• เรือประมงเวียดนามหันหัวพุ่งชน "เรือหลวงเทพา" กองทัพเรือพังเสียหาย หลังพยายามเข้าไปจับกุมรุกลํ้าน่านนํ้าไทยเข้ามาทำประมงนับ 10 ลำ ก่อนจับเรือได้ 1 ลำ ผู้ต้องหา 4 คน ที่เหลือหลบหนีไปได้
    .
    เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่บริเวณท่าเรืออเนกประสงค์ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เรือหลวงเทพา และเรือต.246 ลากเรือประมงต่างชาติ 1 ลำ พร้อมลูกเรือประมงจำนวน 4 คน มาเทียบท่าเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ หลังถูกจับกุมได้ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทย เมื่อเช้าวันนี้ โดยมี พล.ร.ท.อาภา ชพานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1/ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมด้วย พล.ร.ต.ไชยนันท์ ชูใหม่ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 และคณะ ร่วมให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนที่มาติดตามสถานการณ์
    .
    พล.ร.ท.อาภา เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) บูรณาการร่วมกับ ทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ.1) กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) หมวดเรือลาดตระเวนชายแดน (มชด.) รวมถึงการประสานงานด้านการข่าวร่วมกับ กรมข่าวทหารเรือ (ขว.ทร.) จากการปฏิบัติการด้านการข่าวนำไปสู่การจับกุมเรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้าทำการประมงในเขตน่านน้ำไทยจำนวน 1 ลำ
    .
    โดยเมื่อ 24 ก.พ. ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว กรณีตรวจพบเรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย โดยตรวจพบเป็นกลุ่มเรือประมงต่างชาติ จำนวนประมาณ 10 ลำ ประกอบด้วยเรือประมงลากคู่ เรืออวนล้อม และเรือไดปั่นไฟ เข้ามาทำการประมงอยู่ในน่านน้ำไทย บริเวณพิกัด ละติจูด 11 องศา 06 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 102 องศา 26 ลิปดาตะวันออก ลงไปจนถึง ละติจูด 10 องศา 58 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 102 องศา 25 ลิปดาตะวันออก อย่างต่อเนื่อง และมีพฤติการณ์รุกล้ำเข้ามาทำประมงในห้วงเวลากลางคืนในพื้นที่ดังกล่าว และจะออกจากพื้นที่วิ่งลงใต้ไปจอดพักคอยในเวลากลางวัน เพื่อรอทำการประมงในห้วงกลางคืนของทุกวัน
    .
    จากปัจจัยพื้นที่และเวลา ศรชล.ภาค 1 จึงขอรับการสนับสนุนเรือในบัญชีกำลัง ศรชล.ภาค 1 จาก กปช.จต. โดยเป็นเรือใน มชด./1 และอากาศยานจาก มวบ.กปก.ทรภ.1 ในการตรวจสอบในพื้นที่และกลุ่มเรือประมงดังกล่าว ซึ่ง กปช.จต. ให้การสนับสนุน ร.ล.เทพา และ เรือ ต.264 พร้อมด้วย ทรภ.1 จัด บ.ตช.1 สนับสนุน ศรชล.ภาค 1 และผลการปฏิบัติ จับกุมเรือประมงต่างชาติ ได้จำนวน 1 ลำ พร้อม ลูกเรือจำนวน 4 คน ส่วนที่เหลือเร่งเครื่องและหันทิศทางหนีออกนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทยไปได้
    .
    พล.ร.ท.อาภา ตอบคำถามสื่อมวลชนเพิ่มเติมกรณีที่มีเรือประมงเวียดนามทำการชนเรือหลวงเทพา ว่า ระหว่างทำการจับกุมนั้น เรือประมงเวียดนามหลายลำได้เร่งเครื่องยนต์และหลบหนีไปนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษ แต่มีเรือประมงเวียดนามอีกลำที่หลบหนีไม่ทัน ได้หันหัวเรือพุ่งเข้าชนเรือหลวงเทพาที่บริเวณด้านข้างเรือด้านขวา ทำให้ยุบไปส่วนหนึ่ง แต่ไม่มากนัก แต่สุดท้ายถูกจับได้พร้อมลูกเรือ 4 คน ส่วนก่อนการจับกุมได้ทำการยิงปืนเอ็ม 16 ขู่ เพื่อให้หยุดการหลบหนี ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ดำเนินการตามหลักสากล
    .
    ทั้งนี้ ทางกองทัพเรือจะดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อไป โดยก่อนหน้านี้ เรือประมงเวียดนามได้เข้ามาลักลอบทำประมงในเขตน่านน้ำไทยบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ทัพเรือภาค 2 หรืออ่าวไทยตอนล่าง ซึ่งได้มีการจับกุมบ่อยครั้ง และครั้งนี้ ได้เข้ามายังพื้นที่ทัพเรือภาค 1 ซึ่งเหนือขึ้นมา และครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในปี 2568 ที่มีการจับกุมได้ของพื้นที่ทัพเรือภาค 1 ทั้งนี้ ทางกองทัพเรือจะได้ทำหนังสือแจ้งไปยังรัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศให้ประสานไปยังรัฐบาลเวียดนามในการดูแลในเรื่องนี้ต่อไป
    .
    สุดท้ายศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 ขอขอบคุณพี่น้องชาวประมง ในความร่วมมือที่ได้แจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิด และขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนและชาวประมงไทยว่า “ในพื้นที่รับผิดชอบของ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 นั้น เราจะปกป้อง และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มความสามารถ โดยมิยอมให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในการทำการประมงเป็นอันขาด ทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทย คงอยู่กับลูกหลานของคนไทย”
    ---------
    ที่มา : เดลินิวส์
    ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/4436420/
    เรือประมงเวียดนามหันหัวพุ่งชน "เรือหลวงเทพา" กองทัพเรือพังเสียหาย หลังพยายามเข้าไปจับกุมรุกลํ้าน่านนํ้าไทยเข้ามาทำประมงนับ 10 ลำ ก่อนจับเรือได้ 1 ลำ ผู้ต้องหา 4 คน ที่เหลือหลบหนีไปได้ . เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่บริเวณท่าเรืออเนกประสงค์ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เรือหลวงเทพา และเรือต.246 ลากเรือประมงต่างชาติ 1 ลำ พร้อมลูกเรือประมงจำนวน 4 คน มาเทียบท่าเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ หลังถูกจับกุมได้ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทย เมื่อเช้าวันนี้ โดยมี พล.ร.ท.อาภา ชพานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1/ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมด้วย พล.ร.ต.ไชยนันท์ ชูใหม่ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 และคณะ ร่วมให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนที่มาติดตามสถานการณ์ . พล.ร.ท.อาภา เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) บูรณาการร่วมกับ ทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ.1) กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) หมวดเรือลาดตระเวนชายแดน (มชด.) รวมถึงการประสานงานด้านการข่าวร่วมกับ กรมข่าวทหารเรือ (ขว.ทร.) จากการปฏิบัติการด้านการข่าวนำไปสู่การจับกุมเรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้าทำการประมงในเขตน่านน้ำไทยจำนวน 1 ลำ . โดยเมื่อ 24 ก.พ. ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว กรณีตรวจพบเรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย โดยตรวจพบเป็นกลุ่มเรือประมงต่างชาติ จำนวนประมาณ 10 ลำ ประกอบด้วยเรือประมงลากคู่ เรืออวนล้อม และเรือไดปั่นไฟ เข้ามาทำการประมงอยู่ในน่านน้ำไทย บริเวณพิกัด ละติจูด 11 องศา 06 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 102 องศา 26 ลิปดาตะวันออก ลงไปจนถึง ละติจูด 10 องศา 58 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 102 องศา 25 ลิปดาตะวันออก อย่างต่อเนื่อง และมีพฤติการณ์รุกล้ำเข้ามาทำประมงในห้วงเวลากลางคืนในพื้นที่ดังกล่าว และจะออกจากพื้นที่วิ่งลงใต้ไปจอดพักคอยในเวลากลางวัน เพื่อรอทำการประมงในห้วงกลางคืนของทุกวัน . จากปัจจัยพื้นที่และเวลา ศรชล.ภาค 1 จึงขอรับการสนับสนุนเรือในบัญชีกำลัง ศรชล.ภาค 1 จาก กปช.จต. โดยเป็นเรือใน มชด./1 และอากาศยานจาก มวบ.กปก.ทรภ.1 ในการตรวจสอบในพื้นที่และกลุ่มเรือประมงดังกล่าว ซึ่ง กปช.จต. ให้การสนับสนุน ร.ล.เทพา และ เรือ ต.264 พร้อมด้วย ทรภ.1 จัด บ.ตช.1 สนับสนุน ศรชล.ภาค 1 และผลการปฏิบัติ จับกุมเรือประมงต่างชาติ ได้จำนวน 1 ลำ พร้อม ลูกเรือจำนวน 4 คน ส่วนที่เหลือเร่งเครื่องและหันทิศทางหนีออกนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทยไปได้ . พล.ร.ท.อาภา ตอบคำถามสื่อมวลชนเพิ่มเติมกรณีที่มีเรือประมงเวียดนามทำการชนเรือหลวงเทพา ว่า ระหว่างทำการจับกุมนั้น เรือประมงเวียดนามหลายลำได้เร่งเครื่องยนต์และหลบหนีไปนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษ แต่มีเรือประมงเวียดนามอีกลำที่หลบหนีไม่ทัน ได้หันหัวเรือพุ่งเข้าชนเรือหลวงเทพาที่บริเวณด้านข้างเรือด้านขวา ทำให้ยุบไปส่วนหนึ่ง แต่ไม่มากนัก แต่สุดท้ายถูกจับได้พร้อมลูกเรือ 4 คน ส่วนก่อนการจับกุมได้ทำการยิงปืนเอ็ม 16 ขู่ เพื่อให้หยุดการหลบหนี ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ดำเนินการตามหลักสากล . ทั้งนี้ ทางกองทัพเรือจะดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อไป โดยก่อนหน้านี้ เรือประมงเวียดนามได้เข้ามาลักลอบทำประมงในเขตน่านน้ำไทยบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ทัพเรือภาค 2 หรืออ่าวไทยตอนล่าง ซึ่งได้มีการจับกุมบ่อยครั้ง และครั้งนี้ ได้เข้ามายังพื้นที่ทัพเรือภาค 1 ซึ่งเหนือขึ้นมา และครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในปี 2568 ที่มีการจับกุมได้ของพื้นที่ทัพเรือภาค 1 ทั้งนี้ ทางกองทัพเรือจะได้ทำหนังสือแจ้งไปยังรัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศให้ประสานไปยังรัฐบาลเวียดนามในการดูแลในเรื่องนี้ต่อไป . สุดท้ายศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 ขอขอบคุณพี่น้องชาวประมง ในความร่วมมือที่ได้แจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิด และขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนและชาวประมงไทยว่า “ในพื้นที่รับผิดชอบของ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 นั้น เราจะปกป้อง และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มความสามารถ โดยมิยอมให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในการทำการประมงเป็นอันขาด ทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทย คงอยู่กับลูกหลานของคนไทย” --------- ที่มา : เดลินิวส์ ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/4436420/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • การทูตไทยหน่อมแน้ม ปล่อยพม่าลูบคม 18/12/67 #สส.กัณวีร์ #ทูตไทย #ชาวประมงไทย #เมียนมา
    การทูตไทยหน่อมแน้ม ปล่อยพม่าลูบคม 18/12/67 #สส.กัณวีร์ #ทูตไทย #ชาวประมงไทย #เมียนมา
    Like
    Haha
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 909 มุมมอง 42 1 รีวิว
  • สื่อสหรัสฯThe Diplomat สับรัฐบาลไทยเรื่องเรือชาวประมงไทยที่ถูกพม่ากล่าวหาว่ารุกน่านน้ำจับตัวคนไทยไป ทำให้เห็นถึงความไม่เป็นมืออาชีพและขาดประสิทธิภาพในการสื่อสารของผู้นำที่ทำให้สับสนในช่วงเวลาที่วิกฤติ การแถลงแต่ละครั้งกลับทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบเปรียบเปรียบเปรียบเปรียบเปรียบเปรียบหายและเสียเปรียบ สำหรับเนื้อหาที่ระบุในDiplomatเมื่อ17ธันวาคม2567ระบุว่า “เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลไทยขาดตกบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่แม้ว่าคำแถลงของแพทองธารจะสอดคล้องกับพิธีการในระดับสูง แต่ก็เน้นย้ำแสดงถึงความสับสนในการสื่อสารในภาวะวิกฤตของไทย ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากแหล่งข่าวทางการอีกสองแหล่งเปิดเผยข้อมูลที่ไม่แน่นอนและไม่ได้รับการยืนยันต่อสาธารณชน นอกจากนี้ แม้ว่าเรือของไทยจะข้ามเข้าสู่เขตน่านน้ำเมียนมาร์ก็ตาม แต่แหล่งข่าวของรัฐบาลไทยก็ถือว่าไม่เป็นมืออาชีพและไม่มีความรับผิดชอบที่ไปยอมรับเรื่องนี้ ความจริงก็คือเขตแดนทางทะเลระหว่างไทยและเมียนมาร์อยู่ในเขตที่ไม่มีขอบเขตอาณาเขตและไม่ชัดเจน การประกาศอย่างเปิดเผยว่าเรือของไทยอยู่ในเขตน่านน้ำเมียนมาร์ถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานอย่างเป็นทางการสำหรับการเจรจาระหว่างสองรัฐผู้เรียกร้องในภายหลัง หาก พื้นที่ใดไม่ได้ถูกกำหนดขอบเขตทางกฎหมายโดยสองรัฐ เจ้าหน้าที่จะต้องไม่ยอมรับอย่างเป็นทางการว่าดินแดนแห่งหนึ่งเป็นของรัฐอื่น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการอ้างสิทธิ์ในดินแดนของรัฐนั้นได้“
    สื่อสหรัสฯThe Diplomat สับรัฐบาลไทยเรื่องเรือชาวประมงไทยที่ถูกพม่ากล่าวหาว่ารุกน่านน้ำจับตัวคนไทยไป ทำให้เห็นถึงความไม่เป็นมืออาชีพและขาดประสิทธิภาพในการสื่อสารของผู้นำที่ทำให้สับสนในช่วงเวลาที่วิกฤติ การแถลงแต่ละครั้งกลับทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบเปรียบเปรียบเปรียบเปรียบเปรียบเปรียบหายและเสียเปรียบ สำหรับเนื้อหาที่ระบุในDiplomatเมื่อ17ธันวาคม2567ระบุว่า “เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลไทยขาดตกบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่แม้ว่าคำแถลงของแพทองธารจะสอดคล้องกับพิธีการในระดับสูง แต่ก็เน้นย้ำแสดงถึงความสับสนในการสื่อสารในภาวะวิกฤตของไทย ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากแหล่งข่าวทางการอีกสองแหล่งเปิดเผยข้อมูลที่ไม่แน่นอนและไม่ได้รับการยืนยันต่อสาธารณชน นอกจากนี้ แม้ว่าเรือของไทยจะข้ามเข้าสู่เขตน่านน้ำเมียนมาร์ก็ตาม แต่แหล่งข่าวของรัฐบาลไทยก็ถือว่าไม่เป็นมืออาชีพและไม่มีความรับผิดชอบที่ไปยอมรับเรื่องนี้ ความจริงก็คือเขตแดนทางทะเลระหว่างไทยและเมียนมาร์อยู่ในเขตที่ไม่มีขอบเขตอาณาเขตและไม่ชัดเจน การประกาศอย่างเปิดเผยว่าเรือของไทยอยู่ในเขตน่านน้ำเมียนมาร์ถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานอย่างเป็นทางการสำหรับการเจรจาระหว่างสองรัฐผู้เรียกร้องในภายหลัง หาก พื้นที่ใดไม่ได้ถูกกำหนดขอบเขตทางกฎหมายโดยสองรัฐ เจ้าหน้าที่จะต้องไม่ยอมรับอย่างเป็นทางการว่าดินแดนแห่งหนึ่งเป็นของรัฐอื่น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการอ้างสิทธิ์ในดินแดนของรัฐนั้นได้“
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภูมิธรรม ยันไร้ปัญหา 4 ประมงไทยที่ถูกเมียนมาจับไป 16/12/67 #ภูมิธรรม #ชาวประมงไทย #เมียนมา #รองนายกฯ
    ภูมิธรรม ยันไร้ปัญหา 4 ประมงไทยที่ถูกเมียนมาจับไป 16/12/67 #ภูมิธรรม #ชาวประมงไทย #เมียนมา #รองนายกฯ
    Like
    Haha
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 812 มุมมอง 41 0 รีวิว
  • ทหารเมียนมา ยังไม่ปล่อยตัว 4 ชาวประมงไทย อ้างรอคำสั่งจากส่วนกลาง และการดำเนินการด้านกฎหมาย ด้านภรรยา เจ้าของเรือ บอกทุกคนปลอดภัยดี ขณะ ผอ.ศปชล.ทม. ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการของทางพม่า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000117582

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ทหารเมียนมา ยังไม่ปล่อยตัว 4 ชาวประมงไทย อ้างรอคำสั่งจากส่วนกลาง และการดำเนินการด้านกฎหมาย ด้านภรรยา เจ้าของเรือ บอกทุกคนปลอดภัยดี ขณะ ผอ.ศปชล.ทม. ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการของทางพม่า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000117582 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Angry
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1263 มุมมอง 0 รีวิว