• การประกาศนโยบายภาษีใหม่ของอดีตประธานาธิบดี Donald Trump ในช่วงวัน Liberation Day ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่ออุตสาหกรรมวิดีโอเกมในสหรัฐฯ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ทั่วโลก โดยการขึ้นภาษีสินค้าจากจีนและเวียดนามได้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อ การพัฒนาเกม, การผลิตฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ อย่างไม่เคยมีมาก่อน

    ✅ ฮาร์ดแวร์เกมมีต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น
    - อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น เครื่องคอนโซลเกม ถูกผลิตในประเทศที่เป็นเป้าหมายของนโยบายภาษี ส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นอย่างมาก
    - ตัวอย่างเช่น Nintendo Switch 2 ที่จะวางจำหน่ายในสหรัฐฯ มีราคา $450 สูงกว่าราคาในญี่ปุ่นที่อยู่เพียง $343 เนื่องจากผลกระทบภาษี

    ✅ การตอบโต้จากประเทศต่าง ๆ เพิ่มความซับซ้อน
    - หลายประเทศ รวมถึงสหภาพยุโรป เตรียมตอบโต้ด้วยการออกภาษีใหม่ต่อสินค้าจากสหรัฐฯ ซึ่งอาจยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนของตลาด

    ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นก็ยังเจออุปสรรค
    - แม้บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ เช่น Apple และ Nintendo จะย้ายฐานการผลิตจากจีนไปยังเวียดนามเพื่อเลี่ยงภาษี แต่ทรัมป์ได้เพิ่มภาษีสินค้าจากเวียดนามอีก 46% ทำให้บริษัทเหล่านี้ไม่มีทางเลือกมากนัก

    ✅ การนำการผลิตกลับเข้าสู่สหรัฐฯ ยังต้องใช้เวลา
    - ESA (Entertainment Software Association) กล่าวว่าการย้ายฐานผลิตกลับสหรัฐฯ เป็นไปได้ยากเนื่องจาก ซัพพลายเชนที่มีความซับซ้อน และความต้องการด้านประสิทธิภาพในการผลิต

    https://www.techspot.com/news/107423-trump-tariffs-send-shockwaves-through-video-game-industry.html
    การประกาศนโยบายภาษีใหม่ของอดีตประธานาธิบดี Donald Trump ในช่วงวัน Liberation Day ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่ออุตสาหกรรมวิดีโอเกมในสหรัฐฯ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ทั่วโลก โดยการขึ้นภาษีสินค้าจากจีนและเวียดนามได้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อ การพัฒนาเกม, การผลิตฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ อย่างไม่เคยมีมาก่อน ✅ ฮาร์ดแวร์เกมมีต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น - อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น เครื่องคอนโซลเกม ถูกผลิตในประเทศที่เป็นเป้าหมายของนโยบายภาษี ส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นอย่างมาก - ตัวอย่างเช่น Nintendo Switch 2 ที่จะวางจำหน่ายในสหรัฐฯ มีราคา $450 สูงกว่าราคาในญี่ปุ่นที่อยู่เพียง $343 เนื่องจากผลกระทบภาษี ✅ การตอบโต้จากประเทศต่าง ๆ เพิ่มความซับซ้อน - หลายประเทศ รวมถึงสหภาพยุโรป เตรียมตอบโต้ด้วยการออกภาษีใหม่ต่อสินค้าจากสหรัฐฯ ซึ่งอาจยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนของตลาด ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นก็ยังเจออุปสรรค - แม้บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ เช่น Apple และ Nintendo จะย้ายฐานการผลิตจากจีนไปยังเวียดนามเพื่อเลี่ยงภาษี แต่ทรัมป์ได้เพิ่มภาษีสินค้าจากเวียดนามอีก 46% ทำให้บริษัทเหล่านี้ไม่มีทางเลือกมากนัก ✅ การนำการผลิตกลับเข้าสู่สหรัฐฯ ยังต้องใช้เวลา - ESA (Entertainment Software Association) กล่าวว่าการย้ายฐานผลิตกลับสหรัฐฯ เป็นไปได้ยากเนื่องจาก ซัพพลายเชนที่มีความซับซ้อน และความต้องการด้านประสิทธิภาพในการผลิต https://www.techspot.com/news/107423-trump-tariffs-send-shockwaves-through-video-game-industry.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Trump's tariffs send shockwaves through the video game industry
    The video game sector must brace for impact following the announcement of Trump's new tariffs earlier this week. According to Aubrey Quinn, senior vice president of the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Cortical Labs ในออสเตรเลียได้เปิดตัว CL1 ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ชีวภาพตัวแรกของโลกที่ผสมผสานเซลล์สมองมนุษย์เข้ากับเทคโนโลยีซิลิคอนแบบดั้งเดิม CL1 ถูกเปิดตัวครั้งแรกในงาน Mobile World Congress ที่บาร์เซโลนา และถูกพัฒนามาเพื่อใช้ในการศึกษาความเป็นไปได้ของ AI และ Machine Learning ที่มีความใกล้เคียงกับสมองของมนุษย์

    CL1 ใช้ชิปซิลิคอนที่มีเซลล์สมองมนุษย์เพาะเลี้ยงอยู่บนพื้นผิว เซลล์สมองเหล่านี้สามารถตอบสนองต่อสัญญาณไฟฟ้าและสร้างเครือข่ายที่ประมวลผลข้อมูลในลักษณะเดียวกับสมองมนุษย์ สิ่งที่น่าสนใจคือ ระบบนี้สามารถสื่อสารสองทางได้ โดยใช้สัญญาณไฟฟ้ากระตุ้นเซลล์สมอง และเก็บข้อมูลการตอบสนองเพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อ

    เพื่อให้เซลล์สมองเหล่านี้ยังคงทำงานได้ดี CL1 มาพร้อมระบบช่วยชีวิตที่ควบคุมอุณหภูมิ การแลกเปลี่ยนก๊าซ และเงื่อนไขที่จำเป็นอื่น ๆ

    CL1 ถูกออกแบบมาเพื่อเรียนรู้และปรับตัว เช่นเดียวกับสมองมนุษย์ ตัวอย่างที่เคยมีการทดลอง เช่น การฝึกเซลล์สมองให้เล่นวิดีโอเกมพื้นฐาน สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์ชีวภาพสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในด้านที่ AI แบบเดิมยังไม่สมบูรณ์ เช่น การจดจำรูปแบบและการตัดสินใจในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน

    นอกจากนี้ ความสามารถของเซลล์สมองในการปรับตัวทำให้เกิดศักยภาพใหม่ ๆ ในการประยุกต์ใช้งาน เช่น การพัฒนาหุ่นยนต์ที่ฉลาดยิ่งขึ้น หรือระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน

    ปัญหาและข้อควรระวัง
    - ความซับซ้อนในการผลิต: การสร้างและดูแลระบบ CL1 ต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนและยังไม่สามารถผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้
    - ปัญหาด้านจริยธรรม: แม้ว่าเซลล์สมองที่ใช้จะถูกเพาะเลี้ยงในห้องแล็บและไม่มีสติสัมปชัญญะ แต่ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีนี้อาจต้องการกรอบกฎหมายและจริยธรรมที่ชัดเจนในอนาคต เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ชีวภาพมนุษย์

    CL1 จะพร้อมจำหน่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ $35,000 เหมาะสำหรับองค์กรและสถาบันวิจัยที่ต้องการทดสอบหรือสำรวจการใช้งานคอมพิวเตอร์ชีวภาพในเชิงลึก

    CL1 ถือเป็นก้าวใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเทคโนโลยีชีวภาพและ AI ซึ่งอาจช่วยพัฒนาอนาคตของการเรียนรู้และการประมวลผลข้อมูล หากคุณสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CL1 และความเป็นไปได้ในอนาคตของเทคโนโลยีนี้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/worlds-first-body-in-a-box-biological-computer-uses-human-brain-cells-with-silicon-based-computing
    บริษัท Cortical Labs ในออสเตรเลียได้เปิดตัว CL1 ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ชีวภาพตัวแรกของโลกที่ผสมผสานเซลล์สมองมนุษย์เข้ากับเทคโนโลยีซิลิคอนแบบดั้งเดิม CL1 ถูกเปิดตัวครั้งแรกในงาน Mobile World Congress ที่บาร์เซโลนา และถูกพัฒนามาเพื่อใช้ในการศึกษาความเป็นไปได้ของ AI และ Machine Learning ที่มีความใกล้เคียงกับสมองของมนุษย์ CL1 ใช้ชิปซิลิคอนที่มีเซลล์สมองมนุษย์เพาะเลี้ยงอยู่บนพื้นผิว เซลล์สมองเหล่านี้สามารถตอบสนองต่อสัญญาณไฟฟ้าและสร้างเครือข่ายที่ประมวลผลข้อมูลในลักษณะเดียวกับสมองมนุษย์ สิ่งที่น่าสนใจคือ ระบบนี้สามารถสื่อสารสองทางได้ โดยใช้สัญญาณไฟฟ้ากระตุ้นเซลล์สมอง และเก็บข้อมูลการตอบสนองเพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อ เพื่อให้เซลล์สมองเหล่านี้ยังคงทำงานได้ดี CL1 มาพร้อมระบบช่วยชีวิตที่ควบคุมอุณหภูมิ การแลกเปลี่ยนก๊าซ และเงื่อนไขที่จำเป็นอื่น ๆ CL1 ถูกออกแบบมาเพื่อเรียนรู้และปรับตัว เช่นเดียวกับสมองมนุษย์ ตัวอย่างที่เคยมีการทดลอง เช่น การฝึกเซลล์สมองให้เล่นวิดีโอเกมพื้นฐาน สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์ชีวภาพสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในด้านที่ AI แบบเดิมยังไม่สมบูรณ์ เช่น การจดจำรูปแบบและการตัดสินใจในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน นอกจากนี้ ความสามารถของเซลล์สมองในการปรับตัวทำให้เกิดศักยภาพใหม่ ๆ ในการประยุกต์ใช้งาน เช่น การพัฒนาหุ่นยนต์ที่ฉลาดยิ่งขึ้น หรือระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน ปัญหาและข้อควรระวัง - ความซับซ้อนในการผลิต: การสร้างและดูแลระบบ CL1 ต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนและยังไม่สามารถผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้ - ปัญหาด้านจริยธรรม: แม้ว่าเซลล์สมองที่ใช้จะถูกเพาะเลี้ยงในห้องแล็บและไม่มีสติสัมปชัญญะ แต่ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีนี้อาจต้องการกรอบกฎหมายและจริยธรรมที่ชัดเจนในอนาคต เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ชีวภาพมนุษย์ CL1 จะพร้อมจำหน่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ $35,000 เหมาะสำหรับองค์กรและสถาบันวิจัยที่ต้องการทดสอบหรือสำรวจการใช้งานคอมพิวเตอร์ชีวภาพในเชิงลึก CL1 ถือเป็นก้าวใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเทคโนโลยีชีวภาพและ AI ซึ่งอาจช่วยพัฒนาอนาคตของการเรียนรู้และการประมวลผลข้อมูล หากคุณสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CL1 และความเป็นไปได้ในอนาคตของเทคโนโลยีนี้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/worlds-first-body-in-a-box-biological-computer-uses-human-brain-cells-with-silicon-based-computing
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    World's first 'body in a box' biological computer uses human brain cells with silicon-based computing
    Cortical Labs said the CL1 will be available from June, priced at around $35,000.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ตอนแรกเครื่องซักผ้า ครั้งนี้เกมเพลย์"

    สหภาพยุโรปเสนอให้ห้ามจำหน่ายอุปกรณ์วิดีโอเกมให้กับรัสเซียเพื่อป้องกันไม่ให้กองกำลังติดอาวุธของประเทศใช้อุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อควบคุมโดรนที่ส่งไปยังยูเครน

    Kaja Kallas หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปกล่าวว่าคอนโซล ซึ่งอาจรวมถึง PlayStation ของ Sony และ Xbox ของ Microsoft จะถูกรวมอยู่ในมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 3 ปีของปฏิบัติการทางทหารพิเศษของกองกำลังติดอาวุธรัสเซียในอดีตยูเครน
    "ตอนแรกเครื่องซักผ้า ครั้งนี้เกมเพลย์" สหภาพยุโรปเสนอให้ห้ามจำหน่ายอุปกรณ์วิดีโอเกมให้กับรัสเซียเพื่อป้องกันไม่ให้กองกำลังติดอาวุธของประเทศใช้อุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อควบคุมโดรนที่ส่งไปยังยูเครน Kaja Kallas หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปกล่าวว่าคอนโซล ซึ่งอาจรวมถึง PlayStation ของ Sony และ Xbox ของ Microsoft จะถูกรวมอยู่ในมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 3 ปีของปฏิบัติการทางทหารพิเศษของกองกำลังติดอาวุธรัสเซียในอดีตยูเครน
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 462 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิทยาศาสตร์จาก Caltech พบว่ามนุษย์สามารถประมวลผลความคิดได้เพียง 10 บิตต่อวินาที ในขณะที่อวัยวะรับความรู้สึกของเรารวบรวมข้อมูลได้ถึงพันล้านบิตต่อวินาที

    การวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในเอกสารชื่อ "The unbearable slowness of being: Why do we live at 10 bits/s?" โดย Prof. Markus Meister และนักศึกษาปริญญาโท Jieyu Zheng

    นักวิจัยใช้วิธีการที่เน้นข้อมูลในการวัดความเร็วในการคิดของมนุษย์ โดยใช้เทคนิคต่างๆ ที่อิงตามทฤษฎีข้อมูล พวกเขาทำการทดลองและวัดประสิทธิภาพของมนุษย์ในงานต่างๆ เช่น การอ่านและเขียน, การเล่นวิดีโอเกม, และการแก้ปริศนา Rubik's Cube เพื่อสรุปว่ามนุษย์สามารถประมวลผลความคิดได้เพียง 10 บิตต่อวินาที

    การวิจัยนี้ยังตั้งคำถามว่าทำไมสมองภายในถึงทำงานช้า แม้ว่าจะมีเซลล์ประสาทประมาณหนึ่งในสามของสมองทั้งหมด นักวิจัยเสนอว่าบรรพบุรุษของเราเลือกสภาพแวดล้อมที่ช้าพอที่จะทำให้การอยู่รอดเป็นไปได้ และ 10 บิตต่อวินาทีเป็นสิ่งที่จำเป็นในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเท่านั้น

    https://www.tomshardware.com/networking/human-thought-runs-at-just-10-bits-per-second-say-caltech-scientists-thats-why-we-are-mostly-single-taskers
    นักวิทยาศาสตร์จาก Caltech พบว่ามนุษย์สามารถประมวลผลความคิดได้เพียง 10 บิตต่อวินาที ในขณะที่อวัยวะรับความรู้สึกของเรารวบรวมข้อมูลได้ถึงพันล้านบิตต่อวินาที การวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในเอกสารชื่อ "The unbearable slowness of being: Why do we live at 10 bits/s?" โดย Prof. Markus Meister และนักศึกษาปริญญาโท Jieyu Zheng นักวิจัยใช้วิธีการที่เน้นข้อมูลในการวัดความเร็วในการคิดของมนุษย์ โดยใช้เทคนิคต่างๆ ที่อิงตามทฤษฎีข้อมูล พวกเขาทำการทดลองและวัดประสิทธิภาพของมนุษย์ในงานต่างๆ เช่น การอ่านและเขียน, การเล่นวิดีโอเกม, และการแก้ปริศนา Rubik's Cube เพื่อสรุปว่ามนุษย์สามารถประมวลผลความคิดได้เพียง 10 บิตต่อวินาที การวิจัยนี้ยังตั้งคำถามว่าทำไมสมองภายในถึงทำงานช้า แม้ว่าจะมีเซลล์ประสาทประมาณหนึ่งในสามของสมองทั้งหมด นักวิจัยเสนอว่าบรรพบุรุษของเราเลือกสภาพแวดล้อมที่ช้าพอที่จะทำให้การอยู่รอดเป็นไปได้ และ 10 บิตต่อวินาทีเป็นสิ่งที่จำเป็นในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเท่านั้น https://www.tomshardware.com/networking/human-thought-runs-at-just-10-bits-per-second-say-caltech-scientists-thats-why-we-are-mostly-single-taskers
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Human thought runs at just 10 bits per second, say Caltech scientists
    In contrast, our sensory organs gather data at a billion bits per second.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไบเดนจองเวรไม่เลิก ประกาศเปิดการสอบสวนเซมิคอนดักเตอร์ “รุ่นเก่า” ของจีนในนาทีท้ายๆ ก่อนพ้นตำแหน่ง มุ่งปูทางคณะบริหารชุดใหม่ของทรัมป์รีดภาษี 60% ตามที่ขู่ไว้ ด้านปักกิ่งโต้วอชิงตันกีดกันการค้า ขณะที่องค์กรตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกาเตือนว่า การสอบสวนล่าสุดนี้อาจทำให้เกิดผลกระทบสลับซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องอเมริกา “อย่าด่วนตัดสินล่วงหน้า”
    .
    แคทเธอลีน ไท่ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แถลงเมื่อวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ว่า การสอบสวนล่าสุดนี้มีเป้าหมายในการปกป้องคุ้มครองผู้ผลิตชิปของอเมริกาและชาติอื่นๆ จากซัปพลายชิปจำนวนมากมายมหาศาลซึ่งผลิตในจีนภายใต้การผลักดันของปักกิ่ง
    .
    การสอบสวนที่อิงกับอำนาจตาม “มาตรา 301” ของกฎหมายการค้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตราเดียวกับที่โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ในการขึ้นภาษีศุลกากรเอากับสินค้าจีนตอนที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกนั้น เกิดขึ้น 4 สัปดาห์ก่อนที่คณะบริหาร โจ ไบเดน จะหมดอำนาจ และทรัมป์จะได้หวนกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว ในวันที่ 20 ม.ค.2025 โดยพวกเจ้าหน้าที่ของไบเดนเผยว่า จะส่งต่อการสอบสวนนี้ให้คณะบริหารชุดใหม่ดำเนินการต่อไป เป็นการปูทางให้ทรัมป์สามารถเริ่มเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มในอัตรา 60% จากชิปนำเข้าจากจีนตามที่เขาข่มขู่ไว้ก่อนหน้านี้
    .
    ก่อนหน้านี้ คณะบริหารของไบเดนเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มจากชิปจีนที่นำเข้าสหรัฐฯในอัตรา 50% มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีนี้ รวมทั้งยังยกระดับมาตรการจำกัดการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์และชิปหน่วยความจำขั้นสูง ตลอดจนถึงเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปไปยังแดนมังกรอีกด้วย
    .
    ทั้งนี้ ชิปรุ่นเก่า (Legacy chip) ใช้กระบวนการผลิตที่เริ่มต้นเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว และมักซับซ้อนน้อยกว่าชิปเอไอหรือชิปขั้นสูง กระนั้นก็เป็นชิปที่ยังคงมีใช้งานกันอยู่อย่างกว้างขวางทั่วไป
    .
    จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงสำทับเมื่อวันจันทร์ว่า งานวิจัยของกระทรวงพบว่า ผลิตภัณฑ์ของอเมริกา 2 ใน 3 ทีเดียวยังคงใช้ชิปรุ่นเก่าของจีน และบริษัทอเมริกันราว 50% ไม่รู้ที่มาของชิปที่ใช้ ในจำนวนนี้รวมถึงบริษัทในอุตสาหกรรมการทหาร เธอบอกว่าว่า ข้อมูลนี้น่ากังวลอย่างยิ่ง
    .
    ทางด้าน ไท่ เสริมว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ของเธอ พบหลักฐานว่า จีนกำลังพุ่งเป้ามาที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ด้วยความมุ่งหมายที่จะครอบงำโลก โดยหวังจะเปิดทางให้บริษัทจีนเพิ่มศักยภาพทางด้านนี้ได้อย่างรวดเร็ว และเสนอชิปราคาถูกเกินจริงที่อาจเป็นอันตรายหรือกำจัดการแข่งขันที่อิงกับตลาด เช่นเดียวกับที่เคยทำในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ และรถอีวีมาแล้ว
    .
    ในส่วนปฏิกิริยาของทางฝ่ายจีน กระทรวงพาณิชย์แดนมังกรออกคำแถลงตอบโต้ว่า การสอบสวนเช่นนี้ของอเมริกาคือพฤติการณ์การกีดกันการค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง กระทั่งไปถึงพวกบริษัทอเมริกันเอง รวมถึงทำให้ห่วงโซ่อุปทานชิปโลกสะดุดติดขัด ทั้งนี้ ปักกิ่งจะตอบโต้ดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของประเทศ
    .
    ขณะที่ เจสัน ออกซ์แมน ประธานสภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เป็นตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกา ออกมาเตือนว่า การสอบสวนของวอชิงตันอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจโลกและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องให้ยูเอสทีอาร์ “อย่าด่วนมีคำตัดสินล่วงหน้า” แต่ควรดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นธรรม
    .
    ปัจจุบัน พวกเครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป เครื่องเล่นวิดีโอเกม และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคอื่นๆ ที่ไม่ใช่รุ่นล้ำยุค ยังคงใช้เซมิคอนดักเตอร์รุ่นเก่ากันอยู่มาก โดยที่สินค้าเหล่านี้ซึ่งจำหน่ายกันในอเมริกาส่วนใหญ่ก็ยังคงนำเข้าจากจีน
    .
    เจ้าหน้าที่คณะบริหารของไบเดนคนหนึ่งเปิดเผยว่า การสอบสวนล่าสุดนี้ ในเบื้องต้นจะโฟกัสที่การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งรวมถึงขอบเขตการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์การแพทย์ รถ และผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมการทหาร
    .
    ทั้งนี้ ตามหมายเกี่ยวกับการสอบสวนคราวนี้ ของสำนักงานทะเบียนสหรัฐฯ ระบุว่า คณะบริหารไบเดนจะเริ่มต้นเปิดรับความเห็นต่างๆ ของสาธารณชนเกี่ยวกับการสอบสวนนี้ในวันที่ 6 มกราคม และวางแผนจัดการไต่สวนสาธารณะขึ้นในวันที่ 11-12 มีนาคม โดยที่การสอบสวนมีกำหนดเสร็จสิ้นภายในเวลา 1 ปี
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123559
    ..............
    Sondhi X
    ไบเดนจองเวรไม่เลิก ประกาศเปิดการสอบสวนเซมิคอนดักเตอร์ “รุ่นเก่า” ของจีนในนาทีท้ายๆ ก่อนพ้นตำแหน่ง มุ่งปูทางคณะบริหารชุดใหม่ของทรัมป์รีดภาษี 60% ตามที่ขู่ไว้ ด้านปักกิ่งโต้วอชิงตันกีดกันการค้า ขณะที่องค์กรตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกาเตือนว่า การสอบสวนล่าสุดนี้อาจทำให้เกิดผลกระทบสลับซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องอเมริกา “อย่าด่วนตัดสินล่วงหน้า” . แคทเธอลีน ไท่ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แถลงเมื่อวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ว่า การสอบสวนล่าสุดนี้มีเป้าหมายในการปกป้องคุ้มครองผู้ผลิตชิปของอเมริกาและชาติอื่นๆ จากซัปพลายชิปจำนวนมากมายมหาศาลซึ่งผลิตในจีนภายใต้การผลักดันของปักกิ่ง . การสอบสวนที่อิงกับอำนาจตาม “มาตรา 301” ของกฎหมายการค้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตราเดียวกับที่โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ในการขึ้นภาษีศุลกากรเอากับสินค้าจีนตอนที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกนั้น เกิดขึ้น 4 สัปดาห์ก่อนที่คณะบริหาร โจ ไบเดน จะหมดอำนาจ และทรัมป์จะได้หวนกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว ในวันที่ 20 ม.ค.2025 โดยพวกเจ้าหน้าที่ของไบเดนเผยว่า จะส่งต่อการสอบสวนนี้ให้คณะบริหารชุดใหม่ดำเนินการต่อไป เป็นการปูทางให้ทรัมป์สามารถเริ่มเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มในอัตรา 60% จากชิปนำเข้าจากจีนตามที่เขาข่มขู่ไว้ก่อนหน้านี้ . ก่อนหน้านี้ คณะบริหารของไบเดนเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มจากชิปจีนที่นำเข้าสหรัฐฯในอัตรา 50% มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีนี้ รวมทั้งยังยกระดับมาตรการจำกัดการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์และชิปหน่วยความจำขั้นสูง ตลอดจนถึงเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปไปยังแดนมังกรอีกด้วย . ทั้งนี้ ชิปรุ่นเก่า (Legacy chip) ใช้กระบวนการผลิตที่เริ่มต้นเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว และมักซับซ้อนน้อยกว่าชิปเอไอหรือชิปขั้นสูง กระนั้นก็เป็นชิปที่ยังคงมีใช้งานกันอยู่อย่างกว้างขวางทั่วไป . จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงสำทับเมื่อวันจันทร์ว่า งานวิจัยของกระทรวงพบว่า ผลิตภัณฑ์ของอเมริกา 2 ใน 3 ทีเดียวยังคงใช้ชิปรุ่นเก่าของจีน และบริษัทอเมริกันราว 50% ไม่รู้ที่มาของชิปที่ใช้ ในจำนวนนี้รวมถึงบริษัทในอุตสาหกรรมการทหาร เธอบอกว่าว่า ข้อมูลนี้น่ากังวลอย่างยิ่ง . ทางด้าน ไท่ เสริมว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ของเธอ พบหลักฐานว่า จีนกำลังพุ่งเป้ามาที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ด้วยความมุ่งหมายที่จะครอบงำโลก โดยหวังจะเปิดทางให้บริษัทจีนเพิ่มศักยภาพทางด้านนี้ได้อย่างรวดเร็ว และเสนอชิปราคาถูกเกินจริงที่อาจเป็นอันตรายหรือกำจัดการแข่งขันที่อิงกับตลาด เช่นเดียวกับที่เคยทำในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ และรถอีวีมาแล้ว . ในส่วนปฏิกิริยาของทางฝ่ายจีน กระทรวงพาณิชย์แดนมังกรออกคำแถลงตอบโต้ว่า การสอบสวนเช่นนี้ของอเมริกาคือพฤติการณ์การกีดกันการค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง กระทั่งไปถึงพวกบริษัทอเมริกันเอง รวมถึงทำให้ห่วงโซ่อุปทานชิปโลกสะดุดติดขัด ทั้งนี้ ปักกิ่งจะตอบโต้ดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของประเทศ . ขณะที่ เจสัน ออกซ์แมน ประธานสภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เป็นตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกา ออกมาเตือนว่า การสอบสวนของวอชิงตันอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจโลกและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องให้ยูเอสทีอาร์ “อย่าด่วนมีคำตัดสินล่วงหน้า” แต่ควรดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นธรรม . ปัจจุบัน พวกเครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป เครื่องเล่นวิดีโอเกม และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคอื่นๆ ที่ไม่ใช่รุ่นล้ำยุค ยังคงใช้เซมิคอนดักเตอร์รุ่นเก่ากันอยู่มาก โดยที่สินค้าเหล่านี้ซึ่งจำหน่ายกันในอเมริกาส่วนใหญ่ก็ยังคงนำเข้าจากจีน . เจ้าหน้าที่คณะบริหารของไบเดนคนหนึ่งเปิดเผยว่า การสอบสวนล่าสุดนี้ ในเบื้องต้นจะโฟกัสที่การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งรวมถึงขอบเขตการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์การแพทย์ รถ และผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมการทหาร . ทั้งนี้ ตามหมายเกี่ยวกับการสอบสวนคราวนี้ ของสำนักงานทะเบียนสหรัฐฯ ระบุว่า คณะบริหารไบเดนจะเริ่มต้นเปิดรับความเห็นต่างๆ ของสาธารณชนเกี่ยวกับการสอบสวนนี้ในวันที่ 6 มกราคม และวางแผนจัดการไต่สวนสาธารณะขึ้นในวันที่ 11-12 มีนาคม โดยที่การสอบสวนมีกำหนดเสร็จสิ้นภายในเวลา 1 ปี . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123559 .............. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1251 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคยมีคำกล่าวว่าแมวมีเก้าชีวิตซึ่งเป็นความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ ที่ในความเป็นจริงก็ตายแล้วตายเลยไม่ต่างจากสัตว์อื่นหรือมนุษย์ โตขึ้นมาสักหน่อยประมาณช่วงมัธยมต้น ช่างประปานามว่ามาริโอ้ทำให้ผมทึ่ง เพราะในอาณาจักรเห็ดแล้ว เขามีชีวิตได้สูงสุดถึง 99 ครั้ง

    โอ้..คุณพระ!

    #TomorrowandTomorrowandTomorrow
    นี่คือหนังสือที่เปิดเผยวงการสร้างเกมวิดีโอได้เจาะลึกและน่าสนใจมากเล่มหนึ่งที่มีอยู่ไม่มากนักในตลาด ที่สำคัญมีอะไรมากไปกว่าแค่เรื่องเด็กสร้างเกม

    สนพ.แซลมอน
    แกเบรียล เซวิน เขียน
    สุวิชชา จันทร แปล
    พิมพ์เมื่อ กรกฎาคม 2566
    หนา 400 หน้า 495 บาท

    หนังสือเล่มใหญ่มากแถมยังหนา ใหญ่กว่าขนาดมาตรฐานพ็อกเก็ตบุ๊กทั่วไปพอสมควร เป็นอุปสรรคในการถืออ่านพอสมควร ด้วยความหนักบวกเทอะทะ จึงไม่เหมาะพกพาอ่านนอกสถานที่เท่าใดนัก แต่นี่ไม่ทำให้ใจที่อยากรู้ว่าเนื้อหาข้างในนั้นมีอะไรอยู่บ้างลดน้อยลง

    เปิดประตูสู่โลกในจินตนาการ

    ด้วยเหตุใดก็ตามที่บันดาลให้เด็กหญิงเซดีน กรีน เชื้อสายอเมริกันยิว ในวัยสิบกว่าปีที่มาเยี่ยมพี่สาวอายุห่างจากเธอ 2 ปีกับแม่ แล้วทำให้พี่สาวแหกปากลั่น จนแม่ต้องไล่ให้เซดีออกไปนอกห้องสักพัก จนเธอเดินเปะปะมาเจอกับ แซม เมเซอ ที่เป็นเด็กชายอเมริกันเชื้อสายเกาหลีหน้าตาแปลก และเท้ามีปัญหา ซึ่งกำลังจดจ่อกับการบังคับมาริโอ้ เกมจากเครื่องเล่นนินเทนโดในห้องสันทนาการ ถือได้ว่านี่คือจุดเริ่มต้นของสายใยพิเศษพิสดาร ที่จะผูกโยงพวกเขาเข้าไว้ด้วยกันไปอีกนานหลายสิบปีนับจากนี้

    💻

    แม้จะไม่เคยมีใครสามารถทำให้แซมอ้าปากพูดได้มาก่อน นับตั้งแต่เขาอยู่ใน รพ.มาเป็นระยะเวลากว่าหกสัปดาห์ แต่เซดี คือบุคคลอันน่าเหลือเชื่อ ที่ทั้งหมอ และพยาบาลต่างแปลกใจ เธอใช้เวลาไม่นานนับแต่เดินไปเห็นเขา แล้วยืนชมแซมเล่นตัวมาริโอ้ด้วยเทคนิกชั้นเซียน จนอีกไม่กี่อึดใจถัดมา แซมก็เอ่ยปากคุยกับเธอเกี่ยวกับเกมที่เขากำลังเล่น จากนั้นทั้งสองก็สนทนากันอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ราวกับรู้จักกันดีมาเป็นเวลานานทั้งที่เพิ่งจะพบกันในวันนั้นเป็นครั้งแรก

    💻

    เหตุนี้เอง หมอและพยาบาลจึงอยากให้แม่ของเซดี ยอมให้เธอมาที่รพ.บ่อย ๆ และเป็นเพื่อนคุยกับแซม เพื่อหวังว่าจะช่วยให้เขาแจ่มใสร่าเริงขึ้น หลังประสบเหตุการณ์ที่ยากลำบาก ทำให้เท้าของเขามีปัญหาไม่ธรรมดา ซึ่งเซดีเองก็ยินดี เธอและแซมเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยในเรื่องของวิดีโอเกม จนกระทั่งเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่รู้จักกันได้ไม่กี่เดือน และไปกระทบกระเทือนใจของแซมอย่างรุนแรงจนเขาผิดหวังและไล่เธอไม่ให้มาพบเจอกันอีกต่อไป

    💻

    เวลาผ่านไปหลายปี เซดีเรียนต่อที่ mit ทางด้านสาขาการออกแบบเกม ส่วนแซมเข้าฮาร์วาร์ดได้ เขาถนัดด้านคณิตศาสตร์ เท้าเจ้ากรรมยังคงแย่ไม่แพ้สมัยเด็ก แซมได้รูมเมตเป็นลูกครึ่งเชื้อสายอเมริกันญี่ปุ่นชื่อว่า มาร์กซ์ วาตานาเบะ ผู้มีจิตใจดีและเป็นพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือแนะนำเขาในหลายเรื่อง

    วันหนึ่ง แซม ได้พบกับเซดี ในระหว่างทางที่กำลังจะขึ้นรถไฟใต้ดิน เขาอดใจไม่ไหวร้องเรียกเธอ แล้วได้คุยกันสั้น ๆ ที่ทำให้หวนนึกถึงอดีต เธอฝากแผ่นเกมสำหรับเล่นกับเครื่องพีซีให้เขาไว้ บอกว่าเป็นเกมที่เธอสร้างเอง เล่นจบแล้วรู้สึกอย่างไรช่วยติดต่อบอกด้วยตามที่อยู่อีเมล จากนั้นต่างแยกย้าย

    💻

    ระหว่างนั้นเกิดเรื่องราวขึ้นมากมายกับเซดี ที่ทำให้เธอสิ้นหวังและหมดพลังในชีวิต แต่เป็นแซมที่พยายามหาทางติดต่อกลับ แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากเธอเลย วันหนึ่งเขาจึงตัดสินใจเดินด้วยเท้าสภาพเน่า ๆ เสี่ยงไปยังที่พักของเธอ เมื่อได้พบกันเซดีเหมือนผีตายซากที่รอเวลาแห้งเหี่ยว แซมมาหาเธอทุกวันจนในที่สุด สาวน้อยคนเก่ากลับฟื้นคืนสติเป็นผู้เป็นคน จนยอมรับข้อเสนอมาร่วมกันสร้างเกมกับเขาในช่วงปิดภาคเรียนไม่กี่เดือน เพื่อต้องการสานฝันให้เป็นจริง ซึ่งต่อมาทั้งสองได้มาร์กซ์มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ด้วย

    💻

    แล้วตำนานแห่งสามสหายที่ให้กำเนิดโคตรเกมที่ยิ่งใหญ่และตีตลาดจนเป็นที่นิยมในวงกว้าง ก็ถือกำเนิดขึ้น นำพาผู้อ่านท่องสู่จักรวาลของผู้สร้างอันบรรเจิดเพริศแพร้ว จนมีหลายบริษัทเข้าแถวอยากทำสัญญาด้วย ต่อมาโชคชะตาเอื้ออำนวย ให้ทั้งสามก่อตั้งบริษัทผลิตเกมเป็นของตน จนสร้างสรรค์ผลงานน่าจดจำป้อนสู่ตลาด มีทั้งที่ประสบความสำเร็จงดงาม และบางเกมก็โดนหามลงจากเวที ตลอดจนประสบพบเจออุปสรรคหลากหลายที่ล้วนแต่รุนแรงต่อเนื่องเป็นระลอกถึงกับเกือบจะล้มหายไปจากวงการ แต่ในที่สุดก็ผ่านมันไปได้

    💻

    เรื่องราวสุดแสนเข้มข้นน่าติดตามค้นหาอีกมากมาย รอคอยให้ผู้อ่านเช่นคุณเสาะแสวงหามาทดสอบ ต่อให้ไม่ใช่คนที่รักชอบในการเล่นวิดีโอเกมมาก่อนเลย ก็สามารถจะทำความเข้าใจในเนื้อเรื่องที่ผู้เขียนต้องการสื่อได้ไม่ยาก ขณะเดียวกันก็ได้รับความบันเทิงควบคู่ไปด้วย

    💽ความน่าทึ่งซึ่งปรากฏชัดหลังอ่านจบ

    (ถ้าใครยังไม่เคยอ่านหนังสือ ต่อจากนี้ไปอาจมีกล่าวถึงเนื้อหาสำคัญบางส่วน โปรดพิจารณา ถ้าไม่กังวลก็ขอเชิญอ่านต่อได้เลยครับ)

    1. ผมทั้งถูกใจและขัดใจในขนาดรูปเล่มที่ทำออกมา คือถืออ่านไม่ถนัดมือ รูปภาพที่ทำปกก็ดูไม่เข้ากับเรื่องเกม ไม่ค่อยดึงดูดให้คนอยากอ่าน ไม่สื่อถึงเรื่องวงการเกม แต่เมื่ออ่านเนื้อหาภายในไปสักพักจึงเข้าใจที่มาของรูปคลื่น อ้อ ..ความเกี่ยวข้องกับเกมอยู่ตรงนี้เองสำคัญด้วยสิ แต่คนที่จะรู้ได้คือต้องอ่านก่อนเท่านั้นนี่คือจุดบอด นอกจากภาพปกก็การจัดทำอาร์ตเวิร์ก ทีแรกไม่ชอบเลย ทำไมถึงตั้งใจให้อักษรถูกวางเรียงเป็นพรืด ออกมาเป็นบล็อกราวกับก้อนสี่เหลี่ยมผืนผ้า แถมยังเว้นพื้นที่ว่างด้านริมชิดขอบหนังสือนิดเดียว แต่กลับเว้นช่องว่างด้านหลังแถวอักษรเยอะ กลายเป็นเมื่อเปิดหน้าหนังสือออก จะมีบริเวณที่เว้นว่างซึ่งไม่มีอักษรเลยช่วงกึ่งกลางเล่มเป็นช่องโล่งกว้างใหญ่ มองแล้วแปลก ๆ

    ตัวอักษรที่ถูกเลือกใช้อีก ไม่ใช่แบบอักษรที่นิยม มองแล้วไม่นุ่มนวล ออกจะเป็นอักษรที่ดูแข็งทื่อและกระด้างเมื่อเรียงอยู่ด้วยกันเป็นแถวยาว แต่เมื่อมองไปมองมา พลิกอ่านไปสักระยะก็เกิดความรู้สึกหนึ่งขึ้น นี่มันเหมือนรูปแบบของตัวพิกเซลเลยนี่นา ความเป็นเหลี่ยม เป็นก้อน เป็นบล็อก หรือนี่คือความตั้งใจที่ได้รับการออกแบบไว้แต่แรกของผู้เขียนและสนพ. เนื่องจากไม่เคยเห็นฉบับภาษาอังกฤษจึงไม่มีข้อเปรียบเทียบ แต่เชื่อว่าฉบับแปลไทยก็คงจะพยายามทำออกมาโดยคงแนวคิดเดิมให้ได้มากสุด เมื่อคิดได้ดังนี้ จากที่ตอนแรกขัดใจกลักลายเป็นนึกชมขึ้นมาแทน ไม่รู้หรอกว่าจะใช่อย่างที่เดาไหม แต่ถ้าใช่ถือว่าทำสำเร็จ เพราะมันเข้ากับเรื่องราวที่กล่าวเกี่ยวกับการสร้างเกมพอดี

    .

    2. ยังคงหงุดหงิดเล็กน้อยกับรูปแบบการเขียนของแกเบรียลที่เหมือนกับเล่ม "หลากเรื่องในชีวิตของชายที่รักหนังสือ" คือคนอ่านต้องมีสมาธิจดจ่ออย่างมากกับเรื่องที่ผู้เขียนเล่า เพราะเขาจะไม่มีการขึ้นบทใหม่ หรือใช้ย่อหน้า หรือเลขแบ่ง หรือเว้นวรรคที่ว่าง เพื่อแบ่งฉากให้รู้ชัดเจนว่านี่คือเรื่องราวของฉากใหม่ เหตุการณ์ใหม่ วันใหม่แล้วนะ เรียกว่าเล่าเรื่องฉากหนึ่งอยู่ดี ๆ ก็ตัดจบไปดื้อ ๆ แล้วบรรทัดถัดไปก็เป็นเรื่องราวใหม่ที่เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่ง แถมไม่มีบรรยายเกริ่น แต่เริ่มด้วยบทสนทนาของตัวละครทันที ดังนั้นบ่อยครั้งที่อ่านอยู่แล้วพอพลิกหน้าต่อไปก็เอ๋อ งงอยู่นานว่าทำไมเรื่องราวมันจึงไม่ต่อเนื่องกัน ตัวละครคุยกันเรื่องหนึ่ง ไฉนกลายเป็นใครไม่รู้มาคุยในอีกเรื่องหนึ่ง กว่าจะทำความเข้าใจว่า อ๋อ..นี่คือตอนใหม่ คนละช่วงเวลาแล้วนะก็เบลอเป็นระยะ เพราะปรากฏลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้ง ยิ่งการจัดวางรูปแบบให้แถวอักษรเรียงเท่ากันเป็นตับด้วยแล้ว จึงยิ่งทำให้การอ่านนั้นยากขึ้น แต่เมื่อชินกับสไตล์การเขียนของเขาแล้ว ช่วงหลัง ๆ ก็จะเริ่มอ่านง่ายขึ้น แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าหนังสือของนักเขียนคนนี้ อ่านเร็วไม่ได้ ต้องค่อย ๆ อ่านอย่างจดจ่อแล้วคิดตามไป

    ..

    3. การเล่าเรื่องเป็นมุมมองอย่างพระเจ้าที่มองเห็นความคิด ความในใจของตัวละครทั้งหมด เพียงแต่ผู้เขียนเลือกที่จะเล่าเท่าที่อยากบอกในช่วงแรกแค่นิดหน่อย แล้วค่อย ๆ เผยเรื่องราวความลับของตัวละครหลักทั้งสามออกมาทีละนิดในภายหลัง ชนิดปิดทั้งตัวละครอื่นในเรื่องเองที่ไม่รู้ความจริง รวมถึงปิดคนอ่านด้วย โดยมาเปิดให้รู้ภายหลังเมื่อถึงช่วงที่สำคัญในจังหวะและบรรยากาศ ซึ่งสถานการณ์ขณะนั้นไต่ระดับถึงจุดอิ่มของตัวละครที่ดำเนินอยู่พอดี ทั้งตัวละครบางตัวรวมถึงคนอ่าน จะได้รู้เรื่องราวในอดีตไปพร้อมกัน จึงเกิดแรงกระเพื่อมที่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์และพฤติกรรมของตัวเอกในเรื่อง กลายเป็นแรงผลักดันให้นิยายเดินหน้าต่อไปในทิศทางที่ผู้เขียนต้องการ ซึ่งนับว่ามีความชาญฉลาดที่เลือกการทยอยเล่าความจริง ได้เหมาะเจาะกับฉากนั้นอย่างลงตัว

    ...

    4. เชื่อว่าสำหรับหนังสือเล่มนี้ ทิศทางความชอบหรือไม่ชอบหลังอ่านจบแล้วจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มอย่างชัดเจน คือกลุ่มที่ชอบถึงชอบมาก กับกลุ่มที่ไม่ชอบเลย หลายคนที่ยังไม่เคยอ่านและไม่คิดจะอ่าน เพียงเพราะคิดว่าเนื้อหาอย่างนี้คงเหมาะกับผู้อ่านเฉพาะกลุ่ม คือคนที่เคยสัมผัสกับการเล่มวิดีโอเกมมาก่อนเท่านั้น คนที่ไม่เคยเล่นคงเข้าถึงได้ยากและน่าจะไม่สนุกแน่เลย ซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่อย่างที่พวกเขาคิด แน่นอนว่าผมชอบเล่นวิดีโอเกมมาตั้งแต่เด็ก แม้ในปัจจุบันเวลาชีวิตจะไม่อำนวยให้สามารถกลับไปเล่นได้เหมือนในอดีต ทว่าอยากยืนยันสิ่งหนึ่งซึ่งค่อนข้างมั่นใจ ถึงคนที่ไม่เคยเล่นวิดีโอเกมมาก่อน ก็สามารถอ่านหนังสือเล่มนี้ได้อย่างสนุก และไม่ได้เข้าใจยากจนเกินไปนัก

    ช่วงแรกของการเริ่มต้นอาจจะเป็นด่านที่ต้องใช้เวลาสักหน่อยก็จริง เพราะเรื่องถูกเล่าแบบไม่รีบร้อน อีกทั้งบรรยายรายละเอียดชีวิตของตัวเอกทั้งสองแบบไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นสนใจนัก ทว่าพอผ่านไปสักพักความรู้สึกเฉย ๆ กึ่งเริ่มจะเบื่อแล้วนะ จะค่อย ๆ หายไป แล้วถูกแทนที่ด้วยความอยากรู้เรื่องราวต่อไปของทั้งเซดีนและแซม น่าแปลกเหมือนกัน แต่เหมือนบุคลิกและความสัมพันธ์ของทั้งสองมีแรงดึงดูดประหลาด ที่ทำให้ไม่อาจจะหยุดอ่าน คงคล้ายเมื่อเราได้เริ่มเล่นเกมสักเกมหนึ่งซึ่งทีแรกเกือบจะท้อแท้และบอกตัวเองว่า เกมอะไรไม่รู้ไม่เห็นสนุกเลย แต่ใจหนึ่งก็กระซิบบอกตัวเองว่า เล่นต่ออีกหน่อยน่าอย่าเพิ่งรีบยอมแพ้ และพอตั้งใจให้สมาธิกับการจดจ่อกับฉากตรงหน้าแล้ว กลับกลายเป็นว่าเกมเริ่มสนุกขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะเราเริ่มถูกดึงเข้าไปสู่โลกของมัน และการเล่นก็เข้าฝัก เกิดความคุ้นชิน ไม่ได้ยากหรือน่าเบื่อดังที่คิด

    ....

    5. สำหรับคนที่อยู่ในแวดวงเกมมาก่อน อาจมีข้อได้เปรียบและสามารถสนุกไปกับเนื้อหาที่ผู้เขียนใส่เข้ามา มากกว่าคนกลุ่มอื่นพอสมควร เหมือนได้พบเจอเพื่อนเก่า เนื่องจากมีการกล่าวถึงชื่อเกมหลายเกมที่เป็นที่นิยมของบรรดาผู้เล่นจากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่ประมาณช่วงยุคแปดศูนย์ ถึงอย่างนั้นคนที่ไม่เคยแตะโลกของเกมมาก่อน ก็ยังสามารถสนุกไปกับเนื้อหายาวเหยียดได้เช่นกัน หากว่าชื่นชอบในการได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับอาชีพต่าง ๆ เพราะหนังสือเล่มนี้นำเสนอให้เห็นถึงกระบวนการในการสร้างเกมตั้งแต่ขั้นแรกเริ่มหรือพื้นฐาน ไปจนถึงขั้นตอนทางความคิดการออกแบบตัวละคร ฉาก องค์ประกอบเรื่องราวเนื้อหา จนแล้วเสร็จไปถึงขั้นตอนการผลิตและจัดจำหน่าย แผนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การแสดงงาน ให้สัมภาษณ์ เดินสายไปตามที่ต่าง ๆ แบบครบวงจร ซึ่งไม่ได้เขียนออกมาอย่างหนังสือวิชาการ แต่ผ่านการบอกเล่าอย่างมีชั้นเชิงของนิยาย ที่ผูกโยงเข้ากับเรื่องราวความใฝ่ฝันของตัวเอกทั้งสาม ที่อยากจะสร้างเกมที่นักเล่นทุกคนจะเล่นได้อย่างสนุกและรักมัน เป็นโลกที่พวกเขาจะไม่มีวันแพ้ เพราะถ้าตายก็ยังเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ

    .....

    6. ในเล่มนี้มีทั้งประวัติศาสตร์ ปรัชญา ศิลปะ การปรับตัวให้เข้ากับบุคคลอื่น อย่างเพื่อนร่วมงาน เพื่อนรัก คนในครอบครัว และจิตวิทยาการใช้ชีวิตและจูงใจคน รวมถึงการสื่อสารระหว่างมนุษย์ต่อมนุษย์ด้วยกัน นี่ไม่ใช่แค่นิยายเพ้อฝันที่เล่าเรื่องของเด็กหนุ่มสาวสามคนที่อยากโลดแล่นในวงการนักออกแบบเกมเท่านั้นภายในจำนวนแถวอักษรยาวเหยียดที่เรียงเป็นตับกว่าสี่ร้อยหน้า โลกเบื้องหลังนั้นมีความซับซ้อน และโยงใยยุ่งเหยิงในความสัมพันธ์ของคนต่อคน และคนกับสังคมวงกว้างอย่างลึกล้ำ ยิ่งอ่านก็ยิ่งดำดิ่งลงไปในเรื่องราวดราม่ากว่าจะมาเป็นเกมสักเกมให้คนเล่นเสพสมจนสนุกสนาน ทว่าชีวิตของคนสร้างที่ให้กำเนิดเกมฮิตนั้น เขาและเธอต้องพบเจอและผ่านด่าน อุปสรรคขวากหนามต่าง ๆ มาแล้วกี่ร้อยกี่พันฉาก ปะปนทั้งน้ำตาและเสียงหัวเราะ ความขมขื่นที่ไม่มีใครรับรู้แม้แต่คนที่นึกว่าเป็นเพื่อนซึ่งเหมือนใกล้ชิดสุดกว่าใครอื่นในชีวิต ความว่างเปล่าโหวงเหวงที่บรรจุอยู่ภายในจิตใจ เมื่อถึงที่สุดได้แตกกระจายและขยายตัวออกสู่ภายนอก จนกระทั่งตัวเองไม่สามารถจัดการรับมือกับสิ่งที่เกิดและประเดประดังเข้าหา สิ่งที่หลงเหลือต่อจากนั้นพวกเขาแต่ละคนจะจัดการเส้นทางชีวิตตนอย่างไร นี่คือสิ่งที่ผู้อ่านสามารถนำมาเปรียบเทียบกับชีวิตจริง และเก็บสาระที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับตน

    7. ผมชอบเนื้อหาในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างแซม กับมาร์กซ์ แซมกับเซดี และมาร์กซ์กับเซดี ที่มีมุมแตกต่างให้เราได้ศึกษา ได้เห็นถึงน้ำใจที่ไม่ธรรมดาที่พวกเขามีให้กัน ในขณะเดียวกันเมื่อมีโจทย์มาทดสอบความเป็นเพื่อนและมิตรภาพของพวกเขา แต่ละคนก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นปุถุชนคนทั่วไป ที่ยังรักตัวรักตนมากเหนือสิ่งอื่นใด จึงในบางคราวก็รับบทบาทร้ายกาจไร้ซึ่งเหตุผลอันสมควรได้เหมือนกัน แม้นเป็นเช่นนี้ แต่สุดท้ายเมื่อกาลเวลาหมุนผ่านยาวนานเพียงพอ คนเราก็จะเติบโตขึ้น เรียนรู้จากความบกพร่องผิดพลาดของตนในอดีต และเข้าใจโลกมากกว่าเก่า จนสามารถจะปลดปล่อยปลงวางปมที่เคยขมวดแน่นในใจ ให้คลี่คลายลงแล้วก้าวข้ามผ่านเกมชีวิตจริง และแข็งแกร่งยิ่งขึ้น สมดังชื่อเรื่อง

    พรุ่งนี้ และ พรุ่งนี้ และ พรุ่งนี้.

    แน่นอนว่านี่เป็นเพียงความเห็นที่นักอ่านท่านอื่นอาจจะไม่ได้เห็นเช่นเดียวกันก็เป็นได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด เพียงหวังใจว่าใครที่มีเล่มนี้อยู่ที่บ้านแต่ยังไม่ได้อ่าน จะเกิดความรู้สึกอยากทำความรู้จักกับ แซม, มาร์กซ์ และเซดี ขึ้นมาบ้าง

    #หนังสือดี
    #หนังสือน่าอ่าน
    #thaitimes
    #วิดีโอเกม
    #นิยายแปล
    #การสร้างเกม
    เคยมีคำกล่าวว่าแมวมีเก้าชีวิตซึ่งเป็นความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ ที่ในความเป็นจริงก็ตายแล้วตายเลยไม่ต่างจากสัตว์อื่นหรือมนุษย์ โตขึ้นมาสักหน่อยประมาณช่วงมัธยมต้น ช่างประปานามว่ามาริโอ้ทำให้ผมทึ่ง เพราะในอาณาจักรเห็ดแล้ว เขามีชีวิตได้สูงสุดถึง 99 ครั้ง โอ้..คุณพระ! #TomorrowandTomorrowandTomorrow นี่คือหนังสือที่เปิดเผยวงการสร้างเกมวิดีโอได้เจาะลึกและน่าสนใจมากเล่มหนึ่งที่มีอยู่ไม่มากนักในตลาด ที่สำคัญมีอะไรมากไปกว่าแค่เรื่องเด็กสร้างเกม สนพ.แซลมอน แกเบรียล เซวิน เขียน สุวิชชา จันทร แปล พิมพ์เมื่อ กรกฎาคม 2566 หนา 400 หน้า 495 บาท หนังสือเล่มใหญ่มากแถมยังหนา ใหญ่กว่าขนาดมาตรฐานพ็อกเก็ตบุ๊กทั่วไปพอสมควร เป็นอุปสรรคในการถืออ่านพอสมควร ด้วยความหนักบวกเทอะทะ จึงไม่เหมาะพกพาอ่านนอกสถานที่เท่าใดนัก แต่นี่ไม่ทำให้ใจที่อยากรู้ว่าเนื้อหาข้างในนั้นมีอะไรอยู่บ้างลดน้อยลง เปิดประตูสู่โลกในจินตนาการ ด้วยเหตุใดก็ตามที่บันดาลให้เด็กหญิงเซดีน กรีน เชื้อสายอเมริกันยิว ในวัยสิบกว่าปีที่มาเยี่ยมพี่สาวอายุห่างจากเธอ 2 ปีกับแม่ แล้วทำให้พี่สาวแหกปากลั่น จนแม่ต้องไล่ให้เซดีออกไปนอกห้องสักพัก จนเธอเดินเปะปะมาเจอกับ แซม เมเซอ ที่เป็นเด็กชายอเมริกันเชื้อสายเกาหลีหน้าตาแปลก และเท้ามีปัญหา ซึ่งกำลังจดจ่อกับการบังคับมาริโอ้ เกมจากเครื่องเล่นนินเทนโดในห้องสันทนาการ ถือได้ว่านี่คือจุดเริ่มต้นของสายใยพิเศษพิสดาร ที่จะผูกโยงพวกเขาเข้าไว้ด้วยกันไปอีกนานหลายสิบปีนับจากนี้ 💻 แม้จะไม่เคยมีใครสามารถทำให้แซมอ้าปากพูดได้มาก่อน นับตั้งแต่เขาอยู่ใน รพ.มาเป็นระยะเวลากว่าหกสัปดาห์ แต่เซดี คือบุคคลอันน่าเหลือเชื่อ ที่ทั้งหมอ และพยาบาลต่างแปลกใจ เธอใช้เวลาไม่นานนับแต่เดินไปเห็นเขา แล้วยืนชมแซมเล่นตัวมาริโอ้ด้วยเทคนิกชั้นเซียน จนอีกไม่กี่อึดใจถัดมา แซมก็เอ่ยปากคุยกับเธอเกี่ยวกับเกมที่เขากำลังเล่น จากนั้นทั้งสองก็สนทนากันอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ราวกับรู้จักกันดีมาเป็นเวลานานทั้งที่เพิ่งจะพบกันในวันนั้นเป็นครั้งแรก 💻 เหตุนี้เอง หมอและพยาบาลจึงอยากให้แม่ของเซดี ยอมให้เธอมาที่รพ.บ่อย ๆ และเป็นเพื่อนคุยกับแซม เพื่อหวังว่าจะช่วยให้เขาแจ่มใสร่าเริงขึ้น หลังประสบเหตุการณ์ที่ยากลำบาก ทำให้เท้าของเขามีปัญหาไม่ธรรมดา ซึ่งเซดีเองก็ยินดี เธอและแซมเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยในเรื่องของวิดีโอเกม จนกระทั่งเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่รู้จักกันได้ไม่กี่เดือน และไปกระทบกระเทือนใจของแซมอย่างรุนแรงจนเขาผิดหวังและไล่เธอไม่ให้มาพบเจอกันอีกต่อไป 💻 เวลาผ่านไปหลายปี เซดีเรียนต่อที่ mit ทางด้านสาขาการออกแบบเกม ส่วนแซมเข้าฮาร์วาร์ดได้ เขาถนัดด้านคณิตศาสตร์ เท้าเจ้ากรรมยังคงแย่ไม่แพ้สมัยเด็ก แซมได้รูมเมตเป็นลูกครึ่งเชื้อสายอเมริกันญี่ปุ่นชื่อว่า มาร์กซ์ วาตานาเบะ ผู้มีจิตใจดีและเป็นพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือแนะนำเขาในหลายเรื่อง วันหนึ่ง แซม ได้พบกับเซดี ในระหว่างทางที่กำลังจะขึ้นรถไฟใต้ดิน เขาอดใจไม่ไหวร้องเรียกเธอ แล้วได้คุยกันสั้น ๆ ที่ทำให้หวนนึกถึงอดีต เธอฝากแผ่นเกมสำหรับเล่นกับเครื่องพีซีให้เขาไว้ บอกว่าเป็นเกมที่เธอสร้างเอง เล่นจบแล้วรู้สึกอย่างไรช่วยติดต่อบอกด้วยตามที่อยู่อีเมล จากนั้นต่างแยกย้าย 💻 ระหว่างนั้นเกิดเรื่องราวขึ้นมากมายกับเซดี ที่ทำให้เธอสิ้นหวังและหมดพลังในชีวิต แต่เป็นแซมที่พยายามหาทางติดต่อกลับ แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากเธอเลย วันหนึ่งเขาจึงตัดสินใจเดินด้วยเท้าสภาพเน่า ๆ เสี่ยงไปยังที่พักของเธอ เมื่อได้พบกันเซดีเหมือนผีตายซากที่รอเวลาแห้งเหี่ยว แซมมาหาเธอทุกวันจนในที่สุด สาวน้อยคนเก่ากลับฟื้นคืนสติเป็นผู้เป็นคน จนยอมรับข้อเสนอมาร่วมกันสร้างเกมกับเขาในช่วงปิดภาคเรียนไม่กี่เดือน เพื่อต้องการสานฝันให้เป็นจริง ซึ่งต่อมาทั้งสองได้มาร์กซ์มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ด้วย 💻 แล้วตำนานแห่งสามสหายที่ให้กำเนิดโคตรเกมที่ยิ่งใหญ่และตีตลาดจนเป็นที่นิยมในวงกว้าง ก็ถือกำเนิดขึ้น นำพาผู้อ่านท่องสู่จักรวาลของผู้สร้างอันบรรเจิดเพริศแพร้ว จนมีหลายบริษัทเข้าแถวอยากทำสัญญาด้วย ต่อมาโชคชะตาเอื้ออำนวย ให้ทั้งสามก่อตั้งบริษัทผลิตเกมเป็นของตน จนสร้างสรรค์ผลงานน่าจดจำป้อนสู่ตลาด มีทั้งที่ประสบความสำเร็จงดงาม และบางเกมก็โดนหามลงจากเวที ตลอดจนประสบพบเจออุปสรรคหลากหลายที่ล้วนแต่รุนแรงต่อเนื่องเป็นระลอกถึงกับเกือบจะล้มหายไปจากวงการ แต่ในที่สุดก็ผ่านมันไปได้ 💻 เรื่องราวสุดแสนเข้มข้นน่าติดตามค้นหาอีกมากมาย รอคอยให้ผู้อ่านเช่นคุณเสาะแสวงหามาทดสอบ ต่อให้ไม่ใช่คนที่รักชอบในการเล่นวิดีโอเกมมาก่อนเลย ก็สามารถจะทำความเข้าใจในเนื้อเรื่องที่ผู้เขียนต้องการสื่อได้ไม่ยาก ขณะเดียวกันก็ได้รับความบันเทิงควบคู่ไปด้วย 💽ความน่าทึ่งซึ่งปรากฏชัดหลังอ่านจบ (ถ้าใครยังไม่เคยอ่านหนังสือ ต่อจากนี้ไปอาจมีกล่าวถึงเนื้อหาสำคัญบางส่วน โปรดพิจารณา ถ้าไม่กังวลก็ขอเชิญอ่านต่อได้เลยครับ) 1. ผมทั้งถูกใจและขัดใจในขนาดรูปเล่มที่ทำออกมา คือถืออ่านไม่ถนัดมือ รูปภาพที่ทำปกก็ดูไม่เข้ากับเรื่องเกม ไม่ค่อยดึงดูดให้คนอยากอ่าน ไม่สื่อถึงเรื่องวงการเกม แต่เมื่ออ่านเนื้อหาภายในไปสักพักจึงเข้าใจที่มาของรูปคลื่น อ้อ ..ความเกี่ยวข้องกับเกมอยู่ตรงนี้เองสำคัญด้วยสิ แต่คนที่จะรู้ได้คือต้องอ่านก่อนเท่านั้นนี่คือจุดบอด นอกจากภาพปกก็การจัดทำอาร์ตเวิร์ก ทีแรกไม่ชอบเลย ทำไมถึงตั้งใจให้อักษรถูกวางเรียงเป็นพรืด ออกมาเป็นบล็อกราวกับก้อนสี่เหลี่ยมผืนผ้า แถมยังเว้นพื้นที่ว่างด้านริมชิดขอบหนังสือนิดเดียว แต่กลับเว้นช่องว่างด้านหลังแถวอักษรเยอะ กลายเป็นเมื่อเปิดหน้าหนังสือออก จะมีบริเวณที่เว้นว่างซึ่งไม่มีอักษรเลยช่วงกึ่งกลางเล่มเป็นช่องโล่งกว้างใหญ่ มองแล้วแปลก ๆ ตัวอักษรที่ถูกเลือกใช้อีก ไม่ใช่แบบอักษรที่นิยม มองแล้วไม่นุ่มนวล ออกจะเป็นอักษรที่ดูแข็งทื่อและกระด้างเมื่อเรียงอยู่ด้วยกันเป็นแถวยาว แต่เมื่อมองไปมองมา พลิกอ่านไปสักระยะก็เกิดความรู้สึกหนึ่งขึ้น นี่มันเหมือนรูปแบบของตัวพิกเซลเลยนี่นา ความเป็นเหลี่ยม เป็นก้อน เป็นบล็อก หรือนี่คือความตั้งใจที่ได้รับการออกแบบไว้แต่แรกของผู้เขียนและสนพ. เนื่องจากไม่เคยเห็นฉบับภาษาอังกฤษจึงไม่มีข้อเปรียบเทียบ แต่เชื่อว่าฉบับแปลไทยก็คงจะพยายามทำออกมาโดยคงแนวคิดเดิมให้ได้มากสุด เมื่อคิดได้ดังนี้ จากที่ตอนแรกขัดใจกลักลายเป็นนึกชมขึ้นมาแทน ไม่รู้หรอกว่าจะใช่อย่างที่เดาไหม แต่ถ้าใช่ถือว่าทำสำเร็จ เพราะมันเข้ากับเรื่องราวที่กล่าวเกี่ยวกับการสร้างเกมพอดี . 2. ยังคงหงุดหงิดเล็กน้อยกับรูปแบบการเขียนของแกเบรียลที่เหมือนกับเล่ม "หลากเรื่องในชีวิตของชายที่รักหนังสือ" คือคนอ่านต้องมีสมาธิจดจ่ออย่างมากกับเรื่องที่ผู้เขียนเล่า เพราะเขาจะไม่มีการขึ้นบทใหม่ หรือใช้ย่อหน้า หรือเลขแบ่ง หรือเว้นวรรคที่ว่าง เพื่อแบ่งฉากให้รู้ชัดเจนว่านี่คือเรื่องราวของฉากใหม่ เหตุการณ์ใหม่ วันใหม่แล้วนะ เรียกว่าเล่าเรื่องฉากหนึ่งอยู่ดี ๆ ก็ตัดจบไปดื้อ ๆ แล้วบรรทัดถัดไปก็เป็นเรื่องราวใหม่ที่เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่ง แถมไม่มีบรรยายเกริ่น แต่เริ่มด้วยบทสนทนาของตัวละครทันที ดังนั้นบ่อยครั้งที่อ่านอยู่แล้วพอพลิกหน้าต่อไปก็เอ๋อ งงอยู่นานว่าทำไมเรื่องราวมันจึงไม่ต่อเนื่องกัน ตัวละครคุยกันเรื่องหนึ่ง ไฉนกลายเป็นใครไม่รู้มาคุยในอีกเรื่องหนึ่ง กว่าจะทำความเข้าใจว่า อ๋อ..นี่คือตอนใหม่ คนละช่วงเวลาแล้วนะก็เบลอเป็นระยะ เพราะปรากฏลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้ง ยิ่งการจัดวางรูปแบบให้แถวอักษรเรียงเท่ากันเป็นตับด้วยแล้ว จึงยิ่งทำให้การอ่านนั้นยากขึ้น แต่เมื่อชินกับสไตล์การเขียนของเขาแล้ว ช่วงหลัง ๆ ก็จะเริ่มอ่านง่ายขึ้น แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าหนังสือของนักเขียนคนนี้ อ่านเร็วไม่ได้ ต้องค่อย ๆ อ่านอย่างจดจ่อแล้วคิดตามไป .. 3. การเล่าเรื่องเป็นมุมมองอย่างพระเจ้าที่มองเห็นความคิด ความในใจของตัวละครทั้งหมด เพียงแต่ผู้เขียนเลือกที่จะเล่าเท่าที่อยากบอกในช่วงแรกแค่นิดหน่อย แล้วค่อย ๆ เผยเรื่องราวความลับของตัวละครหลักทั้งสามออกมาทีละนิดในภายหลัง ชนิดปิดทั้งตัวละครอื่นในเรื่องเองที่ไม่รู้ความจริง รวมถึงปิดคนอ่านด้วย โดยมาเปิดให้รู้ภายหลังเมื่อถึงช่วงที่สำคัญในจังหวะและบรรยากาศ ซึ่งสถานการณ์ขณะนั้นไต่ระดับถึงจุดอิ่มของตัวละครที่ดำเนินอยู่พอดี ทั้งตัวละครบางตัวรวมถึงคนอ่าน จะได้รู้เรื่องราวในอดีตไปพร้อมกัน จึงเกิดแรงกระเพื่อมที่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์และพฤติกรรมของตัวเอกในเรื่อง กลายเป็นแรงผลักดันให้นิยายเดินหน้าต่อไปในทิศทางที่ผู้เขียนต้องการ ซึ่งนับว่ามีความชาญฉลาดที่เลือกการทยอยเล่าความจริง ได้เหมาะเจาะกับฉากนั้นอย่างลงตัว ... 4. เชื่อว่าสำหรับหนังสือเล่มนี้ ทิศทางความชอบหรือไม่ชอบหลังอ่านจบแล้วจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มอย่างชัดเจน คือกลุ่มที่ชอบถึงชอบมาก กับกลุ่มที่ไม่ชอบเลย หลายคนที่ยังไม่เคยอ่านและไม่คิดจะอ่าน เพียงเพราะคิดว่าเนื้อหาอย่างนี้คงเหมาะกับผู้อ่านเฉพาะกลุ่ม คือคนที่เคยสัมผัสกับการเล่มวิดีโอเกมมาก่อนเท่านั้น คนที่ไม่เคยเล่นคงเข้าถึงได้ยากและน่าจะไม่สนุกแน่เลย ซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่อย่างที่พวกเขาคิด แน่นอนว่าผมชอบเล่นวิดีโอเกมมาตั้งแต่เด็ก แม้ในปัจจุบันเวลาชีวิตจะไม่อำนวยให้สามารถกลับไปเล่นได้เหมือนในอดีต ทว่าอยากยืนยันสิ่งหนึ่งซึ่งค่อนข้างมั่นใจ ถึงคนที่ไม่เคยเล่นวิดีโอเกมมาก่อน ก็สามารถอ่านหนังสือเล่มนี้ได้อย่างสนุก และไม่ได้เข้าใจยากจนเกินไปนัก ช่วงแรกของการเริ่มต้นอาจจะเป็นด่านที่ต้องใช้เวลาสักหน่อยก็จริง เพราะเรื่องถูกเล่าแบบไม่รีบร้อน อีกทั้งบรรยายรายละเอียดชีวิตของตัวเอกทั้งสองแบบไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นสนใจนัก ทว่าพอผ่านไปสักพักความรู้สึกเฉย ๆ กึ่งเริ่มจะเบื่อแล้วนะ จะค่อย ๆ หายไป แล้วถูกแทนที่ด้วยความอยากรู้เรื่องราวต่อไปของทั้งเซดีนและแซม น่าแปลกเหมือนกัน แต่เหมือนบุคลิกและความสัมพันธ์ของทั้งสองมีแรงดึงดูดประหลาด ที่ทำให้ไม่อาจจะหยุดอ่าน คงคล้ายเมื่อเราได้เริ่มเล่นเกมสักเกมหนึ่งซึ่งทีแรกเกือบจะท้อแท้และบอกตัวเองว่า เกมอะไรไม่รู้ไม่เห็นสนุกเลย แต่ใจหนึ่งก็กระซิบบอกตัวเองว่า เล่นต่ออีกหน่อยน่าอย่าเพิ่งรีบยอมแพ้ และพอตั้งใจให้สมาธิกับการจดจ่อกับฉากตรงหน้าแล้ว กลับกลายเป็นว่าเกมเริ่มสนุกขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะเราเริ่มถูกดึงเข้าไปสู่โลกของมัน และการเล่นก็เข้าฝัก เกิดความคุ้นชิน ไม่ได้ยากหรือน่าเบื่อดังที่คิด .... 5. สำหรับคนที่อยู่ในแวดวงเกมมาก่อน อาจมีข้อได้เปรียบและสามารถสนุกไปกับเนื้อหาที่ผู้เขียนใส่เข้ามา มากกว่าคนกลุ่มอื่นพอสมควร เหมือนได้พบเจอเพื่อนเก่า เนื่องจากมีการกล่าวถึงชื่อเกมหลายเกมที่เป็นที่นิยมของบรรดาผู้เล่นจากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่ประมาณช่วงยุคแปดศูนย์ ถึงอย่างนั้นคนที่ไม่เคยแตะโลกของเกมมาก่อน ก็ยังสามารถสนุกไปกับเนื้อหายาวเหยียดได้เช่นกัน หากว่าชื่นชอบในการได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับอาชีพต่าง ๆ เพราะหนังสือเล่มนี้นำเสนอให้เห็นถึงกระบวนการในการสร้างเกมตั้งแต่ขั้นแรกเริ่มหรือพื้นฐาน ไปจนถึงขั้นตอนทางความคิดการออกแบบตัวละคร ฉาก องค์ประกอบเรื่องราวเนื้อหา จนแล้วเสร็จไปถึงขั้นตอนการผลิตและจัดจำหน่าย แผนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การแสดงงาน ให้สัมภาษณ์ เดินสายไปตามที่ต่าง ๆ แบบครบวงจร ซึ่งไม่ได้เขียนออกมาอย่างหนังสือวิชาการ แต่ผ่านการบอกเล่าอย่างมีชั้นเชิงของนิยาย ที่ผูกโยงเข้ากับเรื่องราวความใฝ่ฝันของตัวเอกทั้งสาม ที่อยากจะสร้างเกมที่นักเล่นทุกคนจะเล่นได้อย่างสนุกและรักมัน เป็นโลกที่พวกเขาจะไม่มีวันแพ้ เพราะถ้าตายก็ยังเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ..... 6. ในเล่มนี้มีทั้งประวัติศาสตร์ ปรัชญา ศิลปะ การปรับตัวให้เข้ากับบุคคลอื่น อย่างเพื่อนร่วมงาน เพื่อนรัก คนในครอบครัว และจิตวิทยาการใช้ชีวิตและจูงใจคน รวมถึงการสื่อสารระหว่างมนุษย์ต่อมนุษย์ด้วยกัน นี่ไม่ใช่แค่นิยายเพ้อฝันที่เล่าเรื่องของเด็กหนุ่มสาวสามคนที่อยากโลดแล่นในวงการนักออกแบบเกมเท่านั้นภายในจำนวนแถวอักษรยาวเหยียดที่เรียงเป็นตับกว่าสี่ร้อยหน้า โลกเบื้องหลังนั้นมีความซับซ้อน และโยงใยยุ่งเหยิงในความสัมพันธ์ของคนต่อคน และคนกับสังคมวงกว้างอย่างลึกล้ำ ยิ่งอ่านก็ยิ่งดำดิ่งลงไปในเรื่องราวดราม่ากว่าจะมาเป็นเกมสักเกมให้คนเล่นเสพสมจนสนุกสนาน ทว่าชีวิตของคนสร้างที่ให้กำเนิดเกมฮิตนั้น เขาและเธอต้องพบเจอและผ่านด่าน อุปสรรคขวากหนามต่าง ๆ มาแล้วกี่ร้อยกี่พันฉาก ปะปนทั้งน้ำตาและเสียงหัวเราะ ความขมขื่นที่ไม่มีใครรับรู้แม้แต่คนที่นึกว่าเป็นเพื่อนซึ่งเหมือนใกล้ชิดสุดกว่าใครอื่นในชีวิต ความว่างเปล่าโหวงเหวงที่บรรจุอยู่ภายในจิตใจ เมื่อถึงที่สุดได้แตกกระจายและขยายตัวออกสู่ภายนอก จนกระทั่งตัวเองไม่สามารถจัดการรับมือกับสิ่งที่เกิดและประเดประดังเข้าหา สิ่งที่หลงเหลือต่อจากนั้นพวกเขาแต่ละคนจะจัดการเส้นทางชีวิตตนอย่างไร นี่คือสิ่งที่ผู้อ่านสามารถนำมาเปรียบเทียบกับชีวิตจริง และเก็บสาระที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับตน 7. ผมชอบเนื้อหาในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างแซม กับมาร์กซ์ แซมกับเซดี และมาร์กซ์กับเซดี ที่มีมุมแตกต่างให้เราได้ศึกษา ได้เห็นถึงน้ำใจที่ไม่ธรรมดาที่พวกเขามีให้กัน ในขณะเดียวกันเมื่อมีโจทย์มาทดสอบความเป็นเพื่อนและมิตรภาพของพวกเขา แต่ละคนก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นปุถุชนคนทั่วไป ที่ยังรักตัวรักตนมากเหนือสิ่งอื่นใด จึงในบางคราวก็รับบทบาทร้ายกาจไร้ซึ่งเหตุผลอันสมควรได้เหมือนกัน แม้นเป็นเช่นนี้ แต่สุดท้ายเมื่อกาลเวลาหมุนผ่านยาวนานเพียงพอ คนเราก็จะเติบโตขึ้น เรียนรู้จากความบกพร่องผิดพลาดของตนในอดีต และเข้าใจโลกมากกว่าเก่า จนสามารถจะปลดปล่อยปลงวางปมที่เคยขมวดแน่นในใจ ให้คลี่คลายลงแล้วก้าวข้ามผ่านเกมชีวิตจริง และแข็งแกร่งยิ่งขึ้น สมดังชื่อเรื่อง พรุ่งนี้ และ พรุ่งนี้ และ พรุ่งนี้. แน่นอนว่านี่เป็นเพียงความเห็นที่นักอ่านท่านอื่นอาจจะไม่ได้เห็นเช่นเดียวกันก็เป็นได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด เพียงหวังใจว่าใครที่มีเล่มนี้อยู่ที่บ้านแต่ยังไม่ได้อ่าน จะเกิดความรู้สึกอยากทำความรู้จักกับ แซม, มาร์กซ์ และเซดี ขึ้นมาบ้าง #หนังสือดี #หนังสือน่าอ่าน #thaitimes #วิดีโอเกม #นิยายแปล #การสร้างเกม
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1608 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ผมคงไม่ว่างมาโพสต์อะไรเพราะต้องทำงานตามเขาบรีฟไว้ บางทีเขาคงหมั่นใส้ผมแหละเลยโยนบรีฟเดฟคนอื่นมาให้ผมทำ ทั้งๆที่เดฟคนอื่นทำมามากแล้ว แต่ผมไม่ได้ช่วยพัฒนา ทำไมต้องเป็นผมๆ ตลอด ไม่เข้าใจจริงๆ แถมด่วนมาก ได้เงินก็น้อย ไม่คุ้มจริงๆ ตอนนี้ก็หงุดหงิดที่ลูกค้าให้แก้จากเดิมเป็น 2 เท่า ชีวิตโคตรบัดซบที่สุดเลยครับ และยังดีที่ต้องทิ้งช่วงไว้หน่อยนึง ก่อนที่จะแชร์บทความเกี่ยวกับวิดีโอเกมส์และโพสต์อะไรที่เกี่ยวกับวิดีโอเกมส์ แต่ผมแชร์ย่อใน Facebook และไปโพสต์ขยายความใน VK ต่อ
    ไม่ได้สงบสติอารมณ์ง่ายๆ อารมณ์ตื่นเต้นพุ่งพล่าน เจอคนมาตามงาน กลายเป็นอารมณ์เสีย ขี้หงุดหงิด ไม่มีช่วงไหนสงบไปเลย บางทีไม่อยากตัดพ้ออะไรแบบนี้แล้ว และควรจะปรับปรุงวิธีคิดใหม่จะดีกว่า เพราะตอนนี้เจอมากับตัวเพราะไม่ทันตั้งตัวไป รับมือคนแบบเขาก็ไม่ทัน เลยปล่อยความหงุดหงิดเหวี่ยงวันกลาง MEET เพราะมันเกินกว่าที่จะควบคุมแล้ว และเขาก็ไม่ได้อ่อนโยนกันเราจริงๆ แม้แต่ฝนตกหนักก็ยัง MEET เลย แต่คงต้องยอมเขาแหละ ทำยังไงได้
    วันนี้ผมคงไม่ว่างมาโพสต์อะไรเพราะต้องทำงานตามเขาบรีฟไว้ บางทีเขาคงหมั่นใส้ผมแหละเลยโยนบรีฟเดฟคนอื่นมาให้ผมทำ ทั้งๆที่เดฟคนอื่นทำมามากแล้ว แต่ผมไม่ได้ช่วยพัฒนา ทำไมต้องเป็นผมๆ ตลอด ไม่เข้าใจจริงๆ แถมด่วนมาก ได้เงินก็น้อย ไม่คุ้มจริงๆ ตอนนี้ก็หงุดหงิดที่ลูกค้าให้แก้จากเดิมเป็น 2 เท่า ชีวิตโคตรบัดซบที่สุดเลยครับ และยังดีที่ต้องทิ้งช่วงไว้หน่อยนึง ก่อนที่จะแชร์บทความเกี่ยวกับวิดีโอเกมส์และโพสต์อะไรที่เกี่ยวกับวิดีโอเกมส์ แต่ผมแชร์ย่อใน Facebook และไปโพสต์ขยายความใน VK ต่อ ไม่ได้สงบสติอารมณ์ง่ายๆ อารมณ์ตื่นเต้นพุ่งพล่าน เจอคนมาตามงาน กลายเป็นอารมณ์เสีย ขี้หงุดหงิด ไม่มีช่วงไหนสงบไปเลย บางทีไม่อยากตัดพ้ออะไรแบบนี้แล้ว และควรจะปรับปรุงวิธีคิดใหม่จะดีกว่า เพราะตอนนี้เจอมากับตัวเพราะไม่ทันตั้งตัวไป รับมือคนแบบเขาก็ไม่ทัน เลยปล่อยความหงุดหงิดเหวี่ยงวันกลาง MEET เพราะมันเกินกว่าที่จะควบคุมแล้ว และเขาก็ไม่ได้อ่อนโยนกันเราจริงๆ แม้แต่ฝนตกหนักก็ยัง MEET เลย แต่คงต้องยอมเขาแหละ ทำยังไงได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 รีวิว