• แผนชั่ว ตอนที่ 12

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 12 (จบ)
    กลับมาดูกันดีๆอีกที จะได้รู้ว่า ยุทธศาสตร์การเมืองโลก เขาต้องวางกันเป็นปีๆ ประเภทใจร้อนถาม ทำไมไม่ทำนั่น ทำไมไม่ปิดนี่ มันไม่ง่ายแบบเล่นเป่ากบนะครับ จะเล่นฟุตบอล ตีเทนนิส ยังต้องวางแผน นับประสาอะไรกับบ้านเมือง แต่ถ้าเล่นแบบไม่หวงไม่ห่วง คิดมั่วคิดโกงแบบนั้น ให้ทำพรุ่งนี้ทั้งเมืองก็ได้ ฉิบหาย ก็เปิดแน่บไปอยู่เมืองนอก คอยส่งเสียงเห่ามายุ ลูกน้องก็หอนตอบ จะเอาอย่างนั้นอีกหรือครับ
    ผมจะไล่เรียงเหตุการณ์ให้ใหม่ จะได้เห็นกันชัดๆ
    1999 – จีนเข้าไปลงทุน สำรวจแหล่งน้ำมันในซูดาน
    2004 – จีนเริ่มเจรจากับพม่า เรื่องการสร้างท่อส่ง จากพม่าไปจีน
    2005 – การร่วมทุน จีน-ซูดาน พบแหล่งน้ำมัน
    2006 – เกิดสงครามกลางเมืองที่ ดาร์ฟู ในซูดานใต้ ที่จีนพบแหล่งน้ำมัน
    – จีน จัดอาฟริกันซัมมิท ผูกมิตรกับอาฟริกา
    2007 – คุณลุงหู ของจีน ไปเยี่ยมซูดาน
    – จีน เริ่มลงทุนสำรวจน้ำมันในชาด
    – อเมริกา ตั้ง AFRICOM
    – เกิดการประท้วงใหญ่ หรือปฏิวัติสีจีวรในพม่า
    2008 – พม่าทำสัญญากับจีน ตกลงให้จีนสร้างท่อส่งแก๊ส จากท่าเรือที่พม่าไปจีน
    2009 – อัลไดด้า ตั้งฐานที่เยเมน อเมริกานำกำลังมาปราบ และทิ้งกำลังไว้ในเยเมน
    และเกิดสลัดโซมาเลีย
    2010 – เกิดกบฏในลิเบีย
    2011 – กัดดาฟี ถูกเก็บ
    – เกิดรัฐซูดานใต้ จีนกินแห้วซูดาน
    – จีนเริ่มก่อสร้างท่อส่งน้ำมัน จาก ท่าเรือพม่าไปจีน
    2015 – ท่อส่ง จีน-พม่า เสร็จเรียบร้อย
    จากไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ คงเห็นว่า ปี ค.ศ.2005 น่าจะเป็นปีสำคัญ เป็นปีที่อเมริการู้ชัดแล้วว่า จีนเข้าไปปักธงในอาฟริกาสำเร็จ แผนการซูดาน ลิเบีย จึงต้องรีบเกิด เพื่อกันท่าจีน และคุมอาฟริกาต่อ
    ส่วนจีน เมื่อเรื่มสำรวจในอาฟริกาได้ 2,3 ปี พอรู้ว่า น่าจะมีน้ำมันแน่ จีนต้องคิดเตรียมการ หาลู่ทางส่งน้ำมันมาจีน อย่างไม่ให้โดนกักและไม่เพิ่มต้นทุน จีนเป็นพ่อค้า ที่มองการณ์ไกล คงเห็นแล้วว่า เส้นทางส่งน้ำมันที่จะมาถึงจีน มีจุดตายอยู่ที่ไหนบ้าง พม่าที่ยังปิดประตูบ้าน น่าเป็นทางออกที่ดี จีนจึงเริ่มเจรจาเงียบๆ ขณะเดียวกัน ก็เดินหน้าเต็มสูบในอาฟริกา จับมือไปทั่ว ทำให้อเมริกาต้องรีบตั้ง AFRICOM มาคอยตักตีหัวจีน และหัวอื่น ที่ช่วยจีนแถวอาฟริกา และตะวันออกกลาง
    จีนหาแหล่งพลังงาน โดยใช้ยุทธศาสตร์การร่วมลงทุนนำ หน้า ใครจะเป็นผู้ปกครองประเทศ ด้วยระบอบอะไร ชอบไม่ชอบอะไร จีนไม่ไปยุ่งในบ้านเขา จีนเพียงต้องการลงทุน หาพลังงานไปเลี้ยงประเทศของตัว
    ส่วนอเมริกา ก็ต้องการแหล่งพลังงาน แต่วิธีการต่างกับจีน อเมริกาหาพลังงาน ด้วยการสร้างสงครามกลางเมือง ด้วยการสร้างปฏิวัติ ด้วยการถล่มเมือง ด้วยการฆ่าผู้นำ พูดให้ชัด ก็กระทำการเป็นโจรปล้น และ ฆ่าเจ้าของทรัพย์น่ะ ใครที่บอกว่า จีน รัสเซีย ก็เลวไม่ต่างกับอเมริกา อาจจะเลวมากว่าด้วยซ้ำ ก็ไปศึกษาพิจารณา ดูเองบ้าง อย่าทำตัวเป็นพวกนกแก้ว หรือจิ้งหรีดถูกปั่นหัว
    วันนี้ จีนรอดจากห่วงรัดคอ ที่ช่องแคบมะละกาแล้ว อเมริกาจะทำอย่างไร อเมริกา น่าจะอาการหนัก ขาฉีก ด้านหนึ่ง คงขึ้นเหนือ สงครามทำลายท่อส่งจีนพม่าน่าจะ เกิดขึ้น ความวุ่นวายในพม่า คงเกิดขึ้นอีกรอบ ท่านทั้งหลายที่สงสัยว่า ทำไมเขาว่าจีนอยู่เต็มพม่า ก็คงจะเข้าใจ รัฐบาลพม่าน่าจะไม่เหยียบเรือที่แคม ไม่งั้นคุณนายซูไม่พริ้วไปจีนเมื่อเร็วๆนี้หรอก
    อีกด้าน อเมริกาก็จะปล่อยช่องแคบมะละกา ไม่ได้เหมือนกัน แต่คราวนี้ ด้วยเหตุผลต่างกัน ก่อนหน้านี้ เพื่อกักน้ำมันไม่ให้ไปจีน แต่ตอนนี้ต้องมาป้องกัน ไม่ให้น้ำมันที่จะไปญี่ปุ่นถูกกัก ซึ่งต้องใช้เส้นทางผ่านช่องแคบมะละกานี่เหมือนกัน เออ โลกมันก็หมุนกลับได้เหมือนกันนะ เพิ่งจะผ่านกฏหมายให้มาแบกถาดรับใช้อเมริกา แต่ดันไม่มีน้ำมัน ซามูไร ยากูซ่า คงด่ากันขรม จะให้ตีกรรเชียงแบกถาดมาหรือไงวะ อ๊าย สนุกจังเนะ
    แล้วนี่ถ้าเกิดมีสลัดมะละกอ อยู่แถวมะละกา จะทำยังไงคร้าบ ผู้ก่อการร้ายก็ดก โพกหัวเข้าหน่อยไม่รู้มาจากไหน มิน่า คุณป๊ะนาจิป ถึงได้ใบเหลือง…
    (นิทานเรื่องนี้ ขอจบก่อนนะครับ พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าไม่ต้องรออ่าน จริงๆ มีเรื่อง น่าจะเขียนถึง อีก 3,4 ตอน แต่ผมหมดแรงแล้ว ผมขอส่งใบลาพัก ไปไขลานหน่อย เมื่อยไปทั้งตัว เดินจะไม่ไหว ไขลานแล้วเดินไหวจะกลับมาใหม่ และก็อยากให้ไอ้คนทำหน้าที่ป่วนเพจนิทาน มันได้หยุดพักมั่ง ทำงาน วันละ 25 ชั่วโมงเหมือนกัน มันใช้เอ็งยังกับทาส ยังทำให้มันอยู่อีกเรอะ?!)
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 12 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 12 (จบ) กลับมาดูกันดีๆอีกที จะได้รู้ว่า ยุทธศาสตร์การเมืองโลก เขาต้องวางกันเป็นปีๆ ประเภทใจร้อนถาม ทำไมไม่ทำนั่น ทำไมไม่ปิดนี่ มันไม่ง่ายแบบเล่นเป่ากบนะครับ จะเล่นฟุตบอล ตีเทนนิส ยังต้องวางแผน นับประสาอะไรกับบ้านเมือง แต่ถ้าเล่นแบบไม่หวงไม่ห่วง คิดมั่วคิดโกงแบบนั้น ให้ทำพรุ่งนี้ทั้งเมืองก็ได้ ฉิบหาย ก็เปิดแน่บไปอยู่เมืองนอก คอยส่งเสียงเห่ามายุ ลูกน้องก็หอนตอบ จะเอาอย่างนั้นอีกหรือครับ ผมจะไล่เรียงเหตุการณ์ให้ใหม่ จะได้เห็นกันชัดๆ 1999 – จีนเข้าไปลงทุน สำรวจแหล่งน้ำมันในซูดาน 2004 – จีนเริ่มเจรจากับพม่า เรื่องการสร้างท่อส่ง จากพม่าไปจีน 2005 – การร่วมทุน จีน-ซูดาน พบแหล่งน้ำมัน 2006 – เกิดสงครามกลางเมืองที่ ดาร์ฟู ในซูดานใต้ ที่จีนพบแหล่งน้ำมัน – จีน จัดอาฟริกันซัมมิท ผูกมิตรกับอาฟริกา 2007 – คุณลุงหู ของจีน ไปเยี่ยมซูดาน – จีน เริ่มลงทุนสำรวจน้ำมันในชาด – อเมริกา ตั้ง AFRICOM – เกิดการประท้วงใหญ่ หรือปฏิวัติสีจีวรในพม่า 2008 – พม่าทำสัญญากับจีน ตกลงให้จีนสร้างท่อส่งแก๊ส จากท่าเรือที่พม่าไปจีน 2009 – อัลไดด้า ตั้งฐานที่เยเมน อเมริกานำกำลังมาปราบ และทิ้งกำลังไว้ในเยเมน และเกิดสลัดโซมาเลีย 2010 – เกิดกบฏในลิเบีย 2011 – กัดดาฟี ถูกเก็บ – เกิดรัฐซูดานใต้ จีนกินแห้วซูดาน – จีนเริ่มก่อสร้างท่อส่งน้ำมัน จาก ท่าเรือพม่าไปจีน 2015 – ท่อส่ง จีน-พม่า เสร็จเรียบร้อย จากไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ คงเห็นว่า ปี ค.ศ.2005 น่าจะเป็นปีสำคัญ เป็นปีที่อเมริการู้ชัดแล้วว่า จีนเข้าไปปักธงในอาฟริกาสำเร็จ แผนการซูดาน ลิเบีย จึงต้องรีบเกิด เพื่อกันท่าจีน และคุมอาฟริกาต่อ ส่วนจีน เมื่อเรื่มสำรวจในอาฟริกาได้ 2,3 ปี พอรู้ว่า น่าจะมีน้ำมันแน่ จีนต้องคิดเตรียมการ หาลู่ทางส่งน้ำมันมาจีน อย่างไม่ให้โดนกักและไม่เพิ่มต้นทุน จีนเป็นพ่อค้า ที่มองการณ์ไกล คงเห็นแล้วว่า เส้นทางส่งน้ำมันที่จะมาถึงจีน มีจุดตายอยู่ที่ไหนบ้าง พม่าที่ยังปิดประตูบ้าน น่าเป็นทางออกที่ดี จีนจึงเริ่มเจรจาเงียบๆ ขณะเดียวกัน ก็เดินหน้าเต็มสูบในอาฟริกา จับมือไปทั่ว ทำให้อเมริกาต้องรีบตั้ง AFRICOM มาคอยตักตีหัวจีน และหัวอื่น ที่ช่วยจีนแถวอาฟริกา และตะวันออกกลาง จีนหาแหล่งพลังงาน โดยใช้ยุทธศาสตร์การร่วมลงทุนนำ หน้า ใครจะเป็นผู้ปกครองประเทศ ด้วยระบอบอะไร ชอบไม่ชอบอะไร จีนไม่ไปยุ่งในบ้านเขา จีนเพียงต้องการลงทุน หาพลังงานไปเลี้ยงประเทศของตัว ส่วนอเมริกา ก็ต้องการแหล่งพลังงาน แต่วิธีการต่างกับจีน อเมริกาหาพลังงาน ด้วยการสร้างสงครามกลางเมือง ด้วยการสร้างปฏิวัติ ด้วยการถล่มเมือง ด้วยการฆ่าผู้นำ พูดให้ชัด ก็กระทำการเป็นโจรปล้น และ ฆ่าเจ้าของทรัพย์น่ะ ใครที่บอกว่า จีน รัสเซีย ก็เลวไม่ต่างกับอเมริกา อาจจะเลวมากว่าด้วยซ้ำ ก็ไปศึกษาพิจารณา ดูเองบ้าง อย่าทำตัวเป็นพวกนกแก้ว หรือจิ้งหรีดถูกปั่นหัว วันนี้ จีนรอดจากห่วงรัดคอ ที่ช่องแคบมะละกาแล้ว อเมริกาจะทำอย่างไร อเมริกา น่าจะอาการหนัก ขาฉีก ด้านหนึ่ง คงขึ้นเหนือ สงครามทำลายท่อส่งจีนพม่าน่าจะ เกิดขึ้น ความวุ่นวายในพม่า คงเกิดขึ้นอีกรอบ ท่านทั้งหลายที่สงสัยว่า ทำไมเขาว่าจีนอยู่เต็มพม่า ก็คงจะเข้าใจ รัฐบาลพม่าน่าจะไม่เหยียบเรือที่แคม ไม่งั้นคุณนายซูไม่พริ้วไปจีนเมื่อเร็วๆนี้หรอก อีกด้าน อเมริกาก็จะปล่อยช่องแคบมะละกา ไม่ได้เหมือนกัน แต่คราวนี้ ด้วยเหตุผลต่างกัน ก่อนหน้านี้ เพื่อกักน้ำมันไม่ให้ไปจีน แต่ตอนนี้ต้องมาป้องกัน ไม่ให้น้ำมันที่จะไปญี่ปุ่นถูกกัก ซึ่งต้องใช้เส้นทางผ่านช่องแคบมะละกานี่เหมือนกัน เออ โลกมันก็หมุนกลับได้เหมือนกันนะ เพิ่งจะผ่านกฏหมายให้มาแบกถาดรับใช้อเมริกา แต่ดันไม่มีน้ำมัน ซามูไร ยากูซ่า คงด่ากันขรม จะให้ตีกรรเชียงแบกถาดมาหรือไงวะ อ๊าย สนุกจังเนะ แล้วนี่ถ้าเกิดมีสลัดมะละกอ อยู่แถวมะละกา จะทำยังไงคร้าบ ผู้ก่อการร้ายก็ดก โพกหัวเข้าหน่อยไม่รู้มาจากไหน มิน่า คุณป๊ะนาจิป ถึงได้ใบเหลือง… (นิทานเรื่องนี้ ขอจบก่อนนะครับ พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าไม่ต้องรออ่าน จริงๆ มีเรื่อง น่าจะเขียนถึง อีก 3,4 ตอน แต่ผมหมดแรงแล้ว ผมขอส่งใบลาพัก ไปไขลานหน่อย เมื่อยไปทั้งตัว เดินจะไม่ไหว ไขลานแล้วเดินไหวจะกลับมาใหม่ และก็อยากให้ไอ้คนทำหน้าที่ป่วนเพจนิทาน มันได้หยุดพักมั่ง ทำงาน วันละ 25 ชั่วโมงเหมือนกัน มันใช้เอ็งยังกับทาส ยังทำให้มันอยู่อีกเรอะ?!) สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 ก.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • โศกนาฏกรรมเพนกวินแอฟริกา 62,000 ตัวตายเพราะอดอาหาร

    งานวิจัยใหม่เผยให้เห็นการลดลงอย่างรุนแรงของประชากร เพนกวินแอฟริกา (African penguin) บริเวณชายฝั่งแอฟริกาใต้ ระหว่างปี 2004–2011 มีเพนกวินโตเต็มวัยกว่า 62,000 ตัว เสียชีวิตจากการอดอาหาร เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและการทำประมงที่เข้มข้นเกินไป

    สาเหตุหลักของการอดอาหาร
    ปริมาณ ปลาซาร์ดีน (Sardinops sagax) ซึ่งเป็นอาหารหลักของเพนกวิน ลดลงเหลือเพียง 25% ของระดับสูงสุด
    การเปลี่ยนแปลงของ อุณหภูมิและความเค็มของน้ำทะเล จากภาวะโลกร้อน ทำให้ปลาลดจำนวนลง
    อัตราการจับปลาซาร์ดีนสูงถึง 80% ในปี 2006 ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ ทำให้เพนกวินไม่สามารถสะสมพลังงานก่อนการผลัดขน (molt) ได้

    ผลกระทบต่อประชากรเพนกวิน
    การอดอาหารครั้งใหญ่ส่งผลให้ประชากรเพนกวินแอฟริกาลดลงถึง 95% ภายใน 8 ปี และในปี 2024 เหลือเพียง ไม่ถึง 10,000 คู่เพาะพันธุ์ ทำให้ถูกจัดอยู่ในสถานะ ใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤติ (Critically Endangered) หากแนวโน้มยังดำเนินต่อไป นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าเพนกวินแอฟริกาอาจ สูญพันธุ์ภายในทศวรรษหน้า

    ความหมายต่อระบบนิเวศและมนุษย์
    การสูญเสียเพนกวินไม่ใช่เพียงการหายไปของสัตว์ชนิดหนึ่ง แต่ยังสะท้อนถึงการล่มสลายของระบบนิเวศทางทะเลที่เชื่อมโยงกับมนุษย์โดยตรง ทั้งการประมง การท่องเที่ยว และความสมดุลของสิ่งแวดล้อม นักวิจัยเสนอว่าการจัดการประมงที่ยั่งยืนและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นสิ่งจำเป็น หากไม่ทำเช่นนั้น เราอาจเห็นการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสัตว์ทะเลต่อเนื่อง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การตายหมู่ของเพนกวินแอฟริกา
    62,000 ตัวตายจากการอดอาหารระหว่างปี 2004–2011

    สาเหตุหลัก
    ปลาซาร์ดีนลดลงเหลือ 25% จากเดิม
    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการทำประมงเกินขนาด

    ผลกระทบต่อประชากร
    ลดลง 95% ใน 8 ปี เหลือไม่ถึง 10,000 คู่เพาะพันธุ์ในปี 2024

    ความหมายต่อระบบนิเวศ
    สะท้อนถึงวิกฤติสิ่งแวดล้อมและความจำเป็นในการจัดการประมงอย่างยั่งยืน

    คำเตือนจากนักวิจัย
    เพนกวินแอฟริกาอาจสูญพันธุ์ภายใน 10 ปี หากไม่แก้ไขปัญหา

    ความเสี่ยงต่อมนุษย์
    การล่มสลายของระบบนิเวศทางทะเลจะกระทบต่อการประมงและเศรษฐกิจโดยตรง

    https://www.sciencealert.com/62000-penguins-starved-to-death-off-south-africas-coast-last-decade-heres-why
    🐧 โศกนาฏกรรมเพนกวินแอฟริกา 62,000 ตัวตายเพราะอดอาหาร งานวิจัยใหม่เผยให้เห็นการลดลงอย่างรุนแรงของประชากร เพนกวินแอฟริกา (African penguin) บริเวณชายฝั่งแอฟริกาใต้ ระหว่างปี 2004–2011 มีเพนกวินโตเต็มวัยกว่า 62,000 ตัว เสียชีวิตจากการอดอาหาร เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและการทำประมงที่เข้มข้นเกินไป 🌊 สาเหตุหลักของการอดอาหาร 💠 ปริมาณ ปลาซาร์ดีน (Sardinops sagax) ซึ่งเป็นอาหารหลักของเพนกวิน ลดลงเหลือเพียง 25% ของระดับสูงสุด 💠 การเปลี่ยนแปลงของ อุณหภูมิและความเค็มของน้ำทะเล จากภาวะโลกร้อน ทำให้ปลาลดจำนวนลง 💠 อัตราการจับปลาซาร์ดีนสูงถึง 80% ในปี 2006 ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ ทำให้เพนกวินไม่สามารถสะสมพลังงานก่อนการผลัดขน (molt) ได้ ⚠️ ผลกระทบต่อประชากรเพนกวิน การอดอาหารครั้งใหญ่ส่งผลให้ประชากรเพนกวินแอฟริกาลดลงถึง 95% ภายใน 8 ปี และในปี 2024 เหลือเพียง ไม่ถึง 10,000 คู่เพาะพันธุ์ ทำให้ถูกจัดอยู่ในสถานะ ใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤติ (Critically Endangered) หากแนวโน้มยังดำเนินต่อไป นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าเพนกวินแอฟริกาอาจ สูญพันธุ์ภายในทศวรรษหน้า 🌍 ความหมายต่อระบบนิเวศและมนุษย์ การสูญเสียเพนกวินไม่ใช่เพียงการหายไปของสัตว์ชนิดหนึ่ง แต่ยังสะท้อนถึงการล่มสลายของระบบนิเวศทางทะเลที่เชื่อมโยงกับมนุษย์โดยตรง ทั้งการประมง การท่องเที่ยว และความสมดุลของสิ่งแวดล้อม นักวิจัยเสนอว่าการจัดการประมงที่ยั่งยืนและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นสิ่งจำเป็น หากไม่ทำเช่นนั้น เราอาจเห็นการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสัตว์ทะเลต่อเนื่อง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การตายหมู่ของเพนกวินแอฟริกา ➡️ 62,000 ตัวตายจากการอดอาหารระหว่างปี 2004–2011 ✅ สาเหตุหลัก ➡️ ปลาซาร์ดีนลดลงเหลือ 25% จากเดิม ➡️ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการทำประมงเกินขนาด ✅ ผลกระทบต่อประชากร ➡️ ลดลง 95% ใน 8 ปี เหลือไม่ถึง 10,000 คู่เพาะพันธุ์ในปี 2024 ✅ ความหมายต่อระบบนิเวศ ➡️ สะท้อนถึงวิกฤติสิ่งแวดล้อมและความจำเป็นในการจัดการประมงอย่างยั่งยืน ‼️ คำเตือนจากนักวิจัย ⛔ เพนกวินแอฟริกาอาจสูญพันธุ์ภายใน 10 ปี หากไม่แก้ไขปัญหา ‼️ ความเสี่ยงต่อมนุษย์ ⛔ การล่มสลายของระบบนิเวศทางทะเลจะกระทบต่อการประมงและเศรษฐกิจโดยตรง https://www.sciencealert.com/62000-penguins-starved-to-death-off-south-africas-coast-last-decade-heres-why
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    62,000 Penguins Starved to Death Off South Africa's Coast Last Decade. Here's Why.
    A brutal confluence of environmental change and human fishing habits left tens of thousands of adult African penguins off South Africa's coast without enough food to survive, reducing their population by around 95 percent in just eight years, a new study reveals.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • การอดอาหารแบบเว้นช่วงเปลี่ยนสมองและลำไส้

    นักวิทยาศาสตร์จากจีนได้ทำการทดลองกับอาสาสมัครที่มีภาวะอ้วนจำนวน 25 คน โดยใช้โปรแกรม Intermittent Energy Restriction (IER) หรือการควบคุมพลังงานแบบเว้นช่วงเป็นเวลา 62 วัน ผลลัพธ์ไม่เพียงทำให้น้ำหนักลดลงเฉลี่ย 7.6 กิโลกรัม (7.8% ของน้ำหนักตัว) แต่ยังพบการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทั้งใน สมองและจุลินทรีย์ในลำไส้

    สมองตอบสนองต่อการอดอาหาร
    การสแกนสมองด้วย fMRI พบว่าบริเวณที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหารและการเสพติด เช่น inferior frontal orbital gyrus มีการเปลี่ยนแปลงกิจกรรมอย่างชัดเจน ซึ่งสัมพันธ์กับความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมการกินและความรู้สึกอยากอาหาร

    ลำไส้และจุลินทรีย์
    การวิเคราะห์ตัวอย่างอุจจาระและเลือดพบว่าแบคทีเรียบางชนิด เช่น Coprococcus comes และ Eubacterium hallii มีความสัมพันธ์เชิงลบกับกิจกรรมในสมองส่วนที่ควบคุมการตัดสินใจและความยับยั้งชั่งใจ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการสื่อสารสองทางระหว่าง สมอง–ลำไส้–จุลินทรีย์ ที่มีผลต่อพฤติกรรมการกิน

    ความหมายต่อสุขภาพโลก
    ด้วยจำนวนประชากรที่มีภาวะอ้วนมากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก การเข้าใจกลไกการเชื่อมโยงระหว่างสมองและลำไส้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง การค้นพบนี้อาจนำไปสู่แนวทางใหม่ในการป้องกันและรักษาโรคอ้วน โดยไม่จำกัดแค่การควบคุมอาหาร แต่รวมถึงการปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้และการกระตุ้นสมองในบริเวณที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหาร

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ผลการทดลอง IER
    น้ำหนักลดเฉลี่ย 7.6 กิโลกรัมใน 62 วัน

    การเปลี่ยนแปลงในสมอง
    กิจกรรมใน inferior frontal orbital gyrus ลดลง ช่วยควบคุมความอยากอาหาร

    การเปลี่ยนแปลงในลำไส้
    จุลินทรีย์บางชนิดสัมพันธ์กับการทำงานของสมองที่เกี่ยวข้องกับการยับยั้งชั่งใจ

    ความหมายต่อสุขภาพโลก
    อาจนำไปสู่การรักษาโรคอ้วนด้วยการปรับสมดุลสมอง–ลำไส้

    ข้อควรระวัง
    ยังไม่ชัดเจนว่าสมองหรือจุลินทรีย์เป็นตัวกระตุ้นหลัก ต้องการการวิจัยเพิ่มเติม

    ความท้าทาย
    การนำไปใช้จริงในวงกว้างยังต้องการการทดลองและการยืนยันเชิงคลินิก

    https://www.sciencealert.com/a-fasting-style-diet-seems-to-result-in-dynamic-changes-to-human-brains
    🥗 การอดอาหารแบบเว้นช่วงเปลี่ยนสมองและลำไส้ นักวิทยาศาสตร์จากจีนได้ทำการทดลองกับอาสาสมัครที่มีภาวะอ้วนจำนวน 25 คน โดยใช้โปรแกรม Intermittent Energy Restriction (IER) หรือการควบคุมพลังงานแบบเว้นช่วงเป็นเวลา 62 วัน ผลลัพธ์ไม่เพียงทำให้น้ำหนักลดลงเฉลี่ย 7.6 กิโลกรัม (7.8% ของน้ำหนักตัว) แต่ยังพบการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทั้งใน สมองและจุลินทรีย์ในลำไส้ 🧠 สมองตอบสนองต่อการอดอาหาร การสแกนสมองด้วย fMRI พบว่าบริเวณที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหารและการเสพติด เช่น inferior frontal orbital gyrus มีการเปลี่ยนแปลงกิจกรรมอย่างชัดเจน ซึ่งสัมพันธ์กับความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมการกินและความรู้สึกอยากอาหาร 🦠 ลำไส้และจุลินทรีย์ การวิเคราะห์ตัวอย่างอุจจาระและเลือดพบว่าแบคทีเรียบางชนิด เช่น Coprococcus comes และ Eubacterium hallii มีความสัมพันธ์เชิงลบกับกิจกรรมในสมองส่วนที่ควบคุมการตัดสินใจและความยับยั้งชั่งใจ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการสื่อสารสองทางระหว่าง สมอง–ลำไส้–จุลินทรีย์ ที่มีผลต่อพฤติกรรมการกิน 🌍 ความหมายต่อสุขภาพโลก ด้วยจำนวนประชากรที่มีภาวะอ้วนมากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก การเข้าใจกลไกการเชื่อมโยงระหว่างสมองและลำไส้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง การค้นพบนี้อาจนำไปสู่แนวทางใหม่ในการป้องกันและรักษาโรคอ้วน โดยไม่จำกัดแค่การควบคุมอาหาร แต่รวมถึงการปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้และการกระตุ้นสมองในบริเวณที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหาร 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ผลการทดลอง IER ➡️ น้ำหนักลดเฉลี่ย 7.6 กิโลกรัมใน 62 วัน ✅ การเปลี่ยนแปลงในสมอง ➡️ กิจกรรมใน inferior frontal orbital gyrus ลดลง ช่วยควบคุมความอยากอาหาร ✅ การเปลี่ยนแปลงในลำไส้ ➡️ จุลินทรีย์บางชนิดสัมพันธ์กับการทำงานของสมองที่เกี่ยวข้องกับการยับยั้งชั่งใจ ✅ ความหมายต่อสุขภาพโลก ➡️ อาจนำไปสู่การรักษาโรคอ้วนด้วยการปรับสมดุลสมอง–ลำไส้ ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่ชัดเจนว่าสมองหรือจุลินทรีย์เป็นตัวกระตุ้นหลัก ต้องการการวิจัยเพิ่มเติม ‼️ ความท้าทาย ⛔ การนำไปใช้จริงในวงกว้างยังต้องการการทดลองและการยืนยันเชิงคลินิก https://www.sciencealert.com/a-fasting-style-diet-seems-to-result-in-dynamic-changes-to-human-brains
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    A Fasting-Style Diet Seems to Result in Dynamic Changes to Human Brains
    Scientists looking to tackle our ongoing obesity crisis have made an important discovery: Intermittent calorie restriction leads to significant changes both in the gut and the brain, which may open up new options for maintaining a healthy weight.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251208 #TechRadar

    โปรเจ็กเตอร์พกพา Xgimi Horizon 20 Max
    ถ้าใครกำลังมองหาโปรเจ็กเตอร์ที่ทั้งสว่างและภาพสวยจัด ๆ รุ่นใหม่จาก Xgimi ตัวนี้ถือว่าเป็นเรือธงเลย มันใช้ระบบเลเซอร์สามสี ให้ความสว่างสูงถึง 5,700 ISO lumens รองรับ Dolby Vision, HDR10+ และ IMAX Enhanced เรียกว่าดูหนังหรือเล่นเกมก็ได้ภาพคมชัด สีสด และเสียงที่ติดตั้งมาก็ไม่ธรรมดา มีลำโพงจาก Harman Kardon ที่ให้เสียงเบสแน่นและเสียงพูดชัดเจน จุดเด่นอีกอย่างคือฟีเจอร์ปรับภาพอัตโนมัติ ทั้ง keystone, zoom และ lens shift ทำให้ติดตั้งง่ายมาก แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง และยังไม่รองรับ 4K 120Hz สำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่าเป็นโปรเจ็กเตอร์พกพาที่ครบเครื่องที่สุดในตลาดตอนนี้
    https://www.techradar.com/televisions/projectors/xgimi-horizon-20-max-review

    ลำโพง Marshall Middleton II
    Marshall กลับมาอีกครั้งกับลำโพง Bluetooth ขนาดกลางที่ชื่อ Middleton II จุดขายคือเสียงสเตอริโอที่แยกซ้ายขวาได้ชัดเจน ทำให้ฟังเพลงมีมิติและรายละเอียดมากกว่าลำโพงพกพาทั่วไป เสียงเบสลงได้ลึก เสียงกลางและสูงก็สมดุลดี แม้เปิดดังสุดเบสจะอัดแน่นไปบ้างแต่ยังถือว่าดีมาก แถมแบตเตอรี่ใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง ดีไซน์ยังคงความคลาสสิกสไตล์แอมป์ Marshall พร้อมกันฝุ่นและกันน้ำระดับ IP67 แต่ด้วยขนาดและน้ำหนักที่ไม่เบามาก ทำให้พกพาไม่สะดวกเท่ารุ่นเล็ก Emberton III และราคาก็ใกล้เคียงรุ่นใหญ่ Kilburn III จนบางคนอาจลังเลว่าจะเลือกตัวไหนดี ถึงอย่างนั้นถ้าอยากได้ลำโพงกลางที่เสียงดีและดูเท่ Middleton II ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
    https://www.techradar.com/audio/wireless-bluetooth-speakers/marshall-middleton-ii-review

    iOS 26 ยังขาดฟีเจอร์สำคัญ
    แม้ iOS 26 จะเปิดตัวไปแล้วและมีอัปเดตย่อยออกมา แต่ยังมีหลายฟีเจอร์ที่ผู้ใช้รอคอย เช่น การยกเครื่อง Siri ด้วย AI ที่คาดว่าจะมาในปี 2026 โดยใช้เทคโนโลยี Gemini ของ Google เพื่อให้ฉลาดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับ Liquid Glass ให้ผู้ใช้ปรับความโปร่งใสได้เอง, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้ง่ายขึ้น, Podcasts ที่จะมีการสร้าง chapter อัตโนมัติ และสุดท้ายคือการตั้ง “alarm” ให้กับ reminder เพื่อไม่ให้พลาดสิ่งสำคัญ ทั้งหมดนี้คาดว่าจะทยอยมาในอัปเดตย่อยของ iOS 26 ก่อนจะไปสู่ iOS 27 ในปีหน้า
    https://www.techradar.com/phones/iphone/5-features-that-are-still-missing-from-ios-26-and-its-not-just-the-siri-update

    ภัยไซเบอร์ที่ต้องจับตาในปีนี้
    โลกไซเบอร์ไม่ได้หยุดนิ่ง และปี 2026 มีแนวโน้มที่อันตรายจะซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานพบว่ากลุ่มแฮกเกอร์เปลี่ยนวิธีโจมตีจากการเข้ารหัสไฟล์เรียกค่าไถ่ มาเป็นการขโมยข้อมูลแล้วขู่เปิดเผยเพื่อกดดันให้เหยื่อจ่ายเงิน ตัวอย่างเช่นการโจมตีบริษัทโทรคมนาคมในอังกฤษที่ข้อมูลพนักงานและลูกค้าถูกขโมยไปมหาศาล นอกจากนี้ยังมีการใช้ช่องโหว่ในระบบ VPN และอุปกรณ์ edge เพื่อเจาะเข้าระบบ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือ “EDR killers” ที่ทำให้ระบบตรวจจับภัยทำงานยากขึ้น สิ่งเหล่านี้บอกชัดว่าองค์กรต้องเร่งอุดช่องโหว่และเสริมการเฝ้าระวัง เพราะภัยไซเบอร์กำลังพัฒนาเร็วไม่แพ้เทคโนโลยีที่เราใช้
    https://www.techradar.com/pro/threats-to-watch-this-year-from-data-theft-and-extortion-to-edr-killers

    Starforge Systems Frieren PC สำหรับแฟนอนิเมะ
    นี่คือคอมพิวเตอร์เกมมิ่งที่ออกแบบมาเอาใจแฟนอนิเมะ Frieren: Beyond Journey’s End โดยเฉพาะ ตัวเครื่องใช้เคส Lian Li O11 Dynamic ที่ตกแต่งด้วยงานศิลป์จากอนิเมะ พร้อมไฟ RGB ที่ปรับได้เต็มที่ ภายในประกอบด้วย Intel Core i5-14600K, การ์ดจอ AMD Radeon RX 9070 XT, RAM 32GB และ SSD 1TB ทำให้เล่นเกมได้ลื่นทั้ง 1080p, 1440p และถึงขั้น 4K ถ้าเปิด FSR ของ AMD เสริม จุดเด่นคือดีไซน์สวยมากและมีของแถมอย่าง desk mat และ art panel แต่ราคาก็สูงถึง $2,499.99 ซึ่งถือว่าเป็นพรีเมียมสำหรับแฟนอนิเมะที่อยากได้เครื่องแรงและสวยในเวลาเดียวกัน
    https://www.techradar.com/computing/gaming-pcs/starforge-systems-frieren-pc-review

    กระเป๋ากล้อง Ulanzi 9L Sling Bag
    สำหรับคนที่ชอบพกกล้องไปถ่ายรูปนอกบ้าน Ulanzi 9L Sling Bag รุ่นนี้ถือว่าออกแบบมาได้ลงตัวมาก ขนาดกะทัดรัดแต่ใส่กล้องและเลนส์ได้ครบ พร้อมช่องสำหรับขาตั้งกล้องที่ติดตั้งมาให้โดยเฉพาะ วัสดุแข็งแรง กันละอองน้ำได้ดี และมีช่องแบ่งภายในที่ปรับได้ตามอุปกรณ์ จุดเด่นคือการเข้าถึงกล้องได้รวดเร็วเพราะเป็นแบบ sling สะพายข้าง แต่ข้อจำกัดคือความจุไม่มากนัก เหมาะกับคนที่พกอุปกรณ์ไม่เยอะและอยากได้ความคล่องตัวเป็นหลัก
    https://www.techradar.com/cameras/camera-accessories/ulanzi-9l-camera-sling-bag-with-tripod-holder-b122-review

    มอเตอร์ไซค์ Flying Flea รุ่นไฟฟ้า
    จากตำนานรถจักรยานยนต์ในสงครามโลกครั้งที่สอง Flying Flea ได้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ในเวอร์ชันไฟฟ้า ปี 2026 นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่น่าตื่นเต้นที่สุด รถยังคงรูปลักษณ์คลาสสิกแต่เพิ่มเทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงบิดทันใจ แบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนได้ และระบบเบรกที่ปลอดภัยกว่าเดิม จุดขายคือการผสมผสานความเป็นประวัติศาสตร์กับนวัตกรรมใหม่ ทำให้คนที่หลงใหลในรถคลาสสิกและสาย EV ต่างจับตามอง แต่แน่นอนว่าราคาก็ไม่ถูก และยังเป็นรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัด
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/this-electrified-ww2-motorbike-is-one-of-the-most-exciting-of-2026-here-are-5-things-you-need-know-about-the-flying-flea

    ประสบการณ์ซื้อ Kia EV6 คันแรก
    เรื่องเล่าของคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากรถน้ำมันมาเป็นรถไฟฟ้า Kia EV6 แบบไม่ตั้งใจ แต่กลับพบทั้งข้อดีและสิ่งที่อยากให้รู้ก่อนซื้อ เขาเล่าว่าการชาร์จมีหลายระดับ ตั้งแต่ปลั๊กบ้านธรรมดาที่ช้ามาก ไปจนถึงเครื่องชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีถึง 80% แต่ก็ต้องทำใจว่าการชาร์จสาธารณะไม่ฟรีเสมอไป และระบบแอปพลิเคชันที่ใช้กับแต่ละเครือข่ายก็ทำให้ยุ่งยากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องระวัง เช่น ระยะทางที่ลดลงในอากาศหนาว การไม่มียางอะไหล่ และแบตเตอรี่เล็ก 12V ที่ยังคงต้องดูแลเหมือนรถน้ำมัน แต่ข้อดีคือแรงบิดทันใจ ความเร็วที่น่าประทับใจ และไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/i-bought-a-kia-ev6-my-first-electric-car-here-are-9-things-i-wish-id-known-before-buying-an-ev

    รีวิวมือถือถึก Doogee V Max LR
    มือถือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสายลุยจริง ๆ ด้วยแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 20,500 mAh ที่ใช้งานได้เป็นสัปดาห์ และฟีเจอร์วัดระยะทางที่เหมาะกับคนทำงานก่อสร้าง แม้จะหนักและใหญ่จนพกพาลำบาก แต่ก็มีข้อดีคือทนทาน กันน้ำ กันฝุ่น และมีกล้องความละเอียดสูง จุดต่างจากรุ่น Play คือไม่มีโปรเจ็กเตอร์ ทำให้ราคาถูกลง แต่ยังคงข้อเสียเรื่องการออกแบบเคสที่ใช้งานไม่สะดวก
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-lr-rugged-phone-review

    ข่าวลือ iPhone 18 อาจซ่อนกล้องใต้จอ
    มีรายงานว่า Apple กำลังทดสอบเทคโนโลยีกล้องหน้าใต้จอสำหรับ iPhone 18 ที่จะเปิดตัวในปี 2026 ซึ่งหากเป็นจริงจะทำให้หน้าจอดูเต็มตาไร้รอยบากเหมือนเดิม เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Samsung เคยลองใช้กับ Galaxy Z Fold 3 ตั้งแต่ปี 2021 แต่คุณภาพยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม Apple มักจะนำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม ทำให้หลายคนคาดหวังว่ากล้องใต้จอของ iPhone จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ
    https://www.techradar.com/phones/iphone/the-iphone-18-may-finally-add-a-camera-feature-that-samsung-introduced-on-its-flagship-phones-in-2021

    แว่น MR ของ Meta เลื่อนเปิดตัวถึงปี 2027
    Meta มีแผนจะเปิดตัวแว่นตา Mixed Reality รุ่นใหม่ที่มีโค้ดเนมว่า Phoenix แต่ล่าสุดมีข้อมูลว่าการเปิดตัวถูกเลื่อนออกไปจนถึงปี 2027 เพื่อให้ทีมงานมีเวลาพัฒนาประสบการณ์ใช้งานให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น แว่นรุ่นนี้คาดว่าจะมีอุปกรณ์เสริมแยกสำหรับแบตเตอรี่และการประมวลผล ทำให้เบาขึ้นและใช้งานสะดวกกว่าเดิม แม้จะต้องรอนาน แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทต้องการให้ผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างไร้ข้อบกพร่อง
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/we-may-have-to-wait-until-2027-for-the-launch-of-the-next-pair-of-meta-mixed-reality-smart-glasses

    แอป Go Jauntly ชวนออกไปเดินเล่น
    นี่คือแอปที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนที่ใช้ชีวิตติดโต๊ะทำงานได้ออกไปเดินเล่นมากขึ้น แอปจะเสนอเส้นทางเดินที่น่าสนใจใกล้บ้านหรือที่ทำงาน พร้อมทั้งมีฟีเจอร์บันทึกเส้นทาง แชร์กับเพื่อน และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จากชุมชนผู้ใช้ จุดเด่นคือช่วยให้การเดินเล่นกลายเป็นกิจกรรมที่สนุกและมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่ยังเป็นการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/go-jauntly

    ชิปจีนท้าชน Nvidia
    บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่จากจีนกำลังเร่งการผลิตเพื่อแข่งขันกับ Nvidia ในตลาดกราฟิกและ AI แม้จะยังมีคำถามว่าความสามารถจะทัดเทียมได้จริงหรือไม่ แต่การขยายกำลังผลิตครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างอุตสาหกรรมชิปที่แข็งแกร่งขึ้น
    https://www.techradar.com/news/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel

    รีวิว Doogee V Max Play – โทรศัพท์ถึกที่เหมือนแบกก้อนอิฐ
    เรื่องราวของ Doogee V Max Play คือการพยายามสร้างสมาร์ทโฟนที่รวมทุกฟีเจอร์ไว้ในเครื่องเดียว แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นโทรศัพท์ที่หนักเกือบ 800 กรัม จนเหมือนต้องมี “ล่อ” ช่วยแบกเวลาเดินทาง จุดเด่นคือแบตเตอรี่ขนาด 20,500 mAh ที่อึดจนใช้งานได้เป็นสัปดาห์ กล้องหลัก 200MP ที่ถ่ายภาพคมชัด และยังมีโปรเจ็กเตอร์ในตัว แม้จะสว่างไม่มากแต่ก็พอใช้ดูหนังในห้องมืดได้ จุดอ่อนคือดีไซน์ที่เทอะทะและบัมเปอร์ที่ออกแบบพลาดจนใช้งานไม่สะดวก สรุปแล้วนี่คือโทรศัพท์ที่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือวางบนรถมากกว่าพกติดตัวไปเดินเล่น
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-play-rugged-phone-review

    Windows 11 ยังไม่สามารถโค่น Windows 10 ได้
    แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่ข้อมูลล่าสุดยังบอกว่า Windows 10 ยังคงครองใจผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะในองค์กรที่ยังเลือกใช้ Windows 10 พร้อมซื้อแพ็กเกจอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติมแทนการย้ายไป Windows 11 เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนระบบสูง ทั้งฮาร์ดแวร์ใหม่ การทดสอบความเข้ากันได้ และการฝึกอบรมพนักงาน อีกทั้ง Windows 11 ยังไม่มีฟีเจอร์ที่บังคับให้ต้องเปลี่ยนทันที ทำให้การเติบโตของ Windows 11 มาจากเครื่องใหม่มากกว่าการแทนที่เครื่องเก่า
    https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular

    เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติปรับแรงดูดเอง – จริงๆ ไม่ได้ทำให้สะอาดขึ้น
    ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นมีโหมด “Auto” ที่ปรับแรงดูดตามสภาพพื้นผิวหรือปริมาณฝุ่น เช่น Dyson ที่สามารถตรวจจับขนาดฝุ่นและแสดงผลบนหน้าจอ หรือ Shark ที่เพิ่มแรงดูดเมื่อถึงขอบห้อง แม้ฟังดูฉลาด แต่จากการทดสอบพบว่าการปรับแรงดูดอัตโนมัติไม่ได้ทำให้การทำความสะอาดดีขึ้นเสมอไป สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือกำลังดูดและการออกแบบหัวดูดมากกว่า อย่างไรก็ตามโหมด Auto ก็ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นและยืดอายุแบตเตอรี่ได้ เพราะเครื่องจะใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น
    https://www.techradar.com/home/vacuums/how-useful-is-suction-automation-on-a-vacuum

    UPerfect UColor T3 – จอพกพาที่ใหญ่จนแทบไม่พก
    UPerfect UColor T3 เป็นจอ 4K ขนาด 23.8 นิ้วที่ถูกเรียกว่า “พกพา” แต่จริงๆ แล้วใหญ่จนใส่กระเป๋าเป้ไม่ได้ จุดเด่นคือดีไซน์บางเหมือนแท็บเล็ต ใช้สาย USB-C เส้นเดียวก็ทำงานได้ และยังมีขาตั้งในตัวพร้อมรองรับการติดตั้ง VESA เหมาะกับคนที่ต้องการจอเสริมคุณภาพสูงสำหรับการทำงานนอกสถานที่หรือใช้ในเซิร์ฟเวอร์รูม แม้ความสว่างไม่สูงนัก แต่หน้าจอแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้ใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป ถือเป็นจอที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง “จอเดสก์ท็อป” และ “จอพกพา” อย่างแท้จริง
    https://www.techradar.com/pro/i-reviewed-the-uperfect-ucolor-t3-and-this-4k-portable-monitor-challenges-what-portable-means

    AGM G3 Pro – โทรศัพท์ถึกพร้อมกล้องถ่ายภาพความร้อน
    AGM G3 Pro เป็นสมาร์ทโฟนสายถึกที่ดูหรูหราและมีฟีเจอร์พิเศษคือกล้องถ่ายภาพความร้อน สามารถตรวจจับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20°C ถึง 550°C เหมาะสำหรับงานช่าง วิศวกรรม หรือการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ร้อนผิดปกติ ตัวเครื่องหนักเพียง 375 กรัม ซึ่งถือว่าเบากว่าหลายรุ่นในตลาด ใช้ชิป Dimensity 7300 พร้อม RAM 12GB และความจุ 512GB จุดเด่นอีกอย่างคือรองรับการชาร์จไร้สายและมีไฟ LED สำหรับใช้เป็นไฟแคมป์ แต่ราคาที่สูงเกือบ 700 ดอลลาร์ทำให้หลายคนลังเล เพราะมีรุ่นอื่นที่มีกล้องถ่ายความร้อนเช่นกันแต่ราคาถูกกว่า
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/agm-g3-pro-rugged-phone-review

    ทางเลือกใหม่แทน Ring Doorbell ราคาประหยัด
    ผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฮมแนะนำว่าถ้าไม่อยากจ่ายแพงกับ Ring Doorbell ยังมีตัวเลือกที่คุ้มค่า เช่น Blink Video Doorbell ที่ราคาย่อมเยาและใช้งานง่าย, Eufy Security Video Doorbell ที่ไม่ต้องเสียค่าสมาชิกคลาวด์ และ Wyze Video Doorbell ที่มีฟีเจอร์ครบในราคาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ ทั้งหมดนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความปลอดภัยหน้าบ้านโดยไม่ต้องลงทุนสูง แม้คุณภาพภาพและระบบอาจไม่เทียบเท่า Ring แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    https://www.techradar.com/home/home-security/want-a-cheap-ring-doorbell-alternative-im-a-smart-home-tech-expert-and-these-are-the-3-i-recommend

    Cybersecurity กลายเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัทเทค
    ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและการแข่งขันสูง บริษัทเทคโนโลยีเริ่มมอง Cybersecurity ไม่ใช่แค่การป้องกัน แต่เป็น “กลยุทธ์” ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความได้เปรียบทางธุรกิจ การลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างความแตกต่างและลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้เสียชื่อเสียงหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญ แนวโน้มนี้สะท้อนว่าความปลอดภัยไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนธุรกิจในระดับสูง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/why-cybersecurity-is-now-a-strategic-lever-for-tech-firms-navigating-uncertainty
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251208 #TechRadar 🎥 โปรเจ็กเตอร์พกพา Xgimi Horizon 20 Max ถ้าใครกำลังมองหาโปรเจ็กเตอร์ที่ทั้งสว่างและภาพสวยจัด ๆ รุ่นใหม่จาก Xgimi ตัวนี้ถือว่าเป็นเรือธงเลย มันใช้ระบบเลเซอร์สามสี ให้ความสว่างสูงถึง 5,700 ISO lumens รองรับ Dolby Vision, HDR10+ และ IMAX Enhanced เรียกว่าดูหนังหรือเล่นเกมก็ได้ภาพคมชัด สีสด และเสียงที่ติดตั้งมาก็ไม่ธรรมดา มีลำโพงจาก Harman Kardon ที่ให้เสียงเบสแน่นและเสียงพูดชัดเจน จุดเด่นอีกอย่างคือฟีเจอร์ปรับภาพอัตโนมัติ ทั้ง keystone, zoom และ lens shift ทำให้ติดตั้งง่ายมาก แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง และยังไม่รองรับ 4K 120Hz สำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่าเป็นโปรเจ็กเตอร์พกพาที่ครบเครื่องที่สุดในตลาดตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/projectors/xgimi-horizon-20-max-review 🔊 ลำโพง Marshall Middleton II Marshall กลับมาอีกครั้งกับลำโพง Bluetooth ขนาดกลางที่ชื่อ Middleton II จุดขายคือเสียงสเตอริโอที่แยกซ้ายขวาได้ชัดเจน ทำให้ฟังเพลงมีมิติและรายละเอียดมากกว่าลำโพงพกพาทั่วไป เสียงเบสลงได้ลึก เสียงกลางและสูงก็สมดุลดี แม้เปิดดังสุดเบสจะอัดแน่นไปบ้างแต่ยังถือว่าดีมาก แถมแบตเตอรี่ใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง ดีไซน์ยังคงความคลาสสิกสไตล์แอมป์ Marshall พร้อมกันฝุ่นและกันน้ำระดับ IP67 แต่ด้วยขนาดและน้ำหนักที่ไม่เบามาก ทำให้พกพาไม่สะดวกเท่ารุ่นเล็ก Emberton III และราคาก็ใกล้เคียงรุ่นใหญ่ Kilburn III จนบางคนอาจลังเลว่าจะเลือกตัวไหนดี ถึงอย่างนั้นถ้าอยากได้ลำโพงกลางที่เสียงดีและดูเท่ Middleton II ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก 🔗 https://www.techradar.com/audio/wireless-bluetooth-speakers/marshall-middleton-ii-review 📱 iOS 26 ยังขาดฟีเจอร์สำคัญ แม้ iOS 26 จะเปิดตัวไปแล้วและมีอัปเดตย่อยออกมา แต่ยังมีหลายฟีเจอร์ที่ผู้ใช้รอคอย เช่น การยกเครื่อง Siri ด้วย AI ที่คาดว่าจะมาในปี 2026 โดยใช้เทคโนโลยี Gemini ของ Google เพื่อให้ฉลาดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับ Liquid Glass ให้ผู้ใช้ปรับความโปร่งใสได้เอง, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้ง่ายขึ้น, Podcasts ที่จะมีการสร้าง chapter อัตโนมัติ และสุดท้ายคือการตั้ง “alarm” ให้กับ reminder เพื่อไม่ให้พลาดสิ่งสำคัญ ทั้งหมดนี้คาดว่าจะทยอยมาในอัปเดตย่อยของ iOS 26 ก่อนจะไปสู่ iOS 27 ในปีหน้า 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/5-features-that-are-still-missing-from-ios-26-and-its-not-just-the-siri-update 🛡️ ภัยไซเบอร์ที่ต้องจับตาในปีนี้ โลกไซเบอร์ไม่ได้หยุดนิ่ง และปี 2026 มีแนวโน้มที่อันตรายจะซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานพบว่ากลุ่มแฮกเกอร์เปลี่ยนวิธีโจมตีจากการเข้ารหัสไฟล์เรียกค่าไถ่ มาเป็นการขโมยข้อมูลแล้วขู่เปิดเผยเพื่อกดดันให้เหยื่อจ่ายเงิน ตัวอย่างเช่นการโจมตีบริษัทโทรคมนาคมในอังกฤษที่ข้อมูลพนักงานและลูกค้าถูกขโมยไปมหาศาล นอกจากนี้ยังมีการใช้ช่องโหว่ในระบบ VPN และอุปกรณ์ edge เพื่อเจาะเข้าระบบ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือ “EDR killers” ที่ทำให้ระบบตรวจจับภัยทำงานยากขึ้น สิ่งเหล่านี้บอกชัดว่าองค์กรต้องเร่งอุดช่องโหว่และเสริมการเฝ้าระวัง เพราะภัยไซเบอร์กำลังพัฒนาเร็วไม่แพ้เทคโนโลยีที่เราใช้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/threats-to-watch-this-year-from-data-theft-and-extortion-to-edr-killers 💻 Starforge Systems Frieren PC สำหรับแฟนอนิเมะ นี่คือคอมพิวเตอร์เกมมิ่งที่ออกแบบมาเอาใจแฟนอนิเมะ Frieren: Beyond Journey’s End โดยเฉพาะ ตัวเครื่องใช้เคส Lian Li O11 Dynamic ที่ตกแต่งด้วยงานศิลป์จากอนิเมะ พร้อมไฟ RGB ที่ปรับได้เต็มที่ ภายในประกอบด้วย Intel Core i5-14600K, การ์ดจอ AMD Radeon RX 9070 XT, RAM 32GB และ SSD 1TB ทำให้เล่นเกมได้ลื่นทั้ง 1080p, 1440p และถึงขั้น 4K ถ้าเปิด FSR ของ AMD เสริม จุดเด่นคือดีไซน์สวยมากและมีของแถมอย่าง desk mat และ art panel แต่ราคาก็สูงถึง $2,499.99 ซึ่งถือว่าเป็นพรีเมียมสำหรับแฟนอนิเมะที่อยากได้เครื่องแรงและสวยในเวลาเดียวกัน 🔗 https://www.techradar.com/computing/gaming-pcs/starforge-systems-frieren-pc-review 🎒 กระเป๋ากล้อง Ulanzi 9L Sling Bag สำหรับคนที่ชอบพกกล้องไปถ่ายรูปนอกบ้าน Ulanzi 9L Sling Bag รุ่นนี้ถือว่าออกแบบมาได้ลงตัวมาก ขนาดกะทัดรัดแต่ใส่กล้องและเลนส์ได้ครบ พร้อมช่องสำหรับขาตั้งกล้องที่ติดตั้งมาให้โดยเฉพาะ วัสดุแข็งแรง กันละอองน้ำได้ดี และมีช่องแบ่งภายในที่ปรับได้ตามอุปกรณ์ จุดเด่นคือการเข้าถึงกล้องได้รวดเร็วเพราะเป็นแบบ sling สะพายข้าง แต่ข้อจำกัดคือความจุไม่มากนัก เหมาะกับคนที่พกอุปกรณ์ไม่เยอะและอยากได้ความคล่องตัวเป็นหลัก 🔗 https://www.techradar.com/cameras/camera-accessories/ulanzi-9l-camera-sling-bag-with-tripod-holder-b122-review 🏍️ มอเตอร์ไซค์ Flying Flea รุ่นไฟฟ้า จากตำนานรถจักรยานยนต์ในสงครามโลกครั้งที่สอง Flying Flea ได้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ในเวอร์ชันไฟฟ้า ปี 2026 นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่น่าตื่นเต้นที่สุด รถยังคงรูปลักษณ์คลาสสิกแต่เพิ่มเทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงบิดทันใจ แบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนได้ และระบบเบรกที่ปลอดภัยกว่าเดิม จุดขายคือการผสมผสานความเป็นประวัติศาสตร์กับนวัตกรรมใหม่ ทำให้คนที่หลงใหลในรถคลาสสิกและสาย EV ต่างจับตามอง แต่แน่นอนว่าราคาก็ไม่ถูก และยังเป็นรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัด 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/this-electrified-ww2-motorbike-is-one-of-the-most-exciting-of-2026-here-are-5-things-you-need-know-about-the-flying-flea 🚗 ประสบการณ์ซื้อ Kia EV6 คันแรก เรื่องเล่าของคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากรถน้ำมันมาเป็นรถไฟฟ้า Kia EV6 แบบไม่ตั้งใจ แต่กลับพบทั้งข้อดีและสิ่งที่อยากให้รู้ก่อนซื้อ เขาเล่าว่าการชาร์จมีหลายระดับ ตั้งแต่ปลั๊กบ้านธรรมดาที่ช้ามาก ไปจนถึงเครื่องชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีถึง 80% แต่ก็ต้องทำใจว่าการชาร์จสาธารณะไม่ฟรีเสมอไป และระบบแอปพลิเคชันที่ใช้กับแต่ละเครือข่ายก็ทำให้ยุ่งยากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องระวัง เช่น ระยะทางที่ลดลงในอากาศหนาว การไม่มียางอะไหล่ และแบตเตอรี่เล็ก 12V ที่ยังคงต้องดูแลเหมือนรถน้ำมัน แต่ข้อดีคือแรงบิดทันใจ ความเร็วที่น่าประทับใจ และไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/i-bought-a-kia-ev6-my-first-electric-car-here-are-9-things-i-wish-id-known-before-buying-an-ev 📱 รีวิวมือถือถึก Doogee V Max LR มือถือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสายลุยจริง ๆ ด้วยแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 20,500 mAh ที่ใช้งานได้เป็นสัปดาห์ และฟีเจอร์วัดระยะทางที่เหมาะกับคนทำงานก่อสร้าง แม้จะหนักและใหญ่จนพกพาลำบาก แต่ก็มีข้อดีคือทนทาน กันน้ำ กันฝุ่น และมีกล้องความละเอียดสูง จุดต่างจากรุ่น Play คือไม่มีโปรเจ็กเตอร์ ทำให้ราคาถูกลง แต่ยังคงข้อเสียเรื่องการออกแบบเคสที่ใช้งานไม่สะดวก 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-lr-rugged-phone-review 📷 ข่าวลือ iPhone 18 อาจซ่อนกล้องใต้จอ มีรายงานว่า Apple กำลังทดสอบเทคโนโลยีกล้องหน้าใต้จอสำหรับ iPhone 18 ที่จะเปิดตัวในปี 2026 ซึ่งหากเป็นจริงจะทำให้หน้าจอดูเต็มตาไร้รอยบากเหมือนเดิม เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Samsung เคยลองใช้กับ Galaxy Z Fold 3 ตั้งแต่ปี 2021 แต่คุณภาพยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม Apple มักจะนำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม ทำให้หลายคนคาดหวังว่ากล้องใต้จอของ iPhone จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/the-iphone-18-may-finally-add-a-camera-feature-that-samsung-introduced-on-its-flagship-phones-in-2021 🥽 แว่น MR ของ Meta เลื่อนเปิดตัวถึงปี 2027 Meta มีแผนจะเปิดตัวแว่นตา Mixed Reality รุ่นใหม่ที่มีโค้ดเนมว่า Phoenix แต่ล่าสุดมีข้อมูลว่าการเปิดตัวถูกเลื่อนออกไปจนถึงปี 2027 เพื่อให้ทีมงานมีเวลาพัฒนาประสบการณ์ใช้งานให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น แว่นรุ่นนี้คาดว่าจะมีอุปกรณ์เสริมแยกสำหรับแบตเตอรี่และการประมวลผล ทำให้เบาขึ้นและใช้งานสะดวกกว่าเดิม แม้จะต้องรอนาน แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทต้องการให้ผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างไร้ข้อบกพร่อง 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/we-may-have-to-wait-until-2027-for-the-launch-of-the-next-pair-of-meta-mixed-reality-smart-glasses 🌿 แอป Go Jauntly ชวนออกไปเดินเล่น นี่คือแอปที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนที่ใช้ชีวิตติดโต๊ะทำงานได้ออกไปเดินเล่นมากขึ้น แอปจะเสนอเส้นทางเดินที่น่าสนใจใกล้บ้านหรือที่ทำงาน พร้อมทั้งมีฟีเจอร์บันทึกเส้นทาง แชร์กับเพื่อน และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จากชุมชนผู้ใช้ จุดเด่นคือช่วยให้การเดินเล่นกลายเป็นกิจกรรมที่สนุกและมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่ยังเป็นการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/go-jauntly 💻 ชิปจีนท้าชน Nvidia บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่จากจีนกำลังเร่งการผลิตเพื่อแข่งขันกับ Nvidia ในตลาดกราฟิกและ AI แม้จะยังมีคำถามว่าความสามารถจะทัดเทียมได้จริงหรือไม่ แต่การขยายกำลังผลิตครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างอุตสาหกรรมชิปที่แข็งแกร่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/news/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel 📱 รีวิว Doogee V Max Play – โทรศัพท์ถึกที่เหมือนแบกก้อนอิฐ เรื่องราวของ Doogee V Max Play คือการพยายามสร้างสมาร์ทโฟนที่รวมทุกฟีเจอร์ไว้ในเครื่องเดียว แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นโทรศัพท์ที่หนักเกือบ 800 กรัม จนเหมือนต้องมี “ล่อ” ช่วยแบกเวลาเดินทาง จุดเด่นคือแบตเตอรี่ขนาด 20,500 mAh ที่อึดจนใช้งานได้เป็นสัปดาห์ กล้องหลัก 200MP ที่ถ่ายภาพคมชัด และยังมีโปรเจ็กเตอร์ในตัว แม้จะสว่างไม่มากแต่ก็พอใช้ดูหนังในห้องมืดได้ จุดอ่อนคือดีไซน์ที่เทอะทะและบัมเปอร์ที่ออกแบบพลาดจนใช้งานไม่สะดวก สรุปแล้วนี่คือโทรศัพท์ที่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือวางบนรถมากกว่าพกติดตัวไปเดินเล่น 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-play-rugged-phone-review 💻 Windows 11 ยังไม่สามารถโค่น Windows 10 ได้ แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่ข้อมูลล่าสุดยังบอกว่า Windows 10 ยังคงครองใจผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะในองค์กรที่ยังเลือกใช้ Windows 10 พร้อมซื้อแพ็กเกจอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติมแทนการย้ายไป Windows 11 เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนระบบสูง ทั้งฮาร์ดแวร์ใหม่ การทดสอบความเข้ากันได้ และการฝึกอบรมพนักงาน อีกทั้ง Windows 11 ยังไม่มีฟีเจอร์ที่บังคับให้ต้องเปลี่ยนทันที ทำให้การเติบโตของ Windows 11 มาจากเครื่องใหม่มากกว่าการแทนที่เครื่องเก่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular 🧹 เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติปรับแรงดูดเอง – จริงๆ ไม่ได้ทำให้สะอาดขึ้น ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นมีโหมด “Auto” ที่ปรับแรงดูดตามสภาพพื้นผิวหรือปริมาณฝุ่น เช่น Dyson ที่สามารถตรวจจับขนาดฝุ่นและแสดงผลบนหน้าจอ หรือ Shark ที่เพิ่มแรงดูดเมื่อถึงขอบห้อง แม้ฟังดูฉลาด แต่จากการทดสอบพบว่าการปรับแรงดูดอัตโนมัติไม่ได้ทำให้การทำความสะอาดดีขึ้นเสมอไป สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือกำลังดูดและการออกแบบหัวดูดมากกว่า อย่างไรก็ตามโหมด Auto ก็ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นและยืดอายุแบตเตอรี่ได้ เพราะเครื่องจะใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/how-useful-is-suction-automation-on-a-vacuum 🖥️ UPerfect UColor T3 – จอพกพาที่ใหญ่จนแทบไม่พก UPerfect UColor T3 เป็นจอ 4K ขนาด 23.8 นิ้วที่ถูกเรียกว่า “พกพา” แต่จริงๆ แล้วใหญ่จนใส่กระเป๋าเป้ไม่ได้ จุดเด่นคือดีไซน์บางเหมือนแท็บเล็ต ใช้สาย USB-C เส้นเดียวก็ทำงานได้ และยังมีขาตั้งในตัวพร้อมรองรับการติดตั้ง VESA เหมาะกับคนที่ต้องการจอเสริมคุณภาพสูงสำหรับการทำงานนอกสถานที่หรือใช้ในเซิร์ฟเวอร์รูม แม้ความสว่างไม่สูงนัก แต่หน้าจอแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้ใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป ถือเป็นจอที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง “จอเดสก์ท็อป” และ “จอพกพา” อย่างแท้จริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/i-reviewed-the-uperfect-ucolor-t3-and-this-4k-portable-monitor-challenges-what-portable-means 🔥 AGM G3 Pro – โทรศัพท์ถึกพร้อมกล้องถ่ายภาพความร้อน AGM G3 Pro เป็นสมาร์ทโฟนสายถึกที่ดูหรูหราและมีฟีเจอร์พิเศษคือกล้องถ่ายภาพความร้อน สามารถตรวจจับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20°C ถึง 550°C เหมาะสำหรับงานช่าง วิศวกรรม หรือการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ร้อนผิดปกติ ตัวเครื่องหนักเพียง 375 กรัม ซึ่งถือว่าเบากว่าหลายรุ่นในตลาด ใช้ชิป Dimensity 7300 พร้อม RAM 12GB และความจุ 512GB จุดเด่นอีกอย่างคือรองรับการชาร์จไร้สายและมีไฟ LED สำหรับใช้เป็นไฟแคมป์ แต่ราคาที่สูงเกือบ 700 ดอลลาร์ทำให้หลายคนลังเล เพราะมีรุ่นอื่นที่มีกล้องถ่ายความร้อนเช่นกันแต่ราคาถูกกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/agm-g3-pro-rugged-phone-review 🔔 ทางเลือกใหม่แทน Ring Doorbell ราคาประหยัด ผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฮมแนะนำว่าถ้าไม่อยากจ่ายแพงกับ Ring Doorbell ยังมีตัวเลือกที่คุ้มค่า เช่น Blink Video Doorbell ที่ราคาย่อมเยาและใช้งานง่าย, Eufy Security Video Doorbell ที่ไม่ต้องเสียค่าสมาชิกคลาวด์ และ Wyze Video Doorbell ที่มีฟีเจอร์ครบในราคาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ ทั้งหมดนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความปลอดภัยหน้าบ้านโดยไม่ต้องลงทุนสูง แม้คุณภาพภาพและระบบอาจไม่เทียบเท่า Ring แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/home/home-security/want-a-cheap-ring-doorbell-alternative-im-a-smart-home-tech-expert-and-these-are-the-3-i-recommend 🛡️ Cybersecurity กลายเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัทเทค ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและการแข่งขันสูง บริษัทเทคโนโลยีเริ่มมอง Cybersecurity ไม่ใช่แค่การป้องกัน แต่เป็น “กลยุทธ์” ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความได้เปรียบทางธุรกิจ การลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างความแตกต่างและลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้เสียชื่อเสียงหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญ แนวโน้มนี้สะท้อนว่าความปลอดภัยไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนธุรกิจในระดับสูง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/why-cybersecurity-is-now-a-strategic-lever-for-tech-firms-navigating-uncertainty
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Caligra c100 – คอมพิวเตอร์เพื่อการสร้างสรรค์ ไม่ใช่การเสพ"

    บริษัท Caligra จากลอนดอนได้เปิดตัว c100 Developer Terminal ที่ออกแบบมาเพื่อผู้สร้างสรรค์โดยเฉพาะ ตัวเครื่องมีดีไซน์แบบ retro wedge ทำจากโลหะ bead-blasted ดูคลาสสิก แต่ภายในซ่อนพลังสมัยใหม่ด้วย AMD Ryzen 9 7940HS, แรม 96GB DDR5, และ SSD M.2 ขนาด 1TB ถือเป็นสเปกที่แรงพอสำหรับงานวิศวกรรม การออกแบบ ไปจนถึงงานศิลปะดิจิทัล. 【edge_current_page_context】

    จุดเด่นอีกอย่างคือระบบปฏิบัติการใหม่ชื่อ Workbench ซึ่งแม้จะยืมชื่อจาก GUI ของ Amiga ยุคเก่า แต่จริงๆ แล้วเป็น Linux-based OS ที่ตั้งใจทำให้ “เบา” และ “สะอาด” โดยตัดฟีเจอร์ที่รบกวนออกไป เพื่อให้ผู้ใช้โฟกัสกับงานสร้างสรรค์มากกว่าการเสพคอนเทนต์หรือถูกดึงความสนใจจาก AI และ Cloud services. 【edge_current_page_context】

    Workbench ใช้แกน rpm-based และรองรับการติดตั้งแพ็กเกจจาก Fedora รวมถึงการใช้ distrobox เพื่อนำซอฟต์แวร์จากดิสโทรอื่นมาใช้งานได้ ทำให้แม้จะเป็นระบบใหม่ แต่ก็ยังเปิดกว้างต่อ ecosystem ของ Linux และสามารถปรับตัวเข้ากับเครื่องมือที่นักพัฒนาคุ้นเคย. 【edge_current_page_context】

    ราคาเปิดตัวอยู่ที่ $1,999 โดยคาดว่าจะเริ่มส่งมอบในเดือนมกราคม 2026 การคำนวณต้นทุนฮาร์ดแวร์พบว่า หากประกอบเองอาจอยู่ราว $1,200–$1,500 ดังนั้นส่วนต่างราคาจึงสะท้อนถึงคุณค่าของการออกแบบ ระบบซอฟต์แวร์ และการสนับสนุนที่ Caligra มอบให้ ถือเป็นการวางตำแหน่งที่ชัดเจนว่า c100 ไม่ใช่เครื่องสำหรับทุกคน แต่สำหรับ “นักสร้าง” ที่ต้องการพื้นที่ทำงานที่ปราศจากสิ่งรบกวน. 【edge_current_page_context】

    สรุปสาระสำคัญ
    ฮาร์ดแวร์และดีไซน์
    AMD Ryzen 9 7940HS, RAM 96GB DDR5, SSD 1TB
    ดีไซน์ retro wedge โลหะ bead-blasted พกพาได้

    ระบบปฏิบัติการ Workbench
    Linux-based OS ที่เน้น “ทำงาน” มากกว่า “เสพคอนเทนต์”
    ใช้ rpm-based core รองรับ Fedora และ distrobox

    ราคาและการวางตลาด
    เปิดตัว $1,999 พร้อมส่งมอบมกราคม 2026
    ต้นทุนฮาร์ดแวร์ราว $1,200–$1,500 ส่วนต่างคือค่าออกแบบและซอฟต์แวร์

    คำเตือนและข้อสังเกต
    แม้จะเป็นระบบใหม่ แต่หาก Workbench หยุดพัฒนา ผู้ใช้ยังต้องพึ่ง Linux หรือ Windows
    ราคา $1,999 อาจสูงเกินไปสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการเครื่องเฉพาะทาง

    https://www.tomshardware.com/software/linux/new-computing-platform-is-made-for-making-caligra-c100-developer-terminal-targets-creators-with-distraction-free-computer-for-experts
    📰 "Caligra c100 – คอมพิวเตอร์เพื่อการสร้างสรรค์ ไม่ใช่การเสพ" 💻 บริษัท Caligra จากลอนดอนได้เปิดตัว c100 Developer Terminal ที่ออกแบบมาเพื่อผู้สร้างสรรค์โดยเฉพาะ ตัวเครื่องมีดีไซน์แบบ retro wedge ทำจากโลหะ bead-blasted ดูคลาสสิก แต่ภายในซ่อนพลังสมัยใหม่ด้วย AMD Ryzen 9 7940HS, แรม 96GB DDR5, และ SSD M.2 ขนาด 1TB ถือเป็นสเปกที่แรงพอสำหรับงานวิศวกรรม การออกแบบ ไปจนถึงงานศิลปะดิจิทัล. 【edge_current_page_context】 🖥️ จุดเด่นอีกอย่างคือระบบปฏิบัติการใหม่ชื่อ Workbench ซึ่งแม้จะยืมชื่อจาก GUI ของ Amiga ยุคเก่า แต่จริงๆ แล้วเป็น Linux-based OS ที่ตั้งใจทำให้ “เบา” และ “สะอาด” โดยตัดฟีเจอร์ที่รบกวนออกไป เพื่อให้ผู้ใช้โฟกัสกับงานสร้างสรรค์มากกว่าการเสพคอนเทนต์หรือถูกดึงความสนใจจาก AI และ Cloud services. 【edge_current_page_context】 ⚙️ Workbench ใช้แกน rpm-based และรองรับการติดตั้งแพ็กเกจจาก Fedora รวมถึงการใช้ distrobox เพื่อนำซอฟต์แวร์จากดิสโทรอื่นมาใช้งานได้ ทำให้แม้จะเป็นระบบใหม่ แต่ก็ยังเปิดกว้างต่อ ecosystem ของ Linux และสามารถปรับตัวเข้ากับเครื่องมือที่นักพัฒนาคุ้นเคย. 【edge_current_page_context】 💲 ราคาเปิดตัวอยู่ที่ $1,999 โดยคาดว่าจะเริ่มส่งมอบในเดือนมกราคม 2026 การคำนวณต้นทุนฮาร์ดแวร์พบว่า หากประกอบเองอาจอยู่ราว $1,200–$1,500 ดังนั้นส่วนต่างราคาจึงสะท้อนถึงคุณค่าของการออกแบบ ระบบซอฟต์แวร์ และการสนับสนุนที่ Caligra มอบให้ ถือเป็นการวางตำแหน่งที่ชัดเจนว่า c100 ไม่ใช่เครื่องสำหรับทุกคน แต่สำหรับ “นักสร้าง” ที่ต้องการพื้นที่ทำงานที่ปราศจากสิ่งรบกวน. 【edge_current_page_context】 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฮาร์ดแวร์และดีไซน์ ➡️ AMD Ryzen 9 7940HS, RAM 96GB DDR5, SSD 1TB ➡️ ดีไซน์ retro wedge โลหะ bead-blasted พกพาได้ ✅ ระบบปฏิบัติการ Workbench ➡️ Linux-based OS ที่เน้น “ทำงาน” มากกว่า “เสพคอนเทนต์” ➡️ ใช้ rpm-based core รองรับ Fedora และ distrobox ✅ ราคาและการวางตลาด ➡️ เปิดตัว $1,999 พร้อมส่งมอบมกราคม 2026 ➡️ ต้นทุนฮาร์ดแวร์ราว $1,200–$1,500 ส่วนต่างคือค่าออกแบบและซอฟต์แวร์ ‼️ คำเตือนและข้อสังเกต ⛔ แม้จะเป็นระบบใหม่ แต่หาก Workbench หยุดพัฒนา ผู้ใช้ยังต้องพึ่ง Linux หรือ Windows ⛔ ราคา $1,999 อาจสูงเกินไปสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการเครื่องเฉพาะทาง https://www.tomshardware.com/software/linux/new-computing-platform-is-made-for-making-caligra-c100-developer-terminal-targets-creators-with-distraction-free-computer-for-experts
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    New computing platform is ‘Made for Making’ — Caligra c100 Developer Terminal targets creators with distraction-free ‘computer for experts’
    The lovely bead-blasted metal wedge design of this computer will win retro-fans. But its AMD Ryzen 9 7940HS, 96GB DDR5 RAM and ‘Workbench’ Linux-based OS are also strong draws at $1,999.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • Screenshots from Developers: 2002 vs. 2015

    บทความนี้นำเสนอภาพเปรียบเทียบจากนักพัฒนาในปี 2002 และ 2015 เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมการทำงานและเครื่องมือที่ใช้ในวงการซอฟต์แวร์ตลอดระยะเวลา 13 ปี แม้จะเป็น “คนกลุ่มเดิม” แต่ภาพที่ออกมาชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนในด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมการทำงาน

    ในปี 2002 นักพัฒนามักทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีสเปกจำกัด หน้าจอเล็ก และใช้เครื่องมือที่เรียบง่าย เช่น editor พื้นฐานหรือ IDE ที่ยังไม่ซับซ้อนมากนัก ขณะที่ในปี 2015 ภาพที่ปรากฏคือการทำงานบนเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น หน้าจอใหญ่ขึ้น และมีเครื่องมือที่ทันสมัยกว่า เช่น Git, Docker, และระบบ CI/CD ที่ช่วยให้การพัฒนาและทดสอบซอฟต์แวร์มีความคล่องตัวมากขึ้น

    นอกจากเทคโนโลยีแล้ว บทความยังสะท้อนถึง วัฒนธรรมการทำงานที่เปลี่ยนไป จากการทำงานแบบเดี่ยวหรือทีมเล็กๆ สู่การทำงานร่วมกันในทีมที่ใหญ่ขึ้น มีการใช้เครื่องมือสื่อสารออนไลน์ และการทำงานแบบ remote ที่เริ่มแพร่หลายมากขึ้นในช่วงปี 2010s

    การเปรียบเทียบนี้ไม่เพียงแค่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่ยังชี้ให้เห็นถึงการปรับตัวของนักพัฒนาและวงการซอฟต์แวร์ที่ต้องเดินไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลงของเครื่องมือพัฒนา
    จาก editor พื้นฐานในปี 2002 สู่ IDE และเครื่องมือทันสมัยในปี 2015

    ฮาร์ดแวร์และสภาพแวดล้อมการทำงาน
    จากเครื่องสเปกต่ำและหน้าจอเล็ก สู่เครื่องที่ทรงพลังและหน้าจอใหญ่ขึ้น

    วัฒนธรรมการทำงานที่เปลี่ยนไป
    จากทีมเล็กๆ สู่การทำงานร่วมกันในทีมใหญ่และการทำงานแบบ remote

    ข้อท้าทายของการเปลี่ยนผ่าน
    นักพัฒนาต้องปรับตัวกับเครื่องมือใหม่ๆ และการทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้น

    https://anders.unix.se/2015/12/10/screenshots-from-developers--2002-vs.-2015/
    🖼️ Screenshots from Developers: 2002 vs. 2015 บทความนี้นำเสนอภาพเปรียบเทียบจากนักพัฒนาในปี 2002 และ 2015 เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมการทำงานและเครื่องมือที่ใช้ในวงการซอฟต์แวร์ตลอดระยะเวลา 13 ปี แม้จะเป็น “คนกลุ่มเดิม” แต่ภาพที่ออกมาชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนในด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมการทำงาน ในปี 2002 นักพัฒนามักทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีสเปกจำกัด หน้าจอเล็ก และใช้เครื่องมือที่เรียบง่าย เช่น editor พื้นฐานหรือ IDE ที่ยังไม่ซับซ้อนมากนัก ขณะที่ในปี 2015 ภาพที่ปรากฏคือการทำงานบนเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น หน้าจอใหญ่ขึ้น และมีเครื่องมือที่ทันสมัยกว่า เช่น Git, Docker, และระบบ CI/CD ที่ช่วยให้การพัฒนาและทดสอบซอฟต์แวร์มีความคล่องตัวมากขึ้น นอกจากเทคโนโลยีแล้ว บทความยังสะท้อนถึง วัฒนธรรมการทำงานที่เปลี่ยนไป จากการทำงานแบบเดี่ยวหรือทีมเล็กๆ สู่การทำงานร่วมกันในทีมที่ใหญ่ขึ้น มีการใช้เครื่องมือสื่อสารออนไลน์ และการทำงานแบบ remote ที่เริ่มแพร่หลายมากขึ้นในช่วงปี 2010s การเปรียบเทียบนี้ไม่เพียงแค่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่ยังชี้ให้เห็นถึงการปรับตัวของนักพัฒนาและวงการซอฟต์แวร์ที่ต้องเดินไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลงของเครื่องมือพัฒนา ➡️ จาก editor พื้นฐานในปี 2002 สู่ IDE และเครื่องมือทันสมัยในปี 2015 ✅ ฮาร์ดแวร์และสภาพแวดล้อมการทำงาน ➡️ จากเครื่องสเปกต่ำและหน้าจอเล็ก สู่เครื่องที่ทรงพลังและหน้าจอใหญ่ขึ้น ✅ วัฒนธรรมการทำงานที่เปลี่ยนไป ➡️ จากทีมเล็กๆ สู่การทำงานร่วมกันในทีมใหญ่และการทำงานแบบ remote ‼️ ข้อท้าทายของการเปลี่ยนผ่าน ⛔ นักพัฒนาต้องปรับตัวกับเครื่องมือใหม่ๆ และการทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้น https://anders.unix.se/2015/12/10/screenshots-from-developers--2002-vs.-2015/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • Titans + MIRAS: ก้าวใหม่ของความทรงจำระยะยาวใน AI

    Google Research เปิดตัวสถาปัตยกรรม Titans และกรอบแนวคิด MIRAS เพื่อแก้ปัญหาการจัดการข้อมูลในลำดับยาวที่โมเดล Transformer แบบดั้งเดิมมักเจอข้อจำกัด เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการคำนวณเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อความยาวของ sequence ขยายตัว ทำให้ยากต่อการใช้งานในงานที่ต้องการการเข้าใจทั้งเอกสารหรือข้อมูลเชิงลึก เช่น การวิเคราะห์จีโนม

    Titans ถูกออกแบบให้ผสมผสานความเร็วของ RNNs เข้ากับความแม่นยำของ Transformers โดยเพิ่มโมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานเหมือน multi-layer perceptron (MLP) ซึ่งมีพลังในการสรุปข้อมูลจำนวนมากโดยไม่สูญเสียบริบทสำคัญ ขณะเดียวกัน MIRAS ทำหน้าที่เป็นกรอบทฤษฎีที่ช่วยให้โมเดลสามารถอัปเดตความจำได้แบบเรียลไทม์ โดยใช้แนวคิด “surprise metric” ในการเลือกเก็บข้อมูลที่สำคัญหรือผิดคาดเข้าสู่ความจำถาวร

    จุดเด่นคือโมเดลไม่เพียงแต่เก็บข้อมูล แต่ยังสามารถ เรียนรู้ความสัมพันธ์และธีมหลัก ที่เชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ได้ทันที พร้อมทั้งมีระบบ momentum เพื่อเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อเนื่อง และ forgetting gate เพื่อจัดการความจำที่มีขีดจำกัด

    MIRAS ยังนำเสนอการมองใหม่ต่อ sequence modeling โดยมองว่าโมเดลทุกแบบคือการออกแบบหน่วยความจำเชิงสัมพันธ์ (associative memory) ที่ต้องหาสมดุลระหว่างการเรียนรู้ใหม่กับการรักษาความรู้เดิม ทำให้สามารถสร้างสถาปัตยกรรมใหม่ที่มีความยืดหยุ่นและทรงพลังมากขึ้น เช่น YAAD, MONETA และ MEMORA ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทดสอบแนวทางการจัดการความจำที่แตกต่างกัน

    ผลการทดลองแสดงว่า Titans และ MIRAS variants สามารถทำงานได้ดีกว่าโมเดลล้ำสมัยอื่นๆ เช่น Transformer++ และ Mamba-2 โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้ long-context reasoning เช่นการประมวลผลเอกสารที่มีข้อมูลยาวกว่า 2 ล้าน tokens ซึ่ง Titans สามารถทำงานได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงกว่าแม้เทียบกับโมเดลขนาดใหญ่เช่น GPT-4

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Titans Architecture
    เพิ่มโมดูลความจำระยะยาวแบบ MLP เพื่อสรุปข้อมูลจำนวนมากโดยไม่สูญเสียบริบท

    MIRAS Framework
    กรอบทฤษฎีที่ช่วยให้โมเดลอัปเดตความจำแบบเรียลไทม์ด้วย “surprise metric”

    กลไกสำคัญ
    Momentum สำหรับเก็บข้อมูลต่อเนื่อง และ Forgetting Gate สำหรับลบข้อมูลที่ไม่จำเป็น

    โมเดลใหม่จาก MIRAS
    YAAD, MONETA, MEMORA ถูกออกแบบเพื่อทดสอบแนวทางการจัดการความจำที่แตกต่างกัน

    ผลการทดลอง
    Titans และ MIRAS variants ทำงานได้ดีกว่า Transformer++ และ Mamba-2 ในงาน long-context reasoning

    ข้อท้าทาย
    การจัดการความจำที่มีขีดจำกัดยังต้องพึ่งกลไกการลืม (weight decay) เพื่อไม่ให้ระบบล้นข้อมูล

    https://research.google/blog/titans-miras-helping-ai-have-long-term-memory/
    🧠 Titans + MIRAS: ก้าวใหม่ของความทรงจำระยะยาวใน AI Google Research เปิดตัวสถาปัตยกรรม Titans และกรอบแนวคิด MIRAS เพื่อแก้ปัญหาการจัดการข้อมูลในลำดับยาวที่โมเดล Transformer แบบดั้งเดิมมักเจอข้อจำกัด เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการคำนวณเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อความยาวของ sequence ขยายตัว ทำให้ยากต่อการใช้งานในงานที่ต้องการการเข้าใจทั้งเอกสารหรือข้อมูลเชิงลึก เช่น การวิเคราะห์จีโนม Titans ถูกออกแบบให้ผสมผสานความเร็วของ RNNs เข้ากับความแม่นยำของ Transformers โดยเพิ่มโมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานเหมือน multi-layer perceptron (MLP) ซึ่งมีพลังในการสรุปข้อมูลจำนวนมากโดยไม่สูญเสียบริบทสำคัญ ขณะเดียวกัน MIRAS ทำหน้าที่เป็นกรอบทฤษฎีที่ช่วยให้โมเดลสามารถอัปเดตความจำได้แบบเรียลไทม์ โดยใช้แนวคิด “surprise metric” ในการเลือกเก็บข้อมูลที่สำคัญหรือผิดคาดเข้าสู่ความจำถาวร จุดเด่นคือโมเดลไม่เพียงแต่เก็บข้อมูล แต่ยังสามารถ เรียนรู้ความสัมพันธ์และธีมหลัก ที่เชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ได้ทันที พร้อมทั้งมีระบบ momentum เพื่อเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อเนื่อง และ forgetting gate เพื่อจัดการความจำที่มีขีดจำกัด MIRAS ยังนำเสนอการมองใหม่ต่อ sequence modeling โดยมองว่าโมเดลทุกแบบคือการออกแบบหน่วยความจำเชิงสัมพันธ์ (associative memory) ที่ต้องหาสมดุลระหว่างการเรียนรู้ใหม่กับการรักษาความรู้เดิม ทำให้สามารถสร้างสถาปัตยกรรมใหม่ที่มีความยืดหยุ่นและทรงพลังมากขึ้น เช่น YAAD, MONETA และ MEMORA ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทดสอบแนวทางการจัดการความจำที่แตกต่างกัน ผลการทดลองแสดงว่า Titans และ MIRAS variants สามารถทำงานได้ดีกว่าโมเดลล้ำสมัยอื่นๆ เช่น Transformer++ และ Mamba-2 โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้ long-context reasoning เช่นการประมวลผลเอกสารที่มีข้อมูลยาวกว่า 2 ล้าน tokens ซึ่ง Titans สามารถทำงานได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงกว่าแม้เทียบกับโมเดลขนาดใหญ่เช่น GPT-4 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Titans Architecture ➡️ เพิ่มโมดูลความจำระยะยาวแบบ MLP เพื่อสรุปข้อมูลจำนวนมากโดยไม่สูญเสียบริบท ✅ MIRAS Framework ➡️ กรอบทฤษฎีที่ช่วยให้โมเดลอัปเดตความจำแบบเรียลไทม์ด้วย “surprise metric” ✅ กลไกสำคัญ ➡️ Momentum สำหรับเก็บข้อมูลต่อเนื่อง และ Forgetting Gate สำหรับลบข้อมูลที่ไม่จำเป็น ✅ โมเดลใหม่จาก MIRAS ➡️ YAAD, MONETA, MEMORA ถูกออกแบบเพื่อทดสอบแนวทางการจัดการความจำที่แตกต่างกัน ✅ ผลการทดลอง ➡️ Titans และ MIRAS variants ทำงานได้ดีกว่า Transformer++ และ Mamba-2 ในงาน long-context reasoning ‼️ ข้อท้าทาย ⛔ การจัดการความจำที่มีขีดจำกัดยังต้องพึ่งกลไกการลืม (weight decay) เพื่อไม่ให้ระบบล้นข้อมูล https://research.google/blog/titans-miras-helping-ai-have-long-term-memory/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google TPU อาจแรงสุดขีด แต่ติดคอขวดการขยายใช้งาน

    Google กำลังผลักดันชิป TPU (Tensor Processing Unit) รุ่นใหม่ที่มีสมรรถนะสูงมาก แต่รายงานล่าสุดชี้ว่ามี “คอขวด” สำคัญที่อาจทำให้การขยายใช้งานภายนอกหยุดชะงักได้ โดยปัญหานี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวชิปโดยตรง แต่เกิดจากข้อจำกัดในระบบซัพพลายเชนและโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการใช้งานภายนอก.

    TPU ของ Google ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่น การฝึกโมเดลภาษาขนาดมหึมา และการประมวลผลข้อมูลเชิงลึกที่ต้องใช้พลังมหาศาล จุดเด่นคือการทำงานแบบ parallel computing ที่สามารถเร่งความเร็วได้เหนือกว่าชิป GPU ในบางงาน อย่างไรก็ตาม การนำไปใช้ในวงกว้างนอกศูนย์ข้อมูลของ Google กลับเจออุปสรรค เพราะระบบเชื่อมต่อและการจัดการทรัพยากรยังไม่พร้อมรองรับการขยายตัว.

    นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้ TPU จะมีประสิทธิภาพสูง แต่การใช้งานจริงในองค์กรภายนอกยังติดปัญหาเรื่อง การกระจายทรัพยากร, การจัดการเครือข่าย, และการรองรับซอฟต์แวร์ ซึ่งต่างจาก GPU ที่มี ecosystem แข็งแรงและแพร่หลายอยู่แล้ว ทำให้ TPU อาจถูกจำกัดอยู่ในระบบปิดของ Google เป็นหลัก.

    สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า การแข่งขันด้าน AI hardware ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความแรงของชิปเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นกับ ความสามารถในการขยายใช้งาน, ความเข้ากันได้กับระบบอื่น, และความพร้อมของซัพพลายเชน หาก Google ไม่สามารถแก้คอขวดนี้ได้ TPU อาจกลายเป็นเทคโนโลยีที่ทรงพลังแต่ถูกจำกัดการใช้งานในวงแคบ.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สมรรถนะของ Google TPU
    ออกแบบมาเพื่อเร่งงาน AI ขนาดใหญ่
    ทำงานแบบ parallel computing เร็วกว่า GPU ในบางงาน

    ข้อได้เปรียบเชิงเทคนิค
    เหมาะกับการฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่
    ประสิทธิภาพสูงในงาน deep learning

    คอขวดที่พบ
    การขยายใช้งานภายนอกติดปัญหาซัพพลายเชนและโครงสร้างพื้นฐาน
    Ecosystem ของ TPU ยังไม่แข็งแรงเท่า GPU

    ผลกระทบเชิงกลยุทธ์
    อาจทำให้ TPU ถูกจำกัดอยู่ในระบบปิดของ Google
    การแข่งขันด้าน AI hardware ต้องพึ่งทั้งชิปและ ecosystem ที่รองรับ

    https://wccftech.com/google-tpu-may-deliver-impressive-performance-but-one-overlooked-bottleneck-could-bring-external-scaling-to-a-halt/
    ⚙️ Google TPU อาจแรงสุดขีด แต่ติดคอขวดการขยายใช้งาน Google กำลังผลักดันชิป TPU (Tensor Processing Unit) รุ่นใหม่ที่มีสมรรถนะสูงมาก แต่รายงานล่าสุดชี้ว่ามี “คอขวด” สำคัญที่อาจทำให้การขยายใช้งานภายนอกหยุดชะงักได้ โดยปัญหานี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวชิปโดยตรง แต่เกิดจากข้อจำกัดในระบบซัพพลายเชนและโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการใช้งานภายนอก. TPU ของ Google ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่น การฝึกโมเดลภาษาขนาดมหึมา และการประมวลผลข้อมูลเชิงลึกที่ต้องใช้พลังมหาศาล จุดเด่นคือการทำงานแบบ parallel computing ที่สามารถเร่งความเร็วได้เหนือกว่าชิป GPU ในบางงาน อย่างไรก็ตาม การนำไปใช้ในวงกว้างนอกศูนย์ข้อมูลของ Google กลับเจออุปสรรค เพราะระบบเชื่อมต่อและการจัดการทรัพยากรยังไม่พร้อมรองรับการขยายตัว. นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้ TPU จะมีประสิทธิภาพสูง แต่การใช้งานจริงในองค์กรภายนอกยังติดปัญหาเรื่อง การกระจายทรัพยากร, การจัดการเครือข่าย, และการรองรับซอฟต์แวร์ ซึ่งต่างจาก GPU ที่มี ecosystem แข็งแรงและแพร่หลายอยู่แล้ว ทำให้ TPU อาจถูกจำกัดอยู่ในระบบปิดของ Google เป็นหลัก. สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า การแข่งขันด้าน AI hardware ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความแรงของชิปเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นกับ ความสามารถในการขยายใช้งาน, ความเข้ากันได้กับระบบอื่น, และความพร้อมของซัพพลายเชน หาก Google ไม่สามารถแก้คอขวดนี้ได้ TPU อาจกลายเป็นเทคโนโลยีที่ทรงพลังแต่ถูกจำกัดการใช้งานในวงแคบ. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สมรรถนะของ Google TPU ➡️ ออกแบบมาเพื่อเร่งงาน AI ขนาดใหญ่ ➡️ ทำงานแบบ parallel computing เร็วกว่า GPU ในบางงาน ✅ ข้อได้เปรียบเชิงเทคนิค ➡️ เหมาะกับการฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่ ➡️ ประสิทธิภาพสูงในงาน deep learning ‼️ คอขวดที่พบ ⛔ การขยายใช้งานภายนอกติดปัญหาซัพพลายเชนและโครงสร้างพื้นฐาน ⛔ Ecosystem ของ TPU ยังไม่แข็งแรงเท่า GPU ‼️ ผลกระทบเชิงกลยุทธ์ ⛔ อาจทำให้ TPU ถูกจำกัดอยู่ในระบบปิดของ Google ⛔ การแข่งขันด้าน AI hardware ต้องพึ่งทั้งชิปและ ecosystem ที่รองรับ https://wccftech.com/google-tpu-may-deliver-impressive-performance-but-one-overlooked-bottleneck-could-bring-external-scaling-to-a-halt/
    WCCFTECH.COM
    Google’s TPUs May Deliver ‘Impressive’ Performance, But One Overlooked Bottleneck Could Bring External Scaling to a Halt Before It Even Begins
    Google's AI chips face a critical bottleneck in external adoption, which is derived from the constraints within the supply chain.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • จอภาพ 3D ที่ “มองเห็นและสัมผัสได้” ด้วยแสง

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย UC Santa Barbara ได้พัฒนาเทคโนโลยีจอภาพแบบใหม่ที่สามารถสร้างภาพกราฟิก 3D ที่ไม่เพียงแค่เห็นด้วยตา แต่ยังสามารถสัมผัสได้ด้วยนิ้วมือ โดยใช้หลักการ “Optotactile Surface” ซึ่งทำงานผ่านการยิงแสงเลเซอร์ไปยังพิกเซลขนาดมิลลิเมตร แต่ละพิกเซลจะพองตัวขึ้นเป็นตุ่มเล็กๆ เมื่อได้รับพลังงานจากแสง ทำให้ผู้ใช้สามารถรับรู้รูปร่างและการเคลื่อนไหวได้ทั้งทางสายตาและสัมผัส

    เทคโนโลยีนี้ถือเป็นการผสมผสานระหว่างการแสดงผลภาพและการตอบสนองทางสัมผัส โดยไม่ต้องใช้สายไฟหรือวงจรฝังในพิกเซล แต่ใช้การสแกนลำแสงเลเซอร์ที่รวดเร็วเพื่อกระตุ้นพิกเซลทีละจุด จนเกิดเป็นภาพเคลื่อนไหวที่ทั้ง “เห็นและรู้สึก” ได้พร้อมกัน

    นอกจากการใช้งานเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรือการเรียนรู้ผ่านสัมผัสแล้ว นักวิจัยยังมองถึงการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น แผงควบคุมที่สามารถเปลี่ยนพื้นผิวให้เหมือนปุ่มจริง หรือระบบนำทางที่ผู้ขับสามารถสัมผัสได้โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน

    อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นต้นของการพัฒนา แม้จะมีศักยภาพสูง แต่ก็ยังต้องทดสอบด้านความทนทาน ความปลอดภัย และการผลิตในเชิงพาณิชย์ ซึ่งอาจใช้เวลาอีกหลายปีจึงจะเห็นการใช้งานจริงในตลาด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เทคโนโลยี Optotactile Surface จาก UCSB
    ใช้เลเซอร์กระตุ้นพิกเซลให้พองตัวขึ้นจนสามารถสัมผัสได้
    ไม่ต้องใช้สายไฟหรือวงจรฝังในพิกเซล

    การใช้งานที่เป็นไปได้ในอนาคต
    หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถสัมผัสตัวอักษรหรือภาพ
    แผงควบคุมในรถยนต์ที่เปลี่ยนพื้นผิวเป็นปุ่มเสมือนจริง

    ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
    สามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวที่ทั้งเห็นและสัมผัสได้
    มีการทดสอบแล้วว่าผู้ใช้สามารถแยกแยะรูปร่างและการเคลื่อนไหวได้แม่นยำ

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    ยังอยู่ในขั้นต้นของการพัฒนา ต้องทดสอบด้านความทนทานและความปลอดภัย
    การผลิตเชิงพาณิชย์อาจใช้เวลาหลายปีและมีต้นทุนสูง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/ucsb-researchers-develop-light-powered-haptic-pixels-that-form-tactile-3d-graphics
    🖥️ จอภาพ 3D ที่ “มองเห็นและสัมผัสได้” ด้วยแสง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย UC Santa Barbara ได้พัฒนาเทคโนโลยีจอภาพแบบใหม่ที่สามารถสร้างภาพกราฟิก 3D ที่ไม่เพียงแค่เห็นด้วยตา แต่ยังสามารถสัมผัสได้ด้วยนิ้วมือ โดยใช้หลักการ “Optotactile Surface” ซึ่งทำงานผ่านการยิงแสงเลเซอร์ไปยังพิกเซลขนาดมิลลิเมตร แต่ละพิกเซลจะพองตัวขึ้นเป็นตุ่มเล็กๆ เมื่อได้รับพลังงานจากแสง ทำให้ผู้ใช้สามารถรับรู้รูปร่างและการเคลื่อนไหวได้ทั้งทางสายตาและสัมผัส เทคโนโลยีนี้ถือเป็นการผสมผสานระหว่างการแสดงผลภาพและการตอบสนองทางสัมผัส โดยไม่ต้องใช้สายไฟหรือวงจรฝังในพิกเซล แต่ใช้การสแกนลำแสงเลเซอร์ที่รวดเร็วเพื่อกระตุ้นพิกเซลทีละจุด จนเกิดเป็นภาพเคลื่อนไหวที่ทั้ง “เห็นและรู้สึก” ได้พร้อมกัน นอกจากการใช้งานเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรือการเรียนรู้ผ่านสัมผัสแล้ว นักวิจัยยังมองถึงการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น แผงควบคุมที่สามารถเปลี่ยนพื้นผิวให้เหมือนปุ่มจริง หรือระบบนำทางที่ผู้ขับสามารถสัมผัสได้โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นต้นของการพัฒนา แม้จะมีศักยภาพสูง แต่ก็ยังต้องทดสอบด้านความทนทาน ความปลอดภัย และการผลิตในเชิงพาณิชย์ ซึ่งอาจใช้เวลาอีกหลายปีจึงจะเห็นการใช้งานจริงในตลาด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เทคโนโลยี Optotactile Surface จาก UCSB ➡️ ใช้เลเซอร์กระตุ้นพิกเซลให้พองตัวขึ้นจนสามารถสัมผัสได้ ➡️ ไม่ต้องใช้สายไฟหรือวงจรฝังในพิกเซล ✅ การใช้งานที่เป็นไปได้ในอนาคต ➡️ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถสัมผัสตัวอักษรหรือภาพ ➡️ แผงควบคุมในรถยนต์ที่เปลี่ยนพื้นผิวเป็นปุ่มเสมือนจริง ✅ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ➡️ สามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวที่ทั้งเห็นและสัมผัสได้ ➡️ มีการทดสอบแล้วว่าผู้ใช้สามารถแยกแยะรูปร่างและการเคลื่อนไหวได้แม่นยำ ‼️ ข้อควรระวังและความท้าทาย ⛔ ยังอยู่ในขั้นต้นของการพัฒนา ต้องทดสอบด้านความทนทานและความปลอดภัย ⛔ การผลิตเชิงพาณิชย์อาจใช้เวลาหลายปีและมีต้นทุนสูง https://www.tomshardware.com/tech-industry/ucsb-researchers-develop-light-powered-haptic-pixels-that-form-tactile-3d-graphics
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนชั่ว ตอนที่ 9

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 9
    รายได้ของเยเมนประมาณ 70% มาจากการขายน้ำมัน รัฐบาลเยเมน ซึ่งตั้งที่ทำการอยู่ที่
    เมืองซานะ เมืองหลวงของเยเมน แต่อยู่ ในเขตเยเมนเหนือ เป็นผู้ควบคุมรายได้จากน้ำมัน แต่บ่อน้ำมันดันอยู่ในเยเมนใต้ แบบนี้ก็เข้าทาง (ยังไม่รู้ทางใคร!?) เมื่อรัฐบาล Saleh แตกคอกับเยเมนใต้ Saleh ก็เสียงคงอ่อย ค่าขายน้ำมัน สงสัยจะส่งมาไม่ถึงเมืองซานะ
    เยเมน เหมือนจะยังถูกบีบไม่พอ อยู่ดีๆ ในเดือนมกราคม ค.ศ.2009 ก็เกิดมีประกาศในเวบไซท์
    ของอัลไคด้าว่า อัลไคด้าของบินลาเดน จะมาเปิดสาขาใหม่ใหญ่กว่าทุกแห่ง อยู่ในเยเมน เพื่อใช้เป็นฐานสำหรับปฏิบัติการ ทั้งในเยเมน และซาอุดิอารเบีย
    เวบอัลไคด้า โดยหัวหน้าใหญ่ Nasir al-Wanayshi ประกาศรายชื่อ บรรดาหัวกะทิ ที่จะมาประจำอยู่เยเมน ซึ่งมีกะทิระดับที่เคยถูกจับไปอบรม อยู่ในค่ายกวนตานาโมของอเมริกาด้วยหลายคน ไม่ใช่ย่อยนะ แต่ เล่นคัดตัวแสดงแบบนี้ เดี๋ยวเขาก็เดาออกหมด ว่า ใครอำนวยการสร้าง
    หลังจากนั้น al-Wanayshi ก็ทำวิดีโอออกสู่สาธารณะ เขาเริ่มเรื่องได้น่าหวาดเสียว ว่า
    …เราจะเริ่มต้นที่นี่ และเราจะพบกันที่อัลอัคซา We start from here and we will meet at al-Aqsa (คือโบสถ์ของชาวยิวในเยรูซาเรม)…
    วีดีโอนี้ ประกาศ ข่มขู่ ข่มขวัญ หัวหน้าใหญ่ของมุสลิมตั้งแต่ Saleh ในเยเมนเอง ราชวงศ์ของซาอุ ไปจนถึงประธานาธิบดี มูบารัค ของอียิปต์ อัลไคด้าบอกว่า เรากำลังจะไปต่อสู้อย่างพลีชีพ เพื่อเอาแผ่นดินศักดิ์สิทธิของมุสลิม ตั้งแต่ กาซ่า เยเมน ถึงอิสราเอล กลับคืนมา
    การตั้ง Southern Movement การประกาศตั้งฐานใหม่ของอัลไคด้าในเยเมน การออกมาข่มขวัญของอัลไคด้า แค่นี้ ก็เพียงพอให้อเมริกาใช้เป็นข้ออ้าง เพื่อยกทัพมาขยี้เยเมนแล้ว เยเมนไม่ใช่ซูดาน ที่ต้องใช้พระเอกเดินนำกล้อง ไม่ใช่คองโก ที่ต้องเอามือมีระดับมาจัดการ ไม่ต้องพูดถึงลิเบีย ที่ต้องขนกันมาครึ่งโลก เยเมนประเทศเล็กกระจ้อย อเมริกาตวาดทีเดียว ก็ราดเต็มกางเกงกันหมดแล้ว
    หลังจากบอกว่า เรื่องภายในประเทศเยเมน เป็นเรื่องของเยเมน แต่อเมริกาก็สั่งให้กองทัพของอ เมริกาบุกเยเมน เพื่อจัดการกับอัลไคด้า ซึ่งอเมริกาอ้างว่า เป็นเรื่องกระทบนานาชาติ ไม่ใช่เรื่องภายในของเยเมน เข้าใจไหม เข้าใจครับ เข้าใจครับ
    อเมริกาอ้างว่า การโจมตีของอเมริกา ในช่วง 17 ถึง 24 ธันวาคม ค.ศ.2009 อเมริกาได้กำจัดอัลไคด้า ระดับหัวหน้าไปแล้ว 3 คน แต่ไม่มีรายชื่อ ไม่มีหลักฐาน กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ใบเล็ก ไม่เห็นขุดมาเล่าให้ฟังบ้างเลย หลังจากนั้น อเมริกาบอกว่า จำเป็นต้องช่วย Saleh เกี่ยวกับเรื่องการกำจัดผู้ก่อการร้ายในเยเมน ให้หมดไปโดยเร็ว เลยจำเป็นต้องทิ้งกองกำลังไว้ในเยเมนต่อไป เฮ้อ…มาแบบเก่า ฟอร์มเดิม ผมเบื่อแล้วนะพี่ ต้องเขียนซ้ำๆ
    กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ รายงานเรื่องอัลไคด้า ที่อเมริกาอ้างว่าต้องยกพลไปถล่มอย่างเสียไม่ได้ แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้น กระป๋องใส่สีย้อมข่าว เปลี่ยนไป รายงานเรื่อง สลัดโซมาเลีย โจมตีเรือขนส่งสินค้าในอ่าวเอเดน นอกฝั่งโซมาเลีย ตรงข้ามกับเยเมนใต้ และเล่นข่าวสลัดโซมาเลียอย่างใหญ่ โต แถมเล่นซ้ำทุกวัน ไม่ต้อง งง ครับ ตีข่าวเรื่องอัลไคด้า ตามบทจบด้วยกองทัพอเมริกา ไปอยู่ในเยเมน เรียบร้อยฉากแรกแล้ว ตอนนี้ต้องเปิดฉากสองต่อ
    วันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ.2009 สำนักข่าว RIA Novosti ของมอสโคว์ รายงานข่าวว่า สลัดโซมาเลีย ยึดเรือขนส่งสินค้าของกรีก ที่อ่าวเอเดน นอกฝั่งด้านโซมาเลีย
    ก่อนหน้านั้น เรือบรรทุกเคมีของอังกฤษ พร้อมลูกเรือ 26 คน โดนจับที่อ่าวเอเดน หัวหน้าสลัด Mohamed Shakir แน่มาก ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอังกฤษ The Times ทางโทรศัพท์ว่า เป็นเรื่องจริง เรายึดเรืออังกฤษไปแล้ว
    รายการสลัดโซมาเลีย ปล้นเรือในช่วงปี 2009 พุ่งสูงมาก นับถึงวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ.2009 สลัดโซมาเลียโจมตีเรือไป 174 รายการ เรือ 35 ลำ ถูกยึด ลูกเรือ 587 คน ถูกเรียกค่าไถ่ การปฏิบัติการทุกรายการ ประสพผลสำเร็จ เยี่ยมจริงๆ
    คำถามคือ “ใคร” เป็นคนจัดส่งอาวุธให้สลัดโซมา เลีย รวมทั้งส่งเส้นทาง และตารางการเดินเรือ ของเรือสินค้านานาชาติ มันเป็นข้อมูลชั้นเยี่ยม จนทำให้การปล้น และการหลบจากการถูกจับ โดยเรือลาดตระเวนของนานาชาติ ของสลัดโซมาเลียสำเร็จทุกครั้ง
    น่านน้ำระหว่างเยเมนกับโซมาเลีย มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง มันเป็นบริเวณ ที่มีช่องแคบสำคัญอยู่ด้วยเรียกว่า Bab el-Mandab ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ของรายการช่องแคบสำคัญ ในเส้นทางขนส่งน้ำมัน ที่เรียกว่า choke points จุดรัดคอ!
    สำนักข้อมูลการพลังงานของอเมริกา รายงานว่า หากมีการปิดช่องแคบ Bab el-Mandab จะทำให้เรือขนส่งน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซีย ไม่สามารถเข้าไปถึงคลองสุเอซและ ท่อส่งน้ำมัน Sumed ที่สุเอซ นอกจากแล่นอ้อมลงทางใต้ ผ่านปลายทวีปอาฟริกา ซึ่งเป็นการเพิ่มระยะทาง เวลา และค่าใช้จ่าย ช่องแคบ Bab จึงเป็นจุดที่สามารถ รัดคอ ตัดขาดเส้นทาง ระหว่างอาฟริกากับตะวันออกกลาง ขณะเดียวกัน ก็เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญ หรือ จุดตัดขาด ระหว่างทะเลเมดิเตอเรเนียนกับมหาสมุทรอินเดีย มันเป็นจุดเป็น จุดตาย ของเส้นทางเดินของน้ำมัน จริงๆ
    นอกจากนี้ Bab el-Mandab ที่อยู่ระหว่าง เยเมน จิบูตี และอีริเตรีย ยังเป็นตัวเชื่อมทะเลแดงกับอ่าวเอเดน และทะเลอารบียน น้ำมันและเรือ จากอ่าวเปอร์เซียและมหาสมุทรอินเดีย จะต้องผ่านจุดนี้ ก่อนที่จะผ่านเข้าสุเอซไปสู่เมดิเตอเรเนียน เข้าไปสู่ยุโรป (โปรดดูแผนที่ประกอบนะครับ จะได้เห็นชัด และเข้าใจ)
    สรุปว่า การขนส่งน้ำมันจากทุกแหล่งในโลก ต้องขนส่งกันไปมา ผ่านน่านน้ำต่างๆนั้น ประมาณ 50% ของน้ำมันที่ขนส่งกัน ต้องผ่านช่องรัดคอ Bab นี้ ใครคุม คุณ Bab ก็เท่ากับคุมโลกไป 50%
    อเมริกาจะยอมให้สลัดโซมาเลียคุม หรือ อเมริกาจะปล่อยให้เยเมนประเทศเล็กๆคุม
    และประเทศเสี่ยปั้มกับพวก ที่ขายน้ำมัน จะปล่อยให้เยเมนและโซมาเลีย กำหนดเส้นทางส่งน้ำมันของเขาไหม ปั้มน้ำมันขึ้นมาได้ แต่ส่งไปขายไม่ได้ และประเทศที่ต้องการน้ำมันจากอาฟริกา จะให้นั่งตาลอย อยู่ในกำมือของใครก็ไม่รู้อย่างนั้นหรือ แล้วถ้าพวกเสี่ยปั้มซาอุกับพวก คุม เยเมน คุมคุณ Bab ได้ ผมว่า เสี่ยนิวเคลียร์สองลูก คงจะทำใจยาก ที่จะให้พวกเสี่ยปั้มขี่คอ...
    เยเมน จึงกลายเป็นประเทศ ที่ทุกฝ่ายพยายามเข้าไปคุมอำนาจ เพื่อคุมจุดรัดคอ คุมไม่ได้ก็ ต้องถ่วงอำนาจ ถ่วงไม่ได้ สงสัยเกิดรายการถล่ม
    เรื่องเยเมน จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก อเมริกาคงพยายามทุกทางที่จะคุม คุณ Bab จุดรัดคอ Bab el-Mandeb และเราคงได้ยิน เรื่องความไม่สงบในเยเมนอยู่ตลอดเวลา และเวลานี้การสู้รบในเยเมน จริงๆ ก็กำลังดำเนินอยู่อย่างดุเดือด แต่กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ เสนอข่าวน้อยมาก หรือแทบไม่เสนอเลย ก็ลองถอดรหัสกันดู ว่า แบบนี้แปลว่าใครกำลังเล่นอะไร ในเยเมน และใครกำลังได้เปรียบ เสียเปรียบ และโปรดอย่าลืมว่าเยเมนใต้ เคยชอบพอกับใคร เพื่อนกัน คงไม่ทิ้งกันง่ายๆ เยเมนใต้ อาจจะกลายเป็นสนามประลองกำลังตัวแทน proxy war ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
    และก็คอยตามข่าวกันหน่อย เรื่องแถวเยเมน นี่ อาจทำให้พอประเมินได้ว่า สงครามโลก ใกล้เข้ามาขนาดไหนแล้ว และ ฝ่ายไหนจะได้เปรียบเสียเปรียบ เส้นทางขนส่งน้ำมัน เป็นปัจจัยสำคัญในการทำศึกสงครามครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    22 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 9 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 9 รายได้ของเยเมนประมาณ 70% มาจากการขายน้ำมัน รัฐบาลเยเมน ซึ่งตั้งที่ทำการอยู่ที่ เมืองซานะ เมืองหลวงของเยเมน แต่อยู่ ในเขตเยเมนเหนือ เป็นผู้ควบคุมรายได้จากน้ำมัน แต่บ่อน้ำมันดันอยู่ในเยเมนใต้ แบบนี้ก็เข้าทาง (ยังไม่รู้ทางใคร!?) เมื่อรัฐบาล Saleh แตกคอกับเยเมนใต้ Saleh ก็เสียงคงอ่อย ค่าขายน้ำมัน สงสัยจะส่งมาไม่ถึงเมืองซานะ เยเมน เหมือนจะยังถูกบีบไม่พอ อยู่ดีๆ ในเดือนมกราคม ค.ศ.2009 ก็เกิดมีประกาศในเวบไซท์ ของอัลไคด้าว่า อัลไคด้าของบินลาเดน จะมาเปิดสาขาใหม่ใหญ่กว่าทุกแห่ง อยู่ในเยเมน เพื่อใช้เป็นฐานสำหรับปฏิบัติการ ทั้งในเยเมน และซาอุดิอารเบีย เวบอัลไคด้า โดยหัวหน้าใหญ่ Nasir al-Wanayshi ประกาศรายชื่อ บรรดาหัวกะทิ ที่จะมาประจำอยู่เยเมน ซึ่งมีกะทิระดับที่เคยถูกจับไปอบรม อยู่ในค่ายกวนตานาโมของอเมริกาด้วยหลายคน ไม่ใช่ย่อยนะ แต่ เล่นคัดตัวแสดงแบบนี้ เดี๋ยวเขาก็เดาออกหมด ว่า ใครอำนวยการสร้าง หลังจากนั้น al-Wanayshi ก็ทำวิดีโอออกสู่สาธารณะ เขาเริ่มเรื่องได้น่าหวาดเสียว ว่า …เราจะเริ่มต้นที่นี่ และเราจะพบกันที่อัลอัคซา We start from here and we will meet at al-Aqsa (คือโบสถ์ของชาวยิวในเยรูซาเรม)… วีดีโอนี้ ประกาศ ข่มขู่ ข่มขวัญ หัวหน้าใหญ่ของมุสลิมตั้งแต่ Saleh ในเยเมนเอง ราชวงศ์ของซาอุ ไปจนถึงประธานาธิบดี มูบารัค ของอียิปต์ อัลไคด้าบอกว่า เรากำลังจะไปต่อสู้อย่างพลีชีพ เพื่อเอาแผ่นดินศักดิ์สิทธิของมุสลิม ตั้งแต่ กาซ่า เยเมน ถึงอิสราเอล กลับคืนมา การตั้ง Southern Movement การประกาศตั้งฐานใหม่ของอัลไคด้าในเยเมน การออกมาข่มขวัญของอัลไคด้า แค่นี้ ก็เพียงพอให้อเมริกาใช้เป็นข้ออ้าง เพื่อยกทัพมาขยี้เยเมนแล้ว เยเมนไม่ใช่ซูดาน ที่ต้องใช้พระเอกเดินนำกล้อง ไม่ใช่คองโก ที่ต้องเอามือมีระดับมาจัดการ ไม่ต้องพูดถึงลิเบีย ที่ต้องขนกันมาครึ่งโลก เยเมนประเทศเล็กกระจ้อย อเมริกาตวาดทีเดียว ก็ราดเต็มกางเกงกันหมดแล้ว หลังจากบอกว่า เรื่องภายในประเทศเยเมน เป็นเรื่องของเยเมน แต่อเมริกาก็สั่งให้กองทัพของอ เมริกาบุกเยเมน เพื่อจัดการกับอัลไคด้า ซึ่งอเมริกาอ้างว่า เป็นเรื่องกระทบนานาชาติ ไม่ใช่เรื่องภายในของเยเมน เข้าใจไหม เข้าใจครับ เข้าใจครับ อเมริกาอ้างว่า การโจมตีของอเมริกา ในช่วง 17 ถึง 24 ธันวาคม ค.ศ.2009 อเมริกาได้กำจัดอัลไคด้า ระดับหัวหน้าไปแล้ว 3 คน แต่ไม่มีรายชื่อ ไม่มีหลักฐาน กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ใบเล็ก ไม่เห็นขุดมาเล่าให้ฟังบ้างเลย หลังจากนั้น อเมริกาบอกว่า จำเป็นต้องช่วย Saleh เกี่ยวกับเรื่องการกำจัดผู้ก่อการร้ายในเยเมน ให้หมดไปโดยเร็ว เลยจำเป็นต้องทิ้งกองกำลังไว้ในเยเมนต่อไป เฮ้อ…มาแบบเก่า ฟอร์มเดิม ผมเบื่อแล้วนะพี่ ต้องเขียนซ้ำๆ กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ รายงานเรื่องอัลไคด้า ที่อเมริกาอ้างว่าต้องยกพลไปถล่มอย่างเสียไม่ได้ แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้น กระป๋องใส่สีย้อมข่าว เปลี่ยนไป รายงานเรื่อง สลัดโซมาเลีย โจมตีเรือขนส่งสินค้าในอ่าวเอเดน นอกฝั่งโซมาเลีย ตรงข้ามกับเยเมนใต้ และเล่นข่าวสลัดโซมาเลียอย่างใหญ่ โต แถมเล่นซ้ำทุกวัน ไม่ต้อง งง ครับ ตีข่าวเรื่องอัลไคด้า ตามบทจบด้วยกองทัพอเมริกา ไปอยู่ในเยเมน เรียบร้อยฉากแรกแล้ว ตอนนี้ต้องเปิดฉากสองต่อ วันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ.2009 สำนักข่าว RIA Novosti ของมอสโคว์ รายงานข่าวว่า สลัดโซมาเลีย ยึดเรือขนส่งสินค้าของกรีก ที่อ่าวเอเดน นอกฝั่งด้านโซมาเลีย ก่อนหน้านั้น เรือบรรทุกเคมีของอังกฤษ พร้อมลูกเรือ 26 คน โดนจับที่อ่าวเอเดน หัวหน้าสลัด Mohamed Shakir แน่มาก ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอังกฤษ The Times ทางโทรศัพท์ว่า เป็นเรื่องจริง เรายึดเรืออังกฤษไปแล้ว รายการสลัดโซมาเลีย ปล้นเรือในช่วงปี 2009 พุ่งสูงมาก นับถึงวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ.2009 สลัดโซมาเลียโจมตีเรือไป 174 รายการ เรือ 35 ลำ ถูกยึด ลูกเรือ 587 คน ถูกเรียกค่าไถ่ การปฏิบัติการทุกรายการ ประสพผลสำเร็จ เยี่ยมจริงๆ คำถามคือ “ใคร” เป็นคนจัดส่งอาวุธให้สลัดโซมา เลีย รวมทั้งส่งเส้นทาง และตารางการเดินเรือ ของเรือสินค้านานาชาติ มันเป็นข้อมูลชั้นเยี่ยม จนทำให้การปล้น และการหลบจากการถูกจับ โดยเรือลาดตระเวนของนานาชาติ ของสลัดโซมาเลียสำเร็จทุกครั้ง น่านน้ำระหว่างเยเมนกับโซมาเลีย มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง มันเป็นบริเวณ ที่มีช่องแคบสำคัญอยู่ด้วยเรียกว่า Bab el-Mandab ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ของรายการช่องแคบสำคัญ ในเส้นทางขนส่งน้ำมัน ที่เรียกว่า choke points จุดรัดคอ! สำนักข้อมูลการพลังงานของอเมริกา รายงานว่า หากมีการปิดช่องแคบ Bab el-Mandab จะทำให้เรือขนส่งน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซีย ไม่สามารถเข้าไปถึงคลองสุเอซและ ท่อส่งน้ำมัน Sumed ที่สุเอซ นอกจากแล่นอ้อมลงทางใต้ ผ่านปลายทวีปอาฟริกา ซึ่งเป็นการเพิ่มระยะทาง เวลา และค่าใช้จ่าย ช่องแคบ Bab จึงเป็นจุดที่สามารถ รัดคอ ตัดขาดเส้นทาง ระหว่างอาฟริกากับตะวันออกกลาง ขณะเดียวกัน ก็เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญ หรือ จุดตัดขาด ระหว่างทะเลเมดิเตอเรเนียนกับมหาสมุทรอินเดีย มันเป็นจุดเป็น จุดตาย ของเส้นทางเดินของน้ำมัน จริงๆ นอกจากนี้ Bab el-Mandab ที่อยู่ระหว่าง เยเมน จิบูตี และอีริเตรีย ยังเป็นตัวเชื่อมทะเลแดงกับอ่าวเอเดน และทะเลอารบียน น้ำมันและเรือ จากอ่าวเปอร์เซียและมหาสมุทรอินเดีย จะต้องผ่านจุดนี้ ก่อนที่จะผ่านเข้าสุเอซไปสู่เมดิเตอเรเนียน เข้าไปสู่ยุโรป (โปรดดูแผนที่ประกอบนะครับ จะได้เห็นชัด และเข้าใจ) สรุปว่า การขนส่งน้ำมันจากทุกแหล่งในโลก ต้องขนส่งกันไปมา ผ่านน่านน้ำต่างๆนั้น ประมาณ 50% ของน้ำมันที่ขนส่งกัน ต้องผ่านช่องรัดคอ Bab นี้ ใครคุม คุณ Bab ก็เท่ากับคุมโลกไป 50% อเมริกาจะยอมให้สลัดโซมาเลียคุม หรือ อเมริกาจะปล่อยให้เยเมนประเทศเล็กๆคุม และประเทศเสี่ยปั้มกับพวก ที่ขายน้ำมัน จะปล่อยให้เยเมนและโซมาเลีย กำหนดเส้นทางส่งน้ำมันของเขาไหม ปั้มน้ำมันขึ้นมาได้ แต่ส่งไปขายไม่ได้ และประเทศที่ต้องการน้ำมันจากอาฟริกา จะให้นั่งตาลอย อยู่ในกำมือของใครก็ไม่รู้อย่างนั้นหรือ แล้วถ้าพวกเสี่ยปั้มซาอุกับพวก คุม เยเมน คุมคุณ Bab ได้ ผมว่า เสี่ยนิวเคลียร์สองลูก คงจะทำใจยาก ที่จะให้พวกเสี่ยปั้มขี่คอ... เยเมน จึงกลายเป็นประเทศ ที่ทุกฝ่ายพยายามเข้าไปคุมอำนาจ เพื่อคุมจุดรัดคอ คุมไม่ได้ก็ ต้องถ่วงอำนาจ ถ่วงไม่ได้ สงสัยเกิดรายการถล่ม เรื่องเยเมน จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก อเมริกาคงพยายามทุกทางที่จะคุม คุณ Bab จุดรัดคอ Bab el-Mandeb และเราคงได้ยิน เรื่องความไม่สงบในเยเมนอยู่ตลอดเวลา และเวลานี้การสู้รบในเยเมน จริงๆ ก็กำลังดำเนินอยู่อย่างดุเดือด แต่กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ เสนอข่าวน้อยมาก หรือแทบไม่เสนอเลย ก็ลองถอดรหัสกันดู ว่า แบบนี้แปลว่าใครกำลังเล่นอะไร ในเยเมน และใครกำลังได้เปรียบ เสียเปรียบ และโปรดอย่าลืมว่าเยเมนใต้ เคยชอบพอกับใคร เพื่อนกัน คงไม่ทิ้งกันง่ายๆ เยเมนใต้ อาจจะกลายเป็นสนามประลองกำลังตัวแทน proxy war ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และก็คอยตามข่าวกันหน่อย เรื่องแถวเยเมน นี่ อาจทำให้พอประเมินได้ว่า สงครามโลก ใกล้เข้ามาขนาดไหนแล้ว และ ฝ่ายไหนจะได้เปรียบเสียเปรียบ เส้นทางขนส่งน้ำมัน เป็นปัจจัยสำคัญในการทำศึกสงครามครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 22 ก.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251207 #TechRadar

    US Security Agency เตือนเลิกใช้ VPN ส่วนตัวบนมือถือ
    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ หรือ CISA ออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” โดยเฉพาะบน iPhone และ Android เพราะแทนที่จะช่วยป้องกัน กลับเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ใช้มากขึ้น เนื่องจากข้อมูลที่เคยอยู่กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะถูกย้ายไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ซึ่งหลายเจ้าไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่ดีพอ บางรายถึงขั้นเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาในแอปฟรี ๆ อีกด้วย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการเลือก VPN ไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องเลือกเจ้าใหญ่ที่มีการตรวจสอบนโยบาย “no-logs” และใช้มาตรฐานเข้ารหัสที่แข็งแรง เช่น OpenVPN หรือ WireGuard รวมถึงฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch และ DNS leak protection เพื่อความปลอดภัยจริง ๆ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns

    งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์
    ผลสำรวจจาก Cisco ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นใหญ่ คนอายุต่ำกว่า 35 ปีส่วนใหญ่ใช้ AI อย่างจริงจังและมองว่ามีประโยชน์ต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน แต่คนอายุเกิน 45 ปีครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าปฏิเสธ outright ขณะเดียวกันประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก กลับเป็นผู้นำในการใช้ AI อย่างแพร่หลาย ต่างจากยุโรปที่ยังมีความไม่มั่นใจและกฎระเบียบเข้มงวดที่ทำให้การใช้งานช้าลง งานวิจัยนี้สะท้อนว่าการสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกวัยเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ “Generation AI” ครอบคลุมทุกคนจริง ๆ
    https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful

    EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI บน WhatsApp
    คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta ว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่งด้าน AI chatbot โดยห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการ AI รายอื่นเผยแพร่ผ่าน WhatsApp หากบริการหลักคือ AI ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอน chatbot ออกจากแพลตฟอร์มแล้ว EU กังวลว่า Meta ใช้อำนาจตลาดเพื่อดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบผิดจริง Meta อาจโดนปรับสูงถึง 16.5 พันล้านดอลลาร์ การสอบสวนนี้สะท้อนความเข้มงวดของยุโรปในการป้องกันการผูกขาดและรักษาสนามแข่งขันที่เป็นธรรมในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy

    ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 (CVE-2025-55182) ช่องโหว่นี้เปิดทางให้แฮกเกอร์แม้จะมีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ทันที โดยกระทบหลายเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router และ Vite ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน เพราะนักวิจัยยืนยันว่าการโจมตี “เกิดขึ้นแน่นอน” และมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% เนื่องจาก React ถูกใช้ในเว็บใหญ่ทั่วโลก เช่น Facebook, Netflix และ Airbnb ทำให้พื้นที่เสี่ยงกว้างมาก
    https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now

    Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินคริปโตมูลค่า 700 ล้าน
    Europol ร่วมกับตำรวจหลายประเทศยุโรปเข้าจับกุมเครือข่ายฟอกเงินและหลอกลงทุนคริปโตที่มีมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ ปฏิบัติการนี้แบ่งเป็นสองเฟส เริ่มจากการบุกค้นในไซปรัส เยอรมนี และสเปน ยึดเงินสด คริปโต และทรัพย์สินหรู รวมกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คน เครือข่ายนี้ใช้แพลตฟอร์มลงทุนปลอมและคอลเซ็นเตอร์กดดันเหยื่อให้ลงทุนเพิ่ม อีกทั้งยังใช้โฆษณาหลอกลวงบนโซเชียลมีเดีย โดยบางครั้งถึงขั้นใช้ deepfake คนดังอย่าง Elon Musk หรือ Donald Trump เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ การทลายครั้งนี้ถือเป็นการตัดเส้นเลือดใหญ่ของอุตสาหกรรมหลอกลวงคริปโตที่กำลังระบาดหนักในยุโรป
    https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million

    ปี 2025 สมาร์ทโฟนกลับมาน่าตื่นเต้นอีกครั้ง (ไม่ใช่เพราะ AI)
    หลายคนบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มน่าเบื่อ แต่ปี 2025 กลับมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจโดยไม่เกี่ยวกับ AI เลย อย่างแรกคือการมาของ แบตเตอรี่โซลิดสเตต ที่ทำให้มือถือชาร์จเร็วขึ้นและใช้งานได้นานกว่าเดิม ต่อมาคือ การเชื่อมต่อดาวเทียม ที่เริ่มกลายเป็นมาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อได้แม้ไม่มีสัญญาณเครือข่าย อีกทั้งยังมี การออกแบบใหม่ที่บางและทนทานกว่า รวมถึง จอพับที่พัฒนาไปอีกขั้น จนใช้งานจริงได้สะดวกขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ปี 2025 เป็นปีที่มือถือกลับมามีเสน่ห์อีกครั้งโดยไม่ต้องพึ่งกระแส AI
    https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai

    OpenAI ชนะ Google, Meta และ Grok ในทัวร์นาเมนต์โป๊กเกอร์ AI
    การแข่งขันโป๊กเกอร์ที่จัดขึ้นโดยใช้แต่ AI เป็นผู้เล่น ปรากฏว่า OpenAI สามารถเอาชนะคู่แข่งรายใหญ่ทั้ง Google, Meta และ Grok ได้สำเร็จ การแข่งขันนี้ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นการทดสอบความสามารถของ AI ในการวางกลยุทธ์ การอ่านสถานการณ์ และการตัดสินใจในสภาพที่ไม่แน่นอน ผลลัพธ์สะท้อนว่า AI ของ OpenAI มีความเหนือชั้นในด้านการปรับตัวและการคิดเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญต่อการนำไปใช้ในโลกจริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การเงิน หรือการวิจัย
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai-beats-google-meta-and-grok-in-all-ai-poker-tournament

    Surfshark เตือน แอปแชร์ไฟล์ฟรีเสี่ยงเปิดข้อมูลให้คนอื่นเห็น
    รายงานใหม่จาก Surfshark ระบุว่าแอปแชร์ไฟล์ฟรีจำนวนมากมีช่องโหว่ที่ทำให้การดาวน์โหลดของผู้ใช้ถูกเปิดเผยต่อบุคคลอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลหรือมัลแวร์เข้ามาได้ ปัญหานี้เกิดจากการที่หลายแอปไม่ได้เข้ารหัสการเชื่อมต่อหรือไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ ผู้ใช้ที่คิดว่า “ฟรีและสะดวก” อาจต้องแลกด้วยความเสี่ยงด้านความปลอดภัย คำแนะนำคือควรเลือกใช้บริการที่มีชื่อเสียง มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end และหลีกเลี่ยงการแชร์ไฟล์สำคัญผ่านแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/think-before-you-click-most-free-file-sharing-apps-expose-your-downloads-to-security-risks-warns-surfshark

    ราคาคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงเพราะขาดแคลนหน่วยความจำ
    ตอนนี้โลกเทคโนโลยีกำลังเจอปัญหาใหญ่ เพราะหน่วยความจำ DRAM และ HBM ถูกเบี่ยงไปผลิตเพื่อรองรับเซิร์ฟเวอร์ AI ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปขาดตลาด ราคาจึงพุ่งขึ้นอย่างแรง ผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง Dell, Lenovo, HP และ HPE เตรียมขึ้นราคาประมาณ 15% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ 5% สำหรับ PC ส่วนผู้ใช้ทั่วไปก็อาจต้องเจอราคาที่สูงขึ้นเมื่อซื้อแล็ปท็อปหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ สถานการณ์นี้สะท้อนว่า AI กำลังเปลี่ยนทิศทางตลาดฮาร์ดแวร์อย่างชัดเจน
    https://www.techradar.com/pro/the-bad-news-continues-server-prices-set-to-rise-in-latest-blow-to-hardware-budgets

    Spotify Wrapped 2025 เผยวิธีคำนวณจริง
    หลายคนสงสัยว่าทำไมสรุปการฟังเพลงปลายปีของ Spotify ถึงดูแปลกไปบ้าง ล่าสุด Spotify ออกมาอธิบายแล้วว่าแต่ละหมวดใช้วิธีคำนวณต่างกัน เช่น เพลงยอดนิยมวัดจากจำนวนครั้งที่ฟัง แต่สำหรับอัลบั้มจะดูว่าฟังครบหลายเพลงและกระจายการฟังอย่างไร นอกจากนี้ข้อมูลจะเก็บตั้งแต่ 1 มกราคมถึงพฤศจิกายน ไม่ใช่ครบทั้งปี และยังรวมการฟังแบบออฟไลน์ด้วย ฟีเจอร์ใหม่อย่าง “Listening Age” ที่เดาอายุจากแนวเพลงก็ทำให้หลายคนงง แต่จริงๆ มันสะท้อนพฤติกรรมการฟังที่เปลี่ยนไปตลอดปี
    https://www.techradar.com/audio/spotify/your-spotify-wrapped-2025-data-isnt-wrong-the-streaming-giant-just-revealed-all-about-how-its-calculated

    หนี้เทคนิค Windows ที่องค์กรยังไม่แก้
    แม้ Windows 10 จะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่หลายองค์กรยังคงใช้ต่อ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “หนี้เทคนิค” ซึ่งเสี่ยงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การสำรวจพบว่า 9 ใน 10 บริษัทเจอปัญหานี้ แต่มีเพียง 14% ที่จริงจังกับการแก้ไขในปีหน้า เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายสูง ความซับซ้อนของระบบ และความกลัวว่าจะทำให้ระบบล่ม หลายองค์กรเลือกที่จะเลื่อนการแก้ไขออกไปจนกว่าจะเกิดปัญหา ทั้งที่จริงๆ การแก้ทีละขั้นตอนและใช้เครื่องมือเฉพาะทางจะช่วยลดความเสี่ยงและเปิดทางให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ดีกว่า
    https://www.techradar.com/pro/why-are-companies-not-tackling-their-windows-technical-debt

    Huawei Pura X พลิกนิยามมือถือฝาพับ
    Huawei เปิดตัว Pura X ที่ทำให้คนมองมือถือฝาพับต่างออกไป จากเดิมที่แบรนด์อื่นเน้นทำให้มือถือใหญ่พับเล็กลง แต่ Huawei กลับทำให้มันกลายเป็นเหมือนแท็บเล็ตขนาดพกพา หน้าจอหลักสัดส่วน 16:10 ขนาด 6.3 นิ้ว ใช้งานดูหนังหรือทำงานได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังมีหน้าจอด้านหน้า 3.5 นิ้วพร้อมกล้องสามตัว รวมถึงเลนส์เทเลโฟโต้ที่คู่แข่งยังไม่มี จุดเด่นนี้ทำให้มันเป็นมือถือฝาพับที่มีกล้องดีที่สุดในตลาดตอนนี้ แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องการใช้งาน Google และการวางขายที่จำกัด แต่ก็ถือเป็นการออกแบบที่ท้าทายให้คู่แข่งต้องคิดใหม่
    https://www.techradar.com/phones/huawei-phones/i-tried-huaweis-strange-pura-x-foldable-and-its-made-me-rethink-every-other-flip-phone

    โพลเลือกจอยเกมโปรดที่ผลลัพธ์ชวนงง
    TechRadar เคยทำโพลถามผู้อ่านว่าจอยเกมที่ชอบที่สุดคือรุ่นไหน ผลออกมาน่าตกใจเพราะ “Steam Controller” ของ Valve ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องดีไซน์แปลก กลับได้คะแนนสูงสุด 15% แซงหน้า Xbox 360 Controller ที่ได้ 13% และ DualSense Edge ของ PlayStation ที่ได้ 11% หลายคนเชื่อว่าผลนี้อาจเพราะแฟน Steam เข้ามาโหวตเยอะ หรือบางคนอาจโหวตแบบขำๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร มันก็สะท้อนว่าความชอบของผู้เล่นเกมนั้นหลากหลายและไม่จำเป็นต้องตรงกับมาตรฐานตลาดเสมอไป
    https://www.techradar.com/gaming/you-told-me-your-favorite-controller-ever-and-i-dont-believe-you

    ชิป AI จากจีน Cambricon เตรียมผลิตเพิ่มสามเท่า
    Cambricon บริษัทชิปจากจีนประกาศแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตชิป AI ถึงสามเท่าในปีหน้า เพื่อแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia และ Huawei แต่ก็ต้องเจอความท้าทายใหญ่จากการผลิตที่ซับซ้อนและต้นทุนสูง โดยเฉพาะการหาพันธมิตรด้านการผลิตที่สามารถรองรับเทคโนโลยีขั้นสูงได้ ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าจีนกำลังผลักดันอุตสาหกรรมชิป AI อย่างจริงจังเพื่อไม่ให้พึ่งพาต่างชาติ
    https://www.techradar.com/pro/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel

    Windows 11 ยังไม่สามารถแทนที่ Windows 10 ได้
    แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่สถิติการใช้งานยังชี้ว่าผู้ใช้จำนวนมหาศาลยังคงอยู่กับ Windows 10 โดยเฉพาะในองค์กรและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่เดิม เหตุผลหลักคือความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดที่สูง ทำให้ Windows 10 ยังคงครองความนิยมอย่างเหนียวแน่นในหลายตลาด และกลายเป็นความท้าทายที่ Microsoft ต้องหาทางแก้
    https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular

    5 สิ่งสำคัญที่นักพัฒนาต้องคำนึงเพื่อให้งานไม่หลุดราง
    ในยุคที่การพัฒนาโปรแกรมเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความซับซ้อน การจะทำให้งาน “อยู่บนราง” ไม่ใช่แค่เขียนโค้ดให้เสร็จ แต่ต้องมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจน กำหนดว่า “เสร็จ” หมายถึงอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงการขยายขอบเขตงานโดยไม่จำเป็น การจัดตารางเวลาที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะโลกจริงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นอกจากนี้ยังต้องมีระบบติดตามงานที่โปร่งใส มีการวัดผลที่เน้นคุณค่า ไม่ใช่แค่ชั่วโมงที่ใช้ไป ทีมต้องรู้จักประเมินกำลังคนและทรัพยากร เพื่อไม่ให้เกิดการทำงานเกินกำลัง และสุดท้ายคือการบริหารความเสี่ยง พร้อมสื่อสารกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา ทั้งหมดนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาไปถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นคงและไม่หลุดราง
    https://www.techradar.com/pro/5-essential-considerations-for-developers-to-stay-on-track

    รีวิวจอ InnoCN 27 นิ้ว GA27W1Q 4K
    จอภาพรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความละเอียดสูงในราคาที่จับต้องได้ ด้วยขนาด 27 นิ้วและความละเอียด 4K ทำให้ภาพคมชัด เหมาะทั้งงานกราฟิกและการดูหนัง จุดเด่นคือการให้สีที่แม่นยำและมุมมองกว้าง แต่ก็มีข้อสังเกตเรื่องความสว่างที่อาจไม่สูงเท่าจอระดับพรีเมียม อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มองหาจอ 4K ในงบประมาณที่ไม่แรง นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
    https://www.techradar.com/computing/innocn-27-ga27w1q-4k-monitor-review

    แอมป์/DAC ขนาดเล็กที่แทนชุดเครื่องเสียงได้
    นี่คืออุปกรณ์ที่รวมแอมป์และ DAC ไว้ในตัวเดียว ขนาดเล็กจนสามารถวางบนโต๊ะทำงานได้สบาย แต่ให้พลังเสียงที่สามารถแทนชุดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ได้เลย เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเข้าสู่วงการเครื่องเสียงและอยากได้คุณภาพเสียงที่ดีโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์หลายชิ้น จุดแข็งคือการเชื่อมต่อที่หลากหลายและเสียงที่ใสสะอาด ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์คนรักเสียงเพลงที่มีพื้นที่จำกัด
    https://www.techradar.com/audio/dacs/this-super-compact-budget-desktop-amp-dac-can-replace-a-mini-hi-fi-stack-and-its-perfect-for-budding-audiophiles

    ข่าวลือ Samsung Galaxy S26 และชิป Exynos 2600
    มีการหลุดข้อมูลจาก One UI 8.5 ที่อาจเผยให้เห็นดีไซน์ของ Galaxy S26 ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับโฉมใหม่ พร้อมกับข่าวลือเรื่องชิป Exynos 2600 ที่อาจถูกนำมาใช้ จุดสนใจคือการพัฒนาให้เครื่องมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและดีไซน์ที่ทันสมัยกว่าเดิม แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวนี้ก็ทำให้แฟน ๆ Samsung ตื่นเต้นและจับตามองว่าจะออกมาในรูปแบบใด
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-may-have-leaked-the-galaxy-s26-design-through-one-ui-8-5-and-another-exynos-2600-rumor-has-emerged

    รีวิว TerraMaster F2-425 NAS
    อุปกรณ์ NAS รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากในบ้านหรือสำนักงานเล็ก ๆ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานที่รวดเร็วและมีฟีเจอร์ที่เหมาะกับการสำรองข้อมูลหรือแชร์ไฟล์ภายในทีม แม้จะไม่หรูหราเท่า NAS ระดับองค์กร แต่ก็ถือว่ามีความคุ้มค่าในด้านราคาและประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง
    https://www.techradar.com/computing/terramaster-f2-425-nas-review

    ต่อ Mac Mini เข้ากับไดรฟ์เทป LTO-10 ขนาด 30TB

    นี่คือการเชื่อมต่อที่น่าสนใจมาก เพราะทำให้ Mac Mini สามารถใช้งานไดรฟ์เทป LTO-10 ที่มีความจุถึง 30TB ได้ โดยความเร็วที่ได้ใกล้เคียงกับ SSD เลยทีเดียว ถือเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่ากับใหม่ที่ลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลในราคาที่คุ้มค่า และยังได้ความเร็วที่ไม่แพ้การใช้ดิสก์สมัยใหม่
    https://www.techradar.com/pro/you-can-now-buy-a-30tb-tape-drive-and-connect-it-to-your-apple-mac-mini-and-its-almost-as-fast-as-an-ssd

    Samsung Galaxy Z Trifold กำลังมา – iPhone Fold ต้องรีบแล้ว
    ข่าวลือบอกว่า Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Trifold ซึ่งเป็นมือถือพับสามทบ ทำให้ Apple ที่มีข่าวลือเรื่อง iPhone Fold ต้องเร่งเครื่องออกสู่ตลาด หากช้าเกินไปอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน จุดเด่นของ Trifold คือการขยายหน้าจอได้ใหญ่ขึ้นเหมือนแท็บเล็ต แต่ยังพับเก็บได้เหมือนมือถือธรรมดา ทำให้เป็นที่จับตามองในวงการสมาร์ทโฟน
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/with-the-samsung-galaxy-z-trifold-on-the-way-apples-rumored-iphone-fold-needs-to-hit-shelves-soon

    Bose Smart Soundbar vs Sony Bravia Theater Bar 6
    การเปรียบเทียบซาวด์บาร์สองรุ่นนี้เน้นไปที่ระบบเสียง Dolby Atmos ที่ทั้งคู่รองรับ Bose Smart Soundbar มีชื่อเสียงเรื่องเสียงที่สมดุลและดีไซน์เรียบหรู ส่วน Sony Bravia Theater Bar 6 โดดเด่นด้วยพลังเสียงที่กระจายรอบทิศทางได้สมจริงกว่า การเลือกขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ต้องการความเรียบง่ายและคุณภาพเสียงที่มั่นคง หรืออยากได้ประสบการณ์เสียงโอบล้อมเต็มรูปแบบ
    https://www.techradar.com/televisions/soundbars/bose-smart-soundbar-vs-sony-bravia-theater-bar-6-which-dolby-atmos-soundbar-is-right-for-you

    ลืมกล้อง ลืม AI – สิ่งที่คนอยากได้จริงคือแบตมือถือที่อึดกว่า
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจแค่กล้องหรือชิปใหม่ แต่สิ่งที่ต้องการจริง ๆ คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ทุกวันนี้มือถือเต็มไปด้วยฟีเจอร์ล้ำ ๆ แต่ถ้าแบตหมดไวก็ไร้ประโยชน์ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังมากที่สุดในอนาคต
    https://www.techradar.com/phones/forget-cameras-ai-and-chip-upgrades-you-really-want-better-phone-battery-life

      ดีล Netflix กับ Warner Bros. หมายถึงอะไรสำหรับผู้ชม
    การจับมือกันครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิ่ง ทั้งเรื่องราคาที่อาจปรับขึ้น และการเข้าถึงคอนเทนต์ที่กว้างขึ้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่าผู้ใช้จะได้ประโยชน์จากการรวมคอนเทนต์ แต่ก็ต้องเตรียมใจรับกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ดีลนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสตรีมมิ่งที่ไม่มีใครยอมแพ้
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/streaming/netflix/what-does-the-netflix-and-warner-bros-deal-mean-for-you-heres-what-experts-say-about-price-hikes-and-more
    📌📡🔴 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔴📡📌 #รวมข่าวIT #20251207 #TechRadar 📱🔒 US Security Agency เตือนเลิกใช้ VPN ส่วนตัวบนมือถือ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ หรือ CISA ออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” โดยเฉพาะบน iPhone และ Android เพราะแทนที่จะช่วยป้องกัน กลับเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ใช้มากขึ้น เนื่องจากข้อมูลที่เคยอยู่กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะถูกย้ายไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ซึ่งหลายเจ้าไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่ดีพอ บางรายถึงขั้นเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาในแอปฟรี ๆ อีกด้วย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการเลือก VPN ไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องเลือกเจ้าใหญ่ที่มีการตรวจสอบนโยบาย “no-logs” และใช้มาตรฐานเข้ารหัสที่แข็งแรง เช่น OpenVPN หรือ WireGuard รวมถึงฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch และ DNS leak protection เพื่อความปลอดภัยจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns 👵👩‍💻 งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์ ผลสำรวจจาก Cisco ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นใหญ่ คนอายุต่ำกว่า 35 ปีส่วนใหญ่ใช้ AI อย่างจริงจังและมองว่ามีประโยชน์ต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน แต่คนอายุเกิน 45 ปีครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าปฏิเสธ outright ขณะเดียวกันประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก กลับเป็นผู้นำในการใช้ AI อย่างแพร่หลาย ต่างจากยุโรปที่ยังมีความไม่มั่นใจและกฎระเบียบเข้มงวดที่ทำให้การใช้งานช้าลง งานวิจัยนี้สะท้อนว่าการสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกวัยเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ “Generation AI” ครอบคลุมทุกคนจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful ⚖️📲 EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI บน WhatsApp คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta ว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่งด้าน AI chatbot โดยห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการ AI รายอื่นเผยแพร่ผ่าน WhatsApp หากบริการหลักคือ AI ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอน chatbot ออกจากแพลตฟอร์มแล้ว EU กังวลว่า Meta ใช้อำนาจตลาดเพื่อดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบผิดจริง Meta อาจโดนปรับสูงถึง 16.5 พันล้านดอลลาร์ การสอบสวนนี้สะท้อนความเข้มงวดของยุโรปในการป้องกันการผูกขาดและรักษาสนามแข่งขันที่เป็นธรรมในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy ⚠️💻 ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 (CVE-2025-55182) ช่องโหว่นี้เปิดทางให้แฮกเกอร์แม้จะมีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ทันที โดยกระทบหลายเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router และ Vite ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน เพราะนักวิจัยยืนยันว่าการโจมตี “เกิดขึ้นแน่นอน” และมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% เนื่องจาก React ถูกใช้ในเว็บใหญ่ทั่วโลก เช่น Facebook, Netflix และ Airbnb ทำให้พื้นที่เสี่ยงกว้างมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now 💰🕵️ Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินคริปโตมูลค่า 700 ล้าน Europol ร่วมกับตำรวจหลายประเทศยุโรปเข้าจับกุมเครือข่ายฟอกเงินและหลอกลงทุนคริปโตที่มีมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ ปฏิบัติการนี้แบ่งเป็นสองเฟส เริ่มจากการบุกค้นในไซปรัส เยอรมนี และสเปน ยึดเงินสด คริปโต และทรัพย์สินหรู รวมกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คน เครือข่ายนี้ใช้แพลตฟอร์มลงทุนปลอมและคอลเซ็นเตอร์กดดันเหยื่อให้ลงทุนเพิ่ม อีกทั้งยังใช้โฆษณาหลอกลวงบนโซเชียลมีเดีย โดยบางครั้งถึงขั้นใช้ deepfake คนดังอย่าง Elon Musk หรือ Donald Trump เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ การทลายครั้งนี้ถือเป็นการตัดเส้นเลือดใหญ่ของอุตสาหกรรมหลอกลวงคริปโตที่กำลังระบาดหนักในยุโรป 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million 📱📡 ปี 2025 สมาร์ทโฟนกลับมาน่าตื่นเต้นอีกครั้ง (ไม่ใช่เพราะ AI) หลายคนบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มน่าเบื่อ แต่ปี 2025 กลับมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจโดยไม่เกี่ยวกับ AI เลย อย่างแรกคือการมาของ แบตเตอรี่โซลิดสเตต ที่ทำให้มือถือชาร์จเร็วขึ้นและใช้งานได้นานกว่าเดิม ต่อมาคือ การเชื่อมต่อดาวเทียม ที่เริ่มกลายเป็นมาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อได้แม้ไม่มีสัญญาณเครือข่าย อีกทั้งยังมี การออกแบบใหม่ที่บางและทนทานกว่า รวมถึง จอพับที่พัฒนาไปอีกขั้น จนใช้งานจริงได้สะดวกขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ปี 2025 เป็นปีที่มือถือกลับมามีเสน่ห์อีกครั้งโดยไม่ต้องพึ่งกระแส AI 🔗 https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai 🎲🤖 OpenAI ชนะ Google, Meta และ Grok ในทัวร์นาเมนต์โป๊กเกอร์ AI การแข่งขันโป๊กเกอร์ที่จัดขึ้นโดยใช้แต่ AI เป็นผู้เล่น ปรากฏว่า OpenAI สามารถเอาชนะคู่แข่งรายใหญ่ทั้ง Google, Meta และ Grok ได้สำเร็จ การแข่งขันนี้ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นการทดสอบความสามารถของ AI ในการวางกลยุทธ์ การอ่านสถานการณ์ และการตัดสินใจในสภาพที่ไม่แน่นอน ผลลัพธ์สะท้อนว่า AI ของ OpenAI มีความเหนือชั้นในด้านการปรับตัวและการคิดเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญต่อการนำไปใช้ในโลกจริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การเงิน หรือการวิจัย 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai-beats-google-meta-and-grok-in-all-ai-poker-tournament ⚠️📂 Surfshark เตือน แอปแชร์ไฟล์ฟรีเสี่ยงเปิดข้อมูลให้คนอื่นเห็น รายงานใหม่จาก Surfshark ระบุว่าแอปแชร์ไฟล์ฟรีจำนวนมากมีช่องโหว่ที่ทำให้การดาวน์โหลดของผู้ใช้ถูกเปิดเผยต่อบุคคลอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลหรือมัลแวร์เข้ามาได้ ปัญหานี้เกิดจากการที่หลายแอปไม่ได้เข้ารหัสการเชื่อมต่อหรือไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ ผู้ใช้ที่คิดว่า “ฟรีและสะดวก” อาจต้องแลกด้วยความเสี่ยงด้านความปลอดภัย คำแนะนำคือควรเลือกใช้บริการที่มีชื่อเสียง มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end และหลีกเลี่ยงการแชร์ไฟล์สำคัญผ่านแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/think-before-you-click-most-free-file-sharing-apps-expose-your-downloads-to-security-risks-warns-surfshark 🖥️ ราคาคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงเพราะขาดแคลนหน่วยความจำ ตอนนี้โลกเทคโนโลยีกำลังเจอปัญหาใหญ่ เพราะหน่วยความจำ DRAM และ HBM ถูกเบี่ยงไปผลิตเพื่อรองรับเซิร์ฟเวอร์ AI ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปขาดตลาด ราคาจึงพุ่งขึ้นอย่างแรง ผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง Dell, Lenovo, HP และ HPE เตรียมขึ้นราคาประมาณ 15% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ 5% สำหรับ PC ส่วนผู้ใช้ทั่วไปก็อาจต้องเจอราคาที่สูงขึ้นเมื่อซื้อแล็ปท็อปหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ สถานการณ์นี้สะท้อนว่า AI กำลังเปลี่ยนทิศทางตลาดฮาร์ดแวร์อย่างชัดเจน 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-bad-news-continues-server-prices-set-to-rise-in-latest-blow-to-hardware-budgets 🎵 Spotify Wrapped 2025 เผยวิธีคำนวณจริง หลายคนสงสัยว่าทำไมสรุปการฟังเพลงปลายปีของ Spotify ถึงดูแปลกไปบ้าง ล่าสุด Spotify ออกมาอธิบายแล้วว่าแต่ละหมวดใช้วิธีคำนวณต่างกัน เช่น เพลงยอดนิยมวัดจากจำนวนครั้งที่ฟัง แต่สำหรับอัลบั้มจะดูว่าฟังครบหลายเพลงและกระจายการฟังอย่างไร นอกจากนี้ข้อมูลจะเก็บตั้งแต่ 1 มกราคมถึงพฤศจิกายน ไม่ใช่ครบทั้งปี และยังรวมการฟังแบบออฟไลน์ด้วย ฟีเจอร์ใหม่อย่าง “Listening Age” ที่เดาอายุจากแนวเพลงก็ทำให้หลายคนงง แต่จริงๆ มันสะท้อนพฤติกรรมการฟังที่เปลี่ยนไปตลอดปี 🔗 https://www.techradar.com/audio/spotify/your-spotify-wrapped-2025-data-isnt-wrong-the-streaming-giant-just-revealed-all-about-how-its-calculated 🪟 หนี้เทคนิค Windows ที่องค์กรยังไม่แก้ แม้ Windows 10 จะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่หลายองค์กรยังคงใช้ต่อ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “หนี้เทคนิค” ซึ่งเสี่ยงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การสำรวจพบว่า 9 ใน 10 บริษัทเจอปัญหานี้ แต่มีเพียง 14% ที่จริงจังกับการแก้ไขในปีหน้า เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายสูง ความซับซ้อนของระบบ และความกลัวว่าจะทำให้ระบบล่ม หลายองค์กรเลือกที่จะเลื่อนการแก้ไขออกไปจนกว่าจะเกิดปัญหา ทั้งที่จริงๆ การแก้ทีละขั้นตอนและใช้เครื่องมือเฉพาะทางจะช่วยลดความเสี่ยงและเปิดทางให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ดีกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-are-companies-not-tackling-their-windows-technical-debt 📱 Huawei Pura X พลิกนิยามมือถือฝาพับ Huawei เปิดตัว Pura X ที่ทำให้คนมองมือถือฝาพับต่างออกไป จากเดิมที่แบรนด์อื่นเน้นทำให้มือถือใหญ่พับเล็กลง แต่ Huawei กลับทำให้มันกลายเป็นเหมือนแท็บเล็ตขนาดพกพา หน้าจอหลักสัดส่วน 16:10 ขนาด 6.3 นิ้ว ใช้งานดูหนังหรือทำงานได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังมีหน้าจอด้านหน้า 3.5 นิ้วพร้อมกล้องสามตัว รวมถึงเลนส์เทเลโฟโต้ที่คู่แข่งยังไม่มี จุดเด่นนี้ทำให้มันเป็นมือถือฝาพับที่มีกล้องดีที่สุดในตลาดตอนนี้ แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องการใช้งาน Google และการวางขายที่จำกัด แต่ก็ถือเป็นการออกแบบที่ท้าทายให้คู่แข่งต้องคิดใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/phones/huawei-phones/i-tried-huaweis-strange-pura-x-foldable-and-its-made-me-rethink-every-other-flip-phone 🎮 โพลเลือกจอยเกมโปรดที่ผลลัพธ์ชวนงง TechRadar เคยทำโพลถามผู้อ่านว่าจอยเกมที่ชอบที่สุดคือรุ่นไหน ผลออกมาน่าตกใจเพราะ “Steam Controller” ของ Valve ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องดีไซน์แปลก กลับได้คะแนนสูงสุด 15% แซงหน้า Xbox 360 Controller ที่ได้ 13% และ DualSense Edge ของ PlayStation ที่ได้ 11% หลายคนเชื่อว่าผลนี้อาจเพราะแฟน Steam เข้ามาโหวตเยอะ หรือบางคนอาจโหวตแบบขำๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร มันก็สะท้อนว่าความชอบของผู้เล่นเกมนั้นหลากหลายและไม่จำเป็นต้องตรงกับมาตรฐานตลาดเสมอไป 🔗 https://www.techradar.com/gaming/you-told-me-your-favorite-controller-ever-and-i-dont-believe-you ⚙️ ชิป AI จากจีน Cambricon เตรียมผลิตเพิ่มสามเท่า Cambricon บริษัทชิปจากจีนประกาศแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตชิป AI ถึงสามเท่าในปีหน้า เพื่อแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia และ Huawei แต่ก็ต้องเจอความท้าทายใหญ่จากการผลิตที่ซับซ้อนและต้นทุนสูง โดยเฉพาะการหาพันธมิตรด้านการผลิตที่สามารถรองรับเทคโนโลยีขั้นสูงได้ ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าจีนกำลังผลักดันอุตสาหกรรมชิป AI อย่างจริงจังเพื่อไม่ให้พึ่งพาต่างชาติ 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel 🪟 Windows 11 ยังไม่สามารถแทนที่ Windows 10 ได้ แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่สถิติการใช้งานยังชี้ว่าผู้ใช้จำนวนมหาศาลยังคงอยู่กับ Windows 10 โดยเฉพาะในองค์กรและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่เดิม เหตุผลหลักคือความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดที่สูง ทำให้ Windows 10 ยังคงครองความนิยมอย่างเหนียวแน่นในหลายตลาด และกลายเป็นความท้าทายที่ Microsoft ต้องหาทางแก้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular 🚀 5 สิ่งสำคัญที่นักพัฒนาต้องคำนึงเพื่อให้งานไม่หลุดราง ในยุคที่การพัฒนาโปรแกรมเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความซับซ้อน การจะทำให้งาน “อยู่บนราง” ไม่ใช่แค่เขียนโค้ดให้เสร็จ แต่ต้องมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจน กำหนดว่า “เสร็จ” หมายถึงอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงการขยายขอบเขตงานโดยไม่จำเป็น การจัดตารางเวลาที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะโลกจริงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นอกจากนี้ยังต้องมีระบบติดตามงานที่โปร่งใส มีการวัดผลที่เน้นคุณค่า ไม่ใช่แค่ชั่วโมงที่ใช้ไป ทีมต้องรู้จักประเมินกำลังคนและทรัพยากร เพื่อไม่ให้เกิดการทำงานเกินกำลัง และสุดท้ายคือการบริหารความเสี่ยง พร้อมสื่อสารกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา ทั้งหมดนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาไปถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นคงและไม่หลุดราง 🔗 https://www.techradar.com/pro/5-essential-considerations-for-developers-to-stay-on-track 🖥️ รีวิวจอ InnoCN 27 นิ้ว GA27W1Q 4K จอภาพรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความละเอียดสูงในราคาที่จับต้องได้ ด้วยขนาด 27 นิ้วและความละเอียด 4K ทำให้ภาพคมชัด เหมาะทั้งงานกราฟิกและการดูหนัง จุดเด่นคือการให้สีที่แม่นยำและมุมมองกว้าง แต่ก็มีข้อสังเกตเรื่องความสว่างที่อาจไม่สูงเท่าจอระดับพรีเมียม อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มองหาจอ 4K ในงบประมาณที่ไม่แรง นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/innocn-27-ga27w1q-4k-monitor-review 🎶 แอมป์/DAC ขนาดเล็กที่แทนชุดเครื่องเสียงได้ นี่คืออุปกรณ์ที่รวมแอมป์และ DAC ไว้ในตัวเดียว ขนาดเล็กจนสามารถวางบนโต๊ะทำงานได้สบาย แต่ให้พลังเสียงที่สามารถแทนชุดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ได้เลย เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเข้าสู่วงการเครื่องเสียงและอยากได้คุณภาพเสียงที่ดีโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์หลายชิ้น จุดแข็งคือการเชื่อมต่อที่หลากหลายและเสียงที่ใสสะอาด ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์คนรักเสียงเพลงที่มีพื้นที่จำกัด 🔗 https://www.techradar.com/audio/dacs/this-super-compact-budget-desktop-amp-dac-can-replace-a-mini-hi-fi-stack-and-its-perfect-for-budding-audiophiles 📱 ข่าวลือ Samsung Galaxy S26 และชิป Exynos 2600 มีการหลุดข้อมูลจาก One UI 8.5 ที่อาจเผยให้เห็นดีไซน์ของ Galaxy S26 ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับโฉมใหม่ พร้อมกับข่าวลือเรื่องชิป Exynos 2600 ที่อาจถูกนำมาใช้ จุดสนใจคือการพัฒนาให้เครื่องมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและดีไซน์ที่ทันสมัยกว่าเดิม แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวนี้ก็ทำให้แฟน ๆ Samsung ตื่นเต้นและจับตามองว่าจะออกมาในรูปแบบใด 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-may-have-leaked-the-galaxy-s26-design-through-one-ui-8-5-and-another-exynos-2600-rumor-has-emerged 💾 รีวิว TerraMaster F2-425 NAS อุปกรณ์ NAS รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากในบ้านหรือสำนักงานเล็ก ๆ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานที่รวดเร็วและมีฟีเจอร์ที่เหมาะกับการสำรองข้อมูลหรือแชร์ไฟล์ภายในทีม แม้จะไม่หรูหราเท่า NAS ระดับองค์กร แต่ก็ถือว่ามีความคุ้มค่าในด้านราคาและประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง 🔗 https://www.techradar.com/computing/terramaster-f2-425-nas-review 💽 ต่อ Mac Mini เข้ากับไดรฟ์เทป LTO-10 ขนาด 30TB นี่คือการเชื่อมต่อที่น่าสนใจมาก เพราะทำให้ Mac Mini สามารถใช้งานไดรฟ์เทป LTO-10 ที่มีความจุถึง 30TB ได้ โดยความเร็วที่ได้ใกล้เคียงกับ SSD เลยทีเดียว ถือเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่ากับใหม่ที่ลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลในราคาที่คุ้มค่า และยังได้ความเร็วที่ไม่แพ้การใช้ดิสก์สมัยใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/you-can-now-buy-a-30tb-tape-drive-and-connect-it-to-your-apple-mac-mini-and-its-almost-as-fast-as-an-ssd 📱📖 Samsung Galaxy Z Trifold กำลังมา – iPhone Fold ต้องรีบแล้ว ข่าวลือบอกว่า Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Trifold ซึ่งเป็นมือถือพับสามทบ ทำให้ Apple ที่มีข่าวลือเรื่อง iPhone Fold ต้องเร่งเครื่องออกสู่ตลาด หากช้าเกินไปอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน จุดเด่นของ Trifold คือการขยายหน้าจอได้ใหญ่ขึ้นเหมือนแท็บเล็ต แต่ยังพับเก็บได้เหมือนมือถือธรรมดา ทำให้เป็นที่จับตามองในวงการสมาร์ทโฟน 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/with-the-samsung-galaxy-z-trifold-on-the-way-apples-rumored-iphone-fold-needs-to-hit-shelves-soon 🔊 Bose Smart Soundbar vs Sony Bravia Theater Bar 6 การเปรียบเทียบซาวด์บาร์สองรุ่นนี้เน้นไปที่ระบบเสียง Dolby Atmos ที่ทั้งคู่รองรับ Bose Smart Soundbar มีชื่อเสียงเรื่องเสียงที่สมดุลและดีไซน์เรียบหรู ส่วน Sony Bravia Theater Bar 6 โดดเด่นด้วยพลังเสียงที่กระจายรอบทิศทางได้สมจริงกว่า การเลือกขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ต้องการความเรียบง่ายและคุณภาพเสียงที่มั่นคง หรืออยากได้ประสบการณ์เสียงโอบล้อมเต็มรูปแบบ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/soundbars/bose-smart-soundbar-vs-sony-bravia-theater-bar-6-which-dolby-atmos-soundbar-is-right-for-you 🔋 ลืมกล้อง ลืม AI – สิ่งที่คนอยากได้จริงคือแบตมือถือที่อึดกว่า บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจแค่กล้องหรือชิปใหม่ แต่สิ่งที่ต้องการจริง ๆ คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ทุกวันนี้มือถือเต็มไปด้วยฟีเจอร์ล้ำ ๆ แต่ถ้าแบตหมดไวก็ไร้ประโยชน์ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังมากที่สุดในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/phones/forget-cameras-ai-and-chip-upgrades-you-really-want-better-phone-battery-life 🎬  ดีล Netflix กับ Warner Bros. หมายถึงอะไรสำหรับผู้ชม การจับมือกันครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิ่ง ทั้งเรื่องราคาที่อาจปรับขึ้น และการเข้าถึงคอนเทนต์ที่กว้างขึ้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่าผู้ใช้จะได้ประโยชน์จากการรวมคอนเทนต์ แต่ก็ต้องเตรียมใจรับกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ดีลนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสตรีมมิ่งที่ไม่มีใครยอมแพ้ ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/what-does-the-netflix-and-warner-bros-deal-mean-for-you-heres-what-experts-say-about-price-hikes-and-more
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Meta เลื่อนเปิดตัวแว่น Phoenix Mixed-Reality ไปปี 2027"

    Meta ตัดสินใจเลื่อนการเปิดตัว Phoenix Mixed-Reality Glasses จากเดิมที่วางแผนไว้ครึ่งหลังปี 2026 ไปเป็นปี 2027 โดยอ้างว่าต้องการเวลาเพิ่มเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์สมบูรณ์และ “ได้รายละเอียดที่ถูกต้อง” ตามรายงานจาก Business Insider

    อุปกรณ์นี้เคยใช้ชื่อโค้ดว่า Puffin มีน้ำหนักประมาณ 100 กรัม และสเปกต่ำกว่าแว่นระดับพรีเมียมอย่าง Apple Vision Pro ทั้งด้านความละเอียดหน้าจอและพลังประมวลผล อย่างไรก็ตาม จุดขายของมันคือการเป็นอุปกรณ์ที่เบาและเข้าถึงง่ายมากกว่า เน้นตลาดผู้ใช้ทั่วไปที่อยากสัมผัสประสบการณ์ Mixed Reality โดยไม่ต้องลงทุนสูง

    การเลื่อนเปิดตัวเกิดขึ้นท่ามกลางการปรับลดงบประมาณของ Meta ในโครงการ Metaverse ถึง 30% ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันด้านการเงินและความจำเป็นในการจัดลำดับความสำคัญใหม่ ขณะเดียวกัน Reality Labs ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแล Quest Headsets และ Ray-Ban Smart Glasses ยังคงเดินหน้าพัฒนาอุปกรณ์อื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย

    การตัดสินใจครั้งนี้อาจทำให้ตลาด Mixed Reality ต้องรออีกสักพักกว่าจะได้เห็นคู่แข่งที่แท้จริงของ Apple Vision Pro แต่ก็แสดงให้เห็นว่า Meta ต้องการหลีกเลี่ยงการรีบปล่อยผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่พร้อม และเลือกที่จะให้เวลาเพื่อสร้างอุปกรณ์ที่มีคุณภาพมากกว่า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเลื่อนเปิดตัว
    จากครึ่งหลังปี 2026 ไปเป็นปี 2027
    เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สมบูรณ์และ “ได้รายละเอียดที่ถูกต้อง”

    คุณสมบัติของ Phoenix Glasses
    น้ำหนักเบา ~100 กรัม
    ความละเอียดและพลังประมวลผลต่ำกว่า Apple Vision Pro
    เคยใช้ชื่อโค้ดว่า Puffin

    สถานการณ์ของ Meta
    ลดงบประมาณ Metaverse ลง 30%
    Reality Labs ยังพัฒนา Quest และ Ray-Ban Smart Glasses ต่อไป

    ข้อควรระวัง
    การเลื่อนเปิดตัวอาจทำให้เสียโอกาสแข่งขันกับ Apple Vision Pro
    งบประมาณที่ลดลงอาจกระทบต่อการพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/07/meta-delays-release-of-phoenix-mixed-reality-glasses-to-2027-business-insider-reports
    🥽 "Meta เลื่อนเปิดตัวแว่น Phoenix Mixed-Reality ไปปี 2027" Meta ตัดสินใจเลื่อนการเปิดตัว Phoenix Mixed-Reality Glasses จากเดิมที่วางแผนไว้ครึ่งหลังปี 2026 ไปเป็นปี 2027 โดยอ้างว่าต้องการเวลาเพิ่มเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์สมบูรณ์และ “ได้รายละเอียดที่ถูกต้อง” ตามรายงานจาก Business Insider อุปกรณ์นี้เคยใช้ชื่อโค้ดว่า Puffin มีน้ำหนักประมาณ 100 กรัม และสเปกต่ำกว่าแว่นระดับพรีเมียมอย่าง Apple Vision Pro ทั้งด้านความละเอียดหน้าจอและพลังประมวลผล อย่างไรก็ตาม จุดขายของมันคือการเป็นอุปกรณ์ที่เบาและเข้าถึงง่ายมากกว่า เน้นตลาดผู้ใช้ทั่วไปที่อยากสัมผัสประสบการณ์ Mixed Reality โดยไม่ต้องลงทุนสูง การเลื่อนเปิดตัวเกิดขึ้นท่ามกลางการปรับลดงบประมาณของ Meta ในโครงการ Metaverse ถึง 30% ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันด้านการเงินและความจำเป็นในการจัดลำดับความสำคัญใหม่ ขณะเดียวกัน Reality Labs ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแล Quest Headsets และ Ray-Ban Smart Glasses ยังคงเดินหน้าพัฒนาอุปกรณ์อื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย การตัดสินใจครั้งนี้อาจทำให้ตลาด Mixed Reality ต้องรออีกสักพักกว่าจะได้เห็นคู่แข่งที่แท้จริงของ Apple Vision Pro แต่ก็แสดงให้เห็นว่า Meta ต้องการหลีกเลี่ยงการรีบปล่อยผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่พร้อม และเลือกที่จะให้เวลาเพื่อสร้างอุปกรณ์ที่มีคุณภาพมากกว่า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเลื่อนเปิดตัว ➡️ จากครึ่งหลังปี 2026 ไปเป็นปี 2027 ➡️ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สมบูรณ์และ “ได้รายละเอียดที่ถูกต้อง” ✅ คุณสมบัติของ Phoenix Glasses ➡️ น้ำหนักเบา ~100 กรัม ➡️ ความละเอียดและพลังประมวลผลต่ำกว่า Apple Vision Pro ➡️ เคยใช้ชื่อโค้ดว่า Puffin ✅ สถานการณ์ของ Meta ➡️ ลดงบประมาณ Metaverse ลง 30% ➡️ Reality Labs ยังพัฒนา Quest และ Ray-Ban Smart Glasses ต่อไป ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ การเลื่อนเปิดตัวอาจทำให้เสียโอกาสแข่งขันกับ Apple Vision Pro ⛔ งบประมาณที่ลดลงอาจกระทบต่อการพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/07/meta-delays-release-of-phoenix-mixed-reality-glasses-to-2027-business-insider-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta delays release of Phoenix mixed-reality glasses to 2027, Business Insider reports
    Dec 5 (Reuters) - Meta is delaying the release of its Phoenix mixed-reality glasses until 2027, aiming to get the details right, Business Insider reported on Friday, citing an internal memo.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Immich – ทางเลือกใหม่ในการ Self-hosted Photo Management"

    Michael Stapelberg เผชิญปัญหาเมื่อเครื่องมือ gphotos-sync หยุดทำงานหลัง Google จำกัด OAuth scopes ในปี 2025 ทำให้เขาต้องหาทางเลือกใหม่สำหรับการจัดการรูปภาพส่วนตัว สุดท้ายเลือกใช้ Immich ซึ่งเป็นแอป self-hosted ที่สามารถทำงานได้รวดเร็วและมีฟีเจอร์ครบถ้วน โดยติดตั้งบน Ryzen 7 Mini PC (ASRock DeskMini X600) ที่ใช้พลังงานต่ำแต่ทรงพลัง

    เขาใช้ Proxmox เพื่อสร้าง VM สำหรับ Immich โดยติดตั้ง NixOS แบบ declarative และเปิดใช้งาน Immich ผ่าน Tailscale VPN แทนการเปิด firewall ตรง ๆ ทำให้สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างปลอดภัยจากทุกอุปกรณ์ผ่าน MagicDNS และ TLS ของ Tailscale

    ในขั้นตอนการนำเข้ารูปภาพ เขาพบว่าเครื่องมือ immich-cli มีปัญหา timeout เนื่องจาก background jobs เช่น thumbnail creation และ face detection ทำงานพร้อมกัน จึงเปลี่ยนไปใช้ immich-go ซึ่งสามารถจัดการ Google Takeout archives ได้ดีกว่า โดยหยุด background jobs ชั่วคราวและอ่าน metadata JSON ได้ครบถ้วน

    นอกจากนี้ เขายังติดตั้งแอป Immich บน iPhone เพื่อเปิดใช้งาน automatic backup ของรูปใหม่ พร้อมตั้งค่า systemd timer + rsync เพื่อทำ 3-2-1 backup scheme ของข้อมูลทั้งหมดใน /var/lib/immich แม้ Immich ยังไม่มีฟีเจอร์แก้ไขภาพในตัว แต่เขาใช้ GIMP สำหรับงานนั้น และยังอัปโหลดบางรูปไป Google Photos เมื่อจำเป็นต้องแชร์กับผู้อื่น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การติดตั้งและโครงสร้างระบบ
    ใช้ Ryzen 7 Mini PC + Proxmox VM + NixOS
    Immich เปิดใช้งานผ่าน Tailscale VPN เพื่อความปลอดภัย

    การนำเข้ารูปภาพ
    immich-cli มีปัญหา timeout จาก background jobs
    immich-go จัดการ Google Takeout archives ได้ดีกว่า

    การใช้งานจริง
    แอป Immich บน iPhone รองรับ auto backup
    ใช้ rsync + systemd timer ทำ 3-2-1 backup scheme
    ใช้ GIMP สำหรับแก้ไขภาพ และ Google Photos สำหรับแชร์บางส่วน

    ข้อควรระวัง
    Immich ยังไม่มีฟีเจอร์แก้ไขภาพในตัว
    การตั้งค่า auto backup บน iPhone อาจซับซ้อน
    การอัปโหลดครั้งแรกอาจล้มเหลวหากไม่ใช้เครื่องมือที่เหมาะสม

    https://michael.stapelberg.ch/posts/2025-11-29-self-hosting-photos-with-immich/
    🖼️ "Immich – ทางเลือกใหม่ในการ Self-hosted Photo Management" Michael Stapelberg เผชิญปัญหาเมื่อเครื่องมือ gphotos-sync หยุดทำงานหลัง Google จำกัด OAuth scopes ในปี 2025 ทำให้เขาต้องหาทางเลือกใหม่สำหรับการจัดการรูปภาพส่วนตัว สุดท้ายเลือกใช้ Immich ซึ่งเป็นแอป self-hosted ที่สามารถทำงานได้รวดเร็วและมีฟีเจอร์ครบถ้วน โดยติดตั้งบน Ryzen 7 Mini PC (ASRock DeskMini X600) ที่ใช้พลังงานต่ำแต่ทรงพลัง เขาใช้ Proxmox เพื่อสร้าง VM สำหรับ Immich โดยติดตั้ง NixOS แบบ declarative และเปิดใช้งาน Immich ผ่าน Tailscale VPN แทนการเปิด firewall ตรง ๆ ทำให้สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างปลอดภัยจากทุกอุปกรณ์ผ่าน MagicDNS และ TLS ของ Tailscale ในขั้นตอนการนำเข้ารูปภาพ เขาพบว่าเครื่องมือ immich-cli มีปัญหา timeout เนื่องจาก background jobs เช่น thumbnail creation และ face detection ทำงานพร้อมกัน จึงเปลี่ยนไปใช้ immich-go ซึ่งสามารถจัดการ Google Takeout archives ได้ดีกว่า โดยหยุด background jobs ชั่วคราวและอ่าน metadata JSON ได้ครบถ้วน นอกจากนี้ เขายังติดตั้งแอป Immich บน iPhone เพื่อเปิดใช้งาน automatic backup ของรูปใหม่ พร้อมตั้งค่า systemd timer + rsync เพื่อทำ 3-2-1 backup scheme ของข้อมูลทั้งหมดใน /var/lib/immich แม้ Immich ยังไม่มีฟีเจอร์แก้ไขภาพในตัว แต่เขาใช้ GIMP สำหรับงานนั้น และยังอัปโหลดบางรูปไป Google Photos เมื่อจำเป็นต้องแชร์กับผู้อื่น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การติดตั้งและโครงสร้างระบบ ➡️ ใช้ Ryzen 7 Mini PC + Proxmox VM + NixOS ➡️ Immich เปิดใช้งานผ่าน Tailscale VPN เพื่อความปลอดภัย ✅ การนำเข้ารูปภาพ ➡️ immich-cli มีปัญหา timeout จาก background jobs ➡️ immich-go จัดการ Google Takeout archives ได้ดีกว่า ✅ การใช้งานจริง ➡️ แอป Immich บน iPhone รองรับ auto backup ➡️ ใช้ rsync + systemd timer ทำ 3-2-1 backup scheme ➡️ ใช้ GIMP สำหรับแก้ไขภาพ และ Google Photos สำหรับแชร์บางส่วน ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ Immich ยังไม่มีฟีเจอร์แก้ไขภาพในตัว ⛔ การตั้งค่า auto backup บน iPhone อาจซับซ้อน ⛔ การอัปโหลดครั้งแรกอาจล้มเหลวหากไม่ใช้เครื่องมือที่เหมาะสม https://michael.stapelberg.ch/posts/2025-11-29-self-hosting-photos-with-immich/
    MICHAEL.STAPELBERG.CH
    Self-hosting my photos with Immich
    For every cloud service I use, I want to have a local copy of my data for backup purposes and independence. Unfortunately, the gphotos-sync tool stopped working in March 2025 when Google restricted the OAuth scopes, so I needed an alternative for my existing Google Photos setup. In this post, I describe how I have set up Immich, a self-hostable photo manager.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Gemini 3 Pro – ก้าวกระโดดด้าน Vision AI จาก Google DeepMind"

    Google DeepMind เปิดตัว Gemini 3 Pro ซึ่งถูกยกให้เป็นโมเดลมัลติโหมดที่ทรงพลังที่สุดในปัจจุบัน โดยเน้นความสามารถด้าน การเข้าใจเอกสาร, การวิเคราะห์เชิงพื้นที่, การทำงานกับหน้าจอ และการเข้าใจวิดีโอ ถือเป็นการก้าวข้ามจากการจดจำภาพธรรมดาไปสู่การ ให้เหตุผลเชิงภาพและเชิงพื้นที่อย่างแท้จริง

    ในด้าน Document Understanding Gemini 3 Pro สามารถทำ OCR ที่แม่นยำ พร้อม "derendering" คือการแปลงเอกสารภาพกลับเป็นโค้ดที่สร้างใหม่ได้ เช่น HTML, LaTeX หรือ Markdown ตัวอย่างเช่น การแปลงบันทึกพ่อค้าในศตวรรษที่ 18 ให้เป็นตาราง หรือการสร้างสมการจากภาพที่มีโน้ตคณิตศาสตร์ซับซ้อน รวมถึงการสร้างกราฟแบบ interactive จาก Polar Diagram ของ Florence Nightingale

    ด้าน Spatial และ Screen Understanding โมเดลสามารถระบุพิกัด pixel ได้อย่างแม่นยำ ใช้สำหรับการวิเคราะห์ท่าทางมนุษย์, การจัดการวัตถุในหุ่นยนต์, หรือการเข้าใจ UI บนหน้าจอเพื่อทำงานอัตโนมัติ เช่น QA testing และ UX analytics นอกจากนี้ยังสามารถสร้างแผนการจัดการสิ่งของบนโต๊ะที่รกได้ตามคำสั่ง

    สำหรับ Video Understanding Gemini 3 Pro ถูกปรับให้เข้าใจวิดีโอที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยสามารถวิเคราะห์เหตุและผลของเหตุการณ์ในวิดีโอ ไม่ใช่แค่บอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ยังอธิบายได้ว่า "ทำไม" มันถึงเกิดขึ้น รวมถึงการประมวลผลวิดีโอความเร็วสูง (10 FPS) เพื่อวิเคราะห์รายละเอียด เช่น กลไกการสวิงของนักกอล์ฟ และยังสามารถแปลงวิดีโอขนาดยาวให้เป็นโค้ดหรือแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้ทันที

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ความสามารถหลักของ Gemini 3 Pro
    Document Understanding: OCR + Derendering เป็นโค้ด (HTML, LaTeX, Markdown)
    Spatial Understanding: ระบุพิกัด pixel, วิเคราะห์ท่าทาง, ใช้ในหุ่นยนต์และ AR/XR
    Screen Understanding: เข้าใจ UI เพื่อทำงานอัตโนมัติ เช่น QA และ UX analytics
    Video Understanding: วิเคราะห์เหตุและผล, ประมวลผลวิดีโอความเร็วสูง

    การประยุกต์ใช้งานจริง
    การศึกษา: ช่วยแก้โจทย์คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน
    การแพทย์: วิเคราะห์ภาพรังสีและงานวิจัยทางชีวภาพ
    กฎหมายและการเงิน: วิเคราะห์สัญญาและรายงานที่ซับซ้อน
    สื่อและการเรียนรู้: สร้างภาพแก้ไขการบ้านแบบ visual feedback

    ข้อควรระวัง
    การใช้พลังประมวลผลสูง อาจมีค่าใช้จ่ายและ latency มากขึ้น
    ความเสี่ยงด้านข้อมูลส่วนบุคคล หากนำไปใช้กับเอกสารหรือภาพที่มีข้อมูลสำคัญ
    การพึ่งพา AI ในการให้เหตุผล อาจทำให้เกิดการตีความผิดหากไม่มีการตรวจสอบมนุษย์

    https://blog.google/technology/developers/gemini-3-pro-vision/
    👁️ "Gemini 3 Pro – ก้าวกระโดดด้าน Vision AI จาก Google DeepMind" Google DeepMind เปิดตัว Gemini 3 Pro ซึ่งถูกยกให้เป็นโมเดลมัลติโหมดที่ทรงพลังที่สุดในปัจจุบัน โดยเน้นความสามารถด้าน การเข้าใจเอกสาร, การวิเคราะห์เชิงพื้นที่, การทำงานกับหน้าจอ และการเข้าใจวิดีโอ ถือเป็นการก้าวข้ามจากการจดจำภาพธรรมดาไปสู่การ ให้เหตุผลเชิงภาพและเชิงพื้นที่อย่างแท้จริง ในด้าน Document Understanding Gemini 3 Pro สามารถทำ OCR ที่แม่นยำ พร้อม "derendering" คือการแปลงเอกสารภาพกลับเป็นโค้ดที่สร้างใหม่ได้ เช่น HTML, LaTeX หรือ Markdown ตัวอย่างเช่น การแปลงบันทึกพ่อค้าในศตวรรษที่ 18 ให้เป็นตาราง หรือการสร้างสมการจากภาพที่มีโน้ตคณิตศาสตร์ซับซ้อน รวมถึงการสร้างกราฟแบบ interactive จาก Polar Diagram ของ Florence Nightingale ด้าน Spatial และ Screen Understanding โมเดลสามารถระบุพิกัด pixel ได้อย่างแม่นยำ ใช้สำหรับการวิเคราะห์ท่าทางมนุษย์, การจัดการวัตถุในหุ่นยนต์, หรือการเข้าใจ UI บนหน้าจอเพื่อทำงานอัตโนมัติ เช่น QA testing และ UX analytics นอกจากนี้ยังสามารถสร้างแผนการจัดการสิ่งของบนโต๊ะที่รกได้ตามคำสั่ง สำหรับ Video Understanding Gemini 3 Pro ถูกปรับให้เข้าใจวิดีโอที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยสามารถวิเคราะห์เหตุและผลของเหตุการณ์ในวิดีโอ ไม่ใช่แค่บอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ยังอธิบายได้ว่า "ทำไม" มันถึงเกิดขึ้น รวมถึงการประมวลผลวิดีโอความเร็วสูง (10 FPS) เพื่อวิเคราะห์รายละเอียด เช่น กลไกการสวิงของนักกอล์ฟ และยังสามารถแปลงวิดีโอขนาดยาวให้เป็นโค้ดหรือแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้ทันที 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ความสามารถหลักของ Gemini 3 Pro ➡️ Document Understanding: OCR + Derendering เป็นโค้ด (HTML, LaTeX, Markdown) ➡️ Spatial Understanding: ระบุพิกัด pixel, วิเคราะห์ท่าทาง, ใช้ในหุ่นยนต์และ AR/XR ➡️ Screen Understanding: เข้าใจ UI เพื่อทำงานอัตโนมัติ เช่น QA และ UX analytics ➡️ Video Understanding: วิเคราะห์เหตุและผล, ประมวลผลวิดีโอความเร็วสูง ✅ การประยุกต์ใช้งานจริง ➡️ การศึกษา: ช่วยแก้โจทย์คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน ➡️ การแพทย์: วิเคราะห์ภาพรังสีและงานวิจัยทางชีวภาพ ➡️ กฎหมายและการเงิน: วิเคราะห์สัญญาและรายงานที่ซับซ้อน ➡️ สื่อและการเรียนรู้: สร้างภาพแก้ไขการบ้านแบบ visual feedback ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ การใช้พลังประมวลผลสูง อาจมีค่าใช้จ่ายและ latency มากขึ้น ⛔ ความเสี่ยงด้านข้อมูลส่วนบุคคล หากนำไปใช้กับเอกสารหรือภาพที่มีข้อมูลสำคัญ ⛔ การพึ่งพา AI ในการให้เหตุผล อาจทำให้เกิดการตีความผิดหากไม่มีการตรวจสอบมนุษย์ https://blog.google/technology/developers/gemini-3-pro-vision/
    BLOG.GOOGLE
    Gemini 3 Pro: the frontier of vision AI
    Build with Gemini 3 Pro, the best model in the world for multimodal capabilities.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • "วิธีใช้กล้อง Thermal ในบ้านและโรงรถ"

    กล้อง Thermal หรือกล้องอินฟราเรด ไม่ได้มีไว้ใช้เฉพาะงานวิศวกรรมหรือทหารเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในบ้านและโรงรถอย่างมาก เพราะสามารถตรวจจับความแตกต่างของอุณหภูมิได้ ทำให้เรามองเห็นสิ่งที่ตาเปล่าไม่สามารถเห็นได้ เช่น น้ำรั่ว พลังงานรั่วไหล หรือแม้แต่สัตว์รบกวนที่ซ่อนอยู่ในผนัง

    หนึ่งในประโยชน์หลักคือการ ตรวจจับน้ำรั่ว ซึ่งมักจะไม่แสดงอาการจนกว่าจะสายเกินไป กล้อง Thermal สามารถแสดงจุดที่มีความร้อนหรือความเย็นผิดปกติ ทำให้เรารู้ตำแหน่งที่น้ำซึมอยู่ได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยตรวจสอบ การรั่วไหลของพลังงาน เช่น ช่องว่างตามหน้าต่างหรือประตู ที่ทำให้ค่าไฟสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว

    ในโรงรถ กล้อง Thermal ยังช่วยตรวจสอบ ระบบเบรกและเครื่องยนต์ ได้ เช่น หากเบรกบางล้อร้อนผิดปกติ อาจหมายถึงการสึกหรอไม่เท่ากัน หรือหากเครื่องยนต์มี กระบอกสูบทำงานผิดพลาด (misfiring cylinder) ก็จะเห็นเป็นจุดเย็นท่ามกลางความร้อนของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังใช้ตรวจสอบ ระบบไฟฟ้า เพื่อหาจุดเสี่ยงไฟไหม้จากสายไฟที่ร้อนผิดปกติได้ด้วย

    สุดท้าย กล้อง Thermal ยังมีประโยชน์ในงานทั่วไป เช่น ตรวจสอบ ฉนวนกันความร้อน, ระบบ HVAC, สุขภาพต้นไม้ในบ้าน, หรือแม้แต่การหาตำแหน่งท่อในระบบ septic tank โดยไม่ต้องขุดค้นสุ่ม ทำให้เป็นเครื่องมือที่คุ้มค่าและช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การใช้งานในบ้าน
    ตรวจจับน้ำรั่วและความชื้น
    ตรวจสอบการรั่วไหลของพลังงานและฉนวนกันความร้อน
    ตรวจสอบการทำงานของระบบ HVAC

    การใช้งานในโรงรถ
    ตรวจสอบความร้อนของเบรกและเครื่องยนต์
    ตรวจสอบกระบอกสูบที่ทำงานผิดพลาด
    ตรวจสอบระบบไฟฟ้าเพื่อป้องกันไฟไหม้

    การใช้งานทั่วไป
    ตรวจสอบสุขภาพต้นไม้และพืช
    หาตำแหน่งท่อในระบบ septic tank
    ใช้ในการตรวจสอบบ้านก่อนซื้อหรือเช่า

    ข้อควรระวัง
    กล้อง Thermal ไม่สามารถ “มองทะลุผนัง” ได้จริง เพียงแค่แสดงความต่างอุณหภูมิ
    ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิภายนอกและการเก็บฉนวน
    ไม่ควรใช้แทนการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญในกรณีที่พบความผิดปกติร้ายแรง

    https://www.slashgear.com/2037763/thermal-camera-uses-home-garage/
    🌡️ "วิธีใช้กล้อง Thermal ในบ้านและโรงรถ" กล้อง Thermal หรือกล้องอินฟราเรด ไม่ได้มีไว้ใช้เฉพาะงานวิศวกรรมหรือทหารเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในบ้านและโรงรถอย่างมาก เพราะสามารถตรวจจับความแตกต่างของอุณหภูมิได้ ทำให้เรามองเห็นสิ่งที่ตาเปล่าไม่สามารถเห็นได้ เช่น น้ำรั่ว พลังงานรั่วไหล หรือแม้แต่สัตว์รบกวนที่ซ่อนอยู่ในผนัง หนึ่งในประโยชน์หลักคือการ ตรวจจับน้ำรั่ว ซึ่งมักจะไม่แสดงอาการจนกว่าจะสายเกินไป กล้อง Thermal สามารถแสดงจุดที่มีความร้อนหรือความเย็นผิดปกติ ทำให้เรารู้ตำแหน่งที่น้ำซึมอยู่ได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยตรวจสอบ การรั่วไหลของพลังงาน เช่น ช่องว่างตามหน้าต่างหรือประตู ที่ทำให้ค่าไฟสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ในโรงรถ กล้อง Thermal ยังช่วยตรวจสอบ ระบบเบรกและเครื่องยนต์ ได้ เช่น หากเบรกบางล้อร้อนผิดปกติ อาจหมายถึงการสึกหรอไม่เท่ากัน หรือหากเครื่องยนต์มี กระบอกสูบทำงานผิดพลาด (misfiring cylinder) ก็จะเห็นเป็นจุดเย็นท่ามกลางความร้อนของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังใช้ตรวจสอบ ระบบไฟฟ้า เพื่อหาจุดเสี่ยงไฟไหม้จากสายไฟที่ร้อนผิดปกติได้ด้วย สุดท้าย กล้อง Thermal ยังมีประโยชน์ในงานทั่วไป เช่น ตรวจสอบ ฉนวนกันความร้อน, ระบบ HVAC, สุขภาพต้นไม้ในบ้าน, หรือแม้แต่การหาตำแหน่งท่อในระบบ septic tank โดยไม่ต้องขุดค้นสุ่ม ทำให้เป็นเครื่องมือที่คุ้มค่าและช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การใช้งานในบ้าน ➡️ ตรวจจับน้ำรั่วและความชื้น ➡️ ตรวจสอบการรั่วไหลของพลังงานและฉนวนกันความร้อน ➡️ ตรวจสอบการทำงานของระบบ HVAC ✅ การใช้งานในโรงรถ ➡️ ตรวจสอบความร้อนของเบรกและเครื่องยนต์ ➡️ ตรวจสอบกระบอกสูบที่ทำงานผิดพลาด ➡️ ตรวจสอบระบบไฟฟ้าเพื่อป้องกันไฟไหม้ ✅ การใช้งานทั่วไป ➡️ ตรวจสอบสุขภาพต้นไม้และพืช ➡️ หาตำแหน่งท่อในระบบ septic tank ➡️ ใช้ในการตรวจสอบบ้านก่อนซื้อหรือเช่า ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ กล้อง Thermal ไม่สามารถ “มองทะลุผนัง” ได้จริง เพียงแค่แสดงความต่างอุณหภูมิ ⛔ ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิภายนอกและการเก็บฉนวน ⛔ ไม่ควรใช้แทนการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญในกรณีที่พบความผิดปกติร้ายแรง https://www.slashgear.com/2037763/thermal-camera-uses-home-garage/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    13 Handy Ways To Use A Thermal Camera Around The Home And Garage - SlashGear
    Surprising ways a thermal camera can flag home and car issues before they get costly, giving you a clearer picture behind the walls and under the hood.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • "5 ฟีเจอร์สำคัญที่ Smart TV รุ่นใหม่ต้องมี"

    Smart TV กลายเป็นอุปกรณ์หลักในบ้านยุคดิจิทัล แต่การเลือกซื้อไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตลาดเต็มไปด้วยคำย่ออย่าง OLED, QLED, Mini-LED และระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย บทความนี้แนะนำ 5 ฟีเจอร์ที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้การลงทุนคุ้มค่าและใช้งานได้ยาวนาน

    1️⃣ ระบบปฏิบัติการ (OS) ที่ใช้งานง่าย เช่น Google TV ที่โดดเด่นด้วยการค้นหาเนื้อหาที่สะดวก การเชื่อมต่อกับ Android ecosystem และการสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้หลายคน ทำให้การใช้งานเหมาะกับครอบครัวที่มีหลายความชอบในการดูคอนเทนต์

    2️⃣ คุณภาพภาพขั้นสูง ไม่ใช่แค่ 4K แต่ต้องเลือกแผงจอที่เหมาะสม เช่น OLED ที่ให้สีดำสนิทและคอนทราสต์สูง หรือ Mini-LED ที่เหมาะกับห้องที่มีแสงมาก พร้อมรองรับ HDR มาตรฐานใหม่อย่าง Dolby Vision และ HDR10+ เพื่อให้ภาพสมจริงยิ่งขึ้น

    3️⃣ พลังประมวลผลและรีเฟรชเรตสูง ปัจจุบันทีวีรองรับถึง 120Hz หรือ 144Hz ซึ่งจำเป็นสำหรับคอนเทนต์ที่เคลื่อนไหวเร็ว เช่น กีฬาและเกม พร้อมฟีเจอร์ AI Upscaling ที่ช่วยปรับภาพให้คมชัดแม้ต้นฉบับไม่ใช่ความละเอียดสูง

    4️⃣ ระบบเสียงล้ำสมัย เช่น Dolby Atmos, Samsung OTS หรือ LG AI Sound Pro ที่ทำให้เสียงสมจริงรอบทิศทาง และต้องมีพอร์ต HDMI eARC สำหรับการเชื่อมต่อกับระบบเสียงภายนอกแบบไม่บีบอัด

    5️⃣ การเชื่อมต่อกับ Smart Home และ AI Integration ที่ช่วยให้ทีวีเป็นศูนย์กลางควบคุมอุปกรณ์ในบ้าน เช่น ไฟ กล้อง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมฟีเจอร์ AI ที่ช่วยปรับภาพ เสียง และแม้แต่แปลซับไตเติลอัตโนมัติ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ฟีเจอร์ที่ควรมีใน Smart TV
    ระบบปฏิบัติการใช้งานง่าย เช่น Google TV
    จอ OLED หรือ Mini-LED รองรับ HDR มาตรฐานใหม่
    รีเฟรชเรตสูง 120–144Hz พร้อม AI Upscaling
    ระบบเสียง Dolby Atmos, OTS, AI Sound Pro + HDMI eARC
    Smart Home และ AI Integration

    ข้อควรระวังในการเลือกซื้อ
    ทีวีที่มี OS ช้า หรือ UI ซับซ้อน อาจทำให้ประสบการณ์ใช้งานแย่
    OLED ไม่เหมาะกับห้องที่มีแสงจ้า ควรเลือก Mini-LED แทน
    Processor ที่อ่อนเกินไปอาจทำให้ภาพกระตุกและเสียงไม่สมจริง

    https://www.slashgear.com/2043223/dont-buy-new-smart-tv-without-these-features/
    📺 "5 ฟีเจอร์สำคัญที่ Smart TV รุ่นใหม่ต้องมี" Smart TV กลายเป็นอุปกรณ์หลักในบ้านยุคดิจิทัล แต่การเลือกซื้อไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตลาดเต็มไปด้วยคำย่ออย่าง OLED, QLED, Mini-LED และระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย บทความนี้แนะนำ 5 ฟีเจอร์ที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้การลงทุนคุ้มค่าและใช้งานได้ยาวนาน 1️⃣ ระบบปฏิบัติการ (OS) ที่ใช้งานง่าย เช่น Google TV ที่โดดเด่นด้วยการค้นหาเนื้อหาที่สะดวก การเชื่อมต่อกับ Android ecosystem และการสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้หลายคน ทำให้การใช้งานเหมาะกับครอบครัวที่มีหลายความชอบในการดูคอนเทนต์ 2️⃣ คุณภาพภาพขั้นสูง ไม่ใช่แค่ 4K แต่ต้องเลือกแผงจอที่เหมาะสม เช่น OLED ที่ให้สีดำสนิทและคอนทราสต์สูง หรือ Mini-LED ที่เหมาะกับห้องที่มีแสงมาก พร้อมรองรับ HDR มาตรฐานใหม่อย่าง Dolby Vision และ HDR10+ เพื่อให้ภาพสมจริงยิ่งขึ้น 3️⃣ พลังประมวลผลและรีเฟรชเรตสูง ปัจจุบันทีวีรองรับถึง 120Hz หรือ 144Hz ซึ่งจำเป็นสำหรับคอนเทนต์ที่เคลื่อนไหวเร็ว เช่น กีฬาและเกม พร้อมฟีเจอร์ AI Upscaling ที่ช่วยปรับภาพให้คมชัดแม้ต้นฉบับไม่ใช่ความละเอียดสูง 4️⃣ ระบบเสียงล้ำสมัย เช่น Dolby Atmos, Samsung OTS หรือ LG AI Sound Pro ที่ทำให้เสียงสมจริงรอบทิศทาง และต้องมีพอร์ต HDMI eARC สำหรับการเชื่อมต่อกับระบบเสียงภายนอกแบบไม่บีบอัด 5️⃣ การเชื่อมต่อกับ Smart Home และ AI Integration ที่ช่วยให้ทีวีเป็นศูนย์กลางควบคุมอุปกรณ์ในบ้าน เช่น ไฟ กล้อง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมฟีเจอร์ AI ที่ช่วยปรับภาพ เสียง และแม้แต่แปลซับไตเติลอัตโนมัติ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ที่ควรมีใน Smart TV ➡️ ระบบปฏิบัติการใช้งานง่าย เช่น Google TV ➡️ จอ OLED หรือ Mini-LED รองรับ HDR มาตรฐานใหม่ ➡️ รีเฟรชเรตสูง 120–144Hz พร้อม AI Upscaling ➡️ ระบบเสียง Dolby Atmos, OTS, AI Sound Pro + HDMI eARC ➡️ Smart Home และ AI Integration ‼️ ข้อควรระวังในการเลือกซื้อ ⛔ ทีวีที่มี OS ช้า หรือ UI ซับซ้อน อาจทำให้ประสบการณ์ใช้งานแย่ ⛔ OLED ไม่เหมาะกับห้องที่มีแสงจ้า ควรเลือก Mini-LED แทน ⛔ Processor ที่อ่อนเกินไปอาจทำให้ภาพกระตุกและเสียงไม่สมจริง https://www.slashgear.com/2043223/dont-buy-new-smart-tv-without-these-features/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Don't Buy A New Smart TV Without These 5 Features - SlashGear
    When buying a new smart TV, look for features like a solid OS, good sound and picture quality, high processing power, and smart home integration.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • "USB Port หนึ่งช่อง รองรับได้กี่อุปกรณ์กันแน่?"

    หลายคนที่ใช้โน้ตบุ๊กซึ่งมีพอร์ต USB จำกัด อาจสงสัยว่า การต่ออุปกรณ์หลายอย่างผ่าน Hub จะทำให้พอร์ตทำงานหนักเกินไปหรือไม่ ความจริงแล้ว USB ถูกออกแบบมาให้รองรับอุปกรณ์จำนวนมากกว่าที่เราคิด โดยในเชิงทฤษฎี USB รุ่นเก่าสามารถรองรับได้ถึง 127 อุปกรณ์ และในมาตรฐานใหม่อย่าง USB 3.0 ขึ้นไป สามารถรองรับได้สูงสุด 255 อุปกรณ์

    อย่างไรก็ตาม การใช้งานจริงไม่สามารถไปถึงตัวเลขนั้นได้ เนื่องจากต้องใช้การ daisy-chain hub หลายชั้น ซึ่งมีข้อจำกัดด้าน topology ของ USB ที่กำหนดให้มีได้ไม่เกิน 7 ชั้น อีกทั้ง hub แต่ละตัวก็มีจำนวนพอร์ตจำกัด และยังนับรวมเป็นอุปกรณ์หนึ่งด้วย ทำให้จำนวนจริงที่ใช้งานได้ต่ำกว่ามาก

    นอกจากนี้ ผู้ผลิตเมนบอร์ดมักตั้งข้อจำกัดเองเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น การเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมากเกินไปจนระบบไม่เสถียร หรือการใช้พลังงานเกินกำลังของ power supply ซึ่งถือเป็น bottleneck สำคัญ เพราะการจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์จำนวนมากพร้อมกันเกินขีดจำกัดอาจทำให้ระบบล่มได้

    ดังนั้น แม้ว่าในเชิงทฤษฎี USB จะรองรับอุปกรณ์ได้หลายร้อย แต่ในโลกจริง ข้อจำกัดด้านพลังงานและการออกแบบระบบ ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปควรใช้เพียงอุปกรณ์ที่จำเป็น และเลือก hub ที่มีคุณภาพ เพื่อให้การเชื่อมต่อเสถียรและปลอดภัยที่สุด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ขีดจำกัดเชิงทฤษฎีของ USB
    USB รุ่นเก่า: รองรับสูงสุด 127 อุปกรณ์
    USB 3.0+: รองรับสูงสุด 255 อุปกรณ์

    ข้อจำกัดทางเทคนิค
    Daisy-chain hub ได้ไม่เกิน 7 ชั้น
    Hub แต่ละตัวนับเป็นอุปกรณ์หนึ่ง

    ข้อควรระวังในการใช้งานจริง
    ผู้ผลิตเมนบอร์ดมักตั้งข้อจำกัดเองเพื่อป้องกันปัญหา
    การใช้พลังงานเกินกำลัง power supply อาจทำให้ระบบล่ม

    https://www.slashgear.com/2041880/how-many-devices-one-usb-port/
    🔌 "USB Port หนึ่งช่อง รองรับได้กี่อุปกรณ์กันแน่?" หลายคนที่ใช้โน้ตบุ๊กซึ่งมีพอร์ต USB จำกัด อาจสงสัยว่า การต่ออุปกรณ์หลายอย่างผ่าน Hub จะทำให้พอร์ตทำงานหนักเกินไปหรือไม่ ความจริงแล้ว USB ถูกออกแบบมาให้รองรับอุปกรณ์จำนวนมากกว่าที่เราคิด โดยในเชิงทฤษฎี USB รุ่นเก่าสามารถรองรับได้ถึง 127 อุปกรณ์ และในมาตรฐานใหม่อย่าง USB 3.0 ขึ้นไป สามารถรองรับได้สูงสุด 255 อุปกรณ์ อย่างไรก็ตาม การใช้งานจริงไม่สามารถไปถึงตัวเลขนั้นได้ เนื่องจากต้องใช้การ daisy-chain hub หลายชั้น ซึ่งมีข้อจำกัดด้าน topology ของ USB ที่กำหนดให้มีได้ไม่เกิน 7 ชั้น อีกทั้ง hub แต่ละตัวก็มีจำนวนพอร์ตจำกัด และยังนับรวมเป็นอุปกรณ์หนึ่งด้วย ทำให้จำนวนจริงที่ใช้งานได้ต่ำกว่ามาก นอกจากนี้ ผู้ผลิตเมนบอร์ดมักตั้งข้อจำกัดเองเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น การเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมากเกินไปจนระบบไม่เสถียร หรือการใช้พลังงานเกินกำลังของ power supply ซึ่งถือเป็น bottleneck สำคัญ เพราะการจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์จำนวนมากพร้อมกันเกินขีดจำกัดอาจทำให้ระบบล่มได้ ดังนั้น แม้ว่าในเชิงทฤษฎี USB จะรองรับอุปกรณ์ได้หลายร้อย แต่ในโลกจริง ข้อจำกัดด้านพลังงานและการออกแบบระบบ ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปควรใช้เพียงอุปกรณ์ที่จำเป็น และเลือก hub ที่มีคุณภาพ เพื่อให้การเชื่อมต่อเสถียรและปลอดภัยที่สุด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ขีดจำกัดเชิงทฤษฎีของ USB ➡️ USB รุ่นเก่า: รองรับสูงสุด 127 อุปกรณ์ ➡️ USB 3.0+: รองรับสูงสุด 255 อุปกรณ์ ✅ ข้อจำกัดทางเทคนิค ➡️ Daisy-chain hub ได้ไม่เกิน 7 ชั้น ➡️ Hub แต่ละตัวนับเป็นอุปกรณ์หนึ่ง ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งานจริง ⛔ ผู้ผลิตเมนบอร์ดมักตั้งข้อจำกัดเองเพื่อป้องกันปัญหา ⛔ การใช้พลังงานเกินกำลัง power supply อาจทำให้ระบบล่ม https://www.slashgear.com/2041880/how-many-devices-one-usb-port/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    How Many Devices Can One USB Port Handle? - SlashGear
    Newer USB supports as many as 255 devices per port on paper, but motherboard restrictions, hub depth, and power needs keep the real limit much lower.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลุดผลทดสอบ และรายละเอียด Intel Panther Lake “Core Ultra Series 3”

    ข่าวนี้เผยผลทดสอบหลุดของซีพียู Intel Panther Lake “Core Ultra Series 3” หลายรุ่น เช่น Core Ultra 7 366H, Ultra X7 358H, Ultra 7 365 และ Ultra 5 332 โดยมีทั้งสเปกและคะแนนเบื้องต้นจาก PassMark และ Geekbench ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของ Intel ในการแข่งขันกับ AMD Ryzen AI รุ่นใหม่ อันประกอบไปด้วย:
    Core Ultra 7 366H: 16 คอร์, L3 cache 18MB, L2 cache 12MB, ความเร็วบูสต์ ~5.0 GHz
    Core Ultra X7 358H: 16 คอร์, ความเร็วบูสต์ 4.8 GHz, มาพร้อม iGPU Xe3 เต็ม 12 คอร์
    Core Ultra 7 365: 8 คอร์, L3 12MB, L2 12MB
    Core Ultra 5 332: 6 คอร์, L3 12MB, L2 6MB

    ผลทดสอบประสิทธิภาพ
    Core Ultra 7 366H ทำคะแนนใกล้เคียงกับ Core Ultra 9 285H แม้ความเร็วต่ำกว่าเล็กน้อย
    Core Ultra X7 358H เร็วกว่ารุ่น Ultra 7 255H แม้มีคอร์น้อยกว่า
    Core Ultra 7 365 เร็วกว่าทั้ง Ryzen AI Z2 Extreme และ Ultra 5 226V
    Core Ultra 5 332 ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ช้ากว่ารุ่นอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด

    การทดสอบบนเครื่องเล่นพกพา
    มีการพบ OneXPlayer X1 i ที่ใช้ Core Ultra 5 338H (12 คอร์, 4.6 GHz) โดยผล Geekbench แสดงว่า Single-Core ต่ำกว่า Ryzen AI 9 HX 370 แต่ Multi-Core สูงกว่า แสดงให้เห็นว่า Panther Lake อาจมีศักยภาพในงานที่ใช้หลายคอร์พร้อมกัน

    ความคาดหวังใน CES 2026
    Intel เตรียมเปิดตัว Core Ultra Series 3 “Panther Lake” อย่างเป็นทางการในงาน CES 2026 ซึ่งจะเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่กับ AMD Ryzen AI รุ่นใหม่ โดยเฉพาะในตลาดโน้ตบุ๊กและเครื่องเล่นพกพาที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Intel Panther Lake หลายรุ่นถูกทดสอบบน PassMark และ Geekbench
    Core Ultra 7 366H, X7 358H, 7 365, 5 332

    ผลทดสอบชี้ว่ารุ่นกลางและสูงแข่งกับ Ryzen AI ได้สูสี
    Ultra 7 365 เร็วกว่ารุ่น Ryzen AI Z2 Extreme

    OneXPlayer X1 i ใช้ Core Ultra 5 338H
    Multi-Core ดีกว่า Ryzen AI 9 HX 370 แต่ Single-Core ต่ำกว่า

    คาดว่าจะเปิดตัว CES 2026
    เป็นการกลับมาของ Intel ในตลาดโน้ตบุ๊กและ handheld

    ผลทดสอบยังเป็นเพียงตัวเลขเบื้องต้น
    อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเปิดตัวจริงและมีการปรับแต่งเฟิร์มแวร์

    รุ่นเริ่มต้น Ultra 5 332 ยังช้ากว่าคู่แข่ง
    อาจไม่เหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    https://wccftech.com/intel-panther-lake-cpu-benchmarks-leak-core-ultra-7-366h-x7-358h-7-365-5-332-handheld/
    ⚡ หลุดผลทดสอบ และรายละเอียด Intel Panther Lake “Core Ultra Series 3” ข่าวนี้เผยผลทดสอบหลุดของซีพียู Intel Panther Lake “Core Ultra Series 3” หลายรุ่น เช่น Core Ultra 7 366H, Ultra X7 358H, Ultra 7 365 และ Ultra 5 332 โดยมีทั้งสเปกและคะแนนเบื้องต้นจาก PassMark และ Geekbench ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของ Intel ในการแข่งขันกับ AMD Ryzen AI รุ่นใหม่ อันประกอบไปด้วย: 💠 Core Ultra 7 366H: 16 คอร์, L3 cache 18MB, L2 cache 12MB, ความเร็วบูสต์ ~5.0 GHz 💠 Core Ultra X7 358H: 16 คอร์, ความเร็วบูสต์ 4.8 GHz, มาพร้อม iGPU Xe3 เต็ม 12 คอร์ 💠 Core Ultra 7 365: 8 คอร์, L3 12MB, L2 12MB 💠 Core Ultra 5 332: 6 คอร์, L3 12MB, L2 6MB 📊 ผลทดสอบประสิทธิภาพ 🎗️ Core Ultra 7 366H ทำคะแนนใกล้เคียงกับ Core Ultra 9 285H แม้ความเร็วต่ำกว่าเล็กน้อย 🎗️ Core Ultra X7 358H เร็วกว่ารุ่น Ultra 7 255H แม้มีคอร์น้อยกว่า 🎗️ Core Ultra 7 365 เร็วกว่าทั้ง Ryzen AI Z2 Extreme และ Ultra 5 226V 🎗️ Core Ultra 5 332 ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ช้ากว่ารุ่นอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด 🎮 การทดสอบบนเครื่องเล่นพกพา มีการพบ OneXPlayer X1 i ที่ใช้ Core Ultra 5 338H (12 คอร์, 4.6 GHz) โดยผล Geekbench แสดงว่า Single-Core ต่ำกว่า Ryzen AI 9 HX 370 แต่ Multi-Core สูงกว่า แสดงให้เห็นว่า Panther Lake อาจมีศักยภาพในงานที่ใช้หลายคอร์พร้อมกัน 🌍 ความคาดหวังใน CES 2026 Intel เตรียมเปิดตัว Core Ultra Series 3 “Panther Lake” อย่างเป็นทางการในงาน CES 2026 ซึ่งจะเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่กับ AMD Ryzen AI รุ่นใหม่ โดยเฉพาะในตลาดโน้ตบุ๊กและเครื่องเล่นพกพาที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Intel Panther Lake หลายรุ่นถูกทดสอบบน PassMark และ Geekbench ➡️ Core Ultra 7 366H, X7 358H, 7 365, 5 332 ✅ ผลทดสอบชี้ว่ารุ่นกลางและสูงแข่งกับ Ryzen AI ได้สูสี ➡️ Ultra 7 365 เร็วกว่ารุ่น Ryzen AI Z2 Extreme ✅ OneXPlayer X1 i ใช้ Core Ultra 5 338H ➡️ Multi-Core ดีกว่า Ryzen AI 9 HX 370 แต่ Single-Core ต่ำกว่า ✅ คาดว่าจะเปิดตัว CES 2026 ➡️ เป็นการกลับมาของ Intel ในตลาดโน้ตบุ๊กและ handheld ‼️ ผลทดสอบยังเป็นเพียงตัวเลขเบื้องต้น ⛔ อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเปิดตัวจริงและมีการปรับแต่งเฟิร์มแวร์ ‼️ รุ่นเริ่มต้น Ultra 5 332 ยังช้ากว่าคู่แข่ง ⛔ อาจไม่เหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง https://wccftech.com/intel-panther-lake-cpu-benchmarks-leak-core-ultra-7-366h-x7-358h-7-365-5-332-handheld/
    WCCFTECH.COM
    Several Intel Panther Lake CPU Benchmarks Leak: Core Ultra 7 366H, Ultra X7 358H, Ultra 7 365, & Ultra 5 332, First Panther Lake Handheld Spotted
    Several Intel Panther Lake "Core Ultra Series 3" CPUs & a handheld have been leaked and benchmarked within the PassMark Software suite.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระบูชาหลวงปู่ทวด รุ่นสร้างโบสถ์ วัดกม.26ใน จ.ยะลา
    พระบูชาหลวงปู่ทวด เนื้อว่าน ฝังตะกรุด 3 ดอก ( หน้าตัก 3 นิ้ว ฐาน 4 นิ้ว สุง 5 นิ้ว) ”รุ่นสร้างโบสถ์” วัดกม.26ใน จ.ยะลา //พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ ขลัง!! ปลุกเสกโดยพระเกจิสายเขาอ้อ-สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก !! หายาก สร้างจำนวนน้อย!! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณครอบจักรวาล ด้านนิรันตราย แคล้วคลาด โชคลาภ ค้าขาย เมตตา สุขภาพ ความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาด เป็นสิริมงคล ช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากภยันตราย เชื่อกันว่าผู้ที่บูชาหลวงปู่ทวดนั้นจะรอดจากอุบัติเหตุอย่างปาฏิหาริย์ ป้องกันสิ่งอัปมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล พบเจอแต่ความโชคดี **

    ** พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ!!! ขลัง!! พระเกจิรวมพลัง!!!พระเกจิสายเขาอ้อ...สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก!! จัดสร้างโดย...พระปลัดจิรเดช นาถกโร (อาจารย์ต้อม) เกจิที่โด่งดังอีกท่านนึงในจังหวัดยะลา ท่านได้สร้างและปลุกเสก มีประสบการณ์มากมาย ทั้งในเรื่องแคล้วคลาด กันคุณไสย์ต่างฯครับ วัตถุมงคลของท่านล้วนแล้วแต่เข้มขลังจากประสบการณ์มากมายในสามจังหวัดชายแดน **


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระบูชาหลวงปู่ทวด รุ่นสร้างโบสถ์ วัดกม.26ใน จ.ยะลา พระบูชาหลวงปู่ทวด เนื้อว่าน ฝังตะกรุด 3 ดอก ( หน้าตัก 3 นิ้ว ฐาน 4 นิ้ว สุง 5 นิ้ว) ”รุ่นสร้างโบสถ์” วัดกม.26ใน จ.ยะลา //พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ ขลัง!! ปลุกเสกโดยพระเกจิสายเขาอ้อ-สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก !! หายาก สร้างจำนวนน้อย!! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณครอบจักรวาล ด้านนิรันตราย แคล้วคลาด โชคลาภ ค้าขาย เมตตา สุขภาพ ความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาด เป็นสิริมงคล ช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากภยันตราย เชื่อกันว่าผู้ที่บูชาหลวงปู่ทวดนั้นจะรอดจากอุบัติเหตุอย่างปาฏิหาริย์ ป้องกันสิ่งอัปมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล พบเจอแต่ความโชคดี ** ** พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ!!! ขลัง!! พระเกจิรวมพลัง!!!พระเกจิสายเขาอ้อ...สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก!! จัดสร้างโดย...พระปลัดจิรเดช นาถกโร (อาจารย์ต้อม) เกจิที่โด่งดังอีกท่านนึงในจังหวัดยะลา ท่านได้สร้างและปลุกเสก มีประสบการณ์มากมาย ทั้งในเรื่องแคล้วคลาด กันคุณไสย์ต่างฯครับ วัตถุมงคลของท่านล้วนแล้วแต่เข้มขลังจากประสบการณ์มากมายในสามจังหวัดชายแดน ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • น้ำมันมหาเสน่ห์ วัดกม.26ใน จ.ยะลา
    น้ำมันมหาเสน่ห์ (หนังเสือ+ไม้มงคล+สายสิญจน์ ) วัดกม.26ใน จ.ยะลา // พระดีพิธีใหญ๋ เฉียบ ขลัง!! ปลุกเสกโดยพระเกจิสายเขาอ้อ-สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก!! หายาก จัดสร้างจำนวนน้อย !!!! //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณด้านมหาเสน่ห์ เรียกคน เมตตามหานิยม แตะปาก ใช้ด้านเจรจาธุรกิจต่าง แตะหน้าผาก ทำให้เราดูดีมีเสน่ห์ แตะติ่งหู หญิงแตะซ้าย ชายแตะขวาให้คนรอบข้างเกิดความสนใจรักและเอ็นดูเรา แตะหลังมือ ให้ผู้ใหญ่ หัวหน้า เพื่อนร่วมงานเกิดความรักความเอ็นดู **

    1. คนทั่วไป นิยมใช้เพื่อมีเสนห์ในตัวเอง ใครเห็นใครรักใครเห็นใครหลงใครเห็นใครชอบ เวลาเราพูดจากับคนอื่นคนเขาจะรู้สึกว่าฟังเราพูดแล้วน่าเชื่อถือน่าสนใจมาก ขึ้น จึงเหมาะที่จะใช้ในการค้าขายการเจรจา การเข้าหาผู้คนทั่วไป,ผู้ใหญ่,เพื่อนร่วมงาน,ผู้ที่เราต้องการให้ช่วยเหลือ เรา เมื่อมีเถาหลงติดตัวไว้การเจรจาจะยิ่งเพิ่มความเชื่อถือมากขึ้น มีความดึงดูดต่อเพศตรงข้าม และเพศเดียวกัน หรือผู้คนทั่วไป
    2. ร้านค้า ร้านอาหาร ผับ เทค ห้างร้าน กิจการที่ต้องการคนเข้าเยอะๆ ควรมีไว้เพื่อเป็นที่นิยมชมชอบของผู้คนได้ดีทีเดียว จะได้มีคนเข้าคนออกไม่ขาด วันใดเถาหลงออกฤทธิ์มากกิจการอาจจะรับบริการไม่ทัน เพราะคนจะหลงเข้าออกอยู่ตลอดเวลา
    3. ใช้สำหรับจีบหนุ่ม จีบสาว สุดยอดของนักที่จอมเจ้าชู้ นิยมใช้กัน หรือบางคนไม่สวยแต่ทำไมมีแต่คนจีบสนใจมากกว่าคนสวย เพราะเจอฤทธิ์เถาหลงระวังจะหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น
    4. นักเจรจา พนักงานค้าขาย นักพูด นักธุรกิจ ที่อยู่ในกลุ่มนี้ควรมีติดตัวไว้เพื่อการเจรจาให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น

    ** พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ!!! ขลัง!! พระเกจิรวมพลัง!!!พระเกจิสายเขาอ้อ...สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก!! จัดสร้างโดย...พระปลัดจิรเดช นาถกโร (อาจารย์ต้อม) เกจิที่โด่งดังอีกท่านนึงในจังหวัดยะลา ท่านได้สร้างและปลุกเสก มีประสบการณ์มากมาย ทั้งในเรื่องแคล้วคลาด กันคุณไสย์ต่างฯครับ วัตถุมงคลของท่านล้วนแล้วแต่เข้มขลังจากประสบการณ์มากมายในสามจังหวัดชายแดน **


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    น้ำมันมหาเสน่ห์ วัดกม.26ใน จ.ยะลา น้ำมันมหาเสน่ห์ (หนังเสือ+ไม้มงคล+สายสิญจน์ ) วัดกม.26ใน จ.ยะลา // พระดีพิธีใหญ๋ เฉียบ ขลัง!! ปลุกเสกโดยพระเกจิสายเขาอ้อ-สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก!! หายาก จัดสร้างจำนวนน้อย !!!! //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณด้านมหาเสน่ห์ เรียกคน เมตตามหานิยม แตะปาก ใช้ด้านเจรจาธุรกิจต่าง แตะหน้าผาก ทำให้เราดูดีมีเสน่ห์ แตะติ่งหู หญิงแตะซ้าย ชายแตะขวาให้คนรอบข้างเกิดความสนใจรักและเอ็นดูเรา แตะหลังมือ ให้ผู้ใหญ่ หัวหน้า เพื่อนร่วมงานเกิดความรักความเอ็นดู ** 1. คนทั่วไป นิยมใช้เพื่อมีเสนห์ในตัวเอง ใครเห็นใครรักใครเห็นใครหลงใครเห็นใครชอบ เวลาเราพูดจากับคนอื่นคนเขาจะรู้สึกว่าฟังเราพูดแล้วน่าเชื่อถือน่าสนใจมาก ขึ้น จึงเหมาะที่จะใช้ในการค้าขายการเจรจา การเข้าหาผู้คนทั่วไป,ผู้ใหญ่,เพื่อนร่วมงาน,ผู้ที่เราต้องการให้ช่วยเหลือ เรา เมื่อมีเถาหลงติดตัวไว้การเจรจาจะยิ่งเพิ่มความเชื่อถือมากขึ้น มีความดึงดูดต่อเพศตรงข้าม และเพศเดียวกัน หรือผู้คนทั่วไป 2. ร้านค้า ร้านอาหาร ผับ เทค ห้างร้าน กิจการที่ต้องการคนเข้าเยอะๆ ควรมีไว้เพื่อเป็นที่นิยมชมชอบของผู้คนได้ดีทีเดียว จะได้มีคนเข้าคนออกไม่ขาด วันใดเถาหลงออกฤทธิ์มากกิจการอาจจะรับบริการไม่ทัน เพราะคนจะหลงเข้าออกอยู่ตลอดเวลา 3. ใช้สำหรับจีบหนุ่ม จีบสาว สุดยอดของนักที่จอมเจ้าชู้ นิยมใช้กัน หรือบางคนไม่สวยแต่ทำไมมีแต่คนจีบสนใจมากกว่าคนสวย เพราะเจอฤทธิ์เถาหลงระวังจะหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น 4. นักเจรจา พนักงานค้าขาย นักพูด นักธุรกิจ ที่อยู่ในกลุ่มนี้ควรมีติดตัวไว้เพื่อการเจรจาให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ** พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ!!! ขลัง!! พระเกจิรวมพลัง!!!พระเกจิสายเขาอ้อ...สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก!! จัดสร้างโดย...พระปลัดจิรเดช นาถกโร (อาจารย์ต้อม) เกจิที่โด่งดังอีกท่านนึงในจังหวัดยะลา ท่านได้สร้างและปลุกเสก มีประสบการณ์มากมาย ทั้งในเรื่องแคล้วคลาด กันคุณไสย์ต่างฯครับ วัตถุมงคลของท่านล้วนแล้วแต่เข้มขลังจากประสบการณ์มากมายในสามจังหวัดชายแดน ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชีวิตซับซ้อนอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิดถึงพันล้านปี

    งานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ใน Nature ชี้ว่า ชีวิตเซลล์ซับซ้อน (Eukaryotes) อาจเริ่มต้นขึ้นบนโลกเมื่อราว 2.9–3 พันล้านปีก่อน ซึ่งเร็วกว่าที่เคยเชื่อกันถึงพันล้านปี การค้นพบนี้เปลี่ยนมุมมองต่อวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต และบอกเล่าเรื่องราวที่ซับซ้อนกว่าการก้าวกระโดดครั้งเดียว

    หลักฐานจากนาฬิกาโมเลกุล
    ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Bristol และ Bath ใช้เทคนิค molecular clock analysis โดยเปรียบเทียบข้อมูลพันธุกรรมจากสิ่งมีชีวิตหลายร้อยชนิดกับหลักฐานฟอสซิล ผลลัพธ์เผยให้เห็นสัญญาณทางพันธุกรรมของโครงสร้างเซลล์ซับซ้อน เช่น โปรตีน actin และ tubulin ที่เริ่มปรากฏตั้งแต่ 2.9–3 พันล้านปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่โลกยังมีออกซิเจนต่ำมาก

    บทบาทของไมโตคอนเดรียและออกซิเจน
    สิ่งที่น่าสนใจคือ ไมโตคอนเดรีย ซึ่งเป็น “โรงงานพลังงาน” ของเซลล์ ปรากฏขึ้นภายหลังราว 2.2 พันล้านปีก่อน ตรงกับช่วงที่ระดับออกซิเจนในโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (Great Oxidation Event) แสดงให้เห็นว่าแม้ชีวิตซับซ้อนจะเริ่มต้นก่อน แต่สิ่งแวดล้อมก็มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้มันเติบโตและแพร่หลาย

    ความหมายต่อการศึกษาวิวัฒนาการ
    การค้นพบนี้บ่งชี้ว่า วิวัฒนาการของชีวิตซับซ้อนเป็นกระบวนการยาวนานและค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงฉับพลัน การเข้าใจลำดับเวลาที่แท้จริงช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงทางชีววิทยากับสภาพแวดล้อมของโลกได้ดียิ่งขึ้น และอาจช่วยอธิบายว่าทำไมชีวิตซับซ้อนถึงเกิดขึ้นบนโลก แต่ยังไม่พบในดาวเคราะห์อื่น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การค้นพบใหม่เกี่ยวกับชีวิตซับซ้อน
    เริ่มต้นราว 2.9–3 พันล้านปีก่อน
    เร็วกว่าที่เคยเชื่อถึงพันล้านปี

    หลักฐานจากนาฬิกาโมเลกุล
    พบสัญญาณโปรตีน actin และ tubulin
    ใช้ข้อมูลพันธุกรรมและฟอสซิลร่วมกัน

    บทบาทของไมโตคอนเดรียและออกซิเจน
    ปรากฏราว 2.2 พันล้านปีก่อน
    สอดคล้องกับ Great Oxidation Event

    ข้อควรระวังในการตีความ
    ยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันลำดับเวลา
    ความเข้าใจปัจจุบันอาจเปลี่ยนไปเมื่อมีหลักฐานใหม่

    https://www.sciencealert.com/complex-life-may-be-a-billion-years-older-than-we-thought
    🌌 ชีวิตซับซ้อนอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิดถึงพันล้านปี งานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ใน Nature ชี้ว่า ชีวิตเซลล์ซับซ้อน (Eukaryotes) อาจเริ่มต้นขึ้นบนโลกเมื่อราว 2.9–3 พันล้านปีก่อน ซึ่งเร็วกว่าที่เคยเชื่อกันถึงพันล้านปี การค้นพบนี้เปลี่ยนมุมมองต่อวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต และบอกเล่าเรื่องราวที่ซับซ้อนกว่าการก้าวกระโดดครั้งเดียว 🧬 หลักฐานจากนาฬิกาโมเลกุล ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Bristol และ Bath ใช้เทคนิค molecular clock analysis โดยเปรียบเทียบข้อมูลพันธุกรรมจากสิ่งมีชีวิตหลายร้อยชนิดกับหลักฐานฟอสซิล ผลลัพธ์เผยให้เห็นสัญญาณทางพันธุกรรมของโครงสร้างเซลล์ซับซ้อน เช่น โปรตีน actin และ tubulin ที่เริ่มปรากฏตั้งแต่ 2.9–3 พันล้านปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่โลกยังมีออกซิเจนต่ำมาก 🔋 บทบาทของไมโตคอนเดรียและออกซิเจน สิ่งที่น่าสนใจคือ ไมโตคอนเดรีย ซึ่งเป็น “โรงงานพลังงาน” ของเซลล์ ปรากฏขึ้นภายหลังราว 2.2 พันล้านปีก่อน ตรงกับช่วงที่ระดับออกซิเจนในโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (Great Oxidation Event) แสดงให้เห็นว่าแม้ชีวิตซับซ้อนจะเริ่มต้นก่อน แต่สิ่งแวดล้อมก็มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้มันเติบโตและแพร่หลาย 🌍 ความหมายต่อการศึกษาวิวัฒนาการ การค้นพบนี้บ่งชี้ว่า วิวัฒนาการของชีวิตซับซ้อนเป็นกระบวนการยาวนานและค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงฉับพลัน การเข้าใจลำดับเวลาที่แท้จริงช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงทางชีววิทยากับสภาพแวดล้อมของโลกได้ดียิ่งขึ้น และอาจช่วยอธิบายว่าทำไมชีวิตซับซ้อนถึงเกิดขึ้นบนโลก แต่ยังไม่พบในดาวเคราะห์อื่น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การค้นพบใหม่เกี่ยวกับชีวิตซับซ้อน ➡️ เริ่มต้นราว 2.9–3 พันล้านปีก่อน ➡️ เร็วกว่าที่เคยเชื่อถึงพันล้านปี ✅ หลักฐานจากนาฬิกาโมเลกุล ➡️ พบสัญญาณโปรตีน actin และ tubulin ➡️ ใช้ข้อมูลพันธุกรรมและฟอสซิลร่วมกัน ✅ บทบาทของไมโตคอนเดรียและออกซิเจน ➡️ ปรากฏราว 2.2 พันล้านปีก่อน ➡️ สอดคล้องกับ Great Oxidation Event ‼️ ข้อควรระวังในการตีความ ⛔ ยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันลำดับเวลา ⛔ ความเข้าใจปัจจุบันอาจเปลี่ยนไปเมื่อมีหลักฐานใหม่ https://www.sciencealert.com/complex-life-may-be-a-billion-years-older-than-we-thought
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Complex Life May Be a Billion Years Older Than We Thought
    The origins of complex, nucleated cellular life – everything from amoebas to humans – may date back a lot further in Earth's history than we thought.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline

    เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro
    เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร
    https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review

    การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3
    ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง
    https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus

    เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli
    นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี
    https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it

    Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX
    เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division

    Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง
    บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way

    AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI
    สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space

    หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac
    Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it

    Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt
    เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it

    Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา
    ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you

    Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง
    หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026
    https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why

    การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware
    หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure

    Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026
    หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026

    DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง
    อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง
    https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player

    Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์
    Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers

    Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI
    ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous

    EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย
    เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring

    ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT
    เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย
    https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors

    แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล
    นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code

    Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง
    Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้
    https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in

    CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม”
    Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem

    ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI
    บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง”
    https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race

    ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt

    ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน
    หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย
    https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai

    หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว
    CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns

    งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์
    Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ
    https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful

    EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp
    คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy

    ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที
    React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ
    https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now

    Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร
    หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline 🪑 เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร 🔗 https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review 💿 การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3 ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus 📱 เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี 🔗 https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it 💻 Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division 🌐 Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way 🚀 AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space 🤖 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it 🖥️ Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it 💼 Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you 🤖 Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why ⚠️ การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure 📡 Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026 หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026 🎶 DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง 🔗 https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player 📺 Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers 🤔 Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous 🛡️ EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring 📡 ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors 💻 แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code 📱 Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้ 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in 🤖 CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม” Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem 🚀 ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง” 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race 🎙️ ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt 📱 ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย 🔗 https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai 🛡️ หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns 🤖 งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์ Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful ⚖️ EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy ⚠️ ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now 💰 Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 426 มุมมอง 0 รีวิว
  • Ryzen AI Max Refresh

    รายงานจาก Wccftech ระบุว่า AMD จะไม่หยุดที่ Strix Halo แต่จะขยายไลน์ด้วย Ryzen AI Max Refresh SKUs ที่เจาะตลาด mid-range และ high-end โดยยังคงใช้กราฟิกในตัวที่ทรงพลังเหมือนเดิม แต่เพิ่มความเร็วหน่วยความจำเป็น 8533 MT/s เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม【edge_current_page_context】

    รายละเอียดทางเทคนิค
    ใช้สถาปัตยกรรมเดียวกับ Strix Halo แต่เพิ่ม clock speed และปรับสเปกเล็กน้อย
    รองรับ LPDDR5X-8533 MT/s (เพิ่มจาก 8000 MT/s)
    คาดว่าจะมีรุ่น Ryzen AI Max+ 388 และ 392 แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะอยู่ใน Refresh หรือ Strix Halo เดิม
    อาจมีการเปิดตัวหรือ “tease” ที่งาน CES 2026

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด
    รุ่น Refresh จะช่วยให้ AMD มีตัวเลือกที่หลากหลายขึ้นสำหรับ โน้ตบุ๊กและเครื่องพกพา
    แม้จะไม่ใช่การอัปเกรดครั้งใหญ่ แต่การเพิ่มความเร็วหน่วยความจำจะช่วยให้การทำงานด้าน AI และกราฟิก มีประสิทธิภาพดีขึ้น
    ตลาด mid-range จะได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะรุ่น Refresh อาจมี สมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ ที่ดีกว่า

    ความท้าทาย
    การอัปเดตครั้งนี้อาจถูกมองว่า “incremental” ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง
    คู่แข่งอย่าง Intel และ Qualcomm กำลังเร่งพัฒนา AI PC ของตนเอง ทำให้ AMD ต้องรักษาความได้เปรียบด้านกราฟิกและหน่วยความจำ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Ryzen AI Max Refresh จะรองรับ LPDDR5X-8533 MT/s
    เป้าหมายตลาด mid-range และ high-end
    อาจเปิดตัวที่ CES 2026
    เป็นการอัปเดต incremental ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงใหญ่

    https://wccftech.com/ryzen-ai-max-refresh-lpddr5x-8533-memory/
    📰 Ryzen AI Max Refresh รายงานจาก Wccftech ระบุว่า AMD จะไม่หยุดที่ Strix Halo แต่จะขยายไลน์ด้วย Ryzen AI Max Refresh SKUs ที่เจาะตลาด mid-range และ high-end โดยยังคงใช้กราฟิกในตัวที่ทรงพลังเหมือนเดิม แต่เพิ่มความเร็วหน่วยความจำเป็น 8533 MT/s เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม【edge_current_page_context】 🔧 รายละเอียดทางเทคนิค 💠 ใช้สถาปัตยกรรมเดียวกับ Strix Halo แต่เพิ่ม clock speed และปรับสเปกเล็กน้อย 💠 รองรับ LPDDR5X-8533 MT/s (เพิ่มจาก 8000 MT/s) 💠 คาดว่าจะมีรุ่น Ryzen AI Max+ 388 และ 392 แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะอยู่ใน Refresh หรือ Strix Halo เดิม 💠 อาจมีการเปิดตัวหรือ “tease” ที่งาน CES 2026 🌍 ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด 🎗️ รุ่น Refresh จะช่วยให้ AMD มีตัวเลือกที่หลากหลายขึ้นสำหรับ โน้ตบุ๊กและเครื่องพกพา 🎗️ แม้จะไม่ใช่การอัปเกรดครั้งใหญ่ แต่การเพิ่มความเร็วหน่วยความจำจะช่วยให้การทำงานด้าน AI และกราฟิก มีประสิทธิภาพดีขึ้น 🎗️ ตลาด mid-range จะได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะรุ่น Refresh อาจมี สมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ ที่ดีกว่า ⚠️ ความท้าทาย 🎗️ การอัปเดตครั้งนี้อาจถูกมองว่า “incremental” ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง 🎗️ คู่แข่งอย่าง Intel และ Qualcomm กำลังเร่งพัฒนา AI PC ของตนเอง ทำให้ AMD ต้องรักษาความได้เปรียบด้านกราฟิกและหน่วยความจำ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Ryzen AI Max Refresh จะรองรับ LPDDR5X-8533 MT/s ✅ เป้าหมายตลาด mid-range และ high-end ✅ อาจเปิดตัวที่ CES 2026 ‼️ เป็นการอัปเดต incremental ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ https://wccftech.com/ryzen-ai-max-refresh-lpddr5x-8533-memory/
    WCCFTECH.COM
    AMD Ryzen AI Max "Refresh" Launch Expected Next Year With Support Up To 8533 MT/s Memory
    As per our source, AMD is going to release Ryzen AI Max "Refresh" series soon, and is expected to support 8533 MT/s memory speed.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • Exynos 2600 ยังไม่เข้าสู่การผลิตจำนวนมาก

    รายงานล่าสุดเผยว่า Samsung Exynos 2600 ซึ่งเป็นชิป 2nm GAA รุ่นใหม่ ยังไม่ได้เข้าสู่การผลิตจำนวนมาก แม้บริษัทจะประกาศเปิดตัวไปแล้ว ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจกระทบต่อการเปิดตัว Galaxy S26 ในปี 2026

    แม้ Samsung จะโชว์ตัวอย่าง Exynos 2600 ไปแล้ว แต่ข้อมูลจากสื่อเกาหลีระบุว่า ยังไม่มีการผลิตจริงในระดับ mass production โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการทดลองเพื่อปรับปรุงอัตราผลผลิต (yield) ที่ยังต่ำอยู่ราว 50% ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ในวงกว้าง

    ความท้าทายด้านเทคโนโลยี
    Samsung ตั้งเป้าเพิ่ม yield ให้ถึง 70% ภายในสิ้นปี 2025 เพื่อให้สามารถรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า เช่น Tesla และผู้ผลิตเครื่องขุดคริปโตในจีน แต่การผลิตด้วยเทคโนโลยี 2nm GAA (Gate-All-Around) ถือเป็นความท้าทายใหญ่ เนื่องจากต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดชิ้นส่วนเสียหาย

    ผลกระทบต่อ Galaxy S26 และตลาด
    Galaxy S26 มีกำหนดเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า Samsung จะมีชิปเพียงพอสำหรับการผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หรือไม่ หาก yield ยังไม่ดีขึ้น อาจทำให้รุ่นที่ใช้ Exynos 2600 ถูกจำกัดเฉพาะตลาดเกาหลีใต้ ขณะที่ตลาดโลกอาจต้องพึ่งพา Qualcomm Snapdragon แทน

    ความเสี่ยงและข้อควรระวัง
    แม้ Samsung จะประกาศตัวเลขประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานของ Exynos 2600 แล้ว แต่หากการผลิตยังไม่เสถียร อาจทำให้บริษัทสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้าและนักลงทุน อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งอย่าง TSMC ที่มีความพร้อมมากกว่าในการผลิตชิปขั้นสูง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Exynos 2600 ยังไม่เข้าสู่ mass production
    Yield อยู่ที่ราว 50% ต้องเพิ่มถึง 70% ภายในสิ้นปี 2025

    Samsung ตั้งเป้ารองรับลูกค้ารายใหญ่
    Tesla และผู้ผลิตเครื่องขุดคริปโตในจีน

    ผลกระทบต่อ Galaxy S26
    อาจมีชิปไม่เพียงพอ ทำให้รุ่น Exynos จำกัดตลาดเฉพาะเกาหลีใต้

    คำเตือนต่อ Samsung
    หาก yield ไม่เสถียร อาจสูญเสียความเชื่อมั่นและส่วนแบ่งตลาด
    เสี่ยงถูก Qualcomm และ TSMC แย่งความได้เปรียบในตลาดชิปขั้นสูง

    https://wccftech.com/exynos-2600-yet-to-enter-mass-production-despite-samsung-announcing-it/
    📰 Exynos 2600 ยังไม่เข้าสู่การผลิตจำนวนมาก รายงานล่าสุดเผยว่า Samsung Exynos 2600 ซึ่งเป็นชิป 2nm GAA รุ่นใหม่ ยังไม่ได้เข้าสู่การผลิตจำนวนมาก แม้บริษัทจะประกาศเปิดตัวไปแล้ว ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจกระทบต่อการเปิดตัว Galaxy S26 ในปี 2026 แม้ Samsung จะโชว์ตัวอย่าง Exynos 2600 ไปแล้ว แต่ข้อมูลจากสื่อเกาหลีระบุว่า ยังไม่มีการผลิตจริงในระดับ mass production โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการทดลองเพื่อปรับปรุงอัตราผลผลิต (yield) ที่ยังต่ำอยู่ราว 50% ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ในวงกว้าง 🔧 ความท้าทายด้านเทคโนโลยี Samsung ตั้งเป้าเพิ่ม yield ให้ถึง 70% ภายในสิ้นปี 2025 เพื่อให้สามารถรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า เช่น Tesla และผู้ผลิตเครื่องขุดคริปโตในจีน แต่การผลิตด้วยเทคโนโลยี 2nm GAA (Gate-All-Around) ถือเป็นความท้าทายใหญ่ เนื่องจากต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดชิ้นส่วนเสียหาย 🌍 ผลกระทบต่อ Galaxy S26 และตลาด Galaxy S26 มีกำหนดเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า Samsung จะมีชิปเพียงพอสำหรับการผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หรือไม่ หาก yield ยังไม่ดีขึ้น อาจทำให้รุ่นที่ใช้ Exynos 2600 ถูกจำกัดเฉพาะตลาดเกาหลีใต้ ขณะที่ตลาดโลกอาจต้องพึ่งพา Qualcomm Snapdragon แทน ⚠️ ความเสี่ยงและข้อควรระวัง แม้ Samsung จะประกาศตัวเลขประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานของ Exynos 2600 แล้ว แต่หากการผลิตยังไม่เสถียร อาจทำให้บริษัทสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้าและนักลงทุน อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งอย่าง TSMC ที่มีความพร้อมมากกว่าในการผลิตชิปขั้นสูง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Exynos 2600 ยังไม่เข้าสู่ mass production ➡️ Yield อยู่ที่ราว 50% ต้องเพิ่มถึง 70% ภายในสิ้นปี 2025 ✅ Samsung ตั้งเป้ารองรับลูกค้ารายใหญ่ ➡️ Tesla และผู้ผลิตเครื่องขุดคริปโตในจีน ✅ ผลกระทบต่อ Galaxy S26 ➡️ อาจมีชิปไม่เพียงพอ ทำให้รุ่น Exynos จำกัดตลาดเฉพาะเกาหลีใต้ ‼️ คำเตือนต่อ Samsung ⛔ หาก yield ไม่เสถียร อาจสูญเสียความเชื่อมั่นและส่วนแบ่งตลาด ⛔ เสี่ยงถูก Qualcomm และ TSMC แย่งความได้เปรียบในตลาดชิปขั้นสูง https://wccftech.com/exynos-2600-yet-to-enter-mass-production-despite-samsung-announcing-it/
    WCCFTECH.COM
    Exynos 2600 Has Yet To Enter Mass Production, With Latest Report Downplaying Previous Updates Regarding Samsung’s First 2nm GAA Chipset’s Progress
    The Exynos 2600 was recently announced in a small trailer, but a new update states that Samsung’s first 2nm GAA SoC has yet to enter mass production
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • Deep Blue จุดเริ่มต้นของ AI ในเกมหมากรุก

    ครบรอบ 30 ปีการเปิดตัว Deep Blue ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ IBM ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นหมากรุก และสามารถเอาชนะ Garry Kasparov แชมป์โลกในปี 1997 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์และ AI

    IBM เปิดตัวต้นแบบ Deep Blue ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1995 โดยใช้เวิร์กสเตชัน RS/6000 พร้อม 14 โปรเซสเซอร์สำหรับค้นหาตำแหน่งหมากรุก สามารถวิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที แม้จะยังไม่สามารถเอาชนะโปรแกรมหมากรุกชั้นนำในยุคนั้น แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของการใช้ “พลังประมวลผลมหาศาล” เพื่อแข่งขันกับมนุษย์

    การเผชิญหน้ากับ Kasparov
    ปี 1996 Deep Blue พบกับ Kasparov เป็นครั้งแรก และสามารถชนะเกมเปิดได้ แต่สุดท้าย Kasparov เอาชนะไปด้วยคะแนน 4-2 อย่างไรก็ตาม IBM ไม่ยอมแพ้ และในปี 1997 ได้ปรับปรุงระบบใหม่ ใช้ 30 เวิร์กสเตชัน PowerPC ควบคุมชิปหมากรุก 16 ตัวต่อเครื่อง สามารถวิเคราะห์ได้ถึง 200 ล้านตำแหน่งต่อวินาที และในที่สุดก็เอาชนะ Kasparov ด้วยคะแนน 3.5-2.5

    ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี
    ชัยชนะของ Deep Blue ไม่เพียงแต่เป็นการพิสูจน์ว่าคอมพิวเตอร์สามารถเอาชนะมนุษย์ในเกมที่ซับซ้อน แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการมอง AI ว่าเป็น “คู่แข่งทางความคิด” ของมนุษย์ IBM ใช้ชัยชนะนี้สร้างภาพลักษณ์ใหม่จากบริษัทที่ถูกมองว่า “ล้าหลัง” ให้กลับมาเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม และยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนา AI ในหลายสาขา

    มุมมองจากปัจจุบัน
    แม้ Deep Blue จะใช้วิธี brute force ที่แตกต่างจาก AI ยุคใหม่ซึ่งเน้นการเรียนรู้เชิงสถิติ แต่เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการที่เครื่องจักรสามารถท้าทายความคิดมนุษย์ได้ และเป็นรากฐานให้เกิดการพัฒนา AI ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในปัจจุบัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    IBM เปิดตัว Deep Blue ปี 1995
    วิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที

    การแข่งกับ Kasparov ปี 1996 และ 1997
    ปีแรกแพ้ 4-2 แต่ปีถัดมาชนะ 3.5-2.5

    ผลกระทบต่อ IBM และวงการ AI
    สร้างภาพลักษณ์ใหม่และเป็นแรงบันดาลใจให้การพัฒนา AI

    คำเตือนจากบทเรียน Deep Blue
    วิธี brute force ไม่ใช่แนวทางเดียวของ AI
    ความสำเร็จในเกมไม่ได้หมายถึงการเข้าใจเชิงลึกแบบมนุษย์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ibm-unveiled-its-deep-blue-chess-supercomputer-prototype-30-years-ago-today-two-years-later-in-its-second-attempt-it-defeated-grandmaster-garry-kasparov
    ♟️ Deep Blue จุดเริ่มต้นของ AI ในเกมหมากรุก ครบรอบ 30 ปีการเปิดตัว Deep Blue ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ IBM ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นหมากรุก และสามารถเอาชนะ Garry Kasparov แชมป์โลกในปี 1997 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์และ AI IBM เปิดตัวต้นแบบ Deep Blue ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1995 โดยใช้เวิร์กสเตชัน RS/6000 พร้อม 14 โปรเซสเซอร์สำหรับค้นหาตำแหน่งหมากรุก สามารถวิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที แม้จะยังไม่สามารถเอาชนะโปรแกรมหมากรุกชั้นนำในยุคนั้น แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของการใช้ “พลังประมวลผลมหาศาล” เพื่อแข่งขันกับมนุษย์ 🏆 การเผชิญหน้ากับ Kasparov ปี 1996 Deep Blue พบกับ Kasparov เป็นครั้งแรก และสามารถชนะเกมเปิดได้ แต่สุดท้าย Kasparov เอาชนะไปด้วยคะแนน 4-2 อย่างไรก็ตาม IBM ไม่ยอมแพ้ และในปี 1997 ได้ปรับปรุงระบบใหม่ ใช้ 30 เวิร์กสเตชัน PowerPC ควบคุมชิปหมากรุก 16 ตัวต่อเครื่อง สามารถวิเคราะห์ได้ถึง 200 ล้านตำแหน่งต่อวินาที และในที่สุดก็เอาชนะ Kasparov ด้วยคะแนน 3.5-2.5 🌍 ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี ชัยชนะของ Deep Blue ไม่เพียงแต่เป็นการพิสูจน์ว่าคอมพิวเตอร์สามารถเอาชนะมนุษย์ในเกมที่ซับซ้อน แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการมอง AI ว่าเป็น “คู่แข่งทางความคิด” ของมนุษย์ IBM ใช้ชัยชนะนี้สร้างภาพลักษณ์ใหม่จากบริษัทที่ถูกมองว่า “ล้าหลัง” ให้กลับมาเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม และยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนา AI ในหลายสาขา ⚠️ มุมมองจากปัจจุบัน แม้ Deep Blue จะใช้วิธี brute force ที่แตกต่างจาก AI ยุคใหม่ซึ่งเน้นการเรียนรู้เชิงสถิติ แต่เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการที่เครื่องจักรสามารถท้าทายความคิดมนุษย์ได้ และเป็นรากฐานให้เกิดการพัฒนา AI ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในปัจจุบัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ IBM เปิดตัว Deep Blue ปี 1995 ➡️ วิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที ✅ การแข่งกับ Kasparov ปี 1996 และ 1997 ➡️ ปีแรกแพ้ 4-2 แต่ปีถัดมาชนะ 3.5-2.5 ✅ ผลกระทบต่อ IBM และวงการ AI ➡️ สร้างภาพลักษณ์ใหม่และเป็นแรงบันดาลใจให้การพัฒนา AI ‼️ คำเตือนจากบทเรียน Deep Blue ⛔ วิธี brute force ไม่ใช่แนวทางเดียวของ AI ⛔ ความสำเร็จในเกมไม่ได้หมายถึงการเข้าใจเชิงลึกแบบมนุษย์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ibm-unveiled-its-deep-blue-chess-supercomputer-prototype-30-years-ago-today-two-years-later-in-its-second-attempt-it-defeated-grandmaster-garry-kasparov
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts