• นักพัฒนาปลดล็อกเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะจาก Cloud

    Steffen นักพัฒนาชาวสวีเดน-เยอรมัน ได้สร้างเฟิร์มแวร์ใหม่สำหรับ Xiaomi Mi Smart Antibacterial Humidifier ที่ใช้ชิป ESP8266/ESP32 ทำให้เครื่องสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับ Cloud ของ Xiaomi อีกต่อไป การปรับแต่งนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องผ่าน Home Assistant ได้โดยตรงในระบบ Local ซึ่งเป็นการเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความยืดหยุ่นในการใช้งาน

    วิธีการแฮ็กและติดตั้งเฟิร์มแวร์
    ขั้นตอนเริ่มจากการถอดเครื่องเพื่อเข้าถึงโมดูล Wi-Fi ภายใน จากนั้นทำการบัดกรีสายเข้ากับพอร์ต UART ของชิป ESP8266 และแฟลชเฟิร์มแวร์ใหม่ด้วยเครื่องมือเช่น esptool.py หรือ ESPHome เมื่อเสร็จสิ้น เครื่องจะสามารถสื่อสารผ่าน MQTT และเชื่อมต่อกับ Home Assistant ได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ภายนอก

    ประโยชน์และผลกระทบ
    การปลดล็อกนี้ช่วยให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงปัญหา vendor lock-in และการส่งข้อมูลส่วนตัวไปยัง Cloud ของบริษัท อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่อง ไม่ต้องกังวลว่าบริการ Cloud จะถูกปิดในอนาคต นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการทำงาน เช่น ตั้งค่าความชื้น, ปิดเสียง, ปิดไฟ LED หรือเชื่อมต่อกับระบบอัตโนมัติอื่น ๆ ได้อย่างอิสระ

    ข้อควรระวัง
    แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่การแฟลชเฟิร์มแวร์ใหม่ก็มีความเสี่ยง เช่น การสูญเสียการรับประกัน, ความเสี่ยงจากการบัดกรีผิดพลาด, หรือการไม่สามารถกู้คืนเฟิร์มแวร์เดิมได้ หากไม่ได้ทำการสำรองไว้ก่อน ผู้ใช้จึงควรมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการเขียนโปรแกรมเบื้องต้นก่อนลงมือ

    สรุปสาระสำคัญ
    การปลดล็อก Xiaomi Smart Humidifier
    ใช้เฟิร์มแวร์ ESPHome บนชิป ESP8266
    ทำงานร่วมกับ Home Assistant แบบ Local

    ประโยชน์ที่ได้รับ
    เพิ่มความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องส่งข้อมูลไป Cloud
    หลีกเลี่ยง planned obsolescence และยืดอายุการใช้งาน

    ข้อควรระวังในการใช้งาน
    การแฟลชเฟิร์มแวร์อาจทำให้หมดประกัน
    หากไม่สำรองเฟิร์มแวร์เดิม อาจไม่สามารถกู้คืนได้

    https://www.tomshardware.com/maker-stem/microcontrollers-projects/dev-hacks-xiaomis-smart-humidifier-to-free-it-from-the-cloud-now-works-with-home-assistant-locally-custom-firmware-allows-the-product-to-evade-planned-obsolescence
    💡 นักพัฒนาปลดล็อกเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะจาก Cloud Steffen นักพัฒนาชาวสวีเดน-เยอรมัน ได้สร้างเฟิร์มแวร์ใหม่สำหรับ Xiaomi Mi Smart Antibacterial Humidifier ที่ใช้ชิป ESP8266/ESP32 ทำให้เครื่องสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับ Cloud ของ Xiaomi อีกต่อไป การปรับแต่งนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องผ่าน Home Assistant ได้โดยตรงในระบบ Local ซึ่งเป็นการเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความยืดหยุ่นในการใช้งาน 🔧 วิธีการแฮ็กและติดตั้งเฟิร์มแวร์ ขั้นตอนเริ่มจากการถอดเครื่องเพื่อเข้าถึงโมดูล Wi-Fi ภายใน จากนั้นทำการบัดกรีสายเข้ากับพอร์ต UART ของชิป ESP8266 และแฟลชเฟิร์มแวร์ใหม่ด้วยเครื่องมือเช่น esptool.py หรือ ESPHome เมื่อเสร็จสิ้น เครื่องจะสามารถสื่อสารผ่าน MQTT และเชื่อมต่อกับ Home Assistant ได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ภายนอก 🛡️ ประโยชน์และผลกระทบ การปลดล็อกนี้ช่วยให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงปัญหา vendor lock-in และการส่งข้อมูลส่วนตัวไปยัง Cloud ของบริษัท อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่อง ไม่ต้องกังวลว่าบริการ Cloud จะถูกปิดในอนาคต นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการทำงาน เช่น ตั้งค่าความชื้น, ปิดเสียง, ปิดไฟ LED หรือเชื่อมต่อกับระบบอัตโนมัติอื่น ๆ ได้อย่างอิสระ ⚠️ ข้อควรระวัง แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่การแฟลชเฟิร์มแวร์ใหม่ก็มีความเสี่ยง เช่น การสูญเสียการรับประกัน, ความเสี่ยงจากการบัดกรีผิดพลาด, หรือการไม่สามารถกู้คืนเฟิร์มแวร์เดิมได้ หากไม่ได้ทำการสำรองไว้ก่อน ผู้ใช้จึงควรมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการเขียนโปรแกรมเบื้องต้นก่อนลงมือ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การปลดล็อก Xiaomi Smart Humidifier ➡️ ใช้เฟิร์มแวร์ ESPHome บนชิป ESP8266 ➡️ ทำงานร่วมกับ Home Assistant แบบ Local ✅ ประโยชน์ที่ได้รับ ➡️ เพิ่มความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องส่งข้อมูลไป Cloud ➡️ หลีกเลี่ยง planned obsolescence และยืดอายุการใช้งาน ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน ⛔ การแฟลชเฟิร์มแวร์อาจทำให้หมดประกัน ⛔ หากไม่สำรองเฟิร์มแวร์เดิม อาจไม่สามารถกู้คืนได้ https://www.tomshardware.com/maker-stem/microcontrollers-projects/dev-hacks-xiaomis-smart-humidifier-to-free-it-from-the-cloud-now-works-with-home-assistant-locally-custom-firmware-allows-the-product-to-evade-planned-obsolescence
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • เราเตอร์ 2.4 GHz: เทคโนโลยีจากอดีต

    เราเตอร์ 2.4 GHz เริ่มใช้แพร่หลายตั้งแต่ปี 1999 กับมาตรฐาน 802.11b ที่ให้ความเร็วเพียง 11 Mbps ก่อนจะพัฒนาเป็น 802.11g ที่ 54 Mbps และรุ่นใหม่ ๆ ที่โฆษณาความเร็วสูงกว่า แต่ในความเป็นจริงมักไม่เกิน 100 Mbps เทียบกับเราเตอร์ 5 GHz ที่ทำได้ถึง 1 Gbps และ Wi-Fi 7 (6 GHz) ที่สูงถึง 2 Gbps ทำให้ 2.4 GHz-only ถูกจัดว่า “ล้าสมัย”

    ปัญหาที่พบในยุคปัจจุบัน
    แม้ยังใช้งานได้ แต่ 2.4 GHz มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ความเร็วต่ำ, สัญญาณแออัด เพราะอุปกรณ์จำนวนมากใช้คลื่นนี้ เช่น กล้องวงจรปิด, IoT, เครื่องไมโครเวฟ และ การรบกวนในอพาร์ตเมนต์ ที่มีหลายเครือข่ายทับกัน อย่างไรก็ตาม จุดแข็งคือ สัญญาณทะลุกำแพงได้ดีกว่า ทำให้ยังมีประโยชน์ในบางสถานการณ์

    ทางเลือกและการใช้งานใหม่
    ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าไม่ควรทิ้ง 2.4 GHz ไปเลย แต่ควรใช้ เราเตอร์ Dual-band หรือ Tri-band ที่รองรับทั้ง 2.4 GHz และ 5/6 GHz เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์รุ่นเก่าและ IoT ที่ยังต้องใช้สัญญาณนี้ อีกทั้งเราเตอร์ 2.4 GHz เก่า ๆ ยังสามารถนำมาใช้เป็น Wi-Fi Extender สำหรับพื้นที่สัญญาณอ่อน แม้จะไม่เร็ว แต่ช่วยแก้ปัญหา “Dead Spot” ได้

    บทสรุป
    เราเตอร์ 2.4 GHz-only ไม่เหมาะจะเป็นศูนย์กลางเครือข่ายในบ้านสมัยใหม่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น สตรีมมิ่ง, เกมออนไลน์, Cloud Backup แต่ยังมีคุณค่าในฐานะอุปกรณ์เสริมสำหรับ IoT หรือการขยายสัญญาณ หากต้องการความเร็วและเสถียรภาพ ควรเลือกเราเตอร์รุ่นใหม่ที่รองรับหลายย่านความถี่

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    2.4 GHz เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 1999 (802.11b)
    ความเร็วจริงไม่เกิน ~100 Mbps
    5 GHz ทำได้ถึง 1 Gbps, Wi-Fi 7 ที่ 6 GHz ทำได้ 2 Gbps

    ข้อจำกัด
    ความเร็วต่ำ ไม่เหมาะกับงานหนัก
    สัญญาณแออัดจาก IoT และเครื่องใช้ไฟฟ้า
    รบกวนมากในอพาร์ตเมนต์

    การใช้งานใหม่
    ใช้กับ IoT และอุปกรณ์เก่า
    นำมาเป็น Wi-Fi Extender
    เลือกเราเตอร์ Dual/Tri-band สำหรับบ้านสมัยใหม่

    คำเตือน
    ไม่ควรใช้ 2.4 GHz-only เป็นเราเตอร์หลัก
    บ้านที่มีการใช้งานหนักจะเจอปัญหาความเร็วและเสถียรภาพ

    https://www.slashgear.com/2048268/wifi-router-type-outdated-2-point-4-ghz-only/
    📡 เราเตอร์ 2.4 GHz: เทคโนโลยีจากอดีต เราเตอร์ 2.4 GHz เริ่มใช้แพร่หลายตั้งแต่ปี 1999 กับมาตรฐาน 802.11b ที่ให้ความเร็วเพียง 11 Mbps ก่อนจะพัฒนาเป็น 802.11g ที่ 54 Mbps และรุ่นใหม่ ๆ ที่โฆษณาความเร็วสูงกว่า แต่ในความเป็นจริงมักไม่เกิน 100 Mbps เทียบกับเราเตอร์ 5 GHz ที่ทำได้ถึง 1 Gbps และ Wi-Fi 7 (6 GHz) ที่สูงถึง 2 Gbps ทำให้ 2.4 GHz-only ถูกจัดว่า “ล้าสมัย” ⚠️ ปัญหาที่พบในยุคปัจจุบัน แม้ยังใช้งานได้ แต่ 2.4 GHz มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ความเร็วต่ำ, สัญญาณแออัด เพราะอุปกรณ์จำนวนมากใช้คลื่นนี้ เช่น กล้องวงจรปิด, IoT, เครื่องไมโครเวฟ และ การรบกวนในอพาร์ตเมนต์ ที่มีหลายเครือข่ายทับกัน อย่างไรก็ตาม จุดแข็งคือ สัญญาณทะลุกำแพงได้ดีกว่า ทำให้ยังมีประโยชน์ในบางสถานการณ์ 🔧 ทางเลือกและการใช้งานใหม่ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าไม่ควรทิ้ง 2.4 GHz ไปเลย แต่ควรใช้ เราเตอร์ Dual-band หรือ Tri-band ที่รองรับทั้ง 2.4 GHz และ 5/6 GHz เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์รุ่นเก่าและ IoT ที่ยังต้องใช้สัญญาณนี้ อีกทั้งเราเตอร์ 2.4 GHz เก่า ๆ ยังสามารถนำมาใช้เป็น Wi-Fi Extender สำหรับพื้นที่สัญญาณอ่อน แม้จะไม่เร็ว แต่ช่วยแก้ปัญหา “Dead Spot” ได้ 🌐 บทสรุป เราเตอร์ 2.4 GHz-only ไม่เหมาะจะเป็นศูนย์กลางเครือข่ายในบ้านสมัยใหม่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น สตรีมมิ่ง, เกมออนไลน์, Cloud Backup แต่ยังมีคุณค่าในฐานะอุปกรณ์เสริมสำหรับ IoT หรือการขยายสัญญาณ หากต้องการความเร็วและเสถียรภาพ ควรเลือกเราเตอร์รุ่นใหม่ที่รองรับหลายย่านความถี่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ 2.4 GHz เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 1999 (802.11b) ➡️ ความเร็วจริงไม่เกิน ~100 Mbps ➡️ 5 GHz ทำได้ถึง 1 Gbps, Wi-Fi 7 ที่ 6 GHz ทำได้ 2 Gbps ✅ ข้อจำกัด ➡️ ความเร็วต่ำ ไม่เหมาะกับงานหนัก ➡️ สัญญาณแออัดจาก IoT และเครื่องใช้ไฟฟ้า ➡️ รบกวนมากในอพาร์ตเมนต์ ✅ การใช้งานใหม่ ➡️ ใช้กับ IoT และอุปกรณ์เก่า ➡️ นำมาเป็น Wi-Fi Extender ➡️ เลือกเราเตอร์ Dual/Tri-band สำหรับบ้านสมัยใหม่ ‼️ คำเตือน ⛔ ไม่ควรใช้ 2.4 GHz-only เป็นเราเตอร์หลัก ⛔ บ้านที่มีการใช้งานหนักจะเจอปัญหาความเร็วและเสถียรภาพ https://www.slashgear.com/2048268/wifi-router-type-outdated-2-point-4-ghz-only/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    This Ancient Router Type Is Considered Outdated - Do You Still Use It? - SlashGear
    WiFi routers are an essential part of any home networking setup, but artefacts from earlier times can clog your bandwidth and limit speeds.
    0 Comments 0 Shares 127 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251210 #TechRadar

    ความฝัน AGI ที่ยังไกลเกินเอื้อม
    นักวิจัย AI ในงานประชุม NeurIPS 2025 ออกมาเตือนว่า แม้ Google จะฉลองความสำเร็จของ Gemini 3 แต่ความจริงแล้วการสร้าง “ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป” หรือ AGI ยังห่างไกลมาก ปัญหาคือการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ทำให้มันฉลาดขึ้นจริง ๆ แต่กลับติดกำแพงที่เรียกว่า “scaling wall” ทั้งเรื่องข้อมูลที่เริ่มหมดคุณภาพ การใช้พลังงานมหาศาล และที่สำคัญคือโมเดลยังไม่เข้าใจเหตุและผลอย่างแท้จริง หลายคนเสนอแนวทางใหม่ เช่น สถาปัตยกรรมแบบ neurosymbolic ที่ผสมผสานการเรียนรู้เชิงสถิติและตรรกะ หรือ “world models” ที่จำลองการรับรู้โลกแบบมนุษย์ เพื่อให้ AI ไม่ใช่แค่ตอบได้ แต่เข้าใจจริง ๆ https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/agi-is-a-pipe-dream-until-we-solve-one-big-problem-ai-experts-say-even-as-google-celebrates-geminis-success

    เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ 14 ปีในอินโดนีเซียถูกโค่น
    นักวิจัย Malanta.ai พบโครงสร้างอาชญากรรมไซเบอร์ขนาดมหึมาในอินโดนีเซียที่ดำเนินการต่อเนื่องกว่า 14 ปี มีการควบคุมโดเมนกว่า 320,000 แห่ง รวมถึงซับโดเมนของรัฐบาลที่ถูกแฮ็ก ใช้แพลตฟอร์มคลาวด์อย่าง AWS และ Firebase ในการสั่งการมัลแวร์ และสร้างแอป Android ปลอมที่กระจายไปทั่ว ผลคือข้อมูลล็อกอินการพนันกว่า 50,000 รายการถูกขโมยไป นักวิจัยตั้งข้อสงสัยว่านี่อาจไม่ใช่แค่กลุ่มอาชญากรทั่วไป แต่มีลักษณะคล้ายปฏิบัติการระดับรัฐ https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia

    บอร์ด Framework เก่าถูกชุบชีวิตเป็นคลัสเตอร์คอมพิวเตอร์
    โครงการ Kickstarter ที่ชื่อ FrameCluster เสนอไอเดียเปลี่ยนเมนบอร์ด Framework ที่ไม่ได้ใช้แล้วให้กลายเป็นระบบคลัสเตอร์ขนาดเล็ก โดยใช้ชิ้นส่วนที่พิมพ์ 3D ทั้งหมด มันไม่ได้เน้นพลังประมวลผลสูงสุด แต่เน้นการจัดระเบียบและการนำฮาร์ดแวร์เก่ามาใช้ใหม่ เหมาะสำหรับงานทดลองหรือโฮสต์เซอร์วิสเล็ก ๆ แม้จะยังระดมทุนได้ไม่มาก แต่ก็เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการรีไซเคิลเทคโนโลยีให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง https://www.techradar.com/pro/your-own-supercomputer-made-up-of-old-framework-motherboards-this-kickstarter-project-aims-to-achieve-just-that

    รีวิว Fairphone Fairbuds XL 2025 หูฟังรักษ์โลก
    Fairphone เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ Fairbuds XL 2025 ที่ยังคงจุดขายด้านความยั่งยืน ใช้วัสดุรีไซเคิลและแร่ธาตุที่ได้จากการทำเหมืองอย่างเป็นธรรม จุดเด่นคือการควบคุมด้วยจอยสติ๊กเล็ก ๆ ที่ใช้งานง่ายและสนุก เสียงออกมาแนวสนุกสนาน มีพลังเบส แต่ยังไม่ละเอียดเท่าคู่แข่งรายใหญ่ จุดที่อาจทำให้ลังเลคือราคาที่สูงกว่าแบรนด์อื่น และฟีเจอร์เสริมที่ยังไม่ครบ แต่ถ้ามองเรื่องสิ่งแวดล้อมและการใช้งานระยะยาว หูฟังนี้ถือว่าโดดเด่นมาก https://www.techradar.com/audio/wireless-headphones/fairphone-fairbuds-xl-2025-review

    7 มือถือแนะนำสำหรับของขวัญคริสต์มาส
    TechRadar รวบรวมมือถือที่เหมาะจะซื้อเป็นของขวัญคริสต์มาสปีนี้ โดยแบ่งตามกลุ่มผู้ใช้ เช่น สำหรับทุกคนทั่วไปมีตัวเลือกอย่าง iPhone 17, Samsung Galaxy S25 และ Google Pixel 10 ส่วนวัยรุ่นเหมาะกับ iPhone 16 ที่ยังเร็วและรองรับอัปเดตอีกหลายปี สำหรับพ่อแม่แนะนำ Samsung Galaxy A36 ที่จอใหญ่ แบตอึด และราคาคุ้มค่า ถ้าเป็นแฟน Apple ก็มี iPhone 17 Pro ที่ครบเครื่อง หรือถ้าเป็นสาย Android ตัวแรง OnePlus 15 ก็เป็นดาวเด่นปีนี้ เรียกว่ามีตัวเลือกสำหรับทุกสไตล์และงบประมาณ https://www.techradar.com/phones/buying-someone-a-new-phone-this-christmas-here-are-my-7-expert-recommendations-for-every-type-of-person

    โฆษณาใน Gemini ยังไม่มา แต่อนาคตอาจเลี่ยงไม่พ้น
    ช่วงนี้โลก AI กำลังถูกจับตามองเรื่องโฆษณาในแชตบอท หลังจากที่ผู้ใช้ ChatGPT แบบโปรราคา 200 ดอลลาร์ต่อเดือนเจอ “app suggestions” โผล่มาเหมือนโฆษณา จนบริษัทต้องรีบถอดออกและยอมรับว่าพลาดไป ขณะที่คู่แข่งอย่าง Google Gemini รีบออกมาปฏิเสธข่าวลือว่าไม่มีแผนจะใส่โฆษณาในแอปตอนนี้ แต่คำว่า “ตอนนี้” ก็ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัย เพราะค่าใช้จ่ายมหาศาลในการดูแลระบบ AI อาจทำให้วันหนึ่งโฆษณากลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องนี้สะท้อนว่าอนาคตของผู้ช่วย AI อาจไม่พ้นการกลายเป็นพื้นที่โฆษณา เพียงแต่จะมาเมื่อไหร่เท่านั้น https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/ads-arent-coming-to-gemini-google-says-but-openai-has-shown-that-the-inevitable-is-coming

    Xiaomi และ Motorola เตรียมส่งแท็กคู่แข่ง AirTag
    ตั้งแต่ Apple เปิดตัว AirTag ในปี 2021 ก็แทบจะครองตลาดอุปกรณ์ติดตามของหาย ล่าสุดมีข่าวลือว่า Xiaomi และ Motorola กำลังจะเปิดตัวแท็กของตัวเอง โดยทั้งคู่จะรองรับเทคโนโลยี ultra wide-band ที่แม่นยำกว่าเดิม Xiaomi อาจเปิดตัวพร้อมมือถือรุ่นใหม่ปลายปี ส่วน Motorola ก็มีภาพหลุดของ Moto Tag 2 ที่จะมาพร้อมสีใหม่และกันน้ำได้ด้วย ราคายังไม่ประกาศ แต่คาดว่าจะใกล้เคียงกับรุ่นก่อนที่ขายราว 40 ดอลลาร์ ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Android ที่อยากได้ตัวเลือกใหม่ในการติดตามของสำคัญ https://www.techradar.com/phones/android/forget-apple-airtags-motorola-and-xiaomi-are-rumored-to-be-launching-android-equivalents-soon

    Dyson V8 Cyclone รุ่นพื้นฐานที่ทำความสะอาดได้เกินคาด
    นักรีวิวเครื่องดูดฝุ่นจาก TechRadar ได้ลอง Dyson V8 Cyclone ซึ่งเป็นรุ่นพื้นฐาน ไม่มีฟีเจอร์ล้ำ ๆ เหมือนรุ่นใหม่ ๆ แต่กลับทำความสะอาดได้ดีจนเหนือความคาดหมาย ในการทดสอบเปรียบเทียบกับรุ่นไฮเทคอย่าง Dyson V16 และ Shark Detect Pro รุ่น V8 Cyclone กลับทำคะแนนสูงกว่า จุดเด่นคือแรงดูดและหัวดูดที่ออกแบบเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ทำให้ตั้งคำถามว่าบางครั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบซับซ้อนเกินไปอาจไม่ได้ช่วยให้ใช้งานดีขึ้นเสมอไป https://www.techradar.com/home/vacuums/i-was-blown-away-by-this-basic-dyson-vacuums-cleaning-powers-and-im-wondering-if-modern-vacs-are-over-engineered

      IKEA เปิดตัวไฟอัจฉริยะราคาถูกที่สุด
    IKEA เปิดตัวไฟ LED รุ่นใหม่ชื่อ Gömpyssling ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เปิดปุ๊บติดปั๊บ เหมาะสำหรับติดในตู้หรือชั้นวางของ จุดเด่นคือราคาถูกมาก แค่สองชิ้นราคาเพียง 3 ปอนด์ในอังกฤษ และ 4 ยูโรในหลายประเทศยุโรป ตัวไฟทำจากพลาสติกรีไซเคิล ใช้แบตเตอรี่ AA เพียงก้อนเดียว ไม่ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือแอปใด ๆ ถือเป็นอุปกรณ์เล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในบ้านโดยไม่ต้องลงทุนเยอะ https://www.techradar.com/home/smart-home/ikea-quietly-launches-a-new-smart-light-and-its-the-simplest-and-most-affordable-one-yet

    Asus ROG Raikiri Pro คอนโทรลเลอร์พร้อมจอ OLED ลดราคาหนัก
    สำหรับสายเกมเมอร์ Asus ROG Raikiri Pro เป็นคอนโทรลเลอร์ไร้สายที่มีจอ OLED ในตัว สามารถปรับโปรไฟล์ปุ่มและตั้งค่าต่าง ๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าเมนูในเกม ล่าสุดมีโปรลดราคาจาก 149.99 ปอนด์เหลือเพียง 89.99 ปอนด์ ถือเป็นราคาต่ำสุดที่เคยมี ดีไซน์โดดเด่นด้วยไฟ RGB รอบปุ่มและตัวเครื่องกึ่งโปร่งใส เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งละเอียดหรืออยากได้คอนโทรลเลอร์ที่แตกต่างจากทั่วไป https://www.techradar.com/gaming/this-asus-controller-comes-with-a-screen-and-right-now-its-cheaper-than-ever

      Meta ลดการแชร์ข้อมูลผู้ใช้ในยุโรป
    Meta ประกาศว่าจะลดการแชร์ข้อมูลของผู้ใช้ในสหภาพยุโรปภายในปี 2026 เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนปรับตามกฎหมาย GDPR การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ข้อมูลที่ส่งต่อระหว่างบริการต่าง ๆ ของ Meta เช่น Facebook และ Instagram ถูกจำกัดมากขึ้น ถือเป็นการตอบสนองต่อแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปที่เข้มงวดเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ https://www.techradar.com/pro/meta-promises-to-reduce-data-sharing-for-eu-users-by-2026-to-avoid-eu-gdpr-fines

      รีวิวกล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro
    กล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro รุ่นใหม่มาพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม เช่น การบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง และระบบช่วยตรวจจับเหตุการณ์ แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย รีวิวจาก TechRadar ระบุว่าถึงแม้คุณภาพดี แต่คู่แข่งที่ราคาถูกกว่ากลับทำได้ใกล้เคียงหรือบางรุ่นดีกว่า ทำให้ U3000 Pro อาจเหมาะกับคนที่ต้องการฟีเจอร์ครบ ๆ และไม่กังวลเรื่องงบประมาณ https://www.techradar.com/vehicle-tech/dash-cams/i-tested-the-thinkware-u3000-pro-dash-cam-and-it-has-heaps-of-potential-but-its-outshone-by-affordable-rivals

    สร้างห้องทำงานที่บ้านให้สมบูรณ์แบบ
    เรื่องนี้พูดถึงการจัดห้องทำงานที่บ้านให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ทรงพลังและสะดวกสบายที่สุด เขาแนะนำอุปกรณ์สำคัญตั้งแต่แล็ปท็อปที่แรงพอสำหรับงานหนักอย่าง Dell 16 Premium ไปจนถึงเก้าอี้ Branch Verve ที่นั่งได้นานโดยไม่เมื่อย รวมถึงโต๊ะยืน FlexiSpot E7 ที่ปรับระดับได้ง่าย เครื่องพิมพ์ Epson EcoTank ที่ประหยัดหมึก และจอมอนิเตอร์ Dell UltraSharp ที่ภาพคมชัด นอกจากนี้ยังมีเมาส์ Logitech MX Master 3S ที่ใช้งานได้เงียบและแม่นยำ รวมถึงระบบ Wi-Fi 7 จาก TP-Link Deco ที่ทำให้การเชื่อมต่อเสถียร สุดท้ายยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Docking Station, SSD พกพา Samsung T9, Cloud Storage iDrive และหูฟัง Jabra Evolve2 75 ที่ช่วยให้การประชุมออนไลน์ชัดเจน ทั้งหมดนี้คือการรวมอุปกรณ์ที่ทำให้การทำงานจากบ้านมีประสิทธิภาพและสบายใจมากขึ้น https://www.techradar.com/home/create-the-ultimate-work-from-home-setup

    LinkedIn เดินหน้าตรวจสอบตัวตนผู้ใช้ทุกคน
    LinkedIn ประกาศความสำเร็จในการทำให้มีผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนกว่า 100 ล้านบัญชี และยังตั้งเป้าว่าจะทำให้ทุกบัญชี ทุกบริษัท และทุกตำแหน่งงานมีการยืนยันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น การยืนยันนี้ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมมากขึ้นถึงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ LinkedIn ยังเปิด API ให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Zoom นำสถานะการยืนยันไปแสดงในโปรไฟล์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการประชุมออนไลน์ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ LinkedIn ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ของความน่าเชื่อถือบนโลกดิจิทัล https://www.techradar.com/pro/linkedin-wants-every-user-to-be-verified

    โน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ OLED ขยายได้จาก Lenovo
    มีข่าวลือว่า Lenovo เตรียมเปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งรุ่นใหม่ชื่อ Legion Pro Rollable ที่มาพร้อมจอ OLED แบบขยายได้ในแนวนอน ซึ่งจะกลายเป็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ Ultrawide รุ่นแรกของโลก หากเป็นจริงจะเปิดตัวในงาน CES 2026 จุดเด่นคือหน้าจอสามารถขยายออกไปด้านข้างเพื่อเพิ่มพื้นที่การเล่นเกมหรือทำงานแบบมัลติทาสก์ คาดว่าจะใช้ซีพียู Intel Core Ultra แต่ยังไม่เปิดเผยการ์ดจอ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องราคาและน้ำหนัก แต่ถ้า Lenovo ทำได้สำเร็จ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง https://www.techradar.com/computing/gaming-laptops/lenovo-legion-pro-rollable-leak-reveals-the-worlds-first-ultrawide-oled-gaming-laptop-and-i-cant-wait-to-try-it

    การโจมตีแบบ Prompt Injection อาจไม่มีวันแก้ได้
    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งสหราชอาณาจักร (NCSC) เตือนว่าการโจมตีแบบ Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในข้อความเพื่อหลอกให้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ทำงานผิด อาจจะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์เหมือนที่เคยแก้ปัญหา SQL Injection เพราะโมเดลไม่สามารถแยกแยะระหว่างข้อมูลกับคำสั่งได้อย่างแท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้นักพัฒนามองโมเดลเหล่านี้เป็น “ผู้ช่วยที่สับสนได้” และออกแบบระบบให้จำกัดผลกระทบหากถูกโจมตี นี่เป็นการเตือนว่าการใช้ AI ต้องระวังและไม่ควรคาดหวังว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ https://www.techradar.com/pro/security/prompt-injection-attacks-might-never-be-properly-mitigated-uk-ncsc-warns

    ออสเตรเลียห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย
    กฎหมายใหม่ในออสเตรเลียเริ่มบังคับใช้แล้ว โดยห้ามผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม เช่น YouTube, Instagram, TikTok และ Snapchat หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับสูงถึง 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย มาตรการนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้ปกครองและนักปกป้องเด็ก แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและความเป็นส่วนตัวที่กังวลว่าจะกระทบสิทธิของประชาชน เด็กบางคนเริ่มหันไปใช้แอปอื่นที่ไม่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย เช่น Discord หรือ Roblox และมีแนวโน้มว่าการค้นหา VPN จะเพิ่มขึ้นเพื่อหาทางเลี่ยงข้อจำกัด https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/under-16s-social-media-ban-lands-in-australia

    Pebble Index 01 อุปกรณ์ใหม่รวมแหวนอัจฉริยะกับผู้ช่วยเสียง
    Pebble เปิดตัวอุปกรณ์ที่รวมฟังก์ชันผู้ช่วยเสียงเข้ากับสมาร์ทริงในชื่อ Pebble Index 01 จุดเด่นคือสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้โดยตรงจากแหวน เช่น เปิดเพลง ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม หรือเช็กข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ดีไซน์เรียบง่ายและทันสมัย ทำให้เป็นทั้งเครื่องประดับและอุปกรณ์เทคโนโลยีในเวลาเดียวกัน ถือเป็นการพยายามสร้างหมวดหมู่ใหม่ที่ผสมผสาน wearable กับ AI voice assistant เข้าด้วยกัน https://www.techradar.com/health-fitness/pebble-is-reinventing-voice-assistants-and-smart-rings-in-one-device-meet-the-pebble-index-01

     รัฐบาลสหรัฐฯ มองโลกในแง่ดีหลังยอดจ่ายค่าไถ่ไซเบอร์ลดลง
    ช่วงปี 2023 ถือเป็นปีที่การโจมตี ransomware พุ่งสูงสุด มีการจ่ายค่าไถ่รวมกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ แต่หลังจากที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถจัดการกับแก๊งใหญ่ ๆ อย่าง ALPHV และ LockBit ได้ ทำให้ปี 2024 ยอดการโจมตีและจำนวนเงินที่เหยื่อจ่ายลดลงเหลือประมาณ 734 ล้านดอลลาร์ แม้ยังมีแก๊งอย่าง Akira ที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ แต่ภาพรวมถือว่าการปราบปรามครั้งนี้สร้างผลกระทบชัดเจนต่อวงการอาชญากรรมไซเบอร์ https://www.techradar.com/pro/security/us-treasury-offers-cautious-optimism-as-ransomware-payments-decline

     Spotify เดินหน้าสู่ยุคใหม่ เพิ่มมิวสิกวิดีโอในแอป
    Spotify กำลังพยายามกลายเป็นเหมือน MTV ยุคดิจิทัล โดยล่าสุดเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา รวมถึงอีกหลายประเทศ สามารถดูมิวสิกวิดีโอได้โดยตรงในแอป ไม่ใช่แค่ฟังเพลงอย่างเดียว ผู้ใช้สามารถกดสลับจากโหมดเสียงไปเป็นวิดีโอได้ทันที ฟีเจอร์นี้สร้างความตื่นเต้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าประสบการณ์ดูวิดีโอยังไม่ลื่นไหลเท่า YouTube อย่างไรก็ตาม Spotify ยังคงเดินหน้าต่อยอดเพื่อขยายบริการให้ครบวงจรทั้งภาพและเสียง https://www.techradar.com/audio/spotify/spotify-steps-up-its-plan-to-be-the-new-mtv-music-videos-are-rolling-out-whether-you-want-them-or-not

     โลกการเขียนโค้ดกับเทรนด์ใหม่ “Vibe-Coding”
    คำว่า “Vibe-Coding” ถูกยกให้เป็นคำแห่งปี 2025 หมายถึงการเขียนโปรแกรมที่เน้นความรู้สึกและความคิดสร้างสรรค์มากกว่ากฎเกณฑ์ทางเทคนิค โดยใช้ AI เป็นตัวช่วยให้โค้ดเกิดขึ้นแทบจะอัตโนมัติ แนวทางนี้เปิดโอกาสให้คนที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคสามารถสร้างซอฟต์แวร์ได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย และความเสี่ยงจากโค้ดที่ไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด นักพัฒนาจึงต้องปรับบทบาทจากการเขียนโค้ดเองไปสู่การควบคุมคุณภาพและกำกับ AI ให้ทำงานอย่างถูกต้อง https://www.techradar.com/pro/the-future-of-coding-has-a-vibe-problem-balancing-creativity-with-control

     AMD เตรียมเปิดตัวชิปเกมมิ่งรุ่นใหม่ Ryzen 9850X3D
    มีภาพหลุดจาก BIOS ที่เผยให้เห็นชิป AMD Ryzen 9850X3D ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่นอัปเกรดจาก 9800X3D โดยเพิ่มความเร็วบูสต์สูงสุดถึง 5.6GHz ทำให้แรงขึ้นกว่าเดิมประมาณ 400MHz แม้ผลทดสอบเบื้องต้นยังไม่ชัดเจน แต่ถ้าชิปนี้เปิดตัวจริงในงาน CES 2026 จะเป็นข่าวดีสำหรับนักเล่นเกม เพราะนอกจากจะได้รุ่นใหม่ที่แรงขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้รุ่นเก่าราคาเริ่มถูกลงด้วย https://www.techradar.com/computing/gpu/the-fastest-gaming-cpu-could-get-a-supercharged-version-soon-as-new-amd-ryzen-9850x3d-leak-pops-up

     สหราชอาณาจักรต้องเร่งสร้างเครือข่ายอัจฉริยะเพื่อแข่งขันในยุค AI
    รายงานล่าสุดชี้ว่า AI สามารถเพิ่ม GDP ของสหราชอาณาจักรได้กว่า 550 พันล้านปอนด์ภายในปี 2035 แต่ปัญหาคือโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายยังล้าหลังมาก โดยปัจจุบันสหราชอาณาจักรถือครองพลังการประมวลผล AI เพียง 3% ของโลก ขณะที่สหรัฐฯ ครองถึง 75% หากไม่เร่งลงทุนในเครือข่ายที่เร็ว ปลอดภัย และปรับตัวได้ทันที ประเทศอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน เครือข่ายอัจฉริยะจะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจและนวัตกรรมในอนาคต https://www.techradar.com/pro/the-uk-must-build-smarter-networks-to-lead-in-ai

      IBM ทุ่มเงิน 11 พันล้านเหรียญซื้อกิจการ Confluent IBM
    กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล โดยล่าสุดมีรายงานว่าเตรียมเข้าซื้อ Confluent ด้วยมูลค่ากว่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเข้าซื้อครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะเสริมความแข็งแกร่งด้านการจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรยุค AI และคลาวด์ หากดีลนี้สำเร็จ IBM จะมีเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนและกระจายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techradar.com/pro/ibm-looks-to-secure-data-infrastructure-with-usd11bn-bid-for-confluent

      สหรัฐฯ เตรียมอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปจีน
    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะอนุญาตให้บริษัท Nvidia ส่งออกชิปประสิทธิภาพสูงรุ่น H200 ไปยังจีน หลังจากก่อนหน้านี้มีการจำกัดการขายเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในงานด้าน AI และการทหาร การผ่อนปรนครั้งนี้อาจช่วยให้ Nvidia ขยายตลาดและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการตัดสินใจดังกล่าวอาจส่งผลต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ https://www.techradar.com/pro/trump-set-to-allow-nvidia-h200-chips-to-be-exported-to-china
    📌📡🟢 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟢📡📌 #รวมข่าวIT #20251210 #TechRadar 🧠 ความฝัน AGI ที่ยังไกลเกินเอื้อม นักวิจัย AI ในงานประชุม NeurIPS 2025 ออกมาเตือนว่า แม้ Google จะฉลองความสำเร็จของ Gemini 3 แต่ความจริงแล้วการสร้าง “ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป” หรือ AGI ยังห่างไกลมาก ปัญหาคือการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ทำให้มันฉลาดขึ้นจริง ๆ แต่กลับติดกำแพงที่เรียกว่า “scaling wall” ทั้งเรื่องข้อมูลที่เริ่มหมดคุณภาพ การใช้พลังงานมหาศาล และที่สำคัญคือโมเดลยังไม่เข้าใจเหตุและผลอย่างแท้จริง หลายคนเสนอแนวทางใหม่ เช่น สถาปัตยกรรมแบบ neurosymbolic ที่ผสมผสานการเรียนรู้เชิงสถิติและตรรกะ หรือ “world models” ที่จำลองการรับรู้โลกแบบมนุษย์ เพื่อให้ AI ไม่ใช่แค่ตอบได้ แต่เข้าใจจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/agi-is-a-pipe-dream-until-we-solve-one-big-problem-ai-experts-say-even-as-google-celebrates-geminis-success 🕵️ เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ 14 ปีในอินโดนีเซียถูกโค่น นักวิจัย Malanta.ai พบโครงสร้างอาชญากรรมไซเบอร์ขนาดมหึมาในอินโดนีเซียที่ดำเนินการต่อเนื่องกว่า 14 ปี มีการควบคุมโดเมนกว่า 320,000 แห่ง รวมถึงซับโดเมนของรัฐบาลที่ถูกแฮ็ก ใช้แพลตฟอร์มคลาวด์อย่าง AWS และ Firebase ในการสั่งการมัลแวร์ และสร้างแอป Android ปลอมที่กระจายไปทั่ว ผลคือข้อมูลล็อกอินการพนันกว่า 50,000 รายการถูกขโมยไป นักวิจัยตั้งข้อสงสัยว่านี่อาจไม่ใช่แค่กลุ่มอาชญากรทั่วไป แต่มีลักษณะคล้ายปฏิบัติการระดับรัฐ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia 🖥️ บอร์ด Framework เก่าถูกชุบชีวิตเป็นคลัสเตอร์คอมพิวเตอร์ โครงการ Kickstarter ที่ชื่อ FrameCluster เสนอไอเดียเปลี่ยนเมนบอร์ด Framework ที่ไม่ได้ใช้แล้วให้กลายเป็นระบบคลัสเตอร์ขนาดเล็ก โดยใช้ชิ้นส่วนที่พิมพ์ 3D ทั้งหมด มันไม่ได้เน้นพลังประมวลผลสูงสุด แต่เน้นการจัดระเบียบและการนำฮาร์ดแวร์เก่ามาใช้ใหม่ เหมาะสำหรับงานทดลองหรือโฮสต์เซอร์วิสเล็ก ๆ แม้จะยังระดมทุนได้ไม่มาก แต่ก็เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการรีไซเคิลเทคโนโลยีให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/your-own-supercomputer-made-up-of-old-framework-motherboards-this-kickstarter-project-aims-to-achieve-just-that 🎧 รีวิว Fairphone Fairbuds XL 2025 หูฟังรักษ์โลก Fairphone เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ Fairbuds XL 2025 ที่ยังคงจุดขายด้านความยั่งยืน ใช้วัสดุรีไซเคิลและแร่ธาตุที่ได้จากการทำเหมืองอย่างเป็นธรรม จุดเด่นคือการควบคุมด้วยจอยสติ๊กเล็ก ๆ ที่ใช้งานง่ายและสนุก เสียงออกมาแนวสนุกสนาน มีพลังเบส แต่ยังไม่ละเอียดเท่าคู่แข่งรายใหญ่ จุดที่อาจทำให้ลังเลคือราคาที่สูงกว่าแบรนด์อื่น และฟีเจอร์เสริมที่ยังไม่ครบ แต่ถ้ามองเรื่องสิ่งแวดล้อมและการใช้งานระยะยาว หูฟังนี้ถือว่าโดดเด่นมาก 🔗 https://www.techradar.com/audio/wireless-headphones/fairphone-fairbuds-xl-2025-review 🎄 7 มือถือแนะนำสำหรับของขวัญคริสต์มาส TechRadar รวบรวมมือถือที่เหมาะจะซื้อเป็นของขวัญคริสต์มาสปีนี้ โดยแบ่งตามกลุ่มผู้ใช้ เช่น สำหรับทุกคนทั่วไปมีตัวเลือกอย่าง iPhone 17, Samsung Galaxy S25 และ Google Pixel 10 ส่วนวัยรุ่นเหมาะกับ iPhone 16 ที่ยังเร็วและรองรับอัปเดตอีกหลายปี สำหรับพ่อแม่แนะนำ Samsung Galaxy A36 ที่จอใหญ่ แบตอึด และราคาคุ้มค่า ถ้าเป็นแฟน Apple ก็มี iPhone 17 Pro ที่ครบเครื่อง หรือถ้าเป็นสาย Android ตัวแรง OnePlus 15 ก็เป็นดาวเด่นปีนี้ เรียกว่ามีตัวเลือกสำหรับทุกสไตล์และงบประมาณ 🔗 https://www.techradar.com/phones/buying-someone-a-new-phone-this-christmas-here-are-my-7-expert-recommendations-for-every-type-of-person 📰 โฆษณาใน Gemini ยังไม่มา แต่อนาคตอาจเลี่ยงไม่พ้น ช่วงนี้โลก AI กำลังถูกจับตามองเรื่องโฆษณาในแชตบอท หลังจากที่ผู้ใช้ ChatGPT แบบโปรราคา 200 ดอลลาร์ต่อเดือนเจอ “app suggestions” โผล่มาเหมือนโฆษณา จนบริษัทต้องรีบถอดออกและยอมรับว่าพลาดไป ขณะที่คู่แข่งอย่าง Google Gemini รีบออกมาปฏิเสธข่าวลือว่าไม่มีแผนจะใส่โฆษณาในแอปตอนนี้ แต่คำว่า “ตอนนี้” ก็ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัย เพราะค่าใช้จ่ายมหาศาลในการดูแลระบบ AI อาจทำให้วันหนึ่งโฆษณากลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องนี้สะท้อนว่าอนาคตของผู้ช่วย AI อาจไม่พ้นการกลายเป็นพื้นที่โฆษณา เพียงแต่จะมาเมื่อไหร่เท่านั้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/ads-arent-coming-to-gemini-google-says-but-openai-has-shown-that-the-inevitable-is-coming 📱 Xiaomi และ Motorola เตรียมส่งแท็กคู่แข่ง AirTag ตั้งแต่ Apple เปิดตัว AirTag ในปี 2021 ก็แทบจะครองตลาดอุปกรณ์ติดตามของหาย ล่าสุดมีข่าวลือว่า Xiaomi และ Motorola กำลังจะเปิดตัวแท็กของตัวเอง โดยทั้งคู่จะรองรับเทคโนโลยี ultra wide-band ที่แม่นยำกว่าเดิม Xiaomi อาจเปิดตัวพร้อมมือถือรุ่นใหม่ปลายปี ส่วน Motorola ก็มีภาพหลุดของ Moto Tag 2 ที่จะมาพร้อมสีใหม่และกันน้ำได้ด้วย ราคายังไม่ประกาศ แต่คาดว่าจะใกล้เคียงกับรุ่นก่อนที่ขายราว 40 ดอลลาร์ ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Android ที่อยากได้ตัวเลือกใหม่ในการติดตามของสำคัญ 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/forget-apple-airtags-motorola-and-xiaomi-are-rumored-to-be-launching-android-equivalents-soon 🧹 Dyson V8 Cyclone รุ่นพื้นฐานที่ทำความสะอาดได้เกินคาด นักรีวิวเครื่องดูดฝุ่นจาก TechRadar ได้ลอง Dyson V8 Cyclone ซึ่งเป็นรุ่นพื้นฐาน ไม่มีฟีเจอร์ล้ำ ๆ เหมือนรุ่นใหม่ ๆ แต่กลับทำความสะอาดได้ดีจนเหนือความคาดหมาย ในการทดสอบเปรียบเทียบกับรุ่นไฮเทคอย่าง Dyson V16 และ Shark Detect Pro รุ่น V8 Cyclone กลับทำคะแนนสูงกว่า จุดเด่นคือแรงดูดและหัวดูดที่ออกแบบเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ทำให้ตั้งคำถามว่าบางครั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบซับซ้อนเกินไปอาจไม่ได้ช่วยให้ใช้งานดีขึ้นเสมอไป 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/i-was-blown-away-by-this-basic-dyson-vacuums-cleaning-powers-and-im-wondering-if-modern-vacs-are-over-engineered 💡  IKEA เปิดตัวไฟอัจฉริยะราคาถูกที่สุด IKEA เปิดตัวไฟ LED รุ่นใหม่ชื่อ Gömpyssling ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เปิดปุ๊บติดปั๊บ เหมาะสำหรับติดในตู้หรือชั้นวางของ จุดเด่นคือราคาถูกมาก แค่สองชิ้นราคาเพียง 3 ปอนด์ในอังกฤษ และ 4 ยูโรในหลายประเทศยุโรป ตัวไฟทำจากพลาสติกรีไซเคิล ใช้แบตเตอรี่ AA เพียงก้อนเดียว ไม่ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือแอปใด ๆ ถือเป็นอุปกรณ์เล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในบ้านโดยไม่ต้องลงทุนเยอะ 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/ikea-quietly-launches-a-new-smart-light-and-its-the-simplest-and-most-affordable-one-yet 🎮 Asus ROG Raikiri Pro คอนโทรลเลอร์พร้อมจอ OLED ลดราคาหนัก สำหรับสายเกมเมอร์ Asus ROG Raikiri Pro เป็นคอนโทรลเลอร์ไร้สายที่มีจอ OLED ในตัว สามารถปรับโปรไฟล์ปุ่มและตั้งค่าต่าง ๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าเมนูในเกม ล่าสุดมีโปรลดราคาจาก 149.99 ปอนด์เหลือเพียง 89.99 ปอนด์ ถือเป็นราคาต่ำสุดที่เคยมี ดีไซน์โดดเด่นด้วยไฟ RGB รอบปุ่มและตัวเครื่องกึ่งโปร่งใส เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งละเอียดหรืออยากได้คอนโทรลเลอร์ที่แตกต่างจากทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/gaming/this-asus-controller-comes-with-a-screen-and-right-now-its-cheaper-than-ever 🌐  Meta ลดการแชร์ข้อมูลผู้ใช้ในยุโรป Meta ประกาศว่าจะลดการแชร์ข้อมูลของผู้ใช้ในสหภาพยุโรปภายในปี 2026 เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนปรับตามกฎหมาย GDPR การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ข้อมูลที่ส่งต่อระหว่างบริการต่าง ๆ ของ Meta เช่น Facebook และ Instagram ถูกจำกัดมากขึ้น ถือเป็นการตอบสนองต่อแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปที่เข้มงวดเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/meta-promises-to-reduce-data-sharing-for-eu-users-by-2026-to-avoid-eu-gdpr-fines 🚗  รีวิวกล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro กล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro รุ่นใหม่มาพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม เช่น การบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง และระบบช่วยตรวจจับเหตุการณ์ แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย รีวิวจาก TechRadar ระบุว่าถึงแม้คุณภาพดี แต่คู่แข่งที่ราคาถูกกว่ากลับทำได้ใกล้เคียงหรือบางรุ่นดีกว่า ทำให้ U3000 Pro อาจเหมาะกับคนที่ต้องการฟีเจอร์ครบ ๆ และไม่กังวลเรื่องงบประมาณ 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/dash-cams/i-tested-the-thinkware-u3000-pro-dash-cam-and-it-has-heaps-of-potential-but-its-outshone-by-affordable-rivals 🖥️ สร้างห้องทำงานที่บ้านให้สมบูรณ์แบบ เรื่องนี้พูดถึงการจัดห้องทำงานที่บ้านให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ทรงพลังและสะดวกสบายที่สุด เขาแนะนำอุปกรณ์สำคัญตั้งแต่แล็ปท็อปที่แรงพอสำหรับงานหนักอย่าง Dell 16 Premium ไปจนถึงเก้าอี้ Branch Verve ที่นั่งได้นานโดยไม่เมื่อย รวมถึงโต๊ะยืน FlexiSpot E7 ที่ปรับระดับได้ง่าย เครื่องพิมพ์ Epson EcoTank ที่ประหยัดหมึก และจอมอนิเตอร์ Dell UltraSharp ที่ภาพคมชัด นอกจากนี้ยังมีเมาส์ Logitech MX Master 3S ที่ใช้งานได้เงียบและแม่นยำ รวมถึงระบบ Wi-Fi 7 จาก TP-Link Deco ที่ทำให้การเชื่อมต่อเสถียร สุดท้ายยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Docking Station, SSD พกพา Samsung T9, Cloud Storage iDrive และหูฟัง Jabra Evolve2 75 ที่ช่วยให้การประชุมออนไลน์ชัดเจน ทั้งหมดนี้คือการรวมอุปกรณ์ที่ทำให้การทำงานจากบ้านมีประสิทธิภาพและสบายใจมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/home/create-the-ultimate-work-from-home-setup 🔒 LinkedIn เดินหน้าตรวจสอบตัวตนผู้ใช้ทุกคน LinkedIn ประกาศความสำเร็จในการทำให้มีผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนกว่า 100 ล้านบัญชี และยังตั้งเป้าว่าจะทำให้ทุกบัญชี ทุกบริษัท และทุกตำแหน่งงานมีการยืนยันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น การยืนยันนี้ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมมากขึ้นถึงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ LinkedIn ยังเปิด API ให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Zoom นำสถานะการยืนยันไปแสดงในโปรไฟล์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการประชุมออนไลน์ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ LinkedIn ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ของความน่าเชื่อถือบนโลกดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/linkedin-wants-every-user-to-be-verified 🎮 โน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ OLED ขยายได้จาก Lenovo มีข่าวลือว่า Lenovo เตรียมเปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งรุ่นใหม่ชื่อ Legion Pro Rollable ที่มาพร้อมจอ OLED แบบขยายได้ในแนวนอน ซึ่งจะกลายเป็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ Ultrawide รุ่นแรกของโลก หากเป็นจริงจะเปิดตัวในงาน CES 2026 จุดเด่นคือหน้าจอสามารถขยายออกไปด้านข้างเพื่อเพิ่มพื้นที่การเล่นเกมหรือทำงานแบบมัลติทาสก์ คาดว่าจะใช้ซีพียู Intel Core Ultra แต่ยังไม่เปิดเผยการ์ดจอ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องราคาและน้ำหนัก แต่ถ้า Lenovo ทำได้สำเร็จ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง 🔗 https://www.techradar.com/computing/gaming-laptops/lenovo-legion-pro-rollable-leak-reveals-the-worlds-first-ultrawide-oled-gaming-laptop-and-i-cant-wait-to-try-it ⚠️ การโจมตีแบบ Prompt Injection อาจไม่มีวันแก้ได้ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งสหราชอาณาจักร (NCSC) เตือนว่าการโจมตีแบบ Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในข้อความเพื่อหลอกให้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ทำงานผิด อาจจะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์เหมือนที่เคยแก้ปัญหา SQL Injection เพราะโมเดลไม่สามารถแยกแยะระหว่างข้อมูลกับคำสั่งได้อย่างแท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้นักพัฒนามองโมเดลเหล่านี้เป็น “ผู้ช่วยที่สับสนได้” และออกแบบระบบให้จำกัดผลกระทบหากถูกโจมตี นี่เป็นการเตือนว่าการใช้ AI ต้องระวังและไม่ควรคาดหวังว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/prompt-injection-attacks-might-never-be-properly-mitigated-uk-ncsc-warns 🚫 ออสเตรเลียห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย กฎหมายใหม่ในออสเตรเลียเริ่มบังคับใช้แล้ว โดยห้ามผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม เช่น YouTube, Instagram, TikTok และ Snapchat หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับสูงถึง 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย มาตรการนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้ปกครองและนักปกป้องเด็ก แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและความเป็นส่วนตัวที่กังวลว่าจะกระทบสิทธิของประชาชน เด็กบางคนเริ่มหันไปใช้แอปอื่นที่ไม่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย เช่น Discord หรือ Roblox และมีแนวโน้มว่าการค้นหา VPN จะเพิ่มขึ้นเพื่อหาทางเลี่ยงข้อจำกัด 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/under-16s-social-media-ban-lands-in-australia 💍 Pebble Index 01 อุปกรณ์ใหม่รวมแหวนอัจฉริยะกับผู้ช่วยเสียง Pebble เปิดตัวอุปกรณ์ที่รวมฟังก์ชันผู้ช่วยเสียงเข้ากับสมาร์ทริงในชื่อ Pebble Index 01 จุดเด่นคือสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้โดยตรงจากแหวน เช่น เปิดเพลง ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม หรือเช็กข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ดีไซน์เรียบง่ายและทันสมัย ทำให้เป็นทั้งเครื่องประดับและอุปกรณ์เทคโนโลยีในเวลาเดียวกัน ถือเป็นการพยายามสร้างหมวดหมู่ใหม่ที่ผสมผสาน wearable กับ AI voice assistant เข้าด้วยกัน 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/pebble-is-reinventing-voice-assistants-and-smart-rings-in-one-device-meet-the-pebble-index-01 🛡️ รัฐบาลสหรัฐฯ มองโลกในแง่ดีหลังยอดจ่ายค่าไถ่ไซเบอร์ลดลง ช่วงปี 2023 ถือเป็นปีที่การโจมตี ransomware พุ่งสูงสุด มีการจ่ายค่าไถ่รวมกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ แต่หลังจากที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถจัดการกับแก๊งใหญ่ ๆ อย่าง ALPHV และ LockBit ได้ ทำให้ปี 2024 ยอดการโจมตีและจำนวนเงินที่เหยื่อจ่ายลดลงเหลือประมาณ 734 ล้านดอลลาร์ แม้ยังมีแก๊งอย่าง Akira ที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ แต่ภาพรวมถือว่าการปราบปรามครั้งนี้สร้างผลกระทบชัดเจนต่อวงการอาชญากรรมไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/us-treasury-offers-cautious-optimism-as-ransomware-payments-decline 🎵 Spotify เดินหน้าสู่ยุคใหม่ เพิ่มมิวสิกวิดีโอในแอป Spotify กำลังพยายามกลายเป็นเหมือน MTV ยุคดิจิทัล โดยล่าสุดเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา รวมถึงอีกหลายประเทศ สามารถดูมิวสิกวิดีโอได้โดยตรงในแอป ไม่ใช่แค่ฟังเพลงอย่างเดียว ผู้ใช้สามารถกดสลับจากโหมดเสียงไปเป็นวิดีโอได้ทันที ฟีเจอร์นี้สร้างความตื่นเต้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าประสบการณ์ดูวิดีโอยังไม่ลื่นไหลเท่า YouTube อย่างไรก็ตาม Spotify ยังคงเดินหน้าต่อยอดเพื่อขยายบริการให้ครบวงจรทั้งภาพและเสียง 🔗 https://www.techradar.com/audio/spotify/spotify-steps-up-its-plan-to-be-the-new-mtv-music-videos-are-rolling-out-whether-you-want-them-or-not 💻 โลกการเขียนโค้ดกับเทรนด์ใหม่ “Vibe-Coding” คำว่า “Vibe-Coding” ถูกยกให้เป็นคำแห่งปี 2025 หมายถึงการเขียนโปรแกรมที่เน้นความรู้สึกและความคิดสร้างสรรค์มากกว่ากฎเกณฑ์ทางเทคนิค โดยใช้ AI เป็นตัวช่วยให้โค้ดเกิดขึ้นแทบจะอัตโนมัติ แนวทางนี้เปิดโอกาสให้คนที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคสามารถสร้างซอฟต์แวร์ได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย และความเสี่ยงจากโค้ดที่ไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด นักพัฒนาจึงต้องปรับบทบาทจากการเขียนโค้ดเองไปสู่การควบคุมคุณภาพและกำกับ AI ให้ทำงานอย่างถูกต้อง 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-future-of-coding-has-a-vibe-problem-balancing-creativity-with-control ⚡ AMD เตรียมเปิดตัวชิปเกมมิ่งรุ่นใหม่ Ryzen 9850X3D มีภาพหลุดจาก BIOS ที่เผยให้เห็นชิป AMD Ryzen 9850X3D ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่นอัปเกรดจาก 9800X3D โดยเพิ่มความเร็วบูสต์สูงสุดถึง 5.6GHz ทำให้แรงขึ้นกว่าเดิมประมาณ 400MHz แม้ผลทดสอบเบื้องต้นยังไม่ชัดเจน แต่ถ้าชิปนี้เปิดตัวจริงในงาน CES 2026 จะเป็นข่าวดีสำหรับนักเล่นเกม เพราะนอกจากจะได้รุ่นใหม่ที่แรงขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้รุ่นเก่าราคาเริ่มถูกลงด้วย 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/the-fastest-gaming-cpu-could-get-a-supercharged-version-soon-as-new-amd-ryzen-9850x3d-leak-pops-up 🌐 สหราชอาณาจักรต้องเร่งสร้างเครือข่ายอัจฉริยะเพื่อแข่งขันในยุค AI รายงานล่าสุดชี้ว่า AI สามารถเพิ่ม GDP ของสหราชอาณาจักรได้กว่า 550 พันล้านปอนด์ภายในปี 2035 แต่ปัญหาคือโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายยังล้าหลังมาก โดยปัจจุบันสหราชอาณาจักรถือครองพลังการประมวลผล AI เพียง 3% ของโลก ขณะที่สหรัฐฯ ครองถึง 75% หากไม่เร่งลงทุนในเครือข่ายที่เร็ว ปลอดภัย และปรับตัวได้ทันที ประเทศอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน เครือข่ายอัจฉริยะจะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจและนวัตกรรมในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-uk-must-build-smarter-networks-to-lead-in-ai 💼  IBM ทุ่มเงิน 11 พันล้านเหรียญซื้อกิจการ Confluent IBM กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล โดยล่าสุดมีรายงานว่าเตรียมเข้าซื้อ Confluent ด้วยมูลค่ากว่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเข้าซื้อครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะเสริมความแข็งแกร่งด้านการจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรยุค AI และคลาวด์ หากดีลนี้สำเร็จ IBM จะมีเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนและกระจายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/ibm-looks-to-secure-data-infrastructure-with-usd11bn-bid-for-confluent 🇨🇳  สหรัฐฯ เตรียมอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปจีน รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะอนุญาตให้บริษัท Nvidia ส่งออกชิปประสิทธิภาพสูงรุ่น H200 ไปยังจีน หลังจากก่อนหน้านี้มีการจำกัดการขายเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในงานด้าน AI และการทหาร การผ่อนปรนครั้งนี้อาจช่วยให้ Nvidia ขยายตลาดและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการตัดสินใจดังกล่าวอาจส่งผลต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ 🔗 https://www.techradar.com/pro/trump-set-to-allow-nvidia-h200-chips-to-be-exported-to-china
    0 Comments 0 Shares 664 Views 0 Reviews
  • "5 ฟีเจอร์สำคัญที่ Smart TV รุ่นใหม่ต้องมี"

    Smart TV กลายเป็นอุปกรณ์หลักในบ้านยุคดิจิทัล แต่การเลือกซื้อไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตลาดเต็มไปด้วยคำย่ออย่าง OLED, QLED, Mini-LED และระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย บทความนี้แนะนำ 5 ฟีเจอร์ที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้การลงทุนคุ้มค่าและใช้งานได้ยาวนาน

    1️⃣ ระบบปฏิบัติการ (OS) ที่ใช้งานง่าย เช่น Google TV ที่โดดเด่นด้วยการค้นหาเนื้อหาที่สะดวก การเชื่อมต่อกับ Android ecosystem และการสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้หลายคน ทำให้การใช้งานเหมาะกับครอบครัวที่มีหลายความชอบในการดูคอนเทนต์

    2️⃣ คุณภาพภาพขั้นสูง ไม่ใช่แค่ 4K แต่ต้องเลือกแผงจอที่เหมาะสม เช่น OLED ที่ให้สีดำสนิทและคอนทราสต์สูง หรือ Mini-LED ที่เหมาะกับห้องที่มีแสงมาก พร้อมรองรับ HDR มาตรฐานใหม่อย่าง Dolby Vision และ HDR10+ เพื่อให้ภาพสมจริงยิ่งขึ้น

    3️⃣ พลังประมวลผลและรีเฟรชเรตสูง ปัจจุบันทีวีรองรับถึง 120Hz หรือ 144Hz ซึ่งจำเป็นสำหรับคอนเทนต์ที่เคลื่อนไหวเร็ว เช่น กีฬาและเกม พร้อมฟีเจอร์ AI Upscaling ที่ช่วยปรับภาพให้คมชัดแม้ต้นฉบับไม่ใช่ความละเอียดสูง

    4️⃣ ระบบเสียงล้ำสมัย เช่น Dolby Atmos, Samsung OTS หรือ LG AI Sound Pro ที่ทำให้เสียงสมจริงรอบทิศทาง และต้องมีพอร์ต HDMI eARC สำหรับการเชื่อมต่อกับระบบเสียงภายนอกแบบไม่บีบอัด

    5️⃣ การเชื่อมต่อกับ Smart Home และ AI Integration ที่ช่วยให้ทีวีเป็นศูนย์กลางควบคุมอุปกรณ์ในบ้าน เช่น ไฟ กล้อง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมฟีเจอร์ AI ที่ช่วยปรับภาพ เสียง และแม้แต่แปลซับไตเติลอัตโนมัติ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ฟีเจอร์ที่ควรมีใน Smart TV
    ระบบปฏิบัติการใช้งานง่าย เช่น Google TV
    จอ OLED หรือ Mini-LED รองรับ HDR มาตรฐานใหม่
    รีเฟรชเรตสูง 120–144Hz พร้อม AI Upscaling
    ระบบเสียง Dolby Atmos, OTS, AI Sound Pro + HDMI eARC
    Smart Home และ AI Integration

    ข้อควรระวังในการเลือกซื้อ
    ทีวีที่มี OS ช้า หรือ UI ซับซ้อน อาจทำให้ประสบการณ์ใช้งานแย่
    OLED ไม่เหมาะกับห้องที่มีแสงจ้า ควรเลือก Mini-LED แทน
    Processor ที่อ่อนเกินไปอาจทำให้ภาพกระตุกและเสียงไม่สมจริง

    https://www.slashgear.com/2043223/dont-buy-new-smart-tv-without-these-features/
    📺 "5 ฟีเจอร์สำคัญที่ Smart TV รุ่นใหม่ต้องมี" Smart TV กลายเป็นอุปกรณ์หลักในบ้านยุคดิจิทัล แต่การเลือกซื้อไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตลาดเต็มไปด้วยคำย่ออย่าง OLED, QLED, Mini-LED และระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย บทความนี้แนะนำ 5 ฟีเจอร์ที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้การลงทุนคุ้มค่าและใช้งานได้ยาวนาน 1️⃣ ระบบปฏิบัติการ (OS) ที่ใช้งานง่าย เช่น Google TV ที่โดดเด่นด้วยการค้นหาเนื้อหาที่สะดวก การเชื่อมต่อกับ Android ecosystem และการสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้หลายคน ทำให้การใช้งานเหมาะกับครอบครัวที่มีหลายความชอบในการดูคอนเทนต์ 2️⃣ คุณภาพภาพขั้นสูง ไม่ใช่แค่ 4K แต่ต้องเลือกแผงจอที่เหมาะสม เช่น OLED ที่ให้สีดำสนิทและคอนทราสต์สูง หรือ Mini-LED ที่เหมาะกับห้องที่มีแสงมาก พร้อมรองรับ HDR มาตรฐานใหม่อย่าง Dolby Vision และ HDR10+ เพื่อให้ภาพสมจริงยิ่งขึ้น 3️⃣ พลังประมวลผลและรีเฟรชเรตสูง ปัจจุบันทีวีรองรับถึง 120Hz หรือ 144Hz ซึ่งจำเป็นสำหรับคอนเทนต์ที่เคลื่อนไหวเร็ว เช่น กีฬาและเกม พร้อมฟีเจอร์ AI Upscaling ที่ช่วยปรับภาพให้คมชัดแม้ต้นฉบับไม่ใช่ความละเอียดสูง 4️⃣ ระบบเสียงล้ำสมัย เช่น Dolby Atmos, Samsung OTS หรือ LG AI Sound Pro ที่ทำให้เสียงสมจริงรอบทิศทาง และต้องมีพอร์ต HDMI eARC สำหรับการเชื่อมต่อกับระบบเสียงภายนอกแบบไม่บีบอัด 5️⃣ การเชื่อมต่อกับ Smart Home และ AI Integration ที่ช่วยให้ทีวีเป็นศูนย์กลางควบคุมอุปกรณ์ในบ้าน เช่น ไฟ กล้อง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมฟีเจอร์ AI ที่ช่วยปรับภาพ เสียง และแม้แต่แปลซับไตเติลอัตโนมัติ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ที่ควรมีใน Smart TV ➡️ ระบบปฏิบัติการใช้งานง่าย เช่น Google TV ➡️ จอ OLED หรือ Mini-LED รองรับ HDR มาตรฐานใหม่ ➡️ รีเฟรชเรตสูง 120–144Hz พร้อม AI Upscaling ➡️ ระบบเสียง Dolby Atmos, OTS, AI Sound Pro + HDMI eARC ➡️ Smart Home และ AI Integration ‼️ ข้อควรระวังในการเลือกซื้อ ⛔ ทีวีที่มี OS ช้า หรือ UI ซับซ้อน อาจทำให้ประสบการณ์ใช้งานแย่ ⛔ OLED ไม่เหมาะกับห้องที่มีแสงจ้า ควรเลือก Mini-LED แทน ⛔ Processor ที่อ่อนเกินไปอาจทำให้ภาพกระตุกและเสียงไม่สมจริง https://www.slashgear.com/2043223/dont-buy-new-smart-tv-without-these-features/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Don't Buy A New Smart TV Without These 5 Features - SlashGear
    When buying a new smart TV, look for features like a solid OS, good sound and picture quality, high processing power, and smart home integration.
    0 Comments 0 Shares 179 Views 0 Reviews
  • Samsung Electronics แต่งตั้ง TM Roh เป็น Co-CEO คนใหม่

    Samsung Electronics ประกาศแต่งตั้ง TM Roh หัวหน้าธุรกิจมือถือ (Mobile eXperience – MX) ขึ้นเป็น Co-CEO และหัวหน้าฝ่าย Device Experience (DX) ซึ่งดูแลธุรกิจมือถือ ทีวี และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน การแต่งตั้งครั้งนี้ถือเป็นการกลับสู่โครงสร้าง Co-CEO แบบดั้งเดิม หลังจากบริษัทดำเนินงานภายใต้โครงสร้าง CEO เดียวชั่วคราว

    เหตุผลและบริบทการเปลี่ยนแปลง
    ก่อนหน้านี้ Samsung ใช้โครงสร้าง CEO เดียวหลังการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของ Han Jong-Hee ในเดือนมีนาคม 2025 การแต่งตั้ง TM Roh จึงเป็นการฟื้นฟูรูปแบบการบริหารที่แบ่งความรับผิดชอบระหว่าง ธุรกิจชิป และ ธุรกิจผู้บริโภค (Consumer Devices) เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความชัดเจนในการบริหารจัดการ

    บทบาทของ TM Roh
    TM Roh เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดัน Galaxy Series โดยเฉพาะการเปิดตัว Galaxy S24 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ AI ในงาน Galaxy Unpacked ที่ซานโฮเซ สหรัฐฯ เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำที่ผลักดันนวัตกรรมมือถือและสร้างความแข็งแกร่งให้ Samsung ในการแข่งขันกับ Apple และผู้ผลิตจีน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การแต่งตั้งใหม่
    TM Roh ขึ้นเป็น Co-CEO และหัวหน้าฝ่าย Device Experience
    ฟื้นโครงสร้าง Co-CEO หลังการเสียชีวิตของ Han Jong-Hee

    โครงสร้างการบริหาร
    แบ่งความรับผิดชอบระหว่างธุรกิจชิปและธุรกิจผู้บริโภค
    เพิ่มความคล่องตัวและความชัดเจนในการบริหาร

    บทบาทของ TM Roh
    ผลักดัน Galaxy Series และนวัตกรรมมือถือ
    เปิดตัว Galaxy S24 พร้อมฟีเจอร์ AI

    คำเตือนต่อการแข่งขันในตลาด
    Samsung ต้องเผชิญแรงกดดันจาก Apple และผู้ผลิตจีน
    ความท้าทายในการรักษาความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและตลาดโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/21/samsung-elec-names-mobile-chief-as-new-co-ceo
    📱 Samsung Electronics แต่งตั้ง TM Roh เป็น Co-CEO คนใหม่ Samsung Electronics ประกาศแต่งตั้ง TM Roh หัวหน้าธุรกิจมือถือ (Mobile eXperience – MX) ขึ้นเป็น Co-CEO และหัวหน้าฝ่าย Device Experience (DX) ซึ่งดูแลธุรกิจมือถือ ทีวี และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน การแต่งตั้งครั้งนี้ถือเป็นการกลับสู่โครงสร้าง Co-CEO แบบดั้งเดิม หลังจากบริษัทดำเนินงานภายใต้โครงสร้าง CEO เดียวชั่วคราว ⚙️ เหตุผลและบริบทการเปลี่ยนแปลง ก่อนหน้านี้ Samsung ใช้โครงสร้าง CEO เดียวหลังการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของ Han Jong-Hee ในเดือนมีนาคม 2025 การแต่งตั้ง TM Roh จึงเป็นการฟื้นฟูรูปแบบการบริหารที่แบ่งความรับผิดชอบระหว่าง ธุรกิจชิป และ ธุรกิจผู้บริโภค (Consumer Devices) เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความชัดเจนในการบริหารจัดการ 🌍 บทบาทของ TM Roh TM Roh เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดัน Galaxy Series โดยเฉพาะการเปิดตัว Galaxy S24 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ AI ในงาน Galaxy Unpacked ที่ซานโฮเซ สหรัฐฯ เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำที่ผลักดันนวัตกรรมมือถือและสร้างความแข็งแกร่งให้ Samsung ในการแข่งขันกับ Apple และผู้ผลิตจีน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การแต่งตั้งใหม่ ➡️ TM Roh ขึ้นเป็น Co-CEO และหัวหน้าฝ่าย Device Experience ➡️ ฟื้นโครงสร้าง Co-CEO หลังการเสียชีวิตของ Han Jong-Hee ✅ โครงสร้างการบริหาร ➡️ แบ่งความรับผิดชอบระหว่างธุรกิจชิปและธุรกิจผู้บริโภค ➡️ เพิ่มความคล่องตัวและความชัดเจนในการบริหาร ✅ บทบาทของ TM Roh ➡️ ผลักดัน Galaxy Series และนวัตกรรมมือถือ ➡️ เปิดตัว Galaxy S24 พร้อมฟีเจอร์ AI ‼️ คำเตือนต่อการแข่งขันในตลาด ⛔ Samsung ต้องเผชิญแรงกดดันจาก Apple และผู้ผลิตจีน ⛔ ความท้าทายในการรักษาความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและตลาดโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/21/samsung-elec-names-mobile-chief-as-new-co-ceo
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Samsung Elec names mobile chief as new co-CEO
    SEOUL (Reuters) -Samsung Electronics said on Friday it has named its mobile chief TM Roh as a new co-CEO and head of its device experience division, which oversees the company's mobile phone, TV and home appliance devisions.
    0 Comments 0 Shares 286 Views 0 Reviews
  • ราชทัณฑ์ตั้งกรรมการสอบ “อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ” และเจ้าหน้าที่หลายราย หลังพบเอื้อประโยชน์นักโทษจีนเทาวีไอพี-มีเครื่องใช้ไฟฟ้าครบ ไมโครเวฟ แอร์ ของต้องห้าม รวมถึงมีสาวสวยระดับนางแบบเข้าเยี่ยมเป็นประจำ ขณะที่ข้อมูลระบุมีการจ้างนักโทษไทยดูแลให้บริการ และมีการแจ้งเบาะแสจากผู้ต้องขังไทยก่อนลุยตรวจจริง

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000111115

    #เรือนจำพิเศษกรุงเทพ #นักโทษจีนเทา #ราชทัณฑ์ #คอร์รัปชัน #อาชญากรรม #News1live #News1
    ราชทัณฑ์ตั้งกรรมการสอบ “อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ” และเจ้าหน้าที่หลายราย หลังพบเอื้อประโยชน์นักโทษจีนเทาวีไอพี-มีเครื่องใช้ไฟฟ้าครบ ไมโครเวฟ แอร์ ของต้องห้าม รวมถึงมีสาวสวยระดับนางแบบเข้าเยี่ยมเป็นประจำ ขณะที่ข้อมูลระบุมีการจ้างนักโทษไทยดูแลให้บริการ และมีการแจ้งเบาะแสจากผู้ต้องขังไทยก่อนลุยตรวจจริง • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000111115 • #เรือนจำพิเศษกรุงเทพ #นักโทษจีนเทา #ราชทัณฑ์ #คอร์รัปชัน #อาชญากรรม #News1live #News1
    Sad
    Like
    4
    1 Comments 0 Shares 573 Views 0 Reviews
  • ทำไมกล้องถ่ายภาพความร้อนถึงเป็นอุปกรณ์เสริมที่ดีที่สุดสำหรับสมาร์ทโฟน

    กล้องถ่ายภาพความร้อนที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C เช่น Thermal Master P1 กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นเครื่องมือวิเคราะห์อุณหภูมิได้ทันที โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เฉพาะทางราคาแพง จุดเด่นคือพกพาสะดวก ใช้งานง่าย และมีแอปพลิเคชันที่ช่วยวัดค่าอุณหภูมิได้อย่างละเอียด

    รายการ 10 การใช้งาน Thermal Camera
    ตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    หาจุดร้อนในคอมพิวเตอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อปรับปรุงการระบายความร้อน

    ตรวจสอบเครื่องยนต์รถยนต์
    ดูอุณหภูมิที่ผิดปกติในเครื่องยนต์ เพื่อช่วยวิเคราะห์ปัญหา

    ตรวจสอบการรั่วไหลของความร้อนในบ้าน
    หาจุดที่มีอากาศเย็นรั่วเข้ามา ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน

    ตรวจสอบระบบทำความร้อน (Heating System)
    หาจุดรั่วหรือท่อที่มีปัญหาในระบบทำความร้อน

    ตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำและความชื้น
    หาความชื้นสะสมหลังผนังหรือเพดาน ป้องกันเชื้อรา

    ใช้ในการทำอาหารและเบเกอรี่
    ตรวจสอบอุณหภูมิผิวอาหาร น้ำมัน หรือเตาอบ

    ตรวจจับสัตว์และคนในความมืด
    ใช้ดูสัตว์กลางคืน หรือเล่นเกมซ่อนหาในที่มืด

    ใช้ถ่ายภาพเชิงสร้างสรรค์
    ถ่ายภาพวิว เมือง หรือวัตถุในมุมมองความร้อนที่แปลกใหม่

    ใช้เป็นเครื่องมือการศึกษา
    กระตุ้นความสนใจเด็ก ๆ ในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

    ใช้ในงานมืออาชีพ
    ตรวจสอบอาคาร เครื่องจักร หรือระบบไฟฟ้า พร้อมสร้างรายงานจากแอป

    https://www.slashgear.com/2026375/thermal-camera-best-phone-accessory-reasons-why/
    🔥 ทำไมกล้องถ่ายภาพความร้อนถึงเป็นอุปกรณ์เสริมที่ดีที่สุดสำหรับสมาร์ทโฟน กล้องถ่ายภาพความร้อนที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C เช่น Thermal Master P1 กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นเครื่องมือวิเคราะห์อุณหภูมิได้ทันที โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เฉพาะทางราคาแพง จุดเด่นคือพกพาสะดวก ใช้งานง่าย และมีแอปพลิเคชันที่ช่วยวัดค่าอุณหภูมิได้อย่างละเอียด 📋 รายการ 10 การใช้งาน Thermal Camera ✅ ตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ➡️ หาจุดร้อนในคอมพิวเตอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อปรับปรุงการระบายความร้อน ✅ ตรวจสอบเครื่องยนต์รถยนต์ ➡️ ดูอุณหภูมิที่ผิดปกติในเครื่องยนต์ เพื่อช่วยวิเคราะห์ปัญหา ✅ ตรวจสอบการรั่วไหลของความร้อนในบ้าน ➡️ หาจุดที่มีอากาศเย็นรั่วเข้ามา ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ✅ ตรวจสอบระบบทำความร้อน (Heating System) ➡️ หาจุดรั่วหรือท่อที่มีปัญหาในระบบทำความร้อน ✅ ตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำและความชื้น ➡️ หาความชื้นสะสมหลังผนังหรือเพดาน ป้องกันเชื้อรา ✅ ใช้ในการทำอาหารและเบเกอรี่ ➡️ ตรวจสอบอุณหภูมิผิวอาหาร น้ำมัน หรือเตาอบ ✅ ตรวจจับสัตว์และคนในความมืด ➡️ ใช้ดูสัตว์กลางคืน หรือเล่นเกมซ่อนหาในที่มืด ✅ ใช้ถ่ายภาพเชิงสร้างสรรค์ ➡️ ถ่ายภาพวิว เมือง หรือวัตถุในมุมมองความร้อนที่แปลกใหม่ ✅ ใช้เป็นเครื่องมือการศึกษา ➡️ กระตุ้นความสนใจเด็ก ๆ ในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ✅ ใช้ในงานมืออาชีพ ➡️ ตรวจสอบอาคาร เครื่องจักร หรือระบบไฟฟ้า พร้อมสร้างรายงานจากแอป https://www.slashgear.com/2026375/thermal-camera-best-phone-accessory-reasons-why/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    10 Reasons Why A Thermal Camera Is The Best Accessory For Your Smartphone - SlashGear
    Curious what thermal imaging can actually do on a phone? This guide breaks down the surprising ways a small add-on becomes genuinely practical.
    0 Comments 0 Shares 325 Views 0 Reviews
  • "ดร.เอ้" นำทีมอาชีวะไทยก้าวใหม่ ลุยท่าอิฐ ช่วยซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า-รถ จยย. ย้ำอาชีวะคือ "กำลัง" สร้างชาติ
    https://www.thai-tai.tv/news/22437/
    .
    #ไทยไท #สุชัชวีร์ #อาชีวะไทยก้าวใหม่ #น้ำท่วมท่าอิฐ #ลดความเหลื่อมล้ำ #อาชีวะศึกษา
    "ดร.เอ้" นำทีมอาชีวะไทยก้าวใหม่ ลุยท่าอิฐ ช่วยซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า-รถ จยย. ย้ำอาชีวะคือ "กำลัง" สร้างชาติ https://www.thai-tai.tv/news/22437/ . #ไทยไท #สุชัชวีร์ #อาชีวะไทยก้าวใหม่ #น้ำท่วมท่าอิฐ #ลดความเหลื่อมล้ำ #อาชีวะศึกษา
    0 Comments 0 Shares 261 Views 0 Reviews
  • ดร.เอ้-พี่เค นำทัพ “ช่างอาชีวะไทยก้าวใหม่” ลุยช่วยชาวท่าอิฐ นนทบุรี เปิดศูนย์ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้ากู้ภัยน้ำท่วม
    https://www.thai-tai.tv/news/22421/
    ดร.เอ้-พี่เค นำทัพ “ช่างอาชีวะไทยก้าวใหม่” ลุยช่วยชาวท่าอิฐ นนทบุรี เปิดศูนย์ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้ากู้ภัยน้ำท่วม https://www.thai-tai.tv/news/22421/
    0 Comments 0 Shares 182 Views 0 Reviews
  • “NES ครบรอบ 40 ปี – ดีไซน์ที่เกือบจะเป็นลายไม้แบบ Atari 2600”

    ในงาน Portland Retro Gaming Expo 2025 อดีตผู้บริหาร Nintendo of America ได้แก่ Bruce Lowry (VP of Sales), Gail Tilden (ฝ่ายการตลาด), และ Lance Barr (นักออกแบบผลิตภัณฑ์) ได้เล่าย้อนถึงการเปิดตัว NES ในสหรัฐฯ เมื่อปี 1985 พวกเขาเผยว่าในตอนแรกมีการเสนอแบบดีไซน์ที่คล้าย Atari 2600 คือมี ลายไม้และสวิตช์ด้านบน แต่ Barr ปฏิเสธทันที โดยบอกว่า “มันดูแย่มาก” และเลือกแนวทางใหม่ที่ทำให้ NES ดูเหมือนอุปกรณ์บันเทิงภายในบ้าน เช่น Hi-Fi หรือ VCR

    การตัดสินใจนี้มีความสำคัญมาก เพราะในช่วงนั้นตลาดเกมยังบอบช้ำจาก Video Game Crash ปี 1983 ผู้บริหารจึงต้องการให้ NES ดู “จริงจัง” และไม่เหมือนของเล่นราคาถูก ดีไซน์ Control Deck ที่เรียบหรูและเข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน จึงช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคและผู้ค้าปลีก

    นอกจากดีไซน์แล้ว ทีมงานยังเล่าถึงการเปิดตัวอุปกรณ์เสริม เช่น Zapper light gun และการจัดการกับปัญหาในคลังสินค้าที่เต็มไปด้วย “หนู งู และขยะพิษ” ซึ่งสะท้อนความท้าทายเบื้องหลังการสร้าง NES ให้สำเร็จในตลาดอเมริกา

    ผลลัพธ์คือ NES ไม่เพียงแค่รอดจากวิกฤต แต่ยัง พลิกฟื้นอุตสาหกรรมเกม และกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่เปิดทางให้คู่แข่งอย่าง Sega Master System และต่อยอดไปสู่ยุค 16-bit เช่น SNES และ Sega Genesis จนทำให้เกมกลายเป็นอุตสาหกรรมใหญ่กว่าภาพยนตร์และดนตรีในเวลาต่อมา

    สรุปสาระสำคัญ
    แผนดีไซน์ NES ในตอนแรก
    มีการเสนอให้ใช้ลายไม้และสวิตช์ด้านบนคล้าย Atari 2600
    Lance Barr ปฏิเสธและเลือกดีไซน์ Control Deck ที่ดูเหมือนเครื่องเสียง/วิดีโอ

    เหตุผลในการเลือกดีไซน์ใหม่
    ตลาดเกมยังบอบช้ำจากวิกฤตปี 1983
    ต้องการให้ NES ดูจริงจัง ไม่เหมือนของเล่นราคาถูก
    ดีไซน์ใหม่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคและผู้ค้าปลีก

    เบื้องหลังการเปิดตัว
    เปิดตัวพร้อมอุปกรณ์เสริม เช่น Zapper light gun
    เผชิญปัญหาการจัดเก็บสินค้าที่มีหนู งู และขยะพิษ

    คำเตือนและข้อคิด
    หากเลือกดีไซน์ลายไม้ อาจทำให้ NES ถูกมองว่าเป็นเพียงของเล่น
    ความผิดพลาดด้านภาพลักษณ์อาจทำให้ NES ไม่สามารถฟื้นตลาดเกมได้

    https://www.tomshardware.com/video-games/nintendo/the-nes-at-40-employees-reveal-there-were-plans-for-a-woodgrain-veneer-model-to-rival-the-atari-2600
    🎮 “NES ครบรอบ 40 ปี – ดีไซน์ที่เกือบจะเป็นลายไม้แบบ Atari 2600” ในงาน Portland Retro Gaming Expo 2025 อดีตผู้บริหาร Nintendo of America ได้แก่ Bruce Lowry (VP of Sales), Gail Tilden (ฝ่ายการตลาด), และ Lance Barr (นักออกแบบผลิตภัณฑ์) ได้เล่าย้อนถึงการเปิดตัว NES ในสหรัฐฯ เมื่อปี 1985 พวกเขาเผยว่าในตอนแรกมีการเสนอแบบดีไซน์ที่คล้าย Atari 2600 คือมี ลายไม้และสวิตช์ด้านบน แต่ Barr ปฏิเสธทันที โดยบอกว่า “มันดูแย่มาก” และเลือกแนวทางใหม่ที่ทำให้ NES ดูเหมือนอุปกรณ์บันเทิงภายในบ้าน เช่น Hi-Fi หรือ VCR การตัดสินใจนี้มีความสำคัญมาก เพราะในช่วงนั้นตลาดเกมยังบอบช้ำจาก Video Game Crash ปี 1983 ผู้บริหารจึงต้องการให้ NES ดู “จริงจัง” และไม่เหมือนของเล่นราคาถูก ดีไซน์ Control Deck ที่เรียบหรูและเข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน จึงช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคและผู้ค้าปลีก นอกจากดีไซน์แล้ว ทีมงานยังเล่าถึงการเปิดตัวอุปกรณ์เสริม เช่น Zapper light gun และการจัดการกับปัญหาในคลังสินค้าที่เต็มไปด้วย “หนู งู และขยะพิษ” ซึ่งสะท้อนความท้าทายเบื้องหลังการสร้าง NES ให้สำเร็จในตลาดอเมริกา ผลลัพธ์คือ NES ไม่เพียงแค่รอดจากวิกฤต แต่ยัง พลิกฟื้นอุตสาหกรรมเกม และกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่เปิดทางให้คู่แข่งอย่าง Sega Master System และต่อยอดไปสู่ยุค 16-bit เช่น SNES และ Sega Genesis จนทำให้เกมกลายเป็นอุตสาหกรรมใหญ่กว่าภาพยนตร์และดนตรีในเวลาต่อมา 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ แผนดีไซน์ NES ในตอนแรก ➡️ มีการเสนอให้ใช้ลายไม้และสวิตช์ด้านบนคล้าย Atari 2600 ➡️ Lance Barr ปฏิเสธและเลือกดีไซน์ Control Deck ที่ดูเหมือนเครื่องเสียง/วิดีโอ ✅ เหตุผลในการเลือกดีไซน์ใหม่ ➡️ ตลาดเกมยังบอบช้ำจากวิกฤตปี 1983 ➡️ ต้องการให้ NES ดูจริงจัง ไม่เหมือนของเล่นราคาถูก ➡️ ดีไซน์ใหม่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคและผู้ค้าปลีก ✅ เบื้องหลังการเปิดตัว ➡️ เปิดตัวพร้อมอุปกรณ์เสริม เช่น Zapper light gun ➡️ เผชิญปัญหาการจัดเก็บสินค้าที่มีหนู งู และขยะพิษ ‼️ คำเตือนและข้อคิด ⛔ หากเลือกดีไซน์ลายไม้ อาจทำให้ NES ถูกมองว่าเป็นเพียงของเล่น ⛔ ความผิดพลาดด้านภาพลักษณ์อาจทำให้ NES ไม่สามารถฟื้นตลาดเกมได้ https://www.tomshardware.com/video-games/nintendo/the-nes-at-40-employees-reveal-there-were-plans-for-a-woodgrain-veneer-model-to-rival-the-atari-2600
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    The NES at 40: Employees reveal there were plans for a woodgrain veneer model to rival the Atari 2600
    Nintendo of America veterans chatted to a host from the Video Game History Foundation to celebrate the console’s Ruby jubilee.
    0 Comments 0 Shares 357 Views 0 Reviews
  • Samsung ขึ้นราคาชิปหน่วยความจำ

    รายงานระบุว่า Samsung ได้ปรับราคาชิปหน่วยความจำขึ้นมากถึง 60% ตั้งแต่เดือนกันยายน โดยเฉพาะ DDR5 ขนาด 32GB ที่ราคาสัญญาเพิ่มจาก 149 ดอลลาร์ เป็น 239 ดอลลาร์ การปรับขึ้นครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากตลาดที่ต้องการหน่วยความจำจำนวนมากเพื่อรองรับการประมวลผล AI

    AI Data Center จุดชนวนความต้องการ
    การสร้างศูนย์ข้อมูล AI ทั่วโลกเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ความต้องการหน่วยความจำพุ่งสูง ผู้ผลิตไม่เร่งเพิ่มกำลังการผลิต เพราะกังวลว่าความต้องการอาจลดลงในอนาคต ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนและราคาพุ่งขึ้นต่อเนื่อง

    ผลกระทบต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรม
    ราคาที่สูงขึ้นไม่ได้กระทบแค่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ DIY แต่ยังส่งผลต่อ สมาร์ทโฟน, โน้ตบุ๊ก, IoT และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่ต้องใช้ DRAM และ NAND การขาดแคลนทำให้บางตลาดเกิดการ “panic buying” หรือการสั่งซื้อเกินความต้องการเพื่อกักตุนสินค้า

    แนวโน้มในอนาคต
    นักวิเคราะห์เตือนว่าภาวะขาดแคลนอาจยืดเยื้อไปถึงปี 2026 และอาจกินเวลานานถึง 10 ปี หากอุตสาหกรรมยังไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตให้ทันกับการเติบโตของ AI ที่ต้องใช้หน่วยความจำจำนวนมหาศาล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Samsung ปรับขึ้นราคาชิปหน่วยความจำสูงสุด 60%
    DDR5 32GB ราคาพุ่งจาก 149 ดอลลาร์เป็น 239 ดอลลาร์

    AI Data Center เป็นตัวการหลัก
    ความต้องการหน่วยความจำเพิ่มขึ้นมหาศาลจากการสร้างศูนย์ข้อมูล AI

    ผลกระทบต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรม
    สมาร์ทโฟน, โน้ตบุ๊ก, IoT และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะได้รับผลกระทบ

    ความเสี่ยงจากการขาดแคลนยาวนาน
    อาจยืดเยื้อไปถึงปี 2026 และกินเวลานานถึง 10 ปี

    การกักตุนสินค้า (panic buying)
    ทำให้ตลาดตึงเครียดและราคายิ่งพุ่งสูงขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/samsung-raises-memory-chip-prices-by-up-to-60-percent-since-september-according-to-reports-ai-data-center-build-out-strangles-supply
    💾 Samsung ขึ้นราคาชิปหน่วยความจำ รายงานระบุว่า Samsung ได้ปรับราคาชิปหน่วยความจำขึ้นมากถึง 60% ตั้งแต่เดือนกันยายน โดยเฉพาะ DDR5 ขนาด 32GB ที่ราคาสัญญาเพิ่มจาก 149 ดอลลาร์ เป็น 239 ดอลลาร์ การปรับขึ้นครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากตลาดที่ต้องการหน่วยความจำจำนวนมากเพื่อรองรับการประมวลผล AI 🏗️ AI Data Center จุดชนวนความต้องการ การสร้างศูนย์ข้อมูล AI ทั่วโลกเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ความต้องการหน่วยความจำพุ่งสูง ผู้ผลิตไม่เร่งเพิ่มกำลังการผลิต เพราะกังวลว่าความต้องการอาจลดลงในอนาคต ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนและราคาพุ่งขึ้นต่อเนื่อง 📈 ผลกระทบต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรม ราคาที่สูงขึ้นไม่ได้กระทบแค่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ DIY แต่ยังส่งผลต่อ สมาร์ทโฟน, โน้ตบุ๊ก, IoT และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่ต้องใช้ DRAM และ NAND การขาดแคลนทำให้บางตลาดเกิดการ “panic buying” หรือการสั่งซื้อเกินความต้องการเพื่อกักตุนสินค้า 🔮 แนวโน้มในอนาคต นักวิเคราะห์เตือนว่าภาวะขาดแคลนอาจยืดเยื้อไปถึงปี 2026 และอาจกินเวลานานถึง 10 ปี หากอุตสาหกรรมยังไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตให้ทันกับการเติบโตของ AI ที่ต้องใช้หน่วยความจำจำนวนมหาศาล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Samsung ปรับขึ้นราคาชิปหน่วยความจำสูงสุด 60% ➡️ DDR5 32GB ราคาพุ่งจาก 149 ดอลลาร์เป็น 239 ดอลลาร์ ✅ AI Data Center เป็นตัวการหลัก ➡️ ความต้องการหน่วยความจำเพิ่มขึ้นมหาศาลจากการสร้างศูนย์ข้อมูล AI ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรม ➡️ สมาร์ทโฟน, โน้ตบุ๊ก, IoT และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะได้รับผลกระทบ ‼️ ความเสี่ยงจากการขาดแคลนยาวนาน ⛔ อาจยืดเยื้อไปถึงปี 2026 และกินเวลานานถึง 10 ปี ‼️ การกักตุนสินค้า (panic buying) ⛔ ทำให้ตลาดตึงเครียดและราคายิ่งพุ่งสูงขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/samsung-raises-memory-chip-prices-by-up-to-60-percent-since-september-according-to-reports-ai-data-center-build-out-strangles-supply
    0 Comments 0 Shares 346 Views 0 Reviews
  • Samsung เปิดเกมรุก! เตรียมเปิดตัวบัตรเครดิตในสหรัฐฯ ท้าชน Apple Card

    Samsung กำลังขยายอาณาจักรของตนจากสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้าไปสู่โลกการเงิน ด้วยการเตรียมเปิดตัวบัตรเครดิตในสหรัฐฯ ร่วมกับ Barclays เพื่อแข่งกับ Apple Card โดยตรง พร้อมชุดผลิตภัณฑ์ทางการเงินครบวงจรที่อาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคในระบบนิเวศดิจิทัล

    Samsung กำลังจับมือกับ Barclays เพื่อเปิดตัวบัตรเครดิตใหม่ในสหรัฐฯ โดยจะใช้เครือข่าย Visa และมาพร้อมสิทธิประโยชน์ด้าน cashback ที่สามารถโอนเข้ากระเป๋า Samsung Wallet เพื่อใช้ซื้อสินค้าอื่นๆ ได้ — คล้ายกับแนวทางของ Apple Card ที่ผูกกับ Apple Pay

    แต่ Samsung ไม่หยุดแค่บัตรเครดิต เพราะยังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ เช่น:
    บัญชีแบบเติมเงิน (prepaid)
    บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง
    ระบบ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” (Buy Now, Pay Later)

    กลยุทธ์นี้จะช่วยให้ Samsung สร้างระบบนิเวศทางการเงินที่เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ของตน เช่น สมาร์ทโฟน ทีวี ตู้เย็น และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ซึ่งมีความหลากหลายมากกว่า Apple

    ในขณะเดียวกัน Apple Card ซึ่งเปิดตัวในปี 2019 ร่วมกับ Goldman Sachs กำลังเผชิญกับปัญหาขาดทุน และอาจเปลี่ยนพันธมิตรไปเป็น JPMorgan ซึ่งอาจเป็นต้นแบบให้ Samsung ใช้ในการจัดการความเสี่ยงและการเติบโตของบริการบัตรเครดิต

    Samsung เตรียมเปิดตัวบัตรเครดิตในสหรัฐฯ
    ร่วมมือกับ Barclays และใช้เครือข่าย Visa
    มีระบบ cashback ที่เชื่อมกับ Samsung Wallet

    เปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพิ่มเติม
    บัญชีเติมเงินและบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง
    ระบบ Buy Now, Pay Later

    กลยุทธ์เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ Samsung
    ใช้สิทธิประโยชน์เพื่อกระตุ้นยอดขายสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้า
    สร้างระบบนิเวศที่ครอบคลุมมากกว่า Apple

    Apple Card กำลังเผชิญกับความท้าทาย
    Goldman Sachs ขาดทุนจากการให้บริการ
    Apple อาจเปลี่ยนพันธมิตรไปเป็น JPMorgan

    การแข่งขันในตลาดบัตรเครดิตดิจิทัลกำลังร้อนแรง
    ผู้บริโภคอาจต้องเลือกฝั่งระหว่างระบบนิเวศของ Apple หรือ Samsung
    ความเสี่ยงด้านการเงินและการจัดการข้อมูลผู้ใช้ต้องถูกพิจารณาอย่างรอบคอบ

    การผูกบริการทางการเงินกับระบบนิเวศเทคโนโลยีอาจสร้างการล็อกอินผู้ใช้
    ผู้ใช้ที่ผูกกับ Samsung Wallet หรือ Apple Pay อาจย้ายออกได้ยาก
    ต้องพิจารณาความยืดหยุ่นและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว

    https://wccftech.com/samsung-is-trying-to-lure-you-away-from-apples-ecosystem-with-a-rival-credit-card/
    💳 Samsung เปิดเกมรุก! เตรียมเปิดตัวบัตรเครดิตในสหรัฐฯ ท้าชน Apple Card 📱⚔️ Samsung กำลังขยายอาณาจักรของตนจากสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้าไปสู่โลกการเงิน ด้วยการเตรียมเปิดตัวบัตรเครดิตในสหรัฐฯ ร่วมกับ Barclays เพื่อแข่งกับ Apple Card โดยตรง พร้อมชุดผลิตภัณฑ์ทางการเงินครบวงจรที่อาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคในระบบนิเวศดิจิทัล Samsung กำลังจับมือกับ Barclays เพื่อเปิดตัวบัตรเครดิตใหม่ในสหรัฐฯ โดยจะใช้เครือข่าย Visa และมาพร้อมสิทธิประโยชน์ด้าน cashback ที่สามารถโอนเข้ากระเป๋า Samsung Wallet เพื่อใช้ซื้อสินค้าอื่นๆ ได้ — คล้ายกับแนวทางของ Apple Card ที่ผูกกับ Apple Pay แต่ Samsung ไม่หยุดแค่บัตรเครดิต เพราะยังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ เช่น: 💠 บัญชีแบบเติมเงิน (prepaid) 💠 บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง 💠 ระบบ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” (Buy Now, Pay Later) กลยุทธ์นี้จะช่วยให้ Samsung สร้างระบบนิเวศทางการเงินที่เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ของตน เช่น สมาร์ทโฟน ทีวี ตู้เย็น และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ซึ่งมีความหลากหลายมากกว่า Apple ในขณะเดียวกัน Apple Card ซึ่งเปิดตัวในปี 2019 ร่วมกับ Goldman Sachs กำลังเผชิญกับปัญหาขาดทุน และอาจเปลี่ยนพันธมิตรไปเป็น JPMorgan ซึ่งอาจเป็นต้นแบบให้ Samsung ใช้ในการจัดการความเสี่ยงและการเติบโตของบริการบัตรเครดิต ✅ Samsung เตรียมเปิดตัวบัตรเครดิตในสหรัฐฯ ➡️ ร่วมมือกับ Barclays และใช้เครือข่าย Visa ➡️ มีระบบ cashback ที่เชื่อมกับ Samsung Wallet ✅ เปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพิ่มเติม ➡️ บัญชีเติมเงินและบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง ➡️ ระบบ Buy Now, Pay Later ✅ กลยุทธ์เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ Samsung ➡️ ใช้สิทธิประโยชน์เพื่อกระตุ้นยอดขายสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้า ➡️ สร้างระบบนิเวศที่ครอบคลุมมากกว่า Apple ✅ Apple Card กำลังเผชิญกับความท้าทาย ➡️ Goldman Sachs ขาดทุนจากการให้บริการ ➡️ Apple อาจเปลี่ยนพันธมิตรไปเป็น JPMorgan ‼️ การแข่งขันในตลาดบัตรเครดิตดิจิทัลกำลังร้อนแรง ⛔ ผู้บริโภคอาจต้องเลือกฝั่งระหว่างระบบนิเวศของ Apple หรือ Samsung ⛔ ความเสี่ยงด้านการเงินและการจัดการข้อมูลผู้ใช้ต้องถูกพิจารณาอย่างรอบคอบ ‼️ การผูกบริการทางการเงินกับระบบนิเวศเทคโนโลยีอาจสร้างการล็อกอินผู้ใช้ ⛔ ผู้ใช้ที่ผูกกับ Samsung Wallet หรือ Apple Pay อาจย้ายออกได้ยาก ⛔ ต้องพิจารณาความยืดหยุ่นและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว https://wccftech.com/samsung-is-trying-to-lure-you-away-from-apples-ecosystem-with-a-rival-credit-card/
    WCCFTECH.COM
    Samsung To Follow Apple's Playbook To Try To Lock You Into Its Ecosystem With A Credit Card
    Now, you can add a credit card, and the bag of goodies that comes with it, to the already-extensive rivalry between Apple and Samsung.
    0 Comments 0 Shares 323 Views 0 Reviews
  • ตู้เย็นอัจฉริยะยิ่งกว่าเดิม! Samsung Family Hub™ 2025 อัปเดตใหม่ เพิ่ม AI, ความปลอดภัย และประสบการณ์ผู้ใช้แบบไร้รอยต่อ

    Samsung เปิดตัวอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่สำหรับตู้เย็น Family Hub™ รุ่นปี 2025 ที่ยกระดับการใช้งานในบ้านอัจฉริยะ ด้วยอินเทอร์เฟซใหม่ ฟีเจอร์ AI ที่ฉลาดขึ้น และระบบความปลอดภัยที่แข็งแกร่งกว่าเดิม

    อัปเดตใหม่นี้เริ่มทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ Family Hub™ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2025 โดยมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญหลายด้าน:
    อินเทอร์เฟซใหม่ One UI ที่เคยใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้า Bespoke AI จะถูกนำมาใช้กับ Family Hub™ รุ่น 2024 เพื่อให้ประสบการณ์ใช้งานระหว่างทีวี มือถือ และเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหนึ่งเดียว
    AI Vision Inside ฉลาดขึ้น! สามารถจดจำผักผลไม้สดได้ถึง 37 ชนิด และอาหารบรรจุแพ็คได้ถึง 50 รายการ ช่วยลดของเสียและประหยัดเงิน
    Bixby Voice ID แยกแยะผู้ใช้แต่ละคนได้ ทำให้เข้าถึงปฏิทิน รูปภาพ หรือค้นหาโทรศัพท์ได้แม้จะอยู่ในโหมดเงียบ
    Knox Matrix ระบบความปลอดภัยที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ถูกขยายไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า
    Widget ใหม่บนหน้าจอ Cover แสดงข่าวสาร สภาพอากาศ และโฆษณาแบบเลือกปิดได้

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Family Hub™ 2025
    อินเทอร์เฟซ One UI แบบใหม่ ใช้งานง่ายขึ้น
    AI Vision Inside จดจำอาหารสดและบรรจุภัณฑ์ได้มากขึ้น
    Voice ID แยกผู้ใช้และซิงค์กับบัญชี Samsung
    รองรับการค้นหาโทรศัพท์แม้ในโหมดเงียบ
    ปรับธีมหน้าจอ Cover พร้อม Daily Board ใหม่
    เพิ่มวิดเจ็ตข่าว ปฏิทิน และพยากรณ์อากาศ
    Knox Matrix ปกป้องอุปกรณ์ด้วยระบบ Trust Chain
    เพิ่มแดชบอร์ดความปลอดภัยแบบเรียลไทม์
    รองรับการเข้ารหัส Credential Sync และ Passkey
    อัปเดตผ่านหน้าจอตู้เย็นได้โดยตรง

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    AI Vision ยังไม่สามารถจดจำอาหารในช่องแช่แข็งหรือประตูตู้เย็นได้
    Voice ID ต้องลงทะเบียนล่วงหน้าในบัญชี Samsung และใช้ได้เฉพาะ Galaxy S24 ขึ้นไป
    วิดเจ็ตโฆษณาอาจรบกวนสายตา แม้จะสามารถปิดได้
    บางฟีเจอร์อาจใช้ไม่ได้ในบางประเทศหรือขึ้นอยู่กับรุ่นของอุปกรณ์

    https://news.samsung.com/us/samsung-family-hub-2025-update-elevates-smart-home-ecosystem/
    🧊 ตู้เย็นอัจฉริยะยิ่งกว่าเดิม! Samsung Family Hub™ 2025 อัปเดตใหม่ เพิ่ม AI, ความปลอดภัย และประสบการณ์ผู้ใช้แบบไร้รอยต่อ Samsung เปิดตัวอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่สำหรับตู้เย็น Family Hub™ รุ่นปี 2025 ที่ยกระดับการใช้งานในบ้านอัจฉริยะ ด้วยอินเทอร์เฟซใหม่ ฟีเจอร์ AI ที่ฉลาดขึ้น และระบบความปลอดภัยที่แข็งแกร่งกว่าเดิม อัปเดตใหม่นี้เริ่มทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ Family Hub™ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2025 โดยมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญหลายด้าน: 🔰 อินเทอร์เฟซใหม่ One UI ที่เคยใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้า Bespoke AI จะถูกนำมาใช้กับ Family Hub™ รุ่น 2024 เพื่อให้ประสบการณ์ใช้งานระหว่างทีวี มือถือ และเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหนึ่งเดียว 🔰 AI Vision Inside ฉลาดขึ้น! สามารถจดจำผักผลไม้สดได้ถึง 37 ชนิด และอาหารบรรจุแพ็คได้ถึง 50 รายการ ช่วยลดของเสียและประหยัดเงิน 🔰 Bixby Voice ID แยกแยะผู้ใช้แต่ละคนได้ ทำให้เข้าถึงปฏิทิน รูปภาพ หรือค้นหาโทรศัพท์ได้แม้จะอยู่ในโหมดเงียบ 🔰 Knox Matrix ระบบความปลอดภัยที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ถูกขยายไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า 🔰 Widget ใหม่บนหน้าจอ Cover แสดงข่าวสาร สภาพอากาศ และโฆษณาแบบเลือกปิดได้ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Family Hub™ 2025 ➡️ อินเทอร์เฟซ One UI แบบใหม่ ใช้งานง่ายขึ้น ➡️ AI Vision Inside จดจำอาหารสดและบรรจุภัณฑ์ได้มากขึ้น ➡️ Voice ID แยกผู้ใช้และซิงค์กับบัญชี Samsung ➡️ รองรับการค้นหาโทรศัพท์แม้ในโหมดเงียบ ➡️ ปรับธีมหน้าจอ Cover พร้อม Daily Board ใหม่ ➡️ เพิ่มวิดเจ็ตข่าว ปฏิทิน และพยากรณ์อากาศ ➡️ Knox Matrix ปกป้องอุปกรณ์ด้วยระบบ Trust Chain ➡️ เพิ่มแดชบอร์ดความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ ➡️ รองรับการเข้ารหัส Credential Sync และ Passkey ➡️ อัปเดตผ่านหน้าจอตู้เย็นได้โดยตรง ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ AI Vision ยังไม่สามารถจดจำอาหารในช่องแช่แข็งหรือประตูตู้เย็นได้ ⛔ Voice ID ต้องลงทะเบียนล่วงหน้าในบัญชี Samsung และใช้ได้เฉพาะ Galaxy S24 ขึ้นไป ⛔ วิดเจ็ตโฆษณาอาจรบกวนสายตา แม้จะสามารถปิดได้ ⛔ บางฟีเจอร์อาจใช้ไม่ได้ในบางประเทศหรือขึ้นอยู่กับรุ่นของอุปกรณ์ https://news.samsung.com/us/samsung-family-hub-2025-update-elevates-smart-home-ecosystem/
    NEWS.SAMSUNG.COM
    Samsung Family Hub™ for 2025 Update Elevates the Smart Home Ecosystem
    The software update includes a more unified user experience across connected devices, enhancements to AI Vision Inside™, expanded Knox Security and more
    0 Comments 0 Shares 336 Views 0 Reviews
  • “ตู้เย็นก็มีโฆษณา” – Samsung เปิดทางโฆษณาบน Smart Fridge รุ่นแพง

    Samsung ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ตู้เย็นอัจฉริยะ Family Hub และ Bespoke ที่มีหน้าจอสัมผัสจะเริ่มแสดงโฆษณาในหน้าจอผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์เร็ว ๆ นี้ โดยเฉพาะรุ่นที่มีราคาสูงถึง $3,499 ก็ไม่เว้น

    แม้ก่อนหน้านี้จะมีการทดลองแสดงโฆษณาในบางประเทศ แต่ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในระดับสากล โดย Samsung ระบุว่าโฆษณาจะช่วย “ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้” และ “แนะนำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง” ผ่าน SmartThings ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะของบริษัท

    ผู้ใช้สามารถเลือกปิดโฆษณาบางประเภทได้ แต่ไม่สามารถปิดทั้งหมดได้ และยังไม่มีการเสนอรุ่น “ไม่มีโฆษณา” แม้จะเป็นสินค้าระดับพรีเมียม

    การเปลี่ยนแปลงจาก Samsung
    ตู้เย็น Family Hub และ Bespoke จะเริ่มแสดงโฆษณาบนหน้าจอ
    โฆษณาจะมาจาก SmartThings และแสดงในหน้า Home Screen
    ผู้ใช้สามารถเลือกปิดบางโฆษณาได้ แต่ไม่ทั้งหมด
    ไม่มีรุ่น “ไม่มีโฆษณา” แม้จะเป็นสินค้าราคา $3,499

    เหตุผลของบริษัท
    Samsung ระบุว่าโฆษณาจะช่วย “ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้”
    ใช้เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้
    เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสร้างรายได้จากอุปกรณ์ IoT

    คำเตือนและข้อควรพิจารณา
    ผู้ใช้ไม่มีทางเลือกในการซื้อรุ่นที่ไม่มีโฆษณา
    โฆษณาอาจปรากฏแม้ในอุปกรณ์ที่ไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา
    การแสดงโฆษณาในอุปกรณ์ที่ซื้อขาดอาจสร้างความไม่พอใจ
    อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการแสดงโฆษณาในเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ เช่น เตาอบ เครื่องซักผ้า หรือเครื่องปรับอากาศ

    https://arstechnica.com/gadgets/2025/10/samsung-makes-ads-on-3499-smart-fridges-official-with-upcoming-software-update/
    🧊📺 “ตู้เย็นก็มีโฆษณา” – Samsung เปิดทางโฆษณาบน Smart Fridge รุ่นแพง Samsung ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ตู้เย็นอัจฉริยะ Family Hub และ Bespoke ที่มีหน้าจอสัมผัสจะเริ่มแสดงโฆษณาในหน้าจอผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์เร็ว ๆ นี้ โดยเฉพาะรุ่นที่มีราคาสูงถึง $3,499 ก็ไม่เว้น แม้ก่อนหน้านี้จะมีการทดลองแสดงโฆษณาในบางประเทศ แต่ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในระดับสากล โดย Samsung ระบุว่าโฆษณาจะช่วย “ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้” และ “แนะนำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง” ผ่าน SmartThings ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะของบริษัท ผู้ใช้สามารถเลือกปิดโฆษณาบางประเภทได้ แต่ไม่สามารถปิดทั้งหมดได้ และยังไม่มีการเสนอรุ่น “ไม่มีโฆษณา” แม้จะเป็นสินค้าระดับพรีเมียม ✅ การเปลี่ยนแปลงจาก Samsung ➡️ ตู้เย็น Family Hub และ Bespoke จะเริ่มแสดงโฆษณาบนหน้าจอ ➡️ โฆษณาจะมาจาก SmartThings และแสดงในหน้า Home Screen ➡️ ผู้ใช้สามารถเลือกปิดบางโฆษณาได้ แต่ไม่ทั้งหมด ➡️ ไม่มีรุ่น “ไม่มีโฆษณา” แม้จะเป็นสินค้าราคา $3,499 ✅ เหตุผลของบริษัท ➡️ Samsung ระบุว่าโฆษณาจะช่วย “ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้” ➡️ ใช้เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสร้างรายได้จากอุปกรณ์ IoT ‼️ คำเตือนและข้อควรพิจารณา ⛔ ผู้ใช้ไม่มีทางเลือกในการซื้อรุ่นที่ไม่มีโฆษณา ⛔ โฆษณาอาจปรากฏแม้ในอุปกรณ์ที่ไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ⛔ การแสดงโฆษณาในอุปกรณ์ที่ซื้อขาดอาจสร้างความไม่พอใจ ⛔ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการแสดงโฆษณาในเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ เช่น เตาอบ เครื่องซักผ้า หรือเครื่องปรับอากาศ https://arstechnica.com/gadgets/2025/10/samsung-makes-ads-on-3499-smart-fridges-official-with-upcoming-software-update/
    0 Comments 0 Shares 237 Views 0 Reviews
  • “แคลิฟอร์เนียผ่านฤดูร้อนปี 2025 โดยไม่ต้องออกคำเตือน Flex Alert – สัญญาณดีจากพลังงานสะอาดและระบบจัดการใหม่”

    ฤดูร้อนในแคลิฟอร์เนียมักเป็นช่วงเวลาที่ระบบไฟฟ้าต้องเผชิญกับความท้าทายจากอุณหภูมิสูงและการใช้พลังงานที่พุ่งขึ้น แต่ในปี 2025 รัฐสามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้โดยไม่ต้องออกคำเตือน “Flex Alert” เลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการบริหารจัดการพลังงาน

    Flex Alert คือคำเตือนที่ออกโดย California ISO เพื่อขอให้ประชาชนลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาวิกฤต เช่น ปิดเครื่องปรับอากาศหรือเลื่อนการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อหลีกเลี่ยงการดับไฟแบบหมุนเวียน (rolling blackout)

    ปีนี้ แคลิฟอร์เนียสามารถหลีกเลี่ยง Flex Alert ได้ด้วยการลงทุนในระบบกักเก็บพลังงาน (battery storage) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น แสงอาทิตย์และลม ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ตอบสนองความต้องการได้ดีขึ้น

    ความสำเร็จในการจัดการพลังงานปี 2025
    ไม่มีการออก Flex Alert ตลอดฤดูร้อน
    ระบบไฟฟ้ารับมือกับความต้องการสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ปัจจัยที่ช่วยให้หลีกเลี่ยงวิกฤต
    การลงทุนใน battery storage เพิ่มขึ้น
    การใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น solar และ wind
    การปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้มีความยืดหยุ่น

    ความหมายเชิงนโยบาย
    แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดสามารถทำได้จริง
    ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลในช่วงวิกฤต

    คำเตือนสำหรับอนาคต
    แม้ปีนี้จะไม่มี Flex Alert แต่สภาพอากาศสุดขั้วอาจกลับมาอีก
    ต้องลงทุนต่อเนื่องในระบบกักเก็บพลังงานและโครงข่ายไฟฟ้า
    การบริหารความต้องการพลังงานยังต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน

    https://www.latimes.com/environment/story/2025-10-17/california-made-it-through-another-summer-without-a-flex-alert
    📰 “แคลิฟอร์เนียผ่านฤดูร้อนปี 2025 โดยไม่ต้องออกคำเตือน Flex Alert – สัญญาณดีจากพลังงานสะอาดและระบบจัดการใหม่” ฤดูร้อนในแคลิฟอร์เนียมักเป็นช่วงเวลาที่ระบบไฟฟ้าต้องเผชิญกับความท้าทายจากอุณหภูมิสูงและการใช้พลังงานที่พุ่งขึ้น แต่ในปี 2025 รัฐสามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้โดยไม่ต้องออกคำเตือน “Flex Alert” เลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการบริหารจัดการพลังงาน Flex Alert คือคำเตือนที่ออกโดย California ISO เพื่อขอให้ประชาชนลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาวิกฤต เช่น ปิดเครื่องปรับอากาศหรือเลื่อนการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อหลีกเลี่ยงการดับไฟแบบหมุนเวียน (rolling blackout) ปีนี้ แคลิฟอร์เนียสามารถหลีกเลี่ยง Flex Alert ได้ด้วยการลงทุนในระบบกักเก็บพลังงาน (battery storage) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น แสงอาทิตย์และลม ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ตอบสนองความต้องการได้ดีขึ้น ✅ ความสำเร็จในการจัดการพลังงานปี 2025 ➡️ ไม่มีการออก Flex Alert ตลอดฤดูร้อน ➡️ ระบบไฟฟ้ารับมือกับความต้องการสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ปัจจัยที่ช่วยให้หลีกเลี่ยงวิกฤต ➡️ การลงทุนใน battery storage เพิ่มขึ้น ➡️ การใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น solar และ wind ➡️ การปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้มีความยืดหยุ่น ✅ ความหมายเชิงนโยบาย ➡️ แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดสามารถทำได้จริง ➡️ ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลในช่วงวิกฤต ‼️ คำเตือนสำหรับอนาคต ⛔ แม้ปีนี้จะไม่มี Flex Alert แต่สภาพอากาศสุดขั้วอาจกลับมาอีก ⛔ ต้องลงทุนต่อเนื่องในระบบกักเก็บพลังงานและโครงข่ายไฟฟ้า ⛔ การบริหารความต้องการพลังงานยังต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน https://www.latimes.com/environment/story/2025-10-17/california-made-it-through-another-summer-without-a-flex-alert
    WWW.LATIMES.COM
    California invests big in battery energy storage — and leaves rolling blackouts behind
    Batteries that pair with clean solar and wind energy or just bolster electrical grids in general have completely taken off and are making a big difference on the California grid.
    0 Comments 0 Shares 219 Views 0 Reviews
  • “Energy Vampires: 5 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่แอบกินไฟแม้ไม่ได้ใช้งาน — ทำบิลพุ่งไม่รู้ตัว” — เมื่อทีวี, เครื่องเกม, และเครื่องครัวกลายเป็นตัวดูดพลังงานเงียบ ๆ ในบ้านคุณ

    บทความจาก SlashGear โดย Daniel Feininger เปิดเผยว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดยังคงใช้พลังงานแม้จะถูกปิดแล้ว — ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “Energy Vampire” หรือ “ผีดูดไฟ” ซึ่งสามารถเพิ่มค่าไฟบ้านได้ถึง 10% ต่อปี หรือประมาณ $100 โดยเฉลี่ย

    แม้บางคนจะมีแผงโซลาร์หรือขายไฟกลับให้บริษัทไฟฟ้าได้ แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาการใช้ไฟฟ้าแบบแอบแฝงนี้ได้ หากไม่จัดการกับอุปกรณ์ที่กินไฟในโหมด standby หรือ sleep

    บทความแนะนำให้ “ถอดปลั๊ก” หรือใช้ปลั๊กพ่วงที่มีสวิตช์ปิด เพื่อหยุดการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะกับ 5 อุปกรณ์หลักที่เป็นตัวดูดไฟเงียบ ๆ ได้แก่:

    ทีวี โดยเฉพาะ Smart TV
    ใช้พลังงานแม้ในโหมด standby สูงถึง 20% ของการใช้งานทั้งหมด
    ใน UK อาจเพิ่มค่าไฟปีละ £4.94–£14.54 ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่น
    แนะนำให้ใช้ปลั๊กพ่วงที่มีสวิตช์ปิดแทนการถอดปลั๊ก

    เครื่องเกมคอนโซล เช่น Xbox และ PlayStation
    Xbox Series S ใช้ไฟใน rest mode สูงถึง £22.60 ต่อปี
    แม้ปิดเครื่องแล้วก็ยังใช้ไฟ 0.2W หากไม่ถอดปลั๊ก
    ควรใช้ dongle สตรีมมิ่งแทนคอนโซลเพื่อดู Netflix — ประหยัดไฟกว่า 35 เท่า

    เครื่องพิมพ์ (Printer)
    ปล่อยให้ standby อาจเพิ่มค่าไฟปีละ £3.81
    Laser printer ใช้ไฟมากกว่า inkjet โดยเฉพาะในโหมด standby
    ถ้าไม่ใช้งานบ่อย ควรถอดปลั๊กระหว่างวัน

    กล่องรับสัญญาณ, DVD/Blu-ray player
    กล่องเคเบิลอาจใช้ไฟถึง $50 ต่อปีหากเสียบปลั๊กไว้ตลอด
    อุปกรณ์เหล่านี้มักถูกละเลยเพราะอยู่ใต้ทีวี
    ควรถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน หรือใช้ปลั๊กพ่วงแบบมีสวิตช์

    เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว เช่น ไมโครเวฟ, เครื่องชงกาแฟ, กาต้มน้ำไฟฟ้า
    แม้จะดูเล็ก แต่รวมกันแล้วอาจเพิ่มค่าไฟ $10–$20 ต่อปี
    อุปกรณ์ที่มีหน้าจอแสดงผล เช่น นาฬิกาบนไมโครเวฟ จะใช้ไฟตลอดเวลา
    ถ้าไม่ได้ใช้งานบ่อย ควรถอดปลั๊กหรือใช้ปลั๊กพ่วงแบบควบคุม

    https://www.slashgear.com/1999279/energy-vampire-appliances-running-up-electric-bills/
    🔌 “Energy Vampires: 5 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่แอบกินไฟแม้ไม่ได้ใช้งาน — ทำบิลพุ่งไม่รู้ตัว” — เมื่อทีวี, เครื่องเกม, และเครื่องครัวกลายเป็นตัวดูดพลังงานเงียบ ๆ ในบ้านคุณ บทความจาก SlashGear โดย Daniel Feininger เปิดเผยว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดยังคงใช้พลังงานแม้จะถูกปิดแล้ว — ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “Energy Vampire” หรือ “ผีดูดไฟ” ซึ่งสามารถเพิ่มค่าไฟบ้านได้ถึง 10% ต่อปี หรือประมาณ $100 โดยเฉลี่ย แม้บางคนจะมีแผงโซลาร์หรือขายไฟกลับให้บริษัทไฟฟ้าได้ แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาการใช้ไฟฟ้าแบบแอบแฝงนี้ได้ หากไม่จัดการกับอุปกรณ์ที่กินไฟในโหมด standby หรือ sleep บทความแนะนำให้ “ถอดปลั๊ก” หรือใช้ปลั๊กพ่วงที่มีสวิตช์ปิด เพื่อหยุดการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะกับ 5 อุปกรณ์หลักที่เป็นตัวดูดไฟเงียบ ๆ ได้แก่: ✅ ทีวี โดยเฉพาะ Smart TV ➡️ ใช้พลังงานแม้ในโหมด standby สูงถึง 20% ของการใช้งานทั้งหมด ➡️ ใน UK อาจเพิ่มค่าไฟปีละ £4.94–£14.54 ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่น ➡️ แนะนำให้ใช้ปลั๊กพ่วงที่มีสวิตช์ปิดแทนการถอดปลั๊ก ✅ เครื่องเกมคอนโซล เช่น Xbox และ PlayStation ➡️ Xbox Series S ใช้ไฟใน rest mode สูงถึง £22.60 ต่อปี ➡️ แม้ปิดเครื่องแล้วก็ยังใช้ไฟ 0.2W หากไม่ถอดปลั๊ก ➡️ ควรใช้ dongle สตรีมมิ่งแทนคอนโซลเพื่อดู Netflix — ประหยัดไฟกว่า 35 เท่า ✅ เครื่องพิมพ์ (Printer) ➡️ ปล่อยให้ standby อาจเพิ่มค่าไฟปีละ £3.81 ➡️ Laser printer ใช้ไฟมากกว่า inkjet โดยเฉพาะในโหมด standby ➡️ ถ้าไม่ใช้งานบ่อย ควรถอดปลั๊กระหว่างวัน ✅ กล่องรับสัญญาณ, DVD/Blu-ray player ➡️ กล่องเคเบิลอาจใช้ไฟถึง $50 ต่อปีหากเสียบปลั๊กไว้ตลอด ➡️ อุปกรณ์เหล่านี้มักถูกละเลยเพราะอยู่ใต้ทีวี ➡️ ควรถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน หรือใช้ปลั๊กพ่วงแบบมีสวิตช์ ✅ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว เช่น ไมโครเวฟ, เครื่องชงกาแฟ, กาต้มน้ำไฟฟ้า ➡️ แม้จะดูเล็ก แต่รวมกันแล้วอาจเพิ่มค่าไฟ $10–$20 ต่อปี ➡️ อุปกรณ์ที่มีหน้าจอแสดงผล เช่น นาฬิกาบนไมโครเวฟ จะใช้ไฟตลอดเวลา ➡️ ถ้าไม่ได้ใช้งานบ่อย ควรถอดปลั๊กหรือใช้ปลั๊กพ่วงแบบควบคุม https://www.slashgear.com/1999279/energy-vampire-appliances-running-up-electric-bills/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Energy Vampires: 5 Appliances That Are Running Up Your Electric Bills - SlashGear
    Rising electricity prices make waste-cutting an inviting proposition. However, every home appliance is different, and not all are energy-hungry vampires.
    0 Comments 0 Shares 272 Views 0 Reviews
  • ใหม่! เครื่องสับมะพร้าวอ่อน/มะพร้าวเนื้อหนา เป็นเส้นได้หลายแบบ! (MULTI-FUNCTIONAL VEGETABLE CUTTER)

    บอกลาความยุ่งยาก! หมดปัญหานั่งขูดมะพร้าวทีละลูก! ยกระดับงานครัวสำหรับธุรกิจอาหารของคุณด้วย เครื่องสับ/หั่นผักเอนกประสงค์ ที่แข็งแกร่งและทนทาน!

    เครื่องเดียวจบครบทุกการแปรรูป ทั้งผัก ผลไม้ และ เนื้อมะพร้าวอ่อน/มะพร้าวเนื้อหนา ให้เป็นเส้นสวยงาม สม่ำเสมอ ได้ตามต้องการ!

    สับมะพร้าวเป็นเส้นได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น:

    - แบบหั่นเส้นปกติ
    - แบบหั่นหยักฟันปลา
    - แบบหั่นท่อน/หั่นเต๋า (สำหรับทำมะพร้าวแก้ว หรือเมนูอื่นๆ)

    จุดเด่นที่ต้องมี!
    - มอเตอร์ทรงพลัง: 2 แรงม้า หั่นได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ติดขัด
    - วัสดุสแตนเลสคุณภาพสูง: แข็งแกร่ง ทนทาน และถูกสุขอนามัยสำหรับการแปรรูปวัตถุดิบ
    - กำลังการผลิตสูง: 130-660 กก./ชม. ประหยัดเวลา แรงงาน และเพิ่มผลผลิตได้จริง
    - ใบมีดเปลี่ยนได้: มีให้เลือกหลายแบบ เพื่อให้ได้ขนาดและรูปทรงที่หลากหลาย
    - ปรับความหนาบางได้: ปรับความหนาในการสไลด์ได้ตั้งแต่ 1-10 มม. และความกว้างซอย 1-20 มม.

    ตอบโจทย์ทุกธุรกิจอาหารที่ต้องการความรวดเร็วและคุณภาพ!

    ไม่ต้องเสียเวลาลงแรงงานคนอีกต่อไป! หั่น สับ ซอย สไลด์... วัตถุดิบได้คุณภาพสูง รวดเร็ว และปลอดภัย พร้อมใช้งานได้กับวัตถุดิบอื่น ๆ อีกมากมาย (มันฝรั่ง, แครอท, แตงกวา, ผักกาด...)

    สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม:

    ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
    เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.00-17.00 น.), เสาร์ (8.00-16.00 น.)
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    แชท: m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098

    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com

    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องสับมะพร้าว #เครื่องหั่นมะพร้าว #เครื่องสไลด์ผัก #เครื่องหั่นเอนกประสงค์ #มะพร้าวอ่อน #มะพร้าวแก้ว #อุปกรณ์เบเกอรี่ #yonghahheng #เครื่องครัวอุตสาหกรรม #เครื่องจักรอาหาร #ธุรกิจอาหาร #โรงงานอาหาร #ประหยัดเวลา #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #เครื่องเตรียมวัตถุดิบ #สแตนเลส #เครื่องมือทำอาหาร #มะพร้าว #เนื้อมะพร้าว #กะทิ #เมี่ยงคำ #ลอดช่อง #ไอศครีมมะพร้าว #ร้านขนมไทย #ร้านน้ำปั่น #เครื่องบดผัก #เครื่องสไลด์ผลไม้ #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องหั่นแครอท #อุปกรณ์ร้านอาหาร #ครัวมืออาชีพ #วัตถุดิบคุณภาพ #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #ครัวขนาดใหญ่ #เครื่องหั่นผักอัตโนมัติ #เทคโนโลยีอาหาร
    🎉 🔥 ใหม่! เครื่องสับมะพร้าวอ่อน/มะพร้าวเนื้อหนา เป็นเส้นได้หลายแบบ! (MULTI-FUNCTIONAL VEGETABLE CUTTER) 🔥 บอกลาความยุ่งยาก! ✋ หมดปัญหานั่งขูดมะพร้าวทีละลูก! 🥥 ยกระดับงานครัวสำหรับธุรกิจอาหารของคุณด้วย เครื่องสับ/หั่นผักเอนกประสงค์ ที่แข็งแกร่งและทนทาน! 💪 เครื่องเดียวจบครบทุกการแปรรูป ทั้งผัก 🥕 ผลไม้ 🍎 และ เนื้อมะพร้าวอ่อน/มะพร้าวเนื้อหนา ให้เป็นเส้นสวยงาม สม่ำเสมอ ได้ตามต้องการ! ✨ 🌟 สับมะพร้าวเป็นเส้นได้หลากหลายรูปแบบ 🌟 ไม่ว่าจะเป็น: - แบบหั่นเส้นปกติ 🥔 - แบบหั่นหยักฟันปลา 🍟 - แบบหั่นท่อน/หั่นเต๋า 🧊 (สำหรับทำมะพร้าวแก้ว หรือเมนูอื่นๆ) 🎯 จุดเด่นที่ต้องมี! 🎯 - มอเตอร์ทรงพลัง: 2 แรงม้า หั่นได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ติดขัด 💨 - วัสดุสแตนเลสคุณภาพสูง: แข็งแกร่ง ทนทาน และถูกสุขอนามัยสำหรับการแปรรูปวัตถุดิบ 🛡️ - กำลังการผลิตสูง: 130-660 กก./ชม. ประหยัดเวลา แรงงาน และเพิ่มผลผลิตได้จริง 📈 - ใบมีดเปลี่ยนได้: มีให้เลือกหลายแบบ เพื่อให้ได้ขนาดและรูปทรงที่หลากหลาย 🔪 - ปรับความหนาบางได้: ปรับความหนาในการสไลด์ได้ตั้งแต่ 1-10 มม. และความกว้างซอย 1-20 มม.📏 🚀 ตอบโจทย์ทุกธุรกิจอาหารที่ต้องการความรวดเร็วและคุณภาพ! 💯 ไม่ต้องเสียเวลาลงแรงงานคนอีกต่อไป! หั่น สับ ซอย สไลด์... วัตถุดิบได้คุณภาพสูง รวดเร็ว และปลอดภัย พร้อมใช้งานได้กับวัตถุดิบอื่น ๆ อีกมากมาย (มันฝรั่ง, แครอท, แตงกวา, ผักกาด...) 🥒🥬 🛒 สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม: ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 📍 เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.00-17.00 น.), เสาร์ (8.00-16.00 น.) ⏰ แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 🗺️ แชท: m.me/yonghahheng 💬 LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9 📱 โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 📞 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com 🌐 อีเมล: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com 📧 #เครื่องสับมะพร้าว #เครื่องหั่นมะพร้าว #เครื่องสไลด์ผัก #เครื่องหั่นเอนกประสงค์ #มะพร้าวอ่อน #มะพร้าวแก้ว #อุปกรณ์เบเกอรี่ #yonghahheng #เครื่องครัวอุตสาหกรรม #เครื่องจักรอาหาร #ธุรกิจอาหาร #โรงงานอาหาร #ประหยัดเวลา #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #เครื่องเตรียมวัตถุดิบ #สแตนเลส #เครื่องมือทำอาหาร #มะพร้าว #เนื้อมะพร้าว #กะทิ #เมี่ยงคำ #ลอดช่อง #ไอศครีมมะพร้าว #ร้านขนมไทย #ร้านน้ำปั่น #เครื่องบดผัก #เครื่องสไลด์ผลไม้ #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องหั่นแครอท #อุปกรณ์ร้านอาหาร #ครัวมืออาชีพ #วัตถุดิบคุณภาพ #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #ครัวขนาดใหญ่ #เครื่องหั่นผักอัตโนมัติ #เทคโนโลยีอาหาร
    0 Comments 0 Shares 1506 Views 0 Reviews
  • “Synaptics เปิดตัว Astra SL2600” — โปรเซสเซอร์ Edge AI ยุคใหม่ที่รวมพลังมัลติโหมดและ RISC-V เพื่อโลก IoT อัจฉริยะ

    Synaptics ประกาศเปิดตัว Astra SL2600 Series โปรเซสเซอร์ Edge AI รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับอุปกรณ์อัจฉริยะในยุค Internet of Things (IoT) โดยเน้นการประมวลผลแบบมัลติโหมด (multimodal) ที่รวมภาพ เสียง เซ็นเซอร์ และข้อมูลเครือข่ายไว้ในชิปเดียว

    ชิป SL2610 ซึ่งเป็นรุ่นแรกในซีรีส์นี้ ใช้แพลตฟอร์ม Torq Edge AI ที่รวมสถาปัตยกรรม NPU แบบ RISC-V จาก Coral ของ Google พร้อมคอมไพเลอร์แบบ open-source (IREE/MLIR) เพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชัน AI ได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ

    SL2610 ยังรวม Arm Cortex-A55, Cortex-M52 พร้อม Helium และ Mali GPU เพื่อรองรับงานประมวลผลทั่วไปและกราฟิก พร้อมระบบความปลอดภัยในตัว เช่น root of trust, threat detection และ crypto coprocessor สำหรับงาน AI ที่ต้องการความปลอดภัยสูง

    ซีรีส์นี้มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย: SL2611, SL2613, SL2615, SL2617 และ SL2619 ซึ่งออกแบบให้ pin-to-pin compatible เพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยนรุ่นตามความต้องการของอุปกรณ์ ตั้งแต่แบบใช้แบตเตอรี่ไปจนถึงระบบวิชั่นอุตสาหกรรม

    ชิปยังรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Synaptics Veros Connectivity เช่น Wi-Fi 6/6E/7, Bluetooth/BLE, Thread และ UWB เพื่อให้การพัฒนาอุปกรณ์ IoT เป็นไปอย่างรวดเร็วและครบวงจร

    Synaptics ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรระดับโลก เช่น Google, Cisco, Sonos, Garmin, Deutsche Telekom และ Arm ซึ่งต่างยืนยันถึงความสามารถของ Astra SL2600 ในการผลักดันนวัตกรรม Edge AI

    ข้อมูลในข่าว
    Synaptics เปิดตัว Astra SL2600 Series โปรเซสเซอร์ Edge AI รุ่นใหม่
    SL2610 ใช้แพลตฟอร์ม Torq Edge AI ที่รวม Coral NPU จาก Google
    ใช้คอมไพเลอร์ open-source IREE/MLIR เพื่อความยืดหยุ่นในการพัฒนา
    รวม Arm Cortex-A55, Cortex-M52 พร้อม Helium และ Mali GPU
    มีระบบความปลอดภัยในตัว เช่น root of trust และ crypto coprocessor
    มี 5 รุ่นย่อย: SL2611, SL2613, SL2615, SL2617, SL2619 ที่ pin-to-pin compatible
    รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Veros Connectivity: Wi-Fi 6/6E/7, BT/BLE, Thread, UWB
    เหมาะสำหรับอุปกรณ์ IoT เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, ระบบอัตโนมัติ, UAV, เกม, POS, หุ่นยนต์
    ได้รับความร่วมมือจาก Google, Cisco, Sonos, Garmin, Deutsche Telekom และ Arm
    ชิปเริ่มส่งตัวอย่างให้ลูกค้าแล้ว และจะวางจำหน่ายทั่วไปในไตรมาส 2 ปี 2026

    https://www.techpowerup.com/341933/synaptics-launches-the-next-generation-of-astra-multimodal-genai-edge-processors
    🧠 “Synaptics เปิดตัว Astra SL2600” — โปรเซสเซอร์ Edge AI ยุคใหม่ที่รวมพลังมัลติโหมดและ RISC-V เพื่อโลก IoT อัจฉริยะ Synaptics ประกาศเปิดตัว Astra SL2600 Series โปรเซสเซอร์ Edge AI รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับอุปกรณ์อัจฉริยะในยุค Internet of Things (IoT) โดยเน้นการประมวลผลแบบมัลติโหมด (multimodal) ที่รวมภาพ เสียง เซ็นเซอร์ และข้อมูลเครือข่ายไว้ในชิปเดียว ชิป SL2610 ซึ่งเป็นรุ่นแรกในซีรีส์นี้ ใช้แพลตฟอร์ม Torq Edge AI ที่รวมสถาปัตยกรรม NPU แบบ RISC-V จาก Coral ของ Google พร้อมคอมไพเลอร์แบบ open-source (IREE/MLIR) เพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชัน AI ได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ SL2610 ยังรวม Arm Cortex-A55, Cortex-M52 พร้อม Helium และ Mali GPU เพื่อรองรับงานประมวลผลทั่วไปและกราฟิก พร้อมระบบความปลอดภัยในตัว เช่น root of trust, threat detection และ crypto coprocessor สำหรับงาน AI ที่ต้องการความปลอดภัยสูง ซีรีส์นี้มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย: SL2611, SL2613, SL2615, SL2617 และ SL2619 ซึ่งออกแบบให้ pin-to-pin compatible เพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยนรุ่นตามความต้องการของอุปกรณ์ ตั้งแต่แบบใช้แบตเตอรี่ไปจนถึงระบบวิชั่นอุตสาหกรรม ชิปยังรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Synaptics Veros Connectivity เช่น Wi-Fi 6/6E/7, Bluetooth/BLE, Thread และ UWB เพื่อให้การพัฒนาอุปกรณ์ IoT เป็นไปอย่างรวดเร็วและครบวงจร Synaptics ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรระดับโลก เช่น Google, Cisco, Sonos, Garmin, Deutsche Telekom และ Arm ซึ่งต่างยืนยันถึงความสามารถของ Astra SL2600 ในการผลักดันนวัตกรรม Edge AI ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Synaptics เปิดตัว Astra SL2600 Series โปรเซสเซอร์ Edge AI รุ่นใหม่ ➡️ SL2610 ใช้แพลตฟอร์ม Torq Edge AI ที่รวม Coral NPU จาก Google ➡️ ใช้คอมไพเลอร์ open-source IREE/MLIR เพื่อความยืดหยุ่นในการพัฒนา ➡️ รวม Arm Cortex-A55, Cortex-M52 พร้อม Helium และ Mali GPU ➡️ มีระบบความปลอดภัยในตัว เช่น root of trust และ crypto coprocessor ➡️ มี 5 รุ่นย่อย: SL2611, SL2613, SL2615, SL2617, SL2619 ที่ pin-to-pin compatible ➡️ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Veros Connectivity: Wi-Fi 6/6E/7, BT/BLE, Thread, UWB ➡️ เหมาะสำหรับอุปกรณ์ IoT เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, ระบบอัตโนมัติ, UAV, เกม, POS, หุ่นยนต์ ➡️ ได้รับความร่วมมือจาก Google, Cisco, Sonos, Garmin, Deutsche Telekom และ Arm ➡️ ชิปเริ่มส่งตัวอย่างให้ลูกค้าแล้ว และจะวางจำหน่ายทั่วไปในไตรมาส 2 ปี 2026 https://www.techpowerup.com/341933/synaptics-launches-the-next-generation-of-astra-multimodal-genai-edge-processors
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Synaptics Launches the Next Generation of Astra Multimodal GenAI Edge Processors
    Synaptics Incorporated (Nasdaq: SYNA), announces the new Astra SL2600 Series of multimodal Edge AI processors designed to deliver exceptional power and performance. The Astra SL2600 series enables a new generation of cost-effective intelligent devices that make the cognitive Internet of Things (IoT)...
    0 Comments 0 Shares 242 Views 0 Reviews
  • “Free Software ยังไม่ชนะ — เมื่อเสรีภาพของผู้ใช้ยังถูกล็อกไว้ในเฟิร์มแวร์และอุปกรณ์รอบตัว”

    บทความนี้เป็นฉบับเรียบเรียงจากการบรรยายของ Dorota ที่งาน P.I.W.O. ซึ่งตั้งคำถามว่า “Free Software ชนะแล้วจริงหรือ?” แม้เราจะใช้ Linux, Firefox, Inkscape และเครื่องมือโอเพ่นซอร์สมากมาย แต่เมื่อมองลึกลงไปในอุปกรณ์รอบตัว เช่น โทรศัพท์, เครื่องพิมพ์, การ์ดจอ, หรือแม้แต่จักรยานไฟฟ้า — เรากลับพบว่าเฟิร์มแวร์และซอฟต์แวร์ภายในยังคงเป็นระบบปิดที่ผู้ใช้ไม่มีสิทธิ์ควบคุม

    Dorota ยกตัวอย่างจากประสบการณ์พัฒนาโทรศัพท์ Librem 5 ที่ต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านสิทธิบัตรและการผูกขาดของผู้ผลิตชิปโมเด็ม ซึ่งทำให้ไม่สามารถหาชิ้นส่วนที่เปิดซอร์สได้อย่างแท้จริง แม้จะมีความพยายามจากชุมชนโอเพ่นซอร์ส แต่การล็อกบูตโหลดเดอร์, การจำกัดการอัปเดต, และการปิดกั้นการเข้าถึงซอร์สโค้ด ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ

    บทความยังชี้ให้เห็นว่าแม้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สจะถูกใช้ในอุปกรณ์มากมาย แต่ผู้ใช้กลับไม่มีสิทธิ์ในการศึกษา แก้ไข หรือแจกจ่ายซอฟต์แวร์นั้น เพราะผู้ผลิตเลือกใช้ไลเซนส์แบบ “permissive” ที่เปิดช่องให้ปิดซอร์สในภายหลังได้

    Dorota เสนอว่าการผลักดัน Free Software ให้ “ชนะจริง” ต้องอาศัยแรงผลักดันทางการเมือง เช่น การออกกฎหมายบังคับให้เปิดซอร์สเฟิร์มแวร์ หรือการสนับสนุนผู้ผลิตที่เป็นมิตรกับโอเพ่นซอร์ส เช่น Purism, Prusa, หรือ Espruino

    Free Software ยังไม่ชนะในระดับเฟิร์มแวร์และอุปกรณ์
    โทรศัพท์, เครื่องพิมพ์, การ์ดจอ, และอุปกรณ์ IoT ยังใช้ระบบปิด

    ตัวอย่างจาก Librem 5 พบข้อจำกัดด้านสิทธิบัตรและการผูกขาด
    ผู้ผลิตชิปโมเด็มควบคุมการเข้าถึงและการจัดจำหน่าย

    เฟิร์มแวร์ในอุปกรณ์ทั่วไปยังเป็นระบบปิด
    เช่น SSD, HDD, GPU, keyboard, network card

    Secure Boot และระบบล็อกบูตโหลดเดอร์จำกัดสิทธิ์ผู้ใช้
    ผู้ผลิตสามารถเลือกซอฟต์แวร์ที่ผู้ใช้รันได้

    ซอฟต์แวร์ที่ใช้ไลเซนส์ permissive อาจถูกปิดซอร์สในภายหลัง
    ผู้ใช้ไม่มีสิทธิ์แก้ไขหรือแจกจ่ายซอฟต์แวร์ที่ถูกดัดแปลง

    การสนับสนุนผู้ผลิตที่เปิดซอร์สเป็นทางเลือกหนึ่ง
    เช่น Librem 5, Prusa 3D, Espruino

    Google Chromebook มี BIOS และ Embedded Controller แบบเปิด
    ใช้ Coreboot และสามารถรัน Linux ได้อย่างเสรี

    Debian เป็นตัวอย่างของระบบที่พัฒนาโดยชุมชน
    ต่างจาก Android ที่ถูกควบคุมโดยบริษัท

    คำเตือนและข้อจำกัด
    ผู้ใช้ทั่วไปยังขาดสิทธิ์ในการควบคุมอุปกรณ์ของตนเอง
    เฟิร์มแวร์และระบบล็อกทำให้ไม่สามารถแก้ไขหรือปรับแต่งได้

    อุปกรณ์ที่ใช้บริการคลาวด์อาจกลายเป็น “อิฐ” เมื่อเซิร์ฟเวอร์ปิดตัว
    เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, กล้อง, หรืออุปกรณ์เกษตร

    ซอฟต์แวร์ปิดในอุปกรณ์การแพทย์อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้
    เช่น pacemaker ที่ไม่สามารถปรับแต่งหรือตรวจสอบได้

    การใช้ไลเซนส์ permissive โดยผู้ผลิตอาจทำให้ผู้ใช้เสียสิทธิ์
    แม้จะใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส แต่ไม่สามารถเข้าถึงซอร์สโค้ด

    การพัฒนาโดยบริษัทอาจขัดแย้งกับเป้าหมายของผู้ใช้
    เช่น Android ที่ปิดซอร์สส่วนสำคัญและจำกัดการอัปเดต

    https://dorotac.eu/posts/fosswon/
    🧠 “Free Software ยังไม่ชนะ — เมื่อเสรีภาพของผู้ใช้ยังถูกล็อกไว้ในเฟิร์มแวร์และอุปกรณ์รอบตัว” บทความนี้เป็นฉบับเรียบเรียงจากการบรรยายของ Dorota ที่งาน P.I.W.O. ซึ่งตั้งคำถามว่า “Free Software ชนะแล้วจริงหรือ?” แม้เราจะใช้ Linux, Firefox, Inkscape และเครื่องมือโอเพ่นซอร์สมากมาย แต่เมื่อมองลึกลงไปในอุปกรณ์รอบตัว เช่น โทรศัพท์, เครื่องพิมพ์, การ์ดจอ, หรือแม้แต่จักรยานไฟฟ้า — เรากลับพบว่าเฟิร์มแวร์และซอฟต์แวร์ภายในยังคงเป็นระบบปิดที่ผู้ใช้ไม่มีสิทธิ์ควบคุม Dorota ยกตัวอย่างจากประสบการณ์พัฒนาโทรศัพท์ Librem 5 ที่ต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านสิทธิบัตรและการผูกขาดของผู้ผลิตชิปโมเด็ม ซึ่งทำให้ไม่สามารถหาชิ้นส่วนที่เปิดซอร์สได้อย่างแท้จริง แม้จะมีความพยายามจากชุมชนโอเพ่นซอร์ส แต่การล็อกบูตโหลดเดอร์, การจำกัดการอัปเดต, และการปิดกั้นการเข้าถึงซอร์สโค้ด ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ บทความยังชี้ให้เห็นว่าแม้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สจะถูกใช้ในอุปกรณ์มากมาย แต่ผู้ใช้กลับไม่มีสิทธิ์ในการศึกษา แก้ไข หรือแจกจ่ายซอฟต์แวร์นั้น เพราะผู้ผลิตเลือกใช้ไลเซนส์แบบ “permissive” ที่เปิดช่องให้ปิดซอร์สในภายหลังได้ Dorota เสนอว่าการผลักดัน Free Software ให้ “ชนะจริง” ต้องอาศัยแรงผลักดันทางการเมือง เช่น การออกกฎหมายบังคับให้เปิดซอร์สเฟิร์มแวร์ หรือการสนับสนุนผู้ผลิตที่เป็นมิตรกับโอเพ่นซอร์ส เช่น Purism, Prusa, หรือ Espruino ✅ Free Software ยังไม่ชนะในระดับเฟิร์มแวร์และอุปกรณ์ ➡️ โทรศัพท์, เครื่องพิมพ์, การ์ดจอ, และอุปกรณ์ IoT ยังใช้ระบบปิด ✅ ตัวอย่างจาก Librem 5 พบข้อจำกัดด้านสิทธิบัตรและการผูกขาด ➡️ ผู้ผลิตชิปโมเด็มควบคุมการเข้าถึงและการจัดจำหน่าย ✅ เฟิร์มแวร์ในอุปกรณ์ทั่วไปยังเป็นระบบปิด ➡️ เช่น SSD, HDD, GPU, keyboard, network card ✅ Secure Boot และระบบล็อกบูตโหลดเดอร์จำกัดสิทธิ์ผู้ใช้ ➡️ ผู้ผลิตสามารถเลือกซอฟต์แวร์ที่ผู้ใช้รันได้ ✅ ซอฟต์แวร์ที่ใช้ไลเซนส์ permissive อาจถูกปิดซอร์สในภายหลัง ➡️ ผู้ใช้ไม่มีสิทธิ์แก้ไขหรือแจกจ่ายซอฟต์แวร์ที่ถูกดัดแปลง ✅ การสนับสนุนผู้ผลิตที่เปิดซอร์สเป็นทางเลือกหนึ่ง ➡️ เช่น Librem 5, Prusa 3D, Espruino ✅ Google Chromebook มี BIOS และ Embedded Controller แบบเปิด ➡️ ใช้ Coreboot และสามารถรัน Linux ได้อย่างเสรี ✅ Debian เป็นตัวอย่างของระบบที่พัฒนาโดยชุมชน ➡️ ต่างจาก Android ที่ถูกควบคุมโดยบริษัท ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ‼️ ผู้ใช้ทั่วไปยังขาดสิทธิ์ในการควบคุมอุปกรณ์ของตนเอง ⛔ เฟิร์มแวร์และระบบล็อกทำให้ไม่สามารถแก้ไขหรือปรับแต่งได้ ‼️ อุปกรณ์ที่ใช้บริการคลาวด์อาจกลายเป็น “อิฐ” เมื่อเซิร์ฟเวอร์ปิดตัว ⛔ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, กล้อง, หรืออุปกรณ์เกษตร ‼️ ซอฟต์แวร์ปิดในอุปกรณ์การแพทย์อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ⛔ เช่น pacemaker ที่ไม่สามารถปรับแต่งหรือตรวจสอบได้ ‼️ การใช้ไลเซนส์ permissive โดยผู้ผลิตอาจทำให้ผู้ใช้เสียสิทธิ์ ⛔ แม้จะใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส แต่ไม่สามารถเข้าถึงซอร์สโค้ด ‼️ การพัฒนาโดยบริษัทอาจขัดแย้งกับเป้าหมายของผู้ใช้ ⛔ เช่น Android ที่ปิดซอร์สส่วนสำคัญและจำกัดการอัปเดต https://dorotac.eu/posts/fosswon/
    0 Comments 0 Shares 325 Views 0 Reviews
  • “เยอรมนีติดตั้งโซลาร์เซลล์บนระเบียงกว่า 500,000 จุด — พลังงานสะอาดที่ใครก็เข้าถึงได้”

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เยอรมนีได้พลิกโฉมการใช้พลังงานสะอาดด้วยการผลักดัน “Balkonkraftwerk” หรือระบบโซลาร์เซลล์ขนาดเล็กที่ติดตั้งบนระเบียง ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับปลั๊กไฟภายในบ้านได้โดยตรง โดยไม่ต้องมีการติดตั้งซับซ้อนหรือเป็นเจ้าของบ้านเอง

    ระบบนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2023 เพียงปีเดียวมีการติดตั้งมากกว่า 275,000 จุด และในปี 2024 ตัวเลขรวมทะลุ 550,000 จุดทั่วประเทศ โดยแต่ละชุดมีขนาดไม่เกิน 800 วัตต์ ซึ่งเพียงพอสำหรับการชาร์จแล็ปท็อปหรือใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก

    ความสำเร็จนี้เกิดจากการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีที่เรียบง่าย ราคาที่เข้าถึงได้ (ประมาณ 500–700 ยูโรต่อชุด) และนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนอย่างจริงจัง เช่น การลดขั้นตอนการขออนุญาต การอนุญาตให้ใช้ปลั๊ก Schuko มาตรฐาน และการออกกฎหมายคุ้มครองผู้เช่าไม่ให้ถูกเจ้าของบ้านขัดขวางการติดตั้ง

    แม้ระบบจะผลิตไฟฟ้าได้ไม่มากนัก — เฉลี่ยประมาณ 500–600 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี — แต่ผู้ใช้งานจำนวนมากมองว่าเป็น “การกระทำเล็ก ๆ ที่มีความหมาย” ทั้งในแง่ของการลดค่าไฟ และการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ

    ผู้ใช้งานหลายคนยังกล่าวว่า การติดตั้งโซลาร์ระเบียงทำให้พวกเขาเริ่มตระหนักถึงการใช้พลังงานมากขึ้น เช่น การเลือกเวลาซักผ้าให้ตรงกับช่วงแดดจัด หรือการติดตามปริมาณพลังงานที่ผลิตผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งกลายเป็นกิจกรรมที่สร้างความภูมิใจและแรงบันดาลใจให้กับคนรอบข้าง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    เยอรมนีติดตั้งโซลาร์เซลล์บนระเบียงมากกว่า 550,000 จุดทั่วประเทศ
    ระบบ Balkonkraftwerk มีขนาดไม่เกิน 800 วัตต์ และเชื่อมต่อผ่านปลั๊กไฟบ้าน
    ราคาต่อชุดประมาณ 500–700 ยูโร และติดตั้งได้เองโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของบ้าน
    รัฐบาลออกกฎหมายคุ้มครองผู้เช่าไม่ให้ถูกขัดขวางการติดตั้ง
    มีการลดขั้นตอนการขออนุญาตและอนุญาตให้ใช้ปลั๊ก Schuko มาตรฐาน
    ระบบผลิตไฟฟ้าเฉลี่ย 500–600 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี
    ผู้ใช้งานสามารถติดตามการผลิตพลังงานผ่านแอปพลิเคชัน
    การติดตั้งช่วยให้ผู้คนตระหนักถึงการใช้พลังงานและวางแผนการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
    เป็นการมีส่วนร่วมเล็ก ๆ ที่ช่วยลดการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิล

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ในปี 2024 เยอรมนีผ่าน “Solarpaket 1” เพื่อสนับสนุนโซลาร์ระเบียงอย่างเป็นระบบ
    ระบบโซลาร์ระเบียงสามารถคืนทุนได้ภายใน 3–5 ปี ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและทิศทางของแสง
    ประเทศอื่นในยุโรป เช่น เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย และเบลเยียม กำลังนำแนวทางนี้ไปใช้
    ระบบแบบ plug-and-play ช่วยลดความซับซ้อนในการติดตั้งและเพิ่มการเข้าถึง
    การผลิตพลังงานในระดับครัวเรือนช่วยลดภาระของโครงข่ายไฟฟ้ากลาง

    https://grist.org/buildings/how-germany-outfitted-half-a-million-balconies-with-solar-panels/
    ☀️ “เยอรมนีติดตั้งโซลาร์เซลล์บนระเบียงกว่า 500,000 จุด — พลังงานสะอาดที่ใครก็เข้าถึงได้” ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เยอรมนีได้พลิกโฉมการใช้พลังงานสะอาดด้วยการผลักดัน “Balkonkraftwerk” หรือระบบโซลาร์เซลล์ขนาดเล็กที่ติดตั้งบนระเบียง ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับปลั๊กไฟภายในบ้านได้โดยตรง โดยไม่ต้องมีการติดตั้งซับซ้อนหรือเป็นเจ้าของบ้านเอง ระบบนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2023 เพียงปีเดียวมีการติดตั้งมากกว่า 275,000 จุด และในปี 2024 ตัวเลขรวมทะลุ 550,000 จุดทั่วประเทศ โดยแต่ละชุดมีขนาดไม่เกิน 800 วัตต์ ซึ่งเพียงพอสำหรับการชาร์จแล็ปท็อปหรือใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ความสำเร็จนี้เกิดจากการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีที่เรียบง่าย ราคาที่เข้าถึงได้ (ประมาณ 500–700 ยูโรต่อชุด) และนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนอย่างจริงจัง เช่น การลดขั้นตอนการขออนุญาต การอนุญาตให้ใช้ปลั๊ก Schuko มาตรฐาน และการออกกฎหมายคุ้มครองผู้เช่าไม่ให้ถูกเจ้าของบ้านขัดขวางการติดตั้ง แม้ระบบจะผลิตไฟฟ้าได้ไม่มากนัก — เฉลี่ยประมาณ 500–600 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี — แต่ผู้ใช้งานจำนวนมากมองว่าเป็น “การกระทำเล็ก ๆ ที่มีความหมาย” ทั้งในแง่ของการลดค่าไฟ และการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ผู้ใช้งานหลายคนยังกล่าวว่า การติดตั้งโซลาร์ระเบียงทำให้พวกเขาเริ่มตระหนักถึงการใช้พลังงานมากขึ้น เช่น การเลือกเวลาซักผ้าให้ตรงกับช่วงแดดจัด หรือการติดตามปริมาณพลังงานที่ผลิตผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งกลายเป็นกิจกรรมที่สร้างความภูมิใจและแรงบันดาลใจให้กับคนรอบข้าง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ เยอรมนีติดตั้งโซลาร์เซลล์บนระเบียงมากกว่า 550,000 จุดทั่วประเทศ ➡️ ระบบ Balkonkraftwerk มีขนาดไม่เกิน 800 วัตต์ และเชื่อมต่อผ่านปลั๊กไฟบ้าน ➡️ ราคาต่อชุดประมาณ 500–700 ยูโร และติดตั้งได้เองโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของบ้าน ➡️ รัฐบาลออกกฎหมายคุ้มครองผู้เช่าไม่ให้ถูกขัดขวางการติดตั้ง ➡️ มีการลดขั้นตอนการขออนุญาตและอนุญาตให้ใช้ปลั๊ก Schuko มาตรฐาน ➡️ ระบบผลิตไฟฟ้าเฉลี่ย 500–600 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ➡️ ผู้ใช้งานสามารถติดตามการผลิตพลังงานผ่านแอปพลิเคชัน ➡️ การติดตั้งช่วยให้ผู้คนตระหนักถึงการใช้พลังงานและวางแผนการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ➡️ เป็นการมีส่วนร่วมเล็ก ๆ ที่ช่วยลดการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิล ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ในปี 2024 เยอรมนีผ่าน “Solarpaket 1” เพื่อสนับสนุนโซลาร์ระเบียงอย่างเป็นระบบ ➡️ ระบบโซลาร์ระเบียงสามารถคืนทุนได้ภายใน 3–5 ปี ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและทิศทางของแสง ➡️ ประเทศอื่นในยุโรป เช่น เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย และเบลเยียม กำลังนำแนวทางนี้ไปใช้ ➡️ ระบบแบบ plug-and-play ช่วยลดความซับซ้อนในการติดตั้งและเพิ่มการเข้าถึง ➡️ การผลิตพลังงานในระดับครัวเรือนช่วยลดภาระของโครงข่ายไฟฟ้ากลาง https://grist.org/buildings/how-germany-outfitted-half-a-million-balconies-with-solar-panels/
    GRIST.ORG
    How Germany outfitted half a million balconies with solar panels
    Meet balkonkraftwerk, the simple technology putting solar power in the hands of renters and nudging Germany toward its clean energy goals.
    0 Comments 0 Shares 506 Views 0 Reviews
  • “เมื่อความผิดหวังกลายเป็นอิสรภาพ — ทำไมสายครีเอทีฟควรหันมาใช้ FOSS ในวันที่เครื่องมือกลายเป็นกรง”

    ในยุคที่ซอฟต์แวร์กลายเป็น “เครื่องใช้ไฟฟ้า” มากกว่าชุดเครื่องมือสร้างสรรค์ ผู้ใช้งานสายครีเอทีฟจำนวนมากเริ่มรู้สึกถึงความไม่มั่นคง: ฟีเจอร์หายไปหลังอัปเดต, ไฟล์เปิดไม่ได้เพราะ format ถูกล็อก, หรือราคาสมัครสมาชิกที่พุ่งขึ้นโดยไม่มีคำอธิบาย สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาเล็กน้อย แต่คือสัญญาณว่า “อำนาจในการควบคุมเครื่องมือ” ได้ถูกย้ายจากผู้ใช้ไปยังผู้ขาย

    บทความจาก It's FOSS ชี้ว่า Free and Open Source Software (FOSS) ไม่ใช่แค่ทางเลือกที่ไม่มีค่าใช้จ่าย — แต่มันคือการคืนอำนาจให้ผู้สร้างสรรค์ได้ปรับแต่งเครื่องมือให้เหมาะกับตนเอง ไม่ต้องรอ vendor อัปเดต ไม่ต้องกลัวฟีเจอร์หาย และไม่ต้องผูกติดกับระบบปิดที่ไม่โปร่งใส

    ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Blender ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสมัครเล่น แต่ปัจจุบันถูกใช้สร้างภาพยนตร์ระดับมืออาชีพ เพราะเปิดให้ผู้ใช้เขียนสคริปต์ สร้างปลั๊กอิน และแชร์เครื่องมือกันได้อย่างอิสระ เช่นเดียวกับ Krita ที่มีระบบแปรงแบบเปิด, Godot ที่ให้ผู้พัฒนาเกมควบคุมทุกส่วนของเอนจิน, Inkscape ที่ใช้ SVG เป็นมาตรฐานเปิด และ Darktable ที่ให้ช่างภาพปรับแต่ง RAW ได้อย่างลึกซึ้ง

    บทความยังชี้ให้เห็นว่า “มาตรฐานอุตสาหกรรม” ไม่ได้ถูกกำหนดโดยบริษัทใหญ่ แต่ถูกสร้างจากงานของผู้ใช้จริง เช่น Blender ที่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ในวงการ VFX หรือ Krita ที่กลายเป็นเครื่องมือหลักของนักวาดการ์ตูน

    ผู้เขียนซึ่งเป็นนักเขียนและผู้กำกับภาพยนตร์จากเอเชียใต้ เล่าว่าการเปลี่ยนมาใช้ FOSS ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่คือการเปลี่ยนวิธีคิด — จากการเป็นผู้ใช้ มาเป็นผู้ร่วมสร้าง และจากการพึ่งพา มาเป็นการควบคุม

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    FOSS คือทางเลือกที่ให้ผู้ใช้ควบคุมเครื่องมือได้อย่างเต็มที่
    Blender, Krita, Godot, Inkscape และ Darktable เป็นตัวอย่างของ FOSS ที่ใช้จริงในอุตสาหกรรม
    Blender ใช้ในภาพยนตร์มืออาชีพ เพราะเปิดให้เขียนสคริปต์และแชร์ปลั๊กอิน
    Krita มีระบบแปรงและปลั๊กอินที่ผู้ใช้สามารถสร้างและแชร์ได้
    Godot เป็นเอนจินเกมแบบเปิดที่ให้ผู้ใช้ควบคุมทุกส่วนของการพัฒนา
    Inkscape ใช้มาตรฐาน SVG ทำให้ไม่มีการล็อกไฟล์
    Darktable ให้ช่างภาพปรับแต่ง RAW ด้วย Lua scripting และ format แบบเปิด
    ผู้เขียนบทความใช้ Neovim สร้างระบบเขียนบทแบบ Integrated Writing Environment
    การใช้ FOSS ช่วยลดการพึ่งพาระบบปิดและเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Ubuntu 24.04 รองรับ FOSS สำหรับงานออกแบบ เช่น GIMP, Inkscape, Kdenlive, Scribus
    Krita ได้รับความนิยมในวงการวาดการ์ตูนและภาพประกอบระดับมืออาชีพ
    Linux OS เป็นระบบที่เสถียรและเหมาะกับงานสร้างสรรค์ที่ต้องการความยืดหยุ่น
    Open formats เช่น SVG, OpenEXR, glTF, FLAC ช่วยให้ไฟล์สามารถใช้งานข้ามแพลตฟอร์มได้
    FOSS ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความปลอดภัยจากการผูกติดกับ vendor

    https://news.itsfoss.com/creatives-need-foss-now/
    🎨 “เมื่อความผิดหวังกลายเป็นอิสรภาพ — ทำไมสายครีเอทีฟควรหันมาใช้ FOSS ในวันที่เครื่องมือกลายเป็นกรง” ในยุคที่ซอฟต์แวร์กลายเป็น “เครื่องใช้ไฟฟ้า” มากกว่าชุดเครื่องมือสร้างสรรค์ ผู้ใช้งานสายครีเอทีฟจำนวนมากเริ่มรู้สึกถึงความไม่มั่นคง: ฟีเจอร์หายไปหลังอัปเดต, ไฟล์เปิดไม่ได้เพราะ format ถูกล็อก, หรือราคาสมัครสมาชิกที่พุ่งขึ้นโดยไม่มีคำอธิบาย สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาเล็กน้อย แต่คือสัญญาณว่า “อำนาจในการควบคุมเครื่องมือ” ได้ถูกย้ายจากผู้ใช้ไปยังผู้ขาย บทความจาก It's FOSS ชี้ว่า Free and Open Source Software (FOSS) ไม่ใช่แค่ทางเลือกที่ไม่มีค่าใช้จ่าย — แต่มันคือการคืนอำนาจให้ผู้สร้างสรรค์ได้ปรับแต่งเครื่องมือให้เหมาะกับตนเอง ไม่ต้องรอ vendor อัปเดต ไม่ต้องกลัวฟีเจอร์หาย และไม่ต้องผูกติดกับระบบปิดที่ไม่โปร่งใส ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Blender ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสมัครเล่น แต่ปัจจุบันถูกใช้สร้างภาพยนตร์ระดับมืออาชีพ เพราะเปิดให้ผู้ใช้เขียนสคริปต์ สร้างปลั๊กอิน และแชร์เครื่องมือกันได้อย่างอิสระ เช่นเดียวกับ Krita ที่มีระบบแปรงแบบเปิด, Godot ที่ให้ผู้พัฒนาเกมควบคุมทุกส่วนของเอนจิน, Inkscape ที่ใช้ SVG เป็นมาตรฐานเปิด และ Darktable ที่ให้ช่างภาพปรับแต่ง RAW ได้อย่างลึกซึ้ง บทความยังชี้ให้เห็นว่า “มาตรฐานอุตสาหกรรม” ไม่ได้ถูกกำหนดโดยบริษัทใหญ่ แต่ถูกสร้างจากงานของผู้ใช้จริง เช่น Blender ที่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ในวงการ VFX หรือ Krita ที่กลายเป็นเครื่องมือหลักของนักวาดการ์ตูน ผู้เขียนซึ่งเป็นนักเขียนและผู้กำกับภาพยนตร์จากเอเชียใต้ เล่าว่าการเปลี่ยนมาใช้ FOSS ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่คือการเปลี่ยนวิธีคิด — จากการเป็นผู้ใช้ มาเป็นผู้ร่วมสร้าง และจากการพึ่งพา มาเป็นการควบคุม ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ FOSS คือทางเลือกที่ให้ผู้ใช้ควบคุมเครื่องมือได้อย่างเต็มที่ ➡️ Blender, Krita, Godot, Inkscape และ Darktable เป็นตัวอย่างของ FOSS ที่ใช้จริงในอุตสาหกรรม ➡️ Blender ใช้ในภาพยนตร์มืออาชีพ เพราะเปิดให้เขียนสคริปต์และแชร์ปลั๊กอิน ➡️ Krita มีระบบแปรงและปลั๊กอินที่ผู้ใช้สามารถสร้างและแชร์ได้ ➡️ Godot เป็นเอนจินเกมแบบเปิดที่ให้ผู้ใช้ควบคุมทุกส่วนของการพัฒนา ➡️ Inkscape ใช้มาตรฐาน SVG ทำให้ไม่มีการล็อกไฟล์ ➡️ Darktable ให้ช่างภาพปรับแต่ง RAW ด้วย Lua scripting และ format แบบเปิด ➡️ ผู้เขียนบทความใช้ Neovim สร้างระบบเขียนบทแบบ Integrated Writing Environment ➡️ การใช้ FOSS ช่วยลดการพึ่งพาระบบปิดและเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Ubuntu 24.04 รองรับ FOSS สำหรับงานออกแบบ เช่น GIMP, Inkscape, Kdenlive, Scribus ➡️ Krita ได้รับความนิยมในวงการวาดการ์ตูนและภาพประกอบระดับมืออาชีพ ➡️ Linux OS เป็นระบบที่เสถียรและเหมาะกับงานสร้างสรรค์ที่ต้องการความยืดหยุ่น ➡️ Open formats เช่น SVG, OpenEXR, glTF, FLAC ช่วยให้ไฟล์สามารถใช้งานข้ามแพลตฟอร์มได้ ➡️ FOSS ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความปลอดภัยจากการผูกติดกับ vendor https://news.itsfoss.com/creatives-need-foss-now/
    NEWS.ITSFOSS.COM
    From Disillusionment to Freedom: Why Creatives Need FOSS Now More Than Ever
    More than ever, creative professionals need to exert control over their digital footprint. Big tech will not give us control—we have to take it. Free and Open Source (FOSS) software gives us a path forward. The path isn't easy, but I argue nothing worthwhile is.
    0 Comments 0 Shares 333 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากเบรกเกอร์ธรรมดาสู่ผู้ช่วยบ้านอัจฉริยะ: เมื่อความปลอดภัยและประหยัดพลังงานรวมอยู่ในชิ้นเดียว

    ในยุคที่บ้านกำลังกลายเป็น “สมาร์ทโฮม” หลายคนมองข้ามอุปกรณ์พื้นฐานอย่างเบรกเกอร์ไฟฟ้า แต่ตอนนี้ Smart Circuit Breaker กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะมันสามารถควบคุมไฟฟ้าได้จากแอปมือถือ แจ้งเตือนเมื่อมีการใช้พลังงานผิดปกติ และช่วยลดค่าไฟได้จริง

    ตัวอย่างเช่น Leviton LB120-ST รุ่นที่สอง สามารถตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ และสั่งปิดวงจรได้ทันทีผ่านแอป นอกจากนี้ยังสามารถระบุว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าใดกินไฟมากเกินไป ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับบ้านที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน

    ผู้ใช้หลายคนรีวิวว่า Smart Circuit Breaker ใช้งานง่ายและเชื่อถือได้ เช่นรุ่น Marstek ที่มีฟีเจอร์วัดพลังงาน และรุ่น Ensoft ที่สามารถแจ้งเตือนเมื่อปลั๊กหรืออุปกรณ์ใดใช้ไฟเกินระดับปลอดภัย พร้อมสั่งปิดจากระยะไกลได้ทันที

    แต่แน่นอนว่าเทคโนโลยีใหม่ก็มีข้อจำกัด โดยเฉพาะเรื่อง “ราคา” ที่สูงกว่ารุ่นธรรมดาหลายเท่า และ “การติดตั้ง” ที่บางคนบ่นว่าเอกสารคู่มืออ่านยาก หรือหาข้อมูลออนไลน์ไม่เจอ นอกจากนี้ยังมีความกังวลเรื่อง “ความปลอดภัยไซเบอร์” เพราะอุปกรณ์เหล่านี้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา

    ในภาคอุตสาหกรรม Smart Circuit Breaker ยังถูกพัฒนาให้ใช้ AI และ IoT เพื่อวิเคราะห์การใช้ไฟฟ้าแบบล่วงหน้า ป้องกันความเสียหายก่อนเกิดขึ้น และปรับการทำงานแบบ “self-healing” ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ของระบบไฟฟ้าอัจฉริยะในโรงงานและอาคารขนาดใหญ่

    ความสามารถของ Smart Circuit Breaker
    ควบคุมการตัดไฟผ่านแอปมือถือแบบเรียลไทม์
    ตรวจสอบการใช้พลังงานของแต่ละอุปกรณ์
    แจ้งเตือนเมื่อมีการใช้ไฟเกินระดับปลอดภัย
    ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและไฟไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    รุ่นที่ได้รับความนิยม
    Leviton LB120-ST รุ่นที่สอง: ควบคุมผ่านมือถือและตรวจสอบพลังงาน
    Marstek: มีระบบวัดพลังงานและควบคุมวงจร
    Ensoft: แจ้งเตือนและสั่งปิดอุปกรณ์ที่ใช้ไฟเกิน

    การใช้งานในภาคอุตสาหกรรม
    ใช้ AI วิเคราะห์การใช้ไฟฟ้าและป้องกันความเสียหาย
    มีระบบ self-healing ที่ปรับการทำงานอัตโนมัติ
    ใช้ IoT และ cloud dashboard เพื่อควบคุมจากระยะไกล

    https://www.slashgear.com/1958961/smart-circuit-breakers-worth-installing/
    🎙️ เรื่องเล่าจากเบรกเกอร์ธรรมดาสู่ผู้ช่วยบ้านอัจฉริยะ: เมื่อความปลอดภัยและประหยัดพลังงานรวมอยู่ในชิ้นเดียว ในยุคที่บ้านกำลังกลายเป็น “สมาร์ทโฮม” หลายคนมองข้ามอุปกรณ์พื้นฐานอย่างเบรกเกอร์ไฟฟ้า แต่ตอนนี้ Smart Circuit Breaker กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะมันสามารถควบคุมไฟฟ้าได้จากแอปมือถือ แจ้งเตือนเมื่อมีการใช้พลังงานผิดปกติ และช่วยลดค่าไฟได้จริง ตัวอย่างเช่น Leviton LB120-ST รุ่นที่สอง สามารถตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ และสั่งปิดวงจรได้ทันทีผ่านแอป นอกจากนี้ยังสามารถระบุว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าใดกินไฟมากเกินไป ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับบ้านที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ผู้ใช้หลายคนรีวิวว่า Smart Circuit Breaker ใช้งานง่ายและเชื่อถือได้ เช่นรุ่น Marstek ที่มีฟีเจอร์วัดพลังงาน และรุ่น Ensoft ที่สามารถแจ้งเตือนเมื่อปลั๊กหรืออุปกรณ์ใดใช้ไฟเกินระดับปลอดภัย พร้อมสั่งปิดจากระยะไกลได้ทันที แต่แน่นอนว่าเทคโนโลยีใหม่ก็มีข้อจำกัด โดยเฉพาะเรื่อง “ราคา” ที่สูงกว่ารุ่นธรรมดาหลายเท่า และ “การติดตั้ง” ที่บางคนบ่นว่าเอกสารคู่มืออ่านยาก หรือหาข้อมูลออนไลน์ไม่เจอ นอกจากนี้ยังมีความกังวลเรื่อง “ความปลอดภัยไซเบอร์” เพราะอุปกรณ์เหล่านี้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ในภาคอุตสาหกรรม Smart Circuit Breaker ยังถูกพัฒนาให้ใช้ AI และ IoT เพื่อวิเคราะห์การใช้ไฟฟ้าแบบล่วงหน้า ป้องกันความเสียหายก่อนเกิดขึ้น และปรับการทำงานแบบ “self-healing” ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ของระบบไฟฟ้าอัจฉริยะในโรงงานและอาคารขนาดใหญ่ ✅ ความสามารถของ Smart Circuit Breaker ➡️ ควบคุมการตัดไฟผ่านแอปมือถือแบบเรียลไทม์ ➡️ ตรวจสอบการใช้พลังงานของแต่ละอุปกรณ์ ➡️ แจ้งเตือนเมื่อมีการใช้ไฟเกินระดับปลอดภัย ➡️ ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและไฟไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ รุ่นที่ได้รับความนิยม ➡️ Leviton LB120-ST รุ่นที่สอง: ควบคุมผ่านมือถือและตรวจสอบพลังงาน ➡️ Marstek: มีระบบวัดพลังงานและควบคุมวงจร ➡️ Ensoft: แจ้งเตือนและสั่งปิดอุปกรณ์ที่ใช้ไฟเกิน ✅ การใช้งานในภาคอุตสาหกรรม ➡️ ใช้ AI วิเคราะห์การใช้ไฟฟ้าและป้องกันความเสียหาย ➡️ มีระบบ self-healing ที่ปรับการทำงานอัตโนมัติ ➡️ ใช้ IoT และ cloud dashboard เพื่อควบคุมจากระยะไกล https://www.slashgear.com/1958961/smart-circuit-breakers-worth-installing/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Are Smart Circuit Breakers Really Worth Installing? Here's What Users Say - SlashGear
    Along with smart technology used throughout your home appliances, upgrading your breaker box with smart circuit breakers is essential to modernizing your home.
    0 Comments 0 Shares 379 Views 0 Reviews
  • เหนื่อยกับการสับปลาร้าบองจนเมื่อยมือใช่ไหม? บอกลาความลำบากแล้วมาเปิดประตูสู่ความอร่อยแบบง่ายๆ กับ "เครื่องสับผสมอเนกประสงค์" ตัวนี้เลย!
    เครื่องนี้คือฮีโร่ตัวจริงสำหรับคนทำปลาร้าบอง ไม่ว่าจะเป็นปลาร้า, พริก, ข่า, ตะไคร้, หอมแดง, กระเทียม... เพียงแค่โยนส่วนผสมทั้งหมดลงไปในโถ ใบมีดคมกริบจะสับและผสมทุกอย่างให้ละเอียดเข้าเนื้อกันในพริบตา! ภายในไม่กี่นาที คุณก็จะได้ปลาร้าบองที่เนียนนัว หอมสมุนไพรแบบถึงเครื่อง พร้อมเสิร์ฟความแซ่บได้ทันที
    ไม่ต้องเมื่อย, ไม่ต้องเสียเวลา, ไม่ต้องเลอะเทอะ – เพราะเครื่องนี้ทำจากสแตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน และล้างทำความสะอาดง่ายสุดๆ
    มีให้เลือก 2 รุ่นตามความต้องการของคุณ:
    - รุ่นเล็ก (YMC-QS5A-Z-SUS): สำหรับทำกินในบ้าน หรือทำขายเล็กๆ น้อยๆ สับวัตถุดิบได้ครั้งละ 1-3 กก.
    - รุ่นใหญ่ (YMC QS13A Z-SUS): สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ทำขายจริงจัง สับได้ครั้งละ 4-6 กก.
    ไม่ว่าจะเป็นการทำปลาร้าบอง, น้ำพริก, แกง, หรือสับเนื้อสัตว์ เครื่องนี้ก็เอาอยู่หมด! #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY
    สนใจติดต่อสอบถาม
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    Inbox: m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng (มี @) หรือคลิก https://lin.ee/HV4lSKp
    โทร: 098-8307906, 098-8307905, 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00 น. | เสาร์ 8.00-16.00 น.
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    #เครื่องสับผสม #เครื่องปั่นปลาร้า #ปลาร้าบอง #แจ่วบอง #น้ำพริกปลาร้า #ครัวอีสาน #เมนูแซ่บ #สร้างอาชีพ #ทำกินเอง #เครื่องครัว #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #ประหยัดเวลา #ของดีบอกต่อ #แม่ค้าออนไลน์ #สินค้าคุณภาพ #อาหารไทย #ธุรกิจอาหาร #ของอร่อย #ทำอาหารง่ายๆ #อร่อยไม่ยาก #เครื่องปั่นอเนกประสงค์ #ของมันต้องมี #ไอเท็มเด็ด #ชีวิตดีขึ้น #อร่อยเด็ด #เข้าครัว #ย่งฮะเฮง #yonghahheng
    เหนื่อยกับการสับปลาร้าบองจนเมื่อยมือใช่ไหม? 😫🌶️ บอกลาความลำบากแล้วมาเปิดประตูสู่ความอร่อยแบบง่ายๆ กับ "เครื่องสับผสมอเนกประสงค์" ตัวนี้เลย! เครื่องนี้คือฮีโร่ตัวจริงสำหรับคนทำปลาร้าบอง ไม่ว่าจะเป็นปลาร้า, พริก, ข่า, ตะไคร้, หอมแดง, กระเทียม... เพียงแค่โยนส่วนผสมทั้งหมดลงไปในโถ ใบมีดคมกริบจะสับและผสมทุกอย่างให้ละเอียดเข้าเนื้อกันในพริบตา! ภายในไม่กี่นาที คุณก็จะได้ปลาร้าบองที่เนียนนัว หอมสมุนไพรแบบถึงเครื่อง พร้อมเสิร์ฟความแซ่บได้ทันที ไม่ต้องเมื่อย, ไม่ต้องเสียเวลา, ไม่ต้องเลอะเทอะ – เพราะเครื่องนี้ทำจากสแตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน และล้างทำความสะอาดง่ายสุดๆ มีให้เลือก 2 รุ่นตามความต้องการของคุณ: - รุ่นเล็ก (YMC-QS5A-Z-SUS): สำหรับทำกินในบ้าน หรือทำขายเล็กๆ น้อยๆ สับวัตถุดิบได้ครั้งละ 1-3 กก. - รุ่นใหญ่ (YMC QS13A Z-SUS): สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ทำขายจริงจัง สับได้ครั้งละ 4-6 กก. ไม่ว่าจะเป็นการทำปลาร้าบอง, น้ำพริก, แกง, หรือสับเนื้อสัตว์ เครื่องนี้ก็เอาอยู่หมด! #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY สนใจติดต่อสอบถาม ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน Inbox: m.me/yonghahheng LINE: @yonghahheng (มี @) หรือคลิก https://lin.ee/HV4lSKp โทร: 098-8307906, 098-8307905, 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00 น. | เสาร์ 8.00-16.00 น. แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 #เครื่องสับผสม #เครื่องปั่นปลาร้า #ปลาร้าบอง #แจ่วบอง #น้ำพริกปลาร้า #ครัวอีสาน #เมนูแซ่บ #สร้างอาชีพ #ทำกินเอง #เครื่องครัว #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #ประหยัดเวลา #ของดีบอกต่อ #แม่ค้าออนไลน์ #สินค้าคุณภาพ #อาหารไทย #ธุรกิจอาหาร #ของอร่อย #ทำอาหารง่ายๆ #อร่อยไม่ยาก #เครื่องปั่นอเนกประสงค์ #ของมันต้องมี #ไอเท็มเด็ด #ชีวิตดีขึ้น #อร่อยเด็ด #เข้าครัว #ย่งฮะเฮง #yonghahheng
    0 Comments 0 Shares 1445 Views 0 Reviews
  • ประตูเปิดทางทิศเหนือ

    เดือนนี้ ควรระมัดระวังฟืนๆไฟๆ ตรวจตราเครื่องใช้ไฟฟ้า มีโอกาสจะเกิดรัดวงจร จนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ ทำให้เสียหายสูญเสียเดือดร้อนวอดวาย อีกทั้งจะพบกับอุปสรรคปัญหา เรื่องราวเก่าเก็บในอดีตย้อนกลับมา ส่งผลกระทบอีก เป็นเพราะความไม่ละเอียดรอบคอบ จึงเกิดการพลิกผัน เป็นเพราะความอดทนอยู่ในวงจำกัด ความเครียดจึงบันดาลเป็นโทสะ ระเบิดเป็นความโกรธออกมา ดังนั้นกระทำการสิ่งใด จงอย่านำอารมณ์มาอยู่ เหนือเหตุผล ใช้สติยั้งคิดก่อนการย้ำทำ จึงจะลุล่วงอุปสรรคได้ ส่วนอาชีพนักการเมือง ข้าราชการ จะสูญเสีย บุคคลสำคัญ คุณแม่บ้านโหมงานหนักจักเหน็ดเหนื่อยจนต้องล้มป่วยเป็นโรคหัวใจเฉียบพลัน

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศเหนือ เดือนนี้ ควรระมัดระวังฟืนๆไฟๆ ตรวจตราเครื่องใช้ไฟฟ้า มีโอกาสจะเกิดรัดวงจร จนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ ทำให้เสียหายสูญเสียเดือดร้อนวอดวาย อีกทั้งจะพบกับอุปสรรคปัญหา เรื่องราวเก่าเก็บในอดีตย้อนกลับมา ส่งผลกระทบอีก เป็นเพราะความไม่ละเอียดรอบคอบ จึงเกิดการพลิกผัน เป็นเพราะความอดทนอยู่ในวงจำกัด ความเครียดจึงบันดาลเป็นโทสะ ระเบิดเป็นความโกรธออกมา ดังนั้นกระทำการสิ่งใด จงอย่านำอารมณ์มาอยู่ เหนือเหตุผล ใช้สติยั้งคิดก่อนการย้ำทำ จึงจะลุล่วงอุปสรรคได้ ส่วนอาชีพนักการเมือง ข้าราชการ จะสูญเสีย บุคคลสำคัญ คุณแม่บ้านโหมงานหนักจักเหน็ดเหนื่อยจนต้องล้มป่วยเป็นโรคหัวใจเฉียบพลัน ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 Comments 0 Shares 326 Views 0 Reviews
  • จากอัมพาตสู่การควบคุมดิจิทัลด้วย “ความคิด”

    ย้อนกลับไปในปี 2016 Noland Arbaugh ประสบอุบัติเหตุจากการดำน้ำ ทำให้เขาเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงไหล่ลงไป และใช้ชีวิตบนรถเข็นมานานหลายปี จนกระทั่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 เขากลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ได้รับการฝังชิปสมองจาก Neuralink บริษัทของ Elon Musk

    การผ่าตัดใช้เวลาน้อยกว่าสองชั่วโมง โดยหุ่นยนต์ของ Neuralink ฝังชิปขนาดเท่าเหรียญเข้าไปในสมอง พร้อมเชื่อมเส้นใยขนาดเล็กกว่าเส้นผมกว่า 1,000 เส้นเข้ากับเซลล์ประสาทในสมองส่วนควบคุมการเคลื่อนไหว

    ผลลัพธ์คือ Arbaugh สามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยความคิด เช่น เล่น Mario Kart, เปิด–ปิดเครื่องฟอกอากาศ, ควบคุมทีวี และพิมพ์ข้อความโดยไม่ต้องขยับร่างกายเลยแม้แต่นิ้วเดียว

    เขาใช้ระบบนี้วันละประมาณ 10 ชั่วโมง และบอกว่า “ง่ายมาก” ในการเรียนรู้วิธีใช้งาน วันแรกที่ลองใช้ เขาสามารถทำลายสถิติโลกปี 2017 ด้านความเร็วและความแม่นยำในการควบคุมเคอร์เซอร์ด้วย BCI

    แม้จะมีปัญหาในช่วงแรก เช่น เส้นใยบางส่วนหลุดออกจากเนื้อสมอง ทำให้ประสิทธิภาพลดลง แต่ทีม Neuralink ก็สามารถปรับแต่งระบบให้กลับมาใช้งานได้เกือบเต็มรูปแบบ

    ปัจจุบัน Arbaugh กลับไปเรียนที่วิทยาลัยในรัฐแอริโซนา และเริ่มวางแผนเปิดธุรกิจของตัวเอง พร้อมรับงานพูดในที่สาธารณะ เขาบอกว่า “ผมรู้สึกว่าตัวเองมีศักยภาพอีกครั้ง” และเชื่อว่าการทดลองนี้จะช่วยคนอื่นได้ในอนาคต แม้จะมีความเสี่ยงก็ตาม

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Noland Arbaugh เป็นมนุษย์คนแรกที่ได้รับการฝังชิปสมองจาก Neuralink ในปี 2024
    การผ่าตัดใช้หุ่นยนต์ฝังชิปและเชื่อมเส้นใยกว่า 1,000 เส้นเข้ากับเซลล์ประสาท
    ชิปสามารถแปลสัญญาณสมองเป็นคำสั่งดิจิทัลเพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ
    Arbaugh สามารถเล่นเกม, พิมพ์ข้อความ, และควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยความคิด
    ใช้งานระบบวันละประมาณ 10 ชั่วโมง และเรียนรู้ได้ง่าย
    วันแรกที่ใช้งาน Arbaugh ทำลายสถิติโลกด้านการควบคุมเคอร์เซอร์ด้วย BCI
    ปัจจุบันเขากลับไปเรียนและเริ่มวางแผนเปิดธุรกิจของตัวเอง
    เขาเชื่อว่าการทดลองนี้จะช่วยคนอื่นได้ แม้จะมีความเสี่ยง
    Neuralink ใช้ระบบชาร์จแบบไร้สายผ่านหมวกที่ฝังขดลวดไว้
    ระบบได้รับการปรับปรุงให้สามารถใช้งานขณะชาร์จได้แล้ว

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    BCI (Brain-Computer Interface) เป็นเทคโนโลยีที่มีการศึกษามานานกว่า 50 ปี
    บริษัทอื่น เช่น Synchron และ Blackrock Neurotech ก็มีการทดลองฝังชิปสมองเช่นกัน
    Neuralink ใช้การฝังใน motor cortex ซึ่งเป็นบริเวณควบคุมการเคลื่อนไหวโดยตรง
    ชิปของ Neuralink เป็นแบบไร้สาย ต่างจากบางบริษัทที่ยังใช้สายเชื่อมต่อผ่านกะโหลก
    การฝังชิปสมองอาจเป็นก้าวสำคัญในการฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพาตและโรคทางระบบประสาท

    https://fortune.com/2025/08/23/neuralink-participant-1-noland-arbaugh-18-months-post-surgery-life-changed-elon-musk/
    🧠 จากอัมพาตสู่การควบคุมดิจิทัลด้วย “ความคิด” ย้อนกลับไปในปี 2016 Noland Arbaugh ประสบอุบัติเหตุจากการดำน้ำ ทำให้เขาเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงไหล่ลงไป และใช้ชีวิตบนรถเข็นมานานหลายปี จนกระทั่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 เขากลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ได้รับการฝังชิปสมองจาก Neuralink บริษัทของ Elon Musk การผ่าตัดใช้เวลาน้อยกว่าสองชั่วโมง โดยหุ่นยนต์ของ Neuralink ฝังชิปขนาดเท่าเหรียญเข้าไปในสมอง พร้อมเชื่อมเส้นใยขนาดเล็กกว่าเส้นผมกว่า 1,000 เส้นเข้ากับเซลล์ประสาทในสมองส่วนควบคุมการเคลื่อนไหว ผลลัพธ์คือ Arbaugh สามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยความคิด เช่น เล่น Mario Kart, เปิด–ปิดเครื่องฟอกอากาศ, ควบคุมทีวี และพิมพ์ข้อความโดยไม่ต้องขยับร่างกายเลยแม้แต่นิ้วเดียว เขาใช้ระบบนี้วันละประมาณ 10 ชั่วโมง และบอกว่า “ง่ายมาก” ในการเรียนรู้วิธีใช้งาน วันแรกที่ลองใช้ เขาสามารถทำลายสถิติโลกปี 2017 ด้านความเร็วและความแม่นยำในการควบคุมเคอร์เซอร์ด้วย BCI แม้จะมีปัญหาในช่วงแรก เช่น เส้นใยบางส่วนหลุดออกจากเนื้อสมอง ทำให้ประสิทธิภาพลดลง แต่ทีม Neuralink ก็สามารถปรับแต่งระบบให้กลับมาใช้งานได้เกือบเต็มรูปแบบ ปัจจุบัน Arbaugh กลับไปเรียนที่วิทยาลัยในรัฐแอริโซนา และเริ่มวางแผนเปิดธุรกิจของตัวเอง พร้อมรับงานพูดในที่สาธารณะ เขาบอกว่า “ผมรู้สึกว่าตัวเองมีศักยภาพอีกครั้ง” และเชื่อว่าการทดลองนี้จะช่วยคนอื่นได้ในอนาคต แม้จะมีความเสี่ยงก็ตาม 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Noland Arbaugh เป็นมนุษย์คนแรกที่ได้รับการฝังชิปสมองจาก Neuralink ในปี 2024 ➡️ การผ่าตัดใช้หุ่นยนต์ฝังชิปและเชื่อมเส้นใยกว่า 1,000 เส้นเข้ากับเซลล์ประสาท ➡️ ชิปสามารถแปลสัญญาณสมองเป็นคำสั่งดิจิทัลเพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ➡️ Arbaugh สามารถเล่นเกม, พิมพ์ข้อความ, และควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยความคิด ➡️ ใช้งานระบบวันละประมาณ 10 ชั่วโมง และเรียนรู้ได้ง่าย ➡️ วันแรกที่ใช้งาน Arbaugh ทำลายสถิติโลกด้านการควบคุมเคอร์เซอร์ด้วย BCI ➡️ ปัจจุบันเขากลับไปเรียนและเริ่มวางแผนเปิดธุรกิจของตัวเอง ➡️ เขาเชื่อว่าการทดลองนี้จะช่วยคนอื่นได้ แม้จะมีความเสี่ยง ➡️ Neuralink ใช้ระบบชาร์จแบบไร้สายผ่านหมวกที่ฝังขดลวดไว้ ➡️ ระบบได้รับการปรับปรุงให้สามารถใช้งานขณะชาร์จได้แล้ว ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ BCI (Brain-Computer Interface) เป็นเทคโนโลยีที่มีการศึกษามานานกว่า 50 ปี ➡️ บริษัทอื่น เช่น Synchron และ Blackrock Neurotech ก็มีการทดลองฝังชิปสมองเช่นกัน ➡️ Neuralink ใช้การฝังใน motor cortex ซึ่งเป็นบริเวณควบคุมการเคลื่อนไหวโดยตรง ➡️ ชิปของ Neuralink เป็นแบบไร้สาย ต่างจากบางบริษัทที่ยังใช้สายเชื่อมต่อผ่านกะโหลก ➡️ การฝังชิปสมองอาจเป็นก้าวสำคัญในการฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพาตและโรคทางระบบประสาท https://fortune.com/2025/08/23/neuralink-participant-1-noland-arbaugh-18-months-post-surgery-life-changed-elon-musk/
    FORTUNE.COM
    Neuralink’s first study participant says his whole life has changed
    Noland Arbaugh became P1 at Neuralink last year and it’s opened up a host of opportunities for him.
    0 Comments 0 Shares 478 Views 0 Reviews
More Results