• บ้านและสวน Midyear 2025 มาแล้ว!
    แวะบูธ TPI ห้ามพลาด
    .
    🛠 สาธิต M609 ยางมะตอยซูเปอร์ ใช้ง่าย ไม่ต้องต้ม
    ชม TPI Board Smooth Flex ดัดโค้งได้ เบาสุด!
    เติมพลังกับ "โปรไวต้า" เครื่องดื่มสุขภาพ
    พร้อมโปรฯ เด็ด เฉพาะในงานนี้เท่านั้น!
    .
    แล้วพบกันที่บูธ TPI ในงานบ้านและสวน Midyear 2025
    พิกัด : ไบเทค บางนา Hall EH099
    Living Zone บูธ C83-C85,C102-C104
    วันที่ 1-10 สิงหาคมนี้ 2568
    ⏱ เวลา : 10.00 - 21.00 น.
    .
    #บ้านและสวน #TPI #บ้านและสวนmidyear2025 #ทีพีไอ #วัสดุก่อสร้าง #รีโนเวทบ้าน #ยางมะตอยซูเปอร์ #ของแต่งบ้าน
    🎉 บ้านและสวน Midyear 2025 มาแล้ว! แวะบูธ TPI ห้ามพลาด 👀 . 🛠 สาธิต M609 ยางมะตอยซูเปอร์ ใช้ง่าย ไม่ต้องต้ม 🧱 ชม TPI Board Smooth Flex ดัดโค้งได้ เบาสุด! 🥤 เติมพลังกับ "โปรไวต้า" เครื่องดื่มสุขภาพ 💥 พร้อมโปรฯ เด็ด เฉพาะในงานนี้เท่านั้น! . แล้วพบกันที่บูธ TPI ในงานบ้านและสวน Midyear 2025 📍 พิกัด : ไบเทค บางนา Hall EH099 🎯 Living Zone บูธ C83-C85,C102-C104 📅 วันที่ 1-10 สิงหาคมนี้ 2568 ⏱ เวลา : 10.00 - 21.00 น. . #บ้านและสวน #TPI #บ้านและสวนmidyear2025 #ทีพีไอ #วัสดุก่อสร้าง #รีโนเวทบ้าน #ยางมะตอยซูเปอร์ #ของแต่งบ้าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารพระราชาไทยควรตัดสินใจยึดอำนาจ ตัดตอนบริบททั้งหมดของdeep stateและกลุ่มอนุรักษ์นิยมอำมาตย์ที่สุ่มหัวกันตัังแต่ต้นโดยเด่นชัดคือเอาโทนี่มาไทย ชูเพื่อไทยเพื่อปกป้องผลประโยชน์ตนและทุนฝรั่งทัังหมดด้วยในประเทศไทยทั้งสมคบคิดกับเขมรหมายยึดทรัพยากรมีค่ามากมายในอ่าวไทยซ้ำเติมจากที่ยึดครองไปอีกตลอดจนสมยอมให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นสนามสงครามเองพร้อมปิดล้อมเพื่อสู้กับจีนในอนาคตอีก จุดชนวนหาข้ออ้างเข้ามาในอาเชียนนั้นเองของฝั่งฝรั่งด้วย อเมริกาบวกตาขี้ข้าฝรั่งเศสบ๋อยอเมริกาก็ด้วยอยากได้บ่อน้ำมันเพิ่มในอ่าวไทยนี้เองเพื่อเป็นพลังงานอีกมิติด้านสงครามก็ด้วย ดูดใกล้ไม่ต้องขนส่งมาเติมไกลๆ ไทยอินโดฯมีพร้อมเตรียมทำสงครามกับจีนได้นั้นเอง,
    ..ทหารพระราชาเราจะทำอะไรก็เด็ดขาดเถอะ,เช่น ชิงประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศไว้ก่อน ให้ทหารไทยเรา กองกำลังปกป้องอธิปไตยไทยเราทั้งหมดทำงานไร้อุปสรรคและเต็มที่มิใช่แบบยุทธปืนคอนั้น,ยิงแต่ปืนคอนะจ๊ะ,ทหารพราน ทหารตชด.ตำรวจภายในประเทศจะจับมือสามัคคีกันทันทีเพื่อปกป้องภัยทั้งจากภายในคือกบฎทรยศแผ่นดินไทยและภายนอกแบบเขมรแบบอเมริกาแบบฝรั่งเศส สามารถเชิญฑูตอเมริกาและฝรั่งเศสออกจากประเทศไทยไปก่อนได้เลย,เพื่อตัดตอนใช้ไทยเป็นฐานทำสงครามกับจีน,นี้คืออำนาจเด็ดขาดที่จะสร้างสรรคยุทธวิธีทางสงครามทุกๆรูปแบบได้ ระดมผู้มีความรู้ความสามารถอิสระทั่วไทยได้ตลอดเวลา มีสภาคคล่องการปรับกลยุทธได้หมด จะสงครามการตังการค้าการเศรษฐกิจ สงครามตัวแทนแบบจะใช้ไทยกับเขมรจุดฉนวนขึ้น,สงครามไซเบอร์ใดๆ, และอื่นๆเราตัดตอนตัดหมากตัดกำลังมันได้หมดหรือตัดไฟแต่ต้นลมได้,ถ้าทหารพระราชายังนิ่งดูดากประมาทเลินเล่อดูเบา ตามน้ำหรือสมยอมกับรัฐบาลปัจจุบันสาขาเขมร1รุ่นมาลี2แบบนีั สู้ไม่ได้หรอก,เหลี่ยมมันเยอะ,ต้องร่วมมือกับภาคทหารประชาชนจริงจังด้วย สื่อไทยตื่นรู้มาฝั่งทหารเพื่อชาติเมืองก็มากแล้ว คณะรวมพลังแผ่นดินคือแนวร่วมของทัพประชาชนที่ดีที่สุด,จะไปจับมือกับสามกีบชูสามนิ้วเหรอหรือกปปส.พรรคร่วมต่างๆนั้น,ล้วนคือพวกอนุรักษ์นิยมเก่าทั้งสิ้นตลอดฝ่ายค้านทั้งหมดด้วยไร้ราคาหมด,คณะรวมพลังแผ่นดินไทยพร้อมประชาชนทั้งประเทศจับมือกับฝ่ายทหารพระราชาฝ่าวิกฤติภัยศัตรูของชาติไทยเราได้แน่นอน,ยึดอำนาจเถอะ,นี้ก็พ้น4สิงหาแล้ว,อย่าตามหมากบนกระดานของอีลิทของdeep stateฝรั่งประจำประเทศไทยและพวกเดอะแก๊งอำมาตย์อนุรักษ์นิยมเก่าเลย,เหลี่ยมแบบเจรจามาเลย์โดยสไตล์การใช้อำนาจฝ่ายเจ้าเล่ห์นักการเมืองมันธรรมดาที่ไหน,ยิงกันจะชนะเสือกตีรีตาเหลือกรีบช่วยเขมรช่วยอเมริกาจะซวยไปยิงฐานทัพอเมริกาที่ชลบุรีจะเสียหมาอเมริกาแค่ไหนแผนจะไปเป็นไปตามแผนหากไทยตีถึงพนมเปรตนรกนั้น,เหลี่ยมฝรั่งจึงสั่งเหลี่ยมประจำประเทศไทยกับเพื่อนสนิทมรึงรีบหามุกหยุดทหารพระราชาที่เป็นฝ่ายตรงข้ามมรึงให้ด่วนถึงด่วนที่สุดทันทีมันว่า,เลยเหี้ยไง ทหารไทยเราเสียเหลี่ยมมันนะ เห็นมั้ยนี้ล่ะอันตรายของการไม่เด็ดขาดประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ อำนาจทหารไทยจะเต็มแนวรบแนวปฏิบัติทางสงครามทั้งหมดทันที,ถ้าเป็นแบบนี้ฝันเลยจะเอาชนะอเมริกาได้และคนทรยศประจำประเทศไทยปกตินี้,จะชนะอเมริกามันไม่ยากอะไรเลย,มีมากมายหลากหลายวิธี,จริงๆอเมริกามันล่มสลายล้มละลายไปนานแล้ว ไร้ค่าไร้ราคานานแล้ว,แค่ผีบ้ามีอาวุธนิวเคลียร์สะสมมานานแค่นั้น,จะฆ่าจีนล้างหนี้ก็ได้หากมองบริบทแบบพื้นๆไม่เอานัยยะผีบ้าสภากาแล็กติกหรือแผนแหกตาละครบ้าบอมันมาหักมุมเพิ่มเติม,แต่ดีที่สุด อเมริกาจะยุ่งวุ่นวายภายในเรรไม่ได้เลยคือยึดอำนาจโดยคณะรวมพลังแผ่นดินที่มีทหารนำทัพยืนเคียงข้าง ฝรั่งจะปากไม่ออก จากนั้นกวาดล้างกำจัดคนทรยศภายในชาติไทยเราได้สบาย,เขมรมียิงใส่เราช่วงนี้ เปิดมา ไปเกิดทั้งประเทศแน่นอน ฮุนเซนฮุนมาเนตจะถูกไล่ล่าจริงทันที,สายลับพันธมิตรไทยและไทยเราเองจะจัดเดอะทีมไล่ล่าฮุนเซนฮุนมาเนตเด็ดหัวทันทีพร้อมกับการโจมตีตรงที่ทำงานบ้านพักฮุนเซนฮุนมาเนตทั้งหมดที่ระบุว่าคือฐานบัญชาการสั่งการ,มันกะเข้าอินโดแปซิฟิก สมาชิกตีกันเอง คือไทย ตีเขมร ,อเมริกเจ้าบ้านอินโดแปซิฟิกจะเป็นกลางล่ะมรึงเอย,ต่างจากคนนอกสมาชิกแสดงว่าตีกันเต็มที่อเมริกาคือกรรมการ,ทหารเขมรตายแบบเต็มพรมแดนอเมริกามรึงต้องตบหัวเขมรบอกมันให้ไปเก็บศพทั้งหมดให้ญาติทหารเขมรมรึงทันทีหากทำสันดานไม่ดีเสียภาพลักษณ์สมาชิกอินโดแปซิฟิก ทหารตายไม่ต้องเก็บศพก็ได้อเมริกาอนุมัติหลักการนี้เห็นดีงามเลิศวิธีคิดอ่านของเขมร ไม่ต้องมีมนุษยธรรมให้คุณค่ากับทหารภายใต้คนสมาชิกอินโดแปซิฟิก,อเมริกาคงเอาหน้าชูเกียรติเชิดหน้าท้าโลกค้ำชูเขมรอย่างได้หน้าได้ตามีหน้า มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีไปพร้อมกับเขมรแน่นอน อเมริการางวัลทหารตายไม่ต้องเก็บศพระดับโลก,สุดยอดกว่ารางวัลสันติภาพโลกล่ะ.
    ทหารพระราชาไทยควรตัดสินใจยึดอำนาจ ตัดตอนบริบททั้งหมดของdeep stateและกลุ่มอนุรักษ์นิยมอำมาตย์ที่สุ่มหัวกันตัังแต่ต้นโดยเด่นชัดคือเอาโทนี่มาไทย ชูเพื่อไทยเพื่อปกป้องผลประโยชน์ตนและทุนฝรั่งทัังหมดด้วยในประเทศไทยทั้งสมคบคิดกับเขมรหมายยึดทรัพยากรมีค่ามากมายในอ่าวไทยซ้ำเติมจากที่ยึดครองไปอีกตลอดจนสมยอมให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นสนามสงครามเองพร้อมปิดล้อมเพื่อสู้กับจีนในอนาคตอีก จุดชนวนหาข้ออ้างเข้ามาในอาเชียนนั้นเองของฝั่งฝรั่งด้วย อเมริกาบวกตาขี้ข้าฝรั่งเศสบ๋อยอเมริกาก็ด้วยอยากได้บ่อน้ำมันเพิ่มในอ่าวไทยนี้เองเพื่อเป็นพลังงานอีกมิติด้านสงครามก็ด้วย ดูดใกล้ไม่ต้องขนส่งมาเติมไกลๆ ไทยอินโดฯมีพร้อมเตรียมทำสงครามกับจีนได้นั้นเอง, ..ทหารพระราชาเราจะทำอะไรก็เด็ดขาดเถอะ,เช่น ชิงประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศไว้ก่อน ให้ทหารไทยเรา กองกำลังปกป้องอธิปไตยไทยเราทั้งหมดทำงานไร้อุปสรรคและเต็มที่มิใช่แบบยุทธปืนคอนั้น,ยิงแต่ปืนคอนะจ๊ะ,ทหารพราน ทหารตชด.ตำรวจภายในประเทศจะจับมือสามัคคีกันทันทีเพื่อปกป้องภัยทั้งจากภายในคือกบฎทรยศแผ่นดินไทยและภายนอกแบบเขมรแบบอเมริกาแบบฝรั่งเศส สามารถเชิญฑูตอเมริกาและฝรั่งเศสออกจากประเทศไทยไปก่อนได้เลย,เพื่อตัดตอนใช้ไทยเป็นฐานทำสงครามกับจีน,นี้คืออำนาจเด็ดขาดที่จะสร้างสรรคยุทธวิธีทางสงครามทุกๆรูปแบบได้ ระดมผู้มีความรู้ความสามารถอิสระทั่วไทยได้ตลอดเวลา มีสภาคคล่องการปรับกลยุทธได้หมด จะสงครามการตังการค้าการเศรษฐกิจ สงครามตัวแทนแบบจะใช้ไทยกับเขมรจุดฉนวนขึ้น,สงครามไซเบอร์ใดๆ, และอื่นๆเราตัดตอนตัดหมากตัดกำลังมันได้หมดหรือตัดไฟแต่ต้นลมได้,ถ้าทหารพระราชายังนิ่งดูดากประมาทเลินเล่อดูเบา ตามน้ำหรือสมยอมกับรัฐบาลปัจจุบันสาขาเขมร1รุ่นมาลี2แบบนีั สู้ไม่ได้หรอก,เหลี่ยมมันเยอะ,ต้องร่วมมือกับภาคทหารประชาชนจริงจังด้วย สื่อไทยตื่นรู้มาฝั่งทหารเพื่อชาติเมืองก็มากแล้ว คณะรวมพลังแผ่นดินคือแนวร่วมของทัพประชาชนที่ดีที่สุด,จะไปจับมือกับสามกีบชูสามนิ้วเหรอหรือกปปส.พรรคร่วมต่างๆนั้น,ล้วนคือพวกอนุรักษ์นิยมเก่าทั้งสิ้นตลอดฝ่ายค้านทั้งหมดด้วยไร้ราคาหมด,คณะรวมพลังแผ่นดินไทยพร้อมประชาชนทั้งประเทศจับมือกับฝ่ายทหารพระราชาฝ่าวิกฤติภัยศัตรูของชาติไทยเราได้แน่นอน,ยึดอำนาจเถอะ,นี้ก็พ้น4สิงหาแล้ว,อย่าตามหมากบนกระดานของอีลิทของdeep stateฝรั่งประจำประเทศไทยและพวกเดอะแก๊งอำมาตย์อนุรักษ์นิยมเก่าเลย,เหลี่ยมแบบเจรจามาเลย์โดยสไตล์การใช้อำนาจฝ่ายเจ้าเล่ห์นักการเมืองมันธรรมดาที่ไหน,ยิงกันจะชนะเสือกตีรีตาเหลือกรีบช่วยเขมรช่วยอเมริกาจะซวยไปยิงฐานทัพอเมริกาที่ชลบุรีจะเสียหมาอเมริกาแค่ไหนแผนจะไปเป็นไปตามแผนหากไทยตีถึงพนมเปรตนรกนั้น,เหลี่ยมฝรั่งจึงสั่งเหลี่ยมประจำประเทศไทยกับเพื่อนสนิทมรึงรีบหามุกหยุดทหารพระราชาที่เป็นฝ่ายตรงข้ามมรึงให้ด่วนถึงด่วนที่สุดทันทีมันว่า,เลยเหี้ยไง ทหารไทยเราเสียเหลี่ยมมันนะ เห็นมั้ยนี้ล่ะอันตรายของการไม่เด็ดขาดประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ อำนาจทหารไทยจะเต็มแนวรบแนวปฏิบัติทางสงครามทั้งหมดทันที,ถ้าเป็นแบบนี้ฝันเลยจะเอาชนะอเมริกาได้และคนทรยศประจำประเทศไทยปกตินี้,จะชนะอเมริกามันไม่ยากอะไรเลย,มีมากมายหลากหลายวิธี,จริงๆอเมริกามันล่มสลายล้มละลายไปนานแล้ว ไร้ค่าไร้ราคานานแล้ว,แค่ผีบ้ามีอาวุธนิวเคลียร์สะสมมานานแค่นั้น,จะฆ่าจีนล้างหนี้ก็ได้หากมองบริบทแบบพื้นๆไม่เอานัยยะผีบ้าสภากาแล็กติกหรือแผนแหกตาละครบ้าบอมันมาหักมุมเพิ่มเติม,แต่ดีที่สุด อเมริกาจะยุ่งวุ่นวายภายในเรรไม่ได้เลยคือยึดอำนาจโดยคณะรวมพลังแผ่นดินที่มีทหารนำทัพยืนเคียงข้าง ฝรั่งจะปากไม่ออก จากนั้นกวาดล้างกำจัดคนทรยศภายในชาติไทยเราได้สบาย,เขมรมียิงใส่เราช่วงนี้ เปิดมา ไปเกิดทั้งประเทศแน่นอน ฮุนเซนฮุนมาเนตจะถูกไล่ล่าจริงทันที,สายลับพันธมิตรไทยและไทยเราเองจะจัดเดอะทีมไล่ล่าฮุนเซนฮุนมาเนตเด็ดหัวทันทีพร้อมกับการโจมตีตรงที่ทำงานบ้านพักฮุนเซนฮุนมาเนตทั้งหมดที่ระบุว่าคือฐานบัญชาการสั่งการ,มันกะเข้าอินโดแปซิฟิก สมาชิกตีกันเอง คือไทย ตีเขมร ,อเมริกเจ้าบ้านอินโดแปซิฟิกจะเป็นกลางล่ะมรึงเอย,ต่างจากคนนอกสมาชิกแสดงว่าตีกันเต็มที่อเมริกาคือกรรมการ,ทหารเขมรตายแบบเต็มพรมแดนอเมริกามรึงต้องตบหัวเขมรบอกมันให้ไปเก็บศพทั้งหมดให้ญาติทหารเขมรมรึงทันทีหากทำสันดานไม่ดีเสียภาพลักษณ์สมาชิกอินโดแปซิฟิก ทหารตายไม่ต้องเก็บศพก็ได้อเมริกาอนุมัติหลักการนี้เห็นดีงามเลิศวิธีคิดอ่านของเขมร ไม่ต้องมีมนุษยธรรมให้คุณค่ากับทหารภายใต้คนสมาชิกอินโดแปซิฟิก,อเมริกาคงเอาหน้าชูเกียรติเชิดหน้าท้าโลกค้ำชูเขมรอย่างได้หน้าได้ตามีหน้า มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีไปพร้อมกับเขมรแน่นอน อเมริการางวัลทหารตายไม่ต้องเก็บศพระดับโลก,สุดยอดกว่ารางวัลสันติภาพโลกล่ะ.
    ขณะที่กัมพูชาเข้าอินโด-แปซิฟิก ไทยควรถอนตัว : คนเคาะข่าว 04-08-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์

    https://www.youtube.com/watch?v=GdvvSmVHHIM
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากวงการฮาร์ดแวร์: เมื่อจีนส่ง GPU 24GB VRAM ท้าชน NVIDIA และ AMD

    ในโลกที่ NVIDIA และ AMD ครองตลาดกราฟิกการ์ดมานาน จู่ๆ ก็มีผู้เล่นหน้าใหม่จากจีนชื่อว่า Lisuan Tech โผล่ขึ้นมาพร้อม GPU รุ่น 7G105 ที่มาพร้อม VRAM ขนาด 24GB และฟีเจอร์ที่ดูจริงจังเกินกว่าจะเป็นแค่ของเล่นสำหรับเกมเมอร์

    Lisuan Tech ไม่ได้เน้น ray tracing หรือ DirectX 12 Ultimate แบบที่ค่ายใหญ่ทำ แต่หันไปโฟกัสที่งาน compute และ virtualization สำหรับตลาด workstation และ enterprise โดยใช้สถาปัตยกรรม TrueGPU ของตัวเอง ผลิตบนเทคโนโลยี 6nm จาก TSMC

    GPU รุ่นนี้รองรับการถอดรหัสวิดีโอ 8K AV1 และ HEVC ที่ 60fps และสามารถ encode ได้ทั้ง 4K และ 8K ขึ้นอยู่กับ codec มีพอร์ต DisplayPort 1.4 ถึง 4 ช่อง แต่ไม่มี HDMI เพราะต้องการลดต้นทุนด้านลิขสิทธิ์

    จุดเด่นที่ทำให้มันดูจริงจังคือการรองรับ SR-IOV ซึ่งสามารถแบ่ง GPU ออกเป็น 16 virtual containers ได้ ทำให้เหมาะกับการใช้งานในระบบคลาวด์หรือองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการความยืดหยุ่น

    แม้จะมีประสิทธิภาพในระดับ 24 TFLOPs (FP32) ซึ่งใกล้เคียง RTX 4060 แต่ยังมีข้อสงสัยหลายอย่าง เช่น ความเร็วสัญญาณนาฬิกา, ความถี่หน่วยความจำ และการใช้พลังงานที่ยังไม่เปิดเผย รวมถึงการขาดข้อมูลเรื่องไดรเวอร์และความเสถียรในระยะยาว

    Lisuan Tech เปิดตัว GPU รุ่น 7G105 พร้อม VRAM ขนาด 24GB
    เน้นตลาด workstation และ enterprise มากกว่าการเล่นเกม

    ใช้สถาปัตยกรรม TrueGPU ผลิตบนเทคโนโลยี 6nm จาก TSMC
    รองรับ DirectX 12, Vulkan 1.3, OpenGL 4.6 แต่ไม่รองรับ ray tracing

    รองรับการถอดรหัสวิดีโอ 8K และ encode ได้ทั้ง 4K/8K
    ใช้ DisplayPort 1.4 จำนวน 4 ช่อง ไม่มี HDMI

    รองรับ SR-IOV แบ่ง GPU เป็น 16 virtual containers
    เหมาะกับการใช้งานในระบบคลาวด์และองค์กรขนาดใหญ่

    ประสิทธิภาพสูงสุด 24 TFLOPs (FP32) ใกล้เคียง RTX 4060
    มีผล benchmark จาก Geekbench และ 3DMark ที่น่าประทับใจ

    รุ่น 7G106 สำหรับผู้ใช้ทั่วไปมี VRAM 12GB และ TDP 225W
    ใช้พลังงานผ่าน 8-pin PCIe connector และรองรับ 8K HDR

    รุ่น 7G105 สำหรับมืออาชีพมี ECC memory และระบบเข้ารหัสข้อมูล
    รองรับการแสดงผลหลายหน้าจอพร้อมกันในระบบเสมือน

    ผลการทดสอบ synthetic benchmark แสดงว่าแรงกว่า RTX 4060
    แต่ยังไม่ถึงระดับ RTX 5060 หรือ RX 9060 XT

    ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดเรื่องความเร็วสัญญาณนาฬิกาและการใช้พลังงาน
    ทำให้ประสิทธิภาพจริงยังเป็นเพียงการคาดการณ์

    ขาดข้อมูลเรื่องไดรเวอร์และความเสถียรในการใช้งานระยะยาว
    อาจมีปัญหาในการใช้งานกับซอฟต์แวร์มืออาชีพ

    ไม่มี HDMI อาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    ต้องใช้ DisplayPort เท่านั้น ซึ่งอาจไม่สะดวกในบางกรณี

    https://www.techradar.com/pro/chinese-gpu-vendor-youve-never-heard-of-wants-to-challenge-nvidia-and-amd-in-the-pro-market-with-24gb-vram
    🎮🧠 เรื่องเล่าจากวงการฮาร์ดแวร์: เมื่อจีนส่ง GPU 24GB VRAM ท้าชน NVIDIA และ AMD ในโลกที่ NVIDIA และ AMD ครองตลาดกราฟิกการ์ดมานาน จู่ๆ ก็มีผู้เล่นหน้าใหม่จากจีนชื่อว่า Lisuan Tech โผล่ขึ้นมาพร้อม GPU รุ่น 7G105 ที่มาพร้อม VRAM ขนาด 24GB และฟีเจอร์ที่ดูจริงจังเกินกว่าจะเป็นแค่ของเล่นสำหรับเกมเมอร์ Lisuan Tech ไม่ได้เน้น ray tracing หรือ DirectX 12 Ultimate แบบที่ค่ายใหญ่ทำ แต่หันไปโฟกัสที่งาน compute และ virtualization สำหรับตลาด workstation และ enterprise โดยใช้สถาปัตยกรรม TrueGPU ของตัวเอง ผลิตบนเทคโนโลยี 6nm จาก TSMC GPU รุ่นนี้รองรับการถอดรหัสวิดีโอ 8K AV1 และ HEVC ที่ 60fps และสามารถ encode ได้ทั้ง 4K และ 8K ขึ้นอยู่กับ codec มีพอร์ต DisplayPort 1.4 ถึง 4 ช่อง แต่ไม่มี HDMI เพราะต้องการลดต้นทุนด้านลิขสิทธิ์ จุดเด่นที่ทำให้มันดูจริงจังคือการรองรับ SR-IOV ซึ่งสามารถแบ่ง GPU ออกเป็น 16 virtual containers ได้ ทำให้เหมาะกับการใช้งานในระบบคลาวด์หรือองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการความยืดหยุ่น แม้จะมีประสิทธิภาพในระดับ 24 TFLOPs (FP32) ซึ่งใกล้เคียง RTX 4060 แต่ยังมีข้อสงสัยหลายอย่าง เช่น ความเร็วสัญญาณนาฬิกา, ความถี่หน่วยความจำ และการใช้พลังงานที่ยังไม่เปิดเผย รวมถึงการขาดข้อมูลเรื่องไดรเวอร์และความเสถียรในระยะยาว ✅ Lisuan Tech เปิดตัว GPU รุ่น 7G105 พร้อม VRAM ขนาด 24GB ➡️ เน้นตลาด workstation และ enterprise มากกว่าการเล่นเกม ✅ ใช้สถาปัตยกรรม TrueGPU ผลิตบนเทคโนโลยี 6nm จาก TSMC ➡️ รองรับ DirectX 12, Vulkan 1.3, OpenGL 4.6 แต่ไม่รองรับ ray tracing ✅ รองรับการถอดรหัสวิดีโอ 8K และ encode ได้ทั้ง 4K/8K ➡️ ใช้ DisplayPort 1.4 จำนวน 4 ช่อง ไม่มี HDMI ✅ รองรับ SR-IOV แบ่ง GPU เป็น 16 virtual containers ➡️ เหมาะกับการใช้งานในระบบคลาวด์และองค์กรขนาดใหญ่ ✅ ประสิทธิภาพสูงสุด 24 TFLOPs (FP32) ใกล้เคียง RTX 4060 ➡️ มีผล benchmark จาก Geekbench และ 3DMark ที่น่าประทับใจ ✅ รุ่น 7G106 สำหรับผู้ใช้ทั่วไปมี VRAM 12GB และ TDP 225W ➡️ ใช้พลังงานผ่าน 8-pin PCIe connector และรองรับ 8K HDR ✅ รุ่น 7G105 สำหรับมืออาชีพมี ECC memory และระบบเข้ารหัสข้อมูล ➡️ รองรับการแสดงผลหลายหน้าจอพร้อมกันในระบบเสมือน ✅ ผลการทดสอบ synthetic benchmark แสดงว่าแรงกว่า RTX 4060 ➡️ แต่ยังไม่ถึงระดับ RTX 5060 หรือ RX 9060 XT ‼️ ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดเรื่องความเร็วสัญญาณนาฬิกาและการใช้พลังงาน ⛔ ทำให้ประสิทธิภาพจริงยังเป็นเพียงการคาดการณ์ ‼️ ขาดข้อมูลเรื่องไดรเวอร์และความเสถียรในการใช้งานระยะยาว ⛔ อาจมีปัญหาในการใช้งานกับซอฟต์แวร์มืออาชีพ ‼️ ไม่มี HDMI อาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ⛔ ต้องใช้ DisplayPort เท่านั้น ซึ่งอาจไม่สะดวกในบางกรณี https://www.techradar.com/pro/chinese-gpu-vendor-youve-never-heard-of-wants-to-challenge-nvidia-and-amd-in-the-pro-market-with-24gb-vram
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกเทคโนโลยี: เมื่อจอ e-paper วิ่งเร็วขึ้นเพื่อคนทำงานสายโฟกัส

    ในยุคที่จอ OLED และ IPS แข่งกันเรื่องสีสดและรีเฟรชเรตสูงเพื่อเกมเมอร์และสายบันเทิง มีอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการสิ่งตรงข้าม—จอที่ไม่รบกวนสายตา ไม่เปลืองพลังงาน และไม่ดึงความสนใจเกินจำเป็น นั่นคือกลุ่มนักเขียน วิศวกร และคนทำงานที่ต้องการ “ความนิ่ง” เพื่อโฟกัส

    Modos Tech จึงเปิดตัวจอ e-paper รุ่นใหม่ในรูปแบบ dev kit ที่มีรีเฟรชเรตสูงถึง 75Hz และ latency ต่ำกว่า 100ms ซึ่งถือว่าเร็วที่สุดในโลกสำหรับจอประเภทนี้ โดยใช้ FPGA แบบเปิด (Xilinx Spartan-6) ร่วมกับหน่วยความจำ DDR3 และไมโครคอนโทรลเลอร์ STM32H750 เพื่อให้การแสดงผลทันสมัยและไม่ถูกจำกัดด้วยฮาร์ดแวร์ปิดแบบเดิม

    จอมีให้เลือกสองขนาด: 6 นิ้ว ราคา $199 และ 13.3 นิ้ว ราคา $599 เชื่อมต่อผ่าน HDMI และ USB-C ใช้งานได้กับ Windows, macOS และ Linux โดยไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์เพิ่มเติม

    แม้จะยังไม่รองรับสี แต่มีโหมดแสดงผลหลายระดับ เช่น binary, 4-level, 16-level grayscale และ hybrid mode ที่ปรับภาพแบบไดนามิก ซึ่งเหมาะกับงานเอกสาร เขียนโค้ด หรืออ่านข้อมูลนานๆ โดยไม่ล้าตา

    นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีอื่นที่น่าสนใจ เช่น TLCD จาก HANNspree ที่ให้ภาพแบบกระดาษแต่รองรับสี 8-bit และรีเฟรชเรต 75Hz เช่นกัน หรือจอ e-paper ขนาด 75 นิ้วจาก Samsung ที่ใช้พลังงาน 0W ในการแสดงภาพนิ่ง และสามารถควบคุมผ่านแอปมือถือได้

    Modos Tech เปิดตัวจอ e-paper dev kit รีเฟรชเรต 75Hz
    ใช้ FPGA แบบเปิดเพื่อประสิทธิภาพสูงและความยืดหยุ่น
    latency ต่ำกว่า 100ms เหมาะกับงาน productivity

    มีสองขนาดให้เลือก: 6 นิ้ว ($199) และ 13.3 นิ้ว ($599)
    เชื่อมต่อผ่าน HDMI และ USB-C รองรับทุกระบบปฏิบัติการหลัก

    รองรับหลายโหมดแสดงผล: binary, 4-level, 16-level grayscale และ hybrid
    ยังไม่รองรับสี แต่มีโครงสร้างที่สามารถพัฒนาได้ในอนาคต

    เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการลดการรบกวนสายตา เช่น นักเขียน วิศวกร และสาย minimal
    ลดอาการล้าตาและความเหนื่อยจากจอ backlit

    HANNspree เปิดตัวจอ TLCD ขนาด 23 นิ้ว รีเฟรชเรต 75Hz รองรับสี 8-bit
    ใช้เทคโนโลยี reflective LCD ที่ให้ภาพแบบกระดาษแต่ยังมี backlight

    Samsung เปิดตัวจอ e-paper ขนาด 75 นิ้ว สำหรับงานเชิงพาณิชย์
    ใช้พลังงาน 0W ในการแสดงภาพนิ่ง และควบคุมผ่านแอปมือถือ

    การสั่งซื้อผ่าน Crowd Supply ยังมีความเสี่ยงตามธรรมชาติของการระดมทุน
    อาจเกิดความล่าช้า ปัญหาการผลิต หรือการออกแบบที่ไม่สมบูรณ์

    จอ e-paper ยังไม่เหมาะกับงานที่ต้องการสีสดหรือภาพเคลื่อนไหวเร็ว
    ไม่เหมาะกับการเล่นเกมหรือดูวิดีโอที่ต้องการความลื่นไหลสูง

    https://www.tomshardware.com/monitors/portable-monitors/e-paper-hits-75-hz-to-better-suit-productivity-tasks-kits-in-two-screen-sizes-go-up-for-pre-order-starting-at-usd199
    📘 เรื่องเล่าจากโลกเทคโนโลยี: เมื่อจอ e-paper วิ่งเร็วขึ้นเพื่อคนทำงานสายโฟกัส ในยุคที่จอ OLED และ IPS แข่งกันเรื่องสีสดและรีเฟรชเรตสูงเพื่อเกมเมอร์และสายบันเทิง มีอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการสิ่งตรงข้าม—จอที่ไม่รบกวนสายตา ไม่เปลืองพลังงาน และไม่ดึงความสนใจเกินจำเป็น นั่นคือกลุ่มนักเขียน วิศวกร และคนทำงานที่ต้องการ “ความนิ่ง” เพื่อโฟกัส Modos Tech จึงเปิดตัวจอ e-paper รุ่นใหม่ในรูปแบบ dev kit ที่มีรีเฟรชเรตสูงถึง 75Hz และ latency ต่ำกว่า 100ms ซึ่งถือว่าเร็วที่สุดในโลกสำหรับจอประเภทนี้ โดยใช้ FPGA แบบเปิด (Xilinx Spartan-6) ร่วมกับหน่วยความจำ DDR3 และไมโครคอนโทรลเลอร์ STM32H750 เพื่อให้การแสดงผลทันสมัยและไม่ถูกจำกัดด้วยฮาร์ดแวร์ปิดแบบเดิม จอมีให้เลือกสองขนาด: 6 นิ้ว ราคา $199 และ 13.3 นิ้ว ราคา $599 เชื่อมต่อผ่าน HDMI และ USB-C ใช้งานได้กับ Windows, macOS และ Linux โดยไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์เพิ่มเติม แม้จะยังไม่รองรับสี แต่มีโหมดแสดงผลหลายระดับ เช่น binary, 4-level, 16-level grayscale และ hybrid mode ที่ปรับภาพแบบไดนามิก ซึ่งเหมาะกับงานเอกสาร เขียนโค้ด หรืออ่านข้อมูลนานๆ โดยไม่ล้าตา นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีอื่นที่น่าสนใจ เช่น TLCD จาก HANNspree ที่ให้ภาพแบบกระดาษแต่รองรับสี 8-bit และรีเฟรชเรต 75Hz เช่นกัน หรือจอ e-paper ขนาด 75 นิ้วจาก Samsung ที่ใช้พลังงาน 0W ในการแสดงภาพนิ่ง และสามารถควบคุมผ่านแอปมือถือได้ ✅ Modos Tech เปิดตัวจอ e-paper dev kit รีเฟรชเรต 75Hz ➡️ ใช้ FPGA แบบเปิดเพื่อประสิทธิภาพสูงและความยืดหยุ่น ➡️ latency ต่ำกว่า 100ms เหมาะกับงาน productivity ✅ มีสองขนาดให้เลือก: 6 นิ้ว ($199) และ 13.3 นิ้ว ($599) ➡️ เชื่อมต่อผ่าน HDMI และ USB-C รองรับทุกระบบปฏิบัติการหลัก ✅ รองรับหลายโหมดแสดงผล: binary, 4-level, 16-level grayscale และ hybrid ➡️ ยังไม่รองรับสี แต่มีโครงสร้างที่สามารถพัฒนาได้ในอนาคต ✅ เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการลดการรบกวนสายตา เช่น นักเขียน วิศวกร และสาย minimal ➡️ ลดอาการล้าตาและความเหนื่อยจากจอ backlit ✅ HANNspree เปิดตัวจอ TLCD ขนาด 23 นิ้ว รีเฟรชเรต 75Hz รองรับสี 8-bit ➡️ ใช้เทคโนโลยี reflective LCD ที่ให้ภาพแบบกระดาษแต่ยังมี backlight ✅ Samsung เปิดตัวจอ e-paper ขนาด 75 นิ้ว สำหรับงานเชิงพาณิชย์ ➡️ ใช้พลังงาน 0W ในการแสดงภาพนิ่ง และควบคุมผ่านแอปมือถือ ‼️ การสั่งซื้อผ่าน Crowd Supply ยังมีความเสี่ยงตามธรรมชาติของการระดมทุน ⛔ อาจเกิดความล่าช้า ปัญหาการผลิต หรือการออกแบบที่ไม่สมบูรณ์ ‼️ จอ e-paper ยังไม่เหมาะกับงานที่ต้องการสีสดหรือภาพเคลื่อนไหวเร็ว ⛔ ไม่เหมาะกับการเล่นเกมหรือดูวิดีโอที่ต้องการความลื่นไหลสูง https://www.tomshardware.com/monitors/portable-monitors/e-paper-hits-75-hz-to-better-suit-productivity-tasks-kits-in-two-screen-sizes-go-up-for-pre-order-starting-at-usd199
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    E-paper hits 75 Hz to better suit productivity tasks — kits in two screen sizes go up for pre-order, starting at $199
    HDMI and USB Type-C connected 6- and 13.3-inch displays use an open-source FPGA controller for zippy performance. Orders to be delivered in Q4 2025.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: NotebookLM จาก Google—AI คู่คิดสำหรับการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและทรงพลัง

    Google ประกาศขยายการเข้าถึง NotebookLM ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI สำหรับการเรียนรู้ ให้กับผู้ใช้ทุกวัยในระบบ Google Workspace for Education โดยไม่จำกัดอายุอีกต่อไป ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2025 เป็นต้นไป NotebookLM จะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติในทุกสถาบันที่ใช้ Google Workspace for Education ทั้งในระดับ Fundamentals, Standard และ Plus

    NotebookLM ถูกออกแบบให้เป็น “AI-powered thinking partner” ที่ช่วยสรุปบทเรียน สร้างแผนการสอน คำถามแบบฝึกหัด และบทสนทนาเพื่อการเรียนรู้ โดยสามารถอัปโหลดไฟล์จาก Google Docs, Slides หรือ Sheets เพื่อให้ AI สร้างเนื้อหาประกอบการเรียนได้ทันที

    ที่สำคัญ Google ยืนยันว่า NotebookLM ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยข้อมูล เช่น FERPA และ COPPA โดยข้อมูลผู้ใช้จะไม่ถูกมนุษย์ตรวจสอบหรือใช้ในการฝึกโมเดล AI และผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมการเข้าถึงได้ผ่าน Admin Console

    Google ขยายการเข้าถึง NotebookLM ให้กับผู้ใช้ทุกวัยใน Google Workspace for Education
    ไม่จำกัดอายุอีกต่อไป ทั้งนักเรียนระดับประถมถึงมหาวิทยาลัย
    เริ่มเปิดใช้งานอัตโนมัติในวันที่ 4 สิงหาคม 2025

    NotebookLM เป็น Core Service ที่เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติในทุกระดับของ Workspace for Education
    รวมถึง Fundamentals, Standard และ Plus
    ผู้ดูแลระบบสามารถเปิด/ปิดการใช้งานได้ตามหน่วยงานย่อย

    NotebookLM ช่วยสร้างสรุปบทเรียน, แผนการสอน, แบบฝึกหัด และบทสนทนาเพื่อการเรียนรู้
    รองรับการอัปโหลดไฟล์จาก Google Docs, Slides, Sheets
    ใช้ AI เพื่อสร้างเนื้อหาแบบเรียลไทม์

    รองรับมากกว่า 35 ภาษา และใช้งานได้ในกว่า 180 ประเทศที่เปิดใช้ Gemini API
    เหมาะกับการเรียนรู้ในบริบทนานาชาติ
    ช่วยให้ครูและนักเรียนทั่วโลกเข้าถึงเครื่องมือเดียวกัน

    ข้อมูลผู้ใช้ไม่ถูกใช้ในการฝึกโมเดล AI และไม่ถูกมนุษย์ตรวจสอบ
    ปฏิบัติตามมาตรฐาน FERPA และ COPPA
    เสริมความมั่นใจด้านความปลอดภัยข้อมูลในสถานศึกษา

    ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมการเข้าถึงผ่าน Admin Console ได้อย่างละเอียด
    ตั้งค่าการเข้าถึงระดับ notebook หรือหน่วยงานย่อย
    มีช่วงเวลา 45 วันให้เลือก opt-out ก่อนเปิดใช้งานอัตโนมัติ

    https://www.neowin.net/news/google-expands-notebooklm-access-to-all-workspace-for-education-users/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: NotebookLM จาก Google—AI คู่คิดสำหรับการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและทรงพลัง Google ประกาศขยายการเข้าถึง NotebookLM ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI สำหรับการเรียนรู้ ให้กับผู้ใช้ทุกวัยในระบบ Google Workspace for Education โดยไม่จำกัดอายุอีกต่อไป ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2025 เป็นต้นไป NotebookLM จะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติในทุกสถาบันที่ใช้ Google Workspace for Education ทั้งในระดับ Fundamentals, Standard และ Plus NotebookLM ถูกออกแบบให้เป็น “AI-powered thinking partner” ที่ช่วยสรุปบทเรียน สร้างแผนการสอน คำถามแบบฝึกหัด และบทสนทนาเพื่อการเรียนรู้ โดยสามารถอัปโหลดไฟล์จาก Google Docs, Slides หรือ Sheets เพื่อให้ AI สร้างเนื้อหาประกอบการเรียนได้ทันที ที่สำคัญ Google ยืนยันว่า NotebookLM ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยข้อมูล เช่น FERPA และ COPPA โดยข้อมูลผู้ใช้จะไม่ถูกมนุษย์ตรวจสอบหรือใช้ในการฝึกโมเดล AI และผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมการเข้าถึงได้ผ่าน Admin Console ✅ Google ขยายการเข้าถึง NotebookLM ให้กับผู้ใช้ทุกวัยใน Google Workspace for Education ➡️ ไม่จำกัดอายุอีกต่อไป ทั้งนักเรียนระดับประถมถึงมหาวิทยาลัย ➡️ เริ่มเปิดใช้งานอัตโนมัติในวันที่ 4 สิงหาคม 2025 ✅ NotebookLM เป็น Core Service ที่เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติในทุกระดับของ Workspace for Education ➡️ รวมถึง Fundamentals, Standard และ Plus ➡️ ผู้ดูแลระบบสามารถเปิด/ปิดการใช้งานได้ตามหน่วยงานย่อย ✅ NotebookLM ช่วยสร้างสรุปบทเรียน, แผนการสอน, แบบฝึกหัด และบทสนทนาเพื่อการเรียนรู้ ➡️ รองรับการอัปโหลดไฟล์จาก Google Docs, Slides, Sheets ➡️ ใช้ AI เพื่อสร้างเนื้อหาแบบเรียลไทม์ ✅ รองรับมากกว่า 35 ภาษา และใช้งานได้ในกว่า 180 ประเทศที่เปิดใช้ Gemini API ➡️ เหมาะกับการเรียนรู้ในบริบทนานาชาติ ➡️ ช่วยให้ครูและนักเรียนทั่วโลกเข้าถึงเครื่องมือเดียวกัน ✅ ข้อมูลผู้ใช้ไม่ถูกใช้ในการฝึกโมเดล AI และไม่ถูกมนุษย์ตรวจสอบ ➡️ ปฏิบัติตามมาตรฐาน FERPA และ COPPA ➡️ เสริมความมั่นใจด้านความปลอดภัยข้อมูลในสถานศึกษา ✅ ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมการเข้าถึงผ่าน Admin Console ได้อย่างละเอียด ➡️ ตั้งค่าการเข้าถึงระดับ notebook หรือหน่วยงานย่อย ➡️ มีช่วงเวลา 45 วันให้เลือก opt-out ก่อนเปิดใช้งานอัตโนมัติ https://www.neowin.net/news/google-expands-notebooklm-access-to-all-workspace-for-education-users/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google expands NotebookLM access to all Workspace for Education users
    Users of Google Workspace for Education, regardless of age, are now getting expanded access to NotebookLM as part of a new update.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: ชิป AI จาก MIT ที่ประมวลผลเร็วระดับแสง—เปิดทางสู่ยุค 6G ที่แท้จริง

    ในยุคที่ข้อมูลพุ่งทะยานตามกฎของ Edholm และความต้องการแบนด์วิดธ์เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่ Moore’s Law เริ่มชะลอตัว MIT จึงพัฒนา MAFT-ONN (Multiplicative Analog Frequency Transform Optical Neural Network) ซึ่งเป็นชิป AI ที่ทำงานด้วยแสงและประมวลผลสัญญาณ RF แบบแอนะล็อกโดยตรง

    MAFT-ONN ไม่ต้องแปลงสัญญาณเป็นดิจิทัลก่อนประมวลผล แต่ใช้การแปลงความถี่และคำนวณทั้ง linear และ nonlinear บน optical processor เดียว ทำให้สามารถใส่ neuron ได้ถึง 10,000 ตัวในอุปกรณ์เดียว และประมวลผลได้ใน “ช็อตเดียว” ด้วยความเร็วระดับนาโนวินาที

    ผลลัพธ์คือความแม่นยำสูงถึง 95% ในการจำแนก modulation และสามารถพุ่งถึง 99% หากวัดเพิ่มอีกเล็กน้อย โดยใช้พลังงานต่ำกว่าเดิมมาก และขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด เหมาะกับ edge device เช่น cognitive radio, รถยนต์ไร้คนขับ หรือแม้แต่เครื่องกระตุ้นหัวใจอัจฉริยะ

    MIT พัฒนาชิป MAFT-ONN ที่ใช้แสงในการประมวลผลสัญญาณ RF แบบแอนะล็อกโดยตรง
    ไม่ต้องแปลงเป็นดิจิทัลก่อน ทำให้เร็วและประหยัดพลังงาน
    ใช้ optical processor เดียวในการคำนวณทั้ง linear และ nonlinear

    สามารถใส่ neuron ได้ถึง 10,000 ตัวในอุปกรณ์เดียว และประมวลผลใน “ช็อตเดียว”
    ทำให้การ inference เร็วระดับนาโนวินาที
    ความแม่นยำสูงถึง 95% และพุ่งถึง 99% ด้วยการวัดเพิ่ม

    ชิปนี้เร็วกว่า digital AI chip ถึง 100 เท่า และใช้พลังงานน้อยกว่ามาก
    ขนาดเล็ก, น้ำหนักเบา, ราคาถูก
    เหมาะกับ edge device ที่ต้องการประมวลผลแบบ real-time

    สามารถประมวลผลข้อมูลจาก MNIST dataset ได้เกือบ 4 ล้านครั้งแบบ fully analog
    แสดงถึงความสามารถในการเรียนรู้และจำแนกภาพ
    เป็นก้าวสำคัญของ optical neural network ที่ใช้งานได้จริง

    เหมาะกับการใช้งานในยุค 6G เช่น cognitive radio ที่ปรับ modulation แบบ real-time
    ช่วยเพิ่ม data rate และลดการรบกวนสัญญาณ
    เปิดทางสู่การสื่อสารไร้สายที่เร็วและแม่นยำกว่าเดิม

    สามารถนำไปใช้ในอุปกรณ์อื่น เช่น รถยนต์ไร้คนขับ หรือเครื่องกระตุ้นหัวใจอัจฉริยะ
    ช่วยให้รถตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมได้ทันที
    ตรวจจับสัญญาณชีพแบบ real-time เพื่อดูแลสุขภาพ

    https://www.neowin.net/news/mit-sees-astonishing-light-speed-6g-processing-with-its-new-100-times-faster-chip/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: ชิป AI จาก MIT ที่ประมวลผลเร็วระดับแสง—เปิดทางสู่ยุค 6G ที่แท้จริง ในยุคที่ข้อมูลพุ่งทะยานตามกฎของ Edholm และความต้องการแบนด์วิดธ์เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่ Moore’s Law เริ่มชะลอตัว MIT จึงพัฒนา MAFT-ONN (Multiplicative Analog Frequency Transform Optical Neural Network) ซึ่งเป็นชิป AI ที่ทำงานด้วยแสงและประมวลผลสัญญาณ RF แบบแอนะล็อกโดยตรง MAFT-ONN ไม่ต้องแปลงสัญญาณเป็นดิจิทัลก่อนประมวลผล แต่ใช้การแปลงความถี่และคำนวณทั้ง linear และ nonlinear บน optical processor เดียว ทำให้สามารถใส่ neuron ได้ถึง 10,000 ตัวในอุปกรณ์เดียว และประมวลผลได้ใน “ช็อตเดียว” ด้วยความเร็วระดับนาโนวินาที ผลลัพธ์คือความแม่นยำสูงถึง 95% ในการจำแนก modulation และสามารถพุ่งถึง 99% หากวัดเพิ่มอีกเล็กน้อย โดยใช้พลังงานต่ำกว่าเดิมมาก และขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด เหมาะกับ edge device เช่น cognitive radio, รถยนต์ไร้คนขับ หรือแม้แต่เครื่องกระตุ้นหัวใจอัจฉริยะ ✅ MIT พัฒนาชิป MAFT-ONN ที่ใช้แสงในการประมวลผลสัญญาณ RF แบบแอนะล็อกโดยตรง ➡️ ไม่ต้องแปลงเป็นดิจิทัลก่อน ทำให้เร็วและประหยัดพลังงาน ➡️ ใช้ optical processor เดียวในการคำนวณทั้ง linear และ nonlinear ✅ สามารถใส่ neuron ได้ถึง 10,000 ตัวในอุปกรณ์เดียว และประมวลผลใน “ช็อตเดียว” ➡️ ทำให้การ inference เร็วระดับนาโนวินาที ➡️ ความแม่นยำสูงถึง 95% และพุ่งถึง 99% ด้วยการวัดเพิ่ม ✅ ชิปนี้เร็วกว่า digital AI chip ถึง 100 เท่า และใช้พลังงานน้อยกว่ามาก ➡️ ขนาดเล็ก, น้ำหนักเบา, ราคาถูก ➡️ เหมาะกับ edge device ที่ต้องการประมวลผลแบบ real-time ✅ สามารถประมวลผลข้อมูลจาก MNIST dataset ได้เกือบ 4 ล้านครั้งแบบ fully analog ➡️ แสดงถึงความสามารถในการเรียนรู้และจำแนกภาพ ➡️ เป็นก้าวสำคัญของ optical neural network ที่ใช้งานได้จริง ✅ เหมาะกับการใช้งานในยุค 6G เช่น cognitive radio ที่ปรับ modulation แบบ real-time ➡️ ช่วยเพิ่ม data rate และลดการรบกวนสัญญาณ ➡️ เปิดทางสู่การสื่อสารไร้สายที่เร็วและแม่นยำกว่าเดิม ✅ สามารถนำไปใช้ในอุปกรณ์อื่น เช่น รถยนต์ไร้คนขับ หรือเครื่องกระตุ้นหัวใจอัจฉริยะ ➡️ ช่วยให้รถตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมได้ทันที ➡️ ตรวจจับสัญญาณชีพแบบ real-time เพื่อดูแลสุขภาพ https://www.neowin.net/news/mit-sees-astonishing-light-speed-6g-processing-with-its-new-100-times-faster-chip/
    WWW.NEOWIN.NET
    MIT sees astonishing light-speed 6G processing with its new "100 times faster" chip
    MIT's pioneering optical AI chip uses photonics and the power of light-speed, promising way better 6G speeds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ AI กลายเป็นผู้สัมภาษณ์งาน แต่ผู้สมัครกลับบอกว่า “ขอไม่ทำงานดีกว่า”

    ในปี 2025 บริษัทต่าง ๆ หันมาใช้ AI เพื่อจัดการกระบวนการสรรหาพนักงาน ตั้งแต่คัดกรองใบสมัคร ไปจนถึงสัมภาษณ์เบื้องต้นผ่าน Zoom หรือวิดีโอคอล โดยไม่มีมนุษย์อยู่ปลายสาย ผู้สมัครหลายคนกลับรู้สึก “หมดศรัทธา” และ “ถูกลดคุณค่า” จนถึงขั้นยอมไม่สมัครงานเลย

    Debra Borchardt นักเขียนและบรรณาธิการที่หางานมานานกว่า 3 เดือน เล่าว่า “การหางานมันดูดพลังชีวิตอยู่แล้ว แล้วต้องมานั่งคุยกับหุ่นยนต์อีก มันเกินจะรับไหว” เธอออกจากการสัมภาษณ์กลางคันทันทีหลังรู้ว่าอีกฝั่งไม่ใช่มนุษย์

    แม้ HR จะมองว่า AI เป็นเครื่องมือช่วยลดภาระจากการต้องคัดเลือกผู้สมัครหลายพันคน แต่ผู้สมัครกลับมองว่าเป็น “สัญญาณเตือน” ว่าบริษัทนั้นไม่ให้ความสำคัญกับมนุษย์ และอาจมีวัฒนธรรมองค์กรที่เย็นชา

    บริษัทต่าง ๆ ใช้ AI เป็นผู้สัมภาษณ์งานเบื้องต้นแทนมนุษย์
    ผู้สมัครเข้าร่วม Zoom หรือวิดีโอคอลแล้วพบว่าอีกฝั่งคือ AI
    AI ทำหน้าที่ถามคำถามและบันทึกคำตอบเพื่อประเมินเบื้องต้น

    ผู้สมัครจำนวนมากรู้สึกถูกลดคุณค่าและเลือกไม่เข้าร่วมการสัมภาษณ์กับ AI
    บางคนถึงขั้นยอมตกงานแทนที่จะคุยกับหุ่นยนต์
    มองว่าเป็น “ความอัปยศเพิ่มเติม” จากการหางานที่ยากอยู่แล้ว

    HR ใช้ AI เพื่อจัดการกับจำนวนผู้สมัครมหาศาลในแต่ละตำแหน่ง
    AI ช่วยคัดกรองใบสมัคร, นัดสัมภาษณ์, และส่งอีเมลอัตโนมัติ
    ช่วยลดภาระของทีม HR ที่มีขนาดเล็กลง

    ผู้สมัครมองว่า AI เป็นสัญญาณของวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ให้ความสำคัญกับมนุษย์
    การไม่มีมนุษย์ในขั้นตอนแรกทำให้รู้สึกว่า “บริษัทไม่แคร์คน”
    ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและความตั้งใจในการสมัครงาน

    บางบริษัทใช้ AI เพื่อวิเคราะห์เสียง, สีหน้า, และคำตอบของผู้สมัคร
    เช่น HireVue และ Modern Hire ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์แบบเรียลไทม์
    อ้างว่าเป็นการประเมินตามทักษะ ไม่ใช่ความสัมพันธ์ส่วนตัว

    ผลสำรวจพบว่า 67% ของผู้สมัครรู้สึกไม่สบายใจเมื่อบริษัทใช้ AI ในการคัดกรองใบสมัคร
    90% ต้องการให้บริษัทเปิดเผยการใช้ AI อย่างโปร่งใส
    ความโปร่งใสช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและความร่วมมือ

    AI เหมาะกับงานที่มีผู้สมัครจำนวนมาก เช่น retail หรือ customer service
    ช่วยคัดกรองเบื้องต้นและจัดการเวลาได้ดี
    แต่ควรมีมนุษย์เข้ามาในขั้นตอนสำคัญ

    การสัมภาษณ์งานคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับพนักงาน
    การใช้ AI อาจทำให้ความสัมพันธ์นั้นเริ่มต้นด้วยความเย็นชา
    ส่งผลต่อความรู้สึกของผู้สมัครและการตัดสินใจรับงาน

    https://fortune.com/2025/08/03/ai-interviewers-job-seekers-unemployment-hiring-hr-teams/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ AI กลายเป็นผู้สัมภาษณ์งาน แต่ผู้สมัครกลับบอกว่า “ขอไม่ทำงานดีกว่า” ในปี 2025 บริษัทต่าง ๆ หันมาใช้ AI เพื่อจัดการกระบวนการสรรหาพนักงาน ตั้งแต่คัดกรองใบสมัคร ไปจนถึงสัมภาษณ์เบื้องต้นผ่าน Zoom หรือวิดีโอคอล โดยไม่มีมนุษย์อยู่ปลายสาย ผู้สมัครหลายคนกลับรู้สึก “หมดศรัทธา” และ “ถูกลดคุณค่า” จนถึงขั้นยอมไม่สมัครงานเลย Debra Borchardt นักเขียนและบรรณาธิการที่หางานมานานกว่า 3 เดือน เล่าว่า “การหางานมันดูดพลังชีวิตอยู่แล้ว แล้วต้องมานั่งคุยกับหุ่นยนต์อีก มันเกินจะรับไหว” เธอออกจากการสัมภาษณ์กลางคันทันทีหลังรู้ว่าอีกฝั่งไม่ใช่มนุษย์ แม้ HR จะมองว่า AI เป็นเครื่องมือช่วยลดภาระจากการต้องคัดเลือกผู้สมัครหลายพันคน แต่ผู้สมัครกลับมองว่าเป็น “สัญญาณเตือน” ว่าบริษัทนั้นไม่ให้ความสำคัญกับมนุษย์ และอาจมีวัฒนธรรมองค์กรที่เย็นชา ✅ บริษัทต่าง ๆ ใช้ AI เป็นผู้สัมภาษณ์งานเบื้องต้นแทนมนุษย์ ➡️ ผู้สมัครเข้าร่วม Zoom หรือวิดีโอคอลแล้วพบว่าอีกฝั่งคือ AI ➡️ AI ทำหน้าที่ถามคำถามและบันทึกคำตอบเพื่อประเมินเบื้องต้น ✅ ผู้สมัครจำนวนมากรู้สึกถูกลดคุณค่าและเลือกไม่เข้าร่วมการสัมภาษณ์กับ AI ➡️ บางคนถึงขั้นยอมตกงานแทนที่จะคุยกับหุ่นยนต์ ➡️ มองว่าเป็น “ความอัปยศเพิ่มเติม” จากการหางานที่ยากอยู่แล้ว ✅ HR ใช้ AI เพื่อจัดการกับจำนวนผู้สมัครมหาศาลในแต่ละตำแหน่ง ➡️ AI ช่วยคัดกรองใบสมัคร, นัดสัมภาษณ์, และส่งอีเมลอัตโนมัติ ➡️ ช่วยลดภาระของทีม HR ที่มีขนาดเล็กลง ✅ ผู้สมัครมองว่า AI เป็นสัญญาณของวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ให้ความสำคัญกับมนุษย์ ➡️ การไม่มีมนุษย์ในขั้นตอนแรกทำให้รู้สึกว่า “บริษัทไม่แคร์คน” ➡️ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและความตั้งใจในการสมัครงาน ✅ บางบริษัทใช้ AI เพื่อวิเคราะห์เสียง, สีหน้า, และคำตอบของผู้สมัคร ➡️ เช่น HireVue และ Modern Hire ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ ➡️ อ้างว่าเป็นการประเมินตามทักษะ ไม่ใช่ความสัมพันธ์ส่วนตัว ✅ ผลสำรวจพบว่า 67% ของผู้สมัครรู้สึกไม่สบายใจเมื่อบริษัทใช้ AI ในการคัดกรองใบสมัคร ➡️ 90% ต้องการให้บริษัทเปิดเผยการใช้ AI อย่างโปร่งใส ➡️ ความโปร่งใสช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและความร่วมมือ ✅ AI เหมาะกับงานที่มีผู้สมัครจำนวนมาก เช่น retail หรือ customer service ➡️ ช่วยคัดกรองเบื้องต้นและจัดการเวลาได้ดี ➡️ แต่ควรมีมนุษย์เข้ามาในขั้นตอนสำคัญ ✅ การสัมภาษณ์งานคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับพนักงาน ➡️ การใช้ AI อาจทำให้ความสัมพันธ์นั้นเริ่มต้นด้วยความเย็นชา ➡️ ส่งผลต่อความรู้สึกของผู้สมัครและการตัดสินใจรับงาน https://fortune.com/2025/08/03/ai-interviewers-job-seekers-unemployment-hiring-hr-teams/
    FORTUNE.COM
    AI is doing job interviews now—but candidates say they'd rather risk staying unemployed than talk to another robot
    Job-seekers tell Fortune they’re outright refusing to do AI interviews, calling them dehumanizing and a red flag for bad company culture.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้องเพลงรอรถไฟ ETS ไปยะโฮร์ ระบบไฟฟ้า-อาณัติสัญญาณยังไม่เสร็จ

    ความหวังที่อยากจะนั่งรถไฟ ETS แบบสบายๆ จากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ไปเมืองยะโฮร์บาห์รู เพื่อต่อไปยังประเทศสิงคโปร์ อาจจะเป็นไปได้ยากในปีนี้ เมื่อหนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ (The Star) ไปสำรวจโครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru Electrified Double-Tracking Rail Project หรือ Gemas - JB EDTP) ระยะทาง 192 กิโลเมตร พบว่าการก่อสร้างระบบไฟฟ้าและระบบอาณัติสัญญาณยังไม่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะช่วงระหว่างสถานีกลวง (Kluang) ถึงสถานีเจบี เซ็นทรัล (JB Sentral) ระยะทางราว 100 กิโลเมตร

    ก่อนหน้านี้ นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย เคยกล่าวไว้เมื่อต้นปี 2568 ว่าบริการรถไฟ ETS จากสถานีเกมัส (Gemas) รัฐเนกรีเซมบิลัน ไปยังเมืองยะโฮร์บาห์รู จะพร้อมให้บริการในเดือน ส.ค.2568 แต่หลังจากเปิดให้บริการช่วงสั้นๆ ไปยังสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ รวมทั้งระบบจำหน่ายตั๋วโดยสารล่วงหน้าของการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) พบว่ายังไม่มีการจำหน่ายตั๋วรถไฟ ETS ขาล่องไปยังเมืองทางตอนใต้ใดๆ อีกทั้ง KTMB ยังประกาศระงับการจำหน่ายตั๋วรถไฟหลังเดือน ธ.ค. 2568 จากปกติสามารถจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าได้ถึง 6 เดือน

    นายยูสลิซาร์ ดาวูด (Yuslizar Daud) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรถไฟของมาเลเซีย กล่าวว่า กระบวนการในการติดตั้งและทดสอบระบบจ่ายไฟฟ้าเหนือหัวอย่างสมบูรณ์อาจใช้เวลานาน ทั้งการร้อยสายอุปกรณ์สายส่งไฟฟ้าเหนือหัว (OHLE) การดึงสาย การปรับราง การจ่ายไฟ การทดสอบก่อนการใช้งาน และการทดสอบเสมือนจริง (Test & Commissioning) จะใช้เวลานานพอสมควร จากนั้นตรวจสอบขั้นสุดท้ายโดยสํานักงานคณะกรรมการขนส่งทางบกแห่งชาติมาเลเซีย (APAD) ก่อนที่จะได้รับอนุญาต แต่จากภาพที่ผู้สื่อข่าว The Star นำมาแสดงไม่เห็นว่าจะมีความพร้อมเปิดให้บริการในเดือน ก.ย.2568

    เข้าใจว่า KTM Berhad กำลังพยายามเร่งเปิดให้บริการจากสถานีเซกามัต ไปยังสถานีกลวง ระยะทาง 90 กิโลเมตรภายในไตรมาสนี้ แม้ดูเหมือนว่า KTM Berhad จะยังไม่ยื่นคำขออนุญาตไปยัง APAD ก็ตาม ขณะเดียวกันยังต้องทดสอบขบวนรถไฟ ETS ชุดใหม่ (ETS 3) ที่นำเข้าจากประเทศจีน ต้องผ่านการทดสอบเดินรถโดยปราศจากข้อบกพร่อง (FFR) อย่างน้อย 8,000 กิโลเมตร ก่อนนำไปให้บริการเชิงพาณิชย์ คาดว่าหาก APAD อนุมัติให้เปิดการเดินรถถึงสถานีกลวง อาจต้องใช้รถไฟ ETS ชุดเก่าไปพลางก่อน ถึงกระนั้นยังต้องรอคำตอบอย่างเป็นทางการจาก KTM Berhad และกระทรวงคมนาคมมาเลเซียอีกครั้ง

    #Newskit
    ร้องเพลงรอรถไฟ ETS ไปยะโฮร์ ระบบไฟฟ้า-อาณัติสัญญาณยังไม่เสร็จ ความหวังที่อยากจะนั่งรถไฟ ETS แบบสบายๆ จากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ไปเมืองยะโฮร์บาห์รู เพื่อต่อไปยังประเทศสิงคโปร์ อาจจะเป็นไปได้ยากในปีนี้ เมื่อหนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ (The Star) ไปสำรวจโครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru Electrified Double-Tracking Rail Project หรือ Gemas - JB EDTP) ระยะทาง 192 กิโลเมตร พบว่าการก่อสร้างระบบไฟฟ้าและระบบอาณัติสัญญาณยังไม่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะช่วงระหว่างสถานีกลวง (Kluang) ถึงสถานีเจบี เซ็นทรัล (JB Sentral) ระยะทางราว 100 กิโลเมตร ก่อนหน้านี้ นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย เคยกล่าวไว้เมื่อต้นปี 2568 ว่าบริการรถไฟ ETS จากสถานีเกมัส (Gemas) รัฐเนกรีเซมบิลัน ไปยังเมืองยะโฮร์บาห์รู จะพร้อมให้บริการในเดือน ส.ค.2568 แต่หลังจากเปิดให้บริการช่วงสั้นๆ ไปยังสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ รวมทั้งระบบจำหน่ายตั๋วโดยสารล่วงหน้าของการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) พบว่ายังไม่มีการจำหน่ายตั๋วรถไฟ ETS ขาล่องไปยังเมืองทางตอนใต้ใดๆ อีกทั้ง KTMB ยังประกาศระงับการจำหน่ายตั๋วรถไฟหลังเดือน ธ.ค. 2568 จากปกติสามารถจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าได้ถึง 6 เดือน นายยูสลิซาร์ ดาวูด (Yuslizar Daud) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรถไฟของมาเลเซีย กล่าวว่า กระบวนการในการติดตั้งและทดสอบระบบจ่ายไฟฟ้าเหนือหัวอย่างสมบูรณ์อาจใช้เวลานาน ทั้งการร้อยสายอุปกรณ์สายส่งไฟฟ้าเหนือหัว (OHLE) การดึงสาย การปรับราง การจ่ายไฟ การทดสอบก่อนการใช้งาน และการทดสอบเสมือนจริง (Test & Commissioning) จะใช้เวลานานพอสมควร จากนั้นตรวจสอบขั้นสุดท้ายโดยสํานักงานคณะกรรมการขนส่งทางบกแห่งชาติมาเลเซีย (APAD) ก่อนที่จะได้รับอนุญาต แต่จากภาพที่ผู้สื่อข่าว The Star นำมาแสดงไม่เห็นว่าจะมีความพร้อมเปิดให้บริการในเดือน ก.ย.2568 เข้าใจว่า KTM Berhad กำลังพยายามเร่งเปิดให้บริการจากสถานีเซกามัต ไปยังสถานีกลวง ระยะทาง 90 กิโลเมตรภายในไตรมาสนี้ แม้ดูเหมือนว่า KTM Berhad จะยังไม่ยื่นคำขออนุญาตไปยัง APAD ก็ตาม ขณะเดียวกันยังต้องทดสอบขบวนรถไฟ ETS ชุดใหม่ (ETS 3) ที่นำเข้าจากประเทศจีน ต้องผ่านการทดสอบเดินรถโดยปราศจากข้อบกพร่อง (FFR) อย่างน้อย 8,000 กิโลเมตร ก่อนนำไปให้บริการเชิงพาณิชย์ คาดว่าหาก APAD อนุมัติให้เปิดการเดินรถถึงสถานีกลวง อาจต้องใช้รถไฟ ETS ชุดเก่าไปพลางก่อน ถึงกระนั้นยังต้องรอคำตอบอย่างเป็นทางการจาก KTM Berhad และกระทรวงคมนาคมมาเลเซียอีกครั้ง #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • พลังงานหัวใจ คนไทยร่วมแรง ส่งความห่วงใยไปถึงชายแดน [4/8/68]
    United by heart — Thais send love and care to our troops at the border.

    #TruthFromThailand
    #CambodiaNoCeasefire
    #Hunsenfiredfirst
    #พลังคนไทย
    #รวมใจปกป้องแผ่นดิน
    #เสียงจากชายแดน
    #ส่งใจให้ทหาร
    #Thaitimes #News1 #Shorts
    #CambodianDeception
    #กัมพูชายิงก่อน
    พลังงานหัวใจ ❤️ คนไทยร่วมแรง ส่งความห่วงใยไปถึงชายแดน [4/8/68] United by heart — Thais send love and care to our troops at the border. #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #Hunsenfiredfirst #พลังคนไทย #รวมใจปกป้องแผ่นดิน #เสียงจากชายแดน #ส่งใจให้ทหาร #Thaitimes #News1 #Shorts #CambodianDeception #กัมพูชายิงก่อน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: โน้ตบุ๊กเกมมิ่งที่จับคู่ CPU-GPU แบบย้อนยุค—ประหยัดหรือพลาด?

    แบรนด์จีนชื่อ Sakuromoto เปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งสองรุ่นที่สร้างความงุนงงให้กับวงการ:

    รุ่นแรกชื่อ “Inter Book” ใช้ชิปกราฟิก GeForce GTX 1060 ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2016 จับคู่กับซีพียู Intel N95 ระดับเริ่มต้นจากตระกูล Alder Lake-N ที่มีเพียง 4 คอร์

    รุ่นที่สองชื่อ “Rescue Series” ใช้ซีพียูระดับสูง Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ แต่กลับจับคู่กับ GPU MX550 ซึ่งเป็นชิปกราฟิกระดับล่างที่อ่อนแอกว่า GTX 1060 เสียอีก

    ทั้งสองรุ่นมีการตลาดที่ “เกินจริง” เช่น บอกว่า N95 เป็น “Core i9-class” และหน้าจอ 1080p เป็น “4K-class” ซึ่งสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภค

    แม้จะดูแปลก แต่ก็มีเหตุผลเบื้องหลัง—อาจเป็นการนำชิ้นส่วนเก่ามาใช้ใหม่เพื่อลดต้นทุนหรือช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่ก็ต้องแลกกับประสิทธิภาพที่ไม่สมดุลและประสบการณ์เล่นเกมที่ไม่น่าประทับใจ

    Sakuromoto เปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งสองรุ่นที่ใช้ชิ้นส่วนเก่า
    Inter Book ใช้ GTX 1060 + Intel N95
    Rescue Series ใช้ Core i9-12900H + MX550

    GTX 1060 เป็น GPU จากปี 2016 ที่ยังพอเล่นเกมระดับกลางได้
    มี VRAM 6 GB GDDR5
    เล่นเกม 1080p ได้ในระดับกลาง

    Intel N95 เป็นซีพียูระดับเริ่มต้นที่มีเพียง 4 คอร์
    ใช้พลังงานต่ำเพียง 15W
    ไม่เหมาะกับงานหนักหรือเกมที่ใช้ CPU สูง

    MX550 เป็น GPU ระดับล่างที่อ่อนแอกว่า GTX 1060
    มี 1024 shaders และ VRAM 4 GB
    เหมาะกับงานเบา เช่น ตัดต่อภาพหรือวิดีโอเบื้องต้น

    โน้ตบุ๊กทั้งสองรุ่นมีการตลาดที่เกินจริง
    เรียก N95 ว่า “Core i9-class”
    หน้าจอ 1080p ถูกเรียกว่า “4K-class”

    อาจเป็นการนำชิ้นส่วนเก่ามาใช้ใหม่เพื่อลดต้นทุน
    ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์
    อาจเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้เน้นเกมหนัก

    https://wccftech.com/chinese-manufacturer-uses-gtx-1060-by-releasing-an-entry-level-laptop-with-intel-n95/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: โน้ตบุ๊กเกมมิ่งที่จับคู่ CPU-GPU แบบย้อนยุค—ประหยัดหรือพลาด? แบรนด์จีนชื่อ Sakuromoto เปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งสองรุ่นที่สร้างความงุนงงให้กับวงการ: ▶️ รุ่นแรกชื่อ “Inter Book” ใช้ชิปกราฟิก GeForce GTX 1060 ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2016 จับคู่กับซีพียู Intel N95 ระดับเริ่มต้นจากตระกูล Alder Lake-N ที่มีเพียง 4 คอร์ ▶️ รุ่นที่สองชื่อ “Rescue Series” ใช้ซีพียูระดับสูง Core i9-12900H แบบ 14 คอร์ แต่กลับจับคู่กับ GPU MX550 ซึ่งเป็นชิปกราฟิกระดับล่างที่อ่อนแอกว่า GTX 1060 เสียอีก ทั้งสองรุ่นมีการตลาดที่ “เกินจริง” เช่น บอกว่า N95 เป็น “Core i9-class” และหน้าจอ 1080p เป็น “4K-class” ซึ่งสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภค แม้จะดูแปลก แต่ก็มีเหตุผลเบื้องหลัง—อาจเป็นการนำชิ้นส่วนเก่ามาใช้ใหม่เพื่อลดต้นทุนหรือช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่ก็ต้องแลกกับประสิทธิภาพที่ไม่สมดุลและประสบการณ์เล่นเกมที่ไม่น่าประทับใจ ✅ Sakuromoto เปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งสองรุ่นที่ใช้ชิ้นส่วนเก่า ➡️ Inter Book ใช้ GTX 1060 + Intel N95 ➡️ Rescue Series ใช้ Core i9-12900H + MX550 ✅ GTX 1060 เป็น GPU จากปี 2016 ที่ยังพอเล่นเกมระดับกลางได้ ➡️ มี VRAM 6 GB GDDR5 ➡️ เล่นเกม 1080p ได้ในระดับกลาง ✅ Intel N95 เป็นซีพียูระดับเริ่มต้นที่มีเพียง 4 คอร์ ➡️ ใช้พลังงานต่ำเพียง 15W ➡️ ไม่เหมาะกับงานหนักหรือเกมที่ใช้ CPU สูง ✅ MX550 เป็น GPU ระดับล่างที่อ่อนแอกว่า GTX 1060 ➡️ มี 1024 shaders และ VRAM 4 GB ➡️ เหมาะกับงานเบา เช่น ตัดต่อภาพหรือวิดีโอเบื้องต้น ✅ โน้ตบุ๊กทั้งสองรุ่นมีการตลาดที่เกินจริง ➡️ เรียก N95 ว่า “Core i9-class” ➡️ หน้าจอ 1080p ถูกเรียกว่า “4K-class” ✅ อาจเป็นการนำชิ้นส่วนเก่ามาใช้ใหม่เพื่อลดต้นทุน ➡️ ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ➡️ อาจเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้เน้นเกมหนัก https://wccftech.com/chinese-manufacturer-uses-gtx-1060-by-releasing-an-entry-level-laptop-with-intel-n95/
    WCCFTECH.COM
    Chinese Manufacturer Pairs GTX 1060 With Intel N95 Processor For Its Gaming Laptop; Uses Even A Weirder Combo Of Core i9 12900H+MX550 In Another Model
    Sakuramoto has been producing gaming laptops with weird CPU-GPU combos as seen recently. One of its offerings included GTX 1060 and N95.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อแคลเซียมกลายเป็นกุญแจไขจักรวาล—แรงที่ห้าอาจซ่อนอยู่ในลอนของ King Plot

    ทีมนักฟิสิกส์จาก ETH Zurich ร่วมกับสถาบันในเยอรมนีและออสเตรเลีย ได้ทำการวัดความเปลี่ยนแปลงพลังงานในอะตอมของแคลเซียม (Ca) ด้วยความแม่นยำระดับ sub-Hertz โดยใช้เทคนิค “isotope shift spectroscopy” ซึ่งเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงพลังงานระหว่างไอโซโทปต่าง ๆ ของแคลเซียมที่มีจำนวนโปรตอนเท่ากันแต่ต่างกันที่จำนวนของนิวตรอน

    พวกเขาใช้ “King plot” ซึ่งเป็นกราฟที่ควรจะเรียงตัวเป็นเส้นตรงหากทุกอย่างเป็นไปตามทฤษฎีฟิสิกส์มาตรฐาน (Standard Model) แต่ผลลัพธ์กลับแสดงความโค้งอย่างชัดเจน—nonlinearity ที่มีนัยสำคัญถึงระดับ 10³ σ ซึ่งเกินกว่าความผิดพลาดจากการสุ่ม

    แม้จะยังไม่สามารถยืนยันการมีอยู่ของแรงใหม่ได้ แต่ผลการทดลองนี้ได้ช่วยจำกัดขอบเขตของ “Yukawa interaction” ซึ่งเป็นแรงสมมุติที่อาจเกิดจากโบซอนชนิดใหม่ที่มีมวลระหว่าง 10 ถึง 10⁷ eV/c² และอาจเป็นตัวกลางของแรงที่ห้า

    นักวิจัยวัดการเปลี่ยนแปลงพลังงานในไอโซโทปของแคลเซียมด้วยความแม่นยำระดับ sub-Hertz
    ใช้เทคนิค ion trapping และ quantum logic spectroscopy
    วัดการเปลี่ยนแปลงในสอง transition: ³P₀ → ³P₁ และ ²S₁/₂ → ²D₅/₂

    ใช้ King plot เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ isotope shifts
    หากทุกอย่างเป็นไปตาม Standard Model จุดจะเรียงเป็นเส้นตรง
    แต่พบความโค้ง (nonlinearity) ที่มีนัยสำคัญสูง

    ผลการทดลองช่วยจำกัดขอบเขตของ Yukawa interaction
    เป็นแรงสมมุติที่อาจเกิดจากโบซอนชนิดใหม่
    มวลของโบซอนอยู่ในช่วง 10 ถึง 10⁷ eV/c²

    การวัดร่วมกันของไอโซโทปใน ion trap ช่วยลด noise และเพิ่มความแม่นยำ
    วัดความต่างของความถี่ได้ถึงระดับ 100 millihertz
    ใช้การวัดแบบ differential เพื่อขจัดความผิดพลาดร่วม

    ผลการทดลองอาจอธิบาย nuclear polarization ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ยังไม่เข้าใจดีนัก
    เป็นการบิดเบือนของนิวเคลียสจากอิเล็กตรอนรอบข้าง
    อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ King plot โค้ง

    King plot เป็นเครื่องมือสำคัญในการค้นหาฟิสิกส์นอกเหนือจาก Standard Model
    ใช้เปรียบเทียบ isotope shifts จากหลาย transition
    ช่วยแยกสัญญาณที่อาจเกิดจากแรงใหม่

    Yukawa interaction เคยถูกเสนอในทฤษฎีแรงนิวเคลียร์ตั้งแต่ยุคแรกของฟิสิกส์ควอนตัม
    เป็นแรงที่มีระยะสั้นและเกิดจากโบซอน
    อาจเป็นกุญแจสู่การเข้าใจ dark matter และแรงที่ห้า

    การทดลองในแคลเซียมมีข้อได้เปรียบเพราะมีไอโซโทปเสถียรหลายชนิด
    Ca⁴⁰, Ca⁴², Ca⁴⁴, Ca⁴⁶, Ca⁴⁸
    ทำให้สามารถวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงได้หลากหลาย

    https://www.neowin.net/news/fifth-force-of-nature-could-explain-universes-most-mysteriously-abundant-thing/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อแคลเซียมกลายเป็นกุญแจไขจักรวาล—แรงที่ห้าอาจซ่อนอยู่ในลอนของ King Plot ทีมนักฟิสิกส์จาก ETH Zurich ร่วมกับสถาบันในเยอรมนีและออสเตรเลีย ได้ทำการวัดความเปลี่ยนแปลงพลังงานในอะตอมของแคลเซียม (Ca) ด้วยความแม่นยำระดับ sub-Hertz โดยใช้เทคนิค “isotope shift spectroscopy” ซึ่งเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงพลังงานระหว่างไอโซโทปต่าง ๆ ของแคลเซียมที่มีจำนวนโปรตอนเท่ากันแต่ต่างกันที่จำนวนของนิวตรอน พวกเขาใช้ “King plot” ซึ่งเป็นกราฟที่ควรจะเรียงตัวเป็นเส้นตรงหากทุกอย่างเป็นไปตามทฤษฎีฟิสิกส์มาตรฐาน (Standard Model) แต่ผลลัพธ์กลับแสดงความโค้งอย่างชัดเจน—nonlinearity ที่มีนัยสำคัญถึงระดับ 10³ σ ซึ่งเกินกว่าความผิดพลาดจากการสุ่ม แม้จะยังไม่สามารถยืนยันการมีอยู่ของแรงใหม่ได้ แต่ผลการทดลองนี้ได้ช่วยจำกัดขอบเขตของ “Yukawa interaction” ซึ่งเป็นแรงสมมุติที่อาจเกิดจากโบซอนชนิดใหม่ที่มีมวลระหว่าง 10 ถึง 10⁷ eV/c² และอาจเป็นตัวกลางของแรงที่ห้า ✅ นักวิจัยวัดการเปลี่ยนแปลงพลังงานในไอโซโทปของแคลเซียมด้วยความแม่นยำระดับ sub-Hertz ➡️ ใช้เทคนิค ion trapping และ quantum logic spectroscopy ➡️ วัดการเปลี่ยนแปลงในสอง transition: ³P₀ → ³P₁ และ ²S₁/₂ → ²D₅/₂ ✅ ใช้ King plot เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ isotope shifts ➡️ หากทุกอย่างเป็นไปตาม Standard Model จุดจะเรียงเป็นเส้นตรง ➡️ แต่พบความโค้ง (nonlinearity) ที่มีนัยสำคัญสูง ✅ ผลการทดลองช่วยจำกัดขอบเขตของ Yukawa interaction ➡️ เป็นแรงสมมุติที่อาจเกิดจากโบซอนชนิดใหม่ ➡️ มวลของโบซอนอยู่ในช่วง 10 ถึง 10⁷ eV/c² ✅ การวัดร่วมกันของไอโซโทปใน ion trap ช่วยลด noise และเพิ่มความแม่นยำ ➡️ วัดความต่างของความถี่ได้ถึงระดับ 100 millihertz ➡️ ใช้การวัดแบบ differential เพื่อขจัดความผิดพลาดร่วม ✅ ผลการทดลองอาจอธิบาย nuclear polarization ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ยังไม่เข้าใจดีนัก ➡️ เป็นการบิดเบือนของนิวเคลียสจากอิเล็กตรอนรอบข้าง ➡️ อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ King plot โค้ง ✅ King plot เป็นเครื่องมือสำคัญในการค้นหาฟิสิกส์นอกเหนือจาก Standard Model ➡️ ใช้เปรียบเทียบ isotope shifts จากหลาย transition ➡️ ช่วยแยกสัญญาณที่อาจเกิดจากแรงใหม่ ✅ Yukawa interaction เคยถูกเสนอในทฤษฎีแรงนิวเคลียร์ตั้งแต่ยุคแรกของฟิสิกส์ควอนตัม ➡️ เป็นแรงที่มีระยะสั้นและเกิดจากโบซอน ➡️ อาจเป็นกุญแจสู่การเข้าใจ dark matter และแรงที่ห้า ✅ การทดลองในแคลเซียมมีข้อได้เปรียบเพราะมีไอโซโทปเสถียรหลายชนิด ➡️ Ca⁴⁰, Ca⁴², Ca⁴⁴, Ca⁴⁶, Ca⁴⁸ ➡️ ทำให้สามารถวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงได้หลากหลาย https://www.neowin.net/news/fifth-force-of-nature-could-explain-universes-most-mysteriously-abundant-thing/
    WWW.NEOWIN.NET
    Fifth force of nature could explain Universe's most mysteriously abundant thing
    Ultra-precise tests reveal subtle anomalies, leading to speculation about a hidden fifth force that could explain what we don't understand about the most abundant substance in the Universe.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: กราฟีนที่เคยแข็งแกร่ง กลับยืดหยุ่นได้ด้วยลอนคลื่นระดับอะตอม

    นักฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัย Vienna และ Vienna University of Technology ได้ค้นพบวิธีทำให้กราฟีน—วัสดุที่บางเพียงหนึ่งอะตอมและแข็งแกร่งที่สุด—สามารถยืดหยุ่นได้มากขึ้น โดยใช้เทคนิคการสร้าง “ข้อบกพร่อง” (defects) ด้วยการยิงไอออนอาร์กอนพลังงานต่ำเข้าไปในโครงสร้างอะตอมของกราฟีน ทำให้เกิด “vacancies” หรือช่องว่างจากอะตอมที่หายไป

    ผลลัพธ์คือเกิดลอนคลื่นคล้ายหีบเพลงในโครงสร้างของกราฟีน ซึ่งช่วยให้วัสดุสามารถยืดออกได้ง่ายขึ้นมาก โดยไม่ต้องใช้แรงมากเหมือนการยืดวัสดุเรียบ ๆ แบบเดิม

    การทดลองนี้เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่สะอาดไร้ฝุ่นและอากาศ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมมารบกวนพื้นผิวของกราฟีน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากมีสิ่งสกปรกอยู่บนพื้นผิว จะทำให้กราฟีนกลับมาแข็งขึ้นแทนที่จะอ่อนลง

    กราฟีนถูกทำให้ยืดหยุ่นขึ้นด้วยการสร้างลอนคลื่นคล้ายหีบเพลง (accordion effect)
    ใช้การยิงไอออนอาร์กอนพลังงานต่ำเพื่อสร้างช่องว่างอะตอม
    ลอนคลื่นช่วยลดแรงที่ต้องใช้ในการยืดวัสดุ

    การทดลองเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่สะอาดไร้ฝุ่นและอากาศ
    ป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมรบกวนพื้นผิวกราฟีน
    ทำให้ผลการทดลองแม่นยำและเสถียร

    ค่าความยืดหยุ่นของกราฟีนลดลงจาก 286 N/m เหลือ 158 N/m หลังสร้าง defects
    เป็นการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่าที่ทฤษฎีเคยคาดไว้
    อธิบายความขัดแย้งในผลการทดลองก่อนหน้านี้

    การสร้าง defects แบบควบคุมได้ช่วยให้วัสดุมีคุณสมบัติใหม่
    เปิดทางสู่การใช้งานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบยืดหยุ่น
    เหมาะกับเทคโนโลยีสวมใส่และอุปกรณ์พับได้

    การจำลองด้วยคอมพิวเตอร์ยืนยันว่า defects แบบหลายอะตอมมีผลมากกว่าการลบอะตอมเดี่ยว
    ลอนคลื่นเกิดจากแรงดึงรอบจุดที่มีหลายอะตอมหายไป
    การลบอะตอมเดี่ยวไม่ส่งผลต่อความยืดหยุ่นมากนัก

    https://www.neowin.net/news/the-miracle-material-has-been-bent-like-never-before/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: กราฟีนที่เคยแข็งแกร่ง กลับยืดหยุ่นได้ด้วยลอนคลื่นระดับอะตอม นักฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัย Vienna และ Vienna University of Technology ได้ค้นพบวิธีทำให้กราฟีน—วัสดุที่บางเพียงหนึ่งอะตอมและแข็งแกร่งที่สุด—สามารถยืดหยุ่นได้มากขึ้น โดยใช้เทคนิคการสร้าง “ข้อบกพร่อง” (defects) ด้วยการยิงไอออนอาร์กอนพลังงานต่ำเข้าไปในโครงสร้างอะตอมของกราฟีน ทำให้เกิด “vacancies” หรือช่องว่างจากอะตอมที่หายไป ผลลัพธ์คือเกิดลอนคลื่นคล้ายหีบเพลงในโครงสร้างของกราฟีน ซึ่งช่วยให้วัสดุสามารถยืดออกได้ง่ายขึ้นมาก โดยไม่ต้องใช้แรงมากเหมือนการยืดวัสดุเรียบ ๆ แบบเดิม การทดลองนี้เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่สะอาดไร้ฝุ่นและอากาศ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมมารบกวนพื้นผิวของกราฟีน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากมีสิ่งสกปรกอยู่บนพื้นผิว จะทำให้กราฟีนกลับมาแข็งขึ้นแทนที่จะอ่อนลง ✅ กราฟีนถูกทำให้ยืดหยุ่นขึ้นด้วยการสร้างลอนคลื่นคล้ายหีบเพลง (accordion effect) ➡️ ใช้การยิงไอออนอาร์กอนพลังงานต่ำเพื่อสร้างช่องว่างอะตอม ➡️ ลอนคลื่นช่วยลดแรงที่ต้องใช้ในการยืดวัสดุ ✅ การทดลองเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่สะอาดไร้ฝุ่นและอากาศ ➡️ ป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมรบกวนพื้นผิวกราฟีน ➡️ ทำให้ผลการทดลองแม่นยำและเสถียร ✅ ค่าความยืดหยุ่นของกราฟีนลดลงจาก 286 N/m เหลือ 158 N/m หลังสร้าง defects ➡️ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่าที่ทฤษฎีเคยคาดไว้ ➡️ อธิบายความขัดแย้งในผลการทดลองก่อนหน้านี้ ✅ การสร้าง defects แบบควบคุมได้ช่วยให้วัสดุมีคุณสมบัติใหม่ ➡️ เปิดทางสู่การใช้งานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบยืดหยุ่น ➡️ เหมาะกับเทคโนโลยีสวมใส่และอุปกรณ์พับได้ ✅ การจำลองด้วยคอมพิวเตอร์ยืนยันว่า defects แบบหลายอะตอมมีผลมากกว่าการลบอะตอมเดี่ยว ➡️ ลอนคลื่นเกิดจากแรงดึงรอบจุดที่มีหลายอะตอมหายไป ➡️ การลบอะตอมเดี่ยวไม่ส่งผลต่อความยืดหยุ่นมากนัก https://www.neowin.net/news/the-miracle-material-has-been-bent-like-never-before/
    WWW.NEOWIN.NET
    The "miracle material" has been bent like never before
    Physicists discover a counterintuitive method that makes "miracle material" dramatically more stretchable, challenging long-held assumptions about its mechanical limits.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: Node.js 2025 – จาก CommonJS สู่โลกใหม่ที่สะอาดกว่าและฉลาดกว่า

    ในปี 2025 Node.js ได้เปลี่ยนโฉมไปอย่างมากจากยุคที่เต็มไปด้วย callback และ require แบบ CommonJS สู่ยุคใหม่ที่ใช้ ES Modules (ESM) เป็นมาตรฐาน พร้อมรองรับฟีเจอร์ระดับเว็บเบราว์เซอร์ เช่น fetch API และ top-level await โดยไม่ต้องพึ่งพาไลบรารีภายนอกอีกต่อไป

    การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง syntax แต่เป็นการปรับแนวคิดการพัฒนาให้สอดคล้องกับมาตรฐานเว็บสมัยใหม่ ทำให้โค้ดสะอาดขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น และลดความซับซ้อนในการจัดการ dependency

    นอกจากนี้ Node.js ยังนำเสนอแนวทางใหม่ในการจัดการกับ asynchronous data ผ่าน async iteration และการใช้ Proxy-based observables เพื่อสร้างระบบ reactive โดยไม่ต้องพึ่ง state management ที่ยุ่งยาก

    ES Modules (ESM) กลายเป็นมาตรฐานใหม่แทน CommonJS
    ใช้ import/export แทน require/module.exports
    รองรับ static analysis และ tree-shaking ได้ดีขึ้น

    ใช้ node: prefix เพื่อแยก built-in modules ออกจาก npm packages
    เช่น import { readFile } from 'node:fs/promises'
    ลดความสับสนและเพิ่มความชัดเจนในการจัดการ dependency

    รองรับ top-level await โดยไม่ต้องใช้ async wrapper function
    ทำให้โค้ด initialization ง่ายขึ้นและอ่านง่ายขึ้น
    เหมาะกับการโหลด config หรือข้อมูลก่อนเริ่มเซิร์ฟเวอร์

    Fetch API ถูกนำมาใช้ใน Node.js โดยไม่ต้องติดตั้ง axios หรือ node-fetch
    รองรับการเรียก HTTP แบบ native
    มีฟีเจอร์ timeout และ cancellation ในตัว

    แนวคิด async iteration และ for-await-of กลายเป็นมาตรฐานในการจัดการ stream
    เหมาะกับ real-time data และ paginated APIs
    ลดการพึ่งพาไลบรารีภายนอก

    Proxy-based observables เริ่มได้รับความนิยมในการสร้างระบบ reactive
    ใช้ JavaScript Proxy เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงของ state
    ลด boilerplate และไม่ต้องใช้ state management library หนัก ๆ

    Deno กำลังกลายเป็น runtime เสริมที่น่าสนใจควบคู่กับ Node.js
    ใช้ ESM เป็นหลักตั้งแต่ต้น
    มีระบบ permission และ security ที่เข้มงวดกว่า

    Serverless architecture ยังคงนิยมใช้ Node.js เป็นหลักในปี 2025
    รองรับ AWS Lambda, Vercel, Cloudflare Workers
    เหมาะกับแอปพลิเคชันที่ต้องการความเร็วและความยืดหยุ่น

    JavaScript กำลังพัฒนา pattern matching แบบ native
    คล้ายกับ switch statement ที่อ่านง่ายและทรงพลัง
    อยู่ในขั้น proposal แต่เป็นเทรนด์ที่ควรจับตามอง

    https://kashw1n.com/blog/nodejs-2025/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: Node.js 2025 – จาก CommonJS สู่โลกใหม่ที่สะอาดกว่าและฉลาดกว่า ในปี 2025 Node.js ได้เปลี่ยนโฉมไปอย่างมากจากยุคที่เต็มไปด้วย callback และ require แบบ CommonJS สู่ยุคใหม่ที่ใช้ ES Modules (ESM) เป็นมาตรฐาน พร้อมรองรับฟีเจอร์ระดับเว็บเบราว์เซอร์ เช่น fetch API และ top-level await โดยไม่ต้องพึ่งพาไลบรารีภายนอกอีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง syntax แต่เป็นการปรับแนวคิดการพัฒนาให้สอดคล้องกับมาตรฐานเว็บสมัยใหม่ ทำให้โค้ดสะอาดขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น และลดความซับซ้อนในการจัดการ dependency นอกจากนี้ Node.js ยังนำเสนอแนวทางใหม่ในการจัดการกับ asynchronous data ผ่าน async iteration และการใช้ Proxy-based observables เพื่อสร้างระบบ reactive โดยไม่ต้องพึ่ง state management ที่ยุ่งยาก ✅ ES Modules (ESM) กลายเป็นมาตรฐานใหม่แทน CommonJS ➡️ ใช้ import/export แทน require/module.exports ➡️ รองรับ static analysis และ tree-shaking ได้ดีขึ้น ✅ ใช้ node: prefix เพื่อแยก built-in modules ออกจาก npm packages ➡️ เช่น import { readFile } from 'node:fs/promises' ➡️ ลดความสับสนและเพิ่มความชัดเจนในการจัดการ dependency ✅ รองรับ top-level await โดยไม่ต้องใช้ async wrapper function ➡️ ทำให้โค้ด initialization ง่ายขึ้นและอ่านง่ายขึ้น ➡️ เหมาะกับการโหลด config หรือข้อมูลก่อนเริ่มเซิร์ฟเวอร์ ✅ Fetch API ถูกนำมาใช้ใน Node.js โดยไม่ต้องติดตั้ง axios หรือ node-fetch ➡️ รองรับการเรียก HTTP แบบ native ➡️ มีฟีเจอร์ timeout และ cancellation ในตัว ✅ แนวคิด async iteration และ for-await-of กลายเป็นมาตรฐานในการจัดการ stream ➡️ เหมาะกับ real-time data และ paginated APIs ➡️ ลดการพึ่งพาไลบรารีภายนอก ✅ Proxy-based observables เริ่มได้รับความนิยมในการสร้างระบบ reactive ➡️ ใช้ JavaScript Proxy เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงของ state ➡️ ลด boilerplate และไม่ต้องใช้ state management library หนัก ๆ ✅ Deno กำลังกลายเป็น runtime เสริมที่น่าสนใจควบคู่กับ Node.js ➡️ ใช้ ESM เป็นหลักตั้งแต่ต้น ➡️ มีระบบ permission และ security ที่เข้มงวดกว่า ✅ Serverless architecture ยังคงนิยมใช้ Node.js เป็นหลักในปี 2025 ➡️ รองรับ AWS Lambda, Vercel, Cloudflare Workers ➡️ เหมาะกับแอปพลิเคชันที่ต้องการความเร็วและความยืดหยุ่น ✅ JavaScript กำลังพัฒนา pattern matching แบบ native ➡️ คล้ายกับ switch statement ที่อ่านง่ายและทรงพลัง ➡️ อยู่ในขั้น proposal แต่เป็นเทรนด์ที่ควรจับตามอง https://kashw1n.com/blog/nodejs-2025/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวอัพขึ้นสดๆร้อนๆ

    ..แปลกแต่จริงช่วงนี้หมอดูและหรือโหร เกาะกระแสการหยั่งรู้ล่วงหน้าได้ดีมากโดยเฉพาะมาทำนายทายทักเรื่องระดับชาติระดับสงครามนี้,จริงๆควรพูดคุยกันเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องในบริบทสั่งการสงครามดีที่สุดเพื่อถ้าจริงก็มีลูกผ่อนหนักให้เบาช่วยเหลือประชาชนและทหารแนวหน้างานต่อสู้รบจริงๆได้,ตลอดสามารถใช้ความสามารถเหนือมนุษย์ตนเป็นกำลังร่วมปกป้องมาตุภูมิท้องถิ่นแผ่นดินตนที่มาเกิดบนแผ่นดินไทยนี้ร่วมด้วยได้อีก,เอาชนะศัตรูผู้รุกรานความสงบสุขของประชาชนคนไทยตนทั้งประเทศด้วย,
    ..หมอดูทำนายแม่นจริงมีจริงบนแผ่นดินไทย,แต่แทบไม่มีในการกระทำมุ่งหวังโลกธรรม4-8นั้น,จะสะกดกิเลสอยากตนทางโลกเสียมาก ชื่อเสียงหิวแสงหิวสื่อยิ่งพยายามหลบหนี,ถ้าแม้นสัมมาอาชีพเลี้ยงชีพชอบก็เพียงพออยู่พอกิน วัตถุธาตุแทบไม่สะสม.
    ..แม้โลกจะเป็นไปตามกฎแห่งกรรมจริง แต่ละคนก็มีมิติรับผลของกรรมใครกรรมมันตามจังหวะชีวิตของแต่ละคน,พลังแตกตื่นหวาดกลัวอย่าลืมว่านั้นเป็นอาหารอันยอดเยี่ยมของหมู่มารปีศาจหมายกระทำต่อเหยื่อก่อนลงมีสังหารเหยื่อกลืนกินพลังงานลบที่ปีศาจมารชื่นชมยิ่งนักนั้นก็ว่า,อย่าเอาประชาชนพลังงานบวกลบของประชาชนไปตอนสนองหมู่มารปีศาจไปเพิ่มพลังงานให้มันอีกเลย,หมอดูโหรแม้ปราถนาดีต่อผู้คน สามารถบอกกล่าวเล่าเรื่องได้หลากหลายช่องทาง ส่วนจริงเท็จ หากเท็จเสียมากก็อย่าออกมาทำนายล่วงหน้าเลย, จริงส่วนมากอาจสามารถส่งตรงแก้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินเพื่อบ้านเพื่อเมืองก็ได้,โหรหมอดูพากันโหนกระแสทำนายเรื่องสงครามที่เป็นระดับชาติกันมากมายจริงๆผิดปกติมาก,หากหมายยอดวิวยอดยอดชอบยอดรายได้ผ่านคลิปก็เลิกเถอะ,เอาพอประมาณเถอะ,ปัจจุบันผุดยิ่งกว่าผีหลอกอีก.

    https://youtube.com/watch?v=JhUYpDfh8Yw&si=7HZO-kOc7gg7u3c0
    ข่าวอัพขึ้นสดๆร้อนๆ ..แปลกแต่จริงช่วงนี้หมอดูและหรือโหร เกาะกระแสการหยั่งรู้ล่วงหน้าได้ดีมากโดยเฉพาะมาทำนายทายทักเรื่องระดับชาติระดับสงครามนี้,จริงๆควรพูดคุยกันเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องในบริบทสั่งการสงครามดีที่สุดเพื่อถ้าจริงก็มีลูกผ่อนหนักให้เบาช่วยเหลือประชาชนและทหารแนวหน้างานต่อสู้รบจริงๆได้,ตลอดสามารถใช้ความสามารถเหนือมนุษย์ตนเป็นกำลังร่วมปกป้องมาตุภูมิท้องถิ่นแผ่นดินตนที่มาเกิดบนแผ่นดินไทยนี้ร่วมด้วยได้อีก,เอาชนะศัตรูผู้รุกรานความสงบสุขของประชาชนคนไทยตนทั้งประเทศด้วย, ..หมอดูทำนายแม่นจริงมีจริงบนแผ่นดินไทย,แต่แทบไม่มีในการกระทำมุ่งหวังโลกธรรม4-8นั้น,จะสะกดกิเลสอยากตนทางโลกเสียมาก ชื่อเสียงหิวแสงหิวสื่อยิ่งพยายามหลบหนี,ถ้าแม้นสัมมาอาชีพเลี้ยงชีพชอบก็เพียงพออยู่พอกิน วัตถุธาตุแทบไม่สะสม. ..แม้โลกจะเป็นไปตามกฎแห่งกรรมจริง แต่ละคนก็มีมิติรับผลของกรรมใครกรรมมันตามจังหวะชีวิตของแต่ละคน,พลังแตกตื่นหวาดกลัวอย่าลืมว่านั้นเป็นอาหารอันยอดเยี่ยมของหมู่มารปีศาจหมายกระทำต่อเหยื่อก่อนลงมีสังหารเหยื่อกลืนกินพลังงานลบที่ปีศาจมารชื่นชมยิ่งนักนั้นก็ว่า,อย่าเอาประชาชนพลังงานบวกลบของประชาชนไปตอนสนองหมู่มารปีศาจไปเพิ่มพลังงานให้มันอีกเลย,หมอดูโหรแม้ปราถนาดีต่อผู้คน สามารถบอกกล่าวเล่าเรื่องได้หลากหลายช่องทาง ส่วนจริงเท็จ หากเท็จเสียมากก็อย่าออกมาทำนายล่วงหน้าเลย, จริงส่วนมากอาจสามารถส่งตรงแก้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินเพื่อบ้านเพื่อเมืองก็ได้,โหรหมอดูพากันโหนกระแสทำนายเรื่องสงครามที่เป็นระดับชาติกันมากมายจริงๆผิดปกติมาก,หากหมายยอดวิวยอดยอดชอบยอดรายได้ผ่านคลิปก็เลิกเถอะ,เอาพอประมาณเถอะ,ปัจจุบันผุดยิ่งกว่าผีหลอกอีก. https://youtube.com/watch?v=JhUYpDfh8Yw&si=7HZO-kOc7gg7u3c0
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดาวเหินจรคู่ผสมระหว่างปีและเดือน ประจำเดือนสิงหาคม 2568

    ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 7 เดือนสิงหาคม ไปจนถึง วันเสาร์ที่ 6 เดือนกันยายน พ.ศ. 2568 เป็นเดือนวอกไม้ 甲申 (กะซิม) ธาตุน้ำ มีกระแสพลังดาวคู่ผสมห้าเหลือง五黃 (โหงวอึ๊ง) ธาตุดิน ดาวแห่งวิบาก ดาวแห่งสันโดษ และดาวแห่งอำนาจสูงสุด และดาวสองดำ 二黑 (หยี่เฮก) ธาตุดิน ดาวป่วยไข้ ดาวแห่งโรคภัย ดาวแห่ง ความเสื่อมถดถอย ประจำอยู่ในปีจรมะเส็งไม้ 乙巳 (อิกจี๋) ธาตุไฟ

    เสมือนดั่งเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น จึงเป็นช่วงวิกฤติอีกเดือนหนึ่งที่จะต้องจับตามองเป็นพิเศษ เพราะกรรมใดใครก่อย่อมต้องรับการลงฑัณฑ์ ทั้งสารพันปัญหาน้อยใหญ่แพร่กระจายไปทั่ว มีเกณฑ์จะเกิดเหตุร้ายสร้างความเสียหายก่อความวุ่นวาย จากคลื่นใต้น้ำที่แกล้งตายได้ใจกลับโผ่ขึ้นถาโถมใส่ ทั้งจะมีการสลับปรับเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ ผู้หลักผู้ใหญ่ จะเกิดเรื่องร้าย ปัญหาสังคมยังคงมีคดี จี้ ปล้น ฉ้อฉล ลวงหลอก รวมทั้งอุบัติภัยพิบัติหลากหลาย ควรตั้งสติ ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังบนพื้นฐานแห่งความไม่ประมาทก็จะสามารถผ่านพ้นวิกฤตเอาตัวรอดได้

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ดาวเหินจรคู่ผสมระหว่างปีและเดือน ประจำเดือนสิงหาคม 2568 ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 7 เดือนสิงหาคม ไปจนถึง วันเสาร์ที่ 6 เดือนกันยายน พ.ศ. 2568 เป็นเดือนวอกไม้ 甲申 (กะซิม) ธาตุน้ำ มีกระแสพลังดาวคู่ผสมห้าเหลือง五黃 (โหงวอึ๊ง) ธาตุดิน ดาวแห่งวิบาก ดาวแห่งสันโดษ และดาวแห่งอำนาจสูงสุด และดาวสองดำ 二黑 (หยี่เฮก) ธาตุดิน ดาวป่วยไข้ ดาวแห่งโรคภัย ดาวแห่ง ความเสื่อมถดถอย ประจำอยู่ในปีจรมะเส็งไม้ 乙巳 (อิกจี๋) ธาตุไฟ เสมือนดั่งเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น จึงเป็นช่วงวิกฤติอีกเดือนหนึ่งที่จะต้องจับตามองเป็นพิเศษ เพราะกรรมใดใครก่อย่อมต้องรับการลงฑัณฑ์ ทั้งสารพันปัญหาน้อยใหญ่แพร่กระจายไปทั่ว มีเกณฑ์จะเกิดเหตุร้ายสร้างความเสียหายก่อความวุ่นวาย จากคลื่นใต้น้ำที่แกล้งตายได้ใจกลับโผ่ขึ้นถาโถมใส่ ทั้งจะมีการสลับปรับเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ ผู้หลักผู้ใหญ่ จะเกิดเรื่องร้าย ปัญหาสังคมยังคงมีคดี จี้ ปล้น ฉ้อฉล ลวงหลอก รวมทั้งอุบัติภัยพิบัติหลากหลาย ควรตั้งสติ ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังบนพื้นฐานแห่งความไม่ประมาทก็จะสามารถผ่านพ้นวิกฤตเอาตัวรอดได้ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • อินโดแปซิฟิก: จุดปะทะของยักษ์ใหญ่โลก!
    อ่าวไทย…ไม่ใช่แค่ทะเล แต่คือ “สมรภูมิพลังงาน” ที่สหรัฐฯ และจีนต้องการครอบครอง!

    จีนรุกคืบผ่านกัมพูชา ตั้งฐานทัพเรือเรียม
    สหรัฐฯ ต้องการดึงไทย-อินโด-เวียดนาม เป็นพันธมิตรคานจีน
    ชายแดนไทย-กัมพูชา กลายเป็นฉนวนสงครามผลประโยชน์!

    เบื้องหน้า: ข้อพิพาทเรื่องปราสาทและพรมแดน
    เบื้องหลัง: แหล่งน้ำมัน-ก๊าซใต้น้ำ + เขตเศรษฐกิจมหาศาล
    .
    อินโดแปซิฟิก: จุดปะทะของยักษ์ใหญ่โลก! อ่าวไทย…ไม่ใช่แค่ทะเล แต่คือ “สมรภูมิพลังงาน” ที่สหรัฐฯ และจีนต้องการครอบครอง! จีนรุกคืบผ่านกัมพูชา ตั้งฐานทัพเรือเรียม สหรัฐฯ ต้องการดึงไทย-อินโด-เวียดนาม เป็นพันธมิตรคานจีน ชายแดนไทย-กัมพูชา กลายเป็นฉนวนสงครามผลประโยชน์! เบื้องหน้า: ข้อพิพาทเรื่องปราสาทและพรมแดน เบื้องหลัง: แหล่งน้ำมัน-ก๊าซใต้น้ำ + เขตเศรษฐกิจมหาศาล .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญปิดตาพังพระกาฬ สุริยัน จันทรา รุ่นเฮงเหนือดวง พระอาจารย์สุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม
    เหรียญปิดตาพังพระกาฬ สุริยันต์จันทรา รุ่นเฮงเหนือดวง เนื้อนวะพรายเงิน ( ตอกโค็ด ตอกเลขกำกับ ๔๘๙ สร้าง 999 เหรียญ ) พระอาจารย์สุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม //พระดีพิธีใหญ่ พิธีปลุกเสกอย่างเข้มขลัง พระอาจารย์สุริยัน เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณด้านการแก้เคล็ด เสริมดวง และป้องกันภัย ช่วยแก้ไขอุปสรรค ช่วยเสริมดวงชะตา ให้ผู้บูชาประสบความสำเร็จในชีวิต ช่วยคุ้มครองให้ปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ ช่วยดลบันดาลให้เกิดโชคลาภ และความเจริญก้าวหน้า >>

    ** เหรียญปิดตาพังพระกาฬ สุริยัน จันทรา รุ่นเฮงเหนือดวง พระอาจารย์สุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคามการจัดสร้างด้วยมวลสารศักดิ์สิทธิ์หลากหลายชนิด ได้รับการปลุกเสกอย่างเข้มขลังจากพระอาจารย์สุริยันต์ โดยมุ่งหวังเพื่อเป็นสิริมงคล แคล้วคลาดปลอดภัย และเสริมสร้างพลังบารมีให้กับผู้บูชา พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปญฺโญ วัดป่าวังน้ำเย็น พระอริยสงฆ์ท่านหนึ่งที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวบ้านและเหล่าศิษยานุศิษย์จำนวนมาก ท่านเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งและพัฒนา วัดป่าวังน้ำเย็น จังหวัดมหาสารคาม ยังเป็นผู้สืบทอดธรรมจากหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคอีสาน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญปิดตาพังพระกาฬ สุริยัน จันทรา รุ่นเฮงเหนือดวง พระอาจารย์สุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม เหรียญปิดตาพังพระกาฬ สุริยันต์จันทรา รุ่นเฮงเหนือดวง เนื้อนวะพรายเงิน ( ตอกโค็ด ตอกเลขกำกับ ๔๘๙ สร้าง 999 เหรียญ ) พระอาจารย์สุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม //พระดีพิธีใหญ่ พิธีปลุกเสกอย่างเข้มขลัง พระอาจารย์สุริยัน เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณด้านการแก้เคล็ด เสริมดวง และป้องกันภัย ช่วยแก้ไขอุปสรรค ช่วยเสริมดวงชะตา ให้ผู้บูชาประสบความสำเร็จในชีวิต ช่วยคุ้มครองให้ปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ ช่วยดลบันดาลให้เกิดโชคลาภ และความเจริญก้าวหน้า >> ** เหรียญปิดตาพังพระกาฬ สุริยัน จันทรา รุ่นเฮงเหนือดวง พระอาจารย์สุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคามการจัดสร้างด้วยมวลสารศักดิ์สิทธิ์หลากหลายชนิด ได้รับการปลุกเสกอย่างเข้มขลังจากพระอาจารย์สุริยันต์ โดยมุ่งหวังเพื่อเป็นสิริมงคล แคล้วคลาดปลอดภัย และเสริมสร้างพลังบารมีให้กับผู้บูชา พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปญฺโญ วัดป่าวังน้ำเย็น พระอริยสงฆ์ท่านหนึ่งที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวบ้านและเหล่าศิษยานุศิษย์จำนวนมาก ท่านเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งและพัฒนา วัดป่าวังน้ำเย็น จังหวัดมหาสารคาม ยังเป็นผู้สืบทอดธรรมจากหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคอีสาน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: Bolt กลับมาแล้ว—EV ราคาประหยัดที่อเมริกาต้องการ ในวันที่ตลาดกำลังชะลอตัว

    Chevrolet ประกาศรีดีไซน์ Bolt EV สำหรับปี 2027 โดยใช้พอร์ตชาร์จแบบ NACS (North American Charging Standard) ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับ Tesla ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเครือข่าย Supercharger ได้โดยไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์

    นอกจากดีไซน์ใหม่ที่ดูสปอร์ตขึ้นและไฟท้ายที่ปรับปรุงจากเสียงบ่นของผู้ใช้เดิม Bolt รุ่นใหม่ยังใช้แบตเตอรี่แบบ LFP (ลิเธียม-เหล็ก-ฟอสเฟต) ที่มีต้นทุนต่ำและอายุการใช้งานยาวนานกว่าเดิม

    ในขณะที่ Bolt กลับมาอย่างมั่นใจ Mercedes-Benz และ Porsche กลับต้องลดราคาหรือชะลอการส่งมอบ EV บางรุ่น เพราะยอดขายในอเมริกาชะลอตัว และผู้บริโภคยังมองว่า EV ส่วนใหญ่ “แพงเกินไป” โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ย

    Chevrolet Bolt EV รุ่นใหม่จะเปิดตัวในปี 2027 พร้อมพอร์ตชาร์จแบบ NACS
    เป็น EV รุ่นแรกของ Chevy ที่ใช้พอร์ต Tesla โดยตรง
    เข้าถึงเครือข่าย Supercharger ได้ทันที

    ใช้แบตเตอรี่ LFP ที่มีต้นทุนต่ำและอายุการใช้งานยาวนาน
    ช่วยให้ราคาขายต่ำกว่า $30,000 ได้
    ยังไม่มีตัวเลขระยะทางวิ่งที่แน่นอน

    ดีไซน์ใหม่มีไฟหน้า LED แบบบาง, ล้ออัลลอยใหม่ และไฟท้ายที่ปรับปรุงจากเสียงผู้ใช้เดิม
    ดูสปอร์ตและทันสมัยขึ้น
    ยังใช้แพลตฟอร์ม BEV2 เดิมแต่ปรับปรุงภายใน

    Mercedes-Benz ลดราคาหลายรุ่นในกลุ่ม EQ และชะลอการส่งมอบบางรุ่นเพื่อควบคุมสต็อก
    สะท้อนความต้องการ EV ที่ลดลงในอเมริกา
    Porsche ก็ลดเป้าหมายรายได้จากผลกระทบของภาษีการค้า

    ตลาด EV ในอเมริกายังต้องการรถราคาประหยัดเพื่อกระตุ้นการใช้งานในวงกว้าง
    Nissan Leaf และ Hyundai Kona Electric ยังเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงได้
    แต่หลายรุ่นยังมีราคาสูงกว่า $40,000

    NACS กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอเมริกา โดยผู้ผลิตหลายรายเริ่มเปลี่ยนมาใช้แทน CCS
    เช่น Ford, Hyundai, GM และ Rivian
    ช่วยให้เครือข่ายชาร์จมีความเป็นหนึ่งเดียว

    แบตเตอรี่ LFP มีข้อดีคือราคาถูกและปลอดภัย แต่มีพลังงานต่อหน่วยต่ำกว่า NMC
    เหมาะกับรถราคาประหยัดและใช้งานในเมือง
    ไม่เหมาะกับรถที่ต้องการระยะทางวิ่งไกลมาก

    ตลาด EV ในจีนมีรถราคาต่ำกว่า $10,000 ที่ขายดีมาก เช่น BYD Seagull
    สหรัฐฯ ยังไม่มีรถระดับนี้ในตลาด
    Bolt อาจเป็นตัวแทนของ EV ราคาประหยัดในอเมริกา

    Bolt รุ่นใหม่ยังไม่มีข้อมูลระยะทางวิ่งที่แน่นอนจากแบตเตอรี่ LFP
    อาจต่ำกว่าคู่แข่งที่ใช้แบตเตอรี่ NMC
    ต้องรอการทดสอบจริงก่อนตัดสินใจซื้อ

    การใช้แพลตฟอร์ม BEV2 เดิมอาจจำกัดการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในระยะยาว
    ไม่รองรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับสูง
    อาจไม่ทันกับคู่แข่งที่ใช้แพลตฟอร์มใหม่ทั้งหมด

    การพึ่งพาพอร์ต NACS อาจทำให้ผู้ใช้ต้องปรับพฤติกรรมการชาร์จ หากเคยใช้ CCS มาก่อน
    ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์หรือพฤติกรรมการใช้งาน
    อาจเกิดความสับสนในช่วงเปลี่ยนผ่าน

    ตลาด EV ยังไม่แน่นอน โดยเฉพาะหากสิทธิ์ลดหย่อนภาษีหมดอายุในเดือนกันยายน
    อาจทำให้ราคาสุทธิของ Bolt สูงขึ้น
    ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/americas-cheapest-ev-is-making-a-comeback-with-a-new-chevrolet-bolt-as-mercedes-cuts-its-electric-car-prices
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: Bolt กลับมาแล้ว—EV ราคาประหยัดที่อเมริกาต้องการ ในวันที่ตลาดกำลังชะลอตัว Chevrolet ประกาศรีดีไซน์ Bolt EV สำหรับปี 2027 โดยใช้พอร์ตชาร์จแบบ NACS (North American Charging Standard) ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับ Tesla ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเครือข่าย Supercharger ได้โดยไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์ นอกจากดีไซน์ใหม่ที่ดูสปอร์ตขึ้นและไฟท้ายที่ปรับปรุงจากเสียงบ่นของผู้ใช้เดิม Bolt รุ่นใหม่ยังใช้แบตเตอรี่แบบ LFP (ลิเธียม-เหล็ก-ฟอสเฟต) ที่มีต้นทุนต่ำและอายุการใช้งานยาวนานกว่าเดิม ในขณะที่ Bolt กลับมาอย่างมั่นใจ Mercedes-Benz และ Porsche กลับต้องลดราคาหรือชะลอการส่งมอบ EV บางรุ่น เพราะยอดขายในอเมริกาชะลอตัว และผู้บริโภคยังมองว่า EV ส่วนใหญ่ “แพงเกินไป” โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ย ✅ Chevrolet Bolt EV รุ่นใหม่จะเปิดตัวในปี 2027 พร้อมพอร์ตชาร์จแบบ NACS ➡️ เป็น EV รุ่นแรกของ Chevy ที่ใช้พอร์ต Tesla โดยตรง ➡️ เข้าถึงเครือข่าย Supercharger ได้ทันที ✅ ใช้แบตเตอรี่ LFP ที่มีต้นทุนต่ำและอายุการใช้งานยาวนาน ➡️ ช่วยให้ราคาขายต่ำกว่า $30,000 ได้ ➡️ ยังไม่มีตัวเลขระยะทางวิ่งที่แน่นอน ✅ ดีไซน์ใหม่มีไฟหน้า LED แบบบาง, ล้ออัลลอยใหม่ และไฟท้ายที่ปรับปรุงจากเสียงผู้ใช้เดิม ➡️ ดูสปอร์ตและทันสมัยขึ้น ➡️ ยังใช้แพลตฟอร์ม BEV2 เดิมแต่ปรับปรุงภายใน ✅ Mercedes-Benz ลดราคาหลายรุ่นในกลุ่ม EQ และชะลอการส่งมอบบางรุ่นเพื่อควบคุมสต็อก ➡️ สะท้อนความต้องการ EV ที่ลดลงในอเมริกา ➡️ Porsche ก็ลดเป้าหมายรายได้จากผลกระทบของภาษีการค้า ✅ ตลาด EV ในอเมริกายังต้องการรถราคาประหยัดเพื่อกระตุ้นการใช้งานในวงกว้าง ➡️ Nissan Leaf และ Hyundai Kona Electric ยังเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงได้ ➡️ แต่หลายรุ่นยังมีราคาสูงกว่า $40,000 ✅ NACS กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอเมริกา โดยผู้ผลิตหลายรายเริ่มเปลี่ยนมาใช้แทน CCS ➡️ เช่น Ford, Hyundai, GM และ Rivian ➡️ ช่วยให้เครือข่ายชาร์จมีความเป็นหนึ่งเดียว ✅ แบตเตอรี่ LFP มีข้อดีคือราคาถูกและปลอดภัย แต่มีพลังงานต่อหน่วยต่ำกว่า NMC ➡️ เหมาะกับรถราคาประหยัดและใช้งานในเมือง ➡️ ไม่เหมาะกับรถที่ต้องการระยะทางวิ่งไกลมาก ✅ ตลาด EV ในจีนมีรถราคาต่ำกว่า $10,000 ที่ขายดีมาก เช่น BYD Seagull ➡️ สหรัฐฯ ยังไม่มีรถระดับนี้ในตลาด ➡️ Bolt อาจเป็นตัวแทนของ EV ราคาประหยัดในอเมริกา ‼️ Bolt รุ่นใหม่ยังไม่มีข้อมูลระยะทางวิ่งที่แน่นอนจากแบตเตอรี่ LFP ⛔ อาจต่ำกว่าคู่แข่งที่ใช้แบตเตอรี่ NMC ⛔ ต้องรอการทดสอบจริงก่อนตัดสินใจซื้อ ‼️ การใช้แพลตฟอร์ม BEV2 เดิมอาจจำกัดการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในระยะยาว ⛔ ไม่รองรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับสูง ⛔ อาจไม่ทันกับคู่แข่งที่ใช้แพลตฟอร์มใหม่ทั้งหมด ‼️ การพึ่งพาพอร์ต NACS อาจทำให้ผู้ใช้ต้องปรับพฤติกรรมการชาร์จ หากเคยใช้ CCS มาก่อน ⛔ ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์หรือพฤติกรรมการใช้งาน ⛔ อาจเกิดความสับสนในช่วงเปลี่ยนผ่าน ‼️ ตลาด EV ยังไม่แน่นอน โดยเฉพาะหากสิทธิ์ลดหย่อนภาษีหมดอายุในเดือนกันยายน ⛔ อาจทำให้ราคาสุทธิของ Bolt สูงขึ้น ⛔ ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/americas-cheapest-ev-is-making-a-comeback-with-a-new-chevrolet-bolt-as-mercedes-cuts-its-electric-car-prices
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: PlayStation 6 กับพลังแห่ง Orion—GPU RDNA 5, CPU Zen 6 และความหวังใหม่ของเกมยุคถัดไป

    แม้ Sony ยังไม่เปิดตัว PlayStation 6 อย่างเป็นทางการ แต่ข้อมูลหลุดจากการนำเสนอของ AMD ในปี 2023 เผยให้เห็นสเปกที่น่าตื่นเต้นของคอนโซลรุ่นถัดไป โดยใช้ APU รหัส “Orion” ที่รวมพลังของ CPU Zen 6 และ GPU RDNA 5

    ตัวเครื่องจะมี 8 คอร์ Zen 6 ที่ความเร็วสูงสุด 3GHz และ GPU ที่มี 40–48 Compute Units ซึ่งแม้จะน้อยกว่า PS5 Pro ที่มี 60 CUs แต่ RDNA 5 มีประสิทธิภาพต่อหน่วยสูงกว่า RDNA 2 อย่างมาก

    PS6 ยังจะใช้หน่วยความจำ GDDR7 ซึ่งเร็วกว่า GDDR6 ใน PS5 Pro และมีเป้าหมายการใช้พลังงานเพียง 160W—ต่ำกว่า PS5 ที่ใช้ 190–220W

    ผลคือ PS6 จะมีประสิทธิภาพด้าน rasterization สูงกว่า PS5 ถึง 3 เท่า และ ray tracing ดีกว่า PS5 Pro อย่างชัดเจน โดยคาดว่าจะเปิดตัวช่วงปลายปี 2027 หรือต้นปี 2028

    PlayStation 6 จะใช้ AMD APU รหัส Orion ที่รวม Zen 6 และ RDNA 5
    CPU 8 คอร์ Zen 6 ความเร็วสูงสุด 3GHz
    GPU RDNA 5 จำนวน 40–48 Compute Units

    ใช้หน่วยความจำ GDDR7 ที่เร็วกว่า GDDR6 ใน PS5 Pro
    เพิ่มแบนด์วิดธ์และลด latency
    รองรับการเล่นเกมระดับ 4K 120FPS และ 8K 60FPS

    เป้าหมายการใช้พลังงานอยู่ที่ 160W ซึ่งต่ำกว่า PS5
    PS5 ใช้พลังงาน 190–220W
    ช่วยลดความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน

    ประสิทธิภาพด้าน rasterization สูงกว่า PS5 ถึง 3 เท่า และดีกว่า PS5 Pro 2 เท่า
    เพิ่มความลื่นไหลของภาพและเฟรมเรต
    รองรับเกมที่ใช้กราฟิกหนักได้ดีขึ้น

    คาดว่าจะเปิดตัวปลายปี 2027 หรือต้นปี 2028
    เริ่มผลิตกลางปี 2027
    ยังไม่มีการกำหนดราคาขาย แต่ผู้ใช้หวังว่าจะใกล้เคียง PS5 ที่ $499

    มีข่าวลือว่า Sony จะเปิดตัวเครื่องพกพาใหม่พร้อมกัน โดยใช้ APU รหัส Canis
    ใช้ Zen 6C 4 คอร์ และ RDNA 5 12–20 CUs
    ใช้พลังงานเพียง 15W พร้อม LPDDR5X-7500

    https://www.techspot.com/news/108903-playstation-6-leaks-suggest-amd-orion-apu-rdna.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: PlayStation 6 กับพลังแห่ง Orion—GPU RDNA 5, CPU Zen 6 และความหวังใหม่ของเกมยุคถัดไป แม้ Sony ยังไม่เปิดตัว PlayStation 6 อย่างเป็นทางการ แต่ข้อมูลหลุดจากการนำเสนอของ AMD ในปี 2023 เผยให้เห็นสเปกที่น่าตื่นเต้นของคอนโซลรุ่นถัดไป โดยใช้ APU รหัส “Orion” ที่รวมพลังของ CPU Zen 6 และ GPU RDNA 5 ตัวเครื่องจะมี 8 คอร์ Zen 6 ที่ความเร็วสูงสุด 3GHz และ GPU ที่มี 40–48 Compute Units ซึ่งแม้จะน้อยกว่า PS5 Pro ที่มี 60 CUs แต่ RDNA 5 มีประสิทธิภาพต่อหน่วยสูงกว่า RDNA 2 อย่างมาก PS6 ยังจะใช้หน่วยความจำ GDDR7 ซึ่งเร็วกว่า GDDR6 ใน PS5 Pro และมีเป้าหมายการใช้พลังงานเพียง 160W—ต่ำกว่า PS5 ที่ใช้ 190–220W ผลคือ PS6 จะมีประสิทธิภาพด้าน rasterization สูงกว่า PS5 ถึง 3 เท่า และ ray tracing ดีกว่า PS5 Pro อย่างชัดเจน โดยคาดว่าจะเปิดตัวช่วงปลายปี 2027 หรือต้นปี 2028 ✅ PlayStation 6 จะใช้ AMD APU รหัส Orion ที่รวม Zen 6 และ RDNA 5 ➡️ CPU 8 คอร์ Zen 6 ความเร็วสูงสุด 3GHz ➡️ GPU RDNA 5 จำนวน 40–48 Compute Units ✅ ใช้หน่วยความจำ GDDR7 ที่เร็วกว่า GDDR6 ใน PS5 Pro ➡️ เพิ่มแบนด์วิดธ์และลด latency ➡️ รองรับการเล่นเกมระดับ 4K 120FPS และ 8K 60FPS ✅ เป้าหมายการใช้พลังงานอยู่ที่ 160W ซึ่งต่ำกว่า PS5 ➡️ PS5 ใช้พลังงาน 190–220W ➡️ ช่วยลดความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน ✅ ประสิทธิภาพด้าน rasterization สูงกว่า PS5 ถึง 3 เท่า และดีกว่า PS5 Pro 2 เท่า ➡️ เพิ่มความลื่นไหลของภาพและเฟรมเรต ➡️ รองรับเกมที่ใช้กราฟิกหนักได้ดีขึ้น ✅ คาดว่าจะเปิดตัวปลายปี 2027 หรือต้นปี 2028 ➡️ เริ่มผลิตกลางปี 2027 ➡️ ยังไม่มีการกำหนดราคาขาย แต่ผู้ใช้หวังว่าจะใกล้เคียง PS5 ที่ $499 ✅ มีข่าวลือว่า Sony จะเปิดตัวเครื่องพกพาใหม่พร้อมกัน โดยใช้ APU รหัส Canis ➡️ ใช้ Zen 6C 4 คอร์ และ RDNA 5 12–20 CUs ➡️ ใช้พลังงานเพียง 15W พร้อม LPDDR5X-7500 https://www.techspot.com/news/108903-playstation-6-leaks-suggest-amd-orion-apu-rdna.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    PlayStation 6 leaks suggest AMD Orion APU with RDNA 5 and Zen 6 cores
    YouTube channel Moore's Law Is Dead claims to have obtained partial spec sheets for both consoles from a leaked AMD presentation. The leak suggests the PS6's Orion...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: Intel Core 5 120—ชื่อใหม่ สเปกเดิม กับภารกิจเคลียร์ Alder Lake ก่อนเปิดทางให้ Ultra

    Intel เปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ในกลุ่มราคาประหยัดคือ Core 5 120 และ Core 5 120F โดยใช้ชื่อใหม่ที่ไม่ตรงกับซีรีส์ก่อนหน้าอย่าง Raptor Lake หรือ Core Ultra ทำให้หลายคนสับสนว่า “นี่คือรุ่นใหม่จริงหรือ?”

    เมื่อดูสเปกแล้วพบว่า Core 5 120 มีความใกล้เคียงกับ Core i5-12400 อย่างมาก: มี 6 คอร์ประสิทธิภาพ (P-core), 12 เธรด, ความเร็วพื้นฐาน 2.5 GHz และบูสต์สูงสุด 4.5 GHz ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมเพียง 100 MHz เท่านั้น

    แม้จะดูเหมือนการเปลี่ยนชื่อเฉย ๆ แต่เบื้องหลังคือกลยุทธ์ของ Intel ที่ใช้ die stepping แบบใหม่ (เช่น H0) เพื่อผลิตได้ถูกลง และเคลียร์สต็อก Alder Lake ก่อนเปิดตัว Core Ultra 200S ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arrow Lake

    Intel เปิดตัว Core 5 120 และ 120F ในกลุ่มซีพียูราคาประหยัด
    ใช้ชื่อใหม่ที่ไม่ตรงกับซีรีส์ก่อนหน้า
    120F ไม่มีกราฟิกในตัว แต่สเปกเหมือนกัน

    Core 5 120 มีสเปกใกล้เคียงกับ Core i5-12400 อย่างมาก
    6 P-core, 12 เธรด, 2.5–4.5 GHz
    เพิ่มบูสต์เพียง 100 MHz จากรุ่นเดิม

    ใช้ L3 cache ขนาด 18MB และรองรับ DDR5-4800
    เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดบนเมนบอร์ด LGA 1700
    ไม่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์เดิม

    อาจใช้ die stepping แบบ H0 ที่ประหยัดต้นทุนมากกว่า C0
    ช่วยลดต้นทุนการผลิต
    ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพในงานทั่วไป

    เปิดตัวในช่วงที่ Intel เตรียมเปิดตัว Core Ultra 200S ที่ใช้ Arrow Lake
    เป็นการเคลียร์สต็อก Alder Lake
    ใช้ชื่อใหม่เพื่อแยกกลุ่มผลิตภัณฑ์

    การใช้ชื่อใหม่อย่าง “Core 5 120” อาจทำให้ผู้ซื้อสับสนกับซีรีส์อื่น
    ไม่ตรงกับชื่อ Core Ultra หรือ Raptor Lake
    อาจเข้าใจผิดว่าเป็นสถาปัตยกรรมใหม่

    การรีแบรนด์รุ่นเก่าอาจทำให้ผู้ใช้จ่ายเงินเพิ่มโดยไม่ได้ประสิทธิภาพที่ต่างกันมาก
    เพิ่มบูสต์เพียงเล็กน้อยจากรุ่นเดิม
    ประสิทธิภาพจริงใกล้เคียงกับ i5-12400

    ไม่มีข้อมูลชัดเจนเรื่อง stepping ที่ใช้ใน Core 5 120
    อาจมีผลต่อความร้อนหรือการใช้พลังงาน
    ผู้ใช้ไม่สามารถเลือก stepping ได้จากข้อมูลทั่วไป

    การเปิดตัวแบบเงียบ ๆ อาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่ทันสังเกตว่าเป็นรุ่นรีแบรนด์
    ไม่มีการประชาสัมพันธ์ชัดเจน
    อาจเข้าใจผิดว่าเป็นรุ่นใหม่ทั้งหมด

    https://www.techspot.com/news/108899-familiar-specs-new-name-intel-core-5-120.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: Intel Core 5 120—ชื่อใหม่ สเปกเดิม กับภารกิจเคลียร์ Alder Lake ก่อนเปิดทางให้ Ultra Intel เปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ในกลุ่มราคาประหยัดคือ Core 5 120 และ Core 5 120F โดยใช้ชื่อใหม่ที่ไม่ตรงกับซีรีส์ก่อนหน้าอย่าง Raptor Lake หรือ Core Ultra ทำให้หลายคนสับสนว่า “นี่คือรุ่นใหม่จริงหรือ?” เมื่อดูสเปกแล้วพบว่า Core 5 120 มีความใกล้เคียงกับ Core i5-12400 อย่างมาก: มี 6 คอร์ประสิทธิภาพ (P-core), 12 เธรด, ความเร็วพื้นฐาน 2.5 GHz และบูสต์สูงสุด 4.5 GHz ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมเพียง 100 MHz เท่านั้น แม้จะดูเหมือนการเปลี่ยนชื่อเฉย ๆ แต่เบื้องหลังคือกลยุทธ์ของ Intel ที่ใช้ die stepping แบบใหม่ (เช่น H0) เพื่อผลิตได้ถูกลง และเคลียร์สต็อก Alder Lake ก่อนเปิดตัว Core Ultra 200S ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arrow Lake ✅ Intel เปิดตัว Core 5 120 และ 120F ในกลุ่มซีพียูราคาประหยัด ➡️ ใช้ชื่อใหม่ที่ไม่ตรงกับซีรีส์ก่อนหน้า ➡️ 120F ไม่มีกราฟิกในตัว แต่สเปกเหมือนกัน ✅ Core 5 120 มีสเปกใกล้เคียงกับ Core i5-12400 อย่างมาก ➡️ 6 P-core, 12 เธรด, 2.5–4.5 GHz ➡️ เพิ่มบูสต์เพียง 100 MHz จากรุ่นเดิม ✅ ใช้ L3 cache ขนาด 18MB และรองรับ DDR5-4800 ➡️ เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดบนเมนบอร์ด LGA 1700 ➡️ ไม่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์เดิม ✅ อาจใช้ die stepping แบบ H0 ที่ประหยัดต้นทุนมากกว่า C0 ➡️ ช่วยลดต้นทุนการผลิต ➡️ ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพในงานทั่วไป ✅ เปิดตัวในช่วงที่ Intel เตรียมเปิดตัว Core Ultra 200S ที่ใช้ Arrow Lake ➡️ เป็นการเคลียร์สต็อก Alder Lake ➡️ ใช้ชื่อใหม่เพื่อแยกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ‼️ การใช้ชื่อใหม่อย่าง “Core 5 120” อาจทำให้ผู้ซื้อสับสนกับซีรีส์อื่น ⛔ ไม่ตรงกับชื่อ Core Ultra หรือ Raptor Lake ⛔ อาจเข้าใจผิดว่าเป็นสถาปัตยกรรมใหม่ ‼️ การรีแบรนด์รุ่นเก่าอาจทำให้ผู้ใช้จ่ายเงินเพิ่มโดยไม่ได้ประสิทธิภาพที่ต่างกันมาก ⛔ เพิ่มบูสต์เพียงเล็กน้อยจากรุ่นเดิม ⛔ ประสิทธิภาพจริงใกล้เคียงกับ i5-12400 ‼️ ไม่มีข้อมูลชัดเจนเรื่อง stepping ที่ใช้ใน Core 5 120 ⛔ อาจมีผลต่อความร้อนหรือการใช้พลังงาน ⛔ ผู้ใช้ไม่สามารถเลือก stepping ได้จากข้อมูลทั่วไป ‼️ การเปิดตัวแบบเงียบ ๆ อาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่ทันสังเกตว่าเป็นรุ่นรีแบรนด์ ⛔ ไม่มีการประชาสัมพันธ์ชัดเจน ⛔ อาจเข้าใจผิดว่าเป็นรุ่นใหม่ทั้งหมด https://www.techspot.com/news/108899-familiar-specs-new-name-intel-core-5-120.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Familiar specs, new name: Intel's Core 5 120 processors enter the market
    The Core 5 120 doesn't break new ground but instead traces its lineage directly to Intel's older Alder Lake architecture. Despite the updated branding, technical specs show...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากบทความ: เมื่อ “Abundance” ปะทะ “Anti-Monopoly” ในสนามนโยบายที่อยู่อาศัย

    ในช่วงหลังการเลือกตั้งปี 2024 แนวคิด “Abundance” หรือ “ความมั่งคั่งเข้าถึงได้” กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง โดยเสนอให้ลดข้อจำกัดด้านกฎหมายและขั้นตอนราชการ เพื่อเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ที่อยู่อาศัย พลังงาน และการขนส่ง

    แต่ฝ่าย “Anti-Monopoly” หรือ “ต่อต้านการผูกขาด” กลับมองว่าแนวคิดนี้อาจเปิดช่องให้บริษัทขนาดใหญ่เข้ามาครอบครองตลาด โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีหลักฐานว่าบริษัทลงทุนขนาดใหญ่กำลังซื้อบ้านเดี่ยวจำนวนมาก ทำให้ราคาบ้านและค่าเช่าพุ่งสูงขึ้น

    บทความหลายชิ้นชี้ว่า การแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยไม่ควรเลือกข้างระหว่าง “สร้างเยอะ” กับ “ควบคุมตลาด” แต่ควรใช้ทั้งสองแนวทางร่วมกัน เพื่อให้เกิดทั้งปริมาณและความเป็นธรรม

    แนวคิด Abundance เน้นลดข้อจำกัดเพื่อเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
    เช่น ลดขั้นตอนการขออนุญาตก่อสร้าง
    ส่งเสริมการลงทุนในที่อยู่อาศัย พลังงานสะอาด และระบบขนส่ง

    ฝ่าย Anti-Monopoly เตือนว่าการลดข้อจำกัดอาจเปิดช่องให้เกิดการผูกขาด
    โดยเฉพาะในตลาดที่อยู่อาศัยที่บริษัทใหญ่เริ่มครอบครอง
    ส่งผลให้ราคาบ้านและค่าเช่าสูงขึ้น

    นักวิจารณ์เสนอว่าไม่ควรเลือกข้าง แต่ควรใช้ทั้งสองแนวทางร่วมกัน
    สร้างที่อยู่อาศัยให้มากขึ้น
    พร้อมควบคุมไม่ให้ตลาดถูกครอบงำโดยกลุ่มทุน

    มีหลักฐานว่าบริษัทลงทุนขนาดใหญ่ถือครองบ้านเดี่ยวจำนวนมากในบางพื้นที่
    เกิดการรวมศูนย์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์
    ทำให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงบ้านได้ยากขึ้น

    แนวคิด Abundance ยังเสนอให้ลดภาระต่อระบบนวัตกรรม เช่น R&D และการพัฒนาเทคโนโลยี
    เพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้าถึงได้ง่าย
    ลดต้นทุนการใช้ชีวิตในระยะยาว

    การลดข้อจำกัดโดยไม่ควบคุมอาจนำไปสู่การผูกขาดในตลาดที่อยู่อาศัย
    บริษัทใหญ่สามารถซื้อบ้านจำนวนมากและควบคุมราคา
    ทำให้ประชาชนทั่วไปเสียโอกาสในการเป็นเจ้าของบ้าน

    การเน้น “สร้างเยอะ” โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพและการกระจายอาจสร้างปัญหาใหม่
    ที่อยู่อาศัยอาจไม่ตอบโจทย์ผู้มีรายได้น้อย
    เกิดการกระจุกตัวของโครงสร้างพื้นฐานในบางพื้นที่

    การพึ่งพาภาคเอกชนมากเกินไปอาจทำให้รัฐสูญเสียบทบาทในการกำกับดูแล
    รัฐอาจไม่สามารถควบคุมราคาหรือคุณภาพได้
    ประชาชนอาจกลายเป็นผู้บริโภคที่ไม่มีอำนาจต่อรอง

    การมองข้ามบทบาทของนโยบายต่อต้านการผูกขาดอาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระยะยาว
    ตลาดที่ไม่มีการแข่งขันจะไม่เกิดนวัตกรรม
    ผู้บริโภคต้องจ่ายแพงขึ้นโดยไม่มีทางเลือก

    https://www.derekthompson.org/p/the-anti-abundance-critique-on-housing
    🎙️ เรื่องเล่าจากบทความ: เมื่อ “Abundance” ปะทะ “Anti-Monopoly” ในสนามนโยบายที่อยู่อาศัย ในช่วงหลังการเลือกตั้งปี 2024 แนวคิด “Abundance” หรือ “ความมั่งคั่งเข้าถึงได้” กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง โดยเสนอให้ลดข้อจำกัดด้านกฎหมายและขั้นตอนราชการ เพื่อเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ที่อยู่อาศัย พลังงาน และการขนส่ง แต่ฝ่าย “Anti-Monopoly” หรือ “ต่อต้านการผูกขาด” กลับมองว่าแนวคิดนี้อาจเปิดช่องให้บริษัทขนาดใหญ่เข้ามาครอบครองตลาด โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีหลักฐานว่าบริษัทลงทุนขนาดใหญ่กำลังซื้อบ้านเดี่ยวจำนวนมาก ทำให้ราคาบ้านและค่าเช่าพุ่งสูงขึ้น บทความหลายชิ้นชี้ว่า การแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยไม่ควรเลือกข้างระหว่าง “สร้างเยอะ” กับ “ควบคุมตลาด” แต่ควรใช้ทั้งสองแนวทางร่วมกัน เพื่อให้เกิดทั้งปริมาณและความเป็นธรรม ✅ แนวคิด Abundance เน้นลดข้อจำกัดเพื่อเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ➡️ เช่น ลดขั้นตอนการขออนุญาตก่อสร้าง ➡️ ส่งเสริมการลงทุนในที่อยู่อาศัย พลังงานสะอาด และระบบขนส่ง ✅ ฝ่าย Anti-Monopoly เตือนว่าการลดข้อจำกัดอาจเปิดช่องให้เกิดการผูกขาด ➡️ โดยเฉพาะในตลาดที่อยู่อาศัยที่บริษัทใหญ่เริ่มครอบครอง ➡️ ส่งผลให้ราคาบ้านและค่าเช่าสูงขึ้น ✅ นักวิจารณ์เสนอว่าไม่ควรเลือกข้าง แต่ควรใช้ทั้งสองแนวทางร่วมกัน ➡️ สร้างที่อยู่อาศัยให้มากขึ้น ➡️ พร้อมควบคุมไม่ให้ตลาดถูกครอบงำโดยกลุ่มทุน ✅ มีหลักฐานว่าบริษัทลงทุนขนาดใหญ่ถือครองบ้านเดี่ยวจำนวนมากในบางพื้นที่ ➡️ เกิดการรวมศูนย์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ➡️ ทำให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงบ้านได้ยากขึ้น ✅ แนวคิด Abundance ยังเสนอให้ลดภาระต่อระบบนวัตกรรม เช่น R&D และการพัฒนาเทคโนโลยี ➡️ เพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้าถึงได้ง่าย ➡️ ลดต้นทุนการใช้ชีวิตในระยะยาว ‼️ การลดข้อจำกัดโดยไม่ควบคุมอาจนำไปสู่การผูกขาดในตลาดที่อยู่อาศัย ⛔ บริษัทใหญ่สามารถซื้อบ้านจำนวนมากและควบคุมราคา ⛔ ทำให้ประชาชนทั่วไปเสียโอกาสในการเป็นเจ้าของบ้าน ‼️ การเน้น “สร้างเยอะ” โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพและการกระจายอาจสร้างปัญหาใหม่ ⛔ ที่อยู่อาศัยอาจไม่ตอบโจทย์ผู้มีรายได้น้อย ⛔ เกิดการกระจุกตัวของโครงสร้างพื้นฐานในบางพื้นที่ ‼️ การพึ่งพาภาคเอกชนมากเกินไปอาจทำให้รัฐสูญเสียบทบาทในการกำกับดูแล ⛔ รัฐอาจไม่สามารถควบคุมราคาหรือคุณภาพได้ ⛔ ประชาชนอาจกลายเป็นผู้บริโภคที่ไม่มีอำนาจต่อรอง ‼️ การมองข้ามบทบาทของนโยบายต่อต้านการผูกขาดอาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระยะยาว ⛔ ตลาดที่ไม่มีการแข่งขันจะไม่เกิดนวัตกรรม ⛔ ผู้บริโภคต้องจ่ายแพงขึ้นโดยไม่มีทางเลือก https://www.derekthompson.org/p/the-anti-abundance-critique-on-housing
    WWW.DEREKTHOMPSON.ORG
    The Anti-Abundance Critique on Housing Is Dead Wrong
    Antitrust critics say that homebuilding monopolies are the real culprit of America’s housing woes. I looked into some of their claims. They don’t hold up.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • แข่งพรีเมียร์ลีก มาเล่น ไทยลีก 02/08/68 #พลังกาญจน์ #ทีมไทยลีก #แอนดรอส ทาวน์เซนต์ #นักฟุตบอล
    แข่งพรีเมียร์ลีก มาเล่น ไทยลีก 02/08/68 #พลังกาญจน์ #ทีมไทยลีก #แอนดรอส ทาวน์เซนต์ #นักฟุตบอล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ภาษีทรัมป์ซัดไทย 19% ต้องปรับตัว 10 ข้อใหญ่ เปิดตลาดสินค้าสหรัฐฯ ลดดุลการค้า70% ดึงลงทุน EEC ซื้อพลังงาน-เครื่องบิน ผ่อนคลายกฎนำเข้า รับกติกาถิ่นกำเนิดสินค้าใหม่ ขยายโควตาเกษตรสหรัฐฯ ลดภาษีบริการดิจิทัล ปกป้องสินค้าเกษตรไทย ลดความตึงเครียดชายแดน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000073108

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ภาษีทรัมป์ซัดไทย 19% ต้องปรับตัว 10 ข้อใหญ่ เปิดตลาดสินค้าสหรัฐฯ ลดดุลการค้า70% ดึงลงทุน EEC ซื้อพลังงาน-เครื่องบิน ผ่อนคลายกฎนำเข้า รับกติกาถิ่นกำเนิดสินค้าใหม่ ขยายโควตาเกษตรสหรัฐฯ ลดภาษีบริการดิจิทัล ปกป้องสินค้าเกษตรไทย ลดความตึงเครียดชายแดน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000073108 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 556 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทัพบกคุมเข้ม! หลังพบโดรนลึกลับบินเหนือค่ายทหารอุบลฯ สั่งยกระดับรับมือภัยคุกคามทั่วประเทศ พร้อมโชว์ศักยภาพอาวุธเลเซอร์พลังงานสูงทำลายเป้าหมายกลางคืน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073055

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทัพบกคุมเข้ม! หลังพบโดรนลึกลับบินเหนือค่ายทหารอุบลฯ สั่งยกระดับรับมือภัยคุกคามทั่วประเทศ พร้อมโชว์ศักยภาพอาวุธเลเซอร์พลังงานสูงทำลายเป้าหมายกลางคืน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073055 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทิศต้องห้าม.....ประจำเดือนสิงหาคม 2568

    ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม ถึง วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ.2568 สิ่งสำคัญคือ ควรเลี่ยงต่อการกระทบ ทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทาง ดังนี้

    1. ทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว) ทิศตะวันออก/เหนือ 艮卦(กึ๊งข่วย) ราศี 寅(เอี๊ยง) ตั้งแต่รัศมี 52.5 ถึง 67.5 องศา

    2. ทิศ 3 อสูร 月三煞(หง่วยซาสั่วะ) ตั้งแต่ทิศตะวันออก/ใต้ 巽卦(สุ่งข่วย) รัศมี 135 องศา ถึง ทิศตะวันตก/ใต้ 坤卦(เคี้ยงข่วย) รัศมี 225 องศา

    3. ทิศ 5 เหลือง 五黃(โหงวอี๊ง) ทิศใจกลาง

    ดังนั้นหากกระทบสะเทือนถึงดินที่อัดอั้นด้วยกระแสพลังร้ายอันรุนแรงรอเพียงแค่การปลดปล่อย ด้วยการทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทางดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น ส่งผลให้ท่านที่ชะตาตก ชีวิตจะเกิดวิกฤต กลุ้ม วุ่นวาย มากอุปสรรคปัญหา ขัดแย้ง แตกแยก ถูกแทงหลัง ปองร้าย จี้ ปล้น ขโมย เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น พัวพันเรื่องคดีความจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือเกิดเจ็บป่วย ต้องผ่าตัดรักษาอาการ หรือจะบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุเภทภัยที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคคลที่เกิดปีขาลพึงระวังเป็นพิเศษ

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ทิศต้องห้าม.....ประจำเดือนสิงหาคม 2568 ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม ถึง วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ.2568 สิ่งสำคัญคือ ควรเลี่ยงต่อการกระทบ ทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทาง ดังนี้ 1. ทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว) ทิศตะวันออก/เหนือ 艮卦(กึ๊งข่วย) ราศี 寅(เอี๊ยง) ตั้งแต่รัศมี 52.5 ถึง 67.5 องศา 2. ทิศ 3 อสูร 月三煞(หง่วยซาสั่วะ) ตั้งแต่ทิศตะวันออก/ใต้ 巽卦(สุ่งข่วย) รัศมี 135 องศา ถึง ทิศตะวันตก/ใต้ 坤卦(เคี้ยงข่วย) รัศมี 225 องศา 3. ทิศ 5 เหลือง 五黃(โหงวอี๊ง) ทิศใจกลาง ดังนั้นหากกระทบสะเทือนถึงดินที่อัดอั้นด้วยกระแสพลังร้ายอันรุนแรงรอเพียงแค่การปลดปล่อย ด้วยการทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทางดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น ส่งผลให้ท่านที่ชะตาตก ชีวิตจะเกิดวิกฤต กลุ้ม วุ่นวาย มากอุปสรรคปัญหา ขัดแย้ง แตกแยก ถูกแทงหลัง ปองร้าย จี้ ปล้น ขโมย เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น พัวพันเรื่องคดีความจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือเกิดเจ็บป่วย ต้องผ่าตัดรักษาอาการ หรือจะบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุเภทภัยที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคคลที่เกิดปีขาลพึงระวังเป็นพิเศษ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts