• “ปัตตานีไม่ใช่ดินแดนที่ถูกยึด”
    เปิดหลักฐานสยามและอังกฤษที่ยืนยันอธิปไตยของไทย

    #อัษฎางค์ยมนาค

    การเมืองของประวัติศาสตร์ และมายาคติแห่งการ “สูญเสียดินแดน”

    เมื่อ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตผู้นำผู้ทรงอิทธิพลของมาเลเซีย โพสต์ข้อความเรียกร้องความเห็นใจต่อ “การสูญเสียดินแดนของชาวมลายู” โดยมีนัยว่าพรมแดนปัจจุบันของมาเลเซียถูกจำกัด เพราะดินแดนบางส่วนตกเป็นของประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย วาทกรรมนี้จึงถูกปล่อยออกมาในลักษณะที่ปลุกอารมณ์ผู้คน และสร้างภาพลวงตาว่าชาวมลายูเคยถูก “ยึดครอง”

    แต่หากไม่ใช้ปัญญาแยกแยะระหว่างวาทกรรมกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ก็ย่อมตกเป็นเหยื่อของ “มายาคติแห่งการถูกกดขี่” ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับแนวคิดแบ่งแยกดินแดนที่ยังคุกรุ่น

    ประเทศไทยไม่เคย “ยึด” ดินแดนจากมาเลเซีย เพราะ “มาเลเซีย” ยังไม่ปรากฏในฐานะรัฐชาติในช่วงเวลานั้น ดินแดนที่เรียกว่า มลายา หรือ คาบสมุทรมลายู ในอดีต ประกอบด้วยรัฐสุลต่านอิสระหลายแห่ง รวมถึง ปัตตานี ซึ่งยอมรับอธิปไตยของสยามในฐานะ “รัฐบรรณาการ” มาตั้งแต่สมัยอยุธยา

    ในบรรดาหัวเมืองมลายูที่เคยขึ้นกับไทย ได้แก่ ไทรบุรี กะลันตัน ตรังกานู และปัตตานี ซึ่งอังกฤษเองก็รับรองอย่างเป็นทางการใน “สัญญาเบอร์นี” (พ.ศ. 2369) ว่าเมืองเหล่านี้เป็นดินแดนภายใต้อำนาจของกรุงเทพฯ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อจักรวรรดิอังกฤษขยายอิทธิพลในภูมิภาค หลังชัยชนะเหนือจีนและพม่า ไทยซึ่งเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่ตกเป็นอาณานิคม จึงต้องยอมแลกดินแดนบางส่วนเพื่อรักษาเอกราชโดยรวม

    ผลก็คือ ไทยต้องเสีย ไทรบุรี กะลันตัน และตรังกานู ไปให้อังกฤษ ซึ่งต่อมาถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย แต่ ปัตตานี ยังคงอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทยจนถึงปัจจุบัน

    เพื่อคลี่คลายความเข้าใจผิด และตั้งหลักให้กับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ บทความนี้จึงขอนำเสนอหลักฐานจาก พระราชพงศาวดารรัชกาลที่ 5 พระนิพนธ์โดย สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พร้อมอ้างอิงเอกสารของอังกฤษ เพื่อให้ข้อเท็จจริงได้ยืนเคียงข้างวาทกรรมร่วมสมัยอย่างมีศักดิ์ศรี

    อ่านรายละเอียดฉบับเต็มได้ที่
    www.atsadang.com/?p=5503
    #อัษฎางค์ดอทคอม
    “ปัตตานีไม่ใช่ดินแดนที่ถูกยึด” เปิดหลักฐานสยามและอังกฤษที่ยืนยันอธิปไตยของไทย #อัษฎางค์ยมนาค การเมืองของประวัติศาสตร์ และมายาคติแห่งการ “สูญเสียดินแดน” เมื่อ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตผู้นำผู้ทรงอิทธิพลของมาเลเซีย โพสต์ข้อความเรียกร้องความเห็นใจต่อ “การสูญเสียดินแดนของชาวมลายู” โดยมีนัยว่าพรมแดนปัจจุบันของมาเลเซียถูกจำกัด เพราะดินแดนบางส่วนตกเป็นของประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย วาทกรรมนี้จึงถูกปล่อยออกมาในลักษณะที่ปลุกอารมณ์ผู้คน และสร้างภาพลวงตาว่าชาวมลายูเคยถูก “ยึดครอง” แต่หากไม่ใช้ปัญญาแยกแยะระหว่างวาทกรรมกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ก็ย่อมตกเป็นเหยื่อของ “มายาคติแห่งการถูกกดขี่” ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับแนวคิดแบ่งแยกดินแดนที่ยังคุกรุ่น ประเทศไทยไม่เคย “ยึด” ดินแดนจากมาเลเซีย เพราะ “มาเลเซีย” ยังไม่ปรากฏในฐานะรัฐชาติในช่วงเวลานั้น ดินแดนที่เรียกว่า มลายา หรือ คาบสมุทรมลายู ในอดีต ประกอบด้วยรัฐสุลต่านอิสระหลายแห่ง รวมถึง ปัตตานี ซึ่งยอมรับอธิปไตยของสยามในฐานะ “รัฐบรรณาการ” มาตั้งแต่สมัยอยุธยา ในบรรดาหัวเมืองมลายูที่เคยขึ้นกับไทย ได้แก่ ไทรบุรี กะลันตัน ตรังกานู และปัตตานี ซึ่งอังกฤษเองก็รับรองอย่างเป็นทางการใน “สัญญาเบอร์นี” (พ.ศ. 2369) ว่าเมืองเหล่านี้เป็นดินแดนภายใต้อำนาจของกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม เมื่อจักรวรรดิอังกฤษขยายอิทธิพลในภูมิภาค หลังชัยชนะเหนือจีนและพม่า ไทยซึ่งเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่ตกเป็นอาณานิคม จึงต้องยอมแลกดินแดนบางส่วนเพื่อรักษาเอกราชโดยรวม ผลก็คือ ไทยต้องเสีย ไทรบุรี กะลันตัน และตรังกานู ไปให้อังกฤษ ซึ่งต่อมาถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย แต่ ปัตตานี ยังคงอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทยจนถึงปัจจุบัน เพื่อคลี่คลายความเข้าใจผิด และตั้งหลักให้กับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ บทความนี้จึงขอนำเสนอหลักฐานจาก พระราชพงศาวดารรัชกาลที่ 5 พระนิพนธ์โดย สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พร้อมอ้างอิงเอกสารของอังกฤษ เพื่อให้ข้อเท็จจริงได้ยืนเคียงข้างวาทกรรมร่วมสมัยอย่างมีศักดิ์ศรี อ่านรายละเอียดฉบับเต็มได้ที่ www.atsadang.com/?p=5503 #อัษฎางค์ดอทคอม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันออก

    เดือนนี้ คนที่เคยไว้เนื้อเชื่อใจแต่กลับไม่ซื่อสัตย์ จะถูกท้าทายอำนาจให้ตำแหน่งหยุดอยู่นิ่งกับที่ไม่ก้าวหน้า ทำธุรกิจค้าขายต้องรัดกุม ไม่ว่าธุรกิจอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ไอที ค้าแรงงาน จะเกิดอุปสรรคปัญหาให้ผิดพลาด ผู้บริหารจะต้องรับผิดชอบกับภาระหนัก เพราะขาดสภาวะการเป็นผู้นำ ปล่อยเงินกู้จะเสียหายทำให้ผิดใจกัน มอบหมายงานสำคัญจำเป็นจะต้องคอยทวงถาม ลูกน้องและบริวารจะทรยศหักหลัง เพราะลูกหลานดื้อรั้น ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งผู้ใหญ่ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกัน ลูกชายจะอกตัญญูก้าวร้าวต่อพ่อแม่และผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุลูกชายคนโตจะเจ็บป่วย มีปัญหาที่ปอด กระดูก ศีรษะ ระบบเลือด หัวใจ และดวงตา ระวังมีเกณฑ์ ขโมยจะขึ้นบ้านลักทรัพย์สินเงินทองควรหาวิธีป้องกัน

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันออก เดือนนี้ คนที่เคยไว้เนื้อเชื่อใจแต่กลับไม่ซื่อสัตย์ จะถูกท้าทายอำนาจให้ตำแหน่งหยุดอยู่นิ่งกับที่ไม่ก้าวหน้า ทำธุรกิจค้าขายต้องรัดกุม ไม่ว่าธุรกิจอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ไอที ค้าแรงงาน จะเกิดอุปสรรคปัญหาให้ผิดพลาด ผู้บริหารจะต้องรับผิดชอบกับภาระหนัก เพราะขาดสภาวะการเป็นผู้นำ ปล่อยเงินกู้จะเสียหายทำให้ผิดใจกัน มอบหมายงานสำคัญจำเป็นจะต้องคอยทวงถาม ลูกน้องและบริวารจะทรยศหักหลัง เพราะลูกหลานดื้อรั้น ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งผู้ใหญ่ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกัน ลูกชายจะอกตัญญูก้าวร้าวต่อพ่อแม่และผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุลูกชายคนโตจะเจ็บป่วย มีปัญหาที่ปอด กระดูก ศีรษะ ระบบเลือด หัวใจ และดวงตา ระวังมีเกณฑ์ ขโมยจะขึ้นบ้านลักทรัพย์สินเงินทองควรหาวิธีป้องกัน ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระชัยวัฒน์ 4 มุมเมือง พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    พระชัยวัฒน์ 4 มุมเมือง (พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ) ใต้ฐานตอก1โค๊ต หน้าใหญ่ นิยม พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา ปี2511 // พระดีพิธีใหญ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเททองหล่อองค์พระพุทธรูป และพระชัยวัฒน์ พระมีประสบการณ์มาก // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาด กันตัว กันสรรพอันตราย มีโชคลาภ สุดยอดโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >>

    พิธีพุทธาภิเษก โดยมีพระเกจิอาจารย์ 9 รูป ที่นั่งปรกปลุกเสกคือ 1.พระอาจารย์นำ ชินวโร วัดดอนศาลา พัทลุง 2.หลวงพ่อหมุน ยสโร วัดเขาแดงตะวันออก พัทลุง 3.หลวงพ่อเล็ก วัดประดู่เรียง พัทลุง 4.หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ พัทลุง 5.หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก พัทุลุง 6.พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช 7.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีธรรมราช 8.หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน นครศรีธรรมราช 9.หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ นครศรีธรรมราช ส่วนพระเกจิอีก 9 รูป ที่สวดเจริญพุทธมนต์ คือ 1.พระครูพิพัฒน์สิริธรคง วัดบ้านสวน พัทลุง 2.หลวงพ่อแก้ว วัดโคกโดน พัทลุง 3.พระราชโสภณ ช้วน วัดตันตยาภิรม ตรัง 4.พระครูศรัทธานุรักษ์ วัน วัดปากพยูน พัทลุง 5.พระครูโอภาสวุฒิคุณ แสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง 6.หลวงพ่อแก่น วัดทุ่งหล่อ นครศรีธรรมราช 7.หลวงพ่อพุ่ม วัดน้ำผุดใต้ ตรัง8.หลวงพ่อจันทร์ วัดทุ้งเฟื้อ นครศรีธรรมราช 9.พระครูการาม พลับ วัดชายคลอง พัทลุง .. >>


    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระชัยวัฒน์ 4 มุมเมือง พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา พระชัยวัฒน์ 4 มุมเมือง (พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ) ใต้ฐานตอก1โค๊ต หน้าใหญ่ นิยม พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา ปี2511 // พระดีพิธีใหญ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเททองหล่อองค์พระพุทธรูป และพระชัยวัฒน์ พระมีประสบการณ์มาก // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ // ** พุทธคุณ แคล้วคลาด กันตัว กันสรรพอันตราย มีโชคลาภ สุดยอดโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >> พิธีพุทธาภิเษก โดยมีพระเกจิอาจารย์ 9 รูป ที่นั่งปรกปลุกเสกคือ 1.พระอาจารย์นำ ชินวโร วัดดอนศาลา พัทลุง 2.หลวงพ่อหมุน ยสโร วัดเขาแดงตะวันออก พัทลุง 3.หลวงพ่อเล็ก วัดประดู่เรียง พัทลุง 4.หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ พัทลุง 5.หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก พัทุลุง 6.พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช 7.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีธรรมราช 8.หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน นครศรีธรรมราช 9.หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ นครศรีธรรมราช ส่วนพระเกจิอีก 9 รูป ที่สวดเจริญพุทธมนต์ คือ 1.พระครูพิพัฒน์สิริธรคง วัดบ้านสวน พัทลุง 2.หลวงพ่อแก้ว วัดโคกโดน พัทลุง 3.พระราชโสภณ ช้วน วัดตันตยาภิรม ตรัง 4.พระครูศรัทธานุรักษ์ วัน วัดปากพยูน พัทลุง 5.พระครูโอภาสวุฒิคุณ แสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง 6.หลวงพ่อแก่น วัดทุ่งหล่อ นครศรีธรรมราช 7.หลวงพ่อพุ่ม วัดน้ำผุดใต้ ตรัง8.หลวงพ่อจันทร์ วัดทุ้งเฟื้อ นครศรีธรรมราช 9.พระครูการาม พลับ วัดชายคลอง พัทลุง .. >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงสหรัฐฯจะหยุดทิ้งบอมบ์ถล่มพวกฮูตีในเยเมน โดยอ้างว่าพวกนักรบที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านกลุ่มนี้ ยอมตกลงหยุดโจมตีก่อความปั่นป่วนในทะเลแดง เส้นทางการขนส่งสินค้าสำคัญในตะวันออกกลาง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042486

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงสหรัฐฯจะหยุดทิ้งบอมบ์ถล่มพวกฮูตีในเยเมน โดยอ้างว่าพวกนักรบที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านกลุ่มนี้ ยอมตกลงหยุดโจมตีก่อความปั่นป่วนในทะเลแดง เส้นทางการขนส่งสินค้าสำคัญในตะวันออกกลาง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042486 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 514 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ติดหล่ม 3 กับดักที่ตัวเองก่อ ยูเครน-ตะวันออกกลาง-ภาษี : คนเคาะข่าว 06-05-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์

    #คนเคาะข่าว #ทรัมป์ #สงครามยูเครน #ตะวันออกกลาง #นโยบายภาษี #กับดักทรัมป์ #Geopolitics #ข่าวต่างประเทศ #ทนงขันทอง #นงวดีถนิมมาลย์ #วิเคราะห์การเมืองโลก #นโยบายสหรัฐ #thaitimes #ภาษีทรัมป์ #ความขัดแย้งระหว่างประเทศ
    ทรัมป์ติดหล่ม 3 กับดักที่ตัวเองก่อ ยูเครน-ตะวันออกกลาง-ภาษี : คนเคาะข่าว 06-05-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #คนเคาะข่าว #ทรัมป์ #สงครามยูเครน #ตะวันออกกลาง #นโยบายภาษี #กับดักทรัมป์ #Geopolitics #ข่าวต่างประเทศ #ทนงขันทอง #นงวดีถนิมมาลย์ #วิเคราะห์การเมืองโลก #นโยบายสหรัฐ #thaitimes #ภาษีทรัมป์ #ความขัดแย้งระหว่างประเทศ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 12 0 รีวิว
  • ชนวนปะทุเดือดชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย

    เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง

    ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต

    ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก

    The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต

    1. การวิเคราะห์สถานการณ์
    บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้:

    สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ

    ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม.
    ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล

    ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต.

    อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ

    กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง:

    กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ.

    กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย.

    กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน.

    กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล.

    แนวโน้มในอนาคต:
    การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา.

    ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่.

    ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว.

    ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ.

    ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
    ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว

    รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม

    ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia.

    การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook

    การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง

    แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024.
    ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์

    ท่าทีของไทย
    ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ:

    การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC.

    ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center

    การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction.

    มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News.

    นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น.

    การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera.

    ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network.

    ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure.

    ข้อสรุป
    สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ


    การอ้างอิง:
    Laotian Civil War - Wikipedia
    Insurgency in Laos - Wikipedia
    Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations
    Assessment for Hmong in Laos | Refworld
    Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica
    From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters
    Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR
    Laos country profile - BBC News
    Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations
    Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post
    Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic
    Laos | AP News






    ชนวนปะทุเดือดชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต 1. การวิเคราะห์สถานการณ์ บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้: สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม. ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต. อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง: กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ. กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย. กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน. กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล. แนวโน้มในอนาคต: การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา. ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่. ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว. ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia. การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024. ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์ ท่าทีของไทย ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ: การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC. ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction. มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News. นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น. การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network. ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure. ข้อสรุป สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ การอ้างอิง: Laotian Civil War - Wikipedia Insurgency in Laos - Wikipedia Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations Assessment for Hmong in Laos | Refworld Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR Laos country profile - BBC News Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic Laos | AP News
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

    เดือนนี้ เป็นเพราะการเอาแต่ใจตนเอง คิดเป็นใหญ่เกินตัวจะถูกฟ้องร้องฟ้องศาลให้แพ้คดีความในภายหลัง ควรไตร่ตรองคิดพิจารณาให้รอบคอบรอบด้านก่อนการตัดสินใจลงนามในหนังสือเอกสารสัญญาใดๆก็ตาม อีกทั้งลูกหลานและบริวารจะเป็นต้นเหตุให้เสียหาย รู้จักการวางเฉย ปล่อยวาง ตั้งสติให้มั่น เพราะการคิดไม่ตกจากเรื่องที่ต้องขบคิดทำให้เกิดความเครียดเข้าครอบงำ ควรพิจารณาให้ถึงต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงเพราะทุกๆปัญหาย่อมมีหนทางการแก้ไข อีกทั้งยามค่ำคืนควรจะหลีกเลี่ยงที่เปลี่ยว อย่าไปที่ไหนเพียงลำพังคนเดียว อาจจะเกิดเหตุโศกนาฏกรรม อุบัติเหตุ เภทภัยได้ ควรรู้จักนอนหลับพักผ่อนออกกำลังกายให้พอเหมาะ สุขภาพร่างกายจะได้ไม่เจ็บป่วย ไม่ต้องเสียทรัพย์ไปกับการรักษาพยาบาล

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เดือนนี้ เป็นเพราะการเอาแต่ใจตนเอง คิดเป็นใหญ่เกินตัวจะถูกฟ้องร้องฟ้องศาลให้แพ้คดีความในภายหลัง ควรไตร่ตรองคิดพิจารณาให้รอบคอบรอบด้านก่อนการตัดสินใจลงนามในหนังสือเอกสารสัญญาใดๆก็ตาม อีกทั้งลูกหลานและบริวารจะเป็นต้นเหตุให้เสียหาย รู้จักการวางเฉย ปล่อยวาง ตั้งสติให้มั่น เพราะการคิดไม่ตกจากเรื่องที่ต้องขบคิดทำให้เกิดความเครียดเข้าครอบงำ ควรพิจารณาให้ถึงต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงเพราะทุกๆปัญหาย่อมมีหนทางการแก้ไข อีกทั้งยามค่ำคืนควรจะหลีกเลี่ยงที่เปลี่ยว อย่าไปที่ไหนเพียงลำพังคนเดียว อาจจะเกิดเหตุโศกนาฏกรรม อุบัติเหตุ เภทภัยได้ ควรรู้จักนอนหลับพักผ่อนออกกำลังกายให้พอเหมาะ สุขภาพร่างกายจะได้ไม่เจ็บป่วย ไม่ต้องเสียทรัพย์ไปกับการรักษาพยาบาล ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปิดฉากการแข่งขันว่ายน้ำ “28th THE MALL KORAT SWIMMING CUP 2025” สานฝันอนาคตนักกีฬาเยาวชนไทย ก้าวไกลสู่การแข่งขันใหญ่ระดับประเทศ
     
    บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขันว่ายน้ำครั้งยิ่งใหญ่ ในงาน “28th THE MALL KORAT SWIMMING CUP 2025” การแข่งขันว่ายน้ำเยาวชนระดับประเทศ ตามหลักกฏกติกามาตรฐาน ของสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (FINA)                 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี งานจัดขึ้นระหว่างวันที่  3-4 พฤษภาคม 2568 ณ สระว่ายน้ำ Champions Pool สวนน้ำ แฟนตาเซีย ลากูน ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช

    วันที่ 3 พ.ค.2568 เวลา 09.00น. นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมาให้เกียรติร่วมงานและให้กำลังใจนักกีฬาว่ายน้ำ พร้อมด้วย น.ส.ธีรารัตน์ ร่มรื่น ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดนครราชสีมา ดร.สิทธิชัย เป้งคำภา ผู้ช่วยผู้แทนฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย และกรรมการบริหารสโมสรกีฬาทางน้ำภาค และผู้ฝึกสอน นักกีฬาเข้าร่วมงาน โดยมีนายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ให้การต้อนรับ

    วันที่ 4 พ.ค.2568 เวลา 17.00น. นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีปิดพร้อมด้วย นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายจุมภฏ อินทรนัฏ กรรมการบริหารสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย และประธานสโมสรกีฬาทางน้ำภาค 3 ร่วมมอบรางวัลให้สโมสรและนักกีฬาว่ายน้ำที่เข้าแข่งขัน โดยมีนายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ให้การต้อนรับ

    การแข่งขันว่ายน้ำรายการ “28th THE MALL KORAT SWIMMING CUP 2025” ใช้กติกาการแข่งขันของ FINA ฉบับล่าสุด โดยมีสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยรับรองผลการแข่งขัน มีวัตถุประสงค์การแข่งขัน ดังนี้ 1.เพื่อพิจารณาคัดเลือกนักกีฬาว่ายน้ำเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำเยาวชนชิงชนะเลิศ แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2.เพื่อส่งเสริมสนับสนุนกีฬาว่ายน้ำ ระดับยุวชน เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ให้เป็นที่นิยมแพร่หลายรวมถึงการฝึกซ้อมและว่ายน้ำอย่างถูกวิธี 3.เพื่อปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกให้แก่ เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชน ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการสร้างเสริมสุขภาพด้วยการเล่นกีฬาว่ายน้ำ รวมถึงการเลือกบริโภคอาหารที่ปลอดจากสารพิษไม่หันไปพึ่งพาสารเสพติด 4.เพื่อช่วยพัฒนาและร่วมผลักดัน วงการกีฬาว่ายน้ำให้ก้าวหน้าและเป็นที่รู้จักแพร่หลาย ในระดับจังหวัด ระดับภาคและระดับประเทศ 5.เพื่อร่วมส่งเสริมนโยบายและวัตถุประสงค์ของสโมสรกีฬาว่ายน้ำจังหวัดนครราชสีมา และ สมาคมกีฬาจังหวัดนครราชสีมา

    โดยมีรูปแแบบการแข่งขันเป็นการแข่งขันว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ Champions Pool ขนาด 50 เมตร จำนวนแข่ง 8 ลู่ เป็นการแข่งขันรอบเดียว ไม่มีรอบคัดเลือก โดยแบ่งประเภทเยาวชนชาย – หญิง อายุระหว่าง 7-14 ปี และบุคคลทั่วไป ในระยะทาง 50 เมตร, 100 เมตร และ 200 เมตร  โดยใช้ 4 ท่าว่ายสากลตามกติกาของสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (FINA) และสมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย
    ซึ่งแบ่งประเภทรางวัล ดังนี้ 1.รางวัลประเภทบุคคล 2.รางวัลประเภทสโมสร

    บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ต้องขอแสดงความยินดีสำหรับ 
    🏆สโมสร ชูสวิมคลับ ได้รางวัลคะแนนรวมสโมสรยอดเยี่ยม คว้าถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปครอง
    รองชนะเลิศอับดับ 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
    รองชนะเลิศอันดับ 2 มารีย์รักษ์ นครราชสีมา 
    รองชนะเลิศอันดับ 3 SAT 3 Swimming
    รองชนะเลิศอันดับ 4 ที เอส สวิมมิ่ง
    รองชนะเลิศอันดับ 5 โรงเรียนเทพสัมฤทธิ์วิทยา
    รองชนะเลิศอันดับ 6 Phuket Country Home Swimming

    ขอแสดงความยินดีกับนักกีฬาที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ และขอเป็นกำลังใจทุกๆ ท่านที่ร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ แล้วพบกันในรอบถัดไป ที่สวนน้ำแฟนตาเซียลากูน
    ปิดฉากการแข่งขันว่ายน้ำ “28th THE MALL KORAT SWIMMING CUP 2025” สานฝันอนาคตนักกีฬาเยาวชนไทย ก้าวไกลสู่การแข่งขันใหญ่ระดับประเทศ   บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขันว่ายน้ำครั้งยิ่งใหญ่ ในงาน “28th THE MALL KORAT SWIMMING CUP 2025” การแข่งขันว่ายน้ำเยาวชนระดับประเทศ ตามหลักกฏกติกามาตรฐาน ของสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (FINA)                 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี งานจัดขึ้นระหว่างวันที่  3-4 พฤษภาคม 2568 ณ สระว่ายน้ำ Champions Pool สวนน้ำ แฟนตาเซีย ลากูน ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช วันที่ 3 พ.ค.2568 เวลา 09.00น. นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมาให้เกียรติร่วมงานและให้กำลังใจนักกีฬาว่ายน้ำ พร้อมด้วย น.ส.ธีรารัตน์ ร่มรื่น ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดนครราชสีมา ดร.สิทธิชัย เป้งคำภา ผู้ช่วยผู้แทนฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย และกรรมการบริหารสโมสรกีฬาทางน้ำภาค และผู้ฝึกสอน นักกีฬาเข้าร่วมงาน โดยมีนายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ให้การต้อนรับ วันที่ 4 พ.ค.2568 เวลา 17.00น. นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีปิดพร้อมด้วย นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายจุมภฏ อินทรนัฏ กรรมการบริหารสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย และประธานสโมสรกีฬาทางน้ำภาค 3 ร่วมมอบรางวัลให้สโมสรและนักกีฬาว่ายน้ำที่เข้าแข่งขัน โดยมีนายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ให้การต้อนรับ การแข่งขันว่ายน้ำรายการ “28th THE MALL KORAT SWIMMING CUP 2025” ใช้กติกาการแข่งขันของ FINA ฉบับล่าสุด โดยมีสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยรับรองผลการแข่งขัน มีวัตถุประสงค์การแข่งขัน ดังนี้ 1.เพื่อพิจารณาคัดเลือกนักกีฬาว่ายน้ำเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำเยาวชนชิงชนะเลิศ แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2.เพื่อส่งเสริมสนับสนุนกีฬาว่ายน้ำ ระดับยุวชน เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ให้เป็นที่นิยมแพร่หลายรวมถึงการฝึกซ้อมและว่ายน้ำอย่างถูกวิธี 3.เพื่อปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกให้แก่ เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชน ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการสร้างเสริมสุขภาพด้วยการเล่นกีฬาว่ายน้ำ รวมถึงการเลือกบริโภคอาหารที่ปลอดจากสารพิษไม่หันไปพึ่งพาสารเสพติด 4.เพื่อช่วยพัฒนาและร่วมผลักดัน วงการกีฬาว่ายน้ำให้ก้าวหน้าและเป็นที่รู้จักแพร่หลาย ในระดับจังหวัด ระดับภาคและระดับประเทศ 5.เพื่อร่วมส่งเสริมนโยบายและวัตถุประสงค์ของสโมสรกีฬาว่ายน้ำจังหวัดนครราชสีมา และ สมาคมกีฬาจังหวัดนครราชสีมา โดยมีรูปแแบบการแข่งขันเป็นการแข่งขันว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ Champions Pool ขนาด 50 เมตร จำนวนแข่ง 8 ลู่ เป็นการแข่งขันรอบเดียว ไม่มีรอบคัดเลือก โดยแบ่งประเภทเยาวชนชาย – หญิง อายุระหว่าง 7-14 ปี และบุคคลทั่วไป ในระยะทาง 50 เมตร, 100 เมตร และ 200 เมตร  โดยใช้ 4 ท่าว่ายสากลตามกติกาของสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (FINA) และสมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ซึ่งแบ่งประเภทรางวัล ดังนี้ 1.รางวัลประเภทบุคคล 2.รางวัลประเภทสโมสร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ต้องขอแสดงความยินดีสำหรับ  🏆สโมสร ชูสวิมคลับ ได้รางวัลคะแนนรวมสโมสรยอดเยี่ยม คว้าถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปครอง รองชนะเลิศอับดับ 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน รองชนะเลิศอันดับ 2 มารีย์รักษ์ นครราชสีมา  รองชนะเลิศอันดับ 3 SAT 3 Swimming รองชนะเลิศอันดับ 4 ที เอส สวิมมิ่ง รองชนะเลิศอันดับ 5 โรงเรียนเทพสัมฤทธิ์วิทยา รองชนะเลิศอันดับ 6 Phuket Country Home Swimming ขอแสดงความยินดีกับนักกีฬาที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ และขอเป็นกำลังใจทุกๆ ท่านที่ร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ แล้วพบกันในรอบถัดไป ที่สวนน้ำแฟนตาเซียลากูน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สนข.”เผยคจร.รับทราบแผนแก้รถติดพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม”ศูนย์วัฒนธรรมฯ – ตลิ่งชัน” รฟม.-กทม. -บชน.เตรียมทดลองปรับการเดินรถ”ถนนราชปรารถ,พระรามที่ 1 เริ่ม 5 – 20 พ.ค.68

    นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันอังคารที่ 22 เมษายน 2568 คณะกรรมการฯ ได้มีมติรับทราบผลการศึกษาการแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม – ตลิ่งชัน ตามที่ สนข. เสนอ และมอบหมายให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) ดำเนินการตามผลการศึกษาเพื่อเร่งแก้ไขและบรรเทาปัญหาการจราจรตามแนวเส้นทางการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มอย่างเร่งด่วน

    จากการศึกษาพบว่า พื้นที่สำคัญที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากการก่อสร้างคือ ถนนเพชรบุรี ช่วงแยกยมราช แยกราชเทวี และแยกประตูน้ำ เนื่องจากถนนเพชรบุรีเป็นถนนสายหลักในการเดินทางตามแนวทิศตะวันออก - ตะวันตกของกรุงเทพฯ มีปริมาณการจราจรผ่านเส้นทางเป็นจำนวนมาก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/business/detail/9680000041704

    #MGROnline #รถไฟฟ้าสายสีส้ม
    “สนข.”เผยคจร.รับทราบแผนแก้รถติดพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม”ศูนย์วัฒนธรรมฯ – ตลิ่งชัน” รฟม.-กทม. -บชน.เตรียมทดลองปรับการเดินรถ”ถนนราชปรารถ,พระรามที่ 1 เริ่ม 5 – 20 พ.ค.68 • นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันอังคารที่ 22 เมษายน 2568 คณะกรรมการฯ ได้มีมติรับทราบผลการศึกษาการแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม – ตลิ่งชัน ตามที่ สนข. เสนอ และมอบหมายให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) ดำเนินการตามผลการศึกษาเพื่อเร่งแก้ไขและบรรเทาปัญหาการจราจรตามแนวเส้นทางการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มอย่างเร่งด่วน • จากการศึกษาพบว่า พื้นที่สำคัญที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากการก่อสร้างคือ ถนนเพชรบุรี ช่วงแยกยมราช แยกราชเทวี และแยกประตูน้ำ เนื่องจากถนนเพชรบุรีเป็นถนนสายหลักในการเดินทางตามแนวทิศตะวันออก - ตะวันตกของกรุงเทพฯ มีปริมาณการจราจรผ่านเส้นทางเป็นจำนวนมาก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/business/detail/9680000041704 • #MGROnline #รถไฟฟ้าสายสีส้ม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทพเจ้าโชคลาภ หลวงพ่อผัน วัดทรายขาว จ.สงขลา
    เทพเจ้าโชคลาภ (เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย) เนื้อผงพุทธคุณลงบรอนทอง หลวงพ่อผัน วัดทรายขาว จ.สงขลา //พระดีพิธีใหญ๋ เทพแห่งความร่ำรวย ที่จะให้โชคลาภด้านเงินทองกับคุณ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายาก พระไม่ถูกใช้ครับ >> รับประกันพระแท้ตลอดชีพ !!##//

    ** พุทธคุณแห่งความร่ำรวย ความมั่งคั่งและการได้รับโชคลาภด้านเงินทอง ทำให้กิจการเจริญรุ่งเรือง มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน อีกทั้ง ยังช่วยดลบันดาลและช่วยเหลือให้ได้มีโชคลาภตลอดจนความโชคดี >>>

    ** หลวงพ่อผัน หรือ พ่อท่านผัน ปสันโน พระเถระที่สำคัญอีกรูปแห่งเมืองสงขลา เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งในพระธรรมวินัย ร่วมกับพระรุ่นเดียวกัน ฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐาน เพื่อกำหนดจิตให้สงบที่ป่าช้าบ้านทรายขาว พ่อท่านผัน เป็นศิษย์สายตรงสืบทอดวิทยาคมจากหลวงพ่อภัทร วัดโคกสูง จ.สงขลา, หลวงพ่อหมุ่น วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง, พระภัทรกรโกวิท หรือเจ้าคุณเนื่อง วัดนาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่ทิม และ พ่อท่านนอง วัดทรายขาว >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เทพเจ้าโชคลาภ หลวงพ่อผัน วัดทรายขาว จ.สงขลา เทพเจ้าโชคลาภ (เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย) เนื้อผงพุทธคุณลงบรอนทอง หลวงพ่อผัน วัดทรายขาว จ.สงขลา //พระดีพิธีใหญ๋ เทพแห่งความร่ำรวย ที่จะให้โชคลาภด้านเงินทองกับคุณ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายาก พระไม่ถูกใช้ครับ >> รับประกันพระแท้ตลอดชีพ !!##// ** พุทธคุณแห่งความร่ำรวย ความมั่งคั่งและการได้รับโชคลาภด้านเงินทอง ทำให้กิจการเจริญรุ่งเรือง มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน อีกทั้ง ยังช่วยดลบันดาลและช่วยเหลือให้ได้มีโชคลาภตลอดจนความโชคดี >>> ** หลวงพ่อผัน หรือ พ่อท่านผัน ปสันโน พระเถระที่สำคัญอีกรูปแห่งเมืองสงขลา เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งในพระธรรมวินัย ร่วมกับพระรุ่นเดียวกัน ฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐาน เพื่อกำหนดจิตให้สงบที่ป่าช้าบ้านทรายขาว พ่อท่านผัน เป็นศิษย์สายตรงสืบทอดวิทยาคมจากหลวงพ่อภัทร วัดโคกสูง จ.สงขลา, หลวงพ่อหมุ่น วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง, พระภัทรกรโกวิท หรือเจ้าคุณเนื่อง วัดนาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่ทิม และ พ่อท่านนอง วัดทรายขาว >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน

    ผมเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0 ซึ่งโอนเงินได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยเชื่อมต่อกับธนาคารใน 16 ประเทศพร้อมกัน ทั้งใน จีน อาเซียน และตะวันออกกลาง เมื่อเช้าตรู่วันที่ 21 เม.ย. CIPS เป็นระบบโอนเงินข้ามชาติแบบเดียวกับ SWIFT ของสหรัฐฯ แต่ CIPS จะโอนเป็นเงินหยวนของจีน ขณะที่ SWIFT จะโอนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ CIPS ถือเป็นระบบโอนเงินข้ามชาติที่เป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐฯ CIPS ใช้เวลาโอนเงินข้ามประเทศเร็วมากเพียงไม่กี่วินาที มีต้นทุนการโอนเงินที่ตํ่ามาก เทียบกับ ระบบ SWIFT ของสหรัฐฯที่ต้องใช้เวลาในการโอนเงิน 2–3 วัน มีค่าโอนเงินที่แพงกว่ากันถึง 4 หมื่นกว่าเท่า

    การเปิดตัวของ ระบบโอนเงินข้ามพรมแดน CIPS 2.0 ของจีนครั้งนี้ จึงเป็นการทลายการผูกขาดโอนเงินข้ามชาติของระบบ SWIFT สหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน

    วันอังคาร 29 เม.ย. คุณพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เพิ่มศักยภาพการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวน (Chinese Yuan–CNY) ผ่าน ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน หรือ CIPS (Cross–Border Interbank Payment System) เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ใช้รับอนุมัติจากธนาคารกลางจีนให้เป็น Direct Participant สมาชิกตรง

    ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพจึงสามารถทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนได้โดยตรงกับระบบ CIPS ซึ่งช่วยลดระยะเวลาทำธุรกรรมให้สั้นลง คู่ค้าได้รับเงินเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ เป็นการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศไทยกับจีนในอนาคตเพิ่มมากขึ้นด้วย

    คุณพิพัฒน์ กล่าวว่า บริการโอนเงิน CIPS เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ นำเข้าและส่งออกซึ่งมีธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศกับคู่ค้าในจีน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการค้าสูง เช่น เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น ปี 2567 จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับ 1 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวมเกือบ 4.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปจีนมูลค่าประมาณ 1.2 ล้าน ล้านบาท และการนำเข้าจากจีนมีมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท จึงถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก

    การเข้าร่วมเป็น Direct Participant ในระบบ CIPS สะท้อนถึงความตั้งใจในการพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ธุรกิจของลูกค้าได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็น “เพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน” เคียงข้างและช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ การพัฒนาบริการดังกล่าวจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

    วันนี้การค้าโลกแยกออกเป็น 2 ค่ายชัดเจน จีน กับ สหรัฐฯ เมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกเพื่อเอาเปรียบ ตั้งแต่ 2 เม.ย.ทรัมป์ได้ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศไปแล้ว 10% และ จะขึ้นภาษีตอบโต้อีก 20–245% กับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ จะยึดคลองปานามา จะยึดคลองสุเอซที่เก็บค่าผ่านเรือสหรัฐฯ กลายเป็นอันธพาลระดับโลก ทำให้ทุกชาติ เริ่มถอยห่างจากสหรัฐฯมาใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น

    มาซาโตะ คานดะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เสนอ ให้ประเทศในเอเชียหันมาค้าขายกันเองให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อปกป้องเศรษฐกิจในภูมิภาคจากแรงกระแทกภายนอก

    ผมเชื่อว่า ระบบโอนเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน CIPS ของจีน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการค้าในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก “ยกเว้นสหรัฐฯ” ทำให้ ระบบโอนเงิน SWIFT ลดบทบาทลง สหรัฐฯจะได้ “โดดเดี่ยวตัวเอง” สมใจทรัมป์แน่นอน.


    “ลม เปลี่ยนทิศ”

    https://www.thairath.co.th/news/local/2855708
    ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน ผมเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0 ซึ่งโอนเงินได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยเชื่อมต่อกับธนาคารใน 16 ประเทศพร้อมกัน ทั้งใน จีน อาเซียน และตะวันออกกลาง เมื่อเช้าตรู่วันที่ 21 เม.ย. CIPS เป็นระบบโอนเงินข้ามชาติแบบเดียวกับ SWIFT ของสหรัฐฯ แต่ CIPS จะโอนเป็นเงินหยวนของจีน ขณะที่ SWIFT จะโอนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ CIPS ถือเป็นระบบโอนเงินข้ามชาติที่เป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐฯ CIPS ใช้เวลาโอนเงินข้ามประเทศเร็วมากเพียงไม่กี่วินาที มีต้นทุนการโอนเงินที่ตํ่ามาก เทียบกับ ระบบ SWIFT ของสหรัฐฯที่ต้องใช้เวลาในการโอนเงิน 2–3 วัน มีค่าโอนเงินที่แพงกว่ากันถึง 4 หมื่นกว่าเท่า การเปิดตัวของ ระบบโอนเงินข้ามพรมแดน CIPS 2.0 ของจีนครั้งนี้ จึงเป็นการทลายการผูกขาดโอนเงินข้ามชาติของระบบ SWIFT สหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน วันอังคาร 29 เม.ย. คุณพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เพิ่มศักยภาพการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวน (Chinese Yuan–CNY) ผ่าน ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน หรือ CIPS (Cross–Border Interbank Payment System) เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ใช้รับอนุมัติจากธนาคารกลางจีนให้เป็น Direct Participant สมาชิกตรง ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพจึงสามารถทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนได้โดยตรงกับระบบ CIPS ซึ่งช่วยลดระยะเวลาทำธุรกรรมให้สั้นลง คู่ค้าได้รับเงินเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ เป็นการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศไทยกับจีนในอนาคตเพิ่มมากขึ้นด้วย คุณพิพัฒน์ กล่าวว่า บริการโอนเงิน CIPS เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ นำเข้าและส่งออกซึ่งมีธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศกับคู่ค้าในจีน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการค้าสูง เช่น เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น ปี 2567 จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับ 1 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวมเกือบ 4.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปจีนมูลค่าประมาณ 1.2 ล้าน ล้านบาท และการนำเข้าจากจีนมีมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท จึงถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก การเข้าร่วมเป็น Direct Participant ในระบบ CIPS สะท้อนถึงความตั้งใจในการพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ธุรกิจของลูกค้าได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็น “เพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน” เคียงข้างและช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ การพัฒนาบริการดังกล่าวจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น วันนี้การค้าโลกแยกออกเป็น 2 ค่ายชัดเจน จีน กับ สหรัฐฯ เมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกเพื่อเอาเปรียบ ตั้งแต่ 2 เม.ย.ทรัมป์ได้ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศไปแล้ว 10% และ จะขึ้นภาษีตอบโต้อีก 20–245% กับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ จะยึดคลองปานามา จะยึดคลองสุเอซที่เก็บค่าผ่านเรือสหรัฐฯ กลายเป็นอันธพาลระดับโลก ทำให้ทุกชาติ เริ่มถอยห่างจากสหรัฐฯมาใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น มาซาโตะ คานดะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เสนอ ให้ประเทศในเอเชียหันมาค้าขายกันเองให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อปกป้องเศรษฐกิจในภูมิภาคจากแรงกระแทกภายนอก ผมเชื่อว่า ระบบโอนเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน CIPS ของจีน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการค้าในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก “ยกเว้นสหรัฐฯ” ทำให้ ระบบโอนเงิน SWIFT ลดบทบาทลง สหรัฐฯจะได้ “โดดเดี่ยวตัวเอง” สมใจทรัมป์แน่นอน. “ลม เปลี่ยนทิศ” https://www.thairath.co.th/news/local/2855708
    WWW.THAIRATH.CO.TH
    ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน
    ผมเพิ่งเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทิศต้องห้าม.....ประจำเดือนพฤษภาคม 2568

    ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 5 เดือนพฤษภาคม ไปจนถึง วันพุธที่ 4 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2568 สิ่งสำคัญคือ ควรเลี่ยงต่อการกระทบ ทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทาง ดังนี้

    1. ทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว)ทิศตะวันตก/เหนือ 乾卦(เคี้ยงข่วย) ราศี 亥(ไห) ตั้งแต่รัศมี 322.5 ถึง 337.5 องศา

    2. ทิศ 3 อสูร 月三煞(หง่วยซาสั่วะ) ตั้งแต่ทิศตะวันออก/เหนือ 艮卦(กึ่งข่วย) รัศมี 45 องศา ถึง ทิศตะวันออก/ใต้ 巽卦(สุ่งข่วย) รัศมี 135 องศา

    3. ทิศ 5 เหลือง 五黃(โหงวอี๊ง) ทิศตะวันตก/ใต้ 坤卦(คุงข่วย) ตั้งแต่รัศมี 202.5 ถึง 247.5 องศา

    ดังนั้นหากกระทบสะเทือนถึงดินที่อัดอั้นด้วยกระแสพลังร้ายอันรุนแรงรอเพียงแค่การปลดปล่อย ด้วยการทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทางดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น ส่งผลให้ท่านที่ชะตาตก ชีวิตจะเกิดวิกฤต กลุ้ม วุ่นวาย มากอุปสรรคปัญหา ขัดแย้ง แตกแยก ถูกแทงหลัง ปองร้าย จี้ ปล้น ขโมย เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น พัวพันเรื่องคดีความจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือเกิดเจ็บป่วย ต้องผ่าตัดรักษาอาการ หรือจะบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุเภทภัยที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคคลที่เกิดปีกุนพึงระวังเป็นพิเศษ
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ทิศต้องห้าม.....ประจำเดือนพฤษภาคม 2568 ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 5 เดือนพฤษภาคม ไปจนถึง วันพุธที่ 4 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2568 สิ่งสำคัญคือ ควรเลี่ยงต่อการกระทบ ทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทาง ดังนี้ 1. ทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว)ทิศตะวันตก/เหนือ 乾卦(เคี้ยงข่วย) ราศี 亥(ไห) ตั้งแต่รัศมี 322.5 ถึง 337.5 องศา 2. ทิศ 3 อสูร 月三煞(หง่วยซาสั่วะ) ตั้งแต่ทิศตะวันออก/เหนือ 艮卦(กึ่งข่วย) รัศมี 45 องศา ถึง ทิศตะวันออก/ใต้ 巽卦(สุ่งข่วย) รัศมี 135 องศา 3. ทิศ 5 เหลือง 五黃(โหงวอี๊ง) ทิศตะวันตก/ใต้ 坤卦(คุงข่วย) ตั้งแต่รัศมี 202.5 ถึง 247.5 องศา ดังนั้นหากกระทบสะเทือนถึงดินที่อัดอั้นด้วยกระแสพลังร้ายอันรุนแรงรอเพียงแค่การปลดปล่อย ด้วยการทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทางดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น ส่งผลให้ท่านที่ชะตาตก ชีวิตจะเกิดวิกฤต กลุ้ม วุ่นวาย มากอุปสรรคปัญหา ขัดแย้ง แตกแยก ถูกแทงหลัง ปองร้าย จี้ ปล้น ขโมย เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น พัวพันเรื่องคดีความจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือเกิดเจ็บป่วย ต้องผ่าตัดรักษาอาการ หรือจะบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุเภทภัยที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคคลที่เกิดปีกุนพึงระวังเป็นพิเศษ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ.ระยอง ปี2538
    เหรียญหลวงปู่คร่ำ เนื้อทองแดงรมดำ วัดวังหว้า จ.ระยอง ปี2538 //หลวงปู่คร่ำ หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับความนิยม...เป็นที่ศรัทธาของมหาชนทั่วฟ้าเมืองไทย // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณจะป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง แคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ยงค์คงกระพันชาตรี ไล่ภูตผี ป้องกันเสนียดจัญไร เมตตามหานิยม ค้าขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง >>

    ** หลวงปู่คร่ำเกจิดังเมืองระยอง เกจิคณาจารย์แห่งภาคตะวันออก เป็นอีกหนึ่งพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนยาวเกินร้อยปี เป็นพระเกจิที่เชี่ยวชาญวิทยาคม ได้รับนิมนต์ไปปลุกเสกวัตถุมงคลทั่วทุกภาคของประเทศ มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องวัตถุมงคล ทุกรุ่นล้วนได้รับความนิยมสูง >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ.ระยอง ปี2538 เหรียญหลวงปู่คร่ำ เนื้อทองแดงรมดำ วัดวังหว้า จ.ระยอง ปี2538 //หลวงปู่คร่ำ หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับความนิยม...เป็นที่ศรัทธาของมหาชนทั่วฟ้าเมืองไทย // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณจะป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง แคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ยงค์คงกระพันชาตรี ไล่ภูตผี ป้องกันเสนียดจัญไร เมตตามหานิยม ค้าขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง >> ** หลวงปู่คร่ำเกจิดังเมืองระยอง เกจิคณาจารย์แห่งภาคตะวันออก เป็นอีกหนึ่งพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนยาวเกินร้อยปี เป็นพระเกจิที่เชี่ยวชาญวิทยาคม ได้รับนิมนต์ไปปลุกเสกวัตถุมงคลทั่วทุกภาคของประเทศ มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องวัตถุมงคล ทุกรุ่นล้วนได้รับความนิยมสูง >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม่น้ำกกป่วยเพราะสารพิษหนักเกินค่ามาตรฐานสูงสุด 19 เท่าใครจะเป็นหมอรักษา (ตอนที่ 5)
    .................
    มหากาพย์แร่หายากกำลังเป็นฝีแตกในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพราะทำให้แม่น้ำกก แม่น้ำสาย และจะส่งผลต่อแม่น้ำโขงป่วยหนักขึ้น การบริโภค การใช้แม่น้ำที่มีวิญญาณของความเป็นแม่ ถูกความโลภ อำนาจ เผาผลาญ และเอากากความความโลภทิ้งลงแม่น้ำ แล้วทุนแร่หายากในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงแห่งนี้กำลังสร้างตำนานซ้ำซากที่เกิดขึ้นในแอฟริกา เป็นกระบวนการถลุงแร่ธาตุ เพื่อให้เป็นเลือด
    .................
    สัญญาณแรก ประมงจังหวัดเชียงราย แถลงเมื่อ 25 เม.ย.68 ระบุพบปลากลุ่มตัวอย่างพบโลหะหนัก เช่น สารหนูและปรอท ไม่เกินค่ามาตรฐาน ก็อาจจะไม่ให้เราเบาใจและปล่อยปละละเลย และแสดงความกังวลว่าปลาลดน้อยลงมาก เพราะแม่น้ำเสื่อมโทรม ตั้งแต่ความตื้นเขิน น้ำมีตะกอนดินทั้งปี

    สัญญาณที่สอง สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ก็หวั่น ๆ ว่า ผลสรุปการตรวจสอบคุณภาพตะกอนดินในแหล่งน้ำแม่น้ำกก บริเวณ อ.แม่อาย และอ.เมือง จ.เชียงราย พบมาตรฐานคุณภาพตะกอนดินเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดิน อาจจะเกิดอันตรายต่อสัตว์หน้าดินที่เป็นอาหารของสัตว์น้ำ เช่น ปลา จะทำให้จำนวนหรือประเภทของสัตว์หน้าดินลดลง ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศลดลง สัตว์น้ำลดจำนวนลง และชาวบ้านจับสัตว์น้ำได้น้อยลง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ที่กินสัตว์น้ำ แต่ไม่แน่ว่าหากมีการสะสมในปลา ถ้าชาวบ้านบริโภคปลาเป็นจำนวนมากและเป็นประจำ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย เช่น ชาที่ปลายมือปลายเท้า (ไข้ดำ: ผิวหนังหนาและเข้ม) มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ

    สัญญาณที่สาม 30 เมษายน ผลตรวจสารหนูเบื้องต้นในแม่น้ำ อ.แม่สาย - อ.เชียงแสน จังหวัดเชียงราย พบเกินค่ามาตรฐานสูงสุด 19 เท่า มีหมายเหตุ ผลดังกล่าวเป็นเพียงผลการตรวจเบื้องต้นทางทีมวิจัยจะนำตัวอย่างน้ำส่งตรวจใน Lab มาตรฐานต่อไป
    .................
    แรงกระเพื่อมต่อถึงทำเนียบ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุม ติดตามสถานการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำกก ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล องค์ประชุมประกอบด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ

    ในการประชุม กระจายหน้าที่แต่ละกระทรวง กระทรวงมหาดไทย เร่งสั่งการการประปาส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการใช้น้ำดิบในการผลิตน้ำประปา พร้อมทั้งกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับข้อมูลสารปนเปื้อนในน้ำ แนวทางการกรองน้ำเพื่อการบริโภคที่ปลอดภัย รวมถึงการเร่งตรวจสอบแหล่งน้ำในพื้นที่อย่างเข้มข้น

    ประธานในการประชุมมีข้อสั่งการด้านการแก้ไขปัญหา 6 ประเด็น ดังนี้ 1. มอบหมายกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติบูรณาการร่วมกัน เร่งประสานประเทศเพื่อนบ้าน ใช้กลไกความร่วมมือทุกระดับเพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดภายนอกประเทศที่อาจส่งผลให้เกิดสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก

    2. มอบหมายสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติใช้กลไกลุ่มน้ำโขงเหนือ บริหารจัดการปริมาณน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ เพิ่มน้ำต้นทุนเข้าสู่แม่น้ำกก

    3. มอบหมายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ใช้นวัตกรรมดาวเทียม และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ช่วยประเมินความขุ่น สารแขวนลอยในแม่น้ำกกทั้งในเขตประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

    4. มอบหมายกระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนก

    5. มอบหมายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข ติดตามตรวจสอบการปนเปื้อนในแม่น้ำกก และลำน้ำสาขา การปนเปื้อนในสัตว์น้ำและการสะสมในร่างกายมนุษย์อย่างต่อเนื่อง

    6. มอบหมายกระทรวงอุตสาหกรรม จัดทำแนวทางการลดผลกระทบจากการทำเหมืองและประสานความร่วมมือในการเผยแพร่ให้ประเทศเพื่อนบ้านผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ
    คำถามที่ท้าทาย จะปล่อยให้ภาวะสะสมเกิดกับประชาชนชาวเชียงราย และประชาชนลุ่มน้ำสาย กก โขงแบบนี้เรื่อย ๆ ใช่หรือไม่

    .................
    เสียงประชาชนต้องดังกว่านี้ เครือข่ายข้อมูลอุทกภัยแม่น้ำกก (ค.อ.ก) ก็ได้จัดเวทีความร่วมมือเตือนภัยน้ำกกหลากท่วมปี 2568 โดยมีนางเตือนใจ ดีเทศน์ หรือ “ครูแดง” ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ พชภ. เป็นประธานการประชุม โดยมีองค์กรพัฒนาเอกชนที่ดำเนินงานในพื้นที่แม่น้ำกก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมแลกเปลี่ยนพร้อมนำเสนอ ถึงนายกรรัฐมนตรี

    1.แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาชน และนักวิชาการ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาทั้งในแหล่งกำเนิดมลพิษ ระหว่างทาง และผู้รับผลพิษ จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพน้ำในจังหวัดเชียงราย
    2. เปิดเผยและซักซ้อมมาตรการรับมืออุทกภัยลุ่มน้ำกก และลุ่มน้ำสาย อย่างเป็นระบบ มีส่วนร่วม และมีประสิทธิภาพ
    3. สร้างความร่วมมือกับประเทศเมียนมา หรือกองกำลังที่ดูแลในพื้นที่ เพื่อเพิ่มจุดเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของสารปนเปื้อน ตลอดลำน้ำกก น้ำสาย ทั้ง พื้นที่ต้นน้ำ ก่อนเหมืองในรัฐฉาน
    4 .สร้างระบบสื่อสารสาธารณะที่โปร่งใส เพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจุบัน
    5. ขยายขอบเขตการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เป็นการลุกล้ำหรือทำลายสิ่งแวดล้อม ตลอดลุ่มน้ำกกและลุ่มน้ำสาย
    6. เปิดการเจรจา 4 ฝ่ายคือ ไทย เมียนมา กองกำลังชาติพันธุ์ที่ควบคุมพื้นที่สัมปทานเหมือง และประเทศจีน เพื่อร่วมกันหาทางออกอย่างสร้างสรรค์และรับผิดชอบ

    สรุปคือการส่งเสียงว่ารัฐบาลจะต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ การทำเหมืองทองต้องกระตุ้นให้หน่วยงานรัฐไปเจรจา ทุกฝ่ายร่วมกัน ทั้งฝ่ายความมั่นคง รัฐบาล สื่อมวลชน ชาวบ้าน ประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าระดับประเทศแก้ไม่ได้ก็ต้องเป็นระดับอาเซียน ภูมิภาค หรือระดับนานาชาติร่วมกันแก้ไข ต้องคุยกับรัฐบาลพม่ารวมถึงรัฐบาลจีน เพราะเป็นพื้นที่ของกลุ่มว้า เป็นการเมืองระหว่างประเทศ

    เปิดพื้นที่ผ่านการเล่าเรื่องของแม่น้ำกกระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ สร้างความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับสิทธิของแม่น้ำ และ การเจรจาระหว่างรัฐกับธรรมชาติ ข้ามเขตแดนรัฐและแนวคิดการจัดการสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน (Transboundary Environmental Governance)”
    .................

    ดร.สืบสกุล กิจนุกร อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงกล่าวว่า รัฐบาลต้องใช้แนวคิดการทูตสิ่งแวดล้อมสร้างความร่วมมือแก้ปัญหามลพิษข้ามพรมแดนให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด นอกจากนี้ต้องเสนอให้เมียนมาเข้าใจด้วยว่า เหมืองแร่อยู่ในเขตควบคุมของกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่การเจรจาสันติภาพในเมียนมา ต้องหยิบยกเอาประเด็นมลพิษข้ามพรมแดนเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาด้วย

    น.ส.เพียงพร ดีเทศน์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา(พชภ.) และผู้อำนวยการฝ่ายรณรงรงค์ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์กรแม่น้ำนานาชาติ (International Rivers) กล่าวว่า ทั้งแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ โดยมีต้นน้ำอยู่ในเขตรัฐฉาน ประเทศพม่า การสร้างเหมืองทองที่บริเวณต้นน้ำ ทำให้ประชาชนและระบบนิเวศท้ายน้ำซึ่งอยู่ในประเทศไทยได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเร่งหาทางยุติการทำเหมืองและเปิดหน้าดินในวงกว้างให้ได้ เพราะนอกจากส่งผลในเรื่องการปนเปื้อนสารโลหะหนักลงแม่น้ำแล้ว ยังส่งผลต่ออุทกภัยที่มีดินโคลนปนมาด้วย กลายเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่คนท้ายน้ำต้องเผชิญและหวาดผวาอยู่ตลอดเวลา

    ก่อนหน้านี้กระแสกระเพื่อมขึ้นในพื้นที่ที่ดีมาก ที่ทาง พล.ท.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เลขานุการคณะกรรมการระดับสูงไทย-เมียนมา ร่วมรับฟังปัญหาสารโลหะหนักในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย

    เนื้อหาจึงเจาะประเด็นเชิงความมั่นคงทันทีในมิติของผลกระทบข้ามแดน ตามที่ได้นำเสนอในตอนต้น ๆ เป็นเรื่องของกระบวนการขุมเหมืองแร่สีเลือกเพื่อนำผลประโยชน์มาห่ำหั่นกันทางการเมือง ที่รัฐบาลทหารพม่า อนุญาตให้ทำเหมืองแร่ต่าง ๆ ในรัฐฉาน ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนจีน แต่ก็มีประเทศออสเตรเลีย รัสเซีย และอิตาลีด้วย เหมืองทั้งหมดอยู่เหนือน้ำกก น้ำสาย น้ำรวก
    .................

    มิติทางแม่น้ำระหว่างประเทศ เป็นวิกฤติมลพิษข้ามแดนที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับฝุ่นควันข้ามแดน ที่มีปลายทางด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองอยู่เบื้องหลัง ต้องใช้เวลาเกลี่ย ล๊อบบี้ กดดัน การตีโอบ เพื่อกระทบ อันจะให้การกดดันทุน และอำนาจรัฐเข้ามาเร่งรัดจัดการปัญหาข้ามพรมแดนไมว่าจะเป็น การทำระบบบำบัดน้ำเสีย ที่ต้องเพิ่มต้นทุนก็ต้องทำ กรองน้ำที่มีสารหนูปนเปื้อน

    การให้ความสำคัญมิติ สาธารณสุข ด้านสิ่งแวดล้อม การเกษตร การสื่อสาร กับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างสัมพันธ์และความเข้าใจนำไปสู่การแก้ไขปัญหา และเสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานทุกฝ่ายต่อการโต้ตอบเหตุสารเคมีปนเปื้อน เพื่อสื่อสารและการประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้เจ้ากรมกิจการชายแดนทหารได้รับฟังข้อมูลจากผู้เข้าร่วมให้ข้อมูลเพื่อนำไปศึกษาการจัดทำรายงานนำเสนอต้นสังกัดและรัฐบาลในการดำเนินการงานร่วมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาต่อไป

    แม่น้ำกกป่วยเพราะสารพิษหนักเกินค่ามาตรฐานสูงสุด 19 เท่าใครจะเป็นหมอรักษา (ตอนที่ 5) ................. มหากาพย์แร่หายากกำลังเป็นฝีแตกในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพราะทำให้แม่น้ำกก แม่น้ำสาย และจะส่งผลต่อแม่น้ำโขงป่วยหนักขึ้น การบริโภค การใช้แม่น้ำที่มีวิญญาณของความเป็นแม่ ถูกความโลภ อำนาจ เผาผลาญ และเอากากความความโลภทิ้งลงแม่น้ำ แล้วทุนแร่หายากในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงแห่งนี้กำลังสร้างตำนานซ้ำซากที่เกิดขึ้นในแอฟริกา เป็นกระบวนการถลุงแร่ธาตุ เพื่อให้เป็นเลือด ................. สัญญาณแรก ประมงจังหวัดเชียงราย แถลงเมื่อ 25 เม.ย.68 ระบุพบปลากลุ่มตัวอย่างพบโลหะหนัก เช่น สารหนูและปรอท ไม่เกินค่ามาตรฐาน ก็อาจจะไม่ให้เราเบาใจและปล่อยปละละเลย และแสดงความกังวลว่าปลาลดน้อยลงมาก เพราะแม่น้ำเสื่อมโทรม ตั้งแต่ความตื้นเขิน น้ำมีตะกอนดินทั้งปี สัญญาณที่สอง สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ก็หวั่น ๆ ว่า ผลสรุปการตรวจสอบคุณภาพตะกอนดินในแหล่งน้ำแม่น้ำกก บริเวณ อ.แม่อาย และอ.เมือง จ.เชียงราย พบมาตรฐานคุณภาพตะกอนดินเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดิน อาจจะเกิดอันตรายต่อสัตว์หน้าดินที่เป็นอาหารของสัตว์น้ำ เช่น ปลา จะทำให้จำนวนหรือประเภทของสัตว์หน้าดินลดลง ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศลดลง สัตว์น้ำลดจำนวนลง และชาวบ้านจับสัตว์น้ำได้น้อยลง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ที่กินสัตว์น้ำ แต่ไม่แน่ว่าหากมีการสะสมในปลา ถ้าชาวบ้านบริโภคปลาเป็นจำนวนมากและเป็นประจำ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย เช่น ชาที่ปลายมือปลายเท้า (ไข้ดำ: ผิวหนังหนาและเข้ม) มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ สัญญาณที่สาม 30 เมษายน ผลตรวจสารหนูเบื้องต้นในแม่น้ำ อ.แม่สาย - อ.เชียงแสน จังหวัดเชียงราย พบเกินค่ามาตรฐานสูงสุด 19 เท่า มีหมายเหตุ ผลดังกล่าวเป็นเพียงผลการตรวจเบื้องต้นทางทีมวิจัยจะนำตัวอย่างน้ำส่งตรวจใน Lab มาตรฐานต่อไป ................. แรงกระเพื่อมต่อถึงทำเนียบ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุม ติดตามสถานการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำกก ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล องค์ประชุมประกอบด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ ในการประชุม กระจายหน้าที่แต่ละกระทรวง กระทรวงมหาดไทย เร่งสั่งการการประปาส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการใช้น้ำดิบในการผลิตน้ำประปา พร้อมทั้งกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับข้อมูลสารปนเปื้อนในน้ำ แนวทางการกรองน้ำเพื่อการบริโภคที่ปลอดภัย รวมถึงการเร่งตรวจสอบแหล่งน้ำในพื้นที่อย่างเข้มข้น ประธานในการประชุมมีข้อสั่งการด้านการแก้ไขปัญหา 6 ประเด็น ดังนี้ 1. มอบหมายกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติบูรณาการร่วมกัน เร่งประสานประเทศเพื่อนบ้าน ใช้กลไกความร่วมมือทุกระดับเพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดภายนอกประเทศที่อาจส่งผลให้เกิดสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก 2. มอบหมายสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติใช้กลไกลุ่มน้ำโขงเหนือ บริหารจัดการปริมาณน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ เพิ่มน้ำต้นทุนเข้าสู่แม่น้ำกก 3. มอบหมายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ใช้นวัตกรรมดาวเทียม และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ช่วยประเมินความขุ่น สารแขวนลอยในแม่น้ำกกทั้งในเขตประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน 4. มอบหมายกระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนก 5. มอบหมายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข ติดตามตรวจสอบการปนเปื้อนในแม่น้ำกก และลำน้ำสาขา การปนเปื้อนในสัตว์น้ำและการสะสมในร่างกายมนุษย์อย่างต่อเนื่อง 6. มอบหมายกระทรวงอุตสาหกรรม จัดทำแนวทางการลดผลกระทบจากการทำเหมืองและประสานความร่วมมือในการเผยแพร่ให้ประเทศเพื่อนบ้านผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ คำถามที่ท้าทาย จะปล่อยให้ภาวะสะสมเกิดกับประชาชนชาวเชียงราย และประชาชนลุ่มน้ำสาย กก โขงแบบนี้เรื่อย ๆ ใช่หรือไม่ ................. เสียงประชาชนต้องดังกว่านี้ เครือข่ายข้อมูลอุทกภัยแม่น้ำกก (ค.อ.ก) ก็ได้จัดเวทีความร่วมมือเตือนภัยน้ำกกหลากท่วมปี 2568 โดยมีนางเตือนใจ ดีเทศน์ หรือ “ครูแดง” ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ พชภ. เป็นประธานการประชุม โดยมีองค์กรพัฒนาเอกชนที่ดำเนินงานในพื้นที่แม่น้ำกก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมแลกเปลี่ยนพร้อมนำเสนอ ถึงนายกรรัฐมนตรี 1.แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาชน และนักวิชาการ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาทั้งในแหล่งกำเนิดมลพิษ ระหว่างทาง และผู้รับผลพิษ จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพน้ำในจังหวัดเชียงราย 2. เปิดเผยและซักซ้อมมาตรการรับมืออุทกภัยลุ่มน้ำกก และลุ่มน้ำสาย อย่างเป็นระบบ มีส่วนร่วม และมีประสิทธิภาพ 3. สร้างความร่วมมือกับประเทศเมียนมา หรือกองกำลังที่ดูแลในพื้นที่ เพื่อเพิ่มจุดเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของสารปนเปื้อน ตลอดลำน้ำกก น้ำสาย ทั้ง พื้นที่ต้นน้ำ ก่อนเหมืองในรัฐฉาน 4 .สร้างระบบสื่อสารสาธารณะที่โปร่งใส เพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจุบัน 5. ขยายขอบเขตการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เป็นการลุกล้ำหรือทำลายสิ่งแวดล้อม ตลอดลุ่มน้ำกกและลุ่มน้ำสาย 6. เปิดการเจรจา 4 ฝ่ายคือ ไทย เมียนมา กองกำลังชาติพันธุ์ที่ควบคุมพื้นที่สัมปทานเหมือง และประเทศจีน เพื่อร่วมกันหาทางออกอย่างสร้างสรรค์และรับผิดชอบ สรุปคือการส่งเสียงว่ารัฐบาลจะต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ การทำเหมืองทองต้องกระตุ้นให้หน่วยงานรัฐไปเจรจา ทุกฝ่ายร่วมกัน ทั้งฝ่ายความมั่นคง รัฐบาล สื่อมวลชน ชาวบ้าน ประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าระดับประเทศแก้ไม่ได้ก็ต้องเป็นระดับอาเซียน ภูมิภาค หรือระดับนานาชาติร่วมกันแก้ไข ต้องคุยกับรัฐบาลพม่ารวมถึงรัฐบาลจีน เพราะเป็นพื้นที่ของกลุ่มว้า เป็นการเมืองระหว่างประเทศ เปิดพื้นที่ผ่านการเล่าเรื่องของแม่น้ำกกระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ สร้างความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับสิทธิของแม่น้ำ และ การเจรจาระหว่างรัฐกับธรรมชาติ ข้ามเขตแดนรัฐและแนวคิดการจัดการสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน (Transboundary Environmental Governance)” ................. ดร.สืบสกุล กิจนุกร อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงกล่าวว่า รัฐบาลต้องใช้แนวคิดการทูตสิ่งแวดล้อมสร้างความร่วมมือแก้ปัญหามลพิษข้ามพรมแดนให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด นอกจากนี้ต้องเสนอให้เมียนมาเข้าใจด้วยว่า เหมืองแร่อยู่ในเขตควบคุมของกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่การเจรจาสันติภาพในเมียนมา ต้องหยิบยกเอาประเด็นมลพิษข้ามพรมแดนเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาด้วย น.ส.เพียงพร ดีเทศน์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา(พชภ.) และผู้อำนวยการฝ่ายรณรงรงค์ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์กรแม่น้ำนานาชาติ (International Rivers) กล่าวว่า ทั้งแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ โดยมีต้นน้ำอยู่ในเขตรัฐฉาน ประเทศพม่า การสร้างเหมืองทองที่บริเวณต้นน้ำ ทำให้ประชาชนและระบบนิเวศท้ายน้ำซึ่งอยู่ในประเทศไทยได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเร่งหาทางยุติการทำเหมืองและเปิดหน้าดินในวงกว้างให้ได้ เพราะนอกจากส่งผลในเรื่องการปนเปื้อนสารโลหะหนักลงแม่น้ำแล้ว ยังส่งผลต่ออุทกภัยที่มีดินโคลนปนมาด้วย กลายเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่คนท้ายน้ำต้องเผชิญและหวาดผวาอยู่ตลอดเวลา ก่อนหน้านี้กระแสกระเพื่อมขึ้นในพื้นที่ที่ดีมาก ที่ทาง พล.ท.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เลขานุการคณะกรรมการระดับสูงไทย-เมียนมา ร่วมรับฟังปัญหาสารโลหะหนักในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย เนื้อหาจึงเจาะประเด็นเชิงความมั่นคงทันทีในมิติของผลกระทบข้ามแดน ตามที่ได้นำเสนอในตอนต้น ๆ เป็นเรื่องของกระบวนการขุมเหมืองแร่สีเลือกเพื่อนำผลประโยชน์มาห่ำหั่นกันทางการเมือง ที่รัฐบาลทหารพม่า อนุญาตให้ทำเหมืองแร่ต่าง ๆ ในรัฐฉาน ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนจีน แต่ก็มีประเทศออสเตรเลีย รัสเซีย และอิตาลีด้วย เหมืองทั้งหมดอยู่เหนือน้ำกก น้ำสาย น้ำรวก ................. มิติทางแม่น้ำระหว่างประเทศ เป็นวิกฤติมลพิษข้ามแดนที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับฝุ่นควันข้ามแดน ที่มีปลายทางด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองอยู่เบื้องหลัง ต้องใช้เวลาเกลี่ย ล๊อบบี้ กดดัน การตีโอบ เพื่อกระทบ อันจะให้การกดดันทุน และอำนาจรัฐเข้ามาเร่งรัดจัดการปัญหาข้ามพรมแดนไมว่าจะเป็น การทำระบบบำบัดน้ำเสีย ที่ต้องเพิ่มต้นทุนก็ต้องทำ กรองน้ำที่มีสารหนูปนเปื้อน การให้ความสำคัญมิติ สาธารณสุข ด้านสิ่งแวดล้อม การเกษตร การสื่อสาร กับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างสัมพันธ์และความเข้าใจนำไปสู่การแก้ไขปัญหา และเสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานทุกฝ่ายต่อการโต้ตอบเหตุสารเคมีปนเปื้อน เพื่อสื่อสารและการประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้เจ้ากรมกิจการชายแดนทหารได้รับฟังข้อมูลจากผู้เข้าร่วมให้ข้อมูลเพื่อนำไปศึกษาการจัดทำรายงานนำเสนอต้นสังกัดและรัฐบาลในการดำเนินการงานร่วมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 392 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🎉 เที่ยวโรมาเนีย-บัลแกเรีย กับเทศกาลกุหลาบสุดโรแมนติก 🌹
    #ROSEFestival 11 วัน 8 คืน

    ✈️ โดยสายการบิน Qatar Airways (QR)
    📅 เดินทาง 3-13 มิ.ย. 68
    💸 ราคาเพียง 109,900.-

    🌍 เส้นทางไฮไลต์:
    🏰 ปราสาทเปเลส & ปราสาทบราน
    🌆 เที่ยวเมืองโบราณซิบิว บราซอฟ และโซเฟีย
    🕌 ชมอารามรีล่า มรดกโลกยูเนสโก
    🌹 ร่วมงานเทศกาลดอกกุหลาบที่คาซานลัค
    🏛️ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบัลแกเรีย

    📌 ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเทศกาลสุดพิเศษ!


    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e45146

    ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/7e5d16

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #บัลแกเรีย #โรมาเนีย #เทศกาลดอกกุหลาบ #RoseFestival2025 #เที่ยวกับเรา #QRสายการบินหรู #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #เที่ยวหน้าร้อน #SummerTrip #รีล่าอาราม #PelesCastle #BranCastle 🌷
    🎉 เที่ยวโรมาเนีย-บัลแกเรีย กับเทศกาลกุหลาบสุดโรแมนติก 🌹 #ROSEFestival 11 วัน 8 คืน ✈️ โดยสายการบิน Qatar Airways (QR) 📅 เดินทาง 3-13 มิ.ย. 68 💸 ราคาเพียง 109,900.- 🌍 เส้นทางไฮไลต์: 🏰 ปราสาทเปเลส & ปราสาทบราน 🌆 เที่ยวเมืองโบราณซิบิว บราซอฟ และโซเฟีย 🕌 ชมอารามรีล่า มรดกโลกยูเนสโก 🌹 ร่วมงานเทศกาลดอกกุหลาบที่คาซานลัค 🏛️ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบัลแกเรีย 📌 ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเทศกาลสุดพิเศษ! ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e45146 ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/7e5d16 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #บัลแกเรีย #โรมาเนีย #เทศกาลดอกกุหลาบ #RoseFestival2025 #เที่ยวกับเรา #QRสายการบินหรู #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #เที่ยวหน้าร้อน #SummerTrip #รีล่าอาราม #PelesCastle #BranCastle 🌷
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🎉 เที่ยวโรมาเนีย-บัลแกเรีย กับเทศกาลกุหลาบสุดโรแมนติก 🌹
    #ROSEFestival 11 วัน 8 คืน

    ✈️ โดยสายการบิน Qatar Airways (QR)
    📅 เดินทาง 3-13 มิ.ย. 68
    💸 ราคาเพียง 109,900.-

    🌍 เส้นทางไฮไลต์:
    🏰 ปราสาทเปเลส & ปราสาทบราน
    🌆 เที่ยวเมืองโบราณซิบิว บราซอฟ และโซเฟีย
    🕌 ชมอารามรีล่า มรดกโลกยูเนสโก
    🌹 ร่วมงานเทศกาลดอกกุหลาบที่คาซานลัค
    🏛️ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบัลแกเรีย

    📌 ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเทศกาลสุดพิเศษ!


    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e45146

    ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/7e5d16

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #บัลแกเรีย #โรมาเนีย #เทศกาลดอกกุหลาบ #RoseFestival2025 #เที่ยวกับเรา #QRสายการบินหรู #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #เที่ยวหน้าร้อน #SummerTrip #รีล่าอาราม #PelesCastle #BranCastle 🌷
    🎉 เที่ยวโรมาเนีย-บัลแกเรีย กับเทศกาลกุหลาบสุดโรแมนติก 🌹 #ROSEFestival 11 วัน 8 คืน ✈️ โดยสายการบิน Qatar Airways (QR) 📅 เดินทาง 3-13 มิ.ย. 68 💸 ราคาเพียง 109,900.- 🌍 เส้นทางไฮไลต์: 🏰 ปราสาทเปเลส & ปราสาทบราน 🌆 เที่ยวเมืองโบราณซิบิว บราซอฟ และโซเฟีย 🕌 ชมอารามรีล่า มรดกโลกยูเนสโก 🌹 ร่วมงานเทศกาลดอกกุหลาบที่คาซานลัค 🏛️ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบัลแกเรีย 📌 ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเทศกาลสุดพิเศษ! ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e45146 ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/7e5d16 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #บัลแกเรีย #โรมาเนีย #เทศกาลดอกกุหลาบ #RoseFestival2025 #เที่ยวกับเรา #QRสายการบินหรู #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #เที่ยวหน้าร้อน #SummerTrip #รีล่าอาราม #PelesCastle #BranCastle 🌷
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยางคอนติเนนทอล ปิดโรงงานอลอร์สตาร์ มาเลเซีย

    คอนติเนนทอล (Continental) ผู้ผลิตและจำหน่ายยางรถยนต์อันดับ 1 จากประเทศเยอรมนี ที่มียอดขายสูงสุด 1 ใน 3 ของโลก กำลังเตรียมปิดโรงงานผลิตยางรถยนต์ สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถบรรทุกขนาดเบา และจักรยานยนต์สำหรับตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในเมืองอลอร์สตาร์ (Aloe Setar) รัฐเคดะห์ (Kedah) ทางภาคเหนือของมาเลเซีย ภายในสิ้นปี 2568 โดยให้เหตุผลว่าเพื่อต้องการคงความสามารถในการแข่งขันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นผลจากการพิจารณาทบทวนธุรกิจเต็มรูปแบบ การตัดสินใจดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์ และสถานที่ตั้งโรงงาน

    สำหรับพนักงานทั้งหมด 950 คน ที่จะได้รับผลกระทบจากการปิดโรงงานในครั้งนี้ คอนติเนนทอลได้เสนอความช่วยเหลือ เช่น การให้คำปรึกษาด้านอาชีพ และการสำรวจโอกาสในการทำงานทั้งภายในและภายนอกบริษัทฯ การปิดโรงงานดังกล่าวนับเป็นการปิดฉากโรงงานผลิตยางรถยนต์ที่ดำเนินกิจการมาเป็นเวลา 46 ปี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2522 บนพื้นที่ 133,000 ตารางเมตร และกลายเป็นบริษัทในเครือคอนติเนนทอลมาตั้งแต่เดือน พ.ค. 2555 อย่างไรก็ตาม ยังเหลือโรงงานในมาเลเซียอีก 1 แห่ง ที่เมืองเปอตาลิง จายา รัฐสลังงอร์ ผลิตยางออฟโรดสำหรับขนย้ายวัสดุและใช้งานทางการเกษตร มีพนักงาน 500 คน

    ยางรถยนต์คอนติเนนทอลก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2414 นำเข้าและจำหน่ายในมาเลเซียช่วงต้นทศวรรษปี 1960-1970 กระทั่งในช่วงต้นทศวรรษปี 2000 คอนติเนนทอลเริ่มลงทุนโดยตรงมากขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งมาเลเซีย โดยในปี 2549 เข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัท ไซม์ ไทร์ อินเตอร์เนชันแนล บริษัทในเครือ ไซม์ ดาร์บี้ (Sime Darby) หนึ่งในผู้นำธุรกิจยานยนต์ในมาเลเซีย ทำให้คอนติเนนตัลมีฐานการผลิตและการเข้าถึงตลาดที่สำคัญในมาเลเซียในที่สุด

    แม้ว่าโรงงานที่อลอร์สตาร์จะต้องปิดตัวลง แต่คอนติเนนทอลยืนยันที่จะให้มาเลเซียเป็นตลาดสำคัญเชิงกลยุทธ์สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เน้นย้ำถึงการมุ่งรักษาความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าและพันธมิตรในประเทศอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันคอนติเนนทอลมีโรงงานผลิตยางรถยนต์ 22 แห่งใน 17 ประเทศทั่วโลก โดยในภูมิภาคเอเชีย มีโรงงานทั้งที่มาเลเซีย เหอเฟย์ในจีน ระยองในไทย โมดิปุรัมในอินเดีย และกาลูทาราในศรีลังกา ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ต.ค. 2567 คอนติเนนทอล ประกาศว่า กำลังขยายกำลังการผลิตยางรถยนต์ในโรงงานจังหวัดระยอง ประเทศไทย อีก 3 ล้านเส้นต่อปี สร้างงานเพิ่ม 600 อัตรา วางแผนลงทุนมากกว่า 300 ล้านยูโร (13,000 ล้านบาท)

    #Newskit
    ยางคอนติเนนทอล ปิดโรงงานอลอร์สตาร์ มาเลเซีย คอนติเนนทอล (Continental) ผู้ผลิตและจำหน่ายยางรถยนต์อันดับ 1 จากประเทศเยอรมนี ที่มียอดขายสูงสุด 1 ใน 3 ของโลก กำลังเตรียมปิดโรงงานผลิตยางรถยนต์ สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถบรรทุกขนาดเบา และจักรยานยนต์สำหรับตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในเมืองอลอร์สตาร์ (Aloe Setar) รัฐเคดะห์ (Kedah) ทางภาคเหนือของมาเลเซีย ภายในสิ้นปี 2568 โดยให้เหตุผลว่าเพื่อต้องการคงความสามารถในการแข่งขันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นผลจากการพิจารณาทบทวนธุรกิจเต็มรูปแบบ การตัดสินใจดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์ และสถานที่ตั้งโรงงาน สำหรับพนักงานทั้งหมด 950 คน ที่จะได้รับผลกระทบจากการปิดโรงงานในครั้งนี้ คอนติเนนทอลได้เสนอความช่วยเหลือ เช่น การให้คำปรึกษาด้านอาชีพ และการสำรวจโอกาสในการทำงานทั้งภายในและภายนอกบริษัทฯ การปิดโรงงานดังกล่าวนับเป็นการปิดฉากโรงงานผลิตยางรถยนต์ที่ดำเนินกิจการมาเป็นเวลา 46 ปี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2522 บนพื้นที่ 133,000 ตารางเมตร และกลายเป็นบริษัทในเครือคอนติเนนทอลมาตั้งแต่เดือน พ.ค. 2555 อย่างไรก็ตาม ยังเหลือโรงงานในมาเลเซียอีก 1 แห่ง ที่เมืองเปอตาลิง จายา รัฐสลังงอร์ ผลิตยางออฟโรดสำหรับขนย้ายวัสดุและใช้งานทางการเกษตร มีพนักงาน 500 คน ยางรถยนต์คอนติเนนทอลก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2414 นำเข้าและจำหน่ายในมาเลเซียช่วงต้นทศวรรษปี 1960-1970 กระทั่งในช่วงต้นทศวรรษปี 2000 คอนติเนนทอลเริ่มลงทุนโดยตรงมากขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งมาเลเซีย โดยในปี 2549 เข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัท ไซม์ ไทร์ อินเตอร์เนชันแนล บริษัทในเครือ ไซม์ ดาร์บี้ (Sime Darby) หนึ่งในผู้นำธุรกิจยานยนต์ในมาเลเซีย ทำให้คอนติเนนตัลมีฐานการผลิตและการเข้าถึงตลาดที่สำคัญในมาเลเซียในที่สุด แม้ว่าโรงงานที่อลอร์สตาร์จะต้องปิดตัวลง แต่คอนติเนนทอลยืนยันที่จะให้มาเลเซียเป็นตลาดสำคัญเชิงกลยุทธ์สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เน้นย้ำถึงการมุ่งรักษาความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าและพันธมิตรในประเทศอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันคอนติเนนทอลมีโรงงานผลิตยางรถยนต์ 22 แห่งใน 17 ประเทศทั่วโลก โดยในภูมิภาคเอเชีย มีโรงงานทั้งที่มาเลเซีย เหอเฟย์ในจีน ระยองในไทย โมดิปุรัมในอินเดีย และกาลูทาราในศรีลังกา ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ต.ค. 2567 คอนติเนนทอล ประกาศว่า กำลังขยายกำลังการผลิตยางรถยนต์ในโรงงานจังหวัดระยอง ประเทศไทย อีก 3 ล้านเส้นต่อปี สร้างงานเพิ่ม 600 อัตรา วางแผนลงทุนมากกว่า 300 ล้านยูโร (13,000 ล้านบาท) #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มุ่งสู่จังหวัดที่ 20 ของภาคอีสาน สร้างโอกาส สร้างชีวิต แก่ชาวยโสธร มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนฟรี
    .
    วันนี้ (วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ และนางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดยโสธร (จังหวัดที่ 20 ของทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน จำนวน 31 ครัวเรือน และมอบรถจักรยานแก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวมจำนวน 20 คัน เพื่อให้นักเรียนที่ประสบปัญหาในการเดินทางได้ยืมเรียน รวมถึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าพาหนะแก่ผู้ปกครองได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร เรียนรู้การแบ่งปัน และดูแลรักษาสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวยโสธรในครั้งนี้ทั้งสิ้น 802,240 บาท (แปดแสนสองพันสองร้อยสี่สิบบาทถ้วน) นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยมี นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย นางสาวนิภา ทองก้อน ผู้อำนวยการสำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน ผู้แทนอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อดีตอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานร่วมในพิธี และคณะมูลนิธิรวมสามัคคียโสธร เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี พร้อมด้วย อาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายนพดล ทรงแสง (จิ้ม ชวนชื่น) นายสวิช เพชรวิเศษศิริ (บี๋) ร่วมในพิธี และสร้างสีสันภายในงาน โดยมี ประชาชน เยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ ณ หอประชุมจังหวัดยโสธร ศาลากลางจังหวัดยโสธร อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร
    .
    โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้สนับสนุนอุปกรณ์ประกอบอาชีพ ช่วยเหลือครัวเรือนยากจน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือแก้ไขปัญหาความยากจน ระหว่างกรมการพัฒนาชุมชนและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดงบประมาณดำเนินการเพื่อจัดหาวัสดุอุปกรณ์การประกอบอาชีพมอบให้แก่ครัวเรือนยากจน ให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยในกลุ่มเป้าหมายแรกดำเนินการในพื้นที่ภาคกลาง 17 จังหวัด รวม 98 ครัวเรือน ต่อมา ได้ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ 17 จังหวัด รวม 230 ครัวเรือน ซึ่งได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในขณะได้พิจารณาพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 20 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา อุดรธานี มุกดาหาร หนองบัวลำภู บึงกาฬ ยโสธร ศรีสะเกษ มหาสารคาม ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ สกลนคร เลย หนองคาย และ นครพนม
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มุ่งสู่จังหวัดที่ 20 ของภาคอีสาน สร้างโอกาส สร้างชีวิต แก่ชาวยโสธร มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนฟรี . วันนี้ (วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ และนางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดยโสธร (จังหวัดที่ 20 ของทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน จำนวน 31 ครัวเรือน และมอบรถจักรยานแก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวมจำนวน 20 คัน เพื่อให้นักเรียนที่ประสบปัญหาในการเดินทางได้ยืมเรียน รวมถึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าพาหนะแก่ผู้ปกครองได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร เรียนรู้การแบ่งปัน และดูแลรักษาสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวยโสธรในครั้งนี้ทั้งสิ้น 802,240 บาท (แปดแสนสองพันสองร้อยสี่สิบบาทถ้วน) นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยมี นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย นางสาวนิภา ทองก้อน ผู้อำนวยการสำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน ผู้แทนอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อดีตอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานร่วมในพิธี และคณะมูลนิธิรวมสามัคคียโสธร เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี พร้อมด้วย อาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายนพดล ทรงแสง (จิ้ม ชวนชื่น) นายสวิช เพชรวิเศษศิริ (บี๋) ร่วมในพิธี และสร้างสีสันภายในงาน โดยมี ประชาชน เยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ ณ หอประชุมจังหวัดยโสธร ศาลากลางจังหวัดยโสธร อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร . โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้สนับสนุนอุปกรณ์ประกอบอาชีพ ช่วยเหลือครัวเรือนยากจน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือแก้ไขปัญหาความยากจน ระหว่างกรมการพัฒนาชุมชนและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดงบประมาณดำเนินการเพื่อจัดหาวัสดุอุปกรณ์การประกอบอาชีพมอบให้แก่ครัวเรือนยากจน ให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยในกลุ่มเป้าหมายแรกดำเนินการในพื้นที่ภาคกลาง 17 จังหวัด รวม 98 ครัวเรือน ต่อมา ได้ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ 17 จังหวัด รวม 230 ครัวเรือน ซึ่งได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในขณะได้พิจารณาพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 20 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา อุดรธานี มุกดาหาร หนองบัวลำภู บึงกาฬ ยโสธร ศรีสะเกษ มหาสารคาม ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ สกลนคร เลย หนองคาย และ นครพนม . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญช้างเผือก จ.นราธิวาส ปี2520
    เหรียญสมโภชช้างเผือก จ.นราธิวาส ปี2520 // เหรียญดีพิธีใหญ่ หายากคับ นับเป็นเหรียญที่นิยมมากๆ เหรียญหนึ่งของรัชกาลที่9 // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุพุทธคุณมีความเจริญรุ่งเรือง เจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา สูงสุดทางมหาเศรษฐีมีทรัพย์ ลาภยศ สรรเสริญสุข ไหลมาไม่ขาดสาย และช่วยบันดาลโชคลาภโภคทรัพย์ให้แก่ผู้บูชา >>

    ** เหรียญที่ระลึกสมโภชช้างเผือก จ.นราธิวาส ปี2520.. เป็นเหรียญอันดับต้นๆของราชกาลที่๙ จัดเป็นหนึ่งในเหรียญมงคลที่นิยมมากๆ จัดสร้างโดยจังหวัดนราธิวาส ปลุกเสกในช่วงกลางปี 2520 ถึง 3 เดือน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้นำเหรียญรุ่นนี้ไปเสกตามพิธีพุทธาภิเษก ใหญ่ๆ ของภาคใต้ในช่วงกลางปี 2520 หลายสิบงาน เช่นงานปลุกเสกเหรียญ ภ.ป.ร. ของอาจารย์นำ และอีกหลายงาน ซึ่งเกจิที่ปลุกเสกพอจะบอกได้ก็อาธิ เช่น

    1.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง
    2.หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดงตะวันออก
    3.หลวงพ่อมุม วัดนาสัก
    4.พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา
    5.หลวงพ่อดำ วัดตุหยง
    6.พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว
    7.พระอาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย
    8.หลวงพ่อดำ วัดใหม่นภาราม จ.นราธิวาส
    9.พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ
    10.หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย
    11.พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ
    12.หลวงพ่อจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ
    13พ่อท่านแก้ว วัดโคกโดน
    14.พ่อท่ารอด วัดประดู่พัฒนาราม
    ฯลฯ

    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญช้างเผือก จ.นราธิวาส ปี2520 เหรียญสมโภชช้างเผือก จ.นราธิวาส ปี2520 // เหรียญดีพิธีใหญ่ หายากคับ นับเป็นเหรียญที่นิยมมากๆ เหรียญหนึ่งของรัชกาลที่9 // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุพุทธคุณมีความเจริญรุ่งเรือง เจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา สูงสุดทางมหาเศรษฐีมีทรัพย์ ลาภยศ สรรเสริญสุข ไหลมาไม่ขาดสาย และช่วยบันดาลโชคลาภโภคทรัพย์ให้แก่ผู้บูชา >> ** เหรียญที่ระลึกสมโภชช้างเผือก จ.นราธิวาส ปี2520.. เป็นเหรียญอันดับต้นๆของราชกาลที่๙ จัดเป็นหนึ่งในเหรียญมงคลที่นิยมมากๆ จัดสร้างโดยจังหวัดนราธิวาส ปลุกเสกในช่วงกลางปี 2520 ถึง 3 เดือน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้นำเหรียญรุ่นนี้ไปเสกตามพิธีพุทธาภิเษก ใหญ่ๆ ของภาคใต้ในช่วงกลางปี 2520 หลายสิบงาน เช่นงานปลุกเสกเหรียญ ภ.ป.ร. ของอาจารย์นำ และอีกหลายงาน ซึ่งเกจิที่ปลุกเสกพอจะบอกได้ก็อาธิ เช่น 1.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง 2.หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดงตะวันออก 3.หลวงพ่อมุม วัดนาสัก 4.พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา 5.หลวงพ่อดำ วัดตุหยง 6.พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว 7.พระอาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย 8.หลวงพ่อดำ วัดใหม่นภาราม จ.นราธิวาส 9.พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ 10.หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย 11.พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ 12.หลวงพ่อจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ 13พ่อท่านแก้ว วัดโคกโดน 14.พ่อท่ารอด วัดประดู่พัฒนาราม ฯลฯ ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok กำลังพิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในประเทศบราซิล โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้พลังงานลมที่มีอยู่มากมายในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ การลงทุนนี้จะช่วยให้บราซิลกลายเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos ผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียน เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ท่าเรือ Pecem รัฐ Ceara โดยโครงการนี้มีแผนเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์ ในระยะที่สอง ซึ่งจะทำให้บราซิลเป็นฐานสำคัญสำหรับการดำเนินงานของ ByteDance ในซีกโลกตะวันตก

    Casa dos Ventos ได้ขอเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าสำหรับโครงการศูนย์ข้อมูลใน Pecem แต่ถูกปฏิเสธในเบื้องต้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของบราซิลกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อรองรับโครงการนี้

    ✅ การลงทุนในบราซิล
    - ByteDance พิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในบราซิล
    - ใช้พลังงานลมในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ

    ✅ การเจรจากับ Casa dos Ventos
    - ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูล
    - โครงการเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์

    ✅ ความสำคัญของ Pecem
    - Pecem เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับศูนย์ข้อมูลเนื่องจากมีสถานีเชื่อมต่อสายเคเบิลใต้น้ำและพลังงานหมุนเวียน

    ✅ การตอบสนองของรัฐบาลบราซิล
    - กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้า

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/exclusive-tiktok-owner-weighs-data-center-project-in-brazil-sources-say
    ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok กำลังพิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในประเทศบราซิล โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้พลังงานลมที่มีอยู่มากมายในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ การลงทุนนี้จะช่วยให้บราซิลกลายเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos ผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียน เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ท่าเรือ Pecem รัฐ Ceara โดยโครงการนี้มีแผนเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์ ในระยะที่สอง ซึ่งจะทำให้บราซิลเป็นฐานสำคัญสำหรับการดำเนินงานของ ByteDance ในซีกโลกตะวันตก Casa dos Ventos ได้ขอเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าสำหรับโครงการศูนย์ข้อมูลใน Pecem แต่ถูกปฏิเสธในเบื้องต้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของบราซิลกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อรองรับโครงการนี้ ✅ การลงทุนในบราซิล - ByteDance พิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในบราซิล - ใช้พลังงานลมในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ✅ การเจรจากับ Casa dos Ventos - ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูล - โครงการเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์ ✅ ความสำคัญของ Pecem - Pecem เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับศูนย์ข้อมูลเนื่องจากมีสถานีเชื่อมต่อสายเคเบิลใต้น้ำและพลังงานหมุนเวียน ✅ การตอบสนองของรัฐบาลบราซิล - กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้า https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/exclusive-tiktok-owner-weighs-data-center-project-in-brazil-sources-say
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Exclusive-TikTok owner weighs data center project in Brazil, sources say
    SAO PAULO/BRASILIA (Reuters) -ByteDance, the Chinese parent company of TikTok, is weighing a major investment in a data center in Brazil, three people familiar with the matter told Reuters, tapping abundant wind energy on the country's northeast coast.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้เปลี่ยนมาคุยเกี่ยวกับการละเล่นชนิดหนึ่งที่เห็นในละครเรื่อง <ตงกง ตำนานรักตำหนักบูรพา>
    ความมีอยู่ว่า
    ... องค์หญิงหย่งหนิง: “ดูนั่นสิ พี่รองกับพี่ห้าอยู่ที่นั่น พวกเขาต้องกำลังเล่นบทกวีล่องสายน้ำอยู่แน่เลย”...
    องค์หญิงลั่วซี: “บทกวีล่องลอยน้ำ คือการละเล่นอย่างหนึ่งของราชวงศ์หลี่ หลังเสร็จพิธีฝูซี่ในแต่ละปี ทุกคนจะนั่งอยู่สองฝั่งของคูน้ำ วางจอกสุราไว้ที่ต้นน้ำ จอกสุราจะล่องมาตามสายน้ำ หากหยุดตรงหน้าใคร คนนั้นก็ต้องหยิบขึ้นมาดื่ม รวมถึงต้องแต่งกลอนด้วย”...
    - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ตงกง ตำนานรักตำหนักบูรพา>

    ละครเรื่องนี้เกิดในราชวงศ์สมมุติ แต่ ‘บทกวีล่องสายน้ำ’ ที่กล่าวถึงนั้นมีอยู่จริง เรียกว่า ‘ชวีสุ่ยหลิวซาง’ (曲水流觞 แปลตรงตัวว่าชามสุราลอยไปตามสายน้ำที่คดเคี้ยว) เป็นกิจกรรมที่นิยมจัดขึ้นในวันที่สามเดือนสามของปฏิทินจันทรคติ หรือก็คือวันซ่างซึ (上巳节)

    ในวันซ่างซึ ตามธรรมเนียมโบราณดั้งเดิมจะทำการอาบน้ำในแม่น้ำเพื่อชำระล้างเคราะห์ร้ายและสิ่งอัปมงคลออกไปจากชีวิตหรือที่เรียกว่า ‘พิธีฝูซี่’ ตามที่กล่าวถึงในละครข้างต้น มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นโจวตะวันออก (1047-772 ก่อนคริสตกาล) จัดเป็นหนึ่งในพิธีชำระที่สำคัญที่สุดของจีนโบราณ ต่อมาพิธีนี้แปรเปลี่ยนเป็นต่างคนต่างอาบน้ำแต่งตัวสวยงามแล้วออกมาริมแม่น้ำเพื่อกราบไหว้ และมีการแสดงรื่นเริง

    ในสมัยราชวงศ์จิ้น (ค.ศ. 266-420) เกิดเป็นกิจกรรมสันทนาการที่เรียกว่า ‘ชวีสุ่ยหลิวช่าง’ ขึ้น (ดูภาพประกอบ1) วิธีเล่นก็คือนั่งกันสองฝั่งฟากของลำธารแล้วปล่อยชามสุราให้ลอยไปตามสายน้ำ ชามสุราลอยไปหยุดอยู่หน้าใคร คนนั้นต้องแต่งกลอน หากแต่งไม่ออกก็ต้องถูกลงโทษด้วยการดื่มสุราสามชาม (วิธีเล่นแตกต่างจากที่บรรยายในละครตรงนี้) ต่อมาได้รับความนิยมอย่างมากในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นกิจกรรมในช่วงเทศกาลที่หนุ่มสาวออกมาเจอะเจอกันได้ เป็นกิจกรรมกลางแจ้ง อาจเป็นลำธารจริง หรือเป็นลำธารและภูเขาจำลองอยู่ในอุทยานในบ้านคนรวย ต่อมาในสมัยราชวงศ์ซ่งไม่ค่อยเป็นที่นิยมและเมื่อถึงสมัยหมิงยิ่งจัดกันน้อย หากจัดขึ้นก็จะทำเป็นลำธารจำลองเล็กๆ ขึ้นในศาลาสำหรับคนกลุ่มเล็กร่วมดื่มกันเท่านั้น

    ‘ชวีสุ่ยหลิวช่าง’ ไม่เพียงเป็นประเพณีโบราณ หากยังเป็นบ่อเกิดของงานศิลปะในตำนานจีนที่ชื่อดังชิ้นหนึ่ง เป็นงานอักษรพู่กันจีนที่มีชื่อว่า ‘หลันถิงจี๋ซวี่’ (兰亭集序 ดูภาพประกอบ2) โดยหวังซีจือผู้เป็นนักปราชญ์ขุนนางในสมัยองค์จิ้นมู่แห่งราชวงศ์จิ้น งานอักษรของเขาโดดเด่นจนเขาถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสี่ ‘ที่สุด’ ของประวัติศาสตร์จีนในด้านนี้

    ‘หลันถิงจี๋ซวี่’ เป็นบทนำของคอลเล็กชั่นบทกวีที่เกิดขึ้นในงานฉลองเทศกาลซ่างซึที่องค์จิ้นมู่ทรงจัดขึ้น มีเหล่าขุนนางสี่สิบเอ็ดคนมาร่วมเล่น ‘ชวีสุ่ยหลิวช่าง’ โดยบทนำนี้บรรยายถึงวิธีเล่นนี้เอาไว้ ต้นฉบับของผลงานชิ้นนี้หายสาบสูญไปตามกาลเวลา แต่ปรากฏฉบับคัดลอกมาตลอดหลายยุคสมัย ฉบับคัดลอกที่เก่าแก่ที่สุดเกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง ปัจจุบันจัดเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงปักกิ่ง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กดติดตามกันเพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.sohu.com/a/303274788_157925
    https://www.sohu.com/a/371364660_118889
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://zh.m.wikipedia.org/zh-hans/上巳节
    https://baike.baidu.com/item/上巳节
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/33299095
    http://m.xinhuanet.com/sh/2018-04/18/c_137119707.htm
    https://en.wikipedia.org/wiki/Wang_Xizhi
    https://so.gushiwen.cn/shiwenv_af279f0cdd95.aspx
    วันนี้เปลี่ยนมาคุยเกี่ยวกับการละเล่นชนิดหนึ่งที่เห็นในละครเรื่อง <ตงกง ตำนานรักตำหนักบูรพา> ความมีอยู่ว่า ... องค์หญิงหย่งหนิง: “ดูนั่นสิ พี่รองกับพี่ห้าอยู่ที่นั่น พวกเขาต้องกำลังเล่นบทกวีล่องสายน้ำอยู่แน่เลย”... องค์หญิงลั่วซี: “บทกวีล่องลอยน้ำ คือการละเล่นอย่างหนึ่งของราชวงศ์หลี่ หลังเสร็จพิธีฝูซี่ในแต่ละปี ทุกคนจะนั่งอยู่สองฝั่งของคูน้ำ วางจอกสุราไว้ที่ต้นน้ำ จอกสุราจะล่องมาตามสายน้ำ หากหยุดตรงหน้าใคร คนนั้นก็ต้องหยิบขึ้นมาดื่ม รวมถึงต้องแต่งกลอนด้วย”... - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ตงกง ตำนานรักตำหนักบูรพา> ละครเรื่องนี้เกิดในราชวงศ์สมมุติ แต่ ‘บทกวีล่องสายน้ำ’ ที่กล่าวถึงนั้นมีอยู่จริง เรียกว่า ‘ชวีสุ่ยหลิวซาง’ (曲水流觞 แปลตรงตัวว่าชามสุราลอยไปตามสายน้ำที่คดเคี้ยว) เป็นกิจกรรมที่นิยมจัดขึ้นในวันที่สามเดือนสามของปฏิทินจันทรคติ หรือก็คือวันซ่างซึ (上巳节) ในวันซ่างซึ ตามธรรมเนียมโบราณดั้งเดิมจะทำการอาบน้ำในแม่น้ำเพื่อชำระล้างเคราะห์ร้ายและสิ่งอัปมงคลออกไปจากชีวิตหรือที่เรียกว่า ‘พิธีฝูซี่’ ตามที่กล่าวถึงในละครข้างต้น มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นโจวตะวันออก (1047-772 ก่อนคริสตกาล) จัดเป็นหนึ่งในพิธีชำระที่สำคัญที่สุดของจีนโบราณ ต่อมาพิธีนี้แปรเปลี่ยนเป็นต่างคนต่างอาบน้ำแต่งตัวสวยงามแล้วออกมาริมแม่น้ำเพื่อกราบไหว้ และมีการแสดงรื่นเริง ในสมัยราชวงศ์จิ้น (ค.ศ. 266-420) เกิดเป็นกิจกรรมสันทนาการที่เรียกว่า ‘ชวีสุ่ยหลิวช่าง’ ขึ้น (ดูภาพประกอบ1) วิธีเล่นก็คือนั่งกันสองฝั่งฟากของลำธารแล้วปล่อยชามสุราให้ลอยไปตามสายน้ำ ชามสุราลอยไปหยุดอยู่หน้าใคร คนนั้นต้องแต่งกลอน หากแต่งไม่ออกก็ต้องถูกลงโทษด้วยการดื่มสุราสามชาม (วิธีเล่นแตกต่างจากที่บรรยายในละครตรงนี้) ต่อมาได้รับความนิยมอย่างมากในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นกิจกรรมในช่วงเทศกาลที่หนุ่มสาวออกมาเจอะเจอกันได้ เป็นกิจกรรมกลางแจ้ง อาจเป็นลำธารจริง หรือเป็นลำธารและภูเขาจำลองอยู่ในอุทยานในบ้านคนรวย ต่อมาในสมัยราชวงศ์ซ่งไม่ค่อยเป็นที่นิยมและเมื่อถึงสมัยหมิงยิ่งจัดกันน้อย หากจัดขึ้นก็จะทำเป็นลำธารจำลองเล็กๆ ขึ้นในศาลาสำหรับคนกลุ่มเล็กร่วมดื่มกันเท่านั้น ‘ชวีสุ่ยหลิวช่าง’ ไม่เพียงเป็นประเพณีโบราณ หากยังเป็นบ่อเกิดของงานศิลปะในตำนานจีนที่ชื่อดังชิ้นหนึ่ง เป็นงานอักษรพู่กันจีนที่มีชื่อว่า ‘หลันถิงจี๋ซวี่’ (兰亭集序 ดูภาพประกอบ2) โดยหวังซีจือผู้เป็นนักปราชญ์ขุนนางในสมัยองค์จิ้นมู่แห่งราชวงศ์จิ้น งานอักษรของเขาโดดเด่นจนเขาถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสี่ ‘ที่สุด’ ของประวัติศาสตร์จีนในด้านนี้ ‘หลันถิงจี๋ซวี่’ เป็นบทนำของคอลเล็กชั่นบทกวีที่เกิดขึ้นในงานฉลองเทศกาลซ่างซึที่องค์จิ้นมู่ทรงจัดขึ้น มีเหล่าขุนนางสี่สิบเอ็ดคนมาร่วมเล่น ‘ชวีสุ่ยหลิวช่าง’ โดยบทนำนี้บรรยายถึงวิธีเล่นนี้เอาไว้ ต้นฉบับของผลงานชิ้นนี้หายสาบสูญไปตามกาลเวลา แต่ปรากฏฉบับคัดลอกมาตลอดหลายยุคสมัย ฉบับคัดลอกที่เก่าแก่ที่สุดเกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง ปัจจุบันจัดเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงปักกิ่ง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กดติดตามกันเพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.sohu.com/a/303274788_157925 https://www.sohu.com/a/371364660_118889 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://zh.m.wikipedia.org/zh-hans/上巳节 https://baike.baidu.com/item/上巳节 https://zhuanlan.zhihu.com/p/33299095 http://m.xinhuanet.com/sh/2018-04/18/c_137119707.htm https://en.wikipedia.org/wiki/Wang_Xizhi https://so.gushiwen.cn/shiwenv_af279f0cdd95.aspx
    看了《东宫》、《招摇》的海报,我想说你们对中国高级的古典美误解太深|意外_线条
    《招摇》的海报中,两人的头发和衣服就是在试图模仿这种线条带来的飘逸: 所以说这些所谓古典美的海报和写真误以为古风就是要“飘”,却不知这种飘逸的背后是巧用线条对于动感的表现。 让这些海报出现违和感…
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ประเทศภูฏาน” อาณาจักรอันงดงามที่ซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาหิมาลัยฝั่งตะวันออก นับเป็นดินแดนแห่งพุทธศาสนา ศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ โดยการเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศภูฏาน ต้องโดยสารเครื่องบินไปยังท่าอากาศยานนานาชาติพาโร (Paro International Airport - PBH)

    แต่การเดินทางที่สะดวกสบายด้วยเครื่องบินนั้น แฝงไว้ซึ่งความท้าทายอย่างมาก เพราะสนามบินนานาชาติแห่งภูฏานนี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสนามบินอันตรายที่สุดในโลก จนกล่าวได้ว่า มีนักบินจำนวนหลักสิบเท่านั้นที่ได้รับใบอนุญาตให้ลงจอดที่สนามบินนี้ เพราะต้องเป็นนักบินที่มีทักษะความสามารถ และประสบการณ์การบินสูง

    ปัจจุบันมีสายการบินสัญชาติภูฏานที่ให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ที่ท่าอากาศยานนานาชาติพาโร ได้แก่ Druk Air กับ Bhutan Airlines ซึ่งแสดงให้เห็นชัดได้ว่า ไม่ใช่ภารกิจง่ายๆสำหรับนักบินทั่วไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/travel/detail/9680000039124

    #MGROnline #ประเทศภูฏาน #สนามบินนานาชาติแห่งภูฏาน #ท่าอากาศยานนานาชาติพาโร
    “ประเทศภูฏาน” อาณาจักรอันงดงามที่ซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาหิมาลัยฝั่งตะวันออก นับเป็นดินแดนแห่งพุทธศาสนา ศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ โดยการเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศภูฏาน ต้องโดยสารเครื่องบินไปยังท่าอากาศยานนานาชาติพาโร (Paro International Airport - PBH) • แต่การเดินทางที่สะดวกสบายด้วยเครื่องบินนั้น แฝงไว้ซึ่งความท้าทายอย่างมาก เพราะสนามบินนานาชาติแห่งภูฏานนี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสนามบินอันตรายที่สุดในโลก จนกล่าวได้ว่า มีนักบินจำนวนหลักสิบเท่านั้นที่ได้รับใบอนุญาตให้ลงจอดที่สนามบินนี้ เพราะต้องเป็นนักบินที่มีทักษะความสามารถ และประสบการณ์การบินสูง • ปัจจุบันมีสายการบินสัญชาติภูฏานที่ให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ที่ท่าอากาศยานนานาชาติพาโร ได้แก่ Druk Air กับ Bhutan Airlines ซึ่งแสดงให้เห็นชัดได้ว่า ไม่ใช่ภารกิจง่ายๆสำหรับนักบินทั่วไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/travel/detail/9680000039124 • #MGROnline #ประเทศภูฏาน #สนามบินนานาชาติแห่งภูฏาน #ท่าอากาศยานนานาชาติพาโร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • 25 เมษายน 2568 เกิดเหตุระเบิดแสวงเครื่องสังหารนายพลยารอสลาฟ มอสคาลิก นายทหารระดับสูงจากกองเสนาธิการทหารของกองทัพบกรัสเซีย เสียชีวิตในรถยนต์ในเมืองบาลาชิคา ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกไม่ถึง 32 กม.
ก่อนที่ทูตพิเศษสหรัฐฯ จะพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในช่วงที่สหรัฐฯ เพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียและยูเครนบรรลุข้อตกลงสันติภาพ

เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หน่วยความมั่นคงยูเครนยอมรับว่า อยู่เบื้องหลังเหตุลอบสังหารพลโทอิกอร์ คิริลลอฟ ของรัสเซีย ด้วยระเบิดซุกซ่อนในสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่จอดนอกอะพาร์ตเมนต์ของเขา

ข่าวเหตุระเบิดครั้งล่าสุดมีขึ้นในช่วงที่สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะเข้าพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน หลังเดินทางถึงกรุงมอสโกเช้าวันนี้ โดยเป็นการเยือนรัสเซียครั้งที่ 4 นับจากต้นปีนี้ ต่อมามีรายงานว่า วิตคอฟฟ์ได้พบกับปูตินแล้ว โดยคาดว่าจะหารือเรื่องข้อเสนอแผนสันติภาพในสงครามยูเครน
    25 เมษายน 2568 เกิดเหตุระเบิดแสวงเครื่องสังหารนายพลยารอสลาฟ มอสคาลิก นายทหารระดับสูงจากกองเสนาธิการทหารของกองทัพบกรัสเซีย เสียชีวิตในรถยนต์ในเมืองบาลาชิคา ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกไม่ถึง 32 กม.
ก่อนที่ทูตพิเศษสหรัฐฯ จะพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในช่วงที่สหรัฐฯ เพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียและยูเครนบรรลุข้อตกลงสันติภาพ

เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หน่วยความมั่นคงยูเครนยอมรับว่า อยู่เบื้องหลังเหตุลอบสังหารพลโทอิกอร์ คิริลลอฟ ของรัสเซีย ด้วยระเบิดซุกซ่อนในสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่จอดนอกอะพาร์ตเมนต์ของเขา

ข่าวเหตุระเบิดครั้งล่าสุดมีขึ้นในช่วงที่สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะเข้าพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน หลังเดินทางถึงกรุงมอสโกเช้าวันนี้ โดยเป็นการเยือนรัสเซียครั้งที่ 4 นับจากต้นปีนี้ ต่อมามีรายงานว่า วิตคอฟฟ์ได้พบกับปูตินแล้ว โดยคาดว่าจะหารือเรื่องข้อเสนอแผนสันติภาพในสงครามยูเครน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้กล่าวถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งผลให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ เช่น Lenovo, HP และ Dell ต้องพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย โดยนโยบายภาษีที่สูงถึง 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

    ซาอุดีอาระเบียได้เสนอสิ่งจูงใจที่น่าสนใจ เช่น การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด และการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) ซึ่งมีมูลค่าถึง 620 พันล้านดอลลาร์ โดย Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบียเพื่อขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา

    ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย
    - Lenovo, HP และ Dell กำลังพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย
    - Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบีย

    ✅ สิ่งจูงใจจากซาอุดีอาระเบีย
    - ซาอุดีอาระเบียเสนอการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด
    - กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

    ✅ ผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์
    - ภาษี 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิต
    - ซาอุดีอาระเบียมีภาษีเพียง 10% ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

    ✅ การขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา
    - การย้ายฐานการผลิตช่วยเพิ่มการเข้าถึงตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา

    https://www.techspot.com/news/107672-trump-tariffs-push-world-top-pc-makers-toward.html
    ข่าวนี้กล่าวถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งผลให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ เช่น Lenovo, HP และ Dell ต้องพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย โดยนโยบายภาษีที่สูงถึง 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซาอุดีอาระเบียได้เสนอสิ่งจูงใจที่น่าสนใจ เช่น การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด และการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) ซึ่งมีมูลค่าถึง 620 พันล้านดอลลาร์ โดย Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบียเพื่อขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย - Lenovo, HP และ Dell กำลังพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย - Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบีย ✅ สิ่งจูงใจจากซาอุดีอาระเบีย - ซาอุดีอาระเบียเสนอการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด - กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ✅ ผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์ - ภาษี 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิต - ซาอุดีอาระเบียมีภาษีเพียง 10% ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ✅ การขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา - การย้ายฐานการผลิตช่วยเพิ่มการเข้าถึงตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา https://www.techspot.com/news/107672-trump-tariffs-push-world-top-pc-makers-toward.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Trump tariffs push top PC makers Lenovo, HP, and Dell toward Saudi Arabia
    The so-called "reciprocal tariffs" imposed by the Trump administration could push major PC manufacturers to find new production hubs, and it likely won't be in the US....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ฝ่ายมืดต้องครอบครองก็ว่า,อเมริกาใช้มุกฆ่าซัดดัมก็เพื่อปล้นสิ่งนี้คือตัวหลัก และชาติอื่นๆด้วยหากพวกมันพบเจอหรือรู้ว่ามี.

    ..มีประตูมิติอยู่มากมายทั่วโลก อารยธรรมโบราณไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์และไม่จำเป็นต้องทำลายธรรมชาติเพื่อเปิดทางให้กับถนน พวกเขามักใช้ยานพาหนะแม่เหล็กไฟฟ้าและประตูมิติในการเดินทางระหว่างเมือง เมืองใหญ่ทุกเมืองมีประตูมิติ นี่คือสาเหตุที่นักโบราณคดีและประวัติศาสตร์ไม่ทราบว่าเมืองโบราณเหล่านี้สร้างขึ้นบนยอดเขาได้อย่างไร เนื่องจากไม่พบถนน มีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ไม่อาจขนขึ้นภูเขาได้แม้แต่ตามมาตรฐานในปัจจุบัน โดยใช้เครนและเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากมีน้ำหนักมากและภูเขามีความลาดชันมาก ประตูมิติถูกพบทั่วโลกและส่วนใหญ่ถูกทำลายเนื่องจากปรสิตไม่ทราบวิธีเปิดใช้งานประตูมิติ ประตูมิติหลายแห่งยังพบในตะวันออกกลาง ในภูมิภาคอิรัก อัฟกานิสถาน ซีเรีย ลิเบีย และอียิปต์ 🍿🐸🇺🇸
    ..ฝ่ายมืดต้องครอบครองก็ว่า,อเมริกาใช้มุกฆ่าซัดดัมก็เพื่อปล้นสิ่งนี้คือตัวหลัก และชาติอื่นๆด้วยหากพวกมันพบเจอหรือรู้ว่ามี. ..มีประตูมิติอยู่มากมายทั่วโลก อารยธรรมโบราณไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์และไม่จำเป็นต้องทำลายธรรมชาติเพื่อเปิดทางให้กับถนน พวกเขามักใช้ยานพาหนะแม่เหล็กไฟฟ้าและประตูมิติในการเดินทางระหว่างเมือง เมืองใหญ่ทุกเมืองมีประตูมิติ นี่คือสาเหตุที่นักโบราณคดีและประวัติศาสตร์ไม่ทราบว่าเมืองโบราณเหล่านี้สร้างขึ้นบนยอดเขาได้อย่างไร เนื่องจากไม่พบถนน มีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ไม่อาจขนขึ้นภูเขาได้แม้แต่ตามมาตรฐานในปัจจุบัน โดยใช้เครนและเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากมีน้ำหนักมากและภูเขามีความลาดชันมาก ประตูมิติถูกพบทั่วโลกและส่วนใหญ่ถูกทำลายเนื่องจากปรสิตไม่ทราบวิธีเปิดใช้งานประตูมิติ ประตูมิติหลายแห่งยังพบในตะวันออกกลาง ในภูมิภาคอิรัก อัฟกานิสถาน ซีเรีย ลิเบีย และอียิปต์ 🍿🐸🇺🇸
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts