• นายอำเภอเมืองลพบุรี เยี่ยมร้านที่จำหน่ายกระท้อน แปรรูป
    เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว เทศกาลงานกระท้อน ประจำปี 68 ปีนี้จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี

    ////////////////////

    นายอำเภอเมืองลพบุรีเป็นห่วงแม่ค้า ลุยเยี่ยม
    แม่ค้าขายกระท้อน ในบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี
    เป็นสถานที่จัดงานกระท้อนหวาน
    ประจำปี 68 ระหว่าง 21 มิย.-2 กค.68

    เมื่อเวลา 08.00 น
    ในวันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568
    นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี
    เยี่ยมแม่ค้าขายกระท้อนที่เป็นผลและแปรรูปแล้ว เพื่อให้เกิดขวัญกำลังใจและเป็นแนวทางในการประชาสัมพันธ์เทศกาลงานกระท้อนหวาน ประจำปี 68 ระหว่าง 21 มิย.-2 กค.68
    ณ สนามหน้า
    ที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี

    นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ได้ไปเยี่ยมร้านที่จำหน่ายกระท้อน มีชาวสวนนำมาจำหน่าย พร้อมทั้งมอบธงให้เป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นอาหารปลอดภัยและเป็นกระท้อนที่มาจากสวนโดยตรง
    สำหรับการจัดงานเทศกาลกระท้อนหวานและของดีเมืองลพบุรีในครั้งนี้ ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย

    นอกจากนี้ มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระท้อนหวานเมืองลพบุรี การแปรรูปกระท้อน การแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP จังหวัดลพบุรี การจัดแสดงพันธุ์ไม้ และสินค้าของดีเมืองลพบุรีอีกมากมายมาจำหน่ายให้แก่ประชาชนเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรี อีกด้วย

    โดยนายอำเภอเมืองลพบุรี
    กล่าวว่า “กระท้อนตะลุง” อำเภอเมืองลพบุรี เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง ได้รับความนิยมจากตลาดมากขึ้นทุกปี ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดี สิ่งสำคัญมาจากการจัดงานเพื่อเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ผลผลิตของกระท้อน ทำให้กระท้อนลพบุรีเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอย่างแพร่หลาย สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมงาน และจับจ่ายซื้อหาสินค้าต่างๆ ภายในงานได้อย่างครบครัน สิ่งสำคัญที่อยากจะฝากและขอความร่วมมือ พี่น้องเกษตรกรคือ เรื่องคุณภาพกระท้อน ความปลอดภัยของผู้บริโภค และไม่เอารัดเอาเปรียบผู้ซื้อ ให้คิดเสมอว่า ผู้ผลิตอยู่รอด ผู้บริโภคปลอดภัยจากการบริโภค ผลผลิตไร้สารเคมีต่างๆ และส่งเสริมการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าให้มากขึ้น

    รวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดูโดดเด่น น่าซื้อหา เป็นการเพิ่มมูลค่าอีกทางหนึ่งด้วย ที่สำคัญ “กระท้อนตะลุง” ถือได้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจท้องถิ่นของจังหวัดลพบุรี ซึ่งจังหวัดลพบุรี ได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของประเทศไทย โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ขึ้นทะเบียนกระท้อนตะลุง เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือสินค้า GI แล้ว เพื่อเป็นการคุ้มครองและรักษาชื่อเสียงให้กระท้อนตะลุง ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อกระท้อนตะลุงที่มีคุณภาพได้ง่าย และมั่นใจยิ่งขึ้นอีกด้วย
    นายอำเภอเมืองลพบุรี เยี่ยมร้านที่จำหน่ายกระท้อน แปรรูป เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว เทศกาลงานกระท้อน ประจำปี 68 ปีนี้จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี //////////////////// นายอำเภอเมืองลพบุรีเป็นห่วงแม่ค้า ลุยเยี่ยม แม่ค้าขายกระท้อน ในบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี เป็นสถานที่จัดงานกระท้อนหวาน ประจำปี 68 ระหว่าง 21 มิย.-2 กค.68 เมื่อเวลา 08.00 น ในวันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568 นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี เยี่ยมแม่ค้าขายกระท้อนที่เป็นผลและแปรรูปแล้ว เพื่อให้เกิดขวัญกำลังใจและเป็นแนวทางในการประชาสัมพันธ์เทศกาลงานกระท้อนหวาน ประจำปี 68 ระหว่าง 21 มิย.-2 กค.68 ณ สนามหน้า ที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ได้ไปเยี่ยมร้านที่จำหน่ายกระท้อน มีชาวสวนนำมาจำหน่าย พร้อมทั้งมอบธงให้เป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นอาหารปลอดภัยและเป็นกระท้อนที่มาจากสวนโดยตรง สำหรับการจัดงานเทศกาลกระท้อนหวานและของดีเมืองลพบุรีในครั้งนี้ ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระท้อนหวานเมืองลพบุรี การแปรรูปกระท้อน การแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP จังหวัดลพบุรี การจัดแสดงพันธุ์ไม้ และสินค้าของดีเมืองลพบุรีอีกมากมายมาจำหน่ายให้แก่ประชาชนเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรี อีกด้วย โดยนายอำเภอเมืองลพบุรี กล่าวว่า “กระท้อนตะลุง” อำเภอเมืองลพบุรี เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง ได้รับความนิยมจากตลาดมากขึ้นทุกปี ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดี สิ่งสำคัญมาจากการจัดงานเพื่อเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ผลผลิตของกระท้อน ทำให้กระท้อนลพบุรีเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอย่างแพร่หลาย สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมงาน และจับจ่ายซื้อหาสินค้าต่างๆ ภายในงานได้อย่างครบครัน สิ่งสำคัญที่อยากจะฝากและขอความร่วมมือ พี่น้องเกษตรกรคือ เรื่องคุณภาพกระท้อน ความปลอดภัยของผู้บริโภค และไม่เอารัดเอาเปรียบผู้ซื้อ ให้คิดเสมอว่า ผู้ผลิตอยู่รอด ผู้บริโภคปลอดภัยจากการบริโภค ผลผลิตไร้สารเคมีต่างๆ และส่งเสริมการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าให้มากขึ้น รวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดูโดดเด่น น่าซื้อหา เป็นการเพิ่มมูลค่าอีกทางหนึ่งด้วย ที่สำคัญ “กระท้อนตะลุง” ถือได้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจท้องถิ่นของจังหวัดลพบุรี ซึ่งจังหวัดลพบุรี ได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของประเทศไทย โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ขึ้นทะเบียนกระท้อนตะลุง เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือสินค้า GI แล้ว เพื่อเป็นการคุ้มครองและรักษาชื่อเสียงให้กระท้อนตะลุง ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อกระท้อนตะลุงที่มีคุณภาพได้ง่าย และมั่นใจยิ่งขึ้นอีกด้วย
    0 Comments 0 Shares 154 Views 8 0 Reviews
  • Google จับมือ TSMC ผลิตชิป Tensor G5 บนกระบวนการ 3nm

    Google กำลังเปลี่ยนพันธมิตรด้านการผลิตชิปจาก Samsung ไปเป็น TSMC โดยมีรายงานว่า ผู้บริหารของ Google ได้เดินทางไปไต้หวันเพื่อเจรจาข้อตกลงที่อาจมีระยะเวลานานถึง 5 ปี ซึ่งจะเริ่มต้นด้วย Tensor G5 ที่ผลิตบนกระบวนการ 3nm

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง Google และ TSMC
    ✅ Tensor G4 จะเป็นชิปสุดท้ายที่ผลิตโดย Samsung ก่อนที่ Google จะเปลี่ยนไปใช้ TSMC
    - คาดว่า Pixel 10 จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ Tensor G5

    ✅ TSMC มีความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีเหนือ Samsung โดยเฉพาะในกระบวนการผลิต 3nm
    - Samsung ยังคงมีปัญหาเรื่องอัตราผลผลิต (yield) ในกระบวนการ 3nm GAA

    ✅ Google อาจใช้ชิป Tensor ที่ผลิตโดย TSMC ไปจนถึง Pixel 14
    - ทำให้ สามารถแข่งขันกับ Apple, Qualcomm และ MediaTek ได้ดีขึ้น

    ✅ TSMC เริ่มรับคำสั่งผลิตเวเฟอร์ 2nm แล้ว ซึ่งทำให้บริษัทมีความได้เปรียบในตลาดเซมิคอนดักเตอร์
    - คาดว่า บริษัทต่าง ๆ จะเริ่มใช้กระบวนการ 2nm ในปี 2026

    ✅ แม้ว่า Tensor G5 จะใช้กระบวนการ 3nm รุ่นที่สอง แต่สามารถปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคู่แข่งที่ใช้ 3nm รุ่นที่สาม
    - ช่วยให้ Google สามารถแข่งขันด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงานได้ดีขึ้น

    https://wccftech.com/google-partnership-with-tsmc-for-making-pixel-smartphone-chips-lasting-5-years/
    Google จับมือ TSMC ผลิตชิป Tensor G5 บนกระบวนการ 3nm Google กำลังเปลี่ยนพันธมิตรด้านการผลิตชิปจาก Samsung ไปเป็น TSMC โดยมีรายงานว่า ผู้บริหารของ Google ได้เดินทางไปไต้หวันเพื่อเจรจาข้อตกลงที่อาจมีระยะเวลานานถึง 5 ปี ซึ่งจะเริ่มต้นด้วย Tensor G5 ที่ผลิตบนกระบวนการ 3nm 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง Google และ TSMC ✅ Tensor G4 จะเป็นชิปสุดท้ายที่ผลิตโดย Samsung ก่อนที่ Google จะเปลี่ยนไปใช้ TSMC - คาดว่า Pixel 10 จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ Tensor G5 ✅ TSMC มีความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีเหนือ Samsung โดยเฉพาะในกระบวนการผลิต 3nm - Samsung ยังคงมีปัญหาเรื่องอัตราผลผลิต (yield) ในกระบวนการ 3nm GAA ✅ Google อาจใช้ชิป Tensor ที่ผลิตโดย TSMC ไปจนถึง Pixel 14 - ทำให้ สามารถแข่งขันกับ Apple, Qualcomm และ MediaTek ได้ดีขึ้น ✅ TSMC เริ่มรับคำสั่งผลิตเวเฟอร์ 2nm แล้ว ซึ่งทำให้บริษัทมีความได้เปรียบในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ - คาดว่า บริษัทต่าง ๆ จะเริ่มใช้กระบวนการ 2nm ในปี 2026 ✅ แม้ว่า Tensor G5 จะใช้กระบวนการ 3nm รุ่นที่สอง แต่สามารถปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคู่แข่งที่ใช้ 3nm รุ่นที่สาม - ช่วยให้ Google สามารถแข่งขันด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงานได้ดีขึ้น https://wccftech.com/google-partnership-with-tsmc-for-making-pixel-smartphone-chips-lasting-5-years/
    WCCFTECH.COM
    Google Executives Reportedly Visited TSMC To Secure A Chipset Deal For Pixel Smartphones; Partnership May Last An Estimated Five Years, With The Tensor G5 Being The Company’s First 3nm SoC
    A report claims that Google executives recently visited Taiwan to form a partnership for up to 5 years in making Pixel smartphone chipsets
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • 2568 ปีแห่งวิกฤตข้าวแพงในญี่ปุ่น
    .
    ตั้งแต่ปีที่แล้ว ปี 2567 เป็นต้นมา ทำไมราคาข้าวในญี่ปุ่นถึงได้แพงขึ้นอย่างมาก?
    .
    จากข้อมูลที่มีการเปิดเผยออกมา ก็สาเหตุมีหลายประการ ทั้งเรื่องอากาศที่ร้อนผิดปกติ ทำให้ผลผลิตข้าวน้อยลง, ต้นทุนการผลิต ค่าแรง ค่าปุ๋ย ค่าน้ำ ค่าไฟ แพงขึ้น นอกจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากการที่ชาวนาญี่ปุ่นจำนวนมากเลิกปลูกข้าว เพราะไม่มีคนมาสานต่อกิจการ มีแต่ผู้สูงอายุ และคนรุ่นใหม่ก็ไม่อยากจะ “หลังขดหลังแข็ง” ทำนาอีกต่อไปครับ
    .
    นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากเป็นประวัติการณ์ ทำให้อาหารญี่ปุ่นขายดิบขายดีไปด้วย ความต้องการข้าวจึงมีมากกว่าปริมาณข้าวที่ผลิตได้ เรียกได้ว่า อุปสงค์มากกว่าอุปทาน
    .
    คลิกชม >> https://vt.tiktok.com/ZShvcggEM/
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #วิกฤตข้าวแพงในญี่ปุ่น #ข้าวญี่ปุ่น #วิกฤตข้าวแห่งสมัยเรวะ
    2568 ปีแห่งวิกฤตข้าวแพงในญี่ปุ่น . ตั้งแต่ปีที่แล้ว ปี 2567 เป็นต้นมา ทำไมราคาข้าวในญี่ปุ่นถึงได้แพงขึ้นอย่างมาก? . จากข้อมูลที่มีการเปิดเผยออกมา ก็สาเหตุมีหลายประการ ทั้งเรื่องอากาศที่ร้อนผิดปกติ ทำให้ผลผลิตข้าวน้อยลง, ต้นทุนการผลิต ค่าแรง ค่าปุ๋ย ค่าน้ำ ค่าไฟ แพงขึ้น นอกจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากการที่ชาวนาญี่ปุ่นจำนวนมากเลิกปลูกข้าว เพราะไม่มีคนมาสานต่อกิจการ มีแต่ผู้สูงอายุ และคนรุ่นใหม่ก็ไม่อยากจะ “หลังขดหลังแข็ง” ทำนาอีกต่อไปครับ . นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากเป็นประวัติการณ์ ทำให้อาหารญี่ปุ่นขายดิบขายดีไปด้วย ความต้องการข้าวจึงมีมากกว่าปริมาณข้าวที่ผลิตได้ เรียกได้ว่า อุปสงค์มากกว่าอุปทาน . คลิกชม >> https://vt.tiktok.com/ZShvcggEM/ . #บูรพาไม่แพ้ #วิกฤตข้าวแพงในญี่ปุ่น #ข้าวญี่ปุ่น #วิกฤตข้าวแห่งสมัยเรวะ
    @thedongfangbubai

    2568 ปีแห่งวิกฤตข้าวแพงในญี่ปุ่น . ตั้งแต่ปีที่แล้ว ปี 2567 เป็นต้นมา ทำไมราคาข้าวในญี่ปุ่นถึงได้แพงขึ้นอย่างมาก? . จากข้อมูลที่มีการเปิดเผยออกมา ก็สาเหตุมีหลายประการ ทั้งเรื่องอากาศที่ร้อนผิดปกติ ทำให้ผลผลิตข้าวน้อยลง, ต้นทุนการผลิต ค่าแรง ค่าปุ๋ย ค่าน้ำ ค่าไฟ แพงขึ้น นอกจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากการที่ชาวนาญี่ปุ่นจำนวนมากเลิกปลูกข้าว เพราะไม่มีคนมาสานต่อกิจการ มีแต่ผู้สูงอายุ และคนรุ่นใหม่ก็ไม่อยากจะ “หลังขดหลังแข็ง” ทำนาอีกต่อไปครับ . นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากเป็นประวัติการณ์ ทำให้อาหารญี่ปุ่นขายดิบขายดีไปด้วย ความต้องการข้าวจึงมีมากกว่าปริมาณข้าวที่ผลิตได้ เรียกได้ว่า อุปสงค์มากกว่าอุปทาน . . #บูรพาไม่แพ้ #วิกฤตข้าวแพงในญี่ปุ่น #ข้าวญี่ปุ่น #วิกฤตข้าวแห่งสมัยเรวะ

    ♬ original sound - บูรพาไม่แพ้ - บูรพาไม่แพ้
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 258 Views 0 Reviews
  • คำให้การแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่แหงหนึ่ง และบริษัทจัดหาเนื้อเยื่อยอมรับว่าทารกเกิดมามีชีวิตหรือมีสัญญาณของการมีชีวิต เช่น หัวใจเต้น หลังจากออกจากแม่ระหว่างการทำแท้ง
    Perrin Larton ผู้จัดการฝ่ายจัดหาเนื้อเยื่อ Advanced Biosciences Resources (ABR) ยอมรับภายใต้คำสาบานว่าทราบเรื่องทารกในครรภ์ออกจากแม่ ซึ่งบางครั้ง "ไม่พิการ" หรือมีช่องท้องปิด "มี -- ฉันมองเห็นหัวใจที่อยู่ใน -- ไม่ใช่ใน POC [ผลผลิตจากการปฏิสนธิ] ที่ยังไม่พิการ ซึ่งเต้นอยู่โดยอิสระ แต่ไม่ได้ยึดติดกับสิ่งใด"
    คำให้การแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่แหงหนึ่ง และบริษัทจัดหาเนื้อเยื่อยอมรับว่าทารกเกิดมามีชีวิตหรือมีสัญญาณของการมีชีวิต เช่น หัวใจเต้น หลังจากออกจากแม่ระหว่างการทำแท้ง Perrin Larton ผู้จัดการฝ่ายจัดหาเนื้อเยื่อ Advanced Biosciences Resources (ABR) ยอมรับภายใต้คำสาบานว่าทราบเรื่องทารกในครรภ์ออกจากแม่ ซึ่งบางครั้ง "ไม่พิการ" หรือมีช่องท้องปิด "มี -- ฉันมองเห็นหัวใจที่อยู่ใน -- ไม่ใช่ใน POC [ผลผลิตจากการปฏิสนธิ] ที่ยังไม่พิการ ซึ่งเต้นอยู่โดยอิสระ แต่ไม่ได้ยึดติดกับสิ่งใด"
    0 Comments 0 Shares 173 Views 0 0 Reviews
  • Huawei กำลังเดินหน้าสู่ตลาดชิป AI อย่างแข็งแกร่งด้วย Ascend 910C ซึ่งมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ NVIDIA H100 และคาดว่าจะขายได้กว่า 700,000 หน่วยในปี 2025 แม้ว่ากระบวนการผลิตของ SMIC จะมีอัตราผลผลิตที่ค่อนข้างต่ำเพียง 30% ก็ตาม นอกจากนี้ Huawei ยังขยายเครือข่ายโรงงานผลิตชิปของตนเองในจีนเพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตและลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

    ✅ Huawei เตรียมขาย Ascend 910C กว่า 700,000 หน่วยในปี 2025
    - ชิป Ascend 910C มีประสิทธิภาพสูงถึง 800 TFLOP/s ที่ FP16 และแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงสุด 3.2 TB/s
    - คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในจีนเร็วๆ นี้ หลังจากที่ SMIC เริ่มผลิตในปริมาณมาก

    ✅ SMIC ผลิตชิปด้วยกระบวนการ 7nm DUV แต่มีอัตราผลผลิตต่ำ
    - กระบวนการผลิตของ SMIC มีอัตราผลผลิตเพียง 30% ซึ่งอาจส่งผลต่อจำนวนชิปที่สามารถผลิตได้
    - Huawei พยายามลดผลกระทบโดยการขยายโรงงานผลิตชิปของตนเอง

    ✅ Huawei ขยายเครือข่ายโรงงานผลิตชิปในจีน
    - มีรายงานว่า Huawei ควบคุมโรงงานผลิตชิปถึง 11 แห่งทั่วประเทศจีน
    - โรงงานเหล่านี้ใช้ชื่อที่แตกต่างกันเพื่อปกปิดความเชื่อมโยงกับ Huawei

    ‼️ ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีอาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขัน
    - แม้ว่าชิป Ascend 910C จะมีประสิทธิภาพสูง แต่กระบวนการผลิต 7nm DUV ของ SMIC ยังล้าหลังเทคโนโลยี EUV ของ TSMC และ Samsung
    - หาก Huawei ไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยขึ้น อาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว

    ‼️ มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ อาจเป็นอุปสรรค
    - สหรัฐฯ ได้ออกข้อกำหนดใหม่ที่ห้ามใช้ชิป Ascend 910C ในต่างประเทศ เนื่องจากละเมิดกฎการส่งออกของสหรัฐฯ
    - มาตรการนี้อาจจำกัดการขยายตลาดของ Huawei นอกประเทศจีน

    https://wccftech.com/mizuho-huawei-will-likely-sell-over-700000-units-of-its-ascend-910-series-chips-in-2025-despite-smics-fairly-low-yields-of-30-percent/
    Huawei กำลังเดินหน้าสู่ตลาดชิป AI อย่างแข็งแกร่งด้วย Ascend 910C ซึ่งมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ NVIDIA H100 และคาดว่าจะขายได้กว่า 700,000 หน่วยในปี 2025 แม้ว่ากระบวนการผลิตของ SMIC จะมีอัตราผลผลิตที่ค่อนข้างต่ำเพียง 30% ก็ตาม นอกจากนี้ Huawei ยังขยายเครือข่ายโรงงานผลิตชิปของตนเองในจีนเพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตและลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ✅ Huawei เตรียมขาย Ascend 910C กว่า 700,000 หน่วยในปี 2025 - ชิป Ascend 910C มีประสิทธิภาพสูงถึง 800 TFLOP/s ที่ FP16 และแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงสุด 3.2 TB/s - คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในจีนเร็วๆ นี้ หลังจากที่ SMIC เริ่มผลิตในปริมาณมาก ✅ SMIC ผลิตชิปด้วยกระบวนการ 7nm DUV แต่มีอัตราผลผลิตต่ำ - กระบวนการผลิตของ SMIC มีอัตราผลผลิตเพียง 30% ซึ่งอาจส่งผลต่อจำนวนชิปที่สามารถผลิตได้ - Huawei พยายามลดผลกระทบโดยการขยายโรงงานผลิตชิปของตนเอง ✅ Huawei ขยายเครือข่ายโรงงานผลิตชิปในจีน - มีรายงานว่า Huawei ควบคุมโรงงานผลิตชิปถึง 11 แห่งทั่วประเทศจีน - โรงงานเหล่านี้ใช้ชื่อที่แตกต่างกันเพื่อปกปิดความเชื่อมโยงกับ Huawei ‼️ ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีอาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขัน - แม้ว่าชิป Ascend 910C จะมีประสิทธิภาพสูง แต่กระบวนการผลิต 7nm DUV ของ SMIC ยังล้าหลังเทคโนโลยี EUV ของ TSMC และ Samsung - หาก Huawei ไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยขึ้น อาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว ‼️ มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ อาจเป็นอุปสรรค - สหรัฐฯ ได้ออกข้อกำหนดใหม่ที่ห้ามใช้ชิป Ascend 910C ในต่างประเทศ เนื่องจากละเมิดกฎการส่งออกของสหรัฐฯ - มาตรการนี้อาจจำกัดการขยายตลาดของ Huawei นอกประเทศจีน https://wccftech.com/mizuho-huawei-will-likely-sell-over-700000-units-of-its-ascend-910-series-chips-in-2025-despite-smics-fairly-low-yields-of-30-percent/
    WCCFTECH.COM
    Mizuho: Huawei Will Likely Sell Over 700,000 Units Of Its Ascend 910 Series Chips In 2025, Despite SMIC's "Fairly Low" Yields Of ~30 Percent
    Huawei's Ascend 910C chips leverage SMIC's 7nm DUV-based production process, which suffers from "fairly low" yields.
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 Reviews
  • Samsung Foundry ก้าวหน้าอย่างมากในการพัฒนาเทคโนโลยี 2 nm GAA

    Samsung Foundry กำลังเร่งพัฒนา เทคโนโลยี 2 nm Gate-All-Around (GAA) หรือที่เรียกว่า SF2 เพื่อแข่งขันกับ TSMC ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดยล่าสุดมีรายงานว่า Samsung กำลังเข้าสู่ขั้นตอนการประเมินประสิทธิภาพขั้นสุดท้าย

    ✅ Samsung Foundry กำลังลดช่องว่างด้านเทคโนโลยีกับ TSMC
    - มีการปรับปรุง อัตราผลผลิต (yield rate) ของ SF2 ให้สูงขึ้น

    ✅ TSMC มีอัตราผลผลิตที่สูงกว่า Samsung ในเทคโนโลยี 2 nm
    - TSMC มีอัตราผลผลิต ประมาณ 60% ขณะที่ Samsung อยู่ที่ 40%

    ✅ Samsung กำลังเข้าสู่ขั้นตอนการประเมินประสิทธิภาพขั้นสุดท้ายของ SF2
    - คาดว่า จะสามารถเพิ่มอัตราผลผลิตได้อีกในอนาคต

    ✅ Nvidia และ Qualcomm กำลังพิจารณาใช้ SF2 เป็นตัวเลือกสำรอง
    - อาจนำไปใช้ใน GPU และชิปสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่

    ✅ TSMC กำลังปรับปรุงโรงงานเพื่อเตรียมเข้าสู่เทคโนโลยี 1.4 nm
    - แสดงให้เห็นว่า การแข่งขันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ยังคงเข้มข้น

    https://www.techpowerup.com/336773/samsung-foundry-reportedly-making-significant-progress-with-2-nm-gaa-evaluation-phase
    Samsung Foundry ก้าวหน้าอย่างมากในการพัฒนาเทคโนโลยี 2 nm GAA Samsung Foundry กำลังเร่งพัฒนา เทคโนโลยี 2 nm Gate-All-Around (GAA) หรือที่เรียกว่า SF2 เพื่อแข่งขันกับ TSMC ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดยล่าสุดมีรายงานว่า Samsung กำลังเข้าสู่ขั้นตอนการประเมินประสิทธิภาพขั้นสุดท้าย ✅ Samsung Foundry กำลังลดช่องว่างด้านเทคโนโลยีกับ TSMC - มีการปรับปรุง อัตราผลผลิต (yield rate) ของ SF2 ให้สูงขึ้น ✅ TSMC มีอัตราผลผลิตที่สูงกว่า Samsung ในเทคโนโลยี 2 nm - TSMC มีอัตราผลผลิต ประมาณ 60% ขณะที่ Samsung อยู่ที่ 40% ✅ Samsung กำลังเข้าสู่ขั้นตอนการประเมินประสิทธิภาพขั้นสุดท้ายของ SF2 - คาดว่า จะสามารถเพิ่มอัตราผลผลิตได้อีกในอนาคต ✅ Nvidia และ Qualcomm กำลังพิจารณาใช้ SF2 เป็นตัวเลือกสำรอง - อาจนำไปใช้ใน GPU และชิปสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ✅ TSMC กำลังปรับปรุงโรงงานเพื่อเตรียมเข้าสู่เทคโนโลยี 1.4 nm - แสดงให้เห็นว่า การแข่งขันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ยังคงเข้มข้น https://www.techpowerup.com/336773/samsung-foundry-reportedly-making-significant-progress-with-2-nm-gaa-evaluation-phase
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Samsung Foundry Reportedly Making Significant Progress with 2 nm GAA Evaluation Phase
    South Korean semiconductor insiders and analysts believe that Samsung's Foundry business is catching up with a main rival. Earlier this month, TSMC leadership openly discussed an unprecedented demand for 2 nm wafer products. Industry moles believe that the Taiwan's top chipmaker is still ahead of co...
    0 Comments 0 Shares 122 Views 0 Reviews
  • Samsung เตรียมผลิตชิป 2nm สำหรับ NVIDIA และ Qualcomm: ก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

    Samsung กำลังเข้าสู่การแข่งขันในตลาด ชิป 2nm โดยมี NVIDIA และ Qualcomm อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการประเมินเพื่อใช้เทคโนโลยีนี้ Samsung ตั้งเป้าที่จะเป็น ทางเลือกที่แข็งแกร่งแทน TSMC ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม

    ✅ Samsung กำลังพัฒนาเทคโนโลยี 2nm เพื่อแข่งขันกับ TSMC
    - NVIDIA และ Qualcomm อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการประเมินชิป 2nm ของ Samsung

    ✅ Samsung ปรับปรุงอัตราผลผลิตของชิป 2nm อย่างต่อเนื่อง
    - ปัจจุบันมีอัตราผลผลิต 40% และกำลังเพิ่มขึ้น

    ✅ TSMC ยังคงเป็นผู้นำด้วยอัตราผลผลิต 60%
    - แต่ Samsung กำลังลดช่องว่างอย่างรวดเร็ว

    ✅ Samsung วางแผนผลิตชิป 2nm ในสหรัฐฯ ที่โรงงาน Taylor
    - เพื่อ ขยายตลาดและลดการพึ่งพาการผลิตในเกาหลีใต้

    ✅ เทคโนโลยี Gate-All-Around (GAA) ของ Samsung ได้รับการปรับปรุง
    - ทำให้ ชิป 2nm และ 3nm มีประสิทธิภาพดีขึ้น

    https://wccftech.com/samsungs-2nm-is-ready-to-be-adopted-by-nvidia-for-its-consumer-ai-gpus/
    Samsung เตรียมผลิตชิป 2nm สำหรับ NVIDIA และ Qualcomm: ก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ Samsung กำลังเข้าสู่การแข่งขันในตลาด ชิป 2nm โดยมี NVIDIA และ Qualcomm อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการประเมินเพื่อใช้เทคโนโลยีนี้ Samsung ตั้งเป้าที่จะเป็น ทางเลือกที่แข็งแกร่งแทน TSMC ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ✅ Samsung กำลังพัฒนาเทคโนโลยี 2nm เพื่อแข่งขันกับ TSMC - NVIDIA และ Qualcomm อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการประเมินชิป 2nm ของ Samsung ✅ Samsung ปรับปรุงอัตราผลผลิตของชิป 2nm อย่างต่อเนื่อง - ปัจจุบันมีอัตราผลผลิต 40% และกำลังเพิ่มขึ้น ✅ TSMC ยังคงเป็นผู้นำด้วยอัตราผลผลิต 60% - แต่ Samsung กำลังลดช่องว่างอย่างรวดเร็ว ✅ Samsung วางแผนผลิตชิป 2nm ในสหรัฐฯ ที่โรงงาน Taylor - เพื่อ ขยายตลาดและลดการพึ่งพาการผลิตในเกาหลีใต้ ✅ เทคโนโลยี Gate-All-Around (GAA) ของ Samsung ได้รับการปรับปรุง - ทำให้ ชิป 2nm และ 3nm มีประสิทธิภาพดีขึ้น https://wccftech.com/samsungs-2nm-is-ready-to-be-adopted-by-nvidia-for-its-consumer-ai-gpus/
    WCCFTECH.COM
    Samsung's 2nm Will See Adoption By NVIDIA For Its Consumer/AI GPUs, Yield Rate Witnesses Phenmenonal Progress
    Samsung is now contending for the top spot in the chip industry, as according to reports, the firm has managed to gain massive ground.
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 Reviews
  • เหตุผลในการใส่ปุ๋ยสูตร 15-5-20 หรือ 15-5-25 เป็นสูตรที่เหมาะสมสำหรับการขยายขนาดผลทุเรียน, มังคุด เนื่องจากมีสัดส่วนธาตุอาหารที่ตอบสนองต่อความต้องการทางสรีรวิทยาในช่วงดังกล่าว โดยมีเหตุผลหลักดังนี้:องค์ประกอบหลักและบทบาททางสรีรวิทยา:✳️1. โพแทสเซียม (K) สูง (20% ในสูตร 15-5-20 และ 25% ในสูตร 15-5-25): * การขนส่งน้ำตาลและแป้ง: #โพแทสเซียมมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเคลื่อนย้ายน้ำตาลและแป้ง (ผลิตภัณฑ์จากการสังเคราะห์แสง) จากใบไปยังผล ซึ่งเป็นปัจจัยโดยตรงที่ทำให้ผลทุเรียนขยายขนาดใหญ่ขึ้น มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น และสะสมเนื้อได้มากขึ้น * การทำงานของเอนไซม์: โพแทสเซียมเป็นตัวกระตุ้น (activator) ของเอนไซม์หลายชนิดในพืช ซึ่งเอนไซม์เหล่านี้มีความจำเป็นต่อกระบวนการทางชีวเคมีต่างๆ รวมถึงการสังเคราะห์คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของผล * การควบคุมสมดุลน้ำในเซลล์: โพแทสเซียมช่วยควบคุมแรงดันออสโมติก (osmotic pressure) และแรงดันเต่ง (turgor pressure) ภายในเซลล์พืช #ทำให้เซลล์สามารถขยายขนาดได้อย่างเต็มที่ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อขนาดของผล * การสังเคราะห์แสง: แม้ไนโตรเจนจะเป็นองค์ประกอบหลักของคลอโรฟิลล์ แต่โพแทสเซียมก็มีส่วนช่วยในกระบวนการสังเคราะห์แสงให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ * คุณภาพเนื้อผล: นอกจากขนาดแล้ว โพแทสเซียมยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาคุณภาพเนื้อผล เช่น ความหนา ความแน่น การสร้างกลิ่น และรสชาติที่ดี (ความหวาน)✳️2. ไนโตรเจน (N ) ปานกลาง (15%): * การบำรุงใบเพื่อการสังเคราะห์แสง: ไนโตรเจนยังคงมีความจำเป็นในช่วงขยายผลเพื่อรักษาความสมบูรณ์และประสิทธิภาพของใบในการสังเคราะห์แสง ใบที่สมบูรณ์จะสามารถสร้างอาหารได้เพียงพอเพื่อส่งไปเลี้ยงผล * องค์ประกอบของโปรตีนและเซลล์: ไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบของกรดอะมิโน โปรตีน และกรดนิวคลีอิก ซึ่งจำเป็นสำหรับการแบ่งเซลล์และการเจริญเติบโตของเซลล์ใหม่ในผล * ไม่สูงจนเกินไป: #ปริมาณไนโตรเจนที่ไม่สูงมากเกินไป (เช่น 15%) จะช่วย #ป้องกันไม่ให้ทุเรียนแตกใบอ่อนมากเกินไปในช่วงที่กำลังขยายผล เพราะการแตกใบอ่อนจะไปดึงดูดและแย่งอาหารจากผล ทำให้ผลเติบโตได้ไม่เต็มที่ หรืออาจมีปัญหาเรื่องคุณภาพ✳️3. ฟอสฟอรัส (P) ต่ำ (5%): * การถ่ายทอดพลังงาน: ฟอสฟอรัสมีความสำคัญในการสร้างสารพลังงานสูง (ATP) ซึ่งพืชใช้ในทุกกิจกรรมการเจริญเติบโต รวมถึงการพัฒนาของผล * การพัฒนาเมล็ด: ฟอสฟอรัสมีบทบาทในการพัฒนาของเมล็ด * ความต้องการลดลง: ในช่วงขยายขนาดผล #ความต้องการฟอสฟอรัสของทุเรียนจะน้อยกว่าช่วงการออกดอกและติดผลในระยะแรก ซึ่งเป็นช่วงที่ฟอสฟอรัสมีบทบาทสำคัญในการสร้างดอก การผสมเกสร และการแบ่งเซลล์ในช่วงต้นของการพัฒนาผล ดังนั้น ปริมาณ 5% #จึงถือว่าเพียงพอต่อความต้องการในระยะขยายผล♻️สรุปเหตุผลเชิงสรีรวิทยา:ทั้งสูตร 15-5-20 และ 15-5-25 มีความคล้ายคลึงกันคือ #เน้นโพแทสเซียมสูง ซึ่งเป็นธาตุอาหารหลักที่ทุเรียนต้องการมากที่สุดในช่วงขยายขนาดผล เพื่อใช้ในการสะสมแป้งและน้ำตาล เพิ่มขนาดและน้ำหนักของผล ควบคู่ไปกับการมีไนโตรเจนในระดับปานกลางเพื่อสนับสนุนการทำงานของใบ และฟอสฟอรัสในระดับต่ำตามความต้องการที่ลดลงในระยะนี้ สัดส่วนเช่นนี้ช่วยให้ทุเรียน มังคุด สามารถนำธาตุอาหารไปใช้ในการพัฒนาผลได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีขนาดใหญ่และมีคุณภาพดีความแตกต่างเล็กน้อยในปริมาณโพแทสเซียม (20% กับ 25%) อาจปรับใช้ตามสภาพความสมบูรณ์ของต้น ปริมาณผลผลิตที่ติดบนต้น หรือการประเมินความต้องการของสวนนั้นๆ โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งมีปริมาณโพแทสเซียมสูง ก็ยิ่งส่งเสริมการสร้างเนื้อและเพิ่มความหวานได้ดีขึ้น
    เหตุผลในการใส่ปุ๋ยสูตร 15-5-20 หรือ 15-5-25 เป็นสูตรที่เหมาะสมสำหรับการขยายขนาดผลทุเรียน, มังคุด เนื่องจากมีสัดส่วนธาตุอาหารที่ตอบสนองต่อความต้องการทางสรีรวิทยาในช่วงดังกล่าว โดยมีเหตุผลหลักดังนี้:องค์ประกอบหลักและบทบาททางสรีรวิทยา:✳️1. โพแทสเซียม (K) สูง (20% ในสูตร 15-5-20 และ 25% ในสูตร 15-5-25): * การขนส่งน้ำตาลและแป้ง: #โพแทสเซียมมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเคลื่อนย้ายน้ำตาลและแป้ง (ผลิตภัณฑ์จากการสังเคราะห์แสง) จากใบไปยังผล ซึ่งเป็นปัจจัยโดยตรงที่ทำให้ผลทุเรียนขยายขนาดใหญ่ขึ้น มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น และสะสมเนื้อได้มากขึ้น * การทำงานของเอนไซม์: โพแทสเซียมเป็นตัวกระตุ้น (activator) ของเอนไซม์หลายชนิดในพืช ซึ่งเอนไซม์เหล่านี้มีความจำเป็นต่อกระบวนการทางชีวเคมีต่างๆ รวมถึงการสังเคราะห์คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของผล * การควบคุมสมดุลน้ำในเซลล์: โพแทสเซียมช่วยควบคุมแรงดันออสโมติก (osmotic pressure) และแรงดันเต่ง (turgor pressure) ภายในเซลล์พืช #ทำให้เซลล์สามารถขยายขนาดได้อย่างเต็มที่ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อขนาดของผล * การสังเคราะห์แสง: แม้ไนโตรเจนจะเป็นองค์ประกอบหลักของคลอโรฟิลล์ แต่โพแทสเซียมก็มีส่วนช่วยในกระบวนการสังเคราะห์แสงให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ * คุณภาพเนื้อผล: นอกจากขนาดแล้ว โพแทสเซียมยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาคุณภาพเนื้อผล เช่น ความหนา ความแน่น การสร้างกลิ่น และรสชาติที่ดี (ความหวาน)✳️2. ไนโตรเจน (N ) ปานกลาง (15%): * การบำรุงใบเพื่อการสังเคราะห์แสง: ไนโตรเจนยังคงมีความจำเป็นในช่วงขยายผลเพื่อรักษาความสมบูรณ์และประสิทธิภาพของใบในการสังเคราะห์แสง ใบที่สมบูรณ์จะสามารถสร้างอาหารได้เพียงพอเพื่อส่งไปเลี้ยงผล * องค์ประกอบของโปรตีนและเซลล์: ไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบของกรดอะมิโน โปรตีน และกรดนิวคลีอิก ซึ่งจำเป็นสำหรับการแบ่งเซลล์และการเจริญเติบโตของเซลล์ใหม่ในผล * ไม่สูงจนเกินไป: #ปริมาณไนโตรเจนที่ไม่สูงมากเกินไป (เช่น 15%) จะช่วย #ป้องกันไม่ให้ทุเรียนแตกใบอ่อนมากเกินไปในช่วงที่กำลังขยายผล เพราะการแตกใบอ่อนจะไปดึงดูดและแย่งอาหารจากผล ทำให้ผลเติบโตได้ไม่เต็มที่ หรืออาจมีปัญหาเรื่องคุณภาพ✳️3. ฟอสฟอรัส (P) ต่ำ (5%): * การถ่ายทอดพลังงาน: ฟอสฟอรัสมีความสำคัญในการสร้างสารพลังงานสูง (ATP) ซึ่งพืชใช้ในทุกกิจกรรมการเจริญเติบโต รวมถึงการพัฒนาของผล * การพัฒนาเมล็ด: ฟอสฟอรัสมีบทบาทในการพัฒนาของเมล็ด * ความต้องการลดลง: ในช่วงขยายขนาดผล #ความต้องการฟอสฟอรัสของทุเรียนจะน้อยกว่าช่วงการออกดอกและติดผลในระยะแรก ซึ่งเป็นช่วงที่ฟอสฟอรัสมีบทบาทสำคัญในการสร้างดอก การผสมเกสร และการแบ่งเซลล์ในช่วงต้นของการพัฒนาผล ดังนั้น ปริมาณ 5% #จึงถือว่าเพียงพอต่อความต้องการในระยะขยายผล♻️สรุปเหตุผลเชิงสรีรวิทยา:ทั้งสูตร 15-5-20 และ 15-5-25 มีความคล้ายคลึงกันคือ #เน้นโพแทสเซียมสูง ซึ่งเป็นธาตุอาหารหลักที่ทุเรียนต้องการมากที่สุดในช่วงขยายขนาดผล เพื่อใช้ในการสะสมแป้งและน้ำตาล เพิ่มขนาดและน้ำหนักของผล ควบคู่ไปกับการมีไนโตรเจนในระดับปานกลางเพื่อสนับสนุนการทำงานของใบ และฟอสฟอรัสในระดับต่ำตามความต้องการที่ลดลงในระยะนี้ สัดส่วนเช่นนี้ช่วยให้ทุเรียน มังคุด สามารถนำธาตุอาหารไปใช้ในการพัฒนาผลได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีขนาดใหญ่และมีคุณภาพดีความแตกต่างเล็กน้อยในปริมาณโพแทสเซียม (20% กับ 25%) อาจปรับใช้ตามสภาพความสมบูรณ์ของต้น ปริมาณผลผลิตที่ติดบนต้น หรือการประเมินความต้องการของสวนนั้นๆ โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งมีปริมาณโพแทสเซียมสูง ก็ยิ่งส่งเสริมการสร้างเนื้อและเพิ่มความหวานได้ดีขึ้น
    0 Comments 0 Shares 358 Views 0 0 Reviews
  • ..จริงๆคลิปนี้สามารถทำลายกำลังใจคนรุ่นต่อไปเพื่อพึ่งพาตนเอง สร้างรายได้ทางการเกษตรกันเลยก็ว่า,อาจภาพเกษตรพอเพียงเสียเลยด้วยเพื่อพอจะมีรายได้มีกำไรพอยังชีพ ทำเกษตรขาดทุนหมดตังหมดกำลังใจกันเลย พ่อแม่ด่าอีกแฟนเมียเหยียบซ้ำด้วย พอจะเท่จะซื้อของใช้ซื้อพืชผักอื่นๆมาต่อยอดปลูกทำอีก&ซื้อข้าวของสินค้าอื่นๆสนองวัตถุธาตุอารมณ์ความรู้สึกตนแบบมนุษย์คนธรรมดาสามัญทั่วไปแบบเราๆได้,ทำไปก็ขาดทุน ตังลงทุนไปจมหายทิ้งละลายหมด เวลาที่เสียไป ชีวิตที่สั้นลงอีกแก่ชราไปภายหน้า สังขารเสื่อมลง กับเงินกับตังเฉลี่ยไม่พอจ่ายในภาระต่างๆแต่ละวันเดือนปีรอตรึมที่ตั้งด่านรอรับตัง&ไถ่ตังไถ่เงินอยู่โดยเฉพาะยิ่งภาระหนี้นอกระบบ, พืชผลการเกษตรตายด้วยโรคด้วยภัยธรรมชาติอีก เสี่ยงสูงในการขาดทุน,บวกรายได้ประจำแบบกินเงินเดือนสไตล์ข้าราชการรัฐก็ไม่มี,พอรอเก็บผลผลิตได้ก็ไม่มีทุกๆเดือนด้วยพอหักกลบลบหนี้ขาดทุนได้หรือลุกสู้ใหม่ปรับปรุงขยายสายงานพืชผลตัวใหม่เสริมผสมผสานกันต่อได้แบบไร่นาสวนผสมนั้น,แต่เหี้ยทั้งหมดมันจ่ายด้วยตังด้วยเงินทั้งหมดนะอะไรๆต้องซื้อมาลงทุนทำเกษตรก็ว่าในสถานะการณ์เวลายุคปัจจุบันนี้.

    ..คนไทบ้านปกติไม่มีเงินไม่มีทุนไม่มีตังปกติอยู่บวกกู้ตังธกส.จ่ายต้นจ่ายดอกเบี้ยแบงค์อีก ไม่รวมนอกระบบอื่นๆอีกนะ จะขนาดไหน,วงจรคนชาวเกษตรจึงไม่ร่ำรวยไง บวกยุคนีัค่าใช้จ่ายรอบด้านต้นทุนแพงรอบทิศรอบตัวอีก ไม่พอกินพอใช้อะไรหรอก ส่วนน้อยมากจะยืนได้ที่ออกมาโชว์ออฟช่องต่างๆ แต่ส่วนที่ล้มเหลวมันใต้ภูเขาน้ำแข็งเลยล่ะ เห็นปลายยอดภูเขาเปรียบพวกนั่งอยู่หอคอยงาช้างก็ได้ อาทิเช่นพวกข้าราชการมีเงินเดือนประจำพอโยกตังนั้นนี้ทันจนเดินได้ก็ว่า,พวกได้รับทุนโครงการเงินทุนเบื้องต้นสนับสนุนสาระพัดด้านการเกษตรช่วยงานการเข้าร่วมโครงการหลวงโครงการรัฐได้ทันเช่นโคกหนองนาโมเดล ทุนขุดสระทุนขุดคลองคอดไก่คนละกว่าแสนสองแสนบาทโน้นในอดีตและทางเกษตรช่วยต่างๆจนยืนได้ ใครได้อีกฝันเลยจะไทบ้าน ส่วนมากผู้นำชุมชนคณะกรรมการชุมชนหรือข้าราชการรัฐหลวงชิงตัดหน้าลงทะเบียนได้โครงการไปก่อนหรือในเครือญาติพี่น้องพวกนี้เพราะรับรู้ข่าวสารข้อมูลก่อนชิงตัดหน้ารับไปทำก่อน,เนียนๆก็ว่า ทำให้ดูเป็นตัวอย่างชาวบ้านแต่เหี้ยแค่ตังขุดสระเป็นหมื่นเป็นแสนสไตล์โมเดลโคกหนองนา ชาวบ้านมีตังที่ไหน และพวกนี้ก็ใช้ตังเริ่มต้นจริงด้วยตังตนเองที่ไหน ก็โครงการช่วยเหลือหมดเช่นกันตอนเริ่มต้น,หรือผีบ้าบ้าคนมีตังหน่อย ร่ำรวยเกินชาวบ้านหน่อยโชว์สักหน่อยก็ว่ามีตังเหลือหลายจากการค้าการทำธุรกืจกิจการอื่นสำเร็จ ตังไร้หนี้บีบหลัง เงินเย็นๆรอผลผลิตได้ ทำสบายๆสไตล์คนเกษตรยุคโบราณไม่ดิ้นรนอะไรมากตามหนี้กดดันต้องใช้ให้เร็วก็ว่า.
    ..ปัญหาชาวเกษตรแก้ง่ายมาก คือลดต้นทุนคนเกษตรจากรัฐส่งเสริมจริงจัง น้ำมันแพงคือต้นทุนหลักไม่ต่างจากทุกๆภาคกิจการธุรกิจอุตสาหกรรมหรอก,ชาวเกษตรหากรัฐไม่ช่วยในการลดต้นทุนทางตรงจากพ่อค้าที่ขายอุปกรณ์วัตถุดิบทางการเกษตรต่างๆลงได้ ตลอดต้นทุนเครื่องจักรทุ่นแรงราคาต่ำจริงเข้าถึงง่าย ราคาเสรีไม่กดราคาปั่นราคา,สาระพัดวิถีเกษตรจะมีค่าใช้จ่ายทำเกษตรไม่แพงอะไรเลย,
    ..รถไถ่นาเติมน้ำมันลิตรละ1บาท เติมถัง20-50ลิตร ใช้ตลอด50-100ไร่ไถ่นาสบาย,ค่าจ้างจะไม่แพง,ราคารถไถไทยทำเองจากโรงงานรัฐบาลส่งเสริมผลทำช่วยนำเข้าเสรีไม่แพงอีกในวัตถุดิบผลิตรถไถนาหรือสาระพัดเครื่องจักรทุ่นแรงต่างๆอาจคันละไม่กี่4-5หมื่นบาทเลยจากรถไถราคาปกติที่คันละ4-5แสนบาทหรือรถไถเดินตามปกติ2-3หมื่นบาทอาจเหลือแค่2-3พันบาทเลย,เพราะรัฐส่งเสริมจัดหาเต็มที่ทำทุกๆวิถีทางลดต้นทุนช่วยชาวเกษตรไทย,หรือยึดบ่อน้ำมัน บ่อน้ำมันส่งเข้าโรงกลั่น กลั่นได้ปุ๋ยมา ก็แจกจ่ายฟรีๆแก่คนไทยหรือมุ่งตรงคนเกษตรให้ได้รับมากหน่อยคนละ1กระสอบต่อไร่ทุกๆปีฟรีๆก็ได้,หรือนำเข้าปุ๋ยเสรี ราคาอาจเหลือแค่กระสอบละ20-30บาทก็ได้,ต้นทุนเราถูก รวมตัวเป็นสมาคม ทั้งระดับชุมชนตำบลอำเภอจังหวัดสู่ระดับภาคระดับชาติส่งออกเป็นเครือข่ายตรงผ่านสมาคม ราคาส่งออกนอก มิใช่ราคาภายในประเทศ ข้าวปกติขายตันละ400-800$ก็ได้ที่ต่างประเทศราคาตลาดโลกก็ว่า,แต่ขายจริงในไทยแค่ตันละ2-3พันบาทกันเองจะเป็นอะไรหรือถุง5-10กก.ถุงละ5-10บาทเราก็ขายได้,ซึ่งสมาคมเราจัดสรรบริหารจัดการเอง ชาวนาส่งขายข้าวทั้งหมดเองแก่สมาคม เก็บไว้กินเองตามสบายใจ สมาคมรับซื้อเพื่อแปรรูปข้าวส่งนอกก็ให้ราคาสูงแก่ชาวนาทันทีได้ตามราคาตลาดโลกเลย,เช่น60%รับซื้อราคาตลาดโลกขายนอก,40%รับซื้อแปรรูปขายในไทยเองราคาถูกๆช่วยคนไทยเราด้านความมั่นคงทางอาหารเลี้ยงในชาติไทยเราเอง,ชาวบ้านขายข้าว10ตัน 6ตันคิดตันละ40,000บาท,4ตันคิดตันละ2,000บาท ก็ว่า,หากคลังสมดุลข้าวภายในประเทศมากก็ลดเป็น80:20 ,รับซื้อจากชาวนา8ตันส่งนอกละ40,000บาท=320,000บาท,รับซื้อขายในประเทศ2ตันๆละ2,000บาท=4,000บาท รวมชาวนาได้324,000บาทก็ยังกำไรดีกว่าเมื่อ เทียบตันละ15,000สูงสุดแบบมโนๆในยุคปัจจุบันคือ150,000บาทต่อ10ตัน มันก็คนละเรื่องเช่นกัน 2ตันคือเสียสละเฉลี่ยเลี้ยงคนไทยลูกหลานเราเองในการสร้างชาติพัฒนาชาติให้มีแรงกำลังกายด้านอาหารข้าวปลาสร้างชาติไทยร่วมกันต่อไปนั้นเองสนับสนุนสัมมาอาชีพอื่นร่วมกัน.
    ..ไม่ว่าจะอาชีพเกษตรด้านไหน นี้คือสงครามภายในประเทศไทยตนเองกับผู้ปกครองชาติไทยตนเองชัดเจน ที่กำลังมองคนเกษตรไทยคือภัยอันตรายของประเทศเอง ขัดขวางภาคเหล็กปูนอิฐเทคโนโลยีภาคอุตสาหกรรมต่างๆผลิตสินค้าที่สร้างกำไรน้อยมันว่า,พอเกษตรกรจะขายข้าวสักกก.ละแสนบาท อาจต้องมาควบคุมพะนะ,ทองคำบาทละ4-5หมื่นกินไม่ได้เสือกแพง,ข้าวกินได้เสือกถูก,พืชผักถั่วเสือกถูก,จริงๆวิธีแก้ตาแก้มัดพวกนี้ต้องผูกค่าอ้างอิงใส่มันเลย เช่นทองคำ1บาท ราคา50,000บาทคือฐาน,ข้าว1ตันราคา50,000บาทคือฐานด้วย,อนาคตราคาลดราคาลงหรือเพิ่มขึ้นให้ใช้ราคาทองคำเป็นฐานให้อ้างอิงกำหนดราคาข้าวขายในตลาดด้วยเรียลไทม์เลย,ทองคำราคาลงที่1บาท25,000บาท,ข้าวก็จะลดลงทันทีเช่นกันที่1ตัน ราคา25,000บาท.นี้ต้องแก้แบบนี้,สินค้าเกษตรจะไม่ถูกด้อยค่าอีก,มีฐานอ้างอิงด้วย,โลกเรามันผีบ้า หาว่าขายข้าวราคาต่ำๆเป็นจิตสำนึกรักกันเองในประเทศ สินค้าควบคุมป้องกันความเดือดร้อนแก่คนหมู่มากที่ต้องจำเป็นกินข้าวกันทุกๆวัน,แต่จิตสำนึกห่วงใยชาวนาผู้ผลิตข้าวให้คนกินกลับไม่สนใจในความทุกข์ยากเดือดร้อนจนยากจนในความเสียสละของชาวนานั้น เอาเปรียบตัวนำการเอาเปรียบเองด้วยซ้ำคือรัฐบาลเองไม่ข่วย ไม่ควบคุม ไม่ลดต้นทุนวัตถุดิบรอบด้านที่เกี่ยวข้องกับที่ชาวนาใช้ปลูกข้าวเพื่อผลิตข้าวให้คนทั้งประเทศกิน,อนาคตอวยนำเข้าข้าวจากต่างประเทศมากินเมื่อเจอวิกฤติเขาไม่ส่งข้าวมาให้ชาติไทยตนเองแดกจะเกิดอะไรขึ้น,ทั้งประเทศเลิกเป็นคนชาวนาชาวเกษตรอีกเพราะทำธุรกิจกิจการภาคอื่นๆอุตสาหกรรมอื่นที่มิใช้ภาคเกษตรย่อลงมาย่อยคือชาวนาก็ซวยบรรลัยไร้แดกทั้งประเทศ,ความมั่นคงทางอาหารไม่มีตัดเสบียงทางการรบเห็นๆแพ้ศึกสงครามแน่นอนเพราะผีบ้าตามแต่อุตสาหกรรมหรือเทคโนโลยีAIหุ่นยนต์ ตนเสือกคือคนแท้ๆต้อกแดกข้าวแดกอาหารมิใช่ไฟฟ้าแบบหุ่นยนต์หรือAIในเน็ตในออนไลน์ พินาศคือเราคนเป็นๆนี้ล่ะ,
    ..ผู้นำจึงสำคัญจริงๆ ปลดปล่อยอิสระวัตถุดิบสมบัติชาติทรัพยากรชาติที่มีค่ามากมายคืนสู่สามัญแผ่นดินไทยเราดั่งเดิม เราจะมีวิถีชีวิตที่ดีแน่นอน แม้จะสัมมาอาชีพใดๆก็ไม่ต้องแบกภาระต้นทุนสูงใดๆอีกต่อไป เพราะทุกๆคนช่วยกันคิดอ่านร่วมแก้ไขขจัดปัญหาต่างๆออกไป,กำไรแค่100-200บาทอาจมีความสุขโคตรมหาศาลก็ว่า เพราะไม่ต้องดิ้นรนหาตังมาใช้หนี้ ไม่ต้องดิ้นรนหาตังมาชำระค่าใช้จ่ายสาระพัดทาง อาทิเปิดเทอมลูกหลาน รัฐบาลส่งเสริมเรียนฟรีหมด ชุดนักเรียน อุปกรณ์การศึกษา ค่าใช้จ่ายใดๆผู้ปกครองไม่ต้องจ่าย,เรียนคอมฯเรียนภาษาเรียนAIนวัตกรรมล้ำไหนฟรีหมด อาหารที่พักฟรี รถรับส่งไปกลับฟรี,ใช้กายใจตั้งใจเรียนรู้องค์รู้ต่างๆแค่นั้น จบมามีตังมีทุนเริ่มต้นสร้างสัมมาอาชีพอิสระเสรีอีกฟรีเป็นต้น ค่างานศพใครตายก็ไม่ต้องเรี่ยไรจ่ายในแต่ละหมู่บ้าน รัฐรันระบบตรวจพบเจออำเภอคีย์แจ้งทราบ เคลมจ่ายศพมรณะทุกๆกรณีรายละ1ล้านบาทเรียลไทม์ก็ยังได้ ชาติไทยโคตรร่ำรวยจริงๆนะ แต่วิถีปกครองเรามันกาก&ผู้ปกครองกากเขลาโง่กระจอก,จนยกทรัพยากรมีค่ามากมายมหาศาลแก่คนอื่นชาติอื่นไปยึดครองแทนคนไทย.

    ..วิถีเกษตรเราล้มเหลวก็ได้ ดูหน่วยงานรัฐเราสิ ขี้ข้าคนเจ้าสัวตรึม,สมัยประท้วงพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ นักวิชการเกษตรต่างๆทั่วไทยกลับไม่เร่งรีบลุกนำประท้วงความอยุติธรรมให้แก่คนภาคชาวเกษตรจริงอะไร จนเขาต้องนำทัพประท้วงช่วยเหลือกันเอง การยุบทุบทิ้งกระทรวงทบวงกรมสายงานเกษตรของภาครัฐทั้งหมดถูกต้องที่สุด มันคือวิถีทางเดียวจะล้างทำลายเผาไหม้จริงในรากเหง้าอิทธิอำนาจหยั่งลึกทุกๆมิติในวงการนี้ทั้งแผ่นดินไทยได้จริงทั้งหมด ย้ำมันวางรากลึกกัดกันวงจรชาวเกษตรไทยจนพินาศถึงปัจจุบันนีัจริงๆ.

    ..https://youtube.com/watch?v=topV7JVUnmE&si=mhL49JRpZO7BJ7BR
    ..จริงๆคลิปนี้สามารถทำลายกำลังใจคนรุ่นต่อไปเพื่อพึ่งพาตนเอง สร้างรายได้ทางการเกษตรกันเลยก็ว่า,อาจภาพเกษตรพอเพียงเสียเลยด้วยเพื่อพอจะมีรายได้มีกำไรพอยังชีพ ทำเกษตรขาดทุนหมดตังหมดกำลังใจกันเลย พ่อแม่ด่าอีกแฟนเมียเหยียบซ้ำด้วย พอจะเท่จะซื้อของใช้ซื้อพืชผักอื่นๆมาต่อยอดปลูกทำอีก&ซื้อข้าวของสินค้าอื่นๆสนองวัตถุธาตุอารมณ์ความรู้สึกตนแบบมนุษย์คนธรรมดาสามัญทั่วไปแบบเราๆได้,ทำไปก็ขาดทุน ตังลงทุนไปจมหายทิ้งละลายหมด เวลาที่เสียไป ชีวิตที่สั้นลงอีกแก่ชราไปภายหน้า สังขารเสื่อมลง กับเงินกับตังเฉลี่ยไม่พอจ่ายในภาระต่างๆแต่ละวันเดือนปีรอตรึมที่ตั้งด่านรอรับตัง&ไถ่ตังไถ่เงินอยู่โดยเฉพาะยิ่งภาระหนี้นอกระบบ, พืชผลการเกษตรตายด้วยโรคด้วยภัยธรรมชาติอีก เสี่ยงสูงในการขาดทุน,บวกรายได้ประจำแบบกินเงินเดือนสไตล์ข้าราชการรัฐก็ไม่มี,พอรอเก็บผลผลิตได้ก็ไม่มีทุกๆเดือนด้วยพอหักกลบลบหนี้ขาดทุนได้หรือลุกสู้ใหม่ปรับปรุงขยายสายงานพืชผลตัวใหม่เสริมผสมผสานกันต่อได้แบบไร่นาสวนผสมนั้น,แต่เหี้ยทั้งหมดมันจ่ายด้วยตังด้วยเงินทั้งหมดนะอะไรๆต้องซื้อมาลงทุนทำเกษตรก็ว่าในสถานะการณ์เวลายุคปัจจุบันนี้. ..คนไทบ้านปกติไม่มีเงินไม่มีทุนไม่มีตังปกติอยู่บวกกู้ตังธกส.จ่ายต้นจ่ายดอกเบี้ยแบงค์อีก ไม่รวมนอกระบบอื่นๆอีกนะ จะขนาดไหน,วงจรคนชาวเกษตรจึงไม่ร่ำรวยไง บวกยุคนีัค่าใช้จ่ายรอบด้านต้นทุนแพงรอบทิศรอบตัวอีก ไม่พอกินพอใช้อะไรหรอก ส่วนน้อยมากจะยืนได้ที่ออกมาโชว์ออฟช่องต่างๆ แต่ส่วนที่ล้มเหลวมันใต้ภูเขาน้ำแข็งเลยล่ะ เห็นปลายยอดภูเขาเปรียบพวกนั่งอยู่หอคอยงาช้างก็ได้ อาทิเช่นพวกข้าราชการมีเงินเดือนประจำพอโยกตังนั้นนี้ทันจนเดินได้ก็ว่า,พวกได้รับทุนโครงการเงินทุนเบื้องต้นสนับสนุนสาระพัดด้านการเกษตรช่วยงานการเข้าร่วมโครงการหลวงโครงการรัฐได้ทันเช่นโคกหนองนาโมเดล ทุนขุดสระทุนขุดคลองคอดไก่คนละกว่าแสนสองแสนบาทโน้นในอดีตและทางเกษตรช่วยต่างๆจนยืนได้ ใครได้อีกฝันเลยจะไทบ้าน ส่วนมากผู้นำชุมชนคณะกรรมการชุมชนหรือข้าราชการรัฐหลวงชิงตัดหน้าลงทะเบียนได้โครงการไปก่อนหรือในเครือญาติพี่น้องพวกนี้เพราะรับรู้ข่าวสารข้อมูลก่อนชิงตัดหน้ารับไปทำก่อน,เนียนๆก็ว่า ทำให้ดูเป็นตัวอย่างชาวบ้านแต่เหี้ยแค่ตังขุดสระเป็นหมื่นเป็นแสนสไตล์โมเดลโคกหนองนา ชาวบ้านมีตังที่ไหน และพวกนี้ก็ใช้ตังเริ่มต้นจริงด้วยตังตนเองที่ไหน ก็โครงการช่วยเหลือหมดเช่นกันตอนเริ่มต้น,หรือผีบ้าบ้าคนมีตังหน่อย ร่ำรวยเกินชาวบ้านหน่อยโชว์สักหน่อยก็ว่ามีตังเหลือหลายจากการค้าการทำธุรกืจกิจการอื่นสำเร็จ ตังไร้หนี้บีบหลัง เงินเย็นๆรอผลผลิตได้ ทำสบายๆสไตล์คนเกษตรยุคโบราณไม่ดิ้นรนอะไรมากตามหนี้กดดันต้องใช้ให้เร็วก็ว่า. ..ปัญหาชาวเกษตรแก้ง่ายมาก คือลดต้นทุนคนเกษตรจากรัฐส่งเสริมจริงจัง น้ำมันแพงคือต้นทุนหลักไม่ต่างจากทุกๆภาคกิจการธุรกิจอุตสาหกรรมหรอก,ชาวเกษตรหากรัฐไม่ช่วยในการลดต้นทุนทางตรงจากพ่อค้าที่ขายอุปกรณ์วัตถุดิบทางการเกษตรต่างๆลงได้ ตลอดต้นทุนเครื่องจักรทุ่นแรงราคาต่ำจริงเข้าถึงง่าย ราคาเสรีไม่กดราคาปั่นราคา,สาระพัดวิถีเกษตรจะมีค่าใช้จ่ายทำเกษตรไม่แพงอะไรเลย, ..รถไถ่นาเติมน้ำมันลิตรละ1บาท เติมถัง20-50ลิตร ใช้ตลอด50-100ไร่ไถ่นาสบาย,ค่าจ้างจะไม่แพง,ราคารถไถไทยทำเองจากโรงงานรัฐบาลส่งเสริมผลทำช่วยนำเข้าเสรีไม่แพงอีกในวัตถุดิบผลิตรถไถนาหรือสาระพัดเครื่องจักรทุ่นแรงต่างๆอาจคันละไม่กี่4-5หมื่นบาทเลยจากรถไถราคาปกติที่คันละ4-5แสนบาทหรือรถไถเดินตามปกติ2-3หมื่นบาทอาจเหลือแค่2-3พันบาทเลย,เพราะรัฐส่งเสริมจัดหาเต็มที่ทำทุกๆวิถีทางลดต้นทุนช่วยชาวเกษตรไทย,หรือยึดบ่อน้ำมัน บ่อน้ำมันส่งเข้าโรงกลั่น กลั่นได้ปุ๋ยมา ก็แจกจ่ายฟรีๆแก่คนไทยหรือมุ่งตรงคนเกษตรให้ได้รับมากหน่อยคนละ1กระสอบต่อไร่ทุกๆปีฟรีๆก็ได้,หรือนำเข้าปุ๋ยเสรี ราคาอาจเหลือแค่กระสอบละ20-30บาทก็ได้,ต้นทุนเราถูก รวมตัวเป็นสมาคม ทั้งระดับชุมชนตำบลอำเภอจังหวัดสู่ระดับภาคระดับชาติส่งออกเป็นเครือข่ายตรงผ่านสมาคม ราคาส่งออกนอก มิใช่ราคาภายในประเทศ ข้าวปกติขายตันละ400-800$ก็ได้ที่ต่างประเทศราคาตลาดโลกก็ว่า,แต่ขายจริงในไทยแค่ตันละ2-3พันบาทกันเองจะเป็นอะไรหรือถุง5-10กก.ถุงละ5-10บาทเราก็ขายได้,ซึ่งสมาคมเราจัดสรรบริหารจัดการเอง ชาวนาส่งขายข้าวทั้งหมดเองแก่สมาคม เก็บไว้กินเองตามสบายใจ สมาคมรับซื้อเพื่อแปรรูปข้าวส่งนอกก็ให้ราคาสูงแก่ชาวนาทันทีได้ตามราคาตลาดโลกเลย,เช่น60%รับซื้อราคาตลาดโลกขายนอก,40%รับซื้อแปรรูปขายในไทยเองราคาถูกๆช่วยคนไทยเราด้านความมั่นคงทางอาหารเลี้ยงในชาติไทยเราเอง,ชาวบ้านขายข้าว10ตัน 6ตันคิดตันละ40,000บาท,4ตันคิดตันละ2,000บาท ก็ว่า,หากคลังสมดุลข้าวภายในประเทศมากก็ลดเป็น80:20 ,รับซื้อจากชาวนา8ตันส่งนอกละ40,000บาท=320,000บาท,รับซื้อขายในประเทศ2ตันๆละ2,000บาท=4,000บาท รวมชาวนาได้324,000บาทก็ยังกำไรดีกว่าเมื่อ เทียบตันละ15,000สูงสุดแบบมโนๆในยุคปัจจุบันคือ150,000บาทต่อ10ตัน มันก็คนละเรื่องเช่นกัน 2ตันคือเสียสละเฉลี่ยเลี้ยงคนไทยลูกหลานเราเองในการสร้างชาติพัฒนาชาติให้มีแรงกำลังกายด้านอาหารข้าวปลาสร้างชาติไทยร่วมกันต่อไปนั้นเองสนับสนุนสัมมาอาชีพอื่นร่วมกัน. ..ไม่ว่าจะอาชีพเกษตรด้านไหน นี้คือสงครามภายในประเทศไทยตนเองกับผู้ปกครองชาติไทยตนเองชัดเจน ที่กำลังมองคนเกษตรไทยคือภัยอันตรายของประเทศเอง ขัดขวางภาคเหล็กปูนอิฐเทคโนโลยีภาคอุตสาหกรรมต่างๆผลิตสินค้าที่สร้างกำไรน้อยมันว่า,พอเกษตรกรจะขายข้าวสักกก.ละแสนบาท อาจต้องมาควบคุมพะนะ,ทองคำบาทละ4-5หมื่นกินไม่ได้เสือกแพง,ข้าวกินได้เสือกถูก,พืชผักถั่วเสือกถูก,จริงๆวิธีแก้ตาแก้มัดพวกนี้ต้องผูกค่าอ้างอิงใส่มันเลย เช่นทองคำ1บาท ราคา50,000บาทคือฐาน,ข้าว1ตันราคา50,000บาทคือฐานด้วย,อนาคตราคาลดราคาลงหรือเพิ่มขึ้นให้ใช้ราคาทองคำเป็นฐานให้อ้างอิงกำหนดราคาข้าวขายในตลาดด้วยเรียลไทม์เลย,ทองคำราคาลงที่1บาท25,000บาท,ข้าวก็จะลดลงทันทีเช่นกันที่1ตัน ราคา25,000บาท.นี้ต้องแก้แบบนี้,สินค้าเกษตรจะไม่ถูกด้อยค่าอีก,มีฐานอ้างอิงด้วย,โลกเรามันผีบ้า หาว่าขายข้าวราคาต่ำๆเป็นจิตสำนึกรักกันเองในประเทศ สินค้าควบคุมป้องกันความเดือดร้อนแก่คนหมู่มากที่ต้องจำเป็นกินข้าวกันทุกๆวัน,แต่จิตสำนึกห่วงใยชาวนาผู้ผลิตข้าวให้คนกินกลับไม่สนใจในความทุกข์ยากเดือดร้อนจนยากจนในความเสียสละของชาวนานั้น เอาเปรียบตัวนำการเอาเปรียบเองด้วยซ้ำคือรัฐบาลเองไม่ข่วย ไม่ควบคุม ไม่ลดต้นทุนวัตถุดิบรอบด้านที่เกี่ยวข้องกับที่ชาวนาใช้ปลูกข้าวเพื่อผลิตข้าวให้คนทั้งประเทศกิน,อนาคตอวยนำเข้าข้าวจากต่างประเทศมากินเมื่อเจอวิกฤติเขาไม่ส่งข้าวมาให้ชาติไทยตนเองแดกจะเกิดอะไรขึ้น,ทั้งประเทศเลิกเป็นคนชาวนาชาวเกษตรอีกเพราะทำธุรกิจกิจการภาคอื่นๆอุตสาหกรรมอื่นที่มิใช้ภาคเกษตรย่อลงมาย่อยคือชาวนาก็ซวยบรรลัยไร้แดกทั้งประเทศ,ความมั่นคงทางอาหารไม่มีตัดเสบียงทางการรบเห็นๆแพ้ศึกสงครามแน่นอนเพราะผีบ้าตามแต่อุตสาหกรรมหรือเทคโนโลยีAIหุ่นยนต์ ตนเสือกคือคนแท้ๆต้อกแดกข้าวแดกอาหารมิใช่ไฟฟ้าแบบหุ่นยนต์หรือAIในเน็ตในออนไลน์ พินาศคือเราคนเป็นๆนี้ล่ะ, ..ผู้นำจึงสำคัญจริงๆ ปลดปล่อยอิสระวัตถุดิบสมบัติชาติทรัพยากรชาติที่มีค่ามากมายคืนสู่สามัญแผ่นดินไทยเราดั่งเดิม เราจะมีวิถีชีวิตที่ดีแน่นอน แม้จะสัมมาอาชีพใดๆก็ไม่ต้องแบกภาระต้นทุนสูงใดๆอีกต่อไป เพราะทุกๆคนช่วยกันคิดอ่านร่วมแก้ไขขจัดปัญหาต่างๆออกไป,กำไรแค่100-200บาทอาจมีความสุขโคตรมหาศาลก็ว่า เพราะไม่ต้องดิ้นรนหาตังมาใช้หนี้ ไม่ต้องดิ้นรนหาตังมาชำระค่าใช้จ่ายสาระพัดทาง อาทิเปิดเทอมลูกหลาน รัฐบาลส่งเสริมเรียนฟรีหมด ชุดนักเรียน อุปกรณ์การศึกษา ค่าใช้จ่ายใดๆผู้ปกครองไม่ต้องจ่าย,เรียนคอมฯเรียนภาษาเรียนAIนวัตกรรมล้ำไหนฟรีหมด อาหารที่พักฟรี รถรับส่งไปกลับฟรี,ใช้กายใจตั้งใจเรียนรู้องค์รู้ต่างๆแค่นั้น จบมามีตังมีทุนเริ่มต้นสร้างสัมมาอาชีพอิสระเสรีอีกฟรีเป็นต้น ค่างานศพใครตายก็ไม่ต้องเรี่ยไรจ่ายในแต่ละหมู่บ้าน รัฐรันระบบตรวจพบเจออำเภอคีย์แจ้งทราบ เคลมจ่ายศพมรณะทุกๆกรณีรายละ1ล้านบาทเรียลไทม์ก็ยังได้ ชาติไทยโคตรร่ำรวยจริงๆนะ แต่วิถีปกครองเรามันกาก&ผู้ปกครองกากเขลาโง่กระจอก,จนยกทรัพยากรมีค่ามากมายมหาศาลแก่คนอื่นชาติอื่นไปยึดครองแทนคนไทย. ..วิถีเกษตรเราล้มเหลวก็ได้ ดูหน่วยงานรัฐเราสิ ขี้ข้าคนเจ้าสัวตรึม,สมัยประท้วงพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ นักวิชการเกษตรต่างๆทั่วไทยกลับไม่เร่งรีบลุกนำประท้วงความอยุติธรรมให้แก่คนภาคชาวเกษตรจริงอะไร จนเขาต้องนำทัพประท้วงช่วยเหลือกันเอง การยุบทุบทิ้งกระทรวงทบวงกรมสายงานเกษตรของภาครัฐทั้งหมดถูกต้องที่สุด มันคือวิถีทางเดียวจะล้างทำลายเผาไหม้จริงในรากเหง้าอิทธิอำนาจหยั่งลึกทุกๆมิติในวงการนี้ทั้งแผ่นดินไทยได้จริงทั้งหมด ย้ำมันวางรากลึกกัดกันวงจรชาวเกษตรไทยจนพินาศถึงปัจจุบันนีัจริงๆ. ..https://youtube.com/watch?v=topV7JVUnmE&si=mhL49JRpZO7BJ7BR
    0 Comments 0 Shares 601 Views 0 Reviews
  • SMIC เผชิญปัญหาด้านผลผลิตชิปจากข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ผู้ผลิตชิปชั้นนำของจีน กำลังเผชิญกับ ปัญหาด้านผลผลิตและอัตราการได้ชิปที่ลดลง เนื่องจาก ข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อ รายได้ในไตรมาสที่สองของปี 2025

    ปัญหาหลักเกิดจาก เหตุขัดข้องระหว่างการบำรุงรักษาประจำปี ซึ่งทำให้ กระบวนการผลิตขาดความแม่นยำและอัตราการได้ชิปลดลง นอกจากนี้ การตรวจสอบอุปกรณ์ใหม่พบข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข ทำให้เกิด ความผันผวนของผลผลิตเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือน

    ✅ SMIC เผชิญปัญหาด้านผลผลิตชิปจากข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์
    - ส่งผลให้ รายได้ในไตรมาสที่สองลดลงถึง 6%

    ✅ เหตุขัดข้องระหว่างการบำรุงรักษาประจำปีทำให้กระบวนการผลิตขาดความแม่นยำ
    - ส่งผลให้ อัตราการได้ชิปลดลง

    ✅ การตรวจสอบอุปกรณ์ใหม่พบข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข
    - ทำให้ ผลผลิตลดลงเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือน

    ✅ SMIC ต้องเบี่ยงงบประมาณด้าน R&D ไปใช้แก้ไขปัญหาการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่
    - ส่งผลให้ งบ R&D ลดลงจาก 180-225 ล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 150 ล้านดอลลาร์

    ✅ SMIC คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 7.5 พันล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้
    - แม้จะเผชิญปัญหา แต่ยังคงเดินหน้าขยายกำลังการผลิต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/smic-faces-chip-yield-woes-as-equipment-maintenance-and-validation-efforts-stall
    SMIC เผชิญปัญหาด้านผลผลิตชิปจากข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ผู้ผลิตชิปชั้นนำของจีน กำลังเผชิญกับ ปัญหาด้านผลผลิตและอัตราการได้ชิปที่ลดลง เนื่องจาก ข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อ รายได้ในไตรมาสที่สองของปี 2025 ปัญหาหลักเกิดจาก เหตุขัดข้องระหว่างการบำรุงรักษาประจำปี ซึ่งทำให้ กระบวนการผลิตขาดความแม่นยำและอัตราการได้ชิปลดลง นอกจากนี้ การตรวจสอบอุปกรณ์ใหม่พบข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข ทำให้เกิด ความผันผวนของผลผลิตเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือน ✅ SMIC เผชิญปัญหาด้านผลผลิตชิปจากข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ - ส่งผลให้ รายได้ในไตรมาสที่สองลดลงถึง 6% ✅ เหตุขัดข้องระหว่างการบำรุงรักษาประจำปีทำให้กระบวนการผลิตขาดความแม่นยำ - ส่งผลให้ อัตราการได้ชิปลดลง ✅ การตรวจสอบอุปกรณ์ใหม่พบข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข - ทำให้ ผลผลิตลดลงเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือน ✅ SMIC ต้องเบี่ยงงบประมาณด้าน R&D ไปใช้แก้ไขปัญหาการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ - ส่งผลให้ งบ R&D ลดลงจาก 180-225 ล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 150 ล้านดอลลาร์ ✅ SMIC คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 7.5 พันล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้ - แม้จะเผชิญปัญหา แต่ยังคงเดินหน้าขยายกำลังการผลิต https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/smic-faces-chip-yield-woes-as-equipment-maintenance-and-validation-efforts-stall
    0 Comments 0 Shares 132 Views 0 Reviews
  • Samsung ประสบปัญหาขาดทุน 400 ล้านดอลลาร์ หลังจากตัดสินใจ ยกเลิกการใช้ชิป Exynos 2500 ในสมาร์ทโฟน Galaxy S25 Series เนื่องจากปัญหาด้าน ผลผลิตต่ำและประสิทธิภาพที่ไม่สามารถแข่งขันกับ Snapdragon 8 Elite ได้

    เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นนี้ในอนาคต Samsung มีแผนที่จะเปิดตัว Exynos 2600 ใน Galaxy S26 Series โดยคาดว่าจะใช้เฉพาะใน รุ่นที่จำหน่ายในยุโรป เนื่องจากปัญหาด้านผลผลิตที่ยังคงต่ำ

    ✅ Samsung ขาดทุน 400 ล้านดอลลาร์จากการยกเลิก Exynos 2500
    - ตัดสินใจใช้ Snapdragon 8 Elite ใน Galaxy S25 Series
    - ผลผลิตของ Exynos 2500 ต่ำและไม่สามารถแข่งขันกับ Snapdragon ได้

    ✅ Exynos 2600 อาจถูกใช้ใน Galaxy S26 รุ่นยุโรป
    - ผลผลิตยังคงต่ำ ทำให้มีการจำกัดการใช้งานในบางรุ่น
    - คาดว่า Snapdragon 8 Elite Gen 2 จะยังคงมีประสิทธิภาพเหนือกว่า

    ✅ Samsung ตั้งเป้าปรับปรุงกระบวนการผลิต 2nm GAA
    - ตั้งเป้าให้ ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 60% เพื่อรองรับการผลิตเต็มรูปแบบ
    - คาดว่าจะเริ่มการผลิตจำนวนมากใน ครึ่งหลังของปี 2025

    ✅ ผลกระทบต่อกลยุทธ์ของ Samsung ในตลาดชิปเซ็ต
    - Samsung ต้องการลดต้นทุนการผลิตชิปโดยใช้ Exynos 2600
    - อาจมีการเปิดตัว Exynos 2600 ใน Galaxy Z Flip 7

    https://wccftech.com/samsung-lost-400-million-for-dropping-exynos-2500-in-the-galaxy-s25-series/
    Samsung ประสบปัญหาขาดทุน 400 ล้านดอลลาร์ หลังจากตัดสินใจ ยกเลิกการใช้ชิป Exynos 2500 ในสมาร์ทโฟน Galaxy S25 Series เนื่องจากปัญหาด้าน ผลผลิตต่ำและประสิทธิภาพที่ไม่สามารถแข่งขันกับ Snapdragon 8 Elite ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นนี้ในอนาคต Samsung มีแผนที่จะเปิดตัว Exynos 2600 ใน Galaxy S26 Series โดยคาดว่าจะใช้เฉพาะใน รุ่นที่จำหน่ายในยุโรป เนื่องจากปัญหาด้านผลผลิตที่ยังคงต่ำ ✅ Samsung ขาดทุน 400 ล้านดอลลาร์จากการยกเลิก Exynos 2500 - ตัดสินใจใช้ Snapdragon 8 Elite ใน Galaxy S25 Series - ผลผลิตของ Exynos 2500 ต่ำและไม่สามารถแข่งขันกับ Snapdragon ได้ ✅ Exynos 2600 อาจถูกใช้ใน Galaxy S26 รุ่นยุโรป - ผลผลิตยังคงต่ำ ทำให้มีการจำกัดการใช้งานในบางรุ่น - คาดว่า Snapdragon 8 Elite Gen 2 จะยังคงมีประสิทธิภาพเหนือกว่า ✅ Samsung ตั้งเป้าปรับปรุงกระบวนการผลิต 2nm GAA - ตั้งเป้าให้ ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 60% เพื่อรองรับการผลิตเต็มรูปแบบ - คาดว่าจะเริ่มการผลิตจำนวนมากใน ครึ่งหลังของปี 2025 ✅ ผลกระทบต่อกลยุทธ์ของ Samsung ในตลาดชิปเซ็ต - Samsung ต้องการลดต้นทุนการผลิตชิปโดยใช้ Exynos 2600 - อาจมีการเปิดตัว Exynos 2600 ใน Galaxy Z Flip 7 https://wccftech.com/samsung-lost-400-million-for-dropping-exynos-2500-in-the-galaxy-s25-series/
    WCCFTECH.COM
    Samsung Was Estimated To Lose Around $400 Million After It Decided To Drop The Exynos 2500 For The Galaxy S25 Series; European Galaxy S26 Models To Be Equipped With Exynos 2600
    The Exynos 2600 will apparently be found in some Galaxy S26 variants, as Samsung was estimated to lose $400 million for dropping the Exynos 2500
    0 Comments 0 Shares 208 Views 0 Reviews
  • คลิป 4 🔥โลกร้อนเพราะ CO2 เป็นเรื่องหลอกลวง 🌎

    คาร์บอนไดออกไซด์ คือ สิ่งจำเป็นสำหรับพืช เป็นอย่างมาก 🍀

    ต่างประเทศใช้อุปกรณ์เพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ สำหรับพืชที่ปลูกในโรงเรือน ทำให้มันแข็งแรงทนทานต่อโรค และแมลง 🍊🍎 ทำให้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติได้ถึง 30%

    คาร์บอนไดออกไซด์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพืช/ต้นไม้

    พืช/ต้นไม้ ก็จำเป็นสำหรับมนุษย์และโลกของเรา

    คาร์บอนไดออกไซด์จึงจำเป็นสำหรับโลกเรา อย่าให้ใครมาหลอกเราว่าคาร์บอนไดออกไซด์ คือ สิ่งไม่ดี หรือ ทำให้โลกร้อน ถ้าคุณเชื่อแบบนั้นคุณกำลังโดนหลอก
    คลิป 4 🔥โลกร้อนเพราะ CO2 เป็นเรื่องหลอกลวง 🌎 คาร์บอนไดออกไซด์ คือ สิ่งจำเป็นสำหรับพืช เป็นอย่างมาก 🍀 ต่างประเทศใช้อุปกรณ์เพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ สำหรับพืชที่ปลูกในโรงเรือน ทำให้มันแข็งแรงทนทานต่อโรค และแมลง 🍊🍎 ทำให้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติได้ถึง 30% คาร์บอนไดออกไซด์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพืช/ต้นไม้ พืช/ต้นไม้ ก็จำเป็นสำหรับมนุษย์และโลกของเรา คาร์บอนไดออกไซด์จึงจำเป็นสำหรับโลกเรา อย่าให้ใครมาหลอกเราว่าคาร์บอนไดออกไซด์ คือ สิ่งไม่ดี หรือ ทำให้โลกร้อน ถ้าคุณเชื่อแบบนั้นคุณกำลังโดนหลอก
    0 Comments 0 Shares 195 Views 0 0 Reviews
  • คาดหมายอากาศทั่วไป
    ระหว่างวันที่ 22 – 28 เมษายน พ.ศ. 2568
    ในช่วงวันที่ 23 – 25 เม.ย. ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ เนื่องจากความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้ปกคลุมประเทศไทย สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซีย
    หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 26 – 28 เม.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ เนื่องจากมีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน บริเวณภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน สำหรับบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตลองช่วง

    ข้อควรระวัง
    ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วยตลอดช่วง
    สำหรับชาวเรือในบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 23 – 25 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย
    ส่วนในช่วงวันที่ 26 - 28 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
    ออกประกาศ 22 เมษายน 2568 12:00 น.
    คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 22 – 28 เมษายน พ.ศ. 2568 ในช่วงวันที่ 23 – 25 เม.ย. ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ เนื่องจากความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้ปกคลุมประเทศไทย สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซีย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 26 – 28 เม.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ เนื่องจากมีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน บริเวณภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน สำหรับบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตลองช่วง ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วยตลอดช่วง สำหรับชาวเรือในบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 23 – 25 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 26 - 28 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย ออกประกาศ 22 เมษายน 2568 12:00 น.
    0 Comments 0 Shares 338 Views 0 Reviews
  • สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเผยส่งออกข้าว 3 เดือน ปี 68 ทำได้แค่ 2.1 ล้านตัน ลดลง 30% ได้รับผลกระทบอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว อินโดนีเซียหยุดนำเข้า ส่วนทรัมป์ 2.0 ทำให้สหรัฐฯ มีการเร่งซื้อข้าวไทยไปเก็บสต๊อก แต่ระยะยาว หากภาษีขึ้น ส่งออกกระทบแน่ ยังยืนเป้าปีนี้ 7.5 ล้านตัน รอดูครึ่งปีจะทบทวนหรือไม่

    นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 3 เดือน ปี 2568 (ม.ค.-มี.ค.) มีปริมาณ 2.1 ล้านตัน ลดลง 30% เนื่องจากอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาวอีกครั้ง หลังระงับส่งออกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และยังได้รับผลกระทบจากอินโดนีเซีย ซึ่งผู้นำเข้ารายสำคัญในปีที่ผ่านมา ที่นำเข้าสูงถึง 4 ล้านตัน แต่ช่วงนี้หยุดการนำเข้าข้าวจากไทย เพราะมีผลผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น โดยปีนี้ทั้งปีอินโดนีเซียอาจนำเข้าข้าวไม่ถึง 1 ล้านตัน และคาดว่าจะกลับมานำเข้าในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ปริมาณส่งออกข้าวขาวลดลงถึง 53% แต่ยังดีที่มียอดส่งออกข้าวหอมมะลิไทย และข้าวนึ่งเพิ่มขึ้น

    สำหรับนโยบายทรัมป์ 2.0 ยังเป็นประเด็นที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้มีการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากไทยแล้ว 10% จากเดิมภาษีอยู่ที่ 0% โดยการชะลอการเก็บภาษีนำเข้าจากไทยในอัตรา 36% ออกไป 90 วัน ทำให้มีคำสั่งซื้อข้าวไทยเพิ่มมากขึ้น เพื่อเก็บในสต็อก โดยในช่วงไตรมาสแรก มีการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปแล้วกว่า 2 แสนตัน ส่วนปีที่ผ่านมา ส่งออกข้าวไปตลาดสหรัฐฯ ปริมาณ 830,000 ตัน เป็นข้าวหอมมะลิไทย 630,000 ตัน และข้าวหอมไทย 120,000 ตัน โดยแต่ละปี มีการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย รวม 1.3-1.4 ล้านตัน

    ทั้งนี้ ในระยะต่อไป หากไทยถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 25% ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิไทยปัจจุบันอยู่ที่ 1,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน ราคาจะเพิ่มเป็น 1,250 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งไม่แน่ใจว่าผู้บริโภคสหรัฐฯ จะรับราคาที่เพิ่มได้หรือไม่ ซึ่งต้องรอดูผลตอบรับต่อไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000037319

    #MGROnline #สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย #ข้าวไทย #ส่งออกข้าวขาว
    สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเผยส่งออกข้าว 3 เดือน ปี 68 ทำได้แค่ 2.1 ล้านตัน ลดลง 30% ได้รับผลกระทบอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว อินโดนีเซียหยุดนำเข้า ส่วนทรัมป์ 2.0 ทำให้สหรัฐฯ มีการเร่งซื้อข้าวไทยไปเก็บสต๊อก แต่ระยะยาว หากภาษีขึ้น ส่งออกกระทบแน่ ยังยืนเป้าปีนี้ 7.5 ล้านตัน รอดูครึ่งปีจะทบทวนหรือไม่ • นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 3 เดือน ปี 2568 (ม.ค.-มี.ค.) มีปริมาณ 2.1 ล้านตัน ลดลง 30% เนื่องจากอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาวอีกครั้ง หลังระงับส่งออกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และยังได้รับผลกระทบจากอินโดนีเซีย ซึ่งผู้นำเข้ารายสำคัญในปีที่ผ่านมา ที่นำเข้าสูงถึง 4 ล้านตัน แต่ช่วงนี้หยุดการนำเข้าข้าวจากไทย เพราะมีผลผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น โดยปีนี้ทั้งปีอินโดนีเซียอาจนำเข้าข้าวไม่ถึง 1 ล้านตัน และคาดว่าจะกลับมานำเข้าในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ปริมาณส่งออกข้าวขาวลดลงถึง 53% แต่ยังดีที่มียอดส่งออกข้าวหอมมะลิไทย และข้าวนึ่งเพิ่มขึ้น • สำหรับนโยบายทรัมป์ 2.0 ยังเป็นประเด็นที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้มีการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากไทยแล้ว 10% จากเดิมภาษีอยู่ที่ 0% โดยการชะลอการเก็บภาษีนำเข้าจากไทยในอัตรา 36% ออกไป 90 วัน ทำให้มีคำสั่งซื้อข้าวไทยเพิ่มมากขึ้น เพื่อเก็บในสต็อก โดยในช่วงไตรมาสแรก มีการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปแล้วกว่า 2 แสนตัน ส่วนปีที่ผ่านมา ส่งออกข้าวไปตลาดสหรัฐฯ ปริมาณ 830,000 ตัน เป็นข้าวหอมมะลิไทย 630,000 ตัน และข้าวหอมไทย 120,000 ตัน โดยแต่ละปี มีการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย รวม 1.3-1.4 ล้านตัน • ทั้งนี้ ในระยะต่อไป หากไทยถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 25% ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิไทยปัจจุบันอยู่ที่ 1,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน ราคาจะเพิ่มเป็น 1,250 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งไม่แน่ใจว่าผู้บริโภคสหรัฐฯ จะรับราคาที่เพิ่มได้หรือไม่ ซึ่งต้องรอดูผลตอบรับต่อไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000037319 • #MGROnline #สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย #ข้าวไทย #ส่งออกข้าวขาว
    0 Comments 0 Shares 449 Views 0 Reviews
  • 👁️‍🗨️ 48 ปี “ปีศาจโดเวอร์” สิ่งมีชีวิตลึกลับแห่งแมสซาชูเซตส์ ตำนานปริศนาอเมริกา ที่ยังไร้คำอธิบาย

    เปิดตำนานปริศนาสุดลึกลับ จากสหรัฐอเมริกา กับสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏตัวเพียงไม่กี่ครั้ง แต่กลับทิ้งคำถาม ไว้ให้โลกค้นหามานานถึงครึ่งศตวรรษ

    🎯 เมื่อ “สิ่งลึกลับ” ปรากฏขึ้นเพียงไม่กี่วินาที... แต่คนทั้งเมืองจดจำมันได้เป็นสิบปี หากเป็นหนึ่งในคนที่ชอบเรื่องลี้ลับ ชอบฟังตำนานเมือง หรือหลงใหลในเรื่องสิ่งมีชีวิตประหลาดแบบ “X-Files” หรือ “Stranger Things” ไม่ควรพลาดตำนานของ “ปีศาจโดเวอร์” (Dover Demon) 🛸

    ปี พ.ศ. 2520 คือปีที่ชื่อของ “Dover Demon” ปรากฏขึ้นครั้งแรกในเมืองเล็ก ๆ ชื่อว่า “โดเวอร์” รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา สิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดที่มีหัวโต ตาเรืองแสง ไม่มีจมูกปาก แขนขายาว ผิวหยาบเหมือนกระดาษทราย และสำคัญที่สุด ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่า มันคืออะไร ❓

    👹 ตำนานที่เริ่มต้นจาก “ความบังเอิญ” เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2520 ในคืนเดือนมืด วันพฤหัสบดีอันเงียบสงบของเมืองโดเวอร์ กลับกลายเป็นวันที่เปลี่ยนชีวิต ของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งไปตลอดกาล…

    "บิลล์ บาร์ทเล็ทท์" (Bill Bartlett) วัย 17 ปี กำลังขับรถกับเพื่อน ๆ ในถนนสายเปลี่ยว จู่ ๆ เขาก็เห็นสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์แปลกประหลาดปีนไปตามกำแพงเตี้ย ๆ ข้างถนน มันมีหัวโตมาก ดวงตาเรืองแสง ไม่มีจมูก ไม่มีปาก และผิวของมันดูเหมือน “ทรายเปียก” 🌑

    เสียงของเพื่อนอาจไม่ได้ยิน แต่ภาพนั้นกลับตราตรึงบาร์ทเล็ทท์ ไปตลอดชีวิต เขาถึงขั้นวาดภาพสิ่งที่เห็น ออกมาในคืนนั้นเลยทันที

    การพบเห็นอีก 2 ครั้งใน 24 ชั่วโมงถัดมา

    "จอห์น แบกซ์เตอร์" วัย 15 ปี พบเห็นสิ่งมีชีวิตเดียวกัน ในช่วงเช้ามืดของวันถัดมา

    "แอ็บบี อับราฮัม" และ "วิลล์ เทนเตอร์" ก็พบเห็นรูปร่างคล้ายกัน ขณะขับรถบนถนนอีกสาย ที่อยู่ในรัศมีไม่ไกลจากจุดแรก

    ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในรัศมีเพียง 4 กิโลเมตร ‼️ และแม้จะเป็นวัยรุ่นต่างกลุ่ม ต่างสถานที่ ต่างช่วงเวลา แต่คำอธิบายของพวกเขา กลับเหมือนกันอย่างน่าประหลาดใจ

    🧠 ความสำคัญของปีศาจโดเวอร์ ในแง่วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม การพบเห็นสิ่งลึกลับเพียงไม่กี่วินาที ทำไมถึงกลายเป็นตำนาน ที่คนทั้งโลกพูดถึง? 🤔

    มุมมองเชิงจิตวิทยา นักจิตวิทยาวิเคราะห์ว่า เรื่องของ “ปีศาจโดเวอร์” อาจเป็นผลจากการรับรู้ผิดเพี้ยน (misperception) หรือการตีความสิ่งที่เห็นผิดจากความจริง อันเนื่องมาจากสภาพแสง เงา และความกลัว

    👁️‍🗨️ “เราเห็นสิ่งที่เรา อยากเห็น มากกว่าสิ่งที่ มันเป็นจริง ๆ”

    แต่ถ้าแค่คนเดียวที่เห็นผิด ยังพอเข้าใจได้... แล้วทำไมถึงมีคนเห็นคล้ายกันถึง 3 กลุ่ม ภายในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง? นี่คือสิ่งที่ทำให้ปีศาจโดเวอร์ ไม่ใช่แค่เรื่องหลอนกลางคืน ธรรมดา

    มุมมองเชิงวัฒนธรรม ปีศาจโดเวอร์ได้รับการบันทึกโดย "Loren Coleman" ผู้เชี่ยวชาญด้าน Cryptozoology หรือการศึกษาสิ่งมีชีวิตลึกลับ และเผยแพร่ผ่านหนังสือพิมพ์และสารคดี ทำให้เรื่องนี้แพร่กระจายจนกลายเป็น Urban Legend หรือ “ตำนานเมือง” ที่ถูกพูดถึงในวงกว้าง 🌍

    💬 ความเชื่อและทฤษฎีต่าง ๆ เกี่ยวกับปีศาจโดเวอร์

    👽 มนุษย์ต่างดาว (Alien Theory) ด้วยรูปลักษณ์ที่หัวโต ตาใหญ่ คล้ายกับ “Grey Alien” ในวัฒนธรรมป๊อป หลายคนจึงเชื่อว่า ปีศาจโดเวอร์ อาจเป็นสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก หรือ “สปาย” จากกาแล็กซีอื่นที่กำลังสำรวจโลกอยู่ 🛸

    🧬 สิ่งมีชีวิตทดลองหลุดจากห้องแล็บ? อีกทฤษฎีหนึ่งที่น่าขนลุกไม่น้อย คือปีศาจโดเวอร์ อาจเป็นผลผลิตของการทดลองทางพันธุกรรม ที่ผิดพลาด และหลุดรอดออกมาสู่โลกภายนอก โดยไม่ได้ตั้งใจ

    🧠 ภาพลวงตาหรือจินตนาการ? ฝ่ายที่ไม่เชื่อ มักมองว่าทั้งหมด เป็นเพียงจินตนาการของวัยรุ่นที่ตื่นเต้น หรืออาจเป็นอาการ hypnagogic hallucination คือภาพหลอนช่วงก่อนหลับ ที่สมองสร้างขึ้นเองจากความกลัว

    🔍 รายละเอียดการพบเห็นทั้ง 3 ครั้ง

    📍 กรณีที่ 1 "บิลล์ บาร์ทเล็ทท์" เห็นครั้งแรก 21 เม.ย. 2520 พบสิ่งมีชีวิตปีนกำแพง ลักษณะหัวใหญ่ ดวงตาเรืองแสง ไม่มีจมูก ไม่มีปาก แขนขายาว ผิวเหมือนกระดาษทราย สูงประมาณ 4 ฟุต หรือ 1.2 เมตร วาดภาพไว้เป็นหลักฐานทันที หลังเหตุการณ์

    📍 กรณีที่ 2 "จอห์น แบกซ์เตอร์" การเผชิญหน้าใกล้ 22 เม.ย. 2520 ตี 1 พบสิ่งมีชีวิตเดินสวนทางมา รูปร่างคล้ายลิง แต่ไม่มีขน ตาเขียว ผิวดำ ใช้นิ้วยาวโอบต้นไม้ คล้ายพฤติกรรมลิง

    📍 กรณีที่ 3 "แอ็บบี และวิลล์" บังเอิญเจออีกครั้ง 22 เม.ย. 2520 เที่ยงคืน เห็นรูปร่างคล้าย “แพะ” ยืนอยู่ข้างถนน ดวงตาสะท้อนแสงสีเขียว เมื่อต้องไฟหน้ารถ

    📌 ปีศาจโดเวอร์กับตำนานในอเมริกาอื่น ๆ

    The Rake ผิวซีด เดิน 4 ขา ไร้ขน รูปร่างคล้ายมนุษย์ ไม่มีขน

    Mothman มนุษย์มีปีก ดวงตาแดง ความหลอนในช่วงเวลาเฉพาะ

    Grey Alien หัวโต ผิวเทา ตาดำ ตรงลักษณะกายภาพที่สุด

    🇹🇭 เปรียบเทียบกับตำนานลึกลับในไทย

    👻 กระสือ สิ่งลี้ลับที่เห็นเฉพาะกลางคืน ไม่มีคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์

    🌊 พรายน้ำ สิ่งมีชีวิตลึกลับในแหล่งน้ำ ที่คนเห็นบ้างไม่เห็นบ้าง

    🙏 ผีเปรต ร่างสูง ผอม หวาดกลัว แต่ไม่ใช่สัตว์

    😱 แม่นาคพระโขนง สิ่งลี้ลับระหว่างความเป็นคน กับวิญญาณ

    ปีศาจโดเวอร์ใกล้เคียงที่สุดกับ “กระสือ” หรือ “พรายน้ำ” ที่เป็นสิ่งมีชีวิต ที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ และเห็นเพียงบางช่วงเวลา

    🧩 เรื่องเล่าที่ไม่มีวันหายไป แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 48 ปี แล้ว แต่คำถามที่ว่า “ปีศาจโดเวอร์คืออะไรกันแน่?” ยังคงไม่ได้รับคำตอบ

    จะเป็นเอเลี่ยน สัตว์ทดลอง ภาพลวงตา หรือปีศาจในตำนานอินเดียแดง สิ่งเดียวที่แน่นอนคือ มันได้ทิ้งร่องรอยทางวัฒนธรรม ไว้ในใจผู้คน และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังสือ สารคดี และแม้แต่ในเกมบางเกม 🎮

    “บางเรื่อง... ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์เสมอไป แค่มีคนเล่า... มันก็อยู่ได้ตลอดไปแล้ว” 👣

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 210817 เม.ย. 2568

    📲 #ปีศาจโดเวอร์ #DoverDemon #สิ่งมีชีวิตลึกลับ #UrbanLegend #เรื่องลี้ลับอเมริกา #มนุษย์ต่างดาว #GreyAlien #Mothman #TheRake #ตำนานเมือง
    👁️‍🗨️ 48 ปี “ปีศาจโดเวอร์” สิ่งมีชีวิตลึกลับแห่งแมสซาชูเซตส์ ตำนานปริศนาอเมริกา ที่ยังไร้คำอธิบาย เปิดตำนานปริศนาสุดลึกลับ จากสหรัฐอเมริกา กับสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏตัวเพียงไม่กี่ครั้ง แต่กลับทิ้งคำถาม ไว้ให้โลกค้นหามานานถึงครึ่งศตวรรษ 🎯 เมื่อ “สิ่งลึกลับ” ปรากฏขึ้นเพียงไม่กี่วินาที... แต่คนทั้งเมืองจดจำมันได้เป็นสิบปี หากเป็นหนึ่งในคนที่ชอบเรื่องลี้ลับ ชอบฟังตำนานเมือง หรือหลงใหลในเรื่องสิ่งมีชีวิตประหลาดแบบ “X-Files” หรือ “Stranger Things” ไม่ควรพลาดตำนานของ “ปีศาจโดเวอร์” (Dover Demon) 🛸 ปี พ.ศ. 2520 คือปีที่ชื่อของ “Dover Demon” ปรากฏขึ้นครั้งแรกในเมืองเล็ก ๆ ชื่อว่า “โดเวอร์” รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา สิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดที่มีหัวโต ตาเรืองแสง ไม่มีจมูกปาก แขนขายาว ผิวหยาบเหมือนกระดาษทราย และสำคัญที่สุด ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่า มันคืออะไร ❓ 👹 ตำนานที่เริ่มต้นจาก “ความบังเอิญ” เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2520 ในคืนเดือนมืด วันพฤหัสบดีอันเงียบสงบของเมืองโดเวอร์ กลับกลายเป็นวันที่เปลี่ยนชีวิต ของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งไปตลอดกาล… "บิลล์ บาร์ทเล็ทท์" (Bill Bartlett) วัย 17 ปี กำลังขับรถกับเพื่อน ๆ ในถนนสายเปลี่ยว จู่ ๆ เขาก็เห็นสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์แปลกประหลาดปีนไปตามกำแพงเตี้ย ๆ ข้างถนน มันมีหัวโตมาก ดวงตาเรืองแสง ไม่มีจมูก ไม่มีปาก และผิวของมันดูเหมือน “ทรายเปียก” 🌑 เสียงของเพื่อนอาจไม่ได้ยิน แต่ภาพนั้นกลับตราตรึงบาร์ทเล็ทท์ ไปตลอดชีวิต เขาถึงขั้นวาดภาพสิ่งที่เห็น ออกมาในคืนนั้นเลยทันที การพบเห็นอีก 2 ครั้งใน 24 ชั่วโมงถัดมา "จอห์น แบกซ์เตอร์" วัย 15 ปี พบเห็นสิ่งมีชีวิตเดียวกัน ในช่วงเช้ามืดของวันถัดมา "แอ็บบี อับราฮัม" และ "วิลล์ เทนเตอร์" ก็พบเห็นรูปร่างคล้ายกัน ขณะขับรถบนถนนอีกสาย ที่อยู่ในรัศมีไม่ไกลจากจุดแรก ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในรัศมีเพียง 4 กิโลเมตร ‼️ และแม้จะเป็นวัยรุ่นต่างกลุ่ม ต่างสถานที่ ต่างช่วงเวลา แต่คำอธิบายของพวกเขา กลับเหมือนกันอย่างน่าประหลาดใจ 🧠 ความสำคัญของปีศาจโดเวอร์ ในแง่วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม การพบเห็นสิ่งลึกลับเพียงไม่กี่วินาที ทำไมถึงกลายเป็นตำนาน ที่คนทั้งโลกพูดถึง? 🤔 มุมมองเชิงจิตวิทยา นักจิตวิทยาวิเคราะห์ว่า เรื่องของ “ปีศาจโดเวอร์” อาจเป็นผลจากการรับรู้ผิดเพี้ยน (misperception) หรือการตีความสิ่งที่เห็นผิดจากความจริง อันเนื่องมาจากสภาพแสง เงา และความกลัว 👁️‍🗨️ “เราเห็นสิ่งที่เรา อยากเห็น มากกว่าสิ่งที่ มันเป็นจริง ๆ” แต่ถ้าแค่คนเดียวที่เห็นผิด ยังพอเข้าใจได้... แล้วทำไมถึงมีคนเห็นคล้ายกันถึง 3 กลุ่ม ภายในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง? นี่คือสิ่งที่ทำให้ปีศาจโดเวอร์ ไม่ใช่แค่เรื่องหลอนกลางคืน ธรรมดา มุมมองเชิงวัฒนธรรม ปีศาจโดเวอร์ได้รับการบันทึกโดย "Loren Coleman" ผู้เชี่ยวชาญด้าน Cryptozoology หรือการศึกษาสิ่งมีชีวิตลึกลับ และเผยแพร่ผ่านหนังสือพิมพ์และสารคดี ทำให้เรื่องนี้แพร่กระจายจนกลายเป็น Urban Legend หรือ “ตำนานเมือง” ที่ถูกพูดถึงในวงกว้าง 🌍 💬 ความเชื่อและทฤษฎีต่าง ๆ เกี่ยวกับปีศาจโดเวอร์ 👽 มนุษย์ต่างดาว (Alien Theory) ด้วยรูปลักษณ์ที่หัวโต ตาใหญ่ คล้ายกับ “Grey Alien” ในวัฒนธรรมป๊อป หลายคนจึงเชื่อว่า ปีศาจโดเวอร์ อาจเป็นสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก หรือ “สปาย” จากกาแล็กซีอื่นที่กำลังสำรวจโลกอยู่ 🛸 🧬 สิ่งมีชีวิตทดลองหลุดจากห้องแล็บ? อีกทฤษฎีหนึ่งที่น่าขนลุกไม่น้อย คือปีศาจโดเวอร์ อาจเป็นผลผลิตของการทดลองทางพันธุกรรม ที่ผิดพลาด และหลุดรอดออกมาสู่โลกภายนอก โดยไม่ได้ตั้งใจ 🧠 ภาพลวงตาหรือจินตนาการ? ฝ่ายที่ไม่เชื่อ มักมองว่าทั้งหมด เป็นเพียงจินตนาการของวัยรุ่นที่ตื่นเต้น หรืออาจเป็นอาการ hypnagogic hallucination คือภาพหลอนช่วงก่อนหลับ ที่สมองสร้างขึ้นเองจากความกลัว 🔍 รายละเอียดการพบเห็นทั้ง 3 ครั้ง 📍 กรณีที่ 1 "บิลล์ บาร์ทเล็ทท์" เห็นครั้งแรก 21 เม.ย. 2520 พบสิ่งมีชีวิตปีนกำแพง ลักษณะหัวใหญ่ ดวงตาเรืองแสง ไม่มีจมูก ไม่มีปาก แขนขายาว ผิวเหมือนกระดาษทราย สูงประมาณ 4 ฟุต หรือ 1.2 เมตร วาดภาพไว้เป็นหลักฐานทันที หลังเหตุการณ์ 📍 กรณีที่ 2 "จอห์น แบกซ์เตอร์" การเผชิญหน้าใกล้ 22 เม.ย. 2520 ตี 1 พบสิ่งมีชีวิตเดินสวนทางมา รูปร่างคล้ายลิง แต่ไม่มีขน ตาเขียว ผิวดำ ใช้นิ้วยาวโอบต้นไม้ คล้ายพฤติกรรมลิง 📍 กรณีที่ 3 "แอ็บบี และวิลล์" บังเอิญเจออีกครั้ง 22 เม.ย. 2520 เที่ยงคืน เห็นรูปร่างคล้าย “แพะ” ยืนอยู่ข้างถนน ดวงตาสะท้อนแสงสีเขียว เมื่อต้องไฟหน้ารถ 📌 ปีศาจโดเวอร์กับตำนานในอเมริกาอื่น ๆ The Rake ผิวซีด เดิน 4 ขา ไร้ขน รูปร่างคล้ายมนุษย์ ไม่มีขน Mothman มนุษย์มีปีก ดวงตาแดง ความหลอนในช่วงเวลาเฉพาะ Grey Alien หัวโต ผิวเทา ตาดำ ตรงลักษณะกายภาพที่สุด 🇹🇭 เปรียบเทียบกับตำนานลึกลับในไทย 👻 กระสือ สิ่งลี้ลับที่เห็นเฉพาะกลางคืน ไม่มีคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ 🌊 พรายน้ำ สิ่งมีชีวิตลึกลับในแหล่งน้ำ ที่คนเห็นบ้างไม่เห็นบ้าง 🙏 ผีเปรต ร่างสูง ผอม หวาดกลัว แต่ไม่ใช่สัตว์ 😱 แม่นาคพระโขนง สิ่งลี้ลับระหว่างความเป็นคน กับวิญญาณ ปีศาจโดเวอร์ใกล้เคียงที่สุดกับ “กระสือ” หรือ “พรายน้ำ” ที่เป็นสิ่งมีชีวิต ที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ และเห็นเพียงบางช่วงเวลา 🧩 เรื่องเล่าที่ไม่มีวันหายไป แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 48 ปี แล้ว แต่คำถามที่ว่า “ปีศาจโดเวอร์คืออะไรกันแน่?” ยังคงไม่ได้รับคำตอบ จะเป็นเอเลี่ยน สัตว์ทดลอง ภาพลวงตา หรือปีศาจในตำนานอินเดียแดง สิ่งเดียวที่แน่นอนคือ มันได้ทิ้งร่องรอยทางวัฒนธรรม ไว้ในใจผู้คน และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังสือ สารคดี และแม้แต่ในเกมบางเกม 🎮 “บางเรื่อง... ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์เสมอไป แค่มีคนเล่า... มันก็อยู่ได้ตลอดไปแล้ว” 👣 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 210817 เม.ย. 2568 📲 #ปีศาจโดเวอร์ #DoverDemon #สิ่งมีชีวิตลึกลับ #UrbanLegend #เรื่องลี้ลับอเมริกา #มนุษย์ต่างดาว #GreyAlien #Mothman #TheRake #ตำนานเมือง
    0 Comments 0 Shares 703 Views 0 Reviews
  • Samsung ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับการเลื่อนกำหนดการเปิดดำเนินงานของโรงงานผลิตชิปในเมือง Taylor รัฐเท็กซัส โดยยืนยันว่าโรงงานจะเริ่มการผลิตในปี 2026 ตามแผนเดิม แม้ว่าจะมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าโรงงานอาจเผชิญกับปัญหาด้านการผลิตและการจ้างงานที่จำกัด โรงงานแห่งนี้มีความสำคัญต่อการผลิตชิปสำหรับเทคโนโลยีรุ่นใหม่ เช่น 5G, AI และ HPC และยังมีเป้าหมายในการสร้างงานกว่า 10,000 ตำแหน่งในพื้นที่

    ✅ โรงงาน Taylor จะเริ่มการผลิตในปี 2026 ตามแผนเดิม
    - Samsung ยืนยันว่าไม่มีการเลื่อนกำหนดการเปิดดำเนินงาน
    - โรงงานนี้มีเป้าหมายในการผลิตชิปสำหรับเทคโนโลยี 5G, AI และ HPC

    ✅ โรงงาน Taylor มีความสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีรุ่นใหม่
    - โรงงานนี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการผลิตชิปและเสริมสร้างเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานชิปทั่วโลก
    - การลงทุนในโรงงานนี้จะสร้างงานกว่า 10,000 ตำแหน่งในเมือง Austin และ Taylor

    ✅ Samsung เผชิญกับความท้าทายในการผลิตชิป 2nm
    - มีรายงานว่าโรงงานอาจประสบปัญหาด้านผลผลิตของชิป 2nm แต่ Samsung ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้

    ✅ โรงงาน Taylor จะทำงานร่วมกับโรงงานใน Austin เพื่อสร้างโอกาสในภูมิภาค
    - การลงทุนนี้จะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่และสร้างโอกาสให้กับชาว Central Texas

    https://wccftech.com/samsung-denies-any-delays-happening-at-its-taylor-plant-in-texas/
    Samsung ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับการเลื่อนกำหนดการเปิดดำเนินงานของโรงงานผลิตชิปในเมือง Taylor รัฐเท็กซัส โดยยืนยันว่าโรงงานจะเริ่มการผลิตในปี 2026 ตามแผนเดิม แม้ว่าจะมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าโรงงานอาจเผชิญกับปัญหาด้านการผลิตและการจ้างงานที่จำกัด โรงงานแห่งนี้มีความสำคัญต่อการผลิตชิปสำหรับเทคโนโลยีรุ่นใหม่ เช่น 5G, AI และ HPC และยังมีเป้าหมายในการสร้างงานกว่า 10,000 ตำแหน่งในพื้นที่ ✅ โรงงาน Taylor จะเริ่มการผลิตในปี 2026 ตามแผนเดิม - Samsung ยืนยันว่าไม่มีการเลื่อนกำหนดการเปิดดำเนินงาน - โรงงานนี้มีเป้าหมายในการผลิตชิปสำหรับเทคโนโลยี 5G, AI และ HPC ✅ โรงงาน Taylor มีความสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีรุ่นใหม่ - โรงงานนี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการผลิตชิปและเสริมสร้างเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานชิปทั่วโลก - การลงทุนในโรงงานนี้จะสร้างงานกว่า 10,000 ตำแหน่งในเมือง Austin และ Taylor ✅ Samsung เผชิญกับความท้าทายในการผลิตชิป 2nm - มีรายงานว่าโรงงานอาจประสบปัญหาด้านผลผลิตของชิป 2nm แต่ Samsung ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ ✅ โรงงาน Taylor จะทำงานร่วมกับโรงงานใน Austin เพื่อสร้างโอกาสในภูมิภาค - การลงทุนนี้จะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่และสร้างโอกาสให้กับชาว Central Texas https://wccftech.com/samsung-denies-any-delays-happening-at-its-taylor-plant-in-texas/
    WCCFTECH.COM
    Samsung Had Reportedly Pushed Back The Operational Timeline Of Its Taylor Plant To 2027, But The Company Denies That Such Delays Are Happening
    A statement has been issued by Samsung, denying the previous rumors that claimed the Taylor plant’s operations has been delayed to 2027
    0 Comments 0 Shares 255 Views 0 Reviews
  • เนสกาแฟจ่อขาดตลาด ศาลสั่งห้ามผลิต-ขาย

    สร้างความตกใจแก่ผู้บริโภค เมื่อบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ศาลแพ่งมีนบุรีออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามดำเนินการผลิต ว่าจ้างผลิต จำหน่าย และนำเข้าผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปโดยใช้เครื่องหมายการค้าเนสกาแฟ (Nescafé) ในประเทศไทย หลังจากนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ทายาทรุ่น 2 ของนายประยุทธ มหากิจศิริ เจ้าของฉายา "เจ้าพ่อเนสกาแฟ" ฟ้องดำเนินคดีแพ่งกับบริษัทในเครือเนสท์เล่และกรรมการ 2 คดี เป็นผลทำให้บริษัทฯ จะไม่สามารถรับคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เนสกาแฟจากร้านค้าปลีกต่างๆ ทั่วประเทศ แต่ระหว่างนี้ร้านค้าปลีกที่มีผลิตภัณฑ์เนสกาแฟอยู่ในร้าน ยังสามารถจำหน่ายได้ตามปกติ

    เนสท์เล่ กล่าวถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นว่า ผู้ประกอบการรายย่อย ร้านกาแฟขนาดเล็ก และรถเข็นขายกาแฟจะสูญเสียรายได้ เพราะไม่มีผลิตภัณฑ์เนสกาแฟจำหน่าย หากปรับเปลี่ยนสูตรการชงและวัตถุดิบที่ใช้ อาจส่งผลต่อรสชาติที่เปลี่ยนไป กระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการรายย่อย อีกทั้งพนักงานของลูกค้าและคู่ค้าซัพพลายเออร์ ที่เคยสามารถจัดส่งวัตถุดิบต่างๆ ให้กับเนสกาแฟต้องหยุดชะงักลง ส่งผลให้ขาดรายได้ เกษตรกรผู้เพาะปลูกกาแฟ และเกษตรกรโคนมในไทยจะไม่สามารถจำหน่ายวัตถุดิบให้เนสกาแฟได้ ซึ่งทุกปีจะรับซื้อเมล็ดกาแฟดิบพันธุ์โรบัสต้ามากกว่าครึ่งหนึ่งของผลผลิตทั้งหมด นอกจากนี้ ผู้บริโภคหลายล้านคนในประเทศไทย และผู้บริโภคในตลาดส่งออกของเนสกาแฟจะไม่มีผลิตภัณฑ์เนสกาแฟดื่ม

    "เนสท์เล่ จะดำเนินการอย่างเต็มที่ในการแก้ไขสถานการณ์นี้ และกำลังดำเนินการยื่นคำร้องคัดค้านเพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าวต่อศาล พร้อมยื่นข้อมูลที่ครบถ้วนแก่ศาลแพ่งมีนบุรีเพื่อการพิจารณาคำร้อง" แถลงการณ์ ระบุ

    เนสกาแฟวางตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2533-2567 ผลิตโดย บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนในสัดส่วนคนละครึ่ง ระหว่างเนสท์เล่ กับตระกูลมหากิจศิริ นำโดยนายประยุทธ มหากิจศิริ แต่อำนาจในการบริหารงานการผลิต การจัดจำหน่าย รวมทั้งการทำการตลาด เป็นของเนสท์เล่ รวมทั้งเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตเนสกาแฟ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของเนสท์เล่

    เนสท์เล่ ได้แจ้งยุติสัญญากับบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส เมื่อปี 2564 และศาลอนุญาโตตุลาการสากลตัดสินแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 2567 แต่หลังยุติสัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ เนสท์เล่จึงยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ขอให้ศาลมีคำสั่งเลิกบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส แต่เมื่อเดือน มี.ค.-เม.ย. 2568 นายเฉลิมชัยฟ้องศาลแพ่งมีนบุรี ก่อนจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว

    #Newskit
    เนสกาแฟจ่อขาดตลาด ศาลสั่งห้ามผลิต-ขาย สร้างความตกใจแก่ผู้บริโภค เมื่อบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ศาลแพ่งมีนบุรีออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามดำเนินการผลิต ว่าจ้างผลิต จำหน่าย และนำเข้าผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปโดยใช้เครื่องหมายการค้าเนสกาแฟ (Nescafé) ในประเทศไทย หลังจากนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ทายาทรุ่น 2 ของนายประยุทธ มหากิจศิริ เจ้าของฉายา "เจ้าพ่อเนสกาแฟ" ฟ้องดำเนินคดีแพ่งกับบริษัทในเครือเนสท์เล่และกรรมการ 2 คดี เป็นผลทำให้บริษัทฯ จะไม่สามารถรับคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เนสกาแฟจากร้านค้าปลีกต่างๆ ทั่วประเทศ แต่ระหว่างนี้ร้านค้าปลีกที่มีผลิตภัณฑ์เนสกาแฟอยู่ในร้าน ยังสามารถจำหน่ายได้ตามปกติ เนสท์เล่ กล่าวถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นว่า ผู้ประกอบการรายย่อย ร้านกาแฟขนาดเล็ก และรถเข็นขายกาแฟจะสูญเสียรายได้ เพราะไม่มีผลิตภัณฑ์เนสกาแฟจำหน่าย หากปรับเปลี่ยนสูตรการชงและวัตถุดิบที่ใช้ อาจส่งผลต่อรสชาติที่เปลี่ยนไป กระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการรายย่อย อีกทั้งพนักงานของลูกค้าและคู่ค้าซัพพลายเออร์ ที่เคยสามารถจัดส่งวัตถุดิบต่างๆ ให้กับเนสกาแฟต้องหยุดชะงักลง ส่งผลให้ขาดรายได้ เกษตรกรผู้เพาะปลูกกาแฟ และเกษตรกรโคนมในไทยจะไม่สามารถจำหน่ายวัตถุดิบให้เนสกาแฟได้ ซึ่งทุกปีจะรับซื้อเมล็ดกาแฟดิบพันธุ์โรบัสต้ามากกว่าครึ่งหนึ่งของผลผลิตทั้งหมด นอกจากนี้ ผู้บริโภคหลายล้านคนในประเทศไทย และผู้บริโภคในตลาดส่งออกของเนสกาแฟจะไม่มีผลิตภัณฑ์เนสกาแฟดื่ม "เนสท์เล่ จะดำเนินการอย่างเต็มที่ในการแก้ไขสถานการณ์นี้ และกำลังดำเนินการยื่นคำร้องคัดค้านเพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าวต่อศาล พร้อมยื่นข้อมูลที่ครบถ้วนแก่ศาลแพ่งมีนบุรีเพื่อการพิจารณาคำร้อง" แถลงการณ์ ระบุ เนสกาแฟวางตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2533-2567 ผลิตโดย บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนในสัดส่วนคนละครึ่ง ระหว่างเนสท์เล่ กับตระกูลมหากิจศิริ นำโดยนายประยุทธ มหากิจศิริ แต่อำนาจในการบริหารงานการผลิต การจัดจำหน่าย รวมทั้งการทำการตลาด เป็นของเนสท์เล่ รวมทั้งเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตเนสกาแฟ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของเนสท์เล่ เนสท์เล่ ได้แจ้งยุติสัญญากับบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส เมื่อปี 2564 และศาลอนุญาโตตุลาการสากลตัดสินแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 2567 แต่หลังยุติสัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ เนสท์เล่จึงยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ขอให้ศาลมีคำสั่งเลิกบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส แต่เมื่อเดือน มี.ค.-เม.ย. 2568 นายเฉลิมชัยฟ้องศาลแพ่งมีนบุรี ก่อนจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว #Newskit
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 588 Views 0 Reviews
  • #สร้างชุมชนthaitimeกัน

    ..ใครคือนักรบชาติไทยจะแนวไหน อย่างไร อิสระแบบใด ติด# ว่า" #สร้างชุมชนthaitimeกัน " ,ในช่องทางเพจบ้านใครมันคงดี จะfb line ติ๊กต๊อก อะไรไหนๆเพิ่มช่องทางสื่อสารไร้เผด็จการปิดกั้นเสรีการแสดงออกและคิดเห็นเราอีกช่องคงดี,thaitime กำลังปรับปรุงให้ใช้งานสะดวกขึ้นแน่นอน ขนาดเปิดคลิปทูปๆยังเล่นได้เลย ไม่ต้องเด้งไปแอปทูปๆมัน สะดวกอีกมิติการพัฒนา,แม้ค่อยๆก้าวเดินมาใหม่ก็จะดีขึ้นแน่ๆ คนไทยสัก40ล้านคนไทยมาร่วมกันใช้มันก็ตื่นรู้อะไรต่างๆได้มากมายเลย,ช่องรายการต่างๆบนแพลตฟอร์มอื่นย้ายมาใช้ที่thaitimeไม่มุ่งหวังกำไรอะไร มันย่อมดีแน่,
    ..อนาคตอาจเป็นกองทุนร้านค้าชุมชนคนไทยออนไลน์ก็ได้,ตลาดชุมชนออนไลน์เป็นพื้นที่ขายของออนไลน์ช่วยเหลือคนไทยฟรีๆด้านแพลตฟอร์มเชื่อมคนซื้อคนขายทางตรงก็ได้,เป็นสถาบันกองทุนตั้นตนเริ่มสัมมาอาชีพคนไทยก็ได้,เป็นแหล่งฮับสาระพัดองค์รู้ต่างๆที่ชุมชนthaitimeนี้ทั่วโลกก็ได้,ทั่วโลกต้องการอะไรจะสินค้า&บริการด้านไหนสามารถมาตลาดชุมชนออนไลน์ตรงนี้ของคนไทยได้หรือเข้ามาใช้ร่วมกันฟรีทั่วโลกก็ได้,เมื่อจุดยืนชัดเจนไม่มุ่งหวังผลประโยชน์กำไร เป็นสาธารณะเพื่อชุมชนคนไทย มันไปได้ดีแน่,ระดมจัดตั้งเป็นแพลตฟอร์มกองทุนตังคนไทยยืมกันฟรีๆก็ได้แบบชวนแบงค์ชาติมาเป็นเจ้าภาพร่วม,บัญชีตังQFSดิจิดัลที่แพลตฟอร์มรวมศูนย์ก็ได้,ฝากถอนตัดจ่ายออนไลน์ออฟไลน์ได้หมดแม้ไร้เน็ต,
    ..คนใช้thaitimeมีบัญชีตังQFSด้วยจะขนาดไหน,แบงค์ส่งเสริมเงินเริ่มต้นสัมมาอาชีพคนไทยอนาคตผ่านกองทุนร้านค้าชุมชนหมู่บ้านthaitimeจริงจังจะขนาดไหน อาทิไทยมี80,000หมู่บ้าน แบงค์สร้างโครงการนี้ขึ้นทดลองสัก20,000หมู่บ้านๆละ10ล้านบาท คนชุมชนนั้นต้องสมัครสมาชิกthaitimeด้วย สแกนจ่ายตังตัดบัญชีQFSที่แอปthaitimeได้เลย,ทั้งแบบออนไลน์และตลาดร้านค้าชุมชนในหมู่บ้านนั้นๆที่แบงค์อนุมัติร่วมโครงการ,ขายของออนไลน์ได้ก็เข้าบัญชีQFSเลยของชาวบ้านจะสินค้าเกษตรที่ขายได้หรือใดๆ,ฝากตังก็ได้ถอนเงินสดก็ได้ผ่านสาขาสถานที่จริงคือร้านค้าชุมชนตนในแต่ละหมู่บ้านนั้น,ตังจะหมุนเวียนในชุมชนนั้นๆหรือภายในประเทศอย่างเดียว,ในเบื้องต้นที่เริ่มโครงการ,เงินที่คนจะฝากก็สนใจมาฝากมาเป็นสมาชิกthaitime ระดมทุนได้ด้วย,อนาคตก็ออกเป็นหุ้นสมาชิก เป็นเจ้าของกรรมสิทธิจริงร่วมกันก่อตั้งอย่างเป็นทางการ,หรือเริ่มต้นทำแบบนี้ก่อนก็ได้,เงินที่สะพัดในประเทศไทยปกติกว่า40-50ล้านล้านบาทต่อปีก็จะเข้ามาในชุมชนคนไทยอย่างมีระบบระเบียบ ,โครงการอะไรดีๆเช่นโคกหนองนาโมเดล ยื่นลงทะเบียนออนไลน์คัดกรองส่งเสริมกันได้สะดวก,ตังใครสำเร็จเช่นขายสินค้าเกษตรได้ก็มาร่วมฝากไว้ที่แอปเรา มีแบงค์ชาติค้ำสถานะ,ขายทุเรียนมีสัก1,000-2,000คนมูลค้าได้กำไรกว่า10,000-20,000ล้านบาทอาจร่วมมาฝากเพิ่มสภาพคล่องปล่อยคนสัมมาอาชีพอื่นๆมายืมตังทำทุนสร้างตนเองฟรีดอกเบี้ย,ส่งแค่เงินต้นในปีที่สองก็ว่า,ปลูกสร้างทำเสร็จ เราสร้างแพลตฟอร์มการตลาดรองรับช่วยกัน,ขายได้ตังก็มีสถานที่เก็บที่แบงค์ค้ำประกันให้ อาจโอนออโต้เก็บตรงที่แบงค์ชาติส่วนกลางเลย,ตังกว่า100ล้านล้านบาท หมุนช่วยเหลือสมาชิกคนไทยสร้างสัมมาอาชีพพึ่งพาตนเองได้จริงด้วยตนเองเหลือล้นล่ะ,แบงค์เอกชนอาศัยตังนี้ไปปั่นทำกำไรอะไรก็ไม่ได้,ตั้งเงินปล่อยยืมเรียลไทม์รายวินาทีรายวันก็ได้เช่นวันนี้ใครอยากยืมไปทำเกษตรสร้างอาชีพเริ่มต้น สองปีหลังค่อยมาผ่อนจ่ายเงินต้น ให้คนละ1,000,000บาท ทุนโครงการรออนุมัติวันนี้เพียง10,000,000,000บาทแค่นั้น,ช่วยคนไทยได้10,000คนต่อวันโน้น,เขาเอาตัง500,000แรกลงทุนอาชีพปลูกพืชผักของเราสไตล์ล้ำๆหรือธรรมชาติแบบไหนก็ตาม อีก500,000คือรายจ่ายค่ากินอยู่ดำรงชีพรอเก็บเกี่ยวผลผลิต,จบ2ปีกำไร200,000บาทคืนตังทั้งหมดได้บวกอุปกรณ์ทุนเดิมยังสร้างรายได้ต่อยอดอื่นๆได้อีกก็มั่นคงนะสิ,ตัง10,000ล้านสามารถปล่อยยืมคนไทยคนต่อไปได้ต่ออีกโน้น,พวกนี้ชวนญาติพี่น้องมาฝากมาออมตังอีก แม่ค้าพ่อค้ามาฝากตังอีก ตังมีแต่จะเพิ่มขึ้น,ค้าขายต่างประเทศขายออนไลน์ได้กำไรคนละ100ล้านบาท ทำสำเร็จกว่า100,000คนไทย เอาตังมาฝากเก็บในกองทุนเราเองอีกคือ10ล้านล้านบาทเลยนะในเดือนนั้นไตรมาสนั้นครึ่งปีนั้นหรือตลอดปีก็ตาม,สรุปกองทุนชุมชนเราอาจหมุนเวียนกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีใครจะรู้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์.จึงมาร่วมสร้างthaitimeเป็นพันธมิตรรักคนไทยเราร่วมกันดีที่สุด.คนดีคนเก่งมากมายสร้างสรรค์จะพัฒนาแพลตฟอร์มนี้ให้ยอดเยี่ยมได้สบายล่ะ,คนไทยเราอัจฉริยะเยอะนะ.

    #สร้างชุมชนthaitimeกัน ..ใครคือนักรบชาติไทยจะแนวไหน อย่างไร อิสระแบบใด ติด# ว่า" #สร้างชุมชนthaitimeกัน " ,ในช่องทางเพจบ้านใครมันคงดี จะfb line ติ๊กต๊อก อะไรไหนๆเพิ่มช่องทางสื่อสารไร้เผด็จการปิดกั้นเสรีการแสดงออกและคิดเห็นเราอีกช่องคงดี,thaitime กำลังปรับปรุงให้ใช้งานสะดวกขึ้นแน่นอน ขนาดเปิดคลิปทูปๆยังเล่นได้เลย ไม่ต้องเด้งไปแอปทูปๆมัน สะดวกอีกมิติการพัฒนา,แม้ค่อยๆก้าวเดินมาใหม่ก็จะดีขึ้นแน่ๆ คนไทยสัก40ล้านคนไทยมาร่วมกันใช้มันก็ตื่นรู้อะไรต่างๆได้มากมายเลย,ช่องรายการต่างๆบนแพลตฟอร์มอื่นย้ายมาใช้ที่thaitimeไม่มุ่งหวังกำไรอะไร มันย่อมดีแน่, ..อนาคตอาจเป็นกองทุนร้านค้าชุมชนคนไทยออนไลน์ก็ได้,ตลาดชุมชนออนไลน์เป็นพื้นที่ขายของออนไลน์ช่วยเหลือคนไทยฟรีๆด้านแพลตฟอร์มเชื่อมคนซื้อคนขายทางตรงก็ได้,เป็นสถาบันกองทุนตั้นตนเริ่มสัมมาอาชีพคนไทยก็ได้,เป็นแหล่งฮับสาระพัดองค์รู้ต่างๆที่ชุมชนthaitimeนี้ทั่วโลกก็ได้,ทั่วโลกต้องการอะไรจะสินค้า&บริการด้านไหนสามารถมาตลาดชุมชนออนไลน์ตรงนี้ของคนไทยได้หรือเข้ามาใช้ร่วมกันฟรีทั่วโลกก็ได้,เมื่อจุดยืนชัดเจนไม่มุ่งหวังผลประโยชน์กำไร เป็นสาธารณะเพื่อชุมชนคนไทย มันไปได้ดีแน่,ระดมจัดตั้งเป็นแพลตฟอร์มกองทุนตังคนไทยยืมกันฟรีๆก็ได้แบบชวนแบงค์ชาติมาเป็นเจ้าภาพร่วม,บัญชีตังQFSดิจิดัลที่แพลตฟอร์มรวมศูนย์ก็ได้,ฝากถอนตัดจ่ายออนไลน์ออฟไลน์ได้หมดแม้ไร้เน็ต, ..คนใช้thaitimeมีบัญชีตังQFSด้วยจะขนาดไหน,แบงค์ส่งเสริมเงินเริ่มต้นสัมมาอาชีพคนไทยอนาคตผ่านกองทุนร้านค้าชุมชนหมู่บ้านthaitimeจริงจังจะขนาดไหน อาทิไทยมี80,000หมู่บ้าน แบงค์สร้างโครงการนี้ขึ้นทดลองสัก20,000หมู่บ้านๆละ10ล้านบาท คนชุมชนนั้นต้องสมัครสมาชิกthaitimeด้วย สแกนจ่ายตังตัดบัญชีQFSที่แอปthaitimeได้เลย,ทั้งแบบออนไลน์และตลาดร้านค้าชุมชนในหมู่บ้านนั้นๆที่แบงค์อนุมัติร่วมโครงการ,ขายของออนไลน์ได้ก็เข้าบัญชีQFSเลยของชาวบ้านจะสินค้าเกษตรที่ขายได้หรือใดๆ,ฝากตังก็ได้ถอนเงินสดก็ได้ผ่านสาขาสถานที่จริงคือร้านค้าชุมชนตนในแต่ละหมู่บ้านนั้น,ตังจะหมุนเวียนในชุมชนนั้นๆหรือภายในประเทศอย่างเดียว,ในเบื้องต้นที่เริ่มโครงการ,เงินที่คนจะฝากก็สนใจมาฝากมาเป็นสมาชิกthaitime ระดมทุนได้ด้วย,อนาคตก็ออกเป็นหุ้นสมาชิก เป็นเจ้าของกรรมสิทธิจริงร่วมกันก่อตั้งอย่างเป็นทางการ,หรือเริ่มต้นทำแบบนี้ก่อนก็ได้,เงินที่สะพัดในประเทศไทยปกติกว่า40-50ล้านล้านบาทต่อปีก็จะเข้ามาในชุมชนคนไทยอย่างมีระบบระเบียบ ,โครงการอะไรดีๆเช่นโคกหนองนาโมเดล ยื่นลงทะเบียนออนไลน์คัดกรองส่งเสริมกันได้สะดวก,ตังใครสำเร็จเช่นขายสินค้าเกษตรได้ก็มาร่วมฝากไว้ที่แอปเรา มีแบงค์ชาติค้ำสถานะ,ขายทุเรียนมีสัก1,000-2,000คนมูลค้าได้กำไรกว่า10,000-20,000ล้านบาทอาจร่วมมาฝากเพิ่มสภาพคล่องปล่อยคนสัมมาอาชีพอื่นๆมายืมตังทำทุนสร้างตนเองฟรีดอกเบี้ย,ส่งแค่เงินต้นในปีที่สองก็ว่า,ปลูกสร้างทำเสร็จ เราสร้างแพลตฟอร์มการตลาดรองรับช่วยกัน,ขายได้ตังก็มีสถานที่เก็บที่แบงค์ค้ำประกันให้ อาจโอนออโต้เก็บตรงที่แบงค์ชาติส่วนกลางเลย,ตังกว่า100ล้านล้านบาท หมุนช่วยเหลือสมาชิกคนไทยสร้างสัมมาอาชีพพึ่งพาตนเองได้จริงด้วยตนเองเหลือล้นล่ะ,แบงค์เอกชนอาศัยตังนี้ไปปั่นทำกำไรอะไรก็ไม่ได้,ตั้งเงินปล่อยยืมเรียลไทม์รายวินาทีรายวันก็ได้เช่นวันนี้ใครอยากยืมไปทำเกษตรสร้างอาชีพเริ่มต้น สองปีหลังค่อยมาผ่อนจ่ายเงินต้น ให้คนละ1,000,000บาท ทุนโครงการรออนุมัติวันนี้เพียง10,000,000,000บาทแค่นั้น,ช่วยคนไทยได้10,000คนต่อวันโน้น,เขาเอาตัง500,000แรกลงทุนอาชีพปลูกพืชผักของเราสไตล์ล้ำๆหรือธรรมชาติแบบไหนก็ตาม อีก500,000คือรายจ่ายค่ากินอยู่ดำรงชีพรอเก็บเกี่ยวผลผลิต,จบ2ปีกำไร200,000บาทคืนตังทั้งหมดได้บวกอุปกรณ์ทุนเดิมยังสร้างรายได้ต่อยอดอื่นๆได้อีกก็มั่นคงนะสิ,ตัง10,000ล้านสามารถปล่อยยืมคนไทยคนต่อไปได้ต่ออีกโน้น,พวกนี้ชวนญาติพี่น้องมาฝากมาออมตังอีก แม่ค้าพ่อค้ามาฝากตังอีก ตังมีแต่จะเพิ่มขึ้น,ค้าขายต่างประเทศขายออนไลน์ได้กำไรคนละ100ล้านบาท ทำสำเร็จกว่า100,000คนไทย เอาตังมาฝากเก็บในกองทุนเราเองอีกคือ10ล้านล้านบาทเลยนะในเดือนนั้นไตรมาสนั้นครึ่งปีนั้นหรือตลอดปีก็ตาม,สรุปกองทุนชุมชนเราอาจหมุนเวียนกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีใครจะรู้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์.จึงมาร่วมสร้างthaitimeเป็นพันธมิตรรักคนไทยเราร่วมกันดีที่สุด.คนดีคนเก่งมากมายสร้างสรรค์จะพัฒนาแพลตฟอร์มนี้ให้ยอดเยี่ยมได้สบายล่ะ,คนไทยเราอัจฉริยะเยอะนะ.
    0 Comments 0 Shares 549 Views 0 Reviews
  • Samsung กำลังพัฒนาเทคโนโลยีชิปเซ็ต 2 นาโนเมตรที่อาจเปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อลดการพึ่งพาแบรนด์ Exynos และเตรียมผลิตในปี 2025 โดยชิปนี้จะถูกใช้ใน Galaxy S26 Series ซึ่ง Samsung มุ่งหวังลดการพึ่งพา Snapdragon อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการพัฒนายังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อเป้าหมายของบริษัท

    การพัฒนาเทคโนโลยี GAA Process:
    - ชิปเซ็ต 2 นาโนเมตรของ Samsung ใช้ GAA Process รุ่นแรก ซึ่งมีปัญหาเรื่องการเพิ่มผลผลิต (yield) โดยก่อนหน้านี้ Samsung ทำได้เพียง 30% ในการทดลองผลิตรุ่นต้นแบบ

    ความพยายามลดการใช้ชิป Snapdragon:
    - Samsung มีแผนที่จะลดการพึ่งพา Snapdragon โดยพัฒนาชิปเซ็ตของตัวเอง เช่น รุ่นที่ใช้ชื่อรหัส Ulysses บนกระบวนการผลิต GAA รุ่นที่สอง

    ความท้าทายที่ยืดเยื้อ:
    - แม้ Samsung จะมีความสามารถในการผลิตชิปเซ็ต แต่ปัญหาเชิงโครงสร้างและการพัฒนาเทคโนโลยียังคงทำให้ Qualcomm ครองตลาดชิปเซ็ตระดับสูง

    ทิศทางในอนาคต:
    - หาก Samsung ประสบความสำเร็จในการพัฒนากระบวนการ 2 นาโนเมตรและสร้างภาพลักษณ์ใหม่ จะเป็นก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ TSMC และผลักดันให้บริษัทกลับมาเป็นผู้นำในตลาดเซมิคอนดักเตอร์

    https://wccftech.com/samsung-2nm-soc-might-not-be-called-the-exynos-2600/
    Samsung กำลังพัฒนาเทคโนโลยีชิปเซ็ต 2 นาโนเมตรที่อาจเปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อลดการพึ่งพาแบรนด์ Exynos และเตรียมผลิตในปี 2025 โดยชิปนี้จะถูกใช้ใน Galaxy S26 Series ซึ่ง Samsung มุ่งหวังลดการพึ่งพา Snapdragon อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการพัฒนายังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อเป้าหมายของบริษัท การพัฒนาเทคโนโลยี GAA Process: - ชิปเซ็ต 2 นาโนเมตรของ Samsung ใช้ GAA Process รุ่นแรก ซึ่งมีปัญหาเรื่องการเพิ่มผลผลิต (yield) โดยก่อนหน้านี้ Samsung ทำได้เพียง 30% ในการทดลองผลิตรุ่นต้นแบบ ความพยายามลดการใช้ชิป Snapdragon: - Samsung มีแผนที่จะลดการพึ่งพา Snapdragon โดยพัฒนาชิปเซ็ตของตัวเอง เช่น รุ่นที่ใช้ชื่อรหัส Ulysses บนกระบวนการผลิต GAA รุ่นที่สอง ความท้าทายที่ยืดเยื้อ: - แม้ Samsung จะมีความสามารถในการผลิตชิปเซ็ต แต่ปัญหาเชิงโครงสร้างและการพัฒนาเทคโนโลยียังคงทำให้ Qualcomm ครองตลาดชิปเซ็ตระดับสูง ทิศทางในอนาคต: - หาก Samsung ประสบความสำเร็จในการพัฒนากระบวนการ 2 นาโนเมตรและสร้างภาพลักษณ์ใหม่ จะเป็นก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ TSMC และผลักดันให้บริษัทกลับมาเป็นผู้นำในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ https://wccftech.com/samsung-2nm-soc-might-not-be-called-the-exynos-2600/
    WCCFTECH.COM
    Samsung’s Upcoming 2nm SoC May Not Feature The Exynos 2600 Name At All, Claims Questionable Rumor, Company Possibly Exploring A Rebrand To Mount Its Comeback
    A sketchy rumor claims that the Exynos 2600 might not be the name of Samsung’s upcoming 2nm SoC, hinting at a possible rebrand of its chipsets
    0 Comments 0 Shares 275 Views 0 Reviews
  • SMIC กำลังเข้าสู่การพัฒนาชิป 5 นาโนเมตร โดยใช้เครื่องมือ DUV แทน EUV ซึ่งส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นและอัตราการผลิตต่ำกว่า TSMC แต่ความสำเร็จนี้ยังเป็นก้าวสำคัญในความพยายามลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดย Huawei เตรียมใช้ชิปดังกล่าวในโครงการ AI เพื่อลดการพึ่งพาบริษัทจากตะวันตก ความท้าทายที่ยังคงอยู่คือการปรับปรุงผลผลิตและลดต้นทุนในอนาคต

    ประสิทธิภาพและค่าใช้จ่าย:
    - แม้กระบวนการ 5 นาโนเมตรจะสำเร็จ แต่ผลผลิตที่ได้มีอัตราการผลิตที่ต่ำ (33%) เมื่อเทียบกับ TSMC ซึ่งสะท้อนถึงอุปสรรคของ SMIC ในการพัฒนาชิปเทคโนโลยีขั้นสูง.

    การพึ่งพาทรัพยากรในประเทศ:
    - SMIC ต้องรอการพัฒนาเครื่อง EUV ภายในประเทศ ซึ่งจะเริ่มการทดลองผลิตในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 โดยหวังว่าจะช่วยให้บริษัทพัฒนากระบวนการผลิตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น.

    บทบาทของ Huawei:
    - Huawei มีแผนใช้เทคโนโลยีนี้ในชิป AI รุ่น Ascend 910C ซึ่งจะลดการพึ่งพา NVIDIA โดย SMIC ได้มุ่งเน้นการผลิตเพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีของ Huawei อย่างเต็มที่.

    ความท้าทายในระยะยาว:
    - แม้ SMIC จะพัฒนาชิปได้สำเร็จ แต่ต้นทุนและผลผลิตที่ต่ำยังคงเป็นความท้าทาย บริษัทจำเป็นต้องลงทุนในอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นเพื่อแข่งขันในตลาดระดับโลก.

    https://wccftech.com/smic-5nm-development-completed-in-2025/
    SMIC กำลังเข้าสู่การพัฒนาชิป 5 นาโนเมตร โดยใช้เครื่องมือ DUV แทน EUV ซึ่งส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นและอัตราการผลิตต่ำกว่า TSMC แต่ความสำเร็จนี้ยังเป็นก้าวสำคัญในความพยายามลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดย Huawei เตรียมใช้ชิปดังกล่าวในโครงการ AI เพื่อลดการพึ่งพาบริษัทจากตะวันตก ความท้าทายที่ยังคงอยู่คือการปรับปรุงผลผลิตและลดต้นทุนในอนาคต ประสิทธิภาพและค่าใช้จ่าย: - แม้กระบวนการ 5 นาโนเมตรจะสำเร็จ แต่ผลผลิตที่ได้มีอัตราการผลิตที่ต่ำ (33%) เมื่อเทียบกับ TSMC ซึ่งสะท้อนถึงอุปสรรคของ SMIC ในการพัฒนาชิปเทคโนโลยีขั้นสูง. การพึ่งพาทรัพยากรในประเทศ: - SMIC ต้องรอการพัฒนาเครื่อง EUV ภายในประเทศ ซึ่งจะเริ่มการทดลองผลิตในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 โดยหวังว่าจะช่วยให้บริษัทพัฒนากระบวนการผลิตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น. บทบาทของ Huawei: - Huawei มีแผนใช้เทคโนโลยีนี้ในชิป AI รุ่น Ascend 910C ซึ่งจะลดการพึ่งพา NVIDIA โดย SMIC ได้มุ่งเน้นการผลิตเพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีของ Huawei อย่างเต็มที่. ความท้าทายในระยะยาว: - แม้ SMIC จะพัฒนาชิปได้สำเร็จ แต่ต้นทุนและผลผลิตที่ต่ำยังคงเป็นความท้าทาย บริษัทจำเป็นต้องลงทุนในอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นเพื่อแข่งขันในตลาดระดับโลก. https://wccftech.com/smic-5nm-development-completed-in-2025/
    WCCFTECH.COM
    SMIC Is Rumored To Complete 5nm Chip Development By 2025; Costs Could Be Up To 50 Percent Higher Than TSMC’s Version Due To The Use Of Older-Generation Equipment
    China’s biggest semiconductor manufacturer, SMIC, is rumored to complete 5nm chip development in 2025, leading to advanced chip orders from Huawei
    0 Comments 0 Shares 258 Views 0 Reviews
  • 🔥 #หน้าร้อน เพลี้ยอ่อนระบาดหนัก! 🌱 ระวังเมล่อนชะงัก โตช้า แคระแกร็น!

    🐞 #เพลี้ยอ่อน ศัตรูร้ายที่มาพร้อมอากาศร้อน! พบได้บ่อยในแปลงเมล่อน หากปล่อยให้ระบาด ต้นจะชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง หรือแย่สุดคือ ไม่ได้ผลผลิตเลย!

    🔹 วิธีป้องกัน: ใช้ #ไตรโคบิวพลัส (เชื้อราบิวเวอร์เรีย) พ่นป้องกันทุก 5-7 วัน อัตรา 50-80 กรัม/น้ำ 20 ลิตร พ่นช่วงเย็นให้ทั่วใบบน-ใบล่าง เพิ่มสารจับใบเพื่อให้เห็นผลชัดขึ้น!

    🔹 วิธีแก้ไข:
    ✅ เริ่มพบเพลี้ยอ่อน – พ่นไตรโคบิวพลัสทุก 3 วัน
    ✅ ระบาดหนัก – ถอนต้นที่เป็นโรครุนแรง แล้วเผาทำลายทันที!

    🌿 เทคนิคปลูกเมล่อนปลอดสารพิษแบบมืออาชีพที่ Little Farm ใช้แล้วได้ผลจริง!

    💚 สนใจสั่งซื้อ ปุ๋ย AB คุณภาพสูง, ชีวภัณฑ์ป้องกันโรคแมลง, อุปกรณ์ปลูกเมล่อน
    📩 ทัก Inbox หรือโทร 093-696-2691 ได้เลยครับ!

    #LittleFarm #ปลูกเมล่อนปลอดสาร #เพลี้ยอ่อน #ไตรโคบิวพลัส
    🔥 #หน้าร้อน เพลี้ยอ่อนระบาดหนัก! 🌱 ระวังเมล่อนชะงัก โตช้า แคระแกร็น! 🐞 #เพลี้ยอ่อน ศัตรูร้ายที่มาพร้อมอากาศร้อน! พบได้บ่อยในแปลงเมล่อน หากปล่อยให้ระบาด ต้นจะชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง หรือแย่สุดคือ ไม่ได้ผลผลิตเลย! 🔹 วิธีป้องกัน: ใช้ #ไตรโคบิวพลัส (เชื้อราบิวเวอร์เรีย) พ่นป้องกันทุก 5-7 วัน อัตรา 50-80 กรัม/น้ำ 20 ลิตร พ่นช่วงเย็นให้ทั่วใบบน-ใบล่าง เพิ่มสารจับใบเพื่อให้เห็นผลชัดขึ้น! 🔹 วิธีแก้ไข: ✅ เริ่มพบเพลี้ยอ่อน – พ่นไตรโคบิวพลัสทุก 3 วัน ✅ ระบาดหนัก – ถอนต้นที่เป็นโรครุนแรง แล้วเผาทำลายทันที! 🌿 เทคนิคปลูกเมล่อนปลอดสารพิษแบบมืออาชีพที่ Little Farm ใช้แล้วได้ผลจริง! 💚 สนใจสั่งซื้อ ปุ๋ย AB คุณภาพสูง, ชีวภัณฑ์ป้องกันโรคแมลง, อุปกรณ์ปลูกเมล่อน 📩 ทัก Inbox หรือโทร 093-696-2691 ได้เลยครับ! #LittleFarm #ปลูกเมล่อนปลอดสาร #เพลี้ยอ่อน #ไตรโคบิวพลัส
    0 Comments 0 Shares 540 Views 0 Reviews
  • Nvidia กำลังพิจารณาใช้เทคโนโลยีการผลิตชิป 18A ของ Intel สำหรับ GPU เกมมิ่งในอนาคต หากสำเร็จ นี่จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Intel ในการสร้างชื่อเสียงในฐานะผู้ให้บริการผลิตชิประดับโลก นอกจากนี้ Intel ยังพัฒนาเทคโนโลยี 18A-P ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพและลดพลังงาน การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแค่ขับเคลื่อนวงการผลิตชิป แต่ยังสะท้อนถึงการแข่งขันที่ร้อนแรงในตลาดเทคโนโลยีล้ำสมัย

    มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ:
    - หาก Nvidia ตัดสินใจใช้บริการของ Intel นี่อาจเป็น "จุดเปลี่ยน" ของตลาดการผลิตชิป และช่วยให้ Intel ขยายธุรกิจ foundry อย่างมีนัยสำคัญ.

    เทคโนโลยี 18A-P:
    - นักออกแบบชิปอาจเลือกใช้รุ่น 18A-P ที่ให้ผลผลิตที่ดีกว่า ลดความแปรปรวนในประสิทธิภาพ และลดความหนาแน่นของข้อบกพร่อง เพื่อยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์.

    การเปลี่ยนผ่านใน Intel:
    - CEO คนใหม่ของ Intel, Lip-Bu Tan, มีแผนเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีการออกแบบและการผลิตชิปให้กับลูกค้าภายนอก โดยจะเปิดเผยแผนงานครั้งแรกในงาน Vision Event ในวันที่ 31 มีนาคม 2025.

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-is-reportedly-close-to-adopting-intel-foundrys-18a-process-node-for-gaming-gpus
    Nvidia กำลังพิจารณาใช้เทคโนโลยีการผลิตชิป 18A ของ Intel สำหรับ GPU เกมมิ่งในอนาคต หากสำเร็จ นี่จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Intel ในการสร้างชื่อเสียงในฐานะผู้ให้บริการผลิตชิประดับโลก นอกจากนี้ Intel ยังพัฒนาเทคโนโลยี 18A-P ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพและลดพลังงาน การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแค่ขับเคลื่อนวงการผลิตชิป แต่ยังสะท้อนถึงการแข่งขันที่ร้อนแรงในตลาดเทคโนโลยีล้ำสมัย มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: - หาก Nvidia ตัดสินใจใช้บริการของ Intel นี่อาจเป็น "จุดเปลี่ยน" ของตลาดการผลิตชิป และช่วยให้ Intel ขยายธุรกิจ foundry อย่างมีนัยสำคัญ. เทคโนโลยี 18A-P: - นักออกแบบชิปอาจเลือกใช้รุ่น 18A-P ที่ให้ผลผลิตที่ดีกว่า ลดความแปรปรวนในประสิทธิภาพ และลดความหนาแน่นของข้อบกพร่อง เพื่อยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์. การเปลี่ยนผ่านใน Intel: - CEO คนใหม่ของ Intel, Lip-Bu Tan, มีแผนเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีการออกแบบและการผลิตชิปให้กับลูกค้าภายนอก โดยจะเปิดเผยแผนงานครั้งแรกในงาน Vision Event ในวันที่ 31 มีนาคม 2025. https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-is-reportedly-close-to-adopting-intel-foundrys-18a-process-node-for-gaming-gpus
    0 Comments 0 Shares 302 Views 0 Reviews
  • TSMC เป็นบริษัทที่มีกลยุทธ์ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ทั้งโหนดใหม่และเก่าเพื่อสร้างกำไรสูงสุด โหนดเก่าที่หมดค่าเสื่อมราคากลายเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง ในขณะที่โหนดใหม่อย่าง 3nm และ 5nm แม้มีต้นทุนสูง แต่คาดว่าจะเริ่มทำกำไรเพิ่มขึ้นในปีหน้า

    การสร้างกำไรจากโหนดเก่า:
    - โหนดรุ่นเก่า เช่น 7nm มีอัตรากำไรสูงสุดถึง 27% เนื่องจากกระบวนการผลิตมีการชำระค่าเสื่อมราคาเรียบร้อยแล้ว เมื่อเทียบกับโหนดใหม่อย่าง 3nm และ 5nm ที่ยังอยู่ในช่วงต้นและมีต้นทุนสูงจากค่าเสื่อมราคาและการวิจัย.

    กลยุทธ์ของ TSMC:
    - การรักษาโหนดเก่าช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในด้านการผลิตและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า เช่น รถยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรม IoT.

    การแข่งขันกับ Intel:
    - Intel ที่เน้นพัฒนาโหนดใหม่เร่งเข้าสู่ตลาด Foundry ต้องเผชิญกับอุปสรรคจากการขาดโครงสร้างและโหนดผลิตรุ่นเก่า โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ TSMC ที่มีศักยภาพในกระบวนการผลิตและการจัดการต้นทุนที่เหนือชั้นกว่า.

    มุมมองในอนาคต:
    - TSMC คาดว่าโหนดใหม่ เช่น 3nm และ 5nm จะเริ่มสร้างผลกำไรที่สูงขึ้นในปีหน้า หลังการปรับปรุงผลผลิตและลดต้นทุนลงอย่างต่อเนื่อง.

    https://www.techspot.com/news/107278-how-profitable-tsmc-nodes-crunching-numbers.html
    TSMC เป็นบริษัทที่มีกลยุทธ์ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ทั้งโหนดใหม่และเก่าเพื่อสร้างกำไรสูงสุด โหนดเก่าที่หมดค่าเสื่อมราคากลายเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง ในขณะที่โหนดใหม่อย่าง 3nm และ 5nm แม้มีต้นทุนสูง แต่คาดว่าจะเริ่มทำกำไรเพิ่มขึ้นในปีหน้า การสร้างกำไรจากโหนดเก่า: - โหนดรุ่นเก่า เช่น 7nm มีอัตรากำไรสูงสุดถึง 27% เนื่องจากกระบวนการผลิตมีการชำระค่าเสื่อมราคาเรียบร้อยแล้ว เมื่อเทียบกับโหนดใหม่อย่าง 3nm และ 5nm ที่ยังอยู่ในช่วงต้นและมีต้นทุนสูงจากค่าเสื่อมราคาและการวิจัย. กลยุทธ์ของ TSMC: - การรักษาโหนดเก่าช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในด้านการผลิตและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า เช่น รถยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรม IoT. การแข่งขันกับ Intel: - Intel ที่เน้นพัฒนาโหนดใหม่เร่งเข้าสู่ตลาด Foundry ต้องเผชิญกับอุปสรรคจากการขาดโครงสร้างและโหนดผลิตรุ่นเก่า โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ TSMC ที่มีศักยภาพในกระบวนการผลิตและการจัดการต้นทุนที่เหนือชั้นกว่า. มุมมองในอนาคต: - TSMC คาดว่าโหนดใหม่ เช่น 3nm และ 5nm จะเริ่มสร้างผลกำไรที่สูงขึ้นในปีหน้า หลังการปรับปรุงผลผลิตและลดต้นทุนลงอย่างต่อเนื่อง. https://www.techspot.com/news/107278-how-profitable-tsmc-nodes-crunching-numbers.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    How profitable are TSMC's nodes: crunching the numbers
    By now, most of us are familiar with the fact that TSMC operates a significant amount of trailing edge manufacturing capacity. Long after they have moved on...
    0 Comments 0 Shares 242 Views 0 Reviews
  • SiCarrier บริษัทจากจีนที่เกี่ยวข้องกับ Huawei กำลังพัฒนาเครื่องจักรที่สามารถทดแทนอุปกรณ์ของ ASML เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนและใช้เทคโนโลยี LDP ที่ทันสมัย การพัฒนาเครื่องจักรเหล่านี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพการผลิตชิปขั้นสูงในประเทศจีน และอาจเป็นจุดเปลี่ยนในอุตสาหกรรมการผลิตชิประดับโลก

    เป้าหมายในการลดการพึ่งพา:
    - SiCarrier พยายามพัฒนาทั้งระบบ Lithography, Chemical Vapor Deposition, และ Atomic Layer Deposition ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการผลิตเวเฟอร์ขั้นสูง.
    - เทคโนโลยีใหม่เน้นการใช้ Laser-Induced Discharge Plasma (LDP) และมีการเตรียมผลิตต้นแบบในไตรมาสที่สามของปี 2025.

    ความร่วมมือกับ Huawei:
    - Huawei สนับสนุนการพัฒนาเครื่องจักรเหล่านี้โดยใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญในการผลิตชิปเพื่อเติมเต็มเป้าหมายของ SiCarrier ในการพัฒนาระบบผลิตที่ยั่งยืน.

    ความก้าวหน้าในเทคโนโลยี:
    - ปัจจุบันเทคโนโลยีขั้นสูงสุดของจีนคือกระบวนการผลิต 5 นาโนเมตร โดยบริษัท SMIC อย่างไรก็ตามยังคงมีปัญหาความล่าช้าและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการใช้เครื่อง DUV ที่สร้างผลผลิตที่ไม่สมบูรณ์.

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม:
    - การพัฒนาของ SiCarrier อาจช่วยให้จีนแข่งขันได้ในอุตสาหกรรมการผลิตชิประดับโลก และลดอิทธิพลจากการส่งออกเทคโนโลยีจากบริษัทต่างชาติ

    https://wccftech.com/sicarrier-linked-to-huawei-working-on-machines-to-replace-asml/
    SiCarrier บริษัทจากจีนที่เกี่ยวข้องกับ Huawei กำลังพัฒนาเครื่องจักรที่สามารถทดแทนอุปกรณ์ของ ASML เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนและใช้เทคโนโลยี LDP ที่ทันสมัย การพัฒนาเครื่องจักรเหล่านี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพการผลิตชิปขั้นสูงในประเทศจีน และอาจเป็นจุดเปลี่ยนในอุตสาหกรรมการผลิตชิประดับโลก เป้าหมายในการลดการพึ่งพา: - SiCarrier พยายามพัฒนาทั้งระบบ Lithography, Chemical Vapor Deposition, และ Atomic Layer Deposition ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการผลิตเวเฟอร์ขั้นสูง. - เทคโนโลยีใหม่เน้นการใช้ Laser-Induced Discharge Plasma (LDP) และมีการเตรียมผลิตต้นแบบในไตรมาสที่สามของปี 2025. ความร่วมมือกับ Huawei: - Huawei สนับสนุนการพัฒนาเครื่องจักรเหล่านี้โดยใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญในการผลิตชิปเพื่อเติมเต็มเป้าหมายของ SiCarrier ในการพัฒนาระบบผลิตที่ยั่งยืน. ความก้าวหน้าในเทคโนโลยี: - ปัจจุบันเทคโนโลยีขั้นสูงสุดของจีนคือกระบวนการผลิต 5 นาโนเมตร โดยบริษัท SMIC อย่างไรก็ตามยังคงมีปัญหาความล่าช้าและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการใช้เครื่อง DUV ที่สร้างผลผลิตที่ไม่สมบูรณ์. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม: - การพัฒนาของ SiCarrier อาจช่วยให้จีนแข่งขันได้ในอุตสาหกรรมการผลิตชิประดับโลก และลดอิทธิพลจากการส่งออกเทคโนโลยีจากบริษัทต่างชาติ https://wccftech.com/sicarrier-linked-to-huawei-working-on-machines-to-replace-asml/
    WCCFTECH.COM
    SiCarrier Is A China-Based Firm Linked To Huawei That Is Working On Machines Which Will Eventually Serve Replacements For ASML’s Equipment To Develop Leading-Edge Wafers
    The answer to replacing ASML for China lies in SiCarrier, a company that is connected to Huawei and is working on chip-making machines
    0 Comments 0 Shares 404 Views 0 Reviews
  • จีนได้เข้าสู่ยุคของโรงงานมืดที่เป็นระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบโดยไม่ต้องมีคนงานและไม่มีไฟฟ้า

    ภาคการผลิตกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ระบบอัตโนมัติ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) และการวิเคราะห์ข้อมูล

    สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือการเกิดขึ้นของ "โรงงานมืด" ที่ทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นโรงงานแห่งอนาคตที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันโดยไม่มีการแทรกแซงของมนุษย์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และผลผลิตให้สูงสุด

    ทำความเข้าใจแนวคิดของโรงงานมืด

    โรงงานมืดเป็นโรงงานผลิตขั้นสูงที่พึ่งพาระบบอัตโนมัติทั้งหมด ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีคนงานในสถานที่

    โรงงานเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ระบบ IoT ที่เชื่อมต่อกัน และโปรโตคอลอัตโนมัติที่ซับซ้อนเพื่อให้การดำเนินงานราบรื่น

    โรงงานมืดทำงานได้โดยไม่ต้องมีแสงสว่าง โดยไม่ต้องมีมนุษย์อยู่ด้วย ทำให้ลดการใช้พลังงานและต้นทุนการดำเนินงานลง พร้อมทั้งรับประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ
    คุณสมบัติหลักของโรงงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

    1. *ระบบอัตโนมัติแบบครบวงจร*: โรงงานอัตโนมัติผสานรวมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์เพื่อจัดการทุกด้านของการผลิต ตั้งแต่การจัดการวัสดุและการประกอบไปจนถึงการบรรจุหีบห่อและการรับรองคุณภาพ

    2. *เครือข่ายเครื่องจักรอัจฉริยะ*: ด้วยการเชื่อมต่อปัญญาประดิษฐ์และ IoT เครื่องจักรภายในโรงงานอัตโนมัติจะสื่อสารแบบเรียลไทม์ ทำการปรับเปลี่ยนโดยอัตโนมัติและคาดการณ์ความต้องการในการบำรุงรักษา

    3. *การควบคุมคุณภาพที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์*: อัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่องจักรจะตรวจสอบผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อหาความไม่สม่ำเสมอและข้อบกพร่อง เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานที่เหนือกว่า

    4. *สภาพแวดล้อมการผลิตที่สะอาดเป็นพิเศษ*: โรงงานอัตโนมัติใช้ระบบฟอกอากาศและกำจัดฝุ่นอัตโนมัติเพื่อรักษาสภาพปลอดเชื้อ ซึ่งเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์และยา

    5. *การผลิตความเร็วสูงและปรับขนาดได้*: ระบบอัตโนมัติช่วยให้การผลิตมีความเร็วและปรับขนาดได้อย่างไม่มีใครเทียบ ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้โดยไม่กระทบต่อคุณภาพ
    6. *การดำเนินงานที่ประหยัดพลังงานและยั่งยืน*: โรงงานอุตสาหกรรมปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสมที่สุด ส่งเสริมแนวทางการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    การเพิ่มขึ้นของการลงทุนด้านการผลิตอัจฉริยะ

    การลงทุนจำนวนมากในด้านระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นแรงผลักดันให้โรงงานอุตสาหกรรมขยายตัว

    บริษัทต่างๆ ทั่วโลกลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในการพัฒนาศูนย์กลางการผลิตรุ่นต่อไปเหล่านี้ โดยตระหนักถึงศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และรักษาคุณภาพที่เหนือกว่า

    อนาคตของการผลิต

    การเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบจะมีผลที่ตามมาในวงกว้าง เช่น:

    - เพิ่มผลผลิตผ่านการทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันไม่หยุดชะงัก
    - รับรองคุณภาพที่ดีขึ้นผ่านการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์
    - แนวทางการผลิตที่ยั่งยืนผ่านการจัดการพลังงานอัตโนมัติ
    - ความต้องการแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีความต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และวิทยาศาสตร์ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น

    บทสรุป: ก้าวสู่ยุคใหม่ของการผลิต

    โรงงานอุตสาหกรรมไม่ได้เป็นเพียงวิสัยทัศน์ที่ห่างไกลอีกต่อไป แต่กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการผลิตอย่างแข็งขัน

    การใช้ประโยชน์จาก AI, ​​IoT และระบบอัตโนมัติช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถปลดล็อกประสิทธิภาพ ความสามารถในการปรับขนาด และความยั่งยืนที่ไม่เคยมีมาก่อนได้

    ในขณะที่เทคโนโลยียังคงพัฒนาต่อไป โรงงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ปฏิวัติการผลิตทั่วโลก และปูทางสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ
    จีนได้เข้าสู่ยุคของโรงงานมืดที่เป็นระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบโดยไม่ต้องมีคนงานและไม่มีไฟฟ้า ภาคการผลิตกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ระบบอัตโนมัติ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) และการวิเคราะห์ข้อมูล สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือการเกิดขึ้นของ "โรงงานมืด" ที่ทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นโรงงานแห่งอนาคตที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันโดยไม่มีการแทรกแซงของมนุษย์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และผลผลิตให้สูงสุด ทำความเข้าใจแนวคิดของโรงงานมืด โรงงานมืดเป็นโรงงานผลิตขั้นสูงที่พึ่งพาระบบอัตโนมัติทั้งหมด ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีคนงานในสถานที่ โรงงานเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ระบบ IoT ที่เชื่อมต่อกัน และโปรโตคอลอัตโนมัติที่ซับซ้อนเพื่อให้การดำเนินงานราบรื่น โรงงานมืดทำงานได้โดยไม่ต้องมีแสงสว่าง โดยไม่ต้องมีมนุษย์อยู่ด้วย ทำให้ลดการใช้พลังงานและต้นทุนการดำเนินงานลง พร้อมทั้งรับประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ คุณสมบัติหลักของโรงงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ 1. *ระบบอัตโนมัติแบบครบวงจร*: โรงงานอัตโนมัติผสานรวมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์เพื่อจัดการทุกด้านของการผลิต ตั้งแต่การจัดการวัสดุและการประกอบไปจนถึงการบรรจุหีบห่อและการรับรองคุณภาพ 2. *เครือข่ายเครื่องจักรอัจฉริยะ*: ด้วยการเชื่อมต่อปัญญาประดิษฐ์และ IoT เครื่องจักรภายในโรงงานอัตโนมัติจะสื่อสารแบบเรียลไทม์ ทำการปรับเปลี่ยนโดยอัตโนมัติและคาดการณ์ความต้องการในการบำรุงรักษา 3. *การควบคุมคุณภาพที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์*: อัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่องจักรจะตรวจสอบผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อหาความไม่สม่ำเสมอและข้อบกพร่อง เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานที่เหนือกว่า 4. *สภาพแวดล้อมการผลิตที่สะอาดเป็นพิเศษ*: โรงงานอัตโนมัติใช้ระบบฟอกอากาศและกำจัดฝุ่นอัตโนมัติเพื่อรักษาสภาพปลอดเชื้อ ซึ่งเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์และยา 5. *การผลิตความเร็วสูงและปรับขนาดได้*: ระบบอัตโนมัติช่วยให้การผลิตมีความเร็วและปรับขนาดได้อย่างไม่มีใครเทียบ ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้โดยไม่กระทบต่อคุณภาพ 6. *การดำเนินงานที่ประหยัดพลังงานและยั่งยืน*: โรงงานอุตสาหกรรมปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสมที่สุด ส่งเสริมแนวทางการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเพิ่มขึ้นของการลงทุนด้านการผลิตอัจฉริยะ การลงทุนจำนวนมากในด้านระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นแรงผลักดันให้โรงงานอุตสาหกรรมขยายตัว บริษัทต่างๆ ทั่วโลกลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในการพัฒนาศูนย์กลางการผลิตรุ่นต่อไปเหล่านี้ โดยตระหนักถึงศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และรักษาคุณภาพที่เหนือกว่า อนาคตของการผลิต การเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบจะมีผลที่ตามมาในวงกว้าง เช่น: - เพิ่มผลผลิตผ่านการทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันไม่หยุดชะงัก - รับรองคุณภาพที่ดีขึ้นผ่านการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ - แนวทางการผลิตที่ยั่งยืนผ่านการจัดการพลังงานอัตโนมัติ - ความต้องการแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีความต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และวิทยาศาสตร์ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น บทสรุป: ก้าวสู่ยุคใหม่ของการผลิต โรงงานอุตสาหกรรมไม่ได้เป็นเพียงวิสัยทัศน์ที่ห่างไกลอีกต่อไป แต่กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการผลิตอย่างแข็งขัน การใช้ประโยชน์จาก AI, ​​IoT และระบบอัตโนมัติช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถปลดล็อกประสิทธิภาพ ความสามารถในการปรับขนาด และความยั่งยืนที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ ในขณะที่เทคโนโลยียังคงพัฒนาต่อไป โรงงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ปฏิวัติการผลิตทั่วโลก และปูทางสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 505 Views 0 Reviews
More Results