• เรื่องเล่าจากการสำรวจภาคธุรกิจ: เมื่อ AI ยังไม่ทำให้คนตกงาน แต่เริ่มเปลี่ยนวิธีจ้างงานและฝึกอบรม

    ในบล็อกของ New York Fed ที่เผยแพร่เมื่อ 4 กันยายน 2025 นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า แม้การใช้งาน AI ในภาคธุรกิจจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ผลกระทบต่อการจ้างงานยังถือว่า “น้อยมาก” โดยเฉพาะในแง่ของการเลิกจ้างพนักงาน

    จากการสำรวจในเขตนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ พบว่า 40% ของบริษัทด้านบริการ และ 26% ของผู้ผลิต ใช้ AI ในกระบวนการทำงานแล้ว เพิ่มขึ้นจาก 25% และ 16% ตามลำดับเมื่อปีที่แล้ว และเกือบครึ่งของบริษัทเหล่านี้มีแผนจะใช้ AI เพิ่มในอีก 6 เดือนข้างหน้า

    แต่แทนที่จะปลดพนักงาน บริษัทกลับเลือกที่จะ “ฝึกอบรมใหม่” เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล, การตลาด, และการบริการลูกค้า

    อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่าแนวโน้มนี้อาจเปลี่ยนไปในอนาคต เมื่อ AI ถูกนำไปใช้ในระดับลึกมากขึ้น โดยเฉพาะในตำแหน่งที่มีค่าตอบแทนสูง เช่น ผู้จัดการ, นักวิเคราะห์, หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ซึ่งอาจถูกแทนที่บางส่วนด้วยระบบอัตโนมัติ

    การใช้งาน AI ในภาคธุรกิจนิวยอร์ก
    40% ของบริษัทบริการ และ 26% ของผู้ผลิตใช้ AI แล้ว
    เพิ่มขึ้นจาก 25% และ 16% เมื่อปีที่แล้ว
    เกือบครึ่งของบริษัทมีแผนจะใช้ AI เพิ่มในอีก 6 เดือนข้างหน้า

    ผลกระทบต่อการจ้างงาน
    บริษัทส่วนใหญ่ยังไม่ปลดพนักงานเพราะ AI
    เลือกฝึกอบรมพนักงานใหม่เพื่อทำงานร่วมกับ AI
    การเลิกจ้างที่เกิดจาก AI ยังอยู่ในระดับต่ำมาก

    แนวโน้มในอนาคต
    บริษัทเริ่มคาดการณ์ว่าจะมีการลดการจ้างงานในบางตำแหน่ง
    โดยเฉพาะงานที่ใช้ทักษะสูงและมีค่าตอบแทนสูง
    การจ้างงานใหม่อาจเน้นคนที่มีทักษะด้าน AI มากขึ้น

    การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง
    AI เริ่มมีบทบาทในการคัดเลือกพนักงานและวิเคราะห์ประสิทธิภาพ
    บางบริษัทลดการจ้างงานใหม่ แต่เพิ่มการจ้างคนที่ใช้ AI ได้
    ตลาดแรงงานอาจเปลี่ยนจาก “จำนวนคน” เป็น “คุณภาพทักษะ”

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/04/ai-not-affecting-job-market-much-so-far-new-york-fed-says
    🎙️ เรื่องเล่าจากการสำรวจภาคธุรกิจ: เมื่อ AI ยังไม่ทำให้คนตกงาน แต่เริ่มเปลี่ยนวิธีจ้างงานและฝึกอบรม ในบล็อกของ New York Fed ที่เผยแพร่เมื่อ 4 กันยายน 2025 นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า แม้การใช้งาน AI ในภาคธุรกิจจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ผลกระทบต่อการจ้างงานยังถือว่า “น้อยมาก” โดยเฉพาะในแง่ของการเลิกจ้างพนักงาน จากการสำรวจในเขตนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ พบว่า 40% ของบริษัทด้านบริการ และ 26% ของผู้ผลิต ใช้ AI ในกระบวนการทำงานแล้ว เพิ่มขึ้นจาก 25% และ 16% ตามลำดับเมื่อปีที่แล้ว และเกือบครึ่งของบริษัทเหล่านี้มีแผนจะใช้ AI เพิ่มในอีก 6 เดือนข้างหน้า แต่แทนที่จะปลดพนักงาน บริษัทกลับเลือกที่จะ “ฝึกอบรมใหม่” เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล, การตลาด, และการบริการลูกค้า อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่าแนวโน้มนี้อาจเปลี่ยนไปในอนาคต เมื่อ AI ถูกนำไปใช้ในระดับลึกมากขึ้น โดยเฉพาะในตำแหน่งที่มีค่าตอบแทนสูง เช่น ผู้จัดการ, นักวิเคราะห์, หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ซึ่งอาจถูกแทนที่บางส่วนด้วยระบบอัตโนมัติ ✅ การใช้งาน AI ในภาคธุรกิจนิวยอร์ก ➡️ 40% ของบริษัทบริการ และ 26% ของผู้ผลิตใช้ AI แล้ว ➡️ เพิ่มขึ้นจาก 25% และ 16% เมื่อปีที่แล้ว ➡️ เกือบครึ่งของบริษัทมีแผนจะใช้ AI เพิ่มในอีก 6 เดือนข้างหน้า ✅ ผลกระทบต่อการจ้างงาน ➡️ บริษัทส่วนใหญ่ยังไม่ปลดพนักงานเพราะ AI ➡️ เลือกฝึกอบรมพนักงานใหม่เพื่อทำงานร่วมกับ AI ➡️ การเลิกจ้างที่เกิดจาก AI ยังอยู่ในระดับต่ำมาก ✅ แนวโน้มในอนาคต ➡️ บริษัทเริ่มคาดการณ์ว่าจะมีการลดการจ้างงานในบางตำแหน่ง ➡️ โดยเฉพาะงานที่ใช้ทักษะสูงและมีค่าตอบแทนสูง ➡️ การจ้างงานใหม่อาจเน้นคนที่มีทักษะด้าน AI มากขึ้น ✅ การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ➡️ AI เริ่มมีบทบาทในการคัดเลือกพนักงานและวิเคราะห์ประสิทธิภาพ ➡️ บางบริษัทลดการจ้างงานใหม่ แต่เพิ่มการจ้างคนที่ใช้ AI ได้ ➡️ ตลาดแรงงานอาจเปลี่ยนจาก “จำนวนคน” เป็น “คุณภาพทักษะ” https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/04/ai-not-affecting-job-market-much-so-far-new-york-fed-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI not affecting job market much so far, New York Fed says
    NEW YORK (Reuters) -Rising adoption of artificial intelligence technology by firms in the Federal Reserve's New York district has not been much of a job-killer so far, the regional Fed bank said in a blog on Thursday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อคนหางานลุกขึ้นสู้กับ “งานผี” ที่หลอกให้สมัครแต่ไม่เคยมีจริง

    หลังจากตกงานในเดือนตุลาคม 2024 Eric Thompson ก็เริ่มค้นพบสิ่งที่หลายคนเจอแต่ไม่กล้าพูด — ghost jobs หรือประกาศรับสมัครงานที่บริษัทไม่มีเจตนาจ้างจริง เขาเจอประกาศมากมายที่ดูน่าสนใจ แต่เมื่อสมัครไปกลับไม่มีการตอบกลับใด ๆ ทั้งสิ้น

    เมื่อสืบค้นลึกลงไป เขาพบว่าบริษัทจำนวนมากใช้ ghost jobs เพื่อเก็บเรซูเม่ไว้ล่วงหน้า, สร้างภาพลักษณ์ว่ากำลังขยายตัว, หรือแม้แต่หลอกนักลงทุนว่ามีการเติบโต ทั้งที่ตำแหน่งนั้นไม่มีอยู่จริง

    Thompson จึงรวมตัวกับเพื่อนร่วมอาชีพอีก 7 คน ตั้งกลุ่ม TJAAA (Truth in Job Advertising and Accountability Act) เพื่อผลักดันกฎหมายระดับชาติที่บังคับให้บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลสำคัญในประกาศงาน เช่น วันที่คาดว่าจะจ้าง, ว่าตำแหน่งนั้นเป็นตำแหน่งใหม่หรือทดแทน, และจำนวนครั้งที่เคยโพสต์ตำแหน่งนั้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

    กฎหมายนี้จะบังคับใช้กับบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 50 คน และกำหนดให้ประกาศงานต้องอยู่ไม่เกิน 90 วัน พร้อมเปิดรับสมัครอย่างน้อย 4 วันก่อนเริ่มคัดเลือก หากฝ่าฝืนจะถูกปรับขั้นต่ำ $2,500 ต่อครั้ง

    แม้จะยังไม่เข้าสู่สภา แต่ Thompson ได้พบกับเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 30 คน และได้รับเสียงสนับสนุนจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะในรัฐที่กำลังพิจารณากฎหมายคล้ายกัน เช่น นิวเจอร์ซีย์, เคนทักกี และแคลิฟอร์เนีย

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Eric Thompson เริ่มเคลื่อนไหวหลังเจอ ghost jobs จำนวนมากหลังตกงานในปี 2024
    ghost jobs คือประกาศรับสมัครงานที่ไม่มีเจตนาจ้างจริง
    บริษัทใช้ ghost jobs เพื่อเก็บเรซูเม่, สร้างภาพลักษณ์การเติบโต, หรือหลอกนักลงทุน
    Thompson ตั้งกลุ่ม TJAAA เพื่อผลักดันกฎหมาย Truth in Job Advertising and Accountability Act
    กฎหมายกำหนดให้ประกาศงานต้องระบุวันที่คาดว่าจะจ้าง, สถานะตำแหน่ง, และประวัติการโพสต์
    ประกาศต้องอยู่ไม่เกิน 90 วัน และเปิดรับสมัครอย่างน้อย 4 วันก่อนคัดเลือก
    บังคับใช้กับบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 50 คน
    ฝ่าฝืนจะถูกปรับขั้นต่ำ $2,500 ต่อครั้ง
    Thompson พบกับเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 30 คนเพื่อผลักดันกฎหมาย
    รัฐนิวเจอร์ซีย์, เคนทักกี และแคลิฟอร์เนียกำลังพิจารณากฎหมายคล้ายกัน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    รายงานจาก ResumeBuilder พบว่า 40% ของบริษัทเคยโพสต์ ghost jobs และ 30% ยังมีอยู่
    ghost jobs พบมากในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี, ก่อสร้าง, กฎหมาย และบริการอาหาร
    แพลตฟอร์มอย่าง LinkedIn และ Greenhouse เริ่มใช้ระบบตรวจสอบประกาศงาน
    กฎหมายในแคนาดา (Ontario) จะบังคับให้บริษัทแจ้งสถานะผู้สมัครและห้าม ghost jobs ตั้งแต่ปี 2026
    ghost jobs ทำให้ประสิทธิภาพการจ้างงานลดลงจาก 8 ต่อ 10 ในปี 2019 เหลือ 4 ต่อ 10 ในปี 2024

    https://www.cnbc.com/2025/08/25/tech-worker-was-frustrated-with-ghost-jobs-now-hes-trying-to-pass-a-national-ban.html
    🧩 เมื่อคนหางานลุกขึ้นสู้กับ “งานผี” ที่หลอกให้สมัครแต่ไม่เคยมีจริง หลังจากตกงานในเดือนตุลาคม 2024 Eric Thompson ก็เริ่มค้นพบสิ่งที่หลายคนเจอแต่ไม่กล้าพูด — ghost jobs หรือประกาศรับสมัครงานที่บริษัทไม่มีเจตนาจ้างจริง เขาเจอประกาศมากมายที่ดูน่าสนใจ แต่เมื่อสมัครไปกลับไม่มีการตอบกลับใด ๆ ทั้งสิ้น เมื่อสืบค้นลึกลงไป เขาพบว่าบริษัทจำนวนมากใช้ ghost jobs เพื่อเก็บเรซูเม่ไว้ล่วงหน้า, สร้างภาพลักษณ์ว่ากำลังขยายตัว, หรือแม้แต่หลอกนักลงทุนว่ามีการเติบโต ทั้งที่ตำแหน่งนั้นไม่มีอยู่จริง Thompson จึงรวมตัวกับเพื่อนร่วมอาชีพอีก 7 คน ตั้งกลุ่ม TJAAA (Truth in Job Advertising and Accountability Act) เพื่อผลักดันกฎหมายระดับชาติที่บังคับให้บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลสำคัญในประกาศงาน เช่น วันที่คาดว่าจะจ้าง, ว่าตำแหน่งนั้นเป็นตำแหน่งใหม่หรือทดแทน, และจำนวนครั้งที่เคยโพสต์ตำแหน่งนั้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กฎหมายนี้จะบังคับใช้กับบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 50 คน และกำหนดให้ประกาศงานต้องอยู่ไม่เกิน 90 วัน พร้อมเปิดรับสมัครอย่างน้อย 4 วันก่อนเริ่มคัดเลือก หากฝ่าฝืนจะถูกปรับขั้นต่ำ $2,500 ต่อครั้ง แม้จะยังไม่เข้าสู่สภา แต่ Thompson ได้พบกับเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 30 คน และได้รับเสียงสนับสนุนจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะในรัฐที่กำลังพิจารณากฎหมายคล้ายกัน เช่น นิวเจอร์ซีย์, เคนทักกี และแคลิฟอร์เนีย 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Eric Thompson เริ่มเคลื่อนไหวหลังเจอ ghost jobs จำนวนมากหลังตกงานในปี 2024 ➡️ ghost jobs คือประกาศรับสมัครงานที่ไม่มีเจตนาจ้างจริง ➡️ บริษัทใช้ ghost jobs เพื่อเก็บเรซูเม่, สร้างภาพลักษณ์การเติบโต, หรือหลอกนักลงทุน ➡️ Thompson ตั้งกลุ่ม TJAAA เพื่อผลักดันกฎหมาย Truth in Job Advertising and Accountability Act ➡️ กฎหมายกำหนดให้ประกาศงานต้องระบุวันที่คาดว่าจะจ้าง, สถานะตำแหน่ง, และประวัติการโพสต์ ➡️ ประกาศต้องอยู่ไม่เกิน 90 วัน และเปิดรับสมัครอย่างน้อย 4 วันก่อนคัดเลือก ➡️ บังคับใช้กับบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 50 คน ➡️ ฝ่าฝืนจะถูกปรับขั้นต่ำ $2,500 ต่อครั้ง ➡️ Thompson พบกับเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 30 คนเพื่อผลักดันกฎหมาย ➡️ รัฐนิวเจอร์ซีย์, เคนทักกี และแคลิฟอร์เนียกำลังพิจารณากฎหมายคล้ายกัน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ รายงานจาก ResumeBuilder พบว่า 40% ของบริษัทเคยโพสต์ ghost jobs และ 30% ยังมีอยู่ ➡️ ghost jobs พบมากในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี, ก่อสร้าง, กฎหมาย และบริการอาหาร ➡️ แพลตฟอร์มอย่าง LinkedIn และ Greenhouse เริ่มใช้ระบบตรวจสอบประกาศงาน ➡️ กฎหมายในแคนาดา (Ontario) จะบังคับให้บริษัทแจ้งสถานะผู้สมัครและห้าม ghost jobs ตั้งแต่ปี 2026 ➡️ ghost jobs ทำให้ประสิทธิภาพการจ้างงานลดลงจาก 8 ต่อ 10 ในปี 2019 เหลือ 4 ต่อ 10 ในปี 2024 https://www.cnbc.com/2025/08/25/tech-worker-was-frustrated-with-ghost-jobs-now-hes-trying-to-pass-a-national-ban.html
    WWW.CNBC.COM
    This tech worker was frustrated with ghost job ads. Now he’s working to pass a national law banning them
    Eric Thompson grew so frustrated with ghost jobs that he created an advocacy group to propose federal legislation banning the practice.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่านแม่ทัพจัดไปให้เต็มที่ทำไม่ทันก่อนท่านเกษียณประชาชนยินดีไปช่วย ขาดเท่าไหร่ ปชช.ยินดีบริจาคผ่านมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินไว้ใจได้และรวดเร็ว ถ้าท่านเกษียณแล้วเราไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาอีกคะ "#ไม่ไว้ใจนักการเมืองเลย""มีนักการเมืองไว้ทำไม รัฐบาลมีเหมือนไม่มีไทยเกิดวิกฤติ "มีแต่ทหารและประชาชนช่วยกันเอง"แบบนี้จะมีไว้ทำไมไม่มีผลงานอะไรเพื่อประชาชนเลย มีแต่ผลประโยชน์ แก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย สร้างปัญหาซะมากก่วา หนักใจ บ.ปิด คนไทยตกงานจำนวนมาก ค่าไฟแพง น้ำมันแพง ทุกอย่างแพงๆๆๆ"ยังจะมีกะใจจัดงานรื่นเริงแทนที่จะเอาเงินนั้นมาเยี่ยวยาประชาชนเจ้าที่ทหาร อาสาฯลฯ ตำรวจตระเวนชายแดนที่เป็นรั้วของชาติ ให้เราได้กินอิ่มนอนหลับในขณะที่ทหารกินข้าวกับมาม่า พระคุณเขาเราจะตอบแทนยังไงลองไปใช้ชีวิตแบบนั้นดูสักเดือนไหมจะได้เข้าใจ#ท่านแม่ทัพภาค2คะเต็มที่เลยนะคะเหลือเวลาน้อยมากแล้วท่านกำลังจะเกษียณแล้ว"ขอแบบเวียดนามเลยคะ"ไม่อยากคบคนเขมรที่พร้อมหักหลังทุกคนบนโลกนี้ ไว้ใจไม่ได้
    ท่านแม่ทัพจัดไปให้เต็มที่ทำไม่ทันก่อนท่านเกษียณประชาชนยินดีไปช่วย ขาดเท่าไหร่ ปชช.ยินดีบริจาคผ่านมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินไว้ใจได้และรวดเร็ว ถ้าท่านเกษียณแล้วเราไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาอีกคะ "#ไม่ไว้ใจนักการเมืองเลย""มีนักการเมืองไว้ทำไม รัฐบาลมีเหมือนไม่มีไทยเกิดวิกฤติ "มีแต่ทหารและประชาชนช่วยกันเอง"แบบนี้จะมีไว้ทำไมไม่มีผลงานอะไรเพื่อประชาชนเลย มีแต่ผลประโยชน์ แก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย สร้างปัญหาซะมากก่วา หนักใจ บ.ปิด คนไทยตกงานจำนวนมาก ค่าไฟแพง น้ำมันแพง ทุกอย่างแพงๆๆๆ"ยังจะมีกะใจจัดงานรื่นเริงแทนที่จะเอาเงินนั้นมาเยี่ยวยาประชาชนเจ้าที่ทหาร อาสาฯลฯ ตำรวจตระเวนชายแดนที่เป็นรั้วของชาติ ให้เราได้กินอิ่มนอนหลับในขณะที่ทหารกินข้าวกับมาม่า พระคุณเขาเราจะตอบแทนยังไงลองไปใช้ชีวิตแบบนั้นดูสักเดือนไหมจะได้เข้าใจ#ท่านแม่ทัพภาค2คะเต็มที่เลยนะคะเหลือเวลาน้อยมากแล้วท่านกำลังจะเกษียณแล้ว😔"ขอแบบเวียดนามเลยคะ💪♒"ไม่อยากคบคนเขมรที่พร้อมหักหลังทุกคนบนโลกนี้ ไว้ใจไม่ได้🤚
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • AI ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป: เทคโนโลยีที่อาจเปลี่ยนโครงสร้างโลก

    ลองนึกภาพว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา การที่เครื่องจักรจะเข้าใจภาษาเรา เขียนโปรแกรม หรือหาข้อผิดพลาดในโค้ดที่มนุษย์มองข้าม ยังเป็นเรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์ แต่วันนี้ AI ทำสิ่งเหล่านั้นได้จริง แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบ

    ผู้เขียนชี้ว่า แม้ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ยังประเมินผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งในแง่การมองข้ามความก้าวหน้า หรือคาดหวังเกินจริง แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ AI กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และอาจไม่หยุดอยู่แค่ “เครื่องมือช่วยงาน” แต่กลายเป็น “ผู้เล่นหลัก” ที่เปลี่ยนระบบเศรษฐกิจทั้งหมด

    ตลาดหุ้นยังคงขึ้นอย่างไม่สนใจความไม่แน่นอนของ AI หรือสงครามในโลก แต่ผู้เขียนเตือนว่า หาก AI สามารถแทนที่แรงงานจำนวนมากได้จริง ระบบเศรษฐกิจแบบปัจจุบันอาจไม่สามารถรับมือได้ และอาจต้องเปลี่ยนไปสู่ระบบใหม่ที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

    ข้อมูลจาก MIT Sloan เสริมว่า แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่ในระยะ 10 ปีข้างหน้า อาจมีผลต่อ GDP เพียง 1–2% เท่านั้น เพราะมีเพียง 5% ของงานทั้งหมดที่สามารถใช้ AI ได้อย่างคุ้มค่า

    IMF ก็เตือนว่า AI จะกระทบต่อ 40% ของงานทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งอาจเกิดความเหลื่อมล้ำทางรายได้มากขึ้น หากไม่มีนโยบายรองรับที่ดี

    ความก้าวหน้าของ AI
    AI สามารถเข้าใจภาษา เขียนโปรแกรม และหาข้อผิดพลาดในโค้ด
    ความสามารถเหล่านี้เคยเป็นเรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์
    การพัฒนาเกิดขึ้นแม้ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินผิด

    ความไม่แน่นอนของอนาคต AI
    ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำว่า AI จะไปถึงไหน
    หาก AI ไม่หยุดพัฒนา อาจกลายเป็นผู้เล่นหลักในระบบเศรษฐกิจ
    การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่เหมือนการปฏิวัติเทคโนโลยีที่ผ่านมา

    ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
    ตลาดหุ้นยังคงขึ้น แม้มีความไม่แน่นอน
    หาก AI แทนแรงงานจำนวนมาก ระบบเศรษฐกิจอาจต้องเปลี่ยน
    บริษัทอาจไม่จ้างบริการภายนอก หาก AI ภายในทำงานได้เอง

    ข้อมูลเสริมจาก MIT Sloan
    AI อาจเพิ่ม GDP เพียง 1–2% ใน 10 ปีข้างหน้า
    มีเพียง 5% ของงานที่สามารถใช้ AI ได้อย่างคุ้มค่า
    ผลกระทบต่อผลิตภาพโดยรวมอาจต่ำกว่าที่คาด

    ข้อมูลเสริมจาก IMF
    AI กระทบต่อ 40% ของงานทั่วโลก
    ประเทศพัฒนาแล้วมีความเสี่ยงสูงกว่า
    อาจเกิดความเหลื่อมล้ำทางรายได้และโอกาส

    คำเตือนและข้อจำกัด
    การพัฒนา AI อาจทำให้แรงงานจำนวนมากตกงาน
    ระบบเศรษฐกิจปัจจุบันอาจไม่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
    หากไม่มีนโยบายรองรับ อาจเกิดความเหลื่อมล้ำอย่างรุนแรง
    ตลาดหุ้นอาจไม่สะท้อนความจริงของเศรษฐกิจในระยะยาว
    การพึ่งพา AI จากบริษัทใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง อาจสร้างความเสี่ยงต่ออำนาจรวมศูนย์

    https://www.antirez.com/news/155
    🧠 AI ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป: เทคโนโลยีที่อาจเปลี่ยนโครงสร้างโลก ลองนึกภาพว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา การที่เครื่องจักรจะเข้าใจภาษาเรา เขียนโปรแกรม หรือหาข้อผิดพลาดในโค้ดที่มนุษย์มองข้าม ยังเป็นเรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์ แต่วันนี้ AI ทำสิ่งเหล่านั้นได้จริง แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบ ผู้เขียนชี้ว่า แม้ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ยังประเมินผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งในแง่การมองข้ามความก้าวหน้า หรือคาดหวังเกินจริง แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ AI กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และอาจไม่หยุดอยู่แค่ “เครื่องมือช่วยงาน” แต่กลายเป็น “ผู้เล่นหลัก” ที่เปลี่ยนระบบเศรษฐกิจทั้งหมด ตลาดหุ้นยังคงขึ้นอย่างไม่สนใจความไม่แน่นอนของ AI หรือสงครามในโลก แต่ผู้เขียนเตือนว่า หาก AI สามารถแทนที่แรงงานจำนวนมากได้จริง ระบบเศรษฐกิจแบบปัจจุบันอาจไม่สามารถรับมือได้ และอาจต้องเปลี่ยนไปสู่ระบบใหม่ที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ข้อมูลจาก MIT Sloan เสริมว่า แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่ในระยะ 10 ปีข้างหน้า อาจมีผลต่อ GDP เพียง 1–2% เท่านั้น เพราะมีเพียง 5% ของงานทั้งหมดที่สามารถใช้ AI ได้อย่างคุ้มค่า IMF ก็เตือนว่า AI จะกระทบต่อ 40% ของงานทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งอาจเกิดความเหลื่อมล้ำทางรายได้มากขึ้น หากไม่มีนโยบายรองรับที่ดี ✅ ความก้าวหน้าของ AI ➡️ AI สามารถเข้าใจภาษา เขียนโปรแกรม และหาข้อผิดพลาดในโค้ด ➡️ ความสามารถเหล่านี้เคยเป็นเรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์ ➡️ การพัฒนาเกิดขึ้นแม้ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินผิด ✅ ความไม่แน่นอนของอนาคต AI ➡️ ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำว่า AI จะไปถึงไหน ➡️ หาก AI ไม่หยุดพัฒนา อาจกลายเป็นผู้เล่นหลักในระบบเศรษฐกิจ ➡️ การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่เหมือนการปฏิวัติเทคโนโลยีที่ผ่านมา ✅ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ➡️ ตลาดหุ้นยังคงขึ้น แม้มีความไม่แน่นอน ➡️ หาก AI แทนแรงงานจำนวนมาก ระบบเศรษฐกิจอาจต้องเปลี่ยน ➡️ บริษัทอาจไม่จ้างบริการภายนอก หาก AI ภายในทำงานได้เอง ✅ ข้อมูลเสริมจาก MIT Sloan ➡️ AI อาจเพิ่ม GDP เพียง 1–2% ใน 10 ปีข้างหน้า ➡️ มีเพียง 5% ของงานที่สามารถใช้ AI ได้อย่างคุ้มค่า ➡️ ผลกระทบต่อผลิตภาพโดยรวมอาจต่ำกว่าที่คาด ✅ ข้อมูลเสริมจาก IMF ➡️ AI กระทบต่อ 40% ของงานทั่วโลก ➡️ ประเทศพัฒนาแล้วมีความเสี่ยงสูงกว่า ➡️ อาจเกิดความเหลื่อมล้ำทางรายได้และโอกาส ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ การพัฒนา AI อาจทำให้แรงงานจำนวนมากตกงาน ⛔ ระบบเศรษฐกิจปัจจุบันอาจไม่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ⛔ หากไม่มีนโยบายรองรับ อาจเกิดความเหลื่อมล้ำอย่างรุนแรง ⛔ ตลาดหุ้นอาจไม่สะท้อนความจริงของเศรษฐกิจในระยะยาว ⛔ การพึ่งพา AI จากบริษัทใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง อาจสร้างความเสี่ยงต่ออำนาจรวมศูนย์ https://www.antirez.com/news/155
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนดูเขมรอีกรอบ,มันก็กล้าเคลมสำเนียงคนลาวนะ.,เกินจริงๆเขมร,อย่าสงสารมันเลย,ที่เห็นๆน้ำตาเหี้ยสัตว์เลื้อยคลานพวกนี้ไหล เจ้าแม่เมียฮุนเซนคือต้นแบบคนเขมรทุกๆตัวล่ะ,จากนั้นก็พร้อมหักหลังแดกเนื้อมนุษย์คนนั้นลงท้องจระเข้แบบมันล่ะ,คนเขมรมีสะสมมากเกินไปบนแผ่นดินไทยก็เพราะนักการเมืองและเจ้าของกิจการทั้งหลายที่สุมหัวตกลงกันหมดแล้วว่า ทหารไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามเรา ประเทศไทยนำโดยสถาบันกษัตริย์ไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามมัน,กระบวนการชูสามนิ้วจึงเกิด กระบวนการนำเข้าคนเขมรคนพม่าอย่างมากล้นจึงเกิดผิดปกติในช่วงเวลาที่ผ่านๆมา ไม่รวมนักการเมือง เจ้าของกิจการ คนราชการรัฐหาแดกเถื่อนๆกับคนพวกนี้ให้เกียจชังประเทศไทยสะสมความโกรธแค้นที่เป็นฝ่ายถูกกระทำจากตัวแทนที่ชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐ คนราชการ นักการเมือง เจ้าของกิจการต่างๆนั้นอีก คือมันสามารถสุมหัวกันทำลายภายในประเทศไทยให้สำเร็จให้ได้นั้นเอง,ต่างชาติต่างด้าวเถื่อนๆไร้จิตสำนึกไร้คุณภาพจึงวิ่งมาไทยตรึม,ปัญหามากมายทางสังคมจึงเก็บสะสมถึงปัจจุบันอย่างมีนัยยะโคตรอันตรายต่อชาติบ้านเมืองเราเพราะเดอะแก๊งทีมสุมหัวทั้งหมดเหล่านี้ทั้งได้เงินทุนมหาศาลผ่านองค์กรสากลหน้านักบุญแก่ใจอำมหิตพฤติกรรมชั่วเลวแต่วาติกันนั้นล่ะ,

    ..สรุปก่อนวิกฤติสงครามโลกครั้งที่สามจะเกิดจริงต้องเคลียร์คนต่างด้าวต่างชาติออกจากประเทศทั้งหมดทันที,แค่คนไทยก็ดูแลกันลำบากแล้วในบ้านเรา,รับเลี้ยงคนต่างด้าวต่างชาติมาใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอีก,แบบบังเบียดทรัพยากรตัวยาและสาระพัดในโรงพยาบาลเรานั้นล่ะ นี้ไม่รวมด้านอื่นๆข้อความสงบสุข ไว้เนื้อเชื่อใจอีก ดูสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติทั่วไทยเลย น้ำตก ภูดอย พม่า เขมรมั่วsexในป่าในน้ำตกไทบ้านคนไทยเต็มไปหมด มั่วยาบ้าคนละเม็ดวันละเม็ดโดยคนขายจับขึ้นทะเบียนก็ไม่ได้ โรงงานแหล่งผลิตก็ไม่ผ่าน อย. เสือกรัฐบาลอนุมัติอีก,โรงงานต่างชาติอีกรับพม่าเขมรเต็มโรงงานมิใช่แค่โรงงานคนไทย,คือเหี้ยหมด ต้องผลักดันออกทั้งหมด,อย่าพึ่งรับใครเข้ามาทดแทนเด็ดขาด,มีข่าวเอาแขกศรีลังกามาอีก ตัวพ่อเผาบ้านเผาเมืองเผาประเทศตัวจริงล่ะใครคิดสมองคิด,การจัดระเบียบยังเหี้ยในปัจจุบันทั้งระบบ,คนไทยตนเองตกงานยังแก้ไม่ได้ สั่งควบคุมเอกชนไม่ได้ ยังมีหน้ารับไปทั่ว,ไปดูข่าวคนศรีลังกาดีๆนะสันดานคนพวกนี้ธรรมดาน้อยเช่นกันขนาดไหน,นัยยะอันตรายโคตรๆนะ,กองโจรมีอาชีพของคนเกาะศรีลังกาธรรมดาที่ไหน,สมองก่อการร้ายทำลายเป้าหมายก็ใช่เล่น,เผ่าชนชั้นคนเกาะนี้แทรกซึมมาได้หมด,รับงานใครก็ได้จัดการไทยภายในอีกมาในรูปแบบแรงงาน,เข้าล้ำนะคนพวกนี้ จนมีองค์กรติดตามเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวอย่างเปิดเผยที่มีรัฐบาลสนับสนุน,ไม่กากนะ แม้คนโง่ไม่น้อยแต่ประวัติคือเผ่าพันธุ์ยักษ์และวานรอยู่เต็มเกาะแต่ยักษ์ปกครองส่วนพื้นที่มาก.



    https://youtube.com/watch?v=FA9Pg_dvSPk&si=5ZwSjun6TWhMRMV5
    ย้อนดูเขมรอีกรอบ,มันก็กล้าเคลมสำเนียงคนลาวนะ.,เกินจริงๆเขมร,อย่าสงสารมันเลย,ที่เห็นๆน้ำตาเหี้ยสัตว์เลื้อยคลานพวกนี้ไหล เจ้าแม่เมียฮุนเซนคือต้นแบบคนเขมรทุกๆตัวล่ะ,จากนั้นก็พร้อมหักหลังแดกเนื้อมนุษย์คนนั้นลงท้องจระเข้แบบมันล่ะ,คนเขมรมีสะสมมากเกินไปบนแผ่นดินไทยก็เพราะนักการเมืองและเจ้าของกิจการทั้งหลายที่สุมหัวตกลงกันหมดแล้วว่า ทหารไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามเรา ประเทศไทยนำโดยสถาบันกษัตริย์ไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามมัน,กระบวนการชูสามนิ้วจึงเกิด กระบวนการนำเข้าคนเขมรคนพม่าอย่างมากล้นจึงเกิดผิดปกติในช่วงเวลาที่ผ่านๆมา ไม่รวมนักการเมือง เจ้าของกิจการ คนราชการรัฐหาแดกเถื่อนๆกับคนพวกนี้ให้เกียจชังประเทศไทยสะสมความโกรธแค้นที่เป็นฝ่ายถูกกระทำจากตัวแทนที่ชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐ คนราชการ นักการเมือง เจ้าของกิจการต่างๆนั้นอีก คือมันสามารถสุมหัวกันทำลายภายในประเทศไทยให้สำเร็จให้ได้นั้นเอง,ต่างชาติต่างด้าวเถื่อนๆไร้จิตสำนึกไร้คุณภาพจึงวิ่งมาไทยตรึม,ปัญหามากมายทางสังคมจึงเก็บสะสมถึงปัจจุบันอย่างมีนัยยะโคตรอันตรายต่อชาติบ้านเมืองเราเพราะเดอะแก๊งทีมสุมหัวทั้งหมดเหล่านี้ทั้งได้เงินทุนมหาศาลผ่านองค์กรสากลหน้านักบุญแก่ใจอำมหิตพฤติกรรมชั่วเลวแต่วาติกันนั้นล่ะ, ..สรุปก่อนวิกฤติสงครามโลกครั้งที่สามจะเกิดจริงต้องเคลียร์คนต่างด้าวต่างชาติออกจากประเทศทั้งหมดทันที,แค่คนไทยก็ดูแลกันลำบากแล้วในบ้านเรา,รับเลี้ยงคนต่างด้าวต่างชาติมาใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอีก,แบบบังเบียดทรัพยากรตัวยาและสาระพัดในโรงพยาบาลเรานั้นล่ะ นี้ไม่รวมด้านอื่นๆข้อความสงบสุข ไว้เนื้อเชื่อใจอีก ดูสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติทั่วไทยเลย น้ำตก ภูดอย พม่า เขมรมั่วsexในป่าในน้ำตกไทบ้านคนไทยเต็มไปหมด มั่วยาบ้าคนละเม็ดวันละเม็ดโดยคนขายจับขึ้นทะเบียนก็ไม่ได้ โรงงานแหล่งผลิตก็ไม่ผ่าน อย. เสือกรัฐบาลอนุมัติอีก,โรงงานต่างชาติอีกรับพม่าเขมรเต็มโรงงานมิใช่แค่โรงงานคนไทย,คือเหี้ยหมด ต้องผลักดันออกทั้งหมด,อย่าพึ่งรับใครเข้ามาทดแทนเด็ดขาด,มีข่าวเอาแขกศรีลังกามาอีก ตัวพ่อเผาบ้านเผาเมืองเผาประเทศตัวจริงล่ะใครคิดสมองคิด,การจัดระเบียบยังเหี้ยในปัจจุบันทั้งระบบ,คนไทยตนเองตกงานยังแก้ไม่ได้ สั่งควบคุมเอกชนไม่ได้ ยังมีหน้ารับไปทั่ว,ไปดูข่าวคนศรีลังกาดีๆนะสันดานคนพวกนี้ธรรมดาน้อยเช่นกันขนาดไหน,นัยยะอันตรายโคตรๆนะ,กองโจรมีอาชีพของคนเกาะศรีลังกาธรรมดาที่ไหน,สมองก่อการร้ายทำลายเป้าหมายก็ใช่เล่น,เผ่าชนชั้นคนเกาะนี้แทรกซึมมาได้หมด,รับงานใครก็ได้จัดการไทยภายในอีกมาในรูปแบบแรงงาน,เข้าล้ำนะคนพวกนี้ จนมีองค์กรติดตามเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวอย่างเปิดเผยที่มีรัฐบาลสนับสนุน,ไม่กากนะ แม้คนโง่ไม่น้อยแต่ประวัติคือเผ่าพันธุ์ยักษ์และวานรอยู่เต็มเกาะแต่ยักษ์ปกครองส่วนพื้นที่มาก. https://youtube.com/watch?v=FA9Pg_dvSPk&si=5ZwSjun6TWhMRMV5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🙏🏿กราบสวัสดีคะ"อ.ปานเทพคะรบกวนช่วยดูเอกสารและข้อความเหล่านี้ให้ลุงตู่หน่อยนะคะเพื่อคืนความเป็นธรรมให้"พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา..หนูไม่ได้บอกว่าลุงตู่ดีไปหมดไม่ใช่แต่ตอนที่ท่านเป็นนายกผลประโยชน์มากมายท่านยังไม่เอาเลยจึงทำให้หนูเองก็ยังศรัธทาในตัวท่านอยู่ดีจึงอยากให้ อ.ปานเทพช่วยดูให้หน่อยว่ากรณีที่มี ม.44 ในมือก็ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกหรือทำอะไรก็ได้มันไม่ใช่"หนูเองไม่มีความรู้ด้านกฎหมายอะไรเลยแต่ก็คิดเองนะคะ"MOU43-44 เกิดขึ้นโดยสุขุมพันธ์&ทักษืณ มันแค่บันทึกความเข้าใจของคนสองคนโดยไม่ได้ผ่านสภาก็ผิดกฎหมายไม่น่ามีผลบังคับใช้ได้ในแง่ของเอกสาร#ใครสักคนจะทำข้อตกลงกันก็แค่นั้นไม่ผ่านมติครม.สภา&ดูอย่างทรัมป์ตอนนี้ซิ"สภาคัดค้านทรัมป์เรื่องภาษีว่าไม่มีสิทธิไปขึ้นอัตราภาษีได้ตามอำเภอใจเพราะยังไม่ผ่านสภาเลยโดนตีตกไป แต่เขาก็ทำได้ผลหลายๆประเทศรีบไปเจรจากันตัวลีบเลย จริงๆแล้วกลัวทำไมๆไม่หาตลาดใหม่ๆมันไม่ซื้อก็ช่างมันๆไม่ผลิตเองจะเอาที่ไหนใช้ดูตอนโควิดซิแย่งทิชชูจนตบตีกันแทบห้างแตก "ผลิตแต่อาวุธกับยาก็ให้มันพากันกินไปเถอะ"จริงๆแล้วโลกสมมุติการแลกเปลี่ยนมันควรเป็นสิ่งมีค่าต่อสิ่งมีค่าด้วยกันไม่ใช่กระดาษ แต่ควรเป็นเงินและทองจริงๆ"ระบบเงินดิจิตอลต่อไปต้องมีทองคำเป็นแบล็คหรือทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นรูปธรรมจริงๆ#ถึงเวลาปฏิรูปนักการเมือง ขัาราชการ ให้รับเงินเป็นดิจิตอลตรวจสอบได้ทั้งหมด ไหลไปไหนเข้าที่ไหนทำธุรกรรมอะไร ทรัพย์สินทางกายภาพที่โอเวอร์ รถ,กระเป๋าแบรนดเนมแพงๆ,นาฬิกาหรูๆ...เงินเดินแค่นี้มีทรัพย์สินเหล่านี้มาได้ยังไง..เอาจริงๆตรวจสอบธุรกรรมการเงินจะรู้หมด...#คนดี100%คงไม่มีถ้ามีคงตายไปแล้วหรือยังไม่ได้มาเกิดที#อยู่แบบเศรษฐ์กิจพอเพียงก็สบายแล้วประเทศไทย มีที่ดินปลูกข้าว,ปลูกผัก,เลี้ยงไก่ใข่(กินแต่ใข่ไก่ไม่กิน),ปลูกผลไม้นานาชนิดอยู่ได้สบาย มีบ่อน้ำไว้ใช้,ไม่มีไฟยังอยู่ได้เลย...#ไม่เหมือนเมืองนอกมีกฎหมายห้ามเอาน้ำไปรดผัก(ยามขาดแคลนน้ำ),ห้ามก่อฟืนเพื่อความอบอุ่น(เหตุฝุ่นPM2.5)คนไร้บ้านจึงเยอะไงคนส่วนใหญ่ไม่มีที่ดินต้องเช่าห้องพักตกงานต้องไปนอนแบบไร้บ้านไม่มีฮีลเตอร์ ถ้าอยู่ห้องเช่าก็มีค่าห้อง ค่าขยะ ค่าไฟ( ราคาเหมาเฉลี่ยจะใช้น้อยใช้มากก็จ่ายเท่ากันโดยใช่ค่าเฉลี่ยรายปีนั้นเป็นหลักประเมิน)ค่าเช่าโคตรแพง ฝรั่งจนๆเยอะฯลฯ"ถ้าประเทศไทยใช้หลักเกณฑ์แบบเขาประเทศไทยจะรวยมากแต่ใช้ไม่ได้หรอกประชาชนไม่ยอมแน่นอน"อีกอย่างนักการเมืองก็โกงกินเยอะ"จะมาบีบปชช.อย่างเดียวไม่ได้แค่นี้ปชช.ก็ถูกเอาเปรียบอยู่แล้วใช้ไฟฟ้าแพงทั้งที่น้ำมันในประเทศไทยเองไฟฟ้าก็ผลิตเกินปริมาณที่ประชาชนไทยจะใช้คือมันเหลือเกินความต้องการแต่ทำไมมันแพงเพราะอะไร?ถ้าเปรตมันไม่กิน ยุคนี้น่าจะล้างบางแผ่นดินให้สะอาดสักที คนโกงขายชาติไม่ควรมีที่ยืน
    🙏🏿กราบสวัสดีคะ"อ.ปานเทพคะรบกวนช่วยดูเอกสารและข้อความเหล่านี้ให้ลุงตู่หน่อยนะคะเพื่อคืนความเป็นธรรมให้"พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา..หนูไม่ได้บอกว่าลุงตู่ดีไปหมดไม่ใช่แต่ตอนที่ท่านเป็นนายกผลประโยชน์มากมายท่านยังไม่เอาเลยจึงทำให้หนูเองก็ยังศรัธทาในตัวท่านอยู่ดีจึงอยากให้ อ.ปานเทพช่วยดูให้หน่อยว่ากรณีที่มี ม.44 ในมือก็ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกหรือทำอะไรก็ได้มันไม่ใช่"หนูเองไม่มีความรู้ด้านกฎหมายอะไรเลยแต่ก็คิดเองนะคะ"MOU43-44 เกิดขึ้นโดยสุขุมพันธ์&ทักษืณ มันแค่บันทึกความเข้าใจของคนสองคนโดยไม่ได้ผ่านสภาก็ผิดกฎหมายไม่น่ามีผลบังคับใช้ได้ในแง่ของเอกสาร#ใครสักคนจะทำข้อตกลงกันก็แค่นั้นไม่ผ่านมติครม.สภา&ดูอย่างทรัมป์ตอนนี้ซิ"สภาคัดค้านทรัมป์เรื่องภาษีว่าไม่มีสิทธิไปขึ้นอัตราภาษีได้ตามอำเภอใจเพราะยังไม่ผ่านสภาเลยโดนตีตกไป แต่เขาก็ทำได้ผลหลายๆประเทศรีบไปเจรจากันตัวลีบเลย จริงๆแล้วกลัวทำไมๆไม่หาตลาดใหม่ๆมันไม่ซื้อก็ช่างมันๆไม่ผลิตเองจะเอาที่ไหนใช้ดูตอนโควิดซิแย่งทิชชูจนตบตีกันแทบห้างแตก "ผลิตแต่อาวุธกับยาก็ให้มันพากันกินไปเถอะ"จริงๆแล้วโลกสมมุติการแลกเปลี่ยนมันควรเป็นสิ่งมีค่าต่อสิ่งมีค่าด้วยกันไม่ใช่กระดาษ แต่ควรเป็นเงินและทองจริงๆ"ระบบเงินดิจิตอลต่อไปต้องมีทองคำเป็นแบล็คหรือทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นรูปธรรมจริงๆ#ถึงเวลาปฏิรูปนักการเมือง ขัาราชการ ให้รับเงินเป็นดิจิตอลตรวจสอบได้ทั้งหมด ไหลไปไหนเข้าที่ไหนทำธุรกรรมอะไร ทรัพย์สินทางกายภาพที่โอเวอร์ รถ,กระเป๋าแบรนดเนมแพงๆ,นาฬิกาหรูๆ...เงินเดินแค่นี้มีทรัพย์สินเหล่านี้มาได้ยังไง..เอาจริงๆตรวจสอบธุรกรรมการเงินจะรู้หมด...#คนดี100%คงไม่มีถ้ามีคงตายไปแล้วหรือยังไม่ได้มาเกิดที#อยู่แบบเศรษฐ์กิจพอเพียงก็สบายแล้วประเทศไทย มีที่ดินปลูกข้าว,ปลูกผัก,เลี้ยงไก่ใข่(กินแต่ใข่ไก่ไม่กิน),ปลูกผลไม้นานาชนิดอยู่ได้สบาย มีบ่อน้ำไว้ใช้,ไม่มีไฟยังอยู่ได้เลย...#ไม่เหมือนเมืองนอกมีกฎหมายห้ามเอาน้ำไปรดผัก(ยามขาดแคลนน้ำ),ห้ามก่อฟืนเพื่อความอบอุ่น(เหตุฝุ่นPM2.5)คนไร้บ้านจึงเยอะไงคนส่วนใหญ่ไม่มีที่ดินต้องเช่าห้องพักตกงานต้องไปนอนแบบไร้บ้านไม่มีฮีลเตอร์ ถ้าอยู่ห้องเช่าก็มีค่าห้อง ค่าขยะ ค่าไฟ( ราคาเหมาเฉลี่ยจะใช้น้อยใช้มากก็จ่ายเท่ากันโดยใช่ค่าเฉลี่ยรายปีนั้นเป็นหลักประเมิน)ค่าเช่าโคตรแพง ฝรั่งจนๆเยอะฯลฯ"ถ้าประเทศไทยใช้หลักเกณฑ์แบบเขาประเทศไทยจะรวยมากแต่ใช้ไม่ได้หรอกประชาชนไม่ยอมแน่นอน"อีกอย่างนักการเมืองก็โกงกินเยอะ"จะมาบีบปชช.อย่างเดียวไม่ได้แค่นี้ปชช.ก็ถูกเอาเปรียบอยู่แล้วใช้ไฟฟ้าแพงทั้งที่น้ำมันในประเทศไทยเองไฟฟ้าก็ผลิตเกินปริมาณที่ประชาชนไทยจะใช้คือมันเหลือเกินความต้องการแต่ทำไมมันแพงเพราะอะไร?ถ้าเปรตมันไม่กิน ยุคนี้น่าจะล้างบางแผ่นดินให้สะอาดสักที คนโกงขายชาติไม่ควรมีที่ยืน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 374 มุมมอง 0 รีวิว
  • จุดไฟเผาชาวมาเลย์ฯ สะเทือนท่องเที่ยวไทย

    นักท่องเที่ยวชาย-หญิง ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน ถูกนายวรากร พับไธสง อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว ใช้ทินเนอร์บรรจุขวดพลาสติก 1.5 ลิตรสาดใส่ ก่อนจุดไฟเผาแล้ววิ่งหนี เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวบาดเจ็บสาหัส ส่วนนายวรากรวิ่งหลบหนีแต่พลเมืองดีตามจับตัวเอาไว้ได้ เหตุเกิดที่หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าตัวอ้างว่าที่ก่อเหตุเพราะความเครียด ตกงาน ไม่มีรายได้ ก่อนหน้านี้เคยเป็นนักมวย ไปสมัครงานเป็น รปภ. แต่เพิ่งถูกให้ออกจากงาน ออกมาหางานทำแต่ไม่มีใครรับเข้าทำงาน อีกทั้งยังไม่ได้กินข้าว ทำให้เครียดหนัก

    ทางการไทยยังคงมาตรการวัวหายแล้วล้อมคอกอีกตามเคย เกิดเหตุสะเทือนขวัญทีออกมาขยับที นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา สั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยวเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งๆ ที่ย่านราชประสงค์เป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ควรที่จะรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว แต่สภาพที่แท้จริงเต็มไปด้วยความไร้ระเบียบ แท็กซี่และรถสามล้อครองถนนเบียดบังรถประจำทาง โก่งราคาเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ยิ่งในยามค่ำคืนหลัง 4 ทุ่มมีสภาพวังเวง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความปลอดภัยที่หย่อนยาน และไม่มีใครแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน

    ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวมาเลเซีย เดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นอันดับสอง ด้วยตัวเลขในปี 2567 จำนวน 4.95 ล้านคน รองจากนักท่องเที่ยวจีน 6.73 ล้านคน และปัจจุบัน 8 เดือนแรกของปี 2568 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย 2.70 ล้านคน ใกล้เคียงกับนักท่องเที่ยวจีน 2.73 ล้านคน ข่าวที่เกิดขึ้นถูกตีพิมพ์ในสื่อยักษ์ใหญ่ของมาเลเซีย ทั้ง The Star, New Straits Times และอีกหลายสำนัก คอมเมนต์ชาวมาเลเซียบอกเล่าประสบการณ์ว่าประเทศไทยเต็มไปด้วยอันตราย เช่น มีมิจฉาชีพล้อมหน้าล้อมหลัง มีรถตุ๊กตุ๊กขอเงินเพิ่มแล้วพอตกลงกันไม่ได้ก็ทิ้งไว้กลางทาง มีแท็กซี่ขับออกนอกเส้นทาง และอีกสารพัดพฤติกรรม

    ในสภาวะที่บ้านเมืองอยู่ในสภาวะสูญญากาศ รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ที่มีสถานะไม่มั่นคง กำลังจะถูกศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตาในเร็ววันนี้ ขณะที่ความมั่นคงของประเทศสั่นสะเทือนจากเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ส่งผลไปถึงความหย่อนยานในหลายภาคส่วนทั้งเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงการท่องเที่ยว สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือแต่ละภาคส่วนต้องดูแลกันเอง พึ่งพารัฐบาลให้น้อยที่สุด เพราะประชาชนส่วนหนึ่งไม่เชื่อฟังรัฐบาลแล้ว จนกว่าการเมืองจะกลับมามีเสถียรภาพ หรือมีรัฐบาลชุดใหม่ที่ชัดเจนกว่านี้

    #Newskit

    (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ลงใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 11 ส.ค. 2568)
    จุดไฟเผาชาวมาเลย์ฯ สะเทือนท่องเที่ยวไทย นักท่องเที่ยวชาย-หญิง ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน ถูกนายวรากร พับไธสง อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว ใช้ทินเนอร์บรรจุขวดพลาสติก 1.5 ลิตรสาดใส่ ก่อนจุดไฟเผาแล้ววิ่งหนี เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวบาดเจ็บสาหัส ส่วนนายวรากรวิ่งหลบหนีแต่พลเมืองดีตามจับตัวเอาไว้ได้ เหตุเกิดที่หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าตัวอ้างว่าที่ก่อเหตุเพราะความเครียด ตกงาน ไม่มีรายได้ ก่อนหน้านี้เคยเป็นนักมวย ไปสมัครงานเป็น รปภ. แต่เพิ่งถูกให้ออกจากงาน ออกมาหางานทำแต่ไม่มีใครรับเข้าทำงาน อีกทั้งยังไม่ได้กินข้าว ทำให้เครียดหนัก ทางการไทยยังคงมาตรการวัวหายแล้วล้อมคอกอีกตามเคย เกิดเหตุสะเทือนขวัญทีออกมาขยับที นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา สั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยวเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งๆ ที่ย่านราชประสงค์เป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ควรที่จะรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว แต่สภาพที่แท้จริงเต็มไปด้วยความไร้ระเบียบ แท็กซี่และรถสามล้อครองถนนเบียดบังรถประจำทาง โก่งราคาเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ยิ่งในยามค่ำคืนหลัง 4 ทุ่มมีสภาพวังเวง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความปลอดภัยที่หย่อนยาน และไม่มีใครแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวมาเลเซีย เดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นอันดับสอง ด้วยตัวเลขในปี 2567 จำนวน 4.95 ล้านคน รองจากนักท่องเที่ยวจีน 6.73 ล้านคน และปัจจุบัน 8 เดือนแรกของปี 2568 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย 2.70 ล้านคน ใกล้เคียงกับนักท่องเที่ยวจีน 2.73 ล้านคน ข่าวที่เกิดขึ้นถูกตีพิมพ์ในสื่อยักษ์ใหญ่ของมาเลเซีย ทั้ง The Star, New Straits Times และอีกหลายสำนัก คอมเมนต์ชาวมาเลเซียบอกเล่าประสบการณ์ว่าประเทศไทยเต็มไปด้วยอันตราย เช่น มีมิจฉาชีพล้อมหน้าล้อมหลัง มีรถตุ๊กตุ๊กขอเงินเพิ่มแล้วพอตกลงกันไม่ได้ก็ทิ้งไว้กลางทาง มีแท็กซี่ขับออกนอกเส้นทาง และอีกสารพัดพฤติกรรม ในสภาวะที่บ้านเมืองอยู่ในสภาวะสูญญากาศ รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ที่มีสถานะไม่มั่นคง กำลังจะถูกศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตาในเร็ววันนี้ ขณะที่ความมั่นคงของประเทศสั่นสะเทือนจากเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ส่งผลไปถึงความหย่อนยานในหลายภาคส่วนทั้งเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงการท่องเที่ยว สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือแต่ละภาคส่วนต้องดูแลกันเอง พึ่งพารัฐบาลให้น้อยที่สุด เพราะประชาชนส่วนหนึ่งไม่เชื่อฟังรัฐบาลแล้ว จนกว่าการเมืองจะกลับมามีเสถียรภาพ หรือมีรัฐบาลชุดใหม่ที่ชัดเจนกว่านี้ #Newskit (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ลงใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 11 ส.ค. 2568)
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ AI กลายเป็นผู้สัมภาษณ์งาน แต่ผู้สมัครกลับบอกว่า “ขอไม่ทำงานดีกว่า”

    ในปี 2025 บริษัทต่าง ๆ หันมาใช้ AI เพื่อจัดการกระบวนการสรรหาพนักงาน ตั้งแต่คัดกรองใบสมัคร ไปจนถึงสัมภาษณ์เบื้องต้นผ่าน Zoom หรือวิดีโอคอล โดยไม่มีมนุษย์อยู่ปลายสาย ผู้สมัครหลายคนกลับรู้สึก “หมดศรัทธา” และ “ถูกลดคุณค่า” จนถึงขั้นยอมไม่สมัครงานเลย

    Debra Borchardt นักเขียนและบรรณาธิการที่หางานมานานกว่า 3 เดือน เล่าว่า “การหางานมันดูดพลังชีวิตอยู่แล้ว แล้วต้องมานั่งคุยกับหุ่นยนต์อีก มันเกินจะรับไหว” เธอออกจากการสัมภาษณ์กลางคันทันทีหลังรู้ว่าอีกฝั่งไม่ใช่มนุษย์

    แม้ HR จะมองว่า AI เป็นเครื่องมือช่วยลดภาระจากการต้องคัดเลือกผู้สมัครหลายพันคน แต่ผู้สมัครกลับมองว่าเป็น “สัญญาณเตือน” ว่าบริษัทนั้นไม่ให้ความสำคัญกับมนุษย์ และอาจมีวัฒนธรรมองค์กรที่เย็นชา

    บริษัทต่าง ๆ ใช้ AI เป็นผู้สัมภาษณ์งานเบื้องต้นแทนมนุษย์
    ผู้สมัครเข้าร่วม Zoom หรือวิดีโอคอลแล้วพบว่าอีกฝั่งคือ AI
    AI ทำหน้าที่ถามคำถามและบันทึกคำตอบเพื่อประเมินเบื้องต้น

    ผู้สมัครจำนวนมากรู้สึกถูกลดคุณค่าและเลือกไม่เข้าร่วมการสัมภาษณ์กับ AI
    บางคนถึงขั้นยอมตกงานแทนที่จะคุยกับหุ่นยนต์
    มองว่าเป็น “ความอัปยศเพิ่มเติม” จากการหางานที่ยากอยู่แล้ว

    HR ใช้ AI เพื่อจัดการกับจำนวนผู้สมัครมหาศาลในแต่ละตำแหน่ง
    AI ช่วยคัดกรองใบสมัคร, นัดสัมภาษณ์, และส่งอีเมลอัตโนมัติ
    ช่วยลดภาระของทีม HR ที่มีขนาดเล็กลง

    ผู้สมัครมองว่า AI เป็นสัญญาณของวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ให้ความสำคัญกับมนุษย์
    การไม่มีมนุษย์ในขั้นตอนแรกทำให้รู้สึกว่า “บริษัทไม่แคร์คน”
    ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและความตั้งใจในการสมัครงาน

    บางบริษัทใช้ AI เพื่อวิเคราะห์เสียง, สีหน้า, และคำตอบของผู้สมัคร
    เช่น HireVue และ Modern Hire ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์แบบเรียลไทม์
    อ้างว่าเป็นการประเมินตามทักษะ ไม่ใช่ความสัมพันธ์ส่วนตัว

    ผลสำรวจพบว่า 67% ของผู้สมัครรู้สึกไม่สบายใจเมื่อบริษัทใช้ AI ในการคัดกรองใบสมัคร
    90% ต้องการให้บริษัทเปิดเผยการใช้ AI อย่างโปร่งใส
    ความโปร่งใสช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและความร่วมมือ

    AI เหมาะกับงานที่มีผู้สมัครจำนวนมาก เช่น retail หรือ customer service
    ช่วยคัดกรองเบื้องต้นและจัดการเวลาได้ดี
    แต่ควรมีมนุษย์เข้ามาในขั้นตอนสำคัญ

    การสัมภาษณ์งานคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับพนักงาน
    การใช้ AI อาจทำให้ความสัมพันธ์นั้นเริ่มต้นด้วยความเย็นชา
    ส่งผลต่อความรู้สึกของผู้สมัครและการตัดสินใจรับงาน

    https://fortune.com/2025/08/03/ai-interviewers-job-seekers-unemployment-hiring-hr-teams/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ AI กลายเป็นผู้สัมภาษณ์งาน แต่ผู้สมัครกลับบอกว่า “ขอไม่ทำงานดีกว่า” ในปี 2025 บริษัทต่าง ๆ หันมาใช้ AI เพื่อจัดการกระบวนการสรรหาพนักงาน ตั้งแต่คัดกรองใบสมัคร ไปจนถึงสัมภาษณ์เบื้องต้นผ่าน Zoom หรือวิดีโอคอล โดยไม่มีมนุษย์อยู่ปลายสาย ผู้สมัครหลายคนกลับรู้สึก “หมดศรัทธา” และ “ถูกลดคุณค่า” จนถึงขั้นยอมไม่สมัครงานเลย Debra Borchardt นักเขียนและบรรณาธิการที่หางานมานานกว่า 3 เดือน เล่าว่า “การหางานมันดูดพลังชีวิตอยู่แล้ว แล้วต้องมานั่งคุยกับหุ่นยนต์อีก มันเกินจะรับไหว” เธอออกจากการสัมภาษณ์กลางคันทันทีหลังรู้ว่าอีกฝั่งไม่ใช่มนุษย์ แม้ HR จะมองว่า AI เป็นเครื่องมือช่วยลดภาระจากการต้องคัดเลือกผู้สมัครหลายพันคน แต่ผู้สมัครกลับมองว่าเป็น “สัญญาณเตือน” ว่าบริษัทนั้นไม่ให้ความสำคัญกับมนุษย์ และอาจมีวัฒนธรรมองค์กรที่เย็นชา ✅ บริษัทต่าง ๆ ใช้ AI เป็นผู้สัมภาษณ์งานเบื้องต้นแทนมนุษย์ ➡️ ผู้สมัครเข้าร่วม Zoom หรือวิดีโอคอลแล้วพบว่าอีกฝั่งคือ AI ➡️ AI ทำหน้าที่ถามคำถามและบันทึกคำตอบเพื่อประเมินเบื้องต้น ✅ ผู้สมัครจำนวนมากรู้สึกถูกลดคุณค่าและเลือกไม่เข้าร่วมการสัมภาษณ์กับ AI ➡️ บางคนถึงขั้นยอมตกงานแทนที่จะคุยกับหุ่นยนต์ ➡️ มองว่าเป็น “ความอัปยศเพิ่มเติม” จากการหางานที่ยากอยู่แล้ว ✅ HR ใช้ AI เพื่อจัดการกับจำนวนผู้สมัครมหาศาลในแต่ละตำแหน่ง ➡️ AI ช่วยคัดกรองใบสมัคร, นัดสัมภาษณ์, และส่งอีเมลอัตโนมัติ ➡️ ช่วยลดภาระของทีม HR ที่มีขนาดเล็กลง ✅ ผู้สมัครมองว่า AI เป็นสัญญาณของวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ให้ความสำคัญกับมนุษย์ ➡️ การไม่มีมนุษย์ในขั้นตอนแรกทำให้รู้สึกว่า “บริษัทไม่แคร์คน” ➡️ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและความตั้งใจในการสมัครงาน ✅ บางบริษัทใช้ AI เพื่อวิเคราะห์เสียง, สีหน้า, และคำตอบของผู้สมัคร ➡️ เช่น HireVue และ Modern Hire ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ ➡️ อ้างว่าเป็นการประเมินตามทักษะ ไม่ใช่ความสัมพันธ์ส่วนตัว ✅ ผลสำรวจพบว่า 67% ของผู้สมัครรู้สึกไม่สบายใจเมื่อบริษัทใช้ AI ในการคัดกรองใบสมัคร ➡️ 90% ต้องการให้บริษัทเปิดเผยการใช้ AI อย่างโปร่งใส ➡️ ความโปร่งใสช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและความร่วมมือ ✅ AI เหมาะกับงานที่มีผู้สมัครจำนวนมาก เช่น retail หรือ customer service ➡️ ช่วยคัดกรองเบื้องต้นและจัดการเวลาได้ดี ➡️ แต่ควรมีมนุษย์เข้ามาในขั้นตอนสำคัญ ✅ การสัมภาษณ์งานคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับพนักงาน ➡️ การใช้ AI อาจทำให้ความสัมพันธ์นั้นเริ่มต้นด้วยความเย็นชา ➡️ ส่งผลต่อความรู้สึกของผู้สมัครและการตัดสินใจรับงาน https://fortune.com/2025/08/03/ai-interviewers-job-seekers-unemployment-hiring-hr-teams/
    FORTUNE.COM
    AI is doing job interviews now—but candidates say they'd rather risk staying unemployed than talk to another robot
    Job-seekers tell Fortune they’re outright refusing to do AI interviews, calling them dehumanizing and a red flag for bad company culture.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ AI กลายเป็น “เจ้านายใหม่” ที่ทำให้คนตกงาน

    ปี 2025 กลายเป็นปีที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีต้องเผชิญกับคลื่นพายุแห่งการปลดพนักงานครั้งใหญ่ — มากกว่า 100,000 คนถูกเลิกจ้างภายในครึ่งปีแรก และตัวเลขยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    บริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Intel, Microsoft, Meta, Google, Amazon และ Cisco ต่างทยอยปลดพนักงานหลายหมื่นคน โดยมีเหตุผลหลักคือการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อมุ่งสู่ยุค AI อย่างเต็มตัว

    Intel ซึ่งเคยเป็นยักษ์ใหญ่ด้านชิป PC กำลังเผชิญกับยอดขายที่ตกต่ำ และหันไปเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI แทน โดยคาดว่าจะปลดพนักงานถึง 75,000 คนภายในสิ้นปีนี้

    Microsoft ก็ไม่ต่างกัน — ปลดพนักงานไปแล้ว 15,000 คน แม้จะมีกำไรดี แต่กลับเลือกลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI และใช้ Copilot เขียนโค้ดแทนมนุษย์ถึง 30% แล้ว

    หลายบริษัทอ้างว่า AI ไม่ได้ “แทนที่” คน แต่เป็นการ “ปรับโครงสร้าง” เพื่อให้มีงบลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ แต่สำหรับพนักงานที่ถูกปลด คำอธิบายนี้อาจฟังดูเย็นชาเกินไป

    ยอดปลดพนักงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีปี 2025 ทะลุ 100,000 คนแล้ว
    เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
    เป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ในหลายบริษัท

    Intel มีแผนปลดพนักงานมากที่สุด
    ประกาศปลด 24,000 คน และคาดว่าจะถึง 75,000 คนภายในสิ้นปี
    สาเหตุหลักคือยอดขาย CPU ลดลง และหันไปเน้นธุรกิจ AI

    Microsoft ปลดพนักงาน 15,000 คน
    ครอบคลุมหลายแผนก เช่น cloud, gaming, hardware
    ใช้ AI เขียนโค้ดถึง 30% และลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า $80 พันล้าน

    บริษัทอื่น ๆ ก็ปรับตัวเช่นกัน
    Meta, Google, Amazon, Cisco ปลดพนักงานหลายพันคน
    นำงบไปลงทุนในโมเดล AI และระบบอัตโนมัติ

    สาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดการปลดพนักงาน
    การจ้างงานเกินในช่วงโควิดที่ไม่สามารถรักษาไว้ได้
    ความไม่แน่นอนจากภาษีและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

    AI กลายเป็นปัจจัยหลักในการปรับโครงสร้าง
    งานที่เคยทำโดยมนุษย์ถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ
    บริษัทเน้น “การจ้างงานแบบแม่นยำ” มากกว่าการจ้างงานจำนวนมาก

    https://www.techspot.com/news/108818-layoffs-surge-tech-more-than-100000-jobs-cut.html
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ AI กลายเป็น “เจ้านายใหม่” ที่ทำให้คนตกงาน ปี 2025 กลายเป็นปีที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีต้องเผชิญกับคลื่นพายุแห่งการปลดพนักงานครั้งใหญ่ — มากกว่า 100,000 คนถูกเลิกจ้างภายในครึ่งปีแรก และตัวเลขยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Intel, Microsoft, Meta, Google, Amazon และ Cisco ต่างทยอยปลดพนักงานหลายหมื่นคน โดยมีเหตุผลหลักคือการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อมุ่งสู่ยุค AI อย่างเต็มตัว Intel ซึ่งเคยเป็นยักษ์ใหญ่ด้านชิป PC กำลังเผชิญกับยอดขายที่ตกต่ำ และหันไปเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI แทน โดยคาดว่าจะปลดพนักงานถึง 75,000 คนภายในสิ้นปีนี้ Microsoft ก็ไม่ต่างกัน — ปลดพนักงานไปแล้ว 15,000 คน แม้จะมีกำไรดี แต่กลับเลือกลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI และใช้ Copilot เขียนโค้ดแทนมนุษย์ถึง 30% แล้ว หลายบริษัทอ้างว่า AI ไม่ได้ “แทนที่” คน แต่เป็นการ “ปรับโครงสร้าง” เพื่อให้มีงบลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ แต่สำหรับพนักงานที่ถูกปลด คำอธิบายนี้อาจฟังดูเย็นชาเกินไป ✅ ยอดปลดพนักงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีปี 2025 ทะลุ 100,000 คนแล้ว ➡️ เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ➡️ เป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ในหลายบริษัท ✅ Intel มีแผนปลดพนักงานมากที่สุด ➡️ ประกาศปลด 24,000 คน และคาดว่าจะถึง 75,000 คนภายในสิ้นปี ➡️ สาเหตุหลักคือยอดขาย CPU ลดลง และหันไปเน้นธุรกิจ AI ✅ Microsoft ปลดพนักงาน 15,000 คน ➡️ ครอบคลุมหลายแผนก เช่น cloud, gaming, hardware ➡️ ใช้ AI เขียนโค้ดถึง 30% และลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า $80 พันล้าน ✅ บริษัทอื่น ๆ ก็ปรับตัวเช่นกัน ➡️ Meta, Google, Amazon, Cisco ปลดพนักงานหลายพันคน ➡️ นำงบไปลงทุนในโมเดล AI และระบบอัตโนมัติ ✅ สาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดการปลดพนักงาน ➡️ การจ้างงานเกินในช่วงโควิดที่ไม่สามารถรักษาไว้ได้ ➡️ ความไม่แน่นอนจากภาษีและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ✅ AI กลายเป็นปัจจัยหลักในการปรับโครงสร้าง ➡️ งานที่เคยทำโดยมนุษย์ถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ ➡️ บริษัทเน้น “การจ้างงานแบบแม่นยำ” มากกว่าการจ้างงานจำนวนมาก https://www.techspot.com/news/108818-layoffs-surge-tech-more-than-100000-jobs-cut.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Layoffs surge in tech: More than 100,000 jobs cut in 2025 so far
    We've now entered the second half of the year, and tech-related layoffs have already skyrocketed past the 100,000 mark. The Bridge Chronicle has compiled a list of...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ AI อาจกลืนงานบริการลูกค้า
    ลองจินตนาการว่าโทรหาฝ่ายบริการลูกค้า แล้วไม่มีเสียงมนุษย์ตอบรับอีกต่อไป—มีเพียง AI ที่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว ไม่ผิดพลาด และไม่รู้สึกอะไรเลยแม้จะถูกต่อว่า นี่คือภาพอนาคตที่ Sam Altman วาดไว้ในการประชุมที่ Federal Reserve Board

    เขาเตือนว่า AI อาจ “ลบล้าง” หมวดงานบางประเภทไปโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะงานบริการลูกค้า เพราะ AI สามารถทำงานได้เร็วกว่า ไม่ต้องโอนสาย ไม่ต้องรอคิว และไม่ทำผิดพลาด

    แต่ในโลกจริง มันยังไม่สมบูรณ์แบบนัก ตัวอย่างเช่น Klarna ที่เคยใช้ AI chatbot ดูแลลูกค้า 2 ใน 3 ของการสนทนา ก็ยังต้องกลับมาจ้างมนุษย์ เพราะคุณภาพของ AI ยังไม่ดีพอ และลูกค้าก็ยังต้องการ “ความเป็นมนุษย์” ในการสื่อสาร

    นอกจากนี้ Altman ยังยอมรับว่า แม้ AI อย่าง ChatGPT จะวินิจฉัยโรคได้ดีกว่าหมอหลายคน แต่เขาเองก็ยังไม่กล้าให้ AI ดูแลสุขภาพโดยไม่มีหมอร่วมด้วย

    และที่น่ากังวลกว่านั้นคือความสามารถของ AI ในการปลอมเสียงได้อย่างแม่นยำ ซึ่งอาจนำไปสู่การโจรกรรมตัวตนหรือการหลอกลวงทางการเงินได้ง่ายขึ้น

    สาระจากข่าว
    AI อาจแทนที่งานบริการลูกค้าได้โดยสมบูรณ์
    Altman ระบุว่า AI สามารถทำงานได้เร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์
    ไม่มีการโอนสายหรือความผิดพลาดแบบมนุษย์

    ตัวอย่างจากบริษัท Klarna
    เคยใช้ AI chatbot ดูแลลูกค้าเป็นหลัก
    กลับมาจ้างมนุษย์เพราะคุณภาพของ AI ยังไม่ดีพอ

    AI ในวงการแพทย์
    ChatGPT สามารถวินิจฉัยโรคได้ดีกว่าหมอหลายคน
    แต่ Altman ยังไม่กล้าใช้ AI โดยไม่มีหมอร่วม

    ความสามารถในการปลอมเสียง
    AI สามารถปลอมเสียงได้อย่างแม่นยำ
    เสี่ยงต่อการโจรกรรมตัวตนและหลอกลวงทางการเงิน

    คำเตือนจากข่าว
    งานบริการลูกค้าเสี่ยงถูกแทนที่
    อาจทำให้คนตกงานจำนวนมากในอนาคต
    ความเป็นมนุษย์ในการบริการอาจหายไป

    AI อาจถูกใช้ในทางที่เป็นภัย
    ปลอมเสียงเพื่อหลอกลวงหรือโจมตีระบบการเงิน
    เสี่ยงต่อการถูกใช้โดยรัฐหรือองค์กรที่ไม่หวังดี

    การพึ่งพา AI มากเกินไป
    อาจทำให้เกิด “automation bias” คือเชื่อ AI มากเกินไป
    ส่งผลต่อการตัดสินใจที่ควรใช้วิจารณญาณของมนุษย์

    https://www.techspot.com/news/108792-openai-ceo-sam-altman-warns-ai-could-wipe.html
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ AI อาจกลืนงานบริการลูกค้า ลองจินตนาการว่าโทรหาฝ่ายบริการลูกค้า แล้วไม่มีเสียงมนุษย์ตอบรับอีกต่อไป—มีเพียง AI ที่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว ไม่ผิดพลาด และไม่รู้สึกอะไรเลยแม้จะถูกต่อว่า นี่คือภาพอนาคตที่ Sam Altman วาดไว้ในการประชุมที่ Federal Reserve Board เขาเตือนว่า AI อาจ “ลบล้าง” หมวดงานบางประเภทไปโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะงานบริการลูกค้า เพราะ AI สามารถทำงานได้เร็วกว่า ไม่ต้องโอนสาย ไม่ต้องรอคิว และไม่ทำผิดพลาด แต่ในโลกจริง มันยังไม่สมบูรณ์แบบนัก ตัวอย่างเช่น Klarna ที่เคยใช้ AI chatbot ดูแลลูกค้า 2 ใน 3 ของการสนทนา ก็ยังต้องกลับมาจ้างมนุษย์ เพราะคุณภาพของ AI ยังไม่ดีพอ และลูกค้าก็ยังต้องการ “ความเป็นมนุษย์” ในการสื่อสาร นอกจากนี้ Altman ยังยอมรับว่า แม้ AI อย่าง ChatGPT จะวินิจฉัยโรคได้ดีกว่าหมอหลายคน แต่เขาเองก็ยังไม่กล้าให้ AI ดูแลสุขภาพโดยไม่มีหมอร่วมด้วย และที่น่ากังวลกว่านั้นคือความสามารถของ AI ในการปลอมเสียงได้อย่างแม่นยำ ซึ่งอาจนำไปสู่การโจรกรรมตัวตนหรือการหลอกลวงทางการเงินได้ง่ายขึ้น ✅ สาระจากข่าว ✅ AI อาจแทนที่งานบริการลูกค้าได้โดยสมบูรณ์ ➡️ Altman ระบุว่า AI สามารถทำงานได้เร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์ ➡️ ไม่มีการโอนสายหรือความผิดพลาดแบบมนุษย์ ✅ ตัวอย่างจากบริษัท Klarna ➡️ เคยใช้ AI chatbot ดูแลลูกค้าเป็นหลัก ➡️ กลับมาจ้างมนุษย์เพราะคุณภาพของ AI ยังไม่ดีพอ ✅ AI ในวงการแพทย์ ➡️ ChatGPT สามารถวินิจฉัยโรคได้ดีกว่าหมอหลายคน ➡️ แต่ Altman ยังไม่กล้าใช้ AI โดยไม่มีหมอร่วม ✅ ความสามารถในการปลอมเสียง ➡️ AI สามารถปลอมเสียงได้อย่างแม่นยำ ➡️ เสี่ยงต่อการโจรกรรมตัวตนและหลอกลวงทางการเงิน ‼️ คำเตือนจากข่าว ‼️ งานบริการลูกค้าเสี่ยงถูกแทนที่ ⛔ อาจทำให้คนตกงานจำนวนมากในอนาคต ⛔ ความเป็นมนุษย์ในการบริการอาจหายไป ‼️ AI อาจถูกใช้ในทางที่เป็นภัย ⛔ ปลอมเสียงเพื่อหลอกลวงหรือโจมตีระบบการเงิน ⛔ เสี่ยงต่อการถูกใช้โดยรัฐหรือองค์กรที่ไม่หวังดี ‼️ การพึ่งพา AI มากเกินไป ⛔ อาจทำให้เกิด “automation bias” คือเชื่อ AI มากเกินไป ⛔ ส่งผลต่อการตัดสินใจที่ควรใช้วิจารณญาณของมนุษย์ https://www.techspot.com/news/108792-openai-ceo-sam-altman-warns-ai-could-wipe.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Sam Altman warns AI could wipe out entire job categories, customer support roles most at risk
    Speaking at the Capital Framework for Large Banks conference at the Federal Reserve Board of Governors, Altman addressed one of the most hotly debated issues around generative...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากรหัสผ่านเดียวที่ล้มบริษัท 158 ปี

    KNP เป็นบริษัทขนส่งที่มีรถบรรทุกกว่า 500 คัน และพนักงานราว 700 คน โดยมีมาตรการด้านความปลอดภัยตามมาตรฐานอุตสาหกรรม รวมถึงประกันภัยไซเบอร์ แต่กลับถูกโจมตีด้วย ransomware ที่เริ่มต้นจากการ “เดารหัสผ่าน” ของพนักงานคนหนึ่ง

    แฮกเกอร์เข้าระบบได้และเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดของบริษัท — แม้จะมีประกัน แต่บริษัทประเมินว่าค่าไถ่อาจสูงถึง £5 ล้าน ซึ่งเกินกว่าที่จะจ่ายไหว สุดท้าย KNP ต้องปิดกิจการ และพนักงานทั้งหมดตกงาน

    Paul Abbott ผู้อำนวยการบริษัทบอกว่าเขาไม่เคยแจ้งพนักงานคนนั้นว่า “รหัสผ่านของเขาคือจุดเริ่มต้นของการล่มสลาย” เพราะไม่อยากให้ใครต้องแบกรับความรู้สึกผิดเพียงคนเดียว

    หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของอังกฤษระบุว่า:
    - ปีที่ผ่านมา มีการโจมตี ransomware กว่า 19,000 ครั้ง
    - ค่าไถ่เฉลี่ยอยู่ที่ £4 ล้าน
    - หนึ่งในสามของบริษัทเลือก “จ่ายเงิน” เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อได้

    Suzanne Grimmer จาก National Crime Agency เตือนว่า:

    “ถ้าแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป ปีนี้จะเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับ ransomware ในสหราชอาณาจักร”

    KNP Logistics Group ถูกโจมตีด้วย ransomware จากรหัสผ่านที่เดาง่ายของพนักงาน
    ส่งผลให้ข้อมูลทั้งหมดถูกเข้ารหัส และบริษัทไม่สามารถจ่ายค่าไถ่ได้

    บริษัทมีพนักงานราว 700 คน และรถบรรทุกกว่า 500 คัน
    เป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งเก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ

    ค่าไถ่ถูกประเมินว่าอาจสูงถึง £5 ล้าน แม้จะมีประกันภัยไซเบอร์
    เกินกว่าที่บริษัทจะรับไหว ทำให้ต้องปิดกิจการ

    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของอังกฤษระบุว่ามี ransomware กว่า 19,000 ครั้งในปีที่ผ่านมา
    ค่าไถ่เฉลี่ยอยู่ที่ £4 ล้าน และหนึ่งในสามของบริษัทเลือกจ่ายเงิน

    Paul Abbott ไม่แจ้งพนักงานเจ้าของรหัสผ่านว่าเป็นต้นเหตุของการล่มสลาย
    เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกผิดที่รุนแรงเกินไป

    ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าแฮกเกอร์มัก “รอวันที่องค์กรอ่อนแอ” แล้วลงมือทันที
    ไม่จำเป็นต้องเจาะระบบซับซ้อน แค่รหัสผ่านอ่อนก็พอ

    https://www.techspot.com/news/108749-one-weak-password-brought-down-158-year-old.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากรหัสผ่านเดียวที่ล้มบริษัท 158 ปี KNP เป็นบริษัทขนส่งที่มีรถบรรทุกกว่า 500 คัน และพนักงานราว 700 คน โดยมีมาตรการด้านความปลอดภัยตามมาตรฐานอุตสาหกรรม รวมถึงประกันภัยไซเบอร์ แต่กลับถูกโจมตีด้วย ransomware ที่เริ่มต้นจากการ “เดารหัสผ่าน” ของพนักงานคนหนึ่ง แฮกเกอร์เข้าระบบได้และเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดของบริษัท — แม้จะมีประกัน แต่บริษัทประเมินว่าค่าไถ่อาจสูงถึง £5 ล้าน ซึ่งเกินกว่าที่จะจ่ายไหว สุดท้าย KNP ต้องปิดกิจการ และพนักงานทั้งหมดตกงาน Paul Abbott ผู้อำนวยการบริษัทบอกว่าเขาไม่เคยแจ้งพนักงานคนนั้นว่า “รหัสผ่านของเขาคือจุดเริ่มต้นของการล่มสลาย” เพราะไม่อยากให้ใครต้องแบกรับความรู้สึกผิดเพียงคนเดียว หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของอังกฤษระบุว่า: - ปีที่ผ่านมา มีการโจมตี ransomware กว่า 19,000 ครั้ง - ค่าไถ่เฉลี่ยอยู่ที่ £4 ล้าน - หนึ่งในสามของบริษัทเลือก “จ่ายเงิน” เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อได้ Suzanne Grimmer จาก National Crime Agency เตือนว่า: 🔖 “ถ้าแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป ปีนี้จะเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับ ransomware ในสหราชอาณาจักร” ✅ KNP Logistics Group ถูกโจมตีด้วย ransomware จากรหัสผ่านที่เดาง่ายของพนักงาน ➡️ ส่งผลให้ข้อมูลทั้งหมดถูกเข้ารหัส และบริษัทไม่สามารถจ่ายค่าไถ่ได้ ✅ บริษัทมีพนักงานราว 700 คน และรถบรรทุกกว่า 500 คัน ➡️ เป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งเก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ ✅ ค่าไถ่ถูกประเมินว่าอาจสูงถึง £5 ล้าน แม้จะมีประกันภัยไซเบอร์ ➡️ เกินกว่าที่บริษัทจะรับไหว ทำให้ต้องปิดกิจการ ✅ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของอังกฤษระบุว่ามี ransomware กว่า 19,000 ครั้งในปีที่ผ่านมา ➡️ ค่าไถ่เฉลี่ยอยู่ที่ £4 ล้าน และหนึ่งในสามของบริษัทเลือกจ่ายเงิน ✅ Paul Abbott ไม่แจ้งพนักงานเจ้าของรหัสผ่านว่าเป็นต้นเหตุของการล่มสลาย ➡️ เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกผิดที่รุนแรงเกินไป ✅ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าแฮกเกอร์มัก “รอวันที่องค์กรอ่อนแอ” แล้วลงมือทันที ➡️ ไม่จำเป็นต้องเจาะระบบซับซ้อน แค่รหัสผ่านอ่อนก็พอ https://www.techspot.com/news/108749-one-weak-password-brought-down-158-year-old.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    One weak password brought down a 158-year-old company
    A business is only as strong as its weakest link and when that weak point happens to be an employee's easy-to-guess password, the outcome can be devastating....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • Jensen Huang เตือนว่า AI อาจทำให้คนตกงาน – ถ้าโลกหมดไอเดีย

    Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ให้สัมภาษณ์กับ CNN โดยตอบโต้คำเตือนจาก Dario Amodei ซีอีโอของ Anthropic ที่เคยกล่าวว่า AI อาจทำให้ครึ่งหนึ่งของตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นหายไป และอัตราการว่างงานในประเทศอาจพุ่งถึง 20% ภายใน 5 ปี

    Huang ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ แต่เน้นว่า “ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างสรรค์ของมนุษย์” หากโลกยังมีไอเดียใหม่ ๆ เทคโนโลยีก็จะสร้างงานใหม่แทนที่งานเดิมได้เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เช่น การเปลี่ยนจากอาชีพดูแลม้าไปเป็นช่างซ่อมรถยนต์

    เขายังกล่าวว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงง่ายที่สุดในประวัติศาสตร์ และสามารถช่วยให้คนที่ไม่มีทักษะด้านเทคนิคสามารถสร้างสิ่งใหม่ได้ โดยแม้แต่บทบาทของเขาเองก็เปลี่ยนไปเพราะ AI

    ผลสำรวจจากหลายองค์กรก็สะท้อนความกังวลนี้:
    - Adecco Group พบว่า 41% ของผู้นำองค์กรคาดว่า AI จะลดจำนวนพนักงานในอีก 5 ปี
    - World Economic Forum รายงานว่า 41% ของนายจ้างมีแผนลดทีมงานภายในปี 2030
    - การสำรวจร่วมของ Duke University และธนาคารกลางสหรัฐฯ พบว่าองค์กรใหญ่ในอเมริกากว่า 50% เตรียมใช้ AI แทนงานประจำ เช่น การจัดการใบแจ้งหนี้

    Huang ย้ำว่า “ทุกอาชีพจะได้รับผลกระทบจาก AI” แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดการว่างงานครั้งใหญ่ หากสังคมยังคงขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม

    ข้อมูลจากข่าว
    - Jensen Huang เตือนว่า AI อาจทำให้คนตกงาน หากโลกหมดไอเดียใหม่ ๆ
    - ตอบโต้คำเตือนจาก Dario Amodei ที่คาดว่า AI จะทำให้ว่างงาน 20% ภายใน 5 ปี
    - Huang เชื่อว่า AI จะสร้างงานใหม่ หากมนุษย์ยังคงสร้างสรรค์
    - AI เป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงง่ายที่สุดในประวัติศาสตร์
    - บทบาทของ Huang เองก็เปลี่ยนไปเพราะ AI
    - ผลสำรวจจาก Adecco Group และ WEF พบว่า 41% ขององค์กรมีแผนลดพนักงานเพราะ AI
    - การสำรวจจาก Duke University พบว่าองค์กรใหญ่จะใช้ AI แทนงานประจำในหลายด้าน

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - หากมนุษย์หยุดสร้างสรรค์ AI อาจทำให้เกิดการว่างงานครั้งใหญ่
    - งานระดับเริ่มต้นมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่ด้วย AI
    - การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแรงงานอย่างรวดเร็ว
    - องค์กรต้องเตรียมแผน reskill และ upskill พนักงานเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
    - การเปลี่ยนผ่านต้องมีนโยบายสังคมรองรับ มิฉะนั้นอาจเกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/jensen-huang-adds-voice-to-those-warning-of-ai-induced-job-losses-but-only-if-the-world-runs-out-of-ideas
    Jensen Huang เตือนว่า AI อาจทำให้คนตกงาน – ถ้าโลกหมดไอเดีย Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ให้สัมภาษณ์กับ CNN โดยตอบโต้คำเตือนจาก Dario Amodei ซีอีโอของ Anthropic ที่เคยกล่าวว่า AI อาจทำให้ครึ่งหนึ่งของตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นหายไป และอัตราการว่างงานในประเทศอาจพุ่งถึง 20% ภายใน 5 ปี Huang ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ แต่เน้นว่า “ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างสรรค์ของมนุษย์” หากโลกยังมีไอเดียใหม่ ๆ เทคโนโลยีก็จะสร้างงานใหม่แทนที่งานเดิมได้เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เช่น การเปลี่ยนจากอาชีพดูแลม้าไปเป็นช่างซ่อมรถยนต์ เขายังกล่าวว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงง่ายที่สุดในประวัติศาสตร์ และสามารถช่วยให้คนที่ไม่มีทักษะด้านเทคนิคสามารถสร้างสิ่งใหม่ได้ โดยแม้แต่บทบาทของเขาเองก็เปลี่ยนไปเพราะ AI ผลสำรวจจากหลายองค์กรก็สะท้อนความกังวลนี้: - Adecco Group พบว่า 41% ของผู้นำองค์กรคาดว่า AI จะลดจำนวนพนักงานในอีก 5 ปี - World Economic Forum รายงานว่า 41% ของนายจ้างมีแผนลดทีมงานภายในปี 2030 - การสำรวจร่วมของ Duke University และธนาคารกลางสหรัฐฯ พบว่าองค์กรใหญ่ในอเมริกากว่า 50% เตรียมใช้ AI แทนงานประจำ เช่น การจัดการใบแจ้งหนี้ Huang ย้ำว่า “ทุกอาชีพจะได้รับผลกระทบจาก AI” แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดการว่างงานครั้งใหญ่ หากสังคมยังคงขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ✅ ข้อมูลจากข่าว - Jensen Huang เตือนว่า AI อาจทำให้คนตกงาน หากโลกหมดไอเดียใหม่ ๆ - ตอบโต้คำเตือนจาก Dario Amodei ที่คาดว่า AI จะทำให้ว่างงาน 20% ภายใน 5 ปี - Huang เชื่อว่า AI จะสร้างงานใหม่ หากมนุษย์ยังคงสร้างสรรค์ - AI เป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงง่ายที่สุดในประวัติศาสตร์ - บทบาทของ Huang เองก็เปลี่ยนไปเพราะ AI - ผลสำรวจจาก Adecco Group และ WEF พบว่า 41% ขององค์กรมีแผนลดพนักงานเพราะ AI - การสำรวจจาก Duke University พบว่าองค์กรใหญ่จะใช้ AI แทนงานประจำในหลายด้าน ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - หากมนุษย์หยุดสร้างสรรค์ AI อาจทำให้เกิดการว่างงานครั้งใหญ่ - งานระดับเริ่มต้นมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่ด้วย AI - การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแรงงานอย่างรวดเร็ว - องค์กรต้องเตรียมแผน reskill และ upskill พนักงานเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง - การเปลี่ยนผ่านต้องมีนโยบายสังคมรองรับ มิฉะนั้นอาจเกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/jensen-huang-adds-voice-to-those-warning-of-ai-induced-job-losses-but-only-if-the-world-runs-out-of-ideas
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 403 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..555,การค้าผีบ้าของพวกโลกเสรี ประเทศที่พัฒนาแล้วพะนะ พัฒนาในการเก็บส่วย พัฒนาในการขูดรีดตังจากประเทศอื่นที่เรียกเขาว่ากำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนา พัฒนาในการเอาเปรียบประเทศอื่น555ค้าขายกันปกติต้องเก็บภาษีเท่าๆกันสิ,เช่นไทยถูกอเมริกาเก็บที่35%,ไทยก็สามารถเก็บสินค้านำเข้าไทยของอเมริกาที่35%ด้วย,แต่ละคนส่งส่วยเท่ากัน,ปัญหาคือคนอเมริกาต้องการสินค้าจากไทยหรือไม่,ทรัมป์ไม่ฉลาด ต้องระบุด้วยว่า ภาษี35%นี้จะเรียกเก็บเฉพาะกับกิจการไทยที่มีนักลงทุนต่างชาติถือหุ้นเกิน35%ในกิจการไทยนัันๆ,ต่างชาติถือหุ้นเกิน49%ก็เก็บภาษีขั้นต่ำ49%ไป,กิจการไทยไหนถือโดยคนไทย100%ก็คิดขั้นต่ำที่14%ก็จบ,ไทยก็ด้วยถ้ากิจการอเมริกาคนมะกันถือหุ้น100%ก็คิดภาษีเท่ากันที่14%,นี้คนฉลาดแบบทรัมป์ต้องจัดการแบบนีัเลือกเป้าหมายศัตรูให้ชัดเจน,จะเป็นมาตราฐานการค้าเสรีของโลกยุคใหม่ด้วยสร้างบริบทใหม่ปฐมบทใหม่ก็ด้วย,กิจการใดย้ายฐานมาไทยมาอ้างนามชื่อไทยส่งออกก็ไม่รอดนั้นล่ะ,ยาถูกกับโรค,ไทยเป็นมหาอำนาจหากจะจัดการเขมรไปสร้างโรงงานที่ติมอร์อ้างส่งออกมาไทย,ไทยก็คิดภาษีติมอร์โดยดูว่ากิจการในติมอร์ที่ส่งออกมาไทยนั้นมีเขมรลงทุนเท่าไรถือหุ้น100% ไทยก็เก็บภาษีกิจการนั้นในนามติมอร์ที่200%ก็ได้ เป็นต้น,นี้คือบอกไทยจากทรัมป์อเมริกาว่าให้ไทยเป็นไทอย่าเป็นทาสใครมายืมที่ดินตั้งโรงงานยืมจมูกไทยหายใจทำรายได้ก็ว่า หัดใช้สมองใช้ปัญญาสร้างกิจการโรงงานผลิตตนเอง มีเงินทุนตนเอง100%บ้าง,อเมริกาจะส่งเสริมชาติที่ก่อร่างสร้างตัวตนเอง มิใช่ให้เหี้ยใดแทรกแซงการเติบโตภายในประเทศนั้นๆที่ผิดปกติคือมะเร็งที่เติบโตผิดปกติในประเทศบ้านเมืองนั้นๆในร่างกายนั้นๆก็ว่า,นี้คือยารักษาชนิดขมของทรัมป์ก็ได้แต่ ถ้านายกฯเราดีมาจากพระราชทานนะ สามารถเชื่อมใจอเมริกาจีนรัสเชียสบายทางการค้า,มรึงจะตีกันแบบไหนเรื่องส่วนตัวของพวกมรึง,จีนมาตั้งโรงงานในไทย ต่างชาติเหี้ยใดๆมาสร้างกิจการในไทยแต่หมายส่งเข้าไปในอเมริกา อเมริกาดูกิจการนั่นๆทันทีว่าเจ้าของและคนถือหุ้นคือคนไทย100%มั้ย,ถ้าใช่ก็คิดอัตราต่ำสุดสนับสนุนการค้าเสรีกัน,แต่ไม่ใช่ เช่นสืบสวนพบต่างชาติถือเกินผ่านนอมินีด้วยอาจคิดที่อัตรา200%ในกิจการนั้นๆทันทีแม้ส่งออกมาไทยก็ว่า,แนวทางนี้จะช่วยให้ชาตินั้นๆตั้งใจพัฒนาการค้าการขายการตลาดในตัวด้วยตลอดสร้างวัตถุดิบพึ่งพาในประเทศตนเองด้วย,
    ..ยิ่งคิดภาษีให้จัดหนักลงลึกไปอีกสไตล์ทรัมป์ฟันอัตราภาษีเก็บที่60%ในทุกๆประเทศเพื่อสนับสนุนการจ้างงานภายในประเทศโดยเป็นแรงงานตนเองมิใช่ต่างด้าวภายนอกเป็นหลักด้วย ลดการค้ามนุษย์ ลดการก่ออาชญากรรมข้ามชาติหลากหลายมิติได้ด้วยหรือค้ายาเสพติดและอื่นๆสาระพัดก็ว่าจากการเคลื่อนย้ายแรงงานไปทำงานในโรงงานกิจการต่างๆ ในประเทศนั้นๆ ย่อมาไทย เช่น กิจการ บริษัทRK เป็นของคนไทยถือหุ้น100%แต่จ้างแรงงานต่างด้าวทั้งหมดเกือบเต็มโรงงาน หรือเกือบ100%ด้วย ทรัมป์สามารถคิดภาษีไทยที่อัตรานำเข้าอเมริกาที่200%เลยก็ว่า,มีแรงงานต่างด้าวในกิจการคนไทยที่50%ก็คิดภาษีนำเข้าอเมริกาอัตราที่100%ไป,มี25%เป็นแรงงานต่างด้าวก็เก็บภาษีส่งออกไปอเมริกาที่50%เลย,มีต่างด้าวต่างชาติทำงานในบริษัทในกิจการคนไทย12.5%ก็เก็บภาษีส่งออกที่25%ไป,มีต่างชาติต่างด้าวในกิจการคนไทย6.75%ก็คิดอัตราภาษีส่งออกไปอเมริกาปกติที่14% เป็นต้น,นี้อาจประยุกต์กับโรงงานต่างชาติย้ายฐานมาไทยด้วย มีคนไทยถือหุ้นเกิน51%ก็ตาม,แต่ทั้งโรงงานเป็นแรงงานต่างชาติต่างด้าวเต็มโรงงานย้ายฐานมานั้นอีก ทรัมป์อาจเก็บกิจการโรงงานที่อัตราภาษี200%บวกอีก200%ข้อหาแรงงานต่างชาติต่างด้าวเต็มโรงงานที่มิใช่คนไทยเลยก็ด้วย,ทรัมป์ทำแบบนี้นะ จะเก็บส่วยเก็บตังเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างชาติต่อปีอาจกว่า100ล้านล้านบาทแน่นอน,สามารถมีตังล้างหนี้อเมริกากว่า35-36ล้านล้านเหรียญนั้นภายในไม่กี่ปีจริง,ทั้งช่วยสร้างงานจริงแก่คนในพื้นที่ของคนภายในประเทศเขาเองนั้นๆด้วย,ย่อมาไทยคือกิจการบริษัทต่างๆและโรงงานต่างๆทั่วประเทศไทยจะจ้างงานคนไทยมากกว่าคนต่างด้าวต่างชาติทันทีเพราะแลกกับตังที่สูญเสียไปไม่คุ้มทุนนั้นเอง บังเอิญทุกๆประเทศเสือกลอกเลียนแบบอเมริกา,bricsเองก็ด้วยกำหนดให้ชาติสมาชิกใช้มาตราการนี้มาตราฐานนี้เช่นกัน,คุณภาพการทำงานจะถูกเอาใจใส่ทันทีด้วย ชาวโลกทั่วโลกจะไม่ตกงาน ทำงานก็จะมีความสุข ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากหน้างานตำแหน่งงานเนื้องานแบบในอดีตอีก,ชนะด้วยกันหมด,อัพเรเวลโลกอีกสถานะหนึ่งนะนั้น.,ฝ่ายแสงบังเอิญมาอ่านผ่านๆไป เอาไปบอกทรัมป์ด้วย.บังคับแดกยารักษาพิษกลายๆก็ว่า,ขมในช่วงต้น แล้วสุขภาพจะดีในทุกๆประเทศ ค้าขายอย่างมีความสุขร่วมกันอีกครััง.


    https://youtube.com/watch?v=auqh7GjGax0&si=PWLqM2E30_vhlihE

    ..555,การค้าผีบ้าของพวกโลกเสรี ประเทศที่พัฒนาแล้วพะนะ พัฒนาในการเก็บส่วย พัฒนาในการขูดรีดตังจากประเทศอื่นที่เรียกเขาว่ากำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนา พัฒนาในการเอาเปรียบประเทศอื่น555ค้าขายกันปกติต้องเก็บภาษีเท่าๆกันสิ,เช่นไทยถูกอเมริกาเก็บที่35%,ไทยก็สามารถเก็บสินค้านำเข้าไทยของอเมริกาที่35%ด้วย,แต่ละคนส่งส่วยเท่ากัน,ปัญหาคือคนอเมริกาต้องการสินค้าจากไทยหรือไม่,ทรัมป์ไม่ฉลาด ต้องระบุด้วยว่า ภาษี35%นี้จะเรียกเก็บเฉพาะกับกิจการไทยที่มีนักลงทุนต่างชาติถือหุ้นเกิน35%ในกิจการไทยนัันๆ,ต่างชาติถือหุ้นเกิน49%ก็เก็บภาษีขั้นต่ำ49%ไป,กิจการไทยไหนถือโดยคนไทย100%ก็คิดขั้นต่ำที่14%ก็จบ,ไทยก็ด้วยถ้ากิจการอเมริกาคนมะกันถือหุ้น100%ก็คิดภาษีเท่ากันที่14%,นี้คนฉลาดแบบทรัมป์ต้องจัดการแบบนีัเลือกเป้าหมายศัตรูให้ชัดเจน,จะเป็นมาตราฐานการค้าเสรีของโลกยุคใหม่ด้วยสร้างบริบทใหม่ปฐมบทใหม่ก็ด้วย,กิจการใดย้ายฐานมาไทยมาอ้างนามชื่อไทยส่งออกก็ไม่รอดนั้นล่ะ,ยาถูกกับโรค,ไทยเป็นมหาอำนาจหากจะจัดการเขมรไปสร้างโรงงานที่ติมอร์อ้างส่งออกมาไทย,ไทยก็คิดภาษีติมอร์โดยดูว่ากิจการในติมอร์ที่ส่งออกมาไทยนั้นมีเขมรลงทุนเท่าไรถือหุ้น100% ไทยก็เก็บภาษีกิจการนั้นในนามติมอร์ที่200%ก็ได้ เป็นต้น,นี้คือบอกไทยจากทรัมป์อเมริกาว่าให้ไทยเป็นไทอย่าเป็นทาสใครมายืมที่ดินตั้งโรงงานยืมจมูกไทยหายใจทำรายได้ก็ว่า หัดใช้สมองใช้ปัญญาสร้างกิจการโรงงานผลิตตนเอง มีเงินทุนตนเอง100%บ้าง,อเมริกาจะส่งเสริมชาติที่ก่อร่างสร้างตัวตนเอง มิใช่ให้เหี้ยใดแทรกแซงการเติบโตภายในประเทศนั้นๆที่ผิดปกติคือมะเร็งที่เติบโตผิดปกติในประเทศบ้านเมืองนั้นๆในร่างกายนั้นๆก็ว่า,นี้คือยารักษาชนิดขมของทรัมป์ก็ได้แต่ ถ้านายกฯเราดีมาจากพระราชทานนะ สามารถเชื่อมใจอเมริกาจีนรัสเชียสบายทางการค้า,มรึงจะตีกันแบบไหนเรื่องส่วนตัวของพวกมรึง,จีนมาตั้งโรงงานในไทย ต่างชาติเหี้ยใดๆมาสร้างกิจการในไทยแต่หมายส่งเข้าไปในอเมริกา อเมริกาดูกิจการนั่นๆทันทีว่าเจ้าของและคนถือหุ้นคือคนไทย100%มั้ย,ถ้าใช่ก็คิดอัตราต่ำสุดสนับสนุนการค้าเสรีกัน,แต่ไม่ใช่ เช่นสืบสวนพบต่างชาติถือเกินผ่านนอมินีด้วยอาจคิดที่อัตรา200%ในกิจการนั้นๆทันทีแม้ส่งออกมาไทยก็ว่า,แนวทางนี้จะช่วยให้ชาตินั้นๆตั้งใจพัฒนาการค้าการขายการตลาดในตัวด้วยตลอดสร้างวัตถุดิบพึ่งพาในประเทศตนเองด้วย, ..ยิ่งคิดภาษีให้จัดหนักลงลึกไปอีกสไตล์ทรัมป์ฟันอัตราภาษีเก็บที่60%ในทุกๆประเทศเพื่อสนับสนุนการจ้างงานภายในประเทศโดยเป็นแรงงานตนเองมิใช่ต่างด้าวภายนอกเป็นหลักด้วย ลดการค้ามนุษย์ ลดการก่ออาชญากรรมข้ามชาติหลากหลายมิติได้ด้วยหรือค้ายาเสพติดและอื่นๆสาระพัดก็ว่าจากการเคลื่อนย้ายแรงงานไปทำงานในโรงงานกิจการต่างๆ ในประเทศนั้นๆ ย่อมาไทย เช่น กิจการ บริษัทRK เป็นของคนไทยถือหุ้น100%แต่จ้างแรงงานต่างด้าวทั้งหมดเกือบเต็มโรงงาน หรือเกือบ100%ด้วย ทรัมป์สามารถคิดภาษีไทยที่อัตรานำเข้าอเมริกาที่200%เลยก็ว่า,มีแรงงานต่างด้าวในกิจการคนไทยที่50%ก็คิดภาษีนำเข้าอเมริกาอัตราที่100%ไป,มี25%เป็นแรงงานต่างด้าวก็เก็บภาษีส่งออกไปอเมริกาที่50%เลย,มีต่างด้าวต่างชาติทำงานในบริษัทในกิจการคนไทย12.5%ก็เก็บภาษีส่งออกที่25%ไป,มีต่างชาติต่างด้าวในกิจการคนไทย6.75%ก็คิดอัตราภาษีส่งออกไปอเมริกาปกติที่14% เป็นต้น,นี้อาจประยุกต์กับโรงงานต่างชาติย้ายฐานมาไทยด้วย มีคนไทยถือหุ้นเกิน51%ก็ตาม,แต่ทั้งโรงงานเป็นแรงงานต่างชาติต่างด้าวเต็มโรงงานย้ายฐานมานั้นอีก ทรัมป์อาจเก็บกิจการโรงงานที่อัตราภาษี200%บวกอีก200%ข้อหาแรงงานต่างชาติต่างด้าวเต็มโรงงานที่มิใช่คนไทยเลยก็ด้วย,ทรัมป์ทำแบบนี้นะ จะเก็บส่วยเก็บตังเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างชาติต่อปีอาจกว่า100ล้านล้านบาทแน่นอน,สามารถมีตังล้างหนี้อเมริกากว่า35-36ล้านล้านเหรียญนั้นภายในไม่กี่ปีจริง,ทั้งช่วยสร้างงานจริงแก่คนในพื้นที่ของคนภายในประเทศเขาเองนั้นๆด้วย,ย่อมาไทยคือกิจการบริษัทต่างๆและโรงงานต่างๆทั่วประเทศไทยจะจ้างงานคนไทยมากกว่าคนต่างด้าวต่างชาติทันทีเพราะแลกกับตังที่สูญเสียไปไม่คุ้มทุนนั้นเอง บังเอิญทุกๆประเทศเสือกลอกเลียนแบบอเมริกา,bricsเองก็ด้วยกำหนดให้ชาติสมาชิกใช้มาตราการนี้มาตราฐานนี้เช่นกัน,คุณภาพการทำงานจะถูกเอาใจใส่ทันทีด้วย ชาวโลกทั่วโลกจะไม่ตกงาน ทำงานก็จะมีความสุข ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากหน้างานตำแหน่งงานเนื้องานแบบในอดีตอีก,ชนะด้วยกันหมด,อัพเรเวลโลกอีกสถานะหนึ่งนะนั้น.,ฝ่ายแสงบังเอิญมาอ่านผ่านๆไป เอาไปบอกทรัมป์ด้วย.บังคับแดกยารักษาพิษกลายๆก็ว่า,ขมในช่วงต้น แล้วสุขภาพจะดีในทุกๆประเทศ ค้าขายอย่างมีความสุขร่วมกันอีกครััง. https://youtube.com/watch?v=auqh7GjGax0&si=PWLqM2E30_vhlihE
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 553 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..555,ข่าวแหกตา เศรษฐกิจโลกมันพังปกติอยู่แล้ว โยนบาปให้ทรัมป์เป็นแพะว่าชาติต่างๆจะล้มละลายเพราะนโยบายทรัมป์ ซึ่งมันไม่จริงอะไรเลย อเมริกามีประชากรไม่กี่ร้อยล้านคนจะบริโภคห่าเหวอะไรมากมายขนาดนั้น,ส่วนใหญ่อาจแค่ใข้อเมริกาเป็นทางผ่านแบรนด์นามใช้ชื่อโลโก้อเมริกานั้นล่ะ,นำเข้าหลอกๆอีก ไม่ได้เข้าอเมริกาเป็นรูปร่างรูปธรรมห่าอะไรด้วย แค่นำเข้าในนามกระดาษ แบรนด์อเมริกากิจการเครือข่ายอเมริกาแต่ละชาติรับไปขายต่อผ่านอเมริกาเท่านั่น มุกตย.หนึ่งแค่นั้นล่ะ เช่นเรือน้ำมันอเมริกาแท่งขุดบริษัทอเมริกาลอยลำในไทยตีตราว่าส่งออกเข้าอเมริกาแล้ววนเอกสารนำเข้ามาไทยในที่สุดนั้นล่ะ,อเมริกาคิดภาษีเสร็จแล้วก็มาขายคืนไทย0%กำไรทันทีถ้าตกลงแบบเวียดนามให้สินค้าอเมริกามาขายเวียดนามในอัตรานำเข้า0%แลกส่งออกไปอเมริกาก็ว่า ,เจ้าสัวไทยไม่เดือดร้อนอะไรหรอกสมุนอีลิทมันรับรู้ล่วงหน้าแล้วเลยไม่ตั้งสายการผลิตทั่วอาเชียนทั่วเอเชียก็ส่งออกในชื่อที่ภาษีถูกคิดน้อยๆไง,คืออเมริกามีแต่ได้จริงๆในภาวะตังเงินโลกพัง,ทรัมป์ก็เหี้ยถูกจังหวะพอดี,เลยรับซวยไป,มองอีกมุม ทรัมป์กำลังเล่นงานบริษัทกิจการอีลิทdeep stateอยู่ก็ได้,ปลดปล่อยทาสแรงงานออกจากระบบทาสdeep stateที่ควบคุมมานานคือทำงานรับใช้พวกมันเหมือนทาสในกิจการบริษัทมันนั้นล่ะ,เร่งให้คนออกจากระบบทาสมันกลับบ้านใครบ้านมันไปอยู่ในธรรมชาติบ้านเกิดท้องเมืองนอนเดิมตนเสียก็ว่า,แก้ง่ายๆคือนายกฯต้องมานำประเทศแบบมุ่งการพึ่งพาตนเองภายในประเทศตนและกันและกันให้ได้ก่อน,ต้องมาในลักษณะพิเศษ กฎหมายพิเศษด้วย คือนายกฯพระราชทานนั้นล่ะมาบริหารชาติด้วยกฎหมายพิเศษมีอำนาจเด็ดขาดพร้อมสร้างทุกๆกลยุทธทางสงครามตังปากท้องและอธิปไตยตนทันทีสลับสับเปลี่ยนคล่องตัวก็ว่า,โดยกลไกปกติทำไม่ได้ ไม่ทันกาล ทันยุคที่การเปลี่ยนทางกระสุนตังกระสุนเงินรวดเร็วมาก,อเมริกาก็เป็นบ้าเป็นบอเพราะตังเพราะเงินใช้หนี้นี้ล่ะ,ญี่ปุ่นก็จะล่มละลายทั่งประเทศก็ตังนี้ล่ะบวกภัยธรรมชาติแบบแผ่นดินไหวอีก,"ตัง"คือชื่อเรียกหนึ่งว่าชื่อ"เศรษฐกิจ"ในชื่อเรียกหนึ่งเท่านั้น,
    ..อนาคตคนไทยต้องตกงานแน่นอนอยู่แล้วเพราะจักรกลจะมาแทนที่เป็นอันมากตลอดAIแทรกซึมทุกๆกระบวนการทำตังแล้ว,ช่องทางปกติอาจลดบทบาทลงมากขึ้น,คนจะถูกแทนที่มากขึ้นเรื่อยๆจากเอไอ,ผู้นำประเทศไทยเราจึงสำคัญมากในยุคการละครบทบาทเวลานี้ที่จะมาลงเล่นในยุคต่อไป,นำพาคนไทยทั้งประเทศตั้งรับและรุกหรือถอยเพื่อชนะตนเองหรือการดำรงอยู่ของคนไทยและประเทศชาติให้ได้บนฐานความอิ่มดีมีสุขก็ว่า,คือทั่วโลกจะเป็นห่าเหวอะไร,แต่ภายในประเทศเรา ครอบครัวพร้อมหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขตังทองพอดีพองามไม่ขาดไม่เดือดร้อน มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ อาหารการกินเต็มบ้าน แบ่งปันกันภายในประเทศไทยตน เหลือก็ขาย ยาสมุนไพรเคมีเพียงพอแก่การรักษาคนในชาติไทยตน,คือผู้นำสามารถนำพาชาติไทยตนตั้งรับตั้งรุกหรือนิ่งเฉยได้หมด,คืออุดมสมบูรณ์ปกติดีทั่วถึงแก่ทุกๆคนไทยเราอย่างไร,,ทรัมป์กีดกันก็ค้าขายกับชาติอื่น ขายคนแค่100คน กับขายคนรวมกันหลายๆบ้านกว่า1,000คนได้ตังหลายพันบาทมากกว่าร้อยบาทย่อมดีแน่นอน,บางทีอาจแลกเปลี่ยนวัตถุดิบในรัฐต่อรัฐได้เช่น ไทยขุดน้ำมันเอง ยึดทุกๆบ่อน้ำมันเสร็จ แลกน้ำมันกับจักรกลทางการเกษตรหรืออุตสากรรมก็ได้อีกมาช่วยทุ่นแรงคนไทยตนในราคาไม่แพง,อาหารแลกอาหาร,เสบียงใดเราขาดก็แลกเสบียงนั้นที่เขาขาดได้,รัฐสร้างโรงงานผลิตยานบินในฮับไทย ขาดวัตถุดิบก็ใช้ทรัพยากรเรามีที่เขาต้องการแลกกัน,ผลิตเสร็จขายราคาไม่แพงแก่เขาก็ได้หรือประเทศอื่นในราคาไม่แพงก็ได้อีก,คือผู้นำเราทั้งสิ้นจะควบคุมกลไกให้สมดุลในระบบแบบใด,ประเทศไทยเราพร้อมหมด,ฉีกกฎหมายผูกตีผูกมือผูกการกระทำกิจกรรมที่สร้างสรรคของคนไทยทิ้ง จะเพิ่มโอกาสนวัตกรรมใหม่ตรึมบนแผ่นดินไทยเรา,เพราะผู้ปกครองชั่วเลวปกครองกดขี่คนไทยด้วยกฎหมายผีบ้าผีบ้อมากมายนั่นล่ะ,คนชั่วในไทยแม้มีมากแต่ระบบสังคมจะจัดการเขาเองร่วมด้วยก็ได้,อาทิ เสพยาบ้าแล้วคลั่ง ชุมชนสะกำได้ทันทีก็ว่า,ข่มขื่นไทบ้านชาวบ้านรุมสะกัมเกือบตายก็ได้ซึ่งคนชั่วเลวที่ชัดเจน สมควรต้องเปิดเผยถูกกระซากหน้าให้สังคมรับรู้ เช่นแบงค์สถุนกากยักยอกตังคนฝากก็ประจานชื่อแบงค์สถุนกากนั้นเลย สาขาอะไร พนักงานคนไหน เป็นต้น นี้อะไรเขียนกฎหมายช่วยเหลือคนชั่วเลวเป็นต้น,นี้คือลักษณะกฎหมายเลวชั่วแบบเปิดสัมปทานน้ำมันแต่ไม่เอาเข้าสภาสส.สว.นั้นล่ะ,นี้คือกฎหมายเลวก็ด้วย,แบบพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ที่ร่างออกมาจะออกเป็นพรบ.มาบังคับคนปลูกต่างๆทั่วไทยโดยเฉพาะสานคนเกษตรกรรมซวยแน่นอนหากพรบ.500ยึดทหารยุดอำนาจนั้นผ่านได้เอกชนไทยแดกรวบทั้งระบบทั้งประเทศทันที นี้คือกฎหมายชั่วสารเลวอีกตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนว่า,กฎหมายเราคือตัวถ่วงความเจริญอยู่ดีมีสุขสงบร่มเย็นพึ่งพาตนเองได้จริงของคนไทยโดยการปล้นชิงผ่านกฎหมายนั้นเองไปจากประชาชนคนไทย,สร้างข้อกำหนด ทำได้ทำไม่ได้นั่นล่ะ,ปลูกกัญชาเสรีก็ทำไม่ได้ สกัดยาสาระพัดวิจัย5ปีก่อนนะ,แต่วัคซีนโควิดไม่มีงานวิจัยปลอดภัยอะไรรองรับเสือกฉีดเข้าร่างกายคนไทยกว่า60ล้านคนหน้าตาเฉย ต่างชาติบริษัทยามันเองรับผิดถูกฟ้องคดีตรึมบอกเองว่ามีผลเป็นพิษจริงแก่คนฉีดมากกว่า1โรคโน้น รัฐบาลไทยเปลี่ยนมาสองนายกฯสองรักษาการแล้วนะก็ไม่ยอมประกาศความจริงอย่างเป็นทางการเลนด้วย.
    ..นี้จึงคือสาเหตุชัดต้องล้างทั้งหมด,ทรัมป์คือปัญหาภายนอกผู้นำภายนอก,เราต้องจัดการภายในเราก่อน,จึงนายกฯพระราชทานคือทางออก,และเด็ดขาดกับความชั่วเลวจริง,เด็ดขาดกับเดอะแก๊งแดกประเทศไทยทั้งหมดจริงด้วย.
    ..
    ..https://youtu.be/UqqWf54tRMM?si=T-lTaXTTUXijbHdQ
    ..555,ข่าวแหกตา เศรษฐกิจโลกมันพังปกติอยู่แล้ว โยนบาปให้ทรัมป์เป็นแพะว่าชาติต่างๆจะล้มละลายเพราะนโยบายทรัมป์ ซึ่งมันไม่จริงอะไรเลย อเมริกามีประชากรไม่กี่ร้อยล้านคนจะบริโภคห่าเหวอะไรมากมายขนาดนั้น,ส่วนใหญ่อาจแค่ใข้อเมริกาเป็นทางผ่านแบรนด์นามใช้ชื่อโลโก้อเมริกานั้นล่ะ,นำเข้าหลอกๆอีก ไม่ได้เข้าอเมริกาเป็นรูปร่างรูปธรรมห่าอะไรด้วย แค่นำเข้าในนามกระดาษ แบรนด์อเมริกากิจการเครือข่ายอเมริกาแต่ละชาติรับไปขายต่อผ่านอเมริกาเท่านั่น มุกตย.หนึ่งแค่นั้นล่ะ เช่นเรือน้ำมันอเมริกาแท่งขุดบริษัทอเมริกาลอยลำในไทยตีตราว่าส่งออกเข้าอเมริกาแล้ววนเอกสารนำเข้ามาไทยในที่สุดนั้นล่ะ,อเมริกาคิดภาษีเสร็จแล้วก็มาขายคืนไทย0%กำไรทันทีถ้าตกลงแบบเวียดนามให้สินค้าอเมริกามาขายเวียดนามในอัตรานำเข้า0%แลกส่งออกไปอเมริกาก็ว่า ,เจ้าสัวไทยไม่เดือดร้อนอะไรหรอกสมุนอีลิทมันรับรู้ล่วงหน้าแล้วเลยไม่ตั้งสายการผลิตทั่วอาเชียนทั่วเอเชียก็ส่งออกในชื่อที่ภาษีถูกคิดน้อยๆไง,คืออเมริกามีแต่ได้จริงๆในภาวะตังเงินโลกพัง,ทรัมป์ก็เหี้ยถูกจังหวะพอดี,เลยรับซวยไป,มองอีกมุม ทรัมป์กำลังเล่นงานบริษัทกิจการอีลิทdeep stateอยู่ก็ได้,ปลดปล่อยทาสแรงงานออกจากระบบทาสdeep stateที่ควบคุมมานานคือทำงานรับใช้พวกมันเหมือนทาสในกิจการบริษัทมันนั้นล่ะ,เร่งให้คนออกจากระบบทาสมันกลับบ้านใครบ้านมันไปอยู่ในธรรมชาติบ้านเกิดท้องเมืองนอนเดิมตนเสียก็ว่า,แก้ง่ายๆคือนายกฯต้องมานำประเทศแบบมุ่งการพึ่งพาตนเองภายในประเทศตนและกันและกันให้ได้ก่อน,ต้องมาในลักษณะพิเศษ กฎหมายพิเศษด้วย คือนายกฯพระราชทานนั้นล่ะมาบริหารชาติด้วยกฎหมายพิเศษมีอำนาจเด็ดขาดพร้อมสร้างทุกๆกลยุทธทางสงครามตังปากท้องและอธิปไตยตนทันทีสลับสับเปลี่ยนคล่องตัวก็ว่า,โดยกลไกปกติทำไม่ได้ ไม่ทันกาล ทันยุคที่การเปลี่ยนทางกระสุนตังกระสุนเงินรวดเร็วมาก,อเมริกาก็เป็นบ้าเป็นบอเพราะตังเพราะเงินใช้หนี้นี้ล่ะ,ญี่ปุ่นก็จะล่มละลายทั่งประเทศก็ตังนี้ล่ะบวกภัยธรรมชาติแบบแผ่นดินไหวอีก,"ตัง"คือชื่อเรียกหนึ่งว่าชื่อ"เศรษฐกิจ"ในชื่อเรียกหนึ่งเท่านั้น, ..อนาคตคนไทยต้องตกงานแน่นอนอยู่แล้วเพราะจักรกลจะมาแทนที่เป็นอันมากตลอดAIแทรกซึมทุกๆกระบวนการทำตังแล้ว,ช่องทางปกติอาจลดบทบาทลงมากขึ้น,คนจะถูกแทนที่มากขึ้นเรื่อยๆจากเอไอ,ผู้นำประเทศไทยเราจึงสำคัญมากในยุคการละครบทบาทเวลานี้ที่จะมาลงเล่นในยุคต่อไป,นำพาคนไทยทั้งประเทศตั้งรับและรุกหรือถอยเพื่อชนะตนเองหรือการดำรงอยู่ของคนไทยและประเทศชาติให้ได้บนฐานความอิ่มดีมีสุขก็ว่า,คือทั่วโลกจะเป็นห่าเหวอะไร,แต่ภายในประเทศเรา ครอบครัวพร้อมหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขตังทองพอดีพองามไม่ขาดไม่เดือดร้อน มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ อาหารการกินเต็มบ้าน แบ่งปันกันภายในประเทศไทยตน เหลือก็ขาย ยาสมุนไพรเคมีเพียงพอแก่การรักษาคนในชาติไทยตน,คือผู้นำสามารถนำพาชาติไทยตนตั้งรับตั้งรุกหรือนิ่งเฉยได้หมด,คืออุดมสมบูรณ์ปกติดีทั่วถึงแก่ทุกๆคนไทยเราอย่างไร,,ทรัมป์กีดกันก็ค้าขายกับชาติอื่น ขายคนแค่100คน กับขายคนรวมกันหลายๆบ้านกว่า1,000คนได้ตังหลายพันบาทมากกว่าร้อยบาทย่อมดีแน่นอน,บางทีอาจแลกเปลี่ยนวัตถุดิบในรัฐต่อรัฐได้เช่น ไทยขุดน้ำมันเอง ยึดทุกๆบ่อน้ำมันเสร็จ แลกน้ำมันกับจักรกลทางการเกษตรหรืออุตสากรรมก็ได้อีกมาช่วยทุ่นแรงคนไทยตนในราคาไม่แพง,อาหารแลกอาหาร,เสบียงใดเราขาดก็แลกเสบียงนั้นที่เขาขาดได้,รัฐสร้างโรงงานผลิตยานบินในฮับไทย ขาดวัตถุดิบก็ใช้ทรัพยากรเรามีที่เขาต้องการแลกกัน,ผลิตเสร็จขายราคาไม่แพงแก่เขาก็ได้หรือประเทศอื่นในราคาไม่แพงก็ได้อีก,คือผู้นำเราทั้งสิ้นจะควบคุมกลไกให้สมดุลในระบบแบบใด,ประเทศไทยเราพร้อมหมด,ฉีกกฎหมายผูกตีผูกมือผูกการกระทำกิจกรรมที่สร้างสรรคของคนไทยทิ้ง จะเพิ่มโอกาสนวัตกรรมใหม่ตรึมบนแผ่นดินไทยเรา,เพราะผู้ปกครองชั่วเลวปกครองกดขี่คนไทยด้วยกฎหมายผีบ้าผีบ้อมากมายนั่นล่ะ,คนชั่วในไทยแม้มีมากแต่ระบบสังคมจะจัดการเขาเองร่วมด้วยก็ได้,อาทิ เสพยาบ้าแล้วคลั่ง ชุมชนสะกำได้ทันทีก็ว่า,ข่มขื่นไทบ้านชาวบ้านรุมสะกัมเกือบตายก็ได้ซึ่งคนชั่วเลวที่ชัดเจน สมควรต้องเปิดเผยถูกกระซากหน้าให้สังคมรับรู้ เช่นแบงค์สถุนกากยักยอกตังคนฝากก็ประจานชื่อแบงค์สถุนกากนั้นเลย สาขาอะไร พนักงานคนไหน เป็นต้น นี้อะไรเขียนกฎหมายช่วยเหลือคนชั่วเลวเป็นต้น,นี้คือลักษณะกฎหมายเลวชั่วแบบเปิดสัมปทานน้ำมันแต่ไม่เอาเข้าสภาสส.สว.นั้นล่ะ,นี้คือกฎหมายเลวก็ด้วย,แบบพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ที่ร่างออกมาจะออกเป็นพรบ.มาบังคับคนปลูกต่างๆทั่วไทยโดยเฉพาะสานคนเกษตรกรรมซวยแน่นอนหากพรบ.500ยึดทหารยุดอำนาจนั้นผ่านได้เอกชนไทยแดกรวบทั้งระบบทั้งประเทศทันที นี้คือกฎหมายชั่วสารเลวอีกตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนว่า,กฎหมายเราคือตัวถ่วงความเจริญอยู่ดีมีสุขสงบร่มเย็นพึ่งพาตนเองได้จริงของคนไทยโดยการปล้นชิงผ่านกฎหมายนั้นเองไปจากประชาชนคนไทย,สร้างข้อกำหนด ทำได้ทำไม่ได้นั่นล่ะ,ปลูกกัญชาเสรีก็ทำไม่ได้ สกัดยาสาระพัดวิจัย5ปีก่อนนะ,แต่วัคซีนโควิดไม่มีงานวิจัยปลอดภัยอะไรรองรับเสือกฉีดเข้าร่างกายคนไทยกว่า60ล้านคนหน้าตาเฉย ต่างชาติบริษัทยามันเองรับผิดถูกฟ้องคดีตรึมบอกเองว่ามีผลเป็นพิษจริงแก่คนฉีดมากกว่า1โรคโน้น รัฐบาลไทยเปลี่ยนมาสองนายกฯสองรักษาการแล้วนะก็ไม่ยอมประกาศความจริงอย่างเป็นทางการเลนด้วย. ..นี้จึงคือสาเหตุชัดต้องล้างทั้งหมด,ทรัมป์คือปัญหาภายนอกผู้นำภายนอก,เราต้องจัดการภายในเราก่อน,จึงนายกฯพระราชทานคือทางออก,และเด็ดขาดกับความชั่วเลวจริง,เด็ดขาดกับเดอะแก๊งแดกประเทศไทยทั้งหมดจริงด้วย. .. ..https://youtu.be/UqqWf54tRMM?si=T-lTaXTTUXijbHdQ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 637 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เป็นเคสที่สะท้อนความ “ไม่รู้เวล่ำเวลา” ของ AI และความรู้สึกไวของสังคมต่อปัญหาการเลิกจ้าง — เมื่อ Matt Turnbull ผู้บริหารจาก Xbox Games Studio ออกมาโพสต์แนะนำว่า คนที่เพิ่งถูกไล่ออกจาก Microsoft ควรใช้ AI ช่วยบรรเทาความรู้สึก พร้อมแนบ prompt ตัวอย่างให้ใช้ Copilot สร้างความมั่นใจตนเอง

    แม้เจตนาอาจดี แต่โพสต์นี้โดนถล่มยับว่า “ไร้เซนส์ขั้นสุด” โดยเฉพาะในช่วงที่ Microsoft เพิ่งปลดพนักงานรอบที่ 4 และทุ่มงบ $80,000 ล้านให้โครงสร้างพื้นฐาน AI จนหลายคนรู้สึกว่า "ถูกแทนที่โดย AI แล้วถูกบอกให้ใช้งาน AI เพื่อเยียวยาตัวเองอีก..."

    Matt Turnbull ผู้บริหาร Xbox แนะผู้ถูกเลิกจ้างให้ใช้ AI (เช่น Copilot) ช่วยลดภาระอารมณ์-ความคิดหลังตกงาน  
    • แนะนำ prompt เช่น “ช่วยฉันคิดใหม่ว่าฉันเก่งเรื่องอะไร หลังรู้สึกหมดความมั่นใจจากการถูกปลด”
    • ชี้ว่าคนที่ตกงาน “ไม่ได้อยู่ลำพัง” และ AI จะช่วยให้ “หลุดจากอารมณ์ลบได้เร็วขึ้น”

    โพสต์ต้นทางถูกลบหลังเกิดกระแสตีกลับ  
    • โดยเฉพาะในช่วงที่ Microsoft เพิ่งปลดพนักงานราว 9,000 คน ในรอบที่ 4 ภายใน 18 เดือน

    Microsoft มีแผนลงทุนใน AI infrastructure มูลค่า $80 พันล้านภายในปีการเงินถัดไป  
    • เป็นการลงทุนที่ตรงข้ามกับภาพคนตกงานจากผลของ AI อย่างเห็นได้ชัด

    หลายบริษัทยักษ์ออกมายอมรับว่า AI จะลดแรงงานสายออฟฟิศจำนวนมากใน 3–5 ปี  
    • ซีอีโอจาก Ford, Amazon, Anthropic, Shopify, JPMorgan ต่างพูดคล้ายกัน

    https://www.techspot.com/news/108562-xbox-exec-suggests-people-use-ai-lessen-pain.html
    ข่าวนี้เป็นเคสที่สะท้อนความ “ไม่รู้เวล่ำเวลา” ของ AI และความรู้สึกไวของสังคมต่อปัญหาการเลิกจ้าง — เมื่อ Matt Turnbull ผู้บริหารจาก Xbox Games Studio ออกมาโพสต์แนะนำว่า คนที่เพิ่งถูกไล่ออกจาก Microsoft ควรใช้ AI ช่วยบรรเทาความรู้สึก พร้อมแนบ prompt ตัวอย่างให้ใช้ Copilot สร้างความมั่นใจตนเอง 🧑‍💼🤖 แม้เจตนาอาจดี แต่โพสต์นี้โดนถล่มยับว่า “ไร้เซนส์ขั้นสุด” โดยเฉพาะในช่วงที่ Microsoft เพิ่งปลดพนักงานรอบที่ 4 และทุ่มงบ $80,000 ล้านให้โครงสร้างพื้นฐาน AI จนหลายคนรู้สึกว่า "ถูกแทนที่โดย AI แล้วถูกบอกให้ใช้งาน AI เพื่อเยียวยาตัวเองอีก..." ✅ Matt Turnbull ผู้บริหาร Xbox แนะผู้ถูกเลิกจ้างให้ใช้ AI (เช่น Copilot) ช่วยลดภาระอารมณ์-ความคิดหลังตกงาน   • แนะนำ prompt เช่น “ช่วยฉันคิดใหม่ว่าฉันเก่งเรื่องอะไร หลังรู้สึกหมดความมั่นใจจากการถูกปลด” • ชี้ว่าคนที่ตกงาน “ไม่ได้อยู่ลำพัง” และ AI จะช่วยให้ “หลุดจากอารมณ์ลบได้เร็วขึ้น” ✅ โพสต์ต้นทางถูกลบหลังเกิดกระแสตีกลับ   • โดยเฉพาะในช่วงที่ Microsoft เพิ่งปลดพนักงานราว 9,000 คน ในรอบที่ 4 ภายใน 18 เดือน ✅ Microsoft มีแผนลงทุนใน AI infrastructure มูลค่า $80 พันล้านภายในปีการเงินถัดไป   • เป็นการลงทุนที่ตรงข้ามกับภาพคนตกงานจากผลของ AI อย่างเห็นได้ชัด ✅ หลายบริษัทยักษ์ออกมายอมรับว่า AI จะลดแรงงานสายออฟฟิศจำนวนมากใน 3–5 ปี   • ซีอีโอจาก Ford, Amazon, Anthropic, Shopify, JPMorgan ต่างพูดคล้ายกัน https://www.techspot.com/news/108562-xbox-exec-suggests-people-use-ai-lessen-pain.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Xbox exec suggests people use AI to lessen the pain of being laid off
    Turnbull has very wisely removed his post, but it was captured by Necrosoft's Brandon Sheffield. The exec started by mentioning these are challenging times – particularly for...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ เศรษฐกิจกัมพูชาส่ออัมพาต หลังจากที่พิการไปแล้วครึ่งซีก เพราะขัดแย้งกับไทย ล่าสุดอาจหนักถึงขั้นอัมพาตนอนติดเตียงเพราะโดนพิษภาษีทรัมป์เล่นงาน โครงการลงทุนผลิตสิ่งทอ เสื้อผ้า รองเท้า อาจย้ายฐาน ผู้คนตกงานเพิ่ม
    #7ดอกจิก
    ♣ เศรษฐกิจกัมพูชาส่ออัมพาต หลังจากที่พิการไปแล้วครึ่งซีก เพราะขัดแย้งกับไทย ล่าสุดอาจหนักถึงขั้นอัมพาตนอนติดเตียงเพราะโดนพิษภาษีทรัมป์เล่นงาน โครงการลงทุนผลิตสิ่งทอ เสื้อผ้า รองเท้า อาจย้ายฐาน ผู้คนตกงานเพิ่ม #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 307 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผ่าดวง AI อุ๊งอิ๊งค์ไม่น่ารอด?

    1 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้รับคำร้องกรณีที่สมาชิกวุฒิสภาขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา พร้อมกับมีมติ 7 ต่อ 2 ให้หยุดปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ขณะที่เจ้าตัวกล่าวขอโทษคนไทยที่ไม่สบายใจหรือรู้สึกโกรธเคือง ยืนยันตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ

    เมื่อใช้ ChatGPT ทำนายดวงผู้หญิงที่เกิดวันที่ 21 ส.ค. 2529 ที่กรุงเทพมหานคร โดยไม่เจาะจงว่าเป็นใคร ใช้สถานการณ์สมมติว่าถูกฝ่ายตรวจสอบภายในบริษัทสั่งพักงานเพราะทำความผิดร้ายแรง มีคลิปเสียงที่ไปคุยกับบริษัทคู่แข่ง แต่บอกว่ามีเจตนาดี อยากช่วยบริษัท ไม่ได้ตั้งใจเป็นแบบนั้น พบว่าดาวเสาร์จร (Saturn transit) ซึ่งทำมุมตรงข้ามกับดวงอาทิตย์กำเนิดในราศีสิงห์ สะท้อนว่าเป็นช่วงที่ชีวิตโดนสอบสวนและต้องชดใช้ในสิ่งที่อาจทำไปโดยรู้หรือไม่รู้ตัว

    ส่วนคลิปเสียงเกี่ยวข้องกับดาวพุธ (Mercury) ซึ่งมักเกี่ยวกับหลักฐานทางการสื่อสาร หากพุธจรสัมพันธ์กับดาวมฤตยูหรือดาวเสาร์ ก็หมายถึงความลับที่ถูกเปิดเผย หรือคำพูดที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง ดาวพลูโตโคจรทำมุมกับดาวอังคารกำเนิดในราศีกันย์ ซึ่งดาวแห่งการกระทำเชิงงานสื่อถึงการถูกจับตา ถูกแฉ ถูกล้วงความลับ ซึ่งเกิดขึ้นกับคนที่มีอีโก้หรือเจตนาดี แต่ระบบไม่มองแบบนั้น ส่วนจะตกงานหรือไม่ มีโอกาสตกงานในตำแหน่งเดิม หรือต้องรีเซตใหม่สูง

    ปี 2568 เป็นปีที่ดาวเสาร์บีบตัวตนแรงที่สุดในรอบ 14 ปี ผู้หญิงรายนี้มีพลังอาทิตย์ในราศีสิงห์ ภาคภูมิใจในตัวเอง แต่ตอนนี้ถูกทำให้หมดศักดิ์ศรีแบบไม่เต็มใจ ซึ่งคลิปเสียงเป็นสิ่งที่ย้อนมาทำร้ายดาวพุธ กับอาทิตย์ หากสามารถพิสูจน์เจตนาดีและมีคนในองค์กรระดับสูงช่วยพูดแทน จะอาจได้โอกาสเปลี่ยนตำแหน่ง ลดบทบาท หรือย้าย มากกว่าถูกให้ออก แต่กลางปี 2569 ดาวพฤหัสเข้าสู่มุมดีกับงาน อาจมีหน่วยงานใหม่ หรือบริษัทใหม่ที่รับผู้หญิงรายนี้ไปด้วยมุมมองต่างจากองค์กรเดิม

    หากยังอยากอยู่ในที่เดิม ต้องยอมรับว่าเจตนาดีไม่เพียงพอในองค์กรระบบใหญ่ ต้องขอโทษแบบไม่มีข้อแม้ เพราะโหงวเฮ้งหรือดาวเสาร์ไม่เปิดรับข้ออ้าง อย่าปะทะกลับหรืออธิบายซ้ำซ้อนมากเกินไป คนไม่ชอบจะใช้เป็นเหตุขุดเพิ่ม และหาพยานบุคคลที่เคยเห็นความตั้งใจดี ขอให้พูดแทนแบบมืออาชีพ แต่หากพร้อมจะไปต่อที่ใหม่ ควรพักใจ รีเซตตัวเอง เลือกงานที่วางโครงสร้างชัดเจน ช่วงปลายปี 2568 ถึงต้นปี 2569 จะมีแสงสว่างจากผู้ใหญ่ใหม่ หรือโปรเจกต์ที่เคยมีบุญคุณไว้ หรือเคยช่วยไว้ในอดีต

    #Newskit
    ผ่าดวง AI อุ๊งอิ๊งค์ไม่น่ารอด? 1 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้รับคำร้องกรณีที่สมาชิกวุฒิสภาขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา พร้อมกับมีมติ 7 ต่อ 2 ให้หยุดปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ขณะที่เจ้าตัวกล่าวขอโทษคนไทยที่ไม่สบายใจหรือรู้สึกโกรธเคือง ยืนยันตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เมื่อใช้ ChatGPT ทำนายดวงผู้หญิงที่เกิดวันที่ 21 ส.ค. 2529 ที่กรุงเทพมหานคร โดยไม่เจาะจงว่าเป็นใคร ใช้สถานการณ์สมมติว่าถูกฝ่ายตรวจสอบภายในบริษัทสั่งพักงานเพราะทำความผิดร้ายแรง มีคลิปเสียงที่ไปคุยกับบริษัทคู่แข่ง แต่บอกว่ามีเจตนาดี อยากช่วยบริษัท ไม่ได้ตั้งใจเป็นแบบนั้น พบว่าดาวเสาร์จร (Saturn transit) ซึ่งทำมุมตรงข้ามกับดวงอาทิตย์กำเนิดในราศีสิงห์ สะท้อนว่าเป็นช่วงที่ชีวิตโดนสอบสวนและต้องชดใช้ในสิ่งที่อาจทำไปโดยรู้หรือไม่รู้ตัว ส่วนคลิปเสียงเกี่ยวข้องกับดาวพุธ (Mercury) ซึ่งมักเกี่ยวกับหลักฐานทางการสื่อสาร หากพุธจรสัมพันธ์กับดาวมฤตยูหรือดาวเสาร์ ก็หมายถึงความลับที่ถูกเปิดเผย หรือคำพูดที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง ดาวพลูโตโคจรทำมุมกับดาวอังคารกำเนิดในราศีกันย์ ซึ่งดาวแห่งการกระทำเชิงงานสื่อถึงการถูกจับตา ถูกแฉ ถูกล้วงความลับ ซึ่งเกิดขึ้นกับคนที่มีอีโก้หรือเจตนาดี แต่ระบบไม่มองแบบนั้น ส่วนจะตกงานหรือไม่ มีโอกาสตกงานในตำแหน่งเดิม หรือต้องรีเซตใหม่สูง ปี 2568 เป็นปีที่ดาวเสาร์บีบตัวตนแรงที่สุดในรอบ 14 ปี ผู้หญิงรายนี้มีพลังอาทิตย์ในราศีสิงห์ ภาคภูมิใจในตัวเอง แต่ตอนนี้ถูกทำให้หมดศักดิ์ศรีแบบไม่เต็มใจ ซึ่งคลิปเสียงเป็นสิ่งที่ย้อนมาทำร้ายดาวพุธ กับอาทิตย์ หากสามารถพิสูจน์เจตนาดีและมีคนในองค์กรระดับสูงช่วยพูดแทน จะอาจได้โอกาสเปลี่ยนตำแหน่ง ลดบทบาท หรือย้าย มากกว่าถูกให้ออก แต่กลางปี 2569 ดาวพฤหัสเข้าสู่มุมดีกับงาน อาจมีหน่วยงานใหม่ หรือบริษัทใหม่ที่รับผู้หญิงรายนี้ไปด้วยมุมมองต่างจากองค์กรเดิม หากยังอยากอยู่ในที่เดิม ต้องยอมรับว่าเจตนาดีไม่เพียงพอในองค์กรระบบใหญ่ ต้องขอโทษแบบไม่มีข้อแม้ เพราะโหงวเฮ้งหรือดาวเสาร์ไม่เปิดรับข้ออ้าง อย่าปะทะกลับหรืออธิบายซ้ำซ้อนมากเกินไป คนไม่ชอบจะใช้เป็นเหตุขุดเพิ่ม และหาพยานบุคคลที่เคยเห็นความตั้งใจดี ขอให้พูดแทนแบบมืออาชีพ แต่หากพร้อมจะไปต่อที่ใหม่ ควรพักใจ รีเซตตัวเอง เลือกงานที่วางโครงสร้างชัดเจน ช่วงปลายปี 2568 ถึงต้นปี 2569 จะมีแสงสว่างจากผู้ใหญ่ใหม่ หรือโปรเจกต์ที่เคยมีบุญคุณไว้ หรือเคยช่วยไว้ในอดีต #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 559 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครเคยเหนื่อยกับการตามแผนโปรเจกต์ในทีม หรืออัปเดตสถานะหลายงานใน Planner วันละหลายรอบ...ข่าวนี้คือข่าวดีเลยครับ

    Microsoft เพิ่งเพิ่มฟีเจอร์เด็ด 4 รายการให้ Planner ซึ่งมี 3 อย่างเป็นของ Project Manager Agent — ผู้ช่วยจัดการแผนงานที่ใช้ AI ช่วยคุณตั้งเป้าหมาย, แตกงานย่อย, และส่งการแจ้งเตือนความคืบหน้าแบบ real-time

    จากเดิม Project Manager Agent แจ้งเตือนแค่ใน Teams — ตอนนี้ขยายมาสู่ อีเมลแล้วด้วย เพิ่มฟีเจอร์ สรุปรายงานสถานะงานอัตโนมัติ (status report) — บอก progress, risk, next step ให้พร้อม รองรับ มากกว่า 40 ภาษา เทียบเท่า Copilot 365 แล้ว (ยกเว้นอาหรับ/ฮิบรูซึ่งกำลังจะตามมา)

    และที่หลายคนรอคอยคือ… Planner แบบพื้นฐานตอนนี้สามารถ แก้ไขหลาย Task พร้อมกันได้แล้ว! แค่ไปที่ Grid view แล้วลากเลือกงานที่ต้องการ กด Ctrl + ลูกศรขึ้น/ลง เพื่อปรับข้อมูลได้ในครั้งเดียว — จะเปลี่ยนชื่อ, วันเริ่มต้น, วันสิ้นสุด, ความสำคัญ, ผู้รับผิดชอบ ก็ทำพร้อมกันได้เลย!

    Project Manager Agent แจ้งเตือนผ่านอีเมล  
    • จากเดิมแจ้งใน Teams อย่างเดียว → ขยายสู่ email  
    • สะดวกสำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ใน Teams ตลอดเวลา

    สามารถสรุปรายงานสถานะแผนอัตโนมัติ (Status Report)  
    • รายงาน progress, milestones, risk, next step  
    • ตอนนี้เปิดใช้งานใน Public Preview สำหรับผู้ใช้ภาษาอังกฤษก่อน

    รองรับการใช้งานมากกว่า 40 ภาษา  
    • เหมือนกับ Copilot 365  
    • ยกเว้นภาษาอาหรับและฮิบรูที่จะตามมาในสัปดาห์นี้

    สามารถแก้ไขหลาย Task พร้อมกัน (Bulk Editing)  
    • ทำใน Grid View ได้  
    • เลือกหลายแถวแล้วใช้ Ctrl + Up/Down แก้ไขแบบกลุ่ม  
    • ปรับ status, priority, due/start date, assignee ได้รวดเร็ว

    Microsoft เตรียมย้ายผู้ใช้งานทั้งหมดจาก Project for the web ไปยัง Planner เริ่ม 1 ส.ค. นี้

    https://www.neowin.net/news/microsoft-planner-gets-bulk-editing-feature-and-three-improvements-for-project-manager-agent/
    ใครเคยเหนื่อยกับการตามแผนโปรเจกต์ในทีม หรืออัปเดตสถานะหลายงานใน Planner วันละหลายรอบ...ข่าวนี้คือข่าวดีเลยครับ Microsoft เพิ่งเพิ่มฟีเจอร์เด็ด 4 รายการให้ Planner ซึ่งมี 3 อย่างเป็นของ Project Manager Agent — ผู้ช่วยจัดการแผนงานที่ใช้ AI ช่วยคุณตั้งเป้าหมาย, แตกงานย่อย, และส่งการแจ้งเตือนความคืบหน้าแบบ real-time 📨 จากเดิม Project Manager Agent แจ้งเตือนแค่ใน Teams — ตอนนี้ขยายมาสู่ อีเมลแล้วด้วย 📊 เพิ่มฟีเจอร์ สรุปรายงานสถานะงานอัตโนมัติ (status report) — บอก progress, risk, next step ให้พร้อม 🌍 รองรับ มากกว่า 40 ภาษา เทียบเท่า Copilot 365 แล้ว (ยกเว้นอาหรับ/ฮิบรูซึ่งกำลังจะตามมา) และที่หลายคนรอคอยคือ… Planner แบบพื้นฐานตอนนี้สามารถ แก้ไขหลาย Task พร้อมกันได้แล้ว! แค่ไปที่ Grid view แล้วลากเลือกงานที่ต้องการ กด Ctrl + ลูกศรขึ้น/ลง เพื่อปรับข้อมูลได้ในครั้งเดียว — จะเปลี่ยนชื่อ, วันเริ่มต้น, วันสิ้นสุด, ความสำคัญ, ผู้รับผิดชอบ ก็ทำพร้อมกันได้เลย! ✅ Project Manager Agent แจ้งเตือนผ่านอีเมล   • จากเดิมแจ้งใน Teams อย่างเดียว → ขยายสู่ email   • สะดวกสำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ใน Teams ตลอดเวลา ✅ สามารถสรุปรายงานสถานะแผนอัตโนมัติ (Status Report)   • รายงาน progress, milestones, risk, next step   • ตอนนี้เปิดใช้งานใน Public Preview สำหรับผู้ใช้ภาษาอังกฤษก่อน ✅ รองรับการใช้งานมากกว่า 40 ภาษา   • เหมือนกับ Copilot 365   • ยกเว้นภาษาอาหรับและฮิบรูที่จะตามมาในสัปดาห์นี้ ✅ สามารถแก้ไขหลาย Task พร้อมกัน (Bulk Editing)   • ทำใน Grid View ได้   • เลือกหลายแถวแล้วใช้ Ctrl + Up/Down แก้ไขแบบกลุ่ม   • ปรับ status, priority, due/start date, assignee ได้รวดเร็ว ✅ Microsoft เตรียมย้ายผู้ใช้งานทั้งหมดจาก Project for the web ไปยัง Planner เริ่ม 1 ส.ค. นี้ https://www.neowin.net/news/microsoft-planner-gets-bulk-editing-feature-and-three-improvements-for-project-manager-agent/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft Planner gets bulk editing feature and three improvements for Project Manager agent
    Microsoft has announced four new updates for Microsoft Planner. One of the changes is a bulk editing feature while the rest improve the Project Manager agent.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองนึกภาพดูว่าในศูนย์ข้อมูลหนึ่ง มีงานมากมายที่ IT ต้องจัดการทุกวัน เช่น แก้ไข network, config storage, เช็ก log, ปรับโหลด cloud — ทั้งหมดนี้ใช้เวลาและต้องการผู้เชี่ยวชาญหลายคน

    แต่ HPE กำลังจะเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นให้กลายเป็น “การสนทนากับ agent” — คุณแค่ถามในสไตล์แชต แล้ว AI จะประมวลผลข้อมูล, หา insight, เสนอทางแก้ หรือ บางทียังทำแทนให้เองเลยด้วยซ้ำ (แต่ยังให้คุณกดยืนยันก่อนเสมอ)

    หัวใจอยู่ที่ GreenLake Intelligence ซึ่งมี multi-agent system ที่ทำหน้าที่เฉพาะ เช่น จัดการ storage, monitor network, สร้าง dashboard, หรือคุยกับระบบ cloud อื่นได้ — และมี “GreenLake Copilot” เป็นอินเทอร์เฟซแบบแชต ช่วยให้คนไอทีใช้งานง่ายแบบไม่ต้องพิมพ์โค้ด

    นอกจากนี้ HPE ยังพัฒนา hardware และ software เสริมชุดใหญ่ เช่น AI Factory รุ่นใหม่ที่ใช้ Nvidia Blackwell GPU, ระบบ CloudOps, และหน่วยเก็บข้อมูล Alletra X10000 ที่รองรับการวิเคราะห์ context ระดับระบบ (ผ่านโปรโตคอล MCP)

    HPE เปิดตัว GreenLake Intelligence พร้อมแนวคิด AgenticOps  
    • ใช้ AI agents ทำงานซ้ำซ้อนในระบบ IT แทนคนได้ (แต่มี human-in-the-loop)  
    • ครอบคลุมงาน config, observability, storage, network และ more

    GreenLake Copilot คืออินเทอร์เฟซแบบแชตที่ให้คุยกับ AI ได้ทันที  
    • ใช้ภาษาธรรมดาถามเรื่อง log, ปัญหา network, ความเสถียรระบบ ฯลฯ  
    • ทำงานร่วมกับ LLM และ ML ที่เทรนจากข้อมูลองค์กร

    ตัวอย่างการใช้งานที่น่าสนใจ:  
    • Aruba Central ใช้ GreenLake Copilot ในการจัดการเครือข่ายแบบ real-time  
    • สร้าง visual dashboard จาก log อัตโนมัติ  
    • เสนอวิธีแก้ปัญหาแบบทีละขั้น หรือลงมือทำแทนได้

    HPE เสริมด้วย CloudOps (รวม OpsRamp, Morpheus, Zerto)  
    • ใช้ GenAI ช่วยจัดการ observability, virtualization, และความปลอดภัยของ data

    เปิดตัว AI Factory Gen 2 ที่ใช้ Nvidia Blackwell RTX Pro 6000  
    • รองรับการประมวลผล AI model สำหรับองค์กรโดยเฉพาะ  
    • ใช้งานร่วมกับระบบของคู่แข่งได้ (เช่น OpsRamp ใช้กับ AI Factory ทุกแบรนด์)

    ระบบเก็บข้อมูล Alletra X10000 รองรับ MCP (Media Context Protocol)  
    • เชื่อมโยงกับ AI/LLM ได้โดยตรง  
    • ส่งข้อมูลระหว่าง server, storage, observability tools ได้รวดเร็ว

    ลุงจะตกงานแล้วววววว !!!

    https://www.techspot.com/news/108437-hpe-greenlake-intelligence-brings-agentic-ai-operations.html
    ลองนึกภาพดูว่าในศูนย์ข้อมูลหนึ่ง มีงานมากมายที่ IT ต้องจัดการทุกวัน เช่น แก้ไข network, config storage, เช็ก log, ปรับโหลด cloud — ทั้งหมดนี้ใช้เวลาและต้องการผู้เชี่ยวชาญหลายคน แต่ HPE กำลังจะเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นให้กลายเป็น “การสนทนากับ agent” — คุณแค่ถามในสไตล์แชต แล้ว AI จะประมวลผลข้อมูล, หา insight, เสนอทางแก้ หรือ บางทียังทำแทนให้เองเลยด้วยซ้ำ (แต่ยังให้คุณกดยืนยันก่อนเสมอ) หัวใจอยู่ที่ GreenLake Intelligence ซึ่งมี multi-agent system ที่ทำหน้าที่เฉพาะ เช่น จัดการ storage, monitor network, สร้าง dashboard, หรือคุยกับระบบ cloud อื่นได้ — และมี “GreenLake Copilot” เป็นอินเทอร์เฟซแบบแชต ช่วยให้คนไอทีใช้งานง่ายแบบไม่ต้องพิมพ์โค้ด นอกจากนี้ HPE ยังพัฒนา hardware และ software เสริมชุดใหญ่ เช่น AI Factory รุ่นใหม่ที่ใช้ Nvidia Blackwell GPU, ระบบ CloudOps, และหน่วยเก็บข้อมูล Alletra X10000 ที่รองรับการวิเคราะห์ context ระดับระบบ (ผ่านโปรโตคอล MCP) ✅ HPE เปิดตัว GreenLake Intelligence พร้อมแนวคิด AgenticOps   • ใช้ AI agents ทำงานซ้ำซ้อนในระบบ IT แทนคนได้ (แต่มี human-in-the-loop)   • ครอบคลุมงาน config, observability, storage, network และ more ✅ GreenLake Copilot คืออินเทอร์เฟซแบบแชตที่ให้คุยกับ AI ได้ทันที   • ใช้ภาษาธรรมดาถามเรื่อง log, ปัญหา network, ความเสถียรระบบ ฯลฯ   • ทำงานร่วมกับ LLM และ ML ที่เทรนจากข้อมูลองค์กร ✅ ตัวอย่างการใช้งานที่น่าสนใจ:   • Aruba Central ใช้ GreenLake Copilot ในการจัดการเครือข่ายแบบ real-time   • สร้าง visual dashboard จาก log อัตโนมัติ   • เสนอวิธีแก้ปัญหาแบบทีละขั้น หรือลงมือทำแทนได้ ✅ HPE เสริมด้วย CloudOps (รวม OpsRamp, Morpheus, Zerto)   • ใช้ GenAI ช่วยจัดการ observability, virtualization, และความปลอดภัยของ data ✅ เปิดตัว AI Factory Gen 2 ที่ใช้ Nvidia Blackwell RTX Pro 6000   • รองรับการประมวลผล AI model สำหรับองค์กรโดยเฉพาะ   • ใช้งานร่วมกับระบบของคู่แข่งได้ (เช่น OpsRamp ใช้กับ AI Factory ทุกแบรนด์) ✅ ระบบเก็บข้อมูล Alletra X10000 รองรับ MCP (Media Context Protocol)   • เชื่อมโยงกับ AI/LLM ได้โดยตรง   • ส่งข้อมูลระหว่าง server, storage, observability tools ได้รวดเร็ว ลุงจะตกงานแล้วววววว !!! 😭😭 https://www.techspot.com/news/108437-hpe-greenlake-intelligence-brings-agentic-ai-operations.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    HPE's GreenLake intelligence brings agentic AI to IT operations
    In case you haven't heard, GenAI is old news. Now, it's all about agentic AI. At least, that certainly seems to be the theme based on the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า AI จะทำลายหรือต่อยอด “งาน” อย่างไรในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อมองจากข้อมูลเชิงวิชาการที่ยังมีข้อจำกัดด้านพื้นที่, ช่วงเวลา, และประเภท AI ที่ศึกษา

    ช่วงนี้คนทั่วโลกเริ่มกังวลว่า “AI จะมาแย่งงานไหม?” โดยเฉพาะเมื่อเราเห็นบริษัทยักษ์ใหญ่หันมาใช้ chatbot และหุ่นยนต์แบบจริงจัง — แต่ทีมนักวิจัยจากเยอรมนี อิตาลี และสหรัฐฯ กลับบอกว่า ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า AI ทำให้คนตกงานหรือเครียดหนักขึ้นจริงในภาพรวม

    ทีมนี้ใช้ข้อมูลจากเยอรมนี (2000–2020) ก่อนยุค generative AI อย่าง ChatGPT และพบว่า AI อาจช่วยลดความเสี่ยงทางกายภาพของงานบางประเภท และเพิ่มความพึงพอใจในงานเล็กน้อย โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานที่ไม่มีปริญญา

    แต่พวกเขาก็เตือนว่าอย่าด่วนสรุป — เพราะ
    1) การใช้ AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
    2) กฎหมายแรงงานในเยอรมนีค่อนข้างแข็งแรงกว่าประเทศอื่น และ
    3) งานวิจัยยังไม่ครอบคลุม AI สมัยใหม่แบบ LLM

    นักวิจัยยังเน้นด้วยว่า “สถาบันและนโยบายภาครัฐ” จะเป็นตัวกำหนดว่า AI จะทำให้งานดีขึ้นหรือแย่ลง ไม่ใช่ตัวเทคโนโลยีเองล้วน ๆ

    งานวิจัยจากนักวิจัยในเยอรมนี–อิตาลี–สหรัฐฯ ชี้ว่า AI ยังไม่ส่งผลลบต่อสุขภาพจิตและความพึงพอใจในการทำงาน  
    • โดยเฉพาะในประเทศที่มีแรงงานคุ้มครองสูง เช่น เยอรมนี

    พบว่า AI อาจมีส่วนช่วยลด “ความเสี่ยงทางร่างกาย” และภาระทางกายในบางอาชีพได้เล็กน้อย  
    • เช่น งานที่เคยหนัก อาจถูกแทนบางส่วนด้วยระบบอัตโนมัติ

    คนไม่มีปริญญาอาจได้ประโยชน์ทางสุขภาพมากกว่า  
    • จากการที่งานเน้นแรงกายน้อยลง

    ข้อมูลวิจัยใช้แบบ Longitudinal ครอบคลุมปี 2000–2020  
    • ก่อนเกิดเทคโนโลยี Generative AI แบบ ChatGPT (ปลายปี 2022)

    นักวิจัยเน้นว่า “นโยบายและสถาบันแรงงาน” มีผลสำคัญต่อผลกระทบของ AI ต่อแรงงาน  
    • ไม่ใช่ตัว AI อย่างเดียวที่กำหนดชะตากรรม

    Gallup ระบุว่าในสหรัฐฯ อัตราใช้ AI ที่ทำงานเพิ่มขึ้น 2 เท่าใน 2 ปีที่ผ่านมา  
    • มากสุดในสายงาน white-collar อย่างเทคโนโลยีและการเงิน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/25/it039s-still-039too-soon039-to-say-how-ai-will-affect-jobs-researchers-say
    ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า AI จะทำลายหรือต่อยอด “งาน” อย่างไรในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อมองจากข้อมูลเชิงวิชาการที่ยังมีข้อจำกัดด้านพื้นที่, ช่วงเวลา, และประเภท AI ที่ศึกษา ช่วงนี้คนทั่วโลกเริ่มกังวลว่า “AI จะมาแย่งงานไหม?” โดยเฉพาะเมื่อเราเห็นบริษัทยักษ์ใหญ่หันมาใช้ chatbot และหุ่นยนต์แบบจริงจัง — แต่ทีมนักวิจัยจากเยอรมนี อิตาลี และสหรัฐฯ กลับบอกว่า ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า AI ทำให้คนตกงานหรือเครียดหนักขึ้นจริงในภาพรวม ทีมนี้ใช้ข้อมูลจากเยอรมนี (2000–2020) ก่อนยุค generative AI อย่าง ChatGPT และพบว่า AI อาจช่วยลดความเสี่ยงทางกายภาพของงานบางประเภท และเพิ่มความพึงพอใจในงานเล็กน้อย โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานที่ไม่มีปริญญา แต่พวกเขาก็เตือนว่าอย่าด่วนสรุป — เพราะ 1) การใช้ AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น 2) กฎหมายแรงงานในเยอรมนีค่อนข้างแข็งแรงกว่าประเทศอื่น และ 3) งานวิจัยยังไม่ครอบคลุม AI สมัยใหม่แบบ LLM นักวิจัยยังเน้นด้วยว่า “สถาบันและนโยบายภาครัฐ” จะเป็นตัวกำหนดว่า AI จะทำให้งานดีขึ้นหรือแย่ลง ไม่ใช่ตัวเทคโนโลยีเองล้วน ๆ ✅ งานวิจัยจากนักวิจัยในเยอรมนี–อิตาลี–สหรัฐฯ ชี้ว่า AI ยังไม่ส่งผลลบต่อสุขภาพจิตและความพึงพอใจในการทำงาน   • โดยเฉพาะในประเทศที่มีแรงงานคุ้มครองสูง เช่น เยอรมนี ✅ พบว่า AI อาจมีส่วนช่วยลด “ความเสี่ยงทางร่างกาย” และภาระทางกายในบางอาชีพได้เล็กน้อย   • เช่น งานที่เคยหนัก อาจถูกแทนบางส่วนด้วยระบบอัตโนมัติ ✅ คนไม่มีปริญญาอาจได้ประโยชน์ทางสุขภาพมากกว่า   • จากการที่งานเน้นแรงกายน้อยลง ✅ ข้อมูลวิจัยใช้แบบ Longitudinal ครอบคลุมปี 2000–2020   • ก่อนเกิดเทคโนโลยี Generative AI แบบ ChatGPT (ปลายปี 2022) ✅ นักวิจัยเน้นว่า “นโยบายและสถาบันแรงงาน” มีผลสำคัญต่อผลกระทบของ AI ต่อแรงงาน   • ไม่ใช่ตัว AI อย่างเดียวที่กำหนดชะตากรรม ✅ Gallup ระบุว่าในสหรัฐฯ อัตราใช้ AI ที่ทำงานเพิ่มขึ้น 2 เท่าใน 2 ปีที่ผ่านมา   • มากสุดในสายงาน white-collar อย่างเทคโนโลยีและการเงิน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/25/it039s-still-039too-soon039-to-say-how-ai-will-affect-jobs-researchers-say
    WWW.THESTAR.COM.MY
    It's still 'too soon' to say how AI will affect jobs, researchers say
    Using artificial intelligence at work has not caused any discernible damage to employees' mental health or job satisfaction, according to researchers based in Germany, Italy and the US, who nonetheless warn that it is probably "way too soon to draw definitive conclusions" about its effects on jobs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 387 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..555,ถือว่าพอไปวัดไปวาได้ การเมืองคือภายในชาติไทยเรา,แต่อธิปไตยชาติไทยต้องมาก่อนเรื่องการเมืองส่วนตัวของสถานะการเล่นการเมืองในแบบใครมัน.,ชาติไทยเราต้องมาก่อนนั้นเอง.
    ..พรรคอื่นๆหากยังยึดมั่นไม่รีบแสดงตัวตนว่าจะยืนฝ่ายอธิปไตยไทยหรือยืนฝ่ายตรงข้ามทหารไทยเรายืนร่วมกับเขมรมันยืมฝ่ายตรงข้ามอธิปไตยไทยภายในสิ้นวันศุกร์นี้แสดงว่าเลิกการให้อภัยโทษได้เลย,ทางเดียวที่ต้องได้รับในอนาคตคือโทษหนักหนาสาหัสแน่นอนในนามพรรคร่วมคณะรัฐบาลที่ชัดเจนตามคลิปว่ายืนตรงข้ามทหารไทยเราที่กำลังทำหน้าที่สุดกำลังรักษาอธิปไตยของชาติไทยเราเองไม่ละอายใจในหน้าที่ต่อพี่น้องทหารหาญที่สละแรงกายแรงใจตลอดเสียสละชีพกันมหาศาลนับจากอดีตถึงปัจจุบันเพื่อดำรงไว้ซึ่งอธิปไตยไทยเรานั้นคือความสุขสงบร่มเย็นภายในชาติไทยเราเองโดยพื้นฐานสำมัญสำนึกปกติต้องใช้สมองส้นตีนคิดอ่านกันเองได้ง่ายๆมาก,เราจะไม่อภัยโทษใดๆอีกแล้วกับผู้ทรยศแผ่นดินไทย,มันต้องสะสางกวาดล้างเก็บกวาดจริงจังเสียทีเลอะเทอะปล่อยปะละเลยให้สำนึกสำเนียกเองนานพอแล้ว,ใครสำนึกทันก็อภัยได้ ถึงขนาดนี้ยังไม่สำนึกก็ต้องเด็ดขาดเสียทีกับสันดานจริงที่ต้องการแสดงออกมาแล้วก็พร้อมตอบสนองสันดานชั่วเลวนั้นให้เป็นที่พึ่งพอใจแก่มันที่สุดจริงๆ,อธิปไตยไทยคือของทุกๆคนคนไทยร่วมมีมัน,มันคือสัมมาชีวิตของคนไทยเราทุกๆคน,อธิปไตยถูกคุกคามรุกรานหรือง่ายๆแบบถูกยึดครองโดยชาติอื่น,สัมมาชีวิตของคนไทยจะสิ้นสถานะทันที ตกเป็นสถานะทาสและเชลยศึกโดยไม่ต้องสงสัยแบบแพ้สงครามสมัยอยุธยาแก่พม่า,นั้นคือคนไทยทุกๆคนสิ้นชาติไทยสิ้นความผาสุกสุขสงบสุขอีกต่อไป,สถาบันนักการเมืองต้องมีจิตสำนึกนี้ทันทีโดยพื้นฐานในทุกๆคนที่ลงเล่นการเมืองและเหี้ยเรื่อยมาตลอดก็ตาม,สถาบันการเมืองการปกครองต้องถูกปฏิวัติจริงๆ.,ประชาชนมากมายเดินสัมมาชีวิตผิดทางจากวิถีปกครองและภาครัฐฐะไม่ใส่ใจจริงใจจริงจังดูแลประชาชนคนไทยเลย,ล่าสุดอดข้าวอดอาหารตายที่เป็นข่าว,กรมแรงงานกระทรวงแรงงานมีเสียของไม่ยื่นมือช่วยเหลือสร้างระบบกลไกที่ดีเตรียมพร้อมให้คนไทยมีงานมีรายได้ดำรงชีพจริงอะไรเลย,ตัังสำนักงานเอาเท่เชิงตั้งรับห่าเหวจนถึงปัจจุบัน,นักศึกษาจบใหม่หางานเองไม่ช่วยเขาให้มีงานอะไรเลย,ใครตกงานหางานให้เขา,ช่วยเขา,นี้คือปัญหาพื้นฐานที่ระบบจัดการภาครัฐขาดประสิทธิภาพตลอดมา,เอาแต่เล่นการเมืองอยากได้ยศได้ตำแหน่งอำนาจเอาเท่เอาแดกเอาโกงใส่ตัวใส่ตน,แม้ซื้อเสียงมาแต่ใฝ่แก้ไขระบบให้ดีมันก็ดีแน่,แม้ทหารยึดอำนาจใฝ่แก้ระบบให้ดีก็ดีแน่,ยิ่งยึดอำนาจยิ่งดีสามารถใช้อำนาจเบ็ดเสร็จทำได้รวดเร็วแก้ไขในสิ่งที่ไม่ดีให้ดีได้ทันกาล,มิใช่แบยสภาที่อีลิทต่างชาติแทรกแซงแทรกซึมครอบงำควบคุมง่าย.
    ..การยึดอำนาจจึงคือทางออกทั้งหมด,ลาออก ยุบสภาก็แก้ต้นเหตุไม่ได้,ต้นเหตุคือนายกฯไม่ได้มาจากการเลือกตั้งตรงของประชาชน,กฎหมายมากมายเลอะเทอะปัญญาอ่อนไปหมด ตีตรากดขี่ประชาชนจนเหมือนนักโทษเรือนจำนอกห้องขังแค่นั้นล่ะ,เอาข้อกฎหมายของคนผิดมาตีตราบังคับคนไม่ผิดไปด้วยหรือทำชีวิตเขามิให้อิสระเสรีไปด้วย,ง่าย แบบสวมหมวกกันน็อค มันคือสิทธิธรรมดาเขาจะใส่ไม่ใส่ก็เรื่องของเขาชีวิตเขา เขามิใช่โจรไปก่ออาชญากรรม โจรเสียมาใส่ปกปิดใบหน้า,ผีบ้าอ้างว่าต้องลงโทษปรับให้หนักจะไม่กล้าทำผิด นี้ชัดเจนคือสันดานการปกครองแบบปีศาจซาตานอีลิทอสูรต้องการปกครองให้หวาดกลัวนั้นเองเข้าใจง่ายมาก,ปรับชาวบ้านหาเช้ากินค่ำจนแพงถึง2,000บาทมันบ้าไปแล้วของคนตีตราเขียนออกร่างทำกฎหมาย,นี้ลักษณะนี้ต้องฉีกทิ้ง,หรืออธิปไตยทางพลังงานก็ฉีกทิ้งที่ปล้นชิงทางกฎหมายไปให้ดูว่าปล้นแบบถูกกฎหมายกติกาบ้านเมืองคุณประเทศไทยที่ออกมานั้นล่ะ,เช่นนั้นเราก็ฉีกทิ้งเขียนใหม่เอาคืนที่มันปล้นไปแบบอ้างกฎหมายเราออกก่อนหน้านั้นเสียที่ข้าราชการเลวชั่วสมคบคิดทรยศเข้าด้วยต่างชาติหมายยึดครองบ่อน้ำมันโดยไม่เข้าสภาสส.สว.อภิปรายชี้แจ้งโต้ตอบผลดีผลเสียให้ประชาชนทั้งประเทศร่วมรับฟังความจริงว่าค่าจริงคืออะไรเลย,นี้คือการกระทำเชิงด้านชั่วเลวไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่ออธิปไตยไทยด้านความมั่นคงทางพลังงานเลย ,อิสราเอลในมุกนี้ระเบิดิหร่านก่อนก็เพื่อตัดตอนตัดขาจีนไม่ให้ได้น้ำมันไปจีนจากอิหร่านง่ายๆนอมินีมาทำลายอิหร่านตัดขาจีนทางพลังงานนั้นล่ะก็ด้วยเพราะจีนนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านมหาศาลหากเกิดสงครามกับอเมริกาจริง,จีนต้องพึ่งพาบ่อน้ำมันในการทำสงครามกับอเมริกามหาศาลนั้นล่ะนอกจากนำเข้าจากแอฟริกาหรือพม่าหรือไทยเรา.,ไม่มีอะไรเลยเรื่องสงครามอิสราเอลกับอิหร่านมีแค่นี้ล่ะ,เหี้ยสื่อไทยก็ปั่นกระแสโหนกระแสแบบยุคโควิดเกิน,อีลิทคือยิว ยิวอิสราเอลให้ทุนสื่อไทย,ยิวอิสราเอลตั้งที่อยู่อาศัยเต็มกระจายทั่วภาคเหนือโดยเฉพาะอ.ปาย.ก็ว่า,สื่อไทยไม่น้อยเหี้ยจึงเชียร์อิสราเอลทั้งที่อิสราเอลผิดก่อนเสือกไปยิงระเบิดใส่อิหร่านก่อนทั้งที่ต้องกำหนดการชัดจะเจรจาสงบศึกอยู่แล้ว,อิสราเอลคือคนทรยศโลกคือคนบัดสบประจำโลก ก่อความโกลาหลก่อนชัดเจนให้โลกสู่ความหายนะ,อิสราเอลคือคนผิดก่อนและจะไม่รุกรามหากห้ามใครเข้าไปยุ่งจะอเมริกาจะจีนจะรัสเชียจะยุโรปก็ตามให้รบกันเองแพ้ชนะกันเองแล้วถ้าใครประกาศยอมแพ้ก่อน ทั้งหมดจึงไประงับเหตุทันทีและเร่งช่วยเหลือเขา,ลงโทษทั้งสองฝ่ายด้วยที่ทำให้ชาวโลกที่อาศัยอยู่ในชาตินั้นๆเดือดร้อนกันคือคนในแต่ละชาติละประเทศนั้นล่ะ,แบนห้ามมีสัมพันธุ์กันชั่วคราวนั้นเอง,ปิดประเทศสำนึกตัวทั้งสองชาติก็ว่า.
    ..สรุป พรรคร่วมรัฐบาล วันนี้คือโอกาสสุดท้าย นานกว่านี้สายไปแล้ว,ปกติคนเราสำนึกดีชั่วได้ทันทีหลังคลิปออกแล้ว,แม้ภูมิใจไทยเหี้ยปกติอยู่แล้วมีปัญหาขัดแย้งชัดเจนก่อนหน้านี้ชัดพอดีจังหวะเหมาะเลยชิงลาออกถูกจังหวะเวลาแค่นั้นและสำนึกปกติโดยพื้นฐานพื้นๆก็ต้องคิดได้อ่านออกว่าสมควรลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลจริงๆถ้าญี่ปุ่นในอดีตตัวผู้นำเขานายกฯเขา เขาประกาศลาออกเพื่อรับผิดชอบอย่างกล้าหาญแล้วไม่หน้าด้านต่อโคตรเหง้าบรมโคตรบรรพบุรุษตนให้คนทั้งประเทศสาปส่งหรือขับไบ่เหรอ.

    https://youtu.be/Yd3ZFllkBJg?si=a22ykwdFYj8YKFt0
    ..555,ถือว่าพอไปวัดไปวาได้ การเมืองคือภายในชาติไทยเรา,แต่อธิปไตยชาติไทยต้องมาก่อนเรื่องการเมืองส่วนตัวของสถานะการเล่นการเมืองในแบบใครมัน.,ชาติไทยเราต้องมาก่อนนั้นเอง. ..พรรคอื่นๆหากยังยึดมั่นไม่รีบแสดงตัวตนว่าจะยืนฝ่ายอธิปไตยไทยหรือยืนฝ่ายตรงข้ามทหารไทยเรายืนร่วมกับเขมรมันยืมฝ่ายตรงข้ามอธิปไตยไทยภายในสิ้นวันศุกร์นี้แสดงว่าเลิกการให้อภัยโทษได้เลย,ทางเดียวที่ต้องได้รับในอนาคตคือโทษหนักหนาสาหัสแน่นอนในนามพรรคร่วมคณะรัฐบาลที่ชัดเจนตามคลิปว่ายืนตรงข้ามทหารไทยเราที่กำลังทำหน้าที่สุดกำลังรักษาอธิปไตยของชาติไทยเราเองไม่ละอายใจในหน้าที่ต่อพี่น้องทหารหาญที่สละแรงกายแรงใจตลอดเสียสละชีพกันมหาศาลนับจากอดีตถึงปัจจุบันเพื่อดำรงไว้ซึ่งอธิปไตยไทยเรานั้นคือความสุขสงบร่มเย็นภายในชาติไทยเราเองโดยพื้นฐานสำมัญสำนึกปกติต้องใช้สมองส้นตีนคิดอ่านกันเองได้ง่ายๆมาก,เราจะไม่อภัยโทษใดๆอีกแล้วกับผู้ทรยศแผ่นดินไทย,มันต้องสะสางกวาดล้างเก็บกวาดจริงจังเสียทีเลอะเทอะปล่อยปะละเลยให้สำนึกสำเนียกเองนานพอแล้ว,ใครสำนึกทันก็อภัยได้ ถึงขนาดนี้ยังไม่สำนึกก็ต้องเด็ดขาดเสียทีกับสันดานจริงที่ต้องการแสดงออกมาแล้วก็พร้อมตอบสนองสันดานชั่วเลวนั้นให้เป็นที่พึ่งพอใจแก่มันที่สุดจริงๆ,อธิปไตยไทยคือของทุกๆคนคนไทยร่วมมีมัน,มันคือสัมมาชีวิตของคนไทยเราทุกๆคน,อธิปไตยถูกคุกคามรุกรานหรือง่ายๆแบบถูกยึดครองโดยชาติอื่น,สัมมาชีวิตของคนไทยจะสิ้นสถานะทันที ตกเป็นสถานะทาสและเชลยศึกโดยไม่ต้องสงสัยแบบแพ้สงครามสมัยอยุธยาแก่พม่า,นั้นคือคนไทยทุกๆคนสิ้นชาติไทยสิ้นความผาสุกสุขสงบสุขอีกต่อไป,สถาบันนักการเมืองต้องมีจิตสำนึกนี้ทันทีโดยพื้นฐานในทุกๆคนที่ลงเล่นการเมืองและเหี้ยเรื่อยมาตลอดก็ตาม,สถาบันการเมืองการปกครองต้องถูกปฏิวัติจริงๆ.,ประชาชนมากมายเดินสัมมาชีวิตผิดทางจากวิถีปกครองและภาครัฐฐะไม่ใส่ใจจริงใจจริงจังดูแลประชาชนคนไทยเลย,ล่าสุดอดข้าวอดอาหารตายที่เป็นข่าว,กรมแรงงานกระทรวงแรงงานมีเสียของไม่ยื่นมือช่วยเหลือสร้างระบบกลไกที่ดีเตรียมพร้อมให้คนไทยมีงานมีรายได้ดำรงชีพจริงอะไรเลย,ตัังสำนักงานเอาเท่เชิงตั้งรับห่าเหวจนถึงปัจจุบัน,นักศึกษาจบใหม่หางานเองไม่ช่วยเขาให้มีงานอะไรเลย,ใครตกงานหางานให้เขา,ช่วยเขา,นี้คือปัญหาพื้นฐานที่ระบบจัดการภาครัฐขาดประสิทธิภาพตลอดมา,เอาแต่เล่นการเมืองอยากได้ยศได้ตำแหน่งอำนาจเอาเท่เอาแดกเอาโกงใส่ตัวใส่ตน,แม้ซื้อเสียงมาแต่ใฝ่แก้ไขระบบให้ดีมันก็ดีแน่,แม้ทหารยึดอำนาจใฝ่แก้ระบบให้ดีก็ดีแน่,ยิ่งยึดอำนาจยิ่งดีสามารถใช้อำนาจเบ็ดเสร็จทำได้รวดเร็วแก้ไขในสิ่งที่ไม่ดีให้ดีได้ทันกาล,มิใช่แบยสภาที่อีลิทต่างชาติแทรกแซงแทรกซึมครอบงำควบคุมง่าย. ..การยึดอำนาจจึงคือทางออกทั้งหมด,ลาออก ยุบสภาก็แก้ต้นเหตุไม่ได้,ต้นเหตุคือนายกฯไม่ได้มาจากการเลือกตั้งตรงของประชาชน,กฎหมายมากมายเลอะเทอะปัญญาอ่อนไปหมด ตีตรากดขี่ประชาชนจนเหมือนนักโทษเรือนจำนอกห้องขังแค่นั้นล่ะ,เอาข้อกฎหมายของคนผิดมาตีตราบังคับคนไม่ผิดไปด้วยหรือทำชีวิตเขามิให้อิสระเสรีไปด้วย,ง่าย แบบสวมหมวกกันน็อค มันคือสิทธิธรรมดาเขาจะใส่ไม่ใส่ก็เรื่องของเขาชีวิตเขา เขามิใช่โจรไปก่ออาชญากรรม โจรเสียมาใส่ปกปิดใบหน้า,ผีบ้าอ้างว่าต้องลงโทษปรับให้หนักจะไม่กล้าทำผิด นี้ชัดเจนคือสันดานการปกครองแบบปีศาจซาตานอีลิทอสูรต้องการปกครองให้หวาดกลัวนั้นเองเข้าใจง่ายมาก,ปรับชาวบ้านหาเช้ากินค่ำจนแพงถึง2,000บาทมันบ้าไปแล้วของคนตีตราเขียนออกร่างทำกฎหมาย,นี้ลักษณะนี้ต้องฉีกทิ้ง,หรืออธิปไตยทางพลังงานก็ฉีกทิ้งที่ปล้นชิงทางกฎหมายไปให้ดูว่าปล้นแบบถูกกฎหมายกติกาบ้านเมืองคุณประเทศไทยที่ออกมานั้นล่ะ,เช่นนั้นเราก็ฉีกทิ้งเขียนใหม่เอาคืนที่มันปล้นไปแบบอ้างกฎหมายเราออกก่อนหน้านั้นเสียที่ข้าราชการเลวชั่วสมคบคิดทรยศเข้าด้วยต่างชาติหมายยึดครองบ่อน้ำมันโดยไม่เข้าสภาสส.สว.อภิปรายชี้แจ้งโต้ตอบผลดีผลเสียให้ประชาชนทั้งประเทศร่วมรับฟังความจริงว่าค่าจริงคืออะไรเลย,นี้คือการกระทำเชิงด้านชั่วเลวไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่ออธิปไตยไทยด้านความมั่นคงทางพลังงานเลย ,อิสราเอลในมุกนี้ระเบิดิหร่านก่อนก็เพื่อตัดตอนตัดขาจีนไม่ให้ได้น้ำมันไปจีนจากอิหร่านง่ายๆนอมินีมาทำลายอิหร่านตัดขาจีนทางพลังงานนั้นล่ะก็ด้วยเพราะจีนนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านมหาศาลหากเกิดสงครามกับอเมริกาจริง,จีนต้องพึ่งพาบ่อน้ำมันในการทำสงครามกับอเมริกามหาศาลนั้นล่ะนอกจากนำเข้าจากแอฟริกาหรือพม่าหรือไทยเรา.,ไม่มีอะไรเลยเรื่องสงครามอิสราเอลกับอิหร่านมีแค่นี้ล่ะ,เหี้ยสื่อไทยก็ปั่นกระแสโหนกระแสแบบยุคโควิดเกิน,อีลิทคือยิว ยิวอิสราเอลให้ทุนสื่อไทย,ยิวอิสราเอลตั้งที่อยู่อาศัยเต็มกระจายทั่วภาคเหนือโดยเฉพาะอ.ปาย.ก็ว่า,สื่อไทยไม่น้อยเหี้ยจึงเชียร์อิสราเอลทั้งที่อิสราเอลผิดก่อนเสือกไปยิงระเบิดใส่อิหร่านก่อนทั้งที่ต้องกำหนดการชัดจะเจรจาสงบศึกอยู่แล้ว,อิสราเอลคือคนทรยศโลกคือคนบัดสบประจำโลก ก่อความโกลาหลก่อนชัดเจนให้โลกสู่ความหายนะ,อิสราเอลคือคนผิดก่อนและจะไม่รุกรามหากห้ามใครเข้าไปยุ่งจะอเมริกาจะจีนจะรัสเชียจะยุโรปก็ตามให้รบกันเองแพ้ชนะกันเองแล้วถ้าใครประกาศยอมแพ้ก่อน ทั้งหมดจึงไประงับเหตุทันทีและเร่งช่วยเหลือเขา,ลงโทษทั้งสองฝ่ายด้วยที่ทำให้ชาวโลกที่อาศัยอยู่ในชาตินั้นๆเดือดร้อนกันคือคนในแต่ละชาติละประเทศนั้นล่ะ,แบนห้ามมีสัมพันธุ์กันชั่วคราวนั้นเอง,ปิดประเทศสำนึกตัวทั้งสองชาติก็ว่า. ..สรุป พรรคร่วมรัฐบาล วันนี้คือโอกาสสุดท้าย นานกว่านี้สายไปแล้ว,ปกติคนเราสำนึกดีชั่วได้ทันทีหลังคลิปออกแล้ว,แม้ภูมิใจไทยเหี้ยปกติอยู่แล้วมีปัญหาขัดแย้งชัดเจนก่อนหน้านี้ชัดพอดีจังหวะเหมาะเลยชิงลาออกถูกจังหวะเวลาแค่นั้นและสำนึกปกติโดยพื้นฐานพื้นๆก็ต้องคิดได้อ่านออกว่าสมควรลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลจริงๆถ้าญี่ปุ่นในอดีตตัวผู้นำเขานายกฯเขา เขาประกาศลาออกเพื่อรับผิดชอบอย่างกล้าหาญแล้วไม่หน้าด้านต่อโคตรเหง้าบรมโคตรบรรพบุรุษตนให้คนทั้งประเทศสาปส่งหรือขับไบ่เหรอ. https://youtu.be/Yd3ZFllkBJg?si=a22ykwdFYj8YKFt0
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 591 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัทใหญ่ ๆ ช่วงนี้มักพูดถึง AI อย่างตื่นเต้น—แต่หลายที่ก็หลบประเด็น “เรื่องตกงาน” เอาไว้ แต่ไม่ใช่กับ Andy Jassy ซีอีโอของ Amazon ที่ออกจดหมายถึงพนักงานแบบตรงไปตรงมาเลยว่า…

    “เราจะต้องใช้คนน้อยลงในงานบางอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้ และใช้คนมากขึ้นในงานแบบใหม่”

    เขาเล่าว่า Amazon มีโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับ Generative AI มากกว่า 1,000 รายการ และจะมีเพิ่มอีกเรื่อย ๆ สิ่งที่ชัดที่สุดคือ งานบางประเภทจะถูก AI มาแทน เพราะมันมีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุนกว่า

    แต่ใช่ว่าทุกคนจะได้ใช้ AI แล้วทำงานสนุกขึ้นนะครับ บางทีมวิศวกรถูกลดจำนวนครึ่งหนึ่ง และถูกกดดันให้ทำงานเร็วกว่าเดิม โดยต้องใช้เครื่องมือ AI อย่าง Copilot ของ Microsoft หรือ Assistant ของ Amazon เองเพื่อเร่งงานให้เสร็จเร็วแบบสายพาน!

    Jassy ยังแนะนำพนักงานแบบจริงใจ (หรือประชดแอบ ๆ?): “ให้ลองอยากรู้อยากเห็นเรื่อง AI, ไปอบรม, ทดลองใช้งาน, และเข้าร่วมระดมไอเดียในทีม” — ซึ่งฟังดูแล้วอาจหมายถึง “เตรียมตัวหางานใหม่ที่ใช้ AI ให้เป็น”

    Amazon เตรียมลดจำนวนพนักงานองค์กร (corporate workforce) ในอีกไม่กี่ปี  
    • ผลจากการใช้ AI อย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพสูง  
    • จดหมายจาก CEO ระบุชัดว่า “เราจะใช้คนน้อยลงในบางงาน”

    มีโปรเจกต์ด้าน AI ในองค์กรมากกว่า 1,000 รายการ  
    • ครอบคลุมทั้งด้านลูกค้า การพัฒนา การขาย และปฏิบัติการ  
    • บางระบบใช้ Agent หรือ GPT ช่วยตอบคำถาม สั่งซื้อ หรือสรุปรายงาน

    Jassy แนะพนักงานให้ “เรียนรู้ AI ให้มากที่สุด”  
    • สนับสนุนให้ไปอบรม ทดลองใช้งาน และเสนอไอเดียใหม่ในการใช้ AI  
    • ถือเป็นการ “เสริมความอยู่รอด” ในยุคที่ AI กำลังกลืนตำแหน่งงาน

    AI ไม่ได้แทนแค่คนออฟฟิศ แต่รวมถึงพนักงานคลังสินค้าและขนส่ง  
    • มีการใช้หุ่นยนต์กว่าแสนตัว และเริ่มทดลองหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์  
    • หุ่นยนต์บางรุ่นมี “ระบบรับรู้การสัมผัส” แล้ว

    มีเสียงสะท้อนจากวิศวกรว่า “เหมือนอยู่ในสายพาน AI”  
    • ถูกลดทีม พ่วงงานเพิ่ม พร้อมกดดันใช้ AI มาทำงานแทนมนุษย์

    ตำแหน่งระดับต้นในสายขาวกำลังเสี่ยงสูงจากการเข้ามาของ AI  
    • CEO ของ Anthropic เคยคาดว่า 50% ของงานระดับ Entry จะหายไปภายใน 5 ปี

    บางคนอาจถูกแทนที่ ไม่ใช่โดย AI แต่โดย “คนที่ใช้ AI ได้ดีกว่า”  
    • ต้องรีบ Upskill โดยไม่รอให้องค์กรจัดให้

    การใช้งาน AI อย่างเร่งรีบ อาจกลายเป็นการเพิ่มภาระให้พนักงานแทนที่จะช่วยลด  
    • มีกรณีทีมวิศวกรใน Amazon ถูกลดครึ่ง แต่กำหนดส่งงานกลับไม่ลด

    แม้จะมีสิทธิใช้ GPT ได้ในองค์กร แต่คนที่ไม่ปรับตัวจะถูกแซงทันที  
    • ช่องว่างระหว่าง “ผู้ใช้ AI อย่างรู้ทาง” กับ “คนที่ยังไม่เริ่ม” จะกว้างขึ้นเรื่อย ๆ

    https://www.techspot.com/news/108359-amazon-ceo-andy-jassy-tells-workers-ai-replace.html
    บริษัทใหญ่ ๆ ช่วงนี้มักพูดถึง AI อย่างตื่นเต้น—แต่หลายที่ก็หลบประเด็น “เรื่องตกงาน” เอาไว้ แต่ไม่ใช่กับ Andy Jassy ซีอีโอของ Amazon ที่ออกจดหมายถึงพนักงานแบบตรงไปตรงมาเลยว่า… “เราจะต้องใช้คนน้อยลงในงานบางอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้ และใช้คนมากขึ้นในงานแบบใหม่” เขาเล่าว่า Amazon มีโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับ Generative AI มากกว่า 1,000 รายการ และจะมีเพิ่มอีกเรื่อย ๆ สิ่งที่ชัดที่สุดคือ งานบางประเภทจะถูก AI มาแทน เพราะมันมีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุนกว่า แต่ใช่ว่าทุกคนจะได้ใช้ AI แล้วทำงานสนุกขึ้นนะครับ บางทีมวิศวกรถูกลดจำนวนครึ่งหนึ่ง และถูกกดดันให้ทำงานเร็วกว่าเดิม โดยต้องใช้เครื่องมือ AI อย่าง Copilot ของ Microsoft หรือ Assistant ของ Amazon เองเพื่อเร่งงานให้เสร็จเร็วแบบสายพาน! Jassy ยังแนะนำพนักงานแบบจริงใจ (หรือประชดแอบ ๆ?): “ให้ลองอยากรู้อยากเห็นเรื่อง AI, ไปอบรม, ทดลองใช้งาน, และเข้าร่วมระดมไอเดียในทีม” — ซึ่งฟังดูแล้วอาจหมายถึง “เตรียมตัวหางานใหม่ที่ใช้ AI ให้เป็น” ✅ Amazon เตรียมลดจำนวนพนักงานองค์กร (corporate workforce) ในอีกไม่กี่ปี   • ผลจากการใช้ AI อย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพสูง   • จดหมายจาก CEO ระบุชัดว่า “เราจะใช้คนน้อยลงในบางงาน” ✅ มีโปรเจกต์ด้าน AI ในองค์กรมากกว่า 1,000 รายการ   • ครอบคลุมทั้งด้านลูกค้า การพัฒนา การขาย และปฏิบัติการ   • บางระบบใช้ Agent หรือ GPT ช่วยตอบคำถาม สั่งซื้อ หรือสรุปรายงาน ✅ Jassy แนะพนักงานให้ “เรียนรู้ AI ให้มากที่สุด”   • สนับสนุนให้ไปอบรม ทดลองใช้งาน และเสนอไอเดียใหม่ในการใช้ AI   • ถือเป็นการ “เสริมความอยู่รอด” ในยุคที่ AI กำลังกลืนตำแหน่งงาน ✅ AI ไม่ได้แทนแค่คนออฟฟิศ แต่รวมถึงพนักงานคลังสินค้าและขนส่ง   • มีการใช้หุ่นยนต์กว่าแสนตัว และเริ่มทดลองหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์   • หุ่นยนต์บางรุ่นมี “ระบบรับรู้การสัมผัส” แล้ว ✅ มีเสียงสะท้อนจากวิศวกรว่า “เหมือนอยู่ในสายพาน AI”   • ถูกลดทีม พ่วงงานเพิ่ม พร้อมกดดันใช้ AI มาทำงานแทนมนุษย์ ‼️ ตำแหน่งระดับต้นในสายขาวกำลังเสี่ยงสูงจากการเข้ามาของ AI   • CEO ของ Anthropic เคยคาดว่า 50% ของงานระดับ Entry จะหายไปภายใน 5 ปี ‼️ บางคนอาจถูกแทนที่ ไม่ใช่โดย AI แต่โดย “คนที่ใช้ AI ได้ดีกว่า”   • ต้องรีบ Upskill โดยไม่รอให้องค์กรจัดให้ ‼️ การใช้งาน AI อย่างเร่งรีบ อาจกลายเป็นการเพิ่มภาระให้พนักงานแทนที่จะช่วยลด   • มีกรณีทีมวิศวกรใน Amazon ถูกลดครึ่ง แต่กำหนดส่งงานกลับไม่ลด ‼️ แม้จะมีสิทธิใช้ GPT ได้ในองค์กร แต่คนที่ไม่ปรับตัวจะถูกแซงทันที   • ช่องว่างระหว่าง “ผู้ใช้ AI อย่างรู้ทาง” กับ “คนที่ยังไม่เริ่ม” จะกว้างขึ้นเรื่อย ๆ https://www.techspot.com/news/108359-amazon-ceo-andy-jassy-tells-workers-ai-replace.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Amazon CEO Andy Jassy tells workers: AI will replace some of you
    In a message sent to employees this week, Jassy said generative AI was a "once-in-a-lifetime" technology that completely changes what's possible for customers and businesses.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • หรือว่าตระกูลฮุน ใกล้จะถึงวันอวสานแล้ว

    ช่วงนี้ผมว่ากองทัพไทยทำงานกันดีมาก ฉลาดและรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของเขมรไปทุกด้าน ตั้งแต่กองทัพประกาศกฏอัยการศึกออกมา จากที่ไทยเสียเปรียบเขมรทุกอย่าง จากการทำงานไม่ได้เรื่องของแพรทองธารกับนายภูมิธรรม ก็ปรากฏว่าในปัจจุบัน ไทยขึ้นมาคุมความได้เปรียบเขมร แทบจะเบ็ดเสร็จทุกอย่าง ***ผมอยากเห็นจริงๆว่า เป็นฝีมือกุนซือจากกองทัพไทยคนไหน ท่านนี้หรือกลุ่มนี้ในอนาคตต้องเป็นที่พึ่งของประเทศชาติได้แน่นอน***

    ความฉลาดแรก คือการตอบโต้สองพ่อลูกตระกูลฮุน แบบเหนือชั้นก็คือ ยังคงตรึงกำลังเอาไว้จำนวนมาก แม้ทหารเขมรจะถอยออกมาถึงนอกเขตต้นพญาสัตยบรรณแล้วก็ตาม เพราะเหมือนรู้ว่า ฮุนเซน จะต้องโพสต์ข้อความหลอกชาวเขมรต่อไปว่า ไม่ได้ถอยทัพ แค่ปรับกำลังพลใหม่ การตรึงกำลังทหารไทยเอาไว้จำนวนมากและเตรียมความพร้อมเรื่องอาวุธ พรอมตอบโต้ตลอด ทำให้คนเขมรได้เห็นภาพความจริงที่ชัดเจน ว่าทหารฝ่ายตนเองได้พ่ายแพ้แล้วจริงๆ และกองทัพไทยก็ได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมดแล้ว

    ความฉลาดครั้งที่สอง การสั่งปิดพรมแดน ที่เป็นจุดกล่องดวงใจของรายได้หลักของตระกูลฮุน คือห้ามคนไทย เข้าไปเล่นบ่อนคาสิโนในเขมร งดการส่งอาหารและสินค้าอุปโภคทั้งหมดเข้าไปในจุดสำคัญของเขมร ทำให้ฮุนเซนเดือดดาลอย่างหนัก เลยออกมาตรฐการณ์งดเวลาวีซ่าของไทยให้พำนักในเขมรได้แค่เหลือ 7 วัน จาก29วัน

    กองทัพไทยก็ตอบโต้ ด้วยการผลักดันแรงงานเถื่อนเขมรจำนวนมากกลับเขมรในทันที และสั่งตรวจสอบวีซ่าคนเขมร ให้เข้ามาพำนักในราชอาณาจักรไทยได้แค่ 7 วันเหมือนกัน จากที่เคยฟรีวีซ่า และถือโอกาสส่งเสริมการกวาดล้างและผลักดันแรงงานเถื่อนของเขมรจำนวนนับล้านคนออกจากราชอาณาจักรไทย ส่งกลับคืนประเทศเขมร ทำให้สองพ่อลูกตระกูลฮุนขาดรายได้อย่างหนัก และต้องแบกรับภาระคนตกงานในประเทศเพิ่มขึ้น

    ความฉลาดครั้งที่สาม นำฑูตทหารฝ่ายความมั่นคงของทุกประเทศ เข้าร่วมประชุมรับรู้ถึงพฤติกรรมของฝ่ายเขมร ต่อกรณีการรุกล้ำอธิปไตยของไทย และมีเจตนาชั่วร้ายที่คิดจะนำกองทัพเขมรบุกเข้ามายึดตัวปราสาทของไทย ทำให้ฑูตทหารฝ่ายความมั่นคงของทุกประเทศเข้าใจอย่างถูกต้องว่า กองทัพไทยจำเป็นต้องตัดไฟฟ้าและตัดสัญญานอินเตอร์เนต และงดการส่งอาหารและเชื้อเพลิงพลังงาน เข้าไปยังเมืองเขตเศรษฐกิจสำคัญของเขมร เพราะตรวจทราบชัดเจนว่า เป็นแหล่งฟอกเงินขนาดใหญ่ เปิดบ่อนคาสิโน เพื่อสร้างอาชญากรรมทางไซเบอร์ และเป็นศูนย์รวมของแก๊งมิจฉาชีพทางการเงินขนาดใหญ่ ทั้งค้าอาวุธสงคราม และเป็นทุนใหญ่หนุนกองทัพเขมร ให้บุกเข้ามารุกล้ำอธิปไตยของไทย

    นี่คือเหตุผลสำคัญว่า ทำไม EU ถึงได้ออกมาตำหนินายฮุนมาเนต เมื่อวิ่งไปขอความช่วยเหลือจาก EU ว่า ระวังจะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์ ขึ้นมาอีกครั้ง จากพฤติกรรมของตระกูลตนเองได้

    นี่คือเหตุผลว่า ทำไมสถานฑูตจีน ถึงเปลี่ยนท่าทีไม่สนับสนุนเขมรอีกต่อไป เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าเขมรมีเจตนารุกล้ำอธิปไตยของไทยจริง และเห็นชอบที่ไทยจะตัดไฟตัดความช่วยเหลือเขมรทุกทาง จากการยกประเด็นเรื่องรัฐบาลเขมรอยู่เบื้องหลังอาชญกรรมทางไซเบอร์ ที่ผู้นำจีน เกลียดเข้าไส้

    ในขณะที่สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น ไม่พูดมาก พร้อมสนับสนุนไทยทุกด้าน หากไทยเปิดสงครามกับเขมรแบบจริงจัง

    ความฉลาดครั้งที่สี่ การกดดันเขมรทุกทางและตัดความช่วยเหลือทุกอย่างของกองทัพไทย คือการบีบให้ตระกูลฮุน ให้ไปเผชิญหน้าตามลำพังกับฝ่ายค้านของตนเอง และข่าวลือเริ่มแพร่กระจายไปทั่วเขมรว่า ประชาชนเริ่มลุกฮือ ไม่เอาตระกูลฮุน เพราะแพ้สงครามกับไทย ไม่ได้ยึดตัวปราสาทและเกาะกูดของไทย เหมือนอย่างที่คุยเอาไว้ และข่าวลือเริ่มระบาดหนักว่า ตระกูลเตีย ที่มีเชื้อสายคนไทย ที่คุมกำลังทหารทั้งหมดของเขมร จะปฏิวัติรัฐประหารตระกูลฮุน แบบนี้เท่ากับว่า กองทัพไทยเตรียมตัดหางตระกูลฮุนแบบถาวร และให้เขมรไปจัดการปัญหาภายในของตนเอง และงดความร่วมมือทุกอย่างกับตระกูลฮุน

    เขมรเพิ่งมีปัญหากับ สปป.ลาว เรื่องพรมแดน นี่คือรอยร้าวที่เกิดขึ้นใหม่ของเขมรกับ สปป.ลาว

    เขมรคือประเทศที่ติดหนี้จีน เป็นอันดับต้นๆของโลกและเงินสกุลเรียว ไม่สามารถใช้ได้ในอาเซี่ยนและทั่วโลก ต่างจากสกุลเงินบาทไทย ที่ในอาเซี่ยนและทั่วโลกยอมรับกันหมด ปัญหาของตระกูลฮุนก็คือ ไม่มีเครดิต ที่จะขอกู้เงินจากที่ไหนได้อีก หากจีนและสหรัฐอเมริกาเข้ามาช่วยเหลือ นั่นก็หมายความว่า ทรัพยากรทั้งหมดของเขมรและทุกพื้นที่ของเขมร จะต้องถูกนำมาจำนองหรือถูกขายแบบถาวรให้สองมหาอำนาจนี้ และนั่นคงจะเป็นจุดจบของตระกูลฮุน ที่อาจจะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์กันเองขึ้นมาอีกรอบ เมื่อเวียดนามส่งทหารเข้ามาช่วยตระกูลฮุน ในขณะที่จีนจะกลับมาสนับสนุนปลุกผีเขมรแดงอีกรอบให้ขึ้นมาจากหลุม

    ในขณะที่ประเทศไทย จะจำบทเรียนสำคัญให้ขึ้นใจ ก็คือต้องหยุดความสงสารต่อคนเขมร เมื่อหากมีการอพยพหนีตายขึ้นมาอีกครั้ง

    แต่ผมยังสงสัยอยู่ว่า เมื่อกองทัพได้ประกาศกฏอัยการศึกออกมาแล้ว ปัญหาเรื่องเขมรกับไทย กองทัพก็ได้ประกาศออกมาชัดเจนแล้วว่า ให้เป็นหน้าที่ของกองทัพไทยเท่านั้น เหตุใดยังเห็นภาพของนายภูมิธรรมกับแพรทองธาร เที่ยวออกมาพูดวุ่นวายไปทั่ว แถมออกมาตีเนียนและเคลมว่า เป็นผลงานของตนเอง ที่แอบเจรจากับเขมรมาตลอด แถมยังยกมือกราบไหว้ขอบคุณสรรเสริญต่อผู้นำเขมร ที่ยอมถอยทหารออกไป

    นี่คือความพยายามเฮือกสุดท้ายของตระกูลชิน ที่ต้องการช่วยเหลือญาติทางฝั่งเขมรของตนเอง.

    เดชา นฤนารท.
    10/6/68 08.45 น.

    #ไทยต้องไม่ถอย
    #หยุดเขมรรุกแดน
    #รักชาติพิสูจน์ด้วยการกระทำ
    #พร้อมรบเพื่อแผ่นดิน
    #ศึกนี้เพื่ออธิปไตย
    #ไม่เอา2ตระกูลหนักแผ่นดิน
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #ธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม
    #ThammasatPitakTham
    หรือว่าตระกูลฮุน ใกล้จะถึงวันอวสานแล้ว ช่วงนี้ผมว่ากองทัพไทยทำงานกันดีมาก ฉลาดและรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของเขมรไปทุกด้าน ตั้งแต่กองทัพประกาศกฏอัยการศึกออกมา จากที่ไทยเสียเปรียบเขมรทุกอย่าง จากการทำงานไม่ได้เรื่องของแพรทองธารกับนายภูมิธรรม ก็ปรากฏว่าในปัจจุบัน ไทยขึ้นมาคุมความได้เปรียบเขมร แทบจะเบ็ดเสร็จทุกอย่าง ***ผมอยากเห็นจริงๆว่า เป็นฝีมือกุนซือจากกองทัพไทยคนไหน ท่านนี้หรือกลุ่มนี้ในอนาคตต้องเป็นที่พึ่งของประเทศชาติได้แน่นอน*** ความฉลาดแรก คือการตอบโต้สองพ่อลูกตระกูลฮุน แบบเหนือชั้นก็คือ ยังคงตรึงกำลังเอาไว้จำนวนมาก แม้ทหารเขมรจะถอยออกมาถึงนอกเขตต้นพญาสัตยบรรณแล้วก็ตาม เพราะเหมือนรู้ว่า ฮุนเซน จะต้องโพสต์ข้อความหลอกชาวเขมรต่อไปว่า ไม่ได้ถอยทัพ แค่ปรับกำลังพลใหม่ การตรึงกำลังทหารไทยเอาไว้จำนวนมากและเตรียมความพร้อมเรื่องอาวุธ พรอมตอบโต้ตลอด ทำให้คนเขมรได้เห็นภาพความจริงที่ชัดเจน ว่าทหารฝ่ายตนเองได้พ่ายแพ้แล้วจริงๆ และกองทัพไทยก็ได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมดแล้ว ความฉลาดครั้งที่สอง การสั่งปิดพรมแดน ที่เป็นจุดกล่องดวงใจของรายได้หลักของตระกูลฮุน คือห้ามคนไทย เข้าไปเล่นบ่อนคาสิโนในเขมร งดการส่งอาหารและสินค้าอุปโภคทั้งหมดเข้าไปในจุดสำคัญของเขมร ทำให้ฮุนเซนเดือดดาลอย่างหนัก เลยออกมาตรฐการณ์งดเวลาวีซ่าของไทยให้พำนักในเขมรได้แค่เหลือ 7 วัน จาก29วัน กองทัพไทยก็ตอบโต้ ด้วยการผลักดันแรงงานเถื่อนเขมรจำนวนมากกลับเขมรในทันที และสั่งตรวจสอบวีซ่าคนเขมร ให้เข้ามาพำนักในราชอาณาจักรไทยได้แค่ 7 วันเหมือนกัน จากที่เคยฟรีวีซ่า และถือโอกาสส่งเสริมการกวาดล้างและผลักดันแรงงานเถื่อนของเขมรจำนวนนับล้านคนออกจากราชอาณาจักรไทย ส่งกลับคืนประเทศเขมร ทำให้สองพ่อลูกตระกูลฮุนขาดรายได้อย่างหนัก และต้องแบกรับภาระคนตกงานในประเทศเพิ่มขึ้น ความฉลาดครั้งที่สาม นำฑูตทหารฝ่ายความมั่นคงของทุกประเทศ เข้าร่วมประชุมรับรู้ถึงพฤติกรรมของฝ่ายเขมร ต่อกรณีการรุกล้ำอธิปไตยของไทย และมีเจตนาชั่วร้ายที่คิดจะนำกองทัพเขมรบุกเข้ามายึดตัวปราสาทของไทย ทำให้ฑูตทหารฝ่ายความมั่นคงของทุกประเทศเข้าใจอย่างถูกต้องว่า กองทัพไทยจำเป็นต้องตัดไฟฟ้าและตัดสัญญานอินเตอร์เนต และงดการส่งอาหารและเชื้อเพลิงพลังงาน เข้าไปยังเมืองเขตเศรษฐกิจสำคัญของเขมร เพราะตรวจทราบชัดเจนว่า เป็นแหล่งฟอกเงินขนาดใหญ่ เปิดบ่อนคาสิโน เพื่อสร้างอาชญากรรมทางไซเบอร์ และเป็นศูนย์รวมของแก๊งมิจฉาชีพทางการเงินขนาดใหญ่ ทั้งค้าอาวุธสงคราม และเป็นทุนใหญ่หนุนกองทัพเขมร ให้บุกเข้ามารุกล้ำอธิปไตยของไทย นี่คือเหตุผลสำคัญว่า ทำไม EU ถึงได้ออกมาตำหนินายฮุนมาเนต เมื่อวิ่งไปขอความช่วยเหลือจาก EU ว่า ระวังจะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์ ขึ้นมาอีกครั้ง จากพฤติกรรมของตระกูลตนเองได้ นี่คือเหตุผลว่า ทำไมสถานฑูตจีน ถึงเปลี่ยนท่าทีไม่สนับสนุนเขมรอีกต่อไป เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าเขมรมีเจตนารุกล้ำอธิปไตยของไทยจริง และเห็นชอบที่ไทยจะตัดไฟตัดความช่วยเหลือเขมรทุกทาง จากการยกประเด็นเรื่องรัฐบาลเขมรอยู่เบื้องหลังอาชญกรรมทางไซเบอร์ ที่ผู้นำจีน เกลียดเข้าไส้ ในขณะที่สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น ไม่พูดมาก พร้อมสนับสนุนไทยทุกด้าน หากไทยเปิดสงครามกับเขมรแบบจริงจัง ความฉลาดครั้งที่สี่ การกดดันเขมรทุกทางและตัดความช่วยเหลือทุกอย่างของกองทัพไทย คือการบีบให้ตระกูลฮุน ให้ไปเผชิญหน้าตามลำพังกับฝ่ายค้านของตนเอง และข่าวลือเริ่มแพร่กระจายไปทั่วเขมรว่า ประชาชนเริ่มลุกฮือ ไม่เอาตระกูลฮุน เพราะแพ้สงครามกับไทย ไม่ได้ยึดตัวปราสาทและเกาะกูดของไทย เหมือนอย่างที่คุยเอาไว้ และข่าวลือเริ่มระบาดหนักว่า ตระกูลเตีย ที่มีเชื้อสายคนไทย ที่คุมกำลังทหารทั้งหมดของเขมร จะปฏิวัติรัฐประหารตระกูลฮุน แบบนี้เท่ากับว่า กองทัพไทยเตรียมตัดหางตระกูลฮุนแบบถาวร และให้เขมรไปจัดการปัญหาภายในของตนเอง และงดความร่วมมือทุกอย่างกับตระกูลฮุน เขมรเพิ่งมีปัญหากับ สปป.ลาว เรื่องพรมแดน นี่คือรอยร้าวที่เกิดขึ้นใหม่ของเขมรกับ สปป.ลาว เขมรคือประเทศที่ติดหนี้จีน เป็นอันดับต้นๆของโลกและเงินสกุลเรียว ไม่สามารถใช้ได้ในอาเซี่ยนและทั่วโลก ต่างจากสกุลเงินบาทไทย ที่ในอาเซี่ยนและทั่วโลกยอมรับกันหมด ปัญหาของตระกูลฮุนก็คือ ไม่มีเครดิต ที่จะขอกู้เงินจากที่ไหนได้อีก หากจีนและสหรัฐอเมริกาเข้ามาช่วยเหลือ นั่นก็หมายความว่า ทรัพยากรทั้งหมดของเขมรและทุกพื้นที่ของเขมร จะต้องถูกนำมาจำนองหรือถูกขายแบบถาวรให้สองมหาอำนาจนี้ และนั่นคงจะเป็นจุดจบของตระกูลฮุน ที่อาจจะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์กันเองขึ้นมาอีกรอบ เมื่อเวียดนามส่งทหารเข้ามาช่วยตระกูลฮุน ในขณะที่จีนจะกลับมาสนับสนุนปลุกผีเขมรแดงอีกรอบให้ขึ้นมาจากหลุม ในขณะที่ประเทศไทย จะจำบทเรียนสำคัญให้ขึ้นใจ ก็คือต้องหยุดความสงสารต่อคนเขมร เมื่อหากมีการอพยพหนีตายขึ้นมาอีกครั้ง แต่ผมยังสงสัยอยู่ว่า เมื่อกองทัพได้ประกาศกฏอัยการศึกออกมาแล้ว ปัญหาเรื่องเขมรกับไทย กองทัพก็ได้ประกาศออกมาชัดเจนแล้วว่า ให้เป็นหน้าที่ของกองทัพไทยเท่านั้น เหตุใดยังเห็นภาพของนายภูมิธรรมกับแพรทองธาร เที่ยวออกมาพูดวุ่นวายไปทั่ว แถมออกมาตีเนียนและเคลมว่า เป็นผลงานของตนเอง ที่แอบเจรจากับเขมรมาตลอด แถมยังยกมือกราบไหว้ขอบคุณสรรเสริญต่อผู้นำเขมร ที่ยอมถอยทหารออกไป นี่คือความพยายามเฮือกสุดท้ายของตระกูลชิน ที่ต้องการช่วยเหลือญาติทางฝั่งเขมรของตนเอง. เดชา นฤนารท. 10/6/68 08.45 น. #ไทยต้องไม่ถอย #หยุดเขมรรุกแดน #รักชาติพิสูจน์ด้วยการกระทำ #พร้อมรบเพื่อแผ่นดิน #ศึกนี้เพื่ออธิปไตย #ไม่เอา2ตระกูลหนักแผ่นดิน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #ธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม #ThammasatPitakTham
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 754 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เปลี่ยนผู้นำเราเถอะ,ไล่ออกไปเลยก็ได้,ไร้ความสามารถและขาดวุฒิภาวะอย่างสูง จริงๆไม่เหมาะสมตั้งแต่แรกอ่อนประสบการณ์พรรคแพ้การเลือกตั้งด้วย,สมองไม่ถึงจะมานำพาประเทศให้รอดจากสาระพัดปัญหาได้,ตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงอะไร,ยุทธศาสตร์เชิงบุกเชิงรุกในยุคสมัยโลกเปลี่ยนแปลงก็ไม่มีอะไร,ประชาชนยากจนขาดสภาพคล่องตังในการดำรงชีพ คนตกงานเป็นอันมาก,ต่างชาติเต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่แก้ไข,ภัยความมั่นคงสะดวกต่อการปั่นป่วนภายในประเทศได้เสมือนข้าศึกเดินเต็มภายในบ้านตนเองเสือกไม่ทำอะไร,มันแสดงถึงการไม่รักบ้านตนเองรักคนในบ้านตนเองรักประเทศชาติตนเองเลย,รักดินแดนตนเองอาณาเขตและพื้นที่ตนเอง ปล่อยให้ต่างชาติมาอยู่อาศัยแทนคนไทยเต็มบ้านเต็มเมือง ปล่อยให้ครไทยตนยากจนลงเพื่อให้ต่างชาติหอบตังมาเหยียบหยามคนไทยได้,ทรัมป์เอาอเมริกาต้องมาก่อนระดับมหาอำนาจมันยังกล้านำทำเลย,ไทยเราทำตามจะเป็นอะไร,ยิ่งโมเดลนี้ทดลองใช้ในกรณีเขมรปฐมบทเลย,ห้ามคนเขมรเข้าประเทศไทยจนกว่ากรณีพิพาทนี้จะยุติได้,ผลักดันไล่ล่าคนเขมรในไทยจับกุมส่งกลับทั้งหมดหรือส่งไปประเทศโลกที่สามหากไม่ชอบการทารุนกรรมภายในประเทศเขมรเองเพื่อสิทธิมนุษยชาติด้วยคนเขมรไม่ชอบการปกครองของรัฐบาลฮุนเชนนอมินีก็มากในไทยแต่เงื่อนไขห้ามมีที่ยืนคนเขมรในประเทศไทยทั้งหมด,ทรัมป์ยังแบนได้และสถานะการณ์นี้เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามความมั่นคงทางอธิปไตยจริงของประเทศไทยเราด้วย,เพราะมีรัฐบาลกากอดีตก็ส่งนายกฯไม่ซื่อสัตย์นำรัฐบาลผิดพลาดไปแล้ว,ความชอบธรรมจริงๆด้วยจิตสำนึกปกติมันสมควรเลือกตั้งการใหม่ทันทีแล้วเพราะคณะบัดสบการทางปัญญาสมองก็ด้วยไปเขียนกฎหมายการเลือกที่ไม่ให้ประชาชนเลือกนายกฯทางตรงได้,นัยยะแสดง!!อยากสืบทอดอำนาจต่อสมัยรัฐบาลยึดอำนาจจึงเขียนกติกาเลือกตั้งผีบ้าผีบอออกมา,ไม่รวมพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ใส่พานให้เอกชนเหยียบชาวเกษตรไทยทั้งประเทศถูกเอกชนผูกขาดเมล็ดพันธุ์ด้วย จนได้ชื่อว่าพรบ.500 โจร500สมัยคนยึดอำนาจนั้นล่าสุด,หรือต่ออายุสัมปทานบ่อน้ำมันให้ต่างชาติโดยไร้สมองไร้สติปัญญาสมควรทำเองไปเลย,มิหนำซ้ำเสือกแจกสัมปทาน2แปลงขนาดพื้นที่ใหญ่โตบนอ่าวไทยให้ต่างชาติด้วยทำไมไม่เก็บไว้ทำเองขายถูกๆถ่วงดุลราคาน้ำมันไม่แพงช่วยประชาชนคนไทย,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว ผู้ปกครองชั่วเลวนำการปกครองตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมาโดยตลอด,คนไทยจึงยากจนดักดานผ่านวิถีการออกกฎหมายและกฎหมายนั้นมากมานปัญญาอ่อนดูดตังในกระเป๋าชาวบ้านเกือบทุกๆครั้งเมื่อมีช่องจะดูดโดยอ้างความปลอดภัยประชาชนบังหน้า.ประโยชน์ประชาชนพะนะแบบ1มิย.68ไม่สวมหมวกกันน็อคปรับชาวบ้านตาดำ2,000บาทนั้นล่ะ,เสือกไม่เขียนกฎหมายว่าอนาคตบ่อน้ำมันที่หมดอายุสัมปทานรัฐบาลจะผลิตเอว,หรือบ่อน้ำมันที่สัมปทานทั้งหมดถือว่าไม่ชอบธรรมด้วยคือความมั่นคงทางอธิปไตยของชาติไทยแต่ข้าราชการชั่วไม่ซื่อสัตย์ทรยศแผ่นดินไทยจึงไม่เสนอเข้าสภาสส.สว.ถือว่าเป็นการกระทำโดยมิชอบขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญของอธิปไตยชาติอย่างร้ายแรงจึงประกาศโมฆะสัมปทานปิโตรเลียมทั้งหมดทั่วราชอาณาจักรไทยทันที พรบ.กฎหมายปิโตรเลียมทุกๆฉบับเป็นอันตกไป.,นึ้ผู้ปกครองไทยต้องเด็ดขาดจริงแบบนี้,ไม่ใช่กากๆขี้ขลาดและโง่เขลาเหมือนในอดีตที่ผ่านๆมา.
    ..ทรัมป์แบน20ประเทศ,ไทยเริ่มแบนกับชาติที่คุกคามอธิปไตยเราก่อนถือว่าทรัมป์ชี้นำชี้แนะทางอ้อมนะนั้นมวยแก้ก็ว่า,แต่บังเอิญรัฐบาลเราปัจจุบันสนิทสนมเขมรนัก.
    ..
    ..https://youtu.be/iMwLtPwNSmk?si=c5YzT1kqftNLCOys
    ..เปลี่ยนผู้นำเราเถอะ,ไล่ออกไปเลยก็ได้,ไร้ความสามารถและขาดวุฒิภาวะอย่างสูง จริงๆไม่เหมาะสมตั้งแต่แรกอ่อนประสบการณ์พรรคแพ้การเลือกตั้งด้วย,สมองไม่ถึงจะมานำพาประเทศให้รอดจากสาระพัดปัญหาได้,ตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงอะไร,ยุทธศาสตร์เชิงบุกเชิงรุกในยุคสมัยโลกเปลี่ยนแปลงก็ไม่มีอะไร,ประชาชนยากจนขาดสภาพคล่องตังในการดำรงชีพ คนตกงานเป็นอันมาก,ต่างชาติเต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่แก้ไข,ภัยความมั่นคงสะดวกต่อการปั่นป่วนภายในประเทศได้เสมือนข้าศึกเดินเต็มภายในบ้านตนเองเสือกไม่ทำอะไร,มันแสดงถึงการไม่รักบ้านตนเองรักคนในบ้านตนเองรักประเทศชาติตนเองเลย,รักดินแดนตนเองอาณาเขตและพื้นที่ตนเอง ปล่อยให้ต่างชาติมาอยู่อาศัยแทนคนไทยเต็มบ้านเต็มเมือง ปล่อยให้ครไทยตนยากจนลงเพื่อให้ต่างชาติหอบตังมาเหยียบหยามคนไทยได้,ทรัมป์เอาอเมริกาต้องมาก่อนระดับมหาอำนาจมันยังกล้านำทำเลย,ไทยเราทำตามจะเป็นอะไร,ยิ่งโมเดลนี้ทดลองใช้ในกรณีเขมรปฐมบทเลย,ห้ามคนเขมรเข้าประเทศไทยจนกว่ากรณีพิพาทนี้จะยุติได้,ผลักดันไล่ล่าคนเขมรในไทยจับกุมส่งกลับทั้งหมดหรือส่งไปประเทศโลกที่สามหากไม่ชอบการทารุนกรรมภายในประเทศเขมรเองเพื่อสิทธิมนุษยชาติด้วยคนเขมรไม่ชอบการปกครองของรัฐบาลฮุนเชนนอมินีก็มากในไทยแต่เงื่อนไขห้ามมีที่ยืนคนเขมรในประเทศไทยทั้งหมด,ทรัมป์ยังแบนได้และสถานะการณ์นี้เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามความมั่นคงทางอธิปไตยจริงของประเทศไทยเราด้วย,เพราะมีรัฐบาลกากอดีตก็ส่งนายกฯไม่ซื่อสัตย์นำรัฐบาลผิดพลาดไปแล้ว,ความชอบธรรมจริงๆด้วยจิตสำนึกปกติมันสมควรเลือกตั้งการใหม่ทันทีแล้วเพราะคณะบัดสบการทางปัญญาสมองก็ด้วยไปเขียนกฎหมายการเลือกที่ไม่ให้ประชาชนเลือกนายกฯทางตรงได้,นัยยะแสดง!!อยากสืบทอดอำนาจต่อสมัยรัฐบาลยึดอำนาจจึงเขียนกติกาเลือกตั้งผีบ้าผีบอออกมา,ไม่รวมพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ใส่พานให้เอกชนเหยียบชาวเกษตรไทยทั้งประเทศถูกเอกชนผูกขาดเมล็ดพันธุ์ด้วย จนได้ชื่อว่าพรบ.500 โจร500สมัยคนยึดอำนาจนั้นล่าสุด,หรือต่ออายุสัมปทานบ่อน้ำมันให้ต่างชาติโดยไร้สมองไร้สติปัญญาสมควรทำเองไปเลย,มิหนำซ้ำเสือกแจกสัมปทาน2แปลงขนาดพื้นที่ใหญ่โตบนอ่าวไทยให้ต่างชาติด้วยทำไมไม่เก็บไว้ทำเองขายถูกๆถ่วงดุลราคาน้ำมันไม่แพงช่วยประชาชนคนไทย,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว ผู้ปกครองชั่วเลวนำการปกครองตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมาโดยตลอด,คนไทยจึงยากจนดักดานผ่านวิถีการออกกฎหมายและกฎหมายนั้นมากมานปัญญาอ่อนดูดตังในกระเป๋าชาวบ้านเกือบทุกๆครั้งเมื่อมีช่องจะดูดโดยอ้างความปลอดภัยประชาชนบังหน้า.ประโยชน์ประชาชนพะนะแบบ1มิย.68ไม่สวมหมวกกันน็อคปรับชาวบ้านตาดำ2,000บาทนั้นล่ะ,เสือกไม่เขียนกฎหมายว่าอนาคตบ่อน้ำมันที่หมดอายุสัมปทานรัฐบาลจะผลิตเอว,หรือบ่อน้ำมันที่สัมปทานทั้งหมดถือว่าไม่ชอบธรรมด้วยคือความมั่นคงทางอธิปไตยของชาติไทยแต่ข้าราชการชั่วไม่ซื่อสัตย์ทรยศแผ่นดินไทยจึงไม่เสนอเข้าสภาสส.สว.ถือว่าเป็นการกระทำโดยมิชอบขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญของอธิปไตยชาติอย่างร้ายแรงจึงประกาศโมฆะสัมปทานปิโตรเลียมทั้งหมดทั่วราชอาณาจักรไทยทันที พรบ.กฎหมายปิโตรเลียมทุกๆฉบับเป็นอันตกไป.,นึ้ผู้ปกครองไทยต้องเด็ดขาดจริงแบบนี้,ไม่ใช่กากๆขี้ขลาดและโง่เขลาเหมือนในอดีตที่ผ่านๆมา. ..ทรัมป์แบน20ประเทศ,ไทยเริ่มแบนกับชาติที่คุกคามอธิปไตยเราก่อนถือว่าทรัมป์ชี้นำชี้แนะทางอ้อมนะนั้นมวยแก้ก็ว่า,แต่บังเอิญรัฐบาลเราปัจจุบันสนิทสนมเขมรนัก. .. ..https://youtu.be/iMwLtPwNSmk?si=c5YzT1kqftNLCOys
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก,
    ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด.

    https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก, ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด. https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 708 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts