• ดอกไม้ป่า—ร่องรอยแห่งชนบทในสำเนียงเมือง

    คณะดอกไม้ป่า ก้าวเข้ามาสู่ฉากดนตรีไทยในช่วงต้นทศวรรษ 2520 (ค.ศ. 1980s) ซึ่งถือเป็น ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของรสนิยมและการผลิตดนตรีในประเทศไทย พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มนักร้องที่รวมตัวกันตามธรรมชาติ แต่เป็นโครงการทางดนตรีที่ถูกกำหนดและออกแบบอย่างพิถีพิถันจากผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมเพลงมืออาชีพ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองต่อตลาดชนชั้นกลางในเมืองที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

    สิ่งที่ทำให้วงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งคือความสามารถในการนำ "แก่นเรื่องแบบลูกทุ่ง" มาผสมผสานกับการเรียบเรียงและคุณภาพการผลิตแบบ "ดนตรีสตริงหรือป๊อป" อันนำไปสู่การก่อกำเนิดของแนวทางใหม่ที่เรียกว่า "ลูกทุ่งประยุกต์" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานให้กับรูปแบบดนตรีป๊อปที่ครองตลาดในทศวรรษต่อมา

    ดอกไม้ป่าประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในช่วงปี พ.ศ. 2525–2526 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมหลังเหตุการณ์ทางการเมืองในทศวรรษก่อนหน้า วงนี้ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้เป็นนักร้องคู่ดูโอหญิงที่เน้นทักษะการประสานเสียง (Harmonizing Duo) พวกเขาสามารถดึงดูดผู้ฟังได้อย่างกว้างขวางด้วยการรักษาความรู้สึกและแก่นเรื่องของความเป็นไทยไว้ ในขณะที่นำเสนอผ่านสำเนียงป๊อปสมัยใหม่

    ในเชิงสังคมวิทยา ความสำเร็จของวงมีความสัมพันธ์กับการถอยห่างจากเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเมืองที่รุนแรงของยุค 1970s ดนตรีป๊อปที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้มักหลีกเลี่ยงสารทางการเมือง และหันไปให้ความสำคัญกับเรื่องราวส่วนตัว ความรัก และการมอบความบันเทิง ดอกไม้ป่าได้ปรับใช้แก่นเรื่องลูกทุ่งให้มีความอ่อนโยนและโรแมนติกในรูปแบบป๊อป ซึ่งทำให้บทเพลงของพวกเขากลายเป็นผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่ผู้บริโภคในเมืองสามารถยอมรับและเพลิดเพลินได้

    คณะดอกไม้ป่าถือกำเนิดขึ้นจากแนวคิดทางธุรกิจที่ชัดเจน โดยไม่ได้เกิดจากการรวมตัวกันของนักดนตรีตามธรรมชาติ การก่อตั้งมีรากฐานมาจากความต้องการขยายตลาดและรูปแบบความสำเร็จที่เคยมีมาก่อน โดยผู้ริเริ่มแนวคิดต้องการที่จะสรรหานักร้องหญิงคู่ประสานเสียงเป็นคู่ที่สอง เพื่อต่อยอดความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับวง The Hot Pepper Singers การตัดสินใจนี้สะท้อนให้เห็นว่า รูปแบบของ "นักร้องคู่ประสานเสียง" ที่มีภาพลักษณ์สุภาพและเน้นทักษะการร้องถือเป็นกลยุทธ์เชิงพาณิชย์ที่มีศักยภาพสูง

    การเน้นที่ "นักร้องคู่ประสานเสียง" แสดงให้เห็นว่าคุณภาพเสียงและการจัดวางเสียงประสานถูกกำหนดให้เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ตั้งแต่เริ่มต้น แนวคิดนี้เป็นความพยายามที่จะยกระดับรูปแบบการร้องเพลงให้แตกต่างจากดนตรีลูกทุ่งทั่วไป การประสานเสียงที่ซับซ้อนนี้ถูกมองว่าเป็นคุณสมบัติของดนตรีแนวลูกกรุงและป๊อปที่มีความประณีตและมีรสนิยมสูง ซึ่งสามารถดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคในเมืองได้

    วงดอกไม้ป่าประกอบด้วยนักร้องดูโอหญิงสองคน: โชติมา ช่วงวิทย์ (ตุ้ม) และ ปัทมา มนต์รังสี (อ้อม) คุณโชติมาถือเป็นสมาชิกหลักที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเธอเป็นบุตรสาวของ ชวลีย์ ช่วงวิทย์ นักร้องชื่อดังของวงสุนทราภรณ์ สายเลือดจากสุนทราภรณ์นี้มอบความน่าเชื่อถือทางวัฒนธรรมและ "ความเป็นลูกกรุง" ให้กับวงโดยอัตโนมัติ ทำให้ดอกไม้ป่าสามารถวางตำแหน่งตัวเองอยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นลูกทุ่งและความเป็นลูกกรุง/คลาสสิก

    ในช่วงเวลาที่ดนตรีลูกทุ่งกำลังถูกกลุ่มรสนิยมใหม่ของคนเมืองมองว่าเป็น "ดนตรีบ้านนอก" การมีโชติมาได้ทำหน้าที่เป็น "การสร้างแบรนด์ทางวัฒนธรรม" ที่สำคัญยิ่ง การเชื่อมโยงนี้รับประกันว่าเพลงของดอกไม้ป่า แม้จะมีกลิ่นอายของลูกทุ่ง แต่ก็มีความสุภาพและมีคุณค่าในเชิงศิลปะแบบลูกกรุงสูง

    "ดอกไม้ป่าซาวด์" คือการผสมผสานทางดนตรี ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจในการนำองค์ประกอบทางทำนองเพลงพื้นบ้านหรือลูกทุ่ง มารวมเข้ากับการเรียบเรียงดนตรีและเครื่องดนตรีสมัยใหม่ตามแบบฉบับดนตรีสตริง/ป๊อปในยุค 80s

    แก่นเรื่องแบบลูกทุ่งยังคงเป็นหัวใจหลักในการเล่าเรื่อง ตัวอย่างเช่น เพลง "ทุยใจดำ" ที่สื่อถึงคนรักที่ไม่ซื่อสัตย์ และเพลง "สาวชนบท" ที่หยิบยกเรื่องราวความรักและชีวิตในท้องถิ่นมานำเสนอ แต่สิ่งที่ทำให้ดนตรีมีความแตกต่างคือการเรียบเรียงแบบป๊อปสมัยใหม่ การใช้เครื่องดนตรีที่ซับซ้อน เช่น เปียโน กีตาร์ไฟฟ้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เครื่องเป่า (Brass Section) ที่สร้างความหนาแน่นและพลังเสียงที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีการนำจังหวะที่ได้รับอิทธิพลจากดนตรีตะวันตกมาใช้ เช่น จังหวะช่าช่าช่า หรือฟังก์กี้ดิสโก้ในเพลงสนุกสนานอย่าง "ระบำยอดหญ้า" ทั้งหมดนี้ถูกขับร้องด้วยการประสานเสียงที่ไพเราะและสะอาดตา ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของดนตรีป๊อปในช่วงนั้น

    การวิเคราะห์เนื้อหาและแก่นหลักของบทเพลง
    1️⃣ ความรักที่ถูกทรยศในบริบทกึ่งชนบท: เพลงอย่าง "ทุยใจดำ" และ "ช้ำ" นำเสนอความผิดหวังในความรักจากมุมมองของผู้หญิง เมื่อเนื้อหาเหล่านี้ถูกขับร้องด้วยคุณภาพเสียงที่สะอาดและการเรียบเรียงแบบป๊อปสมัยใหม่ ความดิบหรือความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับความยากจนในเพลงลูกทุ่งแบบดั้งเดิมก็ถูกลดทอนลง เนื้อหาจึงถูก "ทำให้สะอาด" ให้เหลือเพียงความเศร้าแบบโรแมนติกที่เข้ากับมาตรฐานของเพลงป๊อปในเมือง

    2️⃣ ความปรารถนาในชีวิตชนบทและความหวนคิดถึง: เพลง "สาวชนบท" และ "ระบำยอดหญ้า" นำเสนอภาพความสดใสและรื่นเริงของชีวิตในท้องถิ่น ผู้ฟังในเขตเมืองหลายคนซึ่งส่วนใหญ่อพยพมาจากชนบท ต่างให้การตอบรับต่อเพลงเหล่านี้อย่างดีเยี่ยม ดอกไม้ป่าจึงทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ "การหวนคิดถึงอย่างมีรสนิยม" (Aesthetic Nostalgia)

    ความสำเร็จอย่างสูงในตลาดเพลงสตริง/ป๊อป แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการ "เชื่อมรอยแยกทางวัฒนธรรม" ระหว่างรสนิยมของคนเมือง (ที่แสวงหาความทันสมัย) กับความผูกพันของกลุ่มผู้ฟังต่อชนบท

    ปี พ.ศ. 2525 เป็นปีแห่งความรุ่งโรจน์ของคณะดอกไม้ป่าจากการเปิดตัวอัลบั้ม ทุยใจดำ ซึ่งได้กำหนดทิศทางและลักษณะเฉพาะของวงอย่างชัดเจน เพลงเอก "ทุยใจดำ" เป็นตัวอย่างชั้นยอดของการผสมผสานระหว่าง Luk Thung และ Pop ผนวกกับการเรียบเรียงที่ใช้เครื่องดนตรีครบวงและจังหวะที่เร้าใจ ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงเต้นรำที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง

    วงยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในปี พ.ศ. 2526 โดยมีผลงานเพลงจากชุดต่อมา เช่น "สาวชนบท," "หนาวลมขมรัก," และ "รักทรมาน" การออกผลงานหลายชุดภายในเวลาอันสั้น เป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของค่ายเพลงในศักยภาพเชิงพาณิชย์และกระแสความนิยมที่แข็งแกร่งในช่วงเวลานั้น การที่เพลงของพวกเขาถูกรวมอยู่ในอัลบั้มรวมเพลงฮิตเงินล้าน ร่วมกับศิลปินใหญ่แห่งยุค แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นวงชั้นนำในตลาดเพลงเทปคาสเซ็ตต์อย่างแท้จริง

    นอกจากคุณภาพทางดนตรีแล้ว ภาพลักษณ์ของคณะดอกไม้ป่ามีความสำคัญต่อการตลาดไม่น้อยไปกว่ากัน ภาพลักษณ์ที่ถูกนำเสนอมีความเป็นมืออาชีพสูงและสอดคล้องกับแฟชั่นยุค 80s การปรากฏตัวทั้งในสตูดิโอและภาพคอนเสิร์ต แสดงให้เห็นถึงการลงทุนในการผลิต และการแต่งกายที่ดูทันสมัยและสะอาดตา ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนจากภาพลักษณ์ลูกทุ่งแบบดั้งเดิม

    คณะดอกไม้ป่าทำหน้าที่เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่สำคัญสองประการในต้นทศวรรษ 1980s นั่นคือพลวัตของการอพยพย้ายถิ่นฐาน และการเปลี่ยนแปลงของบทบาททางเพศ

    ในช่วงหลังปี 2520 สังคมไทยเข้าสู่ยุคของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการขยายตัวของชนชั้นกลางในเขตเมืองอย่างชัดเจน ผู้คนจำนวนมากอพยพจากชนบทเข้าสู่กรุงเทพฯ ทำให้เกิดความตึงเครียดทางวัฒนธรรมระหว่างวิถีชีวิตแบบเมืองกับรากเหง้าที่ยังคงผูกพันกับชนบท

    กลุ่มผู้ฟังที่ย้ายถิ่นฐานเหล่านี้ยังคงมีความผูกพันทางอารมณ์กับเนื้อหาและทำนองแบบลูกทุ่ง แต่รสนิยมทางเสียงของพวกเขาได้ถูกหล่อหลอมด้วยดนตรีป๊อปและสตริงที่ทันสมัย ดอกไม้ป่าจึงเข้ามาตอบโจทย์นี้ด้วยการนำเสนอ "ลูกทุ่งในแพ็คเกจป๊อป" เพลงที่มีธีมเกี่ยวกับ "สาวชนบท" ซึ่งถูกถ่ายทอดโดยนักร้องที่ดูทันสมัยในบริบทเมือง จึงสามารถสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้ฟังกลุ่มย้ายถิ่นฐานได้อย่างลึกซึ้ง บทเพลงของดอกไม้ป่าเปรียบเสมือน "ซาวด์แทร็กของการปรับตัว" ของคนชนบทเข้าสู่สังคมเมือง

    การที่คณะดอกไม้ป่าเป็นนักร้องดูโอหญิงในแนว Pop/Fusion แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงบทบาททางเพศในสื่อและสังคมในช่วงเวลานั้น ภาพลักษณ์ของ โชติมา และ ปัทมา เป็นตัวแทนของ ผู้หญิงในยุคสมัยใหม่ ที่สามารถเป็นทั้งผู้รักษามรดกทางวัฒนธรรมและเป็นผู้หญิงที่มีความทันสมัย (ผ่านสไตล์การแต่งกายและการนำเสนอแบบป๊อป)

    นอกจากนี้ เพลงที่กล้าแสดงออกถึงความผิดหวังในความรักและความช้ำ เป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกส่วนตัวในที่สาธารณะได้มากขึ้น โดยที่ยังคงรักษาภาพลักษณ์ที่ดูดีและไม่ฉีกกรอบทางสังคมมากนัก ซึ่งสอดคล้องกับยุคสมัยที่บทบาทของผู้หญิงเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น

    ในช่วงปี พ.ศ. 2525 ซึ่งเป็นช่วงที่สังคมกำลังฟื้นตัวหลังความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหญ่ ดนตรีที่ได้รับความนิยมสูงมักจะไม่มีวาระทางการเมืองที่ชัดเจน คณะดอกไม้ป่าเองก็เน้นที่ความบันเทิงและเรื่องราวส่วนตัว การหลีกเลี่ยงข้อความที่อาจสร้างความขัดแย้งทางการเมืองในบทเพลง ส่งผลให้ดอกไม้ป่าสามารถเข้าถึงผู้ชมหลักได้อย่างง่ายดาย

    ดอกไม้ป่าประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์อย่างสูงในช่วงยุครุ่งเรือง ดังที่ปรากฏหลักฐานจากการออกอัลบั้ม Longplay เต็มรูปแบบหลายชุด และการมีอัลบั้มรวมเพลงฮิต การที่เพลงของวงถูกนำไปรวมอยู่ในอัลบั้มที่ทำยอดขายสูงร่วมกับศิลปินสำคัญแห่งยุค ตอกย้ำสถานะของพวกเขาในฐานะวงชั้นนำของตลาดเทปคาสเซ็ตต์ ซึ่งเป็นรูปแบบการบริโภคหลักในยุคนั้น

    ดอกไม้ป่าไม่ได้เป็นเพียงวงดนตรีที่ขายดี แต่ยังได้สร้างต้นแบบ ให้กับแนวเพลงผสมผสานที่ทรงอิทธิพล พวกเขาเป็นตัวอย่างสำคัญที่พิสูจน์ให้เห็นว่าดนตรีที่มีรากฐานลูกทุ่งสามารถนำเสนอในรูปแบบป๊อปสตริงที่มีคุณภาพสูงและประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ การเปิดทางนี้มีอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังจำนวนมากที่พยายามนำเสนอ "ลูกทุ่งสมัยใหม่" ซึ่งช่วยยืดอายุและปรับโฉมให้ดนตรีลูกทุ่งยังคงอยู่รอดในยุคที่ดนตรี String ครองตลาด

    การที่ดอกไม้ป่าสามารถนำเอาองค์ประกอบของลูกทุ่งและป๊อปมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวและได้รับความนิยมอย่างสูง ทำให้ผู้ผลิตเพลงเห็นว่า "สูตรผสม" นี้เป็นช่องทางที่มั่นคงในการขยายตลาดไปยังผู้ฟังที่มีรสนิยมหลากหลาย ถือเป็นการเร่งกระบวนการที่ทำให้ดนตรีสตริงได้ครอบครองความโดดเด่นในที่สุด

    มรดกทางดนตรีของดอกไม้ป่ายังคงยืนยง เพลงของพวกเขายังคงถูกค้นหาและรับฟังในปัจจุบันผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทนทานของทำนองและเนื้อหาที่เข้าถึงง่าย การปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลยังเห็นได้จากการที่สมาชิกหลักของวงยังคงมีความเคลื่อนไหวในการกลับมาทำเพลงใหม่ในนามดอกไม้ป่า ("พลังรัก") และมีการสร้างช่องทาง YouTube เฉพาะ การเคลื่อนไหวนี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าศิลปินยุคบุกเบิกสามารถใช้แพลตฟอร์มสมัยใหม่เพื่อรักษาและขยายฐานแฟนคลับให้เข้าถึงผู้ฟังรุ่นใหม่ได้

    สรุป: มรดกของดอกไม้ป่า
    คณะดอกไม้ป่าจัดเป็นปรากฏการณ์ทางดนตรีและวัฒนธรรมที่มีความซับซ้อนในช่วงรอยต่อของสังคมไทย พวกเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความสมดุลระหว่างมรดกทางดนตรีคลาสสิก (ผ่านสายเลือดสุนทราภรณ์) กับความต้องการของตลาดป๊อปที่เน้นความทันสมัยและคุณภาพการผลิตสูง

    บทเพลงของดอกไม้ป่าทำหน้าที่เป็นกลไกทางวัฒนธรรมที่ช่วยบรรเทาความตึงเครียดทางสังคมภายหลังวิกฤตการณ์ทางการเมือง ด้วยการนำเสนอความบันเทิงที่ปลอดภัยและเป็นทางออกทางวัฒนธรรมสำหรับกลุ่มผู้ย้ายถิ่นฐานที่ต้องการรักษาความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับชนบท ในขณะที่ปรับตัวเข้าสู่ความเป็นเมืองอย่างเต็มตัว

    มรดกที่สำคัญที่สุดของคณะดอกไม้ป่าคือการเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่แข็งแกร่งที่สุดของ "ดนตรีลูกทุ่งประยุกต์" พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าความทันสมัยทางดนตรีไม่จำเป็นต้องตัดขาดจากรากฐานทางวัฒนธรรมดั้งเดิม และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมเพลงป๊อปไทยในทศวรรษต่อมาให้ยอมรับและผสมผสานแนวเพลงที่มีรากฐานมาจาก Luk Thung เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเพลงกระแสหลักได้อย่างลงตัว

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://youtu.be/NnrS7BYpRRc
    🌼 ดอกไม้ป่า—ร่องรอยแห่งชนบทในสำเนียงเมือง คณะดอกไม้ป่า 🌸 ก้าวเข้ามาสู่ฉากดนตรีไทยในช่วงต้นทศวรรษ 2520 (ค.ศ. 1980s) ซึ่งถือเป็น 🔄 ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของรสนิยมและการผลิตดนตรีในประเทศไทย พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มนักร้องที่รวมตัวกันตามธรรมชาติ แต่เป็นโครงการทางดนตรีที่ถูกกำหนดและออกแบบอย่างพิถีพิถันจากผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมเพลงมืออาชีพ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองต่อตลาดชนชั้นกลางในเมืองที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ทำให้วงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งคือความสามารถในการนำ "แก่นเรื่องแบบลูกทุ่ง" 🧬🌾 มาผสมผสานกับการเรียบเรียงและคุณภาพการผลิตแบบ "ดนตรีสตริงหรือป๊อป" 🎧 อันนำไปสู่การก่อกำเนิดของแนวทางใหม่ที่เรียกว่า "ลูกทุ่งประยุกต์" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานให้กับรูปแบบดนตรีป๊อปที่ครองตลาดในทศวรรษต่อมา ดอกไม้ป่าประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในช่วงปี พ.ศ. 2525–2526 🌟 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมหลังเหตุการณ์ทางการเมืองในทศวรรษก่อนหน้า วงนี้ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้เป็นนักร้องคู่ดูโอหญิงที่เน้นทักษะการประสานเสียง (Harmonizing Duo) พวกเขาสามารถดึงดูดผู้ฟังได้อย่างกว้างขวางด้วยการรักษาความรู้สึกและแก่นเรื่องของความเป็นไทยไว้ ในขณะที่นำเสนอผ่านสำเนียงป๊อปสมัยใหม่ ในเชิงสังคมวิทยา ความสำเร็จของวงมีความสัมพันธ์กับการถอยห่างจากเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเมืองที่รุนแรงของยุค 1970s ดนตรีป๊อปที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้มักหลีกเลี่ยงสารทางการเมือง และหันไปให้ความสำคัญกับเรื่องราวส่วนตัว ความรัก ❤️ และการมอบความบันเทิง ดอกไม้ป่าได้ปรับใช้แก่นเรื่องลูกทุ่งให้มีความอ่อนโยนและโรแมนติกในรูปแบบป๊อป ซึ่งทำให้บทเพลงของพวกเขากลายเป็นผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่ผู้บริโภคในเมืองสามารถยอมรับและเพลิดเพลินได้ คณะดอกไม้ป่าถือกำเนิดขึ้นจากแนวคิดทางธุรกิจที่ชัดเจน 💡 โดยไม่ได้เกิดจากการรวมตัวกันของนักดนตรีตามธรรมชาติ การก่อตั้งมีรากฐานมาจากความต้องการขยายตลาดและรูปแบบความสำเร็จที่เคยมีมาก่อน โดยผู้ริเริ่มแนวคิดต้องการที่จะสรรหานักร้องหญิงคู่ประสานเสียงเป็นคู่ที่สอง เพื่อต่อยอดความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับวง The Hot Pepper Singers การตัดสินใจนี้สะท้อนให้เห็นว่า รูปแบบของ "นักร้องคู่ประสานเสียง" 🎤🤝 ที่มีภาพลักษณ์สุภาพและเน้นทักษะการร้องถือเป็นกลยุทธ์เชิงพาณิชย์ที่มีศักยภาพสูง การเน้นที่ "นักร้องคู่ประสานเสียง" แสดงให้เห็นว่าคุณภาพเสียงและการจัดวางเสียงประสานถูกกำหนดให้เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ตั้งแต่เริ่มต้น แนวคิดนี้เป็นความพยายามที่จะยกระดับรูปแบบการร้องเพลงให้แตกต่างจากดนตรีลูกทุ่งทั่วไป การประสานเสียงที่ซับซ้อนนี้ถูกมองว่าเป็นคุณสมบัติของดนตรีแนวลูกกรุงและป๊อปที่มีความประณีตและมีรสนิยมสูง ซึ่งสามารถดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคในเมืองได้ วงดอกไม้ป่าประกอบด้วยนักร้องดูโอหญิงสองคน: โชติมา ช่วงวิทย์ (ตุ้ม) และ ปัทมา มนต์รังสี (อ้อม) คุณโชติมาถือเป็นสมาชิกหลักที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเธอเป็นบุตรสาวของ ชวลีย์ ช่วงวิทย์ นักร้องชื่อดังของวงสุนทราภรณ์ 👑 สายเลือดจากสุนทราภรณ์นี้มอบความน่าเชื่อถือทางวัฒนธรรมและ "ความเป็นลูกกรุง" ให้กับวงโดยอัตโนมัติ ทำให้ดอกไม้ป่าสามารถวางตำแหน่งตัวเองอยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นลูกทุ่งและความเป็นลูกกรุง/คลาสสิก ในช่วงเวลาที่ดนตรีลูกทุ่งกำลังถูกกลุ่มรสนิยมใหม่ของคนเมืองมองว่าเป็น "ดนตรีบ้านนอก" การมีโชติมาได้ทำหน้าที่เป็น "การสร้างแบรนด์ทางวัฒนธรรม" ที่สำคัญยิ่ง การเชื่อมโยงนี้รับประกันว่าเพลงของดอกไม้ป่า แม้จะมีกลิ่นอายของลูกทุ่ง แต่ก็มีความสุภาพและมีคุณค่าในเชิงศิลปะแบบลูกกรุงสูง "ดอกไม้ป่าซาวด์" คือการผสมผสานทางดนตรี 🔥 ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจในการนำองค์ประกอบทางทำนองเพลงพื้นบ้านหรือลูกทุ่ง มารวมเข้ากับการเรียบเรียงดนตรีและเครื่องดนตรีสมัยใหม่ตามแบบฉบับดนตรีสตริง/ป๊อปในยุค 80s แก่นเรื่องแบบลูกทุ่งยังคงเป็นหัวใจหลักในการเล่าเรื่อง ตัวอย่างเช่น เพลง "ทุยใจดำ" 💔 ที่สื่อถึงคนรักที่ไม่ซื่อสัตย์ และเพลง "สาวชนบท" 🏡 ที่หยิบยกเรื่องราวความรักและชีวิตในท้องถิ่นมานำเสนอ แต่สิ่งที่ทำให้ดนตรีมีความแตกต่างคือการเรียบเรียงแบบป๊อปสมัยใหม่ การใช้เครื่องดนตรีที่ซับซ้อน เช่น เปียโน กีตาร์ไฟฟ้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เครื่องเป่า (Brass Section) 🎺🎷 ที่สร้างความหนาแน่นและพลังเสียงที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีการนำจังหวะที่ได้รับอิทธิพลจากดนตรีตะวันตกมาใช้ เช่น จังหวะช่าช่าช่า หรือฟังก์กี้ดิสโก้ในเพลงสนุกสนานอย่าง "ระบำยอดหญ้า" 💃 ทั้งหมดนี้ถูกขับร้องด้วยการประสานเสียงที่ไพเราะและสะอาดตา ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของดนตรีป๊อปในช่วงนั้น การวิเคราะห์เนื้อหาและแก่นหลักของบทเพลง 1️⃣ ความรักที่ถูกทรยศในบริบทกึ่งชนบท: เพลงอย่าง "ทุยใจดำ" และ "ช้ำ" นำเสนอความผิดหวังในความรักจากมุมมองของผู้หญิง เมื่อเนื้อหาเหล่านี้ถูกขับร้องด้วยคุณภาพเสียงที่สะอาดและการเรียบเรียงแบบป๊อปสมัยใหม่ ความดิบหรือความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับความยากจนในเพลงลูกทุ่งแบบดั้งเดิมก็ถูกลดทอนลง เนื้อหาจึงถูก "ทำให้สะอาด" ให้เหลือเพียงความเศร้าแบบโรแมนติกที่เข้ากับมาตรฐานของเพลงป๊อปในเมือง 2️⃣ ความปรารถนาในชีวิตชนบทและความหวนคิดถึง: เพลง "สาวชนบท" และ "ระบำยอดหญ้า" นำเสนอภาพความสดใสและรื่นเริงของชีวิตในท้องถิ่น ผู้ฟังในเขตเมืองหลายคนซึ่งส่วนใหญ่อพยพมาจากชนบท ต่างให้การตอบรับต่อเพลงเหล่านี้อย่างดีเยี่ยม ดอกไม้ป่าจึงทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ "การหวนคิดถึงอย่างมีรสนิยม" (Aesthetic Nostalgia) 💖 ความสำเร็จอย่างสูงในตลาดเพลงสตริง/ป๊อป แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการ "เชื่อมรอยแยกทางวัฒนธรรม" 🔗 ระหว่างรสนิยมของคนเมือง (ที่แสวงหาความทันสมัย) กับความผูกพันของกลุ่มผู้ฟังต่อชนบท ปี พ.ศ. 2525 เป็นปีแห่งความรุ่งโรจน์ของคณะดอกไม้ป่าจากการเปิดตัวอัลบั้ม ทุยใจดำ 💿 ซึ่งได้กำหนดทิศทางและลักษณะเฉพาะของวงอย่างชัดเจน เพลงเอก "ทุยใจดำ" เป็นตัวอย่างชั้นยอดของการผสมผสานระหว่าง Luk Thung และ Pop ผนวกกับการเรียบเรียงที่ใช้เครื่องดนตรีครบวงและจังหวะที่เร้าใจ ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงเต้นรำที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง วงยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในปี พ.ศ. 2526 โดยมีผลงานเพลงจากชุดต่อมา เช่น "สาวชนบท," "หนาวลมขมรัก," และ "รักทรมาน" การออกผลงานหลายชุดภายในเวลาอันสั้น เป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของค่ายเพลงในศักยภาพเชิงพาณิชย์และกระแสความนิยมที่แข็งแกร่งในช่วงเวลานั้น การที่เพลงของพวกเขาถูกรวมอยู่ในอัลบั้มรวมเพลงฮิตเงินล้าน 💰 ร่วมกับศิลปินใหญ่แห่งยุค แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นวงชั้นนำในตลาดเพลงเทปคาสเซ็ตต์อย่างแท้จริง นอกจากคุณภาพทางดนตรีแล้ว ภาพลักษณ์ของคณะดอกไม้ป่ามีความสำคัญต่อการตลาดไม่น้อยไปกว่ากัน ภาพลักษณ์ที่ถูกนำเสนอมีความเป็นมืออาชีพสูงและสอดคล้องกับแฟชั่นยุค 80s การปรากฏตัวทั้งในสตูดิโอและภาพคอนเสิร์ต 🎙️ แสดงให้เห็นถึงการลงทุนในการผลิต และการแต่งกายที่ดูทันสมัยและสะอาดตา ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนจากภาพลักษณ์ลูกทุ่งแบบดั้งเดิม คณะดอกไม้ป่าทำหน้าที่เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่สำคัญสองประการในต้นทศวรรษ 1980s นั่นคือพลวัตของการอพยพย้ายถิ่นฐาน 🚚 และการเปลี่ยนแปลงของบทบาททางเพศ ในช่วงหลังปี 2520 สังคมไทยเข้าสู่ยุคของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการขยายตัวของชนชั้นกลางในเขตเมืองอย่างชัดเจน ผู้คนจำนวนมากอพยพจากชนบทเข้าสู่กรุงเทพฯ 🏙️ ทำให้เกิดความตึงเครียดทางวัฒนธรรมระหว่างวิถีชีวิตแบบเมืองกับรากเหง้าที่ยังคงผูกพันกับชนบท กลุ่มผู้ฟังที่ย้ายถิ่นฐานเหล่านี้ยังคงมีความผูกพันทางอารมณ์กับเนื้อหาและทำนองแบบลูกทุ่ง แต่รสนิยมทางเสียงของพวกเขาได้ถูกหล่อหลอมด้วยดนตรีป๊อปและสตริงที่ทันสมัย ดอกไม้ป่าจึงเข้ามาตอบโจทย์นี้ด้วยการนำเสนอ "ลูกทุ่งในแพ็คเกจป๊อป" เพลงที่มีธีมเกี่ยวกับ "สาวชนบท" ซึ่งถูกถ่ายทอดโดยนักร้องที่ดูทันสมัยในบริบทเมือง จึงสามารถสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้ฟังกลุ่มย้ายถิ่นฐานได้อย่างลึกซึ้ง บทเพลงของดอกไม้ป่าเปรียบเสมือน "ซาวด์แทร็กของการปรับตัว" ของคนชนบทเข้าสู่สังคมเมือง การที่คณะดอกไม้ป่าเป็นนักร้องดูโอหญิงในแนว Pop/Fusion แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงบทบาททางเพศในสื่อและสังคมในช่วงเวลานั้น ภาพลักษณ์ของ โชติมา และ ปัทมา เป็นตัวแทนของ ผู้หญิงในยุคสมัยใหม่ 👩‍🎤 ที่สามารถเป็นทั้งผู้รักษามรดกทางวัฒนธรรมและเป็นผู้หญิงที่มีความทันสมัย (ผ่านสไตล์การแต่งกายและการนำเสนอแบบป๊อป) นอกจากนี้ เพลงที่กล้าแสดงออกถึงความผิดหวังในความรักและความช้ำ 💔 เป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกส่วนตัวในที่สาธารณะได้มากขึ้น โดยที่ยังคงรักษาภาพลักษณ์ที่ดูดีและไม่ฉีกกรอบทางสังคมมากนัก ซึ่งสอดคล้องกับยุคสมัยที่บทบาทของผู้หญิงเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น ในช่วงปี พ.ศ. 2525 ซึ่งเป็นช่วงที่สังคมกำลังฟื้นตัวหลังความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหญ่ ดนตรีที่ได้รับความนิยมสูงมักจะไม่มีวาระทางการเมืองที่ชัดเจน คณะดอกไม้ป่าเองก็เน้นที่ความบันเทิงและเรื่องราวส่วนตัว การหลีกเลี่ยงข้อความที่อาจสร้างความขัดแย้งทางการเมืองในบทเพลง ส่งผลให้ดอกไม้ป่าสามารถเข้าถึงผู้ชมหลักได้อย่างง่ายดาย ดอกไม้ป่าประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์อย่างสูงในช่วงยุครุ่งเรือง 💵💶💷 ดังที่ปรากฏหลักฐานจากการออกอัลบั้ม Longplay เต็มรูปแบบหลายชุด และการมีอัลบั้มรวมเพลงฮิต การที่เพลงของวงถูกนำไปรวมอยู่ในอัลบั้มที่ทำยอดขายสูงร่วมกับศิลปินสำคัญแห่งยุค ตอกย้ำสถานะของพวกเขาในฐานะวงชั้นนำของตลาดเทปคาสเซ็ตต์ 📼 ซึ่งเป็นรูปแบบการบริโภคหลักในยุคนั้น ดอกไม้ป่าไม่ได้เป็นเพียงวงดนตรีที่ขายดี แต่ยังได้สร้างต้นแบบ 🏗️ ให้กับแนวเพลงผสมผสานที่ทรงอิทธิพล พวกเขาเป็นตัวอย่างสำคัญที่พิสูจน์ให้เห็นว่าดนตรีที่มีรากฐานลูกทุ่งสามารถนำเสนอในรูปแบบป๊อปสตริงที่มีคุณภาพสูงและประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ การเปิดทางนี้มีอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังจำนวนมากที่พยายามนำเสนอ "ลูกทุ่งสมัยใหม่" ซึ่งช่วยยืดอายุและปรับโฉมให้ดนตรีลูกทุ่งยังคงอยู่รอดในยุคที่ดนตรี String ครองตลาด การที่ดอกไม้ป่าสามารถนำเอาองค์ประกอบของลูกทุ่งและป๊อปมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวและได้รับความนิยมอย่างสูง ทำให้ผู้ผลิตเพลงเห็นว่า "สูตรผสม" นี้เป็นช่องทางที่มั่นคงในการขยายตลาดไปยังผู้ฟังที่มีรสนิยมหลากหลาย ถือเป็นการเร่งกระบวนการที่ทำให้ดนตรีสตริงได้ครอบครองความโดดเด่นในที่สุด มรดกทางดนตรีของดอกไม้ป่ายังคงยืนยง ⏳ เพลงของพวกเขายังคงถูกค้นหาและรับฟังในปัจจุบันผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทนทานของทำนองและเนื้อหาที่เข้าถึงง่าย การปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลยังเห็นได้จากการที่สมาชิกหลักของวงยังคงมีความเคลื่อนไหวในการกลับมาทำเพลงใหม่ในนามดอกไม้ป่า ("พลังรัก") และมีการสร้างช่องทาง YouTube เฉพาะ 🎥 การเคลื่อนไหวนี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าศิลปินยุคบุกเบิกสามารถใช้แพลตฟอร์มสมัยใหม่เพื่อรักษาและขยายฐานแฟนคลับให้เข้าถึงผู้ฟังรุ่นใหม่ได้ ✨ ✅✅ สรุป: มรดกของดอกไม้ป่า ✅✅ คณะดอกไม้ป่าจัดเป็นปรากฏการณ์ทางดนตรีและวัฒนธรรมที่มีความซับซ้อนในช่วงรอยต่อของสังคมไทย พวกเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความสมดุลระหว่างมรดกทางดนตรีคลาสสิก (ผ่านสายเลือดสุนทราภรณ์) กับความต้องการของตลาดป๊อปที่เน้นความทันสมัยและคุณภาพการผลิตสูง บทเพลงของดอกไม้ป่าทำหน้าที่เป็นกลไกทางวัฒนธรรมที่ช่วยบรรเทาความตึงเครียดทางสังคมภายหลังวิกฤตการณ์ทางการเมือง ด้วยการนำเสนอความบันเทิงที่ปลอดภัยและเป็นทางออกทางวัฒนธรรมสำหรับกลุ่มผู้ย้ายถิ่นฐานที่ต้องการรักษาความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับชนบท ในขณะที่ปรับตัวเข้าสู่ความเป็นเมืองอย่างเต็มตัว มรดกที่สำคัญที่สุดของคณะดอกไม้ป่าคือการเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่แข็งแกร่งที่สุดของ "ดนตรีลูกทุ่งประยุกต์" 🎶 พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าความทันสมัยทางดนตรีไม่จำเป็นต้องตัดขาดจากรากฐานทางวัฒนธรรมดั้งเดิม และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมเพลงป๊อปไทยในทศวรรษต่อมาให้ยอมรับและผสมผสานแนวเพลงที่มีรากฐานมาจาก Luk Thung เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเพลงกระแสหลักได้อย่างลงตัว 💯 #ลุงเล่าหลานฟัง https://youtu.be/NnrS7BYpRRc
    0 Comments 0 Shares 216 Views 0 Reviews
  • เผือกเส้นสวยเป๊ะ! หากคุณกำลังมองหาเครื่องจักรที่สามารถหั่น เผือก ให้ออกมาเป็น เส้นยาวเรียว ได้มาตรฐานสม่ำเสมอ เหมือนที่คุณเห็นในภาพนี้ (เน้นความสม่ำเสมอของเส้น) คุณมาถูกที่แล้ว!

    เครื่องหั่นมันฝรั่ง (Potato Slicer) Model YPS-J300-606-Z-S จาก ย.ย่งฮะเฮง คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ ร้านขนม โรงงานแปรรูป และผู้ค้าส่ง ได้ชิ้นงานคุณภาพสูงเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็น:

    เผือกเส้นทอด/อบ: ได้เส้นสวยเท่ากันหมด ทอดแล้วสุกพร้อมกัน กรอบนาน

    เผือกเส้นสำหรับขนม: หรือส่วนผสมอาหารอื่น ๆ ที่ต้องการความประณีต

    สเปคเครื่องจักรที่สร้างสรรค์คุณภาพ:
    สร้างชิ้นงานสวยเป๊ะ: เครื่องนี้สามารถหั่นเผือกเป็นเส้นได้สวยงามตามภาพที่คุณเห็น และสามารถ ปรับความหนาบางได้ อย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้ขนาดที่ต้องการทุกล็อตการผลิต
    ความเร็วเหนือกว่าแรงงานคน: ทำงานต่อเนื่องด้วยกำลังการผลิตสูง 100 – 300 กิโลกรัมต่อชั่วโมง! (มอเตอร์ 1 HP, 220 V.)

    หยุดพึ่งพาการหั่นด้วยมือ! ลงทุนกับเครื่องจักรที่สร้างสรรค์ชิ้นงานคุณภาพและความสม่ำเสมอ เหมือนที่คุณต้องการ เพื่อขยายตลาดได้อย่างมั่นใจ

    สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม:
    ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

    เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.00-17.00 น.), เสาร์ (8.00-16.00 น.)
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    แชท: m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องหั่นเผือก #เผือกเส้น #เผือกทอด #เผือกแปรรูป #เครื่องหั่นผัก #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องจักรอุตสาหกรรม #เครื่องครัวเชิงพาณิชย์ #ยงฮะเฮง #Yoryonghahheng #เครื่องหั่นสแตนเลส #โรงงานอาหาร #ธุรกิจร้านขนม #ผู้ค้าส่ง #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #กำลังการผลิตสูง #มาตรฐานการผลิต #อาหารแช่แข็ง #วัตถุดิบ #อุปกรณ์ครัว #ครัวมืออาชีพ #เครื่องจักร1HP #ลงทุนธุรกิจ #สินค้าอุตสาหกรรม #ทำกำไร #เผือก #มืออาชีพ #เทคนิคการผลิต
    ✨ เผือกเส้นสวยเป๊ะ! หากคุณกำลังมองหาเครื่องจักรที่สามารถหั่น เผือก ให้ออกมาเป็น เส้นยาวเรียว ได้มาตรฐานสม่ำเสมอ เหมือนที่คุณเห็นในภาพนี้ (เน้นความสม่ำเสมอของเส้น) คุณมาถูกที่แล้ว! เครื่องหั่นมันฝรั่ง (Potato Slicer) Model YPS-J300-606-Z-S จาก ย.ย่งฮะเฮง คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ ร้านขนม โรงงานแปรรูป และผู้ค้าส่ง ได้ชิ้นงานคุณภาพสูงเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็น: เผือกเส้นทอด/อบ: ได้เส้นสวยเท่ากันหมด ทอดแล้วสุกพร้อมกัน กรอบนาน เผือกเส้นสำหรับขนม: หรือส่วนผสมอาหารอื่น ๆ ที่ต้องการความประณีต ⚙️ สเปคเครื่องจักรที่สร้างสรรค์คุณภาพ: 📌สร้างชิ้นงานสวยเป๊ะ: เครื่องนี้สามารถหั่นเผือกเป็นเส้นได้สวยงามตามภาพที่คุณเห็น และสามารถ ปรับความหนาบางได้ อย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้ขนาดที่ต้องการทุกล็อตการผลิต 📌ความเร็วเหนือกว่าแรงงานคน: ทำงานต่อเนื่องด้วยกำลังการผลิตสูง 100 – 300 กิโลกรัมต่อชั่วโมง! (มอเตอร์ 1 HP, 220 V.) 🔥 หยุดพึ่งพาการหั่นด้วยมือ! ลงทุนกับเครื่องจักรที่สร้างสรรค์ชิ้นงานคุณภาพและความสม่ำเสมอ เหมือนที่คุณต้องการ เพื่อขยายตลาดได้อย่างมั่นใจ 🛒 สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม: ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.00-17.00 น.), เสาร์ (8.00-16.00 น.) แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 แชท: m.me/yonghahheng LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9 โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com อีเมล: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com #เครื่องหั่นเผือก #เผือกเส้น #เผือกทอด #เผือกแปรรูป #เครื่องหั่นผัก #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องจักรอุตสาหกรรม #เครื่องครัวเชิงพาณิชย์ #ยงฮะเฮง #Yoryonghahheng #เครื่องหั่นสแตนเลส #โรงงานอาหาร #ธุรกิจร้านขนม #ผู้ค้าส่ง #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #กำลังการผลิตสูง #มาตรฐานการผลิต #อาหารแช่แข็ง #วัตถุดิบ #อุปกรณ์ครัว #ครัวมืออาชีพ #เครื่องจักร1HP #ลงทุนธุรกิจ #สินค้าอุตสาหกรรม #ทำกำไร #เผือก #มืออาชีพ #เทคนิคการผลิต
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • “AMD Fluid Motion Frames 3 โผล่ในไดรเวอร์ใหม่ — เตรียมใช้ AI จาก FSR 4 ยกระดับการสร้างเฟรมแบบไดรเวอร์”

    AMD กำลังซุ่มพัฒนาเทคโนโลยี Fluid Motion Frames รุ่นที่ 3 (AFMF 3) ซึ่งถูกค้นพบในไดรเวอร์เวอร์ชันพรีวิวของ Adrenalin 25.20 โดยผู้ใช้งานในฟอรัม Guru3D ผ่านการส่งออกโปรไฟล์เกมจาก AMD GPU Profile Manager แม้ในหน้าควบคุมของไดรเวอร์จะยังไม่แสดงฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการ

    AFMF คือเทคโนโลยีการสร้างเฟรมที่ทำงานในระดับไดรเวอร์ โดยออกแบบมาเพื่อเพิ่มเฟรมเรตในเกมที่ไม่รองรับ FSR frame generation โดยตรง ซึ่งในเวอร์ชันใหม่ AFMF 3 คาดว่าจะใช้โมเดล AI เดียวกับ FSR 4 ที่มีคุณภาพสูงกว่าเวอร์ชันก่อนหน้าอย่าง AFMF 2.1 ที่ยังใช้การปรับแต่งแบบเก่า

    ไดรเวอร์ใหม่นี้ยังมาพร้อมการอัปเดตด้าน AI จำนวนมาก เช่น รองรับ Python 3.12 และ PyTorch บน Windows Preview เพื่อเสริมการทำงานของ LLM บน GPU ตระกูล RX 9000, RX 7000 และ Ryzen AI 9/Max APU บน Windows 11

    แม้ยังไม่มีการยืนยันว่า AFMF 3 จะมาพร้อมกับไดรเวอร์ 25.20 หรือเวอร์ชันถัดไป แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ FSR Redstone ซึ่งเป็นการอัปเดตใหญ่ที่รวมการสร้างเฟรมด้วย ML และการเรนเดอร์ ray tracing สำหรับสถาปัตยกรรม RDNA 4

    อย่างไรก็ตาม FSR 4 และ AFMF 3 อาจรองรับเฉพาะ GPU รุ่น RX 9000 เท่านั้น เนื่องจากโมเดล ML ที่ใช้ต้องการความสามารถเฉพาะของ RDNA 4 แม้จะมีหลักฐานว่ามีการปรับแต่งให้ใช้กับ RDNA 3 ได้ แต่ AMD ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    AFMF 3 ถูกค้นพบในไดรเวอร์พรีวิว Adrenalin 25.20 ผ่านการส่งออกโปรไฟล์เกม
    AFMF เป็นเทคโนโลยีสร้างเฟรมระดับไดรเวอร์สำหรับเกมที่ไม่รองรับ FSR frame generation
    AFMF 3 คาดว่าจะใช้โมเดล AI เดียวกับ FSR 4 เพื่อเพิ่มคุณภาพการสร้างเฟรม
    ไดรเวอร์ใหม่มีการอัปเดตด้าน AI เช่น Python 3.12 และ PyTorch บน Windows Preview
    รองรับ GPU RX 9000, RX 7000 และ Ryzen AI 9/Max APU บน Windows 11
    FSR Redstone จะรวมการสร้างเฟรมด้วย ML และ ray tracing สำหรับ RDNA 4
    มีความเป็นไปได้ว่า AFMF 3 จะเปิดตัวพร้อมกับ FSR Redstone ในไดรเวอร์เวอร์ชันถัดไป

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    AFMF 2.1 ใช้ AI-optimized enhancements แต่ยังด้อยกว่าคุณภาพของ FSR 4
    Nvidia เปิดตัว Smooth Motion บน RTX 40 series กดดันให้ AMD พัฒนา AFMF
    FSR 4 ถูกปรับแต่งให้ใช้กับ RDNA 3 ได้โดยชุมชน modder แต่ยังไม่มีการประกาศจาก AMD
    DLSS 4 ของ Nvidia ยังเหนือกว่า FSR 4 ในด้านคุณภาพภาพและการสร้างเฟรม
    AMD HYPR-RX เป็นระบบเปิดใช้งานฟีเจอร์รวม เช่น AFMF, Radeon Chill และอื่น ๆ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/amd-fluid-motion-frames-3-spotted-in-the-upcoming-amd-adrenalin-25-20-driver-branch-could-lean-on-ai-model-used-in-fsr-4
    🖥️ “AMD Fluid Motion Frames 3 โผล่ในไดรเวอร์ใหม่ — เตรียมใช้ AI จาก FSR 4 ยกระดับการสร้างเฟรมแบบไดรเวอร์” AMD กำลังซุ่มพัฒนาเทคโนโลยี Fluid Motion Frames รุ่นที่ 3 (AFMF 3) ซึ่งถูกค้นพบในไดรเวอร์เวอร์ชันพรีวิวของ Adrenalin 25.20 โดยผู้ใช้งานในฟอรัม Guru3D ผ่านการส่งออกโปรไฟล์เกมจาก AMD GPU Profile Manager แม้ในหน้าควบคุมของไดรเวอร์จะยังไม่แสดงฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการ AFMF คือเทคโนโลยีการสร้างเฟรมที่ทำงานในระดับไดรเวอร์ โดยออกแบบมาเพื่อเพิ่มเฟรมเรตในเกมที่ไม่รองรับ FSR frame generation โดยตรง ซึ่งในเวอร์ชันใหม่ AFMF 3 คาดว่าจะใช้โมเดล AI เดียวกับ FSR 4 ที่มีคุณภาพสูงกว่าเวอร์ชันก่อนหน้าอย่าง AFMF 2.1 ที่ยังใช้การปรับแต่งแบบเก่า ไดรเวอร์ใหม่นี้ยังมาพร้อมการอัปเดตด้าน AI จำนวนมาก เช่น รองรับ Python 3.12 และ PyTorch บน Windows Preview เพื่อเสริมการทำงานของ LLM บน GPU ตระกูล RX 9000, RX 7000 และ Ryzen AI 9/Max APU บน Windows 11 แม้ยังไม่มีการยืนยันว่า AFMF 3 จะมาพร้อมกับไดรเวอร์ 25.20 หรือเวอร์ชันถัดไป แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ FSR Redstone ซึ่งเป็นการอัปเดตใหญ่ที่รวมการสร้างเฟรมด้วย ML และการเรนเดอร์ ray tracing สำหรับสถาปัตยกรรม RDNA 4 อย่างไรก็ตาม FSR 4 และ AFMF 3 อาจรองรับเฉพาะ GPU รุ่น RX 9000 เท่านั้น เนื่องจากโมเดล ML ที่ใช้ต้องการความสามารถเฉพาะของ RDNA 4 แม้จะมีหลักฐานว่ามีการปรับแต่งให้ใช้กับ RDNA 3 ได้ แต่ AMD ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ AFMF 3 ถูกค้นพบในไดรเวอร์พรีวิว Adrenalin 25.20 ผ่านการส่งออกโปรไฟล์เกม ➡️ AFMF เป็นเทคโนโลยีสร้างเฟรมระดับไดรเวอร์สำหรับเกมที่ไม่รองรับ FSR frame generation ➡️ AFMF 3 คาดว่าจะใช้โมเดล AI เดียวกับ FSR 4 เพื่อเพิ่มคุณภาพการสร้างเฟรม ➡️ ไดรเวอร์ใหม่มีการอัปเดตด้าน AI เช่น Python 3.12 และ PyTorch บน Windows Preview ➡️ รองรับ GPU RX 9000, RX 7000 และ Ryzen AI 9/Max APU บน Windows 11 ➡️ FSR Redstone จะรวมการสร้างเฟรมด้วย ML และ ray tracing สำหรับ RDNA 4 ➡️ มีความเป็นไปได้ว่า AFMF 3 จะเปิดตัวพร้อมกับ FSR Redstone ในไดรเวอร์เวอร์ชันถัดไป ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ AFMF 2.1 ใช้ AI-optimized enhancements แต่ยังด้อยกว่าคุณภาพของ FSR 4 ➡️ Nvidia เปิดตัว Smooth Motion บน RTX 40 series กดดันให้ AMD พัฒนา AFMF ➡️ FSR 4 ถูกปรับแต่งให้ใช้กับ RDNA 3 ได้โดยชุมชน modder แต่ยังไม่มีการประกาศจาก AMD ➡️ DLSS 4 ของ Nvidia ยังเหนือกว่า FSR 4 ในด้านคุณภาพภาพและการสร้างเฟรม ➡️ AMD HYPR-RX เป็นระบบเปิดใช้งานฟีเจอร์รวม เช่น AFMF, Radeon Chill และอื่น ๆ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/amd-fluid-motion-frames-3-spotted-in-the-upcoming-amd-adrenalin-25-20-driver-branch-could-lean-on-ai-model-used-in-fsr-4
    0 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
  • “AI ในที่ทำงาน: ใช้กันจริงหรือแค่กระแส? — เมื่อ Productivity พุ่ง แต่องค์กรยังไม่เปลี่ยน”

    AI กลายเป็นคำที่ทุกบริษัทพูดถึง แต่คำถามคือ “มีใครใช้จริงไหม?” รายงานล่าสุดจาก Atlassian ชื่อว่า AI Collaboration Index 2025 เผยให้เห็นภาพที่ซับซ้อนกว่าที่คิด แม้การใช้ AI ในชีวิตประจำวันของพนักงานจะเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในรอบปี และคนทำงานสามารถประหยัดเวลาได้เฉลี่ย 1.4 ชั่วโมงต่อวัน แต่ผลลัพธ์ในระดับองค์กรกลับไม่เปลี่ยนแปลงเท่าที่ควร

    มีเพียง 3% ขององค์กรที่รายงานว่าประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และแค่ 2% ที่บอกว่างานมีคุณภาพสูงขึ้น ส่วนใหญ่ยังคงเห็นผลแค่ในระดับบุคคล ไม่ใช่ระดับทีมหรือองค์กร ซึ่งสะท้อนถึงปัญหา “AI แบบแยกส่วน” ที่แต่ละคนใช้เครื่องมือของตัวเองโดยไม่มีการเชื่อมโยงกัน

    ที่น่ากังวลคือ 1 ใน 3 ของพนักงานยอมรับว่าใช้ “Shadow AI” หรือ AI ที่องค์กรไม่ได้อนุมัติ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัยของข้อมูล และยิ่งทำให้ทีมงานแยกส่วนมากขึ้น เพราะแต่ละคนใช้เครื่องมือที่ต่างกัน

    แม้จะมีคนใช้เวลาเพิ่มขึ้นในการคิดเชิงกลยุทธ์หรือปรับปรุงกระบวนการ แต่เกือบครึ่งกลับใช้เวลาที่ประหยัดได้ไปกับการพักผ่อนหรือปรับสมดุลชีวิต ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้องค์กรก้าวหน้าเท่าที่ควร

    รายงานยังเตือนว่า หากไม่ปรับโครงสร้างการทำงานใหม่ AI อาจทำให้เกิด “ภาวะหมดไฟ” เพราะเมื่อ AI ลดงานซ้ำซ้อนลง พนักงานจะถูกผลักไปทำงานที่ใช้สมองมากขึ้นโดยไม่มีเวลาพัก

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    การใช้ AI ในที่ทำงานเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในรอบปี
    พนักงานประหยัดเวลาได้เฉลี่ย 1.4 ชั่วโมงต่อวัน
    คนทำงานมี productivity เพิ่มขึ้นประมาณ 33%
    มีเพียง 3% ขององค์กรที่เห็นผลเชิงโครงสร้างจากการใช้ AI
    1 ใน 3 ของพนักงานใช้ Shadow AI ที่องค์กรไม่ได้อนุมัติ
    49% ใช้เวลาที่ประหยัดได้ไปกับการปรับสมดุลชีวิต
    43% ใช้เวลาไปกับการคิดเชิงกลยุทธ์ และ 41% ปรับปรุงกระบวนการ
    Atlassian แนะนำให้เริ่มจากการสร้างฐานข้อมูลที่ AI เข้าถึงได้ ก่อนตั้งระบบการทำงานที่ชัดเจน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    อินเดียเป็นผู้นำด้านการใช้ AI โดย 77% ของคนทำงานใช้ AI ทุกวัน
    บริษัทที่เห็นผลจริงจาก AI ทำ 3 สิ่งต่างออกไป: สร้างฐานความรู้, เชื่อมงานข้ามทีม, และให้ผู้บริหารเป็นตัวอย่าง
    การใช้ AI แบบ “ผู้ร่วมงานเชิงกลยุทธ์” ให้ผลดีกว่าการใช้แบบ “เครื่องมือส่วนตัว”
    การใช้ AI เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลและการตัดสินใจร่วมกันคือกุญแจสู่การเปลี่ยนแปลงระดับองค์กร
    การใช้ AI ในการจัดการเอกสารและความรู้ช่วยลดเวลาเสียเปล่าได้ถึง 4.4 เท่า

    https://www.techradar.com/pro/now-ai-is-everywhere-in-businesses-is-anyone-actually-using-it
    🤖 “AI ในที่ทำงาน: ใช้กันจริงหรือแค่กระแส? — เมื่อ Productivity พุ่ง แต่องค์กรยังไม่เปลี่ยน” AI กลายเป็นคำที่ทุกบริษัทพูดถึง แต่คำถามคือ “มีใครใช้จริงไหม?” รายงานล่าสุดจาก Atlassian ชื่อว่า AI Collaboration Index 2025 เผยให้เห็นภาพที่ซับซ้อนกว่าที่คิด แม้การใช้ AI ในชีวิตประจำวันของพนักงานจะเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในรอบปี และคนทำงานสามารถประหยัดเวลาได้เฉลี่ย 1.4 ชั่วโมงต่อวัน แต่ผลลัพธ์ในระดับองค์กรกลับไม่เปลี่ยนแปลงเท่าที่ควร มีเพียง 3% ขององค์กรที่รายงานว่าประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และแค่ 2% ที่บอกว่างานมีคุณภาพสูงขึ้น ส่วนใหญ่ยังคงเห็นผลแค่ในระดับบุคคล ไม่ใช่ระดับทีมหรือองค์กร ซึ่งสะท้อนถึงปัญหา “AI แบบแยกส่วน” ที่แต่ละคนใช้เครื่องมือของตัวเองโดยไม่มีการเชื่อมโยงกัน ที่น่ากังวลคือ 1 ใน 3 ของพนักงานยอมรับว่าใช้ “Shadow AI” หรือ AI ที่องค์กรไม่ได้อนุมัติ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัยของข้อมูล และยิ่งทำให้ทีมงานแยกส่วนมากขึ้น เพราะแต่ละคนใช้เครื่องมือที่ต่างกัน แม้จะมีคนใช้เวลาเพิ่มขึ้นในการคิดเชิงกลยุทธ์หรือปรับปรุงกระบวนการ แต่เกือบครึ่งกลับใช้เวลาที่ประหยัดได้ไปกับการพักผ่อนหรือปรับสมดุลชีวิต ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้องค์กรก้าวหน้าเท่าที่ควร รายงานยังเตือนว่า หากไม่ปรับโครงสร้างการทำงานใหม่ AI อาจทำให้เกิด “ภาวะหมดไฟ” เพราะเมื่อ AI ลดงานซ้ำซ้อนลง พนักงานจะถูกผลักไปทำงานที่ใช้สมองมากขึ้นโดยไม่มีเวลาพัก ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ การใช้ AI ในที่ทำงานเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในรอบปี ➡️ พนักงานประหยัดเวลาได้เฉลี่ย 1.4 ชั่วโมงต่อวัน ➡️ คนทำงานมี productivity เพิ่มขึ้นประมาณ 33% ➡️ มีเพียง 3% ขององค์กรที่เห็นผลเชิงโครงสร้างจากการใช้ AI ➡️ 1 ใน 3 ของพนักงานใช้ Shadow AI ที่องค์กรไม่ได้อนุมัติ ➡️ 49% ใช้เวลาที่ประหยัดได้ไปกับการปรับสมดุลชีวิต ➡️ 43% ใช้เวลาไปกับการคิดเชิงกลยุทธ์ และ 41% ปรับปรุงกระบวนการ ➡️ Atlassian แนะนำให้เริ่มจากการสร้างฐานข้อมูลที่ AI เข้าถึงได้ ก่อนตั้งระบบการทำงานที่ชัดเจน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ อินเดียเป็นผู้นำด้านการใช้ AI โดย 77% ของคนทำงานใช้ AI ทุกวัน ➡️ บริษัทที่เห็นผลจริงจาก AI ทำ 3 สิ่งต่างออกไป: สร้างฐานความรู้, เชื่อมงานข้ามทีม, และให้ผู้บริหารเป็นตัวอย่าง ➡️ การใช้ AI แบบ “ผู้ร่วมงานเชิงกลยุทธ์” ให้ผลดีกว่าการใช้แบบ “เครื่องมือส่วนตัว” ➡️ การใช้ AI เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลและการตัดสินใจร่วมกันคือกุญแจสู่การเปลี่ยนแปลงระดับองค์กร ➡️ การใช้ AI ในการจัดการเอกสารและความรู้ช่วยลดเวลาเสียเปล่าได้ถึง 4.4 เท่า https://www.techradar.com/pro/now-ai-is-everywhere-in-businesses-is-anyone-actually-using-it
    0 Comments 0 Shares 157 Views 0 Reviews
  • “ทำไมศูนย์ข้อมูล AI ถึงยังพึ่งพาพลังงานฟอสซิล? — เมื่อความต้องการพลังงานแซงหน้าความเขียว”

    ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวใหญ่ในวงการ AI: Nvidia ประกาศลงทุนกว่า 100 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานของ OpenAI ตามมาด้วยดีล Stargate Project มูลค่า 500 พันล้านดอลลาร์ระหว่าง OpenAI, SoftBank และ Oracle เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่ถึง 5 แห่งในสหรัฐฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องการพลังงานมหาศาลตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

    แม้เทคโนโลยีจะล้ำหน้า แต่พลังงานที่ใช้กลับยังคงเป็นฟอสซิลเป็นหลัก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่มากกว่าครึ่งของพลังงานศูนย์ข้อมูลมาจากถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีทรัมป์ที่เรียกพลังงานสะอาดว่า “หลอกลวง” และผลักดันนโยบายสนับสนุนฟอสซิลอย่างเต็มที่

    เหตุผลที่ศูนย์ข้อมูลยังไม่สามารถใช้พลังงานหมุนเวียนได้เต็มรูปแบบนั้นมีหลายด้าน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และลมไม่สามารถจ่ายไฟได้ต่อเนื่องตลอดวัน หากไฟดับแม้เพียงไม่กี่วินาที อาจทำให้บริษัทสูญเสียเงินมหาศาล การใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อเก็บพลังงานก็ยังมีต้นทุนสูง และไม่สามารถรองรับการใช้งานข้ามฤดูกาลได้

    นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ต้องการพลังงานระดับกิกะวัตต์ ซึ่งเทียบเท่ากับการใช้แผงโซลาร์กว่า 12.5 ล้านแผง หรือกังหันลมจำนวนมหาศาล ซึ่งพื้นที่ใกล้เมืองมักไม่สามารถรองรับได้

    ทางเลือกหนึ่งคือพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งมีข้อดีคือปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์และจ่ายไฟได้ต่อเนื่อง แต่ก็ต้องใช้เวลา 7–8 ปีในการสร้างโรงงานใหม่ และยังมีอุปสรรคด้านต้นทุน ความปลอดภัย และการจัดการกากนิวเคลียร์

    ดังนั้นในระยะสั้น บริษัทเทคโนโลยีจึงยังต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมใช้งานภายใน 1–2 ปี และสามารถตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการเติบโตของ AI

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Nvidia ลงทุน 100 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนศูนย์ข้อมูลของ OpenAI
    OpenAI, SoftBank และ Oracle ร่วมกันสร้างศูนย์ข้อมูล Stargate Project มูลค่า 500 พันล้านดอลลาร์
    บริษัทเทคโนโลยีใหญ่กำลังลงทุนรวมกว่า 325 พันล้านดอลลาร์ในศูนย์ข้อมูลภายในปีนี้
    มากกว่าครึ่งของพลังงานศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ มาจากฟอสซิล เช่น ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ
    พลังงานหมุนเวียนไม่สามารถจ่ายไฟได้ต่อเนื่อง และแบตเตอรี่ยังมีต้นทุนสูง
    การสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องใช้เวลา 7–8 ปี และมีต้นทุนสูง
    ก๊าซธรรมชาติสามารถสร้างโรงไฟฟ้าได้ภายใน 1–2 ปี และมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อม
    ประธานาธิบดีทรัมป์สนับสนุนฟอสซิลและลดเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Goldman Sachs คาดว่าความต้องการพลังงานจากศูนย์ข้อมูลจะเพิ่มขึ้น 160% ภายในปี 2030
    หากใช้ฟอสซิลเป็นหลัก อาจเพิ่มการปล่อยคาร์บอนถึง 220 ล้านตันทั่วโลกภายในปี 2030
    พลังงานนิวเคลียร์มีศักยภาพสูง แต่ยังมีข้อจำกัดด้านแรงงานและการขออนุญาต
    การใช้พลังงานหมุนเวียนร่วมกับระบบจัดการข้อมูลและซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพสามารถลดการใช้พลังงานได้มาก
    การออกแบบโมเดล AI ที่เหมาะสมและใช้ข้อมูลคุณภาพสูงช่วยลดการใช้พลังงานในการฝึกและใช้งานโมเดล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/29/why-dont-data-centres-use-more-green-energy
    ⚡ “ทำไมศูนย์ข้อมูล AI ถึงยังพึ่งพาพลังงานฟอสซิล? — เมื่อความต้องการพลังงานแซงหน้าความเขียว” ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวใหญ่ในวงการ AI: Nvidia ประกาศลงทุนกว่า 100 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานของ OpenAI ตามมาด้วยดีล Stargate Project มูลค่า 500 พันล้านดอลลาร์ระหว่าง OpenAI, SoftBank และ Oracle เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่ถึง 5 แห่งในสหรัฐฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องการพลังงานมหาศาลตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน แม้เทคโนโลยีจะล้ำหน้า แต่พลังงานที่ใช้กลับยังคงเป็นฟอสซิลเป็นหลัก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่มากกว่าครึ่งของพลังงานศูนย์ข้อมูลมาจากถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีทรัมป์ที่เรียกพลังงานสะอาดว่า “หลอกลวง” และผลักดันนโยบายสนับสนุนฟอสซิลอย่างเต็มที่ เหตุผลที่ศูนย์ข้อมูลยังไม่สามารถใช้พลังงานหมุนเวียนได้เต็มรูปแบบนั้นมีหลายด้าน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และลมไม่สามารถจ่ายไฟได้ต่อเนื่องตลอดวัน หากไฟดับแม้เพียงไม่กี่วินาที อาจทำให้บริษัทสูญเสียเงินมหาศาล การใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อเก็บพลังงานก็ยังมีต้นทุนสูง และไม่สามารถรองรับการใช้งานข้ามฤดูกาลได้ นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ต้องการพลังงานระดับกิกะวัตต์ ซึ่งเทียบเท่ากับการใช้แผงโซลาร์กว่า 12.5 ล้านแผง หรือกังหันลมจำนวนมหาศาล ซึ่งพื้นที่ใกล้เมืองมักไม่สามารถรองรับได้ ทางเลือกหนึ่งคือพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งมีข้อดีคือปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์และจ่ายไฟได้ต่อเนื่อง แต่ก็ต้องใช้เวลา 7–8 ปีในการสร้างโรงงานใหม่ และยังมีอุปสรรคด้านต้นทุน ความปลอดภัย และการจัดการกากนิวเคลียร์ ดังนั้นในระยะสั้น บริษัทเทคโนโลยีจึงยังต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมใช้งานภายใน 1–2 ปี และสามารถตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการเติบโตของ AI ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Nvidia ลงทุน 100 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนศูนย์ข้อมูลของ OpenAI ➡️ OpenAI, SoftBank และ Oracle ร่วมกันสร้างศูนย์ข้อมูล Stargate Project มูลค่า 500 พันล้านดอลลาร์ ➡️ บริษัทเทคโนโลยีใหญ่กำลังลงทุนรวมกว่า 325 พันล้านดอลลาร์ในศูนย์ข้อมูลภายในปีนี้ ➡️ มากกว่าครึ่งของพลังงานศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ มาจากฟอสซิล เช่น ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ ➡️ พลังงานหมุนเวียนไม่สามารถจ่ายไฟได้ต่อเนื่อง และแบตเตอรี่ยังมีต้นทุนสูง ➡️ การสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องใช้เวลา 7–8 ปี และมีต้นทุนสูง ➡️ ก๊าซธรรมชาติสามารถสร้างโรงไฟฟ้าได้ภายใน 1–2 ปี และมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อม ➡️ ประธานาธิบดีทรัมป์สนับสนุนฟอสซิลและลดเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Goldman Sachs คาดว่าความต้องการพลังงานจากศูนย์ข้อมูลจะเพิ่มขึ้น 160% ภายในปี 2030 ➡️ หากใช้ฟอสซิลเป็นหลัก อาจเพิ่มการปล่อยคาร์บอนถึง 220 ล้านตันทั่วโลกภายในปี 2030 ➡️ พลังงานนิวเคลียร์มีศักยภาพสูง แต่ยังมีข้อจำกัดด้านแรงงานและการขออนุญาต ➡️ การใช้พลังงานหมุนเวียนร่วมกับระบบจัดการข้อมูลและซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพสามารถลดการใช้พลังงานได้มาก ➡️ การออกแบบโมเดล AI ที่เหมาะสมและใช้ข้อมูลคุณภาพสูงช่วยลดการใช้พลังงานในการฝึกและใช้งานโมเดล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/29/why-dont-data-centres-use-more-green-energy
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Why don't data centres use more green energy?
    Reliance on fossil fuels is almost unavoidable — at least for now.
    0 Comments 0 Shares 178 Views 0 Reviews
  • “Meta เปิดตัว Vibes — ปฏิวัติการสร้างวิดีโอสั้นด้วย AI ที่คุณไม่ต้องถ่ายเองอีกต่อไป”

    Meta เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Meta AI และเว็บไซต์ meta.ai ชื่อว่า “Vibes” ซึ่งเป็นฟีดวิดีโอสั้นที่สร้างด้วย AI ทั้งหมด โดยผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอจากข้อความ (prompt), รีมิกซ์วิดีโอที่มีอยู่, เพิ่มภาพ เสียง และปรับสไตล์ได้ตามใจ ก่อนแชร์ไปยัง Instagram Reels หรือ Facebook Stories ได้ทันที

    Vibes ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ที่ไม่มีทักษะด้านการตัดต่อหรือการถ่ายทำสามารถสร้างวิดีโอที่ดูดีได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องปรากฏตัวในคลิปเองเลย จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือสร้างภาพ AI, สติกเกอร์, และโมเดลวิดีโอของ Meta ไว้ในที่เดียว ทำให้การสร้างคอนเทนต์กลายเป็นเรื่องสนุกและเข้าถึงได้

    ฟีด Vibes จะเรียนรู้จากพฤติกรรมของผู้ใช้และปรับเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมเปิดให้รีมิกซ์วิดีโอจากผู้ใช้คนอื่นได้ทันทีผ่านปุ่ม “Remix” บน Instagram หรือในแอป Meta AI โดย Meta ยังร่วมมือกับศิลปินและนักสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาโมเดลให้มีคุณภาพสูงขึ้นในอนาคต

    แม้จะเป็นการเปิดโอกาสให้คนทั่วไปเข้าถึงการสร้างวิดีโอด้วย AI ได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลว่าอาจทำให้แพลตฟอร์มเต็มไปด้วย “AI slop” หรือวิดีโอที่ดูแปลก ไม่สมจริง และขาดคุณภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อความนิยมของ Reels และ Stories ในระยะยาว

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Meta เปิดตัว Vibes ฟีดวิดีโอสั้นที่สร้างด้วย AI ทั้งหมดในแอป Meta AI และเว็บไซต์ meta.ai
    ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอจากข้อความ รีมิกซ์วิดีโอที่มีอยู่ และปรับแต่งภาพ เสียง สไตล์ได้
    วิดีโอสามารถแชร์ไปยัง Instagram Reels และ Facebook Stories ได้โดยตรง
    Vibes รวมเครื่องมือสร้างภาพ AI, สติกเกอร์ และโมเดลวิดีโอไว้ในที่เดียว
    ฟีดจะปรับเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้โดยอิงจากพฤติกรรมการใช้งาน
    ผู้ใช้สามารถรีมิกซ์วิดีโอจาก Instagram ได้ผ่านปุ่ม “Remix” ที่เชื่อมกับแอป Meta AI
    Meta ร่วมมือกับศิลปินและนักสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาโมเดลให้มีคุณภาพสูงขึ้น
    Vibes เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างบริษัทเพื่อผลักดัน AI ไปสู่ทุกผลิตภัณฑ์ของ Meta

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    การสร้างวิดีโอด้วย AI ช่วยลดต้นทุนและเวลาในการผลิตคอนเทนต์
    ผู้ใช้ที่ขาดอุปกรณ์หรือความมั่นใจสามารถสร้างวิดีโอได้โดยไม่ต้องถ่ายเอง
    การใช้ prompt ในการสร้างวิดีโอเปิดโอกาสให้เกิดความคิดสร้างสรรค์แบบใหม่
    Meta เคยทดลองฟีเจอร์ AI chatbot persona แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่า Vibes
    การรวม Vibes เข้ากับ Instagram และ Facebook อาจเปลี่ยนวิธีการสร้างคอนเทนต์ในอนาคต

    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/meta-launches-vibes-a-new-way-of-creating-and-remixing-ai-videos
    🎬 “Meta เปิดตัว Vibes — ปฏิวัติการสร้างวิดีโอสั้นด้วย AI ที่คุณไม่ต้องถ่ายเองอีกต่อไป” Meta เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Meta AI และเว็บไซต์ meta.ai ชื่อว่า “Vibes” ซึ่งเป็นฟีดวิดีโอสั้นที่สร้างด้วย AI ทั้งหมด โดยผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอจากข้อความ (prompt), รีมิกซ์วิดีโอที่มีอยู่, เพิ่มภาพ เสียง และปรับสไตล์ได้ตามใจ ก่อนแชร์ไปยัง Instagram Reels หรือ Facebook Stories ได้ทันที Vibes ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ที่ไม่มีทักษะด้านการตัดต่อหรือการถ่ายทำสามารถสร้างวิดีโอที่ดูดีได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องปรากฏตัวในคลิปเองเลย จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือสร้างภาพ AI, สติกเกอร์, และโมเดลวิดีโอของ Meta ไว้ในที่เดียว ทำให้การสร้างคอนเทนต์กลายเป็นเรื่องสนุกและเข้าถึงได้ ฟีด Vibes จะเรียนรู้จากพฤติกรรมของผู้ใช้และปรับเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมเปิดให้รีมิกซ์วิดีโอจากผู้ใช้คนอื่นได้ทันทีผ่านปุ่ม “Remix” บน Instagram หรือในแอป Meta AI โดย Meta ยังร่วมมือกับศิลปินและนักสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาโมเดลให้มีคุณภาพสูงขึ้นในอนาคต แม้จะเป็นการเปิดโอกาสให้คนทั่วไปเข้าถึงการสร้างวิดีโอด้วย AI ได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลว่าอาจทำให้แพลตฟอร์มเต็มไปด้วย “AI slop” หรือวิดีโอที่ดูแปลก ไม่สมจริง และขาดคุณภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อความนิยมของ Reels และ Stories ในระยะยาว ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Meta เปิดตัว Vibes ฟีดวิดีโอสั้นที่สร้างด้วย AI ทั้งหมดในแอป Meta AI และเว็บไซต์ meta.ai ➡️ ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอจากข้อความ รีมิกซ์วิดีโอที่มีอยู่ และปรับแต่งภาพ เสียง สไตล์ได้ ➡️ วิดีโอสามารถแชร์ไปยัง Instagram Reels และ Facebook Stories ได้โดยตรง ➡️ Vibes รวมเครื่องมือสร้างภาพ AI, สติกเกอร์ และโมเดลวิดีโอไว้ในที่เดียว ➡️ ฟีดจะปรับเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้โดยอิงจากพฤติกรรมการใช้งาน ➡️ ผู้ใช้สามารถรีมิกซ์วิดีโอจาก Instagram ได้ผ่านปุ่ม “Remix” ที่เชื่อมกับแอป Meta AI ➡️ Meta ร่วมมือกับศิลปินและนักสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาโมเดลให้มีคุณภาพสูงขึ้น ➡️ Vibes เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างบริษัทเพื่อผลักดัน AI ไปสู่ทุกผลิตภัณฑ์ของ Meta ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ การสร้างวิดีโอด้วย AI ช่วยลดต้นทุนและเวลาในการผลิตคอนเทนต์ ➡️ ผู้ใช้ที่ขาดอุปกรณ์หรือความมั่นใจสามารถสร้างวิดีโอได้โดยไม่ต้องถ่ายเอง ➡️ การใช้ prompt ในการสร้างวิดีโอเปิดโอกาสให้เกิดความคิดสร้างสรรค์แบบใหม่ ➡️ Meta เคยทดลองฟีเจอร์ AI chatbot persona แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่า Vibes ➡️ การรวม Vibes เข้ากับ Instagram และ Facebook อาจเปลี่ยนวิธีการสร้างคอนเทนต์ในอนาคต https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/meta-launches-vibes-a-new-way-of-creating-and-remixing-ai-videos
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • Samsung กำลังเตรียมปล่อยอัปเดต One UI 8.5 ซึ่งเป็นเวอร์ชันต่อยอดจาก One UI 8 ที่ใช้พื้นฐาน Android 16 โดยมีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจหลุดออกมาหลายรายการ โดยเฉพาะในแอปกล้องที่ดูเหมือนจะได้รับการยกระดับครั้งใหญ่ทั้งในด้านความสร้างสรรค์และความเป็นมืออาชีพ

    ฟีเจอร์แรกคือการเพิ่ม LUT (Look-Up Table) สำหรับวิดีโอแบบ LOG ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนโทนภาพได้ทันที เช่น Blockbuster, Thriller หรือ Initiatique โดยไม่ต้องใช้แอปตัดต่อภายนอก เหมาะสำหรับสายครีเอเตอร์ที่ต้องการ mood แบบภาพยนตร์

    อีกฟีเจอร์ที่น่าตื่นเต้นคือการรองรับการถ่ายภาพและวิดีโอแบบ 3D, VR และ spatial media ซึ่งอาจเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ AR/VR ของ Samsung ที่กำลังพัฒนาอยู่ โดยไม่ต้องใช้แอปเสริมหรือกล้องพิเศษ

    นอกจากนี้ยังมีการค้นพบระบบ Advanced Professional Video (APV) ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงและแปลงเป็น HEVC ได้ทันทีในแอป Gallery ซึ่งเป็นการยกระดับการถ่ายทำระดับโปรให้มาอยู่ในมือถือ

    ด้านการเชื่อมต่อ One UI 8.5 จะเพิ่มระบบ Intelligent Link Assessment และ Intelligent Network Switch ที่ใช้ AI ในการตัดสินใจว่าจะเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ Cellular โดยพิจารณาจากความเร็ว ความปลอดภัย และประวัติการเชื่อมต่อของผู้ใช้ ทำให้ไม่ต้องสลับเน็ตเองอีกต่อไป

    แม้ยังไม่มีการประกาศวันปล่อยอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่า One UI 8.5 จะเปิดตัวพร้อม Galaxy S26 ในเดือนมกราคม 2026

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    One UI 8.5 จะเพิ่ม LUT สำหรับวิดีโอแบบ LOG เช่น Blockbuster, Thriller
    รองรับการถ่ายภาพและวิดีโอแบบ 3D, VR และ spatial media
    เพิ่มระบบ APV (Advanced Professional Video) สำหรับการถ่ายวิดีโอคุณภาพสูง
    สามารถแปลงวิดีโอ APV เป็น HEVC ได้ในแอป Gallery
    เพิ่มระบบ Intelligent Link Assessment และ Intelligent Network Switch
    ใช้ AI ในการเลือกเครือข่ายที่เหมาะสมระหว่าง Wi-Fi และ Cellular
    คาดว่า One UI 8.5 จะเปิดตัวพร้อม Galaxy S26 ในเดือนมกราคม 2026
    ฟีเจอร์กล้องใหม่อาจใช้ร่วมกับอุปกรณ์ AR/VR ของ Samsung ที่กำลังพัฒนา

    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/good-news-for-samsung-galaxy-owners-one-ui-8-5-could-bring-these-3-big-upgrades
    Samsung กำลังเตรียมปล่อยอัปเดต One UI 8.5 ซึ่งเป็นเวอร์ชันต่อยอดจาก One UI 8 ที่ใช้พื้นฐาน Android 16 โดยมีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจหลุดออกมาหลายรายการ โดยเฉพาะในแอปกล้องที่ดูเหมือนจะได้รับการยกระดับครั้งใหญ่ทั้งในด้านความสร้างสรรค์และความเป็นมืออาชีพ ฟีเจอร์แรกคือการเพิ่ม LUT (Look-Up Table) สำหรับวิดีโอแบบ LOG ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนโทนภาพได้ทันที เช่น Blockbuster, Thriller หรือ Initiatique โดยไม่ต้องใช้แอปตัดต่อภายนอก เหมาะสำหรับสายครีเอเตอร์ที่ต้องการ mood แบบภาพยนตร์ อีกฟีเจอร์ที่น่าตื่นเต้นคือการรองรับการถ่ายภาพและวิดีโอแบบ 3D, VR และ spatial media ซึ่งอาจเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ AR/VR ของ Samsung ที่กำลังพัฒนาอยู่ โดยไม่ต้องใช้แอปเสริมหรือกล้องพิเศษ นอกจากนี้ยังมีการค้นพบระบบ Advanced Professional Video (APV) ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงและแปลงเป็น HEVC ได้ทันทีในแอป Gallery ซึ่งเป็นการยกระดับการถ่ายทำระดับโปรให้มาอยู่ในมือถือ ด้านการเชื่อมต่อ One UI 8.5 จะเพิ่มระบบ Intelligent Link Assessment และ Intelligent Network Switch ที่ใช้ AI ในการตัดสินใจว่าจะเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ Cellular โดยพิจารณาจากความเร็ว ความปลอดภัย และประวัติการเชื่อมต่อของผู้ใช้ ทำให้ไม่ต้องสลับเน็ตเองอีกต่อไป แม้ยังไม่มีการประกาศวันปล่อยอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่า One UI 8.5 จะเปิดตัวพร้อม Galaxy S26 ในเดือนมกราคม 2026 ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ One UI 8.5 จะเพิ่ม LUT สำหรับวิดีโอแบบ LOG เช่น Blockbuster, Thriller ➡️ รองรับการถ่ายภาพและวิดีโอแบบ 3D, VR และ spatial media ➡️ เพิ่มระบบ APV (Advanced Professional Video) สำหรับการถ่ายวิดีโอคุณภาพสูง ➡️ สามารถแปลงวิดีโอ APV เป็น HEVC ได้ในแอป Gallery ➡️ เพิ่มระบบ Intelligent Link Assessment และ Intelligent Network Switch ➡️ ใช้ AI ในการเลือกเครือข่ายที่เหมาะสมระหว่าง Wi-Fi และ Cellular ➡️ คาดว่า One UI 8.5 จะเปิดตัวพร้อม Galaxy S26 ในเดือนมกราคม 2026 ➡️ ฟีเจอร์กล้องใหม่อาจใช้ร่วมกับอุปกรณ์ AR/VR ของ Samsung ที่กำลังพัฒนา https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/good-news-for-samsung-galaxy-owners-one-ui-8-5-could-bring-these-3-big-upgrades
    0 Comments 0 Shares 150 Views 0 Reviews
  • “YMTC กระโดดสู่ตลาด DRAM — จีนเร่งผลิต HBM ในประเทศ สู้วิกฤตขาดแคลนชิป AI หลังถูกสหรัฐฯ ควบคุมการส่งออก”

    หลังจากเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิต NAND รายใหญ่ของจีน บริษัท YMTC (Yangtze Memory Technologies Co.) กำลังขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาด DRAM โดยมีเป้าหมายหลักคือการผลิต HBM (High Bandwidth Memory) ด้วยตัวเอง เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนชิปหน่วยความจำความเร็วสูงที่จำเป็นต่อการพัฒนา AI ในประเทศ

    จีนกำลังเผชิญกับวิกฤต HBM อย่างหนัก เนื่องจากความต้องการชิป AI พุ่งสูง แต่กลับถูกสหรัฐฯ ขยายมาตรการควบคุมการส่งออกในปลายปี 2024 ทำให้บริษัทจีนไม่สามารถเข้าถึง HBM จากผู้ผลิตต่างประเทศ เช่น Micron, SK Hynix และ Samsung ได้อีกต่อไป

    YMTC จึงเริ่มตั้งสายการผลิต DRAM และพัฒนาเทคโนโลยีการบรรจุชิปแบบ TSV (Through-Silicon Via) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้าง HBM ที่ต้องซ้อนชั้น VRAM หลายชั้นอย่างแม่นยำ โดยมีแผนสร้างโรงงานใหม่ในเมืองอู่ฮั่น และร่วมมือกับ CXMT ผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ของจีน เพื่อแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญด้านการซ้อนชั้น 3D และการผลิต HBM2/HBM3

    แม้จะยังไม่มีตัวเลขการผลิตที่แน่นอน แต่ CXMT คาดว่าจะผลิตแผ่นเวเฟอร์ DRAM ได้ถึง 2.73 ล้านแผ่นในปี 2025 ซึ่งใกล้เคียงกับระดับของ Micron แล้ว ขณะที่ YMTC นำเทคโนโลยี Xtacking ที่เคยใช้ใน NAND มาเสริมการผลิต DRAM เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเชื่อมต่อระหว่างชั้น

    การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการภายในประเทศ แต่ยังอาจส่งผลต่ออุตสาหกรรมโลก หากจีนสามารถผลิต HBM ได้ในปริมาณมากและคุณภาพสูง โดยเฉพาะเมื่อ Huawei และบริษัทเทคโนโลยีจีนอื่น ๆ เริ่มพัฒนา AI accelerator ที่ใช้ HBM ในประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    YMTC ขยายธุรกิจจาก NAND สู่ DRAM เพื่อผลิต HBM ภายในประเทศ
    การขาดแคลน HBM เกิดจากการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ที่เริ่มปลายปี 2024
    YMTC ตั้งสายการผลิต DRAM และพัฒนาเทคโนโลยี TSV สำหรับการซ้อนชั้น VRAM
    มีแผนสร้างโรงงานใหม่ในเมืองอู่ฮั่นเพื่อรองรับการผลิต DRAM
    ร่วมมือกับ CXMT ผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ของจีนในการพัฒนา HBM2/HBM3
    CXMT คาดว่าจะผลิตเวเฟอร์ DRAM ได้ถึง 2.73 ล้านแผ่นในปี 2025
    YMTC ใช้เทคโนโลยี Xtacking ที่เคยใช้ใน NAND มาเสริมการผลิต DRAM
    Huawei เตรียมใช้ HBM ที่ผลิตในประเทศกับชิป AI รุ่นใหม่
    การผลิต HBM ในประเทศช่วยลดการพึ่งพาตะวันตกและเสริมความมั่นคงด้านเทคโนโลยี

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    HBM เป็นหน่วยความจำที่จำเป็นต่อการประมวลผล AI เช่นใน GPU และ XPU
    TSV เป็นเทคนิคที่ใช้เชื่อมต่อชั้นหน่วยความจำแบบแนวตั้งด้วยความแม่นยำสูง
    CXMT เป็นผู้ผลิต DRAM ที่มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมสำหรับการผลิต HBM
    การใช้ Xtacking ช่วยลดความร้อนและเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อระหว่างชั้น
    หากจีนผลิต HBM ได้สำเร็จ อาจมีผลต่อการแข่งขันกับ Samsung และ SK Hynix

    https://wccftech.com/china-ymtc-is-now-tapping-into-the-dram-business/
    🇨🇳 “YMTC กระโดดสู่ตลาด DRAM — จีนเร่งผลิต HBM ในประเทศ สู้วิกฤตขาดแคลนชิป AI หลังถูกสหรัฐฯ ควบคุมการส่งออก” หลังจากเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิต NAND รายใหญ่ของจีน บริษัท YMTC (Yangtze Memory Technologies Co.) กำลังขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาด DRAM โดยมีเป้าหมายหลักคือการผลิต HBM (High Bandwidth Memory) ด้วยตัวเอง เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนชิปหน่วยความจำความเร็วสูงที่จำเป็นต่อการพัฒนา AI ในประเทศ จีนกำลังเผชิญกับวิกฤต HBM อย่างหนัก เนื่องจากความต้องการชิป AI พุ่งสูง แต่กลับถูกสหรัฐฯ ขยายมาตรการควบคุมการส่งออกในปลายปี 2024 ทำให้บริษัทจีนไม่สามารถเข้าถึง HBM จากผู้ผลิตต่างประเทศ เช่น Micron, SK Hynix และ Samsung ได้อีกต่อไป YMTC จึงเริ่มตั้งสายการผลิต DRAM และพัฒนาเทคโนโลยีการบรรจุชิปแบบ TSV (Through-Silicon Via) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้าง HBM ที่ต้องซ้อนชั้น VRAM หลายชั้นอย่างแม่นยำ โดยมีแผนสร้างโรงงานใหม่ในเมืองอู่ฮั่น และร่วมมือกับ CXMT ผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ของจีน เพื่อแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญด้านการซ้อนชั้น 3D และการผลิต HBM2/HBM3 แม้จะยังไม่มีตัวเลขการผลิตที่แน่นอน แต่ CXMT คาดว่าจะผลิตแผ่นเวเฟอร์ DRAM ได้ถึง 2.73 ล้านแผ่นในปี 2025 ซึ่งใกล้เคียงกับระดับของ Micron แล้ว ขณะที่ YMTC นำเทคโนโลยี Xtacking ที่เคยใช้ใน NAND มาเสริมการผลิต DRAM เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเชื่อมต่อระหว่างชั้น การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการภายในประเทศ แต่ยังอาจส่งผลต่ออุตสาหกรรมโลก หากจีนสามารถผลิต HBM ได้ในปริมาณมากและคุณภาพสูง โดยเฉพาะเมื่อ Huawei และบริษัทเทคโนโลยีจีนอื่น ๆ เริ่มพัฒนา AI accelerator ที่ใช้ HBM ในประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ YMTC ขยายธุรกิจจาก NAND สู่ DRAM เพื่อผลิต HBM ภายในประเทศ ➡️ การขาดแคลน HBM เกิดจากการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ที่เริ่มปลายปี 2024 ➡️ YMTC ตั้งสายการผลิต DRAM และพัฒนาเทคโนโลยี TSV สำหรับการซ้อนชั้น VRAM ➡️ มีแผนสร้างโรงงานใหม่ในเมืองอู่ฮั่นเพื่อรองรับการผลิต DRAM ➡️ ร่วมมือกับ CXMT ผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ของจีนในการพัฒนา HBM2/HBM3 ➡️ CXMT คาดว่าจะผลิตเวเฟอร์ DRAM ได้ถึง 2.73 ล้านแผ่นในปี 2025 ➡️ YMTC ใช้เทคโนโลยี Xtacking ที่เคยใช้ใน NAND มาเสริมการผลิต DRAM ➡️ Huawei เตรียมใช้ HBM ที่ผลิตในประเทศกับชิป AI รุ่นใหม่ ➡️ การผลิต HBM ในประเทศช่วยลดการพึ่งพาตะวันตกและเสริมความมั่นคงด้านเทคโนโลยี ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ HBM เป็นหน่วยความจำที่จำเป็นต่อการประมวลผล AI เช่นใน GPU และ XPU ➡️ TSV เป็นเทคนิคที่ใช้เชื่อมต่อชั้นหน่วยความจำแบบแนวตั้งด้วยความแม่นยำสูง ➡️ CXMT เป็นผู้ผลิต DRAM ที่มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมสำหรับการผลิต HBM ➡️ การใช้ Xtacking ช่วยลดความร้อนและเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อระหว่างชั้น ➡️ หากจีนผลิต HBM ได้สำเร็จ อาจมีผลต่อการแข่งขันกับ Samsung และ SK Hynix https://wccftech.com/china-ymtc-is-now-tapping-into-the-dram-business/
    WCCFTECH.COM
    China's YMTC Is Now Tapping Into the DRAM Business, Producing It Domestically to Combat the HBM Shortage in the Region
    China's famous NAND producer YMTC is now planning to tap into the DRAM business, likely to speed up development of 'in-house' HBM.
    0 Comments 0 Shares 205 Views 0 Reviews
  • “Ubuntu Touch OTA-10 มาแล้ว! รองรับ Rabbit R1, เตรียมอัปเกรดสู่ 24.04 พร้อมฟีเจอร์ใหม่จาก Nix และ Bluetooth ที่ปลอดภัยขึ้น”

    หลังจากห่างหายไปเกือบ 3 เดือน UBports Foundation ได้ปล่อยอัปเดตใหญ่ Ubuntu Touch OTA-10 สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ โดยยังคงใช้พื้นฐานจาก Ubuntu 20.04 LTS (Focal Fossa) แต่มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการอัปเกรดสู่ Ubuntu Touch 24.04-1.0 ที่จะใช้ Ubuntu 24.04 LTS เป็นฐานใหม่ในอนาคต

    หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญของ OTA-10 คือการเพิ่มตัวอัปเกรดใหม่ชื่อว่า “Ubuntu Touch Upgrader” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัปเกรดระบบไปยังเวอร์ชัน 24.04 ได้อย่างราบรื่นเมื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยไม่ต้องแฟลชเครื่องใหม่

    อีกหนึ่งไฮไลต์คือการรองรับอุปกรณ์ใหม่ “Rabbit R1” ซึ่งเป็นอุปกรณ์ผู้ช่วยส่วนตัวที่ขับเคลื่อนด้วย AI และได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการระบบปฏิบัติการแบบเปิดและปลอดภัย โดย Ubuntu Touch บน Rabbit R1 ได้รับการพัฒนาโดยชุมชน และพร้อมใช้งานในระดับ daily driver แล้ว

    นอกจากนี้ OTA-10 ยังเพิ่มการรองรับเบื้องต้นสำหรับระบบแพ็กเกจ Nix ซึ่งเป็นระบบจัดการซอฟต์แวร์แบบ declarative ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักพัฒนา DevOps และผู้ใช้ Linux ขั้นสูง

    ด้านมัลติมีเดียมีการปรับปรุงการคำนวณ SetBitrate() ในตัวเข้ารหัส H.264 และเพิ่มการรองรับฟอร์แมต UHD รวมถึงการอัปเดตประเภท AVC level เพื่อให้การเล่นวิดีโอมีคุณภาพและเสถียรมากขึ้น

    ในส่วนของ Bluetooth มีการปรับปรุงให้ไม่สามารถจับคู่กับอุปกรณ์ Nissan Connect ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้จากการเชื่อมต่อที่ไม่พึงประสงค์

    อัปเดตนี้รองรับอุปกรณ์หลากหลายรุ่น เช่น Asus Zenfone Max Pro M1, Fairphone 3–4, Google Pixel 3a, OnePlus 5–Nord N100, Lenovo Tab M10 HD, Sony Xperia X, Volla Phone/Tablet, Xiaomi Poco และ Redmi หลายรุ่น โดยผู้ใช้ในช่อง Stable จะได้รับอัปเดตผ่านหน้าจอ System Settings แบบทยอยปล่อย

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Ubuntu Touch OTA-10 ใช้พื้นฐานจาก Ubuntu 20.04 LTS
    เพิ่ม “Ubuntu Touch Upgrader” สำหรับอัปเกรดสู่ Ubuntu Touch 24.04-1.0
    รองรับอุปกรณ์ใหม่ Rabbit R1 ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
    เพิ่มการรองรับเบื้องต้นสำหรับระบบแพ็กเกจ Nix
    ปรับปรุงการคำนวณ SetBitrate() ใน H.264 encoder
    เพิ่มการรองรับฟอร์แมต UHD และอัปเดต AVC level types
    ปรับปรุง Bluetooth ไม่ให้ autopair กับ Nissan Connect
    รองรับอุปกรณ์หลากหลายรุ่นจาก Asus, Fairphone, Google, OnePlus, Lenovo, Sony, Volla, Xiaomi
    ผู้ใช้ในช่อง Stable จะได้รับอัปเดตผ่าน System Settings แบบทยอยปล่อย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Ubuntu Touch 24.04-1.0 จะใช้ Ubuntu 24.04 LTS เป็นฐานใหม่ พร้อม Qt 5.15 และธีมใหม่
    Rabbit R1 เป็นอุปกรณ์ผู้ช่วย AI ที่เน้นความเป็นส่วนตัวและการควบคุมข้อมูล
    Nix เป็นระบบจัดการแพ็กเกจที่ใช้แนวคิด declarative และ reproducible builds
    การปรับปรุง Bluetooth ช่วยลดความเสี่ยงจากการเชื่อมต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต
    UHD และ AVC level ใหม่ช่วยให้การเล่นวิดีโอมีคุณภาพสูงขึ้นในอุปกรณ์มือถือ

    https://9to5linux.com/ubuntu-touch-ota-10-released-with-ubuntu-touch-upgrader-rabbit-r1-support
    📱 “Ubuntu Touch OTA-10 มาแล้ว! รองรับ Rabbit R1, เตรียมอัปเกรดสู่ 24.04 พร้อมฟีเจอร์ใหม่จาก Nix และ Bluetooth ที่ปลอดภัยขึ้น” หลังจากห่างหายไปเกือบ 3 เดือน UBports Foundation ได้ปล่อยอัปเดตใหญ่ Ubuntu Touch OTA-10 สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ โดยยังคงใช้พื้นฐานจาก Ubuntu 20.04 LTS (Focal Fossa) แต่มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการอัปเกรดสู่ Ubuntu Touch 24.04-1.0 ที่จะใช้ Ubuntu 24.04 LTS เป็นฐานใหม่ในอนาคต หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญของ OTA-10 คือการเพิ่มตัวอัปเกรดใหม่ชื่อว่า “Ubuntu Touch Upgrader” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัปเกรดระบบไปยังเวอร์ชัน 24.04 ได้อย่างราบรื่นเมื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยไม่ต้องแฟลชเครื่องใหม่ อีกหนึ่งไฮไลต์คือการรองรับอุปกรณ์ใหม่ “Rabbit R1” ซึ่งเป็นอุปกรณ์ผู้ช่วยส่วนตัวที่ขับเคลื่อนด้วย AI และได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการระบบปฏิบัติการแบบเปิดและปลอดภัย โดย Ubuntu Touch บน Rabbit R1 ได้รับการพัฒนาโดยชุมชน และพร้อมใช้งานในระดับ daily driver แล้ว นอกจากนี้ OTA-10 ยังเพิ่มการรองรับเบื้องต้นสำหรับระบบแพ็กเกจ Nix ซึ่งเป็นระบบจัดการซอฟต์แวร์แบบ declarative ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักพัฒนา DevOps และผู้ใช้ Linux ขั้นสูง ด้านมัลติมีเดียมีการปรับปรุงการคำนวณ SetBitrate() ในตัวเข้ารหัส H.264 และเพิ่มการรองรับฟอร์แมต UHD รวมถึงการอัปเดตประเภท AVC level เพื่อให้การเล่นวิดีโอมีคุณภาพและเสถียรมากขึ้น ในส่วนของ Bluetooth มีการปรับปรุงให้ไม่สามารถจับคู่กับอุปกรณ์ Nissan Connect ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้จากการเชื่อมต่อที่ไม่พึงประสงค์ อัปเดตนี้รองรับอุปกรณ์หลากหลายรุ่น เช่น Asus Zenfone Max Pro M1, Fairphone 3–4, Google Pixel 3a, OnePlus 5–Nord N100, Lenovo Tab M10 HD, Sony Xperia X, Volla Phone/Tablet, Xiaomi Poco และ Redmi หลายรุ่น โดยผู้ใช้ในช่อง Stable จะได้รับอัปเดตผ่านหน้าจอ System Settings แบบทยอยปล่อย ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Ubuntu Touch OTA-10 ใช้พื้นฐานจาก Ubuntu 20.04 LTS ➡️ เพิ่ม “Ubuntu Touch Upgrader” สำหรับอัปเกรดสู่ Ubuntu Touch 24.04-1.0 ➡️ รองรับอุปกรณ์ใหม่ Rabbit R1 ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ➡️ เพิ่มการรองรับเบื้องต้นสำหรับระบบแพ็กเกจ Nix ➡️ ปรับปรุงการคำนวณ SetBitrate() ใน H.264 encoder ➡️ เพิ่มการรองรับฟอร์แมต UHD และอัปเดต AVC level types ➡️ ปรับปรุง Bluetooth ไม่ให้ autopair กับ Nissan Connect ➡️ รองรับอุปกรณ์หลากหลายรุ่นจาก Asus, Fairphone, Google, OnePlus, Lenovo, Sony, Volla, Xiaomi ➡️ ผู้ใช้ในช่อง Stable จะได้รับอัปเดตผ่าน System Settings แบบทยอยปล่อย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Ubuntu Touch 24.04-1.0 จะใช้ Ubuntu 24.04 LTS เป็นฐานใหม่ พร้อม Qt 5.15 และธีมใหม่ ➡️ Rabbit R1 เป็นอุปกรณ์ผู้ช่วย AI ที่เน้นความเป็นส่วนตัวและการควบคุมข้อมูล ➡️ Nix เป็นระบบจัดการแพ็กเกจที่ใช้แนวคิด declarative และ reproducible builds ➡️ การปรับปรุง Bluetooth ช่วยลดความเสี่ยงจากการเชื่อมต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต ➡️ UHD และ AVC level ใหม่ช่วยให้การเล่นวิดีโอมีคุณภาพสูงขึ้นในอุปกรณ์มือถือ https://9to5linux.com/ubuntu-touch-ota-10-released-with-ubuntu-touch-upgrader-rabbit-r1-support
    9TO5LINUX.COM
    Ubuntu Touch OTA-10 Released with Ubuntu Touch Upgrader, Rabbit R1 Support - 9to5Linux
    Ubuntu Touch OTA-10 is now rolling out to all supported devices with various improvements and fixes. Here’s what’s new!
    0 Comments 0 Shares 174 Views 0 Reviews
  • “Qualcomm เปิดตัว APV มาตรฐานวิดีโอระดับโปรแบบเปิด — ท้าชน Apple ProRes ด้วยพลัง Snapdragon และพันธมิตรอุตสาหกรรม”

    ในงานเปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 5 เมื่อปลายเดือนกันยายน 2025 Qualcomm ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการวิดีโอระดับมืออาชีพ ด้วยการเปิดตัว APV (Advanced Professional Video) ซึ่งเป็นมาตรฐานการเข้ารหัสวิดีโอแบบเปิดที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายทำและตัดต่อระดับโปร โดยมีเป้าหมายชัดเจน: แข่งกับ Apple ProRes และลดการพึ่งพาฟอร์แมตแบบเสียค่าลิขสิทธิ์อย่าง H.265

    APV ถูกพัฒนาร่วมกันโดย Qualcomm, Adobe, Google, Dolby, Blackmagic, Samsung และพันธมิตรอื่น ๆ โดยเน้นให้เป็นมาตรฐานแบบโอเพ่นซอร์ส เพื่อให้ผู้ผลิตอุปกรณ์และซอฟต์แวร์สามารถนำไปใช้ได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ทำให้เกิดความยืดหยุ่นทั้งในฝั่งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์

    ด้านเทคนิค APV รองรับการบันทึกวิดีโอแบบ 10-bit ทั้งในรูปแบบ 4:4:4 และ 4:2:2 พร้อมอัตราการเข้ารหัสที่ 3–4 Gbps ซึ่งให้คุณภาพสูงแต่ใช้พื้นที่จัดเก็บน้อยกว่าฟอร์แมต ProRes ถึง 10% และยังสามารถทำงานร่วมกับระบบ Windows PC ได้ทันที โดยไม่ต้องแปลงไฟล์ก่อนตัดต่อ

    Qualcomm ยังร่วมมือกับ Microsoft เพื่อให้ APV ทำงานได้อย่างไร้รอยต่อบน Windows โดยเฉพาะในอุปกรณ์ที่ใช้ Snapdragon ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอด้วยมือถือ แล้วนำไปตัดต่อบน PC ได้ทันทีโดยไม่สูญเสียคุณภาพ

    แม้ Snapdragon 8 Elite Gen 5 จะเริ่มวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้ แต่ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ APV โดยตรงจะเริ่มมีในปี 2026 เนื่องจากต้องปรับตัวในระดับอุตสาหกรรม ทั้งด้านซอฟต์แวร์ตัดต่อ, ระบบจัดเก็บข้อมูล และเวิร์กโฟลว์การผลิต

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Qualcomm เปิดตัว APV (Advanced Professional Video) เป็นมาตรฐานวิดีโอแบบเปิด
    พัฒนาโดยความร่วมมือกับ Adobe, Google, Dolby, Blackmagic, Samsung และพันธมิตรอื่น ๆ
    ออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ Apple ProRes และลดการพึ่งพา H.265
    รองรับ 10-bit 4:4:4 และ 4:2:2 ที่อัตรา 3–4 Gbps
    ขนาดไฟล์เล็กกว่า ProRes ประมาณ 10% แต่ยังคงคุณภาพระดับโปร
    ทำงานร่วมกับ Windows PC ได้ทันทีโดยไม่ต้องแปลงไฟล์
    Qualcomm ร่วมมือกับ Microsoft เพื่อให้ APV ทำงานบน Windows อย่างไร้รอยต่อ
    Snapdragon 8 Elite Gen 5 รองรับ APV แต่ฮาร์ดแวร์จะเริ่มใช้งานจริงในปี 2026

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    APV รองรับ HDR 10/10+ metadata และสามารถบันทึกวิดีโอระดับ 8K ได้
    การใช้ codec แบบเปิดช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการผลิต
    ProRes ของ Apple แม้จะเป็น open framework แต่ยังมีข้อจำกัดด้านการใช้งานข้ามแพลตฟอร์ม
    APV ถูกออกแบบให้ใช้พลังงานน้อย เหมาะกับอุปกรณ์พกพา
    การมีมาตรฐานแบบเปิดช่วยให้ผู้ผลิตกล้อง, มือถือ และซอฟต์แวร์ตัดต่อสามารถพัฒนา ecosystem ร่วมกันได้

    https://securityonline.info/qualcomm-launches-apv-the-open-standard-for-pro-grade-video-to-rival-apple-prores/
    🎥 “Qualcomm เปิดตัว APV มาตรฐานวิดีโอระดับโปรแบบเปิด — ท้าชน Apple ProRes ด้วยพลัง Snapdragon และพันธมิตรอุตสาหกรรม” ในงานเปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 5 เมื่อปลายเดือนกันยายน 2025 Qualcomm ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการวิดีโอระดับมืออาชีพ ด้วยการเปิดตัว APV (Advanced Professional Video) ซึ่งเป็นมาตรฐานการเข้ารหัสวิดีโอแบบเปิดที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายทำและตัดต่อระดับโปร โดยมีเป้าหมายชัดเจน: แข่งกับ Apple ProRes และลดการพึ่งพาฟอร์แมตแบบเสียค่าลิขสิทธิ์อย่าง H.265 APV ถูกพัฒนาร่วมกันโดย Qualcomm, Adobe, Google, Dolby, Blackmagic, Samsung และพันธมิตรอื่น ๆ โดยเน้นให้เป็นมาตรฐานแบบโอเพ่นซอร์ส เพื่อให้ผู้ผลิตอุปกรณ์และซอฟต์แวร์สามารถนำไปใช้ได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ทำให้เกิดความยืดหยุ่นทั้งในฝั่งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ด้านเทคนิค APV รองรับการบันทึกวิดีโอแบบ 10-bit ทั้งในรูปแบบ 4:4:4 และ 4:2:2 พร้อมอัตราการเข้ารหัสที่ 3–4 Gbps ซึ่งให้คุณภาพสูงแต่ใช้พื้นที่จัดเก็บน้อยกว่าฟอร์แมต ProRes ถึง 10% และยังสามารถทำงานร่วมกับระบบ Windows PC ได้ทันที โดยไม่ต้องแปลงไฟล์ก่อนตัดต่อ Qualcomm ยังร่วมมือกับ Microsoft เพื่อให้ APV ทำงานได้อย่างไร้รอยต่อบน Windows โดยเฉพาะในอุปกรณ์ที่ใช้ Snapdragon ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอด้วยมือถือ แล้วนำไปตัดต่อบน PC ได้ทันทีโดยไม่สูญเสียคุณภาพ แม้ Snapdragon 8 Elite Gen 5 จะเริ่มวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้ แต่ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ APV โดยตรงจะเริ่มมีในปี 2026 เนื่องจากต้องปรับตัวในระดับอุตสาหกรรม ทั้งด้านซอฟต์แวร์ตัดต่อ, ระบบจัดเก็บข้อมูล และเวิร์กโฟลว์การผลิต ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Qualcomm เปิดตัว APV (Advanced Professional Video) เป็นมาตรฐานวิดีโอแบบเปิด ➡️ พัฒนาโดยความร่วมมือกับ Adobe, Google, Dolby, Blackmagic, Samsung และพันธมิตรอื่น ๆ ➡️ ออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ Apple ProRes และลดการพึ่งพา H.265 ➡️ รองรับ 10-bit 4:4:4 และ 4:2:2 ที่อัตรา 3–4 Gbps ➡️ ขนาดไฟล์เล็กกว่า ProRes ประมาณ 10% แต่ยังคงคุณภาพระดับโปร ➡️ ทำงานร่วมกับ Windows PC ได้ทันทีโดยไม่ต้องแปลงไฟล์ ➡️ Qualcomm ร่วมมือกับ Microsoft เพื่อให้ APV ทำงานบน Windows อย่างไร้รอยต่อ ➡️ Snapdragon 8 Elite Gen 5 รองรับ APV แต่ฮาร์ดแวร์จะเริ่มใช้งานจริงในปี 2026 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ APV รองรับ HDR 10/10+ metadata และสามารถบันทึกวิดีโอระดับ 8K ได้ ➡️ การใช้ codec แบบเปิดช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการผลิต ➡️ ProRes ของ Apple แม้จะเป็น open framework แต่ยังมีข้อจำกัดด้านการใช้งานข้ามแพลตฟอร์ม ➡️ APV ถูกออกแบบให้ใช้พลังงานน้อย เหมาะกับอุปกรณ์พกพา ➡️ การมีมาตรฐานแบบเปิดช่วยให้ผู้ผลิตกล้อง, มือถือ และซอฟต์แวร์ตัดต่อสามารถพัฒนา ecosystem ร่วมกันได้ https://securityonline.info/qualcomm-launches-apv-the-open-standard-for-pro-grade-video-to-rival-apple-prores/
    SECURITYONLINE.INFO
    Qualcomm Launches APV: The Open Standard for Pro-Grade Video to Rival Apple ProRes
    Qualcomm unveils APV (Advanced Professional Video), an open-source encoding standard for professional video capture designed to challenge Apple's ProRes.
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • “Snapdragon 8 Elite Gen 5 เปิดตัวแล้ว — ชิปมือถือที่เร็วที่สุดในโลก พร้อม AI แบบ ‘Agentic’ ที่เรียนรู้และตัดสินใจแทนผู้ใช้”

    Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 5 อย่างเป็นทางการในงาน Snapdragon Summit 2025 ที่ฮาวาย โดยชูจุดเด่นว่าเป็น “ชิปมือถือที่เร็วที่สุดในโลก” ด้วยสถาปัตยกรรม Oryon Gen 3 ที่มี 2 คอร์ Prime ความเร็วสูงสุด 4.6GHz และ 6 คอร์ Performance ที่ 3.62GHz พร้อมแคชรวม 24MB ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแบบ single-core ถึง 20% และ multi-core 17% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

    แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือการพัฒนา AI แบบใหม่ที่ Qualcomm เรียกว่า “Agentic AI” ซึ่งไม่ใช่แค่ผู้ช่วยที่ตอบสนอง แต่เป็นระบบที่เรียนรู้จากผู้ใช้และตัดสินใจแทนได้ เช่น การจัดการภาพ, โพสต์บนโซเชียล, หรือแม้แต่การสื่อสารกับแอปต่าง ๆ โดยใช้ Hexagon NPU รุ่นใหม่ที่เร็วขึ้น 37% และประหยัดพลังงานขึ้น 16%

    ด้านกราฟิก Snapdragon 8 Elite Gen 5 มาพร้อม Adreno GPU รุ่นใหม่ที่เร็วขึ้น 23% และประหยัดพลังงานขึ้น 20% รองรับ ray tracing แบบ hardware และ mesh shading พร้อม Adreno High Performance Memory (HPM) ขนาด 18MB ที่ช่วยเพิ่ม bandwidth ถึง 38% และลดการใช้พลังงานในเกมยาว ๆ ได้ถึง 10%

    Qualcomm ยังร่วมมือกับ Epic Games เพื่อปรับแต่ง Unreal Engine ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพบน Snapdragon เช่น Lumen, Nanite และ Chaos Physics ซึ่งช่วยให้เกมมือถือมีภาพระดับคอนโซล

    นอกจากนี้ยังมีการรองรับ Advanced Professional Video (APV) codec สำหรับการถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงแบบมืออาชีพ และระบบ Sensing Hub ที่ช่วยให้ AI เรียนรู้จากการใช้งานจริง เช่น การจัดแสง, สี, และการโฟกัสภาพแบบอัตโนมัติ

    ชิปนี้จะเริ่มใช้งานในมือถือเรือธงจากแบรนด์ต่าง ๆ เช่น Xiaomi, Samsung, OnePlus, Sony, ASUS ROG และอีกหลายราย โดยคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายภายในปลายปี 2025

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Snapdragon 8 Elite Gen 5 ใช้ Oryon Gen 3 CPU ความเร็วสูงสุด 4.6GHz
    มี 2 คอร์ Prime และ 6 คอร์ Performance พร้อมแคชรวม 24MB
    เพิ่มประสิทธิภาพ single-core 20% และ multi-core 17% จากรุ่นก่อน
    Hexagon NPU รุ่นใหม่เร็วขึ้น 37% และประหยัดพลังงานขึ้น 16%
    รองรับ Agentic AI ที่เรียนรู้และตัดสินใจแทนผู้ใช้
    Adreno GPU ใหม่เร็วขึ้น 23% และประหยัดพลังงานขึ้น 20%
    มี Adreno HPM ขนาด 18MB เพิ่ม bandwidth 38% และลดพลังงานเกม 10%
    รองรับ ray tracing, mesh shading และฟีเจอร์ Unreal Engine 5.3
    รองรับ APV codec สำหรับวิดีโอคุณภาพสูงระดับโปร
    ใช้โมเด็ม X85 รองรับ 5G สูงสุด 12.5Gbps และ Wi-Fi 7 พร้อม Bluetooth 6.0

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Agentic AI คือแนวคิดใหม่ที่ให้ AI เป็นผู้ร่วมตัดสินใจ ไม่ใช่แค่ผู้ช่วย
    Sensing Hub ช่วยให้ AI เรียนรู้จากการใช้งานจริงแบบต่อเนื่อง
    Adreno HPM เป็นหน่วยความจำเฉพาะ GPU ที่ช่วยลด latency
    APV codec ช่วยให้การถ่ายวิดีโอมีคุณภาพใกล้เคียงกล้องโปร และรองรับ post-production
    Snapdragon 8 Elite Gen 5 ใช้กระบวนการผลิต 3nm N3P จาก TSMC

    https://www.techpowerup.com/341312/qualcomm-unveils-snapdragon-8-elite-gen-5-soc-with-impressive-performance-claims
    📱 “Snapdragon 8 Elite Gen 5 เปิดตัวแล้ว — ชิปมือถือที่เร็วที่สุดในโลก พร้อม AI แบบ ‘Agentic’ ที่เรียนรู้และตัดสินใจแทนผู้ใช้” Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 5 อย่างเป็นทางการในงาน Snapdragon Summit 2025 ที่ฮาวาย โดยชูจุดเด่นว่าเป็น “ชิปมือถือที่เร็วที่สุดในโลก” ด้วยสถาปัตยกรรม Oryon Gen 3 ที่มี 2 คอร์ Prime ความเร็วสูงสุด 4.6GHz และ 6 คอร์ Performance ที่ 3.62GHz พร้อมแคชรวม 24MB ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแบบ single-core ถึง 20% และ multi-core 17% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือการพัฒนา AI แบบใหม่ที่ Qualcomm เรียกว่า “Agentic AI” ซึ่งไม่ใช่แค่ผู้ช่วยที่ตอบสนอง แต่เป็นระบบที่เรียนรู้จากผู้ใช้และตัดสินใจแทนได้ เช่น การจัดการภาพ, โพสต์บนโซเชียล, หรือแม้แต่การสื่อสารกับแอปต่าง ๆ โดยใช้ Hexagon NPU รุ่นใหม่ที่เร็วขึ้น 37% และประหยัดพลังงานขึ้น 16% ด้านกราฟิก Snapdragon 8 Elite Gen 5 มาพร้อม Adreno GPU รุ่นใหม่ที่เร็วขึ้น 23% และประหยัดพลังงานขึ้น 20% รองรับ ray tracing แบบ hardware และ mesh shading พร้อม Adreno High Performance Memory (HPM) ขนาด 18MB ที่ช่วยเพิ่ม bandwidth ถึง 38% และลดการใช้พลังงานในเกมยาว ๆ ได้ถึง 10% Qualcomm ยังร่วมมือกับ Epic Games เพื่อปรับแต่ง Unreal Engine ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพบน Snapdragon เช่น Lumen, Nanite และ Chaos Physics ซึ่งช่วยให้เกมมือถือมีภาพระดับคอนโซล นอกจากนี้ยังมีการรองรับ Advanced Professional Video (APV) codec สำหรับการถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงแบบมืออาชีพ และระบบ Sensing Hub ที่ช่วยให้ AI เรียนรู้จากการใช้งานจริง เช่น การจัดแสง, สี, และการโฟกัสภาพแบบอัตโนมัติ ชิปนี้จะเริ่มใช้งานในมือถือเรือธงจากแบรนด์ต่าง ๆ เช่น Xiaomi, Samsung, OnePlus, Sony, ASUS ROG และอีกหลายราย โดยคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายภายในปลายปี 2025 ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Snapdragon 8 Elite Gen 5 ใช้ Oryon Gen 3 CPU ความเร็วสูงสุด 4.6GHz ➡️ มี 2 คอร์ Prime และ 6 คอร์ Performance พร้อมแคชรวม 24MB ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพ single-core 20% และ multi-core 17% จากรุ่นก่อน ➡️ Hexagon NPU รุ่นใหม่เร็วขึ้น 37% และประหยัดพลังงานขึ้น 16% ➡️ รองรับ Agentic AI ที่เรียนรู้และตัดสินใจแทนผู้ใช้ ➡️ Adreno GPU ใหม่เร็วขึ้น 23% และประหยัดพลังงานขึ้น 20% ➡️ มี Adreno HPM ขนาด 18MB เพิ่ม bandwidth 38% และลดพลังงานเกม 10% ➡️ รองรับ ray tracing, mesh shading และฟีเจอร์ Unreal Engine 5.3 ➡️ รองรับ APV codec สำหรับวิดีโอคุณภาพสูงระดับโปร ➡️ ใช้โมเด็ม X85 รองรับ 5G สูงสุด 12.5Gbps และ Wi-Fi 7 พร้อม Bluetooth 6.0 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Agentic AI คือแนวคิดใหม่ที่ให้ AI เป็นผู้ร่วมตัดสินใจ ไม่ใช่แค่ผู้ช่วย ➡️ Sensing Hub ช่วยให้ AI เรียนรู้จากการใช้งานจริงแบบต่อเนื่อง ➡️ Adreno HPM เป็นหน่วยความจำเฉพาะ GPU ที่ช่วยลด latency ➡️ APV codec ช่วยให้การถ่ายวิดีโอมีคุณภาพใกล้เคียงกล้องโปร และรองรับ post-production ➡️ Snapdragon 8 Elite Gen 5 ใช้กระบวนการผลิต 3nm N3P จาก TSMC https://www.techpowerup.com/341312/qualcomm-unveils-snapdragon-8-elite-gen-5-soc-with-impressive-performance-claims
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Qualcomm Unveils Snapdragon 8 Elite Gen 5 SoC With Impressive Performance Claims
    As expected, along with the latest laptop-class Arm SoC, the Snapdragon X2 Elite series Qualcomm has officially unveiled its latest flagship mobile SoC, the Snapdragon 8 Elite Gen 5. The 8 Elite Gen 5 launch sees Qualcomm lean even further into AI workloads while adding a handful of spec upgrades to...
    0 Comments 0 Shares 187 Views 0 Reviews
  • ทดลองบดโครงไก่ รู 8 มม. บดได้ทั้งโครง!
    เร็ว แรง ใช้งานง่าย — เครื่องบดอาหาร #32 แบบตั้งพื้น

    ตัวเครื่องสแตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน
    ใช้ได้หลากหลาย: บดหมู บดเนื้อ บดพริก บดกระเทียม บดโครงไก่ บดพริกแกง ฯลฯ
    เปลี่ยนหน้าแว่น/รังผึ้ง ปรับระดับความละเอียดได้ตามต้องการ
    ปลอดภัย ได้มาตรฐาน พร้อม รับประกัน 1 ปีเต็ม

    สเปกสินค้า
    มอเตอร์ 3 แรงม้า
    กำลังไฟฟ้า 220 โวลต์
    ผลิตได้ 200–300 กก./ชม.
    ระบบเดินหน้า–ถอยหลัง

    แวะชมสินค้าที่ร้าน ย่งฮะเฮง ได้เลย
    จ.–ศ. 8.00–17.00 น. | ส. 8.00–16.00 น.
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7

    ☎ สอบถาม / สั่งซื้อ
    m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng

    02-215-3515-9 | 081-318-9098
    www.yoryonghahheng.com

    sales@yoryonghahheng.com
    | yonghahheng@gmail.com

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY
    เครื่องบด–ย่อย–หั่น–สับ–สไลซ์–คั้น–อัด–เลื่อย สำหรับอุตสาหกรรมอาหาร

    #เครื่องบดโครงไก่ #เครื่องบดอาหารสัตว์ #เครื่องบดโรงงาน #เครื่องบดฟาร์ม #เครื่องบดโครงไก่ฟาร์มไก่ #บดอาหารสัตว์ #บดวัตถุดิบอาหารสัตว์ #บดโครงไก่ทำอาหารสัตว์ #เครื่องบดโครงกระดูก #เครื่องบดกระดูกสัตว์ #เครื่องจักรฟาร์ม #เครื่องจักรอาหารสัตว์ #เครื่องบดกำลังการผลิตสูง #เครื่องบดอุตสาหกรรมอาหาร #โรงงานผลิตอาหารสัตว์ #โรงงานแปรรูปอาหาร #ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ #เครื่องจักรฟาร์มไก่ #เครื่องบดเนื้อไก่ #บดอาหารโรงงาน #บดอาหารฟาร์ม #เครื่องบดทนทาน #เครื่องบดโครงใหญ่ #เครื่องบดกระดูกใหญ่ #บดไก่ทั้งโครง #บดอาหารสัตว์เลี้ยง #บดอาหารปลา #บดอาหารหมาแมว
    🔥 ทดลองบดโครงไก่ รู 8 มม. บดได้ทั้งโครง! เร็ว แรง ใช้งานง่าย — เครื่องบดอาหาร #32 แบบตั้งพื้น ✨ ตัวเครื่องสแตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน ✨ ใช้ได้หลากหลาย: บดหมู บดเนื้อ บดพริก บดกระเทียม บดโครงไก่ บดพริกแกง ฯลฯ ✨ เปลี่ยนหน้าแว่น/รังผึ้ง ปรับระดับความละเอียดได้ตามต้องการ ✨ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน พร้อม รับประกัน 1 ปีเต็ม 📌 สเปกสินค้า มอเตอร์ 3 แรงม้า กำลังไฟฟ้า 220 โวลต์ ผลิตได้ 200–300 กก./ชม. ระบบเดินหน้า–ถอยหลัง 📍 แวะชมสินค้าที่ร้าน ย่งฮะเฮง ได้เลย 🕗 จ.–ศ. 8.00–17.00 น. | ส. 8.00–16.00 น. 📍 แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 ☎ สอบถาม / สั่งซื้อ 👉 m.me/yonghahheng 👉 LINE: @yonghahheng 📞 02-215-3515-9 | 081-318-9098 🌐 www.yoryonghahheng.com 📧 sales@yoryonghahheng.com | yonghahheng@gmail.com ✅ #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ✅ เครื่องบด–ย่อย–หั่น–สับ–สไลซ์–คั้น–อัด–เลื่อย สำหรับอุตสาหกรรมอาหาร #เครื่องบดโครงไก่ #เครื่องบดอาหารสัตว์ #เครื่องบดโรงงาน #เครื่องบดฟาร์ม #เครื่องบดโครงไก่ฟาร์มไก่ #บดอาหารสัตว์ #บดวัตถุดิบอาหารสัตว์ #บดโครงไก่ทำอาหารสัตว์ #เครื่องบดโครงกระดูก #เครื่องบดกระดูกสัตว์ #เครื่องจักรฟาร์ม #เครื่องจักรอาหารสัตว์ #เครื่องบดกำลังการผลิตสูง #เครื่องบดอุตสาหกรรมอาหาร #โรงงานผลิตอาหารสัตว์ #โรงงานแปรรูปอาหาร #ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ #เครื่องจักรฟาร์มไก่ #เครื่องบดเนื้อไก่ #บดอาหารโรงงาน #บดอาหารฟาร์ม #เครื่องบดทนทาน #เครื่องบดโครงใหญ่ #เครื่องบดกระดูกใหญ่ #บดไก่ทั้งโครง #บดอาหารสัตว์เลี้ยง #บดอาหารปลา #บดอาหารหมาแมว
    0 Comments 0 Shares 324 Views 0 Reviews
  • “ช่างซ่อมคอมฯ เจอเคส ‘สัตว์ประหลาด’ — การจัดสายไฟสุดโหดที่อาจบาดมือและทำลายระบบในพริบตา”

    เรื่องราวสุดสะเทือนวงการ PC Building เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ Reddit และเจ้าของร้านซ่อมคอมฯ elishalewisusaf ได้รับเครื่องเกมมิ่งพีซีจากลูกค้ารายหนึ่งที่มีการดัดแปลงภายในอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะบริเวณ PSU shroud ที่ถูกเจาะทะลุเหล็กแบบไม่ปราณี จนดูเหมือนถูก “เอเลี่ยน” ฉีกออกเพื่อปกป้องรังของมัน

    แม้ PSU shroud จะมีช่องสำหรับเดินสายอยู่แล้ว แต่เจ้าของเครื่องกลับเลือกใช้วิธี “ผ่าตรง” ด้วยเครื่องมือไม่ระบุชนิด ทำให้เกิดรอยแผลเหล็กบิดเบี้ยวที่อาจบาดมือได้ง่าย และอาจทำให้สายไฟภายในเสียหายหรือเกิดการลัดวงจรจากเศษโลหะและฝุ่นที่สะสม

    ในภาพยังเห็นว่าพีซีเครื่องนี้เคยเป็นของแบรนด์ Digital Storm ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการประกอบเครื่องด้วยความประณีต และมีบริการซัพพอร์ตตลอดชีพ แต่เจ้าของกลับเลือกใช้วิธี DIY ที่เสี่ยงแทนการติดต่อบริษัท

    การ์ดจอที่ติดตั้งอยู่คาดว่าเป็น Asus Dual RTX 3060 หรือ 4060 ซึ่งหมายความว่าเครื่องนี้น่าจะประกอบมาไม่เกิน 4 ปี แต่กลับมีฝุ่นสะสมหนาแน่น และใช้ SSD SATA ขนาด 256GB ที่ติดตั้งไว้บน PSU shroud ซึ่งไม่เหมาะกับการใช้งานเกมในยุค 2025

    แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยว่าเครื่องมีปัญหาอะไร แต่ช่างซ่อมและผู้เชี่ยวชาญใน Reddit ต่างคาดว่าอาจมีสายไฟที่ถูกบาดหรือเกิดการลัดวงจรจากการดัดแปลงที่ไม่เหมาะสม

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ช่างซ่อมพบพีซีที่มีการเจาะ PSU shroud อย่างรุนแรงจนเหล็กบิดเบี้ยว
    การดัดแปลงนี้อาจเกิดจากความพยายามเดินสาย 8-pin ที่สั้นเกินไป
    เครื่องเป็นของแบรนด์ Digital Storm ที่มีชื่อเสียงด้านการประกอบคุณภาพสูง
    ใช้ SSD SATA 256GB ซึ่งไม่เหมาะกับเกมมิ่งในยุคปัจจุบัน

    ความเห็นจากช่างและชุมชน
    ช่างซ่อมเรียกเครื่องนี้ว่า “monstrosity” และ “บาดมือได้”
    ผู้ใช้ Reddit ส่วนใหญ่เห็นว่าเป็น user error ที่ไม่ควรเกิดขึ้น
    บางคนเสนอว่าเจ้าของควรใช้สายต่อหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนลงมือ
    การจัดสายไฟที่ดีช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    การจัดสายไฟที่ไม่ดีอาจทำให้พัดลมติดสายและเกิดความร้อนสะสม
    การเจาะเคสโดยไม่ระวังอาจทำให้โครงสร้างอ่อนแอและเกิดเสียงรบกวน
    SSD SATA มีความเร็วต่ำกว่า NVMe และไม่เหมาะกับเกมขนาดใหญ่ในปี 2025
    Digital Storm มีบริการ Lifetime Support ซึ่งควรใช้ก่อนลงมือ DIY

    https://www.tomshardware.com/desktops/pc-building/repairer-brands-customers-gaming-pc-a-monstrosity-skin-lacerating-cable-management-technique-provokes-horror
    🧨 “ช่างซ่อมคอมฯ เจอเคส ‘สัตว์ประหลาด’ — การจัดสายไฟสุดโหดที่อาจบาดมือและทำลายระบบในพริบตา” เรื่องราวสุดสะเทือนวงการ PC Building เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ Reddit และเจ้าของร้านซ่อมคอมฯ elishalewisusaf ได้รับเครื่องเกมมิ่งพีซีจากลูกค้ารายหนึ่งที่มีการดัดแปลงภายในอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะบริเวณ PSU shroud ที่ถูกเจาะทะลุเหล็กแบบไม่ปราณี จนดูเหมือนถูก “เอเลี่ยน” ฉีกออกเพื่อปกป้องรังของมัน แม้ PSU shroud จะมีช่องสำหรับเดินสายอยู่แล้ว แต่เจ้าของเครื่องกลับเลือกใช้วิธี “ผ่าตรง” ด้วยเครื่องมือไม่ระบุชนิด ทำให้เกิดรอยแผลเหล็กบิดเบี้ยวที่อาจบาดมือได้ง่าย และอาจทำให้สายไฟภายในเสียหายหรือเกิดการลัดวงจรจากเศษโลหะและฝุ่นที่สะสม ในภาพยังเห็นว่าพีซีเครื่องนี้เคยเป็นของแบรนด์ Digital Storm ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการประกอบเครื่องด้วยความประณีต และมีบริการซัพพอร์ตตลอดชีพ แต่เจ้าของกลับเลือกใช้วิธี DIY ที่เสี่ยงแทนการติดต่อบริษัท การ์ดจอที่ติดตั้งอยู่คาดว่าเป็น Asus Dual RTX 3060 หรือ 4060 ซึ่งหมายความว่าเครื่องนี้น่าจะประกอบมาไม่เกิน 4 ปี แต่กลับมีฝุ่นสะสมหนาแน่น และใช้ SSD SATA ขนาด 256GB ที่ติดตั้งไว้บน PSU shroud ซึ่งไม่เหมาะกับการใช้งานเกมในยุค 2025 แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยว่าเครื่องมีปัญหาอะไร แต่ช่างซ่อมและผู้เชี่ยวชาญใน Reddit ต่างคาดว่าอาจมีสายไฟที่ถูกบาดหรือเกิดการลัดวงจรจากการดัดแปลงที่ไม่เหมาะสม ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ช่างซ่อมพบพีซีที่มีการเจาะ PSU shroud อย่างรุนแรงจนเหล็กบิดเบี้ยว ➡️ การดัดแปลงนี้อาจเกิดจากความพยายามเดินสาย 8-pin ที่สั้นเกินไป ➡️ เครื่องเป็นของแบรนด์ Digital Storm ที่มีชื่อเสียงด้านการประกอบคุณภาพสูง ➡️ ใช้ SSD SATA 256GB ซึ่งไม่เหมาะกับเกมมิ่งในยุคปัจจุบัน ✅ ความเห็นจากช่างและชุมชน ➡️ ช่างซ่อมเรียกเครื่องนี้ว่า “monstrosity” และ “บาดมือได้” ➡️ ผู้ใช้ Reddit ส่วนใหญ่เห็นว่าเป็น user error ที่ไม่ควรเกิดขึ้น ➡️ บางคนเสนอว่าเจ้าของควรใช้สายต่อหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนลงมือ ➡️ การจัดสายไฟที่ดีช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ การจัดสายไฟที่ไม่ดีอาจทำให้พัดลมติดสายและเกิดความร้อนสะสม ➡️ การเจาะเคสโดยไม่ระวังอาจทำให้โครงสร้างอ่อนแอและเกิดเสียงรบกวน ➡️ SSD SATA มีความเร็วต่ำกว่า NVMe และไม่เหมาะกับเกมขนาดใหญ่ในปี 2025 ➡️ Digital Storm มีบริการ Lifetime Support ซึ่งควรใช้ก่อนลงมือ DIY https://www.tomshardware.com/desktops/pc-building/repairer-brands-customers-gaming-pc-a-monstrosity-skin-lacerating-cable-management-technique-provokes-horror
    0 Comments 0 Shares 184 Views 0 Reviews
  • “ForgeCraft: เครือข่ายจีนขายบัตรประชาชนปลอมกว่า 6,500 ใบ — เมื่อเอกสารปลอมกลายเป็นอาวุธไซเบอร์ระดับโลก”

    การสืบสวนล่าสุดโดยบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ CloudSEK ได้เปิดโปงเครือข่ายขนาดใหญ่ในจีนที่ดำเนินการขายบัตรประชาชนปลอมของสหรัฐฯ และแคนาดาอย่างเป็นระบบ โดยใช้ชื่อปฏิบัติการว่า “ForgeCraft” เครือข่ายนี้มีเว็บไซต์มากกว่า 83 แห่งในการขายเอกสารปลอมที่มีคุณภาพสูง ทั้งบัตรขับขี่และบัตรประกันสังคม พร้อมบาร์โค้ดที่สแกนได้ ฮอโลแกรม และรอย UV เหมือนของจริง

    จากรายงานพบว่า มีการขายบัตรปลอมไปแล้วกว่า 6,500 ใบให้กับผู้ซื้อกว่า 4,500 รายในอเมริกาเหนือ สร้างรายได้มากกว่า $785,000 โดยผู้ซื้อกว่า 60% มีอายุมากกว่า 25 ปี และมีกรณีศึกษาที่พบว่ามีการซื้อใบขับขี่เชิงพาณิชย์ปลอมถึง 42 ใบ เพื่อนำไปใช้ในบริษัทขนส่งที่มีประวัติปัญหาด้านกฎหมาย

    บัตรปลอมเหล่านี้ถูกใช้ในหลายกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น การหลีกเลี่ยงการตรวจสอบอายุ การสร้างบัญชีโซเชียลมีเดีย การผ่านการยืนยันตัวตนกับธนาคาร การขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต และแม้แต่การหลอกลวงการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในรัฐที่เริ่มใช้ระบบตรวจสอบอายุแบบสหราชอาณาจักร

    เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ เครือข่ายนี้ใช้วิธี “บรรจุภัณฑ์ลับ” โดยซ่อนบัตรไว้ในสิ่งของทั่วไป เช่น กระเป๋า ของเล่น หรือกล่องกระดาษ และจัดส่งผ่าน FedEx หรือ USPS พร้อมวิดีโอสอนวิธีแกะกล่องเพื่อหาบัตรที่ซ่อนอยู่

    การชำระเงินทำผ่านช่องทางหลากหลาย ทั้ง PayPal, LianLian Pay และคริปโตเคอร์เรนซีอย่าง Bitcoin และ Ethereum โดย CloudSEK สามารถติดตามไปถึงผู้ดำเนินการหลักในเมืองเซียะเหมิน ประเทศจีน และจับภาพใบหน้าผ่านเว็บแคมได้

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    เครือข่าย ForgeCraft ขายบัตรประชาชนปลอมของสหรัฐฯ และแคนาดากว่า 6,500 ใบ
    ใช้เว็บไซต์กว่า 83 แห่งในการดำเนินการ พร้อมเทคนิคบรรจุภัณฑ์ลับเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
    รายได้รวมกว่า $785,000 จากผู้ซื้อกว่า 4,500 ราย
    บัตรปลอมมีคุณภาพสูง มีบาร์โค้ด ฮอโลแกรม และรอย UV เหมือนของจริง

    การใช้งานและผลกระทบ
    ใช้ในการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบอายุและการยืนยันตัวตนกับธนาคาร
    ใช้สร้างบัญชีโซเชียลมีเดียและเข้าถึงเว็บไซต์สำหรับผู้ใหญ่
    ใช้ขับรถเชิงพาณิชย์โดยไม่มีใบอนุญาตจริง
    อาจถูกใช้ในการหลอกลวงการเลือกตั้งและข้ามด่านตรวจคนเข้าเมือง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    การปลอมแปลงเอกสารเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติและระบบการเงิน
    บัตรปลอมสามารถใช้ใน SIM swap และการเข้ายึดบัญชีออนไลน์
    การใช้คริปโตในการชำระเงินช่วยให้ผู้ขายไม่สามารถถูกติดตามได้ง่าย
    CloudSEK แนะนำให้หน่วยงานรัฐยึดโดเมนและให้บริษัทขนส่งตรวจสอบบรรจุภัณฑ์อย่างเข้มงวด

    https://hackread.com/chinese-network-ofake-us-canadian-ids/
    🕵️‍♂️ “ForgeCraft: เครือข่ายจีนขายบัตรประชาชนปลอมกว่า 6,500 ใบ — เมื่อเอกสารปลอมกลายเป็นอาวุธไซเบอร์ระดับโลก” การสืบสวนล่าสุดโดยบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ CloudSEK ได้เปิดโปงเครือข่ายขนาดใหญ่ในจีนที่ดำเนินการขายบัตรประชาชนปลอมของสหรัฐฯ และแคนาดาอย่างเป็นระบบ โดยใช้ชื่อปฏิบัติการว่า “ForgeCraft” เครือข่ายนี้มีเว็บไซต์มากกว่า 83 แห่งในการขายเอกสารปลอมที่มีคุณภาพสูง ทั้งบัตรขับขี่และบัตรประกันสังคม พร้อมบาร์โค้ดที่สแกนได้ ฮอโลแกรม และรอย UV เหมือนของจริง จากรายงานพบว่า มีการขายบัตรปลอมไปแล้วกว่า 6,500 ใบให้กับผู้ซื้อกว่า 4,500 รายในอเมริกาเหนือ สร้างรายได้มากกว่า $785,000 โดยผู้ซื้อกว่า 60% มีอายุมากกว่า 25 ปี และมีกรณีศึกษาที่พบว่ามีการซื้อใบขับขี่เชิงพาณิชย์ปลอมถึง 42 ใบ เพื่อนำไปใช้ในบริษัทขนส่งที่มีประวัติปัญหาด้านกฎหมาย บัตรปลอมเหล่านี้ถูกใช้ในหลายกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น การหลีกเลี่ยงการตรวจสอบอายุ การสร้างบัญชีโซเชียลมีเดีย การผ่านการยืนยันตัวตนกับธนาคาร การขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต และแม้แต่การหลอกลวงการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในรัฐที่เริ่มใช้ระบบตรวจสอบอายุแบบสหราชอาณาจักร เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ เครือข่ายนี้ใช้วิธี “บรรจุภัณฑ์ลับ” โดยซ่อนบัตรไว้ในสิ่งของทั่วไป เช่น กระเป๋า ของเล่น หรือกล่องกระดาษ และจัดส่งผ่าน FedEx หรือ USPS พร้อมวิดีโอสอนวิธีแกะกล่องเพื่อหาบัตรที่ซ่อนอยู่ การชำระเงินทำผ่านช่องทางหลากหลาย ทั้ง PayPal, LianLian Pay และคริปโตเคอร์เรนซีอย่าง Bitcoin และ Ethereum โดย CloudSEK สามารถติดตามไปถึงผู้ดำเนินการหลักในเมืองเซียะเหมิน ประเทศจีน และจับภาพใบหน้าผ่านเว็บแคมได้ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ เครือข่าย ForgeCraft ขายบัตรประชาชนปลอมของสหรัฐฯ และแคนาดากว่า 6,500 ใบ ➡️ ใช้เว็บไซต์กว่า 83 แห่งในการดำเนินการ พร้อมเทคนิคบรรจุภัณฑ์ลับเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ ➡️ รายได้รวมกว่า $785,000 จากผู้ซื้อกว่า 4,500 ราย ➡️ บัตรปลอมมีคุณภาพสูง มีบาร์โค้ด ฮอโลแกรม และรอย UV เหมือนของจริง ✅ การใช้งานและผลกระทบ ➡️ ใช้ในการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบอายุและการยืนยันตัวตนกับธนาคาร ➡️ ใช้สร้างบัญชีโซเชียลมีเดียและเข้าถึงเว็บไซต์สำหรับผู้ใหญ่ ➡️ ใช้ขับรถเชิงพาณิชย์โดยไม่มีใบอนุญาตจริง ➡️ อาจถูกใช้ในการหลอกลวงการเลือกตั้งและข้ามด่านตรวจคนเข้าเมือง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ การปลอมแปลงเอกสารเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติและระบบการเงิน ➡️ บัตรปลอมสามารถใช้ใน SIM swap และการเข้ายึดบัญชีออนไลน์ ➡️ การใช้คริปโตในการชำระเงินช่วยให้ผู้ขายไม่สามารถถูกติดตามได้ง่าย ➡️ CloudSEK แนะนำให้หน่วยงานรัฐยึดโดเมนและให้บริษัทขนส่งตรวจสอบบรรจุภัณฑ์อย่างเข้มงวด https://hackread.com/chinese-network-ofake-us-canadian-ids/
    HACKREAD.COM
    Chinese Network Selling Thousands of Fake US and Canadian IDs
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 264 Views 0 Reviews
  • “TikTok กินเน็ตเท่าไหร่ต่อชั่วโมง? — เมื่อการเลื่อนฟีดกลายเป็นภัยเงียบสำหรับคนใช้แพ็กเกจจำกัด”

    หลายคนอาจไม่รู้ว่าแค่เลื่อนฟีด TikTok ไปเรื่อย ๆ ก็สามารถใช้ดาต้าไปได้หลายร้อยเมกะไบต์ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง โดยเฉพาะเมื่อวิดีโอที่แสดงผลมีคุณภาพสูงและโหลดแบบอัตโนมัติ ล่าสุดมีการทดสอบโดยตั้งค่าแอปให้เลื่อนอัตโนมัติและใช้โหมดคุณภาพ Auto พบว่า TikTok ใช้ดาต้าประมาณ 323 MB ต่อชั่วโมง

    แม้ตัวเลขนี้จะไม่สูงเท่าการดูวิดีโอแบบ HD บน YouTube หรือ Netflix แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ใช้แพ็กเกจรายเดือนแบบจำกัดต้องระวัง โดยเฉพาะผู้ที่ใช้เน็ตมือถือหรือ Wi-Fi แบบมีการคิดตามปริมาณการใช้งาน

    นอกจากคุณภาพวิดีโอแล้ว ปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อการใช้ดาต้า ได้แก่ การตั้งค่าในแอป เช่น การเปิดใช้งาน Data Saver หรือการใช้ TikTok Lite ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ออกแบบมาให้ใช้ดาต้าน้อยลง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีสัญญาณอ่อนหรืออินเทอร์เน็ตจำกัด

    อีกทางเลือกหนึ่งคือการดาวน์โหลดวิดีโอไว้ดูแบบออฟไลน์ ซึ่งสามารถโหลดได้ระหว่าง 50–200 คลิป แต่ต้องทำผ่าน Wi-Fi ที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม เพราะการดาวน์โหลดผ่านเน็ตมือถืออาจใช้ดาต้ามากกว่าการดูแบบสตรีมสดเสียอีก

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    TikTok ใช้ดาต้าประมาณ 323 MB ต่อชั่วโมงเมื่อดูวิดีโอแบบ Auto quality
    การใช้ดาต้าขึ้นอยู่กับคุณภาพวิดีโอและการตั้งค่าในแอป
    โหมด Data Saver ช่วยลดการใช้ดาต้าโดยลดคุณภาพวิดีโอและโหลดช้าลง
    TikTok Lite ใช้ดาต้าน้อยกว่าเวอร์ชันปกติ เหมาะกับพื้นที่สัญญาณอ่อน

    ทางเลือกในการประหยัดดาต้า
    ปรับคุณภาพวิดีโอให้ต่ำที่สุดเท่าที่รับได้
    ใช้ TikTok Lite สำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีเน็ตจำกัด
    เปิดใช้งาน Data Saver เพื่อควบคุมการโหลดวิดีโอ
    ดาวน์โหลดวิดีโอไว้ดูแบบออฟไลน์ผ่าน Wi-Fi ที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    TikTok มีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 1.8 พันล้านคนในปี 2025 และใช้เวลาเฉลี่ย 95–105 นาทีต่อวันต่อคน
    TikTok Lite มียอดดาวน์โหลดทะลุ 100 ล้านครั้งในตลาดเกิดใหม่
    ผู้ใช้ Gen Z มากกว่า 70% ใช้ TikTok หลายครั้งต่อวัน และ 30% ใช้เป็นแหล่งข่าวหลัก
    TikTok มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงสุดในโฆษณาเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ

    https://www.slashgear.com/1968580/tiktok-data-usage-per-hour/
    📱 “TikTok กินเน็ตเท่าไหร่ต่อชั่วโมง? — เมื่อการเลื่อนฟีดกลายเป็นภัยเงียบสำหรับคนใช้แพ็กเกจจำกัด” หลายคนอาจไม่รู้ว่าแค่เลื่อนฟีด TikTok ไปเรื่อย ๆ ก็สามารถใช้ดาต้าไปได้หลายร้อยเมกะไบต์ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง โดยเฉพาะเมื่อวิดีโอที่แสดงผลมีคุณภาพสูงและโหลดแบบอัตโนมัติ ล่าสุดมีการทดสอบโดยตั้งค่าแอปให้เลื่อนอัตโนมัติและใช้โหมดคุณภาพ Auto พบว่า TikTok ใช้ดาต้าประมาณ 323 MB ต่อชั่วโมง แม้ตัวเลขนี้จะไม่สูงเท่าการดูวิดีโอแบบ HD บน YouTube หรือ Netflix แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ใช้แพ็กเกจรายเดือนแบบจำกัดต้องระวัง โดยเฉพาะผู้ที่ใช้เน็ตมือถือหรือ Wi-Fi แบบมีการคิดตามปริมาณการใช้งาน นอกจากคุณภาพวิดีโอแล้ว ปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อการใช้ดาต้า ได้แก่ การตั้งค่าในแอป เช่น การเปิดใช้งาน Data Saver หรือการใช้ TikTok Lite ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ออกแบบมาให้ใช้ดาต้าน้อยลง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีสัญญาณอ่อนหรืออินเทอร์เน็ตจำกัด อีกทางเลือกหนึ่งคือการดาวน์โหลดวิดีโอไว้ดูแบบออฟไลน์ ซึ่งสามารถโหลดได้ระหว่าง 50–200 คลิป แต่ต้องทำผ่าน Wi-Fi ที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม เพราะการดาวน์โหลดผ่านเน็ตมือถืออาจใช้ดาต้ามากกว่าการดูแบบสตรีมสดเสียอีก ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ TikTok ใช้ดาต้าประมาณ 323 MB ต่อชั่วโมงเมื่อดูวิดีโอแบบ Auto quality ➡️ การใช้ดาต้าขึ้นอยู่กับคุณภาพวิดีโอและการตั้งค่าในแอป ➡️ โหมด Data Saver ช่วยลดการใช้ดาต้าโดยลดคุณภาพวิดีโอและโหลดช้าลง ➡️ TikTok Lite ใช้ดาต้าน้อยกว่าเวอร์ชันปกติ เหมาะกับพื้นที่สัญญาณอ่อน ✅ ทางเลือกในการประหยัดดาต้า ➡️ ปรับคุณภาพวิดีโอให้ต่ำที่สุดเท่าที่รับได้ ➡️ ใช้ TikTok Lite สำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีเน็ตจำกัด ➡️ เปิดใช้งาน Data Saver เพื่อควบคุมการโหลดวิดีโอ ➡️ ดาวน์โหลดวิดีโอไว้ดูแบบออฟไลน์ผ่าน Wi-Fi ที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ TikTok มีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 1.8 พันล้านคนในปี 2025 และใช้เวลาเฉลี่ย 95–105 นาทีต่อวันต่อคน ➡️ TikTok Lite มียอดดาวน์โหลดทะลุ 100 ล้านครั้งในตลาดเกิดใหม่ ➡️ ผู้ใช้ Gen Z มากกว่า 70% ใช้ TikTok หลายครั้งต่อวัน และ 30% ใช้เป็นแหล่งข่าวหลัก ➡️ TikTok มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงสุดในโฆษณาเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ https://www.slashgear.com/1968580/tiktok-data-usage-per-hour/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Here's How Much Data TikTok Uses Per Hour - SlashGear
    If you've ever wondered if the constant scroll of TikTok videos takes a toll on your data usage, we have the answer. We tested how much data the video app uses.
    0 Comments 0 Shares 128 Views 0 Reviews
  • อย่าปล่อยให้เศษปลาแซลมอนกลายเป็นของเหลือทิ้ง!

    ในทุกชิ้นส่วนของปลาแซลมอนยังมีเนื้อคุณภาพซ่อนอยู่มากมาย ทั้งก้าง หัว และหนัง... เครื่องแยกก้างปลา Fish Deboner คือคำตอบที่จะช่วยให้คุณดึงเนื้อปลาแซลมอนออกมาใช้ได้คุ้มค่าที่สุด!

    เครื่องนี้เหมาะสำหรับธุรกิจที่แปรรูปปลาแซลมอน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น โรงงานทำแซลมอนรมควัน หรือผู้ค้าส่งปลา เพราะช่วยคุณ:
    เพิ่มกำไร: เปลี่ยน "เศษเหลือ" ให้กลายเป็นวัตถุดิบเนื้อปลาแซลมอนคุณภาพสูง เพิ่มมูลค่าสินค้าและลดการสูญเสีย
    ผลิตง่าย: ได้เนื้อแซลมอนบดพร้อมใช้งานทันที สำหรับทำแซลมอนเบอร์เกอร์ ไส้เกี๊ยว หรือใช้เป็นส่วนผสมในเมนูอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย
    ทำงานรวดเร็ว: ด้วยกำลังผลิตสูงถึง 100-300 กก./ชม. ช่วยประหยัดเวลาและลดต้นทุนแรงงานได้อย่างมหาศาล

    รายละเอียดเครื่อง:

    มอเตอร์: 3 แรงม้า, ไฟ 380V
    กำลังการผลิต: 100-300 กก./ชม.
    ขนาด: 800 x 650 x 900 มม.
    น้ำหนัก: 250 กก.

    ให้ BONNY เป็นตัวช่วยสำคัญในธุรกิจคุณ!

    แฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง
    #เครื่องแยกก้างปลา #เครื่องจักรอาหาร #ปลาแซลมอน #แซลมอน #ธุรกิจอาหาร #เครื่องจักรโรงงาน #ฟู้ดโปรเซสซิ่ง #ร้านอาหารญี่ปุ่น #แซลมอนบด #เพิ่มมูลค่า #FishDeboner #SalmonProcessing #FoodMachinery #FoodProduction #Salmon #Seafood #ProcessedFood #FrozenFood #SMEไทย #ผู้ประกอบการ #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #เครื่องครัวร้านอาหาร #เมนูปลา #แซลมอนเบอร์เกอร์ #ไส้เกี๊ยวปลา #เครื่องจักรแปรรูป #ย่งฮะเฮง #BONNY

    สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม:
    ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
    เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.00-17.00 น.), เสาร์ (8.00-16.00 น.)
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    แชท: m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com
    อย่าปล่อยให้เศษปลาแซลมอนกลายเป็นของเหลือทิ้ง! 😩 ในทุกชิ้นส่วนของปลาแซลมอนยังมีเนื้อคุณภาพซ่อนอยู่มากมาย ทั้งก้าง หัว และหนัง... เครื่องแยกก้างปลา Fish Deboner คือคำตอบที่จะช่วยให้คุณดึงเนื้อปลาแซลมอนออกมาใช้ได้คุ้มค่าที่สุด! 💯 เครื่องนี้เหมาะสำหรับธุรกิจที่แปรรูปปลาแซลมอน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น โรงงานทำแซลมอนรมควัน หรือผู้ค้าส่งปลา เพราะช่วยคุณ: เพิ่มกำไร: 📈 เปลี่ยน "เศษเหลือ" ให้กลายเป็นวัตถุดิบเนื้อปลาแซลมอนคุณภาพสูง เพิ่มมูลค่าสินค้าและลดการสูญเสีย ผลิตง่าย: ✨ ได้เนื้อแซลมอนบดพร้อมใช้งานทันที สำหรับทำแซลมอนเบอร์เกอร์ 🍔 ไส้เกี๊ยว 🥟 หรือใช้เป็นส่วนผสมในเมนูอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย ทำงานรวดเร็ว: ⏱️ ด้วยกำลังผลิตสูงถึง 100-300 กก./ชม. ช่วยประหยัดเวลาและลดต้นทุนแรงงานได้อย่างมหาศาล รายละเอียดเครื่อง: มอเตอร์: 3 แรงม้า, ไฟ 380V 💪 กำลังการผลิต: 100-300 กก./ชม. ⚡ ขนาด: 800 x 650 x 900 มม. น้ำหนัก: 250 กก. ให้ BONNY เป็นตัวช่วยสำคัญในธุรกิจคุณ! 👍 แฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง #เครื่องแยกก้างปลา #เครื่องจักรอาหาร #ปลาแซลมอน #แซลมอน #ธุรกิจอาหาร #เครื่องจักรโรงงาน #ฟู้ดโปรเซสซิ่ง #ร้านอาหารญี่ปุ่น #แซลมอนบด #เพิ่มมูลค่า #FishDeboner #SalmonProcessing #FoodMachinery #FoodProduction #Salmon #Seafood #ProcessedFood #FrozenFood #SMEไทย #ผู้ประกอบการ #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #เครื่องครัวร้านอาหาร #เมนูปลา #แซลมอนเบอร์เกอร์ #ไส้เกี๊ยวปลา #เครื่องจักรแปรรูป #ย่งฮะเฮง #BONNY 🛒 สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม: ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.00-17.00 น.), เสาร์ (8.00-16.00 น.) แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 แชท: m.me/yonghahheng LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9 โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com อีเมล: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com
    0 Comments 0 Shares 456 Views 0 Reviews
  • “Firefox 143 มาแล้ว! เพิ่มฟีเจอร์ปกป้องความเป็นส่วนตัว พร้อมลูกเล่นใหม่ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ”

    Mozilla ปล่อย Firefox 143 เวอร์ชันล่าสุดอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 กันยายน 2025 โดยแม้จะเป็นอัปเดตขนาดเล็ก แต่ก็มีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะด้านความเป็นส่วนตัวและการใช้งานที่สะดวกขึ้น ทั้งบนเดสก์ท็อปและ Android

    หนึ่งในฟีเจอร์เด่นคือการขยายระบบ Fingerprinting Protection ด้วยฟังก์ชันใหม่ชื่อ “Suspected Fingerprinters” ซึ่งช่วยป้องกันการติดตามผู้ใช้ผ่านข้อมูลฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ไม่สามารถบล็อกได้โดยตรง โดย Firefox จะรายงานค่าคงที่ของหลายแอตทริบิวต์เพื่อหลอกระบบติดตามให้เข้าใจผิด

    อีกฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาคือการแสดงตัวอย่างกล้องเมื่อเว็บไซต์ร้องขอสิทธิ์ใช้งานกล้อง — มีประโยชน์มากเมื่อผู้ใช้มีหลายกล้องเชื่อมต่อ และต้องการเลือกกล้องที่ถูกต้องก่อนอนุญาต

    สำหรับผู้ใช้โหมด Private Browsing ตอนนี้ Firefox จะถามว่าต้องการเก็บหรือจะลบไฟล์ที่ดาวน์โหลดหลังจากออกจากโหมดหรือไม่ ซึ่งเป็นการเพิ่มการควบคุมข้อมูลส่วนตัวให้ผู้ใช้มากขึ้น

    ฝั่ง Android ก็มีการปรับปรุงหลายจุด เช่น รองรับการเล่นเสียงแบบ xHE-AAC, แสดงความคืบหน้าการดาวน์โหลดแบบเรียลไทม์ พร้อมปุ่ม pause/resume/retry/cancel และสามารถตั้งค่า DNS over HTTPS ได้จากหน้าตั้งค่าโดยตรง

    สำหรับนักพัฒนา Firefox 143 เพิ่มความสามารถในการแสดงข้อความ debug แบบไม่รวมกลุ่ม เพื่อให้เห็นข้อความทั้งหมดอย่างชัดเจน และรองรับ CSS ใหม่ เช่น <color> ใน <input type=color>, การจัดการ grid ที่แม่นยำขึ้น และ pseudo-element ใหม่ ::details-content สำหรับจัดสไตล์เนื้อหาที่ขยาย/ยุบได้

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Firefox 143
    เพิ่ม “Suspected Fingerprinters” เพื่อขยายการป้องกันการติดตามแบบ fingerprinting
    แสดงตัวอย่างกล้องในหน้าขอสิทธิ์ใช้งาน — เลือกกล้องได้ก่อนอนุญาต
    ถามผู้ใช้ว่าจะเก็บหรือลบไฟล์ที่ดาวน์โหลดในโหมด Private Browsing
    ลบฟีเจอร์ “Website Advertising Preferences” ออกจากหน้าความเป็นส่วนตัว

    การปรับปรุงบน Android
    รองรับการเล่นเสียงแบบ xHE-AAC
    แสดงความคืบหน้าการดาวน์โหลดแบบเรียลไทม์ พร้อมควบคุมการทำงาน
    ตั้งค่า DNS over HTTPS ได้จากหน้าตั้งค่า
    เปิดเว็บที่เกี่ยวข้องเมื่อแตะ notification หลังปิดหรือรีสตาร์ทแอป

    ฟีเจอร์สำหรับนักพัฒนา
    ปิดการรวมข้อความ debug ที่คล้ายกัน — แสดงข้อความทั้งหมด
    รองรับ CSS <color> ใน <input type=color>
    ปรับปรุงการจัดขนาด grid ให้ตรงกับสเปก CSS Grid
    เพิ่ม ::details-content สำหรับจัดสไตล์เนื้อหาที่ขยาย/ยุบได้

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Fingerprinting คือเทคนิคติดตามผู้ใช้ผ่านค่าฮาร์ดแวร์/ซอฟต์แวร์ เช่น GPU, font, screen size
    xHE-AAC เป็น codec เสียงคุณภาพสูงที่ใช้ในสตรีมมิ่งยุคใหม่ เช่น Netflix และ YouTube
    DNS over HTTPS ช่วยป้องกันการดักฟัง DNS โดย ISP หรือบุคคลที่สาม
    CSS ::details-content ช่วยให้นักพัฒนาออกแบบ UI แบบ accordion ได้ง่ายขึ้น

    https://9to5linux.com/firefox-143-is-now-available-for-download-this-is-whats-new
    🦊 “Firefox 143 มาแล้ว! เพิ่มฟีเจอร์ปกป้องความเป็นส่วนตัว พร้อมลูกเล่นใหม่ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ” Mozilla ปล่อย Firefox 143 เวอร์ชันล่าสุดอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 กันยายน 2025 โดยแม้จะเป็นอัปเดตขนาดเล็ก แต่ก็มีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะด้านความเป็นส่วนตัวและการใช้งานที่สะดวกขึ้น ทั้งบนเดสก์ท็อปและ Android หนึ่งในฟีเจอร์เด่นคือการขยายระบบ Fingerprinting Protection ด้วยฟังก์ชันใหม่ชื่อ “Suspected Fingerprinters” ซึ่งช่วยป้องกันการติดตามผู้ใช้ผ่านข้อมูลฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ไม่สามารถบล็อกได้โดยตรง โดย Firefox จะรายงานค่าคงที่ของหลายแอตทริบิวต์เพื่อหลอกระบบติดตามให้เข้าใจผิด อีกฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาคือการแสดงตัวอย่างกล้องเมื่อเว็บไซต์ร้องขอสิทธิ์ใช้งานกล้อง — มีประโยชน์มากเมื่อผู้ใช้มีหลายกล้องเชื่อมต่อ และต้องการเลือกกล้องที่ถูกต้องก่อนอนุญาต สำหรับผู้ใช้โหมด Private Browsing ตอนนี้ Firefox จะถามว่าต้องการเก็บหรือจะลบไฟล์ที่ดาวน์โหลดหลังจากออกจากโหมดหรือไม่ ซึ่งเป็นการเพิ่มการควบคุมข้อมูลส่วนตัวให้ผู้ใช้มากขึ้น ฝั่ง Android ก็มีการปรับปรุงหลายจุด เช่น รองรับการเล่นเสียงแบบ xHE-AAC, แสดงความคืบหน้าการดาวน์โหลดแบบเรียลไทม์ พร้อมปุ่ม pause/resume/retry/cancel และสามารถตั้งค่า DNS over HTTPS ได้จากหน้าตั้งค่าโดยตรง สำหรับนักพัฒนา Firefox 143 เพิ่มความสามารถในการแสดงข้อความ debug แบบไม่รวมกลุ่ม เพื่อให้เห็นข้อความทั้งหมดอย่างชัดเจน และรองรับ CSS ใหม่ เช่น <color> ใน <input type=color>, การจัดการ grid ที่แม่นยำขึ้น และ pseudo-element ใหม่ ::details-content สำหรับจัดสไตล์เนื้อหาที่ขยาย/ยุบได้ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Firefox 143 ➡️ เพิ่ม “Suspected Fingerprinters” เพื่อขยายการป้องกันการติดตามแบบ fingerprinting ➡️ แสดงตัวอย่างกล้องในหน้าขอสิทธิ์ใช้งาน — เลือกกล้องได้ก่อนอนุญาต ➡️ ถามผู้ใช้ว่าจะเก็บหรือลบไฟล์ที่ดาวน์โหลดในโหมด Private Browsing ➡️ ลบฟีเจอร์ “Website Advertising Preferences” ออกจากหน้าความเป็นส่วนตัว ✅ การปรับปรุงบน Android ➡️ รองรับการเล่นเสียงแบบ xHE-AAC ➡️ แสดงความคืบหน้าการดาวน์โหลดแบบเรียลไทม์ พร้อมควบคุมการทำงาน ➡️ ตั้งค่า DNS over HTTPS ได้จากหน้าตั้งค่า ➡️ เปิดเว็บที่เกี่ยวข้องเมื่อแตะ notification หลังปิดหรือรีสตาร์ทแอป ✅ ฟีเจอร์สำหรับนักพัฒนา ➡️ ปิดการรวมข้อความ debug ที่คล้ายกัน — แสดงข้อความทั้งหมด ➡️ รองรับ CSS <color> ใน <input type=color> ➡️ ปรับปรุงการจัดขนาด grid ให้ตรงกับสเปก CSS Grid ➡️ เพิ่ม ::details-content สำหรับจัดสไตล์เนื้อหาที่ขยาย/ยุบได้ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Fingerprinting คือเทคนิคติดตามผู้ใช้ผ่านค่าฮาร์ดแวร์/ซอฟต์แวร์ เช่น GPU, font, screen size ➡️ xHE-AAC เป็น codec เสียงคุณภาพสูงที่ใช้ในสตรีมมิ่งยุคใหม่ เช่น Netflix และ YouTube ➡️ DNS over HTTPS ช่วยป้องกันการดักฟัง DNS โดย ISP หรือบุคคลที่สาม ➡️ CSS ::details-content ช่วยให้นักพัฒนาออกแบบ UI แบบ accordion ได้ง่ายขึ้น https://9to5linux.com/firefox-143-is-now-available-for-download-this-is-whats-new
    9TO5LINUX.COM
    Firefox 143 Is Now Available for Download, This Is What's New - 9to5Linux
    Firefox 143 open-source web browser is now available for download with various new features and improvements.
    0 Comments 0 Shares 240 Views 0 Reviews
  • ยกระดับธุรกิจหอมเจียวให้ได้กำไรพุ่ง!
    สำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาทางเพิ่มยอดผลิต และลดต้นทุนการจ้างคนปอกหอมแดง ต้องไม่พลาด! เครื่องปอกเปลือกแบบใช้น้ำขนาด 10 ลิตร คือคำตอบที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด!

    ทำไมเครื่องนี้ถึงตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ?
    เร็วแรงแซงทุกการผลิต! ปอกหอมแดงได้ครั้งละ 5-7 กก. ในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้คุณเพิ่มปริมาณการผลิตหอมเจียวได้มากขึ้นหลายเท่าตัว!

    ลดต้นทุนค่าแรง! ไม่ต้องจ้างคนงานจำนวนมากมานั่งปอกมืออีกต่อไป! คุ้มค่าในระยะยาว คืนทุนเร็วอย่างแน่นอน

    งานสะอาด ไม่มีคราบ! เครื่องปอกด้วยระบบน้ำ ทำให้หอมที่ได้สะอาด พร้อมนำไปทอดเป็นหอมเจียวกรอบๆ ได้เลย

    ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน! ตัวเครื่องทำจากสเตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทานต่อการใช้งานหนักในเชิงพาณิชย์

    มีรับประกัน 1 ปี! หมดห่วงเรื่องการซ่อมบำรุง เราพร้อมดูแลธุรกิจของคุณให้เดินหน้าได้อย่างราบรื่น

    รายละเอียดเครื่อง:
    มอเตอร์: 1 แรงม้า
    ขนาด: 50 x 74.5 x 85 ซม.
    น้ำหนัก: 58 กก.

    อย่าปล่อยให้คู่แข่งแซงหน้า! ลงทุนกับเครื่องปอกเปลือกคุณภาพ เพื่อเพิ่มศักยภาพและกำไรให้ธุรกิจหอมเจียวของคุณวันนี้!

    สนใจสินค้า? แวะมาดูเครื่องจริงได้เลย!
    เรายินดีให้คำแนะนำและช่วยเหลือผู้ประกอบการทุกท่านค่ะ

    เวลาทำการ:

    จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น.
    เสาร์: 8.00 - 16.00 น.

    แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/4ppsHfy3NYb1uPPu6
    ช่องทางติดต่อสอบถาม:
    Facebook Messenger: m.me/yonghahheng
    LINE Official Account: @yonghahheng (มี @ ข้างหน้า) หรือคลิก https://lin.ee/HV4lSKp
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com, yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องปอกเปลือก #หอมแดง #หอมเจียว #ธุรกิจหอมเจียว #เครื่องจักรอาหาร #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #SME #ผู้ประกอบการ #ลงทุนคุ้มค่า #หอมเจียวกรอบ #รับทำหอมเจียว #เครื่องทุ่นแรง #ธุรกิจอาหาร #ทำอาหารขาย #yonghahheng #เครื่องครัว #อุปกรณ์ทำครัว #ร้านอาหาร #โรงงานอาหาร
    🚀 ยกระดับธุรกิจหอมเจียวให้ได้กำไรพุ่ง! 🧅✨ สำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาทางเพิ่มยอดผลิต และลดต้นทุนการจ้างคนปอกหอมแดง ต้องไม่พลาด! เครื่องปอกเปลือกแบบใช้น้ำขนาด 10 ลิตร คือคำตอบที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด! 🔥 ทำไมเครื่องนี้ถึงตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ? 🔥 ✅ เร็วแรงแซงทุกการผลิต! ปอกหอมแดงได้ครั้งละ 5-7 กก. ในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้คุณเพิ่มปริมาณการผลิตหอมเจียวได้มากขึ้นหลายเท่าตัว! ✅ ลดต้นทุนค่าแรง! ไม่ต้องจ้างคนงานจำนวนมากมานั่งปอกมืออีกต่อไป! คุ้มค่าในระยะยาว คืนทุนเร็วอย่างแน่นอน ✅ งานสะอาด ไม่มีคราบ! เครื่องปอกด้วยระบบน้ำ ทำให้หอมที่ได้สะอาด พร้อมนำไปทอดเป็นหอมเจียวกรอบๆ ได้เลย ✅ ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน! ตัวเครื่องทำจากสเตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทานต่อการใช้งานหนักในเชิงพาณิชย์ ✅ มีรับประกัน 1 ปี! หมดห่วงเรื่องการซ่อมบำรุง เราพร้อมดูแลธุรกิจของคุณให้เดินหน้าได้อย่างราบรื่น รายละเอียดเครื่อง: มอเตอร์: 1 แรงม้า ขนาด: 50 x 74.5 x 85 ซม. น้ำหนัก: 58 กก. ✨ อย่าปล่อยให้คู่แข่งแซงหน้า! ลงทุนกับเครื่องปอกเปลือกคุณภาพ เพื่อเพิ่มศักยภาพและกำไรให้ธุรกิจหอมเจียวของคุณวันนี้! ✨ 📍 สนใจสินค้า? แวะมาดูเครื่องจริงได้เลย! เรายินดีให้คำแนะนำและช่วยเหลือผู้ประกอบการทุกท่านค่ะ 🗓️ เวลาทำการ: จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น. เสาร์: 8.00 - 16.00 น. 🗺️ แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/4ppsHfy3NYb1uPPu6 💬 ช่องทางติดต่อสอบถาม: Facebook Messenger: m.me/yonghahheng LINE Official Account: @yonghahheng (มี @ ข้างหน้า) หรือคลิก https://lin.ee/HV4lSKp 📞 โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 🌐 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com 📧 อีเมล: sales@yoryonghahheng.com, yonghahheng@gmail.com #เครื่องปอกเปลือก #หอมแดง #หอมเจียว #ธุรกิจหอมเจียว #เครื่องจักรอาหาร #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #SME #ผู้ประกอบการ #ลงทุนคุ้มค่า #หอมเจียวกรอบ #รับทำหอมเจียว #เครื่องทุ่นแรง #ธุรกิจอาหาร #ทำอาหารขาย #yonghahheng #เครื่องครัว #อุปกรณ์ทำครัว #ร้านอาหาร #โรงงานอาหาร
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 394 Views 0 Reviews
  • เหนื่อยกับการสับปลาร้าบองจนเมื่อยมือใช่ไหม? บอกลาความลำบากแล้วมาเปิดประตูสู่ความอร่อยแบบง่ายๆ กับ "เครื่องสับผสมอเนกประสงค์" ตัวนี้เลย!
    เครื่องนี้คือฮีโร่ตัวจริงสำหรับคนทำปลาร้าบอง ไม่ว่าจะเป็นปลาร้า, พริก, ข่า, ตะไคร้, หอมแดง, กระเทียม... เพียงแค่โยนส่วนผสมทั้งหมดลงไปในโถ ใบมีดคมกริบจะสับและผสมทุกอย่างให้ละเอียดเข้าเนื้อกันในพริบตา! ภายในไม่กี่นาที คุณก็จะได้ปลาร้าบองที่เนียนนัว หอมสมุนไพรแบบถึงเครื่อง พร้อมเสิร์ฟความแซ่บได้ทันที
    ไม่ต้องเมื่อย, ไม่ต้องเสียเวลา, ไม่ต้องเลอะเทอะ – เพราะเครื่องนี้ทำจากสแตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน และล้างทำความสะอาดง่ายสุดๆ
    มีให้เลือก 2 รุ่นตามความต้องการของคุณ:
    - รุ่นเล็ก (YMC-QS5A-Z-SUS): สำหรับทำกินในบ้าน หรือทำขายเล็กๆ น้อยๆ สับวัตถุดิบได้ครั้งละ 1-3 กก.
    - รุ่นใหญ่ (YMC QS13A Z-SUS): สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ทำขายจริงจัง สับได้ครั้งละ 4-6 กก.
    ไม่ว่าจะเป็นการทำปลาร้าบอง, น้ำพริก, แกง, หรือสับเนื้อสัตว์ เครื่องนี้ก็เอาอยู่หมด! #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY
    สนใจติดต่อสอบถาม
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    Inbox: m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng (มี @) หรือคลิก https://lin.ee/HV4lSKp
    โทร: 098-8307906, 098-8307905, 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00 น. | เสาร์ 8.00-16.00 น.
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    #เครื่องสับผสม #เครื่องปั่นปลาร้า #ปลาร้าบอง #แจ่วบอง #น้ำพริกปลาร้า #ครัวอีสาน #เมนูแซ่บ #สร้างอาชีพ #ทำกินเอง #เครื่องครัว #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #ประหยัดเวลา #ของดีบอกต่อ #แม่ค้าออนไลน์ #สินค้าคุณภาพ #อาหารไทย #ธุรกิจอาหาร #ของอร่อย #ทำอาหารง่ายๆ #อร่อยไม่ยาก #เครื่องปั่นอเนกประสงค์ #ของมันต้องมี #ไอเท็มเด็ด #ชีวิตดีขึ้น #อร่อยเด็ด #เข้าครัว #ย่งฮะเฮง #yonghahheng
    เหนื่อยกับการสับปลาร้าบองจนเมื่อยมือใช่ไหม? 😫🌶️ บอกลาความลำบากแล้วมาเปิดประตูสู่ความอร่อยแบบง่ายๆ กับ "เครื่องสับผสมอเนกประสงค์" ตัวนี้เลย! เครื่องนี้คือฮีโร่ตัวจริงสำหรับคนทำปลาร้าบอง ไม่ว่าจะเป็นปลาร้า, พริก, ข่า, ตะไคร้, หอมแดง, กระเทียม... เพียงแค่โยนส่วนผสมทั้งหมดลงไปในโถ ใบมีดคมกริบจะสับและผสมทุกอย่างให้ละเอียดเข้าเนื้อกันในพริบตา! ภายในไม่กี่นาที คุณก็จะได้ปลาร้าบองที่เนียนนัว หอมสมุนไพรแบบถึงเครื่อง พร้อมเสิร์ฟความแซ่บได้ทันที ไม่ต้องเมื่อย, ไม่ต้องเสียเวลา, ไม่ต้องเลอะเทอะ – เพราะเครื่องนี้ทำจากสแตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน และล้างทำความสะอาดง่ายสุดๆ มีให้เลือก 2 รุ่นตามความต้องการของคุณ: - รุ่นเล็ก (YMC-QS5A-Z-SUS): สำหรับทำกินในบ้าน หรือทำขายเล็กๆ น้อยๆ สับวัตถุดิบได้ครั้งละ 1-3 กก. - รุ่นใหญ่ (YMC QS13A Z-SUS): สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ทำขายจริงจัง สับได้ครั้งละ 4-6 กก. ไม่ว่าจะเป็นการทำปลาร้าบอง, น้ำพริก, แกง, หรือสับเนื้อสัตว์ เครื่องนี้ก็เอาอยู่หมด! #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY สนใจติดต่อสอบถาม ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน Inbox: m.me/yonghahheng LINE: @yonghahheng (มี @) หรือคลิก https://lin.ee/HV4lSKp โทร: 098-8307906, 098-8307905, 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00 น. | เสาร์ 8.00-16.00 น. แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 #เครื่องสับผสม #เครื่องปั่นปลาร้า #ปลาร้าบอง #แจ่วบอง #น้ำพริกปลาร้า #ครัวอีสาน #เมนูแซ่บ #สร้างอาชีพ #ทำกินเอง #เครื่องครัว #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #ประหยัดเวลา #ของดีบอกต่อ #แม่ค้าออนไลน์ #สินค้าคุณภาพ #อาหารไทย #ธุรกิจอาหาร #ของอร่อย #ทำอาหารง่ายๆ #อร่อยไม่ยาก #เครื่องปั่นอเนกประสงค์ #ของมันต้องมี #ไอเท็มเด็ด #ชีวิตดีขึ้น #อร่อยเด็ด #เข้าครัว #ย่งฮะเฮง #yonghahheng
    0 Comments 0 Shares 582 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก Scaling Laws: เมื่อ compute ไม่ใช่พระเจ้าองค์เดียว และ data คือสิ่งที่เรากำลังขาดแคลน

    Kushal Chakrabarti เขียนบทความที่พลิกความเข้าใจเดิมเกี่ยวกับ The Bitter Lesson โดยชี้ว่า เราอ่านบทเรียนนี้ “กลับด้าน” มานานหลายปี เพราะจริง ๆ แล้ว Scaling Laws บอกเราว่า compute (C) ไม่ได้ทำงานลอย ๆ—มันต้องจับคู่กับ data (D) อย่างถูกสัดส่วน และความสัมพันธ์นั้นคือ C ∼ D²

    แปลว่า ถ้าเราจะเพิ่ม GPU เป็นสองเท่า เราต้องเพิ่มข้อมูลอีก 40% ไม่งั้นก็เหมือนจุดไฟเผาเงินเล่น เพราะ compute ที่มากขึ้นจะไม่มีประโยชน์ถ้าไม่มีข้อมูลที่มากพอให้มันเรียนรู้

    ปัญหาคือ เรากินข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตไปหมดแล้ว และไม่มี “อินเทอร์เน็ตที่สอง” ให้เทรน GPT-6 ได้อีกต่อไป ข้อมูลที่มีคุณภาพสูงจริง ๆ เหลืออยู่แค่ประมาณ 10 ล้านล้าน token เท่านั้น ซึ่งไม่พอสำหรับโมเดลระดับ 100B+ parameters ที่ต้องใช้ข้อมูลมหาศาลต่อ parameter

    ดังนั้น ทีม AI ต้องเลือกทางเดินใหม่: จะเป็น “Architect” ที่ออกแบบโมเดลให้ฉลาดขึ้นโดยใช้ข้อมูลเท่าเดิม หรือเป็น “Alchemist” ที่สร้างข้อมูลใหม่จากการเรียนรู้ของโมเดลเอง เช่น self-play, RLHF, หรือ agentic feedback loop

    Scaling Laws และความเข้าใจใหม่
    ความสัมพันธ์ระหว่าง compute กับ data คือ C ∼ D²
    เพิ่ม GPU โดยไม่เพิ่มข้อมูล = ประสิทธิภาพลดลง
    Chinchilla model ของ DeepMind ยืนยันว่า model size ควรสอดคล้องกับ data size

    ปัญหาคอขวดด้านข้อมูล
    อินเทอร์เน็ตถูกใช้หมดแล้ว ไม่มีแหล่งข้อมูลใหม่ขนาดใหญ่
    ข้อมูลคุณภาพสูงเหลือเพียง ~10T token หลังกรองซ้ำและคุณภาพ
    GPT-6 ต้องการข้อมูลระดับ ~20 token ต่อ parameter ซึ่งไม่พอในปัจจุบัน

    ทางเลือกของทีมวิจัย AI
    Architect: พัฒนาโมเดลให้ฉลาดขึ้นโดยใช้ข้อมูลเท่าเดิม เช่น Mamba, HRM, ParScale
    Alchemist: สร้างข้อมูลใหม่จาก self-play, RLHF, agentic feedback loop
    ทั้งสองแนวทางต้องทำงานร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

    กลยุทธ์สำหรับผู้นำองค์กร
    Incumbent’s Gambit: ลงทุน 70% กับ Architect เพื่อความมั่นคง และ 30% กับ Alchemist เพื่อ hedge
    Challenger’s Gambit: ลงทุน 70% กับ Alchemist เพื่อ leapfrog และ 30% กับ Architect เพื่อความต่อเนื่อง
    การจัดพอร์ตวิจัยต้องสะท้อนความเสี่ยงและเป้าหมายขององค์กร

    https://obviouslywrong.substack.com/p/the-bitter-lesson-is-misunderstood
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Scaling Laws: เมื่อ compute ไม่ใช่พระเจ้าองค์เดียว และ data คือสิ่งที่เรากำลังขาดแคลน Kushal Chakrabarti เขียนบทความที่พลิกความเข้าใจเดิมเกี่ยวกับ The Bitter Lesson โดยชี้ว่า เราอ่านบทเรียนนี้ “กลับด้าน” มานานหลายปี เพราะจริง ๆ แล้ว Scaling Laws บอกเราว่า compute (C) ไม่ได้ทำงานลอย ๆ—มันต้องจับคู่กับ data (D) อย่างถูกสัดส่วน และความสัมพันธ์นั้นคือ C ∼ D² แปลว่า ถ้าเราจะเพิ่ม GPU เป็นสองเท่า เราต้องเพิ่มข้อมูลอีก 40% ไม่งั้นก็เหมือนจุดไฟเผาเงินเล่น เพราะ compute ที่มากขึ้นจะไม่มีประโยชน์ถ้าไม่มีข้อมูลที่มากพอให้มันเรียนรู้ ปัญหาคือ เรากินข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตไปหมดแล้ว และไม่มี “อินเทอร์เน็ตที่สอง” ให้เทรน GPT-6 ได้อีกต่อไป ข้อมูลที่มีคุณภาพสูงจริง ๆ เหลืออยู่แค่ประมาณ 10 ล้านล้าน token เท่านั้น ซึ่งไม่พอสำหรับโมเดลระดับ 100B+ parameters ที่ต้องใช้ข้อมูลมหาศาลต่อ parameter ดังนั้น ทีม AI ต้องเลือกทางเดินใหม่: จะเป็น “Architect” ที่ออกแบบโมเดลให้ฉลาดขึ้นโดยใช้ข้อมูลเท่าเดิม หรือเป็น “Alchemist” ที่สร้างข้อมูลใหม่จากการเรียนรู้ของโมเดลเอง เช่น self-play, RLHF, หรือ agentic feedback loop ✅ Scaling Laws และความเข้าใจใหม่ ➡️ ความสัมพันธ์ระหว่าง compute กับ data คือ C ∼ D² ➡️ เพิ่ม GPU โดยไม่เพิ่มข้อมูล = ประสิทธิภาพลดลง ➡️ Chinchilla model ของ DeepMind ยืนยันว่า model size ควรสอดคล้องกับ data size ✅ ปัญหาคอขวดด้านข้อมูล ➡️ อินเทอร์เน็ตถูกใช้หมดแล้ว ไม่มีแหล่งข้อมูลใหม่ขนาดใหญ่ ➡️ ข้อมูลคุณภาพสูงเหลือเพียง ~10T token หลังกรองซ้ำและคุณภาพ ➡️ GPT-6 ต้องการข้อมูลระดับ ~20 token ต่อ parameter ซึ่งไม่พอในปัจจุบัน ✅ ทางเลือกของทีมวิจัย AI ➡️ Architect: พัฒนาโมเดลให้ฉลาดขึ้นโดยใช้ข้อมูลเท่าเดิม เช่น Mamba, HRM, ParScale ➡️ Alchemist: สร้างข้อมูลใหม่จาก self-play, RLHF, agentic feedback loop ➡️ ทั้งสองแนวทางต้องทำงานร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ✅ กลยุทธ์สำหรับผู้นำองค์กร ➡️ Incumbent’s Gambit: ลงทุน 70% กับ Architect เพื่อความมั่นคง และ 30% กับ Alchemist เพื่อ hedge ➡️ Challenger’s Gambit: ลงทุน 70% กับ Alchemist เพื่อ leapfrog และ 30% กับ Architect เพื่อความต่อเนื่อง ➡️ การจัดพอร์ตวิจัยต้องสะท้อนความเสี่ยงและเป้าหมายขององค์กร https://obviouslywrong.substack.com/p/the-bitter-lesson-is-misunderstood
    OBVIOUSLYWRONG.SUBSTACK.COM
    The Bitter Lesson is Misunderstood
    Together, the Bitter Lesson and Scaling Laws reveal that the god of Compute we worship is yoked to an even greater one — the god of Data.
    0 Comments 0 Shares 224 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากจุดสีน้ำเงิน: เมื่อข้อความธรรมดากลายเป็นการสื่อสารแบบ iMessage บน Android

    ถ้าคุณใช้แอป Google Messages หรือ Samsung Messages บนมือถือ Android แล้วเห็นจุดสีน้ำเงินหรือไอคอนแชทเล็ก ๆ ข้างชื่อผู้ติดต่อ—นั่นไม่ใช่แค่ข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน แต่คือการบอกว่า “ข้อความนี้ใช้ RCS” หรือ Rich Communication Services ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่มาแทน SMS แบบเดิม

    RCS คือการยกระดับข้อความธรรมดาให้กลายเป็นระบบแชทแบบอินเทอร์เน็ต เช่นเดียวกับ iMessage หรือ WhatsApp โดยรองรับฟีเจอร์อย่าง read receipts, typing indicators, การส่งภาพและวิดีโอคุณภาพสูง รวมถึงการเข้ารหัสแบบ end-to-end ในบางกรณี

    จุดสีน้ำเงินมักปรากฏใน Samsung Messages ส่วนไอคอนแชทจะเห็นใน Google Messages ซึ่งเป็นแอปข้อความหลักในมือถือ Samsung รุ่นใหม่ เช่น Galaxy S25 Ultra ที่ไม่มี Samsung Messages ติดตั้งมาแล้ว

    นอกจากนี้ สีของจุดหรือไอคอนอาจเปลี่ยนไปตามธีมของระบบ Android ที่คุณใช้ เช่นถ้าใช้ธีมสีเขียว จุดก็อาจเป็นสีเขียวแทนที่จะเป็นน้ำเงิน

    หลังจาก Apple ยอมรับ RCS ในปี 2024 ภายใต้แรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐฯ และยุโรป การส่งข้อความระหว่าง iPhone และ Android ก็ไม่ถูกลดระดับเป็น SMS อีกต่อไป ทำให้ผู้ใช้ Android เห็นจุดสีน้ำเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ

    จุดสีน้ำเงินและไอคอนแชทคืออะไร
    เป็นสัญลักษณ์ว่าแชทนั้นใช้ RCS แทน SMS
    ปรากฏใน Samsung Messages (จุดสีน้ำเงิน) และ Google Messages (ไอคอนแชท)
    สีของจุดอาจเปลี่ยนตามธีมของระบบ Android

    ความสามารถของ RCS
    รองรับ read receipts, typing indicators และการส่งไฟล์คุณภาพสูง
    ใช้การเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต ไม่พึ่งเครือข่ายมือถือแบบ SMS
    มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end ในบางกรณี

    การเปลี่ยนแปลงหลัง Apple ยอมรับ RCS
    เกิดขึ้นในปี 2024 หลังแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแล
    ข้อความระหว่าง iPhone และ Android ไม่ถูกลดระดับเป็น SMS อีกต่อไป
    ทำให้ผู้ใช้ Android เห็นจุดสีน้ำเงินและไอคอนแชทมากขึ้น

    วิธีสังเกตว่าแชทใช้ RCS หรือไม่
    ดูจากฟีเจอร์ในแชท เช่น read receipts และ typing indicators
    ใน Google Messages จะมีคำว่า “RCS message” ในช่องพิมพ์ข้อความ
    มีไอคอนเช็กสถานะการส่งข้อความใต้ข้อความที่ส่งไป

    https://www.slashgear.com/1955443/android-text-message-what-blue-dot-means/
    🎙️ เรื่องเล่าจากจุดสีน้ำเงิน: เมื่อข้อความธรรมดากลายเป็นการสื่อสารแบบ iMessage บน Android ถ้าคุณใช้แอป Google Messages หรือ Samsung Messages บนมือถือ Android แล้วเห็นจุดสีน้ำเงินหรือไอคอนแชทเล็ก ๆ ข้างชื่อผู้ติดต่อ—นั่นไม่ใช่แค่ข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน แต่คือการบอกว่า “ข้อความนี้ใช้ RCS” หรือ Rich Communication Services ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่มาแทน SMS แบบเดิม RCS คือการยกระดับข้อความธรรมดาให้กลายเป็นระบบแชทแบบอินเทอร์เน็ต เช่นเดียวกับ iMessage หรือ WhatsApp โดยรองรับฟีเจอร์อย่าง read receipts, typing indicators, การส่งภาพและวิดีโอคุณภาพสูง รวมถึงการเข้ารหัสแบบ end-to-end ในบางกรณี จุดสีน้ำเงินมักปรากฏใน Samsung Messages ส่วนไอคอนแชทจะเห็นใน Google Messages ซึ่งเป็นแอปข้อความหลักในมือถือ Samsung รุ่นใหม่ เช่น Galaxy S25 Ultra ที่ไม่มี Samsung Messages ติดตั้งมาแล้ว นอกจากนี้ สีของจุดหรือไอคอนอาจเปลี่ยนไปตามธีมของระบบ Android ที่คุณใช้ เช่นถ้าใช้ธีมสีเขียว จุดก็อาจเป็นสีเขียวแทนที่จะเป็นน้ำเงิน หลังจาก Apple ยอมรับ RCS ในปี 2024 ภายใต้แรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐฯ และยุโรป การส่งข้อความระหว่าง iPhone และ Android ก็ไม่ถูกลดระดับเป็น SMS อีกต่อไป ทำให้ผู้ใช้ Android เห็นจุดสีน้ำเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ ✅ จุดสีน้ำเงินและไอคอนแชทคืออะไร ➡️ เป็นสัญลักษณ์ว่าแชทนั้นใช้ RCS แทน SMS ➡️ ปรากฏใน Samsung Messages (จุดสีน้ำเงิน) และ Google Messages (ไอคอนแชท) ➡️ สีของจุดอาจเปลี่ยนตามธีมของระบบ Android ✅ ความสามารถของ RCS ➡️ รองรับ read receipts, typing indicators และการส่งไฟล์คุณภาพสูง ➡️ ใช้การเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต ไม่พึ่งเครือข่ายมือถือแบบ SMS ➡️ มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end ในบางกรณี ✅ การเปลี่ยนแปลงหลัง Apple ยอมรับ RCS ➡️ เกิดขึ้นในปี 2024 หลังแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแล ➡️ ข้อความระหว่าง iPhone และ Android ไม่ถูกลดระดับเป็น SMS อีกต่อไป ➡️ ทำให้ผู้ใช้ Android เห็นจุดสีน้ำเงินและไอคอนแชทมากขึ้น ✅ วิธีสังเกตว่าแชทใช้ RCS หรือไม่ ➡️ ดูจากฟีเจอร์ในแชท เช่น read receipts และ typing indicators ➡️ ใน Google Messages จะมีคำว่า “RCS message” ในช่องพิมพ์ข้อความ ➡️ มีไอคอนเช็กสถานะการส่งข้อความใต้ข้อความที่ส่งไป https://www.slashgear.com/1955443/android-text-message-what-blue-dot-means/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    What Does The Blue Dot On Android Text Messages Mean? - SlashGear
    On Android, blue dots or chat icons show that RCS is enabled, giving you advanced texting features missing from traditional SMS messages.
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 Reviews
  • ลุงเองก็ไม่เข้าใจว่าเขาคิดอะไรกันอยู่ !!

    เรื่องเล่าจาก Synology: จาก NAS ที่เคยรัก สู่ระบบที่บังคับให้รักแบบมีเงื่อนไข

    ผู้ใช้ Synology หลายคน รวมถึงนักเขียนจาก LowEndBox ที่เคยหลงรักความเงียบ ประหยัดพลังงาน และความเสถียรของ NAS รุ่น DS920, DS418 และ DS1522 กำลังรู้สึกผิดหวังอย่างหนัก เพราะ Synology ได้เปลี่ยนนโยบายหลายอย่างที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่า “ถูกบังคับ” มากกว่าการได้รับอิสระ

    เริ่มจากข้อจำกัดด้าน Samba ที่หลายคนคิดว่าเป็นแค่การตั้งค่าใน smb.conf แต่จริง ๆ แล้ว Synology ใช้ wrapper พิเศษที่จำกัดจำนวนการเชื่อมต่อแบบ concurrent โดยไม่เปิดให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้เอง

    ที่หนักกว่านั้นคือการเปลี่ยนนโยบายด้านฮาร์ดดิสก์: Synology ประกาศว่า NAS รุ่นใหม่ในปี 2025 จะ “ไม่ยอมรับ” ฮาร์ดดิสก์ที่ไม่ใช่ของ Synology หรือไม่ได้รับการรับรอง แม้จะเป็น WD Black ที่มีคุณภาพสูงและรับประกัน 5 ปี ก็อาจถูกปฏิเสธไม่ให้ใช้งานเลย

    นโยบายนี้เริ่มจากรุ่น enterprise และ rack-mounted แต่ตอนนี้ขยายมาถึงรุ่น Plus ที่เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจขนาดเล็ก ทำให้หลายคนเริ่มหันไปมองทางเลือกอื่น เช่น TrueNAS, Unraid, Buffalo หรือแม้แต่ Raspberry Pi ที่ให้ความยืดหยุ่นมากกว่า

    การจำกัดการเชื่อมต่อ Samba
    Synology ใช้ wrapper พิเศษรอบ daemon เพื่อจำกัด concurrent connections
    ไม่สามารถปรับแต่งจำนวน connection ได้จาก smb.conf โดยตรง

    นโยบายฮาร์ดดิสก์แบบผูกขาด
    NAS รุ่นใหม่ในปี 2025 จะรองรับเฉพาะฮาร์ดดิสก์ของ Synology หรือที่ได้รับการรับรอง
    ฮาร์ดดิสก์ที่ไม่ผ่านการรับรองจะไม่สามารถสร้าง storage pool ได้
    ฟีเจอร์บางอย่างจะถูกปิด เช่น deduplication, lifespan analysis, และ firmware update อัตโนมัติ
    รุ่น Plus ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ DS925+, DS1825+ และรุ่นใหม่อื่น ๆ
    รุ่นก่อนปี 2025 เช่น DS1522+ ยังไม่ถูกบังคับใช้

    เหตุผลที่ Synology ให้ไว้
    เพื่อความเสถียรและประสิทธิภาพในการใช้งานระยะยาว
    ลดปัญหาการสนับสนุนจากการใช้ฮาร์ดดิสก์ที่ไม่เข้ากัน
    เพิ่มความปลอดภัยและลดต้นทุนการดูแลระบบ

    ทางเลือกอื่นที่ผู้ใช้กำลังพิจารณา
    TrueNAS และ Unraid ที่ให้ความยืดหยุ่นในการเลือกฮาร์ดแวร์
    UGREEN DXP 6800 Pro ที่รองรับ Unraid/Proxmox และมีสเปกแรงในราคาคุ้มค่า
    Raspberry Pi + USB HDD สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการระบบเล็ก ประหยัดพลังงาน

    https://lowendbox.com/blog/they-used-to-be-good-but-now-theyve-turned-to-evil-the-synology-end-game/
    ลุงเองก็ไม่เข้าใจว่าเขาคิดอะไรกันอยู่ !! 🎙️ เรื่องเล่าจาก Synology: จาก NAS ที่เคยรัก สู่ระบบที่บังคับให้รักแบบมีเงื่อนไข ผู้ใช้ Synology หลายคน รวมถึงนักเขียนจาก LowEndBox ที่เคยหลงรักความเงียบ ประหยัดพลังงาน และความเสถียรของ NAS รุ่น DS920, DS418 และ DS1522 กำลังรู้สึกผิดหวังอย่างหนัก เพราะ Synology ได้เปลี่ยนนโยบายหลายอย่างที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่า “ถูกบังคับ” มากกว่าการได้รับอิสระ เริ่มจากข้อจำกัดด้าน Samba ที่หลายคนคิดว่าเป็นแค่การตั้งค่าใน smb.conf แต่จริง ๆ แล้ว Synology ใช้ wrapper พิเศษที่จำกัดจำนวนการเชื่อมต่อแบบ concurrent โดยไม่เปิดให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้เอง ที่หนักกว่านั้นคือการเปลี่ยนนโยบายด้านฮาร์ดดิสก์: Synology ประกาศว่า NAS รุ่นใหม่ในปี 2025 จะ “ไม่ยอมรับ” ฮาร์ดดิสก์ที่ไม่ใช่ของ Synology หรือไม่ได้รับการรับรอง แม้จะเป็น WD Black ที่มีคุณภาพสูงและรับประกัน 5 ปี ก็อาจถูกปฏิเสธไม่ให้ใช้งานเลย นโยบายนี้เริ่มจากรุ่น enterprise และ rack-mounted แต่ตอนนี้ขยายมาถึงรุ่น Plus ที่เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจขนาดเล็ก ทำให้หลายคนเริ่มหันไปมองทางเลือกอื่น เช่น TrueNAS, Unraid, Buffalo หรือแม้แต่ Raspberry Pi ที่ให้ความยืดหยุ่นมากกว่า ✅ การจำกัดการเชื่อมต่อ Samba ➡️ Synology ใช้ wrapper พิเศษรอบ daemon เพื่อจำกัด concurrent connections ➡️ ไม่สามารถปรับแต่งจำนวน connection ได้จาก smb.conf โดยตรง ✅ นโยบายฮาร์ดดิสก์แบบผูกขาด ➡️ NAS รุ่นใหม่ในปี 2025 จะรองรับเฉพาะฮาร์ดดิสก์ของ Synology หรือที่ได้รับการรับรอง ➡️ ฮาร์ดดิสก์ที่ไม่ผ่านการรับรองจะไม่สามารถสร้าง storage pool ได้ ➡️ ฟีเจอร์บางอย่างจะถูกปิด เช่น deduplication, lifespan analysis, และ firmware update อัตโนมัติ ➡️ รุ่น Plus ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ DS925+, DS1825+ และรุ่นใหม่อื่น ๆ ➡️ รุ่นก่อนปี 2025 เช่น DS1522+ ยังไม่ถูกบังคับใช้ ✅ เหตุผลที่ Synology ให้ไว้ ➡️ เพื่อความเสถียรและประสิทธิภาพในการใช้งานระยะยาว ➡️ ลดปัญหาการสนับสนุนจากการใช้ฮาร์ดดิสก์ที่ไม่เข้ากัน ➡️ เพิ่มความปลอดภัยและลดต้นทุนการดูแลระบบ ✅ ทางเลือกอื่นที่ผู้ใช้กำลังพิจารณา ➡️ TrueNAS และ Unraid ที่ให้ความยืดหยุ่นในการเลือกฮาร์ดแวร์ ➡️ UGREEN DXP 6800 Pro ที่รองรับ Unraid/Proxmox และมีสเปกแรงในราคาคุ้มค่า ➡️ Raspberry Pi + USB HDD สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการระบบเล็ก ประหยัดพลังงาน https://lowendbox.com/blog/they-used-to-be-good-but-now-theyve-turned-to-evil-the-synology-end-game/
    LOWENDBOX.COM
    They Used to Be Good, But Now They've Turned to Evil: The Synology End Game
    Find the best cheap server hosting and the best cheap vps hosting, where you only pay a few dollars a month, exclusively on LowEndBox
    0 Comments 0 Shares 274 Views 0 Reviews
  • ขุมทรัพย์ในถังขยะ – เมื่อ SSD ระดับโปรกลายเป็นของฟรี

    ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเดินผ่านถังขยะ แล้วพบกับ SSD ระดับโปรจำนวน 6 ตัว รวมความจุถึง 6TB ที่ยังใช้งานได้อยู่ — นั่นคือสิ่งที่ผู้ใช้ Reddit ชื่อ DogeBoi6 เจอเข้าโดยบังเอิญ

    เขาพบ SSD Samsung 850 Pro ขนาด 1TB จำนวน 6 ตัว ถูกทิ้งไว้โดยไม่ใส่ใจ และตัดสินใจนำกลับมาใช้เพื่อดาวน์โหลดคลังเกม Steam ทั้งหมดของเขา แม้จะไม่รู้ว่า SSD เหล่านี้เคยผ่านการใช้งานแบบไหนมาก่อน แต่เขาก็ไม่กังวล เพราะไม่ได้วางแผนจะเก็บข้อมูลสำคัญไว้ในนั้น

    Samsung 850 Pro เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 ใช้เทคโนโลยี V-NAND รุ่นแรก มีความเร็วอ่าน/เขียนสูงสุดถึง 550MB/s และ 520MB/s ตามลำดับ พร้อม IOPS สูงถึง 100K/90K และมาพร้อมกับการรับประกัน 10 ปี หรือ 150–300 TBW ซึ่งถือว่ายาวนานและมั่นใจในความทนทาน

    แม้ SSD เหล่านี้จะหมดระยะรับประกันไปแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง และสามารถใช้งานได้ดีในงานที่ไม่ต้องการความเสถียรระดับมืออาชีพ เช่น การเก็บเกมหรือไฟล์ที่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    ผู้ใช้ Reddit พบ SSD Samsung 850 Pro ขนาด 1TB จำนวน 6 ตัวในถังขยะ
    รวมความจุทั้งหมด 6TB และวางแผนใช้เก็บคลังเกม Steam
    ไม่ทราบประวัติการใช้งาน SSD เหล่านี้ แต่คาดว่าอาจเคยใช้ในเซิร์ฟเวอร์
    ผู้ใช้ไม่เก็บข้อมูลสำคัญใน SSD เหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
    Samsung 850 Pro เปิดตัวในปี 2014 และถือว่าเป็น SSD ระดับสูงในยุคนั้น
    ใช้เทคโนโลยี V-NAND รุ่นแรก มีความเร็วอ่าน/เขียนสูงสุด 550/520MB/s
    มี IOPS สูงถึง 100K/90K และรองรับ AES encryption
    รับประกัน 10 ปี หรือ 150–300 TBW แล้วแต่รุ่นและแหล่งข้อมูล
    SSD เหล่านี้หมดระยะรับประกันแล้ว แต่ยังใช้งานได้ในระดับทั่วไป
    เป็นตัวอย่างของการนำอุปกรณ์เก่ากลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Samsung 850 Pro เคยเป็น SSD SATA ที่เร็วที่สุดในตลาดช่วงเปิดตัว
    มีความทนทานสูงและใช้พลังงานต่ำ เหมาะกับงานหนักและเกมเมอร์
    ราคาเปิดตัวอยู่ที่ประมาณ $730 ต่อ 1TB ซึ่งถือว่าสูงมากในยุคนั้น
    รองรับระบบปฏิบัติการหลากหลาย เช่น Windows, Linux, Server
    สามารถใช้ซอฟต์แวร์ Samsung Magician เพื่อตรวจสอบสุขภาพ SSD
    การใช้ SSD เก่าในงานที่ไม่สำคัญช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ดี

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/lucky-user-finds-6tb-of-free-ssd-storage-while-dumpster-diving-finder-plans-to-use-the-six-1tb-samsung-850-pro-ssds-to-download-entire-steam-library
    🎙️ ขุมทรัพย์ในถังขยะ – เมื่อ SSD ระดับโปรกลายเป็นของฟรี ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเดินผ่านถังขยะ แล้วพบกับ SSD ระดับโปรจำนวน 6 ตัว รวมความจุถึง 6TB ที่ยังใช้งานได้อยู่ — นั่นคือสิ่งที่ผู้ใช้ Reddit ชื่อ DogeBoi6 เจอเข้าโดยบังเอิญ เขาพบ SSD Samsung 850 Pro ขนาด 1TB จำนวน 6 ตัว ถูกทิ้งไว้โดยไม่ใส่ใจ และตัดสินใจนำกลับมาใช้เพื่อดาวน์โหลดคลังเกม Steam ทั้งหมดของเขา แม้จะไม่รู้ว่า SSD เหล่านี้เคยผ่านการใช้งานแบบไหนมาก่อน แต่เขาก็ไม่กังวล เพราะไม่ได้วางแผนจะเก็บข้อมูลสำคัญไว้ในนั้น Samsung 850 Pro เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 ใช้เทคโนโลยี V-NAND รุ่นแรก มีความเร็วอ่าน/เขียนสูงสุดถึง 550MB/s และ 520MB/s ตามลำดับ พร้อม IOPS สูงถึง 100K/90K และมาพร้อมกับการรับประกัน 10 ปี หรือ 150–300 TBW ซึ่งถือว่ายาวนานและมั่นใจในความทนทาน แม้ SSD เหล่านี้จะหมดระยะรับประกันไปแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง และสามารถใช้งานได้ดีในงานที่ไม่ต้องการความเสถียรระดับมืออาชีพ เช่น การเก็บเกมหรือไฟล์ที่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ ผู้ใช้ Reddit พบ SSD Samsung 850 Pro ขนาด 1TB จำนวน 6 ตัวในถังขยะ ➡️ รวมความจุทั้งหมด 6TB และวางแผนใช้เก็บคลังเกม Steam ➡️ ไม่ทราบประวัติการใช้งาน SSD เหล่านี้ แต่คาดว่าอาจเคยใช้ในเซิร์ฟเวอร์ ➡️ ผู้ใช้ไม่เก็บข้อมูลสำคัญใน SSD เหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ➡️ Samsung 850 Pro เปิดตัวในปี 2014 และถือว่าเป็น SSD ระดับสูงในยุคนั้น ➡️ ใช้เทคโนโลยี V-NAND รุ่นแรก มีความเร็วอ่าน/เขียนสูงสุด 550/520MB/s ➡️ มี IOPS สูงถึง 100K/90K และรองรับ AES encryption ➡️ รับประกัน 10 ปี หรือ 150–300 TBW แล้วแต่รุ่นและแหล่งข้อมูล ➡️ SSD เหล่านี้หมดระยะรับประกันแล้ว แต่ยังใช้งานได้ในระดับทั่วไป ➡️ เป็นตัวอย่างของการนำอุปกรณ์เก่ากลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Samsung 850 Pro เคยเป็น SSD SATA ที่เร็วที่สุดในตลาดช่วงเปิดตัว ➡️ มีความทนทานสูงและใช้พลังงานต่ำ เหมาะกับงานหนักและเกมเมอร์ ➡️ ราคาเปิดตัวอยู่ที่ประมาณ $730 ต่อ 1TB ซึ่งถือว่าสูงมากในยุคนั้น ➡️ รองรับระบบปฏิบัติการหลากหลาย เช่น Windows, Linux, Server ➡️ สามารถใช้ซอฟต์แวร์ Samsung Magician เพื่อตรวจสอบสุขภาพ SSD ➡️ การใช้ SSD เก่าในงานที่ไม่สำคัญช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ดี https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/lucky-user-finds-6tb-of-free-ssd-storage-while-dumpster-diving-finder-plans-to-use-the-six-1tb-samsung-850-pro-ssds-to-download-entire-steam-library
    0 Comments 0 Shares 341 Views 0 Reviews
  • เพิ่มประสิทธิภาพงานครัวและโรงงานแปรรูปของคุณ!
    เครื่องลอกหนังปลา + ปลาหมึก 300 แบบตั้งพื้น (SQUID SKINNER)
    ลอกหนังปลาได้หลากหลายชนิด – ปลานิล ปลาคอด แซลมอน ปลาหมึก
    ผลิตจาก สแตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน ทำความสะอาดง่าย
    ลอกหนังได้ สะอาด รวดเร็ว ไม่ทำลายเนื้อปลา
    เหมาะกับ โรงงานแปรรูป ร้านอาหาร โรงงานอาหารทะเล
    สเปคเครื่อง
    รุ่น: YSQS-YPL300-GT-S
    น้ำหนัก: 110 กก.
    กำลังผลิต: 30–50 ชิ้น/นาที
    ความเร็ว: 20–30 เมตร/นาที
    มอเตอร์: 1 แรงม้า / 220V
    ขนาด: 620 × 570 × 1020 มม.
    สนใจสอบถาม/สั่งซื้อ
    LINE: @yonghahheng
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    โทร: 02-215-3515-9, 081-318-9098
    #เครื่องลอกหนังปลา #เครื่องลอกหนังปลาหมึก #เครื่องลอกหนังปลาแซลมอน #เครื่องลอกหนังปลานิล #เครื่องแปรรูปอาหาร #Yonghahheng #สแตนเลส #โรงงานแปรรูปอาหาร #โรงงานอาหารทะเล #อุปกรณ์ครัวอุตสาหกรรม #ครัวอุตสาหกรรม #เครื่องจักรอาหาร #FoodProcessing #FishSkinner #SquidSkinner #เครื่องลอกหนังปลาอัตโนมัติ #อุปกรณ์แปรรูปปลา #อาหารทะเล #เครื่องครัวสแตนเลส #ปลอดภัยสะอาด
    🎉 เพิ่มประสิทธิภาพงานครัวและโรงงานแปรรูปของคุณ! เครื่องลอกหนังปลา + ปลาหมึก 300 แบบตั้งพื้น (SQUID SKINNER) ✅ ลอกหนังปลาได้หลากหลายชนิด – ปลานิล ปลาคอด แซลมอน ปลาหมึก ✅ ผลิตจาก สแตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน ทำความสะอาดง่าย ✅ ลอกหนังได้ สะอาด รวดเร็ว ไม่ทำลายเนื้อปลา ✅ เหมาะกับ โรงงานแปรรูป ร้านอาหาร โรงงานอาหารทะเล ⚙️ สเปคเครื่อง รุ่น: YSQS-YPL300-GT-S น้ำหนัก: 110 กก. กำลังผลิต: 30–50 ชิ้น/นาที ความเร็ว: 20–30 เมตร/นาที มอเตอร์: 1 แรงม้า / 220V ขนาด: 620 × 570 × 1020 มม. 📞 สนใจสอบถาม/สั่งซื้อ 💚 LINE: @yonghahheng 🌐 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com ☎️ โทร: 02-215-3515-9, 081-318-9098 #เครื่องลอกหนังปลา #เครื่องลอกหนังปลาหมึก #เครื่องลอกหนังปลาแซลมอน #เครื่องลอกหนังปลานิล #เครื่องแปรรูปอาหาร #Yonghahheng #สแตนเลส #โรงงานแปรรูปอาหาร #โรงงานอาหารทะเล #อุปกรณ์ครัวอุตสาหกรรม #ครัวอุตสาหกรรม #เครื่องจักรอาหาร #FoodProcessing #FishSkinner #SquidSkinner #เครื่องลอกหนังปลาอัตโนมัติ #อุปกรณ์แปรรูปปลา #อาหารทะเล #เครื่องครัวสแตนเลส #ปลอดภัยสะอาด
    0 Comments 0 Shares 585 Views 0 0 Reviews
  • ผีบ้าร่ายเสียยาว.อย่าว่ากันเด้อใครที่ผ่านเข้ามาในบ้านในเพจเรา.555

    ..มั่ว ระบบมั่ว,แค่อยากเก็บตังจากประชาชนให้มากๆเท่านั้น,กฎหมายลักหลับประชาชน จะหลอยหลอนออกทีหลังที่บ้านเมืองโกลาหลวุ่นวายตลอด โป๊กเกอร์คือตัวอย่าง อะไรที่ไม่สำเร็จในยุคโทนี่ สำเร็จเกือบหมดในยุคยึดอำนาจจาก กปปส.ถวายพาน,นี้ก็ด้วย พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศก็ผ่านแล้ว,นี้ก็อีกมัดมือชกตอนไทยทหารไทยและประชาชนกำลังต่อสู้กับภัยอธิปไตยชาติไทย เสือกหน้ามึนมาบังคับประกาศให้ประชาชนต้องทำตามคลังจากสมัยรัฐบาลที่ทหารเป็นฝ่ายตรงข้ามเรานะ กะผูกผันต้องทำตามนะ,เป็นท่านนี้ถ้าได้เป็นนายกฯนะจะยกเลิกทันทีเช่นกัน,ล้างระบบทั้งหมดผีบ้าออกก่อน สไตล์ซาตานอีลิทเอาตังล่อคนไทยเหมือนเดิมเพื่อตอนควายวัวแพะแกะเข้าระบบควบคุมมนุษย์มันอย่างสมบูรณ์อนาคตคงฝังชิปใส่ตัวทุกๆคนไทยเพื่อเข้าถึงสวัสดิการทั้งหมดล่ะ,คือเอาสวัสดิการมาล่อ,แบบเดอะแก๊งเงินบุญหรือเดอะแก๊งgesara nesaraตังUBIเอย ปลดหนี้สินเด็กๆนักเรียนนักศึกษาและประชาชนเอย,แนวคิดโคตรพ่อโคตรแมร่งมันมาจากอเมริกาอีกล่ะ,ล้างสมองผ่านสิ่งนี้ เพราะท้ายสุดพ่อมันตายสิ่งนี้ก็ยังไม่เห็นจริงสักที เขมรว่าสันดานโคตรตอแหลหลอกลวงแล้ว อเมริกายิ่งโคตรมหาตอแหลหลอกลวงอีก กูรูสายฝ่ายแสงไทยบอกว่าตังโอนเข้าประเทศไทยแล้วกว่า1×10¹²⁰ แค่1×10²⁰ก็บุญหัวแล้ว คนไทยจะได้ตังร่ำรวยขนาดไหน แต่ขอโทษ อเมริกาได้100,000$/เดือน ,ไทยได้25,000บาทต่อเดือนพะนะ,หรือ1,000,000บาทแค่40เดือนพอ,อเมริกาปล้นตังวาติกันได้กว่า1×10⁸⁰⁰โน้นหรือบางคนว่า1×10¹⁰⁰⁰ ,กูรูบางคนว่าประเทศไทยเป็นฮับปลดปล่อย โอนมารอกดปุ่มแล้ว1×10²⁰⁰เบื้องต้น,เริ่มหลังagenda30สำเร็จมันว่า ,ไทยคง2570เร่งเร็วขึ้น,ญี่ปุ่นปลดปล่อยnesaraแล้วพะนะ,คือมโนมากๆน่าจะเดอะแก๊งคอลเซนเตอร์เขมรนี้ล่ะ เก็งกำไรUSDสกุลรุ้งด้วยก็ว่า,ลงตามค่าครองชีพของแต่ละประเทศ,จากUBIกลายเป็นNITเสียแล้ว,แบบมุกค่าแรงอเมริกา3,000$ต่อวัน,ไทยไม่น้อยหน้าอวด300฿ต่อวันสู้โน้น,ตัดศูนย์ไม่หนึ่งตัว,สกุลแลกเปลี่ยน1$:35฿อีก มันคนละเรื่องเลย.

    ..จริงๆรัฐบาลนี้ไม่เหมาะสมในช่วงจังหวะนี้จะทำใดๆ,เพราะระบบยังไม่น่าเชื่อถือถูกแฮกเกอร์ดูดได้ปกติอยู่คือยังกากนั้นเอง,
    ..ภาษีจริงๆได้มาจากภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีปิโตรเลียมโดยส่วนใหญ่ ภาษีประชาชนจ่ายมากกว่าภาษีบริษัทนิติบุคคลอีกด้วย,รีดตังจากประชาชนดีๆนี้ล่ะ,ประชาชนไม่เกี่ยวเลยว่ารวมกันจ่ายหรือเก็บได้น้อย คนทำงานจ่ายมาก ต้องมาแบกภาระช่วยคนไม่ทำงาน ,ตรรกะนี้ถือว่าไม่สมควรมีรัฐบาลเพื่ออยู่ประจำชาติไทย,ตั้งบริษัทประเทศไทยแทนชื่อว่ารัฐบาลเถอะ,บริหารแบบบริษัทไป,หรือบริหารแบบกองทุนหมู่บ้านที่เข้มแข็งแทน เช่นกองทุนหมู่บ้านแห่งชาติแลนด์บริดจ์และคลองคอดกระเป็นต้น เป็นเจ้าของและร่วมบริหารจัดการจริง,มิใช่แบบรัฐบาลยกให้เอกชนต่างชาติหรือเอกชนไทยไปแดกตังจนร่ำรวยแบบยกบ่อน้ำมันทั่วประเทศไทยไปสำเร็จมาแล้ว,เนื้องานภาษีจริงๆคือภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีปิโตรเลียม รัฐบาลยึดอำนาจหากไม่ลดนั้นนี้ให้ต่างชาติหรือยึดทำบ่อน้ำมันเองจะพลิกเป็นร่ำรวยทันที,ภาษีบุุคคลธรรมดาจึงกากมากไม่กี่หมื่นล้านบาทต่อปี จากอดีต4-5พันล้านบาทต่อปีโดยเฉลี่ย,ส่วนภาษีนิติบุคคลยิ่งเก็บภาษีได้กากมาก3-4พันล้านบาทเอง,รัฐบาลจึงอ้างคนไทยทั้งประเทศต้องเข้าระบบภาษีทุกๆคนเพื่อป้องกันการเก็บภาษีหลุดออกจากระบบให้เก็บได้มากๆจึงเป็นตรรกขี้หมามากเล่าความเท็จโกหกแหกตาประชาชนแบบฉีดวัคซีนนั้นล่ะ ฉีดสารพิษเข้าร่างกายแท้ๆแต่รัฐบาลกลับปกปิดถึงปัจจุบัน ไม่มีความรับผิดชอบในชีวิตประชาชนเลยที่ตนทำกิจกรรมกิจการการเป็นรัฐบาลที่ผิดพลาด,นี้NITนี้ต้องการติดตามกิจกรรม สอดแนมวิถีชีวิตประชาชนแค่นั้นสังเกตุคือผีบ้าอ้างเชื่อมโยงสุขภาพจะเน้นๆกว่าสะท้อนการช่วยเหลือทางการเงิน,อนาคตคือคุณไม่มีอะไรใดๆเลย คุณจะมีความสุขนั้นล่ะ,แม้แต่ชีวิตหรือจิตวิญญาณคุณก็จะไม่เหลือ,คำว่ารัฐบาลเราต้องยกเลิกการใช้คำจริงๆ มันคือการบริหารกิจการประเทศผ่านชื่อสมมุติว่ารัฐบาลนี้ล่ะแต่ภาคประชาชนกลับไม่สามารถจัดการรัฐบาลตนเองได้,ไล่ออกรัฐบาลไม่ซื่อสัตย์ก็ไม่ได้ ยังมีพนักงานบัดสบรากงอกในบริษัทรัฐบาลนี้ปกติ ไปแค่นักการเมืองประมาณนั้นที่เชื่อว่าชั่วแต่โคตรชั่วไม่แพ้กันคือพวกรากงอกสร้างระบบเจ้าพ่ออิทธิพลทั่วเต็มบริษัทรัฐบาลนี้ล่ะ,

    ..จึงต้องล้างระบบทิ้งทั้งหมดจริงๆก่อน,ระบบภาษีล้างทิ้งทั้งหมดด้วยแล้วสร้างใหม่ สวัสดิการและภาษีที่ซ้ำๆซ้อนๆกัน เก็บเอาเปรียบคนไทยทุกๆคนจะคนธรรมดาหรือเจ้าของกิจการก็ต้องยกเลิกด้วย,ง่ายๆคือล้างกระดานใหม่ทั้งหมด.

    ..มโนเล่นๆ สมมุติไทยเข้าถึงระบบควอนตัมแล้วมีฐานมหาบิ๊กดาต้าพร้อมรับเข้าส่งออกเรียลไทม์มหาศาลแล้ว.,"บริษัทกองทุนประเทศไทย" ชื่อแทนชื่อรัฐบาลไทย,แจกมือถือควอนตัมคุณภาพสูงทุกๆคนไทยห้ามฝังชิปใส่ตัว,ทำธุรกรรมการเงินเรื่องตังจะใช้จ่ายจะรับเข้าให้ใช้มือถือแทน แน่นอนบาทคอยน์อินทนนท์มาใช้ในที่นี้จริงนั้นเอง,ตื๊ดๆตื๊ดๆรับเข้าโอนออก จ่ายออก ได้ตังมา ใช้มือถือควอนตัมนี้จบ,จะจบการทุจริตเงินมืดเงินเทาเงินเถื่อนเงินใต้โต๊ะเงินซื้อเสียงเงินขานเสียงเงินฮั๊วเงินถุงขนมตกหน้าศาล เงินแจกกล้วยในทั้งสภาได้เลยก็ว่าและเงินสาระพัดชั่วเลวระยำใดๆจะสิ้นซากหมด สามารถตามติดธุรกรรมเลวชั่วได้เรียลไทม์ทั้งหมดด้วย เป็นต้น,1คนไทย1 IDบัตรปชช.1 เลขมือถือควอนตัม 1บัญชีตังดิจิดัลบาทคอยน์อินทนนท์เท่านั้น จะมี1บาทคอยน์หรือ10ล้านล้านบาทคอยน์ก็มีได้แค่1บัญชีธนาคารตังดิจิดัลส่วนตัวเอกเทศปัจเจกบุคคลของใครของมันเฉพาะตัว,จากนั้นคุณจะอัดสวัสดิการใดๆ ล้างหนี้ประชาชนใดๆ เก็บภาษีลักษณะใดๆระบบจะรันอัตโนมัติคิดคำนวนอัตโนมัติเรียลไทม์ให้แบบเชื่อมต่อเน็ตstarlinkนั้นล่ะ อยู่ทุกๆที่ทุกๆเวลาทำทุกๆธุรกรรมการเงินได้,นี้คือการว่าด้วยตังเพียว,สามารถเก็บภาษีสินค้าอุปโภคและบริโภคอย่างเดียวก็ได้,สามารถเก็บภาษีเงินไหลเข้าตังไหลเข้ามือถือคนๆนั้นฝ่ายเดียวก็ได้เพื่อบรรลุเป้าหมายว่าคุณมีรายได้รับเข้ามาจริงแล้วต้องจ่ายส่วยจ่ายตังจ่ายภาษีให้เสียดีๆก็ว่า,เช่นเงินเข้า100บาท ระบบก็หักอัตโมัติ0.01บาทเป็นภาษีเงินเข้ารายรับรายได้ประชาชนจริง,เหลือคือ99.99บาทก็ไปรวมยอดสะสมที่มือถือนั้นสามารถตื๊ดๆใช้จ่ายออกไปได้จริงต่อไป,ใครตังเข้ามือถือหักออโต้ก็ว่า,ตลอดธุรกรรมจับจ่ายแลกเปลี่ยนโอนตังออก รับตังเข้า กระแสเงินสะพัดหมุนเวียนทั่วไทยและทั่วโลกของคนไทยค้าขายคือวันละ100ล้านล้านบาทต่อวันแบบเวอร์ๆ,ตังที่เก็บหักออโต้ได้คือ0.01ล้านล้านบาทต่อวันนั้นเอง,กรณีบวกสาระพัดจาก0.01+0.07กรณีภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยก็คือ0.08,หรือvatแบบผีบ้าnesaraมันคิดเหมารวมที่0.14+0.01=0.15ก็สบายมาก ,จะเป็น0.15ล้านล้านบาทต่อวันหักออโต้เป็นตัวภาษีชาติไทยทันที,100วันคือ15ล้านล้านบาท,200วันคือ30ล้านล้านบาท,300วันคือ45ล้านล้านบาท,คือไม่เก็บภาษีใดๆเลย,ให้ประชาชนทำกิจกรรมเต็มที่ ใครอยากเปิดบริษัทไม่ต้องเสียภาษีนิติบุคคล,ประชาชนมนุษย์เงินเดือนใดๆไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอะไรใดๆ,และภาษีอื่นๆก็ว่า,โดยทั้งหมดค่อยๆคลายปลดไป,จนหมดจนสมดุลได้ดังเป้า ค้าขายฮับไทยระดับโลกก็ว่า,ใครมาทำธุรกรรมบนแผ่นดิน มาเปิดสาขาตั้งสำนักงานใดๆใหญ่น้อยเข้าระบบเราคือจบ,บาทคอยน์คือสกุลเงินโลกอาจไม่ผิด ใครทำธุรกรรมผ่านบาทคอยน์เสีย0.15ไปเลยก็ว่า,หรือ0.01กรณีโอนตังรับตังเข้ามือถือมิใช่ค้าขายการตลาดหรือบริษัท.,คือเสน่หาก็ว่า, นี้มโนเพียวๆ,ระบบไทยเรากากมั้ย ถ้าล้ำๆแบบทำที่ว่าได้ทันทีมั้ย,เงินมืดเงินเทาจะตายทันที,คนควบคุมตังดิจิดัลบาทคอยน์ของไทยจึงสำคัญมากๆ,เสือกคีย์ตังผีบ้าตีประเมินผีบ้าคีย์ตัวเลขสัก10ล้านล้านบาทหรือ1,000ล้านล้านบาทคอยน์บรรลัยกินทั้งระบบแน่นอนคือฟอกเงินให้ตังเทาพินาศแน่นอนนั่นเอง,ทั้งเงินใต้ดินเงินเทาเงินเถื่อนเงินที่เข้าใจว่าหนีภาษีสไตล์นักการเมืองแหกตาหรือคนราชการแหกอกว่าฉันต้องใช้NITกับประชาชนทุกๆคนนะจะจบไปทันที,ตังเถื่อนๆใต้เงินพวกนั้นจะไร้ค่่ของจริงทันที,อย่าว่าแต่หนีภาษีที่ฉันรัฐบาลอยากเก็บภาษีกับเงินห่าเหวพวกนี้เลย,บาทเดียวสลึงเดียวอาจไม่ได้เลยเพราะระบบตังดิจิดัลที่ว่าฆ่าทิ้งพวกนั้นนี้หมด,แบงค์ชาติเอาจริงจะไม่ใครในชาติไทยนี้หลบหนีการฟอกเงินได้หรอก,แบงค์ชาติเห็นหมดล่ะทุกๆธุรกรรมของใครๆ,แบงค์ชาติไม่ใช่ของคนไทยแต่เป็นของต่างชาติของอีลิทdeep stateควบคุมสั่งการและก่อตั้ง,แบงค์ชาติผีบ้าอะไรที่รัฐบาลไทยตนเข้าควบคุมสั่งการไม่ได้,แม้ไม่ใช่รัฐบาลทหารไทยเป็นฝ่สยตรงข้ามเราก็เถอะ,เป็นรัฐบาลประชาชนคนดีๆก็ตาม มันเขียนกฎหมายกติกาสาระพัดให้โทษใครก็ตามหมายจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวในกิจกรรมกิจการของเครือข่ายdeep stateสากลข้ามมาไทยยึดไทยมรุงอักเสบแน่ถูกมันจัดการนั้นเอง,
    ..วาระNITเป็นวาระหนึ่งในการควบคุมมนุษย์ของแผนagenda2030นี้ล่ะ,ด้านหนึ่งในหลายๆด้านหลายๆหมากกันผิดพลาดก็ได้ แบบคาร์บอนเครดิตหรือพรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนั้นล่ะ.
    ..NITนี้ยังไม่มีรายละเอียดชี้แจงแก่ประชาชนชัดเจนเข้าใจตรงกันในเนื้อในใดๆเลย กะมาแบบมุกเดิมๆใช้ตังล่อ ทำแล้วได้รับเศษตังนะ บังคับมาทำไวๆเร็วด้วย,ผิดปกติประชาธิปไตย ไร้ลงมติเห็นด้วยหรือไม่แก่ประชาชน มัดมือชกโดยกระบวนฝ่ายราชการประจำอีก,ราชการประจำนี้ล่ะเหี้ยนิ่งเฉยในพื้นที่สระแก้วจนบ้านหนองจานถูกเขมรยึดทำกินเสียนานกว่า30-40ปีหลังหนีตายเขมรแดงมาไทย,ข้าราชการพื้นที่แบบนานอำเภอผู้ว่าฯจังหวัดนั้นๆละเว้นปฏิบัติหน้าที่ถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยชัดเจนด้วย,คือระบบราชการไทยล้มเหลวทั้งระบบในตัวมันเอง กากไร้ประสิทธิภาพด้วย ทุจริตเต็มบ้านเต็มเมืองก็มาจากหน่วยงานราชการเองตนปล่อยปะละเลยในตำแหน่งราชการปกครองจนเหี้ยถึงปัจจุบัน,มารีดไถประชาชนอีกผ่านให้ทุกๆคนเข้าระบบภาษี,เน้นเชื่อมโยงสุขภาพด้วยคือใครยังไม่ฉีดวัคซีน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอำนาจข้าราชการประจำกระทรวงทบวงกรมประกาศ กูจะมีสิทธิตัดสิทธิสวัสดิการมรึงๆคนไทยทั้งหมดนะหรือคนไทยคนนั้นๆถ้าขัดขืนไม่ปฏิบัติตามรัฐบอก,คือประชาชนถูกไล่ล่าถีบออกจากพวกได้นั้นเอง,หากยิ่งเจอการปกครองแบบเผด็จการฮุนเซนควบคุมระบบจะมิตายเหรอ,ขนาดกำลังทำสงคราม ยังไม่สงบสุข คลังผีบ้าเสือกกล้าหาญชิงมาประกาศห่าเหวอะไร บังคับคนในอนาคตแบบนั้น,จะมามุกแบบประกาศล่วงหน้าใส่หมวกกันน็อคล่ะ ถึงเวลากูฝ่ายราชการประจำประกาศบังคับใช้เลย,นี้คือเผด็จการจากระบบราชการไทยฝ่ายธุรการราชการไทยชัดเจน,เผลอๆคิดเล่นๆฝ่ายราชการไทยนี้ล่ะแทรกแซงระบบประชาธิปไตย ทำลายประชาธิปไตยคนไทยให้ด้อยค่า,โดยใส่คนของราชการเต็มระบบนักการเมือง,ใส่ชุดนักการเมืองจากนั้นแสดงออกสาระพัดเลวชั่วในคราบนักการเมืองที่ตนสวมใส่ว่านักการเมืองในระบบนี้เลวชั่วช้าอย่างไร แล้วมันก็เขียนกฎหมายชั่วๆเลวๆสาระพัดออกมาใช้บังคับประชาชนโดยอ้างว่านักการเมืองสั่ง นักการเมืองอนุญาตแล้วนะ,มโนในมุมหักมุมว่าเหี้ยคนข้าราชการนี้ล่ะเข้ามาเล่นการเมืองในคราบชุดนักการเมืองแล้วแดกสาระพัดสร้างความเดือดร้อนสาระพัดทิศทั่วไทยหรือคือกลุ่มอนุรักษ์นิยมอำมาตย์เจ้าพระยาขุนเจ้าผู้ดีต่างๆนี้เพื่ออะไร เพื่อตนเองจะได้มีสิทธิอันชอบธรรมคืนสถานะเดิมศักดินาเดิมผู้ดีกลับคืนมาอีกครั้ง,คือผีบ้ายศบ้าตำแหน่งบ้าปกครองให้คนเป็นทาส เห็นคนรับใช้เป็นทาสตนแล้วมีความสุขในการเหยียบมนุษย์ด้วยกันนั้นเองแบบในอดีตที่พวกนี้ชอบชมใจชื่นชูแก่ใจมันนักยิ่งนั้นเอง,เรา..ประชาชนเห็นนักการเมืองเหี้ยนี้เลวชั่วจริง เขียนกฎหมายผีบ้าจริงมากมายด้วย ยังอยากไม่ให้มีสถาบันนักการเมืองหรือสภาเลย.,นี้คือมโนเพียวๆหักมุมอีกด้าน.
    ..ปัจจุบันประเทศไทยสมควรกวาดล้างจริงจังต่อคนชั่วเลวทั้งในระบบนักการเมืองและในระบบราชการกันจริงจังจริงๆ,
    ..ผู้นำผู้ปกครองต้องสไตล์คนอารยะธรรมจักรวาลขั้นสูงลงมาเกิดในมิตินี้ที่ไทยเรา,เป็นนักปกครองมาเกิดด้วยนั้นเอง,เราปกครองกากๆมานานเกินพอแล้ว.,จนเขมรซึ่งคือแค่เขมรยังมาเหยียบประเทศไทยได้,เหยียบย้ำศักดิ์ศรีไม่พอฆ่าเด็กๆเราแบบไม่รู้ตัวด้วย,รัฐบาลชุดทหารเป็นฝ่ายจรงข้ามเราสมควรหมดอำนาจทันทีตั้งแต่ก่อนวันที่28 ก.ค.2568แล้ว,นี้คือความไม่เด็ดขาดของ ผบ.ทหารสูงสุดเรา,ถ้าส่วนตัวเป็นนายกฯจะออกพรก.ฉุกเฉินยึดอำนาจตัวเอง,จากนั้นตั้งบิ๊กปู พนา เป็น ผบ.สูงสุดเลย,รองผบ.สูงสุดคือบิ๊กกุ้ง,คุมทัพจัดการกวาดล้างเขมร เด็ดหัวฮุนเซนฮุนมาเนตทันที, ประสานลาว เวียดนามร่วมรบเพื่อจัดสรรพื้นที่เขมรจริงจัง เพราะไทยยึดเขมรเองจะน่าเกียจเกินไป,จากนั้นเริ่มปฐมบทกวาดล้างสิ่งสกปรกจริงทั้งแผ่นดินไทยจริงๆเพื่ออัพเรเวลใหม่สู่ยุคอารยะธรรมท่องจักรวาลจริงๆ.,เรื่องเขมรเป็นอะไรที่ไร้สาระมาก,ทุบทิ้งลบชื่อเขมรออกจากแผ่นที่โลกเลย.,อนาคตชื่อประเทศเขมรไม่ปรากฎในคำทำนายก็เป็นเพราะเหตุนี้ด้วยมิใช่แค่แผ่นดินเขมรมุดลงทะเลแปซิฟิกหรอกก็ว่า.

    https://youtube.com/watch?v=a1dOy2xO08k&si=aTzjrtvryMM7K4Eo

    ผีบ้าร่ายเสียยาว.อย่าว่ากันเด้อใครที่ผ่านเข้ามาในบ้านในเพจเรา.555 ..มั่ว ระบบมั่ว,แค่อยากเก็บตังจากประชาชนให้มากๆเท่านั้น,กฎหมายลักหลับประชาชน จะหลอยหลอนออกทีหลังที่บ้านเมืองโกลาหลวุ่นวายตลอด โป๊กเกอร์คือตัวอย่าง อะไรที่ไม่สำเร็จในยุคโทนี่ สำเร็จเกือบหมดในยุคยึดอำนาจจาก กปปส.ถวายพาน,นี้ก็ด้วย พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศก็ผ่านแล้ว,นี้ก็อีกมัดมือชกตอนไทยทหารไทยและประชาชนกำลังต่อสู้กับภัยอธิปไตยชาติไทย เสือกหน้ามึนมาบังคับประกาศให้ประชาชนต้องทำตามคลังจากสมัยรัฐบาลที่ทหารเป็นฝ่ายตรงข้ามเรานะ กะผูกผันต้องทำตามนะ,เป็นท่านนี้ถ้าได้เป็นนายกฯนะจะยกเลิกทันทีเช่นกัน,ล้างระบบทั้งหมดผีบ้าออกก่อน สไตล์ซาตานอีลิทเอาตังล่อคนไทยเหมือนเดิมเพื่อตอนควายวัวแพะแกะเข้าระบบควบคุมมนุษย์มันอย่างสมบูรณ์อนาคตคงฝังชิปใส่ตัวทุกๆคนไทยเพื่อเข้าถึงสวัสดิการทั้งหมดล่ะ,คือเอาสวัสดิการมาล่อ,แบบเดอะแก๊งเงินบุญหรือเดอะแก๊งgesara nesaraตังUBIเอย ปลดหนี้สินเด็กๆนักเรียนนักศึกษาและประชาชนเอย,แนวคิดโคตรพ่อโคตรแมร่งมันมาจากอเมริกาอีกล่ะ,ล้างสมองผ่านสิ่งนี้ เพราะท้ายสุดพ่อมันตายสิ่งนี้ก็ยังไม่เห็นจริงสักที เขมรว่าสันดานโคตรตอแหลหลอกลวงแล้ว อเมริกายิ่งโคตรมหาตอแหลหลอกลวงอีก กูรูสายฝ่ายแสงไทยบอกว่าตังโอนเข้าประเทศไทยแล้วกว่า1×10¹²⁰ แค่1×10²⁰ก็บุญหัวแล้ว คนไทยจะได้ตังร่ำรวยขนาดไหน แต่ขอโทษ อเมริกาได้100,000$/เดือน ,ไทยได้25,000บาทต่อเดือนพะนะ,หรือ1,000,000บาทแค่40เดือนพอ,อเมริกาปล้นตังวาติกันได้กว่า1×10⁸⁰⁰โน้นหรือบางคนว่า1×10¹⁰⁰⁰ ,กูรูบางคนว่าประเทศไทยเป็นฮับปลดปล่อย โอนมารอกดปุ่มแล้ว1×10²⁰⁰เบื้องต้น,เริ่มหลังagenda30สำเร็จมันว่า ,ไทยคง2570เร่งเร็วขึ้น,ญี่ปุ่นปลดปล่อยnesaraแล้วพะนะ,คือมโนมากๆน่าจะเดอะแก๊งคอลเซนเตอร์เขมรนี้ล่ะ เก็งกำไรUSDสกุลรุ้งด้วยก็ว่า,ลงตามค่าครองชีพของแต่ละประเทศ,จากUBIกลายเป็นNITเสียแล้ว,แบบมุกค่าแรงอเมริกา3,000$ต่อวัน,ไทยไม่น้อยหน้าอวด300฿ต่อวันสู้โน้น,ตัดศูนย์ไม่หนึ่งตัว,สกุลแลกเปลี่ยน1$:35฿อีก มันคนละเรื่องเลย. ..จริงๆรัฐบาลนี้ไม่เหมาะสมในช่วงจังหวะนี้จะทำใดๆ,เพราะระบบยังไม่น่าเชื่อถือถูกแฮกเกอร์ดูดได้ปกติอยู่คือยังกากนั้นเอง, ..ภาษีจริงๆได้มาจากภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีปิโตรเลียมโดยส่วนใหญ่ ภาษีประชาชนจ่ายมากกว่าภาษีบริษัทนิติบุคคลอีกด้วย,รีดตังจากประชาชนดีๆนี้ล่ะ,ประชาชนไม่เกี่ยวเลยว่ารวมกันจ่ายหรือเก็บได้น้อย คนทำงานจ่ายมาก ต้องมาแบกภาระช่วยคนไม่ทำงาน ,ตรรกะนี้ถือว่าไม่สมควรมีรัฐบาลเพื่ออยู่ประจำชาติไทย,ตั้งบริษัทประเทศไทยแทนชื่อว่ารัฐบาลเถอะ,บริหารแบบบริษัทไป,หรือบริหารแบบกองทุนหมู่บ้านที่เข้มแข็งแทน เช่นกองทุนหมู่บ้านแห่งชาติแลนด์บริดจ์และคลองคอดกระเป็นต้น เป็นเจ้าของและร่วมบริหารจัดการจริง,มิใช่แบบรัฐบาลยกให้เอกชนต่างชาติหรือเอกชนไทยไปแดกตังจนร่ำรวยแบบยกบ่อน้ำมันทั่วประเทศไทยไปสำเร็จมาแล้ว,เนื้องานภาษีจริงๆคือภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีปิโตรเลียม รัฐบาลยึดอำนาจหากไม่ลดนั้นนี้ให้ต่างชาติหรือยึดทำบ่อน้ำมันเองจะพลิกเป็นร่ำรวยทันที,ภาษีบุุคคลธรรมดาจึงกากมากไม่กี่หมื่นล้านบาทต่อปี จากอดีต4-5พันล้านบาทต่อปีโดยเฉลี่ย,ส่วนภาษีนิติบุคคลยิ่งเก็บภาษีได้กากมาก3-4พันล้านบาทเอง,รัฐบาลจึงอ้างคนไทยทั้งประเทศต้องเข้าระบบภาษีทุกๆคนเพื่อป้องกันการเก็บภาษีหลุดออกจากระบบให้เก็บได้มากๆจึงเป็นตรรกขี้หมามากเล่าความเท็จโกหกแหกตาประชาชนแบบฉีดวัคซีนนั้นล่ะ ฉีดสารพิษเข้าร่างกายแท้ๆแต่รัฐบาลกลับปกปิดถึงปัจจุบัน ไม่มีความรับผิดชอบในชีวิตประชาชนเลยที่ตนทำกิจกรรมกิจการการเป็นรัฐบาลที่ผิดพลาด,นี้NITนี้ต้องการติดตามกิจกรรม สอดแนมวิถีชีวิตประชาชนแค่นั้นสังเกตุคือผีบ้าอ้างเชื่อมโยงสุขภาพจะเน้นๆกว่าสะท้อนการช่วยเหลือทางการเงิน,อนาคตคือคุณไม่มีอะไรใดๆเลย คุณจะมีความสุขนั้นล่ะ,แม้แต่ชีวิตหรือจิตวิญญาณคุณก็จะไม่เหลือ,คำว่ารัฐบาลเราต้องยกเลิกการใช้คำจริงๆ มันคือการบริหารกิจการประเทศผ่านชื่อสมมุติว่ารัฐบาลนี้ล่ะแต่ภาคประชาชนกลับไม่สามารถจัดการรัฐบาลตนเองได้,ไล่ออกรัฐบาลไม่ซื่อสัตย์ก็ไม่ได้ ยังมีพนักงานบัดสบรากงอกในบริษัทรัฐบาลนี้ปกติ ไปแค่นักการเมืองประมาณนั้นที่เชื่อว่าชั่วแต่โคตรชั่วไม่แพ้กันคือพวกรากงอกสร้างระบบเจ้าพ่ออิทธิพลทั่วเต็มบริษัทรัฐบาลนี้ล่ะ, ..จึงต้องล้างระบบทิ้งทั้งหมดจริงๆก่อน,ระบบภาษีล้างทิ้งทั้งหมดด้วยแล้วสร้างใหม่ สวัสดิการและภาษีที่ซ้ำๆซ้อนๆกัน เก็บเอาเปรียบคนไทยทุกๆคนจะคนธรรมดาหรือเจ้าของกิจการก็ต้องยกเลิกด้วย,ง่ายๆคือล้างกระดานใหม่ทั้งหมด. ..มโนเล่นๆ สมมุติไทยเข้าถึงระบบควอนตัมแล้วมีฐานมหาบิ๊กดาต้าพร้อมรับเข้าส่งออกเรียลไทม์มหาศาลแล้ว.,"บริษัทกองทุนประเทศไทย" ชื่อแทนชื่อรัฐบาลไทย,แจกมือถือควอนตัมคุณภาพสูงทุกๆคนไทยห้ามฝังชิปใส่ตัว,ทำธุรกรรมการเงินเรื่องตังจะใช้จ่ายจะรับเข้าให้ใช้มือถือแทน แน่นอนบาทคอยน์อินทนนท์มาใช้ในที่นี้จริงนั้นเอง,ตื๊ดๆตื๊ดๆรับเข้าโอนออก จ่ายออก ได้ตังมา ใช้มือถือควอนตัมนี้จบ,จะจบการทุจริตเงินมืดเงินเทาเงินเถื่อนเงินใต้โต๊ะเงินซื้อเสียงเงินขานเสียงเงินฮั๊วเงินถุงขนมตกหน้าศาล เงินแจกกล้วยในทั้งสภาได้เลยก็ว่าและเงินสาระพัดชั่วเลวระยำใดๆจะสิ้นซากหมด สามารถตามติดธุรกรรมเลวชั่วได้เรียลไทม์ทั้งหมดด้วย เป็นต้น,1คนไทย1 IDบัตรปชช.1 เลขมือถือควอนตัม 1บัญชีตังดิจิดัลบาทคอยน์อินทนนท์เท่านั้น จะมี1บาทคอยน์หรือ10ล้านล้านบาทคอยน์ก็มีได้แค่1บัญชีธนาคารตังดิจิดัลส่วนตัวเอกเทศปัจเจกบุคคลของใครของมันเฉพาะตัว,จากนั้นคุณจะอัดสวัสดิการใดๆ ล้างหนี้ประชาชนใดๆ เก็บภาษีลักษณะใดๆระบบจะรันอัตโนมัติคิดคำนวนอัตโนมัติเรียลไทม์ให้แบบเชื่อมต่อเน็ตstarlinkนั้นล่ะ อยู่ทุกๆที่ทุกๆเวลาทำทุกๆธุรกรรมการเงินได้,นี้คือการว่าด้วยตังเพียว,สามารถเก็บภาษีสินค้าอุปโภคและบริโภคอย่างเดียวก็ได้,สามารถเก็บภาษีเงินไหลเข้าตังไหลเข้ามือถือคนๆนั้นฝ่ายเดียวก็ได้เพื่อบรรลุเป้าหมายว่าคุณมีรายได้รับเข้ามาจริงแล้วต้องจ่ายส่วยจ่ายตังจ่ายภาษีให้เสียดีๆก็ว่า,เช่นเงินเข้า100บาท ระบบก็หักอัตโมัติ0.01บาทเป็นภาษีเงินเข้ารายรับรายได้ประชาชนจริง,เหลือคือ99.99บาทก็ไปรวมยอดสะสมที่มือถือนั้นสามารถตื๊ดๆใช้จ่ายออกไปได้จริงต่อไป,ใครตังเข้ามือถือหักออโต้ก็ว่า,ตลอดธุรกรรมจับจ่ายแลกเปลี่ยนโอนตังออก รับตังเข้า กระแสเงินสะพัดหมุนเวียนทั่วไทยและทั่วโลกของคนไทยค้าขายคือวันละ100ล้านล้านบาทต่อวันแบบเวอร์ๆ,ตังที่เก็บหักออโต้ได้คือ0.01ล้านล้านบาทต่อวันนั้นเอง,กรณีบวกสาระพัดจาก0.01+0.07กรณีภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยก็คือ0.08,หรือvatแบบผีบ้าnesaraมันคิดเหมารวมที่0.14+0.01=0.15ก็สบายมาก ,จะเป็น0.15ล้านล้านบาทต่อวันหักออโต้เป็นตัวภาษีชาติไทยทันที,100วันคือ15ล้านล้านบาท,200วันคือ30ล้านล้านบาท,300วันคือ45ล้านล้านบาท,คือไม่เก็บภาษีใดๆเลย,ให้ประชาชนทำกิจกรรมเต็มที่ ใครอยากเปิดบริษัทไม่ต้องเสียภาษีนิติบุคคล,ประชาชนมนุษย์เงินเดือนใดๆไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอะไรใดๆ,และภาษีอื่นๆก็ว่า,โดยทั้งหมดค่อยๆคลายปลดไป,จนหมดจนสมดุลได้ดังเป้า ค้าขายฮับไทยระดับโลกก็ว่า,ใครมาทำธุรกรรมบนแผ่นดิน มาเปิดสาขาตั้งสำนักงานใดๆใหญ่น้อยเข้าระบบเราคือจบ,บาทคอยน์คือสกุลเงินโลกอาจไม่ผิด ใครทำธุรกรรมผ่านบาทคอยน์เสีย0.15ไปเลยก็ว่า,หรือ0.01กรณีโอนตังรับตังเข้ามือถือมิใช่ค้าขายการตลาดหรือบริษัท.,คือเสน่หาก็ว่า, นี้มโนเพียวๆ,ระบบไทยเรากากมั้ย ถ้าล้ำๆแบบทำที่ว่าได้ทันทีมั้ย,เงินมืดเงินเทาจะตายทันที,คนควบคุมตังดิจิดัลบาทคอยน์ของไทยจึงสำคัญมากๆ,เสือกคีย์ตังผีบ้าตีประเมินผีบ้าคีย์ตัวเลขสัก10ล้านล้านบาทหรือ1,000ล้านล้านบาทคอยน์บรรลัยกินทั้งระบบแน่นอนคือฟอกเงินให้ตังเทาพินาศแน่นอนนั่นเอง,ทั้งเงินใต้ดินเงินเทาเงินเถื่อนเงินที่เข้าใจว่าหนีภาษีสไตล์นักการเมืองแหกตาหรือคนราชการแหกอกว่าฉันต้องใช้NITกับประชาชนทุกๆคนนะจะจบไปทันที,ตังเถื่อนๆใต้เงินพวกนั้นจะไร้ค่่ของจริงทันที,อย่าว่าแต่หนีภาษีที่ฉันรัฐบาลอยากเก็บภาษีกับเงินห่าเหวพวกนี้เลย,บาทเดียวสลึงเดียวอาจไม่ได้เลยเพราะระบบตังดิจิดัลที่ว่าฆ่าทิ้งพวกนั้นนี้หมด,แบงค์ชาติเอาจริงจะไม่ใครในชาติไทยนี้หลบหนีการฟอกเงินได้หรอก,แบงค์ชาติเห็นหมดล่ะทุกๆธุรกรรมของใครๆ,แบงค์ชาติไม่ใช่ของคนไทยแต่เป็นของต่างชาติของอีลิทdeep stateควบคุมสั่งการและก่อตั้ง,แบงค์ชาติผีบ้าอะไรที่รัฐบาลไทยตนเข้าควบคุมสั่งการไม่ได้,แม้ไม่ใช่รัฐบาลทหารไทยเป็นฝ่สยตรงข้ามเราก็เถอะ,เป็นรัฐบาลประชาชนคนดีๆก็ตาม มันเขียนกฎหมายกติกาสาระพัดให้โทษใครก็ตามหมายจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวในกิจกรรมกิจการของเครือข่ายdeep stateสากลข้ามมาไทยยึดไทยมรุงอักเสบแน่ถูกมันจัดการนั้นเอง, ..วาระNITเป็นวาระหนึ่งในการควบคุมมนุษย์ของแผนagenda2030นี้ล่ะ,ด้านหนึ่งในหลายๆด้านหลายๆหมากกันผิดพลาดก็ได้ แบบคาร์บอนเครดิตหรือพรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนั้นล่ะ. ..NITนี้ยังไม่มีรายละเอียดชี้แจงแก่ประชาชนชัดเจนเข้าใจตรงกันในเนื้อในใดๆเลย กะมาแบบมุกเดิมๆใช้ตังล่อ ทำแล้วได้รับเศษตังนะ บังคับมาทำไวๆเร็วด้วย,ผิดปกติประชาธิปไตย ไร้ลงมติเห็นด้วยหรือไม่แก่ประชาชน มัดมือชกโดยกระบวนฝ่ายราชการประจำอีก,ราชการประจำนี้ล่ะเหี้ยนิ่งเฉยในพื้นที่สระแก้วจนบ้านหนองจานถูกเขมรยึดทำกินเสียนานกว่า30-40ปีหลังหนีตายเขมรแดงมาไทย,ข้าราชการพื้นที่แบบนานอำเภอผู้ว่าฯจังหวัดนั้นๆละเว้นปฏิบัติหน้าที่ถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยชัดเจนด้วย,คือระบบราชการไทยล้มเหลวทั้งระบบในตัวมันเอง กากไร้ประสิทธิภาพด้วย ทุจริตเต็มบ้านเต็มเมืองก็มาจากหน่วยงานราชการเองตนปล่อยปะละเลยในตำแหน่งราชการปกครองจนเหี้ยถึงปัจจุบัน,มารีดไถประชาชนอีกผ่านให้ทุกๆคนเข้าระบบภาษี,เน้นเชื่อมโยงสุขภาพด้วยคือใครยังไม่ฉีดวัคซีน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอำนาจข้าราชการประจำกระทรวงทบวงกรมประกาศ กูจะมีสิทธิตัดสิทธิสวัสดิการมรึงๆคนไทยทั้งหมดนะหรือคนไทยคนนั้นๆถ้าขัดขืนไม่ปฏิบัติตามรัฐบอก,คือประชาชนถูกไล่ล่าถีบออกจากพวกได้นั้นเอง,หากยิ่งเจอการปกครองแบบเผด็จการฮุนเซนควบคุมระบบจะมิตายเหรอ,ขนาดกำลังทำสงคราม ยังไม่สงบสุข คลังผีบ้าเสือกกล้าหาญชิงมาประกาศห่าเหวอะไร บังคับคนในอนาคตแบบนั้น,จะมามุกแบบประกาศล่วงหน้าใส่หมวกกันน็อคล่ะ ถึงเวลากูฝ่ายราชการประจำประกาศบังคับใช้เลย,นี้คือเผด็จการจากระบบราชการไทยฝ่ายธุรการราชการไทยชัดเจน,เผลอๆคิดเล่นๆฝ่ายราชการไทยนี้ล่ะแทรกแซงระบบประชาธิปไตย ทำลายประชาธิปไตยคนไทยให้ด้อยค่า,โดยใส่คนของราชการเต็มระบบนักการเมือง,ใส่ชุดนักการเมืองจากนั้นแสดงออกสาระพัดเลวชั่วในคราบนักการเมืองที่ตนสวมใส่ว่านักการเมืองในระบบนี้เลวชั่วช้าอย่างไร แล้วมันก็เขียนกฎหมายชั่วๆเลวๆสาระพัดออกมาใช้บังคับประชาชนโดยอ้างว่านักการเมืองสั่ง นักการเมืองอนุญาตแล้วนะ,มโนในมุมหักมุมว่าเหี้ยคนข้าราชการนี้ล่ะเข้ามาเล่นการเมืองในคราบชุดนักการเมืองแล้วแดกสาระพัดสร้างความเดือดร้อนสาระพัดทิศทั่วไทยหรือคือกลุ่มอนุรักษ์นิยมอำมาตย์เจ้าพระยาขุนเจ้าผู้ดีต่างๆนี้เพื่ออะไร เพื่อตนเองจะได้มีสิทธิอันชอบธรรมคืนสถานะเดิมศักดินาเดิมผู้ดีกลับคืนมาอีกครั้ง,คือผีบ้ายศบ้าตำแหน่งบ้าปกครองให้คนเป็นทาส เห็นคนรับใช้เป็นทาสตนแล้วมีความสุขในการเหยียบมนุษย์ด้วยกันนั้นเองแบบในอดีตที่พวกนี้ชอบชมใจชื่นชูแก่ใจมันนักยิ่งนั้นเอง,เรา..ประชาชนเห็นนักการเมืองเหี้ยนี้เลวชั่วจริง เขียนกฎหมายผีบ้าจริงมากมายด้วย ยังอยากไม่ให้มีสถาบันนักการเมืองหรือสภาเลย.,นี้คือมโนเพียวๆหักมุมอีกด้าน. ..ปัจจุบันประเทศไทยสมควรกวาดล้างจริงจังต่อคนชั่วเลวทั้งในระบบนักการเมืองและในระบบราชการกันจริงจังจริงๆ, ..ผู้นำผู้ปกครองต้องสไตล์คนอารยะธรรมจักรวาลขั้นสูงลงมาเกิดในมิตินี้ที่ไทยเรา,เป็นนักปกครองมาเกิดด้วยนั้นเอง,เราปกครองกากๆมานานเกินพอแล้ว.,จนเขมรซึ่งคือแค่เขมรยังมาเหยียบประเทศไทยได้,เหยียบย้ำศักดิ์ศรีไม่พอฆ่าเด็กๆเราแบบไม่รู้ตัวด้วย,รัฐบาลชุดทหารเป็นฝ่ายจรงข้ามเราสมควรหมดอำนาจทันทีตั้งแต่ก่อนวันที่28 ก.ค.2568แล้ว,นี้คือความไม่เด็ดขาดของ ผบ.ทหารสูงสุดเรา,ถ้าส่วนตัวเป็นนายกฯจะออกพรก.ฉุกเฉินยึดอำนาจตัวเอง,จากนั้นตั้งบิ๊กปู พนา เป็น ผบ.สูงสุดเลย,รองผบ.สูงสุดคือบิ๊กกุ้ง,คุมทัพจัดการกวาดล้างเขมร เด็ดหัวฮุนเซนฮุนมาเนตทันที, ประสานลาว เวียดนามร่วมรบเพื่อจัดสรรพื้นที่เขมรจริงจัง เพราะไทยยึดเขมรเองจะน่าเกียจเกินไป,จากนั้นเริ่มปฐมบทกวาดล้างสิ่งสกปรกจริงทั้งแผ่นดินไทยจริงๆเพื่ออัพเรเวลใหม่สู่ยุคอารยะธรรมท่องจักรวาลจริงๆ.,เรื่องเขมรเป็นอะไรที่ไร้สาระมาก,ทุบทิ้งลบชื่อเขมรออกจากแผ่นที่โลกเลย.,อนาคตชื่อประเทศเขมรไม่ปรากฎในคำทำนายก็เป็นเพราะเหตุนี้ด้วยมิใช่แค่แผ่นดินเขมรมุดลงทะเลแปซิฟิกหรอกก็ว่า. https://youtube.com/watch?v=a1dOy2xO08k&si=aTzjrtvryMM7K4Eo
    0 Comments 0 Shares 587 Views 0 Reviews
More Results