• Ventoy 1.1.10 เปิดตัว: รองรับ AerynOS พร้อมยกระดับประสบการณ์ Multiboot บน Linux

    Ventoy 1.1.10 มาถึงพร้อมการอัปเดตสำคัญที่ทำให้เครื่องมือ multiboot ยอดนิยมนี้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการรองรับ AerynOS ซึ่งเป็นดิสโทรรุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจในชุมชนโอเพ่นซอร์ส การรองรับนี้สะท้อนให้เห็นว่า Ventoy ยังคงเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบดิสโทรจำนวนมากโดยไม่ต้องเขียน USB ใหม่ทุกครั้ง

    การอัปเดตครั้งนี้ยังมาพร้อมการปรับปรุงการบูตบนระบบไฟล์ EXT4 ซึ่งเป็นฟอร์แมตที่ดิสโทร Linux ส่วนใหญ่ใช้เป็นค่าเริ่มต้น การแก้ไขนี้ช่วยลดปัญหาบูตไม่ขึ้นหรือโหลดเคอร์เนลผิดพลาดที่เคยเกิดในบางรุ่นของดิสโทร ทำให้ Ventoy กลายเป็นเครื่องมือที่เสถียรขึ้นสำหรับงานทดสอบระบบ, recovery, และ deployment ในองค์กร

    อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือการปรับปรุง Wayland support สำหรับ Ventoy LinuxGUI ซึ่งเป็นสัญญาณว่าทีมพัฒนา Ventoyกำลังเดินหน้าให้ GUI ของตนเข้ากันได้กับอนาคตของ Linux Desktop ที่กำลังเปลี่ยนผ่านจาก X11 ไปสู่ Wayland อย่างเต็มรูปแบบ การรองรับนี้ช่วยให้ผู้ใช้เดสก์ท็อปสมัยใหม่ เช่น GNOME, KDE Plasma 6 และ COSMIC สามารถใช้งาน Ventoy GUI ได้อย่างราบรื่นขึ้น

    ในภาพรวม Ventoy 1.1.10 เป็นการอัปเดตที่แม้จะดูเล็ก แต่มีผลกระทบเชิงโครงสร้างต่อผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานด้านไอที, นักทดสอบดิสโทร, และผู้ดูแลระบบที่ต้องการเครื่องมือ multiboot ที่เชื่อถือได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ไฮไลต์ของ Ventoy 1.1.10
    รองรับ AerynOS อย่างเป็นทางการ
    ปรับปรุงการบูตบน EXT4 ให้เสถียรขึ้น

    การพัฒนา GUI บน Wayland
    Ventoy LinuxGUI ทำงานได้ดีขึ้นบน Wayland
    รองรับเดสก์ท็อปยุคใหม่ เช่น GNOME และ KDE Plasma

    ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง
    ดิสโทรบางตัวอาจยังต้องการ compatibility tweaks
    การบูตบนฮาร์ดแวร์เก่าอาจยังมีปัญหาในบางกรณี

    คำแนะนำสำหรับผู้ใช้
    อัปเดต Ventoy USB ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดก่อนใช้งาน
    ทดสอบ ISO หลายตัวก่อนใช้งานจริงในงาน production

    https://9to5linux.com/ventoy-1-1-10-bootable-usb-creator-released-with-support-for-aerynos
    🧰 Ventoy 1.1.10 เปิดตัว: รองรับ AerynOS พร้อมยกระดับประสบการณ์ Multiboot บน Linux Ventoy 1.1.10 มาถึงพร้อมการอัปเดตสำคัญที่ทำให้เครื่องมือ multiboot ยอดนิยมนี้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการรองรับ AerynOS ซึ่งเป็นดิสโทรรุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจในชุมชนโอเพ่นซอร์ส การรองรับนี้สะท้อนให้เห็นว่า Ventoy ยังคงเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบดิสโทรจำนวนมากโดยไม่ต้องเขียน USB ใหม่ทุกครั้ง การอัปเดตครั้งนี้ยังมาพร้อมการปรับปรุงการบูตบนระบบไฟล์ EXT4 ซึ่งเป็นฟอร์แมตที่ดิสโทร Linux ส่วนใหญ่ใช้เป็นค่าเริ่มต้น การแก้ไขนี้ช่วยลดปัญหาบูตไม่ขึ้นหรือโหลดเคอร์เนลผิดพลาดที่เคยเกิดในบางรุ่นของดิสโทร ทำให้ Ventoy กลายเป็นเครื่องมือที่เสถียรขึ้นสำหรับงานทดสอบระบบ, recovery, และ deployment ในองค์กร อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือการปรับปรุง Wayland support สำหรับ Ventoy LinuxGUI ซึ่งเป็นสัญญาณว่าทีมพัฒนา Ventoyกำลังเดินหน้าให้ GUI ของตนเข้ากันได้กับอนาคตของ Linux Desktop ที่กำลังเปลี่ยนผ่านจาก X11 ไปสู่ Wayland อย่างเต็มรูปแบบ การรองรับนี้ช่วยให้ผู้ใช้เดสก์ท็อปสมัยใหม่ เช่น GNOME, KDE Plasma 6 และ COSMIC สามารถใช้งาน Ventoy GUI ได้อย่างราบรื่นขึ้น ในภาพรวม Ventoy 1.1.10 เป็นการอัปเดตที่แม้จะดูเล็ก แต่มีผลกระทบเชิงโครงสร้างต่อผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานด้านไอที, นักทดสอบดิสโทร, และผู้ดูแลระบบที่ต้องการเครื่องมือ multiboot ที่เชื่อถือได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ไฮไลต์ของ Ventoy 1.1.10 ➡️ รองรับ AerynOS อย่างเป็นทางการ ➡️ ปรับปรุงการบูตบน EXT4 ให้เสถียรขึ้น ✅ การพัฒนา GUI บน Wayland ➡️ Ventoy LinuxGUI ทำงานได้ดีขึ้นบน Wayland ➡️ รองรับเดสก์ท็อปยุคใหม่ เช่น GNOME และ KDE Plasma ‼️ ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง ⛔ ดิสโทรบางตัวอาจยังต้องการ compatibility tweaks ⛔ การบูตบนฮาร์ดแวร์เก่าอาจยังมีปัญหาในบางกรณี ‼️ คำแนะนำสำหรับผู้ใช้ ⛔ อัปเดต Ventoy USB ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดก่อนใช้งาน ⛔ ทดสอบ ISO หลายตัวก่อนใช้งานจริงในงาน production https://9to5linux.com/ventoy-1-1-10-bootable-usb-creator-released-with-support-for-aerynos
    9TO5LINUX.COM
    Ventoy 1.1.10 Bootable USB Creator Released with Support for AerynOS - 9to5Linux
    Ventoy 1.1.10 open-source bootable USB solution is now available for download with support for AerynOS and other improvements.
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • 8GB VRAM ยังพอไหมในปี 2026? บททดสอบ Sapphire Pulse 9060 XT 8GB ชี้คำตอบชัดเจน

    บทความของ Wccftech ทดสอบ Sapphire Pulse 9060 XT 8GB ในเกมยุคใหม่ และคำตอบที่ได้ค่อนข้างชัดเจน: 8GB VRAM เริ่มไม่พอสำหรับเกม AAA ปี 2025–2026 โดยเฉพาะเมื่อเปิด Ray Tracing หรือใช้ texture คุณภาพสูง แม้การใช้ FSR4 จะช่วยเพิ่มเฟรมเรต แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาการ “คอขวด VRAM” ได้ทั้งหมด

    ผลทดสอบในหลายเกมแสดง pattern เดียวกัน:
    ช่วงแรกของเกมเฟรมเรตดีมาก (เช่น ~50 FPS แบบไม่มี stutter)
    แต่เมื่อเข้าสู่ฉากหนัก ๆ VRAM เต็ม → เฟรมเรตตกฮวบ เหลือ 40 FPS หรือต่ำกว่านั้น และบางครั้งลงไปถึงหลักสิบ
    เกมต้อง “cull textures” อย่างรุนแรงเพื่อให้พออยู่ใน 8GB ทำให้โมเดลตัวละครและพื้นผิวดูเบลอหรือโหลดไม่ทัน

    ในเกมอย่าง Cyberpunk 2077 และ RDR2 ปัญหายิ่งชัดเจน:
    ฉากเมืองหนาแน่นทำให้ VRAM เต็มเร็ว
    เฟรมเรตแกว่งหนัก
    DX12 ยังมี stuttering ที่ Vulkan ไม่มี

    แม้จะปรับลงมาเป็น Medium textures + RT เปิด + FSR4 Quality ก็ยังพบว่าเฟรมเรต “ตกจากหน้าผา” ทันทีที่ VRAM ถูกใช้จนหมด

    นี่คือสัญญาณชัดเจนว่าเกมยุคใหม่ไม่ได้กินแค่ GPU compute แต่กิน VRAM แบบโหดขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเกมที่ใช้ asset ขนาดใหญ่, open‑world, หรือมีระบบ streaming texture แบบใหม่

    สรุปประเด็นสำคัญจากบทความ
    8GB VRAM ยัง “พอเล่นได้” แต่มีข้อจำกัดชัดเจน
    เล่นได้ดีในฉากเบา ๆ
    แต่ VRAM เต็มเมื่อเจอฉากหนัก → เฟรมเรตตกทันที
    เกมต้องลดคุณภาพ texture อัตโนมัติจนเห็นได้ชัด

    Ray Tracing + High/Epic textures = ไม่ไหว
    เกมต้อง cull textures เพื่อให้พอใน 8GB
    โมเดลตัวละครและพื้นผิวดู low‑res
    เฟรมเรตแกว่งหนักในฉากเมืองหรือฉากแอ็กชัน

    FSR4 ช่วยได้ แต่ไม่แก้ปัญหา VRAM
    เฟรมเรตดีขึ้นในฉากเปิด
    แต่เมื่อ VRAM เต็ม → FSR ก็ช่วยไม่ได้

    API มีผล
    DX12 มี stuttering ในบางเกม
    Vulkan ทำงานลื่นกว่าใน RDR2

    เกมใหม่ ๆ ปี 2026 จะกิน VRAM มากขึ้น
    เกม AAA เริ่มใช้ texture 4K/8K
    ระบบ streaming asset ซับซ้อนขึ้น
    RT pipeline ใช้ VRAM เพิ่มขึ้นหลายร้อย MB ต่อเฟรม

    ข้อสรุปเชิงกลยุทธ์ (จากข้อมูลในบทความ + บริบทอุตสาหกรรม)
    8GB VRAM = mid‑range minimum ในปี 2026
    12GB กำลังกลายเป็น baseline ใหม่ สำหรับ AAA
    16GB จะเป็น sweet spot สำหรับเกมที่เปิด RT
    การ์ด 8GB ยัง “เล่นได้” แต่ต้องลด texture และปิด RT

    https://wccftech.com/is-8-gb-of-vram-enough-heading-into-2026-sapphire-pulse-9060-xt-8gb-benchmarked/
    🎮 8GB VRAM ยังพอไหมในปี 2026? บททดสอบ Sapphire Pulse 9060 XT 8GB ชี้คำตอบชัดเจน บทความของ Wccftech ทดสอบ Sapphire Pulse 9060 XT 8GB ในเกมยุคใหม่ และคำตอบที่ได้ค่อนข้างชัดเจน: 8GB VRAM เริ่มไม่พอสำหรับเกม AAA ปี 2025–2026 โดยเฉพาะเมื่อเปิด Ray Tracing หรือใช้ texture คุณภาพสูง แม้การใช้ FSR4 จะช่วยเพิ่มเฟรมเรต แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาการ “คอขวด VRAM” ได้ทั้งหมด ผลทดสอบในหลายเกมแสดง pattern เดียวกัน: 🕛 ช่วงแรกของเกมเฟรมเรตดีมาก (เช่น ~50 FPS แบบไม่มี stutter) 🕛 แต่เมื่อเข้าสู่ฉากหนัก ๆ VRAM เต็ม → เฟรมเรตตกฮวบ เหลือ 40 FPS หรือต่ำกว่านั้น และบางครั้งลงไปถึงหลักสิบ 🕛 เกมต้อง “cull textures” อย่างรุนแรงเพื่อให้พออยู่ใน 8GB ทำให้โมเดลตัวละครและพื้นผิวดูเบลอหรือโหลดไม่ทัน ในเกมอย่าง Cyberpunk 2077 และ RDR2 ปัญหายิ่งชัดเจน: 📊 ฉากเมืองหนาแน่นทำให้ VRAM เต็มเร็ว 📊 เฟรมเรตแกว่งหนัก 📊 DX12 ยังมี stuttering ที่ Vulkan ไม่มี แม้จะปรับลงมาเป็น Medium textures + RT เปิด + FSR4 Quality ก็ยังพบว่าเฟรมเรต “ตกจากหน้าผา” ทันทีที่ VRAM ถูกใช้จนหมด นี่คือสัญญาณชัดเจนว่าเกมยุคใหม่ไม่ได้กินแค่ GPU compute แต่กิน VRAM แบบโหดขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเกมที่ใช้ asset ขนาดใหญ่, open‑world, หรือมีระบบ streaming texture แบบใหม่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญจากบทความ ✅ 8GB VRAM ยัง “พอเล่นได้” แต่มีข้อจำกัดชัดเจน ➡️ เล่นได้ดีในฉากเบา ๆ ➡️ แต่ VRAM เต็มเมื่อเจอฉากหนัก → เฟรมเรตตกทันที ➡️ เกมต้องลดคุณภาพ texture อัตโนมัติจนเห็นได้ชัด ✅ Ray Tracing + High/Epic textures = ไม่ไหว ➡️ เกมต้อง cull textures เพื่อให้พอใน 8GB ➡️ โมเดลตัวละครและพื้นผิวดู low‑res ➡️ เฟรมเรตแกว่งหนักในฉากเมืองหรือฉากแอ็กชัน ✅ FSR4 ช่วยได้ แต่ไม่แก้ปัญหา VRAM ➡️ เฟรมเรตดีขึ้นในฉากเปิด ➡️ แต่เมื่อ VRAM เต็ม → FSR ก็ช่วยไม่ได้ ✅ API มีผล ➡️ DX12 มี stuttering ในบางเกม ➡️ Vulkan ทำงานลื่นกว่าใน RDR2 ✅ เกมใหม่ ๆ ปี 2026 จะกิน VRAM มากขึ้น ➡️ เกม AAA เริ่มใช้ texture 4K/8K ➡️ ระบบ streaming asset ซับซ้อนขึ้น ➡️ RT pipeline ใช้ VRAM เพิ่มขึ้นหลายร้อย MB ต่อเฟรม 🎯 ข้อสรุปเชิงกลยุทธ์ (จากข้อมูลในบทความ + บริบทอุตสาหกรรม) ➡️ 8GB VRAM = mid‑range minimum ในปี 2026 ➡️ 12GB กำลังกลายเป็น baseline ใหม่ สำหรับ AAA ➡️ 16GB จะเป็น sweet spot สำหรับเกมที่เปิด RT ➡️ การ์ด 8GB ยัง “เล่นได้” แต่ต้องลด texture และปิด RT https://wccftech.com/is-8-gb-of-vram-enough-heading-into-2026-sapphire-pulse-9060-xt-8gb-benchmarked/
    WCCFTECH.COM
    Is 8 GB of VRAM Enough heading into 2026? Sapphire Pulse 9060 XT 8GB Benchmarked
    Is 8 GB VRAM enough for modern games? We answer this question with the modern Radeon RX 9060 XT GPU from AMD.
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • Moore Threads เปิดตัว Lushan (Gaming) และ Huashan (AI) GPUs — อ้างแรงขึ้น 15× ในเกม และ 50× ใน Ray Tracing

    Moore Threads ผู้ผลิต GPU จากจีนเปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่สองตระกูลคือ Lushan สำหรับเกมมิ่ง และ Huashan สำหรับงาน AI โดยบริษัทเคลมว่าประสิทธิภาพกระโดดขึ้นอย่างมหาศาลเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทั้งในด้านเกมและงานเรนเดอร์แบบ Ray Tracing ต

    แม้รายละเอียดเชิงเทคนิคจะมีเพียงหัวข่าว แต่ตัวเลขที่ประกาศนั้นโดดเด่นมาก:
    ประสิทธิภาพเกมเพิ่มขึ้นสูงสุด 15×
    Ray Tracing เร็วขึ้นสูงสุด 50×
    รองรับ DirectX 12 Ultimate
    เตรียมเปิดตัวปีหน้า

    ข่าวนี้ยังถูกวางคู่กับผลิตภัณฑ์อื่นของบริษัท เช่น Yangtze AI SoC ที่เน้นงาน AI PC ซึ่งสะท้อนว่าบริษัทกำลังพยายามสร้าง ecosystem ครบชุด ตั้งแต่ GPU เกม ไปจนถึงชิป AI สำหรับโน้ตบุ๊กและมินิพีซี

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Moore Threads เปิดตัว GPU สองตระกูลใหม่
    Lushan → เน้นเกมมิ่ง
    Huashan → เน้น AI

    ตัวเลขประสิทธิภาพที่ประกาศ
    เกมมิ่งแรงขึ้น 15×
    Ray Tracing แรงขึ้น 50×
    รองรับ DX12 Ultimate

    กำหนดการเปิดตัว
    วางจำหน่าย ปีหน้า (ตามข้อมูลในแท็บ)

    ข้อควรระวังในการตีความตัวเลข
    แม้ตัวเลขจะดู “ก้าวกระโดด” มาก แต่เป็นตัวเลขจากผู้ผลิตเอง และยังไม่มี benchmark อิสระมายืนยัน (ซึ่งเป็นเรื่องปกติของ GPU จีนรุ่นก่อนๆ เช่นกัน)

    https://wccftech.com/moore-threads-lushan-gaming-huashan-ai-gpus-15x-gaming-uplift-50x-rt-boost-dx12-ultimate-support/
    🟦⚡ Moore Threads เปิดตัว Lushan (Gaming) และ Huashan (AI) GPUs — อ้างแรงขึ้น 15× ในเกม และ 50× ใน Ray Tracing Moore Threads ผู้ผลิต GPU จากจีนเปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่สองตระกูลคือ Lushan สำหรับเกมมิ่ง และ Huashan สำหรับงาน AI โดยบริษัทเคลมว่าประสิทธิภาพกระโดดขึ้นอย่างมหาศาลเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทั้งในด้านเกมและงานเรนเดอร์แบบ Ray Tracing ต แม้รายละเอียดเชิงเทคนิคจะมีเพียงหัวข่าว แต่ตัวเลขที่ประกาศนั้นโดดเด่นมาก: ✅ ประสิทธิภาพเกมเพิ่มขึ้นสูงสุด 15× ✅ Ray Tracing เร็วขึ้นสูงสุด 50× ✅ รองรับ DirectX 12 Ultimate ✅ เตรียมเปิดตัวปีหน้า ข่าวนี้ยังถูกวางคู่กับผลิตภัณฑ์อื่นของบริษัท เช่น Yangtze AI SoC ที่เน้นงาน AI PC ซึ่งสะท้อนว่าบริษัทกำลังพยายามสร้าง ecosystem ครบชุด ตั้งแต่ GPU เกม ไปจนถึงชิป AI สำหรับโน้ตบุ๊กและมินิพีซี 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Moore Threads เปิดตัว GPU สองตระกูลใหม่ Lushan → เน้นเกมมิ่ง Huashan → เน้น AI ✅ ตัวเลขประสิทธิภาพที่ประกาศ เกมมิ่งแรงขึ้น 15× Ray Tracing แรงขึ้น 50× รองรับ DX12 Ultimate ✅ กำหนดการเปิดตัว วางจำหน่าย ปีหน้า (ตามข้อมูลในแท็บ) ⚠️ ข้อควรระวังในการตีความตัวเลข แม้ตัวเลขจะดู “ก้าวกระโดด” มาก แต่เป็นตัวเลขจากผู้ผลิตเอง และยังไม่มี benchmark อิสระมายืนยัน (ซึ่งเป็นเรื่องปกติของ GPU จีนรุ่นก่อนๆ เช่นกัน) https://wccftech.com/moore-threads-lushan-gaming-huashan-ai-gpus-15x-gaming-uplift-50x-rt-boost-dx12-ultimate-support/
    WCCFTECH.COM
    Moore Threads Unveils The Lushan Gaming & Huashan AI GPUs: 15x Gaming Performance Uplift, 50x RT Boost, DX12 Ultimate Support, Launching Next Year
    Chinese chipmaker, Moore Threads, has unveiled its two brand new GPUs, Lushan for gaming & Huashan for AI, promising big performance boosts.
    0 Comments 0 Shares 112 Views 0 Reviews
  • NVIDIA 590: ก้าวใหม่ของไดรเวอร์ Linux

    NVIDIA ประกาศออกไดรเวอร์ 590 สำหรับ Linux เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2025 โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้ Wayland พบเจอมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในบั๊กสำคัญที่ถูกแก้ไขคือ PowerMizer preferred mode ที่ไม่สามารถเลือกได้ในแผงควบคุม nvidia-settings บน Wayland ซึ่งก่อนหน้านี้สร้างความไม่สะดวกให้ผู้ใช้ที่ต้องการปรับแต่งการใช้พลังงานและประสิทธิภาพของ GPU

    การปรับปรุงที่สำคัญ
    Wayland Improvements: เพิ่มความเสถียรและการทำงานร่วมกับ compositor บน Wayland ให้ดีขึ้น
    Bug Fixes: แก้ไขบั๊กที่เกี่ยวข้องกับการตั้งค่า PowerMizer และการทำงานของ control panel
    Compatibility Updates: ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Linux kernel รุ่นใหม่ ๆ เพื่อรองรับการใช้งานในระบบที่อัปเดตล่าสุด

    ความสำคัญต่อผู้ใช้ Linux
    การปรับปรุงนี้สะท้อนถึงความจริงที่ว่า NVIDIA กำลังให้ความสำคัญกับ Wayland มากขึ้น ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่หลายดิสทริบิวชันกำลังผลักดันให้มาแทน X11 การแก้ไขบั๊กและเพิ่มความเสถียรในเวอร์ชัน 590 ถือเป็นสัญญาณบวกต่อผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและความเข้ากันได้ในระบบ Linux สมัยใหม่

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    การอัปเดตนี้ไม่ใช่เพียงการแก้บั๊ก แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ว่า NVIDIA กำลังเดินหน้า สนับสนุน Wayland อย่างจริงจัง ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันจากชุมชนโอเพ่นซอร์สที่เคยวิจารณ์ว่า NVIDIA ไม่ให้ความสำคัญกับ Linux ecosystem เท่าที่ควร

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    NVIDIA 590 Linux Driver ออกแล้ว
    เน้นการปรับปรุง Wayland และแก้ไขบั๊ก PowerMizer

    ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Kernel รุ่นใหม่
    เพิ่มความเข้ากันได้และเสถียรภาพของระบบ

    สัญญาณเชิงกลยุทธ์
    NVIDIA แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุน Wayland อย่างจริงจัง

    คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป
    หากยังใช้ X11 อาจไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการปรับปรุงในเวอร์ชันนี้

    ความเสี่ยงจากการอัปเดตทันที
    ผู้ใช้บางดิสทริบิวชันอาจเจอ incompatibility ชั่วคราว ควรรอแพ็กเกจที่เสถียรจาก repo ของดิสทริบิวชัน

    https://9to5linux.com/nvidia-590-linux-graphics-driver-released-with-more-wayland-improvements
    🖥️ NVIDIA 590: ก้าวใหม่ของไดรเวอร์ Linux NVIDIA ประกาศออกไดรเวอร์ 590 สำหรับ Linux เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2025 โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้ Wayland พบเจอมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในบั๊กสำคัญที่ถูกแก้ไขคือ PowerMizer preferred mode ที่ไม่สามารถเลือกได้ในแผงควบคุม nvidia-settings บน Wayland ซึ่งก่อนหน้านี้สร้างความไม่สะดวกให้ผู้ใช้ที่ต้องการปรับแต่งการใช้พลังงานและประสิทธิภาพของ GPU 🔧 การปรับปรุงที่สำคัญ 🎗️ Wayland Improvements: เพิ่มความเสถียรและการทำงานร่วมกับ compositor บน Wayland ให้ดีขึ้น 🎗️ Bug Fixes: แก้ไขบั๊กที่เกี่ยวข้องกับการตั้งค่า PowerMizer และการทำงานของ control panel 🎗️ Compatibility Updates: ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Linux kernel รุ่นใหม่ ๆ เพื่อรองรับการใช้งานในระบบที่อัปเดตล่าสุด 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้ Linux การปรับปรุงนี้สะท้อนถึงความจริงที่ว่า NVIDIA กำลังให้ความสำคัญกับ Wayland มากขึ้น ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่หลายดิสทริบิวชันกำลังผลักดันให้มาแทน X11 การแก้ไขบั๊กและเพิ่มความเสถียรในเวอร์ชัน 590 ถือเป็นสัญญาณบวกต่อผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและความเข้ากันได้ในระบบ Linux สมัยใหม่ 📈 มุมมองเชิงกลยุทธ์ การอัปเดตนี้ไม่ใช่เพียงการแก้บั๊ก แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ว่า NVIDIA กำลังเดินหน้า สนับสนุน Wayland อย่างจริงจัง ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันจากชุมชนโอเพ่นซอร์สที่เคยวิจารณ์ว่า NVIDIA ไม่ให้ความสำคัญกับ Linux ecosystem เท่าที่ควร 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ NVIDIA 590 Linux Driver ออกแล้ว ➡️ เน้นการปรับปรุง Wayland และแก้ไขบั๊ก PowerMizer ✅ ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Kernel รุ่นใหม่ ➡️ เพิ่มความเข้ากันได้และเสถียรภาพของระบบ ✅ สัญญาณเชิงกลยุทธ์ ➡️ NVIDIA แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุน Wayland อย่างจริงจัง ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป ⛔ หากยังใช้ X11 อาจไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการปรับปรุงในเวอร์ชันนี้ ‼️ ความเสี่ยงจากการอัปเดตทันที ⛔ ผู้ใช้บางดิสทริบิวชันอาจเจอ incompatibility ชั่วคราว ควรรอแพ็กเกจที่เสถียรจาก repo ของดิสทริบิวชัน https://9to5linux.com/nvidia-590-linux-graphics-driver-released-with-more-wayland-improvements
    9TO5LINUX.COM
    NVIDIA 590 Linux Graphics Driver Released with More Wayland Improvements - 9to5Linux
    NVIDIA 590.48.01 graphics driver is now available for download for Linux, FreeBSD, and Solaris systems with various bug fixes.
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/wCp00yzxIDQ?si=sSEkaFX1pM07iYou
    https://youtu.be/wCp00yzxIDQ?si=sSEkaFX1pM07iYou
    0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/L59fYGcciME?si=3X1CxekRsjXCrhxU
    https://youtu.be/L59fYGcciME?si=3X1CxekRsjXCrhxU
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • แนวคิด “No Graphics API” – ลดความซับซ้อนของกราฟิก API

    Sebastian Aaltonen นักพัฒนาเกมที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี อธิบายว่าการเปลี่ยนผ่านจาก DirectX 11 และ OpenGL ไปสู่ API รุ่นใหม่อย่าง DirectX 12, Vulkan และ Metal เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของ AAA games ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามคาด หลายเกมเมื่อพอร์ตไปยัง API ใหม่กลับมีประสิทธิภาพลดลง เพราะโครงสร้างของ engine เดิมไม่สอดคล้องกับ persistent objects ที่ API ใหม่บังคับใช้.

    เขาชี้ว่า GPU ปัจจุบันมีวิวัฒนาการไปไกล เช่น coherent last-level caches, bindless texture samplers และการรองรับ 64-bit GPU pointers ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ retained mode objects ที่ซับซ้อนอีกต่อไป ปัญหาใหญ่ที่สุดคือ PSO permutation explosion ที่ทำให้ cache ของผู้ใช้กินพื้นที่มากกว่า 100GB และต้องพึ่งพา cloud servers ของ vendor เพื่อเก็บ pipeline state objects.

    Aaltonen เสนอว่าหากออกแบบ API ใหม่โดยยึดตามสถาปัตยกรรม GPU ปัจจุบัน เราสามารถลดความซับซ้อนลงอย่างมาก เช่น ใช้ pointer-based memory management แบบ CUDA และ Metal, รองรับ wide loads และ coherent memory โดยตรง รวมถึงการจัดการ descriptor heap ที่โปร่งใสและง่ายต่อการเขียน shader.

    แนวคิด “No Graphics API” จึงไม่ใช่การลบ API ออกไปทั้งหมด แต่เป็นการลด abstraction ที่ไม่จำเป็น และให้ GPU ทำงานตรงกับหน่วยความจำและ pointer โดยตรง เพื่อแก้ปัญหาประสิทธิภาพและความซับซ้อนที่สะสมมานานกว่า 20 ปีในวงการกราฟิก API.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ปัญหาของ API รุ่นใหม่ (DX12/Vulkan/Metal)
    ซับซ้อนเกินไปสำหรับ engine เดิม
    เกิด PSO permutation explosion และ cache ขนาดมหาศาล

    วิวัฒนาการของ GPU ปัจจุบัน
    มี coherent caches และ bindless samplers
    รองรับ 64-bit GPU pointers และ direct memory access

    แนวคิด “No Graphics API”
    ลด abstraction ที่ไม่จำเป็น
    ใช้ pointer-based memory และ descriptor heap ที่โปร่งใส

    คำเตือนต่ออุตสาหกรรม
    หากยังยึดติดกับ API รุ่นเก่า จะสร้างภาระ cache และ pipeline state ที่ไม่จำเป็น
    ความซับซ้อนที่สะสมอาจทำให้การพัฒนาเกมและกราฟิกช้าลงและสิ้นเปลืองทรัพยากร

    https://www.sebastianaaltonen.com/blog/no-graphics-api
    🖥️ แนวคิด “No Graphics API” – ลดความซับซ้อนของกราฟิก API Sebastian Aaltonen นักพัฒนาเกมที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี อธิบายว่าการเปลี่ยนผ่านจาก DirectX 11 และ OpenGL ไปสู่ API รุ่นใหม่อย่าง DirectX 12, Vulkan และ Metal เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของ AAA games ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามคาด หลายเกมเมื่อพอร์ตไปยัง API ใหม่กลับมีประสิทธิภาพลดลง เพราะโครงสร้างของ engine เดิมไม่สอดคล้องกับ persistent objects ที่ API ใหม่บังคับใช้. เขาชี้ว่า GPU ปัจจุบันมีวิวัฒนาการไปไกล เช่น coherent last-level caches, bindless texture samplers และการรองรับ 64-bit GPU pointers ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ retained mode objects ที่ซับซ้อนอีกต่อไป ปัญหาใหญ่ที่สุดคือ PSO permutation explosion ที่ทำให้ cache ของผู้ใช้กินพื้นที่มากกว่า 100GB และต้องพึ่งพา cloud servers ของ vendor เพื่อเก็บ pipeline state objects. Aaltonen เสนอว่าหากออกแบบ API ใหม่โดยยึดตามสถาปัตยกรรม GPU ปัจจุบัน เราสามารถลดความซับซ้อนลงอย่างมาก เช่น ใช้ pointer-based memory management แบบ CUDA และ Metal, รองรับ wide loads และ coherent memory โดยตรง รวมถึงการจัดการ descriptor heap ที่โปร่งใสและง่ายต่อการเขียน shader. แนวคิด “No Graphics API” จึงไม่ใช่การลบ API ออกไปทั้งหมด แต่เป็นการลด abstraction ที่ไม่จำเป็น และให้ GPU ทำงานตรงกับหน่วยความจำและ pointer โดยตรง เพื่อแก้ปัญหาประสิทธิภาพและความซับซ้อนที่สะสมมานานกว่า 20 ปีในวงการกราฟิก API. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ปัญหาของ API รุ่นใหม่ (DX12/Vulkan/Metal) ➡️ ซับซ้อนเกินไปสำหรับ engine เดิม ➡️ เกิด PSO permutation explosion และ cache ขนาดมหาศาล ✅ วิวัฒนาการของ GPU ปัจจุบัน ➡️ มี coherent caches และ bindless samplers ➡️ รองรับ 64-bit GPU pointers และ direct memory access ✅ แนวคิด “No Graphics API” ➡️ ลด abstraction ที่ไม่จำเป็น ➡️ ใช้ pointer-based memory และ descriptor heap ที่โปร่งใส ‼️ คำเตือนต่ออุตสาหกรรม ⛔ หากยังยึดติดกับ API รุ่นเก่า จะสร้างภาระ cache และ pipeline state ที่ไม่จำเป็น ⛔ ความซับซ้อนที่สะสมอาจทำให้การพัฒนาเกมและกราฟิกช้าลงและสิ้นเปลืองทรัพยากร https://www.sebastianaaltonen.com/blog/no-graphics-api
    WWW.SEBASTIANAALTONEN.COM
    No Graphics API — Sebastian Aaltonen
    Graphics APIs and shader languages have significantly increased in complexity over the past decade. It’s time to start discussing how to strip down the abstractions to simplify development, improve performance, and prepare for future GPU workloads.
    0 Comments 0 Shares 199 Views 0 Reviews
  • https://www.youtube.com/live/2PbvJpX1Ayo?si=9GxsO0PkZWR_N53k
    https://www.youtube.com/live/2PbvJpX1Ayo?si=9GxsO0PkZWR_N53k
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • พืชโบราณกับการสื่อสารผ่านความร้อน

    งานวิจัยใหม่เผยว่า พืชโบราณอย่างไซแคด (Cycads) ใช้ความร้อนจากโคนเพื่อดึงดูดแมลงผสมเกสร ซึ่งเป็นกลไกการสื่อสารที่เก่าแก่ที่สุดรูปแบบหนึ่งในโลกพืช และยังเชื่อมโยงกับการอยู่รอดของสายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์ในปัจจุบัน

    นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าไซแคด (เช่น Zamia furfuracea) สามารถสร้างความร้อนสูงกว่าสภาพแวดล้อมได้ถึง 25–35°C เพื่อดึงดูดแมลง โดยเฉพาะด้วง Rhopalotria furfuracea ที่เป็นผู้ช่วยผสมเกสรหลัก กลไกนี้เกิดขึ้นตามจังหวะเวลาในแต่ละวัน: โคนเพศผู้จะร้อนขึ้นก่อนเพื่อเรียกแมลง จากนั้นโคนเพศเมียจะร้อนตามเพื่อรับละอองเกสร ถือเป็นการสื่อสารที่ไม่ใช่สีหรือกลิ่น แต่เป็น “สัญญาณอินฟราเรด” ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกพืช

    กลไกชีววิทยาที่ซับซ้อน
    การสร้างความร้อนเกิดจากยีน AOX1 ที่ทำงานเกินปกติในไซแคด ทำให้เซลล์เปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อนแทนการสร้าง ATP ขณะเดียวกัน แมลงมีเซ็นเซอร์พิเศษที่หนวด เรียกว่า coeloconic sensilla ซึ่งเชื่อมกับช่องไอออน TRPA1 ที่ตอบสนองต่อรังสีอินฟราเรด ทำให้แมลงสามารถตรวจจับความร้อนและเคลื่อนย้ายละอองเกสรได้อย่างแม่นยำ

    ความเชื่อมโยงกับวิวัฒนาการ
    ไซแคดถูกเรียกว่า “ฟอสซิลมีชีวิต” เพราะแทบไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ยุคจูราสสิกกว่า 200 ล้านปีที่ผ่านมา กลไกการใช้ความร้อนอาจเป็นวิธีดึงดูดแมลงที่มีสายตาไม่ดีในยุคดึกดำบรรพ์ ก่อนที่พืชดอกจะวิวัฒนาการสีสันสดใสเพื่อดึงดูดผึ้งและผีเสื้อในภายหลัง การค้นพบนี้จึงช่วยเปิดมิติใหม่ในการเข้าใจการร่วมวิวัฒนาการระหว่างพืชและแมลง

    สถานะใกล้สูญพันธุ์
    ปัจจุบันไซแคดเหลือเพียงราว 300 สายพันธุ์ทั่วโลก และส่วนใหญ่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูญพันธุ์ตามบัญชี IUCN เนื่องจากการสูญเสียถิ่นที่อยู่และการแข่งขันกับพืชดอกที่มีสัญญาณหลากหลายกว่า นักอนุรักษ์จึงเร่งสร้างโครงการเพาะเลี้ยงและฟื้นฟูเพื่อรักษาสายพันธุ์โบราณนี้ไว้

    สรุปสาระสำคัญ

    การสื่อสารผ่านความร้อนของไซแคด
    โคนเพศผู้และเพศเมียร้อนขึ้นตามจังหวะเวลาเพื่อดึงดูดแมลง

    กลไกชีววิทยา
    ยีน AOX1 สร้างความร้อน, แมลงใช้ TRPA1 ตรวจจับอินฟราเรด

    ความสำคัญทางวิวัฒนาการ
    เป็นหนึ่งในวิธีดึงดูดแมลงที่เก่าแก่ที่สุด ก่อนพืชดอกจะใช้สีและกลิ่น

    สถานะใกล้สูญพันธุ์
    เหลือเพียง ~300 สายพันธุ์ และต้องการการอนุรักษ์เร่งด่วน

    ความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
    การสูญเสียถิ่นที่อยู่และการแข่งขันกับพืชดอกทำให้ไซแคดอ่อนแอ

    ความเปราะบางของระบบนิเวศ
    หากแมลงผสมเกสรเฉพาะสูญหาย อาจทำให้ไซแคดไม่สามารถสืบพันธุ์ได้

    https://www.sciencealert.com/an-ancient-form-of-plant-communication-still-lures-pollinators-using-heat
    🌱 พืชโบราณกับการสื่อสารผ่านความร้อน งานวิจัยใหม่เผยว่า พืชโบราณอย่างไซแคด (Cycads) ใช้ความร้อนจากโคนเพื่อดึงดูดแมลงผสมเกสร ซึ่งเป็นกลไกการสื่อสารที่เก่าแก่ที่สุดรูปแบบหนึ่งในโลกพืช และยังเชื่อมโยงกับการอยู่รอดของสายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์ในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าไซแคด (เช่น Zamia furfuracea) สามารถสร้างความร้อนสูงกว่าสภาพแวดล้อมได้ถึง 25–35°C เพื่อดึงดูดแมลง โดยเฉพาะด้วง Rhopalotria furfuracea ที่เป็นผู้ช่วยผสมเกสรหลัก กลไกนี้เกิดขึ้นตามจังหวะเวลาในแต่ละวัน: โคนเพศผู้จะร้อนขึ้นก่อนเพื่อเรียกแมลง จากนั้นโคนเพศเมียจะร้อนตามเพื่อรับละอองเกสร ถือเป็นการสื่อสารที่ไม่ใช่สีหรือกลิ่น แต่เป็น “สัญญาณอินฟราเรด” ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกพืช 🔬 กลไกชีววิทยาที่ซับซ้อน การสร้างความร้อนเกิดจากยีน AOX1 ที่ทำงานเกินปกติในไซแคด ทำให้เซลล์เปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อนแทนการสร้าง ATP ขณะเดียวกัน แมลงมีเซ็นเซอร์พิเศษที่หนวด เรียกว่า coeloconic sensilla ซึ่งเชื่อมกับช่องไอออน TRPA1 ที่ตอบสนองต่อรังสีอินฟราเรด ทำให้แมลงสามารถตรวจจับความร้อนและเคลื่อนย้ายละอองเกสรได้อย่างแม่นยำ 🦖 ความเชื่อมโยงกับวิวัฒนาการ ไซแคดถูกเรียกว่า “ฟอสซิลมีชีวิต” เพราะแทบไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ยุคจูราสสิกกว่า 200 ล้านปีที่ผ่านมา กลไกการใช้ความร้อนอาจเป็นวิธีดึงดูดแมลงที่มีสายตาไม่ดีในยุคดึกดำบรรพ์ ก่อนที่พืชดอกจะวิวัฒนาการสีสันสดใสเพื่อดึงดูดผึ้งและผีเสื้อในภายหลัง การค้นพบนี้จึงช่วยเปิดมิติใหม่ในการเข้าใจการร่วมวิวัฒนาการระหว่างพืชและแมลง ⚠️ สถานะใกล้สูญพันธุ์ ปัจจุบันไซแคดเหลือเพียงราว 300 สายพันธุ์ทั่วโลก และส่วนใหญ่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูญพันธุ์ตามบัญชี IUCN เนื่องจากการสูญเสียถิ่นที่อยู่และการแข่งขันกับพืชดอกที่มีสัญญาณหลากหลายกว่า นักอนุรักษ์จึงเร่งสร้างโครงการเพาะเลี้ยงและฟื้นฟูเพื่อรักษาสายพันธุ์โบราณนี้ไว้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การสื่อสารผ่านความร้อนของไซแคด ➡️ โคนเพศผู้และเพศเมียร้อนขึ้นตามจังหวะเวลาเพื่อดึงดูดแมลง ✅ กลไกชีววิทยา ➡️ ยีน AOX1 สร้างความร้อน, แมลงใช้ TRPA1 ตรวจจับอินฟราเรด ✅ ความสำคัญทางวิวัฒนาการ ➡️ เป็นหนึ่งในวิธีดึงดูดแมลงที่เก่าแก่ที่สุด ก่อนพืชดอกจะใช้สีและกลิ่น ✅ สถานะใกล้สูญพันธุ์ ➡️ เหลือเพียง ~300 สายพันธุ์ และต้องการการอนุรักษ์เร่งด่วน ‼️ ความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ⛔ การสูญเสียถิ่นที่อยู่และการแข่งขันกับพืชดอกทำให้ไซแคดอ่อนแอ ‼️ ความเปราะบางของระบบนิเวศ ⛔ หากแมลงผสมเกสรเฉพาะสูญหาย อาจทำให้ไซแคดไม่สามารถสืบพันธุ์ได้ https://www.sciencealert.com/an-ancient-form-of-plant-communication-still-lures-pollinators-using-heat
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    An Ancient Form of Plant Communication Still Lures Pollinators Using Heat
    Blazing colors and enticing scents may be showy, but they're just one part of the toolkit plants use to lure in pollinators.
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • Asus ลดสเปกเพื่อความกะทัดรัด

    Asus เปิดตัว Dual GeForce RTX 5060 Ti Evo 16GB GDDR7 ที่เปลี่ยนจาก PCIe x16 มาเป็น PCIe x8 จุดประสงค์หลักคือการลดต้นทุนและทำให้การ์ดมีขนาดเล็กลง เหมาะกับ Small Form Factor (SFF) โดยการ์ดถูกย่อจาก 2.5 slot เหลือ 2.1 slot และสั้นลงประมาณ 2% อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์บางอย่างถูกตัดออก เช่น dual-BIOS switch และ GPU Guard ที่ช่วยป้องกันการแตกร้าวของชิป.

    Gigabyte เพิ่มสเปกเพื่อความแตกต่าง
    ในทางตรงกันข้าม Gigabyte เปิดตัว GeForce RTX 5060 Ti WindForce Max 16G ที่เปลี่ยนจาก PCIe x8 มาเป็น PCIe x16 แม้การทำงานจริงยังคงอยู่ที่ x8 แต่การเปลี่ยนนี้ทำให้การ์ดดู “เต็มสเปก” มากขึ้น การออกแบบโดยรวมแทบไม่ต่างจากรุ่นก่อน ยกเว้นตำแหน่งของ 8-pin power connector ที่ถูกย้ายไปด้านขวา.

    ประสิทธิภาพไม่เปลี่ยน
    แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงคอนเน็กเตอร์ แต่ RTX 5060 Ti ทั้งสองรุ่นยังคงทำงานที่ระดับ x8 ตามการออกแบบของ Nvidia ดังนั้นประสิทธิภาพจริงไม่ต่างกัน การเปลี่ยนแปลงนี้จึงเป็นเรื่องของ ต้นทุนและการตลาด มากกว่าการเพิ่มพลังการประมวลผล.

    ผลกระทบต่อตลาด
    การเคลื่อนไหวของ Asus และ Gigabyte สะท้อนถึงการแข่งขันในตลาดการ์ดจอระดับกลาง ที่เน้นการปรับแต่งเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้ต่างกัน Asus มุ่งไปที่ตลาด SFF PC ที่ต้องการการ์ดเล็กและราคาถูก ขณะที่ Gigabyte เลือกทำให้การ์ดดู “เต็มสเปก” เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดทางเทคนิค.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Asus Dual RTX 5060 Ti Evo
    เปลี่ยนจาก PCIe x16 → x8
    การ์ดเล็กลง เหมาะกับ SFF
    ตัดฟีเจอร์ dual-BIOS และ GPU Guard

    Gigabyte WindForce Max 16G
    เปลี่ยนจาก PCIe x8 → x16
    ดีไซน์แทบไม่ต่างจากรุ่นก่อน
    ย้ายตำแหน่ง 8-pin power connector

    ประสิทธิภาพจริง
    ทั้งสองรุ่นยังคงทำงานที่ x8
    ไม่มีผลต่อเฟรมเรตหรือการประมวลผล

    ผลต่อผู้ใช้
    Asus เน้นตลาด SFF และต้นทุนต่ำ
    Gigabyte เน้นภาพลักษณ์ “เต็มสเปก”

    ข้อควรระวัง
    ผู้ใช้บางคนอาจเข้าใจผิดว่าการเปลี่ยนเป็น x16 ของ Gigabyte เพิ่มประสิทธิภาพ
    Asus ตัดฟีเจอร์บางอย่างออก ทำให้การ์ดเสียความสามารถบางส่วน
    ทั้งสองรุ่นยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่ายแน่ชัด

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/asus-swaps-out-the-pcie-x16-connector-for-x8-on-new-rtx-5060-ti-gpus-gigabyte-does-the-opposite-with-x16-upgrade-to-its-windforce-max-card
    🖥️ Asus ลดสเปกเพื่อความกะทัดรัด Asus เปิดตัว Dual GeForce RTX 5060 Ti Evo 16GB GDDR7 ที่เปลี่ยนจาก PCIe x16 มาเป็น PCIe x8 จุดประสงค์หลักคือการลดต้นทุนและทำให้การ์ดมีขนาดเล็กลง เหมาะกับ Small Form Factor (SFF) โดยการ์ดถูกย่อจาก 2.5 slot เหลือ 2.1 slot และสั้นลงประมาณ 2% อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์บางอย่างถูกตัดออก เช่น dual-BIOS switch และ GPU Guard ที่ช่วยป้องกันการแตกร้าวของชิป. ⚡ Gigabyte เพิ่มสเปกเพื่อความแตกต่าง ในทางตรงกันข้าม Gigabyte เปิดตัว GeForce RTX 5060 Ti WindForce Max 16G ที่เปลี่ยนจาก PCIe x8 มาเป็น PCIe x16 แม้การทำงานจริงยังคงอยู่ที่ x8 แต่การเปลี่ยนนี้ทำให้การ์ดดู “เต็มสเปก” มากขึ้น การออกแบบโดยรวมแทบไม่ต่างจากรุ่นก่อน ยกเว้นตำแหน่งของ 8-pin power connector ที่ถูกย้ายไปด้านขวา. 🔧 ประสิทธิภาพไม่เปลี่ยน แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงคอนเน็กเตอร์ แต่ RTX 5060 Ti ทั้งสองรุ่นยังคงทำงานที่ระดับ x8 ตามการออกแบบของ Nvidia ดังนั้นประสิทธิภาพจริงไม่ต่างกัน การเปลี่ยนแปลงนี้จึงเป็นเรื่องของ ต้นทุนและการตลาด มากกว่าการเพิ่มพลังการประมวลผล. 🌐 ผลกระทบต่อตลาด การเคลื่อนไหวของ Asus และ Gigabyte สะท้อนถึงการแข่งขันในตลาดการ์ดจอระดับกลาง ที่เน้นการปรับแต่งเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้ต่างกัน Asus มุ่งไปที่ตลาด SFF PC ที่ต้องการการ์ดเล็กและราคาถูก ขณะที่ Gigabyte เลือกทำให้การ์ดดู “เต็มสเปก” เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดทางเทคนิค. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Asus Dual RTX 5060 Ti Evo ➡️ เปลี่ยนจาก PCIe x16 → x8 ➡️ การ์ดเล็กลง เหมาะกับ SFF ➡️ ตัดฟีเจอร์ dual-BIOS และ GPU Guard ✅ Gigabyte WindForce Max 16G ➡️ เปลี่ยนจาก PCIe x8 → x16 ➡️ ดีไซน์แทบไม่ต่างจากรุ่นก่อน ➡️ ย้ายตำแหน่ง 8-pin power connector ✅ ประสิทธิภาพจริง ➡️ ทั้งสองรุ่นยังคงทำงานที่ x8 ➡️ ไม่มีผลต่อเฟรมเรตหรือการประมวลผล ✅ ผลต่อผู้ใช้ ➡️ Asus เน้นตลาด SFF และต้นทุนต่ำ ➡️ Gigabyte เน้นภาพลักษณ์ “เต็มสเปก” ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ผู้ใช้บางคนอาจเข้าใจผิดว่าการเปลี่ยนเป็น x16 ของ Gigabyte เพิ่มประสิทธิภาพ ⛔ Asus ตัดฟีเจอร์บางอย่างออก ทำให้การ์ดเสียความสามารถบางส่วน ⛔ ทั้งสองรุ่นยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่ายแน่ชัด https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/asus-swaps-out-the-pcie-x16-connector-for-x8-on-new-rtx-5060-ti-gpus-gigabyte-does-the-opposite-with-x16-upgrade-to-its-windforce-max-card
    0 Comments 0 Shares 184 Views 0 Reviews
  • ใช้แท็บเล็ต E-Ink เป็นจอเสริมบน Linux

    ผู้เขียนเล่าว่าหลังจากทำงานอ่านเอกสารด้านกฎหมายกว่า 14 ชั่วโมงติดต่อกัน จึงอยากหาวิธีลดอาการล้าตา และได้ลองใช้แท็บเล็ต E-Ink เก่าเป็นจอเสริมสำหรับอ่านและเขียนโค้ด ผลลัพธ์คือสามารถใช้งานได้จริง โดยเฉพาะงานที่เน้นตัวอักษร ทำให้การทำงานสบายตามากขึ้น แม้จะไม่เหมาะกับงานที่ต้องการสีหรือการตอบสนองเร็ว

    วิธีการทดลอง: Deskreen vs VNC
    การทดลองแรกคือใช้ Deskreen ซึ่งง่ายต่อการตั้งค่า แต่คุณภาพการแสดงผลไม่คมชัดและมี input lag สูง จึงไม่เหมาะกับแท็บเล็ต E-Ink ที่รีเฟรชช้าอยู่แล้ว สุดท้ายผู้เขียนเลือกใช้ TigerVNC ร่วมกับแอป AVNC บน Android ซึ่งให้ผลลัพธ์ดีกว่า ทั้งความคมชัดและ latency ที่ต่ำกว่า

    ขั้นตอนการตั้งค่า VNC
    ผู้เขียนอธิบายการติดตั้ง TigerVNC บน Arch Linux ตั้งค่า geometry ให้ตรงกับความละเอียดของแท็บเล็ต (เช่น 1400x1050) และใช้ x0vncserver เพื่อแชร์หน้าจอไปยังแท็บเล็ต Android ผ่านเครือข่ายภายในบ้าน การปรับค่าเหล่านี้ทำให้แท็บเล็ตสามารถแสดงผลได้เต็มจอโดยไม่มีขอบดำ และยังสามารถเขียนสคริปต์เพื่อเปิดใช้งานโหมด E-Ink ได้อย่างรวดเร็ว

    ประโยชน์และข้อจำกัด
    การใช้แท็บเล็ต E-Ink เป็นจอเสริมช่วยให้ อ่านและเขียนโค้ดได้โดยไม่ล้าตา และเหมาะกับงานที่ต้องการสมาธิสูง แต่ข้อจำกัดคือ รีเฟรชเรตต่ำและการตอบสนองช้า ทำให้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการการเคลื่อนไหวหรือสีสัน เช่น การดูวิดีโอหรือทำงานกราฟิก อย่างไรก็ตาม สำหรับงานด้านข้อความถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่า

    สรุปเป็นหัวข้อ
    แนวคิดการใช้แท็บเล็ต E-Ink
    ลดอาการล้าตาในการอ่านและเขียนโค้ด
    เหมาะกับงานที่เน้นข้อความมากกว่างานกราฟิก

    วิธีการทดลอง
    Deskreen: ใช้ง่ายแต่คุณภาพไม่คมและ lag สูง
    TigerVNC: ให้ผลลัพธ์ดีกว่า ทั้งความคมและ latency ต่ำ

    ขั้นตอนการตั้งค่า
    ใช้ TigerVNC และ AVNC บน Android
    กำหนด geometry ให้ตรงกับความละเอียดแท็บเล็ต
    เขียนสคริปต์เพื่อเปิดโหมด E-Ink ได้รวดเร็ว

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    รีเฟรชเรตต่ำ ทำให้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการการเคลื่อนไหว
    ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการสีสัน เช่น วิดีโอหรือกราฟิก
    ต้องเปิดพอร์ตและตั้งค่าเครือข่ายให้ปลอดภัย หากใช้นอกบ้าน

    https://alavi.me/blog/e-ink-tablet-as-monitor-linux/
    📺 ใช้แท็บเล็ต E-Ink เป็นจอเสริมบน Linux ผู้เขียนเล่าว่าหลังจากทำงานอ่านเอกสารด้านกฎหมายกว่า 14 ชั่วโมงติดต่อกัน จึงอยากหาวิธีลดอาการล้าตา และได้ลองใช้แท็บเล็ต E-Ink เก่าเป็นจอเสริมสำหรับอ่านและเขียนโค้ด ผลลัพธ์คือสามารถใช้งานได้จริง โดยเฉพาะงานที่เน้นตัวอักษร ทำให้การทำงานสบายตามากขึ้น แม้จะไม่เหมาะกับงานที่ต้องการสีหรือการตอบสนองเร็ว 🖥️ วิธีการทดลอง: Deskreen vs VNC การทดลองแรกคือใช้ Deskreen ซึ่งง่ายต่อการตั้งค่า แต่คุณภาพการแสดงผลไม่คมชัดและมี input lag สูง จึงไม่เหมาะกับแท็บเล็ต E-Ink ที่รีเฟรชช้าอยู่แล้ว สุดท้ายผู้เขียนเลือกใช้ TigerVNC ร่วมกับแอป AVNC บน Android ซึ่งให้ผลลัพธ์ดีกว่า ทั้งความคมชัดและ latency ที่ต่ำกว่า ⚙️ ขั้นตอนการตั้งค่า VNC ผู้เขียนอธิบายการติดตั้ง TigerVNC บน Arch Linux ตั้งค่า geometry ให้ตรงกับความละเอียดของแท็บเล็ต (เช่น 1400x1050) และใช้ x0vncserver เพื่อแชร์หน้าจอไปยังแท็บเล็ต Android ผ่านเครือข่ายภายในบ้าน การปรับค่าเหล่านี้ทำให้แท็บเล็ตสามารถแสดงผลได้เต็มจอโดยไม่มีขอบดำ และยังสามารถเขียนสคริปต์เพื่อเปิดใช้งานโหมด E-Ink ได้อย่างรวดเร็ว 🌟 ประโยชน์และข้อจำกัด การใช้แท็บเล็ต E-Ink เป็นจอเสริมช่วยให้ อ่านและเขียนโค้ดได้โดยไม่ล้าตา และเหมาะกับงานที่ต้องการสมาธิสูง แต่ข้อจำกัดคือ รีเฟรชเรตต่ำและการตอบสนองช้า ทำให้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการการเคลื่อนไหวหรือสีสัน เช่น การดูวิดีโอหรือทำงานกราฟิก อย่างไรก็ตาม สำหรับงานด้านข้อความถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่า 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ แนวคิดการใช้แท็บเล็ต E-Ink ➡️ ลดอาการล้าตาในการอ่านและเขียนโค้ด ➡️ เหมาะกับงานที่เน้นข้อความมากกว่างานกราฟิก ✅ วิธีการทดลอง ➡️ Deskreen: ใช้ง่ายแต่คุณภาพไม่คมและ lag สูง ➡️ TigerVNC: ให้ผลลัพธ์ดีกว่า ทั้งความคมและ latency ต่ำ ✅ ขั้นตอนการตั้งค่า ➡️ ใช้ TigerVNC และ AVNC บน Android ➡️ กำหนด geometry ให้ตรงกับความละเอียดแท็บเล็ต ➡️ เขียนสคริปต์เพื่อเปิดโหมด E-Ink ได้รวดเร็ว ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ รีเฟรชเรตต่ำ ทำให้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการการเคลื่อนไหว ⛔ ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการสีสัน เช่น วิดีโอหรือกราฟิก ⛔ ต้องเปิดพอร์ตและตั้งค่าเครือข่ายให้ปลอดภัย หากใช้นอกบ้าน https://alavi.me/blog/e-ink-tablet-as-monitor-linux/
    ALAVI.ME
    Using E-Ink tablet as monitor for Linux - alavi.me
    We will explore how we can use an Android E-ink tablet (or any tablet) as a monitor for Linux computer
    0 Comments 0 Shares 142 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251214 #TechRadar

    รีวิวคีย์บอร์ด HHKB Professional Classic Type-S
    เรื่องราวของคีย์บอร์ดรุ่นนี้เริ่มจากแนวคิดของศาสตราจารย์ชาวญี่ปุ่นที่ต้องการสร้างคีย์บอร์ดสำหรับมืออาชีพ โดยตัดปุ่มที่ไม่จำเป็นออกไป เหลือเพียง 60 ปุ่มในดีไซน์กะทัดรัด ใช้สวิตช์ Topre ที่ขึ้นชื่อเรื่องสัมผัสนุ่มและเงียบ จุดเด่นคือความเล็กและพกพาง่าย แต่ข้อเสียคือไม่มีปุ่มลูกศร ไม่มีแป้นตัวเลข และต้องใช้ปุ่ม Fn เพื่อเข้าถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้ต้องปรับตัวใหม่ทั้งหมด ราคาก็สูงพอสมควรเกือบ 300 ดอลลาร์ จึงเป็นคีย์บอร์ดที่คนรักความมินิมอลอาจหลงใหล แต่สำหรับคนทั่วไปอาจรู้สึกว่ามันใช้งานยากและไม่คุ้มค่า
    https://www.techradar.com/computing/keyboards/hhkb-professional-classic-type-s-keyboard-review

    มินิพีซี FEVM FAEX1 ขนาด 1 ลิตร
    นี่คือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่อัดพลังมหาศาลไว้ภายใน ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 พร้อมการ์ดจอ Radeon 8060S เทียบเท่า RTX 4070 Laptop รองรับแรมสูงสุด 128GB และมีสล็อต SSD ถึงสามช่อง แม้ตัวเครื่องเล็กเพียง 220 x 133 x 35 มม. แต่ยังคงประสิทธิภาพระดับสูง มีพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง HDMI, DisplayPort, USB4, และ OCuLink ราคาขายในจีนเริ่มต้นราว 1,550 ดอลลาร์ ถือว่าเป็นหนึ่งในมินิพีซีที่ทรงพลังที่สุดในตลาด แต่ยังไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/this-is-perhaps-the-smallest-mini-pc-with-a-5060-class-gpu-you-can-buy-right-now-but-you-will-have-to-go-all-the-way-to-china-to-get-it

    ที่ชาร์จไร้สาย Qi2.0 จาก IKEA
    IKEA เปิดตัวที่ชาร์จไร้สายใหม่ 3 รุ่นในซีรีส์ VÄSTMÄRKE ทั้งหมดรองรับมาตรฐาน Qi2.0 กำลังชาร์จสูงสุด 15W รุ่นแรกเป็นที่ชาร์จทรงโดนัทสีแดง ราคาเพียง 9.99 ดอลลาร์ มีฟังก์ชันพิเศษเป็นที่จับโทรศัพท์คล้าย PopSocket รุ่นที่สองเป็นแท่นชาร์จทำจากไม้คอร์ก ราคา 24.99 ดอลลาร์ ใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ส่วนรุ่นสุดท้ายเป็นที่ชาร์จพร้อมไฟส่องสว่างและถาดเล็ก ๆ สำหรับวางของเล็กน้อย เหมาะกับการใช้งานบนโต๊ะหรือหัวเตียง ทั้งสามรุ่นเน้นความเรียบง่ายและราคาย่อมเยาในสไตล์ IKEA
    https://www.techradar.com/phones/phone-accessories/ikea-launches-three-new-qi2-0-wireless-phone-chargers-including-one-with-a-hidden-double-function

    6 คำถามสำคัญในการวางแผน AI Enablement
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าในองค์กรยุคใหม่ พนักงานแทบทุกคนใช้เครื่องมือ AI ไม่ว่าจะได้รับอนุญาตหรือไม่ และหลายครั้งมีการนำข้อมูลภายในไปใส่ในระบบโดยไม่รู้ความเสี่ยง ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Shadow AI” ผู้เขียนเสนอว่าองค์กรต้องมีแผน AI Enablement ที่ชัดเจน โดยตั้งคำถามสำคัญ เช่น จะใช้ AI ในงานใดบ้าง จะเลือกเครื่องมือที่ปลอดภัยอย่างไร จะจัดการบัญชีส่วนตัวของพนักงานอย่างไร และจะสอนนโยบายให้พนักงานเข้าใจได้อย่างไร หากไม่มีการกำกับดูแล อาจนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลและความเสียหายทางธุรกิจ
    https://www.techradar.com/pro/six-questions-to-ask-when-crafting-an-ai-enablement-plan

    Tesla Model Y Performance รุ่นใหม่
    ครั้งหนึ่ง Tesla เคยสร้างความตื่นตะลึงด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่ารถสปอร์ต แต่ในรุ่น Model Y Performance ล่าสุด แม้จะยังเร็ว 0-60 ไมล์ใน 3.3 วินาที และวิ่งได้ไกลถึง 360 ไมล์ต่อการชาร์จ แต่ความตื่นเต้นกลับไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะคู่แข่งจากยุโรปและจีนก้าวขึ้นมาเทียบชั้นได้หมด การปรับปรุงช่วงล่างและระบบขับเคลื่อนช่วยให้ขับนุ่มนวลขึ้น แต่ไม่ได้สร้างความเร้าใจเหมือนเดิม ผู้ทดสอบเล่าว่าลูกชายถึงกับเวียนหัวเมื่อถูกเร่งความเร็วแรง ๆ สุดท้ายจึงสรุปว่า รุ่น Standard และ Long Range อาจคุ้มค่ากว่าด้วยราคาที่ถูกลงและระยะทางวิ่งที่มากกว่า
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/ive-driven-the-new-tesla-model-y-performance-and-despite-it-being-a-great-car-it-isnt-anywhere-near-as-exciting-as-it-once-was

    Canva เปิดมุมมองใหม่ สร้างยุคแห่ง “Imagination Era”
    Canva กำลังพลิกโฉมตัวเองจากเครื่องมือออกแบบธรรมดาไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “Creative Operating System” หรือระบบปฏิบัติการด้านการสร้างสรรค์ ที่รวมทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบ การทำงานร่วมทีม ไปจนถึงการเผยแพร่และวัดผลในที่เดียว จุดเด่นคือการผสาน AI ที่เข้าใจโครงสร้างงานดีไซน์จริง ไม่ใช่แค่สร้างภาพสวย ๆ แต่สามารถแก้ไข ปรับแต่ง และทำงานต่อได้อย่างยืดหยุ่น อีกหนึ่งข่าวใหญ่คือ Affinity ซึ่งเคยเป็นซอฟต์แวร์ออกแบบระดับโปร ตอนนี้ถูกทำให้ใช้ฟรีตลอดไป เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงเครื่องมือคุณภาพโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย Canva ยังเสริมด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น Ask @Canva ที่ช่วยให้ AI กลายเป็นเพื่อนร่วมคิด ไม่ใช่ตัวแทนแทนความคิด และการเชื่อมต่อกับ Sheets เพื่อสร้างแอปหรือแดชบอร์ดแบบโต้ตอบได้ทันที ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดว่าโลกกำลังเดินเข้าสู่ “Imagination Era” ที่ความคิดสร้างสรรค์คือหัวใจสำคัญของการทำงาน
    https://www.techradar.com/pro/software-services/interview-canva-reveals-what-creativity-in-the-age-of-ai-and-why-affinity-is-free-for-all

    EU ถอยแผนแบนรถเครื่องยนต์สันดาปปี 2035
    สหภาพยุโรปเคยประกาศว่าจะยุติการขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2035 แต่ล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเลื่อนเป้าหมายไปเป็นปี 2040 พร้อมปรับเงื่อนไขใหม่ให้ผู้ผลิตรถยนต์ลดการปล่อย CO2 ลง 90% แทนที่จะเป็น 100% เหตุผลหลักคือการรักษางานอุตสาหกรรมจำนวนมหาศาลและตอบรับเสียงจากผู้ผลิตรายใหญ่ที่มองว่ากำหนดเดิมเร็วเกินไป หลายค่ายอย่าง Porsche และ Ford ก็ปรับแผนกลับมาใช้ทั้งเครื่องยนต์น้ำมันและไฮบริดควบคู่ไปกับรถไฟฟ้า แม้จะเลื่อนเวลาออกไป แต่ทิศทางใหญ่ยังคงมุ่งสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เพียงแต่ให้เวลามากขึ้นในการเปลี่ยนผ่าน
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/the-inevitable-has-happened-the-eu-has-u-turned-on-its-plan-to-ban-the-sale-of-ice-cars-by-2035

    ยุคใหม่ของ AI: จากโมเดลใหญ่สู่ “Agentic AI”
    ที่ผ่านมาโลก AI เน้นการสร้างโมเดลที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่ตอนนี้นักวิจัยมองว่าทางออกไม่ใช่การเพิ่มขนาด แต่คือการออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่ที่เรียกว่า “Agentic AI” แนวคิดนี้คือการใช้กลุ่มตัวแทนเล็ก ๆ หลายตัวที่ทำงานร่วมกันอย่างมีเหตุผลและต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ตอบคำถามแล้วจบ แต่สามารถเฝ้าสังเกต วิเคราะห์ และปรับตัวตามสถานการณ์จริง เช่น การเปลี่ยนพฤติกรรมลูกค้า หรือความผิดปกติเล็ก ๆ ที่มักหลุดจากสายตา ระบบนี้ต้องอาศัยข้อมูลที่เป็นเอกภาพเพื่อไม่ให้ตัวแทนแต่ละตัวตัดสินใจขัดแย้งกัน จุดสำคัญคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นและเรียนรู้ได้ตลอดเวลา โดยมนุษย์ยังคงมีบทบาทในการกำหนดเป้าหมายและขอบเขต ส่วน AI จะทำหน้าที่เป็นแรงขับเคลื่อนที่ไม่รู้จักเหนื่อย
    https://www.techradar.com/pro/the-next-phase-of-ai-is-agentic-and-it-starts-with-data-architecture

    สหรัฐฯ เตรียมตรวจโซเชียลมีเดียย้อนหลัง 5 ปีในการเข้าประเทศ
    นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ อาจต้องเจอกับมาตรการใหม่ที่เข้มงวดกว่าที่เคย โดยหน่วยงาน CBP เสนอให้ตรวจสอบโพสต์โซเชียลมีเดียย้อนหลังถึง 5 ปี รวมถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างอีเมล เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลครอบครัว และข้อมูลชีวมิติ เช่น ลายนิ้วมือ สแกนม่านตา และ DNA แน่นอนว่ามาตรการนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มสิทธิเสรีภาพที่มองว่าเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวและไม่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจริง ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่ามาตรการนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ง่าย เช่น การลบโพสต์เก่า หรือสร้างบัญชีใหม่ที่สะอาด ทำให้เกิดคำถามว่ามันจะได้ผลจริงหรือไม่
    https://www.techradar.com/computing/social-media/new-us-border-checks-could-involve-scanning-your-last-five-years-of-social-media-history-heres-what-you-need-to-know

    AI พาโลกธุรกิจวิ่งสู่ “Zero Downtime”
    ในยุคดิจิทัล ความน่าเชื่อถือของระบบออนไลน์สำคัญไม่แพ้รายได้ เพราะการหยุดทำงานเพียงไม่กี่นาทีอาจสร้างความเสียหายมหาศาล ปัจจุบัน AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกมด้วยการสร้างระบบที่สามารถคาดการณ์และแก้ไขปัญหาได้เองก่อนที่ผู้ใช้จะรู้ตัว แนวคิด “Self-healing Infrastructure” หรือโครงสร้างพื้นฐานที่ซ่อมตัวเองได้ กำลังถูกนำมาใช้จริงในองค์กรใหญ่ ๆ ทำให้การแก้ไขปัญหาที่เคยใช้เวลาหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที ผลลัพธ์คือธุรกิจสามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่สะดุด และวิศวกรเองก็มีเวลามากขึ้นในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่แทนที่จะต้องคอยดับไฟ ระบบเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุน แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในโลกที่ทุกวินาทีมีค่า
    https://www.techradar.com/pro/the-race-to-zero-downtime-is-on-and-ai-is-leading-it



    📌📡🔴 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔴📡📌 #รวมข่าวIT #20251214 #TechRadar 🖥️ รีวิวคีย์บอร์ด HHKB Professional Classic Type-S เรื่องราวของคีย์บอร์ดรุ่นนี้เริ่มจากแนวคิดของศาสตราจารย์ชาวญี่ปุ่นที่ต้องการสร้างคีย์บอร์ดสำหรับมืออาชีพ โดยตัดปุ่มที่ไม่จำเป็นออกไป เหลือเพียง 60 ปุ่มในดีไซน์กะทัดรัด ใช้สวิตช์ Topre ที่ขึ้นชื่อเรื่องสัมผัสนุ่มและเงียบ จุดเด่นคือความเล็กและพกพาง่าย แต่ข้อเสียคือไม่มีปุ่มลูกศร ไม่มีแป้นตัวเลข และต้องใช้ปุ่ม Fn เพื่อเข้าถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้ต้องปรับตัวใหม่ทั้งหมด ราคาก็สูงพอสมควรเกือบ 300 ดอลลาร์ จึงเป็นคีย์บอร์ดที่คนรักความมินิมอลอาจหลงใหล แต่สำหรับคนทั่วไปอาจรู้สึกว่ามันใช้งานยากและไม่คุ้มค่า 🔗 https://www.techradar.com/computing/keyboards/hhkb-professional-classic-type-s-keyboard-review 💻 มินิพีซี FEVM FAEX1 ขนาด 1 ลิตร นี่คือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่อัดพลังมหาศาลไว้ภายใน ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 พร้อมการ์ดจอ Radeon 8060S เทียบเท่า RTX 4070 Laptop รองรับแรมสูงสุด 128GB และมีสล็อต SSD ถึงสามช่อง แม้ตัวเครื่องเล็กเพียง 220 x 133 x 35 มม. แต่ยังคงประสิทธิภาพระดับสูง มีพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง HDMI, DisplayPort, USB4, และ OCuLink ราคาขายในจีนเริ่มต้นราว 1,550 ดอลลาร์ ถือว่าเป็นหนึ่งในมินิพีซีที่ทรงพลังที่สุดในตลาด แต่ยังไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-is-perhaps-the-smallest-mini-pc-with-a-5060-class-gpu-you-can-buy-right-now-but-you-will-have-to-go-all-the-way-to-china-to-get-it 🔌 ที่ชาร์จไร้สาย Qi2.0 จาก IKEA IKEA เปิดตัวที่ชาร์จไร้สายใหม่ 3 รุ่นในซีรีส์ VÄSTMÄRKE ทั้งหมดรองรับมาตรฐาน Qi2.0 กำลังชาร์จสูงสุด 15W รุ่นแรกเป็นที่ชาร์จทรงโดนัทสีแดง ราคาเพียง 9.99 ดอลลาร์ มีฟังก์ชันพิเศษเป็นที่จับโทรศัพท์คล้าย PopSocket รุ่นที่สองเป็นแท่นชาร์จทำจากไม้คอร์ก ราคา 24.99 ดอลลาร์ ใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ส่วนรุ่นสุดท้ายเป็นที่ชาร์จพร้อมไฟส่องสว่างและถาดเล็ก ๆ สำหรับวางของเล็กน้อย เหมาะกับการใช้งานบนโต๊ะหรือหัวเตียง ทั้งสามรุ่นเน้นความเรียบง่ายและราคาย่อมเยาในสไตล์ IKEA 🔗 https://www.techradar.com/phones/phone-accessories/ikea-launches-three-new-qi2-0-wireless-phone-chargers-including-one-with-a-hidden-double-function 🤖 6 คำถามสำคัญในการวางแผน AI Enablement บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าในองค์กรยุคใหม่ พนักงานแทบทุกคนใช้เครื่องมือ AI ไม่ว่าจะได้รับอนุญาตหรือไม่ และหลายครั้งมีการนำข้อมูลภายในไปใส่ในระบบโดยไม่รู้ความเสี่ยง ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Shadow AI” ผู้เขียนเสนอว่าองค์กรต้องมีแผน AI Enablement ที่ชัดเจน โดยตั้งคำถามสำคัญ เช่น จะใช้ AI ในงานใดบ้าง จะเลือกเครื่องมือที่ปลอดภัยอย่างไร จะจัดการบัญชีส่วนตัวของพนักงานอย่างไร และจะสอนนโยบายให้พนักงานเข้าใจได้อย่างไร หากไม่มีการกำกับดูแล อาจนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลและความเสียหายทางธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/six-questions-to-ask-when-crafting-an-ai-enablement-plan 🚗 Tesla Model Y Performance รุ่นใหม่ ครั้งหนึ่ง Tesla เคยสร้างความตื่นตะลึงด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่ารถสปอร์ต แต่ในรุ่น Model Y Performance ล่าสุด แม้จะยังเร็ว 0-60 ไมล์ใน 3.3 วินาที และวิ่งได้ไกลถึง 360 ไมล์ต่อการชาร์จ แต่ความตื่นเต้นกลับไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะคู่แข่งจากยุโรปและจีนก้าวขึ้นมาเทียบชั้นได้หมด การปรับปรุงช่วงล่างและระบบขับเคลื่อนช่วยให้ขับนุ่มนวลขึ้น แต่ไม่ได้สร้างความเร้าใจเหมือนเดิม ผู้ทดสอบเล่าว่าลูกชายถึงกับเวียนหัวเมื่อถูกเร่งความเร็วแรง ๆ สุดท้ายจึงสรุปว่า รุ่น Standard และ Long Range อาจคุ้มค่ากว่าด้วยราคาที่ถูกลงและระยะทางวิ่งที่มากกว่า 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/ive-driven-the-new-tesla-model-y-performance-and-despite-it-being-a-great-car-it-isnt-anywhere-near-as-exciting-as-it-once-was 🖌️ Canva เปิดมุมมองใหม่ สร้างยุคแห่ง “Imagination Era” Canva กำลังพลิกโฉมตัวเองจากเครื่องมือออกแบบธรรมดาไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “Creative Operating System” หรือระบบปฏิบัติการด้านการสร้างสรรค์ ที่รวมทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบ การทำงานร่วมทีม ไปจนถึงการเผยแพร่และวัดผลในที่เดียว จุดเด่นคือการผสาน AI ที่เข้าใจโครงสร้างงานดีไซน์จริง ไม่ใช่แค่สร้างภาพสวย ๆ แต่สามารถแก้ไข ปรับแต่ง และทำงานต่อได้อย่างยืดหยุ่น อีกหนึ่งข่าวใหญ่คือ Affinity ซึ่งเคยเป็นซอฟต์แวร์ออกแบบระดับโปร ตอนนี้ถูกทำให้ใช้ฟรีตลอดไป เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงเครื่องมือคุณภาพโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย Canva ยังเสริมด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น Ask @Canva ที่ช่วยให้ AI กลายเป็นเพื่อนร่วมคิด ไม่ใช่ตัวแทนแทนความคิด และการเชื่อมต่อกับ Sheets เพื่อสร้างแอปหรือแดชบอร์ดแบบโต้ตอบได้ทันที ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดว่าโลกกำลังเดินเข้าสู่ “Imagination Era” ที่ความคิดสร้างสรรค์คือหัวใจสำคัญของการทำงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/interview-canva-reveals-what-creativity-in-the-age-of-ai-and-why-affinity-is-free-for-all 🚗 EU ถอยแผนแบนรถเครื่องยนต์สันดาปปี 2035 สหภาพยุโรปเคยประกาศว่าจะยุติการขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2035 แต่ล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเลื่อนเป้าหมายไปเป็นปี 2040 พร้อมปรับเงื่อนไขใหม่ให้ผู้ผลิตรถยนต์ลดการปล่อย CO2 ลง 90% แทนที่จะเป็น 100% เหตุผลหลักคือการรักษางานอุตสาหกรรมจำนวนมหาศาลและตอบรับเสียงจากผู้ผลิตรายใหญ่ที่มองว่ากำหนดเดิมเร็วเกินไป หลายค่ายอย่าง Porsche และ Ford ก็ปรับแผนกลับมาใช้ทั้งเครื่องยนต์น้ำมันและไฮบริดควบคู่ไปกับรถไฟฟ้า แม้จะเลื่อนเวลาออกไป แต่ทิศทางใหญ่ยังคงมุ่งสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เพียงแต่ให้เวลามากขึ้นในการเปลี่ยนผ่าน 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/the-inevitable-has-happened-the-eu-has-u-turned-on-its-plan-to-ban-the-sale-of-ice-cars-by-2035 🤖 ยุคใหม่ของ AI: จากโมเดลใหญ่สู่ “Agentic AI” ที่ผ่านมาโลก AI เน้นการสร้างโมเดลที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่ตอนนี้นักวิจัยมองว่าทางออกไม่ใช่การเพิ่มขนาด แต่คือการออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่ที่เรียกว่า “Agentic AI” แนวคิดนี้คือการใช้กลุ่มตัวแทนเล็ก ๆ หลายตัวที่ทำงานร่วมกันอย่างมีเหตุผลและต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ตอบคำถามแล้วจบ แต่สามารถเฝ้าสังเกต วิเคราะห์ และปรับตัวตามสถานการณ์จริง เช่น การเปลี่ยนพฤติกรรมลูกค้า หรือความผิดปกติเล็ก ๆ ที่มักหลุดจากสายตา ระบบนี้ต้องอาศัยข้อมูลที่เป็นเอกภาพเพื่อไม่ให้ตัวแทนแต่ละตัวตัดสินใจขัดแย้งกัน จุดสำคัญคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นและเรียนรู้ได้ตลอดเวลา โดยมนุษย์ยังคงมีบทบาทในการกำหนดเป้าหมายและขอบเขต ส่วน AI จะทำหน้าที่เป็นแรงขับเคลื่อนที่ไม่รู้จักเหนื่อย 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-next-phase-of-ai-is-agentic-and-it-starts-with-data-architecture 🛂 สหรัฐฯ เตรียมตรวจโซเชียลมีเดียย้อนหลัง 5 ปีในการเข้าประเทศ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ อาจต้องเจอกับมาตรการใหม่ที่เข้มงวดกว่าที่เคย โดยหน่วยงาน CBP เสนอให้ตรวจสอบโพสต์โซเชียลมีเดียย้อนหลังถึง 5 ปี รวมถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างอีเมล เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลครอบครัว และข้อมูลชีวมิติ เช่น ลายนิ้วมือ สแกนม่านตา และ DNA แน่นอนว่ามาตรการนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มสิทธิเสรีภาพที่มองว่าเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวและไม่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจริง ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่ามาตรการนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ง่าย เช่น การลบโพสต์เก่า หรือสร้างบัญชีใหม่ที่สะอาด ทำให้เกิดคำถามว่ามันจะได้ผลจริงหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/computing/social-media/new-us-border-checks-could-involve-scanning-your-last-five-years-of-social-media-history-heres-what-you-need-to-know ⚙️ AI พาโลกธุรกิจวิ่งสู่ “Zero Downtime” ในยุคดิจิทัล ความน่าเชื่อถือของระบบออนไลน์สำคัญไม่แพ้รายได้ เพราะการหยุดทำงานเพียงไม่กี่นาทีอาจสร้างความเสียหายมหาศาล ปัจจุบัน AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกมด้วยการสร้างระบบที่สามารถคาดการณ์และแก้ไขปัญหาได้เองก่อนที่ผู้ใช้จะรู้ตัว แนวคิด “Self-healing Infrastructure” หรือโครงสร้างพื้นฐานที่ซ่อมตัวเองได้ กำลังถูกนำมาใช้จริงในองค์กรใหญ่ ๆ ทำให้การแก้ไขปัญหาที่เคยใช้เวลาหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที ผลลัพธ์คือธุรกิจสามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่สะดุด และวิศวกรเองก็มีเวลามากขึ้นในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่แทนที่จะต้องคอยดับไฟ ระบบเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุน แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในโลกที่ทุกวินาทีมีค่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-race-to-zero-downtime-is-on-and-ai-is-leading-it
    WWW.TECHRADAR.COM
    I tested the HHKB Professional Classic Type-S — a niche option for those prepared to learn a new keyboard layout to get Topre key mechanisms
    The HHKB Professional Classic Type-S is a radically deconstructed keyboard design that focuses on compact layout rather than easy adaptability.
    0 Comments 0 Shares 635 Views 0 Reviews
  • “GNU Unifont – ฟอนต์โอเพนซอร์สที่ครอบคลุม Unicode ทั่วโลก”

    GNU Unifont เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ GNU ที่สร้างขึ้นเพื่อให้มีฟอนต์ที่สามารถแสดงผลตัวอักษรทุกตัวใน Unicode Basic Multilingual Plane (BMP) ซึ่งครอบคลุมกว่า 65,000 โค้ดพอยต์ ตั้งแต่ตัวอักษรละติน กรีก อารบิก ไปจนถึงอักษรจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี จุดประสงค์คือการทำให้ทุกสัญลักษณ์สามารถแสดงผลได้ แม้ในระบบที่ไม่มีฟอนต์เฉพาะ

    นอกจาก BMP แล้ว Unifont ยังมีการขยายไปยัง Supplementary Multilingual Plane (SMP) และ ConScript Unicode Registry (CSUR) ซึ่งรวมถึงอักษรที่สร้างขึ้นโดยชุมชน เช่น Tengwar, Klingon และ Sitelen Pona ทำให้ฟอนต์นี้ไม่เพียงรองรับภาษาธรรมชาติ แต่ยังรวมถึงอักษรที่ถูกคิดค้นขึ้นใหม่เพื่อการทดลองและงานสร้างสรรค์

    ฟอนต์นี้ถูกแจกจ่ายภายใต้ GNU GPLv2+ พร้อมข้อยกเว้นการฝังฟอนต์ (Font Embedding Exception) และ SIL Open Font License (OFL) ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งในเชิงพาณิชย์และโครงการโอเพนซอร์ส โดยมีข้อกำหนดว่าฟอนต์ดัดแปลงต้องเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตเดียวกัน เพื่อรักษาประโยชน์สาธารณะและให้เครดิตแก่ผู้พัฒนา

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Unifont ใช้รูปแบบบิตแมป 16x16 พิกเซล ทำให้สามารถแสดงผลได้ง่ายและรวดเร็ว แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ไม่สามารถรองรับการเรนเดอร์ที่ซับซ้อนของภาษาอินเดียหรืออารบิกได้อย่างสมบูรณ์ จึงถูกมองว่าเป็น “ฟอนต์ทางเลือกสุดท้าย” หากไม่มีฟอนต์ที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ความครอบคลุมและความง่ายในการใช้งานทำให้ Unifont เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักพัฒนาและนักวิจัยด้านภาษาศาสตร์คอมพิวเตอร์

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    GNU Unifont ครอบคลุมตัวอักษรทุกตัวใน Unicode BMP (U+0000..U+FFFF)
    มีการขยายไปยัง SMP และ CSUR รวมถึงอักษรที่สร้างขึ้นใหม่
    แจกจ่ายภายใต้ GNU GPLv2+ และ SIL OFL ทำให้ใช้งานเชิงพาณิชย์ได้

    ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Internet
    ฟอนต์ใช้รูปแบบบิตแมป 16x16 พิกเซล ทำให้แสดงผลได้ง่ายและรวดเร็ว
    มีข้อจำกัดในการเรนเดอร์ภาษาอินเดียและอารบิกที่ซับซ้อน
    ถูกใช้ในงานวิจัยด้านภาษาศาสตร์คอมพิวเตอร์และระบบที่ต้องการความครอบคลุม Unicode

    คำเตือน
    การใช้ Unifont อาจไม่เหมาะกับงานที่ต้องการความสวยงามหรือการเรนเดอร์ที่ซับซ้อน
    หากนำไปดัดแปลง ต้องเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตเดียวกันตาม GPL และ OFL
    ฟอนต์นี้ควรใช้เป็น “ทางเลือกสุดท้าย” สำหรับภาษาและสคริปต์ที่ไม่มีฟอนต์เฉพาะ

    https://unifoundry.com/unifont/index.html
    🔤 “GNU Unifont – ฟอนต์โอเพนซอร์สที่ครอบคลุม Unicode ทั่วโลก” GNU Unifont เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ GNU ที่สร้างขึ้นเพื่อให้มีฟอนต์ที่สามารถแสดงผลตัวอักษรทุกตัวใน Unicode Basic Multilingual Plane (BMP) ซึ่งครอบคลุมกว่า 65,000 โค้ดพอยต์ ตั้งแต่ตัวอักษรละติน กรีก อารบิก ไปจนถึงอักษรจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี จุดประสงค์คือการทำให้ทุกสัญลักษณ์สามารถแสดงผลได้ แม้ในระบบที่ไม่มีฟอนต์เฉพาะ นอกจาก BMP แล้ว Unifont ยังมีการขยายไปยัง Supplementary Multilingual Plane (SMP) และ ConScript Unicode Registry (CSUR) ซึ่งรวมถึงอักษรที่สร้างขึ้นโดยชุมชน เช่น Tengwar, Klingon และ Sitelen Pona ทำให้ฟอนต์นี้ไม่เพียงรองรับภาษาธรรมชาติ แต่ยังรวมถึงอักษรที่ถูกคิดค้นขึ้นใหม่เพื่อการทดลองและงานสร้างสรรค์ ฟอนต์นี้ถูกแจกจ่ายภายใต้ GNU GPLv2+ พร้อมข้อยกเว้นการฝังฟอนต์ (Font Embedding Exception) และ SIL Open Font License (OFL) ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งในเชิงพาณิชย์และโครงการโอเพนซอร์ส โดยมีข้อกำหนดว่าฟอนต์ดัดแปลงต้องเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตเดียวกัน เพื่อรักษาประโยชน์สาธารณะและให้เครดิตแก่ผู้พัฒนา สิ่งที่น่าสนใจคือ Unifont ใช้รูปแบบบิตแมป 16x16 พิกเซล ทำให้สามารถแสดงผลได้ง่ายและรวดเร็ว แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ไม่สามารถรองรับการเรนเดอร์ที่ซับซ้อนของภาษาอินเดียหรืออารบิกได้อย่างสมบูรณ์ จึงถูกมองว่าเป็น “ฟอนต์ทางเลือกสุดท้าย” หากไม่มีฟอนต์ที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ความครอบคลุมและความง่ายในการใช้งานทำให้ Unifont เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักพัฒนาและนักวิจัยด้านภาษาศาสตร์คอมพิวเตอร์ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ GNU Unifont ครอบคลุมตัวอักษรทุกตัวใน Unicode BMP (U+0000..U+FFFF) ➡️ มีการขยายไปยัง SMP และ CSUR รวมถึงอักษรที่สร้างขึ้นใหม่ ➡️ แจกจ่ายภายใต้ GNU GPLv2+ และ SIL OFL ทำให้ใช้งานเชิงพาณิชย์ได้ ✅ ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Internet ➡️ ฟอนต์ใช้รูปแบบบิตแมป 16x16 พิกเซล ทำให้แสดงผลได้ง่ายและรวดเร็ว ➡️ มีข้อจำกัดในการเรนเดอร์ภาษาอินเดียและอารบิกที่ซับซ้อน ➡️ ถูกใช้ในงานวิจัยด้านภาษาศาสตร์คอมพิวเตอร์และระบบที่ต้องการความครอบคลุม Unicode ‼️ คำเตือน ⛔ การใช้ Unifont อาจไม่เหมาะกับงานที่ต้องการความสวยงามหรือการเรนเดอร์ที่ซับซ้อน ⛔ หากนำไปดัดแปลง ต้องเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตเดียวกันตาม GPL และ OFL ⛔ ฟอนต์นี้ควรใช้เป็น “ทางเลือกสุดท้าย” สำหรับภาษาและสคริปต์ที่ไม่มีฟอนต์เฉพาะ https://unifoundry.com/unifont/index.html
    0 Comments 0 Shares 213 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/mAEjhZJPytc?si=MHvyx11uhYmb3DXi
    https://youtu.be/mAEjhZJPytc?si=MHvyx11uhYmb3DXi
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251213 #TechRadar

    นักลงทุนไต้หวันยังคงทุ่มกับ AI แม้มีเสียงเตือนเรื่อง “ฟองสบู่”
    เรื่องราวนี้เล่าถึงบรรยากาศการลงทุนในไต้หวันที่ยังคงคึกคัก แม้หลายฝ่ายกังวลว่า AI อาจกำลังสร้างฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดหุ้นไต้หวันกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี TWII มีแนวโน้มแตะ 30,000 จุดในปี 2026 ขณะที่หุ้น TSMC ก็ยังเติบโตแข็งแรงกว่า 39% ในปีนี้ จุดสำคัญคือไต้หวันถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของสถาปัตยกรรม AI ไม่ว่าจะเป็นชิปจาก Nvidia, Google หรือเจ้าอื่น ๆ ทำให้ไม่ว่าตลาดจะเอนเอียงไปทางไหน ไต้หวันก็ยังได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าพอร์ตลงทุนในเอเชียยังพึ่งพา AI มากเกินไป หากเกิดการแกว่งตัวแรงก็อาจกระทบหนักได้
    https://www.techradar.com/pro/investors-still-doubling-down-on-ai-in-taiwan-despite-bubble-fears

    “สถาปนิกแห่ง AI” ได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปีของ Time
    ปีนี้นิตยสาร Time ไม่ได้เลือกผู้นำประเทศหรือดารา แต่ยกตำแหน่งบุคคลแห่งปีให้กับกลุ่มผู้สร้าง AI ที่เปลี่ยนโลก ทั้ง Sam Altman จาก OpenAI, Jensen Huang จาก Nvidia และทีมงานจาก Google, Meta, Anthropic พวกเขาไม่เพียงสร้างเทคโนโลยี แต่ยังทำให้มันเข้าถึงได้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ไปจนถึง Copilot ของ Microsoft และ Gemini ของ Google ผลงานเหล่านี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่ยังกลายเป็นอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก เพราะชิปและโมเดล AI ถูกมองเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่ประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันกัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-architects-of-ai-are-times-person-of-the-year-heres-why

    สภาขุนนางอังกฤษเสนอห้ามเด็กใช้ VPN
    ในสหราชอาณาจักร กลุ่มสมาชิกสภาขุนนางได้เสนอแก้ไขกฎหมาย Children’s Wellbeing and Schools Bill โดยต้องการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ VPN หากผ่านการพิจารณา ผู้ให้บริการ VPN จะต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้ด้วยวิธีที่ “มีประสิทธิภาพสูง” เช่น การยืนยันด้วยบัตรประชาชนหรือการสแกนใบหน้า ซึ่งแน่นอนว่าก่อให้เกิดข้อถกเถียง เพราะ VPN ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว การบังคับตรวจสอบเช่นนี้อาจทำลายหลักการพื้นฐานของมันได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-lords-propose-ban-on-vpns-for-children

    อินเดียสั่ง VPN บล็อกเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลประชาชน
    รัฐบาลอินเดีย โดยกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการ VPN ต้องบล็อกเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ แม้เจตนาจะเพื่อปกป้องข้อมูล แต่ก็ขัดกับหลักการของ VPN ที่ไม่เก็บบันทึกการใช้งานและเน้นความเป็นส่วนตัว หลายบริษัท VPN เคยถอนเซิร์ฟเวอร์ออกจากอินเดียมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 เพราะไม่เห็นด้วยกับข้อกำหนดให้เก็บข้อมูลผู้ใช้ การสั่งการครั้งนี้จึงอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างการคุ้มครองข้อมูลกับสิทธิความเป็นส่วนตัวอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/india-orders-vpns-to-block-access-to-websites-that-unlawfully-expose-citizens-data

    หลอกลวงงานออนไลน์ “Task Scam” ทำเหยื่อสูญเงินนับล้าน
    งานวิจัยใหม่เผยว่ามีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Task Scam” หรือ “Gamified Job Scam” เพิ่มขึ้นถึง 485% ในปี 2025 วิธีการคือหลอกให้ผู้หางานทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น กดไลก์หรือรีวิวสินค้า แล้วจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะชักชวนให้โอนเงินหรือฝากคริปโตเพื่อทำงานต่อ แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินได้ เหยื่อถูกหลอกให้ฝากเพิ่มเรื่อย ๆ จนสูญเงินรวมกว่า 6.8 ล้านดอลลาร์ในปีเดียว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากงานใดขอให้คุณจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงรายได้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ควรหยุดทันที
    https://www.techradar.com/pro/security/task-scams-are-tricking-thousands-costing-jobseekers-millions

    Pentagon เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI ใหม่
    สหรัฐฯ กำลังนำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเข้ามาใช้ในกองทัพ โดยเปิดตัวแพลตฟอร์มชื่อ GenAI.mil ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 3 ล้านคนทั้งทหารและพลเรือนสามารถเข้าถึงโมเดล Gemini ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับรัฐบาลได้ จุดประสงค์คือเพื่อให้ทุกคนมีเครื่องมือ AI ที่ทรงพลังไว้ใช้งาน แต่ก็มีเสียงกังวลจากผู้เชี่ยวชาญว่าระบบอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยเทคนิค prompt injection ซึ่งอาจนำไปสู่การจารกรรมข้อมูล ขณะเดียวกันพนักงาน Google ก็ยังคงเงียบ แม้ในอดีตเคยออกมาประท้วงการใช้เทคโนโลยีของบริษัทในงานด้านการทหารมาแล้วหลายครั้ง เรื่องนี้จึงเป็นทั้งความก้าวหน้าและความท้าทายที่ต้องจับตา
    https://www.techradar.com/pro/security/pentagon-launches-new-gemini-based-ai-platform

    กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย CyberVolk กลับมาอีกครั้ง
    กลุ่ม CyberVolk ที่เคยหายไปจากวงการไซเบอร์ช่วงหนึ่ง ได้กลับมาเปิดบริการ ransomware-as-a-service ให้กับผู้สนใจผ่าน Telegram แต่การกลับมาครั้งนี้กลับไม่สมบูรณ์นัก เพราะเครื่องมือเข้ารหัสที่ใช้มีช่องโหว่ใหญ่ คือคีย์เข้ารหัสถูกฝังไว้ตายตัว ทำให้เหยื่อสามารถถอดรหัสไฟล์ได้ฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ นักวิจัยเชื่อว่านี่อาจเป็นความผิดพลาดของผู้พัฒนาเอง จึงทำให้การกลับมาครั้งนี้ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แม้กลุ่มยังคงพยายามผสมผสานการโจมตีแบบ hacktivism กับการหาเงินจาก ransomware ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/security/notorious-russian-cybercriminals-return-with-new-ransomware

    วิกฤต Flash Memory ที่ยืดเยื้อ
    ตลาดแฟลชเมมโมรีกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ราคาพุ่งสูงและขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ต่างจากฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ง่ายกว่า เพราะแฟลชต้องใช้โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ที่ลงทุนสูงและใช้เวลาสร้างหลายปี ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้เร็ว แม้ดอกเบี้ยต่ำจะช่วยเรื่องเงินลงทุน แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะสั้นได้ นักวิเคราะห์มองว่านี่ไม่ใช่แค่รอบขึ้นลงตามปกติ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ราคาสูงต่อเนื่องไปอีกหลายปี
    https://www.techradar.com/pro/why-the-flash-crisis-will-last-much-longer-this-time

    รัสเซียขู่บล็อกบริการ Google ทั้งหมด
    รัฐบาลรัสเซียกำลังพิจารณาบล็อกบริการของ Google แบบเต็มรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่าการเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้นอกประเทศเป็นภัยต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ “บีบอ่อน” เพื่อผลักเทคโนโลยีสหรัฐออกจากรัสเซีย ก่อนหน้านี้ก็มีการบล็อกแพลตฟอร์มตะวันตกหลายแห่ง เช่น Roblox, FaceTime และ Snapchat รวมถึงการกดดันให้ใช้ VPN ยากขึ้นด้วย แนวทางนี้กำลังสร้างสิ่งที่หลายคนเรียกว่า “ม่านเหล็กดิจิทัล” ที่แยกรัสเซียออกจากโลกออนไลน์เสรี
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-threatens-to-block-all-google-services-in-a-soft-squeeze-of-us-tech

    Microsoft แจกธีมฟรีสำหรับ Windows 11
    ใครที่เบื่อหน้าจอ Windows 11 ตอนนี้ Microsoft ได้เปิดโซนใหม่ใน Microsoft Store ที่รวมธีมกว่า 400 แบบมาให้เลือก ทั้งธีมเกมดัง ธรรมชาติ ไปจนถึงงานศิลป์ โดยมีธีมใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 35 แบบ จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ง่ายและสนุกขึ้น เพียงคลิกเดียวก็เปลี่ยนบรรยากาศหน้าจอได้ทันที ถือเป็นการจัดระเบียบครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้การหาธีมใน Store ค่อนข้างยุ่งยาก การอัปเดตนี้จึงช่วยให้การปรับแต่งเครื่องเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/bored-with-your-windows-11-desktop-microsoft-is-offering-a-free-upgrade-of-handpicked-themes-from-its-store

    Intel, AMD และ Texas Instruments ถูกกล่าวหาว่า “เมินเฉยโดยเจตนา” ปล่อยชิปไปถึงรัสเซีย
    เรื่องนี้เริ่มจากกลุ่มพลเรือนชาวยูเครนที่ยื่นฟ้องบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่าง Intel, AMD และ Texas Instruments โดยกล่าวหาว่าชิปที่บริษัทเหล่านี้ผลิตถูกนำไปใช้ในอาวุธของรัสเซียผ่านตัวแทนจำหน่ายรายอื่น ซึ่งนำไปสู่การโจมตีที่คร่าชีวิตพลเรือนหลายสิบคน ฝ่ายโจทก์มองว่าบริษัทเหล่านี้เลือกที่จะ “หลับตา” ไม่สนใจเส้นทางการขายต่อ ขณะที่บริษัททั้งหมดออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่าหยุดการขายให้รัสเซียตั้งแต่สงครามเริ่ม และปฏิบัติตามกฎหมายการส่งออกอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้จึงกลายเป็นคดีใหญ่ที่ต้องพิสูจน์กันในศาลว่าใครควรรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง
    https://www.techradar.com/pro/security/intel-amd-accused-of-willful-ignorance-in-allowing-chips-to-get-to-russia

    Workbooks เพิ่ม AI ในระบบ CRM เพื่อเสริมพลังทีมขาย
    แพลตฟอร์ม CRM ชื่อ Workbooks ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้าไปในระบบ โดยมีทั้งเครื่องมือถอดเสียงการประชุมอัตโนมัติ (Scribe), ระบบโค้ชการขาย (Sales Coach), ระบบทำความสะอาดข้อมูล (Sales Hygiene) และตัวช่วยวิจัยลูกค้า (Research Agent) จุดประสงค์คือช่วยลดงานซ้ำซาก เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และทำให้ทีมขายมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น แม้ปัจจุบันมีเพียง 16% ของบริษัทในสหราชอาณาจักรที่ใช้ AI ใน CRM แต่คาดว่าปี 2026 จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งใครที่เริ่มก่อนก็จะได้เปรียบในการแข่งขันทันที
    https://www.techradar.com/pro/software-services/workbooks-integrates-ai-promises-empowered-sales-teams

    EU ถูกวิจารณ์ว่ามองข้ามความเสี่ยงในการอนุมัติ Broadcom ซื้อ VMware
    สมาคมผู้ให้บริการคลาวด์ CISPE ได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่ EU อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ VMware โดย Broadcom พวกเขามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ละเลยสัญญาณเตือนที่ชัดเจน เช่น การขึ้นราคาที่รุนแรง การบังคับซื้อแบบแพ็กเกจ และการผูกขาดลูกค้า ซึ่งตอนนี้ผลกระทบก็เริ่มปรากฏแล้ว ทั้งราคาที่สูงขึ้นและสัญญาระยะยาวที่บังคับใช้กับหลายองค์กรในยุโรป หากศาลตัดสินให้เพิกถอนการอนุมัติ EU จะต้องกลับมาทบทวนดีลนี้ใหม่ภายใต้สภาพตลาดปัจจุบัน
    https://www.techradar.com/pro/eu-accused-of-ignoring-warning-signs-in-broadcoms-vmware-acquisition

    Salesforce ชี้โมเดลคิดค่าบริการ AI แบบ “ต่อผู้ใช้” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่
    Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce อธิบายว่าบริษัทกำลังกลับไปใช้การคิดค่าบริการแบบ “ต่อที่นั่ง” สำหรับ AI หลังจากเคยทดลองโมเดลคิดตามการใช้งานหรือจำนวนบทสนทนา เหตุผลคือ ลูกค้าต้องการความแน่นอนและความยืดหยุ่นในการคำนวณค่าใช้จ่าย Salesforce เชื่อว่าบริการ AI สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากถึง 3–10 เท่า จึงสามารถปรับราคาสูงขึ้นได้โดยยังสมเหตุสมผล แม้บางบริษัทจะใช้ AI เพื่อเสริมกำลังคนแทนที่จะลดจำนวนพนักงาน ทำให้การคิดค่าบริการต่อผู้ใช้ยังคงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในสายตาของ Salesforce
    https://www.techradar.com/pro/salesforce-says-per-user-pricing-will-be-new-ai-norm

    พบมัลแวร์ใหม่บน MacOS ใช้ AI และเครื่องมือค้นหาเป็นช่องทางแพร่กระจาย
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Huntress เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังมัลแวร์ AMOS ใช้เทคนิคใหม่ โดยสร้างบทสนทนาใน ChatGPT และ Grok ที่แฝงคำสั่งปลอมเกี่ยวกับการเคลียร์พื้นที่ดิสก์บน MacOS จากนั้นซื้อโฆษณาบน Google เพื่อดันบทสนทนาเหล่านี้ขึ้นมาเป็นผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้ทำตามคำแนะนำก็จะติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว AMOS สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและกระเป๋าเงินคริปโต ทำให้การโจมตีครั้งนี้อันตรายยิ่งขึ้นเพราะอาศัยความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ไว้วางใจ
    https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-exploits-trusted-ai-and-search-tools

    iOS 26.2 อัปเดตใหม่กับ 7 ฟีเจอร์สำคัญ
    Apple ปล่อย iOS 26.2 ให้ผู้ใช้ iPhone ได้อัปเดตกันแล้ว รอบนี้แม้จะเป็นการปรับปรุงเล็ก ๆ แต่หลายอย่างช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น การตั้ง Reminder ที่มาพร้อมเสียงปลุกกันลืม, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้สะดวกขึ้นผ่านโค้ด, ปรับแต่ง Liquid Glass ให้หน้าจอดูโปร่งใสตามใจ, Podcasts ที่สร้าง chapter ให้อัตโนมัติ, Sleep Score ที่ปรับเกณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความรู้สึกจริง ๆ, Freeform ที่เพิ่มการทำตาราง และ Apple News ที่มี shortcut เข้าส่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมการแก้บั๊กและปรับปรุงความปลอดภัยด้วย
    https://www.techradar.com/phones/ios/ios-26-2-has-landed-here-are-the-7-biggest-new-features-for-your-iphone

    AI Regulation: บทเรียนจากยุคอินเทอร์เน็ต
    บทความนี้เล่าย้อนกลับไปถึงยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่แทบไม่มีการควบคุม จนกฎหมาย Telecom Act ปี 1996 เข้ามาจัดระเบียบ แต่ก็ยังไม่แตะเนื้อหาบนเว็บจริง ๆ ปัจจุบัน AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และสหรัฐฯ กำลังถกเถียงกันว่าจะควบคุมอย่างไร ระหว่างรัฐบาลกลางที่อยากให้เบา ๆ เพื่อแข่งขันกับจีน กับรัฐต่าง ๆ ที่อยากปกป้องประชาชนจากอคติและข้อมูลผิด ๆ บทความชี้ว่าหากไม่หาทางออกที่สมดุล อนาคต AI อาจอันตรายไม่ต่างจากพลังงานนิวเคลียร์ที่ไร้การควบคุม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/everyone-is-wrong-about-ai-regulation-and-the-history-of-the-internet-proves-it

    YouTube TV ได้อัปเดตใหม่กับ 5 ฟีเจอร์ที่รอคอย
    Google ปรับปรุงหน้าจอการดูวิดีโอบน YouTube สำหรับทีวีให้ใช้งานง่ายขึ้น ควบคุมต่าง ๆ ถูกจัดใหม่เป็นสามส่วนชัดเจน มีปุ่ม Description ให้ดูข้อมูลวิดีโอแทนการกดชื่อเรื่อง, ปุ่ม Subscribe ที่เห็นชัดตลอดเวลา, การย้ายตำแหน่งชื่อวิดีโอไปด้านบนซ้าย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการดู Live Sports อย่าง Multiview รวมถึง Display Mode สำหรับผู้ใช้ Music และ Premium ทั้งหมดนี้ทำให้ประสบการณ์ดู YouTube บนทีวีใกล้เคียงกับมือถือมากขึ้น
    https://www.techradar.com/televisions/youtube-finally-gets-the-tv-update-weve-been-waiting-for-and-there-are-5-handy-upgrades

    Intel เร่งซื้อ SambaNova สู้ศึกชิป AI ในโลกชิป AI ที่ AMD และ Nvidia ครองตลาด
    Intel กำลังพิจารณาซื้อ SambaNova Systems เพื่อเร่งตามให้ทัน โดย SambaNova เพิ่งโชว์ศักยภาพด้วยการรันโมเดล DeepSeek-R1 ได้เร็วและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าปกติ การเข้าซื้อครั้งนี้อาจช่วยให้ Intel มีทางเลือกใหม่ในการแข่งขัน แต่ดีลยังอยู่ในขั้นต้นและไม่ผูกมัด ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าผู้เล่นรายอื่นสนใจเช่นกัน ทำให้การแย่งชิงครั้งนี้น่าจับตามอง
    https://www.techradar.com/pro/intel-set-to-buy-ai-chip-specialist-as-it-scrambles-to-catch-up-with-amd-nvidia

    แฮกเกอร์ปลอมเป็นตำรวจ หลอก Big Tech ขอข้อมูลผู้ใช้
    มีรายงานว่าอาชญากรไซเบอร์ใช้วิธีปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งคำขอข้อมูลไปยังบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Apple หรือ Google โดยใช้เทคนิค typosquatting สร้างอีเมลที่คล้ายของจริง หรือเจาะเข้าบัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่จริงเพื่อส่งคำขอ ทำให้บริษัทบางแห่งหลงเชื่อและส่งข้อมูลผู้ใช้ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทใหญ่เริ่มใช้ระบบตรวจสอบคำขอเข้มงวดขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-posing-as-law-enforcement-are-tricking-big-tech-to-get-access-to-private-data

    AMD เปิดตัว Radeon AI PRO R9700S การ์ดจอเงียบทรงพลังสำหรับงาน AI หนัก
    AMD กำลังสร้างความฮือฮาในวงการด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่ Radeon AI PRO R9700S ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 32GB GDDR6 และระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเงียบในสภาพแวดล้อมที่มีการ์ดหลายตัวติดตั้งอยู่ใน rack แน่น ๆ จุดเด่นคือพลังการประมวลผลสูงถึง 47.8 TFLOPS และรองรับ PCIe 5.0 x16 เพื่อการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่นการฝึกโมเดลภาษาหรือการประมวลผลเชิงสร้างสรรค์ จุดที่น่าสนใจคือแม้จะไม่มีพัดลม แต่ยังคงใช้พลังงานสูงถึง 300W ซึ่งองค์กรที่นำไปใช้ต้องวางแผนการจัดการความร้อนอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/did-amd-just-launch-the-fastest-silent-video-cards-ever-passively-cooled-32gb-ddr6-radeon-ai-pro-r9700s-debuts-with-ginormous-300w-tdp

    Zotac เปิดตัว Mini PC เล็กแต่แรง บรรจุ RTX 5060 Ti เต็มตัว
    Zotac สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัว ZBOX MAGNUS EN275060TC ที่สามารถบรรจุการ์ดจอระดับ desktop อย่าง RTX 5060 Ti ขนาด 16GB ลงไปในเครื่องเล็กเพียง 2.65 ลิตรได้สำเร็จ โดยใช้เทคนิคการส่งพลังงานผ่าน PCIe แบบ hybrid ทำให้ไม่ต้องใช้สายต่อพลังงานภายนอก ผลการทดสอบชี้ว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti รุ่น laptop และยังคุ้มค่าด้านราคาเมื่อเทียบกับพลังที่ได้ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องความร้อน แต่ถือเป็นการยกระดับ mini PC ให้สามารถแข่งขันกับเครื่องใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง
    https://www.techradar.com/pro/this-zotac-mini-pc-has-the-most-powerful-gpu-ever-bundled-in-a-pc-of-this-size-16gb-geforce-rtx-5060-ti-is-competitive-with-5070-ti-laptop-edition

    อดีตพนักงาน Accenture ถูก DoJ ตั้งข้อหาฉ้อโกงด้านความปลอดภัยระบบคลาวด์
    ข่าวใหญ่ในสายความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Accenture ที่ถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยของระบบคลาวด์เพื่อให้ได้สัญญากับรัฐบาล ทั้งที่จริงแล้วแพลตฟอร์มไม่ได้ผ่านมาตรฐาน FedRAMP ตามที่กำหนด การกระทำนี้ถูกตีความว่าเป็นการหลอกลวงและมีการส่งเอกสารปลอมเพื่อรักษาสัญญา หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปีในข้อหาฉ้อโกงและการขัดขวางการตรวจสอบ
    https://www.techradar.com/pro/security/former-accenture-employee-charged-by-doj-for-cloud-security-fraud

    สหรัฐฯ ยกเลิกการแบน Nvidia H200 หลัง Huawei Ascend 910C แรงจนท้าทายอำนาจโลก AI
    รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% ต่อการส่งออก หลังจากพบว่า Huawei กำลังพัฒนา Ascend 910C ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยระบบ CloudMatrix 384 ของ Huawei สามารถทำงานได้ถึง 300 petaflops และมีหน่วยความจำรวมมากกว่า Nvidia GB200 NVL72 แม้จะใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจท้าทายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ การตัดสินใจครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงและเศรษฐกิจ
    https://www.techradar.com/pro/is-the-us-afraid-of-huawei-reports-hint-at-the-ascend-910c-accelerator-performance-to-justify-the-surprising-reversal-of-nvidias-h200-ai-gpu-ban-on-china

    ChatGPT เตรียมเปิดโหมดผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด
    OpenAI ประกาศว่าจะเปิดตัว “adult mode” สำหรับ ChatGPT ในปี 2026 โดยจะใช้ AI ตรวจจับอายุผู้ใช้จากพฤติกรรมการสนทนาเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ได้ จุดสำคัญคือไม่ได้หมายถึงการเปิดให้เข้าถึงเนื้อหาโจ่งแจ้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการพูดคุยในหัวข้อที่ปัจจุบันถูกจำกัด เช่นเรื่องความสัมพันธ์ สุขภาพจิต หรือประเด็นที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก การพัฒนานี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างความยืดหยุ่นและตอบสนองผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่สมจริงและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ยังต้องรอการทดสอบระบบทำนายอายุให้แม่นยำก่อน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-adult-mode-is-coming-and-it-might-not-be-what-you-think-it-is

    AI Chatbots ก้าวสู่ชีวิตประจำวัน
    รายงานล่าสุดจาก Microsoft เผยให้เห็นว่า Copilot และ AI chatbot ไม่ได้ถูกใช้แค่ในงานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนแล้ว พวกเขาวิเคราะห์จากการสนทนากว่า 37.5 ล้านครั้ง พบว่าการใช้งานบนเดสก์ท็อปมักจะเกี่ยวข้องกับงานระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ส่วนการใช้งานบนมือถือกลับเน้นเรื่องส่วนตัว เช่น สุขภาพและการใช้ชีวิต และเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ เช่น การเขียนโปรแกรมที่พุ่งสูงในวันทำงาน การเล่นเกมที่มากขึ้นในวันหยุด และคำถามเชิงปรัชญาที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทำงาน แต่ยังถูกใช้เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจและจัดการกับชีวิตประจำวันของตนเองด้วย
    https://www.techradar.com/pro/ai-chatbots-are-now-integrated-into-the-full-texture-of-human-life-microsoft-study-claims

    ChatGPT 5.2 ถูกวิจารณ์ว่า “ถอยหลัง”
    OpenAI เปิดตัว ChatGPT 5.2 โดยประกาศว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุดที่เปิดให้ใช้งานทั่วไป แต่เสียงตอบรับจากผู้ใช้กลับไม่ค่อยดีนัก หลายคนใน Reddit บอกว่ามัน “น่าเบื่อ” และ “เป็นทางการเกินไป” จนรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตชีวา บางคนถึงกับบอกว่ามันแย่กว่าเวอร์ชัน 5.1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลองใช้งานอย่างจริงจัง และอาจเป็นเพียงเสียงจากกลุ่มเล็กที่ไม่พอใจ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง OpenAI และ Google Gemini ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่า OpenAI รีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกมาเร็วเกินไปหรือไม่
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/chatgpt-5-2-branded-a-step-backwards-by-disappointed-early-users-heres-why
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251213 #TechRadar 📰 นักลงทุนไต้หวันยังคงทุ่มกับ AI แม้มีเสียงเตือนเรื่อง “ฟองสบู่” เรื่องราวนี้เล่าถึงบรรยากาศการลงทุนในไต้หวันที่ยังคงคึกคัก แม้หลายฝ่ายกังวลว่า AI อาจกำลังสร้างฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดหุ้นไต้หวันกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี TWII มีแนวโน้มแตะ 30,000 จุดในปี 2026 ขณะที่หุ้น TSMC ก็ยังเติบโตแข็งแรงกว่า 39% ในปีนี้ จุดสำคัญคือไต้หวันถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของสถาปัตยกรรม AI ไม่ว่าจะเป็นชิปจาก Nvidia, Google หรือเจ้าอื่น ๆ ทำให้ไม่ว่าตลาดจะเอนเอียงไปทางไหน ไต้หวันก็ยังได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าพอร์ตลงทุนในเอเชียยังพึ่งพา AI มากเกินไป หากเกิดการแกว่งตัวแรงก็อาจกระทบหนักได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/investors-still-doubling-down-on-ai-in-taiwan-despite-bubble-fears 👥 “สถาปนิกแห่ง AI” ได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปีของ Time ปีนี้นิตยสาร Time ไม่ได้เลือกผู้นำประเทศหรือดารา แต่ยกตำแหน่งบุคคลแห่งปีให้กับกลุ่มผู้สร้าง AI ที่เปลี่ยนโลก ทั้ง Sam Altman จาก OpenAI, Jensen Huang จาก Nvidia และทีมงานจาก Google, Meta, Anthropic พวกเขาไม่เพียงสร้างเทคโนโลยี แต่ยังทำให้มันเข้าถึงได้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ไปจนถึง Copilot ของ Microsoft และ Gemini ของ Google ผลงานเหล่านี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่ยังกลายเป็นอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก เพราะชิปและโมเดล AI ถูกมองเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่ประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันกัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-architects-of-ai-are-times-person-of-the-year-heres-why 🔒 สภาขุนนางอังกฤษเสนอห้ามเด็กใช้ VPN ในสหราชอาณาจักร กลุ่มสมาชิกสภาขุนนางได้เสนอแก้ไขกฎหมาย Children’s Wellbeing and Schools Bill โดยต้องการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ VPN หากผ่านการพิจารณา ผู้ให้บริการ VPN จะต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้ด้วยวิธีที่ “มีประสิทธิภาพสูง” เช่น การยืนยันด้วยบัตรประชาชนหรือการสแกนใบหน้า ซึ่งแน่นอนว่าก่อให้เกิดข้อถกเถียง เพราะ VPN ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว การบังคับตรวจสอบเช่นนี้อาจทำลายหลักการพื้นฐานของมันได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-lords-propose-ban-on-vpns-for-children 🇮🇳 อินเดียสั่ง VPN บล็อกเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลประชาชน รัฐบาลอินเดีย โดยกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการ VPN ต้องบล็อกเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ แม้เจตนาจะเพื่อปกป้องข้อมูล แต่ก็ขัดกับหลักการของ VPN ที่ไม่เก็บบันทึกการใช้งานและเน้นความเป็นส่วนตัว หลายบริษัท VPN เคยถอนเซิร์ฟเวอร์ออกจากอินเดียมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 เพราะไม่เห็นด้วยกับข้อกำหนดให้เก็บข้อมูลผู้ใช้ การสั่งการครั้งนี้จึงอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างการคุ้มครองข้อมูลกับสิทธิความเป็นส่วนตัวอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/india-orders-vpns-to-block-access-to-websites-that-unlawfully-expose-citizens-data ⚠️ หลอกลวงงานออนไลน์ “Task Scam” ทำเหยื่อสูญเงินนับล้าน งานวิจัยใหม่เผยว่ามีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Task Scam” หรือ “Gamified Job Scam” เพิ่มขึ้นถึง 485% ในปี 2025 วิธีการคือหลอกให้ผู้หางานทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น กดไลก์หรือรีวิวสินค้า แล้วจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะชักชวนให้โอนเงินหรือฝากคริปโตเพื่อทำงานต่อ แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินได้ เหยื่อถูกหลอกให้ฝากเพิ่มเรื่อย ๆ จนสูญเงินรวมกว่า 6.8 ล้านดอลลาร์ในปีเดียว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากงานใดขอให้คุณจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงรายได้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ควรหยุดทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/task-scams-are-tricking-thousands-costing-jobseekers-millions 🛡️ Pentagon เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI ใหม่ สหรัฐฯ กำลังนำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเข้ามาใช้ในกองทัพ โดยเปิดตัวแพลตฟอร์มชื่อ GenAI.mil ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 3 ล้านคนทั้งทหารและพลเรือนสามารถเข้าถึงโมเดล Gemini ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับรัฐบาลได้ จุดประสงค์คือเพื่อให้ทุกคนมีเครื่องมือ AI ที่ทรงพลังไว้ใช้งาน แต่ก็มีเสียงกังวลจากผู้เชี่ยวชาญว่าระบบอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยเทคนิค prompt injection ซึ่งอาจนำไปสู่การจารกรรมข้อมูล ขณะเดียวกันพนักงาน Google ก็ยังคงเงียบ แม้ในอดีตเคยออกมาประท้วงการใช้เทคโนโลยีของบริษัทในงานด้านการทหารมาแล้วหลายครั้ง เรื่องนี้จึงเป็นทั้งความก้าวหน้าและความท้าทายที่ต้องจับตา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/pentagon-launches-new-gemini-based-ai-platform 💻 กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย CyberVolk กลับมาอีกครั้ง กลุ่ม CyberVolk ที่เคยหายไปจากวงการไซเบอร์ช่วงหนึ่ง ได้กลับมาเปิดบริการ ransomware-as-a-service ให้กับผู้สนใจผ่าน Telegram แต่การกลับมาครั้งนี้กลับไม่สมบูรณ์นัก เพราะเครื่องมือเข้ารหัสที่ใช้มีช่องโหว่ใหญ่ คือคีย์เข้ารหัสถูกฝังไว้ตายตัว ทำให้เหยื่อสามารถถอดรหัสไฟล์ได้ฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ นักวิจัยเชื่อว่านี่อาจเป็นความผิดพลาดของผู้พัฒนาเอง จึงทำให้การกลับมาครั้งนี้ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แม้กลุ่มยังคงพยายามผสมผสานการโจมตีแบบ hacktivism กับการหาเงินจาก ransomware ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/notorious-russian-cybercriminals-return-with-new-ransomware 💾 วิกฤต Flash Memory ที่ยืดเยื้อ ตลาดแฟลชเมมโมรีกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ราคาพุ่งสูงและขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ต่างจากฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ง่ายกว่า เพราะแฟลชต้องใช้โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ที่ลงทุนสูงและใช้เวลาสร้างหลายปี ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้เร็ว แม้ดอกเบี้ยต่ำจะช่วยเรื่องเงินลงทุน แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะสั้นได้ นักวิเคราะห์มองว่านี่ไม่ใช่แค่รอบขึ้นลงตามปกติ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ราคาสูงต่อเนื่องไปอีกหลายปี 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-the-flash-crisis-will-last-much-longer-this-time 🌐 รัสเซียขู่บล็อกบริการ Google ทั้งหมด รัฐบาลรัสเซียกำลังพิจารณาบล็อกบริการของ Google แบบเต็มรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่าการเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้นอกประเทศเป็นภัยต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ “บีบอ่อน” เพื่อผลักเทคโนโลยีสหรัฐออกจากรัสเซีย ก่อนหน้านี้ก็มีการบล็อกแพลตฟอร์มตะวันตกหลายแห่ง เช่น Roblox, FaceTime และ Snapchat รวมถึงการกดดันให้ใช้ VPN ยากขึ้นด้วย แนวทางนี้กำลังสร้างสิ่งที่หลายคนเรียกว่า “ม่านเหล็กดิจิทัล” ที่แยกรัสเซียออกจากโลกออนไลน์เสรี 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-threatens-to-block-all-google-services-in-a-soft-squeeze-of-us-tech 🎨 Microsoft แจกธีมฟรีสำหรับ Windows 11 ใครที่เบื่อหน้าจอ Windows 11 ตอนนี้ Microsoft ได้เปิดโซนใหม่ใน Microsoft Store ที่รวมธีมกว่า 400 แบบมาให้เลือก ทั้งธีมเกมดัง ธรรมชาติ ไปจนถึงงานศิลป์ โดยมีธีมใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 35 แบบ จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ง่ายและสนุกขึ้น เพียงคลิกเดียวก็เปลี่ยนบรรยากาศหน้าจอได้ทันที ถือเป็นการจัดระเบียบครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้การหาธีมใน Store ค่อนข้างยุ่งยาก การอัปเดตนี้จึงช่วยให้การปรับแต่งเครื่องเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/bored-with-your-windows-11-desktop-microsoft-is-offering-a-free-upgrade-of-handpicked-themes-from-its-store 📰 Intel, AMD และ Texas Instruments ถูกกล่าวหาว่า “เมินเฉยโดยเจตนา” ปล่อยชิปไปถึงรัสเซีย เรื่องนี้เริ่มจากกลุ่มพลเรือนชาวยูเครนที่ยื่นฟ้องบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่าง Intel, AMD และ Texas Instruments โดยกล่าวหาว่าชิปที่บริษัทเหล่านี้ผลิตถูกนำไปใช้ในอาวุธของรัสเซียผ่านตัวแทนจำหน่ายรายอื่น ซึ่งนำไปสู่การโจมตีที่คร่าชีวิตพลเรือนหลายสิบคน ฝ่ายโจทก์มองว่าบริษัทเหล่านี้เลือกที่จะ “หลับตา” ไม่สนใจเส้นทางการขายต่อ ขณะที่บริษัททั้งหมดออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่าหยุดการขายให้รัสเซียตั้งแต่สงครามเริ่ม และปฏิบัติตามกฎหมายการส่งออกอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้จึงกลายเป็นคดีใหญ่ที่ต้องพิสูจน์กันในศาลว่าใครควรรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/intel-amd-accused-of-willful-ignorance-in-allowing-chips-to-get-to-russia 🤖 Workbooks เพิ่ม AI ในระบบ CRM เพื่อเสริมพลังทีมขาย แพลตฟอร์ม CRM ชื่อ Workbooks ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้าไปในระบบ โดยมีทั้งเครื่องมือถอดเสียงการประชุมอัตโนมัติ (Scribe), ระบบโค้ชการขาย (Sales Coach), ระบบทำความสะอาดข้อมูล (Sales Hygiene) และตัวช่วยวิจัยลูกค้า (Research Agent) จุดประสงค์คือช่วยลดงานซ้ำซาก เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และทำให้ทีมขายมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น แม้ปัจจุบันมีเพียง 16% ของบริษัทในสหราชอาณาจักรที่ใช้ AI ใน CRM แต่คาดว่าปี 2026 จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งใครที่เริ่มก่อนก็จะได้เปรียบในการแข่งขันทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/workbooks-integrates-ai-promises-empowered-sales-teams ⚖️ EU ถูกวิจารณ์ว่ามองข้ามความเสี่ยงในการอนุมัติ Broadcom ซื้อ VMware สมาคมผู้ให้บริการคลาวด์ CISPE ได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่ EU อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ VMware โดย Broadcom พวกเขามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ละเลยสัญญาณเตือนที่ชัดเจน เช่น การขึ้นราคาที่รุนแรง การบังคับซื้อแบบแพ็กเกจ และการผูกขาดลูกค้า ซึ่งตอนนี้ผลกระทบก็เริ่มปรากฏแล้ว ทั้งราคาที่สูงขึ้นและสัญญาระยะยาวที่บังคับใช้กับหลายองค์กรในยุโรป หากศาลตัดสินให้เพิกถอนการอนุมัติ EU จะต้องกลับมาทบทวนดีลนี้ใหม่ภายใต้สภาพตลาดปัจจุบัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-accused-of-ignoring-warning-signs-in-broadcoms-vmware-acquisition 💵 Salesforce ชี้โมเดลคิดค่าบริการ AI แบบ “ต่อผู้ใช้” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce อธิบายว่าบริษัทกำลังกลับไปใช้การคิดค่าบริการแบบ “ต่อที่นั่ง” สำหรับ AI หลังจากเคยทดลองโมเดลคิดตามการใช้งานหรือจำนวนบทสนทนา เหตุผลคือ ลูกค้าต้องการความแน่นอนและความยืดหยุ่นในการคำนวณค่าใช้จ่าย Salesforce เชื่อว่าบริการ AI สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากถึง 3–10 เท่า จึงสามารถปรับราคาสูงขึ้นได้โดยยังสมเหตุสมผล แม้บางบริษัทจะใช้ AI เพื่อเสริมกำลังคนแทนที่จะลดจำนวนพนักงาน ทำให้การคิดค่าบริการต่อผู้ใช้ยังคงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในสายตาของ Salesforce 🔗 https://www.techradar.com/pro/salesforce-says-per-user-pricing-will-be-new-ai-norm 🛡️ พบมัลแวร์ใหม่บน MacOS ใช้ AI และเครื่องมือค้นหาเป็นช่องทางแพร่กระจาย นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Huntress เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังมัลแวร์ AMOS ใช้เทคนิคใหม่ โดยสร้างบทสนทนาใน ChatGPT และ Grok ที่แฝงคำสั่งปลอมเกี่ยวกับการเคลียร์พื้นที่ดิสก์บน MacOS จากนั้นซื้อโฆษณาบน Google เพื่อดันบทสนทนาเหล่านี้ขึ้นมาเป็นผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้ทำตามคำแนะนำก็จะติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว AMOS สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและกระเป๋าเงินคริปโต ทำให้การโจมตีครั้งนี้อันตรายยิ่งขึ้นเพราะอาศัยความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ไว้วางใจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-exploits-trusted-ai-and-search-tools 📱 iOS 26.2 อัปเดตใหม่กับ 7 ฟีเจอร์สำคัญ Apple ปล่อย iOS 26.2 ให้ผู้ใช้ iPhone ได้อัปเดตกันแล้ว รอบนี้แม้จะเป็นการปรับปรุงเล็ก ๆ แต่หลายอย่างช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น การตั้ง Reminder ที่มาพร้อมเสียงปลุกกันลืม, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้สะดวกขึ้นผ่านโค้ด, ปรับแต่ง Liquid Glass ให้หน้าจอดูโปร่งใสตามใจ, Podcasts ที่สร้าง chapter ให้อัตโนมัติ, Sleep Score ที่ปรับเกณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความรู้สึกจริง ๆ, Freeform ที่เพิ่มการทำตาราง และ Apple News ที่มี shortcut เข้าส่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมการแก้บั๊กและปรับปรุงความปลอดภัยด้วย 🔗 https://www.techradar.com/phones/ios/ios-26-2-has-landed-here-are-the-7-biggest-new-features-for-your-iphone 🤖 AI Regulation: บทเรียนจากยุคอินเทอร์เน็ต บทความนี้เล่าย้อนกลับไปถึงยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่แทบไม่มีการควบคุม จนกฎหมาย Telecom Act ปี 1996 เข้ามาจัดระเบียบ แต่ก็ยังไม่แตะเนื้อหาบนเว็บจริง ๆ ปัจจุบัน AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และสหรัฐฯ กำลังถกเถียงกันว่าจะควบคุมอย่างไร ระหว่างรัฐบาลกลางที่อยากให้เบา ๆ เพื่อแข่งขันกับจีน กับรัฐต่าง ๆ ที่อยากปกป้องประชาชนจากอคติและข้อมูลผิด ๆ บทความชี้ว่าหากไม่หาทางออกที่สมดุล อนาคต AI อาจอันตรายไม่ต่างจากพลังงานนิวเคลียร์ที่ไร้การควบคุม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/everyone-is-wrong-about-ai-regulation-and-the-history-of-the-internet-proves-it 📺 YouTube TV ได้อัปเดตใหม่กับ 5 ฟีเจอร์ที่รอคอย Google ปรับปรุงหน้าจอการดูวิดีโอบน YouTube สำหรับทีวีให้ใช้งานง่ายขึ้น ควบคุมต่าง ๆ ถูกจัดใหม่เป็นสามส่วนชัดเจน มีปุ่ม Description ให้ดูข้อมูลวิดีโอแทนการกดชื่อเรื่อง, ปุ่ม Subscribe ที่เห็นชัดตลอดเวลา, การย้ายตำแหน่งชื่อวิดีโอไปด้านบนซ้าย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการดู Live Sports อย่าง Multiview รวมถึง Display Mode สำหรับผู้ใช้ Music และ Premium ทั้งหมดนี้ทำให้ประสบการณ์ดู YouTube บนทีวีใกล้เคียงกับมือถือมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/televisions/youtube-finally-gets-the-tv-update-weve-been-waiting-for-and-there-are-5-handy-upgrades 💻 Intel เร่งซื้อ SambaNova สู้ศึกชิป AI ในโลกชิป AI ที่ AMD และ Nvidia ครองตลาด Intel กำลังพิจารณาซื้อ SambaNova Systems เพื่อเร่งตามให้ทัน โดย SambaNova เพิ่งโชว์ศักยภาพด้วยการรันโมเดล DeepSeek-R1 ได้เร็วและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าปกติ การเข้าซื้อครั้งนี้อาจช่วยให้ Intel มีทางเลือกใหม่ในการแข่งขัน แต่ดีลยังอยู่ในขั้นต้นและไม่ผูกมัด ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าผู้เล่นรายอื่นสนใจเช่นกัน ทำให้การแย่งชิงครั้งนี้น่าจับตามอง 🔗 https://www.techradar.com/pro/intel-set-to-buy-ai-chip-specialist-as-it-scrambles-to-catch-up-with-amd-nvidia 🛡️ แฮกเกอร์ปลอมเป็นตำรวจ หลอก Big Tech ขอข้อมูลผู้ใช้ มีรายงานว่าอาชญากรไซเบอร์ใช้วิธีปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งคำขอข้อมูลไปยังบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Apple หรือ Google โดยใช้เทคนิค typosquatting สร้างอีเมลที่คล้ายของจริง หรือเจาะเข้าบัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่จริงเพื่อส่งคำขอ ทำให้บริษัทบางแห่งหลงเชื่อและส่งข้อมูลผู้ใช้ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทใหญ่เริ่มใช้ระบบตรวจสอบคำขอเข้มงวดขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-posing-as-law-enforcement-are-tricking-big-tech-to-get-access-to-private-data 🖥️ AMD เปิดตัว Radeon AI PRO R9700S การ์ดจอเงียบทรงพลังสำหรับงาน AI หนัก AMD กำลังสร้างความฮือฮาในวงการด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่ Radeon AI PRO R9700S ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 32GB GDDR6 และระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเงียบในสภาพแวดล้อมที่มีการ์ดหลายตัวติดตั้งอยู่ใน rack แน่น ๆ จุดเด่นคือพลังการประมวลผลสูงถึง 47.8 TFLOPS และรองรับ PCIe 5.0 x16 เพื่อการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่นการฝึกโมเดลภาษาหรือการประมวลผลเชิงสร้างสรรค์ จุดที่น่าสนใจคือแม้จะไม่มีพัดลม แต่ยังคงใช้พลังงานสูงถึง 300W ซึ่งองค์กรที่นำไปใช้ต้องวางแผนการจัดการความร้อนอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-amd-just-launch-the-fastest-silent-video-cards-ever-passively-cooled-32gb-ddr6-radeon-ai-pro-r9700s-debuts-with-ginormous-300w-tdp 💻 Zotac เปิดตัว Mini PC เล็กแต่แรง บรรจุ RTX 5060 Ti เต็มตัว Zotac สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัว ZBOX MAGNUS EN275060TC ที่สามารถบรรจุการ์ดจอระดับ desktop อย่าง RTX 5060 Ti ขนาด 16GB ลงไปในเครื่องเล็กเพียง 2.65 ลิตรได้สำเร็จ โดยใช้เทคนิคการส่งพลังงานผ่าน PCIe แบบ hybrid ทำให้ไม่ต้องใช้สายต่อพลังงานภายนอก ผลการทดสอบชี้ว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti รุ่น laptop และยังคุ้มค่าด้านราคาเมื่อเทียบกับพลังที่ได้ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องความร้อน แต่ถือเป็นการยกระดับ mini PC ให้สามารถแข่งขันกับเครื่องใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-zotac-mini-pc-has-the-most-powerful-gpu-ever-bundled-in-a-pc-of-this-size-16gb-geforce-rtx-5060-ti-is-competitive-with-5070-ti-laptop-edition ⚖️ อดีตพนักงาน Accenture ถูก DoJ ตั้งข้อหาฉ้อโกงด้านความปลอดภัยระบบคลาวด์ ข่าวใหญ่ในสายความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Accenture ที่ถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยของระบบคลาวด์เพื่อให้ได้สัญญากับรัฐบาล ทั้งที่จริงแล้วแพลตฟอร์มไม่ได้ผ่านมาตรฐาน FedRAMP ตามที่กำหนด การกระทำนี้ถูกตีความว่าเป็นการหลอกลวงและมีการส่งเอกสารปลอมเพื่อรักษาสัญญา หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปีในข้อหาฉ้อโกงและการขัดขวางการตรวจสอบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/former-accenture-employee-charged-by-doj-for-cloud-security-fraud 🌐 สหรัฐฯ ยกเลิกการแบน Nvidia H200 หลัง Huawei Ascend 910C แรงจนท้าทายอำนาจโลก AI รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% ต่อการส่งออก หลังจากพบว่า Huawei กำลังพัฒนา Ascend 910C ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยระบบ CloudMatrix 384 ของ Huawei สามารถทำงานได้ถึง 300 petaflops และมีหน่วยความจำรวมมากกว่า Nvidia GB200 NVL72 แม้จะใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจท้าทายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ การตัดสินใจครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงและเศรษฐกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-the-us-afraid-of-huawei-reports-hint-at-the-ascend-910c-accelerator-performance-to-justify-the-surprising-reversal-of-nvidias-h200-ai-gpu-ban-on-china 🤖 ChatGPT เตรียมเปิดโหมดผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด OpenAI ประกาศว่าจะเปิดตัว “adult mode” สำหรับ ChatGPT ในปี 2026 โดยจะใช้ AI ตรวจจับอายุผู้ใช้จากพฤติกรรมการสนทนาเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ได้ จุดสำคัญคือไม่ได้หมายถึงการเปิดให้เข้าถึงเนื้อหาโจ่งแจ้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการพูดคุยในหัวข้อที่ปัจจุบันถูกจำกัด เช่นเรื่องความสัมพันธ์ สุขภาพจิต หรือประเด็นที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก การพัฒนานี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างความยืดหยุ่นและตอบสนองผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่สมจริงและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ยังต้องรอการทดสอบระบบทำนายอายุให้แม่นยำก่อน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-adult-mode-is-coming-and-it-might-not-be-what-you-think-it-is 🧑‍💻 AI Chatbots ก้าวสู่ชีวิตประจำวัน รายงานล่าสุดจาก Microsoft เผยให้เห็นว่า Copilot และ AI chatbot ไม่ได้ถูกใช้แค่ในงานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนแล้ว พวกเขาวิเคราะห์จากการสนทนากว่า 37.5 ล้านครั้ง พบว่าการใช้งานบนเดสก์ท็อปมักจะเกี่ยวข้องกับงานระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ส่วนการใช้งานบนมือถือกลับเน้นเรื่องส่วนตัว เช่น สุขภาพและการใช้ชีวิต และเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ เช่น การเขียนโปรแกรมที่พุ่งสูงในวันทำงาน การเล่นเกมที่มากขึ้นในวันหยุด และคำถามเชิงปรัชญาที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทำงาน แต่ยังถูกใช้เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจและจัดการกับชีวิตประจำวันของตนเองด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/ai-chatbots-are-now-integrated-into-the-full-texture-of-human-life-microsoft-study-claims 🤖 ChatGPT 5.2 ถูกวิจารณ์ว่า “ถอยหลัง” OpenAI เปิดตัว ChatGPT 5.2 โดยประกาศว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุดที่เปิดให้ใช้งานทั่วไป แต่เสียงตอบรับจากผู้ใช้กลับไม่ค่อยดีนัก หลายคนใน Reddit บอกว่ามัน “น่าเบื่อ” และ “เป็นทางการเกินไป” จนรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตชีวา บางคนถึงกับบอกว่ามันแย่กว่าเวอร์ชัน 5.1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลองใช้งานอย่างจริงจัง และอาจเป็นเพียงเสียงจากกลุ่มเล็กที่ไม่พอใจ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง OpenAI และ Google Gemini ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่า OpenAI รีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกมาเร็วเกินไปหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/chatgpt-5-2-branded-a-step-backwards-by-disappointed-early-users-heres-why
    0 Comments 0 Shares 1077 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251211 #securityonline

    Makop Ransomware กลับมาอีกครั้งพร้อมกลยุทธ์ใหม่
    ภัยคุกคามที่เคยคุ้นชื่อ Makop ransomware ได้พัฒนาวิธีการโจมตีให้ซับซ้อนขึ้น แม้จะยังใช้ช่องโหว่เดิมคือการเจาะผ่านพอร์ต RDP ที่ไม่ได้ป้องกัน แต่ครั้งนี้พวกเขาเสริมเครื่องมืออย่าง GuLoader เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เพิ่มเติม และยังใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกันไวรัสในระดับ kernel ได้โดยตรง การโจมตีส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่องค์กรในอินเดีย แต่ก็พบในหลายประเทศอื่นด้วย จุดสำคัญคือ แม้จะเป็นการโจมตีที่ดู “ง่าย” แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความเสียหายรุนแรงต่อองค์กรที่ละเลยการอัปเดตและการตั้งค่าความปลอดภัย
    https://securityonline.info/makop-ransomware-evolves-guloader-and-byovd-edr-killers-used-to-attack-rdp-exposed-networks

    DeadLock Ransomware ใช้ช่องโหว่ไดรเวอร์ Baidu เจาะระบบ
    กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่หวังผลทางการเงินได้ปล่อยแรนซัมแวร์ชื่อ DeadLock โดยใช้เทคนิค BYOVD เช่นกัน คราวนี้พวกเขาอาศัยไดรเวอร์จาก Baidu Antivirus ที่มีช่องโหว่ ทำให้สามารถสั่งงานในระดับ kernel และปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันได้ทันที หลังจากนั้นยังใช้ PowerShell script ปิดบริการสำคัญ เช่น SQL Server และลบ shadow copies เพื่อกันไม่ให้เหยื่อกู้คืนข้อมูลได้ ตัวแรนซัมแวร์ถูกเขียนขึ้นใหม่ด้วย C++ และใช้วิธีเข้ารหัสเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ที่น่าสนใจคือพวกเขาไม่ใช้วิธี “double extortion” แต่ให้เหยื่อติดต่อผ่านแอป Session เพื่อเจรจาจ่ายค่าไถ่เป็น Bitcoin หรือ Monero
    https://securityonline.info/deadlock-ransomware-deploys-byovd-edr-killer-by-exploiting-baidu-driver-for-kernel-level-defense-bypass

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน PCIe 6.0 เสี่ยงข้อมูลเสียหาย
    มาตรฐาน PCIe 6.0 ที่ใช้ในการส่งข้อมูลความเร็วสูงถูกพบว่ามีช่องโหว่ในกลไก IDE (Integrity and Data Encryption) ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์เข้าถึงฮาร์ดแวร์สามารถฉีดข้อมูลที่ผิดพลาดหรือเก่าเข้ามาในระบบได้ ช่องโหว่นี้ถูกระบุเป็น CVE-2025-9612, 9613 และ 9614 แม้จะไม่สามารถโจมตีจากระยะไกล แต่ก็เป็นภัยใหญ่สำหรับศูนย์ข้อมูลหรือระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง ตอนนี้ PCI-SIG ได้ออก Draft Engineering Change Notice เพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ผลิตอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้โดยเร็ว
    https://securityonline.info/critical-pcie-6-0-flaws-risk-secure-data-integrity-via-stale-data-injection-in-ide-mechanism

    EtherRAT Malware ใช้บล็อกเชน Ethereum ซ่อนร่องรอย
    หลังจากเกิดช่องโหว่ React2Shell เพียงไม่กี่วัน นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ใช้บล็อกเชน Ethereum เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้ควบคุม โดยอาศัย smart contracts เพื่อรับคำสั่ง ทำให้แทบไม่สามารถปิดกั้นได้ เพราะเครือข่าย Ethereum เป็นระบบกระจายศูนย์ นอกจากนี้ EtherRAT ยังมีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือที่เคยใช้โดยกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ และถูกออกแบบให้ฝังตัวแน่นหนาในระบบ Linux ด้วยหลายวิธีการ persistence พร้อมทั้งดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อกลมกลืนกับการทำงานปกติ ถือเป็นการยกระดับการโจมตีจากช่องโหว่ React2Shell ไปสู่ระดับ APT ที่อันตรายยิ่งขึ้น
    https://securityonline.info/etherrat-malware-hijacks-ethereum-blockchain-for-covert-c2-after-react2shell-exploit

    Slack CEO ย้ายไปร่วมทีม OpenAI เป็น CRO
    OpenAI กำลังเร่งหาทางสร้างรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการประมวลผล AI ล่าสุดได้ดึง Denise Dresser ซีอีโอของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer (CRO) เพื่อดูแลกลยุทธ์รายได้และการขยายตลาดองค์กร การเข้ามาของเธอสะท้อนให้เห็นว่า OpenAI กำลังใช้แนวทางแบบ Silicon Valley อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายฐานผู้ใช้และการหาช่องทางทำเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขาย subscription หรือแม้กระทั่งโฆษณาใน ChatGPT อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือการทำให้รายได้เติบโตทันกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วจากการสร้างและดูแลโครงสร้างพื้นฐาน AI
    https://securityonline.info/slack-ceo-denise-dresser-joins-openai-as-cro-to-solve-the-profitability-puzzle

    Jenkins เจอช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงถูกโจมตี DoS และ XSS
    ทีมพัฒนา Jenkins ออกประกาศเตือนครั้งใหญ่ หลังพบช่องโหว่หลายรายการที่อาจทำให้ระบบ CI/CD ถูกโจมตีจนหยุดทำงาน หรือโดนฝังสคริปต์อันตราย (XSS) โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-67635 ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ส่งคำสั่งผ่าน HTTP CLI โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทรัพยากรถูกใช้จนล่ม อีกช่องโหว่ CVE-2025-67641 ใน Coverage Plugin ก็เปิดทางให้ผู้โจมตีฝังโค้ด JavaScript ลงในรายงาน เมื่อผู้ดูแลเปิดดู รายงานนั้นจะรันสคริปต์ทันที เสี่ยงต่อการถูกขโมย session และข้อมูลสำคัญ แม้จะมีการอัปเดตแก้ไขหลายจุด เช่น การเข้ารหัส token และการปิดช่องโหว่การเห็นรหัสผ่าน แต่ยังมีบางปลั๊กอินที่ยังไม่มีแพตช์ออกมา ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดต Jenkins และปลั๊กอินที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสียหาย
    https://securityonline.info/high-severity-jenkins-flaws-risk-unauthenticated-dos-via-http-cli-and-xss-via-coverage-reports

    Gogs Zero-Day โดนเจาะกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ ผ่าน Symlink Path Traversal
    นักวิจัยจาก Wiz พบช่องโหว่ใหม่ใน Gogs (CVE-2025-8110) ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถเขียนไฟล์อันตรายลงในระบบได้ง่าย ๆ ผ่านการใช้ symlink โดยช่องโหว่นี้เป็นการเลี่ยงแพตช์เก่าที่เคยแก้ไขไปแล้ว ทำให้กว่า 700 เซิร์ฟเวอร์จาก 1,400 ที่ตรวจสอบถูกเจาะสำเร็จ การโจมตีมีลักษณะเป็นแคมเปญ “smash-and-grab” คือเข้ามาเร็ว ใช้ symlink เขียนทับไฟล์สำคัญ เช่น .git/config แล้วรันคำสั่งอันตราย จากนั้นติดตั้ง payload ที่ใช้ Supershell เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกล ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์ออกมา ผู้ดูแลระบบจึงถูกแนะนำให้ปิดการสมัครสมาชิกสาธารณะ และจำกัดการเข้าถึงระบบทันที
    https://securityonline.info/gogs-zero-day-cve-2025-8110-risks-rce-for-700-servers-via-symlink-path-traversal-bypass

    GitLab พบช่องโหว่ XSS เสี่ยงโดนขโมย session ผ่าน Wiki
    GitLab ออกอัปเดตด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-12716 ที่มีความรุนแรงสูง (CVSS 8.7) โดยช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ Wiki ที่ผู้ใช้สามารถสร้างเพจได้ หากมีการฝังโค้ดอันตรายลงไป เมื่อผู้ใช้รายอื่นเปิดดู เพจนั้นจะรันคำสั่งแทนผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เสี่ยงต่อการถูกยึด session และสั่งงานแทนเจ้าของบัญชี นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ เช่น การ inject HTML ในรายงานช่องโหว่ และการเปิดเผยข้อมูลโครงการที่ควรเป็น private ผ่าน error message และ GraphQL query GitLab.com และ GitLab Dedicated ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้ที่ใช้ self-managed instance ต้องรีบอัปเดตเวอร์ชัน 18.6.2, 18.5.4 หรือ 18.4.6 เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้
    https://securityonline.info/high-severity-gitlab-xss-flaw-cve-2025-12716-risks-session-hijack-via-malicious-wiki-pages

    Facebook ปรับโฉมใหม่ แต่ Instagram ใช้ AI ดึง SEO
    มีรายงานว่า Facebook ได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Instagram ถูกเปิดโปงว่าใช้ AI เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ดึง SEO ให้ติดอันดับการค้นหา คล้ายกับการทำ content farm โดยไม่ได้บอกผู้ใช้ตรง ๆ เรื่องนี้จึงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและจริยธรรมของ Meta ที่อาจใช้ AI เพื่อผลักดันการเข้าถึงโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ
    https://securityonline.info/facebook-gets-new-look-but-instagram-secretly-uses-ai-for-seo-bait

    SpaceX เตรียม IPO มูลค่าเป้าหมายทะลุ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
    SpaceX กำลังเดินหน้าแผน IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำลายสถิติของ Saudi Aramco ที่เคยทำไว้ในปี 2019 ที่ 29 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้ตลาดตะลึงคือการตั้งเป้ามูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แม้รายได้ของ SpaceX ในปี 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่า Tesla ถึง 6 เท่า แต่ความคาดหวังอยู่ที่อนาคตของ Starlink และ Starship รวมถึงแผนสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศเพื่อรองรับ AI และการสื่อสารผ่านดาวเทียม Musk เชื่อว่าการรวมพลังของ Starlink และ Starship จะขยายตลาดได้มหาศาล และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่สุดของ SpaceX
    https://securityonline.info/spacex-ipo-targeting-a-1-5-trillion-valuation-to-fund-space-data-centers

    จีนเปิดปฏิบัติการไซเบอร์ WARP PANDA ใช้ BRICKSTORM เจาะ VMware และ Azure
    มีการเปิดโปงแคมเปญจารกรรมไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ดำเนินการโดยกลุ่มแฮกเกอร์จากจีนชื่อ WARP PANDA พวกเขาไม่ได้โจมตีแบบธรรมดา แต่เลือกเจาะเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่สำคัญอย่าง VMware vCenter และ ESXi รวมถึงระบบคลาวด์ Microsoft Azure จุดเด่นคือการใช้เครื่องมือที่สร้างขึ้นเองชื่อ BRICKSTORM ซึ่งเป็น backdoor ที่แฝงตัวเหมือนโปรเซสของระบบ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเสริมอย่าง Junction และ GuestConduit ที่ช่วยควบคุมการสื่อสารในระบบเสมือนจริงได้อย่างแนบเนียน สิ่งที่น่ากังวลคือพวกเขาสามารถอยู่ในระบบได้นานเป็นปีโดยไม่ถูกพบ และยังขยายการโจมตีไปสู่บริการ Microsoft 365 เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงจูงใจเชิงรัฐมากกว่าการเงิน เพราะเป้าหมายคือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน
    https://securityonline.info/chinas-warp-panda-apt-deploys-brickstorm-backdoor-to-hijack-vmware-vcenter-esxi-and-azure-cloud

    ช่องโหว่ร้ายแรง TOTOLINK AX1800 เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึง root โดยไม่ต้องล็อกอิน
    มีการค้นพบช่องโหว่ในเราเตอร์ TOTOLINK AX1800 ที่ใช้กันแพร่หลายในบ้านและธุรกิจขนาดเล็ก ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวเพื่อเปิดบริการ Telnet โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน เมื่อ Telnet ถูกเปิดแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผลกระทบคือสามารถดักจับข้อมูล เปลี่ยนเส้นทาง DNS หรือใช้เป็นฐานโจมตีอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ที่น่ากังวลคือยังไม่มีแพตช์แก้ไขจากผู้ผลิต ทำให้ผู้ใช้ต้องป้องกันตัวเองด้วยการปิดการเข้าถึงจาก WAN และตรวจสอบการเปิดใช้งาน Telnet อย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/unpatched-totolink-ax1800-router-flaw-allows-unauthenticated-telnet-root-rce

    FBI และ CISA เตือนกลุ่มแฮกเกอร์สายโปรรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานผ่าน VNC ที่ไม่ปลอดภัย
    หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ รวมถึง FBI และ CISA ออกคำเตือนว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซียกำลังโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ระบบน้ำ พลังงาน และอาหาร โดยใช้วิธีง่าย ๆ คือค้นหา Human-Machine Interfaces (HMI) ที่เชื่อมต่อผ่าน VNC แต่ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง เมื่อเข้าถึงได้ พวกเขาจะปรับเปลี่ยนค่าการทำงาน เช่น ความเร็วปั๊ม หรือปิดระบบแจ้งเตือน ทำให้ผู้ควบคุมไม่เห็นภาพจริงของโรงงาน กลุ่มที่ถูกระบุมีทั้ง Cyber Army of Russia Reborn, NoName057(16), Z-Pentest และ Sector16 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐรัสเซีย แม้จะไม่ซับซ้อน แต่การโจมตีแบบนี้สร้างความเสียหายได้จริงและยากต่อการคาดเดา
    https://securityonline.info/fbi-cisa-warn-pro-russia-hacktivists-target-critical-infrastructure-via-unsecured-vnc-hmis

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน CCTV (CVE-2025-13607) เสี่ยงถูกแฮกดูภาพสดและขโมยรหัสผ่าน
    CISA ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อเครือข่าย โดยเฉพาะรุ่น D-Link DCS-F5614-L1 ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงการตั้งค่าและข้อมูลบัญชีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ผลคือสามารถดูภาพสดจากกล้องและขโมยรหัสผ่านผู้ดูแลเพื่อเจาะลึกเข้าไปในระบบต่อไปได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 และแม้ D-Link จะออกเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้แบรนด์อื่นอย่าง Securus และ Sparsh ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบและติดต่อผู้ผลิตเองเพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/critical-cctv-flaw-cve-2025-13607-risks-video-feed-hijack-credential-theft-via-missing-authentication

    ข่าวด่วน: Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome
    เรื่องนี้เป็นการอัปเดตที่สำคัญมากของ Google Chrome เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ Google จึงรีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ 143.0.7499.109/.110 เพื่ออุดช่องโหว่ โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น “Under coordination” ซึ่งหมายถึงยังอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ทำให้รายละเอียดเชิงเทคนิคยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ที่แน่ ๆ คือมีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้โจมตีแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ระดับกลางอีกสองรายการ ได้แก่ปัญหาใน Password Manager และ Toolbar ที่นักวิจัยภายนอกรายงานเข้ามา พร้อมได้รับรางวัลบั๊กบาวน์ตี้รวม 4,000 ดอลลาร์ เรื่องนี้จึงเป็นการเตือนผู้ใช้ทุกคนให้รีบตรวจสอบและอัปเดต Chrome ด้วยตนเองทันที ไม่ควรรอการอัปเดตอัตโนมัติ เพราะความเสี่ยงกำลังเกิดขึ้นจริงแล้ว
    https://securityonline.info/emergency-chrome-update-google-patches-new-zero-day-under-active-attack

    นวัตกรรมใหม่: สถาปัตยกรรม AI ของ Google แรงกว่า GPT-4 ในด้านความจำ
    Google เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ Titans และกรอบแนวคิด MIRAS ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการจำข้อมูลระยะยาวของโมเดล AI แบบเดิม ๆ จุดเด่นคือสามารถ “อ่านไป จำไป” ได้เหมือนสมองมนุษย์ โดยใช้โมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานคล้ายการแยกความจำสั้นและยาวในสมองจริง ๆ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ “surprise metric” กลไกที่เลือกจำเฉพาะข้อมูลที่แปลกใหม่หรือไม่คาดคิด เช่นเดียวกับที่มนุษย์มักจำเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาได้ชัดเจน ผลลัพธ์คือโมเดลนี้สามารถจัดการข้อมูลยาวมหาศาลได้ถึงสองล้านโทเคน และยังทำงานได้ดีกว่า GPT-4 แม้จะมีพารามิเตอร์น้อยกว่า นอกจากนี้ MIRAS ยังเปิดทางให้สร้างโมเดลใหม่ ๆ ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน เช่นการทนต่อสัญญาณรบกวนหรือการรักษาความจำระยะยาวอย่างมั่นคง การทดสอบกับชุดข้อมูล BABILong แสดงให้เห็นว่า Titans มีศักยภาพเหนือกว่าโมเดลชั้นนำอื่น ๆ ในการดึงข้อมูลที่กระจายอยู่ในเอกสารขนาดใหญ่ ทำให้อนาคตของ AI ในการทำความเข้าใจทั้งเอกสารหรือแม้แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมดูสดใสและทรงพลังมากขึ้น
    https://securityonline.info/the-surprise-metric-googles-new-ai-architecture-outperforms-gpt-4-in-memory

    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251211 #securityonline 🛡️ Makop Ransomware กลับมาอีกครั้งพร้อมกลยุทธ์ใหม่ ภัยคุกคามที่เคยคุ้นชื่อ Makop ransomware ได้พัฒนาวิธีการโจมตีให้ซับซ้อนขึ้น แม้จะยังใช้ช่องโหว่เดิมคือการเจาะผ่านพอร์ต RDP ที่ไม่ได้ป้องกัน แต่ครั้งนี้พวกเขาเสริมเครื่องมืออย่าง GuLoader เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เพิ่มเติม และยังใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกันไวรัสในระดับ kernel ได้โดยตรง การโจมตีส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่องค์กรในอินเดีย แต่ก็พบในหลายประเทศอื่นด้วย จุดสำคัญคือ แม้จะเป็นการโจมตีที่ดู “ง่าย” แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความเสียหายรุนแรงต่อองค์กรที่ละเลยการอัปเดตและการตั้งค่าความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/makop-ransomware-evolves-guloader-and-byovd-edr-killers-used-to-attack-rdp-exposed-networks 💻 DeadLock Ransomware ใช้ช่องโหว่ไดรเวอร์ Baidu เจาะระบบ กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่หวังผลทางการเงินได้ปล่อยแรนซัมแวร์ชื่อ DeadLock โดยใช้เทคนิค BYOVD เช่นกัน คราวนี้พวกเขาอาศัยไดรเวอร์จาก Baidu Antivirus ที่มีช่องโหว่ ทำให้สามารถสั่งงานในระดับ kernel และปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันได้ทันที หลังจากนั้นยังใช้ PowerShell script ปิดบริการสำคัญ เช่น SQL Server และลบ shadow copies เพื่อกันไม่ให้เหยื่อกู้คืนข้อมูลได้ ตัวแรนซัมแวร์ถูกเขียนขึ้นใหม่ด้วย C++ และใช้วิธีเข้ารหัสเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ที่น่าสนใจคือพวกเขาไม่ใช้วิธี “double extortion” แต่ให้เหยื่อติดต่อผ่านแอป Session เพื่อเจรจาจ่ายค่าไถ่เป็น Bitcoin หรือ Monero 🔗 https://securityonline.info/deadlock-ransomware-deploys-byovd-edr-killer-by-exploiting-baidu-driver-for-kernel-level-defense-bypass ⚙️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน PCIe 6.0 เสี่ยงข้อมูลเสียหาย มาตรฐาน PCIe 6.0 ที่ใช้ในการส่งข้อมูลความเร็วสูงถูกพบว่ามีช่องโหว่ในกลไก IDE (Integrity and Data Encryption) ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์เข้าถึงฮาร์ดแวร์สามารถฉีดข้อมูลที่ผิดพลาดหรือเก่าเข้ามาในระบบได้ ช่องโหว่นี้ถูกระบุเป็น CVE-2025-9612, 9613 และ 9614 แม้จะไม่สามารถโจมตีจากระยะไกล แต่ก็เป็นภัยใหญ่สำหรับศูนย์ข้อมูลหรือระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง ตอนนี้ PCI-SIG ได้ออก Draft Engineering Change Notice เพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ผลิตอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้โดยเร็ว 🔗 https://securityonline.info/critical-pcie-6-0-flaws-risk-secure-data-integrity-via-stale-data-injection-in-ide-mechanism 🪙 EtherRAT Malware ใช้บล็อกเชน Ethereum ซ่อนร่องรอย หลังจากเกิดช่องโหว่ React2Shell เพียงไม่กี่วัน นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ใช้บล็อกเชน Ethereum เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้ควบคุม โดยอาศัย smart contracts เพื่อรับคำสั่ง ทำให้แทบไม่สามารถปิดกั้นได้ เพราะเครือข่าย Ethereum เป็นระบบกระจายศูนย์ นอกจากนี้ EtherRAT ยังมีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือที่เคยใช้โดยกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ และถูกออกแบบให้ฝังตัวแน่นหนาในระบบ Linux ด้วยหลายวิธีการ persistence พร้อมทั้งดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อกลมกลืนกับการทำงานปกติ ถือเป็นการยกระดับการโจมตีจากช่องโหว่ React2Shell ไปสู่ระดับ APT ที่อันตรายยิ่งขึ้น 🔗 https://securityonline.info/etherrat-malware-hijacks-ethereum-blockchain-for-covert-c2-after-react2shell-exploit 🤝 Slack CEO ย้ายไปร่วมทีม OpenAI เป็น CRO OpenAI กำลังเร่งหาทางสร้างรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการประมวลผล AI ล่าสุดได้ดึง Denise Dresser ซีอีโอของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer (CRO) เพื่อดูแลกลยุทธ์รายได้และการขยายตลาดองค์กร การเข้ามาของเธอสะท้อนให้เห็นว่า OpenAI กำลังใช้แนวทางแบบ Silicon Valley อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายฐานผู้ใช้และการหาช่องทางทำเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขาย subscription หรือแม้กระทั่งโฆษณาใน ChatGPT อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือการทำให้รายได้เติบโตทันกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วจากการสร้างและดูแลโครงสร้างพื้นฐาน AI 🔗 https://securityonline.info/slack-ceo-denise-dresser-joins-openai-as-cro-to-solve-the-profitability-puzzle 🛠️ Jenkins เจอช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงถูกโจมตี DoS และ XSS ทีมพัฒนา Jenkins ออกประกาศเตือนครั้งใหญ่ หลังพบช่องโหว่หลายรายการที่อาจทำให้ระบบ CI/CD ถูกโจมตีจนหยุดทำงาน หรือโดนฝังสคริปต์อันตราย (XSS) โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-67635 ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ส่งคำสั่งผ่าน HTTP CLI โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทรัพยากรถูกใช้จนล่ม อีกช่องโหว่ CVE-2025-67641 ใน Coverage Plugin ก็เปิดทางให้ผู้โจมตีฝังโค้ด JavaScript ลงในรายงาน เมื่อผู้ดูแลเปิดดู รายงานนั้นจะรันสคริปต์ทันที เสี่ยงต่อการถูกขโมย session และข้อมูลสำคัญ แม้จะมีการอัปเดตแก้ไขหลายจุด เช่น การเข้ารหัส token และการปิดช่องโหว่การเห็นรหัสผ่าน แต่ยังมีบางปลั๊กอินที่ยังไม่มีแพตช์ออกมา ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดต Jenkins และปลั๊กอินที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสียหาย 🔗 https://securityonline.info/high-severity-jenkins-flaws-risk-unauthenticated-dos-via-http-cli-and-xss-via-coverage-reports 🐙 Gogs Zero-Day โดนเจาะกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ ผ่าน Symlink Path Traversal นักวิจัยจาก Wiz พบช่องโหว่ใหม่ใน Gogs (CVE-2025-8110) ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถเขียนไฟล์อันตรายลงในระบบได้ง่าย ๆ ผ่านการใช้ symlink โดยช่องโหว่นี้เป็นการเลี่ยงแพตช์เก่าที่เคยแก้ไขไปแล้ว ทำให้กว่า 700 เซิร์ฟเวอร์จาก 1,400 ที่ตรวจสอบถูกเจาะสำเร็จ การโจมตีมีลักษณะเป็นแคมเปญ “smash-and-grab” คือเข้ามาเร็ว ใช้ symlink เขียนทับไฟล์สำคัญ เช่น .git/config แล้วรันคำสั่งอันตราย จากนั้นติดตั้ง payload ที่ใช้ Supershell เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกล ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์ออกมา ผู้ดูแลระบบจึงถูกแนะนำให้ปิดการสมัครสมาชิกสาธารณะ และจำกัดการเข้าถึงระบบทันที 🔗 https://securityonline.info/gogs-zero-day-cve-2025-8110-risks-rce-for-700-servers-via-symlink-path-traversal-bypass 🧩 GitLab พบช่องโหว่ XSS เสี่ยงโดนขโมย session ผ่าน Wiki GitLab ออกอัปเดตด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-12716 ที่มีความรุนแรงสูง (CVSS 8.7) โดยช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ Wiki ที่ผู้ใช้สามารถสร้างเพจได้ หากมีการฝังโค้ดอันตรายลงไป เมื่อผู้ใช้รายอื่นเปิดดู เพจนั้นจะรันคำสั่งแทนผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เสี่ยงต่อการถูกยึด session และสั่งงานแทนเจ้าของบัญชี นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ เช่น การ inject HTML ในรายงานช่องโหว่ และการเปิดเผยข้อมูลโครงการที่ควรเป็น private ผ่าน error message และ GraphQL query GitLab.com และ GitLab Dedicated ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้ที่ใช้ self-managed instance ต้องรีบอัปเดตเวอร์ชัน 18.6.2, 18.5.4 หรือ 18.4.6 เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้ 🔗 https://securityonline.info/high-severity-gitlab-xss-flaw-cve-2025-12716-risks-session-hijack-via-malicious-wiki-pages 📱 Facebook ปรับโฉมใหม่ แต่ Instagram ใช้ AI ดึง SEO มีรายงานว่า Facebook ได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Instagram ถูกเปิดโปงว่าใช้ AI เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ดึง SEO ให้ติดอันดับการค้นหา คล้ายกับการทำ content farm โดยไม่ได้บอกผู้ใช้ตรง ๆ เรื่องนี้จึงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและจริยธรรมของ Meta ที่อาจใช้ AI เพื่อผลักดันการเข้าถึงโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ 🔗 https://securityonline.info/facebook-gets-new-look-but-instagram-secretly-uses-ai-for-seo-bait 🚀 SpaceX เตรียม IPO มูลค่าเป้าหมายทะลุ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ SpaceX กำลังเดินหน้าแผน IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำลายสถิติของ Saudi Aramco ที่เคยทำไว้ในปี 2019 ที่ 29 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้ตลาดตะลึงคือการตั้งเป้ามูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แม้รายได้ของ SpaceX ในปี 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่า Tesla ถึง 6 เท่า แต่ความคาดหวังอยู่ที่อนาคตของ Starlink และ Starship รวมถึงแผนสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศเพื่อรองรับ AI และการสื่อสารผ่านดาวเทียม Musk เชื่อว่าการรวมพลังของ Starlink และ Starship จะขยายตลาดได้มหาศาล และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่สุดของ SpaceX 🔗 https://securityonline.info/spacex-ipo-targeting-a-1-5-trillion-valuation-to-fund-space-data-centers 🐼 จีนเปิดปฏิบัติการไซเบอร์ WARP PANDA ใช้ BRICKSTORM เจาะ VMware และ Azure มีการเปิดโปงแคมเปญจารกรรมไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ดำเนินการโดยกลุ่มแฮกเกอร์จากจีนชื่อ WARP PANDA พวกเขาไม่ได้โจมตีแบบธรรมดา แต่เลือกเจาะเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่สำคัญอย่าง VMware vCenter และ ESXi รวมถึงระบบคลาวด์ Microsoft Azure จุดเด่นคือการใช้เครื่องมือที่สร้างขึ้นเองชื่อ BRICKSTORM ซึ่งเป็น backdoor ที่แฝงตัวเหมือนโปรเซสของระบบ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเสริมอย่าง Junction และ GuestConduit ที่ช่วยควบคุมการสื่อสารในระบบเสมือนจริงได้อย่างแนบเนียน สิ่งที่น่ากังวลคือพวกเขาสามารถอยู่ในระบบได้นานเป็นปีโดยไม่ถูกพบ และยังขยายการโจมตีไปสู่บริการ Microsoft 365 เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงจูงใจเชิงรัฐมากกว่าการเงิน เพราะเป้าหมายคือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน 🔗 https://securityonline.info/chinas-warp-panda-apt-deploys-brickstorm-backdoor-to-hijack-vmware-vcenter-esxi-and-azure-cloud 📡 ช่องโหว่ร้ายแรง TOTOLINK AX1800 เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึง root โดยไม่ต้องล็อกอิน มีการค้นพบช่องโหว่ในเราเตอร์ TOTOLINK AX1800 ที่ใช้กันแพร่หลายในบ้านและธุรกิจขนาดเล็ก ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวเพื่อเปิดบริการ Telnet โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน เมื่อ Telnet ถูกเปิดแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผลกระทบคือสามารถดักจับข้อมูล เปลี่ยนเส้นทาง DNS หรือใช้เป็นฐานโจมตีอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ที่น่ากังวลคือยังไม่มีแพตช์แก้ไขจากผู้ผลิต ทำให้ผู้ใช้ต้องป้องกันตัวเองด้วยการปิดการเข้าถึงจาก WAN และตรวจสอบการเปิดใช้งาน Telnet อย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/unpatched-totolink-ax1800-router-flaw-allows-unauthenticated-telnet-root-rce ⚠️ FBI และ CISA เตือนกลุ่มแฮกเกอร์สายโปรรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานผ่าน VNC ที่ไม่ปลอดภัย หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ รวมถึง FBI และ CISA ออกคำเตือนว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซียกำลังโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ระบบน้ำ พลังงาน และอาหาร โดยใช้วิธีง่าย ๆ คือค้นหา Human-Machine Interfaces (HMI) ที่เชื่อมต่อผ่าน VNC แต่ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง เมื่อเข้าถึงได้ พวกเขาจะปรับเปลี่ยนค่าการทำงาน เช่น ความเร็วปั๊ม หรือปิดระบบแจ้งเตือน ทำให้ผู้ควบคุมไม่เห็นภาพจริงของโรงงาน กลุ่มที่ถูกระบุมีทั้ง Cyber Army of Russia Reborn, NoName057(16), Z-Pentest และ Sector16 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐรัสเซีย แม้จะไม่ซับซ้อน แต่การโจมตีแบบนี้สร้างความเสียหายได้จริงและยากต่อการคาดเดา 🔗 https://securityonline.info/fbi-cisa-warn-pro-russia-hacktivists-target-critical-infrastructure-via-unsecured-vnc-hmis 🎥 ช่องโหว่ร้ายแรงใน CCTV (CVE-2025-13607) เสี่ยงถูกแฮกดูภาพสดและขโมยรหัสผ่าน CISA ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อเครือข่าย โดยเฉพาะรุ่น D-Link DCS-F5614-L1 ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงการตั้งค่าและข้อมูลบัญชีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ผลคือสามารถดูภาพสดจากกล้องและขโมยรหัสผ่านผู้ดูแลเพื่อเจาะลึกเข้าไปในระบบต่อไปได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 และแม้ D-Link จะออกเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้แบรนด์อื่นอย่าง Securus และ Sparsh ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบและติดต่อผู้ผลิตเองเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/critical-cctv-flaw-cve-2025-13607-risks-video-feed-hijack-credential-theft-via-missing-authentication 🛡️ ข่าวด่วน: Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome เรื่องนี้เป็นการอัปเดตที่สำคัญมากของ Google Chrome เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ Google จึงรีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ 143.0.7499.109/.110 เพื่ออุดช่องโหว่ โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น “Under coordination” ซึ่งหมายถึงยังอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ทำให้รายละเอียดเชิงเทคนิคยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ที่แน่ ๆ คือมีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้โจมตีแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ระดับกลางอีกสองรายการ ได้แก่ปัญหาใน Password Manager และ Toolbar ที่นักวิจัยภายนอกรายงานเข้ามา พร้อมได้รับรางวัลบั๊กบาวน์ตี้รวม 4,000 ดอลลาร์ เรื่องนี้จึงเป็นการเตือนผู้ใช้ทุกคนให้รีบตรวจสอบและอัปเดต Chrome ด้วยตนเองทันที ไม่ควรรอการอัปเดตอัตโนมัติ เพราะความเสี่ยงกำลังเกิดขึ้นจริงแล้ว 🔗 https://securityonline.info/emergency-chrome-update-google-patches-new-zero-day-under-active-attack 🤖 นวัตกรรมใหม่: สถาปัตยกรรม AI ของ Google แรงกว่า GPT-4 ในด้านความจำ Google เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ Titans และกรอบแนวคิด MIRAS ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการจำข้อมูลระยะยาวของโมเดล AI แบบเดิม ๆ จุดเด่นคือสามารถ “อ่านไป จำไป” ได้เหมือนสมองมนุษย์ โดยใช้โมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานคล้ายการแยกความจำสั้นและยาวในสมองจริง ๆ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ “surprise metric” กลไกที่เลือกจำเฉพาะข้อมูลที่แปลกใหม่หรือไม่คาดคิด เช่นเดียวกับที่มนุษย์มักจำเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาได้ชัดเจน ผลลัพธ์คือโมเดลนี้สามารถจัดการข้อมูลยาวมหาศาลได้ถึงสองล้านโทเคน และยังทำงานได้ดีกว่า GPT-4 แม้จะมีพารามิเตอร์น้อยกว่า นอกจากนี้ MIRAS ยังเปิดทางให้สร้างโมเดลใหม่ ๆ ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน เช่นการทนต่อสัญญาณรบกวนหรือการรักษาความจำระยะยาวอย่างมั่นคง การทดสอบกับชุดข้อมูล BABILong แสดงให้เห็นว่า Titans มีศักยภาพเหนือกว่าโมเดลชั้นนำอื่น ๆ ในการดึงข้อมูลที่กระจายอยู่ในเอกสารขนาดใหญ่ ทำให้อนาคตของ AI ในการทำความเข้าใจทั้งเอกสารหรือแม้แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมดูสดใสและทรงพลังมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-surprise-metric-googles-new-ai-architecture-outperforms-gpt-4-in-memory
    0 Comments 0 Shares 830 Views 0 Reviews
  • “Raspberry Pi Imager 2.0.2 เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ รองรับหลาย SSH Keys และ Direct I/O Bypass”

    ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา
    Raspberry Pi Imager เวอร์ชัน 2.0.2 ได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญ โดยเพิ่มการรองรับ Multiple SSH Keys ทำให้ผู้ใช้สามารถใส่กุญแจ SSH หลายชุดลงไปในระบบได้สะดวกขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกันหลายคนหรือหลายเครื่อง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Direct I/O Bypass ที่ช่วยให้การเขียนข้อมูลลง microSD card มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดปัญหาความเข้ากันได้.

    การแก้ไขปัญหาและปรับปรุง
    อัปเดตนี้ยังแก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้เจอเมื่อรัน Imager แบบ AppImage บน Linux ด้วยสิทธิ์ root ผ่าน xhost ซึ่งก่อนหน้านี้ทำให้เกิดข้อผิดพลาดด้านการอนุญาต X11 การแก้ไขนี้ช่วยให้การใช้งานบน Linux ราบรื่นขึ้นโดยไม่ต้องปรับแต่งมาก.

    ความสำคัญต่อผู้ใช้
    การรองรับหลาย SSH Keys มีความสำคัญต่อผู้ใช้ที่ต้องการจัดการ Raspberry Pi ในสภาพแวดล้อมที่มีหลายผู้ดูแล เช่น ห้องแล็บ, ทีมวิจัย หรือโครงการ IoT ส่วน Direct I/O Bypass ช่วยให้การเขียนระบบปฏิบัติการลงการ์ดเร็วขึ้นและลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาด ทำให้การติดตั้ง Raspberry Pi OS และดิสทริบิวชันอื่น ๆ มีความเสถียรมากขึ้น.

    สถานะและการเผยแพร่
    Raspberry Pi Imager 2.0.2 พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้วทั้งบน Windows, macOS และ Linux โดยผู้ใช้สามารถอัปเดตได้ทันทีจากเว็บไซต์ทางการหรือ GitHub ของโครงการ ถือเป็นการต่อยอดจากเวอร์ชัน 2.0 ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน Raspberry Pi Imager 2.0.2
    รองรับ Multiple SSH Keys สำหรับหลายผู้ใช้
    Direct I/O Bypass ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเขียนข้อมูล

    การแก้ไขปัญหา
    แก้บั๊ก X11 Authorization เมื่อรัน AppImage บน Linux ด้วย root
    ทำให้ใช้งานบน Linux ราบรื่นขึ้น

    ความสำคัญต่อผู้ใช้
    เหมาะสำหรับทีมที่มีหลายผู้ดูแล Raspberry Pi
    ลดข้อผิดพลาดในการเขียน OS ลง microSD card

    การเผยแพร่
    พร้อมดาวน์โหลดแล้วบน Windows, macOS และ Linux
    อัปเดตต่อยอดจากเวอร์ชัน 2.0 ที่เพิ่งเปิดตัว

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    หากไม่อัปเดต อาจพลาดฟีเจอร์และการแก้ไขบั๊กสำคัญ
    การใช้ SSH Key เดียวในหลายผู้ใช้อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย
    การเขียนข้อมูลโดยไม่ใช้ Direct I/O Bypass อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการติดตั้ง

    https://9to5linux.com/raspberry-pi-imager-2-0-2-adds-support-for-multiple-ssh-keys-direct-i-o-bypass
    🖥️ “Raspberry Pi Imager 2.0.2 เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ รองรับหลาย SSH Keys และ Direct I/O Bypass” 🔧 ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา Raspberry Pi Imager เวอร์ชัน 2.0.2 ได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญ โดยเพิ่มการรองรับ Multiple SSH Keys ทำให้ผู้ใช้สามารถใส่กุญแจ SSH หลายชุดลงไปในระบบได้สะดวกขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกันหลายคนหรือหลายเครื่อง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Direct I/O Bypass ที่ช่วยให้การเขียนข้อมูลลง microSD card มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดปัญหาความเข้ากันได้. 🛠️ การแก้ไขปัญหาและปรับปรุง อัปเดตนี้ยังแก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้เจอเมื่อรัน Imager แบบ AppImage บน Linux ด้วยสิทธิ์ root ผ่าน xhost ซึ่งก่อนหน้านี้ทำให้เกิดข้อผิดพลาดด้านการอนุญาต X11 การแก้ไขนี้ช่วยให้การใช้งานบน Linux ราบรื่นขึ้นโดยไม่ต้องปรับแต่งมาก. 🚀 ความสำคัญต่อผู้ใช้ การรองรับหลาย SSH Keys มีความสำคัญต่อผู้ใช้ที่ต้องการจัดการ Raspberry Pi ในสภาพแวดล้อมที่มีหลายผู้ดูแล เช่น ห้องแล็บ, ทีมวิจัย หรือโครงการ IoT ส่วน Direct I/O Bypass ช่วยให้การเขียนระบบปฏิบัติการลงการ์ดเร็วขึ้นและลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาด ทำให้การติดตั้ง Raspberry Pi OS และดิสทริบิวชันอื่น ๆ มีความเสถียรมากขึ้น. 📅 สถานะและการเผยแพร่ Raspberry Pi Imager 2.0.2 พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้วทั้งบน Windows, macOS และ Linux โดยผู้ใช้สามารถอัปเดตได้ทันทีจากเว็บไซต์ทางการหรือ GitHub ของโครงการ ถือเป็นการต่อยอดจากเวอร์ชัน 2.0 ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Raspberry Pi Imager 2.0.2 ➡️ รองรับ Multiple SSH Keys สำหรับหลายผู้ใช้ ➡️ Direct I/O Bypass ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเขียนข้อมูล ✅ การแก้ไขปัญหา ➡️ แก้บั๊ก X11 Authorization เมื่อรัน AppImage บน Linux ด้วย root ➡️ ทำให้ใช้งานบน Linux ราบรื่นขึ้น ✅ ความสำคัญต่อผู้ใช้ ➡️ เหมาะสำหรับทีมที่มีหลายผู้ดูแล Raspberry Pi ➡️ ลดข้อผิดพลาดในการเขียน OS ลง microSD card ✅ การเผยแพร่ ➡️ พร้อมดาวน์โหลดแล้วบน Windows, macOS และ Linux ➡️ อัปเดตต่อยอดจากเวอร์ชัน 2.0 ที่เพิ่งเปิดตัว ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ หากไม่อัปเดต อาจพลาดฟีเจอร์และการแก้ไขบั๊กสำคัญ ⛔ การใช้ SSH Key เดียวในหลายผู้ใช้อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย ⛔ การเขียนข้อมูลโดยไม่ใช้ Direct I/O Bypass อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการติดตั้ง https://9to5linux.com/raspberry-pi-imager-2-0-2-adds-support-for-multiple-ssh-keys-direct-i-o-bypass
    9TO5LINUX.COM
    Raspberry Pi Imager 2.0.2 Adds Support for Multiple SSH Keys, Direct I/O Bypass - 9to5Linux
    Raspberry Pi Imager 2.0.2 microSD card flashing utility is now available for download with numerous new features and improvements.
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • “TOTOLINK AX1800 เสี่ยงหนัก! ช่องโหว่ Telnet Root RCE ยังไม่ได้รับการแก้ไข”

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน เราเตอร์ TOTOLINK AX1800 ถูกค้นพบ โดยเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง Telnet root shell ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน และสามารถรันคำสั่งจากระยะไกล (RCE) ได้ทันที ปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้ผู้ใช้และองค์กรที่ใช้อุปกรณ์รุ่นนี้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างมาก

    ลักษณะของช่องโหว่
    ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่ Telnet service บนอุปกรณ์เปิดให้เข้าถึงได้โดยไม่ต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์ ผู้โจมตีสามารถเชื่อมต่อเข้ามาและได้รับสิทธิ์ root ทันที ซึ่งเป็นสิทธิ์สูงสุดในระบบ ทำให้สามารถควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ

    ความเสี่ยงและการโจมตี
    หากผู้โจมตีเข้าถึงเราเตอร์ได้ พวกเขาสามารถ ติดตั้งมัลแวร์, เปลี่ยนการตั้งค่าเครือข่าย, ดักจับข้อมูลการสื่อสาร หรือแม้กระทั่งใช้เราเตอร์เป็นฐานโจมตีไปยังระบบอื่น ๆ ได้ การโจมตีลักษณะนี้มีผลกระทบต่อทั้งผู้ใช้ตามบ้านและองค์กรที่ใช้เราเตอร์รุ่นนี้

    ผลกระทบในวงกว้าง
    TOTOLINK AX1800 เป็นเราเตอร์ที่นิยมใช้ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป การที่ช่องโหว่นี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขทำให้ผู้ใช้นับหมื่นรายทั่วโลกเสี่ยงต่อการถูกโจมตี และอาจถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของ Botnet ขนาดใหญ่

    การแก้ไขและคำแนะนำ
    จนถึงตอนนี้ TOTOLINK ยังไม่ได้ออกแพตช์แก้ไขอย่างเป็นทางการ ผู้ใช้ควร ปิดการใช้งาน Telnet, ใช้ Firewall เพื่อบล็อกการเข้าถึงจากภายนอก และหมั่นตรวจสอบการอัปเดตเฟิร์มแวร์ หากเป็นไปได้ควรพิจารณาเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ที่มีการสนับสนุนด้านความปลอดภัยที่ดีกว่า

    สรุปเป็นหัวข้อ
    รายละเอียดช่องโหว่ TOTOLINK AX1800
    เปิด Telnet root shell โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน
    ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งจากระยะไกล (RCE) ได้ทันที

    ความเสี่ยงจากการโจมตี
    ติดตั้งมัลแวร์และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ
    ดักจับข้อมูลเครือข่ายและใช้เป็นฐานโจมตี

    ผลกระทบในวงกว้าง
    TOTOLINK AX1800 ถูกใช้อย่างแพร่หลายในหลายประเทศ
    เสี่ยงถูกนำไปใช้สร้าง Botnet ขนาดใหญ่

    การแก้ไขและคำแนะนำเบื้องต้น
    ปิดการใช้งาน Telnet และบล็อกการเข้าถึงจากภายนอก
    ตรวจสอบการอัปเดตเฟิร์มแวร์อย่างสม่ำเสมอ
    พิจารณาเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ที่มีการสนับสนุนด้านความปลอดภัย

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    หากยังใช้งาน Telnet อยู่ อุปกรณ์เสี่ยงถูกแฮกทันที
    การไม่อัปเดตเฟิร์มแวร์เพิ่มโอกาสถูกโจมตี
    การใช้เราเตอร์ที่ไม่มีการสนับสนุนด้านความปลอดภัยอาจทำให้ระบบเครือข่ายทั้งหมดถูกควบคุม

    https://securityonline.info/unpatched-totolink-ax1800-router-flaw-allows-unauthenticated-telnet-root-rce/
    📡 “TOTOLINK AX1800 เสี่ยงหนัก! ช่องโหว่ Telnet Root RCE ยังไม่ได้รับการแก้ไข” ช่องโหว่ร้ายแรงใน เราเตอร์ TOTOLINK AX1800 ถูกค้นพบ โดยเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง Telnet root shell ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน และสามารถรันคำสั่งจากระยะไกล (RCE) ได้ทันที ปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้ผู้ใช้และองค์กรที่ใช้อุปกรณ์รุ่นนี้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างมาก 🔓 ลักษณะของช่องโหว่ ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่ Telnet service บนอุปกรณ์เปิดให้เข้าถึงได้โดยไม่ต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์ ผู้โจมตีสามารถเชื่อมต่อเข้ามาและได้รับสิทธิ์ root ทันที ซึ่งเป็นสิทธิ์สูงสุดในระบบ ทำให้สามารถควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ 🕵️ ความเสี่ยงและการโจมตี หากผู้โจมตีเข้าถึงเราเตอร์ได้ พวกเขาสามารถ ติดตั้งมัลแวร์, เปลี่ยนการตั้งค่าเครือข่าย, ดักจับข้อมูลการสื่อสาร หรือแม้กระทั่งใช้เราเตอร์เป็นฐานโจมตีไปยังระบบอื่น ๆ ได้ การโจมตีลักษณะนี้มีผลกระทบต่อทั้งผู้ใช้ตามบ้านและองค์กรที่ใช้เราเตอร์รุ่นนี้ 🌍 ผลกระทบในวงกว้าง TOTOLINK AX1800 เป็นเราเตอร์ที่นิยมใช้ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป การที่ช่องโหว่นี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขทำให้ผู้ใช้นับหมื่นรายทั่วโลกเสี่ยงต่อการถูกโจมตี และอาจถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของ Botnet ขนาดใหญ่ 🛡️ การแก้ไขและคำแนะนำ จนถึงตอนนี้ TOTOLINK ยังไม่ได้ออกแพตช์แก้ไขอย่างเป็นทางการ ผู้ใช้ควร ปิดการใช้งาน Telnet, ใช้ Firewall เพื่อบล็อกการเข้าถึงจากภายนอก และหมั่นตรวจสอบการอัปเดตเฟิร์มแวร์ หากเป็นไปได้ควรพิจารณาเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ที่มีการสนับสนุนด้านความปลอดภัยที่ดีกว่า 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ รายละเอียดช่องโหว่ TOTOLINK AX1800 ➡️ เปิด Telnet root shell โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ➡️ ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งจากระยะไกล (RCE) ได้ทันที ✅ ความเสี่ยงจากการโจมตี ➡️ ติดตั้งมัลแวร์และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ➡️ ดักจับข้อมูลเครือข่ายและใช้เป็นฐานโจมตี ✅ ผลกระทบในวงกว้าง ➡️ TOTOLINK AX1800 ถูกใช้อย่างแพร่หลายในหลายประเทศ ➡️ เสี่ยงถูกนำไปใช้สร้าง Botnet ขนาดใหญ่ ✅ การแก้ไขและคำแนะนำเบื้องต้น ➡️ ปิดการใช้งาน Telnet และบล็อกการเข้าถึงจากภายนอก ➡️ ตรวจสอบการอัปเดตเฟิร์มแวร์อย่างสม่ำเสมอ ➡️ พิจารณาเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ที่มีการสนับสนุนด้านความปลอดภัย ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ⛔ หากยังใช้งาน Telnet อยู่ อุปกรณ์เสี่ยงถูกแฮกทันที ⛔ การไม่อัปเดตเฟิร์มแวร์เพิ่มโอกาสถูกโจมตี ⛔ การใช้เราเตอร์ที่ไม่มีการสนับสนุนด้านความปลอดภัยอาจทำให้ระบบเครือข่ายทั้งหมดถูกควบคุม https://securityonline.info/unpatched-totolink-ax1800-router-flaw-allows-unauthenticated-telnet-root-rce/
    SECURITYONLINE.INFO
    Unpatched TOTOLINK AX1800 Router Flaw Allows Unauthenticated Telnet & Root RCE
    A critical unpatched flaw in the TOTOLINK AX1800 router allows unauthenticated HTTP requests to enable Telnet for root RCE. Admins must block WAN access immediately as there is no official fix.
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • https://www.youtube.com/live/ux1Bqtv7ic8?si=iybsspYdtS359lDD
    https://www.youtube.com/live/ux1Bqtv7ic8?si=iybsspYdtS359lDD
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/5lthCoFFSSk?si=I5IQlfx1NUkfE7eo
    https://youtu.be/5lthCoFFSSk?si=I5IQlfx1NUkfE7eo
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • หลุดผลทดสอบ และรายละเอียด Intel Panther Lake “Core Ultra Series 3”

    ข่าวนี้เผยผลทดสอบหลุดของซีพียู Intel Panther Lake “Core Ultra Series 3” หลายรุ่น เช่น Core Ultra 7 366H, Ultra X7 358H, Ultra 7 365 และ Ultra 5 332 โดยมีทั้งสเปกและคะแนนเบื้องต้นจาก PassMark และ Geekbench ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของ Intel ในการแข่งขันกับ AMD Ryzen AI รุ่นใหม่ อันประกอบไปด้วย:
    Core Ultra 7 366H: 16 คอร์, L3 cache 18MB, L2 cache 12MB, ความเร็วบูสต์ ~5.0 GHz
    Core Ultra X7 358H: 16 คอร์, ความเร็วบูสต์ 4.8 GHz, มาพร้อม iGPU Xe3 เต็ม 12 คอร์
    Core Ultra 7 365: 8 คอร์, L3 12MB, L2 12MB
    Core Ultra 5 332: 6 คอร์, L3 12MB, L2 6MB

    ผลทดสอบประสิทธิภาพ
    Core Ultra 7 366H ทำคะแนนใกล้เคียงกับ Core Ultra 9 285H แม้ความเร็วต่ำกว่าเล็กน้อย
    Core Ultra X7 358H เร็วกว่ารุ่น Ultra 7 255H แม้มีคอร์น้อยกว่า
    Core Ultra 7 365 เร็วกว่าทั้ง Ryzen AI Z2 Extreme และ Ultra 5 226V
    Core Ultra 5 332 ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ช้ากว่ารุ่นอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด

    การทดสอบบนเครื่องเล่นพกพา
    มีการพบ OneXPlayer X1 i ที่ใช้ Core Ultra 5 338H (12 คอร์, 4.6 GHz) โดยผล Geekbench แสดงว่า Single-Core ต่ำกว่า Ryzen AI 9 HX 370 แต่ Multi-Core สูงกว่า แสดงให้เห็นว่า Panther Lake อาจมีศักยภาพในงานที่ใช้หลายคอร์พร้อมกัน

    ความคาดหวังใน CES 2026
    Intel เตรียมเปิดตัว Core Ultra Series 3 “Panther Lake” อย่างเป็นทางการในงาน CES 2026 ซึ่งจะเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่กับ AMD Ryzen AI รุ่นใหม่ โดยเฉพาะในตลาดโน้ตบุ๊กและเครื่องเล่นพกพาที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Intel Panther Lake หลายรุ่นถูกทดสอบบน PassMark และ Geekbench
    Core Ultra 7 366H, X7 358H, 7 365, 5 332

    ผลทดสอบชี้ว่ารุ่นกลางและสูงแข่งกับ Ryzen AI ได้สูสี
    Ultra 7 365 เร็วกว่ารุ่น Ryzen AI Z2 Extreme

    OneXPlayer X1 i ใช้ Core Ultra 5 338H
    Multi-Core ดีกว่า Ryzen AI 9 HX 370 แต่ Single-Core ต่ำกว่า

    คาดว่าจะเปิดตัว CES 2026
    เป็นการกลับมาของ Intel ในตลาดโน้ตบุ๊กและ handheld

    ผลทดสอบยังเป็นเพียงตัวเลขเบื้องต้น
    อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเปิดตัวจริงและมีการปรับแต่งเฟิร์มแวร์

    รุ่นเริ่มต้น Ultra 5 332 ยังช้ากว่าคู่แข่ง
    อาจไม่เหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    https://wccftech.com/intel-panther-lake-cpu-benchmarks-leak-core-ultra-7-366h-x7-358h-7-365-5-332-handheld/
    ⚡ หลุดผลทดสอบ และรายละเอียด Intel Panther Lake “Core Ultra Series 3” ข่าวนี้เผยผลทดสอบหลุดของซีพียู Intel Panther Lake “Core Ultra Series 3” หลายรุ่น เช่น Core Ultra 7 366H, Ultra X7 358H, Ultra 7 365 และ Ultra 5 332 โดยมีทั้งสเปกและคะแนนเบื้องต้นจาก PassMark และ Geekbench ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของ Intel ในการแข่งขันกับ AMD Ryzen AI รุ่นใหม่ อันประกอบไปด้วย: 💠 Core Ultra 7 366H: 16 คอร์, L3 cache 18MB, L2 cache 12MB, ความเร็วบูสต์ ~5.0 GHz 💠 Core Ultra X7 358H: 16 คอร์, ความเร็วบูสต์ 4.8 GHz, มาพร้อม iGPU Xe3 เต็ม 12 คอร์ 💠 Core Ultra 7 365: 8 คอร์, L3 12MB, L2 12MB 💠 Core Ultra 5 332: 6 คอร์, L3 12MB, L2 6MB 📊 ผลทดสอบประสิทธิภาพ 🎗️ Core Ultra 7 366H ทำคะแนนใกล้เคียงกับ Core Ultra 9 285H แม้ความเร็วต่ำกว่าเล็กน้อย 🎗️ Core Ultra X7 358H เร็วกว่ารุ่น Ultra 7 255H แม้มีคอร์น้อยกว่า 🎗️ Core Ultra 7 365 เร็วกว่าทั้ง Ryzen AI Z2 Extreme และ Ultra 5 226V 🎗️ Core Ultra 5 332 ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ช้ากว่ารุ่นอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด 🎮 การทดสอบบนเครื่องเล่นพกพา มีการพบ OneXPlayer X1 i ที่ใช้ Core Ultra 5 338H (12 คอร์, 4.6 GHz) โดยผล Geekbench แสดงว่า Single-Core ต่ำกว่า Ryzen AI 9 HX 370 แต่ Multi-Core สูงกว่า แสดงให้เห็นว่า Panther Lake อาจมีศักยภาพในงานที่ใช้หลายคอร์พร้อมกัน 🌍 ความคาดหวังใน CES 2026 Intel เตรียมเปิดตัว Core Ultra Series 3 “Panther Lake” อย่างเป็นทางการในงาน CES 2026 ซึ่งจะเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่กับ AMD Ryzen AI รุ่นใหม่ โดยเฉพาะในตลาดโน้ตบุ๊กและเครื่องเล่นพกพาที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Intel Panther Lake หลายรุ่นถูกทดสอบบน PassMark และ Geekbench ➡️ Core Ultra 7 366H, X7 358H, 7 365, 5 332 ✅ ผลทดสอบชี้ว่ารุ่นกลางและสูงแข่งกับ Ryzen AI ได้สูสี ➡️ Ultra 7 365 เร็วกว่ารุ่น Ryzen AI Z2 Extreme ✅ OneXPlayer X1 i ใช้ Core Ultra 5 338H ➡️ Multi-Core ดีกว่า Ryzen AI 9 HX 370 แต่ Single-Core ต่ำกว่า ✅ คาดว่าจะเปิดตัว CES 2026 ➡️ เป็นการกลับมาของ Intel ในตลาดโน้ตบุ๊กและ handheld ‼️ ผลทดสอบยังเป็นเพียงตัวเลขเบื้องต้น ⛔ อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเปิดตัวจริงและมีการปรับแต่งเฟิร์มแวร์ ‼️ รุ่นเริ่มต้น Ultra 5 332 ยังช้ากว่าคู่แข่ง ⛔ อาจไม่เหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง https://wccftech.com/intel-panther-lake-cpu-benchmarks-leak-core-ultra-7-366h-x7-358h-7-365-5-332-handheld/
    WCCFTECH.COM
    Several Intel Panther Lake CPU Benchmarks Leak: Core Ultra 7 366H, Ultra X7 358H, Ultra 7 365, & Ultra 5 332, First Panther Lake Handheld Spotted
    Several Intel Panther Lake "Core Ultra Series 3" CPUs & a handheld have been leaked and benchmarked within the PassMark Software suite.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 225 Views 0 Reviews
  • "แนวโน้มราคาหน่วยความจำ DDR4 และ DDR5 – สัญญาณตลาดฮาร์ดแวร์ปี 2025"

    เว็บไซต์ PCPartPicker ได้รวบรวมข้อมูลราคา RAM รุ่นต่าง ๆ เช่น DDR4-3200, DDR4-3600, DDR5-4800, DDR5-6000 ทั้งแบบ 2x8GB, 2x16GB และ 2x32GB โดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง 18 เดือน กราฟแสดงเส้นสีดำหนาเป็นค่าเฉลี่ยราคา และแถบสีเทาเป็นช่วงราคาต่ำสุด–สูงสุด ขณะที่จุดสีฟ้าอ่อนคือราคาจริงของสินค้าแต่ละตัว

    ข้อมูลเผยให้เห็นว่า DDR4 มีราคาค่อนข้างคงที่ โดยเฉพาะรุ่น 2x8GB และ 2x16GB ที่ราคาลดลงเล็กน้อยตามรอบการผลิตและโปรโมชั่น ส่วน DDR5 มีความผันผวนสูงกว่า โดยเฉพาะรุ่นความเร็วสูงอย่าง DDR5-6000 ที่ราคามีการแกว่งตัวตามความต้องการของตลาดและการเปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ที่รองรับ

    การลดลงของราคาต่ำสุดในบางช่วงสะท้อนถึง โปรโมชั่นและดีลพิเศษ เช่น การลดราคาช่วงเทศกาล หรือความผิดพลาดด้านการตั้งราคาของร้านค้า ซึ่งทำให้ผู้บริโภคที่ติดตามแนวโน้มราคาอย่างใกล้ชิดสามารถซื้อได้ในราคาที่คุ้มค่า

    โดยรวมแล้ว แนวโน้มราคาชี้ว่า DDR4 กำลังเข้าสู่ช่วงอิ่มตัว และอาจไม่ลดลงมากนักอีกต่อไป ขณะที่ DDR5 กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ แต่ราคายังสูงและผันผวน การเลือกซื้อจึงขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานและงบประมาณของผู้ใช้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    กราฟแสดงค่าเฉลี่ยราคาด้วยเส้นดำหนา และช่วงราคาด้วยแถบสีเทา
    DDR4 ราคาค่อนข้างคงที่ โดยเฉพาะรุ่น 2x8GB และ 2x16GBpcpartpicker.com
    DDR5 ราคาผันผวน โดยเฉพาะรุ่น DDR5-6000
    ราคาต่ำสุดบางช่วงเกิดจากโปรโมชั่นหรือการตั้งราคาผิดพลาดpcpartpicker.com

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    ตลาด RAM ทั่วโลกคาดว่า DDR5 จะครองสัดส่วนมากกว่า 60% ภายในปี 2026
    การเปิดตัวซีพียู Intel และ AMD รุ่นใหม่ที่รองรับ DDR5 ช่วยผลักดันความต้องการ
    ผู้ผลิต RAM รายใหญ่ เช่น Micron และ Samsung กำลังเพิ่มกำลังการผลิต DDR5

    คำเตือนจากข่าว
    ราคาที่ลดลงอย่างมากอาจเกิดจากดีลชั่วคราว ไม่ใช่แนวโน้มระยะยาว
    การซื้อ DDR5 รุ่นความเร็วสูงเกินความจำเป็นอาจไม่คุ้มค่า หากระบบไม่รองรับเต็มที่
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ของเมนบอร์ดและซีพียูก่อนซื้อ RAM รุ่นใหม่

    https://pcpartpicker.com/trends/price/memory/
    💻 "แนวโน้มราคาหน่วยความจำ DDR4 และ DDR5 – สัญญาณตลาดฮาร์ดแวร์ปี 2025" เว็บไซต์ PCPartPicker ได้รวบรวมข้อมูลราคา RAM รุ่นต่าง ๆ เช่น DDR4-3200, DDR4-3600, DDR5-4800, DDR5-6000 ทั้งแบบ 2x8GB, 2x16GB และ 2x32GB โดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง 18 เดือน กราฟแสดงเส้นสีดำหนาเป็นค่าเฉลี่ยราคา และแถบสีเทาเป็นช่วงราคาต่ำสุด–สูงสุด ขณะที่จุดสีฟ้าอ่อนคือราคาจริงของสินค้าแต่ละตัว ข้อมูลเผยให้เห็นว่า DDR4 มีราคาค่อนข้างคงที่ โดยเฉพาะรุ่น 2x8GB และ 2x16GB ที่ราคาลดลงเล็กน้อยตามรอบการผลิตและโปรโมชั่น ส่วน DDR5 มีความผันผวนสูงกว่า โดยเฉพาะรุ่นความเร็วสูงอย่าง DDR5-6000 ที่ราคามีการแกว่งตัวตามความต้องการของตลาดและการเปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ที่รองรับ การลดลงของราคาต่ำสุดในบางช่วงสะท้อนถึง โปรโมชั่นและดีลพิเศษ เช่น การลดราคาช่วงเทศกาล หรือความผิดพลาดด้านการตั้งราคาของร้านค้า ซึ่งทำให้ผู้บริโภคที่ติดตามแนวโน้มราคาอย่างใกล้ชิดสามารถซื้อได้ในราคาที่คุ้มค่า โดยรวมแล้ว แนวโน้มราคาชี้ว่า DDR4 กำลังเข้าสู่ช่วงอิ่มตัว และอาจไม่ลดลงมากนักอีกต่อไป ขณะที่ DDR5 กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ แต่ราคายังสูงและผันผวน การเลือกซื้อจึงขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานและงบประมาณของผู้ใช้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ กราฟแสดงค่าเฉลี่ยราคาด้วยเส้นดำหนา และช่วงราคาด้วยแถบสีเทา ➡️ DDR4 ราคาค่อนข้างคงที่ โดยเฉพาะรุ่น 2x8GB และ 2x16GBpcpartpicker.com ➡️ DDR5 ราคาผันผวน โดยเฉพาะรุ่น DDR5-6000 ➡️ ราคาต่ำสุดบางช่วงเกิดจากโปรโมชั่นหรือการตั้งราคาผิดพลาดpcpartpicker.com ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ ตลาด RAM ทั่วโลกคาดว่า DDR5 จะครองสัดส่วนมากกว่า 60% ภายในปี 2026 ➡️ การเปิดตัวซีพียู Intel และ AMD รุ่นใหม่ที่รองรับ DDR5 ช่วยผลักดันความต้องการ ➡️ ผู้ผลิต RAM รายใหญ่ เช่น Micron และ Samsung กำลังเพิ่มกำลังการผลิต DDR5 ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ ราคาที่ลดลงอย่างมากอาจเกิดจากดีลชั่วคราว ไม่ใช่แนวโน้มระยะยาว ⛔ การซื้อ DDR5 รุ่นความเร็วสูงเกินความจำเป็นอาจไม่คุ้มค่า หากระบบไม่รองรับเต็มที่ ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ของเมนบอร์ดและซีพียูก่อนซื้อ RAM รุ่นใหม่ https://pcpartpicker.com/trends/price/memory/
    0 Comments 0 Shares 235 Views 0 Reviews
  • อุปกรณ์พกพาเพื่อสาย Embedded

    กลุ่มวิศวกรที่พบกันใน Reddit ได้ร่วมกันสร้าง Linux Platform Kit ซึ่งเป็นอุปกรณ์พกพาแบบโมดูลาร์สำหรับงานพัฒนาและการเรียนรู้ โดยใช้ชิป STM32MP157 และรัน Debian Linux ได้ทันที

    Linux Platform Kit ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือพกพาสำหรับนักพัฒนา Embedded และผู้ที่สนใจทดลองระบบ Linux บนอุปกรณ์จริง จุดเด่นคือสามารถติดตั้งซอฟต์แวร์ที่มีอยู่แล้ว หรือพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ได้โดยตรงบนเครื่อง โดยไม่ต้องพึ่งการคอมไพล์ซ้ำจาก Yocto ตลอดเวลา

    การเชื่อมต่อและการขยายโมดูล
    อุปกรณ์นี้รองรับการเชื่อมต่อหลากหลาย เช่น Ethernet PHY (RGMII), CAN Bus, UART RS485, I2C, I2S, SPI และ GPIO รวมถึงสามารถต่อโมดูลเสริมได้ เช่น LoRa Radio สำหรับ Meshtastic, มัลติมิเตอร์ หรือ Logic Analyzer ทำให้เหมาะทั้งสำหรับงานวิจัยและการเรียนรู้เชิงลึก

    สเปกหลักของ Linux Platform Kit
    MPU: STM32MP157 (Dual-core ARM Cortex-A7 + Cortex-M4)
    หน้าจอ: ทัชสกรีน 4.1 นิ้ว ความละเอียด 480x1080
    RAM: 4GB DDR3
    การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth
    Storage: รองรับ SD Card
    ระบบปฏิบัติการ: Debian Linux (รองรับ Yocto)
    เคส: ออกแบบให้ 3D-print ได้และปรับแต่งเองได้

    โครงการโอเพ่นซอร์สเต็มรูปแบบ
    ทีมผู้สร้างได้เปิดซอร์สโค้ดทั้งหมดบน GitHub ทั้ง ไฟล์ KiCad สำหรับฮาร์ดแวร์, โมเดล 3D ของเคส และซอฟต์แวร์ พร้อมเชิญชวนผู้สนใจเข้ามามีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนา Kernel, PCB Designer, UI Designer หรือ Embedded Engineer

    สรุปประเด็นสำคัญ

    ข้อมูลจากข่าว
    Linux Platform Kit ถูกสร้างโดยกลุ่มวิศวกรที่พบกันใน Reddit
    ใช้ชิป STM32MP157 และรัน Debian Linux ได้ทันที
    รองรับการเชื่อมต่อหลากหลาย เช่น Ethernet, CAN Bus, UART, I2C, SPI
    มีโมดูลเสริม เช่น LoRa Radio, มัลติมิเตอร์, Logic Analyzer
    เปิดซอร์สโค้ดทั้งหมดบน GitHub

    คำเตือนจากข่าว
    หากไม่อัปเดตหรือปรับแต่งระบบอย่างถูกต้อง อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้กับโมดูลเสริม
    การใช้งานโดยไม่มีการตรวจสอบความปลอดภัยของโมดูลเสริม อาจเสี่ยงต่อการทำงานผิดพลาด
    ผู้ใช้ที่ไม่คุ้นเคยกับ Embedded Linux อาจเจอความซับซ้อนในการตั้งค่าเริ่มต้น

    https://itsfoss.com/news/linux-platform-kit/
    🛠️ อุปกรณ์พกพาเพื่อสาย Embedded กลุ่มวิศวกรที่พบกันใน Reddit ได้ร่วมกันสร้าง Linux Platform Kit ซึ่งเป็นอุปกรณ์พกพาแบบโมดูลาร์สำหรับงานพัฒนาและการเรียนรู้ โดยใช้ชิป STM32MP157 และรัน Debian Linux ได้ทันที Linux Platform Kit ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือพกพาสำหรับนักพัฒนา Embedded และผู้ที่สนใจทดลองระบบ Linux บนอุปกรณ์จริง จุดเด่นคือสามารถติดตั้งซอฟต์แวร์ที่มีอยู่แล้ว หรือพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ได้โดยตรงบนเครื่อง โดยไม่ต้องพึ่งการคอมไพล์ซ้ำจาก Yocto ตลอดเวลา 🔌 การเชื่อมต่อและการขยายโมดูล อุปกรณ์นี้รองรับการเชื่อมต่อหลากหลาย เช่น Ethernet PHY (RGMII), CAN Bus, UART RS485, I2C, I2S, SPI และ GPIO รวมถึงสามารถต่อโมดูลเสริมได้ เช่น LoRa Radio สำหรับ Meshtastic, มัลติมิเตอร์ หรือ Logic Analyzer ทำให้เหมาะทั้งสำหรับงานวิจัยและการเรียนรู้เชิงลึก 📱 สเปกหลักของ Linux Platform Kit 💠 MPU: STM32MP157 (Dual-core ARM Cortex-A7 + Cortex-M4) 💠 หน้าจอ: ทัชสกรีน 4.1 นิ้ว ความละเอียด 480x1080 💠 RAM: 4GB DDR3 💠 การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth 💠 Storage: รองรับ SD Card 💠 ระบบปฏิบัติการ: Debian Linux (รองรับ Yocto) 💠 เคส: ออกแบบให้ 3D-print ได้และปรับแต่งเองได้ 🌍 โครงการโอเพ่นซอร์สเต็มรูปแบบ ทีมผู้สร้างได้เปิดซอร์สโค้ดทั้งหมดบน GitHub ทั้ง ไฟล์ KiCad สำหรับฮาร์ดแวร์, โมเดล 3D ของเคส และซอฟต์แวร์ พร้อมเชิญชวนผู้สนใจเข้ามามีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนา Kernel, PCB Designer, UI Designer หรือ Embedded Engineer 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Linux Platform Kit ถูกสร้างโดยกลุ่มวิศวกรที่พบกันใน Reddit ➡️ ใช้ชิป STM32MP157 และรัน Debian Linux ได้ทันที ➡️ รองรับการเชื่อมต่อหลากหลาย เช่น Ethernet, CAN Bus, UART, I2C, SPI ➡️ มีโมดูลเสริม เช่น LoRa Radio, มัลติมิเตอร์, Logic Analyzer ➡️ เปิดซอร์สโค้ดทั้งหมดบน GitHub ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ หากไม่อัปเดตหรือปรับแต่งระบบอย่างถูกต้อง อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้กับโมดูลเสริม ⛔ การใช้งานโดยไม่มีการตรวจสอบความปลอดภัยของโมดูลเสริม อาจเสี่ยงต่อการทำงานผิดพลาด ⛔ ผู้ใช้ที่ไม่คุ้นเคยกับ Embedded Linux อาจเจอความซับซ้อนในการตั้งค่าเริ่มต้น https://itsfoss.com/news/linux-platform-kit/
    ITSFOSS.COM
    Reddit Strangers Built an Open Source Linux Handheld, And They Want Your Help
    A fully modular development tool that you can build, modify, and extend yourself.
    0 Comments 0 Shares 165 Views 0 Reviews
  • Lisuan 7G106: GPU จีนรุ่นใหม่ อาจจะรองรับ Windows on ARM (WoA) เป็นเจ้าแรก

    บริษัทจีนชื่อ Lisuan เตรียมเปิดตัวการ์ดจอ 7G106 (6nm) ที่อาจเป็น GPU ตัวแรกของโลกที่รองรับ Windows on ARM (WoA) ก่อนทั้ง NVIDIA และ AMD โดยจับคู่กับซีพียู ARMv9 ของจีน และอยู่ระหว่างการผลิตเพื่อวางขายในไตรมาสแรกปี 2026

    Lisuan เปิดเผยว่า 7G106 Gaming GPU ผลิตบนเทคโนโลยี TSMC N6 (6nm) มีหน่วยความจำ 12GB GDDR6 บัส 192-bit รองรับ PCIe 4.0 x16 และใช้พลังงานสูงสุด 225W จุดเด่นคือการออกแบบเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA GeForce RTX 60-series โดยมีจำนวน 192 TMUs และ 96 ROPs

    รองรับ Windows on ARM เป็นครั้งแรก
    สิ่งที่ทำให้ 7G106 น่าสนใจคือการถูกทดสอบร่วมกับซีพียู ARMv9 CP8180 (12 คอร์, 3.2 GHz) และสามารถรัน Windows on ARM ได้จริง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ GPU แบบ discrete รองรับ WoA ซึ่งปกติถูกจำกัดอยู่ในโน้ตบุ๊กที่ใช้ Snapdragon X Elite เท่านั้น

    ความท้าทายด้านการผลิต
    แม้จะใช้เทคโนโลยี TSMC N6 แต่เนื่องจากข้อจำกัดด้านการส่งออกชิปไปจีน ทำให้ Lisuan อาจต้องหันไปใช้ SMIC 6nm ในอนาคต การเปลี่ยนแหล่งผลิตอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพและต้นทุน แต่ Lisuan ยืนยันว่ากำลังเข้าสู่การผลิตจำนวนมากแล้ว

    ผลกระทบต่อการแข่งขัน GPU โลก
    การที่ Lisuanสามารถเปิดตัว GPU ที่รองรับ WoA ก่อน NVIDIA และ AMD อาจทำให้ตลาด ARM-based PC ในจีนเติบโตเร็วขึ้น และสร้างแรงกดดันให้ผู้ผลิตตะวันตกต้องเร่งพัฒนาไดรเวอร์สำหรับ WoA หาก Lisuanทำสำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนเกมในตลาดที่ ARM กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Lisuan 7G106 GPU ผลิตบน TSMC N6
    12GB GDDR6, PCIe 4.0, 225W TDP

    รองรับ Windows on ARM เป็นครั้งแรก
    ทดสอบกับซีพียู ARMv9 CP8180 และ WoA desktop environment

    กำลังเข้าสู่การผลิตจำนวนมาก
    คาดเปิดตัวในไตรมาสแรกปี 2026

    ข้อจำกัดด้านการผลิตจาก TSMC
    อาจต้องเปลี่ยนไปใช้ SMIC 6nm ในอนาคต

    NVIDIA และ AMD ยังไม่รองรับ WoA บน dGPU
    Lisuanอาจได้เปรียบในตลาด ARM-based PC

    https://wccftech.com/the-first-gpu-to-support-windows-on-arm-may-not-come-from-nvidia-or-amd-but-from-china-lisuan/
    🇨🇳 Lisuan 7G106: GPU จีนรุ่นใหม่ อาจจะรองรับ Windows on ARM (WoA) เป็นเจ้าแรก บริษัทจีนชื่อ Lisuan เตรียมเปิดตัวการ์ดจอ 7G106 (6nm) ที่อาจเป็น GPU ตัวแรกของโลกที่รองรับ Windows on ARM (WoA) ก่อนทั้ง NVIDIA และ AMD โดยจับคู่กับซีพียู ARMv9 ของจีน และอยู่ระหว่างการผลิตเพื่อวางขายในไตรมาสแรกปี 2026 Lisuan เปิดเผยว่า 7G106 Gaming GPU ผลิตบนเทคโนโลยี TSMC N6 (6nm) มีหน่วยความจำ 12GB GDDR6 บัส 192-bit รองรับ PCIe 4.0 x16 และใช้พลังงานสูงสุด 225W จุดเด่นคือการออกแบบเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA GeForce RTX 60-series โดยมีจำนวน 192 TMUs และ 96 ROPs 🐧 รองรับ Windows on ARM เป็นครั้งแรก สิ่งที่ทำให้ 7G106 น่าสนใจคือการถูกทดสอบร่วมกับซีพียู ARMv9 CP8180 (12 คอร์, 3.2 GHz) และสามารถรัน Windows on ARM ได้จริง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ GPU แบบ discrete รองรับ WoA ซึ่งปกติถูกจำกัดอยู่ในโน้ตบุ๊กที่ใช้ Snapdragon X Elite เท่านั้น 🔋 ความท้าทายด้านการผลิต แม้จะใช้เทคโนโลยี TSMC N6 แต่เนื่องจากข้อจำกัดด้านการส่งออกชิปไปจีน ทำให้ Lisuan อาจต้องหันไปใช้ SMIC 6nm ในอนาคต การเปลี่ยนแหล่งผลิตอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพและต้นทุน แต่ Lisuan ยืนยันว่ากำลังเข้าสู่การผลิตจำนวนมากแล้ว ⚠️ ผลกระทบต่อการแข่งขัน GPU โลก การที่ Lisuanสามารถเปิดตัว GPU ที่รองรับ WoA ก่อน NVIDIA และ AMD อาจทำให้ตลาด ARM-based PC ในจีนเติบโตเร็วขึ้น และสร้างแรงกดดันให้ผู้ผลิตตะวันตกต้องเร่งพัฒนาไดรเวอร์สำหรับ WoA หาก Lisuanทำสำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนเกมในตลาดที่ ARM กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Lisuan 7G106 GPU ผลิตบน TSMC N6 ➡️ 12GB GDDR6, PCIe 4.0, 225W TDP ✅ รองรับ Windows on ARM เป็นครั้งแรก ➡️ ทดสอบกับซีพียู ARMv9 CP8180 และ WoA desktop environment ✅ กำลังเข้าสู่การผลิตจำนวนมาก ➡️ คาดเปิดตัวในไตรมาสแรกปี 2026 ‼️ ข้อจำกัดด้านการผลิตจาก TSMC ⛔ อาจต้องเปลี่ยนไปใช้ SMIC 6nm ในอนาคต ‼️ NVIDIA และ AMD ยังไม่รองรับ WoA บน dGPU ⛔ Lisuanอาจได้เปรียบในตลาด ARM-based PC https://wccftech.com/the-first-gpu-to-support-windows-on-arm-may-not-come-from-nvidia-or-amd-but-from-china-lisuan/
    WCCFTECH.COM
    The First Discrete GPU to Support “Windows on ARM” May Not Come From NVIDIA or AMD, but From China’s Lisuan
    Lisuan is expected to introduce its 7G106 gaming GPU soon, and it is reported to feature support for 'Windows on ARM' platform.
    0 Comments 0 Shares 206 Views 0 Reviews
  • NVIDIA 590 Beta: ก้าวใหม่ของการรองรับ Wayland

    ไดรเวอร์ NVIDIA 590 ได้ยกระดับการรองรับ Wayland โดยกำหนดให้ Wayland เวอร์ชันขั้นต่ำเป็น 1.20 และแก้ไขบั๊กที่ทำให้เมนู PowerMizer ใน nvidia-settings ไม่ทำงานบน Wayland สิ่งนี้ถือเป็นการปรับปรุงสำคัญ เนื่องจาก Wayland กำลังถูกผลักดันให้เป็นมาตรฐานใหม่แทน X11 ในหลายดิสโทร

    Vulkan Performance ดีขึ้น
    อีกหนึ่งจุดเด่นคือการปรับปรุงการจัดการ Vulkan swapchains ซึ่งช่วยลดอาการกระตุกเมื่อผู้ใช้ปรับขนาดหน้าต่างแอปพลิเคชันที่ใช้ Vulkan รวมถึงแก้ไขปัญหาที่ทำให้ Vulkan ไม่ทำงานบน Venus VirtIO virtual GPU สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ใช้ที่ทำงานด้านเกมและกราฟิกได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลมากขึ้น

    การแก้บั๊กที่สำคัญ
    แก้บั๊กที่ทำให้ระบบ ค้างบน PREEMPT_RT kernels
    แก้บั๊กการรายงาน DPI ที่ผิดพลาดบนบางจอ เช่น Samsung Odyssey Neo G9
    ยกระดับการรองรับ Xorg Server (ขั้นต่ำ 1.17) และ GNU C Library (glibc 2.27)

    ความหมายต่อผู้ใช้
    แม้จะเป็นเวอร์ชันเบต้าและยังไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อม Production แต่การปรับปรุงเหล่านี้สะท้อนว่า NVIDIA กำลังเดินหน้าสนับสนุน Wayland และ Vulkan อย่างจริงจัง ผู้ใช้ที่ชอบทดสอบฟีเจอร์ใหม่จะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีขึ้นทั้งในด้านเสถียรภาพและการทำงานกับจอภาพรุ่นใหม่ ๆ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การปรับปรุง Wayland
    กำหนด Wayland ขั้นต่ำเป็น 1.20
    แก้บั๊ก PowerMizer บน Wayland

    การปรับปรุง Vulkan
    Swapchains ทำงานได้ลื่นขึ้น ลดการกระตุก
    รองรับ Venus VirtIO virtual GPU

    การแก้บั๊กสำคัญ
    แก้ปัญหาค้างบน PREEMPT_RT kernels
    แก้การรายงาน DPI ผิดพลาดบนบางจอ
    ยกระดับการรองรับ Xorg และ glibc

    ผลต่อผู้ใช้
    ประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับเกมและงานกราฟิก
    รองรับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใหม่มากขึ้น

    คำเตือนด้านการใช้งาน
    เป็นเวอร์ชันเบต้า ไม่เหมาะกับ Production
    อาจยังมีบั๊กที่ไม่ถูกค้นพบ
    ผู้ใช้ทั่วไปควรรอเวอร์ชัน Stable ก่อนอัปเดต

    https://9to5linux.com/nvidia-590-linux-graphics-driver-enters-public-beta-with-better-wayland-support
    🖥️ NVIDIA 590 Beta: ก้าวใหม่ของการรองรับ Wayland ไดรเวอร์ NVIDIA 590 ได้ยกระดับการรองรับ Wayland โดยกำหนดให้ Wayland เวอร์ชันขั้นต่ำเป็น 1.20 และแก้ไขบั๊กที่ทำให้เมนู PowerMizer ใน nvidia-settings ไม่ทำงานบน Wayland สิ่งนี้ถือเป็นการปรับปรุงสำคัญ เนื่องจาก Wayland กำลังถูกผลักดันให้เป็นมาตรฐานใหม่แทน X11 ในหลายดิสโทร 🎮 Vulkan Performance ดีขึ้น อีกหนึ่งจุดเด่นคือการปรับปรุงการจัดการ Vulkan swapchains ซึ่งช่วยลดอาการกระตุกเมื่อผู้ใช้ปรับขนาดหน้าต่างแอปพลิเคชันที่ใช้ Vulkan รวมถึงแก้ไขปัญหาที่ทำให้ Vulkan ไม่ทำงานบน Venus VirtIO virtual GPU สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ใช้ที่ทำงานด้านเกมและกราฟิกได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลมากขึ้น 🛠️ การแก้บั๊กที่สำคัญ 🪛 แก้บั๊กที่ทำให้ระบบ ค้างบน PREEMPT_RT kernels 🪛 แก้บั๊กการรายงาน DPI ที่ผิดพลาดบนบางจอ เช่น Samsung Odyssey Neo G9 🪛 ยกระดับการรองรับ Xorg Server (ขั้นต่ำ 1.17) และ GNU C Library (glibc 2.27) 🔮 ความหมายต่อผู้ใช้ แม้จะเป็นเวอร์ชันเบต้าและยังไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อม Production แต่การปรับปรุงเหล่านี้สะท้อนว่า NVIDIA กำลังเดินหน้าสนับสนุน Wayland และ Vulkan อย่างจริงจัง ผู้ใช้ที่ชอบทดสอบฟีเจอร์ใหม่จะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีขึ้นทั้งในด้านเสถียรภาพและการทำงานกับจอภาพรุ่นใหม่ ๆ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การปรับปรุง Wayland ➡️ กำหนด Wayland ขั้นต่ำเป็น 1.20 ➡️ แก้บั๊ก PowerMizer บน Wayland ✅ การปรับปรุง Vulkan ➡️ Swapchains ทำงานได้ลื่นขึ้น ลดการกระตุก ➡️ รองรับ Venus VirtIO virtual GPU ✅ การแก้บั๊กสำคัญ ➡️ แก้ปัญหาค้างบน PREEMPT_RT kernels ➡️ แก้การรายงาน DPI ผิดพลาดบนบางจอ ➡️ ยกระดับการรองรับ Xorg และ glibc ✅ ผลต่อผู้ใช้ ➡️ ประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับเกมและงานกราฟิก ➡️ รองรับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใหม่มากขึ้น ‼️ คำเตือนด้านการใช้งาน ⛔ เป็นเวอร์ชันเบต้า ไม่เหมาะกับ Production ⛔ อาจยังมีบั๊กที่ไม่ถูกค้นพบ ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปควรรอเวอร์ชัน Stable ก่อนอัปเดต https://9to5linux.com/nvidia-590-linux-graphics-driver-enters-public-beta-with-better-wayland-support
    9TO5LINUX.COM
    NVIDIA 590 Linux Graphics Driver Enters Public Beta with Better Wayland Support - 9to5Linux
    NVIDIA 590 graphics driver series is now available for public beta testing with improved Wayland support and other changes.
    0 Comments 0 Shares 175 Views 0 Reviews
More Results