• ข้าวเหนียวห่อใบตอง จากใจฅนดอยคำ

    เมื่อวันก่อนมีภาพข้าวเหนียวไก่ย่างห่อใบตองติดป้ายดอยคำ ที่นำไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย ถูกนำไปโจมตี ผลก็คือมีชาวเน็ตจำนวนมากตอบโต้ ถึงข้อดีของการนำอาหารห่อใบตอง เมื่อเทียบกับกล่องพลาสติกหรือโฟม เพราะเมื่อทิ้งเป็นขยะ ใบตองสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ นอกจากนี้ เมนูข้าวเหนียวสามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เน่าเสียง่าย

    ต่อมาเฟซบุ๊กเพจ ดอยคำ - Doi Kham ของบริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เผยแพร่ภาพที่บริษัทฯ มอบหมายให้โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 2 (แม่จัน) พร้อมด้วยฅนดอยคำ ร่วมแรงร่วมใจกัน จัดทำข้าวเหนียวไก่ทอดห่อใบตองเพิ่มจำนวน 500 ชุด สำหรับนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอแม่สาย และ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยได้รับสนับสนุนเงินบริจาคจากเจ้าหน้าที่ พนักงานฅนดอยคำ ประจำสำนักงานใหญ่และโรงงานหลวงฯ ทั้ง 3 แห่ง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม น้ำผลไม้พร้อมดื่ม ข้าวสารและอาหารแห้งอีกด้วย

    หนึ่งในภาพที่นำมาเผยแพร่ เป็นกระบวนการผลิตข้าวเหนียวไก่ทอดห่อใบตอง ที่พบว่าพนักงานพิถีพัถัน โดยเฉพาะการสวมหมวกคุมศีรษะ การใช้ถุงมือในการปรุงอาหาร และหยิบจับอาหารมาบรรจุลงในใบตอง แสดงให้เห็นถึงการปฎิบัติตามหลักความปลอดภัยทางอาหาร (Food Safety) อย่างสม่ำเสมอ แม้จะเป็นกิจกรรมทำอาหารเพื่อแจกจ่ายก็ตาม

    สำหรับดอยคำก่อตั้งเมื่อปี 2537 ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมผลไม้แปรรูป ในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ส่งเสริมการเพาะปลูกและรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรในราคาที่เป็นธรรม โดยมีกำไรพอเพียงเลี้ยงตัวเองได้ ใช้ในการดูแลพนักงาน นำกลับมารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด และวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ปัจจุบันมีโรงงานอาหารสำเร็จรูป 3 แห่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และสกลนคร

    ข้อมูลจากสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30 กล่าวถึงการใช้ประโยชน์จากใบตองว่า ใช้ในการห่อผักสดและอาหาร เนื่องจากใบตองสดมีความชื้น ช่วยรักษาผักหรืออาหารให้สดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังทนทานต่อความเย็นและความร้อน เมื่อนำใบตองห่ออาหารแล้วเอาไปปิ้ง นึ่ง ต้ม จะไม่สลายหรือละลายเหมือนพลาสติก จึงมีอาหารหลายอย่างที่ห่อใบตองแล้วนำไปนึ่ง เช่น ห่อหมก ข้าวต้มผัด ขนมกล้วย ขนมตาล ขนมใส่ไส้ หรือเอาไปปิ้ง เช่น ข้าวเหนียวปิ้ง หรือนำไปต้ม เช่น ข้าวต้มมัด หรือข้าวต้มจิ้ม อาหารเหล่านี้ยังทำให้เกิดความหอมของใบตองอีกด้วย สำหรับใบตองแห้ง นำมาใช้ทำกระทงเพื่อใส่อาหาร ห่อกะละแม มวนบุหรี่ โดยใบตองแห้งก็จะมีกลิ่นหอมเช่นกัน

    #Newskit #น้ำท่วมเชียงราย #ดอยคำ
    ข้าวเหนียวห่อใบตอง จากใจฅนดอยคำ เมื่อวันก่อนมีภาพข้าวเหนียวไก่ย่างห่อใบตองติดป้ายดอยคำ ที่นำไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย ถูกนำไปโจมตี ผลก็คือมีชาวเน็ตจำนวนมากตอบโต้ ถึงข้อดีของการนำอาหารห่อใบตอง เมื่อเทียบกับกล่องพลาสติกหรือโฟม เพราะเมื่อทิ้งเป็นขยะ ใบตองสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ นอกจากนี้ เมนูข้าวเหนียวสามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เน่าเสียง่าย ต่อมาเฟซบุ๊กเพจ ดอยคำ - Doi Kham ของบริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เผยแพร่ภาพที่บริษัทฯ มอบหมายให้โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 2 (แม่จัน) พร้อมด้วยฅนดอยคำ ร่วมแรงร่วมใจกัน จัดทำข้าวเหนียวไก่ทอดห่อใบตองเพิ่มจำนวน 500 ชุด สำหรับนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอแม่สาย และ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยได้รับสนับสนุนเงินบริจาคจากเจ้าหน้าที่ พนักงานฅนดอยคำ ประจำสำนักงานใหญ่และโรงงานหลวงฯ ทั้ง 3 แห่ง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม น้ำผลไม้พร้อมดื่ม ข้าวสารและอาหารแห้งอีกด้วย หนึ่งในภาพที่นำมาเผยแพร่ เป็นกระบวนการผลิตข้าวเหนียวไก่ทอดห่อใบตอง ที่พบว่าพนักงานพิถีพัถัน โดยเฉพาะการสวมหมวกคุมศีรษะ การใช้ถุงมือในการปรุงอาหาร และหยิบจับอาหารมาบรรจุลงในใบตอง แสดงให้เห็นถึงการปฎิบัติตามหลักความปลอดภัยทางอาหาร (Food Safety) อย่างสม่ำเสมอ แม้จะเป็นกิจกรรมทำอาหารเพื่อแจกจ่ายก็ตาม สำหรับดอยคำก่อตั้งเมื่อปี 2537 ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมผลไม้แปรรูป ในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ส่งเสริมการเพาะปลูกและรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรในราคาที่เป็นธรรม โดยมีกำไรพอเพียงเลี้ยงตัวเองได้ ใช้ในการดูแลพนักงาน นำกลับมารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด และวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ปัจจุบันมีโรงงานอาหารสำเร็จรูป 3 แห่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และสกลนคร ข้อมูลจากสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30 กล่าวถึงการใช้ประโยชน์จากใบตองว่า ใช้ในการห่อผักสดและอาหาร เนื่องจากใบตองสดมีความชื้น ช่วยรักษาผักหรืออาหารให้สดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังทนทานต่อความเย็นและความร้อน เมื่อนำใบตองห่ออาหารแล้วเอาไปปิ้ง นึ่ง ต้ม จะไม่สลายหรือละลายเหมือนพลาสติก จึงมีอาหารหลายอย่างที่ห่อใบตองแล้วนำไปนึ่ง เช่น ห่อหมก ข้าวต้มผัด ขนมกล้วย ขนมตาล ขนมใส่ไส้ หรือเอาไปปิ้ง เช่น ข้าวเหนียวปิ้ง หรือนำไปต้ม เช่น ข้าวต้มมัด หรือข้าวต้มจิ้ม อาหารเหล่านี้ยังทำให้เกิดความหอมของใบตองอีกด้วย สำหรับใบตองแห้ง นำมาใช้ทำกระทงเพื่อใส่อาหาร ห่อกะละแม มวนบุหรี่ โดยใบตองแห้งก็จะมีกลิ่นหอมเช่นกัน #Newskit #น้ำท่วมเชียงราย #ดอยคำ
    Like
    Love
    6
    3 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • "ฝนตกหนัก ระวังโรครากเน่าโคนเน่าทำลายเมล่อน!

    เพื่อนๆ เกษตรกรที่ปลูกเมล่อนต้องระวังเป็นพิเศษช่วงนี้เลยครับ เพราะฝนตกชุก ทำให้เชื้อรา #ไฟทอปธอร่า ก่อโรครากเน่าโคนเน่าระบาดได้ง่ายมาก!

    ทำไมโรคนี้ถึงน่ากลัว?
    * ทำลายรากและโคนต้น: ทำให้ต้นเมล่อนดูดน้ำและอาหารไม่ได้ ต้นโทรม ใบเหลือง และสุดท้ายก็ตายได้
    * แพร่ระบาดเร็ว: เชื้อราสามารถแพร่กระจายได้รวดเร็วผ่านน้ำที่ใช้รด และวัสดุปลูกที่ไม่สะอาด
    * ผลผลิตเสียหาย: ไม่เพียงแต่ต้นจะตาย ผลเมล่อนที่ติดอยู่ก็เน่าเสียหายไปด้วย

    ป้องกันอย่างไรดี?
    * เลือกพันธุ์ดี: เลือกพันธุ์เมล่อนที่แข็งแรง ทนทานต่อโรค
    * จัดการเรื่องน้ำ: อย่ารดน้ำมากเกินไป ระบายน้ำให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำขัง
    * ใช้วัสดุปลูกสะอาด: เปลี่ยนวัสดุปลูกเป็นระยะ และฆ่าเชื้อก่อนนำมาใช้
    * ตัดแต่งใบ: ตัดใบล่างออกบ้าง เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก ลดความชื้น
    * ใช้ชีวภัณฑ์: ราด ไตรโคบิวพลัส เป็นประจำทุก 7-10 วัน ช่วยป้องกันเชื้อราได้ดีเยี่ยม

    ถ้าเมล่อนเป็นโรคแล้วจะทำยังไง?
    * ตัดส่วนที่เป็นโรคทิ้ง: ตัดใบและรากที่เน่าออก
    * ใช้ชีวภัณฑ์: ละลาย ไตรโคบิวพลัส ราด หรือป้ายบริเวณที่เป็นแผล
    * ทำลายต้นที่เป็นโรค: ถ้าเป็นเยอะ ควรกำจัดต้นที่เป็นโรคทิ้ง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

    ทำไมต้อง #ไตรโคบิวพลัส?
    * ครบเครื่อง: ป้องกันได้ทั้งโรครากเน่าโคนเน่า และแมลงศัตรูพืช
    * ปลอดภัย: เป็นชีวภัณฑ์ ใช้งานง่าย ไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์
    * มีประสิทธิภาพ: ช่วยให้เมล่อนแข็งแรง ต้านทานโรคได้ดีขึ้น

    #ศักรพีLittleFarm ฟาร์มอารมณ์ดี พร้อมให้คำปรึกษาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพ เพื่อช่วยให้เพื่อนๆ เกษตรกรปลูกเมล่อนได้ผลผลิตดี มีคุณภาพครับ

    #โรครากเน่าโคนเน่า #เมล่อน #ไตรโคเดอร์มา #ไตรโคบิวพลัส #เกษตรอินทรีย์ #เกษตรปลอดภัย"
    "🌧️ฝนตกหนัก ระวังโรครากเน่าโคนเน่าทำลายเมล่อน! ⚠️❌🍈 เพื่อนๆ เกษตรกรที่ปลูกเมล่อนต้องระวังเป็นพิเศษช่วงนี้เลยครับ เพราะฝนตกชุก ทำให้เชื้อรา #ไฟทอปธอร่า ก่อโรครากเน่าโคนเน่าระบาดได้ง่ายมาก! 🍈🌱⚠️ ทำไมโรคนี้ถึงน่ากลัว? 😱 * ทำลายรากและโคนต้น: ทำให้ต้นเมล่อนดูดน้ำและอาหารไม่ได้ ต้นโทรม ใบเหลือง และสุดท้ายก็ตายได้ 🌿➡️💀 * แพร่ระบาดเร็ว: เชื้อราสามารถแพร่กระจายได้รวดเร็วผ่านน้ำที่ใช้รด และวัสดุปลูกที่ไม่สะอาด 🌊🦠💨 * ผลผลิตเสียหาย: ไม่เพียงแต่ต้นจะตาย ผลเมล่อนที่ติดอยู่ก็เน่าเสียหายไปด้วย 🍈➡️🗑️ ป้องกันอย่างไรดี? 🛡️ * เลือกพันธุ์ดี: เลือกพันธุ์เมล่อนที่แข็งแรง ทนทานต่อโรค 💪🍈 * จัดการเรื่องน้ำ: อย่ารดน้ำมากเกินไป ระบายน้ำให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำขัง 💧➡️🚰 * ใช้วัสดุปลูกสะอาด: เปลี่ยนวัสดุปลูกเป็นระยะ และฆ่าเชื้อก่อนนำมาใช้ 🧼🌱 * ตัดแต่งใบ: ตัดใบล่างออกบ้าง เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก ลดความชื้น ✂️🍃 * ใช้ชีวภัณฑ์: ราด ไตรโคบิวพลัส เป็นประจำทุก 7-10 วัน ช่วยป้องกันเชื้อราได้ดีเยี่ยม 🧪🌿 ถ้าเมล่อนเป็นโรคแล้วจะทำยังไง? 🆘 * ตัดส่วนที่เป็นโรคทิ้ง: ตัดใบและรากที่เน่าออก ✂️🍃 * ใช้ชีวภัณฑ์: ละลาย ไตรโคบิวพลัส ราด หรือป้ายบริเวณที่เป็นแผล 🧪💦 * ทำลายต้นที่เป็นโรค: ถ้าเป็นเยอะ ควรกำจัดต้นที่เป็นโรคทิ้ง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด 🗑️🌱 ทำไมต้อง #ไตรโคบิวพลัส? 🤔 * ครบเครื่อง: ป้องกันได้ทั้งโรครากเน่าโคนเน่า และแมลงศัตรูพืช 🛡️🐛 * ปลอดภัย: เป็นชีวภัณฑ์ ใช้งานง่าย ไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์ 🌿👨‍🌾🐾 * มีประสิทธิภาพ: ช่วยให้เมล่อนแข็งแรง ต้านทานโรคได้ดีขึ้น 💪🍈 #ศักรพีLittleFarm ฟาร์มอารมณ์ดี 😊 พร้อมให้คำปรึกษาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพ เพื่อช่วยให้เพื่อนๆ เกษตรกรปลูกเมล่อนได้ผลผลิตดี มีคุณภาพครับ 🌱🍈👨‍🌾 #โรครากเน่าโคนเน่า #เมล่อน #ไตรโคเดอร์มา #ไตรโคบิวพลัส #เกษตรอินทรีย์ #เกษตรปลอดภัย"
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 51 Views 0 Reviews
  • ชาตินิยม...ที่ฝังอยู่ในสายเลือด...!!

    ดิฉันกำลังพูดถึงตัวเอง...ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับใคร หรือ เป็นเพราะการเลือกตั้งครั้งสำคัญของประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ทางโค้ง

    แต่ถ้ามีคนถาม...ก็จะตอบว่าไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่รู้สึก”กลัว” เท่ากับในครั้งนี้ ที่กลัวเพราะว่ามันเป็นการเลือกตั้งที่เรากำลังต่อสู้กับเงาอสูร หรือมือที่เรามองไม่เห็น
    ไม่ใช่การเลือกตั้งแบบครั้งก่อนๆที่เรารู้จักหน้าค่าตา รู้จักน้ำจิตน้ำใจ รู้จักนโยบาย
    ครั้งนี้...มองเห็นได้ชัดเจนว่าเราได้ถูกแทรกแซงจากแหล่งต่างๆ
    ที่มีทุนมหาศาล และ เขาได้สร้างนอมินีมาเป็นมือไม้ทำงานให้อย่างไม่ต้องลงแรง
    ส่วนนอมินีที่ว่านั้น....จะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม...แต่พวกเขาได้รับการบ่มเพาะ ปลูกฝังมาในทางทฤษฎีให้เชื่อและคล้อยตาม
    คำว่า ชาตินิยม...กลายเป็นของแสลง เพราะเขาใช้คำว่า “คลั่งชาติ” มาตีกันเอาไว้ก่อน
    คำว่า “สลิ่ม” คือพวกที่อยู่ข้างสถาบัน ตามด้วยกิริยาว่า “โหนเจ้า”
    อีกทั้งหาพวกพ้องให้เกิดความแตกแยก โดยเรียกตัวเองว่า “ไพร่”
    ที่ต้องมาผนึกกำลังกันเรียกร้องหาความเสมอภาค

    คำเหล่านี้...คือการยุงยงปลุกปั่น สร้างความร้าวฉาน ทั้งๆที่ เราควรจะภูมิใจถ้าหากเราคลั่งชาติจริงๆ เพราะนี่คือทางออกทางเดียว
    ที่เห็นว่า เราจะแล้วรอดปลอดภัยจากนโยบายครองโลกของคนกลุ่มทุน

    เราปล่อยให้เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาออกอากาศว่า ฟังเพลงชาติแล้วจะอ้วก...หรือ...ไม่จำเป็นต้องทำตามระเบียบแบบแผนที่มีมาดั้งเดิม เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย
    เรามองเห็นมะเร็งร้ายที่เริ่มจากการก่อตัว จนมันได้ขยายออกไป
    ถึงขั้นสี่ ขั้นห้า...แล้วไม่ทำอะไรกันเลย ต่างเอาหูไปนาเอาตาไปไร่
    เพราะความเป็นคนขี้รำคาญตามนิสัยคนไทย

    ดิฉันกลายมาเป็นคนชาตินิยมไปตั้งแต่เริ่มเข้าวัยกลางคน ทั้งที่อดีต
    เคยนิยมชาติอื่นอย่างมากมาย เพราะเขาให้สิทธิในการออกความเห็น แต่ไม่ใช่ว่าจะออกความเห็นได้อย่างเสรีที่เขาว่า เพราะกฏหมายเขาเอาจริง จะเที่ยวพูดสุ่มสี่สุ่มห้า หรืออารมณ์เมาไวน์พาไปก็ไม่ได้ จะต้องมี”ความรู้” จริง
    ต้องมีการเตรียมตัวพร้อมหลักฐานอ้างอิงที่เชื่อถือได้ ต้องคิดไตร่ตรองถ้วนถี่ เพราะไม่เช่นนั้น อาจกลายเป็น “ปากพาจน”

    ถึงจะมีสามีเป็นฝรั่งเศส...แต่ไม่เคยที่จะเอามาเป็น”ตัวอ้างอิง”
    ทางความคิดเห็น ความเชื่อของเขากับดิฉันนั้น ต่างกันคนละสาย
    แต่เราไม่ก้าวก่ายกัน
    เขาแปลกใจที่เห็นดิฉัน รักเคารพบูชา เจ้าเหนือแผ่นดิน
    ในขณะที่ชาวฝรั่งเศสเห็นว่า เหนือกว่าอำมาตย์และชนชั้นฐานันดรนั้นคือ tyranny (มีบรรจุไว้ในเพลงชาติ La Marseillaise)
    เขาพร่ำสอนกันมาหลายร้อยปี ก็คงจะเปลี่ยนกันยาก
    นักวิชาการบางพวก...อาจจะเห่อหรือเอาใจเมีย หรืออยากจะอวดว่าเป็นคนที่มีความคิดเห็นแบบตะวันตก...เลยกลายเป็นคนที่ผีเจาะปากมาพูด

    แต่ในครอบครัวดิฉัน...เรื่องนี้...เราไม่ก้าวล่วงในความเชื่อของกันและกัน

    วันก่อน... เห็นมีคนเอาข่าวของการเผาไร่ข้าวโพดกว่าพันเอเคอร์ในฮังการีมาลง...แต่นั้นมันเป็นเรื่องหลายปีมาแล้ว ตั้งแต่ปี 2011
    ที่ชาวเกษตรอนุรักษ์นิยม ได้พบว่ามีเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด GMO หลงเข้ามา ซึ่งจะสร้างการแตกหน่อ ขยายแขนงไปจนเกิดโทษ
    จึงจัดการเผาผลผลิตทิ้งให้หมด ไม่ให้เหลือแม้แต่เกสรที่อาจปลิวไป
    ผสมพันธ์ที่อื่น...
    ฮังการีเปิดศึกกับบริษัทมอนซานโตในทุกทาง
    เท่านั้นไม่พอ...นายกรัฐมนตรี Viktor Orban ได้สั่งให้ มหาวิทยาลัย
    CEU (Central European University) ย้ายออกไปจากประเทศ
    ทั้งๆที่มหาวิทยาลัยนี้ เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในภาพพื้นยุโรปตะวันออก ที่สอนในหลักสูตรเดียวกับสหรัฐอเมริกา และ ปริญญาทุกใบ จะรับรองมาตรฐานโดยกระทรวงศึกษาธิการแห่งสหรัฐ

    CEU เป็นมหาวิทยาลัยอินเตอร์ สอนด้วยภาษาอังกฤษ ก่อตั้งในปี 1990 จากทุนทรัพย์ส่วนตัวของนายจอร์จ โซรอส ที่ทุ่มลงมากว่า 800 ล้านยูเอส เพื่อให้เป็นตักศิลาทางการเมืองที่ทันสมัยที่สุด ใหญ่ที่สุด จนได้รับตำแหน่งว่าเป็นยูหนึ่งในร้อยที่ดีที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในสิบสาม ที่เด่นทางรัฐศาสตร์ และ ทางกฏหมาย
    จากนั้นก็เพิ่มสาขาขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงการเงินและธุรกิจ ตามด้วยวิชาปรัชญาเพื่อรองรับกับนโยบายของ Open Society ที่เป็นที่เพาะพันธุ์ของเหล่า NGO ต่างๆ

    ฮังการีภายใต้การนำของนายออร์บัน ได้ระงับการต่อสัญญากับมหาวิทยาลัย พูดง่ายๆคือ ให้ย้ายออกไปจากประเทศโดยไม่แคร์ว่านักศึกษาจะเคว้ง หรือไม่มีที่จะเรียน โดยเห็นว่า ถ้าปล่อยให้ทุนโซรอสเข้ามาครอบงำประชาชนรุ่นใหม่ที่เป็นกำลังของประเทศ
    นั่นหมายถึงการล่มสลาย...
    ดังนั้นจึงเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม...
    วันที่ 3 ธันวาคม 2018 ที่ผ่านมา หลังจากที่การยื้อเวลาโดยใช้กลุ่ม อียูเข้ามาช่วยเจรจา หรือ ทางสหรัฐอเมริกาที่พยายามกดดันรัฐบาลทางการทูต....ไม่เป็นผลสำเร็จ
    ซ้ำร้าย....ฮังการีได้เปิดสงครามกับโซรอสโดยการปิดป้ายประจานไปทั่วเมืองนั้น...
    CEU ต้องถอยทัพ...ประกาศว่า จะย้ายมหาวิทยาลัยไปที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย...

    ผู้คนต่างก็ไม่พอใจ พากันเดินขบวนต่อต้านแบบมืดฟ้ามัวดิน เพราะการศึกษาคือเรื่องสำคัญต่ออนาคต
    แต่รัฐบาล....ต้องยอมให้ประชาชนก่นด่า ยอมให้ชาติต้องหยุดชะงัก
    ดีกว่าที่จะให้ เด็กฮังเกเรี่ยนมีหัวใจเป็นอเมริกัน มีสมองที่คิดแต่การเอาเปรียบ มีวิญญาณที่ซื้อได้ด้วยเงิน....

    จากนั้น...รัฐบาลได้ออกกฏหมายให้เหล่า NGO ทุกคนให้มาขึ้นบัญชี
    ที่ต้องแสดงรายได้ตามความเป็นจริง และต้องระบุด้วยว่า รับมาจากที่ใด...เล่นเอาเหล่า NGO ผู้ที่แอบแฝงมาในคราบต่างๆเกิดอาการร้อนๆหนาวๆขึ้นมา เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน รัสเซียได้เขี่ยองค์กร
    ลํบหน้าปะจมูกพวกนี้ออกมาจนหมดสิ้น
    นี่ฮังการีก็เริ่มจะเขี่ยทิ้งอีก....
    อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างฮังการีกับรัสเซียที่แน่นแฟ้นขึ้นทุกวัน
    จากเมื่อยี่สิบปีก่อน ที่นายออร์บันคือผู้ที่ต่อต้านรัสเซียอย่างชัดเจน
    แต่ทกอย่างเปลี่ยนไป เมื่อปูตินได้ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี
    ดำเนินนโยบายแบบยอมหักแต่ไม่ยอมงอนั้น ทำให้เกิดความเลื่อมใส จนแทบจะเดินรอยตามในทุกเรื่อง
    แม้กระทั่งเรื่องผู้อพยพ...ที่เป็นชนวนให้ต้องมีการขับไล่กลุ่ม
    โซรอสออกไปให้พ้นๆ
    มิไยที่สหภาพยุโรปจะกดดัน หรือ ใช้มาตรการเข้ม...ก็ไม่เป็นผล
    ประโยชน์ของชาติต้องมาก่อน...

    แต่กลุ่มสหภาพยุโรปที่แสดงท่าทีแข็งกร้าวในเรื่องการปฏิเสธการรับผู้อพยพของกลุ่มประเทศ ฮังการี, สโลเวเนีย และโปแลนด์ นั้น
    เริ่มที่จะเสียงแตก เพราะกลุ่มขวาจัดในรัฐบาลอื่นๆ เช่น ฝรั่งเศส และ เยอรมัน ต่างแสดงความเห็นใจประเทศที่ต้องโดนยัดเยียดเหล่านี้...
    ส่วนทางรัสเซีย...ที่ขยันออกคลิปของการ”ต้อนรับ” ผู้หลบหนีเข้าเมืองแบบถึงลูกถึงคนนั้น
    ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับกลุ่มสิทธิมนุษยชนในสภายุโรป
    จนเรียกร้องให้การ”คว่ำบาตร” รัสเซียดำเนินต่อไป...

    ฝรั่งเศส...เมื่อตอนที่นายมาครงขึ้นมาดำรงตำแหน่งในปี 2017
    เขาประกาศอย่างภาคภูมิใจว่า การรับและโอบอุ้มผู้อพยพคือการแสดงถึงความมีมนุษยธรรม...
    เวลาผ่านไปปีเศษเอง เขาเปลี่ยนไปแล้ว คราวนี้คือ การไม่ต้อนรับและไม่ได้พูดถึงเรื่องมนุษยธรรมอีกเลย
    ซ้ำกระโจมผู้อพยพที่ตั้งเรียงรายนับหมื่นคนที่ท่า Calais นั่น
    ที่หวังจะให้อังกฤษช่วยรับไปก็แห้วอีก...เพราะอังกฤษกำลังจะออกจากอียูอยู่รอมร่อ....เพราะเขาไม่ต้องการการยัดเยียดให้รับชาวต่างชาติอพยพ……

    ทีนี้ก็ถึงคราวที่นายมาครงจะต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง
    จะกลืนน้ำลายตัวเองต่อไป หรือจะให้เสื้อกั๊กเหลืองเพิ่มจำนวนขึ้นทุกวัน

    นี่คือตัวอย่างของการแทรกแซงที่ดิฉันรู้สึกว่าน่ากลัว....เพราะเห็นหน้าตากัน เชื้อชาติเดียวกัน พูดจาภาษาเดียวกัน
    แต่...ไม่ใช่ว่าเขามีจิตวิญญาณรักชาติ รักแผ่นดินเหมือนเรา...

    อย่างฮังการีกับโซรอสนั่นไง....ที่มาทำท่าเป็นพ่อพระเพื่อช่วยส่งเสริมการศึกษา แจกทุน ตั้งองค์กรด้วยเงินจำนวนมหาศาล....
    แต่ซ่อนมีดไว้ข้างหลัง....

    ทั้งๆที่เขาและบรรพบุรุษของเขา.....เป็นฮังเกเรี่ยนแท้ๆ เขายังทำได้ลงคอ....!!!

    Wiwanda W. Vichit
    ชาตินิยม...ที่ฝังอยู่ในสายเลือด...!! ดิฉันกำลังพูดถึงตัวเอง...ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับใคร หรือ เป็นเพราะการเลือกตั้งครั้งสำคัญของประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ทางโค้ง แต่ถ้ามีคนถาม...ก็จะตอบว่าไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่รู้สึก”กลัว” เท่ากับในครั้งนี้ ที่กลัวเพราะว่ามันเป็นการเลือกตั้งที่เรากำลังต่อสู้กับเงาอสูร หรือมือที่เรามองไม่เห็น ไม่ใช่การเลือกตั้งแบบครั้งก่อนๆที่เรารู้จักหน้าค่าตา รู้จักน้ำจิตน้ำใจ รู้จักนโยบาย ครั้งนี้...มองเห็นได้ชัดเจนว่าเราได้ถูกแทรกแซงจากแหล่งต่างๆ ที่มีทุนมหาศาล และ เขาได้สร้างนอมินีมาเป็นมือไม้ทำงานให้อย่างไม่ต้องลงแรง ส่วนนอมินีที่ว่านั้น....จะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม...แต่พวกเขาได้รับการบ่มเพาะ ปลูกฝังมาในทางทฤษฎีให้เชื่อและคล้อยตาม คำว่า ชาตินิยม...กลายเป็นของแสลง เพราะเขาใช้คำว่า “คลั่งชาติ” มาตีกันเอาไว้ก่อน คำว่า “สลิ่ม” คือพวกที่อยู่ข้างสถาบัน ตามด้วยกิริยาว่า “โหนเจ้า” อีกทั้งหาพวกพ้องให้เกิดความแตกแยก โดยเรียกตัวเองว่า “ไพร่” ที่ต้องมาผนึกกำลังกันเรียกร้องหาความเสมอภาค คำเหล่านี้...คือการยุงยงปลุกปั่น สร้างความร้าวฉาน ทั้งๆที่ เราควรจะภูมิใจถ้าหากเราคลั่งชาติจริงๆ เพราะนี่คือทางออกทางเดียว ที่เห็นว่า เราจะแล้วรอดปลอดภัยจากนโยบายครองโลกของคนกลุ่มทุน เราปล่อยให้เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาออกอากาศว่า ฟังเพลงชาติแล้วจะอ้วก...หรือ...ไม่จำเป็นต้องทำตามระเบียบแบบแผนที่มีมาดั้งเดิม เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย เรามองเห็นมะเร็งร้ายที่เริ่มจากการก่อตัว จนมันได้ขยายออกไป ถึงขั้นสี่ ขั้นห้า...แล้วไม่ทำอะไรกันเลย ต่างเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เพราะความเป็นคนขี้รำคาญตามนิสัยคนไทย ดิฉันกลายมาเป็นคนชาตินิยมไปตั้งแต่เริ่มเข้าวัยกลางคน ทั้งที่อดีต เคยนิยมชาติอื่นอย่างมากมาย เพราะเขาให้สิทธิในการออกความเห็น แต่ไม่ใช่ว่าจะออกความเห็นได้อย่างเสรีที่เขาว่า เพราะกฏหมายเขาเอาจริง จะเที่ยวพูดสุ่มสี่สุ่มห้า หรืออารมณ์เมาไวน์พาไปก็ไม่ได้ จะต้องมี”ความรู้” จริง ต้องมีการเตรียมตัวพร้อมหลักฐานอ้างอิงที่เชื่อถือได้ ต้องคิดไตร่ตรองถ้วนถี่ เพราะไม่เช่นนั้น อาจกลายเป็น “ปากพาจน” ถึงจะมีสามีเป็นฝรั่งเศส...แต่ไม่เคยที่จะเอามาเป็น”ตัวอ้างอิง” ทางความคิดเห็น ความเชื่อของเขากับดิฉันนั้น ต่างกันคนละสาย แต่เราไม่ก้าวก่ายกัน เขาแปลกใจที่เห็นดิฉัน รักเคารพบูชา เจ้าเหนือแผ่นดิน ในขณะที่ชาวฝรั่งเศสเห็นว่า เหนือกว่าอำมาตย์และชนชั้นฐานันดรนั้นคือ tyranny (มีบรรจุไว้ในเพลงชาติ La Marseillaise) เขาพร่ำสอนกันมาหลายร้อยปี ก็คงจะเปลี่ยนกันยาก นักวิชาการบางพวก...อาจจะเห่อหรือเอาใจเมีย หรืออยากจะอวดว่าเป็นคนที่มีความคิดเห็นแบบตะวันตก...เลยกลายเป็นคนที่ผีเจาะปากมาพูด แต่ในครอบครัวดิฉัน...เรื่องนี้...เราไม่ก้าวล่วงในความเชื่อของกันและกัน วันก่อน... เห็นมีคนเอาข่าวของการเผาไร่ข้าวโพดกว่าพันเอเคอร์ในฮังการีมาลง...แต่นั้นมันเป็นเรื่องหลายปีมาแล้ว ตั้งแต่ปี 2011 ที่ชาวเกษตรอนุรักษ์นิยม ได้พบว่ามีเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด GMO หลงเข้ามา ซึ่งจะสร้างการแตกหน่อ ขยายแขนงไปจนเกิดโทษ จึงจัดการเผาผลผลิตทิ้งให้หมด ไม่ให้เหลือแม้แต่เกสรที่อาจปลิวไป ผสมพันธ์ที่อื่น... ฮังการีเปิดศึกกับบริษัทมอนซานโตในทุกทาง เท่านั้นไม่พอ...นายกรัฐมนตรี Viktor Orban ได้สั่งให้ มหาวิทยาลัย CEU (Central European University) ย้ายออกไปจากประเทศ ทั้งๆที่มหาวิทยาลัยนี้ เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในภาพพื้นยุโรปตะวันออก ที่สอนในหลักสูตรเดียวกับสหรัฐอเมริกา และ ปริญญาทุกใบ จะรับรองมาตรฐานโดยกระทรวงศึกษาธิการแห่งสหรัฐ CEU เป็นมหาวิทยาลัยอินเตอร์ สอนด้วยภาษาอังกฤษ ก่อตั้งในปี 1990 จากทุนทรัพย์ส่วนตัวของนายจอร์จ โซรอส ที่ทุ่มลงมากว่า 800 ล้านยูเอส เพื่อให้เป็นตักศิลาทางการเมืองที่ทันสมัยที่สุด ใหญ่ที่สุด จนได้รับตำแหน่งว่าเป็นยูหนึ่งในร้อยที่ดีที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในสิบสาม ที่เด่นทางรัฐศาสตร์ และ ทางกฏหมาย จากนั้นก็เพิ่มสาขาขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงการเงินและธุรกิจ ตามด้วยวิชาปรัชญาเพื่อรองรับกับนโยบายของ Open Society ที่เป็นที่เพาะพันธุ์ของเหล่า NGO ต่างๆ ฮังการีภายใต้การนำของนายออร์บัน ได้ระงับการต่อสัญญากับมหาวิทยาลัย พูดง่ายๆคือ ให้ย้ายออกไปจากประเทศโดยไม่แคร์ว่านักศึกษาจะเคว้ง หรือไม่มีที่จะเรียน โดยเห็นว่า ถ้าปล่อยให้ทุนโซรอสเข้ามาครอบงำประชาชนรุ่นใหม่ที่เป็นกำลังของประเทศ นั่นหมายถึงการล่มสลาย... ดังนั้นจึงเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม... วันที่ 3 ธันวาคม 2018 ที่ผ่านมา หลังจากที่การยื้อเวลาโดยใช้กลุ่ม อียูเข้ามาช่วยเจรจา หรือ ทางสหรัฐอเมริกาที่พยายามกดดันรัฐบาลทางการทูต....ไม่เป็นผลสำเร็จ ซ้ำร้าย....ฮังการีได้เปิดสงครามกับโซรอสโดยการปิดป้ายประจานไปทั่วเมืองนั้น... CEU ต้องถอยทัพ...ประกาศว่า จะย้ายมหาวิทยาลัยไปที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย... ผู้คนต่างก็ไม่พอใจ พากันเดินขบวนต่อต้านแบบมืดฟ้ามัวดิน เพราะการศึกษาคือเรื่องสำคัญต่ออนาคต แต่รัฐบาล....ต้องยอมให้ประชาชนก่นด่า ยอมให้ชาติต้องหยุดชะงัก ดีกว่าที่จะให้ เด็กฮังเกเรี่ยนมีหัวใจเป็นอเมริกัน มีสมองที่คิดแต่การเอาเปรียบ มีวิญญาณที่ซื้อได้ด้วยเงิน.... จากนั้น...รัฐบาลได้ออกกฏหมายให้เหล่า NGO ทุกคนให้มาขึ้นบัญชี ที่ต้องแสดงรายได้ตามความเป็นจริง และต้องระบุด้วยว่า รับมาจากที่ใด...เล่นเอาเหล่า NGO ผู้ที่แอบแฝงมาในคราบต่างๆเกิดอาการร้อนๆหนาวๆขึ้นมา เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน รัสเซียได้เขี่ยองค์กร ลํบหน้าปะจมูกพวกนี้ออกมาจนหมดสิ้น นี่ฮังการีก็เริ่มจะเขี่ยทิ้งอีก.... อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างฮังการีกับรัสเซียที่แน่นแฟ้นขึ้นทุกวัน จากเมื่อยี่สิบปีก่อน ที่นายออร์บันคือผู้ที่ต่อต้านรัสเซียอย่างชัดเจน แต่ทกอย่างเปลี่ยนไป เมื่อปูตินได้ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ดำเนินนโยบายแบบยอมหักแต่ไม่ยอมงอนั้น ทำให้เกิดความเลื่อมใส จนแทบจะเดินรอยตามในทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องผู้อพยพ...ที่เป็นชนวนให้ต้องมีการขับไล่กลุ่ม โซรอสออกไปให้พ้นๆ มิไยที่สหภาพยุโรปจะกดดัน หรือ ใช้มาตรการเข้ม...ก็ไม่เป็นผล ประโยชน์ของชาติต้องมาก่อน... แต่กลุ่มสหภาพยุโรปที่แสดงท่าทีแข็งกร้าวในเรื่องการปฏิเสธการรับผู้อพยพของกลุ่มประเทศ ฮังการี, สโลเวเนีย และโปแลนด์ นั้น เริ่มที่จะเสียงแตก เพราะกลุ่มขวาจัดในรัฐบาลอื่นๆ เช่น ฝรั่งเศส และ เยอรมัน ต่างแสดงความเห็นใจประเทศที่ต้องโดนยัดเยียดเหล่านี้... ส่วนทางรัสเซีย...ที่ขยันออกคลิปของการ”ต้อนรับ” ผู้หลบหนีเข้าเมืองแบบถึงลูกถึงคนนั้น ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับกลุ่มสิทธิมนุษยชนในสภายุโรป จนเรียกร้องให้การ”คว่ำบาตร” รัสเซียดำเนินต่อไป... ฝรั่งเศส...เมื่อตอนที่นายมาครงขึ้นมาดำรงตำแหน่งในปี 2017 เขาประกาศอย่างภาคภูมิใจว่า การรับและโอบอุ้มผู้อพยพคือการแสดงถึงความมีมนุษยธรรม... เวลาผ่านไปปีเศษเอง เขาเปลี่ยนไปแล้ว คราวนี้คือ การไม่ต้อนรับและไม่ได้พูดถึงเรื่องมนุษยธรรมอีกเลย ซ้ำกระโจมผู้อพยพที่ตั้งเรียงรายนับหมื่นคนที่ท่า Calais นั่น ที่หวังจะให้อังกฤษช่วยรับไปก็แห้วอีก...เพราะอังกฤษกำลังจะออกจากอียูอยู่รอมร่อ....เพราะเขาไม่ต้องการการยัดเยียดให้รับชาวต่างชาติอพยพ…… ทีนี้ก็ถึงคราวที่นายมาครงจะต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง จะกลืนน้ำลายตัวเองต่อไป หรือจะให้เสื้อกั๊กเหลืองเพิ่มจำนวนขึ้นทุกวัน นี่คือตัวอย่างของการแทรกแซงที่ดิฉันรู้สึกว่าน่ากลัว....เพราะเห็นหน้าตากัน เชื้อชาติเดียวกัน พูดจาภาษาเดียวกัน แต่...ไม่ใช่ว่าเขามีจิตวิญญาณรักชาติ รักแผ่นดินเหมือนเรา... อย่างฮังการีกับโซรอสนั่นไง....ที่มาทำท่าเป็นพ่อพระเพื่อช่วยส่งเสริมการศึกษา แจกทุน ตั้งองค์กรด้วยเงินจำนวนมหาศาล.... แต่ซ่อนมีดไว้ข้างหลัง.... ทั้งๆที่เขาและบรรพบุรุษของเขา.....เป็นฮังเกเรี่ยนแท้ๆ เขายังทำได้ลงคอ....!!! Wiwanda W. Vichit
    0 Comments 0 Shares 348 Views 0 Reviews
  • “ทักษิณ” ยกโมเดลยุคไทยรักไทย แก้น้ำท่วม..จัดงบพัฒนาระบบน้ำ-ขนผลผลิตที่ได้ชำระหนี้ แทนจัดงบทำโครงการย่อย เจรจาจีนคุมปล่อยน้ำลงแม่น้ำโขง แต่เฉพาะหน้า “นายกฯอิ๊งค์” บอกพร่องน้ำภาคกลางรอรับน้ำเหนือ ไม่ให้ซ้ำรอยยุค “นายกฯปู”แล้ว
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000079237
    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ทักษิณ” ยกโมเดลยุคไทยรักไทย แก้น้ำท่วม..จัดงบพัฒนาระบบน้ำ-ขนผลผลิตที่ได้ชำระหนี้ แทนจัดงบทำโครงการย่อย เจรจาจีนคุมปล่อยน้ำลงแม่น้ำโขง แต่เฉพาะหน้า “นายกฯอิ๊งค์” บอกพร่องน้ำภาคกลางรอรับน้ำเหนือ ไม่ให้ซ้ำรอยยุค “นายกฯปู”แล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000079237 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Like
    5
    2 Comments 0 Shares 2335 Views 0 Reviews
  • กล้วยแพงทั้งแผ่นดิน !
    21 สิงหาคม 2567-จากการสำรวจตลาดผลไม้ พบว่าราคากล้วยแพงมาก แม่ค้าขายกล้วย กล่าวว่า สาเหตุที่ ราคาปรับขึ้นอาจจะเป็นช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาอากาศแล้งจัด ทำให้กล้วยชาวสวนตายไปเยอะ ความต้องการเท่าเดิมแต่ผลผลิตน้อยลงทำให้ต้องมีการปรับราคาขึ้นจากเดิมเคยขายหวีละ 35 บาท ต้องขายในราคา 50-60 บาท

    "ราคากล้วยน้ำว้าไม่เคยแพงเท่านี้มาก่อนแพงที่สุดตั้งแต่เคยขายมา แต่ช่วงนี้กล้วยไทยก็เริ่มออกผลแล้วเพราะว่าฝนตกลงมา แต่ก็อีกหลายเดือนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ช่วงนี้ต้องใช้กล้วยจากประเทศเวียดนามไปก่อน ขายยากขึ้นเพราะว่าลูกค้าไม่ค่อยสู้ราคาลูกค้ามีบ่นบ้างแต่ก็อธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ".

    #Thaitimes
    กล้วยแพงทั้งแผ่นดิน ! 21 สิงหาคม 2567-จากการสำรวจตลาดผลไม้ พบว่าราคากล้วยแพงมาก แม่ค้าขายกล้วย กล่าวว่า สาเหตุที่ ราคาปรับขึ้นอาจจะเป็นช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาอากาศแล้งจัด ทำให้กล้วยชาวสวนตายไปเยอะ ความต้องการเท่าเดิมแต่ผลผลิตน้อยลงทำให้ต้องมีการปรับราคาขึ้นจากเดิมเคยขายหวีละ 35 บาท ต้องขายในราคา 50-60 บาท "ราคากล้วยน้ำว้าไม่เคยแพงเท่านี้มาก่อนแพงที่สุดตั้งแต่เคยขายมา แต่ช่วงนี้กล้วยไทยก็เริ่มออกผลแล้วเพราะว่าฝนตกลงมา แต่ก็อีกหลายเดือนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ช่วงนี้ต้องใช้กล้วยจากประเทศเวียดนามไปก่อน ขายยากขึ้นเพราะว่าลูกค้าไม่ค่อยสู้ราคาลูกค้ามีบ่นบ้างแต่ก็อธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ". #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 227 Views 1 Reviews
  • เวียดนามคาดส่งออก ‘ทุเรียน' ปี 2567 สูงแตะ 3,500 ล้านดอลล์
    .
    คณะผู้เชี่ยวชาญทางการเกษตรคาดการณ์ว่าการส่งออกทุเรียนของเวียดนามจะสูงถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.23 แสนล้านบาท) ในปี 2024 เนื่องด้วยสภาพเงื่อนไขต่างๆ เอื้ออำนวย
    .
    ดัง ฟุก เหงียน เลขานุการสมาคมผักและผลไม้แห่งเวียดนาม ระบุว่าเกษตรกรในกลุ่มจังหวัดสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง เช่น เตี่ยนยางและวินห์ลอง ได้เพิ่มการผลิตทุเรียนนอกฤดู ทำให้มีผลผลิตเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคมของปีนี้ โดยปัจจุบันพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนในภูมิภาคนี้ราวร้อยละ 50-60 กำลังมุ่งเน้นการผลิตนอกฤดู
    .
    รายงานเสริมว่าเวียดนามมีแนวโน้มส่งออกทุเรียนปริมาณมากจากภูมิภาคเซ็นทรัล ไฮแลนด์ส หรือที่ราบสูงตอนกลางของประเทศ ในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้
    .
    สำนักการผลิตพืชผลของกระทรวงฯ ระบุว่าปัจจุบันเวียดนามมีพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนราว 1.5 แสนเฮกตาร์ (ราว 9.37 แสนไร่) ซึ่งอยู่ในภูมิภาคเซ็นทรัล ไฮแลนด์ส มากกว่า 75,000 เฮกตาร์ (ราว 4.69 แสนไร่)
    .
    กระทรวงฯ เผยว่ารายได้จากการส่งออกทุเรียนของเวียดนามในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ราว 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6 หมื่นล้านบาท)
    เวียดนามคาดส่งออก ‘ทุเรียน' ปี 2567 สูงแตะ 3,500 ล้านดอลล์ . คณะผู้เชี่ยวชาญทางการเกษตรคาดการณ์ว่าการส่งออกทุเรียนของเวียดนามจะสูงถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.23 แสนล้านบาท) ในปี 2024 เนื่องด้วยสภาพเงื่อนไขต่างๆ เอื้ออำนวย . ดัง ฟุก เหงียน เลขานุการสมาคมผักและผลไม้แห่งเวียดนาม ระบุว่าเกษตรกรในกลุ่มจังหวัดสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง เช่น เตี่ยนยางและวินห์ลอง ได้เพิ่มการผลิตทุเรียนนอกฤดู ทำให้มีผลผลิตเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคมของปีนี้ โดยปัจจุบันพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนในภูมิภาคนี้ราวร้อยละ 50-60 กำลังมุ่งเน้นการผลิตนอกฤดู . รายงานเสริมว่าเวียดนามมีแนวโน้มส่งออกทุเรียนปริมาณมากจากภูมิภาคเซ็นทรัล ไฮแลนด์ส หรือที่ราบสูงตอนกลางของประเทศ ในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ . สำนักการผลิตพืชผลของกระทรวงฯ ระบุว่าปัจจุบันเวียดนามมีพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนราว 1.5 แสนเฮกตาร์ (ราว 9.37 แสนไร่) ซึ่งอยู่ในภูมิภาคเซ็นทรัล ไฮแลนด์ส มากกว่า 75,000 เฮกตาร์ (ราว 4.69 แสนไร่) . กระทรวงฯ เผยว่ารายได้จากการส่งออกทุเรียนของเวียดนามในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ราว 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6 หมื่นล้านบาท)
    Like
    Sad
    3
    0 Comments 0 Shares 342 Views 0 Reviews
  • สถานีฐาน 5G ในจีนพุ่ง เกือบ 4 ล้านแห่งครอบคลุมพื้นที่ 90% แล้ว
    .
    ซินหัว - เมื่อวันอังคาร (23 ก.ค.) กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนรายงานจำนวนสถานีฐาน 5G ในจีนรวมอยู่ที่เกือบ 3.92 ล้านแห่ง เมื่อนับถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเพิ่มขึ้น 540,000 แห่ง เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน และคิดเป็น 33% ของจำนวนสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดทั่วประเทศ
    .
    รายงานระบุว่าจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 5G ในจีนรวมอยู่ที่ 927 ล้านราย เมื่อนับถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเพิ่มขึ้น 105 ล้านราย เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน และคิดเป็น 52.4% ของจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งหมดของจีน ซึ่งรวมอยู่ที่เกือบ 1,780 ล้านเบอร์ เมื่อนับถึงสิ้นเดือนมิถุนายน
    .
    อนึ่ง กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจการสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน ได้แก่ ไชน่า เทเลคอม (China Telecom) ไชน่า โมบายล์ (China Mobile) ไชน่า ยูนิคอม (China Unicom) และไชน่า บรอดเน็ต (China Broadnet)
    .
    เครือข่าย 5G และการใช้งานเครือข่ายดังกล่าวในเชิงพาณิชย์ของจีนพัฒนาอย่างรวดเร็วตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันเครือข่าย 5G ของจีนครอบคลุมตำบลและเมืองทั่วประเทศ รวมถึงหมู่บ้านมากกว่า 90%
    .
    เทคโนโลยี 5G ได้บูรณาการเข้ากับหลายภาคธุรกิจ เช่น อุตสาหกรรม พลังงาน การทำเหมือง การดูแลสุขภาพ และการศึกษา ตั้งแต่จีนออกใบอนุญาตการใช้งานเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์ครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน พร้อมกับการส่งเสริมและการประยุกต์ใช้ขนานใหญ่
    .
    จีนยังก่อสร้างโรงงาน 5G จำนวน 300 แห่ง และดำเนินโครงการประยุกต์ใช้ 5G พลัสอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม มากกว่า 13,000 โครงการ โดยการใช้งานเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์กระตุ้นผลผลิตทางเศรษฐกิจโดยตรงในจีนราว 5.6 ล้านล้านหยวน (ราว 27.83 ล้านล้านบาท) ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
    .
    ทั้งนี้ จีนจะยังคงเดินหน้าพัฒนา 5G และขยายความครอบคลุมของเครือข่าย 5G สู่สถานที่ต่างๆ เช่น แหล่งวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สถานดูแลสุขภาพ มหาวิทยาลัย ศูนย์กลางการขนส่ง และระบบรถไฟใต้ดิน
    สถานีฐาน 5G ในจีนพุ่ง เกือบ 4 ล้านแห่งครอบคลุมพื้นที่ 90% แล้ว . ซินหัว - เมื่อวันอังคาร (23 ก.ค.) กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนรายงานจำนวนสถานีฐาน 5G ในจีนรวมอยู่ที่เกือบ 3.92 ล้านแห่ง เมื่อนับถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเพิ่มขึ้น 540,000 แห่ง เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน และคิดเป็น 33% ของจำนวนสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดทั่วประเทศ . รายงานระบุว่าจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 5G ในจีนรวมอยู่ที่ 927 ล้านราย เมื่อนับถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเพิ่มขึ้น 105 ล้านราย เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน และคิดเป็น 52.4% ของจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งหมดของจีน ซึ่งรวมอยู่ที่เกือบ 1,780 ล้านเบอร์ เมื่อนับถึงสิ้นเดือนมิถุนายน . อนึ่ง กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจการสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน ได้แก่ ไชน่า เทเลคอม (China Telecom) ไชน่า โมบายล์ (China Mobile) ไชน่า ยูนิคอม (China Unicom) และไชน่า บรอดเน็ต (China Broadnet) . เครือข่าย 5G และการใช้งานเครือข่ายดังกล่าวในเชิงพาณิชย์ของจีนพัฒนาอย่างรวดเร็วตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันเครือข่าย 5G ของจีนครอบคลุมตำบลและเมืองทั่วประเทศ รวมถึงหมู่บ้านมากกว่า 90% . เทคโนโลยี 5G ได้บูรณาการเข้ากับหลายภาคธุรกิจ เช่น อุตสาหกรรม พลังงาน การทำเหมือง การดูแลสุขภาพ และการศึกษา ตั้งแต่จีนออกใบอนุญาตการใช้งานเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์ครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน พร้อมกับการส่งเสริมและการประยุกต์ใช้ขนานใหญ่ . จีนยังก่อสร้างโรงงาน 5G จำนวน 300 แห่ง และดำเนินโครงการประยุกต์ใช้ 5G พลัสอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม มากกว่า 13,000 โครงการ โดยการใช้งานเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์กระตุ้นผลผลิตทางเศรษฐกิจโดยตรงในจีนราว 5.6 ล้านล้านหยวน (ราว 27.83 ล้านล้านบาท) ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา . ทั้งนี้ จีนจะยังคงเดินหน้าพัฒนา 5G และขยายความครอบคลุมของเครือข่าย 5G สู่สถานที่ต่างๆ เช่น แหล่งวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สถานดูแลสุขภาพ มหาวิทยาลัย ศูนย์กลางการขนส่ง และระบบรถไฟใต้ดิน
    Like
    8
    0 Comments 1 Shares 413 Views 0 Reviews
  • #เรื่องจริงไม่ใช่นิยายทุเรียนจีน
    จีนซุ่มวิจัยพัฒนาสายพันธุ์ทุเรียนไทย
    นำไปปลูกที่ไหหลำ พื้นที่มหาศาล
    บนภูเขาเป็นลูกๆ ชนิดสุดลูกหูลูกตา
    จากวันนั้นถึงวันนี้ ได้เวลาเก็บเกี่ยว
    เนื้อนวล หอม จากข้อมูลที่ได้รับ
    ยืนยันว่า กระทบกับตลาดทุเรียนแน่นอน
    อย่ามั่นใจว่าใครก็สู้เราไม่ได้ เพราะทุเรียนไทยอร่อยสุด
    ต้องไม่ลืมว่า จีนไม่ได้แค่นำเมล็ดไปปลูก
    แต่คือผลผลิตที่ได้จากการวิจัยและนักพัฒนา
    รวมถึงงบลงทุนจำนวนมหาศาล
    ข่าวดีคือ เราจะได้กินทุเรียนจีนราคาถูกมาๆ
    ตัดราคาจนชาวสวนอยู่ไม่ได้
    และเมื่อผูกขาดได้ ก็ดันราคาสูงลิ่วตามสเต็ป
    และจะมีการนำเข้าทุเรียนจากจีน
    มาพักเพื่อแปลงร่างเป็นทุเรียนสัญชาติไทย
    และส่งขายในยุโรป ที่กีดกันการค้าจีน
    และชอบผลไม้ไทย ย้อมสีเรียบร้อย
    ส่วนจุดรับซื้อทุเรียนทั่วประเทศก็ไม่ต้องห่วง
    รับซื้อทำไมของคนไทย ในเมื่อจีนก็ซื้อรอไว้หมดแล้ว
    แค่เอาไว้ย้อมสีทุเรียนจีนที่จะส่งมาก็พอ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ทุเรียน
    #ทุเรียนจีน
    #เรื่องจริงไม่ใช่นิยายทุเรียนจีน จีนซุ่มวิจัยพัฒนาสายพันธุ์ทุเรียนไทย นำไปปลูกที่ไหหลำ พื้นที่มหาศาล บนภูเขาเป็นลูกๆ ชนิดสุดลูกหูลูกตา จากวันนั้นถึงวันนี้ ได้เวลาเก็บเกี่ยว เนื้อนวล หอม จากข้อมูลที่ได้รับ ยืนยันว่า กระทบกับตลาดทุเรียนแน่นอน อย่ามั่นใจว่าใครก็สู้เราไม่ได้ เพราะทุเรียนไทยอร่อยสุด ต้องไม่ลืมว่า จีนไม่ได้แค่นำเมล็ดไปปลูก แต่คือผลผลิตที่ได้จากการวิจัยและนักพัฒนา รวมถึงงบลงทุนจำนวนมหาศาล ข่าวดีคือ เราจะได้กินทุเรียนจีนราคาถูกมาๆ ตัดราคาจนชาวสวนอยู่ไม่ได้ และเมื่อผูกขาดได้ ก็ดันราคาสูงลิ่วตามสเต็ป และจะมีการนำเข้าทุเรียนจากจีน มาพักเพื่อแปลงร่างเป็นทุเรียนสัญชาติไทย และส่งขายในยุโรป ที่กีดกันการค้าจีน และชอบผลไม้ไทย ย้อมสีเรียบร้อย ส่วนจุดรับซื้อทุเรียนทั่วประเทศก็ไม่ต้องห่วง รับซื้อทำไมของคนไทย ในเมื่อจีนก็ซื้อรอไว้หมดแล้ว แค่เอาไว้ย้อมสีทุเรียนจีนที่จะส่งมาก็พอ #คิงส์โพธิ์แดง #ทุเรียน #ทุเรียนจีน
    Sad
    2
    0 Comments 1 Shares 308 Views 0 Reviews
  • เทยก้าวกีไม่ทน แนะให้สอนเหล็กๆให้เป็นเทยตั้งแต่อนุบาล
    พร้อมอวยยศให้คนที่ต่อต้าน ให้เทยเข้าห้องน้ำปนกับหญิง
    เค้าบอกว่าเป็น kวาย ว่างั้น
    ผลผลิตก้าวไกล
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เทยก้าวกีไม่ทน แนะให้สอนเหล็กๆให้เป็นเทยตั้งแต่อนุบาล พร้อมอวยยศให้คนที่ต่อต้าน ให้เทยเข้าห้องน้ำปนกับหญิง เค้าบอกว่าเป็น kวาย ว่างั้น ผลผลิตก้าวไกล #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 132 Views 0 Reviews
  • เอลทำลายความสามารถในการเลี้ยงตัวเองของกาซ่าได้อย่างไร
    เมื่อเริ่มต้นฤดูร้อน ทุ่งนาของกาซ่ามักจะอุดมด้วยพืชผลและผลไม้หลากสีสัน
    แต่เมื่อผ่านไปเกือบเก้าเดือนในการทำสงครามในกาซาของเอล ผลผลิตอันอุดมสมบูรณ์ของดินแดนแห่งนี้กลับต้องพบกับหายนะและวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้าย
    รายงานของ UN ระบุว่าประชากรของกาซา 96 เปอร์เซ็นต์ขาดแคลนอาหาร และชาวปาเลส 1 ใน 5 หรือประมาณ 495,000 คน กำลังเผชิญกับภาวะอดอาหาร
    ภาพถ่ายดาวเทียมที่วิเคราะห์โดยทีมสืบสวนดิจิทัลของอัลยาซีราอย่างซานาด แสดงให้เห็นว่าพื้นที่เกษตรกรรมของกาซาซึ่งมีความสำคัญต่อการเลี้ยงดูประชากรที่หิวโหยในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามมากกว่าครึ่งหนึ่ง (60 เปอร์เซ็นต์) ได้รับความเสียหายหรือถูกทำลายจากการโจมตีของเอล
    .
    #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #พื้นที่เพาะปลูก #พื้นที่เพาะปลูกที่ถูกทำลาย
    #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง
    -------------------------------
    สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t

    เอลทำลายความสามารถในการเลี้ยงตัวเองของกาซ่าได้อย่างไร เมื่อเริ่มต้นฤดูร้อน ทุ่งนาของกาซ่ามักจะอุดมด้วยพืชผลและผลไม้หลากสีสัน แต่เมื่อผ่านไปเกือบเก้าเดือนในการทำสงครามในกาซาของเอล ผลผลิตอันอุดมสมบูรณ์ของดินแดนแห่งนี้กลับต้องพบกับหายนะและวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้าย รายงานของ UN ระบุว่าประชากรของกาซา 96 เปอร์เซ็นต์ขาดแคลนอาหาร และชาวปาเลส 1 ใน 5 หรือประมาณ 495,000 คน กำลังเผชิญกับภาวะอดอาหาร ภาพถ่ายดาวเทียมที่วิเคราะห์โดยทีมสืบสวนดิจิทัลของอัลยาซีราอย่างซานาด แสดงให้เห็นว่าพื้นที่เกษตรกรรมของกาซาซึ่งมีความสำคัญต่อการเลี้ยงดูประชากรที่หิวโหยในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามมากกว่าครึ่งหนึ่ง (60 เปอร์เซ็นต์) ได้รับความเสียหายหรือถูกทำลายจากการโจมตีของเอล . #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #พื้นที่เพาะปลูก #พื้นที่เพาะปลูกที่ถูกทำลาย #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง ------------------------------- สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    0 Comments 0 Shares 397 Views 0 Reviews
  • อีกหนึ่งผลผลิตอันน่าภาคภูมิใจของก้าวไกล
    คอนเฟิร์มปากดี หนีไวอีกตัว
    ก็ว่าอยู่ แผ่นดินไทย ทำไมรู้สึกสูงขึ้นทันตา
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ผลผลิตก้าวไกล
    #รุ้ง
    #แผ่นดินสูงขึ้น
    อีกหนึ่งผลผลิตอันน่าภาคภูมิใจของก้าวไกล คอนเฟิร์มปากดี หนีไวอีกตัว ก็ว่าอยู่ แผ่นดินไทย ทำไมรู้สึกสูงขึ้นทันตา #คิงส์โพธิ์แดง #ผลผลิตก้าวไกล #รุ้ง #แผ่นดินสูงขึ้น
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
  • อ้อนวอนศาล อ้างว่าอยากเรียน
    ศาลท่านก็เมตตา
    แต่ออกมาปุ๊บ หนีไวมาก
    นี่แหละ ผลผลิตก้าวไกล
    สุดท้าย ไม่ตรุย ก็หนี คุ้มมั๊ย ไอ่กวิ้น
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #เผ่นแน่บ
    #หนีวิ่งไวมาก
    #ผลผลิต
    อ้อนวอนศาล อ้างว่าอยากเรียน ศาลท่านก็เมตตา แต่ออกมาปุ๊บ หนีไวมาก นี่แหละ ผลผลิตก้าวไกล สุดท้าย ไม่ตรุย ก็หนี คุ้มมั๊ย ไอ่กวิ้น #คิงส์โพธิ์แดง #เผ่นแน่บ #หนีวิ่งไวมาก #ผลผลิต
    0 Comments 0 Shares 207 Views 0 Reviews
  • เสรีภาพที่เลยเถิด จนกลายเป็นความเห็นแก่ตัว
    ผลผลิตที่น่าอดสู ที่ก้าวกามผลิตไว้เต็มบ้านเมือง
    ลัทธิส้งทรีน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ไฮโซปิง
    #นอนแผ่ร้องแอ๊
    #ผลผลิต
    เสรีภาพที่เลยเถิด จนกลายเป็นความเห็นแก่ตัว ผลผลิตที่น่าอดสู ที่ก้าวกามผลิตไว้เต็มบ้านเมือง ลัทธิส้งทรีน #คิงส์โพธิ์แดง #ไฮโซปิง #นอนแผ่ร้องแอ๊ #ผลผลิต
    0 Comments 0 Shares 220 Views 0 Reviews
  • โลกร้อน-เดือด ไข่ไก่แพง ทองคำพุ่ง

    ยุคข้าวหมากแพงอะไรต่อมิอะไรก็จะดูแพงไปเสียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาราคาไข่ไก่ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวของประชาชนทั่วไปมากที่สุด ไปจนถึงทองแพงที่อาจเป็นปัญหาของคนจำนวนหนึ่งเท่านั้น

    เริ่มกันที่ราคาไข่ไก่ เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ 4 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จำกัด, สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี จำกัด, สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน จำกัด และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย จำกัด ได้ออกประกาศราคาแนะนำไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเกษตรกร วันที่ 17 เม.ย. 2567 อยู่ที่ฟองละ 3.60 บาท

    การประกาศเช่นนี้ทำให้ราคาไข่ไก่ปรับขึ้นแผงละ 6 บาท โดยข้อมูลจากสมาคมการค้าผู้ค้าไข่ไทย พบว่า ราคาไข่ไก่ขายส่ง เบอร์ 0 ราคา 4.40 บาทต่อฟอง, ไข่ไก่เบอร์ 1 ราคา 4.20 บาทต่อฟอง, ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคา 4 บาทต่อฟอง ส่วนราคาขายปลีก ราคาไข่ไก่ขายส่ง เบอร์ 0 ราคา 5 บาทต่อฟอง, ไข่ไก่เบอร์ 1 ราคา 4.70 บาทต่อฟอง ,ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคา 4.40 บาทต่อฟอง

    สำหรับสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาไข่พุ่งสูงขึ้นมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดมากกว่าทุกปี จนส่งผลให้แม่ไก่ออกไข่ลดลง ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการที่เลี้ยงไก่แบบเล้าเปิดไม่อาจควบคุมอุณหภูมิได้ จึงเป็นเหตุให้ปริมาณผลผลิตลดลง

    สลับมากันที่ราคาทอง ซึ่งด้านหนึ่งอาจเป็นโอกาสของนักเก็งกำไร โดยตลอดเมื่อวันที่ 16 เมษายน มีการปรับขึ้นลงของราคารวมทั้งหมด 10 ครั้ง ทองคำแท่ง รับซื้อ 41,100 บาท ขายออก 41,200. บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 40,355 ขายออก 41,700 เท่ากับว่าตลอดเดือนเมษายนราคาทองคำปรับขึ้นแล้วรวม 2,650 บาท

    ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง คือ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และความผันผวนของเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา
    โลกร้อน-เดือด ไข่ไก่แพง ทองคำพุ่ง ยุคข้าวหมากแพงอะไรต่อมิอะไรก็จะดูแพงไปเสียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาราคาไข่ไก่ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวของประชาชนทั่วไปมากที่สุด ไปจนถึงทองแพงที่อาจเป็นปัญหาของคนจำนวนหนึ่งเท่านั้น เริ่มกันที่ราคาไข่ไก่ เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ 4 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จำกัด, สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี จำกัด, สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน จำกัด และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย จำกัด ได้ออกประกาศราคาแนะนำไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเกษตรกร วันที่ 17 เม.ย. 2567 อยู่ที่ฟองละ 3.60 บาท การประกาศเช่นนี้ทำให้ราคาไข่ไก่ปรับขึ้นแผงละ 6 บาท โดยข้อมูลจากสมาคมการค้าผู้ค้าไข่ไทย พบว่า ราคาไข่ไก่ขายส่ง เบอร์ 0 ราคา 4.40 บาทต่อฟอง, ไข่ไก่เบอร์ 1 ราคา 4.20 บาทต่อฟอง, ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคา 4 บาทต่อฟอง ส่วนราคาขายปลีก ราคาไข่ไก่ขายส่ง เบอร์ 0 ราคา 5 บาทต่อฟอง, ไข่ไก่เบอร์ 1 ราคา 4.70 บาทต่อฟอง ,ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคา 4.40 บาทต่อฟอง สำหรับสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาไข่พุ่งสูงขึ้นมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดมากกว่าทุกปี จนส่งผลให้แม่ไก่ออกไข่ลดลง ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการที่เลี้ยงไก่แบบเล้าเปิดไม่อาจควบคุมอุณหภูมิได้ จึงเป็นเหตุให้ปริมาณผลผลิตลดลง สลับมากันที่ราคาทอง ซึ่งด้านหนึ่งอาจเป็นโอกาสของนักเก็งกำไร โดยตลอดเมื่อวันที่ 16 เมษายน มีการปรับขึ้นลงของราคารวมทั้งหมด 10 ครั้ง ทองคำแท่ง รับซื้อ 41,100 บาท ขายออก 41,200. บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 40,355 ขายออก 41,700 เท่ากับว่าตลอดเดือนเมษายนราคาทองคำปรับขึ้นแล้วรวม 2,650 บาท ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง คือ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และความผันผวนของเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 1122 Views 0 Reviews