• พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ทั้งองค์ หนักถึง 5.5 ตัน เฉพาะมูลค่าทองคำตามที่บันทึกในกินเนสบุ๊คนั้น อยู่ที่ประมาณ 28.5 ล้านปอนด์ ประวัติว่าสร้างเมื่อใดยังไม่แน่ชัด เชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปสำคัญของวัดมหาธาตุ สุโขทัย ดังที่ปรากฏในหลักศิลาจารึกว่า "วัดมหาธาตุ กลางเมืองสุโขทัย มีพิหาร มีพระพุทธรูปทอง มีพระอัฏฐารส มีพระพุทธรูป มีพระพุทธรูปอันใหญ่ มีพระพุทธรูปอันราม" ซึ่งพิจารณาทั้งตามหลักฐานอื่นและเหตุผลประกอบแล้ว พระพุทธรูปองค์นี้ น่าจะเป็นพระพุทธรูปทององค์ดังกล่าว เพราะปริมาณทองคำแท้นี้ รวมถึงขนาดพระพุทธรูปนี้ ย่อมเกินกว่าที่สามัญชนทั่วไปพึงสร้างเป็นสมบัติ ---------------- #หลวงพ่อทองคำ #พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร #วัดไตรมิตร #วัดไตรมิตรวิทยาราม #พระสุโขทัยไตรมิตร #กรุงเทพมหานคร #สุโขทัย #พระพุทธรูปสุโขทัย #พระพุทธรูปทองคำ #goldenbuddha #thegoldenbuddha #phraphutthamahasuwannapatimakon #wattraimit #bangkok #thailand #siampiya
    พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ทั้งองค์ หนักถึง 5.5 ตัน เฉพาะมูลค่าทองคำตามที่บันทึกในกินเนสบุ๊คนั้น อยู่ที่ประมาณ 28.5 ล้านปอนด์ ประวัติว่าสร้างเมื่อใดยังไม่แน่ชัด เชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปสำคัญของวัดมหาธาตุ สุโขทัย ดังที่ปรากฏในหลักศิลาจารึกว่า "วัดมหาธาตุ กลางเมืองสุโขทัย มีพิหาร มีพระพุทธรูปทอง มีพระอัฏฐารส มีพระพุทธรูป มีพระพุทธรูปอันใหญ่ มีพระพุทธรูปอันราม" ซึ่งพิจารณาทั้งตามหลักฐานอื่นและเหตุผลประกอบแล้ว พระพุทธรูปองค์นี้ น่าจะเป็นพระพุทธรูปทององค์ดังกล่าว เพราะปริมาณทองคำแท้นี้ รวมถึงขนาดพระพุทธรูปนี้ ย่อมเกินกว่าที่สามัญชนทั่วไปพึงสร้างเป็นสมบัติ ---------------- #หลวงพ่อทองคำ #พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร #วัดไตรมิตร #วัดไตรมิตรวิทยาราม #พระสุโขทัยไตรมิตร #กรุงเทพมหานคร #สุโขทัย #พระพุทธรูปสุโขทัย #พระพุทธรูปทองคำ #goldenbuddha #thegoldenbuddha #phraphutthamahasuwannapatimakon #wattraimit #bangkok #thailand #siampiya
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • รายได้ไม่สอดคล้องกับทรัพย์สิน..ที่ปรากฏ

    ยกตัวอย่าง..ปี 2564
    -แจ้งรายได้รวม 325 ล้านบาทเศษ

    -แจ้งต้นทุนขาย 299 ล้านบาทเศษ

    -แจ้งรายจ่ายรวม 320 ล้านบาทเศษ

    -แจ้งมีกำไรสุทธิหลังหักภาษี 3,915,683.87

    ถ้ามองดูผ่านๆบัญชีงบการเงินก็ดูปกติ แต่ถ้าเอาคดีที่เจ้าของบริษัทถูกจับกุมมามาเทียบกับงบการเงิน..โป๊ะแรงส์

    ต้นทุนขาย 299 ล้านบาทเศษที่แจ้งในงบดุลนี้คือ..ทองคำแท้ 96.5%ถึง ทองคำแท้ 99.9%

    แล้วถ้าความจริงแล้วมันคือทองเปอร์เซ็นต์ต่ำที่ต้นทุนจริงๆคือไม่ถึง 299 ล้านบาทเศษ = แจ้งต้นทุนอันเป็นเท็จ

    แจ้งต้นทุนเท็จไปเท่าไหร่ก็เป็นกำไรเท่านั้น

    ยกตัวอย่างเช่นซื้อทองเปอร์เซ็นต์ต่ำมาในราคา 100 ล้านบาท แต่แจ้งต้นทุนเท่าทองคำ96.5% ที่ราคา 300 ล้านบาท ก็จะมีเงินกำไรจากส่วนที่แจ้งเท็จ 200 ล้านบาทที่ผ่านการเสียภาษีแล้ว

    เอ๊ะ งง กำไรเท็จ 200 ล้านมันจะได้มายังไงครับเนี่ย.?
    -ก็เอาทองเปอร์เซ็นต่ำมาขายในราคาทอง 96.5%นั่นไงครับ

    คราวนี้ลองมาดูต้นทุนของนางตั๊ก-นายเบียร์ ที่แจ้งต้นทุนไว้ที่ 299 ล้านบาทเศษ แล้วขายได้ 325 ล้านบาทเศษเท่ากับกำไรประมาณ 8%

    ขายได้ 325 ล้านบาทเศษ มีรายจ่าย 320 ล้านบาทเศษ คิดเป็นค่าต้นทุนทองคำ 299 ล้านบาทที่เหลือเป็นค่าบริหารจัดการ 30 ล้านบาท

    เสียภาษีไป 978,920.97 เหลือกำไรสุทธิ 3.9 ล้านบาทเศษ คิดเป็นกำไรสุทธิ 1.3% ดูเผินๆโคตรสมเหตุสมผลเลยร้านทองมีกำไรสุทธิ 1.3%

    แต่ถ้าสมมุติต้นทุนที่แท้ของทองเปอร์เซ็นต์ต่ำของนางตั๊ก-นายเบีย มันมีต้นทุนจริงๆแค่ 99 ล้านบาทเศษ

    บริษัทเคทูเอ็น โกลด์ ก็จะมีกำไรจริงๆถึง 200 ล้านบาทเศษ ไม่ใช่ 3.9 ล้านตามที่เห็นในบัญชีงบการเงิน

    แล้วนางตั๊ก-นายเบียร์ ไปเอาเงินทุนระดับ 100 ล้านมาจากไหน.?
    -เงินบิ๊ก จ.(ที่ไม่ใช่ จ.โจ๊ก)กับเงินจากเจ้าของเว็บพนันที่เอาเงินมาฟอกผ่านอาหารเสริม ทองคำ แก๊งตั๊ก-เบียร์

    จากการตรวจสอบเจอในตอนนึ้ ตั๊ก-เบียร์ เคยมีชื่อครอบครองรวม 10 บริษัท มีรายได้รวมกัน 18 ล้านเศษ แจ้งขาดทุนรวมกัน 4 ล้านเศษ

    เหลือรายได้ประมาณ 14 ล้าน.? พรีสสส แล้วไปเอาเงินจากไหนมาซื้อรถ-กระเป๋า-บ้าน-ที่ดินมูลค่ารวมเป็นพันล้าน.?

    คำตอบ..เงินที่แจ้งต้นทุนเท็จ เงินที่ฟอกแล้วรับเป็นเงินสดเป็นทองคำแท่งวนลูปกลับมาเป็นเงินนอกบัญชีที่ไม่มีแจ้งไว้ในระบบ..นั่นเอง
    --------
    นางสาว หงส์ลดา เรืองอร่าม (เป็นทอม)คือน้องสาวแท้ๆของนาย เบียร์

    และนางหงส์คือหลัวเก่าของเมียหรั่ง หรือแต่เดิมตอนทำงานกลางคืนใช้ชื่อ..น้องโบนัส

    ทึ่มาของชื่อเมียหรั่ง นางเล่าว่าไปเที่ยวทะเลแล้วมีคนทักว่าคล้ายเมียฝรั่งเลยตั้งชื่อเฟซว่าเมียหรั่ง ถถถ

    พูดง่ายๆก็คือแต่แรกเริ่มที่ร่วมกันออกต้มตุ๋นผู้คนน้องโบนัสมีสถานะเป็นน้องสะไภ้ของนายเบียร์-นางตั๊ก นั่นเอง

    ตอนหน้าจะมาลงรายละเอียดของเมียหรั่งหรือน้องโบนัส-น้องหงส์

    แล้วตามด้วยคู่ของ นุช-เอก บางเตย แล้วแถมด้วยเรื่องของ“ซ้อฝิ่น แก๊งสาวส่งด่วน”หวานใจของ #ทิดหยั่ง

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    รายได้ไม่สอดคล้องกับทรัพย์สิน..ที่ปรากฏ ยกตัวอย่าง..ปี 2564 -แจ้งรายได้รวม 325 ล้านบาทเศษ -แจ้งต้นทุนขาย 299 ล้านบาทเศษ -แจ้งรายจ่ายรวม 320 ล้านบาทเศษ -แจ้งมีกำไรสุทธิหลังหักภาษี 3,915,683.87 ถ้ามองดูผ่านๆบัญชีงบการเงินก็ดูปกติ แต่ถ้าเอาคดีที่เจ้าของบริษัทถูกจับกุมมามาเทียบกับงบการเงิน..โป๊ะแรงส์ ต้นทุนขาย 299 ล้านบาทเศษที่แจ้งในงบดุลนี้คือ..ทองคำแท้ 96.5%ถึง ทองคำแท้ 99.9% แล้วถ้าความจริงแล้วมันคือทองเปอร์เซ็นต์ต่ำที่ต้นทุนจริงๆคือไม่ถึง 299 ล้านบาทเศษ = แจ้งต้นทุนอันเป็นเท็จ แจ้งต้นทุนเท็จไปเท่าไหร่ก็เป็นกำไรเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นซื้อทองเปอร์เซ็นต์ต่ำมาในราคา 100 ล้านบาท แต่แจ้งต้นทุนเท่าทองคำ96.5% ที่ราคา 300 ล้านบาท ก็จะมีเงินกำไรจากส่วนที่แจ้งเท็จ 200 ล้านบาทที่ผ่านการเสียภาษีแล้ว เอ๊ะ งง กำไรเท็จ 200 ล้านมันจะได้มายังไงครับเนี่ย.? -ก็เอาทองเปอร์เซ็นต่ำมาขายในราคาทอง 96.5%นั่นไงครับ คราวนี้ลองมาดูต้นทุนของนางตั๊ก-นายเบียร์ ที่แจ้งต้นทุนไว้ที่ 299 ล้านบาทเศษ แล้วขายได้ 325 ล้านบาทเศษเท่ากับกำไรประมาณ 8% ขายได้ 325 ล้านบาทเศษ มีรายจ่าย 320 ล้านบาทเศษ คิดเป็นค่าต้นทุนทองคำ 299 ล้านบาทที่เหลือเป็นค่าบริหารจัดการ 30 ล้านบาท เสียภาษีไป 978,920.97 เหลือกำไรสุทธิ 3.9 ล้านบาทเศษ คิดเป็นกำไรสุทธิ 1.3% ดูเผินๆโคตรสมเหตุสมผลเลยร้านทองมีกำไรสุทธิ 1.3% แต่ถ้าสมมุติต้นทุนที่แท้ของทองเปอร์เซ็นต์ต่ำของนางตั๊ก-นายเบีย มันมีต้นทุนจริงๆแค่ 99 ล้านบาทเศษ บริษัทเคทูเอ็น โกลด์ ก็จะมีกำไรจริงๆถึง 200 ล้านบาทเศษ ไม่ใช่ 3.9 ล้านตามที่เห็นในบัญชีงบการเงิน แล้วนางตั๊ก-นายเบียร์ ไปเอาเงินทุนระดับ 100 ล้านมาจากไหน.? -เงินบิ๊ก จ.(ที่ไม่ใช่ จ.โจ๊ก)กับเงินจากเจ้าของเว็บพนันที่เอาเงินมาฟอกผ่านอาหารเสริม ทองคำ แก๊งตั๊ก-เบียร์ จากการตรวจสอบเจอในตอนนึ้ ตั๊ก-เบียร์ เคยมีชื่อครอบครองรวม 10 บริษัท มีรายได้รวมกัน 18 ล้านเศษ แจ้งขาดทุนรวมกัน 4 ล้านเศษ เหลือรายได้ประมาณ 14 ล้าน.? พรีสสส แล้วไปเอาเงินจากไหนมาซื้อรถ-กระเป๋า-บ้าน-ที่ดินมูลค่ารวมเป็นพันล้าน.? คำตอบ..เงินที่แจ้งต้นทุนเท็จ เงินที่ฟอกแล้วรับเป็นเงินสดเป็นทองคำแท่งวนลูปกลับมาเป็นเงินนอกบัญชีที่ไม่มีแจ้งไว้ในระบบ..นั่นเอง -------- นางสาว หงส์ลดา เรืองอร่าม (เป็นทอม)คือน้องสาวแท้ๆของนาย เบียร์ และนางหงส์คือหลัวเก่าของเมียหรั่ง หรือแต่เดิมตอนทำงานกลางคืนใช้ชื่อ..น้องโบนัส ทึ่มาของชื่อเมียหรั่ง นางเล่าว่าไปเที่ยวทะเลแล้วมีคนทักว่าคล้ายเมียฝรั่งเลยตั้งชื่อเฟซว่าเมียหรั่ง ถถถ พูดง่ายๆก็คือแต่แรกเริ่มที่ร่วมกันออกต้มตุ๋นผู้คนน้องโบนัสมีสถานะเป็นน้องสะไภ้ของนายเบียร์-นางตั๊ก นั่นเอง ตอนหน้าจะมาลงรายละเอียดของเมียหรั่งหรือน้องโบนัส-น้องหงส์ แล้วตามด้วยคู่ของ นุช-เอก บางเตย แล้วแถมด้วยเรื่องของ“ซ้อฝิ่น แก๊งสาวส่งด่วน”หวานใจของ #ทิดหยั่ง สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1 ตุลาคม 2567-รายงานจากเพจเฟซบุ๊ก สายัณห์ รุจิรโมรา ชี้ประเด็น การ audit การถือครองและการตรวจคุณภาพ (assay)ของจำนวนทองคำในคลังของรัฐบาลสหรัฐที่Fort Knox ตลอดถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทองคำสำรองทั้งหมดนี้

    “ moneymetals
    50-Year Anniversary of the Notorious “Show Audit” of Fort Knox Gold
    การตรวจสอบปริมาณทองคำสำรองสหรัฐที่ Fort Knox เมื่อ 50 ปีก่อน เป็นเพียงทีวีโชว์ ..."show audit"

    Matthew Cortez. Sept 23, 2024

    เงินเฟ้อเป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่ตอนนี้กำลังกระจายไปทั่ว มันสูบความมั่งคั่งของผู้ออมเงินผ่านอำนาจซื้อของ "เงิน" ปีแล้วปีเล่า

    ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางทั่วโลก -ตั้งแต่ซาอุดิอราเบีย ยันถึงจีน และทั้งโลก- ต่างก็แข่งกันซื้อทองคำอย่างเร่งด่วน หลายประเทศเช่นพวกกลุ่ม BRICS ถึงขนาดคิดที่จะเลิกใช้ดอลลาร์ในการค้ากันแล้ว

    และเมื่อสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์เกิดความไม่แน่นอน ทั้งนักลงทุน ธุรกิจเอกชน และหน่วยงานของรัฐบาลต่างก็ถือทองคำเพื่อเป็นการปกป้องตนเองให้พ้นจากอิทธิพลจากเงินเฟ้อ

    จากรายงานที่เรารับรู้มาตลอด ทองคำรีเสิร์ฟของสหรัฐมีอยู่ 8,133 ตัน เกือบทั้งหมดนั้นเก็บรักษาที่คลังของรัฐบาลสหรัฐ (Bullion Depository) ที่ Fort Knox, Kentucky ...คลังนี้ถือเป็นสัญญลักษณ์ของสถานะอำนาจทางการเงินที่แข็งแกร่งของอเมริกาที่มีต่อทั้งโลก

    ทุนสำรองทองคำของสหรัฐนี้ไม่มีการตรวจสอบที่เชื่อถือได้มาตั้งแต่ปี 1974 ...ไม่นานหลังจากที่อเมริกาฉีกสัญญา Bretton Woods ที่ทำให้สถานะการถือครองทองคำของอเมริกาเป็นที่น่าเคลิอบแคลงสงสัย ที่จริงแล้ว การ audit ครั้งที่เกิดก่อนหน้าปี 1974 ก็ไม่น่าเชื่อถือเหมือนกัน

    นี่ก็ครบรอบ 50 ปีแล้วที่ประชาชนยังคงอยู่กับความน่าสงสัย คำถามก็ยังคงอยู่...ทองคำทั้งหมดของอเมริกา ยังอยู่มั้ย?

    ประวัติศาสตร์ของคลัง Bullion Depository ของสหรัฐที่ Kentucky

    ก่อสร้างปี 1936 เพื่อสนับสนุนคำสั่ง ปธน. ที่ 6102 (Executive Order 6102) ของปธน. รูสเวลท์ที่บังคับให้ประชาขนแลกทองคำของตนเป็นเงินกระดาษ ...คลังนี้ถูกเรียกตามสถานที่ตั้งว่า Fort Knox

    U.S. Bullion Depository แห่งนี้อยู่ใจกลางประเทศที่ห่างไกลจากชายฝั่งประเทศ เพื่อความปลอดภัยกรณีที่ถูกรุกราน

    ประตูของคลังแห่งนี้หนาถึง 21 นิ้ว ก่อสร้างด้วยเหล็กกล้าถึง 1,420 ตัน มันถูกออกแบบเป็นการเฉพาะเพื่อเก็บรักษาทองคำนับล้านๆ ออนซ์ (เป็นทองคำแท่งที่หลอมมาจากเหรียญ) ทีได้รับมาจากประชาชนสหรัฐ ตามคำสั่ง 6102 กับทองที่ยึดเข้ามาดื้อ ๆ จากประเทศในยุโรป ที่ถูกทำลายจากสงคราม

    ตั้งแต่เมื่อ 50 ปีมาแล้ว ที่ประชาชนอเมริกันก็แคลงใจว่าในคลังยังมีทองคำอยู่จริงหรือ?

    ตอนนั้นมีหลายทฤษฎีที่เกี่ยวกับทองคำเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่ว ...ทฤษฎีหนึ่งที่นักฏหมายคนหนึ่งในวอชิงตันให้สัมภาษณ์สื่อ The National Tattler ว่า ทองคำมูลค่า $20,000 ล้านอันตรธานไปจากคลังของรัฐบาลแห่งนี้ ข่าวนี้แพร่ไปทั่วคองเกรสอย่างรวดเร็ว

    คนอเมริกันจำนวนมากข้องใจกับคลังแห่งนี้ คิดว่าทองคำน่าจะหมดไปแล้ว จากการถูกต่างประเทศแลกคืนตลอดหลายปีก่อนหน้านั้น

    The “Show Audit” of Fort Knox Gold in 1974 Created More Questions

    รัฐบาลแก้เกม โดยจัดให้มีการ "Show Audit" ของ Fort Knox Gold เมื่อวันที่ 23 กันยายน 1974 กระทรวงคลังเปิดห้องเก็บทองคำโชว์ แต่เปิดแค่ 1 ห้องจากทั้งหมด 15 ห้อง ให้นักการเมืองและนักข่าวเข้าชมทองคำอย่างใกล้ชิด เพื่อยืนยันว่ามันยังอยู่ ....ดูยังไง ๆ มันก็เป็นรายการทีวีโชว์ ไม่ใช่ audit ...(ผมจะแชร์ลิ้งค์ คลิปส่วนหนึ่งในคอมเมนท์ครับ)

    รายการโชว์ที่มีคลิปรวมกันประมาณสองชั่วโมง เต็มไปด้วยรอยยิ้มของนักการเมืองและนักข่าว ที่มองดูทองคำแท่งที่กองเต็มรวม..สูงถึงเพดานในห้องเก็บนั้น

    ตลอดช่วงของการเข้าชม กลับไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องของ serial# ของทองคำแต่ละแท่ง หรือผลการตรวจสอบความบริสุทธิ์ (assay) หรือแม้แต่หลักฐานความเป็นเจ้าของของรัฐบาลสหรัฐ ....(ตอนนั้นยังมีการรับฝากจากรัฐบาลต่างประเทศอยู่มาก)

    นี่เป็นรายการทีวีที่ออกอากาศปี 1974 มากกว่าจะเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือ..แสดงจำนวนทองคำของสหรัฐในคลัง

    หลายสิบปีหลังจากนั้น มันก็ยังคงอึมครึมอยู่อย่างนั้น Fed ก็ยังพิมพ์เงินต่อไป ...ธนาคารกลางทั่วโลกก็เก็บสะสมทองคำกันต่อไป ....คนอเมริกันก็ยังเซ่อ..ไม่รู้อะไรเหมือนเดิมอยู่ต่อไป

    เมื่อปี 2021 สมาชิกสภา Alex Mooney (WV - R) เสนอออกกฎหมายให้มีการ audit การถือครอง ..การตรวจคุณภาพ (assay) และจำนวนทองคำของรัฐบาลสหรัฐ ตลอดถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทองคำสำรองทั้งหมดนี้ ...แต่เรื่องก็เงียบไป น่าจะต้องมีการเสนออีกในปีต่อ ๆ ไป

    คลิป "show audit" ผมแปะไว้ที่คอมเมนท์ครับ

    https://www.moneymetals.com/news/2024/09/23/50-year-anniversary-of-the-notorious-show-audit-of-fort-knox-gold-003484

    #Thaitimes
    1 ตุลาคม 2567-รายงานจากเพจเฟซบุ๊ก สายัณห์ รุจิรโมรา ชี้ประเด็น การ audit การถือครองและการตรวจคุณภาพ (assay)ของจำนวนทองคำในคลังของรัฐบาลสหรัฐที่Fort Knox ตลอดถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทองคำสำรองทั้งหมดนี้ “ moneymetals 50-Year Anniversary of the Notorious “Show Audit” of Fort Knox Gold การตรวจสอบปริมาณทองคำสำรองสหรัฐที่ Fort Knox เมื่อ 50 ปีก่อน เป็นเพียงทีวีโชว์ ..."show audit" Matthew Cortez. Sept 23, 2024 เงินเฟ้อเป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่ตอนนี้กำลังกระจายไปทั่ว มันสูบความมั่งคั่งของผู้ออมเงินผ่านอำนาจซื้อของ "เงิน" ปีแล้วปีเล่า ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางทั่วโลก -ตั้งแต่ซาอุดิอราเบีย ยันถึงจีน และทั้งโลก- ต่างก็แข่งกันซื้อทองคำอย่างเร่งด่วน หลายประเทศเช่นพวกกลุ่ม BRICS ถึงขนาดคิดที่จะเลิกใช้ดอลลาร์ในการค้ากันแล้ว และเมื่อสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์เกิดความไม่แน่นอน ทั้งนักลงทุน ธุรกิจเอกชน และหน่วยงานของรัฐบาลต่างก็ถือทองคำเพื่อเป็นการปกป้องตนเองให้พ้นจากอิทธิพลจากเงินเฟ้อ จากรายงานที่เรารับรู้มาตลอด ทองคำรีเสิร์ฟของสหรัฐมีอยู่ 8,133 ตัน เกือบทั้งหมดนั้นเก็บรักษาที่คลังของรัฐบาลสหรัฐ (Bullion Depository) ที่ Fort Knox, Kentucky ...คลังนี้ถือเป็นสัญญลักษณ์ของสถานะอำนาจทางการเงินที่แข็งแกร่งของอเมริกาที่มีต่อทั้งโลก ทุนสำรองทองคำของสหรัฐนี้ไม่มีการตรวจสอบที่เชื่อถือได้มาตั้งแต่ปี 1974 ...ไม่นานหลังจากที่อเมริกาฉีกสัญญา Bretton Woods ที่ทำให้สถานะการถือครองทองคำของอเมริกาเป็นที่น่าเคลิอบแคลงสงสัย ที่จริงแล้ว การ audit ครั้งที่เกิดก่อนหน้าปี 1974 ก็ไม่น่าเชื่อถือเหมือนกัน นี่ก็ครบรอบ 50 ปีแล้วที่ประชาชนยังคงอยู่กับความน่าสงสัย คำถามก็ยังคงอยู่...ทองคำทั้งหมดของอเมริกา ยังอยู่มั้ย? ประวัติศาสตร์ของคลัง Bullion Depository ของสหรัฐที่ Kentucky ก่อสร้างปี 1936 เพื่อสนับสนุนคำสั่ง ปธน. ที่ 6102 (Executive Order 6102) ของปธน. รูสเวลท์ที่บังคับให้ประชาขนแลกทองคำของตนเป็นเงินกระดาษ ...คลังนี้ถูกเรียกตามสถานที่ตั้งว่า Fort Knox U.S. Bullion Depository แห่งนี้อยู่ใจกลางประเทศที่ห่างไกลจากชายฝั่งประเทศ เพื่อความปลอดภัยกรณีที่ถูกรุกราน ประตูของคลังแห่งนี้หนาถึง 21 นิ้ว ก่อสร้างด้วยเหล็กกล้าถึง 1,420 ตัน มันถูกออกแบบเป็นการเฉพาะเพื่อเก็บรักษาทองคำนับล้านๆ ออนซ์ (เป็นทองคำแท่งที่หลอมมาจากเหรียญ) ทีได้รับมาจากประชาชนสหรัฐ ตามคำสั่ง 6102 กับทองที่ยึดเข้ามาดื้อ ๆ จากประเทศในยุโรป ที่ถูกทำลายจากสงคราม ตั้งแต่เมื่อ 50 ปีมาแล้ว ที่ประชาชนอเมริกันก็แคลงใจว่าในคลังยังมีทองคำอยู่จริงหรือ? ตอนนั้นมีหลายทฤษฎีที่เกี่ยวกับทองคำเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่ว ...ทฤษฎีหนึ่งที่นักฏหมายคนหนึ่งในวอชิงตันให้สัมภาษณ์สื่อ The National Tattler ว่า ทองคำมูลค่า $20,000 ล้านอันตรธานไปจากคลังของรัฐบาลแห่งนี้ ข่าวนี้แพร่ไปทั่วคองเกรสอย่างรวดเร็ว คนอเมริกันจำนวนมากข้องใจกับคลังแห่งนี้ คิดว่าทองคำน่าจะหมดไปแล้ว จากการถูกต่างประเทศแลกคืนตลอดหลายปีก่อนหน้านั้น The “Show Audit” of Fort Knox Gold in 1974 Created More Questions รัฐบาลแก้เกม โดยจัดให้มีการ "Show Audit" ของ Fort Knox Gold เมื่อวันที่ 23 กันยายน 1974 กระทรวงคลังเปิดห้องเก็บทองคำโชว์ แต่เปิดแค่ 1 ห้องจากทั้งหมด 15 ห้อง ให้นักการเมืองและนักข่าวเข้าชมทองคำอย่างใกล้ชิด เพื่อยืนยันว่ามันยังอยู่ ....ดูยังไง ๆ มันก็เป็นรายการทีวีโชว์ ไม่ใช่ audit ...(ผมจะแชร์ลิ้งค์ คลิปส่วนหนึ่งในคอมเมนท์ครับ) รายการโชว์ที่มีคลิปรวมกันประมาณสองชั่วโมง เต็มไปด้วยรอยยิ้มของนักการเมืองและนักข่าว ที่มองดูทองคำแท่งที่กองเต็มรวม..สูงถึงเพดานในห้องเก็บนั้น ตลอดช่วงของการเข้าชม กลับไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องของ serial# ของทองคำแต่ละแท่ง หรือผลการตรวจสอบความบริสุทธิ์ (assay) หรือแม้แต่หลักฐานความเป็นเจ้าของของรัฐบาลสหรัฐ ....(ตอนนั้นยังมีการรับฝากจากรัฐบาลต่างประเทศอยู่มาก) นี่เป็นรายการทีวีที่ออกอากาศปี 1974 มากกว่าจะเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือ..แสดงจำนวนทองคำของสหรัฐในคลัง หลายสิบปีหลังจากนั้น มันก็ยังคงอึมครึมอยู่อย่างนั้น Fed ก็ยังพิมพ์เงินต่อไป ...ธนาคารกลางทั่วโลกก็เก็บสะสมทองคำกันต่อไป ....คนอเมริกันก็ยังเซ่อ..ไม่รู้อะไรเหมือนเดิมอยู่ต่อไป เมื่อปี 2021 สมาชิกสภา Alex Mooney (WV - R) เสนอออกกฎหมายให้มีการ audit การถือครอง ..การตรวจคุณภาพ (assay) และจำนวนทองคำของรัฐบาลสหรัฐ ตลอดถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทองคำสำรองทั้งหมดนี้ ...แต่เรื่องก็เงียบไป น่าจะต้องมีการเสนออีกในปีต่อ ๆ ไป คลิป "show audit" ผมแปะไว้ที่คอมเมนท์ครับ https://www.moneymetals.com/news/2024/09/23/50-year-anniversary-of-the-notorious-show-audit-of-fort-knox-gold-003484 #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 532 มุมมอง 1 รีวิว
  • ทองคำ..

    ทองคำแท้..หมายถึงทองคำที่มีเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์สูง ได้แก่..

    ทองคำ 96.5% (23k) หมายความว่ามีธาตุอื่น ๆ เจือปนในขั้นตอนการผลิตไม่เกิน 3.5%

    ทองคำ 99.9% (24k) หมายความว่ามีทองคำบริสุทธิ์อยู่จริงๆ 99.9% ส่วนที่เหลืออีก 0.1% คือส่วนประกอบอื่นๆ

    ปกติแล้วตามมาตรฐานทองคำเมืองไทยจะอยู่ที่ 96.5 % ทองคำ 99.9% ส่วนใหญ่จะเป็นมาตรฐานของราคาทองคำในต่างประเทศ

    ทองคำเปอร์เซ็นต์ต่ำ..หรือที่รู้จักกันในชื่อ ทองเค ทองเขียว หมายถึงทองที่มีเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์ต่ำกว่า 96.5% ลงไป หรือมีธาตุอื่น ๆ “ผสมเกินกว่า 3.5%”

    ดังนั้นราคาขายของทองเปอร์เซ็นต์ต่ำจะไม่สูงเทียบเท่ากับทองคำแท้ เนื่องจากความบริสุทธิ์ของทองที่ค่อนข้างต่ำ

    แต่ก็สามารถนำไปขายหรือจำนำที่ร้านทองได้ โดยราคานั้นอาจจะมีการผันผวนตามรูปลักษณ์ภายนอก

    แต่ในกรณีที่ทองมีความบริสุทธิ์ต่ำผสมธาตุอื่นๆมากเกินไปถึงแม้จะเรียกได้ว่าเป็นทองแท้ แต่ทางร้านก็จะไม่รับซื้อ

    สร้อย แหวน จี้ ฯลฯ ส่วนมากจะใช้ทองคำ 96.5% เพราะมันแข็งแรงกว่าทองคำ 99.99% ที่มันนิ่ม

    เราจึงขออนุมานว่า..ร้านเจ๊ตั๊กไม่ได้ขายทอง 99.99%

    ฉะนั้น..การระบุในใบซื้อขาย หรือพูดด้วยวาจาว่าเป็นทองคำแท้ 99.99% แล้วถ้าตรวจออกมาแล้วไม่ใช่ทอง 99.99% = คุก

    ถึงแม้จะรับซื้อคืน #แต่ความผิดสำเร็จแล้ว เพราะตัวเองย่อมรู้แก่ใจดีว่าทองที่จำหน่ายไปนั้นเป็นทองกี่%

    @เล้ง โอภาสี
    ทองคำ.. ทองคำแท้..หมายถึงทองคำที่มีเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์สูง ได้แก่.. ทองคำ 96.5% (23k) หมายความว่ามีธาตุอื่น ๆ เจือปนในขั้นตอนการผลิตไม่เกิน 3.5% ทองคำ 99.9% (24k) หมายความว่ามีทองคำบริสุทธิ์อยู่จริงๆ 99.9% ส่วนที่เหลืออีก 0.1% คือส่วนประกอบอื่นๆ ปกติแล้วตามมาตรฐานทองคำเมืองไทยจะอยู่ที่ 96.5 % ทองคำ 99.9% ส่วนใหญ่จะเป็นมาตรฐานของราคาทองคำในต่างประเทศ ทองคำเปอร์เซ็นต์ต่ำ..หรือที่รู้จักกันในชื่อ ทองเค ทองเขียว หมายถึงทองที่มีเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์ต่ำกว่า 96.5% ลงไป หรือมีธาตุอื่น ๆ “ผสมเกินกว่า 3.5%” ดังนั้นราคาขายของทองเปอร์เซ็นต์ต่ำจะไม่สูงเทียบเท่ากับทองคำแท้ เนื่องจากความบริสุทธิ์ของทองที่ค่อนข้างต่ำ แต่ก็สามารถนำไปขายหรือจำนำที่ร้านทองได้ โดยราคานั้นอาจจะมีการผันผวนตามรูปลักษณ์ภายนอก แต่ในกรณีที่ทองมีความบริสุทธิ์ต่ำผสมธาตุอื่นๆมากเกินไปถึงแม้จะเรียกได้ว่าเป็นทองแท้ แต่ทางร้านก็จะไม่รับซื้อ สร้อย แหวน จี้ ฯลฯ ส่วนมากจะใช้ทองคำ 96.5% เพราะมันแข็งแรงกว่าทองคำ 99.99% ที่มันนิ่ม เราจึงขออนุมานว่า..ร้านเจ๊ตั๊กไม่ได้ขายทอง 99.99% ฉะนั้น..การระบุในใบซื้อขาย หรือพูดด้วยวาจาว่าเป็นทองคำแท้ 99.99% แล้วถ้าตรวจออกมาแล้วไม่ใช่ทอง 99.99% = คุก ถึงแม้จะรับซื้อคืน #แต่ความผิดสำเร็จแล้ว เพราะตัวเองย่อมรู้แก่ใจดีว่าทองที่จำหน่ายไปนั้นเป็นทองกี่% @เล้ง โอภาสี
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กับดักคนโลภ# #ทองคำ# พูดจูงใจให้คนคิดว่าเป็นทองคำ มีการใส่ซองแดง เขียนราคา 9 หมื่นแสนนึงหน้าซอง แต่เลี่ยงไม่พูดคำว่า เนื้อทองคำ พระหลักหลายแสน หลักล้านทั้งสิ้น ขาย 1800-1900 แย่งกันปิดเลย ...และเช่นเคย
    อาศัยช่องว่างของกฏหมาย คือ ไม่ได้ขายในราคาของแท้ มีป้ายกำกับชัดเจน ว่า ไม่รับประกัน.
    .... #ไม่โลภไม่โดน#
    ทุนแบบนี้เหรียญละ 50 ชุบทองคำแท้สัก 100 กำไรเละ.
    #กับดักคนโลภ# #ทองคำ# พูดจูงใจให้คนคิดว่าเป็นทองคำ มีการใส่ซองแดง เขียนราคา 9 หมื่นแสนนึงหน้าซอง แต่เลี่ยงไม่พูดคำว่า เนื้อทองคำ พระหลักหลายแสน หลักล้านทั้งสิ้น ขาย 1800-1900 แย่งกันปิดเลย ...และเช่นเคย อาศัยช่องว่างของกฏหมาย คือ ไม่ได้ขายในราคาของแท้ มีป้ายกำกับชัดเจน ว่า ไม่รับประกัน. .... #ไม่โลภไม่โดน# ทุนแบบนี้เหรียญละ 50 ชุบทองคำแท้สัก 100 กำไรเละ.
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในปี2026/2027

    Martin Armstrong นักการเงิน และนักวิเคราะห์ชื่อดังให้สัมภาษณ์กับFinancial Senseว่าสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในปี2026/2027 ซึ่งจะเป็นช่วงไซเกิ้ลของสงครามโลกคร้ังที่ 3ที่จะเกิดขึ้นพอดี

    การผิดนัดชำระหนี้หมายถึงการที่กระทรวงการคลังสหรัฐออกพันธะบัตรแล้วไม่มีคนซื้อ เพราะว่าไม่มั่นใจกับปริมาณหนี้มหาศาลที่สหรัฐแบกรับอยู่ และนโยบายแซงชั่นของรัฐบาลสหรัฐ ทำให้ดอกเบี้ยจะพุ่งสูง ค่าเงินดอลล่าร์จะด้อยค่า จนท้ายที่สุดไม่มีใครต้องการถือครองทรัพย์สินดอลล่าร์อีกต่อไป

    หรืออีกวิธีหนึ่งของการผิดนัดชำระหนี้คือการก่อสงคราม แล้วหยุดจ่ายหนี้ หรือเบี้ยวหนี้ไปเลย

    อาร์มสตรองบอกว่า ความจริงพันธะบัตรสหรัฐมีปัญหาอยู่แล้ว อันเห็นได้จากการที่เจเน็ต เยลเลน รมว คลังสหรัฐบินไปปักกิ่งหลายคร้ังในช่วงที่ผ่านมา เพื่อขอร้องให้รัฐบาลจีนไม่ให้ขายพันธบัตรสหรัฐ หรือให้ซื้อพันธบัตรล็อตใหม่ แต่ถูกทางจีนปฏิเสธ

    ตัวเลขหนี้สาธารณะล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐอยู่ที่$35.2ล้านล้าน เทียบกับขนาดของจีดีพีที่$28ล้านล้าน ในขณะที่มีหนี้นอกงบประมาณที่$70ล้านล้าน ซึ่งเป็นพันธะด้านสวัสดิการสังคมต่างๆที่ต้องจ่ายในอนาคต ลำพังแค่ต้องจ่ายเฉพาะส่วนที่เป็นดอกเบี้ยด้วยการออกพัน
    ธะบัตรมารีไฟแนนซ์ รัฐบาลสหรัฐมีภาระต้องจ่าย$1ล้านล้านต่อปี ซึ่งเป็นการใช้จ่ายที่สูงสุดในงบประมาณ สูงกว่างบของกระทรวงกลาโหมที่800,000กว่าล้านเสียอีก หนี้ส่วนที่เป็นเงินต้นสหรัฐไม่คิดที่จะจ่ายคืนอยู่แล้ว นอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐยังขาดดุลงบประมาณปีละ2ล้านล้าน

    หนี้สินทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นกว่า 15 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2023 สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ที่ 313 ล้านล้านดอลลาร์ โดยประมาณ 55% ของการเพิ่มขึ้นนี้มาจากเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว โดยส่วนใหญ่คือสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเยอรมนี หนี้สินที่ไม่ได้รับการจัดสรร (unfunded liabilities)ในสหรัฐอเมริกามีมูลค่า 72 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 300% ของ GDP ซึ่งอาจดูสูงเกินไปจนกว่าจะหันไปดูสเปนที่มีหนี้ต่อ GDPที่ 500% ฝรั่งเศสที่มีหนี้ต่อ GDP เกือบ 400% หรือเยอรมนีที่มีหนี้ต่อ GDP เกือบ 350%

    งบดุลของประเทศแบบนี้ถือว่าล้มละลายแล้ว หนี้ของประเทศในยุโรปท้ังในงบดุลและนอกงบดุลก็ประสบวิกฤตคล้ายๆกับสหรัฐ ทำให้สหรัฐและยุโรปจับมือกันก่อสงครามกับรัสเซียผ่านตัวแทนยูเครนเพื่อหาทางเบี้ยวหนี้ หรือรีเซ็ตระบบการเงินใหม่เพื่อรักษาสถานภาพเดิมทางอำนาจทางการเงิน

    การยึดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียโดยสหรัฐและยุโรปทำให้หลายประเทศทิ้งทรัพย์สินดอลล่าร์ และหันไปถือครองทองคำแทน เพราะเกรงว่าจะถูกยึดเหมือนรัสเซียถ้าดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ไม่ถูกใจวอชิงตัน ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดราคาทองคำ2,574เหรียญต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมพุ่งทะลุระดับ2,600เหรียญต่อออนซ์ไปแล้ว

    ธนาคารกลางทั่วโลกก็หันมาตุนทองคำ โดยขายพันธะบัตรสหรัฐออกไปเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงทางการเงินท่ามกลางความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น การซื้อทองคำของธนาคารกลาง1,136ตันในปี 2022 และ1,037ตันในปี 2023 เป็นปัจจัยที่สำคัญที่มีน้ำหนักมากที่สุดที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงในช่วงที่ผ่านมา ปี2024น่าจะเป็นอีกปีของการสร้างสถิติการซื้อทองคำของธนาคารกลาง

    กลุ่มBRICSมีนโยบายออกจากดอลล่าร์ (de-dollarization) ด้วยการค้าการกันเองผ่านเงินสกุลประจำชาติ และไม่ใช้ดอลล่าร์ รวมท้ังการวางโครงการที่จะเอาทองคำมาหนุนหลังค่าเงินของเงินสกุลร่วมBRICS ที่เรียกกันว่า the Unit โดยใช้ทองคำ40%หนุนหลัง และอีก60%หนุนหลังค่าเงินก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเห็นจุดเริ่มต้นของจุดจบของความเป็นเงินสกุลหลักของโลกของดอลล่าร์ที่โดยเนื้อแท้แล้วเป็นเงินกระดาษเปล่าๆที่ไม่มีทรัพย์สินอะไรหนุนหลัง

    อย่างไรก็ดี โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่าเขาจะเก็บภาษี100%สำหรับประเทศใดก็ตามที่หันหลังให้กับดอลล่าร์ เพื่อที่จะปกป้องดอลล่าร์ให้เป็นเงินสกุลหลักของโลกต่อไป ท่าทีของทรัมป์แม้ว่าจะเป็นการพูดหาเสียงแต่ก็สะท้อนความเข้าใจของทรัมป์ว่าเงินดอลล่าร์กำลังหมดความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซาอุดิ อาราเบียได้ออกมาให้ข่าวว่าจะขายน้ำมันแลกเงินหยวนของจีน ซึ่งถือว่าเป็นการออกจากเปโตรดอลล่าร์ที่ซาอุฯเป็นผู้ค้ำประกันมาตั้งแต่ปี1974

    สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในปี2026/2027 Martin Armstrong นักการเงิน และนักวิเคราะห์ชื่อดังให้สัมภาษณ์กับFinancial Senseว่าสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในปี2026/2027 ซึ่งจะเป็นช่วงไซเกิ้ลของสงครามโลกคร้ังที่ 3ที่จะเกิดขึ้นพอดี การผิดนัดชำระหนี้หมายถึงการที่กระทรวงการคลังสหรัฐออกพันธะบัตรแล้วไม่มีคนซื้อ เพราะว่าไม่มั่นใจกับปริมาณหนี้มหาศาลที่สหรัฐแบกรับอยู่ และนโยบายแซงชั่นของรัฐบาลสหรัฐ ทำให้ดอกเบี้ยจะพุ่งสูง ค่าเงินดอลล่าร์จะด้อยค่า จนท้ายที่สุดไม่มีใครต้องการถือครองทรัพย์สินดอลล่าร์อีกต่อไป หรืออีกวิธีหนึ่งของการผิดนัดชำระหนี้คือการก่อสงคราม แล้วหยุดจ่ายหนี้ หรือเบี้ยวหนี้ไปเลย อาร์มสตรองบอกว่า ความจริงพันธะบัตรสหรัฐมีปัญหาอยู่แล้ว อันเห็นได้จากการที่เจเน็ต เยลเลน รมว คลังสหรัฐบินไปปักกิ่งหลายคร้ังในช่วงที่ผ่านมา เพื่อขอร้องให้รัฐบาลจีนไม่ให้ขายพันธบัตรสหรัฐ หรือให้ซื้อพันธบัตรล็อตใหม่ แต่ถูกทางจีนปฏิเสธ ตัวเลขหนี้สาธารณะล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐอยู่ที่$35.2ล้านล้าน เทียบกับขนาดของจีดีพีที่$28ล้านล้าน ในขณะที่มีหนี้นอกงบประมาณที่$70ล้านล้าน ซึ่งเป็นพันธะด้านสวัสดิการสังคมต่างๆที่ต้องจ่ายในอนาคต ลำพังแค่ต้องจ่ายเฉพาะส่วนที่เป็นดอกเบี้ยด้วยการออกพัน ธะบัตรมารีไฟแนนซ์ รัฐบาลสหรัฐมีภาระต้องจ่าย$1ล้านล้านต่อปี ซึ่งเป็นการใช้จ่ายที่สูงสุดในงบประมาณ สูงกว่างบของกระทรวงกลาโหมที่800,000กว่าล้านเสียอีก หนี้ส่วนที่เป็นเงินต้นสหรัฐไม่คิดที่จะจ่ายคืนอยู่แล้ว นอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐยังขาดดุลงบประมาณปีละ2ล้านล้าน หนี้สินทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นกว่า 15 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2023 สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ที่ 313 ล้านล้านดอลลาร์ โดยประมาณ 55% ของการเพิ่มขึ้นนี้มาจากเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว โดยส่วนใหญ่คือสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเยอรมนี หนี้สินที่ไม่ได้รับการจัดสรร (unfunded liabilities)ในสหรัฐอเมริกามีมูลค่า 72 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 300% ของ GDP ซึ่งอาจดูสูงเกินไปจนกว่าจะหันไปดูสเปนที่มีหนี้ต่อ GDPที่ 500% ฝรั่งเศสที่มีหนี้ต่อ GDP เกือบ 400% หรือเยอรมนีที่มีหนี้ต่อ GDP เกือบ 350% งบดุลของประเทศแบบนี้ถือว่าล้มละลายแล้ว หนี้ของประเทศในยุโรปท้ังในงบดุลและนอกงบดุลก็ประสบวิกฤตคล้ายๆกับสหรัฐ ทำให้สหรัฐและยุโรปจับมือกันก่อสงครามกับรัสเซียผ่านตัวแทนยูเครนเพื่อหาทางเบี้ยวหนี้ หรือรีเซ็ตระบบการเงินใหม่เพื่อรักษาสถานภาพเดิมทางอำนาจทางการเงิน การยึดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียโดยสหรัฐและยุโรปทำให้หลายประเทศทิ้งทรัพย์สินดอลล่าร์ และหันไปถือครองทองคำแทน เพราะเกรงว่าจะถูกยึดเหมือนรัสเซียถ้าดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ไม่ถูกใจวอชิงตัน ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดราคาทองคำ2,574เหรียญต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมพุ่งทะลุระดับ2,600เหรียญต่อออนซ์ไปแล้ว ธนาคารกลางทั่วโลกก็หันมาตุนทองคำ โดยขายพันธะบัตรสหรัฐออกไปเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงทางการเงินท่ามกลางความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น การซื้อทองคำของธนาคารกลาง1,136ตันในปี 2022 และ1,037ตันในปี 2023 เป็นปัจจัยที่สำคัญที่มีน้ำหนักมากที่สุดที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงในช่วงที่ผ่านมา ปี2024น่าจะเป็นอีกปีของการสร้างสถิติการซื้อทองคำของธนาคารกลาง กลุ่มBRICSมีนโยบายออกจากดอลล่าร์ (de-dollarization) ด้วยการค้าการกันเองผ่านเงินสกุลประจำชาติ และไม่ใช้ดอลล่าร์ รวมท้ังการวางโครงการที่จะเอาทองคำมาหนุนหลังค่าเงินของเงินสกุลร่วมBRICS ที่เรียกกันว่า the Unit โดยใช้ทองคำ40%หนุนหลัง และอีก60%หนุนหลังค่าเงินก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเห็นจุดเริ่มต้นของจุดจบของความเป็นเงินสกุลหลักของโลกของดอลล่าร์ที่โดยเนื้อแท้แล้วเป็นเงินกระดาษเปล่าๆที่ไม่มีทรัพย์สินอะไรหนุนหลัง อย่างไรก็ดี โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่าเขาจะเก็บภาษี100%สำหรับประเทศใดก็ตามที่หันหลังให้กับดอลล่าร์ เพื่อที่จะปกป้องดอลล่าร์ให้เป็นเงินสกุลหลักของโลกต่อไป ท่าทีของทรัมป์แม้ว่าจะเป็นการพูดหาเสียงแต่ก็สะท้อนความเข้าใจของทรัมป์ว่าเงินดอลล่าร์กำลังหมดความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซาอุดิ อาราเบียได้ออกมาให้ข่าวว่าจะขายน้ำมันแลกเงินหยวนของจีน ซึ่งถือว่าเป็นการออกจากเปโตรดอลล่าร์ที่ซาอุฯเป็นผู้ค้ำประกันมาตั้งแต่ปี1974
    Like
    29
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1305 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต่อเรื่องพี่ปูอีกนิด…..แค้นนี้………กี่ปีก็ไม่สาย……!!

    อย่าซีเรียสนะคะ มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรอย่างที่จั่วหัวไว้หรอก แต่อยากให้อ่านเป็นบทเรียนสำหรับหญิงๆว่า……จะพูดจะจาอะไรต้องระวังให้มากถึงมากที่สุด
    เพราะมันทำให้ใครคนหนึ่งถึงกับตกจากสวรรค์เลยทันที
    ตกเฉยๆก็คงไม่กระไร……แต่นี่เข้าขั้นอับอายและหาทางกลับแทบไม่ได้เลย

    ดิฉันกำลังพูดถึง คู่เชือดคู่เฉือนแห่งปี มาดาม ฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกาและ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย (พูดถึงอีกแล้ว)
    ที่คนทั้งสองศรศิลป์ไม่กินกันตั้งแต่ยังไม่เจอหน้าด้วยซ้ำ เพราะมาดาม คลินตัน
    เธอช่างกระหายสงครามอย่างออกนอกหน้า ไม่ว่าจะมีการสัมภาษณ์ครั้งใด เธอจะต้องพาดพิงถึงการแทรกแซงของรัสเซีย รวมไปถึวการวิจารณ์ปูตินอย่างเปิดเผย
    เมื่อตอนต้นปี 2016 ที่เธอเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต เพื่อชิงประธานาธิบดี เธอใช้การหาเสียงด้วยการโจมตีอีกฝ่ายหนึ่งในเรื่องของความโหดร้ายในสงครามซีเรีย
    ว่า
    “ปูตินเป็นคนที่ไม่มีหัวจิตหัวใจ เพราะเขาเคยเป็นเคจีบีมาก่อน”

    ซึ่งข้อความนี้……ปูตินได้ออกอากาศให้สัมภาษณ์โต้กลับไปว่า
    “คนที่เป็นผู้นำ เขาไม่ได้ใช้หัวใจในการบริหารประเทศ เขาใช้สมอง!!”

    สื่อเองก็ช่างกระไร……ชอบนักที่จะคอยถาม คอยจี้ให้แต่ละฝ่ายออกมาแสดงความเห็นต่อกัน ทางฝ่ายชายมักจะนิ่งๆ ตอบสั้นๆ
    แต่ฝ่ายหญิงมักจะสาวยืดเสมอ มีทั้งประชดประชัน และ ดิสเครคิต
    จนปูตินเริ่มจะเชื่อแล้วว่า การเดินขบวนที่เกิดขึ้นบ่อยๆในรัสเซีย น่าจะเกิดจากการแทรกแซงจากภายนอกแน่นอน เพราะตั้งแต่หลายปีที่ผ่านมา รัสเซียมีการเดินขบวนบ่อยมาก และฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล เช่นสื่ออิสระหัวรุนแรง อย่าง Anna Politkovskaya**

    หรือ นักการเมือง Boris Nemtsov***
    ปี 2014 ที่รัสเซียได้ขยายเชื่อมกับ ไครเมียได้สำเร็จ เพราะตลอดเวลา 10ปีที่ผ่านมา รัสเซียพยายามที่จะต่อติดกับทั้งยุโรปและตะวันออกกลาง
    มาดามคลินตันก็โวยวาย กล่าวหาว่า นั่นคือการกระทำของฮิตเล่อร์ชัดๆ
    และเธอได้พยายามล็อบบี้ขัดขวางทุกวิถีทาง

    นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เรียกว่าไม่เกรงใจกันแล้ว

    จนเถึงคราวที่มาดามคลินตันลงเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ที่ดูเหมือนว่า
    เส้นทางนี้ไม่มีพลาด ยิ่งมาเจอคู่แข่งขันที่เป็นเจ้าพ่อวงการนางงาม ท่าทางวิปลาส พูดจาไม่มีหูรูด……นาย Donald Trump ที่ไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานทางการเมืองมาก่อน
    เธอและครอบครัวมั่นใจเต็มร้อย ว่าประชากรชาวอเมริกันเกือบทั้งประเทศอยู่ฝ่ายเธอ
    ขนาด Chelsea ธิดาสาวคนเดียวของเธอ ยังประกาศเปิดตัวเธอบนเวที พร้อมทั้งต่อด้วยว่า The next President of the United States of America..
    เสียงในโพล……ก็มาแบบนั้นจริงๆ

    แต่ที่เครมลิน……ทุกคนเชียร์ทรัมป์……รวมทั้งมั่นใจกันอย่างเต็มที่ว่า ตำแหน่งประธานาธิบดีจะต้องเป็นนายทรัมป์แน่นอน…

    ไม่กี่อาทิตย์ก่อนที่จะมีการลงคะแนนเสียง……สิ่งประหลาดได้เกิดขึ้นทางสื่อออนไลน์ นั่นคือ Wikileaks ที่ได้มีการเปิดเผยข้อความจากอีเมล์ของ
    มาดามคลินตันที่ติดต่อกับผู้คนต่างๆ กว่าร้อยฉบับ ล้วนแต่เป็นสาระสำคัญยิ่ง
    เช่นการสนับสนุนสงคราม, ด่ายิว, รับสินบน, รับเงินสนับสนุนจากแหล่งที่ไม่สุจริต, รับเงินจากต่างประเทศเพื่อแลกกับผลประโยชน์ (ในสมัยที่นั่งกลาโหม)
    ทั้งหมดนี้...มาจากฝีมือใครก็ไม่รู้……แต่ต้องเป็นมือแฮคระดับเทพเท่านั้นที่จะทำได้

    ผลคือ……คะแนนของมาดามที่ว่านำมาลิ่วๆนั้น ตกฮวบลงอย่างน่าใจหาย
    วินาทีสุดท้ายคะแนนของกลุ่มที่รอการตัดสินใจได้เทไปให้ทางนายทรัมป์จนหมด เขาชนะไปแบบเฉือนกันปลายจมูก……
    อเมริกา ได้นายทรัมป์มาเป็นประธานาธิบดี
    มาดามคลินตัน จุกจนพูดไม่ออก……เพราะมันหมายถึงสิ่งที่ตั้งความหวังมาตลอดชีวิตว่าจะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศนั้นหายวับไปต่อหน้าต่อตา เพราะอีเมล์จำนวนร้อยฉบับเหล่านั้น มันได้เปิดหน้ากากเธอจนหมดสิ้น……

    วันนั้น……ทางเครมลินได้รอฟังผลการเลือกตั้งเช่นกัน พร้อมเหล้ายาปลาปิ้ง กับแกล้มพร้อม เตรียมฉลองเหมือนจะรู้ว่า รถหมูคว่ำแน่……!!!

    นี่คือการ”เอาคืน” แบบย้อนเกล็ดที่เจ็บแสบที่สุด………ที่ส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นฝีมือของรัสเซีย

    การเอาคืนในระบบปูตินนั้น……มาได้หลายรูปแบบ อย่างที่ยกชื่อมาเป็นตัวอย่างสองคนข้างบน คนแรก

    Anna Politkovskaya อายุ 48 ปีเป็น อเมริกัน-รัสเซีย ทำงานสื่ออิสระในสายของ Human Rights Watch ที่เอาตัวเองเข้าไปคลุกคลีในสนามรบของสงคราม
    Chechen แล้วส่งข่าวรายงานสู่สื่อใหญ่อเมริกา
    เธอได้รับการเตือนแบบเป็นระยะ นับตั้งแต่ถูกวางยาให้ป่วย, คุมขัง แต่ก็ไม่ได้ผล
    ในที่สุด……เธอได้เสียชีวิตจากการถูกลอบสังหารในบริเวณที่พักของเธอเอง
    ในปี 2006
    คาดว่า……ทางรัสเซียคงหมดความอดทนหลังจากที่จับได้ว่า เธอได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาย Boris Berezovsky เจ้าพ่อสื่อโทรทัศน์ตัวการสำคัญที่หลบหนีไปอยู่ที่อังกฤษ
    หมายเหตุ เรื่องของนาย Boris นี้ ดิฉันเคยเล่าไปแล้ว...

    คนต่อมาคือนาย Boris Nemtsov ที่เคยเป็นอธิบดี (ในรัฐบาลของ ประธานาธิบดี Yeltzin) ที่ต่อต้านปูตินอย่างเปิดเผย อีกทั้งเขาได้พยายามหาพวกจากฝั่งอเมริกาและอังกฤษเพื่อ ช่วยกระจายข่าวต่อ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ปูตินคือบุคคลที่รวยที่สุดในโลก มีบ้านราคาพันล้านเหรียญ มีเรือสำราญ และอีกสารพัดที่จะมี
    วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2015 สองวันก่อนที่เขาจะขึ้นเวทีการอภิปรายใหญ่เกี่ยวกับความไม่โปร่งใสของรัฐบาล เวลาเที่ยงคืนเศษ เขากับแฟนสาวเดินข้ามสะพานบริเวณหน้าพระราชวังเครมลิน
    มีรถแล่นผ่านไปอย่างช้าๆ แล้วเขาก็ล้มลงไป……สิ้นใจด้วยกระสุนที่ยิงเข้ากลางหลังสี่นัด
    งานนี้เป็นงานดี ฝีมือเนี๊ยบ……เพราะแฟนสาวที่เดินเคลียคลออยู่ข้างๆนั้น ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาโดนยิง คิดว่าสะดุดอะไรล้มลง...ไม่มียินเสียงอะไรทั้งสิ้น

    ฟังแล้วก็ต้องทำใจนะคะ……นี่คือด้านมืดของมนุษย์ มีพระคุณแล้วก็ต้องมีพระเดช แล้วยังต้องมีการเก็บกวาดสิ่งที่เรียกว่าเสี้ยนหนาม กีดขวางทางเดิน
    ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยกล……ก็ใช้แฮ๊คเคอร์

    แต่พี่รัสเซียนี่ เขาเอามาใช้ทุกอย่าง……ระยะหลังนี่ หนักไปทางยาพิษชนิดที่นักเคมีต้องค้นตำราแก้……

    ขนาดเก่งกล้าสารพัด มาเสียเชิงให้เป็นที่ขบขันได้ จากข่าวเรื่องทองคำแท่ง หนักกว่า 3.4 ตัน ร่วงลงมากจากเครื่องบินขณะที่กำลังวิ่งบนลู่ เพื่อที่จะเหินขึ้นฟ้า เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้
    ชาวบ้านอเมริกันเขาว่า
    “โธ่เอ๊ยย……ขนาดขนทองยังเอาเครื่องบินผุๆมาใช้………ไหนคุยว่าสร้างจรวดไง?”

    Wiwanda W. Vichit
    ต่อเรื่องพี่ปูอีกนิด…..แค้นนี้………กี่ปีก็ไม่สาย……!! อย่าซีเรียสนะคะ มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรอย่างที่จั่วหัวไว้หรอก แต่อยากให้อ่านเป็นบทเรียนสำหรับหญิงๆว่า……จะพูดจะจาอะไรต้องระวังให้มากถึงมากที่สุด เพราะมันทำให้ใครคนหนึ่งถึงกับตกจากสวรรค์เลยทันที ตกเฉยๆก็คงไม่กระไร……แต่นี่เข้าขั้นอับอายและหาทางกลับแทบไม่ได้เลย ดิฉันกำลังพูดถึง คู่เชือดคู่เฉือนแห่งปี มาดาม ฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกาและ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย (พูดถึงอีกแล้ว) ที่คนทั้งสองศรศิลป์ไม่กินกันตั้งแต่ยังไม่เจอหน้าด้วยซ้ำ เพราะมาดาม คลินตัน เธอช่างกระหายสงครามอย่างออกนอกหน้า ไม่ว่าจะมีการสัมภาษณ์ครั้งใด เธอจะต้องพาดพิงถึงการแทรกแซงของรัสเซีย รวมไปถึวการวิจารณ์ปูตินอย่างเปิดเผย เมื่อตอนต้นปี 2016 ที่เธอเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต เพื่อชิงประธานาธิบดี เธอใช้การหาเสียงด้วยการโจมตีอีกฝ่ายหนึ่งในเรื่องของความโหดร้ายในสงครามซีเรีย ว่า “ปูตินเป็นคนที่ไม่มีหัวจิตหัวใจ เพราะเขาเคยเป็นเคจีบีมาก่อน” ซึ่งข้อความนี้……ปูตินได้ออกอากาศให้สัมภาษณ์โต้กลับไปว่า “คนที่เป็นผู้นำ เขาไม่ได้ใช้หัวใจในการบริหารประเทศ เขาใช้สมอง!!” สื่อเองก็ช่างกระไร……ชอบนักที่จะคอยถาม คอยจี้ให้แต่ละฝ่ายออกมาแสดงความเห็นต่อกัน ทางฝ่ายชายมักจะนิ่งๆ ตอบสั้นๆ แต่ฝ่ายหญิงมักจะสาวยืดเสมอ มีทั้งประชดประชัน และ ดิสเครคิต จนปูตินเริ่มจะเชื่อแล้วว่า การเดินขบวนที่เกิดขึ้นบ่อยๆในรัสเซีย น่าจะเกิดจากการแทรกแซงจากภายนอกแน่นอน เพราะตั้งแต่หลายปีที่ผ่านมา รัสเซียมีการเดินขบวนบ่อยมาก และฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล เช่นสื่ออิสระหัวรุนแรง อย่าง Anna Politkovskaya** หรือ นักการเมือง Boris Nemtsov*** ปี 2014 ที่รัสเซียได้ขยายเชื่อมกับ ไครเมียได้สำเร็จ เพราะตลอดเวลา 10ปีที่ผ่านมา รัสเซียพยายามที่จะต่อติดกับทั้งยุโรปและตะวันออกกลาง มาดามคลินตันก็โวยวาย กล่าวหาว่า นั่นคือการกระทำของฮิตเล่อร์ชัดๆ และเธอได้พยายามล็อบบี้ขัดขวางทุกวิถีทาง นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เรียกว่าไม่เกรงใจกันแล้ว จนเถึงคราวที่มาดามคลินตันลงเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ที่ดูเหมือนว่า เส้นทางนี้ไม่มีพลาด ยิ่งมาเจอคู่แข่งขันที่เป็นเจ้าพ่อวงการนางงาม ท่าทางวิปลาส พูดจาไม่มีหูรูด……นาย Donald Trump ที่ไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานทางการเมืองมาก่อน เธอและครอบครัวมั่นใจเต็มร้อย ว่าประชากรชาวอเมริกันเกือบทั้งประเทศอยู่ฝ่ายเธอ ขนาด Chelsea ธิดาสาวคนเดียวของเธอ ยังประกาศเปิดตัวเธอบนเวที พร้อมทั้งต่อด้วยว่า The next President of the United States of America.. เสียงในโพล……ก็มาแบบนั้นจริงๆ แต่ที่เครมลิน……ทุกคนเชียร์ทรัมป์……รวมทั้งมั่นใจกันอย่างเต็มที่ว่า ตำแหน่งประธานาธิบดีจะต้องเป็นนายทรัมป์แน่นอน… ไม่กี่อาทิตย์ก่อนที่จะมีการลงคะแนนเสียง……สิ่งประหลาดได้เกิดขึ้นทางสื่อออนไลน์ นั่นคือ Wikileaks ที่ได้มีการเปิดเผยข้อความจากอีเมล์ของ มาดามคลินตันที่ติดต่อกับผู้คนต่างๆ กว่าร้อยฉบับ ล้วนแต่เป็นสาระสำคัญยิ่ง เช่นการสนับสนุนสงคราม, ด่ายิว, รับสินบน, รับเงินสนับสนุนจากแหล่งที่ไม่สุจริต, รับเงินจากต่างประเทศเพื่อแลกกับผลประโยชน์ (ในสมัยที่นั่งกลาโหม) ทั้งหมดนี้...มาจากฝีมือใครก็ไม่รู้……แต่ต้องเป็นมือแฮคระดับเทพเท่านั้นที่จะทำได้ ผลคือ……คะแนนของมาดามที่ว่านำมาลิ่วๆนั้น ตกฮวบลงอย่างน่าใจหาย วินาทีสุดท้ายคะแนนของกลุ่มที่รอการตัดสินใจได้เทไปให้ทางนายทรัมป์จนหมด เขาชนะไปแบบเฉือนกันปลายจมูก…… อเมริกา ได้นายทรัมป์มาเป็นประธานาธิบดี มาดามคลินตัน จุกจนพูดไม่ออก……เพราะมันหมายถึงสิ่งที่ตั้งความหวังมาตลอดชีวิตว่าจะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศนั้นหายวับไปต่อหน้าต่อตา เพราะอีเมล์จำนวนร้อยฉบับเหล่านั้น มันได้เปิดหน้ากากเธอจนหมดสิ้น…… วันนั้น……ทางเครมลินได้รอฟังผลการเลือกตั้งเช่นกัน พร้อมเหล้ายาปลาปิ้ง กับแกล้มพร้อม เตรียมฉลองเหมือนจะรู้ว่า รถหมูคว่ำแน่……!!! นี่คือการ”เอาคืน” แบบย้อนเกล็ดที่เจ็บแสบที่สุด………ที่ส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นฝีมือของรัสเซีย การเอาคืนในระบบปูตินนั้น……มาได้หลายรูปแบบ อย่างที่ยกชื่อมาเป็นตัวอย่างสองคนข้างบน คนแรก Anna Politkovskaya อายุ 48 ปีเป็น อเมริกัน-รัสเซีย ทำงานสื่ออิสระในสายของ Human Rights Watch ที่เอาตัวเองเข้าไปคลุกคลีในสนามรบของสงคราม Chechen แล้วส่งข่าวรายงานสู่สื่อใหญ่อเมริกา เธอได้รับการเตือนแบบเป็นระยะ นับตั้งแต่ถูกวางยาให้ป่วย, คุมขัง แต่ก็ไม่ได้ผล ในที่สุด……เธอได้เสียชีวิตจากการถูกลอบสังหารในบริเวณที่พักของเธอเอง ในปี 2006 คาดว่า……ทางรัสเซียคงหมดความอดทนหลังจากที่จับได้ว่า เธอได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาย Boris Berezovsky เจ้าพ่อสื่อโทรทัศน์ตัวการสำคัญที่หลบหนีไปอยู่ที่อังกฤษ หมายเหตุ เรื่องของนาย Boris นี้ ดิฉันเคยเล่าไปแล้ว... คนต่อมาคือนาย Boris Nemtsov ที่เคยเป็นอธิบดี (ในรัฐบาลของ ประธานาธิบดี Yeltzin) ที่ต่อต้านปูตินอย่างเปิดเผย อีกทั้งเขาได้พยายามหาพวกจากฝั่งอเมริกาและอังกฤษเพื่อ ช่วยกระจายข่าวต่อ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ปูตินคือบุคคลที่รวยที่สุดในโลก มีบ้านราคาพันล้านเหรียญ มีเรือสำราญ และอีกสารพัดที่จะมี วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2015 สองวันก่อนที่เขาจะขึ้นเวทีการอภิปรายใหญ่เกี่ยวกับความไม่โปร่งใสของรัฐบาล เวลาเที่ยงคืนเศษ เขากับแฟนสาวเดินข้ามสะพานบริเวณหน้าพระราชวังเครมลิน มีรถแล่นผ่านไปอย่างช้าๆ แล้วเขาก็ล้มลงไป……สิ้นใจด้วยกระสุนที่ยิงเข้ากลางหลังสี่นัด งานนี้เป็นงานดี ฝีมือเนี๊ยบ……เพราะแฟนสาวที่เดินเคลียคลออยู่ข้างๆนั้น ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาโดนยิง คิดว่าสะดุดอะไรล้มลง...ไม่มียินเสียงอะไรทั้งสิ้น ฟังแล้วก็ต้องทำใจนะคะ……นี่คือด้านมืดของมนุษย์ มีพระคุณแล้วก็ต้องมีพระเดช แล้วยังต้องมีการเก็บกวาดสิ่งที่เรียกว่าเสี้ยนหนาม กีดขวางทางเดิน ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยกล……ก็ใช้แฮ๊คเคอร์ แต่พี่รัสเซียนี่ เขาเอามาใช้ทุกอย่าง……ระยะหลังนี่ หนักไปทางยาพิษชนิดที่นักเคมีต้องค้นตำราแก้…… ขนาดเก่งกล้าสารพัด มาเสียเชิงให้เป็นที่ขบขันได้ จากข่าวเรื่องทองคำแท่ง หนักกว่า 3.4 ตัน ร่วงลงมากจากเครื่องบินขณะที่กำลังวิ่งบนลู่ เพื่อที่จะเหินขึ้นฟ้า เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ ชาวบ้านอเมริกันเขาว่า “โธ่เอ๊ยย……ขนาดขนทองยังเอาเครื่องบินผุๆมาใช้………ไหนคุยว่าสร้างจรวดไง?” Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 530 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทองแท้ในเหรียญทองโอลิมปิก
    ในการแข่งโอลิมปิก ปี 1904,1908 และ 1912 เหรียญทองทำด้วยทองคำแท้ล้วนๆไม่ปนโลหะอื่นๅ แต่เป็นเหรียญทองขนาดเล็ก ขนาดประมาณเหรียญ 10 บาทไทย

    แต่เหรียญทองในโอลิมปิก ปารีส2024 เหรียญทองมีทองคำแท้ๆเพียง 6 กรัมเท่านั้น นอกนั้นมีส่วนผสมเป็นโลหะเงิน 92.5%

    ส่วนเหรียญเงินและเหรียญทองแดง จะทำมาจากเงินและทองแดง 100 เปอร์เซ็นต์

    นอกจากนี้เหรียญรางวัลของปารีส 2024 มีการนำชิ้นส่วนของหอไอเฟล แลนด์มาร์กสำคัญของกรุงปารีส ใส่เข้าไปในเหรียญ ทำให้มีน้ำหนักมากขึ้น 18 กรัม 

    สำหรับมูลค่าตามโลหะมีค่าในเหรียญรางวัลในอดีตเมื่อครั้งโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เหรียญทองมีมูลค่าที่ 540 ปอนด์(24,900 บาท) เหรียญเงิน 297 ปอนด์(13,700 บาท) และเหรียญทองแดง 5 ปอนด์(230 บาท) สาเหตุที่เหรียญทองแดงมีมูลค่าต่ำเพราะทำมาจากทองแดงและสังกะสีนั่นเอง

    ภาพ : เหรียญทองคำแท้ 100% ปี1904(ซ้าย)
    เหรียญทอง 1% ปี 2024 (ขวา)

    #Thaitimes
    ทองแท้ในเหรียญทองโอลิมปิก ในการแข่งโอลิมปิก ปี 1904,1908 และ 1912 เหรียญทองทำด้วยทองคำแท้ล้วนๆไม่ปนโลหะอื่นๅ แต่เป็นเหรียญทองขนาดเล็ก ขนาดประมาณเหรียญ 10 บาทไทย แต่เหรียญทองในโอลิมปิก ปารีส2024 เหรียญทองมีทองคำแท้ๆเพียง 6 กรัมเท่านั้น นอกนั้นมีส่วนผสมเป็นโลหะเงิน 92.5% ส่วนเหรียญเงินและเหรียญทองแดง จะทำมาจากเงินและทองแดง 100 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้เหรียญรางวัลของปารีส 2024 มีการนำชิ้นส่วนของหอไอเฟล แลนด์มาร์กสำคัญของกรุงปารีส ใส่เข้าไปในเหรียญ ทำให้มีน้ำหนักมากขึ้น 18 กรัม  สำหรับมูลค่าตามโลหะมีค่าในเหรียญรางวัลในอดีตเมื่อครั้งโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เหรียญทองมีมูลค่าที่ 540 ปอนด์(24,900 บาท) เหรียญเงิน 297 ปอนด์(13,700 บาท) และเหรียญทองแดง 5 ปอนด์(230 บาท) สาเหตุที่เหรียญทองแดงมีมูลค่าต่ำเพราะทำมาจากทองแดงและสังกะสีนั่นเอง ภาพ : เหรียญทองคำแท้ 100% ปี1904(ซ้าย) เหรียญทอง 1% ปี 2024 (ขวา) #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • ป.ป.ช.เผย ศาลฎีกาพิพากษายึดทรัพย์และทองคำแท่ง “สาธิต รังคสิริ” อดีตอธิบดีกรมสรรพากร มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน จากคดีร่ำรวยผิดปกติ
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000067481

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ป.ป.ช.เผย ศาลฎีกาพิพากษายึดทรัพย์และทองคำแท่ง “สาธิต รังคสิริ” อดีตอธิบดีกรมสรรพากร มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน จากคดีร่ำรวยผิดปกติ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000067481 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    17
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1061 มุมมอง 0 รีวิว
  • ราคาทองคำแท่งวันพุธที่ 24 เม.ย. 67 ครั้งที่ 1 เวลา 09:06 น. [+100] ร้านทองซื้อเข้าบาทละ 40,350 ขายออกบาทละ 40,450

    https://www.goldtraders.or.th #ทองคำ #ราคาทอง #ทองคำแท่ง #ทองคำวันนี้
    ราคาทองคำแท่งวันพุธที่ 24 เม.ย. 67 ครั้งที่ 1 เวลา 09:06 น. [+100] ร้านทองซื้อเข้าบาทละ 40,350 ขายออกบาทละ 40,450 https://www.goldtraders.or.th #ทองคำ #ราคาทอง #ทองคำแท่ง #ทองคำวันนี้
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 655 มุมมอง 0 รีวิว
  • โลกร้อน-เดือด ไข่ไก่แพง ทองคำพุ่ง

    ยุคข้าวหมากแพงอะไรต่อมิอะไรก็จะดูแพงไปเสียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาราคาไข่ไก่ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวของประชาชนทั่วไปมากที่สุด ไปจนถึงทองแพงที่อาจเป็นปัญหาของคนจำนวนหนึ่งเท่านั้น

    เริ่มกันที่ราคาไข่ไก่ เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ 4 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จำกัด, สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี จำกัด, สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน จำกัด และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย จำกัด ได้ออกประกาศราคาแนะนำไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเกษตรกร วันที่ 17 เม.ย. 2567 อยู่ที่ฟองละ 3.60 บาท

    การประกาศเช่นนี้ทำให้ราคาไข่ไก่ปรับขึ้นแผงละ 6 บาท โดยข้อมูลจากสมาคมการค้าผู้ค้าไข่ไทย พบว่า ราคาไข่ไก่ขายส่ง เบอร์ 0 ราคา 4.40 บาทต่อฟอง, ไข่ไก่เบอร์ 1 ราคา 4.20 บาทต่อฟอง, ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคา 4 บาทต่อฟอง ส่วนราคาขายปลีก ราคาไข่ไก่ขายส่ง เบอร์ 0 ราคา 5 บาทต่อฟอง, ไข่ไก่เบอร์ 1 ราคา 4.70 บาทต่อฟอง ,ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคา 4.40 บาทต่อฟอง

    สำหรับสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาไข่พุ่งสูงขึ้นมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดมากกว่าทุกปี จนส่งผลให้แม่ไก่ออกไข่ลดลง ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการที่เลี้ยงไก่แบบเล้าเปิดไม่อาจควบคุมอุณหภูมิได้ จึงเป็นเหตุให้ปริมาณผลผลิตลดลง

    สลับมากันที่ราคาทอง ซึ่งด้านหนึ่งอาจเป็นโอกาสของนักเก็งกำไร โดยตลอดเมื่อวันที่ 16 เมษายน มีการปรับขึ้นลงของราคารวมทั้งหมด 10 ครั้ง ทองคำแท่ง รับซื้อ 41,100 บาท ขายออก 41,200. บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 40,355 ขายออก 41,700 เท่ากับว่าตลอดเดือนเมษายนราคาทองคำปรับขึ้นแล้วรวม 2,650 บาท

    ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง คือ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และความผันผวนของเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา
    โลกร้อน-เดือด ไข่ไก่แพง ทองคำพุ่ง ยุคข้าวหมากแพงอะไรต่อมิอะไรก็จะดูแพงไปเสียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาราคาไข่ไก่ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวของประชาชนทั่วไปมากที่สุด ไปจนถึงทองแพงที่อาจเป็นปัญหาของคนจำนวนหนึ่งเท่านั้น เริ่มกันที่ราคาไข่ไก่ เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ 4 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จำกัด, สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี จำกัด, สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน จำกัด และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย จำกัด ได้ออกประกาศราคาแนะนำไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเกษตรกร วันที่ 17 เม.ย. 2567 อยู่ที่ฟองละ 3.60 บาท การประกาศเช่นนี้ทำให้ราคาไข่ไก่ปรับขึ้นแผงละ 6 บาท โดยข้อมูลจากสมาคมการค้าผู้ค้าไข่ไทย พบว่า ราคาไข่ไก่ขายส่ง เบอร์ 0 ราคา 4.40 บาทต่อฟอง, ไข่ไก่เบอร์ 1 ราคา 4.20 บาทต่อฟอง, ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคา 4 บาทต่อฟอง ส่วนราคาขายปลีก ราคาไข่ไก่ขายส่ง เบอร์ 0 ราคา 5 บาทต่อฟอง, ไข่ไก่เบอร์ 1 ราคา 4.70 บาทต่อฟอง ,ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคา 4.40 บาทต่อฟอง สำหรับสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาไข่พุ่งสูงขึ้นมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดมากกว่าทุกปี จนส่งผลให้แม่ไก่ออกไข่ลดลง ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการที่เลี้ยงไก่แบบเล้าเปิดไม่อาจควบคุมอุณหภูมิได้ จึงเป็นเหตุให้ปริมาณผลผลิตลดลง สลับมากันที่ราคาทอง ซึ่งด้านหนึ่งอาจเป็นโอกาสของนักเก็งกำไร โดยตลอดเมื่อวันที่ 16 เมษายน มีการปรับขึ้นลงของราคารวมทั้งหมด 10 ครั้ง ทองคำแท่ง รับซื้อ 41,100 บาท ขายออก 41,200. บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 40,355 ขายออก 41,700 เท่ากับว่าตลอดเดือนเมษายนราคาทองคำปรับขึ้นแล้วรวม 2,650 บาท ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง คือ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และความผันผวนของเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา
    Love
    Haha
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1409 มุมมอง 0 รีวิว