค.ศ.1917 รัสเซีย มีการปฏิวัติ 2 ครั้ง ครั้งแรก ในเดือนมีนาคม ผู้นำการปฏิวัติ คือ นาย Aleksandr Kerensky ซึ่งยึดอำนาจจากพระเจ้าซาร์ ทำให้พระเจ้าซาร์ประกาศสละบัลลังก์ แต่ต่อมาพวกปฏิวัติก็จับท่านและราชวงค์ไปกักขัง ส่วนพวก Bolsheviks มาทำการปฏิวัติซ้ำในพฤศจิกายน ค.ศ.1917 ไล่คณะ นาย Kerensky ออกไป แล้วพวก Bolsheviks ก็ปกครองรัสเซียต่อ ในตอนที่ นาย Kerensky ทำการปฏิวัตินั้น สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ ปี ค.ศ.1914 กำลังโซ้ยกันอย่างดุเดือด สงครามโลกครั้งที่ 1 นี้ ความจริงเริ่มมาจากชาวเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เป็นฝ่ายกระสัน อยากจะทำสงครามนะครับ เพราะอังกฤษหมั่นไส้ ปนปอดแหกว่า เยอรมันกำลังจะโตใหญ่เกินหน้า ส่วนเรื่องอาชดยุกค์เฟอร์ดินานด์ แห่งปรัสเซียถูกยิง นั่นมันสาเหตุของสงครามโลก ตามประวัติศาสตร์หลักสูตรกระทรวงศึกษาฯ ลองไปหาประวัติศาสตร์นอกหลักสูตรมาอ่านกันบ้าง จะได้เห็นโลกกว้าง และลึกขึ้น ประมาณปี คศ 1899 เยอรมันส้มหล่นใส่ ไปได้สัมปทานจากออตโตมาน ให้สร้างทางรถไฟสาย Berlin Bagdad ยาวประมาณ 2,500 ไมล์ ภาพรางรถไฟวิ่งยาวจาก Berlin ผ่านไปกลางตะวันออกกลาง ที่เต็มไปด้วยแหล่งน้ำมันไปจนถึง Bagdad เลยไปอีกหน่อย ก็ถึงอ่าวเปอร์เซีย ที่อังกฤษตีตั๋วจองไว้ ภาพนี้มันทำให้ชาวเกาะใหญ่ฯนอนฝันร้าย ที่นอนเปียกชุ่มทุกคืน ตั้งแต่รู้ข่าว ชาวเกาะฯทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาวางแผนเตะตัดขาเยอรมัน ด้วยการไปชวนพรรคพวกมาร่วมรายการถล่มนักสร้างราง แต่ถ้ามีแค่พวกขาประจำอย่างฝรั่งเศส อืตาลีร่วม ชาวเกาะไม่แน่ใจว่า จะถีบนักสร้างรางให้ตกรางได้ ชาวเกาะเลยไปหลอกรัสเซีย ถึงจะอยู่ใกลหน่อย แต่ข่าวว่ากองทัพอึด ให้มาร่วมรายการถล่มนักสร้างรางด้วยกัน (รายละเอียดอยู่ในนิทาน เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือนก 2 หัว” และ นิทานชุด “เหยื่อ”) รัสเซีย จริงๆไม่มีเรื่องชังหน้ากับเยอรมันซักหน่อย แต่พออังกฤษเอาของขวัญมาล่อว่า ถ้าถีบมันตกรางได้ เอาไปเลย อาณาจักรออโตมาน เรายกให้ท่าน ไม่รู้รัสเซียกำลังมึนอะไร เดินหล่นพลั่กลงหลุม ที่ชาวเกาะขุดล่อ ออโตมานก็ไม่ใช่ของชาวเกาะใหญ่ฯ ซะหน่อย เขาเอาของคนอื่นมาล่อ ไปตกลงกับเขาได้ยังไง เนี่ย เหมือนเวลาคนดวงไม่ดี มีดาวประเภท เสาร์ ราหู ทับลัคน์อะไรทำนองนั้น เวลาดาวแรงอย่างนี้ทับลัคน์ อย่าไปเชื่ออะไรใครเขาง่ายๆนะครับ เมื่อ นาย Kerensky ทำปฏิวัติรัสเซีย สงครามเล่นไปแล้ว 3 ปี แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิก คนจัดรายการ ออกตั๋วเสริมมาขายเพิ่มอยู่เรื่อย แม้บ้านช่องจะพังพินาศฉิบหายกันเป็นแถบๆ แต่ชาวเกาะก็บอกให้สู้ต่อ ก็บทมันเขียนไว้อย่างนั้น ทีนี้ รัสเซียแนวร่วม ดันมีปฏิวัติ รัฐบาลใหม่จะเล่นสงครามต่อหรือ เปล่า ชาวเกาะชักเหงื่อแตก อเมริกาเด็กเรา (ตอนนั้น ไอ้นักล่ายังเป็นเด็ก อยู่ในอาณัติของอังกฤษ เรื่องมัน 100 ปีมาแล้วนะครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้ ถึงไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ก็อาจจะยังอยู่ ในอาณัติกันเหมือนเดิม) ก็ดันประกาศอยู่นั่นว่า เราเป็นกลาง (ยัง) ไม่เข้ามาช่วยรบ จำเราต้องใช้มันไปสืบความว่า รัสเซียหลังปฏิวัตินี่ จะสู้ต่อ หรือจะฝ่อหนี ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ไม้หลักปักเลน จึงจัดคณะละครเร่ ไปเจริญสัมพันธไมตรี ชื่อ The Roots Mission ให้ไปดูลาดเลารัสเซีย หลังปฏิวัติครั้งแรก ว่าหน้าตาเป็นยังไง หล่อเหลา หรือเหลาเหย่ คณะละครเร่เจริญสัมพันธไมตรีที่นำโดย นาย Elihu Roots ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอดีตทูต อดีตรัฐมนตรี อดีตอะไรเยอะแยะไปหมด ไปเปิดดูกูเกิลเอาแล้วกันนะครับ น่าเชื่อถือดี แต่คราวนี้ดูเหมือนจะไปทำหน้าที่เล่นละคร และทำหน้าที่นักสืบมากกว่า คณะนาย Roots มีด้วยกันกว่าสิบคน มีทั้ง นักการทูต นักธุรกิจ วิศวกร นักหนังสือพิมพ์ นักกิจกรรมสังคม (YMCA) นายทหารบก นายทหารเรือ เบิ้มๆทั้งนั้น มันเป็นคณะที่ต้องไปแสดงละครจริงๆ พวกเขาไปถึง เมือง Petrograd ของรัสเซีย เดือนพฤษภาคม 1917 ใช้เวลาเจริญสัมพันธไมตรีกับคณะปฏิวัติ Kerensky ประมาณ 4 เดือน ไปมันทั่วรัสเซียอันกว้างใหญ่ไพศาล ไปจนถึงไซบีเรียโน่น ต้องยอมรับว่า คณะนี้เขาเล่นละครเก่ง คงสงสัยกัน พวก YMCA ( Young Men’s Christain Association) นี่คณะละคร เอาไปทำอะไร ในสมัยนั้น (และสมัยนี้ ?!) เขาใช้ YMCA ทำหน้าที่เหมือน CIA ในคราบทูตวัฒนธรรม ใช้ศาสนา การกีฬา การบรรเทิง บังหน้า เข้าไปคลุกคลี กับชาวบ้าน ชาวเมือง และนักเรียนนักศึกษา มีทั้ง YMCA และ YWCA ของฝ่ายหญิง การจะเอาเจ้าหน้าที่ หน่วยงานราชการทหาร ไปคลุกกับชาวบ้านนี่ บางทีไม่ได้ผล ชาวบ้านไม่เปิดใจ ก็ใช้กิจกรรมนำโดยกลุ่มแบบนี้ สมัยนี้ ก็คงไม่ใช้ YMCA แล้ว เขามาในรูปแบบของกลุ่มอะไร ลองเดาดู (2) เดือนสิงหาคม คณะละครเร่ แสดงเสร็จ ก็ทำรายงานยาวเหยียด ส่งให้รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ นาย Robert Lansing พิจารณา ผมจะขอยกมาเฉพาะบางส่วน ที่น่าสนใจ แต่จะเอาฉบับเต็มลงให้อ่านกันด้วย เผื่อท่านใดอยากจะตั้งคณะละคร จะได้ใช้เป็นตัวอย่าง คณะละครได้ไปพบทั้งพวกทำปฏิวัติ ทหารฝ่ายเก่า ฝ่ายใหม่ ชาวบ้าน ชาววัด ครู นักเรียน พ่อค้า นักธุรกิจ สายลับ ฯลฯ พบมันหมด ไปคุย ไปถาม ไปเสือก ก็เหมือนที่ไอ้บ้าอะไรที่เพิ่ง มาเสือกที่บ้านเรา เมื่อต้นเดือนนี้ละครับ มันคงมาจากคณะละครเดียวกัน รูปแบบ การเจรจา ถึงได้ทำนองเดียวกัน เล่นกันแบบนี้มา 100 ปีแล้ว ยังไม่เลิก ข้อสรุปที่คณะละคร ได้จากการสำรวจ คือ ชาวรัสเซีย ถอดใจไม่อยากเล่นสงครามแล้ว ขนมปังก็จะไม่มีกิน บ้านก็พัง จนแทบไม่เหลือที่ให้ซุกหัว จะไปรบทำไมอีก คณะละครอ้างว่า เพราะฝ่ายเยอรมันขนสายลับเข้ามา เต็มเมืองรัสเซีย มากรอกหูชาวรัสเซีย และทหารรัสเซียว่า จะไปรบทำไม คนอยากรบน่ะ คือพระเจ้าซาร์ ตอนนี้ท่านก็ไปแล้ว พี่น้องก็ไม่ต้องไปรบแล้ว กลับบ้านไปทำไร่ทำนาต่อแล้วกัน ฝ่ายคณะละครได้ยินเข้าก็ลมแทบใส่ นี่ใกล้จะถึงคิวเราเข้าฉากไปรบต่อ ถ้าไม่มีรัสเซียอยู่แถวหน้าตายก่อน พวกเราก็ ฉ. ห. ละซิ เพราะฉนั้น สิ่งที่ฝ่ายเราต้องทำด่วน (ที่เปิดเผยได้) มี 2 เรื่อง เรื่องที่ 1 เราต้องเอาทีมอเมริกัน เข้ามาดูแลเรื่องถนนหนทาง รางรถไฟ ในรัสเซีย เพราะขณะนี้ อาวุธยุทธภัณท์ ที่ฝ่ายเราขนมาให้ ยังกองค้างอยูที่เมืองท่า Vladivostok ประมาณ 700,000 ตัน จะขนผ่านข้ามไป Moscow ยังไม่ได้ เพราะทั้งถนน ทั้งทางรถไฟ รับน้ำหนักไม่ไหว แล้วเมื่อเราจะเข้าทำสงคราม ของมันจะต้องขนมาอีกมากมาย เราจะทำยังไง ต้องแก้ไขเรื่องนี้ด่วนจี๋ อืม คณะละครนี่ ไม่ใช่ย่อย ไม่ใช่มารำเฉิบๆ อย่างเดียว เขาไปสำรวจหมด ระยะทางรถไฟจาก Vladivostok ถึง Moscow น่ะ ประมาณ 5 ถึง 6,000 ไมล์ เชียวนะ รำไป สำรวจไปนี่ไม่ใช่งานเล็กๆ แล้วจำกันได้ไหมครับ เมื่อเขาจะรบกับเวียตนาม เขาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพ แต่ก่อนจะยกโขยงกองทัพกันเข้ามา เขาส่งคณะละครเร่แบบนี้ มาสำรวจบ้านเราไม่รู้กี่คณะ สำรวจอะไรไปบ้างก็ไม่รู้ แล้วเขาก็สร้างถนน จากสระบุรี กว้างขวางยาวเรียบไปถึงโคราช ให้เราชาวบ้านดีใจ แหม อเมริกาใจดีจัง ถนนเลยมีชื่อว่า มิตรภาพ เปล่าหรอกครับ เขาเตรียมไว้ขนส่ง อาวุธ ยุทธภัณท์ ที่เขาจะขนมาทางเรือ แต่กลัวมากองเป็นภูเขา อยู่แถวท่าเรือคลองเตย แบบ Vladivostock! มันก็เลย ต้องสร้างถนน สร้างสนามบิน ให้ประเทศไทย ฯลฯ (รายละเอียดมีอยู่ในนิทานเรื่อง “จิกโก๋ปากซอย” ถ้าอยากอ่านประวัติศาสตร์ นอกหลักสูตร กระทรวงศึกษาฯ) เรื่องที่ 2 ที่คณะละคร บอกสำคัญอย่างยิ่ง คือ เราต้องย้อมความคิค ย้อมสมองคนรัสเซียให้ “อยากทำสงคราม” ไม่ให้เชื่อฟังเยอรมัน อเมริกาจะทำได้อย่างไร รัสเซียไม่ใช่สมันน้อยนะ คณะละครบอกไม่มีปัญหา คนรัสเซีย ก็เหมือนเด็ก ที่ตัวโตนั่นแหละ เอ้า เจ้าหน้าที่รัสเซียที่ตามอ่านนิทาน ช่วยขีดเส้นใต้ 2 เส้น แล้วรายงานส่งคุณพี่ปูตินของผมด้วยนะครับ ว่าอเมริกาพูดแบบนี้ แปลว่าเห็นคนรัสเซียเป็นยังไง (เสี้ยม ซะหน่อย) คณะละครเร่ เขียนแผนการฟอกย้อมให้เสร็จ เขาระบุว่า เป้าหมายของแผนคือ: “To influence the attitude of the people of Russia for the prosecution of war as the only way of perpetuating their democracy ” ใครแปลเก่งๆ ลองแปลดูครับ สำหรับผม ผมเข้าใจความว่า เพื่อเป็นการย้อมความคิดของคนรัสเซีย ให้เชื่อว่า การเข้าทำสงคราม เป็นทางเดียวที่จะทำให้ประชาธิปไตยของเขาอยู่อย่างยั่งยืน ผมเขียนปูพื้น เล่ามาเสียยืดยาว เพื่อจะให้อ่านประโยคนี้กัน อ่านแล้วโปรดพิเคราะห์กันให้ดีๆ จะได้เห็น “สันดาน” อันอำมหิต ของอเมริกา (และของอังกฤษ) ที่ผ่านมาแล้วเกือบ 100 ปี แล้วก็ยังไม่เปลี่ยน และอีกกี่ร้อยปี ก็คงไม่มีวันเปลี่ยนความอำมหิต นี้ โดยใช้ความตอแหล แบบหน้าด้านๆ อ้างเรื่องประชาธิปไตย แบบตะหวักตะบวย เพื่อประโยชน์ของมัน หรือพวกมันเท่านั้น ใครจะเจ็บ ใครจะตาย ใครจะฉิบหาย ใครจะวิบัติ ขนาดไหน มันไม่สนใจ เลวถึงขนาดนี้ อำมหิต อย่างนี้ ยังมีคนอยากให้อเมริกา ครอบหัวสี่เหลี่ยมต่อไปอีกหรือครับ แผนการฟอกย้อม จะใช้วิธีหลักๆ อยู่ 5 อย่าง 1. จัดกระบวนการ “สร้าง และย้อมข่าว” แล้วกระจายข่าว ที่สร้างและย้อมแล้ว ไปทั่วรัสเซีย โดยจะเอาทีมงานมาจากอเมริกา ทั้งด้านการเขียน และการแปล คือเอาช่างชำนาญการย้อมของอเมริกา มาตั้งโรงงานที่รัสเซีย เหมือนที่มีอยู่เกลื่อนในบ้านสมันน้อย ซื้อมันทุกช่อง ครอบมันทุกฉบับ 2. การใช้เอกสารประเภทแผ่นพับ และใบปลิว เพื่อง่ายแก่การเสพข่าว สมัยนี้ก็คงเปลี่ยนเป็น เครื่องมือ ไอ้ป๊อด ไอ้แป้ด ไอ้โฟน โดยเฉพาะ พวกเล่นไลน์นี่เหยื่อชั้นดี ส่งข่าวย้อมอะไรเข้าไปแพลบเดียว กระจายทั่ว เรื่องโกหกทั้งนั้น เสพกันได้แยะและเร็วกว่า 3. สร้างหนังประเภทต่างๆ เพื่อให้ชาวรัสเซียเสพ เช่น หนังเกี่ยวกับสงคราม หนังชีวิตคนอเมริกันในชนบท ในเมือง หนังเกี่ยวกับการทำอุตสาหกรรม การค้า หนังตลก และที่สำคัญ หนังที่แสดงถึงความรักชาติและการแสวงหาประชาธิปไตย ฮอลลีวู้ดรับไป เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นโรงย้อมที่สำคัญหมายเลขหนึ่ง 4. การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะทำเป็นแผ่นโปสเตอร์สีสวยสดุดตา สื่อหัวข้อที่เหมาะสมกับรัสเซีย โดยให้สำนักงานประชาสัมพันธ์ ฝีมือเยี่ยมของอเมริกา รู้ไหมครับ พวกประชาสัมพันธ์เก่งๆ เขาย้อมโลกใบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว เขาเอาอะไรมาใส่หัวสมันน้อยบ้าง 5. วิธีการที่แนบเนียนและใช้แพร่หลาย คือการพูด ซึ่งจำเป็นต้องใช้ นักพูด นักประชาสัมพันธ์ และครู เป็นจำนวนมาก โดยอเมริกาอาจจะเลือกอย่างเหมาะสม จากชาวรัสเซียก็ได้ นักพูดและครูนี้ ถือว่าเป็นเครื่องมือย้อมที่เยี่ยมที่สุด วิธีการนี้ บ้านสมันน้อยใช้แยะมาก ยิ่งตอนนี้ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของบ้านเมือง ช่างย้อมถูกจ้างมาทำหน้าที่เพิ่มขึ้นอีกมาก มาในสาระพัดคราบ หัดสังเกตกันบ้าง ใครของจริง ใครของปลอม ใครช่างย้อมฝีมือเนียน เป็นไงครับ 5 วิธีการหลัก ยังอยู่ครบในศตวรรษนี้ แค่เปลี่ยน เสื้อผ้า หน้าผม ถ้อยคำ ท่าทาง ให้เข้ากับสมัย ละครฉากเดิมๆก็ยังใช้ได้ เครื่องมือย้อมก็ยังใช้อยู่ แค่เปลี่ยนรุ่นใหม่ไปเรื่อยๆ เท่านั้น นี่ตกลงเราจะให้เขาเล่นแบบนี้ ไปเรื่อยๆ อีก 100 ปีหรือไงครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 26 กพ. 2558 #################### เอกสารประกอบ FRUS https://www.dropbox.com/s/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง ตาเหลือก
    “ตาเหลือก”

    คนโบราณ เวลาเล่าอะไร ท่านจะมีถ้อยคำบรรยายให้เราเห็นภาพชัด เช่น ขณะที่พวกลุงๆกำลังถกกันมันปากว่า ตกลงอีเอ๋อ มันจะได้ไปเจอพี่มัน ที่ใกล้จะลงโลงอยู่ที่โรงแรมอะไร วะ พูดได้แค่นั้นก็ต้องหยุด เพราะไอ้จ้อนวิ่งสี่ตีน ตาเหลือก มาบอกว่า ลุงตู่ๆ เร็วๆเข้า ปู่จิ๋ว เดินสะดุดปากตัวเอง หัวทิ่มฟาดพื้นเลือดไหลโกรกเลย..แปลว่าปู่จิ๋วแกต้องกำลังแย่จริงๆ ไอ้จ้อนถึงกับตกใจ ตาเหลือกวิ่งมา

    ผมชอบอ่านบทความของสื่อ ที่ทำหน้าที่เป็นโรงงานประชาสัมพันธ์ แบบถนัดย้อมสี ของไอ้นักล่าใบตองแห้ง โดยเฉพาะจากพวกที่เป็นถังความคิด แล้วเอามาถอดรหัสมันอีกต่อว่า ตอนนี้จริงๆแล้ว มันมีอาการอย่างไร สบายดี แค่ไข้จับสั่น หรือป่วยหนักถึงขนาดน้ำลายฟูมปาก ฯลฯ โดยเฉพาะอ่านจาก Foreign Affairs ซึ่งเป็นสื่อของ Council on Foreign Relations (CFR) ถังความคิดหมายเลขหนึ่ง ที่มีอิทธิพลต่อนโยบายและความคิดของไอ้นักล่าใบตองแห้ง

    ล่าสุด ผมอ่านเมื่อ 2 วันก่อน เป็นบทความลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2015 ชื่อเรื่อง “Goodbye, Putin” Why the President’s Days Are Numbered ยังไม่ทันอ่านเรื่องก็เดาออกแล้ว ว่า จะเร้าใจใส่สีแรงขนาดไหน

    คนเขียนบอกว่า ยิ่งสงครามที่ยูเครนยืดเยื้อนานไปเท่าไหร่ รัฐบาลของนายปูตินก็ล่มเร็วขึ้นเท่านั้นแหล่ะ นายปูตินปกครองรัสเซียมา 15 ปีแล้ว แม้ในตอนแรกๆ นโยบายเขาจะทำให้ได้คะแนนเสียง เช่น ตอนไล่พวกเช็คเชนออกไป หรือตอนอัดกลับพวกตะวันตก แต่หลังจากไปยึดไครเมีย และทำสงครามกับยูเครน ที่ทำให้ชาวรัสเซียตายเป็นเบือ และเศรษฐกิจของรัสเซียพุ่งลงเหว คะแนนเสียงของนายปูตินก็พุ่งหลาวตามลงไปด้วย ทุกสัญญาณแสดงว่า นายปูตินกำลังจะไปไม่รอด ระหว่างนี้พวกตะวันตกต้องดูแลยูเครนอย่างดีที่สุด แต่คงไม่นาน เพราะรัสเซียที่กำลังเน่าเฟะ กำลังจะร่วงหล่นอยู่แล้ว

    นอกเหนือจากนโยบายที่ผิดพลาดแล้ว นายปูตินยังมีปัญหาเรื่องภาพพจน์ ซึ่งนายปูตินก็รู้ตัว แม้ว่าจะบอกว่ามีเสน่ห์มีบารมี แต่เขารูปร่างขนาดเตี้ยแคระ…

    แม่เจ้าโว้ย นี่ เป็นถึงหนังสือ Foreign Affairs นะ ไม่ใช่หนังสือประเภทขายดารา มันคงไม่รู้จะด่าอะไรแล้ว ด่าตั้งกะนโยบายทำนายว่าจวนจะหล่น มันคงไม่หนำใจ เลยเล่นไปถึงเรื่องรูปโฉมกันเลย ไม่รู้หรือไง แถวบ้านสมันน้อยเขาปลื้มคุณพี่กัน ถึงขนาดมีสมาคมคนรักปูติน นี่มันแสดงว่า ไอ้นักล่ากำลังเริ่มตาเหลือกแล้วละสิ ถึงต้องเขียนข่าวแบบนี้ และสงสัยมันก็ได้ตาเหลือกจริงสมใจ
    ผมอ่านบทความเรื่องดาราจะลาโรงนี่ ยังไม่ทันจบดีเลย ดันม่อยหลับเพราะเหม็นน้ำเน่าของ เรื่อง อ้าวตื่นมาอีกที เห็นข่าวเมือง Donestsk ยูเครน ได้รับของขวัญ เป็นดอกเห็ดรุ่นใหม่ ดอกเล็กจิ๋ว แต่เขาว่าฤทธิ์ไม่แพ้ดอกใหญ่ คงมีใครทดลองส่งไปให้ดู ก่อนชุดจริง จะส่งข้ามทวีปไปให้ แบบนี้แสดงว่า ยูเครนคงจบยาก หรือจบไม่สวย

    อย่าลืมว่า เมื่อวันคุณป้าเข้มขัดเหล็ก จูงมือกับคุณลุงโอลองด์ ไปคุยกันให้รู้เรื่องกับคุณพี่ปูติน ที่รัสเซีย ข่าวไม่บอกว่าคุยได้เรื่องอะไรบ้าง แต่ผมดูสารรูปของคุณป้าตอนคุย เหมือนกำลังต้องการยาหอมแก้ลมใส่อย่างยิ่ง และขากลับ ดูเหมือนเข็มขัดเหล็ก จะกลายเป็นเข็มขัดหลุด ก็พอจะเดาผลการคุยได้ แถมคุณป้า ยังต้องทำหน้าที่กาคาบความไปบอกให้นายโอบามาถึงที่อีกด้วย เพราะข้อความบางอัน ผมเดาว่า คุณป้าคงไม่กล้าพูดผ่านใคร กลัวเขาไม่กล้าถ่ายทอด ป้าต้องถ่ายเอง ถึงจะได้อรรถรสครบถ้วน จากที่รับมาจากคุณพี่ปูติน

    ผลการคุยวันก่อนเป็นอย่างไร วันนี้ (10 กพ) ก็คงได้รู้กันแล้ว

    คุณป้าเข็มขัดเหล็ก หน้าตก บอกนายโอบามาว่า เขาไม่ยอมหรอก อย่าไปขู่เขาด้วยการคว่ำบาตรซ้ำเลย เพราะไม่ใช่เขาช้ำคนเดียว คนที่จะช้ำด้วยและหนักหนา คือพวกฉันที่อยู่ยุโรปนั่นแหละ แล้วถ้าเธอขนอาวุธ ขนกองทัพเข้าไปในยูเครน หยั่งที่ออกข่าวขู่ไปน่ะ เธอนึกว่าเขาจะถอยเหรอ มันเหมือนยิ่งยุเขา เขาไม่ได้มีมือเปล่านะ และไม่ได้มาคนเดียวด้วย เธอก็รู้ เธอนึกว่าเธอจะกล่อมอิหร่านได้เหรอ เซ่อจริง ตาโอ เขาจับมือตกลงกับทางโน้นเรียบร้อยไปตั้งนานแล้ว ไม่งั้นการเจรจาของเธอ มันจะเดินหน้าถอยหลังอย่างนี้เหรอ แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหนล่ะ โน่น เขาไปนั่งคุยอยู่ที่อียิปต์ ก็เพราะเธออีกนั่นแหละ เซ่อซ้ำซาก เดินหมากผิด ไปถีบมูบารักเขาทิ้งน่ะ เธอทำอย่างนี้มาตลอด แล้วใครจะไปเชื่อเธออีก อย่าลืมตุรกีด้วย ตอนนี้เขาเห็นหัวเธอไหม จะให้ฉันจาระไนให้เธอฟังไหม ตาโอ ว่าตอนนี้ เขาคุยอะไรกับใครบ้าง ที่สำคัญ เขายังมีอาเฮียช่วยเดินสาย เก็บเล็กเก็บใหญ่ให้อีก เธอรู้ใช่ไหมมันแปลว่าอะไร เขากำลังจับมือกัน เดินเรียงแถวดาหน้ามาใส่พวกเราไงล่ะ

    เธอนึกว่า จะให้พวกฉันแถวยุโรปรับกรรมบ้านช่องพัง แล้วเธอก็ลอยตัว เหมือนตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 อีกน่ะเหรอ นี่มันจะครั้งที่ 3 แล้วนะยะ จะให้พวกยุโรป โง่ซ้ำซาก โดนบอมบ์อยู่ข้างเดียวงั้นเหรอ เขาฝากมาบอกย่ะ ว่าคราวนี้ละ ตาโอ ตาแกบ้างซิ ป้ากลัวจนจะตดแตกอยู่แล้ว เขาฝากมาบอกว่า คราวนี้ลงบ้านแกแน่นอน เข้าใจมั้ย

    นี่ผมเดาเอาทั้งนั้นนะครับ ว่าคุณป้าแกคงใส่นายโอบามาเสียยับ แบบไม่ติดเบรคอย่างนั้น

    มันไม่น่าจะผิดไปจากนี้เท่าไหร่หรอก ถ้าเราฟังจากที่นายโอบามาพูด ตอนแถลงข่าวคู่กับคุณป้าเข็มขัดเหล็ก ที่ทำเนียบขาววันนี้ (10กพ) และดูสีหน้าของนายโอบามา ซึ่งเหมือนคนกินของแสลงเข้าไปเต็มท้อง ส่วนคุณป้า คราวนี้อย่าว่าแต่เข็มขัดเหล็กจะคาดไม่อยู่เลย ตัวแก ก็แทบจะยืนไม่อยู่ ถูกบีบจากทุกทาง จนหน้าตกเกือบถึงสะดือ

    ตอนนี้ดูเหมือนผู้เกี่ยวข้อง รู้สึกจะต่างเสียงกันเกี่ยวกับเรื่อง การติดอาวุธให้ยูเครน และการแซงชั่นรัสเซีย แม้ในกลุ่มพวกกันเอง แต่สำหรับคุณป้าเข็มขัดหลุด กับนักล่าใบตองแห้ง ต่างยืนเอามือยันโต๊ะ บอกว่า (ตอนนี้) เรายังร้องเพลงเดียวกันอยู่ แต่ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่

    การติดอาวุธให้ยูเครน หมายถึงโอกาสเกิดสงครามโลกคร้ังที่ 3 สูงอย่างรวดเร็วจนน่ากลัว

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    10 กพ 58
    เรื่อง ตาเหลือก “ตาเหลือก” คนโบราณ เวลาเล่าอะไร ท่านจะมีถ้อยคำบรรยายให้เราเห็นภาพชัด เช่น ขณะที่พวกลุงๆกำลังถกกันมันปากว่า ตกลงอีเอ๋อ มันจะได้ไปเจอพี่มัน ที่ใกล้จะลงโลงอยู่ที่โรงแรมอะไร วะ พูดได้แค่นั้นก็ต้องหยุด เพราะไอ้จ้อนวิ่งสี่ตีน ตาเหลือก มาบอกว่า ลุงตู่ๆ เร็วๆเข้า ปู่จิ๋ว เดินสะดุดปากตัวเอง หัวทิ่มฟาดพื้นเลือดไหลโกรกเลย..แปลว่าปู่จิ๋วแกต้องกำลังแย่จริงๆ ไอ้จ้อนถึงกับตกใจ ตาเหลือกวิ่งมา ผมชอบอ่านบทความของสื่อ ที่ทำหน้าที่เป็นโรงงานประชาสัมพันธ์ แบบถนัดย้อมสี ของไอ้นักล่าใบตองแห้ง โดยเฉพาะจากพวกที่เป็นถังความคิด แล้วเอามาถอดรหัสมันอีกต่อว่า ตอนนี้จริงๆแล้ว มันมีอาการอย่างไร สบายดี แค่ไข้จับสั่น หรือป่วยหนักถึงขนาดน้ำลายฟูมปาก ฯลฯ โดยเฉพาะอ่านจาก Foreign Affairs ซึ่งเป็นสื่อของ Council on Foreign Relations (CFR) ถังความคิดหมายเลขหนึ่ง ที่มีอิทธิพลต่อนโยบายและความคิดของไอ้นักล่าใบตองแห้ง ล่าสุด ผมอ่านเมื่อ 2 วันก่อน เป็นบทความลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2015 ชื่อเรื่อง “Goodbye, Putin” Why the President’s Days Are Numbered ยังไม่ทันอ่านเรื่องก็เดาออกแล้ว ว่า จะเร้าใจใส่สีแรงขนาดไหน คนเขียนบอกว่า ยิ่งสงครามที่ยูเครนยืดเยื้อนานไปเท่าไหร่ รัฐบาลของนายปูตินก็ล่มเร็วขึ้นเท่านั้นแหล่ะ นายปูตินปกครองรัสเซียมา 15 ปีแล้ว แม้ในตอนแรกๆ นโยบายเขาจะทำให้ได้คะแนนเสียง เช่น ตอนไล่พวกเช็คเชนออกไป หรือตอนอัดกลับพวกตะวันตก แต่หลังจากไปยึดไครเมีย และทำสงครามกับยูเครน ที่ทำให้ชาวรัสเซียตายเป็นเบือ และเศรษฐกิจของรัสเซียพุ่งลงเหว คะแนนเสียงของนายปูตินก็พุ่งหลาวตามลงไปด้วย ทุกสัญญาณแสดงว่า นายปูตินกำลังจะไปไม่รอด ระหว่างนี้พวกตะวันตกต้องดูแลยูเครนอย่างดีที่สุด แต่คงไม่นาน เพราะรัสเซียที่กำลังเน่าเฟะ กำลังจะร่วงหล่นอยู่แล้ว นอกเหนือจากนโยบายที่ผิดพลาดแล้ว นายปูตินยังมีปัญหาเรื่องภาพพจน์ ซึ่งนายปูตินก็รู้ตัว แม้ว่าจะบอกว่ามีเสน่ห์มีบารมี แต่เขารูปร่างขนาดเตี้ยแคระ… แม่เจ้าโว้ย นี่ เป็นถึงหนังสือ Foreign Affairs นะ ไม่ใช่หนังสือประเภทขายดารา มันคงไม่รู้จะด่าอะไรแล้ว ด่าตั้งกะนโยบายทำนายว่าจวนจะหล่น มันคงไม่หนำใจ เลยเล่นไปถึงเรื่องรูปโฉมกันเลย ไม่รู้หรือไง แถวบ้านสมันน้อยเขาปลื้มคุณพี่กัน ถึงขนาดมีสมาคมคนรักปูติน นี่มันแสดงว่า ไอ้นักล่ากำลังเริ่มตาเหลือกแล้วละสิ ถึงต้องเขียนข่าวแบบนี้ และสงสัยมันก็ได้ตาเหลือกจริงสมใจ ผมอ่านบทความเรื่องดาราจะลาโรงนี่ ยังไม่ทันจบดีเลย ดันม่อยหลับเพราะเหม็นน้ำเน่าของ เรื่อง อ้าวตื่นมาอีกที เห็นข่าวเมือง Donestsk ยูเครน ได้รับของขวัญ เป็นดอกเห็ดรุ่นใหม่ ดอกเล็กจิ๋ว แต่เขาว่าฤทธิ์ไม่แพ้ดอกใหญ่ คงมีใครทดลองส่งไปให้ดู ก่อนชุดจริง จะส่งข้ามทวีปไปให้ แบบนี้แสดงว่า ยูเครนคงจบยาก หรือจบไม่สวย อย่าลืมว่า เมื่อวันคุณป้าเข้มขัดเหล็ก จูงมือกับคุณลุงโอลองด์ ไปคุยกันให้รู้เรื่องกับคุณพี่ปูติน ที่รัสเซีย ข่าวไม่บอกว่าคุยได้เรื่องอะไรบ้าง แต่ผมดูสารรูปของคุณป้าตอนคุย เหมือนกำลังต้องการยาหอมแก้ลมใส่อย่างยิ่ง และขากลับ ดูเหมือนเข็มขัดเหล็ก จะกลายเป็นเข็มขัดหลุด ก็พอจะเดาผลการคุยได้ แถมคุณป้า ยังต้องทำหน้าที่กาคาบความไปบอกให้นายโอบามาถึงที่อีกด้วย เพราะข้อความบางอัน ผมเดาว่า คุณป้าคงไม่กล้าพูดผ่านใคร กลัวเขาไม่กล้าถ่ายทอด ป้าต้องถ่ายเอง ถึงจะได้อรรถรสครบถ้วน จากที่รับมาจากคุณพี่ปูติน ผลการคุยวันก่อนเป็นอย่างไร วันนี้ (10 กพ) ก็คงได้รู้กันแล้ว คุณป้าเข็มขัดเหล็ก หน้าตก บอกนายโอบามาว่า เขาไม่ยอมหรอก อย่าไปขู่เขาด้วยการคว่ำบาตรซ้ำเลย เพราะไม่ใช่เขาช้ำคนเดียว คนที่จะช้ำด้วยและหนักหนา คือพวกฉันที่อยู่ยุโรปนั่นแหละ แล้วถ้าเธอขนอาวุธ ขนกองทัพเข้าไปในยูเครน หยั่งที่ออกข่าวขู่ไปน่ะ เธอนึกว่าเขาจะถอยเหรอ มันเหมือนยิ่งยุเขา เขาไม่ได้มีมือเปล่านะ และไม่ได้มาคนเดียวด้วย เธอก็รู้ เธอนึกว่าเธอจะกล่อมอิหร่านได้เหรอ เซ่อจริง ตาโอ เขาจับมือตกลงกับทางโน้นเรียบร้อยไปตั้งนานแล้ว ไม่งั้นการเจรจาของเธอ มันจะเดินหน้าถอยหลังอย่างนี้เหรอ แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหนล่ะ โน่น เขาไปนั่งคุยอยู่ที่อียิปต์ ก็เพราะเธออีกนั่นแหละ เซ่อซ้ำซาก เดินหมากผิด ไปถีบมูบารักเขาทิ้งน่ะ เธอทำอย่างนี้มาตลอด แล้วใครจะไปเชื่อเธออีก อย่าลืมตุรกีด้วย ตอนนี้เขาเห็นหัวเธอไหม จะให้ฉันจาระไนให้เธอฟังไหม ตาโอ ว่าตอนนี้ เขาคุยอะไรกับใครบ้าง ที่สำคัญ เขายังมีอาเฮียช่วยเดินสาย เก็บเล็กเก็บใหญ่ให้อีก เธอรู้ใช่ไหมมันแปลว่าอะไร เขากำลังจับมือกัน เดินเรียงแถวดาหน้ามาใส่พวกเราไงล่ะ เธอนึกว่า จะให้พวกฉันแถวยุโรปรับกรรมบ้านช่องพัง แล้วเธอก็ลอยตัว เหมือนตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 อีกน่ะเหรอ นี่มันจะครั้งที่ 3 แล้วนะยะ จะให้พวกยุโรป โง่ซ้ำซาก โดนบอมบ์อยู่ข้างเดียวงั้นเหรอ เขาฝากมาบอกย่ะ ว่าคราวนี้ละ ตาโอ ตาแกบ้างซิ ป้ากลัวจนจะตดแตกอยู่แล้ว เขาฝากมาบอกว่า คราวนี้ลงบ้านแกแน่นอน เข้าใจมั้ย นี่ผมเดาเอาทั้งนั้นนะครับ ว่าคุณป้าแกคงใส่นายโอบามาเสียยับ แบบไม่ติดเบรคอย่างนั้น มันไม่น่าจะผิดไปจากนี้เท่าไหร่หรอก ถ้าเราฟังจากที่นายโอบามาพูด ตอนแถลงข่าวคู่กับคุณป้าเข็มขัดเหล็ก ที่ทำเนียบขาววันนี้ (10กพ) และดูสีหน้าของนายโอบามา ซึ่งเหมือนคนกินของแสลงเข้าไปเต็มท้อง ส่วนคุณป้า คราวนี้อย่าว่าแต่เข็มขัดเหล็กจะคาดไม่อยู่เลย ตัวแก ก็แทบจะยืนไม่อยู่ ถูกบีบจากทุกทาง จนหน้าตกเกือบถึงสะดือ ตอนนี้ดูเหมือนผู้เกี่ยวข้อง รู้สึกจะต่างเสียงกันเกี่ยวกับเรื่อง การติดอาวุธให้ยูเครน และการแซงชั่นรัสเซีย แม้ในกลุ่มพวกกันเอง แต่สำหรับคุณป้าเข็มขัดหลุด กับนักล่าใบตองแห้ง ต่างยืนเอามือยันโต๊ะ บอกว่า (ตอนนี้) เรายังร้องเพลงเดียวกันอยู่ แต่ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่ การติดอาวุธให้ยูเครน หมายถึงโอกาสเกิดสงครามโลกคร้ังที่ 3 สูงอย่างรวดเร็วจนน่ากลัว สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 10 กพ 58
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เผยกรณีนิวยอร์กไทมส์ระบุ ไทยก็เป็นศูนย์กลางของสแกมเมอร์ ยืนยัน รัฐบาลนี้ปราบสแกมเมอร์แล้ว ทั้งถอนสัญชาติ ยึดทรัพย์ คนทำงานไม่จำเป็นต้องพูดทุกเรื่อง ชี้แจง อาคารซิโน-ไทยทาวเวอร์แค่อาคารให้เช่า หลังดีเอสไอบุกตรวจสอบพบผู้ถือหุ้นชาวไทยของ ปริ้นซ์ กรุ๊ป ตั้งอยู่ในอาคาร ใครมาเช่าแล้วทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ชี้นิ้วบอกสื่อ คุณอย่าผูก ถ้าบริษัทซิโน-ไทย ทำสแกมเมอร์เองค่อยมาว่ากัน ส่วนข้อสงสัย อนุทิน-เนวิน เป็นเจ้าของสแกมเมอร์ บทสรุปเซงกะบ๊วยอย่างงี้ไม่ได้ คุยกับนายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีต รมช.คลัง แล้ว ไม่กลัวถูกร้องเรียนเพราะตรวจสอบทุกอย่าง

    -ไม่มีเงินถึงมูลนิธิธรรมนัส
    -ไม่รู้เรื่องยกทรัพย์สินให้
    -วางกำลังป้องกันภูมะเขือ
    -เผาเคเค-พาร์คโชว์อาเซียน
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เผยกรณีนิวยอร์กไทมส์ระบุ ไทยก็เป็นศูนย์กลางของสแกมเมอร์ ยืนยัน รัฐบาลนี้ปราบสแกมเมอร์แล้ว ทั้งถอนสัญชาติ ยึดทรัพย์ คนทำงานไม่จำเป็นต้องพูดทุกเรื่อง ชี้แจง อาคารซิโน-ไทยทาวเวอร์แค่อาคารให้เช่า หลังดีเอสไอบุกตรวจสอบพบผู้ถือหุ้นชาวไทยของ ปริ้นซ์ กรุ๊ป ตั้งอยู่ในอาคาร ใครมาเช่าแล้วทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ชี้นิ้วบอกสื่อ คุณอย่าผูก ถ้าบริษัทซิโน-ไทย ทำสแกมเมอร์เองค่อยมาว่ากัน ส่วนข้อสงสัย อนุทิน-เนวิน เป็นเจ้าของสแกมเมอร์ บทสรุปเซงกะบ๊วยอย่างงี้ไม่ได้ คุยกับนายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีต รมช.คลัง แล้ว ไม่กลัวถูกร้องเรียนเพราะตรวจสอบทุกอย่าง -ไม่มีเงินถึงมูลนิธิธรรมนัส -ไม่รู้เรื่องยกทรัพย์สินให้ -วางกำลังป้องกันภูมะเขือ -เผาเคเค-พาร์คโชว์อาเซียน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ไม่เคยโอนเงินบริจาคให้ "มูลนิธิธรรมนัส" : [THE MESSAGE]

    นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ชี้แจง กรณีเงินบริจาค ยืนยันไม่มีเจตนาเอาเงินไปให้ใคร ไม่มีเงินไปถึงมูลนิธิธรรมนัสฯ ประสานมูลนิธิที่มีความมั่นคงแห่งหนึ่งจะเปลี่ยนไปใช้ชื่อของเขา ตามข้อ 39 สาเหตุที่ไม่มีชื่อเป็นประธานฯ เพราะไม่รับตำแหน่งจะช่วยให้เกิดความโปร่งใส เป็นการคิดต่างกับหลายคน แต่เมื่ออยากให้รับก็จะนั่งประธานฯ เอง ส่วนกรณีผู้บริจาคเงินบางคนขอเงินคืน เงินบริจาคของนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล น่าจะไปทำถนนแล้ว แต่หากไม่สบายใจ จะนำเงินส่วนตัวคืนให้ ยืนยัน ตนเอง ประธาน และกรรมการทุกคน ไม่เคยได้เงินเดือน หรือรายได้ใดๆ จากมูลนิธิฯ ด้านน.ส.กาญจนา สถาวร ประธานมูลนิธิ เผย เงินตั้งมูลนิธิเริ่มต้น 500,000 บาท เป็นการลงขันจากเพื่อนๆ ของกัน มีเงินเข้าทั้งหมด 207 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 117 ล้านบาท มีเงินคงเหลือในบัญชี 90 ล้านบาทหน้างานยังมีภารกิจต่างๆ อยู่ ยืนยัน ไม่ได้เปิดรับเงินบริจาคก่อนมูลนิธิฯ จัดตั้งเสร็จ
    ไม่เคยโอนเงินบริจาคให้ "มูลนิธิธรรมนัส" : [THE MESSAGE] นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ชี้แจง กรณีเงินบริจาค ยืนยันไม่มีเจตนาเอาเงินไปให้ใคร ไม่มีเงินไปถึงมูลนิธิธรรมนัสฯ ประสานมูลนิธิที่มีความมั่นคงแห่งหนึ่งจะเปลี่ยนไปใช้ชื่อของเขา ตามข้อ 39 สาเหตุที่ไม่มีชื่อเป็นประธานฯ เพราะไม่รับตำแหน่งจะช่วยให้เกิดความโปร่งใส เป็นการคิดต่างกับหลายคน แต่เมื่ออยากให้รับก็จะนั่งประธานฯ เอง ส่วนกรณีผู้บริจาคเงินบางคนขอเงินคืน เงินบริจาคของนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล น่าจะไปทำถนนแล้ว แต่หากไม่สบายใจ จะนำเงินส่วนตัวคืนให้ ยืนยัน ตนเอง ประธาน และกรรมการทุกคน ไม่เคยได้เงินเดือน หรือรายได้ใดๆ จากมูลนิธิฯ ด้านน.ส.กาญจนา สถาวร ประธานมูลนิธิ เผย เงินตั้งมูลนิธิเริ่มต้น 500,000 บาท เป็นการลงขันจากเพื่อนๆ ของกัน มีเงินเข้าทั้งหมด 207 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 117 ล้านบาท มีเงินคงเหลือในบัญชี 90 ล้านบาทหน้างานยังมีภารกิจต่างๆ อยู่ ยืนยัน ไม่ได้เปิดรับเงินบริจาคก่อนมูลนิธิฯ จัดตั้งเสร็จ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • The standard สื่อมาตรฐานสุขภัณฑ์ ก็เอากะเค้าด้วย คว้างานรัฐด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง 15 โครงการ อีน้ำแข็งตรวจสอบอีเคนด้วย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    The standard สื่อมาตรฐานสุขภัณฑ์ ก็เอากะเค้าด้วย คว้างานรัฐด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง 15 โครงการ อีน้ำแข็งตรวจสอบอีเคนด้วย #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลไทยมุ่งเน้นเจรจา แต่กองทัพกัมพูชาใช้เวลาเตรียมพร้อมรบ! (24/10/68)

    #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #กัมพูชา #กองทัพกัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #รัฐบาลไทย #ความมั่นคง #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok
    รัฐบาลไทยมุ่งเน้นเจรจา แต่กองทัพกัมพูชาใช้เวลาเตรียมพร้อมรบ! (24/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #กัมพูชา #กองทัพกัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #รัฐบาลไทย #ความมั่นคง #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อทุ่งคา วัดบูรพาราม จ.ปัตตานี ปี2537
    เหรียญหลวงพ่อทุ่งคา วัดบูรพาราม อำเภอยะหริ่ง จ.ปัตตานี ปี2537 // พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกพิธีเสาร์5 พระอาจารย์นอง วัดทรายขาวร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยมและคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่างๆ คงกระพันชาตรี ทำให้คนรักคนหลง และเป็นที่เมตตาแก่คนรอบข้าง เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ ดีนัก **

    ** หลวงพ่อทุ่งคา วัดบูรพาราม มีประวัติกล่าวเป็นตำนานว่า พุทธศักราช ๒๓๐๒ หลวงพ่อทุ่งคา ไหลมาตามกระแสน้ำที่ฝั่งแม่น้ำยามูตอนบน ในหมู่บ้านชาวมุสลิม ชาวมุสลิมพยายามลากขึ้นทุกวิถีทางก็ไม่อาจจะนำขึ้นมาจากน้ำได้ จึงได้บอกให้ชาวพุทธมานำขึ้น ชาวพุทธได้จุดธูปเทียน อธิษฐาน อัญเชิญขอด้วยความเคารพ จึงอัญเชิญขึ้นฝั่งอย่างง่ายดาย เป็นที่อัศจรรย์ใจของชาวมุสลิม จึงได้พากันนับถือเลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงพ่อทุ่งคา **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อทุ่งคา วัดบูรพาราม จ.ปัตตานี ปี2537 เหรียญหลวงพ่อทุ่งคา วัดบูรพาราม อำเภอยะหริ่ง จ.ปัตตานี ปี2537 // พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกพิธีเสาร์5 พระอาจารย์นอง วัดทรายขาวร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยมและคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่างๆ คงกระพันชาตรี ทำให้คนรักคนหลง และเป็นที่เมตตาแก่คนรอบข้าง เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ ดีนัก ** ** หลวงพ่อทุ่งคา วัดบูรพาราม มีประวัติกล่าวเป็นตำนานว่า พุทธศักราช ๒๓๐๒ หลวงพ่อทุ่งคา ไหลมาตามกระแสน้ำที่ฝั่งแม่น้ำยามูตอนบน ในหมู่บ้านชาวมุสลิม ชาวมุสลิมพยายามลากขึ้นทุกวิถีทางก็ไม่อาจจะนำขึ้นมาจากน้ำได้ จึงได้บอกให้ชาวพุทธมานำขึ้น ชาวพุทธได้จุดธูปเทียน อธิษฐาน อัญเชิญขอด้วยความเคารพ จึงอัญเชิญขึ้นฝั่งอย่างง่ายดาย เป็นที่อัศจรรย์ใจของชาวมุสลิม จึงได้พากันนับถือเลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงพ่อทุ่งคา ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel เตรียมเปิดตัว Nova Lake – สถาปัตยกรรมใหม่พร้อมซอฟต์แวร์อัปเกรดครั้งใหญ่ และชิป Panther Lake รุ่นแรกภายในปีนี้

    Intel กำลังเตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อว่า “Nova Lake” ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในยุคหลัง Meteor Lake และ Lunar Lake โดย Nova Lake จะมาพร้อมการออกแบบใหม่หมดทั้งฝั่ง CPU และ GPU รวมถึงการอัปเกรดซอฟต์แวร์ครั้งใหญ่เพื่อรองรับการประมวลผลแบบ AI และการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

    Nova Lake จะใช้เทคโนโลยีการผลิต Intel 18A ซึ่งเป็นกระบวนการระดับ 1.8 นาโนเมตร และจะเริ่มใช้ในผลิตภัณฑ์ฝั่ง Client และ Server ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป โดยจะมีการเปิดตัวชิป Panther Lake รุ่นแรกภายในปีนี้ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี 18A

    Intel ยังเน้นการพัฒนา “ซอฟต์แวร์ที่ปรับแต่งสำหรับสถาปัตยกรรมใหม่” เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์ได้เต็มที่ โดยเฉพาะในด้าน AI, การประมวลผลแบบ edge และการใช้งานในระบบคลาวด์ ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญของผลิตภัณฑ์ในยุค Nova Lake

    การเปิดตัวสถาปัตยกรรม Nova Lake
    เป็นสถาปัตยกรรมใหม่หลัง Meteor Lake และ Lunar Lake
    ออกแบบใหม่ทั้ง CPU และ GPU
    รองรับการประมวลผล AI และ edge computing
    ใช้เทคโนโลยีการผลิต Intel 18A (1.8nm)

    การเปิดตัวชิป Panther Lake
    เป็นชิปรุ่นแรกในไลน์ Nova Lake
    เตรียมเปิดตัวภายในปีนี้
    ใช้เทคโนโลยี 18A และรองรับซอฟต์แวร์ใหม่ของ Intel

    การอัปเกรดซอฟต์แวร์
    Intel พัฒนา software stack ใหม่เพื่อรองรับ Nova Lake
    เน้นการใช้งานด้าน AI, คลาวด์ และ edge computing
    ช่วยให้ฮาร์ดแวร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    การเปลี่ยนสถาปัตยกรรมอาจต้องใช้เวลาในการปรับ ecosystem
    ซอฟต์แวร์เก่าอาจไม่รองรับฟีเจอร์ใหม่ของ Nova Lake
    การผลิตด้วยเทคโนโลยี 18A ต้องใช้ความแม่นยำสูงและต้นทุนมาก
    การแข่งขันกับ AMD และ ARM ยังคงเป็นแรงกดดันต่อ Intel

    https://wccftech.com/intel-nova-lake-cpus-new-architecture-software-upgrades-first-panther-lake-skus-this-year-18a-next-three-client-server-products/
    ⚙️ Intel เตรียมเปิดตัว Nova Lake – สถาปัตยกรรมใหม่พร้อมซอฟต์แวร์อัปเกรดครั้งใหญ่ และชิป Panther Lake รุ่นแรกภายในปีนี้ Intel กำลังเตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อว่า “Nova Lake” ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในยุคหลัง Meteor Lake และ Lunar Lake โดย Nova Lake จะมาพร้อมการออกแบบใหม่หมดทั้งฝั่ง CPU และ GPU รวมถึงการอัปเกรดซอฟต์แวร์ครั้งใหญ่เพื่อรองรับการประมวลผลแบบ AI และการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น Nova Lake จะใช้เทคโนโลยีการผลิต Intel 18A ซึ่งเป็นกระบวนการระดับ 1.8 นาโนเมตร และจะเริ่มใช้ในผลิตภัณฑ์ฝั่ง Client และ Server ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป โดยจะมีการเปิดตัวชิป Panther Lake รุ่นแรกภายในปีนี้ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี 18A Intel ยังเน้นการพัฒนา “ซอฟต์แวร์ที่ปรับแต่งสำหรับสถาปัตยกรรมใหม่” เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์ได้เต็มที่ โดยเฉพาะในด้าน AI, การประมวลผลแบบ edge และการใช้งานในระบบคลาวด์ ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญของผลิตภัณฑ์ในยุค Nova Lake ✅ การเปิดตัวสถาปัตยกรรม Nova Lake ➡️ เป็นสถาปัตยกรรมใหม่หลัง Meteor Lake และ Lunar Lake ➡️ ออกแบบใหม่ทั้ง CPU และ GPU ➡️ รองรับการประมวลผล AI และ edge computing ➡️ ใช้เทคโนโลยีการผลิต Intel 18A (1.8nm) ✅ การเปิดตัวชิป Panther Lake ➡️ เป็นชิปรุ่นแรกในไลน์ Nova Lake ➡️ เตรียมเปิดตัวภายในปีนี้ ➡️ ใช้เทคโนโลยี 18A และรองรับซอฟต์แวร์ใหม่ของ Intel ✅ การอัปเกรดซอฟต์แวร์ ➡️ Intel พัฒนา software stack ใหม่เพื่อรองรับ Nova Lake ➡️ เน้นการใช้งานด้าน AI, คลาวด์ และ edge computing ➡️ ช่วยให้ฮาร์ดแวร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ‼️ ข้อควรระวังและความท้าทาย ⛔ การเปลี่ยนสถาปัตยกรรมอาจต้องใช้เวลาในการปรับ ecosystem ⛔ ซอฟต์แวร์เก่าอาจไม่รองรับฟีเจอร์ใหม่ของ Nova Lake ⛔ การผลิตด้วยเทคโนโลยี 18A ต้องใช้ความแม่นยำสูงและต้นทุนมาก ⛔ การแข่งขันกับ AMD และ ARM ยังคงเป็นแรงกดดันต่อ Intel https://wccftech.com/intel-nova-lake-cpus-new-architecture-software-upgrades-first-panther-lake-skus-this-year-18a-next-three-client-server-products/
    WCCFTECH.COM
    Intel Nova Lake CPUs Bring New Architecture & Software Upgrades, First Panther Lake SKUs This Year, 18A To Cover At least Next-Three Client & Server Products
    Intel talked about its upcoming Panther Lake, Nova Lake, Coral Rapids CPUs, and its Foundry plans involving 18A & 14A during its Q3 call.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple และ SpaceX อาจจับมือกัน – สัญญาณเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม Starlink ใกล้เป็นจริง

    ดูเหมือนว่า Apple และ SpaceX กำลังเข้าใกล้การร่วมมือกันมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเป้าหมายคือการนำเครือข่ายดาวเทียม Starlink มาให้บริการกับ iPhone โดยตรง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อได้แม้อยู่ในพื้นที่ไม่มีสัญญาณมือถือหรือ Wi-Fi

    ปัจจุบัน Apple ใช้บริการจาก Globalstar สำหรับฟีเจอร์ Emergency SOS แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัทเริ่มห่างเหิน โดย Globalstar กำลังพิจารณาขายกิจการ และแม้ Apple จะลงทุนไปกว่า $2 พันล้าน ก็ยังไม่ต้องการซื้อกิจการเพราะไม่อยากถูกจัดเป็นผู้ให้บริการเครือข่าย

    ในขณะเดียวกัน SpaceX ได้ออกแบบดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ให้รองรับคลื่นความถี่ที่ iPhone ใช้ และยังซื้อคลื่นความถี่จาก EchoStar มูลค่า $17 พันล้าน เพื่อเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับผู้ผลิตชิปเพื่อฝังระบบเชื่อมต่อดาวเทียมลงในสมาร์ทโฟนโดยตรง

