• ช่วงเวลาที่ขีปนาวุธ Iskander-M ติดหัวรบแบบคลัสเตอร์ของรัสเซีย โจมตีจุดควบคุมและปล่อยโดรนของเจ้าหน้าที่ยูเครนที่สนามบินใกล้เมือง Krolevets ในภูมิภาค Sumy

    เริ่มต้นจากโดรนตรวจการณ์ของรัสเซียติดตามเจ้าหน้าที่ควบคุมโดรนมาถึงสนามบินและแจ้งพิกัดให้เจ้าหน้าที่รัสเซียในภูมิภาค Kursk เพื่อยิงขีปนาวุธ Iskander ไปที่เป้าหมาย
    ช่วงเวลาที่ขีปนาวุธ Iskander-M ติดหัวรบแบบคลัสเตอร์ของรัสเซีย โจมตีจุดควบคุมและปล่อยโดรนของเจ้าหน้าที่ยูเครนที่สนามบินใกล้เมือง Krolevets ในภูมิภาค Sumy เริ่มต้นจากโดรนตรวจการณ์ของรัสเซียติดตามเจ้าหน้าที่ควบคุมโดรนมาถึงสนามบินและแจ้งพิกัดให้เจ้าหน้าที่รัสเซียในภูมิภาค Kursk เพื่อยิงขีปนาวุธ Iskander ไปที่เป้าหมาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 0 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทิศต้องห้าม.....ประจำเดือนมิถุนายน 2568

    ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 5 เดือนมิถุนายน ไปจนถึง วันอาทิตย์ที่ 6 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2568 สิ่งสำคัญคือ ควรเลี่ยงต่อการกระทบ ทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทาง ดังนี้

    1. ทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว) ทิศเหนือ 坎卦(ข่ำข่วย) ราศี 子(จื้อ) ตั้งแต่รัศมี 352.5 ถึง 7.5 องศา

    2. ทิศ 3 อสูร 月三煞(หง่วยซาสั่วะ) ตั้งแต่ ทิศตะวันตก/เหนือ 乾卦(เคี้ยงข่วย) รัศมี 315 องศา ถึง ทิศตะวันออก/เหนือ 艮卦(กึ่งข่วย) รัศมี 45 องศา

    3. ทิศ 5 เหลือง 五黃(โหงวอี๊ง) ทิศตะวันออก 震卦(จิ้งข่วย) ตั้งแต่รัศมี 67.5 ถึง 112.5 องศา

    ดังนั้นหากกระทบสะเทือนถึงดินที่อัดอั้นด้วยกระแสพลังร้ายอันรุนแรงรอเพียงแค่การปลดปล่อย ด้วยการทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทางดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น ส่งผลให้ท่านที่ชะตาตก ชีวิตจะเกิดวิกฤต กลุ้ม วุ่นวาย มากอุปสรรคปัญหา ขัดแย้ง แตกแยก ถูกแทงหลัง ปองร้าย จี้ ปล้น ขโมย เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น พัวพันเรื่องคดีความจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือเกิดเจ็บป่วย ต้องผ่าตัดรักษาอาการ หรือจะบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุเภทภัยที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคคลที่เกิดปีชวดพึงระวังเป็นพิเศษ
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ทิศต้องห้าม.....ประจำเดือนมิถุนายน 2568 ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 5 เดือนมิถุนายน ไปจนถึง วันอาทิตย์ที่ 6 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2568 สิ่งสำคัญคือ ควรเลี่ยงต่อการกระทบ ทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทาง ดังนี้ 1. ทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว) ทิศเหนือ 坎卦(ข่ำข่วย) ราศี 子(จื้อ) ตั้งแต่รัศมี 352.5 ถึง 7.5 องศา 2. ทิศ 3 อสูร 月三煞(หง่วยซาสั่วะ) ตั้งแต่ ทิศตะวันตก/เหนือ 乾卦(เคี้ยงข่วย) รัศมี 315 องศา ถึง ทิศตะวันออก/เหนือ 艮卦(กึ่งข่วย) รัศมี 45 องศา 3. ทิศ 5 เหลือง 五黃(โหงวอี๊ง) ทิศตะวันออก 震卦(จิ้งข่วย) ตั้งแต่รัศมี 67.5 ถึง 112.5 องศา ดังนั้นหากกระทบสะเทือนถึงดินที่อัดอั้นด้วยกระแสพลังร้ายอันรุนแรงรอเพียงแค่การปลดปล่อย ด้วยการทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทางดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น ส่งผลให้ท่านที่ชะตาตก ชีวิตจะเกิดวิกฤต กลุ้ม วุ่นวาย มากอุปสรรคปัญหา ขัดแย้ง แตกแยก ถูกแทงหลัง ปองร้าย จี้ ปล้น ขโมย เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น พัวพันเรื่องคดีความจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือเกิดเจ็บป่วย ต้องผ่าตัดรักษาอาการ หรือจะบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุเภทภัยที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคคลที่เกิดปีชวดพึงระวังเป็นพิเศษ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    เมื่อคืนนี้ช่วงเวลาประมาณ 22:40 น. ที่ผ่านมา ยูเครนระเบิดสะพานข้ามทางรถไฟ บนทางหลวงสาย Trosna-Kalinivka กม.ที่ 48 ในภูมิภาค Kursk เขตติดต่อกับภูมิภาค Bryansk ทำให้สะพานพังถล่มลงมาทับรถไฟที่กำลังวิ่งผ่านใต้สะพาน


    มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย ซึ่งรวมถึงคนขับรถไฟและผู้ช่วย และบาดเจ็บ 69 ราย ในจำนวนนี้มีทารกวัย 5 เดือนได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

    Alexander Bogomaz ผู้ว่าการภูมิภาค Bryansk กล่าวยืนยันว่า นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการจงใจระเบิดสะพานเพื่อสร้างความเสียหายต่อขบวนรถไฟ ซึ่งเชื่อมโยงกับฝีมือของผู้ก่อการร้ายยูเครน
    3/ เมื่อคืนนี้ช่วงเวลาประมาณ 22:40 น. ที่ผ่านมา ยูเครนระเบิดสะพานข้ามทางรถไฟ บนทางหลวงสาย Trosna-Kalinivka กม.ที่ 48 ในภูมิภาค Kursk เขตติดต่อกับภูมิภาค Bryansk ทำให้สะพานพังถล่มลงมาทับรถไฟที่กำลังวิ่งผ่านใต้สะพาน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย ซึ่งรวมถึงคนขับรถไฟและผู้ช่วย และบาดเจ็บ 69 ราย ในจำนวนนี้มีทารกวัย 5 เดือนได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน Alexander Bogomaz ผู้ว่าการภูมิภาค Bryansk กล่าวยืนยันว่า นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการจงใจระเบิดสะพานเพื่อสร้างความเสียหายต่อขบวนรถไฟ ซึ่งเชื่อมโยงกับฝีมือของผู้ก่อการร้ายยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • 2/
    เมื่อคืนนี้ช่วงเวลาประมาณ 22:40 น. ที่ผ่านมา ยูเครนระเบิดสะพานข้ามทางรถไฟ บนทางหลวงสาย Trosna-Kalinivka กม.ที่ 48 ในภูมิภาค Kursk เขตติดต่อกับภูมิภาค Bryansk ทำให้สะพานพังถล่มลงมาทับรถไฟที่กำลังวิ่งผ่านใต้สะพาน


    มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย ซึ่งรวมถึงคนขับรถไฟและผู้ช่วย และบาดเจ็บ 69 ราย ในจำนวนนี้มีทารกวัย 5 เดือนได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

    Alexander Bogomaz ผู้ว่าการภูมิภาค Bryansk กล่าวยืนยันว่า นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการจงใจระเบิดสะพานเพื่อสร้างความเสียหายต่อขบวนรถไฟ ซึ่งเชื่อมโยงกับฝีมือของผู้ก่อการร้ายยูเครน
    2/ เมื่อคืนนี้ช่วงเวลาประมาณ 22:40 น. ที่ผ่านมา ยูเครนระเบิดสะพานข้ามทางรถไฟ บนทางหลวงสาย Trosna-Kalinivka กม.ที่ 48 ในภูมิภาค Kursk เขตติดต่อกับภูมิภาค Bryansk ทำให้สะพานพังถล่มลงมาทับรถไฟที่กำลังวิ่งผ่านใต้สะพาน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย ซึ่งรวมถึงคนขับรถไฟและผู้ช่วย และบาดเจ็บ 69 ราย ในจำนวนนี้มีทารกวัย 5 เดือนได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน Alexander Bogomaz ผู้ว่าการภูมิภาค Bryansk กล่าวยืนยันว่า นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการจงใจระเบิดสะพานเพื่อสร้างความเสียหายต่อขบวนรถไฟ ซึ่งเชื่อมโยงกับฝีมือของผู้ก่อการร้ายยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • 1/
    เมื่อคืนนี้ช่วงเวลาประมาณ 22:40 น. ที่ผ่านมา ยูเครนระเบิดสะพานข้ามทางรถไฟ บนทางหลวงสาย Trosna-Kalinivka กม.ที่ 48 ในภูมิภาค Kursk เขตติดต่อกับภูมิภาค Bryansk ทำให้สะพานพังถล่มลงมาทับรถไฟที่กำลังวิ่งผ่านใต้สะพาน


    มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย ซึ่งรวมถึงคนขับรถไฟและผู้ช่วย และบาดเจ็บ 69 ราย ในจำนวนนี้มีทารกวัย 5 เดือนได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

    Alexander Bogomaz ผู้ว่าการภูมิภาค Bryansk กล่าวยืนยันว่า นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการจงใจระเบิดสะพานเพื่อสร้างความเสียหายต่อขบวนรถไฟ ซึ่งเชื่อมโยงกับฝีมือของผู้ก่อการร้ายยูเครน
    1/ เมื่อคืนนี้ช่วงเวลาประมาณ 22:40 น. ที่ผ่านมา ยูเครนระเบิดสะพานข้ามทางรถไฟ บนทางหลวงสาย Trosna-Kalinivka กม.ที่ 48 ในภูมิภาค Kursk เขตติดต่อกับภูมิภาค Bryansk ทำให้สะพานพังถล่มลงมาทับรถไฟที่กำลังวิ่งผ่านใต้สะพาน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย ซึ่งรวมถึงคนขับรถไฟและผู้ช่วย และบาดเจ็บ 69 ราย ในจำนวนนี้มีทารกวัย 5 เดือนได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน Alexander Bogomaz ผู้ว่าการภูมิภาค Bryansk กล่าวยืนยันว่า นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการจงใจระเบิดสะพานเพื่อสร้างความเสียหายต่อขบวนรถไฟ ซึ่งเชื่อมโยงกับฝีมือของผู้ก่อการร้ายยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเทรดกราฟ EP.1: ศึก H4 – แดงปะทะเขียว
    ณ ดินแดนแห่งกราฟที่มีนามว่า “ตลาดโลก”
    ดินแดนที่เส้นทางแห่งราคาเปลี่ยนแปลงไม่สิ้นสุด
    กลางสนามรบโบราณชื่อว่า “H4”
    การต่อสู้ระหว่างสองขั้วพลังได้ปะทุขึ้นอีกครั้ง...
    เขาคือ “พุ่งทะยาน” – แท่งเขียวผู้กล้าหาญ
    เกิดจากพลังความหวังของเทรดเดอร์ผู้ศรัทธาในแนวโน้มขาขึ้น
    ถือดาบแห่ง “Buy Momentum” อันเรืองแสง
    พร้อมผ้าคลุมแห่งเทรนด์ไลน์ที่พัดสะบัดด้วยแรงอารมณ์ตลาด
    อีกฝ่ายคือ “ถล่มร่วง” – แท่งแดงจอมโหด
    ถือขวานเพลิงแห่ง “แรงขาย” ที่ลุกโชนด้วยข่าวร้ายและความกลัว
    มันไม่เคยปรานีแม้แต่แท่งเล็ก ๆ
    ทุกครั้งที่มันปรากฏ เส้นแนวรับต่างก็สั่นคลอน
    ทั้งสองเผชิญหน้ากันกลางสมรภูมิ
    พื้นกราฟปูด้วยเส้น EMA และเส้นแนวโน้มที่บิดเบี้ยวจากความผันผวน
    เสียงตะโกนจากเหล่าอินดิเคเตอร์ดังก้อง...
    “RSI เริ่มโอเวอร์บ๊ายแล้ว!”
    “MACD กำลังจะตัดขึ้น!”
    แต่ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าใครจะชนะศึกนี้
    นี่คือจุดเริ่มต้นของมหากาพย์การต่อสู้
    ระหว่างแรงซื้อกับแรงขาย
    ระหว่างความหวังและความกลัว
    ณ เวลานี้ H4 คือสมรภูมิที่ไม่มีผู้ใดถอย
    ---
    ในบริบทของการเทรดหรือการวิเคราะห์กราฟ “H4” หมายถึง:
    > 🔹 Timeframe 4 ชั่วโมง (H = Hour, 4 = 4 ชั่วโมง)
    รายละเอียด:
    ในกราฟ H4 แต่ละแท่งเทียน (candlestick) แสดงข้อมูลราคาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 4 ชั่วโมง
    ข้อมูลแต่ละแท่งจะประกอบด้วย:
    ราคาเปิด (Open)
    ราคาปิด (Close)
    ราคาสูงสุด (High)
    ราคาต่ำสุด (Low)
    ใช้ทำอะไร:
    เหมาะสำหรับการวิเคราะห์เทรนด์ระยะ กลาง
    นักเทรดนิยมใช้ H4 เพื่อดูแนวโน้มภาพรวมก่อนจะเข้าเทรดใน timeframe ย่อย (เช่น M15 หรือ H1)
    มักใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ เช่น EMA, MACD, RSI เพื่อดูความแข็งแรงของแนวโน้ม
    ตัวอย่าง:
    ถ้าแท่งเทียน H4 ปิดเป็นแท่งเขียวยาวหลายแท่งติดกัน แสดงว่าในช่วงหลายชั่วโมงล่าสุดมีแรงซื้อชัดเจน
    นิทานเทรดกราฟ EP.1: ศึก H4 – แดงปะทะเขียว ณ ดินแดนแห่งกราฟที่มีนามว่า “ตลาดโลก” ดินแดนที่เส้นทางแห่งราคาเปลี่ยนแปลงไม่สิ้นสุด กลางสนามรบโบราณชื่อว่า “H4” การต่อสู้ระหว่างสองขั้วพลังได้ปะทุขึ้นอีกครั้ง... เขาคือ “พุ่งทะยาน” – แท่งเขียวผู้กล้าหาญ เกิดจากพลังความหวังของเทรดเดอร์ผู้ศรัทธาในแนวโน้มขาขึ้น ถือดาบแห่ง “Buy Momentum” อันเรืองแสง พร้อมผ้าคลุมแห่งเทรนด์ไลน์ที่พัดสะบัดด้วยแรงอารมณ์ตลาด อีกฝ่ายคือ “ถล่มร่วง” – แท่งแดงจอมโหด ถือขวานเพลิงแห่ง “แรงขาย” ที่ลุกโชนด้วยข่าวร้ายและความกลัว มันไม่เคยปรานีแม้แต่แท่งเล็ก ๆ ทุกครั้งที่มันปรากฏ เส้นแนวรับต่างก็สั่นคลอน ทั้งสองเผชิญหน้ากันกลางสมรภูมิ พื้นกราฟปูด้วยเส้น EMA และเส้นแนวโน้มที่บิดเบี้ยวจากความผันผวน เสียงตะโกนจากเหล่าอินดิเคเตอร์ดังก้อง... “RSI เริ่มโอเวอร์บ๊ายแล้ว!” “MACD กำลังจะตัดขึ้น!” แต่ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าใครจะชนะศึกนี้ นี่คือจุดเริ่มต้นของมหากาพย์การต่อสู้ ระหว่างแรงซื้อกับแรงขาย ระหว่างความหวังและความกลัว ณ เวลานี้ H4 คือสมรภูมิที่ไม่มีผู้ใดถอย --- ในบริบทของการเทรดหรือการวิเคราะห์กราฟ “H4” หมายถึง: > 🔹 Timeframe 4 ชั่วโมง (H = Hour, 4 = 4 ชั่วโมง) รายละเอียด: ในกราฟ H4 แต่ละแท่งเทียน (candlestick) แสดงข้อมูลราคาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 4 ชั่วโมง ข้อมูลแต่ละแท่งจะประกอบด้วย: ราคาเปิด (Open) ราคาปิด (Close) ราคาสูงสุด (High) ราคาต่ำสุด (Low) ใช้ทำอะไร: เหมาะสำหรับการวิเคราะห์เทรนด์ระยะ กลาง นักเทรดนิยมใช้ H4 เพื่อดูแนวโน้มภาพรวมก่อนจะเข้าเทรดใน timeframe ย่อย (เช่น M15 หรือ H1) มักใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ เช่น EMA, MACD, RSI เพื่อดูความแข็งแรงของแนวโน้ม ตัวอย่าง: ถ้าแท่งเทียน H4 ปิดเป็นแท่งเขียวยาวหลายแท่งติดกัน แสดงว่าในช่วงหลายชั่วโมงล่าสุดมีแรงซื้อชัดเจน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • 清水祖師 ตัน ผ่อ เจ่ว พระหมอ รุ่นแรก ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ยะลา
    清水祖師 ตัน ผ่อ เจ่ว พระหมอ รุ่นแรก เนื้อว่านกดมือโบราณ "ฝังเพชรหน้าทั่ง" ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ยะลา // พระดีพิธีใหญ่ หลวงตาแดง อาจารย์นอง อาจารย์ทอง พ่อท่านฉิ้น พ่อท่านสิงห์ พ่อท่านเขียว ร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ ด้านมั่งมีโภคทรัพย์ แคล้วคลาด คุ้มภัย มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรให้ ปราศจากความเจ็บไข้,ความเจ็บป่วย และ ภยันตรายทั้งปวง เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง เมตตามหานิยมอีกด้วย >>

    ** พระดีพิธีใหญ่ เกจิปลุกเสก อาทิ หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว พ่อท่านทอง วัดสำเภาเชย พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ร่วมปลุกเสก ** ประวัติในเมืองไทยได้มีการบันทึกไว้เกี่ยวกับการบูชาและไหว้พระหมอมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 หรือก่อนหน้านั้นนานมาแล้ว และที่เรารู้จักกันดีคือศาลเจ้แม่ลิ้มกอเหนี่ยว จ.ปัตตานี ที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว และองค์พระหมอ (พระเซ๋าซูกง) และยังมีอีกหลสยที่ที่คนไทยเชื้อสายจีนนับถือและให้การเคารพท่านมาก ทั้งที่ พังงา กระบี่ สตูล ยะลา ปัตตานี ตรัง ภูเก็ต...ฯลฯ >>

    * พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    清水祖師 ตัน ผ่อ เจ่ว พระหมอ รุ่นแรก ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ยะลา 清水祖師 ตัน ผ่อ เจ่ว พระหมอ รุ่นแรก เนื้อว่านกดมือโบราณ "ฝังเพชรหน้าทั่ง" ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ยะลา // พระดีพิธีใหญ่ หลวงตาแดง อาจารย์นอง อาจารย์ทอง พ่อท่านฉิ้น พ่อท่านสิงห์ พ่อท่านเขียว ร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ ด้านมั่งมีโภคทรัพย์ แคล้วคลาด คุ้มภัย มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรให้ ปราศจากความเจ็บไข้,ความเจ็บป่วย และ ภยันตรายทั้งปวง เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง เมตตามหานิยมอีกด้วย >> ** พระดีพิธีใหญ่ เกจิปลุกเสก อาทิ หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว พ่อท่านทอง วัดสำเภาเชย พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ร่วมปลุกเสก ** ประวัติในเมืองไทยได้มีการบันทึกไว้เกี่ยวกับการบูชาและไหว้พระหมอมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 หรือก่อนหน้านั้นนานมาแล้ว และที่เรารู้จักกันดีคือศาลเจ้แม่ลิ้มกอเหนี่ยว จ.ปัตตานี ที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว และองค์พระหมอ (พระเซ๋าซูกง) และยังมีอีกหลสยที่ที่คนไทยเชื้อสายจีนนับถือและให้การเคารพท่านมาก ทั้งที่ พังงา กระบี่ สตูล ยะลา ปัตตานี ตรัง ภูเก็ต...ฯลฯ >> * พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....เนื้อโลหะแก่ชนวน.....( กรรมการ ).....เลข.....16.....91.....123.....141.....*****

    *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....*****

    *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....*****
    *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....*****
    *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....*****

    *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....*****

    #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....เนื้อโลหะแก่ชนวน.....( กรรมการ ).....เลข.....16.....91.....123.....141.....***** *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....***** *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....***** *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....***** *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....***** *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....***** #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันอังคารที่ 3 มิถุนายน 2568 ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 7 ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี
    วันอังคารที่ 3 มิถุนายน 2568 ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 7 ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระวังตัณหา
    พาก่อกรรมชั่ว
    เดือดร้อนไปทั่ว
    พัวพันถึงตัว

    กิเลสความอยาก
    ลากพาไปทั่ว
    ก่อกรรมทำชั่ว
    นัวเนียติดอยู่

    อยากหรือไม่อยาก
    หากไม่ตามรู้
    ควบคุมให้อยู่
    สู้ทุกข์ไม่ได้

    อยากหรือไม่อยาก
    หากสติหาย
    กระวนกระวาย
    ไปตามความอยาก

    กิเลสกรรมชั่ว
    พัวพันความอยาก
    ยึดแล้วลำบาก
    ลากสู่ทุกข์ภัย

    ยิ่งยึดยิ่งทุกข์
    ซุกหมักหมมไว้
    ชำระไม่ได้
    ล้วนไม่สบาย

    ศีลธรรมกรรมดี
    มีอยากทำไป
    สติครองไว้
    ทำไปวางไป

    มีธรรมสายกลาง
    ทางประเสริฐไว้
    รู้ตามจริงได้
    ไกลทุกข์พอใจ

    ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง สวัสดีมงคลชัย

    นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    ระวังตัณหา พาก่อกรรมชั่ว เดือดร้อนไปทั่ว พัวพันถึงตัว กิเลสความอยาก ลากพาไปทั่ว ก่อกรรมทำชั่ว นัวเนียติดอยู่ อยากหรือไม่อยาก หากไม่ตามรู้ ควบคุมให้อยู่ สู้ทุกข์ไม่ได้ อยากหรือไม่อยาก หากสติหาย กระวนกระวาย ไปตามความอยาก กิเลสกรรมชั่ว พัวพันความอยาก ยึดแล้วลำบาก ลากสู่ทุกข์ภัย ยิ่งยึดยิ่งทุกข์ ซุกหมักหมมไว้ ชำระไม่ได้ ล้วนไม่สบาย ศีลธรรมกรรมดี มีอยากทำไป สติครองไว้ ทำไปวางไป มีธรรมสายกลาง ทางประเสริฐไว้ รู้ตามจริงได้ ไกลทุกข์พอใจ ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง สวัสดีมงคลชัย นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก,
    ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด.

    https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก, ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด. https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่ามีทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง
    สัทธรรมลำดับที่ : 640
    ชื่อบทธรรม : -ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=640
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง
    --ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ (วิมุตฺตายตนํ) ห้าประการ เหล่านี้ มีอยู่,
    http://etipitaka.com/read/pali/22/22/?keywords=วิมุตฺตายตน
    ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
    จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ
    หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ
    ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ.
    ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติห้าประการนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ห้าประการ คือ:-
    ๑. ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้
    : พระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารี
    ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ย่อม #แสดงธรรมแก่ภิกษุ,
    เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม
    ในธรรมนั้นตามที่พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารีแสดงแล้วอย่างไร.
    เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถรู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
    ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
    เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด;
    เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
    ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
    เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น ;
    +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่หนึ่ง,
    ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
    จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ
    หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
    อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).

    ๒. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : พระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารี ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
    #แต่เธอแสดงธรรมตามที่ได้ฟังมา ได้เล่าเรียนมา แก่ชนทั้งหลายเหล่าอื่น โดยพิสดารอยู่,
    เธอนั้นย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรม
    ตามที่เธอแสดงแก่ชนเหล่าอื่น โดยพิสดารตามที่เธอฟังมาแล้วเล่าเรียนมาแล้วอย่างไร.
    เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
    ปราโมทย์ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
    เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ;
    เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
    ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
    เมื่อมีสุขจิตย่อมตั้งมั่น.
    +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สอง,
    ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
    จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
    หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
    อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).

    ๓. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : พระศาสดา หรือเพื่อนพรหมจารี
    ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
    และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ;
    #แต่เธอกระทำการท่องบ่นซึ่งธรรม โดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา อยู่.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/24/?keywords=สชฺฌายํ+วิมุตฺตายตน
    เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น
    ตามที่เธอทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมาอย่างไร.
    เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
    ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
    เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ;
    เมื่อใจปีติ กายย่อมรำงับ ;
    ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
    เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น.
    +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สาม,
    ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
    จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
    หรือว่าเธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
    อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).

    ๔. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี
    ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
    และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ;
    และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ;
    #แต่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยใจ ซึ่งธรรมตามที่เธอฟังมาเล่าเรียนมา อยู่,
    เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม
    ในธรรมนั้นตามที่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยจิต
    ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา อย่างไร.
    เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
    ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
    เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
    ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ;
    เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น.
    +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สี่,
    ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่,
    จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
    หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
    อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).

    ๕. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี
    ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ;
    และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอไดัฟังมาได้เล่าเรียนมา ;
    และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ;
    ทั้งเธอก็มิได้ตรึกตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยจิต ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา ;
    #แต่ว่าสมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอนั้นถือเอาดีแล้ว
    กระทำไว้ในใจดีแล้ว เข้าไปทรงไว้ดีแล้ว แทงตลอดดีแล้วด้วยปัญญา อยู่,
    เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น
    ตามที่สมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอถือเอาด้วยดี กระทำไว้ในใจดี
    เข้าไปทรงไว้ดี แทงตลอดดีด้วยปัญญา อย่างไร.
    เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม,
    ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ;
    เมื่อปราโมทย์แล้วปีติย่อมเกิด ;
    เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ;
    ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข(ด้วยนามกาย) ;
    เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น.
    +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่ห้า,
    ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาทมีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่.
    จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ
    หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ
    อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้).
    --ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องเข้าถึง #วิมุตติห้าประการ เหล่านี้
    http://etipitaka.com/read/pali/22/25/?keywords=ปญฺจ+วิมุตฺตายตน
    ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่,
    จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงที่ซึ่งความสิ้นรอบ
    หรือว่า
    #เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตน
    ยังไม่บรรลุตามลำดับ,
    ดังนี้แล.-

    #ทุกขมรรค#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิง​ไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/20-23/26.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/20/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๒๒-๒๕/๒๖.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/22/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=43&id=640
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=43
    ลำดับสาธยายธรรม : 43 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_43.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่ามีทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง สัทธรรมลำดับที่ : 640 ชื่อบทธรรม : -ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=640 เนื้อความทั้งหมด :- --ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง --ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ (วิมุตฺตายตนํ) ห้าประการ เหล่านี้ มีอยู่, http://etipitaka.com/read/pali/22/22/?keywords=วิมุตฺตายตน ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ. ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติห้าประการนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ห้าประการ คือ:- ๑. ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ : พระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารี ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ย่อม #แสดงธรรมแก่ภิกษุ, เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้นตามที่พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารีแสดงแล้วอย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถรู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น ; +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่หนึ่ง, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ๒. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารี ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ; #แต่เธอแสดงธรรมตามที่ได้ฟังมา ได้เล่าเรียนมา แก่ชนทั้งหลายเหล่าอื่น โดยพิสดารอยู่, เธอนั้นย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรม ตามที่เธอแสดงแก่ชนเหล่าอื่น โดยพิสดารตามที่เธอฟังมาแล้วเล่าเรียนมาแล้วอย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุขจิตย่อมตั้งมั่น. +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สอง, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ๓. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือเพื่อนพรหมจารี ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ; และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ; #แต่เธอกระทำการท่องบ่นซึ่งธรรม โดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา อยู่. http://etipitaka.com/read/pali/22/24/?keywords=สชฺฌายํ+วิมุตฺตายตน เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น ตามที่เธอทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมาอย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ; เมื่อใจปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น. +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สาม, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่าเธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ๔. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ; และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ; และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ; #แต่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยใจ ซึ่งธรรมตามที่เธอฟังมาเล่าเรียนมา อยู่, เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้นตามที่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยจิต ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา อย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น. +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สี่, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ๕. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ; และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอไดัฟังมาได้เล่าเรียนมา ; และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ; ทั้งเธอก็มิได้ตรึกตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยจิต ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา ; #แต่ว่าสมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอนั้นถือเอาดีแล้ว กระทำไว้ในใจดีแล้ว เข้าไปทรงไว้ดีแล้ว แทงตลอดดีแล้วด้วยปัญญา อยู่, เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น ตามที่สมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอถือเอาด้วยดี กระทำไว้ในใจดี เข้าไปทรงไว้ดี แทงตลอดดีด้วยปัญญา อย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้วปีติย่อมเกิด ; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข(ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น. +--ภิกษุ ท. ! นี้คือ &ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่ห้า, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาทมีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่. จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). --ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องเข้าถึง #วิมุตติห้าประการ เหล่านี้ http://etipitaka.com/read/pali/22/25/?keywords=ปญฺจ+วิมุตฺตายตน ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงที่ซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า #เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะ อันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตน ยังไม่บรรลุตามลำดับ, ดังนี้แล.- #ทุกขมรรค​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิง​ไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/20-23/26. http://etipitaka.com/read/thai/22/20/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๒๒-๒๕/๒๖. http://etipitaka.com/read/pali/22/22/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96 ศึกษาเพิ่มเติม... http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=43&id=640 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=43 ลำดับสาธยายธรรม : 43 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_43.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง
    -ทางให้ถึงความหลุดพ้นห้าทาง ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ (วิมุตฺตายตนํ) ห้าประการ เหล่านี้ มีอยู่, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มี ๑. รายละเอียดเรื่องปุพพันตานุทิฏฐิ และอปรันตานุทิฏฐิ หาดูได้จากหนังสือปฏิจจ. โอ. หน้า ๗๓๒-๗๖๘. ตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ. ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติห้าประการนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ห้าประการ คือ: ๑. ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ พระศาสดา หรือ เพื่อนสพรหมจารี ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ย่อม แสดงธรรมแก่ภิกษุ, เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้นตามที่พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารีแสดงแล้วอย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถรู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น ; ภิกษุ ท. ! นี้คือธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่หนึ่ง, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึง ซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอัน ไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ๒. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ; แต่เธอแสดงธรรมตามที่ได้ฟังมา ได้เล่าเรียนมา แก่ชนทั้งหลายเหล่าอื่น โดยพิสดารอยู่, เธอนั้นย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรม ตามที่เธอแสดงแก่ชนเหล่าอื่น โดยพิสดารตามที่เธอฟังมาแล้วเล่าเรียนมาแล้วอย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุขจิตย่อมตั้งมั่น. ภิกษุ ท. ! นี้คือ ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สอง, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ๓. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือเพื่อนพรหมจารีผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ; และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ; แต่เธอกระทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา อยู่. เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้นตามที่เธอทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมาอย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด ; เมื่อใจปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น. ภิกษุ ท. ! นี้คือ ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่สาม, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่าเธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ๔. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารีผู้ ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ; และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอได้ฟังมาได้เล่าเรียนมา ; และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ; แต่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยใจ ซึ่งธรรมตามที่เธอฟังมาเล่าเรียนมา อยู่, เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้นตามที่เธอตรึกตามตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยใจ ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา อย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข (ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น. ภิกษุ ท. ! นี้คือ ธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติข้อที่สี่, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตนยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ๕. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : พระศาสดา หรือเพื่อนสพรหมจารี ผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูรูปใดรูปหนึ่ง ก็มิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ ; และเธอนั้นก็มิได้แสดงธรรมแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดารตามที่เธอไดัฟังมาได้เล่าเรียนมา ; และเธอก็มิได้ทำการท่องบ่นซึ่งธรรมโดยพิสดารตามที่ตนฟังมาเล่าเรียนมา ; ทั้งเธอก็มิได้ตรึกตรองตามด้วยใจ ตามเพ่งด้วยใจ ซึ่งธรรมตามที่ได้ฟังมาเล่าเรียนมา ; แต่ว่า สมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอนั้นถือเอาดีแล้ว กระทำไว้ในใจดีแล้ว เข้าไปทรงไว้ดีแล้ว แทงตลอดดีแล้วด้วยปัญญา อยู่, เธอย่อมเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม ในธรรมนั้น ตามที่สมาธินิมิต อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่เธอถือเอาด้วยดี กระทำไว้ในใจดี เข้าไปทรงไว้ดี แทงตลอดดีด้วยปัญญา อย่างไร. เมื่อเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งอรรถ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งธรรม, ปราโมทย์ ย่อมเกิดขึ้นแก่เธอนั้น ; เมื่อปราโมทย์แล้วปีติย่อมเกิด ; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ ; ผู้มีกายรำงับแล้ว ย่อมเสวยสุข(ด้วยนามกาย) ; เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น. ภิกษุ ท. ! นี้คือธรรมเป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ ข้อที่ห้า, ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาทมีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วอยู่. จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ยังไม่บรรลุตามลำดับ (โดยแน่แท้). ภิกษุ ท. ! ธรรมเป็นเครื่องเข้าถึงวิมุตติห้าประการเหล่านี้ ซึ่งในธรรมนั้น เมื่อภิกษุเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้ว อยู่, จิตที่ยังไม่หลุดพ้นย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นรอบย่อมถึงที่ซึ่งความสิ้นรอบ หรือว่า เธอย่อมบรรลุตามลำดับ ซึ่งความเกษมจากโยคะอันไม่มีอื่นยิ่งกว่าที่ตน ยังไม่บรรลุตามลำดับ, ดังนี้แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาไวพจน์(คำแทนชื่อ)​ของกาม
    สัทธรรมลำดับที่ : 270
    ชื่อบทธรรม : -ไวพจน์ของกาม
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=270
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ไวพจน์ของกาม
    --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ภัย’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.
    --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ทุกข์’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.
    --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘โรค’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.
    --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘หัวฝี’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.
    --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ลูกศร’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.
    --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘เครื่องข้อง’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.
    --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘เปือกตม’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.
    --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ครรภ์’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร
    คำว่า ‘ภัย’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว
    ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ
    #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากภัย
    ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม (ปัจจุบันนี้) และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า,
    เพราะฉะนั้น คำว่า ‘ภัย’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร
    คำว่า ‘ทุกข์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว
    ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ
    #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากทุกข์
    ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า,
    เพราะฉะนั้นคำว่า ‘ทุกข์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร
    คำว่า ‘โรค’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว
    ด้วย กามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ
    #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากโรค
    ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า,
    เพราะฉะนั้น คำว่า ‘โรค’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร
    คำว่า ‘หัวฝี’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว
    ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ
    #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากหัวฝี
    ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า,
    เพราะฉะนั้น คำว่า ‘หัวฝี’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร
    คำว่า ‘ลูกศร’ จึงเป็นแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว
    ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ
    #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากลูกศร
    ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า,
    เพราะฉะนั้น คำว่า ‘ลูกศร’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร
    คำว่า ‘เครื่องข้อง’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว
    ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ
    #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากเครื่องข้อง
    ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า,
    เพราะฉะนั้น คำว่า ‘เครื่องข้อง’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร
    คำว่า ‘เปือกตม’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว
    ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ
    #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากเปือกตม
    ทั้งที่เป็นไปทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า,
    เพราะฉะนั้น คำว่า ‘เปือกตม’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร
    คำว่า ‘ครรภ์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ?
    ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว
    ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ
    #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากครรภ์
    ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า,
    เพราะฉะนั้นคำว่า ‘ครรภ์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย,
    ดังนี้.
    ภัย ทุกข์ โรค หัวฝี ลูกศร ความข้อง เปือกตม และ การอยู่ในครรภ์
    นี้เรียกว่า กามที่ปุถุชนข้องอยู่แล้ว
    อันกามสุขครอบงำแล้ว #ย่อมไปเพื่อกำเนิดอีก ก็เพราะ
    ภิกษุมีความเพียร ยินดีด้วยสัมปชัญญะ (สมฺปชญฺญํ)​
    http://etipitaka.com/read/pali/23/299/?keywords=สมฺปชญฺญํ
    ภิกษุเห็นปานนี้นั้น ก้าวล่วงทางหมุนเวียนที่ข้ามได้ยากนี้ได้แล้ว
    ย่อมพิจารณา เห็นหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงชาติและชรา ดิ้นรนอยู่
    ดังนี้แล.

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อฎฺฐก. อํ. 23/227/146.
    http://etipitaka.com/read/thai/23/227/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อฎฺฐก. อํ. ๒๓/๒๙๘/๑๔๖.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/298/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%96
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=270
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=270
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18
    ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาไวพจน์(คำแทนชื่อ)​ของกาม สัทธรรมลำดับที่ : 270 ชื่อบทธรรม : -ไวพจน์ของกาม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=270 เนื้อความทั้งหมด :- --ไวพจน์ของกาม --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ภัย’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ทุกข์’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘โรค’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘หัวฝี’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ลูกศร’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘เครื่องข้อง’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘เปือกตม’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ครรภ์’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘ภัย’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากภัย ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม (ปัจจุบันนี้) และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘ภัย’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘ทุกข์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากทุกข์ ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้นคำว่า ‘ทุกข์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘โรค’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วย กามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากโรค ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘โรค’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘หัวฝี’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากหัวฝี ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘หัวฝี’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘ลูกศร’ จึงเป็นแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากลูกศร ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘ลูกศร’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘เครื่องข้อง’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากเครื่องข้อง ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘เครื่องข้อง’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘เปือกตม’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย ? --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากเปือกตม ทั้งที่เป็นไปทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘เปือกตม’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘ครรภ์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลายเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ #ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากครรภ์ ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้นคำว่า ‘ครรภ์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย, ดังนี้. ภัย ทุกข์ โรค หัวฝี ลูกศร ความข้อง เปือกตม และ การอยู่ในครรภ์ นี้เรียกว่า กามที่ปุถุชนข้องอยู่แล้ว อันกามสุขครอบงำแล้ว #ย่อมไปเพื่อกำเนิดอีก ก็เพราะ ภิกษุมีความเพียร ยินดีด้วยสัมปชัญญะ (สมฺปชญฺญํ)​ http://etipitaka.com/read/pali/23/299/?keywords=สมฺปชญฺญํ ภิกษุเห็นปานนี้นั้น ก้าวล่วงทางหมุนเวียนที่ข้ามได้ยากนี้ได้แล้ว ย่อมพิจารณา เห็นหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงชาติและชรา ดิ้นรนอยู่ ดังนี้แล. #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อฎฺฐก. อํ. 23/227/146. http://etipitaka.com/read/thai/23/227/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อฎฺฐก. อํ. ๒๓/๒๙๘/๑๔๖. http://etipitaka.com/read/pali/23/298/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%96 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=270 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=270 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18 ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ไวพจน์ของกาม
    -ไวพจน์ของกาม ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ภัย’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ทุกข์’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘โรค’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘หัวฝี’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ลูกศร’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘เครื่องข้อง’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘เปือกตม’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! คำว่า ‘ครรภ์’ ดังนี้นั้น เป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘ภัย’ จึงเป็นคำแทนชื่อของกาม ทั้งหลายเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้ จากภัย ทั้งที่ เป็นไปในทิฏฐธรรม (ปัจจุบันนี้) และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘ภัย’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘ทุกข์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของกามทั้งหลายเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้ จากทุกข์ ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้นคำว่า ‘ทุกข์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘โรค’ จึงเป็นคำแทนชื่อของกาม ทั้งหลายเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วย กามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้ จากโรค ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘โรค’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘หัวฝี’ จึงเป็นคำแทนชื่อของกาม ทั้งหลายเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วย กามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้ จากหัวฝี ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘หัวฝี’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘ลูกศร’ จึงเป็นแทนชื่อของกาม ทั้งหลายเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกาม ราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้ จากลูกศร ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘ลูกศร’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘เครื่องข้อง’ จึงเป็นคำแทนชื่อของกามทั้งหลายเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้วด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้ จากเครื่องข้อง ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘เครื่องข้อง’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘เปือกตม’ จึงเป็นคำแทนชื่อของกามทั้งหลาย ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้วด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้ จากเปือกตม ทั้งที่เป็นไปทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้น คำว่า ‘เปือกตม’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุไร คำว่า ‘ครรภ์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของกามทั้งหลายเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า สัตว์นี้ เป็นผู้กำหนัดแล้ว ด้วยกามราคะ ถูกผูกพันแล้ว ด้วยฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้ จากครรภ์ ทั้งที่เป็นไปในทิฏฐธรรม(ปัจจุบัน)นี้ และที่เป็นไปในกาลอนาคตเบื้องหน้า, เพราะฉะนั้นคำว่า ‘ครรภ์’ จึงเป็นคำแทนชื่อของ กามทั้งหลาย, ดังนี้แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่ารายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับกาม
    สัทธรรมลำดับที่ : 269
    ชื่อบทธรรม :- รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับกาม
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=269
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับกาม
    --ภิกษุ ท. ! ที่เรากล่าวว่า
    “กาม นิทานสัมภวะแห่งกาม เวมัตตตา แห่งกาม
    วิบากแห่งกาม นิโรธแห่งกาม ปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม เป็นสิ่งที่ควรรู้แจ้ง”
    นั้น เรากล่าวหมายถึงกามไหนกันเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! กามคุณ ๕ อย่างเหล่านี้ คือ
    รูป ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยจักษุ(ตา)
    ....
    เสียง ทั้งหลาย อันจะถึงรู้แจ้งได้ด้วยโสตะ(หู)
    ....
    กลิ่น ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยฆานะ(จมูก)
    ....
    รส ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยชิวหา(ลิ้น)
    ....
    โผฏฐัพพะ ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้ง ได้ด้วยกาย (ผิวกาย)
    อันเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะอันน่ารัก
    เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยแห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มีอยู่,
    --ภิกษุ ท. ! อารมณ์ ๕ อย่างเหล่านี้ หาใช่กามไม่ ;
    ห้าอย่างเหล่านี้ เรียกกันในอริยวินัย ว่า กามคุณ.(คาถาจำกัดความตอนนี้)
    ความกำหนัดไปตามอำนาจความตริตรึก (สงฺกปฺปราโค) นั่นแหละคือกามของคนเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/460/?keywords=สงฺกปฺปราโค
    อารมณ์อันวิจิตรทั้งหลายในโลกนั้น หาใช่กามไม่ ;
    ความกำหนัดไปตามอำนาจความตริตรึกนั่นแหละคือ กาม ของคนเรา ;
    อารมณ์อันวิจิตร ก็มีอยู่ในโลกตามประสาของมันเท่านั้น ;
    ดังนั้น ผู้มีปัญญาจึงนำออกเสียซึ่งฉันทะ ในอารมณ์อันวิจิตรเหล่านั้น
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! นิทานสัมภวะ (เหตุเป็นแดนเกิด) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ?
    นิทานสัมภวะแห่งกาม คือ #ผัสสะ.

    --ภิกษุ ท. ! เวมัตตา (ประมาณต่าง ๆ) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ?
    ภิกษุ ท. ! เวมัตตตาแห่งกาม คือ
    ความใคร่ (กาม) ในรูปารมณ์ก็อย่างหนึ่ง ๆ,
    ความใคร่ในสัททารมณ์ ก็อย่างหนึ่งๆ,
    ความใคร่ในคันธารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ,
    ความใคร่ในรสารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ,
    ความใคร่ในโผฏฐัพพารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ ;
    --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า เวมัตตาแห่งกาม.

    --ภิกษุ ท. ! วิบากแห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลใคร่อยู่ซึ่งอารมณ์ (แห่งกาม) ใด
    เขากระทำอัตตภาพอันเกิดจากกามนั้น ๆ ให้เกิดขึ้น *--๑
    เป็นอัตตภาพ มีส่วนแห่งบุญ ก็ดี มีส่วนแห่งอบุญ ก็ดี ;
    --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า วิบากแห่งกาม.
    --ภิกษุ ท. ! นิโรธ (ความดับ) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! นิโรธแห่งกามย่อมมี เพราะนิโรธแห่งผัสสะ. อริยอัฏฐังคิกมรรคนี้นั่นแล เป็นปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม ;
    ปฏิปทานั้นได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ
    สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
    สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ.

    --ภิกษุ ท. ! ในกาลใดแล อริยสาวกย่อม
    รู้ชัดซึ่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งนิทานสัมภวะแห่งกาม อย่างนี้,
    รู้ชัดซึ่งเวมัตตตาแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งวิบากแห่งกาม อย่างนี้,
    รู้ชัดซึ่งนิโรธแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม อย่างนี้ ;
    ในกาลนั้น อริยสาวกนั้น
    ย่อมรู้ชัดซึ่งพรหมจรรย์นี้อันเป็นเครื่องเจาะแทงกิเลส ว่าเป็นนิโรธแห่งกาม.-

    *--๑. ข้อความนี้ใช้ได้ทั้งภาษาคนและภาษาธรรม
    : ภาษาคนก็คือเกิดใหม่หลังจากตายแล้ว ดังที่ทราบกันอยู่ ;
    ถ้าเป็นภาษาธรรมก็คือ จิตที่ครองอัตตภาพปัจจุบันของเขานั้นเกิดเปลี่ยนเป็นบุญหรือบาป
    ตามสมควรแก่อุปาทานที่เกิดขึ้นจากความใคร่นั้น ๆ
    โดยที่ยังไม่ต้องตาย ;
    ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ศึกษาจะถือเอาความหมายไหน.

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อ. 22/365-368/334.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/365/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อ. ๒๒/๔๕๘-๔๖๐/๓๓๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/458/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%94
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=269
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=269
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18
    ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่ารายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับกาม สัทธรรมลำดับที่ : 269 ชื่อบทธรรม :- รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับกาม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=269 เนื้อความทั้งหมด :- --รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับกาม --ภิกษุ ท. ! ที่เรากล่าวว่า “กาม นิทานสัมภวะแห่งกาม เวมัตตตา แห่งกาม วิบากแห่งกาม นิโรธแห่งกาม ปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม เป็นสิ่งที่ควรรู้แจ้ง” นั้น เรากล่าวหมายถึงกามไหนกันเล่า ? --ภิกษุ ท. ! กามคุณ ๕ อย่างเหล่านี้ คือ รูป ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยจักษุ(ตา) .... เสียง ทั้งหลาย อันจะถึงรู้แจ้งได้ด้วยโสตะ(หู) .... กลิ่น ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยฆานะ(จมูก) .... รส ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยชิวหา(ลิ้น) .... โผฏฐัพพะ ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้ง ได้ด้วยกาย (ผิวกาย) อันเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะอันน่ารัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยแห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มีอยู่, --ภิกษุ ท. ! อารมณ์ ๕ อย่างเหล่านี้ หาใช่กามไม่ ; ห้าอย่างเหล่านี้ เรียกกันในอริยวินัย ว่า กามคุณ.(คาถาจำกัดความตอนนี้) ความกำหนัดไปตามอำนาจความตริตรึก (สงฺกปฺปราโค) นั่นแหละคือกามของคนเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/22/460/?keywords=สงฺกปฺปราโค อารมณ์อันวิจิตรทั้งหลายในโลกนั้น หาใช่กามไม่ ; ความกำหนัดไปตามอำนาจความตริตรึกนั่นแหละคือ กาม ของคนเรา ; อารมณ์อันวิจิตร ก็มีอยู่ในโลกตามประสาของมันเท่านั้น ; ดังนั้น ผู้มีปัญญาจึงนำออกเสียซึ่งฉันทะ ในอารมณ์อันวิจิตรเหล่านั้น ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! นิทานสัมภวะ (เหตุเป็นแดนเกิด) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? นิทานสัมภวะแห่งกาม คือ #ผัสสะ. --ภิกษุ ท. ! เวมัตตา (ประมาณต่าง ๆ) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เวมัตตตาแห่งกาม คือ ความใคร่ (กาม) ในรูปารมณ์ก็อย่างหนึ่ง ๆ, ความใคร่ในสัททารมณ์ ก็อย่างหนึ่งๆ, ความใคร่ในคันธารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ, ความใคร่ในรสารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ, ความใคร่ในโผฏฐัพพารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ ; --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า เวมัตตาแห่งกาม. --ภิกษุ ท. ! วิบากแห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! บุคคลใคร่อยู่ซึ่งอารมณ์ (แห่งกาม) ใด เขากระทำอัตตภาพอันเกิดจากกามนั้น ๆ ให้เกิดขึ้น *--๑ เป็นอัตตภาพ มีส่วนแห่งบุญ ก็ดี มีส่วนแห่งอบุญ ก็ดี ; --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า วิบากแห่งกาม. --ภิกษุ ท. ! นิโรธ (ความดับ) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! นิโรธแห่งกามย่อมมี เพราะนิโรธแห่งผัสสะ. อริยอัฏฐังคิกมรรคนี้นั่นแล เป็นปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม ; ปฏิปทานั้นได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. --ภิกษุ ท. ! ในกาลใดแล อริยสาวกย่อม รู้ชัดซึ่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งนิทานสัมภวะแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งเวมัตตตาแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งวิบากแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งนิโรธแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม อย่างนี้ ; ในกาลนั้น อริยสาวกนั้น ย่อมรู้ชัดซึ่งพรหมจรรย์นี้อันเป็นเครื่องเจาะแทงกิเลส ว่าเป็นนิโรธแห่งกาม.- *--๑. ข้อความนี้ใช้ได้ทั้งภาษาคนและภาษาธรรม : ภาษาคนก็คือเกิดใหม่หลังจากตายแล้ว ดังที่ทราบกันอยู่ ; ถ้าเป็นภาษาธรรมก็คือ จิตที่ครองอัตตภาพปัจจุบันของเขานั้นเกิดเปลี่ยนเป็นบุญหรือบาป ตามสมควรแก่อุปาทานที่เกิดขึ้นจากความใคร่นั้น ๆ โดยที่ยังไม่ต้องตาย ; ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ศึกษาจะถือเอาความหมายไหน. #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อ. 22/365-368/334. http://etipitaka.com/read/thai/22/365/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อ. ๒๒/๔๕๘-๔๖๐/๓๓๔. http://etipitaka.com/read/pali/22/458/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%94 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=269 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=269 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18 ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับกาม
    -รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับกาม ภิกษุ ท. ! ที่เรากล่าวว่า “กาม นิทานสัมภวะแห่งกาม เวมัตตตา แห่งกาม วิบากแห่งกาม นิโรธแห่งกาม ปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม เป็นสิ่งที่ควรรู้แจ้ง” นั้น เรากล่าวหมายถึงกามไหนกันเล่า ? ภิกษุ ท. ! กามคุณ ๕ อย่างเหล่านี้ คือ รูป ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยจักษุ.... เสียง ทั้งหลาย อันจะถึงรู้แจ้งได้ด้วยโสตะ.... กลิ่น ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยฆานะ.... รส ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้งได้ด้วยชิวหา.... โผฏฐัพพะ ทั้งหลาย อันจะพึงรู้แจ้ง ได้ด้วยกาย อันเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะอันน่ารัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยแห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มีอยู่, ภิกษุ ท. ! อารมณ์ ๕ อย่างเหล่านี้ หาใช่กามไม่ ; ห้าอย่างเหล่านี้ เรียกกันในอริยวินัย ว่า กามคุณ. (คาถาจำกัดความตอนนี้) ความกำหนัดไปตามอำนาจความตริตรึก (สงฺกปฺปราค) นั่นแหละคือกามของคนเรา ; อารมณ์อันวิจิตรทั้งหลายในโลก นั้น หาใช่กามไม่ ; ความกำหนัดไปตามอำนาจความตริตรึก นั่นแหละคือกามของคนเรา ; อารมณ์อันวิจิตร ก็มีอยู่ในโลก ตามประสาของมันเท่านั้น ; ดังนั้น ผู้มีปัญญาจึงนำออกเสียซึ่งฉันทะ ในอารมณ์อันวิจิตรเหล่านั้น ดังนี้. ภิกษุ ท. ! นิทานสัมภวะ (เหตุเป็นแดนเกิด) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? นิทานสัมภวะแห่งกาม คือ ผัสสะ. ภิกษุ ท. ! เวมัตตา (ประมาณต่าง ๆ) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เวมัตตตาแห่งกาม คือ ความใคร่ (กาม) ในรูปารมณ์ก็อย่างหนึ่ง ๆ, ความใคร่ในสัททารมณ์ ก็อย่างหนึ่งๆ, ความใคร่ในคันธารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ, ความใคร่ในรสารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ, ความใคร่ในโผฏฐัพพารมณ์ ก็อย่างหนึ่ง ๆ ; ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า เวมัตตาแห่งกาม. ภิกษุ ท. ! วิบากแห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุคคลใคร่อยู่ซึ่งอารมณ์ (แห่งกาม) ใด เขากระทำอัตตภาพอันเกิดจากกามนั้น ๆ ให้เกิดขึ้น๑ เป็นอัตตภาพมีส่วนแห่งบุญ ก็ดี มีส่วนแห่งอบุญ ก็ดี ; ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า วิบากแห่งกาม. ภิกษุ ท. ! นิโรธ (ความดับ) แห่งกาม เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! นิโรธแห่งกามย่อมมี เพราะนิโรธแห่งผัสสะ. อริยอัฏฐังคิกมรรคนี้นั่นแล เป็น ๑. ข้อความนี้ใช้ได้ทั้งภาษาคนและภาษาธรรม : ภาษาคนก็คือเกิดใหม่หลังจากตายแล้ว ดังที่ทราบกันอยู่ ; ถ้าเป็นภาษาธรรมก็คือ จิตที่ครองอัตตภาพปัจจุบันของเขานั้นเกิดเปลี่ยนเป็นบุญหรือบาป ตามสมควรแก่อุปาทานที่เกิดขึ้นจากความใคร่นั้น ๆ โดยที่ยังไม่ต้องตาย ; ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ศึกษาจะถือเอาความหมายไหน. ปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม ; ปฏิปทานั้นได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. ภิกษุ ท. ! ในกาลใดแล อริยสาวกย่อมรู้ชัดซึ่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งนิทานสัมภวะแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งเวมัตตตาแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งวิบากแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งนิโรธแห่งกาม อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งกาม อย่างนี้ ; ในกาลนั้น อริยสาวกนั้น ย่อมรู้ชัดซึ่งพรหมจรรย์นี้อันเป็นเครื่องเจาะแทงกิเลส ว่าเป็นนิโรธแห่งกาม.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหล่งข่าวซาอุดีอาระเบียเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน อัล ซาอุด รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย จำเป็นต้องเลื่อนแผนการเดินทางเยือนเขตเวสต์แบงก์ออกไป เนื่องจากอิสราเอลขัดขวางเส้นทางการเดินทางดังกล่าว

    อิสราเอลให้เหตุผลถึงการขัดขวางดังกล่าวว่า อิสราเอลจะไม่ให้ความร่วมมือกับการเคลื่อนไหวใดๆที่เป็นสัญญาณอันตรายต่อความมั่นคงขอวอิสราเอล โดยในครั้งนี้อิสราเอลอ้างว่าประธานาธิบดีอับบาสของปาเลสไตน์เตรียมใช้การเยือนของเจ้าชายไฟซาล ในการพัฒนาสถานะรัฐของปาเลสไตน์
    แหล่งข่าวซาอุดีอาระเบียเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน อัล ซาอุด รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย จำเป็นต้องเลื่อนแผนการเดินทางเยือนเขตเวสต์แบงก์ออกไป เนื่องจากอิสราเอลขัดขวางเส้นทางการเดินทางดังกล่าว อิสราเอลให้เหตุผลถึงการขัดขวางดังกล่าวว่า อิสราเอลจะไม่ให้ความร่วมมือกับการเคลื่อนไหวใดๆที่เป็นสัญญาณอันตรายต่อความมั่นคงขอวอิสราเอล โดยในครั้งนี้อิสราเอลอ้างว่าประธานาธิบดีอับบาสของปาเลสไตน์เตรียมใช้การเยือนของเจ้าชายไฟซาล ในการพัฒนาสถานะรัฐของปาเลสไตน์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ภาพวาด 24 กตัญญู**

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’

    ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย

    เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง

    24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ):

    1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป

    2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา

    3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป

    4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป

    5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ

    6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก

    7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม

    8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา

    9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง

    10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา

    11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น

    12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป

    13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้

    14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว

    15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป

    16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน

    17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย

    18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย

    19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย

    20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด

    21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่

    22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย

    23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ

    24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน

    อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm
    http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html

    #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    **ภาพวาด 24 กตัญญู** สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’ ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง 24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ): 1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป 2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา 3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป 4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป 5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ 6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก 7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม 8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา 9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง 10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา 11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น 12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป 13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้ 14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว 15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป 16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน 17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย 18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย 19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย 20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด 21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่ 22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย 23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ 24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00 http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    NEWS.QQ.COM
    《九重紫》暴露了他好身材,长相人畜无害,却脱衣有肉穿衣显瘦_腾讯新闻
    由孟子义、李昀锐主演的电视剧《九重紫》,自开播以来,热度迅速攀升,播到15集,站内热度破了29000,有望展望30000了。 这个成绩在今年古装剧中是相当牛了,要知道,腾讯今年的古装剧热度....
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีเริ่มเรียกร้องเงินจากตะวันตกสำหรับปี 2026 แล้ว บ่งบอกว่าเขายังไม่คิดเจรจากับรัสเซียเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพ!

    — Responsible Statecraft

    เซเลนสกีได้ขอให้ตะวันตกสนับสนุนเงินทุนสำหรับปฏิบัติการทางทหารในปี 2026 ซึ่งเป็นหลักฐานโดยตรงว่าเคียฟไม่พร้อมสำหรับสันติภาพและตั้งใจที่จะดำเนินสงครามต่อไปโดยต้องแลกมาด้วยเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากยุโรปและสหรัฐอเมริกา

    เซเลนสกีให้เหตุผลในการขอเงินจากยุโรปด้วยข้อเสนอว่าจะทำให้เศรษฐกิจยูเครนแข็งแกร่งขึ้นและนั่นจะส่งผลให้เพิ่มความมั่นคงไปถึงยุโรป ซึ่งเป็นความขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงจากสภาพความจริง เนื่องจากยูเครนทุ่มค่าใช้จ่ายไปกับทางด้านการทหารสูงถึงร้อยละ 65 ของงบประมาณยูเครนทั้งหมด ในขณะที่สภาพเศรษฐกิจของยูเครนกำลังเข้าสู่จุดที่กำลังพังทลาย และความเสี่ยงของการทวีความรุนแรงก็เพิ่มขึ้นทุกขณะ การยืดเวลาสันติภาพออกไป เท่ากับจะนำไปสู่การหมดแรงทางยุทธศาสตร์ของตะวันตก ซึ่งแน่นอนว่า "ไม่ใช่ชัยชนะ"

    สื่อยังวิเคราะห์ไว้อีกว่า การที่เซเลนสกีเกรงกลัว "สันติภาพ" จะเกิดขึ้นในยูเครน เพราะนั่นจะหมายถึงจุดจบทางการเมืองของตัวเขา

    ดังนั้น เขาจึงเพิ่มแรงกดดันต่อพันธมิตรตะวันตก โดยผลักดันให้ใช้มาตรการที่รุนแรงยิ่งขึ้น เช่น ขึ้นภาษีนำเข้าสูงถึง 500% กับประเทศที่ทำการค้ากับรัสเซีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ด้วย

    ขณะเดียวกัน ความเหนื่อยล้าในยุโรปเองก็เพิ่มมากขึ้น คำถามที่ว่าใครควรเป็นผู้จ่ายเงินสำหรับสงครามอีกสองปี และทำไมจึงกลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมากขึ้น
    เซเลนสกีเริ่มเรียกร้องเงินจากตะวันตกสำหรับปี 2026 แล้ว บ่งบอกว่าเขายังไม่คิดเจรจากับรัสเซียเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพ! — Responsible Statecraft เซเลนสกีได้ขอให้ตะวันตกสนับสนุนเงินทุนสำหรับปฏิบัติการทางทหารในปี 2026 ซึ่งเป็นหลักฐานโดยตรงว่าเคียฟไม่พร้อมสำหรับสันติภาพและตั้งใจที่จะดำเนินสงครามต่อไปโดยต้องแลกมาด้วยเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากยุโรปและสหรัฐอเมริกา เซเลนสกีให้เหตุผลในการขอเงินจากยุโรปด้วยข้อเสนอว่าจะทำให้เศรษฐกิจยูเครนแข็งแกร่งขึ้นและนั่นจะส่งผลให้เพิ่มความมั่นคงไปถึงยุโรป ซึ่งเป็นความขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงจากสภาพความจริง เนื่องจากยูเครนทุ่มค่าใช้จ่ายไปกับทางด้านการทหารสูงถึงร้อยละ 65 ของงบประมาณยูเครนทั้งหมด ในขณะที่สภาพเศรษฐกิจของยูเครนกำลังเข้าสู่จุดที่กำลังพังทลาย และความเสี่ยงของการทวีความรุนแรงก็เพิ่มขึ้นทุกขณะ การยืดเวลาสันติภาพออกไป เท่ากับจะนำไปสู่การหมดแรงทางยุทธศาสตร์ของตะวันตก ซึ่งแน่นอนว่า "ไม่ใช่ชัยชนะ" สื่อยังวิเคราะห์ไว้อีกว่า การที่เซเลนสกีเกรงกลัว "สันติภาพ" จะเกิดขึ้นในยูเครน เพราะนั่นจะหมายถึงจุดจบทางการเมืองของตัวเขา ดังนั้น เขาจึงเพิ่มแรงกดดันต่อพันธมิตรตะวันตก โดยผลักดันให้ใช้มาตรการที่รุนแรงยิ่งขึ้น เช่น ขึ้นภาษีนำเข้าสูงถึง 500% กับประเทศที่ทำการค้ากับรัสเซีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ด้วย ขณะเดียวกัน ความเหนื่อยล้าในยุโรปเองก็เพิ่มมากขึ้น คำถามที่ว่าใครควรเป็นผู้จ่ายเงินสำหรับสงครามอีกสองปี และทำไมจึงกลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมากขึ้น
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลจีนบรรลุข้อตกลงว่าด้วยกระบวนการรื้อฟื้นการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นอีกครั้ง ในความคืบหน้าสำคัญที่จะนำไปสู่การปลดคำสั่งแบนที่ใช้มานานเกือบ 2 ปี ตามข้อมูลจากรัฐบาลญี่ปุ่นวานนี้ (30 พ.ค.)

    กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นแถลงว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงและสำนักงานศุลกากรของจีน (GACC) ได้บรรลุข้อตกลงระหว่างการประชุมหารือที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ (28) โดยคาดว่าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นจะสามารถส่งออกไปยังตลาดจีนได้อีกครั้ง “หลังจากที่ฝ่ายจีนดำเนินมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นแล้วเสร็จ”

    ด้าน GACC ระบุว่า ทั้ง 2 ประเทศ “คืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ” หลังจากที่ได้พูดคุยกันอีกครั้งเกี่ยวกับประเด็นเรื่องผลิตภัณฑ์อาหารทะเลจากญี่ปุ่น

    ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้น ในขณะที่จีนและญี่ปุ่นต่างพยายามหาทางยุติความตึงเครียดจากกรณีที่โตเกียวตัดสินใจปล่อยน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อปี 2023

    โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุในงานแถลงข่าวว่า ข้อตกลงนี้ “ถือเป็นหมุดหมายที่สำคัญ”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000051111

    #MGROnline #ญี่ปุ่น
    รัฐบาลจีนบรรลุข้อตกลงว่าด้วยกระบวนการรื้อฟื้นการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นอีกครั้ง ในความคืบหน้าสำคัญที่จะนำไปสู่การปลดคำสั่งแบนที่ใช้มานานเกือบ 2 ปี ตามข้อมูลจากรัฐบาลญี่ปุ่นวานนี้ (30 พ.ค.) • กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นแถลงว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงและสำนักงานศุลกากรของจีน (GACC) ได้บรรลุข้อตกลงระหว่างการประชุมหารือที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ (28) โดยคาดว่าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นจะสามารถส่งออกไปยังตลาดจีนได้อีกครั้ง “หลังจากที่ฝ่ายจีนดำเนินมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นแล้วเสร็จ” • ด้าน GACC ระบุว่า ทั้ง 2 ประเทศ “คืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ” หลังจากที่ได้พูดคุยกันอีกครั้งเกี่ยวกับประเด็นเรื่องผลิตภัณฑ์อาหารทะเลจากญี่ปุ่น • ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้น ในขณะที่จีนและญี่ปุ่นต่างพยายามหาทางยุติความตึงเครียดจากกรณีที่โตเกียวตัดสินใจปล่อยน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อปี 2023 • โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุในงานแถลงข่าวว่า ข้อตกลงนี้ “ถือเป็นหมุดหมายที่สำคัญ” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000051111 • #MGROnline #ญี่ปุ่น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่าเบื่อธรรมะ หรือเสียงพระเทศน์ ธรรมะพระพุทธเจ้ามีมานานเนินนานบนโลก ท่านได้เห็นยมทูตทั้ง 4 เกิด แก่ เจ็บ ตาย ธรรมะของพุทธพระเจ้าล้ำเลิศแล้ว หลวงปู่หลวงพ่อกี่ยุคสมัยก็สอนธรรมของเก่าที่มีมา
    อย่าเบื่อธรรมะ หรือเสียงพระเทศน์ ธรรมะพระพุทธเจ้ามีมานานเนินนานบนโลก ท่านได้เห็นยมทูตทั้ง 4 เกิด แก่ เจ็บ ตาย ธรรมะของพุทธพระเจ้าล้ำเลิศแล้ว หลวงปู่หลวงพ่อกี่ยุคสมัยก็สอนธรรมของเก่าที่มีมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทอม บาร์รัค ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ประจำซีเรีย พร้อมด้วย อาซาด อัล-ไชบานี รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ร่วมกันเชิญธงชาติสหรัฐฯ ขึ้นสู่ยอดเสาที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรียเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งถือเป็นความสัยมพันธ์ที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็วกว่าปกติ!

    สหรัฐประกาศยกเลิกการคว่ำบาตรซีเรีย หลังจาก "อัล-โจลานี" ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย HTS ใช้กำลังโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด และแต่งตั้งตนเองขึ้นปกครองซีเรีย

    แม้ว่าโจลานีจะเป็นผู้ก่อการร้ายที่สหรัฐเคยหมายหัว และมีรางวัลนำจับสิบล้านดอลลาร์ แต่เมื่อสามารถโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด ที่สหรัฐไม่ชอบหน้า และหาเหตุคว่ำบาตรซีเรียนานกว่าสิบปีได้เป็นผลสำเร็จ คงไม่มีอะไรที่ทำให้สหรัฐดีใจไปมากกว่านี้
    ทอม บาร์รัค ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ประจำซีเรีย พร้อมด้วย อาซาด อัล-ไชบานี รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ร่วมกันเชิญธงชาติสหรัฐฯ ขึ้นสู่ยอดเสาที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรียเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งถือเป็นความสัยมพันธ์ที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็วกว่าปกติ! สหรัฐประกาศยกเลิกการคว่ำบาตรซีเรีย หลังจาก "อัล-โจลานี" ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย HTS ใช้กำลังโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด และแต่งตั้งตนเองขึ้นปกครองซีเรีย แม้ว่าโจลานีจะเป็นผู้ก่อการร้ายที่สหรัฐเคยหมายหัว และมีรางวัลนำจับสิบล้านดอลลาร์ แต่เมื่อสามารถโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด ที่สหรัฐไม่ชอบหน้า และหาเหตุคว่ำบาตรซีเรียนานกว่าสิบปีได้เป็นผลสำเร็จ คงไม่มีอะไรที่ทำให้สหรัฐดีใจไปมากกว่านี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ หลวงปู่ไข่ วัดลำนาว จ.นครศรีธรรมราช
    เหรียญพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ หลวงปู่ไข่ วัดลำนาว จ.นครศรีธรรมราช //พระดีพิธีใหญ๋ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย ทำมาค้าขึ้น โรคภัยไม่เบียดเบียน มีความเจริญก้าวหน้า ใครได้บูชาวัตถุมงคลของท่าน จะบังเกิดบุญญา บารมี ความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้า ความร่ำรวย นานับประการจะบังเกิดแก่ผู้ครอบครองและครอบครัว >>

    ** พ่อท่านไข่มักจะสวดท่องพระคาถาชินบัญชรเป็นประจำ ทำให้ชื่อเสียงของท่านเป็นที่เลื่องลือในเรื่องพระคาถา เมื่อมีการจัดพิธีพุทธาภิเษกต่างๆ ท่านก็มักจะได้รับการเชิญให้ไปร่วมพิธีนั่งปรกด้วย อุปนิสัยของพ่อท่านไข่ค่อนข้างดุ แต่จริงๆ แล้วท่านใจดี จะดุกับคนที่ไม่อยู่ในกฏระเบียบเท่านั้น ท่านไม่ชอบการใบ้หวย แต่ชอบที่ได้ให้ศีล ให้พร ให้ลาภมากกว่า ถ้าใครได้รับพรจากท่านไปก็จะประสบแต่ความสำเร็จ โชคดี ดังคำอวยพรที่เอ่ยจากปากของท่าน จึงเป็นที่มาของ "พ่อท่านไข่ วาจาสิทธิ์" >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายาก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ หลวงปู่ไข่ วัดลำนาว จ.นครศรีธรรมราช เหรียญพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ หลวงปู่ไข่ วัดลำนาว จ.นครศรีธรรมราช //พระดีพิธีใหญ๋ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย ทำมาค้าขึ้น โรคภัยไม่เบียดเบียน มีความเจริญก้าวหน้า ใครได้บูชาวัตถุมงคลของท่าน จะบังเกิดบุญญา บารมี ความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้า ความร่ำรวย นานับประการจะบังเกิดแก่ผู้ครอบครองและครอบครัว >> ** พ่อท่านไข่มักจะสวดท่องพระคาถาชินบัญชรเป็นประจำ ทำให้ชื่อเสียงของท่านเป็นที่เลื่องลือในเรื่องพระคาถา เมื่อมีการจัดพิธีพุทธาภิเษกต่างๆ ท่านก็มักจะได้รับการเชิญให้ไปร่วมพิธีนั่งปรกด้วย อุปนิสัยของพ่อท่านไข่ค่อนข้างดุ แต่จริงๆ แล้วท่านใจดี จะดุกับคนที่ไม่อยู่ในกฏระเบียบเท่านั้น ท่านไม่ชอบการใบ้หวย แต่ชอบที่ได้ให้ศีล ให้พร ให้ลาภมากกว่า ถ้าใครได้รับพรจากท่านไปก็จะประสบแต่ความสำเร็จ โชคดี ดังคำอวยพรที่เอ่ยจากปากของท่าน จึงเป็นที่มาของ "พ่อท่านไข่ วาจาสิทธิ์" >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายาก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระพุทธเจ้าสอนหลักธรรมว่าด้วยเหตุปัจจัย ซี่งเป็นเรื่องของความเป็นไปสืบต่อเนื่องกัน ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เมื่อเราพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ว่ามีเหตุปัจจัยอย่างไร เราก็ต้องสืบสาวย้อนหลังไปในอดีต นี่ก็แสดงชัดว่าคำสอนในพระพุทธศาสนาว่าด้วยเหตุปัจจัยนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอดีตด้วย

    อีกด้านหนึ่ง พระพุทธเจ้าทรงสอนหลักธรรมเรื่องความไม่ประมาท ความไม่ประมาทนั้นเป็นเรื่องของการที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับอนาคต และความไม่ประมาทนี้เป็นหลักธรรมที่สำคัญมากในพระพุทธศาสนา
    พระพุทธเจ้าสอนหลักธรรมว่าด้วยเหตุปัจจัย ซี่งเป็นเรื่องของความเป็นไปสืบต่อเนื่องกัน ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เมื่อเราพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ว่ามีเหตุปัจจัยอย่างไร เราก็ต้องสืบสาวย้อนหลังไปในอดีต นี่ก็แสดงชัดว่าคำสอนในพระพุทธศาสนาว่าด้วยเหตุปัจจัยนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอดีตด้วย อีกด้านหนึ่ง พระพุทธเจ้าทรงสอนหลักธรรมเรื่องความไม่ประมาท ความไม่ประมาทนั้นเป็นเรื่องของการที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับอนาคต และความไม่ประมาทนี้เป็นหลักธรรมที่สำคัญมากในพระพุทธศาสนา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญรุ่น1หลวงพ่อคงหลังหลวงพ่อขัน วัดราษฎร์รังสรรค์ จ.กระบี่
    เหรียญรุ่น1หลวงพ่อคงหลังหลวงพ่อขัน วัดราษฎร์รังสรรค์ จ.กระบี่ // พระดีพิธีใหญ๋ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม โชคลาภ ร่ำรวย และคุ้มกันภัยพิบัติอันตรายทั้งปวง >>

    ** วัดราษฎร์รังสรรค์ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย อยู่ในตำบลอ่าวลึกใต้ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ วัดราษฎร์รังสรรค์ เดิมมีชื่อว่า วัดบ้านอ่าวลึกใต้ต้นประดู่ แต่ชาวบ้านเรียกว่า วัดหลาดใต้ (ตลาดใต้) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2456 โดยรองอำมาตย์ตรีลาวัณวุฒิกร (เอียด บุรนันท์) ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2516 นายรังสรรค์ บรรณกิจพีรพล นายอำเภอในขณะนั้น ได้อาราธนาพระครูสุเมธีธรรมประสาท (คง ฐิตธมฺโม) จากวัดในอำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา มาเป็นเจ้าอาวาส รวมถึงได้เปลี่ยนชื่อวัดมาเป็น "วัดราษฎร์รังสรรค์" >>

    * พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญรุ่น1หลวงพ่อคงหลังหลวงพ่อขัน วัดราษฎร์รังสรรค์ จ.กระบี่ เหรียญรุ่น1หลวงพ่อคงหลังหลวงพ่อขัน วัดราษฎร์รังสรรค์ จ.กระบี่ // พระดีพิธีใหญ๋ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม โชคลาภ ร่ำรวย และคุ้มกันภัยพิบัติอันตรายทั้งปวง >> ** วัดราษฎร์รังสรรค์ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย อยู่ในตำบลอ่าวลึกใต้ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ วัดราษฎร์รังสรรค์ เดิมมีชื่อว่า วัดบ้านอ่าวลึกใต้ต้นประดู่ แต่ชาวบ้านเรียกว่า วัดหลาดใต้ (ตลาดใต้) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2456 โดยรองอำมาตย์ตรีลาวัณวุฒิกร (เอียด บุรนันท์) ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2516 นายรังสรรค์ บรรณกิจพีรพล นายอำเภอในขณะนั้น ได้อาราธนาพระครูสุเมธีธรรมประสาท (คง ฐิตธมฺโม) จากวัดในอำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา มาเป็นเจ้าอาวาส รวมถึงได้เปลี่ยนชื่อวัดมาเป็น "วัดราษฎร์รังสรรค์" >> * พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจเรมี เรนเนอร์ เปิดใจถึงความรู้สึก ‘โล่งใจอย่างยิ่ง’ ที่เขาสัมผัสได้ขณะ ‘ตาย’ ระหว่างอุบัติเหตุรถกวาดหิมะสุดสยอง

    ดาราดังจากจักรวาล Marvel ได้เผยในบันทึกความทรงจำของเขาชื่อ My Next Breath ว่าเขาเคย ‘ตาย’ ชั่วขณะระหว่างอุบัติเหตุรถกวาดหิมะในวันปีใหม่ ปี 2023 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขากระดูกหักกว่า 30 จุด และแพทย์ยังบอกว่าเขารอดมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะกระดูกหักห่างจากอวัยวะสำคัญหรือเส้นประสาทหลักเพียงไม่กี่มิลลิเมตร

    เรนเนอร์ วัย 54 ปี ถูกล้อรถกวาดหิมะหนักกว่า 14,000 ปอนด์ทับร่าง ขณะพยายามช่วยหลานชายชื่ออเล็กซ์จากอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเขาเขียนเล่าในบันทึกความทรงจำว่า เขา ‘ตาย’ ไปชั่วครู่ราว 30 นาทีหลังจากนั้น ขณะที่นอนอยู่บนหิมะหน้าบ้าน รอเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงบนภูเขาเซียร์รา เนวาดา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000050268

    #MGROnline #เจเรมีเรนเนอร์
    เจเรมี เรนเนอร์ เปิดใจถึงความรู้สึก ‘โล่งใจอย่างยิ่ง’ ที่เขาสัมผัสได้ขณะ ‘ตาย’ ระหว่างอุบัติเหตุรถกวาดหิมะสุดสยอง • ดาราดังจากจักรวาล Marvel ได้เผยในบันทึกความทรงจำของเขาชื่อ My Next Breath ว่าเขาเคย ‘ตาย’ ชั่วขณะระหว่างอุบัติเหตุรถกวาดหิมะในวันปีใหม่ ปี 2023 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขากระดูกหักกว่า 30 จุด และแพทย์ยังบอกว่าเขารอดมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะกระดูกหักห่างจากอวัยวะสำคัญหรือเส้นประสาทหลักเพียงไม่กี่มิลลิเมตร • เรนเนอร์ วัย 54 ปี ถูกล้อรถกวาดหิมะหนักกว่า 14,000 ปอนด์ทับร่าง ขณะพยายามช่วยหลานชายชื่ออเล็กซ์จากอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเขาเขียนเล่าในบันทึกความทรงจำว่า เขา ‘ตาย’ ไปชั่วครู่ราว 30 นาทีหลังจากนั้น ขณะที่นอนอยู่บนหิมะหน้าบ้าน รอเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงบนภูเขาเซียร์รา เนวาดา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000050268 • #MGROnline #เจเรมีเรนเนอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงพ่อทวดหลังหนังสือนูน วัดช้างให้ จ.ปัตตานี
    หลวงพ่อทวดหลังหนังสือนูน พิมพ์ใหญ่ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี //พระเก่า พศ.ลีก ไม่ทราบปีครับ // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ** พุทธคุณ"แคล้วคาดปลอดภัย" เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก.กันเสนียดจัญไร เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย ประสบการณ์มากมาย >>

    ** หลวงพ่อทวดหลังหนังสือ วัดช้างให้ ราคาขยับขึ้นทุกวันเพราะรุ่นอืนๆ ราคาหลักหมื่น - แสน กันหมดแล้ว ในส่วนของพระพิมนีัเริ่มหายากขึ้นทุกวันแล้วครับ หลวงปู่ทวดวัดช้างให้ ,พระมหาเถระผู้ทรงอภิญญาที่รู้จักกันดีในประเทศไทย ผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่ทวดเชื่อกันว่าพระเครื่องที่สร้างเนื่องด้วยท่านจะมีอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดในครอบครอง ปัจจุบันหลวงปู่ทวดถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาในประเทศไทยที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก ซึ่งเป็นพระที่มีผู้เคารพ บูชานับถือทั่วประเทศไทย >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงพ่อทวดหลังหนังสือนูน วัดช้างให้ จ.ปัตตานี หลวงพ่อทวดหลังหนังสือนูน พิมพ์ใหญ่ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี //พระเก่า พศ.ลีก ไม่ทราบปีครับ // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ** พุทธคุณ"แคล้วคาดปลอดภัย" เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก.กันเสนียดจัญไร เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย ประสบการณ์มากมาย >> ** หลวงพ่อทวดหลังหนังสือ วัดช้างให้ ราคาขยับขึ้นทุกวันเพราะรุ่นอืนๆ ราคาหลักหมื่น - แสน กันหมดแล้ว ในส่วนของพระพิมนีัเริ่มหายากขึ้นทุกวันแล้วครับ หลวงปู่ทวดวัดช้างให้ ,พระมหาเถระผู้ทรงอภิญญาที่รู้จักกันดีในประเทศไทย ผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่ทวดเชื่อกันว่าพระเครื่องที่สร้างเนื่องด้วยท่านจะมีอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดในครอบครอง ปัจจุบันหลวงปู่ทวดถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาในประเทศไทยที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก ซึ่งเป็นพระที่มีผู้เคารพ บูชานับถือทั่วประเทศไทย >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts