• พูดแล้วทำ มั้ยว่ะ
    ไม่ยอมเสียแม้แต่ตารางเซนเดียว - ยังไม่ไล่วันที่10,
    ยกเลิก MOU ทันที - รอทำประชามติ, ไม่แทรกแซงเขากระโดง - ให้รฟท.ฟ้องคนอื่นก่อนขิดชอบ
    #7ดอกจิก
    พูดแล้วทำ มั้ยว่ะ ไม่ยอมเสียแม้แต่ตารางเซนเดียว - ยังไม่ไล่วันที่10, ยกเลิก MOU ทันที - รอทำประชามติ, ไม่แทรกแซงเขากระโดง - ให้รฟท.ฟ้องคนอื่นก่อนขิดชอบ #7ดอกจิก
    Like
    Yay
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทวี" ซัดคดีเขากระโดง-ฮั้ว สว. ทำสส.ภท.ดาหน้าประท้วงวุ่นบอกไม่เกี่ยวนโยบาย พท.ตะเพิด ”มงคล“ ลงบัลลังก์อ้างเพื่อเป็นกลาง "ทรงศักดิ์" ยันกรมที่ดินปฏิบัติตามคำพิพากษาครบทุกคดี ไม่เคยตัดสินเป็นของรฟท. เจอสวนศาลปค.วินิจฉัยชัด 5,083 ไร่ เป็นที่รถไฟ ห้ามทำคำพิพากษาเป็นแค่ “กระดาษทิชชู”

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000093093

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    "ทวี" ซัดคดีเขากระโดง-ฮั้ว สว. ทำสส.ภท.ดาหน้าประท้วงวุ่นบอกไม่เกี่ยวนโยบาย พท.ตะเพิด ”มงคล“ ลงบัลลังก์อ้างเพื่อเป็นกลาง "ทรงศักดิ์" ยันกรมที่ดินปฏิบัติตามคำพิพากษาครบทุกคดี ไม่เคยตัดสินเป็นของรฟท. เจอสวนศาลปค.วินิจฉัยชัด 5,083 ไร่ เป็นที่รถไฟ ห้ามทำคำพิพากษาเป็นแค่ “กระดาษทิชชู” อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000093093 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชิดชอบลูบปากรอ หลังให้ภูมิใจไทยสั่ง รฟท.ฟ้องผู้บุกรุุกเขากระโดงแบบรายแปลง ซึ่งมีทั้งหมด 955 แปลง เป็นของชิดชอบ 12 แปลง 288 ไร่ พวกเราคิดว่า รฟท.จะฟ้องแปลงของชิดชอบเป็นรายแรก หรือรายสุดท้าย 100 ปีก็ยังไม่ได้ฟ้องชิดชอบ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ชิดชอบลูบปากรอ หลังให้ภูมิใจไทยสั่ง รฟท.ฟ้องผู้บุกรุุกเขากระโดงแบบรายแปลง ซึ่งมีทั้งหมด 955 แปลง เป็นของชิดชอบ 12 แปลง 288 ไร่ พวกเราคิดว่า รฟท.จะฟ้องแปลงของชิดชอบเป็นรายแรก หรือรายสุดท้าย 100 ปีก็ยังไม่ได้ฟ้องชิดชอบ #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • พร้อมไหม? รถไฟ My Sawasdee กัวลาลัมเปอร์-สุราษฎร์ธานี

    เมื่อวันก่อน การรถไฟมาเลเซีย (KTMB) ทดลองเดินรถจากสถานีกลาง KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ ปลายทางสถานีสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 21-23 ก.ย. ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้า ก่อนจะขยายบริการขบวนรถไฟพิเศษ มายสวัสดี (My Sawasdee) มายังปลายทางดังกล่าว โดยนับตั้งแต่เปิดการเดินรถไปยังสถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ทุกวันหยุดยาวของมาเลเซีย มาตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2565 มีนักท่องเที่ยวทั้งเดินทางด้วยตัวเอง และบริษัทนำเที่ยวใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

    สืบเนื่องมาจากการประชุมร่วมระหว่างการรถไฟมาเลเซีย (KTMB) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ครั้งที่ 42 ที่เมืองโคตากินาบาลู รัฐซาบาห์ เมื่อปี 2567 หนึ่งในนั้นคือเห็นชอบให้ขยายเส้นทางขบวนรถไฟท่องเที่ยว My Sawasdee จากมาเลเซียมาไทย ให้มาถึงสถานีสุราษฎร์ธานี หลังได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยม มีจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกเที่ยว การขยายเส้นทางรถไฟท่องเที่ยวนี้จึงเป็นประโยชน์ต่อการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว และนำรายได้เข้าสู่ประเทศเพิ่มขึ้น

    โดยปกติแล้วขบวนรถไฟ My Sawasdee ออกจากสถานี KL Sentral เวลา 22.30 น. ถึงปลายทางสถานีชุมทางหาดใหญ่ เวลา 08.30 น. ของเช้าวันรุ่งขึ้น แต่หากเดินทางต่อไปยังปลายทางสถานีสุราษฎร์ธานี ระยะทาง 294 กิโลเมตร ใช้เวลาเร็วที่สุด 4-5 ชั่วโมง มีรายงานว่าตามกำหนดจะถึงสถานีสุราษฎร์ธานีเวลา 15.20 น. แต่จากการทดสอบเมื่อวันที่ 21 ก.ย. พบว่าถึงปลายทางเวลา 17.02 น. จึงต้องรอให้การรถไฟมาเลเซียพิจารณาความพร้อมก่อนเปิดให้บริการอีกครั้ง

    จุดหมายปลายทางยอดนิยมของจังหวัดสุราษฎร์ธานีคือเกาะต่างๆ โดยเฉพาะเกาะสมุย ต้องใช้เวลาเดินทางจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ไปยังท่าเรือดอนสัก 2 ชั่วโมง ต่อเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะสมุยอีก 1 ชั่วโมง 30 นาที ถือเป็นโจทย์ที่บริษัทนำเที่ยวอาจต้องพิจารณาจัดโปรแกรมทัวร์ภายในเวลา 4 วัน 3 คืน เพราะเท่ากับกินเวลาแล้ว 1 วัน

    อีกด้านหนึ่ง เริ่มมีบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งในมาเลเซีย เสนอโปรแกรมทัวร์ไปยังกรุงเทพฯ และเมืองพัทยา 5 วัน 4 คืนด้วยรถไฟในปี 2569 แล้ว แต่เดินทางด้วยรถไฟขบวนพิเศษไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แล้วต่อรถบัสไปเมืองพัทยา จ.ชลบุรี จากเดิมเสนอโปรแกรมทัวร์ไปยังหาดใหญ่และปัตตานี 4 วัน 3 คืน สนนราคาคนละ 1,200 ริงกิต (ประมาณ 9,200 บาท) นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมทัวร์ไปกรุงเทพฯ 5 วัน 4 คืน, ไปกาญจนบุรี 5 วัน 4 คืน ราคาคนละ 2,300 ริงกิต (ประมาณ 17,500 บาท) และไปเขาใหญ่กับลพบุรี 5 วัน 4 คืน ราคาคนละ 2,200 ริงกิต (ประมาณ 16,750 บาท) ในช่วงปลายปี 2569 อีกด้วย

    #Newskit
    พร้อมไหม? รถไฟ My Sawasdee กัวลาลัมเปอร์-สุราษฎร์ธานี เมื่อวันก่อน การรถไฟมาเลเซีย (KTMB) ทดลองเดินรถจากสถานีกลาง KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ ปลายทางสถานีสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 21-23 ก.ย. ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้า ก่อนจะขยายบริการขบวนรถไฟพิเศษ มายสวัสดี (My Sawasdee) มายังปลายทางดังกล่าว โดยนับตั้งแต่เปิดการเดินรถไปยังสถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ทุกวันหยุดยาวของมาเลเซีย มาตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2565 มีนักท่องเที่ยวทั้งเดินทางด้วยตัวเอง และบริษัทนำเที่ยวใช้บริการอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องมาจากการประชุมร่วมระหว่างการรถไฟมาเลเซีย (KTMB) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ครั้งที่ 42 ที่เมืองโคตากินาบาลู รัฐซาบาห์ เมื่อปี 2567 หนึ่งในนั้นคือเห็นชอบให้ขยายเส้นทางขบวนรถไฟท่องเที่ยว My Sawasdee จากมาเลเซียมาไทย ให้มาถึงสถานีสุราษฎร์ธานี หลังได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยม มีจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกเที่ยว การขยายเส้นทางรถไฟท่องเที่ยวนี้จึงเป็นประโยชน์ต่อการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว และนำรายได้เข้าสู่ประเทศเพิ่มขึ้น โดยปกติแล้วขบวนรถไฟ My Sawasdee ออกจากสถานี KL Sentral เวลา 22.30 น. ถึงปลายทางสถานีชุมทางหาดใหญ่ เวลา 08.30 น. ของเช้าวันรุ่งขึ้น แต่หากเดินทางต่อไปยังปลายทางสถานีสุราษฎร์ธานี ระยะทาง 294 กิโลเมตร ใช้เวลาเร็วที่สุด 4-5 ชั่วโมง มีรายงานว่าตามกำหนดจะถึงสถานีสุราษฎร์ธานีเวลา 15.20 น. แต่จากการทดสอบเมื่อวันที่ 21 ก.ย. พบว่าถึงปลายทางเวลา 17.02 น. จึงต้องรอให้การรถไฟมาเลเซียพิจารณาความพร้อมก่อนเปิดให้บริการอีกครั้ง จุดหมายปลายทางยอดนิยมของจังหวัดสุราษฎร์ธานีคือเกาะต่างๆ โดยเฉพาะเกาะสมุย ต้องใช้เวลาเดินทางจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ไปยังท่าเรือดอนสัก 2 ชั่วโมง ต่อเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะสมุยอีก 1 ชั่วโมง 30 นาที ถือเป็นโจทย์ที่บริษัทนำเที่ยวอาจต้องพิจารณาจัดโปรแกรมทัวร์ภายในเวลา 4 วัน 3 คืน เพราะเท่ากับกินเวลาแล้ว 1 วัน อีกด้านหนึ่ง เริ่มมีบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งในมาเลเซีย เสนอโปรแกรมทัวร์ไปยังกรุงเทพฯ และเมืองพัทยา 5 วัน 4 คืนด้วยรถไฟในปี 2569 แล้ว แต่เดินทางด้วยรถไฟขบวนพิเศษไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แล้วต่อรถบัสไปเมืองพัทยา จ.ชลบุรี จากเดิมเสนอโปรแกรมทัวร์ไปยังหาดใหญ่และปัตตานี 4 วัน 3 คืน สนนราคาคนละ 1,200 ริงกิต (ประมาณ 9,200 บาท) นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมทัวร์ไปกรุงเทพฯ 5 วัน 4 คืน, ไปกาญจนบุรี 5 วัน 4 คืน ราคาคนละ 2,300 ริงกิต (ประมาณ 17,500 บาท) และไปเขาใหญ่กับลพบุรี 5 วัน 4 คืน ราคาคนละ 2,200 ริงกิต (ประมาณ 16,750 บาท) ในช่วงปลายปี 2569 อีกด้วย #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • สางปมเขากระโดงทันที ไม่มีมวยล้มต้มคนดู : [THE MESSAGE]

    นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ อดีตรมว.แรงงาน เผย หากได้ทำหน้าที่ รมว.คมนาคม ในเรื่องข้อกังขาต่างๆ ทั้งในส่วนของกระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะเรื่องที่ดินเขากระโดง ต้องเร่งดำเนินการเป็นเรื่องแรกๆ เพื่อให้ความกระจ่างกับคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และกรมที่ดิน ต้องมีแนวนโยบายดำเนินการที่ชัดเจน เพื่อดูว่าจะพูดคุยกันจนถึงชั้นศาลหรือไม่ สิ่งที่ดีที่สุดต้องให้การรถไฟฯ ดำเนินการในขอบเขตที่ทำได้ ต้องทำให้สังคมหายคาใจ แม้พรรคภูมิใจไทยจะได้รับหน้าที่ทั้งสองกระทรวง แต่ไม่เกี่ยวกัน เพราะเป็นเรื่องที่ดินของชาติ ต้องทำให้กระจ่างในที่ดินที่ประชาชนได้โฉนดมากว่า 900 ราย ไม่แน่ใจว่าใน 4 เดือน จะนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเสร็จเรียบร้อยหรือไม่ แต่จะให้การรถไฟฯ ดำเนินการทันทีหลังรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ยืนยัน ไม่ใช่มวยล้มต้มคนดู คนไทยต้องได้รับความกระจ่าง
    สางปมเขากระโดงทันที ไม่มีมวยล้มต้มคนดู : [THE MESSAGE] นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ อดีตรมว.แรงงาน เผย หากได้ทำหน้าที่ รมว.คมนาคม ในเรื่องข้อกังขาต่างๆ ทั้งในส่วนของกระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะเรื่องที่ดินเขากระโดง ต้องเร่งดำเนินการเป็นเรื่องแรกๆ เพื่อให้ความกระจ่างกับคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และกรมที่ดิน ต้องมีแนวนโยบายดำเนินการที่ชัดเจน เพื่อดูว่าจะพูดคุยกันจนถึงชั้นศาลหรือไม่ สิ่งที่ดีที่สุดต้องให้การรถไฟฯ ดำเนินการในขอบเขตที่ทำได้ ต้องทำให้สังคมหายคาใจ แม้พรรคภูมิใจไทยจะได้รับหน้าที่ทั้งสองกระทรวง แต่ไม่เกี่ยวกัน เพราะเป็นเรื่องที่ดินของชาติ ต้องทำให้กระจ่างในที่ดินที่ประชาชนได้โฉนดมากว่า 900 ราย ไม่แน่ใจว่าใน 4 เดือน จะนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเสร็จเรียบร้อยหรือไม่ แต่จะให้การรถไฟฯ ดำเนินการทันทีหลังรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ยืนยัน ไม่ใช่มวยล้มต้มคนดู คนไทยต้องได้รับความกระจ่าง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 534 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เดินรถไฟ Kiha ธันวาฯ นี้ ประเดิมดอนเมือง-อยุธยา

    ความคืบหน้าการปรับปรุงรถดีเซลรางรุ่น Kiha 40 และ Kiha 48 จากประเทศญี่ปุ่น หลังการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รับมอบจากบริษัท JR EAST ประเทศญี่ปุ่น และขนส่งทางเรือมาถึงประเทศไทยเมื่อกลางปี 2567 ล่าสุดพบว่ารถต้นแบบคันแรกยังคงต้องปรับปรุงเพิ่มเติม หลังปรับขนาดเพลาล้อจาก 1.067 เมตร เป็น 1 เมตร เพื่อให้เข้ากับมาตรฐานรางรถไฟของประเทศไทย และทดลองเดินรถเส้นทางมักกะสัน-หัวหมาก เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา

    ปัจจุบันยังคงต้องปรับปรุงครอบคลุมทั้งด้านวิศวกรรมและระบบการทำงานของรถ โดยเฉพาะระบบปรับอากาศที่ต้องดัดแปลงใหม่ เนื่องจากรถรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อวิ่งในสภาพอากาศหนาวของภูมิภาคอาคิตะ ประเทศญี่ปุ่น การรถไฟฯ จึงได้ปรับปรุงช่องจ่ายลมเย็นให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในประเทศไทย รวมถึงปรับปรุงคอมเพรสเซอร์ ชุดคอยล์ระบายความร้อน และคอยล์เย็น อีกทั้งยังได้ทดสอบด้านสมรรถนะของรถ อาทิ การทดสอบระยะห้ามล้อ อัตราเร่ง และการสั่นสะเทือนเชิงกล

    คาดว่ารถต้นแบบคันแรกจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. 2568 และจะมีอีกหนึ่งคันแล้วเสร็จตามมาในเดือน ต.ค. 2568 ก่อนทยอยปรับปรุงเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสามารถนำรถที่ปรับปรุงเสร็จแล้วจำนวน 4 คัน ออกให้บริการได้ภายในเดือน ธ.ค.2568 เบื้องต้นวางแผนจะนำมาให้บริการในเส้นทาง ดอนเมือง-อยุธยา เพื่อรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    สำหรับเส้นทางดอนเมือง-อยุธยา มีระยะทางประมาณ 49 กิโลเมตร รถรุ่นดังกล่าวเดินรถด้วยความเร็วสูงสุด 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นรถเชื่อมต่อ (Feeder) กับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) และท่าอากาศยานดอนเมือง แนวเส้นทางผ่านสถานีรังสิต คลองหนึ่ง เชียงราก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) นวนคร เชียงรากน้อย คลองพุทรา บางปะอิน บ้านโพ และสถานีปลายทางอยุธยา

    โดยปกติถ้าเป็นรถไฟธรรมดา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ปัจจุบันรถไฟธรรมดาและรถไฟชานเมือง (ไม่มีเครื่องปรับอากาศ) ค่าโดยสาร 11 บาท, รถนั่งชั้นโทปรับอากาศ - JRWEST (เบาะแดง) ขบวน 133 ราคา 104 บาท, รถดีเซลรางนั่งปรับอากาศ ขบวน 75 ราคา 234 บาท, ขบวน 7 และขบวน 21 ราคา 254 บาท

    อนึ่ง ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ อาคาร Service Hall ติดกับอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (Terminal 1) มีรถประจำทาง ขสมก. ปลายทางหมอชิต อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สวนลุมพินี และสนามหลวง รวมทั้งรถเชื่อมต่อของ บขส. ปลายทางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

    #Newskit
    เดินรถไฟ Kiha ธันวาฯ นี้ ประเดิมดอนเมือง-อยุธยา ความคืบหน้าการปรับปรุงรถดีเซลรางรุ่น Kiha 40 และ Kiha 48 จากประเทศญี่ปุ่น หลังการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รับมอบจากบริษัท JR EAST ประเทศญี่ปุ่น และขนส่งทางเรือมาถึงประเทศไทยเมื่อกลางปี 2567 ล่าสุดพบว่ารถต้นแบบคันแรกยังคงต้องปรับปรุงเพิ่มเติม หลังปรับขนาดเพลาล้อจาก 1.067 เมตร เป็น 1 เมตร เพื่อให้เข้ากับมาตรฐานรางรถไฟของประเทศไทย และทดลองเดินรถเส้นทางมักกะสัน-หัวหมาก เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ปัจจุบันยังคงต้องปรับปรุงครอบคลุมทั้งด้านวิศวกรรมและระบบการทำงานของรถ โดยเฉพาะระบบปรับอากาศที่ต้องดัดแปลงใหม่ เนื่องจากรถรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อวิ่งในสภาพอากาศหนาวของภูมิภาคอาคิตะ ประเทศญี่ปุ่น การรถไฟฯ จึงได้ปรับปรุงช่องจ่ายลมเย็นให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในประเทศไทย รวมถึงปรับปรุงคอมเพรสเซอร์ ชุดคอยล์ระบายความร้อน และคอยล์เย็น อีกทั้งยังได้ทดสอบด้านสมรรถนะของรถ อาทิ การทดสอบระยะห้ามล้อ อัตราเร่ง และการสั่นสะเทือนเชิงกล คาดว่ารถต้นแบบคันแรกจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. 2568 และจะมีอีกหนึ่งคันแล้วเสร็จตามมาในเดือน ต.ค. 2568 ก่อนทยอยปรับปรุงเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสามารถนำรถที่ปรับปรุงเสร็จแล้วจำนวน 4 คัน ออกให้บริการได้ภายในเดือน ธ.ค.2568 เบื้องต้นวางแผนจะนำมาให้บริการในเส้นทาง ดอนเมือง-อยุธยา เพื่อรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำหรับเส้นทางดอนเมือง-อยุธยา มีระยะทางประมาณ 49 กิโลเมตร รถรุ่นดังกล่าวเดินรถด้วยความเร็วสูงสุด 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นรถเชื่อมต่อ (Feeder) กับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) และท่าอากาศยานดอนเมือง แนวเส้นทางผ่านสถานีรังสิต คลองหนึ่ง เชียงราก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) นวนคร เชียงรากน้อย คลองพุทรา บางปะอิน บ้านโพ และสถานีปลายทางอยุธยา โดยปกติถ้าเป็นรถไฟธรรมดา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ปัจจุบันรถไฟธรรมดาและรถไฟชานเมือง (ไม่มีเครื่องปรับอากาศ) ค่าโดยสาร 11 บาท, รถนั่งชั้นโทปรับอากาศ - JRWEST (เบาะแดง) ขบวน 133 ราคา 104 บาท, รถดีเซลรางนั่งปรับอากาศ ขบวน 75 ราคา 234 บาท, ขบวน 7 และขบวน 21 ราคา 254 บาท อนึ่ง ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ อาคาร Service Hall ติดกับอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (Terminal 1) มีรถประจำทาง ขสมก. ปลายทางหมอชิต อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สวนลุมพินี และสนามหลวง รวมทั้งรถเชื่อมต่อของ บขส. ปลายทางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 378 มุมมอง 0 รีวิว
  • รฟท.ถอย! ฝ่ายกฎหมายเลื่อนนัดดีเอสไอ ปมแจ้งความ "คดีเขากระโดง" แบบไร้กำหนด
    https://www.thai-tai.tv/news/21316/
    .
    #ไทยไท #คดีเขากระโดง #รฟท #ดีเอสไอ #ข่าววันนี้
    รฟท.ถอย! ฝ่ายกฎหมายเลื่อนนัดดีเอสไอ ปมแจ้งความ "คดีเขากระโดง" แบบไร้กำหนด https://www.thai-tai.tv/news/21316/ . #ไทยไท #คดีเขากระโดง #รฟท #ดีเอสไอ #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้าราชการรู้งาน
    แค่ลือว่า ไขยชนกคุมคมนาคม
    ผู้ว่าฯ รถไฟรฟท. ขอเลื่อนแจ้งความเอาผิด คดีเขากระโดงแบบไม่มีกำหนด
    #7ดอกจิก
    ข้าราชการรู้งาน แค่ลือว่า ไขยชนกคุมคมนาคม ผู้ว่าฯ รถไฟรฟท. ขอเลื่อนแจ้งความเอาผิด คดีเขากระโดงแบบไม่มีกำหนด #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ ขบวนนี้คงไม่ขายฝัน?

    การประชุมร่วมระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (SRT) และการรถไฟมาลายา (KTMB) ประเทศมาเลเซีย ครั้งที่ 43 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-7 ส.ค. ที่ จ.นนทบุรี ภายใต้แนวคิด Railnaissance หรือ การฟื้นคืนพลังของระบบราง สาระสำคัญอยู่ที่การยกระดับความร่วมมือระบบรางระหว่างสองประเทศ ได้แก่ การฟื้นฟูเดินรถข้ามแดน กรุงเทพอภิวัฒน์-บัตเตอร์เวอร์ธ (Butterworth) รัฐปีนัง การพัฒนาเส้นทางรถไฟทางคู่ การบูรณาการระบบตั๋วโดยสาร การตรวจสอบและรับรองรถโดยสารข้ามแดน การส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟร่วมกัน และการจัดทำ Joint SOP ในภาวะฉุกเฉิน

    การฟื้นฟูเดินรถข้ามแดน กรุงเทพ-บัตเตอร์เวอร์ธ เคยเป็นที่พูดถึงในการประชุม SRT-KTMB ครั้งที่ 42 ที่รัฐซาบาห์ เมื่อปี 2567 แต่ไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก แม้นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย เคยกล่าวว่าจะเดินรถในเดือน ก.ค.นี้ก็ตาม โดยก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือน ก.ค.การรถไฟฯ และ KTMB จัดการเดินรถขบวนพิเศษทดสอบ กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ ไปแล้ว โดยใช้รถโดยสารปรับอากาศของ KTMB จำนวน 2 คัน รถ Power Car ของ KTMB จำนวน 1 คัน รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 ของ รฟท. จำนวน 3 คัน รถนั่งชั้น 3 (บชส.) จำนวน 1 คัน และรถ SRT Prestige จำนวน 2 คัน

    อุปสรรคสำคัญในการให้บริการก็คือ การรถไฟฯ ไม่มีขบวนรถโดยสารที่ทันสมัยเพียงพอ และอาจไม่ได้ใช้รถโดยสาร ชุด 115 คัน (CNR) ที่ทันสมัยที่สุด แม้จะเก่ามา 9 ปีนับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2559 เพราะนำไปใช้เดินรถในเส้นทางเชียงใหม่ หนองคาย อุบลราชธานี และชุมทางหาดใหญ่หมดแล้ว เหลือสำรองเพียงไม่กี่คัน จึงเป็นไปได้ว่าอาจใช้รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 รุ่นเก่าของการรถไฟฯ ร่วมกับรถโดยสารปรับอากาศของ KTMB โดยช่วงที่เดินรถในประเทศไทยใช้หัวรถจักรของการรถไฟฯ และช่วงที่เดินรถในประเทศมาเลเซียใช้หัวรถจักรของ KTMB

    การรถไฟฯ เคยเดินรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศ กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ มาตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2465 จากสถานีบางกอกน้อย ทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันเสาร์ ก่อนย้ายมาที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2470 แต่หยุดเดินรถชั่วคราวช่วงที่สะพานพระราม 6 ถูกทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แล้วจึงกลับมาเดินรถอีกครั้ง โดยเดินรถแบบวันเว้นวัน ก่อนเปิดให้บริการทุกวัน วันละ 1 เที่ยว กระทั่งประเทศมาเลเซียได้ปรับปรุงทางรถไฟ และให้บริการรถไฟ ETS และ KTM Komuter ทำให้การรถไฟฯ ยกเลิกเดินรถถึงสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2559 เป็นต้นมา โดยหมดระยะที่สถานีปาดังเบซาร์

    #Newskit
    กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ ขบวนนี้คงไม่ขายฝัน? การประชุมร่วมระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (SRT) และการรถไฟมาลายา (KTMB) ประเทศมาเลเซีย ครั้งที่ 43 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-7 ส.ค. ที่ จ.นนทบุรี ภายใต้แนวคิด Railnaissance หรือ การฟื้นคืนพลังของระบบราง สาระสำคัญอยู่ที่การยกระดับความร่วมมือระบบรางระหว่างสองประเทศ ได้แก่ การฟื้นฟูเดินรถข้ามแดน กรุงเทพอภิวัฒน์-บัตเตอร์เวอร์ธ (Butterworth) รัฐปีนัง การพัฒนาเส้นทางรถไฟทางคู่ การบูรณาการระบบตั๋วโดยสาร การตรวจสอบและรับรองรถโดยสารข้ามแดน การส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟร่วมกัน และการจัดทำ Joint SOP ในภาวะฉุกเฉิน การฟื้นฟูเดินรถข้ามแดน กรุงเทพ-บัตเตอร์เวอร์ธ เคยเป็นที่พูดถึงในการประชุม SRT-KTMB ครั้งที่ 42 ที่รัฐซาบาห์ เมื่อปี 2567 แต่ไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก แม้นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย เคยกล่าวว่าจะเดินรถในเดือน ก.ค.นี้ก็ตาม โดยก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือน ก.ค.การรถไฟฯ และ KTMB จัดการเดินรถขบวนพิเศษทดสอบ กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ ไปแล้ว โดยใช้รถโดยสารปรับอากาศของ KTMB จำนวน 2 คัน รถ Power Car ของ KTMB จำนวน 1 คัน รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 ของ รฟท. จำนวน 3 คัน รถนั่งชั้น 3 (บชส.) จำนวน 1 คัน และรถ SRT Prestige จำนวน 2 คัน อุปสรรคสำคัญในการให้บริการก็คือ การรถไฟฯ ไม่มีขบวนรถโดยสารที่ทันสมัยเพียงพอ และอาจไม่ได้ใช้รถโดยสาร ชุด 115 คัน (CNR) ที่ทันสมัยที่สุด แม้จะเก่ามา 9 ปีนับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2559 เพราะนำไปใช้เดินรถในเส้นทางเชียงใหม่ หนองคาย อุบลราชธานี และชุมทางหาดใหญ่หมดแล้ว เหลือสำรองเพียงไม่กี่คัน จึงเป็นไปได้ว่าอาจใช้รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 รุ่นเก่าของการรถไฟฯ ร่วมกับรถโดยสารปรับอากาศของ KTMB โดยช่วงที่เดินรถในประเทศไทยใช้หัวรถจักรของการรถไฟฯ และช่วงที่เดินรถในประเทศมาเลเซียใช้หัวรถจักรของ KTMB การรถไฟฯ เคยเดินรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศ กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ มาตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2465 จากสถานีบางกอกน้อย ทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันเสาร์ ก่อนย้ายมาที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2470 แต่หยุดเดินรถชั่วคราวช่วงที่สะพานพระราม 6 ถูกทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แล้วจึงกลับมาเดินรถอีกครั้ง โดยเดินรถแบบวันเว้นวัน ก่อนเปิดให้บริการทุกวัน วันละ 1 เที่ยว กระทั่งประเทศมาเลเซียได้ปรับปรุงทางรถไฟ และให้บริการรถไฟ ETS และ KTM Komuter ทำให้การรถไฟฯ ยกเลิกเดินรถถึงสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2559 เป็นต้นมา โดยหมดระยะที่สถานีปาดังเบซาร์ #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 503 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศึกเขมรสูงขยายวง
    ปลุกชาวบ้านนับพัน
    ยื่นฟ้องกรมที่ดิน
    ยื้อเวลาขับไล่ ไม่ยอมเช่าที่ รฟท.
    #7ดอกจิก
    ศึกเขมรสูงขยายวง ปลุกชาวบ้านนับพัน ยื่นฟ้องกรมที่ดิน ยื้อเวลาขับไล่ ไม่ยอมเช่าที่ รฟท. #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตั๋วร่วมแบบต่างคนต่างทำ

    1 ส.ค.2568 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จำหน่ายบัตรโดยสาร Mangmoom EMV ทดแทนบัตรโดยสาร MRT Plus ที่จำหน่ายมา 9 ปี พัฒนาร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยใช้แพลตฟอร์มเป๋าตัง ซึ่งถูกออกแบบมาให้เป็น Thailand Open Digital Platform ที่มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านราย ส่วนบัตรแมงมุมที่เคยถูกตั้งความหวังว่าจะบัตรโดยสารร่วม มีการแจกบัตรฟรี 2 แสนใบเมื่อปี 2561 กลายเป็นตำนานที่ไม่เกิดขึ้นจริง

    ก่อนหน้านี้ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้จำหน่ายบัตรโดยสาร MRT EMV Card ทดแทนบัตรโดยสาร MRT Card รุ่นเก่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2567 โดยใช้แพลตฟอร์มของ Deeppocket ผ่านแอปพลิเคชัน Bangkok MRT หลังจากเปิดให้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT ด้วยบัตรเครดิต มาตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค. 2565 ก่อนขยายไปยังบัตรเดบิตธนาคารกรุงไทย ธนาคารยูโอบี และล่าสุดธนาคารกรุงศรี

    แม้ว่าบัตรโดยสาร MRT Card และ MRT Plus ซึ่งใช้เทคโนโลยีสมาร์ทการ์ด จะยกเลิกจำหน่ายไปแล้ว แต่ผู้ถือบัตรเดิมยังใช้ได้จนกว่าบัตรหมดอายุ ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง ยังคงหัวอ่านบัตรสมาร์ทการ์ดแบบเดิมบริเวณประตูอัตโนมัติ (AFC Gate) ควบคู่ไปกับหัวอ่าน EMV เพราะยังต้องรองรับเหรียญโดยสารแบบเที่ยวเดียว บัตรโดยสารสำหรับองค์กรและบัตรโดยสารธุรกิจที่ยังใช้ระบบเดิมอีกมาก

    ขณะที่รถไฟฟ้า MRT สายสีเหลืองและสายสีชมพู ที่ผู้รับสัมปทานคือกลุ่มบริษัทบีทีเอส ยังคงใช้เทคโนโลยีสมาร์ทการ์ดกับบัตรแรบบิท (Rabbit) เช่นเกียวกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีทอง ปัจจุบันมีผู้ถือบัตรมากถึง 19.6 ล้านใบ จำนวนหัวอ่านบัตรกว่า 28,361 จุด และร้านค้ารับบัตร 2,734 แห่ง ถึงกระนั้นเฉพาะสายสีเหลืองและสายสีชมพู ก็มีเครื่องอ่านบัตร EMV บริเวณห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร ซึ่งจะหักค่าโดยสารทันทีเมื่อออกจากสถานี

    ส่วนรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยังคงใช้เทคโนโลยีสมาร์ทการ์ดกับบัตรโดยสารแบบเติมเงิน แต่ก็มีการติดตั้งประตูอัตโนมัติสำหรับผู้ถือบัตร EMV แยกต่างหาก ซึ่งจะหักค่าโดยสารทันทีเมื่อออกจากสถานี

    มาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาล ที่จะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐในวันที่ 25 ส.ค. และเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ประชาชนยังคงยุ่งยากในการพกบัตรเช่นเดิม เนื่องจากต้องลงทะเบียนทั้งบัตร EMV และบัตรแรบบิท ที่หนักขึ้นไปอีกคือในอนาคตจะให้สแกน QR Code ในมือถือแทนการใช้บัตร ซึ่งอาจพบกับความยุ่งยากในการแสดง QR Code และเสียเวลาเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการแตะบัตรโดยสารตามปกติ

    #Newskit
    ตั๋วร่วมแบบต่างคนต่างทำ 1 ส.ค.2568 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จำหน่ายบัตรโดยสาร Mangmoom EMV ทดแทนบัตรโดยสาร MRT Plus ที่จำหน่ายมา 9 ปี พัฒนาร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยใช้แพลตฟอร์มเป๋าตัง ซึ่งถูกออกแบบมาให้เป็น Thailand Open Digital Platform ที่มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านราย ส่วนบัตรแมงมุมที่เคยถูกตั้งความหวังว่าจะบัตรโดยสารร่วม มีการแจกบัตรฟรี 2 แสนใบเมื่อปี 2561 กลายเป็นตำนานที่ไม่เกิดขึ้นจริง ก่อนหน้านี้ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้จำหน่ายบัตรโดยสาร MRT EMV Card ทดแทนบัตรโดยสาร MRT Card รุ่นเก่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2567 โดยใช้แพลตฟอร์มของ Deeppocket ผ่านแอปพลิเคชัน Bangkok MRT หลังจากเปิดให้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT ด้วยบัตรเครดิต มาตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค. 2565 ก่อนขยายไปยังบัตรเดบิตธนาคารกรุงไทย ธนาคารยูโอบี และล่าสุดธนาคารกรุงศรี แม้ว่าบัตรโดยสาร MRT Card และ MRT Plus ซึ่งใช้เทคโนโลยีสมาร์ทการ์ด จะยกเลิกจำหน่ายไปแล้ว แต่ผู้ถือบัตรเดิมยังใช้ได้จนกว่าบัตรหมดอายุ ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง ยังคงหัวอ่านบัตรสมาร์ทการ์ดแบบเดิมบริเวณประตูอัตโนมัติ (AFC Gate) ควบคู่ไปกับหัวอ่าน EMV เพราะยังต้องรองรับเหรียญโดยสารแบบเที่ยวเดียว บัตรโดยสารสำหรับองค์กรและบัตรโดยสารธุรกิจที่ยังใช้ระบบเดิมอีกมาก ขณะที่รถไฟฟ้า MRT สายสีเหลืองและสายสีชมพู ที่ผู้รับสัมปทานคือกลุ่มบริษัทบีทีเอส ยังคงใช้เทคโนโลยีสมาร์ทการ์ดกับบัตรแรบบิท (Rabbit) เช่นเกียวกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีทอง ปัจจุบันมีผู้ถือบัตรมากถึง 19.6 ล้านใบ จำนวนหัวอ่านบัตรกว่า 28,361 จุด และร้านค้ารับบัตร 2,734 แห่ง ถึงกระนั้นเฉพาะสายสีเหลืองและสายสีชมพู ก็มีเครื่องอ่านบัตร EMV บริเวณห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร ซึ่งจะหักค่าโดยสารทันทีเมื่อออกจากสถานี ส่วนรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยังคงใช้เทคโนโลยีสมาร์ทการ์ดกับบัตรโดยสารแบบเติมเงิน แต่ก็มีการติดตั้งประตูอัตโนมัติสำหรับผู้ถือบัตร EMV แยกต่างหาก ซึ่งจะหักค่าโดยสารทันทีเมื่อออกจากสถานี มาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาล ที่จะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐในวันที่ 25 ส.ค. และเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ประชาชนยังคงยุ่งยากในการพกบัตรเช่นเดิม เนื่องจากต้องลงทะเบียนทั้งบัตร EMV และบัตรแรบบิท ที่หนักขึ้นไปอีกคือในอนาคตจะให้สแกน QR Code ในมือถือแทนการใช้บัตร ซึ่งอาจพบกับความยุ่งยากในการแสดง QR Code และเสียเวลาเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการแตะบัตรโดยสารตามปกติ #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 469 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ภูมิธรรม" ยันที่ดิน "เขากระโดง" 5,000 ไร่ เป็นของ รฟท. สั่งกรมที่ดินเพิกถอนโฉนด 800 แปลงทันที อธิบดีกรมที่ดิน ยื่นออกจากตำแหน่ง
    https://www.thai-tai.tv/news/20699/
    .
    #ไทยไท #ที่ดินเขากระโดง #ภูมิธรรมเวชยชัย #การรถไฟแห่งประเทศไทย #รฟท #คำสั่งศาล #กรมที่ดิน #เพิกถอนโฉนด #เดชอิศม์ขาวทอง
    "ภูมิธรรม" ยันที่ดิน "เขากระโดง" 5,000 ไร่ เป็นของ รฟท. สั่งกรมที่ดินเพิกถอนโฉนด 800 แปลงทันที อธิบดีกรมที่ดิน ยื่นออกจากตำแหน่ง https://www.thai-tai.tv/news/20699/ . #ไทยไท #ที่ดินเขากระโดง #ภูมิธรรมเวชยชัย #การรถไฟแห่งประเทศไทย #รฟท #คำสั่งศาล #กรมที่ดิน #เพิกถอนโฉนด #เดชอิศม์ขาวทอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • รฟท.ยื่นอุทธรณ์ 2 ประเด็น “เขากระโดง” ศาลปกครองแล้ว พร้อมส่งหนังสือถึงคณะกก.ทบทวน ของ ก.มหาดไทย“วีริศ” วาง 3 แนวทางสู้ “กรมที่ดินเพิกถอน-ศาลสั่งตามโมเดล ท่านุ่น จ.พังงา – อัยการสูงสุดฟ้องรายแปลงแทน”ไม่ได้ สุดท้าย เดินหน้าฟ้องเอง 995 แปลง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000066593

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    รฟท.ยื่นอุทธรณ์ 2 ประเด็น “เขากระโดง” ศาลปกครองแล้ว พร้อมส่งหนังสือถึงคณะกก.ทบทวน ของ ก.มหาดไทย“วีริศ” วาง 3 แนวทางสู้ “กรมที่ดินเพิกถอน-ศาลสั่งตามโมเดล ท่านุ่น จ.พังงา – อัยการสูงสุดฟ้องรายแปลงแทน”ไม่ได้ สุดท้าย เดินหน้าฟ้องเอง 995 แปลง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000066593 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 531 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนกรุงฯ รอลุ้น นั่งรถไฟคิฮะติดแอร์

    เฟซบุ๊ก "ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย" ได้เผยแพร่ภาพประชาสัมพันธ์ "รฟท. ยกระดับการเดินทางชานเมือง เตรียมเปิดให้บริการขบวน KIHA 40/48 ปรับอากาศ เสริมความสะดวก ปลอดภัย เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ -ปริมณฑล อย่างไร้รอยต่อ" โดยระบุว่า ขบวนรถไฟญี่ปุ่น KIHA 40 และ KIHA 48 รถดีเซลรางปรับอากาศ ดำเนินการทดสอบและปรับปรุง พร้อมให้บริการปลายปีนี้ พร้อมระบุคุณสมบัติ อาทิ เบาะนั่งสบาย มีทั้งแบบนั่งยาวและนั่งขวาง ห้องน้ำสะอาดตามมาตรฐาน ตู้โดยสารปรับอากาศ เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพ-ปริมณฑล รวดเร็วไร้รอยต่อ ตอบโจทย์การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่ประหยัด สะดวก และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง

    สำหรับขบวนรถคิฮะ 40 จำนวน 9 คัน และคิฮะ 48 จำนวน 11 คัน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รับมอบจากบริษัท JR EAST ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเคยประจำการที่ศูนย์ Minami Akita เมื่อปี 2520 เพื่อใช้งานในสาย Gono และ สาย Oga ก่อนถูกปลดระวางในเดือน มี.ค. 2564 โดยมีการส่งมอบเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 และได้ออกเดินทางสู่ประเทศไทยโดยขนส่งทางเรือเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2567 ก่อนนำรถต้นแบบปรับขนาดเพลาล้อจาก 1.067 เมตร เป็น 1 เมตร ให้เข้ากับมาตรฐานรางรถไฟของประเทศไทย จากนั้นปรับปรุงสภาพตามมาตรฐานของการรถไฟฯ โดยเดินรถด้วยความเร็วสูงสุด 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    เมื่อเร็วๆ นี้ได้นำขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศรุ่นคิฮะ 40 และคิฮะ 48 ที่ผ่านการปรับปรุงเรียบร้อยแล้วมาทดสอบ จำนวน 2 คัน เส้นทางมักกะสัน-หัวหมาก เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากนี้จะปรับปรุงสีภายนอกและห้องสุขาเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำออกให้บริการแก่ประชาชนในช่วงปลายปี 2568 จำนวน 6 คัน และจะทยอยปรับปรุงจนครบทั้ง 20 คันต่อไป รฟท. มีแผนจะนำขบวนรถคิฮะ 40 และคิฮะ 48 มาให้บริการในเส้นทางชานเมือง (FEEDER) ไปยังปลายทางสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา สถานีอยุธยา และสถานีนครปฐม เพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาทิ รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ เป็นต้น

    เหตุที่ไม่สามารถนำขบวนรถคิฮะมาให้บริการในต่างจังหวัด มีการพูดกันในกลุ่มคนรักรถไฟว่า เนื่องจากเป็นรถได้รับบริจาคจากญี่ปุ่น ซึ่งเลิกผลิตไปแล้ว ไม่มีอะไหล่ จำเป็นต้องได้รับการดูแลและซ่อมบำรุงจากโรงงานรถไฟมักกะสันอย่างใกล้ชิด อาจต้องรอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติสั่งซื้อรถดีเซลรางปรับอากาศ พร้อมอะไหล่ จำนวน 184 คัน วงเงินรวมทั้งสิ้น 24,150 ล้านบาท หรือรอปรับโฉมรถโดยสารชั้น 3 จากระบบพัดลมเป็นปรับอากาศ จำนวน 40 คันในปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 295.60 ล้านบาท

    #Newskit
    คนกรุงฯ รอลุ้น นั่งรถไฟคิฮะติดแอร์ เฟซบุ๊ก "ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย" ได้เผยแพร่ภาพประชาสัมพันธ์ "รฟท. ยกระดับการเดินทางชานเมือง เตรียมเปิดให้บริการขบวน KIHA 40/48 ปรับอากาศ เสริมความสะดวก ปลอดภัย เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ -ปริมณฑล อย่างไร้รอยต่อ" โดยระบุว่า ขบวนรถไฟญี่ปุ่น KIHA 40 และ KIHA 48 รถดีเซลรางปรับอากาศ ดำเนินการทดสอบและปรับปรุง พร้อมให้บริการปลายปีนี้ พร้อมระบุคุณสมบัติ อาทิ เบาะนั่งสบาย มีทั้งแบบนั่งยาวและนั่งขวาง ห้องน้ำสะอาดตามมาตรฐาน ตู้โดยสารปรับอากาศ เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพ-ปริมณฑล รวดเร็วไร้รอยต่อ ตอบโจทย์การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่ประหยัด สะดวก และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง สำหรับขบวนรถคิฮะ 40 จำนวน 9 คัน และคิฮะ 48 จำนวน 11 คัน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รับมอบจากบริษัท JR EAST ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเคยประจำการที่ศูนย์ Minami Akita เมื่อปี 2520 เพื่อใช้งานในสาย Gono และ สาย Oga ก่อนถูกปลดระวางในเดือน มี.ค. 2564 โดยมีการส่งมอบเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 และได้ออกเดินทางสู่ประเทศไทยโดยขนส่งทางเรือเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2567 ก่อนนำรถต้นแบบปรับขนาดเพลาล้อจาก 1.067 เมตร เป็น 1 เมตร ให้เข้ากับมาตรฐานรางรถไฟของประเทศไทย จากนั้นปรับปรุงสภาพตามมาตรฐานของการรถไฟฯ โดยเดินรถด้วยความเร็วสูงสุด 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเร็วๆ นี้ได้นำขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศรุ่นคิฮะ 40 และคิฮะ 48 ที่ผ่านการปรับปรุงเรียบร้อยแล้วมาทดสอบ จำนวน 2 คัน เส้นทางมักกะสัน-หัวหมาก เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากนี้จะปรับปรุงสีภายนอกและห้องสุขาเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำออกให้บริการแก่ประชาชนในช่วงปลายปี 2568 จำนวน 6 คัน และจะทยอยปรับปรุงจนครบทั้ง 20 คันต่อไป รฟท. มีแผนจะนำขบวนรถคิฮะ 40 และคิฮะ 48 มาให้บริการในเส้นทางชานเมือง (FEEDER) ไปยังปลายทางสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา สถานีอยุธยา และสถานีนครปฐม เพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาทิ รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ เป็นต้น เหตุที่ไม่สามารถนำขบวนรถคิฮะมาให้บริการในต่างจังหวัด มีการพูดกันในกลุ่มคนรักรถไฟว่า เนื่องจากเป็นรถได้รับบริจาคจากญี่ปุ่น ซึ่งเลิกผลิตไปแล้ว ไม่มีอะไหล่ จำเป็นต้องได้รับการดูแลและซ่อมบำรุงจากโรงงานรถไฟมักกะสันอย่างใกล้ชิด อาจต้องรอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติสั่งซื้อรถดีเซลรางปรับอากาศ พร้อมอะไหล่ จำนวน 184 คัน วงเงินรวมทั้งสิ้น 24,150 ล้านบาท หรือรอปรับโฉมรถโดยสารชั้น 3 จากระบบพัดลมเป็นปรับอากาศ จำนวน 40 คันในปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 295.60 ล้านบาท #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 531 มุมมอง 0 รีวิว
  • รฟท. ร่วมยินดีวันสถาปนา 64 ปี สถาบันการบินพลเรือน มอบเงินสมทบทุนเพื่อสาธารณกุศล
    https://www.thai-tai.tv/news/19177/
    รฟท. ร่วมยินดีวันสถาปนา 64 ปี สถาบันการบินพลเรือน มอบเงินสมทบทุนเพื่อสาธารณกุศล https://www.thai-tai.tv/news/19177/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'สุเทพ พันธุ์เพ็ง' นำคณะ รฟท. ต้อนรับ รมต. ญี่ปุ่น เยี่ยมชม OCC รถไฟฟ้าสายสีแดง และลงนามความร่วมมือพัฒนาระบบรางไทย-ญี่ปุ่น
    https://www.thai-tai.tv/news/18599/
    'สุเทพ พันธุ์เพ็ง' นำคณะ รฟท. ต้อนรับ รมต. ญี่ปุ่น เยี่ยมชม OCC รถไฟฟ้าสายสีแดง และลงนามความร่วมมือพัฒนาระบบรางไทย-ญี่ปุ่น https://www.thai-tai.tv/news/18599/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมรางเปิดยอด 5 วัน”สงกรานต์”ผู้โดยสาร”รถไฟ-รถไฟฟ้า”ช่วง 11-15 เม.ย. 2568 สะสม 5 วันรวมทั้งสิ้น 5,653,260 คน เฉพาะวันที่15 เม.ย. วันที่ห้าของเทศกาล ผู้ใช้บริการราง รวม 946,682 คน-เที่ยว มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟ 2 ครั้ง

    นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (วันที่ 15 เมษายน 68) ซึ่งเป็นวันที่ห้าของวันหยุดต่อเนื่องของเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2568 มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 946,682 คน-เที่ยว แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 77,953 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟฟ้าชานเมือง จำนวน 868,729 คน-เที่ยว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000035988

    #MGROnline #กรมราง #รถไฟ #รถไฟฟ้า
    กรมรางเปิดยอด 5 วัน”สงกรานต์”ผู้โดยสาร”รถไฟ-รถไฟฟ้า”ช่วง 11-15 เม.ย. 2568 สะสม 5 วันรวมทั้งสิ้น 5,653,260 คน เฉพาะวันที่15 เม.ย. วันที่ห้าของเทศกาล ผู้ใช้บริการราง รวม 946,682 คน-เที่ยว มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟ 2 ครั้ง • นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (วันที่ 15 เมษายน 68) ซึ่งเป็นวันที่ห้าของวันหยุดต่อเนื่องของเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2568 มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 946,682 คน-เที่ยว แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 77,953 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟฟ้าชานเมือง จำนวน 868,729 คน-เที่ยว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000035988 • #MGROnline #กรมราง #รถไฟ #รถไฟฟ้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 599 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สุริยะ’หวั่นภาระค่าดอกเบี้ย สั่งเร่งหารือรายละเอียดและขั้นตอนกฎหมายปมค่างานเพิ่มเติม รถไฟสายสีแดงหลังศาลปค.กลาง สั่ง รฟท.จ่ายเงิน 4,204 ล้านบาทให้เอกชนภายใน 60 วัน ตามคำชี้ขาดอนุญาโตฯ เผยสายสีแดงเปิดใช้แล้วแต่ค่าก่อสร้างบานไม่หยุดต่อทะลุแสนล้าน

    รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา เมื่อ วันที่ 12 เม.ย. 2568 ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการตามข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 79/2564 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 79/2565 เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2565 โดยให้ รฟท.ชำระเงินให้ กิจการร่วมค้า เอส ยู ที่มี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) และ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) กรณีไม่ปฏิบัติตามสัญญา โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน สัญญา 1 งานโยธาสำหรับสถานีรถไฟบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง ซึ่งรฟท. ลงนามสัญญา กิจการร่วมค้า เอส ยู เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2556 ในวงเงินสัญญา 29,826,973,512 บาท ตามคำสั่งเปลี่ยนแปลงงาน เพิ่มเติม (Variation order - VO) จำนวน 4,204,286,694.83 บาท และภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 27,654,882.90 บาท โดยให้ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000035222

    #MGROnline #โครงการระบบรถไฟชานเมือง #สายสีแดง
    “สุริยะ’หวั่นภาระค่าดอกเบี้ย สั่งเร่งหารือรายละเอียดและขั้นตอนกฎหมายปมค่างานเพิ่มเติม รถไฟสายสีแดงหลังศาลปค.กลาง สั่ง รฟท.จ่ายเงิน 4,204 ล้านบาทให้เอกชนภายใน 60 วัน ตามคำชี้ขาดอนุญาโตฯ เผยสายสีแดงเปิดใช้แล้วแต่ค่าก่อสร้างบานไม่หยุดต่อทะลุแสนล้าน • รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา เมื่อ วันที่ 12 เม.ย. 2568 ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการตามข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 79/2564 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 79/2565 เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2565 โดยให้ รฟท.ชำระเงินให้ กิจการร่วมค้า เอส ยู ที่มี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) และ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) กรณีไม่ปฏิบัติตามสัญญา โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน สัญญา 1 งานโยธาสำหรับสถานีรถไฟบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง ซึ่งรฟท. ลงนามสัญญา กิจการร่วมค้า เอส ยู เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2556 ในวงเงินสัญญา 29,826,973,512 บาท ตามคำสั่งเปลี่ยนแปลงงาน เพิ่มเติม (Variation order - VO) จำนวน 4,204,286,694.83 บาท และภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 27,654,882.90 บาท โดยให้ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000035222 • #MGROnline #โครงการระบบรถไฟชานเมือง #สายสีแดง
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 628 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมรางเผยวันแรกของวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 มีผู้ใช้บริการระบบราง รวม 1.49 ล้านคน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 7.11 % มีเหตุรถไฟชนกระบะ ฝ่าเครื่องกั้น ที่ลพบุรี ดับ1 ราย เจ็บ1 ราย ย้ำผู้ให้บริการดำเนินการตามแผนอำนวยความสะดวก

    นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (วันที่ 11 เมษายน 2568) ซึ่งเป็นวันแรกของวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2568 มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,490,479 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 114,107 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 7.11 (ประมาณการที่ 1,604,586 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 90,347 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟฟ้าชานเมือง จำนวน 1,400,132 คน-เที่ยว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000035013

    #MGROnline #กรมราง #เทศกาลสงกรานต์2568 #สงกรานต์2568 #วันสงกรานต์
    กรมรางเผยวันแรกของวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 มีผู้ใช้บริการระบบราง รวม 1.49 ล้านคน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 7.11 % มีเหตุรถไฟชนกระบะ ฝ่าเครื่องกั้น ที่ลพบุรี ดับ1 ราย เจ็บ1 ราย ย้ำผู้ให้บริการดำเนินการตามแผนอำนวยความสะดวก • นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (วันที่ 11 เมษายน 2568) ซึ่งเป็นวันแรกของวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2568 มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,490,479 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 114,107 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 7.11 (ประมาณการที่ 1,604,586 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 90,347 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟฟ้าชานเมือง จำนวน 1,400,132 คน-เที่ยว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000035013 • #MGROnline #กรมราง #เทศกาลสงกรานต์2568 #สงกรานต์2568 #วันสงกรานต์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 636 มุมมอง 0 รีวิว
  • การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้โพสต์เตือน หลังโซเชียลฯ แชร์คลิปถมดินระหว่างราง เพื่อนำรถเกี่ยวข้าวข้ามทางรถไฟ พร้อมวอนประชาชนหยุดการกระทำดังกล่าว และเคารพกฎระเบียบ ร่วมกันสร้างวินัยจราจร เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน

    วันนี้ (12 เม.ย.) เพจ “ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย“ ได้โพสต์ข้อความเตือนระบุว่า “การรถไฟฯ เตือน หยุดพฤติกรรมอันตราย หลังพบโซเชียลฯ แพร่คลิปถมดินระหว่างราง เพื่อนำรถเกี่ยวข้าวข้ามทางรถไฟ วอนประชาชนเคารพกฎระเบียบ ร่วมกันสร้างวินัยจราจร เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน

    การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอเตือนพี่น้องประชาชนที่คิดจะทำพฤติกรรมเสี่ยงอันตรายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน ภายหลังพบคลิปถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีการนำดินมาถมระหว่างรางรถไฟเพื่อจะขับรถเกี่ยวข้าวข้ามทางรถไฟ ซึ่งนอกจากจะเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อรางรถไฟ และยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารที่อยู่ภายในขบวนรถอีกด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000035060

    #MGROnline #การรถไฟแห่งประเทศไทย
    การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้โพสต์เตือน หลังโซเชียลฯ แชร์คลิปถมดินระหว่างราง เพื่อนำรถเกี่ยวข้าวข้ามทางรถไฟ พร้อมวอนประชาชนหยุดการกระทำดังกล่าว และเคารพกฎระเบียบ ร่วมกันสร้างวินัยจราจร เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน • วันนี้ (12 เม.ย.) เพจ “ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย“ ได้โพสต์ข้อความเตือนระบุว่า “การรถไฟฯ เตือน หยุดพฤติกรรมอันตราย หลังพบโซเชียลฯ แพร่คลิปถมดินระหว่างราง เพื่อนำรถเกี่ยวข้าวข้ามทางรถไฟ วอนประชาชนเคารพกฎระเบียบ ร่วมกันสร้างวินัยจราจร เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน • การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอเตือนพี่น้องประชาชนที่คิดจะทำพฤติกรรมเสี่ยงอันตรายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน ภายหลังพบคลิปถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีการนำดินมาถมระหว่างรางรถไฟเพื่อจะขับรถเกี่ยวข้าวข้ามทางรถไฟ ซึ่งนอกจากจะเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อรางรถไฟ และยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารที่อยู่ภายในขบวนรถอีกด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000035060 • #MGROnline #การรถไฟแห่งประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • บอร์ด รฟท.เคาะแก้สัญญารถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ซี.พี.วางแบงก์การันตีเพิ่ม 1.52 แสนล้านบาท รัฐควักจ่ายเร็วสร้าง 5 ปีเสร็จ ไม่เสียเปรียบแถมประหยัดดอกเบี้ย 2.4 หมื่นล้าน และโอนทรัพย์สินเป็นของรัฐทันที ไม่ซ้ำรอยโฮปเวลล์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000029288
    บอร์ด รฟท.เคาะแก้สัญญารถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ซี.พี.วางแบงก์การันตีเพิ่ม 1.52 แสนล้านบาท รัฐควักจ่ายเร็วสร้าง 5 ปีเสร็จ ไม่เสียเปรียบแถมประหยัดดอกเบี้ย 2.4 หมื่นล้าน และโอนทรัพย์สินเป็นของรัฐทันที ไม่ซ้ำรอยโฮปเวลล์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000029288
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 977 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ จึงรุ่งเรืองกิจ แต่ไม่รู้กิจของ นกม. หรือ รฟท. จะรุ่งเรืองกว่ากัน หลังสุริยะเตรียมถลุงเงินกว่า 24,000 ล้านบาท ซื้อรถดีเซลรางปรับอากาศ พร้อมอะไหล่ 184 คัน
    #7ดอกจิก
    #จึงรุ่งเรืองกิจ
    ♣ จึงรุ่งเรืองกิจ แต่ไม่รู้กิจของ นกม. หรือ รฟท. จะรุ่งเรืองกว่ากัน หลังสุริยะเตรียมถลุงเงินกว่า 24,000 ล้านบาท ซื้อรถดีเซลรางปรับอากาศ พร้อมอะไหล่ 184 คัน #7ดอกจิก #จึงรุ่งเรืองกิจ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 406 มุมมอง 0 รีวิว
  • บอร์ด รฟท.ไฟเขียวจัดซื้อรถดีเซลรางปรับอากาศ พร้อมอะไหล่ 184 คันวงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท เปลี่ยนสเปกจาก Bi-mode DEMU (ดีเซลจ่ายไฟฟ้าเหนือหัว)เป็นไฮบริด(ดีเซลผสมแบตเตอรี่ไฟฟ้า) เร่งชงครม.ตั้งเป้าประมูลก.ย.68 ใช้ทดแทนรถเดิมอายุกว่า 30 ปี รองรับทางคู่ ช่วยเพิ่มรายได้รถเชิงพาณิชย์ มั่นใจสศช.-สนข.เห็นชอบ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000009332

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    บอร์ด รฟท.ไฟเขียวจัดซื้อรถดีเซลรางปรับอากาศ พร้อมอะไหล่ 184 คันวงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท เปลี่ยนสเปกจาก Bi-mode DEMU (ดีเซลจ่ายไฟฟ้าเหนือหัว)เป็นไฮบริด(ดีเซลผสมแบตเตอรี่ไฟฟ้า) เร่งชงครม.ตั้งเป้าประมูลก.ย.68 ใช้ทดแทนรถเดิมอายุกว่า 30 ปี รองรับทางคู่ ช่วยเพิ่มรายได้รถเชิงพาณิชย์ มั่นใจสศช.-สนข.เห็นชอบ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000009332 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Wow
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1172 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภูมิใจไทยกระตุ้นแรงเพื่อไทย หวังจบเรื่องเขากระโดง
    เพื่อไทยกับภูมิใจไทย สองพรรคใหญ่ในรัฐบาล ยังเล่นเกม ชิงไหวชิงพริบกันเป็นระยะๆ อย่างล่าสุด ถึงขั้นทำให้ หนูอิ๊งค์ แพทองธาร ฉาวในเรื่องที่ดินอัลไพน์
    เคยสังเกตหรือไม่ เพราะอะไรทั้งที่เงียบไปแล้ว นั่นก็ต้องมองกลับไปที่ต้นตอของข่าว จุดเริ่มต้นมาจากที่อยู่ดีๆ มีแหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทยออกมาระบุว่า ชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้เซ็นก่อนจะหลุดเก้าอี้ รมช.มหาดไทยไม่กี่วัน ให้เพิกถอนที่ดินอัลไพน์ กลับไปเป็นธรณีสงฆ์ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา และศาล
    อุ๊งอิ๊ง เคยถือหุ้นอัลไพน์ที่เพิ่งจะโอนไปก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ซึ่งหากมีการเพิกถอนจริง ย่อมมีผลกระทบเหมือนกัน การที่มีข่าวเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ออกมามันก็อนุมานได้เหมือนกันว่า จงใจสะกิดอีกฝั่งให้รู้ว่า …ลูกสาวก็อยู่ในกำมือ สามารถให้คุณให้โทษได้ จะบีบก็ตายจะคายก็รอด…?
    เรื่องที่ดินอัลไพน์ อยู่ในอำนาจของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของพรรคภูมิใจไทย โดยมี เสี่ยหนู เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
    เมื่อเป็นเช่นนี้หลายฝ่ายจึงจับจ้องว่าเป็นเกมเขย่าจากค่ายสีน้ำเงิน และนั่นเมื่อนำไปโยงกับคำพูด “สังเกตไหมล่ะ” ของ หนูอิ๊งค์ มันก็ชวนให้วิเคราะห์ ต่อยอด แตกแขนงได้เหมือนกันว่า เจ้าตัวก็รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร!
    เรื่องที่ดินอัลไพน์ก็มีผลในทางการเมืองกับตัวนายกฯ ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของทักษิณ ผู้นำจิตวิญญาณค่ายสีแดง เมื่อเป็นเรื่องนี้ก็เหมือนเปิดให้ต้องมาคุยกันในเรื่องที่ค้างคา ไม่จบ ดีลไม่ลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกาสิโน หรือแม้แต่เรื่องที่ดินเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
    หลายฝ่ายมองว่าเป็นการต่อรอง ยื่นหมูยื่นแมว ในลักษณะว่า ถ้า รฟท.เลิกรากันไปในเรื่องเขากระโดง ทางฝั่งค่ายสีน้ำเงินก็จะไม่เล่นเรื่องนี้เหมือนกัน ฉะนั้น มันจึงถูกมองว่าค่ายสีน้ำเงินกำลังใช้เรื่องที่หนักหน่วงที่สุดของหนูอิ๊งค์ ขึ้นมาต่อรองกับผู้นำจิตวิญญาณค่ายสีแดง
    เพราะถ้าค่ายสีน้ำเงินหวังน็อกเลยโดยไม่ต่อรอง คงไม่ปล่อยให้ยืดเยื้อ ป่านนี้คงเซ็นเพิกถอนไปแล้ว
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ

    ภูมิใจไทยกระตุ้นแรงเพื่อไทย หวังจบเรื่องเขากระโดง เพื่อไทยกับภูมิใจไทย สองพรรคใหญ่ในรัฐบาล ยังเล่นเกม ชิงไหวชิงพริบกันเป็นระยะๆ อย่างล่าสุด ถึงขั้นทำให้ หนูอิ๊งค์ แพทองธาร ฉาวในเรื่องที่ดินอัลไพน์ เคยสังเกตหรือไม่ เพราะอะไรทั้งที่เงียบไปแล้ว นั่นก็ต้องมองกลับไปที่ต้นตอของข่าว จุดเริ่มต้นมาจากที่อยู่ดีๆ มีแหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทยออกมาระบุว่า ชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้เซ็นก่อนจะหลุดเก้าอี้ รมช.มหาดไทยไม่กี่วัน ให้เพิกถอนที่ดินอัลไพน์ กลับไปเป็นธรณีสงฆ์ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา และศาล อุ๊งอิ๊ง เคยถือหุ้นอัลไพน์ที่เพิ่งจะโอนไปก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ซึ่งหากมีการเพิกถอนจริง ย่อมมีผลกระทบเหมือนกัน การที่มีข่าวเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ออกมามันก็อนุมานได้เหมือนกันว่า จงใจสะกิดอีกฝั่งให้รู้ว่า …ลูกสาวก็อยู่ในกำมือ สามารถให้คุณให้โทษได้ จะบีบก็ตายจะคายก็รอด…? เรื่องที่ดินอัลไพน์ อยู่ในอำนาจของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของพรรคภูมิใจไทย โดยมี เสี่ยหนู เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง เมื่อเป็นเช่นนี้หลายฝ่ายจึงจับจ้องว่าเป็นเกมเขย่าจากค่ายสีน้ำเงิน และนั่นเมื่อนำไปโยงกับคำพูด “สังเกตไหมล่ะ” ของ หนูอิ๊งค์ มันก็ชวนให้วิเคราะห์ ต่อยอด แตกแขนงได้เหมือนกันว่า เจ้าตัวก็รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร! เรื่องที่ดินอัลไพน์ก็มีผลในทางการเมืองกับตัวนายกฯ ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของทักษิณ ผู้นำจิตวิญญาณค่ายสีแดง เมื่อเป็นเรื่องนี้ก็เหมือนเปิดให้ต้องมาคุยกันในเรื่องที่ค้างคา ไม่จบ ดีลไม่ลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกาสิโน หรือแม้แต่เรื่องที่ดินเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลายฝ่ายมองว่าเป็นการต่อรอง ยื่นหมูยื่นแมว ในลักษณะว่า ถ้า รฟท.เลิกรากันไปในเรื่องเขากระโดง ทางฝั่งค่ายสีน้ำเงินก็จะไม่เล่นเรื่องนี้เหมือนกัน ฉะนั้น มันจึงถูกมองว่าค่ายสีน้ำเงินกำลังใช้เรื่องที่หนักหน่วงที่สุดของหนูอิ๊งค์ ขึ้นมาต่อรองกับผู้นำจิตวิญญาณค่ายสีแดง เพราะถ้าค่ายสีน้ำเงินหวังน็อกเลยโดยไม่ต่อรอง คงไม่ปล่อยให้ยืดเยื้อ ป่านนี้คงเซ็นเพิกถอนไปแล้ว ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1198 มุมมอง 0 รีวิว
  • การรถไฟฯ พร้อมรองรับผู้โดยสารเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง กำชับเข้มงวดความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน เผยภาพรวมวันที่ 1 ม.ค. ผู้ใช้บริการรถไฟเกือบ 1.1 แสนคน

    นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้าของวันนี้ (2 มกราคม 2568) ยังคงมีผู้โดยสารทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก ทั้งในส่วนของขบวนรถทางไกล และขบวนรถชานเมือง ซึ่งการรถไฟฯ ได้เตรียมพร้อมรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชน ตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างเคร่งครัด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000000351

    #MGROnline #การรถไฟแห่งประเทศไทย
    การรถไฟฯ พร้อมรองรับผู้โดยสารเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง กำชับเข้มงวดความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน เผยภาพรวมวันที่ 1 ม.ค. ผู้ใช้บริการรถไฟเกือบ 1.1 แสนคน • นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้าของวันนี้ (2 มกราคม 2568) ยังคงมีผู้โดยสารทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก ทั้งในส่วนของขบวนรถทางไกล และขบวนรถชานเมือง ซึ่งการรถไฟฯ ได้เตรียมพร้อมรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชน ตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างเคร่งครัด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000000351 • #MGROnline #การรถไฟแห่งประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 583 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts