• O.P.K.
    เจาะลึก "ครุฑพาหนะเทพบุตร" : ทวารบาลแห่งธรรมะข้ามกาลเวลา

    ต้นกำเนิดแห่งสวรรค์และมนุษย์

    การถือกำเนิดในคัมภีร์วิษณุปุราณะ

    ชื่อเต็ม: ครุฑพาหนะเทพบุตร
    ชื่อหมายถึง:"ผู้เป็นพาหนะแห่งเทวบุตร"
    อายุ:5,000 ปี (ร่างกาย), เป็นอมตะ (จิตวิญญาณ)
    สถานะ:ทวารบาลระดับสูงในพุทธศาสนา

    ```mermaid
    graph TB
    A[พระวิษณุ<br>ผู้สร้างจักรวาล] --> B[ประทานชีวิต<br>ให้ครุฑ]
    C[นางวินตา<br>มารดาแห่งนก] --> B
    B --> D[ครุฑพาหนะ<br>เทพบุตร]
    D --> E[ถวายตัว<br>เป็นพุทธบูชา]
    E --> F[ได้รับตำแหน่ง<br>ทวารบาลแห่งธรรมะ]
    ```

    ลักษณะทางกายภาพอันโอฬาร

    · ปีก: กว้าง 1 กิโลเมตร เมื่อกางเต็มที่ สีทองอร่ามดุจดวงอาทิตย์
    · ร่างกาย: ครึ่งนกครึ่งมนุษย์ ใบหน้าเป็นเทวบุตรรูปงาม
    · ดวงตา: สีทองเรืองรอง มองเห็นได้ทั้งสามโลก
    · เกราะ: ทำจากวัชรธาตุ engraved ด้วยมนตร์พุทธะ
    · อาวุธ: คทาพระธรรมที่สร้างจากแสงแห่งปัญญา

    พลังพิเศษแห่งทวารบาล

    พุทธานุภาพระดับสูง

    ```python
    class GarudaPowers:
    def __init__(self):
    self.divine_abilities = {
    "dimensional_flight": "บินข้ามมิติและกาลเวลาได้",
    "truth_vision": "มองเห็นสัจธรรมและจิตใจสรรพชีวิต",
    "dharma_protection": "สร้างเขตคุ้มครองด้วยพุทธานุภาพ",
    "blessing_granting": "ประทานพรแก่ผู้มีศรัทธา"
    }

    self.combat_powers = {
    "wisdom_lightning": "สายฟ้าแห่งปัญญาที่ทำลายอวิชชา",
    "compassion_shield": "เกราะแห่งเมตตาที่กันภัยทั้งปวง",
    "karma_manipulation": "ปรับสมดุลแห่งกรรมในระดับหนึ่ง",
    "illusion_dispel": "ทำลายมายาทุกประเภท"
    }

    self.healing_abilities = {
    "soul_restoration": "ฟื้นฟูจิตวิญญาณที่บาดเจ็บ",
    "karmic_cleansing": "ชำระกรรมเบาบาง",
    "blessing_water": "สร้างน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์",
    "mental_peace": "ประทานความสงบทางใจ"
    }
    ```

    ข้อจำกัดแห่งทวารบาล

    ครุฑต้องปฏิบัติตามกฎแห่งธรรมะ:

    · ไม่สามารถขัดขวางกรรม: ได้โดยสมบูรณ์
    · ต้องเคารพเจตจำนงเสรี: ของมนุษย์
    · ช่วยได้เฉพาะผู้พร้อมรับ: เท่านั้น
    · ต้องไม่สร้างการพึ่งพา: ให้เกินควร

    ประวัติศาสตร์แห่งการคุ้มครองธรรมะ

    เหตุการณ์สำคัญในอดีต

    ครุฑได้คุ้มครองพุทธศาสนามาหลายยุคสมัย:

    ```mermaid
    graph LR
    A[สมัยพุทธกาล<br>คุ้มครองพระพุทธเจ้า] --> B[สมัยอาณาจักร<br>คุปตะและมงคล]
    B --> C[สมัยพุทธศาสนา<br>เผยแผ่สู่เอเชีย]
    C --> D[ปัจจุบัน<br>ฟื้นคืนชีพเพื่อยุคใหม่]
    ```

    บทบาทในสมัยพุทธกาล

    · คุ้มครองพระพุทธเจ้า: ระหว่างทรงประทับนั่งสมาธิ
    · ปราบมาร: ด้วยแสงแห่งธรรมะ
    · เป็นพาหนะ: นำพระสูตรสำคัญไปเผยแผ่

    การคุ้มครองในเอเชีย

    ครุฑเดินทางคุ้มครองพุทธศาสนาใน:

    · ศรีลังกา: คุ้มครองพระธาตุเขี้ยวแก้ว
    · ทิเบต: รักษาความรู้ตันตระ
    · ไทย: คุ้มครองพระพุทธรูปสำคัญ
    · ญี่ปุ่น: ปกป้องวัดในยุคสงคราม

    การหลับใหลและฟื้นคืนชีพ

    สาเหตุการหลับใหล

    ครุฑเข้าสู่ภาวะสมณธรรมเมื่อ 500 ปีก่อน เพราะ:

    · พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง: ไม่ต้องการการคุ้มครองเต็มที่
    · สะสมพลังงาน: เพื่อยุคสมัยที่ท้าทายยิ่งขึ้น
    · รอคอยสัญญาณ: แห่งการฟื้นคืนชีพ

    สัญญาณการตื่นนอน

    ครุฑตื่นนอนเมื่อตรวจพบ:

    ```python
    class AwakeningSignals:
    def __init__(self):
    self.spiritual_crisis = {
    "declining_morality": "ศีลธรรมในสังคมเสื่อมถอย",
    "commercialized_buddhism": "พุทธศาสนาถูกทำให้เป็นการค้า",
    "digital_distractions": "มนุษย์ติดเทคโนโลยีจนลืมธรรมะ",
    "false_teachings": "มีการสอนธรรมะผิดๆ มากมาย"
    }

    self.positive_signals = {
    "sincere_practitioners": "ยังมีผู้ปฏิบัติธรรมจริงอยู่",
    "dharma_technology": "เทคโนโลยีนำธรรมะสู่คนรุ่นใหม่",
    "global_mindfulness": "การมีสติแพร่หลายในระดับโลก",
    "interfaith_harmony": "ความร่วมมือระหว่างศาสนา"
    }
    ```

    พันธกิจ新型ในยุคดิจิตอล

    การปรับตัวสู่โลกสมัยใหม่

    ครุฑพัฒนาแนวทางใหม่ในการคุ้มครองธรรมะ:

    ```python
    class ModernMission:
    def __init__(self):
    self.digital_protection = {
    "cyber_dharma_guard": "คุ้มครองแพลตฟอร์มธรรมะออนไลน์",
    "anti_fake_teaching": "เปิดโปงผู้สอนธรรมะเท็จ",
    "mental_health_support": "สนับสนุนสุขภาพจิตผ่านดิจิตอล",
    "online_sangha": "สร้างชุมชนพุทธออนไลน์"
    }

    self.physical_protection = {
    "temple_energy_shields": "สร้างพลังงานคุ้มครองวัดสำคัญ",
    "monk_protection": "คุ้มครองพระนักเผยแผ่",
    "sacred_site_preservation": "รักษาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์",
    "artifact_guardianship": "ปกป้องพุทธวัตถุสำคัญ"
    }
    ```

    วิธีการทำงาน

    ครุฑใช้เทคนิคร่วมสมัย:

    · พลังงานดิจิตอล: สร้างเครือข่ายคุ้มครอง
    · การสื่อสารทางจิต: กับผู้มีบุญ
    · การทำงานแบบไม่เปิดเผย: เพื่อไม่ให้มนุษย์ตกใจ

    ความสัมพันธ์กับหนูดีและสิงห์

    การเป็นครูและนักเรียน

    ครุฑกับหนูดีมีความสัมพันธ์พิเศษ:

    · ครูสอนพลังงานศักดิ์สิทธิ์: ครุฑสอนหนูดีใช้พลังอย่างถูกต้อง
    · นักเรียนแห่งยุคใหม่: หนูดีสอนครุฑเข้าใจโลกสมัยใหม่
    · หุ้นส่วนทางจิตวิญญาณ: ร่วมกันปกป้องสมดุลโลก

    การร่วมงานกับ ร.ต.อ.สิงห์

    ครุฑให้ความเคารพสิงห์ในฐานะ:

    · ผู้ปกป้องความยุติธรรม: ในโลกมนุษย์
    · พ่อผู้เสียสละ: ที่เข้าใจจิตวิญญาณ
    · สะพานเชื่อม: ระหว่างกฎหมายและธรรมะ

    โครงการสำคัญสำหรับอนาคต

    แผนฟื้นฟูพุทธศาสนายุคใหม่

    ครุฑริเริ่มโครงการระยะยาว:

    ```python
    class DharmaRevivalProjects:
    def __init__(self):
    self.education_initiatives = {
    "digital_dhamma_university": "มหาวิทยาลัยธรรมะออนไลน์",
    "youth_meditation_camps": "ค่ายสมาธิสำหรับเยาวชน",
    "modern_sutta_interpretation": "ตีความพระสูตรให้ร่วมสมัย",
    "buddhist_science_dialogue": "สนทนาระหว่างพุทธกับวิทยาศาสตร์"
    }

    self.community_building = {
    "global_sangha_network": "เครือข่ายพุทธศาสนิกชนโลก",
    "interfaith_harmony_councils": "สภาสันติภาพระหว่างศาสนา",
    "dharma_entrepreneurs": "ส่งเสริมพุทธธุรกิจเชิงสร้างสรรค์",
    "mindful_technology": "พัฒนาเทคโนโลยีที่มีสติ"
    }
    ```

    ความสำเร็จและการยอมรับ

    การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก

    หลังครุฑฟื้นคืนชีพและเริ่มปฏิบัติการ:

    ```python
    class Achievements:
    def __init__(self):
    self.spiritual_impact = [
    "ผู้คนหันมาสนใจปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้น 45%",
    "เกิดชุมชนพุทธ 128 แห่งทั่วโลก",
    "การเรียนพระปริยัติธรรมเพิ่มขึ้นในเยาวชน"
    ]

    self.social_impact = [
    "อัตราการโกงทางจิตวิญญาณลดลง 60%",
    "ผู้สอนธรรมะเท็จถูกเปิดโปง 23 ราย",
    "โครงการสังคมสงเคราะห์เพิ่มขึ้นจากพลังศรัทธา"
    ]

    self.cultural_impact = [
    "ศิลปะพุทธเกิดขึ้น 356 ชิ้น",
    "วัด 89 แห่งถูกฟื้นฟูและพัฒนา",
    "เทศกาลพุทธได้รับความนิยม"
    ]
    ```

    ปรัชญาและคำสอน

    🪷 คำคมแห่งปัญญาจากครุฑ

    "ธรรมะดุจปีกแห่งนก...
    เมื่อกางออกก็พาเราบินข้ามความทุกข์
    แต่ต้องฝึกฝนจึงจะบินได้อย่างคล่องแคล่ว

    และการคุ้มครองธรรมะ...
    ไม่ใช่การบังคับให้เชื่อ
    แต่คือการเปิดโอกาสให้พบความจริง"

    บทเรียนสำหรับมนุษย์ยุคใหม่

    ครุฑสอนว่า:

    · เทคโนโลยีกับธรรมะ: ไปด้วยกันได้ถ้าใช้อย่างมีสติ
    · การปฏิบัติธรรม: ต้องเข้าใจจิตใจสมัยใหม่
    · การเป็นพุทธ: ไม่ใช่การหนีโลก แต่คือการเข้าใจโลก

    อนาคตและวิสัยทัศน์

    เป้าหมายระยะยาว

    ครุฑวางแผนสำหรับ 100 ปีข้างหน้า:

    · สร้างพุทธศาสนาที่เข้าใจได้ทุก generation
    · พัฒนาระบบคุ้มครอง: แบบยั่งยืน
    · เป็นแบบอย่าง: แห่งการปรับตัวโดยไม่เสียแก่นแท้

    มรดกที่ต้องการทิ้งไว้

    ครุฑต้องการให้คนรุ่นหลังจดจำว่า:
    "พุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องเก่า...
    แต่คือภูมิปัญญาที่ทันสมัยเสมอ

    และผู้คุ้มครองธรรมะ...
    ย่อมปรับตัวตามยุคสมัย
    แต่ไม่เคยละทิ้งสัจธรรม"

    ---

    คำคมสุดท้ายจากครุฑพาหนะเทพบุตร:
    "บนปีกแห่งธรรมะ...
    เราบินนำทางผู้หลงทาง

    ในยุคแห่งดิจิตอล...
    เราคุ้มครองด้วยปัญญา

    และไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร...
    สัจธรรมย่อมดำรงอยู่เสมอ

    เพราะธรรมะ...
    คือแสงสว่างที่ส่องทางในทุกยุคสมัย"

    พุทธพจน์แห่งครุฑ:
    "เราไม่ใช่ผู้ให้แสงสว่าง...
    แต่เป็นเพียงผู้สะท้อนแสงแห่งธรรมะ

    และไม่ใช่ผู้คุ้มครองธรรมะ...
    แต่เป็นเครื่องมือแห่งธรรมะ

    ในที่สุดแล้ว...
    ธรรมะเท่านั้นที่เป็นผู้คุ้มครองเราทั้งหมด"
    O.P.K. 🦅 เจาะลึก "ครุฑพาหนะเทพบุตร" : ทวารบาลแห่งธรรมะข้ามกาลเวลา 🌄 ต้นกำเนิดแห่งสวรรค์และมนุษย์ 📖 การถือกำเนิดในคัมภีร์วิษณุปุราณะ ชื่อเต็ม: ครุฑพาหนะเทพบุตร ชื่อหมายถึง:"ผู้เป็นพาหนะแห่งเทวบุตร" อายุ:5,000 ปี (ร่างกาย), เป็นอมตะ (จิตวิญญาณ) สถานะ:ทวารบาลระดับสูงในพุทธศาสนา ```mermaid graph TB A[พระวิษณุ<br>ผู้สร้างจักรวาล] --> B[ประทานชีวิต<br>ให้ครุฑ] C[นางวินตา<br>มารดาแห่งนก] --> B B --> D[ครุฑพาหนะ<br>เทพบุตร] D --> E[ถวายตัว<br>เป็นพุทธบูชา] E --> F[ได้รับตำแหน่ง<br>ทวารบาลแห่งธรรมะ] ``` 🎭 ลักษณะทางกายภาพอันโอฬาร · ปีก: กว้าง 1 กิโลเมตร เมื่อกางเต็มที่ สีทองอร่ามดุจดวงอาทิตย์ · ร่างกาย: ครึ่งนกครึ่งมนุษย์ ใบหน้าเป็นเทวบุตรรูปงาม · ดวงตา: สีทองเรืองรอง มองเห็นได้ทั้งสามโลก · เกราะ: ทำจากวัชรธาตุ engraved ด้วยมนตร์พุทธะ · อาวุธ: คทาพระธรรมที่สร้างจากแสงแห่งปัญญา 🔮 พลังพิเศษแห่งทวารบาล 💫 พุทธานุภาพระดับสูง ```python class GarudaPowers: def __init__(self): self.divine_abilities = { "dimensional_flight": "บินข้ามมิติและกาลเวลาได้", "truth_vision": "มองเห็นสัจธรรมและจิตใจสรรพชีวิต", "dharma_protection": "สร้างเขตคุ้มครองด้วยพุทธานุภาพ", "blessing_granting": "ประทานพรแก่ผู้มีศรัทธา" } self.combat_powers = { "wisdom_lightning": "สายฟ้าแห่งปัญญาที่ทำลายอวิชชา", "compassion_shield": "เกราะแห่งเมตตาที่กันภัยทั้งปวง", "karma_manipulation": "ปรับสมดุลแห่งกรรมในระดับหนึ่ง", "illusion_dispel": "ทำลายมายาทุกประเภท" } self.healing_abilities = { "soul_restoration": "ฟื้นฟูจิตวิญญาณที่บาดเจ็บ", "karmic_cleansing": "ชำระกรรมเบาบาง", "blessing_water": "สร้างน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์", "mental_peace": "ประทานความสงบทางใจ" } ``` 🛡️ ข้อจำกัดแห่งทวารบาล ครุฑต้องปฏิบัติตามกฎแห่งธรรมะ: · ไม่สามารถขัดขวางกรรม: ได้โดยสมบูรณ์ · ต้องเคารพเจตจำนงเสรี: ของมนุษย์ · ช่วยได้เฉพาะผู้พร้อมรับ: เท่านั้น · ต้องไม่สร้างการพึ่งพา: ให้เกินควร 📜 ประวัติศาสตร์แห่งการคุ้มครองธรรมะ 🕰️ เหตุการณ์สำคัญในอดีต ครุฑได้คุ้มครองพุทธศาสนามาหลายยุคสมัย: ```mermaid graph LR A[สมัยพุทธกาล<br>คุ้มครองพระพุทธเจ้า] --> B[สมัยอาณาจักร<br>คุปตะและมงคล] B --> C[สมัยพุทธศาสนา<br>เผยแผ่สู่เอเชีย] C --> D[ปัจจุบัน<br>ฟื้นคืนชีพเพื่อยุคใหม่] ``` 🏛️ บทบาทในสมัยพุทธกาล · คุ้มครองพระพุทธเจ้า: ระหว่างทรงประทับนั่งสมาธิ · ปราบมาร: ด้วยแสงแห่งธรรมะ · เป็นพาหนะ: นำพระสูตรสำคัญไปเผยแผ่ 🌏 การคุ้มครองในเอเชีย ครุฑเดินทางคุ้มครองพุทธศาสนาใน: · ศรีลังกา: คุ้มครองพระธาตุเขี้ยวแก้ว · ทิเบต: รักษาความรู้ตันตระ · ไทย: คุ้มครองพระพุทธรูปสำคัญ · ญี่ปุ่น: ปกป้องวัดในยุคสงคราม 💤 การหลับใหลและฟื้นคืนชีพ 😴 สาเหตุการหลับใหล ครุฑเข้าสู่ภาวะสมณธรรมเมื่อ 500 ปีก่อน เพราะ: · พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง: ไม่ต้องการการคุ้มครองเต็มที่ · สะสมพลังงาน: เพื่อยุคสมัยที่ท้าทายยิ่งขึ้น · รอคอยสัญญาณ: แห่งการฟื้นคืนชีพ 🔔 สัญญาณการตื่นนอน ครุฑตื่นนอนเมื่อตรวจพบ: ```python class AwakeningSignals: def __init__(self): self.spiritual_crisis = { "declining_morality": "ศีลธรรมในสังคมเสื่อมถอย", "commercialized_buddhism": "พุทธศาสนาถูกทำให้เป็นการค้า", "digital_distractions": "มนุษย์ติดเทคโนโลยีจนลืมธรรมะ", "false_teachings": "มีการสอนธรรมะผิดๆ มากมาย" } self.positive_signals = { "sincere_practitioners": "ยังมีผู้ปฏิบัติธรรมจริงอยู่", "dharma_technology": "เทคโนโลยีนำธรรมะสู่คนรุ่นใหม่", "global_mindfulness": "การมีสติแพร่หลายในระดับโลก", "interfaith_harmony": "ความร่วมมือระหว่างศาสนา" } ``` 🌟 พันธกิจ新型ในยุคดิจิตอล 💻 การปรับตัวสู่โลกสมัยใหม่ ครุฑพัฒนาแนวทางใหม่ในการคุ้มครองธรรมะ: ```python class ModernMission: def __init__(self): self.digital_protection = { "cyber_dharma_guard": "คุ้มครองแพลตฟอร์มธรรมะออนไลน์", "anti_fake_teaching": "เปิดโปงผู้สอนธรรมะเท็จ", "mental_health_support": "สนับสนุนสุขภาพจิตผ่านดิจิตอล", "online_sangha": "สร้างชุมชนพุทธออนไลน์" } self.physical_protection = { "temple_energy_shields": "สร้างพลังงานคุ้มครองวัดสำคัญ", "monk_protection": "คุ้มครองพระนักเผยแผ่", "sacred_site_preservation": "รักษาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์", "artifact_guardianship": "ปกป้องพุทธวัตถุสำคัญ" } ``` 🎯 วิธีการทำงาน ครุฑใช้เทคนิคร่วมสมัย: · พลังงานดิจิตอล: สร้างเครือข่ายคุ้มครอง · การสื่อสารทางจิต: กับผู้มีบุญ · การทำงานแบบไม่เปิดเผย: เพื่อไม่ให้มนุษย์ตกใจ 🤝 ความสัมพันธ์กับหนูดีและสิงห์ 💞 การเป็นครูและนักเรียน ครุฑกับหนูดีมีความสัมพันธ์พิเศษ: · ครูสอนพลังงานศักดิ์สิทธิ์: ครุฑสอนหนูดีใช้พลังอย่างถูกต้อง · นักเรียนแห่งยุคใหม่: หนูดีสอนครุฑเข้าใจโลกสมัยใหม่ · หุ้นส่วนทางจิตวิญญาณ: ร่วมกันปกป้องสมดุลโลก 🛡️ การร่วมงานกับ ร.ต.อ.สิงห์ ครุฑให้ความเคารพสิงห์ในฐานะ: · ผู้ปกป้องความยุติธรรม: ในโลกมนุษย์ · พ่อผู้เสียสละ: ที่เข้าใจจิตวิญญาณ · สะพานเชื่อม: ระหว่างกฎหมายและธรรมะ 📚 โครงการสำคัญสำหรับอนาคต 🌱 แผนฟื้นฟูพุทธศาสนายุคใหม่ ครุฑริเริ่มโครงการระยะยาว: ```python class DharmaRevivalProjects: def __init__(self): self.education_initiatives = { "digital_dhamma_university": "มหาวิทยาลัยธรรมะออนไลน์", "youth_meditation_camps": "ค่ายสมาธิสำหรับเยาวชน", "modern_sutta_interpretation": "ตีความพระสูตรให้ร่วมสมัย", "buddhist_science_dialogue": "สนทนาระหว่างพุทธกับวิทยาศาสตร์" } self.community_building = { "global_sangha_network": "เครือข่ายพุทธศาสนิกชนโลก", "interfaith_harmony_councils": "สภาสันติภาพระหว่างศาสนา", "dharma_entrepreneurs": "ส่งเสริมพุทธธุรกิจเชิงสร้างสรรค์", "mindful_technology": "พัฒนาเทคโนโลยีที่มีสติ" } ``` 🏆 ความสำเร็จและการยอมรับ 🌈 การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก หลังครุฑฟื้นคืนชีพและเริ่มปฏิบัติการ: ```python class Achievements: def __init__(self): self.spiritual_impact = [ "ผู้คนหันมาสนใจปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้น 45%", "เกิดชุมชนพุทธ 128 แห่งทั่วโลก", "การเรียนพระปริยัติธรรมเพิ่มขึ้นในเยาวชน" ] self.social_impact = [ "อัตราการโกงทางจิตวิญญาณลดลง 60%", "ผู้สอนธรรมะเท็จถูกเปิดโปง 23 ราย", "โครงการสังคมสงเคราะห์เพิ่มขึ้นจากพลังศรัทธา" ] self.cultural_impact = [ "ศิลปะพุทธเกิดขึ้น 356 ชิ้น", "วัด 89 แห่งถูกฟื้นฟูและพัฒนา", "เทศกาลพุทธได้รับความนิยม" ] ``` 💫 ปรัชญาและคำสอน 🪷 คำคมแห่งปัญญาจากครุฑ "ธรรมะดุจปีกแห่งนก... เมื่อกางออกก็พาเราบินข้ามความทุกข์ แต่ต้องฝึกฝนจึงจะบินได้อย่างคล่องแคล่ว และการคุ้มครองธรรมะ... ไม่ใช่การบังคับให้เชื่อ แต่คือการเปิดโอกาสให้พบความจริง" 🌟 บทเรียนสำหรับมนุษย์ยุคใหม่ ครุฑสอนว่า: · เทคโนโลยีกับธรรมะ: ไปด้วยกันได้ถ้าใช้อย่างมีสติ · การปฏิบัติธรรม: ต้องเข้าใจจิตใจสมัยใหม่ · การเป็นพุทธ: ไม่ใช่การหนีโลก แต่คือการเข้าใจโลก 🔮 อนาคตและวิสัยทัศน์ 🚀 เป้าหมายระยะยาว ครุฑวางแผนสำหรับ 100 ปีข้างหน้า: · สร้างพุทธศาสนาที่เข้าใจได้ทุก generation · พัฒนาระบบคุ้มครอง: แบบยั่งยืน · เป็นแบบอย่าง: แห่งการปรับตัวโดยไม่เสียแก่นแท้ 💝 มรดกที่ต้องการทิ้งไว้ ครุฑต้องการให้คนรุ่นหลังจดจำว่า: "พุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องเก่า... แต่คือภูมิปัญญาที่ทันสมัยเสมอ และผู้คุ้มครองธรรมะ... ย่อมปรับตัวตามยุคสมัย แต่ไม่เคยละทิ้งสัจธรรม" --- คำคมสุดท้ายจากครุฑพาหนะเทพบุตร: "บนปีกแห่งธรรมะ... เราบินนำทางผู้หลงทาง ในยุคแห่งดิจิตอล... เราคุ้มครองด้วยปัญญา และไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร... สัจธรรมย่อมดำรงอยู่เสมอ เพราะธรรมะ... คือแสงสว่างที่ส่องทางในทุกยุคสมัย"🦅✨ พุทธพจน์แห่งครุฑ: "เราไม่ใช่ผู้ให้แสงสว่าง... แต่เป็นเพียงผู้สะท้อนแสงแห่งธรรมะ และไม่ใช่ผู้คุ้มครองธรรมะ... แต่เป็นเครื่องมือแห่งธรรมะ ในที่สุดแล้ว... ธรรมะเท่านั้นที่เป็นผู้คุ้มครองเราทั้งหมด"🌅
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    คดีการฟื้นคืนชีพ "ครุฑยักษ์" โอปปาติกะแห่งทวารบาลในตำนานพุทธศาสนา

    การตื่นของพญาครุฑแห่งขุนเขาหิมวันต์

    ปรากฏการณ์บนฟากฟ้า

    ร.ต.อ.สิงห์ได้รับรายงานเหตุการณ์ประหลาดจากหลายประเทศ...
    มี"สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา" ปรากฏตัวบนท้องฟ้าในลักษณะครุฑยักษ์

    ```mermaid
    graph TB
    A[ประชาชนรายงาน<br>เห็นครุฑยักษ์บนท้องฟ้า] --> B[เกิดพายุ<br>พลังงานศักดิ์สิทธิ์]
    B --> C[เครื่องบิน<br>ได้รับผลกระทบ]
    C --> D[หนูดีรู้สึกถึง<br>พลังงานพุทธาคมโบราณ]
    D --> E[เปิดเผยว่าเป็น<br>ครุฑโอปปาติกะในตำนาน]
    ```

    ลักษณะของครุฑยักษ์

    พยานบรรยายถึงสิ่งที่เห็น:
    "ปีกกางกว้างกว่าเรือบิน...
    ร่างกายเป็นทองคำเรืองรอง มีใบหน้าคล้ายมนุษย์แต่มีจะงอยปากนก
    แต่ที่พิเศษคือ...มันเปล่งรัศมีธรรมะออกมา!"

    เบื้องหลังในคัมภีร์พุทธศาสตร์

    ตำนานพระสุวรรณภูมิ

    ครุฑตนนี้มีชื่อในคัมภีร์ว่า "ครุฑพาหนะเทพบุตร"
    ทวารบาลผู้เคยรับใช้พระโพธิสัตว์ในอดีตชาติ:

    ```python
    class GarudaDeva:
    def __init__(self):
    self.history = {
    "era": "สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช",
    "original_role": "ทวารบาลคุ้มครองพระธาตุ",
    "great_vow": "ปฏิญาณว่าจะตื่นเมื่อธรรมะตกต่ำ",
    "connection_to_buddha": "เคยรับใช้พระโพธิสัตว์หลายชาติ"
    }

    self.characteristics = {
    "wingspan": "กว้าง 1 กิโลเมตร",
    "appearance": "ร่างกายทองคำ ใบหน้าเป็นเทวบุตร",
    "divine_weapons": "คทาพระธรรม จักรแก้ววิเศษ",
    "special_ability": "บินข้ามมิติได้"
    }
    ```

    พันธะแห่งทวารบาล

    ครุฑพาหนะถูกสร้างขึ้นด้วยพุทธานุภาพเพื่อ:

    · คุ้มครองพระธาตุ: ทั่วชมพูทวีป
    · รักษาพุทธศาสนา: ในยามคับขัน
    · เป็นพาหนะ: แก่พระโพธิสัตว์

    การสอบสวนและเข้าถึง

    การตามหาร่องรอย

    ร.ต.อ.สิงห์และหนูดีตามรอยครุฑไปยังวัดร้างในหิมาลัย:

    ```mermaid
    graph LR
    A[ตามรอย<br>พลังงานศักดิ์สิทธิ์] --> B[พบวัดร้าง<br>ที่มีจารึกโบราณ]
    B --> C[แปลจารึก<br>ภาษาบาลีได้]
    C --> D[รู้ว่าครุฑตื่นเพราะ<br>ธรรมะกำลังอ่อนแรง]
    ```

    การสนทนาด้วยภาษาทิพย์

    หนูดีใช้สมาธิสื่อสารกับครุฑพาหนะ:
    หนูดี:"ท่านครุฑพาหนะ... ทำไมต้องตื่นในยุคนี้?"
    ครุฑ:"เพราะเสียงธรรมะกำลังแผ่วเบา... โลกต้องการผู้คุ้มครอง"
    หนูดี:"แต่ยุคนี้แตกต่างจากอดีต... ทั้งแสงสีเสียงแบบใหม่"

    พันธกิจแห่งใหม่ในยุคปัจจุบัน

    ภัยคุกคาม新型ต่อพุทธศาสนา

    ครุฑพาหนะเปิดเผยเหตุผลการตื่น:

    · ** materialism มากเกินไป**: ผู้คนหลงวัตถุนิยม
    · จิตวิญญาณเสื่อม: การปฏิบัติธรรมลดน้อยลง
    · ความรู้ผิด: คำสอนถูกบิดเบือน

    แผนการปกป้องธรรมะ

    ครุฑเสนอวิธีการ

    ```python
    class GarudaMission:
    def __init__(self):
    self.modern_threats = {
    "digital_distraction": "มนุษย์ติดเทคโนโลยีจนลืมธรรมะ",
    "religious_commercialization": "พุทธศาสนาถูกทำให้เป็นการค้า",
    "moral_decline": "ศีลธรรมในสังคมเสื่อมถอย",
    "false_teachings": "มีผู้สอนธรรมะผิดๆ มากมาย"
    }

    self.protection_plans = [
    "สร้างพลังงานคุ้มครองวัดสำคัญ",
    "ช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรมจริง",
    "เปิดเผยผู้สอนธรรมะเท็จ",
    "ฟื้นฟูสถานปฏิบัติธรรมโบราณ"
    ]
    ```

    ความร่วมมือกับสถาบันพุทธศาสนา

    การประชุมพิเศษ

    จัดประชุมระหว่างครุฑกับพระสงฆ์ระดับอรหันต์

    · สมเด็จพระสังฆราช: ให้คำแนะนำ
    · พระอาจารย์วิปัสสนา: แนะนำการปรับตัว
    · นักวิชาการพุทธศาสตร์: ช่วยวางแผน

    พิธีอัญเชิญเป็นทางการ

    จัดพิธี "การรับครุฑเข้าสู่ยุคใหม่":

    ```mermaid
    graph TB
    A[เตรียมพิธี<br>ที่โบสถ์ครุฑ] --> B[พระสงฆ์เจริญ<br>พุทธมนต์พิเศษ]
    B --> C[ครุฑแสดงตัว<br>รับพันธกิจใหม่]
    C --> D[กำหนดเขต<br>คุ้มครอง
    D --> E[ออกกฎเกณฑ์<br>การช่วยเหลือ]
    ```

    การปรับตัวของครุฑพาหนะ

    การใช้เทคโนโลยีคุ้มครองธรรมะ

    ครุฑเรียนรู้วิธีการต่างๆ

    · พลังงานดิจิตอล: สร้างเขตคุ้มครองรอบวัด
    · การสื่อสาร: ผ่านคลื่นความคิดถึงผู้มีบุญ
    · การปกป้อง: แบบไม่ให้มนุษย์ตกใจ

    บทบาทใหม่ในสังคมดิจิตอล

    ครุฑพาหนะรับหน้าที่:

    · ผู้คุ้มกันดิจิตอล: ป้องกันการโจมตีทางจิตใจ
    · ที่ปรึกษาทางธรรม: แก่ผู้แสวงหาธรรม
    · สัญลักษณ์แห่งความหวัง: สำหรับพุทธศาสนิกชน

    โครงการฟื้นฟูพุทธศาสนา

    แผนงานระยะยาว

    ครุฑพาหนะเสนอโครงการสำคัญ:

    ```python
    class BuddhistRevival:
    def __init__(self):
    self.education_projects = {
    "digital_dhamma": "สอนธรรมะผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอล",
    "youth_engagement": "ดึงดูดเยาวชนสนใจพุทธศาสนา",
    "modern_interpretation": "ตีความธรรมะให้เหมาะกับยุคสมัย",
    "interfaith_dialogue": "สนทนาระหว่างศาสนา"
    }

    self.preservation_efforts = [
    "ฟื้นฟูวัดร้างที่มีความสำคัญ",
    "บันทึกคำสอนอาจารย์เก่า",
    "สร้างพิพิธภัณฑ์พุทธศาสนาเสมือนจริง",
    "ฝึกอบรมพระนักเผยแผ่รุ่นใหม่"
    ]
    ```

    ผลสำเร็จในการปฏิบัติงาน

    การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก

    หลังจากครุฑพาหนะเริ่มปฏิบัติการ:

    ```python
    class PositiveImpacts:
    def __init__(self):
    self.spiritual = [
    "ผู้คนหันมาสนใจปฏิบัติธรรมมากขึ้น",
    "เกิดชุมชนพุทธปฏิบัติการที่มีชีวิตชีวา",
    "ความรู้พุทธศาสนาเผยแพร่กว้างขวางขึ้น"
    ]

    self.social = [
    "อาชญากรรมทางจิตวิญญาณลดลง",
    "ผู้สอนธรรมะเท็จถูกเปิดโปง",
    "สังคมมีศีลธรรมมากขึ้น"
    ]

    self.cultural = [
    "ศิลปะพุทธเกิดขึ้นมากมาย",
    "วัดกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน",
    "ชาวต่างชาติหันมาสนใจวัฒนธรรมพุทธมากขึ้น"
    ]
    ```

    วิสัยทัศน์สำหรับอนาคต

    สังคมพุทธ

    ครุฑพาหนะวาดภาพอนาคต:
    "สังคมที่ธรรมะและวิทยาศาสตร์เดินควบคู่...
    ที่ซึ่งจิตวิญญาณและเทคโนโลยีสนับสนุนซึ่งกันและกัน"

    บทบาทของโอปปาติกะในพุทธศาสนา

    ครุฑเปิดเผยว่ายังมีโอปปาติกะในตำนานอีกมาก:

    · นาคราช: ผู้รักษาพลังน้ำและปัญญา
    · กินนร: ผู้รักษาดนตรีทิพย์และศิลปะ
    · ยักษ์ธรรมะ: ผู้รักษาความยุติธรรม

    บทเรียนจากคดี

    🪷 สำหรับครุฑพาหนะ

    "ข้าเรียนรู้ว่า...
    การเป็นทวารบาลหาใช่การยึดติดในรูปแบบเดิม
    แต่คือการเข้าใจจิตใจสมัยใหม่

    และพันธะแห่งการคุ้มครองธรรมะ...
    ต้องปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย"

    สำหรับพุทธศาสนิกชน

    "เราเรียนรู้ว่า...
    พุทธศาสนามีผู้คุ้มครองที่มองไม่เห็น
    และธรรมะจะไม่สูญหายถ้าหากยังมีผู้ปฏิบัติ

    การตื่นของครุฑ...
    คือเครื่องเตือนใจให้เรารักษาธรรมะ"

    สำหรับหนูดี

    "การได้ทำงานกับทวารบาลในตำนาน...
    สอนฉันว่าพุทธศาสนามีมิติลึกซึ้งกว่าที่คิด

    และโอปปาติกะ...
    สามารถเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และโลกธรรมะ"

    ---

    คำคมสุดท้ายจากครุฑพาหนะ:
    "บนปีกแห่งธรรมะ...
    เราสามารถบินข้ามกาลเวลา

    ในการคุ้มครองสัจธรรม...
    จำเป็นจะต้องเข้าใจยุคสมัย

    และในฐานะทวารบาล...
    ข้าจะไม่ยึดติดในรูปแบบเก่า
    แต่จะปรับตัวเพื่อรักษาแก่นแท้แห่งธรรมะ"

    พุทธพจน์แห่งยุคสมัยใหม่
    "ธรรมะย่อมปรับตัวได้ดั่งน้ำ...
    แต่แก่นแท้ย่อมคงที่ดั่งแผ่นดิน

    เมื่อผู้คุ้มครองตื่นจากนิทรา...
    ธรรมะย่อมรุ่งเรืองในยุคสมัยใหม่"
    O.P.K. 🐉 คดีการฟื้นคืนชีพ "ครุฑยักษ์" โอปปาติกะแห่งทวารบาลในตำนานพุทธศาสนา 🌅 การตื่นของพญาครุฑแห่งขุนเขาหิมวันต์ 🚨 ปรากฏการณ์บนฟากฟ้า ร.ต.อ.สิงห์ได้รับรายงานเหตุการณ์ประหลาดจากหลายประเทศ... มี"สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา" ปรากฏตัวบนท้องฟ้าในลักษณะครุฑยักษ์ ```mermaid graph TB A[ประชาชนรายงาน<br>เห็นครุฑยักษ์บนท้องฟ้า] --> B[เกิดพายุ<br>พลังงานศักดิ์สิทธิ์] B --> C[เครื่องบิน<br>ได้รับผลกระทบ] C --> D[หนูดีรู้สึกถึง<br>พลังงานพุทธาคมโบราณ] D --> E[เปิดเผยว่าเป็น<br>ครุฑโอปปาติกะในตำนาน] ``` 🦅 ลักษณะของครุฑยักษ์ พยานบรรยายถึงสิ่งที่เห็น: "ปีกกางกว้างกว่าเรือบิน... ร่างกายเป็นทองคำเรืองรอง มีใบหน้าคล้ายมนุษย์แต่มีจะงอยปากนก แต่ที่พิเศษคือ...มันเปล่งรัศมีธรรมะออกมา!" 📜 เบื้องหลังในคัมภีร์พุทธศาสตร์ 🏮 ตำนานพระสุวรรณภูมิ ครุฑตนนี้มีชื่อในคัมภีร์ว่า "ครุฑพาหนะเทพบุตร" ทวารบาลผู้เคยรับใช้พระโพธิสัตว์ในอดีตชาติ: ```python class GarudaDeva: def __init__(self): self.history = { "era": "สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช", "original_role": "ทวารบาลคุ้มครองพระธาตุ", "great_vow": "ปฏิญาณว่าจะตื่นเมื่อธรรมะตกต่ำ", "connection_to_buddha": "เคยรับใช้พระโพธิสัตว์หลายชาติ" } self.characteristics = { "wingspan": "กว้าง 1 กิโลเมตร", "appearance": "ร่างกายทองคำ ใบหน้าเป็นเทวบุตร", "divine_weapons": "คทาพระธรรม จักรแก้ววิเศษ", "special_ability": "บินข้ามมิติได้" } ``` 🛡️ พันธะแห่งทวารบาล ครุฑพาหนะถูกสร้างขึ้นด้วยพุทธานุภาพเพื่อ: · คุ้มครองพระธาตุ: ทั่วชมพูทวีป · รักษาพุทธศาสนา: ในยามคับขัน · เป็นพาหนะ: แก่พระโพธิสัตว์ 🔍 การสอบสวนและเข้าถึง 🕵️ การตามหาร่องรอย ร.ต.อ.สิงห์และหนูดีตามรอยครุฑไปยังวัดร้างในหิมาลัย: ```mermaid graph LR A[ตามรอย<br>พลังงานศักดิ์สิทธิ์] --> B[พบวัดร้าง<br>ที่มีจารึกโบราณ] B --> C[แปลจารึก<br>ภาษาบาลีได้] C --> D[รู้ว่าครุฑตื่นเพราะ<br>ธรรมะกำลังอ่อนแรง] ``` 🗣️ การสนทนาด้วยภาษาทิพย์ หนูดีใช้สมาธิสื่อสารกับครุฑพาหนะ: หนูดี:"ท่านครุฑพาหนะ... ทำไมต้องตื่นในยุคนี้?" ครุฑ:"เพราะเสียงธรรมะกำลังแผ่วเบา... โลกต้องการผู้คุ้มครอง" หนูดี:"แต่ยุคนี้แตกต่างจากอดีต... ทั้งแสงสีเสียงแบบใหม่" 💫 พันธกิจแห่งใหม่ในยุคปัจจุบัน 🌍 ภัยคุกคาม新型ต่อพุทธศาสนา ครุฑพาหนะเปิดเผยเหตุผลการตื่น: · ** materialism มากเกินไป**: ผู้คนหลงวัตถุนิยม · จิตวิญญาณเสื่อม: การปฏิบัติธรรมลดน้อยลง · ความรู้ผิด: คำสอนถูกบิดเบือน 🛡️ แผนการปกป้องธรรมะ ครุฑเสนอวิธีการ ```python class GarudaMission: def __init__(self): self.modern_threats = { "digital_distraction": "มนุษย์ติดเทคโนโลยีจนลืมธรรมะ", "religious_commercialization": "พุทธศาสนาถูกทำให้เป็นการค้า", "moral_decline": "ศีลธรรมในสังคมเสื่อมถอย", "false_teachings": "มีผู้สอนธรรมะผิดๆ มากมาย" } self.protection_plans = [ "สร้างพลังงานคุ้มครองวัดสำคัญ", "ช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรมจริง", "เปิดเผยผู้สอนธรรมะเท็จ", "ฟื้นฟูสถานปฏิบัติธรรมโบราณ" ] ``` 🏛️ ความร่วมมือกับสถาบันพุทธศาสนา 👥 การประชุมพิเศษ จัดประชุมระหว่างครุฑกับพระสงฆ์ระดับอรหันต์ · สมเด็จพระสังฆราช: ให้คำแนะนำ · พระอาจารย์วิปัสสนา: แนะนำการปรับตัว · นักวิชาการพุทธศาสตร์: ช่วยวางแผน 📿 พิธีอัญเชิญเป็นทางการ จัดพิธี "การรับครุฑเข้าสู่ยุคใหม่": ```mermaid graph TB A[เตรียมพิธี<br>ที่โบสถ์ครุฑ] --> B[พระสงฆ์เจริญ<br>พุทธมนต์พิเศษ] B --> C[ครุฑแสดงตัว<br>รับพันธกิจใหม่] C --> D[กำหนดเขต<br>คุ้มครอง D --> E[ออกกฎเกณฑ์<br>การช่วยเหลือ] ``` 🌟 การปรับตัวของครุฑพาหนะ 💻 การใช้เทคโนโลยีคุ้มครองธรรมะ ครุฑเรียนรู้วิธีการต่างๆ · พลังงานดิจิตอล: สร้างเขตคุ้มครองรอบวัด · การสื่อสาร: ผ่านคลื่นความคิดถึงผู้มีบุญ · การปกป้อง: แบบไม่ให้มนุษย์ตกใจ 🎯 บทบาทใหม่ในสังคมดิจิตอล ครุฑพาหนะรับหน้าที่: · ผู้คุ้มกันดิจิตอล: ป้องกันการโจมตีทางจิตใจ · ที่ปรึกษาทางธรรม: แก่ผู้แสวงหาธรรม · สัญลักษณ์แห่งความหวัง: สำหรับพุทธศาสนิกชน 📚 โครงการฟื้นฟูพุทธศาสนา 🌱 แผนงานระยะยาว ครุฑพาหนะเสนอโครงการสำคัญ: ```python class BuddhistRevival: def __init__(self): self.education_projects = { "digital_dhamma": "สอนธรรมะผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอล", "youth_engagement": "ดึงดูดเยาวชนสนใจพุทธศาสนา", "modern_interpretation": "ตีความธรรมะให้เหมาะกับยุคสมัย", "interfaith_dialogue": "สนทนาระหว่างศาสนา" } self.preservation_efforts = [ "ฟื้นฟูวัดร้างที่มีความสำคัญ", "บันทึกคำสอนอาจารย์เก่า", "สร้างพิพิธภัณฑ์พุทธศาสนาเสมือนจริง", "ฝึกอบรมพระนักเผยแผ่รุ่นใหม่" ] ``` 🏆 ผลสำเร็จในการปฏิบัติงาน 🌈 การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก หลังจากครุฑพาหนะเริ่มปฏิบัติการ: ```python class PositiveImpacts: def __init__(self): self.spiritual = [ "ผู้คนหันมาสนใจปฏิบัติธรรมมากขึ้น", "เกิดชุมชนพุทธปฏิบัติการที่มีชีวิตชีวา", "ความรู้พุทธศาสนาเผยแพร่กว้างขวางขึ้น" ] self.social = [ "อาชญากรรมทางจิตวิญญาณลดลง", "ผู้สอนธรรมะเท็จถูกเปิดโปง", "สังคมมีศีลธรรมมากขึ้น" ] self.cultural = [ "ศิลปะพุทธเกิดขึ้นมากมาย", "วัดกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน", "ชาวต่างชาติหันมาสนใจวัฒนธรรมพุทธมากขึ้น" ] ``` 🔮 วิสัยทัศน์สำหรับอนาคต 💝 สังคมพุทธ ครุฑพาหนะวาดภาพอนาคต: "สังคมที่ธรรมะและวิทยาศาสตร์เดินควบคู่... ที่ซึ่งจิตวิญญาณและเทคโนโลยีสนับสนุนซึ่งกันและกัน" 🌍 บทบาทของโอปปาติกะในพุทธศาสนา ครุฑเปิดเผยว่ายังมีโอปปาติกะในตำนานอีกมาก: · นาคราช: ผู้รักษาพลังน้ำและปัญญา · กินนร: ผู้รักษาดนตรีทิพย์และศิลปะ · ยักษ์ธรรมะ: ผู้รักษาความยุติธรรม 📖 บทเรียนจากคดี 🪷 สำหรับครุฑพาหนะ "ข้าเรียนรู้ว่า... การเป็นทวารบาลหาใช่การยึดติดในรูปแบบเดิม แต่คือการเข้าใจจิตใจสมัยใหม่ และพันธะแห่งการคุ้มครองธรรมะ... ต้องปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย" 💫 สำหรับพุทธศาสนิกชน "เราเรียนรู้ว่า... พุทธศาสนามีผู้คุ้มครองที่มองไม่เห็น และธรรมะจะไม่สูญหายถ้าหากยังมีผู้ปฏิบัติ การตื่นของครุฑ... คือเครื่องเตือนใจให้เรารักษาธรรมะ" 🌟 สำหรับหนูดี "การได้ทำงานกับทวารบาลในตำนาน... สอนฉันว่าพุทธศาสนามีมิติลึกซึ้งกว่าที่คิด และโอปปาติกะ... สามารถเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และโลกธรรมะ" --- คำคมสุดท้ายจากครุฑพาหนะ: "บนปีกแห่งธรรมะ... เราสามารถบินข้ามกาลเวลา ในการคุ้มครองสัจธรรม... จำเป็นจะต้องเข้าใจยุคสมัย และในฐานะทวารบาล... ข้าจะไม่ยึดติดในรูปแบบเก่า แต่จะปรับตัวเพื่อรักษาแก่นแท้แห่งธรรมะ"🐉✨ พุทธพจน์แห่งยุคสมัยใหม่ "ธรรมะย่อมปรับตัวได้ดั่งน้ำ... แต่แก่นแท้ย่อมคงที่ดั่งแผ่นดิน เมื่อผู้คุ้มครองตื่นจากนิทรา... ธรรมะย่อมรุ่งเรืองในยุคสมัยใหม่"🌅
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขออภัยที่ข่าวสารไปไม่ถึงคุณ

    สถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ จ.สงขลา และจังหวัดภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา หลายภาคส่วนต่างทำหน้าที่แก้ไขปัญหาสถานการณ์ในรูปแบบต่างๆ เช่นเดียวกับสื่อมวลชนแต่ละสำนัก ต่างทำหน้าที่นำเสนอปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย และประสานความช่วยเหลือกับภาคส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสล้มผังรายการปกติ จัดรายการพิเศษ "มหาอุทกภัยภาคใต้ 2568" ตั้งแต่ 05.30 ถึง 24.00 น.

    ขณะที่ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กรมประชาสัมพันธ์ และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ปรับผังรายการและขยายการรายงานสถานการณ์แบบเรียลไทม์ ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) และสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เอ็มคอต เอชดี รวมทั้งสื่อวิทยุและสื่อออนไลน์ในเครือข่ายสื่อรัฐ ไม่นับรวมความทุ่มเทของสื่อมวลชนสำนักอื่นๆ ต่างเหน็ดเหนื่อยและเสียสละไม่แพ้กัน

    แต่เนื่องจากปัจจุบันระบบ Algorithm ของโซเชียลมีเดียตะวันตก มักจะเลือกนำเสนอในสิ่งที่ผู้ใช้สนใจเป็นหลัก ทำให้ไม่ทราบว่าบ้านเมืองกำลังเกิดอะไรขึ้น เข้าใจผิดว่าสื่อมวลชนไม่ทำหน้าที่ เริ่มจากอินฟลูเอนเซอร์รายหนึ่ง ซึ่งมีผู้ติดตาม 1.7 ล้านราย ระบุว่า "อยากให้สื่อเสนอข่าวน้ำท่วมก่อนค่ะ ดาราเป็นหนี้ใดๆ ให้เขาหาเงินใช้หนี้ไป เพราะตอนนี้ทั่วพื้นที่หาดใหญ่มีทั้งเด็กทารกและคนชราติดอยู่ในพื้นที่รอหน่วยงานไปช่วยเหลือเยอะมากๆ ค่ะ"

    สื่อมวลชนต่างพากันวิจารณ์เป็นจำนวนมาก สุดท้ายอินฟลูเอนเซอร์รายดังกล่าวขอโทษสื่อมวลชนทุกคน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ไม่สบายใจ คนที่นำเสนออยู่แล้วไม่ได้ว่าอะไรเลย ไม่ได้โพสต์เพื่อล่าแม่มด ชวนทะเลาะหรือทำให้เกิดความแตกแยก แค่อยากทำให้คนสนใจน้ำท่วมมากขึ้นสักคน ก็บรรลุเป้าหมายของตนแล้ว และได้แก้ไขต้นโพสต์เพื่อความสบายใจ ตรงจุดประสงค์ที่จะสื่อมากขึ้น และไม่ทำให้เป็นการกล่าวโทษใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

    แต่สำหรับ "นารา เครปกะเทย" หรือนายอนิวัต ประทุมถิ่น อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ผู้ติดตามมากกว่า 2.4 ล้านคน กลับระบุว่า "สื่อช่วยหยุดลงข่าวดาราเรื่องเงินได้แล้วค่ะ แล้วมาช่วยลงข่าวน้ำท่วมภาคใต้หน่อยค่ะ มีคนเดือดร้อนมากมาย คิดเสียว่าเขาคือพ่อแม่เราเนอะ" ปรากฎว่ามีแฟนคลับต่างพากันคอมเมนต์เห็นด้วย แม้จะมีคนทักท้วงว่า คิดอะไรไม่ออก ด่าสื่อไว้ก่อน สื่อเขาทำข่าว ลงพื้นที่กันหมดแล้ว แต่กลับตอบคำถามอีกอย่าง

    นี่คือผลเสียของอิทธิพลจากโซเชียลมีเดียตะวันตกที่ระบบอัลกอริทึมครอบงำผู้คนในชีวิตประจำวัน กลายเป็นการปิดหูปิดตาทางอ้อม ทำให้ประชาชนไม่รู้ว่า ประเทศไทยเวลานี้กำลังเกิดหายนะอะไรขึ้น กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินแก้

    #Newskit
    ขออภัยที่ข่าวสารไปไม่ถึงคุณ สถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ จ.สงขลา และจังหวัดภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา หลายภาคส่วนต่างทำหน้าที่แก้ไขปัญหาสถานการณ์ในรูปแบบต่างๆ เช่นเดียวกับสื่อมวลชนแต่ละสำนัก ต่างทำหน้าที่นำเสนอปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย และประสานความช่วยเหลือกับภาคส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสล้มผังรายการปกติ จัดรายการพิเศษ "มหาอุทกภัยภาคใต้ 2568" ตั้งแต่ 05.30 ถึง 24.00 น. ขณะที่ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กรมประชาสัมพันธ์ และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ปรับผังรายการและขยายการรายงานสถานการณ์แบบเรียลไทม์ ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) และสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เอ็มคอต เอชดี รวมทั้งสื่อวิทยุและสื่อออนไลน์ในเครือข่ายสื่อรัฐ ไม่นับรวมความทุ่มเทของสื่อมวลชนสำนักอื่นๆ ต่างเหน็ดเหนื่อยและเสียสละไม่แพ้กัน แต่เนื่องจากปัจจุบันระบบ Algorithm ของโซเชียลมีเดียตะวันตก มักจะเลือกนำเสนอในสิ่งที่ผู้ใช้สนใจเป็นหลัก ทำให้ไม่ทราบว่าบ้านเมืองกำลังเกิดอะไรขึ้น เข้าใจผิดว่าสื่อมวลชนไม่ทำหน้าที่ เริ่มจากอินฟลูเอนเซอร์รายหนึ่ง ซึ่งมีผู้ติดตาม 1.7 ล้านราย ระบุว่า "อยากให้สื่อเสนอข่าวน้ำท่วมก่อนค่ะ ดาราเป็นหนี้ใดๆ ให้เขาหาเงินใช้หนี้ไป เพราะตอนนี้ทั่วพื้นที่หาดใหญ่มีทั้งเด็กทารกและคนชราติดอยู่ในพื้นที่รอหน่วยงานไปช่วยเหลือเยอะมากๆ ค่ะ" สื่อมวลชนต่างพากันวิจารณ์เป็นจำนวนมาก สุดท้ายอินฟลูเอนเซอร์รายดังกล่าวขอโทษสื่อมวลชนทุกคน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ไม่สบายใจ คนที่นำเสนออยู่แล้วไม่ได้ว่าอะไรเลย ไม่ได้โพสต์เพื่อล่าแม่มด ชวนทะเลาะหรือทำให้เกิดความแตกแยก แค่อยากทำให้คนสนใจน้ำท่วมมากขึ้นสักคน ก็บรรลุเป้าหมายของตนแล้ว และได้แก้ไขต้นโพสต์เพื่อความสบายใจ ตรงจุดประสงค์ที่จะสื่อมากขึ้น และไม่ทำให้เป็นการกล่าวโทษใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่สำหรับ "นารา เครปกะเทย" หรือนายอนิวัต ประทุมถิ่น อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ผู้ติดตามมากกว่า 2.4 ล้านคน กลับระบุว่า "สื่อช่วยหยุดลงข่าวดาราเรื่องเงินได้แล้วค่ะ แล้วมาช่วยลงข่าวน้ำท่วมภาคใต้หน่อยค่ะ มีคนเดือดร้อนมากมาย คิดเสียว่าเขาคือพ่อแม่เราเนอะ" ปรากฎว่ามีแฟนคลับต่างพากันคอมเมนต์เห็นด้วย แม้จะมีคนทักท้วงว่า คิดอะไรไม่ออก ด่าสื่อไว้ก่อน สื่อเขาทำข่าว ลงพื้นที่กันหมดแล้ว แต่กลับตอบคำถามอีกอย่าง นี่คือผลเสียของอิทธิพลจากโซเชียลมีเดียตะวันตกที่ระบบอัลกอริทึมครอบงำผู้คนในชีวิตประจำวัน กลายเป็นการปิดหูปิดตาทางอ้อม ทำให้ประชาชนไม่รู้ว่า ประเทศไทยเวลานี้กำลังเกิดหายนะอะไรขึ้น กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินแก้ #Newskit
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯหนู ล้างอาถรรพ์
    ว่านายกฯหญิงทำน้ำท่วม ไม่ว่าหญิงหรือชาย ถ้าไม่ปรับโครงสร้างบริหารจัดการน้ำ ก็พังเหมือนเดิม
    #คิงส์โพธิ์แดง
    นายกฯหนู ล้างอาถรรพ์ ว่านายกฯหญิงทำน้ำท่วม ไม่ว่าหญิงหรือชาย ถ้าไม่ปรับโครงสร้างบริหารจัดการน้ำ ก็พังเหมือนเดิม #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷
    #รวมข่าวIT #20251125 #TechRadar

    รีวิวแบตเตอรี่ LiTime X Mini และอุปกรณ์เสริม
    เรื่องนี้เล่าได้ว่า LiTime เปิดตัวแบตเตอรี่ X Mini รุ่นใหม่ที่มีความจุ 320Ah หรือราว 4kWh ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับอินเวอร์เตอร์และเครื่องชาร์จเพื่อสร้างระบบไฟฟ้า AC ขนาด 2kW ได้ในราคาประมาณ 1,500 ดอลลาร์ จุดเด่นคือความยืดหยุ่น ผู้ใช้สามารถเพิ่มแบตเตอรี่หรือเปลี่ยนอินเวอร์เตอร์ให้แรงขึ้นได้ตามต้องการ ตัวแบตเตอรี่มีน้ำหนักเพียง 25 กิโลกรัม ขนาดไม่ต่างจากแบตรถยนต์ทั่วไป แต่มีฟังก์ชันล้ำ ๆ เช่น Bluetooth สำหรับตรวจสอบสถานะ, ระบบจัดการแบตเตอรี่ที่มีการป้องกันกว่า 20 รูปแบบ และทนต่ออุณหภูมิต่ำถึง -20 องศาเซลเซียส จุดที่น่าสนใจคือสามารถต่อแบตเตอรี่หลายลูกเพื่อขยายกำลังได้ และยังทำงานเป็น UPS สำรองไฟได้อีกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งระบบเอง แต่ถ้าไม่ถนัด DIY อาจไม่เหมาะนัก
    https://www.techradar.com/pro/litime-x-mini-battery-and-accessories-review

    iPadOS 26 กับการจัดการหน้าต่างที่ทำให้สับสน แต่มีทริกง่าย ๆ
    Apple ปรับโฉมครั้งใหญ่ใน iPadOS 26 โดยเพิ่มระบบจัดการหน้าต่างแบบ Mac เข้ามา แต่หลายคนรวมถึงผู้เขียนพบว่ามันใช้งานยากและ Apple ไม่ได้อธิบายชัดเจน วิธีแก้คือเพิ่ม “Multitasking widget” ใน Control Center ซึ่งจะช่วยให้สลับโหมดการใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโหมดเต็มหน้าจอที่เหมาะกับการดูสื่อบันเทิง, โหมด Windowed Apps ที่เหมาะกับการทำงานหลายแอปพร้อมกัน หรือโหมด Stage Manager ที่ช่วยจัดการ workspace ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อเข้าใจการสลับโหมดเหล่านี้ iPad จะกลายเป็นเครื่องมือที่ทั้งบันเทิงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/tablets/ipad/ipados-26s-window-management-is-confusing-heres-an-easy-trick-to-use-it-properly

    NATO จับมือ Google Cloud สร้าง Sovereign Cloud ที่ปลอดภัย
    NATO ลงนามข้อตกลงครั้งใหญ่กับ Google Cloud เพื่อใช้บริการ Google Distributed Cloud (GDC) ซึ่งเป็นระบบ sovereign cloud แบบ air-gapped ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะการจัดการข้อมูลที่อ่อนไหวจากศูนย์ JATEC ที่เกี่ยวข้องกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน จุดสำคัญคือ NATO จะสามารถควบคุมข้อมูลให้อยู่ในอาณาเขตของตนเองตามข้อกำหนดด้าน sovereignty และ compliance ข้อตกลงนี้ช่วยเร่งการปรับปรุงระบบดิจิทัลของ NATO และยังสะท้อนถึงการเติบโตของ Google Cloud ที่รายได้เพิ่มขึ้นกว่า 28% ในไตรมาสล่าสุด
    https://www.techradar.com/pro/nato-signs-major-google-deal-to-ensure-secure-sovereign-cloud

    Android เตรียมรองรับ AirDrop มากขึ้น
    Google สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศว่า Android Quick Share จะสามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้ ตอนนี้ใช้ได้เฉพาะ Pixel 10 แต่ Snapdragon ก็ออกมาบอกว่าจะรองรับในอนาคต ซึ่งหมายความว่าโทรศัพท์ Android รุ่นใหม่ ๆ อย่าง Samsung Galaxy S25 และ OnePlus 15 อาจใช้ฟีเจอร์นี้ได้ รวมถึง Nothing Phone 3 ที่ CEO ของ Nothing ยืนยันว่าจะนำมาใช้แน่นอน แม้ยังมีคำถามว่า Apple จะยอมให้ฟีเจอร์นี้ทำงานต่อไปหรือไม่ แต่ถ้าไม่ถูกบล็อก นี่จะเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้การแชร์ไฟล์ระหว่าง iPhone และ Android ง่ายขึ้นมาก
    https://www.techradar.com/phones/android/loads-more-android-phones-could-soon-work-with-airdrop

    GMKtec เปิดตัว EVO-T2 Mini-PC รุ่นใหม่ พร้อมชิป Intel Panther Lake
    เรื่องราวนี้พูดถึงการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก EVO-T2 จาก GMKtec ที่สร้างความฮือฮาเพราะเป็นรุ่นแรกที่ใช้ชิป Panther Lake ของ Intel รุ่นใหม่ล่าสุด ตัวเครื่องรองรับหน่วยความจำสูงสุดถึง 128GB LPDDR5X และมีช่อง SSD สองช่องที่รวมกันได้ถึง 16TB จุดเด่นคือพลังการประมวลผลด้าน AI ที่สูงถึง 180 TOPS ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องใช้ AI หนัก ๆ ทั้งยังคงดีไซน์เรียบง่ายเหมือนรุ่นก่อน แต่เพิ่มประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด การเปิดตัวจริงคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2026
    https://www.techradar.com/pro/gmktecs-next-mini-pc-will-be-the-first-to-feature-intel-panther-lake-and-some-other-seriously-impressive-specs

    นักวิจัยทดสอบ AI สร้างมัลแวร์ แต่ผลลัพธ์กลับไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
    ทีมวิจัยจาก Netskope พยายามทดสอบว่าโมเดลภาษา AI อย่าง GPT-3.5 และ GPT-4 สามารถสร้างโค้ดมัลแวร์ที่ใช้งานได้จริงหรือไม่ ผลคือแม้ AI จะสร้างโค้ดออกมาได้ แต่เมื่อนำไปทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงกลับล้มเหลว ไม่เสถียร และทำงานผิดพลาดบ่อยครั้ง แม้ GPT-5 จะมีคุณภาพโค้ดที่ดีขึ้น แต่ก็มีระบบป้องกันที่ทำให้โค้ดไม่สามารถใช้โจมตีได้จริง เรื่องนี้สะท้อนว่า AI ยังไม่พร้อมสำหรับการสร้างมัลแวร์ที่ทำงานได้อย่างอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
    https://www.techradar.com/pro/experts-tried-to-get-ai-to-create-malicious-security-threats-but-what-it-did-next-was-a-surprise-even-to-them

    Sam Altman และ Jony Ive เผยโฉมอุปกรณ์ AI ที่จะมอบ “บรรยากาศสงบ” ให้ผู้ใช้
    Sam Altman ซีอีโอ OpenAI และ Jony Ive อดีตนักออกแบบจาก Apple กำลังพัฒนาอุปกรณ์ AI ภายใต้บริษัท IO ที่ตั้งใจให้แตกต่างจากเทคโนโลยีทั่วไป โดยจะเป็นอุปกรณ์ที่มีความเข้าใจบริบทชีวิตผู้ใช้ รู้ว่าเมื่อไรควรนำเสนอข้อมูล และสร้างบรรยากาศที่สงบเหมือนนั่งอยู่ในกระท่อมริมทะเลสาบ ไม่ใช่ความวุ่นวายแบบสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ทั้งคู่ยืนยันว่าอุปกรณ์นี้จะเปิดตัวภายในสองปี และจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้ “ยิ้มและรู้สึกมีความสุข”
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/sam-altman-and-jony-ive-ai-device-is-now-in-its-prototype-phase-and-its-vibe-is-defined

    รีวิวเครื่องเล่นแผ่นเสียง Sony PS-LX310BT รุ่นราคาย่อมเยา ใช้ง่ายและดูดี
    เครื่องเล่นแผ่นเสียง Sony PS-LX310BT ถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้เริ่มต้นเล่นแผ่นเสียง จุดเด่นคือราคาที่จับต้องได้และการใช้งานที่ง่าย เพียงกดปุ่มเล่นหรือหยุดโดยไม่ต้องยุ่งกับเข็มหรือโทนอาร์ม ดีไซน์เรียบหรูและรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth และ RCA แม้จะไม่มีช่อง 3.5 มม. และการตั้งค่าเริ่มต้นอาจดูยุ่งเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าเป็นเครื่องเล่นที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากสัมผัสโลกของเสียงจากแผ่นไวนิล
    https://www.techradar.com/audio/turntables/i-tested-the-entry-level-turntable-that-everyone-raves-about-and-i-totally-get-it

    ChatGPT เปิดตัวฟีเจอร์ Shopping Research ช่วยค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าให้คุณ
    OpenAI เพิ่มเครื่องมือใหม่ใน ChatGPT ชื่อว่า Shopping Research ที่ช่วยผู้ใช้ค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคาได้โดยไม่ต้องเปิดหลายแท็บ เครื่องมือนี้สามารถสร้างคู่มือการซื้อที่ปรับตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น การหาของขวัญแปลกใหม่หรือทีวีที่เหมาะกับห้องสว่าง ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้ทั้งในแผนฟรีและแบบเสียเงิน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งปลายปีที่เข้าถึงได้แทบไม่จำกัด ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัวที่สะดวกและฉลาดขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-shopping-research-tool-compares-products-for-you-so-you-dont-have-to-open-20-tabs

    ช่องโหว่ Windows Server ถูกแฮกเกอร์ใช้แพร่กระจายมัลแวร์
    ข่าวนี้เล่าถึงการค้นพบช่องโหว่ใน Windows Server ที่ถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ไปยังระบบต่าง ๆ ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าถึงและควบคุมเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ที่ถูกต้อง Microsoft ได้ออกคำเตือนและแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ
    https://www.techradar.com/pro/security/windows-server-flaw-targeted-by-hackers-to-spread-malware-heres-what-we-know

    Cox Enterprises ถูกโจมตีข้อมูลจาก Oracle แต่ไม่เปิดเผยผู้ก่อเหตุ
    ox Enterprises บริษัทสื่อและโทรคมนาคมรายใหญ่ในสหรัฐฯ ยืนยันว่าถูกโจมตีข้อมูลผ่านระบบ Oracle แต่ยังไม่เปิดเผยว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุหรือวิธีการที่ใช้ การโจมตีครั้งนี้ทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนเสี่ยงต่อการรั่วไหล แม้บริษัทจะพยายามควบคุมสถานการณ์และเสริมมาตรการความปลอดภัย แต่การไม่เปิดเผยรายละเอียดก็สร้างความกังวลต่อผู้ใช้งานและนักลงทุน
    https://www.techradar.com/pro/security/cox-reveals-it-was-hit-by-oracle-data-breach-but-it-wont-name-who-carried-out-the-attack

    Kodak เปิดตัวกล้องฟิล์ม 35mm ราคาย่อมเยา กลับสู่ความคลาสสิก
    Kodak เปิดตัวกล้องฟิล์ม 35mm รุ่นใหม่ที่มีราคาย่อมเยาและดีไซน์ย้อนยุค เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในความคลาสสิกของการถ่ายภาพด้วยฟิล์ม กล้องรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งสีดำและสีขาว ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากสัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพแบบดั้งเดิม ถือเป็นการนำเสน่ห์ของฟิล์มกลับมาอีกครั้งในยุคดิจิทัล
    https://www.techradar.com/cameras/kodaks-affordable-35mm-film-camera-looks-like-a-black-or-white-blast-from-the-past

    Disney เปิดตัวหุ่นยนต์ Olaf ที่สมจริงจนทำให้ผู้ชมขนลุก
    Disney สร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยหุ่นยนต์ Olaf จาก Frozen ที่เคลื่อนไหวและแสดงออกได้อย่างสมจริง หุ่นยนต์นี้ถูกพัฒนาให้มีท่าทางและอารมณ์เหมือนตัวละครในภาพยนตร์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือน Olaf มีชีวิตจริง ๆ เทคโนโลยีนี้สะท้อนถึงความก้าวหน้าของ Disney ในการผสมผสานหุ่นยนต์เข้ากับความบันเทิง และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการนำตัวละครอื่น ๆ มาสู่โลกจริงในอนาคต
    https://www.techradar.com/streaming/entertainment/disneys-new-olaf-robot-is-so-real-itll-give-you-chills

    Iberia สายการบินสเปนประกาศถูกโจมตีข้อมูลครั้งใหญ่
    Iberia สายการบินรายใหญ่ของสเปนแจ้งลูกค้าว่าถูกโจมตีข้อมูลครั้งใหญ่ ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสารบางส่วนเสี่ยงต่อการรั่วไหล แม้บริษัทจะรีบดำเนินการแก้ไขและเสริมมาตรการความปลอดภัย แต่เหตุการณ์นี้ก็สร้างความกังวลต่อผู้โดยสารและอุตสาหกรรมการบินโดยรวม เพราะสะท้อนถึงความเปราะบางของระบบดิจิทัลในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมหาศาล
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/iberia-tells-customers-it-was-hit-by-a-major-security-breach



    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251125 #TechRadar 🔋 รีวิวแบตเตอรี่ LiTime X Mini และอุปกรณ์เสริม เรื่องนี้เล่าได้ว่า LiTime เปิดตัวแบตเตอรี่ X Mini รุ่นใหม่ที่มีความจุ 320Ah หรือราว 4kWh ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับอินเวอร์เตอร์และเครื่องชาร์จเพื่อสร้างระบบไฟฟ้า AC ขนาด 2kW ได้ในราคาประมาณ 1,500 ดอลลาร์ จุดเด่นคือความยืดหยุ่น ผู้ใช้สามารถเพิ่มแบตเตอรี่หรือเปลี่ยนอินเวอร์เตอร์ให้แรงขึ้นได้ตามต้องการ ตัวแบตเตอรี่มีน้ำหนักเพียง 25 กิโลกรัม ขนาดไม่ต่างจากแบตรถยนต์ทั่วไป แต่มีฟังก์ชันล้ำ ๆ เช่น Bluetooth สำหรับตรวจสอบสถานะ, ระบบจัดการแบตเตอรี่ที่มีการป้องกันกว่า 20 รูปแบบ และทนต่ออุณหภูมิต่ำถึง -20 องศาเซลเซียส จุดที่น่าสนใจคือสามารถต่อแบตเตอรี่หลายลูกเพื่อขยายกำลังได้ และยังทำงานเป็น UPS สำรองไฟได้อีกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งระบบเอง แต่ถ้าไม่ถนัด DIY อาจไม่เหมาะนัก 🔗 https://www.techradar.com/pro/litime-x-mini-battery-and-accessories-review 🍎 iPadOS 26 กับการจัดการหน้าต่างที่ทำให้สับสน แต่มีทริกง่าย ๆ Apple ปรับโฉมครั้งใหญ่ใน iPadOS 26 โดยเพิ่มระบบจัดการหน้าต่างแบบ Mac เข้ามา แต่หลายคนรวมถึงผู้เขียนพบว่ามันใช้งานยากและ Apple ไม่ได้อธิบายชัดเจน วิธีแก้คือเพิ่ม “Multitasking widget” ใน Control Center ซึ่งจะช่วยให้สลับโหมดการใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโหมดเต็มหน้าจอที่เหมาะกับการดูสื่อบันเทิง, โหมด Windowed Apps ที่เหมาะกับการทำงานหลายแอปพร้อมกัน หรือโหมด Stage Manager ที่ช่วยจัดการ workspace ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อเข้าใจการสลับโหมดเหล่านี้ iPad จะกลายเป็นเครื่องมือที่ทั้งบันเทิงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/tablets/ipad/ipados-26s-window-management-is-confusing-heres-an-easy-trick-to-use-it-properly 🌐 NATO จับมือ Google Cloud สร้าง Sovereign Cloud ที่ปลอดภัย NATO ลงนามข้อตกลงครั้งใหญ่กับ Google Cloud เพื่อใช้บริการ Google Distributed Cloud (GDC) ซึ่งเป็นระบบ sovereign cloud แบบ air-gapped ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะการจัดการข้อมูลที่อ่อนไหวจากศูนย์ JATEC ที่เกี่ยวข้องกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน จุดสำคัญคือ NATO จะสามารถควบคุมข้อมูลให้อยู่ในอาณาเขตของตนเองตามข้อกำหนดด้าน sovereignty และ compliance ข้อตกลงนี้ช่วยเร่งการปรับปรุงระบบดิจิทัลของ NATO และยังสะท้อนถึงการเติบโตของ Google Cloud ที่รายได้เพิ่มขึ้นกว่า 28% ในไตรมาสล่าสุด 🔗 https://www.techradar.com/pro/nato-signs-major-google-deal-to-ensure-secure-sovereign-cloud 📱 Android เตรียมรองรับ AirDrop มากขึ้น Google สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศว่า Android Quick Share จะสามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้ ตอนนี้ใช้ได้เฉพาะ Pixel 10 แต่ Snapdragon ก็ออกมาบอกว่าจะรองรับในอนาคต ซึ่งหมายความว่าโทรศัพท์ Android รุ่นใหม่ ๆ อย่าง Samsung Galaxy S25 และ OnePlus 15 อาจใช้ฟีเจอร์นี้ได้ รวมถึง Nothing Phone 3 ที่ CEO ของ Nothing ยืนยันว่าจะนำมาใช้แน่นอน แม้ยังมีคำถามว่า Apple จะยอมให้ฟีเจอร์นี้ทำงานต่อไปหรือไม่ แต่ถ้าไม่ถูกบล็อก นี่จะเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้การแชร์ไฟล์ระหว่าง iPhone และ Android ง่ายขึ้นมาก 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/loads-more-android-phones-could-soon-work-with-airdrop 🖥️ GMKtec เปิดตัว EVO-T2 Mini-PC รุ่นใหม่ พร้อมชิป Intel Panther Lake เรื่องราวนี้พูดถึงการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก EVO-T2 จาก GMKtec ที่สร้างความฮือฮาเพราะเป็นรุ่นแรกที่ใช้ชิป Panther Lake ของ Intel รุ่นใหม่ล่าสุด ตัวเครื่องรองรับหน่วยความจำสูงสุดถึง 128GB LPDDR5X และมีช่อง SSD สองช่องที่รวมกันได้ถึง 16TB จุดเด่นคือพลังการประมวลผลด้าน AI ที่สูงถึง 180 TOPS ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องใช้ AI หนัก ๆ ทั้งยังคงดีไซน์เรียบง่ายเหมือนรุ่นก่อน แต่เพิ่มประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด การเปิดตัวจริงคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/pro/gmktecs-next-mini-pc-will-be-the-first-to-feature-intel-panther-lake-and-some-other-seriously-impressive-specs 🛡️ นักวิจัยทดสอบ AI สร้างมัลแวร์ แต่ผลลัพธ์กลับไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ทีมวิจัยจาก Netskope พยายามทดสอบว่าโมเดลภาษา AI อย่าง GPT-3.5 และ GPT-4 สามารถสร้างโค้ดมัลแวร์ที่ใช้งานได้จริงหรือไม่ ผลคือแม้ AI จะสร้างโค้ดออกมาได้ แต่เมื่อนำไปทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงกลับล้มเหลว ไม่เสถียร และทำงานผิดพลาดบ่อยครั้ง แม้ GPT-5 จะมีคุณภาพโค้ดที่ดีขึ้น แต่ก็มีระบบป้องกันที่ทำให้โค้ดไม่สามารถใช้โจมตีได้จริง เรื่องนี้สะท้อนว่า AI ยังไม่พร้อมสำหรับการสร้างมัลแวร์ที่ทำงานได้อย่างอัตโนมัติเต็มรูปแบบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/experts-tried-to-get-ai-to-create-malicious-security-threats-but-what-it-did-next-was-a-surprise-even-to-them ✨ Sam Altman และ Jony Ive เผยโฉมอุปกรณ์ AI ที่จะมอบ “บรรยากาศสงบ” ให้ผู้ใช้ Sam Altman ซีอีโอ OpenAI และ Jony Ive อดีตนักออกแบบจาก Apple กำลังพัฒนาอุปกรณ์ AI ภายใต้บริษัท IO ที่ตั้งใจให้แตกต่างจากเทคโนโลยีทั่วไป โดยจะเป็นอุปกรณ์ที่มีความเข้าใจบริบทชีวิตผู้ใช้ รู้ว่าเมื่อไรควรนำเสนอข้อมูล และสร้างบรรยากาศที่สงบเหมือนนั่งอยู่ในกระท่อมริมทะเลสาบ ไม่ใช่ความวุ่นวายแบบสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ทั้งคู่ยืนยันว่าอุปกรณ์นี้จะเปิดตัวภายในสองปี และจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้ “ยิ้มและรู้สึกมีความสุข” 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/sam-altman-and-jony-ive-ai-device-is-now-in-its-prototype-phase-and-its-vibe-is-defined 🎶 รีวิวเครื่องเล่นแผ่นเสียง Sony PS-LX310BT รุ่นราคาย่อมเยา ใช้ง่ายและดูดี เครื่องเล่นแผ่นเสียง Sony PS-LX310BT ถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้เริ่มต้นเล่นแผ่นเสียง จุดเด่นคือราคาที่จับต้องได้และการใช้งานที่ง่าย เพียงกดปุ่มเล่นหรือหยุดโดยไม่ต้องยุ่งกับเข็มหรือโทนอาร์ม ดีไซน์เรียบหรูและรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth และ RCA แม้จะไม่มีช่อง 3.5 มม. และการตั้งค่าเริ่มต้นอาจดูยุ่งเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าเป็นเครื่องเล่นที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากสัมผัสโลกของเสียงจากแผ่นไวนิล 🔗 https://www.techradar.com/audio/turntables/i-tested-the-entry-level-turntable-that-everyone-raves-about-and-i-totally-get-it 🛍️ ChatGPT เปิดตัวฟีเจอร์ Shopping Research ช่วยค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าให้คุณ OpenAI เพิ่มเครื่องมือใหม่ใน ChatGPT ชื่อว่า Shopping Research ที่ช่วยผู้ใช้ค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคาได้โดยไม่ต้องเปิดหลายแท็บ เครื่องมือนี้สามารถสร้างคู่มือการซื้อที่ปรับตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น การหาของขวัญแปลกใหม่หรือทีวีที่เหมาะกับห้องสว่าง ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้ทั้งในแผนฟรีและแบบเสียเงิน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งปลายปีที่เข้าถึงได้แทบไม่จำกัด ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัวที่สะดวกและฉลาดขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-shopping-research-tool-compares-products-for-you-so-you-dont-have-to-open-20-tabs 🔒 ช่องโหว่ Windows Server ถูกแฮกเกอร์ใช้แพร่กระจายมัลแวร์ ข่าวนี้เล่าถึงการค้นพบช่องโหว่ใน Windows Server ที่ถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ไปยังระบบต่าง ๆ ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าถึงและควบคุมเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ที่ถูกต้อง Microsoft ได้ออกคำเตือนและแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/windows-server-flaw-targeted-by-hackers-to-spread-malware-heres-what-we-know 📉 Cox Enterprises ถูกโจมตีข้อมูลจาก Oracle แต่ไม่เปิดเผยผู้ก่อเหตุ ox Enterprises บริษัทสื่อและโทรคมนาคมรายใหญ่ในสหรัฐฯ ยืนยันว่าถูกโจมตีข้อมูลผ่านระบบ Oracle แต่ยังไม่เปิดเผยว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุหรือวิธีการที่ใช้ การโจมตีครั้งนี้ทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนเสี่ยงต่อการรั่วไหล แม้บริษัทจะพยายามควบคุมสถานการณ์และเสริมมาตรการความปลอดภัย แต่การไม่เปิดเผยรายละเอียดก็สร้างความกังวลต่อผู้ใช้งานและนักลงทุน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cox-reveals-it-was-hit-by-oracle-data-breach-but-it-wont-name-who-carried-out-the-attack 📷 Kodak เปิดตัวกล้องฟิล์ม 35mm ราคาย่อมเยา กลับสู่ความคลาสสิก Kodak เปิดตัวกล้องฟิล์ม 35mm รุ่นใหม่ที่มีราคาย่อมเยาและดีไซน์ย้อนยุค เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในความคลาสสิกของการถ่ายภาพด้วยฟิล์ม กล้องรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งสีดำและสีขาว ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากสัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพแบบดั้งเดิม ถือเป็นการนำเสน่ห์ของฟิล์มกลับมาอีกครั้งในยุคดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/cameras/kodaks-affordable-35mm-film-camera-looks-like-a-black-or-white-blast-from-the-past 🤖 Disney เปิดตัวหุ่นยนต์ Olaf ที่สมจริงจนทำให้ผู้ชมขนลุก Disney สร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยหุ่นยนต์ Olaf จาก Frozen ที่เคลื่อนไหวและแสดงออกได้อย่างสมจริง หุ่นยนต์นี้ถูกพัฒนาให้มีท่าทางและอารมณ์เหมือนตัวละครในภาพยนตร์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือน Olaf มีชีวิตจริง ๆ เทคโนโลยีนี้สะท้อนถึงความก้าวหน้าของ Disney ในการผสมผสานหุ่นยนต์เข้ากับความบันเทิง และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการนำตัวละครอื่น ๆ มาสู่โลกจริงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/streaming/entertainment/disneys-new-olaf-robot-is-so-real-itll-give-you-chills ✈️ Iberia สายการบินสเปนประกาศถูกโจมตีข้อมูลครั้งใหญ่ Iberia สายการบินรายใหญ่ของสเปนแจ้งลูกค้าว่าถูกโจมตีข้อมูลครั้งใหญ่ ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสารบางส่วนเสี่ยงต่อการรั่วไหล แม้บริษัทจะรีบดำเนินการแก้ไขและเสริมมาตรการความปลอดภัย แต่เหตุการณ์นี้ก็สร้างความกังวลต่อผู้โดยสารและอุตสาหกรรมการบินโดยรวม เพราะสะท้อนถึงความเปราะบางของระบบดิจิทัลในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมหาศาล ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/iberia-tells-customers-it-was-hit-by-a-major-security-breach
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷
    #รวมข่าวIT #20251125 #securityonline

    จีน-นexus Autumn Dragon ใช้ช่องโหว่ WinRAR ปล่อยมัลแวร์ผ่าน Telegram
    เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงปฏิบัติการจารกรรมไซเบอร์ชื่อ “Autumn Dragon” ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ฝั่งจีน พวกเขาใช้ไฟล์ RAR ที่ฝังช่องโหว่ของ WinRAR (CVE-2025-8088) ส่งไปยังเป้าหมายผ่านอีเมลหลอกลวง เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ ระบบจะถูกฝังสคริปต์ที่ทำงานต่อเนื่องเพื่อดึงมัลแวร์ขั้นต่อไปจาก Dropbox และซ่อนตัวผ่าน DLL sideloading โดยมีการควบคุมผ่าน Telegram ตัวมัลแวร์นี้สามารถสั่งงานได้ เช่น เปิด shell, ถ่าย screenshot และอัปโหลดไฟล์ จุดที่น่าสนใจคือการออกแบบให้ฟังก์ชันน้อยเพื่อไม่ให้ถูกตรวจจับง่าย เป้าหมายหลักคือหน่วยงานรัฐบาลและสื่อในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
    https://securityonline.info/china-nexus-autumn-dragon-apt-exploits-winrar-flaw-to-deploy-telegram-c2-backdoor

    Notepad เพิ่มฟีเจอร์ Markdown Table และ Copilot Streaming
    จากเดิมที่ Notepad เป็นเพียงโปรแกรมจดข้อความธรรมดา ตอนนี้ Microsoft ได้ยกระดับให้รองรับการสร้างตารางในรูปแบบ Markdown ผู้ใช้สามารถเลือกจำนวนแถวคอลัมน์ได้ง่าย ๆ คล้ายกับการใส่ตารางใน Word และยังสามารถแก้ไขขยายหรือลดขนาดได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Microsoft Copilot โดยเพิ่มความสามารถในการเขียนใหม่และสรุปข้อความแบบ “streaming” คือผลลัพธ์จะปรากฏทันทีโดยไม่ต้องรอจนเสร็จทั้งหมด ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad กลายเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยและตอบโจทย์นักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วไปมากขึ้น
    https://securityonline.info/notepad-update-adds-markdown-table-support-streaming-copilot-ai-responses

    Microsoft แก้ปัญหา File Explorer ช้าใน Windows 11 ด้วย Preloading
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่า File Explorer เปิดช้า โดยเฉพาะเมื่อโหลดโฟลเดอร์ที่มีรูปภาพเยอะ ๆ Microsoft จึงออกฟีเจอร์ใหม่ใน Build 26220.7271 ที่เรียกว่า “preloading” ซึ่งจะโหลด Explorer เข้าหน่วยความจำล่วงหน้า ทำให้การเปิดใช้งานเร็วขึ้น แม้จะยังไม่แก้ปัญหาการหน่วงหลังเปิดไฟล์ได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยลดเวลารอไปหลายร้อยมิลลิวินาที ผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้หากไม่ต้องการ แต่โดยทั่วไปมันใช้ RAM น้อยและช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้นมาก
    https://securityonline.info/microsoft-tries-to-fix-windows-11-file-explorer-lag-with-new-preloading-feature

      Qualcomm ยืนยัน Quick Share ใช้งานร่วมกับ AirDrop ได้บนมือถือ Snapdragon
    หลังจาก Google ประกาศว่า Pixel 10 จะสามารถส่งไฟล์ผ่าน Quick Share ไปยัง iPhone ได้เหมือน AirDrop ล่าสุด Qualcomm ก็ออกมายืนยันว่า ฟีเจอร์นี้จะไม่จำกัดเฉพาะ Pixel แต่จะขยายไปยังมือถือ Android ที่ใช้ชิป Snapdragon ด้วย หมายความว่าผู้ใช้ Android และ iOS จะสามารถแชร์ไฟล์กันได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งแอปเสริม ถือเป็นการเชื่อมโลกสองฝั่งที่เคยถูกแบ่งแยกมานาน คาดว่า Samsung Galaxy S26 จะเป็นรุ่นแรก ๆ ที่นำมาใช้ และนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการแชร์ไฟล์ข้ามระบบนิเวศ
    https://securityonline.info/qualcomm-confirms-quick-share-airdrop-interoperability-coming-to-all-snapdragon-phones

    ทีมไซเบอร์ระดับโลกเปิดตัว Blast Security ด้วยทุน $10M
    Blast Security คือสตาร์ทอัพใหม่จาก Tel Aviv ที่ก่อตั้งโดยทีมผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์จาก Solebit และหน่วย IDF พวกเขาเปิดตัวแพลตฟอร์ม “Preemptive Cloud Defense” ที่เน้นการป้องกันเชิงรุกแทนการตรวจจับและแก้ไขทีหลัง จุดเด่นคือการสร้างระบบป้องกันที่ทำงานต่อเนื่อง ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของคลาวด์ และลดความเสี่ยงได้กว่า 90% การลงทุนรอบ seed ได้เงินทุนถึง 10 ล้านดอลลาร์จาก 10D และ MizMaa Ventures เป้าหมายคือการทำให้ “การป้องกัน” กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยบนคลาวด์
    https://securityonline.info/elite-cyber-veterans-launch-blast-security-with-10m-to-turn-cloud-detection-into-prevention

    CISA เตือนภัยสปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีแอปแชทด้วย Zero-Click และ QR Code อันตราย
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเร่งด่วนว่ามีการใช้สปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีผู้ใช้งานแอปแชทยอดนิยม เช่น WhatsApp และ Signal โดยไม่ต้องให้เหยื่อกดหรือทำอะไรเลย ผ่านช่องโหว่แบบ Zero-Click และการหลอกให้สแกน QR Code ที่เชื่อมบัญชีไปยังเครื่องของแฮกเกอร์ เมื่อถูกเจาะแล้ว ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ รายชื่อผู้ติดต่อ เปิดไมโครโฟน และติดตามตำแหน่งได้ทันที เป้าหมายหลักคือบุคคลสำคัญ นักข่าว และองค์กรภาคประชาสังคมในหลายภูมิภาคทั่วโลก
    https://securityonline.info/cisa-emergency-alert-commercial-spyware-exploiting-zero-click-and-malicious-qr-codes-to-hijack-messaging-apps

    ช่องโหว่ร้ายแรง WordPress (CVE-2025-6389)
    เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเว็บได้ทันที มีการเปิดเผยช่องโหว่ระดับวิกฤติในปลั๊กอิน Sneeit Framework ที่ใช้ในธีมยอดนิยมอย่าง FlatNews ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้สามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอม อัปโหลดเว็บเชลล์ และยึดครองเว็บไซต์ได้ทันที นักวิจัยพบว่ามีการโจมตีจริงแล้วหลายร้อยครั้งในเวลาเพียงวันเดียว ผู้พัฒนาได้ออกเวอร์ชันใหม่เพื่อแก้ไข แต่ใครที่ยังไม่อัปเดตถือว่าเสี่ยงสูงมาก
    https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce

    ช่องโหว่กล้อง Vivotek รุ่นเก่า เปิดช่องให้สั่งรันคำสั่งได้โดยไม่ต้องล็อกอิน
    ทีมวิจัยจาก Akamai พบช่องโหว่ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในกล้อง IP ของ Vivotek รุ่นที่หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ช่องโหว่นี้อยู่ในไฟล์ eventtask.cgi ซึ่งเปิดให้ผู้โจมตีส่งคำสั่งไปยังระบบโดยตรงโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ทำให้สามารถเข้าควบคุมกล้องได้เต็มรูปแบบ ปัญหาคือเฟิร์มแวร์รุ่นที่มีช่องโหว่นี้ถูกยกเลิกไปแล้ว จึงไม่มีแพตช์แก้ไข ผู้ใช้งานจึงถูกแนะนำให้รีบแยกอุปกรณ์ออกจากเครือข่ายหรือเปลี่ยนไปใช้รุ่นใหม่แทน
    https://securityonline.info/critical-unpatched-flaw-vivotek-eol-ip-cameras-exposed-to-unauthenticated-rce-via-command-injection

    CVE-2025-63207: ช่องโหว่ยึดระบบออกอากาศ R.V.R Elettronica TEX ได้ทั้งหมด
    นักวิจัยเปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงในอุปกรณ์ออกอากาศ TEX ของ R.V.R Elettronica ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถรีเซ็ตรหัสผ่านของผู้ใช้ทุกระดับ รวมถึงแอดมิน ได้ด้วยคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวโดยไม่ต้องล็อกอิน เมื่อรีเซ็ตรหัสผ่านแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบและอาจเปลี่ยนการตั้งค่าออกอากาศหรือเจาะลึกไปยังระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่ออยู่ ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์แก้ไข จึงแนะนำให้ผู้ดูแลจำกัดการเข้าถึงและตรวจสอบการใช้งานอย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/cve-2025-63207-cvss-9-8-critical-broken-access-control-flaw-exposes-r-v-r-elettronica-tex-devices-to-full-system-takeover

    ToddyCat APT โจมตี Microsoft 365 ขโมยอีเมลผ่านการดูด OAuth Token และไฟล์ OST ที่ถูกล็อก
    รายงานจาก Kaspersky เผยว่า ToddyCat กลุ่มแฮกเกอร์สายสอดแนมได้พัฒนาวิธีใหม่ในการเจาะระบบอีเมลองค์กร ทั้งแบบ on-premises และบนคลาวด์ โดยใช้เครื่องมือ PowerShell และ C++ เพื่อขโมยข้อมูลเบราว์เซอร์ ไฟล์อีเมล Outlook ที่ถูกล็อก และที่น่ากังวลที่สุดคือการดูด OAuth Token จากหน่วยความจำของแอป Microsoft 365 ทำให้สามารถเข้าถึงอีเมลได้จากภายนอกโดยไม่ถูกตรวจจับ วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลย้อนหลังหลายปีและเลี่ยงการตรวจสอบจากระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างแนบเนียน
    https://securityonline.info/toddycat-apt-steals-microsoft-365-cloud-email-by-dumping-oauth-tokens-from-memory-and-copying-locked-ost-files

    Kimsuky APT ใช้สองเวอร์ชันของ KimJongRAT เลี่ยงการตรวจจับ Windows Defender
    กลุ่มแฮกเกอร์ Kimsuky จากเกาหลีเหนือถูกพบว่ากำลังใช้กลยุทธ์ใหม่ โดยปล่อยมัลแวร์ KimJongRAT สองรูปแบบ ทั้งไฟล์ PE และสคริปต์ PowerShell เพื่อเลือกใช้งานตามสถานะของ Windows Defender หาก Defender เปิดอยู่ พวกเขาจะใช้ PowerShell ที่พรางตัวได้ดีกว่า แต่ถ้า Defender ถูกปิด ก็จะใช้ไฟล์ PE ที่ทำงานตรงไปตรงมา วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถขโมยข้อมูลและควบคุมระบบได้โดยลดโอกาสถูกตรวจจับลงอย่างมาก
    https://securityonline.info/kimsuky-apt-deploys-dual-kimjongrat-payloads-switching-between-pe-powershell-based-on-windows-defender-status

    โทรจันธนาคารบราซิลแพร่ผ่าน WhatsApp ด้วย Python Worm
    นักวิจัยพบโทรจันธนาคารสายพันธุ์ใหม่จากบราซิลที่ใช้วิธีแพร่กระจายผ่าน WhatsApp โดยเขียนด้วย Python และทำงานแบบ worm สามารถส่งต่อไฟล์อันตรายไปยังผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน IMAP เพื่อดึงข้อมูลเข้าสู่หน่วยความจำโดยตรง ทำให้สามารถขโมยรหัสผ่านและข้อมูลการเข้าสู่ระบบได้ทันทีโดยไม่ทิ้งร่องรอยบนดิสก์ ถือเป็นการผสมผสานเทคนิคที่ทั้งแพร่กระจายได้รวดเร็วและซ่อนตัวได้แนบเนียน
    https://securityonline.info/brazilian-banking-trojan-uses-python-whatsapp-worm-and-imap-c2-for-in-memory-credential-theft

    ปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือโจมตียุโรปด้วย WhatsApp Job Lure
    มีการเปิดเผยว่าปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือได้พัฒนาแคมเปญใหม่ในยุโรป โดยใช้ข้อความหลอกลวงผ่าน WhatsApp เสนอ “งานในฝัน” เพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดมัลแวร์รุ่นใหม่ชื่อ MISTPEN และ BURNBOOK ซึ่งเป็น backdoor ที่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ วิธีการนี้ต่อยอดจากการโจมตี LinkedIn ในอดีต แต่ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมผู้ใช้ที่นิยมใช้ WhatsApp ในการติดต่อหางาน ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น
    https://securityonline.info/north-koreas-operation-dreamjob-hits-europe-whatsapp-job-lure-delivers-evolved-mistpen-burnbook-backdoors

    📌🔒🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷🔒📌 #รวมข่าวIT #20251125 #securityonline 🐉 จีน-นexus Autumn Dragon ใช้ช่องโหว่ WinRAR ปล่อยมัลแวร์ผ่าน Telegram เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงปฏิบัติการจารกรรมไซเบอร์ชื่อ “Autumn Dragon” ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ฝั่งจีน พวกเขาใช้ไฟล์ RAR ที่ฝังช่องโหว่ของ WinRAR (CVE-2025-8088) ส่งไปยังเป้าหมายผ่านอีเมลหลอกลวง เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ ระบบจะถูกฝังสคริปต์ที่ทำงานต่อเนื่องเพื่อดึงมัลแวร์ขั้นต่อไปจาก Dropbox และซ่อนตัวผ่าน DLL sideloading โดยมีการควบคุมผ่าน Telegram ตัวมัลแวร์นี้สามารถสั่งงานได้ เช่น เปิด shell, ถ่าย screenshot และอัปโหลดไฟล์ จุดที่น่าสนใจคือการออกแบบให้ฟังก์ชันน้อยเพื่อไม่ให้ถูกตรวจจับง่าย เป้าหมายหลักคือหน่วยงานรัฐบาลและสื่อในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 🔗 https://securityonline.info/china-nexus-autumn-dragon-apt-exploits-winrar-flaw-to-deploy-telegram-c2-backdoor 📝 Notepad เพิ่มฟีเจอร์ Markdown Table และ Copilot Streaming จากเดิมที่ Notepad เป็นเพียงโปรแกรมจดข้อความธรรมดา ตอนนี้ Microsoft ได้ยกระดับให้รองรับการสร้างตารางในรูปแบบ Markdown ผู้ใช้สามารถเลือกจำนวนแถวคอลัมน์ได้ง่าย ๆ คล้ายกับการใส่ตารางใน Word และยังสามารถแก้ไขขยายหรือลดขนาดได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Microsoft Copilot โดยเพิ่มความสามารถในการเขียนใหม่และสรุปข้อความแบบ “streaming” คือผลลัพธ์จะปรากฏทันทีโดยไม่ต้องรอจนเสร็จทั้งหมด ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad กลายเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยและตอบโจทย์นักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วไปมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/notepad-update-adds-markdown-table-support-streaming-copilot-ai-responses 💻 Microsoft แก้ปัญหา File Explorer ช้าใน Windows 11 ด้วย Preloading ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่า File Explorer เปิดช้า โดยเฉพาะเมื่อโหลดโฟลเดอร์ที่มีรูปภาพเยอะ ๆ Microsoft จึงออกฟีเจอร์ใหม่ใน Build 26220.7271 ที่เรียกว่า “preloading” ซึ่งจะโหลด Explorer เข้าหน่วยความจำล่วงหน้า ทำให้การเปิดใช้งานเร็วขึ้น แม้จะยังไม่แก้ปัญหาการหน่วงหลังเปิดไฟล์ได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยลดเวลารอไปหลายร้อยมิลลิวินาที ผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้หากไม่ต้องการ แต่โดยทั่วไปมันใช้ RAM น้อยและช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้นมาก 🔗 https://securityonline.info/microsoft-tries-to-fix-windows-11-file-explorer-lag-with-new-preloading-feature 📱  Qualcomm ยืนยัน Quick Share ใช้งานร่วมกับ AirDrop ได้บนมือถือ Snapdragon หลังจาก Google ประกาศว่า Pixel 10 จะสามารถส่งไฟล์ผ่าน Quick Share ไปยัง iPhone ได้เหมือน AirDrop ล่าสุด Qualcomm ก็ออกมายืนยันว่า ฟีเจอร์นี้จะไม่จำกัดเฉพาะ Pixel แต่จะขยายไปยังมือถือ Android ที่ใช้ชิป Snapdragon ด้วย หมายความว่าผู้ใช้ Android และ iOS จะสามารถแชร์ไฟล์กันได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งแอปเสริม ถือเป็นการเชื่อมโลกสองฝั่งที่เคยถูกแบ่งแยกมานาน คาดว่า Samsung Galaxy S26 จะเป็นรุ่นแรก ๆ ที่นำมาใช้ และนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการแชร์ไฟล์ข้ามระบบนิเวศ 🔗 https://securityonline.info/qualcomm-confirms-quick-share-airdrop-interoperability-coming-to-all-snapdragon-phones ☁️ ทีมไซเบอร์ระดับโลกเปิดตัว Blast Security ด้วยทุน $10M Blast Security คือสตาร์ทอัพใหม่จาก Tel Aviv ที่ก่อตั้งโดยทีมผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์จาก Solebit และหน่วย IDF พวกเขาเปิดตัวแพลตฟอร์ม “Preemptive Cloud Defense” ที่เน้นการป้องกันเชิงรุกแทนการตรวจจับและแก้ไขทีหลัง จุดเด่นคือการสร้างระบบป้องกันที่ทำงานต่อเนื่อง ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของคลาวด์ และลดความเสี่ยงได้กว่า 90% การลงทุนรอบ seed ได้เงินทุนถึง 10 ล้านดอลลาร์จาก 10D และ MizMaa Ventures เป้าหมายคือการทำให้ “การป้องกัน” กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยบนคลาวด์ 🔗 https://securityonline.info/elite-cyber-veterans-launch-blast-security-with-10m-to-turn-cloud-detection-into-prevention 🛡️ CISA เตือนภัยสปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีแอปแชทด้วย Zero-Click และ QR Code อันตราย หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเร่งด่วนว่ามีการใช้สปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีผู้ใช้งานแอปแชทยอดนิยม เช่น WhatsApp และ Signal โดยไม่ต้องให้เหยื่อกดหรือทำอะไรเลย ผ่านช่องโหว่แบบ Zero-Click และการหลอกให้สแกน QR Code ที่เชื่อมบัญชีไปยังเครื่องของแฮกเกอร์ เมื่อถูกเจาะแล้ว ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ รายชื่อผู้ติดต่อ เปิดไมโครโฟน และติดตามตำแหน่งได้ทันที เป้าหมายหลักคือบุคคลสำคัญ นักข่าว และองค์กรภาคประชาสังคมในหลายภูมิภาคทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/cisa-emergency-alert-commercial-spyware-exploiting-zero-click-and-malicious-qr-codes-to-hijack-messaging-apps 💻 ช่องโหว่ร้ายแรง WordPress (CVE-2025-6389) เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเว็บได้ทันที มีการเปิดเผยช่องโหว่ระดับวิกฤติในปลั๊กอิน Sneeit Framework ที่ใช้ในธีมยอดนิยมอย่าง FlatNews ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้สามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอม อัปโหลดเว็บเชลล์ และยึดครองเว็บไซต์ได้ทันที นักวิจัยพบว่ามีการโจมตีจริงแล้วหลายร้อยครั้งในเวลาเพียงวันเดียว ผู้พัฒนาได้ออกเวอร์ชันใหม่เพื่อแก้ไข แต่ใครที่ยังไม่อัปเดตถือว่าเสี่ยงสูงมาก 🔗 https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce 📷 ช่องโหว่กล้อง Vivotek รุ่นเก่า เปิดช่องให้สั่งรันคำสั่งได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ทีมวิจัยจาก Akamai พบช่องโหว่ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในกล้อง IP ของ Vivotek รุ่นที่หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ช่องโหว่นี้อยู่ในไฟล์ eventtask.cgi ซึ่งเปิดให้ผู้โจมตีส่งคำสั่งไปยังระบบโดยตรงโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ทำให้สามารถเข้าควบคุมกล้องได้เต็มรูปแบบ ปัญหาคือเฟิร์มแวร์รุ่นที่มีช่องโหว่นี้ถูกยกเลิกไปแล้ว จึงไม่มีแพตช์แก้ไข ผู้ใช้งานจึงถูกแนะนำให้รีบแยกอุปกรณ์ออกจากเครือข่ายหรือเปลี่ยนไปใช้รุ่นใหม่แทน 🔗 https://securityonline.info/critical-unpatched-flaw-vivotek-eol-ip-cameras-exposed-to-unauthenticated-rce-via-command-injection 📡 CVE-2025-63207: ช่องโหว่ยึดระบบออกอากาศ R.V.R Elettronica TEX ได้ทั้งหมด นักวิจัยเปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงในอุปกรณ์ออกอากาศ TEX ของ R.V.R Elettronica ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถรีเซ็ตรหัสผ่านของผู้ใช้ทุกระดับ รวมถึงแอดมิน ได้ด้วยคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวโดยไม่ต้องล็อกอิน เมื่อรีเซ็ตรหัสผ่านแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบและอาจเปลี่ยนการตั้งค่าออกอากาศหรือเจาะลึกไปยังระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่ออยู่ ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์แก้ไข จึงแนะนำให้ผู้ดูแลจำกัดการเข้าถึงและตรวจสอบการใช้งานอย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-63207-cvss-9-8-critical-broken-access-control-flaw-exposes-r-v-r-elettronica-tex-devices-to-full-system-takeover 📧 ToddyCat APT โจมตี Microsoft 365 ขโมยอีเมลผ่านการดูด OAuth Token และไฟล์ OST ที่ถูกล็อก รายงานจาก Kaspersky เผยว่า ToddyCat กลุ่มแฮกเกอร์สายสอดแนมได้พัฒนาวิธีใหม่ในการเจาะระบบอีเมลองค์กร ทั้งแบบ on-premises และบนคลาวด์ โดยใช้เครื่องมือ PowerShell และ C++ เพื่อขโมยข้อมูลเบราว์เซอร์ ไฟล์อีเมล Outlook ที่ถูกล็อก และที่น่ากังวลที่สุดคือการดูด OAuth Token จากหน่วยความจำของแอป Microsoft 365 ทำให้สามารถเข้าถึงอีเมลได้จากภายนอกโดยไม่ถูกตรวจจับ วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลย้อนหลังหลายปีและเลี่ยงการตรวจสอบจากระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างแนบเนียน 🔗 https://securityonline.info/toddycat-apt-steals-microsoft-365-cloud-email-by-dumping-oauth-tokens-from-memory-and-copying-locked-ost-files 🖥️ Kimsuky APT ใช้สองเวอร์ชันของ KimJongRAT เลี่ยงการตรวจจับ Windows Defender กลุ่มแฮกเกอร์ Kimsuky จากเกาหลีเหนือถูกพบว่ากำลังใช้กลยุทธ์ใหม่ โดยปล่อยมัลแวร์ KimJongRAT สองรูปแบบ ทั้งไฟล์ PE และสคริปต์ PowerShell เพื่อเลือกใช้งานตามสถานะของ Windows Defender หาก Defender เปิดอยู่ พวกเขาจะใช้ PowerShell ที่พรางตัวได้ดีกว่า แต่ถ้า Defender ถูกปิด ก็จะใช้ไฟล์ PE ที่ทำงานตรงไปตรงมา วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถขโมยข้อมูลและควบคุมระบบได้โดยลดโอกาสถูกตรวจจับลงอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/kimsuky-apt-deploys-dual-kimjongrat-payloads-switching-between-pe-powershell-based-on-windows-defender-status 💰 โทรจันธนาคารบราซิลแพร่ผ่าน WhatsApp ด้วย Python Worm นักวิจัยพบโทรจันธนาคารสายพันธุ์ใหม่จากบราซิลที่ใช้วิธีแพร่กระจายผ่าน WhatsApp โดยเขียนด้วย Python และทำงานแบบ worm สามารถส่งต่อไฟล์อันตรายไปยังผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน IMAP เพื่อดึงข้อมูลเข้าสู่หน่วยความจำโดยตรง ทำให้สามารถขโมยรหัสผ่านและข้อมูลการเข้าสู่ระบบได้ทันทีโดยไม่ทิ้งร่องรอยบนดิสก์ ถือเป็นการผสมผสานเทคนิคที่ทั้งแพร่กระจายได้รวดเร็วและซ่อนตัวได้แนบเนียน 🔗 https://securityonline.info/brazilian-banking-trojan-uses-python-whatsapp-worm-and-imap-c2-for-in-memory-credential-theft 🎭 ปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือโจมตียุโรปด้วย WhatsApp Job Lure มีการเปิดเผยว่าปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือได้พัฒนาแคมเปญใหม่ในยุโรป โดยใช้ข้อความหลอกลวงผ่าน WhatsApp เสนอ “งานในฝัน” เพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดมัลแวร์รุ่นใหม่ชื่อ MISTPEN และ BURNBOOK ซึ่งเป็น backdoor ที่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ วิธีการนี้ต่อยอดจากการโจมตี LinkedIn ในอดีต แต่ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมผู้ใช้ที่นิยมใช้ WhatsApp ในการติดต่อหางาน ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-operation-dreamjob-hits-europe-whatsapp-job-lure-delivers-evolved-mistpen-burnbook-backdoors
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • “TSMC 2nm N2: ปรับปรุง PPA จำกัด แต่ช่วยลดต้นทุนเวเฟอร์”

    รายงานจาก Wccftech ระบุว่า TSMC กำลังเตรียมการผลิตชิปด้วยกระบวนการ 2nm N2 ในปี 2026 โดยมีการปรับปรุง PPA (Power, Performance, Area) เพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่น 3nm N3E/N3P โดยคาดว่าจะให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นราว 15% และลดการใช้พลังงานได้ประมาณ 30% แต่ไม่ได้ถือว่าเป็น “ก้าวกระโดด” เหมือนการเปลี่ยนแปลงในรุ่นก่อน ๆ

    ข้อดีสำคัญคือราคาต่อเวเฟอร์ที่คาดว่าจะอยู่ราว 30,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าไม่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับความกังวลก่อนหน้านี้ ทำให้บริษัทใหญ่ ๆ เช่น Apple, Qualcomm และ MediaTek สามารถแข่งขันด้านราคาของชิปเซ็ตได้ โดยเฉพาะในตลาดสมาร์ตโฟนที่กำลังเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้น

    นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า Qualcomm และ MediaTek อาจเลือกใช้กระบวนการ 2nm N2P ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงเล็กน้อยจาก N2 โดยให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5% เพื่อรองรับชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite Gen 6 Pro และ Dimensity 9600 ที่จะมาพร้อมหน่วยความจำ LPDDR6

    แม้การปรับปรุงจะไม่มาก แต่การเข้าสู่ยุค 2nm ก็ยังถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญของอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเมื่อความต้องการชิปประสิทธิภาพสูงยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากทั้งตลาดสมาร์ตโฟนและ AI

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเปิดตัวกระบวนการผลิต 2nm N2 ของ TSMC
    เริ่มผลิตในปี 2026
    ปรับปรุง PPA เพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ 3nm

    รายละเอียดด้านประสิทธิภาพ
    เพิ่มประสิทธิภาพราว 15%
    ลดการใช้พลังงานได้ประมาณ 30%

    ต้นทุนเวเฟอร์
    ราคาประมาณ 30,000 ดอลลาร์ต่อเวเฟอร์
    ไม่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับความกังวลก่อนหน้า

    ลูกค้ารายใหญ่ที่เกี่ยวข้อง
    Apple, Qualcomm, MediaTek
    มีแผนใช้ใน A20, Snapdragon 8 Elite Gen 6 Pro, Dimensity 9600

    รุ่นปรับปรุง N2P
    เพิ่มประสิทธิภาพอีก 5% จาก N2
    รองรับ LPDDR6 RAM

    ข้อกังวลในอุตสาหกรรม
    การปรับปรุง PPA ไม่ถือว่าเป็นก้าวกระโดดใหญ่
    อาจทำให้การเปลี่ยนจาก 3nm ไป 2nm ไม่ดึงดูดเท่าที่ควร

    https://wccftech.com/tsmcs-2nm-n2-ppa-improvements-to-be-limited/
    ⚙️ “TSMC 2nm N2: ปรับปรุง PPA จำกัด แต่ช่วยลดต้นทุนเวเฟอร์” รายงานจาก Wccftech ระบุว่า TSMC กำลังเตรียมการผลิตชิปด้วยกระบวนการ 2nm N2 ในปี 2026 โดยมีการปรับปรุง PPA (Power, Performance, Area) เพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่น 3nm N3E/N3P โดยคาดว่าจะให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นราว 15% และลดการใช้พลังงานได้ประมาณ 30% แต่ไม่ได้ถือว่าเป็น “ก้าวกระโดด” เหมือนการเปลี่ยนแปลงในรุ่นก่อน ๆ ข้อดีสำคัญคือราคาต่อเวเฟอร์ที่คาดว่าจะอยู่ราว 30,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าไม่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับความกังวลก่อนหน้านี้ ทำให้บริษัทใหญ่ ๆ เช่น Apple, Qualcomm และ MediaTek สามารถแข่งขันด้านราคาของชิปเซ็ตได้ โดยเฉพาะในตลาดสมาร์ตโฟนที่กำลังเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า Qualcomm และ MediaTek อาจเลือกใช้กระบวนการ 2nm N2P ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงเล็กน้อยจาก N2 โดยให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5% เพื่อรองรับชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite Gen 6 Pro และ Dimensity 9600 ที่จะมาพร้อมหน่วยความจำ LPDDR6 แม้การปรับปรุงจะไม่มาก แต่การเข้าสู่ยุค 2nm ก็ยังถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญของอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเมื่อความต้องการชิปประสิทธิภาพสูงยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากทั้งตลาดสมาร์ตโฟนและ AI 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเปิดตัวกระบวนการผลิต 2nm N2 ของ TSMC ➡️ เริ่มผลิตในปี 2026 ➡️ ปรับปรุง PPA เพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ 3nm ✅ รายละเอียดด้านประสิทธิภาพ ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพราว 15% ➡️ ลดการใช้พลังงานได้ประมาณ 30% ✅ ต้นทุนเวเฟอร์ ➡️ ราคาประมาณ 30,000 ดอลลาร์ต่อเวเฟอร์ ➡️ ไม่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับความกังวลก่อนหน้า ✅ ลูกค้ารายใหญ่ที่เกี่ยวข้อง ➡️ Apple, Qualcomm, MediaTek ➡️ มีแผนใช้ใน A20, Snapdragon 8 Elite Gen 6 Pro, Dimensity 9600 ✅ รุ่นปรับปรุง N2P ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพอีก 5% จาก N2 ➡️ รองรับ LPDDR6 RAM ‼️ ข้อกังวลในอุตสาหกรรม ⛔ การปรับปรุง PPA ไม่ถือว่าเป็นก้าวกระโดดใหญ่ ⛔ อาจทำให้การเปลี่ยนจาก 3nm ไป 2nm ไม่ดึงดูดเท่าที่ควร https://wccftech.com/tsmcs-2nm-n2-ppa-improvements-to-be-limited/
    WCCFTECH.COM
    TSMC’s 2nm N2 Process Rumored To Have Limited Power, Performance & Area Improvements, Resulting In Lower Cost Increases Per Wafer, Giving Apple & Others Some Relief
    Apple, Qualcomm and others who plan to pay for TSMC’s 2nm N2 wafers may not have to pay must because a rumor claims that PPA improvements will be limited
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • “บริษัทประกันเริ่มจำกัดความรับผิดชอบต่อ AI หลังความเสี่ยงมหาศาลปรากฏ”

    บริษัทประกันรายใหญ่ เช่น AIG, WR Berkley และ Great American กำลังยื่นขออนุญาตเพิ่มข้อยกเว้นในกรมธรรม์ เพื่อไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ AI ไม่ว่าจะเป็นแชตบอท, ระบบอัตโนมัติ หรือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) เหตุผลคือความเสี่ยงที่ไม่สามารถคาดเดาได้และอาจเกิดขึ้นพร้อมกันในหลายบริษัท

    กรณีที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น Google ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย 110 ล้านดอลลาร์จากข้อมูลผิดพลาดในฟีเจอร์ AI Overview, Air Canada ถูกบังคับให้ทำตามส่วนลดที่แชตบอทคิดขึ้นเอง, และบริษัทวิศวกรรมในอังกฤษสูญเงินกว่า 20 ล้านปอนด์จากการถูกหลอกด้วยวิดีโอ Deepfake ของผู้บริหาร เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้บริษัทประกันมองว่า AI ไม่ใช่ความเสี่ยงเฉพาะราย แต่เป็นความเสี่ยงระบบที่อาจสร้างความเสียหายพร้อมกันในหลายองค์กร

    บางบริษัท เช่น Mosaic Insurance ถึงขั้นปฏิเสธที่จะรับประกันความเสี่ยงจาก LLM โดยอธิบายว่า “เป็นกล่องดำที่ไม่สามารถคาดเดาได้” ขณะที่ Chubb และ QBE เลือกออกนโยบายเฉพาะ เช่น คุ้มครองค่าปรับตามกฎหมาย AI Act ของสหภาพยุโรป แต่จำกัดวงเงินไว้เพียงบางส่วน

    นักวิเคราะห์เตือนว่าหากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป ความเสี่ยงจากการใช้ AI จะถูกผลักกลับไปที่บริษัทผู้ใช้งานเอง ซึ่งหมายความว่าธุรกิจที่นำ AI มาใช้ต้องแบกรับต้นทุนและความเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะหากเกิดความผิดพลาดที่กระทบวงกว้าง

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเคลื่อนไหวของบริษัทประกัน
    AIG, WR Berkley และ Great American ขอเพิ่มข้อยกเว้น AI ในกรมธรรม์
    มองว่า AI คือความเสี่ยงระบบที่ไม่สามารถคาดเดาได้

    เหตุการณ์จริงที่สร้างความเสียหาย
    Google ถูกฟ้อง 110 ล้านดอลลาร์จากข้อมูลผิดพลาด
    Air Canada ต้องทำตามส่วนลดที่แชตบอทคิดขึ้นเอง
    บริษัทอังกฤษสูญเงิน 20 ล้านปอนด์จาก Deepfake

    ท่าทีของบริษัทประกันรายอื่น
    Mosaic ปฏิเสธรับประกัน LLM โดยตรง
    QBE และ Chubb ออกนโยบายเฉพาะ แต่จำกัดวงเงินคุ้มครอง

    ข้อกังวลต่อธุรกิจผู้ใช้งาน AI
    ความเสี่ยงถูกผลักกลับมาที่บริษัทเอง
    หากเกิดความผิดพลาดวงกว้าง อาจสร้างผลกระทบมหาศาล

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/insurers-move-to-limit-ai-liability-as-multi-billion-dollar-risks-emerge
    🛡️ “บริษัทประกันเริ่มจำกัดความรับผิดชอบต่อ AI หลังความเสี่ยงมหาศาลปรากฏ” บริษัทประกันรายใหญ่ เช่น AIG, WR Berkley และ Great American กำลังยื่นขออนุญาตเพิ่มข้อยกเว้นในกรมธรรม์ เพื่อไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ AI ไม่ว่าจะเป็นแชตบอท, ระบบอัตโนมัติ หรือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) เหตุผลคือความเสี่ยงที่ไม่สามารถคาดเดาได้และอาจเกิดขึ้นพร้อมกันในหลายบริษัท กรณีที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น Google ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย 110 ล้านดอลลาร์จากข้อมูลผิดพลาดในฟีเจอร์ AI Overview, Air Canada ถูกบังคับให้ทำตามส่วนลดที่แชตบอทคิดขึ้นเอง, และบริษัทวิศวกรรมในอังกฤษสูญเงินกว่า 20 ล้านปอนด์จากการถูกหลอกด้วยวิดีโอ Deepfake ของผู้บริหาร เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้บริษัทประกันมองว่า AI ไม่ใช่ความเสี่ยงเฉพาะราย แต่เป็นความเสี่ยงระบบที่อาจสร้างความเสียหายพร้อมกันในหลายองค์กร บางบริษัท เช่น Mosaic Insurance ถึงขั้นปฏิเสธที่จะรับประกันความเสี่ยงจาก LLM โดยอธิบายว่า “เป็นกล่องดำที่ไม่สามารถคาดเดาได้” ขณะที่ Chubb และ QBE เลือกออกนโยบายเฉพาะ เช่น คุ้มครองค่าปรับตามกฎหมาย AI Act ของสหภาพยุโรป แต่จำกัดวงเงินไว้เพียงบางส่วน นักวิเคราะห์เตือนว่าหากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป ความเสี่ยงจากการใช้ AI จะถูกผลักกลับไปที่บริษัทผู้ใช้งานเอง ซึ่งหมายความว่าธุรกิจที่นำ AI มาใช้ต้องแบกรับต้นทุนและความเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะหากเกิดความผิดพลาดที่กระทบวงกว้าง 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเคลื่อนไหวของบริษัทประกัน ➡️ AIG, WR Berkley และ Great American ขอเพิ่มข้อยกเว้น AI ในกรมธรรม์ ➡️ มองว่า AI คือความเสี่ยงระบบที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ✅ เหตุการณ์จริงที่สร้างความเสียหาย ➡️ Google ถูกฟ้อง 110 ล้านดอลลาร์จากข้อมูลผิดพลาด ➡️ Air Canada ต้องทำตามส่วนลดที่แชตบอทคิดขึ้นเอง ➡️ บริษัทอังกฤษสูญเงิน 20 ล้านปอนด์จาก Deepfake ✅ ท่าทีของบริษัทประกันรายอื่น ➡️ Mosaic ปฏิเสธรับประกัน LLM โดยตรง ➡️ QBE และ Chubb ออกนโยบายเฉพาะ แต่จำกัดวงเงินคุ้มครอง ‼️ ข้อกังวลต่อธุรกิจผู้ใช้งาน AI ⛔ ความเสี่ยงถูกผลักกลับมาที่บริษัทเอง ⛔ หากเกิดความผิดพลาดวงกว้าง อาจสร้างผลกระทบมหาศาล https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/insurers-move-to-limit-ai-liability-as-multi-billion-dollar-risks-emerge
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AMD เตรียมขึ้นราคาการ์ดจอ 10% ปี 2026 เหตุวิกฤติ DRAM จาก AI”

    AMD ได้แจ้งต่อพันธมิตรในซัพพลายเชนว่าจะปรับขึ้นราคาการ์ดจออย่างน้อย 10% ตั้งแต่ต้นปี 2026 เนื่องจากต้นทุนหน่วยความจำ DRAM ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการที่ศูนย์ข้อมูล AI ทั่วโลกกำลังแย่งชิงทรัพยากรเหล่านี้ไปใช้ในโครงการขนาดใหญ่ ทำให้ราคาหน่วยความจำเพิ่มขึ้นเกือบ 200% ในช่วงปีที่ผ่านมา

    นี่ถือเป็นครั้งที่สองที่ AMD ปรับขึ้นราคาในรอบปี โดยครั้งแรกเลือกแบกรับต้นทุนเอง แต่ครั้งนี้บริษัทตัดสินใจส่งต่อภาระไปยังผู้บริโภคและพันธมิตร ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ทั่วไปจะต้องจ่ายแพงขึ้นในการซื้อการ์ดจอรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ RX 9000 หรือรุ่นอื่น ๆ ที่อยู่ในตลาด

    นอกจาก AMD แล้ว Nvidia ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยมีรายงานว่าบริษัทอาจเลื่อนการเปิดตัวซีรีส์ RTX 50 Super เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนหน่วยความจำ และไม่ต้องการลดกำไรจากการขายให้กับผู้เล่นเกม เพราะรายได้หลักมาจากการขายให้กับศูนย์ข้อมูล AI ที่ยินดีจ่ายราคาสูงกว่า

    สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ ที่ความต้องการจาก AI กำลังเบียดบังผู้บริโภคทั่วไป และทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์คาดว่าผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดการ์ดจอควรรีบซื้อก่อนสิ้นปี 2025 เพราะราคาจะยิ่งแพงขึ้นในปีหน้า

    สรุปเป็นหัวข้อ
    AMD เตรียมขึ้นราคาการ์ดจอ
    อย่างน้อย 10% ตั้งแต่ต้นปี 2026
    แจ้งต่อพันธมิตรในซัพพลายเชนแล้ว

    สาเหตุหลักคือวิกฤติ DRAM
    ราคาหน่วยความจำเพิ่มขึ้นเกือบ 200%
    ความต้องการจากศูนย์ข้อมูล AI เป็นตัวการสำคัญ

    ผลกระทบต่อผู้บริโภคและตลาดเกม
    ผู้ใช้ทั่วไปต้องจ่ายแพงขึ้นในการซื้อการ์ดจอ
    ซีรีส์ RX 9000 และรุ่นอื่น ๆ จะได้รับผลกระทบ

    Nvidia ก็ได้รับผลกระทบ
    อาจเลื่อนเปิดตัว RTX 50 Super
    เน้นขายให้ศูนย์ข้อมูล AI มากกว่าผู้เล่นเกม

    ข้อกังวลในอนาคต
    ราคาการ์ดจอจะพุ่งสูงต่อเนื่องในปี 2026
    ผู้บริโภคทั่วไปถูกเบียดบังจากความต้องการของ AI

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-to-raise-graphics-card-prices-by-at-least-10-percent-in-2026-price-surge-attributed-to-ongoing-ai-related-dram-supply-crisis
    🎮 “AMD เตรียมขึ้นราคาการ์ดจอ 10% ปี 2026 เหตุวิกฤติ DRAM จาก AI” AMD ได้แจ้งต่อพันธมิตรในซัพพลายเชนว่าจะปรับขึ้นราคาการ์ดจออย่างน้อย 10% ตั้งแต่ต้นปี 2026 เนื่องจากต้นทุนหน่วยความจำ DRAM ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการที่ศูนย์ข้อมูล AI ทั่วโลกกำลังแย่งชิงทรัพยากรเหล่านี้ไปใช้ในโครงการขนาดใหญ่ ทำให้ราคาหน่วยความจำเพิ่มขึ้นเกือบ 200% ในช่วงปีที่ผ่านมา นี่ถือเป็นครั้งที่สองที่ AMD ปรับขึ้นราคาในรอบปี โดยครั้งแรกเลือกแบกรับต้นทุนเอง แต่ครั้งนี้บริษัทตัดสินใจส่งต่อภาระไปยังผู้บริโภคและพันธมิตร ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ทั่วไปจะต้องจ่ายแพงขึ้นในการซื้อการ์ดจอรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ RX 9000 หรือรุ่นอื่น ๆ ที่อยู่ในตลาด นอกจาก AMD แล้ว Nvidia ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยมีรายงานว่าบริษัทอาจเลื่อนการเปิดตัวซีรีส์ RTX 50 Super เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนหน่วยความจำ และไม่ต้องการลดกำไรจากการขายให้กับผู้เล่นเกม เพราะรายได้หลักมาจากการขายให้กับศูนย์ข้อมูล AI ที่ยินดีจ่ายราคาสูงกว่า สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ ที่ความต้องการจาก AI กำลังเบียดบังผู้บริโภคทั่วไป และทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์คาดว่าผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดการ์ดจอควรรีบซื้อก่อนสิ้นปี 2025 เพราะราคาจะยิ่งแพงขึ้นในปีหน้า 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ AMD เตรียมขึ้นราคาการ์ดจอ ➡️ อย่างน้อย 10% ตั้งแต่ต้นปี 2026 ➡️ แจ้งต่อพันธมิตรในซัพพลายเชนแล้ว ✅ สาเหตุหลักคือวิกฤติ DRAM ➡️ ราคาหน่วยความจำเพิ่มขึ้นเกือบ 200% ➡️ ความต้องการจากศูนย์ข้อมูล AI เป็นตัวการสำคัญ ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภคและตลาดเกม ➡️ ผู้ใช้ทั่วไปต้องจ่ายแพงขึ้นในการซื้อการ์ดจอ ➡️ ซีรีส์ RX 9000 และรุ่นอื่น ๆ จะได้รับผลกระทบ ✅ Nvidia ก็ได้รับผลกระทบ ➡️ อาจเลื่อนเปิดตัว RTX 50 Super ➡️ เน้นขายให้ศูนย์ข้อมูล AI มากกว่าผู้เล่นเกม ‼️ ข้อกังวลในอนาคต ⛔ ราคาการ์ดจอจะพุ่งสูงต่อเนื่องในปี 2026 ⛔ ผู้บริโภคทั่วไปถูกเบียดบังจากความต้องการของ AI https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-to-raise-graphics-card-prices-by-at-least-10-percent-in-2026-price-surge-attributed-to-ongoing-ai-related-dram-supply-crisis
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Zorin OS พุ่งแรง: ผู้ใช้กว่า 780,000 คนหนี Windows 11 หลัง Win10 หมดอายุ”

    หลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 ผู้ใช้จำนวนมากไม่พอใจกับข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ที่เข้มงวดและฟีเจอร์ AI ที่ถูกบังคับใน Windows 11 ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในการหาทางเลือกใหม่ โดย Zorin OS 18 ซึ่งเป็น Linux ดิสโทรที่ออกแบบให้หน้าตาและการใช้งานใกล้เคียง Windows มากที่สุด ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

    ข้อมูลจากนักพัฒนาระบุว่า Zorin OS 18 ถูกดาวน์โหลดมากกว่า 1 ล้านครั้งในเวลาเพียง 5 สัปดาห์ และกว่า 78% มาจากผู้ใช้ Windows ที่กำลังหาทางย้ายระบบ นี่สะท้อนถึงความไม่พอใจของผู้ใช้ต่อทิศทางของ Microsoft และความสนใจที่เพิ่มขึ้นต่อ Linux ในฐานะระบบปฏิบัติการทางเลือก

    Zorin OS 18 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ เช่น อินเทอร์เฟซที่ผสมผสานดีไซน์ของ Windows 11 และ macOS, ระบบจัดการหน้าต่างแบบ Windows-style tiling, การรองรับ Progressive Web Apps (เช่น Office 365, Google Docs, Photoshop Web) และการเชื่อมต่อ OneDrive โดยตรง ทำให้ผู้ใช้ Windows สามารถปรับตัวได้ง่ายขึ้น

    นอกจากนี้ Zorin OS ยังปรับปรุงการรองรับซอฟต์แวร์ Windows ผ่าน Wine และ Proton ซึ่งช่วยให้การเล่นเกมบน Linux ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป พร้อมทั้งการันตีการอัปเดตระยะยาว (LTS) จนถึงปี 2029 ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าระบบจะมีความเสถียรและปลอดภัยในระยะยาว

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การย้ายผู้ใช้จาก Windows ไป Linux
    กว่า 780,000 คนเลือกไม่อัปเกรดเป็น Windows 11
    Zorin OS 18 ถูกดาวน์โหลดมากกว่า 1 ล้านครั้งใน 5 สัปดาห์

    สาเหตุหลักของการย้ายระบบ
    ข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ Windows 11 เข้มงวดเกินไป
    ฟีเจอร์ AI ที่ถูกบังคับสร้างความไม่พอใจ

    ฟีเจอร์เด่นของ Zorin OS 18
    อินเทอร์เฟซคล้าย Windows 11 + macOS
    รองรับ Progressive Web Apps และ OneDrive
    ระบบจัดการหน้าต่างแบบ Windows-style tiling

    การรองรับซอฟต์แวร์และเกม
    ปรับปรุง Wine และ Proton ให้ใช้งานง่ายขึ้น
    Linux gaming ecosystem เติบโตอย่างต่อเนื่อง

    การันตีการอัปเดตระยะยาว
    LTS จนถึงปี 2029
    มั่นใจในความเสถียรและความปลอดภัย

    ข้อกังวลและความท้าทาย
    Linux ยังไม่สามารถแทนที่ Windows ได้ในทุกกรณี
    ผู้ใช้ใหม่อาจต้องปรับตัวกับระบบที่แตกต่าง

    https://www.tomshardware.com/software/linux/in-the-wake-of-windows-10-eol-over-780-000-windows-users-skip-11-for-linux-says-zorin-os-developers-distro-hits-unprecedented-1-million-downloads-in-five-weeks
    🐧 “Zorin OS พุ่งแรง: ผู้ใช้กว่า 780,000 คนหนี Windows 11 หลัง Win10 หมดอายุ” หลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 ผู้ใช้จำนวนมากไม่พอใจกับข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ที่เข้มงวดและฟีเจอร์ AI ที่ถูกบังคับใน Windows 11 ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในการหาทางเลือกใหม่ โดย Zorin OS 18 ซึ่งเป็น Linux ดิสโทรที่ออกแบบให้หน้าตาและการใช้งานใกล้เคียง Windows มากที่สุด ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ข้อมูลจากนักพัฒนาระบุว่า Zorin OS 18 ถูกดาวน์โหลดมากกว่า 1 ล้านครั้งในเวลาเพียง 5 สัปดาห์ และกว่า 78% มาจากผู้ใช้ Windows ที่กำลังหาทางย้ายระบบ นี่สะท้อนถึงความไม่พอใจของผู้ใช้ต่อทิศทางของ Microsoft และความสนใจที่เพิ่มขึ้นต่อ Linux ในฐานะระบบปฏิบัติการทางเลือก Zorin OS 18 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ เช่น อินเทอร์เฟซที่ผสมผสานดีไซน์ของ Windows 11 และ macOS, ระบบจัดการหน้าต่างแบบ Windows-style tiling, การรองรับ Progressive Web Apps (เช่น Office 365, Google Docs, Photoshop Web) และการเชื่อมต่อ OneDrive โดยตรง ทำให้ผู้ใช้ Windows สามารถปรับตัวได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ Zorin OS ยังปรับปรุงการรองรับซอฟต์แวร์ Windows ผ่าน Wine และ Proton ซึ่งช่วยให้การเล่นเกมบน Linux ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป พร้อมทั้งการันตีการอัปเดตระยะยาว (LTS) จนถึงปี 2029 ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าระบบจะมีความเสถียรและปลอดภัยในระยะยาว 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การย้ายผู้ใช้จาก Windows ไป Linux ➡️ กว่า 780,000 คนเลือกไม่อัปเกรดเป็น Windows 11 ➡️ Zorin OS 18 ถูกดาวน์โหลดมากกว่า 1 ล้านครั้งใน 5 สัปดาห์ ✅ สาเหตุหลักของการย้ายระบบ ➡️ ข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ Windows 11 เข้มงวดเกินไป ➡️ ฟีเจอร์ AI ที่ถูกบังคับสร้างความไม่พอใจ ✅ ฟีเจอร์เด่นของ Zorin OS 18 ➡️ อินเทอร์เฟซคล้าย Windows 11 + macOS ➡️ รองรับ Progressive Web Apps และ OneDrive ➡️ ระบบจัดการหน้าต่างแบบ Windows-style tiling ✅ การรองรับซอฟต์แวร์และเกม ➡️ ปรับปรุง Wine และ Proton ให้ใช้งานง่ายขึ้น ➡️ Linux gaming ecosystem เติบโตอย่างต่อเนื่อง ✅ การันตีการอัปเดตระยะยาว ➡️ LTS จนถึงปี 2029 ➡️ มั่นใจในความเสถียรและความปลอดภัย ‼️ ข้อกังวลและความท้าทาย ⛔ Linux ยังไม่สามารถแทนที่ Windows ได้ในทุกกรณี ⛔ ผู้ใช้ใหม่อาจต้องปรับตัวกับระบบที่แตกต่าง https://www.tomshardware.com/software/linux/in-the-wake-of-windows-10-eol-over-780-000-windows-users-skip-11-for-linux-says-zorin-os-developers-distro-hits-unprecedented-1-million-downloads-in-five-weeks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • “TikTok เปิดตัวฟิลเตอร์ AI: ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะเห็นมากหรือน้อย”

    TikTok ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่ในเมนู Manage Topics ให้ผู้ใช้สามารถปรับระดับการแสดงคอนเทนต์ที่สร้างด้วย AI ได้ตามต้องการ โดยใช้ระบบสไลเดอร์ที่เลือกได้ตั้งแต่ “เห็นน้อยมาก” ไปจนถึง “เห็นมากขึ้น” ซึ่งถือเป็นการให้สิทธิ์ผู้ใช้ในการควบคุมประสบการณ์การใช้งาน แทนที่จะถูกแพลตฟอร์มจำกัดโดยอัตโนมัติ

    เพื่อให้การกรองและการติดฉลากมีประสิทธิภาพมากขึ้น TikTok กำลังทดสอบการใช้ Invisible Watermarking สำหรับวิดีโอที่สร้างด้วยเครื่องมือ AI ของแพลตฟอร์มเอง เช่น AI Editor Pro หรือที่อัปโหลดพร้อมกับ C2PA Content Credentials วิธีนี้ช่วยให้การระบุคอนเทนต์ AI ยากต่อการลบหรือแก้ไขเมื่อถูกแชร์ซ้ำบนแพลตฟอร์มอื่น

    นอกจากนี้ TikTok ยังบังคับให้ผู้สร้างคอนเทนต์ที่สมจริงด้วย AI ต้องติดฉลาก หากตรวจพบว่ามีการละเมิด เช่น ไม่ติดฉลาก จะถูกลดการเข้าถึงอย่างหนัก (reach suppression) ถึง 73% ภายใน 48 ชั่วโมง และอาจได้รับการลงโทษทางบัญชี เช่น การเตือนหรือการแบนชั่วคราว

    อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวคือการจัดตั้ง AI Literacy Fund มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนองค์กรไม่แสวงหากำไร เช่น Girls Who Code ในการสร้างเนื้อหาการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยและการระบุคอนเทนต์ AI ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของ TikTok ในการสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ฟีเจอร์ AI Content Filter
    ผู้ใช้ปรับระดับการเห็นคอนเทนต์ AI ได้ด้วยสไลเดอร์
    เลือกได้ตั้งแต่ “เห็นน้อยมาก” ถึง “เห็นมากขึ้น”

    Invisible Watermarking
    ใช้กับวิดีโอที่สร้างด้วย AI Editor Pro
    ทำให้การลบฉลากหรือแก้ไขยากขึ้นเมื่อแชร์ซ้ำ

    การบังคับติดฉลากและบทลงโทษ
    คอนเทนต์ AI สมจริงต้องติดฉลาก
    หากไม่ติดฉลากจะถูกลดการเข้าถึงถึง 73% และอาจถูกลงโทษบัญชี

    AI Literacy Fund
    มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการศึกษาเรื่อง AI
    ร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหากำไร เช่น Girls Who Code

    ข้อกังวลและความท้าทาย
    การตรวจจับคอนเทนต์ AI อาจไม่สมบูรณ์ 100%
    ความเสี่ยงที่ผู้สร้างหาวิธีหลบเลี่ยงการติดฉลาก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/tiktok-is-getting-a-new-filter-for-ai-how-does-it-work
    🎭 “TikTok เปิดตัวฟิลเตอร์ AI: ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะเห็นมากหรือน้อย” TikTok ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่ในเมนู Manage Topics ให้ผู้ใช้สามารถปรับระดับการแสดงคอนเทนต์ที่สร้างด้วย AI ได้ตามต้องการ โดยใช้ระบบสไลเดอร์ที่เลือกได้ตั้งแต่ “เห็นน้อยมาก” ไปจนถึง “เห็นมากขึ้น” ซึ่งถือเป็นการให้สิทธิ์ผู้ใช้ในการควบคุมประสบการณ์การใช้งาน แทนที่จะถูกแพลตฟอร์มจำกัดโดยอัตโนมัติ เพื่อให้การกรองและการติดฉลากมีประสิทธิภาพมากขึ้น TikTok กำลังทดสอบการใช้ Invisible Watermarking สำหรับวิดีโอที่สร้างด้วยเครื่องมือ AI ของแพลตฟอร์มเอง เช่น AI Editor Pro หรือที่อัปโหลดพร้อมกับ C2PA Content Credentials วิธีนี้ช่วยให้การระบุคอนเทนต์ AI ยากต่อการลบหรือแก้ไขเมื่อถูกแชร์ซ้ำบนแพลตฟอร์มอื่น นอกจากนี้ TikTok ยังบังคับให้ผู้สร้างคอนเทนต์ที่สมจริงด้วย AI ต้องติดฉลาก หากตรวจพบว่ามีการละเมิด เช่น ไม่ติดฉลาก จะถูกลดการเข้าถึงอย่างหนัก (reach suppression) ถึง 73% ภายใน 48 ชั่วโมง และอาจได้รับการลงโทษทางบัญชี เช่น การเตือนหรือการแบนชั่วคราว อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวคือการจัดตั้ง AI Literacy Fund มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนองค์กรไม่แสวงหากำไร เช่น Girls Who Code ในการสร้างเนื้อหาการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยและการระบุคอนเทนต์ AI ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของ TikTok ในการสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ฟีเจอร์ AI Content Filter ➡️ ผู้ใช้ปรับระดับการเห็นคอนเทนต์ AI ได้ด้วยสไลเดอร์ ➡️ เลือกได้ตั้งแต่ “เห็นน้อยมาก” ถึง “เห็นมากขึ้น” ✅ Invisible Watermarking ➡️ ใช้กับวิดีโอที่สร้างด้วย AI Editor Pro ➡️ ทำให้การลบฉลากหรือแก้ไขยากขึ้นเมื่อแชร์ซ้ำ ✅ การบังคับติดฉลากและบทลงโทษ ➡️ คอนเทนต์ AI สมจริงต้องติดฉลาก ➡️ หากไม่ติดฉลากจะถูกลดการเข้าถึงถึง 73% และอาจถูกลงโทษบัญชี ✅ AI Literacy Fund ➡️ มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการศึกษาเรื่อง AI ➡️ ร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหากำไร เช่น Girls Who Code ‼️ ข้อกังวลและความท้าทาย ⛔ การตรวจจับคอนเทนต์ AI อาจไม่สมบูรณ์ 100% ⛔ ความเสี่ยงที่ผู้สร้างหาวิธีหลบเลี่ยงการติดฉลาก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/tiktok-is-getting-a-new-filter-for-ai-how-does-it-work
    WWW.THESTAR.COM.MY
    TikTok is getting a new filter for AI: How does it work?
    This change is a response to user feedback about "AI slop" or low-quality AI content flooding feeds, and it contrasts with platforms like Meta, which have explored dedicated AI-only feeds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Surveillance Pricing: เมื่อข้อมูลส่วนตัวถูกใช้กำหนดราคาสินค้า”

    แนวคิด surveillance pricing เกิดขึ้นจากการที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหาออนไลน์ การเคลื่อนไหวของเมาส์ หรือสินค้าที่ถูกทิ้งไว้ในตะกร้า เพื่อปรับราคาสินค้าให้เหมาะกับผู้บริโภคแต่ละคน ตัวอย่างเช่น พ่อแม่มือใหม่อาจเห็นสินค้าสำหรับเด็กที่แพงกว่าคู่รักที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หรือคนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนอาจไม่ได้รับคูปองส่วนลดเหมือนคนอื่น

    แม้การตั้งราคาตามข้อมูลผู้บริโภคจะถูกกฎหมาย แต่ก็สร้างความรู้สึกไม่สบายใจ เพราะราคาที่จ่ายไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “อุปสงค์และอุปทาน” แบบดั้งเดิม แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่บริษัทคิดว่าผู้บริโภค “ยอมจ่าย” ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบและถูกติดตามตลอดเวลา

    ในสหรัฐฯ ประเด็นนี้ถูกหยิบยกโดย Federal Trade Commission (FTC) ที่เคยเปิดรับความคิดเห็นสาธารณะ แต่ภายหลังถูกปิดไป อย่างไรก็ตาม รัฐต่าง ๆ เช่น แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย และอิลลินอยส์ กำลังพิจารณากฎหมายเพื่อจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในการตั้งราคา ขณะที่รัฐนิวยอร์กถึงขั้นออกกฎหมายบังคับให้บริษัทต้องเปิดเผยหากใช้วิธีนี้ และอัยการสูงสุดได้ออกประกาศเตือนผู้บริโภคแล้ว

    นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวด้านผู้บริโภคมองว่า surveillance pricing เป็น “การปฏิวัติที่น่ากังวล” ในระบบเศรษฐกิจ เพราะมันใช้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น อารมณ์ ความเคลื่อนไหวสายตา หรือแม้แต่การกดแป้นพิมพ์ เพื่อกำหนดราคาสินค้าในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ผ้าอ้อมไปจนถึงขนมปัง

    สรุปเป็นหัวข้อ
    แนวคิด Surveillance Pricing
    ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหา การคลิก หรือการละทิ้งสินค้าในตะกร้า
    ตั้งราคาสินค้าแตกต่างกันตามผู้บริโภคแต่ละคน

    ตัวอย่างการใช้งานจริง
    พ่อแม่มือใหม่เห็นสินค้าสำหรับเด็กแพงกว่าคนอื่น
    คนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนอาจไม่ได้รับคูปองส่วนลด

    สถานะทางกฎหมาย
    การตั้งราคาแบบนี้ยังถือว่าถูกกฎหมาย
    FTC เคยศึกษาเรื่องนี้ แต่ปิดช่องทางรับความคิดเห็นไปแล้ว

    การเคลื่อนไหวในระดับรัฐ
    แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย และอิลลินอยส์ กำลังพิจารณากฎหมายควบคุม
    นิวยอร์กออกกฎหมายบังคับให้บริษัทเปิดเผยการใช้วิธีนี้

    ข้อกังวลต่อผู้บริโภค
    รู้สึกถูกติดตามและถูกเอาเปรียบ
    ราคาสินค้าไม่สะท้อนอุปสงค์-อุปทาน แต่สะท้อนสิ่งที่บริษัทคิดว่าผู้บริโภคยอมจ่าย

    ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม
    ใช้ข้อมูลละเอียดอ่อน เช่น อารมณ์และการเคลื่อนไหวสายตา
    อาจสร้างความไม่ไว้วางใจต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/why-039surveillance-pricing039-strikes-a-nerve
    🕵️ “Surveillance Pricing: เมื่อข้อมูลส่วนตัวถูกใช้กำหนดราคาสินค้า” แนวคิด surveillance pricing เกิดขึ้นจากการที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหาออนไลน์ การเคลื่อนไหวของเมาส์ หรือสินค้าที่ถูกทิ้งไว้ในตะกร้า เพื่อปรับราคาสินค้าให้เหมาะกับผู้บริโภคแต่ละคน ตัวอย่างเช่น พ่อแม่มือใหม่อาจเห็นสินค้าสำหรับเด็กที่แพงกว่าคู่รักที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หรือคนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนอาจไม่ได้รับคูปองส่วนลดเหมือนคนอื่น แม้การตั้งราคาตามข้อมูลผู้บริโภคจะถูกกฎหมาย แต่ก็สร้างความรู้สึกไม่สบายใจ เพราะราคาที่จ่ายไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “อุปสงค์และอุปทาน” แบบดั้งเดิม แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่บริษัทคิดว่าผู้บริโภค “ยอมจ่าย” ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบและถูกติดตามตลอดเวลา ในสหรัฐฯ ประเด็นนี้ถูกหยิบยกโดย Federal Trade Commission (FTC) ที่เคยเปิดรับความคิดเห็นสาธารณะ แต่ภายหลังถูกปิดไป อย่างไรก็ตาม รัฐต่าง ๆ เช่น แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย และอิลลินอยส์ กำลังพิจารณากฎหมายเพื่อจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในการตั้งราคา ขณะที่รัฐนิวยอร์กถึงขั้นออกกฎหมายบังคับให้บริษัทต้องเปิดเผยหากใช้วิธีนี้ และอัยการสูงสุดได้ออกประกาศเตือนผู้บริโภคแล้ว นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวด้านผู้บริโภคมองว่า surveillance pricing เป็น “การปฏิวัติที่น่ากังวล” ในระบบเศรษฐกิจ เพราะมันใช้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น อารมณ์ ความเคลื่อนไหวสายตา หรือแม้แต่การกดแป้นพิมพ์ เพื่อกำหนดราคาสินค้าในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ผ้าอ้อมไปจนถึงขนมปัง 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ แนวคิด Surveillance Pricing ➡️ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหา การคลิก หรือการละทิ้งสินค้าในตะกร้า ➡️ ตั้งราคาสินค้าแตกต่างกันตามผู้บริโภคแต่ละคน ✅ ตัวอย่างการใช้งานจริง ➡️ พ่อแม่มือใหม่เห็นสินค้าสำหรับเด็กแพงกว่าคนอื่น ➡️ คนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนอาจไม่ได้รับคูปองส่วนลด ✅ สถานะทางกฎหมาย ➡️ การตั้งราคาแบบนี้ยังถือว่าถูกกฎหมาย ➡️ FTC เคยศึกษาเรื่องนี้ แต่ปิดช่องทางรับความคิดเห็นไปแล้ว ✅ การเคลื่อนไหวในระดับรัฐ ➡️ แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย และอิลลินอยส์ กำลังพิจารณากฎหมายควบคุม ➡️ นิวยอร์กออกกฎหมายบังคับให้บริษัทเปิดเผยการใช้วิธีนี้ ‼️ ข้อกังวลต่อผู้บริโภค ⛔ รู้สึกถูกติดตามและถูกเอาเปรียบ ⛔ ราคาสินค้าไม่สะท้อนอุปสงค์-อุปทาน แต่สะท้อนสิ่งที่บริษัทคิดว่าผู้บริโภคยอมจ่าย ‼️ ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม ⛔ ใช้ข้อมูลละเอียดอ่อน เช่น อารมณ์และการเคลื่อนไหวสายตา ⛔ อาจสร้างความไม่ไว้วางใจต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/why-039surveillance-pricing039-strikes-a-nerve
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Why 'surveillance pricing' strikes a nerve
    Surveillance pricing describes a practice in which a company sets a price for particular consumers based on what it gleans from their personal data.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • Pebble Watch Software เปิด Open Source เต็มรูปแบบ

    Pebble ประกาศว่า ซอฟต์แวร์ทั้งหมดของ Pebble Watch ตอนนี้เปิดเป็น Open Source 100% รวมถึง PebbleOS, แอปมือถือ และ Developer Tools พร้อมทั้งเปิดตัวระบบ Appstore แบบ decentralized เพื่อให้ชุมชนสามารถพัฒนาและใช้งานต่อไปได้อย่างยั่งยืน

    หลังจากที่ Pebble เคยเปิดซอร์สโค้ดบางส่วน (~95%) ตอนนี้ทีม Core Devices ได้ประกาศว่า ทุกส่วนของซอฟต์แวร์ Pebble Watch เปิดเป็น Open Source แล้ว ตั้งแต่ PebbleOS ที่รันบนตัวนาฬิกา, แอปมือถือ companion สำหรับ iOS และ Android, ไปจนถึง Developer Tools และ Appstore ที่ชุมชนสามารถเข้าถึงและปรับปรุงได้เอง

    รายละเอียดการเปลี่ยนแปลง
    PebbleOS: เปิดซอร์สโค้ดทั้งหมดบน GitHub สามารถดาวน์โหลด, คอมไพล์ และติดตั้งผ่าน Bluetooth ได้
    Mobile Companion App: แอปใหม่ที่สร้างด้วย Kotlin Multiplatform เปิดซอร์สโค้ดเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้ iPhone และ Android สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง
    Developer Tools & Appstore: อัปเดต SDK และ dev tools ให้ทำงานบนเครื่องสมัยใหม่ พร้อมระบบ Appstore แบบ decentralized ที่รองรับหลาย feed และมีการสำรองข้อมูลไปยัง Archive.org เพื่อป้องกันการสูญหาย

    ฮาร์ดแวร์และการผลิต
    Core Devices ยืนยันว่าจะยังคงผลิตนาฬิกา Pebble ต่อไป โดยเน้นการออกแบบที่ ซ่อมง่ายกว่าเดิม เช่น Pebble Time 2 ที่สามารถถอดฝาหลังและเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง รวมถึงการเผยแพร่ไฟล์ออกแบบทางไฟฟ้าและกลไกของ Pebble 2 Duo เพื่อให้ชุมชนสามารถสร้างอุปกรณ์ที่เข้ากันได้กับ PebbleOS

    สรุปสาระสำคัญ
    ซอฟต์แวร์ Pebble เปิด Open Source 100%
    ครอบคลุม PebbleOS, Mobile App และ Developer Tools
    ชุมชนสามารถพัฒนาและใช้งานต่อไปได้

    ระบบ Appstore แบบใหม่
    รองรับหลาย feed และ decentralized
    มีการสำรองข้อมูลไปยัง Archive.org

    ฮาร์ดแวร์ที่ซ่อมง่ายขึ้น
    Pebble Time 2 สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง
    เผยแพร่ไฟล์ออกแบบ Pebble 2 Duo บน GitHub

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้และนักพัฒนา
    บางส่วนยังมี binary blobs และ non-free components (เช่น heart rate sensor, Memfault library)
    การผลิต Pebble Time 2 อาจล่าช้าเพราะปัจจัยโรงงานและเทศกาลตรุษจีน
    ระบบ Appstore ใหม่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อาจไม่ครอบคลุมทุก watchface/app ทันที

    https://ericmigi.com/blog/pebble-watch-software-is-now-100percent-open-source
    🕰️ Pebble Watch Software เปิด Open Source เต็มรูปแบบ Pebble ประกาศว่า ซอฟต์แวร์ทั้งหมดของ Pebble Watch ตอนนี้เปิดเป็น Open Source 100% รวมถึง PebbleOS, แอปมือถือ และ Developer Tools พร้อมทั้งเปิดตัวระบบ Appstore แบบ decentralized เพื่อให้ชุมชนสามารถพัฒนาและใช้งานต่อไปได้อย่างยั่งยืน หลังจากที่ Pebble เคยเปิดซอร์สโค้ดบางส่วน (~95%) ตอนนี้ทีม Core Devices ได้ประกาศว่า ทุกส่วนของซอฟต์แวร์ Pebble Watch เปิดเป็น Open Source แล้ว ตั้งแต่ PebbleOS ที่รันบนตัวนาฬิกา, แอปมือถือ companion สำหรับ iOS และ Android, ไปจนถึง Developer Tools และ Appstore ที่ชุมชนสามารถเข้าถึงและปรับปรุงได้เอง ⚙️ รายละเอียดการเปลี่ยนแปลง ⭐ PebbleOS: เปิดซอร์สโค้ดทั้งหมดบน GitHub สามารถดาวน์โหลด, คอมไพล์ และติดตั้งผ่าน Bluetooth ได้ ⭐ Mobile Companion App: แอปใหม่ที่สร้างด้วย Kotlin Multiplatform เปิดซอร์สโค้ดเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้ iPhone และ Android สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง ⭐ Developer Tools & Appstore: อัปเดต SDK และ dev tools ให้ทำงานบนเครื่องสมัยใหม่ พร้อมระบบ Appstore แบบ decentralized ที่รองรับหลาย feed และมีการสำรองข้อมูลไปยัง Archive.org เพื่อป้องกันการสูญหาย 🔧 ฮาร์ดแวร์และการผลิต Core Devices ยืนยันว่าจะยังคงผลิตนาฬิกา Pebble ต่อไป โดยเน้นการออกแบบที่ ซ่อมง่ายกว่าเดิม เช่น Pebble Time 2 ที่สามารถถอดฝาหลังและเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง รวมถึงการเผยแพร่ไฟล์ออกแบบทางไฟฟ้าและกลไกของ Pebble 2 Duo เพื่อให้ชุมชนสามารถสร้างอุปกรณ์ที่เข้ากันได้กับ PebbleOS 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ซอฟต์แวร์ Pebble เปิด Open Source 100% ➡️ ครอบคลุม PebbleOS, Mobile App และ Developer Tools ➡️ ชุมชนสามารถพัฒนาและใช้งานต่อไปได้ ✅ ระบบ Appstore แบบใหม่ ➡️ รองรับหลาย feed และ decentralized ➡️ มีการสำรองข้อมูลไปยัง Archive.org ✅ ฮาร์ดแวร์ที่ซ่อมง่ายขึ้น ➡️ Pebble Time 2 สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง ➡️ เผยแพร่ไฟล์ออกแบบ Pebble 2 Duo บน GitHub ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้และนักพัฒนา ⛔ บางส่วนยังมี binary blobs และ non-free components (เช่น heart rate sensor, Memfault library) ⛔ การผลิต Pebble Time 2 อาจล่าช้าเพราะปัจจัยโรงงานและเทศกาลตรุษจีน ⛔ ระบบ Appstore ใหม่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อาจไม่ครอบคลุมทุก watchface/app ทันที https://ericmigi.com/blog/pebble-watch-software-is-now-100percent-open-source
    ERICMIGI.COM
    Pebble Watch Software Is Now 100% Open Source + Tick Talk #4 - PT2 Demos!
    Pebble Watch Software Is Now 100% Open Source + Tick Talk #4 - PT2 Demos!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดตัว Claude Opus 4.5 – ก้าวกระโดดด้าน AI Reasoning

    Anthropic ประกาศเปิดตัว Claude Opus 4.5 ซึ่งถูกยกให้เป็นโมเดลที่ทรงพลังที่สุดในสายการพัฒนา Claude โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงด้าน reasoning, coding, และการทำงานแบบ agentic workflows พร้อมทั้งลดการใช้ token ลงอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า (Sonnet 4.5)

    ฟีเจอร์และความสามารถใหม่
    การเขียนโค้ดและแก้บั๊ก: Claude Opus 4.5 สามารถจัดการงานซับซ้อน เช่น code migration และ refactoring ได้แม่นยำและเร็วขึ้น
    Agentic Workflows: รองรับการทำงานแบบ autonomous agents ที่สามารถวางแผนและแก้ปัญหาได้ต่อเนื่องยาวนาน
    ประสิทธิภาพสูงกว่า Sonnet 4.5: ใช้ token น้อยลงถึง 65% แต่ยังคงความแม่นยำและคุณภาพในการแก้ปัญหา
    การจัดการ Context และ Memory: รองรับ context window ขนาดใหญ่ (200K) และสามารถสรุปการสนทนาเพื่อให้การทำงานต่อเนื่องไม่สะดุด
    การควบคุม Effort Parameter: ผู้ใช้สามารถเลือกโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับงาน เช่น เน้นความเร็วหรือเน้นความละเอียด

    ผลกระทบต่อการใช้งานจริง
    Claude Opus 4.5 ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงานระดับองค์กร เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก, การสร้างระบบ multi-agent, การทำงานกับ Excel และ Chrome รวมถึงการสร้างเนื้อหายาว เช่น บทความ 10–15 หน้า ที่มีความสอดคล้องและจัดระเบียบได้ดีขึ้น

    นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงด้าน ความปลอดภัย โดยเฉพาะการป้องกัน prompt injection attacks ทำให้ Claude Opus 4.5 เป็นหนึ่งในโมเดลที่มี alignment แข็งแกร่งที่สุดในตลาด AI frontier

    สรุปสาระสำคัญ
    Claude Opus 4.5 เปิดตัวแล้ว
    เน้น reasoning, coding, และ agentic workflows
    ใช้ token น้อยลงแต่คุณภาพสูงขึ้น

    ฟีเจอร์ใหม่
    รองรับ context window 200K
    Effort parameter ปรับโหมดการทำงานได้
    สร้างเนื้อหายาวและซับซ้อนได้ดีขึ้น

    การใช้งานจริง
    เหมาะกับงานองค์กรและ multi-agent systems
    รองรับ Excel, Chrome และการทำงานอัตโนมัติ
    ปรับปรุงด้านความปลอดภัยจาก prompt injection

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    การใช้ context ขนาดใหญ่ต้องระวังค่าใช้จ่าย token
    ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างยังอยู่ในช่วง early adoption
    การใช้งาน agentic workflows ต้องมีการกำกับดูแลเพื่อป้องกัน misalignment

    https://www.anthropic.com/news/claude-opus-4-5
    🤖 เปิดตัว Claude Opus 4.5 – ก้าวกระโดดด้าน AI Reasoning Anthropic ประกาศเปิดตัว Claude Opus 4.5 ซึ่งถูกยกให้เป็นโมเดลที่ทรงพลังที่สุดในสายการพัฒนา Claude โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงด้าน reasoning, coding, และการทำงานแบบ agentic workflows พร้อมทั้งลดการใช้ token ลงอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า (Sonnet 4.5) ⚙️ ฟีเจอร์และความสามารถใหม่ ⭐ การเขียนโค้ดและแก้บั๊ก: Claude Opus 4.5 สามารถจัดการงานซับซ้อน เช่น code migration และ refactoring ได้แม่นยำและเร็วขึ้น ⭐ Agentic Workflows: รองรับการทำงานแบบ autonomous agents ที่สามารถวางแผนและแก้ปัญหาได้ต่อเนื่องยาวนาน ⭐ ประสิทธิภาพสูงกว่า Sonnet 4.5: ใช้ token น้อยลงถึง 65% แต่ยังคงความแม่นยำและคุณภาพในการแก้ปัญหา ⭐ การจัดการ Context และ Memory: รองรับ context window ขนาดใหญ่ (200K) และสามารถสรุปการสนทนาเพื่อให้การทำงานต่อเนื่องไม่สะดุด ⭐ การควบคุม Effort Parameter: ผู้ใช้สามารถเลือกโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับงาน เช่น เน้นความเร็วหรือเน้นความละเอียด 🌍 ผลกระทบต่อการใช้งานจริง Claude Opus 4.5 ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงานระดับองค์กร เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก, การสร้างระบบ multi-agent, การทำงานกับ Excel และ Chrome รวมถึงการสร้างเนื้อหายาว เช่น บทความ 10–15 หน้า ที่มีความสอดคล้องและจัดระเบียบได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงด้าน ความปลอดภัย โดยเฉพาะการป้องกัน prompt injection attacks ทำให้ Claude Opus 4.5 เป็นหนึ่งในโมเดลที่มี alignment แข็งแกร่งที่สุดในตลาด AI frontier 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Claude Opus 4.5 เปิดตัวแล้ว ➡️ เน้น reasoning, coding, และ agentic workflows ➡️ ใช้ token น้อยลงแต่คุณภาพสูงขึ้น ✅ ฟีเจอร์ใหม่ ➡️ รองรับ context window 200K ➡️ Effort parameter ปรับโหมดการทำงานได้ ➡️ สร้างเนื้อหายาวและซับซ้อนได้ดีขึ้น ✅ การใช้งานจริง ➡️ เหมาะกับงานองค์กรและ multi-agent systems ➡️ รองรับ Excel, Chrome และการทำงานอัตโนมัติ ➡️ ปรับปรุงด้านความปลอดภัยจาก prompt injection ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ การใช้ context ขนาดใหญ่ต้องระวังค่าใช้จ่าย token ⛔ ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างยังอยู่ในช่วง early adoption ⛔ การใช้งาน agentic workflows ต้องมีการกำกับดูแลเพื่อป้องกัน misalignment https://www.anthropic.com/news/claude-opus-4-5
    WWW.ANTHROPIC.COM
    Introducing Claude Opus 4.5
    Anthropic is an AI safety and research company that's working to build reliable, interpretable, and steerable AI systems.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความเสี่ยงใหญ่ของ CISO – ผู้นำฝ่ายความปลอดภัยลาออก

    บทความจาก CSO Online ชี้ให้เห็นว่า CISO (Chief Information Security Officer) กำลังเผชิญความเสี่ยงสำคัญ ไม่ใช่แค่ภัยไซเบอร์ แต่คือการสูญเสีย ผู้นำระดับแผนก (functional security leaders) ที่กำลังหมดไฟและพร้อมจะลาออก เนื่องจากภาระงานที่หนักเกินไปแต่ไม่ได้รับการยอมรับหรือผลตอบแทนที่เหมาะสม

    สาเหตุของการลาออกและความเหนื่อยล้า
    ภาระงานเกินกำลัง: ผู้นำฝ่ายความปลอดภัยต้องรับผิดชอบทั้งการปกป้องระบบและสนับสนุนผลลัพธ์ทางธุรกิจ พร้อมทั้งจัดการกับกฎระเบียบใหม่และเทคโนโลยีที่ซับซ้อน
    ทรัพยากรจำกัด: ทีมงานขาดบุคลากรและงบประมาณ ทำให้ต้องทำงานมากขึ้นโดยไม่สามารถควบคุมความเสี่ยงได้เต็มที่
    วัฒนธรรมที่ไม่ยั่งยืน: ถูกคาดหวังให้ “ถูกต้องทุกครั้ง” ในขณะที่แฮกเกอร์ต้องการแค่ครั้งเดียวในการเจาะระบบ สร้างความกดดันอย่างต่อเนื่อง
    ขาดเส้นทางความก้าวหน้า: หลายองค์กรมีโครงสร้างที่ทำให้ผู้นำระดับกลางไม่เห็นโอกาสเติบโตไปสู่ตำแหน่งสูงกว่า เช่น CISO

    แนวทางแก้ไขที่แนะนำ
    ปรับโครงสร้างงาน: ลดการสวมหมวกหลายใบ และให้ผู้นำฝ่ายความปลอดภัยมีอำนาจตัดสินใจจริง
    สนับสนุนการเติบโตในสายอาชีพ: สร้างเส้นทางความก้าวหน้าที่ชัดเจน ไม่จำกัดแค่ตำแหน่ง CISO แต่รวมถึงสาขาใหม่ เช่น AI governance หรือ privacy
    เพิ่มการมีส่วนร่วมเชิงกลยุทธ์: ให้ผู้นำฝ่ายความปลอดภัยมีที่นั่งในโต๊ะผู้บริหาร เพื่อสะท้อนความต้องการและทรัพยากรที่จำเป็น
    ใช้ตัวชี้วัดใหม่: วัดความสำเร็จจากการป้องกัน downtime และลดความเสี่ยง แทนที่จะเน้นเฉพาะการตอบสนองต่อเหตุการณ์

    สรุปสาระสำคัญ
    ความเสี่ยงใหม่ของ CISO
    การสูญเสียผู้นำฝ่ายความปลอดภัยที่หมดไฟและลาออก

    สาเหตุหลักของการลาออก
    ภาระงานหนักเกินไปและทรัพยากรจำกัด
    ความกดดันจากความคาดหวังที่ไม่สมดุล
    ขาดเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ

    แนวทางแก้ไข
    ปรับโครงสร้างงานและให้อำนาจตัดสินใจ
    สร้างเส้นทางอาชีพใหม่ เช่น AI governance
    เพิ่มบทบาทเชิงกลยุทธ์ในระดับผู้บริหาร

    คำเตือนสำหรับองค์กร
    หากไม่แก้ไข อาจสูญเสียบุคลากรสำคัญ
    ความต่อเนื่องและนวัตกรรมด้านความปลอดภัยจะถูกกระทบ
    การมอง cybersecurity เป็น cost center ทำให้เสี่ยงต่อการตัดงบประมาณ

    https://www.csoonline.com/article/4094734/the-cisos-greatest-risk-department-leaders-quitting.html
    📰 ความเสี่ยงใหญ่ของ CISO – ผู้นำฝ่ายความปลอดภัยลาออก บทความจาก CSO Online ชี้ให้เห็นว่า CISO (Chief Information Security Officer) กำลังเผชิญความเสี่ยงสำคัญ ไม่ใช่แค่ภัยไซเบอร์ แต่คือการสูญเสีย ผู้นำระดับแผนก (functional security leaders) ที่กำลังหมดไฟและพร้อมจะลาออก เนื่องจากภาระงานที่หนักเกินไปแต่ไม่ได้รับการยอมรับหรือผลตอบแทนที่เหมาะสม 🔥 สาเหตุของการลาออกและความเหนื่อยล้า 💠 ภาระงานเกินกำลัง: ผู้นำฝ่ายความปลอดภัยต้องรับผิดชอบทั้งการปกป้องระบบและสนับสนุนผลลัพธ์ทางธุรกิจ พร้อมทั้งจัดการกับกฎระเบียบใหม่และเทคโนโลยีที่ซับซ้อน 💠 ทรัพยากรจำกัด: ทีมงานขาดบุคลากรและงบประมาณ ทำให้ต้องทำงานมากขึ้นโดยไม่สามารถควบคุมความเสี่ยงได้เต็มที่ 💠 วัฒนธรรมที่ไม่ยั่งยืน: ถูกคาดหวังให้ “ถูกต้องทุกครั้ง” ในขณะที่แฮกเกอร์ต้องการแค่ครั้งเดียวในการเจาะระบบ สร้างความกดดันอย่างต่อเนื่อง 💠 ขาดเส้นทางความก้าวหน้า: หลายองค์กรมีโครงสร้างที่ทำให้ผู้นำระดับกลางไม่เห็นโอกาสเติบโตไปสู่ตำแหน่งสูงกว่า เช่น CISO 💡 แนวทางแก้ไขที่แนะนำ 💠 ปรับโครงสร้างงาน: ลดการสวมหมวกหลายใบ และให้ผู้นำฝ่ายความปลอดภัยมีอำนาจตัดสินใจจริง 💠 สนับสนุนการเติบโตในสายอาชีพ: สร้างเส้นทางความก้าวหน้าที่ชัดเจน ไม่จำกัดแค่ตำแหน่ง CISO แต่รวมถึงสาขาใหม่ เช่น AI governance หรือ privacy 💠 เพิ่มการมีส่วนร่วมเชิงกลยุทธ์: ให้ผู้นำฝ่ายความปลอดภัยมีที่นั่งในโต๊ะผู้บริหาร เพื่อสะท้อนความต้องการและทรัพยากรที่จำเป็น 💠 ใช้ตัวชี้วัดใหม่: วัดความสำเร็จจากการป้องกัน downtime และลดความเสี่ยง แทนที่จะเน้นเฉพาะการตอบสนองต่อเหตุการณ์ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ความเสี่ยงใหม่ของ CISO ➡️ การสูญเสียผู้นำฝ่ายความปลอดภัยที่หมดไฟและลาออก ✅ สาเหตุหลักของการลาออก ➡️ ภาระงานหนักเกินไปและทรัพยากรจำกัด ➡️ ความกดดันจากความคาดหวังที่ไม่สมดุล ➡️ ขาดเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ ✅ แนวทางแก้ไข ➡️ ปรับโครงสร้างงานและให้อำนาจตัดสินใจ ➡️ สร้างเส้นทางอาชีพใหม่ เช่น AI governance ➡️ เพิ่มบทบาทเชิงกลยุทธ์ในระดับผู้บริหาร ‼️ คำเตือนสำหรับองค์กร ⛔ หากไม่แก้ไข อาจสูญเสียบุคลากรสำคัญ ⛔ ความต่อเนื่องและนวัตกรรมด้านความปลอดภัยจะถูกกระทบ ⛔ การมอง cybersecurity เป็น cost center ทำให้เสี่ยงต่อการตัดงบประมาณ https://www.csoonline.com/article/4094734/the-cisos-greatest-risk-department-leaders-quitting.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The CISO’s greatest risk? Department leaders quitting
    A security exec’s job is not just to manage cyber risk. Protecting personnel from burnout, championing cyber’s business value, and fostering career growth are just as vital to building a resilient, sustainable organization.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมไซเบอร์ระดับสูงเปิดตัว Blast Security ด้วยทุน $10M

    Blast Security บริษัทสตาร์ทอัพด้านไซเบอร์จากอิสราเอล เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมทุนเริ่มต้นกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายพลิกโฉมการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ จากการตรวจจับและตอบสนอง ไปสู่การ ป้องกันเชิงรุก (Preemptive Cloud Defense)

    แนวคิดและเทคโนโลยีใหม่
    Blast Security พัฒนาแพลตฟอร์มที่ทำงานแบบ preventive guardrails ซึ่งจะตรวจสอบและบังคับใช้การเปลี่ยนแปลงในระบบคลาวด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าความปลอดภัยไม่ถูกละเมิดตั้งแต่ต้น จุดเด่นคือการ ลดความเสี่ยงบนคลาวด์ได้กว่า 90% และทำให้การดำเนินงานไม่สะดุดแม้มีการบังคับใช้มาตรการป้องกัน

    ทีมผู้ก่อตั้งประกอบด้วยอดีตวิศวกรจาก Solebit (บริษัทที่ถูก Mimecast ซื้อกิจการ) และสมาชิกจากหน่วยไซเบอร์ของกองทัพอิสราเอล (IDF) ซึ่งมีประสบการณ์ร่วมกันมากกว่าทศวรรษในการสร้างโซลูชันด้านความปลอดภัยที่สามารถขยายการใช้งานได้จริง

    ผลกระทบต่อองค์กรและตลาด
    องค์กรที่ใช้ระบบ multi-cloud มักเผชิญกับความซับซ้อนและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อ AI เข้ามาเร่งการพัฒนา ทำให้การตรวจจับแบบเดิมไม่ทันต่อภัยคุกคาม Blast Security จึงเสนอแนวทางใหม่ที่เน้นการ ป้องกันก่อนเกิดเหตุ แทนการวิ่งไล่ตามการแจ้งเตือน

    บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งเริ่มทดสอบการใช้งาน Blast Security เพื่อเสริมความมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงในระบบคลาวด์จะไม่กระทบต่อการผลิตและนวัตกรรม

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดตัว Blast Security
    ทุนเริ่มต้น $10M จาก 10D และ MizMaa Ventures
    ทีมก่อตั้งจาก Solebit และหน่วยไซเบอร์ IDF

    เทคโนโลยี Preemptive Cloud Defense
    ใช้ preventive guardrails ตรวจสอบและบังคับใช้การเปลี่ยนแปลง
    ลดความเสี่ยงบนคลาวด์ได้กว่า 90%
    ไม่กระทบการผลิตและนวัตกรรม

    ผลกระทบต่อองค์กร
    เหมาะกับระบบ multi-cloud ที่ซับซ้อน
    ช่วยลด alert fatigue และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้และองค์กร
    หากยังใช้วิธีตรวจจับแบบเดิม อาจไม่ทันต่อภัยคุกคามยุคใหม่
    การไม่ปรับตัวสู่การป้องกันเชิงรุกอาจทำให้ระบบเสี่ยงต่อการโจมตี
    องค์กรต้องลงทุนและปรับกระบวนการเพื่อใช้ประโยชน์จากแนวทางใหม่นี้

    https://hackread.com/elite-cyber-veterans-launch-blast-security-with-10m-to-turn-cloud-detection-into-prevention/
    🛡️ ทีมไซเบอร์ระดับสูงเปิดตัว Blast Security ด้วยทุน $10M Blast Security บริษัทสตาร์ทอัพด้านไซเบอร์จากอิสราเอล เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมทุนเริ่มต้นกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายพลิกโฉมการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ จากการตรวจจับและตอบสนอง ไปสู่การ ป้องกันเชิงรุก (Preemptive Cloud Defense) ⚙️ แนวคิดและเทคโนโลยีใหม่ Blast Security พัฒนาแพลตฟอร์มที่ทำงานแบบ preventive guardrails ซึ่งจะตรวจสอบและบังคับใช้การเปลี่ยนแปลงในระบบคลาวด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าความปลอดภัยไม่ถูกละเมิดตั้งแต่ต้น จุดเด่นคือการ ลดความเสี่ยงบนคลาวด์ได้กว่า 90% และทำให้การดำเนินงานไม่สะดุดแม้มีการบังคับใช้มาตรการป้องกัน ทีมผู้ก่อตั้งประกอบด้วยอดีตวิศวกรจาก Solebit (บริษัทที่ถูก Mimecast ซื้อกิจการ) และสมาชิกจากหน่วยไซเบอร์ของกองทัพอิสราเอล (IDF) ซึ่งมีประสบการณ์ร่วมกันมากกว่าทศวรรษในการสร้างโซลูชันด้านความปลอดภัยที่สามารถขยายการใช้งานได้จริง 🌍 ผลกระทบต่อองค์กรและตลาด องค์กรที่ใช้ระบบ multi-cloud มักเผชิญกับความซับซ้อนและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อ AI เข้ามาเร่งการพัฒนา ทำให้การตรวจจับแบบเดิมไม่ทันต่อภัยคุกคาม Blast Security จึงเสนอแนวทางใหม่ที่เน้นการ ป้องกันก่อนเกิดเหตุ แทนการวิ่งไล่ตามการแจ้งเตือน บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งเริ่มทดสอบการใช้งาน Blast Security เพื่อเสริมความมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงในระบบคลาวด์จะไม่กระทบต่อการผลิตและนวัตกรรม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดตัว Blast Security ➡️ ทุนเริ่มต้น $10M จาก 10D และ MizMaa Ventures ➡️ ทีมก่อตั้งจาก Solebit และหน่วยไซเบอร์ IDF ✅ เทคโนโลยี Preemptive Cloud Defense ➡️ ใช้ preventive guardrails ตรวจสอบและบังคับใช้การเปลี่ยนแปลง ➡️ ลดความเสี่ยงบนคลาวด์ได้กว่า 90% ➡️ ไม่กระทบการผลิตและนวัตกรรม ✅ ผลกระทบต่อองค์กร ➡️ เหมาะกับระบบ multi-cloud ที่ซับซ้อน ➡️ ช่วยลด alert fatigue และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้และองค์กร ⛔ หากยังใช้วิธีตรวจจับแบบเดิม อาจไม่ทันต่อภัยคุกคามยุคใหม่ ⛔ การไม่ปรับตัวสู่การป้องกันเชิงรุกอาจทำให้ระบบเสี่ยงต่อการโจมตี ⛔ องค์กรต้องลงทุนและปรับกระบวนการเพื่อใช้ประโยชน์จากแนวทางใหม่นี้ https://hackread.com/elite-cyber-veterans-launch-blast-security-with-10m-to-turn-cloud-detection-into-prevention/
    HACKREAD.COM
    Elite Cyber Veterans Launch Blast Security with $10M to Turn Cloud Detection into Prevention
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • 5 การตั้งค่า Android Auto ที่ควรเปลี่ยน

    บทความนี้แนะนำ 5 การตั้งค่าใน Android Auto ที่ควรเปลี่ยนเพื่อให้การใช้งานสะดวกและปลอดภัยขึ้น เช่น การปรับ App Launcher, การบังคับโหมด Day/Night, ปิดการเล่นเพลงอัตโนมัติ, ปิดเสียงแจ้งเตือน และการตั้งค่าให้เริ่มทำงานแม้โทรศัพท์ยังล็อกอยู่

    Android Auto เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อแอปมือถือกับรถยนต์ได้สะดวก แต่ค่าเริ่มต้นหลายอย่างอาจไม่เหมาะสมกับการใช้งานจริง บทความจาก SlashGear แนะนำการปรับแต่ง 5 จุดสำคัญที่จะช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและราบรื่นมากขึ้น

    รายละเอียดการตั้งค่าที่ควรเปลี่ยน
    Customize App Launcher: ค่าเริ่มต้นจะโหลดแอปจำนวนมากรวมถึงแอปที่ไม่จำเป็น เช่น เกมหรือเมนูตั้งค่า ควรจัดเรียงเฉพาะแอปที่ใช้บ่อย เช่น Maps, Music, Phone เพื่อให้เข้าถึงได้เร็ว

    Force Day/Night Mode for Maps: ระบบอัตโนมัติอาจทำงานผิดพลาดเมื่อเปิดไฟหน้าระหว่างฝนตกหรือในอุโมงค์ ทำให้แผนที่มืดเกินไป ควรตั้งค่าโหมด Day/Night แบบบังคับเพื่อความชัดเจน

    Stop Music Auto-Play: ฟีเจอร์ Resume Media จะเล่นเพลงที่เปิดไว้ครั้งก่อนทันที ซึ่งอาจดังเกินไปเมื่อมีผู้โดยสาร ควรปิดการเล่นอัตโนมัติทั้งใน Android Auto และแอปสตรีมมิ่ง

    Silent Notifications: การแจ้งเตือนพร้อมเสียงทำให้เสียสมาธิ ควรตั้งค่าให้แสดงเฉพาะแบนเนอร์บนหน้าจอ หรือเลือกให้ระบบอ่านข้อความออกเสียงแทน

    Allow Start When Phone Locked: ค่าเริ่มต้นบังคับให้ปลดล็อกโทรศัพท์ก่อนใช้งาน หากการเชื่อมต่อหลุดระหว่างขับรถจะไม่สะดวก ควรเปิดให้ Android Auto เริ่มทำงานแม้โทรศัพท์ยังล็อกอยู่

    https://www.slashgear.com/2030781/android-auto-settings-you-need-to-change/
    🚗 5 การตั้งค่า Android Auto ที่ควรเปลี่ยน บทความนี้แนะนำ 5 การตั้งค่าใน Android Auto ที่ควรเปลี่ยนเพื่อให้การใช้งานสะดวกและปลอดภัยขึ้น เช่น การปรับ App Launcher, การบังคับโหมด Day/Night, ปิดการเล่นเพลงอัตโนมัติ, ปิดเสียงแจ้งเตือน และการตั้งค่าให้เริ่มทำงานแม้โทรศัพท์ยังล็อกอยู่ Android Auto เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อแอปมือถือกับรถยนต์ได้สะดวก แต่ค่าเริ่มต้นหลายอย่างอาจไม่เหมาะสมกับการใช้งานจริง บทความจาก SlashGear แนะนำการปรับแต่ง 5 จุดสำคัญที่จะช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและราบรื่นมากขึ้น ⚙️ รายละเอียดการตั้งค่าที่ควรเปลี่ยน 🪛 Customize App Launcher: ค่าเริ่มต้นจะโหลดแอปจำนวนมากรวมถึงแอปที่ไม่จำเป็น เช่น เกมหรือเมนูตั้งค่า ควรจัดเรียงเฉพาะแอปที่ใช้บ่อย เช่น Maps, Music, Phone เพื่อให้เข้าถึงได้เร็ว 🪛 Force Day/Night Mode for Maps: ระบบอัตโนมัติอาจทำงานผิดพลาดเมื่อเปิดไฟหน้าระหว่างฝนตกหรือในอุโมงค์ ทำให้แผนที่มืดเกินไป ควรตั้งค่าโหมด Day/Night แบบบังคับเพื่อความชัดเจน 🪛 Stop Music Auto-Play: ฟีเจอร์ Resume Media จะเล่นเพลงที่เปิดไว้ครั้งก่อนทันที ซึ่งอาจดังเกินไปเมื่อมีผู้โดยสาร ควรปิดการเล่นอัตโนมัติทั้งใน Android Auto และแอปสตรีมมิ่ง 🪛 Silent Notifications: การแจ้งเตือนพร้อมเสียงทำให้เสียสมาธิ ควรตั้งค่าให้แสดงเฉพาะแบนเนอร์บนหน้าจอ หรือเลือกให้ระบบอ่านข้อความออกเสียงแทน 🪛 Allow Start When Phone Locked: ค่าเริ่มต้นบังคับให้ปลดล็อกโทรศัพท์ก่อนใช้งาน หากการเชื่อมต่อหลุดระหว่างขับรถจะไม่สะดวก ควรเปิดให้ Android Auto เริ่มทำงานแม้โทรศัพท์ยังล็อกอยู่ https://www.slashgear.com/2030781/android-auto-settings-you-need-to-change/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Android Auto Settings You'll Want To Change (And Why) - SlashGear
    If you have a car and an Android phone, you know what Android Auto is. And if you've tried to install it, you know it's not quite plug and play.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sora 2 ก้าวกระโดดเหนือ Sora รุ่นแรก

    OpenAI เปิดตัว Sora 2 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญจาก Sora รุ่นแรก โดยเพิ่มความสามารถด้าน เสียง (Audio) และปรับปรุงความสมจริงของวิดีโอที่สร้างขึ้น ทำให้ Sora 2 ถูกมองว่าเป็น “GPT-3.5 moment” ของวงการวิดีโอ AI เพราะสามารถทำสิ่งที่ก่อนหน้านี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ในโมเดลรุ่นก่อน

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Sora 2
    Audio Integration: เพิ่มเสียงพูดและเอฟเฟกต์ที่ซิงก์กับภาพได้อย่างแม่นยำ
    Improved Realism: ลดปัญหาวิดีโอที่ไม่สอดคล้องกับกฎฟิสิกส์ เช่น การเคลื่อนไหวที่ไม่สมจริง
    Cameos Feature: ผู้ใช้สามารถใส่ตัวเอง (หรือสัตว์/วัตถุ) ลงในวิดีโอที่สร้างขึ้นได้ โดยใช้การบันทึกสั้น ๆ เพื่อยืนยันตัวตน
    iOS App Integration: เปิดตัวพร้อมแอป Sora บน iOS ที่รองรับการใช้งาน Cameos

    การเปิดตัวและการเข้าถึง
    Sora 2 เปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐฯ และแคนาดาแบบ invite-only ก่อนจะขยายไปยังเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไทย, เวียดนาม และไต้หวัน ผู้ใช้ต้องเข้าร่วม waitlist บน iOS app เพื่อใช้งานฟรีในรุ่นมาตรฐาน ส่วนรุ่น Sora 2 Pro จะเปิดให้เฉพาะผู้สมัครสมาชิก ChatGPT Pro ($200/เดือน) โดยรองรับการสร้างวิดีโอคุณภาพสูงและจำนวนครั้งมากกว่า

    โครงสร้างราคาและเครดิต
    Sora 2 Standard (ฟรีสำหรับ invitees)
    วิดีโอ 10 วินาที = 10 credits (1 generation)
    วิดีโอ 15 วินาที = 20 credits (2 generations)

    Sora 2 Pro (รวมใน ChatGPT Pro)
    วิดีโอ 10 วินาที = 40 credits (4 generations)
    วิดีโอ 15 วินาที = 80 credits (8 generations)
    วิดีโอ 25 วินาที = 120 credits (12 generations)
    วิดีโอความละเอียดสูง 10–15 วินาที = 250–500 credits (25–50 generations)

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน Sora 2
    เพิ่มเสียงพูดและเอฟเฟกต์
    ปรับปรุงความสมจริงของวิดีโอ
    ฟีเจอร์ Cameos ใส่ตัวเองลงในวิดีโอ

    การเปิดตัวและการเข้าถึง
    เริ่มในสหรัฐฯ และแคนาดาแบบ invite-only
    ขยายไปยังหลายประเทศในเอเชีย
    ใช้งานฟรีในรุ่นมาตรฐานผ่าน iOS waitlist

    โครงสร้างราคาและเครดิต
    Standard: 10–20 credits ต่อวิดีโอ
    Pro: 40–500 credits ต่อวิดีโอ ขึ้นกับความยาวและความละเอียด

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    รุ่น Pro ใช้งานได้เฉพาะผู้สมัคร ChatGPT Pro ($200/เดือน)
    ระบบยังอยู่ในช่วง invite-only ไม่เปิดให้ทุกคนเข้าถึงทันที
    วิดีโอความละเอียดสูงใช้เครดิตจำนวนมาก

    https://www.slashgear.com/2031927/sora-vs-sora-2-ai-video-capabilities-explained/
    🎬 Sora 2 ก้าวกระโดดเหนือ Sora รุ่นแรก OpenAI เปิดตัว Sora 2 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญจาก Sora รุ่นแรก โดยเพิ่มความสามารถด้าน เสียง (Audio) และปรับปรุงความสมจริงของวิดีโอที่สร้างขึ้น ทำให้ Sora 2 ถูกมองว่าเป็น “GPT-3.5 moment” ของวงการวิดีโอ AI เพราะสามารถทำสิ่งที่ก่อนหน้านี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ในโมเดลรุ่นก่อน 🔊 ฟีเจอร์ใหม่ใน Sora 2 🎗️ Audio Integration: เพิ่มเสียงพูดและเอฟเฟกต์ที่ซิงก์กับภาพได้อย่างแม่นยำ 🎗️ Improved Realism: ลดปัญหาวิดีโอที่ไม่สอดคล้องกับกฎฟิสิกส์ เช่น การเคลื่อนไหวที่ไม่สมจริง 🎗️ Cameos Feature: ผู้ใช้สามารถใส่ตัวเอง (หรือสัตว์/วัตถุ) ลงในวิดีโอที่สร้างขึ้นได้ โดยใช้การบันทึกสั้น ๆ เพื่อยืนยันตัวตน 🎗️ iOS App Integration: เปิดตัวพร้อมแอป Sora บน iOS ที่รองรับการใช้งาน Cameos 🌍 การเปิดตัวและการเข้าถึง Sora 2 เปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐฯ และแคนาดาแบบ invite-only ก่อนจะขยายไปยังเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไทย, เวียดนาม และไต้หวัน ผู้ใช้ต้องเข้าร่วม waitlist บน iOS app เพื่อใช้งานฟรีในรุ่นมาตรฐาน ส่วนรุ่น Sora 2 Pro จะเปิดให้เฉพาะผู้สมัครสมาชิก ChatGPT Pro ($200/เดือน) โดยรองรับการสร้างวิดีโอคุณภาพสูงและจำนวนครั้งมากกว่า 💰 โครงสร้างราคาและเครดิต ⭐ Sora 2 Standard (ฟรีสำหรับ invitees) ➡️ วิดีโอ 10 วินาที = 10 credits (1 generation) ➡️ วิดีโอ 15 วินาที = 20 credits (2 generations) ⭐ Sora 2 Pro (รวมใน ChatGPT Pro) ➡️ วิดีโอ 10 วินาที = 40 credits (4 generations) ➡️ วิดีโอ 15 วินาที = 80 credits (8 generations) ➡️ วิดีโอ 25 วินาที = 120 credits (12 generations) ➡️ วิดีโอความละเอียดสูง 10–15 วินาที = 250–500 credits (25–50 generations) 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Sora 2 ➡️ เพิ่มเสียงพูดและเอฟเฟกต์ ➡️ ปรับปรุงความสมจริงของวิดีโอ ➡️ ฟีเจอร์ Cameos ใส่ตัวเองลงในวิดีโอ ✅ การเปิดตัวและการเข้าถึง ➡️ เริ่มในสหรัฐฯ และแคนาดาแบบ invite-only ➡️ ขยายไปยังหลายประเทศในเอเชีย ➡️ ใช้งานฟรีในรุ่นมาตรฐานผ่าน iOS waitlist ✅ โครงสร้างราคาและเครดิต ➡️ Standard: 10–20 credits ต่อวิดีโอ ➡️ Pro: 40–500 credits ต่อวิดีโอ ขึ้นกับความยาวและความละเอียด ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ รุ่น Pro ใช้งานได้เฉพาะผู้สมัคร ChatGPT Pro ($200/เดือน) ⛔ ระบบยังอยู่ในช่วง invite-only ไม่เปิดให้ทุกคนเข้าถึงทันที ⛔ วิดีโอความละเอียดสูงใช้เครดิตจำนวนมาก https://www.slashgear.com/2031927/sora-vs-sora-2-ai-video-capabilities-explained/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Sora Vs Sora 2: Here's What OpenAI's Newest Video Model Can Do - SlashGear
    OpenAI's video generator, Sora, has rapidly grown in popularity since it's release, but now, users can access the newest model. Here's what you need to know.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • AlmaLinux OS 10.1 เปิดตัวพร้อมรองรับ Btrfs

    AlmaLinux OS Foundation ประกาศเปิดตัว AlmaLinux OS 10.1 (Heliotrope Lion) ซึ่งเป็นการอัปเดตครั้งแรกของซีรีส์ AlmaLinux 10 โดยมาพร้อมฟีเจอร์สำคัญคือ รองรับระบบไฟล์ Btrfs ตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้ง ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ Btrfs ได้ทันทีโดยไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มเติม

    ฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุง
    Btrfs Support: รองรับทั้ง kernel และ userspace ทำให้สามารถติดตั้งและจัดการระบบไฟล์ Btrfs ได้ตั้งแต่ต้น
    CRB Repository Enabled by Default: เปิดใช้งาน CRB repo โดยอัตโนมัติสำหรับการติดตั้งใหม่
    Extended Support for x86_64_v2: เพิ่มการรองรับโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่ใช้ instruction set x86_64_v2
    Performance Enhancements: เปิดใช้งาน frame pointers โดยค่าเริ่มต้นเพื่อช่วยในการ debug และปรับปรุงประสิทธิภาพ
    Updated Toolchain: GCC 15.1, LLVM 20.1.8, Rust 1.88.0, Go 1.24 และอื่น ๆ
    Software Updates: NetworkManager 1.54, QEMU 10, Node.js 24, Podman 5.6.0, Mesa 25.0.7, Samba 4.22.4, Python 3.12.11, Apache 2.4.63, OpenSSL 3.5 และอีกมากมาย

    การติดตั้งและการอัปเกรด
    AlmaLinux OS 10.1 พร้อมให้ดาวน์โหลดเป็น ISO images สำหรับสถาปัตยกรรม x86_64, AArch64, PowerPC 64-bit Little Endian และ IBM System Z โดยมีทั้ง live images, cloud images และ container images สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความยืดหยุ่น

    ผู้ใช้ที่มี AlmaLinux OS อยู่แล้วสามารถอัปเกรดได้ง่าย ๆ เพียงใช้คำสั่ง:
    sudo dnf update

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน AlmaLinux OS 10.1
    รองรับ Btrfs filesystem ตั้งแต่การติดตั้ง
    เปิดใช้งาน CRB repo โดยค่าเริ่มต้น
    รองรับ x86_64_v2 processors

    การปรับปรุงระบบและซอฟต์แวร์
    Toolchain ใหม่: GCC 15.1, LLVM 20.1.8, Rust 1.88.0, Go 1.24
    อัปเดตซอฟต์แวร์หลัก เช่น Python 3.12.11, Apache 2.4.63, OpenSSL 3.5
    Performance enhancements และ frame pointers

    การติดตั้งและการอัปเกรด
    มี ISO สำหรับหลายสถาปัตยกรรม
    รองรับ live, cloud และ container images
    อัปเกรดด้วย sudo dnf update

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ผู้ใช้ที่ยังไม่คุ้นกับ Btrfs ควรทดสอบก่อนใช้งานจริง
    การเปลี่ยนระบบไฟล์อาจมีผลต่อการทำงานของบางแอปพลิเคชัน
    ควรสำรองข้อมูลก่อนการอัปเกรดหรือเปลี่ยนระบบไฟล์

    https://9to5linux.com/almalinux-os-10-1-officially-released-with-support-for-the-btrfs-file-system
    📰 AlmaLinux OS 10.1 เปิดตัวพร้อมรองรับ Btrfs AlmaLinux OS Foundation ประกาศเปิดตัว AlmaLinux OS 10.1 (Heliotrope Lion) ซึ่งเป็นการอัปเดตครั้งแรกของซีรีส์ AlmaLinux 10 โดยมาพร้อมฟีเจอร์สำคัญคือ รองรับระบบไฟล์ Btrfs ตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้ง ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ Btrfs ได้ทันทีโดยไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มเติม ⚙️ ฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุง 💠 Btrfs Support: รองรับทั้ง kernel และ userspace ทำให้สามารถติดตั้งและจัดการระบบไฟล์ Btrfs ได้ตั้งแต่ต้น 💠 CRB Repository Enabled by Default: เปิดใช้งาน CRB repo โดยอัตโนมัติสำหรับการติดตั้งใหม่ 💠 Extended Support for x86_64_v2: เพิ่มการรองรับโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่ใช้ instruction set x86_64_v2 💠 Performance Enhancements: เปิดใช้งาน frame pointers โดยค่าเริ่มต้นเพื่อช่วยในการ debug และปรับปรุงประสิทธิภาพ 💠 Updated Toolchain: GCC 15.1, LLVM 20.1.8, Rust 1.88.0, Go 1.24 และอื่น ๆ 💠 Software Updates: NetworkManager 1.54, QEMU 10, Node.js 24, Podman 5.6.0, Mesa 25.0.7, Samba 4.22.4, Python 3.12.11, Apache 2.4.63, OpenSSL 3.5 และอีกมากมาย 💻 การติดตั้งและการอัปเกรด AlmaLinux OS 10.1 พร้อมให้ดาวน์โหลดเป็น ISO images สำหรับสถาปัตยกรรม x86_64, AArch64, PowerPC 64-bit Little Endian และ IBM System Z โดยมีทั้ง live images, cloud images และ container images สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความยืดหยุ่น ผู้ใช้ที่มี AlmaLinux OS อยู่แล้วสามารถอัปเกรดได้ง่าย ๆ เพียงใช้คำสั่ง: 👉 sudo dnf update 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน AlmaLinux OS 10.1 ➡️ รองรับ Btrfs filesystem ตั้งแต่การติดตั้ง ➡️ เปิดใช้งาน CRB repo โดยค่าเริ่มต้น ➡️ รองรับ x86_64_v2 processors ✅ การปรับปรุงระบบและซอฟต์แวร์ ➡️ Toolchain ใหม่: GCC 15.1, LLVM 20.1.8, Rust 1.88.0, Go 1.24 ➡️ อัปเดตซอฟต์แวร์หลัก เช่น Python 3.12.11, Apache 2.4.63, OpenSSL 3.5 ➡️ Performance enhancements และ frame pointers ✅ การติดตั้งและการอัปเกรด ➡️ มี ISO สำหรับหลายสถาปัตยกรรม ➡️ รองรับ live, cloud และ container images ➡️ อัปเกรดด้วย sudo dnf update ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ผู้ใช้ที่ยังไม่คุ้นกับ Btrfs ควรทดสอบก่อนใช้งานจริง ⛔ การเปลี่ยนระบบไฟล์อาจมีผลต่อการทำงานของบางแอปพลิเคชัน ⛔ ควรสำรองข้อมูลก่อนการอัปเกรดหรือเปลี่ยนระบบไฟล์ https://9to5linux.com/almalinux-os-10-1-officially-released-with-support-for-the-btrfs-file-system
    9TO5LINUX.COM
    AlmaLinux OS 10.1 Officially Released with Support for the Btrfs File System - 9to5Linux
    AlmaLinux OS 10.1 distribution is now available for download as a free alternative to Red Hat Enterprise Linux 10.1 with Btrfs support.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • Raspberry Pi OS รุ่นล่าสุดรองรับ HiDPI Scaling

    Raspberry Pi Project ได้ปล่อย Raspberry Pi OS รุ่นใหม่ (2025-11-24) ที่ยังคงใช้ฐานจาก Debian 13 “Trixie” และ Kernel Linux 6.12.47 LTS โดยมีการปรับปรุงครั้งสำคัญคือการเพิ่ม HiDPI scaling ในหน้าจอควบคุม (Screens control panel) ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับการแสดงผลให้เหมาะสมกับจอความละเอียดสูงได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งเพิ่ม HiDPI icons ให้กับ panel, file manager และแอปพลิเคชันต่าง ๆ

    ปรับปรุงด้านอินเทอร์เฟซและการใช้งาน
    รุ่นใหม่นี้มาพร้อม Labwc 0.9.4 เป็น Wayland compositor เริ่มต้น และปรับปรุงหน้าตา Openbox ให้สอดคล้องกับ Labwc รวมถึงเพิ่ม Alacarte menu editor สำหรับการจัดการเมนูได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มไอคอนใน task switcher, รองรับการปรับธีมสำหรับ Qt 6 apps และปรับปรุงการเลือกฟอนต์สำหรับ Qt 5 apps เพื่อให้การใช้งานบนจอ HiDPI มีความสวยงามและอ่านง่ายขึ้น

    การปรับปรุงระบบและซอฟต์แวร์หลัก
    การอัปเดตครั้งนี้ยังมีการแก้ไขการทำงานของ volume slider และ calendar pop-ups ให้สามารถปิดได้ด้วยการคลิกที่ไอคอน, ปรับปรุงการแสดงผล external drives, ลบการรองรับ PulseAudio และอัปเดตการแปลภาษาโปรตุเกส นอกจากนี้ยังมาพร้อม Mozilla Firefox 145 และ Chromium 142.0.7444.162 รุ่นล่าสุด รวมถึงการปรับปรุงการจัดการ plugin dialogs และการซ่อน Control Centre จาก taskbar เพื่อให้ระบบทำงานได้เรียบง่ายขึ้น

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน Raspberry Pi OS 2025-11-24
    รองรับ HiDPI scaling ใน Screens control panel
    เพิ่ม HiDPI icons ให้กับ panel และ file manager
    Labwc 0.9.4 เป็น Wayland compositor เริ่มต้น

    การปรับปรุงอินเทอร์เฟซ
    ปรับปรุง Openbox ให้เข้ากับ Labwc
    เพิ่ม Alacarte menu editor
    รองรับธีม Qt 6 และปรับปรุงฟอนต์ Qt 5

    การปรับปรุงระบบและซอฟต์แวร์หลัก
    Firefox 145 และ Chromium 142 รุ่นล่าสุด
    ปรับปรุงการจัดการ volume slider และ calendar pop-ups
    ลบ PulseAudio และปรับปรุง external drive icons

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ผู้ใช้ที่ยังใช้ PulseAudio อาจต้องปรับตัวไปใช้ PipeWire
    หากไม่อัปเดต อาจพลาดการปรับปรุงด้าน HiDPI และความปลอดภัย
    การเปลี่ยนแปลงใน Labwc อาจทำให้บางแอปพลิเคชันเก่ามีปัญหาในการแสดงผล

    https://9to5linux.com/new-raspberry-pi-os-release-adds-support-for-setting-hidpi-scaling-updates-labwc
    🖥️ Raspberry Pi OS รุ่นล่าสุดรองรับ HiDPI Scaling Raspberry Pi Project ได้ปล่อย Raspberry Pi OS รุ่นใหม่ (2025-11-24) ที่ยังคงใช้ฐานจาก Debian 13 “Trixie” และ Kernel Linux 6.12.47 LTS โดยมีการปรับปรุงครั้งสำคัญคือการเพิ่ม HiDPI scaling ในหน้าจอควบคุม (Screens control panel) ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับการแสดงผลให้เหมาะสมกับจอความละเอียดสูงได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งเพิ่ม HiDPI icons ให้กับ panel, file manager และแอปพลิเคชันต่าง ๆ 🎨 ปรับปรุงด้านอินเทอร์เฟซและการใช้งาน รุ่นใหม่นี้มาพร้อม Labwc 0.9.4 เป็น Wayland compositor เริ่มต้น และปรับปรุงหน้าตา Openbox ให้สอดคล้องกับ Labwc รวมถึงเพิ่ม Alacarte menu editor สำหรับการจัดการเมนูได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มไอคอนใน task switcher, รองรับการปรับธีมสำหรับ Qt 6 apps และปรับปรุงการเลือกฟอนต์สำหรับ Qt 5 apps เพื่อให้การใช้งานบนจอ HiDPI มีความสวยงามและอ่านง่ายขึ้น ⚙️ การปรับปรุงระบบและซอฟต์แวร์หลัก การอัปเดตครั้งนี้ยังมีการแก้ไขการทำงานของ volume slider และ calendar pop-ups ให้สามารถปิดได้ด้วยการคลิกที่ไอคอน, ปรับปรุงการแสดงผล external drives, ลบการรองรับ PulseAudio และอัปเดตการแปลภาษาโปรตุเกส นอกจากนี้ยังมาพร้อม Mozilla Firefox 145 และ Chromium 142.0.7444.162 รุ่นล่าสุด รวมถึงการปรับปรุงการจัดการ plugin dialogs และการซ่อน Control Centre จาก taskbar เพื่อให้ระบบทำงานได้เรียบง่ายขึ้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Raspberry Pi OS 2025-11-24 ➡️ รองรับ HiDPI scaling ใน Screens control panel ➡️ เพิ่ม HiDPI icons ให้กับ panel และ file manager ➡️ Labwc 0.9.4 เป็น Wayland compositor เริ่มต้น ✅ การปรับปรุงอินเทอร์เฟซ ➡️ ปรับปรุง Openbox ให้เข้ากับ Labwc ➡️ เพิ่ม Alacarte menu editor ➡️ รองรับธีม Qt 6 และปรับปรุงฟอนต์ Qt 5 ✅ การปรับปรุงระบบและซอฟต์แวร์หลัก ➡️ Firefox 145 และ Chromium 142 รุ่นล่าสุด ➡️ ปรับปรุงการจัดการ volume slider และ calendar pop-ups ➡️ ลบ PulseAudio และปรับปรุง external drive icons ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ผู้ใช้ที่ยังใช้ PulseAudio อาจต้องปรับตัวไปใช้ PipeWire ⛔ หากไม่อัปเดต อาจพลาดการปรับปรุงด้าน HiDPI และความปลอดภัย ⛔ การเปลี่ยนแปลงใน Labwc อาจทำให้บางแอปพลิเคชันเก่ามีปัญหาในการแสดงผล https://9to5linux.com/new-raspberry-pi-os-release-adds-support-for-setting-hidpi-scaling-updates-labwc
    9TO5LINUX.COM
    New Raspberry Pi OS Release Supports Setting HiDPI Scaling, Updates Labwc - 9to5Linux
    Raspberry Pi OS 2025-11-24 is now available for download with support for setting HiDPI scaling, updated Labwc Wayland compositor, and more.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • Raspberry Pi Imager 2.0 เปิดตัวพร้อม UI ใหม่และระบบตรวจจับอุปกรณ์

    Raspberry Pi Project ได้ปล่อย Raspberry Pi Imager 2.0 ซึ่งถือเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ของเครื่องมือสร้างสื่อบูตสำหรับ Raspberry Pi โดยมาพร้อม UI แบบใหม่ในรูปแบบ Wizard ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งระบบปฏิบัติการได้ง่ายขึ้น และเพิ่มฟีเจอร์ device detection ที่สามารถตรวจสอบรุ่นของ Raspberry Pi ที่เชื่อมต่ออยู่ได้โดยอัตโนมัติ

    ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่น
    Wizard Interface: ผู้ใช้จะถูกนำทางผ่านขั้นตอนการเลือก OS และการตั้งค่าต่าง ๆ อย่างเป็นลำดับ ทำให้การปรับแต่งง่ายขึ้น
    Device Detection: Imager สามารถตรวจสอบรุ่นของ Raspberry Pi ที่เชื่อมต่อ และแนะนำการตั้งค่าที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ
    Cloud-Init & Raspberry Pi Connect: รองรับการตั้งค่า cloud-init และการเชื่อมต่อกับ Raspberry Pi Connect ได้ทันที
    Accessibility Improvements: เพิ่มการรองรับการใช้งานโดยไม่ต้องใช้เมาส์ และปรับปรุงการนำทางด้วยคีย์บอร์ด
    Diskpart Utility (Windows): เพิ่มการรองรับ Diskpart สำหรับการล้างดิสก์บน Windows
    การจัดการ Drive และ Error Handling ที่ดีขึ้น

    การปรับปรุงด้านเทคนิค
    นอกจาก UI ใหม่แล้ว Imager 2.0 ยังมีการ refactor dependencies และ drive formatting เพื่อเพิ่มความเสถียร รวมถึงการปรับปรุง SSH configuration handling, timezone management, และ automatic OS list refresh ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกและติดตั้งระบบปฏิบัติการได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น

    นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงด้านการแสดงผล เช่น สีใหม่, ปุ่ม Reset ใน Options, native file dialog และการแก้ไขบั๊กจำนวนมากที่ผู้ใช้รายงานจากเวอร์ชันก่อนหน้า

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน Raspberry Pi Imager 2.0
    UI แบบ Wizard ใช้งานง่าย
    ระบบตรวจจับอุปกรณ์อัตโนมัติ
    รองรับ cloud-init และ Raspberry Pi Connect

    การปรับปรุงด้านเทคนิค
    Refactor dependencies และ drive formatting
    ปรับปรุง SSH configuration และ timezone management
    เพิ่ม Diskpart utility สำหรับ Windows

    การใช้งานที่สะดวกขึ้น
    Accessibility improvements รองรับการใช้งานด้วยคีย์บอร์ด
    ปรับปรุงการจัดการ drive และ error handling
    ปรับปรุง UI เช่น สีใหม่และ native file dialog

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    AppImage bundle ต้องรันด้วยสิทธิ์ root
    หากไม่อัปเดต อาจพลาดการแก้ไขบั๊กและการปรับปรุงความปลอดภัย
    ผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ UI เดิมอาจต้องปรับตัวกับ wizard interface ใหม่

    https://9to5linux.com/raspberry-pi-imager-2-0-released-with-revamped-ui-and-device-detection
    🖥️ Raspberry Pi Imager 2.0 เปิดตัวพร้อม UI ใหม่และระบบตรวจจับอุปกรณ์ Raspberry Pi Project ได้ปล่อย Raspberry Pi Imager 2.0 ซึ่งถือเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ของเครื่องมือสร้างสื่อบูตสำหรับ Raspberry Pi โดยมาพร้อม UI แบบใหม่ในรูปแบบ Wizard ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งระบบปฏิบัติการได้ง่ายขึ้น และเพิ่มฟีเจอร์ device detection ที่สามารถตรวจสอบรุ่นของ Raspberry Pi ที่เชื่อมต่ออยู่ได้โดยอัตโนมัติ 🎨 ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่น 💠 Wizard Interface: ผู้ใช้จะถูกนำทางผ่านขั้นตอนการเลือก OS และการตั้งค่าต่าง ๆ อย่างเป็นลำดับ ทำให้การปรับแต่งง่ายขึ้น 💠 Device Detection: Imager สามารถตรวจสอบรุ่นของ Raspberry Pi ที่เชื่อมต่อ และแนะนำการตั้งค่าที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ 💠 Cloud-Init & Raspberry Pi Connect: รองรับการตั้งค่า cloud-init และการเชื่อมต่อกับ Raspberry Pi Connect ได้ทันที 💠 Accessibility Improvements: เพิ่มการรองรับการใช้งานโดยไม่ต้องใช้เมาส์ และปรับปรุงการนำทางด้วยคีย์บอร์ด 💠 Diskpart Utility (Windows): เพิ่มการรองรับ Diskpart สำหรับการล้างดิสก์บน Windows 💠 การจัดการ Drive และ Error Handling ที่ดีขึ้น ⚙️ การปรับปรุงด้านเทคนิค นอกจาก UI ใหม่แล้ว Imager 2.0 ยังมีการ refactor dependencies และ drive formatting เพื่อเพิ่มความเสถียร รวมถึงการปรับปรุง SSH configuration handling, timezone management, และ automatic OS list refresh ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกและติดตั้งระบบปฏิบัติการได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงด้านการแสดงผล เช่น สีใหม่, ปุ่ม Reset ใน Options, native file dialog และการแก้ไขบั๊กจำนวนมากที่ผู้ใช้รายงานจากเวอร์ชันก่อนหน้า 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Raspberry Pi Imager 2.0 ➡️ UI แบบ Wizard ใช้งานง่าย ➡️ ระบบตรวจจับอุปกรณ์อัตโนมัติ ➡️ รองรับ cloud-init และ Raspberry Pi Connect ✅ การปรับปรุงด้านเทคนิค ➡️ Refactor dependencies และ drive formatting ➡️ ปรับปรุง SSH configuration และ timezone management ➡️ เพิ่ม Diskpart utility สำหรับ Windows ✅ การใช้งานที่สะดวกขึ้น ➡️ Accessibility improvements รองรับการใช้งานด้วยคีย์บอร์ด ➡️ ปรับปรุงการจัดการ drive และ error handling ➡️ ปรับปรุง UI เช่น สีใหม่และ native file dialog ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ AppImage bundle ต้องรันด้วยสิทธิ์ root ⛔ หากไม่อัปเดต อาจพลาดการแก้ไขบั๊กและการปรับปรุงความปลอดภัย ⛔ ผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ UI เดิมอาจต้องปรับตัวกับ wizard interface ใหม่ https://9to5linux.com/raspberry-pi-imager-2-0-released-with-revamped-ui-and-device-detection
    9TO5LINUX.COM
    Raspberry Pi Imager 2.0 Released with Revamped UI and Device Detection - 9to5Linux
    Raspberry Pi Imager 2.0 is now available for download with a new wizard UI, device detection, accessibility improvements, and more.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • Zorin OS 18 เปิดทางอัปเกรดจากเวอร์ชัน 17

    Zorin OS 18 เปิดตัวในช่วงที่ Windows 10 กำลังเข้าสู่การสิ้นสุดการสนับสนุน ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากหันมาลองใช้งาน Linux ทางเลือกนี้ โดยมีการปรับปรุงหลายด้าน เช่น Linux Kernel 6.14, อินเทอร์เฟซที่มีมุมโค้งมน และ window tiling manager ใหม่ที่ช่วยให้การจัดการหน้าต่างสะดวกขึ้น นอกจากนี้ Zorin OS 18 ยังสร้างกระแสความนิยมจนมียอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งภายในเดือนแรก

    ขั้นตอนการอัปเกรดจาก Zorin OS 17
    ผู้ใช้ Zorin OS 17 (Core, Education, Pro) สามารถอัปเกรดได้ผ่านเครื่องมือใหม่ แต่เนื่องจากยังอยู่ใน ช่วงทดสอบ (Early Access) จึงไม่แนะนำให้ใช้บนเครื่องหลักหรือระบบ production การอัปเกรดต้องเริ่มจากการอัปเดตไปยัง Zorin OS 17.3 ก่อน จากนั้นใช้เครื่องมือ Software Updater และรันคำสั่งใน Terminal เพื่อเปิดใช้งานตัวเลือกการอัปเกรดทดสอบ เมื่อเลือกเวอร์ชันที่ตรงกับระบบเดิมแล้ว ผู้ใช้จะต้องยืนยันรหัสผ่านและอ่านข้อกำหนดก่อนเริ่มกระบวนการอัปเกรด

    การสำรองข้อมูลก่อนอัปเกรด
    แม้เครื่องมืออัปเกรดของ Zorin OS จะมีความน่าเชื่อถือ แต่ผู้พัฒนาก็แนะนำให้ผู้ใช้ทำการ สำรองข้อมูลด้วย Déjà Dup หรือใช้ Timeshift เพื่อความปลอดภัย โดยสามารถเลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการสำรองและเก็บไว้ใน external storage หรือ cloud เช่น Google Drive นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการเข้ารหัสไฟล์สำรองเพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน Zorin OS 18
    Linux Kernel 6.14
    อินเทอร์เฟซโค้งมนและ window tiling manager
    ยอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งในเดือนแรก

    การอัปเกรดจาก Zorin OS 17
    รองรับ Core, Education, Pro editions
    ต้องอัปเดตเป็น Zorin OS 17.3 ก่อน
    ใช้ Software Updater และ Upgrade Tool

    การสำรองข้อมูลก่อนอัปเกรด
    ใช้ Déjà Dup หรือ Timeshift
    เก็บไฟล์ใน external storage หรือ cloud
    มีตัวเลือกเข้ารหัสไฟล์สำรอง

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    เครื่องมืออัปเกรดยังอยู่ในช่วง Early Access
    ไม่ควรใช้บนเครื่องหลักหรือระบบ production
    กระบวนการอัปเกรดขึ้นอยู่กับความเร็วอินเทอร์เน็ตและฮาร์ดแวร์

    https://itsfoss.com/zorin-os-18-upgrade/
    🖥️ Zorin OS 18 เปิดทางอัปเกรดจากเวอร์ชัน 17 Zorin OS 18 เปิดตัวในช่วงที่ Windows 10 กำลังเข้าสู่การสิ้นสุดการสนับสนุน ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากหันมาลองใช้งาน Linux ทางเลือกนี้ โดยมีการปรับปรุงหลายด้าน เช่น Linux Kernel 6.14, อินเทอร์เฟซที่มีมุมโค้งมน และ window tiling manager ใหม่ที่ช่วยให้การจัดการหน้าต่างสะดวกขึ้น นอกจากนี้ Zorin OS 18 ยังสร้างกระแสความนิยมจนมียอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งภายในเดือนแรก 🔄 ขั้นตอนการอัปเกรดจาก Zorin OS 17 ผู้ใช้ Zorin OS 17 (Core, Education, Pro) สามารถอัปเกรดได้ผ่านเครื่องมือใหม่ แต่เนื่องจากยังอยู่ใน ช่วงทดสอบ (Early Access) จึงไม่แนะนำให้ใช้บนเครื่องหลักหรือระบบ production การอัปเกรดต้องเริ่มจากการอัปเดตไปยัง Zorin OS 17.3 ก่อน จากนั้นใช้เครื่องมือ Software Updater และรันคำสั่งใน Terminal เพื่อเปิดใช้งานตัวเลือกการอัปเกรดทดสอบ เมื่อเลือกเวอร์ชันที่ตรงกับระบบเดิมแล้ว ผู้ใช้จะต้องยืนยันรหัสผ่านและอ่านข้อกำหนดก่อนเริ่มกระบวนการอัปเกรด 💾 การสำรองข้อมูลก่อนอัปเกรด แม้เครื่องมืออัปเกรดของ Zorin OS จะมีความน่าเชื่อถือ แต่ผู้พัฒนาก็แนะนำให้ผู้ใช้ทำการ สำรองข้อมูลด้วย Déjà Dup หรือใช้ Timeshift เพื่อความปลอดภัย โดยสามารถเลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการสำรองและเก็บไว้ใน external storage หรือ cloud เช่น Google Drive นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการเข้ารหัสไฟล์สำรองเพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Zorin OS 18 ➡️ Linux Kernel 6.14 ➡️ อินเทอร์เฟซโค้งมนและ window tiling manager ➡️ ยอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งในเดือนแรก ✅ การอัปเกรดจาก Zorin OS 17 ➡️ รองรับ Core, Education, Pro editions ➡️ ต้องอัปเดตเป็น Zorin OS 17.3 ก่อน ➡️ ใช้ Software Updater และ Upgrade Tool ✅ การสำรองข้อมูลก่อนอัปเกรด ➡️ ใช้ Déjà Dup หรือ Timeshift ➡️ เก็บไฟล์ใน external storage หรือ cloud ➡️ มีตัวเลือกเข้ารหัสไฟล์สำรอง ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ เครื่องมืออัปเกรดยังอยู่ในช่วง Early Access ⛔ ไม่ควรใช้บนเครื่องหลักหรือระบบ production ⛔ กระบวนการอัปเกรดขึ้นอยู่กับความเร็วอินเทอร์เน็ตและฮาร์ดแวร์ https://itsfoss.com/zorin-os-18-upgrade/
    ITSFOSS.COM
    Upgrading from Zorin OS 17 to 18 (In Early Access)
    Existing Zorin OS 17 users will soon be able to upgrade to version 18. The tool is in early access and we gave it a try.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ปิดฉาก WINS หลัง Windows Server 2025

    WINS หรือ Windows Internet Name Service เปิดตัวครั้งแรกในปี 1994 เพื่อแก้ปัญหาการแปลงชื่อ NetBIOS เป็น IP Address ในยุคที่ DNS ยังไม่แพร่หลาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป DNS กลายเป็นมาตรฐานสากลที่มีความปลอดภัยและรองรับการขยายตัวได้ดีกว่า ทำให้ WINS ค่อย ๆ ถูกลดบทบาทลง และในที่สุด Microsoft ประกาศว่า Windows Server 2025 จะเป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังคงมี WINS ให้ใช้งาน

    องค์กรที่ยังพึ่งพา WINS จะยังได้รับการสนับสนุนต่อไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2034 ภายใต้ Fixed Lifecycle Policy แต่หลังจากนั้น Microsoft จะหยุดการอัปเดตด้านความปลอดภัยและบั๊กทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าการใช้งาน WINS ต่อไปจะเสี่ยงต่อการโจมตีและไม่สอดคล้องกับมาตรฐานเครือข่ายสมัยใหม่

    ทำไมต้องเปลี่ยนไปใช้ DNS
    DNS ไม่เพียงแต่เป็นมาตรฐานที่ใช้ทั่วโลก แต่ยังมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เหนือกว่า เช่น DNSSEC ที่ช่วยป้องกันการโจมตีแบบ spoofing และ cache poisoning ซึ่ง WINS ไม่สามารถทำได้ อีกทั้ง DNS ยังรองรับ IPv6 และการทำงานร่วมกับบริการคลาวด์และ Active Directory ได้อย่างราบรื่น ต่างจาก WINS ที่ยังคงยึดติดกับ IPv4 และโครงสร้างแบบ centralized replication ที่ไม่เหมาะกับเครือข่ายขนาดใหญ่

    การเปลี่ยนผ่านไปใช้ DNS จึงไม่ใช่แค่การอัปเกรด แต่เป็นการลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและลดภาระการดูแลระบบที่ซับซ้อนจากการคงไว้ซึ่งเทคโนโลยีเก่า

    ผลกระทบต่อองค์กรและแนวทางการปรับตัว
    องค์กรที่ยังมีระบบหรือแอปพลิเคชันเก่าที่พึ่งพา WINS จำเป็นต้องเร่งตรวจสอบและวางแผนการย้ายไปใช้ DNS โดยเฉพาะในกรณีที่ยังมีการใช้ NetBIOS หรือระบบที่ต้องการ short-name resolution หากไม่ปรับตัวทันเวลา อาจเกิดปัญหาการเชื่อมต่อ การค้นหาทรัพยากรในเครือข่าย และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่รุนแรงขึ้น

    Microsoft แนะนำให้ใช้วิธีการอย่าง conditional forwarders, split-brain DNS และ DNS suffix search lists เพื่อทดแทนการทำงานของ WINS รวมถึงการปรับปรุงหรือเลิกใช้งานแอปพลิเคชันที่ยังคงพึ่งพาเทคโนโลยีนี้

    สรุปสาระสำคัญ
    การประกาศยุติ WINS
    Windows Server 2025 เป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังมี WINS
    การสนับสนุนจะสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายน 2034

    ข้อดีของ DNS เทียบกับ WINS
    รองรับ IPv6 และการทำงานกับ Active Directory
    มีระบบความปลอดภัย DNSSEC ป้องกันการโจมตี
    โครงสร้างแบบ distributed และ scalable

    แนวทางการปรับตัวขององค์กร
    ตรวจสอบระบบที่ยังพึ่งพา WINS
    ใช้ conditional forwarders และ DNS suffix lists
    ปรับปรุงหรือเลิกใช้แอปพลิเคชันเก่า

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    หลังปี 2034 จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัย
    ระบบที่ยังใช้ WINS อาจถูกโจมตีด้วย NetBIOS spoofing
    การพึ่งพา WINS ทำให้ไม่สอดคล้องกับ Zero Trust และ Cloud-native architectures

    https://securityonline.info/wins-is-dead-microsoft-to-fully-retire-wins-name-resolution-from-windows-server-post-2025/
    🖥️ Microsoft ปิดฉาก WINS หลัง Windows Server 2025 WINS หรือ Windows Internet Name Service เปิดตัวครั้งแรกในปี 1994 เพื่อแก้ปัญหาการแปลงชื่อ NetBIOS เป็น IP Address ในยุคที่ DNS ยังไม่แพร่หลาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป DNS กลายเป็นมาตรฐานสากลที่มีความปลอดภัยและรองรับการขยายตัวได้ดีกว่า ทำให้ WINS ค่อย ๆ ถูกลดบทบาทลง และในที่สุด Microsoft ประกาศว่า Windows Server 2025 จะเป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังคงมี WINS ให้ใช้งาน องค์กรที่ยังพึ่งพา WINS จะยังได้รับการสนับสนุนต่อไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2034 ภายใต้ Fixed Lifecycle Policy แต่หลังจากนั้น Microsoft จะหยุดการอัปเดตด้านความปลอดภัยและบั๊กทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าการใช้งาน WINS ต่อไปจะเสี่ยงต่อการโจมตีและไม่สอดคล้องกับมาตรฐานเครือข่ายสมัยใหม่ 🔐 ทำไมต้องเปลี่ยนไปใช้ DNS DNS ไม่เพียงแต่เป็นมาตรฐานที่ใช้ทั่วโลก แต่ยังมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เหนือกว่า เช่น DNSSEC ที่ช่วยป้องกันการโจมตีแบบ spoofing และ cache poisoning ซึ่ง WINS ไม่สามารถทำได้ อีกทั้ง DNS ยังรองรับ IPv6 และการทำงานร่วมกับบริการคลาวด์และ Active Directory ได้อย่างราบรื่น ต่างจาก WINS ที่ยังคงยึดติดกับ IPv4 และโครงสร้างแบบ centralized replication ที่ไม่เหมาะกับเครือข่ายขนาดใหญ่ การเปลี่ยนผ่านไปใช้ DNS จึงไม่ใช่แค่การอัปเกรด แต่เป็นการลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและลดภาระการดูแลระบบที่ซับซ้อนจากการคงไว้ซึ่งเทคโนโลยีเก่า ⚠️ ผลกระทบต่อองค์กรและแนวทางการปรับตัว องค์กรที่ยังมีระบบหรือแอปพลิเคชันเก่าที่พึ่งพา WINS จำเป็นต้องเร่งตรวจสอบและวางแผนการย้ายไปใช้ DNS โดยเฉพาะในกรณีที่ยังมีการใช้ NetBIOS หรือระบบที่ต้องการ short-name resolution หากไม่ปรับตัวทันเวลา อาจเกิดปัญหาการเชื่อมต่อ การค้นหาทรัพยากรในเครือข่าย และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่รุนแรงขึ้น Microsoft แนะนำให้ใช้วิธีการอย่าง conditional forwarders, split-brain DNS และ DNS suffix search lists เพื่อทดแทนการทำงานของ WINS รวมถึงการปรับปรุงหรือเลิกใช้งานแอปพลิเคชันที่ยังคงพึ่งพาเทคโนโลยีนี้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การประกาศยุติ WINS ➡️ Windows Server 2025 เป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังมี WINS ➡️ การสนับสนุนจะสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายน 2034 ✅ ข้อดีของ DNS เทียบกับ WINS ➡️ รองรับ IPv6 และการทำงานกับ Active Directory ➡️ มีระบบความปลอดภัย DNSSEC ป้องกันการโจมตี ➡️ โครงสร้างแบบ distributed และ scalable ✅ แนวทางการปรับตัวขององค์กร ➡️ ตรวจสอบระบบที่ยังพึ่งพา WINS ➡️ ใช้ conditional forwarders และ DNS suffix lists ➡️ ปรับปรุงหรือเลิกใช้แอปพลิเคชันเก่า ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ หลังปี 2034 จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัย ⛔ ระบบที่ยังใช้ WINS อาจถูกโจมตีด้วย NetBIOS spoofing ⛔ การพึ่งพา WINS ทำให้ไม่สอดคล้องกับ Zero Trust และ Cloud-native architectures https://securityonline.info/wins-is-dead-microsoft-to-fully-retire-wins-name-resolution-from-windows-server-post-2025/
    SECURITYONLINE.INFO
    WINS is Dead: Microsoft to Fully Retire WINS Name Resolution from Windows Server Post-2025
    Microsoft will fully retire the WINS name-resolution service after Windows Server 2025. Support for existing deployments ends in 2034, urging migration to DNS now.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการ ขึ้นกล่าวบนเวที " ความจริงมีหนึ่งเดียว" ครั้งที่ 5 ปี 2568 หัวข้อ "ไทยแลนด์แดนสแกมเมอร์" ฉายภาพเมืองไทยเป็นดินแดนแห่งสแกมเมอร์ ยกความหมายคำ"สแกมเมอร์" หมายถึง การโกหกหลอกลวงเพื่อเอาผลประโยชน์เข้าหาตัวเอง สแกมเมอร์อยู่ในทุกองคาพยพของสังคมไทย
    ยกความจริงให้เห็นชัดเจน ทั้งพระสงฆ์หลอกเอาเงินประชาชน พรรคการเมืองต่างๆ ที่ล้วนไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้ตอนหาเสียง อาทิ พรรคเพื่อไทย ที่บอกว่าจะปรับเงินเดือน 20,000 บาท พรรคภูมิใจไทย ที่ออกโครงการคนละครึ่ง พลัส บอกว่ารัฐบาลออกเงินให้ครึ่งหนึ่ง แต่ที่จริงเป็นเงินที่มาจากภาษีของประชาชน ไปจนถึงหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น กรมที่ดิน และตำรวจ เปิดความจริงกัมพูชาประเทศศูนย์รวมสแกมเมอร์ระดับโลก
    นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการ ขึ้นกล่าวบนเวที " ความจริงมีหนึ่งเดียว" ครั้งที่ 5 ปี 2568 หัวข้อ "ไทยแลนด์แดนสแกมเมอร์" ฉายภาพเมืองไทยเป็นดินแดนแห่งสแกมเมอร์ ยกความหมายคำ"สแกมเมอร์" หมายถึง การโกหกหลอกลวงเพื่อเอาผลประโยชน์เข้าหาตัวเอง สแกมเมอร์อยู่ในทุกองคาพยพของสังคมไทย ยกความจริงให้เห็นชัดเจน ทั้งพระสงฆ์หลอกเอาเงินประชาชน พรรคการเมืองต่างๆ ที่ล้วนไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้ตอนหาเสียง อาทิ พรรคเพื่อไทย ที่บอกว่าจะปรับเงินเดือน 20,000 บาท พรรคภูมิใจไทย ที่ออกโครงการคนละครึ่ง พลัส บอกว่ารัฐบาลออกเงินให้ครึ่งหนึ่ง แต่ที่จริงเป็นเงินที่มาจากภาษีของประชาชน ไปจนถึงหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น กรมที่ดิน และตำรวจ เปิดความจริงกัมพูชาประเทศศูนย์รวมสแกมเมอร์ระดับโลก
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline
    #รวมข่าวIT #20251124 #securityonline

    PyPI ปลอมแพ็กเกจ Python แฝง RAT หลายชั้น
    นักวิจัยจาก HelixGuard พบแพ็กเกจอันตรายบน PyPI ที่ชื่อว่า spellcheckers ซึ่งพยายามเลียนแบบไลบรารีจริง “pyspellchecker” ที่มีคนใช้มากกว่า 18 ล้านครั้ง แต่ตัวปลอมนี้แอบซ่อน Remote Access Trojan (RAT) หลายชั้นไว้ภายใน นี่เป็นการโจมตี supply chain ที่อันตราย เพราะนักพัฒนาที่ติดตั้งแพ็กเกจนี้อาจถูกเจาะระบบโดยไม่รู้ตัว และมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เคยใช้วิธีหลอกเป็น “Recruiter” เพื่อขโมยคริปโตมาก่อน
    url: https://securityonline.info/pypi-typosquat-delivers-multi-layer-python-rat-bypassing-scanners-with-xor-encryption

    Tsundere Botnet: Node.js + Blockchain C2
    นักวิจัยจาก Kaspersky พบ บอทเน็ตใหม่ชื่อ Tsundere ที่เติบโตเร็วมากและมีลูกเล่นแปลกใหม่ ใช้ Node.js implants และดึงที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) จาก Ethereum smart contract ทำให้แทบจะ “ฆ่าไม่ตาย” เพราะข้อมูลบนบล็อกเชนลบไม่ได้ กระจายตัวผ่าน เกมเถื่อน และการใช้ Remote Monitoring & Management (RMM) และที่น่ากลัวคือมันสามารถรันโค้ด JavaScript จากระยะไกล ทำให้แฮกเกอร์สั่งขโมยข้อมูล, ติดตั้งมัลแวร์เพิ่ม, หรือใช้เครื่องเหยื่อเป็น proxy ได้
    url: https://securityonline.info/tsundere-botnet-uncovered-node-js-malware-uses-ethereum-smart-contract-for-unkillable-c2-and-runs-cybercrime-marketplace

    ความโปร่งใสบนโลกโซเชียล แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เพิ่มเครื่องมือใหม่ชื่อว่า “About This Account” เพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบัญชีต่าง ๆ โดยจะแสดงข้อมูลเบื้องหลัง เช่น ประเทศที่สร้างบัญชี, วิธีการเข้าถึง (ผ่านเว็บหรือแอป), และจำนวนครั้งที่เปลี่ยนชื่อบัญชี ฟีเจอร์นี้ยังมีระบบตรวจจับ VPN เพื่อแจ้งเตือนว่าข้อมูลประเทศอาจไม่ถูกต้อง จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นว่าเนื้อหาที่เห็นมาจากใครจริง ๆ
    https://securityonline.info/x-launches-about-this-account-tool-to-boost-transparency-and-fight-fakes

    Apple ยังอยู่ภายใต้การนำของ Cook มีรายงานจาก Financial Times ว่า Tim Cook อาจก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Apple ในปี 2026 แต่ Mark Gurman จาก Bloomberg ออกมายืนยันว่าไม่จริง และไม่มีสัญญาณใด ๆ จากภายในบริษัท Cook ซึ่งเข้ามาเป็น CEO ตั้งแต่ปี 2011 ได้พา Apple เติบโตจากมูลค่า 350 พันล้านดอลลาร์ ไปสู่กว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ เขายังมีสิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง โดยผู้สืบทอดที่ถูกจับตามองคือ John Ternus หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์
    https://securityonline.info/tim-cook-stepping-down-next-year-rumors-firmly-dismissed-by-mark-gurman

    การต่อสู้ด้านกฎหมายครั้งใหญ่ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) และ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของคดีผูกขาดธุรกิจโฆษณาออนไลน์ ผู้พิพากษา Leonie Brinkema แสดงท่าทีว่าจะตัดสินเร็ว โดย DOJ กล่าวหาว่า Google ครองตลาดอย่างไม่เป็นธรรม ขณะที่ Google โต้ว่า การบังคับให้ขายธุรกิจโฆษณาออกไปเป็นการแก้ไขที่รุนแรงเกินไป นอกจากนี้ Google ยังถูกปรับกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ในยุโรปจากคดีคล้ายกัน ทำให้บริษัทเผชิญแรงกดดันจากหลายประเทศพร้อมกัน
    https://securityonline.info/doj-vs-google-ad-tech-antitrust-battle-enters-final-stage-with-quick-ruling-expected

    ปีแห่งการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ หลังจาก iOS 26 เปิดตัวดีไซน์ “Liquid Glass” ที่หวือหวา Apple ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทาง โดย iOS 27 และ macOS 27 ที่จะออกในปี 2026 จะเน้นการแก้บั๊ก ปรับปรุงประสิทธิภาพ และทำให้ระบบเสถียรมากขึ้น คล้ายกับการอัปเดต Snow Leopard ในอดีต อย่างไรก็ตาม Apple ยังเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ด้าน AI เช่น Health Agent และระบบค้นหาใหม่ รวมถึงปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ Liquid Glass ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
    https://securityonline.info/ios-27-macos-27-apple-shifts-to-stability-and-performance-over-new-features

    มัลแวร์ปลอมตัวเป็นแอปจริง หน่วยวิจัยของ Acronis พบการโจมตีครั้งใหญ่ชื่อว่า “TamperedChef” ที่ใช้โฆษณาและ SEO หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปปลอม เช่น โปรแกรมอ่านคู่มือหรือเกมง่าย ๆ แอปเหล่านี้ถูกเซ็นด้วยใบรับรองจริงที่ซื้อผ่านบริษัทเชลล์ในสหรัฐฯ ทำให้ดูน่าเชื่อถือ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง แอปจะสร้างงานตามเวลาและฝัง backdoor ที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนเพื่อควบคุมเครื่องระยะยาว เหยื่อส่วนใหญ่พบในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสุขภาพ ก่อสร้าง และการผลิต
    https://securityonline.info/tamperedchef-malvertising-uses-us-shell-companies-to-sign-trojanized-apps-with-valid-certificates-deploying-stealth-backdoor

    AI Framework เจอช่องโหว่ร้ายแรง มีการค้นพบช่องโหว่ใน vLLM ซึ่งเป็น framework สำหรับการทำงานของโมเดลภาษา ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่ง prompt embeddings ที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อรันโค้ดอันตรายบนระบบ (Remote Code Execution) โดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ ทำให้เสี่ยงต่อการถูกควบคุมระบบจากภายนอก นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้งานควรอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/vllm-flaw-cve-2025-62164-risks-remote-code-execution-via-malicious-prompt-embeddings

    การโจมตีไซเบอร์ข้ามพรมแดน กลุ่มแฮกเกอร์ APT24 จากจีนถูกเปิดโปงว่าใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ “BADAUDIO” แฝงตัวผ่านซัพพลายเชนของไต้หวัน ส่งผลกระทบต่อกว่า 1,000 โดเมน มัลแวร์นี้มีความสามารถในการซ่อนตัวและควบคุมระบบจากระยะไกล ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อธุรกิจที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของไต้หวันอย่างมาก
    https://securityonline.info/chinas-apt24-launches-stealth-badaudio-malware-hitting-1000-domains-via-taiwanese-supply-chain-hack

    มัลแวร์แพร่กระจายผ่านแชท มีการค้นพบ worm ที่แพร่กระจายบน WhatsApp โดยใช้ข้อความหลอกว่าเป็น “View Once” เพื่อให้ผู้ใช้เปิดดู เมื่อเหยื่อคลิก มัลแวร์จะขโมย session และติดตั้ง Astaroth Banking Trojan เพื่อเจาะข้อมูลทางการเงิน จุดเด่นคือ worm นี้สามารถส่งต่อไปยังรายชื่อผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ ทำให้แพร่กระจายได้รวดเร็ว
    https://securityonline.info/sophisticated-whatsapp-worm-uses-fake-view-once-lure-to-hijack-sessions-and-deploy-astaroth-banking-trojan

    ภัยคุกคามต่ออุปกรณ์เครือข่ายบ้านและองค์กร CERT/CC ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ command injection ในเราเตอร์ Tenda รุ่น 4G03 Pro และ N300 (CVE-2025-13207, CVE-2024-24481) ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผู้ใช้ถูกแนะนำให้ปิดการใช้งาน remote management และติดตามการอัปเดต firmware อย่างใกล้ชิด
    https://securityonline.info/cert-cc-warns-of-unpatched-root-level-command-injection-flaws-in-tenda-4g03-pro-and-n300-routers-cve-2025-13207-cve-2024-24481

    ภัยต่อระบบอุตสาหกรรม ABB แจ้งเตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน Edgenius Management Portal (เวอร์ชัน 3.2.0.0 และ 3.2.1.1) ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่งข้อความพิเศษเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน สามารถติดตั้ง/ถอนการติดตั้งแอป และแก้ไขการตั้งค่าได้เต็มที่ ถือเป็นภัยใหญ่ต่อระบบ OT ในโรงงานและอุตสาหกรรม ABB ได้ออกแพตช์เวอร์ชัน 3.2.2.0 และแนะนำให้ผู้ใช้ที่ยังอัปเดตไม่ได้ปิดการใช้งาน Portal ชั่วคราว
    https://securityonline.info/critical-abb-flaw-cve-2025-10571-cvss-9-6-allows-unauthenticated-rce-and-admin-takeover-on-edgenius



    📌🔒🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔒📌 #รวมข่าวIT #20251124 #securityonline 🐍 PyPI ปลอมแพ็กเกจ Python แฝง RAT หลายชั้น นักวิจัยจาก HelixGuard พบแพ็กเกจอันตรายบน PyPI ที่ชื่อว่า spellcheckers ซึ่งพยายามเลียนแบบไลบรารีจริง “pyspellchecker” ที่มีคนใช้มากกว่า 18 ล้านครั้ง แต่ตัวปลอมนี้แอบซ่อน Remote Access Trojan (RAT) หลายชั้นไว้ภายใน นี่เป็นการโจมตี supply chain ที่อันตราย เพราะนักพัฒนาที่ติดตั้งแพ็กเกจนี้อาจถูกเจาะระบบโดยไม่รู้ตัว และมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เคยใช้วิธีหลอกเป็น “Recruiter” เพื่อขโมยคริปโตมาก่อน 🔗 url: https://securityonline.info/pypi-typosquat-delivers-multi-layer-python-rat-bypassing-scanners-with-xor-encryption 💻 Tsundere Botnet: Node.js + Blockchain C2 นักวิจัยจาก Kaspersky พบ บอทเน็ตใหม่ชื่อ Tsundere ที่เติบโตเร็วมากและมีลูกเล่นแปลกใหม่ ใช้ Node.js implants และดึงที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) จาก Ethereum smart contract ทำให้แทบจะ “ฆ่าไม่ตาย” เพราะข้อมูลบนบล็อกเชนลบไม่ได้ กระจายตัวผ่าน เกมเถื่อน และการใช้ Remote Monitoring & Management (RMM) และที่น่ากลัวคือมันสามารถรันโค้ด JavaScript จากระยะไกล ทำให้แฮกเกอร์สั่งขโมยข้อมูล, ติดตั้งมัลแวร์เพิ่ม, หรือใช้เครื่องเหยื่อเป็น proxy ได้ 🔗 url: https://securityonline.info/tsundere-botnet-uncovered-node-js-malware-uses-ethereum-smart-contract-for-unkillable-c2-and-runs-cybercrime-marketplace 🛡️ ความโปร่งใสบนโลกโซเชียล แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เพิ่มเครื่องมือใหม่ชื่อว่า “About This Account” เพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบัญชีต่าง ๆ โดยจะแสดงข้อมูลเบื้องหลัง เช่น ประเทศที่สร้างบัญชี, วิธีการเข้าถึง (ผ่านเว็บหรือแอป), และจำนวนครั้งที่เปลี่ยนชื่อบัญชี ฟีเจอร์นี้ยังมีระบบตรวจจับ VPN เพื่อแจ้งเตือนว่าข้อมูลประเทศอาจไม่ถูกต้อง จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นว่าเนื้อหาที่เห็นมาจากใครจริง ๆ 🔗 https://securityonline.info/x-launches-about-this-account-tool-to-boost-transparency-and-fight-fakes 🍏 Apple ยังอยู่ภายใต้การนำของ Cook มีรายงานจาก Financial Times ว่า Tim Cook อาจก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Apple ในปี 2026 แต่ Mark Gurman จาก Bloomberg ออกมายืนยันว่าไม่จริง และไม่มีสัญญาณใด ๆ จากภายในบริษัท Cook ซึ่งเข้ามาเป็น CEO ตั้งแต่ปี 2011 ได้พา Apple เติบโตจากมูลค่า 350 พันล้านดอลลาร์ ไปสู่กว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ เขายังมีสิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง โดยผู้สืบทอดที่ถูกจับตามองคือ John Ternus หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ 🔗 https://securityonline.info/tim-cook-stepping-down-next-year-rumors-firmly-dismissed-by-mark-gurman ⚖️ การต่อสู้ด้านกฎหมายครั้งใหญ่ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) และ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของคดีผูกขาดธุรกิจโฆษณาออนไลน์ ผู้พิพากษา Leonie Brinkema แสดงท่าทีว่าจะตัดสินเร็ว โดย DOJ กล่าวหาว่า Google ครองตลาดอย่างไม่เป็นธรรม ขณะที่ Google โต้ว่า การบังคับให้ขายธุรกิจโฆษณาออกไปเป็นการแก้ไขที่รุนแรงเกินไป นอกจากนี้ Google ยังถูกปรับกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ในยุโรปจากคดีคล้ายกัน ทำให้บริษัทเผชิญแรงกดดันจากหลายประเทศพร้อมกัน 🔗 https://securityonline.info/doj-vs-google-ad-tech-antitrust-battle-enters-final-stage-with-quick-ruling-expected 📱💻 ปีแห่งการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ หลังจาก iOS 26 เปิดตัวดีไซน์ “Liquid Glass” ที่หวือหวา Apple ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทาง โดย iOS 27 และ macOS 27 ที่จะออกในปี 2026 จะเน้นการแก้บั๊ก ปรับปรุงประสิทธิภาพ และทำให้ระบบเสถียรมากขึ้น คล้ายกับการอัปเดต Snow Leopard ในอดีต อย่างไรก็ตาม Apple ยังเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ด้าน AI เช่น Health Agent และระบบค้นหาใหม่ รวมถึงปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ Liquid Glass ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น 🔗 https://securityonline.info/ios-27-macos-27-apple-shifts-to-stability-and-performance-over-new-features 🕵️ มัลแวร์ปลอมตัวเป็นแอปจริง หน่วยวิจัยของ Acronis พบการโจมตีครั้งใหญ่ชื่อว่า “TamperedChef” ที่ใช้โฆษณาและ SEO หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปปลอม เช่น โปรแกรมอ่านคู่มือหรือเกมง่าย ๆ แอปเหล่านี้ถูกเซ็นด้วยใบรับรองจริงที่ซื้อผ่านบริษัทเชลล์ในสหรัฐฯ ทำให้ดูน่าเชื่อถือ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง แอปจะสร้างงานตามเวลาและฝัง backdoor ที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนเพื่อควบคุมเครื่องระยะยาว เหยื่อส่วนใหญ่พบในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสุขภาพ ก่อสร้าง และการผลิต 🔗 https://securityonline.info/tamperedchef-malvertising-uses-us-shell-companies-to-sign-trojanized-apps-with-valid-certificates-deploying-stealth-backdoor ⚙️ AI Framework เจอช่องโหว่ร้ายแรง มีการค้นพบช่องโหว่ใน vLLM ซึ่งเป็น framework สำหรับการทำงานของโมเดลภาษา ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่ง prompt embeddings ที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อรันโค้ดอันตรายบนระบบ (Remote Code Execution) โดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ ทำให้เสี่ยงต่อการถูกควบคุมระบบจากภายนอก นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้งานควรอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/vllm-flaw-cve-2025-62164-risks-remote-code-execution-via-malicious-prompt-embeddings 🐉 การโจมตีไซเบอร์ข้ามพรมแดน กลุ่มแฮกเกอร์ APT24 จากจีนถูกเปิดโปงว่าใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ “BADAUDIO” แฝงตัวผ่านซัพพลายเชนของไต้หวัน ส่งผลกระทบต่อกว่า 1,000 โดเมน มัลแวร์นี้มีความสามารถในการซ่อนตัวและควบคุมระบบจากระยะไกล ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อธุรกิจที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของไต้หวันอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/chinas-apt24-launches-stealth-badaudio-malware-hitting-1000-domains-via-taiwanese-supply-chain-hack 📲 มัลแวร์แพร่กระจายผ่านแชท มีการค้นพบ worm ที่แพร่กระจายบน WhatsApp โดยใช้ข้อความหลอกว่าเป็น “View Once” เพื่อให้ผู้ใช้เปิดดู เมื่อเหยื่อคลิก มัลแวร์จะขโมย session และติดตั้ง Astaroth Banking Trojan เพื่อเจาะข้อมูลทางการเงิน จุดเด่นคือ worm นี้สามารถส่งต่อไปยังรายชื่อผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ ทำให้แพร่กระจายได้รวดเร็ว 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-whatsapp-worm-uses-fake-view-once-lure-to-hijack-sessions-and-deploy-astaroth-banking-trojan 📡 ภัยคุกคามต่ออุปกรณ์เครือข่ายบ้านและองค์กร CERT/CC ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ command injection ในเราเตอร์ Tenda รุ่น 4G03 Pro และ N300 (CVE-2025-13207, CVE-2024-24481) ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผู้ใช้ถูกแนะนำให้ปิดการใช้งาน remote management และติดตามการอัปเดต firmware อย่างใกล้ชิด 🔗 https://securityonline.info/cert-cc-warns-of-unpatched-root-level-command-injection-flaws-in-tenda-4g03-pro-and-n300-routers-cve-2025-13207-cve-2024-24481 🏭 ภัยต่อระบบอุตสาหกรรม ABB แจ้งเตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน Edgenius Management Portal (เวอร์ชัน 3.2.0.0 และ 3.2.1.1) ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่งข้อความพิเศษเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน สามารถติดตั้ง/ถอนการติดตั้งแอป และแก้ไขการตั้งค่าได้เต็มที่ ถือเป็นภัยใหญ่ต่อระบบ OT ในโรงงานและอุตสาหกรรม ABB ได้ออกแพตช์เวอร์ชัน 3.2.2.0 และแนะนำให้ผู้ใช้ที่ยังอัปเดตไม่ได้ปิดการใช้งาน Portal ชั่วคราว 🔗 https://securityonline.info/critical-abb-flaw-cve-2025-10571-cvss-9-6-allows-unauthenticated-rce-and-admin-takeover-on-edgenius
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts