• ตั้งแต่เรียนจบ จำความได้ว่า จะทานกาแฟชงเองที่บ้าน หรือทานแบบ 3in1 จนกระทั่งเคยไปหาลูกค้าที่ทำเกี่ยวกับบรรจุกาแฟซอง นับแต่นั้น ถ้าเลือกได้ จะทานแต่กาแฟดำ

    จนกระทั่งมาเจอ #กาแฟโบราณ ทานมาตั้งแต่ถุงละ 12.- แล้วมา 25.- จนกระทั่งล่าสุด ถุงละ 40.- แล้วจร้า 😱😱
    ตั้งแต่เรียนจบ จำความได้ว่า จะทานกาแฟชงเองที่บ้าน หรือทานแบบ 3in1 จนกระทั่งเคยไปหาลูกค้าที่ทำเกี่ยวกับบรรจุกาแฟซอง นับแต่นั้น ถ้าเลือกได้ จะทานแต่กาแฟดำ จนกระทั่งมาเจอ #กาแฟโบราณ ทานมาตั้งแต่ถุงละ 12.- แล้วมา 25.- จนกระทั่งล่าสุด ถุงละ 40.- แล้วจร้า 😱😱
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Cloud ประสบปัญหา ไฟฟ้าขัดข้อง ส่งผลให้เกิด ระบบล่มนานกว่า 6 ชั่วโมง ในศูนย์ข้อมูล us-east5-c ที่ตั้งอยู่ใน Columbus, Ohio โดยสาเหตุหลักมาจาก ความล้มเหลวของระบบสำรองไฟ (UPS) ซึ่งควรจะช่วยรักษาการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ในกรณีที่ไฟฟ้าหลักดับ

    ✅ ไฟฟ้าขัดข้องทำให้ระบบล่มในศูนย์ข้อมูลของ Google Cloud
    - เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2025 และกินเวลานาน 6 ชั่วโมง 10 นาที
    - ศูนย์ข้อมูลที่ได้รับผลกระทบใช้ AMD EPYC และ Intel Xeon processors

    ✅ สาเหตุของปัญหา
    - ระบบสำรองไฟ UPS ควรจะช่วยรักษาการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ แต่เกิด ความล้มเหลวของแบตเตอรี่
    - ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ในโซน us-east5-c ดับลง และเกิด packet loss ในเครือข่าย

    ✅ ผลกระทบต่อบริการของ Google Cloud
    - ลูกค้าหลายรายพบว่า VM instances ในโซนนี้ไม่สามารถใช้งานได้
    - มี ดิสก์บางส่วน ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในช่วงที่เกิดเหตุ

    ✅ การแก้ไขปัญหา
    - วิศวกรของ Google เปลี่ยนเส้นทางทราฟฟิก ไปยังโซนอื่นเพื่อลดผลกระทบ
    - ระบบถูกกู้คืนโดยใช้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และกลับมาออนไลน์เมื่อเวลา 14:49 น. ตามเวลาสหรัฐฯ แปซิฟิก

    ✅ มาตรการป้องกันในอนาคต
    - Google จะ ปรับปรุงระบบสำรองไฟ เพื่อให้สามารถกู้คืนได้เร็วขึ้น
    - มีการตรวจสอบ ระบบ failover เพื่อปิดช่องโหว่ที่ทำให้เกิดปัญหา
    - Google จะทำงานร่วมกับ ผู้ผลิต UPS เพื่อแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่อธุรกิจที่ใช้ Google Cloud
    - บริษัทที่พึ่งพา Google Cloud อาจต้องพิจารณา กลยุทธ์สำรองข้อมูล เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ลักษณะนี้

    ℹ️ ความเสี่ยงของระบบสำรองไฟ
    - แม้ UPS จะถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไฟฟ้าดับ แต่ ความล้มเหลวของแบตเตอรี่ อาจทำให้ระบบล่มได้
    - ควรมี ระบบสำรองเพิ่มเติม เช่น การใช้ multi-zone redundancy

    ℹ️ แนวโน้มของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์
    - บริษัทเทคโนโลยีอาจต้องลงทุนใน ระบบสำรองไฟที่มีความเสถียรสูงขึ้น
    - อาจมีการพัฒนา AI-based monitoring เพื่อช่วยตรวจจับปัญหาก่อนเกิดเหตุ

    https://www.neowin.net/news/googles-uninterruptible-power-supply-ironically-interrupted-cloud-with-a-six-hour-outage/
    Google Cloud ประสบปัญหา ไฟฟ้าขัดข้อง ส่งผลให้เกิด ระบบล่มนานกว่า 6 ชั่วโมง ในศูนย์ข้อมูล us-east5-c ที่ตั้งอยู่ใน Columbus, Ohio โดยสาเหตุหลักมาจาก ความล้มเหลวของระบบสำรองไฟ (UPS) ซึ่งควรจะช่วยรักษาการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ในกรณีที่ไฟฟ้าหลักดับ ✅ ไฟฟ้าขัดข้องทำให้ระบบล่มในศูนย์ข้อมูลของ Google Cloud - เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2025 และกินเวลานาน 6 ชั่วโมง 10 นาที - ศูนย์ข้อมูลที่ได้รับผลกระทบใช้ AMD EPYC และ Intel Xeon processors ✅ สาเหตุของปัญหา - ระบบสำรองไฟ UPS ควรจะช่วยรักษาการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ แต่เกิด ความล้มเหลวของแบตเตอรี่ - ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ในโซน us-east5-c ดับลง และเกิด packet loss ในเครือข่าย ✅ ผลกระทบต่อบริการของ Google Cloud - ลูกค้าหลายรายพบว่า VM instances ในโซนนี้ไม่สามารถใช้งานได้ - มี ดิสก์บางส่วน ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในช่วงที่เกิดเหตุ ✅ การแก้ไขปัญหา - วิศวกรของ Google เปลี่ยนเส้นทางทราฟฟิก ไปยังโซนอื่นเพื่อลดผลกระทบ - ระบบถูกกู้คืนโดยใช้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และกลับมาออนไลน์เมื่อเวลา 14:49 น. ตามเวลาสหรัฐฯ แปซิฟิก ✅ มาตรการป้องกันในอนาคต - Google จะ ปรับปรุงระบบสำรองไฟ เพื่อให้สามารถกู้คืนได้เร็วขึ้น - มีการตรวจสอบ ระบบ failover เพื่อปิดช่องโหว่ที่ทำให้เกิดปัญหา - Google จะทำงานร่วมกับ ผู้ผลิต UPS เพื่อแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่ ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่อธุรกิจที่ใช้ Google Cloud - บริษัทที่พึ่งพา Google Cloud อาจต้องพิจารณา กลยุทธ์สำรองข้อมูล เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ ℹ️ ความเสี่ยงของระบบสำรองไฟ - แม้ UPS จะถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไฟฟ้าดับ แต่ ความล้มเหลวของแบตเตอรี่ อาจทำให้ระบบล่มได้ - ควรมี ระบบสำรองเพิ่มเติม เช่น การใช้ multi-zone redundancy ℹ️ แนวโน้มของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ - บริษัทเทคโนโลยีอาจต้องลงทุนใน ระบบสำรองไฟที่มีความเสถียรสูงขึ้น - อาจมีการพัฒนา AI-based monitoring เพื่อช่วยตรวจจับปัญหาก่อนเกิดเหตุ https://www.neowin.net/news/googles-uninterruptible-power-supply-ironically-interrupted-cloud-with-a-six-hour-outage/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google's 'uninterruptible' power supply ironically interrupted Cloud with a six hour outage
    Google Cloud was hit with a six-hour-long outage at the end of the last month when its uninterruptible power supply system failed.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อต่างประเทศเผยร้านค้าบางแห่งในจีนมีการขึ้นป้ายเก็บค่าบริการหรือ 'เซอร์วิสชาร์จ' จากลูกค้าชาวอเมริกัน 104% โดยเป็นการแสดงออกเพื่อตอบโต้มาตรการรีดภาษีสินค้าจีนของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000035646

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สื่อต่างประเทศเผยร้านค้าบางแห่งในจีนมีการขึ้นป้ายเก็บค่าบริการหรือ 'เซอร์วิสชาร์จ' จากลูกค้าชาวอเมริกัน 104% โดยเป็นการแสดงออกเพื่อตอบโต้มาตรการรีดภาษีสินค้าจีนของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000035646 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 682 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💦💦💦💦💦ส่งท้าย 2025 เทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ไทย… ลูกค้าจะสาดน้ำมาทางนี้…หรือจะสาดใจมาให้เราเลยก็ดีค่ะ 💦💦💦🙏🏻 สวัสดีวันปีใหม่ไทยนะคะลูกค้าที่น่ารักทุกคนนนน 🙏🏻คลิปนี้มัดรวมสินค้าร้านกินจุ๊บจิ๊บ…ที่ต้องบอกเลยว่า ควรค่าของการฟังให้จบค่ะ ถ้าพลาดจะเสียดายมากกกก ที่จะได้รู้ความจริง…ความจริงคือ เลิศเลอเพอร์เฟ็คมากกกก🌶️ ความอร่อย อร่อยมาก ถึงอร่อยที่สุด♨️ สินค้าขายดี ขายดีมาก ถึงขายดีที่สุดเลือกชมสินค้าของเราร้านได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1ช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #ปลาเกล็ดขาวสามรส #ปลาเกล็ดขาว #songkran2025
    💦💦💦💦💦ส่งท้าย 2025 เทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ไทย… ลูกค้าจะสาดน้ำมาทางนี้…หรือจะสาดใจมาให้เราเลยก็ดีค่ะ 💦💦💦🙏🏻 สวัสดีวันปีใหม่ไทยนะคะลูกค้าที่น่ารักทุกคนนนน 🙏🏻คลิปนี้มัดรวมสินค้าร้านกินจุ๊บจิ๊บ…ที่ต้องบอกเลยว่า ควรค่าของการฟังให้จบค่ะ ถ้าพลาดจะเสียดายมากกกก ที่จะได้รู้ความจริง…ความจริงคือ เลิศเลอเพอร์เฟ็คมากกกก🌶️ ความอร่อย อร่อยมาก ถึงอร่อยที่สุด♨️ สินค้าขายดี ขายดีมาก ถึงขายดีที่สุดเลือกชมสินค้าของเราร้านได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1ช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #ปลาเกล็ดขาวสามรส #ปลาเกล็ดขาว #songkran2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • วันนี้ได้เสพบรรยากาศทำงานในวันหยุดกับทีมงานที่ผมชื่นชอบทั้งวัน แต่คืนนี้นอนบ้าน กลับค่ำหน่อย นึกว่างานจะหนักตอนเย็น เห้อ นึกว่างานจะเข้าเสียแล้ว Microsoft Office License ศิษย์เก่า สจล.ดันใช้ไม่ได้ซะงั้น จะใช้ Canva แทนเลยดีไหม ส่วนตัวผมว่าจะใช้ Canva ทำงานกราฟฟิกเผื่อองค์กรเขาใช้ Canva กันทั้งองค์กร และวันนี้ก็ได้ความรู้ใหม่และเทคนิคใหม่ๆที่จะช่วยให้ผมซึมซับความสุขที่ขาดหายไปได้มากขึ้นและหาทางที่ไม่ต้องมาทรมานเครื่องให้ร้อนจนเกินไป ไม่ได้เปลี่ยนซิลิโคนโน้ตบุ๊กนานละ แต่ก็อยากไปให้ร้านแกะเครื่องล้างฝุ่นเปลี่ยนซิลิโคนและเปลี่ยนการ์ดไวไฟแบบอัพเกรดให้ดีกว่าเดิม จะได้หากินกับ Livestream หมดกังวลไวไฟหลุด เพราะไวไฟชอบหลุดตอน Livestream เพราะอัพเดทหลังๆนี้ผมรู้สึกไม่ไว้ใจวินโดว์ได้ บางทีเจ็บใจที่ต้องทำงานกับองค์กรที่เข้มงวดกับสิ่งที่ผมไม่ได้เรียนจบมาและผมไม่ได้ชอบเท่านั้นไม่พอ ผมรังเกียจอีกด้วย คืองานเอกสารวนลูป ซ้ำๆเดิมๆ ซ้ำซากจนจะเบิร์นเอาต์มามากเกินเบอร์ละ ส่วนฟรีแลนซ์ผมว่าควรรับงานลูกค้าที่อยากได้เวอร์ชั่นล่าสุด ถ้าให้เปลี่ยนเป็นเวอร์ชั่นเก่ากูไม่รับแม่งหรอก ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ สูญเปล่าชิบหาย สูญเปล่าเหี้ยๆ วันนี้เจอสตูดิโอชื่อดังแล้วผมนี่มีไฟขึ้นมาทันที แรงบันดาลใจไม่ต้อง แต่ถ้าแรงบัาลใจตลอดกาลก็ขอเชื่อมั่นในศักยภาพและความสามารถของเราก็พอแล้ว แต่ก็ต้องพัฒนาอีกยาวไกล ให้ทำงานเทศบาลนครรังสิตพอรับได้ แต่ให้ทำงาน กทม. สพฐ. โรงเรียน กกต. ปปช. สตง. ผผ. คงไม่ได้ เพราะผมไม่ชอบสภาพแวดล้อมแบบนั้น ถ้ายิ่งโรงเรียนครูเหมือนจะไม่ค่อยรับฟังเด็กๆ รับฟังแต่ทางฝ่ายบริหาร ผมละหัวจะปวด อย่าเป็นครูเลย เพราะสภาพจิตใจบวกกับความต้องการนั้นยังไม่ตรงความต้องการของผมเลย ส่วน ปค. อันนี้ผมไม่แน่ใจ แต่ ปค. ดีขึ้นเยอะเลย บรรยากาศก็พอๆกับ พช. ปภ. และกรมโยธาธิการและผังเมือง
    วันนี้ได้เสพบรรยากาศทำงานในวันหยุดกับทีมงานที่ผมชื่นชอบทั้งวัน แต่คืนนี้นอนบ้าน กลับค่ำหน่อย นึกว่างานจะหนักตอนเย็น เห้อ นึกว่างานจะเข้าเสียแล้ว Microsoft Office License ศิษย์เก่า สจล.ดันใช้ไม่ได้ซะงั้น จะใช้ Canva แทนเลยดีไหม ส่วนตัวผมว่าจะใช้ Canva ทำงานกราฟฟิกเผื่อองค์กรเขาใช้ Canva กันทั้งองค์กร และวันนี้ก็ได้ความรู้ใหม่และเทคนิคใหม่ๆที่จะช่วยให้ผมซึมซับความสุขที่ขาดหายไปได้มากขึ้นและหาทางที่ไม่ต้องมาทรมานเครื่องให้ร้อนจนเกินไป ไม่ได้เปลี่ยนซิลิโคนโน้ตบุ๊กนานละ แต่ก็อยากไปให้ร้านแกะเครื่องล้างฝุ่นเปลี่ยนซิลิโคนและเปลี่ยนการ์ดไวไฟแบบอัพเกรดให้ดีกว่าเดิม จะได้หากินกับ Livestream หมดกังวลไวไฟหลุด เพราะไวไฟชอบหลุดตอน Livestream เพราะอัพเดทหลังๆนี้ผมรู้สึกไม่ไว้ใจวินโดว์ได้ บางทีเจ็บใจที่ต้องทำงานกับองค์กรที่เข้มงวดกับสิ่งที่ผมไม่ได้เรียนจบมาและผมไม่ได้ชอบเท่านั้นไม่พอ ผมรังเกียจอีกด้วย คืองานเอกสารวนลูป ซ้ำๆเดิมๆ ซ้ำซากจนจะเบิร์นเอาต์มามากเกินเบอร์ละ ส่วนฟรีแลนซ์ผมว่าควรรับงานลูกค้าที่อยากได้เวอร์ชั่นล่าสุด ถ้าให้เปลี่ยนเป็นเวอร์ชั่นเก่ากูไม่รับแม่งหรอก ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ สูญเปล่าชิบหาย สูญเปล่าเหี้ยๆ วันนี้เจอสตูดิโอชื่อดังแล้วผมนี่มีไฟขึ้นมาทันที แรงบันดาลใจไม่ต้อง แต่ถ้าแรงบัาลใจตลอดกาลก็ขอเชื่อมั่นในศักยภาพและความสามารถของเราก็พอแล้ว แต่ก็ต้องพัฒนาอีกยาวไกล ให้ทำงานเทศบาลนครรังสิตพอรับได้ แต่ให้ทำงาน กทม. สพฐ. โรงเรียน กกต. ปปช. สตง. ผผ. คงไม่ได้ เพราะผมไม่ชอบสภาพแวดล้อมแบบนั้น ถ้ายิ่งโรงเรียนครูเหมือนจะไม่ค่อยรับฟังเด็กๆ รับฟังแต่ทางฝ่ายบริหาร ผมละหัวจะปวด อย่าเป็นครูเลย เพราะสภาพจิตใจบวกกับความต้องการนั้นยังไม่ตรงความต้องการของผมเลย ส่วน ปค. อันนี้ผมไม่แน่ใจ แต่ ปค. ดีขึ้นเยอะเลย บรรยากาศก็พอๆกับ พช. ปภ. และกรมโยธาธิการและผังเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเวลา 0.42 น. ของวันที่ 12 เมษายน ทางกลุ่มบริษัทบางจากได้มีการส่ง SMS แจ้งเตือนสมาชิกซึ่งเป็นลูกค้าของทางบริษัทฯ เกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ดังรายละเอียดใน SMS ดังนี้"บริษัทขอแจ้งว่าได้ตรวจพบการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ดีไม่มีข้อมูลอ่อนไหว ข้อมูลธุรกรรมการเงินถูกละเมิด จากเหตุดังกล่าวบริษัทได้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูล ทั้งนี้โปรดหลีกเลี่ยงการกดลิงก์ที่ไม่น่าไว้ใจ ไม่ส่ง OTP ให้บุคคลอื่นและระวังการแอบอ้างบริษัทในการทำธุรกรรมต่างๆ หากมีข้อสอบถามโปรดติดต่อ 1651 กด4(08.00-21.00น.) บริษัทขออภัยอย่างสูงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าความปลอดภัยของข้อมูลของท่านถือเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด"โดยทีมงานได้ติดต่อแหล่งข่าว (ไม่เปิดเผยนาม) ถึงสาเหตุการรั่วไหลครั้งนี้ โดยได้รับการชี้แจ้งว่า ทางบริษัทได้ทราบถึงข้อมูลรั่วไหลตั้งเมื่อคืนวันที่ 11 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา แต่ข้อมูลดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นข้อมูลที่สำคัญ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้เป็นไปตามกฏเกณฑ์ ทางทีมงาน IT จำเป็นต้องส่ง SMS ให้แก่ลูกค้าสมาชิกต่างๆ พร้อมกับอาจจะต้องทำรายงานเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งกระทรวงดีอีต่อไป
    เมื่อเวลา 0.42 น. ของวันที่ 12 เมษายน ทางกลุ่มบริษัทบางจากได้มีการส่ง SMS แจ้งเตือนสมาชิกซึ่งเป็นลูกค้าของทางบริษัทฯ เกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ดังรายละเอียดใน SMS ดังนี้"บริษัทขอแจ้งว่าได้ตรวจพบการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ดีไม่มีข้อมูลอ่อนไหว ข้อมูลธุรกรรมการเงินถูกละเมิด จากเหตุดังกล่าวบริษัทได้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูล ทั้งนี้โปรดหลีกเลี่ยงการกดลิงก์ที่ไม่น่าไว้ใจ ไม่ส่ง OTP ให้บุคคลอื่นและระวังการแอบอ้างบริษัทในการทำธุรกรรมต่างๆ หากมีข้อสอบถามโปรดติดต่อ 1651 กด4(08.00-21.00น.) บริษัทขออภัยอย่างสูงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าความปลอดภัยของข้อมูลของท่านถือเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด"โดยทีมงานได้ติดต่อแหล่งข่าว (ไม่เปิดเผยนาม) ถึงสาเหตุการรั่วไหลครั้งนี้ โดยได้รับการชี้แจ้งว่า ทางบริษัทได้ทราบถึงข้อมูลรั่วไหลตั้งเมื่อคืนวันที่ 11 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา แต่ข้อมูลดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นข้อมูลที่สำคัญ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้เป็นไปตามกฏเกณฑ์ ทางทีมงาน IT จำเป็นต้องส่ง SMS ให้แก่ลูกค้าสมาชิกต่างๆ พร้อมกับอาจจะต้องทำรายงานเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งกระทรวงดีอีต่อไป
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • 24 ปี ประหารชีวิต ‘สมคิด นามแก้ว’ นักโทษคดียาบ้าคนแรก ที่ถูกประหาร ด้วยการยิงเป้า” เสียงครวญสะท้านใจ “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต มันไม่คุ้มเลย” แง่คิดที่เตือนให้รู้คุณค่าของชีวิต

    “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้า คนแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านไป ภายใต้บรรยากาศอันน่าสะเทือนใจ ของการเปลี่ยนแปลงสังคม การปราบปรามยาเสพติด ชีวิตมีค่ามากกว่าเงินทอง และความจำเป็นในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด อย่างเด็ดขาด

    ในโลกที่ความมีค่าแห่งชีวิต ศีลธรรม ถูกท้าทายด้วยความโลภ และความอยากรวย เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมานั้น ยังคงสะเทือนใจคนไทยทุกวันนี้ 😢

    ย้อนไปเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมา ในบ่ายวันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 ที่แดนประหาร เรือนจำกลางบางขวาง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ ต้องจ้องมองและตั้งคำถาม ถึงความหมายของความถูกต้อง และความยุติธรรมในสังคม อย่างลึกซึ้ง

    ยาบ้าและปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดทุกชนิด ต่างก็เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในทุกชั้นสังคม แต่ยาบ้าในสมัยนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่คลุ้มคลั่ง และทำให้ผู้เสพมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและสังคมทั่วไป

    นายสมคิด นามแก้ว ได้ถูกจับในคดีมียาเสพติด โดยมีหลักฐานแน่ชัดว่า ต้องขนส่งยาบ้าปริมาณมหาศาล ซึ่งสืบเนื่องมาจากการสืบสวน ที่เชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายค้ายาเสพติด ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ และในขณะที่ระบบการปราบปรามยาเสพติด เริ่มเข้มงวดขึ้น เพื่อยับยั้งอาชญากรรม และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายาบ้าในสังคม 👮‍♂️

    ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มงวด เกี่ยวกับคดียาเสพติด โดยหลักฐานและการรับสารภาพ มักนำไปสู่โทษที่ร้ายแรงที่สุดในบางกรณี โดยเฉพาะในคดียาบ้า ที่มักจะมีมาตรการประหารชีวิต สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือน ให้กับผู้ที่คิดจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการค้า และเสพติดยาเสพติด

    ในคดีของสมคิด ศาลชั้นต้นเห็นว่า ความผิดไม่ได้เกิดจาก ความประมาทเลินเล่อเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการกระทำ ที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การกระทำความผิดในฐานะที่เป็น “นักโทษคดียาบ้า” นั้น จะต้องได้รับโทษในระดับสูงสุด ซึ่งก็คือการประหารชีวิต ตามที่ได้เกิดขึ้นจริงในวันนั้น

    ในช่วงเวลานั้น ยาบ้าเป็นที่แพร่หลายในสังคมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นชั้นคนทำงานข้างนอก หรือแม้แต่ในวงการขบวนการอาชญากรรมขนาดใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของเครือข่ายค้ายาเสพติด ทำให้การปราบปรามเป็นเรื่องท้าทาย และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังทำให้เกิดความรู้สึกสับสนในสังคม ที่มองเห็นภาพของความยุติธรรม ที่อาจไม่ชัดเจนในบางครั้ง

    เหตุการณ์ของคดีนี้ เริ่มต้นในกลางดึกวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2540 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูล เกี่ยวกับการลำเลียงยาบ้าปริมาณมาก จากพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางผ่านทางหลวงหมายเลข 103

    เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กองบังคับการทางหลวง 5 จังหวัดพะเยา ได้ตั้งด่านสกัด ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงร้องกวาง ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ตามข้อมูลที่ได้รับ และมีรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่าสีน้ำตาล ทะเบียน 3ว-8505 กทม. วิ่งเข้ามาที่จุดสกัด เมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้รถหยุด เพื่อทำการตรวจค้น

    ในขณะตรวจค้น นายสมคิด ซึ่งในตอนนั้นอายุ 31 ปี พักอาศัยอยู่ที่หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้แสดงออกถึงพิรุธ ด้วยการกล่าวว่า “ในรถไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตนเองเกลียดยาบ้ามากที่สุด” แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการค้นอย่างละเอียด พบยาบ้าบรรจุในห่อพลาสติก ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในรถ ทั้งที่ประตูรถและใต้เบาะนั่ง พบว่ามียาบ้าปริมาณถึง 203 ห่อ ๆ ละ 2,000 เม็ด รวมเป็นจำนวน 406,000 เม็ด ซึ่งมีสีสันปรากฏเป็นสีส้มและเขียว ประทับตัวอักษรว่า “wy” โดยมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท จึงติดสินบนตำรวจ 5 ล้านบาท แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย🚔

    หลังจากจับกุม ในขั้นตอนการสอบสวน นายสมคิดได้ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าจากพ่อค้ายาเสพติด ด้วยค่าจ้าง 50,000 บาท เพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่ปั๊มน้ำมัน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ เผยให้เห็นว่า แม้จะมีกำไรในทางการค้ายาเสพติด แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” นั้นไม่คุ้มค่าเลย เพราะชีวิตที่ถูกประหารนั้น เป็นชีวิตที่จบลงไปในพริบตา ไม่มีวันได้กลับคืน หรือแก้ไขได้หลังจากนั้น

    นายสมคิดถูกส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ในศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยในชั้นต้นศาลเห็นว่า แม้จะมีการรับสารภาพ แต่การกระทำของนายสมคิดนั้นทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง ต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงได้พิพากษาให้ลงโทษในระดับสูงสุด นั่นคือโทษประหารชีวิต

    หลังจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น นายสมคิดได้ดำเนินการอุทธรณ์ ต่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา พร้อมทั้งได้ยื่นหนังสือถวายฎีกา ทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2543

    นายสมคิดได้ให้เหตุผลว่า “ตนมีการรับสารภาพมาตั้งแต่แรก และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน” รวมทั้งระบุว่า ตนได้กระทำเ พราะต้องการหาเงินมารักษาพยาบาลพี่สาว ที่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ เนื่องจากฐานะทางการเงินที่ยากจน แต่ข้ออ้างเหล่านี้ถู กศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปฏิเสธ โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศชาติ และความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยกล่าวว่าเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถเปรียบเทียบ กับประโยชน์ส่วนรวมของสังคมได้

    ในกระบวนการพิจารณา ศาลได้พิจารณาหลักฐาน และพฤติกรรมของนายสมคิด ที่ชัดเจนว่าเป็นผู้รับจ้างขนยาบ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้า และการค้ายาเสพติด ที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม การที่นายสมคิดพยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่า ระบบค้ายาเสพติด มีการแทรกซึมลึกในสังคม

    ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินยืน ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และเมื่อเรื่องนั้นถูกส่งต่อมายังศาลฎีกา คำพิพากษาก็ยังคงยืนหยัด นำมาซึ่งวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 เป็นวันที่ประหารชีวิตเกิดขึ้นจริง

    วันประหารชีวิตของนายสมคิด นามแก้ว ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดความสลดใจ และสะเทือนใจคนไทยอย่างแท้จริง โดยรายละเอียดในวันนั้นถูกบันทึกไว้ในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของเจ้าหน้าที่ หรือรายงานของนักข่าว ภาพความทุกข์ และความหวาดกลัวของนักโทษที่ต้องรอประหาร ได้สะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่น ในการปราบปรามยาเสพติดในสมัยนั้น

    ในช่วงบ่ายของวันประหาร ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ต่างเข้ามาจัดเตรียมสิ่งของ ที่จำเป็นสำหรับการประหารชีวิต ทั้งนี้เพื่อให้ขั้นตอนทั้งหมด เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นความลับ เมื่อถึงเวลาที่นายสมคิด ถูกเบิกตัวออกจากห้องคุม ทุกอย่างดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเงียบสงัด และบรรยากาศที่หนักอึ้ง

    นายสมคิดในวันนั้น แสดงอาการที่ชัดเจนว่า รู้สึกกลัวและทุกข์ทรมาน ทั้งทางร่างกายที่เริ่มอ่อนแรง และจิตใจที่สั่นคลอน ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายของการเดิน จากห้องคุมไปสู่หลักประหาร นายสมคิดยังคงตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับความรู้สึกและความคิดของตนเอง “ผมเป็นคนแรกที่ถูกประหาร เพราะคดียาบ้าใช่ไหมครับ” และยังได้เตือนผู้อื่น เกี่ยวกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่อาจนำมาซึ่งความทุกข์ และความเสียหายต่อชีวิต 😔

    ระหว่างทาง ในขณะที่นายสมคิดถูกนำไปประหาร มีการสนทนาที่บ่งบอกถึงความทรงจำ และความเจ็บปวดภายในจิตใจของเขา รวมถึงการแฉข้อเท็จจริงของเครือข่ายค้ายาเสพติด ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองในระดับท้องถิ่น “ถ้าจะปราบยาเสพติดให้หมดไปจริงๆ ก็ต้องเอาคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในทุกระดับออกไป” นายสมคิดกล่าว ในช่วงเวลาที่อารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ และความรู้สึกที่อยากจะบอกต่อสังคม

    ผู้คุมในวันนั้น ได้พยายามปลอบใจนายสมคิดว่า “อย่างน้อยสมคิดยังได้ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นครั้งสุดท้าย” แม้ว่าจะมองในแง่ของการเป็นบทเตือน สำหรับผู้ที่คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่คำพูดเหล่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งของจิตใจ ระหว่างความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และความเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ของมนุษย์

    ในห้องประหาร ที่จัดเตรียมขึ้นอย่างเคร่งครัด นายสมคิดถูกนำเข้ามาในห้องที่แสงไฟสลัว ๆ และบรรยากาศเงียบสงัด ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ทำการเตรียมเครื่องมือ และตรวจสอบความพร้อมในทุกขั้นตอน ก่อนที่หัวหน้าชุดประหารจะโบกธงแดง เพื่อเริ่มกระบวนการประหาร

    ในช่วงเวลานั้น ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ทุกคน ต่างมีความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างหน้าที่ และความสำนึกในความทุกข์ทรมานของนายสมคิด ขณะที่นายสมคิดเอง ก็ได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ ในการรำลึกถึงชีวิตที่ผ่านมา ทั้งความรัก ความฝัน และความผิดพลาด ที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีกต่อไป

    คำบอกลาและพินัยกรรมของนายสมคิด เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงข้อคิดที่ว่า “ชีวิตมนุษย์มีค่า เกินกว่าจะถูกแลกด้วยเงินเพียงเพราะความจน หรือความสิ้นหวัง” เขาได้ฝากท้ายจดหมายถึงญาติพี่น้องว่า “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด” ซึ่งเป็นคำเตือนที่หวังว่า จะช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่น เดินตามรอยเท้าของเขาในอนาคต

    แม้คดีของนายสมคิด นามแก้ว จะเกิดขึ้นเมื่อกว่า 24 ปี ที่ผ่านมา แต่ผลกระทบ และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์นี้ ยังคงสะท้อนอยู่ในสังคมไทยในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการปราบปรามยาเสพติด และการตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์

    คดีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับนโยบาย และวิธีการปราบปรามยาเสพติดในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับบทเรียนอันทรงคุณค่าจากการจับกุม และการดำเนินคดีที่เป็นแบบอย่าง แม้ว่าจะมีความท้าทาย จากเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน แต่การดำเนินการที่เข้มแข็ง และเด็ดขาดในคดีนี้ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ไม่มีทางที่ผู้กระทำผิด จะหลุดพ้นไปจากกฎหมาย

    นอกจากนี้ ความเข้มงวดในการลงโทษสูงสุด อย่างการประหารชีวิต ได้เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดต้องคิดทบทวนถึงความเสี่ยง และผลที่ตามมา หากตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมดังกล่าว

    หนึ่งในแง่คิดที่ทรงพลัง จากเหตุการณ์ของนายสมคิด คือ “ชีวิตมนุษย์มีค่าเกินกว่าจะแลกด้วยเงิน” เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ นายสมคิดได้รับเงินค่าจ้างเ 50,000 บาท เพื่อการขนส่งยาบ้า แต่ท้ายที่สุดค่าใช้จ่ายนั้น กลับสูงกว่ามาก เมื่อชีวิตของเขา ถูกสังหารไปในพริบตา

    เหตุการณ์ครั้งนี้เตือนใจให้กับทุกคนว่า ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความยากจน หรือความท้าทายใด ๆ ในชีวิต การก้าวเข้าสู่เส้นทางผิดกฎหมาย ด้วยเงินทองเพียงไม่กี่บาทนั้น ไม่สามารถชดเชยค่าของชีวิต และความมีคุณค่าที่แท้จริงได้

    ในมุมมองของสังคม สิ่งนี้ยังเป็นการเผยให้เห็นถึง ความจำเป็นในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ในระบบเศรษฐกิจ และสวัสดิการสังคม เพื่อให้คนไทยทุกคน มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ และการสนับสนุนที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิต หรือกระทำความผิดเพื่อความอยู่รอด

    นอกจากความเสียหาย ที่เกิดกับตัวนายสมคิดแล้ว คดีนี้ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัว และญาติพี่น้องของเขาอีกด้วย ภาพของคนในบ้าน ที่ต้องสูญเสียสมาชิกอันมีค่าไป จากการกระทำที่นำไปสู่การประหารชีวิต สะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสีย ทั้งทางด้านอารมณ์ และชื่อเสียงในสังคม

    การที่คนรอบข้าง ต้องเผชิญกับความสลด จากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวนั้น ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการมีคุณค่าชีวิต และความจำเป็นในการสนับสนุน และช่วยเหลือกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นผ่านนโยบายสังคมที่เข้มแข็ง หรือการให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด

    ในหลายช่วงของเรื่องราวนี้ อารมณ์และความรู้สึก ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียด ทั้งความกลัว ความเสียใจ และความหวาดกลัวของนายสมคิด ในนาทีสุดท้าย และความเหงาเศร้าใจของผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ที่ต้องเผชิญกับการปฏิบัติหน้าที่หนักอึ้ง เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องหันมาสำรวจ และตั้งคำถามว่า “เราจะทำอะไร เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นอีก?”

    สังคมไทยในปัจจุบัน ยังคงต้องรับมือกับปัญหายาบ้า และปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีมาตรการส่งเสริมคุณค่าชีวิต การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ และโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กับผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรมเหล่านั้น โดยที่ไม่ใช่แค่การลงโทษเท่านั้น แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น

    เหตุการณ์ของนายสมคิด นามแก้ว ได้เปิดเผยประเด็นสำคัญทางจริยธรรม ที่สังคมไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะในแง่ของการให้คุณค่ากับชีวิตมนุษย์ และการตัดสินใจที่มีผลตามมาตลอดชีพ

    ในสังคมที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยังคงมีอยู่ ความจนหรือความจำเป็นบางครั้ง ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกระทำผิด แต่เหตุการณ์ของนายสมคิด สอนเราให้เห็นว่า การกระทำผิดไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แม้จะมีเหตุผลส่วนตัว ที่น่าสงสารเพียงใดก็ตาม

    “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” เป็นวาทะที่ชัดเจนที่เตือนใจว่า ค่าใช้จ่ายในชีวิตนั้น สูงเกินกว่าที่จะวัดด้วยเงินทอง ใครที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ควรได้รับความช่วยเหลือจากสังคม มากกว่าที่จะถูกผลัก ให้เข้าสู่เส้นทางที่ไร้ทางออก

    การลงโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติด อาจดูเหมือนเป็นการลงโทษที่รุนแรง แต่ในมุมมองของสังคมไทยในขณะนั้นแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายค้ายาเสพติด เติบโตและแพร่กระจาย

    อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ก็มีความถกเถียงกันในหลายมุมมอง เกี่ยวกับความถูกต้องของการลงโทษสูงสุดนี้ ว่าจะสามารถช่วยลดอาชญากรรมในระยะยาว ได้จริงหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงที่เห็นจากคดีของนายสมคิดคือ การลงโทษอย่างเด็ดขาดนั้น เป็นการยืนยันถึงความเข้มงวด ของระบบยุติธรรมในยุคนั้น

    หากเรามองในแง่ของการป้องกัน การลงโทษที่รุนแรง ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการกระทำผิด ได้ในระยะยาว สังคมจำเป็นต้องหันมาสนับสนุนการศึกษา สวัสดิการ และระบบช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ

    ในบทเรียนจากคดีนี้ เราได้รู้ว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาสังคมในมิติ ที่ลึกกว่าเพียงการลงโทษนั้น สำคัญมาก การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ทุกคน มีโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาตนเอง อาจเป็นกุญแจสำคัญ ในการป้องกันไม่ให้เกิดคดี ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต

    เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต 24 ปีที่ผ่านมา คดีของนายสมคิด นามแก้ว ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจให้กับสังคมไทย ถึงความเปราะบางของชีวิตมนุษย์ และความรับผิดชอบ ที่เราต้องมีต่อกันในฐานะสมาชิกของสังคม

    แม้ว่าในนาทีสุดท้ายของชีวิต นายสมคิดจะต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน และความกลัวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่คำพูดและการกระทำของเขา กลับเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า สำหรับคนไทยทุกคน “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด” คือคำเตือนที่เกิดจากความเจ็บปวดส่วนตัว ที่สุดท้ายแล้ว กลับกลายเป็นเสียงเตือนถึงความผิดพลาด ที่อาจส่งผลให้ชีวิตของเรา และคนที่เรารักต้องจบลงในพริบตา

    การประหารชีวิตในคดีนี้ ทำให้เราได้ตระหนักว่า การเลือกทางเดินในชีวิตนั้น สำคัญมากกว่าเงินทอง หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ เพราะเมื่อชีวิตถูกใช้ไปแล้ว เราจะไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้อีก 😔

    สังคมไทยในปัจจุบัน ย่อมต้องหันมาสนับสนุนกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณค่าแ ละถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด การสนับสนุนให้ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง รวมถึงการส่งเสริมค่านิยมในด้านความซื่อสัตย์ และความมีคุณธรรม

    ในมุมมองนี้ คดีของนายสมคิด ไม่ได้เป็นเพียงคดีของนักโทษ ที่ถูกประหารชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำหรับทุกคน ที่ต้องคิดทบทวน ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ชีวิตมีค่า” เมื่อชีวิตของเราถูกกีดกันด้วยความผิดพลาด ในเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนความเสียหาย ที่เกิดขึ้นได้ในภายหลัง

    เพื่อป้องกันไม่ให้มีคดีที่คล้ายคลึงกัน เกิดขึ้นอีกในอนาคต จำเป็นต้องมีการสร้างระบบ ที่ช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรม อย่างครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาเรื่องผลกระทบของยาเสพติด การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ ให้กับกลุ่มคนที่อาจตกเป็นเหยื่อของความยากจน และการล่อลวงของเครือข่ายค้ายาเสพติด

    นอกจากนี้ การให้ความรู้ และสร้างจิตสำนึกในสังคมว่า “การแลกเปลี่ยนชีวิตมนุษย์เพื่อเงิน” นั้นไม่มีค่าเทียบเท่ากับความมีชีวิตอยู่ และความสมบูรณ์ของจิตใจ จะช่วยลดโอกาสให้คนเข้าสู่แนวทางที่ผิด และนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ดีขึ้น อย่างแท้จริง

    เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความจริง ที่บางครั้งเราอาจมองข้ามไป ในแง่ของคุณค่าชีวิต และผลกระทบที่เกิดขึ้น จากการกระทำผิดกฎหมาย 🤔 ชีวิตที่ถูกแลกด้วยเงินเพียงเล็กน้อยนั้นไม่มีค่า เมื่อเทียบกับความรักและความสัมพันธ์ของคนรอบข้า งที่สูญเสียไปไปพร้อมกัน

    ทั้งนี้ คดีนี้เป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า ที่สังคมไทยไม่ควรลืม และเป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้จะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก หรือมีความยากจน แต่ทางออกที่ถูกต้องคือ การมองหาแนวทางช่วยเหลือ และการพัฒนาชีวิตให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่การเลือกเส้นทาง ที่นำพามาซึ่งความผิดพลาด และจุดจบที่น่าเศร้า

    เหตุการณ์ประหารชีวิต “สมคิด นามแก้ว” ในคดีคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงคุณค่าให้กับคนไทยในทุกยุคสมัย แม้จะผ่านไปนาน 24 ปี แต่บาดแผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังคงปรากฏให้เห็นในแง่มุมของการต่อสู้กับยาเสพติด และการรักษาคุณค่าของชีวิตมนุษย์

    จากคดีนี้เราได้เรียนรู้ว่า "ชีวิตมีค่า" และไม่ควรนำมาแลกเปลี่ยนกับเงินทอง แม้เพียงเล็กน้อย เพราะผลที่ตามมาหลังจากนั้น คือความสูญเสีย ที่ไม่อาจชดเชยได้ทั้งในทางกายและจิตใจ

    สิ่งที่เราได้จากเรื่องราวของสมคิด คือการตระหนักในความสำคัญ ของการเลือกเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง การช่วยเหลือ และสนับสนุนกันในสังคม ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และความยากจน เราควรเลือกที่จะอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และมีความหมาย แม้ทางเดินจะยากลำบาก แต่ความมีคุณค่าในชีวิตและความจริงใจ จะนำเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เส้นทางที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนชีวิตอันมีค่า เพื่อเงินทองที่ว่างเปล่า

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121635 เม.ย. 2568

    #24ปีประหาร #สมคิดนามแก้ว #นักโทษคดียาบ้า #ปราบยาเสพติด #ชีวิตมีค่า #คดียาบ้า #ยับยั้งอาชญากรรม #สังคมปลอดภัย #อาลัยในชีวิต #ความจริงที่ไม่ควรลืม
    24 ปี ประหารชีวิต ‘สมคิด นามแก้ว’ นักโทษคดียาบ้าคนแรก ที่ถูกประหาร ด้วยการยิงเป้า” เสียงครวญสะท้านใจ “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต มันไม่คุ้มเลย” แง่คิดที่เตือนให้รู้คุณค่าของชีวิต “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้า คนแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านไป ภายใต้บรรยากาศอันน่าสะเทือนใจ ของการเปลี่ยนแปลงสังคม การปราบปรามยาเสพติด ชีวิตมีค่ามากกว่าเงินทอง และความจำเป็นในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด อย่างเด็ดขาด ในโลกที่ความมีค่าแห่งชีวิต ศีลธรรม ถูกท้าทายด้วยความโลภ และความอยากรวย เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมานั้น ยังคงสะเทือนใจคนไทยทุกวันนี้ 😢 ย้อนไปเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมา ในบ่ายวันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 ที่แดนประหาร เรือนจำกลางบางขวาง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ ต้องจ้องมองและตั้งคำถาม ถึงความหมายของความถูกต้อง และความยุติธรรมในสังคม อย่างลึกซึ้ง ยาบ้าและปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดทุกชนิด ต่างก็เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในทุกชั้นสังคม แต่ยาบ้าในสมัยนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่คลุ้มคลั่ง และทำให้ผู้เสพมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและสังคมทั่วไป นายสมคิด นามแก้ว ได้ถูกจับในคดีมียาเสพติด โดยมีหลักฐานแน่ชัดว่า ต้องขนส่งยาบ้าปริมาณมหาศาล ซึ่งสืบเนื่องมาจากการสืบสวน ที่เชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายค้ายาเสพติด ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ และในขณะที่ระบบการปราบปรามยาเสพติด เริ่มเข้มงวดขึ้น เพื่อยับยั้งอาชญากรรม และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายาบ้าในสังคม 👮‍♂️ ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มงวด เกี่ยวกับคดียาเสพติด โดยหลักฐานและการรับสารภาพ มักนำไปสู่โทษที่ร้ายแรงที่สุดในบางกรณี โดยเฉพาะในคดียาบ้า ที่มักจะมีมาตรการประหารชีวิต สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือน ให้กับผู้ที่คิดจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการค้า และเสพติดยาเสพติด ในคดีของสมคิด ศาลชั้นต้นเห็นว่า ความผิดไม่ได้เกิดจาก ความประมาทเลินเล่อเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการกระทำ ที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การกระทำความผิดในฐานะที่เป็น “นักโทษคดียาบ้า” นั้น จะต้องได้รับโทษในระดับสูงสุด ซึ่งก็คือการประหารชีวิต ตามที่ได้เกิดขึ้นจริงในวันนั้น ในช่วงเวลานั้น ยาบ้าเป็นที่แพร่หลายในสังคมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นชั้นคนทำงานข้างนอก หรือแม้แต่ในวงการขบวนการอาชญากรรมขนาดใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของเครือข่ายค้ายาเสพติด ทำให้การปราบปรามเป็นเรื่องท้าทาย และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังทำให้เกิดความรู้สึกสับสนในสังคม ที่มองเห็นภาพของความยุติธรรม ที่อาจไม่ชัดเจนในบางครั้ง เหตุการณ์ของคดีนี้ เริ่มต้นในกลางดึกวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2540 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูล เกี่ยวกับการลำเลียงยาบ้าปริมาณมาก จากพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางผ่านทางหลวงหมายเลข 103 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กองบังคับการทางหลวง 5 จังหวัดพะเยา ได้ตั้งด่านสกัด ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงร้องกวาง ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ตามข้อมูลที่ได้รับ และมีรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่าสีน้ำตาล ทะเบียน 3ว-8505 กทม. วิ่งเข้ามาที่จุดสกัด เมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้รถหยุด เพื่อทำการตรวจค้น ในขณะตรวจค้น นายสมคิด ซึ่งในตอนนั้นอายุ 31 ปี พักอาศัยอยู่ที่หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้แสดงออกถึงพิรุธ ด้วยการกล่าวว่า “ในรถไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตนเองเกลียดยาบ้ามากที่สุด” แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการค้นอย่างละเอียด พบยาบ้าบรรจุในห่อพลาสติก ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในรถ ทั้งที่ประตูรถและใต้เบาะนั่ง พบว่ามียาบ้าปริมาณถึง 203 ห่อ ๆ ละ 2,000 เม็ด รวมเป็นจำนวน 406,000 เม็ด ซึ่งมีสีสันปรากฏเป็นสีส้มและเขียว ประทับตัวอักษรว่า “wy” โดยมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท จึงติดสินบนตำรวจ 5 ล้านบาท แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย🚔 หลังจากจับกุม ในขั้นตอนการสอบสวน นายสมคิดได้ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าจากพ่อค้ายาเสพติด ด้วยค่าจ้าง 50,000 บาท เพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่ปั๊มน้ำมัน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ เผยให้เห็นว่า แม้จะมีกำไรในทางการค้ายาเสพติด แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” นั้นไม่คุ้มค่าเลย เพราะชีวิตที่ถูกประหารนั้น เป็นชีวิตที่จบลงไปในพริบตา ไม่มีวันได้กลับคืน หรือแก้ไขได้หลังจากนั้น นายสมคิดถูกส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ในศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยในชั้นต้นศาลเห็นว่า แม้จะมีการรับสารภาพ แต่การกระทำของนายสมคิดนั้นทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง ต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงได้พิพากษาให้ลงโทษในระดับสูงสุด นั่นคือโทษประหารชีวิต หลังจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น นายสมคิดได้ดำเนินการอุทธรณ์ ต่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา พร้อมทั้งได้ยื่นหนังสือถวายฎีกา ทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2543 นายสมคิดได้ให้เหตุผลว่า “ตนมีการรับสารภาพมาตั้งแต่แรก และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน” รวมทั้งระบุว่า ตนได้กระทำเ พราะต้องการหาเงินมารักษาพยาบาลพี่สาว ที่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ เนื่องจากฐานะทางการเงินที่ยากจน แต่ข้ออ้างเหล่านี้ถู กศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปฏิเสธ โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศชาติ และความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยกล่าวว่าเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถเปรียบเทียบ กับประโยชน์ส่วนรวมของสังคมได้ ในกระบวนการพิจารณา ศาลได้พิจารณาหลักฐาน และพฤติกรรมของนายสมคิด ที่ชัดเจนว่าเป็นผู้รับจ้างขนยาบ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้า และการค้ายาเสพติด ที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม การที่นายสมคิดพยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่า ระบบค้ายาเสพติด มีการแทรกซึมลึกในสังคม ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินยืน ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และเมื่อเรื่องนั้นถูกส่งต่อมายังศาลฎีกา คำพิพากษาก็ยังคงยืนหยัด นำมาซึ่งวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 เป็นวันที่ประหารชีวิตเกิดขึ้นจริง วันประหารชีวิตของนายสมคิด นามแก้ว ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดความสลดใจ และสะเทือนใจคนไทยอย่างแท้จริง โดยรายละเอียดในวันนั้นถูกบันทึกไว้ในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของเจ้าหน้าที่ หรือรายงานของนักข่าว ภาพความทุกข์ และความหวาดกลัวของนักโทษที่ต้องรอประหาร ได้สะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่น ในการปราบปรามยาเสพติดในสมัยนั้น ในช่วงบ่ายของวันประหาร ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ต่างเข้ามาจัดเตรียมสิ่งของ ที่จำเป็นสำหรับการประหารชีวิต ทั้งนี้เพื่อให้ขั้นตอนทั้งหมด เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นความลับ เมื่อถึงเวลาที่นายสมคิด ถูกเบิกตัวออกจากห้องคุม ทุกอย่างดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเงียบสงัด และบรรยากาศที่หนักอึ้ง นายสมคิดในวันนั้น แสดงอาการที่ชัดเจนว่า รู้สึกกลัวและทุกข์ทรมาน ทั้งทางร่างกายที่เริ่มอ่อนแรง และจิตใจที่สั่นคลอน ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายของการเดิน จากห้องคุมไปสู่หลักประหาร นายสมคิดยังคงตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับความรู้สึกและความคิดของตนเอง “ผมเป็นคนแรกที่ถูกประหาร เพราะคดียาบ้าใช่ไหมครับ” และยังได้เตือนผู้อื่น เกี่ยวกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่อาจนำมาซึ่งความทุกข์ และความเสียหายต่อชีวิต 😔 ระหว่างทาง ในขณะที่นายสมคิดถูกนำไปประหาร มีการสนทนาที่บ่งบอกถึงความทรงจำ และความเจ็บปวดภายในจิตใจของเขา รวมถึงการแฉข้อเท็จจริงของเครือข่ายค้ายาเสพติด ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองในระดับท้องถิ่น “ถ้าจะปราบยาเสพติดให้หมดไปจริงๆ ก็ต้องเอาคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในทุกระดับออกไป” นายสมคิดกล่าว ในช่วงเวลาที่อารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ และความรู้สึกที่อยากจะบอกต่อสังคม ผู้คุมในวันนั้น ได้พยายามปลอบใจนายสมคิดว่า “อย่างน้อยสมคิดยังได้ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นครั้งสุดท้าย” แม้ว่าจะมองในแง่ของการเป็นบทเตือน สำหรับผู้ที่คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่คำพูดเหล่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งของจิตใจ ระหว่างความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และความเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ของมนุษย์ ในห้องประหาร ที่จัดเตรียมขึ้นอย่างเคร่งครัด นายสมคิดถูกนำเข้ามาในห้องที่แสงไฟสลัว ๆ และบรรยากาศเงียบสงัด ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ทำการเตรียมเครื่องมือ และตรวจสอบความพร้อมในทุกขั้นตอน ก่อนที่หัวหน้าชุดประหารจะโบกธงแดง เพื่อเริ่มกระบวนการประหาร ในช่วงเวลานั้น ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ทุกคน ต่างมีความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างหน้าที่ และความสำนึกในความทุกข์ทรมานของนายสมคิด ขณะที่นายสมคิดเอง ก็ได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ ในการรำลึกถึงชีวิตที่ผ่านมา ทั้งความรัก ความฝัน และความผิดพลาด ที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีกต่อไป คำบอกลาและพินัยกรรมของนายสมคิด เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงข้อคิดที่ว่า “ชีวิตมนุษย์มีค่า เกินกว่าจะถูกแลกด้วยเงินเพียงเพราะความจน หรือความสิ้นหวัง” เขาได้ฝากท้ายจดหมายถึงญาติพี่น้องว่า “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด” ซึ่งเป็นคำเตือนที่หวังว่า จะช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่น เดินตามรอยเท้าของเขาในอนาคต แม้คดีของนายสมคิด นามแก้ว จะเกิดขึ้นเมื่อกว่า 24 ปี ที่ผ่านมา แต่ผลกระทบ และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์นี้ ยังคงสะท้อนอยู่ในสังคมไทยในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการปราบปรามยาเสพติด และการตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์ คดีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับนโยบาย และวิธีการปราบปรามยาเสพติดในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับบทเรียนอันทรงคุณค่าจากการจับกุม และการดำเนินคดีที่เป็นแบบอย่าง แม้ว่าจะมีความท้าทาย จากเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน แต่การดำเนินการที่เข้มแข็ง และเด็ดขาดในคดีนี้ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ไม่มีทางที่ผู้กระทำผิด จะหลุดพ้นไปจากกฎหมาย นอกจากนี้ ความเข้มงวดในการลงโทษสูงสุด อย่างการประหารชีวิต ได้เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดต้องคิดทบทวนถึงความเสี่ยง และผลที่ตามมา หากตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมดังกล่าว หนึ่งในแง่คิดที่ทรงพลัง จากเหตุการณ์ของนายสมคิด คือ “ชีวิตมนุษย์มีค่าเกินกว่าจะแลกด้วยเงิน” เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ นายสมคิดได้รับเงินค่าจ้างเ 50,000 บาท เพื่อการขนส่งยาบ้า แต่ท้ายที่สุดค่าใช้จ่ายนั้น กลับสูงกว่ามาก เมื่อชีวิตของเขา ถูกสังหารไปในพริบตา เหตุการณ์ครั้งนี้เตือนใจให้กับทุกคนว่า ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความยากจน หรือความท้าทายใด ๆ ในชีวิต การก้าวเข้าสู่เส้นทางผิดกฎหมาย ด้วยเงินทองเพียงไม่กี่บาทนั้น ไม่สามารถชดเชยค่าของชีวิต และความมีคุณค่าที่แท้จริงได้ ในมุมมองของสังคม สิ่งนี้ยังเป็นการเผยให้เห็นถึง ความจำเป็นในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ในระบบเศรษฐกิจ และสวัสดิการสังคม เพื่อให้คนไทยทุกคน มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ และการสนับสนุนที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิต หรือกระทำความผิดเพื่อความอยู่รอด นอกจากความเสียหาย ที่เกิดกับตัวนายสมคิดแล้ว คดีนี้ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัว และญาติพี่น้องของเขาอีกด้วย ภาพของคนในบ้าน ที่ต้องสูญเสียสมาชิกอันมีค่าไป จากการกระทำที่นำไปสู่การประหารชีวิต สะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสีย ทั้งทางด้านอารมณ์ และชื่อเสียงในสังคม การที่คนรอบข้าง ต้องเผชิญกับความสลด จากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวนั้น ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการมีคุณค่าชีวิต และความจำเป็นในการสนับสนุน และช่วยเหลือกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นผ่านนโยบายสังคมที่เข้มแข็ง หรือการให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด ในหลายช่วงของเรื่องราวนี้ อารมณ์และความรู้สึก ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียด ทั้งความกลัว ความเสียใจ และความหวาดกลัวของนายสมคิด ในนาทีสุดท้าย และความเหงาเศร้าใจของผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ที่ต้องเผชิญกับการปฏิบัติหน้าที่หนักอึ้ง เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องหันมาสำรวจ และตั้งคำถามว่า “เราจะทำอะไร เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นอีก?” สังคมไทยในปัจจุบัน ยังคงต้องรับมือกับปัญหายาบ้า และปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีมาตรการส่งเสริมคุณค่าชีวิต การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ และโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กับผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรมเหล่านั้น โดยที่ไม่ใช่แค่การลงโทษเท่านั้น แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น เหตุการณ์ของนายสมคิด นามแก้ว ได้เปิดเผยประเด็นสำคัญทางจริยธรรม ที่สังคมไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะในแง่ของการให้คุณค่ากับชีวิตมนุษย์ และการตัดสินใจที่มีผลตามมาตลอดชีพ ในสังคมที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยังคงมีอยู่ ความจนหรือความจำเป็นบางครั้ง ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกระทำผิด แต่เหตุการณ์ของนายสมคิด สอนเราให้เห็นว่า การกระทำผิดไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แม้จะมีเหตุผลส่วนตัว ที่น่าสงสารเพียงใดก็ตาม “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” เป็นวาทะที่ชัดเจนที่เตือนใจว่า ค่าใช้จ่ายในชีวิตนั้น สูงเกินกว่าที่จะวัดด้วยเงินทอง ใครที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ควรได้รับความช่วยเหลือจากสังคม มากกว่าที่จะถูกผลัก ให้เข้าสู่เส้นทางที่ไร้ทางออก การลงโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติด อาจดูเหมือนเป็นการลงโทษที่รุนแรง แต่ในมุมมองของสังคมไทยในขณะนั้นแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายค้ายาเสพติด เติบโตและแพร่กระจาย อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ก็มีความถกเถียงกันในหลายมุมมอง เกี่ยวกับความถูกต้องของการลงโทษสูงสุดนี้ ว่าจะสามารถช่วยลดอาชญากรรมในระยะยาว ได้จริงหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงที่เห็นจากคดีของนายสมคิดคือ การลงโทษอย่างเด็ดขาดนั้น เป็นการยืนยันถึงความเข้มงวด ของระบบยุติธรรมในยุคนั้น หากเรามองในแง่ของการป้องกัน การลงโทษที่รุนแรง ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการกระทำผิด ได้ในระยะยาว สังคมจำเป็นต้องหันมาสนับสนุนการศึกษา สวัสดิการ และระบบช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ ในบทเรียนจากคดีนี้ เราได้รู้ว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาสังคมในมิติ ที่ลึกกว่าเพียงการลงโทษนั้น สำคัญมาก การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ทุกคน มีโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาตนเอง อาจเป็นกุญแจสำคัญ ในการป้องกันไม่ให้เกิดคดี ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต 24 ปีที่ผ่านมา คดีของนายสมคิด นามแก้ว ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจให้กับสังคมไทย ถึงความเปราะบางของชีวิตมนุษย์ และความรับผิดชอบ ที่เราต้องมีต่อกันในฐานะสมาชิกของสังคม แม้ว่าในนาทีสุดท้ายของชีวิต นายสมคิดจะต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน และความกลัวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่คำพูดและการกระทำของเขา กลับเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า สำหรับคนไทยทุกคน “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด” คือคำเตือนที่เกิดจากความเจ็บปวดส่วนตัว ที่สุดท้ายแล้ว กลับกลายเป็นเสียงเตือนถึงความผิดพลาด ที่อาจส่งผลให้ชีวิตของเรา และคนที่เรารักต้องจบลงในพริบตา การประหารชีวิตในคดีนี้ ทำให้เราได้ตระหนักว่า การเลือกทางเดินในชีวิตนั้น สำคัญมากกว่าเงินทอง หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ เพราะเมื่อชีวิตถูกใช้ไปแล้ว เราจะไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้อีก 😔 สังคมไทยในปัจจุบัน ย่อมต้องหันมาสนับสนุนกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณค่าแ ละถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด การสนับสนุนให้ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง รวมถึงการส่งเสริมค่านิยมในด้านความซื่อสัตย์ และความมีคุณธรรม ในมุมมองนี้ คดีของนายสมคิด ไม่ได้เป็นเพียงคดีของนักโทษ ที่ถูกประหารชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำหรับทุกคน ที่ต้องคิดทบทวน ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ชีวิตมีค่า” เมื่อชีวิตของเราถูกกีดกันด้วยความผิดพลาด ในเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนความเสียหาย ที่เกิดขึ้นได้ในภายหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้มีคดีที่คล้ายคลึงกัน เกิดขึ้นอีกในอนาคต จำเป็นต้องมีการสร้างระบบ ที่ช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรม อย่างครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาเรื่องผลกระทบของยาเสพติด การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ ให้กับกลุ่มคนที่อาจตกเป็นเหยื่อของความยากจน และการล่อลวงของเครือข่ายค้ายาเสพติด นอกจากนี้ การให้ความรู้ และสร้างจิตสำนึกในสังคมว่า “การแลกเปลี่ยนชีวิตมนุษย์เพื่อเงิน” นั้นไม่มีค่าเทียบเท่ากับความมีชีวิตอยู่ และความสมบูรณ์ของจิตใจ จะช่วยลดโอกาสให้คนเข้าสู่แนวทางที่ผิด และนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ดีขึ้น อย่างแท้จริง เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความจริง ที่บางครั้งเราอาจมองข้ามไป ในแง่ของคุณค่าชีวิต และผลกระทบที่เกิดขึ้น จากการกระทำผิดกฎหมาย 🤔 ชีวิตที่ถูกแลกด้วยเงินเพียงเล็กน้อยนั้นไม่มีค่า เมื่อเทียบกับความรักและความสัมพันธ์ของคนรอบข้า งที่สูญเสียไปไปพร้อมกัน ทั้งนี้ คดีนี้เป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า ที่สังคมไทยไม่ควรลืม และเป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้จะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก หรือมีความยากจน แต่ทางออกที่ถูกต้องคือ การมองหาแนวทางช่วยเหลือ และการพัฒนาชีวิตให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่การเลือกเส้นทาง ที่นำพามาซึ่งความผิดพลาด และจุดจบที่น่าเศร้า เหตุการณ์ประหารชีวิต “สมคิด นามแก้ว” ในคดีคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงคุณค่าให้กับคนไทยในทุกยุคสมัย แม้จะผ่านไปนาน 24 ปี แต่บาดแผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังคงปรากฏให้เห็นในแง่มุมของการต่อสู้กับยาเสพติด และการรักษาคุณค่าของชีวิตมนุษย์ จากคดีนี้เราได้เรียนรู้ว่า "ชีวิตมีค่า" และไม่ควรนำมาแลกเปลี่ยนกับเงินทอง แม้เพียงเล็กน้อย เพราะผลที่ตามมาหลังจากนั้น คือความสูญเสีย ที่ไม่อาจชดเชยได้ทั้งในทางกายและจิตใจ สิ่งที่เราได้จากเรื่องราวของสมคิด คือการตระหนักในความสำคัญ ของการเลือกเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง การช่วยเหลือ และสนับสนุนกันในสังคม ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และความยากจน เราควรเลือกที่จะอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และมีความหมาย แม้ทางเดินจะยากลำบาก แต่ความมีคุณค่าในชีวิตและความจริงใจ จะนำเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เส้นทางที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนชีวิตอันมีค่า เพื่อเงินทองที่ว่างเปล่า ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121635 เม.ย. 2568 #24ปีประหาร #สมคิดนามแก้ว #นักโทษคดียาบ้า #ปราบยาเสพติด #ชีวิตมีค่า #คดียาบ้า #ยับยั้งอาชญากรรม #สังคมปลอดภัย #อาลัยในชีวิต #ความจริงที่ไม่ควรลืม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sensata Technologies ได้รายงานเหตุการณ์แรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสอุปกรณ์บางส่วนในเครือข่ายของบริษัท การโจมตีนี้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน เช่น การจัดส่ง การรับสินค้า การผลิต และการสนับสนุนอื่นๆ บริษัทได้ดำเนินการตอบสนองทันทีโดยปิดเครือข่ายบางส่วน นำผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

    Sensata ยังระบุว่ามีการสูญเสียไฟล์บางส่วน แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับไฟล์เหล่านั้น ขณะนี้บริษัทกำลังตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับผลกระทบและจะดำเนินการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม

    แม้ว่าบริษัทจะคาดการณ์ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2025 แต่ก็ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบทั้งหมดได้

    ✅ เหตุการณ์แรนซัมแวร์ที่ Sensata Technologies
    - Sensata ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสอุปกรณ์บางส่วนในเครือข่าย
    - ส่งผลกระทบต่อการจัดส่ง การรับสินค้า การผลิต และการสนับสนุนอื่นๆ

    ✅ การตอบสนองของบริษัท
    - ปิดเครือข่ายบางส่วนและนำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วย
    - แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเริ่มการตรวจสอบ

    ✅ การสูญเสียไฟล์และการตรวจสอบ
    - บริษัทสูญเสียไฟล์บางส่วนและกำลังตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับผลกระทบ
    - จะดำเนินการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม

    ✅ ผลกระทบต่อผลประกอบการ
    - Sensata คาดว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2025

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์
    - การโจมตีแรนซัมแวร์อาจทำให้ข้อมูลสำคัญของบริษัทตกอยู่ในความเสี่ยง
    - การสูญเสียไฟล์อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในระยะยาว

    ℹ️ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า
    - เหตุการณ์นี้อาจลดความเชื่อมั่นของลูกค้าและคู่ค้าในระบบความปลอดภัยของบริษัท
    - การจัดการเหตุการณ์อย่างโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น

    https://www.techradar.com/pro/security/top-us-sensor-maker-sensata-hit-by-worrying-ransomware-attack
    Sensata Technologies ได้รายงานเหตุการณ์แรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสอุปกรณ์บางส่วนในเครือข่ายของบริษัท การโจมตีนี้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน เช่น การจัดส่ง การรับสินค้า การผลิต และการสนับสนุนอื่นๆ บริษัทได้ดำเนินการตอบสนองทันทีโดยปิดเครือข่ายบางส่วน นำผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง Sensata ยังระบุว่ามีการสูญเสียไฟล์บางส่วน แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับไฟล์เหล่านั้น ขณะนี้บริษัทกำลังตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับผลกระทบและจะดำเนินการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม แม้ว่าบริษัทจะคาดการณ์ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2025 แต่ก็ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบทั้งหมดได้ ✅ เหตุการณ์แรนซัมแวร์ที่ Sensata Technologies - Sensata ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสอุปกรณ์บางส่วนในเครือข่าย - ส่งผลกระทบต่อการจัดส่ง การรับสินค้า การผลิต และการสนับสนุนอื่นๆ ✅ การตอบสนองของบริษัท - ปิดเครือข่ายบางส่วนและนำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วย - แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเริ่มการตรวจสอบ ✅ การสูญเสียไฟล์และการตรวจสอบ - บริษัทสูญเสียไฟล์บางส่วนและกำลังตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับผลกระทบ - จะดำเนินการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม ✅ ผลกระทบต่อผลประกอบการ - Sensata คาดว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2025 ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์ - การโจมตีแรนซัมแวร์อาจทำให้ข้อมูลสำคัญของบริษัทตกอยู่ในความเสี่ยง - การสูญเสียไฟล์อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในระยะยาว ℹ️ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า - เหตุการณ์นี้อาจลดความเชื่อมั่นของลูกค้าและคู่ค้าในระบบความปลอดภัยของบริษัท - การจัดการเหตุการณ์อย่างโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น https://www.techradar.com/pro/security/top-us-sensor-maker-sensata-hit-by-worrying-ransomware-attack
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • John Tucker ผู้ก่อตั้งบริษัท Secure Annex ได้ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงขณะช่วยลูกค้าตรวจสอบความปลอดภัย โดยพบว่ามีส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และสามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะผ่าน URL โดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่มักใช้โดยผู้ไม่หวังดีเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ

    ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์ คุกกี้ และ API การจัดการ ซึ่งเป็นระดับการเข้าถึงที่สูงผิดปกติ นอกจากนี้ โค้ดของส่วนขยายยังถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ

    แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าส่วนขยายเหล่านี้ขโมยข้อมูล แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่อาจถูกใช้ในทางที่ผิด Tucker แนะนำให้ผู้ใช้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันที

    ✅ การค้นพบเครือข่ายส่วนขยาย Chrome ที่เสี่ยง
    - John Tucker ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจำนวน 35 รายการ
    - ส่วนขยายบางตัวไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และต้องดาวน์โหลดผ่าน URL โดยตรง

    ✅ สิทธิ์การเข้าถึงที่ผิดปกติ
    - ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์และคุกกี้
    - โค้ดของส่วนขยายถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ

    ✅ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
    - Tucker แนะนำให้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    - ส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store อาจถูกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
    - การขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัว

    ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้
    - ผู้ใช้ที่ติดตั้งส่วนขยายเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์
    - การเข้ารหัสโค้ดทำให้ยากต่อการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา

    https://www.techspot.com/news/107515-researcher-uncovers-network-risky-chrome-extensions-over-4.html
    John Tucker ผู้ก่อตั้งบริษัท Secure Annex ได้ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงขณะช่วยลูกค้าตรวจสอบความปลอดภัย โดยพบว่ามีส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และสามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะผ่าน URL โดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่มักใช้โดยผู้ไม่หวังดีเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์ คุกกี้ และ API การจัดการ ซึ่งเป็นระดับการเข้าถึงที่สูงผิดปกติ นอกจากนี้ โค้ดของส่วนขยายยังถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าส่วนขยายเหล่านี้ขโมยข้อมูล แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่อาจถูกใช้ในทางที่ผิด Tucker แนะนำให้ผู้ใช้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันที ✅ การค้นพบเครือข่ายส่วนขยาย Chrome ที่เสี่ยง - John Tucker ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจำนวน 35 รายการ - ส่วนขยายบางตัวไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และต้องดาวน์โหลดผ่าน URL โดยตรง ✅ สิทธิ์การเข้าถึงที่ผิดปกติ - ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์และคุกกี้ - โค้ดของส่วนขยายถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ ✅ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ - Tucker แนะนำให้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - ส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store อาจถูกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ - การขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัว ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ - ผู้ใช้ที่ติดตั้งส่วนขยายเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ - การเข้ารหัสโค้ดทำให้ยากต่อการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา https://www.techspot.com/news/107515-researcher-uncovers-network-risky-chrome-extensions-over-4.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Researcher uncovers network of risky Chrome extensions with over 4 million installs
    John Tucker, founder of browser security firm Secure Annex, discovered the suspicious extensions while assisting a client who had installed one or more for security monitoring. The...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71% เพื่อแข่งขันกับ Microsoft ในตลาดซอฟต์แวร์สำหรับรัฐบาล

    Google ได้ประกาศข้อตกลงใหม่ที่มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล โดยเสนอราคาที่ลดลงอย่างมากสำหรับ Google Workspace Enterprise Plus และ Assured Controls Plus Editions ข้อตกลงนี้จะมีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025 และคาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 3 ปี

    Google ยังเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของระบบ โดย Google Workspace ได้รับการรับรอง FedRAMP High ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับระบบ IT ของรัฐบาล นอกจากนี้ Gemini ซึ่งเป็น AI Assistant ของ Google ก็ได้รับการรับรองนี้เช่นกัน

    การลดราคาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังผลักดันการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT เพื่อประหยัดงบประมาณและลดความซ้ำซ้อน

    ✅ การลดราคาครั้งใหญ่ของ Google Workspace
    - Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71%
    - ข้อตกลงนี้มีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025

    ✅ การรับรองความปลอดภัย
    - Google Workspace และ Gemini ได้รับการรับรอง FedRAMP High
    - การรับรองนี้ช่วยให้มั่นใจว่าระบบมีความปลอดภัยสูง

    ✅ เป้าหมายของการลดราคา
    - Google ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล
    - คาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ใน 3 ปี

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน
    - การลดราคาครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องปรับกลยุทธ์
    - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว

    ℹ️ ผลกระทบต่อการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT
    - การรวมศูนย์การจัดซื้อ IT อาจลดความยืดหยุ่นของหน่วยงานรัฐบาลบางแห่ง
    - อาจเกิดความเสี่ยงหากระบบที่รวมศูนย์มีปัญหาด้านความปลอดภัย

    https://www.techspot.com/news/107516-google-undercuts-microsoft-71-workspace-discount-us-government.html
    Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71% เพื่อแข่งขันกับ Microsoft ในตลาดซอฟต์แวร์สำหรับรัฐบาล Google ได้ประกาศข้อตกลงใหม่ที่มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล โดยเสนอราคาที่ลดลงอย่างมากสำหรับ Google Workspace Enterprise Plus และ Assured Controls Plus Editions ข้อตกลงนี้จะมีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025 และคาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 3 ปี Google ยังเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของระบบ โดย Google Workspace ได้รับการรับรอง FedRAMP High ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับระบบ IT ของรัฐบาล นอกจากนี้ Gemini ซึ่งเป็น AI Assistant ของ Google ก็ได้รับการรับรองนี้เช่นกัน การลดราคาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังผลักดันการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT เพื่อประหยัดงบประมาณและลดความซ้ำซ้อน ✅ การลดราคาครั้งใหญ่ของ Google Workspace - Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71% - ข้อตกลงนี้มีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025 ✅ การรับรองความปลอดภัย - Google Workspace และ Gemini ได้รับการรับรอง FedRAMP High - การรับรองนี้ช่วยให้มั่นใจว่าระบบมีความปลอดภัยสูง ✅ เป้าหมายของการลดราคา - Google ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล - คาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ใน 3 ปี ℹ️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน - การลดราคาครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องปรับกลยุทธ์ - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว ℹ️ ผลกระทบต่อการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT - การรวมศูนย์การจัดซื้อ IT อาจลดความยืดหยุ่นของหน่วยงานรัฐบาลบางแห่ง - อาจเกิดความเสี่ยงหากระบบที่รวมศูนย์มีปัญหาด้านความปลอดภัย https://www.techspot.com/news/107516-google-undercuts-microsoft-71-workspace-discount-us-government.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google Workspace undercuts Microsoft offer with 71% discount for US government agencies
    Tony Orlando, GM of specialty sales for Google Public Sector, positioned Workspace as a secure, AI-powered alternative to Microsoft's offerings.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • Albert Saniger ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของแอป Nate ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอปของเขาใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้าออนไลน์ แต่แท้จริงแล้วกลับใช้แรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้าในฟิลิปปินส์และโรมาเนีย มาฟังรายละเอียดกันค่ะ:

    Saniger เปิดตัวแอป Nate ในปี 2018 โดยโฆษณาว่าเป็นแอปที่ใช้ AI ในการทำงาน เช่น การกรอกข้อมูลการชำระเงินและการจัดส่งสินค้า รวมถึงการยืนยันการซื้อ แต่จากการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พบว่าแอปนี้พึ่งพาแรงงานมนุษย์เป็นหลักในการดำเนินการซื้อสินค้า ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของ Saniger ที่ว่าแอปนี้ไม่ใช้ "บอทที่โง่เขลา"

    ในปี 2021 Saniger ได้สั่งให้ทีมวิศวกรของเขาพัฒนาบอทเพื่อช่วยดำเนินการซื้อสินค้า แต่บอทเหล่านี้ยังคงทำงานร่วมกับทีมมนุษย์ และไม่ได้เป็น AI ที่ทำงานอัตโนมัติอย่างที่โฆษณาไว้

    แอป Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนตั้งแต่เปิดตัว โดยในปี 2021 ระดมทุนได้ถึง 38 ล้านดอลลาร์ แต่ในปี 2023 บริษัทถูกบังคับให้ขายทรัพย์สินหลังจากหมดเงินทุน ทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมด

    ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Albert Saniger
    - Saniger ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอป Nate ใช้ AI แต่แท้จริงแล้วใช้แรงงานมนุษย์

    ✅ การทำงานของแอป Nate
    - แอป Nate โฆษณาว่าใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้า
    - แต่กลับพึ่งพาแรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้า

    ✅ การระดมทุนของ Nate
    - Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์
    - แต่ต้องขายทรัพย์สินในปี 2023 หลังหมดเงินทุน

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของ AI
    - กรณีนี้อาจทำให้ผู้คนตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทที่อ้างว่าใช้ AI

    ℹ️ ผลกระทบต่อนักลงทุน
    - นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมดจากการลงทุนใน Nate เนื่องจากข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง

    https://www.techspot.com/news/107510-founder-nate-app-faces-fraud-charge-using-ai.html
    Albert Saniger ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของแอป Nate ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอปของเขาใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้าออนไลน์ แต่แท้จริงแล้วกลับใช้แรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้าในฟิลิปปินส์และโรมาเนีย มาฟังรายละเอียดกันค่ะ: Saniger เปิดตัวแอป Nate ในปี 2018 โดยโฆษณาว่าเป็นแอปที่ใช้ AI ในการทำงาน เช่น การกรอกข้อมูลการชำระเงินและการจัดส่งสินค้า รวมถึงการยืนยันการซื้อ แต่จากการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พบว่าแอปนี้พึ่งพาแรงงานมนุษย์เป็นหลักในการดำเนินการซื้อสินค้า ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของ Saniger ที่ว่าแอปนี้ไม่ใช้ "บอทที่โง่เขลา" ในปี 2021 Saniger ได้สั่งให้ทีมวิศวกรของเขาพัฒนาบอทเพื่อช่วยดำเนินการซื้อสินค้า แต่บอทเหล่านี้ยังคงทำงานร่วมกับทีมมนุษย์ และไม่ได้เป็น AI ที่ทำงานอัตโนมัติอย่างที่โฆษณาไว้ แอป Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนตั้งแต่เปิดตัว โดยในปี 2021 ระดมทุนได้ถึง 38 ล้านดอลลาร์ แต่ในปี 2023 บริษัทถูกบังคับให้ขายทรัพย์สินหลังจากหมดเงินทุน ทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมด ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Albert Saniger - Saniger ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอป Nate ใช้ AI แต่แท้จริงแล้วใช้แรงงานมนุษย์ ✅ การทำงานของแอป Nate - แอป Nate โฆษณาว่าใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้า - แต่กลับพึ่งพาแรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้า ✅ การระดมทุนของ Nate - Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์ - แต่ต้องขายทรัพย์สินในปี 2023 หลังหมดเงินทุน ℹ️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของ AI - กรณีนี้อาจทำให้ผู้คนตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทที่อ้างว่าใช้ AI ℹ️ ผลกระทบต่อนักลงทุน - นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมดจากการลงทุนใน Nate เนื่องจากข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง https://www.techspot.com/news/107510-founder-nate-app-faces-fraud-charge-using-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Founder of Nate app faces fraud charge for using "AI" that was really human call center workers
    Saniger launched the Nate app in 2018. It promises to act as a universal shopping cart that simplifies online shopping by enabling users to skip the checkout...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • Jack Ma ผู้ก่อตั้ง Alibaba ได้กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนา AI อย่างมีความรับผิดชอบ โดยเน้นว่าจุดประสงค์ของเทคโนโลยีคือการช่วยให้มนุษย์มีชีวิตที่ดีขึ้นและมีความหมายมากขึ้น ไม่ใช่เพื่อแทนที่มนุษย์

    ✅ การพัฒนา AI เพื่อมนุษยชาติ:
    - Jack Ma เน้นว่า AI ควรมีเป้าหมายเพื่อเข้าใจและให้บริการมนุษย์ ไม่ใช่เพื่อแทนที่มนุษย์
    - เทคโนโลยีควรนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ชีวิตของทุกคนและมอบ "ศักดิ์ศรี" ให้กับแต่ละบุคคล

    ✅ การสนับสนุน Alibaba Cloud:
    - Jack Ma ได้เยี่ยมชม Alibaba Cloud ในเมืองหางโจวเพื่อแสดงการสนับสนุน
    - Alibaba Cloud เป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ที่สุดในจีน และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์ส เช่น Qwen

    ✅ โครงการ Blossom:
    - Alibaba Cloud เปิดตัวโครงการ Blossom เพื่อเร่งการนำ AI มาใช้ โดยให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน โมเดล AI และข้อมูลแก่ลูกค้าหลายล้านราย

    ✅ ความสำคัญของ AI แบบโอเพ่นซอร์ส:
    - โมเดล Qwen ของ Alibaba ได้ช่วยให้นักพัฒนาทั่วโลกสร้างโมเดลอนุพันธ์กว่า 100,000 โมเดล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/11/alibaba-founder-jack-ma-calls-for-responsible-ai-amid-its-wide-adoption-across-china
    Jack Ma ผู้ก่อตั้ง Alibaba ได้กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนา AI อย่างมีความรับผิดชอบ โดยเน้นว่าจุดประสงค์ของเทคโนโลยีคือการช่วยให้มนุษย์มีชีวิตที่ดีขึ้นและมีความหมายมากขึ้น ไม่ใช่เพื่อแทนที่มนุษย์ ✅ การพัฒนา AI เพื่อมนุษยชาติ: - Jack Ma เน้นว่า AI ควรมีเป้าหมายเพื่อเข้าใจและให้บริการมนุษย์ ไม่ใช่เพื่อแทนที่มนุษย์ - เทคโนโลยีควรนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ชีวิตของทุกคนและมอบ "ศักดิ์ศรี" ให้กับแต่ละบุคคล ✅ การสนับสนุน Alibaba Cloud: - Jack Ma ได้เยี่ยมชม Alibaba Cloud ในเมืองหางโจวเพื่อแสดงการสนับสนุน - Alibaba Cloud เป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ที่สุดในจีน และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์ส เช่น Qwen ✅ โครงการ Blossom: - Alibaba Cloud เปิดตัวโครงการ Blossom เพื่อเร่งการนำ AI มาใช้ โดยให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน โมเดล AI และข้อมูลแก่ลูกค้าหลายล้านราย ✅ ความสำคัญของ AI แบบโอเพ่นซอร์ส: - โมเดล Qwen ของ Alibaba ได้ช่วยให้นักพัฒนาทั่วโลกสร้างโมเดลอนุพันธ์กว่า 100,000 โมเดล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/11/alibaba-founder-jack-ma-calls-for-responsible-ai-amid-its-wide-adoption-across-china
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alibaba founder Jack Ma calls for responsible AI amid its wide adoption across China
    Ma emphasised that AI should be developed with the aim of understanding and serving humanity, not replacing it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • Oracle ได้ยืนยันว่ามีการละเมิดข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ที่ล้าสมัย แต่ยืนยันว่าแพลตฟอร์มหลักอย่าง Oracle Cloud Infrastructure (OCI) ไม่ได้รับผลกระทบ โดยเหตุการณ์นี้ยังคงสร้างความสงสัยในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย

    ✅ การละเมิดข้อมูล:
    - Oracle ยืนยันว่าการละเมิดข้อมูลเกิดขึ้นในเซิร์ฟเวอร์ที่ล้าสมัยสองเครื่อง ซึ่งไม่ได้เชื่อมโยงกับ OCI หรือระบบคลาวด์ของลูกค้า
    - ไม่มีข้อมูลลูกค้าถูกเข้าถึงหรือขโมย และไม่มีบริการ OCI ถูกขัดจังหวะ

    ✅ การตอบสนองของ Oracle:
    - Oracle ได้ส่งอีเมลถึงลูกค้าเพื่อชี้แจงว่าไม่มีการละเมิดในแพลตฟอร์ม OCI
    - ข้อมูลที่ถูกขโมยประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งอาจถูกใช้ในการโจมตีแบบเจาะจง

    ✅ การสืบสวน:
    - FBI และ CrowdStrike กำลังสืบสวนเหตุการณ์นี้ โดย Oracle ระบุว่าข้อมูลที่ถูกขโมยมาจากระบบ Oracle Classic ที่เลิกใช้งานตั้งแต่ปี 2017

    ✅ ความสงสัยในคำชี้แจง:
    - ผู้เชี่ยวชาญบางคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคำชี้แจงของ Oracle โดยชี้ว่าข้อมูลบางส่วนที่ถูกขโมยดูเหมือนจะเป็นข้อมูลล่าสุด

    https://www.csoonline.com/article/3959636/oracle-admits-breach-of-obsolete-servers-denies-main-cloud-platform-affected.html
    Oracle ได้ยืนยันว่ามีการละเมิดข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ที่ล้าสมัย แต่ยืนยันว่าแพลตฟอร์มหลักอย่าง Oracle Cloud Infrastructure (OCI) ไม่ได้รับผลกระทบ โดยเหตุการณ์นี้ยังคงสร้างความสงสัยในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ✅ การละเมิดข้อมูล: - Oracle ยืนยันว่าการละเมิดข้อมูลเกิดขึ้นในเซิร์ฟเวอร์ที่ล้าสมัยสองเครื่อง ซึ่งไม่ได้เชื่อมโยงกับ OCI หรือระบบคลาวด์ของลูกค้า - ไม่มีข้อมูลลูกค้าถูกเข้าถึงหรือขโมย และไม่มีบริการ OCI ถูกขัดจังหวะ ✅ การตอบสนองของ Oracle: - Oracle ได้ส่งอีเมลถึงลูกค้าเพื่อชี้แจงว่าไม่มีการละเมิดในแพลตฟอร์ม OCI - ข้อมูลที่ถูกขโมยประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งอาจถูกใช้ในการโจมตีแบบเจาะจง ✅ การสืบสวน: - FBI และ CrowdStrike กำลังสืบสวนเหตุการณ์นี้ โดย Oracle ระบุว่าข้อมูลที่ถูกขโมยมาจากระบบ Oracle Classic ที่เลิกใช้งานตั้งแต่ปี 2017 ✅ ความสงสัยในคำชี้แจง: - ผู้เชี่ยวชาญบางคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคำชี้แจงของ Oracle โดยชี้ว่าข้อมูลบางส่วนที่ถูกขโมยดูเหมือนจะเป็นข้อมูลล่าสุด https://www.csoonline.com/article/3959636/oracle-admits-breach-of-obsolete-servers-denies-main-cloud-platform-affected.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Oracle admits breach of ‘obsolete servers,’ denies main cloud platform affected
    “No OCI customer environment has been penetrated,” the company insisted, but the hacker says otherwise.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านให้บริการบางร้านในกวางโจว และซานซี แสดงออกเพื่อต่อต้านนโยบายภาษีของทรัมป์ที่กระทำต่อจีน โดยขึ้นป้ายข้อความ "เรียกเก็บค่าบริการ 104% จากลูกค้าชาวอเมริกัน และหากคุณมีปัญหาใดๆ โปรดติดต่อสถานทูตสหรัฐ"


    "แม้ว่าในจีนจะมีชาวอเมริกันไม่มากนักจนส่งผลถึงรายได้ของร้านเหล่านี้ แต่สิ่งนี้นับเป็นการแสดงออกถึงรูปแบบความรักชาติของคนจีนที่มีมากกว่าชาติอื่นๆในยามที่ประเทศต้องการความสามัคคีของคนในชาติ"
    ร้านให้บริการบางร้านในกวางโจว และซานซี แสดงออกเพื่อต่อต้านนโยบายภาษีของทรัมป์ที่กระทำต่อจีน โดยขึ้นป้ายข้อความ "เรียกเก็บค่าบริการ 104% จากลูกค้าชาวอเมริกัน และหากคุณมีปัญหาใดๆ โปรดติดต่อสถานทูตสหรัฐ" "แม้ว่าในจีนจะมีชาวอเมริกันไม่มากนักจนส่งผลถึงรายได้ของร้านเหล่านี้ แต่สิ่งนี้นับเป็นการแสดงออกถึงรูปแบบความรักชาติของคนจีนที่มีมากกว่าชาติอื่นๆในยามที่ประเทศต้องการความสามัคคีของคนในชาติ"
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • Andy Jassy ซีอีโอของ Amazon เตือนลูกค้าถึงแนวโน้มสินค้าจะมีราคาแพงขึ้น เนื่องจากภาษีศุลกากรที่บังคับใช้ในช่วงที่โดนัลด์ ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

    สินค้ากว่า 70% ของ Amazon มีแหล่งกำเนิดจากจีน ซึ่งคาดว่าผู้ขายจากต้นทางภายนอกจะโยนภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้บริโภคอย่างแน่นอน
    Andy Jassy ซีอีโอของ Amazon เตือนลูกค้าถึงแนวโน้มสินค้าจะมีราคาแพงขึ้น เนื่องจากภาษีศุลกากรที่บังคับใช้ในช่วงที่โดนัลด์ ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี สินค้ากว่า 70% ของ Amazon มีแหล่งกำเนิดจากจีน ซึ่งคาดว่าผู้ขายจากต้นทางภายนอกจะโยนภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้บริโภคอย่างแน่นอน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • Ubisoft กำลังเผชิญกับคดีความเกี่ยวกับสิทธิ์การเป็นเจ้าของเกมดิจิทัล หลังจากที่บริษัทได้ปิดเซิร์ฟเวอร์และลบเกม The Crew ออกจากคลังของลูกค้า ซึ่งเป็นกรณีที่สร้างความกังวลเกี่ยวกับสิทธิ์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล

    ✅ การปิดเซิร์ฟเวอร์และผลกระทบ:
    - Ubisoft ปิดเซิร์ฟเวอร์ของเกม The Crew ซึ่งเป็นเกมออนไลน์เท่านั้น ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถเข้าถึงเกมได้อีก
    - ลูกค้าที่ซื้อเกมในรูปแบบดิจิทัลถูกลบเกมออกจากคลัง Ubisoft Connect โดยมีการคืนเงินเฉพาะผู้ที่ซื้อเกมในช่วงเวลาล่าสุด

    ✅ การฟ้องร้องในแคลิฟอร์เนีย:
    - ผู้บริโภคในแคลิฟอร์เนียยื่นฟ้อง Ubisoft โดยอ้างว่าบริษัททำให้ลูกค้าเข้าใจผิดเกี่ยวกับสิทธิ์การเป็นเจ้าของเกม
    - ผู้ฟ้องร้องชี้ว่าเกมอื่น ๆ ที่หมดอายุการใช้งานยังคงมีโหมดออฟไลน์ให้เล่นได้

    ✅ การตอบสนองของ Ubisoft:
    - Ubisoft ระบุว่าแพ็กเกจของเกมได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าการซื้อเกมเป็นเพียงการให้สิทธิ์ใช้งานชั่วคราว
    - บริษัทให้คำมั่นว่าจะเพิ่มโหมดออฟไลน์ในเกม The Crew 2 และ The Crew Motorfest

    ✅ การเรียกร้องให้มีการออกกฎหมาย:
    - มีการเรียกร้องให้รัฐบาลแคนาดาและประเทศอื่น ๆ ออกกฎหมายเพื่อปกป้องผู้เล่นเกมออนไลน์
    - ข้อเสนอรวมถึงการบังคับให้บริษัทเกมลบการพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์และปรับปรุงข้อตกลงการใช้งาน

    https://www.techspot.com/news/107502-ubisoft-argues-players-dont-own-their-games-wake.html
    Ubisoft กำลังเผชิญกับคดีความเกี่ยวกับสิทธิ์การเป็นเจ้าของเกมดิจิทัล หลังจากที่บริษัทได้ปิดเซิร์ฟเวอร์และลบเกม The Crew ออกจากคลังของลูกค้า ซึ่งเป็นกรณีที่สร้างความกังวลเกี่ยวกับสิทธิ์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ✅ การปิดเซิร์ฟเวอร์และผลกระทบ: - Ubisoft ปิดเซิร์ฟเวอร์ของเกม The Crew ซึ่งเป็นเกมออนไลน์เท่านั้น ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถเข้าถึงเกมได้อีก - ลูกค้าที่ซื้อเกมในรูปแบบดิจิทัลถูกลบเกมออกจากคลัง Ubisoft Connect โดยมีการคืนเงินเฉพาะผู้ที่ซื้อเกมในช่วงเวลาล่าสุด ✅ การฟ้องร้องในแคลิฟอร์เนีย: - ผู้บริโภคในแคลิฟอร์เนียยื่นฟ้อง Ubisoft โดยอ้างว่าบริษัททำให้ลูกค้าเข้าใจผิดเกี่ยวกับสิทธิ์การเป็นเจ้าของเกม - ผู้ฟ้องร้องชี้ว่าเกมอื่น ๆ ที่หมดอายุการใช้งานยังคงมีโหมดออฟไลน์ให้เล่นได้ ✅ การตอบสนองของ Ubisoft: - Ubisoft ระบุว่าแพ็กเกจของเกมได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าการซื้อเกมเป็นเพียงการให้สิทธิ์ใช้งานชั่วคราว - บริษัทให้คำมั่นว่าจะเพิ่มโหมดออฟไลน์ในเกม The Crew 2 และ The Crew Motorfest ✅ การเรียกร้องให้มีการออกกฎหมาย: - มีการเรียกร้องให้รัฐบาลแคนาดาและประเทศอื่น ๆ ออกกฎหมายเพื่อปกป้องผู้เล่นเกมออนไลน์ - ข้อเสนอรวมถึงการบังคับให้บริษัทเกมลบการพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์และปรับปรุงข้อตกลงการใช้งาน https://www.techspot.com/news/107502-ubisoft-argues-players-dont-own-their-games-wake.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Ubisoft argues players don't own their games in wake of The Crew lawsuit
    Ubisoft's response to a lawsuit over a recently shut-down online game argues that paying customers never truly owned the title. The case has sparked renewed calls for...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • Amazon CEO Andy Jassy ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการลงทุนใน AI ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้น โดยระบุว่า AI เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับลูกค้าและช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน

    ✅ การลงทุนใน AI:
    - Amazon ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ใน AI เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
    - Andy Jassy เชื่อว่า AI จะเปลี่ยนแปลงทุกแง่มุมของการบริการลูกค้า

    ✅ เป้าหมายของการลงทุน:
    - การลงทุนใน AI มีเป้าหมายเพื่อทำให้ชีวิตของลูกค้าง่ายขึ้นและดีขึ้นในทุกวัน
    - Amazon มุ่งเน้นการพัฒนา AI ในหลากหลายด้าน เช่น การจัดการสินค้าคงคลังและการปรับปรุงการค้นหาสินค้า

    ✅ การแข่งขันในตลาด:
    - Andy Jassy ระบุว่าการลงทุนใน AI เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/10/amazon-ceo-sets-out-ai-investment-mission-in-annual-shareholder-letter
    Amazon CEO Andy Jassy ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการลงทุนใน AI ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้น โดยระบุว่า AI เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับลูกค้าและช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน ✅ การลงทุนใน AI: - Amazon ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ใน AI เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน - Andy Jassy เชื่อว่า AI จะเปลี่ยนแปลงทุกแง่มุมของการบริการลูกค้า ✅ เป้าหมายของการลงทุน: - การลงทุนใน AI มีเป้าหมายเพื่อทำให้ชีวิตของลูกค้าง่ายขึ้นและดีขึ้นในทุกวัน - Amazon มุ่งเน้นการพัฒนา AI ในหลากหลายด้าน เช่น การจัดการสินค้าคงคลังและการปรับปรุงการค้นหาสินค้า ✅ การแข่งขันในตลาด: - Andy Jassy ระบุว่าการลงทุนใน AI เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/10/amazon-ceo-sets-out-ai-investment-mission-in-annual-shareholder-letter
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Amazon CEO sets out AI investment mission in annual shareholder letter
    (Reuters) - Amazon chief executive Andy Jassy on Thursday justified the company's billions of dollars in outlays for artificial intelligence development, saying the investment was necessary to remain competitive.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดตัว Ironwood TPU ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผล Tensor รุ่นที่ 7 ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผล AI ในระดับสูง โดยเน้นการใช้งานด้าน Inference ซึ่งเป็นความท้าทายใหม่ในโลก AI

    🌐 จุดเด่นของ Ironwood TPU:
    - ⚡ ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า: Ironwood สามารถรองรับการประมวลผลได้ถึง 42.5 exaflops ซึ่งมากกว่า 24 เท่า ของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ El Capitan
    - 🧠 การพัฒนา AI เชิงลึก: Ironwood ช่วยให้โมเดล AI สามารถทำงานเชิงวิเคราะห์และคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
    - 💾 หน่วยความจำที่เพิ่มขึ้น: มีหน่วยความจำแบบแบนด์วิดท์สูงถึง 192GB ต่อชิป และความเร็วในการส่งข้อมูลสูงถึง 7.2TBps

    ⚠️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI:
    - 🌍 การเปลี่ยนแปลงใน AI Computing: Ironwood ช่วยให้ลูกค้าของ Google Cloud สามารถจัดการงานที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุน
    - 🔄 การรวมพลังของ DeepMind: Ironwood ใช้ซอฟต์แวร์ Pathways ที่พัฒนาโดย DeepMind เพื่อเพิ่มศักยภาพในการประมวลผล

    https://www.techradar.com/pro/google-cloud-unveils-ironwood-its-7th-gen-tpu-to-help-boost-ai-performance-and-inference
    Google ได้เปิดตัว Ironwood TPU ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผล Tensor รุ่นที่ 7 ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผล AI ในระดับสูง โดยเน้นการใช้งานด้าน Inference ซึ่งเป็นความท้าทายใหม่ในโลก AI 🌐 จุดเด่นของ Ironwood TPU: - ⚡ ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า: Ironwood สามารถรองรับการประมวลผลได้ถึง 42.5 exaflops ซึ่งมากกว่า 24 เท่า ของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ El Capitan - 🧠 การพัฒนา AI เชิงลึก: Ironwood ช่วยให้โมเดล AI สามารถทำงานเชิงวิเคราะห์และคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น - 💾 หน่วยความจำที่เพิ่มขึ้น: มีหน่วยความจำแบบแบนด์วิดท์สูงถึง 192GB ต่อชิป และความเร็วในการส่งข้อมูลสูงถึง 7.2TBps ⚠️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI: - 🌍 การเปลี่ยนแปลงใน AI Computing: Ironwood ช่วยให้ลูกค้าของ Google Cloud สามารถจัดการงานที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุน - 🔄 การรวมพลังของ DeepMind: Ironwood ใช้ซอฟต์แวร์ Pathways ที่พัฒนาโดย DeepMind เพื่อเพิ่มศักยภาพในการประมวลผล https://www.techradar.com/pro/google-cloud-unveils-ironwood-its-7th-gen-tpu-to-help-boost-ai-performance-and-inference
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • Micron Technology ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำชั้นนำ ประกาศเพิ่มราคาสินค้าบางประเภท เช่น SSD และ โมดูลหน่วยความจำ เพื่อตอบสนองต่อภาษีการค้าใหม่ที่กำหนดโดยรัฐบาลสหรัฐฯ

    🌐 เหตุผลที่ต้องปรับราคา:

    📋 ผลกระทบจากภาษี: แม้ชิปเซมิคอนดักเตอร์จะได้รับการยกเว้นจากภาษี แต่ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น SSD และหน่วยความจำ ไม่ได้รับการยกเว้น

    💡 การส่งต่อค่าใช้จ่าย: Micron แจ้งลูกค้าว่าภาษีที่เพิ่มขึ้นจะถูกส่งต่อไปยังผู้บริโภค เนื่องจากบริษัทไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายนี้ได้เอง

    ⚠️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม:

    🌏 การปรับตัวของผู้ผลิตในเอเชีย: ผู้ผลิต NAND ในเอเชีย เช่น จีนและไต้หวัน ใช้กลยุทธ์เดียวกัน โดยแจ้งลูกค้าในสหรัฐฯ ให้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายภาษีเอง

    🖥️ การขึ้นราคาสินค้าอื่น ๆ: ผู้ผลิตเทคโนโลยี เช่น Acer ก็ประกาศเพิ่มราคาสินค้าสำหรับตลาดสหรัฐฯ ถึง 10%

    https://www.techspot.com/news/107484-micron-raises-prices-memory-products-response-trump-tariffs.html
    Micron Technology ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำชั้นนำ ประกาศเพิ่มราคาสินค้าบางประเภท เช่น SSD และ โมดูลหน่วยความจำ เพื่อตอบสนองต่อภาษีการค้าใหม่ที่กำหนดโดยรัฐบาลสหรัฐฯ 🌐 เหตุผลที่ต้องปรับราคา: 📋 ผลกระทบจากภาษี: แม้ชิปเซมิคอนดักเตอร์จะได้รับการยกเว้นจากภาษี แต่ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น SSD และหน่วยความจำ ไม่ได้รับการยกเว้น 💡 การส่งต่อค่าใช้จ่าย: Micron แจ้งลูกค้าว่าภาษีที่เพิ่มขึ้นจะถูกส่งต่อไปยังผู้บริโภค เนื่องจากบริษัทไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายนี้ได้เอง ⚠️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม: 🌏 การปรับตัวของผู้ผลิตในเอเชีย: ผู้ผลิต NAND ในเอเชีย เช่น จีนและไต้หวัน ใช้กลยุทธ์เดียวกัน โดยแจ้งลูกค้าในสหรัฐฯ ให้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายภาษีเอง 🖥️ การขึ้นราคาสินค้าอื่น ๆ: ผู้ผลิตเทคโนโลยี เช่น Acer ก็ประกาศเพิ่มราคาสินค้าสำหรับตลาดสหรัฐฯ ถึง 10% https://www.techspot.com/news/107484-micron-raises-prices-memory-products-response-trump-tariffs.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Micron raises prices on SSDs, memory products in response to tariffs
    In a letter to its US clients, Micron explained that the surcharge is necessary under the new trade conditions. Executives had already warned customers during a March...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sundar Pichai CEO ของ Alphabet ยืนยันแผนการลงทุนมูลค่า 75 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2025 เพื่อขยายศักยภาพของศูนย์ข้อมูลและพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะโมเดล Gemini ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่บริษัทมุ่งเน้น

    🌐 การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน:
    - งบประมาณนี้จะถูกใช้ในการพัฒนาชิปและเซิร์ฟเวอร์ที่จำเป็นสำหรับบริการหลัก เช่น Search และการพัฒนา AI
    - การลงทุนยังครอบคลุมถึงการสนับสนุนลูกค้าองค์กรที่ใช้บริการคลาวด์ของ Google

    🤖 โอกาสใน AI:
    - Sundar Pichai ระบุว่า AI เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ และ Alphabet มุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปสู่มือของผู้บริโภคและองค์กร

    📈 ผลกระทบต่อหุ้น:
    - หุ้นของ Alphabet เพิ่มขึ้นกว่า 7% หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศหยุดการเก็บภาษีชั่วคราว ซึ่งช่วยลดแรงกดดันในตลาด

    ความท้าทายที่ต้องเผชิญ:
    💡 ความกังวลของนักลงทุน:
    - แม้การลงทุนใน AI จะมีศักยภาพสูง แต่นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงผลตอบแทนที่ชัดเจนจากการลงทุนมหาศาลนี้

    💡 สงครามการค้า:
    - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศอาจเพิ่มต้นทุนการผลิตและส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/10/alphabet-ceo-reaffirms-planned-75-billion-capital-spending-in-2025
    Sundar Pichai CEO ของ Alphabet ยืนยันแผนการลงทุนมูลค่า 75 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2025 เพื่อขยายศักยภาพของศูนย์ข้อมูลและพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะโมเดล Gemini ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่บริษัทมุ่งเน้น 🌐 การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน: - งบประมาณนี้จะถูกใช้ในการพัฒนาชิปและเซิร์ฟเวอร์ที่จำเป็นสำหรับบริการหลัก เช่น Search และการพัฒนา AI - การลงทุนยังครอบคลุมถึงการสนับสนุนลูกค้าองค์กรที่ใช้บริการคลาวด์ของ Google 🤖 โอกาสใน AI: - Sundar Pichai ระบุว่า AI เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ และ Alphabet มุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปสู่มือของผู้บริโภคและองค์กร 📈 ผลกระทบต่อหุ้น: - หุ้นของ Alphabet เพิ่มขึ้นกว่า 7% หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศหยุดการเก็บภาษีชั่วคราว ซึ่งช่วยลดแรงกดดันในตลาด ความท้าทายที่ต้องเผชิญ: 💡 ความกังวลของนักลงทุน: - แม้การลงทุนใน AI จะมีศักยภาพสูง แต่นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงผลตอบแทนที่ชัดเจนจากการลงทุนมหาศาลนี้ 💡 สงครามการค้า: - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศอาจเพิ่มต้นทุนการผลิตและส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/10/alphabet-ceo-reaffirms-planned-75-billion-capital-spending-in-2025
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alphabet CEO reaffirms planned $75 billion capital spending in 2025
    Las Vegas (Reuters) - Alphabet reiterated on Wednesday it would spend about $75 billion this year to build out data center capacity, doubling down on its generative AI bet even as the payoff remains unclear and a global trade war threatens to raise costs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนสกาแฟจ่อขาดตลาด ศาลสั่งห้ามผลิต-ขาย

    สร้างความตกใจแก่ผู้บริโภค เมื่อบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ศาลแพ่งมีนบุรีออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามดำเนินการผลิต ว่าจ้างผลิต จำหน่าย และนำเข้าผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปโดยใช้เครื่องหมายการค้าเนสกาแฟ (Nescafé) ในประเทศไทย หลังจากนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ทายาทรุ่น 2 ของนายประยุทธ มหากิจศิริ เจ้าของฉายา "เจ้าพ่อเนสกาแฟ" ฟ้องดำเนินคดีแพ่งกับบริษัทในเครือเนสท์เล่และกรรมการ 2 คดี เป็นผลทำให้บริษัทฯ จะไม่สามารถรับคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เนสกาแฟจากร้านค้าปลีกต่างๆ ทั่วประเทศ แต่ระหว่างนี้ร้านค้าปลีกที่มีผลิตภัณฑ์เนสกาแฟอยู่ในร้าน ยังสามารถจำหน่ายได้ตามปกติ

    เนสท์เล่ กล่าวถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นว่า ผู้ประกอบการรายย่อย ร้านกาแฟขนาดเล็ก และรถเข็นขายกาแฟจะสูญเสียรายได้ เพราะไม่มีผลิตภัณฑ์เนสกาแฟจำหน่าย หากปรับเปลี่ยนสูตรการชงและวัตถุดิบที่ใช้ อาจส่งผลต่อรสชาติที่เปลี่ยนไป กระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการรายย่อย อีกทั้งพนักงานของลูกค้าและคู่ค้าซัพพลายเออร์ ที่เคยสามารถจัดส่งวัตถุดิบต่างๆ ให้กับเนสกาแฟต้องหยุดชะงักลง ส่งผลให้ขาดรายได้ เกษตรกรผู้เพาะปลูกกาแฟ และเกษตรกรโคนมในไทยจะไม่สามารถจำหน่ายวัตถุดิบให้เนสกาแฟได้ ซึ่งทุกปีจะรับซื้อเมล็ดกาแฟดิบพันธุ์โรบัสต้ามากกว่าครึ่งหนึ่งของผลผลิตทั้งหมด นอกจากนี้ ผู้บริโภคหลายล้านคนในประเทศไทย และผู้บริโภคในตลาดส่งออกของเนสกาแฟจะไม่มีผลิตภัณฑ์เนสกาแฟดื่ม

    "เนสท์เล่ จะดำเนินการอย่างเต็มที่ในการแก้ไขสถานการณ์นี้ และกำลังดำเนินการยื่นคำร้องคัดค้านเพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าวต่อศาล พร้อมยื่นข้อมูลที่ครบถ้วนแก่ศาลแพ่งมีนบุรีเพื่อการพิจารณาคำร้อง" แถลงการณ์ ระบุ

    เนสกาแฟวางตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2533-2567 ผลิตโดย บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนในสัดส่วนคนละครึ่ง ระหว่างเนสท์เล่ กับตระกูลมหากิจศิริ นำโดยนายประยุทธ มหากิจศิริ แต่อำนาจในการบริหารงานการผลิต การจัดจำหน่าย รวมทั้งการทำการตลาด เป็นของเนสท์เล่ รวมทั้งเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตเนสกาแฟ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของเนสท์เล่

    เนสท์เล่ ได้แจ้งยุติสัญญากับบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส เมื่อปี 2564 และศาลอนุญาโตตุลาการสากลตัดสินแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 2567 แต่หลังยุติสัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ เนสท์เล่จึงยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ขอให้ศาลมีคำสั่งเลิกบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส แต่เมื่อเดือน มี.ค.-เม.ย. 2568 นายเฉลิมชัยฟ้องศาลแพ่งมีนบุรี ก่อนจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว

    #Newskit
    เนสกาแฟจ่อขาดตลาด ศาลสั่งห้ามผลิต-ขาย สร้างความตกใจแก่ผู้บริโภค เมื่อบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ศาลแพ่งมีนบุรีออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามดำเนินการผลิต ว่าจ้างผลิต จำหน่าย และนำเข้าผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปโดยใช้เครื่องหมายการค้าเนสกาแฟ (Nescafé) ในประเทศไทย หลังจากนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ทายาทรุ่น 2 ของนายประยุทธ มหากิจศิริ เจ้าของฉายา "เจ้าพ่อเนสกาแฟ" ฟ้องดำเนินคดีแพ่งกับบริษัทในเครือเนสท์เล่และกรรมการ 2 คดี เป็นผลทำให้บริษัทฯ จะไม่สามารถรับคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เนสกาแฟจากร้านค้าปลีกต่างๆ ทั่วประเทศ แต่ระหว่างนี้ร้านค้าปลีกที่มีผลิตภัณฑ์เนสกาแฟอยู่ในร้าน ยังสามารถจำหน่ายได้ตามปกติ เนสท์เล่ กล่าวถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นว่า ผู้ประกอบการรายย่อย ร้านกาแฟขนาดเล็ก และรถเข็นขายกาแฟจะสูญเสียรายได้ เพราะไม่มีผลิตภัณฑ์เนสกาแฟจำหน่าย หากปรับเปลี่ยนสูตรการชงและวัตถุดิบที่ใช้ อาจส่งผลต่อรสชาติที่เปลี่ยนไป กระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการรายย่อย อีกทั้งพนักงานของลูกค้าและคู่ค้าซัพพลายเออร์ ที่เคยสามารถจัดส่งวัตถุดิบต่างๆ ให้กับเนสกาแฟต้องหยุดชะงักลง ส่งผลให้ขาดรายได้ เกษตรกรผู้เพาะปลูกกาแฟ และเกษตรกรโคนมในไทยจะไม่สามารถจำหน่ายวัตถุดิบให้เนสกาแฟได้ ซึ่งทุกปีจะรับซื้อเมล็ดกาแฟดิบพันธุ์โรบัสต้ามากกว่าครึ่งหนึ่งของผลผลิตทั้งหมด นอกจากนี้ ผู้บริโภคหลายล้านคนในประเทศไทย และผู้บริโภคในตลาดส่งออกของเนสกาแฟจะไม่มีผลิตภัณฑ์เนสกาแฟดื่ม "เนสท์เล่ จะดำเนินการอย่างเต็มที่ในการแก้ไขสถานการณ์นี้ และกำลังดำเนินการยื่นคำร้องคัดค้านเพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าวต่อศาล พร้อมยื่นข้อมูลที่ครบถ้วนแก่ศาลแพ่งมีนบุรีเพื่อการพิจารณาคำร้อง" แถลงการณ์ ระบุ เนสกาแฟวางตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2533-2567 ผลิตโดย บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนในสัดส่วนคนละครึ่ง ระหว่างเนสท์เล่ กับตระกูลมหากิจศิริ นำโดยนายประยุทธ มหากิจศิริ แต่อำนาจในการบริหารงานการผลิต การจัดจำหน่าย รวมทั้งการทำการตลาด เป็นของเนสท์เล่ รวมทั้งเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตเนสกาแฟ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของเนสท์เล่ เนสท์เล่ ได้แจ้งยุติสัญญากับบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส เมื่อปี 2564 และศาลอนุญาโตตุลาการสากลตัดสินแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 2567 แต่หลังยุติสัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ เนสท์เล่จึงยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ขอให้ศาลมีคำสั่งเลิกบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส แต่เมื่อเดือน มี.ค.-เม.ย. 2568 นายเฉลิมชัยฟ้องศาลแพ่งมีนบุรี ก่อนจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว #Newskit
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ได้ประกาศจัดงาน “Advancing AI 2025” ซึ่งจะเป็นทั้งงานประชุมในสถานที่และสตรีมสดในวันที่ 12 มิถุนายน 2025 โดยงานนี้จะนำเสนอวิสัยทัศน์ล่าสุดของ AMD ในโลก AI พร้อมเปิดตัว AMD Instinct GPUs รุ่นถัดไป และความก้าวหน้าในซอฟต์แวร์ ROCm open ecosystem

    ✅ เป้าหมายที่ครอบคลุมกลุ่มต่าง ๆ:
    - AMD ไม่ได้จำกัดการนำเสนอแค่กลุ่มนักพัฒนาเท่านั้น แต่ยังรวมถึง องค์กร hyperscalers, ธุรกิจ, สตาร์ทอัพ และนักพัฒนา AI

    ✅ การเปิดตัวฮาร์ดแวร์ใหม่:
    - AMD Instinct GPUs รุ่นใหม่จะถูกนำเสนอ พร้อมความสามารถที่มุ่งเน้น ประสิทธิภาพในการประมวลผล AI และการพัฒนาโมเดลที่ซับซ้อน

    ✅ ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเพิ่มขึ้น:
    - ROCm ecosystem จะขยายความร่วมมือ และเพิ่มฟีเจอร์ที่ช่วยนักพัฒนาได้สร้างโซลูชัน AI ได้สะดวกและทรงพลังขึ้น

    ✅ วิสัยทัศน์จาก Dr. Lisa Su:
    - ภายในงาน คุณ Dr. Lisa Su, CEO ของ AMD จะร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์เกี่ยวกับทิศทางของ AI ที่ AMD กำลังสร้างขึ้น พร้อมเปิดเวทีให้ พันธมิตร, ลูกค้า, และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ AI ได้ร่วมแสดงมุมมอง

    https://www.techpowerup.com/335245/amd-announces-advancing-ai-2025
    AMD ได้ประกาศจัดงาน “Advancing AI 2025” ซึ่งจะเป็นทั้งงานประชุมในสถานที่และสตรีมสดในวันที่ 12 มิถุนายน 2025 โดยงานนี้จะนำเสนอวิสัยทัศน์ล่าสุดของ AMD ในโลก AI พร้อมเปิดตัว AMD Instinct GPUs รุ่นถัดไป และความก้าวหน้าในซอฟต์แวร์ ROCm open ecosystem ✅ เป้าหมายที่ครอบคลุมกลุ่มต่าง ๆ: - AMD ไม่ได้จำกัดการนำเสนอแค่กลุ่มนักพัฒนาเท่านั้น แต่ยังรวมถึง องค์กร hyperscalers, ธุรกิจ, สตาร์ทอัพ และนักพัฒนา AI ✅ การเปิดตัวฮาร์ดแวร์ใหม่: - AMD Instinct GPUs รุ่นใหม่จะถูกนำเสนอ พร้อมความสามารถที่มุ่งเน้น ประสิทธิภาพในการประมวลผล AI และการพัฒนาโมเดลที่ซับซ้อน ✅ ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเพิ่มขึ้น: - ROCm ecosystem จะขยายความร่วมมือ และเพิ่มฟีเจอร์ที่ช่วยนักพัฒนาได้สร้างโซลูชัน AI ได้สะดวกและทรงพลังขึ้น ✅ วิสัยทัศน์จาก Dr. Lisa Su: - ภายในงาน คุณ Dr. Lisa Su, CEO ของ AMD จะร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์เกี่ยวกับทิศทางของ AI ที่ AMD กำลังสร้างขึ้น พร้อมเปิดเวทีให้ พันธมิตร, ลูกค้า, และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ AI ได้ร่วมแสดงมุมมอง https://www.techpowerup.com/335245/amd-announces-advancing-ai-2025
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD Announces Advancing AI 2025
    Today, AMD (NASDAQ: AMD) announced "Advancing AI 2025," an in-person and livestreamed event on June 12, 2025. The industry event will showcase the company's bold vision for AI, announce the next generation of AMD Instinct GPUs, AMD ROCm open software ecosystem progress, and reveal details on AI solu...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • Corsair ออกมาชี้แจงถึงประเด็นที่ได้รับการพูดถึงในกลุ่มผู้ใช้เกี่ยวกับ 12V-2x6 connectors ที่มีการ "ขยับตัว" ได้เล็กน้อย โดยทางบริษัทระบุว่านี่เป็นการออกแบบที่ตั้งใจไว้ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อให้เหมาะสม และลดการสึกหรอของขั้วต่อในระยะยาว

    ✅ ลดปัญหาขั้วต่อเสียหาย:
    - Corsair ระบุว่า การที่ขั้วต่อสามารถขยับได้เล็กน้อย (ประมาณ 0.25mm ถึง 0.55mm) ช่วยให้การจัดวางขั้วต่อกับพินใน GPU ทำได้แม่นยำขึ้น
    - การออกแบบนี้ยังช่วยลดแรงที่เกิดจากการเสียบและถอดซ้ำ ๆ ซึ่งปกติอาจทำให้ขั้วต่อเสียหายได้

    ✅ ความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว:
    - การขยับเล็กน้อยในขั้วต่อไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานแต่อย่างใด เนื่องจาก Corsair ได้ทดสอบอย่างละเอียดแล้วว่าขั้วต่อต่าง ๆ ยังคงสามารถส่งไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์

    ✅ ตัวเลือกที่รองรับมาตรฐาน:
    - Corsair ใช้ผู้ผลิตหลายรายในการผลิตสายไฟที่รองรับมาตรฐานนี้ รวมถึงสายที่ถูกหุ้มอย่างดีและมีความหนากว่าปกติ

    == ความสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน Nvidia RTX ==
    ✅ ปัญหาการหลอมละลายของสายไฟใน GPU ซีรีส์ RTX 50 เป็นเรื่องที่ผู้ใช้งานกังวล แต่ Corsair ชี้แจงว่าการออกแบบขั้วต่อที่มีช่องว่างนี้ไม่ใช่สาเหตุของปัญหา

    ✅ ขณะเดียวกัน Corsair ยืนยันว่า หากผู้ใช้งานพบปัญหาการหลวมมากเกินไป ควรติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าทันที

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/corsair-confirms-the-slight-wiggle-room-in-its-16-pin-connectors-for-nvidia-gpus-is-by-design
    Corsair ออกมาชี้แจงถึงประเด็นที่ได้รับการพูดถึงในกลุ่มผู้ใช้เกี่ยวกับ 12V-2x6 connectors ที่มีการ "ขยับตัว" ได้เล็กน้อย โดยทางบริษัทระบุว่านี่เป็นการออกแบบที่ตั้งใจไว้ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อให้เหมาะสม และลดการสึกหรอของขั้วต่อในระยะยาว ✅ ลดปัญหาขั้วต่อเสียหาย: - Corsair ระบุว่า การที่ขั้วต่อสามารถขยับได้เล็กน้อย (ประมาณ 0.25mm ถึง 0.55mm) ช่วยให้การจัดวางขั้วต่อกับพินใน GPU ทำได้แม่นยำขึ้น - การออกแบบนี้ยังช่วยลดแรงที่เกิดจากการเสียบและถอดซ้ำ ๆ ซึ่งปกติอาจทำให้ขั้วต่อเสียหายได้ ✅ ความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว: - การขยับเล็กน้อยในขั้วต่อไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานแต่อย่างใด เนื่องจาก Corsair ได้ทดสอบอย่างละเอียดแล้วว่าขั้วต่อต่าง ๆ ยังคงสามารถส่งไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์ ✅ ตัวเลือกที่รองรับมาตรฐาน: - Corsair ใช้ผู้ผลิตหลายรายในการผลิตสายไฟที่รองรับมาตรฐานนี้ รวมถึงสายที่ถูกหุ้มอย่างดีและมีความหนากว่าปกติ == ความสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน Nvidia RTX == ✅ ปัญหาการหลอมละลายของสายไฟใน GPU ซีรีส์ RTX 50 เป็นเรื่องที่ผู้ใช้งานกังวล แต่ Corsair ชี้แจงว่าการออกแบบขั้วต่อที่มีช่องว่างนี้ไม่ใช่สาเหตุของปัญหา ✅ ขณะเดียวกัน Corsair ยืนยันว่า หากผู้ใช้งานพบปัญหาการหลวมมากเกินไป ควรติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าทันที https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/corsair-confirms-the-slight-wiggle-room-in-its-16-pin-connectors-for-nvidia-gpus-is-by-design
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • มิติใหม่สายบุญ ร้านล้างรถหยอดเหรียญ เปิดวงจรปิดถึงกับอึ้ง ลูกค้านำ “รูปหล่อพระเกจิ” มาล้างขัดอัดฉีดจนเงาวับ เหมือนใหม่
    มิติใหม่สายบุญ ร้านล้างรถหยอดเหรียญ เปิดวงจรปิดถึงกับอึ้ง ลูกค้านำ “รูปหล่อพระเกจิ” มาล้างขัดอัดฉีดจนเงาวับ เหมือนใหม่
    Like
    Love
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 49 0 รีวิว
  • ปุกาด ปุกาด 📣📣📣 มาแล้ววววว…ทูมันแบบเค็ม บรรจุเป็นรายตัว… ราคาส่งที่ขายปลีก…คุ้มสุดๆหยุดไม่ไหวไปต่อเลย ไปต่อไม่รอแล้วนะคะ 🥰🥰🥰…เราทำโปรโมชั่นคืนกำไรให้ลูกค้าในช่วงนี้…ร้านทำราคามาชวนลูกค้าที่ยังไม่เคยลองชิมปลาทูมันร้านเราค่าาา…🌶️♨️⭕️ น่าทานมากกกกกกค่าาาปลาทูมัน (14-15 ตัวโล) มีรสเค็ม 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSrP6KT5K/ปลาทูมัน (14-15 ตัวโล) มีรสเค็ม 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/7Qyv1xaปลาทูมัน (12-13 ตัวโล) มีรสเค็ม 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSrPMNtMd/ปลาทูมัน (12-13 ตัวโล) มีรสเค็ม 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/1BKZ1Mpเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1ช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #ปลาเกล็ดขาวสามรส #ปลาเกล็ดขาว #songkran2025
    ปุกาด ปุกาด 📣📣📣 มาแล้ววววว…ทูมันแบบเค็ม บรรจุเป็นรายตัว… ราคาส่งที่ขายปลีก…คุ้มสุดๆหยุดไม่ไหวไปต่อเลย ไปต่อไม่รอแล้วนะคะ 🥰🥰🥰…เราทำโปรโมชั่นคืนกำไรให้ลูกค้าในช่วงนี้…ร้านทำราคามาชวนลูกค้าที่ยังไม่เคยลองชิมปลาทูมันร้านเราค่าาา…🌶️♨️⭕️ น่าทานมากกกกกกค่าาาปลาทูมัน (14-15 ตัวโล) มีรสเค็ม 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSrP6KT5K/ปลาทูมัน (14-15 ตัวโล) มีรสเค็ม 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/7Qyv1xaปลาทูมัน (12-13 ตัวโล) มีรสเค็ม 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSrPMNtMd/ปลาทูมัน (12-13 ตัวโล) มีรสเค็ม 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/1BKZ1Mpเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1ช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #ปลาเกล็ดขาวสามรส #ปลาเกล็ดขาว #songkran2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 0 รีวิว
Pages Boosts