• ต้มข้ามศตวรรษ – ที่แท้ก็โจร 1 – 3
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 1

    ขณะตัดสินใจเข้าทำสงครามโลก ในเดือนสิงหาคม 1914 อังกฤษ กระเป๋าแบน เศรษฐกิจร่องแร่ง และทองสำรองใน Bank of England ใกล้จะแห้งขอดอย่างน่าตกใจ อังกฤษไม่อยู่ในสภาพที่จะทำสงครามได้เลย อังกฤษรู้ตัวดี แต่อังกฤษก็เดินหน้าประกาศสงครามกับเยอรมันอย่างท่าดี ถ้าไม่ใช่เป็นนักพนันระดับเซียน ที่ลักไก่ เกจนหมดหน้าตัก ก็ต้องเป็นนักวางแผนที่เลือดเย็นและล้ำลึกอย่างน่ากลัว

    เดือนตุลาคม 1914 อังกฤษส่งคณะทำงานพิเศษ จากฝ่ายกิจกรรมสงครามของตนไปวอชิงตัน เพื่อเจรจาให้ทางวอชิงตันจัดการให้ภาคเอกชนของอเมริกา เป็นผู้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ สัมภาระและกำลังบำรุงให้ เพราะอเมริกาในฐานะประเทศเป็นกลางอย่างเป็นทางการ จะทำในฐานะประเทศไม่ได้ เลยเลี่ยงให้เอกชนออกหน้า

    อังกฤษเลือก J P Morgan & Co เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวในการจัดซื้อ Sole Purchasing Agent ดูเผินๆ เหมือนกับเป็นเรื่องเสี่ยงมาก ที่เลือกตัวแทนรายเดียว แต่เนื่องจากเป็นบทหนึ่งของละครลวงโลก เราจะเห็นว่า มันมีการเตรียมการอย่างแยบยลมา แล้ว ที่ให้อเมริกามี Federal Reserve System ที่สามารถทำให้ J P Morgan และพวก ซึ่งก็เป็นผู้บริหาร และเจ้าของ Federal Reseve Bank สามารถบริหารความเสี่ยงของตน ผ่านการควบคุมหนี้ของรัฐบาล พร้อมกับการควบคุมการพิมพ์ธนบัตรของประเทศในขณะเดียวกัน

    ด้วยวิธีการนี้ อังกฤษจึงสามารถเดินหน้า ทำสงครามได้อย่างสบายใจ อเมริกา โดยนักธุรกิจ เช่น Rockefeller, Morgan, Carnegie ฯลฯ ก็สบายใจ พวกเขาผลิต และขายสินค้า ส่งให้อังกฤษ ทำให้พากันรวยหนักกันขึ้นไปอีก และโดยไม่ต้องห่วงเรื่องจะต้องเสียภาษีเงินได้ก้อนใหญ่ให้ รัฐบาล เพราะบทในละครลวงโลก เรื่องภาษีนี้ ก็ได้มีจัดการหาทางออก เตรียมใว้เรียบร้อยแล้ว โดยนาย Wilson ได้ยอมให้แก้กฏหมายของอเมริกา ในปี 1913 ให้มูลนิธิเพื่อการกุศล ได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ และบรรดานายทุนเศรษฐีโตครรวยต่างๆของอเมริกา ก็พากันจดทะเบียนตั้งมูลนิธิ และโอนทรัพย์สินของตนไปไว้ในมูลนิธิ เพื่อเลี่ยงภาษี เช่น มูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Carnegie มูลนิธิ Ford เรียบร้อยก่อนที่จะได้อังกฤษ มาเป็นลูกหนี้
    นี่คือ ประชาธิปไตยแบบ ตะหวักตะบวยของอเมริกา ที่ยังมีสมันน้อยหลงชื่นชม

    Morgan ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้รัฐบาลอังกฤษ ในการจัดซื้อ อาวุธ กระสุน เครื่องแบบ เคมี ฯลฯ สาระพัด ที่จำเป็นสำหรับการทำสงครามในสมัย ค.ศ. 1914 และในฐานะเป็นตัวแทนดูแลด้านการ เงินด้วย Morgan ไม่ใช่แค่เลือกว่า “จะซื้ออะไร ” เขาเป็นผู้เลือกด้วยว่า “จะซื้อจากใคร” ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่กลุ่มธุรกิจในเครือข่ายของ Morgan และ Rockefeller คือกลุ่มที่ได้รับเลือกไปก่อน และรวยไปก่อน

    เมื่อ British War Office ถามประธาน J P Morgan คนใหม่คือ J P Morgan Jr. หรือที่เพื่อนเรียกว่า Jack ซึ่งขึ้นมารับตำแหน่งแทนพ่อที่ตายไปเมื่อ ปี 1913 ว่า รัฐบาลของ Wilson มีปัญหาหรือไม่ ที่สถาบันการเงินใหญ่ของอเมริกา เข้ามาช่วยเหลืออังกฤษอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับการสงคราม

    Jack ตอบว่า ไม่มีปัญหาครับเจ้านาย ไม่กระทบกับความเป็นกลางของรัฐบาลอเมริกัน อย่างแน่นอนที่สุด เพราะว่า Morgan ทำธุรกิจกับ British War Office และรัฐบาลของฝรั่งเศส เป็นการทำธุรกิจตามปรกติธรรมดา เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าขายต่อกัน ไม่ใช่เป็นข้อตกลงทางการเมือง หรือการฑูตแต่อย่างใด กลิ้งได้พริ้วจริงๆไอ้หนู

    เดือนมกราคม 1915 Jack ไปพบกับประธานาธิบดี Wilson ที่ทำเนียบ White House เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว Wilson ยืนยันว่า เขาไม่มีข้อขัดข้อง ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม Morgan หรือผู้อื่น ในเรื่องที่หารือนั้น

    ก็คงทำให้เข้าใจได้ว่า ไม่มีใครต้มใคร หลอกใครมาเข้าฉาก เป็นการสมัครใจมาร่วมเล่นละครกันทั้งนั้น

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 2

    ในปี ค.ศ. 1915 เมื่อสงครามเริ่มใหม่ๆ E.I. Dupont de Nemours & Co แห่ง Delaware ได้รับเงิน 100 ล้านเหรียญ จากอังกฤษ ผ่าน J P Morgan เพื่อขยายแผนกวัตถุระเบิด ภายในไม่กี่เดือน Dupont ขยายตัวจากบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นบริษัทอยู่แถวหน้าทางอุตสา หกรรม Hercules Powder และ Monsanto Chemical โตตามไปด้วย บริษัทเหล็กกล้า และเหล็กดิบ ก็งอกงาม เหล็กดิบราคาขึ้น จากตันละ 13 เหรียญ เป็น ตันละ 42 เหรียญ
    Bethlehem Steel, US Steel, Westinghouse Electric, Remington Arms, Colt Firearms ได้รับใบสั่งซื้อสินค้ามาเป็นกอง ตั้งสูง จนผลิตไม่ทัน อุตสาหกรรมเหล็กอย่างเดียว กำไรเพิ่มจาก 23 ล้านเหรียญ ในปี 1914 เป็น 224 ล้านเหรียญ ในปี 1917 และระหว่างปี 1914-1917 Anaconda Copper ของ William Rockefeller ได้กำไรโดดจาก 9 ล้านเหรียญ เป็น 25 ล้านเหรียญ ส่วนทรัพย์สินของ บริษัท Phelps Dodge ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ในการส่งให้ Wilson ไปนั่งที่ White House ขี้นไป 400 %

    เฉพาะปี 1916 ขณะที่เศรษฐกิจทั่วไป ของอเมริกากำลังขาลาก แค่การส่งสินค้าออกเกี่ยวกับอาวุธ ให้แก่อังกฤษ และฝรั่งเศส อย่างเดียว มูลค่าสูงถึง 1,290 พันล้านเหรียญแล้ว มันเป็นโอกาสทองคำ ของคนบางกลุ่มในอเมริกา ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลก

    J P Morgan ได้จัดหาอาวุธยุทธปัจจัยให้รัฐบาล อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 5 พันล้านเหรียญ ทั้งหมด ซื้อโดยเครดิต ที่ J P Morgan เป็นผู้จัดการให้ เงินจำนวนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบัน เท่ากับประมาณ 9 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งยังไม่เคยมีสถาบันการเงินส่วนบุคคลใด เคยทำมาก่อน

    มันเป็นจำนวนมโหฬาร พอที่จะทำให้เกิดซึนามิทางการเงินได้ ถ้ามีการผิดนัดไม่ชำระเงิน

    เดือนเมษายน 1915 ประมาณ 2 ปี ก่อนอเมริกาจะเข้าสูสงครามโลก ครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ Thomas W Lamont หุ้นส่วนคนหนึ่งของ J P Morgan ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มีความหมายมาก แต่มีน้อยคน ที่ให้ความสนใจอย่างจริงจังที่ American Academy of Political Science ในเมือง Philadelphia

    ” เรา (อเมริกา) ได้เปลี่ยนสภาพ จากเป็นลูกหนี้ กลายมาเป็นเจ้าหนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าที่เราได้รับ กองสูงเป็นตั้ง ผู้ผลิตหลายรายของเรา รวมทั้งผู้ขาย ได้ธุรกิจอย่างมหัศจรรย์จากสงครามนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าสงคราม มียอดสูงเป็นล้านๆเหรียญ และมันกำลังส่งผลไปถึงธุรกิจอื่นๆ ทั่วไปด้วย แต่จุดสำคัญอยู่ที่การปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจของเรา ทำให้อเมริกากลายเป็นปัจจัยใหญ่ในตลาดเงินกู้ระหว่างประเทศ
    จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หลายคนเชื่อว่า ต่อไปนิวยอร์ค อาจจะเหนือกว่าลอนดอนในการเป็นศูนย์กลางตลาดเงินของโลก เราอาจกลายเป็นศูนย์กลางการค้าของโลก… มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูง….

    แต่ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญสองสามอย่าง อย่างหนึ่งคือ ระยะเวลาของการทำสงคราม…. ถ้าสงครามจบเร็ว เยอรมัน ซึ่งขณะนี้การส่งสินค้าออกถูกตัดขาดเกือบหมด จะกลับมาเป็นคู่แข่งสำคัญทันที

    ฉะนั้น เราจะเป็นเจ้าหนี้จำนวนมหาศาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ “ระยะเวลา” ของการทำสงคราม ถ้ามันนานพอ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ที่ดอลล่าร์จะกลายเป็นตัวเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ แทนปอนด์สเตอริงก์”

    สุนทรพจน์นี้ ทำให้เห็นเป้าหมาย และการพัฒนา ให้เงินกู้ระหว่างประเทศ กลายเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ของ J P Morgan ในระหว่างการทำสงครามโลกครั้งที่ 1 และหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปจนถึงการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างน่ากลัว และชั่วยิ่ง

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 3

    นโยบายของ J P Morgan ตามแนวที่เราเข้าใจจากสุนทรพจน์ของ Lamont ดูเหมือนจะราบรื่น เป็นไปตามแผน แต่พอถึงปลายปี 1916 จนเริ่มเข้าเดือนแรกของปี 1917 ข่าวลือเกี่ยวกับรัสเซียชักมาแปลก และ ในเดือนกุมภาพันธ์ ก็เป็นจริงตามข่าว ซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซีย ประกาศสละ
    บัลลังค์ หลังจากมีการปฏิวัติ โดยคนชื่อไม่ดัง Alexandre Kerensky กองทัพรัสเซียระส่ำ เยอรมันดีใจ ไม่ต้องรบทั้ง 2 แนว จึงทุ่มกำลังมาทางด้านตะวันตกเต็มที่ และอังกฤษอาจกลายเป็นฝ่ายแพ้สงคราม !

    Morgan และพวก เริ่มออกอาการ ไอ้ที่กลัวว่าจะเกิด ทำท่าจะเกิดจริงๆ สงครามอาจจะจบเร็วกว่าที่คิด โดยเยอรมันเป็นฝ่ายชนะ และนั่นคือหายนะ ของ Morgan อังกฤษและพวก ซึ่งรวมถึงอเมริกาด้วย
    นาย Walter Hines Page ซึ่งเคยเป็นผู้ดูแล General Education Board ของ Rockefeller ก่อนได้รับเลือกให้ไปเป็นฑูตอเมริกา ประจำลอนดอน ขณะนั้น ได้ทำหนังสือลงวันที่ 5 มีนาคม 1917 ถึง ประธานาธิบดี Wilson

    ” ผมคิดว่า สถานการณ์ปัจจุบัน มีความกดดันสูงเกินกว่าที่ Morgan ในสถานะตัวแทนทางการเงินของรัฐบาลอังกฤษ และฝรั่งเศสจะรับได้ จำเป็นที่จะต้องมีการหารือกันเป็นการด่วน ….หากเราจะเข้าไปทำสงครามกับเยอรมัน คงเป็นการช่วยฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างยิ่งยวด และในกรณีดังกล่าว รัฐบาลเราน่าจะทำ ถ้าสามารถทำได้คือ ช่วยลงทุนให้เงินกู้กับอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือค้ำประกันเงินกู้ให้เขา ….แต่เราจะต้องเข้าร่วมทำสงครามกับเยอรมันด้วย เราถึงจะให้เงินกู้โดยตรง หรือให้การค้ำประกันได้…”

    4 อาทิตย์หลังจากได้รับจดหมายของฑูต Page ประธานาธิบดี Wilson ซึ่งตอนหาเสียงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี สมัยที่ 2 ในปี 1916 ประกาศไว้ว่า เราเป็นฝ่ายไม่ทำสงคราม ก็พาอเมริกาเข้าสู่สงคราม ตามบทละครลวงโลก

    Wilson แถลงต่อสภาสูง เพื่อขอทำสงครามกับเยอรมัน ด้วยเหตุผลว่า เยอรมันละเมิดกฏการเดินเรือในน่านน้ำที่เป็นกลาง โดยใช้เรือดำน้ำโจมตีเรือของอเมริกาเรือขนส่งสินค้าของอังกฤษ และฝรั่งเศส สภาสูงลงมติอย่างท่วมท้น ให้อำนาจเขาประกาศสงครามกับเยอรมัน

    กระทรวงการคลังของอเมริกา ให้การสนับสนุน ที่อเมริกาจะออกพันธบัตร Liberty Bond เพื่อระดมเงินจากชาวอเมริกัน สนับสนุนให้อังกฤษทำสงครามต่อ โดยนาย Benjamin Strong ประธานธนาคารกลางของอเมริกา Federal Reserve Bank ซึ่งมาจาก กลุ่ม Morgan บอกว่า ตามกฎหมาย Federal Reserve Act ที่เพิ่งออกในปี 1913 ทำได้สบายมาก และเงินงวดแรก ที่ได้จากการขายพันธบัตร Liberty War ให้ชาวบ้าน ถูกนำมาใช้หนี้ ที่อังกฤษมีกับ Morgan จำนวน 400 ล้านเหรียญก่อนรายการอื่น

    สรุปง่ายๆว่า Wilson เอาเงินชาวบ้านมาใช้หนี้ให้เศรษฐี Morgan หรืออาจจะเป็น Rothschild ไม่แนใจ
    จากวันที่อเมริกาประกาศสงครามกับ เยอรมันอย่างเป็นทางการ ในเดือนเมษายน 1917 จนถึงวันที่มีการลงนามสัญญาสงบ ศึกกับเยอรมัน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 อเมริกาให้เงินกู้กับ สัมพันมิตร ยุโรป เป็นจำนวนประมาณ 9 พันล้านเหรียญ เงินดังกล่าว ไม่ได้ไปถึงมือผู้กู้ ส่วนใหญ่กลับไปอยู่ที่กลุ่ม Morgan, Kuhn Loeb และ Rockefeller เพื่อจ่ายเป็นค่าสินค้าสงครามที่ส่งให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร เงินกู้ดังกล่าวนี้ เป็นจำนวนต่างหาก นอกเหนือจากที่อังกฤษให้ J P Morgan เป็นตัวแทนระดมเงินกู้ต้ังแต่เริ่มทำสงคราม จนถึงสงครามเลิก อีกจำนวนมหาศาล

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    8 พ.ค. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – ที่แท้ก็โจร 1 – 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 1 ขณะตัดสินใจเข้าทำสงครามโลก ในเดือนสิงหาคม 1914 อังกฤษ กระเป๋าแบน เศรษฐกิจร่องแร่ง และทองสำรองใน Bank of England ใกล้จะแห้งขอดอย่างน่าตกใจ อังกฤษไม่อยู่ในสภาพที่จะทำสงครามได้เลย อังกฤษรู้ตัวดี แต่อังกฤษก็เดินหน้าประกาศสงครามกับเยอรมันอย่างท่าดี ถ้าไม่ใช่เป็นนักพนันระดับเซียน ที่ลักไก่ เกจนหมดหน้าตัก ก็ต้องเป็นนักวางแผนที่เลือดเย็นและล้ำลึกอย่างน่ากลัว เดือนตุลาคม 1914 อังกฤษส่งคณะทำงานพิเศษ จากฝ่ายกิจกรรมสงครามของตนไปวอชิงตัน เพื่อเจรจาให้ทางวอชิงตันจัดการให้ภาคเอกชนของอเมริกา เป็นผู้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ สัมภาระและกำลังบำรุงให้ เพราะอเมริกาในฐานะประเทศเป็นกลางอย่างเป็นทางการ จะทำในฐานะประเทศไม่ได้ เลยเลี่ยงให้เอกชนออกหน้า อังกฤษเลือก J P Morgan & Co เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวในการจัดซื้อ Sole Purchasing Agent ดูเผินๆ เหมือนกับเป็นเรื่องเสี่ยงมาก ที่เลือกตัวแทนรายเดียว แต่เนื่องจากเป็นบทหนึ่งของละครลวงโลก เราจะเห็นว่า มันมีการเตรียมการอย่างแยบยลมา แล้ว ที่ให้อเมริกามี Federal Reserve System ที่สามารถทำให้ J P Morgan และพวก ซึ่งก็เป็นผู้บริหาร และเจ้าของ Federal Reseve Bank สามารถบริหารความเสี่ยงของตน ผ่านการควบคุมหนี้ของรัฐบาล พร้อมกับการควบคุมการพิมพ์ธนบัตรของประเทศในขณะเดียวกัน ด้วยวิธีการนี้ อังกฤษจึงสามารถเดินหน้า ทำสงครามได้อย่างสบายใจ อเมริกา โดยนักธุรกิจ เช่น Rockefeller, Morgan, Carnegie ฯลฯ ก็สบายใจ พวกเขาผลิต และขายสินค้า ส่งให้อังกฤษ ทำให้พากันรวยหนักกันขึ้นไปอีก และโดยไม่ต้องห่วงเรื่องจะต้องเสียภาษีเงินได้ก้อนใหญ่ให้ รัฐบาล เพราะบทในละครลวงโลก เรื่องภาษีนี้ ก็ได้มีจัดการหาทางออก เตรียมใว้เรียบร้อยแล้ว โดยนาย Wilson ได้ยอมให้แก้กฏหมายของอเมริกา ในปี 1913 ให้มูลนิธิเพื่อการกุศล ได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ และบรรดานายทุนเศรษฐีโตครรวยต่างๆของอเมริกา ก็พากันจดทะเบียนตั้งมูลนิธิ และโอนทรัพย์สินของตนไปไว้ในมูลนิธิ เพื่อเลี่ยงภาษี เช่น มูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Carnegie มูลนิธิ Ford เรียบร้อยก่อนที่จะได้อังกฤษ มาเป็นลูกหนี้ นี่คือ ประชาธิปไตยแบบ ตะหวักตะบวยของอเมริกา ที่ยังมีสมันน้อยหลงชื่นชม Morgan ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้รัฐบาลอังกฤษ ในการจัดซื้อ อาวุธ กระสุน เครื่องแบบ เคมี ฯลฯ สาระพัด ที่จำเป็นสำหรับการทำสงครามในสมัย ค.ศ. 1914 และในฐานะเป็นตัวแทนดูแลด้านการ เงินด้วย Morgan ไม่ใช่แค่เลือกว่า “จะซื้ออะไร ” เขาเป็นผู้เลือกด้วยว่า “จะซื้อจากใคร” ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่กลุ่มธุรกิจในเครือข่ายของ Morgan และ Rockefeller คือกลุ่มที่ได้รับเลือกไปก่อน และรวยไปก่อน เมื่อ British War Office ถามประธาน J P Morgan คนใหม่คือ J P Morgan Jr. หรือที่เพื่อนเรียกว่า Jack ซึ่งขึ้นมารับตำแหน่งแทนพ่อที่ตายไปเมื่อ ปี 1913 ว่า รัฐบาลของ Wilson มีปัญหาหรือไม่ ที่สถาบันการเงินใหญ่ของอเมริกา เข้ามาช่วยเหลืออังกฤษอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับการสงคราม Jack ตอบว่า ไม่มีปัญหาครับเจ้านาย ไม่กระทบกับความเป็นกลางของรัฐบาลอเมริกัน อย่างแน่นอนที่สุด เพราะว่า Morgan ทำธุรกิจกับ British War Office และรัฐบาลของฝรั่งเศส เป็นการทำธุรกิจตามปรกติธรรมดา เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าขายต่อกัน ไม่ใช่เป็นข้อตกลงทางการเมือง หรือการฑูตแต่อย่างใด กลิ้งได้พริ้วจริงๆไอ้หนู เดือนมกราคม 1915 Jack ไปพบกับประธานาธิบดี Wilson ที่ทำเนียบ White House เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว Wilson ยืนยันว่า เขาไม่มีข้อขัดข้อง ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม Morgan หรือผู้อื่น ในเรื่องที่หารือนั้น ก็คงทำให้เข้าใจได้ว่า ไม่มีใครต้มใคร หลอกใครมาเข้าฉาก เป็นการสมัครใจมาร่วมเล่นละครกันทั้งนั้น นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 2 ในปี ค.ศ. 1915 เมื่อสงครามเริ่มใหม่ๆ E.I. Dupont de Nemours & Co แห่ง Delaware ได้รับเงิน 100 ล้านเหรียญ จากอังกฤษ ผ่าน J P Morgan เพื่อขยายแผนกวัตถุระเบิด ภายในไม่กี่เดือน Dupont ขยายตัวจากบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นบริษัทอยู่แถวหน้าทางอุตสา หกรรม Hercules Powder และ Monsanto Chemical โตตามไปด้วย บริษัทเหล็กกล้า และเหล็กดิบ ก็งอกงาม เหล็กดิบราคาขึ้น จากตันละ 13 เหรียญ เป็น ตันละ 42 เหรียญ Bethlehem Steel, US Steel, Westinghouse Electric, Remington Arms, Colt Firearms ได้รับใบสั่งซื้อสินค้ามาเป็นกอง ตั้งสูง จนผลิตไม่ทัน อุตสาหกรรมเหล็กอย่างเดียว กำไรเพิ่มจาก 23 ล้านเหรียญ ในปี 1914 เป็น 224 ล้านเหรียญ ในปี 1917 และระหว่างปี 1914-1917 Anaconda Copper ของ William Rockefeller ได้กำไรโดดจาก 9 ล้านเหรียญ เป็น 25 ล้านเหรียญ ส่วนทรัพย์สินของ บริษัท Phelps Dodge ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ในการส่งให้ Wilson ไปนั่งที่ White House ขี้นไป 400 % เฉพาะปี 1916 ขณะที่เศรษฐกิจทั่วไป ของอเมริกากำลังขาลาก แค่การส่งสินค้าออกเกี่ยวกับอาวุธ ให้แก่อังกฤษ และฝรั่งเศส อย่างเดียว มูลค่าสูงถึง 1,290 พันล้านเหรียญแล้ว มันเป็นโอกาสทองคำ ของคนบางกลุ่มในอเมริกา ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลก J P Morgan ได้จัดหาอาวุธยุทธปัจจัยให้รัฐบาล อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 5 พันล้านเหรียญ ทั้งหมด ซื้อโดยเครดิต ที่ J P Morgan เป็นผู้จัดการให้ เงินจำนวนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบัน เท่ากับประมาณ 9 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งยังไม่เคยมีสถาบันการเงินส่วนบุคคลใด เคยทำมาก่อน มันเป็นจำนวนมโหฬาร พอที่จะทำให้เกิดซึนามิทางการเงินได้ ถ้ามีการผิดนัดไม่ชำระเงิน เดือนเมษายน 1915 ประมาณ 2 ปี ก่อนอเมริกาจะเข้าสูสงครามโลก ครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ Thomas W Lamont หุ้นส่วนคนหนึ่งของ J P Morgan ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มีความหมายมาก แต่มีน้อยคน ที่ให้ความสนใจอย่างจริงจังที่ American Academy of Political Science ในเมือง Philadelphia ” เรา (อเมริกา) ได้เปลี่ยนสภาพ จากเป็นลูกหนี้ กลายมาเป็นเจ้าหนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าที่เราได้รับ กองสูงเป็นตั้ง ผู้ผลิตหลายรายของเรา รวมทั้งผู้ขาย ได้ธุรกิจอย่างมหัศจรรย์จากสงครามนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าสงคราม มียอดสูงเป็นล้านๆเหรียญ และมันกำลังส่งผลไปถึงธุรกิจอื่นๆ ทั่วไปด้วย แต่จุดสำคัญอยู่ที่การปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจของเรา ทำให้อเมริกากลายเป็นปัจจัยใหญ่ในตลาดเงินกู้ระหว่างประเทศ จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หลายคนเชื่อว่า ต่อไปนิวยอร์ค อาจจะเหนือกว่าลอนดอนในการเป็นศูนย์กลางตลาดเงินของโลก เราอาจกลายเป็นศูนย์กลางการค้าของโลก… มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูง…. แต่ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญสองสามอย่าง อย่างหนึ่งคือ ระยะเวลาของการทำสงคราม…. ถ้าสงครามจบเร็ว เยอรมัน ซึ่งขณะนี้การส่งสินค้าออกถูกตัดขาดเกือบหมด จะกลับมาเป็นคู่แข่งสำคัญทันที ฉะนั้น เราจะเป็นเจ้าหนี้จำนวนมหาศาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ “ระยะเวลา” ของการทำสงคราม ถ้ามันนานพอ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ที่ดอลล่าร์จะกลายเป็นตัวเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ แทนปอนด์สเตอริงก์” สุนทรพจน์นี้ ทำให้เห็นเป้าหมาย และการพัฒนา ให้เงินกู้ระหว่างประเทศ กลายเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ของ J P Morgan ในระหว่างการทำสงครามโลกครั้งที่ 1 และหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปจนถึงการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างน่ากลัว และชั่วยิ่ง นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 3 นโยบายของ J P Morgan ตามแนวที่เราเข้าใจจากสุนทรพจน์ของ Lamont ดูเหมือนจะราบรื่น เป็นไปตามแผน แต่พอถึงปลายปี 1916 จนเริ่มเข้าเดือนแรกของปี 1917 ข่าวลือเกี่ยวกับรัสเซียชักมาแปลก และ ในเดือนกุมภาพันธ์ ก็เป็นจริงตามข่าว ซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซีย ประกาศสละ บัลลังค์ หลังจากมีการปฏิวัติ โดยคนชื่อไม่ดัง Alexandre Kerensky กองทัพรัสเซียระส่ำ เยอรมันดีใจ ไม่ต้องรบทั้ง 2 แนว จึงทุ่มกำลังมาทางด้านตะวันตกเต็มที่ และอังกฤษอาจกลายเป็นฝ่ายแพ้สงคราม ! Morgan และพวก เริ่มออกอาการ ไอ้ที่กลัวว่าจะเกิด ทำท่าจะเกิดจริงๆ สงครามอาจจะจบเร็วกว่าที่คิด โดยเยอรมันเป็นฝ่ายชนะ และนั่นคือหายนะ ของ Morgan อังกฤษและพวก ซึ่งรวมถึงอเมริกาด้วย นาย Walter Hines Page ซึ่งเคยเป็นผู้ดูแล General Education Board ของ Rockefeller ก่อนได้รับเลือกให้ไปเป็นฑูตอเมริกา ประจำลอนดอน ขณะนั้น ได้ทำหนังสือลงวันที่ 5 มีนาคม 1917 ถึง ประธานาธิบดี Wilson ” ผมคิดว่า สถานการณ์ปัจจุบัน มีความกดดันสูงเกินกว่าที่ Morgan ในสถานะตัวแทนทางการเงินของรัฐบาลอังกฤษ และฝรั่งเศสจะรับได้ จำเป็นที่จะต้องมีการหารือกันเป็นการด่วน ….หากเราจะเข้าไปทำสงครามกับเยอรมัน คงเป็นการช่วยฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างยิ่งยวด และในกรณีดังกล่าว รัฐบาลเราน่าจะทำ ถ้าสามารถทำได้คือ ช่วยลงทุนให้เงินกู้กับอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือค้ำประกันเงินกู้ให้เขา ….แต่เราจะต้องเข้าร่วมทำสงครามกับเยอรมันด้วย เราถึงจะให้เงินกู้โดยตรง หรือให้การค้ำประกันได้…” 4 อาทิตย์หลังจากได้รับจดหมายของฑูต Page ประธานาธิบดี Wilson ซึ่งตอนหาเสียงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี สมัยที่ 2 ในปี 1916 ประกาศไว้ว่า เราเป็นฝ่ายไม่ทำสงคราม ก็พาอเมริกาเข้าสู่สงคราม ตามบทละครลวงโลก Wilson แถลงต่อสภาสูง เพื่อขอทำสงครามกับเยอรมัน ด้วยเหตุผลว่า เยอรมันละเมิดกฏการเดินเรือในน่านน้ำที่เป็นกลาง โดยใช้เรือดำน้ำโจมตีเรือของอเมริกาเรือขนส่งสินค้าของอังกฤษ และฝรั่งเศส สภาสูงลงมติอย่างท่วมท้น ให้อำนาจเขาประกาศสงครามกับเยอรมัน กระทรวงการคลังของอเมริกา ให้การสนับสนุน ที่อเมริกาจะออกพันธบัตร Liberty Bond เพื่อระดมเงินจากชาวอเมริกัน สนับสนุนให้อังกฤษทำสงครามต่อ โดยนาย Benjamin Strong ประธานธนาคารกลางของอเมริกา Federal Reserve Bank ซึ่งมาจาก กลุ่ม Morgan บอกว่า ตามกฎหมาย Federal Reserve Act ที่เพิ่งออกในปี 1913 ทำได้สบายมาก และเงินงวดแรก ที่ได้จากการขายพันธบัตร Liberty War ให้ชาวบ้าน ถูกนำมาใช้หนี้ ที่อังกฤษมีกับ Morgan จำนวน 400 ล้านเหรียญก่อนรายการอื่น สรุปง่ายๆว่า Wilson เอาเงินชาวบ้านมาใช้หนี้ให้เศรษฐี Morgan หรืออาจจะเป็น Rothschild ไม่แนใจ จากวันที่อเมริกาประกาศสงครามกับ เยอรมันอย่างเป็นทางการ ในเดือนเมษายน 1917 จนถึงวันที่มีการลงนามสัญญาสงบ ศึกกับเยอรมัน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 อเมริกาให้เงินกู้กับ สัมพันมิตร ยุโรป เป็นจำนวนประมาณ 9 พันล้านเหรียญ เงินดังกล่าว ไม่ได้ไปถึงมือผู้กู้ ส่วนใหญ่กลับไปอยู่ที่กลุ่ม Morgan, Kuhn Loeb และ Rockefeller เพื่อจ่ายเป็นค่าสินค้าสงครามที่ส่งให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร เงินกู้ดังกล่าวนี้ เป็นจำนวนต่างหาก นอกเหนือจากที่อังกฤษให้ J P Morgan เป็นตัวแทนระดมเงินกู้ต้ังแต่เริ่มทำสงคราม จนถึงสงครามเลิก อีกจำนวนมหาศาล สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 8 พ.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • ปฏิบัติการ SkyCloak: แฮกเกอร์ใช้ LNK และ OpenSSH ผ่าน Tor เจาะระบบทหารรัสเซีย-เบลารุส

    เรื่องราวนี้เผยให้เห็นการโจมตีไซเบอร์ระดับสูงที่ใช้เทคนิคซับซ้อนเพื่อแฝงตัวในระบบของกองทัพรัสเซียและเบลารุส โดยกลุ่มแฮกเกอร์ไม่เปิดเผยชื่อได้ใช้ไฟล์ LNK ที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัยเป็นตัวเปิดทาง ก่อนจะติดตั้ง OpenSSH ผ่านเครือข่าย Tor เพื่อสร้างช่องทางเข้าถึงระบบแบบลับสุดยอด

    จุดเด่นของการโจมตีคือการใช้ obfs4 bridges ซึ่งเป็นเทคนิคการพรางตัวแบบพิเศษในเครือข่าย Tor ทำให้การเชื่อมต่อไม่สามารถตรวจจับได้ง่าย และสามารถหลบเลี่ยงระบบตรวจสอบขององค์กรเป้าหมายได้อย่างแนบเนียน

    นอกจากนี้ยังมีการใช้ PowerShell script ที่ฝังอยู่ในไฟล์ LNK เพื่อเรียกใช้งาน OpenSSH client ที่ถูกปรับแต่งให้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน Tor โดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้ในระบบปกติ

    สาระเพิ่มเติมจากวงการไซเบอร์ เทคนิคการใช้ไฟล์ LNK เป็นหนึ่งในวิธีที่นิยมในกลุ่มแฮกเกอร์ระดับสูง เพราะสามารถหลอกให้ผู้ใช้เปิดไฟล์ได้โดยไม่สงสัย และสามารถฝังคำสั่ง PowerShell หรือ VBScript ได้อย่างแนบเนียน

    การใช้ OpenSSH บนเครือข่าย Tor ยังช่วยให้แฮกเกอร์สามารถควบคุมเครื่องเป้าหมายจากระยะไกลโดยไม่ถูกติดตาม ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อระบบที่ต้องการความมั่นคงสูง เช่น กองทัพ หน่วยงานรัฐบาล หรือองค์กรวิจัย

    ปฏิบัติการ SkyCloak เจาะระบบทหารรัสเซียและเบลารุส
    ใช้ไฟล์ LNK เป็นตัวเปิดทางในการติดตั้ง backdoor
    ฝัง PowerShell script เพื่อเรียกใช้งาน OpenSSH client
    เชื่อมต่อผ่าน Tor ด้วย obfs4 bridges เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ

    เทคนิคการพรางตัวของแฮกเกอร์
    ใช้ obfs4 bridges เพื่อปิดบังการเชื่อมต่อ
    ใช้ OpenSSH client ที่ปรับแต่งให้ทำงานแบบลับ
    ไม่ทิ้งร่องรอยในระบบปกติของเครื่องเป้าหมาย

    ความเสี่ยงต่อองค์กรที่ใช้ Windows
    ไฟล์ LNK สามารถฝังคำสั่งอันตรายได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม
    PowerShell เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังแต่เสี่ยงต่อการถูกใช้ในทางที่ผิด
    การเชื่อมต่อผ่าน Tor ทำให้การติดตามแหล่งที่มาของการโจมตีทำได้ยาก

    https://securityonline.info/operation-skycloak-targets-russian-belarusian-military-with-lnk-exploit-and-openssh-over-tor-backdoor/
    🔐 ปฏิบัติการ SkyCloak: แฮกเกอร์ใช้ LNK และ OpenSSH ผ่าน Tor เจาะระบบทหารรัสเซีย-เบลารุส เรื่องราวนี้เผยให้เห็นการโจมตีไซเบอร์ระดับสูงที่ใช้เทคนิคซับซ้อนเพื่อแฝงตัวในระบบของกองทัพรัสเซียและเบลารุส โดยกลุ่มแฮกเกอร์ไม่เปิดเผยชื่อได้ใช้ไฟล์ LNK ที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัยเป็นตัวเปิดทาง ก่อนจะติดตั้ง OpenSSH ผ่านเครือข่าย Tor เพื่อสร้างช่องทางเข้าถึงระบบแบบลับสุดยอด 🎯 จุดเด่นของการโจมตีคือการใช้ obfs4 bridges ซึ่งเป็นเทคนิคการพรางตัวแบบพิเศษในเครือข่าย Tor ทำให้การเชื่อมต่อไม่สามารถตรวจจับได้ง่าย และสามารถหลบเลี่ยงระบบตรวจสอบขององค์กรเป้าหมายได้อย่างแนบเนียน นอกจากนี้ยังมีการใช้ PowerShell script ที่ฝังอยู่ในไฟล์ LNK เพื่อเรียกใช้งาน OpenSSH client ที่ถูกปรับแต่งให้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน Tor โดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้ในระบบปกติ 📌 สาระเพิ่มเติมจากวงการไซเบอร์ เทคนิคการใช้ไฟล์ LNK เป็นหนึ่งในวิธีที่นิยมในกลุ่มแฮกเกอร์ระดับสูง เพราะสามารถหลอกให้ผู้ใช้เปิดไฟล์ได้โดยไม่สงสัย และสามารถฝังคำสั่ง PowerShell หรือ VBScript ได้อย่างแนบเนียน การใช้ OpenSSH บนเครือข่าย Tor ยังช่วยให้แฮกเกอร์สามารถควบคุมเครื่องเป้าหมายจากระยะไกลโดยไม่ถูกติดตาม ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อระบบที่ต้องการความมั่นคงสูง เช่น กองทัพ หน่วยงานรัฐบาล หรือองค์กรวิจัย ✅ ปฏิบัติการ SkyCloak เจาะระบบทหารรัสเซียและเบลารุส ➡️ ใช้ไฟล์ LNK เป็นตัวเปิดทางในการติดตั้ง backdoor ➡️ ฝัง PowerShell script เพื่อเรียกใช้งาน OpenSSH client ➡️ เชื่อมต่อผ่าน Tor ด้วย obfs4 bridges เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ✅ เทคนิคการพรางตัวของแฮกเกอร์ ➡️ ใช้ obfs4 bridges เพื่อปิดบังการเชื่อมต่อ ➡️ ใช้ OpenSSH client ที่ปรับแต่งให้ทำงานแบบลับ ➡️ ไม่ทิ้งร่องรอยในระบบปกติของเครื่องเป้าหมาย ✅ ความเสี่ยงต่อองค์กรที่ใช้ Windows ➡️ ไฟล์ LNK สามารถฝังคำสั่งอันตรายได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม ➡️ PowerShell เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังแต่เสี่ยงต่อการถูกใช้ในทางที่ผิด ➡️ การเชื่อมต่อผ่าน Tor ทำให้การติดตามแหล่งที่มาของการโจมตีทำได้ยาก https://securityonline.info/operation-skycloak-targets-russian-belarusian-military-with-lnk-exploit-and-openssh-over-tor-backdoor/
    SECURITYONLINE.INFO
    Operation SkyCloak Targets Russian/Belarusian Military With LNK Exploit and OpenSSH Over Tor Backdoor
    SEQRITE exposed SkyCloak, an espionage campaign targeting Russian/Belarusian military personnel. It uses malicious LNK files to deploy OpenSSH over Tor obfs4 bridges for stealthy, persistent remote access.
    0 Comments 0 Shares 69 Views 0 Reviews
  • ต้มข้ามศตวรรษ – สร้างฉากปฏิวัติ 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ”

    ตอน 6

    เดือนเมษายน ค.ศ.1917 Vladimir Lenin และพวกอีก 32 คน ซึ่งส่วนมากเป็นพวก Bolsheviks เดินทางจากสวิสเซอร์แลนด์ ข้ามเยอรมัน ผ่านสวีเดน เพื่อไปเข้าเมือง Petrograd ของรัสเซีย พวกเขากำลังไปร่วมกับ Leon Trotsky เพื่อ “ทำปฏิวัติ” ให้สมบูรณ์ การผ่านด่านเยอรมันเรียบร้อยดี มีการอำนวยความสะดวก และจ่ายเงินไว้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายเสนาธิการ ของรัฐบาลเยอรมัน

    การผ่านเข้ารัสเซียของ Lenin เป็นส่วนหนึ่งของแผนการณ์ ที่ได้รับการเห็นชอบโดยกองบัญชาการสูงสุดของเยอรมัน ซึ่งไม่ได้ผ่านการรับรู้จากไกเซอร์ จักรพรรดิของเยอรมัน ผู้ซึ่งมีความใกล้ชิด สนิทสนมกับ ซาร์แห่งรัสเซีย

    ดูเหมือนมันจะเป็นแผนของเยอรมัน ที่ต้องการให้กองทัพรัสเซียแตกแยก รวมตัวกันไม่ได้ และขจัดให้รัสเซียออกไปจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นความพยายามของรัฐบาลเยอรมัน ที่จะตัดกำลังคู่ต่อสู้คือ ฝ่ายสัมพันธมิตร เยอรมันคิดเองทำเอง หรือมีใครช่วยหรือชักใย

    นอกจากไกเซอร์จะไม่รู้แล้ว ตัวเสนาธิการกองทัพเยอรมัน Major General Hoffman ก็ไม่รู้เรื่องด้วย เขาเขียนไว้ในบันทึกว่า “เราไม่รู้เรื่อง และทำให้เราไม่สามารถเห็นผลกระทบ ที่จะเกิดขึ้นอย่างใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติ จากการเดินทางเข้าไปในรัสเซียของพวก Bolsheviks”

    ฝ่ายเยอรมัน ผู้ที่ให้ความเห็นชอบให้ Lenin เดินทางผ่านเยอรมันไปรัสเซีย คือ ตัวนายกรัฐมนตรี Theobold von Bethmann-Hollweg เอง ซึ่งมาจากตระกูลใหญ่เจ้าของธนาคาร Bethmann Frankfurt ที่ร่ำรวยมากในช่วงศตวรรษที่ 19 นาย Bethmann-Hollweg ได้ รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในปี ค.ศ. 1909 แต่ในเดือน พ.ย. 1913 เขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรก ที่ถูกรัฐสภาของเยอรมันลงมติไม่ไว้วางใจ

    นาย Bethmann-Hollweg นี่ เป็นคนที่พูดจา ชนิดต้องใช้มะกอกเกิน 3 ตะกร้า ถึงจะจับให้มั่นได้ ปี ค.ศ. 1917 เขาไม่ได้เสียงสนับสนุนจากรัฐสภา และยื่นใบลาออก แต่ก่อนลาออก เขาทิ้งทวน โดยการให้ความเห็นชอบไว้เรียบร้อยแล้ว ให้นักปฏิวัติ กลุ่ม Bolsheviks เดินทางผ่านเยอรมัน เข้าไปยังรัสเซีย โดยเขาสั่งตรงไปยังรัฐมนตรีต่างประเทศ Unthur Zimmermann ลูกกระเป๋งที่เป็นผู้รับผิดชอบดูแลงานประจำของรัฐมนตรี ทั้งในเบอร์ลินและงานที่ส่งจากกรุงโคเปนเฮเกน มายังเยอรมันในช่วงเดือน เม.ย.1917
    ไกเซอร์ไม่รู้เรื่องขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อปฏิวัติในรัสเซียเลย จนกระทั่ง Lenin ไปถึงรัสเซียแล้ว แสดงว่าถูกกันท่าโดยพวกรัฐบาล ซึ่งคงกลัวเสียแผน หากกษัตริย์ของ 2 ประเทศ จะจับมือช่วยกันเอง
    ขณะที่ Lenin เอง ก็ไม่รู้แน่ว่าใครเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือเขา เขารู้แต่เพียงว่า รัฐบาลเยอรมันให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน แต่จากการตรวจสอบเอกสาร ซึ่งปรากฏในภายหลัง จึงได้เห็นเส้นทางเดินของ “ความช่วยเหลือ” ให้แก่ Lenin

    จากเบอร์ลิน Zimmermann และ Bethmann-Hollweg ติดต่อกับรัฐมนตรีเยอรมันที่โคเปน เฮเกนชื่อ Brockdorff-Rantzau ซึ่งติดต่ออีกทอดไปถึงนาย Alexander Israel Helphand (หรือที่รู้จักกันในนาม Parvus) ซึ่งอยู่ที่โคเปนเฮเกน

    จริงๆแล้ว ทางเยอรมันเตรียมแผนนี้ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1915 แล้ว

    ในวันที่ 14 สิงหาคม 1915 Brockdorff-Rantzau เขียนจดหมายถึงรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมัน ที่เบอร์ลิน เกี่ยวกับการสนทนาของเขากับ Helphand (Parvus) และแนะนำให้เยอรมันใช้ Helphand “…..ซึ่งเป็นคนที่มีเครือข่ายอำนาจ ที่ล้ำลึกอย่างนึกไม่ถึง ที่เราควรจะจ้างเขาไว้ตลอดช่วงที่มีสงคราม……ขณะเดียวกัน เราก็ต้องระวังความเสี่ยงในการจะใช้เครือข่ายอำนาจที่อยู่ข้างหลัง Helphand เช่นเดียวกัน…..”

    Helphand (Parvus) แท้จริงแล้วเป็นใคร และเครือข่ายอำนาจของเขา คือพวกไหน ความคิดของ Brockdorff-Rantzau ที่จะใช้การปฏิวัติรัสเซีย เพื่อประโยชน์ของเยอรมัน ก็ดูเหมือนจะไม่ต่างกับความคิดของคนบางกลุ่มในอเมริกา ที่พยายามจะเอาเรื่องการปฏิวัติรายการเดียวกันนั้น มาใช้เพื่อผลประโยชน์ของพวกเขา ทั้งภายในและต่างประเทศ ไปด้วยพร้อมกัน

    วันที่ 16 เมษายน 1917 รถไฟขบวนที่ขนคนจำนวน 32 คน รวมทั้ง Lenin และเมีย ก็เริ่มเคลื่อนออกจากสถานีใหญ่ก ลางเมือง Bern ของสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อมุ่งหน้าไป Stockholm เมื่อ ถึงด่านเข้าเขตแดนรัสเซีย มีเพียง 2 คน ที่ถูกปฏิเสธการเข้า ที่เหลือผ่านเข้าไปได้หมด หลายเดือนต่อมา 2 คนนั้นก็ตามเข้าไป พร้อมกับพวก Mensheviks อีก 200 คน
    (หมายเหตุ: เพื่อความเข้าใจของผู้ติดตามเรื่อง รัสเซียมีพรรคสังคมนิยมเรียกว่า Russian Social-Democratic Party ซึ่งเป็นพวกนิยมแนวความคิดแบบ Marxist ในการประชุมพรรคประมาณปี ค.ศ.1903 สมาชิกได้แตกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเรียกกลุ่มตัวเองว่า Bolsheviks มี Lenin เป็น หัวหน้า สมาชิกส่วนใหญ่ เป็นพวกอีลิตและชนชั้นกลาง อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่า ควรมีชนชั้นแรงงานเข้ามาร่วมด้วย เพื่อให้ฐานเสียงใหญ่ขึ้น เรียกกลุ่มตัวเองว่า Mensheviks มี Martov เป็นหัวหน้า ส่วนนาย Trotsky นั้น สังกัดกลุ่ม Mensheviks และเปลี่ยนมาอยู่กลุ่ม Bolsheviks เอาในปี ค.ศ.1917 นั่นเอง )

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 เม.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – สร้างฉากปฏิวัติ 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ” ตอน 6 เดือนเมษายน ค.ศ.1917 Vladimir Lenin และพวกอีก 32 คน ซึ่งส่วนมากเป็นพวก Bolsheviks เดินทางจากสวิสเซอร์แลนด์ ข้ามเยอรมัน ผ่านสวีเดน เพื่อไปเข้าเมือง Petrograd ของรัสเซีย พวกเขากำลังไปร่วมกับ Leon Trotsky เพื่อ “ทำปฏิวัติ” ให้สมบูรณ์ การผ่านด่านเยอรมันเรียบร้อยดี มีการอำนวยความสะดวก และจ่ายเงินไว้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายเสนาธิการ ของรัฐบาลเยอรมัน การผ่านเข้ารัสเซียของ Lenin เป็นส่วนหนึ่งของแผนการณ์ ที่ได้รับการเห็นชอบโดยกองบัญชาการสูงสุดของเยอรมัน ซึ่งไม่ได้ผ่านการรับรู้จากไกเซอร์ จักรพรรดิของเยอรมัน ผู้ซึ่งมีความใกล้ชิด สนิทสนมกับ ซาร์แห่งรัสเซีย ดูเหมือนมันจะเป็นแผนของเยอรมัน ที่ต้องการให้กองทัพรัสเซียแตกแยก รวมตัวกันไม่ได้ และขจัดให้รัสเซียออกไปจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นความพยายามของรัฐบาลเยอรมัน ที่จะตัดกำลังคู่ต่อสู้คือ ฝ่ายสัมพันธมิตร เยอรมันคิดเองทำเอง หรือมีใครช่วยหรือชักใย นอกจากไกเซอร์จะไม่รู้แล้ว ตัวเสนาธิการกองทัพเยอรมัน Major General Hoffman ก็ไม่รู้เรื่องด้วย เขาเขียนไว้ในบันทึกว่า “เราไม่รู้เรื่อง และทำให้เราไม่สามารถเห็นผลกระทบ ที่จะเกิดขึ้นอย่างใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติ จากการเดินทางเข้าไปในรัสเซียของพวก Bolsheviks” ฝ่ายเยอรมัน ผู้ที่ให้ความเห็นชอบให้ Lenin เดินทางผ่านเยอรมันไปรัสเซีย คือ ตัวนายกรัฐมนตรี Theobold von Bethmann-Hollweg เอง ซึ่งมาจากตระกูลใหญ่เจ้าของธนาคาร Bethmann Frankfurt ที่ร่ำรวยมากในช่วงศตวรรษที่ 19 นาย Bethmann-Hollweg ได้ รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในปี ค.ศ. 1909 แต่ในเดือน พ.ย. 1913 เขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรก ที่ถูกรัฐสภาของเยอรมันลงมติไม่ไว้วางใจ นาย Bethmann-Hollweg นี่ เป็นคนที่พูดจา ชนิดต้องใช้มะกอกเกิน 3 ตะกร้า ถึงจะจับให้มั่นได้ ปี ค.ศ. 1917 เขาไม่ได้เสียงสนับสนุนจากรัฐสภา และยื่นใบลาออก แต่ก่อนลาออก เขาทิ้งทวน โดยการให้ความเห็นชอบไว้เรียบร้อยแล้ว ให้นักปฏิวัติ กลุ่ม Bolsheviks เดินทางผ่านเยอรมัน เข้าไปยังรัสเซีย โดยเขาสั่งตรงไปยังรัฐมนตรีต่างประเทศ Unthur Zimmermann ลูกกระเป๋งที่เป็นผู้รับผิดชอบดูแลงานประจำของรัฐมนตรี ทั้งในเบอร์ลินและงานที่ส่งจากกรุงโคเปนเฮเกน มายังเยอรมันในช่วงเดือน เม.ย.1917 ไกเซอร์ไม่รู้เรื่องขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อปฏิวัติในรัสเซียเลย จนกระทั่ง Lenin ไปถึงรัสเซียแล้ว แสดงว่าถูกกันท่าโดยพวกรัฐบาล ซึ่งคงกลัวเสียแผน หากกษัตริย์ของ 2 ประเทศ จะจับมือช่วยกันเอง ขณะที่ Lenin เอง ก็ไม่รู้แน่ว่าใครเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือเขา เขารู้แต่เพียงว่า รัฐบาลเยอรมันให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน แต่จากการตรวจสอบเอกสาร ซึ่งปรากฏในภายหลัง จึงได้เห็นเส้นทางเดินของ “ความช่วยเหลือ” ให้แก่ Lenin จากเบอร์ลิน Zimmermann และ Bethmann-Hollweg ติดต่อกับรัฐมนตรีเยอรมันที่โคเปน เฮเกนชื่อ Brockdorff-Rantzau ซึ่งติดต่ออีกทอดไปถึงนาย Alexander Israel Helphand (หรือที่รู้จักกันในนาม Parvus) ซึ่งอยู่ที่โคเปนเฮเกน จริงๆแล้ว ทางเยอรมันเตรียมแผนนี้ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1915 แล้ว ในวันที่ 14 สิงหาคม 1915 Brockdorff-Rantzau เขียนจดหมายถึงรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมัน ที่เบอร์ลิน เกี่ยวกับการสนทนาของเขากับ Helphand (Parvus) และแนะนำให้เยอรมันใช้ Helphand “…..ซึ่งเป็นคนที่มีเครือข่ายอำนาจ ที่ล้ำลึกอย่างนึกไม่ถึง ที่เราควรจะจ้างเขาไว้ตลอดช่วงที่มีสงคราม……ขณะเดียวกัน เราก็ต้องระวังความเสี่ยงในการจะใช้เครือข่ายอำนาจที่อยู่ข้างหลัง Helphand เช่นเดียวกัน…..” Helphand (Parvus) แท้จริงแล้วเป็นใคร และเครือข่ายอำนาจของเขา คือพวกไหน ความคิดของ Brockdorff-Rantzau ที่จะใช้การปฏิวัติรัสเซีย เพื่อประโยชน์ของเยอรมัน ก็ดูเหมือนจะไม่ต่างกับความคิดของคนบางกลุ่มในอเมริกา ที่พยายามจะเอาเรื่องการปฏิวัติรายการเดียวกันนั้น มาใช้เพื่อผลประโยชน์ของพวกเขา ทั้งภายในและต่างประเทศ ไปด้วยพร้อมกัน วันที่ 16 เมษายน 1917 รถไฟขบวนที่ขนคนจำนวน 32 คน รวมทั้ง Lenin และเมีย ก็เริ่มเคลื่อนออกจากสถานีใหญ่ก ลางเมือง Bern ของสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อมุ่งหน้าไป Stockholm เมื่อ ถึงด่านเข้าเขตแดนรัสเซีย มีเพียง 2 คน ที่ถูกปฏิเสธการเข้า ที่เหลือผ่านเข้าไปได้หมด หลายเดือนต่อมา 2 คนนั้นก็ตามเข้าไป พร้อมกับพวก Mensheviks อีก 200 คน (หมายเหตุ: เพื่อความเข้าใจของผู้ติดตามเรื่อง รัสเซียมีพรรคสังคมนิยมเรียกว่า Russian Social-Democratic Party ซึ่งเป็นพวกนิยมแนวความคิดแบบ Marxist ในการประชุมพรรคประมาณปี ค.ศ.1903 สมาชิกได้แตกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเรียกกลุ่มตัวเองว่า Bolsheviks มี Lenin เป็น หัวหน้า สมาชิกส่วนใหญ่ เป็นพวกอีลิตและชนชั้นกลาง อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่า ควรมีชนชั้นแรงงานเข้ามาร่วมด้วย เพื่อให้ฐานเสียงใหญ่ขึ้น เรียกกลุ่มตัวเองว่า Mensheviks มี Martov เป็นหัวหน้า ส่วนนาย Trotsky นั้น สังกัดกลุ่ม Mensheviks และเปลี่ยนมาอยู่กลุ่ม Bolsheviks เอาในปี ค.ศ.1917 นั่นเอง ) สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 เม.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 197 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 11 หุ่นเชิดสีส้ม

    ระหว่างที่รัสเซียเดินหน้าวางท่อส่งไป ทั้งเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก เหมือนดอกว่านบาน 4 ทิศ อเมริกาก็ใช้ทุกแผน ทั้งบนฟ้า เหนือดินและใต้ดินเหมือนกัน ที่จะตัดทางเดินของท่อส่ง ทางหนึ่งที่ลงทุนไปแยะแล้ว และเป็นด่านสำคัญคือ Ukraine เรื่องเก่า จึงต้องเอามาเล่นใหม่

    ดูจากแผนที่ Ukraine มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ต่อทั้ง NATO และรัสเซีย ไม่ใช่แค่ด้านตะวันออกของ Ukraine อยู่ติดรัสเซียเท่านั้น แต่ Ukraine ยังเป็นทางออกของท่อส่งแก๊ซเส้น ใหญ่ของรัสเซีย ที่ส่งไปให้ยุโรปตะวันตก คิดเป็นประมาณ 80% ของรายได้ที่เป็นดอลล่าร์ จากการส่งออกแก๊ซ มันเป็นเส้นเลือดใหญ่ของรัสเซียเลยล่ะ

    ไม่ใช่แค่เรื่องท่อส่งแก๊ซที่ทำให้อเมริกาจุกอก Ukraine ยังทำสัญญาให้สิทธิรัสเซีย ใช้ท่าเรือของ Ukraine ที่ Stevastopol เพื่อเป็นฐานให้กองทัพเรือของรัสเซียจอดที่ทะเลดำ และที่ Odessa อีกด้วย สัญญานี้ยังมีอายุอยู่ถึงปี ค.ศ. 2017 ถ้าไม่ต่อออกไปอีก กองทัพเรือรัสเซียที่ทะเลดำนี้ ทำให้ NATO ต้องคิดหนักในการสยายปีกของตนเองเพื่อมาล้อมรัสเซีย

    เมื่อ Georgia ถูกชักใยในปี ค.ศ. 2008 นาย Yushchenko ประธานธิบดีของ Ukraine ถูกผู้ชักใยสั่งให้สวมรอยใช้โอกาสนี้ บอกเลิกสัญญาเช่าท่าเรือนี้ก่อนกำหนดไปด้วย แต่มันไม่ง่ายนักหรอก กองเรือรัสเซียอยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1783 ตั้งแต่ Stevastopol ยังเป็นของรัสเซียอยู่
    ทางภาคตะวันออกของ Ukraine ซึ่งติดกับรัสเซีย เป็นถิ่นที่อยู่ของชาว Ukraine ประมาณ 15 ล้านคน ที่มีวัฒนธรรมเหมือนรัสเซีย และเป็นบริเวณที่มีผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก ปี ค.ศ. 2009 Ukraine เป็นอันดับ 3 ของโลก ในการส่งออกธัญพืช รองจากอเมริกาและสหภาพยุโรป แซงหน้ารัสเซียและแคนาดา chomozem ดินดำที่มีชื่อเสียงของ Ukraine เป็นดินที่มีปุ๋ยธรรมชาติมากที่สุดในโลก และดินดำนี้มีอยู่ทั่วประมาณ 2 ใน 3 ของดินแดน Ukraine

    บริเวณแม่น้ำ Dnieper และ Dniester เป็นที่เดียวในโลกอีกเช่นกัน ที่มีดินดำชนิดที่เรียกว่า “sweet black soil” ยาวไป 500 กิโลเมตร เป็นดินเหมาะสมสำหรับการทำเกษตรกรรมอย่างที่สุด และถือเป็นสมบัติมีค่าของประเทศ บรรษัทใหญ่ที่ทำเกษตรอุตสาหกรรม ของชาติตะวันตก เช่น Monsanto (จำได้ไหมครับ บริษัทนี้แสบอย่างไร เขาเป็นต้นคิดเมล็ดพืช พันธ์พิฆาต GMO) Cargill, ADM และ Kraft ต่างน้ำลายไหลยืด อยากจะมาครอบครองบริเวณนี้ของ Ukraine เพียงรอเวลา “เหมาะสม” อยู่เท่านั้น

    ส่วนบริเวณ Ukrainian Donetsk และ Donets Basin หรือ Donbas นั้น ซึ่งเป็นเขตฐานเสียงของ ประธานาธิบดีคนใหม่ คือ นาย YanuKovych เป็นดินแดน ที่เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมถ่านหินและเหล็ก รวมทั้งเป็นศูนย์กลางวิทยาศาสตร์ และมหาวิทยาลัย Donbas มีถ่านหินประมาณ 109 billion ตัน รวมทั้งมีน้ำมันและแก๊ซธรรมชาติด้วย

    โดยรวม นับว่า Ukraine เป็นบริเวณที่รวยที่สุดของทวีปยุโรปในแง่ของทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งหินแกรนิต แกรฟไฟท์ และเกลือ มีแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับการทำกระเบื้องเคลือบ อุตสาหกรรมเคมี และอุตสาหกรรมก่อสร้าง การยึด Ukraine ได้ในปี ค.ศ. 2004 ของอเมริกาจึงถือว่าได้รางวัลใหญ่ สมควรต้องตะโกนว่า We Won, We Won เราชนะ เราชนะ แล้วโว้ย ! แต่ใจเย็นก่อน มันแค่เกือบเท่านั้นเองนะ Emperor Bush !
    นาย Yushchenko “เกือบ” ทำให้แผนการสีส้มของอเมริกา ที่ลงทุนคนขน คนฉาก มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 สำเร็จสมเป้าหมาย ถ้าไม่บังเอิญเกิดอาการสดุดขากันเองก่อน ปี ค.ศ. 2008 ประธานาธิบดี Mikhail Saakaashvili ซึ่งรับใบสั่งลับอีกใบหนึ่งจากอเมริกา ทะเร่อทะร่ายกทัพไปบุก South Ossetia จนโดนกองทัพรัสเซียตีกลับแตกกระเจิง ใช้เวลาแค่ 5 วัน แค่นั้นยังไม่ ฉ.ห พอ บังเอิญช่วงนั้นคณะมนตรีของ NATO กำลังจะพิจารณาที่จะรับ Ukraine และ Georgia เป็นสมาชิกของ NATO (ตามคำสั่งของอเมริกา)อยู่ เยอรมันเลยยกมือประท้วง

    เดี๋ยวก่อน พวกเรา ถ้าเรารับไอ้ 2 ประเทศนี้เข้ามาอยู่ใน NATO น่ะนะ ตามกฎบัตรของ NATO เราต้องทำสงครามกับรัสเซียเพื่อปกป้อง ไอ้ 2 ประเทศ นี้ด้วยนะ

    บอกแล้วอย่าเพิ่งร้องว่า We Won ฝันเลยค้างเติ่งตั้งแต่ ค.ศ. 2008 เฮ้อ ! เหนื่อยวุ้ย ลงทุนใส่สีส้มมาตั้งหลายปี ตกลงใครหักหลังใครกันนะนี่ ? !

    ตอนจัดรายการปฏิวัติสีส้ม อเมริกาเปิดหน้า เปิดตัว ไม่ใช่แค่ประกาศส่งตัวนักแสดง เป็นหุ่น คือ นาย Viktor Yushchenko และคุณเมียชาว Chicago เท่านั้น อเมริกายังส่งนาย John Herbs มาเป็นฑูตอเมริกันประจำ Ukraine ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2008 อีกด้วย เขามาอยู่Ukraineไม่กี่เดือนก่อนละครเรื่องส้มสลายจะลงโรง นาย Herbs นี้ ก่อนหน้าที่จะมาประจำ Ukraine เขาเคยเป็นฑูตของอเมริกา อยู่ที่ Uzbekistan โดยมีหน้าที่ปฎิบัติภาระกิจสำคัญ ช่วยกำกับการแสดง Operation Enduring Freedom ใน Afkanistan มาแล้ว ภาระกิจแต่ละรายของนาย Herbs เหมาะกับหน้าที่ของคนเป็นทูตอเมริกันอย่างยิ่ง

    คุณหุ่น Yushchenko นี้ ถูกคัดมาแต่งตัวเตรียมเป็นประธานาธิบดี เพราะมีผลงานเข้าตากรรมการ เนื่องจากเป็นอดีตผุ้ว่าการธนาคารกลางของ Ukraine สมัย IMF ใช้โปรแกรม shock therapy

    ในช่วง ค.ศ. 1994 IMF บังคับให้ Ukraine ยกเลิกการควบคุมปริวรรติเงินตรา และลอยค่าเงิน ได้ผลดีมาก เงิน Ukraine ลอยลงสู่พื้น ราคาขนมปังขึ้นไป 300% ค่าไฟฟ้าขึ้นไป 600% ค่าเดินทางโดยบริการสาธารณะขึ้นไป 900% ในปี ค.ศ. 1998 ค่าแรงของชาว Ukraine หายไป 75% เมื่อเปรียบเทียบกับปี ค.ศ. 1991 ในวันที่เต้นรำฉลองชัยออกจากม่านเหล็กกัน

    วอชิงตันเลือกถูกคนจริง ๆ ดินแดนสมันน้อยก็เคยเจอใกล้เคียง หวังว่ายังคงจำกันได้ คงพอมองออกนะครับ เวลาเขาจะปล้นอะไร พวกนักการเงิน นักการธนาคาร ว่าง่าย ใช้คล่อง เข้าใจคำสั่ง และภาระกิจดี..
    เมื่อการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในปี ค.ศ. 2004 มาถึง แม้ขบวนการสีส้มจะเต้นกันไปรอบ เมืองอย่างไร นาย Yushchenko ก็ดันแพ้การเลือกตั้งแก่ นาย Viktor Yanukovych ขบวนการสีส้มมึน เป็นไปได้ไง เราดัก เราหัก เราตีมันทุกทางแล้วนี่นา ลงทุนขนาดนี้ แพ้ได้ยังไงหึ !

    Pora Group ออกมาเดินเต็มถนนอีกรอบ คราวนี้ตะโกน “เลือกตั้งสกปรก เลือกตั้งสกปรก”
    CNN และ BBC ออกข่าวโหม กกต. Ukraine ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ในปี 2005 คราวนี้นาย Yushchenko ชนะแบบฉิวเฉียด เขารีบประกาศตัวเป็นประธานาธิบดี

    ประธานาธิบดี Yushchenko ไม่รอช้า เดินหน้าทุกทางที่จะตัดเส้นเลือดของรัสเซีย โดยเฉพาะท่อส่งแก๊ซเส้นทางที่จะออกไปยังยุโรปตะวันตก วอชิงตันพยายามกล่อมสมาชิกสหภาพยุโรป โดยเฉพาะเยอรมันว่า รัสเซียเป็นคู่สัญญาที่ไม่น่าเชื่อถือ

    หุ่นเชิด 2 ตัว Yushenchenko ของ Ukraine และ Saakashvili ของ Georgia ต่างทำงานหนัก แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล สหภาพยุโรปยังต้องอาศัยแก๊ซจากรัสเซียต่อไป ทางเลือกใหม่ยังไม่มี

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    30 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 11 หุ่นเชิดสีส้ม ระหว่างที่รัสเซียเดินหน้าวางท่อส่งไป ทั้งเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก เหมือนดอกว่านบาน 4 ทิศ อเมริกาก็ใช้ทุกแผน ทั้งบนฟ้า เหนือดินและใต้ดินเหมือนกัน ที่จะตัดทางเดินของท่อส่ง ทางหนึ่งที่ลงทุนไปแยะแล้ว และเป็นด่านสำคัญคือ Ukraine เรื่องเก่า จึงต้องเอามาเล่นใหม่ ดูจากแผนที่ Ukraine มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ต่อทั้ง NATO และรัสเซีย ไม่ใช่แค่ด้านตะวันออกของ Ukraine อยู่ติดรัสเซียเท่านั้น แต่ Ukraine ยังเป็นทางออกของท่อส่งแก๊ซเส้น ใหญ่ของรัสเซีย ที่ส่งไปให้ยุโรปตะวันตก คิดเป็นประมาณ 80% ของรายได้ที่เป็นดอลล่าร์ จากการส่งออกแก๊ซ มันเป็นเส้นเลือดใหญ่ของรัสเซียเลยล่ะ ไม่ใช่แค่เรื่องท่อส่งแก๊ซที่ทำให้อเมริกาจุกอก Ukraine ยังทำสัญญาให้สิทธิรัสเซีย ใช้ท่าเรือของ Ukraine ที่ Stevastopol เพื่อเป็นฐานให้กองทัพเรือของรัสเซียจอดที่ทะเลดำ และที่ Odessa อีกด้วย สัญญานี้ยังมีอายุอยู่ถึงปี ค.ศ. 2017 ถ้าไม่ต่อออกไปอีก กองทัพเรือรัสเซียที่ทะเลดำนี้ ทำให้ NATO ต้องคิดหนักในการสยายปีกของตนเองเพื่อมาล้อมรัสเซีย เมื่อ Georgia ถูกชักใยในปี ค.ศ. 2008 นาย Yushchenko ประธานธิบดีของ Ukraine ถูกผู้ชักใยสั่งให้สวมรอยใช้โอกาสนี้ บอกเลิกสัญญาเช่าท่าเรือนี้ก่อนกำหนดไปด้วย แต่มันไม่ง่ายนักหรอก กองเรือรัสเซียอยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1783 ตั้งแต่ Stevastopol ยังเป็นของรัสเซียอยู่ ทางภาคตะวันออกของ Ukraine ซึ่งติดกับรัสเซีย เป็นถิ่นที่อยู่ของชาว Ukraine ประมาณ 15 ล้านคน ที่มีวัฒนธรรมเหมือนรัสเซีย และเป็นบริเวณที่มีผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก ปี ค.ศ. 2009 Ukraine เป็นอันดับ 3 ของโลก ในการส่งออกธัญพืช รองจากอเมริกาและสหภาพยุโรป แซงหน้ารัสเซียและแคนาดา chomozem ดินดำที่มีชื่อเสียงของ Ukraine เป็นดินที่มีปุ๋ยธรรมชาติมากที่สุดในโลก และดินดำนี้มีอยู่ทั่วประมาณ 2 ใน 3 ของดินแดน Ukraine บริเวณแม่น้ำ Dnieper และ Dniester เป็นที่เดียวในโลกอีกเช่นกัน ที่มีดินดำชนิดที่เรียกว่า “sweet black soil” ยาวไป 500 กิโลเมตร เป็นดินเหมาะสมสำหรับการทำเกษตรกรรมอย่างที่สุด และถือเป็นสมบัติมีค่าของประเทศ บรรษัทใหญ่ที่ทำเกษตรอุตสาหกรรม ของชาติตะวันตก เช่น Monsanto (จำได้ไหมครับ บริษัทนี้แสบอย่างไร เขาเป็นต้นคิดเมล็ดพืช พันธ์พิฆาต GMO) Cargill, ADM และ Kraft ต่างน้ำลายไหลยืด อยากจะมาครอบครองบริเวณนี้ของ Ukraine เพียงรอเวลา “เหมาะสม” อยู่เท่านั้น ส่วนบริเวณ Ukrainian Donetsk และ Donets Basin หรือ Donbas นั้น ซึ่งเป็นเขตฐานเสียงของ ประธานาธิบดีคนใหม่ คือ นาย YanuKovych เป็นดินแดน ที่เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมถ่านหินและเหล็ก รวมทั้งเป็นศูนย์กลางวิทยาศาสตร์ และมหาวิทยาลัย Donbas มีถ่านหินประมาณ 109 billion ตัน รวมทั้งมีน้ำมันและแก๊ซธรรมชาติด้วย โดยรวม นับว่า Ukraine เป็นบริเวณที่รวยที่สุดของทวีปยุโรปในแง่ของทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งหินแกรนิต แกรฟไฟท์ และเกลือ มีแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับการทำกระเบื้องเคลือบ อุตสาหกรรมเคมี และอุตสาหกรรมก่อสร้าง การยึด Ukraine ได้ในปี ค.ศ. 2004 ของอเมริกาจึงถือว่าได้รางวัลใหญ่ สมควรต้องตะโกนว่า We Won, We Won เราชนะ เราชนะ แล้วโว้ย ! แต่ใจเย็นก่อน มันแค่เกือบเท่านั้นเองนะ Emperor Bush ! นาย Yushchenko “เกือบ” ทำให้แผนการสีส้มของอเมริกา ที่ลงทุนคนขน คนฉาก มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 สำเร็จสมเป้าหมาย ถ้าไม่บังเอิญเกิดอาการสดุดขากันเองก่อน ปี ค.ศ. 2008 ประธานาธิบดี Mikhail Saakaashvili ซึ่งรับใบสั่งลับอีกใบหนึ่งจากอเมริกา ทะเร่อทะร่ายกทัพไปบุก South Ossetia จนโดนกองทัพรัสเซียตีกลับแตกกระเจิง ใช้เวลาแค่ 5 วัน แค่นั้นยังไม่ ฉ.ห พอ บังเอิญช่วงนั้นคณะมนตรีของ NATO กำลังจะพิจารณาที่จะรับ Ukraine และ Georgia เป็นสมาชิกของ NATO (ตามคำสั่งของอเมริกา)อยู่ เยอรมันเลยยกมือประท้วง เดี๋ยวก่อน พวกเรา ถ้าเรารับไอ้ 2 ประเทศนี้เข้ามาอยู่ใน NATO น่ะนะ ตามกฎบัตรของ NATO เราต้องทำสงครามกับรัสเซียเพื่อปกป้อง ไอ้ 2 ประเทศ นี้ด้วยนะ บอกแล้วอย่าเพิ่งร้องว่า We Won ฝันเลยค้างเติ่งตั้งแต่ ค.ศ. 2008 เฮ้อ ! เหนื่อยวุ้ย ลงทุนใส่สีส้มมาตั้งหลายปี ตกลงใครหักหลังใครกันนะนี่ ? ! ตอนจัดรายการปฏิวัติสีส้ม อเมริกาเปิดหน้า เปิดตัว ไม่ใช่แค่ประกาศส่งตัวนักแสดง เป็นหุ่น คือ นาย Viktor Yushchenko และคุณเมียชาว Chicago เท่านั้น อเมริกายังส่งนาย John Herbs มาเป็นฑูตอเมริกันประจำ Ukraine ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2008 อีกด้วย เขามาอยู่Ukraineไม่กี่เดือนก่อนละครเรื่องส้มสลายจะลงโรง นาย Herbs นี้ ก่อนหน้าที่จะมาประจำ Ukraine เขาเคยเป็นฑูตของอเมริกา อยู่ที่ Uzbekistan โดยมีหน้าที่ปฎิบัติภาระกิจสำคัญ ช่วยกำกับการแสดง Operation Enduring Freedom ใน Afkanistan มาแล้ว ภาระกิจแต่ละรายของนาย Herbs เหมาะกับหน้าที่ของคนเป็นทูตอเมริกันอย่างยิ่ง คุณหุ่น Yushchenko นี้ ถูกคัดมาแต่งตัวเตรียมเป็นประธานาธิบดี เพราะมีผลงานเข้าตากรรมการ เนื่องจากเป็นอดีตผุ้ว่าการธนาคารกลางของ Ukraine สมัย IMF ใช้โปรแกรม shock therapy ในช่วง ค.ศ. 1994 IMF บังคับให้ Ukraine ยกเลิกการควบคุมปริวรรติเงินตรา และลอยค่าเงิน ได้ผลดีมาก เงิน Ukraine ลอยลงสู่พื้น ราคาขนมปังขึ้นไป 300% ค่าไฟฟ้าขึ้นไป 600% ค่าเดินทางโดยบริการสาธารณะขึ้นไป 900% ในปี ค.ศ. 1998 ค่าแรงของชาว Ukraine หายไป 75% เมื่อเปรียบเทียบกับปี ค.ศ. 1991 ในวันที่เต้นรำฉลองชัยออกจากม่านเหล็กกัน วอชิงตันเลือกถูกคนจริง ๆ ดินแดนสมันน้อยก็เคยเจอใกล้เคียง หวังว่ายังคงจำกันได้ คงพอมองออกนะครับ เวลาเขาจะปล้นอะไร พวกนักการเงิน นักการธนาคาร ว่าง่าย ใช้คล่อง เข้าใจคำสั่ง และภาระกิจดี.. เมื่อการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในปี ค.ศ. 2004 มาถึง แม้ขบวนการสีส้มจะเต้นกันไปรอบ เมืองอย่างไร นาย Yushchenko ก็ดันแพ้การเลือกตั้งแก่ นาย Viktor Yanukovych ขบวนการสีส้มมึน เป็นไปได้ไง เราดัก เราหัก เราตีมันทุกทางแล้วนี่นา ลงทุนขนาดนี้ แพ้ได้ยังไงหึ ! Pora Group ออกมาเดินเต็มถนนอีกรอบ คราวนี้ตะโกน “เลือกตั้งสกปรก เลือกตั้งสกปรก” CNN และ BBC ออกข่าวโหม กกต. Ukraine ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ในปี 2005 คราวนี้นาย Yushchenko ชนะแบบฉิวเฉียด เขารีบประกาศตัวเป็นประธานาธิบดี ประธานาธิบดี Yushchenko ไม่รอช้า เดินหน้าทุกทางที่จะตัดเส้นเลือดของรัสเซีย โดยเฉพาะท่อส่งแก๊ซเส้นทางที่จะออกไปยังยุโรปตะวันตก วอชิงตันพยายามกล่อมสมาชิกสหภาพยุโรป โดยเฉพาะเยอรมันว่า รัสเซียเป็นคู่สัญญาที่ไม่น่าเชื่อถือ หุ่นเชิด 2 ตัว Yushenchenko ของ Ukraine และ Saakashvili ของ Georgia ต่างทำงานหนัก แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล สหภาพยุโรปยังต้องอาศัยแก๊ซจากรัสเซียต่อไป ทางเลือกใหม่ยังไม่มี สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 30 มิย. 2557
    0 Comments 0 Shares 540 Views 0 Reviews
  • “NASA ผนึกกำลัง Google เปิดสายด่วนวิกฤตอาหารโลก — ใช้ภาพดาวเทียมและ AI คาดการณ์ภัยพิบัติก่อนเกิด”

    หลังจากสงครามรัสเซีย–ยูเครนเริ่มต้นขึ้นในปี 2022 นักวิทยาศาสตร์ด้านพืชผล Inbal Becker-Reshef จาก NASA ได้รับจดหมายจากรัฐบาลยูเครน ขอให้ช่วยประเมินความเสียหายของผลผลิตข้าวสาลีและธัญพืชที่สูญหายไปจากการรุกรานของกองทัพรัสเซีย นั่นคือจุดเริ่มต้นของการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมและการประมวลผลด้วย AI เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบต่อการเกษตรในพื้นที่สงคราม

    ในปี 2025 Becker-Reshef และทีมงานกว่า 20 คนได้เปิดตัว “สายด่วนวิกฤตอาหารโลก” ซึ่งเป็นศูนย์ประเมินผลผลิตพืชผลแบบเร่งด่วนระดับโลก โดยได้รับเงินทุนเริ่มต้นกว่า 7.7 ล้านดอลลาร์จาก Google.org, Microsoft AI for Good Lab, Planet Labs, NASA และองค์การอาหารแห่งสหประชาชาติ (FAO) จุดประสงค์คือให้รัฐบาล หน่วยงานช่วยเหลือ และสมาคมเกษตรสามารถส่งคำขอวิเคราะห์พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติหรือความขัดแย้ง เพื่อรับข้อมูลล่วงหน้าในการเตรียมรับมือ

    ระบบนี้ใช้ภาพจากดาวเทียมที่ถูกวิเคราะห์ด้วยโมเดล AI เพื่อคาดการณ์ความเสี่ยงด้านอาหารในอนาคต เช่น การสูญเสียผลผลิตจากน้ำท่วม, ภัยแล้ง, ไฟป่า หรือสงคราม ซึ่งในปีเดียวกันนี้มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นทั่วโลก เช่น น้ำท่วมในปากีสถานที่ทำให้ประชาชนกว่า 4 ล้านคนต้องอพยพ และผลผลิตข้าวกับอ้อยถูกทำลาย

    แนวคิดนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NASA Harvest ซึ่งมีเป้าหมายในการใช้ข้อมูลจากอวกาศเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่สามารถเก็บข้อมูลภาคพื้นดินได้ เช่น เขตสงครามหรือพื้นที่ที่มีภัยพิบัติรุนแรง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    NASA เปิดสายด่วนวิกฤตอาหารโลกโดยใช้ภาพดาวเทียมและ AI วิเคราะห์
    ได้รับเงินทุนเริ่มต้นกว่า 7.7 ล้านดอลลาร์จาก Google, Microsoft, Planet Labs และ FAO
    ใช้ภาพจากอวกาศเพื่อคาดการณ์ความเสี่ยงด้านอาหารล่วงหน้า
    ศูนย์นี้สามารถรับคำขอจากรัฐบาลและหน่วยงานช่วยเหลือทั่วโลก

    จุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจ
    เริ่มต้นจากคำขอของรัฐบาลยูเครนให้ช่วยประเมินผลผลิตที่สูญหายจากสงคราม
    Becker-Reshef เป็นหัวหน้าทีม NASA Harvest และอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยในฝรั่งเศส
    ทีมงานมีนักวิทยาศาสตร์กว่า 20 คนที่เชี่ยวชาญด้านการเกษตรและการวิเคราะห์ภาพดาวเทียม
    ใช้ข้อมูลจากดาวเทียมแทนการเก็บข้อมูลภาคพื้นดินในพื้นที่อันตราย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    NASA Harvest เป็นโครงการที่ใช้ข้อมูลอวกาศเพื่อเสริมความมั่นคงทางอาหาร
    ภาพดาวเทียมสามารถช่วยวิเคราะห์ผลผลิต, การหมุนเวียนพืช, และความเสี่ยงจากภัยพิบัติ
    บริษัทเอกชนอย่าง John Deere และ CNH Industrial เริ่มลงทุนในเทคโนโลยีดาวเทียมเพื่อการเกษตร
    การใช้ AI ร่วมกับภาพดาวเทียมช่วยให้การตอบสนองต่อวิกฤตเร็วขึ้นและแม่นยำขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/17/nasa-scientist-starts-food-crisis-hotline-with-tech-giant-funding
    🌍 “NASA ผนึกกำลัง Google เปิดสายด่วนวิกฤตอาหารโลก — ใช้ภาพดาวเทียมและ AI คาดการณ์ภัยพิบัติก่อนเกิด” หลังจากสงครามรัสเซีย–ยูเครนเริ่มต้นขึ้นในปี 2022 นักวิทยาศาสตร์ด้านพืชผล Inbal Becker-Reshef จาก NASA ได้รับจดหมายจากรัฐบาลยูเครน ขอให้ช่วยประเมินความเสียหายของผลผลิตข้าวสาลีและธัญพืชที่สูญหายไปจากการรุกรานของกองทัพรัสเซีย นั่นคือจุดเริ่มต้นของการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมและการประมวลผลด้วย AI เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบต่อการเกษตรในพื้นที่สงคราม ในปี 2025 Becker-Reshef และทีมงานกว่า 20 คนได้เปิดตัว “สายด่วนวิกฤตอาหารโลก” ซึ่งเป็นศูนย์ประเมินผลผลิตพืชผลแบบเร่งด่วนระดับโลก โดยได้รับเงินทุนเริ่มต้นกว่า 7.7 ล้านดอลลาร์จาก Google.org, Microsoft AI for Good Lab, Planet Labs, NASA และองค์การอาหารแห่งสหประชาชาติ (FAO) จุดประสงค์คือให้รัฐบาล หน่วยงานช่วยเหลือ และสมาคมเกษตรสามารถส่งคำขอวิเคราะห์พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติหรือความขัดแย้ง เพื่อรับข้อมูลล่วงหน้าในการเตรียมรับมือ ระบบนี้ใช้ภาพจากดาวเทียมที่ถูกวิเคราะห์ด้วยโมเดล AI เพื่อคาดการณ์ความเสี่ยงด้านอาหารในอนาคต เช่น การสูญเสียผลผลิตจากน้ำท่วม, ภัยแล้ง, ไฟป่า หรือสงคราม ซึ่งในปีเดียวกันนี้มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นทั่วโลก เช่น น้ำท่วมในปากีสถานที่ทำให้ประชาชนกว่า 4 ล้านคนต้องอพยพ และผลผลิตข้าวกับอ้อยถูกทำลาย แนวคิดนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NASA Harvest ซึ่งมีเป้าหมายในการใช้ข้อมูลจากอวกาศเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่สามารถเก็บข้อมูลภาคพื้นดินได้ เช่น เขตสงครามหรือพื้นที่ที่มีภัยพิบัติรุนแรง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ NASA เปิดสายด่วนวิกฤตอาหารโลกโดยใช้ภาพดาวเทียมและ AI วิเคราะห์ ➡️ ได้รับเงินทุนเริ่มต้นกว่า 7.7 ล้านดอลลาร์จาก Google, Microsoft, Planet Labs และ FAO ➡️ ใช้ภาพจากอวกาศเพื่อคาดการณ์ความเสี่ยงด้านอาหารล่วงหน้า ➡️ ศูนย์นี้สามารถรับคำขอจากรัฐบาลและหน่วยงานช่วยเหลือทั่วโลก ✅ จุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจ ➡️ เริ่มต้นจากคำขอของรัฐบาลยูเครนให้ช่วยประเมินผลผลิตที่สูญหายจากสงคราม ➡️ Becker-Reshef เป็นหัวหน้าทีม NASA Harvest และอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยในฝรั่งเศส ➡️ ทีมงานมีนักวิทยาศาสตร์กว่า 20 คนที่เชี่ยวชาญด้านการเกษตรและการวิเคราะห์ภาพดาวเทียม ➡️ ใช้ข้อมูลจากดาวเทียมแทนการเก็บข้อมูลภาคพื้นดินในพื้นที่อันตราย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ NASA Harvest เป็นโครงการที่ใช้ข้อมูลอวกาศเพื่อเสริมความมั่นคงทางอาหาร ➡️ ภาพดาวเทียมสามารถช่วยวิเคราะห์ผลผลิต, การหมุนเวียนพืช, และความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ➡️ บริษัทเอกชนอย่าง John Deere และ CNH Industrial เริ่มลงทุนในเทคโนโลยีดาวเทียมเพื่อการเกษตร ➡️ การใช้ AI ร่วมกับภาพดาวเทียมช่วยให้การตอบสนองต่อวิกฤตเร็วขึ้นและแม่นยำขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/17/nasa-scientist-starts-food-crisis-hotline-with-tech-giant-funding
    WWW.THESTAR.COM.MY
    NASA scientist starts food crisis hotline with tech giant funding
    Right after Russia's full-scale invasion of Ukraine, crop scientist Inbal Becker-Reshef got a letter from officials in Kyiv. They wanted to figure out how much wheat and other grains were lost to Vladimir Putin's occupying forces.
    0 Comments 0 Shares 439 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพรัสเซีย แต่งกายในชุดทหารร่วมชมซ้อมรบ "Zapad - 2025" ที่สนามฝึกซ้อมมูลิโน(Mulino training ground) ในภูมิภาคนิจนีนอฟโกรอด(Nizhny Novgorod region) ซึ่งเป็นสถานที่หลักของการซ้อมรบรัสเซีย-เบลารุส
    .
    การซ้อมรบ Zapad-2025 นอกจากเบลารุสแล้ว ยังมีประเทศใหญ่อีกหลายประเทศที่เข้าร่วมในครั้งนี้ เช่น บังกลาเทศ อินเดีย อิหร่าน บูร์กินาฟาโซ สาธารณรัฐคองโก และมาลี โดยรวมแล้วมีคณะผู้แทนจากต่างประเทศเข้าร่วมการซ้อมรบนี้ทั้งสิ้น 25 คณะ ส่งผลให้ประเทศในยุโรปจับตาการเคลื่อนไหวของรัสเซียและพันธมิตรในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด
    .
    การซ้อมรบ "Zapad-2025" จัดขึ้นที่สนามฝึก 41 แห่ง รวมถึง 4 แห่งในเบลารุส มีกำลังพลทหารเข้าร่วม 100,000 นาย เครื่องบิน 333 ลำ เรือรบอีกเกือบ 250 ลำ และระบบอาวุธและอุปกรณ์ประมาณ 10,000 ชุด ทั้งหมดเป็นของใหม่ที่ทันสมัยสำหรับปฏิบัติการรบจริง ประกอบด้วยการใช้อากาศยานไร้คนขับ โดรนหุ่นยนต์ภาคพื้นดิน การโจมตีด้วยรถจักรยานยนต์
    .
    นอกจากนี้ แผนการซ้อมรบยังอิงจากประสบการณ์ที่ได้รับจากปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน เป้าหมายของการซ้อมรบ คือการฝึกซ้อมการร่วมมือในการป้องกันประเทศรัสเซียและเบลารุสจากการรุกรานใดๆ
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพรัสเซีย แต่งกายในชุดทหารร่วมชมซ้อมรบ "Zapad - 2025" ที่สนามฝึกซ้อมมูลิโน(Mulino training ground) ในภูมิภาคนิจนีนอฟโกรอด(Nizhny Novgorod region) ซึ่งเป็นสถานที่หลักของการซ้อมรบรัสเซีย-เบลารุส . การซ้อมรบ Zapad-2025 นอกจากเบลารุสแล้ว ยังมีประเทศใหญ่อีกหลายประเทศที่เข้าร่วมในครั้งนี้ เช่น บังกลาเทศ อินเดีย อิหร่าน บูร์กินาฟาโซ สาธารณรัฐคองโก และมาลี โดยรวมแล้วมีคณะผู้แทนจากต่างประเทศเข้าร่วมการซ้อมรบนี้ทั้งสิ้น 25 คณะ ส่งผลให้ประเทศในยุโรปจับตาการเคลื่อนไหวของรัสเซียและพันธมิตรในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด . การซ้อมรบ "Zapad-2025" จัดขึ้นที่สนามฝึก 41 แห่ง รวมถึง 4 แห่งในเบลารุส มีกำลังพลทหารเข้าร่วม 100,000 นาย เครื่องบิน 333 ลำ เรือรบอีกเกือบ 250 ลำ และระบบอาวุธและอุปกรณ์ประมาณ 10,000 ชุด ทั้งหมดเป็นของใหม่ที่ทันสมัยสำหรับปฏิบัติการรบจริง ประกอบด้วยการใช้อากาศยานไร้คนขับ โดรนหุ่นยนต์ภาคพื้นดิน การโจมตีด้วยรถจักรยานยนต์ . นอกจากนี้ แผนการซ้อมรบยังอิงจากประสบการณ์ที่ได้รับจากปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน เป้าหมายของการซ้อมรบ คือการฝึกซ้อมการร่วมมือในการป้องกันประเทศรัสเซียและเบลารุสจากการรุกรานใดๆ
    0 Comments 0 Shares 304 Views 0 0 Reviews
  • กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ยืนยัน กองทัพรัสเซียเข้ายึดหมู่บ้านโนโวนิโคลาเยฟกา (Novomykolaivka) ได้อีกแห่ง ในแขว้นดนีโปรเปตรอฟสค์ (Dnipropetrovsk) ประเทศยูเครน พร้อมกับเผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นหมู่บ้านดังกล่าวที่ตั้งอยู่กลางทุ่งโล่ง

    พิกัดหมู่บ้านโนโวนิโคลาเยฟกา (Novomykolaivka)
    47.8412,36.5081
    กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ยืนยัน กองทัพรัสเซียเข้ายึดหมู่บ้านโนโวนิโคลาเยฟกา (Novomykolaivka) ได้อีกแห่ง ในแขว้นดนีโปรเปตรอฟสค์ (Dnipropetrovsk) ประเทศยูเครน พร้อมกับเผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นหมู่บ้านดังกล่าวที่ตั้งอยู่กลางทุ่งโล่ง พิกัดหมู่บ้านโนโวนิโคลาเยฟกา (Novomykolaivka) 47.8412,36.5081
    0 Comments 0 Shares 283 Views 0 Reviews
  • 2/
    ช่วงเวลาที่กองกำลังของรัสเซียแอบบุกเข้าสู่เมืองคูปยานสค์ (Kupyansk) ภูมิภาคคาร์คีฟ ของยูเครน ด้วยการมุดผ่านท่อส่งก๊าซ

    จากข้อมูลแนวหน้า ทหารรัสเซียต้องใช้เวลา 4 วัน อยู่ภายในอุโมงค์ กว่าจะลักลอบเข้าไปใน Kupyansk จึงต้องมีการทำที่พัก และจุดสะสมเสบียง

    ก่อนหน้านี้ กองกำลังติดอาวุธยูเครน เคยดูแคลนฝ่ายรัสเซียไว้ว่า ไม่สามารถยึดครอง Kupyansk ได้ เนื่องจากมีพลเรือนอยู่ภายในเมืองจำนวนมาก แต่กลายเป็นว่าพลเมืองส่วนหนึ่งคอยช่วยเหลือฝ่ายรัสเซีย ด้วยการแอบส่งเสบียงให้

    เมื่อสัปดาห์ก่อน กองทัพรัสเซียประกาศว่าสามารถยึดครองเมือง Kupyansk ได้ครึ่งเมืองแล้ว
    2/ ช่วงเวลาที่กองกำลังของรัสเซียแอบบุกเข้าสู่เมืองคูปยานสค์ (Kupyansk) ภูมิภาคคาร์คีฟ ของยูเครน ด้วยการมุดผ่านท่อส่งก๊าซ จากข้อมูลแนวหน้า ทหารรัสเซียต้องใช้เวลา 4 วัน อยู่ภายในอุโมงค์ กว่าจะลักลอบเข้าไปใน Kupyansk จึงต้องมีการทำที่พัก และจุดสะสมเสบียง ก่อนหน้านี้ กองกำลังติดอาวุธยูเครน เคยดูแคลนฝ่ายรัสเซียไว้ว่า ไม่สามารถยึดครอง Kupyansk ได้ เนื่องจากมีพลเรือนอยู่ภายในเมืองจำนวนมาก แต่กลายเป็นว่าพลเมืองส่วนหนึ่งคอยช่วยเหลือฝ่ายรัสเซีย ด้วยการแอบส่งเสบียงให้ เมื่อสัปดาห์ก่อน กองทัพรัสเซียประกาศว่าสามารถยึดครองเมือง Kupyansk ได้ครึ่งเมืองแล้ว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 318 Views 0 0 Reviews
  • 1/
    ช่วงเวลาที่กองกำลังของรัสเซียแอบบุกเข้าสู่เมืองคูปยานสค์ (Kupyansk) ภูมิภาคคาร์คีฟ ของยูเครน ด้วยการมุดผ่านท่อส่งก๊าซ

    จากข้อมูลแนวหน้า ทหารรัสเซียต้องใช้เวลา 4 วัน อยู่ภายในอุโมงค์ กว่าจะลักลอบเข้าไปใน Kupyansk จึงต้องมีการทำที่พัก และจุดสะสมเสบียง

    ก่อนหน้านี้ กองกำลังติดอาวุธยูเครน เคยดูแคลนฝ่ายรัสเซียไว้ว่า ไม่สามารถยึดครอง Kupyansk ได้ เนื่องจากมีพลเรือนอยู่ภายในเมืองจำนวนมาก แต่กลายเป็นว่าพลเมืองส่วนหนึ่งคอยช่วยเหลือฝ่ายรัสเซีย ด้วยการแอบส่งเสบียงให้

    เมื่อสัปดาห์ก่อน กองทัพรัสเซียประกาศว่าสามารถยึดครองเมือง Kupyansk ได้ครึ่งเมืองแล้ว
    1/ ช่วงเวลาที่กองกำลังของรัสเซียแอบบุกเข้าสู่เมืองคูปยานสค์ (Kupyansk) ภูมิภาคคาร์คีฟ ของยูเครน ด้วยการมุดผ่านท่อส่งก๊าซ จากข้อมูลแนวหน้า ทหารรัสเซียต้องใช้เวลา 4 วัน อยู่ภายในอุโมงค์ กว่าจะลักลอบเข้าไปใน Kupyansk จึงต้องมีการทำที่พัก และจุดสะสมเสบียง ก่อนหน้านี้ กองกำลังติดอาวุธยูเครน เคยดูแคลนฝ่ายรัสเซียไว้ว่า ไม่สามารถยึดครอง Kupyansk ได้ เนื่องจากมีพลเรือนอยู่ภายในเมืองจำนวนมาก แต่กลายเป็นว่าพลเมืองส่วนหนึ่งคอยช่วยเหลือฝ่ายรัสเซีย ด้วยการแอบส่งเสบียงให้ เมื่อสัปดาห์ก่อน กองทัพรัสเซียประกาศว่าสามารถยึดครองเมือง Kupyansk ได้ครึ่งเมืองแล้ว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 301 Views 0 Reviews
  • กระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานการใช้เรือผิวน้ำไร้คนขับ (USV) โจมตีเรือตรวจการณ์ "ซิมเฟโรโพล" (Симферополь) ของยูเครน ที่ปากแม่น้ำดานูบ (Danube) ใกล้เมืองวิลโคโว (Vylkove) ในเขตภูมิภาคโอเดสซา (Odessa) ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างยูเครนและโรมาเนีย

    นับเป็นครั้งแรกที่กองทัพรัสเซีย เผยแพร่คลิป และรายงานอย่างเป็นทางการถึงการใช้เรือเร็วไร้คนขับ ในการโจมตีทางทะเล
    การโจมตีครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการโจมตียูเครนเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปถึงนาโตอีกด้วย ว่ารัสเซียครอบครองเหนือพื้นที่น่านทะเลดำ (Black Sea)

    สังเกตว่าเรือตรวจการณ์ของยูเครนลำดังกล่าวถูกคลุมด้วยตาข่ายป้องกันโดรนทางอากาศ แต่ยูเครนคงไม่คาดคิดว่า รัสเซียจะเริ่มใช้เรือผิวน้ำไร้คนขับ

    เรือโดรนของรัสเซียลำนี้ไม่เพียงแค่เดินทางหลายร้อยกิโลเมตรข้ามทะเลดำเท่านั้น แต่ยังสามารถแล่นเข้าไปในส่วนที่เป็นแม่น้ำดานูบที่มีความคดเคี้ยวอีก 25 กิโลเมตรด้วย!
    กระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานการใช้เรือผิวน้ำไร้คนขับ (USV) โจมตีเรือตรวจการณ์ "ซิมเฟโรโพล" (Симферополь) ของยูเครน ที่ปากแม่น้ำดานูบ (Danube) ใกล้เมืองวิลโคโว (Vylkove) ในเขตภูมิภาคโอเดสซา (Odessa) ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างยูเครนและโรมาเนีย นับเป็นครั้งแรกที่กองทัพรัสเซีย เผยแพร่คลิป และรายงานอย่างเป็นทางการถึงการใช้เรือเร็วไร้คนขับ ในการโจมตีทางทะเล การโจมตีครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการโจมตียูเครนเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปถึงนาโตอีกด้วย ว่ารัสเซียครอบครองเหนือพื้นที่น่านทะเลดำ (Black Sea) สังเกตว่าเรือตรวจการณ์ของยูเครนลำดังกล่าวถูกคลุมด้วยตาข่ายป้องกันโดรนทางอากาศ แต่ยูเครนคงไม่คาดคิดว่า รัสเซียจะเริ่มใช้เรือผิวน้ำไร้คนขับ เรือโดรนของรัสเซียลำนี้ไม่เพียงแค่เดินทางหลายร้อยกิโลเมตรข้ามทะเลดำเท่านั้น แต่ยังสามารถแล่นเข้าไปในส่วนที่เป็นแม่น้ำดานูบที่มีความคดเคี้ยวอีก 25 กิโลเมตรด้วย!
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 394 Views 0 Reviews
  • เมื่อคืนที่ผ่านมา (20 สิงหาคม 2568) ต่อเนื่องจนถึงรุ่งเช้า กองทัพรัสเซียเปิดฉากโจมตีอย่างหนักอีกครั้งในพื้นที่ของยูเครน

    มีรายงานการใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง "Kinzhals" และ "Zircons" ในครั้งนี้ด้วย

    ภูมิภาคดนีปรอเปตรอฟสค์ (Dnipropetrovsk) เป้าหมายของการโจมตีของรัสเซียคือโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานก๊าซ ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

    ภูมิภาค ลวอฟ (Lvov/Lviv) ซึ่งมีรายงานการระเบิดรุนแรงสามครั้งติดต่อกัน

    ภูมิภาคลุตสก์ (Lust) มีรายงานการโจมตีอย่างน้อยสี่ครั้ง ยืนยันโดยนายกเทศมนตรีของเมือง

    มีรายงานขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง "Kinzhals" และ "Zircons" อย่างน้อย 4 ลูก โจมตีเป้าหมายในภูมิภาคริฟเน (Rivne)

    เมื่อคืนที่ผ่านมา (20 สิงหาคม 2568) ต่อเนื่องจนถึงรุ่งเช้า กองทัพรัสเซียเปิดฉากโจมตีอย่างหนักอีกครั้งในพื้นที่ของยูเครน มีรายงานการใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง "Kinzhals" และ "Zircons" ในครั้งนี้ด้วย 🟥ภูมิภาคดนีปรอเปตรอฟสค์ (Dnipropetrovsk) เป้าหมายของการโจมตีของรัสเซียคือโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานก๊าซ ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง 🟥ภูมิภาค ลวอฟ (Lvov/Lviv) ซึ่งมีรายงานการระเบิดรุนแรงสามครั้งติดต่อกัน 🟥ภูมิภาคลุตสก์ (Lust) มีรายงานการโจมตีอย่างน้อยสี่ครั้ง ยืนยันโดยนายกเทศมนตรีของเมือง 🟥มีรายงานขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง "Kinzhals" และ "Zircons" อย่างน้อย 4 ลูก โจมตีเป้าหมายในภูมิภาคริฟเน (Rivne)
    0 Comments 0 Shares 365 Views 0 Reviews
  • เซเลนสกี ประกาศยืนยันอีกครั้ง ก่อนที่จะมีการหารือระหว่าปูตินและทรัมป์ในวันศุกร์นี้ที่อลาสกา ว่าจะไม่ยอมยกภูมิภาคดอนบาสให้กับรัสเซีย เพื่อแลกกับการทำข้อตกลงหยุดยิง โดยเซเลนสกีมีกำหนดการที่จะพูดคุยกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อนที่ทรัมป์จะเจอกับปูติน

    ขณะเดียวกัน กองทัพรัสเซีย ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในช่วงฤดูร้อน และได้บุกจู่โจมสายฟ้าแลบใกล้เมืองโดโบรปิลลิยา (Dobropillia) ทางตะวันออกของยูเครน และรุกคืบได้ 10 กิโลเมตร ภายในเวลาอันสั้น ซึ่งประธานาธิบดีเซเลนสกี ยอมรับว่า การรุกคืบเกิดขึ้นในหลายจุด แต่ย้ำว่าเคียฟจะทำลายหน่วยรบที่เกี่ยวข้องได้ในไม่ช้านี้
    เซเลนสกี ประกาศยืนยันอีกครั้ง ก่อนที่จะมีการหารือระหว่าปูตินและทรัมป์ในวันศุกร์นี้ที่อลาสกา ว่าจะไม่ยอมยกภูมิภาคดอนบาสให้กับรัสเซีย เพื่อแลกกับการทำข้อตกลงหยุดยิง โดยเซเลนสกีมีกำหนดการที่จะพูดคุยกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อนที่ทรัมป์จะเจอกับปูติน ขณะเดียวกัน กองทัพรัสเซีย ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในช่วงฤดูร้อน และได้บุกจู่โจมสายฟ้าแลบใกล้เมืองโดโบรปิลลิยา (Dobropillia) ทางตะวันออกของยูเครน และรุกคืบได้ 10 กิโลเมตร ภายในเวลาอันสั้น ซึ่งประธานาธิบดีเซเลนสกี ยอมรับว่า การรุกคืบเกิดขึ้นในหลายจุด แต่ย้ำว่าเคียฟจะทำลายหน่วยรบที่เกี่ยวข้องได้ในไม่ช้านี้
    0 Comments 0 Shares 468 Views 0 Reviews
  • เมื่อคืนที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียใช้โดรนมากกว่า 300 ลำ รวมทั้งขีปนาวุธหลากหลายประเภทกว่า 30 ลูก ยิงโจมตีถล่มเมืองในเขตภูมิภาคโดเนตสค์, คิโรโวฮรัด, ดนิโปร, ซูมี, เคอร์ซอน, โวลิน, ซาปอริซเซีย, มีโคลาอิฟ, โอเดสซา และชิตโตเมียร์ และซูมี ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของยูเครนได้รับความเสียหายมากมาย
    เมื่อคืนที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียใช้โดรนมากกว่า 300 ลำ รวมทั้งขีปนาวุธหลากหลายประเภทกว่า 30 ลูก ยิงโจมตีถล่มเมืองในเขตภูมิภาคโดเนตสค์, คิโรโวฮรัด, ดนิโปร, ซูมี, เคอร์ซอน, โวลิน, ซาปอริซเซีย, มีโคลาอิฟ, โอเดสซา และชิตโตเมียร์ และซูมี ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของยูเครนได้รับความเสียหายมากมาย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 247 Views 0 Reviews
  • สถานการณ์ล่าสุดทิศทาง Pokrovsk

    กองกำลัง "วอสต็อก" แห่งกองทัพรัสเซียได้เข้ายึดครองเมืองโนโวคัตสเก (Novokhatske) ทางใต้ของ Pokrovsk ได้เพิ่มอีกหนึ่งแห่ง (วิดีโอประกอบ)

    ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวของกองกำลังรัสเซียในทิศทาง Udachne และ Rodynske คืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อปิดล้อม Pokrovsk
    สถานการณ์ล่าสุดทิศทาง Pokrovsk กองกำลัง "วอสต็อก" แห่งกองทัพรัสเซียได้เข้ายึดครองเมืองโนโวคัตสเก (Novokhatske) ทางใต้ของ Pokrovsk ได้เพิ่มอีกหนึ่งแห่ง (วิดีโอประกอบ) ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวของกองกำลังรัสเซียในทิศทาง Udachne และ Rodynske คืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อปิดล้อม Pokrovsk
    0 Comments 0 Shares 309 Views 0 Reviews
  • การโจมตีครั้งใหญ่เมื่อคืนที่มาโดยกองทัพรัสเซีย พื้นที่ของเมืองลวอฟ (Lvov) ทางตะวันตกของยูเครน เขตติดต่อกับโปแลนด์ คือหนึ่งในเป้าหมายหลักของรัสเซีย

    • เมื่อคืนที่ผ่านมา ขีปนาวุธและโดรนจำนวนมากมุ่งเป้าไปที่โรงงานแห่งหนึ่งโดยตรง
    • แหล่งข่าวท้องถิ่นยืนยันว่าอาคารของโรงงานแห่งนี้เกี่ยวข้องกับโรงงานผลิตอุปกรณ์ป้องกันประเทศ ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
    การโจมตีครั้งใหญ่เมื่อคืนที่มาโดยกองทัพรัสเซีย พื้นที่ของเมืองลวอฟ (Lvov) ทางตะวันตกของยูเครน เขตติดต่อกับโปแลนด์ คือหนึ่งในเป้าหมายหลักของรัสเซีย • เมื่อคืนที่ผ่านมา ขีปนาวุธและโดรนจำนวนมากมุ่งเป้าไปที่โรงงานแห่งหนึ่งโดยตรง • แหล่งข่าวท้องถิ่นยืนยันว่าอาคารของโรงงานแห่งนี้เกี่ยวข้องกับโรงงานผลิตอุปกรณ์ป้องกันประเทศ ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
    0 Comments 0 Shares 354 Views 0 Reviews
  • รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ลาฟรอฟ และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ รูบิโอ พบกันนอกรอบในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

    การพบกันครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากกองทัพรัสเซียโจมตียูเครนครั้งรุนแรงเป็นประวัติการณ์ ด้วยโดรนมากถึง 728 ลำ และขีปนาวุธอีกมากกว่า 20 ลูก รวมถึงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง 6 ลูก ระหว่างคืนวันพุธถึงเช้าวันพฤหัสบดี

    ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ถึงกับออกมาวิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประกาศพร้อมจะกลับมาส่งอาวุธให้ยูเครนอีกครั้ง
    รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ลาฟรอฟ และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ รูบิโอ พบกันนอกรอบในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย การพบกันครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากกองทัพรัสเซียโจมตียูเครนครั้งรุนแรงเป็นประวัติการณ์ ด้วยโดรนมากถึง 728 ลำ และขีปนาวุธอีกมากกว่า 20 ลูก รวมถึงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง 6 ลูก ระหว่างคืนวันพุธถึงเช้าวันพฤหัสบดี ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ถึงกับออกมาวิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประกาศพร้อมจะกลับมาส่งอาวุธให้ยูเครนอีกครั้ง
    0 Comments 0 Shares 457 Views 0 0 Reviews
  • กองทัพรัสเซียโจมตีฐานบัญชาการโดรน (UAV) ของกองพลยานยนต์ที่ 100 ของกองกำลังยูเครนด้วยระเบิดร่อนสุญญากาศ "ODAB-1500" ใกล้หมู่บ้านเพลชชีฟกา (Pleshchiivka) ซึ่งอยู่ระหว่างเส้นทาง Torets - Kostyantynivka
    กองทัพรัสเซียโจมตีฐานบัญชาการโดรน (UAV) ของกองพลยานยนต์ที่ 100 ของกองกำลังยูเครนด้วยระเบิดร่อนสุญญากาศ "ODAB-1500" ใกล้หมู่บ้านเพลชชีฟกา (Pleshchiivka) ซึ่งอยู่ระหว่างเส้นทาง Torets - Kostyantynivka
    0 Comments 0 Shares 345 Views 0 Reviews
  • ภาพขีปนาวุธร่อน KH-101 ของรัสเซียปล่อยแฟลร์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสกัดกั้น ก่อนจะตกลงสู่เป้าหมายเมื่อช่วงเช้าของวันนี้

    นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียได้ใช้โดรน 728 ลำ พร้อมด้วยขีปนาวุธร่อน Kh-101/Iskander-K จำนวน 7 ลูก และขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Kh-47 Khinzal จำนวน 6 ลูก โจมตีเป้าหมายหลายแห่งในยูเครน โดยเฉพาะที่ฐานทัพอากาศ Ozerne ในเขตภูมิภาค Zhytomyr รวมทั้งภูมิภาค Lutsk ซึ่งโจมตีโดยตรงไปที่โรงงานมอเตอร์ ที่ไว้สำหรับซ่อมแซมเครื่องยนต์ของเครื่องบินและโดรน


    ภาพขีปนาวุธร่อน KH-101 ของรัสเซียปล่อยแฟลร์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสกัดกั้น ก่อนจะตกลงสู่เป้าหมายเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียได้ใช้โดรน 728 ลำ พร้อมด้วยขีปนาวุธร่อน Kh-101/Iskander-K จำนวน 7 ลูก และขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Kh-47 Khinzal จำนวน 6 ลูก โจมตีเป้าหมายหลายแห่งในยูเครน โดยเฉพาะที่ฐานทัพอากาศ Ozerne ในเขตภูมิภาค Zhytomyr รวมทั้งภูมิภาค Lutsk ซึ่งโจมตีโดยตรงไปที่โรงงานมอเตอร์ ที่ไว้สำหรับซ่อมแซมเครื่องยนต์ของเครื่องบินและโดรน
    0 Comments 0 Shares 306 Views 0 Reviews
  • เคียฟเช้าแล้ว
    4 กรกฎาคม วันชาติสหรัฐ! (Independence Day) 

    ผลลัพธ์ของการโจมตีในเคียฟ สื่อยูเครนรายงานเบื้องต้นว่ากองทัพรัสเซียใช้โดรน Geran-2 มากกว่า 100 ลำ ขีปนาวุธพิสัยไกล Iskander-M เบื้องต้นนับได้ประมาณ 12 ลูก และขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง "Kinzhal" อีก 2 ลูก ทั้งหมดนี้มุ่งเป้าหมายภายในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน และบริเวณพื้นที่โดยรอบเคียฟ
    เคียฟเช้าแล้ว 4 กรกฎาคม วันชาติสหรัฐ! (Independence Day)  ผลลัพธ์ของการโจมตีในเคียฟ สื่อยูเครนรายงานเบื้องต้นว่ากองทัพรัสเซียใช้โดรน Geran-2 มากกว่า 100 ลำ ขีปนาวุธพิสัยไกล Iskander-M เบื้องต้นนับได้ประมาณ 12 ลูก และขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง "Kinzhal" อีก 2 ลูก ทั้งหมดนี้มุ่งเป้าหมายภายในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน และบริเวณพื้นที่โดยรอบเคียฟ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 316 Views 0 Reviews
  • เคียฟโดนถล่มด้วยขีปนาวุธ Iskander 12 ลูกในคืนเดียว!

    เมื่อคืนที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียเปิดฉากถล่มกรุงเคียฟอีกครั้ง เป้าหมายครั้งนี้อยู่ที่ฐานทัพอากาศวาซิลคิฟ (Vasylkiv Airbase) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ยูเครนมักจะเก็บเครื่องบิน F-16 ไว้ที่นี่เป็นส่วนใหญ่

    เบื้องต้นมีรายงาน ขีปนาวุธ Iskander จำนวน 12 ลูก รวมทั้งโดรน Geran-2 ที่ทำการโจมตีประสานงานกัน ชาวบ้านรายงานได้ยินเสียงระเบิดมากกว่า 10 ครั้งภายในหนึ่งนาที

    นอกจากฐานทัพอากาศวาซิลคิฟแล้ว ยังมีเป้าหมายอื่นๆในเคียฟที่ถูกโจมตีอีกด้วย

    การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีปูตินและประธานาธิบดีทรัมป์ที่กินเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง ซึ่งปูตินยืนยันว่าเขายังเปิดกว้างเรื่องการเจรจาสันติภาพกับยูเครนเครนเสมอ แต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขของรัสเซียที่เสนอไปแล้ว
    เคียฟโดนถล่มด้วยขีปนาวุธ Iskander 12 ลูกในคืนเดียว! เมื่อคืนที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียเปิดฉากถล่มกรุงเคียฟอีกครั้ง เป้าหมายครั้งนี้อยู่ที่ฐานทัพอากาศวาซิลคิฟ (Vasylkiv Airbase) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ยูเครนมักจะเก็บเครื่องบิน F-16 ไว้ที่นี่เป็นส่วนใหญ่ เบื้องต้นมีรายงาน ขีปนาวุธ Iskander จำนวน 12 ลูก รวมทั้งโดรน Geran-2 ที่ทำการโจมตีประสานงานกัน ชาวบ้านรายงานได้ยินเสียงระเบิดมากกว่า 10 ครั้งภายในหนึ่งนาที นอกจากฐานทัพอากาศวาซิลคิฟแล้ว ยังมีเป้าหมายอื่นๆในเคียฟที่ถูกโจมตีอีกด้วย การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีปูตินและประธานาธิบดีทรัมป์ที่กินเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง ซึ่งปูตินยืนยันว่าเขายังเปิดกว้างเรื่องการเจรจาสันติภาพกับยูเครนเครนเสมอ แต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขของรัสเซียที่เสนอไปแล้ว
    0 Comments 0 Shares 481 Views 0 Reviews
  • กองทัพรัสเซียเพิ่งถล่มท่าเรือในภูมิภาคโอเดสซา (Odessa) ดินแดนยูเครน ด้วยขีปนาวุธ Iskander

    สื่อบางแห่งรายงานว่า เป้าหมายเป็นสถานที่รวมพลของกองกำลังต่างชาติ
    กองทัพรัสเซียเพิ่งถล่มท่าเรือในภูมิภาคโอเดสซา (Odessa) ดินแดนยูเครน ด้วยขีปนาวุธ Iskander สื่อบางแห่งรายงานว่า เป้าหมายเป็นสถานที่รวมพลของกองกำลังต่างชาติ
    0 Comments 0 Shares 295 Views 0 0 Reviews
  • ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ ขณะกองทัพรัสเซียเปิดฉากโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในเครเมนชุก (Kremenchuk) ภูมิภาคโปลตาวา (Poltava)

    การโจมตีของรัสเซียเมื่อคืนที่ผ่านมา นับเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งของปีนี้ โดยที่รัสเซียใช้โดรนมากกว่า 500 ลำ และขีปนาวุธอีก 60 ลูก โจมตีโครงสร้างพื้นฐานทั่วยูเครน ตามข้อมูลของกองทัพยูเครน
    ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ ขณะกองทัพรัสเซียเปิดฉากโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในเครเมนชุก (Kremenchuk) ภูมิภาคโปลตาวา (Poltava) การโจมตีของรัสเซียเมื่อคืนที่ผ่านมา นับเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งของปีนี้ โดยที่รัสเซียใช้โดรนมากกว่า 500 ลำ และขีปนาวุธอีก 60 ลูก โจมตีโครงสร้างพื้นฐานทั่วยูเครน ตามข้อมูลของกองทัพยูเครน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • กองทัพรัสเซียโจมตีไปที่อาคารสถาบันเคียฟโพลีเทคนิคอิกอร์ ซิคอร์สกี้ (Igor Sikorsky Kyiv Polytechnic Institute) กลางกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน ซึ่งเป็นศูนย์พัฒนาโดรนสำหรับกองทัพยูเครน
    กองทัพรัสเซียโจมตีไปที่อาคารสถาบันเคียฟโพลีเทคนิคอิกอร์ ซิคอร์สกี้ (Igor Sikorsky Kyiv Polytechnic Institute) กลางกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน ซึ่งเป็นศูนย์พัฒนาโดรนสำหรับกองทัพยูเครน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 282 Views 0 Reviews
  • ภาพการระเบิดอย่างรุนแรงต่อเนื่องตลอดคืน หลังจากกองทัพรัสเซียถล่มพื้นที่โรงกลั่นและคลังน้ำมันในภูมิภาคคราเมนชูก (Kremenchug) โดยได้ยินเสียงระเบิดประมาณ 50 ครั้ง ในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา

    โรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้เป็นโรงกลั่นหลักขอภูมิภาค และมีบทบาทสำคัญในการจัดหาเชื้อเพลิงให้กับกองทัพยูเครน

    การโจมตีครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัสเซียรายงานว่าเริ่มต้นจากการใช้โดรนโจมตีก่อน หลังจากนั้นตามมาด้วยขีปนาวุธร่อน และ Iskander รวมทั้งขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Kinzhal ก็มีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน
    ภาพการระเบิดอย่างรุนแรงต่อเนื่องตลอดคืน หลังจากกองทัพรัสเซียถล่มพื้นที่โรงกลั่นและคลังน้ำมันในภูมิภาคคราเมนชูก (Kremenchug) โดยได้ยินเสียงระเบิดประมาณ 50 ครั้ง ในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา โรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้เป็นโรงกลั่นหลักขอภูมิภาค และมีบทบาทสำคัญในการจัดหาเชื้อเพลิงให้กับกองทัพยูเครน การโจมตีครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัสเซียรายงานว่าเริ่มต้นจากการใช้โดรนโจมตีก่อน หลังจากนั้นตามมาด้วยขีปนาวุธร่อน และ Iskander รวมทั้งขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Kinzhal ก็มีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 278 Views 0 Reviews
  • กองทัพรัสเซียใช้ขีปนาวุธ Iskander ทำลายตำแหน่งศูนย์บัญชาการชั่วคราวของยูเครนภายในเมือง Konotop ภูมิภาค Sumy
    กองทัพรัสเซียใช้ขีปนาวุธ Iskander ทำลายตำแหน่งศูนย์บัญชาการชั่วคราวของยูเครนภายในเมือง Konotop ภูมิภาค Sumy
    0 Comments 0 Shares 298 Views 0 Reviews
More Results