    แม้จะมีอุปสรรค เช่น ความขัดแย้งระหว่าง Elon Musk และ Tim Cook รวมถึงข้อเสนอเดิมที่ Apple ปฏิเสธไปในปี 2022 แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดบ่งชี้ว่าความร่วมมือครั้งนี้อาจเกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้

    ความเคลื่อนไหวของ Apple และ SpaceX
    อาจร่วมมือกันให้บริการเชื่อมต่อ iPhone ผ่านเครือข่าย Starlink
    ดาวเทียมรุ่นใหม่ของ SpaceX รองรับคลื่นความถี่ของ iPhone
    SpaceX ซื้อคลื่นความถี่จาก EchoStar มูลค่า $17 พันล้าน
    กำลังร่วมมือกับผู้ผลิตชิปเพื่อฝังระบบเชื่อมต่อดาวเทียมในสมาร์ทโฟน

    สถานการณ์ของ Globalstar
    ปัจจุบันให้บริการ Emergency SOS บน iPhone
    Apple ลงทุนกว่า $2 พันล้าน แต่ไม่ต้องการซื้อกิจการ
    Globalstar อาจขายกิจการในราคาเกิน $10 พันล้าน
    ความสัมพันธ์กับ Apple เริ่มห่างเหิน

    อุปสรรคที่อาจขัดขวางความร่วมมือ
    ความขัดแย้งระหว่าง Elon Musk และ Tim Cook
    Apple เคยปฏิเสธข้อเสนอของ Musk ในปี 2022
    Musk เคยเสนอให้ SpaceX เป็นผู้ให้บริการดาวเทียมแต่เพียงผู้เดียว พร้อมเรียกเงินล่วงหน้า $5 พันล้าน

    https://wccftech.com/tantalizing-signs-of-a-possible-tie-up-between-apple-and-spacex/
    📡 Apple และ SpaceX อาจจับมือกัน – สัญญาณเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม Starlink ใกล้เป็นจริง ดูเหมือนว่า Apple และ SpaceX กำลังเข้าใกล้การร่วมมือกันมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเป้าหมายคือการนำเครือข่ายดาวเทียม Starlink มาให้บริการกับ iPhone โดยตรง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อได้แม้อยู่ในพื้นที่ไม่มีสัญญาณมือถือหรือ Wi-Fi ปัจจุบัน Apple ใช้บริการจาก Globalstar สำหรับฟีเจอร์ Emergency SOS แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัทเริ่มห่างเหิน โดย Globalstar กำลังพิจารณาขายกิจการ และแม้ Apple จะลงทุนไปกว่า $2 พันล้าน ก็ยังไม่ต้องการซื้อกิจการเพราะไม่อยากถูกจัดเป็นผู้ให้บริการเครือข่าย ในขณะเดียวกัน SpaceX ได้ออกแบบดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ให้รองรับคลื่นความถี่ที่ iPhone ใช้ และยังซื้อคลื่นความถี่จาก EchoStar มูลค่า $17 พันล้าน เพื่อเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับผู้ผลิตชิปเพื่อฝังระบบเชื่อมต่อดาวเทียมลงในสมาร์ทโฟนโดยตรง แม้จะมีอุปสรรค เช่น ความขัดแย้งระหว่าง Elon Musk และ Tim Cook รวมถึงข้อเสนอเดิมที่ Apple ปฏิเสธไปในปี 2022 แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดบ่งชี้ว่าความร่วมมือครั้งนี้อาจเกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้ ✅ ความเคลื่อนไหวของ Apple และ SpaceX ➡️ อาจร่วมมือกันให้บริการเชื่อมต่อ iPhone ผ่านเครือข่าย Starlink ➡️ ดาวเทียมรุ่นใหม่ของ SpaceX รองรับคลื่นความถี่ของ iPhone ➡️ SpaceX ซื้อคลื่นความถี่จาก EchoStar มูลค่า $17 พันล้าน ➡️ กำลังร่วมมือกับผู้ผลิตชิปเพื่อฝังระบบเชื่อมต่อดาวเทียมในสมาร์ทโฟน ✅ สถานการณ์ของ Globalstar ➡️ ปัจจุบันให้บริการ Emergency SOS บน iPhone ➡️ Apple ลงทุนกว่า $2 พันล้าน แต่ไม่ต้องการซื้อกิจการ ➡️ Globalstar อาจขายกิจการในราคาเกิน $10 พันล้าน ➡️ ความสัมพันธ์กับ Apple เริ่มห่างเหิน ✅ อุปสรรคที่อาจขัดขวางความร่วมมือ ➡️ ความขัดแย้งระหว่าง Elon Musk และ Tim Cook ➡️ Apple เคยปฏิเสธข้อเสนอของ Musk ในปี 2022 ➡️ Musk เคยเสนอให้ SpaceX เป็นผู้ให้บริการดาวเทียมแต่เพียงผู้เดียว พร้อมเรียกเงินล่วงหน้า $5 พันล้าน https://wccftech.com/tantalizing-signs-of-a-possible-tie-up-between-apple-and-spacex/
    WCCFTECH.COM
    Tantalizing Signs Of A Possible Tie-Up Between Apple And SpaceX
    This previously incorporeal Apple-SpaceX tie-up idea seems closer to getting realized, courtesy of a few tantalizing developments.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื้อว่านหลวงพ่อดี รุ่นแรก วัดตันหยงมัส จ.นราธิวาส ปี2537
    เนื้อว่านหลวงพ่อดี ดี-ชุม หลวงพ่อชุม วัดตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ปี2537 // พระดีพิธีใหญ่ พระมีประสบการณ์มาก จัดสร้างจำนวนน้อยครับ สถาพสวยมาก ๆๆ เดิม ๆๆ . แบบนี้หาชมได้ยากครับ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ มหาอุด แคล้วคลาด คงกระพัน เมตตา โชคลาภ ป้องกันอันตรายทั้งปวงเสริมดวงชะตาเพิ่มสิริมงคล เสน่ห์เมตตามหานิยม เพิ่มบารมี เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป ฯลฯ

    ** เนื้อว่านรุ่นแรกหลวงพ่อดี ดี-ชุม หลวงพ่อชุม วัดตันหยงมัส อ.ระแงะ นราธิวาส ปี2537........หลวงพ่อชุมศิษย์เอกท่านสร้าง ประสบการณ์มากมาย คนในพื้นที่และทหารชายแดน3 จังหวัดภาคใต้ต่างรู้ดี และห่วงกันมาก พระดี พิธีใหญ่ หลวงพ่อชุม วัดตันหยงมัส นราธิวาส ศิษย์สายตรงหลวงพ่อครน วัดบางแซะ หลวงพ่อชุม นับว่าเป็นหลานแท้ๆของหลวงพ่อดี ได้สืบสายวิชาวิทยาคมของหลวงพ่อครน มาจากหลวงพ่อดี วาจาสิทธิ์ จนแทบหมดสิ้น หลวงพ่อชุม อนุตตโร ได้จัดสร้างเหรียญและพระเนื้อว่าน เพื่อแจกเป็นที่ระลึกให้แก่ผู้ที่ร่วมบริจาคทรัพย์สมทบทุนสร้างโบสถ์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ได้รับการปลุกเสกเดี่ยวจากหลวงพ่อชุม เรื่อยๆมาจนกระทั่งถึงวันที่จัดพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ โดยอาราธนานิมนต์พระสงฆ์ผู้ทรงคุณวุฒิหลายรูปมาร่วมงาน อาทิเช่น
    1. พระเทพศีลวิสุทธ์ (หลวงพ่ออ่อน) วัดประชุมชลธารา
    2. พระครูสิริวราภรณ์ (หลวงพ่อเสาร์) วัดกำแพง
    3. พระครูเรวัตศีลคุณ (หลวงปู่สังข์) วัดดอนตรอ
    4. พระครูนิภาวิหารกิจ (หลวงพ่อดำ) วัดนภาราม
    5. พระครูสังฆสิทธิพิทักษ์ (หลวงพ่อเจ) วัดสังฆสิทธาราม
    6. พระครูบรรพตสุวรรณคุณ (หลวงพ่อนิล) วัดเขาเข็มทอง
    7. พระครูวิสุทรสีลาภรณ์ (หลวงพ่อมิตร) วัดนิคมเก่า
    8. พระครูสุทธิชลธาร (หลวงพ่อชู) วัดชลธาราวาส
    9. พระครูการุณยนิวิฐ (หลวงพ่อชุม) วัดตันหยงมัส **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เนื้อว่านหลวงพ่อดี รุ่นแรก วัดตันหยงมัส จ.นราธิวาส ปี2537 เนื้อว่านหลวงพ่อดี ดี-ชุม หลวงพ่อชุม วัดตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ปี2537 // พระดีพิธีใหญ่ พระมีประสบการณ์มาก จัดสร้างจำนวนน้อยครับ สถาพสวยมาก ๆๆ เดิม ๆๆ . แบบนี้หาชมได้ยากครับ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ มหาอุด แคล้วคลาด คงกระพัน เมตตา โชคลาภ ป้องกันอันตรายทั้งปวงเสริมดวงชะตาเพิ่มสิริมงคล เสน่ห์เมตตามหานิยม เพิ่มบารมี เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป ฯลฯ ** เนื้อว่านรุ่นแรกหลวงพ่อดี ดี-ชุม หลวงพ่อชุม วัดตันหยงมัส อ.ระแงะ นราธิวาส ปี2537........หลวงพ่อชุมศิษย์เอกท่านสร้าง ประสบการณ์มากมาย คนในพื้นที่และทหารชายแดน3 จังหวัดภาคใต้ต่างรู้ดี และห่วงกันมาก พระดี พิธีใหญ่ หลวงพ่อชุม วัดตันหยงมัส นราธิวาส ศิษย์สายตรงหลวงพ่อครน วัดบางแซะ หลวงพ่อชุม นับว่าเป็นหลานแท้ๆของหลวงพ่อดี ได้สืบสายวิชาวิทยาคมของหลวงพ่อครน มาจากหลวงพ่อดี วาจาสิทธิ์ จนแทบหมดสิ้น หลวงพ่อชุม อนุตตโร ได้จัดสร้างเหรียญและพระเนื้อว่าน เพื่อแจกเป็นที่ระลึกให้แก่ผู้ที่ร่วมบริจาคทรัพย์สมทบทุนสร้างโบสถ์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ได้รับการปลุกเสกเดี่ยวจากหลวงพ่อชุม เรื่อยๆมาจนกระทั่งถึงวันที่จัดพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ โดยอาราธนานิมนต์พระสงฆ์ผู้ทรงคุณวุฒิหลายรูปมาร่วมงาน อาทิเช่น 1. พระเทพศีลวิสุทธ์ (หลวงพ่ออ่อน) วัดประชุมชลธารา 2. พระครูสิริวราภรณ์ (หลวงพ่อเสาร์) วัดกำแพง 3. พระครูเรวัตศีลคุณ (หลวงปู่สังข์) วัดดอนตรอ 4. พระครูนิภาวิหารกิจ (หลวงพ่อดำ) วัดนภาราม 5. พระครูสังฆสิทธิพิทักษ์ (หลวงพ่อเจ) วัดสังฆสิทธาราม 6. พระครูบรรพตสุวรรณคุณ (หลวงพ่อนิล) วัดเขาเข็มทอง 7. พระครูวิสุทรสีลาภรณ์ (หลวงพ่อมิตร) วัดนิคมเก่า 8. พระครูสุทธิชลธาร (หลวงพ่อชู) วัดชลธาราวาส 9. พระครูการุณยนิวิฐ (หลวงพ่อชุม) วัดตันหยงมัส ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • TP-Link เจอช่องโหว่ร้ายแรง – โค้ดดีบั๊กเก่ากลับมาอีกครั้ง เปิดช่องให้แฮกเกอร์เข้าถึง root ได้

    TP-Link กำลังเผชิญกับปัญหาด้านความปลอดภัยครั้งใหญ่ เมื่อมีการค้นพบช่องโหว่ใหม่ 2 รายการในเราเตอร์รุ่น Omada และ Festa ซึ่งเปิดช่องให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบในระดับ root ได้ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกติดตามในชื่อ CVE-2025-7850 และ CVE-2025-7851 โดยทีมวิจัยจาก Forescout’s Vedere Labs

    CVE-2025-7851 เกิดจากโค้ดดีบั๊กเก่าที่เคยถูกใช้ในช่องโหว่ CVE-2024-21827 แม้ TP-Link จะเคยออกแพตช์แก้ไขไปแล้ว แต่กลับมีโค้ดบางส่วนหลงเหลืออยู่ และสามารถถูกเรียกใช้งานได้อีกครั้งหากมีไฟล์ชื่อ image_type_debug อยู่ในระบบ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าสู่ระบบด้วยสิทธิ์ root ได้

    ช่องโหว่อีกตัวคือ CVE-2025-7850 เกิดจากการจัดการข้อมูลในฟิลด์ private key ของ WireGuard VPN ไม่ดีพอ ทำให้ผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนสามารถ inject คำสั่งเข้าสู่ระบบได้ และเมื่อใช้ร่วมกับช่องโหว่แรก จะสามารถควบคุมอุปกรณ์ได้อย่างสมบูรณ์

    การค้นพบนี้ยังนำไปสู่การตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งพบช่องโหว่อีก 15 รายการในอุปกรณ์ TP-Link รุ่นอื่นๆ ที่กำลังอยู่ในกระบวนการเปิดเผยและแก้ไขภายในต้นปี 2026

    ช่องโหว่ใหม่ในเราเตอร์ TP-Link
    CVE-2025-7851: โค้ดดีบั๊กเก่ากลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
    CVE-2025-7850: ช่องโหว่ใน WireGuard VPN ที่เปิดให้ inject คำสั่ง
    ใช้ร่วมกันแล้วสามารถควบคุมอุปกรณ์ได้แบบ root access
    พบในรุ่น Omada และ Festa

    การตรวจสอบเพิ่มเติม
    พบช่องโหว่อีก 15 รายการในอุปกรณ์ TP-Link รุ่นอื่น
    อยู่ในกระบวนการเปิดเผยและแก้ไขภายในต้นปี 2026
    แสดงถึงปัญหาการจัดการโค้ดและการแพตช์ที่ไม่สมบูรณ์

    คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
    ควรอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันทีเมื่อมีแพตช์ออก
    ปิดการเข้าถึงจากระยะไกลหากไม่จำเป็น
    ตรวจสอบ log เครือข่ายเพื่อหาสัญญาณการโจมตี

    ข้อควรระวังและความเสี่ยง
    ช่องโหว่ CVE-2025-7850 อาจถูกโจมตีจากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน
    การแพตช์ที่ไม่สมบูรณ์อาจเปิดช่องให้โค้ดเก่ากลับมาใช้งานได้อีก
    อุปกรณ์ที่ดูเหมือนปลอดภัยอาจยังมีช่องโหว่ซ่อนอยู่
    การใช้ VPN โดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัยอาจกลายเป็นช่องทางโจมตี

    https://www.techradar.com/pro/security/hidden-debug-code-returns-from-the-dead-as-tp-link-routers-face-a-wave-of-new-critical-root-access-flaws
    🛡️ TP-Link เจอช่องโหว่ร้ายแรง – โค้ดดีบั๊กเก่ากลับมาอีกครั้ง เปิดช่องให้แฮกเกอร์เข้าถึง root ได้ TP-Link กำลังเผชิญกับปัญหาด้านความปลอดภัยครั้งใหญ่ เมื่อมีการค้นพบช่องโหว่ใหม่ 2 รายการในเราเตอร์รุ่น Omada และ Festa ซึ่งเปิดช่องให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบในระดับ root ได้ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกติดตามในชื่อ CVE-2025-7850 และ CVE-2025-7851 โดยทีมวิจัยจาก Forescout’s Vedere Labs CVE-2025-7851 เกิดจากโค้ดดีบั๊กเก่าที่เคยถูกใช้ในช่องโหว่ CVE-2024-21827 แม้ TP-Link จะเคยออกแพตช์แก้ไขไปแล้ว แต่กลับมีโค้ดบางส่วนหลงเหลืออยู่ และสามารถถูกเรียกใช้งานได้อีกครั้งหากมีไฟล์ชื่อ image_type_debug อยู่ในระบบ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าสู่ระบบด้วยสิทธิ์ root ได้ ช่องโหว่อีกตัวคือ CVE-2025-7850 เกิดจากการจัดการข้อมูลในฟิลด์ private key ของ WireGuard VPN ไม่ดีพอ ทำให้ผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนสามารถ inject คำสั่งเข้าสู่ระบบได้ และเมื่อใช้ร่วมกับช่องโหว่แรก จะสามารถควบคุมอุปกรณ์ได้อย่างสมบูรณ์ การค้นพบนี้ยังนำไปสู่การตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งพบช่องโหว่อีก 15 รายการในอุปกรณ์ TP-Link รุ่นอื่นๆ ที่กำลังอยู่ในกระบวนการเปิดเผยและแก้ไขภายในต้นปี 2026 ✅ ช่องโหว่ใหม่ในเราเตอร์ TP-Link ➡️ CVE-2025-7851: โค้ดดีบั๊กเก่ากลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ➡️ CVE-2025-7850: ช่องโหว่ใน WireGuard VPN ที่เปิดให้ inject คำสั่ง ➡️ ใช้ร่วมกันแล้วสามารถควบคุมอุปกรณ์ได้แบบ root access ➡️ พบในรุ่น Omada และ Festa ✅ การตรวจสอบเพิ่มเติม ➡️ พบช่องโหว่อีก 15 รายการในอุปกรณ์ TP-Link รุ่นอื่น ➡️ อยู่ในกระบวนการเปิดเผยและแก้ไขภายในต้นปี 2026 ➡️ แสดงถึงปัญหาการจัดการโค้ดและการแพตช์ที่ไม่สมบูรณ์ ✅ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ➡️ ควรอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันทีเมื่อมีแพตช์ออก ➡️ ปิดการเข้าถึงจากระยะไกลหากไม่จำเป็น ➡️ ตรวจสอบ log เครือข่ายเพื่อหาสัญญาณการโจมตี ‼️ ข้อควรระวังและความเสี่ยง ⛔ ช่องโหว่ CVE-2025-7850 อาจถูกโจมตีจากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ⛔ การแพตช์ที่ไม่สมบูรณ์อาจเปิดช่องให้โค้ดเก่ากลับมาใช้งานได้อีก ⛔ อุปกรณ์ที่ดูเหมือนปลอดภัยอาจยังมีช่องโหว่ซ่อนอยู่ ⛔ การใช้ VPN โดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัยอาจกลายเป็นช่องทางโจมตี https://www.techradar.com/pro/security/hidden-debug-code-returns-from-the-dead-as-tp-link-routers-face-a-wave-of-new-critical-root-access-flaws
    WWW.TECHRADAR.COM
    Routine fixes can sometimes introduce fresh attack paths
    Two new flaws expose weaknesses in TP-Link’s Omada and Festa routers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • Claude AI เปิดตัวฟีเจอร์ Memory สำหรับผู้ใช้ Pro – เชื่อมต่อกับ ChatGPT และ Gemini ได้อย่างลื่นไหล

    Anthropic ผู้พัฒนา Claude AI ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า “Memory” สำหรับผู้ใช้แบบ Pro และ Max โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้ Claude ฉลาดขึ้นและเข้าใจผู้ใช้มากขึ้นในระยะยาว ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ Claude สามารถจดจำบริบทจากการสนทนาเก่าๆ และปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการทำงานของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ

    ผู้ใช้สามารถควบคุม Memory ได้อย่างละเอียด เช่น เปิด/ปิดการจดจำ ลบความจำเฉพาะจุด หรือใช้โหมด Incognito เพื่อเริ่มต้นใหม่แบบไม่มีบริบทเก่า นอกจากนี้ยังสามารถนำเข้าความจำจาก AI ตัวอื่น เช่น ChatGPT และ Gemini ได้ด้วย ทำให้การเปลี่ยนมาใช้ Claude เป็นไปอย่างราบรื่น

    Claude ยังสามารถสร้าง “พื้นที่ความจำเฉพาะ” สำหรับแต่ละโปรเจกต์ เช่น แยกงานเขียนออกจากงานวางแผนผลิตภัณฑ์ เพื่อให้การสนทนาไม่ปะปนกัน และมีความต่อเนื่องในแต่ละบริบท

    ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายใหญ่ของ Anthropic ที่ต้องการให้ Claude เป็น “คู่คิดระยะยาว” ที่สามารถเข้าใจบริบทการทำงานของผู้ใช้และปรับตัวได้อย่างต่อเนื่อง

    การเปิดตัวฟีเจอร์ Memory ใน Claude AI
    รองรับผู้ใช้แบบ Pro ($20/เดือน) และ Max ($100/เดือน)
    Claude สามารถจดจำบริบทจากการสนทนาเก่าๆ ได้
    ปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการทำงานของผู้ใช้
    ผู้ใช้สามารถควบคุมความจำได้อย่างละเอียด

    ความสามารถในการเชื่อมต่อกับ AI อื่น
    สามารถนำเข้าความจำจาก ChatGPT และ Gemini ได้
    ช่วยให้การเปลี่ยนมาใช้ Claude เป็นไปอย่างราบรื่น
    รองรับการส่งออกความจำไปยังแพลตฟอร์มอื่น

    การจัดการความจำแบบแยกโปรเจกต์
    Claude สามารถสร้างพื้นที่ความจำเฉพาะสำหรับแต่ละโปรเจกต์
    ช่วยให้การสนทนาไม่ปะปนกัน และมีความต่อเนื่อง
    เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ทำงานหลายด้าน เช่น เขียนบทความและวางแผนผลิตภัณฑ์

    เป้าหมายของ Anthropic
    ต้องการให้ Claude เป็นคู่คิดระยะยาวที่เข้าใจผู้ใช้
    สร้างระบบ AI ที่มีความต่อเนื่องและปรับตัวได้
    เพิ่มความโปร่งใสในการจัดการข้อมูลความจำ

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    ฟีเจอร์ Memory ยังจำกัดเฉพาะผู้ใช้แบบเสียเงิน
    การนำเข้าความจำจาก AI อื่นอาจมีข้อจำกัดด้านความเข้ากันได้
    ผู้ใช้ต้องเข้าใจวิธีจัดการความจำเพื่อใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ
    หากไม่จัดการพื้นที่ความจำอย่างเหมาะสม อาจเกิดความสับสนในบริบท

    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude-ai-is-catching-up-fast-with-memory-for-pro-users-and-it-plays-nicely-with-chatgpt-and-gemini
    🧠 Claude AI เปิดตัวฟีเจอร์ Memory สำหรับผู้ใช้ Pro – เชื่อมต่อกับ ChatGPT และ Gemini ได้อย่างลื่นไหล Anthropic ผู้พัฒนา Claude AI ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า “Memory” สำหรับผู้ใช้แบบ Pro และ Max โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้ Claude ฉลาดขึ้นและเข้าใจผู้ใช้มากขึ้นในระยะยาว ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ Claude สามารถจดจำบริบทจากการสนทนาเก่าๆ และปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการทำงานของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ ผู้ใช้สามารถควบคุม Memory ได้อย่างละเอียด เช่น เปิด/ปิดการจดจำ ลบความจำเฉพาะจุด หรือใช้โหมด Incognito เพื่อเริ่มต้นใหม่แบบไม่มีบริบทเก่า นอกจากนี้ยังสามารถนำเข้าความจำจาก AI ตัวอื่น เช่น ChatGPT และ Gemini ได้ด้วย ทำให้การเปลี่ยนมาใช้ Claude เป็นไปอย่างราบรื่น Claude ยังสามารถสร้าง “พื้นที่ความจำเฉพาะ” สำหรับแต่ละโปรเจกต์ เช่น แยกงานเขียนออกจากงานวางแผนผลิตภัณฑ์ เพื่อให้การสนทนาไม่ปะปนกัน และมีความต่อเนื่องในแต่ละบริบท ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายใหญ่ของ Anthropic ที่ต้องการให้ Claude เป็น “คู่คิดระยะยาว” ที่สามารถเข้าใจบริบทการทำงานของผู้ใช้และปรับตัวได้อย่างต่อเนื่อง ✅ การเปิดตัวฟีเจอร์ Memory ใน Claude AI ➡️ รองรับผู้ใช้แบบ Pro ($20/เดือน) และ Max ($100/เดือน) ➡️ Claude สามารถจดจำบริบทจากการสนทนาเก่าๆ ได้ ➡️ ปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการทำงานของผู้ใช้ ➡️ ผู้ใช้สามารถควบคุมความจำได้อย่างละเอียด ✅ ความสามารถในการเชื่อมต่อกับ AI อื่น ➡️ สามารถนำเข้าความจำจาก ChatGPT และ Gemini ได้ ➡️ ช่วยให้การเปลี่ยนมาใช้ Claude เป็นไปอย่างราบรื่น ➡️ รองรับการส่งออกความจำไปยังแพลตฟอร์มอื่น ✅ การจัดการความจำแบบแยกโปรเจกต์ ➡️ Claude สามารถสร้างพื้นที่ความจำเฉพาะสำหรับแต่ละโปรเจกต์ ➡️ ช่วยให้การสนทนาไม่ปะปนกัน และมีความต่อเนื่อง ➡️ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ทำงานหลายด้าน เช่น เขียนบทความและวางแผนผลิตภัณฑ์ ✅ เป้าหมายของ Anthropic ➡️ ต้องการให้ Claude เป็นคู่คิดระยะยาวที่เข้าใจผู้ใช้ ➡️ สร้างระบบ AI ที่มีความต่อเนื่องและปรับตัวได้ ➡️ เพิ่มความโปร่งใสในการจัดการข้อมูลความจำ ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ ฟีเจอร์ Memory ยังจำกัดเฉพาะผู้ใช้แบบเสียเงิน ⛔ การนำเข้าความจำจาก AI อื่นอาจมีข้อจำกัดด้านความเข้ากันได้ ⛔ ผู้ใช้ต้องเข้าใจวิธีจัดการความจำเพื่อใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ⛔ หากไม่จัดการพื้นที่ความจำอย่างเหมาะสม อาจเกิดความสับสนในบริบท https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude-ai-is-catching-up-fast-with-memory-for-pro-users-and-it-plays-nicely-with-chatgpt-and-gemini
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • Audio-Technica เปิดตัว ATH-ADX7000 – หูฟังระดับออดิโอไฟล์รุ่นใหม่ พร้อมไดรเวอร์ 58 มม. และดีไซน์แม่นยำขั้นสุด

    Audio-Technica แบรนด์เครื่องเสียงชื่อดังจากญี่ปุ่นเปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ ATH-ADX7000 ซึ่งเป็นหูฟังแบบ open-back ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ฟังระดับออดิโอไฟล์โดยเฉพาะ จุดเด่นของรุ่นนี้คือการใช้ไดรเวอร์ HXDT ขนาดใหญ่ถึง 58 มม. ที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เสียงมีความชัดเจน ละเอียด และเป็นธรรมชาติที่สุดเท่าที่เคยมีมา

    ตัวไดรเวอร์ถูกติดตั้งด้วยเทคโนโลยี Core Mount ที่วาง voice coil ไว้ตรงกลางของ housing เพื่อให้ตำแหน่งเสียงแม่นยำสูงสุด โครงสร้างของหูฟังใช้วัสดุอลูมิเนียมแบบรังผึ้งและแมกนีเซียมอัลลอยด์ ทำให้มีน้ำหนักเบาเพียง 270 กรัม และช่วยลดการสั่นสะเทือนที่ไม่พึงประสงค์

    ATH-ADX7000 มาพร้อมสายถอดได้ 2 แบบ ได้แก่ สาย balanced แบบ 4-pin XLRM และสาย unbalanced แบบ 6.3 มม. พร้อมกล่องแข็งสำหรับพกพา โดยจะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม ในราคา $3,499 (ประมาณ 126,000 บาท)

    จุดเด่นของ ATH-ADX7000
    ใช้ไดรเวอร์ HXDT ขนาด 58 มม. ที่พัฒนาขึ้นใหม่
    ติดตั้งด้วยเทคโนโลยี Core Mount เพื่อความแม่นยำของเสียง
    โครงสร้างอลูมิเนียมรังผึ้งและแมกนีเซียมอัลลอยด์ น้ำหนักเบาเพียง 270 กรัม
    มาพร้อมสายถอดได้ 2 แบบ: balanced และ unbalanced
    รวมกล่องแข็งสำหรับพกพา และมีหมายเลขซีเรียลเฉพาะแต่ละตัว

    การออกแบบเพื่อคุณภาพเสียงสูงสุด
    ดีไซน์ open-back เพื่อความโปร่งของเสียง
    วัสดุช่วยลดการสั่นสะเทือนและเพิ่มความบริสุทธิ์ของเสียง
    รองรับการใช้งานกับแอมป์ระดับสูงสำหรับผู้ฟังออดิโอไฟล์

    การวางจำหน่าย
    เริ่มวางขายวันที่ 31 ตุลาคม
    ราคา $3,499 หรือประมาณ 126,000 บาท
    ถือเป็นหูฟังระดับไฮเอนด์ที่เหนือกว่าหูฟังทั่วไปในตลาด

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    ราคาสูงมาก เหมาะเฉพาะผู้ใช้งานระดับออดิโอไฟล์จริงจัง
    ต้องใช้แอมป์คุณภาพสูงเพื่อดึงศักยภาพของหูฟังออกมาเต็มที่
    ดีไซน์ open-back ไม่เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่สาธารณะหรือเสียงรบกวนเยอะ
    น้ำหนักเบาแต่ยังต้องพิจารณาความสบายในการใช้งานระยะยาว

    https://www.techradar.com/televisions/japanese-hi-fi-great-audio-technica-just-launched-a-pair-of-hardcore-audiophile-headphones-with-a-new-driver-and-ultra-precise-audio-design
    🎧 Audio-Technica เปิดตัว ATH-ADX7000 – หูฟังระดับออดิโอไฟล์รุ่นใหม่ พร้อมไดรเวอร์ 58 มม. และดีไซน์แม่นยำขั้นสุด Audio-Technica แบรนด์เครื่องเสียงชื่อดังจากญี่ปุ่นเปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ ATH-ADX7000 ซึ่งเป็นหูฟังแบบ open-back ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ฟังระดับออดิโอไฟล์โดยเฉพาะ จุดเด่นของรุ่นนี้คือการใช้ไดรเวอร์ HXDT ขนาดใหญ่ถึง 58 มม. ที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เสียงมีความชัดเจน ละเอียด และเป็นธรรมชาติที่สุดเท่าที่เคยมีมา ตัวไดรเวอร์ถูกติดตั้งด้วยเทคโนโลยี Core Mount ที่วาง voice coil ไว้ตรงกลางของ housing เพื่อให้ตำแหน่งเสียงแม่นยำสูงสุด โครงสร้างของหูฟังใช้วัสดุอลูมิเนียมแบบรังผึ้งและแมกนีเซียมอัลลอยด์ ทำให้มีน้ำหนักเบาเพียง 270 กรัม และช่วยลดการสั่นสะเทือนที่ไม่พึงประสงค์ ATH-ADX7000 มาพร้อมสายถอดได้ 2 แบบ ได้แก่ สาย balanced แบบ 4-pin XLRM และสาย unbalanced แบบ 6.3 มม. พร้อมกล่องแข็งสำหรับพกพา โดยจะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม ในราคา $3,499 (ประมาณ 126,000 บาท) ✅ จุดเด่นของ ATH-ADX7000 ➡️ ใช้ไดรเวอร์ HXDT ขนาด 58 มม. ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ➡️ ติดตั้งด้วยเทคโนโลยี Core Mount เพื่อความแม่นยำของเสียง ➡️ โครงสร้างอลูมิเนียมรังผึ้งและแมกนีเซียมอัลลอยด์ น้ำหนักเบาเพียง 270 กรัม ➡️ มาพร้อมสายถอดได้ 2 แบบ: balanced และ unbalanced ➡️ รวมกล่องแข็งสำหรับพกพา และมีหมายเลขซีเรียลเฉพาะแต่ละตัว ✅ การออกแบบเพื่อคุณภาพเสียงสูงสุด ➡️ ดีไซน์ open-back เพื่อความโปร่งของเสียง ➡️ วัสดุช่วยลดการสั่นสะเทือนและเพิ่มความบริสุทธิ์ของเสียง ➡️ รองรับการใช้งานกับแอมป์ระดับสูงสำหรับผู้ฟังออดิโอไฟล์ ✅ การวางจำหน่าย ➡️ เริ่มวางขายวันที่ 31 ตุลาคม ➡️ ราคา $3,499 หรือประมาณ 126,000 บาท ➡️ ถือเป็นหูฟังระดับไฮเอนด์ที่เหนือกว่าหูฟังทั่วไปในตลาด ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ ราคาสูงมาก เหมาะเฉพาะผู้ใช้งานระดับออดิโอไฟล์จริงจัง ⛔ ต้องใช้แอมป์คุณภาพสูงเพื่อดึงศักยภาพของหูฟังออกมาเต็มที่ ⛔ ดีไซน์ open-back ไม่เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่สาธารณะหรือเสียงรบกวนเยอะ ⛔ น้ำหนักเบาแต่ยังต้องพิจารณาความสบายในการใช้งานระยะยาว https://www.techradar.com/televisions/japanese-hi-fi-great-audio-technica-just-launched-a-pair-of-hardcore-audiophile-headphones-with-a-new-driver-and-ultra-precise-audio-design
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Earth AI อัปเกรดใหม่ – ใช้พลัง Gemini วิเคราะห์ภัยพิบัติและปัญหาสภาพอากาศล่วงหน้า

    Google Earth AI ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ โดยนำเทคโนโลยี Gemini AI เข้ามาเสริมความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลภูมิสารสนเทศ เพื่อช่วยให้องค์กร เมือง และหน่วยงานไม่แสวงหากำไรสามารถรับมือกับภัยพิบัติและปัญหาสภาพอากาศได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

    ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งคำถามกับระบบ AI เพื่อดึงข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น พยากรณ์อากาศ แผนที่ประชากร และภาพถ่ายดาวเทียม เพื่อคาดการณ์จุดเสี่ยง เช่น พื้นที่น้ำท่วมจากพายุ หรือจุดที่อาจเกิดฝุ่นพิษจากแม่น้ำที่แห้งเหือด นอกจากนี้ยังสามารถตรวจจับการเกิดสาหร่ายพิษในแหล่งน้ำเพื่อแจ้งเตือนล่วงหน้าได้

    Earth AI ยังรองรับการเชื่อมโยงโมเดลหลายตัวเข้าด้วยกันเพื่อวิเคราะห์คำถามที่ซับซ้อน และเปิดให้หน่วยงานที่สนใจสมัครเป็น “Trusted Testers” ผ่าน Google Cloud เพื่อเข้าถึงโมเดลภาพถ่าย ประชากร และสิ่งแวดล้อม พร้อมเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง

    การอัปเกรดนี้เกิดขึ้นหลังจาก Earth AI เคยช่วยแจ้งเตือนประชาชนกว่า 15 ล้านคนในเหตุไฟป่าแคลิฟอร์เนียปี 2025 โดยใช้ข้อมูลจากหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อช่วยหาที่หลบภัย ถือเป็นตัวอย่างของการใช้ AI เพื่อช่วยชีวิตและเพิ่มความปลอดภัยในระดับมหภาค

    การอัปเกรด Google Earth AI
    ใช้ Gemini AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลภูมิสารสนเทศ
    รองรับการตั้งคำถามและเชื่อมโยงโมเดลหลายตัว
    วิเคราะห์ข้อมูลจากพยากรณ์อากาศ แผนที่ประชากร และภาพดาวเทียม
    คาดการณ์ภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม ฝุ่นพิษ สาหร่ายพิษ

    การใช้งานในภาคส่วนต่างๆ
    หน่วยงานสามารถสมัครเป็น Trusted Testers ผ่าน Google Cloud
    ใช้โมเดลภาพถ่าย ประชากร และสิ่งแวดล้อมร่วมกับข้อมูลของตนเอง
    เหมาะสำหรับองค์กรที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติ

    ตัวอย่างการใช้งานจริง
    Earth AI เคยแจ้งเตือนประชาชน 15 ล้านคนในเหตุไฟป่าแคลิฟอร์เนีย
    ใช้ข้อมูลจากหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อช่วยหาที่หลบภัย
    แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ AI ในการช่วยชีวิต

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    การวิเคราะห์ข้อมูลต้องอาศัยความแม่นยำของโมเดลและข้อมูลต้นทาง
    การใช้งานต้องมีความเข้าใจด้านภูมิสารสนเทศและการตั้งคำถามที่เหมาะสม
    หากข้อมูลไม่ครบถ้วน อาจเกิดการคาดการณ์ผิดพลาด
    การเข้าถึงฟีเจอร์บางอย่างอาจจำกัดเฉพาะผู้สมัคร Trusted Testers

    https://www.techradar.com/pro/google-earth-ai-wants-to-help-us-spot-weather-disasters-and-climate-issues-before-they-happen
    🌍 Google Earth AI อัปเกรดใหม่ – ใช้พลัง Gemini วิเคราะห์ภัยพิบัติและปัญหาสภาพอากาศล่วงหน้า Google Earth AI ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ โดยนำเทคโนโลยี Gemini AI เข้ามาเสริมความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลภูมิสารสนเทศ เพื่อช่วยให้องค์กร เมือง และหน่วยงานไม่แสวงหากำไรสามารถรับมือกับภัยพิบัติและปัญหาสภาพอากาศได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งคำถามกับระบบ AI เพื่อดึงข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น พยากรณ์อากาศ แผนที่ประชากร และภาพถ่ายดาวเทียม เพื่อคาดการณ์จุดเสี่ยง เช่น พื้นที่น้ำท่วมจากพายุ หรือจุดที่อาจเกิดฝุ่นพิษจากแม่น้ำที่แห้งเหือด นอกจากนี้ยังสามารถตรวจจับการเกิดสาหร่ายพิษในแหล่งน้ำเพื่อแจ้งเตือนล่วงหน้าได้ Earth AI ยังรองรับการเชื่อมโยงโมเดลหลายตัวเข้าด้วยกันเพื่อวิเคราะห์คำถามที่ซับซ้อน และเปิดให้หน่วยงานที่สนใจสมัครเป็น “Trusted Testers” ผ่าน Google Cloud เพื่อเข้าถึงโมเดลภาพถ่าย ประชากร และสิ่งแวดล้อม พร้อมเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง การอัปเกรดนี้เกิดขึ้นหลังจาก Earth AI เคยช่วยแจ้งเตือนประชาชนกว่า 15 ล้านคนในเหตุไฟป่าแคลิฟอร์เนียปี 2025 โดยใช้ข้อมูลจากหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อช่วยหาที่หลบภัย ถือเป็นตัวอย่างของการใช้ AI เพื่อช่วยชีวิตและเพิ่มความปลอดภัยในระดับมหภาค ✅ การอัปเกรด Google Earth AI ➡️ ใช้ Gemini AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลภูมิสารสนเทศ ➡️ รองรับการตั้งคำถามและเชื่อมโยงโมเดลหลายตัว ➡️ วิเคราะห์ข้อมูลจากพยากรณ์อากาศ แผนที่ประชากร และภาพดาวเทียม ➡️ คาดการณ์ภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม ฝุ่นพิษ สาหร่ายพิษ ✅ การใช้งานในภาคส่วนต่างๆ ➡️ หน่วยงานสามารถสมัครเป็น Trusted Testers ผ่าน Google Cloud ➡️ ใช้โมเดลภาพถ่าย ประชากร และสิ่งแวดล้อมร่วมกับข้อมูลของตนเอง ➡️ เหมาะสำหรับองค์กรที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติ ✅ ตัวอย่างการใช้งานจริง ➡️ Earth AI เคยแจ้งเตือนประชาชน 15 ล้านคนในเหตุไฟป่าแคลิฟอร์เนีย ➡️ ใช้ข้อมูลจากหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อช่วยหาที่หลบภัย ➡️ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ AI ในการช่วยชีวิต ‼️ ข้อควรระวังและความท้าทาย ⛔ การวิเคราะห์ข้อมูลต้องอาศัยความแม่นยำของโมเดลและข้อมูลต้นทาง ⛔ การใช้งานต้องมีความเข้าใจด้านภูมิสารสนเทศและการตั้งคำถามที่เหมาะสม ⛔ หากข้อมูลไม่ครบถ้วน อาจเกิดการคาดการณ์ผิดพลาด ⛔ การเข้าถึงฟีเจอร์บางอย่างอาจจำกัดเฉพาะผู้สมัคร Trusted Testers https://www.techradar.com/pro/google-earth-ai-wants-to-help-us-spot-weather-disasters-and-climate-issues-before-they-happen
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • BOOX เปิดตัว Note Air5 C และ Palma 2 Pro – อุปกรณ์ ePaper สีใหม่เพื่อการอ่าน เขียน และเชื่อมต่ออย่างอิสระ

    BOOX ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี E Ink เปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ Note Air5 C และ Palma 2 Pro ซึ่งเป็น ePaper สีรุ่นล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อการอ่าน เขียน และทำงานแบบพกพา โดยทั้งสองรุ่นใช้หน้าจอ Kaleido 3 ที่แสดงสีได้อย่างนุ่มนวลและสบายตา พร้อมฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ยุคใหม่

    Note Air5 C เป็นแท็บเล็ตขนาด 10.3 นิ้วที่รองรับการเชื่อมต่อคีย์บอร์ดผ่านแม่เหล็ก มีระบบ Android 15 และปากกา Pen3 รุ่นใหม่ที่ให้สัมผัสเหมือนเขียนบนกระดาษจริง รองรับการทำงานแบบแบ่งหน้าจอและมีไฟหน้าปรับโทนสีได้ เหมาะสำหรับนักเรียน นักเขียน และมืออาชีพที่ต้องการอุปกรณ์จดบันทึกที่ยืดหยุ่น

    Palma 2 Pro เป็นอุปกรณ์ขนาดพกพา 6.13 นิ้ว น้ำหนักเพียง 175 กรัม มาพร้อม 5G และระบบ Android 15 เหมาะสำหรับการอ่านและจดบันทึกระหว่างเดินทาง รองรับปากกา InkSense Plus และมีฟีเจอร์ปรับแสงอัตโนมัติเพื่อความสบายตา

    ทั้งสองรุ่นใช้เทคโนโลยี BOOX Super Refresh เพื่อการตอบสนองที่รวดเร็ว และมีระบบ Smart Scribe ที่ใช้ AI ช่วยจัดการโน้ตและแผนผังความคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การเปิดตัว Note Air5 C
    หน้าจอ Kaleido 3 ขนาด 10.3 นิ้ว แสดงสีได้สบายตา
    รองรับคีย์บอร์ดแม่เหล็กและปากกา Pen3 รุ่นใหม่
    ระบบ Android 15 และ BOOX Firmware V4.1
    รองรับการแบ่งหน้าจอและไฟหน้าปรับโทนสี
    เหมาะสำหรับงานจดบันทึกและสร้างสรรค์เนื้อหา

    การเปิดตัว Palma 2 Pro
    ขนาด 6.13 นิ้ว น้ำหนัก 175 กรัม พกพาสะดวก
    รองรับ 5G และ Android 15
    ใช้ปากกา InkSense Plus สำหรับจดโน้ต
    มีไฟหน้าปรับอัตโนมัติตามสภาพแสง
    เหมาะสำหรับการอ่านและจดบันทึกระหว่างเดินทาง

    เทคโนโลยีและฟีเจอร์เด่น
    BOOX Super Refresh ช่วยให้การตอบสนองเร็วขึ้น
    Smart Scribe ใช้ AI จัดการโน้ตและแผนผังความคิด
    รองรับการใช้งานแบบ multitasking และ chiplet CPU
    มีระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือและหมุนหน้าจออัตโนมัติ
    ดีไซน์กันน้ำแบบ textured พร้อมสี Charcoal Black และ Ivory White

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    ราคาค่อนข้างสูง: Note Air5 C เริ่มต้นที่ $499.99 และ Palma 2 Pro ที่ $379.99
    อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์มัลติมีเดียเต็มรูปแบบ
    การใช้งานบางฟีเจอร์อาจต้องเรียนรู้เพิ่มเติม เช่น Smart Scribe
    หน้าจอ E Ink สีอาจไม่เหมาะกับการดูภาพหรือวิดีโอที่ต้องการความคมชัดสูง

    https://www.techpowerup.com/342185/boox-introduces-new-color-epaper-devices-note-air5-c-and-palma-2-pro
    📚 BOOX เปิดตัว Note Air5 C และ Palma 2 Pro – อุปกรณ์ ePaper สีใหม่เพื่อการอ่าน เขียน และเชื่อมต่ออย่างอิสระ BOOX ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี E Ink เปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ Note Air5 C และ Palma 2 Pro ซึ่งเป็น ePaper สีรุ่นล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อการอ่าน เขียน และทำงานแบบพกพา โดยทั้งสองรุ่นใช้หน้าจอ Kaleido 3 ที่แสดงสีได้อย่างนุ่มนวลและสบายตา พร้อมฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ยุคใหม่ Note Air5 C เป็นแท็บเล็ตขนาด 10.3 นิ้วที่รองรับการเชื่อมต่อคีย์บอร์ดผ่านแม่เหล็ก มีระบบ Android 15 และปากกา Pen3 รุ่นใหม่ที่ให้สัมผัสเหมือนเขียนบนกระดาษจริง รองรับการทำงานแบบแบ่งหน้าจอและมีไฟหน้าปรับโทนสีได้ เหมาะสำหรับนักเรียน นักเขียน และมืออาชีพที่ต้องการอุปกรณ์จดบันทึกที่ยืดหยุ่น Palma 2 Pro เป็นอุปกรณ์ขนาดพกพา 6.13 นิ้ว น้ำหนักเพียง 175 กรัม มาพร้อม 5G และระบบ Android 15 เหมาะสำหรับการอ่านและจดบันทึกระหว่างเดินทาง รองรับปากกา InkSense Plus และมีฟีเจอร์ปรับแสงอัตโนมัติเพื่อความสบายตา ทั้งสองรุ่นใช้เทคโนโลยี BOOX Super Refresh เพื่อการตอบสนองที่รวดเร็ว และมีระบบ Smart Scribe ที่ใช้ AI ช่วยจัดการโน้ตและแผนผังความคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ การเปิดตัว Note Air5 C ➡️ หน้าจอ Kaleido 3 ขนาด 10.3 นิ้ว แสดงสีได้สบายตา ➡️ รองรับคีย์บอร์ดแม่เหล็กและปากกา Pen3 รุ่นใหม่ ➡️ ระบบ Android 15 และ BOOX Firmware V4.1 ➡️ รองรับการแบ่งหน้าจอและไฟหน้าปรับโทนสี ➡️ เหมาะสำหรับงานจดบันทึกและสร้างสรรค์เนื้อหา ✅ การเปิดตัว Palma 2 Pro ➡️ ขนาด 6.13 นิ้ว น้ำหนัก 175 กรัม พกพาสะดวก ➡️ รองรับ 5G และ Android 15 ➡️ ใช้ปากกา InkSense Plus สำหรับจดโน้ต ➡️ มีไฟหน้าปรับอัตโนมัติตามสภาพแสง ➡️ เหมาะสำหรับการอ่านและจดบันทึกระหว่างเดินทาง ✅ เทคโนโลยีและฟีเจอร์เด่น ➡️ BOOX Super Refresh ช่วยให้การตอบสนองเร็วขึ้น ➡️ Smart Scribe ใช้ AI จัดการโน้ตและแผนผังความคิด ➡️ รองรับการใช้งานแบบ multitasking และ chiplet CPU ➡️ มีระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือและหมุนหน้าจออัตโนมัติ ➡️ ดีไซน์กันน้ำแบบ textured พร้อมสี Charcoal Black และ Ivory White ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ ราคาค่อนข้างสูง: Note Air5 C เริ่มต้นที่ $499.99 และ Palma 2 Pro ที่ $379.99 ⛔ อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์มัลติมีเดียเต็มรูปแบบ ⛔ การใช้งานบางฟีเจอร์อาจต้องเรียนรู้เพิ่มเติม เช่น Smart Scribe ⛔ หน้าจอ E Ink สีอาจไม่เหมาะกับการดูภาพหรือวิดีโอที่ต้องการความคมชัดสูง https://www.techpowerup.com/342185/boox-introduces-new-color-epaper-devices-note-air5-c-and-palma-2-pro
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    BOOX Introduces New Color ePaper Devices: Note Air5 C and Palma 2 Pro
    BOOX, a global leader in E Ink technology and innovation, has announced the launch of two new additions to its product lineup: the Note Air5 C, a 10.3-inch color ePaper tablet designed for light productivity and creativity, and the Palma 2 Pro, a 6.13-inch color mobile ePaper device that brings true...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • TP-Link เปิดตัว Archer GE800 และ GE400 – เราเตอร์ Wi-Fi 7 สำหรับเกมเมอร์ พร้อมดีไซน์ RGB และราคาจับต้องได้

    TP-Link เปิดตัวเราเตอร์เกมมิ่งรุ่นใหม่ในงาน Computex 2024 ได้แก่ Archer GE800 และ Archer GE400 โดยทั้งสองรุ่นรองรับ Wi-Fi 7 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่ให้ความเร็วสูงและความหน่วงต่ำ เหมาะสำหรับเกมเมอร์และผู้ใช้งานระดับสูง

    Archer GE800 เป็นรุ่นเรือธงแบบ Tri-band ที่ให้ความเร็วรวมสูงสุดถึง 19 Gbps พร้อมพอร์ต 10G และ 2.5G รวมถึงดีไซน์ RGB ที่ปรับแต่งได้ ส่วน Archer GE400 เป็นรุ่นรองที่มีราคาย่อมเยา แต่ยังคงประสิทธิภาพสูงด้วย Dual-band Wi-Fi 7 ความเร็วรวม 9.2 Gbps และพอร์ต 2.5G สองช่อง

    ทั้งสองรุ่นมาพร้อมฟีเจอร์ Game Panel สำหรับควบคุมการตั้งค่าเกมโดยเฉพาะ และรองรับเทคโนโลยี Multi-Link Operation (MLO) ที่ช่วยให้เชื่อมต่อหลายย่านความถี่พร้อมกัน เพิ่มความเสถียรในการเล่นเกมและสตรีมมิ่ง

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อแบบ bullet:

    การเปิดตัว Archer GE800 และ GE400
    GE800 เป็นรุ่น Tri-band Wi-Fi 7 ความเร็วรวม 19 Gbps
    GE400 เป็นรุ่น Dual-band Wi-Fi 7 ความเร็วรวม 9.2 Gbps
    ทั้งสองรุ่นมีพอร์ต 2.5G และดีไซน์ RGB ปรับแต่งได้
    มาพร้อม Game Panel สำหรับควบคุมการตั้งค่าเกม

    เทคโนโลยี Wi-Fi 7 และฟีเจอร์เด่น
    รองรับ Multi-Link Operation (MLO) เชื่อมต่อหลายย่านความถี่พร้อมกัน
    ลด latency และเพิ่มความเสถียรในการเล่นเกม
    เหมาะสำหรับเกมเมอร์และผู้ใช้งานระดับสูงที่ต้องการความเร็วและเสถียรภาพ

    ความคุ้มค่าและการใช้งาน
    GE400 เป็นตัวเลือกที่ราคาย่อมเยาแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง
    GE800 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดและพอร์ตระดับ 10G
    ดีไซน์ RGB เพิ่มความโดดเด่นให้กับเซ็ตอัปเกมมิ่ง

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    Wi-Fi 7 ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อุปกรณ์ที่รองรับอาจยังมีจำกัด
    การใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูงต้องมีการตั้งค่าและอุปกรณ์ที่รองรับ
    ราคาของ GE800 อาจสูงเกินไปสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    การใช้งานพอร์ต 10G ต้องมีอุปกรณ์เครือข่ายที่รองรับด้วย

    https://www.tomshardware.com/networking/routers/tp-link-launches-archer-ge400-wi-fi-7-gaming-router-dual-band-router-hits-more-affordable-price-point-includes-2-5-gbe-ports-and-rgb-lighting
    📶 TP-Link เปิดตัว Archer GE800 และ GE400 – เราเตอร์ Wi-Fi 7 สำหรับเกมเมอร์ พร้อมดีไซน์ RGB และราคาจับต้องได้ TP-Link เปิดตัวเราเตอร์เกมมิ่งรุ่นใหม่ในงาน Computex 2024 ได้แก่ Archer GE800 และ Archer GE400 โดยทั้งสองรุ่นรองรับ Wi-Fi 7 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่ให้ความเร็วสูงและความหน่วงต่ำ เหมาะสำหรับเกมเมอร์และผู้ใช้งานระดับสูง Archer GE800 เป็นรุ่นเรือธงแบบ Tri-band ที่ให้ความเร็วรวมสูงสุดถึง 19 Gbps พร้อมพอร์ต 10G และ 2.5G รวมถึงดีไซน์ RGB ที่ปรับแต่งได้ ส่วน Archer GE400 เป็นรุ่นรองที่มีราคาย่อมเยา แต่ยังคงประสิทธิภาพสูงด้วย Dual-band Wi-Fi 7 ความเร็วรวม 9.2 Gbps และพอร์ต 2.5G สองช่อง ทั้งสองรุ่นมาพร้อมฟีเจอร์ Game Panel สำหรับควบคุมการตั้งค่าเกมโดยเฉพาะ และรองรับเทคโนโลยี Multi-Link Operation (MLO) ที่ช่วยให้เชื่อมต่อหลายย่านความถี่พร้อมกัน เพิ่มความเสถียรในการเล่นเกมและสตรีมมิ่ง สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อแบบ bullet: ✅ การเปิดตัว Archer GE800 และ GE400 ➡️ GE800 เป็นรุ่น Tri-band Wi-Fi 7 ความเร็วรวม 19 Gbps ➡️ GE400 เป็นรุ่น Dual-band Wi-Fi 7 ความเร็วรวม 9.2 Gbps ➡️ ทั้งสองรุ่นมีพอร์ต 2.5G และดีไซน์ RGB ปรับแต่งได้ ➡️ มาพร้อม Game Panel สำหรับควบคุมการตั้งค่าเกม ✅ เทคโนโลยี Wi-Fi 7 และฟีเจอร์เด่น ➡️ รองรับ Multi-Link Operation (MLO) เชื่อมต่อหลายย่านความถี่พร้อมกัน ➡️ ลด latency และเพิ่มความเสถียรในการเล่นเกม ➡️ เหมาะสำหรับเกมเมอร์และผู้ใช้งานระดับสูงที่ต้องการความเร็วและเสถียรภาพ ✅ ความคุ้มค่าและการใช้งาน ➡️ GE400 เป็นตัวเลือกที่ราคาย่อมเยาแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง ➡️ GE800 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดและพอร์ตระดับ 10G ➡️ ดีไซน์ RGB เพิ่มความโดดเด่นให้กับเซ็ตอัปเกมมิ่ง ‼️ ข้อควรระวังและความท้าทาย ⛔ Wi-Fi 7 ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อุปกรณ์ที่รองรับอาจยังมีจำกัด ⛔ การใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูงต้องมีการตั้งค่าและอุปกรณ์ที่รองรับ ⛔ ราคาของ GE800 อาจสูงเกินไปสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ⛔ การใช้งานพอร์ต 10G ต้องมีอุปกรณ์เครือข่ายที่รองรับด้วย https://www.tomshardware.com/networking/routers/tp-link-launches-archer-ge400-wi-fi-7-gaming-router-dual-band-router-hits-more-affordable-price-point-includes-2-5-gbe-ports-and-rgb-lighting
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลทรัมป์เตรียมลงทุนในบริษัทควอนตัมคอมพิวติ้ง – แลกเงินสนับสนุนกับหุ้นบริษัทเอกชน

    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์กำลังเจรจากับบริษัทควอนตัมคอมพิวติ้งชั้นนำเพื่อแลกเปลี่ยนเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act กับหุ้นในบริษัทเหล่านั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีควอนตัมที่อาจเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมในอนาคต และเพิ่มบทบาทของรัฐบาลในฐานะนักลงทุนโดยตรงในภาคเอกชน

    บริษัทที่อยู่ระหว่างการเจรจา ได้แก่ Atom Computing, D-Wave Quantum, IonQ, Rigetti Computing และ Quantum Computing โดยแต่ละแห่งต้องการเงินสนับสนุนอย่างน้อย 10 ล้านดอลลาร์จากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ซึ่งจะได้รับหุ้นหรือเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ ตอบแทน การลงทุนนี้จะมาจากสำนักงาน Chips Research and Development ซึ่งดูแลงบประมาณจาก CHIPS Act

    การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลได้เปลี่ยนเงินสนับสนุนมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ให้กลายเป็นหุ้น 9.9% ใน Intel และ 15% ใน MP Materials ซึ่งเป็นผู้ผลิตแร่หายากในสหรัฐฯ ถือเป็นการเปลี่ยนแนวทางจากการให้เงินเปล่าเป็นการลงทุนที่มีผลตอบแทน

    ควอนตัมคอมพิวติ้งมีศักยภาพในการคำนวณที่เหนือกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทั่วไป โดยเฉพาะในด้านการค้นคว้ายาและวัสดุใหม่ๆ ซึ่งทำให้เทคโนโลยีนี้กลายเป็นสนามแข่งขันระดับโลก รัฐบาลสหรัฐฯ จึงต้องการเร่งผลักดันให้บริษัทในประเทศเติบโตและแข่งขันได้

    แผนการลงทุนของรัฐบาลสหรัฐฯ
    เจรจากับบริษัทควอนตัมคอมพิวติ้งเพื่อแลกเงินสนับสนุนกับหุ้น
    บริษัทที่เข้าร่วม ได้แก่ Atom Computing, D-Wave Quantum, IonQ, Rigetti Computing และ Quantum Computing
    เงินสนับสนุนมาจาก CHIPS Act ผ่านสำนักงาน Chips R&D
    เปลี่ยนบทบาทรัฐบาลจากผู้ให้เงินสนับสนุนเป็นนักลงทุนโดยตรง

    ตัวอย่างการลงทุนที่ผ่านมา
    รัฐบาลถือหุ้น 9.9% ใน Intel จากเงินสนับสนุน 9 พันล้านดอลลาร์
    Pentagon ถือหุ้น 15% ใน MP Materials ผู้ผลิตแร่หายาก

    ความสำคัญของควอนตัมคอมพิวติ้ง
    มีศักยภาพในการคำนวณที่เหนือกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์
    ส่งผลต่อการค้นคว้ายา วัสดุ และอุตสาหกรรมอื่นๆ
    เป็นสนามแข่งขันระดับโลกด้านเทคโนโลยี

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    การลงทุนในเทคโนโลยีที่ยังไม่พิสูจน์อาจมีความเสี่ยงสูง
    หากบริษัทไม่ประสบความสำเร็จ รัฐบาลอาจสูญเสียเงินลงทุน
    การแทรกแซงของรัฐบาลในภาคเอกชนอาจกระทบต่อกลไกตลาด
    การแข่งขันกับประเทศอื่นในด้านควอนตัมอาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางเทคโนโลยี

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/quantum-computing/trump-administration-to-follow-up-intel-stake-with-investment-in-quantum-computing-report-claims-tens-of-millions-of-chips-act-dollars-could-be-paid-out-to-leading-companies-in-exchange-for-equity
    🇺🇸 รัฐบาลทรัมป์เตรียมลงทุนในบริษัทควอนตัมคอมพิวติ้ง – แลกเงินสนับสนุนกับหุ้นบริษัทเอกชน รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์กำลังเจรจากับบริษัทควอนตัมคอมพิวติ้งชั้นนำเพื่อแลกเปลี่ยนเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act กับหุ้นในบริษัทเหล่านั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีควอนตัมที่อาจเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมในอนาคต และเพิ่มบทบาทของรัฐบาลในฐานะนักลงทุนโดยตรงในภาคเอกชน บริษัทที่อยู่ระหว่างการเจรจา ได้แก่ Atom Computing, D-Wave Quantum, IonQ, Rigetti Computing และ Quantum Computing โดยแต่ละแห่งต้องการเงินสนับสนุนอย่างน้อย 10 ล้านดอลลาร์จากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ซึ่งจะได้รับหุ้นหรือเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ ตอบแทน การลงทุนนี้จะมาจากสำนักงาน Chips Research and Development ซึ่งดูแลงบประมาณจาก CHIPS Act การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลได้เปลี่ยนเงินสนับสนุนมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ให้กลายเป็นหุ้น 9.9% ใน Intel และ 15% ใน MP Materials ซึ่งเป็นผู้ผลิตแร่หายากในสหรัฐฯ ถือเป็นการเปลี่ยนแนวทางจากการให้เงินเปล่าเป็นการลงทุนที่มีผลตอบแทน ควอนตัมคอมพิวติ้งมีศักยภาพในการคำนวณที่เหนือกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทั่วไป โดยเฉพาะในด้านการค้นคว้ายาและวัสดุใหม่ๆ ซึ่งทำให้เทคโนโลยีนี้กลายเป็นสนามแข่งขันระดับโลก รัฐบาลสหรัฐฯ จึงต้องการเร่งผลักดันให้บริษัทในประเทศเติบโตและแข่งขันได้ ✅ แผนการลงทุนของรัฐบาลสหรัฐฯ ➡️ เจรจากับบริษัทควอนตัมคอมพิวติ้งเพื่อแลกเงินสนับสนุนกับหุ้น ➡️ บริษัทที่เข้าร่วม ได้แก่ Atom Computing, D-Wave Quantum, IonQ, Rigetti Computing และ Quantum Computing ➡️ เงินสนับสนุนมาจาก CHIPS Act ผ่านสำนักงาน Chips R&D ➡️ เปลี่ยนบทบาทรัฐบาลจากผู้ให้เงินสนับสนุนเป็นนักลงทุนโดยตรง ✅ ตัวอย่างการลงทุนที่ผ่านมา ➡️ รัฐบาลถือหุ้น 9.9% ใน Intel จากเงินสนับสนุน 9 พันล้านดอลลาร์ ➡️ Pentagon ถือหุ้น 15% ใน MP Materials ผู้ผลิตแร่หายาก ✅ ความสำคัญของควอนตัมคอมพิวติ้ง ➡️ มีศักยภาพในการคำนวณที่เหนือกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ➡️ ส่งผลต่อการค้นคว้ายา วัสดุ และอุตสาหกรรมอื่นๆ ➡️ เป็นสนามแข่งขันระดับโลกด้านเทคโนโลยี ‼️ ข้อควรระวังและความท้าทาย ⛔ การลงทุนในเทคโนโลยีที่ยังไม่พิสูจน์อาจมีความเสี่ยงสูง ⛔ หากบริษัทไม่ประสบความสำเร็จ รัฐบาลอาจสูญเสียเงินลงทุน ⛔ การแทรกแซงของรัฐบาลในภาคเอกชนอาจกระทบต่อกลไกตลาด ⛔ การแข่งขันกับประเทศอื่นในด้านควอนตัมอาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางเทคโนโลยี https://www.tomshardware.com/tech-industry/quantum-computing/trump-administration-to-follow-up-intel-stake-with-investment-in-quantum-computing-report-claims-tens-of-millions-of-chips-act-dollars-could-be-paid-out-to-leading-companies-in-exchange-for-equity
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนเปิดตัวมาตรฐานใหม่ “UBIOS” แทน BIOS และ UEFI เดิม – ก้าวสำคัญสู่การพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี

    จีนเดินหน้าสู่การพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยีอย่างจริงจัง ล่าสุดได้เปิดตัวมาตรฐานเฟิร์มแวร์ใหม่ชื่อว่า “UBIOS” (Unified Basic Input/Output System) เพื่อแทนที่ BIOS และ UEFI ที่ใช้กันมายาวนานในคอมพิวเตอร์ทั่วโลก โดยมาตรฐานนี้ถูกพัฒนาโดยกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีจีน 13 แห่ง รวมถึง Huawei และ CESI โดยมีเป้าหมายหลักคือการลดการพึ่งพามาตรฐานจากสหรัฐฯ และสนับสนุนการใช้งานฮาร์ดแวร์ที่ไม่ใช่ x86 เช่น ARM, RISC-V และ LoongArch

    UBIOS ถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด ไม่ได้พัฒนาต่อจาก UEFI ซึ่งจีนมองว่ามีความซับซ้อนเกินไปและถูกควบคุมโดยบริษัทอเมริกันอย่าง Intel และ AMD การพัฒนาใหม่นี้ยังรองรับการใช้งานแบบ heterogeneous computing เช่น เมนบอร์ดที่มี CPU ต่างรุ่นกัน และระบบที่ใช้ชิปแบบ chiplet ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ใหม่ในวงการคอมพิวเตอร์

    การเปิดตัว UBIOS ถือเป็นหนึ่งในความพยายามของจีนตามแผน “Document 79” ที่มีเป้าหมายให้ประเทศเลิกใช้เทคโนโลยีตะวันตกภายในปี 2027 ซึ่งแม้จะเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย แต่การมีมาตรฐานเฟิร์มแวร์ของตัวเองก็เป็นก้าวสำคัญที่อาจเปลี่ยนเกมในอนาคต

    การเปิดตัวมาตรฐาน UBIOS
    เป็นเฟิร์มแวร์ใหม่ที่ใช้แทน BIOS และ UEFI
    พัฒนาโดยกลุ่มบริษัทจีน 13 แห่ง เช่น Huawei, CESI
    ไม่พัฒนาต่อจาก UEFI แต่สร้างใหม่ทั้งหมดจาก BIOS เดิม
    รองรับการใช้งานกับ CPU ที่หลากหลาย เช่น ARM, RISC-V, LoongArch
    รองรับการใช้งานแบบ heterogeneous computing และ chiplet
    เตรียมเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในงาน Global Computing Conference ปี 2025 ที่เซินเจิ้น

    เป้าหมายของจีนในการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี
    ลดการพึ่งพามาตรฐานจากสหรัฐฯ เช่น UEFI ที่ควบคุมโดย Intel และ AMD
    สนับสนุนการใช้งานฮาร์ดแวร์ที่ไม่ใช่ x86
    เป็นส่วนหนึ่งของแผน “Document 79” ที่จะเลิกใช้เทคโนโลยีตะวันตกภายในปี 2027

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    ยังไม่แน่ชัดว่า UBIOS จะได้รับการยอมรับในระดับสากลหรือไม่
    อาจเผชิญกับปัญหาความเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการและฮาร์ดแวร์ที่มีอยู่
    การเปลี่ยนมาตรฐานเฟิร์มแวร์อาจส่งผลต่อความมั่นคงของระบบในระยะเริ่มต้น
    หากไม่สามารถสร้าง ecosystem ที่แข็งแรงได้ อาจมีชะตากรรมแบบเดียวกับ LoongArch ที่ไม่เป็นที่นิยม

    https://www.tomshardware.com/software/china-releases-ubios-standard-to-replace-uefi-huawei-backed-bios-firmware-replacement-charges-chinas-domestic-computing-goals
    🇨🇳 จีนเปิดตัวมาตรฐานใหม่ “UBIOS” แทน BIOS และ UEFI เดิม – ก้าวสำคัญสู่การพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี จีนเดินหน้าสู่การพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยีอย่างจริงจัง ล่าสุดได้เปิดตัวมาตรฐานเฟิร์มแวร์ใหม่ชื่อว่า “UBIOS” (Unified Basic Input/Output System) เพื่อแทนที่ BIOS และ UEFI ที่ใช้กันมายาวนานในคอมพิวเตอร์ทั่วโลก โดยมาตรฐานนี้ถูกพัฒนาโดยกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีจีน 13 แห่ง รวมถึง Huawei และ CESI โดยมีเป้าหมายหลักคือการลดการพึ่งพามาตรฐานจากสหรัฐฯ และสนับสนุนการใช้งานฮาร์ดแวร์ที่ไม่ใช่ x86 เช่น ARM, RISC-V และ LoongArch UBIOS ถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด ไม่ได้พัฒนาต่อจาก UEFI ซึ่งจีนมองว่ามีความซับซ้อนเกินไปและถูกควบคุมโดยบริษัทอเมริกันอย่าง Intel และ AMD การพัฒนาใหม่นี้ยังรองรับการใช้งานแบบ heterogeneous computing เช่น เมนบอร์ดที่มี CPU ต่างรุ่นกัน และระบบที่ใช้ชิปแบบ chiplet ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ใหม่ในวงการคอมพิวเตอร์ การเปิดตัว UBIOS ถือเป็นหนึ่งในความพยายามของจีนตามแผน “Document 79” ที่มีเป้าหมายให้ประเทศเลิกใช้เทคโนโลยีตะวันตกภายในปี 2027 ซึ่งแม้จะเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย แต่การมีมาตรฐานเฟิร์มแวร์ของตัวเองก็เป็นก้าวสำคัญที่อาจเปลี่ยนเกมในอนาคต ✅ การเปิดตัวมาตรฐาน UBIOS ➡️ เป็นเฟิร์มแวร์ใหม่ที่ใช้แทน BIOS และ UEFI ➡️ พัฒนาโดยกลุ่มบริษัทจีน 13 แห่ง เช่น Huawei, CESI ➡️ ไม่พัฒนาต่อจาก UEFI แต่สร้างใหม่ทั้งหมดจาก BIOS เดิม ➡️ รองรับการใช้งานกับ CPU ที่หลากหลาย เช่น ARM, RISC-V, LoongArch ➡️ รองรับการใช้งานแบบ heterogeneous computing และ chiplet ➡️ เตรียมเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในงาน Global Computing Conference ปี 2025 ที่เซินเจิ้น ✅ เป้าหมายของจีนในการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี ➡️ ลดการพึ่งพามาตรฐานจากสหรัฐฯ เช่น UEFI ที่ควบคุมโดย Intel และ AMD ➡️ สนับสนุนการใช้งานฮาร์ดแวร์ที่ไม่ใช่ x86 ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของแผน “Document 79” ที่จะเลิกใช้เทคโนโลยีตะวันตกภายในปี 2027 ‼️ ความท้าทายและข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่แน่ชัดว่า UBIOS จะได้รับการยอมรับในระดับสากลหรือไม่ ⛔ อาจเผชิญกับปัญหาความเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการและฮาร์ดแวร์ที่มีอยู่ ⛔ การเปลี่ยนมาตรฐานเฟิร์มแวร์อาจส่งผลต่อความมั่นคงของระบบในระยะเริ่มต้น ⛔ หากไม่สามารถสร้าง ecosystem ที่แข็งแรงได้ อาจมีชะตากรรมแบบเดียวกับ LoongArch ที่ไม่เป็นที่นิยม https://www.tomshardware.com/software/china-releases-ubios-standard-to-replace-uefi-huawei-backed-bios-firmware-replacement-charges-chinas-domestic-computing-goals
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    China releases 'UBIOS' standard to replace UEFI — Huawei-backed BIOS firmware replacement charges China's domestic computing goals
    Support for chiplets, heterogeneous computing, and a step away from U.S.-based standards are key features of China's BIOS replacement.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตลาดผู้ใหญ่กับ AI: ChatGPT ไม่ใช่รายแรกที่มองเห็นโอกาสในธุรกิจ “18+”

    ในขณะที่อุตสาหกรรม AI กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว หนึ่งในตลาดที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นคือ “ตลาดผู้ใหญ่” หรือ adult market ซึ่งรวมถึงเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่, การจำลองบทสนทนาเชิงอารมณ์, และการสร้างประสบการณ์ส่วนตัวผ่าน AI โดยบทความจาก The Star ชี้ว่า ChatGPT อาจไม่ใช่รายแรกที่พยายามเข้าสู่ตลาดนี้—แต่เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด

    บริษัท AI หลายแห่ง เช่น Replika, DreamGF และ EVA AI ได้เปิดตัวแชตบอทที่สามารถสร้างความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับผู้ใช้ได้ โดยบางรายมีฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้ “ออกเดต” กับ AI หรือแม้แต่สร้างบทสนทนาเชิงโรแมนติกและเซ็กชวล ซึ่งกลายเป็นธุรกิจที่มีรายได้หลายล้านดอลลาร์ต่อปี

    แม้ว่า OpenAI จะยังไม่เปิดเผยแผนการเข้าสู่ตลาดนี้อย่างชัดเจน แต่การที่ ChatGPT มีความสามารถในการสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติและเข้าใจอารมณ์ ก็ทำให้หลายฝ่ายคาดว่าอาจมีการเปิดฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญจากบทความ

    1️⃣ ตลาดผู้ใหญ่คือโอกาสใหม่ของ AI
    ข้อมูลในบทความ
    ตลาด adult AI มีผู้เล่นหลายราย เช่น Replika, DreamGF, EVA AI
    มีการสร้างแชตบอทที่สามารถ “ออกเดต” หรือสนทนาเชิงอารมณ์กับผู้ใช้
    ธุรกิจนี้มีรายได้หลายล้านดอลลาร์ต่อปี

    คำเตือน
    เนื้อหาบางส่วนอาจละเมิดจริยธรรมหรือกฎหมายในบางประเทศ
    ผู้ใช้บางรายอาจเกิดความผูกพันทางอารมณ์กับ AI มากเกินไป

    2️⃣ ChatGPT กับความเป็นไปได้ในตลาดนี้
    ข้อมูลในบทความ
    ChatGPT ยังไม่มีฟีเจอร์เฉพาะสำหรับตลาดผู้ใหญ่
    แต่มีความสามารถในการสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติและเข้าใจอารมณ์
    นักวิเคราะห์คาดว่า OpenAI อาจเปิดฟีเจอร์ใหม่ในอนาคต

    คำเตือน
    การใช้ AI ในบริบทเชิงอารมณ์ต้องมีการควบคุมอย่างรัดกุม
    อาจเกิดความเข้าใจผิดว่า AI มีความรู้สึกจริง

    3️⃣ ความท้าทายด้านจริยธรรมและความปลอดภัย
    ข้อมูลในบทความ
    นักวิจัยเตือนว่า AI ที่สร้างความสัมพันธ์กับผู้ใช้อาจส่งผลต่อสุขภาพจิต
    มีความเสี่ยงด้านข้อมูลส่วนตัวและการใช้เนื้อหาไม่เหมาะสม
    บางแพลตฟอร์มมีการเก็บข้อมูลการสนทนาเพื่อพัฒนาโมเดล

    คำเตือน
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวก่อนใช้งาน
    การใช้ AI เพื่อจำลองความสัมพันธ์อาจส่งผลต่อพฤติกรรมในชีวิตจริง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/24/as-the-ai-industry-eyes-the-adult-market-chatgpt-won039t-be-the-first-to-try-to-profit-from-it
    🔞 ตลาดผู้ใหญ่กับ AI: ChatGPT ไม่ใช่รายแรกที่มองเห็นโอกาสในธุรกิจ “18+” ในขณะที่อุตสาหกรรม AI กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว หนึ่งในตลาดที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นคือ “ตลาดผู้ใหญ่” หรือ adult market ซึ่งรวมถึงเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่, การจำลองบทสนทนาเชิงอารมณ์, และการสร้างประสบการณ์ส่วนตัวผ่าน AI โดยบทความจาก The Star ชี้ว่า ChatGPT อาจไม่ใช่รายแรกที่พยายามเข้าสู่ตลาดนี้—แต่เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด บริษัท AI หลายแห่ง เช่น Replika, DreamGF และ EVA AI ได้เปิดตัวแชตบอทที่สามารถสร้างความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับผู้ใช้ได้ โดยบางรายมีฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้ “ออกเดต” กับ AI หรือแม้แต่สร้างบทสนทนาเชิงโรแมนติกและเซ็กชวล ซึ่งกลายเป็นธุรกิจที่มีรายได้หลายล้านดอลลาร์ต่อปี แม้ว่า OpenAI จะยังไม่เปิดเผยแผนการเข้าสู่ตลาดนี้อย่างชัดเจน แต่การที่ ChatGPT มีความสามารถในการสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติและเข้าใจอารมณ์ ก็ทำให้หลายฝ่ายคาดว่าอาจมีการเปิดฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องในอนาคต 🔍 สรุปประเด็นสำคัญจากบทความ 1️⃣ ตลาดผู้ใหญ่คือโอกาสใหม่ของ AI ✅ ข้อมูลในบทความ ➡️ ตลาด adult AI มีผู้เล่นหลายราย เช่น Replika, DreamGF, EVA AI ➡️ มีการสร้างแชตบอทที่สามารถ “ออกเดต” หรือสนทนาเชิงอารมณ์กับผู้ใช้ ➡️ ธุรกิจนี้มีรายได้หลายล้านดอลลาร์ต่อปี ‼️ คำเตือน ⛔ เนื้อหาบางส่วนอาจละเมิดจริยธรรมหรือกฎหมายในบางประเทศ ⛔ ผู้ใช้บางรายอาจเกิดความผูกพันทางอารมณ์กับ AI มากเกินไป 2️⃣ ChatGPT กับความเป็นไปได้ในตลาดนี้ ✅ ข้อมูลในบทความ ➡️ ChatGPT ยังไม่มีฟีเจอร์เฉพาะสำหรับตลาดผู้ใหญ่ ➡️ แต่มีความสามารถในการสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติและเข้าใจอารมณ์ ➡️ นักวิเคราะห์คาดว่า OpenAI อาจเปิดฟีเจอร์ใหม่ในอนาคต ‼️ คำเตือน ⛔ การใช้ AI ในบริบทเชิงอารมณ์ต้องมีการควบคุมอย่างรัดกุม ⛔ อาจเกิดความเข้าใจผิดว่า AI มีความรู้สึกจริง 3️⃣ ความท้าทายด้านจริยธรรมและความปลอดภัย ✅ ข้อมูลในบทความ ➡️ นักวิจัยเตือนว่า AI ที่สร้างความสัมพันธ์กับผู้ใช้อาจส่งผลต่อสุขภาพจิต ➡️ มีความเสี่ยงด้านข้อมูลส่วนตัวและการใช้เนื้อหาไม่เหมาะสม ➡️ บางแพลตฟอร์มมีการเก็บข้อมูลการสนทนาเพื่อพัฒนาโมเดล ‼️ คำเตือน ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวก่อนใช้งาน ⛔ การใช้ AI เพื่อจำลองความสัมพันธ์อาจส่งผลต่อพฤติกรรมในชีวิตจริง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/24/as-the-ai-industry-eyes-the-adult-market-chatgpt-won039t-be-the-first-to-try-to-profit-from-it
    WWW.THESTAR.COM.MY
    As the AI industry eyes the adult market, ChatGPT won't be the first to try to profit from it
    ChatGPT will be able to have kinkier conversations after OpenAI CEO Sam Altman announced the artificial intelligence company will soon allow its chatbot to engage in "erotica for verified adults".
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามค้นหายุคใหม่: AI กำลังเปลี่ยนโฉมการท่องเว็บ และท้าทายอำนาจของ Google

    ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์กลายเป็นผู้ช่วยประจำตัวของผู้คนทั่วโลก การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป บทความจาก The Star เผยว่า “การค้นหาออนไลน์” กำลังกลายเป็นสมรภูมิใหม่ของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน AI ที่พยายามเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนเข้าถึงข้อมูล และท้าทายอำนาจของ Google Chrome ที่ครองตลาดมากกว่า 70%

    บริษัทอย่าง OpenAI, Microsoft, Perplexity และ Dia ต่างเปิดตัว “เบราว์เซอร์ AI” ที่สามารถค้นหาข้อมูล วิเคราะห์ และดำเนินการแทนผู้ใช้ได้โดยไม่ต้องพิมพ์คำค้นหาแบบเดิมอีกต่อไป เช่น Atlas ของ OpenAI สามารถสร้างรายการซื้อของตามเมนูและจำนวนแขกได้ทันทีจากคำสั่งเดียว

    แม้ Google จะมีฟีเจอร์ AI Overviews และโหมด AI Search ที่ใช้ reasoning และ multimodal แต่ก็ยังไม่ถึงขั้น “agentic AI” ที่สามารถทำงานแทนผู้ใช้ได้อย่างเต็มรูปแบบ

    สรุปประเด็นสำคัญจากบทความ

    1️⃣ การเปลี่ยนแปลงของการค้นหาออนไลน์
    แนวโน้มใหม่
    เบราว์เซอร์ AI สามารถค้นหาและดำเนินการแทนผู้ใช้ได้
    ไม่ใช่แค่ตอบคำถาม แต่สามารถจัดการงาน เช่น จองร้านอาหารหรือวางแผนการเดินทาง
    เปลี่ยนจาก “search engine” เป็น “action engine”

    คำเตือน
    ผู้ใช้อาจพึ่งพา AI มากเกินไปโดยไม่ตรวจสอบข้อมูล
    ความผิดพลาดจาก AI อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง

    2️⃣ ผู้เล่นหลักในสมรภูมิ AI Search
    เบราว์เซอร์ AI ที่เปิดตัวแล้ว
    Atlas จาก OpenAI
    Comet จาก Perplexity
    Copilot-enabled Edge จาก Microsoft
    Dia และ Neon จากผู้พัฒนารายใหม่

    คำเตือน
    บางเบราว์เซอร์ยังอยู่ในช่วงทดลอง อาจมีข้อจำกัดด้านความปลอดภัย
    การรวบรวมข้อมูลผู้ใช้เพื่อปรับปรุง AI อาจกระทบความเป็นส่วนตัว

    3️⃣ จุดแข็งและจุดอ่อนของ Google
    จุดแข็งของ Google
    Chrome ครองตลาดเบราว์เซอร์มากกว่า 70%
    Google Search ยังเป็นเครื่องมือหลักในการค้นหาข้อมูล
    มีฟีเจอร์ AI Overviews และโหมด AI Search

    จุดอ่อนที่ถูกท้าทาย
    ยังไม่เข้าสู่ระดับ “agentic AI” ที่ทำงานแทนผู้ใช้ได้
    คู่แข่งสามารถรวบรวมข้อมูลจากการใช้งาน AI เพื่อพัฒนาโมเดลได้เร็วกว่า

    4️⃣ ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
    มุมมองจากนักวิเคราะห์
    Avi Greengart: “AI acting in the browser makes sense เพราะแอปส่วนใหญ่ทำงานผ่านเบราว์เซอร์อยู่แล้ว”
    Evan Schlossman: “AI กำลังควบคุมอินเทอร์เฟซของผู้ใช้ เพื่อ streamline ประสบการณ์”
    Thomas Thiele: “การรวมข้อมูลจาก ChatGPT และ Atlas อาจสร้าง Google ใหม่”

    คำเตือน
    การควบคุมอินเทอร์เฟซโดย AI อาจทำให้ผู้ใช้เสียอำนาจในการเลือก
    การรวบรวมข้อมูลมากเกินไปอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/24/online-search-a-battleground-for-ai-titans
    🔍 สงครามค้นหายุคใหม่: AI กำลังเปลี่ยนโฉมการท่องเว็บ และท้าทายอำนาจของ Google ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์กลายเป็นผู้ช่วยประจำตัวของผู้คนทั่วโลก การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป บทความจาก The Star เผยว่า “การค้นหาออนไลน์” กำลังกลายเป็นสมรภูมิใหม่ของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน AI ที่พยายามเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนเข้าถึงข้อมูล และท้าทายอำนาจของ Google Chrome ที่ครองตลาดมากกว่า 70% บริษัทอย่าง OpenAI, Microsoft, Perplexity และ Dia ต่างเปิดตัว “เบราว์เซอร์ AI” ที่สามารถค้นหาข้อมูล วิเคราะห์ และดำเนินการแทนผู้ใช้ได้โดยไม่ต้องพิมพ์คำค้นหาแบบเดิมอีกต่อไป เช่น Atlas ของ OpenAI สามารถสร้างรายการซื้อของตามเมนูและจำนวนแขกได้ทันทีจากคำสั่งเดียว แม้ Google จะมีฟีเจอร์ AI Overviews และโหมด AI Search ที่ใช้ reasoning และ multimodal แต่ก็ยังไม่ถึงขั้น “agentic AI” ที่สามารถทำงานแทนผู้ใช้ได้อย่างเต็มรูปแบบ 🔍 สรุปประเด็นสำคัญจากบทความ 1️⃣ การเปลี่ยนแปลงของการค้นหาออนไลน์ ✅ แนวโน้มใหม่ ➡️ เบราว์เซอร์ AI สามารถค้นหาและดำเนินการแทนผู้ใช้ได้ ➡️ ไม่ใช่แค่ตอบคำถาม แต่สามารถจัดการงาน เช่น จองร้านอาหารหรือวางแผนการเดินทาง ➡️ เปลี่ยนจาก “search engine” เป็น “action engine” ‼️ คำเตือน ⛔ ผู้ใช้อาจพึ่งพา AI มากเกินไปโดยไม่ตรวจสอบข้อมูล ⛔ ความผิดพลาดจาก AI อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง 2️⃣ ผู้เล่นหลักในสมรภูมิ AI Search ✅ เบราว์เซอร์ AI ที่เปิดตัวแล้ว ➡️ Atlas จาก OpenAI ➡️ Comet จาก Perplexity ➡️ Copilot-enabled Edge จาก Microsoft ➡️ Dia และ Neon จากผู้พัฒนารายใหม่ ‼️ คำเตือน ⛔ บางเบราว์เซอร์ยังอยู่ในช่วงทดลอง อาจมีข้อจำกัดด้านความปลอดภัย ⛔ การรวบรวมข้อมูลผู้ใช้เพื่อปรับปรุง AI อาจกระทบความเป็นส่วนตัว 3️⃣ จุดแข็งและจุดอ่อนของ Google ✅ จุดแข็งของ Google ➡️ Chrome ครองตลาดเบราว์เซอร์มากกว่า 70% ➡️ Google Search ยังเป็นเครื่องมือหลักในการค้นหาข้อมูล ➡️ มีฟีเจอร์ AI Overviews และโหมด AI Search ‼️ จุดอ่อนที่ถูกท้าทาย ⛔ ยังไม่เข้าสู่ระดับ “agentic AI” ที่ทำงานแทนผู้ใช้ได้ ⛔ คู่แข่งสามารถรวบรวมข้อมูลจากการใช้งาน AI เพื่อพัฒนาโมเดลได้เร็วกว่า 4️⃣ ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ✅ มุมมองจากนักวิเคราะห์ ➡️ Avi Greengart: “AI acting in the browser makes sense เพราะแอปส่วนใหญ่ทำงานผ่านเบราว์เซอร์อยู่แล้ว” ➡️ Evan Schlossman: “AI กำลังควบคุมอินเทอร์เฟซของผู้ใช้ เพื่อ streamline ประสบการณ์” ➡️ Thomas Thiele: “การรวมข้อมูลจาก ChatGPT และ Atlas อาจสร้าง Google ใหม่” ‼️ คำเตือน ⛔ การควบคุมอินเทอร์เฟซโดย AI อาจทำให้ผู้ใช้เสียอำนาจในการเลือก ⛔ การรวบรวมข้อมูลมากเกินไปอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/24/online-search-a-battleground-for-ai-titans
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Online search a battleground for AI titans
    Tech firms battling for supremacy in artificial intelligence are out to transform how people search the web, challenging the dominance of the Chrome browser at the heart of Google's empire.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft Copilot อัปเกรดครั้งใหญ่: ทำงานร่วมกันได้, เชื่อมต่อ Google, และมี “Mico” เป็นเพื่อนคุย

    Microsoft ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Copilot ที่เปลี่ยนให้ผู้ช่วย AI กลายเป็น “เพื่อนร่วมงานดิจิทัล” ที่ฉลาดขึ้นและทำงานร่วมกับคนอื่นได้ดีขึ้น โดยฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้เน้นการทำงานร่วมกัน (collaboration), การเชื่อมต่อกับแอปยอดนิยมอย่าง Google และ Outlook, รวมถึงการเพิ่มความสามารถด้านความจำและการแสดงออกทางอารมณ์ผ่าน “Mico” อวาตาร์ใหม่ของ Copilot

    การอัปเกรดนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาด AI กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดย Microsoft ต้องการให้ Copilot เป็นมากกว่าผู้ช่วยส่วนตัว แต่เป็น “พื้นที่ทำงานร่วมกัน” ที่รองรับผู้ใช้ได้ถึง 32 คนในกลุ่มเดียวกัน

    สรุปฟีเจอร์ใหม่ของ Microsoft Copilot

    1️⃣ การทำงานร่วมกันแบบกลุ่ม (Groups)
    ฟีเจอร์ใหม่
    รองรับผู้ใช้สูงสุด 32 คนในกลุ่มเดียวกัน
    ใช้ Copilot ร่วมกันเพื่อเขียนเอกสารหรือทำโปรเจกต์
    เหมาะสำหรับทีมงานที่ต้องการพื้นที่ทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์

    คำเตือน
    ต้องมีการจัดการสิทธิ์การเข้าถึงเพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล
    การทำงานร่วมกันอาจเกิดความสับสนหากไม่มีการกำหนดบทบาทชัดเจน

    2️⃣ การเชื่อมต่อกับแอปอื่น (Google, Outlook)
    ฟีเจอร์ใหม่
    เชื่อมต่อกับ Google และ Outlook ได้ลึกขึ้น
    สามารถสรุปข้อมูลจากอีเมล, ปฏิทิน, และเอกสารได้
    ใช้ reasoning เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและดำเนินการ เช่น จองโรงแรม

    คำเตือน
    ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ก่อนเข้าถึงข้อมูล
    การเชื่อมต่อหลายระบบอาจเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

    3️⃣ ความสามารถด้านความจำ (Long-term memory)
    ฟีเจอร์ใหม่
    Copilot สามารถจำข้อมูลสำคัญของผู้ใช้ได้
    ใช้ความจำเพื่อช่วยเตือนงานหรือเรียกข้อมูลเก่า
    เพิ่มความเป็น “ผู้ช่วยส่วนตัว” ที่เข้าใจผู้ใช้มากขึ้น

    คำเตือน
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบว่าข้อมูลใดถูกจำไว้
    อาจต้องมีระบบลบหรือจัดการความจำเพื่อความเป็นส่วนตัว

    4️⃣ อวาตาร์ “Mico” ที่แสดงอารมณ์ได้
    ฟีเจอร์ใหม่
    Mico เป็นอวาตาร์ของ Copilot ที่เปลี่ยนสีและแสดงอารมณ์
    เพิ่มความเป็นธรรมชาติในการสนทนา
    ช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกว่า Copilot “มีตัวตน” มากขึ้น

    คำเตือน
    อาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกผูกพันกับ AI มากเกินไป
    ต้องมีการออกแบบให้ไม่สร้างความเข้าใจผิดว่าเป็นมนุษย์จริง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/24/microsoft-introduces-new-copilot-features-such-as-collaboration-google-integration
    🤝 Microsoft Copilot อัปเกรดครั้งใหญ่: ทำงานร่วมกันได้, เชื่อมต่อ Google, และมี “Mico” เป็นเพื่อนคุย Microsoft ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Copilot ที่เปลี่ยนให้ผู้ช่วย AI กลายเป็น “เพื่อนร่วมงานดิจิทัล” ที่ฉลาดขึ้นและทำงานร่วมกับคนอื่นได้ดีขึ้น โดยฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้เน้นการทำงานร่วมกัน (collaboration), การเชื่อมต่อกับแอปยอดนิยมอย่าง Google และ Outlook, รวมถึงการเพิ่มความสามารถด้านความจำและการแสดงออกทางอารมณ์ผ่าน “Mico” อวาตาร์ใหม่ของ Copilot การอัปเกรดนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาด AI กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดย Microsoft ต้องการให้ Copilot เป็นมากกว่าผู้ช่วยส่วนตัว แต่เป็น “พื้นที่ทำงานร่วมกัน” ที่รองรับผู้ใช้ได้ถึง 32 คนในกลุ่มเดียวกัน 🔍 สรุปฟีเจอร์ใหม่ของ Microsoft Copilot 1️⃣ การทำงานร่วมกันแบบกลุ่ม (Groups) ✅ ฟีเจอร์ใหม่ ➡️ รองรับผู้ใช้สูงสุด 32 คนในกลุ่มเดียวกัน ➡️ ใช้ Copilot ร่วมกันเพื่อเขียนเอกสารหรือทำโปรเจกต์ ➡️ เหมาะสำหรับทีมงานที่ต้องการพื้นที่ทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ ‼️ คำเตือน ⛔ ต้องมีการจัดการสิทธิ์การเข้าถึงเพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล ⛔ การทำงานร่วมกันอาจเกิดความสับสนหากไม่มีการกำหนดบทบาทชัดเจน 2️⃣ การเชื่อมต่อกับแอปอื่น (Google, Outlook) ✅ ฟีเจอร์ใหม่ ➡️ เชื่อมต่อกับ Google และ Outlook ได้ลึกขึ้น ➡️ สามารถสรุปข้อมูลจากอีเมล, ปฏิทิน, และเอกสารได้ ➡️ ใช้ reasoning เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและดำเนินการ เช่น จองโรงแรม ‼️ คำเตือน ⛔ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ก่อนเข้าถึงข้อมูล ⛔ การเชื่อมต่อหลายระบบอาจเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัย 3️⃣ ความสามารถด้านความจำ (Long-term memory) ✅ ฟีเจอร์ใหม่ ➡️ Copilot สามารถจำข้อมูลสำคัญของผู้ใช้ได้ ➡️ ใช้ความจำเพื่อช่วยเตือนงานหรือเรียกข้อมูลเก่า ➡️ เพิ่มความเป็น “ผู้ช่วยส่วนตัว” ที่เข้าใจผู้ใช้มากขึ้น ‼️ คำเตือน ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบว่าข้อมูลใดถูกจำไว้ ⛔ อาจต้องมีระบบลบหรือจัดการความจำเพื่อความเป็นส่วนตัว 4️⃣ อวาตาร์ “Mico” ที่แสดงอารมณ์ได้ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ ➡️ Mico เป็นอวาตาร์ของ Copilot ที่เปลี่ยนสีและแสดงอารมณ์ ➡️ เพิ่มความเป็นธรรมชาติในการสนทนา ➡️ ช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกว่า Copilot “มีตัวตน” มากขึ้น ‼️ คำเตือน ⛔ อาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกผูกพันกับ AI มากเกินไป ⛔ ต้องมีการออกแบบให้ไม่สร้างความเข้าใจผิดว่าเป็นมนุษย์จริง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/24/microsoft-introduces-new-copilot-features-such-as-collaboration-google-integration
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Microsoft introduces new Copilot features such as collaboration, Google integration
    (Reuters) -Microsoft introduced new features in its digital assistant Copilot on Thursday, including collaboration and deeper integration with other applications such as Outlook and Google, beefing up its AI services to stave off competition.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts