• สัปดาห์ที่แล้วพูดเรื่องยาโรยแผล วันนี้เลยมาคุยเรื่องอาวุธ
    Storyฯ เคยเล่าถึงชุดมัจฉาบินขององครักษ์เสื้อแพรไปแล้ว วันนี้คุยกันเรื่องสัญลักษณ์ประจำตัวอีกอย่างหนึ่งขององครักษ์เสื้อแพรอันเลื่องชื่อแห่งราชวงศ์หมิง ซึ่งก็คือดาบซิ่วชุน (绣春刀) ซึ่งเป็นดาบพระราชทาน

    ความมีอยู่ว่า
    ... ผู้ตรวจราชการเฝิงมิกล่าวกระไร เพียงหยิบดาบที่วางอยู่ข้างหน้าขึ้นมา มันเป็นดาบเรียวยาวปลายโค้งเล็กน้อย เบาแต่แข็งแกร่งคล่องมือ สะดวกต่อการใช้ประมือในระยะใกล้ เขาจ้องมองมันคล้ายกำลังรำลึกถึงความหลัง ดวงตาเริ่มทอประกายความพลุ่งพล่านในใจ เพียงสะกิดตรงคอดาบ เสียงครืดก็ดังขึ้นพร้อมกับใบดาบอันคมกริบโผล่ขึ้นมาครึ่งศอก ผู้ตรวจราชการเฝิงใช้นิ้วไล้ไปบนใบดาบพร้อมกับเอ่ยเบาๆ กับตนเอง “ดาบซิ่วชุน... อา... ดาบซิ่วชุน ต้องรออีกนานเท่าใด ความงดงามอหังการ์ของเจ้าจึงจะได้ปรากฎต่อสายตาผู้คนอีกครา?” ...

    - จากเรื่อง <เสื้อแพรเหินราตรี> ผู้แต่ง เยวี่ยกวน
    (หมายเหตุ ละครเรื่อง Braveness of The Ming ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้ เข้าใจว่ายังไม่เข้าฉาย)

    ว่ากันว่า ดาบซิ่วชุนทำจากเหล็กกล้าและอาจมีส่วนผสมอื่น ผ่านการ ‘ตีพันครั้งเผาร้อยครั้ง’ ขึ้นชื่อเรื่องความคมกริบ สามารถใช้บั่นหัวม้าได้ เหมาะกับการต่อสู้แบบประชิดตัวทั้งมือเดียวและสองมือ และยังสะดวกต่อการสู้รบบนหลังม้า ผู้ที่ตำแหน่งยิ่งสูงเนื้อดาบยิ่งบริสุทธิ์และลวดลายบนดาบยิ่งวิจิตร (เป็นที่มาของคำว่า ‘ซิ่วชุน’ แปลว่า ‘ลายปักวสันต์’) ลักษณะของดาบเป็นไปตามคำบรรยายในนิยายข้างต้น

    เห็นรูปดาบซิ่วชุนบนเน็ตมากมาย แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วไม่เคยมีการค้นพบของจริง เป็นเพียงการจำลองขึ้นตามคำบรรยายที่มีการจารึกไว้ ดังนั้นในความเห็นของ Storyฯ ดาบซิ่วชุนเป็นอาวุธที่ทั้งไม่ลึกลับและลึกลับ ที่ว่าไม่ลึกลับเพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง แต่ที่ว่าลึกลับก็เพราะว่าไม่มีใครเคยเห็นของจริงนั่นเอง

    แล้วใครกันล่ะที่มีสิทธิ์ใช้? บางบันทึกบอกว่า เนื่องจากเป็นดาบพระราชทานจึงต้องเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงในหน่วยองครักษ์เสื้อแพรเท่านั้นจึงจะมีใช้ และบางบันทึกกล่าวว่ากองทหารรักษาพระองค์อวี้หลิน (御林军) ก็มีใช้ดาบซิ่วชุน นอกจากนี้ยังเคยมีบันทึกว่ามีแพทย์หลวงผู้หนึ่งนามว่าอู๋เจี๋ยในรัชสมัยขององค์จูโฮ่วเจ้า (ฮ่องเต้เจิ้งเต๋อแห่งราชวงศ์หมิง ค.ศ. 1491-1521) มีผลงานโดดเด่นจนได้รับพระราชทานชุดลายพยัคฆ์พร้อมดาบซิ่วชุน

    ดาบซิ่วชุนที่แท้จริงหน้าตาเป็นอย่างไร? ใครนอกเหนือจากองครักษ์เสื้อแพรใช้ได้บ้าง? ไม่มีใครรู้แน่ชัด เพียงแต่กล่าวขานกันว่าเป็นดาบที่งามวิจิตรและมีอานุภาพร้ายแรง สมศักดิ์ศรีองครักษ์เสื้อแพรอันน่าเกรงขามแห่งราชวงศ์หมิง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.163.com/dy/article/EIJJNHRH05377G1M.html, https://kknews.cc/zh-my/history/zr5b99p.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://ishare.ifeng.com/c/s/7jdz4ruaDa2
    https://baike.baidu.com/item/%E7%BB%A3%E6%98%A5%E5%88%80/75656
    https://zh.wikipedia.org/wiki/%E7%B9%A1%E6%98%A5%E5%88%80

    #องครักษ์เสื้อแพร #ดาบซิ่วชุน #ราชวงศ์หมิง StoryfromStory
    สัปดาห์ที่แล้วพูดเรื่องยาโรยแผล วันนี้เลยมาคุยเรื่องอาวุธ Storyฯ เคยเล่าถึงชุดมัจฉาบินขององครักษ์เสื้อแพรไปแล้ว วันนี้คุยกันเรื่องสัญลักษณ์ประจำตัวอีกอย่างหนึ่งขององครักษ์เสื้อแพรอันเลื่องชื่อแห่งราชวงศ์หมิง ซึ่งก็คือดาบซิ่วชุน (绣春刀) ซึ่งเป็นดาบพระราชทาน ความมีอยู่ว่า ... ผู้ตรวจราชการเฝิงมิกล่าวกระไร เพียงหยิบดาบที่วางอยู่ข้างหน้าขึ้นมา มันเป็นดาบเรียวยาวปลายโค้งเล็กน้อย เบาแต่แข็งแกร่งคล่องมือ สะดวกต่อการใช้ประมือในระยะใกล้ เขาจ้องมองมันคล้ายกำลังรำลึกถึงความหลัง ดวงตาเริ่มทอประกายความพลุ่งพล่านในใจ เพียงสะกิดตรงคอดาบ เสียงครืดก็ดังขึ้นพร้อมกับใบดาบอันคมกริบโผล่ขึ้นมาครึ่งศอก ผู้ตรวจราชการเฝิงใช้นิ้วไล้ไปบนใบดาบพร้อมกับเอ่ยเบาๆ กับตนเอง “ดาบซิ่วชุน... อา... ดาบซิ่วชุน ต้องรออีกนานเท่าใด ความงดงามอหังการ์ของเจ้าจึงจะได้ปรากฎต่อสายตาผู้คนอีกครา?” ... - จากเรื่อง <เสื้อแพรเหินราตรี> ผู้แต่ง เยวี่ยกวน (หมายเหตุ ละครเรื่อง Braveness of The Ming ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้ เข้าใจว่ายังไม่เข้าฉาย) ว่ากันว่า ดาบซิ่วชุนทำจากเหล็กกล้าและอาจมีส่วนผสมอื่น ผ่านการ ‘ตีพันครั้งเผาร้อยครั้ง’ ขึ้นชื่อเรื่องความคมกริบ สามารถใช้บั่นหัวม้าได้ เหมาะกับการต่อสู้แบบประชิดตัวทั้งมือเดียวและสองมือ และยังสะดวกต่อการสู้รบบนหลังม้า ผู้ที่ตำแหน่งยิ่งสูงเนื้อดาบยิ่งบริสุทธิ์และลวดลายบนดาบยิ่งวิจิตร (เป็นที่มาของคำว่า ‘ซิ่วชุน’ แปลว่า ‘ลายปักวสันต์’) ลักษณะของดาบเป็นไปตามคำบรรยายในนิยายข้างต้น เห็นรูปดาบซิ่วชุนบนเน็ตมากมาย แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วไม่เคยมีการค้นพบของจริง เป็นเพียงการจำลองขึ้นตามคำบรรยายที่มีการจารึกไว้ ดังนั้นในความเห็นของ Storyฯ ดาบซิ่วชุนเป็นอาวุธที่ทั้งไม่ลึกลับและลึกลับ ที่ว่าไม่ลึกลับเพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง แต่ที่ว่าลึกลับก็เพราะว่าไม่มีใครเคยเห็นของจริงนั่นเอง แล้วใครกันล่ะที่มีสิทธิ์ใช้? บางบันทึกบอกว่า เนื่องจากเป็นดาบพระราชทานจึงต้องเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงในหน่วยองครักษ์เสื้อแพรเท่านั้นจึงจะมีใช้ และบางบันทึกกล่าวว่ากองทหารรักษาพระองค์อวี้หลิน (御林军) ก็มีใช้ดาบซิ่วชุน นอกจากนี้ยังเคยมีบันทึกว่ามีแพทย์หลวงผู้หนึ่งนามว่าอู๋เจี๋ยในรัชสมัยขององค์จูโฮ่วเจ้า (ฮ่องเต้เจิ้งเต๋อแห่งราชวงศ์หมิง ค.ศ. 1491-1521) มีผลงานโดดเด่นจนได้รับพระราชทานชุดลายพยัคฆ์พร้อมดาบซิ่วชุน ดาบซิ่วชุนที่แท้จริงหน้าตาเป็นอย่างไร? ใครนอกเหนือจากองครักษ์เสื้อแพรใช้ได้บ้าง? ไม่มีใครรู้แน่ชัด เพียงแต่กล่าวขานกันว่าเป็นดาบที่งามวิจิตรและมีอานุภาพร้ายแรง สมศักดิ์ศรีองครักษ์เสื้อแพรอันน่าเกรงขามแห่งราชวงศ์หมิง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.163.com/dy/article/EIJJNHRH05377G1M.html, https://kknews.cc/zh-my/history/zr5b99p.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://ishare.ifeng.com/c/s/7jdz4ruaDa2 https://baike.baidu.com/item/%E7%BB%A3%E6%98%A5%E5%88%80/75656 https://zh.wikipedia.org/wiki/%E7%B9%A1%E6%98%A5%E5%88%80 #องครักษ์เสื้อแพร #ดาบซิ่วชุน #ราชวงศ์หมิง StoryfromStory
    张翰《锦衣夜行》帅出新高度!徐正溪、魏千翔、吴倩,你最期待谁
    张翰《锦衣夜行》帅出新高度!徐正溪、魏千翔、吴倩,你最期待谁,
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้คุยต่อเรื่องเกี่ยวกับองครักษ์เสื้อแพรตามคำขอจากเพื่อนเพจ
    ความมีอยู่ว่า
    ...แขนของถงอวี่ถูกจินเซี่ยขวางไว้ สีหน้าจึงเครียดขึ้น “ข้าบอกกล่าวต่อเจ้า มันผู้นี้เป็นคนที่องครักษ์เสื้อแพรต้องการ ผู้ใดตั้งใจขัดขวางเหนี่ยวรั้ง นับเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด เจ้ามีอำนาจขัดขวาง?”...
    - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ
    (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    เวลาดูละครเรามักจะเห็นภาพขององครักษ์เสื้อแพรที่มีอำนาจสูง อยากทำอะไรก็ได้ เป็นอย่างนั้นจริงหรือ? วันนี้เราคุยเรื่องหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพร

    ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักองค์รักษ์เสื้อแพรโดยคร่าว มันเป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นโดยปฐมกษัตริย์จูหยวนจางแห่งราชวงศ์หมิงเมื่อประมาณปีค.ศ. 1368 เป็นการรวมสองหน่วยงานเข้าด้วยกันคือ ‘ชิงจวินตูเว่ยฝู่’ (亲军都尉府) คือหน่วยราชองครักษ์และ ‘อี๋หลวนซือ’ (仪鸾司) ที่รับผิดชอบงานขบวนราชพิธี ก่อนที่จะมาเป็นที่รู้จักในนาม ‘จิ่นอีเว่ย’ หรือองครักษ์เสื้อแพรที่เรารู้จักกันดี

    สองชื่อนี้บ่งบอกถึงสองหน้าที่หลักเมื่อตอนก่อตั้งหน่วยงาน ซึ่งก็คือเป็นราชองรักษ์ และยามที่ฮ่องเต้เสด็จไปยังที่ต่างๆ (ดูจากรูป ในชุดมัจฉาบินสีแดง) พวกเขาเป็นทั้งผู้ดูแลพิธีการและความถูกต้องของขบวนเสด็จและเป็นผู้ตามเสด็จ

    เพราะได้รับความไว้วางพระทัยและเพราะฮ่องเต้ในเกือบทุกรัชสมัยมีความระแวงสูง ต่อมาจึงมีการขยายขอบเขตหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพรให้รวมถึงสอดแนมและสืบสวนขุนนาง ขึ้นตรงต่อองค์ฮ่องเต้ไม่ผ่านกรมกระทรวงใด มีคุกหลวงใต้อาณัติ จึงเป็นที่มาของหน้าที่สืบสวนสอบสวนที่เราเห็นในนิยายหลายเรื่อง

    แต่จริงๆ แล้วองครักษ์เสื้อแพรไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างที่เห็นจากภาพลักษณ์ในละคร

    จากข้อมูลในบันทึกเกร็ดประวัติศาสตร์รัชสมัยองค์ว่านลี่ (万历野获编) การจับกุมคนต้องมีหมายจับที่ออกตามพระราชโองการของฮ่องเต้เท่านั้น การเสนอให้ออกหมายจับต้องผ่านการลงนามเห็นชอบโดยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองสืบสวนสอบสวนซึ่งเป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง และหมายจับต้องระบุชื่อคนที่จะจับอย่างชัดเจน หนึ่งหมายจับต่อหนึ่งคน และหากต้องนำจับนอกพื้นที่ยังต้องมีการประทับตราจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเช่นกันเพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร นอกจากนี้การลงทัณฑ์นักโทษก็ต้องได้รับพระบรมราชานุญาตก่อน เพียงแต่มีอิสระในวิธีและรูปแบบการสอบสวน (เป็นที่ล่ำลือว่าคุกหลวงในอาณัติขององครักษ์เสื้อแพรมีวิธีการที่โหดร้ายที่สุด)

    หน่วยงานนี้มีฐานประจำการอยู่ในเมืองหลวงเท่านั้น หากมีคดีที่ต้องติดตามนอกเมืองหลวงต้องมีคำสั่งปฏิบัติงานนอกพื้นที่ มีการขออนุมัติและเบิกค่าใช้จ่ายล่วงหน้าชัดเจน แต่โดยปกติจะว่าจ้างคนหาข่าวในพื้นที่ต่างๆ ไม่ต้องทำเองทั้งหมด

    ดังนั้น สำหรับหน่วยงานที่มีคนหลายหมื่น (ในบางยุคสมัยมีเจ้าหน้าที่รวมเกือบหกหมื่นคน) โดยปกติจึงมีคนมากกว่างานหลักที่กล่าวมาข้างต้น เลยต้องมีงานอย่างอื่นทำนอกเหนือจากสามหน้าที่หลักที่กล่าวมาแล้ว ทั้งหน้าที่ประจำและงานสัพเพเหระตามแต่ฮ่องเต้จะมีพระบัญชา เท่าที่อ่านเจอมีดังนี้
     หาข่าวสารในช่วงสงคราม: อันนี้เป็นการเฉพาะกิจ เคยถูกใช้เป็นหน่วยสอดแนมให้กองทัพ
     เฝ้าประตูวัง: รับผิดชอบดูแลเฉพาะประตูหลักของวังหลวงหรือที่เรียกว่า ‘อู่เหมิน’ (คือประตูที่ใช้โดยฮ่องเต้เท่านั้น หรือเฉพาะคนที่ได้รับพระบรมราชานุญาตในโอกาสพิเศษ) ถือว่าเป็นหน่วยราชองครักษ์ที่มี ‘หน้าตา’ กว่าราชองครักษ์กองอื่น
     ดูแลความสะอาด: อันนี้แปลก แต่เนื่องจากมีระดับชั้นผู้น้อยที่ไม่ได้เป็นขุนนางติดยศเป็นจำนวนมากและไม่มีหน้าที่ลาดตระเวน จึงถูกใช้ดูแลความสะอาดของเมืองหลวง เช่นกวาดถนนและคูน้ำต่างๆ ฯลฯ
     เลี้ยงช้าง: อันนี้ยิ่งแปลก แต่ในสมัยโบราณมีการใช้ช้างในขบวนราชพิธี ตัวอย่างจาก “หมิงสื่อ /明史” หรือบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง มีพูดถึงขบวนเสด็จราชพิธีบวงสรวงว่าที่มีเสือและช้างเดินนำ การดูแลทำความสะอาดและเลี้ยงช้างเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพร

    ขออภัยหากข้อมูลข้างต้นลดทอนภาพลักษณ์อันหน้าเกรงขามของเหล่าองครักษ์เสื้อแพร

    และด้วยหน้าที่ที่หลากหลายขององครักษ์เสื้อแพร Storyฯ เลยอยากจะเตือนความทรงจำของเพื่อนเพจถึงบทความที่ Storyฯ เคยเขียนไปก่อนหน้านี้ว่า ไม่ใช่องครักษ์เสื้อแพรทุกคนที่ใส่ชุดมัจฉาบินและติดดาบซิ่วชุนได้ เนื่องจากทั้งสองสิ่งเป็นของพระราชทานสำหรับขุนนางติดยศเท่านั้น

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://k.sina.cn/article_1229799315_494d3f9300100l3br.html

    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.52shijing.com/zgls/123948.html
    http://www.360doc.com/content/17/1108/21/18848094_702172237.shtml
    https://ppfocus.com/sg/0/hi2ce1da4.html
    http://www.manyanu.com/new/c67503edffe34e4eb5fa46ac96bc834e

    #ใต้เท้าลู่ #องครักษ์เสื้อแพร #จิ่นอีเว่ย #ราชวงศ์หมิง #ประวัติศาสตร์จีน
    วันนี้คุยต่อเรื่องเกี่ยวกับองครักษ์เสื้อแพรตามคำขอจากเพื่อนเพจ ความมีอยู่ว่า ...แขนของถงอวี่ถูกจินเซี่ยขวางไว้ สีหน้าจึงเครียดขึ้น “ข้าบอกกล่าวต่อเจ้า มันผู้นี้เป็นคนที่องครักษ์เสื้อแพรต้องการ ผู้ใดตั้งใจขัดขวางเหนี่ยวรั้ง นับเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด เจ้ามีอำนาจขัดขวาง?”... - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) เวลาดูละครเรามักจะเห็นภาพขององครักษ์เสื้อแพรที่มีอำนาจสูง อยากทำอะไรก็ได้ เป็นอย่างนั้นจริงหรือ? วันนี้เราคุยเรื่องหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพร ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักองค์รักษ์เสื้อแพรโดยคร่าว มันเป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นโดยปฐมกษัตริย์จูหยวนจางแห่งราชวงศ์หมิงเมื่อประมาณปีค.ศ. 1368 เป็นการรวมสองหน่วยงานเข้าด้วยกันคือ ‘ชิงจวินตูเว่ยฝู่’ (亲军都尉府) คือหน่วยราชองครักษ์และ ‘อี๋หลวนซือ’ (仪鸾司) ที่รับผิดชอบงานขบวนราชพิธี ก่อนที่จะมาเป็นที่รู้จักในนาม ‘จิ่นอีเว่ย’ หรือองครักษ์เสื้อแพรที่เรารู้จักกันดี สองชื่อนี้บ่งบอกถึงสองหน้าที่หลักเมื่อตอนก่อตั้งหน่วยงาน ซึ่งก็คือเป็นราชองรักษ์ และยามที่ฮ่องเต้เสด็จไปยังที่ต่างๆ (ดูจากรูป ในชุดมัจฉาบินสีแดง) พวกเขาเป็นทั้งผู้ดูแลพิธีการและความถูกต้องของขบวนเสด็จและเป็นผู้ตามเสด็จ เพราะได้รับความไว้วางพระทัยและเพราะฮ่องเต้ในเกือบทุกรัชสมัยมีความระแวงสูง ต่อมาจึงมีการขยายขอบเขตหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพรให้รวมถึงสอดแนมและสืบสวนขุนนาง ขึ้นตรงต่อองค์ฮ่องเต้ไม่ผ่านกรมกระทรวงใด มีคุกหลวงใต้อาณัติ จึงเป็นที่มาของหน้าที่สืบสวนสอบสวนที่เราเห็นในนิยายหลายเรื่อง แต่จริงๆ แล้วองครักษ์เสื้อแพรไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างที่เห็นจากภาพลักษณ์ในละคร จากข้อมูลในบันทึกเกร็ดประวัติศาสตร์รัชสมัยองค์ว่านลี่ (万历野获编) การจับกุมคนต้องมีหมายจับที่ออกตามพระราชโองการของฮ่องเต้เท่านั้น การเสนอให้ออกหมายจับต้องผ่านการลงนามเห็นชอบโดยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองสืบสวนสอบสวนซึ่งเป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง และหมายจับต้องระบุชื่อคนที่จะจับอย่างชัดเจน หนึ่งหมายจับต่อหนึ่งคน และหากต้องนำจับนอกพื้นที่ยังต้องมีการประทับตราจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเช่นกันเพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร นอกจากนี้การลงทัณฑ์นักโทษก็ต้องได้รับพระบรมราชานุญาตก่อน เพียงแต่มีอิสระในวิธีและรูปแบบการสอบสวน (เป็นที่ล่ำลือว่าคุกหลวงในอาณัติขององครักษ์เสื้อแพรมีวิธีการที่โหดร้ายที่สุด) หน่วยงานนี้มีฐานประจำการอยู่ในเมืองหลวงเท่านั้น หากมีคดีที่ต้องติดตามนอกเมืองหลวงต้องมีคำสั่งปฏิบัติงานนอกพื้นที่ มีการขออนุมัติและเบิกค่าใช้จ่ายล่วงหน้าชัดเจน แต่โดยปกติจะว่าจ้างคนหาข่าวในพื้นที่ต่างๆ ไม่ต้องทำเองทั้งหมด ดังนั้น สำหรับหน่วยงานที่มีคนหลายหมื่น (ในบางยุคสมัยมีเจ้าหน้าที่รวมเกือบหกหมื่นคน) โดยปกติจึงมีคนมากกว่างานหลักที่กล่าวมาข้างต้น เลยต้องมีงานอย่างอื่นทำนอกเหนือจากสามหน้าที่หลักที่กล่าวมาแล้ว ทั้งหน้าที่ประจำและงานสัพเพเหระตามแต่ฮ่องเต้จะมีพระบัญชา เท่าที่อ่านเจอมีดังนี้  หาข่าวสารในช่วงสงคราม: อันนี้เป็นการเฉพาะกิจ เคยถูกใช้เป็นหน่วยสอดแนมให้กองทัพ  เฝ้าประตูวัง: รับผิดชอบดูแลเฉพาะประตูหลักของวังหลวงหรือที่เรียกว่า ‘อู่เหมิน’ (คือประตูที่ใช้โดยฮ่องเต้เท่านั้น หรือเฉพาะคนที่ได้รับพระบรมราชานุญาตในโอกาสพิเศษ) ถือว่าเป็นหน่วยราชองครักษ์ที่มี ‘หน้าตา’ กว่าราชองครักษ์กองอื่น  ดูแลความสะอาด: อันนี้แปลก แต่เนื่องจากมีระดับชั้นผู้น้อยที่ไม่ได้เป็นขุนนางติดยศเป็นจำนวนมากและไม่มีหน้าที่ลาดตระเวน จึงถูกใช้ดูแลความสะอาดของเมืองหลวง เช่นกวาดถนนและคูน้ำต่างๆ ฯลฯ  เลี้ยงช้าง: อันนี้ยิ่งแปลก แต่ในสมัยโบราณมีการใช้ช้างในขบวนราชพิธี ตัวอย่างจาก “หมิงสื่อ /明史” หรือบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง มีพูดถึงขบวนเสด็จราชพิธีบวงสรวงว่าที่มีเสือและช้างเดินนำ การดูแลทำความสะอาดและเลี้ยงช้างเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพร ขออภัยหากข้อมูลข้างต้นลดทอนภาพลักษณ์อันหน้าเกรงขามของเหล่าองครักษ์เสื้อแพร และด้วยหน้าที่ที่หลากหลายขององครักษ์เสื้อแพร Storyฯ เลยอยากจะเตือนความทรงจำของเพื่อนเพจถึงบทความที่ Storyฯ เคยเขียนไปก่อนหน้านี้ว่า ไม่ใช่องครักษ์เสื้อแพรทุกคนที่ใส่ชุดมัจฉาบินและติดดาบซิ่วชุนได้ เนื่องจากทั้งสองสิ่งเป็นของพระราชทานสำหรับขุนนางติดยศเท่านั้น (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://k.sina.cn/article_1229799315_494d3f9300100l3br.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.52shijing.com/zgls/123948.html http://www.360doc.com/content/17/1108/21/18848094_702172237.shtml https://ppfocus.com/sg/0/hi2ce1da4.html http://www.manyanu.com/new/c67503edffe34e4eb5fa46ac96bc834e #ใต้เท้าลู่ #องครักษ์เสื้อแพร #จิ่นอีเว่ย #ราชวงศ์หมิง #ประวัติศาสตร์จีน
    同样是锦衣卫造型,朱亚文“厂里厂气”,任嘉伦却赞苏断腿
    近期的古装剧一部接着一部,不知大家注意了没有,有两部戏都是以明朝为背景的。这两部戏就是汤唯、朱亚文主演的《大明风华》以及谭松韵、任嘉伦主演的《锦衣之下》。而且剧
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว