• บทความกฎหมาย EP.50

    ข่าวกรองคือกระบวนการทางปัญญาที่มีความหมายลึกซึ้งกว่าเพียงการรับรู้ข้อมูลข่าวสารทั่วไปเพราะในทางกฎหมายและระเบียบปฏิบัติของรัฐข่าวกรองเปรียบเสมือนพยานหลักฐานที่ผ่านการกลั่นกรองและตรวจสอบความถูกต้องมาอย่างเป็นระบบเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลนั้นมีน้ำหนักน่าเชื่อถือและสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจในระดับยุทธศาสตร์ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของความมั่นคงข้อมูลที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบย่อมถือเป็นเพียงข่าวลือหรือข่าวสารดิบที่ไม่สามารถนำมาอ้างอิงเป็นฐานในการใช้อำนาจตามกฎหมายได้การที่หน่วยงานรัฐจะดำเนินมาตรการใดๆที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนหรือการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศจำเป็นต้องอาศัยข่าวกรองที่มีความแม่นยำสูงมีแหล่งที่มาที่ชัดเจนและได้รับการยืนยันผ่านกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์หรือการสืบสวนเชิงลึกเพื่อให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรมที่กำหนดว่าการใช้อำนาจรัฐต้องตั้งอยู่บนฐานของข้อเท็จจริงที่ยุติแล้วเท่านั้นกระบวนการเปลี่ยนข่าวสารให้กลายเป็นข่าวกรองจึงถือเป็นพันธกิจหลักที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและการยึดมั่นในระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจนำไปสู่ความเสียหายต่อส่วนรวมหรือการละเมิดสิทธิของบุคคลโดยมิชอบ

    ในมิติด้านกฎหมายมหาชนและการตีความพยานหลักฐานการนิยามว่าข่าวกรองคือข่าวที่ได้รับการตรวจสอบหลักฐานแล้วว่าเชื่อถือได้สะท้อนถึงมาตรฐานการพิสูจน์ที่เข้มงวดคล้ายคลึงกับหลักการรับฟังพยานหลักฐานในชั้นศาลซึ่งต้องมีการตรวจสอบความเชื่อมโยงและความสมเหตุสมผลของข้อมูลในทุกมิติข่าวกรองที่มีคุณภาพจึงต้องประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญคือความถูกต้องความทันสมัยและความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์โดยมีกฎหมายรองรับบทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงภายใต้ขอบเขตที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้การทำหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองทหารหรือหน่วยงานความมั่นคงจึงไม่ใช่เพียงการรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดแต่คือการวิเคราะห์แยกแยะระหว่างความจริงกับความลวงโดยใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีและสติปัญญาของมนุษย์ผสมผสานกันเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อสรุปที่มีพยานหลักฐานสนับสนุนอย่างแน่นหนาความน่าเชื่อถือของข่าวกรองจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้รัฐสามารถพยากรณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าและยับยั้งภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพตามหลักการป้องกันก่อนเกิดเหตุซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในราชอาณาจักรและการคุ้มครองอธิปไตยของชาติในโลกยุคข้อมูลข่าวสารที่เต็มไปด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริง

    โดยสรุปแล้วข่าวกรองจึงมิใช่เพียงคำจำกัดความของการรู้แจ้งเห็นจริงในเหตุการณ์ต่างๆเท่านั้นแต่เป็นบรรทัดฐานทางกฎหมายและการบริหารราชการแผ่นดินที่ให้ความสำคัญกับการพิสูจน์ทราบความจริงก่อนการตัดสินใจดำเนินการใดๆในนามของรัฐการรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการข่าวกรองจึงเท่ากับการรักษามาตรฐานความยุติธรรมและความปลอดภัยของสังคมโดยรวมเพราะเมื่อข่าวกรองมีความชัดเจนและปราศจากข้อสงสัยย่อมทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างเป็นธรรมและมีพยานหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ซึ่งจะส่งผลให้รัฐสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนานาชาติได้อย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของความจริงที่ผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นระบบและสมบูรณ์ที่สุดในฐานะที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความมั่นคงของชาติในทุกมิติ
    บทความกฎหมาย EP.50 ข่าวกรองคือกระบวนการทางปัญญาที่มีความหมายลึกซึ้งกว่าเพียงการรับรู้ข้อมูลข่าวสารทั่วไปเพราะในทางกฎหมายและระเบียบปฏิบัติของรัฐข่าวกรองเปรียบเสมือนพยานหลักฐานที่ผ่านการกลั่นกรองและตรวจสอบความถูกต้องมาอย่างเป็นระบบเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลนั้นมีน้ำหนักน่าเชื่อถือและสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจในระดับยุทธศาสตร์ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของความมั่นคงข้อมูลที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบย่อมถือเป็นเพียงข่าวลือหรือข่าวสารดิบที่ไม่สามารถนำมาอ้างอิงเป็นฐานในการใช้อำนาจตามกฎหมายได้การที่หน่วยงานรัฐจะดำเนินมาตรการใดๆที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนหรือการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศจำเป็นต้องอาศัยข่าวกรองที่มีความแม่นยำสูงมีแหล่งที่มาที่ชัดเจนและได้รับการยืนยันผ่านกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์หรือการสืบสวนเชิงลึกเพื่อให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรมที่กำหนดว่าการใช้อำนาจรัฐต้องตั้งอยู่บนฐานของข้อเท็จจริงที่ยุติแล้วเท่านั้นกระบวนการเปลี่ยนข่าวสารให้กลายเป็นข่าวกรองจึงถือเป็นพันธกิจหลักที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและการยึดมั่นในระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจนำไปสู่ความเสียหายต่อส่วนรวมหรือการละเมิดสิทธิของบุคคลโดยมิชอบ ในมิติด้านกฎหมายมหาชนและการตีความพยานหลักฐานการนิยามว่าข่าวกรองคือข่าวที่ได้รับการตรวจสอบหลักฐานแล้วว่าเชื่อถือได้สะท้อนถึงมาตรฐานการพิสูจน์ที่เข้มงวดคล้ายคลึงกับหลักการรับฟังพยานหลักฐานในชั้นศาลซึ่งต้องมีการตรวจสอบความเชื่อมโยงและความสมเหตุสมผลของข้อมูลในทุกมิติข่าวกรองที่มีคุณภาพจึงต้องประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญคือความถูกต้องความทันสมัยและความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์โดยมีกฎหมายรองรับบทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงภายใต้ขอบเขตที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้การทำหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองทหารหรือหน่วยงานความมั่นคงจึงไม่ใช่เพียงการรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดแต่คือการวิเคราะห์แยกแยะระหว่างความจริงกับความลวงโดยใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีและสติปัญญาของมนุษย์ผสมผสานกันเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อสรุปที่มีพยานหลักฐานสนับสนุนอย่างแน่นหนาความน่าเชื่อถือของข่าวกรองจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้รัฐสามารถพยากรณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าและยับยั้งภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพตามหลักการป้องกันก่อนเกิดเหตุซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในราชอาณาจักรและการคุ้มครองอธิปไตยของชาติในโลกยุคข้อมูลข่าวสารที่เต็มไปด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยสรุปแล้วข่าวกรองจึงมิใช่เพียงคำจำกัดความของการรู้แจ้งเห็นจริงในเหตุการณ์ต่างๆเท่านั้นแต่เป็นบรรทัดฐานทางกฎหมายและการบริหารราชการแผ่นดินที่ให้ความสำคัญกับการพิสูจน์ทราบความจริงก่อนการตัดสินใจดำเนินการใดๆในนามของรัฐการรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการข่าวกรองจึงเท่ากับการรักษามาตรฐานความยุติธรรมและความปลอดภัยของสังคมโดยรวมเพราะเมื่อข่าวกรองมีความชัดเจนและปราศจากข้อสงสัยย่อมทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างเป็นธรรมและมีพยานหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ซึ่งจะส่งผลให้รัฐสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนานาชาติได้อย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของความจริงที่ผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นระบบและสมบูรณ์ที่สุดในฐานะที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความมั่นคงของชาติในทุกมิติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุคใหม่ของการติดตั้งแอปบน Linux: 7 เครื่องมือจัดการ GitHub Binaries ที่ช่วยลดงานซ้ำซ้อน

    โลกของ Linux กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อซอฟต์แวร์จำนวนมากเลือกปล่อยเป็น pre‑compiled binaries บน GitHub Releases แทนการเข้าระบบแพ็กเกจของดิสโทรแบบดั้งเดิม ทำให้ผู้ใช้ต้องคอยเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์เองอยู่บ่อยครั้ง บทความจาก It’s FOSS ชี้ให้เห็นว่าเครื่องมือรุ่นใหม่เหล่านี้ช่วย “ปิดช่องว่าง” ระหว่างแพ็กเกจเมเนเจอร์แบบเดิมกับโลกของ GitHub ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    หนึ่งในเครื่องมือที่โดดเด่นคือ Eget ซึ่งช่วยดาวน์โหลดและติดตั้งไบนารีจาก GitHub โดยอัตโนมัติ เพียงระบุชื่อรีโป มันจะเลือกไฟล์ที่เหมาะกับสถาปัตยกรรมของระบบให้ทันที นอกจากนี้ยังมี deb‑get ที่นำแนวคิด apt-get มาประยุกต์ใช้กับ .deb จาก GitHub, PPA และลิงก์ตรง ทำให้ผู้ใช้ Ubuntu และ Debian สามารถติดตั้งซอฟต์แวร์นอกรีโปได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น

    ฝั่ง GUI ก็มี Autonomix ที่ใช้ GTK4 + libadwaita ให้หน้าตาทันสมัย รองรับทั้ง .deb, .rpm, AppImage, Flatpak และ Snap พร้อมระบบติดตามเวอร์ชันในตัว ส่วนเครื่องมืออย่าง bin, Install Release, stew และ AFX ก็เน้นความสามารถเฉพาะทาง เช่น การจัดการหลายแหล่งซอฟต์แวร์, การซิงก์สถานะข้ามเครื่อง, การติดตั้งแบบ declarative และการจัดการปลั๊กอินเชลล์อย่างเป็นระบบ

    ภาพรวมแล้ว เครื่องมือเหล่านี้สะท้อนทิศทางใหม่ของ Linux ที่กำลังเคลื่อนสู่โลกที่ผู้พัฒนาปล่อยซอฟต์แวร์เองมากขึ้น และผู้ใช้ต้องการระบบจัดการไบนารีที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม ไม่ต้องรอแพ็กเกจจากดิสโทร และยังสามารถอัปเดตได้อัตโนมัติแบบแพ็กเกจเมเนเจอร์ดั้งเดิม ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความคล่องตัวของ GitHub กับความสะดวกของระบบจัดการแพ็กเกจที่ผู้ใช้คุ้นเคย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เครื่องมือเด่นสำหรับจัดการ GitHub Binaries
    deb‑get: apt‑get สำหรับ .deb จาก GitHub, PPA, direct download
    Autonomix: ตัวเลือก GUI รองรับหลายฟอร์แมต เช่น deb/rpm/AppImage/Flatpak/Snap
    Eget: ดาวน์โหลดไบนารีอัตโนมัติจาก GitHub พร้อมเลือกไฟล์ที่ตรงสถาปัตยกรรม
    Install Release: ซิงก์สถานะแพ็กเกจข้ามเครื่องผ่านไฟล์ JSON
    bin: จัดการไบนารีจากหลายแหล่ง เช่น GitHub, GitLab, Docker, Hashicorp
    stew: ระบบ declarative ผ่าน Stewfile + UI แบบ interactive
    AFX: จัดการปลั๊กอินเชลล์ + ไบนารีด้วย YAML config

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    ต้องพึ่งพา GitHub API ซึ่งอาจเจอ rate‑limit หากไม่ใช้ token
    บางเครื่องมือยังใหม่มาก เช่น Autonomix อาจมีบั๊กหรือฟีเจอร์ไม่ครบ
    การติดตั้งไบนารีนอกรีโปอาจขาดการตรวจสอบความปลอดภัยจากดิสโทร
    ระบบ declarative หรือ multi‑source อาจซับซ้อนสำหรับผู้ใช้ใหม่

    https://itsfoss.com/github-binaries-tools/
    📦⚙️ ยุคใหม่ของการติดตั้งแอปบน Linux: 7 เครื่องมือจัดการ GitHub Binaries ที่ช่วยลดงานซ้ำซ้อน โลกของ Linux กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อซอฟต์แวร์จำนวนมากเลือกปล่อยเป็น pre‑compiled binaries บน GitHub Releases แทนการเข้าระบบแพ็กเกจของดิสโทรแบบดั้งเดิม ทำให้ผู้ใช้ต้องคอยเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์เองอยู่บ่อยครั้ง บทความจาก It’s FOSS ชี้ให้เห็นว่าเครื่องมือรุ่นใหม่เหล่านี้ช่วย “ปิดช่องว่าง” ระหว่างแพ็กเกจเมเนเจอร์แบบเดิมกับโลกของ GitHub ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในเครื่องมือที่โดดเด่นคือ Eget ซึ่งช่วยดาวน์โหลดและติดตั้งไบนารีจาก GitHub โดยอัตโนมัติ เพียงระบุชื่อรีโป มันจะเลือกไฟล์ที่เหมาะกับสถาปัตยกรรมของระบบให้ทันที นอกจากนี้ยังมี deb‑get ที่นำแนวคิด apt-get มาประยุกต์ใช้กับ .deb จาก GitHub, PPA และลิงก์ตรง ทำให้ผู้ใช้ Ubuntu และ Debian สามารถติดตั้งซอฟต์แวร์นอกรีโปได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น ฝั่ง GUI ก็มี Autonomix ที่ใช้ GTK4 + libadwaita ให้หน้าตาทันสมัย รองรับทั้ง .deb, .rpm, AppImage, Flatpak และ Snap พร้อมระบบติดตามเวอร์ชันในตัว ส่วนเครื่องมืออย่าง bin, Install Release, stew และ AFX ก็เน้นความสามารถเฉพาะทาง เช่น การจัดการหลายแหล่งซอฟต์แวร์, การซิงก์สถานะข้ามเครื่อง, การติดตั้งแบบ declarative และการจัดการปลั๊กอินเชลล์อย่างเป็นระบบ ภาพรวมแล้ว เครื่องมือเหล่านี้สะท้อนทิศทางใหม่ของ Linux ที่กำลังเคลื่อนสู่โลกที่ผู้พัฒนาปล่อยซอฟต์แวร์เองมากขึ้น และผู้ใช้ต้องการระบบจัดการไบนารีที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม ไม่ต้องรอแพ็กเกจจากดิสโทร และยังสามารถอัปเดตได้อัตโนมัติแบบแพ็กเกจเมเนเจอร์ดั้งเดิม ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความคล่องตัวของ GitHub กับความสะดวกของระบบจัดการแพ็กเกจที่ผู้ใช้คุ้นเคย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เครื่องมือเด่นสำหรับจัดการ GitHub Binaries ➡️ deb‑get: apt‑get สำหรับ .deb จาก GitHub, PPA, direct download ➡️ Autonomix: ตัวเลือก GUI รองรับหลายฟอร์แมต เช่น deb/rpm/AppImage/Flatpak/Snap ➡️ Eget: ดาวน์โหลดไบนารีอัตโนมัติจาก GitHub พร้อมเลือกไฟล์ที่ตรงสถาปัตยกรรม ➡️ Install Release: ซิงก์สถานะแพ็กเกจข้ามเครื่องผ่านไฟล์ JSON ➡️ bin: จัดการไบนารีจากหลายแหล่ง เช่น GitHub, GitLab, Docker, Hashicorp ➡️ stew: ระบบ declarative ผ่าน Stewfile + UI แบบ interactive ➡️ AFX: จัดการปลั๊กอินเชลล์ + ไบนารีด้วย YAML config ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ ต้องพึ่งพา GitHub API ซึ่งอาจเจอ rate‑limit หากไม่ใช้ token ⛔ บางเครื่องมือยังใหม่มาก เช่น Autonomix อาจมีบั๊กหรือฟีเจอร์ไม่ครบ ⛔ การติดตั้งไบนารีนอกรีโปอาจขาดการตรวจสอบความปลอดภัยจากดิสโทร ⛔ ระบบ declarative หรือ multi‑source อาจซับซ้อนสำหรับผู้ใช้ใหม่ https://itsfoss.com/github-binaries-tools/
    ITSFOSS.COM
    Stop Manually Checking GitHub Releases — These Tools Automatically Install & Update Apps on Linux
    These handy utilities tools simplify installing and managing binaries from GitHub releases on Linux.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷

    #รวมข่าวIT #20251223 #TechRadar

    Surfshark ขยาย Dedicated IP มาสู่ Linux GUI App
    Surfshark เดินหน้าขยายฟีเจอร์ Dedicated IP มายังแอป GUI บน Linux แบบเต็มรูปแบบ ช่วยลด CAPTCHA, ลดการถูกบล็อก และเพิ่มความเสถียรในการเข้าถึงบริการสำคัญ เช่น ระบบงานองค์กรและธนาคาร โดยไม่ต้องพึ่งส่วนขยายเบราว์เซอร์อีกต่อไป การอัปเดตนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันฟีเจอร์ระดับโปรให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม หลังจากขยายอย่างหนักในปี 2025 และช่วยให้ผู้ใช้ Linux ได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลและปลอดภัยยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/surfshark-expands-dedicated-ip-to-linux-in-its-latest-desktop-update

    Anthropic เปิด Agent Skills เป็นโอเพ่นซอร์ส ท้าชน OpenAI
    Anthropic เดินเกมเชิงรุกด้วยการเปิด Agent Skills เป็นมาตรฐานโอเพ่นซอร์ส เพื่อให้ AI agents ทำงานซ้ำ ๆ ได้อย่างแม่นยำและปรับแต่งได้ง่ายขึ้น โดย Microsoft และเครื่องมือโค้ดหลายตัวเริ่มนำไปใช้แล้ว การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนความตั้งใจของ Anthropic ที่ต้องการเป็นเลเยอร์โครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรม AI ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตโมเดลอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/anthropic-takes-the-fight-to-openai-with-enterprise-ai-tools-and-theyre-going-open-source-too

    ดีลคลาวด์ช่วงคริสต์มาส ช่วยเคลียร์รูปในมือถือแบบคุ้มสุด
    TechRadar แนะนำดีลคลาวด์สตอเรจช่วงคริสต์มาสสำหรับคนที่รูปเต็มมือถือ โดยยกให้ IDrive เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเพราะได้พื้นที่ 10TB ในราคาถูกมาก พร้อมเข้ารหัสแบบ end‑to‑end และแอปใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังมีดีลจาก Internxt, Sync.com และ Degoo ที่เน้นความปลอดภัยและพื้นที่จัดเก็บจำนวนมาก เหมาะทั้งผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจ
    https://www.techradar.com/pro/cut-through-camera-roll-chaos-with-these-christmas-cloud-storage-deals-including-a-huge-saving-on-our-top-choice

    รีวิวโต๊ะยืน Eureka Ark EL — ดีไซน์เด่น ฟีเจอร์ครบ แต่ราคาแรง
    Eureka Ark EL Executive Standing Desk โดดเด่นด้วยดีไซน์ขาโต๊ะทรงใหญ่สไตล์พรีเมียม พร้อมระบบปรับระดับไฟฟ้า 3 โปรไฟล์ ความสูงสูงสุด 48 นิ้ว รองรับน้ำหนัก 100 กก. และมีที่ชาร์จไร้สาย + พอร์ต USB ในตัว แม้จะเป็นโต๊ะที่ใช้งานดีและประกอบง่าย แต่ราคาค่อนข้างสูง วัสดุบางส่วนไม่พรีเมียมเท่าที่ควร และลิ้นชักมีความจุจำกัด
    https://www.techradar.com/pro/eureka-ergonomic-ark-el-executive-standing-desk

    HPE เตือนลูกค้าอัปเดต OneView ด่วน หลังพบช่องโหว่ระดับ 10/10
    HPE ออกแพตช์อุดช่องโหว่ร้ายแรงใน OneView (CVE‑2025‑37164) ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เสี่ยงต่อการถูกเปลี่ยนค่าคอนฟิกเซิร์ฟเวอร์ ติดมัลแวร์ หรือสร้างแบ็กดอร์ในระดับโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ผู้ใช้ต้องอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 11.0 หรือใช้ hotfix ทันทีเพื่อป้องกันความเสียหาย
    https://www.techradar.com/pro/security/hpe-tells-customers-to-patch-oneview-immediately-as-top-level-security-flaw-spotted

    Arm สูญมูลค่าหลายพันล้าน หลัง Qualcomm เดินเกม RISC‑V
    Arm เผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่เมื่อ Qualcomm ประกาศเข้าซื้อ Ventana Micro เพื่อเร่งพัฒนา RISC‑V ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอนาคตความต้องการสถาปัตยกรรม Arm อาจลดลง ส่งผลให้หุ้นร่วงหนัก ขณะที่ Qualcomm กลับพุ่งขึ้นเพราะตลาดมองว่าบริษัทกำลังวางรากฐานสู่ยุค CPU แบบผสมผสาน Arm + RISC‑V สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/arm-sheds-billions-in-market-capitalization-after-qualcomm-hints-at-risc-v-adoption-with-ventara-micro-acquisition

    Qualcomm เร่งขยายอาณาจักร AI Data Center ด้วยดีล Alphawave Semi
    Qualcomm ปิดดีลซื้อ Alphawave Semi เร็วกว่ากำหนด เสริมแกร่งด้านเทคโนโลยีเชื่อมต่อความเร็วสูงและชิปแบบ custom เพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่ โดยจะผสานเข้ากับสถาปัตยกรรม Oryon และ Hexagon เพื่อสร้างแพลตฟอร์มดาต้าเซ็นเตอร์ที่ครบวงจร พร้อมตั้ง CEO ของ Alphawave มาคุมธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์โดยตรง สะท้อนความตั้งใจของ Qualcomm ที่จะท้าชน Nvidia ในตลาดโครงสร้างพื้นฐาน AI
    https://www.techradar.com/pro/watch-out-nvidia-qualcomm-acquires-alphawave-semi-in-latest-addition-to-its-ai-data-center-push

    Gemini 3 Flash ฉลาดและเร็ว — แต่ยัง “มั่วเนียน” เมื่อไม่รู้คำตอบ
    Gemini 3 Flash ทำคะแนนสูงในหลายการทดสอบ แต่ผลวิเคราะห์ล่าสุดเผยว่าเมื่อโมเดลไม่รู้คำตอบ มันเลือก “ตอบมั่ว” ถึง 91% แทนที่จะบอกว่าไม่รู้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการใช้งานในสถานการณ์จริง โดยเฉพาะเมื่อถูกผนวกเข้ากับ Search แม้ยังเป็นหนึ่งในโมเดลที่แม่นยำที่สุด แต่ความมั่นใจเกินเหตุในบริบทที่ไม่มีข้อมูลจริงยังเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ Google ต้องเร่งแก้
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini-3-flash-is-smart-but-when-it-doesnt-know-it-makes-stuff-up-anyway

    AWS มองอนาคตเป็นยุค “Internet of Agents” พร้อมผลักดัน AgentCore
    ผู้บริหาร AWS เผยวิสัยทัศน์ยุคใหม่ที่ AI agents จะกลายเป็นผู้ช่วยประจำตัวทุกคน โดย AWS ต้องการให้ทุกนักพัฒนาเป็น “agentic developer” ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง AgentCore และ Kiro IDE ที่ช่วยสร้าง agent ได้ง่ายขึ้น พร้อมย้ำว่าความน่าเชื่อถือและการตรวจสอบโดยมนุษย์ยังเป็นหัวใจสำคัญ ก่อนที่โลกจะเข้าสู่ยุคที่งานจำนวนมากถูกเร่งด้วย agent แต่ไม่แทนที่มนุษย์
    https://www.techradar.com/pro/we-are-living-in-times-of-great-change-i-speak-to-aws-top-ai-minds-to-hear-how-it-wants-to-open-up-agents-and-building-to-everyone

    กล้องวงจรปิดไม่ง้อรายเดือน — 3 รุ่นแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ Smart Home
    TechRadar คัด 3 กล้องวงจรปิดที่ใช้งานได้เต็มฟีเจอร์โดยไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน ได้แก่ Baseus S2 ที่มีแผงโซลาร์หมุนตามแสงและระบบจดจำใบหน้า, Swann MaxRanger4K ที่ให้ความละเอียดสูงพร้อมฐานเก็บข้อมูลในตัว และ Reolink Altas PT Ultra ที่เด่นด้านการหมุน‑แพน‑ซูมและภาพกลางคืนสีสันคมชัด ทั้งหมดรองรับการบันทึกแบบ local storage ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว
    https://www.techradar.com/home/home-security/top-3-subscription-free-home-security-cameras

    Google Cloud รีเฟรช Partner Network ครั้งใหญ่ เตรียมใช้จริงปี 2026
    Google Cloud เปิดตัวโปรแกรมพาร์ตเนอร์รูปแบบใหม่ที่เน้น “ผลลัพธ์จริงของลูกค้า” มากกว่าการส่งเอกสารหรือทำตามเช็กลิสต์ โดยเพิ่มระบบอัตโนมัติ, การติดตามด้วย AI และเปิดระดับใหม่ชื่อ Diamond สำหรับพาร์ตเนอร์ที่สร้างผลลัพธ์โดดเด่นที่สุด พร้อมช่วงเปลี่ยนผ่าน 6 เดือนเพื่อให้ทุกประเภทพาร์ตเนอร์ปรับตัวก่อนระบบใหม่เริ่มใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2026
    https://www.techradar.com/pro/google-cloud-reveals-all-new-channel-program-heres-all-the-key-details

    Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เสริมพลังงานให้ดาต้าเซ็นเตอร์
    Alphabet เข้าซื้อ Intersect Power แบบเต็มตัวเพื่อเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานรองรับดาต้าเซ็นเตอร์ หลังจากเคยลงทุนไปแล้ว $800M ในปี 2024 โดย Intersect จะยังคงดำเนินงานแยกบริษัท พร้อมส่งมอบโครงการพลังงานหลายกิกะวัตต์ให้ Google ใช้ขยายศูนย์ข้อมูลในอนาคต แม้บางทรัพย์สินในแคลิฟอร์เนียและเท็กซัสจะถูกแยกออกไปตั้งบริษัทใหม่ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/alphabet-secures-usd4-75-billion-intersect-deal-to-make-sure-its-data-centers-have-enough-energy

    Oppo Find X9 Pro — เรือธงสุดโหดสำหรับสาย Android ตัวจริง
    Oppo Find X9 Pro มาพร้อมดีไซน์ใหม่แบบขอบแบน กล้องจัดเต็ม 50MP + 50MP + 200MP, ชิป Dimensity 9500, RAM 16GB และแบต 7,500mAh ที่อึดกว่าคู่แข่งหลายรุ่น หน้าจอ AMOLED 120Hz สว่างสุด 3600 nits และประสิทธิภาพระดับท็อป แม้จะมีความร้อนบ้างและซอฟต์แวร์บางจุดยังแปลก ๆ แต่โดยรวมคือหนึ่งใน Android ที่ครบเครื่องที่สุด—ติดเพียงข้อจำกัดด้านการวางจำหน่ายที่ยังไม่ทั่วโลก
    https://www.techradar.com/phones/oppo-phones/oppo-find-x9-pro-review

    NordProtect เพิ่มระบบ Fraud Monitoring ตรวจจับการปลอมตัวและกู้เงินแอบอ้าง
    NordProtect อัปเกรดระบบป้องกันการฉ้อโกงครั้งใหญ่ โดยเพิ่มการตรวจสอบข้อมูลจาก Equifax, Experian และ TransUnion เพื่อหาสัญญาณเปิดบัญชีใหม่, การเปลี่ยนเครดิตสกอร์, การกู้เงินระยะสั้น และการเปิดบัญชีการเงินโดยใช้ข้อมูลผู้ใช้ พร้อมผสานการล็อกเครดิตของ TransUnion เข้ามาในระบบ แม้บริการเต็มรูปแบบจะยังจำกัดเฉพาะในสหรัฐฯ ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/security/nordprotect-adds-fraud-monitoring-tool-to-help-protect-users-from-scams

    iPod Classic กลับมาในร่างใหม่ — USB‑C, Bluetooth และราคาสุดถูก
    Innioasis Y1 คือเครื่องเล่นเพลงที่ถอดแบบ iPod Classic แทบทุกจุด ทั้งดีไซน์และ clickwheel แต่เพิ่มความทันสมัยด้วย USB‑C, Bluetooth, รองรับไฟล์หลากหลาย และแบตเล่นเพลงได้ 25–30 ชั่วโมง ในราคาต่ำกว่า $60 แม้คุณภาพงานประกอบและซอฟต์แวร์จะไม่เทียบ Apple และความจุจำกัดที่ 128GB แต่ก็เป็นอุปกรณ์ที่มีเสน่ห์สำหรับคนคิดถึงยุค iPod
    https://www.techradar.com/audio/portable-media-players/someones-made-a-usb-c-version-of-the-ipod-classic-complete-with-clickwheel-and-its-extremely-cheap

    Windows 11 เดินหน้าทดสอบ AI Agents ในระบบ แม้เสียงวิจารณ์ยังแรง
    Microsoft ปล่อยพรีวิว Windows 11 ที่โชว์การทำงานของ AI agents ชัดขึ้น ทั้ง Ask Copilot บนทาสก์บาร์, การอัปเดตสถานะ reasoning แบบเรียลไทม์เมื่อโฮเวอร์ไอคอน และระบบ Agent Launcher ที่เปิดให้แอปภายนอกสร้าง agent ของตัวเองได้ แม้เป็นก้าวสำคัญของ Windows ยุค AI แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังไม่พอใจที่ Microsoft ทุ่มทรัพยากรไปกับ AI มากกว่าการแก้ปัญหา UX และบั๊กพื้นฐานของระบบ
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-preview-provides-more-details-on-how-ai-agents-will-work-but-this-remains-a-controversial-path-for-microsoft

    มหาวิทยาลัย Phoenix ถูกแฮ็ก ข้อมูลกว่า 3.5 ล้านรายรั่วจากช่องโหว่ Oracle
    University of Phoenix ยืนยันว่าถูกกลุ่มแรนซัมแวร์ Cl0p เจาะระบบผ่านช่องโหว่ zero‑day ของ Oracle E‑Business Suite ทำให้ข้อมูลของอดีตนักศึกษา พนักงาน และซัพพลายเออร์กว่า 3.5 ล้านรายถูกขโมย ทั้งชื่อ วันเกิด เบอร์บัญชี และ Social Security Number มหาวิทยาลัยแจ้งเตือนผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมให้บริการตรวจสอบตัวตน 12 เดือน และตั้งกองทุนชดเชยความเสียหายสูงสุด $1 ล้าน
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/university-of-phoenix-data-breach-may-have-hit-over-3-5-million-victims-heres-what-we-know
    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251223 #TechRadar 🛡️ Surfshark ขยาย Dedicated IP มาสู่ Linux GUI App Surfshark เดินหน้าขยายฟีเจอร์ Dedicated IP มายังแอป GUI บน Linux แบบเต็มรูปแบบ ช่วยลด CAPTCHA, ลดการถูกบล็อก และเพิ่มความเสถียรในการเข้าถึงบริการสำคัญ เช่น ระบบงานองค์กรและธนาคาร โดยไม่ต้องพึ่งส่วนขยายเบราว์เซอร์อีกต่อไป การอัปเดตนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันฟีเจอร์ระดับโปรให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม หลังจากขยายอย่างหนักในปี 2025 และช่วยให้ผู้ใช้ Linux ได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลและปลอดภัยยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/surfshark-expands-dedicated-ip-to-linux-in-its-latest-desktop-update 🤖 Anthropic เปิด Agent Skills เป็นโอเพ่นซอร์ส ท้าชน OpenAI Anthropic เดินเกมเชิงรุกด้วยการเปิด Agent Skills เป็นมาตรฐานโอเพ่นซอร์ส เพื่อให้ AI agents ทำงานซ้ำ ๆ ได้อย่างแม่นยำและปรับแต่งได้ง่ายขึ้น โดย Microsoft และเครื่องมือโค้ดหลายตัวเริ่มนำไปใช้แล้ว การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนความตั้งใจของ Anthropic ที่ต้องการเป็นเลเยอร์โครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรม AI ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตโมเดลอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/anthropic-takes-the-fight-to-openai-with-enterprise-ai-tools-and-theyre-going-open-source-too ☁️ ดีลคลาวด์ช่วงคริสต์มาส ช่วยเคลียร์รูปในมือถือแบบคุ้มสุด TechRadar แนะนำดีลคลาวด์สตอเรจช่วงคริสต์มาสสำหรับคนที่รูปเต็มมือถือ โดยยกให้ IDrive เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเพราะได้พื้นที่ 10TB ในราคาถูกมาก พร้อมเข้ารหัสแบบ end‑to‑end และแอปใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังมีดีลจาก Internxt, Sync.com และ Degoo ที่เน้นความปลอดภัยและพื้นที่จัดเก็บจำนวนมาก เหมาะทั้งผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/cut-through-camera-roll-chaos-with-these-christmas-cloud-storage-deals-including-a-huge-saving-on-our-top-choice 🪑 รีวิวโต๊ะยืน Eureka Ark EL — ดีไซน์เด่น ฟีเจอร์ครบ แต่ราคาแรง Eureka Ark EL Executive Standing Desk โดดเด่นด้วยดีไซน์ขาโต๊ะทรงใหญ่สไตล์พรีเมียม พร้อมระบบปรับระดับไฟฟ้า 3 โปรไฟล์ ความสูงสูงสุด 48 นิ้ว รองรับน้ำหนัก 100 กก. และมีที่ชาร์จไร้สาย + พอร์ต USB ในตัว แม้จะเป็นโต๊ะที่ใช้งานดีและประกอบง่าย แต่ราคาค่อนข้างสูง วัสดุบางส่วนไม่พรีเมียมเท่าที่ควร และลิ้นชักมีความจุจำกัด 🔗 https://www.techradar.com/pro/eureka-ergonomic-ark-el-executive-standing-desk 🔥 HPE เตือนลูกค้าอัปเดต OneView ด่วน หลังพบช่องโหว่ระดับ 10/10 HPE ออกแพตช์อุดช่องโหว่ร้ายแรงใน OneView (CVE‑2025‑37164) ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เสี่ยงต่อการถูกเปลี่ยนค่าคอนฟิกเซิร์ฟเวอร์ ติดมัลแวร์ หรือสร้างแบ็กดอร์ในระดับโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ผู้ใช้ต้องอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 11.0 หรือใช้ hotfix ทันทีเพื่อป้องกันความเสียหาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hpe-tells-customers-to-patch-oneview-immediately-as-top-level-security-flaw-spotted 📉 Arm สูญมูลค่าหลายพันล้าน หลัง Qualcomm เดินเกม RISC‑V Arm เผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่เมื่อ Qualcomm ประกาศเข้าซื้อ Ventana Micro เพื่อเร่งพัฒนา RISC‑V ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอนาคตความต้องการสถาปัตยกรรม Arm อาจลดลง ส่งผลให้หุ้นร่วงหนัก ขณะที่ Qualcomm กลับพุ่งขึ้นเพราะตลาดมองว่าบริษัทกำลังวางรากฐานสู่ยุค CPU แบบผสมผสาน Arm + RISC‑V สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/arm-sheds-billions-in-market-capitalization-after-qualcomm-hints-at-risc-v-adoption-with-ventara-micro-acquisition 🏗️ Qualcomm เร่งขยายอาณาจักร AI Data Center ด้วยดีล Alphawave Semi Qualcomm ปิดดีลซื้อ Alphawave Semi เร็วกว่ากำหนด เสริมแกร่งด้านเทคโนโลยีเชื่อมต่อความเร็วสูงและชิปแบบ custom เพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่ โดยจะผสานเข้ากับสถาปัตยกรรม Oryon และ Hexagon เพื่อสร้างแพลตฟอร์มดาต้าเซ็นเตอร์ที่ครบวงจร พร้อมตั้ง CEO ของ Alphawave มาคุมธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์โดยตรง สะท้อนความตั้งใจของ Qualcomm ที่จะท้าชน Nvidia ในตลาดโครงสร้างพื้นฐาน AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/watch-out-nvidia-qualcomm-acquires-alphawave-semi-in-latest-addition-to-its-ai-data-center-push 🤖 Gemini 3 Flash ฉลาดและเร็ว — แต่ยัง “มั่วเนียน” เมื่อไม่รู้คำตอบ Gemini 3 Flash ทำคะแนนสูงในหลายการทดสอบ แต่ผลวิเคราะห์ล่าสุดเผยว่าเมื่อโมเดลไม่รู้คำตอบ มันเลือก “ตอบมั่ว” ถึง 91% แทนที่จะบอกว่าไม่รู้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการใช้งานในสถานการณ์จริง โดยเฉพาะเมื่อถูกผนวกเข้ากับ Search แม้ยังเป็นหนึ่งในโมเดลที่แม่นยำที่สุด แต่ความมั่นใจเกินเหตุในบริบทที่ไม่มีข้อมูลจริงยังเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ Google ต้องเร่งแก้ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini-3-flash-is-smart-but-when-it-doesnt-know-it-makes-stuff-up-anyway 🧠 AWS มองอนาคตเป็นยุค “Internet of Agents” พร้อมผลักดัน AgentCore ผู้บริหาร AWS เผยวิสัยทัศน์ยุคใหม่ที่ AI agents จะกลายเป็นผู้ช่วยประจำตัวทุกคน โดย AWS ต้องการให้ทุกนักพัฒนาเป็น “agentic developer” ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง AgentCore และ Kiro IDE ที่ช่วยสร้าง agent ได้ง่ายขึ้น พร้อมย้ำว่าความน่าเชื่อถือและการตรวจสอบโดยมนุษย์ยังเป็นหัวใจสำคัญ ก่อนที่โลกจะเข้าสู่ยุคที่งานจำนวนมากถูกเร่งด้วย agent แต่ไม่แทนที่มนุษย์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/we-are-living-in-times-of-great-change-i-speak-to-aws-top-ai-minds-to-hear-how-it-wants-to-open-up-agents-and-building-to-everyone 🏠 กล้องวงจรปิดไม่ง้อรายเดือน — 3 รุ่นแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ Smart Home TechRadar คัด 3 กล้องวงจรปิดที่ใช้งานได้เต็มฟีเจอร์โดยไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน ได้แก่ Baseus S2 ที่มีแผงโซลาร์หมุนตามแสงและระบบจดจำใบหน้า, Swann MaxRanger4K ที่ให้ความละเอียดสูงพร้อมฐานเก็บข้อมูลในตัว และ Reolink Altas PT Ultra ที่เด่นด้านการหมุน‑แพน‑ซูมและภาพกลางคืนสีสันคมชัด ทั้งหมดรองรับการบันทึกแบบ local storage ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/home/home-security/top-3-subscription-free-home-security-cameras ☁️ Google Cloud รีเฟรช Partner Network ครั้งใหญ่ เตรียมใช้จริงปี 2026 Google Cloud เปิดตัวโปรแกรมพาร์ตเนอร์รูปแบบใหม่ที่เน้น “ผลลัพธ์จริงของลูกค้า” มากกว่าการส่งเอกสารหรือทำตามเช็กลิสต์ โดยเพิ่มระบบอัตโนมัติ, การติดตามด้วย AI และเปิดระดับใหม่ชื่อ Diamond สำหรับพาร์ตเนอร์ที่สร้างผลลัพธ์โดดเด่นที่สุด พร้อมช่วงเปลี่ยนผ่าน 6 เดือนเพื่อให้ทุกประเภทพาร์ตเนอร์ปรับตัวก่อนระบบใหม่เริ่มใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-cloud-reveals-all-new-channel-program-heres-all-the-key-details ⚡ Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เสริมพลังงานให้ดาต้าเซ็นเตอร์ Alphabet เข้าซื้อ Intersect Power แบบเต็มตัวเพื่อเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานรองรับดาต้าเซ็นเตอร์ หลังจากเคยลงทุนไปแล้ว $800M ในปี 2024 โดย Intersect จะยังคงดำเนินงานแยกบริษัท พร้อมส่งมอบโครงการพลังงานหลายกิกะวัตต์ให้ Google ใช้ขยายศูนย์ข้อมูลในอนาคต แม้บางทรัพย์สินในแคลิฟอร์เนียและเท็กซัสจะถูกแยกออกไปตั้งบริษัทใหม่ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/alphabet-secures-usd4-75-billion-intersect-deal-to-make-sure-its-data-centers-have-enough-energy 📱 Oppo Find X9 Pro — เรือธงสุดโหดสำหรับสาย Android ตัวจริง Oppo Find X9 Pro มาพร้อมดีไซน์ใหม่แบบขอบแบน กล้องจัดเต็ม 50MP + 50MP + 200MP, ชิป Dimensity 9500, RAM 16GB และแบต 7,500mAh ที่อึดกว่าคู่แข่งหลายรุ่น หน้าจอ AMOLED 120Hz สว่างสุด 3600 nits และประสิทธิภาพระดับท็อป แม้จะมีความร้อนบ้างและซอฟต์แวร์บางจุดยังแปลก ๆ แต่โดยรวมคือหนึ่งใน Android ที่ครบเครื่องที่สุด—ติดเพียงข้อจำกัดด้านการวางจำหน่ายที่ยังไม่ทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/phones/oppo-phones/oppo-find-x9-pro-review 🔐 NordProtect เพิ่มระบบ Fraud Monitoring ตรวจจับการปลอมตัวและกู้เงินแอบอ้าง NordProtect อัปเกรดระบบป้องกันการฉ้อโกงครั้งใหญ่ โดยเพิ่มการตรวจสอบข้อมูลจาก Equifax, Experian และ TransUnion เพื่อหาสัญญาณเปิดบัญชีใหม่, การเปลี่ยนเครดิตสกอร์, การกู้เงินระยะสั้น และการเปิดบัญชีการเงินโดยใช้ข้อมูลผู้ใช้ พร้อมผสานการล็อกเครดิตของ TransUnion เข้ามาในระบบ แม้บริการเต็มรูปแบบจะยังจำกัดเฉพาะในสหรัฐฯ ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/nordprotect-adds-fraud-monitoring-tool-to-help-protect-users-from-scams 🎧 iPod Classic กลับมาในร่างใหม่ — USB‑C, Bluetooth และราคาสุดถูก Innioasis Y1 คือเครื่องเล่นเพลงที่ถอดแบบ iPod Classic แทบทุกจุด ทั้งดีไซน์และ clickwheel แต่เพิ่มความทันสมัยด้วย USB‑C, Bluetooth, รองรับไฟล์หลากหลาย และแบตเล่นเพลงได้ 25–30 ชั่วโมง ในราคาต่ำกว่า $60 แม้คุณภาพงานประกอบและซอฟต์แวร์จะไม่เทียบ Apple และความจุจำกัดที่ 128GB แต่ก็เป็นอุปกรณ์ที่มีเสน่ห์สำหรับคนคิดถึงยุค iPod 🔗 https://www.techradar.com/audio/portable-media-players/someones-made-a-usb-c-version-of-the-ipod-classic-complete-with-clickwheel-and-its-extremely-cheap 🪟 Windows 11 เดินหน้าทดสอบ AI Agents ในระบบ แม้เสียงวิจารณ์ยังแรง Microsoft ปล่อยพรีวิว Windows 11 ที่โชว์การทำงานของ AI agents ชัดขึ้น ทั้ง Ask Copilot บนทาสก์บาร์, การอัปเดตสถานะ reasoning แบบเรียลไทม์เมื่อโฮเวอร์ไอคอน และระบบ Agent Launcher ที่เปิดให้แอปภายนอกสร้าง agent ของตัวเองได้ แม้เป็นก้าวสำคัญของ Windows ยุค AI แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังไม่พอใจที่ Microsoft ทุ่มทรัพยากรไปกับ AI มากกว่าการแก้ปัญหา UX และบั๊กพื้นฐานของระบบ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-preview-provides-more-details-on-how-ai-agents-will-work-but-this-remains-a-controversial-path-for-microsoft 🔓 มหาวิทยาลัย Phoenix ถูกแฮ็ก ข้อมูลกว่า 3.5 ล้านรายรั่วจากช่องโหว่ Oracle University of Phoenix ยืนยันว่าถูกกลุ่มแรนซัมแวร์ Cl0p เจาะระบบผ่านช่องโหว่ zero‑day ของ Oracle E‑Business Suite ทำให้ข้อมูลของอดีตนักศึกษา พนักงาน และซัพพลายเออร์กว่า 3.5 ล้านรายถูกขโมย ทั้งชื่อ วันเกิด เบอร์บัญชี และ Social Security Number มหาวิทยาลัยแจ้งเตือนผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมให้บริการตรวจสอบตัวตน 12 เดือน และตั้งกองทุนชดเชยความเสียหายสูงสุด $1 ล้าน ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/university-of-phoenix-data-breach-may-have-hit-over-3-5-million-victims-heres-what-we-know
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷

    #รวมข่าวIT #20251223 #securityonline

    Hardware‑Accelerated BitLocker: ยุคใหม่ของการเข้ารหัสที่ไม่กิน FPS อีกต่อไป
    Microsoft เปิดตัว BitLocker แบบเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ซึ่งย้ายภาระการเข้ารหัสจาก CPU ไปยังเอนจินเฉพาะในคอนโทรลเลอร์ NVMe ทำให้ Windows 11 สามารถรักษาความเร็วอ่าน–เขียนระดับเกือบเนทีฟแม้เปิดการเข้ารหัสเต็มระบบ ต่างจากแบบเดิมที่ใช้ซอฟต์แวร์ล้วนและกินทรัพยากรจนกระทบ FPS ในเกมหรือโหลดงานหนักอย่างคอมไพล์โค้ดและเรนเดอร์วิดีโอ เทคโนโลยีใหม่นี้ยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยการเก็บกุญแจเข้ารหัสในฮาร์ดแวร์ที่แยกตัว ลดโอกาสโจมตีหน่วยความจำ พร้อมประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยจะเปิดใช้ใน Windows 11 24H2–25H2 บนอุปกรณ์ที่มี NVMe controller รุ่นใหม่และ CPU ที่มี crypto engine ในตัว เช่น Intel Core Ultra, AMD Ryzen และ Snapdragon X ซึ่งหมายความว่า HDD และ SATA SSD จะไม่รองรับแน่นอน
    https://securityonline.info/unlocking-the-speed-of-light-how-hardware-accelerated-bitlocker-saves-your-fps/

    The Payroll Trap: แคมเปญ Quishing ใหม่ใช้ QR + CAPTCHA ปลอมเพื่อขโมยเงินเดือนพนักงาน
    แคมเปญฟิชชิงรูปแบบใหม่กำลังพุ่งเป้าไปที่พนักงานโดยใช้ QR code เพื่อหลบระบบความปลอดภัยขององค์กร ก่อนล่อให้เหยื่อสแกนด้วยมือถือส่วนตัวและพาออกนอกเครือข่ายบริษัท จากนั้นหน้าเว็บปลอมจะใช้ CAPTCHA หลอกเพื่อดึงอีเมลและกระตุ้นให้กรอกรหัสผ่าน โดยโครงสร้างหลังบ้านใช้โดเมนหมุนเวียนและ URL เฉพาะรายเหยื่อ ทำให้สืบสวนได้ยากขึ้น สะท้อนการยกระดับฟิชชิงที่ผสานเทคนิคและจิตวิทยาอย่างแนบเนียน
    https://securityonline.info/the-payroll-trap-new-quishing-campaign-uses-fake-captchas-to-hijack-employee-paychecks

    Zero‑Day Linksys: ช่องโหว่ Auth Bypass เปิดทางแฮ็กเกอร์ยึดเราเตอร์โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน
    นักวิจัยพบช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ Linksys E9450‑SG ที่ทำให้ผู้โจมตีบนเครือข่ายท้องถิ่นสามารถเปิด Telnet และเข้าถึงสิทธิ์ root ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน เพียงส่งคำขอ URL ที่เจาะจงไปยัง endpoint ที่ผิดพลาดของเฟิร์มแวร์ แม้จะไม่ถูกโจมตีจากอินเทอร์เน็ตโดยตรง แต่ความเสี่ยงต่อผู้ที่มีผู้ใช้ร่วมเครือข่ายหรือ Wi‑Fi รั่วไหลยังสูงมาก
    https://securityonline.info/zero-day-alert-linksys-auth-bypass-lets-hackers-hijack-routers-without-passwords

    Wonderland: มัลแวร์ Android รุ่นใหม่ใช้ Telegram ควบคุมแบบสองทางเพื่อดูดเงินเหยื่อ
    รายงานจาก Group‑IB เผยการระบาดของมัลแวร์ “Wonderland” ในเอเชียกลาง ซึ่งพัฒนาไปไกลจากโทรจันทั่วไป โดยใช้ dropper ปลอมตัวเป็นไฟล์อัปเดตหรือมีเดียเพื่อหลบการตรวจจับ ก่อนปล่อย payload ที่สื่อสารกับผู้โจมตีแบบ real‑time ผ่าน C2 ทำให้สั่งรัน USSD, ส่ง SMS และขยายการติดเชื้อผ่าน Telegram ของเหยื่อได้โดยอัตโนมัติ แสดงถึงวิวัฒนาการของอาชญากรรมมือถือที่ซับซ้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว
    https://securityonline.info/wonderland-unleashed-new-android-dropper-malware-hijacks-telegram-to-drain-bank-accounts

    EchoGather: แคมเปญจารกรรมไซเบอร์ใช้ XLL + เอกสาร AI‑ปลอมเพื่อเจาะองค์กรรัสเซีย
    กลุ่ม Paper Werewolf ปรับยุทธวิธีใหม่ด้วยการใช้ไฟล์ XLL ซึ่งเป็น DLL ที่ Excel โหลดตรง ทำให้รันโค้ดได้โดยไม่ติดข้อจำกัดของมาโคร พร้อมเทคนิคหน่วงเวลาการทำงานเพื่อหลบระบบตรวจจับ เมื่อ payload ทำงานจะติดตั้ง backdoor “EchoGather” สำหรับเก็บข้อมูลและสั่งงานผ่าน HTTPS ขณะเดียวกันเอกสารล่อเหยื่อที่แนบมากลับถูกสร้างด้วย AI และมีข้อผิดพลาดหลายจุด สะท้อนการผสมผสานระหว่างเทคนิคขั้นสูงและความลวกของมนุษย์
    https://securityonline.info/ai-generated-decoys-xll-stealth-inside-the-new-echogather-cyber-espionage-campaign

    React2Shell Exploited: EtherRAT ใช้ Node.js ปลอมตัวเพื่อล่าคริปโตจากเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก
    แคมเปญโจมตีอัตโนมัติใช้ช่องโหว่ React2Shell เพื่อฝัง EtherRAT บนเซิร์ฟเวอร์ โดยดาวน์โหลด Node.js เวอร์ชันจริงมาติดตั้งเพื่อรันสคริปต์โจมตี ทำให้ยากต่อการตรวจจับ จากนั้นมัลแวร์จะเชื่อมต่อ RPC ของ Ethereum เพื่อทำธุรกรรมกับสัญญาเฉพาะ เป้าหมายคือขโมยสินทรัพย์ดิจิทัลจากระบบที่ถูกยึดแบบไร้การเจาะจงประเทศ ผู้ดูแลระบบควรตรวจสอบ process Node.js แปลกปลอมและโฟลเดอร์ซ่อนใน home path
    https://securityonline.info/react2shell-exploited-new-etherrat-malware-hunts-for-crypto-via-node-js

    M‑Files Identity Hijack: ช่องโหว่ให้พนักงานขโมยตัวตนกันเองได้เงียบ ๆ
    แพลตฟอร์มจัดการเอกสาร M‑Files ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ “ผู้ใช้ภายใน” สามารถดัก session token ของเพื่อนร่วมงานและสวมรอยเข้าถึงข้อมูลลับได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย ทำให้การตรวจสอบย้อนหลังแทบเป็นไปไม่ได้ ขณะเดียวกันอีกช่องโหว่ทำให้ข้อมูลจาก vault เก่ารั่วไหลไปยัง vault ใหม่โดยไม่ตั้งใจ สะท้อนความเสี่ยงของระบบที่องค์กรพึ่งพาในงานเอกสารระดับ mission‑critical และจำเป็นต้องอัปเดตแพตช์ทันทีเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้
    https://securityonline.info/identity-theft-in-m-files-high-severity-flaw-lets-insiders-hijack-user-accounts-and-access-sensitive-data

    Purchase Order Deception: แคมเปญจารกรรมใช้ loader อเนกประสงค์โจมตีอุตสาหกรรมยุโรป–ตะวันออกกลาง
    รายงานใหม่เผยแคมเปญที่ใช้ “unified commodity loader” เป็นแกนกลางในการส่ง RAT หลายตระกูลเข้าโจมตีบริษัทผลิตและหน่วยงานรัฐในอิตาลี ฟินแลนด์ และซาอุฯ โดยซ่อน payload ไว้ในภาพผ่าน steganography และดัดแปลงไลบรารีโอเพ่นซอร์สให้กลายเป็นม้าโทรจันที่ตรวจจับยาก พร้อมเทคนิคหลอก UAC แบบแนบเนียน ทำให้แคมเปญนี้เป็นตัวอย่างของการยกระดับ tradecraft ในตลาดมัลแวร์เชิงพาณิชย์
    https://securityonline.info/purchase-order-deception-sophisticated-loader-targets-manufacturing-giants-in-italy-finland-and-saudi-arabia

    Prince of Persia APT กลับมาพร้อมมัลแวร์ควบคุมผ่าน Telegram หลังเงียบไปหลายปี
    กลุ่ม APT สายอิหร่าน “Prince of Persia / Infy” ถูกพบว่ายังปฏิบัติการอยู่และได้อัปเกรดเครื่องมือใหม่ เช่น Tonnerre v50 ที่สื่อสารผ่าน Telegram group และใช้ DGA ซับซ้อนเพื่อหลบการบล็อก โครงสร้างมัลแวร์รุ่นใหม่อย่าง Foudre v34 และ Tonnerre v50 แสดงให้เห็นว่ากลุ่มนี้ไม่ได้หายไป แต่กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ยืดหยุ่นและตรวจจับยากกว่าเดิม พร้อมหลักฐานว่ามีมนุษย์ควบคุมการโจมตีแบบ real‑time
    https://securityonline.info/iranian-prince-of-persia-apt-resurfaces-with-telegram-controlled-stealth-malware

    Ransomware Cartel: Qilin–DragonForce–LockBit รวมตัวแบบสิ้นหวังท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐ
    ท่ามกลางการกวาดล้างของหน่วยงานรัฐทั่วโลก กลุ่ม Qilin, DragonForce และ LockBit ประกาศตั้ง “คาร์เทล” ร่วมกัน แต่รายงานชี้ว่าการรวมตัวนี้เป็นเพียงความพยายามประคองชื่อเสียงของ LockBit ที่แทบไม่เหลือกิจกรรมจริงแล้ว ขณะที่ Qilin กลับได้ประโยชน์ด้านการตลาดและดึง affiliate ใหม่มากกว่า ภาพรวมสะท้อนการแตกตัวของ ecosystem ransomware และการเปลี่ยนไปสู่โมเดล “ขู่กรรโชกข้อมูลอย่างเดียว” ที่เสี่ยงน้อยกว่าเดิม
    https://securityonline.info/a-desperate-cartel-inside-the-unlikely-alliance-of-qilin-dragonforce-and-a-fading-lockbit

    Scripted Sparrow: เครื่องจักร BEC ระดับอุตสาหกรรมยิงอีเมลหลอกลวงกว่า 3 ล้านฉบับต่อเดือน
    กลุ่มอาชญากร “Scripted Sparrow” ใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบในการส่งอีเมล BEC โดยปลอมเป็นบริษัทเทรนนิ่งผู้บริหาร พร้อมแนบประวัติการสนทนาปลอมระหว่างผู้บริหารกับที่ปรึกษาเพื่อหลอกฝ่ายบัญชีให้จ่ายเงิน กลยุทธ์ใหม่คือส่งอีเมล “ลืมแนบไฟล์” เพื่อบังคับให้เหยื่อตอบกลับ ทำให้การสนทนากลายเป็น trusted thread และเปิดทางให้ส่งบัญชีม้าได้อย่างปลอดภัย การวิเคราะห์พบสมาชิกกระจายหลายทวีปและใช้เทคนิคปลอมตำแหน่ง GPS เพื่อหลบการติดตาม
    https://securityonline.info/the-3-million-email-siege-inside-scripted-sparrows-global-industrialized-bec-machine

    MongoDB Memory Leak: ช่องโหว่ zlib ทำข้อมูลหลุดโดยไม่ต้องล็อกอิน
    ช่องโหว่ร้ายแรงใน MongoDB (CVE‑2025‑14847) เปิดทางให้ผู้โจมตีดึงข้อมูลจาก heap memory ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เพียงส่งคำขอที่เจาะจงไปยังส่วนที่ใช้ zlib compression ทำให้เซิร์ฟเวอร์ตอบกลับด้วยข้อมูลที่ยังไม่ได้ล้าง ซึ่งอาจรวมถึง query ล่าสุดหรือ credential ที่ค้างอยู่ใน RAM ช่องโหว่นี้กระทบแทบทุกเวอร์ชันย้อนหลังหลายปี และผู้ดูแลระบบถูกแนะนำให้อัปเดตทันทีหรือปิดการใช้ zlib ชั่วคราวเพื่อหยุดการรั่วไหล
    https://securityonline.info/critical-unauthenticated-mongodb-flaw-leaks-sensitive-data-via-zlib-compression

    Anna’s Archive อ้างดูด Spotify 300TB จุดชนวนสอบสวนการรั่วไหลครั้งใหญ่
    กลุ่มเงา Anna’s Archive ระบุว่าสามารถ mirror คลังเพลงของ Spotify ได้กว่า 300TB ครอบคลุม 86 ล้านแทร็กที่คิดเป็น 99.6% ของยอดฟังทั้งหมด โดยใช้วิธีเก็บ metadata 256 ล้านรายการและหลุดไฟล์เสียงบางส่วนผ่านการเลี่ยง DRM แม้ Spotify จะยืนยันเพียงว่ามีการเข้าถึงข้อมูลบางส่วน แต่เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์และความเป็นไปได้ที่ข้อมูลจะถูกนำไปสร้างแพลตฟอร์มสตรีมเถื่อนหรือใช้เทรนโมเดล AI
    https://securityonline.info/annas-archive-claims-300tb-spotify-mirror-forcing-an-investigation-into-a-massive-music-data-leak

    Windows DWM EoP: ช่องโหว่ยกระดับสิทธิ์ด้วยเทคนิค “วาดทับ” พร้อม PoC เผยแพร่แล้ว
    ช่องโหว่ใน Desktop Window Manager (DWM) ของ Windows เปิดทางให้ผู้ใช้ในเครื่องยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น SYSTEM ผ่านการจัดการกราฟิกผิดพลาด โดยมี PoC เผยแพร่แล้วแม้รายงานฉบับเต็มจะถูกล็อกให้เฉพาะผู้สนับสนุน เหตุการณ์นี้เพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องเร่งแพตช์ เพราะเป็นช่องโหว่ที่ผู้โจมตีสามารถใช้ร่วมกับบั๊กอื่นเพื่อยึดระบบได้อย่างรวดเร็ว
    https://securityonline.info/windows-dwm-flaw-lets-local-users-paint-their-way-to-system-privileges-poc-publishes

    Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เพื่อควบคุมไฟฟ้าป้อน Gemini และศูนย์ข้อมูล
    Alphabet เดินเกมเชิงโครงสร้างด้วยการซื้อ Intersect Power เพื่อแก้ปัญหาพลังงานที่กำลังกลายเป็นคอขวดของการแข่งขัน AI โดยดีลนี้ทำให้ Google ควบคุมโครงการพลังงานหมุนเวียนหลายกิกะวัตต์ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่สร้างติดกับดาต้าเซ็นเตอร์ในเท็กซัส การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าศึก AI ไม่ได้วัดกันที่ชิปหรือโมเดลอีกต่อไป แต่คือใครสร้างโรงไฟฟ้าได้เร็วกว่า
    https://securityonline.info/the-grid-is-the-goal-alphabets-4-75b-bet-to-own-the-power-plants-behind-gemini

    Android Toll: Google เก็บค่าติดตั้ง $2.85 ต่อแอปเมื่อใช้ลิงก์ดาวน์โหลดภายนอก
    ภายใต้แรงกดดันจากคดี Epic vs Google ศาลบีบให้ Google เปิด Play Store ให้ลิงก์ออกไปดาวน์โหลดภายนอกได้ แต่ Google เสนอโมเดลใหม่ที่ซับซ้อนและมีค่าธรรมเนียมสูง—คิด $2.85 ต่อการติดตั้งแอป และ $3.65 สำหรับเกม หากผู้ใช้ติดตั้งภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลิกลิงก์ พร้อมเก็บส่วนแบ่ง 10–20% สำหรับการจ่ายเงินผ่านระบบของนักพัฒนาเอง ทำให้แม้จะ “เปิด” ระบบ แต่ต้นทุนจริงอาจสูงจนผู้พัฒนาหลายรายไม่อยากออกจาก ecosystem
    https://securityonline.info/the-android-toll-google-to-charge-2-85-per-install-for-external-app-links
    📌🔐🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷🔐📌 #รวมข่าวIT #20251223 #securityonline ⚡ Hardware‑Accelerated BitLocker: ยุคใหม่ของการเข้ารหัสที่ไม่กิน FPS อีกต่อไป Microsoft เปิดตัว BitLocker แบบเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ซึ่งย้ายภาระการเข้ารหัสจาก CPU ไปยังเอนจินเฉพาะในคอนโทรลเลอร์ NVMe ทำให้ Windows 11 สามารถรักษาความเร็วอ่าน–เขียนระดับเกือบเนทีฟแม้เปิดการเข้ารหัสเต็มระบบ ต่างจากแบบเดิมที่ใช้ซอฟต์แวร์ล้วนและกินทรัพยากรจนกระทบ FPS ในเกมหรือโหลดงานหนักอย่างคอมไพล์โค้ดและเรนเดอร์วิดีโอ เทคโนโลยีใหม่นี้ยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยการเก็บกุญแจเข้ารหัสในฮาร์ดแวร์ที่แยกตัว ลดโอกาสโจมตีหน่วยความจำ พร้อมประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยจะเปิดใช้ใน Windows 11 24H2–25H2 บนอุปกรณ์ที่มี NVMe controller รุ่นใหม่และ CPU ที่มี crypto engine ในตัว เช่น Intel Core Ultra, AMD Ryzen และ Snapdragon X ซึ่งหมายความว่า HDD และ SATA SSD จะไม่รองรับแน่นอน 🔗 https://securityonline.info/unlocking-the-speed-of-light-how-hardware-accelerated-bitlocker-saves-your-fps/ 🧾 The Payroll Trap: แคมเปญ Quishing ใหม่ใช้ QR + CAPTCHA ปลอมเพื่อขโมยเงินเดือนพนักงาน แคมเปญฟิชชิงรูปแบบใหม่กำลังพุ่งเป้าไปที่พนักงานโดยใช้ QR code เพื่อหลบระบบความปลอดภัยขององค์กร ก่อนล่อให้เหยื่อสแกนด้วยมือถือส่วนตัวและพาออกนอกเครือข่ายบริษัท จากนั้นหน้าเว็บปลอมจะใช้ CAPTCHA หลอกเพื่อดึงอีเมลและกระตุ้นให้กรอกรหัสผ่าน โดยโครงสร้างหลังบ้านใช้โดเมนหมุนเวียนและ URL เฉพาะรายเหยื่อ ทำให้สืบสวนได้ยากขึ้น สะท้อนการยกระดับฟิชชิงที่ผสานเทคนิคและจิตวิทยาอย่างแนบเนียน 🔗 https://securityonline.info/the-payroll-trap-new-quishing-campaign-uses-fake-captchas-to-hijack-employee-paychecks 📡 Zero‑Day Linksys: ช่องโหว่ Auth Bypass เปิดทางแฮ็กเกอร์ยึดเราเตอร์โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน นักวิจัยพบช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ Linksys E9450‑SG ที่ทำให้ผู้โจมตีบนเครือข่ายท้องถิ่นสามารถเปิด Telnet และเข้าถึงสิทธิ์ root ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน เพียงส่งคำขอ URL ที่เจาะจงไปยัง endpoint ที่ผิดพลาดของเฟิร์มแวร์ แม้จะไม่ถูกโจมตีจากอินเทอร์เน็ตโดยตรง แต่ความเสี่ยงต่อผู้ที่มีผู้ใช้ร่วมเครือข่ายหรือ Wi‑Fi รั่วไหลยังสูงมาก 🔗 https://securityonline.info/zero-day-alert-linksys-auth-bypass-lets-hackers-hijack-routers-without-passwords 📱 Wonderland: มัลแวร์ Android รุ่นใหม่ใช้ Telegram ควบคุมแบบสองทางเพื่อดูดเงินเหยื่อ รายงานจาก Group‑IB เผยการระบาดของมัลแวร์ “Wonderland” ในเอเชียกลาง ซึ่งพัฒนาไปไกลจากโทรจันทั่วไป โดยใช้ dropper ปลอมตัวเป็นไฟล์อัปเดตหรือมีเดียเพื่อหลบการตรวจจับ ก่อนปล่อย payload ที่สื่อสารกับผู้โจมตีแบบ real‑time ผ่าน C2 ทำให้สั่งรัน USSD, ส่ง SMS และขยายการติดเชื้อผ่าน Telegram ของเหยื่อได้โดยอัตโนมัติ แสดงถึงวิวัฒนาการของอาชญากรรมมือถือที่ซับซ้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว 🔗 https://securityonline.info/wonderland-unleashed-new-android-dropper-malware-hijacks-telegram-to-drain-bank-accounts 🧩 EchoGather: แคมเปญจารกรรมไซเบอร์ใช้ XLL + เอกสาร AI‑ปลอมเพื่อเจาะองค์กรรัสเซีย กลุ่ม Paper Werewolf ปรับยุทธวิธีใหม่ด้วยการใช้ไฟล์ XLL ซึ่งเป็น DLL ที่ Excel โหลดตรง ทำให้รันโค้ดได้โดยไม่ติดข้อจำกัดของมาโคร พร้อมเทคนิคหน่วงเวลาการทำงานเพื่อหลบระบบตรวจจับ เมื่อ payload ทำงานจะติดตั้ง backdoor “EchoGather” สำหรับเก็บข้อมูลและสั่งงานผ่าน HTTPS ขณะเดียวกันเอกสารล่อเหยื่อที่แนบมากลับถูกสร้างด้วย AI และมีข้อผิดพลาดหลายจุด สะท้อนการผสมผสานระหว่างเทคนิคขั้นสูงและความลวกของมนุษย์ 🔗 https://securityonline.info/ai-generated-decoys-xll-stealth-inside-the-new-echogather-cyber-espionage-campaign 💰 React2Shell Exploited: EtherRAT ใช้ Node.js ปลอมตัวเพื่อล่าคริปโตจากเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก แคมเปญโจมตีอัตโนมัติใช้ช่องโหว่ React2Shell เพื่อฝัง EtherRAT บนเซิร์ฟเวอร์ โดยดาวน์โหลด Node.js เวอร์ชันจริงมาติดตั้งเพื่อรันสคริปต์โจมตี ทำให้ยากต่อการตรวจจับ จากนั้นมัลแวร์จะเชื่อมต่อ RPC ของ Ethereum เพื่อทำธุรกรรมกับสัญญาเฉพาะ เป้าหมายคือขโมยสินทรัพย์ดิจิทัลจากระบบที่ถูกยึดแบบไร้การเจาะจงประเทศ ผู้ดูแลระบบควรตรวจสอบ process Node.js แปลกปลอมและโฟลเดอร์ซ่อนใน home path 🔗 https://securityonline.info/react2shell-exploited-new-etherrat-malware-hunts-for-crypto-via-node-js 🕵️‍♂️ M‑Files Identity Hijack: ช่องโหว่ให้พนักงานขโมยตัวตนกันเองได้เงียบ ๆ แพลตฟอร์มจัดการเอกสาร M‑Files ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ “ผู้ใช้ภายใน” สามารถดัก session token ของเพื่อนร่วมงานและสวมรอยเข้าถึงข้อมูลลับได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย ทำให้การตรวจสอบย้อนหลังแทบเป็นไปไม่ได้ ขณะเดียวกันอีกช่องโหว่ทำให้ข้อมูลจาก vault เก่ารั่วไหลไปยัง vault ใหม่โดยไม่ตั้งใจ สะท้อนความเสี่ยงของระบบที่องค์กรพึ่งพาในงานเอกสารระดับ mission‑critical และจำเป็นต้องอัปเดตแพตช์ทันทีเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้ 🔗 https://securityonline.info/identity-theft-in-m-files-high-severity-flaw-lets-insiders-hijack-user-accounts-and-access-sensitive-data 📦 Purchase Order Deception: แคมเปญจารกรรมใช้ loader อเนกประสงค์โจมตีอุตสาหกรรมยุโรป–ตะวันออกกลาง รายงานใหม่เผยแคมเปญที่ใช้ “unified commodity loader” เป็นแกนกลางในการส่ง RAT หลายตระกูลเข้าโจมตีบริษัทผลิตและหน่วยงานรัฐในอิตาลี ฟินแลนด์ และซาอุฯ โดยซ่อน payload ไว้ในภาพผ่าน steganography และดัดแปลงไลบรารีโอเพ่นซอร์สให้กลายเป็นม้าโทรจันที่ตรวจจับยาก พร้อมเทคนิคหลอก UAC แบบแนบเนียน ทำให้แคมเปญนี้เป็นตัวอย่างของการยกระดับ tradecraft ในตลาดมัลแวร์เชิงพาณิชย์ 🔗 https://securityonline.info/purchase-order-deception-sophisticated-loader-targets-manufacturing-giants-in-italy-finland-and-saudi-arabia 🕌 Prince of Persia APT กลับมาพร้อมมัลแวร์ควบคุมผ่าน Telegram หลังเงียบไปหลายปี กลุ่ม APT สายอิหร่าน “Prince of Persia / Infy” ถูกพบว่ายังปฏิบัติการอยู่และได้อัปเกรดเครื่องมือใหม่ เช่น Tonnerre v50 ที่สื่อสารผ่าน Telegram group และใช้ DGA ซับซ้อนเพื่อหลบการบล็อก โครงสร้างมัลแวร์รุ่นใหม่อย่าง Foudre v34 และ Tonnerre v50 แสดงให้เห็นว่ากลุ่มนี้ไม่ได้หายไป แต่กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ยืดหยุ่นและตรวจจับยากกว่าเดิม พร้อมหลักฐานว่ามีมนุษย์ควบคุมการโจมตีแบบ real‑time 🔗 https://securityonline.info/iranian-prince-of-persia-apt-resurfaces-with-telegram-controlled-stealth-malware 🤝 Ransomware Cartel: Qilin–DragonForce–LockBit รวมตัวแบบสิ้นหวังท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐ ท่ามกลางการกวาดล้างของหน่วยงานรัฐทั่วโลก กลุ่ม Qilin, DragonForce และ LockBit ประกาศตั้ง “คาร์เทล” ร่วมกัน แต่รายงานชี้ว่าการรวมตัวนี้เป็นเพียงความพยายามประคองชื่อเสียงของ LockBit ที่แทบไม่เหลือกิจกรรมจริงแล้ว ขณะที่ Qilin กลับได้ประโยชน์ด้านการตลาดและดึง affiliate ใหม่มากกว่า ภาพรวมสะท้อนการแตกตัวของ ecosystem ransomware และการเปลี่ยนไปสู่โมเดล “ขู่กรรโชกข้อมูลอย่างเดียว” ที่เสี่ยงน้อยกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/a-desperate-cartel-inside-the-unlikely-alliance-of-qilin-dragonforce-and-a-fading-lockbit 📨 Scripted Sparrow: เครื่องจักร BEC ระดับอุตสาหกรรมยิงอีเมลหลอกลวงกว่า 3 ล้านฉบับต่อเดือน กลุ่มอาชญากร “Scripted Sparrow” ใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบในการส่งอีเมล BEC โดยปลอมเป็นบริษัทเทรนนิ่งผู้บริหาร พร้อมแนบประวัติการสนทนาปลอมระหว่างผู้บริหารกับที่ปรึกษาเพื่อหลอกฝ่ายบัญชีให้จ่ายเงิน กลยุทธ์ใหม่คือส่งอีเมล “ลืมแนบไฟล์” เพื่อบังคับให้เหยื่อตอบกลับ ทำให้การสนทนากลายเป็น trusted thread และเปิดทางให้ส่งบัญชีม้าได้อย่างปลอดภัย การวิเคราะห์พบสมาชิกกระจายหลายทวีปและใช้เทคนิคปลอมตำแหน่ง GPS เพื่อหลบการติดตาม 🔗 https://securityonline.info/the-3-million-email-siege-inside-scripted-sparrows-global-industrialized-bec-machine 🛢️ MongoDB Memory Leak: ช่องโหว่ zlib ทำข้อมูลหลุดโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่ร้ายแรงใน MongoDB (CVE‑2025‑14847) เปิดทางให้ผู้โจมตีดึงข้อมูลจาก heap memory ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เพียงส่งคำขอที่เจาะจงไปยังส่วนที่ใช้ zlib compression ทำให้เซิร์ฟเวอร์ตอบกลับด้วยข้อมูลที่ยังไม่ได้ล้าง ซึ่งอาจรวมถึง query ล่าสุดหรือ credential ที่ค้างอยู่ใน RAM ช่องโหว่นี้กระทบแทบทุกเวอร์ชันย้อนหลังหลายปี และผู้ดูแลระบบถูกแนะนำให้อัปเดตทันทีหรือปิดการใช้ zlib ชั่วคราวเพื่อหยุดการรั่วไหล 🔗 https://securityonline.info/critical-unauthenticated-mongodb-flaw-leaks-sensitive-data-via-zlib-compression 🎧 Anna’s Archive อ้างดูด Spotify 300TB จุดชนวนสอบสวนการรั่วไหลครั้งใหญ่ กลุ่มเงา Anna’s Archive ระบุว่าสามารถ mirror คลังเพลงของ Spotify ได้กว่า 300TB ครอบคลุม 86 ล้านแทร็กที่คิดเป็น 99.6% ของยอดฟังทั้งหมด โดยใช้วิธีเก็บ metadata 256 ล้านรายการและหลุดไฟล์เสียงบางส่วนผ่านการเลี่ยง DRM แม้ Spotify จะยืนยันเพียงว่ามีการเข้าถึงข้อมูลบางส่วน แต่เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์และความเป็นไปได้ที่ข้อมูลจะถูกนำไปสร้างแพลตฟอร์มสตรีมเถื่อนหรือใช้เทรนโมเดล AI 🔗 https://securityonline.info/annas-archive-claims-300tb-spotify-mirror-forcing-an-investigation-into-a-massive-music-data-leak 🖼️ Windows DWM EoP: ช่องโหว่ยกระดับสิทธิ์ด้วยเทคนิค “วาดทับ” พร้อม PoC เผยแพร่แล้ว ช่องโหว่ใน Desktop Window Manager (DWM) ของ Windows เปิดทางให้ผู้ใช้ในเครื่องยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น SYSTEM ผ่านการจัดการกราฟิกผิดพลาด โดยมี PoC เผยแพร่แล้วแม้รายงานฉบับเต็มจะถูกล็อกให้เฉพาะผู้สนับสนุน เหตุการณ์นี้เพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องเร่งแพตช์ เพราะเป็นช่องโหว่ที่ผู้โจมตีสามารถใช้ร่วมกับบั๊กอื่นเพื่อยึดระบบได้อย่างรวดเร็ว 🔗 https://securityonline.info/windows-dwm-flaw-lets-local-users-paint-their-way-to-system-privileges-poc-publishes ⚡ Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เพื่อควบคุมไฟฟ้าป้อน Gemini และศูนย์ข้อมูล Alphabet เดินเกมเชิงโครงสร้างด้วยการซื้อ Intersect Power เพื่อแก้ปัญหาพลังงานที่กำลังกลายเป็นคอขวดของการแข่งขัน AI โดยดีลนี้ทำให้ Google ควบคุมโครงการพลังงานหมุนเวียนหลายกิกะวัตต์ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่สร้างติดกับดาต้าเซ็นเตอร์ในเท็กซัส การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าศึก AI ไม่ได้วัดกันที่ชิปหรือโมเดลอีกต่อไป แต่คือใครสร้างโรงไฟฟ้าได้เร็วกว่า 🔗 https://securityonline.info/the-grid-is-the-goal-alphabets-4-75b-bet-to-own-the-power-plants-behind-gemini 📱 Android Toll: Google เก็บค่าติดตั้ง $2.85 ต่อแอปเมื่อใช้ลิงก์ดาวน์โหลดภายนอก ภายใต้แรงกดดันจากคดี Epic vs Google ศาลบีบให้ Google เปิด Play Store ให้ลิงก์ออกไปดาวน์โหลดภายนอกได้ แต่ Google เสนอโมเดลใหม่ที่ซับซ้อนและมีค่าธรรมเนียมสูง—คิด $2.85 ต่อการติดตั้งแอป และ $3.65 สำหรับเกม หากผู้ใช้ติดตั้งภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลิกลิงก์ พร้อมเก็บส่วนแบ่ง 10–20% สำหรับการจ่ายเงินผ่านระบบของนักพัฒนาเอง ทำให้แม้จะ “เปิด” ระบบ แต่ต้นทุนจริงอาจสูงจนผู้พัฒนาหลายรายไม่อยากออกจาก ecosystem 🔗 https://securityonline.info/the-android-toll-google-to-charge-2-85-per-install-for-external-app-links
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • จินนี่ ตอนที่ 3

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่”
    ตอน 3
    เรื่องความมั่นคงของอัสสาดในซีเรีย และเรื่องแก๊สของซีเรียและอิหร่านในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้รัสเซีย ตัดสินใจยกกองทัพเข้าไปในซีเรีย เพราะทั้ง 2 เรื่องเกี่ยวพันกับความมั่นคงของฝ่ายรัสเซียและเพื่อน (รายละเอียดอยู่ในนิทานเรื่องลองเชิง) แต่สาเหตุที่รัสเซียยาตราเข้าไป ตะวันออกกลาง คงไม่ได้มีเพียงเท่านั้น
    คงจำกันได้ ผมได้เล่าให้ฟังแล้วว่า ในตะวันออกกลาง มีหัวโจกอยู่ 3 ราย คือ อิหร่าน ซาอุดิอารเบีย และอิสราเอล ซึ่งก็ชัดเจนว่า รายแรก สังกัดกลุ่มรัสเซีย และ 2 รายหลังสังกัดกลุ่มอเมริกา
    แต่ 2 รายหลัง แม้จะสังกัดกลุ่มเดียวกัน แต่ไม่รักกัน การมาจับร่วมมือทำกิจกรรมเกี่ยวกับซีเรียกัน ก็เพราะมีเป้าหมายเดียวกัน คือต้องการไล่
    อัสสาด ที่เอาอิหร่านและรัสเซีย ให้พ้นไปจากซีเรีย เพื่อที่กลุ่มพวกตัวจะได้ส่งตัวเลือกของกลุ่มเข้าไปปกครองซีเรียแทน และแน่นอน ต้องเป็นคนที่ไม่เอาอิหร่านและรัสเซีย ด้วยวิธีนี้ จะทำให้ซีเรีย ที่เป็นเหมือนด่านหน้าของอิหร่าน แตกกับอิหร่าน และอิหร่าน ที่ไม่มีซีเรียเป็นกันชนให้ ก็จะตกอยู่ในสภาพที่อาจจะล้มได้ง่ายขึ้น
    หากอิหร่านล้มไป ทั้งซาอุดิอารเบียและอิสราเอล ก็จะแข่งกันเอง เพื่อเป็นลูกพี่ใหญ่ควบคุมตะวันออกกลางแต่ผู้เดียว แม้จะดูเป็นความหวังที่ค่อนข้างฝันเฟื่อง แต่ทั้ง 2 นักฝัน ก็พร้อมทำ เพราะได้รับประทานลูกยุ จากพี่เบิ้มอเมริกาเสียจนพุงกางทั้งคู่
    คิดจะเป็นใหญ่ ตามตำราเขาว่า ก็ต้องมีพลังงานเป็นของตัวเอง ไม่มีเอง ก็ต้องหาทางครอบครองให้ได้ อย่างที่อังกฤษ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ เพ้อมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เรื่องนี้ จึงทำให้ ซาอุดิอารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่กระหยิ่มหน้าเชิด ก็มีแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลก จะไม่ให้เชิดเลยหรือ ในเมื่อใครๆก็วิ่งเหงื่อซกสร้างท่อ ขุดบ่อหาน้ำมันกันทั้งนั้น แต่เสี่ยปั๊มใหญ่ แค่นั่งเฉยๆ ก็มีคนมาคุกเข่า สอพลอขอน้ำมัน อย่างนี้จะไม่ให้ตัวพองได้อย่างไร แต่คงไม่มีใครกล้าเตือนเสี่ยปั๊มใหญ่นะครับว่า การมีของดีมากๆ แต่ไม่ฉลาดรักษา (ทั้งตัว ทั้งของดี) ก็อาจนำมาซึ่งเภทภัยและหายนะ ให้ตัวเองเอวังได้เหมือนกัน
    ส่วนอิสราเอล นอกจากจะเป็นข้าวนอกนา ทรายพลัดถิ่น มาอยู่ในตะวันออกกลางแล้ว ยังไม่เคยถูกรางวัลใหญ่ เจาะเจอน้ำมันอะไรกับเขาเลย ต้องนับถือสายตาอันคมกริบของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่ช่างเลือกที่ให้ชาวยิวมาอยู่ในตะวันออกกลางจริงๆ ใครที่คิดว่ายิวคุมอังกฤษ ก็ลองทบทวนความจริงเรื่องนี้ หลายๆรอบหน่อยครับ มันเป็นเรื่องการผลัดกันหลอก ลวงกันใช้เสียละมากกว่า แต่ยิวฉลาด “สร้างเงา” คนที่มองเห็นแต่เงา ก็คงหลงเชื่อเป็นธรรมดา
    อิสราเอล เพิ่งมาโชคดีเจอหลุมแก๊สในทะเลหน้าบ้านเอาเมื่อในปี ค.ศ.2010 นี้เอง และคราวนี้ ก็มาเจอน้ำมัน shale oil เมื่อต้นเดือนตุลาคมนี้ด้วย คราวนี้ ถึงตาอิสราเอลเชิดหน้าบ้างสิ ยิวมีน้ำมันแล้ววว แบบนี้มันต้องตีปีบ ให้โลกรู้กันหน่อย เดียวเขาจะว่าจ๋อย ไม่มีทางสู้เสี่ยปั๊มใหญ่ได้
    การถูตะเกียงให้คุณจินนี่ปรากฏตัวในช่วงจังหวะนี้ จึงน่าคิด เรื่องการค้นพบน้ำมันในที่ราบสูงโกลานที่อ้างว่า น่าจะมีปริมาณมหึมา เหมือนจะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น น้ำมันตั้งแยะ ไม่ว่าฝ่ายไหน ก็น่าจะตาถล่นร้อนฉ่าด้วยความอิจฉา และหมั่นไส้
    ยิ่งดูจากรายชื่อที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ของคุณจินนี่แล้ว ผมละขนหัวลุก สยองขวัญเหลือเกิน ขุดมาแต่ละชื่อ ยังกับเอาเทียนลนให้ผีดิบคืนชีพ แบบนี้แปลว่าขาใหญ่ทั้งฝั่งอเมริกาและอังกฤษจับมือกันเล่น หรือไง!? ยิ่งแถมเอานาย Kho คู่แค้นคุณพี่ปูตินมาด้วย แปลว่าต้องการยั่วพยาธิคุณพี่ปูตินขนาดหนัก และแถมยังได้แหย่ต่อมหลอนของเสี่ยปั๊มได้ด้วย เสี่ยปั๊มใหญ่เห็นภาพหลอนง่ายจะตาย หลอนเรื่องอิหร่านทุกวันทุกคืนอยู่แล้ว เพิ่มยิวหลอนตอนเช้าไปอีกมื้อ เดี๋ยวเสี่ยปั้มใหญ่ก็ดิ้นพล่าน ลุกขึ้นมาไล่ถล่มอะไรแก้กลุ้ม ไม่มีปัญหาสำหรับเสี่ยปั๊มใหญ่ เงินเหลือใช้ คนล้นประเทศ หลอกให้ไปรบแทนเสีย 3,4 แสน
    อย่างนี้ คนหลอก คนยุ ก็ไม่ต้องออกแรงมาก ประหยัดทั้งกระเป๋า ประหยัดทั้งคนของตัว สบายไป…
    แต่นั่นแหละนะ อะไรที่มันตีปีบแรงไป ของจริงมันมักจะตรงข้าม ของดีไม่ต้องโฆษณามาก ยิ่งมีดีมากต้องยิ่งกบไต๋ ผมเลยเกรงว่า รายการถูตะเกียง เอาจินนี่ออกมาขู่คราวนี้ มันเหมือนการตีปีบ ตีเกราะเคาะไม้ หลอกไล่พระราหูที่กำลังอมพระจันทร์ ไล่รัสเซียที่กำลังปักหลักพักค้าง ทำท่าจะอยู่ยาวในตะวันออกกลางเสียมากกว่า
    นอกจากนี้ น้ำมันที่บริษัทในเครือของคุณจินนี่ประกาศว่าเจอ เป็นน้ำมันชนิดที่เรียกว่า shale oil ที่อยู่ในชั้นหินดินดาน การขุดเจาะต้องใช้แรงน้ำผสมสารเคมี กระแทกให้หินแตก เพื่อดูดน้ำมันออกมา ยิ่งบอกว่าชั้นหินดินดานที่โกลาน หนากว่าปกติถึง 10 เท่า ไม่รู้ว่า แปลว่าดีหรือไม่ดี ที่สำคัญ มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ราบสูงโกลานเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญ การใช้วิธีกระแทกหินใช้สารเคมีใส่เข้าไป จะมีผลกับแหล่งน้ำจืดมากน้อยแค่ไหน และเป็นแหล่งน้ำจืด ที่ทั้งอิสราเอลและซีเรียยังต้องพึ่งอยู่ จึงน่าคิดว่า การตีข่าวเอาจีนนี่ออกมา ไม่น่าจะใช่เรื่องน้ำมันเสียทีเดียว
    ผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้ว นับแต่วันที่คุณพี่ปูติน พาพรรคพวกเข้าไปเดินเล่นอยู่ในซีเรีย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการเมืองโลก และทั้งโลก ก็กำลังจับตาดูปฏิกริยาของอเมริกาในเรื่องนี้ แต่อเมริกายังเงียบผิดปรกติ ผิดมาดของผู้ที่อ้างตัวเอง และมีผู้คนก้มหัวยกให้เป็นพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก ที่มักจะส่งเสียงทุกครั้งที่เห็นใบตองแห้งไหว
    จิ๊กโก๋คุมซอยเพลิดเพลินอยู่คนเดียวมานาน 70 ปี วันดีคืนดี มีหนุ่มห้าวเดินเข้ามาในซอย ตั้งใจจะมาจัดระเบียบวินมอร์ไซด์ปากซอยเสียใหม่ เพราะมีคนไปบอกว่า ไอ้อาด เพื่อนเก่าของหนุ่มห้าว ที่ขี่มอร์ไซด์อยู่เส้นทางนี้มาตั้งนานแล้ว กำลังถูกรุม ไล่ให้ออกไปจากวิน สาเหตุเพราะไอ้อาดขี่มานานเกินไป แต่มอร์ไซด์ของไอ้อาดยังดูเอี่ยมอ่อง
    หนุ่มห้าวไม่พูดมากความ บอก ไอ้อาดมึงขี่ต่อไป แต่ห้ามร่วงนะมึง ต่อไปนี้ ใครรุมมึง ใครซ่ามาก กูตบกกหูร่วงอย่าว่ากูใจดำ มึงอยู่กันดีๆไม่เป็นหรือไง ว่าแล้วก็ตบกกหูไอ้ปื๊ด ลูกน้องตัวสำคัญของจิ๊กโก๋คุมซอยให้ดูเป็นอย่าง
    ลูกน้องถูกตบ จนกกหูบวมเป่งมา 2 เดือนกว่า แถมหนุ่มห้าวยังไม่ไปไหน ทุกเช้า 8 โมงยังมายืนกอดอกดูอยู่ปากซอย แต่จิ๊กโก๋คุมซอย ยังไม่โผล่หัวเข้ามาในซอยอีกเลยตั้งแต่ลูกน้องถูกตบกกหู ได้แต่ส่งเสียงสลับใบตองแห้งปลิว ผ่านลูกกระเป๋งหลากหน้าว่า มึงมีสิทธิอะไรมายุ่งในซอยที่กูคุมมม ๆๆๆ ซ้ำไปซ้ำมา อยู่แค่นั้น
    แบบนี้แปลว่าอะไรครับ แปลว่า เป็นจิ๊กโก๋พันธุ์ใบตองแห้งจริงๆ มีแต่ปาก หรือจิ๊กโก๋กำลังซุ่ม เตรียมสมัครพรรคพวก ไว้แอบเฉาะกระบานไอ้หนุ่มห้าวเอาให้หงายเก๋ง ค้างแห้งอยู่กลางทะเลทรายเสียเลย
    จิ๊กโก๋คุมซอยมา 70 ปี คงไม่ยอมเสียตำแหน่งให้ใครง่ายๆ กะแค่หนุ่มห้าวตบกกหูไอ้ปื้ด จิ๊กโก๋บอกไม่มีปัญหา กูมีไอ้ปื้ดเป็นแสนๆ อยู่แถบนั้น เข้าใจไหม ปั่นหัวแผลบเดียว เดี๋ยวก็ดาหน้าเข้ามาใส่ไอ้หนุ่มห้าว จนมึงนั่นแหละ จะเผ่นออกจากตะวันออกกลางไม่ทัน….
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    5 พ.ย. 2558
    จินนี่ ตอนที่ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่” ตอน 3 เรื่องความมั่นคงของอัสสาดในซีเรีย และเรื่องแก๊สของซีเรียและอิหร่านในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้รัสเซีย ตัดสินใจยกกองทัพเข้าไปในซีเรีย เพราะทั้ง 2 เรื่องเกี่ยวพันกับความมั่นคงของฝ่ายรัสเซียและเพื่อน (รายละเอียดอยู่ในนิทานเรื่องลองเชิง) แต่สาเหตุที่รัสเซียยาตราเข้าไป ตะวันออกกลาง คงไม่ได้มีเพียงเท่านั้น คงจำกันได้ ผมได้เล่าให้ฟังแล้วว่า ในตะวันออกกลาง มีหัวโจกอยู่ 3 ราย คือ อิหร่าน ซาอุดิอารเบีย และอิสราเอล ซึ่งก็ชัดเจนว่า รายแรก สังกัดกลุ่มรัสเซีย และ 2 รายหลังสังกัดกลุ่มอเมริกา แต่ 2 รายหลัง แม้จะสังกัดกลุ่มเดียวกัน แต่ไม่รักกัน การมาจับร่วมมือทำกิจกรรมเกี่ยวกับซีเรียกัน ก็เพราะมีเป้าหมายเดียวกัน คือต้องการไล่ อัสสาด ที่เอาอิหร่านและรัสเซีย ให้พ้นไปจากซีเรีย เพื่อที่กลุ่มพวกตัวจะได้ส่งตัวเลือกของกลุ่มเข้าไปปกครองซีเรียแทน และแน่นอน ต้องเป็นคนที่ไม่เอาอิหร่านและรัสเซีย ด้วยวิธีนี้ จะทำให้ซีเรีย ที่เป็นเหมือนด่านหน้าของอิหร่าน แตกกับอิหร่าน และอิหร่าน ที่ไม่มีซีเรียเป็นกันชนให้ ก็จะตกอยู่ในสภาพที่อาจจะล้มได้ง่ายขึ้น หากอิหร่านล้มไป ทั้งซาอุดิอารเบียและอิสราเอล ก็จะแข่งกันเอง เพื่อเป็นลูกพี่ใหญ่ควบคุมตะวันออกกลางแต่ผู้เดียว แม้จะดูเป็นความหวังที่ค่อนข้างฝันเฟื่อง แต่ทั้ง 2 นักฝัน ก็พร้อมทำ เพราะได้รับประทานลูกยุ จากพี่เบิ้มอเมริกาเสียจนพุงกางทั้งคู่ คิดจะเป็นใหญ่ ตามตำราเขาว่า ก็ต้องมีพลังงานเป็นของตัวเอง ไม่มีเอง ก็ต้องหาทางครอบครองให้ได้ อย่างที่อังกฤษ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ เพ้อมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เรื่องนี้ จึงทำให้ ซาอุดิอารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่กระหยิ่มหน้าเชิด ก็มีแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลก จะไม่ให้เชิดเลยหรือ ในเมื่อใครๆก็วิ่งเหงื่อซกสร้างท่อ ขุดบ่อหาน้ำมันกันทั้งนั้น แต่เสี่ยปั๊มใหญ่ แค่นั่งเฉยๆ ก็มีคนมาคุกเข่า สอพลอขอน้ำมัน อย่างนี้จะไม่ให้ตัวพองได้อย่างไร แต่คงไม่มีใครกล้าเตือนเสี่ยปั๊มใหญ่นะครับว่า การมีของดีมากๆ แต่ไม่ฉลาดรักษา (ทั้งตัว ทั้งของดี) ก็อาจนำมาซึ่งเภทภัยและหายนะ ให้ตัวเองเอวังได้เหมือนกัน ส่วนอิสราเอล นอกจากจะเป็นข้าวนอกนา ทรายพลัดถิ่น มาอยู่ในตะวันออกกลางแล้ว ยังไม่เคยถูกรางวัลใหญ่ เจาะเจอน้ำมันอะไรกับเขาเลย ต้องนับถือสายตาอันคมกริบของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่ช่างเลือกที่ให้ชาวยิวมาอยู่ในตะวันออกกลางจริงๆ ใครที่คิดว่ายิวคุมอังกฤษ ก็ลองทบทวนความจริงเรื่องนี้ หลายๆรอบหน่อยครับ มันเป็นเรื่องการผลัดกันหลอก ลวงกันใช้เสียละมากกว่า แต่ยิวฉลาด “สร้างเงา” คนที่มองเห็นแต่เงา ก็คงหลงเชื่อเป็นธรรมดา อิสราเอล เพิ่งมาโชคดีเจอหลุมแก๊สในทะเลหน้าบ้านเอาเมื่อในปี ค.ศ.2010 นี้เอง และคราวนี้ ก็มาเจอน้ำมัน shale oil เมื่อต้นเดือนตุลาคมนี้ด้วย คราวนี้ ถึงตาอิสราเอลเชิดหน้าบ้างสิ ยิวมีน้ำมันแล้ววว แบบนี้มันต้องตีปีบ ให้โลกรู้กันหน่อย เดียวเขาจะว่าจ๋อย ไม่มีทางสู้เสี่ยปั๊มใหญ่ได้ การถูตะเกียงให้คุณจินนี่ปรากฏตัวในช่วงจังหวะนี้ จึงน่าคิด เรื่องการค้นพบน้ำมันในที่ราบสูงโกลานที่อ้างว่า น่าจะมีปริมาณมหึมา เหมือนจะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น น้ำมันตั้งแยะ ไม่ว่าฝ่ายไหน ก็น่าจะตาถล่นร้อนฉ่าด้วยความอิจฉา และหมั่นไส้ ยิ่งดูจากรายชื่อที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ของคุณจินนี่แล้ว ผมละขนหัวลุก สยองขวัญเหลือเกิน ขุดมาแต่ละชื่อ ยังกับเอาเทียนลนให้ผีดิบคืนชีพ แบบนี้แปลว่าขาใหญ่ทั้งฝั่งอเมริกาและอังกฤษจับมือกันเล่น หรือไง!? ยิ่งแถมเอานาย Kho คู่แค้นคุณพี่ปูตินมาด้วย แปลว่าต้องการยั่วพยาธิคุณพี่ปูตินขนาดหนัก และแถมยังได้แหย่ต่อมหลอนของเสี่ยปั๊มได้ด้วย เสี่ยปั๊มใหญ่เห็นภาพหลอนง่ายจะตาย หลอนเรื่องอิหร่านทุกวันทุกคืนอยู่แล้ว เพิ่มยิวหลอนตอนเช้าไปอีกมื้อ เดี๋ยวเสี่ยปั้มใหญ่ก็ดิ้นพล่าน ลุกขึ้นมาไล่ถล่มอะไรแก้กลุ้ม ไม่มีปัญหาสำหรับเสี่ยปั๊มใหญ่ เงินเหลือใช้ คนล้นประเทศ หลอกให้ไปรบแทนเสีย 3,4 แสน อย่างนี้ คนหลอก คนยุ ก็ไม่ต้องออกแรงมาก ประหยัดทั้งกระเป๋า ประหยัดทั้งคนของตัว สบายไป… แต่นั่นแหละนะ อะไรที่มันตีปีบแรงไป ของจริงมันมักจะตรงข้าม ของดีไม่ต้องโฆษณามาก ยิ่งมีดีมากต้องยิ่งกบไต๋ ผมเลยเกรงว่า รายการถูตะเกียง เอาจินนี่ออกมาขู่คราวนี้ มันเหมือนการตีปีบ ตีเกราะเคาะไม้ หลอกไล่พระราหูที่กำลังอมพระจันทร์ ไล่รัสเซียที่กำลังปักหลักพักค้าง ทำท่าจะอยู่ยาวในตะวันออกกลางเสียมากกว่า นอกจากนี้ น้ำมันที่บริษัทในเครือของคุณจินนี่ประกาศว่าเจอ เป็นน้ำมันชนิดที่เรียกว่า shale oil ที่อยู่ในชั้นหินดินดาน การขุดเจาะต้องใช้แรงน้ำผสมสารเคมี กระแทกให้หินแตก เพื่อดูดน้ำมันออกมา ยิ่งบอกว่าชั้นหินดินดานที่โกลาน หนากว่าปกติถึง 10 เท่า ไม่รู้ว่า แปลว่าดีหรือไม่ดี ที่สำคัญ มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ราบสูงโกลานเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญ การใช้วิธีกระแทกหินใช้สารเคมีใส่เข้าไป จะมีผลกับแหล่งน้ำจืดมากน้อยแค่ไหน และเป็นแหล่งน้ำจืด ที่ทั้งอิสราเอลและซีเรียยังต้องพึ่งอยู่ จึงน่าคิดว่า การตีข่าวเอาจีนนี่ออกมา ไม่น่าจะใช่เรื่องน้ำมันเสียทีเดียว ผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้ว นับแต่วันที่คุณพี่ปูติน พาพรรคพวกเข้าไปเดินเล่นอยู่ในซีเรีย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการเมืองโลก และทั้งโลก ก็กำลังจับตาดูปฏิกริยาของอเมริกาในเรื่องนี้ แต่อเมริกายังเงียบผิดปรกติ ผิดมาดของผู้ที่อ้างตัวเอง และมีผู้คนก้มหัวยกให้เป็นพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก ที่มักจะส่งเสียงทุกครั้งที่เห็นใบตองแห้งไหว จิ๊กโก๋คุมซอยเพลิดเพลินอยู่คนเดียวมานาน 70 ปี วันดีคืนดี มีหนุ่มห้าวเดินเข้ามาในซอย ตั้งใจจะมาจัดระเบียบวินมอร์ไซด์ปากซอยเสียใหม่ เพราะมีคนไปบอกว่า ไอ้อาด เพื่อนเก่าของหนุ่มห้าว ที่ขี่มอร์ไซด์อยู่เส้นทางนี้มาตั้งนานแล้ว กำลังถูกรุม ไล่ให้ออกไปจากวิน สาเหตุเพราะไอ้อาดขี่มานานเกินไป แต่มอร์ไซด์ของไอ้อาดยังดูเอี่ยมอ่อง หนุ่มห้าวไม่พูดมากความ บอก ไอ้อาดมึงขี่ต่อไป แต่ห้ามร่วงนะมึง ต่อไปนี้ ใครรุมมึง ใครซ่ามาก กูตบกกหูร่วงอย่าว่ากูใจดำ มึงอยู่กันดีๆไม่เป็นหรือไง ว่าแล้วก็ตบกกหูไอ้ปื๊ด ลูกน้องตัวสำคัญของจิ๊กโก๋คุมซอยให้ดูเป็นอย่าง ลูกน้องถูกตบ จนกกหูบวมเป่งมา 2 เดือนกว่า แถมหนุ่มห้าวยังไม่ไปไหน ทุกเช้า 8 โมงยังมายืนกอดอกดูอยู่ปากซอย แต่จิ๊กโก๋คุมซอย ยังไม่โผล่หัวเข้ามาในซอยอีกเลยตั้งแต่ลูกน้องถูกตบกกหู ได้แต่ส่งเสียงสลับใบตองแห้งปลิว ผ่านลูกกระเป๋งหลากหน้าว่า มึงมีสิทธิอะไรมายุ่งในซอยที่กูคุมมม ๆๆๆ ซ้ำไปซ้ำมา อยู่แค่นั้น แบบนี้แปลว่าอะไรครับ แปลว่า เป็นจิ๊กโก๋พันธุ์ใบตองแห้งจริงๆ มีแต่ปาก หรือจิ๊กโก๋กำลังซุ่ม เตรียมสมัครพรรคพวก ไว้แอบเฉาะกระบานไอ้หนุ่มห้าวเอาให้หงายเก๋ง ค้างแห้งอยู่กลางทะเลทรายเสียเลย จิ๊กโก๋คุมซอยมา 70 ปี คงไม่ยอมเสียตำแหน่งให้ใครง่ายๆ กะแค่หนุ่มห้าวตบกกหูไอ้ปื้ด จิ๊กโก๋บอกไม่มีปัญหา กูมีไอ้ปื้ดเป็นแสนๆ อยู่แถบนั้น เข้าใจไหม ปั่นหัวแผลบเดียว เดี๋ยวก็ดาหน้าเข้ามาใส่ไอ้หนุ่มห้าว จนมึงนั่นแหละ จะเผ่นออกจากตะวันออกกลางไม่ทัน…. สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 5 พ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple สะดุด 2nm: ปัญหาการผลิต A20 Pro ที่สะท้อนความเปราะบางของห่วงโซ่เซมิคอนดักเตอร์

    รายงานล่าสุดระบุว่า Apple กำลังเผชิญปัญหาการผลิตชิป 2nm รุ่นแรกของโลก ซึ่งจะถูกใช้ใน A20 Pro สำหรับ iPhone รุ่นปลายปี 2025 ความท้าทายนี้เกิดขึ้นจากกำลังการผลิตของ TSMC ที่ยังไม่เสถียรในช่วงเริ่มต้น แม้จะเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดที่สุดในอุตสาหกรรม แต่การผลิตระดับ 2nm ต้องใช้เครื่อง EUV รุ่นใหม่ที่มีความซับซ้อนสูงและมีจำนวนจำกัด ทำให้ Apple ไม่สามารถรับชิปได้ตามแผน

    ชิป 2nm ถูกคาดหวังว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานและความเร็วอย่างมาก โดยเฉพาะในงาน AI บนดีไวซ์ (On‑device AI) ซึ่งเป็นแกนหลักของยุทธศาสตร์ Apple ในยุคหลัง Apple Intelligence อย่างไรก็ตาม การผลิตที่ยังไม่เสถียรทำให้ Apple อาจต้องจัดลำดับความสำคัญใหม่ เช่น ส่งชิป 2nm ให้เฉพาะรุ่น Pro ก่อน และใช้ชิป 3nm รุ่นปรับปรุงในรุ่นมาตรฐานเพื่อรักษากำหนดการเปิดตัว

    สถานการณ์นี้ยังสะท้อนความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่ทั้งโลกพึ่งพา TSMC เพียงรายเดียวสำหรับเทคโนโลยีระดับสูงสุด การขยายโรงงานในไต้หวัน ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปี ทำให้ Apple ต้องบริหารความเสี่ยงด้านซัพพลายเชนอย่างระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่การแข่งขันด้าน AI และประสิทธิภาพกำลังรุนแรงขึ้นทุกปี

    ในภาพรวม ปัญหานี้ไม่ได้ทำให้ Apple ชะลอแผน 2nm แต่ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์การจัดสรรชิปและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างรอบคอบมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นสัญญาณว่าการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระดับนาโนเมตรกำลังเข้าสู่ช่วงที่ “ความสามารถในการผลิต” สำคัญพอๆ กับ “ความก้าวหน้าทางเทคนิค”

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Apple และชิป 2nm
    Apple ประสบปัญหากำลังการผลิต 2nm จาก TSMC
    ชิป A20 Pro อาจมีจำนวนจำกัดในช่วงแรก
    รุ่น Pro อาจได้ใช้ 2nm ก่อน ส่วนรุ่นธรรมดาอาจใช้ 3nm รุ่นปรับปรุง
    2nm ถูกออกแบบมาเพื่อเร่งงาน AI บนดีไวซ์โดยเฉพาะ

    ความเสี่ยงและผลกระทบเชิงกลยุทธ์
    ความเสี่ยงจากการพึ่งพา TSMC เพียงรายเดียว
    เครื่อง EUV รุ่นใหม่มีจำนวนจำกัด ทำให้การผลิตเริ่มต้นช้ากว่าคาด
    อาจเกิดความล่าช้าในการเปิดตัวหรือจำกัดจำนวนรุ่น Pro
    การแข่งขันด้าน AI ทำให้ความล่าช้าของ 2nm ส่งผลต่อภาพลักษณ์เชิงนวัตกรรม

    https://wccftech.com/apple-reportedly-experiencing-2nm-production-shortages-for-a20-pro/
    🧵⚙️ Apple สะดุด 2nm: ปัญหาการผลิต A20 Pro ที่สะท้อนความเปราะบางของห่วงโซ่เซมิคอนดักเตอร์ รายงานล่าสุดระบุว่า Apple กำลังเผชิญปัญหาการผลิตชิป 2nm รุ่นแรกของโลก ซึ่งจะถูกใช้ใน A20 Pro สำหรับ iPhone รุ่นปลายปี 2025 ความท้าทายนี้เกิดขึ้นจากกำลังการผลิตของ TSMC ที่ยังไม่เสถียรในช่วงเริ่มต้น แม้จะเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดที่สุดในอุตสาหกรรม แต่การผลิตระดับ 2nm ต้องใช้เครื่อง EUV รุ่นใหม่ที่มีความซับซ้อนสูงและมีจำนวนจำกัด ทำให้ Apple ไม่สามารถรับชิปได้ตามแผน ชิป 2nm ถูกคาดหวังว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานและความเร็วอย่างมาก โดยเฉพาะในงาน AI บนดีไวซ์ (On‑device AI) ซึ่งเป็นแกนหลักของยุทธศาสตร์ Apple ในยุคหลัง Apple Intelligence อย่างไรก็ตาม การผลิตที่ยังไม่เสถียรทำให้ Apple อาจต้องจัดลำดับความสำคัญใหม่ เช่น ส่งชิป 2nm ให้เฉพาะรุ่น Pro ก่อน และใช้ชิป 3nm รุ่นปรับปรุงในรุ่นมาตรฐานเพื่อรักษากำหนดการเปิดตัว สถานการณ์นี้ยังสะท้อนความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่ทั้งโลกพึ่งพา TSMC เพียงรายเดียวสำหรับเทคโนโลยีระดับสูงสุด การขยายโรงงานในไต้หวัน ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปี ทำให้ Apple ต้องบริหารความเสี่ยงด้านซัพพลายเชนอย่างระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่การแข่งขันด้าน AI และประสิทธิภาพกำลังรุนแรงขึ้นทุกปี ในภาพรวม ปัญหานี้ไม่ได้ทำให้ Apple ชะลอแผน 2nm แต่ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์การจัดสรรชิปและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างรอบคอบมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นสัญญาณว่าการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระดับนาโนเมตรกำลังเข้าสู่ช่วงที่ “ความสามารถในการผลิต” สำคัญพอๆ กับ “ความก้าวหน้าทางเทคนิค” 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Apple และชิป 2nm ➡️ Apple ประสบปัญหากำลังการผลิต 2nm จาก TSMC ➡️ ชิป A20 Pro อาจมีจำนวนจำกัดในช่วงแรก ➡️ รุ่น Pro อาจได้ใช้ 2nm ก่อน ส่วนรุ่นธรรมดาอาจใช้ 3nm รุ่นปรับปรุง ➡️ 2nm ถูกออกแบบมาเพื่อเร่งงาน AI บนดีไวซ์โดยเฉพาะ ‼️ ความเสี่ยงและผลกระทบเชิงกลยุทธ์ ⛔ ความเสี่ยงจากการพึ่งพา TSMC เพียงรายเดียว ⛔ เครื่อง EUV รุ่นใหม่มีจำนวนจำกัด ทำให้การผลิตเริ่มต้นช้ากว่าคาด ⛔ อาจเกิดความล่าช้าในการเปิดตัวหรือจำกัดจำนวนรุ่น Pro ⛔ การแข่งขันด้าน AI ทำให้ความล่าช้าของ 2nm ส่งผลต่อภาพลักษณ์เชิงนวัตกรรม https://wccftech.com/apple-reportedly-experiencing-2nm-production-shortages-for-a20-pro/
    WCCFTECH.COM
    Apple Reportedly Facing Production Shortages For Its A20 And A20 Pro, Despite Securing Nearly Half Of TSMC’s Initial 2nm Supply, But Samsung Isn’t Being Viewed As An Alternative
    As TSMC runs into production shortage problems with its 2nm process, problems are being created for Apple, but that doesn’t mean it will turn to Samsung
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • James Webb: กล้องโทรทรรศน์ที่เผยจักรวาลในแบบที่เราไม่เคยเรียนมาก่อน

    กล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb (JWST) ไม่ได้เป็นเพียงผู้สืบทอดของ Hubble แต่เป็น “การอัปเกรดครั้งใหญ่ของมนุษยชาติ” ในการมองย้อนเวลาไปยังจุดกำเนิดของจักรวาล ด้วยเทคโนโลยีอินฟราเรดขั้นสูง JWST สามารถมองทะลุฝุ่นคอสมิก เห็นดาวฤกษ์ยุคแรกที่เกิดขึ้นเมื่อจักรวาลมีอายุเพียงไม่ถึงพันล้านปี ซึ่งเป็นข้อมูลที่เราไม่เคยเข้าถึงมาก่อนในประวัติศาสตร์มนุษย์

    หนึ่งในความสามารถที่น่าทึ่งคือการตรวจพบซูเปอร์โนวาและดาวมวลยักษ์ที่สูญสลายไปแล้วนานนับพันล้านปี นักดาราศาสตร์พบสัญญาณทางเคมีที่บ่งชี้ถึง “ดาวยุคแรก” ที่มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ถึง 10,000 เท่า ซึ่งเป็นชนิดของดาวที่ตำราเรียนยังไม่เคยกล่าวถึงอย่างละเอียด เพราะก่อน JWST เราไม่เคยมีหลักฐานชัดเจนมาก่อนว่ามันเคยมีอยู่จริง

    ตำแหน่งของ JWST ที่จุด L2 ห่างจากโลกหนึ่งล้านไมล์ ทำให้มันสามารถทำงานได้โดยไม่ถูกรบกวนจากเงาโลกหรือความร้อนจากดวงอาทิตย์ การออกแบบที่ต้องซ่อนตัวจากความร้อนด้วยแผงกันความร้อน 5 ชั้น ทำให้กล้องสามารถรักษาอุณหภูมิที่ต่ำกว่า –370°F เพื่อให้เซนเซอร์อินฟราเรดทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ นี่คือสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยสร้างในอวกาศ

    แม้ JWST จะถูกออกแบบให้ใช้งานเพียง 5–10 ปี แต่การปล่อยตัวที่แม่นยำทำให้มันมีเชื้อเพลิงมากพอสำหรับภารกิจยาวกว่า 20 ปี อย่างไรก็ตาม เมื่อเชื้อเพลิงหมด มันจะไม่สามารถรักษาตำแหน่งหรือชี้กล้องได้อีกต่อไป NASA อาจต้องส่งยานไร้คนขับไปเติมเชื้อเพลิงในอนาคต ซึ่งจะเป็นอีกก้าวสำคัญของการบำรุงรักษาอุปกรณ์อวกาศระยะไกล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สิ่งที่ JWST ทำได้เหนือกว่าที่เราเคยเรียน
    มองเห็นซูเปอร์โนวายุคแรกของจักรวาล อายุเพียง 730 ล้านปีหลังบิ๊กแบง
    ตรวจพบ “ดาวมวลยักษ์ยุคแรก” ที่ตำราเรียนยังไม่เคยยืนยัน
    ใช้กล้อง NIRCam และเซนเซอร์อินฟราเรดที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก
    อยู่ที่จุด L2 ห่างโลก 1 ล้านไมล์เพื่อมุมมองที่ไร้เงารบกวน

    ความท้าทายและข้อจำกัดของ JWST
    ต้องรักษาอุณหภูมิต่ำมาก หากร้อนขึ้นเพียงเล็กน้อย เซนเซอร์จะใช้งานไม่ได้
    เมื่อเชื้อเพลิงหมด จะไม่สามารถรักษาตำแหน่งหรือชี้กล้องได้
    การซ่อมบำรุงทำได้ยากมาก เพราะอยู่ไกลเกินกว่ายานมนุษย์จะเดินทางไปถึง
    อายุภารกิจขึ้นอยู่กับความแม่นยำของการควบคุมทิศทางและการใช้เชื้อเพลิง

    https://www.slashgear.com/2054983/james-webb-space-telescope-things-didnt-teach-you-in-school/
    🔭✨ James Webb: กล้องโทรทรรศน์ที่เผยจักรวาลในแบบที่เราไม่เคยเรียนมาก่อน กล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb (JWST) ไม่ได้เป็นเพียงผู้สืบทอดของ Hubble แต่เป็น “การอัปเกรดครั้งใหญ่ของมนุษยชาติ” ในการมองย้อนเวลาไปยังจุดกำเนิดของจักรวาล ด้วยเทคโนโลยีอินฟราเรดขั้นสูง JWST สามารถมองทะลุฝุ่นคอสมิก เห็นดาวฤกษ์ยุคแรกที่เกิดขึ้นเมื่อจักรวาลมีอายุเพียงไม่ถึงพันล้านปี ซึ่งเป็นข้อมูลที่เราไม่เคยเข้าถึงมาก่อนในประวัติศาสตร์มนุษย์ หนึ่งในความสามารถที่น่าทึ่งคือการตรวจพบซูเปอร์โนวาและดาวมวลยักษ์ที่สูญสลายไปแล้วนานนับพันล้านปี นักดาราศาสตร์พบสัญญาณทางเคมีที่บ่งชี้ถึง “ดาวยุคแรก” ที่มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ถึง 10,000 เท่า ซึ่งเป็นชนิดของดาวที่ตำราเรียนยังไม่เคยกล่าวถึงอย่างละเอียด เพราะก่อน JWST เราไม่เคยมีหลักฐานชัดเจนมาก่อนว่ามันเคยมีอยู่จริง ตำแหน่งของ JWST ที่จุด L2 ห่างจากโลกหนึ่งล้านไมล์ ทำให้มันสามารถทำงานได้โดยไม่ถูกรบกวนจากเงาโลกหรือความร้อนจากดวงอาทิตย์ การออกแบบที่ต้องซ่อนตัวจากความร้อนด้วยแผงกันความร้อน 5 ชั้น ทำให้กล้องสามารถรักษาอุณหภูมิที่ต่ำกว่า –370°F เพื่อให้เซนเซอร์อินฟราเรดทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ นี่คือสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยสร้างในอวกาศ แม้ JWST จะถูกออกแบบให้ใช้งานเพียง 5–10 ปี แต่การปล่อยตัวที่แม่นยำทำให้มันมีเชื้อเพลิงมากพอสำหรับภารกิจยาวกว่า 20 ปี อย่างไรก็ตาม เมื่อเชื้อเพลิงหมด มันจะไม่สามารถรักษาตำแหน่งหรือชี้กล้องได้อีกต่อไป NASA อาจต้องส่งยานไร้คนขับไปเติมเชื้อเพลิงในอนาคต ซึ่งจะเป็นอีกก้าวสำคัญของการบำรุงรักษาอุปกรณ์อวกาศระยะไกล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สิ่งที่ JWST ทำได้เหนือกว่าที่เราเคยเรียน ➡️ มองเห็นซูเปอร์โนวายุคแรกของจักรวาล อายุเพียง 730 ล้านปีหลังบิ๊กแบง ➡️ ตรวจพบ “ดาวมวลยักษ์ยุคแรก” ที่ตำราเรียนยังไม่เคยยืนยัน ➡️ ใช้กล้อง NIRCam และเซนเซอร์อินฟราเรดที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก ➡️ อยู่ที่จุด L2 ห่างโลก 1 ล้านไมล์เพื่อมุมมองที่ไร้เงารบกวน ‼️ ความท้าทายและข้อจำกัดของ JWST ⛔ ต้องรักษาอุณหภูมิต่ำมาก หากร้อนขึ้นเพียงเล็กน้อย เซนเซอร์จะใช้งานไม่ได้ ⛔ เมื่อเชื้อเพลิงหมด จะไม่สามารถรักษาตำแหน่งหรือชี้กล้องได้ ⛔ การซ่อมบำรุงทำได้ยากมาก เพราะอยู่ไกลเกินกว่ายานมนุษย์จะเดินทางไปถึง ⛔ อายุภารกิจขึ้นอยู่กับความแม่นยำของการควบคุมทิศทางและการใช้เชื้อเพลิง https://www.slashgear.com/2054983/james-webb-space-telescope-things-didnt-teach-you-in-school/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Things About The James Webb Telescope They Didn't Teach You In School - SlashGear
    The James Webb Space Telescope has been helping scientists explore the cosmos for years now, but there are still plenty of unknown facts about the device.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • Raspberry Pi กู้วิกฤติค่า Subscription: 5 โปรเจกต์ที่ช่วยลดรายจ่ายดิจิทัล

    ในยุคที่บริการออนไลน์แทบทุกอย่างต้อง “สมัครรายเดือน” ไม่ว่าจะเป็นสตรีมมิง เพลง เกม ไปจนถึงบริการพื้นฐานอย่าง Password Manager หลายคนเริ่มมองหาวิธีลดค่าใช้จ่ายระยะยาว Raspberry Pi กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะราคาไม่แพง ปรับแต่งได้สูง และมีคอมมูนิตี้ที่แชร์วิธีทำมากมายให้ทำตามได้ง่ายๆ

    หนึ่งในโปรเจกต์ยอดนิยมคือการเปลี่ยน Raspberry Pi ให้เป็นกล่องสตรีมมิงส่วนตัว ใช้ Kodi หรือ LibreELEC เพื่อเล่นไฟล์หนังของตัวเองแบบ 4K HDR ได้สบายๆ โดยไม่ต้องง้อบริการสตรีมมิงที่ขึ้นราคาเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมผ่านรีโมตเดิมของทีวีด้วย HDMI-CEC หรือควบคุมผ่านมือถือก็ได้ ทำให้ใช้งานแทนกล่องสตรีมมิงเชิงพาณิชย์ได้อย่างสมบูรณ์

    อีกโปรเจกต์ที่ได้รับความนิยมคือการสร้าง NAS ส่วนตัวเพื่อเก็บไฟล์แทนบริการ Cloud Storage แม้จะต้องลงทุนฮาร์ดแวร์เพิ่ม เช่น SATA HAT หรือ HDD หลายลูก แต่เมื่อใช้งานระยะยาวจะคุ้มค่ากว่าการจ่ายรายเดือน และยังควบคุมความเป็นส่วนตัวของข้อมูลได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ต้องดูแลระบบเองทั้งหมด ทั้งการอัปเดต ความปลอดภัย และการสำรองข้อมูล

    สุดท้าย Raspberry Pi ยังสามารถกลายเป็น Password Manager แบบ Self‑hosted, Music Streaming Server หรือแม้แต่ Game Streaming Client ผ่าน Steam Link ได้อีกด้วย ทำให้มันเป็นอุปกรณ์เล็กๆ ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายดิจิทัลได้หลายด้าน พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้เรียนรู้เทคโนโลยีไปในตัว ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวสำหรับสายประหยัดและสายไอทีเหมือนกัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    โปรเจกต์ Raspberry Pi ที่ช่วยลดค่า subscription
    กล่องสตรีมมิงส่วนตัว เล่นไฟล์ 4K HDR ผ่าน Kodi/LibreELEC
    NAS ส่วนตัว ใช้เก็บไฟล์แทน Cloud Storage รายเดือน
    Password Manager แบบ Self‑hosted ใช้ Bitwarden บน Docker
    Music Streaming Server ผ่าน Jellyfin หรือ Navidrome
    Game Streaming Client ผ่าน Steam Link หรือ Moonlight

    ข้อควรระวังและความเสี่ยงในการใช้งาน Raspberry Pi แทนบริการรายเดือน
    ต้องดูแลระบบเองทั้งหมด เช่น อัปเดต แพตช์ความปลอดภัย
    ความเสี่ยงด้านข้อมูลสูญหาย หาก NAS เสียหาย ไฟดับ น้ำท่วม หรือถูกขโมย
    การเข้าถึงจากนอกบ้านอาจยุ่งยาก ต้องตั้งค่า VPN หรือบริการเสริม
    ประสิทธิภาพอาจไม่เท่าบริการเชิงพาณิชย์ เช่น ความเร็ว NAS หรือการสตรีมเกม

    https://www.slashgear.com/2055727/raspberry-pi-projects-replace-subscription-services/
    📺🔧 Raspberry Pi กู้วิกฤติค่า Subscription: 5 โปรเจกต์ที่ช่วยลดรายจ่ายดิจิทัล ในยุคที่บริการออนไลน์แทบทุกอย่างต้อง “สมัครรายเดือน” ไม่ว่าจะเป็นสตรีมมิง เพลง เกม ไปจนถึงบริการพื้นฐานอย่าง Password Manager หลายคนเริ่มมองหาวิธีลดค่าใช้จ่ายระยะยาว Raspberry Pi กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะราคาไม่แพง ปรับแต่งได้สูง และมีคอมมูนิตี้ที่แชร์วิธีทำมากมายให้ทำตามได้ง่ายๆ หนึ่งในโปรเจกต์ยอดนิยมคือการเปลี่ยน Raspberry Pi ให้เป็นกล่องสตรีมมิงส่วนตัว ใช้ Kodi หรือ LibreELEC เพื่อเล่นไฟล์หนังของตัวเองแบบ 4K HDR ได้สบายๆ โดยไม่ต้องง้อบริการสตรีมมิงที่ขึ้นราคาเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมผ่านรีโมตเดิมของทีวีด้วย HDMI-CEC หรือควบคุมผ่านมือถือก็ได้ ทำให้ใช้งานแทนกล่องสตรีมมิงเชิงพาณิชย์ได้อย่างสมบูรณ์ อีกโปรเจกต์ที่ได้รับความนิยมคือการสร้าง NAS ส่วนตัวเพื่อเก็บไฟล์แทนบริการ Cloud Storage แม้จะต้องลงทุนฮาร์ดแวร์เพิ่ม เช่น SATA HAT หรือ HDD หลายลูก แต่เมื่อใช้งานระยะยาวจะคุ้มค่ากว่าการจ่ายรายเดือน และยังควบคุมความเป็นส่วนตัวของข้อมูลได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ต้องดูแลระบบเองทั้งหมด ทั้งการอัปเดต ความปลอดภัย และการสำรองข้อมูล สุดท้าย Raspberry Pi ยังสามารถกลายเป็น Password Manager แบบ Self‑hosted, Music Streaming Server หรือแม้แต่ Game Streaming Client ผ่าน Steam Link ได้อีกด้วย ทำให้มันเป็นอุปกรณ์เล็กๆ ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายดิจิทัลได้หลายด้าน พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้เรียนรู้เทคโนโลยีไปในตัว ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวสำหรับสายประหยัดและสายไอทีเหมือนกัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ โปรเจกต์ Raspberry Pi ที่ช่วยลดค่า subscription ➡️ กล่องสตรีมมิงส่วนตัว เล่นไฟล์ 4K HDR ผ่าน Kodi/LibreELEC ➡️ NAS ส่วนตัว ใช้เก็บไฟล์แทน Cloud Storage รายเดือน ➡️ Password Manager แบบ Self‑hosted ใช้ Bitwarden บน Docker ➡️ Music Streaming Server ผ่าน Jellyfin หรือ Navidrome ➡️ Game Streaming Client ผ่าน Steam Link หรือ Moonlight ‼️ ข้อควรระวังและความเสี่ยงในการใช้งาน Raspberry Pi แทนบริการรายเดือน ⛔ ต้องดูแลระบบเองทั้งหมด เช่น อัปเดต แพตช์ความปลอดภัย ⛔ ความเสี่ยงด้านข้อมูลสูญหาย หาก NAS เสียหาย ไฟดับ น้ำท่วม หรือถูกขโมย ⛔ การเข้าถึงจากนอกบ้านอาจยุ่งยาก ต้องตั้งค่า VPN หรือบริการเสริม ⛔ ประสิทธิภาพอาจไม่เท่าบริการเชิงพาณิชย์ เช่น ความเร็ว NAS หรือการสตรีมเกม https://www.slashgear.com/2055727/raspberry-pi-projects-replace-subscription-services/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Raspberry Pi Projects That Can Replace Your Expensive Subscriptions - SlashGear
    Subscription services are everywhere these days, and they only seem to get more expensive. Luckily, with a Raspberry Pi, you can cut down on some of the bloat.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงพ่อทวดหลังหนังสือ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2555
    หลวงพ่อทวดหลังหนังสือ (หลังตอก ๕๕) วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2555 // พระดีพิธีใหญ่ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณครบทุกด้านให้คุณทางด้านอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งทรัพย์สินเงินทอง อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ **

    ** หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ พระมหาเถระผู้ทรงอภิญญาที่รู้จักกันดีในประเทศไทย ผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่ทวดเชื่อกันว่าพระเครื่องที่สร้างเนื่องด้วยท่านจะมีอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดในครอบครอง ปัจจุบันหลวงปู่ทวดถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาในประเทศไทยที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก ซึ่งเป็นพระที่มีผู้เคารพ บูชานับถือทั่วประเทศไทย >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงพ่อทวดหลังหนังสือ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2555 หลวงพ่อทวดหลังหนังสือ (หลังตอก ๕๕) วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2555 // พระดีพิธีใหญ่ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ ** พุทธคุณครบทุกด้านให้คุณทางด้านอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งทรัพย์สินเงินทอง อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ ** ** หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ พระมหาเถระผู้ทรงอภิญญาที่รู้จักกันดีในประเทศไทย ผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่ทวดเชื่อกันว่าพระเครื่องที่สร้างเนื่องด้วยท่านจะมีอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดในครอบครอง ปัจจุบันหลวงปู่ทวดถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาในประเทศไทยที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก ซึ่งเป็นพระที่มีผู้เคารพ บูชานับถือทั่วประเทศไทย >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลทั่วโลกใช้ “ปิดอินเทอร์เน็ต” เป็นอาวุธใหม่ — และกำลังเกิดบ่อยขึ้นอย่างน่ากลัว

    บทความของ Bruce Schneier ชี้ให้เห็นแนวโน้มที่น่ากังวล: รัฐบาลจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ใช้อินเทอร์เน็ตชัตดาวน์เป็นเครื่องมือควบคุมประชาชน ไม่ว่าจะเพื่อหยุดการประท้วง ปิดปากสื่อ หรือแม้แต่ควบคุมผลสอบของนักเรียนในบางประเทศ เหตุการณ์ล่าสุด เช่น อัฟกานิสถาน แทนซาเนีย แคเมอรูน ปากีสถาน และไนจีเรีย ต่างเผชิญการปิดอินเทอร์เน็ตระดับภูมิภาคหรือทั้งประเทศ โดยหลายครั้งไม่มีคำอธิบายใด ๆ จากรัฐบาลเลย

    Schneier ระบุว่าการปิดอินเทอร์เน็ตไม่ใช่แค่ “ความไม่สะดวก” แต่เป็นการปิดระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสังคม — ตั้งแต่การสื่อสารฉุกเฉิน การเงิน การบิน ไปจนถึงความปลอดภัยของประชาชนในเขตสงคราม เช่น กาซา หรือยูเครน ที่เคยถูกตัดสัญญาณโดยเจตนาเพื่อทำให้ประชาชนไร้ความสามารถในการขอความช่วยเหลือหรือเผยแพร่หลักฐานการละเมิดสิทธิ

    ข้อมูลจาก Access Now ระบุว่า ปี 2024 มีการปิดอินเทอร์เน็ต 296 ครั้งใน 54 ประเทศ และปี 2025 ก็มีอย่างน้อย 244 ครั้งแล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนว่าการปิดอินเทอร์เน็ตกำลังกลายเป็น “มาตรฐานใหม่” ของรัฐบาลอำนาจนิยม

    ปัญหานี้รุนแรงขึ้นเพราะโครงสร้างอินเทอร์เน็ตในหลายประเทศ “รวมศูนย์” มากเกินไป เช่น มีผู้ให้บริการมือถือรายเดียว หรือมีสายเคเบิลเชื่อมต่อโลกภายนอกเพียง 1–2 เส้น ทำให้รัฐบาลสามารถสั่งปิดได้ง่ายเพียงออกคำสั่งเดียว ต่างจากประเทศที่มีโครงสร้างกระจายตัว เช่น สหรัฐฯ ที่การปิดอินเทอร์เน็ตทั้งประเทศแทบเป็นไปไม่ได้

    Schneier เตือนว่าการปิดอินเทอร์เน็ตคือการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และเป็นสัญญาณของการถอยหลังทางประชาธิปไตยทั่วโลก แม้จะมีความพยายามจากองค์กรระหว่างประเทศในการกดดัน แต่รัฐบาลหลายแห่งกลับ “เรียนรู้จากกันและกัน” ทำให้แนวโน้มนี้ยิ่งแพร่กระจาย

    สรุปประเด็นสำคัญจากบทความ
    การปิดอินเทอร์เน็ตกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    296 ครั้งในปี 2024
    244 ครั้งในปี 2025 (ยังไม่จบปี)

    เหตุผลที่รัฐบาลใช้ชัตดาวน์
    ปิดกั้นการประท้วง
    ควบคุมการเลือกตั้ง
    ปิดปากสื่อ
    ควบคุมข้อมูลในเขตสงคราม
    แม้แต่ “กันโกงข้อสอบ”

    ผลกระทบรุนแรงกว่าที่คิด
    ระบบฉุกเฉินล่ม
    การเงินหยุดชะงัก
    เที่ยวบินถูกยกเลิก
    ประชาชนในเขตสงครามไม่สามารถขอความช่วยเหลือ

    ประเทศที่ทำบ่อยที่สุด
    อินเดีย (855 ครั้ง)
    เมียนมา
    ปากีสถาน
    อิหร่าน

    ความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง
    โครงสร้างอินเทอร์เน็ตแบบรวมศูนย์ทำให้ปิดได้ง่าย
    บริษัทเทคบางแห่ง “ร่วมมือ” กับรัฐบาลเพื่อผลประโยชน์
    การปิดอินเทอร์เน็ตกำลังกลายเป็นอาวุธทางการเมือง

    https://www.schneier.com/blog/archives/2025/12/deliberate-internet-shutdowns.html
    🌐⚠️ รัฐบาลทั่วโลกใช้ “ปิดอินเทอร์เน็ต” เป็นอาวุธใหม่ — และกำลังเกิดบ่อยขึ้นอย่างน่ากลัว บทความของ Bruce Schneier ชี้ให้เห็นแนวโน้มที่น่ากังวล: รัฐบาลจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ใช้อินเทอร์เน็ตชัตดาวน์เป็นเครื่องมือควบคุมประชาชน ไม่ว่าจะเพื่อหยุดการประท้วง ปิดปากสื่อ หรือแม้แต่ควบคุมผลสอบของนักเรียนในบางประเทศ เหตุการณ์ล่าสุด เช่น อัฟกานิสถาน แทนซาเนีย แคเมอรูน ปากีสถาน และไนจีเรีย ต่างเผชิญการปิดอินเทอร์เน็ตระดับภูมิภาคหรือทั้งประเทศ โดยหลายครั้งไม่มีคำอธิบายใด ๆ จากรัฐบาลเลย Schneier ระบุว่าการปิดอินเทอร์เน็ตไม่ใช่แค่ “ความไม่สะดวก” แต่เป็นการปิดระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสังคม — ตั้งแต่การสื่อสารฉุกเฉิน การเงิน การบิน ไปจนถึงความปลอดภัยของประชาชนในเขตสงคราม เช่น กาซา หรือยูเครน ที่เคยถูกตัดสัญญาณโดยเจตนาเพื่อทำให้ประชาชนไร้ความสามารถในการขอความช่วยเหลือหรือเผยแพร่หลักฐานการละเมิดสิทธิ ข้อมูลจาก Access Now ระบุว่า ปี 2024 มีการปิดอินเทอร์เน็ต 296 ครั้งใน 54 ประเทศ และปี 2025 ก็มีอย่างน้อย 244 ครั้งแล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนว่าการปิดอินเทอร์เน็ตกำลังกลายเป็น “มาตรฐานใหม่” ของรัฐบาลอำนาจนิยม ปัญหานี้รุนแรงขึ้นเพราะโครงสร้างอินเทอร์เน็ตในหลายประเทศ “รวมศูนย์” มากเกินไป เช่น มีผู้ให้บริการมือถือรายเดียว หรือมีสายเคเบิลเชื่อมต่อโลกภายนอกเพียง 1–2 เส้น ทำให้รัฐบาลสามารถสั่งปิดได้ง่ายเพียงออกคำสั่งเดียว ต่างจากประเทศที่มีโครงสร้างกระจายตัว เช่น สหรัฐฯ ที่การปิดอินเทอร์เน็ตทั้งประเทศแทบเป็นไปไม่ได้ Schneier เตือนว่าการปิดอินเทอร์เน็ตคือการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และเป็นสัญญาณของการถอยหลังทางประชาธิปไตยทั่วโลก แม้จะมีความพยายามจากองค์กรระหว่างประเทศในการกดดัน แต่รัฐบาลหลายแห่งกลับ “เรียนรู้จากกันและกัน” ทำให้แนวโน้มนี้ยิ่งแพร่กระจาย 📌 สรุปประเด็นสำคัญจากบทความ ✅ การปิดอินเทอร์เน็ตกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ➡️ 296 ครั้งในปี 2024 ➡️ 244 ครั้งในปี 2025 (ยังไม่จบปี) ✅ เหตุผลที่รัฐบาลใช้ชัตดาวน์ ➡️ ปิดกั้นการประท้วง ➡️ ควบคุมการเลือกตั้ง ➡️ ปิดปากสื่อ ➡️ ควบคุมข้อมูลในเขตสงคราม ➡️ แม้แต่ “กันโกงข้อสอบ” ✅ ผลกระทบรุนแรงกว่าที่คิด ➡️ ระบบฉุกเฉินล่ม ➡️ การเงินหยุดชะงัก ➡️ เที่ยวบินถูกยกเลิก ➡️ ประชาชนในเขตสงครามไม่สามารถขอความช่วยเหลือ ✅ ประเทศที่ทำบ่อยที่สุด ➡️ อินเดีย (855 ครั้ง) ➡️ เมียนมา ➡️ ปากีสถาน ➡️ อิหร่าน ‼️ ความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง ➡️ โครงสร้างอินเทอร์เน็ตแบบรวมศูนย์ทำให้ปิดได้ง่าย ➡️ บริษัทเทคบางแห่ง “ร่วมมือ” กับรัฐบาลเพื่อผลประโยชน์ ➡️ การปิดอินเทอร์เน็ตกำลังกลายเป็นอาวุธทางการเมือง https://www.schneier.com/blog/archives/2025/12/deliberate-internet-shutdowns.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฮ็กครั้งมโหฬาร: กลุ่ม Pirate Archivist ดูดข้อมูล Spotify 300TB ปล่อยทอร์เรนต์กว่า 86 ล้านไฟล์

    เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิง เมื่อกลุ่ม Anna’s Archive ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ “เงาแห่งห้องสมุดโลก” ได้ทำการสกัดข้อมูลจาก Spotify ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยดึงไฟล์เพลงและเมทาดาทารวมกว่า 300TB ออกมาจากแพลตฟอร์ม พร้อมปล่อยเป็นทอร์เรนต์ให้ดาวน์โหลดอย่างเสรี การรั่วไหลครั้งนี้ครอบคลุมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ คิดเป็นประมาณ 37% ของคลังเพลงทั้งหมด แต่ครอบคลุมถึง 99.9% ของยอดการฟังบนแพลตฟอร์ม ซึ่งสะท้อนว่าข้อมูลที่หลุดออกมาคือ “แก่นกลาง” ของ Spotify อย่างแท้จริง

    Spotify ยืนยันว่ามีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้โจมตีใช้วิธีหลบเลี่ยง DRM เพื่อดึงไฟล์เสียงต้นฉบับในรูปแบบ OGG Vorbis 160kbps ออกมา ขณะเดียวกันเมทาดาทากว่า 256 ล้านแถว รวมถึง ISRC ทั้ง 186 ล้านรายการ ก็ถูกนำไปสร้างเป็นฐานข้อมูลที่ค้นหาได้เต็มรูปแบบ ทำให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการฟังเพลงทั่วโลกถูกเปิดเผยอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น สัดส่วนเพลงที่แทบไม่มีคนฟัง หรือแนวโน้มความนิยมของเพลงที่มี BPM ประมาณ 120 ซึ่งเป็นจังหวะที่พบมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม

    Anna’s Archive อ้างว่าการกระทำครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ “การอนุรักษ์ดนตรีของมนุษยชาติ” โดยมองว่า Spotify ให้ความสำคัญกับเพลงยอดนิยมมากเกินไป และคุณภาพเสียงที่ถูกบีบอัดก็ไม่เหมาะกับการเก็บถาวร พวกเขาจึงสร้างระบบทอร์เรนต์ที่จัดหมวดหมู่ตามความนิยม และใช้ฟอร์แมต AAC (Anna’s Archive Container) เพื่อแพ็กข้อมูลอย่างเป็นระบบ พร้อมทยอยปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคต ซึ่งอาจทำให้ผลกระทบของเหตุการณ์นี้ยังคงขยายตัวต่อไปอีกนาน

    ด้าน Spotify ระบุว่าบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีถูกปิดแล้ว และกำลังเพิ่มมาตรการป้องกันใหม่เพื่อรับมือการโจมตีลักษณะนี้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้เปิดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์มสตรีมมิง และความเปราะบางของระบบ DRM ที่ถูกท้าทายอย่างรุนแรงจากกลุ่มผู้ต้องการ “ปลดปล่อยข้อมูล” สู่สาธารณะ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ขนาดการรั่วไหลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
    ข้อมูลกว่า 300TB ถูกดูดออกจาก Spotify
    รวมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ ครอบคลุม 99.9% ของยอดฟังทั้งหมด

    ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกเปิดเผย
    เมทาดาทา 256 ล้านแถว และ ISRC 186 ล้านรายการ
    ข้อมูลเผยว่า 70% ของเพลงแทบไม่มีคนฟัง และ BPM 120 คือจังหวะยอดนิยม

    การตอบสนองของ Spotify
    ปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี
    เพิ่มมาตรการป้องกันใหม่และตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัย

    ความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจับตา
    การหลบเลี่ยง DRM อาจกระทบความเชื่อมั่นในระบบสตรีมมิง
    การปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคตอาจทำให้ผลกระทบขยายวงกว้าง
    อุตสาหกรรมดนตรีอาจเผชิญความเสียหายด้านลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่

    https://www.tomshardware.com/service-providers/streaming/pirate-archivist-group-scrapes-spotifys-300tb-library-posts-free-torrents-for-downloading-investigation-underway-as-music-and-metadata-hit-torrent-sites
    🎧 แฮ็กครั้งมโหฬาร: กลุ่ม Pirate Archivist ดูดข้อมูล Spotify 300TB ปล่อยทอร์เรนต์กว่า 86 ล้านไฟล์ เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิง เมื่อกลุ่ม Anna’s Archive ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ “เงาแห่งห้องสมุดโลก” ได้ทำการสกัดข้อมูลจาก Spotify ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยดึงไฟล์เพลงและเมทาดาทารวมกว่า 300TB ออกมาจากแพลตฟอร์ม พร้อมปล่อยเป็นทอร์เรนต์ให้ดาวน์โหลดอย่างเสรี การรั่วไหลครั้งนี้ครอบคลุมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ คิดเป็นประมาณ 37% ของคลังเพลงทั้งหมด แต่ครอบคลุมถึง 99.9% ของยอดการฟังบนแพลตฟอร์ม ซึ่งสะท้อนว่าข้อมูลที่หลุดออกมาคือ “แก่นกลาง” ของ Spotify อย่างแท้จริง Spotify ยืนยันว่ามีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้โจมตีใช้วิธีหลบเลี่ยง DRM เพื่อดึงไฟล์เสียงต้นฉบับในรูปแบบ OGG Vorbis 160kbps ออกมา ขณะเดียวกันเมทาดาทากว่า 256 ล้านแถว รวมถึง ISRC ทั้ง 186 ล้านรายการ ก็ถูกนำไปสร้างเป็นฐานข้อมูลที่ค้นหาได้เต็มรูปแบบ ทำให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการฟังเพลงทั่วโลกถูกเปิดเผยอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น สัดส่วนเพลงที่แทบไม่มีคนฟัง หรือแนวโน้มความนิยมของเพลงที่มี BPM ประมาณ 120 ซึ่งเป็นจังหวะที่พบมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม Anna’s Archive อ้างว่าการกระทำครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ “การอนุรักษ์ดนตรีของมนุษยชาติ” โดยมองว่า Spotify ให้ความสำคัญกับเพลงยอดนิยมมากเกินไป และคุณภาพเสียงที่ถูกบีบอัดก็ไม่เหมาะกับการเก็บถาวร พวกเขาจึงสร้างระบบทอร์เรนต์ที่จัดหมวดหมู่ตามความนิยม และใช้ฟอร์แมต AAC (Anna’s Archive Container) เพื่อแพ็กข้อมูลอย่างเป็นระบบ พร้อมทยอยปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคต ซึ่งอาจทำให้ผลกระทบของเหตุการณ์นี้ยังคงขยายตัวต่อไปอีกนาน ด้าน Spotify ระบุว่าบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีถูกปิดแล้ว และกำลังเพิ่มมาตรการป้องกันใหม่เพื่อรับมือการโจมตีลักษณะนี้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้เปิดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์มสตรีมมิง และความเปราะบางของระบบ DRM ที่ถูกท้าทายอย่างรุนแรงจากกลุ่มผู้ต้องการ “ปลดปล่อยข้อมูล” สู่สาธารณะ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ขนาดการรั่วไหลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ➡️ ข้อมูลกว่า 300TB ถูกดูดออกจาก Spotify ➡️ รวมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ ครอบคลุม 99.9% ของยอดฟังทั้งหมด ✅ ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกเปิดเผย ➡️ เมทาดาทา 256 ล้านแถว และ ISRC 186 ล้านรายการ ➡️ ข้อมูลเผยว่า 70% ของเพลงแทบไม่มีคนฟัง และ BPM 120 คือจังหวะยอดนิยม ✅ การตอบสนองของ Spotify ➡️ ปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี ➡️ เพิ่มมาตรการป้องกันใหม่และตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัย ‼️ ความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจับตา ⛔ การหลบเลี่ยง DRM อาจกระทบความเชื่อมั่นในระบบสตรีมมิง ⛔ การปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคตอาจทำให้ผลกระทบขยายวงกว้าง ⛔ อุตสาหกรรมดนตรีอาจเผชิญความเสียหายด้านลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่ https://www.tomshardware.com/service-providers/streaming/pirate-archivist-group-scrapes-spotifys-300tb-library-posts-free-torrents-for-downloading-investigation-underway-as-music-and-metadata-hit-torrent-sites
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.49

    บรรทัดฐานทางกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยความตกลงหยุดยิงในฐานะเครื่องมือแห่งสันติภาพและความมั่นคงร่วมกัน

    ความตกลงหยุดยิงมิได้เป็นเพียงการวางอาวุธในเชิงสัญลักษณ์หรือความยินยอมชั่วคราวตามเจตจำนงของคู่ขัดแย้งเท่านั้นแต่ถือเป็นนิติกรรมทางกฎหมายระหว่างประเทศที่มีสถานะเป็นข้อตกลงอย่างเป็นทางการซึ่งมีผลผูกพันในทางกฎหมายอย่างมีนัยสำคัญภายใต้หลักการกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยความขัดแย้งทางอาวุธโดยสถานะของความตกลงหยุดยิงมักถูกตีความว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีตามกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งกำหนดให้รัฐภาคีต้องพยายามหาทางออกผ่านการเจรจาและการประนีประนอมในทางนิติศาสตร์ข้อตกลงหยุดยิงเปรียบเสมือนสัญญาที่สร้างพื้นที่ปลอดการสู้รบและกำหนดพันธกรณีให้ฝ่ายต่างๆต้องยุติการรุกรานทั้งทางบกทางเรือและทางอากาศรวมถึงการกระทำใดๆที่เป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของอีกฝ่ายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือนซึ่งถือเป็นวัตถุประสงค์หลักของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่ต้องการคุ้มครองบุคคลที่มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรบโดยตรงข้อกำหนดในความตกลงหยุดยิงมักจะประกอบด้วยมาตรการเชิงโครงสร้างที่ชัดเจนเช่นการกำหนดเส้นแบ่งเขตหยุดยิงการจัดตั้งเขตปลอดทหารและการจัดวางกลไกตรวจสอบโดยบุคคลที่สามเพื่อสร้างความไว้วางใจและรับประกันว่าทุกฝ่ายจะปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัดโดยไม่แสวงหาความได้เปรียบทางยุทธวิธีในระหว่างที่การยิงสงบลง

    ในมิติด้านกฎหมายมหาชนความตกลงหยุดยิงมีลักษณะที่ซับซ้อนเนื่องจากต้องอาศัยการตีความพฤติการณ์และข้อเท็จจริงในพื้นที่เพื่อประเมินความรับผิดชอบในกรณีที่มีการละเมิดสัญญาการหยุดยิงมักมีรายละเอียดที่ครอบคลุมไปถึงการจำกัดความเคลื่อนไหวของกองกำลังการส่งตัวเชลยศึกกลับประเทศและการอนุญาตให้หน่วยงานบรรเทาทุกข์เข้าถึงพื้นที่เพื่อมนุษยธรรมซึ่งพันธกรณีเหล่านี้หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดฝ่าฝืนย่อมถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศที่อาจนำไปสู่การพิจารณาในเวทีสากลหรือศาลระหว่างประเทศได้การทำข้อตกลงหยุดยิงจึงเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบทางกฎหมายในการร่างข้อความที่รัดกุมเพื่อหลีกเลี่ยงการตีความที่คลาดเคลื่อนอันจะนำไปสู่การปะทุของความรุนแรงรอบใหม่โดยหัวใจสำคัญคือการยอมรับในหลักความเสมอภาคและการเคารพกฎกติกาที่ร่วมกันสร้างขึ้นซึ่งมิใช่เพียงเพื่อยุติเสียงปืนในวันนี้แต่เป็นการวางรากฐานทางกฎหมายและระเบียบวินัยทหารเพื่อนำไปสู่การเจรจาสันติภาพอย่างยั่งยืนในอนาคตอันใกล้การที่คู่ขัดแย้งตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการหยุดยิงจึงเป็นการยืนยันถึงความเคารพต่อกฎเกณฑ์ของสังคมโลกและการให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนเหนือผลประโยชน์ทางการเมืองระยะสั้นที่อาจแลกมาด้วยความสูญเสียอย่างประเมินค่ามิได้

    สรุปได้ว่าความตกลงหยุดยิงทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างภาวะสงครามกับสภาวะสันติภาพที่มั่นคงโดยมีกฎหมายเป็นรากฐานค้ำจุนความศักดิ์สิทธิ์ของข้อตกลงนั้นการหยุดยิงจึงไม่ใช่ความพ่ายแพ้ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่คือชัยชนะของเหตุผลและกระบวนการยุติธรรมที่มุ่งเน้นความปลอดภัยของมวลมนุษยชาติเหนือสิ่งอื่นใดความตกลงหยุดยิงในบริบทของพรมแดนไทยและกัมพูชาหรือพื้นที่ขัดแย้งใดๆในเอเชียล้วนเป็นประจักษ์พยานถึงความพยายามในการใช้กลไกทางกฎหมายเพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์และสร้างบรรยากาศแห่งการอยู่ร่วมกันโดยสันติซึ่งถือเป็นบรรทัดฐานอันสูงสุดที่รัฐอธิปไตยพึงยึดถือปฏิบัติเพื่อจรรโลงไว้ซึ่งสันติภาพโลกตามหลักสากลสืบไป
    บทความกฎหมาย EP.49 บรรทัดฐานทางกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยความตกลงหยุดยิงในฐานะเครื่องมือแห่งสันติภาพและความมั่นคงร่วมกัน ความตกลงหยุดยิงมิได้เป็นเพียงการวางอาวุธในเชิงสัญลักษณ์หรือความยินยอมชั่วคราวตามเจตจำนงของคู่ขัดแย้งเท่านั้นแต่ถือเป็นนิติกรรมทางกฎหมายระหว่างประเทศที่มีสถานะเป็นข้อตกลงอย่างเป็นทางการซึ่งมีผลผูกพันในทางกฎหมายอย่างมีนัยสำคัญภายใต้หลักการกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยความขัดแย้งทางอาวุธโดยสถานะของความตกลงหยุดยิงมักถูกตีความว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีตามกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งกำหนดให้รัฐภาคีต้องพยายามหาทางออกผ่านการเจรจาและการประนีประนอมในทางนิติศาสตร์ข้อตกลงหยุดยิงเปรียบเสมือนสัญญาที่สร้างพื้นที่ปลอดการสู้รบและกำหนดพันธกรณีให้ฝ่ายต่างๆต้องยุติการรุกรานทั้งทางบกทางเรือและทางอากาศรวมถึงการกระทำใดๆที่เป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของอีกฝ่ายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือนซึ่งถือเป็นวัตถุประสงค์หลักของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่ต้องการคุ้มครองบุคคลที่มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรบโดยตรงข้อกำหนดในความตกลงหยุดยิงมักจะประกอบด้วยมาตรการเชิงโครงสร้างที่ชัดเจนเช่นการกำหนดเส้นแบ่งเขตหยุดยิงการจัดตั้งเขตปลอดทหารและการจัดวางกลไกตรวจสอบโดยบุคคลที่สามเพื่อสร้างความไว้วางใจและรับประกันว่าทุกฝ่ายจะปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัดโดยไม่แสวงหาความได้เปรียบทางยุทธวิธีในระหว่างที่การยิงสงบลง ในมิติด้านกฎหมายมหาชนความตกลงหยุดยิงมีลักษณะที่ซับซ้อนเนื่องจากต้องอาศัยการตีความพฤติการณ์และข้อเท็จจริงในพื้นที่เพื่อประเมินความรับผิดชอบในกรณีที่มีการละเมิดสัญญาการหยุดยิงมักมีรายละเอียดที่ครอบคลุมไปถึงการจำกัดความเคลื่อนไหวของกองกำลังการส่งตัวเชลยศึกกลับประเทศและการอนุญาตให้หน่วยงานบรรเทาทุกข์เข้าถึงพื้นที่เพื่อมนุษยธรรมซึ่งพันธกรณีเหล่านี้หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดฝ่าฝืนย่อมถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศที่อาจนำไปสู่การพิจารณาในเวทีสากลหรือศาลระหว่างประเทศได้การทำข้อตกลงหยุดยิงจึงเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบทางกฎหมายในการร่างข้อความที่รัดกุมเพื่อหลีกเลี่ยงการตีความที่คลาดเคลื่อนอันจะนำไปสู่การปะทุของความรุนแรงรอบใหม่โดยหัวใจสำคัญคือการยอมรับในหลักความเสมอภาคและการเคารพกฎกติกาที่ร่วมกันสร้างขึ้นซึ่งมิใช่เพียงเพื่อยุติเสียงปืนในวันนี้แต่เป็นการวางรากฐานทางกฎหมายและระเบียบวินัยทหารเพื่อนำไปสู่การเจรจาสันติภาพอย่างยั่งยืนในอนาคตอันใกล้การที่คู่ขัดแย้งตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการหยุดยิงจึงเป็นการยืนยันถึงความเคารพต่อกฎเกณฑ์ของสังคมโลกและการให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนเหนือผลประโยชน์ทางการเมืองระยะสั้นที่อาจแลกมาด้วยความสูญเสียอย่างประเมินค่ามิได้ สรุปได้ว่าความตกลงหยุดยิงทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างภาวะสงครามกับสภาวะสันติภาพที่มั่นคงโดยมีกฎหมายเป็นรากฐานค้ำจุนความศักดิ์สิทธิ์ของข้อตกลงนั้นการหยุดยิงจึงไม่ใช่ความพ่ายแพ้ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่คือชัยชนะของเหตุผลและกระบวนการยุติธรรมที่มุ่งเน้นความปลอดภัยของมวลมนุษยชาติเหนือสิ่งอื่นใดความตกลงหยุดยิงในบริบทของพรมแดนไทยและกัมพูชาหรือพื้นที่ขัดแย้งใดๆในเอเชียล้วนเป็นประจักษ์พยานถึงความพยายามในการใช้กลไกทางกฎหมายเพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์และสร้างบรรยากาศแห่งการอยู่ร่วมกันโดยสันติซึ่งถือเป็นบรรทัดฐานอันสูงสุดที่รัฐอธิปไตยพึงยึดถือปฏิบัติเพื่อจรรโลงไว้ซึ่งสันติภาพโลกตามหลักสากลสืบไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • #บันทึกธรรมพระราชพรหมยาน

    เรื่อง พระนารายณ์ กับ พระพิฆเนศ
    อยู่สวรรค์ชั้นไหน

    หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ~พระราชพรหมยานฯ..เล่าให้ฟัง

    ..." เทวดา กับ สัตว์ , เทวดากับ มนุษย์ , มันต่อกันไม่ได้.. เพราะ มนุษย์ก็ดี สัตว์ก็ดี มันมีธาตุ ๔ คือ.. ดิน น้ำ ลม ไฟ.. และเทวดาเขาไม่มีธาตุ นี่..

    มีเหมือนอากาศธาตุ มันต่อกันได้ที่ไหนล่ะ.. ที่ว่า หัวเป็นช้าง เพราะว่า พราหมณ์แกหาเรื่องคุย.. อย่าง พระนารายณ์ นี่ก็เหมือนกัน พระนารายณ์ นี่ ฉันหาไม่พบ..

    ผู้ถาม : แล้วมีไม่จริง หรือครับ..

    หลวงพ่อฯ : มี.. สักประมาณ ๑๐ ปีมาแล้ว.. คืนหนึ่งมันว่าง คือไม่ได้ว่างมาก เขาเจริญกรรมฐาน แบบนี้ละนะ พอเลิกแล้ว ประมาณ ๔ ทุ่มกว่า ๆ เวลาไปพัก..

    มันยังไม่หลับ ๖ ทุ่ม หรือ ตี ๒ เป็นธรรมดา ถ้าถึง ๖ ทุ่ม ต้องอยู่ถึงตี ๒ ถ้าขืนหลับ ๖ ทุ่ม.. อาจจะเลยเวลา เพราะเจริญกรรมฐาน ตอนตี ๒ ..

    เมื่อถึงเวลาว่าง ก็เที่ยวไปเที่ยวมา เที่ยวมาเที่ยวไป ตามเรื่องตามราว ใช่ไหม.. ก็นึกถึง พระนารายณ์ ได้..

    นึก.. นารายณ์อยู่ชั้นไหน แล้วเทวดาองค์ไหน เป็นนารายณ์.. เข้าไปหา กามาวจร ทั้งหมด ไม่พบพระนารายณ์.. ถามแต่ชื่อ ไม่มี นารายณ์ เลย..
    ไอ้ความโง่ของฉันน่ะ ก็ย่องไป พรหม อีก.. ถาม พระนารายณ์ ที่พรหม ไม่มี.. กลับมาหาโยม ( พระอินทร์ )
    ถามโยม : พระนารายณ์ ที่พราหมณ์ตั้งชื่อให้ มีตัวจริงไหม..
    ท่านบอก : ตั้งแต่ฉันเป็น เทวดา ไม่เคยมีเลย..
    โยมท่านเป็นเทวดา ๒ รอบ.. พระอินทร์ ๒ รอบนะ.. เมื่อสมัยพระพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่ หมดอายุไปทีแล้ว.. ฟังเทศน์แล้วจุติ เป็นพระอินทร์ใหม่..
    ที่พระพุทธเจ้า บอกว่า.. พระอินทร์หนุ่ม ท่านอยู่ถึง ๒ รอบ ยังไม่รู้จัก นารายณ์ ไล่ไปไล่มา..
    ถาม : ถ้าเขาบน พระนารายณ์ เทวดาองค์ไหนรับ..
    ท่านบอก : ก็มี "มเหสักขา" ไง .. มเหสักขา แปลว่า มีฤทธิ์มาก..
    ท่าน "พิฆเนศ" ชื่อ "ปิยสิกขะ" เพิ่งบอกเดี๋ยวนี้ละนะ มีสิทธิ์ในความรัก แม้แต่เขาให้หัวเป็นช้าง ยังชอบเลย..
    ผู้ถาม : ยังงี้ เราก็บนได้ซิ..
    หลวงพ่อฯ : ถ้าจะบนท่านนะ ตอนให้พร ท่านบอก : ให้หมูต้มชิ้นหนึ่ง ไม่ต้องโต กับ ข้าวปากหม้อ เท่านั้นนะ

    ( จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญาหาธรรม เล่มที่ ๗ หน้าที่ ๖๔ ของวัดท่าซุง )
    #บันทึกธรรมพระราชพรหมยาน เรื่อง 🔱 พระนารายณ์ กับ พระพิฆเนศ อยู่สวรรค์ชั้นไหน หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ~พระราชพรหมยานฯ..เล่าให้ฟัง ..." เทวดา กับ สัตว์ , เทวดากับ มนุษย์ , มันต่อกันไม่ได้.. เพราะ มนุษย์ก็ดี สัตว์ก็ดี มันมีธาตุ ๔ คือ.. ดิน น้ำ ลม ไฟ.. และเทวดาเขาไม่มีธาตุ นี่.. มีเหมือนอากาศธาตุ มันต่อกันได้ที่ไหนล่ะ.. ที่ว่า หัวเป็นช้าง เพราะว่า พราหมณ์แกหาเรื่องคุย.. อย่าง พระนารายณ์ นี่ก็เหมือนกัน พระนารายณ์ นี่ ฉันหาไม่พบ.. ผู้ถาม : แล้วมีไม่จริง หรือครับ.. หลวงพ่อฯ : มี.. สักประมาณ ๑๐ ปีมาแล้ว.. คืนหนึ่งมันว่าง คือไม่ได้ว่างมาก เขาเจริญกรรมฐาน แบบนี้ละนะ พอเลิกแล้ว ประมาณ ๔ ทุ่มกว่า ๆ เวลาไปพัก.. 🌖 มันยังไม่หลับ ๖ ทุ่ม หรือ ตี ๒ เป็นธรรมดา ถ้าถึง ๖ ทุ่ม ต้องอยู่ถึงตี ๒ ถ้าขืนหลับ ๖ ทุ่ม.. อาจจะเลยเวลา เพราะเจริญกรรมฐาน ตอนตี ๒ .. เมื่อถึงเวลาว่าง ก็เที่ยวไปเที่ยวมา เที่ยวมาเที่ยวไป ตามเรื่องตามราว ใช่ไหม.. ก็นึกถึง พระนารายณ์ ได้.. นึก.. นารายณ์อยู่ชั้นไหน แล้วเทวดาองค์ไหน เป็นนารายณ์.. เข้าไปหา กามาวจร ทั้งหมด ไม่พบพระนารายณ์.. ถามแต่ชื่อ ไม่มี นารายณ์ เลย.. ไอ้ความโง่ของฉันน่ะ ก็ย่องไป พรหม อีก.. ถาม พระนารายณ์ ที่พรหม ไม่มี.. กลับมาหาโยม ( พระอินทร์ ) ถามโยม : พระนารายณ์ ที่พราหมณ์ตั้งชื่อให้ มีตัวจริงไหม.. ท่านบอก : ตั้งแต่ฉันเป็น เทวดา ไม่เคยมีเลย.. โยมท่านเป็นเทวดา ๒ รอบ.. พระอินทร์ ๒ รอบนะ.. เมื่อสมัยพระพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่ หมดอายุไปทีแล้ว.. ฟังเทศน์แล้วจุติ เป็นพระอินทร์ใหม่.. ที่พระพุทธเจ้า บอกว่า.. พระอินทร์หนุ่ม ท่านอยู่ถึง ๒ รอบ ยังไม่รู้จัก นารายณ์ ไล่ไปไล่มา.. ถาม : ถ้าเขาบน พระนารายณ์ เทวดาองค์ไหนรับ.. ท่านบอก : ก็มี "มเหสักขา" ไง .. มเหสักขา แปลว่า มีฤทธิ์มาก.. 🐘 ท่าน "พิฆเนศ" ชื่อ "ปิยสิกขะ" เพิ่งบอกเดี๋ยวนี้ละนะ มีสิทธิ์ในความรัก แม้แต่เขาให้หัวเป็นช้าง ยังชอบเลย.. ผู้ถาม : ยังงี้ เราก็บนได้ซิ.. หลวงพ่อฯ : ถ้าจะบนท่านนะ ตอนให้พร ท่านบอก : ให้หมูต้มชิ้นหนึ่ง ไม่ต้องโต กับ ข้าวปากหม้อ เท่านั้นนะ ( จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญาหาธรรม เล่มที่ ๗ หน้าที่ ๖๔ ของวัดท่าซุง )
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • แบตเตอรี่ยักษ์เปลี่ยนโลกพลังงาน: จากการทดลองกลางทะเลทราย สู่โครงข่ายไฟฟ้าทั่วโลก

    ลิเธียมไอออนเคยเป็นเทคโนโลยีที่ถูกมองว่า “แพงและเสี่ยงเกินไป” สำหรับระบบไฟฟ้า แต่วันนี้มันกลายเป็นหัวใจสำคัญของโครงข่ายพลังงานทั่วโลก แบตเตอรี่ขนาดเท่าตู้คอนเทนเนอร์ถูกติดตั้งข้างฟาร์มโซลาร์และกังหันลม เพื่อกักเก็บพลังงานในช่วงที่ผลิตได้มาก และปล่อยออกมาในช่วงที่ความต้องการพุ่งสูง ช่วยลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงไฟดับอย่างมีนัยสำคัญ

    จุดเปลี่ยนสำคัญเริ่มขึ้นกว่า 15 ปีก่อน เมื่อทีมวิศวกรของบริษัท AES ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชุดแรกในทะเลทรายอาตากามา ประเทศชิลี บนพื้นที่สูงเกือบ 9,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล การทดลองนี้พิสูจน์ว่าแบตเตอรี่สามารถทำงานร่วมกับโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ตอบสนองช้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าที่เคยล้มเหลวจากความต้องการพลังงานที่ผันผวนของเหมืองแร่

    ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากศูนย์ข้อมูลทั่วโลก รวมถึงการเติบโตของพลังงานหมุนเวียน ทำให้แบตเตอรี่กลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานจำเป็น” ไม่ใช่แค่ตัวเลือกอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น แคลิฟอร์เนียสามารถลดการประกาศเตือนประชาชนให้ประหยัดไฟในฤดูร้อนลงได้อย่างมาก เพราะมีแบตเตอรี่ช่วยเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ใช้ในช่วงค่ำ ขณะที่ราคาของแบตเตอรี่ลดลงถึง 90% ในรอบ 15 ปี ทำให้หลายประเทศเร่งติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่

    แม้จะมีความสำเร็จ แต่ความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงอยู่ โดยเฉพาะเหตุไฟไหม้ในบางพื้นที่ เช่น เหตุการณ์ในมอนเทอเรย์ เคาน์ตี ที่ทำให้เกิดควันพิษ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าระบบรุ่นใหม่ปลอดภัยกว่าเดิมมาก และส่วนใหญ่ติดตั้งกลางแจ้งเพื่อลดความเสี่ยงการลุกลามของไฟ ปัจจุบันประเทศต่างๆ ตั้งแต่ชิลี ออสเตรเลีย จนถึงจีนและอินเดีย ต่างเร่งขยายการใช้แบตเตอรี่เพื่อรองรับพลังงานสะอาดในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบไฟฟ้า
    ใช้กักเก็บพลังงานจากโซลาร์และลมเพื่อใช้ในช่วงความต้องการสูง
    ช่วยลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงไฟดับ

    จุดเริ่มต้นสำคัญเกิดขึ้นที่ทะเลทรายอาตากามาในชิลี
    การติดตั้งแบตเตอรี่ครั้งแรกพิสูจน์ว่าระบบไฟฟ้าสามารถเสถียรขึ้นได้อย่างมาก
    แบตเตอรี่ตอบสนองเร็วกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใช้เวลาสตาร์ทถึง 12 นาที

    ราคาลดลง 90% ทำให้การใช้งานทั่วโลกพุ่งสูง
    แคลิฟอร์เนียเพิ่มความจุแบตเตอรี่ 30 เท่าใน 7 ปี
    จีนเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุด แต่ยุโรป อินเดีย และสหรัฐฯ กำลังเร่งผลิตตาม

    ความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงเป็นอุปสรรค
    เหตุไฟไหม้ในบางพื้นที่ทำให้ชุมชนบางแห่งต่อต้านการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่
    แบตเตอรี่รุ่นเก่ามีความเสี่ยงลุกลามไฟสูงกว่ารุ่นใหม่ที่ออกแบบให้ปลอดภัยกว่า

    การยอมรับของผู้ให้บริการไฟฟ้ายังไม่ทั่วถึง
    ผู้ให้บริการในบางรัฐของสหรัฐฯ ยังลังเลเพราะขาดประสบการณ์กับระบบกักเก็บพลังงาน
    ความคุ้นชินกับโรงไฟฟ้าแบบเดิมทำให้บางองค์กรต่อต้านเทคโนโลยีใหม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/22/once-a-gamble-in-the-desert-electric-grid-batteries-are-everywhere
    ⚡ แบตเตอรี่ยักษ์เปลี่ยนโลกพลังงาน: จากการทดลองกลางทะเลทราย สู่โครงข่ายไฟฟ้าทั่วโลก ลิเธียมไอออนเคยเป็นเทคโนโลยีที่ถูกมองว่า “แพงและเสี่ยงเกินไป” สำหรับระบบไฟฟ้า แต่วันนี้มันกลายเป็นหัวใจสำคัญของโครงข่ายพลังงานทั่วโลก แบตเตอรี่ขนาดเท่าตู้คอนเทนเนอร์ถูกติดตั้งข้างฟาร์มโซลาร์และกังหันลม เพื่อกักเก็บพลังงานในช่วงที่ผลิตได้มาก และปล่อยออกมาในช่วงที่ความต้องการพุ่งสูง ช่วยลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงไฟดับอย่างมีนัยสำคัญ จุดเปลี่ยนสำคัญเริ่มขึ้นกว่า 15 ปีก่อน เมื่อทีมวิศวกรของบริษัท AES ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชุดแรกในทะเลทรายอาตากามา ประเทศชิลี บนพื้นที่สูงเกือบ 9,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล การทดลองนี้พิสูจน์ว่าแบตเตอรี่สามารถทำงานร่วมกับโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ตอบสนองช้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าที่เคยล้มเหลวจากความต้องการพลังงานที่ผันผวนของเหมืองแร่ ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากศูนย์ข้อมูลทั่วโลก รวมถึงการเติบโตของพลังงานหมุนเวียน ทำให้แบตเตอรี่กลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานจำเป็น” ไม่ใช่แค่ตัวเลือกอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น แคลิฟอร์เนียสามารถลดการประกาศเตือนประชาชนให้ประหยัดไฟในฤดูร้อนลงได้อย่างมาก เพราะมีแบตเตอรี่ช่วยเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ใช้ในช่วงค่ำ ขณะที่ราคาของแบตเตอรี่ลดลงถึง 90% ในรอบ 15 ปี ทำให้หลายประเทศเร่งติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่ แม้จะมีความสำเร็จ แต่ความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงอยู่ โดยเฉพาะเหตุไฟไหม้ในบางพื้นที่ เช่น เหตุการณ์ในมอนเทอเรย์ เคาน์ตี ที่ทำให้เกิดควันพิษ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าระบบรุ่นใหม่ปลอดภัยกว่าเดิมมาก และส่วนใหญ่ติดตั้งกลางแจ้งเพื่อลดความเสี่ยงการลุกลามของไฟ ปัจจุบันประเทศต่างๆ ตั้งแต่ชิลี ออสเตรเลีย จนถึงจีนและอินเดีย ต่างเร่งขยายการใช้แบตเตอรี่เพื่อรองรับพลังงานสะอาดในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบไฟฟ้า ➡️ ใช้กักเก็บพลังงานจากโซลาร์และลมเพื่อใช้ในช่วงความต้องการสูง ➡️ ช่วยลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงไฟดับ ✅ จุดเริ่มต้นสำคัญเกิดขึ้นที่ทะเลทรายอาตากามาในชิลี ➡️ การติดตั้งแบตเตอรี่ครั้งแรกพิสูจน์ว่าระบบไฟฟ้าสามารถเสถียรขึ้นได้อย่างมาก ➡️ แบตเตอรี่ตอบสนองเร็วกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใช้เวลาสตาร์ทถึง 12 นาที ✅ ราคาลดลง 90% ทำให้การใช้งานทั่วโลกพุ่งสูง ➡️ แคลิฟอร์เนียเพิ่มความจุแบตเตอรี่ 30 เท่าใน 7 ปี ➡️ จีนเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุด แต่ยุโรป อินเดีย และสหรัฐฯ กำลังเร่งผลิตตาม ‼️ ความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงเป็นอุปสรรค ⛔ เหตุไฟไหม้ในบางพื้นที่ทำให้ชุมชนบางแห่งต่อต้านการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ⛔ แบตเตอรี่รุ่นเก่ามีความเสี่ยงลุกลามไฟสูงกว่ารุ่นใหม่ที่ออกแบบให้ปลอดภัยกว่า ‼️ การยอมรับของผู้ให้บริการไฟฟ้ายังไม่ทั่วถึง ⛔ ผู้ให้บริการในบางรัฐของสหรัฐฯ ยังลังเลเพราะขาดประสบการณ์กับระบบกักเก็บพลังงาน ⛔ ความคุ้นชินกับโรงไฟฟ้าแบบเดิมทำให้บางองค์กรต่อต้านเทคโนโลยีใหม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/22/once-a-gamble-in-the-desert-electric-grid-batteries-are-everywhere
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Once a gamble in the desert, electric grid batteries are everywhere
    An early grid battery was installed in the Atacama Desert in Chile 15 years ago. Now, as prices have tumbled, they are increasingly being used around the world.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ vs จีนในสมรภูมิ AI: ทำไมหลายบริษัทอเมริกันกลับเลือกใช้โมเดลจากจีน

    กระแสการแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนกำลังทวีความเข้มข้น แต่ในอีกมุมหนึ่ง บริษัทและนักพัฒนาจำนวนไม่น้อยในสหรัฐฯ กลับหันไปใช้โมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สจากจีนมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ก็ตาม โมเดลจากค่ายจีนอย่าง Alibaba Qwen, DeepSeek R1, MiniMax, และ Z.ai ได้รับความนิยมเพราะราคาถูกกว่า ปรับแต่งได้มากกว่า และให้ประสิทธิภาพที่ “ดีพอ” สำหรับงานส่วนใหญ่ที่ไม่ต้องการความล้ำหน้าระดับ OpenAI หรือ Google

    ในเวลาเดียวกัน การเติบโตของโมเดลโอเพ่นซอร์สจากจีนยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในอุตสาหกรรม AI ทั่วโลก จากเดิมที่สหรัฐฯ ครองความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีอย่างชัดเจน แต่การเปิดตัวโมเดลอย่าง DeepSeek R1 ที่มีประสิทธิภาพสูงและต้นทุนต่ำ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่า “จีนกำลังไล่ทันหรือแซงหน้าในบางด้านแล้วหรือไม่”

    นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ เองก็เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของโอเพ่นซอร์ส โดยออกแผน “AI Action Plan” เพื่อผลักดันโมเดลโอเพ่นซอร์สที่ยึดตามค่านิยมอเมริกัน แต่บริษัทใหญ่ในสหรัฐฯ กลับเดินไปในทิศทางตรงกันข้าม เช่น Meta ที่หันกลับไปเน้นโมเดลปิดมากขึ้น ขณะที่ฝั่งยุโรปอย่าง Mistral แม้ยังยืนหยัดในโอเพ่นซอร์ส แต่ก็ยังตามหลังจีนในด้านการใช้งานจริงทั่วโลก

    อย่างไรก็ตาม แม้โมเดลจีนจะได้รับความนิยม แต่ก็ยังมีความกังวลด้านความเสี่ยง เช่น ความเป็นไปได้ของมาตรการคว่ำบาตรในอนาคต หรือความไม่มั่นใจของลูกค้าบางกลุ่มที่ไม่ต้องการใช้เทคโนโลยีจากจีน แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายรายยืนยันว่าโมเดลโอเพ่นซอร์สเหล่านี้สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับจีนโดยตรงก็ตาม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ความนิยมของโมเดลโอเพ่นซอร์สจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    การใช้งานทั่วโลกเพิ่มจาก 1.2% เป็นเกือบ 30% ภายในไม่ถึงปี
    โมเดลอย่าง Qwen และ DeepSeek ได้รับความนิยมเพราะราคาถูกและปรับแต่งได้ดี

    บริษัทสหรัฐฯ หลายแห่งหันมาใช้โมเดลจีน
    ผู้ประกอบการบางรายประหยัดต้นทุนได้ถึง 400,000 ดอลลาร์ต่อปี
    องค์กรใหญ่ เช่น Nvidia, Perplexity และ Stanford ก็ใช้ Qwen ในบางงาน

    จีนก้าวหน้าในด้าน AI Agents และโมเดลรุ่นใหม่
    โมเดล Kimi K2 และ DeepSeek R1 ถูกมองว่าเป็นแนวหน้าของยุค AI Agents
    โมเดลจีนจำนวนมากเปิดให้ปรับแต่งได้มากกว่าโมเดลสหรัฐฯ

    ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และการคว่ำบาตร
    บริษัทกังวลว่าโมเดลจีนอาจถูกสหรัฐฯ แบนในอนาคต
    ลูกค้าบางรายไม่มั่นใจเรื่องภาพลักษณ์และความสอดคล้องกับค่านิยมตะวันตก

    ความไม่แน่นอนด้านทิศทางของบริษัทสหรัฐฯ
    Meta หันกลับไปเน้นโมเดลปิด ทำให้ตลาดโอเพ่นซอร์สฝั่งตะวันตกอ่อนแรง
    ความไม่ชัดเจนของนโยบายสหรัฐฯ อาจทำให้บริษัทลังเลในการเลือกเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/22/as-us-battles-china-on-ai-some-companies-choose-chinese
    🧭 สหรัฐฯ vs จีนในสมรภูมิ AI: ทำไมหลายบริษัทอเมริกันกลับเลือกใช้โมเดลจากจีน กระแสการแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนกำลังทวีความเข้มข้น แต่ในอีกมุมหนึ่ง บริษัทและนักพัฒนาจำนวนไม่น้อยในสหรัฐฯ กลับหันไปใช้โมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สจากจีนมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ก็ตาม โมเดลจากค่ายจีนอย่าง Alibaba Qwen, DeepSeek R1, MiniMax, และ Z.ai ได้รับความนิยมเพราะราคาถูกกว่า ปรับแต่งได้มากกว่า และให้ประสิทธิภาพที่ “ดีพอ” สำหรับงานส่วนใหญ่ที่ไม่ต้องการความล้ำหน้าระดับ OpenAI หรือ Google ในเวลาเดียวกัน การเติบโตของโมเดลโอเพ่นซอร์สจากจีนยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในอุตสาหกรรม AI ทั่วโลก จากเดิมที่สหรัฐฯ ครองความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีอย่างชัดเจน แต่การเปิดตัวโมเดลอย่าง DeepSeek R1 ที่มีประสิทธิภาพสูงและต้นทุนต่ำ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่า “จีนกำลังไล่ทันหรือแซงหน้าในบางด้านแล้วหรือไม่” นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ เองก็เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของโอเพ่นซอร์ส โดยออกแผน “AI Action Plan” เพื่อผลักดันโมเดลโอเพ่นซอร์สที่ยึดตามค่านิยมอเมริกัน แต่บริษัทใหญ่ในสหรัฐฯ กลับเดินไปในทิศทางตรงกันข้าม เช่น Meta ที่หันกลับไปเน้นโมเดลปิดมากขึ้น ขณะที่ฝั่งยุโรปอย่าง Mistral แม้ยังยืนหยัดในโอเพ่นซอร์ส แต่ก็ยังตามหลังจีนในด้านการใช้งานจริงทั่วโลก อย่างไรก็ตาม แม้โมเดลจีนจะได้รับความนิยม แต่ก็ยังมีความกังวลด้านความเสี่ยง เช่น ความเป็นไปได้ของมาตรการคว่ำบาตรในอนาคต หรือความไม่มั่นใจของลูกค้าบางกลุ่มที่ไม่ต้องการใช้เทคโนโลยีจากจีน แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายรายยืนยันว่าโมเดลโอเพ่นซอร์สเหล่านี้สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับจีนโดยตรงก็ตาม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ความนิยมของโมเดลโอเพ่นซอร์สจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ➡️ การใช้งานทั่วโลกเพิ่มจาก 1.2% เป็นเกือบ 30% ภายในไม่ถึงปี ➡️ โมเดลอย่าง Qwen และ DeepSeek ได้รับความนิยมเพราะราคาถูกและปรับแต่งได้ดี ✅ บริษัทสหรัฐฯ หลายแห่งหันมาใช้โมเดลจีน ➡️ ผู้ประกอบการบางรายประหยัดต้นทุนได้ถึง 400,000 ดอลลาร์ต่อปี ➡️ องค์กรใหญ่ เช่น Nvidia, Perplexity และ Stanford ก็ใช้ Qwen ในบางงาน ✅ จีนก้าวหน้าในด้าน AI Agents และโมเดลรุ่นใหม่ ➡️ โมเดล Kimi K2 และ DeepSeek R1 ถูกมองว่าเป็นแนวหน้าของยุค AI Agents ➡️ โมเดลจีนจำนวนมากเปิดให้ปรับแต่งได้มากกว่าโมเดลสหรัฐฯ ‼️ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และการคว่ำบาตร ⛔ บริษัทกังวลว่าโมเดลจีนอาจถูกสหรัฐฯ แบนในอนาคต ⛔ ลูกค้าบางรายไม่มั่นใจเรื่องภาพลักษณ์และความสอดคล้องกับค่านิยมตะวันตก ‼️ ความไม่แน่นอนด้านทิศทางของบริษัทสหรัฐฯ ⛔ Meta หันกลับไปเน้นโมเดลปิด ทำให้ตลาดโอเพ่นซอร์สฝั่งตะวันตกอ่อนแรง ⛔ ความไม่ชัดเจนของนโยบายสหรัฐฯ อาจทำให้บริษัทลังเลในการเลือกเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/22/as-us-battles-china-on-ai-some-companies-choose-chinese
    WWW.THESTAR.COM.MY
    As US battles China on AI, some companies choose Chinese
    Even as the United States is embarked on a bitter rivalry with China over the deployment of artificial intelligence, Chinese technology is quietly making inroads into the US market.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251222 #TechRadar

    RAM ปลอมระบาดหนัก — ผู้ใช้ถูกหลอกด้วยสเปกเกินจริงและชิปรีไซเคิล
    รายงานเตือนว่าตลาดกำลังเผชิญปัญหา RAM ปลอมที่ถูกขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยผู้ผลิตเถื่อนใช้ชิปรีไซเคิลหรือชิปคุณภาพต่ำมารีแบรนด์เป็นรุ่นความเร็วสูง ทำให้ผู้ใช้พบอาการเครื่องล่ม ประสิทธิภาพตก หรืออายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะความต้องการ RAM ความเร็วสูงเพิ่มขึ้นจากงาน AI และเกมมิ่ง แต่ผู้ซื้อจำนวนมากไม่รู้วิธีตรวจสอบของแท้ ส่งผลให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ง่าย
    https://www.techradar.com/computing/memory/watch-out-ram-rip-offs-are-now-in-vogue-so-heres-how-to-avoid-falling-for-high-end-memory-scams

    “Data คือเลือดหล่อเลี้ยงองค์กร” — Veeam ชี้ความมั่นคงของข้อมูลคือเงื่อนไขสำคัญของ AI
    CEO ของ Veeam อธิบายว่าทุกอุตสาหกรรมกำลังพึ่งพา AI มากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตาม ทั้งจากมัลแวร์ที่ใช้ AI, ปริมาณข้อมูลที่ไม่เป็นโครงสร้างมหาศาล และการขาดระบบควบคุมข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้หลายโปรเจกต์ล้มเหลว เขาย้ำว่า “ไม่มี AI หากไม่มีความปลอดภัยของข้อมูล” และชูแพลตฟอร์มของ Veeam ที่รวมความปลอดภัย การกำกับดูแล และความยืดหยุ่นของข้อมูลไว้ในระบบเดียว เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
    https://www.techradar.com/pro/it-doesnt-matter-which-industry-you-belong-to-data-is-your-lifeblood-veeam-ceo-tells-us-why-getting-security-and-resiliency-right-is-the-key-to-unleashing-the-power-of-ai

    ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสร้างใน “สภาพอากาศผิดประเภท” ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล
    รายงานใหม่เผยว่าเกือบ 7,000 จาก 8,808 ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุณหภูมิไม่เหมาะสมต่อการทำงาน (ต่ำกว่า 18°C หรือสูงกว่า 27°C) ทำให้ต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากเกินจำเป็น โดยเฉพาะในประเทศร้อนอย่างสิงคโปร์ที่มีศูนย์ข้อมูลกว่า 1.4GW แม้อุณหภูมิแตะ 33°C ตลอดปี แนวโน้มนี้กำลังสร้างภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้า และคาดว่าความต้องการพลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์อาจเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2030
    https://www.techradar.com/pro/no-wonder-theres-a-bubble-study-claims-nearly-all-of-the-worlds-data-centers-are-built-in-the-wrong-climate

    GhostPairing — เทคนิคใหม่ที่แฮ็ก WhatsApp ได้โดยไม่ต้องเจาะรหัสผ่าน
    นักวิจัยเตือนถึงการโจมตีแบบ GhostPairing ที่อาศัยฟีเจอร์ “Linked Devices” ของ WhatsApp เอง โดยหลอกเหยื่อผ่านลิงก์ปลอมให้กรอกเบอร์โทรและยืนยันรหัสเชื่อมอุปกรณ์ ทำให้แฮ็กเกอร์ผูกเบราว์เซอร์ของตนเข้ากับบัญชีเหยื่อได้ทันที เมื่อสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ ส่งข้อความแทนเหยื่อ และดึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ วิธีตรวจสอบเดียวที่เชื่อถือได้คือเข้าไปดูรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในเมนู Linked Devices แล้วลบสิ่งที่ไม่รู้จัก
    https://www.techradar.com/pro/whatsapp-user-warning-hackers-are-hijacking-accounts-without-any-need-to-crack-the-authentication-so-be-on-your-guard

    วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวหา Big Tech ผลักภาระค่าไฟของศูนย์ข้อมูลให้ประชาชน
    วุฒิสมาชิก 3 คนส่งจดหมายถึงบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ถามเหตุผลที่ค่าไฟในพื้นที่ที่มีดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมากพุ่งสูงขึ้น แม้บริษัทจะอ้างว่ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่โครงสร้างค่าไฟของรัฐกลับผลักต้นทุนการขยายโครงข่ายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ทั่วไป ขณะที่ศูนย์ข้อมูล AI สมัยใหม่ใช้ไฟระดับ “เมืองหนึ่งทั้งเมือง” ทำให้หลายรัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเป็นพันล้านดอลลาร์
    https://www.techradar.com/pro/tech-companies-have-paid-lip-service-us-government-is-asking-ai-giants-why-data-centers-are-leading-to-rising-bills

    หลุดใหม่ชี้ Samsung Galaxy S26 จะเปิดตัวกุมภาพันธ์ แต่ขายจริงอาจต้องรอถึงมีนาคม
    ข้อมูลจากแหล่งข่าววงในระบุว่า Galaxy S26 Series จะเปิดตัวในงาน Unpacked เดือนกุมภาพันธ์ แต่จะวางขายจริงในเดือนมีนาคม ซึ่งช้ากว่ารุ่น S25 ที่เปิดตัวตั้งแต่มกราคม สาเหตุคาดว่ามาจากการปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ เช่น การยกเลิก S26 Edge แล้วนำ S26+ กลับมา รวมถึงความไม่ลงตัวด้านชื่อรุ่นและสเปกภายใน ทำให้กำหนดการเลื่อนออกไปเล็กน้อย
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-leak-may-have-revealed-samsungs-launch-window-for-the-galaxy-s26-series-but-they-might-not-go-on-sale-right-away

    LG เปิดตัวเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่ “Tandem WOLED / RGB Tandem 2.0” พร้อมรีแบรนด์ครั้งใหญ่
    LG Display เตรียมยกระดับตลาดทีวีและมอนิเตอร์ปี 2026 ด้วยการรีแบรนด์เทคโนโลยีจอเป็น “Tandem WOLED” และ “Tandem OLED” พร้อมโชว์ Primary RGB Tandem 2.0 ที่คาดว่าจะเพิ่มความสว่างและประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังเผยพาเนลใหม่หลายรุ่น เช่น มอนิเตอร์โค้ง 39 นิ้ว 5K และจอ 27 นิ้วความหนาแน่นสูง ซึ่งทั้งหมดสะท้อนทิศทางการผลักดัน OLED ให้ตอบโจทย์ทั้งเกมมิ่งและทีวีระดับพรีเมียมในปีหน้า
    https://www.techradar.com/televisions/lg-announces-next-gen-version-of-its-best-oled-tv-tech-oh-and-its-changing-the-name

    Google Gemini กำลังจะเข้าไปอยู่ในตู้เย็น Samsung เพื่อช่วยจัดการอาหารและลดของเสีย
    Samsung เตรียมเปิดตัวตู้เย็น Bespoke AI Family Hub ที่ติดตั้ง Google Gemini ซึ่งจะใช้กล้องภายในวิเคราะห์อาหารที่มีอยู่ แนะนำเมนู แจ้งเตือนของใกล้หมดอายุ และจัดการพลังงานให้เหมาะสม รวมถึงรองรับสั่งงานด้วยเสียง ฟีเจอร์นี้อาจเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกของ “AI ในเครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ให้ประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมขยายไปยังตู้แช่ไวน์รุ่นใหม่ด้วย
    https://www.techradar.com/home/smart-home/google-gemini-is-now-heading-to-fridges-and-it-might-actually-be-useful

    ช่องโหว่ในแชตบอท Eurostar เกือบทำให้ข้อมูลลูกค้าเสี่ยงถูกโจมตี
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแชตบอท AI ของ Eurostar มีช่องโหว่หลายจุด เช่น การตรวจสอบข้อความย้อนหลังไม่ดีพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายหรือสคริปต์ HTML ได้ แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลลูกค้าไม่เคยเชื่อมต่อกับระบบนี้ แต่เหตุการณ์สะท้อนความเสี่ยงจากการนำ AI มาใช้เร็วเกินไปในองค์กร โดยเฉพาะเมื่อระบบยังไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างรัดกุม
    https://www.techradar.com/pro/security/eurostar-chatbot-security-flaws-almost-left-customers-exposed-to-data-theft-and-more

    NordVPN เปิดแพ็กเกจ OpenWrt แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับเราท์เตอร์ ปรับแต่งได้ลึกระดับ sysadmin
    NordVPN เปิดตัวแพ็กเกจ Linux แบบ headless สำหรับ OpenWrt ช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VPN ครอบคลุมทั้งเครือข่ายได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับการตั้งค่าผ่านไฟล์ JSON และเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมอัตโนมัติผ่าน API สะท้อนทิศทางของ NordVPN ที่ผลักดันความโปร่งใสและโอเพ่นซอร์สอย่างจริงจัง รวมถึงเตรียมเพิ่ม UI แบบเว็บในอนาคตเพื่อให้เข้าถึงได้กว้างขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nord-vpn-ups-its-game-in-open-source-with-linux-based-package-for-openwrt-routers

    Google ดึงอดีตพนักงานกลับเข้าบริษัทจำนวนมากเพื่อเร่งเกม AI
    รายงานเผยว่า 20% ของวิศวกร AI ที่ Google จ้างในปี 2025 เป็น “boomerang hires” หรืออดีตพนักงานที่กลับมาใหม่ สะท้อนการแข่งขันด้าน AI ที่รุนแรงจนบริษัทต้องดึงบุคลากรที่คุ้นเคยกับระบบภายในกลับมาเสริมทัพ พร้อมทั้งเพิ่มการดึงตัวจากคู่แข่งอย่าง Microsoft, Amazon และ Apple ขณะที่ตลาดยังจับตาว่า Google จะเร่งพัฒนา Gemini และโครงสร้างพื้นฐาน AI ให้ทันคู่แข่งได้เร็วเพียงใด
    https://www.techradar.com/pro/quite-a-few-of-the-ai-software-engineers-hired-by-google-in-2025-were-actually-ex-employees

    Google–Apple เตือนพนักงาน H‑1B หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกสหรัฐ
    Google และ Apple ส่งสัญญาณเตือนพนักงานที่ถือวีซ่า H‑1B ให้หยุดเดินทางต่างประเทศชั่วคราว เพราะกระบวนการตรวจสอบวีซ่ากลับเข้าประเทศเข้มงวดขึ้นและอาจล่าช้านานหลายเดือน โดยเฉพาะหลังมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียใหม่ของรัฐบาล ทำให้หลายคนเสี่ยง “ติดค้าง” ต่างประเทศ ขณะเดียวกันสถานทูตบางแห่งมีคิวสัมภาษณ์ยาวถึง 12 เดือน สะท้อนแรงกดดันด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่กระทบแรงงานทักษะสูงจำนวนมาก
    https://www.techradar.com/pro/google-and-apple-employees-on-us-visas-apparently-told-to-avoid-international-travel

    ศาลสหรัฐบล็อกกฎหมายตรวจสอบอายุผู้ใช้โซเชียลของรัฐลุยเซียนา
    ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งระงับกฎหมาย Act 456 ของรัฐลุยเซียนาอย่างถาวร หลังพบว่ากฎหมายที่บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลตรวจสอบอายุผู้ใช้ทุกคนและขอความยินยอมจากผู้ปกครองนั้นละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว โดยศาลชี้ว่ารัฐไม่สามารถใช้อำนาจ “ควบคุมความคิดที่เด็กควรเข้าถึง” ได้ และมีวิธีปกป้องเด็กที่จำกัดสิทธิน้อยกว่านี้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/federal-judge-blocks-louisianas-social-media-age-verification-law-heres-why

    ผู้ให้บริการเทคโนโลยี NHS England ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
    DXS International ผู้ให้บริการระบบข้อมูลให้ NHS England เปิดเผยว่าเผชิญเหตุแรนซัมแวร์โจมตีเซิร์ฟเวอร์สำนักงาน แม้บริการทางคลินิกยังทำงานได้ตามปกติ แต่กลุ่มแฮ็กเกอร์ DevMan อ้างว่าขโมยข้อมูลกว่า 300GB ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกค่าไถ่หรือการรั่วไหลในอนาคต เหตุการณ์นี้สะท้อนความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนด้านสาธารณสุขที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสหราชอาณาจักร
    https://www.techradar.com/pro/security/nhs-england-tech-provider-reveals-data-breach-dxs-international-hit-by-ransomware

    iRobot ยืนยัน Roomba ยังใช้งานได้ปกติหลังการเทกโอเวอร์
    หลัง iRobot ถูกเทกโอเวอร์โดยบริษัท Picea ท่ามกลางกระบวนการล้มละลาย ผู้ใช้ Roomba จำนวนมากกังวลเรื่องแอป การอัปเดต และการรับประกัน แต่ CEO ของ iRobot ออกมายืนยันว่าทุกอย่าง “ยังเป็นปกติ” ทั้งแอป การสนับสนุน และการอัปเดตเฟิร์มแวร์จะดำเนินต่อไป พร้อมเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2026
    https://www.techradar.com/home/robot-vacuums/its-business-as-usual-the-app-is-working-warranties-will-be-honored-irobot-ceo-reassures-roomba-owners-following-takeover

    ChatGPT เพิ่มโหมดปรับบุคลิก เลือกได้ตั้งแต่สุภาพมืออาชีพถึงเพื่อนสายแซ่บ
    OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ Personalization ใหม่ใน ChatGPT ให้ผู้ใช้ปรับ “บุคลิก” ของโมเดลได้ เช่น ระดับความอบอุ่น ความกระตือรือร้น การใช้หัวข้อย่อย และอีโมจิ ทำให้ผู้ใช้ควบคุมโทนการตอบได้ละเอียดขึ้น ตั้งแต่สไตล์คอร์ปอเรตจริงจังไปจนถึงเพื่อนสนิทสายเมาท์ พร้อมผสานกับ Base Style เดิม เช่น Professional, Friendly หรือ Cynical เพื่อสร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัว
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-personality-settings-let-you-pick-the-vibe-and-it-ranges-from-corporate-calm-to-chaotic-bestie
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251222 #TechRadar 💾 RAM ปลอมระบาดหนัก — ผู้ใช้ถูกหลอกด้วยสเปกเกินจริงและชิปรีไซเคิล รายงานเตือนว่าตลาดกำลังเผชิญปัญหา RAM ปลอมที่ถูกขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยผู้ผลิตเถื่อนใช้ชิปรีไซเคิลหรือชิปคุณภาพต่ำมารีแบรนด์เป็นรุ่นความเร็วสูง ทำให้ผู้ใช้พบอาการเครื่องล่ม ประสิทธิภาพตก หรืออายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะความต้องการ RAM ความเร็วสูงเพิ่มขึ้นจากงาน AI และเกมมิ่ง แต่ผู้ซื้อจำนวนมากไม่รู้วิธีตรวจสอบของแท้ ส่งผลให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ง่าย 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/watch-out-ram-rip-offs-are-now-in-vogue-so-heres-how-to-avoid-falling-for-high-end-memory-scams 🧠 “Data คือเลือดหล่อเลี้ยงองค์กร” — Veeam ชี้ความมั่นคงของข้อมูลคือเงื่อนไขสำคัญของ AI CEO ของ Veeam อธิบายว่าทุกอุตสาหกรรมกำลังพึ่งพา AI มากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตาม ทั้งจากมัลแวร์ที่ใช้ AI, ปริมาณข้อมูลที่ไม่เป็นโครงสร้างมหาศาล และการขาดระบบควบคุมข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้หลายโปรเจกต์ล้มเหลว เขาย้ำว่า “ไม่มี AI หากไม่มีความปลอดภัยของข้อมูล” และชูแพลตฟอร์มของ Veeam ที่รวมความปลอดภัย การกำกับดูแล และความยืดหยุ่นของข้อมูลไว้ในระบบเดียว เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/pro/it-doesnt-matter-which-industry-you-belong-to-data-is-your-lifeblood-veeam-ceo-tells-us-why-getting-security-and-resiliency-right-is-the-key-to-unleashing-the-power-of-ai 🌡️ ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสร้างใน “สภาพอากาศผิดประเภท” ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล รายงานใหม่เผยว่าเกือบ 7,000 จาก 8,808 ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุณหภูมิไม่เหมาะสมต่อการทำงาน (ต่ำกว่า 18°C หรือสูงกว่า 27°C) ทำให้ต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากเกินจำเป็น โดยเฉพาะในประเทศร้อนอย่างสิงคโปร์ที่มีศูนย์ข้อมูลกว่า 1.4GW แม้อุณหภูมิแตะ 33°C ตลอดปี แนวโน้มนี้กำลังสร้างภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้า และคาดว่าความต้องการพลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์อาจเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2030 🔗 https://www.techradar.com/pro/no-wonder-theres-a-bubble-study-claims-nearly-all-of-the-worlds-data-centers-are-built-in-the-wrong-climate 🕵️‍♂️ GhostPairing — เทคนิคใหม่ที่แฮ็ก WhatsApp ได้โดยไม่ต้องเจาะรหัสผ่าน นักวิจัยเตือนถึงการโจมตีแบบ GhostPairing ที่อาศัยฟีเจอร์ “Linked Devices” ของ WhatsApp เอง โดยหลอกเหยื่อผ่านลิงก์ปลอมให้กรอกเบอร์โทรและยืนยันรหัสเชื่อมอุปกรณ์ ทำให้แฮ็กเกอร์ผูกเบราว์เซอร์ของตนเข้ากับบัญชีเหยื่อได้ทันที เมื่อสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ ส่งข้อความแทนเหยื่อ และดึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ วิธีตรวจสอบเดียวที่เชื่อถือได้คือเข้าไปดูรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในเมนู Linked Devices แล้วลบสิ่งที่ไม่รู้จัก 🔗 https://www.techradar.com/pro/whatsapp-user-warning-hackers-are-hijacking-accounts-without-any-need-to-crack-the-authentication-so-be-on-your-guard ⚡ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวหา Big Tech ผลักภาระค่าไฟของศูนย์ข้อมูลให้ประชาชน วุฒิสมาชิก 3 คนส่งจดหมายถึงบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ถามเหตุผลที่ค่าไฟในพื้นที่ที่มีดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมากพุ่งสูงขึ้น แม้บริษัทจะอ้างว่ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่โครงสร้างค่าไฟของรัฐกลับผลักต้นทุนการขยายโครงข่ายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ทั่วไป ขณะที่ศูนย์ข้อมูล AI สมัยใหม่ใช้ไฟระดับ “เมืองหนึ่งทั้งเมือง” ทำให้หลายรัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเป็นพันล้านดอลลาร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/tech-companies-have-paid-lip-service-us-government-is-asking-ai-giants-why-data-centers-are-leading-to-rising-bills 📱 หลุดใหม่ชี้ Samsung Galaxy S26 จะเปิดตัวกุมภาพันธ์ แต่ขายจริงอาจต้องรอถึงมีนาคม ข้อมูลจากแหล่งข่าววงในระบุว่า Galaxy S26 Series จะเปิดตัวในงาน Unpacked เดือนกุมภาพันธ์ แต่จะวางขายจริงในเดือนมีนาคม ซึ่งช้ากว่ารุ่น S25 ที่เปิดตัวตั้งแต่มกราคม สาเหตุคาดว่ามาจากการปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ เช่น การยกเลิก S26 Edge แล้วนำ S26+ กลับมา รวมถึงความไม่ลงตัวด้านชื่อรุ่นและสเปกภายใน ทำให้กำหนดการเลื่อนออกไปเล็กน้อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-leak-may-have-revealed-samsungs-launch-window-for-the-galaxy-s26-series-but-they-might-not-go-on-sale-right-away 🖥️ LG เปิดตัวเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่ “Tandem WOLED / RGB Tandem 2.0” พร้อมรีแบรนด์ครั้งใหญ่ LG Display เตรียมยกระดับตลาดทีวีและมอนิเตอร์ปี 2026 ด้วยการรีแบรนด์เทคโนโลยีจอเป็น “Tandem WOLED” และ “Tandem OLED” พร้อมโชว์ Primary RGB Tandem 2.0 ที่คาดว่าจะเพิ่มความสว่างและประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังเผยพาเนลใหม่หลายรุ่น เช่น มอนิเตอร์โค้ง 39 นิ้ว 5K และจอ 27 นิ้วความหนาแน่นสูง ซึ่งทั้งหมดสะท้อนทิศทางการผลักดัน OLED ให้ตอบโจทย์ทั้งเกมมิ่งและทีวีระดับพรีเมียมในปีหน้า 🔗 https://www.techradar.com/televisions/lg-announces-next-gen-version-of-its-best-oled-tv-tech-oh-and-its-changing-the-name 🧊 Google Gemini กำลังจะเข้าไปอยู่ในตู้เย็น Samsung เพื่อช่วยจัดการอาหารและลดของเสีย Samsung เตรียมเปิดตัวตู้เย็น Bespoke AI Family Hub ที่ติดตั้ง Google Gemini ซึ่งจะใช้กล้องภายในวิเคราะห์อาหารที่มีอยู่ แนะนำเมนู แจ้งเตือนของใกล้หมดอายุ และจัดการพลังงานให้เหมาะสม รวมถึงรองรับสั่งงานด้วยเสียง ฟีเจอร์นี้อาจเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกของ “AI ในเครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ให้ประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมขยายไปยังตู้แช่ไวน์รุ่นใหม่ด้วย 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/google-gemini-is-now-heading-to-fridges-and-it-might-actually-be-useful 🚨 ช่องโหว่ในแชตบอท Eurostar เกือบทำให้ข้อมูลลูกค้าเสี่ยงถูกโจมตี นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแชตบอท AI ของ Eurostar มีช่องโหว่หลายจุด เช่น การตรวจสอบข้อความย้อนหลังไม่ดีพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายหรือสคริปต์ HTML ได้ แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลลูกค้าไม่เคยเชื่อมต่อกับระบบนี้ แต่เหตุการณ์สะท้อนความเสี่ยงจากการนำ AI มาใช้เร็วเกินไปในองค์กร โดยเฉพาะเมื่อระบบยังไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างรัดกุม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/eurostar-chatbot-security-flaws-almost-left-customers-exposed-to-data-theft-and-more 🔐 NordVPN เปิดแพ็กเกจ OpenWrt แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับเราท์เตอร์ ปรับแต่งได้ลึกระดับ sysadmin NordVPN เปิดตัวแพ็กเกจ Linux แบบ headless สำหรับ OpenWrt ช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VPN ครอบคลุมทั้งเครือข่ายได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับการตั้งค่าผ่านไฟล์ JSON และเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมอัตโนมัติผ่าน API สะท้อนทิศทางของ NordVPN ที่ผลักดันความโปร่งใสและโอเพ่นซอร์สอย่างจริงจัง รวมถึงเตรียมเพิ่ม UI แบบเว็บในอนาคตเพื่อให้เข้าถึงได้กว้างขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nord-vpn-ups-its-game-in-open-source-with-linux-based-package-for-openwrt-routers 🔄 Google ดึงอดีตพนักงานกลับเข้าบริษัทจำนวนมากเพื่อเร่งเกม AI รายงานเผยว่า 20% ของวิศวกร AI ที่ Google จ้างในปี 2025 เป็น “boomerang hires” หรืออดีตพนักงานที่กลับมาใหม่ สะท้อนการแข่งขันด้าน AI ที่รุนแรงจนบริษัทต้องดึงบุคลากรที่คุ้นเคยกับระบบภายในกลับมาเสริมทัพ พร้อมทั้งเพิ่มการดึงตัวจากคู่แข่งอย่าง Microsoft, Amazon และ Apple ขณะที่ตลาดยังจับตาว่า Google จะเร่งพัฒนา Gemini และโครงสร้างพื้นฐาน AI ให้ทันคู่แข่งได้เร็วเพียงใด 🔗 https://www.techradar.com/pro/quite-a-few-of-the-ai-software-engineers-hired-by-google-in-2025-were-actually-ex-employees 🛂 Google–Apple เตือนพนักงาน H‑1B หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกสหรัฐ Google และ Apple ส่งสัญญาณเตือนพนักงานที่ถือวีซ่า H‑1B ให้หยุดเดินทางต่างประเทศชั่วคราว เพราะกระบวนการตรวจสอบวีซ่ากลับเข้าประเทศเข้มงวดขึ้นและอาจล่าช้านานหลายเดือน โดยเฉพาะหลังมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียใหม่ของรัฐบาล ทำให้หลายคนเสี่ยง “ติดค้าง” ต่างประเทศ ขณะเดียวกันสถานทูตบางแห่งมีคิวสัมภาษณ์ยาวถึง 12 เดือน สะท้อนแรงกดดันด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่กระทบแรงงานทักษะสูงจำนวนมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-and-apple-employees-on-us-visas-apparently-told-to-avoid-international-travel ⚖️ ศาลสหรัฐบล็อกกฎหมายตรวจสอบอายุผู้ใช้โซเชียลของรัฐลุยเซียนา ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งระงับกฎหมาย Act 456 ของรัฐลุยเซียนาอย่างถาวร หลังพบว่ากฎหมายที่บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลตรวจสอบอายุผู้ใช้ทุกคนและขอความยินยอมจากผู้ปกครองนั้นละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว โดยศาลชี้ว่ารัฐไม่สามารถใช้อำนาจ “ควบคุมความคิดที่เด็กควรเข้าถึง” ได้ และมีวิธีปกป้องเด็กที่จำกัดสิทธิน้อยกว่านี้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/federal-judge-blocks-louisianas-social-media-age-verification-law-heres-why 🏥 ผู้ให้บริการเทคโนโลยี NHS England ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ DXS International ผู้ให้บริการระบบข้อมูลให้ NHS England เปิดเผยว่าเผชิญเหตุแรนซัมแวร์โจมตีเซิร์ฟเวอร์สำนักงาน แม้บริการทางคลินิกยังทำงานได้ตามปกติ แต่กลุ่มแฮ็กเกอร์ DevMan อ้างว่าขโมยข้อมูลกว่า 300GB ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกค่าไถ่หรือการรั่วไหลในอนาคต เหตุการณ์นี้สะท้อนความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนด้านสาธารณสุขที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสหราชอาณาจักร 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/nhs-england-tech-provider-reveals-data-breach-dxs-international-hit-by-ransomware 🤖 iRobot ยืนยัน Roomba ยังใช้งานได้ปกติหลังการเทกโอเวอร์ หลัง iRobot ถูกเทกโอเวอร์โดยบริษัท Picea ท่ามกลางกระบวนการล้มละลาย ผู้ใช้ Roomba จำนวนมากกังวลเรื่องแอป การอัปเดต และการรับประกัน แต่ CEO ของ iRobot ออกมายืนยันว่าทุกอย่าง “ยังเป็นปกติ” ทั้งแอป การสนับสนุน และการอัปเดตเฟิร์มแวร์จะดำเนินต่อไป พร้อมเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/home/robot-vacuums/its-business-as-usual-the-app-is-working-warranties-will-be-honored-irobot-ceo-reassures-roomba-owners-following-takeover 🎭 ChatGPT เพิ่มโหมดปรับบุคลิก เลือกได้ตั้งแต่สุภาพมืออาชีพถึงเพื่อนสายแซ่บ OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ Personalization ใหม่ใน ChatGPT ให้ผู้ใช้ปรับ “บุคลิก” ของโมเดลได้ เช่น ระดับความอบอุ่น ความกระตือรือร้น การใช้หัวข้อย่อย และอีโมจิ ทำให้ผู้ใช้ควบคุมโทนการตอบได้ละเอียดขึ้น ตั้งแต่สไตล์คอร์ปอเรตจริงจังไปจนถึงเพื่อนสนิทสายเมาท์ พร้อมผสานกับ Base Style เดิม เช่น Professional, Friendly หรือ Cynical เพื่อสร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัว 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-personality-settings-let-you-pick-the-vibe-and-it-ranges-from-corporate-calm-to-chaotic-bestie
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 387 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251222 #securityonline

    Dify Side-Door Exposure: ช่องโหว่เปิดคอนฟิกระบบ LLM ให้คนแปลกหน้าเห็น
    ช่องโหว่ CVE‑2025‑63387 ใน Dify เวอร์ชัน 1.9.1 เปิดให้ผู้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตนเข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้โดยตรง ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในของระบบ LLM ถูกเปิดเผยแบบไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นในการวางแผนโจมตีต่อเนื่อง แม้จะเป็นเพียงการรั่วไหลข้อมูล แต่ก็ถือเป็นความเสี่ยงระดับสูงสำหรับทีมที่กำลังนำ LLM ไปใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมโปรดักชัน
    https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users

    BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้บริการฟรีอย่าง ngrok และ Mocky ลอบขโมยอีเมลยูเครน
    กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่โดยใช้บริการฟรี เช่น Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET ผ่าน PDF ล่อเหยื่อและหน้าเว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ด้วย header พิเศษ ทำให้การโจมตีแนบเนียนและตรวจจับยากขึ้น
    https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky

    Caminho to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ
    BlindEagle (APT‑C‑36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงแนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง
    https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia

    DOCSWAP 2.0: Kimsuky ใช้ QR Code แพร่มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่
    Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบน Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ พร้อมหลักฐานเชื่อมโยง DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” บนโครงสร้างพื้นฐาน
    https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes

    Shadows of the North: แผนที่โครงสร้างไซเบอร์ DPRK ที่เชื่อมโยงทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน
    รายงานร่วมของ Hunt.io และ Acronis เปิดโปงโครงสร้างพื้นฐานไซเบอร์ของเกาหลีเหนือที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนา โดยพบว่า Lazarus, Kimsuky และ Bluenoroff แม้จะมีภารกิจต่างกัน แต่กลับใช้เซิร์ฟเวอร์ เครื่องมือ และโครงสร้างเครือข่ายร่วมกันอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ staging servers, credential-harvesting nodes ไปจนถึง FRP tunneling และโครงสร้างที่ผูกกับใบรับรอง SSL เดียวกัน เผยให้เห็น ecosystem ที่ทำงานแบบ “รวมศูนย์” เพื่อการจารกรรม การขโมยเงิน และปฏิบัติการทำลายล้างในระดับรัฐ
    https://securityonline.info/shadows-of-the-north-unmasking-the-sprawling-cyber-infrastructure-of-the-dprk

    ResidentBat: สปายแวร์ KGB ที่ติดตั้งผ่านการยึดมือถือจริง ไม่ต้องพึ่ง zero‑click
    การสืบสวนโดย RESIDENT.NGO และ RSF พบว่า KGB เบลารุสใช้สปายแวร์ชื่อ ResidentBat ที่ติดตั้งด้วยการยึดโทรศัพท์จากนักข่าวและนักกิจกรรมระหว่างการสอบสวน ก่อนบังคับให้ปลดล็อกเครื่องเพื่อดู PIN จากนั้นเจ้าหน้าที่นำเครื่องออกไปติดตั้งแอปที่ขอสิทธิ์สูงถึง 38 รายการ รวมถึงการใช้ Accessibility Service เพื่ออ่านข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง Signal และ Telegram ทำให้มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สอดแนมเต็มรูปแบบที่สามารถบันทึกหน้าจอ คีย์บอร์ด และข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด
    https://securityonline.info/the-kgbs-all-seeing-eye-how-residentbat-spyware-turns-seized-phones-into-total-surveillance-tools

    AuraStealer: มัลแวร์ที่หลอกให้เหยื่อ “แฮ็กตัวเอง” ผ่านคลิป TikTok
    AuraStealer มัลแวร์แบบ MaaS ที่กำลังระบาด ใช้กลยุทธ์ “Scam‑Yourself” โดยหลอกเหยื่อผ่านคลิป TikTok ที่สอนปลดล็อกซอฟต์แวร์เถื่อน เมื่อเหยื่อตามขั้นตอนและรันคำสั่ง PowerShell เอง มัลแวร์จะถูกดาวน์โหลดและรันทันที ตัวมันใช้เทคนิคป้องกันการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น indirect control flow และ exception‑driven API hashing พร้อมความสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์กว่า 110 ตัวและวอลเล็ตคริปโตจำนวนมาก แม้บางฟีเจอร์ยังทำงานไม่เสถียร แต่ความเสี่ยงยังสูงมาก
    https://securityonline.info/tiktoks-scam-yourself-trap-how-aurastealer-malware-tricks-users-into-hacking-their-own-pcs

    ClickFix Trap: หน้าตรวจสอบมนุษย์ปลอมที่นำไปสู่ Qilin Ransomware
    แคมเปญ ClickFix ใช้หน้า “ยืนยันว่าเป็นมนุษย์” ปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลด batch file ที่ติดตั้ง NetSupport RAT จากนั้นผู้โจมตีใช้ RAT เพื่อดึง StealC V2 ลงเครื่อง ก่อนใช้ข้อมูลที่ขโมยได้เจาะ VPN ขององค์กรและปล่อย Qilin ransomware ซึ่งเป็นหนึ่งใน RaaS ที่ทำเหยื่อมากที่สุดในช่วงปี 2024–2025 โซ่การโจมตีนี้เริ่มจากสคริปต์บนเว็บที่ถูกแฮ็กและจบลงด้วยการเข้ารหัสระบบทั้งองค์กร
    https://securityonline.info/clickfix-trap-fake-human-verification-leads-to-qilin-ransomware-infection

    Cellik Android RAT: มัลแวร์ที่แฝงตัวในแอป Google Play อย่างแนบเนียน
    Cellik เป็น Android RAT แบบบริการเช่า ที่ให้ผู้โจมตีเลือกแอปจาก Google Play แล้ว “ฉีด” payload ลงไปผ่านระบบ APK Builder ทำให้แอปที่ดูปกติกลายเป็นเครื่องมือสอดแนมเต็มรูปแบบ มันรองรับการสตรีมหน้าจอแบบเรียลไทม์ ควบคุมเครื่องจากระยะไกล เปิดกล้อง/ไมค์ และใช้ hidden browser เพื่อทำธุรกรรมหรือขโมยข้อมูลโดยที่ผู้ใช้ไม่เห็นอะไรบนหน้าจอ ถือเป็นการยกระดับภัยคุกคามมือถือให้เข้าถึงได้แม้กับอาชญากรทักษะต่ำ
    https://securityonline.info/the-silent-hijacker-new-cellik-android-rat-turns-legitimate-google-play-apps-into-surveillance-tools

    110 Milliseconds of Truth: Amazon ใช้ “ดีเลย์คีย์บอร์ด” เปิดโปงสายลับเกาหลีเหนือ
    Amazon เปิดเผยปฏิบัติการสกัดแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือที่ปลอมตัวเป็นพนักงานรีโมต โดยใช้ “laptop farms” ในสหรัฐฯ เพื่อสมัครงานและแทรกซึมองค์กร ความผิดปกติถูกจับได้จากค่า latency การพิมพ์ที่สูงถึง 110 มิลลิวินาที ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการควบคุมเครื่องจากต่างประเทศ พร้อมสัญญาณอื่นอย่างภาษาอังกฤษที่ไม่เป็นธรรมชาติ เหตุการณ์นี้สะท้อนการเปลี่ยนยุทธวิธีของ DPRK ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ เพื่อหลบการตรวจจับ และ Amazon ระบุว่าพยายามโจมตีเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส
    https://securityonline.info/110-milliseconds-of-truth-how-amazon-used-lag-to-catch-a-north-korean-spy

    Dify’s Exposed Side Door: ช่องโหว่เปิดให้คนแปลกหน้าดูค่าคอนฟิกระบบ AI ได้
    แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส Dify รุ่น 1.9.1 ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-63387 ที่ปล่อยให้ผู้ใช้ไม่ต้องล็อกอินก็เข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้ ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในหลุดออกสู่สาธารณะ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นของการโจมตีขั้นต่อไป ช่องโหว่นี้จัดเป็นระดับ High และเป็นตัวอย่างของความเสี่ยงเมื่อระบบ LLM ถูกนำไปใช้จริงโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ที่เข้มงวด
    https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users

    BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้ ngrok + Mocky ลอบขโมยอีเมลชาวยูเครน
    กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่ ใช้บริการฟรีอย่าง Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET โดยแนบลิงก์ใน PDF เพื่อหลบระบบสแกนอีเมล ก่อนพาเหยื่อเข้าสู่เว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ผ่าน header พิเศษ แสดงให้เห็นการปรับตัวของ GRU หลังถูกกวาดล้างโครงสร้างพื้นฐานในปี 2024
    https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky

    “Caminho” to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ
    BlindEagle (APT-C-36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงที่แนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงกับตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง เหตุการณ์นี้สะท้อนการยกระดับความซับซ้อนของกลุ่มในภูมิภาคละตินอเมริกา
    https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia

    Kimsuky DOCSWAP 2.0: มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ติดผ่าน QR Code
    Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบนมือถือ Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ โดยมีหลักฐานเชื่อมโยงกับ DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” และคอมเมนต์ภาษาเกาหลีบนโครงสร้างพื้นฐาน
    https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes

    Exim’s Poisoned Record: แพตช์ที่พลาดเปิดช่อง SQL Injection สู่ Heap Overflow ระดับวิกฤต
    รายงานใหม่เผยว่า Exim 4.99 ยังมีช่องโหว่ลึกที่ไม่ได้รับการแก้ไขจากแพตช์ก่อนหน้า ทำให้ SQL injection ผ่านระบบ ratelimit สามารถนำไปสู่ heap overflow ขนาดใหญ่ถึง 1.5MB ซึ่งอาจเปิดทางสู่ RCE แม้ยังไม่ยืนยันเต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้เกิดจากการ sanitize คีย์ฐานข้อมูลไม่ครบถ้วนและการอ่านค่า bloom_size โดยไม่ตรวจสอบ ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถวาง “ระเบิดเวลา” ในฐานข้อมูลและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มหรือถูกควบคุมได้ในบางเงื่อนไข
    https://securityonline.info/exims-poisoned-record-how-a-failed-patch-and-sql-injection-lead-to-critical-heap-overflows

    HPE OneView RCE: ช่องโหว่ CVSS 10.0 เปิดประตูให้รันคำสั่งโดยไม่ต้องล็อกอิน
    ช่องโหว่ร้ายแรงใน HPE OneView (CVE-2025-37164) เปิดให้ผู้โจมตีเรียกใช้ API ลับ /rest/id-pools/executeCommand ที่ตั้งค่าเป็น NO_AUTH ทำให้สามารถส่งคำสั่งระบบผ่าน Runtime.exec ได้ทันที นักวิจัยพบว่าเฉพาะบางเวอร์ชัน—โดยเฉพาะ OneView for VMs 6.x และ OneView for Synergy—ได้รับผลกระทบเต็มรูปแบบ และมี PoC พร้อมใช้งานแล้ว ทำให้ผู้ดูแลต้องเร่งอัปเดตหรือใช้ hotfix โดยด่วน
    https://securityonline.info/poc-available-unauthenticated-hpe-oneview-rce-cvss-10-0-exploits-hidden-id-pools-api

    Meta พลิกทิศ: หยุดพาร์ตเนอร์ VR เพื่อทุ่มทรัพยากรสู่แว่น AI
    Meta ตัดสินใจ “พัก” โครงการเปิด Horizon OS ให้ผู้ผลิตรายอื่น เช่น ASUS และ Lenovo หลังพบว่าทิศทางตลาด VR ยังไม่ชัดเจน ขณะที่แว่นอัจฉริยะอย่าง Ray-Ban Meta กลับเติบโตแรง บริษัทจึงหันไปโฟกัสฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของตัวเอง โดยเฉพาะสาย AI glasses และโปรเจกต์ Orion ซึ่งอาจเป็นเส้นทางสู่การใช้งานจริงในวงกว้างมากกว่า VR แบบเดิม
    https://securityonline.info/vr-vision-shift-meta-pauses-third-party-partnerships-to-pivot-toward-ai-smart-glasses

    Kimwolf Botnet: กองทัพ IoT 1.8 ล้านเครื่องที่ยิงทราฟฟิกแซง Google
    บอตเน็ต Kimwolf ที่โจมตีอุปกรณ์ Android TV และกล่องรับสัญญาณกว่า 1.8 ล้านเครื่องทั่วโลก ถูกพบว่าส่งคำสั่ง DDoS มากถึง 1.7 พันล้านครั้งในช่วงไม่กี่วัน ทำให้โดเมน C2 ของมันขึ้นอันดับหนึ่งบน Cloudflare DNS แซง Google ชั่วคราว มัลแวร์นี้ไม่เพียงยิง DDoS แต่ยังมี reverse shell และ proxy forwarding ทำให้ผู้โจมตีใช้เป็นฐานปฏิบัติการขยายผลได้อย่างกว้างขวาง
    https://securityonline.info/the-wolf-among-tvs-1-8-million-strong-kimwolf-botnet-surpasses-google-traffic-to-rule-the-iot

    Windows Server 2025 ปลดล็อก NVMe Native I/O เร็วขึ้น 70% ลดโหลด CPU เกือบครึ่ง
    Microsoft เปิดใช้ Native NVMe I/O ใน Windows Server 2025 ซึ่งตัดชั้นแปลคำสั่ง SCSI/SATA ออก ทำให้ IOPS เพิ่มขึ้นสูงสุด 70% และลด CPU load ได้ถึง 45% ในงาน I/O หนัก โดยเฉพาะฐานข้อมูลและงาน AI แม้ผลลัพธ์ในชุมชนยังหลากหลาย แต่การออกแบบ pipeline ใหม่ทั้งหมดบ่งชี้ว่าระบบที่ใช้ SSD PCIe 5.0 จะได้ประโยชน์สูงสุด
    https://securityonline.info/the-end-of-scsi-windows-server-2025-unlocks-70-faster-storage-with-native-nvme-i-o

    The $100M Stalker: เครือข่าย Nefilim ล่ม—แก๊ง Big Game Hunting สารภาพผิด
    คดีใหญ่ของกลุ่มแรนซัมแวร์ Nefilim เดินหน้าเข้าสู่ตอนสำคัญเมื่อ Artem Stryzhak แฮ็กเกอร์ชาวยูเครนยอมรับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตีองค์กรรายได้เกิน 100–200 ล้านดอลลาร์ โดยใช้โมเดลแบ่งกำไรและระบบ “panel” ในการจัดการเหยื่อ พร้อมใช้กลยุทธ์ double extortion ขโมยข้อมูลก่อนล็อกไฟล์ ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ยังล่าตัวหัวโจกอีกคนพร้อมตั้งค่าหัว 11 ล้านดอลลาร์ สะท้อนความซับซ้อนและความระแวงภายในโลกอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังถูกบีบเข้ามาเรื่อย ๆ
    https://securityonline.info/the-100m-stalker-nefilim-ransomware-affiliate-pleads-guilty-as-doj-hunts-fugitive-leader

    Microsoft ปิดฉาก Telephone Activation—เข้าสู่ยุคยืนยันสิทธิ์ผ่านเว็บเต็มรูปแบบ
    ไมโครซอฟท์ยุติระบบโทรศัพท์สำหรับการ Activate Windows/Office ที่เคยเป็นทางเลือกสำคัญในสภาพแวดล้อมออฟไลน์ โดยผู้ใช้ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังพอร์ทัลออนไลน์แทน แม้ยังไม่ชัดเจนว่าการคำนวณ Activation ID แบบออฟไลน์ถูกยกเลิกจริงหรือเพียงย้ายไปอยู่บนเว็บ แต่การเปลี่ยนผ่านนี้อาจกระทบองค์กรที่ต้องการระบบ Activate แบบไม่พึ่งอินเทอร์เน็ต และสะท้อนทิศทางใหม่ที่เน้นการควบคุมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น
    https://securityonline.info/hang-up-the-phone-microsoft-retires-telephone-activation-for-an-online-portal

    OpenAI เปิดสไลเดอร์ปรับ “อารมณ์” ChatGPT—ยุติภาพลักษณ์หุ่นยนต์
    OpenAI ปรับประสบการณ์ใช้งาน ChatGPT ครั้งใหญ่ด้วยตัวเลือกปรับโทนเสียง อารมณ์ การใช้หัวข้อ/ลิสต์ และจำนวนอีโมจิ เพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้มองว่า GPT-5 เย็นชาเกินไปหรือบางครั้งก็ประจบเกินเหตุ การเปิดให้ผู้ใช้ควบคุมบุคลิกของโมเดลเองสะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากโมเดลกลางสู่ประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม
    https://securityonline.info/the-end-of-robotic-ai-openai-unlocks-sliders-to-control-chatgpts-warmth-and-tone

    n8n เจอช่องโหว่ CVSS 10.0—Expression Injection พาไปสู่ยึดเซิร์ฟเวอร์เต็มตัว
    แพลตฟอร์ม workflow automation ยอดนิยม n8n เผชิญช่องโหว่ร้ายแรงระดับ 10.0 ที่เปิดทางให้ผู้ใช้ที่ล็อกอินได้สามารถฉีดโค้ดผ่านระบบ Expression Evaluation และหลุดออกจาก sandbox ไปสั่งคำสั่งระดับระบบปฏิบัติการ ส่งผลให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูล แก้ไข workflow หรือยึดเครื่องแม่ข่ายได้ทันที ผู้ดูแลระบบถูกเร่งให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.122.0 โดยด่วน
    https://securityonline.info/n8n-under-fire-critical-cvss-10-0-rce-vulnerability-grants-total-server-access

    Device Code Phishing: แฮ็กเกอร์ใช้ฟีเจอร์จริงของ Microsoft 365 เพื่อยึดบัญชี
    แคมเปญโจมตีรูปแบบใหม่ใช้ “Device Code” ซึ่งเป็นฟีเจอร์จริงของ Microsoft OAuth 2.0 หลอกให้เหยื่อกรอกรหัสบนเว็บ Microsoft ที่ถูกต้อง ทำให้แอปของผู้โจมตีได้รับสิทธิ์เข้าถึงบัญชีโดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน วิธีนี้หลบการตรวจสอบ URL ปลอมได้อย่างแนบเนียน และถูกใช้โดยทั้งกลุ่มรัฐหนุนและอาชญากรไซเบอร์เพื่อยึดบัญชีองค์กรในวงกว้าง
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/hackers-abuse-device-codes-to-bypass-security-and-seize-microsoft-365-accounts
    📌🔐🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔐📌 #รวมข่าวIT #20251222 #securityonline 🧩 Dify Side-Door Exposure: ช่องโหว่เปิดคอนฟิกระบบ LLM ให้คนแปลกหน้าเห็น ช่องโหว่ CVE‑2025‑63387 ใน Dify เวอร์ชัน 1.9.1 เปิดให้ผู้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตนเข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้โดยตรง ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในของระบบ LLM ถูกเปิดเผยแบบไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นในการวางแผนโจมตีต่อเนื่อง แม้จะเป็นเพียงการรั่วไหลข้อมูล แต่ก็ถือเป็นความเสี่ยงระดับสูงสำหรับทีมที่กำลังนำ LLM ไปใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมโปรดักชัน 🔗 https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users 🎯 BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้บริการฟรีอย่าง ngrok และ Mocky ลอบขโมยอีเมลยูเครน กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่โดยใช้บริการฟรี เช่น Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET ผ่าน PDF ล่อเหยื่อและหน้าเว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ด้วย header พิเศษ ทำให้การโจมตีแนบเนียนและตรวจจับยากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky 📨 Caminho to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ BlindEagle (APT‑C‑36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงแนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง 🔗 https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia 📱 DOCSWAP 2.0: Kimsuky ใช้ QR Code แพร่มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบน Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ พร้อมหลักฐานเชื่อมโยง DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” บนโครงสร้างพื้นฐาน 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes 🕶️ Shadows of the North: แผนที่โครงสร้างไซเบอร์ DPRK ที่เชื่อมโยงทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน รายงานร่วมของ Hunt.io และ Acronis เปิดโปงโครงสร้างพื้นฐานไซเบอร์ของเกาหลีเหนือที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนา โดยพบว่า Lazarus, Kimsuky และ Bluenoroff แม้จะมีภารกิจต่างกัน แต่กลับใช้เซิร์ฟเวอร์ เครื่องมือ และโครงสร้างเครือข่ายร่วมกันอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ staging servers, credential-harvesting nodes ไปจนถึง FRP tunneling และโครงสร้างที่ผูกกับใบรับรอง SSL เดียวกัน เผยให้เห็น ecosystem ที่ทำงานแบบ “รวมศูนย์” เพื่อการจารกรรม การขโมยเงิน และปฏิบัติการทำลายล้างในระดับรัฐ 🔗 https://securityonline.info/shadows-of-the-north-unmasking-the-sprawling-cyber-infrastructure-of-the-dprk 📱 ResidentBat: สปายแวร์ KGB ที่ติดตั้งผ่านการยึดมือถือจริง ไม่ต้องพึ่ง zero‑click การสืบสวนโดย RESIDENT.NGO และ RSF พบว่า KGB เบลารุสใช้สปายแวร์ชื่อ ResidentBat ที่ติดตั้งด้วยการยึดโทรศัพท์จากนักข่าวและนักกิจกรรมระหว่างการสอบสวน ก่อนบังคับให้ปลดล็อกเครื่องเพื่อดู PIN จากนั้นเจ้าหน้าที่นำเครื่องออกไปติดตั้งแอปที่ขอสิทธิ์สูงถึง 38 รายการ รวมถึงการใช้ Accessibility Service เพื่ออ่านข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง Signal และ Telegram ทำให้มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สอดแนมเต็มรูปแบบที่สามารถบันทึกหน้าจอ คีย์บอร์ด และข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด 🔗 https://securityonline.info/the-kgbs-all-seeing-eye-how-residentbat-spyware-turns-seized-phones-into-total-surveillance-tools 🎭 AuraStealer: มัลแวร์ที่หลอกให้เหยื่อ “แฮ็กตัวเอง” ผ่านคลิป TikTok AuraStealer มัลแวร์แบบ MaaS ที่กำลังระบาด ใช้กลยุทธ์ “Scam‑Yourself” โดยหลอกเหยื่อผ่านคลิป TikTok ที่สอนปลดล็อกซอฟต์แวร์เถื่อน เมื่อเหยื่อตามขั้นตอนและรันคำสั่ง PowerShell เอง มัลแวร์จะถูกดาวน์โหลดและรันทันที ตัวมันใช้เทคนิคป้องกันการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น indirect control flow และ exception‑driven API hashing พร้อมความสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์กว่า 110 ตัวและวอลเล็ตคริปโตจำนวนมาก แม้บางฟีเจอร์ยังทำงานไม่เสถียร แต่ความเสี่ยงยังสูงมาก 🔗 https://securityonline.info/tiktoks-scam-yourself-trap-how-aurastealer-malware-tricks-users-into-hacking-their-own-pcs 🧪 ClickFix Trap: หน้าตรวจสอบมนุษย์ปลอมที่นำไปสู่ Qilin Ransomware แคมเปญ ClickFix ใช้หน้า “ยืนยันว่าเป็นมนุษย์” ปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลด batch file ที่ติดตั้ง NetSupport RAT จากนั้นผู้โจมตีใช้ RAT เพื่อดึง StealC V2 ลงเครื่อง ก่อนใช้ข้อมูลที่ขโมยได้เจาะ VPN ขององค์กรและปล่อย Qilin ransomware ซึ่งเป็นหนึ่งใน RaaS ที่ทำเหยื่อมากที่สุดในช่วงปี 2024–2025 โซ่การโจมตีนี้เริ่มจากสคริปต์บนเว็บที่ถูกแฮ็กและจบลงด้วยการเข้ารหัสระบบทั้งองค์กร 🔗 https://securityonline.info/clickfix-trap-fake-human-verification-leads-to-qilin-ransomware-infection 🐾 Cellik Android RAT: มัลแวร์ที่แฝงตัวในแอป Google Play อย่างแนบเนียน Cellik เป็น Android RAT แบบบริการเช่า ที่ให้ผู้โจมตีเลือกแอปจาก Google Play แล้ว “ฉีด” payload ลงไปผ่านระบบ APK Builder ทำให้แอปที่ดูปกติกลายเป็นเครื่องมือสอดแนมเต็มรูปแบบ มันรองรับการสตรีมหน้าจอแบบเรียลไทม์ ควบคุมเครื่องจากระยะไกล เปิดกล้อง/ไมค์ และใช้ hidden browser เพื่อทำธุรกรรมหรือขโมยข้อมูลโดยที่ผู้ใช้ไม่เห็นอะไรบนหน้าจอ ถือเป็นการยกระดับภัยคุกคามมือถือให้เข้าถึงได้แม้กับอาชญากรทักษะต่ำ 🔗 https://securityonline.info/the-silent-hijacker-new-cellik-android-rat-turns-legitimate-google-play-apps-into-surveillance-tools 🕵️‍♀️ 110 Milliseconds of Truth: Amazon ใช้ “ดีเลย์คีย์บอร์ด” เปิดโปงสายลับเกาหลีเหนือ Amazon เปิดเผยปฏิบัติการสกัดแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือที่ปลอมตัวเป็นพนักงานรีโมต โดยใช้ “laptop farms” ในสหรัฐฯ เพื่อสมัครงานและแทรกซึมองค์กร ความผิดปกติถูกจับได้จากค่า latency การพิมพ์ที่สูงถึง 110 มิลลิวินาที ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการควบคุมเครื่องจากต่างประเทศ พร้อมสัญญาณอื่นอย่างภาษาอังกฤษที่ไม่เป็นธรรมชาติ เหตุการณ์นี้สะท้อนการเปลี่ยนยุทธวิธีของ DPRK ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ เพื่อหลบการตรวจจับ และ Amazon ระบุว่าพยายามโจมตีเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส 🔗 https://securityonline.info/110-milliseconds-of-truth-how-amazon-used-lag-to-catch-a-north-korean-spy 🧩 Dify’s Exposed Side Door: ช่องโหว่เปิดให้คนแปลกหน้าดูค่าคอนฟิกระบบ AI ได้ แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส Dify รุ่น 1.9.1 ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-63387 ที่ปล่อยให้ผู้ใช้ไม่ต้องล็อกอินก็เข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้ ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในหลุดออกสู่สาธารณะ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นของการโจมตีขั้นต่อไป ช่องโหว่นี้จัดเป็นระดับ High และเป็นตัวอย่างของความเสี่ยงเมื่อระบบ LLM ถูกนำไปใช้จริงโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ที่เข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users 🎯 BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้ ngrok + Mocky ลอบขโมยอีเมลชาวยูเครน กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่ ใช้บริการฟรีอย่าง Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET โดยแนบลิงก์ใน PDF เพื่อหลบระบบสแกนอีเมล ก่อนพาเหยื่อเข้าสู่เว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ผ่าน header พิเศษ แสดงให้เห็นการปรับตัวของ GRU หลังถูกกวาดล้างโครงสร้างพื้นฐานในปี 2024 🔗 https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky 📨 “Caminho” to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ BlindEagle (APT-C-36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงที่แนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงกับตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง เหตุการณ์นี้สะท้อนการยกระดับความซับซ้อนของกลุ่มในภูมิภาคละตินอเมริกา 🔗 https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia 📱 Kimsuky DOCSWAP 2.0: มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ติดผ่าน QR Code Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบนมือถือ Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ โดยมีหลักฐานเชื่อมโยงกับ DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” และคอมเมนต์ภาษาเกาหลีบนโครงสร้างพื้นฐาน 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes 📡 Exim’s Poisoned Record: แพตช์ที่พลาดเปิดช่อง SQL Injection สู่ Heap Overflow ระดับวิกฤต รายงานใหม่เผยว่า Exim 4.99 ยังมีช่องโหว่ลึกที่ไม่ได้รับการแก้ไขจากแพตช์ก่อนหน้า ทำให้ SQL injection ผ่านระบบ ratelimit สามารถนำไปสู่ heap overflow ขนาดใหญ่ถึง 1.5MB ซึ่งอาจเปิดทางสู่ RCE แม้ยังไม่ยืนยันเต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้เกิดจากการ sanitize คีย์ฐานข้อมูลไม่ครบถ้วนและการอ่านค่า bloom_size โดยไม่ตรวจสอบ ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถวาง “ระเบิดเวลา” ในฐานข้อมูลและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มหรือถูกควบคุมได้ในบางเงื่อนไข 🔗 https://securityonline.info/exims-poisoned-record-how-a-failed-patch-and-sql-injection-lead-to-critical-heap-overflows 🖥️ HPE OneView RCE: ช่องโหว่ CVSS 10.0 เปิดประตูให้รันคำสั่งโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่ร้ายแรงใน HPE OneView (CVE-2025-37164) เปิดให้ผู้โจมตีเรียกใช้ API ลับ /rest/id-pools/executeCommand ที่ตั้งค่าเป็น NO_AUTH ทำให้สามารถส่งคำสั่งระบบผ่าน Runtime.exec ได้ทันที นักวิจัยพบว่าเฉพาะบางเวอร์ชัน—โดยเฉพาะ OneView for VMs 6.x และ OneView for Synergy—ได้รับผลกระทบเต็มรูปแบบ และมี PoC พร้อมใช้งานแล้ว ทำให้ผู้ดูแลต้องเร่งอัปเดตหรือใช้ hotfix โดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/poc-available-unauthenticated-hpe-oneview-rce-cvss-10-0-exploits-hidden-id-pools-api 🕶️ Meta พลิกทิศ: หยุดพาร์ตเนอร์ VR เพื่อทุ่มทรัพยากรสู่แว่น AI Meta ตัดสินใจ “พัก” โครงการเปิด Horizon OS ให้ผู้ผลิตรายอื่น เช่น ASUS และ Lenovo หลังพบว่าทิศทางตลาด VR ยังไม่ชัดเจน ขณะที่แว่นอัจฉริยะอย่าง Ray-Ban Meta กลับเติบโตแรง บริษัทจึงหันไปโฟกัสฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของตัวเอง โดยเฉพาะสาย AI glasses และโปรเจกต์ Orion ซึ่งอาจเป็นเส้นทางสู่การใช้งานจริงในวงกว้างมากกว่า VR แบบเดิม 🔗 https://securityonline.info/vr-vision-shift-meta-pauses-third-party-partnerships-to-pivot-toward-ai-smart-glasses 🐺 Kimwolf Botnet: กองทัพ IoT 1.8 ล้านเครื่องที่ยิงทราฟฟิกแซง Google บอตเน็ต Kimwolf ที่โจมตีอุปกรณ์ Android TV และกล่องรับสัญญาณกว่า 1.8 ล้านเครื่องทั่วโลก ถูกพบว่าส่งคำสั่ง DDoS มากถึง 1.7 พันล้านครั้งในช่วงไม่กี่วัน ทำให้โดเมน C2 ของมันขึ้นอันดับหนึ่งบน Cloudflare DNS แซง Google ชั่วคราว มัลแวร์นี้ไม่เพียงยิง DDoS แต่ยังมี reverse shell และ proxy forwarding ทำให้ผู้โจมตีใช้เป็นฐานปฏิบัติการขยายผลได้อย่างกว้างขวาง 🔗 https://securityonline.info/the-wolf-among-tvs-1-8-million-strong-kimwolf-botnet-surpasses-google-traffic-to-rule-the-iot ⚡ Windows Server 2025 ปลดล็อก NVMe Native I/O เร็วขึ้น 70% ลดโหลด CPU เกือบครึ่ง Microsoft เปิดใช้ Native NVMe I/O ใน Windows Server 2025 ซึ่งตัดชั้นแปลคำสั่ง SCSI/SATA ออก ทำให้ IOPS เพิ่มขึ้นสูงสุด 70% และลด CPU load ได้ถึง 45% ในงาน I/O หนัก โดยเฉพาะฐานข้อมูลและงาน AI แม้ผลลัพธ์ในชุมชนยังหลากหลาย แต่การออกแบบ pipeline ใหม่ทั้งหมดบ่งชี้ว่าระบบที่ใช้ SSD PCIe 5.0 จะได้ประโยชน์สูงสุด 🔗 https://securityonline.info/the-end-of-scsi-windows-server-2025-unlocks-70-faster-storage-with-native-nvme-i-o 🕵️‍♂️ The $100M Stalker: เครือข่าย Nefilim ล่ม—แก๊ง Big Game Hunting สารภาพผิด คดีใหญ่ของกลุ่มแรนซัมแวร์ Nefilim เดินหน้าเข้าสู่ตอนสำคัญเมื่อ Artem Stryzhak แฮ็กเกอร์ชาวยูเครนยอมรับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตีองค์กรรายได้เกิน 100–200 ล้านดอลลาร์ โดยใช้โมเดลแบ่งกำไรและระบบ “panel” ในการจัดการเหยื่อ พร้อมใช้กลยุทธ์ double extortion ขโมยข้อมูลก่อนล็อกไฟล์ ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ยังล่าตัวหัวโจกอีกคนพร้อมตั้งค่าหัว 11 ล้านดอลลาร์ สะท้อนความซับซ้อนและความระแวงภายในโลกอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังถูกบีบเข้ามาเรื่อย ๆ 🔗 https://securityonline.info/the-100m-stalker-nefilim-ransomware-affiliate-pleads-guilty-as-doj-hunts-fugitive-leader ☎️ Microsoft ปิดฉาก Telephone Activation—เข้าสู่ยุคยืนยันสิทธิ์ผ่านเว็บเต็มรูปแบบ ไมโครซอฟท์ยุติระบบโทรศัพท์สำหรับการ Activate Windows/Office ที่เคยเป็นทางเลือกสำคัญในสภาพแวดล้อมออฟไลน์ โดยผู้ใช้ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังพอร์ทัลออนไลน์แทน แม้ยังไม่ชัดเจนว่าการคำนวณ Activation ID แบบออฟไลน์ถูกยกเลิกจริงหรือเพียงย้ายไปอยู่บนเว็บ แต่การเปลี่ยนผ่านนี้อาจกระทบองค์กรที่ต้องการระบบ Activate แบบไม่พึ่งอินเทอร์เน็ต และสะท้อนทิศทางใหม่ที่เน้นการควบคุมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/hang-up-the-phone-microsoft-retires-telephone-activation-for-an-online-portal 🤖 OpenAI เปิดสไลเดอร์ปรับ “อารมณ์” ChatGPT—ยุติภาพลักษณ์หุ่นยนต์ OpenAI ปรับประสบการณ์ใช้งาน ChatGPT ครั้งใหญ่ด้วยตัวเลือกปรับโทนเสียง อารมณ์ การใช้หัวข้อ/ลิสต์ และจำนวนอีโมจิ เพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้มองว่า GPT-5 เย็นชาเกินไปหรือบางครั้งก็ประจบเกินเหตุ การเปิดให้ผู้ใช้ควบคุมบุคลิกของโมเดลเองสะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากโมเดลกลางสู่ประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/the-end-of-robotic-ai-openai-unlocks-sliders-to-control-chatgpts-warmth-and-tone ⚠️ n8n เจอช่องโหว่ CVSS 10.0—Expression Injection พาไปสู่ยึดเซิร์ฟเวอร์เต็มตัว แพลตฟอร์ม workflow automation ยอดนิยม n8n เผชิญช่องโหว่ร้ายแรงระดับ 10.0 ที่เปิดทางให้ผู้ใช้ที่ล็อกอินได้สามารถฉีดโค้ดผ่านระบบ Expression Evaluation และหลุดออกจาก sandbox ไปสั่งคำสั่งระดับระบบปฏิบัติการ ส่งผลให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูล แก้ไข workflow หรือยึดเครื่องแม่ข่ายได้ทันที ผู้ดูแลระบบถูกเร่งให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.122.0 โดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/n8n-under-fire-critical-cvss-10-0-rce-vulnerability-grants-total-server-access 🔐 Device Code Phishing: แฮ็กเกอร์ใช้ฟีเจอร์จริงของ Microsoft 365 เพื่อยึดบัญชี แคมเปญโจมตีรูปแบบใหม่ใช้ “Device Code” ซึ่งเป็นฟีเจอร์จริงของ Microsoft OAuth 2.0 หลอกให้เหยื่อกรอกรหัสบนเว็บ Microsoft ที่ถูกต้อง ทำให้แอปของผู้โจมตีได้รับสิทธิ์เข้าถึงบัญชีโดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน วิธีนี้หลบการตรวจสอบ URL ปลอมได้อย่างแนบเนียน และถูกใช้โดยทั้งกลุ่มรัฐหนุนและอาชญากรไซเบอร์เพื่อยึดบัญชีองค์กรในวงกว้าง ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/hackers-abuse-device-codes-to-bypass-security-and-seize-microsoft-365-accounts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 405 มุมมอง 0 รีวิว
  • Atari Hotel เปิดระดมทุนสาธารณะ — โรงแรมธีมเกมยุคคลาสสิกมูลค่า $124M ที่คุณเป็นเจ้าของได้ด้วยเงินเพียง $500

    โครงการ Atari Hotel ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 กลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งหลังจากเงียบไปหลายปี โดยตอนนี้โครงการแรกกำลังจะถูกสร้างขึ้นที่ Phoenix, Arizona พร้อมเปิดให้บุคคลทั่วไปลงทุนผ่าน Regulation A Tier 2 ของ SEC ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง $500 การลงทุนนี้ไม่ใช่การซื้อของที่ระลึก แต่เป็นการถือหุ้นจริงในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีธีมเกมยุคเรโทรและวัฒนธรรมป๊อปเป็นแกนกลาง

    แม้ชื่อ Atari จะถูกใช้เป็นแบรนด์หลัก แต่โรงแรมนี้ไม่ได้สร้างโดยบริษัท Atari เอง หากเป็นผลงานของ Intersection Development และดีไซเนอร์ räkkhaus ที่ได้รับสิทธิ์ใช้แบรนด์ Atari เพื่อสร้างประสบการณ์แบบ “cyberpunk arena” ที่ผสมผสานเกม เทคโนโลยี และศิลปะเข้าด้วยกัน ภาพเรนเดอร์ของโครงการเผยให้เห็นพื้นที่กว่า 118,770 ตารางฟุต พร้อมสปอร์ตเซ็นเตอร์ ร้านค้า และล็อบบี้ที่เต็มไปด้วย LED walls ขนาดใหญ่

    โครงการนี้มีงบประมาณรวม $124 ล้าน โดยระดมทุนไปแล้ว $14 ล้าน และตั้งเป้าเพิ่มอีก $35–40 ล้าน แต่ตามกฎของ SEC สามารถรับเงินได้สูงสุดถึง $75 ล้าน นักลงทุนจะได้รับสิทธิ์เข้าชมไซต์แบบ virtual ก่อนเปิดจริง และมี “digital brick” ของตัวเองในล็อบบี้ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการลงทุนอสังหาฯ กับวัฒนธรรมแฟนคลับในยุคดิจิทัล

    โรงแรมมีกำหนดเริ่มก่อสร้างในปีหน้า และตั้งเป้าเปิดให้บริการช่วงกลางถึงปลายปี 2028 แม้จะมีความเสี่ยงด้านเงินทุนและความไม่แน่นอนของตลาดอสังหาฯ แต่โครงการนี้สะท้อนความพยายามของแบรนด์ Atari ที่กำลังทดลองเส้นทางใหม่ๆ ตั้งแต่ NFT ไปจนถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ เพื่อฟื้นบทบาทของตนในโลกสมัยใหม่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    โครงการ Atari Hotel เปิดให้บุคคลทั่วไปลงทุน
    ใช้ Regulation A Tier 2 ของ SEC
    เริ่มลงทุนได้ที่ $500 และสูงสุดกว่า $50,000

    โรงแรมธีมเกมและวัฒนธรรมป๊อปมูลค่า $124 ล้าน
    พื้นที่รวม 118,770 ตารางฟุต พร้อมสปอร์ตเซ็นเตอร์และร้านค้า
    ล็อบบี้มี LED walls และงานศิลปะตามธีม Atari

    สิทธิพิเศษสำหรับนักลงทุน
    virtual tour ก่อนเปิดจริง
    “digital brick” ในล็อบบี้เป็นสัญลักษณ์การมีส่วนร่วม

    ความเสี่ยงด้านเงินทุนและการก่อสร้าง
    ต้องการเงินอย่างน้อย ~$8.7M เพื่อให้ข้อเสนอเดินหน้าต่อ
    แม้จะรับได้สูงสุด $75M แต่ยังต้องหาเงินเพิ่มจากแหล่งอื่น

    ความไม่แน่นอนของแบรนด์ Atari ในยุคใหม่
    เคยทดลองธุรกิจหลากหลาย เช่น crypto และ NFT ที่ไม่ประสบความสำเร็จ
    โครงการอาจถูกมองว่าใช้แบรนด์ Atari เพื่อดึงดูดนักลงทุนมากกว่าการสร้างคุณค่าจริง

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/you-can-own-a-piece-of-the-first-usd124-million-atari-hotel-in-phoenix-for-as-little-as-usd500-developer-launches-sec-backed-fundraiser-with-construction-set-to-begin-next-year
    🏨 Atari Hotel เปิดระดมทุนสาธารณะ — โรงแรมธีมเกมยุคคลาสสิกมูลค่า $124M ที่คุณเป็นเจ้าของได้ด้วยเงินเพียง $500 โครงการ Atari Hotel ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 กลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งหลังจากเงียบไปหลายปี โดยตอนนี้โครงการแรกกำลังจะถูกสร้างขึ้นที่ Phoenix, Arizona พร้อมเปิดให้บุคคลทั่วไปลงทุนผ่าน Regulation A Tier 2 ของ SEC ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง $500 การลงทุนนี้ไม่ใช่การซื้อของที่ระลึก แต่เป็นการถือหุ้นจริงในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีธีมเกมยุคเรโทรและวัฒนธรรมป๊อปเป็นแกนกลาง แม้ชื่อ Atari จะถูกใช้เป็นแบรนด์หลัก แต่โรงแรมนี้ไม่ได้สร้างโดยบริษัท Atari เอง หากเป็นผลงานของ Intersection Development และดีไซเนอร์ räkkhaus ที่ได้รับสิทธิ์ใช้แบรนด์ Atari เพื่อสร้างประสบการณ์แบบ “cyberpunk arena” ที่ผสมผสานเกม เทคโนโลยี และศิลปะเข้าด้วยกัน ภาพเรนเดอร์ของโครงการเผยให้เห็นพื้นที่กว่า 118,770 ตารางฟุต พร้อมสปอร์ตเซ็นเตอร์ ร้านค้า และล็อบบี้ที่เต็มไปด้วย LED walls ขนาดใหญ่ โครงการนี้มีงบประมาณรวม $124 ล้าน โดยระดมทุนไปแล้ว $14 ล้าน และตั้งเป้าเพิ่มอีก $35–40 ล้าน แต่ตามกฎของ SEC สามารถรับเงินได้สูงสุดถึง $75 ล้าน นักลงทุนจะได้รับสิทธิ์เข้าชมไซต์แบบ virtual ก่อนเปิดจริง และมี “digital brick” ของตัวเองในล็อบบี้ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการลงทุนอสังหาฯ กับวัฒนธรรมแฟนคลับในยุคดิจิทัล โรงแรมมีกำหนดเริ่มก่อสร้างในปีหน้า และตั้งเป้าเปิดให้บริการช่วงกลางถึงปลายปี 2028 แม้จะมีความเสี่ยงด้านเงินทุนและความไม่แน่นอนของตลาดอสังหาฯ แต่โครงการนี้สะท้อนความพยายามของแบรนด์ Atari ที่กำลังทดลองเส้นทางใหม่ๆ ตั้งแต่ NFT ไปจนถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ เพื่อฟื้นบทบาทของตนในโลกสมัยใหม่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ โครงการ Atari Hotel เปิดให้บุคคลทั่วไปลงทุน ➡️ ใช้ Regulation A Tier 2 ของ SEC ➡️ เริ่มลงทุนได้ที่ $500 และสูงสุดกว่า $50,000 ✅ โรงแรมธีมเกมและวัฒนธรรมป๊อปมูลค่า $124 ล้าน ➡️ พื้นที่รวม 118,770 ตารางฟุต พร้อมสปอร์ตเซ็นเตอร์และร้านค้า ➡️ ล็อบบี้มี LED walls และงานศิลปะตามธีม Atari ✅ สิทธิพิเศษสำหรับนักลงทุน ➡️ virtual tour ก่อนเปิดจริง ➡️ “digital brick” ในล็อบบี้เป็นสัญลักษณ์การมีส่วนร่วม ‼️ ความเสี่ยงด้านเงินทุนและการก่อสร้าง ⛔ ต้องการเงินอย่างน้อย ~$8.7M เพื่อให้ข้อเสนอเดินหน้าต่อ ⛔ แม้จะรับได้สูงสุด $75M แต่ยังต้องหาเงินเพิ่มจากแหล่งอื่น ‼️ ความไม่แน่นอนของแบรนด์ Atari ในยุคใหม่ ⛔ เคยทดลองธุรกิจหลากหลาย เช่น crypto และ NFT ที่ไม่ประสบความสำเร็จ ⛔ โครงการอาจถูกมองว่าใช้แบรนด์ Atari เพื่อดึงดูดนักลงทุนมากกว่าการสร้างคุณค่าจริง https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/you-can-own-a-piece-of-the-first-usd124-million-atari-hotel-in-phoenix-for-as-little-as-usd500-developer-launches-sec-backed-fundraiser-with-construction-set-to-begin-next-year
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • จอมินิ 1.14 นิ้วราคา $10 ที่ใช้ ESP32 — เมื่อจอ “สำหรับมด” กลายเป็นเดสก์ท็อปเสริมจริงๆ

    โปรเจกต์ของ Tucker Shannon แสดงให้เห็นว่าการสร้าง “จอเสริม” ขนาดจิ๋วไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป ด้วยการใช้บอร์ด TENSTAR T‑Display ESP32‑D0WD ซึ่งมีจอ ST7789 ขนาด 1.14 นิ้ว ความละเอียด 135×240 พิกเซลในตัว แม้จะเล็กจนแทบต้องเพ่ง แต่ Shannon สามารถทำให้มันแสดงผลเดสก์ท็อปจริงแบบมิเรอร์จากเครื่องหลักได้อย่างน่าทึ่ง

    หัวใจของระบบคือการจับภาพหน้าจอจากคอมพิวเตอร์ แล้วส่งเฟรมผ่าน Wi‑Fi ไปยัง ESP32 ด้วยโปรโตคอลที่เขาออกแบบเอง โดยส่งเฉพาะ “พิกเซลที่เปลี่ยนไป” ทำให้เมื่อหน้าจอค่อนข้างนิ่ง สามารถเรนเดอร์ได้ถึง 60 FPS แต่ถ้าภาพเคลื่อนไหวมาก เฟรมเรตจะตกลงเหลือประมาณ 5 FPS ซึ่งยังถือว่าเร็วมากสำหรับจอขนาดนี้และข้อจำกัดของไมโครคอนโทรลเลอร์

    บนฝั่ง ESP32 ตัวบอร์ดทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณล้วนๆ ผ่าน SPI โดย Shannon เขียนเฟิร์มแวร์ด้วย Arduino IDE ส่วนฝั่งคอมพิวเตอร์ใช้ Python ทำงานเปรียบเทียบเฟรมก่อนส่ง ทำให้ระบบทั้งหมดทำงานได้แม้มี latency ต่ำกว่า 100 ms บน Wi‑Fi คุณภาพดี ถือว่าเร็วพอสำหรับการแสดงข้อมูลสถานะหรือ dashboard แบบเรียลไทม์

    แม้โปรเจกต์นี้จะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้งานจริงจัง เช่น การทำงานเอกสารหรือเล่นเกม แต่ Shannon ชี้ว่ามันเหมาะมากสำหรับ IoT dashboards, จอแจ้งเตือน, หรือเป็นโปรเจกต์เรียนรู้การสตรีมภาพแบบ low‑bandwidth ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าด้วยความคิดสร้างสรรค์และการเขียนโค้ดที่ฉลาด แม้แต่จอเล็กระดับ “ของเล่น” ก็สามารถกลายเป็นอุปกรณ์จริงได้

    โปรเจกต์ใช้บอร์ด TENSTAR T‑Display ESP32‑D0WD
    มีจอ ST7789 ขนาด 1.14 นิ้ว ความละเอียด 135×240
    ราคาเพียง $11 แต่ทำงานเป็นจอเสริมได้จริง

    ระบบสตรีมภาพผ่าน Wi‑Fi แบบส่งเฉพาะพิกเซลที่เปลี่ยน
    เฟรมเรตสูงสุด ~60 FPS เมื่อภาพนิ่ง
    ลดลงเหลือ ~5 FPS เมื่อภาพเคลื่อนไหวมาก

    โครงสร้างซอฟต์แวร์เรียบง่ายแต่ทรงพลัง
    ESP32 รับเฟรมผ่าน SPI และแสดงผลทันที
    Python บน PC ทำ frame diffing และ batching ก่อนส่ง

    ข้อจำกัดที่ต้องระวัง
    จอเล็กมากจนใช้งานจริงจังไม่ได้
    เฟรมเรตตกหนักเมื่อมีการเคลื่อนไหวเยอะ

    ความเสี่ยงด้านเครือข่ายและ latency
    ประสิทธิภาพขึ้นกับคุณภาพ Wi‑Fi
    หากสัญญาณรบกวนมาก อาจเกิดอาการหน่วงหรือเฟรมขาด

    https://www.tomshardware.com/maker-stem/microcontrollers/maker-builds-tiny-usd10-secondary-1-14-inch-display-using-an-esp32-you-could-play-crysis-on-it-if-you-squint
    🖥️ จอมินิ 1.14 นิ้วราคา $10 ที่ใช้ ESP32 — เมื่อจอ “สำหรับมด” กลายเป็นเดสก์ท็อปเสริมจริงๆ โปรเจกต์ของ Tucker Shannon แสดงให้เห็นว่าการสร้าง “จอเสริม” ขนาดจิ๋วไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป ด้วยการใช้บอร์ด TENSTAR T‑Display ESP32‑D0WD ซึ่งมีจอ ST7789 ขนาด 1.14 นิ้ว ความละเอียด 135×240 พิกเซลในตัว แม้จะเล็กจนแทบต้องเพ่ง แต่ Shannon สามารถทำให้มันแสดงผลเดสก์ท็อปจริงแบบมิเรอร์จากเครื่องหลักได้อย่างน่าทึ่ง หัวใจของระบบคือการจับภาพหน้าจอจากคอมพิวเตอร์ แล้วส่งเฟรมผ่าน Wi‑Fi ไปยัง ESP32 ด้วยโปรโตคอลที่เขาออกแบบเอง โดยส่งเฉพาะ “พิกเซลที่เปลี่ยนไป” ทำให้เมื่อหน้าจอค่อนข้างนิ่ง สามารถเรนเดอร์ได้ถึง 60 FPS แต่ถ้าภาพเคลื่อนไหวมาก เฟรมเรตจะตกลงเหลือประมาณ 5 FPS ซึ่งยังถือว่าเร็วมากสำหรับจอขนาดนี้และข้อจำกัดของไมโครคอนโทรลเลอร์ บนฝั่ง ESP32 ตัวบอร์ดทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณล้วนๆ ผ่าน SPI โดย Shannon เขียนเฟิร์มแวร์ด้วย Arduino IDE ส่วนฝั่งคอมพิวเตอร์ใช้ Python ทำงานเปรียบเทียบเฟรมก่อนส่ง ทำให้ระบบทั้งหมดทำงานได้แม้มี latency ต่ำกว่า 100 ms บน Wi‑Fi คุณภาพดี ถือว่าเร็วพอสำหรับการแสดงข้อมูลสถานะหรือ dashboard แบบเรียลไทม์ แม้โปรเจกต์นี้จะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้งานจริงจัง เช่น การทำงานเอกสารหรือเล่นเกม แต่ Shannon ชี้ว่ามันเหมาะมากสำหรับ IoT dashboards, จอแจ้งเตือน, หรือเป็นโปรเจกต์เรียนรู้การสตรีมภาพแบบ low‑bandwidth ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าด้วยความคิดสร้างสรรค์และการเขียนโค้ดที่ฉลาด แม้แต่จอเล็กระดับ “ของเล่น” ก็สามารถกลายเป็นอุปกรณ์จริงได้ ✅ โปรเจกต์ใช้บอร์ด TENSTAR T‑Display ESP32‑D0WD ➡️ มีจอ ST7789 ขนาด 1.14 นิ้ว ความละเอียด 135×240 ➡️ ราคาเพียง $11 แต่ทำงานเป็นจอเสริมได้จริง ✅ ระบบสตรีมภาพผ่าน Wi‑Fi แบบส่งเฉพาะพิกเซลที่เปลี่ยน ➡️ เฟรมเรตสูงสุด ~60 FPS เมื่อภาพนิ่ง ➡️ ลดลงเหลือ ~5 FPS เมื่อภาพเคลื่อนไหวมาก ✅ โครงสร้างซอฟต์แวร์เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ➡️ ESP32 รับเฟรมผ่าน SPI และแสดงผลทันที ➡️ Python บน PC ทำ frame diffing และ batching ก่อนส่ง ‼️ ข้อจำกัดที่ต้องระวัง ⛔ จอเล็กมากจนใช้งานจริงจังไม่ได้ ⛔ เฟรมเรตตกหนักเมื่อมีการเคลื่อนไหวเยอะ ‼️ ความเสี่ยงด้านเครือข่ายและ latency ⛔ ประสิทธิภาพขึ้นกับคุณภาพ Wi‑Fi ⛔ หากสัญญาณรบกวนมาก อาจเกิดอาการหน่วงหรือเฟรมขาด https://www.tomshardware.com/maker-stem/microcontrollers/maker-builds-tiny-usd10-secondary-1-14-inch-display-using-an-esp32-you-could-play-crysis-on-it-if-you-squint
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • Gemini 3 Pro แซง 2.5 Pro ใน Pokémon Crystal: จุดเปลี่ยนของ “Spatial AI”

    การทดสอบของ Joel แสดงให้เห็นความแตกต่างเชิงคุณภาพระหว่าง Gemini 3 Pro และ Gemini 2.5 Pro เมื่อให้ทั้งสองรุ่นเล่น Pokémon Crystal ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน จุดที่น่าสนใจคือ แม้ทั้งคู่จะเริ่มเกมได้ใกล้เคียงกัน แต่ 3 Pro ค่อยๆ เปิดระยะห่างด้วยความสามารถด้านการรับรู้พื้นที่ การวางแผนล่วงหน้า และการจัดการงานหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งเป็นทักษะที่ 2.5 Pro ยังทำได้ไม่ดีพอ

    ในช่วงต้นเกม ทั้งสองโมเดลผ่านเส้นทางและด่านต่างๆ ได้ใกล้เคียงกัน แต่ 3 Pro ใช้เส้นทางที่มีประสิทธิภาพกว่า ลดการเดินหลงและลดการวนซ้ำโดยไม่จำเป็น เมื่อถึงช่วงสู้กับ Whitney ซึ่งเป็นจุดที่มักทำให้ผู้เล่นต้องฟาร์มเลเวลเพิ่ม 3 Pro กลับจัดการทรัพยากรและการต่อสู้ได้เฉียบคมกว่า ทำให้ผ่านด่านนี้ได้เร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัด

    จุดที่ทำให้ 3 Pro ทิ้งห่างจริงๆ คือ Olivine Lighthouse และ Goldenrod Underground ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องใช้การนำทางแบบซับซ้อนและการแก้ปริศนาแบบไม่มี “safety net” 3 Pro สามารถแบ่งแผนที่เป็นส่วนๆ ทำ marker-aware navigation และวางแผนล่วงหน้าได้หลายก้าว ขณะที่ 2.5 Pro มักติดลูปหรือเดินผิดซ้ำๆ

    ท้ายที่สุด ในการทดสอบ “Final Exam: Red” ซึ่งเป็นบอสที่ยากที่สุดของเกม 3 Pro แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้าน vision และการวิเคราะห์สถานการณ์แบบเรียลไทม์ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน แม้จะยังมีจุดอ่อนบางอย่าง แต่ภาพรวมคือ 3 Pro เป็นก้าวกระโดดด้าน “agentic gameplay” ที่เริ่มเข้าใกล้ความสามารถของผู้เล่นมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Gemini 3 Pro มีความเข้าใจพื้นที่เหนือกว่า
    แบ่งแผนที่เป็นโซนและนำทางได้แม่นยำ
    ลดการเดินหลงและลดลูปซ้ำๆ

    การวางแผนล่วงหน้าและการจัดการงานหลายอย่างดีขึ้น
    ควบคุมการฟาร์มเลเวลและการต่อสู้ได้มีประสิทธิภาพ
    ทำ marker-aware navigation ได้จริงในเกม

    ผ่านด่านซับซ้อนได้ดีกว่า 2.5 Pro
    Olivine Lighthouse และ Goldenrod Underground เป็นจุดที่เห็นความต่างชัด
    ใช้กลยุทธ์แบบผู้เล่นมนุษย์มากขึ้น

    จุดอ่อนที่ยังพบใน Gemini 3 Pro
    ยังมีบางสถานการณ์ที่ติดลูปหรืออ่านบริบทผิด
    การวางแผนบางครั้งยังไม่เสถียรในพื้นที่ที่มีตัวแปรสูง

    ความเสี่ยงของการพึ่งพา Vision Model ในเกมจริง
    หากสภาพภาพไม่ชัดหรือมี noise อาจทำให้ตัดสินใจผิด
    เกมที่มี UI ซับซ้อนกว่านี้อาจทำให้โมเดลสับสนได้

    https://blog.jcz.dev/gemini-3-pro-vs-25-pro-in-pokemon-crystal
    🎮 Gemini 3 Pro แซง 2.5 Pro ใน Pokémon Crystal: จุดเปลี่ยนของ “Spatial AI” การทดสอบของ Joel แสดงให้เห็นความแตกต่างเชิงคุณภาพระหว่าง Gemini 3 Pro และ Gemini 2.5 Pro เมื่อให้ทั้งสองรุ่นเล่น Pokémon Crystal ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน จุดที่น่าสนใจคือ แม้ทั้งคู่จะเริ่มเกมได้ใกล้เคียงกัน แต่ 3 Pro ค่อยๆ เปิดระยะห่างด้วยความสามารถด้านการรับรู้พื้นที่ การวางแผนล่วงหน้า และการจัดการงานหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งเป็นทักษะที่ 2.5 Pro ยังทำได้ไม่ดีพอ ในช่วงต้นเกม ทั้งสองโมเดลผ่านเส้นทางและด่านต่างๆ ได้ใกล้เคียงกัน แต่ 3 Pro ใช้เส้นทางที่มีประสิทธิภาพกว่า ลดการเดินหลงและลดการวนซ้ำโดยไม่จำเป็น เมื่อถึงช่วงสู้กับ Whitney ซึ่งเป็นจุดที่มักทำให้ผู้เล่นต้องฟาร์มเลเวลเพิ่ม 3 Pro กลับจัดการทรัพยากรและการต่อสู้ได้เฉียบคมกว่า ทำให้ผ่านด่านนี้ได้เร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัด จุดที่ทำให้ 3 Pro ทิ้งห่างจริงๆ คือ Olivine Lighthouse และ Goldenrod Underground ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องใช้การนำทางแบบซับซ้อนและการแก้ปริศนาแบบไม่มี “safety net” 3 Pro สามารถแบ่งแผนที่เป็นส่วนๆ ทำ marker-aware navigation และวางแผนล่วงหน้าได้หลายก้าว ขณะที่ 2.5 Pro มักติดลูปหรือเดินผิดซ้ำๆ ท้ายที่สุด ในการทดสอบ “Final Exam: Red” ซึ่งเป็นบอสที่ยากที่สุดของเกม 3 Pro แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้าน vision และการวิเคราะห์สถานการณ์แบบเรียลไทม์ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน แม้จะยังมีจุดอ่อนบางอย่าง แต่ภาพรวมคือ 3 Pro เป็นก้าวกระโดดด้าน “agentic gameplay” ที่เริ่มเข้าใกล้ความสามารถของผู้เล่นมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Gemini 3 Pro มีความเข้าใจพื้นที่เหนือกว่า ➡️ แบ่งแผนที่เป็นโซนและนำทางได้แม่นยำ ➡️ ลดการเดินหลงและลดลูปซ้ำๆ ✅ การวางแผนล่วงหน้าและการจัดการงานหลายอย่างดีขึ้น ➡️ ควบคุมการฟาร์มเลเวลและการต่อสู้ได้มีประสิทธิภาพ ➡️ ทำ marker-aware navigation ได้จริงในเกม ✅ ผ่านด่านซับซ้อนได้ดีกว่า 2.5 Pro ➡️ Olivine Lighthouse และ Goldenrod Underground เป็นจุดที่เห็นความต่างชัด ➡️ ใช้กลยุทธ์แบบผู้เล่นมนุษย์มากขึ้น ‼️ จุดอ่อนที่ยังพบใน Gemini 3 Pro ⛔ ยังมีบางสถานการณ์ที่ติดลูปหรืออ่านบริบทผิด ⛔ การวางแผนบางครั้งยังไม่เสถียรในพื้นที่ที่มีตัวแปรสูง ‼️ ความเสี่ยงของการพึ่งพา Vision Model ในเกมจริง ⛔ หากสภาพภาพไม่ชัดหรือมี noise อาจทำให้ตัดสินใจผิด ⛔ เกมที่มี UI ซับซ้อนกว่านี้อาจทำให้โมเดลสับสนได้ https://blog.jcz.dev/gemini-3-pro-vs-25-pro-in-pokemon-crystal
    BLOG.JCZ.DEV
    How Gemini 3 Pro Beat Pokemon Crystal (and 2.5 Pro didn't)
    From 2.5 Pro's lighthouse loop to 3 Pro's "Zombie Phoenix" strategy against Red: a full breakdown of why Gemini 3 Pro is a superior long-horizon agent.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • จินนี่ ตอนที่ 1

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่”
    ตอน 1
    ตั้งชื่อแบบนี่ อย่านึกว่าผมจะเขียนเรื่องดารานะครับ ยังไม่อยากดังแข่งกับซ้อ….
    จีนนี่ หรือ Genie Energy เป็นชื่อ ของบริษัทน้ำมัน ที่มีเซียนระดับโลก ด้านยุทธศาสตร์การเมืองเขาว่า มันอาจจะเป็นตัวจุดระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ตัวจริงก็ได้ และถ้าจับมาโยงกับเรื่องซีเรีย ฮู้ย… มันยกร่อง เห็นไส้เน่าลากยาวไปถึงไหนๆ ไม่ทำความรู้จัก “จีนนี่” เอาไว้ เดี๋ยวเชยตาย.. อายเขาแย่
    เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา (ค.ศ.2015) ระหว่างที่ ฝูงเครื่องบินรบของคุณพี่ปูติน กำลังบินขึ้น บินลง วันละไม่รู้กี่เที่ยว ไล่ถล่มรังไอซิสราบไปเป็นแถบๆ (แต่สื่อตะวันตกไม่ลงให้หรอก เดี๋ยวคุณพี่ปูตินแกจะหล่อมากไป) นาย Yuval Bartov หัวหน้านักธรณีวิทยาประจำบริษัท Afek Oil & Gas ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Genie ก็ไปออกโทรทัศน์ของอิสราเอล ทำเสียงทุ้มบอกว่า ตอนนี้บริษัทของเขาได้พบแหล่งน้ำมันใหญ่มากกกก ในที่ราบสูงโกลาน Golan Heights
    … เสียงทุ้ม โม้ต่ออย่างตื่นเต้นว่า เราเจอน้ำมัน shale oil ใต้ชั้นหินดินดาน ที่หนาถึง 350 เมตร อยู่ที่ด้านใต้ของที่ราบสูงโกลาน ซึ่งโดยทั่วไปหินดินดาน ที่มีน้ำมันแบบนี้ ที่เจอกันส่วนใหญ่จะหนาแค่ประมาณ 20 ถึง 30 เมตรเท่านั้น นี่มันหนา 10 เท่าเชียวนะ เรากำลังเจออะไรที่มันมหึมา และน่าจะปริมาณที่มหาศาล… โอ้ย ตื่นเต้น ตื่นเต้น
    อิสราเอลนี่ โชคดีชะมัด แบบนี้ยิวคงโม้ไม่หยุดว่า พระเจ้าได้ประทานของขวัญชิ้นใหญ่ให้ยิวผู้ซึ่งเป็นชนพันธุ์พิเศษ เอะ แต่ที่ราบสูงโกลานเป็นของยิวแน่หรือครับ ใจคอคิดจะงาบของเขาไปง่ายๆแบบนี้ เจ้าของเขาจะยอมหรือครับ ไม่ใช่ของชิ้นเล็กวางโชว์ เดินผ่าน ก็ยื่นมือฉวยเอาเข้ากระเป๋ากันง่ายๆแบบนั้นนะ ไอ้แบบนั้นก็กุ๊ยแย่พอแล้ว นี่มันแหล่งน้ำมันนะครับ แล้วเป็นแหล่งตั้งใหญ่โตมโหฬารอย่างนี้
    ในปี ค.ศ.1967 กลุ่มประเทศที่มีบริเวณใกล้ชิดกับอิสราเอล คือ อียิปต์ ซีเรีย จอร์แดน ออกอาการเหม็นเบื่อยิว จึงมีการแอบเหยียบตีน หรือยื่นศอกไปซัดกันอยู่เรื่อย อิสราเอล ได้ลูกยุจากฝั่งอเมริกาที่กำลั งกร่างสุด สั่งให้นายพลโมเช่ดายัน ทำหน้าที่พระเอก ยกทัพไปลุยอียิปต์ ที่นำโดยนายพลกามาล นัสเซอร์ พระเอกอีกคน ที่เป็นเพื่อนรักของโซเวียต โดยมี ซีเรีย อิรัค กับจอร์แดน ถือหางข้างอียิปต์ เอาละสิ
    ผลปรากฏว่า อิสราเอลคงมีของดี รบแค่ 6 วัน อียิปต์ถอยกรูด ทำให้ อิสราเอลโม้เรื่องสงคราม 6 วันนี้ไม่เลิก แต่คนที่น่าจะยังจำเรื่องนี้ดี คือ รัสเซีย ที่เป็นลูกพี่ใหญ่ของอียิปต์ และซีเรียในช่วงนั้น เห็นไหมครับ บางเรื่อง มันมีที่มาเยอะ ไม่รู้เรื่องเก่าๆ ก็อาจจะไม่รู้ว่าเรื่องใหม่ที่เขากำลังเล่นกันนั้น จะเล่นกันยาวไกลย้อนเกล็ดกันหนักหนาขนาดไหน
    อิสราเอลนั้น พอรบชนะ ก็ตัวยืดเบ่งกล้าม ถือโอกาสยึดครองพื้นที่ของซีเรียไป 460 ตารางไมล์ตามแนวเขตแดนของซีเรีย โดยรวมเอาที่ราบสูงโกลานของซีเรียไปด้วยอย่างหน้าตาเฉย หรือเขาเรียกว่า หน้าด้าน ผมไม่แน่ใจ
    ที่ราบสูงโกลานในตอนนั้น ก็มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์แล้ว อย่างแรก
    โกลาน มีแหล่งน้ำจืดใหญ่ ที่ไหลลงมาตามแม่น้ำจอร์แดน เลี้ยงหลายประเทศในแถบนั้น รวมทั้งเลี้ยงอิสราเอลด้วย อย่าลืมว่าตะวันออกกลางเป็นทะเลทราย คงหาน้ำจืดยาก แม้คนแถบนั้นจะเคยเป็นคนเลี้ยงอูฐกันมาก่อน ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเก็บน้ำไว้ในหนอกคอตัวเองได้อย่างอูฐ น้ำจืดจึงเป็นสิ่งมีค่ามากสำหรับพวกเขา แต่ดันมีไอ้คนใจดำ ยึดน้ำจืด ของชาวบ้านเขาไปอย่างหน้าด้านๆ
    นอกจากนี้ ถ้าเอาเครื่องมือจารกรรม จะแบบลูกกอล์ฟยักษ์ ที่ชอบใช้กันนัก หรือจานใบใหญ่ ไปตั้งไว้บนที่ราบสูงโกลาน ที่อยู่หน้าบ้านดามัสคัส เมืองหลวงของซีเรีย อิสราเอลก็คงเห็นหนังสด ทั้งภาพทั้งเสียงในดามัสคัสชัดเจน แจ๋วแหวว ล้างหูล้างตามั่งนะคุณยิว
    ดูหนังสดข้างบ้านจนติดใจ ในปี ค.ศ.1981 อิสราเอล เลยออกกฏหมาย กำหนดให้ที่ราบสูงโกลานเป็นของตัว อยู่ภายใต้บังคับกฏหมาย และการปกครองของอิสราเอล แม้ว่าจะมีมติของสหประชาชาติที่ 242 ตั้งแต่ปี ค.ศ.1967 บอกว่า การครอบครองที่ราบสูงโกลานของอิสราเอล ไม่ชอบด้วยหลักกฏหมายระหว่างประเทศ ให้อิสราเอลถอนการครอบครองออก ไปจากบริเวณนั้น แต่อิสราเอลไม่สนใจ จะต้องสนใจทำไม ก็ลูกพี่อเมริกา ไม่เห็นว่าอะไรเลย นี่… ให้มันรู้กันเสียบ้างว่า ข้างกูทำได้ทั้งนั้น ไม่มีผิด ไม่มีคว่ำบาตร แต่ข้างมึงอย่า.. เชียวนะ ทีนี้ใครอย่ามาอ้างเรื่องมติสหประชาชาติกับผมนะ ผมจะด่าให้หงายเงิบเลย ( ผมใช้ศัพท์สมัยใหม่แล้วนะ ใช้ถูกไหมครับ)
    ถึงปี ค.ศ.2008 สหประชาชาติ เอาใหม่ มีมติที่ 161-1 ยืนยัน มติเดิม ให้อิสราเอลคืนพื้นที่ให้แก่ซีเรีย และให้กฏหมายที่อิสราเอลออกใช้บังคับ เมื่อปี ค.ศ.1981 นั้นไม่มีผลใช้บังคับ และให้อิสราเอล ทำการปรับพื้นที่บนที่ราบสูงโกลาน กลับสู่สภาพเดิมทั้งหมด และยุติการครอบครอง การก่อสร้าง และยุติการบังคับให้ชาวซีเรียที่อยู่ในพื้นราบสูงโกลาน มาถือสัญชาติและใช้บัตรประจำตัวของอิสราเอลอีกด้วย โห…สั่งได้เข้ม เห็นภาพเลยว่า ชาวซีเรียนี่โดนข่มขืนย่ำยีใน ศักดิ์ศรี ของความเป็นชาติของเขามานานแล้วนะ แล้วเราเคยรู้เรื่องนี้กันไหมครับ ไม่รู้แน่นอน เพราะสื่อกระป๋องสีไม่ว่ายี่ห้อไหน จะออกข่าวแต่เรื่องอัสสาดเป็นเผด็จการ ตามใบสั่งเท่านั้น
    แล้วตกลงมติเข้มของสหประชาชาติได้ผลไหม มีใครทำอะไรอิสราเอลได้ไหม ไม่น่าถาม ไม่มีครับ ใครจะกล้า ลูกพี่ใหญ่ยืนจังก้าอยู่ข้างหลัง เห็นความเป็นธรรมชัดเจนจัง แบบนี้ยังมาพล่ามเรื่อง
    ธรรมาภิบาล สิทธิมนุษยชน ถุด…เดี๋ยวรื้อเรื่องเขาพระวิหารมาเล่นใหม่เสียหรอก
    ตกลงเห็นหน้าเห็นตัวกันแล้วนะครับว่า ใครเป็นเจ้าของตัวจริงของที่ราบสูง
    โกลาน ที่เพิ่งมีการเจอแหล่งน้ำมันมหึมา ไม่ใช่ไอ้ตัวที่ไปงาบเขามา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1967
    และแม้สหประชาชาติ จะมีมติให้อิสราเอลคืนที่ราบสูงโกลาน ให้กับซีเรีย นอกจากอิสราเอลจะไม่สนใจแล้ว อิสราเอลยังเดินหน้ามอบสัมปทานบนพื้นที่ดังกล่าวให้บริษัท จีนนี่ อีกด้วย แน่จริงๆ
    แต่ที่แน่กว่านั้น มันเป็นการให้สัมปทานในปี ค.ศ.2013 ในช่วงเวลาที่ซีเรียกำลังถูกรุมกินโต๊ะ และหนึ่งในผู้รุมกินก็คือ อิสราเอล มันเป็นการวางจังหวะ การรุมกินโต๊ะ และการให้สัมปทาน ที่ได้เวลาอย่างที่อัสสาดไม่มีทางประท้วง หรือต่อสู้อะไรเลย เพราะตัวเองก็ยังแทบจะเอาไม่รอดอยู่แล้ว คนวางแผนรายการนี้ ฝีมือร้ายกาจมาก
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    3 พ.ย. 2558
    จินนี่ ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่” ตอน 1 ตั้งชื่อแบบนี่ อย่านึกว่าผมจะเขียนเรื่องดารานะครับ ยังไม่อยากดังแข่งกับซ้อ…. จีนนี่ หรือ Genie Energy เป็นชื่อ ของบริษัทน้ำมัน ที่มีเซียนระดับโลก ด้านยุทธศาสตร์การเมืองเขาว่า มันอาจจะเป็นตัวจุดระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ตัวจริงก็ได้ และถ้าจับมาโยงกับเรื่องซีเรีย ฮู้ย… มันยกร่อง เห็นไส้เน่าลากยาวไปถึงไหนๆ ไม่ทำความรู้จัก “จีนนี่” เอาไว้ เดี๋ยวเชยตาย.. อายเขาแย่ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา (ค.ศ.2015) ระหว่างที่ ฝูงเครื่องบินรบของคุณพี่ปูติน กำลังบินขึ้น บินลง วันละไม่รู้กี่เที่ยว ไล่ถล่มรังไอซิสราบไปเป็นแถบๆ (แต่สื่อตะวันตกไม่ลงให้หรอก เดี๋ยวคุณพี่ปูตินแกจะหล่อมากไป) นาย Yuval Bartov หัวหน้านักธรณีวิทยาประจำบริษัท Afek Oil & Gas ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Genie ก็ไปออกโทรทัศน์ของอิสราเอล ทำเสียงทุ้มบอกว่า ตอนนี้บริษัทของเขาได้พบแหล่งน้ำมันใหญ่มากกกก ในที่ราบสูงโกลาน Golan Heights … เสียงทุ้ม โม้ต่ออย่างตื่นเต้นว่า เราเจอน้ำมัน shale oil ใต้ชั้นหินดินดาน ที่หนาถึง 350 เมตร อยู่ที่ด้านใต้ของที่ราบสูงโกลาน ซึ่งโดยทั่วไปหินดินดาน ที่มีน้ำมันแบบนี้ ที่เจอกันส่วนใหญ่จะหนาแค่ประมาณ 20 ถึง 30 เมตรเท่านั้น นี่มันหนา 10 เท่าเชียวนะ เรากำลังเจออะไรที่มันมหึมา และน่าจะปริมาณที่มหาศาล… โอ้ย ตื่นเต้น ตื่นเต้น อิสราเอลนี่ โชคดีชะมัด แบบนี้ยิวคงโม้ไม่หยุดว่า พระเจ้าได้ประทานของขวัญชิ้นใหญ่ให้ยิวผู้ซึ่งเป็นชนพันธุ์พิเศษ เอะ แต่ที่ราบสูงโกลานเป็นของยิวแน่หรือครับ ใจคอคิดจะงาบของเขาไปง่ายๆแบบนี้ เจ้าของเขาจะยอมหรือครับ ไม่ใช่ของชิ้นเล็กวางโชว์ เดินผ่าน ก็ยื่นมือฉวยเอาเข้ากระเป๋ากันง่ายๆแบบนั้นนะ ไอ้แบบนั้นก็กุ๊ยแย่พอแล้ว นี่มันแหล่งน้ำมันนะครับ แล้วเป็นแหล่งตั้งใหญ่โตมโหฬารอย่างนี้ ในปี ค.ศ.1967 กลุ่มประเทศที่มีบริเวณใกล้ชิดกับอิสราเอล คือ อียิปต์ ซีเรีย จอร์แดน ออกอาการเหม็นเบื่อยิว จึงมีการแอบเหยียบตีน หรือยื่นศอกไปซัดกันอยู่เรื่อย อิสราเอล ได้ลูกยุจากฝั่งอเมริกาที่กำลั งกร่างสุด สั่งให้นายพลโมเช่ดายัน ทำหน้าที่พระเอก ยกทัพไปลุยอียิปต์ ที่นำโดยนายพลกามาล นัสเซอร์ พระเอกอีกคน ที่เป็นเพื่อนรักของโซเวียต โดยมี ซีเรีย อิรัค กับจอร์แดน ถือหางข้างอียิปต์ เอาละสิ ผลปรากฏว่า อิสราเอลคงมีของดี รบแค่ 6 วัน อียิปต์ถอยกรูด ทำให้ อิสราเอลโม้เรื่องสงคราม 6 วันนี้ไม่เลิก แต่คนที่น่าจะยังจำเรื่องนี้ดี คือ รัสเซีย ที่เป็นลูกพี่ใหญ่ของอียิปต์ และซีเรียในช่วงนั้น เห็นไหมครับ บางเรื่อง มันมีที่มาเยอะ ไม่รู้เรื่องเก่าๆ ก็อาจจะไม่รู้ว่าเรื่องใหม่ที่เขากำลังเล่นกันนั้น จะเล่นกันยาวไกลย้อนเกล็ดกันหนักหนาขนาดไหน อิสราเอลนั้น พอรบชนะ ก็ตัวยืดเบ่งกล้าม ถือโอกาสยึดครองพื้นที่ของซีเรียไป 460 ตารางไมล์ตามแนวเขตแดนของซีเรีย โดยรวมเอาที่ราบสูงโกลานของซีเรียไปด้วยอย่างหน้าตาเฉย หรือเขาเรียกว่า หน้าด้าน ผมไม่แน่ใจ ที่ราบสูงโกลานในตอนนั้น ก็มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์แล้ว อย่างแรก โกลาน มีแหล่งน้ำจืดใหญ่ ที่ไหลลงมาตามแม่น้ำจอร์แดน เลี้ยงหลายประเทศในแถบนั้น รวมทั้งเลี้ยงอิสราเอลด้วย อย่าลืมว่าตะวันออกกลางเป็นทะเลทราย คงหาน้ำจืดยาก แม้คนแถบนั้นจะเคยเป็นคนเลี้ยงอูฐกันมาก่อน ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเก็บน้ำไว้ในหนอกคอตัวเองได้อย่างอูฐ น้ำจืดจึงเป็นสิ่งมีค่ามากสำหรับพวกเขา แต่ดันมีไอ้คนใจดำ ยึดน้ำจืด ของชาวบ้านเขาไปอย่างหน้าด้านๆ นอกจากนี้ ถ้าเอาเครื่องมือจารกรรม จะแบบลูกกอล์ฟยักษ์ ที่ชอบใช้กันนัก หรือจานใบใหญ่ ไปตั้งไว้บนที่ราบสูงโกลาน ที่อยู่หน้าบ้านดามัสคัส เมืองหลวงของซีเรีย อิสราเอลก็คงเห็นหนังสด ทั้งภาพทั้งเสียงในดามัสคัสชัดเจน แจ๋วแหวว ล้างหูล้างตามั่งนะคุณยิว ดูหนังสดข้างบ้านจนติดใจ ในปี ค.ศ.1981 อิสราเอล เลยออกกฏหมาย กำหนดให้ที่ราบสูงโกลานเป็นของตัว อยู่ภายใต้บังคับกฏหมาย และการปกครองของอิสราเอล แม้ว่าจะมีมติของสหประชาชาติที่ 242 ตั้งแต่ปี ค.ศ.1967 บอกว่า การครอบครองที่ราบสูงโกลานของอิสราเอล ไม่ชอบด้วยหลักกฏหมายระหว่างประเทศ ให้อิสราเอลถอนการครอบครองออก ไปจากบริเวณนั้น แต่อิสราเอลไม่สนใจ จะต้องสนใจทำไม ก็ลูกพี่อเมริกา ไม่เห็นว่าอะไรเลย นี่… ให้มันรู้กันเสียบ้างว่า ข้างกูทำได้ทั้งนั้น ไม่มีผิด ไม่มีคว่ำบาตร แต่ข้างมึงอย่า.. เชียวนะ ทีนี้ใครอย่ามาอ้างเรื่องมติสหประชาชาติกับผมนะ ผมจะด่าให้หงายเงิบเลย ( ผมใช้ศัพท์สมัยใหม่แล้วนะ ใช้ถูกไหมครับ) ถึงปี ค.ศ.2008 สหประชาชาติ เอาใหม่ มีมติที่ 161-1 ยืนยัน มติเดิม ให้อิสราเอลคืนพื้นที่ให้แก่ซีเรีย และให้กฏหมายที่อิสราเอลออกใช้บังคับ เมื่อปี ค.ศ.1981 นั้นไม่มีผลใช้บังคับ และให้อิสราเอล ทำการปรับพื้นที่บนที่ราบสูงโกลาน กลับสู่สภาพเดิมทั้งหมด และยุติการครอบครอง การก่อสร้าง และยุติการบังคับให้ชาวซีเรียที่อยู่ในพื้นราบสูงโกลาน มาถือสัญชาติและใช้บัตรประจำตัวของอิสราเอลอีกด้วย โห…สั่งได้เข้ม เห็นภาพเลยว่า ชาวซีเรียนี่โดนข่มขืนย่ำยีใน ศักดิ์ศรี ของความเป็นชาติของเขามานานแล้วนะ แล้วเราเคยรู้เรื่องนี้กันไหมครับ ไม่รู้แน่นอน เพราะสื่อกระป๋องสีไม่ว่ายี่ห้อไหน จะออกข่าวแต่เรื่องอัสสาดเป็นเผด็จการ ตามใบสั่งเท่านั้น แล้วตกลงมติเข้มของสหประชาชาติได้ผลไหม มีใครทำอะไรอิสราเอลได้ไหม ไม่น่าถาม ไม่มีครับ ใครจะกล้า ลูกพี่ใหญ่ยืนจังก้าอยู่ข้างหลัง เห็นความเป็นธรรมชัดเจนจัง แบบนี้ยังมาพล่ามเรื่อง ธรรมาภิบาล สิทธิมนุษยชน ถุด…เดี๋ยวรื้อเรื่องเขาพระวิหารมาเล่นใหม่เสียหรอก ตกลงเห็นหน้าเห็นตัวกันแล้วนะครับว่า ใครเป็นเจ้าของตัวจริงของที่ราบสูง โกลาน ที่เพิ่งมีการเจอแหล่งน้ำมันมหึมา ไม่ใช่ไอ้ตัวที่ไปงาบเขามา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1967 และแม้สหประชาชาติ จะมีมติให้อิสราเอลคืนที่ราบสูงโกลาน ให้กับซีเรีย นอกจากอิสราเอลจะไม่สนใจแล้ว อิสราเอลยังเดินหน้ามอบสัมปทานบนพื้นที่ดังกล่าวให้บริษัท จีนนี่ อีกด้วย แน่จริงๆ แต่ที่แน่กว่านั้น มันเป็นการให้สัมปทานในปี ค.ศ.2013 ในช่วงเวลาที่ซีเรียกำลังถูกรุมกินโต๊ะ และหนึ่งในผู้รุมกินก็คือ อิสราเอล มันเป็นการวางจังหวะ การรุมกินโต๊ะ และการให้สัมปทาน ที่ได้เวลาอย่างที่อัสสาดไม่มีทางประท้วง หรือต่อสู้อะไรเลย เพราะตัวเองก็ยังแทบจะเอาไม่รอดอยู่แล้ว คนวางแผนรายการนี้ ฝีมือร้ายกาจมาก สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 3 พ.ย. 2558
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • Flock และ Cyble ใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” เป็นอาวุธเพื่อปิดปากนักวิจารณ์

    ในเหตุการณ์ที่สะท้อนปัญหาความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐและบริษัทเทคโนโลยี Cyble Inc. ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้ “Disrupt Cybercrime” ได้ยื่นรายงานเท็จต่อ Cloudflare เพื่อให้ลบเว็บไซต์ HaveIBeenFlocked ออกจากอินเทอร์เน็ต โดยอ้างว่ามีการ “ฟิชชิง” และ “ละเมิดเครื่องหมายการค้า” ทั้งที่เนื้อหาบนเว็บไซต์เป็นเพียงการเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวังของ Flock

    รายงานที่ Cyble ส่งไปเต็มไปด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่ชัดเจน ตั้งแต่การกล่าวหาว่าเว็บไซต์เป็นของปลอม ไปจนถึงการอ้างว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลที่ “ได้มาจาก Flock” ทั้งที่ข้อมูลเหล่านั้นเป็นบันทึกสาธารณะอยู่แล้ว ผู้เขียนบทความตั้งข้อสังเกตว่าการกล่าวหาแบบหว่านแหเช่นนี้อาจเป็นความพยายามปิดปากผู้วิจารณ์มากกว่าจะเป็นการป้องกันภัยไซเบอร์จริงๆ

    Cloudflare เองตอบกลับด้วยคำขอให้แสดงหลักฐานว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสาธารณะหรือได้รับความยินยอม ซึ่งผู้เขียนมองว่าเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิงเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายเว็บไซต์ได้ย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare และยังคงเผยแพร่ข้อมูลต่อไป โดยผู้เขียนย้ำว่าจะไม่ยอมให้การคุกคามเช่นนี้หยุดการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและบริษัทเอกชน

    เหตุการณ์นี้สะท้อนแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก: บริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบเฝ้าระวังพยายามใช้กฎหมายไซเบอร์หรือข้อกล่าวหาเท็จเพื่อปิดกั้นการตรวจสอบสาธารณะ ซึ่งเป็นประเด็นที่นักสิทธิมนุษยชนและองค์กรตรวจสอบหลายแห่งจับตามองอย่างใกล้ชิด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Cyble ส่งรายงานเท็จเพื่อให้ลบเว็บไซต์ออกจากอินเทอร์เน็ต
    กล่าวหาว่าเว็บไซต์ฟิชชิงและละเมิดเครื่องหมายการค้า
    ข้อกล่าวหาไม่สอดคล้องกับเนื้อหาจริงบนเว็บไซต์

    เป้าหมายคือการปิดปากผู้วิจารณ์ Flock
    เว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวัง
    การกล่าวหาอาจเป็นความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นจากการตรวจสอบ

    Cloudflare ขอหลักฐานเพิ่มเติมแต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่แท้จริง
    คำถามของ Cloudflare ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิง
    เว็บไซต์จึงย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare

    ความเสี่ยงต่อเสรีภาพในการตรวจสอบอำนาจรัฐและบริษัทเทคโนโลยี
    การใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” แบบผิดๆ อาจกลายเป็นเครื่องมือปิดปากสาธารณะ
    แนวโน้มนี้อาจขยายไปสู่การคุกคามผู้สื่อข่าว นักวิจัย และนักสิทธิมนุษยชน

    ผลกระทบต่อความโปร่งใสของระบบเฝ้าระวัง
    หากบริษัทสามารถปิดกั้นข้อมูลได้ง่าย ความรับผิดชอบต่อสังคมจะลดลง
    สังคมอาจไม่สามารถตรวจสอบการใช้อำนาจที่เกินขอบเขตของรัฐหรือเอกชนได้

    https://haveibeenflocked.com/news/cyble-downtime
    🛡️ Flock และ Cyble ใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” เป็นอาวุธเพื่อปิดปากนักวิจารณ์ ในเหตุการณ์ที่สะท้อนปัญหาความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐและบริษัทเทคโนโลยี Cyble Inc. ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้ “Disrupt Cybercrime” ได้ยื่นรายงานเท็จต่อ Cloudflare เพื่อให้ลบเว็บไซต์ HaveIBeenFlocked ออกจากอินเทอร์เน็ต โดยอ้างว่ามีการ “ฟิชชิง” และ “ละเมิดเครื่องหมายการค้า” ทั้งที่เนื้อหาบนเว็บไซต์เป็นเพียงการเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวังของ Flock รายงานที่ Cyble ส่งไปเต็มไปด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่ชัดเจน ตั้งแต่การกล่าวหาว่าเว็บไซต์เป็นของปลอม ไปจนถึงการอ้างว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลที่ “ได้มาจาก Flock” ทั้งที่ข้อมูลเหล่านั้นเป็นบันทึกสาธารณะอยู่แล้ว ผู้เขียนบทความตั้งข้อสังเกตว่าการกล่าวหาแบบหว่านแหเช่นนี้อาจเป็นความพยายามปิดปากผู้วิจารณ์มากกว่าจะเป็นการป้องกันภัยไซเบอร์จริงๆ Cloudflare เองตอบกลับด้วยคำขอให้แสดงหลักฐานว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสาธารณะหรือได้รับความยินยอม ซึ่งผู้เขียนมองว่าเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิงเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายเว็บไซต์ได้ย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare และยังคงเผยแพร่ข้อมูลต่อไป โดยผู้เขียนย้ำว่าจะไม่ยอมให้การคุกคามเช่นนี้หยุดการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและบริษัทเอกชน เหตุการณ์นี้สะท้อนแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก: บริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบเฝ้าระวังพยายามใช้กฎหมายไซเบอร์หรือข้อกล่าวหาเท็จเพื่อปิดกั้นการตรวจสอบสาธารณะ ซึ่งเป็นประเด็นที่นักสิทธิมนุษยชนและองค์กรตรวจสอบหลายแห่งจับตามองอย่างใกล้ชิด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Cyble ส่งรายงานเท็จเพื่อให้ลบเว็บไซต์ออกจากอินเทอร์เน็ต ➡️ กล่าวหาว่าเว็บไซต์ฟิชชิงและละเมิดเครื่องหมายการค้า ➡️ ข้อกล่าวหาไม่สอดคล้องกับเนื้อหาจริงบนเว็บไซต์ ✅ เป้าหมายคือการปิดปากผู้วิจารณ์ Flock ➡️ เว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวัง ➡️ การกล่าวหาอาจเป็นความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นจากการตรวจสอบ ✅ Cloudflare ขอหลักฐานเพิ่มเติมแต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่แท้จริง ➡️ คำถามของ Cloudflare ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิง ➡️ เว็บไซต์จึงย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare ‼️ ความเสี่ยงต่อเสรีภาพในการตรวจสอบอำนาจรัฐและบริษัทเทคโนโลยี ⛔ การใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” แบบผิดๆ อาจกลายเป็นเครื่องมือปิดปากสาธารณะ ⛔ แนวโน้มนี้อาจขยายไปสู่การคุกคามผู้สื่อข่าว นักวิจัย และนักสิทธิมนุษยชน ‼️ ผลกระทบต่อความโปร่งใสของระบบเฝ้าระวัง ⛔ หากบริษัทสามารถปิดกั้นข้อมูลได้ง่าย ความรับผิดชอบต่อสังคมจะลดลง ⛔ สังคมอาจไม่สามารถตรวจสอบการใช้อำนาจที่เกินขอบเขตของรัฐหรือเอกชนได้ https://haveibeenflocked.com/news/cyble-downtime
    HAVEIBEENFLOCKED.COM
    Have I Been Flocked? - License Plate Privacy Check
    Check if your license plate has been searched in the Flock mass surveillance database
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • MPV 0.41 มาแล้ว: ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของวิดีโอเพลเยอร์สายโอเพ่นซอร์สบน Wayland

    MPV 0.41 เปิดตัวพร้อมการปรับปรุงสำคัญด้าน Wayland ซึ่งเป็นหัวใจของเดสก์ท็อป Linux ยุคใหม่ การอัปเดตครั้งนี้ช่วยให้การเรนเดอร์ภาพลื่นไหลขึ้น ลด input latency และแก้ปัญหาการจัดการหน้าต่างที่เคยเป็นข้อจำกัดในเวอร์ชันก่อนหน้า การพัฒนา Wayland ecosystem ที่เร็วขึ้นในปี 2025 ทำให้โปรเจกต์อย่าง MPV ต้องเร่งตามให้ทัน และเวอร์ชันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้เดสก์ท็อปสมัยใหม่ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

    อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือการรองรับ Ambient Light Sensor (ALS) ผ่าน sysfs ซึ่งช่วยให้ MPV ปรับความสว่างของวิดีโอตามสภาพแสงรอบตัวได้อัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้เคยพบในอุปกรณ์พกพาและระบบปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ แต่กำลังเริ่มถูกนำมาใช้ใน Linux Desktop มากขึ้น โดยเฉพาะในแล็ปท็อปรุ่นใหม่ที่รองรับเซนเซอร์แบบมาตรฐาน ACPI และ ALS

    การอัปเดตครั้งนี้ยังสอดคล้องกับทิศทางของ MPV ที่เน้นการรองรับเทคโนโลยีภาพสมัยใหม่ เช่น HDR, tone‑mapping และ GPU scaling ซึ่งเริ่มถูกผลักดันอย่างจริงจังตั้งแต่เวอร์ชัน 0.39–0.40 การพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้ MPV กลายเป็นหนึ่งในวิดีโอเพลเยอร์ที่นักรีวิวสาย Linux ยกให้เป็น “มาตรฐานทองคำ” สำหรับงานดูหนังคุณภาพสูงบนระบบโอเพ่นซอร์ส

    ในภาพรวม MPV 0.41 ไม่ได้เป็นเพียงอัปเดตเล็ก ๆ แต่เป็นการยืนยันว่าโปรเจกต์ยังคงเดินหน้าอย่างมั่นคง และพร้อมรองรับอนาคตของ Linux Desktop ที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ Wayland เต็มรูปแบบ ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความเข้ากันได้ และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ยุคใหม่มากขึ้น

    ไฮไลต์ของ MPV 0.41
    ปรับปรุง Wayland ให้เสถียรและตอบสนองเร็วขึ้น
    รองรับ Ambient Light Sensor ผ่าน sysfs ALS

    ทิศทางการพัฒนา
    สอดคล้องกับการผลักดัน Wayland ใน Linux Desktop
    เดินหน้ารองรับ HDR และ GPU scaling อย่างต่อเนื่อง

    ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง
    ฟีเจอร์ ALS อาจใช้ไม่ได้ในฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า
    การเปลี่ยนผ่านสู่ Wayland อาจทำให้ปลั๊กอินหรือสคริปต์บางตัวต้องปรับตาม

    คำแนะนำสำหรับผู้ใช้
    อัปเดตไดรเวอร์ GPU ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อรองรับฟีเจอร์ใหม่
    ตรวจสอบการตั้งค่า Wayland หากพบปัญหา input หรือการเรนเดอร์

    https://9to5linux.com/mpv-0-41-open-source-video-player-released-with-improved-wayland-support
    🎬 MPV 0.41 มาแล้ว: ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของวิดีโอเพลเยอร์สายโอเพ่นซอร์สบน Wayland MPV 0.41 เปิดตัวพร้อมการปรับปรุงสำคัญด้าน Wayland ซึ่งเป็นหัวใจของเดสก์ท็อป Linux ยุคใหม่ การอัปเดตครั้งนี้ช่วยให้การเรนเดอร์ภาพลื่นไหลขึ้น ลด input latency และแก้ปัญหาการจัดการหน้าต่างที่เคยเป็นข้อจำกัดในเวอร์ชันก่อนหน้า การพัฒนา Wayland ecosystem ที่เร็วขึ้นในปี 2025 ทำให้โปรเจกต์อย่าง MPV ต้องเร่งตามให้ทัน และเวอร์ชันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้เดสก์ท็อปสมัยใหม่ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือการรองรับ Ambient Light Sensor (ALS) ผ่าน sysfs ซึ่งช่วยให้ MPV ปรับความสว่างของวิดีโอตามสภาพแสงรอบตัวได้อัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้เคยพบในอุปกรณ์พกพาและระบบปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ แต่กำลังเริ่มถูกนำมาใช้ใน Linux Desktop มากขึ้น โดยเฉพาะในแล็ปท็อปรุ่นใหม่ที่รองรับเซนเซอร์แบบมาตรฐาน ACPI และ ALS การอัปเดตครั้งนี้ยังสอดคล้องกับทิศทางของ MPV ที่เน้นการรองรับเทคโนโลยีภาพสมัยใหม่ เช่น HDR, tone‑mapping และ GPU scaling ซึ่งเริ่มถูกผลักดันอย่างจริงจังตั้งแต่เวอร์ชัน 0.39–0.40 การพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้ MPV กลายเป็นหนึ่งในวิดีโอเพลเยอร์ที่นักรีวิวสาย Linux ยกให้เป็น “มาตรฐานทองคำ” สำหรับงานดูหนังคุณภาพสูงบนระบบโอเพ่นซอร์ส ในภาพรวม MPV 0.41 ไม่ได้เป็นเพียงอัปเดตเล็ก ๆ แต่เป็นการยืนยันว่าโปรเจกต์ยังคงเดินหน้าอย่างมั่นคง และพร้อมรองรับอนาคตของ Linux Desktop ที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ Wayland เต็มรูปแบบ ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความเข้ากันได้ และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ยุคใหม่มากขึ้น ✅ ไฮไลต์ของ MPV 0.41 ➡️ ปรับปรุง Wayland ให้เสถียรและตอบสนองเร็วขึ้น ➡️ รองรับ Ambient Light Sensor ผ่าน sysfs ALS ✅ ทิศทางการพัฒนา ➡️ สอดคล้องกับการผลักดัน Wayland ใน Linux Desktop ➡️ เดินหน้ารองรับ HDR และ GPU scaling อย่างต่อเนื่อง ‼️ ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง ⛔ ฟีเจอร์ ALS อาจใช้ไม่ได้ในฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า ⛔ การเปลี่ยนผ่านสู่ Wayland อาจทำให้ปลั๊กอินหรือสคริปต์บางตัวต้องปรับตาม ‼️ คำแนะนำสำหรับผู้ใช้ ⛔ อัปเดตไดรเวอร์ GPU ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อรองรับฟีเจอร์ใหม่ ⛔ ตรวจสอบการตั้งค่า Wayland หากพบปัญหา input หรือการเรนเดอร์ https://9to5linux.com/mpv-0-41-open-source-video-player-released-with-improved-wayland-support
    9TO5LINUX.COM
    MPV 0.41 Open-Source Video Player Released with Improved Wayland Support - 9to5Linux
    MPV 0.41 open-source media player is now available for download with improved Wayland support and ambient light support on Linux.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ปิดฉาก Telephone Activation: จุดสิ้นสุดของยุคออฟไลน์ และสัญญาณเปลี่ยนผ่านสู่ Activation-as-a-Service

    Microsoft ได้ยุติระบบ Telephone Activation แบบดั้งเดิมอย่างเงียบ ๆ หลังจากใช้งานมานานหลายทศวรรษ โดยผู้ใช้พบว่าการโทรเพื่อขอ Activation ID ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังหน้าเว็บแทน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าบริษัทกำลังย้ายกระบวนการทั้งหมดเข้าสู่ระบบออนไลน์เต็มรูปแบบ การเปลี่ยนแปลงนี้กระทบโดยตรงต่อองค์กรที่ยังพึ่งพา MAK keys รุ่นเก่า โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต เช่น isolated networks, secure labs หรือ OT environments ที่ต้องการ offline activation เพื่อความปลอดภัย

    ในอดีต Telephone Activation ทำงานผ่านอัลกอริทึมที่สร้าง Activation ID จาก Product ID โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้เป็นกลไกสำคัญในยุค Windows 7–8 และ Office รุ่นเก่า แต่เมื่อ Microsoft ค่อย ๆ เปลี่ยนโมเดลสู่ cloud‑first และ subscription‑based licensing ระบบนี้เริ่มกลายเป็นภาระมากกว่าประโยชน์ ทั้งในแง่การควบคุมลิขสิทธิ์และการลด misuse จาก MAK keys ที่ถูกแจกจ่ายอย่างกว้างขวางในอดีต

    แม้ระบบโทรศัพท์จะถูกปิด แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าการ activate แบบออฟไลน์ถูกยกเลิกโดยสมบูรณ์ บางส่วนของ workflow อาจถูกย้ายไปอยู่บนเว็บในรูปแบบ “online portal that simulates offline activation” เช่น การกรอก Installation ID และรับ Confirmation ID ผ่านเว็บแทนโทรศัพท์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่หลายบริษัทเริ่มใช้เพื่อควบคุมการออก Activation ID ให้รัดกุมขึ้น

    อย่างไรก็ตาม การบังคับให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อ activate อาจสร้างปัญหาในสภาพแวดล้อมที่ถูกจำกัดเครือข่ายอย่างเข้มงวด นี่จึงเป็นสัญญาณว่าผู้ดูแลระบบต้องเตรียมปรับกระบวนการ activation ใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะองค์กรที่ยังใช้ Windows 10/11 แบบ volume licensing หรือ Office 2024 ที่ยังต้องพึ่งพา MAK keys ในบางกรณี

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Microsoft ยุติ Telephone Activation
    การโทรเพื่อขอ Activation ID ถูก redirect ไปหน้าเว็บ
    ไม่มีการระบุผลิตภัณฑ์ที่ยังรองรับแบบโทรศัพท์อีกต่อไป

    MAK Keys และระบบเก่าได้รับผลกระทบ
    MAK บางชุดเคยไม่มี activation limit และถูกใช้ซ้ำได้
    ระบบโทรศัพท์เคยเป็นช่องทางหลักสำหรับ offline activation

    ความเสี่ยงต่อองค์กรที่ยังใช้ระบบออฟไลน์
    สภาพแวดล้อม air‑gapped อาจไม่สามารถ activate ได้ตามเดิม
    การบังคับออนไลน์อาจสร้าง operational friction ใน secure networks

    สิ่งที่ผู้ดูแลระบบควรเตรียมตัว
    ตรวจสอบ workflow activation ปัจจุบันของ Windows/Office
    เตรียมแผน fallback หากต้อง activate ผ่าน online portal เท่านั้น

    https://securityonline.info/hang-up-the-phone-microsoft-retires-telephone-activation-for-an-online-portal/
    ☎️ Microsoft ปิดฉาก Telephone Activation: จุดสิ้นสุดของยุคออฟไลน์ และสัญญาณเปลี่ยนผ่านสู่ Activation-as-a-Service Microsoft ได้ยุติระบบ Telephone Activation แบบดั้งเดิมอย่างเงียบ ๆ หลังจากใช้งานมานานหลายทศวรรษ โดยผู้ใช้พบว่าการโทรเพื่อขอ Activation ID ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังหน้าเว็บแทน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าบริษัทกำลังย้ายกระบวนการทั้งหมดเข้าสู่ระบบออนไลน์เต็มรูปแบบ การเปลี่ยนแปลงนี้กระทบโดยตรงต่อองค์กรที่ยังพึ่งพา MAK keys รุ่นเก่า โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต เช่น isolated networks, secure labs หรือ OT environments ที่ต้องการ offline activation เพื่อความปลอดภัย ในอดีต Telephone Activation ทำงานผ่านอัลกอริทึมที่สร้าง Activation ID จาก Product ID โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้เป็นกลไกสำคัญในยุค Windows 7–8 และ Office รุ่นเก่า แต่เมื่อ Microsoft ค่อย ๆ เปลี่ยนโมเดลสู่ cloud‑first และ subscription‑based licensing ระบบนี้เริ่มกลายเป็นภาระมากกว่าประโยชน์ ทั้งในแง่การควบคุมลิขสิทธิ์และการลด misuse จาก MAK keys ที่ถูกแจกจ่ายอย่างกว้างขวางในอดีต แม้ระบบโทรศัพท์จะถูกปิด แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าการ activate แบบออฟไลน์ถูกยกเลิกโดยสมบูรณ์ บางส่วนของ workflow อาจถูกย้ายไปอยู่บนเว็บในรูปแบบ “online portal that simulates offline activation” เช่น การกรอก Installation ID และรับ Confirmation ID ผ่านเว็บแทนโทรศัพท์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่หลายบริษัทเริ่มใช้เพื่อควบคุมการออก Activation ID ให้รัดกุมขึ้น อย่างไรก็ตาม การบังคับให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อ activate อาจสร้างปัญหาในสภาพแวดล้อมที่ถูกจำกัดเครือข่ายอย่างเข้มงวด นี่จึงเป็นสัญญาณว่าผู้ดูแลระบบต้องเตรียมปรับกระบวนการ activation ใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะองค์กรที่ยังใช้ Windows 10/11 แบบ volume licensing หรือ Office 2024 ที่ยังต้องพึ่งพา MAK keys ในบางกรณี 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Microsoft ยุติ Telephone Activation ➡️ การโทรเพื่อขอ Activation ID ถูก redirect ไปหน้าเว็บ ➡️ ไม่มีการระบุผลิตภัณฑ์ที่ยังรองรับแบบโทรศัพท์อีกต่อไป ✅ MAK Keys และระบบเก่าได้รับผลกระทบ ➡️ MAK บางชุดเคยไม่มี activation limit และถูกใช้ซ้ำได้ ➡️ ระบบโทรศัพท์เคยเป็นช่องทางหลักสำหรับ offline activation ‼️ ความเสี่ยงต่อองค์กรที่ยังใช้ระบบออฟไลน์ ⛔ สภาพแวดล้อม air‑gapped อาจไม่สามารถ activate ได้ตามเดิม ⛔ การบังคับออนไลน์อาจสร้าง operational friction ใน secure networks ‼️ สิ่งที่ผู้ดูแลระบบควรเตรียมตัว ⛔ ตรวจสอบ workflow activation ปัจจุบันของ Windows/Office ⛔ เตรียมแผน fallback หากต้อง activate ผ่าน online portal เท่านั้น https://securityonline.info/hang-up-the-phone-microsoft-retires-telephone-activation-for-an-online-portal/
    SECURITYONLINE.INFO
    Hang Up the Phone: Microsoft Retires Telephone Activation for an Online Portal
    Microsoft has moved its automated telephone activation to a new Online Product Activation Portal for all perpetual licenses. Offline IID/CID still supported.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • BlindEagle ยกระดับการโจมตี: ใช้อีเมลภายใน + Steganography + Caminho Downloader เจาะรัฐบาลโคลอมเบีย

    กลุ่ม BlindEagle (APT‑C‑36) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เล่นหลักด้านไซเบอร์สอดแนมในละตินอเมริกา ได้เปิดปฏิบัติการใหม่ที่ซับซ้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป้าหมายคือหน่วยงานภายใต้กระทรวงพาณิชย์ของโคลอมเบีย โดยใช้บัญชีอีเมลภายในที่ถูกยึดครองเพื่อหลอกระบบป้องกันขององค์กรให้เชื่อว่าเป็นการสื่อสารที่ถูกต้องตามปกติ การโจมตีครั้งนี้สะท้อนเทรนด์ใหญ่ของปี 2025 ที่กลุ่ม APT หันมาใช้ “trusted channel compromise” มากขึ้น เพราะสามารถหลบ SPF, DKIM, DMARC ได้อย่างแนบเนียน

    แคมเปญนี้เริ่มจากอีเมลปลอมที่อ้างว่าเป็นประกาศจากศาลแรงงานของโคลอมเบีย พร้อมแนบไฟล์ SVG ที่ดูไม่เป็นอันตราย แต่เมื่อเหยื่อคลิก ระบบจะพาไปยังเว็บปลอมที่เลียนแบบศาลจริง และดาวน์โหลด “ใบเสร็จ” ที่เป็นตัวจุดชนวนการโจมตีแบบ file‑less ประกอบด้วย JavaScript สามชุดและ PowerShell หนึ่งชุด ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อหลบการตรวจจับของ endpoint security รุ่นเก่าอย่างมีประสิทธิภาพ

    BlindEagle ยังใช้เทคนิค steganography ซ่อนโค้ดอันตรายในไฟล์ภาพที่ดาวน์โหลดจาก Internet Archive โดยซ่อน payload ไว้ระหว่าง BaseStart–BaseEnd ซึ่งเป็นเทคนิคที่กำลังกลับมาได้รับความนิยมในหมู่กลุ่ม APT เพราะ bypass ระบบตรวจจับ signature‑based ได้ดีมาก จากนั้นจึงดึง Caminho — downloader ที่คาดว่ามาจากตลาดใต้ดินบราซิล — เพื่อโหลด DCRAT จาก Discord CDN ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ผู้โจมตีใช้บริการ cloud ปกติเป็นโครงสร้างพื้นฐานโจมตี (legitimate‑service abuse)

    การผสานกันของ internal account compromise, steganography และ modular malware ทำให้ BlindEagle ก้าวสู่ระดับความซับซ้อนใหม่อย่างชัดเจน และสะท้อนว่ากลุ่มนี้กำลังขยายขีดความสามารถจากการโจมตีแบบ single‑payload ไปสู่ multi‑stage attack chain ที่ยืดหยุ่นกว่าเดิมอย่างมาก องค์กรในภูมิภาคละตินอเมริกาจึงต้องเตรียมรับมือกับภัยคุกคามที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วนี้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เทคนิคโจมตีที่ BlindEagle ใช้
    ใช้บัญชีอีเมลภายในที่ถูกยึดเพื่อหลบ SPF/DKIM/DMARC
    ส่งไฟล์ SVG ที่ redirect ไปเว็บปลอมของศาล

    โซ่การโจมตีแบบหลายชั้น
    JavaScript 3 ชุด + PowerShell 1 ชุดแบบ file‑less
    ใช้ steganography ซ่อนโค้ดในไฟล์ภาพจาก Internet Archive

    ความเสี่ยงระดับสูงต่อองค์กร
    การใช้ trusted internal accounts ทำให้ระบบตรวจจับแทบไม่ทำงาน
    Abuse Discord CDN เพื่อโหลด DCRAT ทำให้บล็อกยากขึ้น

    คำแนะนำเชิงปฏิบัติ
    ตรวจสอบบัญชีภายในที่มีพฤติกรรมผิดปกติอย่างเข้มงวด
    ปรับปรุง email security ให้ตรวจจับพฤติกรรม ไม่ใช่แค่ authentication

    https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia/
    🕵️‍♂️ BlindEagle ยกระดับการโจมตี: ใช้อีเมลภายใน + Steganography + Caminho Downloader เจาะรัฐบาลโคลอมเบีย กลุ่ม BlindEagle (APT‑C‑36) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เล่นหลักด้านไซเบอร์สอดแนมในละตินอเมริกา ได้เปิดปฏิบัติการใหม่ที่ซับซ้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป้าหมายคือหน่วยงานภายใต้กระทรวงพาณิชย์ของโคลอมเบีย โดยใช้บัญชีอีเมลภายในที่ถูกยึดครองเพื่อหลอกระบบป้องกันขององค์กรให้เชื่อว่าเป็นการสื่อสารที่ถูกต้องตามปกติ การโจมตีครั้งนี้สะท้อนเทรนด์ใหญ่ของปี 2025 ที่กลุ่ม APT หันมาใช้ “trusted channel compromise” มากขึ้น เพราะสามารถหลบ SPF, DKIM, DMARC ได้อย่างแนบเนียน แคมเปญนี้เริ่มจากอีเมลปลอมที่อ้างว่าเป็นประกาศจากศาลแรงงานของโคลอมเบีย พร้อมแนบไฟล์ SVG ที่ดูไม่เป็นอันตราย แต่เมื่อเหยื่อคลิก ระบบจะพาไปยังเว็บปลอมที่เลียนแบบศาลจริง และดาวน์โหลด “ใบเสร็จ” ที่เป็นตัวจุดชนวนการโจมตีแบบ file‑less ประกอบด้วย JavaScript สามชุดและ PowerShell หนึ่งชุด ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อหลบการตรวจจับของ endpoint security รุ่นเก่าอย่างมีประสิทธิภาพ BlindEagle ยังใช้เทคนิค steganography ซ่อนโค้ดอันตรายในไฟล์ภาพที่ดาวน์โหลดจาก Internet Archive โดยซ่อน payload ไว้ระหว่าง BaseStart–BaseEnd ซึ่งเป็นเทคนิคที่กำลังกลับมาได้รับความนิยมในหมู่กลุ่ม APT เพราะ bypass ระบบตรวจจับ signature‑based ได้ดีมาก จากนั้นจึงดึง Caminho — downloader ที่คาดว่ามาจากตลาดใต้ดินบราซิล — เพื่อโหลด DCRAT จาก Discord CDN ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ผู้โจมตีใช้บริการ cloud ปกติเป็นโครงสร้างพื้นฐานโจมตี (legitimate‑service abuse) การผสานกันของ internal account compromise, steganography และ modular malware ทำให้ BlindEagle ก้าวสู่ระดับความซับซ้อนใหม่อย่างชัดเจน และสะท้อนว่ากลุ่มนี้กำลังขยายขีดความสามารถจากการโจมตีแบบ single‑payload ไปสู่ multi‑stage attack chain ที่ยืดหยุ่นกว่าเดิมอย่างมาก องค์กรในภูมิภาคละตินอเมริกาจึงต้องเตรียมรับมือกับภัยคุกคามที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วนี้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เทคนิคโจมตีที่ BlindEagle ใช้ ➡️ ใช้บัญชีอีเมลภายในที่ถูกยึดเพื่อหลบ SPF/DKIM/DMARC ➡️ ส่งไฟล์ SVG ที่ redirect ไปเว็บปลอมของศาล ✅ โซ่การโจมตีแบบหลายชั้น ➡️ JavaScript 3 ชุด + PowerShell 1 ชุดแบบ file‑less ➡️ ใช้ steganography ซ่อนโค้ดในไฟล์ภาพจาก Internet Archive ‼️ ความเสี่ยงระดับสูงต่อองค์กร ⛔ การใช้ trusted internal accounts ทำให้ระบบตรวจจับแทบไม่ทำงาน ⛔ Abuse Discord CDN เพื่อโหลด DCRAT ทำให้บล็อกยากขึ้น ‼️ คำแนะนำเชิงปฏิบัติ ⛔ ตรวจสอบบัญชีภายในที่มีพฤติกรรมผิดปกติอย่างเข้มงวด ⛔ ปรับปรุง email security ให้ตรวจจับพฤติกรรม ไม่ใช่แค่ authentication https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia/
    SECURITYONLINE.INFO
    "Caminho" to Compromise: BlindEagle Hackers Hijack Government Emails in Colombia
    A notorious cyber-espionage group known for terrorizing South American institutions has launched a new campaign against the Colombian
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts