ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 1
“ข่าวลือ ข่าวลวง”
ตอน 1
เมื่อต้นเตือนตุลาคมนี้ (ค.ศ.2015) สื่ออิสราเอล ประเภทเกาะติดการเมืองและการทหาร ลงข่าวว่า กษัตริย์ซาลมาน ของซาอุดิอารเบีย ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล และมีข่าวว่า อาจเกิดการปฏิวัติภายในซาอุดิอารเบียด้วย เป็นข่าวสั้นๆ หลังจากนั้น ไม่มีข่าวคืบหน้า ส่วนสื่อตะวันตก และอัลจาซีรา ของการ์ต้า เล็กแต่แสบ ไม่แง้มปากออกมาเลย
ข่าวเรื่องกษัตริย์ ซาอุป่วย กับข่าวปฏิวัติซาอุนี่ สื่อต่างประเทศ เล่นกันมาเป็นระรอก ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ปีนี้แล้ว เรื่องแบบนี่ไม่มีบังเอิญหรอก ครับ บทชั่วๆอย่างนี้ ไอ้ใบตองแห้งชอบใช้นัก อยู่ดีๆมีข่าวปล่อยแบบนี้ แปลว่า มันต้องมีแผนชั่วคิดอยู่ จะชั่วขนาดไหน ต้องตามกันหน่อย
ขณะนี้ ในตะวันออกกลาง นอกเหนือจากการรบในซีเรีย ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างเข้มข้นแล้ว ประเทศที่จะเป็นตัวแปร ที่ไม่นับทางฝั่งของรัสเซีย ที่มีอิหร่าน ซีเรียจับมือร่วมกับบางส่วนของ อิรัค บางส่วนของเยเมน และอีก 2 กองกำลังติดอาวุธ คือ กลุ่มเฮสบอลเลาะห์ กับกลุ่มฮามาส แล้วซาอุดิ อารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่ ที่รักๆงอนๆกับอเมริกา เป็นประเทศที่เราต้องจับตาดูดีๆ การเป็น การป่วย การป่วน การปฏิวัติ รวมถึง การ “ไป” ไม่ว่า จะเป็น “ป” ไหนของซาอุดิ อารเบีย มีความหมายกับตะวันออกกลาง กับอเมริกา และกับความเป็นไปในโลกนี้ อย่างมาก
ซาอุดิอารเบียจะเอียง ไปทางไหน จะเป็นอย่างไร คงเป็นเรื่องใหญ่ อเมริกาจะเดินยุทธศาสตร์แบบไหน จะปล่อยมือ หรือจะบีบให้คาที่ เป็นผลลบ หรือ ผลเป็นผลบวก กับฝ่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน
เราคงต้องตามไปดูเรื่องในซาอุ ดิอารเบีย ย้อนหลังเสียหน่อย ย้อนไปถึงต้นปี ค.ศ.2015 นี่ น่าจะพอ ไม่ต้องย้อนกันเป็นศตวรรษ ลุงนิทานจะเล่าอะไร ต้องขอถอยย้อนหลังไปนิด รู้อดีตหน่อย จะได้เข้าใจปัจจุบัน ส่วนจะทำให้มองเห็นอนาคตไหม นั่นก็แล้วความซับซ้อนของเรื่องราว และความคมชัดของสายตาของแต่ละคนนะครับ
จากบทความ ของนาย Bruce Riedel ซีไอเอ เก๋าเขี้ยวลาก ระดับสูง ที่เคยเป็นผู้ช่วยพิเศษด้านความมั่นคง ของประธานาธิบดีคลินตัน ด้านตะวันออกใกล้และเอเซียใต้ ที่เขียนเรื่องในซาอุดิอารเบีย เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา คงพอทำให้เราเข้าใจความคิดของไอ้ใบตองแห้ง เกี่ยวกับเรื่องซาอุดิอารเบีย เพิ่มขึ้นบ้าง และโปรดสังเกตระยะเวลาของการเขียนบทความ กับ เวลาที่เกิดข่าวลือด้วย
บทความเขาเริ่มว่า ซาอุดิอารเบีย ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ที่สุดของอเมริกา ในตะวันออกกลาง กำลังถึงจุดเปลี่ยนประเทศ โดยเตรียมให้คนอีกรุ่นหนึ่งขึ้นมาปกครอง ซึ่งนับเป็นการผลัดเปลี่ยน อย่างสำคัญเป็นประวัติการณ์
หลังจาก การสิ้นพระชนม์ของ กษัตริย์อับดุลลา Abdullah เมื่อเดือน มกราคม ค.ศ.2015 กษัตริย์ ซาลมาน Salmam bin Abdul-Aziz Al Saud น้องชายต่างมารดา วัย 79 ปี ก็ขึ้นมาครองราชย์แทน และจะเป็นคนรุ่นเก่าคนสุดท้าย ของรุ่นที่สร้างประเทศซาอุดิ อารเบีย จากประเทศจนๆ ในทะเลทราย ให้กลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยจากแหล่งน้ำมันอันมหาศาลของตัวเอง แต่ก็ยังอนุรักษ์นิยมอย่างสุดขั้ว
อนาคตของซาอุดิอารเบียจะเป็นอย่างไรต่อไป เป็นเรื่องที่วอชิงตันให้ความสนใจอย่างยิ่ง เพียงไม่กี่เดือนหลังจากขึ้นมา ครองราชย์ กษัตริย์ซาลมาน ก็เหมือนจะพาซาอุ เดินเข้าไป “ติดหล่ม” ในสงครามกับเยเมน ที่ซาอุ ถลาเข้าไปเอง …นี่เป็นคำสรรเสริญจากใบตองแห้งคนใกล้ชิดกันนะครับ แถมด้วยคำพูดว่า นี่เป็นการยืนยัน ว่า ซาอุดิอารเบีย ยังเดินตามคำแนะนำของกลุ่มเคร่งทางศานา ที่ไม่เห็นพ้องกับการปฏิรูปประเทศ ตามที่อเมริกาบอกว่าซาอุดิอารเบียจำเป็นต้องทำ ถ้าซาอุดิ
อารเบีย ยังอยากจะเป็นพันธมิตรที่มั่นคง กับอเมริกาต่อไป
โห…เพื่อนรัก วิจารณ์กันแบบนี้ ขนาดผมไม่ชอบขี่อูฐ ผมยังเคืองแทนเลยนะ มันกร่าง เป็นการดูถูก และข่มขู่เขาพร้อมกันไปด้วย ไม่รู้ทนกันได้ไง
อเมริกาบอกว่า ซาลมาน เริ่มต้นได้ไม่สวยเลย แต่ที่พอกู้หน้าได้ และที่อเมริกาต้อนรับด้วยความยินดี คือการเปลี่ยนแปลงผู้ที่เป็นรัชทายาทของกษัตริย์ คือ การเปลี่ยนตัวจากน้องชายต่างมารดา คือ เจ้าชาย มุคริน Muqrin bin Abdul-Aziz มาเป็น หลานชายชื่อ เจ้าชาย บิน นาเยฟ Muhammad bin Nayef วัย 56 ปี
องค์รัชทายาทคนใหม่ บิน นาเยฟ หรือที่พวกตะวันตก เรียกกันว่า MBN นับเป็นเจ้ารุ่นใหม่ (รุ่นหลาน) ที่จะปกครองอาณาจักรซาอุดิอารเบีย เว้นแต่จะ ซาลมานจะเปลี่ยนใจอีก ซึ่งอเมริกาบอกว่า เราขอว่า อย่าเปลี่ยนเลยนะ เพราะ MBN นี่ เป็นขวัญใจของอเมริกา ที่ให้ความร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของอเมริกาอย่างดีเยี่ยม ในปราบปรามผู้ก่อการร้าย ตั้งแต่สมัยที่ MBN เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีมหาดไทย จนมาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยเอง ซึ่งต่างกับพ่อของเขา ซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยอยู่นานมาก ก่อนส่งต่อตำแหน่งให้ลูก
คุณพ่อ นี่ ไม่ธรรมดาเลย แม้จะมีคนบอกว่า คุณพ่อ นี่โปรอเมริกามากกว่า ราชวงศ์คนอื่นๆ แต่ คุณพ่อก็ถูกอเมริกา ขนานนามว่าเป็น ” the Black Prince” จะหมายความว่า เป็นแกะดำของราชวงค์ หรือ เป็นคนโหด หรือ เป็นคนนอกคอก ผมยังไม่รู้คำแปลของ อเมริกาในเรื่องนี้
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
18 ต.ค. 2558
“ข่าวลือ ข่าวลวง”
ตอน 1
เมื่อต้นเตือนตุลาคมนี้ (ค.ศ.2015) สื่ออิสราเอล ประเภทเกาะติดการเมืองและการทหาร ลงข่าวว่า กษัตริย์ซาลมาน ของซาอุดิอารเบีย ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล และมีข่าวว่า อาจเกิดการปฏิวัติภายในซาอุดิอารเบียด้วย เป็นข่าวสั้นๆ หลังจากนั้น ไม่มีข่าวคืบหน้า ส่วนสื่อตะวันตก และอัลจาซีรา ของการ์ต้า เล็กแต่แสบ ไม่แง้มปากออกมาเลย
ข่าวเรื่องกษัตริย์ ซาอุป่วย กับข่าวปฏิวัติซาอุนี่ สื่อต่างประเทศ เล่นกันมาเป็นระรอก ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ปีนี้แล้ว เรื่องแบบนี่ไม่มีบังเอิญหรอก ครับ บทชั่วๆอย่างนี้ ไอ้ใบตองแห้งชอบใช้นัก อยู่ดีๆมีข่าวปล่อยแบบนี้ แปลว่า มันต้องมีแผนชั่วคิดอยู่ จะชั่วขนาดไหน ต้องตามกันหน่อย
ขณะนี้ ในตะวันออกกลาง นอกเหนือจากการรบในซีเรีย ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างเข้มข้นแล้ว ประเทศที่จะเป็นตัวแปร ที่ไม่นับทางฝั่งของรัสเซีย ที่มีอิหร่าน ซีเรียจับมือร่วมกับบางส่วนของ อิรัค บางส่วนของเยเมน และอีก 2 กองกำลังติดอาวุธ คือ กลุ่มเฮสบอลเลาะห์ กับกลุ่มฮามาส แล้วซาอุดิ อารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่ ที่รักๆงอนๆกับอเมริกา เป็นประเทศที่เราต้องจับตาดูดีๆ การเป็น การป่วย การป่วน การปฏิวัติ รวมถึง การ “ไป” ไม่ว่า จะเป็น “ป” ไหนของซาอุดิ อารเบีย มีความหมายกับตะวันออกกลาง กับอเมริกา และกับความเป็นไปในโลกนี้ อย่างมาก
ซาอุดิอารเบียจะเอียง ไปทางไหน จะเป็นอย่างไร คงเป็นเรื่องใหญ่ อเมริกาจะเดินยุทธศาสตร์แบบไหน จะปล่อยมือ หรือจะบีบให้คาที่ เป็นผลลบ หรือ ผลเป็นผลบวก กับฝ่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน
เราคงต้องตามไปดูเรื่องในซาอุ ดิอารเบีย ย้อนหลังเสียหน่อย ย้อนไปถึงต้นปี ค.ศ.2015 นี่ น่าจะพอ ไม่ต้องย้อนกันเป็นศตวรรษ ลุงนิทานจะเล่าอะไร ต้องขอถอยย้อนหลังไปนิด รู้อดีตหน่อย จะได้เข้าใจปัจจุบัน ส่วนจะทำให้มองเห็นอนาคตไหม นั่นก็แล้วความซับซ้อนของเรื่องราว และความคมชัดของสายตาของแต่ละคนนะครับ
จากบทความ ของนาย Bruce Riedel ซีไอเอ เก๋าเขี้ยวลาก ระดับสูง ที่เคยเป็นผู้ช่วยพิเศษด้านความมั่นคง ของประธานาธิบดีคลินตัน ด้านตะวันออกใกล้และเอเซียใต้ ที่เขียนเรื่องในซาอุดิอารเบีย เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา คงพอทำให้เราเข้าใจความคิดของไอ้ใบตองแห้ง เกี่ยวกับเรื่องซาอุดิอารเบีย เพิ่มขึ้นบ้าง และโปรดสังเกตระยะเวลาของการเขียนบทความ กับ เวลาที่เกิดข่าวลือด้วย
บทความเขาเริ่มว่า ซาอุดิอารเบีย ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ที่สุดของอเมริกา ในตะวันออกกลาง กำลังถึงจุดเปลี่ยนประเทศ โดยเตรียมให้คนอีกรุ่นหนึ่งขึ้นมาปกครอง ซึ่งนับเป็นการผลัดเปลี่ยน อย่างสำคัญเป็นประวัติการณ์
หลังจาก การสิ้นพระชนม์ของ กษัตริย์อับดุลลา Abdullah เมื่อเดือน มกราคม ค.ศ.2015 กษัตริย์ ซาลมาน Salmam bin Abdul-Aziz Al Saud น้องชายต่างมารดา วัย 79 ปี ก็ขึ้นมาครองราชย์แทน และจะเป็นคนรุ่นเก่าคนสุดท้าย ของรุ่นที่สร้างประเทศซาอุดิ อารเบีย จากประเทศจนๆ ในทะเลทราย ให้กลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยจากแหล่งน้ำมันอันมหาศาลของตัวเอง แต่ก็ยังอนุรักษ์นิยมอย่างสุดขั้ว
อนาคตของซาอุดิอารเบียจะเป็นอย่างไรต่อไป เป็นเรื่องที่วอชิงตันให้ความสนใจอย่างยิ่ง เพียงไม่กี่เดือนหลังจากขึ้นมา ครองราชย์ กษัตริย์ซาลมาน ก็เหมือนจะพาซาอุ เดินเข้าไป “ติดหล่ม” ในสงครามกับเยเมน ที่ซาอุ ถลาเข้าไปเอง …นี่เป็นคำสรรเสริญจากใบตองแห้งคนใกล้ชิดกันนะครับ แถมด้วยคำพูดว่า นี่เป็นการยืนยัน ว่า ซาอุดิอารเบีย ยังเดินตามคำแนะนำของกลุ่มเคร่งทางศานา ที่ไม่เห็นพ้องกับการปฏิรูปประเทศ ตามที่อเมริกาบอกว่าซาอุดิอารเบียจำเป็นต้องทำ ถ้าซาอุดิ
อารเบีย ยังอยากจะเป็นพันธมิตรที่มั่นคง กับอเมริกาต่อไป
โห…เพื่อนรัก วิจารณ์กันแบบนี้ ขนาดผมไม่ชอบขี่อูฐ ผมยังเคืองแทนเลยนะ มันกร่าง เป็นการดูถูก และข่มขู่เขาพร้อมกันไปด้วย ไม่รู้ทนกันได้ไง
อเมริกาบอกว่า ซาลมาน เริ่มต้นได้ไม่สวยเลย แต่ที่พอกู้หน้าได้ และที่อเมริกาต้อนรับด้วยความยินดี คือการเปลี่ยนแปลงผู้ที่เป็นรัชทายาทของกษัตริย์ คือ การเปลี่ยนตัวจากน้องชายต่างมารดา คือ เจ้าชาย มุคริน Muqrin bin Abdul-Aziz มาเป็น หลานชายชื่อ เจ้าชาย บิน นาเยฟ Muhammad bin Nayef วัย 56 ปี
องค์รัชทายาทคนใหม่ บิน นาเยฟ หรือที่พวกตะวันตก เรียกกันว่า MBN นับเป็นเจ้ารุ่นใหม่ (รุ่นหลาน) ที่จะปกครองอาณาจักรซาอุดิอารเบีย เว้นแต่จะ ซาลมานจะเปลี่ยนใจอีก ซึ่งอเมริกาบอกว่า เราขอว่า อย่าเปลี่ยนเลยนะ เพราะ MBN นี่ เป็นขวัญใจของอเมริกา ที่ให้ความร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของอเมริกาอย่างดีเยี่ยม ในปราบปรามผู้ก่อการร้าย ตั้งแต่สมัยที่ MBN เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีมหาดไทย จนมาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยเอง ซึ่งต่างกับพ่อของเขา ซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยอยู่นานมาก ก่อนส่งต่อตำแหน่งให้ลูก
คุณพ่อ นี่ ไม่ธรรมดาเลย แม้จะมีคนบอกว่า คุณพ่อ นี่โปรอเมริกามากกว่า ราชวงศ์คนอื่นๆ แต่ คุณพ่อก็ถูกอเมริกา ขนานนามว่าเป็น ” the Black Prince” จะหมายความว่า เป็นแกะดำของราชวงค์ หรือ เป็นคนโหด หรือ เป็นคนนอกคอก ผมยังไม่รู้คำแปลของ อเมริกาในเรื่องนี้
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
18 ต.ค. 2558
ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 1
“ข่าวลือ ข่าวลวง”
ตอน 1
เมื่อต้นเตือนตุลาคมนี้ (ค.ศ.2015) สื่ออิสราเอล ประเภทเกาะติดการเมืองและการทหาร ลงข่าวว่า กษัตริย์ซาลมาน ของซาอุดิอารเบีย ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล และมีข่าวว่า อาจเกิดการปฏิวัติภายในซาอุดิอารเบียด้วย เป็นข่าวสั้นๆ หลังจากนั้น ไม่มีข่าวคืบหน้า ส่วนสื่อตะวันตก และอัลจาซีรา ของการ์ต้า เล็กแต่แสบ ไม่แง้มปากออกมาเลย
ข่าวเรื่องกษัตริย์ ซาอุป่วย กับข่าวปฏิวัติซาอุนี่ สื่อต่างประเทศ เล่นกันมาเป็นระรอก ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ปีนี้แล้ว เรื่องแบบนี่ไม่มีบังเอิญหรอก ครับ บทชั่วๆอย่างนี้ ไอ้ใบตองแห้งชอบใช้นัก อยู่ดีๆมีข่าวปล่อยแบบนี้ แปลว่า มันต้องมีแผนชั่วคิดอยู่ จะชั่วขนาดไหน ต้องตามกันหน่อย
ขณะนี้ ในตะวันออกกลาง นอกเหนือจากการรบในซีเรีย ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างเข้มข้นแล้ว ประเทศที่จะเป็นตัวแปร ที่ไม่นับทางฝั่งของรัสเซีย ที่มีอิหร่าน ซีเรียจับมือร่วมกับบางส่วนของ อิรัค บางส่วนของเยเมน และอีก 2 กองกำลังติดอาวุธ คือ กลุ่มเฮสบอลเลาะห์ กับกลุ่มฮามาส แล้วซาอุดิ อารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่ ที่รักๆงอนๆกับอเมริกา เป็นประเทศที่เราต้องจับตาดูดีๆ การเป็น การป่วย การป่วน การปฏิวัติ รวมถึง การ “ไป” ไม่ว่า จะเป็น “ป” ไหนของซาอุดิ อารเบีย มีความหมายกับตะวันออกกลาง กับอเมริกา และกับความเป็นไปในโลกนี้ อย่างมาก
ซาอุดิอารเบียจะเอียง ไปทางไหน จะเป็นอย่างไร คงเป็นเรื่องใหญ่ อเมริกาจะเดินยุทธศาสตร์แบบไหน จะปล่อยมือ หรือจะบีบให้คาที่ เป็นผลลบ หรือ ผลเป็นผลบวก กับฝ่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน
เราคงต้องตามไปดูเรื่องในซาอุ ดิอารเบีย ย้อนหลังเสียหน่อย ย้อนไปถึงต้นปี ค.ศ.2015 นี่ น่าจะพอ ไม่ต้องย้อนกันเป็นศตวรรษ ลุงนิทานจะเล่าอะไร ต้องขอถอยย้อนหลังไปนิด รู้อดีตหน่อย จะได้เข้าใจปัจจุบัน ส่วนจะทำให้มองเห็นอนาคตไหม นั่นก็แล้วความซับซ้อนของเรื่องราว และความคมชัดของสายตาของแต่ละคนนะครับ
จากบทความ ของนาย Bruce Riedel ซีไอเอ เก๋าเขี้ยวลาก ระดับสูง ที่เคยเป็นผู้ช่วยพิเศษด้านความมั่นคง ของประธานาธิบดีคลินตัน ด้านตะวันออกใกล้และเอเซียใต้ ที่เขียนเรื่องในซาอุดิอารเบีย เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา คงพอทำให้เราเข้าใจความคิดของไอ้ใบตองแห้ง เกี่ยวกับเรื่องซาอุดิอารเบีย เพิ่มขึ้นบ้าง และโปรดสังเกตระยะเวลาของการเขียนบทความ กับ เวลาที่เกิดข่าวลือด้วย
บทความเขาเริ่มว่า ซาอุดิอารเบีย ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ที่สุดของอเมริกา ในตะวันออกกลาง กำลังถึงจุดเปลี่ยนประเทศ โดยเตรียมให้คนอีกรุ่นหนึ่งขึ้นมาปกครอง ซึ่งนับเป็นการผลัดเปลี่ยน อย่างสำคัญเป็นประวัติการณ์
หลังจาก การสิ้นพระชนม์ของ กษัตริย์อับดุลลา Abdullah เมื่อเดือน มกราคม ค.ศ.2015 กษัตริย์ ซาลมาน Salmam bin Abdul-Aziz Al Saud น้องชายต่างมารดา วัย 79 ปี ก็ขึ้นมาครองราชย์แทน และจะเป็นคนรุ่นเก่าคนสุดท้าย ของรุ่นที่สร้างประเทศซาอุดิ อารเบีย จากประเทศจนๆ ในทะเลทราย ให้กลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยจากแหล่งน้ำมันอันมหาศาลของตัวเอง แต่ก็ยังอนุรักษ์นิยมอย่างสุดขั้ว
อนาคตของซาอุดิอารเบียจะเป็นอย่างไรต่อไป เป็นเรื่องที่วอชิงตันให้ความสนใจอย่างยิ่ง เพียงไม่กี่เดือนหลังจากขึ้นมา ครองราชย์ กษัตริย์ซาลมาน ก็เหมือนจะพาซาอุ เดินเข้าไป “ติดหล่ม” ในสงครามกับเยเมน ที่ซาอุ ถลาเข้าไปเอง …นี่เป็นคำสรรเสริญจากใบตองแห้งคนใกล้ชิดกันนะครับ แถมด้วยคำพูดว่า นี่เป็นการยืนยัน ว่า ซาอุดิอารเบีย ยังเดินตามคำแนะนำของกลุ่มเคร่งทางศานา ที่ไม่เห็นพ้องกับการปฏิรูปประเทศ ตามที่อเมริกาบอกว่าซาอุดิอารเบียจำเป็นต้องทำ ถ้าซาอุดิ
อารเบีย ยังอยากจะเป็นพันธมิตรที่มั่นคง กับอเมริกาต่อไป
โห…เพื่อนรัก วิจารณ์กันแบบนี้ ขนาดผมไม่ชอบขี่อูฐ ผมยังเคืองแทนเลยนะ มันกร่าง เป็นการดูถูก และข่มขู่เขาพร้อมกันไปด้วย ไม่รู้ทนกันได้ไง
อเมริกาบอกว่า ซาลมาน เริ่มต้นได้ไม่สวยเลย แต่ที่พอกู้หน้าได้ และที่อเมริกาต้อนรับด้วยความยินดี คือการเปลี่ยนแปลงผู้ที่เป็นรัชทายาทของกษัตริย์ คือ การเปลี่ยนตัวจากน้องชายต่างมารดา คือ เจ้าชาย มุคริน Muqrin bin Abdul-Aziz มาเป็น หลานชายชื่อ เจ้าชาย บิน นาเยฟ Muhammad bin Nayef วัย 56 ปี
องค์รัชทายาทคนใหม่ บิน นาเยฟ หรือที่พวกตะวันตก เรียกกันว่า MBN นับเป็นเจ้ารุ่นใหม่ (รุ่นหลาน) ที่จะปกครองอาณาจักรซาอุดิอารเบีย เว้นแต่จะ ซาลมานจะเปลี่ยนใจอีก ซึ่งอเมริกาบอกว่า เราขอว่า อย่าเปลี่ยนเลยนะ เพราะ MBN นี่ เป็นขวัญใจของอเมริกา ที่ให้ความร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของอเมริกาอย่างดีเยี่ยม ในปราบปรามผู้ก่อการร้าย ตั้งแต่สมัยที่ MBN เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีมหาดไทย จนมาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยเอง ซึ่งต่างกับพ่อของเขา ซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยอยู่นานมาก ก่อนส่งต่อตำแหน่งให้ลูก
คุณพ่อ นี่ ไม่ธรรมดาเลย แม้จะมีคนบอกว่า คุณพ่อ นี่โปรอเมริกามากกว่า ราชวงศ์คนอื่นๆ แต่ คุณพ่อก็ถูกอเมริกา ขนานนามว่าเป็น ” the Black Prince” จะหมายความว่า เป็นแกะดำของราชวงค์ หรือ เป็นคนโหด หรือ เป็นคนนอกคอก ผมยังไม่รู้คำแปลของ อเมริกาในเรื่องนี้
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
18 ต.ค. 2558
0 Comments
0 Shares
26 Views
0 Reviews