• การทำงานที่บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ดีอย่างไร มาฟังจากพนักงานโดยตรง ซึ่งตอกย้ำรางวัล ‘สุดยอดนายจ้างดีเด่นระดับโลกประจำปี 2567’ ที่ไฟเซอร์สำนักงานใหญ่ได้รับการจัดอันดับที่ #34 จากอุตสาหกรรมโดยรวม และอันดับ #1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมยาและเทคโนโลยีชีวภาพ Forbes World's Best Employers 2024 - Best Companies To Work For Worldwide ซึ่งถือเป็นรางวัลฉลองครบรอบ 175 ปีของไฟเซอร์ อิงค์ ในปีนี้ และครบรอบ 66 ปีในประเทศไทย ซึ่งพนักงานคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอันยาวนาน
    .
    เมื่อไม่นานมานี้นิตยสาร Forbes ร่วมกับ Statista ประกาศรายชื่อนายจ้างยอดเยี่ยมระดับโลกประจำปี 2024 โดยไฟเซอร์ (Pfizer) ได้รับการจัดอันดับตอกย้ำความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่นในการพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงานที่สร้างบรรยากาศเชิงบวกและความเป็นเลิศ จากการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานกว่า 300,000 คนจาก 50 ประเทศ ที่เข้าร่วมการสำรวจกับ Forbes ที่ทำงานในองค์กรข้ามชาติขนาดใหญ่ที่มีพนักงานมากกว่า 1,000 คน และดำเนินงานในภูมิภาคทวีปอย่างน้อย 2 แห่งจากทั้งหมด 6 แห่งของโลก ได้แก่ เอเชีย, ยุโรป, แอฟริกา, ลาตินอเมริกา, แคริบเบียน, อเมริกาเหนือ และโอเชียเนีย
    .
    ความสำเร็จของบริษัทแม่สะท้อนภาพลักษณ์องค์กรที่ดีของไฟเซอร์ (ประเทศไทย) องค์กรนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จมากว่า 6 ทศวรรษในประเทศไทย โดยมุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้ป่วย ความสำเร็จที่สานต่อเกิดจาก ‘ความสามารถของพนักงานและการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร’ ที่ล้วนเป็นพื้นฐานแห่งความสำเร็จด้วยคุณลักษณะสำคัญคือ
    .
    1. ความรับผิดชอบ
    2. การให้ความร่วมมือและการทำงานเป็นทีม
    3. การนำเสนอแนวคิดและวิธีการใหม่ๆ
    .
    ‘สภาพแวดล้อมการทำงาน’ ที่เหมาะสมและหลากหลายคือกุญแจสำคัญ โดยให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ไฟเซอร์จึงกลายเป็นสถานที่ที่พนักงานสามารถเติบโตได้
    ▪️วันเวลาทำงาน วันจันทร์-ศุกร์
    ▪️วันหยุดชดเชยกรณีต้องทำงานวันหยุด
    ▪️วันลา Caregiving Leave หรือสิทธิ์ลาดูแลสมาชิกครอบครัวรวมถึงสัตว์เลี้ยง 10 วัน (แยกออกจากวันลากิจ ลาป่วย ลาพักร้อนอื่นๆ)
    ▪️ออฟฟิศตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดงเชื่อมตรงกับอาคาร
    ▪️Mobile Office สามารถนั่งทำงานที่ไหนก็ได้
    ▪️มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ปลอดคนที่มีลักษณะเป็นพิษในองค์กร (Toxic People)
    .
    มาร์ค คาว (Mark Kuo) ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไฟเซอร์ปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรแบบ Accountability ซึ่งพนักงานทุกคนจะเข้าใจบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบ โดยทำหน้าที่ของตนให้เต็มที่เพื่อให้ได้รับผลสำเร็จตรงตามเป้าหมายของตนเองและบรรลุวัตถุประสงค์ที่องค์กรวางไว้ คือไม่ใช่สักแต่เพียงการทำงานให้เสร็จสิ้น แต่ต้องประสบผลความสำเร็จ และผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของไฟเซอร์คือพนักงานซึ่งเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่า เราได้รับความไว้วางใจในประเทศไทยมายาวนานกว่า 6 ทศวรรษ ซึ่งสามารถยืนหยัดและเติบโตในประเทศไทยได้จนถึงทุกวันนี้ เป็นการสะท้อนถึงความไว้วางใจและการสนับสนุนจากชาวไทยอย่างแท้จริง ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) ยินดีต้อนรับทุกคนที่มีความรู้ความสามารถและมีคุณภาพสูงมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ในการทำหน้าที่นำเสนอนวัตกรรมเพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้ป่วย และมาร่วมกันสร้างความสำเร็จและการเติบโตเข้าสู่ปีที่ 67 ของการก่อตั้งในประเทศไทยและในปีต่อๆ ไป
    .
    สิทธิประโยชน์ของพนักงานไฟเซอร์คือ
    ▪️ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงความปลอดภัยของพนักงานเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งจัดกิจกรรมเสริมสุขภาพกายใจ และให้ความรู้ด้านการเงินและการดำเนินชีวิตอย่างสมดุลทุกเดือน
    ▪️สวัสดิการยืดหยุ่น 16,000 บาทต่อปี ครอบคลุมสุขภาพ ความงาม ประกัน ดูแลครอบครัว สัตว์เลี้ยง เป็นต้น
    ▪️ตรวจสุขภาพประจำปี โบนัสการันตี 1 เดือน + โบนัสตามผลงาน
    ▪️กองทุนสำรองเลี้ยงชีพและสิทธิหุ้น Provident Fund อัตราแข่งขันได้ บางตำแหน่งมีสิทธิหุ้น
    ▪️สนับสนุนความหลากหลายและความเท่าเทียม (DEI) สิทธิคู่สมรสเท่าเทียมสำหรับคู่ชีวิตเพศเดียวกัน
    ▪️ประกันสุขภาพครอบคลุมคู่สมรสและบุตร รวมถึงคู่ชีวิต (Life Partner) เพศเดียวกันกับพนักงาน
    ▪️พัฒนาและเติบโตในสายอาชีพ อบรมผ่านระบบออนไลน์และชั้นเรียน เติบโตในองค์กรและเปิดโอกาสให้ได้ทำงานในระดับภูมิภาคและระดับโลก
    ▪️นโยบายปรึกษาหัวหน้างานโดยตรง (Speak Up) ผู้บริหารพร้อมรับฟังและแก้ปัญหาอย่างจริงใจ (Open Door)
    ▪️วัฒนธรรมเสมอภาค ยืดหยุ่น เน้นผลลัพธ์ สร้างบรรยากาศการทำงานที่สนุกและส่งเสริมความสุข
    ▪️องค์กรแห่งการเรียนรู้ สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง
    ▪️ผู้นำที่ใส่ใจ เปิดรับความคิดเห็นและให้คำปรึกษาอย่างจริงใจ
    ▪️ผลตอบแทนและสวัสดิการที่ดี
    .
    ไฟเซอร์ไม่เพียงเป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมที่ให้ผลตอบแทนและสวัสดิการที่ดี แต่ยังดูแลเอาใจใส่เรื่องสุขภาพ ส่งเสริมการเรียนรู้ และสนับสนุนให้พนักงานเติบโต จึงทำให้ไฟเซอร์เป็นอีกหนึ่งองค์กรในฝัน
    .
    มาร่วมค้นพบว่า ทำไมไฟเซอร์ (Pfizer) จึงเป็นที่ทำงานในฝันของใครหลายคน!
    .
    ติดตามข่าวสารของบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ที่ www.pfizer.co.th หรือ Facebook: Pfizer Thailand ที่ https://www.facebook.com/PfizerThailand
    #PfizerThailand #ไฟเซอร์
    #Forbes #worldbestemployers2024 #ไฟเซอร์
    [PR NEWS]
    การทำงานที่บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ดีอย่างไร มาฟังจากพนักงานโดยตรง ซึ่งตอกย้ำรางวัล ‘สุดยอดนายจ้างดีเด่นระดับโลกประจำปี 2567’ ที่ไฟเซอร์สำนักงานใหญ่ได้รับการจัดอันดับที่ #34 จากอุตสาหกรรมโดยรวม และอันดับ #1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมยาและเทคโนโลยีชีวภาพ Forbes World's Best Employers 2024 - Best Companies To Work For Worldwide ซึ่งถือเป็นรางวัลฉลองครบรอบ 175 ปีของไฟเซอร์ อิงค์ ในปีนี้ และครบรอบ 66 ปีในประเทศไทย ซึ่งพนักงานคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอันยาวนาน . เมื่อไม่นานมานี้นิตยสาร Forbes ร่วมกับ Statista ประกาศรายชื่อนายจ้างยอดเยี่ยมระดับโลกประจำปี 2024 โดยไฟเซอร์ (Pfizer) ได้รับการจัดอันดับตอกย้ำความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่นในการพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงานที่สร้างบรรยากาศเชิงบวกและความเป็นเลิศ จากการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานกว่า 300,000 คนจาก 50 ประเทศ ที่เข้าร่วมการสำรวจกับ Forbes ที่ทำงานในองค์กรข้ามชาติขนาดใหญ่ที่มีพนักงานมากกว่า 1,000 คน และดำเนินงานในภูมิภาคทวีปอย่างน้อย 2 แห่งจากทั้งหมด 6 แห่งของโลก ได้แก่ เอเชีย, ยุโรป, แอฟริกา, ลาตินอเมริกา, แคริบเบียน, อเมริกาเหนือ และโอเชียเนีย . ความสำเร็จของบริษัทแม่สะท้อนภาพลักษณ์องค์กรที่ดีของไฟเซอร์ (ประเทศไทย) องค์กรนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จมากว่า 6 ทศวรรษในประเทศไทย โดยมุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้ป่วย ความสำเร็จที่สานต่อเกิดจาก ‘ความสามารถของพนักงานและการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร’ ที่ล้วนเป็นพื้นฐานแห่งความสำเร็จด้วยคุณลักษณะสำคัญคือ . 1. ความรับผิดชอบ 2. การให้ความร่วมมือและการทำงานเป็นทีม 3. การนำเสนอแนวคิดและวิธีการใหม่ๆ . ‘สภาพแวดล้อมการทำงาน’ ที่เหมาะสมและหลากหลายคือกุญแจสำคัญ โดยให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ไฟเซอร์จึงกลายเป็นสถานที่ที่พนักงานสามารถเติบโตได้ ▪️วันเวลาทำงาน วันจันทร์-ศุกร์ ▪️วันหยุดชดเชยกรณีต้องทำงานวันหยุด ▪️วันลา Caregiving Leave หรือสิทธิ์ลาดูแลสมาชิกครอบครัวรวมถึงสัตว์เลี้ยง 10 วัน (แยกออกจากวันลากิจ ลาป่วย ลาพักร้อนอื่นๆ) ▪️ออฟฟิศตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดงเชื่อมตรงกับอาคาร ▪️Mobile Office สามารถนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ ▪️มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ปลอดคนที่มีลักษณะเป็นพิษในองค์กร (Toxic People) . มาร์ค คาว (Mark Kuo) ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไฟเซอร์ปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรแบบ Accountability ซึ่งพนักงานทุกคนจะเข้าใจบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบ โดยทำหน้าที่ของตนให้เต็มที่เพื่อให้ได้รับผลสำเร็จตรงตามเป้าหมายของตนเองและบรรลุวัตถุประสงค์ที่องค์กรวางไว้ คือไม่ใช่สักแต่เพียงการทำงานให้เสร็จสิ้น แต่ต้องประสบผลความสำเร็จ และผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของไฟเซอร์คือพนักงานซึ่งเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่า เราได้รับความไว้วางใจในประเทศไทยมายาวนานกว่า 6 ทศวรรษ ซึ่งสามารถยืนหยัดและเติบโตในประเทศไทยได้จนถึงทุกวันนี้ เป็นการสะท้อนถึงความไว้วางใจและการสนับสนุนจากชาวไทยอย่างแท้จริง ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) ยินดีต้อนรับทุกคนที่มีความรู้ความสามารถและมีคุณภาพสูงมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ในการทำหน้าที่นำเสนอนวัตกรรมเพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้ป่วย และมาร่วมกันสร้างความสำเร็จและการเติบโตเข้าสู่ปีที่ 67 ของการก่อตั้งในประเทศไทยและในปีต่อๆ ไป . สิทธิประโยชน์ของพนักงานไฟเซอร์คือ ▪️ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงความปลอดภัยของพนักงานเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งจัดกิจกรรมเสริมสุขภาพกายใจ และให้ความรู้ด้านการเงินและการดำเนินชีวิตอย่างสมดุลทุกเดือน ▪️สวัสดิการยืดหยุ่น 16,000 บาทต่อปี ครอบคลุมสุขภาพ ความงาม ประกัน ดูแลครอบครัว สัตว์เลี้ยง เป็นต้น ▪️ตรวจสุขภาพประจำปี โบนัสการันตี 1 เดือน + โบนัสตามผลงาน ▪️กองทุนสำรองเลี้ยงชีพและสิทธิหุ้น Provident Fund อัตราแข่งขันได้ บางตำแหน่งมีสิทธิหุ้น ▪️สนับสนุนความหลากหลายและความเท่าเทียม (DEI) สิทธิคู่สมรสเท่าเทียมสำหรับคู่ชีวิตเพศเดียวกัน ▪️ประกันสุขภาพครอบคลุมคู่สมรสและบุตร รวมถึงคู่ชีวิต (Life Partner) เพศเดียวกันกับพนักงาน ▪️พัฒนาและเติบโตในสายอาชีพ อบรมผ่านระบบออนไลน์และชั้นเรียน เติบโตในองค์กรและเปิดโอกาสให้ได้ทำงานในระดับภูมิภาคและระดับโลก ▪️นโยบายปรึกษาหัวหน้างานโดยตรง (Speak Up) ผู้บริหารพร้อมรับฟังและแก้ปัญหาอย่างจริงใจ (Open Door) ▪️วัฒนธรรมเสมอภาค ยืดหยุ่น เน้นผลลัพธ์ สร้างบรรยากาศการทำงานที่สนุกและส่งเสริมความสุข ▪️องค์กรแห่งการเรียนรู้ สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง ▪️ผู้นำที่ใส่ใจ เปิดรับความคิดเห็นและให้คำปรึกษาอย่างจริงใจ ▪️ผลตอบแทนและสวัสดิการที่ดี . ไฟเซอร์ไม่เพียงเป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมที่ให้ผลตอบแทนและสวัสดิการที่ดี แต่ยังดูแลเอาใจใส่เรื่องสุขภาพ ส่งเสริมการเรียนรู้ และสนับสนุนให้พนักงานเติบโต จึงทำให้ไฟเซอร์เป็นอีกหนึ่งองค์กรในฝัน . มาร่วมค้นพบว่า ทำไมไฟเซอร์ (Pfizer) จึงเป็นที่ทำงานในฝันของใครหลายคน! . ติดตามข่าวสารของบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ที่ www.pfizer.co.th หรือ Facebook: Pfizer Thailand ที่ https://www.facebook.com/PfizerThailand #PfizerThailand #ไฟเซอร์ #Forbes #worldbestemployers2024 #ไฟเซอร์ [PR NEWS]
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • เก็บตกวันสืบพยานคดีแตงโม ทีมพี่อัจไม่ละเมิดอำนาจศาล
    อีกะติกน้ำตาแตก ไอ้เดรับใช้จำเลย ทนายตุ๋ยเสียสุนัข
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    เก็บตกวันสืบพยานคดีแตงโม ทีมพี่อัจไม่ละเมิดอำนาจศาล อีกะติกน้ำตาแตก ไอ้เดรับใช้จำเลย ทนายตุ๋ยเสียสุนัข #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 6 0 รีวิว
  • อัยการสั่งฟ้อง"ทนายตั้ม-เมีย" กับพวกข้อหาร่วมกันฉ้อโกง-ฟอกเงิน หลอก“เจ๊อ้อย”กว่า 100 ล้าน ตามความเห็นพนักงานสอบสวน-อัยการร่วมสอบทุกข้อหาเเล้ว อัยการคดีพิเศษนำตัวพนักงานขายรถเบนซ์ ฟ้องศาลอาญา

    วันนี้ (30 ม.ค.) นายกุญช์ฐาน์ ทัดทูน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม จำนวน 2 สำนวน เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2568 ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ ถือเป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด จึงได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้สำนักงานคดีพิเศษ ได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวและมีคำสั่งดังนี้

    สำนวนคดีที่ 1 คดีระหว่าง น.ส.จตุพร อุบลเลิศ ที่ 1, พ.ต.ต.สันติชัย ศรีสวัสดิ์ ที่ 2 ผู้กล่าวหา กับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ผู้ต้องหาที่ 1, น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ผู้ต้องหาที่ 2 ฐานฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000009732

    #MGROnline #ทนายตั้ม #ฉ้อโกง #ฟอกเงิน #เจ๊อ้อย
    อัยการสั่งฟ้อง"ทนายตั้ม-เมีย" กับพวกข้อหาร่วมกันฉ้อโกง-ฟอกเงิน หลอก“เจ๊อ้อย”กว่า 100 ล้าน ตามความเห็นพนักงานสอบสวน-อัยการร่วมสอบทุกข้อหาเเล้ว อัยการคดีพิเศษนำตัวพนักงานขายรถเบนซ์ ฟ้องศาลอาญา • วันนี้ (30 ม.ค.) นายกุญช์ฐาน์ ทัดทูน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม จำนวน 2 สำนวน เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2568 ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ ถือเป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด จึงได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้สำนักงานคดีพิเศษ ได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวและมีคำสั่งดังนี้ • สำนวนคดีที่ 1 คดีระหว่าง น.ส.จตุพร อุบลเลิศ ที่ 1, พ.ต.ต.สันติชัย ศรีสวัสดิ์ ที่ 2 ผู้กล่าวหา กับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ผู้ต้องหาที่ 1, น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ผู้ต้องหาที่ 2 ฐานฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000009732 • #MGROnline #ทนายตั้ม #ฉ้อโกง #ฟอกเงิน #เจ๊อ้อย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัยการสั่งฟ้อง "ทนายตั้ม-เมีย" กับพวกข้อหาร่วมกัน ฉ้อโกง-ฟอกเงิน หลอก “เจ๊อ้อย” กว่า 100 ล้าน ตามความเห็นพนักงานสอบสวน-อัยการร่วมสอบทุกข้อหาเเล้ว อัยการคดีพิเศษนำตัวพนักงานขายรถเบนซ์ ฟ้องศาลอาญา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000009732

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    อัยการสั่งฟ้อง "ทนายตั้ม-เมีย" กับพวกข้อหาร่วมกัน ฉ้อโกง-ฟอกเงิน หลอก “เจ๊อ้อย” กว่า 100 ล้าน ตามความเห็นพนักงานสอบสวน-อัยการร่วมสอบทุกข้อหาเเล้ว อัยการคดีพิเศษนำตัวพนักงานขายรถเบนซ์ ฟ้องศาลอาญา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000009732 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปานเทพ ซัดทนายตุ๋ยปิดปากสื่อ พร้อมแจงชัด ศาลยกเลิกคำร้องละเมิดอำนาจ (30/01/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #กเลิกคำร้องละเมิดอำนาจ #อย่ากลัวทนายขู่สื่อ #ทำความจริงให้ปรากฏคดีแตงโม
    ปานเทพ ซัดทนายตุ๋ยปิดปากสื่อ พร้อมแจงชัด ศาลยกเลิกคำร้องละเมิดอำนาจ (30/01/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #กเลิกคำร้องละเมิดอำนาจ #อย่ากลัวทนายขู่สื่อ #ทำความจริงให้ปรากฏคดีแตงโม
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 23 1 รีวิว
  • รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยสำนักงานคดีพิเศษ สั่งฟ้องทนายตั้ม ฉ้อโกง-ฟอกเงิน ทั้งสำนวนทำผิดในประเทศและนอกประเทศ รวมทั้งภรรยา พี่สาว และพวก รวมทั้งพนักงานโชว์รูมรถยนต์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย พร้อมขอศาลสั่งให้กลุ่มผู้ต้องหาชดใช้เงินคุณอ้อย ทั้งแอปฯ หวยออนไลน์ ส่วนต่างรถเบนซ์ และสแกมเมอร์ทิพย์ รวม 111 ล้านบาท
    .
    วันนี้ (30 ม.ค.) นายกุญช์ฐาน์ ทัดทูน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวนคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม จากพนักงานสอบสวนกองปราบปราม จำนวน 2 สำนวน เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2568 และได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้ สำนักงานคดีพิเศษ ได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวและมีคำสั่ง ได้แก่ สำนวนที่ 1 (สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร กรณีการออกแบบโรงแรม) ที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ พ.ต.ต.สันติชัย ศรีสวัสดิ์ สารวัตร กก.3 บก.ป. ผู้กล่าวหา กับนายษิทรา และ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือดาว พี่สาวภรรยานายษิทรา พนักงานอัยการสั่งฟ้อง นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 341 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60 และสั่งฟ้อง น.ส.ปิณฑิรา ผู้ต้องหาที่ 2 ฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60
    .
    สำนวนที่ 2 น.ส.จตุพร กับพวกรวม 4 คน ผู้กล่าวหา นายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยานายษิทรา, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ กับ น.ส.สารินี นุชนารถ สองสามีภรรยากรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ, น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยานายษิทรา, น.ส.แก้วสวรรค์ สุขผล และ น.ส.วมนันพัทธ์ รามธีรพัฒน์ พนักงานโชว์รูมรถยนต์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย เหตุเกิดระหว่างวันที่ 16 ก.พ. 2566 ถึงวันที่ 6 ก.พ. 2567 ในหลายท้องที่ในราชอาณาจักร เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน และประเทศฝรั่งเศส เกี่ยวพันกัน สำนวนคดีนี้เป็นความผิดที่กระทำนอกราชอาณาจักรไทย ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจการสอบสวนของอัยการสูงสุด โดยอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวน ทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอัยการสูงสุด มีคำสั่งดังนี้
    .
    1. สั่งฟ้องนายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง (กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์) ฉ้อโกงโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม (กรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400) ร่วมกันฉ้อโกง, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3, 83, 84, 91, 137, 173, 264, 265, 267, 268, 341, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60, 
    .
    2. สั่งฟ้องนางปทิตตา ผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.ปิณฑิรา ผู้ต้องหาที่ 5 ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60  
    .
    3. สั่งฟ้องนายนุวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 3 และ น.ส.สารินี ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันฉ้อโกง โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 137, 173, 267, 268, 341, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60,        
    .
    4. สั่งฟ้อง น.ส.แก้วสวรรค์ ผู้ต้องหาที่ 6 และ น.ส.มนันพัทธ์ ผู้ต้องหาที่ 7 ฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 264, 265 
    .
    5. ขอศาลสั่งให้นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 คืนหรือชดใช้เงิน จำนวน 72,597,764.70 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ และกรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400 และขอศาลสั่งให้ผู้ต้องหาที่ 1, ที่ 3 และที่ 4 ร่วมกันคืนหรือชดใช้เงินอีก จำนวน 39,000,000 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009738
    .........
    Sondhi X
    รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยสำนักงานคดีพิเศษ สั่งฟ้องทนายตั้ม ฉ้อโกง-ฟอกเงิน ทั้งสำนวนทำผิดในประเทศและนอกประเทศ รวมทั้งภรรยา พี่สาว และพวก รวมทั้งพนักงานโชว์รูมรถยนต์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย พร้อมขอศาลสั่งให้กลุ่มผู้ต้องหาชดใช้เงินคุณอ้อย ทั้งแอปฯ หวยออนไลน์ ส่วนต่างรถเบนซ์ และสแกมเมอร์ทิพย์ รวม 111 ล้านบาท . วันนี้ (30 ม.ค.) นายกุญช์ฐาน์ ทัดทูน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวนคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม จากพนักงานสอบสวนกองปราบปราม จำนวน 2 สำนวน เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2568 และได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้ สำนักงานคดีพิเศษ ได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวและมีคำสั่ง ได้แก่ สำนวนที่ 1 (สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร กรณีการออกแบบโรงแรม) ที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ พ.ต.ต.สันติชัย ศรีสวัสดิ์ สารวัตร กก.3 บก.ป. ผู้กล่าวหา กับนายษิทรา และ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือดาว พี่สาวภรรยานายษิทรา พนักงานอัยการสั่งฟ้อง นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 341 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60 และสั่งฟ้อง น.ส.ปิณฑิรา ผู้ต้องหาที่ 2 ฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60 . สำนวนที่ 2 น.ส.จตุพร กับพวกรวม 4 คน ผู้กล่าวหา นายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยานายษิทรา, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ กับ น.ส.สารินี นุชนารถ สองสามีภรรยากรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ, น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยานายษิทรา, น.ส.แก้วสวรรค์ สุขผล และ น.ส.วมนันพัทธ์ รามธีรพัฒน์ พนักงานโชว์รูมรถยนต์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย เหตุเกิดระหว่างวันที่ 16 ก.พ. 2566 ถึงวันที่ 6 ก.พ. 2567 ในหลายท้องที่ในราชอาณาจักร เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน และประเทศฝรั่งเศส เกี่ยวพันกัน สำนวนคดีนี้เป็นความผิดที่กระทำนอกราชอาณาจักรไทย ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจการสอบสวนของอัยการสูงสุด โดยอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวน ทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอัยการสูงสุด มีคำสั่งดังนี้ . 1. สั่งฟ้องนายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง (กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์) ฉ้อโกงโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม (กรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400) ร่วมกันฉ้อโกง, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3, 83, 84, 91, 137, 173, 264, 265, 267, 268, 341, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60,  . 2. สั่งฟ้องนางปทิตตา ผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.ปิณฑิรา ผู้ต้องหาที่ 5 ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60   . 3. สั่งฟ้องนายนุวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 3 และ น.ส.สารินี ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันฉ้อโกง โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 137, 173, 267, 268, 341, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60,         . 4. สั่งฟ้อง น.ส.แก้วสวรรค์ ผู้ต้องหาที่ 6 และ น.ส.มนันพัทธ์ ผู้ต้องหาที่ 7 ฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 264, 265  . 5. ขอศาลสั่งให้นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 คืนหรือชดใช้เงิน จำนวน 72,597,764.70 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ และกรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400 และขอศาลสั่งให้ผู้ต้องหาที่ 1, ที่ 3 และที่ 4 ร่วมกันคืนหรือชดใช้เงินอีก จำนวน 39,000,000 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009738 ......... Sondhi X
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 1 รีวิว
  • ปานเทพปลุกสื่อ เลิกกลัวคำขู่ทนายตุ๋ย (30/01/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ไม่ละเมิดอำนาจศาล #อย่ากลัวคำขู่ #นำความจริงมาเผยแพร่สู่ปชช. #ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
    ปานเทพปลุกสื่อ เลิกกลัวคำขู่ทนายตุ๋ย (30/01/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ไม่ละเมิดอำนาจศาล #อย่ากลัวคำขู่ #นำความจริงมาเผยแพร่สู่ปชช. #ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 12 1 รีวิว
  • มูดาวรุ่ง...พยุงดาวร่วง
    สำหรับท่านที่เกิดปีเถาะ

    เพื่อเป็นการสะกดพลังร้ายของดาวอัปมงคล จึงควรน้อมสักการะต่อองค์มหาเทพ “大老爺(ตั่วเหล่าเอี๊ย)” หรือ องค์ “玄天上帝(เฮี่ยงเทียนเสี่ยงตี่)” เทพเจ้าอันทรงฤทธานุภาพแห่งสรวงสวรรค์ คอยสอดส่องปราบปรามกำราบเภทภัย ทั้งเหล่าภูตผีปีศาจร้ายตลอดจนความเศร้าหมองดำมืดใดที่แอบแฝงเกาะกินจากบาปกรรมชั่วช้าต่างๆ ด้วยพลังที่ทรงไว้ซึ่งคุณธรรมอย่างองอาจแสนยานุภาพในกาย หลังวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.นี้ เป็นต้นไป ณ ศาลเจ้า ศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์เทพท่านสถิตอยู่ โดยการนอบน้อมกราบบูชาอธิษฐานฝากดวงชะตาขอพรบารมีแห่งองค์เทพท่านได้สดับรับฟังและโปรดเมตตาคุ้มครองปกป้องให้แคล้วคลาดรอดพ้นจากความมืดมนชั่วร้ายที่จะมาเกาะกินจิตใจให้เกิดความทุกข์ยากใดๆ พร้อมน้อมรับพรให้มีสุขภาพที่แข็งแรง พบกับความก้าวหน้าในทุกด้านของชีวิตด้วยพลังใจที่เต็มร้อย ตลอดทั้งปี 2568 นี้

    อีกทั้งควรน้อมอัญเชิญองค์“พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม” หรือ “觀世音菩薩 (กวนซืออิมผู่สัก)” พระโพธิสัตว์แห่งความเมตตามาสักการะเทิดทูนบูชาด้วยการพกพาหรือโหลดภาพเก็บไว้หน้าแรกของโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา เพื่อปกปักรักษาและประทานบารมีที่จะขับไล่ความหม่นมัวทุกข์โศกร่ำไห้ให้จางหาย ทั้งความอัปมงคลให้ไม่กล้ำกลายและเสริมสิริมงคลให้ได้ชุ่มฉ่ำสดชื่นเต็มไปด้วย พลังกายใจที่จะก้าวไปอย่างมั่นคงในทุกช่วงห้วงเวลาจนสมปรารถนา ด้วยน้ำพระเมตตาบุญฤทธิ์อันสุดประมาณแห่งองค์ “พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม” หรือ “觀世音菩薩 (กวนซืออิมผู่สัก)” จะแผ่รัศมีคุ้มครองตลอดทั้งปี 2568 นี้
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    มูดาวรุ่ง...พยุงดาวร่วง สำหรับท่านที่เกิดปีเถาะ เพื่อเป็นการสะกดพลังร้ายของดาวอัปมงคล จึงควรน้อมสักการะต่อองค์มหาเทพ “大老爺(ตั่วเหล่าเอี๊ย)” หรือ องค์ “玄天上帝(เฮี่ยงเทียนเสี่ยงตี่)” เทพเจ้าอันทรงฤทธานุภาพแห่งสรวงสวรรค์ คอยสอดส่องปราบปรามกำราบเภทภัย ทั้งเหล่าภูตผีปีศาจร้ายตลอดจนความเศร้าหมองดำมืดใดที่แอบแฝงเกาะกินจากบาปกรรมชั่วช้าต่างๆ ด้วยพลังที่ทรงไว้ซึ่งคุณธรรมอย่างองอาจแสนยานุภาพในกาย หลังวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.นี้ เป็นต้นไป ณ ศาลเจ้า ศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์เทพท่านสถิตอยู่ โดยการนอบน้อมกราบบูชาอธิษฐานฝากดวงชะตาขอพรบารมีแห่งองค์เทพท่านได้สดับรับฟังและโปรดเมตตาคุ้มครองปกป้องให้แคล้วคลาดรอดพ้นจากความมืดมนชั่วร้ายที่จะมาเกาะกินจิตใจให้เกิดความทุกข์ยากใดๆ พร้อมน้อมรับพรให้มีสุขภาพที่แข็งแรง พบกับความก้าวหน้าในทุกด้านของชีวิตด้วยพลังใจที่เต็มร้อย ตลอดทั้งปี 2568 นี้ อีกทั้งควรน้อมอัญเชิญองค์“พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม” หรือ “觀世音菩薩 (กวนซืออิมผู่สัก)” พระโพธิสัตว์แห่งความเมตตามาสักการะเทิดทูนบูชาด้วยการพกพาหรือโหลดภาพเก็บไว้หน้าแรกของโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา เพื่อปกปักรักษาและประทานบารมีที่จะขับไล่ความหม่นมัวทุกข์โศกร่ำไห้ให้จางหาย ทั้งความอัปมงคลให้ไม่กล้ำกลายและเสริมสิริมงคลให้ได้ชุ่มฉ่ำสดชื่นเต็มไปด้วย พลังกายใจที่จะก้าวไปอย่างมั่นคงในทุกช่วงห้วงเวลาจนสมปรารถนา ด้วยน้ำพระเมตตาบุญฤทธิ์อันสุดประมาณแห่งองค์ “พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม” หรือ “觀世音菩薩 (กวนซืออิมผู่สัก)” จะแผ่รัศมีคุ้มครองตลอดทั้งปี 2568 นี้ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทางการอินเดียมีคำสั่งสอบสวนหาสาเหตุการเหยียบกันตายในเทศกาลมหากุมภเมลา (Maha Kumbh Mela) ซึ่งทำให้มีผู้แสวงบุญเสียชีวิตไปหลายสิบคนเมื่อวันพุธ (29 ม.ค.) ในระหว่างที่ชาวฮินดูนับล้านๆ คนเดินทางมาประกอบพิธีอาบน้ำในแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อชำระล้างบาป

    ตำรวจอินเดียยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 คนจากการเหยียบกัน และบาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 90 คน ทว่ารอยเตอร์ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริงน่าจะมากเกือบ 40 คน

    ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนเล่าว่า ฝูงชนจำนวนมหาศาลมุ่งหน้าไปยังจุดบรรจบของแม่น้ำจนเกิดการผลักดันและล้มทับกัน ขณะที่บางคนชี้ว่าการปิดเส้นทางลงแม่น้ำทำให้ผู้แสวงบุญเดินไปต่อไปไม่ได้ กระทั่งมีคนล้มและขาดอากาศหายใจ

    “รัฐบาลตัดสินใจว่าจะตั้งคณะตุลาการขึ้นมาสอบสวนเรื่องนี้ และได้มีการคัดเลือกคณะกรรมการขึ้นมาแล้ว 3 คน” โยคี อาทิตยนาถ มุขมนตรีรัฐอุตตรประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนวานนี้ (29)

    “คณะตุลาการจะตรวจสอบรายละเอียดอย่างครอบคลุม และจัดทำรายงานส่งต่อฝ่ายบริหารของรัฐภายในระยะเวลาที่กำหนด”

    เจ้าหน้าที่ระบุว่า เฉพาะวันพุธ (29) วันเดียวมีประชาชนมากกว่า 76 ล้านคนลงไปประกอบพิธีอาบน้ำ ณ จุดบรรจบของแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ 3 สายที่เมืองประยาคราชในรัฐอุตตรประเทศ จนกระทั่งถึงเวลา 20.00 น.

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000009561

    #MGROnline #อินเดีย #เหยียบกันตาย #เทศกาลมหากุมภเมลา #MahaKumbhMela2025
    ทางการอินเดียมีคำสั่งสอบสวนหาสาเหตุการเหยียบกันตายในเทศกาลมหากุมภเมลา (Maha Kumbh Mela) ซึ่งทำให้มีผู้แสวงบุญเสียชีวิตไปหลายสิบคนเมื่อวันพุธ (29 ม.ค.) ในระหว่างที่ชาวฮินดูนับล้านๆ คนเดินทางมาประกอบพิธีอาบน้ำในแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อชำระล้างบาป • ตำรวจอินเดียยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 คนจากการเหยียบกัน และบาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 90 คน ทว่ารอยเตอร์ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริงน่าจะมากเกือบ 40 คน • ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนเล่าว่า ฝูงชนจำนวนมหาศาลมุ่งหน้าไปยังจุดบรรจบของแม่น้ำจนเกิดการผลักดันและล้มทับกัน ขณะที่บางคนชี้ว่าการปิดเส้นทางลงแม่น้ำทำให้ผู้แสวงบุญเดินไปต่อไปไม่ได้ กระทั่งมีคนล้มและขาดอากาศหายใจ • “รัฐบาลตัดสินใจว่าจะตั้งคณะตุลาการขึ้นมาสอบสวนเรื่องนี้ และได้มีการคัดเลือกคณะกรรมการขึ้นมาแล้ว 3 คน” โยคี อาทิตยนาถ มุขมนตรีรัฐอุตตรประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนวานนี้ (29) • “คณะตุลาการจะตรวจสอบรายละเอียดอย่างครอบคลุม และจัดทำรายงานส่งต่อฝ่ายบริหารของรัฐภายในระยะเวลาที่กำหนด” • เจ้าหน้าที่ระบุว่า เฉพาะวันพุธ (29) วันเดียวมีประชาชนมากกว่า 76 ล้านคนลงไปประกอบพิธีอาบน้ำ ณ จุดบรรจบของแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ 3 สายที่เมืองประยาคราชในรัฐอุตตรประเทศ จนกระทั่งถึงเวลา 20.00 น. • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000009561 • #MGROnline #อินเดีย #เหยียบกันตาย #เทศกาลมหากุมภเมลา #MahaKumbhMela2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขนาดทนายจำเลยยังไม่กล้าพูดความจริง ว่าศาลยกคำร้อง ไม่ละเมิดอำนาจศาล อย่าไปหวังว่าจำเลยจะพูดความจริงที่เกิดขึ้นบนเรือ ทนายถุยยยยยย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    ขนาดทนายจำเลยยังไม่กล้าพูดความจริง ว่าศาลยกคำร้อง ไม่ละเมิดอำนาจศาล อย่าไปหวังว่าจำเลยจะพูดความจริงที่เกิดขึ้นบนเรือ ทนายถุยยยยยย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศธ.ล้มพิมพ์แบบเรียนปี 68 เหตุมีผู้ประมูลรายเดียว มั่นใจทันเปิดเทอมใหม่
    .
    ประเด็นปัญหาการจัดพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 ยังมีความคาราคาซังต่อเนื่อง ภายหลังสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.)ได้ประกาศยื่นประกวดราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ วงเงิน 1,016,914,750 บาทด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-บิดดิ้ง แต่เมื่อถึงเวลาปิดรับข้อเสนอราคาจ้างพิมพ์ปรากฎว่า มีผู้เสนอราคาเพียง 1 รายเท่านั้น
    .
    จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้กระทรวงศึกษาธิการเองไม่กล้าเดินหน้าต่อเพราะเสี่ยงที่จะผิดกฎหมาย จึงเลือกวิธีการให้ทบทวนและเริ่มต้นกระบวนการกันใหม่ โดยนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่าองค์การค้าฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้สอบถามไปยังกรมบัญชีกลาง ซึ่งก็พบว่า ไม่ได้เกิดจากข้อผิดพลาดของระบบ โดยได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการศธ. รับทราบ ดังนั้น เพื่อไม่ให้มีข้อสงสัย รัฐมนตรีว่าการศธ. จึงสั่งให้ยกเลิกและประกาศยื่นประกวดราคาใหม่
    .
    “ทางกรมบัญชีกลางยืนยันว่า ไม่ได้มีความผิดพลาดที่ระบบ แต่ถึงแม้ว่าจะถูกกฎหมาย ก็ยังมีข้อสงสัย ดังนั้น รัฐมนตรีว่าการศธ.จึงให้ดำเนินการเปิดให้ยื่นประกวดราคาใหม่ เพราะหากมีรายเดียวก็ไม่เกิดการแข่งขัน ทางศธ.เอง ก็ไม่สบายใจ การดำเนินการทุกอย่างต้องทำให้โปร่งใส เรื่องนี้ ไม่ใช่ปัญหาขององค์การค้าฯ แต่เป็นระบบของกรมบัญชีกลาง ซึ่งบางอย่างเราไม่สามารถควบคุมได้ ที่เป็นห่วงก็คือการจัดพิมพ์หนังสือเรียน ที่ต้องดำเนินการให้ทันเปิดเทอมในเดือนพฤษภาคมนี้”นายสุรศักดิ์ กล่าว
    .
    ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ ติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา ที่มีนายอลงกต วรกี เป็นประธารน ได้มีการพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับโครงการจัดพิมพ์แบบเรียนปีการศึกษา 2567 ขององค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (องค์การค้าของ สกสค.) ที่มีข้อร้องเรียนว่าใช้งบประมาณอย่างไม่เกิดประสิทธิภาพ และมีข้อร้องเรียนว่าการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่โปร่งใส จนก่อให้เกิดความเสียหายกับรัฐ
    .
    ทั้งนี้ เบื้องต้นที่ประชุมได้มีมติรับทราบว่า การจัดซื้อจัดจ้างโครงการจัดพิมพ์แบบเรียนปีการศึกษา 2567 ขององค์การค้าของ สกสค. ซึ่งใช้วิธีการคัดเลือก แทนการ ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ขัดต่อมาตรา 8 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 (พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ) ตามหนังสือกรมบัญชีกลางที่ตอบกลับโรงพิมพ์รุ่งศิลป์ เมื่อวันที่ 24 พ.ค.67 รวมทั้งรับทราบถึงอำนาจของ สตง.ในการตรวจสอบองค์การค้าของ สกสค. โดยปัจจุบันยังอยู่ระหว่างประสานเข้าการตรวจสอบ ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วเสร็จเป็นอำนาจของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าการ สตง.) ในการเปิดเผยผลการตรวจสอบหรือไม่ต่อไป
    .
    ขณะเดียว ประธานกมธ.ยังได้สั่งการให้ กมธ.ส่งประเด็นไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สตง. และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อดำเนินการต่อ ขณะที่ประเด็นที่การจัดซื้อจัดจ้างขัดต่อมาตรา 102-103 แห่ง พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ นั้นถือเป็นความผิดตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กรมบัญชีกลาง จึงไม่สามารถก้าวล่วงได้ เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการทางศาลปกครอง ซึ่งทราบว่าทาง โรงพิมพ์รุ่งศิลป์ ได้ฟ้องต่อศาลปกครองไว้แล้ว
    ..............
    Sondhi X
    ศธ.ล้มพิมพ์แบบเรียนปี 68 เหตุมีผู้ประมูลรายเดียว มั่นใจทันเปิดเทอมใหม่ . ประเด็นปัญหาการจัดพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 ยังมีความคาราคาซังต่อเนื่อง ภายหลังสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.)ได้ประกาศยื่นประกวดราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ วงเงิน 1,016,914,750 บาทด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-บิดดิ้ง แต่เมื่อถึงเวลาปิดรับข้อเสนอราคาจ้างพิมพ์ปรากฎว่า มีผู้เสนอราคาเพียง 1 รายเท่านั้น . จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้กระทรวงศึกษาธิการเองไม่กล้าเดินหน้าต่อเพราะเสี่ยงที่จะผิดกฎหมาย จึงเลือกวิธีการให้ทบทวนและเริ่มต้นกระบวนการกันใหม่ โดยนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่าองค์การค้าฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้สอบถามไปยังกรมบัญชีกลาง ซึ่งก็พบว่า ไม่ได้เกิดจากข้อผิดพลาดของระบบ โดยได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการศธ. รับทราบ ดังนั้น เพื่อไม่ให้มีข้อสงสัย รัฐมนตรีว่าการศธ. จึงสั่งให้ยกเลิกและประกาศยื่นประกวดราคาใหม่ . “ทางกรมบัญชีกลางยืนยันว่า ไม่ได้มีความผิดพลาดที่ระบบ แต่ถึงแม้ว่าจะถูกกฎหมาย ก็ยังมีข้อสงสัย ดังนั้น รัฐมนตรีว่าการศธ.จึงให้ดำเนินการเปิดให้ยื่นประกวดราคาใหม่ เพราะหากมีรายเดียวก็ไม่เกิดการแข่งขัน ทางศธ.เอง ก็ไม่สบายใจ การดำเนินการทุกอย่างต้องทำให้โปร่งใส เรื่องนี้ ไม่ใช่ปัญหาขององค์การค้าฯ แต่เป็นระบบของกรมบัญชีกลาง ซึ่งบางอย่างเราไม่สามารถควบคุมได้ ที่เป็นห่วงก็คือการจัดพิมพ์หนังสือเรียน ที่ต้องดำเนินการให้ทันเปิดเทอมในเดือนพฤษภาคมนี้”นายสุรศักดิ์ กล่าว . ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ ติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา ที่มีนายอลงกต วรกี เป็นประธารน ได้มีการพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับโครงการจัดพิมพ์แบบเรียนปีการศึกษา 2567 ขององค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (องค์การค้าของ สกสค.) ที่มีข้อร้องเรียนว่าใช้งบประมาณอย่างไม่เกิดประสิทธิภาพ และมีข้อร้องเรียนว่าการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่โปร่งใส จนก่อให้เกิดความเสียหายกับรัฐ . ทั้งนี้ เบื้องต้นที่ประชุมได้มีมติรับทราบว่า การจัดซื้อจัดจ้างโครงการจัดพิมพ์แบบเรียนปีการศึกษา 2567 ขององค์การค้าของ สกสค. ซึ่งใช้วิธีการคัดเลือก แทนการ ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ขัดต่อมาตรา 8 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 (พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ) ตามหนังสือกรมบัญชีกลางที่ตอบกลับโรงพิมพ์รุ่งศิลป์ เมื่อวันที่ 24 พ.ค.67 รวมทั้งรับทราบถึงอำนาจของ สตง.ในการตรวจสอบองค์การค้าของ สกสค. โดยปัจจุบันยังอยู่ระหว่างประสานเข้าการตรวจสอบ ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วเสร็จเป็นอำนาจของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าการ สตง.) ในการเปิดเผยผลการตรวจสอบหรือไม่ต่อไป . ขณะเดียว ประธานกมธ.ยังได้สั่งการให้ กมธ.ส่งประเด็นไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สตง. และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อดำเนินการต่อ ขณะที่ประเด็นที่การจัดซื้อจัดจ้างขัดต่อมาตรา 102-103 แห่ง พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ นั้นถือเป็นความผิดตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กรมบัญชีกลาง จึงไม่สามารถก้าวล่วงได้ เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการทางศาลปกครอง ซึ่งทราบว่าทาง โรงพิมพ์รุ่งศิลป์ ได้ฟ้องต่อศาลปกครองไว้แล้ว .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 415 มุมมอง 0 รีวิว
  • *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....เนื้อนวะ.....( กรรมการ ).....เลข.....1889.....1898.....*****

    *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....*****

    *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....*****
    *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....*****
    *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....*****

    *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....*****

    #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....เนื้อนวะ.....( กรรมการ ).....เลข.....1889.....1898.....***** *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....***** *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....***** *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....***** *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....***** *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....***** #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • 77 ปี ลอบสังหาร “มหาตมา คานธี” นักต่อสู้ผู้ไร้อาวุธ ผู้บุกเบิกแนวคิด “สัตยาเคราะห์”

    “ตาต่อตาฟันต่อฟัน จะทำให้ทั้งโลกมืดบอด” มหาตมา คานธี

    ย้อนไปเมื่อ 77 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2491 นับเป็นวันที่โลกต้องจารึก เมื่อ "มหาตมา คานธี" ผู้นำทางจิตวิญญาณ และนักต่อสู้เพื่อเอกราชของอินเดีย ถูกลอบสังหารขณะอายุ 78 ปี ภายในบริเวณบ้านพิรลา ในกรุงนิวเดลี เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงเป็นจุดสิ้นสุดของชีวิต บุคคลผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ของประวัติศาสตร์อินเดีย และขบวนการเคลื่อนไหว เพื่อสิทธิพลเมืองทั่วโลก

    โศกนาฏกรรมแห่งสันติ วันสุดท้ายของมหาตมา คานธี
    ช่วงเย็นของวันที่ 30 มกราคม 2491 "มหาตมา คานธี" เดินไปยังสวนหลังบ้านพิรลา ซึ่งเป็นสถานที่ ที่เขาใช้จัดการสวดภาวนา เป็นประจำทุกเย็น ท่ามกลางฝูงชน ที่มารอฟังคำสอนของเขา "นถูราม โคฑเส" ชายวัย 30 ปี ผู้เป็นสมาชิกกลุ่มชาตินิยมฮินดู ได้แฝงตัวเข้ามาในฝูงชน และเมื่อคานธี เดินลงจากปะรำพิธี โคฑเสก็ฉวยโอกาส ก้าวออกมากั้นทาง แล้วลั่นไกปืน สามนัดยิงเข้าที่อก และท้องของคานธีระยะเผาขน

    เสียงปืนนั้น เปรียบเสมือนเสียงสะเทือน แห่งประวัติศาสตร์...
    "มหาตมา คานธี" ทรุดลงกับพื้น และกล่าวเพียงว่า "เฮ ราม" (โอ้ พระเจ้า!) ก่อนหมดสติ และจากไปในที่สุด

    เหตุใดโคฑเส จึงลอบสังหารคานธี?
    "นถูราม โคฑเส" เป็นนักชาตินิยมฮินดู และเป็นสมาชิกของ ราษฏรียสวยัมเสวักสงฆ์ (RSS) กลุ่มขวาจัด ที่สนับสนุนการปกครองโดยชาวฮินดู โคฑเสเชื่อว่า คานธีให้ความช่วยเหลือชาวมุสลิม มากเกินไป และมีบทบาทสำคัญ ในการสนับสนุน การแยกดินแดนอินเดีย และปากีสถาน

    เขาเห็นว่าคานธีเป็นอุปสรรค ต่อความเป็นเอกภาพ ของชาวฮินดูในอินเดีย และการที่คานธี เรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียส่งเงิน 550 ล้านรูปี ให้กับปากีสถาน ยิ่งทำให้เขาโกรธแค้น

    หลังการสังหาร โคฑเสถูกจับกุมทันที และถูกนำตัวขึ้นศาล พร้อมกับผู้สมรู้ร่วมคิดอีกหลายคน ในที่สุด เขาถูกตัดสินประหารชีวิต และถูกแขวนคอ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2492

    บุรุษผู้เปลี่ยนแปลงโลกด้วยสันติวิธี ต้นกำเนิดของนักต่อสู้ผู้ยิ่งใหญ่
    "มหาตมา คานธี" หรือ "โมหนทาส กรมจันท์ คานธี" เกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2412 ที่รัฐคุชราต ประเทศอินเดีย เติบโตมาในครอบครัวชาวฮินดู และเดินทางไปศึกษากฎหมายที่ อินเนอร์เทมเพิล ลอนดอน ก่อนกลับมาอินเดีย

    ค้นพบ “สัตยาเคราะห์” บนแผ่นดินแอฟริกาใต้
    ขณะที่คานธีทำงานเป็นทนาย ในแอฟริกาใต้ เขาประสบเหตุการณ์เหยียดเชื้อชาติ เมื่อเขาถูกไล่ออกจากตู้รถไฟชั้นหนึ่ง เพียงเพราะเป็นชาวอินเดีย เหตุการณ์นี้ ทำให้คานธี ตระหนักถึงความอยุติธรรม และจุดประกายให้เขาต่อสู้ เพื่อสิทธิพลเมือง

    คานธีพัฒนาแนวคิด “สัตยาเคราะห์” (Satyagraha) ซึ่งหมายถึง “การยึดมั่นในสัจจะ” หรือ “การต่อต้านโดยสันติวิธี” โดยมุ่งเน้นการใช้ความจริง ความรัก และความไม่รุนแรง เป็นอาวุธหลัก

    สัตยาเคราะห์ พลังแห่งสัจจะและสันติ
    สัตยาเคราะห์เป็นหัวใจสำคัญ ในการต่อสู้ของคานธี เพื่อปลดแอกอินเดียจากอังกฤษ โดยมีหลักการสำคัญ ได้แก่

    1. อหิงสา (Ahimsa) การไม่ใช้ความรุนแรง
    คานธีเชื่อว่า ความรุนแรงก่อให้เกิดความเกลียดชัง และการแก้แค้นที่ไม่มีที่สิ้นสุด

    2. สัจจะ (Satya) ความจริง
    เขาเชื่อว่าความจริงคือสิ่งสูงสุด และคนที่ยึดมั่นในความจริง จะได้รับชัยชนะเสมอ

    3. ตบะ (Tapasya) ความอดทนและเสียสละ
    คานธีอดอาหารประท้วงหลายครั้ง เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ให้กับคนทุกศาสนา

    ขบวนการอิสระของอินเดีย จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์
    เดินขบวนเกลือ (Salt March) ปี 2473
    คานธีนำประชาชนเดินเท้า เป็นระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร เพื่อประท้วงกฎหมายภาษีเกลือ ของอังกฤษ ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนการต่อต้าน ที่ทรงพลังที่สุด

    ขบวนการ “ออกจากอินเดีย” (Quit India Movement) ปี 2485
    คานธีเรียกร้องให้อังกฤษ ถอนตัวจากอินเดีย โดยไม่มีเงื่อนไข ทำให้อังกฤษจับกุมเขา และผู้สนับสนุนจำนวนมาก

    ในที่สุด วันที่ 15 สิงหาคม 2490 อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ แต่ต้องแลกมา ด้วยการแบ่งประเทศเป็นอินเดีย และปากีสถาน ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้ง และการอพยพครั้งใหญ่

    มรดกของมหาตมา คานธี อิทธิพลต่อโลก
    แม้จะถูกลอบสังหาร แต่แนวคิดของคานธี ได้เป็นแรงบันดาลใจ ให้ขบวนการเรียกร้องสิทธิพลเมือง ทั่วโลก เช่น

    ✅ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ขบวนการสิทธิพลเมือง ของคนผิวดำในอเมริกา
    ✅ เนลสัน แมนเดลา การต่อต้านการแบ่งแยกสีผิว ในแอฟริกาใต้
    ✅ ดาไลลามะ การต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ ของทิเบต

    คานธี กับบทเรียนแห่งสันติ
    การลอบสังหารมหาตมา คานธี เป็นโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ แต่แนวคิดของเขายังคงอยู่ และเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้คนทั่วโลก

    🌏 ความจริงและสันติวิธี เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในการเปลี่ยนแปลงโลก
    🙏 อหิงสา ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือความกล้าหาญ ในการให้อภัย
    💡 สัตยาเคราะห์ เป็นเครื่องมือแห่งการต่อสู้ เพื่อความยุติธรรม

    77 ปี ผ่านไป... ชื่อของคานธี ยังคงเป็นสัญลักษณ์ แห่งสันติภาพ 🕊️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 300857 ม.ค. 2568

    #MahatmaGandhi #Gandhi77Years #Satyagraha #อหิงสา #สันติวิธี #IndiaIndependence #PeaceMovement #QuitIndia #GandhiPhilosophy #GandhiLegacy
    77 ปี ลอบสังหาร “มหาตมา คานธี” นักต่อสู้ผู้ไร้อาวุธ ผู้บุกเบิกแนวคิด “สัตยาเคราะห์” “ตาต่อตาฟันต่อฟัน จะทำให้ทั้งโลกมืดบอด” มหาตมา คานธี ย้อนไปเมื่อ 77 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2491 นับเป็นวันที่โลกต้องจารึก เมื่อ "มหาตมา คานธี" ผู้นำทางจิตวิญญาณ และนักต่อสู้เพื่อเอกราชของอินเดีย ถูกลอบสังหารขณะอายุ 78 ปี ภายในบริเวณบ้านพิรลา ในกรุงนิวเดลี เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงเป็นจุดสิ้นสุดของชีวิต บุคคลผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ของประวัติศาสตร์อินเดีย และขบวนการเคลื่อนไหว เพื่อสิทธิพลเมืองทั่วโลก โศกนาฏกรรมแห่งสันติ วันสุดท้ายของมหาตมา คานธี ช่วงเย็นของวันที่ 30 มกราคม 2491 "มหาตมา คานธี" เดินไปยังสวนหลังบ้านพิรลา ซึ่งเป็นสถานที่ ที่เขาใช้จัดการสวดภาวนา เป็นประจำทุกเย็น ท่ามกลางฝูงชน ที่มารอฟังคำสอนของเขา "นถูราม โคฑเส" ชายวัย 30 ปี ผู้เป็นสมาชิกกลุ่มชาตินิยมฮินดู ได้แฝงตัวเข้ามาในฝูงชน และเมื่อคานธี เดินลงจากปะรำพิธี โคฑเสก็ฉวยโอกาส ก้าวออกมากั้นทาง แล้วลั่นไกปืน สามนัดยิงเข้าที่อก และท้องของคานธีระยะเผาขน เสียงปืนนั้น เปรียบเสมือนเสียงสะเทือน แห่งประวัติศาสตร์... "มหาตมา คานธี" ทรุดลงกับพื้น และกล่าวเพียงว่า "เฮ ราม" (โอ้ พระเจ้า!) ก่อนหมดสติ และจากไปในที่สุด เหตุใดโคฑเส จึงลอบสังหารคานธี? "นถูราม โคฑเส" เป็นนักชาตินิยมฮินดู และเป็นสมาชิกของ ราษฏรียสวยัมเสวักสงฆ์ (RSS) กลุ่มขวาจัด ที่สนับสนุนการปกครองโดยชาวฮินดู โคฑเสเชื่อว่า คานธีให้ความช่วยเหลือชาวมุสลิม มากเกินไป และมีบทบาทสำคัญ ในการสนับสนุน การแยกดินแดนอินเดีย และปากีสถาน เขาเห็นว่าคานธีเป็นอุปสรรค ต่อความเป็นเอกภาพ ของชาวฮินดูในอินเดีย และการที่คานธี เรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียส่งเงิน 550 ล้านรูปี ให้กับปากีสถาน ยิ่งทำให้เขาโกรธแค้น หลังการสังหาร โคฑเสถูกจับกุมทันที และถูกนำตัวขึ้นศาล พร้อมกับผู้สมรู้ร่วมคิดอีกหลายคน ในที่สุด เขาถูกตัดสินประหารชีวิต และถูกแขวนคอ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2492 บุรุษผู้เปลี่ยนแปลงโลกด้วยสันติวิธี ต้นกำเนิดของนักต่อสู้ผู้ยิ่งใหญ่ "มหาตมา คานธี" หรือ "โมหนทาส กรมจันท์ คานธี" เกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2412 ที่รัฐคุชราต ประเทศอินเดีย เติบโตมาในครอบครัวชาวฮินดู และเดินทางไปศึกษากฎหมายที่ อินเนอร์เทมเพิล ลอนดอน ก่อนกลับมาอินเดีย ค้นพบ “สัตยาเคราะห์” บนแผ่นดินแอฟริกาใต้ ขณะที่คานธีทำงานเป็นทนาย ในแอฟริกาใต้ เขาประสบเหตุการณ์เหยียดเชื้อชาติ เมื่อเขาถูกไล่ออกจากตู้รถไฟชั้นหนึ่ง เพียงเพราะเป็นชาวอินเดีย เหตุการณ์นี้ ทำให้คานธี ตระหนักถึงความอยุติธรรม และจุดประกายให้เขาต่อสู้ เพื่อสิทธิพลเมือง คานธีพัฒนาแนวคิด “สัตยาเคราะห์” (Satyagraha) ซึ่งหมายถึง “การยึดมั่นในสัจจะ” หรือ “การต่อต้านโดยสันติวิธี” โดยมุ่งเน้นการใช้ความจริง ความรัก และความไม่รุนแรง เป็นอาวุธหลัก สัตยาเคราะห์ พลังแห่งสัจจะและสันติ สัตยาเคราะห์เป็นหัวใจสำคัญ ในการต่อสู้ของคานธี เพื่อปลดแอกอินเดียจากอังกฤษ โดยมีหลักการสำคัญ ได้แก่ 1. อหิงสา (Ahimsa) การไม่ใช้ความรุนแรง คานธีเชื่อว่า ความรุนแรงก่อให้เกิดความเกลียดชัง และการแก้แค้นที่ไม่มีที่สิ้นสุด 2. สัจจะ (Satya) ความจริง เขาเชื่อว่าความจริงคือสิ่งสูงสุด และคนที่ยึดมั่นในความจริง จะได้รับชัยชนะเสมอ 3. ตบะ (Tapasya) ความอดทนและเสียสละ คานธีอดอาหารประท้วงหลายครั้ง เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ให้กับคนทุกศาสนา ขบวนการอิสระของอินเดีย จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ เดินขบวนเกลือ (Salt March) ปี 2473 คานธีนำประชาชนเดินเท้า เป็นระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร เพื่อประท้วงกฎหมายภาษีเกลือ ของอังกฤษ ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนการต่อต้าน ที่ทรงพลังที่สุด ขบวนการ “ออกจากอินเดีย” (Quit India Movement) ปี 2485 คานธีเรียกร้องให้อังกฤษ ถอนตัวจากอินเดีย โดยไม่มีเงื่อนไข ทำให้อังกฤษจับกุมเขา และผู้สนับสนุนจำนวนมาก ในที่สุด วันที่ 15 สิงหาคม 2490 อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ แต่ต้องแลกมา ด้วยการแบ่งประเทศเป็นอินเดีย และปากีสถาน ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้ง และการอพยพครั้งใหญ่ มรดกของมหาตมา คานธี อิทธิพลต่อโลก แม้จะถูกลอบสังหาร แต่แนวคิดของคานธี ได้เป็นแรงบันดาลใจ ให้ขบวนการเรียกร้องสิทธิพลเมือง ทั่วโลก เช่น ✅ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ขบวนการสิทธิพลเมือง ของคนผิวดำในอเมริกา ✅ เนลสัน แมนเดลา การต่อต้านการแบ่งแยกสีผิว ในแอฟริกาใต้ ✅ ดาไลลามะ การต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ ของทิเบต คานธี กับบทเรียนแห่งสันติ การลอบสังหารมหาตมา คานธี เป็นโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ แต่แนวคิดของเขายังคงอยู่ และเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้คนทั่วโลก 🌏 ความจริงและสันติวิธี เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในการเปลี่ยนแปลงโลก 🙏 อหิงสา ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือความกล้าหาญ ในการให้อภัย 💡 สัตยาเคราะห์ เป็นเครื่องมือแห่งการต่อสู้ เพื่อความยุติธรรม 77 ปี ผ่านไป... ชื่อของคานธี ยังคงเป็นสัญลักษณ์ แห่งสันติภาพ 🕊️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 300857 ม.ค. 2568 #MahatmaGandhi #Gandhi77Years #Satyagraha #อหิงสา #สันติวิธี #IndiaIndependence #PeaceMovement #QuitIndia #GandhiPhilosophy #GandhiLegacy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้พิพากษาสั่งระงับคำสั่งทรัมป์ในการพักการให้เงินกู้ เงินให้เปล่า และความช่วยเหลือทางการเงินอื่นๆ ของรัฐบาลกลางเป็นการชั่วคราว ตามการฟ้องร้องของกลุ่มที่เป็นตัวแทนองค์กรไม่หวังผลกำไร บุคลากรทางการแพทย์ และธุรกิจขนาดเล็กที่ระบุว่า คำสั่งของทำเนียบขาวอาจกระทบต่อโครงการที่ให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกันหลายสิบล้านคน
    .
    ลอเรน อาลีข่าน ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ สั่งให้คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระงับการขัดขวางการให้เงินช่วยเหลือโครงการต่างๆ จนถึงวันที่ 3 ก.พ. ซึ่งจะมีการให้การในศาลที่วอชิงตัน
    .
    คำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ในส่วนนี้เป็นขั้นตอนล่าสุดของความพยายามยกเครื่องรัฐบาลกลาง โดยก่อนหน้านี้เขาสั่งระงับการให้ความช่วยเหลือต่างชาติ ระงับการจ้างงาน และยกเลิกโครงการความหลากหลายในหน่วยงานรัฐบาลหลายสิบแห่ง
    .
    พรรคเดโมแครตโจมตีคำสั่งระงับเงินช่วยเหลือว่า เป็นการโจมตีอำนาจของคองเกรสในการกำกับดูแลการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งทำให้การจ่ายเงินให้แพทย์และครูที่ดูแลเด็กก่อนวัยเรียนหยุดชะงัก ทว่า รีพับลิกันอ้างว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นการทำตามคำสัญญาระหว่างหาเสียงของทรัมป์ในการควบคุมงบประมาณที่มากผิดปกติของรัฐบาล
    .
    นอกจากนั้น คณะบริหารของทรัมป์ยังยืนยันว่า โปรแกรมที่มอบสิทธิพิเศษที่สำคัญให้แก่ประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบ
    .
    ทว่า วุฒิสมาชิกรอน ไวเดน จากพรรคเดโมแครต เผยว่า ได้รับการยืนยันจากแพทย์จากทั้ง 50 รัฐว่า ไม่ได้รับเงินจากโครงการเมดิแคร์ที่ให้การประกันสุขภาพชาวอเมริกันที่มีรายได้ต่ำ 70 ล้านคน
    .
    แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า รัฐบาลกลางรับรู้ว่า พอร์ทัลเมดิเคดเกิดการขัดข้องและจะกลับมาออนไลน์ได้ตามปกติเร็วๆ นี้ พร้อมยืนยันว่า การจ่ายเงินไม่ได้รับผลกระทบ
    .
    คำสั่งดังกล่าวที่ปรากฏอยู่ในบันทึกของสำนักงานงบประมาณทำเนียบขาวระบุให้ระงับเงินให้เปล่าและเงินกู้ของรัฐบาลกลางนับจากเวลา 17.00 น. วันอังคาร (28 ม.ค.) โดยครอบคลุมถึงเงินช่วยเหลือต่างชาติ
    .
    และองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) พร้อมสั่งการให้หน่วยงาน 55 แห่งตรวจสอบโครงการเงินให้เปล่ากว่า 2,600 โครงการ
    .
    ทำเนียบขาวยืนยันว่า การระงับเงินช่วยเหลือจะไม่กระทบต่อการจ่ายเงินของโครงการสวัสดิการสังคม หรือเมดิแคร์ที่ให้แก่ผู้สูงวัยหรือความช่วยเหลือโดยตรงแก่ประชาชน เช่น ความช่วยเหลือด้านอาหารและโครงการสวัสดิการสำหรับผู้ยากไร้
    .
    ทั้งนี้ เงินให้เปล่าและเงินกู้ของรัฐบาลมีความสำคัญต่อทุกแง่มุมชีวิตของคนอเมริกันอย่างแท้จริง โดยเงินนับล้านล้านดอลลาร์ถูกอัดฉีดให้โครงการด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ และการต่อสู้กับความยากจน ให้ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย บรรเทาทุกข์ในเหตุการณ์ภัยพิบัติ สนับสนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานและอื่นๆ อีกมากมาย
    .
    ในบันทึกฉบับที่สอง ทำเนียบขาวระบุว่า เงินสนับสนุนสำหรับโครงการเมดิเคด เกษตรกร ธุรกิจขนาดเล็ก ความช่วยเหลือสำหรับผู้จ่ายค่าเช่า และโครงการเฮดสตาร์ตสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนจะดำเนินต่อไปโดยไม่มีการหยุดชะงัก
    .
    ทว่า วุฒิสมาชิกคริส เมอร์ฟีย์ จากพรรคเดโมแครต ระบุว่า ระบบเบิกจ่ายของโครงการเฮดสตาร์ตในรัฐคอนเน็กติกัตของตนถูกปิด ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ได้
    .
    ขณะเดียวกัน ซารา แรตเนอร์ จากบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ โนมิ เฮลธ์ สำทับว่า หากรัฐบาลกลางระงับเงินช่วยเหลือแก่ผู้รับเหมาสัญญาเมดิเคด อาจทำให้บริษัทเหล่านั้นต้องปิดกิจการตามๆ กัน
    .
    บันทึกของทำเนียบขาวดูเหมือนไม่มีข้อยกเว้นในการตัดความช่วยเหลือสำหรับภัยพิบัติให้แก่พื้นที่อย่างลอสแองเจลิสและด้านตะวันตกของรัฐนอร์ธแคโรไลนาที่เสียหายหนักจากภัยธรรมชาติ แม้ทรัมป์ให้คำมั่นว่า รัฐบาลจะให้การสนับสนุนระหว่างเดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัยทั้งสองแห่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ตาม
    .
    ทั้งนี้ หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพยายามทำความเข้าใจว่า จะดำเนินการตามคำสั่งใหม่ของคณะบริหารอย่างไร
    .
    พรรครีพับลิกันของทรัมป์พยายามผลักดันการลดการใช้จ่ายของรัฐบาลมาโดยตลอด แม้ทรัมป์ให้สัญญาว่า จะไม่แตะต้องโครงการสวัสดิการสังคมและเมดิแคร์ที่เป็นองค์ประกอบเกือบ 1 ใน 3 ของงบประมาณก็ตาม
    .
    ทว่า เดโมแครตวิจารณ์ว่า การระงับการใช้จ่ายดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอันตราย เนื่องจากครอบครัวอเมริกันชนคือผู้ที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุด
    .
    อนึ่ง รัฐธรรมนูญของอเมริกาให้อำนาจคองเกรสในการควบคุมการใช้จ่ายของรัฐบาล ทว่า ทรัมป์ประกาศระหว่างหาเสียงว่า เขาเชื่อว่า ประธานาธิบดีมีอำนาจในการระงับการใช้จ่ายในโครงการที่ตนเองไม่ชอบ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009485
    ..............
    Sondhi X
    ผู้พิพากษาสั่งระงับคำสั่งทรัมป์ในการพักการให้เงินกู้ เงินให้เปล่า และความช่วยเหลือทางการเงินอื่นๆ ของรัฐบาลกลางเป็นการชั่วคราว ตามการฟ้องร้องของกลุ่มที่เป็นตัวแทนองค์กรไม่หวังผลกำไร บุคลากรทางการแพทย์ และธุรกิจขนาดเล็กที่ระบุว่า คำสั่งของทำเนียบขาวอาจกระทบต่อโครงการที่ให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกันหลายสิบล้านคน . ลอเรน อาลีข่าน ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ สั่งให้คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระงับการขัดขวางการให้เงินช่วยเหลือโครงการต่างๆ จนถึงวันที่ 3 ก.พ. ซึ่งจะมีการให้การในศาลที่วอชิงตัน . คำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ในส่วนนี้เป็นขั้นตอนล่าสุดของความพยายามยกเครื่องรัฐบาลกลาง โดยก่อนหน้านี้เขาสั่งระงับการให้ความช่วยเหลือต่างชาติ ระงับการจ้างงาน และยกเลิกโครงการความหลากหลายในหน่วยงานรัฐบาลหลายสิบแห่ง . พรรคเดโมแครตโจมตีคำสั่งระงับเงินช่วยเหลือว่า เป็นการโจมตีอำนาจของคองเกรสในการกำกับดูแลการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งทำให้การจ่ายเงินให้แพทย์และครูที่ดูแลเด็กก่อนวัยเรียนหยุดชะงัก ทว่า รีพับลิกันอ้างว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นการทำตามคำสัญญาระหว่างหาเสียงของทรัมป์ในการควบคุมงบประมาณที่มากผิดปกติของรัฐบาล . นอกจากนั้น คณะบริหารของทรัมป์ยังยืนยันว่า โปรแกรมที่มอบสิทธิพิเศษที่สำคัญให้แก่ประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบ . ทว่า วุฒิสมาชิกรอน ไวเดน จากพรรคเดโมแครต เผยว่า ได้รับการยืนยันจากแพทย์จากทั้ง 50 รัฐว่า ไม่ได้รับเงินจากโครงการเมดิแคร์ที่ให้การประกันสุขภาพชาวอเมริกันที่มีรายได้ต่ำ 70 ล้านคน . แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า รัฐบาลกลางรับรู้ว่า พอร์ทัลเมดิเคดเกิดการขัดข้องและจะกลับมาออนไลน์ได้ตามปกติเร็วๆ นี้ พร้อมยืนยันว่า การจ่ายเงินไม่ได้รับผลกระทบ . คำสั่งดังกล่าวที่ปรากฏอยู่ในบันทึกของสำนักงานงบประมาณทำเนียบขาวระบุให้ระงับเงินให้เปล่าและเงินกู้ของรัฐบาลกลางนับจากเวลา 17.00 น. วันอังคาร (28 ม.ค.) โดยครอบคลุมถึงเงินช่วยเหลือต่างชาติ . และองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) พร้อมสั่งการให้หน่วยงาน 55 แห่งตรวจสอบโครงการเงินให้เปล่ากว่า 2,600 โครงการ . ทำเนียบขาวยืนยันว่า การระงับเงินช่วยเหลือจะไม่กระทบต่อการจ่ายเงินของโครงการสวัสดิการสังคม หรือเมดิแคร์ที่ให้แก่ผู้สูงวัยหรือความช่วยเหลือโดยตรงแก่ประชาชน เช่น ความช่วยเหลือด้านอาหารและโครงการสวัสดิการสำหรับผู้ยากไร้ . ทั้งนี้ เงินให้เปล่าและเงินกู้ของรัฐบาลมีความสำคัญต่อทุกแง่มุมชีวิตของคนอเมริกันอย่างแท้จริง โดยเงินนับล้านล้านดอลลาร์ถูกอัดฉีดให้โครงการด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ และการต่อสู้กับความยากจน ให้ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย บรรเทาทุกข์ในเหตุการณ์ภัยพิบัติ สนับสนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานและอื่นๆ อีกมากมาย . ในบันทึกฉบับที่สอง ทำเนียบขาวระบุว่า เงินสนับสนุนสำหรับโครงการเมดิเคด เกษตรกร ธุรกิจขนาดเล็ก ความช่วยเหลือสำหรับผู้จ่ายค่าเช่า และโครงการเฮดสตาร์ตสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนจะดำเนินต่อไปโดยไม่มีการหยุดชะงัก . ทว่า วุฒิสมาชิกคริส เมอร์ฟีย์ จากพรรคเดโมแครต ระบุว่า ระบบเบิกจ่ายของโครงการเฮดสตาร์ตในรัฐคอนเน็กติกัตของตนถูกปิด ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ได้ . ขณะเดียวกัน ซารา แรตเนอร์ จากบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ โนมิ เฮลธ์ สำทับว่า หากรัฐบาลกลางระงับเงินช่วยเหลือแก่ผู้รับเหมาสัญญาเมดิเคด อาจทำให้บริษัทเหล่านั้นต้องปิดกิจการตามๆ กัน . บันทึกของทำเนียบขาวดูเหมือนไม่มีข้อยกเว้นในการตัดความช่วยเหลือสำหรับภัยพิบัติให้แก่พื้นที่อย่างลอสแองเจลิสและด้านตะวันตกของรัฐนอร์ธแคโรไลนาที่เสียหายหนักจากภัยธรรมชาติ แม้ทรัมป์ให้คำมั่นว่า รัฐบาลจะให้การสนับสนุนระหว่างเดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัยทั้งสองแห่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ตาม . ทั้งนี้ หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพยายามทำความเข้าใจว่า จะดำเนินการตามคำสั่งใหม่ของคณะบริหารอย่างไร . พรรครีพับลิกันของทรัมป์พยายามผลักดันการลดการใช้จ่ายของรัฐบาลมาโดยตลอด แม้ทรัมป์ให้สัญญาว่า จะไม่แตะต้องโครงการสวัสดิการสังคมและเมดิแคร์ที่เป็นองค์ประกอบเกือบ 1 ใน 3 ของงบประมาณก็ตาม . ทว่า เดโมแครตวิจารณ์ว่า การระงับการใช้จ่ายดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอันตราย เนื่องจากครอบครัวอเมริกันชนคือผู้ที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุด . อนึ่ง รัฐธรรมนูญของอเมริกาให้อำนาจคองเกรสในการควบคุมการใช้จ่ายของรัฐบาล ทว่า ทรัมป์ประกาศระหว่างหาเสียงว่า เขาเชื่อว่า ประธานาธิบดีมีอำนาจในการระงับการใช้จ่ายในโครงการที่ตนเองไม่ชอบ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009485 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 0 รีวิว
  • วุฒิสภาสหรัฐขัดขวางการผ่านร่างกฎหมายคว่ำบาตรศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) จากกรณีตอบโต้การออกหมายจับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู และอดีตรัฐมนตรีกลาโหมโยอัฟ กัลลันต์

    ในการลงคะแนนเสียงเมื่อวันอังคาร ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนเพียง 54 เสียง และคัดค้านมากถึง 45 เสียง ทำให้ยังขาดคะแนนเสียงที่จำเป็นอีก 60 เสียง เพื่อนำเข้าสู่การลงคะแนนเสียงขั้นสุดท้าย

    วุฒิสมาชิกจอห์น เฟตเตอร์แมน (John Fetterman) เป็นสมาชิกจากพรรคเดโมแครตเพียงคนเดียวที่ลงคะแนนเสียงสนับสนุนกฎหมายดังกล่าว เขาได้รับคำชมเชยอย่างรวดเร็วจากคณะกรรมการกิจการสาธารณะอเมริกัน-อิสราเอล (American Israel Public Affairs Committee หรือ AIPAC) ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้ที่มีอิทธิพลอย่างมากที่สนับสนุนอิสราเอล

    วุฒิสภาสหรัฐขัดขวางการผ่านร่างกฎหมายคว่ำบาตรศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) จากกรณีตอบโต้การออกหมายจับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู และอดีตรัฐมนตรีกลาโหมโยอัฟ กัลลันต์ ในการลงคะแนนเสียงเมื่อวันอังคาร ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนเพียง 54 เสียง และคัดค้านมากถึง 45 เสียง ทำให้ยังขาดคะแนนเสียงที่จำเป็นอีก 60 เสียง เพื่อนำเข้าสู่การลงคะแนนเสียงขั้นสุดท้าย วุฒิสมาชิกจอห์น เฟตเตอร์แมน (John Fetterman) เป็นสมาชิกจากพรรคเดโมแครตเพียงคนเดียวที่ลงคะแนนเสียงสนับสนุนกฎหมายดังกล่าว เขาได้รับคำชมเชยอย่างรวดเร็วจากคณะกรรมการกิจการสาธารณะอเมริกัน-อิสราเอล (American Israel Public Affairs Committee หรือ AIPAC) ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้ที่มีอิทธิพลอย่างมากที่สนับสนุนอิสราเอล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลจังหวัดนนทบุรียกคำร้องตุ๋ย พรศักดิ์ ทนายความของ แซน วิศาพัช คนบนเรือขอให้ไต่สวนอัจฉริยะ-ปานเทพกรณีจำลองเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ ชี้ไม่ละเมิดอำนาจศาล แถมเตือนไม่ให้สัมภาษณ์กระบวนการพิจารณาคดีในศาล
    .
    วันนี้ (29 ม.ค.) จากกรณีที่นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือทนายตุ๋ย ทนายความของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน หนึ่งในบุคคลที่อยู่ในเรือสปีดโบ้ท ที่ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ตกจากเรือเสียชีวิต ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาล 2 สำนวน ได้แก่ การจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต โดยมีผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ หรือ อาจารย์หมอธวัชชัย และนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา และกรณีของนักอาชญวิทยารายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า มาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ ซึ่งจะยื่นให้ศาลไต่สวนว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่
    .
    ปรากฎว่า นายพรศักดิ์ กล่าวหลังออกจากศาลว่า ในการสืบพยานวันนี้ ยังสืบพยานไม่เสร็จ คดีเดิมไปตามปกติทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนคดีที่มีการยื่นไต่สวนเรื่องละเมิดอำนาจศาล เรื่องการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือ ขอยังไม่ขอให้ข้อมูล
    .
    "วันนี้ผมมายื่นคำร้องศาลขอให้ท่านพิจารณาเรื่องละเมิดอำนาจศาล วันนี้ศาลได้พิจารณาตามคำร้องของผมแล้ว เห็นว่าในชั้นนี้ยังไม่เรียกผู้ที่ถูกร้องมาไต่สวน แต่ศาลได้รับทราบและเริ่มนับหนึ่งจากวันนี้ไปว่า หลังจากนี้จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ามีอะไรเกิดขึ้นอีกไหม ศาลจะพิจารณาและใช้ดุลยพินิจต่อไป นี่คือคำสั่งที่ออกมาตามนี้ ผมก็เลยมาแจ้งให้ทราบ ส่วนเรื่องอื่นๆ ขออนุญาตไม่พูดแล้วกัน เนื่องจากศาลกำชับมาว่าไม่ให้มีการเผยแพร่เรื่องกระบวนพิจารณาอะไรในคดีนี้กับทางสื่อมวลชนอีก ... ผมพูดได้แค่นี้จริงๆ เพราะศาลกำชับมา" นายพรศักดิ์ กล่าว
    .
    ปรากฎว่า นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะผู้ที่ร่วมจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต กล่าวผ่านเฟซบุ๊กเพจว่า "ทนายตุ๋ยควรจะพูดให้ชัดๆ สรุปคือศาลยกคำร้องเพราะพวกเราไม่ได้ละเมิดอำนาจศาล จึงไม่มีการไต่สวนจำเลยตามคำร้องของทนายตุ๋ย และเตือนไม่ให้ทนายจำเลยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาคดีในศาล"
    .
    มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ศาลจังหวัดนนทบุรีได้ยกคำร้องกรณีที่นายพรศักดิ์ ทนายความของนายวิศาพัช หรือแซน ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาล กรณีนายอัจฉริยะและคณะจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต เนื่องจากไม่ได้ละเมิดอำนาจศาล จึงไม่มีการไต่สวนจำเลยตามคำร้องของนายพรศักดิ์แต่อย่างใด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009403
    .........
    Sondhi X
    ศาลจังหวัดนนทบุรียกคำร้องตุ๋ย พรศักดิ์ ทนายความของ แซน วิศาพัช คนบนเรือขอให้ไต่สวนอัจฉริยะ-ปานเทพกรณีจำลองเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ ชี้ไม่ละเมิดอำนาจศาล แถมเตือนไม่ให้สัมภาษณ์กระบวนการพิจารณาคดีในศาล . วันนี้ (29 ม.ค.) จากกรณีที่นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือทนายตุ๋ย ทนายความของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน หนึ่งในบุคคลที่อยู่ในเรือสปีดโบ้ท ที่ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ตกจากเรือเสียชีวิต ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาล 2 สำนวน ได้แก่ การจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต โดยมีผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ หรือ อาจารย์หมอธวัชชัย และนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา และกรณีของนักอาชญวิทยารายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า มาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ ซึ่งจะยื่นให้ศาลไต่สวนว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ . ปรากฎว่า นายพรศักดิ์ กล่าวหลังออกจากศาลว่า ในการสืบพยานวันนี้ ยังสืบพยานไม่เสร็จ คดีเดิมไปตามปกติทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนคดีที่มีการยื่นไต่สวนเรื่องละเมิดอำนาจศาล เรื่องการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือ ขอยังไม่ขอให้ข้อมูล . "วันนี้ผมมายื่นคำร้องศาลขอให้ท่านพิจารณาเรื่องละเมิดอำนาจศาล วันนี้ศาลได้พิจารณาตามคำร้องของผมแล้ว เห็นว่าในชั้นนี้ยังไม่เรียกผู้ที่ถูกร้องมาไต่สวน แต่ศาลได้รับทราบและเริ่มนับหนึ่งจากวันนี้ไปว่า หลังจากนี้จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ามีอะไรเกิดขึ้นอีกไหม ศาลจะพิจารณาและใช้ดุลยพินิจต่อไป นี่คือคำสั่งที่ออกมาตามนี้ ผมก็เลยมาแจ้งให้ทราบ ส่วนเรื่องอื่นๆ ขออนุญาตไม่พูดแล้วกัน เนื่องจากศาลกำชับมาว่าไม่ให้มีการเผยแพร่เรื่องกระบวนพิจารณาอะไรในคดีนี้กับทางสื่อมวลชนอีก ... ผมพูดได้แค่นี้จริงๆ เพราะศาลกำชับมา" นายพรศักดิ์ กล่าว . ปรากฎว่า นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะผู้ที่ร่วมจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต กล่าวผ่านเฟซบุ๊กเพจว่า "ทนายตุ๋ยควรจะพูดให้ชัดๆ สรุปคือศาลยกคำร้องเพราะพวกเราไม่ได้ละเมิดอำนาจศาล จึงไม่มีการไต่สวนจำเลยตามคำร้องของทนายตุ๋ย และเตือนไม่ให้ทนายจำเลยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาคดีในศาล" . มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ศาลจังหวัดนนทบุรีได้ยกคำร้องกรณีที่นายพรศักดิ์ ทนายความของนายวิศาพัช หรือแซน ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาล กรณีนายอัจฉริยะและคณะจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต เนื่องจากไม่ได้ละเมิดอำนาจศาล จึงไม่มีการไต่สวนจำเลยตามคำร้องของนายพรศักดิ์แต่อย่างใด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009403 ......... Sondhi X
    Like
    Haha
    23
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 597 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทนายเดชา เผยศาลสืบพยานจำเลยคดีแตงโม 2 ปากสุดท้าย พิจารณา 2 เดือนครึ่งก่อนมีคำพิพากษา พร้อมยื่นคำร้องไต่สวน"ปานเทพ-อัจฉริยะ-หมอธวัชชัย" จำลองเหตุการณ์ตกเรือละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ส่วนทนาย แซน วิศาพัช ยื่นไต่สวนนักอาชญวิทยาดังให้สัมภาษณ์
    .
    วันนี้ (29 ม.ค.) ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ดาราสาวที่ตกเรือสปีดโบ้ทเสียชีวิต เดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรี ในนัดสืบพยานคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งวันนี้เป็นการสืบพยานจำเลย นัดสุดท้ายรวม 2 ปาก ประกอบด้วย น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม กับ นายภีม ธรรมศรี หรือเอ็ม โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มี น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก พร้อมด้วย นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือทนายตุ๋ย ทนายความของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน และนางภนิดา เดินทางมาร่วมฟังการพิจารณาคดีเมื่อเวลา 9.00 น.
    .
    นายเดชา กล่าวว่า การสืบพยานจำเลยในวันนี้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากจำเลยจะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือให้ศาลรับฟัง ซึ่งเป็นไปตามข้อเท็จจริง ส่วนจะสืบพยานแล้วเสร็จในวันนี้เลยหรือไม่ ศาลจะเป็นผู้พิจารณา ขั้นตอนหลังจากนี้ ศาลจะใช้เวลาพิจารณาคดีอีกประมาณ 2 เดือนครึ่ง ก่อนที่จะมีคำพิพากษา และเท่าที่ได้คุยกับนายพรศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า วันนี้จะมีการยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาล 2 สำนวน
    .
    สำนวนแรก เป็นเรื่องของการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต โดยมีผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ หรือ อาจารย์หมอธวัชชัย และนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา
    .
    ส่วนอีกสำนวน เป็นกรณีของนักอาชญวิทยารายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า มาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ ซึ่งการให้ข้อมูลดังกล่าว นายพรศักดิ์ ทนายความแซน วิศาพัช จะยื่นให้ศาลไต่สวนว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่
    .
    ส่วนความพยายามรื้อคดีการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา ของนายอัจฉริยะและพวก นายเดชาระบุว่า ที่ผ่านมามีการพูดคุยกับนายอัจฉริยะ เบื้องต้นยืนยันว่าการรื้อคดีเหตุแห่งการเสียชีวิต น่าจะมีความยุ่งยากซับซ้อนในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นในชั้นต้นและอุทธรณ์ แต่จะมุ่งเน้นไปที่ตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีความบกพร่อง หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการยื่นเรื่องให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวแล้ว
    .
    ส่วนกรณีที่ทนายโจทก์ ทนายจำเลยในคดีเดียวกัน หารือกันในข้อกฎหมาย แต่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับข้อกฎหมาย สามารถทำได้ เพราะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสำนวนคดี ส่วนการตัดพยานบางปากออกจากสำนวน เป็นความประสงค์ของนางพนิดา แม่ของแตงโม เนื่องจากมองว่ามีพยานที่เป็นหมอมาเบิกความจำนวนหลายปากแล้ว ทำให้เสียเวลาในการสืบพยาน
    .
    นายเดชา ยังกล่าวว่า กรณีแม่ของแตงโมก็เห็นด้วย ถ้าหากมีพยานหลักฐานใหม่ ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับฝั่งของนายอัจฉริยะ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009329
    .........
    Sondhi X
    ทนายเดชา เผยศาลสืบพยานจำเลยคดีแตงโม 2 ปากสุดท้าย พิจารณา 2 เดือนครึ่งก่อนมีคำพิพากษา พร้อมยื่นคำร้องไต่สวน"ปานเทพ-อัจฉริยะ-หมอธวัชชัย" จำลองเหตุการณ์ตกเรือละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ส่วนทนาย แซน วิศาพัช ยื่นไต่สวนนักอาชญวิทยาดังให้สัมภาษณ์ . วันนี้ (29 ม.ค.) ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ดาราสาวที่ตกเรือสปีดโบ้ทเสียชีวิต เดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรี ในนัดสืบพยานคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งวันนี้เป็นการสืบพยานจำเลย นัดสุดท้ายรวม 2 ปาก ประกอบด้วย น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม กับ นายภีม ธรรมศรี หรือเอ็ม โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มี น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก พร้อมด้วย นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือทนายตุ๋ย ทนายความของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน และนางภนิดา เดินทางมาร่วมฟังการพิจารณาคดีเมื่อเวลา 9.00 น. . นายเดชา กล่าวว่า การสืบพยานจำเลยในวันนี้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากจำเลยจะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือให้ศาลรับฟัง ซึ่งเป็นไปตามข้อเท็จจริง ส่วนจะสืบพยานแล้วเสร็จในวันนี้เลยหรือไม่ ศาลจะเป็นผู้พิจารณา ขั้นตอนหลังจากนี้ ศาลจะใช้เวลาพิจารณาคดีอีกประมาณ 2 เดือนครึ่ง ก่อนที่จะมีคำพิพากษา และเท่าที่ได้คุยกับนายพรศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า วันนี้จะมีการยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาล 2 สำนวน . สำนวนแรก เป็นเรื่องของการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต โดยมีผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ หรือ อาจารย์หมอธวัชชัย และนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา . ส่วนอีกสำนวน เป็นกรณีของนักอาชญวิทยารายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า มาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ ซึ่งการให้ข้อมูลดังกล่าว นายพรศักดิ์ ทนายความแซน วิศาพัช จะยื่นให้ศาลไต่สวนว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ . ส่วนความพยายามรื้อคดีการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา ของนายอัจฉริยะและพวก นายเดชาระบุว่า ที่ผ่านมามีการพูดคุยกับนายอัจฉริยะ เบื้องต้นยืนยันว่าการรื้อคดีเหตุแห่งการเสียชีวิต น่าจะมีความยุ่งยากซับซ้อนในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นในชั้นต้นและอุทธรณ์ แต่จะมุ่งเน้นไปที่ตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีความบกพร่อง หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการยื่นเรื่องให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวแล้ว . ส่วนกรณีที่ทนายโจทก์ ทนายจำเลยในคดีเดียวกัน หารือกันในข้อกฎหมาย แต่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับข้อกฎหมาย สามารถทำได้ เพราะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสำนวนคดี ส่วนการตัดพยานบางปากออกจากสำนวน เป็นความประสงค์ของนางพนิดา แม่ของแตงโม เนื่องจากมองว่ามีพยานที่เป็นหมอมาเบิกความจำนวนหลายปากแล้ว ทำให้เสียเวลาในการสืบพยาน . นายเดชา ยังกล่าวว่า กรณีแม่ของแตงโมก็เห็นด้วย ถ้าหากมีพยานหลักฐานใหม่ ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับฝั่งของนายอัจฉริยะ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009329 ......... Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 620 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาเฟียจีน กับ ลูกกระจ๊อกตร.ไทย ความบรรลัยที่ไม่จบสิ้น
    การจับมือกันระหว่างผู้กว้างขวางไทยชื่อเสี่ยออพัทยา กับมาเฟียจีนเทาจากแผ่นดินใหญ่ชื่อว่าบ๊อบบี้
    เมื่อเดือนกันยายน 2567 เกิดเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์บุกอุ้มตัวนักธุรกิจชาวจีน ชื่อนายเฉินจิง บริเวณหน้าสถานบันเทิงเวิลด์เฮ้าส์คลับ พัทยา กลุ่มคนร้ายพยายามกระชากลากตัวนายเฉินจิงไปขึ้นรถตู้อัลพาร์ดสีขาว แต่นายเฉินจิงขัดขืนต่อสู้สุดชีวิตเลยดิ้นหลุดออกจากรถตู้มาได้ แต่ไม่รอดจากการถูกรุมกระทืบจนบาดเจ็บสาหัสที่ดวงตาแถมยังถูกชิงสร้อยคอทองคํา ราคา 2.5ล้านบาทไปด้วย
    หลังแจ้งความและตรวจร่างกายเรียบร้อย นายเฉินจิงก็รีบบินหนีอิทธิพลมืดจากจีนในวันรุ่งขึ้นทันที แต่ปรากฏว่าตํารวจเมืองพัทยาออกอาการไม่อยากทําคดี ผ่านไปนาน 5 เดือนคดีไม่มีความคืบหน้า พร้อมท้าทายว่าคดีนี้ไม่มีใครจะทําอะไรพวกกูได้เพราะกูมีลูกพี่ใหญ่คนไทย ให้การคุ้มครอง
    นายเฉินจิง แม้จะเกรงกลัวจนไม่กล้ามาไทยแต่ก็ได้มอบหมาย คนส่งเอกสารและตามคดีกับทางพนักงานสอบสวนสภ. เมืองพัทยา ยืนยันขอดําเนินการกับผู้ต้องหาจนถึงที่สุดแต่ก็ถูกเตะถ่วงอยู่ดี
    จนเมื่อต้นปี2567 มีชายต่างชาติพาสิงโตนั่งรถเบนรี่ เปิดประทุนพาเที่ยวชมเมืองพัทยา จนผู้คนแตกตื่นแท้จริงแล้วสิงโตนั้นเป็นสัตว์เสริมบารมีของบ๊อบบี้มาเฟียจีนเทาคนนี้
    ในที่สุดตํารวจพัทยา สุดจะเตะถ่วงได้อีกต่อไปจึงขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา8 ราย เป็นจีน 5 ไทย 3แต่คนร้ายบางคนมีพรายกระซิบ ชิงบินหนีไปกัมพูชาก่อนมีหมายจับอย่างเฉียดฉิวแต่บ๊อบบี้ไม่ได้บินหนีไปด้วยยังคงกบดานอยู่ในไทย
    แถมยังติดต่อกลับไปยังนายเฉินจิงผู้เสียหายว่าให้ถอนแจ้งความเสียจะยอมจ่ายชดเชยค่าเสียหายให้รวมทั้งคืนสร้อยคอ 2.5 ล้านให้ด้วย
    ต้องดูน้ํายาตํารวจไทยต่อไปจะปล่อยให้แก๊งมาเฟียจีนเทาพัทยาเหยียบย่ํากฎหมายไทยต่อไปหรือจะขุดรากถอนโคนกันไปเลย
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    มาเฟียจีน กับ ลูกกระจ๊อกตร.ไทย ความบรรลัยที่ไม่จบสิ้น การจับมือกันระหว่างผู้กว้างขวางไทยชื่อเสี่ยออพัทยา กับมาเฟียจีนเทาจากแผ่นดินใหญ่ชื่อว่าบ๊อบบี้ เมื่อเดือนกันยายน 2567 เกิดเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์บุกอุ้มตัวนักธุรกิจชาวจีน ชื่อนายเฉินจิง บริเวณหน้าสถานบันเทิงเวิลด์เฮ้าส์คลับ พัทยา กลุ่มคนร้ายพยายามกระชากลากตัวนายเฉินจิงไปขึ้นรถตู้อัลพาร์ดสีขาว แต่นายเฉินจิงขัดขืนต่อสู้สุดชีวิตเลยดิ้นหลุดออกจากรถตู้มาได้ แต่ไม่รอดจากการถูกรุมกระทืบจนบาดเจ็บสาหัสที่ดวงตาแถมยังถูกชิงสร้อยคอทองคํา ราคา 2.5ล้านบาทไปด้วย หลังแจ้งความและตรวจร่างกายเรียบร้อย นายเฉินจิงก็รีบบินหนีอิทธิพลมืดจากจีนในวันรุ่งขึ้นทันที แต่ปรากฏว่าตํารวจเมืองพัทยาออกอาการไม่อยากทําคดี ผ่านไปนาน 5 เดือนคดีไม่มีความคืบหน้า พร้อมท้าทายว่าคดีนี้ไม่มีใครจะทําอะไรพวกกูได้เพราะกูมีลูกพี่ใหญ่คนไทย ให้การคุ้มครอง นายเฉินจิง แม้จะเกรงกลัวจนไม่กล้ามาไทยแต่ก็ได้มอบหมาย คนส่งเอกสารและตามคดีกับทางพนักงานสอบสวนสภ. เมืองพัทยา ยืนยันขอดําเนินการกับผู้ต้องหาจนถึงที่สุดแต่ก็ถูกเตะถ่วงอยู่ดี จนเมื่อต้นปี2567 มีชายต่างชาติพาสิงโตนั่งรถเบนรี่ เปิดประทุนพาเที่ยวชมเมืองพัทยา จนผู้คนแตกตื่นแท้จริงแล้วสิงโตนั้นเป็นสัตว์เสริมบารมีของบ๊อบบี้มาเฟียจีนเทาคนนี้ ในที่สุดตํารวจพัทยา สุดจะเตะถ่วงได้อีกต่อไปจึงขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา8 ราย เป็นจีน 5 ไทย 3แต่คนร้ายบางคนมีพรายกระซิบ ชิงบินหนีไปกัมพูชาก่อนมีหมายจับอย่างเฉียดฉิวแต่บ๊อบบี้ไม่ได้บินหนีไปด้วยยังคงกบดานอยู่ในไทย แถมยังติดต่อกลับไปยังนายเฉินจิงผู้เสียหายว่าให้ถอนแจ้งความเสียจะยอมจ่ายชดเชยค่าเสียหายให้รวมทั้งคืนสร้อยคอ 2.5 ล้านให้ด้วย ต้องดูน้ํายาตํารวจไทยต่อไปจะปล่อยให้แก๊งมาเฟียจีนเทาพัทยาเหยียบย่ํากฎหมายไทยต่อไปหรือจะขุดรากถอนโคนกันไปเลย ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูดาวรุ่ง...พยุงดาวร่วง
    สำหรับท่านที่เกิดปีขาล

    เพื่อน้อมอัญเชิญพลังรักอันบริสุทธิ์ขององค์เทพจันทรา “太陰星君(ไท้อิมแชกุง)” ผู้ทรงประทานแสงขาวละมุนกระจ่างใสแก่ผืนฟ้าผืนแผ่นดินแม้ยามค่ำคืนให้กลับสว่างสไวขับไล่ความมืดมนให้จางหายไปและยังเป็นที่พึ่งแก่เหล่าบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ให้พบกับความร่มเย็น ด้วยพลังเมตตาแห่งรัศมีแสงนวลช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งเลวร้ายที่แอบแฝงอยู่ให้หมดสิ้น พร้อมแก้ชงต่อองค์ 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ประจำปี 2568 ที่ทรงพระนามว่า “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) จึงควรไปกราบสักการะบูชาเพื่อน้อมเคารพนบนอบต่อพลังแห่งองค์เทพท่าน ณ ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่มีรูปองค์จำลอง ขององค์เทพท่านสถิตอยู่ หลังวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.นี้ เป็นต้นไป เสมือนเป็นการถวายฝากดวง ชะตาไว้ให้สมปรารถนาทั้งการงานและความรักรับบารมีปกป้องคุ้มครองพร้อมบันดาลความราบรื่นร่มเย็น ตลอดปี 2568 นี้

    อีกทั้งควรน้อมอัญเชิญองค์เทพจันทรา “太陰星君(ไท้อิมแชกุง)” และองค์เทพคุ้มครองดวงชะตา 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ประจำปี 2568 ที่ทรงพระนามว่า “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) มาสักการะเทิดทูนบูชาด้วยการพกพาหรือโหลดภาพเก็บไว้หน้าแรกของโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา เสมือนเป็นสื่ออธิษฐานให้กระแสบารมีของเทพท่านได้แผ่คุ้มครองได้ดียิ่งขึ้นในทุกเวลาทุกสถานที่ เพื่อให้ได้ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น ตลอดทั้งปีนี้
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    มูดาวรุ่ง...พยุงดาวร่วง สำหรับท่านที่เกิดปีขาล เพื่อน้อมอัญเชิญพลังรักอันบริสุทธิ์ขององค์เทพจันทรา “太陰星君(ไท้อิมแชกุง)” ผู้ทรงประทานแสงขาวละมุนกระจ่างใสแก่ผืนฟ้าผืนแผ่นดินแม้ยามค่ำคืนให้กลับสว่างสไวขับไล่ความมืดมนให้จางหายไปและยังเป็นที่พึ่งแก่เหล่าบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ให้พบกับความร่มเย็น ด้วยพลังเมตตาแห่งรัศมีแสงนวลช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งเลวร้ายที่แอบแฝงอยู่ให้หมดสิ้น พร้อมแก้ชงต่อองค์ 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ประจำปี 2568 ที่ทรงพระนามว่า “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) จึงควรไปกราบสักการะบูชาเพื่อน้อมเคารพนบนอบต่อพลังแห่งองค์เทพท่าน ณ ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่มีรูปองค์จำลอง ขององค์เทพท่านสถิตอยู่ หลังวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.นี้ เป็นต้นไป เสมือนเป็นการถวายฝากดวง ชะตาไว้ให้สมปรารถนาทั้งการงานและความรักรับบารมีปกป้องคุ้มครองพร้อมบันดาลความราบรื่นร่มเย็น ตลอดปี 2568 นี้ อีกทั้งควรน้อมอัญเชิญองค์เทพจันทรา “太陰星君(ไท้อิมแชกุง)” และองค์เทพคุ้มครองดวงชะตา 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ประจำปี 2568 ที่ทรงพระนามว่า “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) มาสักการะเทิดทูนบูชาด้วยการพกพาหรือโหลดภาพเก็บไว้หน้าแรกของโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา เสมือนเป็นสื่ออธิษฐานให้กระแสบารมีของเทพท่านได้แผ่คุ้มครองได้ดียิ่งขึ้นในทุกเวลาทุกสถานที่ เพื่อให้ได้ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น ตลอดทั้งปีนี้ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....เนื้อกะไหล่ทอง.....( กรรมการ ).....เลข.....454.....455.....575.....646.....*****

    *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....*****

    *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....*****
    *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....*****
    *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....*****

    *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....*****

    #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....เนื้อกะไหล่ทอง.....( กรรมการ ).....เลข.....454.....455.....575.....646.....***** *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....***** *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....***** *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....***** *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....***** *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....***** #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • Talen Energy ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯ เพื่อพิจารณาการตัดสินใจของคณะกรรมการกำกับดูแลพลังงานแห่งชาติ (FERC) ที่ปฏิเสธข้อตกลงพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูลของ Amazon ที่ตั้งอยู่ร่วมกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของ Talen ในรัฐเพนซิลเวเนีย

    ในปีที่ผ่านมา Talen ได้ขายพื้นที่ศูนย์ข้อมูลให้กับ Amazon ซึ่งจะทำให้ศูนย์ข้อมูลได้รับพลังงานเกือบ 1 กิกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอที่จะจ่ายพลังงานให้กับบ้านเรือนทั้งหมดในเมืองฟิลาเดลเฟีย อย่างไรก็ตาม FERC ได้ปฏิเสธคำขอของ Talen ในการแก้ไขข้อตกลงการเชื่อมต่อเพื่อเพิ่มการจ่ายพลังงานให้กับศูนย์ข้อมูล การเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลกับโรงไฟฟ้าโดยตรง (co-location) เป็นวิธีที่น่าสนใจสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในการได้รับพลังงานจำนวนมากอย่างรวดเร็ว แต่การเปลี่ยนแปลงการจ่ายพลังงานในลักษณะนี้อาจส่งผลกระทบต่อความเสถียรของระบบไฟฟ้าในภูมิภาค

    Talen จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์เพื่อขอให้พิจารณาการตัดสินใจของ FERC ซึ่งหากศาลรับคำร้องนี้ อาจส่งผลให้การตัดสินใจของ FERC ถูกยกเลิกหรือถูกส่งกลับไปให้คณะกรรมการพิจารณาใหม่

    นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึงแนวโน้มของการตั้งศูนย์ข้อมูลร่วมกับโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นวิธีที่น่าสนใจสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในการได้รับพลังงานจำนวนมากอย่างรวดเร็ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/29/talen-goes-to-court-over-ferc039s-amazon-co-located-data-center-rejection
    Talen Energy ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯ เพื่อพิจารณาการตัดสินใจของคณะกรรมการกำกับดูแลพลังงานแห่งชาติ (FERC) ที่ปฏิเสธข้อตกลงพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูลของ Amazon ที่ตั้งอยู่ร่วมกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของ Talen ในรัฐเพนซิลเวเนีย ในปีที่ผ่านมา Talen ได้ขายพื้นที่ศูนย์ข้อมูลให้กับ Amazon ซึ่งจะทำให้ศูนย์ข้อมูลได้รับพลังงานเกือบ 1 กิกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอที่จะจ่ายพลังงานให้กับบ้านเรือนทั้งหมดในเมืองฟิลาเดลเฟีย อย่างไรก็ตาม FERC ได้ปฏิเสธคำขอของ Talen ในการแก้ไขข้อตกลงการเชื่อมต่อเพื่อเพิ่มการจ่ายพลังงานให้กับศูนย์ข้อมูล การเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลกับโรงไฟฟ้าโดยตรง (co-location) เป็นวิธีที่น่าสนใจสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในการได้รับพลังงานจำนวนมากอย่างรวดเร็ว แต่การเปลี่ยนแปลงการจ่ายพลังงานในลักษณะนี้อาจส่งผลกระทบต่อความเสถียรของระบบไฟฟ้าในภูมิภาค Talen จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์เพื่อขอให้พิจารณาการตัดสินใจของ FERC ซึ่งหากศาลรับคำร้องนี้ อาจส่งผลให้การตัดสินใจของ FERC ถูกยกเลิกหรือถูกส่งกลับไปให้คณะกรรมการพิจารณาใหม่ นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึงแนวโน้มของการตั้งศูนย์ข้อมูลร่วมกับโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นวิธีที่น่าสนใจสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในการได้รับพลังงานจำนวนมากอย่างรวดเร็ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/29/talen-goes-to-court-over-ferc039s-amazon-co-located-data-center-rejection
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Talen goes to court over FERC's Amazon co-located data center rejection
    NEW YORK (Reuters) - Talen Energy is asking a U.S. appeals court to weigh in on a decision by federal regulators last year to reject a power agreement for an Amazon data center connected directly to Talen's Pennsylvania nuclear plant, according to court filings this week.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อัจฉริยะ” ย้ำเก็บหลักฐานมา 3 ปีเต็ม หมดเงินไปล้านกว่าบาท เพื่อพิสูจน์ความจริง “แตงโม” ถูกฆาตกรรม ลั่นจะใช้นิติวิทยาศาสตร์ทำให้คนบนเรือนอนไม่หลับทั้งชีวิต ส่วนตำรวจชุดทำคดี 21 นายเป็นเหมือนลูกไก่ในกำมือ หลังศาลชี้บาดแผลแตงโมไม่ได้เกิดจากใบพักเรือ พร้อมจัดเต็มให้ทุกคนที่เป็นพยานเท็จ แต่จะไม่เร่งรัดดีเอสไอ จะกี่เดือนก็ได้ ขอให้กวาดให้หมด ย้ำไม่ได้บอกว่าแตงแตงโมตายบนบก แต่ตายในน้ำตื้น หลักฐานเด็ดใบไม้แปะหลังแน่น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000009026

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “อัจฉริยะ” ย้ำเก็บหลักฐานมา 3 ปีเต็ม หมดเงินไปล้านกว่าบาท เพื่อพิสูจน์ความจริง “แตงโม” ถูกฆาตกรรม ลั่นจะใช้นิติวิทยาศาสตร์ทำให้คนบนเรือนอนไม่หลับทั้งชีวิต ส่วนตำรวจชุดทำคดี 21 นายเป็นเหมือนลูกไก่ในกำมือ หลังศาลชี้บาดแผลแตงโมไม่ได้เกิดจากใบพักเรือ พร้อมจัดเต็มให้ทุกคนที่เป็นพยานเท็จ แต่จะไม่เร่งรัดดีเอสไอ จะกี่เดือนก็ได้ ขอให้กวาดให้หมด ย้ำไม่ได้บอกว่าแตงแตงโมตายบนบก แต่ตายในน้ำตื้น หลักฐานเด็ดใบไม้แปะหลังแน่น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000009026 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    27
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 752 มุมมอง 0 รีวิว
  • พิลึก! ประมูลพิมพ์แบบเรียนปี 68 มีเอกชนยื่นราคาแค่รายเดียว
    สกสค.ถูกฟ้องกีดกัน-ล็อกสเปก
    .
    ประมูลพิมพ์แบบเรียนปี 68 งบฯกว่า 1 พันล้านบ.ของ “องค์การของ สกสค.” ส่อล่ม หลังมีเอกชนยื่นราคาแค่รายเดียว คาดต้องยกเลิกประกวดราคา ”พัฒนะ“ ยังมั่นใจเสร็จทันเปิดเทอม เผยมีคดีโดนฟ้องที่ศาล ปค.ฐานกีดกัน-ล็อกสเปก
    .
    รายงานข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการแจ้งว่า วันนี้ (28 ม.ค.68) มีการยื่นประกวดราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ วงเงินกว่า 1 พันล้านบาท ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
    .
    โดย นายพัฒนะ พัฒนะทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. เปิดเผยถึงการจัดพิมพ์แบบเรียนในปีการศึกษา 2568 ว่า กระบวนการสรรหาบริษัทที่จะเข้ามารับจ้างงานพิมพ์แบบเรียนปี 2568
    เปิดกว้างทุกสำนักพิมพ์ที่มีความพร้อม โดยในปีนี้ค้าดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ e–bidding ซึ่งทุกขั้นตอนมีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
    .
    “คาดว่ากระบวนการสรรหาผู้รับจ้างพิมพ์แบบเรียนปีการศึกษา 2568 จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในช่วงปลายเดือน ม.ค.หรือช่วงต้นเดือน ก.พ.นี้ ต่อจากนั้นก็จะเริ่มกระบวนการพิมพ์แบบเรียนทันที และจัดส่งแบบเรียนได้ในช่วงปลายเดือน เม.ย.หรือประมาณต้นเดือน พ.ค.” นายพัฒนะ ระบุ
    .
    นายพัฒนะ กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดพิมพ์แบบเรียนปีการศึกษา 2568 นี้ จะสามารถจัดส่งแบบเรียนให้ถึงโรงเรียนก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 แม้ว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ จะ
    มีแนวทางที่จะขยับการเปิดและปิดภาคเรียนใหม่ จากเดิมเปิดภาคเรียนวันที่ 16 พ.ค.จะขยับเป็นวันที่ 1 พ.ค. ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความคิดเห็น และการประชุมร่วมกับสถานศึกษาสังกัดอื่นๆ แต่ไม่ว่าจะมีการขยับเปิดและปิดภาคเรียนตามหรือไม่ องค์การค้าของ สกสค.ขอยืนยันว่า จะไม่มีปัญหาเรื่องกระบวนการจัดพิมพ์แบบเรียนและการจัดส่งแบบเรียนอย่างแน่นอน
    .
    “การขยับการเปิดภาคเรียนใหม่ยังต้องดำเนินการอีกหลายส่วน มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกว่า 10 ฉบับที่จะต้องปรับแก้ เพราะเกี่ยวข้องกับการนับอายุเด็กตาม พ.ร.บ.การศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545 ที่เด็กจะเข้าเรียนการศึกษาภาคบังคับได้ต้องมีอายุครบ 3 ปีในวันที่ 16 พ.ค. รวมถึงเกณฑ์การเบิกจ่ายรายหัว ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขตามกฎหมายที่กำหนดไว้ แต่ข้อดีก็คือจะสะดวกต่อการบริหารงบประมาณและอัตรากำลังงานด้านบุคคลได้ลงตัว ทั้งนี้จึงต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง” นายพัฒนะ กล่าว
    .
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ซึ่งเป็นเวลาปิดรับข้อเสนอราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ ของ สกสค. โดย กรมบัญชีกลาง ได้สรุปข้อมูลการเสนอราคาเบื้องต้น ปรากฎว่า มีผู้เสนอราคาเพียง 1 รายเท่านั้น ซึ่งตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ระบุว่า หากมีผู้ยื่นเสนอราคารายเดียว และคณะกรรมการพิจารณาผลฯ เห็นสมควรยกเลิกการประกวดราคาครั้งนั้น ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานโดยไม่ต้องพิจารณาในเสนอราคาและเอกสารของผู้เสนอราคารายเดียวนั้น หรือหากคณะกรรมการพิจารณาผลฯ เห็นสมควรดำเนินการต่อ ก็ต้องลงลายมือชื่อกำกับในเอกสารของผู้เสนอราคารายเดียวนั้น
    .
    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีบริษัทเอกชนยื่นฟ้องคณะกรรมการ สกสค.และพวก ต่อ ศาลปกครอง เพื่อให้พิจารณาโครงการจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ ของ สกสค.ว่า อาจเข้าข่ายกีดกัน และล็อกสเปก เป็นคดีดำที่ 27/2568 โดยเบื้องต้นศาลปกครองไม่ได้มีคำสั่งทุเลาโครงการตามที่เอกชนยื่นขอคุ้มครองชั่วคราวไป.
    ............
    Sondhi X
    พิลึก! ประมูลพิมพ์แบบเรียนปี 68 มีเอกชนยื่นราคาแค่รายเดียว สกสค.ถูกฟ้องกีดกัน-ล็อกสเปก . ประมูลพิมพ์แบบเรียนปี 68 งบฯกว่า 1 พันล้านบ.ของ “องค์การของ สกสค.” ส่อล่ม หลังมีเอกชนยื่นราคาแค่รายเดียว คาดต้องยกเลิกประกวดราคา ”พัฒนะ“ ยังมั่นใจเสร็จทันเปิดเทอม เผยมีคดีโดนฟ้องที่ศาล ปค.ฐานกีดกัน-ล็อกสเปก . รายงานข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการแจ้งว่า วันนี้ (28 ม.ค.68) มีการยื่นประกวดราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ วงเงินกว่า 1 พันล้านบาท ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) . โดย นายพัฒนะ พัฒนะทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. เปิดเผยถึงการจัดพิมพ์แบบเรียนในปีการศึกษา 2568 ว่า กระบวนการสรรหาบริษัทที่จะเข้ามารับจ้างงานพิมพ์แบบเรียนปี 2568 เปิดกว้างทุกสำนักพิมพ์ที่มีความพร้อม โดยในปีนี้ค้าดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ e–bidding ซึ่งทุกขั้นตอนมีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ . “คาดว่ากระบวนการสรรหาผู้รับจ้างพิมพ์แบบเรียนปีการศึกษา 2568 จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในช่วงปลายเดือน ม.ค.หรือช่วงต้นเดือน ก.พ.นี้ ต่อจากนั้นก็จะเริ่มกระบวนการพิมพ์แบบเรียนทันที และจัดส่งแบบเรียนได้ในช่วงปลายเดือน เม.ย.หรือประมาณต้นเดือน พ.ค.” นายพัฒนะ ระบุ . นายพัฒนะ กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดพิมพ์แบบเรียนปีการศึกษา 2568 นี้ จะสามารถจัดส่งแบบเรียนให้ถึงโรงเรียนก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 แม้ว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ จะ มีแนวทางที่จะขยับการเปิดและปิดภาคเรียนใหม่ จากเดิมเปิดภาคเรียนวันที่ 16 พ.ค.จะขยับเป็นวันที่ 1 พ.ค. ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความคิดเห็น และการประชุมร่วมกับสถานศึกษาสังกัดอื่นๆ แต่ไม่ว่าจะมีการขยับเปิดและปิดภาคเรียนตามหรือไม่ องค์การค้าของ สกสค.ขอยืนยันว่า จะไม่มีปัญหาเรื่องกระบวนการจัดพิมพ์แบบเรียนและการจัดส่งแบบเรียนอย่างแน่นอน . “การขยับการเปิดภาคเรียนใหม่ยังต้องดำเนินการอีกหลายส่วน มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกว่า 10 ฉบับที่จะต้องปรับแก้ เพราะเกี่ยวข้องกับการนับอายุเด็กตาม พ.ร.บ.การศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545 ที่เด็กจะเข้าเรียนการศึกษาภาคบังคับได้ต้องมีอายุครบ 3 ปีในวันที่ 16 พ.ค. รวมถึงเกณฑ์การเบิกจ่ายรายหัว ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขตามกฎหมายที่กำหนดไว้ แต่ข้อดีก็คือจะสะดวกต่อการบริหารงบประมาณและอัตรากำลังงานด้านบุคคลได้ลงตัว ทั้งนี้จึงต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง” นายพัฒนะ กล่าว . ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ซึ่งเป็นเวลาปิดรับข้อเสนอราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ ของ สกสค. โดย กรมบัญชีกลาง ได้สรุปข้อมูลการเสนอราคาเบื้องต้น ปรากฎว่า มีผู้เสนอราคาเพียง 1 รายเท่านั้น ซึ่งตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ระบุว่า หากมีผู้ยื่นเสนอราคารายเดียว และคณะกรรมการพิจารณาผลฯ เห็นสมควรยกเลิกการประกวดราคาครั้งนั้น ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานโดยไม่ต้องพิจารณาในเสนอราคาและเอกสารของผู้เสนอราคารายเดียวนั้น หรือหากคณะกรรมการพิจารณาผลฯ เห็นสมควรดำเนินการต่อ ก็ต้องลงลายมือชื่อกำกับในเอกสารของผู้เสนอราคารายเดียวนั้น . ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีบริษัทเอกชนยื่นฟ้องคณะกรรมการ สกสค.และพวก ต่อ ศาลปกครอง เพื่อให้พิจารณาโครงการจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ ของ สกสค.ว่า อาจเข้าข่ายกีดกัน และล็อกสเปก เป็นคดีดำที่ 27/2568 โดยเบื้องต้นศาลปกครองไม่ได้มีคำสั่งทุเลาโครงการตามที่เอกชนยื่นขอคุ้มครองชั่วคราวไป. ............ Sondhi X
    Like
    Angry
    Sad
    12
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 816 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูดาวรุ่ง...พยุงดาวร่วง
    สำหรับท่านที่เกิดปีฉลู

    เพื่อเป็นการสยบพลังมืดของดาวร้ายและเสริมกระแสน้อมรับพลังมงคล จึงควรน้อมจิตน้อมใจไปกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพบัณฑิต “文昌帝君(บุ่งเชียงตี่กุง)” ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งสติปัญญาและการเรียนรู้ ทรงบารมีในเรื่อง ความฉลาดหลักแหลมด้วยแสงแห่งปัญญา หลังวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.นี้ เป็นต้นไป ณ ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ทุกศาลที่มีรูปปั้นจำลองขององค์เทพท่านสถิตอยู่ เพื่อรับพรพระเมตตารับฟังต่อทุกคำอธิษฐานพร้อมน้อมฝากดวงชะตาขอบารมีต่อพระองค์ท่านได้โปรดเมตตาประทานแสงสว่างที่จะขจัดออกซึ่งความมืดของปัญหาความวุ่นวายหม่นทึบให้พินาศ และเปิดดวงตารับรู้ให้เห็นช่องทางแก้ไขสถานการณ์นั้นก้าวข้ามผ่านพ้นอุปสรรคความขัดแย้งอย่างชาญฉลาด ด้วยพร บารมีแห่งแสงของสติปัญญาที่พระองค์เทพท่านเมตตาดลบันดาลประทานให้ตลอดทั้งปี 2568 นี้

    อีกทั้งควรน้อมอัญเชิญองค์เทพบัณฑิต “文昌帝君(บุ่งเชียงตี่กุง)” มาสักการะเทิดทูนบูชาด้วยการพกพาหรือโหลดภาพเก็บไว้หน้าแรกของโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา เพื่อรำลึกถึงพลังแห่งปัญญาที่ส่งเสริมพลังเทพที่เมตตาบารมีจากพระองค์ท่านได้สถิตคุ้มครองให้พบกับทางออกของทุกๆปัญหา โดยการตัดสินใจที่พร้อมด้วยปัญญาอันชาญฉลาดอย่างแหลมคม พร้อมรับตำแหน่งหน้าที่การงานด้วยความเจริญก้าวหน้า ตลอดทั้งปี 2568 นี้
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    มูดาวรุ่ง...พยุงดาวร่วง สำหรับท่านที่เกิดปีฉลู เพื่อเป็นการสยบพลังมืดของดาวร้ายและเสริมกระแสน้อมรับพลังมงคล จึงควรน้อมจิตน้อมใจไปกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพบัณฑิต “文昌帝君(บุ่งเชียงตี่กุง)” ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งสติปัญญาและการเรียนรู้ ทรงบารมีในเรื่อง ความฉลาดหลักแหลมด้วยแสงแห่งปัญญา หลังวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.นี้ เป็นต้นไป ณ ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ทุกศาลที่มีรูปปั้นจำลองขององค์เทพท่านสถิตอยู่ เพื่อรับพรพระเมตตารับฟังต่อทุกคำอธิษฐานพร้อมน้อมฝากดวงชะตาขอบารมีต่อพระองค์ท่านได้โปรดเมตตาประทานแสงสว่างที่จะขจัดออกซึ่งความมืดของปัญหาความวุ่นวายหม่นทึบให้พินาศ และเปิดดวงตารับรู้ให้เห็นช่องทางแก้ไขสถานการณ์นั้นก้าวข้ามผ่านพ้นอุปสรรคความขัดแย้งอย่างชาญฉลาด ด้วยพร บารมีแห่งแสงของสติปัญญาที่พระองค์เทพท่านเมตตาดลบันดาลประทานให้ตลอดทั้งปี 2568 นี้ อีกทั้งควรน้อมอัญเชิญองค์เทพบัณฑิต “文昌帝君(บุ่งเชียงตี่กุง)” มาสักการะเทิดทูนบูชาด้วยการพกพาหรือโหลดภาพเก็บไว้หน้าแรกของโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา เพื่อรำลึกถึงพลังแห่งปัญญาที่ส่งเสริมพลังเทพที่เมตตาบารมีจากพระองค์ท่านได้สถิตคุ้มครองให้พบกับทางออกของทุกๆปัญหา โดยการตัดสินใจที่พร้อมด้วยปัญญาอันชาญฉลาดอย่างแหลมคม พร้อมรับตำแหน่งหน้าที่การงานด้วยความเจริญก้าวหน้า ตลอดทั้งปี 2568 นี้ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชอบคำนี้"สามีอันเป็นที่รักยิ่ง"😁 ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน วัดบุญญราศรี #ชลบุรี #ท่องเที่ยว #พักผ่อน #สบายใจ #travel #thailand #thaitimes #kaiaminute
    ชอบคำนี้"สามีอันเป็นที่รักยิ่ง"😁 ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน วัดบุญญราศรี #ชลบุรี #ท่องเที่ยว #พักผ่อน #สบายใจ #travel #thailand #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 1 0 รีวิว
Pages Boosts