• แหกคอก ตอนที่ 7 – ถังความคิด
    ทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 7 : ถังความคิด
    แม้เศรษฐกิจจะอยู่ในกำมือพวกนายทุนใหญ่แล้วก็ตาม แต่พวกเขาบอกว่าแค่อยู่ในมือเรา มันไม่อยู่นาน (พวกนี้คิดรอบคอบ) เราต้องสร้างพรรคพวก ต้องทำให้สังคม โดยเฉพาะสังคมในระดับสูง เห็นคล้อยตามเราด้วย ประเภทเราว่าไงเขาต้องว่าตามกัน มันจะได้คุม (หลอก) กัน ง่ายๆ หน่อย แล้วจะทำให้พวกคนในสังคมระดับสูงเขาเห็นพ้องด้วยได้อย่างไรล่ะ คนพวกนี้ถึงแม้จะมีจำนวนไม่มาก แต่จะให้เรียกให้มาประชุมคงไม่ง่ายนักหรอก พวกเขาหยิ่งยะโสเล่นตัวกันจะตาย แต่จะให้เดินสายไปคุยด้วยทีละราย กว่าจะรู้เรื่องเห็นพ้องกันหมด พวกตูก็แก่ตายหมด ไม่ได้ครองโลกกันเสียที !
    นายทุนใหญ่ ทั้งหลายจึงสรุปว่า อย่ากระนั้นเลย พวกเราควรมอบให้ใครมันไปช่วยคิดช่วยทำให้เราดีกว่านะ รวยแล้ว อย่าต้องลงมือลงแรงเองหมด ใช้ให้ผีมันโม่แป้งแทนก็แล้วกัน แล้วพวกเขาก็ตั้งสถาบันประเภทนักคิด (think tank มาแล้ว) เพื่อให้มีหน้าที่จัดการคิด การชี้นำสังคม วิธีล้อมคอกพวกคนรวย (อื่นๆ) คนในสังคมชั้นสูงจากทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการ สื่อ และแม้แต่พวกคุณทหาร เข้ามารับความเข้าใจ และควบคุมความคิดของบุคคลเหล่า นั้น ให้เป็นไปในทิศทางเดียว กับที่นายทุนใหญ่ต้องการ เข้าใจไหม มันเป็นการย้อมความคิด โดยคนถูกย้อมไม่รู้ตัว ว่ากำลังถูกย้อมสมอง ย้อมความคิด เป็นไปไม่ได้น่ะ ไม่มีทางหรอก ไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะทำอะไรแบบ นั้น พวกโลกสวยคงกำลังคิดในใจ ฮา มันเป็นวิธีที่เฉียบมาก จูงจมูกคนรวย หรือคนมีอำนาจ หรือนักวิชาการด้วยกัน นี่ถือว่าสุดยอดจริงๆ หรือว่ามันก็ไม่ยากเกิน คนรวย คนมีอำนาจ นักวิชาการ ใช่ว่าจะฉลาดเสมอไป ฮา อีกหน
    ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 กลุ่มนักวิชาการชาวอเมริกัน ได้รับมอบหมายให้วาดภาพสถานการณ์ ให้ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ฟังเกี่ยวกับทางเลือกต่างๆ ของอเมริกา ในกรณีที่สงครามโลกจบและ Kaiser และจักรวรรดิเยอรมันหล่นจากบัลลังก์ นักวิชาการกลุ่มนี้เรียกว่ากลุ่ม The Inquiry เวลาวาดภาพให้ประธานาธิบดีฟัง เขามีวิธี เขาใช้วิธีเล่าผ่านคนสนิทที่ประธานาธิบดีเชื่อใจอย่างมาก (จำวิธีนี้กันไว้นะครับ เขาใช้กันทั้งนั้น ปากก็บอกผมไม่เคยเจรจา ไม่เคยพูด แต่ให้คนสนิทเป็นคนพูด ไม่ได้โกหกนี่หว่า !) นายคนสนิท ชื่อ พันเอก Edward M. House นี้สำคัญมาก เป็นผู้เดินสาส์นลับของประธานาธิบดี กับฝ่ายยุโรป ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ปี ค.ศ.1914 จนถึงช่วงที่อเมริกาเข้าไปมีส่วนด้วยในช่วง ค.ศ.1917 ปากก็บอกว่าฉันสันโดษ Isolist แต่ส่งคนเดินสาส์น จนซ่นร้องเท้าสึกไปหลายคู่ นักการเมืองก็เป็นยังงี้ทั้งนั้น และไม่ว่าพันธุ์เทศ พันธุ์ไทย ปากก็พูดไปอย่าง แล้วก็ไปทำอีก 3 อย่าง คนละเรื่องกัน ท่านนายพันเอก House นี้ เป็นคนสำคัญในการผลักและดันให้ประธานาธิบดี Wilson เห็นชอบในการที่อเมริกาจัดตั้งระบบ Federal Reserve (ตกลงคุณ House นี้ เป็นพวกใครกันแน่ !)
    กลุ่ม The Enquiry นี้เอง เป็นผู้ปูทางการสร้าง the Council on Foreign Relations (CFR) CFR เป็น think tank ถังความคิด ที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในอเมริกาตั้งแต่เริ่มตั้งจนถึงปัจจุบัน
    เดือนพฤษภาคม ค.ศ.1919 กลุ่มนักวิชาการและนักการฑูตจากอังกฤษและอเมริกา รวมทั้งกลุ่ม The Inquiry นั่งสุมหัววางแผนกันที่โรงแรม the Majestic ในปารีส เพื่อที่จะร่วมกันตั้งสถาบันเกี่ยวกับกิจการระหว่างประเทศ โดยมีสาขาหนึ่งที่ London และอีกสาขาหนึ่งที่ New York เมื่อบรรดาพวกไปสุมหัวกลับมาถึง New York ก็รายงานผลการคุย ให้กับนักการเงินและนักกฏหมายที่ New York (นายทุนตัวจริง !) ฟัง ทุกคนไชโยโห่ตบมือเป่าปากกับข้อสรุปที่ตกลงกันมา แน่นอนคนที่ดีใจที่สุดคงไม่ใครเกิน นาย Cecil Rhodes นักล่ารุ่นเก๋า ที่แค่ซ่อนเขี้ยวของตัวเองให้มิดชิด นักล่ารุ่นกะเตาะ ก็นึกว่านักล่ารุ่นเก๋าเขี้ยวหลุดหมดปากไปแล้ว แหม ! หลอกง่ายจัง นึกว่าเด็กรุ่นใหม่ ฉลาดกว่ารุ่นโบราณ ! แต่ในที่สุดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน มันคงแปร่งหูเกินกว่าคนอังกฤษจะทนฟังได้ สถาบันนักชักใย CFR เลยเปลี่ยนแผนแยกตัวเป็น 2 แขนง แต่มาจากตอเดียวกัน ต่างคนต่างไปตั้งกลุ่มของพวกตัวเอง อังกฤษกลุ่มหนึ่ง อเมริกากลุ่มหนึ่ง แต่ยังจับมือกอดแขนจิกหัวกันไว้ ยังไงก็ต้องร่วมมือใกล้ชิด ก็คิดจะครองโลกด้วยกัน
    The Milner Group ของก๊วนนาย Cecil Rhodes รับบทเป็นตัวตั้งตัวตีในการตั้ง Royal Institute of International Affairs (Chatham House) ถังความคิด think tank สัญชาติอังกฤษ ในปี ค.ศ.1919 ส่วนกลุ่ม The Inquiry ก็รับมอบหน้าที่ไปตั้ง Council of Foreign Relations think tank สัญชาติอเมริกัน ในปี ค.ศ.1921
    นอกจากนี้ ยังมีองค์กรลับที่มีแนวคิดเดียวกับ Milner Group ทยอยเกิดขึ้นอีกในหลายๆ ประเทศ เขาเรียกกลุ่มพวกนี้ว่าพวกโต๊ะ กลม เอามาจากอัศวินโต๊ะกลม Knights of the Round Table สมัย King Arthur ของอังกฤษนั่นแหละ Round Table Groups ในบรรดาพวกโต๊ะกลม โต๊ะใหญ่ในกลุ่มนี้ก็คือ Royal Institute of International Affairs (Chatham House) ที่ลดหลั่นลงมาก็มี โต๊ะกลม Canada, Australia, New Zealand, South Africa และ India จักรภพอังกฤษถึงล่มก็ยังไม่สลาย ดึงเอาลูกกะเป๋งเก่า ตามมาเข้าขบวนตั้งโต๊ะกลมด้วย กลุ่มโต๊ะกลมนี้ ก็คือ กลุ่มถังความคิด (think tank) นานาชาติรุ่นแรก ซึ่งยังดำเนินการอย่างแข็งขัน และมีอิทธิพลในแต่ละประเทศของตัว จนถึงทุกวันนี้ ในฐานะเป็นรุ่นใหญ่มีชื่อเสียงอยู่ในอันดับต้นมาตลอด รักษาตำแหน่งไว้ไม่เคยปล่อยให้ตกอันดับ
    ส่วนถังความคิดรุ่นใหญ่ในอเมริกา ที่ได้รับความนิยมตาม CFR มาติดๆ ก็มี Brookings Institution, Carnegie Endowment for International Peace, RAND Corporation, Heritage Foundation, Woodrow Wilson International Centre for Scholars, the Centre for Strategic and International Studies และ American Enterprise Institute (นักอ่านนิทานท่านใด ที่อยากรู้วิธีคิด หรืออยากรู้ว่านักล่ากำลังคิดทำอะไรอยู่ อยากติดตามด้วยตัวเองก็ค้นได้จากอากู กดชื่อตัวถัง พวกนี้แหละครับ มีเรื่องให้อ่านเพียบเลย)
    สำหรับถังความคิดที่ไม่ได้สังกัดกับอเมริกา ก็จะมี Chatham House เป็นถังหมายเลขหนึ่งของอังกฤษ เป็นที่นับหน้าถือตา มีอิทธิพล ทำนองเดียวกับ CFR, the International Institute for Strategic Studies in the UK, the German Council on Foreign Relation, the Adam Smith Institute in the UK, the Fraser Institute ใน Canada, the European Council on Foreign Relations, the International Crisis Group in Belgium และ Canadian Institute of International Affairs
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 7 – ถังความคิด ทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 7 : ถังความคิด แม้เศรษฐกิจจะอยู่ในกำมือพวกนายทุนใหญ่แล้วก็ตาม แต่พวกเขาบอกว่าแค่อยู่ในมือเรา มันไม่อยู่นาน (พวกนี้คิดรอบคอบ) เราต้องสร้างพรรคพวก ต้องทำให้สังคม โดยเฉพาะสังคมในระดับสูง เห็นคล้อยตามเราด้วย ประเภทเราว่าไงเขาต้องว่าตามกัน มันจะได้คุม (หลอก) กัน ง่ายๆ หน่อย แล้วจะทำให้พวกคนในสังคมระดับสูงเขาเห็นพ้องด้วยได้อย่างไรล่ะ คนพวกนี้ถึงแม้จะมีจำนวนไม่มาก แต่จะให้เรียกให้มาประชุมคงไม่ง่ายนักหรอก พวกเขาหยิ่งยะโสเล่นตัวกันจะตาย แต่จะให้เดินสายไปคุยด้วยทีละราย กว่าจะรู้เรื่องเห็นพ้องกันหมด พวกตูก็แก่ตายหมด ไม่ได้ครองโลกกันเสียที ! นายทุนใหญ่ ทั้งหลายจึงสรุปว่า อย่ากระนั้นเลย พวกเราควรมอบให้ใครมันไปช่วยคิดช่วยทำให้เราดีกว่านะ รวยแล้ว อย่าต้องลงมือลงแรงเองหมด ใช้ให้ผีมันโม่แป้งแทนก็แล้วกัน แล้วพวกเขาก็ตั้งสถาบันประเภทนักคิด (think tank มาแล้ว) เพื่อให้มีหน้าที่จัดการคิด การชี้นำสังคม วิธีล้อมคอกพวกคนรวย (อื่นๆ) คนในสังคมชั้นสูงจากทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการ สื่อ และแม้แต่พวกคุณทหาร เข้ามารับความเข้าใจ และควบคุมความคิดของบุคคลเหล่า นั้น ให้เป็นไปในทิศทางเดียว กับที่นายทุนใหญ่ต้องการ เข้าใจไหม มันเป็นการย้อมความคิด โดยคนถูกย้อมไม่รู้ตัว ว่ากำลังถูกย้อมสมอง ย้อมความคิด เป็นไปไม่ได้น่ะ ไม่มีทางหรอก ไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะทำอะไรแบบ นั้น พวกโลกสวยคงกำลังคิดในใจ ฮา มันเป็นวิธีที่เฉียบมาก จูงจมูกคนรวย หรือคนมีอำนาจ หรือนักวิชาการด้วยกัน นี่ถือว่าสุดยอดจริงๆ หรือว่ามันก็ไม่ยากเกิน คนรวย คนมีอำนาจ นักวิชาการ ใช่ว่าจะฉลาดเสมอไป ฮา อีกหน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 กลุ่มนักวิชาการชาวอเมริกัน ได้รับมอบหมายให้วาดภาพสถานการณ์ ให้ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ฟังเกี่ยวกับทางเลือกต่างๆ ของอเมริกา ในกรณีที่สงครามโลกจบและ Kaiser และจักรวรรดิเยอรมันหล่นจากบัลลังก์ นักวิชาการกลุ่มนี้เรียกว่ากลุ่ม The Inquiry เวลาวาดภาพให้ประธานาธิบดีฟัง เขามีวิธี เขาใช้วิธีเล่าผ่านคนสนิทที่ประธานาธิบดีเชื่อใจอย่างมาก (จำวิธีนี้กันไว้นะครับ เขาใช้กันทั้งนั้น ปากก็บอกผมไม่เคยเจรจา ไม่เคยพูด แต่ให้คนสนิทเป็นคนพูด ไม่ได้โกหกนี่หว่า !) นายคนสนิท ชื่อ พันเอก Edward M. House นี้สำคัญมาก เป็นผู้เดินสาส์นลับของประธานาธิบดี กับฝ่ายยุโรป ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ปี ค.ศ.1914 จนถึงช่วงที่อเมริกาเข้าไปมีส่วนด้วยในช่วง ค.ศ.1917 ปากก็บอกว่าฉันสันโดษ Isolist แต่ส่งคนเดินสาส์น จนซ่นร้องเท้าสึกไปหลายคู่ นักการเมืองก็เป็นยังงี้ทั้งนั้น และไม่ว่าพันธุ์เทศ พันธุ์ไทย ปากก็พูดไปอย่าง แล้วก็ไปทำอีก 3 อย่าง คนละเรื่องกัน ท่านนายพันเอก House นี้ เป็นคนสำคัญในการผลักและดันให้ประธานาธิบดี Wilson เห็นชอบในการที่อเมริกาจัดตั้งระบบ Federal Reserve (ตกลงคุณ House นี้ เป็นพวกใครกันแน่ !) กลุ่ม The Enquiry นี้เอง เป็นผู้ปูทางการสร้าง the Council on Foreign Relations (CFR) CFR เป็น think tank ถังความคิด ที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในอเมริกาตั้งแต่เริ่มตั้งจนถึงปัจจุบัน เดือนพฤษภาคม ค.ศ.1919 กลุ่มนักวิชาการและนักการฑูตจากอังกฤษและอเมริกา รวมทั้งกลุ่ม The Inquiry นั่งสุมหัววางแผนกันที่โรงแรม the Majestic ในปารีส เพื่อที่จะร่วมกันตั้งสถาบันเกี่ยวกับกิจการระหว่างประเทศ โดยมีสาขาหนึ่งที่ London และอีกสาขาหนึ่งที่ New York เมื่อบรรดาพวกไปสุมหัวกลับมาถึง New York ก็รายงานผลการคุย ให้กับนักการเงินและนักกฏหมายที่ New York (นายทุนตัวจริง !) ฟัง ทุกคนไชโยโห่ตบมือเป่าปากกับข้อสรุปที่ตกลงกันมา แน่นอนคนที่ดีใจที่สุดคงไม่ใครเกิน นาย Cecil Rhodes นักล่ารุ่นเก๋า ที่แค่ซ่อนเขี้ยวของตัวเองให้มิดชิด นักล่ารุ่นกะเตาะ ก็นึกว่านักล่ารุ่นเก๋าเขี้ยวหลุดหมดปากไปแล้ว แหม ! หลอกง่ายจัง นึกว่าเด็กรุ่นใหม่ ฉลาดกว่ารุ่นโบราณ ! แต่ในที่สุดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน มันคงแปร่งหูเกินกว่าคนอังกฤษจะทนฟังได้ สถาบันนักชักใย CFR เลยเปลี่ยนแผนแยกตัวเป็น 2 แขนง แต่มาจากตอเดียวกัน ต่างคนต่างไปตั้งกลุ่มของพวกตัวเอง อังกฤษกลุ่มหนึ่ง อเมริกากลุ่มหนึ่ง แต่ยังจับมือกอดแขนจิกหัวกันไว้ ยังไงก็ต้องร่วมมือใกล้ชิด ก็คิดจะครองโลกด้วยกัน The Milner Group ของก๊วนนาย Cecil Rhodes รับบทเป็นตัวตั้งตัวตีในการตั้ง Royal Institute of International Affairs (Chatham House) ถังความคิด think tank สัญชาติอังกฤษ ในปี ค.ศ.1919 ส่วนกลุ่ม The Inquiry ก็รับมอบหน้าที่ไปตั้ง Council of Foreign Relations think tank สัญชาติอเมริกัน ในปี ค.ศ.1921 นอกจากนี้ ยังมีองค์กรลับที่มีแนวคิดเดียวกับ Milner Group ทยอยเกิดขึ้นอีกในหลายๆ ประเทศ เขาเรียกกลุ่มพวกนี้ว่าพวกโต๊ะ กลม เอามาจากอัศวินโต๊ะกลม Knights of the Round Table สมัย King Arthur ของอังกฤษนั่นแหละ Round Table Groups ในบรรดาพวกโต๊ะกลม โต๊ะใหญ่ในกลุ่มนี้ก็คือ Royal Institute of International Affairs (Chatham House) ที่ลดหลั่นลงมาก็มี โต๊ะกลม Canada, Australia, New Zealand, South Africa และ India จักรภพอังกฤษถึงล่มก็ยังไม่สลาย ดึงเอาลูกกะเป๋งเก่า ตามมาเข้าขบวนตั้งโต๊ะกลมด้วย กลุ่มโต๊ะกลมนี้ ก็คือ กลุ่มถังความคิด (think tank) นานาชาติรุ่นแรก ซึ่งยังดำเนินการอย่างแข็งขัน และมีอิทธิพลในแต่ละประเทศของตัว จนถึงทุกวันนี้ ในฐานะเป็นรุ่นใหญ่มีชื่อเสียงอยู่ในอันดับต้นมาตลอด รักษาตำแหน่งไว้ไม่เคยปล่อยให้ตกอันดับ ส่วนถังความคิดรุ่นใหญ่ในอเมริกา ที่ได้รับความนิยมตาม CFR มาติดๆ ก็มี Brookings Institution, Carnegie Endowment for International Peace, RAND Corporation, Heritage Foundation, Woodrow Wilson International Centre for Scholars, the Centre for Strategic and International Studies และ American Enterprise Institute (นักอ่านนิทานท่านใด ที่อยากรู้วิธีคิด หรืออยากรู้ว่านักล่ากำลังคิดทำอะไรอยู่ อยากติดตามด้วยตัวเองก็ค้นได้จากอากู กดชื่อตัวถัง พวกนี้แหละครับ มีเรื่องให้อ่านเพียบเลย) สำหรับถังความคิดที่ไม่ได้สังกัดกับอเมริกา ก็จะมี Chatham House เป็นถังหมายเลขหนึ่งของอังกฤษ เป็นที่นับหน้าถือตา มีอิทธิพล ทำนองเดียวกับ CFR, the International Institute for Strategic Studies in the UK, the German Council on Foreign Relation, the Adam Smith Institute in the UK, the Fraser Institute ใน Canada, the European Council on Foreign Relations, the International Crisis Group in Belgium และ Canadian Institute of International Affairs คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 40 Views 0 Reviews
  • ทัวร์ปีใหม่มาแล้ว!! เกาหลีใต้ โซล หิมะ Winter ❄ เริ่ม 7,999

    🗓 จำนวนวัน 4วัน 2คืน
    ✈ BX แอร์ปูซาน / LJ จินแอร์ / 7Cเจจูแอร์
    พักโรงแรม

    AURORA MEDIA SHOW
    เที่ยวกรุงโซลแบบอิสระด้วยตัวเอง

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์เกาหลี #ทัวร์โซล #korea #seoul #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    ทัวร์ปีใหม่มาแล้ว!! เกาหลีใต้ โซล หิมะ Winter ❄ เริ่ม 7,999 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 4วัน 2คืน ✈ BX แอร์ปูซาน / LJ จินแอร์ / 7Cเจจูแอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 AURORA MEDIA SHOW 📍 เที่ยวกรุงโซลแบบอิสระด้วยตัวเอง รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เกาหลี #ทัวร์โซล #korea #seoul #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 Comments 0 Shares 197 Views 0 0 Reviews
  • “Doomscrolling: The Game — เมื่อการเลื่อนหน้าจอกลายเป็นเกมที่ทั้งเสียดสีและเสพติด”

    David Friedman นักเขียนจาก Ironic Sans ได้สร้างเกมที่ไม่เหมือนใครในชื่อว่า “Doomscrolling: The Game” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากพฤติกรรมของผู้คนที่เลื่อนฟีดข่าวอย่างไม่หยุดยั้งจนรู้สึกหดหู่ หรือที่เรียกว่า doomscrolling โดยเขาตั้งคำถามว่า “ถ้า Doom เป็นเกมที่เล่นด้วยการเลื่อนหน้าจอเท่านั้น จะเป็นอย่างไร?” และคำตอบก็คือเกมนี้ — ที่คุณไม่ต้องกระโดด ไม่ต้องเคลื่อนที่ด้านข้าง แค่เลื่อนลงไปเรื่อย ๆ

    เกมนี้เริ่มต้นจากความล้มเหลว เพราะ GPT-4 ไม่สามารถเข้าใจแนวคิด “เลื่อนลง = พื้นหลังเลื่อนขึ้น” ได้เลย แต่เมื่อ GPT-5 เปิดตัว Friedman กลับมาลองใหม่ และสามารถสร้างต้นแบบเกมได้ภายใน 2 ชั่วโมง โดยใช้ vibe coding และการทดลองผ่าน “lab pages” ที่ให้เขาปรับค่าต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เช่น สีพื้นหลัง, รูปแบบใยแมงมุม, หรือดีไซน์แผ่นป้ายข่าว

    ตัวเกมมีระบบที่กระตุ้นให้ผู้เล่นเคลื่อนไหว เช่น อัปเกรดอาวุธทุก 100 ตัวที่ฆ่า, กำแพงไฟที่ไล่ตามถ้าหยุดนานเกินไป, และสิ่งกีดขวางอย่างใยแมงมุมหรือกำแพงอิฐ นอกจากนี้ยังมี “แผ่นป้ายข่าว” ที่แสดงพาดหัวข่าวจริงจาก RSS ของ New York Times เพื่อสร้างบรรยากาศ doomscrolling อย่างแท้จริง — อ่านแล้วหดหู่แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเลื่อนต่อ

    แม้ Friedman จะไม่ใช่นักพัฒนาเกมมืออาชีพ แต่เขาใช้ AI เป็นเครื่องมือในการสร้างเกมที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว และเปิดให้เล่นฟรีทั้งบนมือถือและเดสก์ท็อป โดยสามารถบันทึกเกมไว้ในหน้าจอหลักให้เหมือนแอปจริงได้

    จุดเด่นของ Doomscrolling: The Game
    เล่นด้วยการเลื่อนหน้าจอเท่านั้น — ไม่มีการเคลื่อนที่ด้านข้างหรือกระโดด
    ได้แรงบันดาลใจจากเกม Doom และพฤติกรรม doomscrolling
    ใช้ GPT-5 ในการสร้างต้นแบบเกมภายในเวลาอันสั้น
    ใช้ vibe coding และ lab pages เพื่อปรับแต่งองค์ประกอบเกม

    ระบบเกมที่กระตุ้นให้เคลื่อนไหว
    อัปเกรดอาวุธทุก 100 ตัวที่ฆ่า
    กำแพงไฟไล่ตามถ้าหยุดนานเกินไป
    มีสิ่งกีดขวาง เช่น ใยแมงมุมและกำแพงอิฐ
    มี health potion และระบบบันทึกระยะทางที่ทำได้

    การผสานข่าวจริงเข้ากับเกม
    ใช้ RSS feed จาก New York Times แสดงพาดหัวข่าวบนแผ่นป้าย
    ข่าวไม่มีผลต่อเกม แต่สร้างบรรยากาศ doomscrolling อย่างแท้จริง
    ผู้เล่นอาจถูกดึงดูดให้หยุดอ่านข่าวระหว่างเล่น
    เป็นการเสียดสีพฤติกรรมเสพข่าวที่ไม่มีวันจบ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เกมนี้เป็นตัวอย่างของ “vibe-coded” project ที่ใช้ AI อย่างสร้างสรรค์
    Friedman ใช้ lab pages เพื่อปรับค่ากราฟิก เช่น ใยแมงมุมและแผ่นป้าย
    เกมสามารถเล่นได้ทั้งบนมือถือและเดสก์ท็อปอย่างลื่นไหล
    มีผู้เล่นบางรายรายงานปัญหาเรื่องการเลื่อนหน้าจอบนบางเบราว์เซอร์

    https://ironicsans.ghost.io/doomscrolling-the-game/
    🕹️ “Doomscrolling: The Game — เมื่อการเลื่อนหน้าจอกลายเป็นเกมที่ทั้งเสียดสีและเสพติด” David Friedman นักเขียนจาก Ironic Sans ได้สร้างเกมที่ไม่เหมือนใครในชื่อว่า “Doomscrolling: The Game” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากพฤติกรรมของผู้คนที่เลื่อนฟีดข่าวอย่างไม่หยุดยั้งจนรู้สึกหดหู่ หรือที่เรียกว่า doomscrolling โดยเขาตั้งคำถามว่า “ถ้า Doom เป็นเกมที่เล่นด้วยการเลื่อนหน้าจอเท่านั้น จะเป็นอย่างไร?” และคำตอบก็คือเกมนี้ — ที่คุณไม่ต้องกระโดด ไม่ต้องเคลื่อนที่ด้านข้าง แค่เลื่อนลงไปเรื่อย ๆ เกมนี้เริ่มต้นจากความล้มเหลว เพราะ GPT-4 ไม่สามารถเข้าใจแนวคิด “เลื่อนลง = พื้นหลังเลื่อนขึ้น” ได้เลย แต่เมื่อ GPT-5 เปิดตัว Friedman กลับมาลองใหม่ และสามารถสร้างต้นแบบเกมได้ภายใน 2 ชั่วโมง โดยใช้ vibe coding และการทดลองผ่าน “lab pages” ที่ให้เขาปรับค่าต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เช่น สีพื้นหลัง, รูปแบบใยแมงมุม, หรือดีไซน์แผ่นป้ายข่าว ตัวเกมมีระบบที่กระตุ้นให้ผู้เล่นเคลื่อนไหว เช่น อัปเกรดอาวุธทุก 100 ตัวที่ฆ่า, กำแพงไฟที่ไล่ตามถ้าหยุดนานเกินไป, และสิ่งกีดขวางอย่างใยแมงมุมหรือกำแพงอิฐ นอกจากนี้ยังมี “แผ่นป้ายข่าว” ที่แสดงพาดหัวข่าวจริงจาก RSS ของ New York Times เพื่อสร้างบรรยากาศ doomscrolling อย่างแท้จริง — อ่านแล้วหดหู่แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเลื่อนต่อ แม้ Friedman จะไม่ใช่นักพัฒนาเกมมืออาชีพ แต่เขาใช้ AI เป็นเครื่องมือในการสร้างเกมที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว และเปิดให้เล่นฟรีทั้งบนมือถือและเดสก์ท็อป โดยสามารถบันทึกเกมไว้ในหน้าจอหลักให้เหมือนแอปจริงได้ ✅ จุดเด่นของ Doomscrolling: The Game ➡️ เล่นด้วยการเลื่อนหน้าจอเท่านั้น — ไม่มีการเคลื่อนที่ด้านข้างหรือกระโดด ➡️ ได้แรงบันดาลใจจากเกม Doom และพฤติกรรม doomscrolling ➡️ ใช้ GPT-5 ในการสร้างต้นแบบเกมภายในเวลาอันสั้น ➡️ ใช้ vibe coding และ lab pages เพื่อปรับแต่งองค์ประกอบเกม ✅ ระบบเกมที่กระตุ้นให้เคลื่อนไหว ➡️ อัปเกรดอาวุธทุก 100 ตัวที่ฆ่า ➡️ กำแพงไฟไล่ตามถ้าหยุดนานเกินไป ➡️ มีสิ่งกีดขวาง เช่น ใยแมงมุมและกำแพงอิฐ ➡️ มี health potion และระบบบันทึกระยะทางที่ทำได้ ✅ การผสานข่าวจริงเข้ากับเกม ➡️ ใช้ RSS feed จาก New York Times แสดงพาดหัวข่าวบนแผ่นป้าย ➡️ ข่าวไม่มีผลต่อเกม แต่สร้างบรรยากาศ doomscrolling อย่างแท้จริง ➡️ ผู้เล่นอาจถูกดึงดูดให้หยุดอ่านข่าวระหว่างเล่น ➡️ เป็นการเสียดสีพฤติกรรมเสพข่าวที่ไม่มีวันจบ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เกมนี้เป็นตัวอย่างของ “vibe-coded” project ที่ใช้ AI อย่างสร้างสรรค์ ➡️ Friedman ใช้ lab pages เพื่อปรับค่ากราฟิก เช่น ใยแมงมุมและแผ่นป้าย ➡️ เกมสามารถเล่นได้ทั้งบนมือถือและเดสก์ท็อปอย่างลื่นไหล ➡️ มีผู้เล่นบางรายรายงานปัญหาเรื่องการเลื่อนหน้าจอบนบางเบราว์เซอร์ https://ironicsans.ghost.io/doomscrolling-the-game/
    IRONICSANS.GHOST.IO
    Doomscrolling: The Game
    Can a game work where all you do is scroll?
    0 Comments 0 Shares 104 Views 0 Reviews

  • เช็กชื่อโผ ครม. ‘อนุทิน 1’ ส่งครบแล้ว ลุ้นตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน
    วันที่ 8 กันยายน 2568 - 17:04 น.


    โผ ครม. ‘อนุทิน 1’ ส่งรายชื่อครบแล้ว ‘บวรศักดิ์’ นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ด้าน ‘จตุพร – ไผ่ ลิกค์’ หลุดโผ ศุภจี CEO ดุสิตธานี ขึ้นเป็น รมว.พาณิชย์ รอลุ้นตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน หากสะดุดต้องหลีกทางทันที

    ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้า การจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุทิน 1 ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (8 ก.ย.) ได้รับการตอบรับจาก นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีชื่อมานั่งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมีรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมาคุยกันลงตัวแล้ว โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับนายบวรศักดิ์ ด้วยตัวเอง

    โดยครั้งนี้มีการใช้ รัฐมนตรีคนนอกถึง 6 กระทรวง คือ

    -นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

    -นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

    -นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

    -นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

    -พล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

    -นางศุภจี สุธรรมพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

    -กระทรวงกลาโหม

    ทั้งหมดเพื่อเสริมการทำงานของ ครม. และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันให้คลี่คลายอย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในส่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีชื่อของ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ แต่ล่าสุดไม่ปรากฎชื่อแล้ว

    ส่วนโควตารัฐมนตรีคนนอก ขณะนี้ยังไม่สะเด็ดน้ำ ยกตัวอย่างกระทรวงกลาโหม ที่มีชื่อของ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เพราะแหล่งข่าวยืนยันว่า ยังไม่สะเด็ดน้ำ และขณะนี้ยังมีชื่ออื่นส่งประกวดเพิ่มเติม

    ทั้งนี้ รัฐมนตรีในสัดส่วนพรรคภูมิใจไทย ขณะนี้ยังเป็นชื่อรัฐมนตรีเก่าทั้งหมด เพิ่มขึ้นมาใหม่ คือ นายไชยชนก ชิดชอบ และนายภราดร ปริศนานันทกุล แต่ยังไม่ระบุว่าจะได้นั่งกระทรวงใด



    ด้าน พรรคกล้าธรรม ยืนยันรายชื่อตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ คือ

    -ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

    -นายอรรถกร ศิริลัทธยากร นั่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา

    -นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

    -นายอัครา พรหมเผ่า นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

    -นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

    -นายองอาจ วงษ์ประยูร นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

    และล่าสุดมีชื่อของนายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ พรรคกล้าธรรม จะมานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นชื่อของ นายไผ่ ลิกค์ เนื่องจากติดเงื่อนไขทางรัฐธรรมนูญ แต่ก็ถือเป็นโควตาภาคเหนือ

    ส่วน พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง 2 ตำแหน่ง และรัฐมนตรีช่วยว่าการอีก 2 ตำแหน่ง ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า

    -นายสันติ พร้อมพัฒน์ นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

    -น.ส.ตรีนุช เทียนทอง จะได้นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

    -นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

    -พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม



    ด้าน พรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้ 3 เก้าอี้ คือ

    -นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

    -นายธนกร วังบุญคงชนะ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

    -จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

    นอกจากนี้ ปรากฏชื่อของ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ที่เข้ามายื่นตรวจสอบประวัติด้วย แต่ยังไม่มีการระบุกระทรวง ส่วน น.ส.นิธิยา บุญญามณี บุตรสาวของ นายนิพนธ์ บุญญามณี มีชื่อนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

    ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า นายนริศ ขำนุรักษ์ จะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งนั้น ล่าสุดมีความชัดเจนแล้วว่าไม่มีชื่อติดในโผ ครม.ครั้งนี้

    ขณะเดียวกัน วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ให้กลุ่มพรรคการเมือง ส่งรายชื่อตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติ ว่ามีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดย สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อ จะใช้เวลา 7-10 วันในการตรวจสอบ

    โดยมีรายงานว่า สำหรับรายชื่อบุคคลที่สุ่มเสี่ยง หากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพบว่า มีปัญหา ต้องยอมรับเงื่อนไข ที่ไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีได้


    https://www.prachachat.net/politics/news-1879997


    เช็กชื่อโผ ครม. ‘อนุทิน 1’ ส่งครบแล้ว ลุ้นตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน วันที่ 8 กันยายน 2568 - 17:04 น. โผ ครม. ‘อนุทิน 1’ ส่งรายชื่อครบแล้ว ‘บวรศักดิ์’ นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ด้าน ‘จตุพร – ไผ่ ลิกค์’ หลุดโผ ศุภจี CEO ดุสิตธานี ขึ้นเป็น รมว.พาณิชย์ รอลุ้นตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน หากสะดุดต้องหลีกทางทันที ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้า การจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุทิน 1 ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (8 ก.ย.) ได้รับการตอบรับจาก นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีชื่อมานั่งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมีรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมาคุยกันลงตัวแล้ว โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับนายบวรศักดิ์ ด้วยตัวเอง โดยครั้งนี้มีการใช้ รัฐมนตรีคนนอกถึง 6 กระทรวง คือ -นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง -นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง -นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน -นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ -พล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม -นางศุภจี สุธรรมพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ -กระทรวงกลาโหม ทั้งหมดเพื่อเสริมการทำงานของ ครม. และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันให้คลี่คลายอย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในส่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีชื่อของ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ แต่ล่าสุดไม่ปรากฎชื่อแล้ว ส่วนโควตารัฐมนตรีคนนอก ขณะนี้ยังไม่สะเด็ดน้ำ ยกตัวอย่างกระทรวงกลาโหม ที่มีชื่อของ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เพราะแหล่งข่าวยืนยันว่า ยังไม่สะเด็ดน้ำ และขณะนี้ยังมีชื่ออื่นส่งประกวดเพิ่มเติม ทั้งนี้ รัฐมนตรีในสัดส่วนพรรคภูมิใจไทย ขณะนี้ยังเป็นชื่อรัฐมนตรีเก่าทั้งหมด เพิ่มขึ้นมาใหม่ คือ นายไชยชนก ชิดชอบ และนายภราดร ปริศนานันทกุล แต่ยังไม่ระบุว่าจะได้นั่งกระทรวงใด ด้าน พรรคกล้าธรรม ยืนยันรายชื่อตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ คือ -ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ -นายอรรถกร ศิริลัทธยากร นั่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา -นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ -นายอัครา พรหมเผ่า นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ -นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ -นายองอาจ วงษ์ประยูร นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และล่าสุดมีชื่อของนายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ พรรคกล้าธรรม จะมานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นชื่อของ นายไผ่ ลิกค์ เนื่องจากติดเงื่อนไขทางรัฐธรรมนูญ แต่ก็ถือเป็นโควตาภาคเหนือ ส่วน พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง 2 ตำแหน่ง และรัฐมนตรีช่วยว่าการอีก 2 ตำแหน่ง ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า -นายสันติ พร้อมพัฒน์ นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข -น.ส.ตรีนุช เทียนทอง จะได้นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน -นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข -พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ด้าน พรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้ 3 เก้าอี้ คือ -นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม -นายธนกร วังบุญคงชนะ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม -จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ปรากฏชื่อของ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ที่เข้ามายื่นตรวจสอบประวัติด้วย แต่ยังไม่มีการระบุกระทรวง ส่วน น.ส.นิธิยา บุญญามณี บุตรสาวของ นายนิพนธ์ บุญญามณี มีชื่อนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า นายนริศ ขำนุรักษ์ จะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งนั้น ล่าสุดมีความชัดเจนแล้วว่าไม่มีชื่อติดในโผ ครม.ครั้งนี้ ขณะเดียวกัน วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ให้กลุ่มพรรคการเมือง ส่งรายชื่อตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติ ว่ามีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดย สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อ จะใช้เวลา 7-10 วันในการตรวจสอบ โดยมีรายงานว่า สำหรับรายชื่อบุคคลที่สุ่มเสี่ยง หากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพบว่า มีปัญหา ต้องยอมรับเงื่อนไข ที่ไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีได้ https://www.prachachat.net/politics/news-1879997
    0 Comments 0 Shares 203 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก Shark Tank ถึง ChatGPT: เมื่อการไม่เรียนรู้ AI กลายเป็นการเดินออกจากอนาคตด้วยตัวเอง

    Emma Grede ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Skims และนักลงทุนใน Shark Tank เคยใช้ AI แบบเบา ๆ แค่แทน Google Search ด้วย ChatGPT จนกระทั่งเธอเชิญ Mark Cuban มาคุยในพอดแคสต์ของเธอ และได้คำตอบสั้น ๆ แต่แรงมากจากเขาเมื่อถามว่า “ถ้าไม่อยากใช้ AI จะเป็นยังไง?” คำตอบของ Cuban คือ “You’re (expletive)” หรือแปลตรง ๆ ว่า “คุณจบแล้ว”

    Cuban เปรียบเทียบสถานการณ์ตอนนี้กับยุคที่คนปฏิเสธการใช้ PC, อินเทอร์เน็ต หรือ Wi-Fi แล้วธุรกิจเหล่านั้นก็ตายไปจริง ๆ เขาย้ำว่า “การเริ่มต้นธุรกิจวันนี้ไม่มีทางแยกจากการใช้ AI ได้อีกแล้ว” และแนะนำให้ทุกคน “ใช้เวลาเยอะมาก ๆ กับการเรียนรู้วิธีถาม AI ให้ถูก”

    หลังจากบทสนทนานั้น Grede เปลี่ยนพฤติกรรมทันที เธอเริ่มค้นหาคอร์สเรียน AI ดาวน์โหลดแอปใหม่ และบอกว่า “เขาเตะฉันให้ลุกขึ้นมาเรียน” ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ฟังหลายคนเริ่มต้นตาม

    Harvard ก็ออกมาสนับสนุนแนวคิดนี้ โดยระบุว่า “อัตราการใช้งาน AI สูงกว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตและ PC ในช่วงเริ่มต้น” และเสริมว่า “คนที่เข้าใจและใช้ AI ได้ก่อน จะได้ผลตอบแทนมหาศาลในอนาคต”

    แม้จะมีคำเตือนว่า AI อาจเข้าสู่ช่วง “ความผิดหวัง” หรือเกิดฟองสบู่ แต่ข้อมูลเชิงสถิติก็ชี้ว่า AI กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีฐานรากของทุกอุตสาหกรรม และการไม่เรียนรู้มันคือการเดินออกจากโอกาสโดยไม่รู้ตัว

    คำแนะนำจาก Mark Cuban
    “The first thing you have to do is learn AI”
    ต้องใช้เวลาเยอะมากในการเรียนรู้วิธีถาม AI ให้ถูก
    เปรียบเทียบกับยุคที่คนปฏิเสธการใช้ PC และอินเทอร์เน็ต

    การเปลี่ยนแปลงของ Emma Grede
    เคยใช้ AI แค่แทน Google Search
    หลังคุยกับ Cuban เริ่มค้นหาคอร์สและดาวน์โหลดแอปทันที
    บอกว่า “เขาเตะฉันให้ลุกขึ้นมาเรียน”

    ข้อมูลจาก Harvard
    อัตราการใช้งาน AI สูงกว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตในยุคเริ่มต้น
    คนที่เข้าใจและใช้ AI ได้ก่อนจะได้ผลตอบแทนมหาศาล
    เปรียบเทียบว่า AI จะกลายเป็นเทคโนโลยีฐานรากเหมือน PC

    วิธีเริ่มต้นเรียนรู้ AI
    ทดลองใช้เครื่องมืออย่าง ChatGPT, Gemini, Claude, Perplexity
    ฝึกการตั้งคำถามและการ prompt ให้มีประสิทธิภาพ
    ใช้ AI เป็นเหมือน “ทีมที่ปรึกษา” ในการทำงาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/06/billionaire-entrepreneur-has-some-words-for-people-who-dont-want-to-learn-ai
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Shark Tank ถึง ChatGPT: เมื่อการไม่เรียนรู้ AI กลายเป็นการเดินออกจากอนาคตด้วยตัวเอง Emma Grede ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Skims และนักลงทุนใน Shark Tank เคยใช้ AI แบบเบา ๆ แค่แทน Google Search ด้วย ChatGPT จนกระทั่งเธอเชิญ Mark Cuban มาคุยในพอดแคสต์ของเธอ และได้คำตอบสั้น ๆ แต่แรงมากจากเขาเมื่อถามว่า “ถ้าไม่อยากใช้ AI จะเป็นยังไง?” คำตอบของ Cuban คือ “You’re (expletive)” หรือแปลตรง ๆ ว่า “คุณจบแล้ว” Cuban เปรียบเทียบสถานการณ์ตอนนี้กับยุคที่คนปฏิเสธการใช้ PC, อินเทอร์เน็ต หรือ Wi-Fi แล้วธุรกิจเหล่านั้นก็ตายไปจริง ๆ เขาย้ำว่า “การเริ่มต้นธุรกิจวันนี้ไม่มีทางแยกจากการใช้ AI ได้อีกแล้ว” และแนะนำให้ทุกคน “ใช้เวลาเยอะมาก ๆ กับการเรียนรู้วิธีถาม AI ให้ถูก” หลังจากบทสนทนานั้น Grede เปลี่ยนพฤติกรรมทันที เธอเริ่มค้นหาคอร์สเรียน AI ดาวน์โหลดแอปใหม่ และบอกว่า “เขาเตะฉันให้ลุกขึ้นมาเรียน” ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ฟังหลายคนเริ่มต้นตาม Harvard ก็ออกมาสนับสนุนแนวคิดนี้ โดยระบุว่า “อัตราการใช้งาน AI สูงกว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตและ PC ในช่วงเริ่มต้น” และเสริมว่า “คนที่เข้าใจและใช้ AI ได้ก่อน จะได้ผลตอบแทนมหาศาลในอนาคต” แม้จะมีคำเตือนว่า AI อาจเข้าสู่ช่วง “ความผิดหวัง” หรือเกิดฟองสบู่ แต่ข้อมูลเชิงสถิติก็ชี้ว่า AI กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีฐานรากของทุกอุตสาหกรรม และการไม่เรียนรู้มันคือการเดินออกจากโอกาสโดยไม่รู้ตัว ✅ คำแนะนำจาก Mark Cuban ➡️ “The first thing you have to do is learn AI” ➡️ ต้องใช้เวลาเยอะมากในการเรียนรู้วิธีถาม AI ให้ถูก ➡️ เปรียบเทียบกับยุคที่คนปฏิเสธการใช้ PC และอินเทอร์เน็ต ✅ การเปลี่ยนแปลงของ Emma Grede ➡️ เคยใช้ AI แค่แทน Google Search ➡️ หลังคุยกับ Cuban เริ่มค้นหาคอร์สและดาวน์โหลดแอปทันที ➡️ บอกว่า “เขาเตะฉันให้ลุกขึ้นมาเรียน” ✅ ข้อมูลจาก Harvard ➡️ อัตราการใช้งาน AI สูงกว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตในยุคเริ่มต้น ➡️ คนที่เข้าใจและใช้ AI ได้ก่อนจะได้ผลตอบแทนมหาศาล ➡️ เปรียบเทียบว่า AI จะกลายเป็นเทคโนโลยีฐานรากเหมือน PC ✅ วิธีเริ่มต้นเรียนรู้ AI ➡️ ทดลองใช้เครื่องมืออย่าง ChatGPT, Gemini, Claude, Perplexity ➡️ ฝึกการตั้งคำถามและการ prompt ให้มีประสิทธิภาพ ➡️ ใช้ AI เป็นเหมือน “ทีมที่ปรึกษา” ในการทำงาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/06/billionaire-entrepreneur-has-some-words-for-people-who-dont-want-to-learn-ai
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Billionaire entrepreneur has some words for people who don’t want to learn AI
    Mark Cuban has a salty warning for people who are avoiding getting started on learning to use AI.
    0 Comments 0 Shares 182 Views 0 Reviews
  • “นายกฯหนู” เปิดตัว “วรภัค ธันยาวงษ์” นั่ง รมช.คลัง เผย รู้จักกันมา 30 ปี ไม่เกี่ยงเป็นคนของรัฐบาลเดิม บอก ยินดีไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ ชู เป็นหนึ่งในทีมเจรจาภาษีทรัมป์ พร้อมรับบทนักข่าวถือไมค์สัมภาษณ์ว่าที่รมต.ด้วยตัวเอง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085578

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    “นายกฯหนู” เปิดตัว “วรภัค ธันยาวงษ์” นั่ง รมช.คลัง เผย รู้จักกันมา 30 ปี ไม่เกี่ยงเป็นคนของรัฐบาลเดิม บอก ยินดีไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ ชู เป็นหนึ่งในทีมเจรจาภาษีทรัมป์ พร้อมรับบทนักข่าวถือไมค์สัมภาษณ์ว่าที่รมต.ด้วยตัวเอง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085578 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 366 Views 0 Reviews
  • ไม่อาจหยั่งรู้ไม่พูดปม "ทักษิณ" ไปดูไบ : [THE MESSAGE]

    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เผยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปรากฏข้อมูลการเดินทางไปดูไบ ขัดแย้งกับที่ระบุว่าจะไปตรวจสุขภาพที่สิงคโปร์ นายทักษิณได้ชี้แจงผ่านเพจนายทักษิณแล้ว ไม่สามารถไปรู้ข้อมูลและนำมาพูดได้ ส่วนจะเดินทางกลับประเทศไทยวันที่เท่าไหร่ ในเพจนายทักษิณพูดชัดเจนแล้วเป็นเรื่องของนายทักษิณ ตนไม่อาจไปรู้กว้างอย่างนั้นได้ ส่วนจะยืนยันได้หรือไม่ว่าในวันที่ 9 ก.ย. 2568 นายทักษิณจะเดินทางมาขึ้นศาลด้วยตัวเอง ให้ไปอ่านเพจของนายทักษิณ
    ไม่อาจหยั่งรู้ไม่พูดปม "ทักษิณ" ไปดูไบ : [THE MESSAGE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เผยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปรากฏข้อมูลการเดินทางไปดูไบ ขัดแย้งกับที่ระบุว่าจะไปตรวจสุขภาพที่สิงคโปร์ นายทักษิณได้ชี้แจงผ่านเพจนายทักษิณแล้ว ไม่สามารถไปรู้ข้อมูลและนำมาพูดได้ ส่วนจะเดินทางกลับประเทศไทยวันที่เท่าไหร่ ในเพจนายทักษิณพูดชัดเจนแล้วเป็นเรื่องของนายทักษิณ ตนไม่อาจไปรู้กว้างอย่างนั้นได้ ส่วนจะยืนยันได้หรือไม่ว่าในวันที่ 9 ก.ย. 2568 นายทักษิณจะเดินทางมาขึ้นศาลด้วยตัวเอง ให้ไปอ่านเพจของนายทักษิณ
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 413 Views 0 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก Mike Judge: เมื่อความฝันของการเขียนโค้ดด้วย AI กลายเป็นความผิดหวังที่มีหลักฐานรองรับ

    Mike Judge นักพัฒนาอาวุโสที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปี ได้ทดลองใช้งาน AI coding tools อย่างจริงจัง และเริ่มตั้งคำถามหลังอ่านงานวิจัยจาก METR (Model Evaluation & Threat Research) ซึ่งพบว่า นักพัฒนาที่ใช้ AI coding tools ใช้เวลานานขึ้นถึง 19% ในการทำงานจริง—ขัดแย้งกับความเชื่อที่ว่า AI จะช่วยให้เร็วขึ้น

    Mike เริ่มทดลองด้วยตัวเอง โดยใช้วิธีสุ่มว่าจะใช้ AI หรือไม่ในแต่ละงาน และบันทึกเวลาอย่างละเอียด ผลลัพธ์คือ ไม่มีความแตกต่างที่มีนัยสำคัญทางสถิติ และในหลายกรณี AI ทำให้เขาช้าลงถึง 21% ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของ METR

    เขาตั้งคำถามว่า ถ้า AI coding tools ทำให้คนเขียนโค้ดเร็วขึ้นจริง ทำไมเราไม่เห็น “น้ำท่วม shovelware” หรือซอฟต์แวร์จำนวนมหาศาลที่ควรจะเกิดขึ้นจาก productivity ที่เพิ่มขึ้น? เขาใช้เงินและเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลจาก SteamDB, GitHub, Statista และ Verisign แล้วพบว่า—ไม่มีการเติบโตแบบ exponential ในการปล่อยซอฟต์แวร์ใหม่เลย

    ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีต่างพากัน rebrand เป็น “AI-first” และใช้ productivity narrative เพื่อ justify การปลดพนักงานหรือกดเงินเดือน นักพัฒนาหลายคนกลับรู้สึกกดดัน สับสน และผิดหวัง เพราะไม่สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่อุตสาหกรรมโฆษณาไว้

    ผลการทดลองของ Mike Judge
    ใช้ AI coding tools แล้วช้าลงโดยเฉลี่ย 21%
    ทดลองสุ่มใช้ AI หรือไม่ในแต่ละงาน และบันทึกเวลาอย่างละเอียด
    ผลลัพธ์ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ และไม่เห็นการเพิ่ม productivity

    ข้อมูลจาก METR Study
    นักพัฒนาใช้ AI แล้วช้าลง 19% โดยเฉลี่ยในการทำงานจริง
    ขัดแย้งกับความคาดหวังที่ว่า AI จะช่วยให้เร็วขึ้น 20–25%
    ใช้การทดลองแบบสุ่มควบคุมกับนักพัฒนา open-source ที่มีประสบการณ์สูง

    การวิเคราะห์ข้อมูลการปล่อยซอฟต์แวร์
    ไม่มีการเพิ่มขึ้นของ shovelware หรือซอฟต์แวร์ใหม่จำนวนมาก
    ข้อมูลจาก SteamDB, GitHub, Statista และ Verisign แสดงกราฟที่ “แบน”
    ไม่มีสัญญาณของ indie boom หรือการปล่อยแอปแบบสายฟ้าแลบ

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและนักพัฒนา
    บริษัทใช้ narrative AI productivity เพื่อปลดพนักงานและลดเงินเดือน
    นักพัฒนารู้สึกกดดันและสับสนจากความคาดหวังที่ไม่ตรงกับความจริง
    การเรียนรู้ prompting ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ

    https://mikelovesrobots.substack.com/p/wheres-the-shovelware-why-ai-coding
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Mike Judge: เมื่อความฝันของการเขียนโค้ดด้วย AI กลายเป็นความผิดหวังที่มีหลักฐานรองรับ Mike Judge นักพัฒนาอาวุโสที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปี ได้ทดลองใช้งาน AI coding tools อย่างจริงจัง และเริ่มตั้งคำถามหลังอ่านงานวิจัยจาก METR (Model Evaluation & Threat Research) ซึ่งพบว่า นักพัฒนาที่ใช้ AI coding tools ใช้เวลานานขึ้นถึง 19% ในการทำงานจริง—ขัดแย้งกับความเชื่อที่ว่า AI จะช่วยให้เร็วขึ้น Mike เริ่มทดลองด้วยตัวเอง โดยใช้วิธีสุ่มว่าจะใช้ AI หรือไม่ในแต่ละงาน และบันทึกเวลาอย่างละเอียด ผลลัพธ์คือ ไม่มีความแตกต่างที่มีนัยสำคัญทางสถิติ และในหลายกรณี AI ทำให้เขาช้าลงถึง 21% ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของ METR เขาตั้งคำถามว่า ถ้า AI coding tools ทำให้คนเขียนโค้ดเร็วขึ้นจริง ทำไมเราไม่เห็น “น้ำท่วม shovelware” หรือซอฟต์แวร์จำนวนมหาศาลที่ควรจะเกิดขึ้นจาก productivity ที่เพิ่มขึ้น? เขาใช้เงินและเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลจาก SteamDB, GitHub, Statista และ Verisign แล้วพบว่า—ไม่มีการเติบโตแบบ exponential ในการปล่อยซอฟต์แวร์ใหม่เลย ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีต่างพากัน rebrand เป็น “AI-first” และใช้ productivity narrative เพื่อ justify การปลดพนักงานหรือกดเงินเดือน นักพัฒนาหลายคนกลับรู้สึกกดดัน สับสน และผิดหวัง เพราะไม่สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่อุตสาหกรรมโฆษณาไว้ ✅ ผลการทดลองของ Mike Judge ➡️ ใช้ AI coding tools แล้วช้าลงโดยเฉลี่ย 21% ➡️ ทดลองสุ่มใช้ AI หรือไม่ในแต่ละงาน และบันทึกเวลาอย่างละเอียด ➡️ ผลลัพธ์ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ และไม่เห็นการเพิ่ม productivity ✅ ข้อมูลจาก METR Study ➡️ นักพัฒนาใช้ AI แล้วช้าลง 19% โดยเฉลี่ยในการทำงานจริง ➡️ ขัดแย้งกับความคาดหวังที่ว่า AI จะช่วยให้เร็วขึ้น 20–25% ➡️ ใช้การทดลองแบบสุ่มควบคุมกับนักพัฒนา open-source ที่มีประสบการณ์สูง ✅ การวิเคราะห์ข้อมูลการปล่อยซอฟต์แวร์ ➡️ ไม่มีการเพิ่มขึ้นของ shovelware หรือซอฟต์แวร์ใหม่จำนวนมาก ➡️ ข้อมูลจาก SteamDB, GitHub, Statista และ Verisign แสดงกราฟที่ “แบน” ➡️ ไม่มีสัญญาณของ indie boom หรือการปล่อยแอปแบบสายฟ้าแลบ ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและนักพัฒนา ➡️ บริษัทใช้ narrative AI productivity เพื่อปลดพนักงานและลดเงินเดือน ➡️ นักพัฒนารู้สึกกดดันและสับสนจากความคาดหวังที่ไม่ตรงกับความจริง ➡️ การเรียนรู้ prompting ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ https://mikelovesrobots.substack.com/p/wheres-the-shovelware-why-ai-coding
    MIKELOVESROBOTS.SUBSTACK.COM
    Where's the Shovelware? Why AI Coding Claims Don't Add Up
    78% of developers claim AI makes them more productive. 14% say it's a 10x improvement. So where's the flood of new software? Turns out those productivity claims are bullshit.
    0 Comments 0 Shares 206 Views 0 Reviews
  • ไม่กังวล "ชัยเกษม" ชิงนายก : [THE MESSAGE]

    นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่กังวลพรรคเพื่อไทยจะส่งนายชัยเกษม นิติสิริ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มั่นใจพรรคประชาชนไม่ฉีกข้อตกลง ยืนยันหากเป็นนายกจะไม่แทรกแซงคดีเขากระโดง-การฮั้ว สว. จะติดตามคดีด้วยตัวเอง ต้องแก้ไขทุกปัญหา ไม่ใช่แค่เรื่องชายแดนอย่างเดียว มีทั้งปากท้องปัญหาเศรษฐกิจ ไว้ให้ถึงวันนั้นก่อน ส่วนหากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยเตรียมไล่บี้นั้น เราเป็นบุคคลสาธารณะ ตั้งแต่เข้ามาในสนามการเมือง สิ่งที่เราพร้อมคือเรามีความจริง คนที่จะบี้หรืออภิปรายตีแผ่อะไร ก็ขอให้เอาความจริงมาพูด อย่าไปเสกสรรค์ปั้นแต่ง
    ไม่กังวล "ชัยเกษม" ชิงนายก : [THE MESSAGE] นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่กังวลพรรคเพื่อไทยจะส่งนายชัยเกษม นิติสิริ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มั่นใจพรรคประชาชนไม่ฉีกข้อตกลง ยืนยันหากเป็นนายกจะไม่แทรกแซงคดีเขากระโดง-การฮั้ว สว. จะติดตามคดีด้วยตัวเอง ต้องแก้ไขทุกปัญหา ไม่ใช่แค่เรื่องชายแดนอย่างเดียว มีทั้งปากท้องปัญหาเศรษฐกิจ ไว้ให้ถึงวันนั้นก่อน ส่วนหากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยเตรียมไล่บี้นั้น เราเป็นบุคคลสาธารณะ ตั้งแต่เข้ามาในสนามการเมือง สิ่งที่เราพร้อมคือเรามีความจริง คนที่จะบี้หรืออภิปรายตีแผ่อะไร ก็ขอให้เอาความจริงมาพูด อย่าไปเสกสรรค์ปั้นแต่ง
    0 Comments 0 Shares 393 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก WeChat ถึง Douyin: เมื่อโพสต์ทุกชิ้นต้องบอกว่า “มนุษย์หรือ AI”

    ในเดือนกันยายน 2025 จีนได้บังคับใช้กฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต้องติดป้ายกำกับเนื้อหาที่สร้างโดย AI อย่างชัดเจน ทั้งในรูปแบบที่ผู้ใช้มองเห็นได้ (explicit labels) และฝังไว้ใน metadata สำหรับระบบอัตโนมัติ (implicit identifiers) โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ, deepfake, และการชักจูงทางความคิดผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

    แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ของจีน เช่น WeChat, Douyin (TikTok เวอร์ชันจีน), Weibo และ RedNote ต่างออกประกาศให้ผู้ใช้ต้อง “ประกาศด้วยตัวเอง” หากโพสต์นั้นสร้างด้วย AI และห้ามลบหรือแก้ไขป้ายกำกับที่ระบบติดไว้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืน อาจถูกลบโพสต์หรือถูกลงโทษตามที่ Cyberspace Administration of China (CAC) กำหนดไว้

    นอกจากนี้ CAC ยังเปิดช่องให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถ “รายงาน” เนื้อหาที่ไม่ได้ติดป้าย AI ได้ด้วยตนเอง และมีการตั้งระบบตรวจสอบ metadata เพื่อช่วยตรวจจับเนื้อหาที่หลุดรอดจากการติดป้าย

    แม้จีนจะเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายลักษณะนี้อย่างเป็นทางการ แต่แนวคิดนี้กำลังแพร่ไปทั่วโลก เช่น Internet Engineering Task Force เสนอให้มี “AI header field” สำหรับเว็บไซต์ และ Google ก็เริ่มฝัง C2PA credentials ในภาพถ่ายจาก Pixel 10 เพื่อบอกว่า “ภาพนี้ผ่าน AI หรือไม่”


    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinese-social-media-firms-comply-with-strict-ai-labelling-law-making-it-clear-to-users-and-bots-whats-real-and-whats-not
    🎙️ เรื่องเล่าจาก WeChat ถึง Douyin: เมื่อโพสต์ทุกชิ้นต้องบอกว่า “มนุษย์หรือ AI” ในเดือนกันยายน 2025 จีนได้บังคับใช้กฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต้องติดป้ายกำกับเนื้อหาที่สร้างโดย AI อย่างชัดเจน ทั้งในรูปแบบที่ผู้ใช้มองเห็นได้ (explicit labels) และฝังไว้ใน metadata สำหรับระบบอัตโนมัติ (implicit identifiers) โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ, deepfake, และการชักจูงทางความคิดผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ของจีน เช่น WeChat, Douyin (TikTok เวอร์ชันจีน), Weibo และ RedNote ต่างออกประกาศให้ผู้ใช้ต้อง “ประกาศด้วยตัวเอง” หากโพสต์นั้นสร้างด้วย AI และห้ามลบหรือแก้ไขป้ายกำกับที่ระบบติดไว้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืน อาจถูกลบโพสต์หรือถูกลงโทษตามที่ Cyberspace Administration of China (CAC) กำหนดไว้ นอกจากนี้ CAC ยังเปิดช่องให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถ “รายงาน” เนื้อหาที่ไม่ได้ติดป้าย AI ได้ด้วยตนเอง และมีการตั้งระบบตรวจสอบ metadata เพื่อช่วยตรวจจับเนื้อหาที่หลุดรอดจากการติดป้าย แม้จีนจะเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายลักษณะนี้อย่างเป็นทางการ แต่แนวคิดนี้กำลังแพร่ไปทั่วโลก เช่น Internet Engineering Task Force เสนอให้มี “AI header field” สำหรับเว็บไซต์ และ Google ก็เริ่มฝัง C2PA credentials ในภาพถ่ายจาก Pixel 10 เพื่อบอกว่า “ภาพนี้ผ่าน AI หรือไม่” https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinese-social-media-firms-comply-with-strict-ai-labelling-law-making-it-clear-to-users-and-bots-whats-real-and-whats-not
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Chinese social media firms comply with strict AI labelling law, making it clear to users and bots what's real and what's not
    It's part of a broader push by the Cyberspace Administration of China to have greater oversight over the AI industry and the content it produces.
    0 Comments 0 Shares 203 Views 0 Reviews
  • ตำรวจพุ่งชนไรเดอร์ อินโดนีเซียลุกเป็นไฟ

    รัฐบาลอินโดนีเซีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ถูกประชาชนไม่ไว้วางใจอย่างหนัก โดยเชื่อว่ามีแนวโน้มจะรวมศูนย์อำนาจมากขึ้น ในยามที่ประชาชนยากลำบากจากเศรษฐกิจตกต่ำ ตั้งแต่การแสดงสัญลักษณ์ด้วยธงโจรสลัดจากอนิเมะเรื่องวันพีซ ในห้วงวันประกาศอิสรภาพครบรอบ 80 ปี กระทั่งต้องเผชิญกับการชุมนุมประท้วง ตั้งแต่กลุ่มนักศึกษาคัดค้านการขึ้นเงินเดือนและสวัสดิการของรัฐสภา โดยเฉพาะค่าที่พักสูงถึงเดือนละ 50 ล้านรูเปียห์ (เกือบ 100,000 บาท) และกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่เรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ยุติการจ้างงานแบบภายนอก และตั้งคณะกรรมการป้องกันการเลิกจ้าง ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุม

    จุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อวันที่ 28 ส.ค. รถหุ้มเกราะควบคุมฝูงชนบริม็อบ (Brimob) ของตำรวจอินโดนีเซีย พุ่งเข้าชนนายอัฟฟาน คูรเนียวัน อายุ 21 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน (Ojol) เสียชีวิตใจกลางกรุงจาการ์ตา ระหว่างที่มีผู้ชุมนุมประท้วง จุดชนวนให้ประชาชนโกรธแค้นมากขึ้น แม้ต้นสังกัดจะควบคุมตัวตำรวจ 7 นาย ที่อยู่ในรถหุ้มเกราะไปสอบสวน ถูกควบคุมตัวฐานละเมิดจริยธรรม 20 วัน รวมทั้งประธานาธิบดีปราโบโว ไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยตัวเอง แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น

    ในกรุงจาการ์ตา อาคารรัฐสภา ที่ทำการตำรวจ รวมทั้งสถานีรถเมล์ด่วนพิเศษ ถูกผู้ชุมนุมเผาทำลาย อาคารรัฐสภาส่วนภูมิภาคและที่ทำการตำรวจในหลายเมืองก็ถูกผู้ชุมนุมเผา เช่น เมืองมากัสซาร์ อาคารสภาท้องถิ่นถูกวางเพลิง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย เมืองสุราบายา ที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นก็ถูกเผา เมืองบันดุง ปะทะกันรุนแรง และบ้านพักของสมาชิกสภาถูกเผา รวมทั้งเมืองอื่นๆ เช่น เมืองโซโล ยอร์คยาการ์ตา กูนิกัน เตกัล ปอนตินัค ฯลฯ มีการปล้นสะดมที่บ้านของ รมว.คลังอินโดนีเซีย และสมาชิกรัฐสภาหลายคน

    ที่สุดแล้วประธานาธิบดีปราโบโวแถลงว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาลและอยู่ในความสงบ สภาผู้แทนราษฎรเตรียมเพิกถอนสิทธิประโยชน์บางประการ รวมถึงลดเบี้ยเลี้ยง และระงับการดูงานต่างประเทศ หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ จะลงโทษสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่กล่าวถ้อยคำไม่เหมาะสม ส่วนตำรวจที่ทำผิดพลาด พร้อมตรวจสอบอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และเปิดเผยต่อสาธารณะ ยืนยันว่าเคารพเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่หากทำลายทรัพย์สินหรือปล้นสะดมถือว่าละเมิดกฎหมาย ตำรวจและกองทัพจะดำเนินการอย่างเข้มงวด พร้อมเชิญชวนผู้นำการชุมนุมรวมถึงนักศึกษาร่วมพูดคุยโดยตรง โดยรับรองว่าจะรับฟังข้อเสนอแนะและการวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนำไปปฏิบัติต่อไป

    #Newskit
    ตำรวจพุ่งชนไรเดอร์ อินโดนีเซียลุกเป็นไฟ รัฐบาลอินโดนีเซีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ถูกประชาชนไม่ไว้วางใจอย่างหนัก โดยเชื่อว่ามีแนวโน้มจะรวมศูนย์อำนาจมากขึ้น ในยามที่ประชาชนยากลำบากจากเศรษฐกิจตกต่ำ ตั้งแต่การแสดงสัญลักษณ์ด้วยธงโจรสลัดจากอนิเมะเรื่องวันพีซ ในห้วงวันประกาศอิสรภาพครบรอบ 80 ปี กระทั่งต้องเผชิญกับการชุมนุมประท้วง ตั้งแต่กลุ่มนักศึกษาคัดค้านการขึ้นเงินเดือนและสวัสดิการของรัฐสภา โดยเฉพาะค่าที่พักสูงถึงเดือนละ 50 ล้านรูเปียห์ (เกือบ 100,000 บาท) และกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่เรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ยุติการจ้างงานแบบภายนอก และตั้งคณะกรรมการป้องกันการเลิกจ้าง ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุม จุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อวันที่ 28 ส.ค. รถหุ้มเกราะควบคุมฝูงชนบริม็อบ (Brimob) ของตำรวจอินโดนีเซีย พุ่งเข้าชนนายอัฟฟาน คูรเนียวัน อายุ 21 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน (Ojol) เสียชีวิตใจกลางกรุงจาการ์ตา ระหว่างที่มีผู้ชุมนุมประท้วง จุดชนวนให้ประชาชนโกรธแค้นมากขึ้น แม้ต้นสังกัดจะควบคุมตัวตำรวจ 7 นาย ที่อยู่ในรถหุ้มเกราะไปสอบสวน ถูกควบคุมตัวฐานละเมิดจริยธรรม 20 วัน รวมทั้งประธานาธิบดีปราโบโว ไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยตัวเอง แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น ในกรุงจาการ์ตา อาคารรัฐสภา ที่ทำการตำรวจ รวมทั้งสถานีรถเมล์ด่วนพิเศษ ถูกผู้ชุมนุมเผาทำลาย อาคารรัฐสภาส่วนภูมิภาคและที่ทำการตำรวจในหลายเมืองก็ถูกผู้ชุมนุมเผา เช่น เมืองมากัสซาร์ อาคารสภาท้องถิ่นถูกวางเพลิง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย เมืองสุราบายา ที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นก็ถูกเผา เมืองบันดุง ปะทะกันรุนแรง และบ้านพักของสมาชิกสภาถูกเผา รวมทั้งเมืองอื่นๆ เช่น เมืองโซโล ยอร์คยาการ์ตา กูนิกัน เตกัล ปอนตินัค ฯลฯ มีการปล้นสะดมที่บ้านของ รมว.คลังอินโดนีเซีย และสมาชิกรัฐสภาหลายคน ที่สุดแล้วประธานาธิบดีปราโบโวแถลงว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาลและอยู่ในความสงบ สภาผู้แทนราษฎรเตรียมเพิกถอนสิทธิประโยชน์บางประการ รวมถึงลดเบี้ยเลี้ยง และระงับการดูงานต่างประเทศ หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ จะลงโทษสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่กล่าวถ้อยคำไม่เหมาะสม ส่วนตำรวจที่ทำผิดพลาด พร้อมตรวจสอบอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และเปิดเผยต่อสาธารณะ ยืนยันว่าเคารพเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่หากทำลายทรัพย์สินหรือปล้นสะดมถือว่าละเมิดกฎหมาย ตำรวจและกองทัพจะดำเนินการอย่างเข้มงวด พร้อมเชิญชวนผู้นำการชุมนุมรวมถึงนักศึกษาร่วมพูดคุยโดยตรง โดยรับรองว่าจะรับฟังข้อเสนอแนะและการวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนำไปปฏิบัติต่อไป #Newskit
    1 Comments 1 Shares 343 Views 0 Reviews
  • เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย นำคณะลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จุดที่มวลชนชาวกัมพูชารวมกลุ่มร้องรื้อรั้วลวดหนาม ชี้หมู่บ้านเขมรล้ำเข้ามา ไม่ว่าจะใช้เส้นเขตแดนของไทยหรือกัมพูชาก็ล้ำอยู่ดี จี้สองพ่อลูกตระกูลฮุนลงมาดูแลด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นทหารไทยมีสิทธิ์โดยชอบธรรม ขับไล่ออกจากแผ่นดินไทย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081336

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย นำคณะลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จุดที่มวลชนชาวกัมพูชารวมกลุ่มร้องรื้อรั้วลวดหนาม ชี้หมู่บ้านเขมรล้ำเข้ามา ไม่ว่าจะใช้เส้นเขตแดนของไทยหรือกัมพูชาก็ล้ำอยู่ดี จี้สองพ่อลูกตระกูลฮุนลงมาดูแลด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นทหารไทยมีสิทธิ์โดยชอบธรรม ขับไล่ออกจากแผ่นดินไทย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081336 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Sad
    2
    0 Comments 0 Shares 404 Views 0 Reviews
  • เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย นำคณะลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จุดที่มวลชนชาวกัมพูชารวมกลุ่มร้องรื้อรั้วลวดหนาม ชี้หมู่บ้านเขมรล้ำเข้ามา ไม่ว่าจะใช้เส้นเขตแดนของไทยหรือกัมพูชาก็ล้ำอยู่ดี จี้สองพ่อลูกตระกูลฮุนลงมาดูแลด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นทหารไทยมีสิทธิ์โดยชอบธรรม ขับไล่ออกจากแผ่นดินไทย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000081336

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย นำคณะลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จุดที่มวลชนชาวกัมพูชารวมกลุ่มร้องรื้อรั้วลวดหนาม ชี้หมู่บ้านเขมรล้ำเข้ามา ไม่ว่าจะใช้เส้นเขตแดนของไทยหรือกัมพูชาก็ล้ำอยู่ดี จี้สองพ่อลูกตระกูลฮุนลงมาดูแลด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นทหารไทยมีสิทธิ์โดยชอบธรรม ขับไล่ออกจากแผ่นดินไทย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000081336 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 1 Shares 811 Views 0 Reviews
  • เมื่อเมาส์ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นงานศิลป์ที่ปรับแต่งได้

    ลองจินตนาการว่าเมาส์ที่คุณใช้ทุกวันสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับตัวคุณได้ทุกมิติ ตั้งแต่พอร์ตชาร์จที่เปลี่ยนเป็น USB-C ไปจนถึงสวิตช์คลิกที่เงียบสนิท และยังมีซอฟต์แวร์ทางเลือกที่ให้คุณควบคุมได้มากกว่าที่ Logitech เคยให้มา

    นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Logitech MX Ergo S — รุ่นอัปเกรดที่มาพร้อมกับพอร์ต USB-C, สวิตช์แบบ silent และรองรับ Bolt receiver ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของ Logitech สำหรับการเชื่อมต่อไร้สายที่ปลอดภัยและเสถียรยิ่งขึ้น

    แต่สำหรับผู้ใช้รุ่นก่อนหน้าอย่าง MX Ergo รุ่นดั้งเดิมที่ยังใช้พอร์ต Micro-USB หลายคนไม่ยอมแพ้ พวกเขาเลือกที่จะ “โมดิฟาย” ด้วยตัวเอง โดยมีการออกแบบแผงวงจรใหม่ให้รองรับ USB-C และแชร์ไฟล์ Gerber สำหรับการผลิตผ่าน PCBWay

    นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้งานที่ประสบปัญหาสวิตช์คลิกเสียหลังใช้งานไป 2 ปี และเลือกเปลี่ยนเป็น Kailh Square Silent Switch ซึ่งให้สัมผัสที่เงียบและนุ่มนวลกว่าเดิม

    และถ้าคุณไม่ชอบ Logitech Options+ ก็มีซอฟต์แวร์ทางเลือกอย่าง LogiOps หรือ Piper ที่ให้คุณปรับแต่งปุ่มและ DPI ได้อย่างอิสระมากขึ้น

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Logitech MX Ergo S เป็นรุ่นใหม่ที่มาพร้อม USB-C, สวิตช์เงียบ และรองรับ Bolt receiver
    ผู้ใช้งานสามารถโมดิฟาย MX Ergo รุ่นเก่าให้รองรับ USB-C ได้โดยเปลี่ยนแผงวงจรภายใน2
    มีการแชร์ไฟล์ Gerber สำหรับผลิตแผงวงจรผ่าน PCBWay เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถสั่งผลิตได้เอง
    สวิตช์คลิกของ MX Ergo มีแนวโน้มเสียหลังใช้งานประมาณ 2 ปี โดยเฉพาะปุ่มซ้าย3
    Kailh Square Silent Switch เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการเปลี่ยนสวิตช์ให้เงียบและทนทาน
    มีซอฟต์แวร์ทางเลือกสำหรับปรับแต่งเมาส์ เช่น LogiOps และ Piper ที่ให้ความยืดหยุ่นมากกว่า Logitech Options+

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Bolt receiver ของ Logitech ใช้เทคโนโลยี Bluetooth Low Energy ที่ปลอดภัยและลด latency
    USB-C เป็นมาตรฐานใหม่ที่ให้ความสะดวกในการชาร์จและลดจำนวนสายที่ต้องพก
    การเปลี่ยนสวิตช์เมาส์ต้องใช้ทักษะการบัดกรีและเครื่องมือเฉพาะ เช่น T6 torx และ PH00 screwdriver
    Piper เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่รองรับเมาส์หลายรุ่นและสามารถปรับแต่ง DPI, polling rate และปุ่มได้ละเอียด

    https://samwilkinson.io/posts/2025-08-24-mx-ergo-mods
    🎙️ เมื่อเมาส์ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นงานศิลป์ที่ปรับแต่งได้ ลองจินตนาการว่าเมาส์ที่คุณใช้ทุกวันสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับตัวคุณได้ทุกมิติ ตั้งแต่พอร์ตชาร์จที่เปลี่ยนเป็น USB-C ไปจนถึงสวิตช์คลิกที่เงียบสนิท และยังมีซอฟต์แวร์ทางเลือกที่ให้คุณควบคุมได้มากกว่าที่ Logitech เคยให้มา นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Logitech MX Ergo S — รุ่นอัปเกรดที่มาพร้อมกับพอร์ต USB-C, สวิตช์แบบ silent และรองรับ Bolt receiver ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของ Logitech สำหรับการเชื่อมต่อไร้สายที่ปลอดภัยและเสถียรยิ่งขึ้น แต่สำหรับผู้ใช้รุ่นก่อนหน้าอย่าง MX Ergo รุ่นดั้งเดิมที่ยังใช้พอร์ต Micro-USB หลายคนไม่ยอมแพ้ พวกเขาเลือกที่จะ “โมดิฟาย” ด้วยตัวเอง โดยมีการออกแบบแผงวงจรใหม่ให้รองรับ USB-C และแชร์ไฟล์ Gerber สำหรับการผลิตผ่าน PCBWay นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้งานที่ประสบปัญหาสวิตช์คลิกเสียหลังใช้งานไป 2 ปี และเลือกเปลี่ยนเป็น Kailh Square Silent Switch ซึ่งให้สัมผัสที่เงียบและนุ่มนวลกว่าเดิม และถ้าคุณไม่ชอบ Logitech Options+ ก็มีซอฟต์แวร์ทางเลือกอย่าง LogiOps หรือ Piper ที่ให้คุณปรับแต่งปุ่มและ DPI ได้อย่างอิสระมากขึ้น 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Logitech MX Ergo S เป็นรุ่นใหม่ที่มาพร้อม USB-C, สวิตช์เงียบ และรองรับ Bolt receiver ➡️ ผู้ใช้งานสามารถโมดิฟาย MX Ergo รุ่นเก่าให้รองรับ USB-C ได้โดยเปลี่ยนแผงวงจรภายใน2 ➡️ มีการแชร์ไฟล์ Gerber สำหรับผลิตแผงวงจรผ่าน PCBWay เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถสั่งผลิตได้เอง ➡️ สวิตช์คลิกของ MX Ergo มีแนวโน้มเสียหลังใช้งานประมาณ 2 ปี โดยเฉพาะปุ่มซ้าย3 ➡️ Kailh Square Silent Switch เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการเปลี่ยนสวิตช์ให้เงียบและทนทาน ➡️ มีซอฟต์แวร์ทางเลือกสำหรับปรับแต่งเมาส์ เช่น LogiOps และ Piper ที่ให้ความยืดหยุ่นมากกว่า Logitech Options+ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Bolt receiver ของ Logitech ใช้เทคโนโลยี Bluetooth Low Energy ที่ปลอดภัยและลด latency ➡️ USB-C เป็นมาตรฐานใหม่ที่ให้ความสะดวกในการชาร์จและลดจำนวนสายที่ต้องพก ➡️ การเปลี่ยนสวิตช์เมาส์ต้องใช้ทักษะการบัดกรีและเครื่องมือเฉพาะ เช่น T6 torx และ PH00 screwdriver ➡️ Piper เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่รองรับเมาส์หลายรุ่นและสามารถปรับแต่ง DPI, polling rate และปุ่มได้ละเอียด https://samwilkinson.io/posts/2025-08-24-mx-ergo-mods
    0 Comments 0 Shares 177 Views 0 Reviews
  • เมลลี ไมค์ กับหนูน้อยดีกา ทำแข่งเรืออินโดฯ ดังกระหึ่ม

    หลังจากที่เป็นกระแสออรา ฟาร์มมิ่ง (Aura Farming) หรือการเต้นเลียนแบบเป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียล ในที่สุด เมลลี ไมค์ (Melly Mike) แรปเปอร์ชาวอเมริกัน เจ้าของเพลง Young Black & Rich ก็ได้ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตร่วมกับหนูน้อยดิกา (Dikha) หรือ ด.ช.เรย์ยาน อาร์กัน ดิกา (Rayyan Arkan Dikha) วัย 11 ขวบ เจ้าของคลิปไวรัลเต้นบนหัวเรือ ระหว่างการแข่งขันเรือโบราณปาคู จาลูร์ (Pacu Jalur) ประจำปี 2025 บนจังหวัดรีเยา (Riau) ทางภาคตะวันออกของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย หลังเดินทางมาเยือนอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา

    ศิลปินแร็ปเปอร์ชาวอเมริกันผู้นี้ ได้กล่าวขอบคุณชาวอินโดนีเซียและชาวกวนซิง (Kuansing) หรือเขตปกครองตนเองกวนตันซิงกิ (Kuantan Singingi) ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยเขากล่าวว่า การมาเยือนครั้งนี้ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ได้รับทั้งรอยยิ้ม ความมีน้ำใจ และความรักจากทุกคน เขาย้ำว่าไม่ได้อยากให้ถูกมองเพียงแค่ในฐานะแขกผู้มาเยือน แต่ในฐานะคนที่ห่วงใยสถานที่แห่งนี้ และชาวริเยาเสมือนครอบครัว พร้อมทั้งแสดงความซาบซึ้งที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานปาคู จาลูร์ ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และทิ้งท้ายด้วยความหวังว่าจะได้กลับมาเยือนอีกครั้งในอนาคต

    ก่อนหน้านี้ เมลลี ไมค์ ได้พบกับหนูน้อยดีกาด้วยตัวเอง มอบของขวัญเป็นเครื่องเล่นเกมนินเทนโด สวิตช์ พร้อมกับเกมฟีฟ่า 2025 เป็นที่ระลึก เพราะเห็นว่าหนูน้อยดิกาชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเป็นพิเศษ

    เทศกาลปาคู จาลูร์ในปีนี้ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว มาเยือนจังหวัดรีเยามากกว่าปีก่อนถึง 2 เท่า รถเช่าและโรงแรมถูกจองเต็มทั้งหมด จำเป็นต้องไปพักที่เมืองเปกันบารู ซึ่งอยู่ห่างไกลถึง 4-5 ชั่วโมง แต่นักท่องเที่ยวยินดีจ่ายเพิ่มเพื่อให้ได้ไปชมปาคู จาลูร์ก็พอ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะมาเลเซียและสิงคโปร์ก็ยังเดินทางมาเยือนที่นี่ นอกจากช่วยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวแล้ว ยังช่วยอนุรักษ์ประเพณีโบราณที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ถึงปัจจุบัน

    เมลลี ไมค์ เกิดเมื่อปี 2540 ในอดีตเคยเป็นทหารกองทัพสหรัฐฯ เคยได้รับรางวัลหลายครั้ง รวมถึงรางวัล Soldier of the Year สองปีซ้อน แต่ได้ลาออกเพื่อทำงานดนตรีเต็มตัว แนวเพลงผสมผสานระหว่างความเข้มข้นในแบบกองทัพสหรัฐฯ เข้ากับดนตรีแนว Rage (เพลงโกรธ) สร้างฐานแฟนเพลงทั่วโลก ผลงานที่สร้างชื่อเสียงอย่าง Young Black & Rich ออกเมื่อปี 2567 แต่กลับมาโด่งดังจากกระแสไวรัลระดับนานาชาติ ปัจจุบันมียอดสตรีมมากกว่า 800,000 ครั้งต่อวัน และถูกแชร์ในวิดีโอนับล้านครั้ง

    #Newskit
    เมลลี ไมค์ กับหนูน้อยดีกา ทำแข่งเรืออินโดฯ ดังกระหึ่ม หลังจากที่เป็นกระแสออรา ฟาร์มมิ่ง (Aura Farming) หรือการเต้นเลียนแบบเป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียล ในที่สุด เมลลี ไมค์ (Melly Mike) แรปเปอร์ชาวอเมริกัน เจ้าของเพลง Young Black & Rich ก็ได้ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตร่วมกับหนูน้อยดิกา (Dikha) หรือ ด.ช.เรย์ยาน อาร์กัน ดิกา (Rayyan Arkan Dikha) วัย 11 ขวบ เจ้าของคลิปไวรัลเต้นบนหัวเรือ ระหว่างการแข่งขันเรือโบราณปาคู จาลูร์ (Pacu Jalur) ประจำปี 2025 บนจังหวัดรีเยา (Riau) ทางภาคตะวันออกของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย หลังเดินทางมาเยือนอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา ศิลปินแร็ปเปอร์ชาวอเมริกันผู้นี้ ได้กล่าวขอบคุณชาวอินโดนีเซียและชาวกวนซิง (Kuansing) หรือเขตปกครองตนเองกวนตันซิงกิ (Kuantan Singingi) ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยเขากล่าวว่า การมาเยือนครั้งนี้ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ได้รับทั้งรอยยิ้ม ความมีน้ำใจ และความรักจากทุกคน เขาย้ำว่าไม่ได้อยากให้ถูกมองเพียงแค่ในฐานะแขกผู้มาเยือน แต่ในฐานะคนที่ห่วงใยสถานที่แห่งนี้ และชาวริเยาเสมือนครอบครัว พร้อมทั้งแสดงความซาบซึ้งที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานปาคู จาลูร์ ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และทิ้งท้ายด้วยความหวังว่าจะได้กลับมาเยือนอีกครั้งในอนาคต ก่อนหน้านี้ เมลลี ไมค์ ได้พบกับหนูน้อยดีกาด้วยตัวเอง มอบของขวัญเป็นเครื่องเล่นเกมนินเทนโด สวิตช์ พร้อมกับเกมฟีฟ่า 2025 เป็นที่ระลึก เพราะเห็นว่าหนูน้อยดิกาชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเป็นพิเศษ เทศกาลปาคู จาลูร์ในปีนี้ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว มาเยือนจังหวัดรีเยามากกว่าปีก่อนถึง 2 เท่า รถเช่าและโรงแรมถูกจองเต็มทั้งหมด จำเป็นต้องไปพักที่เมืองเปกันบารู ซึ่งอยู่ห่างไกลถึง 4-5 ชั่วโมง แต่นักท่องเที่ยวยินดีจ่ายเพิ่มเพื่อให้ได้ไปชมปาคู จาลูร์ก็พอ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะมาเลเซียและสิงคโปร์ก็ยังเดินทางมาเยือนที่นี่ นอกจากช่วยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวแล้ว ยังช่วยอนุรักษ์ประเพณีโบราณที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ถึงปัจจุบัน เมลลี ไมค์ เกิดเมื่อปี 2540 ในอดีตเคยเป็นทหารกองทัพสหรัฐฯ เคยได้รับรางวัลหลายครั้ง รวมถึงรางวัล Soldier of the Year สองปีซ้อน แต่ได้ลาออกเพื่อทำงานดนตรีเต็มตัว แนวเพลงผสมผสานระหว่างความเข้มข้นในแบบกองทัพสหรัฐฯ เข้ากับดนตรีแนว Rage (เพลงโกรธ) สร้างฐานแฟนเพลงทั่วโลก ผลงานที่สร้างชื่อเสียงอย่าง Young Black & Rich ออกเมื่อปี 2567 แต่กลับมาโด่งดังจากกระแสไวรัลระดับนานาชาติ ปัจจุบันมียอดสตรีมมากกว่า 800,000 ครั้งต่อวัน และถูกแชร์ในวิดีโอนับล้านครั้ง #Newskit
    1 Comments 0 Shares 359 Views 0 Reviews
  • เมื่อแมวอนิเมะกลายเป็นด่านตรวจวิญญาณ – และ AI ก็ยังผ่านได้อยู่ดี

    ถ้าคุณเคยเข้าเว็บไซต์แล้วเจอภาพแมวอนิเมะพร้อมข้อความแปลก ๆ ก่อนเข้าใช้งาน นั่นคือ “Anubis” ระบบป้องกัน AI crawler ที่กำลังเป็นกระแสในหมู่เว็บสายเทคโนโลยี

    Anubis ไม่ใช้ CAPTCHA แบบเดิม แต่กลับบังคับให้ผู้เข้าใช้งาน “ขุดค่า nonce” เพื่อให้ค่า SHA-256 ของข้อความเริ่มต้นด้วยเลขศูนย์หลายหลัก คล้ายกับการขุดบิตคอยน์ โดยหวังว่าจะทำให้ AI crawler ต้องใช้พลังประมวลผลมากเกินไปจนไม่คุ้มที่จะเข้าเว็บ

    แต่ Tavis Ormandy นักวิจัยด้านความปลอดภัยกลับตั้งคำถามว่า “แล้วคนจริง ๆ ล่ะ?” เพราะเขาใช้ curl เพื่อเข้าเว็บ Linux Kernel Mailing List แล้วถูกบล็อกเพราะไม่ได้ใช้ browser ที่สามารถขุด nonce ได้

    เขาทดลองคำนวณว่า ถ้า AI vendor ต้องขุด nonce เพื่อเข้าเว็บทั้งหมดที่ใช้ Anubis จะใช้เวลารวมแค่ 6 นาที และค่าใช้จ่ายแทบเป็นศูนย์เมื่อเทียบกับงบประมาณ cloud หลักล้านดอลลาร์ต่อเดือนของบริษัท AI

    ในทางกลับกัน ผู้ใช้ทั่วไปที่มีเครื่องช้า หรือใช้ command-line tools กลับต้องเสียเวลาขุด nonce ด้วยตัวเอง ซึ่งกลายเป็นภาระที่ไม่จำเป็น

    แม้ Anubis จะมีเจตนาดีในการปกป้องเว็บเล็ก ๆ จากการถูก scrape โดย AI แต่ก็อาจสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้จริงมากกว่าที่ตั้งใจไว้

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Anubis เป็นระบบป้องกัน AI crawler โดยใช้ proof-of-work แบบ SHA-256
    ผู้ใช้ต้องขุด nonce เพื่อให้ค่า hash เริ่มต้นด้วยเลขศูนย์ตามระดับความยาก
    ระบบนี้คล้ายกับการขุดบิตคอยน์ แต่ไม่ได้ใช้เพื่อสร้างเหรียญ
    Tavis Ormandy พบว่าเขาถูกบล็อกจากเว็บ Linux Kernel เพราะไม่ได้ใช้ browser
    เขาทดลองขุด nonce ด้วย C program และพบว่าใช้เวลาเพียง 0.017 วินาที
    ค่าใช้จ่ายในการขุด nonce สำหรับทุกเว็บที่ใช้ Anubis รวมแล้วไม่ถึง 1 เซนต์
    ระบบนี้ให้ cookie ที่มีอายุ 7 วันหลังจากขุด nonce สำเร็จ
    มีช่องโหว่ที่ทำให้สามารถ reuse token ได้หลายครั้ง ซึ่งถูกแก้ไขอย่างรวดเร็ว
    Anubis ได้รับแรงบันดาลใจจาก Hashcash และโครงการต่อต้านสแปมในยุค 90s
    ผู้ใช้สามารถใช้ curl และโปรแกรมภายนอกเพื่อขุด nonce และรับ cookie ได้

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Anubis ถูกพัฒนาโดย Xe Iaso เพื่อป้องกันการ scrape จาก AI ที่ไม่เชื่อฟัง robots.txt
    ระบบจะบล็อกทุก request ที่มี User-Agent เป็น “Mozilla” ซึ่งรวมถึง browser และ bot ส่วนใหญ่
    มีเวอร์ชันที่ไม่มีแมวอนิเมะสำหรับองค์กรที่ต้องการ branding แบบจริงจัง
    GitHub ของ Anubis มีผู้ติดตามมากกว่า 11,000 คน และถูกใช้ในเว็บสาย open-source หลายแห่ง
    ผู้พัฒนาแนะนำให้ใช้ Cloudflare หากไม่ต้องการใช้ Anubis เพราะมีวิธีป้องกันที่ง่ายกว่า

    คำเตือนในข่าว
    ระบบ proof-of-work อาจไม่สามารถป้องกัน AI crawler ได้จริง เพราะบริษัท AI มีพลังประมวลผลมหาศาล
    ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่มีทรัพยากรอาจถูกบล็อกจากการเข้าถึงเว็บโดยไม่จำเป็น
    การใช้ระบบนี้อาจสร้างความยุ่งยากให้กับผู้ใช้ที่ใช้ command-line tools หรือ automation
    ช่องโหว่ในการ reuse token อาจนำไปสู่การละเมิดระบบความปลอดภัย
    การบล็อกด้วย User-Agent “Mozilla” อาจทำให้ผู้ใช้จริงถูกบล็อกโดยไม่ตั้งใจ

    https://lock.cmpxchg8b.com/anubis.html
    🎙️ เมื่อแมวอนิเมะกลายเป็นด่านตรวจวิญญาณ – และ AI ก็ยังผ่านได้อยู่ดี ถ้าคุณเคยเข้าเว็บไซต์แล้วเจอภาพแมวอนิเมะพร้อมข้อความแปลก ๆ ก่อนเข้าใช้งาน นั่นคือ “Anubis” ระบบป้องกัน AI crawler ที่กำลังเป็นกระแสในหมู่เว็บสายเทคโนโลยี Anubis ไม่ใช้ CAPTCHA แบบเดิม แต่กลับบังคับให้ผู้เข้าใช้งาน “ขุดค่า nonce” เพื่อให้ค่า SHA-256 ของข้อความเริ่มต้นด้วยเลขศูนย์หลายหลัก คล้ายกับการขุดบิตคอยน์ โดยหวังว่าจะทำให้ AI crawler ต้องใช้พลังประมวลผลมากเกินไปจนไม่คุ้มที่จะเข้าเว็บ แต่ Tavis Ormandy นักวิจัยด้านความปลอดภัยกลับตั้งคำถามว่า “แล้วคนจริง ๆ ล่ะ?” เพราะเขาใช้ curl เพื่อเข้าเว็บ Linux Kernel Mailing List แล้วถูกบล็อกเพราะไม่ได้ใช้ browser ที่สามารถขุด nonce ได้ เขาทดลองคำนวณว่า ถ้า AI vendor ต้องขุด nonce เพื่อเข้าเว็บทั้งหมดที่ใช้ Anubis จะใช้เวลารวมแค่ 6 นาที และค่าใช้จ่ายแทบเป็นศูนย์เมื่อเทียบกับงบประมาณ cloud หลักล้านดอลลาร์ต่อเดือนของบริษัท AI ในทางกลับกัน ผู้ใช้ทั่วไปที่มีเครื่องช้า หรือใช้ command-line tools กลับต้องเสียเวลาขุด nonce ด้วยตัวเอง ซึ่งกลายเป็นภาระที่ไม่จำเป็น แม้ Anubis จะมีเจตนาดีในการปกป้องเว็บเล็ก ๆ จากการถูก scrape โดย AI แต่ก็อาจสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้จริงมากกว่าที่ตั้งใจไว้ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Anubis เป็นระบบป้องกัน AI crawler โดยใช้ proof-of-work แบบ SHA-256 ➡️ ผู้ใช้ต้องขุด nonce เพื่อให้ค่า hash เริ่มต้นด้วยเลขศูนย์ตามระดับความยาก ➡️ ระบบนี้คล้ายกับการขุดบิตคอยน์ แต่ไม่ได้ใช้เพื่อสร้างเหรียญ ➡️ Tavis Ormandy พบว่าเขาถูกบล็อกจากเว็บ Linux Kernel เพราะไม่ได้ใช้ browser ➡️ เขาทดลองขุด nonce ด้วย C program และพบว่าใช้เวลาเพียง 0.017 วินาที ➡️ ค่าใช้จ่ายในการขุด nonce สำหรับทุกเว็บที่ใช้ Anubis รวมแล้วไม่ถึง 1 เซนต์ ➡️ ระบบนี้ให้ cookie ที่มีอายุ 7 วันหลังจากขุด nonce สำเร็จ ➡️ มีช่องโหว่ที่ทำให้สามารถ reuse token ได้หลายครั้ง ซึ่งถูกแก้ไขอย่างรวดเร็ว ➡️ Anubis ได้รับแรงบันดาลใจจาก Hashcash และโครงการต่อต้านสแปมในยุค 90s ➡️ ผู้ใช้สามารถใช้ curl และโปรแกรมภายนอกเพื่อขุด nonce และรับ cookie ได้ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Anubis ถูกพัฒนาโดย Xe Iaso เพื่อป้องกันการ scrape จาก AI ที่ไม่เชื่อฟัง robots.txt ➡️ ระบบจะบล็อกทุก request ที่มี User-Agent เป็น “Mozilla” ซึ่งรวมถึง browser และ bot ส่วนใหญ่ ➡️ มีเวอร์ชันที่ไม่มีแมวอนิเมะสำหรับองค์กรที่ต้องการ branding แบบจริงจัง ➡️ GitHub ของ Anubis มีผู้ติดตามมากกว่า 11,000 คน และถูกใช้ในเว็บสาย open-source หลายแห่ง ➡️ ผู้พัฒนาแนะนำให้ใช้ Cloudflare หากไม่ต้องการใช้ Anubis เพราะมีวิธีป้องกันที่ง่ายกว่า ‼️ คำเตือนในข่าว ⛔ ระบบ proof-of-work อาจไม่สามารถป้องกัน AI crawler ได้จริง เพราะบริษัท AI มีพลังประมวลผลมหาศาล ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่มีทรัพยากรอาจถูกบล็อกจากการเข้าถึงเว็บโดยไม่จำเป็น ⛔ การใช้ระบบนี้อาจสร้างความยุ่งยากให้กับผู้ใช้ที่ใช้ command-line tools หรือ automation ⛔ ช่องโหว่ในการ reuse token อาจนำไปสู่การละเมิดระบบความปลอดภัย ⛔ การบล็อกด้วย User-Agent “Mozilla” อาจทำให้ผู้ใช้จริงถูกบล็อกโดยไม่ตั้งใจ https://lock.cmpxchg8b.com/anubis.html
    0 Comments 0 Shares 226 Views 0 Reviews
  • Arm ดึงตัวผู้สร้างชิป AI ของ Amazon กลับบ้าน – จุดเริ่มต้นของการสร้างชิปเองเพื่อแข่งกับ Nvidia และ Apple

    Arm Holdings บริษัทออกแบบชิปจากอังกฤษที่อยู่เบื้องหลังสถาปัตยกรรมของสมาร์ตโฟนแทบทุกเครื่องในโลก กำลังเปลี่ยนทิศทางครั้งใหญ่ จากเดิมที่เน้นขายสิทธิ์การออกแบบชิป ให้กลายเป็นผู้ผลิตชิปด้วยตัวเอง

    ล่าสุด Arm ได้ดึงตัว Rami Sinno อดีตผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมของ Amazon Web Services กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง หลังจากเขาเคยทำงานกับ Arm ระหว่างปี 2014–2019 และเป็นหัวหน้าทีมพัฒนาชิป AI ของ Amazon ได้แก่ Trainium และ Inferentia ซึ่งใช้ในงานฝึกและรันโมเดล AI ขนาดใหญ่

    การกลับมาของ Sinno เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้างชิป AI ของ Arm ที่เริ่มมีข่าวตั้งแต่ต้นปี 2024 และมีรายงานว่า Arm ได้รับคำสั่งซื้อชิปที่ยังไม่เปิดตัวแล้วด้วยซ้ำ

    นอกจาก Sinno แล้ว Arm ยังดึงตัวผู้เชี่ยวชาญจาก Intel, Qualcomm และ HP Enterprise มาร่วมทีม เพื่อสร้าง “chiplets” และระบบชิปแบบครบวงจร (SoC) ที่สามารถแข่งขันกับ Nvidia, AMD และ Apple ได้ในตลาดศูนย์ข้อมูลและอุปกรณ์ผู้บริโภค

    CEO Rene Haas ประกาศเป้าหมายอย่างมั่นใจว่า Arm จะครองส่วนแบ่งตลาด CPU สำหรับศูนย์ข้อมูลให้ได้ถึง 50% ภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของบริษัทที่เคยเน้นแค่การออกแบบ ไม่ใช่การผลิต

    ข้อมูลในข่าว
    Arm จ้าง Rami Sinno ผู้พัฒนาชิป AI Trainium และ Inferentia ของ Amazon กลับมาร่วมทีม
    Sinno เคยทำงานกับ Arm ระหว่างปี 2014–2019 ในตำแหน่ง VP ด้านวิศวกรรม
    การจ้างงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนสร้างชิป AI ของ Arm ที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี 2024
    Arm ได้รับคำสั่งซื้อชิปที่ยังไม่เปิดตัวแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ 2025
    Arm ดึงผู้เชี่ยวชาญจาก Intel, Qualcomm และ HP Enterprise มาร่วมพัฒนา chiplets และ SoC
    CEO Rene Haas ตั้งเป้าครองตลาด CPU สำหรับศูนย์ข้อมูล 50% ภายในปี 2025
    Arm เคยถูก Nvidia พยายามซื้อกิจการในปี 2020 ด้วยมูลค่า $40 พันล้าน
    ปัจจุบัน Arm ได้รายได้จากการขายสิทธิ์ออกแบบชิปให้บริษัทอื่น เช่น Apple และ Qualcomm

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Trainium และ Inferentia เป็นชิปที่ Amazon ใช้แทน GPU ของ Nvidia ในงาน AI
    Chiplets คือการรวมชิ้นส่วนชิปหลายตัวเข้าด้วยกันในแพ็กเกจเดียว เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น
    ตลาดชิป AI เติบโตอย่างรวดเร็วจากความต้องการของศูนย์ข้อมูลและอุปกรณ์ผู้บริโภค
    การผลิตชิปเองช่วยให้ Arm ควบคุมคุณภาพและนวัตกรรมได้มากขึ้น
    การเปลี่ยนจากโมเดล “ขายสิทธิ์” ไปสู่ “ผลิตเอง” อาจเพิ่มรายได้ระยะยาว
    การแข่งขันกับ Nvidia และ AMD ต้องใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญระดับสูง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/arm-hires-amazons-ai-chip-developer-to-help-create-its-own-processors-rami-sinno-returns-to-the-company-boasts-trainium-and-inferentia-on-resume
    🧠 Arm ดึงตัวผู้สร้างชิป AI ของ Amazon กลับบ้าน – จุดเริ่มต้นของการสร้างชิปเองเพื่อแข่งกับ Nvidia และ Apple Arm Holdings บริษัทออกแบบชิปจากอังกฤษที่อยู่เบื้องหลังสถาปัตยกรรมของสมาร์ตโฟนแทบทุกเครื่องในโลก กำลังเปลี่ยนทิศทางครั้งใหญ่ จากเดิมที่เน้นขายสิทธิ์การออกแบบชิป ให้กลายเป็นผู้ผลิตชิปด้วยตัวเอง ล่าสุด Arm ได้ดึงตัว Rami Sinno อดีตผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมของ Amazon Web Services กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง หลังจากเขาเคยทำงานกับ Arm ระหว่างปี 2014–2019 และเป็นหัวหน้าทีมพัฒนาชิป AI ของ Amazon ได้แก่ Trainium และ Inferentia ซึ่งใช้ในงานฝึกและรันโมเดล AI ขนาดใหญ่ การกลับมาของ Sinno เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้างชิป AI ของ Arm ที่เริ่มมีข่าวตั้งแต่ต้นปี 2024 และมีรายงานว่า Arm ได้รับคำสั่งซื้อชิปที่ยังไม่เปิดตัวแล้วด้วยซ้ำ นอกจาก Sinno แล้ว Arm ยังดึงตัวผู้เชี่ยวชาญจาก Intel, Qualcomm และ HP Enterprise มาร่วมทีม เพื่อสร้าง “chiplets” และระบบชิปแบบครบวงจร (SoC) ที่สามารถแข่งขันกับ Nvidia, AMD และ Apple ได้ในตลาดศูนย์ข้อมูลและอุปกรณ์ผู้บริโภค CEO Rene Haas ประกาศเป้าหมายอย่างมั่นใจว่า Arm จะครองส่วนแบ่งตลาด CPU สำหรับศูนย์ข้อมูลให้ได้ถึง 50% ภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของบริษัทที่เคยเน้นแค่การออกแบบ ไม่ใช่การผลิต ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Arm จ้าง Rami Sinno ผู้พัฒนาชิป AI Trainium และ Inferentia ของ Amazon กลับมาร่วมทีม ➡️ Sinno เคยทำงานกับ Arm ระหว่างปี 2014–2019 ในตำแหน่ง VP ด้านวิศวกรรม ➡️ การจ้างงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนสร้างชิป AI ของ Arm ที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี 2024 ➡️ Arm ได้รับคำสั่งซื้อชิปที่ยังไม่เปิดตัวแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ➡️ Arm ดึงผู้เชี่ยวชาญจาก Intel, Qualcomm และ HP Enterprise มาร่วมพัฒนา chiplets และ SoC ➡️ CEO Rene Haas ตั้งเป้าครองตลาด CPU สำหรับศูนย์ข้อมูล 50% ภายในปี 2025 ➡️ Arm เคยถูก Nvidia พยายามซื้อกิจการในปี 2020 ด้วยมูลค่า $40 พันล้าน ➡️ ปัจจุบัน Arm ได้รายได้จากการขายสิทธิ์ออกแบบชิปให้บริษัทอื่น เช่น Apple และ Qualcomm ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Trainium และ Inferentia เป็นชิปที่ Amazon ใช้แทน GPU ของ Nvidia ในงาน AI ➡️ Chiplets คือการรวมชิ้นส่วนชิปหลายตัวเข้าด้วยกันในแพ็กเกจเดียว เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น ➡️ ตลาดชิป AI เติบโตอย่างรวดเร็วจากความต้องการของศูนย์ข้อมูลและอุปกรณ์ผู้บริโภค ➡️ การผลิตชิปเองช่วยให้ Arm ควบคุมคุณภาพและนวัตกรรมได้มากขึ้น ➡️ การเปลี่ยนจากโมเดล “ขายสิทธิ์” ไปสู่ “ผลิตเอง” อาจเพิ่มรายได้ระยะยาว ➡️ การแข่งขันกับ Nvidia และ AMD ต้องใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญระดับสูง https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/arm-hires-amazons-ai-chip-developer-to-help-create-its-own-processors-rami-sinno-returns-to-the-company-boasts-trainium-and-inferentia-on-resume
    0 Comments 0 Shares 271 Views 0 Reviews
  • แนวคิดของ Agentic AI กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าวงการไซเบอร์ซีเคียวริตี้อย่างรวดเร็ว—แต่ก็ไม่ใช่โดยปราศจากข้อควรระวัง บทความจาก CSO Online และข้อมูลเสริมจากแหล่งอื่นๆ ชี้ให้เห็นว่าแม้เทคโนโลยีนี้จะมีศักยภาพมหาศาลในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดภาระงานของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความเสี่ยงที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ

    ลองนึกภาพว่า AI ไม่ได้แค่ตอบคำถามหรือวิเคราะห์ข้อมูล แต่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เองโดยอัตโนมัติ—นี่คือสิ่งที่เรียกว่า Agentic AI ซึ่งต่างจาก AI แบบเดิมที่ต้องอาศัยคำสั่งจากมนุษย์ Agentic AI คือระบบที่มี “agency” หรือความสามารถในการลงมือทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง เช่น ตรวจสอบช่องโหว่ในระบบ สร้างแพตช์ หรือแม้แต่ประสานงานตอบโต้ภัยคุกคามแบบเรียลไทม์

    แต่ความสามารถนี้ก็มาพร้อมกับคำถามใหญ่: เราจะไว้ใจให้ AI ตัดสินใจแทนเราได้แค่ไหน? จะเกิดอะไรขึ้นถ้า AI “หลอน” หรือทำผิดพลาด? และข้อมูลที่เราป้อนให้มันจะถูกส่งต่อไปที่ไหน?

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าองค์กรต้องมี “รั้วกั้น” ที่ชัดเจน เช่น การกำหนดสิทธิ์ การตรวจสอบย้อนกลับ และการควบคุมการเข้าถึงข้อมูล เพื่อป้องกันไม่ให้ AI กลายเป็นภัยเสียเอง

    ในขณะเดียวกัน บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Cisco, Microsoft และ IBM ก็กำลังปรับโครงสร้างระบบความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด เพื่อรองรับการทำงานของ AI ที่มีความเป็นอิสระมากขึ้น โดยเน้นการสร้างระบบที่สามารถตรวจสอบและควบคุมการตัดสินใจของ AI ได้อย่างโปร่งใส

    และแม้ว่า Agentic AI จะไม่แทนที่มนุษย์ในสายงานไซเบอร์ซีเคียวริตี้ แต่ก็จะเปลี่ยนแปลงทักษะที่จำเป็นอย่างสิ้นเชิง ผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ปรับตัวอาจพบว่าตำแหน่งงานของตนถูกลดความสำคัญลง

    การเปลี่ยนแปลงในวงการไซเบอร์ซีเคียวริตี้
    Agentic AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดภาระงานของผู้เชี่ยวชาญ
    สามารถสร้างแพตช์ได้เร็วกว่าเจ้าหน้าที่มนุษย์ถึง 1,000 เท่า
    ไม่ใช่การลดจำนวนพนักงาน แต่เป็นการเปลี่ยนทักษะที่จำเป็น

    ความหมายของ Agentic AI
    คือระบบที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เอง
    ใช้ LLM ร่วมกับ MCP เพื่อเชื่อมต่อกับเครื่องมือภายนอก
    ยังไม่มีนิยามที่ชัดเจนในวงกว้าง

    การใช้งานในองค์กร
    CISOs ต้องตั้งคำถามก่อนนำ AI เข้ามาใช้งาน
    ต้องมีระบบตรวจสอบย้อนกลับและควบคุมสิทธิ์
    การปฏิเสธ AI ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป ต้อง “ยอมรับแบบมีรั้วกั้น”

    ความเสี่ยงของ Agentic AI
    อาจเกิดการ “หลอน” หรือให้คำตอบผิดพลาด
    ข้อมูลอาจถูกส่งต่อไปยังผู้ให้บริการ AI รายอื่นโดยไม่ตั้งใจ
    MCP มีความเสี่ยงคล้าย API ที่เคยมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยมาก่อน

    ความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐาน
    ระบบความปลอดภัยแบบเดิมไม่สามารถรับมือกับ AI ที่มีอิสระได้
    การอัปเกรดเครือข่ายเพื่อรองรับ AI อาจละเลยเรื่องความปลอดภัย
    การเชื่อมต่อระบบ OT กับ IT เพิ่มความเสี่ยงในอุตสาหกรรม

    https://www.csoonline.com/article/4040145/agentic-ai-promises-a-cybersecurity-revolution-with-asterisks.html
    แนวคิดของ Agentic AI กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าวงการไซเบอร์ซีเคียวริตี้อย่างรวดเร็ว—แต่ก็ไม่ใช่โดยปราศจากข้อควรระวัง บทความจาก CSO Online และข้อมูลเสริมจากแหล่งอื่นๆ ชี้ให้เห็นว่าแม้เทคโนโลยีนี้จะมีศักยภาพมหาศาลในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดภาระงานของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความเสี่ยงที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ ลองนึกภาพว่า AI ไม่ได้แค่ตอบคำถามหรือวิเคราะห์ข้อมูล แต่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เองโดยอัตโนมัติ—นี่คือสิ่งที่เรียกว่า Agentic AI ซึ่งต่างจาก AI แบบเดิมที่ต้องอาศัยคำสั่งจากมนุษย์ Agentic AI คือระบบที่มี “agency” หรือความสามารถในการลงมือทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง เช่น ตรวจสอบช่องโหว่ในระบบ สร้างแพตช์ หรือแม้แต่ประสานงานตอบโต้ภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ แต่ความสามารถนี้ก็มาพร้อมกับคำถามใหญ่: เราจะไว้ใจให้ AI ตัดสินใจแทนเราได้แค่ไหน? จะเกิดอะไรขึ้นถ้า AI “หลอน” หรือทำผิดพลาด? และข้อมูลที่เราป้อนให้มันจะถูกส่งต่อไปที่ไหน? ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าองค์กรต้องมี “รั้วกั้น” ที่ชัดเจน เช่น การกำหนดสิทธิ์ การตรวจสอบย้อนกลับ และการควบคุมการเข้าถึงข้อมูล เพื่อป้องกันไม่ให้ AI กลายเป็นภัยเสียเอง ในขณะเดียวกัน บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Cisco, Microsoft และ IBM ก็กำลังปรับโครงสร้างระบบความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด เพื่อรองรับการทำงานของ AI ที่มีความเป็นอิสระมากขึ้น โดยเน้นการสร้างระบบที่สามารถตรวจสอบและควบคุมการตัดสินใจของ AI ได้อย่างโปร่งใส และแม้ว่า Agentic AI จะไม่แทนที่มนุษย์ในสายงานไซเบอร์ซีเคียวริตี้ แต่ก็จะเปลี่ยนแปลงทักษะที่จำเป็นอย่างสิ้นเชิง ผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ปรับตัวอาจพบว่าตำแหน่งงานของตนถูกลดความสำคัญลง ✅ การเปลี่ยนแปลงในวงการไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ➡️ Agentic AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดภาระงานของผู้เชี่ยวชาญ ➡️ สามารถสร้างแพตช์ได้เร็วกว่าเจ้าหน้าที่มนุษย์ถึง 1,000 เท่า ➡️ ไม่ใช่การลดจำนวนพนักงาน แต่เป็นการเปลี่ยนทักษะที่จำเป็น ✅ ความหมายของ Agentic AI ➡️ คือระบบที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เอง ➡️ ใช้ LLM ร่วมกับ MCP เพื่อเชื่อมต่อกับเครื่องมือภายนอก ➡️ ยังไม่มีนิยามที่ชัดเจนในวงกว้าง ✅ การใช้งานในองค์กร ➡️ CISOs ต้องตั้งคำถามก่อนนำ AI เข้ามาใช้งาน ➡️ ต้องมีระบบตรวจสอบย้อนกลับและควบคุมสิทธิ์ ➡️ การปฏิเสธ AI ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป ต้อง “ยอมรับแบบมีรั้วกั้น” ‼️ ความเสี่ยงของ Agentic AI ⛔ อาจเกิดการ “หลอน” หรือให้คำตอบผิดพลาด ⛔ ข้อมูลอาจถูกส่งต่อไปยังผู้ให้บริการ AI รายอื่นโดยไม่ตั้งใจ ⛔ MCP มีความเสี่ยงคล้าย API ที่เคยมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยมาก่อน ‼️ ความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐาน ⛔ ระบบความปลอดภัยแบบเดิมไม่สามารถรับมือกับ AI ที่มีอิสระได้ ⛔ การอัปเกรดเครือข่ายเพื่อรองรับ AI อาจละเลยเรื่องความปลอดภัย ⛔ การเชื่อมต่อระบบ OT กับ IT เพิ่มความเสี่ยงในอุตสาหกรรม https://www.csoonline.com/article/4040145/agentic-ai-promises-a-cybersecurity-revolution-with-asterisks.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Agentic AI promises a cybersecurity revolution — with asterisks
    Experts say agentic AI will rapidly change cybersecurity, freeing up talent to focus on more dynamic work. But with AI agents still in their infancy, they also urge CISOs to ask a lot of questions before committing to this new security paradigm.
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • จาก 47 วินาทีสู่ 3 วินาที: วิศวกรผู้เปลี่ยน UX ฟิตเนสด้วยตัวเอง

    Vadim ต้องใช้เวลา 47 วินาทีทุกครั้งในการเข้า PureGym ผ่านแอปที่โหลดช้า เต็มไปด้วยโฆษณาและข้อมูลไม่จำเป็น ทั้งที่เขาเข้าใช้งานถึง 6 วันต่อสัปดาห์ นั่นคือเวลาที่เสียไปกว่า 3.8 ชั่วโมงต่อปีเพียงเพื่อ “สแกนเข้า” ฟิตเนส

    เขาสังเกตว่า PIN 8 หลักที่ใช้เข้าอาคารนั้นไม่เคยเปลี่ยนเลยตลอด 8 ปี แต่ QR code ในแอปกลับรีเฟรชทุก 60 วินาทีอย่างเข้มงวดราวกับปกป้องข้อมูลลับระดับชาติ—นี่คือ “Security Theatre” ที่ดูจริงจังแต่ไม่สมเหตุสมผล

    Vadim เริ่มต้นด้วยการลองแคปหน้าจอ QR code แล้วใส่ใน Apple Wallet แต่ไม่สำเร็จ เพราะ QR code มีการเข้ารหัสและหมดอายุเร็ว เขาจึงใช้เครื่องมือ proxy เช่น mitmproxy เพื่อดักจับข้อมูล API ของ PureGym และพบว่า QR code มีโครงสร้างที่สามารถสร้างใหม่ได้

    เขาจึงสร้างระบบ backend ด้วย Swift และ Vapor เพื่อสร้าง Apple Wallet pass ที่อัปเดต QR code อัตโนมัติผ่าน push notification โดยไม่ต้องเปิดแอปเลย แถมยังเพิ่มฟีเจอร์ให้ pass ปรากฏบนหน้าจอล็อกเมื่ออยู่ใกล้ฟิตเนส และซิงค์กับ Apple Watch ได้ทันที

    แม้จะรู้ว่าการทำแบบนี้อาจละเมิดข้อกำหนดการใช้งาน แต่เขายืนยันว่าไม่ได้แจกจ่ายให้ใคร และทำเพื่อการใช้งานส่วนตัวเท่านั้น

    ปัญหาการใช้งานแอป PureGym
    ใช้เวลา 47 วินาทีในการเข้าอาคารทุกครั้ง
    แอปโหลดช้า เต็มไปด้วยข้อมูลไม่จำเป็น
    PIN 8 หลักไม่เคยเปลี่ยนเลยตลอด 8 ปี

    ความไม่สมเหตุสมผลของระบบความปลอดภัย
    QR code รีเฟรชทุก 60 วินาที
    PIN ที่ไม่ปลอดภัยกลับใช้งานได้ทุกที่
    เป็นตัวอย่างของ “Security Theatre”

    การแก้ปัญหาด้วย Apple Wallet
    ใช้ mitmproxy ดักจับ API ของ PureGym
    สร้างระบบ backend ด้วย Swift และ Vapor
    สร้าง pass ที่อัปเดต QR code อัตโนมัติ
    ซิงค์กับ Apple Watch ใช้งานได้ใน 3 วินาที

    ฟีเจอร์เสริมที่เพิ่มเข้าไป
    pass ปรากฏบนหน้าจอล็อกเมื่ออยู่ใกล้ฟิตเนส
    ดึงข้อมูลตำแหน่งฟิตเนสทั่ว UK จาก API
    เพิ่มข้อมูลความหนาแน่นของผู้ใช้งานใน Home Assistant

    ผลลัพธ์ที่ได้
    ประหยัดเวลาได้ 3.8 ชั่วโมงต่อปี
    มีคนถามถึงระบบนี้ถึง 23 ครั้ง
    ได้เรียนรู้การใช้งาน PassKit อย่างลึกซึ้ง

    https://drobinin.com/posts/how-i-accidentally-became-puregyms-unofficial-apple-wallet-developer/
    🧠 จาก 47 วินาทีสู่ 3 วินาที: วิศวกรผู้เปลี่ยน UX ฟิตเนสด้วยตัวเอง Vadim ต้องใช้เวลา 47 วินาทีทุกครั้งในการเข้า PureGym ผ่านแอปที่โหลดช้า เต็มไปด้วยโฆษณาและข้อมูลไม่จำเป็น ทั้งที่เขาเข้าใช้งานถึง 6 วันต่อสัปดาห์ นั่นคือเวลาที่เสียไปกว่า 3.8 ชั่วโมงต่อปีเพียงเพื่อ “สแกนเข้า” ฟิตเนส เขาสังเกตว่า PIN 8 หลักที่ใช้เข้าอาคารนั้นไม่เคยเปลี่ยนเลยตลอด 8 ปี แต่ QR code ในแอปกลับรีเฟรชทุก 60 วินาทีอย่างเข้มงวดราวกับปกป้องข้อมูลลับระดับชาติ—นี่คือ “Security Theatre” ที่ดูจริงจังแต่ไม่สมเหตุสมผล Vadim เริ่มต้นด้วยการลองแคปหน้าจอ QR code แล้วใส่ใน Apple Wallet แต่ไม่สำเร็จ เพราะ QR code มีการเข้ารหัสและหมดอายุเร็ว เขาจึงใช้เครื่องมือ proxy เช่น mitmproxy เพื่อดักจับข้อมูล API ของ PureGym และพบว่า QR code มีโครงสร้างที่สามารถสร้างใหม่ได้ เขาจึงสร้างระบบ backend ด้วย Swift และ Vapor เพื่อสร้าง Apple Wallet pass ที่อัปเดต QR code อัตโนมัติผ่าน push notification โดยไม่ต้องเปิดแอปเลย แถมยังเพิ่มฟีเจอร์ให้ pass ปรากฏบนหน้าจอล็อกเมื่ออยู่ใกล้ฟิตเนส และซิงค์กับ Apple Watch ได้ทันที แม้จะรู้ว่าการทำแบบนี้อาจละเมิดข้อกำหนดการใช้งาน แต่เขายืนยันว่าไม่ได้แจกจ่ายให้ใคร และทำเพื่อการใช้งานส่วนตัวเท่านั้น ✅ ปัญหาการใช้งานแอป PureGym ➡️ ใช้เวลา 47 วินาทีในการเข้าอาคารทุกครั้ง ➡️ แอปโหลดช้า เต็มไปด้วยข้อมูลไม่จำเป็น ➡️ PIN 8 หลักไม่เคยเปลี่ยนเลยตลอด 8 ปี ✅ ความไม่สมเหตุสมผลของระบบความปลอดภัย ➡️ QR code รีเฟรชทุก 60 วินาที ➡️ PIN ที่ไม่ปลอดภัยกลับใช้งานได้ทุกที่ ➡️ เป็นตัวอย่างของ “Security Theatre” ✅ การแก้ปัญหาด้วย Apple Wallet ➡️ ใช้ mitmproxy ดักจับ API ของ PureGym ➡️ สร้างระบบ backend ด้วย Swift และ Vapor ➡️ สร้าง pass ที่อัปเดต QR code อัตโนมัติ ➡️ ซิงค์กับ Apple Watch ใช้งานได้ใน 3 วินาที ✅ ฟีเจอร์เสริมที่เพิ่มเข้าไป ➡️ pass ปรากฏบนหน้าจอล็อกเมื่ออยู่ใกล้ฟิตเนส ➡️ ดึงข้อมูลตำแหน่งฟิตเนสทั่ว UK จาก API ➡️ เพิ่มข้อมูลความหนาแน่นของผู้ใช้งานใน Home Assistant ✅ ผลลัพธ์ที่ได้ ➡️ ประหยัดเวลาได้ 3.8 ชั่วโมงต่อปี ➡️ มีคนถามถึงระบบนี้ถึง 23 ครั้ง ➡️ ได้เรียนรู้การใช้งาน PassKit อย่างลึกซึ้ง https://drobinin.com/posts/how-i-accidentally-became-puregyms-unofficial-apple-wallet-developer/
    DROBININ.COM
    How I accidentally became PureGym's unofficial Apple Wallet developer
    Tired of fumbling with the PureGym app for 47 seconds every morning, I reverse-engineered their API to build an Apple Wallet pass that gets me in with a quick wrist scan. Along the way, I discovered their bizarre security theatre: QR codes that expire every minute while my ancient 8-digit PIN lives forever.
    0 Comments 0 Shares 301 Views 0 Reviews
  • Intel โชว์ชิป Arm บนเทคโนโลยี 18A: เกมใหม่ของโรงงานผลิตชิป

    ในโลกที่ Intel เคยเป็นเจ้าพ่อแห่ง x86 การที่บริษัทลุกขึ้นมาสร้างชิป Arm ด้วยตัวเองถือเป็นการเปลี่ยนเกมครั้งใหญ่ และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ “Deer Creek Falls”—ชิป SoC ต้นแบบที่ผลิตบนเทคโนโลยี 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตระดับล้ำยุคของ Intel

    ชิปนี้มีโครงสร้างแบบ hybrid ประกอบด้วย 7 คอร์: 1 คอร์ประสิทธิภาพสูง, 2 คอร์ประหยัดพลังงาน และ 4 คอร์ประหยัดพลังงานขั้นสุด พร้อม PCIe และ memory controller ที่ได้จากพันธมิตรใน ecosystem ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Intel พร้อมเปิดรับการออกแบบจากภายนอก ไม่ใช่แค่ x86 อีกต่อไป

    แม้ Intel จะไม่พูดตรง ๆ ว่าเป็นชิป Arm แต่ในวิดีโอที่โชว์การปรับแต่งประสิทธิภาพ มีการพูดถึง AArch64 ซึ่งเป็นชุดคำสั่ง 64-bit ของ Arm อย่างชัดเจน แถมยังโชว์เครื่องมือปรับแต่งซอฟต์แวร์สำหรับ Arm โดยเฉพาะ ซึ่งสวนทางกับข่าวลือว่า Intel ยังไม่มีเครื่องมือรองรับลูกค้าภายนอก

    แม้ชิปนี้จะยังไม่ใช่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ แต่มันคือการส่งสัญญาณว่า Intel Foundry พร้อมรับงานจากลูกค้า Arm และอาจใช้ชิปนี้เป็นตัวดึงดูดให้ Apple หรือ NVIDIA หันมาพิจารณาเทคโนโลยี 14A ที่กำลังจะมา

    การออกแบบของ Deer Creek Falls SoC
    ใช้โครงสร้าง hybrid: 1 คอร์ประสิทธิภาพสูง, 2 คอร์ประหยัดพลังงาน, 4 คอร์ประหยัดพลังงานขั้นสุด
    รวม PCIe controller และ memory controller จากพันธมิตรใน ecosystem
    ใช้เทคโนโลยี 18A ซึ่งมี RibbonFET และ PowerVia เพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์

    การยืนยันว่าเป็นชิป Arm
    มีการกล่าวถึง AArch64 ในวิดีโอ ซึ่งเป็นชุดคำสั่งของ Arm
    โครงสร้างคอร์แบบสามระดับคล้าย Snapdragon 8 จาก Qualcomm
    Intel ไม่พูดตรง ๆ ว่าเป็น Arm แต่โครงสร้างและคำศัพท์บ่งชี้ชัดเจน

    เครื่องมือปรับแต่งประสิทธิภาพสำหรับ Arm
    Intel โชว์ชุดเครื่องมือปรับแต่งซอฟต์แวร์สำหรับ Arm โดยเฉพาะ
    แสดงให้เห็นว่า Intel Foundry พร้อมรองรับลูกค้าภายนอก
    สวนทางกับข่าวลือว่า Intel ยังไม่มีเครื่องมือสำหรับ Arm

    เป้าหมายของ Intel Foundry
    ใช้ Deer Creek Falls เป็นตัวโชว์ศักยภาพของโรงงาน
    หวังดึงดูดลูกค้าอย่าง Apple และ NVIDIA ให้ใช้เทคโนโลยี 14A
    รัฐบาลสหรัฐฯ ให้ความสนใจ อาจผลักดันให้เกิดการใช้งานจริงเร็วขึ้น

    https://www.techpowerup.com/339952/intel-showcases-reference-arm-based-soc-manufactured-on-18a-node
    🧠 Intel โชว์ชิป Arm บนเทคโนโลยี 18A: เกมใหม่ของโรงงานผลิตชิป ในโลกที่ Intel เคยเป็นเจ้าพ่อแห่ง x86 การที่บริษัทลุกขึ้นมาสร้างชิป Arm ด้วยตัวเองถือเป็นการเปลี่ยนเกมครั้งใหญ่ และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ “Deer Creek Falls”—ชิป SoC ต้นแบบที่ผลิตบนเทคโนโลยี 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตระดับล้ำยุคของ Intel ชิปนี้มีโครงสร้างแบบ hybrid ประกอบด้วย 7 คอร์: 1 คอร์ประสิทธิภาพสูง, 2 คอร์ประหยัดพลังงาน และ 4 คอร์ประหยัดพลังงานขั้นสุด พร้อม PCIe และ memory controller ที่ได้จากพันธมิตรใน ecosystem ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Intel พร้อมเปิดรับการออกแบบจากภายนอก ไม่ใช่แค่ x86 อีกต่อไป แม้ Intel จะไม่พูดตรง ๆ ว่าเป็นชิป Arm แต่ในวิดีโอที่โชว์การปรับแต่งประสิทธิภาพ มีการพูดถึง AArch64 ซึ่งเป็นชุดคำสั่ง 64-bit ของ Arm อย่างชัดเจน แถมยังโชว์เครื่องมือปรับแต่งซอฟต์แวร์สำหรับ Arm โดยเฉพาะ ซึ่งสวนทางกับข่าวลือว่า Intel ยังไม่มีเครื่องมือรองรับลูกค้าภายนอก แม้ชิปนี้จะยังไม่ใช่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ แต่มันคือการส่งสัญญาณว่า Intel Foundry พร้อมรับงานจากลูกค้า Arm และอาจใช้ชิปนี้เป็นตัวดึงดูดให้ Apple หรือ NVIDIA หันมาพิจารณาเทคโนโลยี 14A ที่กำลังจะมา ✅ การออกแบบของ Deer Creek Falls SoC ➡️ ใช้โครงสร้าง hybrid: 1 คอร์ประสิทธิภาพสูง, 2 คอร์ประหยัดพลังงาน, 4 คอร์ประหยัดพลังงานขั้นสุด ➡️ รวม PCIe controller และ memory controller จากพันธมิตรใน ecosystem ➡️ ใช้เทคโนโลยี 18A ซึ่งมี RibbonFET และ PowerVia เพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ ✅ การยืนยันว่าเป็นชิป Arm ➡️ มีการกล่าวถึง AArch64 ในวิดีโอ ซึ่งเป็นชุดคำสั่งของ Arm ➡️ โครงสร้างคอร์แบบสามระดับคล้าย Snapdragon 8 จาก Qualcomm ➡️ Intel ไม่พูดตรง ๆ ว่าเป็น Arm แต่โครงสร้างและคำศัพท์บ่งชี้ชัดเจน ✅ เครื่องมือปรับแต่งประสิทธิภาพสำหรับ Arm ➡️ Intel โชว์ชุดเครื่องมือปรับแต่งซอฟต์แวร์สำหรับ Arm โดยเฉพาะ ➡️ แสดงให้เห็นว่า Intel Foundry พร้อมรองรับลูกค้าภายนอก ➡️ สวนทางกับข่าวลือว่า Intel ยังไม่มีเครื่องมือสำหรับ Arm ✅ เป้าหมายของ Intel Foundry ➡️ ใช้ Deer Creek Falls เป็นตัวโชว์ศักยภาพของโรงงาน ➡️ หวังดึงดูดลูกค้าอย่าง Apple และ NVIDIA ให้ใช้เทคโนโลยี 14A ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ ให้ความสนใจ อาจผลักดันให้เกิดการใช้งานจริงเร็วขึ้น https://www.techpowerup.com/339952/intel-showcases-reference-arm-based-soc-manufactured-on-18a-node
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Intel Showcases Reference Arm-based SoC Manufactured on 18A Node
    Intel Foundry has been releasing content on its products and services, and today, an interesting update came across. Intel showed a reference "Deer Creek Falls" SoC of what they call a "non-x86" design, manufactured on the 18A node. However, the design is actually Arm-based SoC. Consisting of seven ...
    0 Comments 0 Shares 254 Views 0 Reviews
  • เมื่อ iGPU ได้พลังเพิ่ม: Intel เปิดให้ปรับ VRAM ได้สูงสุดถึง 87% ของ RAM

    ในเดือนสิงหาคม 2025 Intel ได้ปล่อยไดรเวอร์กราฟิกเวอร์ชัน 32.0.101.6987 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า “Shared GPU Memory Override” ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้โน้ตบุ๊กที่มีชิป Intel Core Ultra ปรับแต่งการจัดสรร RAM ให้กับ iGPU ได้ด้วยตัวเอง

    โดยปกติ iGPU จะใช้ RAM ร่วมกับระบบ และ Windows จะจัดสรรให้ประมาณครึ่งหนึ่งของ RAM ทั้งหมด แต่ฟีเจอร์ใหม่นี้เปิดให้ผู้ใช้ปรับได้สูงสุดถึง 87% ของ RAM ทั้งหมด เพื่อใช้เป็น VRAM สำหรับงานกราฟิก เช่น เล่นเกม หรือรันโมเดล AI ขนาดใหญ่

    ผู้ใช้สามารถปรับผ่านแอป Intel Graphics Software ด้วยการเลื่อนสไลเดอร์ แล้วรีบูตเครื่องเพื่อให้การตั้งค่ามีผล ฟีเจอร์นี้รองรับเฉพาะ Core Ultra Series 2 (Arrow Lake) และต้องมี RAM อย่างน้อย 10GB

    ฟีเจอร์นี้คล้ายกับที่ AMD เคยเปิดให้ใช้ใน Ryzen AI Max+ ซึ่งสามารถจัดสรรได้ถึง 112GB จาก 128GB สำหรับงาน AI โดยเฉพาะ

    อย่างไรก็ตาม การจัดสรร RAM มากเกินไปให้กับ iGPU อาจทำให้ CPU ขาดแคลนหน่วยความจำ ส่งผลให้ระบบช้าลง โดยเฉพาะในงานที่ใช้ CPU หนัก หรือเปิดหลายโปรแกรมพร้อมกัน

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    ฟีเจอร์ Shared GPU Memory Override จาก Intel
    เปิดให้ผู้ใช้ปรับแต่งการจัดสรร RAM ให้กับ iGPU ได้ด้วยตัวเอง
    รองรับสูงสุดถึง 87% ของ RAM ทั้งหมด
    ใช้งานผ่าน Intel Graphics Software โดยต้องรีบูตเครื่องหลังปรับ

    เงื่อนไขการใช้งาน
    รองรับเฉพาะ Intel Core Ultra Series 2 (Arrow Lake)
    ต้องมี RAM อย่างน้อย 10GB
    ใช้ได้เฉพาะกับ iGPU ในเครื่องที่ไม่มีการ์ดจอแยก

    ประโยชน์ที่ได้รับ
    เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ใช้ VRAM สูง เช่น Doom: The Dark Ages, Battlefield 6
    รองรับงาน AI เช่นการรันโมเดล LLM ขนาดใหญ่แบบ local
    ปรับแต่งได้ตาม workload ที่ต้องการ เช่น ray tracing หรือ AI inference

    การเปรียบเทียบกับ AMD
    AMD มีฟีเจอร์คล้ายกันชื่อ Variable Graphics Memory
    Ryzen AI Max+ สามารถจัดสรรได้ถึง 112GB จาก 128GB
    Intel เริ่มตามทันในด้านการจัดการ unified memory สำหรับงาน AI

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/intels-new-graphics-driver-lets-you-dedicate-up-to-87-percent-of-laptop-memory-capacity-to-the-igpu-for-vram-core-ultra-cpus-get-shared-gpu-memory-override-feature
    🧠 เมื่อ iGPU ได้พลังเพิ่ม: Intel เปิดให้ปรับ VRAM ได้สูงสุดถึง 87% ของ RAM ในเดือนสิงหาคม 2025 Intel ได้ปล่อยไดรเวอร์กราฟิกเวอร์ชัน 32.0.101.6987 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า “Shared GPU Memory Override” ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้โน้ตบุ๊กที่มีชิป Intel Core Ultra ปรับแต่งการจัดสรร RAM ให้กับ iGPU ได้ด้วยตัวเอง โดยปกติ iGPU จะใช้ RAM ร่วมกับระบบ และ Windows จะจัดสรรให้ประมาณครึ่งหนึ่งของ RAM ทั้งหมด แต่ฟีเจอร์ใหม่นี้เปิดให้ผู้ใช้ปรับได้สูงสุดถึง 87% ของ RAM ทั้งหมด เพื่อใช้เป็น VRAM สำหรับงานกราฟิก เช่น เล่นเกม หรือรันโมเดล AI ขนาดใหญ่ ผู้ใช้สามารถปรับผ่านแอป Intel Graphics Software ด้วยการเลื่อนสไลเดอร์ แล้วรีบูตเครื่องเพื่อให้การตั้งค่ามีผล ฟีเจอร์นี้รองรับเฉพาะ Core Ultra Series 2 (Arrow Lake) และต้องมี RAM อย่างน้อย 10GB ฟีเจอร์นี้คล้ายกับที่ AMD เคยเปิดให้ใช้ใน Ryzen AI Max+ ซึ่งสามารถจัดสรรได้ถึง 112GB จาก 128GB สำหรับงาน AI โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม การจัดสรร RAM มากเกินไปให้กับ iGPU อาจทำให้ CPU ขาดแคลนหน่วยความจำ ส่งผลให้ระบบช้าลง โดยเฉพาะในงานที่ใช้ CPU หนัก หรือเปิดหลายโปรแกรมพร้อมกัน 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ✅ ฟีเจอร์ Shared GPU Memory Override จาก Intel ➡️ เปิดให้ผู้ใช้ปรับแต่งการจัดสรร RAM ให้กับ iGPU ได้ด้วยตัวเอง ➡️ รองรับสูงสุดถึง 87% ของ RAM ทั้งหมด ➡️ ใช้งานผ่าน Intel Graphics Software โดยต้องรีบูตเครื่องหลังปรับ ✅ เงื่อนไขการใช้งาน ➡️ รองรับเฉพาะ Intel Core Ultra Series 2 (Arrow Lake) ➡️ ต้องมี RAM อย่างน้อย 10GB ➡️ ใช้ได้เฉพาะกับ iGPU ในเครื่องที่ไม่มีการ์ดจอแยก ✅ ประโยชน์ที่ได้รับ ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ใช้ VRAM สูง เช่น Doom: The Dark Ages, Battlefield 6 ➡️ รองรับงาน AI เช่นการรันโมเดล LLM ขนาดใหญ่แบบ local ➡️ ปรับแต่งได้ตาม workload ที่ต้องการ เช่น ray tracing หรือ AI inference ✅ การเปรียบเทียบกับ AMD ➡️ AMD มีฟีเจอร์คล้ายกันชื่อ Variable Graphics Memory ➡️ Ryzen AI Max+ สามารถจัดสรรได้ถึง 112GB จาก 128GB ➡️ Intel เริ่มตามทันในด้านการจัดการ unified memory สำหรับงาน AI https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/intels-new-graphics-driver-lets-you-dedicate-up-to-87-percent-of-laptop-memory-capacity-to-the-igpu-for-vram-core-ultra-cpus-get-shared-gpu-memory-override-feature
    0 Comments 0 Shares 241 Views 0 Reviews
  • เมื่ออัจฉริยะรวมตัวกัน: Meta กับภารกิจสร้าง AI เหนือมนุษย์ และความท้าทายในการบริหารทีมระดับเทพ

    ในปี 2025 Meta ได้เปิดตัว “Superintelligence Lab” โดยรวบรวมสุดยอดนักวิจัย AI จาก OpenAI, DeepMind, Anthropic และ Scale AI เพื่อเร่งพัฒนา AI ที่มีความสามารถใกล้เคียงหรือเหนือกว่ามนุษย์ หรือที่เรียกว่า Artificial General Intelligence (AGI)

    Mark Zuckerberg ทุ่มงบมหาศาล พร้อมเสนอค่าตอบแทนระดับ $100–300 ล้านต่อคน เพื่อดึงตัวนักวิจัยระดับโลกมาร่วมทีม โดยมี Alexandr Wang อดีต CEO ของ Scale AI และ Nat Friedman อดีต CEO ของ GitHub เป็นผู้นำทีม

    แต่การรวมตัวของอัจฉริยะจำนวนมากไม่ได้หมายถึงความสำเร็จเสมอไป งานวิจัยจาก Harvard และ MIT ชี้ว่า ทีมที่มีแต่คนเก่งอาจเกิดความขัดแย้ง อีโก้ชนกัน และประสิทธิภาพลดลง หากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี

    นักวิชาการแนะนำว่า การบริหารทีมระดับสูงต้องมี “การแบ่งหน้าที่ชัดเจน” และ “โครงสร้างอำนาจที่โปร่งใส” เพื่อป้องกันการแย่งอำนาจและความขัดแย้งภายใน นอกจากนี้ยังต้องสร้าง “เคมีของทีม” ผ่านความไว้วางใจและเป้าหมายร่วมกัน

    Meta ยังต้องรับมือกับความท้าทายด้านวัฒนธรรมองค์กร การรวมคนจากหลากหลายประเทศและภูมิหลัง เช่น ทีมที่มีสมาชิกเชื้อสายจีนกว่า 50% และถือ PhD ถึง 75% อาจเกิดความขัดแย้งเชิงวัฒนธรรมและการสื่อสาร

    การสร้างทีม Superintelligence ของ Meta
    รวมตัวนักวิจัยจาก OpenAI, DeepMind, Anthropic และ Scale AI
    นำโดย Alexandr Wang และ Nat Friedman
    เป้าหมายคือสร้าง AGI ที่มีความสามารถเหนือมนุษย์

    กลยุทธ์การดึงตัวบุคลากร
    เสนอค่าตอบแทนสูงถึง $300 ล้านต่อคน
    Zuckerberg เข้าร่วมกระบวนการสรรหาด้วยตัวเอง
    ลงทุน $14.3 พันล้านใน Scale AI เพื่อดึง Wang มาร่วมทีม

    ความท้าทายด้านการบริหารทีมอัจฉริยะ
    ทีมที่มีแต่คนเก่งอาจเกิดความขัดแย้งและประสิทธิภาพลดลง
    ต้องมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจนและโครงสร้างอำนาจที่โปร่งใส
    การสร้างเคมีของทีมต้องใช้เวลาและความอดทนจากผู้นำ

    ข้อเสนอจากนักวิชาการด้านการบริหารทีม
    กำหนด “เลน” ของแต่ละคนให้ชัดเจน
    สร้างโครงสร้างอำนาจที่ยืดหยุ่นแต่ชัดเจน
    สร้างความไว้วางใจและเป้าหมายร่วมกันในทีม

    ความหลากหลายของทีมและผลกระทบ
    ทีมมีสมาชิกเชื้อสายจีนกว่า 50% และถือ PhD ถึง 75%
    ความหลากหลายช่วยเพิ่มมุมมอง แต่ต้องจัดการความขัดแย้งทางวัฒนธรรม
    การสื่อสารและความเข้าใจระหว่างสมาชิกเป็นหัวใจสำคัญ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/16/metas-superintelligence-dream-team-will-be-management-challenge-of-the-century
    🧠 เมื่ออัจฉริยะรวมตัวกัน: Meta กับภารกิจสร้าง AI เหนือมนุษย์ และความท้าทายในการบริหารทีมระดับเทพ ในปี 2025 Meta ได้เปิดตัว “Superintelligence Lab” โดยรวบรวมสุดยอดนักวิจัย AI จาก OpenAI, DeepMind, Anthropic และ Scale AI เพื่อเร่งพัฒนา AI ที่มีความสามารถใกล้เคียงหรือเหนือกว่ามนุษย์ หรือที่เรียกว่า Artificial General Intelligence (AGI) Mark Zuckerberg ทุ่มงบมหาศาล พร้อมเสนอค่าตอบแทนระดับ $100–300 ล้านต่อคน เพื่อดึงตัวนักวิจัยระดับโลกมาร่วมทีม โดยมี Alexandr Wang อดีต CEO ของ Scale AI และ Nat Friedman อดีต CEO ของ GitHub เป็นผู้นำทีม แต่การรวมตัวของอัจฉริยะจำนวนมากไม่ได้หมายถึงความสำเร็จเสมอไป งานวิจัยจาก Harvard และ MIT ชี้ว่า ทีมที่มีแต่คนเก่งอาจเกิดความขัดแย้ง อีโก้ชนกัน และประสิทธิภาพลดลง หากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี นักวิชาการแนะนำว่า การบริหารทีมระดับสูงต้องมี “การแบ่งหน้าที่ชัดเจน” และ “โครงสร้างอำนาจที่โปร่งใส” เพื่อป้องกันการแย่งอำนาจและความขัดแย้งภายใน นอกจากนี้ยังต้องสร้าง “เคมีของทีม” ผ่านความไว้วางใจและเป้าหมายร่วมกัน Meta ยังต้องรับมือกับความท้าทายด้านวัฒนธรรมองค์กร การรวมคนจากหลากหลายประเทศและภูมิหลัง เช่น ทีมที่มีสมาชิกเชื้อสายจีนกว่า 50% และถือ PhD ถึง 75% อาจเกิดความขัดแย้งเชิงวัฒนธรรมและการสื่อสาร ✅ การสร้างทีม Superintelligence ของ Meta ➡️ รวมตัวนักวิจัยจาก OpenAI, DeepMind, Anthropic และ Scale AI ➡️ นำโดย Alexandr Wang และ Nat Friedman ➡️ เป้าหมายคือสร้าง AGI ที่มีความสามารถเหนือมนุษย์ ✅ กลยุทธ์การดึงตัวบุคลากร ➡️ เสนอค่าตอบแทนสูงถึง $300 ล้านต่อคน ➡️ Zuckerberg เข้าร่วมกระบวนการสรรหาด้วยตัวเอง ➡️ ลงทุน $14.3 พันล้านใน Scale AI เพื่อดึง Wang มาร่วมทีม ✅ ความท้าทายด้านการบริหารทีมอัจฉริยะ ➡️ ทีมที่มีแต่คนเก่งอาจเกิดความขัดแย้งและประสิทธิภาพลดลง ➡️ ต้องมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจนและโครงสร้างอำนาจที่โปร่งใส ➡️ การสร้างเคมีของทีมต้องใช้เวลาและความอดทนจากผู้นำ ✅ ข้อเสนอจากนักวิชาการด้านการบริหารทีม ➡️ กำหนด “เลน” ของแต่ละคนให้ชัดเจน ➡️ สร้างโครงสร้างอำนาจที่ยืดหยุ่นแต่ชัดเจน ➡️ สร้างความไว้วางใจและเป้าหมายร่วมกันในทีม ✅ ความหลากหลายของทีมและผลกระทบ ➡️ ทีมมีสมาชิกเชื้อสายจีนกว่า 50% และถือ PhD ถึง 75% ➡️ ความหลากหลายช่วยเพิ่มมุมมอง แต่ต้องจัดการความขัดแย้งทางวัฒนธรรม ➡️ การสื่อสารและความเข้าใจระหว่างสมาชิกเป็นหัวใจสำคัญ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/16/metas-superintelligence-dream-team-will-be-management-challenge-of-the-century
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta’s superintelligence dream team will be management challenge of the century
    Without expert management, too much talent in one group can lead to diminishing returns – or even outright failure – if egos clash and the chemistry is poor enough.
    0 Comments 0 Shares 280 Views 0 Reviews
  • สถาบันนักการเมืองสุดท้ายคือตัวขัดขวางความเจริญในหลากหลายมิติของสังคมไทยทั้งประเทศ,ขัดขวางความดีงามมากมายก็ด้วยมิใช่แค่ความเจริญทางวัตถุคู่ขนานศีลธรรม,ภาคการเมืองเอาไปเอามาคือเครื่องมือทำลายประเทศไทยของต่างชาติ เป็นเครื่องมือปกครองของต่างชาติผ่านระบบที่มันออกแบบสร้างและส่งออกไปทั่วโลก,ทั้งหมดนั้นมันควบคุมกติกาเงื่อนไขในสิ่งที่มันสร้างตลอดชีพได้ด้วย,การจะทำประเทศไทยให้สงบร่มเย็นจริง ทั้งในประเทศไทยและอาเชียนหรือเอเชียเรา,ต้องร่วมใจกันทิ้งระบบนี้ทำลายระบบส่งออกนี้ของฝรั่งในทุกๆประเทศของเอเชียเราทันที ไม่ว่าจะระบบประชาธิปไตยหรือระบบเผด็จการแบบคอมมิวนิสต์ต่างล้วนมันออกแบบเพื่อสร้างความแตกแยกหมายควบคุมทั้งหมดนั้นเอง,
    ..ไทยเราต้องทุบทิ้งระบบส่งออกของฝรั่งนี้ทันทีเป็นชาติแรกของโลกที่ปลดปล่อยตนเอง,จากนั้นสร้างต้นแบบใหม่ของตนเองขึ้นมาให้เป็นค่าจริงสะท้อนความเป็นจริงในปัจจุบันหรือต้นแบบชาติแรกของโลกที่ใช้วิถีปกครองแบบอารยะธรรมจักรวาลสากลทั่วจักรวาลใช้ๆกันจริงและเป็นอารยะธรรมปกครองขั้นสูงผู้มีอารยะใช้ในสัมมาชีวิตตนทั่วจักรวาล,มโนในที่นี้คือ ระบบธรรมาธิปไตย,ธรรมเป็นใหญ่ชนะทั่วอนันตจักรวาล,คนไทยจะใช้ธรรมปกครองตนภายในใจประจำตนประจำใจทุกๆคนให้ดีที่สุดนั้นเองภายใต้อิสระเสรีบนเจตจำนงเสรีในสัมมาชีวิตและสัมมาอาชีพของแต่ละคนไทยเรานั้นเอง,ไทยเรามีต้นทุนนี้ดีงามฐานดีเป็นหลักชัยอยู่แล้วจึงง่ายและสะดวกมาก,เมื่อเราเป็นชาติแรกต้นแบบแรกของโลกทำได้สำเร็จ สามารถขยายวิถีปกครองนี้ไปทั่วอาเชียนทั่วเอเชียและทั่วโลกได้สบายแน่นอน,โลกจะสงบสุขร่มเย็นทันที,
    ..การปกครองทั้งหมดในโลกใช้ระบบที่ล้มเหลวแต่ต้น,ไม่บริสุทธิ์ด้วย,จึงทำให้ทั่วโลกโกลาหลตลอดเวลา,
    ..เรา..ประเทศไทยเปลี่ยนมันได้,ทหารพระราชาเปลี่ยนมันได้ ความสามัคคีของคนไทยทั้งประเทศสร้างมันขึ้นมาร่วมกันเองได้,ทิ้งระบบฝรั่งที่ไม่ถูกจริตจริงแก่เราไป,ความเจริญรุ่งเรืองรุ่งโรจน์จะปรากฎขึ้นทันทีแน่นอนแก่ประเทศไทยเรา.เพราะตาสติตาปัญญาตาเข้าถึงค่าจริงความจริงจะเกิดขึ้นแก่คนไทยเรานั้นเอง,ขาวดำ ดีชั่ว เราคนไทยจะตื่นรู้ชัดแจ้งนั้นเองด้วยตัวเอง,นั้นคือจะพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายนั้นเองก็ด้วย,ยุคศิวิไซระยะสั้นๆก่อนสิ้นพุทธกาลจะบังเกิดในชาติไทยจริงนั้นเอง,เราสามารถพลิกตัวทันกาลก็ว่า,

    กฎอัยการศึกทั่วประเทศจึงสำคัญในเวลานี้.



    https://youtube.com/watch?v=N96PG91e2YY&si=fwUhq6GqRX-21F6C
    สถาบันนักการเมืองสุดท้ายคือตัวขัดขวางความเจริญในหลากหลายมิติของสังคมไทยทั้งประเทศ,ขัดขวางความดีงามมากมายก็ด้วยมิใช่แค่ความเจริญทางวัตถุคู่ขนานศีลธรรม,ภาคการเมืองเอาไปเอามาคือเครื่องมือทำลายประเทศไทยของต่างชาติ เป็นเครื่องมือปกครองของต่างชาติผ่านระบบที่มันออกแบบสร้างและส่งออกไปทั่วโลก,ทั้งหมดนั้นมันควบคุมกติกาเงื่อนไขในสิ่งที่มันสร้างตลอดชีพได้ด้วย,การจะทำประเทศไทยให้สงบร่มเย็นจริง ทั้งในประเทศไทยและอาเชียนหรือเอเชียเรา,ต้องร่วมใจกันทิ้งระบบนี้ทำลายระบบส่งออกนี้ของฝรั่งในทุกๆประเทศของเอเชียเราทันที ไม่ว่าจะระบบประชาธิปไตยหรือระบบเผด็จการแบบคอมมิวนิสต์ต่างล้วนมันออกแบบเพื่อสร้างความแตกแยกหมายควบคุมทั้งหมดนั้นเอง, ..ไทยเราต้องทุบทิ้งระบบส่งออกของฝรั่งนี้ทันทีเป็นชาติแรกของโลกที่ปลดปล่อยตนเอง,จากนั้นสร้างต้นแบบใหม่ของตนเองขึ้นมาให้เป็นค่าจริงสะท้อนความเป็นจริงในปัจจุบันหรือต้นแบบชาติแรกของโลกที่ใช้วิถีปกครองแบบอารยะธรรมจักรวาลสากลทั่วจักรวาลใช้ๆกันจริงและเป็นอารยะธรรมปกครองขั้นสูงผู้มีอารยะใช้ในสัมมาชีวิตตนทั่วจักรวาล,มโนในที่นี้คือ ระบบธรรมาธิปไตย,ธรรมเป็นใหญ่ชนะทั่วอนันตจักรวาล,คนไทยจะใช้ธรรมปกครองตนภายในใจประจำตนประจำใจทุกๆคนให้ดีที่สุดนั้นเองภายใต้อิสระเสรีบนเจตจำนงเสรีในสัมมาชีวิตและสัมมาอาชีพของแต่ละคนไทยเรานั้นเอง,ไทยเรามีต้นทุนนี้ดีงามฐานดีเป็นหลักชัยอยู่แล้วจึงง่ายและสะดวกมาก,เมื่อเราเป็นชาติแรกต้นแบบแรกของโลกทำได้สำเร็จ สามารถขยายวิถีปกครองนี้ไปทั่วอาเชียนทั่วเอเชียและทั่วโลกได้สบายแน่นอน,โลกจะสงบสุขร่มเย็นทันที, ..การปกครองทั้งหมดในโลกใช้ระบบที่ล้มเหลวแต่ต้น,ไม่บริสุทธิ์ด้วย,จึงทำให้ทั่วโลกโกลาหลตลอดเวลา, ..เรา..ประเทศไทยเปลี่ยนมันได้,ทหารพระราชาเปลี่ยนมันได้ ความสามัคคีของคนไทยทั้งประเทศสร้างมันขึ้นมาร่วมกันเองได้,ทิ้งระบบฝรั่งที่ไม่ถูกจริตจริงแก่เราไป,ความเจริญรุ่งเรืองรุ่งโรจน์จะปรากฎขึ้นทันทีแน่นอนแก่ประเทศไทยเรา.เพราะตาสติตาปัญญาตาเข้าถึงค่าจริงความจริงจะเกิดขึ้นแก่คนไทยเรานั้นเอง,ขาวดำ ดีชั่ว เราคนไทยจะตื่นรู้ชัดแจ้งนั้นเองด้วยตัวเอง,นั้นคือจะพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายนั้นเองก็ด้วย,ยุคศิวิไซระยะสั้นๆก่อนสิ้นพุทธกาลจะบังเกิดในชาติไทยจริงนั้นเอง,เราสามารถพลิกตัวทันกาลก็ว่า, กฎอัยการศึกทั่วประเทศจึงสำคัญในเวลานี้. https://youtube.com/watch?v=N96PG91e2YY&si=fwUhq6GqRX-21F6C
    0 Comments 0 Shares 329 Views 0 Reviews
  • ..ฉันเคยอยากออกบวชเพื่อทำที่สุดทุกข์ให้ได้.." เคยถามแม่ตอนเด็กเล็กๆ6-7ขวบ."ว่าสุดขอบฟ้าอยู่ตรงไหนเราเดินออกจากโลกนี้กันเถอะ แม่นิ่ง..ฉันแสวงหาความหมายของชีวิตว่าเกิดมาทำไม?ไปโบถส์เรียนคำสอนอื่นๆ เป็นพุทธแค่ในทะเบียนบ้านแต่ใจไม่มีศาสนาอะไรเลย อายุยี่สิบก่วาอยากมีลูกเพื่อให้เขาบวชแทนฉันทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ"..คืนหนึ่งนอนหลับและฝันไปว่าผู้คนมากมายเบียดกันแทบไม่มีช่องว่างและฆ่าฟันกันกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันสำคัญว่าเป็นเนื้อสัตว์เท่านั้น"..ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงพูดกับฉันว่าเธออยากให้ลูกเธอเกิดมาในกาลียุคเช่นนี้หรือ..เห็นเลือดท่วมข้อเท้าช้างนองไปทั่วพื้น"ตื่นจากฝันเลยเปลี่ยนความคิดว่าไม่ดีก่วาและการจะให้ใครมาทำความฝันให้มันไม่ยุติธรรมกับเขาเลย.ความคิดพับเก็บ..แต่การอยากมีลูกของฉันนั้นคือต้องไม่มีแฟนนะทำเด็กหลอดแก้วประมาณนั้น"...แม่เคยเล่าว่าฉันเกิดมาเกือบทำให้แม่ต้องตายเจ็บท้องทรมานถึง7วัน7คืนมีเสียงปริศนามาบอกให้แม่ไปคลอดฉันที่ใต้ต้นมะขามใหญ่หน้าหมู่บ้านแม่ไม่ไปทนเจ็บอยู่บ้านหลังหนึ่งอยู่นาน ในที่สุดก็ต้องขนย้ายกันไปบ้านอีกหลังแล้วก็คลอดฉันออกมาลูกหลงสุดท้องอย่างฉันเป็นความหวังของพี่ว่าจะได้น้องชายแต่กับเป็นผู้หญิงเขาก็พากันผิดหวัง "แต่ฉันเป็นผู้หญิงแต่ใจแมนมาก"แม่ฉันชอบสร้างหนังสือพระไตรปิฎกถวายวัดเสมอเลยสงสัยถามแม่ว่าดียังไงเหรอ แม่บอกอยากรู้ก็อ่านเองซิ แต่ฉันอ่านหนังสือตัวกูของกูของหลวงพ่อพุทธทาสก่อนเลยเกิดศรัธทา เลยลองอ่านพระไตรปิฎกดูอ่านแล้ววางไม่ลงเลยเป็นอะไรที่น่าสนใจมากหลายอย่างไม่เข้าใจหรอกไม่มีสภาวะ(ประสบการณ์ตรง)แต่ก็อ่านจบใช้เวลา3เดือน6วันครั้งแรกและอ่านจนครบ9รอบมันน่าทึ่งมากที่มีอัจฉริยะมนุษย์อย่างพระพุทธเจ้าเกิดมาตรัสรู้อะไรแบบนี้ได้สุดยอดมากๆยังไม่ค่อยเข้าใจก็ค่อยๆเรียนรู้คู่ไปกับการปฎิบัติด้วยตัวเองหัดนั่งสมาธิที่บ้านนั่งทั้งวันโดยไม่กินข้าวไม่อาบน้ำทำอยู่แบบนั้นมันเจ็บปวดทรมานร่างกายสุดๆเหมือนตัวจะระเบิดตัวร้อนเหมือนไฟเหงื่อออกมาไหลเป็นน้ำร้อนกระเพาะก็ร้องหิวแต่จิตฉันไม่หิวร่างกายเจ็บปวดแต่จิตไม่เจ็บปวดใดๆเลยตัวเริ่มแข็งคอแข็งจากนั้นกลางระหว่างคิ้วมีแสงพุ่งออกมาคล้ายตาที่สามเปิดความรู้ๆทุกอย่างแล้วกาย&จิต ก็แยกออกจากกันให้รู้ในคราวนั้น ฉันก็ฝึกเองมาเรื่อยๆต่อมาฉันนั่งสมาธิจากตัวแข็งรับรู้ตรงกลางระห่วางคิ้วจากนั้นหัวตึงไปหมดความรู้สึกสุดท้ายตรงกลางกระหม่อมเหมือนจิตพุ่งหลุดออกจากกายๆฉันหายไปพร้อมเวทนาทางกายหายไปจนหมดสิ้น มีแต่รู้ๆว่างๆอยู่แบบนั้น นั่งสมาธิคราวใดก็จะเข้าสมาธิเร็วและกายหายไปเป็นแบบนั้นอยู่2ปีเลยเลิกนั่งสมาธิเพราะไม่รู้จะถามใครได้ จนกระทั่งได้ฟังคำบรรยายธรรมของหลวงปูดุลย์ อตุโล จึงเข้าใจและไปต่อได้ หลวงปู่สอนว่ามีตัวรู้ในขันธ์5 และธาตุรู้โดยธรรมชาติไม่เกี่ยวกับขันธ์5ใดๆเลย"ฉันได้เกิดใหม่อีกครั้งโดยธรรมบุญในครี้งนี้ได้มาเพราะ"แม่ของฉันเธอคือแสงสว่างและความรักที่ไร้เงื่อนไขใดๆไม่คาดหวัง ไม่เรียกร้อง อ้อมกอดของแม่เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุด.."ฉันรู้ว่าถ้าฉันมีลูกฉันจะต้องตายเพราะฉะนั้นฉันจึงตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าเมื่อต้องเอาชีวิตเข้าแรก เด็กคนนั้นต้องเป็นอัจฉริยะมนุษย์มีบุญญาธิการเพื่อมาช่วยปลุกสัตว์ให้ตื่นเท่านั้นถ้าไม่ได้เช่นนั้นฉันจะไม่รับเด็ดขาดฉันยังมีความคาดหวังแต่ไม่ใช่กิเลสแต่เป็นกุศล..บุญใดที่ลูกคนนี้ได้ทำแล้วและจะทำต่อไปบุญนั้นแม่พ่อบรรพบุรุษตลอดทั้งผู้ดูแลรักษาข้าพเจ้ามีส่วนในบุญนั้นๆด้วยเสมอสาธุ(บุญเป็นชื่อของความสุขเมื่อทำแล้วสุขใจก็เป็นบุญแล้ว"หลวงพ่อพุทธทาสได้กล่าวไว้.
    🧘‍♀️..ฉันเคยอยากออกบวชเพื่อทำที่สุดทุกข์ให้ได้.." เคยถามแม่ตอนเด็กเล็กๆ6-7ขวบ."ว่าสุดขอบฟ้าอยู่ตรงไหนเราเดินออกจากโลกนี้กันเถอะ แม่นิ่ง..ฉันแสวงหาความหมายของชีวิตว่าเกิดมาทำไม?ไปโบถส์เรียนคำสอนอื่นๆ เป็นพุทธแค่ในทะเบียนบ้านแต่ใจไม่มีศาสนาอะไรเลย อายุยี่สิบก่วาอยากมีลูกเพื่อให้เขาบวชแทนฉันทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ"..คืนหนึ่งนอนหลับและฝันไปว่าผู้คนมากมายเบียดกันแทบไม่มีช่องว่างและฆ่าฟันกันกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันสำคัญว่าเป็นเนื้อสัตว์เท่านั้น"..ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงพูดกับฉันว่าเธออยากให้ลูกเธอเกิดมาในกาลียุคเช่นนี้หรือ..เห็นเลือดท่วมข้อเท้าช้างนองไปทั่วพื้น"ตื่นจากฝันเลยเปลี่ยนความคิดว่าไม่ดีก่วาและการจะให้ใครมาทำความฝันให้มันไม่ยุติธรรมกับเขาเลย.ความคิดพับเก็บ..แต่การอยากมีลูกของฉันนั้นคือต้องไม่มีแฟนนะทำเด็กหลอดแก้วประมาณนั้น"...แม่เคยเล่าว่าฉันเกิดมาเกือบทำให้แม่ต้องตายเจ็บท้องทรมานถึง7วัน7คืนมีเสียงปริศนามาบอกให้แม่ไปคลอดฉันที่ใต้ต้นมะขามใหญ่หน้าหมู่บ้านแม่ไม่ไปทนเจ็บอยู่บ้านหลังหนึ่งอยู่นาน ในที่สุดก็ต้องขนย้ายกันไปบ้านอีกหลังแล้วก็คลอดฉันออกมาลูกหลงสุดท้องอย่างฉันเป็นความหวังของพี่ว่าจะได้น้องชายแต่กับเป็นผู้หญิงเขาก็พากันผิดหวัง "แต่ฉันเป็นผู้หญิงแต่ใจแมนมาก"แม่ฉันชอบสร้างหนังสือพระไตรปิฎกถวายวัดเสมอเลยสงสัยถามแม่ว่าดียังไงเหรอ แม่บอกอยากรู้ก็อ่านเองซิ แต่ฉันอ่านหนังสือตัวกูของกูของหลวงพ่อพุทธทาสก่อนเลยเกิดศรัธทา เลยลองอ่านพระไตรปิฎกดูอ่านแล้ววางไม่ลงเลยเป็นอะไรที่น่าสนใจมากหลายอย่างไม่เข้าใจหรอกไม่มีสภาวะ(ประสบการณ์ตรง)แต่ก็อ่านจบใช้เวลา3เดือน6วันครั้งแรกและอ่านจนครบ9รอบมันน่าทึ่งมากที่มีอัจฉริยะมนุษย์อย่างพระพุทธเจ้าเกิดมาตรัสรู้อะไรแบบนี้ได้สุดยอดมากๆยังไม่ค่อยเข้าใจก็ค่อยๆเรียนรู้คู่ไปกับการปฎิบัติด้วยตัวเองหัดนั่งสมาธิที่บ้านนั่งทั้งวันโดยไม่กินข้าวไม่อาบน้ำทำอยู่แบบนั้นมันเจ็บปวดทรมานร่างกายสุดๆเหมือนตัวจะระเบิดตัวร้อนเหมือนไฟเหงื่อออกมาไหลเป็นน้ำร้อนกระเพาะก็ร้องหิวแต่จิตฉันไม่หิวร่างกายเจ็บปวดแต่จิตไม่เจ็บปวดใดๆเลยตัวเริ่มแข็งคอแข็งจากนั้นกลางระหว่างคิ้วมีแสงพุ่งออกมาคล้ายตาที่สามเปิดความรู้ๆทุกอย่างแล้วกาย&จิต ก็แยกออกจากกันให้รู้ในคราวนั้น ฉันก็ฝึกเองมาเรื่อยๆต่อมาฉันนั่งสมาธิจากตัวแข็งรับรู้ตรงกลางระห่วางคิ้วจากนั้นหัวตึงไปหมดความรู้สึกสุดท้ายตรงกลางกระหม่อมเหมือนจิตพุ่งหลุดออกจากกายๆฉันหายไปพร้อมเวทนาทางกายหายไปจนหมดสิ้น มีแต่รู้ๆว่างๆอยู่แบบนั้น นั่งสมาธิคราวใดก็จะเข้าสมาธิเร็วและกายหายไปเป็นแบบนั้นอยู่2ปีเลยเลิกนั่งสมาธิเพราะไม่รู้จะถามใครได้ จนกระทั่งได้ฟังคำบรรยายธรรมของหลวงปูดุลย์ อตุโล จึงเข้าใจและไปต่อได้ หลวงปู่สอนว่ามีตัวรู้ในขันธ์5 และธาตุรู้โดยธรรมชาติไม่เกี่ยวกับขันธ์5ใดๆเลย"ฉันได้เกิดใหม่อีกครั้งโดยธรรมบุญในครี้งนี้ได้มาเพราะ"แม่ของฉันเธอคือแสงสว่างและความรักที่ไร้เงื่อนไขใดๆไม่คาดหวัง ไม่เรียกร้อง อ้อมกอดของแม่เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุด.."ฉันรู้ว่าถ้าฉันมีลูกฉันจะต้องตายเพราะฉะนั้นฉันจึงตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าเมื่อต้องเอาชีวิตเข้าแรก เด็กคนนั้นต้องเป็นอัจฉริยะมนุษย์มีบุญญาธิการเพื่อมาช่วยปลุกสัตว์ให้ตื่นเท่านั้นถ้าไม่ได้เช่นนั้นฉันจะไม่รับเด็ดขาดฉันยังมีความคาดหวังแต่ไม่ใช่กิเลสแต่เป็นกุศล..บุญใดที่ลูกคนนี้ได้ทำแล้วและจะทำต่อไปบุญนั้นแม่พ่อบรรพบุรุษตลอดทั้งผู้ดูแลรักษาข้าพเจ้ามีส่วนในบุญนั้นๆด้วยเสมอสาธุ🔆🙇‍♀️(บุญเป็นชื่อของความสุขเมื่อทำแล้วสุขใจก็เป็นบุญแล้ว"หลวงพ่อพุทธทาสได้กล่าวไว้.
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 342 Views 0 0 Reviews
  • ✍กราบสวัสดีคะอ.สนธิที่เคารพ...#การกำเนิด"MOU43-44"เกิดขึ้นตั้งแต่การเจรจาปี2542(ค.ศ.1999)สมัยคุณชวน หลีกภัย&หม่อมสุขุมพันธุ์!!!!"ในเวลานั้นลุงตู่ยังเป็นผู้บังคับกองพันทหารรักษาพระองค์อยู่เลย ในกรณีนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับ"ท่านนายกประยุทธ์ จันทร์โอชา .ด้วยนะคะหนูไม่ได้เป็นติ่งลุงตู่ สมัยพันธมิตรชุมนุมหนูเองยังตามืดบอดชอบนายทักกี้อยู่เลย "แต่หนูฝันถึงพลเอกเปรมท่านบอกหนูว่าเธอชอบอสรพิษหรือ? "หนูเลยเริ่มค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆด้วยตัวเองจากหลายแหล่งข่าวไม่ดูทีวีเลยหนูติดตามอ่านเพจของ อ.ดร.สมเกียรติ โอสถสภา,อ.ปฐมพงษ์"ท่านให้ความรู้และข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก อย่างอ.สมเกียรติ หนูนับถือเหมือนพ่อคนหนึ่งเลยสอบถามอะไรท่านก็จะตอบเสมอมาบางครั้งหนูถามคำถามแบบโง่ๆนะคะว่าทำไมประเทศ'USมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเกิดภัยแล้งขาดแคลนน้ำทำไมเขาไม่ทำฝนหลวงให้ประชาชนล่ะคะแม้แต่ในฝรั่งเศสออกกฎหมายว่าถ้าใครเอาน้ำไปรดต้นไม้ที่ปลูกไว้กินจะผิดกฎหมาย อาจารย์บอกมาว่าประเทศพวกนั้นเขาไม่ทำฝนหลวงแบบพ่อหลวง ร.9เราหรอก"เขาศึกษาวิจัยไว้ใช้ในสงครามเท่านั้นหนูยังถามต่ออีกว่าอาวุธต่างๆที่เราสั่งมาเก็บไว้นานๆจะไม่หมดอายุหรือแล้วใครจะเป็นคนซ่อมบำรุงเขารับประกันกี่ปีแล้วเราจะ"QA..อย่างไร?คุยกันล่าสุดก็ปี2019ช่วงมีโควิดหนูถามท่านว่าไวรัสโคโรน่ามันไม่สามารถติดต่อข้ามสปีชีส์มนุษย์ได้เพราะโคโรน่าไวรัสตัวนี้มันมีในอยู่สัตว์ตามปกติอยู่แล้วมันจะไม่ติดต่อข้ามสายพันธ ุ์อีกอย่างมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตคุณสมบัติมันไม่พอมันมีเชลล์เดียวไปโทษค้างคาวจึงไม่ถูกต้องหนูบอกท่านไปว่า(พระโพธิสัตว์กวนอิมความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ)บอกหนูว่ามันเป็นอาวุธชีวภาพตัดต่อในห้องแล๊บทำออกมา4สายพันธุ์ใหญ่ๆเวลาจะใช้ต้องแยกใช้ทีละตัวมันใช้วิธีสำเนาไปทั่วอวัยวะสัตว์ๆตายมันก็อยู่ไม่ได้ แต่สามารถสำเนาต่อได้("ความจริงมันอยู่ในเข็ม"ว.ซ)แต่ตอนนั้นคนก็เข้ามาเถียงเยอะเลย แต่หนูก็ไม่มีความรู้อะไรแค่ฟังเฉยๆตัวหนูเองน้ำตื้นเงาก็ตื้นด้วยหนูบอกว่าเขาต้องการทำลายเศรษฐกิจโลก และต่อไปจะเกิดสงครามใหญ่ ตอนนั้นหนูเองยังไม่เชื่อเลยเพราะยังไม่มีสงครามยูเครนด้วยซ้ำท่านบอกว่าให้เตรียมพื้นที่ทำแบบที่ในหลวงร.9"สอนไว้เราจะรอด ต่อมาหนูก็ไม่ได้อ่านเพจท่านเพราะรู้สึกเนื้อหาเปลี่ยนไปมาก และมาทราบว่าท่านเสียชีวิตแล้วหนูอยากไปกราบลาท่านสักครั้งนะแต่สอบถามไปเขาบอกจัดเป็นการภายในก็ลาท่านในใจ ท่านมักจะให้คะแนนคำถามของหนู" A+,AA,AAA+...หนูก็ไม่เข้าใจหรอกคะเพราะหนูไม่ได้เรียนมหาลัยเรียนแค่ปวส.เองความรู้ไม่มี งูๆปลาๆยังไม่ถึงเลย "เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่านะคะตอนที่จัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ฯอ.สนธิได้เอาชื่อลุงตู่ขึ้นไปแขวนด่าเลยทำให้เสียแนวร่วมไปเยอะเลยหนูว่า"ป..ไหนชั่วก็ตัดไปเป็นคนๆไปจะดีกว่าไหมคะคนที่มีส่วนในการสั่งการลอบยิงอ.สนธิก็รู้ว่าเป็นใครเราก็ตัดเขาออกไป✍ส่วนคนหัวล้านนิดๆเราก็ตัดออกไปเขาเคยสั่งย้ายผู้ว่าหมูป่า..เราก็ตัดไป..ลุงตู่ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องอ.สนธิอย่าเอามาแขวนเลยยามนี้เราควรสามัคคีกันสู้ไส้ศึกภายในและภายนอกซึ้งก็หนักมากอยู่แล้วเราจะสูญเสียความสามัคคีไปไม่ได้วันที่2เพื่อนๆตอนแรกเขาตั้งใจจะไปเขาดูรายการแล้วด่าลุงตู่เขาบอกเขาไม่ไปหนูก็พูดอะไรไม่ได้"รายการอ.ปานเทพคุยกับพล.โท กนกก็ดูนะมันก็ชัดเจนคะแต่เราต้องรู้ว่ามันมีคนใหญ่กว่าลุงตู่อยู่อีกนะคะ"ถ้าลุงตู่ ดิวทักกี้กลับมาก็คงไม่ใช่ท่านทำเองหรอกคะ หนูเห็นอ.สนธิพูดเสมอเลยว่าสักวันฟ้าจะเปลี่ยนสีก็ไม่ค่อยเข้าใจ "แต่สื่อต่างชาติเขาเขียนชัดเจนเลยนะคะว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่กลุ่มพันธุ์มิตรเริ่มชุมนุมแล้ว ภาพบางอย่างเริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆอะไรที่มันซุกไว้ใต้พรมยังไงก็ต้องเผยตัวออกมาเองจริงไหมคะ"เราต้องให้ความเป็นธรรมกับลุงตู่บ้างว่าสมัยท่านเป็นนายกบ้านเมืองเราก็เจริญแบบกว้ากระโดดจนต่างชาติยังอึ้งเลย#อีกประการหนึ่งลุงตู่ขึ้นเป็นองคมนตรีแล้วถ้าเราดึงท่านมาว่าต่างๆนานา #แล้วเราจะต่างอะไรกับพวก"นปช.ที่ล่วงเกินพลเอกเปรมละ่คะ หนูนับถือการทำงานของบ้านพระอาทิตย์ทุกคน "คุณอาสนธิก็อายุเท่าแม่หนูเลยหนูก็นับถือเหมือนพ่อหนูคนหนึ่งเลยคะ "เหตุสงครามปะทะกันระหว่างกัมพูชากับไทยเหมือนเป็นบทละครที่ถูกวางไว้หมดแล้วจากคนกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากขายแผ่นดินกิน เรามาร่วมมือร่วมใจกันขับไล่คนจัญไรให้พ้นแผ่นดินกันดีกว่าพวกมันน่าจะมีจำนวนมากพอสมควรเลยล่ะมีหลายระดับด้วยคนอัปรีย์พวกนี้นะ "ถ้าหนูมีอำนาจจะจับมากุดหัว7ชั่วโคตรเลยแต่ก่อนมันจะตายจะหลอมเงินทองแล้วกรอกปากมันให้กินให้อิ่มเลยอยากได้ไม่ใช่เหรอหิวมากมีเท่าไหร่ก็ไม่พอเพราะฉะนั้นจะให้มันตายอย่างทรมานที่สุดแค่ตัดหัวหรือยิงเป้ามันง่ายเกินไปคนพวกนี้ต้องลองนรกบนดินก่อนจะไปลงนรกอเวจีจริงๆเพราะตอนนั้นมันคงจำไม่ได้แม้แต่ตัวมันเองว่าได้ทำชั่วอะไรมาถึงต้องถูกลงโทษเช่นนั้น..."ทรัพยากรในไทยมีมากมายเลยมีแต่คนอยากได้ ประเทศไหนอยากได้ก็ต้องเสนอประมูลมาที่ไทยซิกัมพูชาไม่เกี่ยว#ใครเสนอผลประโยชน์ให้ประเทศไทยสูงสุดคนนั้นก็จะได้ไปไม่ใช่ดิวลับจ่ายเข้ากระเป๋าใคร ชาติบ้านเมืองไม่ได้อะไรเลย เหมือนเราใช้น้ำมันราคาแพงก่วาเพื่อนบ้านที่ซื้อจากเราๆต้องจ่ายค่า FT ทำไมในเมื่อกำไรคุณเอาไปเต็มๆแต่ความเสี่ยงมาโยนให้ประชาชนจ่ายเราต้องจ่ายค่าไฟแพงเพื่อชดเชยให้โรงงานที่ไม่เคยผลิตไฟเลยทำไม?"กฝผ.เสนอสามารถผลิตไฟให้คนไทยใช้ได้ในหน่วยล่ะ1.50-2บาท.แล้วเราต้องใช้ไฟแพงจากเอกชนยูนิตล่ะ5-6บ.ทำไม?"อ.สนธิ,อ.ปานเทพคะรักษาสุขภาพด้วยนะเป็นห่วงจริงๆจากใจ#ประเทศไทยคนเก่งเยอะมากแต่คนกล้าหายากจริงๆเพราะชนตอม่อเยอะสะกิดไปตรงไหนก็มีแต่ตอภัยอันตรายมันจึงเยอะมาก ถ้ามีอะไรล่วงเกินกราบขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วย#หนูเคยถามลุงตู่ว่าอยู่มา8ปีทำไมไม่ยกเลิกMOU43-44พี่สาวหนูบอกว่าเหนือฟ้ามีฟ้าหรือเปล่าให้เขาจัดการกันเองเถอะเราเป็นแค่เม็ดทรายทำอะไรไม่ได้หรอกพี่สาวว่าๆทำไมอินจังเครียดนอนไม่ค่อยหลับหนูบอกก็ที่นี่มันคือแผ่นดินของเราๆจะทิ้งลมหายใจไว้ที่นี่ จะตายที่นี้ไม่ไปไหน ความตายไม่เคยกลัวเพราะตายและเกิดมานับร่างไม่ถ้วนแล้วแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แค่นั้น ตราบใดยังไม่สิ้นกิเลสก็ยังต้องเกิดอีกแน่นอน กราบสวัสดีคะพี่น้อง..Thaitime#Truth from Thailand✍"แผ่นดินนี้มีบุญคุณยิ่งใหญ่นักให้บ้านร่มเงาหลบแดดฝนภัยนาๆอยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา
    ✍กราบสวัสดีคะอ.สนธิที่เคารพ...#การกำเนิด"MOU43-44"เกิดขึ้นตั้งแต่การเจรจาปี2542(ค.ศ.1999)สมัยคุณชวน หลีกภัย&หม่อมสุขุมพันธุ์!!!!"ในเวลานั้นลุงตู่ยังเป็นผู้บังคับกองพันทหารรักษาพระองค์อยู่เลย ในกรณีนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับ"ท่านนายกประยุทธ์ จันทร์โอชา .ด้วยนะคะหนูไม่ได้เป็นติ่งลุงตู่ สมัยพันธมิตรชุมนุมหนูเองยังตามืดบอดชอบนายทักกี้อยู่เลย "แต่หนูฝันถึงพลเอกเปรมท่านบอกหนูว่าเธอชอบอสรพิษ🐍หรือ? "หนูเลยเริ่มค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆด้วยตัวเองจากหลายแหล่งข่าวไม่ดูทีวีเลยหนูติดตามอ่านเพจของ อ.ดร.สมเกียรติ โอสถสภา,อ.ปฐมพงษ์"ท่านให้ความรู้และข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก อย่างอ.สมเกียรติ หนูนับถือเหมือนพ่อคนหนึ่งเลยสอบถามอะไรท่านก็จะตอบเสมอมาบางครั้งหนูถามคำถามแบบโง่ๆนะคะว่าทำไมประเทศ'USมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเกิดภัยแล้งขาดแคลนน้ำทำไมเขาไม่ทำฝนหลวงให้ประชาชนล่ะคะแม้แต่ในฝรั่งเศสออกกฎหมายว่าถ้าใครเอาน้ำไปรดต้นไม้ที่ปลูกไว้กินจะผิดกฎหมาย อาจารย์บอกมาว่าประเทศพวกนั้นเขาไม่ทำฝนหลวงแบบพ่อหลวง ร.9เราหรอก"เขาศึกษาวิจัยไว้ใช้ในสงครามเท่านั้นหนูยังถามต่ออีกว่าอาวุธต่างๆที่เราสั่งมาเก็บไว้นานๆจะไม่หมดอายุหรือแล้วใครจะเป็นคนซ่อมบำรุงเขารับประกันกี่ปีแล้วเราจะ"QA..อย่างไร?คุยกันล่าสุดก็ปี2019ช่วงมีโควิดหนูถามท่านว่าไวรัสโคโรน่ามันไม่สามารถติดต่อข้ามสปีชีส์มนุษย์ได้เพราะโคโรน่าไวรัสตัวนี้มันมีในอยู่สัตว์ตามปกติอยู่แล้วมันจะไม่ติดต่อข้ามสายพันธ ุ์อีกอย่างมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตคุณสมบัติมันไม่พอมันมีเชลล์เดียวไปโทษค้างคาวจึงไม่ถูกต้องหนูบอกท่านไปว่า(พระโพธิสัตว์กวนอิมความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ)บอกหนูว่ามันเป็นอาวุธชีวภาพตัดต่อในห้องแล๊บทำออกมา4สายพันธุ์ใหญ่ๆเวลาจะใช้ต้องแยกใช้ทีละตัวมันใช้วิธีสำเนาไปทั่วอวัยวะสัตว์ๆตายมันก็อยู่ไม่ได้ แต่สามารถสำเนาต่อได้("ความจริงมันอยู่ในเข็ม"ว.ซ)แต่ตอนนั้นคนก็เข้ามาเถียงเยอะเลย แต่หนูก็ไม่มีความรู้อะไรแค่ฟังเฉยๆตัวหนูเองน้ำตื้นเงาก็ตื้นด้วยหนูบอกว่าเขาต้องการทำลายเศรษฐกิจโลก และต่อไปจะเกิดสงครามใหญ่ ตอนนั้นหนูเองยังไม่เชื่อเลยเพราะยังไม่มีสงครามยูเครนด้วยซ้ำท่านบอกว่าให้เตรียมพื้นที่ทำแบบที่ในหลวงร.9"สอนไว้เราจะรอด ต่อมาหนูก็ไม่ได้อ่านเพจท่านเพราะรู้สึกเนื้อหาเปลี่ยนไปมาก และมาทราบว่าท่านเสียชีวิตแล้วหนูอยากไปกราบลาท่านสักครั้งนะแต่สอบถามไปเขาบอกจัดเป็นการภายในก็ลาท่านในใจ ท่านมักจะให้คะแนนคำถามของหนู" A+,AA,AAA+...หนูก็ไม่เข้าใจหรอกคะเพราะหนูไม่ได้เรียนมหาลัยเรียนแค่ปวส.เองความรู้ไม่มี งูๆปลาๆยังไม่ถึงเลย "เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่านะคะตอนที่จัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ฯอ.สนธิได้เอาชื่อลุงตู่ขึ้นไปแขวนด่าเลยทำให้เสียแนวร่วมไปเยอะเลยหนูว่า"ป..ไหนชั่วก็ตัดไปเป็นคนๆไปจะดีกว่าไหมคะคนที่มีส่วนในการสั่งการลอบยิงอ.สนธิก็รู้ว่าเป็นใครเราก็ตัดเขาออกไป👉✍ส่วนคนหัวล้านนิดๆเราก็ตัดออกไปเขาเคยสั่งย้ายผู้ว่าหมูป่า..เราก็ตัดไป..ลุงตู่ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องอ.สนธิอย่าเอามาแขวนเลยยามนี้เราควรสามัคคีกันสู้ไส้ศึกภายในและภายนอกซึ้งก็หนักมากอยู่แล้วเราจะสูญเสียความสามัคคีไปไม่ได้วันที่2เพื่อนๆตอนแรกเขาตั้งใจจะไปเขาดูรายการแล้วด่าลุงตู่เขาบอกเขาไม่ไปหนูก็พูดอะไรไม่ได้"รายการอ.ปานเทพคุยกับพล.โท กนกก็ดูนะมันก็ชัดเจนคะแต่เราต้องรู้ว่ามันมีคนใหญ่กว่าลุงตู่อยู่อีกนะคะ"ถ้าลุงตู่ ดิวทักกี้กลับมาก็คงไม่ใช่ท่านทำเองหรอกคะ หนูเห็นอ.สนธิพูดเสมอเลยว่าสักวันฟ้าจะเปลี่ยนสีก็ไม่ค่อยเข้าใจ "แต่สื่อต่างชาติเขาเขียนชัดเจนเลยนะคะว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่กลุ่มพันธุ์มิตรเริ่มชุมนุมแล้ว ภาพบางอย่างเริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆอะไรที่มันซุกไว้ใต้พรมยังไงก็ต้องเผยตัวออกมาเองจริงไหมคะ"เราต้องให้ความเป็นธรรมกับลุงตู่บ้างว่าสมัยท่านเป็นนายกบ้านเมืองเราก็เจริญแบบกว้ากระโดดจนต่างชาติยังอึ้งเลย#อีกประการหนึ่งลุงตู่ขึ้นเป็นองคมนตรีแล้วถ้าเราดึงท่านมาว่าต่างๆนานา #แล้วเราจะต่างอะไรกับพวก"นปช.ที่ล่วงเกินพลเอกเปรมละ่คะ หนูนับถือการทำงานของบ้านพระอาทิตย์ทุกคน "คุณอาสนธิก็อายุเท่าแม่หนูเลยหนูก็นับถือเหมือนพ่อหนูคนหนึ่งเลยคะ "เหตุสงครามปะทะกันระหว่างกัมพูชากับไทยเหมือนเป็นบทละครที่ถูกวางไว้หมดแล้วจากคนกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากขายแผ่นดินกิน เรามาร่วมมือร่วมใจกันขับไล่คนจัญไรให้พ้นแผ่นดินกันดีกว่าพวกมันน่าจะมีจำนวนมากพอสมควรเลยล่ะมีหลายระดับด้วยคนอัปรีย์พวกนี้นะ "ถ้าหนูมีอำนาจจะจับมากุดหัว7ชั่วโคตรเลยแต่ก่อนมันจะตายจะหลอมเงินทองแล้วกรอกปากมันให้กินให้อิ่มเลยอยากได้ไม่ใช่เหรอหิวมากมีเท่าไหร่ก็ไม่พอเพราะฉะนั้นจะให้มันตายอย่างทรมานที่สุดแค่ตัดหัวหรือยิงเป้ามันง่ายเกินไปคนพวกนี้ต้องลองนรกบนดินก่อนจะไปลงนรกอเวจีจริงๆเพราะตอนนั้นมันคงจำไม่ได้แม้แต่ตัวมันเองว่าได้ทำชั่วอะไรมาถึงต้องถูกลงโทษเช่นนั้น😡👿👇🔥..."ทรัพยากรในไทยมีมากมายเลยมีแต่คนอยากได้ ประเทศไหนอยากได้ก็ต้องเสนอประมูลมาที่ไทยซิกัมพูชาไม่เกี่ยว#ใครเสนอผลประโยชน์ให้ประเทศไทยสูงสุดคนนั้นก็จะได้ไปไม่ใช่ดิวลับจ่ายเข้ากระเป๋าใคร🙄 ชาติบ้านเมืองไม่ได้อะไรเลย เหมือนเราใช้น้ำมันราคาแพงก่วาเพื่อนบ้านที่ซื้อจากเราๆต้องจ่ายค่า FT ทำไมในเมื่อกำไรคุณเอาไปเต็มๆแต่ความเสี่ยงมาโยนให้ประชาชนจ่ายเราต้องจ่ายค่าไฟแพงเพื่อชดเชยให้โรงงานที่ไม่เคยผลิตไฟเลยทำไม?"กฝผ.เสนอสามารถผลิตไฟให้คนไทยใช้ได้ในหน่วยล่ะ1.50-2บาท.แล้วเราต้องใช้ไฟแพงจากเอกชนยูนิตล่ะ5-6บ.ทำไม?"อ.สนธิ,อ.ปานเทพคะรักษาสุขภาพด้วยนะเป็นห่วงจริงๆจากใจ🤍#ประเทศไทยคนเก่งเยอะมากแต่คนกล้าหายากจริงๆเพราะชนตอม่อเยอะสะกิดไปตรงไหนก็มีแต่ตอภัยอันตรายมันจึงเยอะมาก ถ้ามีอะไรล่วงเกินกราบขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วย🙇‍♀️#หนูเคยถามลุงตู่ว่าอยู่มา8ปีทำไมไม่ยกเลิกMOU43-44พี่สาวหนูบอกว่าเหนือฟ้ามีฟ้าหรือเปล่าให้เขาจัดการกันเองเถอะเราเป็นแค่เม็ดทรายทำอะไรไม่ได้หรอกพี่สาวว่าๆทำไมอินจังเครียดนอนไม่ค่อยหลับหนูบอกก็ที่นี่มันคือแผ่นดินของเราๆจะทิ้งลมหายใจไว้ที่นี่ จะตายที่นี้ไม่ไปไหน ความตายไม่เคยกลัวเพราะตายและเกิดมานับร่างไม่ถ้วนแล้วแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แค่นั้น ตราบใดยังไม่สิ้นกิเลสก็ยังต้องเกิดอีกแน่นอน กราบสวัสดีคะพี่น้อง..Thaitime#Truth from Thailand🇹🇭✍"แผ่นดินนี้มีบุญคุณยิ่งใหญ่นักให้บ้านร่มเงาหลบแดดฝนภัยนาๆอยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา🙆‍♀️💛
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 506 Views 0 0 Reviews
More Results