• เริ่มต้นแล้ว ลูกน้องทักษิณพบฮุนมาเนต หลานทักษิณ หายใจไม่ทั่วท้องจริงๆ
    (It begins. Thaksin’s men meet Hun Manet — the nephew. Tension is real.) [28/7/68]

    #เริ่มต้นแล้วจริงๆ #ลูกน้องทักษิณพบฮุนมาเนต #หลานทักษิณโผล่กลางวง #หายใจไม่ทั่วท้อง #ดีลการเมืองเขมรไทย #เกมใต้โต๊ะ #ThaksinHunManetMeeting #ความเคลื่อนไหวล่าสุด #ข่าวการเมืองร้อนแรง #ข่าวดัง #ข่าววันนี้
    #กัมพูชายิงก่อน #柬埔寨先开火 #カンボジアが先に発砲 #캄보디아가먼저발포 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #thaitimes #news1 #shorts
    เริ่มต้นแล้ว ลูกน้องทักษิณพบฮุนมาเนต หลานทักษิณ หายใจไม่ทั่วท้องจริงๆ (It begins. Thaksin’s men meet Hun Manet — the nephew. Tension is real.) [28/7/68] #เริ่มต้นแล้วจริงๆ #ลูกน้องทักษิณพบฮุนมาเนต #หลานทักษิณโผล่กลางวง #หายใจไม่ทั่วท้อง #ดีลการเมืองเขมรไทย #เกมใต้โต๊ะ #ThaksinHunManetMeeting #ความเคลื่อนไหวล่าสุด #ข่าวการเมืองร้อนแรง #ข่าวดัง #ข่าววันนี้ #กัมพูชายิงก่อน #柬埔寨先开火 #カンボジアが先に発砲 #캄보디아가먼저발포 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Thai Voice: No Trust in Phumtham–Cambodia Talks
    [ด่วน! หมอตุลย์พูดแทนคนไทย ไม่ไว้ใจภูมิธรรม เจรจาเขมร–ไทยวันนี้] [28/7/68]

    #หมอตุลย์พูดแทนคนไทย #ไม่ไว้ใจภูมิธรรม #เจรจาไทยเขมรวันนี้ #ThaiVoice #PhumthamDoubt #CambodiaTalks #เสียงประชาชนไม่เชื่อใจ #เคลื่อนไหวล่าสุด #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ทหารไทย #ศึกไทยเขมร #ชายแดนร้อน
    #กัมพูชายิงก่อน #柬埔寨先开火 #カンボジアが先に発砲 #캄보디아가먼저발포 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #thaitimes #news1 #shorts
    Thai Voice: No Trust in Phumtham–Cambodia Talks [ด่วน! หมอตุลย์พูดแทนคนไทย ไม่ไว้ใจภูมิธรรม เจรจาเขมร–ไทยวันนี้] [28/7/68] #หมอตุลย์พูดแทนคนไทย #ไม่ไว้ใจภูมิธรรม #เจรจาไทยเขมรวันนี้ #ThaiVoice #PhumthamDoubt #CambodiaTalks #เสียงประชาชนไม่เชื่อใจ #เคลื่อนไหวล่าสุด #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ทหารไทย #ศึกไทยเขมร #ชายแดนร้อน #กัมพูชายิงก่อน #柬埔寨先开火 #カンボジアが先に発砲 #캄보디아가먼저발포 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ด่วน! หมอตุลย์พูดแทนคนไทย ไม่ไว้ใจภูมิธรรม เจรจาเขมร–ไทยวันนี้ [28/7/68]

    #หมอตุลย์พูดแทนคนไทย #ไม่ไว้ใจภูมิธรรม #เจรจาไทยเขมรวันนี้ #เสียงจากประชาชน #เจรจาไม่ใช่คำตอบเดียว #ไทยต้องชัดเจน #DiplomaticDoubt #ThaiCambodianTalks
    #ข่าวดัง #ข่าววันนี้ #ข่าวการเมือง #เคลื่อนไหวล่าสุด #ทหารไทย #ศึกไทยเขมร #กัมพูชายิงก่อน #柬埔寨先开火 #カンボジアが先に発砲 #캄보디아가먼저발포 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #thaitimes #news1 #shorts
    ด่วน! หมอตุลย์พูดแทนคนไทย ไม่ไว้ใจภูมิธรรม เจรจาเขมร–ไทยวันนี้ [28/7/68] #หมอตุลย์พูดแทนคนไทย #ไม่ไว้ใจภูมิธรรม #เจรจาไทยเขมรวันนี้ #เสียงจากประชาชน #เจรจาไม่ใช่คำตอบเดียว #ไทยต้องชัดเจน #DiplomaticDoubt #ThaiCambodianTalks #ข่าวดัง #ข่าววันนี้ #ข่าวการเมือง #เคลื่อนไหวล่าสุด #ทหารไทย #ศึกไทยเขมร #กัมพูชายิงก่อน #柬埔寨先开火 #カンボジアが先に発砲 #캄보디아가먼저발포 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • หายใจไม่ทั่วท้อง ภูมิธรรมส่ง กต. ไป UN สถานการณ์น่าห่วงเพราะเหตุนี้ [27/7/68]

    #หายใจไม่ทั่วท้อง #ภูมิธรรมเคลื่อนไหว #ส่งกตไปUN #UNจับตาไทยเขมร #สถานการณ์ชายแดนน่าห่วง #เคลื่อนไหวบนเวทีโลก #DiplomaticPressure #ThaiCambodianCrisis #ความเคลื่อนไหวล่าสุด #กัมพูชายิงก่อน #柬埔寨先开火 #カンボジアが先に発砲 #캄보디아가먼저발포 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #thaitimes #news1 #shorts
    หายใจไม่ทั่วท้อง ภูมิธรรมส่ง กต. ไป UN สถานการณ์น่าห่วงเพราะเหตุนี้ [27/7/68] #หายใจไม่ทั่วท้อง #ภูมิธรรมเคลื่อนไหว #ส่งกตไปUN #UNจับตาไทยเขมร #สถานการณ์ชายแดนน่าห่วง #เคลื่อนไหวบนเวทีโลก #DiplomaticPressure #ThaiCambodianCrisis #ความเคลื่อนไหวล่าสุด #กัมพูชายิงก่อน #柬埔寨先开火 #カンボジアが先に発砲 #캄보디아가먼저발포 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ลุ้นผลแพทยสภา ชี้ขาดหมออุ้ม 'ทักษิณ' 'ทวี' ส่อโดดเรือหนี
    .
    แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีท่าทีจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ หรือไม่ แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีรายงานออกมาว่าจะมีการประชุมแพทยสภาประจำเดือนพ.ค.ในวันนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042936

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ลุ้นผลแพทยสภา ชี้ขาดหมออุ้ม 'ทักษิณ' 'ทวี' ส่อโดดเรือหนี . แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีท่าทีจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ หรือไม่ แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีรายงานออกมาว่าจะมีการประชุมแพทยสภาประจำเดือนพ.ค.ในวันนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042936 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    Wow
    12
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1466 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    ปูตินยื่นไมตรีให้สหรัฐโดยการเสนออลูมิเนียม 2 ล้านตัน เพื่อ "รักษาเสถียรภาพ" ราคาในตลาด

    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เปิดเผยว่าเขาพร้อมเปิดทางให้สหรัฐฯเข้าไปลงทุนในแร่ธาตุหายากในดินแดนยูเครนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ความเคลื่อนไหวล่าสุดครั้งนี้ เพื่อเป็นการโน้มน้าวใจประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งอเมริกา ที่พยายามกดดันให้เคียฟลงนามในข้อตกลง ไฟเขียวให้วอชิงตันเข้าถึงทรัพยากรแร่อันมีค่า

    ซึ่งเหมือนเป็นการกดดันให้สหรัฐเร่งมือในการเจรจากับยูเครนในทางอ้อมด้วยเช่นกัน หากทรัมป์หวังจะเข้าไปหาผลประโยชน์บนดินแดนใหม่ของรัสเซีย ซึ่งหมายถึงสี่แคว้นที่เพิ่งเข้าร่วมกับรัสเซีย

    นอกจากนี้ ปูตินยังเห็นด้วยกับแนวคิดของทรัมป์ ที่ทั้งสหรัฐและรัสเซียควรลดค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศลง 50%
    2/ ปูตินยื่นไมตรีให้สหรัฐโดยการเสนออลูมิเนียม 2 ล้านตัน เพื่อ "รักษาเสถียรภาพ" ราคาในตลาด ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เปิดเผยว่าเขาพร้อมเปิดทางให้สหรัฐฯเข้าไปลงทุนในแร่ธาตุหายากในดินแดนยูเครนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ความเคลื่อนไหวล่าสุดครั้งนี้ เพื่อเป็นการโน้มน้าวใจประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งอเมริกา ที่พยายามกดดันให้เคียฟลงนามในข้อตกลง ไฟเขียวให้วอชิงตันเข้าถึงทรัพยากรแร่อันมีค่า ซึ่งเหมือนเป็นการกดดันให้สหรัฐเร่งมือในการเจรจากับยูเครนในทางอ้อมด้วยเช่นกัน หากทรัมป์หวังจะเข้าไปหาผลประโยชน์บนดินแดนใหม่ของรัสเซีย ซึ่งหมายถึงสี่แคว้นที่เพิ่งเข้าร่วมกับรัสเซีย นอกจากนี้ ปูตินยังเห็นด้วยกับแนวคิดของทรัมป์ ที่ทั้งสหรัฐและรัสเซียควรลดค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศลง 50%
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • 1/
    ปูตินยื่นไมตรีให้สหรัฐโดยการเสนออลูมิเนียม 2 ล้านตัน เพื่อ "รักษาเสถียรภาพ" ราคาในตลาด

    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เปิดเผยว่าเขาพร้อมเปิดทางให้สหรัฐฯเข้าไปลงทุนในแร่ธาตุหายากในดินแดนยูเครนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ความเคลื่อนไหวล่าสุดครั้งนี้ เพื่อเป็นการโน้มน้าวใจประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งอเมริกา ที่พยายามกดดันให้เคียฟลงนามในข้อตกลง ไฟเขียวให้วอชิงตันเข้าถึงทรัพยากรแร่อันมีค่า

    ซึ่งเหมือนเป็นการกดดันให้สหรัฐเร่งมือในการเจรจากับยูเครนในทางอ้อมด้วยเช่นกัน หากทรัมป์หวังจะเข้าไปหาผลประโยชน์บนดินแดนใหม่ของรัสเซีย ซึ่งหมายถึงสี่แคว้นที่เพิ่งเข้าร่วมกับรัสเซีย

    นอกจากนี้ ปูตินยังเห็นด้วยกับแนวคิดของทรัมป์ ที่ทั้งสหรัฐและรัสเซียควรลดค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศลง 50%
    1/ ปูตินยื่นไมตรีให้สหรัฐโดยการเสนออลูมิเนียม 2 ล้านตัน เพื่อ "รักษาเสถียรภาพ" ราคาในตลาด ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เปิดเผยว่าเขาพร้อมเปิดทางให้สหรัฐฯเข้าไปลงทุนในแร่ธาตุหายากในดินแดนยูเครนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ความเคลื่อนไหวล่าสุดครั้งนี้ เพื่อเป็นการโน้มน้าวใจประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งอเมริกา ที่พยายามกดดันให้เคียฟลงนามในข้อตกลง ไฟเขียวให้วอชิงตันเข้าถึงทรัพยากรแร่อันมีค่า ซึ่งเหมือนเป็นการกดดันให้สหรัฐเร่งมือในการเจรจากับยูเครนในทางอ้อมด้วยเช่นกัน หากทรัมป์หวังจะเข้าไปหาผลประโยชน์บนดินแดนใหม่ของรัสเซีย ซึ่งหมายถึงสี่แคว้นที่เพิ่งเข้าร่วมกับรัสเซีย นอกจากนี้ ปูตินยังเห็นด้วยกับแนวคิดของทรัมป์ ที่ทั้งสหรัฐและรัสเซียควรลดค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศลง 50%
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งบริหารฉบับหนึ่ง หาทางห้ามนักกีฬาคนข้ามเพศจากการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาประเภทหญิง ในความเคลื่อนไหวล่าสุดของเขาในการเล็งเป้าเล่นงานกลุ่มคนข้ามเพศ นับตั้งแต่กลับเข้าสู่เก้าอี้ทำเนียบขาว
    .
    "ภายใต้คำสั่งบริหารนี้ สงครามในด้านกีฬาของผู้หญิงสิ้นสุดลงแล้ว" ทรัมป์ กล่าวก่อนหน้าลงนามคำสั่งที่ทำเนียบขาว ล้อมรอบด้วยนักกีฬาเด็กและนักกีฬาหญิงหลายสิบคน ในขณะที่บรรดาสมาชิกระดับสูงของรีพับลิกันหลายคน ในนั้นรวมถึง ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ และส.ส.มาร์โจรี กรีน เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมชมพิธีลงนามครั้งนี้ด้วย
    .
    "เราจะปกป้องความภาคภูมิใจของนักกีฬาหญิงดั้งเดิม และเราจะไม่ปล่อยให้ผู้ชายทำร้าย ก่ออาการบาดเจ็บ โกงคุณผู้หญิงและเด็กผู้หญิงของเรา นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กีฬาประเภทหญิงจะมีไว้เฉพาะกับผู้หญิง" ทรัมป์ กล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือ
    .
    คำสั่งนี้ให้อำนาจหน่วยงานต่างๆของรัฐบาล ปฏิเสธจัดสรรเงินทุนต่างๆของรัฐบาลกลาง มอบแก่โรงเรียนทั้งหลายที่อนุญาตให้พวกกลุ่มคนข้ามเพศเข้าแข่งขันกับนักกีฬาหญิง "มันคือนโยบายของสหรัฐอเมริกา ที่จะยกเลิกเงินทุนทั้งหมดจากโปรแกรมด้านการศึกษาต่างๆนานา ที่กีดกันโอกาสแข่งขันกีฬาอย่างยุติธรรมของพวกผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ซึ่งผลลัพธ์คือก่ออันตราย เป็นการลบหลู่และปิดปากผู้หญิงและเด็ก รวมถึงลิดรอนสิทธิความเป็นส่วนตัวของพวกเขา"
    .
    นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังเผยด้วยว่าเขากำลังกดดันให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเกี่ยวกับนักกีฬาคนข้ามเพศ ก่อนที่กีฬาโอลิมปิกเกมส์ จะหวนคืนสู่แผ่นดินสหรัฐฯ ในลอสแองเจลิส ปี 2028
    .
    ทรัมป์ เผยว่าเขาได้ออกคำสั่งถึง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ว่า "เราต้องการให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงทุกๆอย่างที่ต้องทำเกี่ยวกับโอลิมปิก และดำเนินการกับประเด็นอันไร้สาระนี้"
    .
    ยิ่งไปกว่านั้น ทรัมป์ ระบุเพิ่มเติมว่าเขาสั่งการให้ . คริสตี โนเอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ปฏิเสธวีซ่า "พวกผู้ชายที่พยายามหาทางตลบตะแลงเข้าสู่สหรัฐฯ ด้วยการแอบอ้างตัวเป็นนักกีฬาหญิง เดินทางมาเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์"
    .
    ทรัมป์ จากรีพับลิกัน เล็งเป้าเล่นงานกลุ่มคนที่แสดงออก ทางเพศไม่ตรงตามบรรทัดฐานของสังคมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในการออกคำสั่งแบบสายฟ้าแลบผลักดันวาระนโยบายขวาจัดสุดขั้วของเขา นับตั้งแต่เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งสมัย 2 เมื่อวันที่ 20 มกราคม
    .
    ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ได้ลงนามกำจัดสิ่งที่เขาเรียกว่า "อุดมการณ์คนข้ามเพศ" ออกจากกองทัพ ผลก็คือการแบนกำลังพลคนข้ามเพศ นอกจากนี้แล้วเขายังได้ออกคำสั่งห้ามผ่าตัดแปลงเพศสำหรับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 19 ปี
    .
    ความเคลื่อนไหวต่างๆนานาเหล่านี้มีขึ้นแม้ในข้อเท็จจริงที่ว่ากลุ่มคนข้ามเพศ ถือเป็นสัดส่วนเล็กน้อยมากๆในประชากรสหรัฐฯ
    .
    คำสั่้งบริหารของทรัมป์ในวันพุธ(5ก.พ.) มีขึ้นหลังจากสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯที่นำโดยรีพับลิกัน เมื่อเดือนมกราคม ลงมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ที่จำกัดอย่างรุนแรงขวางนักกีฬาข้ามเพศจากการแข่งขันกีฬากับเด็กผู้หญิงและผู้หญิง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011934
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งบริหารฉบับหนึ่ง หาทางห้ามนักกีฬาคนข้ามเพศจากการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาประเภทหญิง ในความเคลื่อนไหวล่าสุดของเขาในการเล็งเป้าเล่นงานกลุ่มคนข้ามเพศ นับตั้งแต่กลับเข้าสู่เก้าอี้ทำเนียบขาว . "ภายใต้คำสั่งบริหารนี้ สงครามในด้านกีฬาของผู้หญิงสิ้นสุดลงแล้ว" ทรัมป์ กล่าวก่อนหน้าลงนามคำสั่งที่ทำเนียบขาว ล้อมรอบด้วยนักกีฬาเด็กและนักกีฬาหญิงหลายสิบคน ในขณะที่บรรดาสมาชิกระดับสูงของรีพับลิกันหลายคน ในนั้นรวมถึง ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ และส.ส.มาร์โจรี กรีน เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมชมพิธีลงนามครั้งนี้ด้วย . "เราจะปกป้องความภาคภูมิใจของนักกีฬาหญิงดั้งเดิม และเราจะไม่ปล่อยให้ผู้ชายทำร้าย ก่ออาการบาดเจ็บ โกงคุณผู้หญิงและเด็กผู้หญิงของเรา นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กีฬาประเภทหญิงจะมีไว้เฉพาะกับผู้หญิง" ทรัมป์ กล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือ . คำสั่งนี้ให้อำนาจหน่วยงานต่างๆของรัฐบาล ปฏิเสธจัดสรรเงินทุนต่างๆของรัฐบาลกลาง มอบแก่โรงเรียนทั้งหลายที่อนุญาตให้พวกกลุ่มคนข้ามเพศเข้าแข่งขันกับนักกีฬาหญิง "มันคือนโยบายของสหรัฐอเมริกา ที่จะยกเลิกเงินทุนทั้งหมดจากโปรแกรมด้านการศึกษาต่างๆนานา ที่กีดกันโอกาสแข่งขันกีฬาอย่างยุติธรรมของพวกผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ซึ่งผลลัพธ์คือก่ออันตราย เป็นการลบหลู่และปิดปากผู้หญิงและเด็ก รวมถึงลิดรอนสิทธิความเป็นส่วนตัวของพวกเขา" . นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังเผยด้วยว่าเขากำลังกดดันให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเกี่ยวกับนักกีฬาคนข้ามเพศ ก่อนที่กีฬาโอลิมปิกเกมส์ จะหวนคืนสู่แผ่นดินสหรัฐฯ ในลอสแองเจลิส ปี 2028 . ทรัมป์ เผยว่าเขาได้ออกคำสั่งถึง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ว่า "เราต้องการให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงทุกๆอย่างที่ต้องทำเกี่ยวกับโอลิมปิก และดำเนินการกับประเด็นอันไร้สาระนี้" . ยิ่งไปกว่านั้น ทรัมป์ ระบุเพิ่มเติมว่าเขาสั่งการให้ . คริสตี โนเอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ปฏิเสธวีซ่า "พวกผู้ชายที่พยายามหาทางตลบตะแลงเข้าสู่สหรัฐฯ ด้วยการแอบอ้างตัวเป็นนักกีฬาหญิง เดินทางมาเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์" . ทรัมป์ จากรีพับลิกัน เล็งเป้าเล่นงานกลุ่มคนที่แสดงออก ทางเพศไม่ตรงตามบรรทัดฐานของสังคมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในการออกคำสั่งแบบสายฟ้าแลบผลักดันวาระนโยบายขวาจัดสุดขั้วของเขา นับตั้งแต่เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งสมัย 2 เมื่อวันที่ 20 มกราคม . ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ได้ลงนามกำจัดสิ่งที่เขาเรียกว่า "อุดมการณ์คนข้ามเพศ" ออกจากกองทัพ ผลก็คือการแบนกำลังพลคนข้ามเพศ นอกจากนี้แล้วเขายังได้ออกคำสั่งห้ามผ่าตัดแปลงเพศสำหรับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 19 ปี . ความเคลื่อนไหวต่างๆนานาเหล่านี้มีขึ้นแม้ในข้อเท็จจริงที่ว่ากลุ่มคนข้ามเพศ ถือเป็นสัดส่วนเล็กน้อยมากๆในประชากรสหรัฐฯ . คำสั่้งบริหารของทรัมป์ในวันพุธ(5ก.พ.) มีขึ้นหลังจากสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯที่นำโดยรีพับลิกัน เมื่อเดือนมกราคม ลงมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ที่จำกัดอย่างรุนแรงขวางนักกีฬาข้ามเพศจากการแข่งขันกีฬากับเด็กผู้หญิงและผู้หญิง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011934 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Sad
    Haha
    23
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2409 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพเกาหลีใต้ระบุ ตรวจพบสัญญาณเกาหลีเหนือกำลังเตรียมพร้อมส่งทหารและอาวุธ ในนั้นรวมถึงโดรนพลีชีพ เข้าไปยังรัสเซียเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนมอสโกทำสงครามกับยูเครน ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวอ้างว่ามีกำลังพลโสมแดงเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บในสงครามไปแล้วกว่า 3,000 นาย
    .
    ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้มอบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง 240 มม.และปืนใหญ่อัตตาจรฮาวอิตเซอร์ 170 มม. แก่มอสโก และดูเหมือนกำลังเตรียมการผลิตโดรนพลีชีพเพิ่มเติมสำหรับป้อนแก่รัสเซีย หลังจาก คิม จองอึน ผู้นำของประเทศเดินทางไปตรวจตราการทดสอบด้วยตนเองเมื่อเดือนที่แล้ว จากคำกล่าวอ้างของเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ (JCS)
    .
    "โดรนพลีชีพคือหนึ่งในภารกิจหลักที่ คิม จองอึน มุ่งเน้น" เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของ JCS กล่าว พร้อมระบุว่าเกาหลีเหนือแสดงความตั้งใจที่จะมอบโดรนพลีชีพเหล่านั้นให้แก่รัสเซีย
    .
    ทั้งนี้ โดรนดังกล่าวถูกใช้อย่างกว้างขวางในสงครามยูเครน และคิม ออกคำสั่งให้ดำเนินการผลิตอาวุธทางอากาศนี้เป็นจำนวนมาก รวมถึงยกระดับศึกษาทฤษฎีทางทหาร อ้างถึงการแข่งขันในระดับโลกที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐ
    .
    ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเกาหลีเหนือตามคำกล่าวอ้างของ JCS มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ โซล วอชิงตัน และเคียฟ ระบุว่ามีทหารเกาหลีเหนืออยู่ในรัสเซียราว 12,000 นาย และทาง JCS เชื่อว่าในนั้นมีอย่างน้อย 1,100 นาย ที่เสียชีวิตหรือไม่ก็ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นไปตามแถลงสรุปของหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่รายงานว่ามีทหารเกาหลีเหนือเสียชีวิตไปแล้ว 100 นายและบาดเจ็บอีก 1,000 นาย ในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย
    .
    อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวอ้างว่ามีทหารเกาหลีเหนือที่ถูกสังหารหรือไม่ก็ได้รับบาดเจ็บในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย เพิ่มเป็นมากกว่า 3,000 นายแล้ว และเตือนเช่นกันว่าเปียงยางอาจส่งบุคลากรและยุทโธปกรณ์เข้าไปเสริมกำลังแก่กองทัพรัสเซียเพิ่มเติม
    .
    "มีความเสี่ยงที่เกาหลีเหนือจะส่งทหารและยุทโธปกรณ์ป้อนเข้าสู่กองทัพรัสเซียเพิ่มเติม" เซเลนสกีเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ หลังได้รับรายงานฉบับหนึ่งจาก โอเล็กซานด์ร ซีร์สกี ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของเขา "เราจะต้องตอบโต้อย่างเป็นรูปธรรมในเรื่องนี้"
    .
    พวกเจ้าหน้าที่บอกว่า ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย อาจก่อภัยคุกคามสาหัสขึ้นแก่เกาหลีใต้ ในขณะที่พวกเขายกระดับความทันสมัยแก่กองกำลังตามแบบของตนเอง ที่เคยถูกมองว่าด้อยกว่าของโซล รวมถึงมีประสบการณ์ในการสู้รบในสมรภูมิจริงด้วย
    .
    ตามแนวชายแดนเกาหลีที่มีการคุ้มกันอย่างหนาแน่น เกาหลีเหนือส่งทหารมากกว่า 10,000 นาย เข้าไปปรับเปลี่ยนพื้นที่หนึ่งเป็นที่ดินเปล่า จัดตั้งแนวรั้วและขึงลวดหนามในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่จำนวนกำลังพลดังกล่าวลดลงสู่หลักหลายร้อยนายในช่วงสุดสัปดาห์ จากคำกล่าวอ้างของ JCS
    .
    JCS เผยแพร่ภาพถ่ายต่างๆ ที่เผยให้เห็นว่าทหารเกาหลีเหนือกลุ่มหนึ่งกำลังใช้แพะตัวหนึ่งทดสอบรั้วลวดหนามกระแสไฟฟ้า
    .
    นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือจะทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยปานกลางในช่วงสิ้นปี ก่อนหน้าที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีหน้า ขณะเดียวกันก็อาจปล่อยบอลลูนขยะเข้าไปยังเกาหลีใต้เพิ่มเติม
    .
    เกาหลีเหนือปล่อยบอลลูนขยะหลายร้อยลูกเข้าไปยังเกาหลีใต้มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม อ้างว่าเพื่อเป็นการตอบโต้บอลลูนบรรทุกใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อที่พวกนักเคลื่อนไหวเกาหลีใต้ปล่อยเข้าสู่ดินแดนของพวกเขา
    .
    "ภายใต้การสนับสนุนของรัสเซีย มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจดำเนินยุทธศาสตร์ยั่วยุต่างๆ ในปีหน้า อย่างเช่นยิงขีปนาวุธข้ามทวีปและทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อเสริมอำนาจของพวกเขาในการเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ" เจ้าหน้าที่ระบุ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123172
    ..............
    Sondhi X
    กองทัพเกาหลีใต้ระบุ ตรวจพบสัญญาณเกาหลีเหนือกำลังเตรียมพร้อมส่งทหารและอาวุธ ในนั้นรวมถึงโดรนพลีชีพ เข้าไปยังรัสเซียเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนมอสโกทำสงครามกับยูเครน ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวอ้างว่ามีกำลังพลโสมแดงเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บในสงครามไปแล้วกว่า 3,000 นาย . ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้มอบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง 240 มม.และปืนใหญ่อัตตาจรฮาวอิตเซอร์ 170 มม. แก่มอสโก และดูเหมือนกำลังเตรียมการผลิตโดรนพลีชีพเพิ่มเติมสำหรับป้อนแก่รัสเซีย หลังจาก คิม จองอึน ผู้นำของประเทศเดินทางไปตรวจตราการทดสอบด้วยตนเองเมื่อเดือนที่แล้ว จากคำกล่าวอ้างของเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ (JCS) . "โดรนพลีชีพคือหนึ่งในภารกิจหลักที่ คิม จองอึน มุ่งเน้น" เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของ JCS กล่าว พร้อมระบุว่าเกาหลีเหนือแสดงความตั้งใจที่จะมอบโดรนพลีชีพเหล่านั้นให้แก่รัสเซีย . ทั้งนี้ โดรนดังกล่าวถูกใช้อย่างกว้างขวางในสงครามยูเครน และคิม ออกคำสั่งให้ดำเนินการผลิตอาวุธทางอากาศนี้เป็นจำนวนมาก รวมถึงยกระดับศึกษาทฤษฎีทางทหาร อ้างถึงการแข่งขันในระดับโลกที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐ . ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเกาหลีเหนือตามคำกล่าวอ้างของ JCS มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ โซล วอชิงตัน และเคียฟ ระบุว่ามีทหารเกาหลีเหนืออยู่ในรัสเซียราว 12,000 นาย และทาง JCS เชื่อว่าในนั้นมีอย่างน้อย 1,100 นาย ที่เสียชีวิตหรือไม่ก็ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นไปตามแถลงสรุปของหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่รายงานว่ามีทหารเกาหลีเหนือเสียชีวิตไปแล้ว 100 นายและบาดเจ็บอีก 1,000 นาย ในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย . อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวอ้างว่ามีทหารเกาหลีเหนือที่ถูกสังหารหรือไม่ก็ได้รับบาดเจ็บในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย เพิ่มเป็นมากกว่า 3,000 นายแล้ว และเตือนเช่นกันว่าเปียงยางอาจส่งบุคลากรและยุทโธปกรณ์เข้าไปเสริมกำลังแก่กองทัพรัสเซียเพิ่มเติม . "มีความเสี่ยงที่เกาหลีเหนือจะส่งทหารและยุทโธปกรณ์ป้อนเข้าสู่กองทัพรัสเซียเพิ่มเติม" เซเลนสกีเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ หลังได้รับรายงานฉบับหนึ่งจาก โอเล็กซานด์ร ซีร์สกี ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของเขา "เราจะต้องตอบโต้อย่างเป็นรูปธรรมในเรื่องนี้" . พวกเจ้าหน้าที่บอกว่า ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย อาจก่อภัยคุกคามสาหัสขึ้นแก่เกาหลีใต้ ในขณะที่พวกเขายกระดับความทันสมัยแก่กองกำลังตามแบบของตนเอง ที่เคยถูกมองว่าด้อยกว่าของโซล รวมถึงมีประสบการณ์ในการสู้รบในสมรภูมิจริงด้วย . ตามแนวชายแดนเกาหลีที่มีการคุ้มกันอย่างหนาแน่น เกาหลีเหนือส่งทหารมากกว่า 10,000 นาย เข้าไปปรับเปลี่ยนพื้นที่หนึ่งเป็นที่ดินเปล่า จัดตั้งแนวรั้วและขึงลวดหนามในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่จำนวนกำลังพลดังกล่าวลดลงสู่หลักหลายร้อยนายในช่วงสุดสัปดาห์ จากคำกล่าวอ้างของ JCS . JCS เผยแพร่ภาพถ่ายต่างๆ ที่เผยให้เห็นว่าทหารเกาหลีเหนือกลุ่มหนึ่งกำลังใช้แพะตัวหนึ่งทดสอบรั้วลวดหนามกระแสไฟฟ้า . นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือจะทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยปานกลางในช่วงสิ้นปี ก่อนหน้าที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีหน้า ขณะเดียวกันก็อาจปล่อยบอลลูนขยะเข้าไปยังเกาหลีใต้เพิ่มเติม . เกาหลีเหนือปล่อยบอลลูนขยะหลายร้อยลูกเข้าไปยังเกาหลีใต้มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม อ้างว่าเพื่อเป็นการตอบโต้บอลลูนบรรทุกใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อที่พวกนักเคลื่อนไหวเกาหลีใต้ปล่อยเข้าสู่ดินแดนของพวกเขา . "ภายใต้การสนับสนุนของรัสเซีย มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจดำเนินยุทธศาสตร์ยั่วยุต่างๆ ในปีหน้า อย่างเช่นยิงขีปนาวุธข้ามทวีปและทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อเสริมอำนาจของพวกเขาในการเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ" เจ้าหน้าที่ระบุ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123172 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1210 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไต้หวัน ยกระดับเตือนภัย หลังจีนประกาศพื้นที่สงวนทางอากาศ รวมถึงประจำการเรือกองทัพเรือและยามชายฝั่ง ในสิ่งที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเรียกว่าเป็นการซ้อมรบทางทหารครั้งแรก ที่ครอบคลุมทั่วน่านน้ำอันกว้างขวางในภูมิภาคแถบนี้
    .
    เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของไต้หวัน บอกว่าจีนมีเรือของกองทัพเรือและเรือยามชายฝั่งเกือบ 90 ลำ อยู่ใกล้กับไต้หวัน หมู่เกาะต่างๆทางใต้ของญี่ปุ่น ในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ซึ่งราวๆ 2 ใน 3 เป็นเรือของกองทัพเรือ
    .
    กระทรวงกลาโหมของปักกิ่งยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้
    .
    ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความคาดหมายว่า จีน ที่กล่าวอ้างว่า ไต้หวัน ซึ่งปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน จะทำการซ้อมรบอีกรอบ ตอบโต้กรณีที่ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ เดินทางเยือนแปซิฟิก ในนั้นรวมถึงหยุดพักในฮาวายและกวม ดินแดนของสหรัฐฯ รอยเตอร์รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวด้านความมั่นคง
    .
    จีน กำหนดพื้นที่สงวนทางอากาศชั่วคราวจนถึงวันพุธ(11ธ.ค.) ครอบคลุมมณฑลต่างๆทางตะวันออกอย่างเช่นฟูเจี้ยนและเจ้อเจียง กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุในถ้อยแถลง
    .
    ปกติแล้วพื้นที่ลักษณะดังกล่าวเป็นการจัดสรรไว้สำหรับใช้งานอย่างเจาะจงในช่วงเวลาหนึ่งที่กำหนดไว้ แต่เครื่องบินอื่นๆก็อาจสามารถบินผ่านไปได้หากได้รับอนุญาต ภายใต้กฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ
    .
    ประกาศแจ้งภารกิจทางอากาศที่ออกโดยจีน ได้ให้พิกัด 7 พื้นที่ ซึ่งใน 2 ในนั้น อยู่ในมณฑลฟูเจี้ยน ที่หันหน้าเข้าให้ไต้หวัน แต่มันอยู่ใกล้กับชายฝั่งของจีน ส่วนที่เหลืออยู่ตามแนวชายฝั่งของมณฑลเจ้อเจียงและนอกชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ ในทะเลจีนตะวันออก
    .
    อย่างไรก็ตาม จีน ไม่แถลงอย่างเจาะจงเกี่ยวกับการทดสอบอาวุธใดๆหรือขอบเขตปฏิบัติการทางทหาร หลังจากก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคม 2022 พวกเขารัวยิงขีปนาวุธเป็นชุดลงสู่น่านน้ำรอบๆไต้หวัน ระหว่างการซ้อมรบ เพื่อประท้วงกรณีที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น เดินทางเยือนกรุงไทเป
    .
    ในความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯบอกว่าพวกเขากำลังจับตาอย่างใกล้ชิด ต่อความเคลื่อนไหวทางทหารของจีนใกล้ไต้หวัน
    .
    "เรายังคงเรียกร้องสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้ดำเนินการด้วยความอดทนอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการกระทำต่างๆที่อาจบ่อนทำลายสนติภาพและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคในวงกว้าง การแวะพักตามปกติของประธานาธิบดีไล่ ไม่ควรถูกใช้เป็นข้ออ้างสำหรับแรงกดดันทางทหาร" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันระบุ
    .
    เจ้าหน้าที่ไต้หวัน ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกว่าการประจำการเรือครั้งนี้ของจีน ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่มากกว่าการซ้อมรบใหญ่รอบๆไต้หวัน 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ในปีนี้
    .
    "เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเล็งเป้าหมายแนวสายโซ่หมู่เกาะทั้งหมด" แหล่งข่าวระบุ อ้างถึงพื้นที่ที่ทอดยาวจากญี่ปุ่นไปจนถึงไต้หวัน ฟิลิปปินส์และเกาะบอร์เนียว ปิดล้อมทะเลต่างๆที่อยู่รอบชายฝั่งของจีน "มันมีเจตนาโดยรวมเพื่อบรรลุเป้าหมายข่มขู่ทางทหาร ด้วยการจัดวางกำลังเพื่อควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของสายโซ่หมู่เกาะ"
    .
    "พฤติกรรมยั่วยุแต่เพียงฝ่ายเดียวและไม่มีเหตุผล อาจก่อความเสียหายร้ายแรงแก่สันติภาพและเสถียรภาพในอินโด-แปซิฟิก และไม่เป็นที่ยินดีของประชาคมนานาชาติ" กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุ
    .
    ปักกิ่ง เคยตราหน้า "ไล่" ว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดน และปฏิเสธเสียงเรียกร้องของเขาซ้ำๆที่ขอให้มีการเจรจา ส่วนทางไทเปปฏิเสธคำกล่าวอ้างด้านอธิปไตยของปักกิ่งเช่นกัน บอกว่ามีเพียงประชาชนชาวไต้หวันเท่านั้น ที่จะเป็นผู้ตัดสินอนาคตของตนเอง
    .
    การสำแดงสรรพกำลังของจีนรอบๆไต้หวันและในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ ได้โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้ง
    .
    ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯบอกกับทหารเรืออเมริกาในญี่ปุ่น ว่าจีนเป็นเพียงประเทศที่มีเจตนาและมีแสนยานุภาพเพิ่มมากขึ้น ที่จะท้าทายระเบียบระหว่างประเทศที่มีกฎกติกาเป็นรากฐาน "ดังนั้น เราจึงต้องการเห็นภูมิภาคแถบนี้ พื้นที่นี้ ยังคงเปิดกว้างสำหรับเสรีภาพในการล่องเรือ และสามารถบินเหนือบนท้องฟ้าและน่านฟ้าสากลตามที่เราต้องการ"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118435
    ..............
    Sondhi X
    ไต้หวัน ยกระดับเตือนภัย หลังจีนประกาศพื้นที่สงวนทางอากาศ รวมถึงประจำการเรือกองทัพเรือและยามชายฝั่ง ในสิ่งที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเรียกว่าเป็นการซ้อมรบทางทหารครั้งแรก ที่ครอบคลุมทั่วน่านน้ำอันกว้างขวางในภูมิภาคแถบนี้ . เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของไต้หวัน บอกว่าจีนมีเรือของกองทัพเรือและเรือยามชายฝั่งเกือบ 90 ลำ อยู่ใกล้กับไต้หวัน หมู่เกาะต่างๆทางใต้ของญี่ปุ่น ในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ซึ่งราวๆ 2 ใน 3 เป็นเรือของกองทัพเรือ . กระทรวงกลาโหมของปักกิ่งยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้ . ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความคาดหมายว่า จีน ที่กล่าวอ้างว่า ไต้หวัน ซึ่งปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน จะทำการซ้อมรบอีกรอบ ตอบโต้กรณีที่ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ เดินทางเยือนแปซิฟิก ในนั้นรวมถึงหยุดพักในฮาวายและกวม ดินแดนของสหรัฐฯ รอยเตอร์รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวด้านความมั่นคง . จีน กำหนดพื้นที่สงวนทางอากาศชั่วคราวจนถึงวันพุธ(11ธ.ค.) ครอบคลุมมณฑลต่างๆทางตะวันออกอย่างเช่นฟูเจี้ยนและเจ้อเจียง กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุในถ้อยแถลง . ปกติแล้วพื้นที่ลักษณะดังกล่าวเป็นการจัดสรรไว้สำหรับใช้งานอย่างเจาะจงในช่วงเวลาหนึ่งที่กำหนดไว้ แต่เครื่องบินอื่นๆก็อาจสามารถบินผ่านไปได้หากได้รับอนุญาต ภายใต้กฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ . ประกาศแจ้งภารกิจทางอากาศที่ออกโดยจีน ได้ให้พิกัด 7 พื้นที่ ซึ่งใน 2 ในนั้น อยู่ในมณฑลฟูเจี้ยน ที่หันหน้าเข้าให้ไต้หวัน แต่มันอยู่ใกล้กับชายฝั่งของจีน ส่วนที่เหลืออยู่ตามแนวชายฝั่งของมณฑลเจ้อเจียงและนอกชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ ในทะเลจีนตะวันออก . อย่างไรก็ตาม จีน ไม่แถลงอย่างเจาะจงเกี่ยวกับการทดสอบอาวุธใดๆหรือขอบเขตปฏิบัติการทางทหาร หลังจากก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคม 2022 พวกเขารัวยิงขีปนาวุธเป็นชุดลงสู่น่านน้ำรอบๆไต้หวัน ระหว่างการซ้อมรบ เพื่อประท้วงกรณีที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น เดินทางเยือนกรุงไทเป . ในความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯบอกว่าพวกเขากำลังจับตาอย่างใกล้ชิด ต่อความเคลื่อนไหวทางทหารของจีนใกล้ไต้หวัน . "เรายังคงเรียกร้องสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้ดำเนินการด้วยความอดทนอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการกระทำต่างๆที่อาจบ่อนทำลายสนติภาพและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคในวงกว้าง การแวะพักตามปกติของประธานาธิบดีไล่ ไม่ควรถูกใช้เป็นข้ออ้างสำหรับแรงกดดันทางทหาร" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันระบุ . เจ้าหน้าที่ไต้หวัน ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกว่าการประจำการเรือครั้งนี้ของจีน ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่มากกว่าการซ้อมรบใหญ่รอบๆไต้หวัน 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ในปีนี้ . "เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเล็งเป้าหมายแนวสายโซ่หมู่เกาะทั้งหมด" แหล่งข่าวระบุ อ้างถึงพื้นที่ที่ทอดยาวจากญี่ปุ่นไปจนถึงไต้หวัน ฟิลิปปินส์และเกาะบอร์เนียว ปิดล้อมทะเลต่างๆที่อยู่รอบชายฝั่งของจีน "มันมีเจตนาโดยรวมเพื่อบรรลุเป้าหมายข่มขู่ทางทหาร ด้วยการจัดวางกำลังเพื่อควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของสายโซ่หมู่เกาะ" . "พฤติกรรมยั่วยุแต่เพียงฝ่ายเดียวและไม่มีเหตุผล อาจก่อความเสียหายร้ายแรงแก่สันติภาพและเสถียรภาพในอินโด-แปซิฟิก และไม่เป็นที่ยินดีของประชาคมนานาชาติ" กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุ . ปักกิ่ง เคยตราหน้า "ไล่" ว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดน และปฏิเสธเสียงเรียกร้องของเขาซ้ำๆที่ขอให้มีการเจรจา ส่วนทางไทเปปฏิเสธคำกล่าวอ้างด้านอธิปไตยของปักกิ่งเช่นกัน บอกว่ามีเพียงประชาชนชาวไต้หวันเท่านั้น ที่จะเป็นผู้ตัดสินอนาคตของตนเอง . การสำแดงสรรพกำลังของจีนรอบๆไต้หวันและในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ ได้โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้ง . ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯบอกกับทหารเรืออเมริกาในญี่ปุ่น ว่าจีนเป็นเพียงประเทศที่มีเจตนาและมีแสนยานุภาพเพิ่มมากขึ้น ที่จะท้าทายระเบียบระหว่างประเทศที่มีกฎกติกาเป็นรากฐาน "ดังนั้น เราจึงต้องการเห็นภูมิภาคแถบนี้ พื้นที่นี้ ยังคงเปิดกว้างสำหรับเสรีภาพในการล่องเรือ และสามารถบินเหนือบนท้องฟ้าและน่านฟ้าสากลตามที่เราต้องการ" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118435 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1381 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทบรรณาธิการซินหัวชี้กฎหมายของฟิลิปปินส์ทำให้สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ซับซ้อนขึ้น

    10 พฤศจิกายน 2567 -รายงานข่าวซินหัวระบุว่า ฟิลิปปินส์ก่อปัญหาอีกครั้งด้วยการตรากฎหมายในประเทศ 2 ฉบับ ซึ่งละเมิดอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนและสิทธิทางทะเลและผลประโยชน์ของจีนในทะเลจีนใต้ ทำให้เกิดการประณามอย่างรุนแรงและการประท้วงจากปักกิ่งอย่างรุนแรง

    กฎหมายที่เรียกว่า "เขตน่านน้ำทางทะเลของฟิลิปปินส์" ได้รวมเกาะหวงหยานของจีน เกาะและแนวปะการังส่วนใหญ่ในหนานซา คุนเต่าของจีน และน่านน้ำที่เกี่ยวข้องเข้าไปในเขตน่านน้ำทางทะเลของฟิลิปปินส์โดยผิดกฎหมาย ส่วนต่างๆ ของ "กฎหมายเส้นทางเดินเรือหมู่เกาะฟิลิปปินส์" ไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและมติขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ

    ฟิลิปปินส์กลายเป็นผู้แสวงหาผลประโยชน์และใช้ประโยชน์จากกฎหมายระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ โดยอ้างว่าเป็นพันธมิตรกับฟิลิปปินส์ และเป็นผู้ก่อปัญหาและผู้ทำลายสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค

    การอ้างคำตัดสินที่ผิดกฎหมายของอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นพื้นฐานของกฎหมาย การเคลื่อนไหวล่าสุดของมะนิลาเพียงแค่ซ้ำเติมความผิดพลาดของตนในการทำให้การเรียกร้องทางทะเลที่ผิดกฎหมายของตนมีความชอบธรรม โดยเสี่ยงต่อการเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคอย่างรุนแรง คำตัดสินที่เรียกว่าอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและเป็นโมฆะ คณะอนุญาโตตุลาการได้พิจารณาคดีนี้โดยเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่และตัดสินให้คำตัดสินบิดเบือนกฎหมาย ดังนั้น คำตัดสินดังกล่าวจึงละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS)

    กระบวนการอนุญาโตตุลาการทั้งหมดเป็นเรื่องตลกทางการเมืองโดยสิ้นเชิง จีนไม่ยอมรับหรือมีส่วนร่วมในการอนุญาโตตุลาการ และจีนก็ไม่ยอมรับหรือรับรองคำตัดสินดังกล่าว กฎหมายที่เรียกว่าของฟิลิปปินส์พยายามที่จะกำหนดให้คำตัดสินที่ผิดกฎหมายของอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นกฎหมายในประเทศ จีนจะไม่ยอมรับการเรียกร้องหรือการดำเนินการใดๆ ที่อิงตามคำตัดสินดังกล่าว

    โดยพื้นฐานแล้ว กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การออกกฎหมายเท่านั้น แต่เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝ่ายฟิลิปปินส์เพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายดินแดนและเพื่อผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศภายนอกบางประเทศ การเคลื่อนไหวที่ไร้ความรอบคอบของมะนิลาถือเป็นการละเมิดปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้โดยเจตนา

    ผลกระทบเชิงลบของกฎหมายเหล่านี้มีให้เห็นอย่างชัดเจนและอาจเกิดขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีและสันติภาพในภูมิภาคอีกด้วย หากมะนิลาดำเนินการใดๆ ตามกฎหมายทั้งสองฉบับนี้ ก็จะส่งผลให้เกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากันมากขึ้น การนำกฎหมายเหล่านี้มาใช้จะทำให้ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ทวีความรุนแรงขึ้น และจำกัดพื้นที่ในการแก้ไขข้อพิพาทผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือระหว่างทั้งสองประเทศ

    อำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนของจีน สิทธิทางทะเล และผลประโยชน์ในทะเลจีนใต้มีรากฐานที่มั่นคงในประวัติศาสตร์และกฎหมาย สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึง UNCLOS และจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการบังคับใช้กฎหมายของมะนิลา

    จีนมุ่งมั่นที่จะจัดการปัญหาทางทะเลกับฟิลิปปินส์อย่างเหมาะสมผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ของฟิลิปปินส์ในการส่งไวน์และขายน้ำส้มสายชูเพื่อบิดเบือนกฎหมายทางทะเลและละเมิดอำนาจอธิปไตยของผู้อื่นนั้นต้องถูกปฏิเสธ ในการเจรจาครั้งก่อน ฟิลิปปินส์
    ตกลงที่จะรักษาสถานการณ์ทางทะเลและความสัมพันธ์ทวิภาคีโดยรวมให้มั่นคงโดยร่วมมือกับจีน อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวบ่งชี้ว่าฟิลิปปินส์ทำสิ่งต่างๆ ในทิศทางตรงกันข้าม

    การละเมิดโดยเจตนาและการยั่วยุที่ไม่สมเหตุสมผลต่อจีนจะส่งผลให้ผู้ริเริ่มยิงเท้าตัวเอง จีนจะดำเนินการที่เหมาะสมและมาตรการตอบโต้ที่ถูกต้องเพื่อปกป้องสิทธิของตน

    https://english.news.cn/20241110/7bf252deefff4b06a0de32134db5406e/c.html

    #Thaitimes
    บทบรรณาธิการซินหัวชี้กฎหมายของฟิลิปปินส์ทำให้สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ซับซ้อนขึ้น 10 พฤศจิกายน 2567 -รายงานข่าวซินหัวระบุว่า ฟิลิปปินส์ก่อปัญหาอีกครั้งด้วยการตรากฎหมายในประเทศ 2 ฉบับ ซึ่งละเมิดอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนและสิทธิทางทะเลและผลประโยชน์ของจีนในทะเลจีนใต้ ทำให้เกิดการประณามอย่างรุนแรงและการประท้วงจากปักกิ่งอย่างรุนแรง กฎหมายที่เรียกว่า "เขตน่านน้ำทางทะเลของฟิลิปปินส์" ได้รวมเกาะหวงหยานของจีน เกาะและแนวปะการังส่วนใหญ่ในหนานซา คุนเต่าของจีน และน่านน้ำที่เกี่ยวข้องเข้าไปในเขตน่านน้ำทางทะเลของฟิลิปปินส์โดยผิดกฎหมาย ส่วนต่างๆ ของ "กฎหมายเส้นทางเดินเรือหมู่เกาะฟิลิปปินส์" ไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและมติขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ฟิลิปปินส์กลายเป็นผู้แสวงหาผลประโยชน์และใช้ประโยชน์จากกฎหมายระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ โดยอ้างว่าเป็นพันธมิตรกับฟิลิปปินส์ และเป็นผู้ก่อปัญหาและผู้ทำลายสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค การอ้างคำตัดสินที่ผิดกฎหมายของอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นพื้นฐานของกฎหมาย การเคลื่อนไหวล่าสุดของมะนิลาเพียงแค่ซ้ำเติมความผิดพลาดของตนในการทำให้การเรียกร้องทางทะเลที่ผิดกฎหมายของตนมีความชอบธรรม โดยเสี่ยงต่อการเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคอย่างรุนแรง คำตัดสินที่เรียกว่าอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและเป็นโมฆะ คณะอนุญาโตตุลาการได้พิจารณาคดีนี้โดยเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่และตัดสินให้คำตัดสินบิดเบือนกฎหมาย ดังนั้น คำตัดสินดังกล่าวจึงละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS) กระบวนการอนุญาโตตุลาการทั้งหมดเป็นเรื่องตลกทางการเมืองโดยสิ้นเชิง จีนไม่ยอมรับหรือมีส่วนร่วมในการอนุญาโตตุลาการ และจีนก็ไม่ยอมรับหรือรับรองคำตัดสินดังกล่าว กฎหมายที่เรียกว่าของฟิลิปปินส์พยายามที่จะกำหนดให้คำตัดสินที่ผิดกฎหมายของอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นกฎหมายในประเทศ จีนจะไม่ยอมรับการเรียกร้องหรือการดำเนินการใดๆ ที่อิงตามคำตัดสินดังกล่าว โดยพื้นฐานแล้ว กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การออกกฎหมายเท่านั้น แต่เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝ่ายฟิลิปปินส์เพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายดินแดนและเพื่อผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศภายนอกบางประเทศ การเคลื่อนไหวที่ไร้ความรอบคอบของมะนิลาถือเป็นการละเมิดปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้โดยเจตนา ผลกระทบเชิงลบของกฎหมายเหล่านี้มีให้เห็นอย่างชัดเจนและอาจเกิดขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีและสันติภาพในภูมิภาคอีกด้วย หากมะนิลาดำเนินการใดๆ ตามกฎหมายทั้งสองฉบับนี้ ก็จะส่งผลให้เกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากันมากขึ้น การนำกฎหมายเหล่านี้มาใช้จะทำให้ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ทวีความรุนแรงขึ้น และจำกัดพื้นที่ในการแก้ไขข้อพิพาทผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือระหว่างทั้งสองประเทศ อำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนของจีน สิทธิทางทะเล และผลประโยชน์ในทะเลจีนใต้มีรากฐานที่มั่นคงในประวัติศาสตร์และกฎหมาย สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึง UNCLOS และจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการบังคับใช้กฎหมายของมะนิลา จีนมุ่งมั่นที่จะจัดการปัญหาทางทะเลกับฟิลิปปินส์อย่างเหมาะสมผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ของฟิลิปปินส์ในการส่งไวน์และขายน้ำส้มสายชูเพื่อบิดเบือนกฎหมายทางทะเลและละเมิดอำนาจอธิปไตยของผู้อื่นนั้นต้องถูกปฏิเสธ ในการเจรจาครั้งก่อน ฟิลิปปินส์ ตกลงที่จะรักษาสถานการณ์ทางทะเลและความสัมพันธ์ทวิภาคีโดยรวมให้มั่นคงโดยร่วมมือกับจีน อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวบ่งชี้ว่าฟิลิปปินส์ทำสิ่งต่างๆ ในทิศทางตรงกันข้าม การละเมิดโดยเจตนาและการยั่วยุที่ไม่สมเหตุสมผลต่อจีนจะส่งผลให้ผู้ริเริ่มยิงเท้าตัวเอง จีนจะดำเนินการที่เหมาะสมและมาตรการตอบโต้ที่ถูกต้องเพื่อปกป้องสิทธิของตน https://english.news.cn/20241110/7bf252deefff4b06a0de32134db5406e/c.html #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 700 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เห็นชอบความเป็นไปได้ในการขายระบบป้องกันภัยทางอากาศและเรดาร์แก่ไต้หวัน อ้างอิงข้อมูลจากเพนตากอน ขณะที่การจัดซื้ออาวุธอเมริกาโดยไทเป จำเป็นต้องมีบุคลากรของสหรัฐฯ เดินทางไปประจำการในไต้หวัน เพื่อสนับสนุนทางเทคนิคและฝึกฝนทหารท้องถิ่น
    .
    แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะก่อความเดือดดาลแก่จีนเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ผ่านมา ปักกิ่งซึ่งมองเกาะปกครองตนเองแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน มองความสัมพันธ์ในด้านนี้ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ เป็นการละเมิดอธิปไตยของพวกเขา
    .
    ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อไม่กี่วันก่อน วอชิงตันได้ทำการส่งมอบขีปนาวุธต่อต้านเรือ Harpoon Block II ล็อตแรกจำนวนหลายร้อยลูกให้แก่ไทเป ภายใต้ข้อตกลงหนึ่งที่ได้รับการอนุมัติในปี 2020
    .
    ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (25 ต.ค.) สำนักงานความร่วมมือความมั่นคงกลาโหม (DSCA: Defense Security Cooperation Agency) สังกัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่าพวกเขาได้รับความเห็นชอบสำหรับความเป็นไปได้ในการ "การขายอาวุธให้ต่างประเทศ" แก่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปในสหรัฐฯ ซึ่งคือระบบป้องกันขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศขั้นสูง NASAMS และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มูลค่าประมาณ 1,160 ล้านดอลลาร์
    .
    ในเอกสารระบุว่าไต้หวันขอซื้อระบบนี้ที่ผลิตโดยบริษัทเรย์เธียน 3 ชุด และขีปนาวุธที่ใช้กับระบบดังกล่าว 123 ลูก
    .
    ถ้อยแถลงเน้นว่าเพื่อทำตามข้อเสนอขายนี้ จำเป็นต้องมอบหมายหน้าที่แก่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ 26 คน และตัวแทนจากบริษัทสัญญาจ้าง 34 ราย ให้เดินทางไปประจำการในไต้หวัน เป็นระยะเวลาหนึ่งซึ่งนานพอสมควร เพื่อให้การสนับสนุนทางเทคนิคและฝึกฝนแก่บุคลากรทางทหารท้องถิ่น
    .
    ทั้งนี้ ในข่าวประชาสัมพันธ์อีกฉบับที่เผยแพร่ในวันเดียวกัน ยังเผยด้วยว่าทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ไฟเขียวความเป็นไปได้ในการขายระบบเรดาร์ AN/TPS-77 และ AN/TPS-78 รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มูลค่าราว 828 ล้านดอลลาร์ แก่ไต้หวัน
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เพิ่งอนุมัติมอบความช่วยเหลือด้านการทหารเพิ่มเติมแก่ไต้หวันอีก 567 ล้านดอลลาร์
    .
    ระหว่างพบปะกับ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ในกรุงปักกิ่ง เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม ทาง หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เรียกร้องวอชิงตันให้หยุดขายอาวุธแก่ไต้หวัน
    .
    ขณะเดียวกัน ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน เตือนว่า ปักกิ่งไม่เคยผูกมัดตนเองในการตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังกับไต้หวัน และสถานการณ์ดังกล่าวอาจเป็นจริงขึ้นมาหากว่าเกาะปกครองตนเองแห่งนี้ประกาศเอกราช
    .
    คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากจีน ทำการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ใกล้เกาะไต้หวัน
    .
    กองทัพปลดแอกประชาชนจีน เปิดการซ้อมรบเป็นเวลา 1 วัน ที่ใช้ชื่อรหัสว่า “ดาบประสาน 2024 บี” (Joint Sword-2024B Exercise) ในพื้นที่รอบๆ และใกล้เกาะไต้หวันเมื่อวันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม โดยจุดที่มีการเน้นหนักแข็งขันคือการฝึกเพื่อป้องปรามไม่ให้สหรัฐฯ สามารถเข้ามาแทรกแซงในกรณีที่เกิดการสู้รบใดๆ ขึ้นในช่องแคบไต้หวัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103353
    ..............
    Sondhi X
    กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เห็นชอบความเป็นไปได้ในการขายระบบป้องกันภัยทางอากาศและเรดาร์แก่ไต้หวัน อ้างอิงข้อมูลจากเพนตากอน ขณะที่การจัดซื้ออาวุธอเมริกาโดยไทเป จำเป็นต้องมีบุคลากรของสหรัฐฯ เดินทางไปประจำการในไต้หวัน เพื่อสนับสนุนทางเทคนิคและฝึกฝนทหารท้องถิ่น . แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะก่อความเดือดดาลแก่จีนเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ผ่านมา ปักกิ่งซึ่งมองเกาะปกครองตนเองแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน มองความสัมพันธ์ในด้านนี้ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ เป็นการละเมิดอธิปไตยของพวกเขา . ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อไม่กี่วันก่อน วอชิงตันได้ทำการส่งมอบขีปนาวุธต่อต้านเรือ Harpoon Block II ล็อตแรกจำนวนหลายร้อยลูกให้แก่ไทเป ภายใต้ข้อตกลงหนึ่งที่ได้รับการอนุมัติในปี 2020 . ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (25 ต.ค.) สำนักงานความร่วมมือความมั่นคงกลาโหม (DSCA: Defense Security Cooperation Agency) สังกัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่าพวกเขาได้รับความเห็นชอบสำหรับความเป็นไปได้ในการ "การขายอาวุธให้ต่างประเทศ" แก่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปในสหรัฐฯ ซึ่งคือระบบป้องกันขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศขั้นสูง NASAMS และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มูลค่าประมาณ 1,160 ล้านดอลลาร์ . ในเอกสารระบุว่าไต้หวันขอซื้อระบบนี้ที่ผลิตโดยบริษัทเรย์เธียน 3 ชุด และขีปนาวุธที่ใช้กับระบบดังกล่าว 123 ลูก . ถ้อยแถลงเน้นว่าเพื่อทำตามข้อเสนอขายนี้ จำเป็นต้องมอบหมายหน้าที่แก่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ 26 คน และตัวแทนจากบริษัทสัญญาจ้าง 34 ราย ให้เดินทางไปประจำการในไต้หวัน เป็นระยะเวลาหนึ่งซึ่งนานพอสมควร เพื่อให้การสนับสนุนทางเทคนิคและฝึกฝนแก่บุคลากรทางทหารท้องถิ่น . ทั้งนี้ ในข่าวประชาสัมพันธ์อีกฉบับที่เผยแพร่ในวันเดียวกัน ยังเผยด้วยว่าทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ไฟเขียวความเป็นไปได้ในการขายระบบเรดาร์ AN/TPS-77 และ AN/TPS-78 รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มูลค่าราว 828 ล้านดอลลาร์ แก่ไต้หวัน . ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เพิ่งอนุมัติมอบความช่วยเหลือด้านการทหารเพิ่มเติมแก่ไต้หวันอีก 567 ล้านดอลลาร์ . ระหว่างพบปะกับ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ในกรุงปักกิ่ง เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม ทาง หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เรียกร้องวอชิงตันให้หยุดขายอาวุธแก่ไต้หวัน . ขณะเดียวกัน ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน เตือนว่า ปักกิ่งไม่เคยผูกมัดตนเองในการตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังกับไต้หวัน และสถานการณ์ดังกล่าวอาจเป็นจริงขึ้นมาหากว่าเกาะปกครองตนเองแห่งนี้ประกาศเอกราช . คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากจีน ทำการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ใกล้เกาะไต้หวัน . กองทัพปลดแอกประชาชนจีน เปิดการซ้อมรบเป็นเวลา 1 วัน ที่ใช้ชื่อรหัสว่า “ดาบประสาน 2024 บี” (Joint Sword-2024B Exercise) ในพื้นที่รอบๆ และใกล้เกาะไต้หวันเมื่อวันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม โดยจุดที่มีการเน้นหนักแข็งขันคือการฝึกเพื่อป้องปรามไม่ให้สหรัฐฯ สามารถเข้ามาแทรกแซงในกรณีที่เกิดการสู้รบใดๆ ขึ้นในช่องแคบไต้หวัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103353 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2035 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปียงยางระเบิดถนนและทางรถไฟเชื่อมต่อสองเกาหลีในฝั่งของตน ขณะที่คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของผู้นำคิม ยันมีหลักฐานชัดเจนว่า กองทัพเกาหลีใต้อยู่เบื้องหลังการส่งโดรนรุกล้ำไปถึงเมืองหลวงเกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมประกาศว่าผู้ยั่วยุจะต้องจ่ายราคาแพงมาก ด้านจีนเรียกร้องทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการทำให้ความขัดแย้งลุกลาม
    .
    คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ (เจซีเอส) แถลงในวันอังคาร (15 ต.ค.) ว่า เกาหลีเหนือระเบิดทำลายถนนและทางรถไฟบางส่วนที่เชื่อมต่อกับเกาหลีใต้เมื่อราวเที่ยงวันเดียวกัน และกองทัพเกาหลีใต้ได้ยิงเตือนจากบริเวณเส้นแบ่งเขตแดนทางทหารในฝั่งของตนเพื่อเป็นการตอบโต้ แม้การระเบิดดังกล่าวไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายในฝั่งโสมขาวก็ตาม
    .
    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่แล้วเปียงยางประกาศจะตัดขาดถนนและทางรถไฟทุกสายที่เชื่อมต่อระหว่างสองเกาหลี และสร้างกำแพงตลอดแนวพรมแดน จากนั้นเกาหลีใต้เตือนเมื่อวันจันทร์ (14) ว่า เกาหลีเหนือพร้อมระเบิดถนนและทางรถไฟแล้ว
    .
    เจซีเอสเสริมว่า เกาหลีเหนือยังฝังทุ่นระเบิดและสร้างแนวเครื่องกีดขวางรถถังตลอดชายแดน และจากการสังเกตการณ์เมื่อวันจันทร์พบว่า เปียงยางติดตั้งอุปกรณ์หนักเพิ่มเติมที่แนวป้องกันดังกล่าว ขณะที่เกาหลีใต้ก็ได้ยกระดับการเฝ้าระวังและการเตรียมพร้อมสำหรับรับมือกับความเคลื่อนไหวล่าสุดของเปียงยางแล้ว
    .
    เวลาเดียวกัน กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ได้แถลงประณามการกระทำล่าสุดของเปียงยางว่า เป็นการยั่วยุที่ผิดปกติมาก และสำทับว่า เกาหลีใต้หมดเงินหลายล้านดอลลาร์กับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ และทางเกาหลีเหนือยังคงต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายนี้ในส่วนของพวกเขาเอง
    .
    ปัจจุบันทั้งเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ในทางเทคนิคแล้วยังคงถือว่าอยู่ในภาวะทำสงครามกัน เนื่องจากสงครามเกาหลีในช่วงระหว่างปี 1950-1953 สิ้นสุดลงด้วยการทำข้อตกลงหยุดยิง แต่ยังไม่มีการทำสนธิสัญญาสันติภาพ
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเปียงยางกล่าวหาโซลส่งโดรนไปปล่อยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านตนถึงในกรุงเปียงยางมาแล้วหลายครั้ง และผู้นำคิม จองอึน เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคงเพื่อบัญชาการแผนการทางทหารเพื่อตอบโต้
    .
    ทางด้านกองทัพเกาหลีใต้นั้นแรกเริ่มได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่ต่อมาก็งดแสดงความคิดเห็น แม้กระทั่งเมื่อเปียงยางเตือนสำทับว่า หากยังพบโดรนรุกล้ำเข้าไปอีก จะถือเป็นการประกาศสงคราม
    .
    ในวันอังคาร (15) คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของผู้นำคิม ยังได้ออกคำแถลงระบุว่า มีหลักฐานชัดเจนว่ากองทัพเกาหลีใต้คืออยู่เบื้องหลังการส่งโดรนรุกล้ำไปถึงเปียงยาง พร้อมกับบอกว่าผู้ยั่วยุจะต้องจ่ายราคาแพงมาก
    .
    ที่ผ่านมา กลุ่มนักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้มักส่งบอลลูนไปปล่อยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านผู้นำเกาหลีเหนือและเนื้อหาอื่นๆ รวมถึงอุปกรณ์ยูเอสบีที่บรรจุเพลงเค-ป็อป และซีรีส์เกาหลีเข้าไปในแดนโสมแดง อย่างไรก็ดี เป็นที่รับรู้ว่า มีนักเคลื่อนไหวหัวรุนแรงบางคนเคยส่งโดรนขนาดเล็กที่ทำจากเอ็กซ์แพนด์โพลีโพรพีลีน ซึ่งทำให้ตรวจจับได้ยาก เข้าไปในเกาหลีเหนือเช่นกัน
    .
    สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเปียงยางรายงานว่า ในการประชุมฝ่ายความมั่นคงเมื่อวันจันทร์ มีการรายงานเกี่ยวกับการยั่วยุอันตรายของศัตรู และผู้นำคิมแสดงจุดยืนทางการเมืองและการทหารอย่างแข็งกร้าว
    .
    เกาหลีเหนือยังระบุว่า อเมริกาที่เป็นพันธมิตรทางการทหารกับเกาหลีใต้ ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย
    .
    เปียงยางเองเคยส่งโดรน 5 ลำเข้าไปในเกาหลีใต้ในปี 2022 ทำให้กองทัพเกาหลีใต้ยิงเตือนและส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นไปสกัด แต่ไม่สามารถยิงโดรนเหล่านั้นได้
    .
    กระทั่งในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โซลประกาศว่า ภายในปีนี้จะใช้ระบบเลเซอร์ทำลายโดรน ซึ่งมีชื่อว่า “โครงการสตาร์วอร์” ยิงลำแสงที่มองไม่เห็นและไม่มีเสียง โจมตีโดรนให้ระเบิด โดยใช้ต้นทุนต่ำมากเพียง 1.45 ดอลลาร์ต่อการใช้งานหนึ่งครั้ง และสำทับว่า ด้วยระบบเช่นนี้ ศักยภาพของโซลในการตอบโต้การยั่วยุจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
    .
    ทางด้าน ชอง ซองชาง จากสถาบันเซจอง ในเกาหลีใต้ ชี้ว่า ภายหลังการประชุมของผู้นำคิม ความสนใจได้โฟกัสไปยังเรื่องที่ว่า เกาหลีเหนือจะตอบโต้ด้วยการส่งโดรนเข้าไปในเกาหลีใต้ หรือใช้มาตรการแข็งกร้าวหากโดรนจากเกาหลีใต้ยังรุกล้ำเข้าไปอีก
    .
    ส่วนที่ปักกิ่ง เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างแถลงข่าวประจำวันตามปกติในวันอังคารว่า ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีไม่ได้เป็นประโยชน์กับฝ่ายใด สิ่งสำคัญที่สุดคือหลีกเลี่ยงการทำให้ความขัดแย้งลุกลาม และย้ำว่า จุดยืนของจีนคือการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคดังกล่าว รวมทั้งส่งเสริมการแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางการเมือง และหวังว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะพยายามเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้เช่นเดียวกัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099598
    ..............
    Sondhi X
    เปียงยางระเบิดถนนและทางรถไฟเชื่อมต่อสองเกาหลีในฝั่งของตน ขณะที่คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของผู้นำคิม ยันมีหลักฐานชัดเจนว่า กองทัพเกาหลีใต้อยู่เบื้องหลังการส่งโดรนรุกล้ำไปถึงเมืองหลวงเกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมประกาศว่าผู้ยั่วยุจะต้องจ่ายราคาแพงมาก ด้านจีนเรียกร้องทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการทำให้ความขัดแย้งลุกลาม . คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ (เจซีเอส) แถลงในวันอังคาร (15 ต.ค.) ว่า เกาหลีเหนือระเบิดทำลายถนนและทางรถไฟบางส่วนที่เชื่อมต่อกับเกาหลีใต้เมื่อราวเที่ยงวันเดียวกัน และกองทัพเกาหลีใต้ได้ยิงเตือนจากบริเวณเส้นแบ่งเขตแดนทางทหารในฝั่งของตนเพื่อเป็นการตอบโต้ แม้การระเบิดดังกล่าวไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายในฝั่งโสมขาวก็ตาม . เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่แล้วเปียงยางประกาศจะตัดขาดถนนและทางรถไฟทุกสายที่เชื่อมต่อระหว่างสองเกาหลี และสร้างกำแพงตลอดแนวพรมแดน จากนั้นเกาหลีใต้เตือนเมื่อวันจันทร์ (14) ว่า เกาหลีเหนือพร้อมระเบิดถนนและทางรถไฟแล้ว . เจซีเอสเสริมว่า เกาหลีเหนือยังฝังทุ่นระเบิดและสร้างแนวเครื่องกีดขวางรถถังตลอดชายแดน และจากการสังเกตการณ์เมื่อวันจันทร์พบว่า เปียงยางติดตั้งอุปกรณ์หนักเพิ่มเติมที่แนวป้องกันดังกล่าว ขณะที่เกาหลีใต้ก็ได้ยกระดับการเฝ้าระวังและการเตรียมพร้อมสำหรับรับมือกับความเคลื่อนไหวล่าสุดของเปียงยางแล้ว . เวลาเดียวกัน กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ได้แถลงประณามการกระทำล่าสุดของเปียงยางว่า เป็นการยั่วยุที่ผิดปกติมาก และสำทับว่า เกาหลีใต้หมดเงินหลายล้านดอลลาร์กับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ และทางเกาหลีเหนือยังคงต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายนี้ในส่วนของพวกเขาเอง . ปัจจุบันทั้งเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ในทางเทคนิคแล้วยังคงถือว่าอยู่ในภาวะทำสงครามกัน เนื่องจากสงครามเกาหลีในช่วงระหว่างปี 1950-1953 สิ้นสุดลงด้วยการทำข้อตกลงหยุดยิง แต่ยังไม่มีการทำสนธิสัญญาสันติภาพ . เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเปียงยางกล่าวหาโซลส่งโดรนไปปล่อยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านตนถึงในกรุงเปียงยางมาแล้วหลายครั้ง และผู้นำคิม จองอึน เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคงเพื่อบัญชาการแผนการทางทหารเพื่อตอบโต้ . ทางด้านกองทัพเกาหลีใต้นั้นแรกเริ่มได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่ต่อมาก็งดแสดงความคิดเห็น แม้กระทั่งเมื่อเปียงยางเตือนสำทับว่า หากยังพบโดรนรุกล้ำเข้าไปอีก จะถือเป็นการประกาศสงคราม . ในวันอังคาร (15) คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของผู้นำคิม ยังได้ออกคำแถลงระบุว่า มีหลักฐานชัดเจนว่ากองทัพเกาหลีใต้คืออยู่เบื้องหลังการส่งโดรนรุกล้ำไปถึงเปียงยาง พร้อมกับบอกว่าผู้ยั่วยุจะต้องจ่ายราคาแพงมาก . ที่ผ่านมา กลุ่มนักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้มักส่งบอลลูนไปปล่อยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านผู้นำเกาหลีเหนือและเนื้อหาอื่นๆ รวมถึงอุปกรณ์ยูเอสบีที่บรรจุเพลงเค-ป็อป และซีรีส์เกาหลีเข้าไปในแดนโสมแดง อย่างไรก็ดี เป็นที่รับรู้ว่า มีนักเคลื่อนไหวหัวรุนแรงบางคนเคยส่งโดรนขนาดเล็กที่ทำจากเอ็กซ์แพนด์โพลีโพรพีลีน ซึ่งทำให้ตรวจจับได้ยาก เข้าไปในเกาหลีเหนือเช่นกัน . สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเปียงยางรายงานว่า ในการประชุมฝ่ายความมั่นคงเมื่อวันจันทร์ มีการรายงานเกี่ยวกับการยั่วยุอันตรายของศัตรู และผู้นำคิมแสดงจุดยืนทางการเมืองและการทหารอย่างแข็งกร้าว . เกาหลีเหนือยังระบุว่า อเมริกาที่เป็นพันธมิตรทางการทหารกับเกาหลีใต้ ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย . เปียงยางเองเคยส่งโดรน 5 ลำเข้าไปในเกาหลีใต้ในปี 2022 ทำให้กองทัพเกาหลีใต้ยิงเตือนและส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นไปสกัด แต่ไม่สามารถยิงโดรนเหล่านั้นได้ . กระทั่งในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โซลประกาศว่า ภายในปีนี้จะใช้ระบบเลเซอร์ทำลายโดรน ซึ่งมีชื่อว่า “โครงการสตาร์วอร์” ยิงลำแสงที่มองไม่เห็นและไม่มีเสียง โจมตีโดรนให้ระเบิด โดยใช้ต้นทุนต่ำมากเพียง 1.45 ดอลลาร์ต่อการใช้งานหนึ่งครั้ง และสำทับว่า ด้วยระบบเช่นนี้ ศักยภาพของโซลในการตอบโต้การยั่วยุจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน . ทางด้าน ชอง ซองชาง จากสถาบันเซจอง ในเกาหลีใต้ ชี้ว่า ภายหลังการประชุมของผู้นำคิม ความสนใจได้โฟกัสไปยังเรื่องที่ว่า เกาหลีเหนือจะตอบโต้ด้วยการส่งโดรนเข้าไปในเกาหลีใต้ หรือใช้มาตรการแข็งกร้าวหากโดรนจากเกาหลีใต้ยังรุกล้ำเข้าไปอีก . ส่วนที่ปักกิ่ง เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างแถลงข่าวประจำวันตามปกติในวันอังคารว่า ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีไม่ได้เป็นประโยชน์กับฝ่ายใด สิ่งสำคัญที่สุดคือหลีกเลี่ยงการทำให้ความขัดแย้งลุกลาม และย้ำว่า จุดยืนของจีนคือการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคดังกล่าว รวมทั้งส่งเสริมการแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางการเมือง และหวังว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะพยายามเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้เช่นเดียวกัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099598 .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1738 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาร์การิตา ซิโมนยาน เล่าถึงคำพูดอันทรงพลังของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จอห์น เอฟ. เคนเนดี ขณะที่สหรัฐฯประกาศมาตรการลงโทษใหม่ต่อบริษัทสื่อของรัสเซีย

    “เราไม่กลัวที่จะมอบความไว้วางใจให้ชาวอเมริกันรับเอาข้อเท็จจริงที่ไม่น่าพอใจ, แนวคิดจากต่างประเทศ, ปรัชญาที่แปลกใหม่, และค่านิยมที่แข่งขันกัน สำหรับประเทศที่กลัวที่จะปล่อยให้ประชาชนของตนตัดสินความจริงและความเท็จในตลาดเปิด ประเทศนั้นก็คือประเทศที่กลัวประชาชนของตนเอง,” บรรณาธิการบริหารของ Rossiya Segodnya กลุ่มสื่อแม่ของสปุตนิกกล่าว โดยอ้างคำพูดของนักการเมืองที่ถูกสังหาร

    “พวกเขาไม่ได้ฆ่าเขาโดยไม่มีเหตุผล เขากำลังคิดในทางที่ผิด” ซิโมนยาน กล่าว, โดยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวล่าสุดในการเซ็นเซอร์บริษัทสื่อของรัสเซีย
    .
    Margarita Simonyan recalled the powerful words of former US President John F. Kennedy as the US announced new punitive measures against Russian media companies

    “We are not afraid to entrust the American people with unpleasant facts, foreign ideas, alien philosophies, and competitive values. For a nation that is afraid to let its people judge the truth and falsehood in an open market is a nation that is afraid of its people,” said the editor-in-chief of Rossiya Segodnya, Sputnik's parent media group, quoting the slain politician.

    “They haven’t killed him for nothing. He was thinking the wrong way,” said Simonyan, commenting on the latest move towards censorship of Russian media companies.
    .
    3:45 AM · Sep 14, 2024 · 4,802 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1834694981019484594
    มาร์การิตา ซิโมนยาน เล่าถึงคำพูดอันทรงพลังของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จอห์น เอฟ. เคนเนดี ขณะที่สหรัฐฯประกาศมาตรการลงโทษใหม่ต่อบริษัทสื่อของรัสเซีย “เราไม่กลัวที่จะมอบความไว้วางใจให้ชาวอเมริกันรับเอาข้อเท็จจริงที่ไม่น่าพอใจ, แนวคิดจากต่างประเทศ, ปรัชญาที่แปลกใหม่, และค่านิยมที่แข่งขันกัน สำหรับประเทศที่กลัวที่จะปล่อยให้ประชาชนของตนตัดสินความจริงและความเท็จในตลาดเปิด ประเทศนั้นก็คือประเทศที่กลัวประชาชนของตนเอง,” บรรณาธิการบริหารของ Rossiya Segodnya กลุ่มสื่อแม่ของสปุตนิกกล่าว โดยอ้างคำพูดของนักการเมืองที่ถูกสังหาร “พวกเขาไม่ได้ฆ่าเขาโดยไม่มีเหตุผล เขากำลังคิดในทางที่ผิด” ซิโมนยาน กล่าว, โดยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวล่าสุดในการเซ็นเซอร์บริษัทสื่อของรัสเซีย . Margarita Simonyan recalled the powerful words of former US President John F. Kennedy as the US announced new punitive measures against Russian media companies “We are not afraid to entrust the American people with unpleasant facts, foreign ideas, alien philosophies, and competitive values. For a nation that is afraid to let its people judge the truth and falsehood in an open market is a nation that is afraid of its people,” said the editor-in-chief of Rossiya Segodnya, Sputnik's parent media group, quoting the slain politician. “They haven’t killed him for nothing. He was thinking the wrong way,” said Simonyan, commenting on the latest move towards censorship of Russian media companies. . 3:45 AM · Sep 14, 2024 · 4,802 Views https://x.com/SputnikInt/status/1834694981019484594
    Like
    Wow
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 0 รีวิว