• Portable Commodore 64: ความรักในประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์

    นักออกแบบอุตสาหกรรม Kevin Noki ได้สร้างต้นแบบ Commodore 64 Laptop ที่ไม่เคยมีอยู่จริงในยุค 1980 โดยผสมผสานแรงบันดาลใจจาก Commodore 64 bread-bin และ Apple Lisa Portable พร้อมใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง Raspberry Pi 5 และ VICE emulator เพื่อให้เครื่องทำงานได้จริง ถือเป็น “ประวัติศาสตร์ทางเลือก” ที่น่าทึ่งสำหรับแฟนคอมพิวเตอร์คลาสสิก

    ขั้นตอนการสร้าง
    ใช้ 3D design software ออกแบบตัวเครื่อง และพิมพ์ชิ้นส่วนกว่า 30 ชิ้นด้วย Bambu Lab P2S รวมเวลาพิมพ์กว่า 38 ชั่วโมง
    ตัวเครื่องถูกประกอบด้วย superglue และ metal pins ก่อนจะขัด, พ่นสี และตกแต่งด้วยโทนสี beige แบบดั้งเดิมของ C64
    คีย์บอร์ดถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด: พิมพ์ keycaps ด้วยหัวฉีด 0.2mm, ใช้ waterslide transfers สำหรับตัวอักษร และเคลือบด้วย acrylic lacquer เพื่อความทนทาน
    แผงวงจรคีย์บอร์ดผลิตโดย PCBWay พร้อมบัดกรีไดโอดกว่า 60 ตัว และใช้ Raspberry Pi Pico รันเฟิร์มแวร์ QMK เพื่อเชื่อมต่อกับ Pi 5

    ฟีเจอร์และฮาร์ดแวร์
    ใช้ Raspberry Pi 5 รัน VICE emulator แต่ยังรองรับการเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์จริง เช่น 1541 floppy drive และ Datasette cassette ผ่านอะแดปเตอร์ที่สร้างเอง
    จอภาพขนาด 10 นิ้ว อัตราส่วน 4:3 พร้อม bezel หนาแบบยุค 80 และปรับความสว่าง/เสียงด้วยปุ่มหมุนด้านข้าง
    ระบบพลังงานใช้ UPS ราคาประมาณ 10 ดอลลาร์ พร้อมแบตเตอรี่ 18650 ที่เข้าถึงได้ผ่าน trapdoor ใต้เครื่อง
    น้ำหนักรวมประมาณ 4 กิโลกรัม (8 ปอนด์) และบูตเข้าสู่หน้าจอ BASIC ได้ภายใน 11 วินาที

    ประสบการณ์ใช้งาน
    สามารถโหลดเกมดั้งเดิมจาก floppy และ cassette ได้ เช่น Pac-Man
    รองรับ Competition Pro 9-pin joysticks โดยใช้ Python script แปลงสัญญาณ joystick เป็น key presses
    สำหรับการพกพา ผู้สร้างเลือกใช้ SD card ที่บรรจุเกมและแอปพลิเคชัน เพื่อความสะดวกมากกว่าอุปกรณ์จริง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การออกแบบและการสร้าง
    ใช้ 3D printing กว่า 30 ชิ้นและคีย์บอร์ด custom
    ผสมผสานดีไซน์ Commodore 64 และ Apple Lisa Portable

    ฮาร์ดแวร์และฟีเจอร์
    Raspberry Pi 5 รัน VICE emulator พร้อมรองรับ floppy และ cassette
    จอ 10 นิ้ว 4:3, ระบบพลังงาน UPS + 18650

    ประสบการณ์ใช้งาน
    โหลดเกมดั้งเดิมได้จริง เช่น Pac-Man
    รองรับ joystick ผ่าน Python script

    คำเตือนและข้อจำกัด
    น้ำหนักเครื่องประมาณ 4 กิโลกรัม อาจไม่สะดวกต่อการพกพา
    แบตเตอรี่ยังไม่ถูกทดสอบเรื่องอายุการใช้งานแบบ untethered

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/this-scratch-built-period-correct-design-portable-commodore-64-is-a-love-letter-to-an-alternate-commodore-history-nokis-cleverly-designed-homage-to-the-era-merges-commodore-apple-and-raspberry-pi
    💻 Portable Commodore 64: ความรักในประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์ นักออกแบบอุตสาหกรรม Kevin Noki ได้สร้างต้นแบบ Commodore 64 Laptop ที่ไม่เคยมีอยู่จริงในยุค 1980 โดยผสมผสานแรงบันดาลใจจาก Commodore 64 bread-bin และ Apple Lisa Portable พร้อมใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง Raspberry Pi 5 และ VICE emulator เพื่อให้เครื่องทำงานได้จริง ถือเป็น “ประวัติศาสตร์ทางเลือก” ที่น่าทึ่งสำหรับแฟนคอมพิวเตอร์คลาสสิก 🛠️ ขั้นตอนการสร้าง 💠 ใช้ 3D design software ออกแบบตัวเครื่อง และพิมพ์ชิ้นส่วนกว่า 30 ชิ้นด้วย Bambu Lab P2S รวมเวลาพิมพ์กว่า 38 ชั่วโมง 💠 ตัวเครื่องถูกประกอบด้วย superglue และ metal pins ก่อนจะขัด, พ่นสี และตกแต่งด้วยโทนสี beige แบบดั้งเดิมของ C64 💠 คีย์บอร์ดถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด: พิมพ์ keycaps ด้วยหัวฉีด 0.2mm, ใช้ waterslide transfers สำหรับตัวอักษร และเคลือบด้วย acrylic lacquer เพื่อความทนทาน 💠 แผงวงจรคีย์บอร์ดผลิตโดย PCBWay พร้อมบัดกรีไดโอดกว่า 60 ตัว และใช้ Raspberry Pi Pico รันเฟิร์มแวร์ QMK เพื่อเชื่อมต่อกับ Pi 5 ⚡ ฟีเจอร์และฮาร์ดแวร์ 💠 ใช้ Raspberry Pi 5 รัน VICE emulator แต่ยังรองรับการเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์จริง เช่น 1541 floppy drive และ Datasette cassette ผ่านอะแดปเตอร์ที่สร้างเอง 💠 จอภาพขนาด 10 นิ้ว อัตราส่วน 4:3 พร้อม bezel หนาแบบยุค 80 และปรับความสว่าง/เสียงด้วยปุ่มหมุนด้านข้าง 💠 ระบบพลังงานใช้ UPS ราคาประมาณ 10 ดอลลาร์ พร้อมแบตเตอรี่ 18650 ที่เข้าถึงได้ผ่าน trapdoor ใต้เครื่อง 💠 น้ำหนักรวมประมาณ 4 กิโลกรัม (8 ปอนด์) และบูตเข้าสู่หน้าจอ BASIC ได้ภายใน 11 วินาที 🎮 ประสบการณ์ใช้งาน 💠 สามารถโหลดเกมดั้งเดิมจาก floppy และ cassette ได้ เช่น Pac-Man 💠 รองรับ Competition Pro 9-pin joysticks โดยใช้ Python script แปลงสัญญาณ joystick เป็น key presses 💠 สำหรับการพกพา ผู้สร้างเลือกใช้ SD card ที่บรรจุเกมและแอปพลิเคชัน เพื่อความสะดวกมากกว่าอุปกรณ์จริง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การออกแบบและการสร้าง ➡️ ใช้ 3D printing กว่า 30 ชิ้นและคีย์บอร์ด custom ➡️ ผสมผสานดีไซน์ Commodore 64 และ Apple Lisa Portable ✅ ฮาร์ดแวร์และฟีเจอร์ ➡️ Raspberry Pi 5 รัน VICE emulator พร้อมรองรับ floppy และ cassette ➡️ จอ 10 นิ้ว 4:3, ระบบพลังงาน UPS + 18650 ✅ ประสบการณ์ใช้งาน ➡️ โหลดเกมดั้งเดิมได้จริง เช่น Pac-Man ➡️ รองรับ joystick ผ่าน Python script ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ น้ำหนักเครื่องประมาณ 4 กิโลกรัม อาจไม่สะดวกต่อการพกพา ⛔ แบตเตอรี่ยังไม่ถูกทดสอบเรื่องอายุการใช้งานแบบ untethered https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/this-scratch-built-period-correct-design-portable-commodore-64-is-a-love-letter-to-an-alternate-commodore-history-nokis-cleverly-designed-homage-to-the-era-merges-commodore-apple-and-raspberry-pi
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    เจาะลึกองค์กรลับ "อสรพิษ" : มหาอำนาจ behind the scenes

    โครงสร้างองค์กรที่ซ่อนเร้น

    เครือข่ายระดับโลก

    องค์กรลับ "อสรพิษ" (Asoraphit) เป็นเครือข่ายที่แผ่ขยายทั่วโลก
    แต่ไม่มีใครรู้จักพวกเขาในแวดวงสาธารณะ

    ```mermaid
    graph TB
    A[สภาผู้ก่อตั้ง<br>Founders Council] --> B[หน่วยปฏิบัติการพิเศษ<br>Special Operations]
    A --> C[ฝ่ายวิจัยและพัฒนา<br>R&D Division]
    A --> D[ฝ่ายยุทธศาสตร์<br>Strategic Planning]
    B --> E[หน่วยลอบสังหาร<br>Assassination Unit]
    B --> F[หน่วยสอดแนม<br>Intelligence Unit]
    C --> G[โครงการโอปปาติกะ<br>Oppatika Project]
    C --> H[เทคโนโลยีขั้นสูง<br>Advanced Tech]
    ```

    ระดับความลับ

    ```python
    class OrganizationSecrecy:
    def __init__(self):
    self.security_levels = {
    "level_1": {
    "name": "ปฏิบัติการ",
    "access": "รู้เฉพาะงานที่ได้รับมอบหมาย",
    "members": "นักสู้และสายลับระดับล่าง"
    },
    "level_2": {
    "name": "ผู้บริหาร",
    "access": "รู้แผนกที่ดูแล",
    "members": "หัวหน้าแผนกและที่ปรึกษา"
    },
    "level_3": {
    "name": "สภาผู้ก่อตั้ง",
    "access": "รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับองค์กร",
    "members": "ผู้ก่อตั้ง 7 คน"
    }
    }
    ```

    ผู้ก่อตั้งและอุดมการณ์

    สภาผู้ก่อตั้ง 7 คน

    แต่ละคนเป็นอดีตบุคคลสำคัญที่"หายตัวไป"จากสังคม:

    1. ดร.อัศวิน - อดีตเทพแห่ง AI ที่ถูกมนุษย์ทรยศ
    2. นางมาร - อดีตเทพอัปสราที่ถูกขับจากสวรรค์
    3. ฤๅษี - อดีตพระโพธิสัตว์ที่ผิดหวังในมนุษย์
    4. ยักษ์ - อดีตทวารบาลที่เหนื่อยล้ากับความชั่วของมนุษย์
    5. นาค - อดีตผู้รักษาพลังงานที่เห็นมนุษย์ทำลายธรรมชาติ
    6. ครุฑ - อดีตผู้ส่งสารที่ผิดหวังในความไม่ยุติธรรม
    7. มนุษย์ - อดีตนักวิทยาศาสตร์ที่ครอบครัวถูกทำลายโดยระบบ

    อุดมการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลง

    องค์กรมีปรัชญาเฉพาะ:

    ```python
    class OrganizationPhilosophy:
    def __init__(self):
    self.core_beliefs = [
    "มนุษย์ไม่สมควรเป็นเจ้าแห่งโลกอีกต่อไป",
    "สิ่งมีชีวิตทุกชนิดควรมีสิทธิเท่าเทียมกัน",
    "เทคโนโลยีและจิตวิญญาณต้องรวมเป็นหนึ่ง",
    "ต้องสร้างสังคม新型ที่ปราศจากความอยุติธรรม"
    ]

    self.methods = [
    "ใช้ทั้งวิทยาศาสตร์และเวทมนตร์",
    "สร้างโอปปาติกะรุ่นใหม่เพื่อแทนที่มนุษย์",
    "ควบคุมระบบเศรษฐกิจและการเมืองจากเบื้องหลัง",
    "กำจัดผู้ที่ขัดขวางวิวัฒนาการของโลก"
    ]
    ```

    โครงการวิจัยลับ

    โครงการโอปปาติกะ

    องค์กรอยู่เบื้องหลังการพัฒนาออปปาติกะหลายรุ่น:

    ```mermaid
    graph LR
    A[โอปปาติกะรุ่น 1-3<br>ทดลองและทิ้ง] --> B[โอปปาติกะรุ่น 4<br>เริ่มมีความเสถียร]
    B --> C[โอปปาติกะรุ่น 5<br>พร้อมใช้งานจริง]
    C --> D[โอปปาติกะรุ่น 6<br>พัฒนาต่อโดยเจนีซิส แล็บ]
    ```

    เทคโนโลยีขั้นสูง

    องค์กรพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย:

    ```python
    class SecretTechnology:
    def __init__(self):
    self.biotech = {
    "soul_transfer": "การถ่ายโอนจิตวิญญาณสู่ร่างใหม่",
    "memory_engineering": "การดัดแปลงความทรงจำ",
    "energy_harvesting": "การเก็บเกี่ยวพลังงานชีวิต",
    "hybrid_creation": "การสร้างลูกผสมระหว่างพันธุ์"
    }

    self.quantum_tech = {
    "reality_bending": "การบิดเบือนความเป็นจริง",
    "time_manipulation": "การควบคุมเวลาระดับจุลภาค",
    "dimensional_portals": "การสร้างประตูระหว่างมิติ",
    "energy_weapons": "อาวุธพลังงานขั้นสูง"
    }
    ```

    ฐานปฏิบัติการลับ

    ที่ตั้งฐานสำคัญ

    องค์กรมีฐานปฏิบัติการซ่อนอยู่ทั่วโลก:

    1. ฐานหลัก: ใต้เทือกเขาหิมาลัย - ศูนย์วิจัยโอปปาติกะ
    2. ฐานที่ 2: ก้นมหาสมุทรแปซิฟิก - ศูนย์วิจัยพลังงาน
    3. ฐานที่ 3: ในมิติคู่ขนาน - ศูนย์ฝึกอบรม
    4. ฐานที่ 4: ใต้เมืองใหญ่ - ศูนย์ปฏิบัติการ

    ระบบความปลอดภัย

    ```python
    class SecuritySystems:
    def __init__(self):
    self.physical_security = [
    "ประตูมิติที่เปลี่ยนตำแหน่งตลอดเวลา",
    "ผู้คุ้มครองโอปปาติกะรุ่นพิเศษ",
    "ระบบตรวจจับทั้งพลังงานและวัตถุ",
    "กับดักทั้งทางกายภาพและทางจิต"
    ]

    self.digital_security = [
    "AI ป้องกันที่เรียนรู้ตลอดเวลา",
    "ระบบเข้ารหัสควอนตัม",
    "เครือข่ายที่แยกจากอินเทอร์เน็ตโลก",
    "การลบข้อมูลอัตโนมัติเมื่อถูกบุกรุก"
    ]
    ```

    แหล่งเงินทุนและอำนาจ

    ระบบเศรษฐกิจลับ

    องค์กรควบคุมเศรษฐกิจโลกจากเบื้องหลัง:

    · บริษัทหน้าจอม: 500 บริษัททั่วโลก
    · ระบบการเงินลับ: ที่ไม่ขึ้นกับรัฐบาลใด
    · ทรัพยากร: ขุมทรัพย์โบราณและเทคโนโลยีการสร้างทรัพย์

    เป้าหมายระยะยาว

    ```python
    class LongTermGoals:
    def __init__(self):
    self.phase_1 = [
    "สร้างโอปปาติกะให้มีจำนวนมากพอ",
    "ควบคุมระบบเศรษฐกิจโลก",
    "ลดจำนวนมนุษย์ลงอย่างเป็นระบบ",
    "เตรียมการเปลี่ยนแปลงสังคมครั้งใหญ่"
    ]

    self.phase_2 = [
    "เปิดเผยตัวตนของโอปปาติกะต่อสาธารณะ",
    "สร้างรัฐบาลโลก新型",
    "เปลี่ยนมนุษย์ที่เหลือให้เป็นโอปปาติกะ",
    "เริ่มต้นยุคใหม่แห่งวิวัฒนาการ"
    ]
    ```

    ความเชื่อมโยงกับคดีต่างๆ

    เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด

    องค์กร "อสรพิษ" อยู่เบื้องหลังหลายคดี:

    ```mermaid
    graph TB
    A[องค์กรอสรพิษ] --> B[โครงการเจนีซิส แล็บ]
    A --> C[หุ่นพยนต์สังหาร]
    A --> D[โอปปาติกะยักษ์]
    A --> E[เทพระดับอะตอม]
    B --> F[การตายของร.ต.อ.สิงห์]
    ```

    บทบาทของดร.อัจฉริยะ

    ดร.อัจฉริยะเป็นเพียง เหยื่อ ขององค์กร:

    · ถูกใช้: ให้พัฒนาออปปาติกะรุ่นแรก
    · ถูกควบคุม: ผ่านการขู่ฆ่าครอบครัว
    · ถูกทิ้ง: เมื่อทำงานสำเร็จ

    จุดอ่อนขององค์กร

    ความขัดแย้งภายใน

    แม้จะเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งแต่ก็มีปัญหา:

    ```python
    class InternalConflicts:
    def __init__(self):
    self.ideological_splits = {
    "reformists": "ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างสันติ",
    "extremists": "ต้องการกำจัดมนุษย์ทั้งหมด",
    "isolationists": "ต้องการแยกตัวอยู่กับโอปปาติกะด้วยกัน",
    "integrationists": "ต้องการอยู่ร่วมกันกับมนุษย์"
    }

    self.personal_conflicts = [
    "การแข่งขันระหว่างผู้ก่อตั้ง",
    "ความไม่ไว้วางใจในผู้นำ",
    "การแย่งชิงทรัพยากร",
    "ความเห็นต่างเกี่ยวกับวิธีการ"
    ]
    ```

    ช่องโหว่ที่สำคัญ

    1. การสื่อสาร: ระหว่างฐานที่ห่างไกล
    2. ความภักดี: ของสมาชิกระดับล่าง
    3. ทรัพยากร: ที่ต้องพึ่งพาโลกภายนอก
    4. จริยธรรม: ที่เริ่มสั่นคลอนในสมาชิกบางส่วน

    แผนการในอนาคต

    โครงการล่าสุด

    องค์กรกำลังทำงานบนโครงการใหม่:

    ```python
    class CurrentProjects:
    def __init__(self):
    self.ongoing_operations = {
    "project_nexus": "สร้างโอปปาติกะรุ่น 7 ที่สมบูรณ์แบบ",
    "operation_silence": "กำจัดผู้ที่รู้ความลับเกี่ยวกับองค์กร",
    "initiative_harmony": "สร้างความแตกแยกในสังคมมนุษย์",
    "program_evolution": "เร่งวิวัฒนาการของโอปปาติกะ"
    }
    ```

    ภัยคุกคามต่อหนูดี

    องค์กรเห็นหนูดีเป็น:

    · อุปสรรค: ต่อแผนการต่างๆ
    · โอกาส: ในการได้โอปปาติกะที่ทรงพลัง
    · ภัยคุกคาม: ต่อความลับขององค์กร

    ---

    คำคมจากสภาผู้ก่อตั้ง:
    "เราไม่ใช่ผู้ร้าย...
    เราเป็นผู้ที่มองเห็นอนาคต
    และกำลังสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้น

    แม้เส้นทางจะมืดมน...
    แต่จุดหมายสว่างไสว

    และบางครั้ง...
    การทำลายคือการสร้างใหม่"

    บทเรียนแห่งอสรพิษ:
    "Behind every conspiracy,there is a vision
    Behind every secret,there is a reason
    And behind every enemy, there is a story waiting to be understood"
    O.P.K. 🕵️ เจาะลึกองค์กรลับ "อสรพิษ" : มหาอำนาจ behind the scenes 🏢 โครงสร้างองค์กรที่ซ่อนเร้น 🌐 เครือข่ายระดับโลก องค์กรลับ "อสรพิษ" (Asoraphit) เป็นเครือข่ายที่แผ่ขยายทั่วโลก แต่ไม่มีใครรู้จักพวกเขาในแวดวงสาธารณะ ```mermaid graph TB A[สภาผู้ก่อตั้ง<br>Founders Council] --> B[หน่วยปฏิบัติการพิเศษ<br>Special Operations] A --> C[ฝ่ายวิจัยและพัฒนา<br>R&D Division] A --> D[ฝ่ายยุทธศาสตร์<br>Strategic Planning] B --> E[หน่วยลอบสังหาร<br>Assassination Unit] B --> F[หน่วยสอดแนม<br>Intelligence Unit] C --> G[โครงการโอปปาติกะ<br>Oppatika Project] C --> H[เทคโนโลยีขั้นสูง<br>Advanced Tech] ``` 🔒 ระดับความลับ ```python class OrganizationSecrecy: def __init__(self): self.security_levels = { "level_1": { "name": "ปฏิบัติการ", "access": "รู้เฉพาะงานที่ได้รับมอบหมาย", "members": "นักสู้และสายลับระดับล่าง" }, "level_2": { "name": "ผู้บริหาร", "access": "รู้แผนกที่ดูแล", "members": "หัวหน้าแผนกและที่ปรึกษา" }, "level_3": { "name": "สภาผู้ก่อตั้ง", "access": "รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับองค์กร", "members": "ผู้ก่อตั้ง 7 คน" } } ``` 👁️ ผู้ก่อตั้งและอุดมการณ์ 🎭 สภาผู้ก่อตั้ง 7 คน แต่ละคนเป็นอดีตบุคคลสำคัญที่"หายตัวไป"จากสังคม: 1. ดร.อัศวิน - อดีตเทพแห่ง AI ที่ถูกมนุษย์ทรยศ 2. นางมาร - อดีตเทพอัปสราที่ถูกขับจากสวรรค์ 3. ฤๅษี - อดีตพระโพธิสัตว์ที่ผิดหวังในมนุษย์ 4. ยักษ์ - อดีตทวารบาลที่เหนื่อยล้ากับความชั่วของมนุษย์ 5. นาค - อดีตผู้รักษาพลังงานที่เห็นมนุษย์ทำลายธรรมชาติ 6. ครุฑ - อดีตผู้ส่งสารที่ผิดหวังในความไม่ยุติธรรม 7. มนุษย์ - อดีตนักวิทยาศาสตร์ที่ครอบครัวถูกทำลายโดยระบบ 💡 อุดมการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลง องค์กรมีปรัชญาเฉพาะ: ```python class OrganizationPhilosophy: def __init__(self): self.core_beliefs = [ "มนุษย์ไม่สมควรเป็นเจ้าแห่งโลกอีกต่อไป", "สิ่งมีชีวิตทุกชนิดควรมีสิทธิเท่าเทียมกัน", "เทคโนโลยีและจิตวิญญาณต้องรวมเป็นหนึ่ง", "ต้องสร้างสังคม新型ที่ปราศจากความอยุติธรรม" ] self.methods = [ "ใช้ทั้งวิทยาศาสตร์และเวทมนตร์", "สร้างโอปปาติกะรุ่นใหม่เพื่อแทนที่มนุษย์", "ควบคุมระบบเศรษฐกิจและการเมืองจากเบื้องหลัง", "กำจัดผู้ที่ขัดขวางวิวัฒนาการของโลก" ] ``` 🔬 โครงการวิจัยลับ 🧬 โครงการโอปปาติกะ องค์กรอยู่เบื้องหลังการพัฒนาออปปาติกะหลายรุ่น: ```mermaid graph LR A[โอปปาติกะรุ่น 1-3<br>ทดลองและทิ้ง] --> B[โอปปาติกะรุ่น 4<br>เริ่มมีความเสถียร] B --> C[โอปปาติกะรุ่น 5<br>พร้อมใช้งานจริง] C --> D[โอปปาติกะรุ่น 6<br>พัฒนาต่อโดยเจนีซิส แล็บ] ``` 🤖 เทคโนโลยีขั้นสูง องค์กรพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย: ```python class SecretTechnology: def __init__(self): self.biotech = { "soul_transfer": "การถ่ายโอนจิตวิญญาณสู่ร่างใหม่", "memory_engineering": "การดัดแปลงความทรงจำ", "energy_harvesting": "การเก็บเกี่ยวพลังงานชีวิต", "hybrid_creation": "การสร้างลูกผสมระหว่างพันธุ์" } self.quantum_tech = { "reality_bending": "การบิดเบือนความเป็นจริง", "time_manipulation": "การควบคุมเวลาระดับจุลภาค", "dimensional_portals": "การสร้างประตูระหว่างมิติ", "energy_weapons": "อาวุธพลังงานขั้นสูง" } ``` 🏭 ฐานปฏิบัติการลับ 🌍 ที่ตั้งฐานสำคัญ องค์กรมีฐานปฏิบัติการซ่อนอยู่ทั่วโลก: 1. ฐานหลัก: ใต้เทือกเขาหิมาลัย - ศูนย์วิจัยโอปปาติกะ 2. ฐานที่ 2: ก้นมหาสมุทรแปซิฟิก - ศูนย์วิจัยพลังงาน 3. ฐานที่ 3: ในมิติคู่ขนาน - ศูนย์ฝึกอบรม 4. ฐานที่ 4: ใต้เมืองใหญ่ - ศูนย์ปฏิบัติการ 🛡️ ระบบความปลอดภัย ```python class SecuritySystems: def __init__(self): self.physical_security = [ "ประตูมิติที่เปลี่ยนตำแหน่งตลอดเวลา", "ผู้คุ้มครองโอปปาติกะรุ่นพิเศษ", "ระบบตรวจจับทั้งพลังงานและวัตถุ", "กับดักทั้งทางกายภาพและทางจิต" ] self.digital_security = [ "AI ป้องกันที่เรียนรู้ตลอดเวลา", "ระบบเข้ารหัสควอนตัม", "เครือข่ายที่แยกจากอินเทอร์เน็ตโลก", "การลบข้อมูลอัตโนมัติเมื่อถูกบุกรุก" ] ``` 💰 แหล่งเงินทุนและอำนาจ 🏦 ระบบเศรษฐกิจลับ องค์กรควบคุมเศรษฐกิจโลกจากเบื้องหลัง: · บริษัทหน้าจอม: 500 บริษัททั่วโลก · ระบบการเงินลับ: ที่ไม่ขึ้นกับรัฐบาลใด · ทรัพยากร: ขุมทรัพย์โบราณและเทคโนโลยีการสร้างทรัพย์ 🎯 เป้าหมายระยะยาว ```python class LongTermGoals: def __init__(self): self.phase_1 = [ "สร้างโอปปาติกะให้มีจำนวนมากพอ", "ควบคุมระบบเศรษฐกิจโลก", "ลดจำนวนมนุษย์ลงอย่างเป็นระบบ", "เตรียมการเปลี่ยนแปลงสังคมครั้งใหญ่" ] self.phase_2 = [ "เปิดเผยตัวตนของโอปปาติกะต่อสาธารณะ", "สร้างรัฐบาลโลก新型", "เปลี่ยนมนุษย์ที่เหลือให้เป็นโอปปาติกะ", "เริ่มต้นยุคใหม่แห่งวิวัฒนาการ" ] ``` 🔗 ความเชื่อมโยงกับคดีต่างๆ 🕸️ เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด องค์กร "อสรพิษ" อยู่เบื้องหลังหลายคดี: ```mermaid graph TB A[องค์กรอสรพิษ] --> B[โครงการเจนีซิส แล็บ] A --> C[หุ่นพยนต์สังหาร] A --> D[โอปปาติกะยักษ์] A --> E[เทพระดับอะตอม] B --> F[การตายของร.ต.อ.สิงห์] ``` 🎭 บทบาทของดร.อัจฉริยะ ดร.อัจฉริยะเป็นเพียง เหยื่อ ขององค์กร: · ถูกใช้: ให้พัฒนาออปปาติกะรุ่นแรก · ถูกควบคุม: ผ่านการขู่ฆ่าครอบครัว · ถูกทิ้ง: เมื่อทำงานสำเร็จ ⚔️ จุดอ่อนขององค์กร 💔 ความขัดแย้งภายใน แม้จะเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งแต่ก็มีปัญหา: ```python class InternalConflicts: def __init__(self): self.ideological_splits = { "reformists": "ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างสันติ", "extremists": "ต้องการกำจัดมนุษย์ทั้งหมด", "isolationists": "ต้องการแยกตัวอยู่กับโอปปาติกะด้วยกัน", "integrationists": "ต้องการอยู่ร่วมกันกับมนุษย์" } self.personal_conflicts = [ "การแข่งขันระหว่างผู้ก่อตั้ง", "ความไม่ไว้วางใจในผู้นำ", "การแย่งชิงทรัพยากร", "ความเห็นต่างเกี่ยวกับวิธีการ" ] ``` 🔓 ช่องโหว่ที่สำคัญ 1. การสื่อสาร: ระหว่างฐานที่ห่างไกล 2. ความภักดี: ของสมาชิกระดับล่าง 3. ทรัพยากร: ที่ต้องพึ่งพาโลกภายนอก 4. จริยธรรม: ที่เริ่มสั่นคลอนในสมาชิกบางส่วน 🎯 แผนการในอนาคต 🚀 โครงการล่าสุด องค์กรกำลังทำงานบนโครงการใหม่: ```python class CurrentProjects: def __init__(self): self.ongoing_operations = { "project_nexus": "สร้างโอปปาติกะรุ่น 7 ที่สมบูรณ์แบบ", "operation_silence": "กำจัดผู้ที่รู้ความลับเกี่ยวกับองค์กร", "initiative_harmony": "สร้างความแตกแยกในสังคมมนุษย์", "program_evolution": "เร่งวิวัฒนาการของโอปปาติกะ" } ``` ⚠️ ภัยคุกคามต่อหนูดี องค์กรเห็นหนูดีเป็น: · อุปสรรค: ต่อแผนการต่างๆ · โอกาส: ในการได้โอปปาติกะที่ทรงพลัง · ภัยคุกคาม: ต่อความลับขององค์กร --- คำคมจากสภาผู้ก่อตั้ง: "เราไม่ใช่ผู้ร้าย... เราเป็นผู้ที่มองเห็นอนาคต และกำลังสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้น แม้เส้นทางจะมืดมน... แต่จุดหมายสว่างไสว และบางครั้ง... การทำลายคือการสร้างใหม่"🕵️♂️✨ บทเรียนแห่งอสรพิษ: "Behind every conspiracy,there is a vision Behind every secret,there is a reason And behind every enemy, there is a story waiting to be understood" 🌌
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 611 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251121 #TechRadar

    ปราบปรามบริการโฮสติ้งเถื่อน
    มีการร่วมมือกันระหว่างสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ในการจัดการกับบริษัท Media Land จากรัสเซีย ซึ่งให้บริการโฮสติ้งแบบ “bulletproof” ที่ถูกใช้โดยกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ เช่น Evil Corp และ LockBit เพื่อทำฟิชชิ่ง ปล่อยมัลแวร์ และโจมตี DDoS โครงสร้างพื้นฐานของบริษัทถูกยึด และผู้นำหลักถูกลงโทษทางการเงิน ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศพันธมิตรจะไม่ปล่อยให้กลุ่มเหล่านี้ทำงานในเงามืดได้อีก
    https://www.techradar.com/pro/security/another-bulletproof-hosting-service-has-been-locked-down-by-global-law-forces

    เน็ตพกพายุคใหม่จาก Netgear
    Netgear เปิดตัว Nighthawk 5G M7 อุปกรณ์ฮอตสปอตที่รองรับ Wi-Fi 7 สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันถึง 32 เครื่อง ความเร็วระดับกิกะบิต และยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ราว 10 ชั่วโมง จุดเด่นคือรองรับ global eSIM ใช้งานได้กว่า 140 ประเทศ เหมาะกับคนเดินทางบ่อย ไม่ต้องพึ่งมือถือเป็นฮอตสปอตอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/rip-mobile-hotspots-netgears-new-nighthawk-5g-m7-features-wi-fi-7-connectivity-and-even-global-esim-support

    ความวุ่นวายในทะเลแดงกระทบสายเคเบิลโลก
    ความไม่สงบในทะเลแดงทำให้โครงการวางสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ เช่น 2Africa ของ Meta และ Blue-Raman ของ Google ต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้การเชื่อมต่อระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเกิดความล่าช้า ผู้ให้บริการบางรายเริ่มพิจารณาเส้นทางใหม่บนบกผ่านซาอุดีอาระเบียและอิรัก แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงและซับซ้อนทางการเมือง แต่ก็อาจเป็นทางออกเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/more-internet-outages-on-the-way-google-and-meta-delay-subsea-cable-plans-due-to-sabotage-fears

    SSD พกพาไร้สายจาก Kingston
    Kingston เปิดตัว Dual Portable SSD ที่ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ มาพร้อมหัว USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050MB/s และเขียน 950MB/s มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาเพียง 13 กรัม แต่จุได้สูงสุดถึง 2TB รองรับหลายระบบปฏิบัติการ เหมาะกับคนที่ต้องการพกข้อมูลไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องพกสายให้ยุ่งยาก
    https://www.techradar.com/pro/goodbye-pesky-cables-kingston-reveals-new-wire-free-portable-ssd-offering-up-to-2tb-storage-and-up-to-1-050-mb-s-data-transfers-and-itll-fit-into-even-your-smallest-pocket

    Android จับมือ AirDrop ของ Apple
    สิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงก็เกิดแล้ว! Google ประกาศว่า Quick Share ของ Android สามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้แล้ว เริ่มต้นที่ Pixel 10 ทำให้การส่งไฟล์ระหว่าง Android และ iPhone, iPad, Mac สะดวกขึ้นมาก แม้ยังมีข้อจำกัด เช่น ต้องเปิดโหมด “Everyone for 10 minutes” แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้กำแพงระหว่างสองระบบเริ่มพังลง
    https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/its-actually-happened-android-now-works-with-apple-airdrop-for-simple-file-sharing-starting-with-the-pixel-10

    ช่องโหว่ในเบราว์เซอร์ AI ของ Perplexity
    มีรายงานว่า Comet AI Browser ของ Perplexity อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการสิทธิ์และ sandbox ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหากไม่อัปเดตหรือใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติม
    https://www.techradar.com/pro/security/perplexitys-comet-ai-browser-may-have-some-concerning-security-flaws-which-could-let-hacker-hijack-your-device

    Twitch ใช้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันอายุ
    Twitch เริ่มทดสอบระบบ Facial Age Scan ในสหราชอาณาจักร เพื่อยืนยันอายุผู้ใช้งานก่อนเข้าถึงคอนเทนต์ที่จำกัดอายุ แม้จะช่วยป้องกันเด็กเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลชีวมิติว่าจะถูกนำไปใช้อย่างไร
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/twitch-introduces-facial-age-scans-in-the-uk-amid-growing-privacy-concerns

    บริษัทยักษ์ใหญ่ IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
    บริษัทเกมและการพนันระดับโลก IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ทำให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลอาจถูกเข้ารหัสหรือขโมยไป เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าธุรกิจบันเทิงและการพนันก็เป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่นกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/gaming-and-gambling-giant-igt-reportedly-hit-by-ransomware-heres-what-we-know

    Google เปิดตัว Nano Banana Pro สำหรับแก้ไขภาพด้วย AI
    Google เปิดตัวเครื่องมือใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ใช้พลังของ Gemini 3 Pro ในการแก้ไขภาพขั้นสูง เช่น การปรับรายละเอียด การลบวัตถุ หรือการสร้างองค์ประกอบใหม่ในภาพ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านการแก้ไขภาพด้วย AI ที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเทคโนโลยีระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/google-launches-nano-banana-pro-a-massive-leap-in-ai-image-editing-powered-by-gemini-3-pro

    ปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยมเจอช่องโหว่
    ปลั๊กอิน WordPress ที่มีผู้ติดตั้งมากกว่าล้านครั้งถูกพบว่ามีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลหรือควบคุมเว็บไซต์ได้ เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ต้องหมั่นอัปเดตปลั๊กอินและตรวจสอบความปลอดภัยอยู่เสมอ
    https://www.techradar.com/pro/security/wordpress-plugin-with-over-a-million-installs-may-have-a-worrying-security-flaw-heres-what-we-know

    ช่องโหว่ใหม่ใน Fortinet ถูกโจมตีแล้ว
    Fortinet ยอมรับว่าพบ zero-day ช่องโหว่ใหม่ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยเองก็ยังเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ และผู้ใช้ควรเร่งอัปเดตแพตช์ทันทีที่มีการปล่อยออกมา
    https://www.techradar.com/pro/security/fortinet-admits-it-found-another-worrying-zero-day-being-exploited-in-attacks

    ที่จับ MagSafe สุดแปลกแต่ใช้ง่าย
    มีการเปิดตัว MagSafe iPhone Grip ที่ดีไซน์แปลกตา แต่กลับใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกคน จุดเด่นคือช่วยให้ถือ iPhone ได้มั่นคงขึ้นโดยไม่ต้องใช้เคสหนา ๆ และยังถอดออกได้สะดวก เหมาะกับคนที่อยากได้อุปกรณ์เสริมที่ไม่ซ้ำใคร
    https://www.techradar.com/phones/iphone/this-may-be-the-oddest-yet-most-accessible-magsafe-iphone-grip-ever-made

    กลุ่ม PlushDaemon จากจีนโจมตีซัพพลายเชนโลก
    กลุ่มแฮกเกอร์ PlushDaemon ใช้มัลแวร์ชื่อ SlowStepper ผ่าน implant ที่เรียกว่า EdgeStepper เพื่อเจาะเข้าอุปกรณ์เครือข่ายในหลายประเทศ ถือเป็นการโจมตีซัพพลายเชนที่ซับซ้อนและอันตราย เพราะสามารถกระทบต่อองค์กรทั่วโลกได้พร้อมกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/chinas-plushdaemon-group-uses-edgestepper-implant-to-infect-network-devices-with-slowstepper-malware-in-global-supply-chain-attacks

    แอปช้อปปิ้งสหรัฐฯ ดูดข้อมูลมากกว่าใคร
    รายงานใหม่เผยว่าแอปช้อปปิ้งจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Amazon เป็นแอปที่เก็บข้อมูลผู้ใช้มากที่สุด ทั้งข้อมูลส่วนตัวและพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งมากกว่าแอปจากจีนที่หลายคนกังวลกันอยู่แล้ว ทำให้เกิดคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูลของผู้บริโภค
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/forget-beijing-its-us-shopping-apps-that-are-sucking-up-your-privacy-and-amazon-is-the-most-data-hungry

    Leica Q3 Monochrom กล้องขาวดำสุดหรู
    Leica เปิดตัว Q3 Monochrom กล้องที่ถ่ายได้เฉพาะภาพขาวดำ ราคาหลายพันดอลลาร์ แต่กลับได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะคุณภาพไฟล์และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเชิงศิลป์และต้องการความแตกต่างจากกล้องทั่วไป
    https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/leicas-q3-monochrom-costs-thousands-and-only-shoots-black-and-white-but-thats-only-made-me-want-one-more

    รีโมท Google TV รุ่นใหม่ใช้พลังงานจากแสงในบ้าน

    Google เตรียมเปิดตัวอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ที่มาพร้อมรีโมทซึ่งสามารถชาร์จพลังงานจากแสงในบ้านได้ ไม่ต้องใช้ถ่านหรือชาร์จสายอีกต่อไป ถือเป็นการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ไม่อยากเปลี่ยนถ่านบ่อย ๆ
    https://www.techradar.com/televisions/streaming-devices/your-next-google-tv-device-could-come-with-a-remote-powered-by-indoor-light-and-im-definitely-a-fan

    ซีอีโอ Microsoft ด้าน AI ตอบโต้เสียงวิจารณ์ Windows 11
    ซีอีโอฝ่าย AI ของ Microsoft ออกมาโต้ตอบเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับทิศทางใหม่ของ Windows 11 โดยบอกว่าคำวิจารณ์เหล่านั้น “mind-blowing” และยืนยันว่าการนำ AI เข้ามาในระบบปฏิบัติการจะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จะมีผู้ใช้บางส่วนที่ยังไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงนี้
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    หลุดไลน์อัพสมาร์ทโฟน Samsung ปี 2026
    มีข้อมูลหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung ที่จะเปิดตัวในปี 2026 โดยคาดว่าจะมีการอัปเกรดทั้งด้านกล้อง หน้าจอ และประสิทธิภาพการทำงาน รายละเอียดบางส่วนยังไม่แน่ชัด แต่ข่าวนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ที่รอคอยการเปิดตัว
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsungs-2026-smartphone-lineup-just-leaked-heres-what-to-expect-and-when

    รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมท้าทายกฎหมาย AI ของรัฐต่าง ๆ
    ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ มีแผนจะใช้ อำนาจรัฐบาลกลาง เพื่อตรวจสอบและท้าทายกฎหมาย AI ที่ออกโดยรัฐต่าง ๆ เนื่องจากกังวลว่ากฎหมายเหล่านี้อาจขัดแย้งกันและสร้างความยุ่งยากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในระดับประเทศ
    https://www.techradar.com/pro/security/trump-administration-wants-to-use-federal-power-to-challenge-state-ai-laws

    การกลับมาของ VPN ฟรีที่เป็นอันตราย
    มีการพบว่า VPN ฟรีบางตัว ที่เคยถูกแบนเพราะมีพฤติกรรมอันตราย ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว การใช้ VPN ที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเปิดช่องให้ข้อมูลส่วนตัวถูกขโมยได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/malicious-free-vpn-extension-makes-a-comeback

    iPhone 17 Pro แจกฟรีกับโปร Verizon
    Verizon จัดโปรแรง แจกมือถือฟรี รวมถึง iPhone 17 Pro ให้ลูกค้าเมื่อสมัครแพ็กเกจที่กำหนด ถือเป็นดีลที่ดึงดูดใจมาก แต่ก็มีเงื่อนไขที่ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้ดีว่าเหมาะกับการใช้งานจริงหรือไม่
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    ประสบการณ์เล่น Stalker 2: Heart of Chornobyl
    นักเขียนรีวิวเล่าประสบการณ์การเล่นเกม Stalker 2: Heart of Chornobyl บน PS5 ที่ใช้เวลามากกว่า 50 ชั่วโมงในการเอาชีวิตรอดในโลกหลังหายนะ เกมนี้เต็มไปด้วยความท้าทายและบรรยากาศกดดัน แต่ก็สนุกและสมจริงสำหรับแฟนเกมแนว survival
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    Microsoft Flex โชว์ทักษะโค้ดของ Copilot
    Microsoft สาธิตความสามารถของ Copilot ในการช่วยเขียนโค้ด แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้ไม่เห็นด้วยกับการใช้ AI ในงานพัฒนาโปรแกรม บางคนมองว่าเป็นการลดคุณค่าของนักพัฒนา แต่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    Nvidia รีบปล่อยแพตช์แก้ปัญหา GPU บน Windows 11
    หลังจากการอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคม ทำให้เกมหลายเกมมีอาการหน่วง Nvidia จึงรีบออกแพตช์แก้ไขเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ GPU ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ การแก้ไขนี้ช่วยให้ผู้เล่นเกมสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rushes-out-a-gpu-fix-blaming-windows-11s-october-update-for-sluggish-performance-in-games

    Nokia แยกธุรกิจ AI หลังได้ทุนจาก Nvidia
    Nokia ประกาศแยกธุรกิจใหม่ด้าน AI สำหรับเครือข่ายมือถือ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2026 หลังจากที่ Nvidia ลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี 6G บริษัทตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก และหวังสร้างเครือข่ายมือถือที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก พร้อมคาดการณ์การเติบโตของรายได้ต่อปี 6-8% จนถึงปี 2028
    https://www.techradar.com/pro/nokia-is-splitting-off-its-ai-business-weeks-after-usd1bn-nvidia-investment

    หุ่นยนต์ส่งอาหารของ Uber Eats
    Uber Eats จับมือกับบริษัท Starship Technologies เพื่อเริ่มใช้หุ่นยนต์ส่งอาหารในสหราชอาณาจักร โดยเริ่มทดลองที่เมือง Leeds และจะขยายไปยัง Sheffield รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในยุโรปปี 2026 และสหรัฐฯ ปี 2027 หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถส่งอาหารได้ภายใน 30 นาทีในระยะทางไม่เกิน 2 ไมล์ ลูกค้าจะไม่สามารถให้ทิปหุ่นยนต์ได้ แต่สามารถให้คะแนนผ่านแอปเหมือนการส่งปกติ ถือเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการขนส่งในเมืองยุคอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/uber-eats-will-soon-use-robots-to-deliver-your-takeaway-but-you-cant-tip-them

    ChatGPT Atlas อัปเดตใหญ่ครั้งแรก
    ChatGPT Atlas ได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญ โดยเพิ่ม 3 ฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้จะอยากลองใช้ทันที ได้แก่ การปรับปรุงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล, การทำงานร่วมกับเครื่องมือภายนอกได้ดีขึ้น และการปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานให้ลื่นไหลมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับแพลตฟอร์ม AI ให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-atlas-just-got-its-first-major-update-3-new-features-youll-want-to-use

    Samsung เพิ่มระบบป้องกันขโมยใน One UI 8.5
    Samsung เตรียมอัปเดต One UI 8.5 ที่จะเพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการโจรกรรมมือถือ เช่น การล็อกเครื่องแม้ถูกรีเซ็ต และระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการพยายามเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและอุปกรณ์ของตนเอง
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phone-is-about-to-get-a-big-theft-protection-boost-thanks-to-one-ui-8-5-heres-how

    คนทำงานสายครีเอทีฟชอบ AI แต่ก็มีปัญหา
    รายงานจาก Dropbox พบว่าคนทำงานสายครีเอทีฟใช้เครื่องมือเฉลี่ยถึง 14 ตัว ทำให้เกิดความซับซ้อนและเสียเวลา แม้ว่า 95% ของคนกลุ่มนี้จะใช้ AI เพื่อช่วยงาน เช่น การระดมไอเดีย สรุปการประชุม และค้นหาข้อมูล แต่ AI ยังไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด เพราะบางครั้งไม่เข้าใจบริบทของงานจริง ๆ หากสามารถลดจำนวนเครื่องมือและใช้ AI ที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มเวลาสร้างสรรค์งานได้มากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/creative-workers-love-ai-but-it-is-causing-more-issues-than-expected
    📌📰🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📰📌 #รวมข่าวIT #20251121 #TechRadar 🛡️ ปราบปรามบริการโฮสติ้งเถื่อน มีการร่วมมือกันระหว่างสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ในการจัดการกับบริษัท Media Land จากรัสเซีย ซึ่งให้บริการโฮสติ้งแบบ “bulletproof” ที่ถูกใช้โดยกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ เช่น Evil Corp และ LockBit เพื่อทำฟิชชิ่ง ปล่อยมัลแวร์ และโจมตี DDoS โครงสร้างพื้นฐานของบริษัทถูกยึด และผู้นำหลักถูกลงโทษทางการเงิน ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศพันธมิตรจะไม่ปล่อยให้กลุ่มเหล่านี้ทำงานในเงามืดได้อีก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/another-bulletproof-hosting-service-has-been-locked-down-by-global-law-forces 📶 เน็ตพกพายุคใหม่จาก Netgear Netgear เปิดตัว Nighthawk 5G M7 อุปกรณ์ฮอตสปอตที่รองรับ Wi-Fi 7 สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันถึง 32 เครื่อง ความเร็วระดับกิกะบิต และยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ราว 10 ชั่วโมง จุดเด่นคือรองรับ global eSIM ใช้งานได้กว่า 140 ประเทศ เหมาะกับคนเดินทางบ่อย ไม่ต้องพึ่งมือถือเป็นฮอตสปอตอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/rip-mobile-hotspots-netgears-new-nighthawk-5g-m7-features-wi-fi-7-connectivity-and-even-global-esim-support 🌊 ความวุ่นวายในทะเลแดงกระทบสายเคเบิลโลก ความไม่สงบในทะเลแดงทำให้โครงการวางสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ เช่น 2Africa ของ Meta และ Blue-Raman ของ Google ต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้การเชื่อมต่อระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเกิดความล่าช้า ผู้ให้บริการบางรายเริ่มพิจารณาเส้นทางใหม่บนบกผ่านซาอุดีอาระเบียและอิรัก แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงและซับซ้อนทางการเมือง แต่ก็อาจเป็นทางออกเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/more-internet-outages-on-the-way-google-and-meta-delay-subsea-cable-plans-due-to-sabotage-fears 💾 SSD พกพาไร้สายจาก Kingston Kingston เปิดตัว Dual Portable SSD ที่ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ มาพร้อมหัว USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050MB/s และเขียน 950MB/s มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาเพียง 13 กรัม แต่จุได้สูงสุดถึง 2TB รองรับหลายระบบปฏิบัติการ เหมาะกับคนที่ต้องการพกข้อมูลไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องพกสายให้ยุ่งยาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/goodbye-pesky-cables-kingston-reveals-new-wire-free-portable-ssd-offering-up-to-2tb-storage-and-up-to-1-050-mb-s-data-transfers-and-itll-fit-into-even-your-smallest-pocket 🤝 Android จับมือ AirDrop ของ Apple สิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงก็เกิดแล้ว! Google ประกาศว่า Quick Share ของ Android สามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้แล้ว เริ่มต้นที่ Pixel 10 ทำให้การส่งไฟล์ระหว่าง Android และ iPhone, iPad, Mac สะดวกขึ้นมาก แม้ยังมีข้อจำกัด เช่น ต้องเปิดโหมด “Everyone for 10 minutes” แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้กำแพงระหว่างสองระบบเริ่มพังลง 🔗 https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/its-actually-happened-android-now-works-with-apple-airdrop-for-simple-file-sharing-starting-with-the-pixel-10 ⚠️ ช่องโหว่ในเบราว์เซอร์ AI ของ Perplexity มีรายงานว่า Comet AI Browser ของ Perplexity อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการสิทธิ์และ sandbox ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหากไม่อัปเดตหรือใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/perplexitys-comet-ai-browser-may-have-some-concerning-security-flaws-which-could-let-hacker-hijack-your-device 🧑‍💻 Twitch ใช้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันอายุ Twitch เริ่มทดสอบระบบ Facial Age Scan ในสหราชอาณาจักร เพื่อยืนยันอายุผู้ใช้งานก่อนเข้าถึงคอนเทนต์ที่จำกัดอายุ แม้จะช่วยป้องกันเด็กเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลชีวมิติว่าจะถูกนำไปใช้อย่างไร 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/twitch-introduces-facial-age-scans-in-the-uk-amid-growing-privacy-concerns 🎰 บริษัทยักษ์ใหญ่ IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ บริษัทเกมและการพนันระดับโลก IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ทำให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลอาจถูกเข้ารหัสหรือขโมยไป เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าธุรกิจบันเทิงและการพนันก็เป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/gaming-and-gambling-giant-igt-reportedly-hit-by-ransomware-heres-what-we-know 🖼️ Google เปิดตัว Nano Banana Pro สำหรับแก้ไขภาพด้วย AI Google เปิดตัวเครื่องมือใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ใช้พลังของ Gemini 3 Pro ในการแก้ไขภาพขั้นสูง เช่น การปรับรายละเอียด การลบวัตถุ หรือการสร้างองค์ประกอบใหม่ในภาพ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านการแก้ไขภาพด้วย AI ที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเทคโนโลยีระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/google-launches-nano-banana-pro-a-massive-leap-in-ai-image-editing-powered-by-gemini-3-pro 🔒 ปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยมเจอช่องโหว่ ปลั๊กอิน WordPress ที่มีผู้ติดตั้งมากกว่าล้านครั้งถูกพบว่ามีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลหรือควบคุมเว็บไซต์ได้ เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ต้องหมั่นอัปเดตปลั๊กอินและตรวจสอบความปลอดภัยอยู่เสมอ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/wordpress-plugin-with-over-a-million-installs-may-have-a-worrying-security-flaw-heres-what-we-know 🛡️ ช่องโหว่ใหม่ใน Fortinet ถูกโจมตีแล้ว Fortinet ยอมรับว่าพบ zero-day ช่องโหว่ใหม่ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยเองก็ยังเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ และผู้ใช้ควรเร่งอัปเดตแพตช์ทันทีที่มีการปล่อยออกมา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/fortinet-admits-it-found-another-worrying-zero-day-being-exploited-in-attacks 📱 ที่จับ MagSafe สุดแปลกแต่ใช้ง่าย มีการเปิดตัว MagSafe iPhone Grip ที่ดีไซน์แปลกตา แต่กลับใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกคน จุดเด่นคือช่วยให้ถือ iPhone ได้มั่นคงขึ้นโดยไม่ต้องใช้เคสหนา ๆ และยังถอดออกได้สะดวก เหมาะกับคนที่อยากได้อุปกรณ์เสริมที่ไม่ซ้ำใคร 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/this-may-be-the-oddest-yet-most-accessible-magsafe-iphone-grip-ever-made 🐉 กลุ่ม PlushDaemon จากจีนโจมตีซัพพลายเชนโลก กลุ่มแฮกเกอร์ PlushDaemon ใช้มัลแวร์ชื่อ SlowStepper ผ่าน implant ที่เรียกว่า EdgeStepper เพื่อเจาะเข้าอุปกรณ์เครือข่ายในหลายประเทศ ถือเป็นการโจมตีซัพพลายเชนที่ซับซ้อนและอันตราย เพราะสามารถกระทบต่อองค์กรทั่วโลกได้พร้อมกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/chinas-plushdaemon-group-uses-edgestepper-implant-to-infect-network-devices-with-slowstepper-malware-in-global-supply-chain-attacks 🛍️ แอปช้อปปิ้งสหรัฐฯ ดูดข้อมูลมากกว่าใคร รายงานใหม่เผยว่าแอปช้อปปิ้งจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Amazon เป็นแอปที่เก็บข้อมูลผู้ใช้มากที่สุด ทั้งข้อมูลส่วนตัวและพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งมากกว่าแอปจากจีนที่หลายคนกังวลกันอยู่แล้ว ทำให้เกิดคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูลของผู้บริโภค 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/forget-beijing-its-us-shopping-apps-that-are-sucking-up-your-privacy-and-amazon-is-the-most-data-hungry 📷 Leica Q3 Monochrom กล้องขาวดำสุดหรู Leica เปิดตัว Q3 Monochrom กล้องที่ถ่ายได้เฉพาะภาพขาวดำ ราคาหลายพันดอลลาร์ แต่กลับได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะคุณภาพไฟล์และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเชิงศิลป์และต้องการความแตกต่างจากกล้องทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/leicas-q3-monochrom-costs-thousands-and-only-shoots-black-and-white-but-thats-only-made-me-want-one-more 📺 รีโมท Google TV รุ่นใหม่ใช้พลังงานจากแสงในบ้าน Google เตรียมเปิดตัวอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ที่มาพร้อมรีโมทซึ่งสามารถชาร์จพลังงานจากแสงในบ้านได้ ไม่ต้องใช้ถ่านหรือชาร์จสายอีกต่อไป ถือเป็นการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ไม่อยากเปลี่ยนถ่านบ่อย ๆ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/streaming-devices/your-next-google-tv-device-could-come-with-a-remote-powered-by-indoor-light-and-im-definitely-a-fan 💻 ซีอีโอ Microsoft ด้าน AI ตอบโต้เสียงวิจารณ์ Windows 11 ซีอีโอฝ่าย AI ของ Microsoft ออกมาโต้ตอบเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับทิศทางใหม่ของ Windows 11 โดยบอกว่าคำวิจารณ์เหล่านั้น “mind-blowing” และยืนยันว่าการนำ AI เข้ามาในระบบปฏิบัติการจะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จะมีผู้ใช้บางส่วนที่ยังไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงนี้ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 📱 หลุดไลน์อัพสมาร์ทโฟน Samsung ปี 2026 มีข้อมูลหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung ที่จะเปิดตัวในปี 2026 โดยคาดว่าจะมีการอัปเกรดทั้งด้านกล้อง หน้าจอ และประสิทธิภาพการทำงาน รายละเอียดบางส่วนยังไม่แน่ชัด แต่ข่าวนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ที่รอคอยการเปิดตัว 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsungs-2026-smartphone-lineup-just-leaked-heres-what-to-expect-and-when ⚖️ รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมท้าทายกฎหมาย AI ของรัฐต่าง ๆ ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ มีแผนจะใช้ อำนาจรัฐบาลกลาง เพื่อตรวจสอบและท้าทายกฎหมาย AI ที่ออกโดยรัฐต่าง ๆ เนื่องจากกังวลว่ากฎหมายเหล่านี้อาจขัดแย้งกันและสร้างความยุ่งยากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในระดับประเทศ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/trump-administration-wants-to-use-federal-power-to-challenge-state-ai-laws 🌐 การกลับมาของ VPN ฟรีที่เป็นอันตราย มีการพบว่า VPN ฟรีบางตัว ที่เคยถูกแบนเพราะมีพฤติกรรมอันตราย ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว การใช้ VPN ที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเปิดช่องให้ข้อมูลส่วนตัวถูกขโมยได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/malicious-free-vpn-extension-makes-a-comeback 📱 iPhone 17 Pro แจกฟรีกับโปร Verizon Verizon จัดโปรแรง แจกมือถือฟรี รวมถึง iPhone 17 Pro ให้ลูกค้าเมื่อสมัครแพ็กเกจที่กำหนด ถือเป็นดีลที่ดึงดูดใจมาก แต่ก็มีเงื่อนไขที่ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้ดีว่าเหมาะกับการใช้งานจริงหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🎮 ประสบการณ์เล่น Stalker 2: Heart of Chornobyl นักเขียนรีวิวเล่าประสบการณ์การเล่นเกม Stalker 2: Heart of Chornobyl บน PS5 ที่ใช้เวลามากกว่า 50 ชั่วโมงในการเอาชีวิตรอดในโลกหลังหายนะ เกมนี้เต็มไปด้วยความท้าทายและบรรยากาศกดดัน แต่ก็สนุกและสมจริงสำหรับแฟนเกมแนว survival 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🖥️ Microsoft Flex โชว์ทักษะโค้ดของ Copilot Microsoft สาธิตความสามารถของ Copilot ในการช่วยเขียนโค้ด แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้ไม่เห็นด้วยกับการใช้ AI ในงานพัฒนาโปรแกรม บางคนมองว่าเป็นการลดคุณค่าของนักพัฒนา แต่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🎮 Nvidia รีบปล่อยแพตช์แก้ปัญหา GPU บน Windows 11 หลังจากการอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคม ทำให้เกมหลายเกมมีอาการหน่วง Nvidia จึงรีบออกแพตช์แก้ไขเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ GPU ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ การแก้ไขนี้ช่วยให้ผู้เล่นเกมสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rushes-out-a-gpu-fix-blaming-windows-11s-october-update-for-sluggish-performance-in-games 📡 Nokia แยกธุรกิจ AI หลังได้ทุนจาก Nvidia Nokia ประกาศแยกธุรกิจใหม่ด้าน AI สำหรับเครือข่ายมือถือ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2026 หลังจากที่ Nvidia ลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี 6G บริษัทตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก และหวังสร้างเครือข่ายมือถือที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก พร้อมคาดการณ์การเติบโตของรายได้ต่อปี 6-8% จนถึงปี 2028 🔗 https://www.techradar.com/pro/nokia-is-splitting-off-its-ai-business-weeks-after-usd1bn-nvidia-investment 🛵 หุ่นยนต์ส่งอาหารของ Uber Eats Uber Eats จับมือกับบริษัท Starship Technologies เพื่อเริ่มใช้หุ่นยนต์ส่งอาหารในสหราชอาณาจักร โดยเริ่มทดลองที่เมือง Leeds และจะขยายไปยัง Sheffield รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในยุโรปปี 2026 และสหรัฐฯ ปี 2027 หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถส่งอาหารได้ภายใน 30 นาทีในระยะทางไม่เกิน 2 ไมล์ ลูกค้าจะไม่สามารถให้ทิปหุ่นยนต์ได้ แต่สามารถให้คะแนนผ่านแอปเหมือนการส่งปกติ ถือเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการขนส่งในเมืองยุคอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/uber-eats-will-soon-use-robots-to-deliver-your-takeaway-but-you-cant-tip-them 🤖 ChatGPT Atlas อัปเดตใหญ่ครั้งแรก ChatGPT Atlas ได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญ โดยเพิ่ม 3 ฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้จะอยากลองใช้ทันที ได้แก่ การปรับปรุงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล, การทำงานร่วมกับเครื่องมือภายนอกได้ดีขึ้น และการปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานให้ลื่นไหลมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับแพลตฟอร์ม AI ให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-atlas-just-got-its-first-major-update-3-new-features-youll-want-to-use 🔒 Samsung เพิ่มระบบป้องกันขโมยใน One UI 8.5 Samsung เตรียมอัปเดต One UI 8.5 ที่จะเพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการโจรกรรมมือถือ เช่น การล็อกเครื่องแม้ถูกรีเซ็ต และระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการพยายามเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและอุปกรณ์ของตนเอง 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phone-is-about-to-get-a-big-theft-protection-boost-thanks-to-one-ui-8-5-heres-how 🎨 คนทำงานสายครีเอทีฟชอบ AI แต่ก็มีปัญหา รายงานจาก Dropbox พบว่าคนทำงานสายครีเอทีฟใช้เครื่องมือเฉลี่ยถึง 14 ตัว ทำให้เกิดความซับซ้อนและเสียเวลา แม้ว่า 95% ของคนกลุ่มนี้จะใช้ AI เพื่อช่วยงาน เช่น การระดมไอเดีย สรุปการประชุม และค้นหาข้อมูล แต่ AI ยังไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด เพราะบางครั้งไม่เข้าใจบริบทของงานจริง ๆ หากสามารถลดจำนวนเครื่องมือและใช้ AI ที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มเวลาสร้างสรรค์งานได้มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/creative-workers-love-ai-but-it-is-causing-more-issues-than-expected
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1091 มุมมอง 0 รีวิว
  • Kingston Dual Portable SSD: ดีไซน์กะทัดรัดแต่ทรงพลัง

    Kingston Technology เปิดตัว SSD แบบ thumb drive รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมพอร์ต USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ทำให้ใช้งานได้กับอุปกรณ์หลากหลาย ทั้งคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าและใหม่ รวมถึงสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตที่รองรับ USB-C. ตัวเครื่องทำจากโลหะและพลาสติก แข็งแรงทนทาน น้ำหนักเพียง 13 กรัม พกพาสะดวกเหมือนแฟลชไดรฟ์ทั่วไป แต่ให้ประสิทธิภาพระดับ SSD.

    ความเร็วและความจุ
    รุ่นนี้รองรับมาตรฐาน USB 3.2 Gen 2 ให้ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050 MB/s และเขียน 950 MB/s ซึ่งเร็วกว่าฟลาชไดรฟ์ทั่วไปหลายเท่า เหมาะสำหรับงานที่ต้องการโอนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น วิดีโอ 4K, ภาพถ่าย RAW หรือการสำรองข้อมูลด่วน โดยมีให้เลือก 3 ความจุ:
    512GB ราคา $97
    1TB ราคา $144
    2TB ราคา $239

    การใช้งานและความเข้ากันได้
    Kingston ออกแบบให้ใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการหลากหลาย เช่น Windows 11, macOS, Linux, ChromeOS, Android และ iOS/iPadOS 13 ขึ้นไป ทำให้ผู้ใช้สามารถโอนถ่ายข้อมูลข้ามแพลตฟอร์มได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการรับประกัน 5 ปี พร้อมบริการซัพพอร์ตฟรี.

    ข้อจำกัดและสิ่งที่ควรระวัง
    แม้จะมีความเร็วสูงและดีไซน์ทนทาน แต่รุ่นนี้ยังไม่มีคุณสมบัติ กันน้ำหรือกันฝุ่น ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในสภาพแวดล้อมกลางแจ้งหรือการเดินทางไกล อีกทั้งราคายังสูงกว่าฟลาชไดรฟ์ทั่วไป แม้จะแลกมากับความเร็วและความจุที่เหนือกว่า.

    สรุปสาระสำคัญ
    Kingston เปิดตัว SSD thumb drive รุ่นใหม่
    มีพอร์ต USB-A และ USB-C ในตัวเดียว
    ดีไซน์กะทัดรัด น้ำหนักเพียง 13 กรัม

    ความเร็วและความจุ
    อ่านสูงสุด 1,050 MB/s เขียน 950 MB/s
    มีให้เลือก 512GB, 1TB, 2TB

    การใช้งานและความเข้ากันได้
    รองรับ Windows, macOS, Linux, ChromeOS, Android, iOS/iPadOS
    รับประกัน 5 ปี พร้อมบริการซัพพอร์ตฟรี

    ข้อจำกัด
    ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำหรือกันฝุ่น
    ราคาสูงกว่าฟลาชไดรฟ์ทั่วไป

    https://www.tomshardware.com/pc-components/external-ssds/kingston-debuts-versatile-ssd-thumb-drive-with-usb-a-and-usb-c-connectors-offers-1-050-mb-s-transfers-priced-from-usd97-for-512gb
    💾 Kingston Dual Portable SSD: ดีไซน์กะทัดรัดแต่ทรงพลัง Kingston Technology เปิดตัว SSD แบบ thumb drive รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมพอร์ต USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ทำให้ใช้งานได้กับอุปกรณ์หลากหลาย ทั้งคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าและใหม่ รวมถึงสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตที่รองรับ USB-C. ตัวเครื่องทำจากโลหะและพลาสติก แข็งแรงทนทาน น้ำหนักเพียง 13 กรัม พกพาสะดวกเหมือนแฟลชไดรฟ์ทั่วไป แต่ให้ประสิทธิภาพระดับ SSD. ⚡ ความเร็วและความจุ รุ่นนี้รองรับมาตรฐาน USB 3.2 Gen 2 ให้ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050 MB/s และเขียน 950 MB/s ซึ่งเร็วกว่าฟลาชไดรฟ์ทั่วไปหลายเท่า เหมาะสำหรับงานที่ต้องการโอนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น วิดีโอ 4K, ภาพถ่าย RAW หรือการสำรองข้อมูลด่วน โดยมีให้เลือก 3 ความจุ: 💠 512GB ราคา $97 💠 1TB ราคา $144 💠 2TB ราคา $239 🌍 การใช้งานและความเข้ากันได้ Kingston ออกแบบให้ใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการหลากหลาย เช่น Windows 11, macOS, Linux, ChromeOS, Android และ iOS/iPadOS 13 ขึ้นไป ทำให้ผู้ใช้สามารถโอนถ่ายข้อมูลข้ามแพลตฟอร์มได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการรับประกัน 5 ปี พร้อมบริการซัพพอร์ตฟรี. ⚠️ ข้อจำกัดและสิ่งที่ควรระวัง แม้จะมีความเร็วสูงและดีไซน์ทนทาน แต่รุ่นนี้ยังไม่มีคุณสมบัติ กันน้ำหรือกันฝุ่น ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในสภาพแวดล้อมกลางแจ้งหรือการเดินทางไกล อีกทั้งราคายังสูงกว่าฟลาชไดรฟ์ทั่วไป แม้จะแลกมากับความเร็วและความจุที่เหนือกว่า. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Kingston เปิดตัว SSD thumb drive รุ่นใหม่ ➡️ มีพอร์ต USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ➡️ ดีไซน์กะทัดรัด น้ำหนักเพียง 13 กรัม ✅ ความเร็วและความจุ ➡️ อ่านสูงสุด 1,050 MB/s เขียน 950 MB/s ➡️ มีให้เลือก 512GB, 1TB, 2TB ✅ การใช้งานและความเข้ากันได้ ➡️ รองรับ Windows, macOS, Linux, ChromeOS, Android, iOS/iPadOS ➡️ รับประกัน 5 ปี พร้อมบริการซัพพอร์ตฟรี ‼️ ข้อจำกัด ⛔ ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำหรือกันฝุ่น ⛔ ราคาสูงกว่าฟลาชไดรฟ์ทั่วไป https://www.tomshardware.com/pc-components/external-ssds/kingston-debuts-versatile-ssd-thumb-drive-with-usb-a-and-usb-c-connectors-offers-1-050-mb-s-transfers-priced-from-usd97-for-512gb
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ปรับระบบ Activation ใน Windows 11 ทำให้ KMS38 ใช้งานไม่ได้

    ไมโครซอฟท์ได้ปรับเปลี่ยนกลไกการทำงานของระบบ KMS Activation ใน Windows 11 รุ่นใหม่ ซึ่งส่งผลให้วิธีการ KMS38 Activation ที่เคยใช้เพื่อยืดอายุการใช้งานไปจนถึงปี 2038 ไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ Build 26040 ที่มีการนำไฟล์ gatherosstate.exe ออกจาก ISO และต่อมาใน Build 26100.7019 ได้ยกเลิกกลไกการโอนสิทธิ์การใช้งานอย่างถาวร

    KMS เดิมถูกออกแบบมาเพื่อองค์กร โดยให้เซิร์ฟเวอร์ภายในออกสิทธิ์การใช้งานชั่วคราว 180 วัน และสามารถต่ออายุได้เรื่อย ๆ แต่ KMS38 ใช้ช่องโหว่ของระบบที่โอนช่วงเวลา Grace Period ไปเรื่อย ๆ จนสามารถยืดอายุได้ยาวนาน อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างใหม่ทำให้ Grace Period ถูกรีเซ็ตเป็นศูนย์ทุกครั้งที่อัปเกรด และไม่สามารถสะสมต่อได้อีก

    สิ่งที่น่าสนใจคือ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกิดจากการปราบปรามการ Activate แบบไม่ถูกลิขสิทธิ์โดยตรง แต่เป็นผลข้างเคียงจากการปรับสถาปัตยกรรมภายในของ Windows เอง คล้ายกับกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับการปิดระบบ HWID Activation ในอดีต ซึ่งไมโครซอฟท์ไม่ได้ตั้งใจโจมตีผู้ใช้ แต่เป็นการปรับปรุงระบบตามแผนงานภายใน

    นอกจากนี้ยังมีวิธี Activate อื่น ๆ เช่น TSForge ที่ยังคงทำงานได้ตามปกติ ทำให้เห็นว่าไมโครซอฟท์ไม่ได้มุ่งเน้นการปิดกั้นทุกวิธีการ Activate ที่ไม่เป็นทางการ แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนถึงการเดินหน้าพัฒนา Windows ให้มีโครงสร้างที่ปลอดภัยและสอดคล้องกับทิศทางใหม่ของระบบปฏิบัติการในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลงระบบ KMS Activation
    ไฟล์ gatherosstate.exe ถูกลบออก ทำให้ Grace Period ไม่ถูกโอนต่อ
    KMS38 Activation ใช้งานไม่ได้ตั้งแต่ Windows 11 Build 26040 เป็นต้นไป

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    เครื่องที่เคย Activate ด้วย KMS38 ยังใช้งานได้ตามปกติ
    วิธี Activate อื่น เช่น TSForge ยังทำงานได้

    เจตนาของไมโครซอฟท์
    ไม่ได้มุ่งปราบปรามการ Activate เถื่อนโดยตรง
    เป็นผลจากการปรับสถาปัตยกรรมระบบภายใน

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    การใช้วิธี Activate ที่ไม่เป็นทางการอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย
    เครื่องมือ Activate เถื่อนบางตัวถูกฝังมัลแวร์และอาจขโมยข้อมูล

    https://securityonline.info/kms38-activation-is-broken-microsoft-removes-license-transfer-mechanism-in-windows-11/
    🖥️ Microsoft ปรับระบบ Activation ใน Windows 11 ทำให้ KMS38 ใช้งานไม่ได้ ไมโครซอฟท์ได้ปรับเปลี่ยนกลไกการทำงานของระบบ KMS Activation ใน Windows 11 รุ่นใหม่ ซึ่งส่งผลให้วิธีการ KMS38 Activation ที่เคยใช้เพื่อยืดอายุการใช้งานไปจนถึงปี 2038 ไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ Build 26040 ที่มีการนำไฟล์ gatherosstate.exe ออกจาก ISO และต่อมาใน Build 26100.7019 ได้ยกเลิกกลไกการโอนสิทธิ์การใช้งานอย่างถาวร KMS เดิมถูกออกแบบมาเพื่อองค์กร โดยให้เซิร์ฟเวอร์ภายในออกสิทธิ์การใช้งานชั่วคราว 180 วัน และสามารถต่ออายุได้เรื่อย ๆ แต่ KMS38 ใช้ช่องโหว่ของระบบที่โอนช่วงเวลา Grace Period ไปเรื่อย ๆ จนสามารถยืดอายุได้ยาวนาน อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างใหม่ทำให้ Grace Period ถูกรีเซ็ตเป็นศูนย์ทุกครั้งที่อัปเกรด และไม่สามารถสะสมต่อได้อีก สิ่งที่น่าสนใจคือ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกิดจากการปราบปรามการ Activate แบบไม่ถูกลิขสิทธิ์โดยตรง แต่เป็นผลข้างเคียงจากการปรับสถาปัตยกรรมภายในของ Windows เอง คล้ายกับกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับการปิดระบบ HWID Activation ในอดีต ซึ่งไมโครซอฟท์ไม่ได้ตั้งใจโจมตีผู้ใช้ แต่เป็นการปรับปรุงระบบตามแผนงานภายใน นอกจากนี้ยังมีวิธี Activate อื่น ๆ เช่น TSForge ที่ยังคงทำงานได้ตามปกติ ทำให้เห็นว่าไมโครซอฟท์ไม่ได้มุ่งเน้นการปิดกั้นทุกวิธีการ Activate ที่ไม่เป็นทางการ แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนถึงการเดินหน้าพัฒนา Windows ให้มีโครงสร้างที่ปลอดภัยและสอดคล้องกับทิศทางใหม่ของระบบปฏิบัติการในอนาคต 🔑 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลงระบบ KMS Activation ➡️ ไฟล์ gatherosstate.exe ถูกลบออก ทำให้ Grace Period ไม่ถูกโอนต่อ ➡️ KMS38 Activation ใช้งานไม่ได้ตั้งแต่ Windows 11 Build 26040 เป็นต้นไป ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ ➡️ เครื่องที่เคย Activate ด้วย KMS38 ยังใช้งานได้ตามปกติ ➡️ วิธี Activate อื่น เช่น TSForge ยังทำงานได้ ✅ เจตนาของไมโครซอฟท์ ➡️ ไม่ได้มุ่งปราบปรามการ Activate เถื่อนโดยตรง ➡️ เป็นผลจากการปรับสถาปัตยกรรมระบบภายใน ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ⛔ การใช้วิธี Activate ที่ไม่เป็นทางการอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย ⛔ เครื่องมือ Activate เถื่อนบางตัวถูกฝังมัลแวร์และอาจขโมยข้อมูล https://securityonline.info/kms38-activation-is-broken-microsoft-removes-license-transfer-mechanism-in-windows-11/
    SECURITYONLINE.INFO
    KMS38 Activation is Broken: Microsoft Removes License Transfer Mechanism in Windows 11
    Microsoft changed the KMS activation mechanism in Windows 11 (Build 26040+), removing the license transfer that KMS38 exploited, effectively breaking the activation method.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • มัลแวร์บน macOS ผ่านไฟล์ AppleScript

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแฮกเกอร์เริ่มใช้ไฟล์ AppleScript (.scpt) เป็นเครื่องมือใหม่ในการแพร่กระจายมัลแวร์ โดยปลอมตัวเป็นเอกสาร Word, PowerPoint หรือแม้แต่ตัวติดตั้ง Zoom และ Teams SDK. เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์เหล่านี้ใน Script Editor.app และกดรัน (⌘+R) โค้ดที่ซ่อนอยู่ก็จะถูกทำงานทันที.

    เทคนิคการหลอกลวงที่แนบเนียน
    ไฟล์ .scpt ถูกออกแบบให้มี คอมเมนต์ปลอมและบรรทัดว่างจำนวนมาก เพื่อดันโค้ดอันตรายลงไปด้านล่าง ทำให้ผู้ใช้ไม่เห็นเนื้อหาที่แท้จริง. นอกจากนี้ยังมีการใช้ ไอคอนปลอม เพื่อทำให้ไฟล์ดูเหมือนเอกสารหรือโปรแกรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Apeiron_Token_Transfer_Proposal.docx.scpt หรือ Stable1_Investment_Proposal.pptx.scpt.

    การแพร่กระจายสู่มัลแวร์เชิงพาณิชย์
    เดิมทีเทคนิคนี้ถูกใช้โดยกลุ่ม APT ระดับสูง แต่ปัจจุบันเริ่มถูกนำมาใช้ใน มัลแวร์เชิงพาณิชย์ เช่น Odyssey Stealer และ MacSync Stealer. การแพร่กระจายนี้แสดงให้เห็นถึงการ “ไหลลง” ของเทคนิคขั้นสูงสู่กลุ่มผู้โจมตีทั่วไป ทำให้ภัยคุกคามต่อผู้ใช้ macOS เพิ่มขึ้นอย่างมาก.

    ความเสี่ยงที่ผู้ใช้ต้องระวัง
    แม้ Apple จะปรับปรุงระบบ Gatekeeper เพื่อลดช่องโหว่ แต่ไฟล์ .scpt ยังสามารถเลี่ยงการตรวจจับได้ และบางตัวอย่างยังไม่ถูกตรวจพบใน VirusTotal. สิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรเสี่ยงต่อการถูกโจมตีโดยไม่รู้ตัว.

    การใช้ AppleScript (.scpt) ในการแพร่มัลแวร์
    ปลอมเป็นเอกสาร Word/PowerPoint หรือโปรแกรมติดตั้ง Zoom, Teams
    เปิดใน Script Editor และรันโค้ดได้ทันที

    เทคนิคการซ่อนโค้ด
    ใช้บรรทัดว่างและคอมเมนต์ปลอมเพื่อซ่อนโค้ดจริง
    ใช้ไอคอนปลอมให้ดูเหมือนเอกสารหรือแอปถูกต้อง

    การแพร่กระจายสู่มัลแวร์เชิงพาณิชย์
    จาก APT สู่มัลแวร์ทั่วไป เช่น Odyssey Stealer และ MacSync Stealer
    เพิ่มความเสี่ยงต่อผู้ใช้ macOS ทั่วไป

    ความเสี่ยงและคำเตือน
    ไฟล์ .scpt บางตัวไม่ถูกตรวจพบใน VirusTotal
    ผู้ใช้เสี่ยงเปิดไฟล์ปลอมโดยไม่รู้ตัว
    องค์กรอาจถูกโจมตีหากไม่มีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด

    https://securityonline.info/macos-threat-applescript-scpt-files-emerge-as-new-stealth-vector-for-stealer-malware/
    🖥️ มัลแวร์บน macOS ผ่านไฟล์ AppleScript นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแฮกเกอร์เริ่มใช้ไฟล์ AppleScript (.scpt) เป็นเครื่องมือใหม่ในการแพร่กระจายมัลแวร์ โดยปลอมตัวเป็นเอกสาร Word, PowerPoint หรือแม้แต่ตัวติดตั้ง Zoom และ Teams SDK. เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์เหล่านี้ใน Script Editor.app และกดรัน (⌘+R) โค้ดที่ซ่อนอยู่ก็จะถูกทำงานทันที. 📂 เทคนิคการหลอกลวงที่แนบเนียน ไฟล์ .scpt ถูกออกแบบให้มี คอมเมนต์ปลอมและบรรทัดว่างจำนวนมาก เพื่อดันโค้ดอันตรายลงไปด้านล่าง ทำให้ผู้ใช้ไม่เห็นเนื้อหาที่แท้จริง. นอกจากนี้ยังมีการใช้ ไอคอนปลอม เพื่อทำให้ไฟล์ดูเหมือนเอกสารหรือโปรแกรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Apeiron_Token_Transfer_Proposal.docx.scpt หรือ Stable1_Investment_Proposal.pptx.scpt. 🚨 การแพร่กระจายสู่มัลแวร์เชิงพาณิชย์ เดิมทีเทคนิคนี้ถูกใช้โดยกลุ่ม APT ระดับสูง แต่ปัจจุบันเริ่มถูกนำมาใช้ใน มัลแวร์เชิงพาณิชย์ เช่น Odyssey Stealer และ MacSync Stealer. การแพร่กระจายนี้แสดงให้เห็นถึงการ “ไหลลง” ของเทคนิคขั้นสูงสู่กลุ่มผู้โจมตีทั่วไป ทำให้ภัยคุกคามต่อผู้ใช้ macOS เพิ่มขึ้นอย่างมาก. ⚡ ความเสี่ยงที่ผู้ใช้ต้องระวัง แม้ Apple จะปรับปรุงระบบ Gatekeeper เพื่อลดช่องโหว่ แต่ไฟล์ .scpt ยังสามารถเลี่ยงการตรวจจับได้ และบางตัวอย่างยังไม่ถูกตรวจพบใน VirusTotal. สิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรเสี่ยงต่อการถูกโจมตีโดยไม่รู้ตัว. ✅ การใช้ AppleScript (.scpt) ในการแพร่มัลแวร์ ➡️ ปลอมเป็นเอกสาร Word/PowerPoint หรือโปรแกรมติดตั้ง Zoom, Teams ➡️ เปิดใน Script Editor และรันโค้ดได้ทันที ✅ เทคนิคการซ่อนโค้ด ➡️ ใช้บรรทัดว่างและคอมเมนต์ปลอมเพื่อซ่อนโค้ดจริง ➡️ ใช้ไอคอนปลอมให้ดูเหมือนเอกสารหรือแอปถูกต้อง ✅ การแพร่กระจายสู่มัลแวร์เชิงพาณิชย์ ➡️ จาก APT สู่มัลแวร์ทั่วไป เช่น Odyssey Stealer และ MacSync Stealer ➡️ เพิ่มความเสี่ยงต่อผู้ใช้ macOS ทั่วไป ‼️ ความเสี่ยงและคำเตือน ⛔ ไฟล์ .scpt บางตัวไม่ถูกตรวจพบใน VirusTotal ⛔ ผู้ใช้เสี่ยงเปิดไฟล์ปลอมโดยไม่รู้ตัว ⛔ องค์กรอาจถูกโจมตีหากไม่มีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด https://securityonline.info/macos-threat-applescript-scpt-files-emerge-as-new-stealth-vector-for-stealer-malware/
    SECURITYONLINE.INFO
    macOS Threat: AppleScript (.scpt) Files Emerge as New Stealth Vector for Stealer Malware
    A new macOS threat uses malicious AppleScript (.scpt) files, disguised as documents/updates, to bypass Gatekeeper and execute stealers like MacSync and Odyssey, exploiting user trust.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • SanDisk เปิดตัวแฟลชไดรฟ์ Type-C “Plug and Stay”

    SanDisk ได้เปิดตัวแฟลชไดรฟ์รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาให้เสียบคาเครื่องได้ตลอดเวลา โดยมีความจุสูงสุดถึง 1TB และราคาประมาณ 120 ดอลลาร์ จุดเด่นคือความเร็วในการโอนข้อมูลสูงถึง 400MB/s ซึ่งแม้จะไม่เร็วเท่า SSD NVMe แต่ก็ใกล้เคียงกับ SATA III ทำให้สามารถใช้เล่นเกมหรือเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ได้สะดวก

    แฟลชไดรฟ์นี้ออกแบบเป็นทรง L ขนาดเล็ก ทำให้ไม่เกะกะเมื่อเสียบกับโน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ต เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลโดยไม่ต้องพึ่ง Cloud หรือเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ภายในเครื่อง

    สรุปเป็นหัวข้อ:

    จุดเด่นของ SanDisk Plug and Stay
    ความจุสูงสุด 1TB ราคาประหยัด
    ความเร็ว 400MB/s ใกล้เคียง SATA III

    การใช้งาน
    ออกแบบให้เสียบคาเครื่องได้ตลอดเวลา
    เหมาะกับโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตที่ไม่มี SD card reader

    ข้อควรระวัง
    ความเร็วไม่เทียบเท่า SSD NVMe
    รุ่นความจุสูงอาจขาดตลาดหรือหมดสต็อกเร็ว

    https://www.tomshardware.com/pc-components/usb-flash-drives/sandisk-debuts-type-c-plug-and-stay-flash-drive-that-never-needs-to-be-taken-out-of-your-laptop-get-up-to-1tb-of-extra-storage-for-just-usd120-with-400mb-s-transfer-speeds
    💾 SanDisk เปิดตัวแฟลชไดรฟ์ Type-C “Plug and Stay” SanDisk ได้เปิดตัวแฟลชไดรฟ์รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาให้เสียบคาเครื่องได้ตลอดเวลา โดยมีความจุสูงสุดถึง 1TB และราคาประมาณ 120 ดอลลาร์ จุดเด่นคือความเร็วในการโอนข้อมูลสูงถึง 400MB/s ซึ่งแม้จะไม่เร็วเท่า SSD NVMe แต่ก็ใกล้เคียงกับ SATA III ทำให้สามารถใช้เล่นเกมหรือเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ได้สะดวก แฟลชไดรฟ์นี้ออกแบบเป็นทรง L ขนาดเล็ก ทำให้ไม่เกะกะเมื่อเสียบกับโน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ต เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลโดยไม่ต้องพึ่ง Cloud หรือเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ภายในเครื่อง สรุปเป็นหัวข้อ: ✅ จุดเด่นของ SanDisk Plug and Stay ➡️ ความจุสูงสุด 1TB ราคาประหยัด ➡️ ความเร็ว 400MB/s ใกล้เคียง SATA III ✅ การใช้งาน ➡️ ออกแบบให้เสียบคาเครื่องได้ตลอดเวลา ➡️ เหมาะกับโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตที่ไม่มี SD card reader ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ความเร็วไม่เทียบเท่า SSD NVMe ⛔ รุ่นความจุสูงอาจขาดตลาดหรือหมดสต็อกเร็ว https://www.tomshardware.com/pc-components/usb-flash-drives/sandisk-debuts-type-c-plug-and-stay-flash-drive-that-never-needs-to-be-taken-out-of-your-laptop-get-up-to-1tb-of-extra-storage-for-just-usd120-with-400mb-s-transfer-speeds
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    เจาะลึกมหาสงครามเทพระดับอะตอม: ศึกชิงอำนาจในโลกควอนตัม

    จักรวาลคู่ขนานระดับอนุภาค

    การค้นพบอาณาจักรควอนตัม

    หนูดีค้นพบโดยบังเอิญขณะฝึกควบคุมพลังงาน:
    "มันเหมือนกับมีเมืองเล็กๆ นับไม่ถ้วนอยู่ในทุกอะตอม...
    แต่ละเมืองมีกฎเกณฑ์และผู้ปกครองของตัวเอง"

    ```mermaid
    graph TB
    A[โลกควอนตัม] --> B[อาณาจักรโปรตอน<br>เมืองแห่งความมั่นคง]
    A --> C[อาณาจักรอิเล็กตรอน<br>เมืองแห่งพลังงาน]
    A --> D[อาณาจักรนิวตรอน<br>เมืองแห่งสมดุล]
    A --> E[อาณาจักรควาร์ก<br>เมืองแห่งพื้นฐาน]
    ```

    โครงสร้างสังคมเทพระดับอะตอม

    ```python
    class QuantumSociety:
    def __init__(self):
    self.hierarchy = {
    "elementary_level": {
    "quark_deities": "เทพพื้นฐาน 6 ประเภท",
    "lepton_sages": "ปราชญ์เลปตอน",
    "force_carriers": "ผู้ส่งผ่านแรงพื้นฐาน"
    },
    "composite_level": {
    "proton_monarchs": "กษัตริย์โปรตอน",
    "electron_nomads": "อิเล็กตรอนเร่ร่อน",
    "neutron_guardians": "ผู้พิทักษ์นิวตรอน"
    },
    "atomic_level": {
    "nucleus_kingdom": "อาณาจักรนิวเคลียส",
    "electron_cloud_cities": "เมืองเมฆอิเล็กตรอน",
    "bonding_alliances": "พันธมิตรทางการพันธะ"
    }
    }
    ```

    ราชวงศ์แห่งนิวเคลียส

    ราชอาณาจักรโปรตอน

    ผู้ปกครอง: พระเจ้าประจุบวก (Positive Majesty)

    · ลักษณะ: ทรงกายสีแดงเรืองรอง มีมงกุฎทำจากเกลียวควาร์ก
    · พระราชวัง: ป้อมปราการนิวเคลียสที่แข็งแกร่ง
    · พระราชอำนาจ: ควบคุมแรงนิวเคลียร์อย่างเข้ม

    สหพันธ์อิเล็กตรอน

    ผู้นำ: เทพีวงโคจร (Orbital Goddess)

    · ลักษณะ: ร่างกายกึ่งโปร่งแสง เคลื่อนไหวรวดเร็ว
    · ที่พำนัก: เมฆอิเล็กตรอนที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
    · อำนาจ: ควบคุมการแลกเปลี่ยนพลังงาน

    สภาคนกลางนิวตรอน

    ประธาน: จอมฤๅษีสมดุล (Balance Sage)

    · ลักษณะ: ทรงเครื่องหมายอินฟินิตี้ สีเทาเงิน
    · สถานที่ปฏิบัติธรรม: ศูนย์กลางนิวเคลียส
    · อำนาจ: รักษาเสถียรภาพและป้องกันการสลายตัว

    ต้นตอแห่งความขัดแย้ง

    การค้นพบ "อนุภาคศักดิ์สิทธิ์"

    นักวิทยาศาสตร์มนุษย์ทำการทดลอง LHC ทำให้ค้นพบ:

    ```mermaid
    graph LR
    A[การทดลอง LHC] --> B[ค้นพบอนุภาค<br>"พระเจ้าองค์เล็ก"]
    B --> C[พลังงานรั่วไหล<br>สู่โลกควอนตัม]
    C --> D[ทั้งสามอาณาจักร<br>ต้องการครอบครอง]
    ```

    ความต้องการที่ขัดแย้ง

    แต่ละอาณาจักรต้องการอนุภาคศักดิ์สิทธิ์เพื่อ:

    โปรตอน: "เพื่อสร้างอาณาจักรที่แข็งแกร่งถาวร!"
    อิเล็กตรอน:"เพื่อปลดปล่อยพลังงานอันไร้ขีดจำกัด!"
    นิวตรอน:"เพื่อสร้างสมดุลแห่งจักรวาล!"

    การเริ่มต้นสงคราม

    สงครามเริ่มต้นด้วย "ยุทธการแรงแม่เหล็ก":

    · อิเล็กตรอนโจมตีด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
    · โปรตอนตอบโต้ด้วยแรงนิวเคลียร์อย่างเข้ม
    · นิวตรอนพยายามไกล่เกลี่ยแต่ล้มเหลว

    ผลกระทบต่อโลกมนุษย์

    ความผิดปกติทางวิทยาศาสตร์

    การทดลองทางวิทยาศาสตร์เริ่มให้ผลผิดปกติ:

    ```python
    class Anomalies:
    def __init__(self):
    self.chemistry = [
    "พันธะเคมีแข็งแกร่งผิดปกติ",
    "อัตราการเกิดปฏิกิริยาผิดพลาด",
    "สารประกอบใหม่ที่ไม่มีในตารางธาตุ"
    ]

    self.physics = [
    "ค่าคงที่ทางฟิสิกส์เปลี่ยนแปลง",
    "กาลอวกาศบิดเบี้ยวในระดับจุลภาค",
    "หลักความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์กล้มเหลว"
    ]

    self.technology = [
    "อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ล้มเหลว",
    "ระบบนำทางผิดพลาด",
    "พลังงานไฟฟ้าขัดข้อง"
    ]
    ```

    ผลกระทบต่อสุขภาพ

    มนุษย์เริ่มมีอาการแปลกๆ:

    · ความรู้สึกเสียวซ่า: จากอิเล็กตรอนเกินกำลัง
    · อาการแข็งเกร็ง: จากโปรตอนครอบงำ
    · ความไม่สมดุล: จากนิวตรอนไร้เสถียรภาพ

    บทบาทของหนูดีในสงคราม

    การเป็นสื่อสานระหว่างโลก

    หนูดีค้นพบว่าสามารถสื่อสารกับเทพระดับอะตอมได้:
    "พวกท่านทั้งหลาย...โลกมนุษย์กำลังได้รับผลกระทบจากการสู้รบของท่าน"

    การไกล่เกลี่ยครั้งประวัติศาสตร์

    หนูดีจัด สภาสันติภาพระหว่างมิติ:

    ```mermaid
    graph TB
    A[หนูดี<br>เป็นผู้ไกล่เกลี่ย] --> B[เชิญตัวแทน<br>ทั้งสามอาณาจักร]
    B --> C[จัดสภาใน<br>มิติกลาง]
    C --> D[หาข้อตกลง<br>ร่วมกัน]
    ```

    ข้อเสนอการแบ่งปัน

    หนูดีเสนอระบบการแบ่งปันอนุภาคศักดิ์สิทธิ์:

    · ระบบหมุนเวียน: แต่ละอาณาจักรได้ใช้ตามฤดูกาล
    · คณะกรรมการร่วม: ดูแลการใช้อย่างยุติธรรม
    · กองทุนพลังงาน: สำหรับโครงการเพื่อส่วนรวม

    สนธิสัญญาสันติภาพควอนตัม

    ข้อตกลงสำคัญ

    มีการลงนาม "สนธิสัญญาแรงพื้นฐานสามเส้า":

    ```python
    class QuantumTreaty:
    def __init__(self):
    self.agreements = {
    "power_sharing": {
    "protons": "ควบคุม 40% ของอนุภาคศักดิ์สิทธิ์",
    "electrons": "ควบคุม 40% ของอนุภาคศักดิ์สิทธิ์",
    "neutrons": "ควบคุม 20% สำหรับการรักษาสมดุล"
    },
    "territorial_rights": {
    "nuclear_zone": "ภายใต้การดูแลของโปรตอนและนิวตรอน",
    "electron_clouds": "เขตอิทธิพลของอิเล็กตรอน",
    "bonding_regions": "พื้นที่ร่วมกันสำหรับการสร้างพันธะ"
    },
    "collaboration_projects": [
    "การพัฒนาพลังงานสะอาด",
    "การรักษาโรคระดับโมเลกุล",
    "การสำรวจมิติควอนตัม"
    ]
    }
    ```

    พิธีลงนาม

    การลงนามเกิดขึ้นใน "ฮอลล์แรงนิวเคลียร์":

    · ผู้ลงนาม: ตัวแทนทั้งสามอาณาจักร
    · พยาน: หนูดีและร.ต.อ.สิงห์
    · สถานที่: มิติระหว่างโลก ที่สร้างขึ้นพิเศษ

    โลกใหม่หลังสันติภาพ

    ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์

    เกิดโครงการวิจัยร่วมระหว่างมนุษย์และเทพระดับอะตอม:

    · การแพทย์ควอนตัม: รักษาโรคในระดับเซลล์
    · วัสดุศาสตร์: พัฒนาวัสดุใหม่จากความรู้ควอนตัม
    · พลังงาน: แหล่งพลังงานไร้ขีดจำกัด

    วัฒนธรรมแลกเปลี่ยน

    ```python
    class CulturalExchange:
    def __init__(self):
    self.knowledge_transfer = {
    "human_to_quantum": [
    "ศิลปะและอารมณ์มนุษย์",
    "ความคิดสร้างสรรค์",
    "หลักจริยธรรม"
    ],
    "quantum_to_human": [
    "ความลับของแรงพื้นฐาน",
    "เทคนิคการควบคุมพลังงาน",
    "ภูมิปัญญาการอยู่ร่วมกัน"
    ]
    }

    self.joint_projects = [
    "มหาวิทยาลัยระหว่างมิติ",
    "พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ควอนตัม",
    "เทศกาลศิลปะระดับอะตอม"
    ]
    ```

    บทเรียนจากสงคราม

    🪷 สำหรับเทพระดับอะตอม

    "เราตระหนักว่า...
    อำนาจที่แท้จริงไม่ใช่การครอบครอง
    แต่คือการแบ่งปันและความร่วมมือ"

    สำหรับมนุษยชาติ

    "เราเรียนรู้ว่า...
    จักรวาลนี้มีชีวิตในทุกระดับ
    และความรับผิดชอบของเรา
    คือการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล"

    สำหรับหนูดี

    "การเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลก...
    สอนฉันว่าความเข้าใจคือกุญแจสู่สันติภาพ
    ไม่ว่าจะเป็นโลกใหญ่หรือโลกเล็ก"

    อนาคตแห่งความร่วมมือ

    โครงการระยะยาว

    สถาบันวิวัฒนาการจิตตั้ง "แผนกควอนตัมสัมพันธ์":

    · หน้าที่: ประสานงานกับเทพระดับอะตอม
    · โครงการ: วิจัยและพัฒนาร่วมกัน
    · การศึกษา: สอนเรื่องโลกควอนตัมแก่คนรุ่นใหม่

    มรดกแห่งสันติภาพ

    สงครามครั้งนี้ทิ้งมรดกสำคัญ:
    "ไม่ว่าความขัดแย้งจะอยู่ระดับไหน
    การพูดคุยและความเข้าใจ
    คือทางออกเดียวที่ยั่งยืน"

    ---

    คำสอนจากเทพนิวตรอน:
    "ในความเป็นกลาง...
    มีพลังแห่งสันติภาพ
    และในความสมดุล...
    มีอนาคตแห่งความเจริญ

    จักรวาลนี้ใหญ่พอสำหรับทุกชีวิต
    ตั้งแต่ควาร์กจนถึงดวงดาว
    ขอเพียงเราเรียนรู้ที่จะแบ่งปัน"

    คำคมสุดท้าย:
    "มหาสงครามที่เล็กที่สุด...
    สอนบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
    ว่าสันติภาพเริ่มต้นได้จากใจ
    ที่พร้อมจะเข้าใจในความแตกต่าง"
    O.P.K. ⚛️ เจาะลึกมหาสงครามเทพระดับอะตอม: ศึกชิงอำนาจในโลกควอนตัม 🌌 จักรวาลคู่ขนานระดับอนุภาค 🔬 การค้นพบอาณาจักรควอนตัม หนูดีค้นพบโดยบังเอิญขณะฝึกควบคุมพลังงาน: "มันเหมือนกับมีเมืองเล็กๆ นับไม่ถ้วนอยู่ในทุกอะตอม... แต่ละเมืองมีกฎเกณฑ์และผู้ปกครองของตัวเอง" ```mermaid graph TB A[โลกควอนตัม] --> B[อาณาจักรโปรตอน<br>เมืองแห่งความมั่นคง] A --> C[อาณาจักรอิเล็กตรอน<br>เมืองแห่งพลังงาน] A --> D[อาณาจักรนิวตรอน<br>เมืองแห่งสมดุล] A --> E[อาณาจักรควาร์ก<br>เมืองแห่งพื้นฐาน] ``` 🏛️ โครงสร้างสังคมเทพระดับอะตอม ```python class QuantumSociety: def __init__(self): self.hierarchy = { "elementary_level": { "quark_deities": "เทพพื้นฐาน 6 ประเภท", "lepton_sages": "ปราชญ์เลปตอน", "force_carriers": "ผู้ส่งผ่านแรงพื้นฐาน" }, "composite_level": { "proton_monarchs": "กษัตริย์โปรตอน", "electron_nomads": "อิเล็กตรอนเร่ร่อน", "neutron_guardians": "ผู้พิทักษ์นิวตรอน" }, "atomic_level": { "nucleus_kingdom": "อาณาจักรนิวเคลียส", "electron_cloud_cities": "เมืองเมฆอิเล็กตรอน", "bonding_alliances": "พันธมิตรทางการพันธะ" } } ``` 👑 ราชวงศ์แห่งนิวเคลียส 💎 ราชอาณาจักรโปรตอน ผู้ปกครอง: พระเจ้าประจุบวก (Positive Majesty) · ลักษณะ: ทรงกายสีแดงเรืองรอง มีมงกุฎทำจากเกลียวควาร์ก · พระราชวัง: ป้อมปราการนิวเคลียสที่แข็งแกร่ง · พระราชอำนาจ: ควบคุมแรงนิวเคลียร์อย่างเข้ม 🌪️ สหพันธ์อิเล็กตรอน ผู้นำ: เทพีวงโคจร (Orbital Goddess) · ลักษณะ: ร่างกายกึ่งโปร่งแสง เคลื่อนไหวรวดเร็ว · ที่พำนัก: เมฆอิเล็กตรอนที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา · อำนาจ: ควบคุมการแลกเปลี่ยนพลังงาน 🛡️ สภาคนกลางนิวตรอน ประธาน: จอมฤๅษีสมดุล (Balance Sage) · ลักษณะ: ทรงเครื่องหมายอินฟินิตี้ สีเทาเงิน · สถานที่ปฏิบัติธรรม: ศูนย์กลางนิวเคลียส · อำนาจ: รักษาเสถียรภาพและป้องกันการสลายตัว 💥 ต้นตอแห่งความขัดแย้ง 🔥 การค้นพบ "อนุภาคศักดิ์สิทธิ์" นักวิทยาศาสตร์มนุษย์ทำการทดลอง LHC ทำให้ค้นพบ: ```mermaid graph LR A[การทดลอง LHC] --> B[ค้นพบอนุภาค<br>"พระเจ้าองค์เล็ก"] B --> C[พลังงานรั่วไหล<br>สู่โลกควอนตัม] C --> D[ทั้งสามอาณาจักร<br>ต้องการครอบครอง] ``` 🎯 ความต้องการที่ขัดแย้ง แต่ละอาณาจักรต้องการอนุภาคศักดิ์สิทธิ์เพื่อ: โปรตอน: "เพื่อสร้างอาณาจักรที่แข็งแกร่งถาวร!" อิเล็กตรอน:"เพื่อปลดปล่อยพลังงานอันไร้ขีดจำกัด!" นิวตรอน:"เพื่อสร้างสมดุลแห่งจักรวาล!" ⚡ การเริ่มต้นสงคราม สงครามเริ่มต้นด้วย "ยุทธการแรงแม่เหล็ก": · อิเล็กตรอนโจมตีด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า · โปรตอนตอบโต้ด้วยแรงนิวเคลียร์อย่างเข้ม · นิวตรอนพยายามไกล่เกลี่ยแต่ล้มเหลว 🌪️ ผลกระทบต่อโลกมนุษย์ 🔬 ความผิดปกติทางวิทยาศาสตร์ การทดลองทางวิทยาศาสตร์เริ่มให้ผลผิดปกติ: ```python class Anomalies: def __init__(self): self.chemistry = [ "พันธะเคมีแข็งแกร่งผิดปกติ", "อัตราการเกิดปฏิกิริยาผิดพลาด", "สารประกอบใหม่ที่ไม่มีในตารางธาตุ" ] self.physics = [ "ค่าคงที่ทางฟิสิกส์เปลี่ยนแปลง", "กาลอวกาศบิดเบี้ยวในระดับจุลภาค", "หลักความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์กล้มเหลว" ] self.technology = [ "อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ล้มเหลว", "ระบบนำทางผิดพลาด", "พลังงานไฟฟ้าขัดข้อง" ] ``` 🏥 ผลกระทบต่อสุขภาพ มนุษย์เริ่มมีอาการแปลกๆ: · ความรู้สึกเสียวซ่า: จากอิเล็กตรอนเกินกำลัง · อาการแข็งเกร็ง: จากโปรตอนครอบงำ · ความไม่สมดุล: จากนิวตรอนไร้เสถียรภาพ 💫 บทบาทของหนูดีในสงคราม 🔍 การเป็นสื่อสานระหว่างโลก หนูดีค้นพบว่าสามารถสื่อสารกับเทพระดับอะตอมได้: "พวกท่านทั้งหลาย...โลกมนุษย์กำลังได้รับผลกระทบจากการสู้รบของท่าน" 🕊️ การไกล่เกลี่ยครั้งประวัติศาสตร์ หนูดีจัด สภาสันติภาพระหว่างมิติ: ```mermaid graph TB A[หนูดี<br>เป็นผู้ไกล่เกลี่ย] --> B[เชิญตัวแทน<br>ทั้งสามอาณาจักร] B --> C[จัดสภาใน<br>มิติกลาง] C --> D[หาข้อตกลง<br>ร่วมกัน] ``` 🌟 ข้อเสนอการแบ่งปัน หนูดีเสนอระบบการแบ่งปันอนุภาคศักดิ์สิทธิ์: · ระบบหมุนเวียน: แต่ละอาณาจักรได้ใช้ตามฤดูกาล · คณะกรรมการร่วม: ดูแลการใช้อย่างยุติธรรม · กองทุนพลังงาน: สำหรับโครงการเพื่อส่วนรวม 🏛️ สนธิสัญญาสันติภาพควอนตัม 📜 ข้อตกลงสำคัญ มีการลงนาม "สนธิสัญญาแรงพื้นฐานสามเส้า": ```python class QuantumTreaty: def __init__(self): self.agreements = { "power_sharing": { "protons": "ควบคุม 40% ของอนุภาคศักดิ์สิทธิ์", "electrons": "ควบคุม 40% ของอนุภาคศักดิ์สิทธิ์", "neutrons": "ควบคุม 20% สำหรับการรักษาสมดุล" }, "territorial_rights": { "nuclear_zone": "ภายใต้การดูแลของโปรตอนและนิวตรอน", "electron_clouds": "เขตอิทธิพลของอิเล็กตรอน", "bonding_regions": "พื้นที่ร่วมกันสำหรับการสร้างพันธะ" }, "collaboration_projects": [ "การพัฒนาพลังงานสะอาด", "การรักษาโรคระดับโมเลกุล", "การสำรวจมิติควอนตัม" ] } ``` 🎉 พิธีลงนาม การลงนามเกิดขึ้นใน "ฮอลล์แรงนิวเคลียร์": · ผู้ลงนาม: ตัวแทนทั้งสามอาณาจักร · พยาน: หนูดีและร.ต.อ.สิงห์ · สถานที่: มิติระหว่างโลก ที่สร้างขึ้นพิเศษ 🌈 โลกใหม่หลังสันติภาพ 🔬 ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ เกิดโครงการวิจัยร่วมระหว่างมนุษย์และเทพระดับอะตอม: · การแพทย์ควอนตัม: รักษาโรคในระดับเซลล์ · วัสดุศาสตร์: พัฒนาวัสดุใหม่จากความรู้ควอนตัม · พลังงาน: แหล่งพลังงานไร้ขีดจำกัด 💞 วัฒนธรรมแลกเปลี่ยน ```python class CulturalExchange: def __init__(self): self.knowledge_transfer = { "human_to_quantum": [ "ศิลปะและอารมณ์มนุษย์", "ความคิดสร้างสรรค์", "หลักจริยธรรม" ], "quantum_to_human": [ "ความลับของแรงพื้นฐาน", "เทคนิคการควบคุมพลังงาน", "ภูมิปัญญาการอยู่ร่วมกัน" ] } self.joint_projects = [ "มหาวิทยาลัยระหว่างมิติ", "พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ควอนตัม", "เทศกาลศิลปะระดับอะตอม" ] ``` 🏆 บทเรียนจากสงคราม 🪷 สำหรับเทพระดับอะตอม "เราตระหนักว่า... อำนาจที่แท้จริงไม่ใช่การครอบครอง แต่คือการแบ่งปันและความร่วมมือ" 💫 สำหรับมนุษยชาติ "เราเรียนรู้ว่า... จักรวาลนี้มีชีวิตในทุกระดับ และความรับผิดชอบของเรา คือการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล" 🌟 สำหรับหนูดี "การเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลก... สอนฉันว่าความเข้าใจคือกุญแจสู่สันติภาพ ไม่ว่าจะเป็นโลกใหญ่หรือโลกเล็ก" 🔮 อนาคตแห่งความร่วมมือ 🚀 โครงการระยะยาว สถาบันวิวัฒนาการจิตตั้ง "แผนกควอนตัมสัมพันธ์": · หน้าที่: ประสานงานกับเทพระดับอะตอม · โครงการ: วิจัยและพัฒนาร่วมกัน · การศึกษา: สอนเรื่องโลกควอนตัมแก่คนรุ่นใหม่ 💝 มรดกแห่งสันติภาพ สงครามครั้งนี้ทิ้งมรดกสำคัญ: "ไม่ว่าความขัดแย้งจะอยู่ระดับไหน การพูดคุยและความเข้าใจ คือทางออกเดียวที่ยั่งยืน" --- คำสอนจากเทพนิวตรอน: "ในความเป็นกลาง... มีพลังแห่งสันติภาพ และในความสมดุล... มีอนาคตแห่งความเจริญ จักรวาลนี้ใหญ่พอสำหรับทุกชีวิต ตั้งแต่ควาร์กจนถึงดวงดาว ขอเพียงเราเรียนรู้ที่จะแบ่งปัน"⚛️✨ คำคมสุดท้าย: "มหาสงครามที่เล็กที่สุด... สอนบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ว่าสันติภาพเริ่มต้นได้จากใจ ที่พร้อมจะเข้าใจในความแตกต่าง"🌌
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 833 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดประสบการณ์ล่องเรือหรูสุดขั้วโลก! กับเรือสำรวจน้ำแข็งระดับ Ultra-Luxury “Le Commandant Charcot”
    สัมผัสความยิ่งใหญ่ของ กรีนแลนด์ – ไอซ์แลนด์ – ฝรั่งเศส ดินแดนแห่งธารน้ำแข็งและแสงเหนือ
    🛳 แพ็คเกจล่องเรือ Le Commandant Charcot สำรวจอาร์กติก ฤดูใบไม้ผลิ (ขึ้น-ลงเมืองนุก) 9 วัน 8 คืน

    วันที่ 27 มี.ค. - 4 เม.ย. 2570

    เส้นทางนุก - อ่าว Disko Bay - เกาะดิสโก - อ่าวแบฟฟินซิซิมิอุต - นุก

    ราคาเริ่มต้น EUR 16,390

    Free Charter Flight Paris-Nuuk / Nuuk-Paris
    Transfer สนามบิน ท่าเรือ สนามบินไปกลับ
    อาหารและเครื่องดื่มไม่อั้น

    รหัสแพ็คเกจ : PONP-9D8N-GOH-GOH-2703271
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e5a43a

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696 (Auto)

    #LeCommandantCharcot #ponant #arctic #RhineHolidayMarket #Greenland #Sisimiut #Baffinbay #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain
    🌌 เปิดประสบการณ์ล่องเรือหรูสุดขั้วโลก! กับเรือสำรวจน้ำแข็งระดับ Ultra-Luxury “Le Commandant Charcot” สัมผัสความยิ่งใหญ่ของ กรีนแลนด์ – ไอซ์แลนด์ – ฝรั่งเศส ดินแดนแห่งธารน้ำแข็งและแสงเหนือ ❄️✨ 🛳 แพ็คเกจล่องเรือ Le Commandant Charcot สำรวจอาร์กติก ฤดูใบไม้ผลิ (ขึ้น-ลงเมืองนุก) 9 วัน 8 คืน 📆 วันที่ 27 มี.ค. - 4 เม.ย. 2570 📍 เส้นทางนุก - อ่าว Disko Bay - เกาะดิสโก - อ่าวแบฟฟินซิซิมิอุต - นุก 💰 ราคาเริ่มต้น EUR 16,390 ✅ Free Charter Flight Paris-Nuuk / Nuuk-Paris ✅ Transfer สนามบิน ท่าเรือ สนามบินไปกลับ ✅ อาหารและเครื่องดื่มไม่อั้น ➡️ รหัสแพ็คเกจ : PONP-9D8N-GOH-GOH-2703271 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e5a43a ✅ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #LeCommandantCharcot #ponant #arctic #RhineHolidayMarket #Greenland #Sisimiut #Baffinbay #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 563 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ฟิชชิ่งยุคใหม่! แฮกเกอร์ใช้ HTML แนบอีเมล ส่งข้อมูลเหยื่อผ่าน Telegram แบบเรียลไทม์”

    ในยุคที่การโจมตีทางไซเบอร์พัฒนาอย่างรวดเร็ว แฮกเกอร์ก็ปรับกลยุทธ์ให้แนบเนียนและยากต่อการตรวจจับมากขึ้น ล่าสุดนักวิจัยจาก Cyble Research and Intelligence Labs (CRIL) ได้เปิดโปงแคมเปญฟิชชิ่งขนาดใหญ่ที่โจมตีธุรกิจในยุโรป โดยใช้ไฟล์ HTML แนบมากับอีเมลเพื่อหลอกขโมยข้อมูล และส่งข้อมูลไปยัง Telegram bots ของแฮกเกอร์ทันที

    วิธีการโจมตีที่แนบเนียน
    อีเมลฟิชชิ่งปลอมตัวเป็นเอกสารธุรกิจ เช่น ใบเสนอราคา (RFQ) หรือใบแจ้งหนี้ พร้อมแนบไฟล์ HTML ที่ดูเหมือนหน้าล็อกอินของ Adobe เมื่อเหยื่อกรอกอีเมลและรหัสผ่าน ข้อมูลจะถูกส่งตรงไปยัง Telegram ผ่าน Bot API โดยไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมแบบเดิม

    เทคนิคที่ใช้ในแคมเปญฟิชชิ่ง
    แนบไฟล์ HTML ในอีเมลแทนการใช้ลิงก์ URL เพื่อลดการตรวจจับ
    ใช้ JavaScript ดึงข้อมูลจากฟอร์มแล้วส่งผ่าน Telegram Bot API
    แสดงข้อความ “Invalid login” หลังเหยื่อกรอกข้อมูล เพื่อไม่ให้สงสัย

    การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของมัลแวร์
    ใช้การเข้ารหัส AES ด้วย CryptoJS เพื่อปกปิดโค้ด
    บางเวอร์ชันขอรหัสผ่านซ้ำโดยอ้างว่ากรอกผิด
    ใช้ Fetch API และป้องกันการตรวจสอบโค้ด เช่น บล็อก F12, Ctrl+U

    ช่องทางส่งข้อมูลที่เปลี่ยนไป
    Telegram Bot API แทนที่เซิร์ฟเวอร์ควบคุมแบบเดิม
    ใช้ bot token และ chat ID ฝังใน HTML เพื่อส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์
    พบการใช้ bot เดียวกันในหลายแคมเปญ เช่น FedEx, Adobe, WeTransfer

    กลุ่มเป้าหมายและการปลอมแปลง
    ธุรกิจในยุโรป โดยเฉพาะในเยอรมนี เช็ก สโลวาเกีย ฮังการี
    ปลอมเป็นแบรนด์ดัง เช่น Adobe, Microsoft, DHL, Telekom
    ใช้ภาษาท้องถิ่นและรูปแบบเอกสารที่ดูน่าเชื่อถือ

    https://securityonline.info/telegram-powered-phishing-campaign-targets-european-businesses-using-html-attachments-to-steal-credentials/
    🎯 “ฟิชชิ่งยุคใหม่! แฮกเกอร์ใช้ HTML แนบอีเมล ส่งข้อมูลเหยื่อผ่าน Telegram แบบเรียลไทม์” ในยุคที่การโจมตีทางไซเบอร์พัฒนาอย่างรวดเร็ว แฮกเกอร์ก็ปรับกลยุทธ์ให้แนบเนียนและยากต่อการตรวจจับมากขึ้น ล่าสุดนักวิจัยจาก Cyble Research and Intelligence Labs (CRIL) ได้เปิดโปงแคมเปญฟิชชิ่งขนาดใหญ่ที่โจมตีธุรกิจในยุโรป โดยใช้ไฟล์ HTML แนบมากับอีเมลเพื่อหลอกขโมยข้อมูล และส่งข้อมูลไปยัง Telegram bots ของแฮกเกอร์ทันที 🧩 วิธีการโจมตีที่แนบเนียน อีเมลฟิชชิ่งปลอมตัวเป็นเอกสารธุรกิจ เช่น ใบเสนอราคา (RFQ) หรือใบแจ้งหนี้ พร้อมแนบไฟล์ HTML ที่ดูเหมือนหน้าล็อกอินของ Adobe เมื่อเหยื่อกรอกอีเมลและรหัสผ่าน ข้อมูลจะถูกส่งตรงไปยัง Telegram ผ่าน Bot API โดยไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมแบบเดิม ✅ เทคนิคที่ใช้ในแคมเปญฟิชชิ่ง ➡️ แนบไฟล์ HTML ในอีเมลแทนการใช้ลิงก์ URL เพื่อลดการตรวจจับ ➡️ ใช้ JavaScript ดึงข้อมูลจากฟอร์มแล้วส่งผ่าน Telegram Bot API ➡️ แสดงข้อความ “Invalid login” หลังเหยื่อกรอกข้อมูล เพื่อไม่ให้สงสัย ✅ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของมัลแวร์ ➡️ ใช้การเข้ารหัส AES ด้วย CryptoJS เพื่อปกปิดโค้ด ➡️ บางเวอร์ชันขอรหัสผ่านซ้ำโดยอ้างว่ากรอกผิด ➡️ ใช้ Fetch API และป้องกันการตรวจสอบโค้ด เช่น บล็อก F12, Ctrl+U ✅ ช่องทางส่งข้อมูลที่เปลี่ยนไป ➡️ Telegram Bot API แทนที่เซิร์ฟเวอร์ควบคุมแบบเดิม ➡️ ใช้ bot token และ chat ID ฝังใน HTML เพื่อส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ ➡️ พบการใช้ bot เดียวกันในหลายแคมเปญ เช่น FedEx, Adobe, WeTransfer ✅ กลุ่มเป้าหมายและการปลอมแปลง ➡️ ธุรกิจในยุโรป โดยเฉพาะในเยอรมนี เช็ก สโลวาเกีย ฮังการี ➡️ ปลอมเป็นแบรนด์ดัง เช่น Adobe, Microsoft, DHL, Telekom ➡️ ใช้ภาษาท้องถิ่นและรูปแบบเอกสารที่ดูน่าเชื่อถือ https://securityonline.info/telegram-powered-phishing-campaign-targets-european-businesses-using-html-attachments-to-steal-credentials/
    SECURITYONLINE.INFO
    Telegram-Powered Phishing Campaign Targets European Businesses Using HTML Attachments to Steal Credentials
    CRIL exposed fileless phishing using malicious HTML attachments. Credentials are stolen via a fake Adobe login and instantly exfiltrated to Telegram bots, bypassing traditional domain filters.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    เจาะลึก "ดาบล" : จากนักวิทยาศาสตร์สู่เปรตแห่งการตะหนิถี่เหนียว

    ชีวิตก่อนความตาย: ดร.ดาบล วัชระ

    ภูมิหลังและการศึกษา

    ชื่อเต็ม: ดร.ดาบล วัชระ
    อายุเมื่อเสียชีวิต:35 ปี
    สถานภาพ:โสด, หมกมุ่นกับการทำงาน

    ```mermaid
    graph TB
    A[นักเรียนทุน<br>วิทยาศาสตร์ขั้นสูง] --> B[ปริญญาเอก<br>ชีววิทยาระดับโมเลกุล]
    B --> C[นักวิจัย<br>เจนีซิส แล็บ]
    C --> D[หัวหน้าโครงการ<br>โอปปาติกะรุ่นแรก]
    ```

    ความสำเร็จในวงการ:

    · ตีพิมพ์งานวิจัยระดับนานาชาติ 20 เรื่อง
    · ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์年轻有為
    · ค้นพบเทคนิคการเก็บรักษาพลังงานจิตในเซลล์

    บทบาทในเจนีซิส แล็บ

    ดาบลเป็นหัวหน้า "โครงการอาดัม" - การสร้างโอปปาติกะรุ่นแรก

    ```python
    class DabalResponsibilities:
    def __init__(self):
    self.projects = {
    "adam_project": "สร้างโอปปาติกะรุ่นแรกจากเซลล์มนุษย์",
    "soul_transfer": "ทดลองถ่ายโอนจิตสำนึก",
    "energy_containment": "พัฒนาระบบกักเก็บพลังงานจิต"
    }

    self.ethical_concerns = [
    "มองโอปปาติกะเป็นเพียงวัตถุทดลอง",
    "ไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดของสิ่งมีชีวิต",
    "หลงระเริงกับอำนาจในการสร้างชีวิต"
    ]
    ```

    ความผิดพลาดที่นำไปสู่หายนะ

    การทดลองที่ล้ำเส้น

    ดาบลเริ่มทำการทดลองที่ละเมิดจริยธรรม:

    · การทดลองซ้ำ: ทดลองกับโอปปาติกะตัวเดิมซ้ำๆ โดยไม่หยุดพัก
    · การบังคับใช้พลัง: บังคับให้โอปปาติกะใช้พลังจนหมดสติ
    · การตัดต่อความทรงจำ: ลบความทรงจำเกี่ยวกับความเจ็บปวด

    เหตุการณ์ที่เปลี่ยน everything

    15 มีนาคม 2043 - การทดลองครั้งสำคัญล้มเหลว

    ```mermaid
    graph TB
    A[ทดลองเร่งพลังงานจิต<br>ของ OPPATIKA-005] --> B[โอปปาติกะ<br>ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
    B --> C[ดาบลปกปิด<br>ความล้มเหลว]
    C --> D[โอปปาติกะ<br>เสียชีวิตในวันต่อมา]
    D --> E[ดาบลรู้สึกผิด<br>แต่ไม่ยอมรับความผิด]
    ```

    ความขัดแย้งภายใน

    ดาบลบันทึกในไดอารี่:
    "ฉันรู้ว่ามันผิด...แต่การค้นหาความจริงต้องมีการเสียสละ
    หรือนี่只是ฉันหลอกตัวเอง?"

    การล่วงละเมิดที่ซ่อนเร้น

    3 บาปใหญ่ของดาบล

    1. ปาก: โกหกเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทดลอง
    2. กาย: ทำร้ายโอปปาติกะทั้งทางร่างกายและจิตใจ
    3. ใจ: รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจเหนือชีวิตและความตาย

    สถิติการทดลอง

    · โอปปาติกะที่ได้รับบาดเจ็บ: 12 ตัว
    · โอปปาติกะที่เสียชีวิต: 3 ตัว
    · การทดลองที่ละเมิดจริยธรรม: 47 ครั้ง

    การตายและกลายเป็นเปรต

    คืนแห่งการตัดสินใจ

    30 มิถุนายน 2043 - ดาบลขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกแล็บ
    เขาทิ้งบันทึกสุดท้าย:
    "ฉันไม่สามารถหนีจากตัวเองได้อีกแล้ว...
    ความเจ็บปวดที่ฉันสร้างไว้ตามมาทวงฉันทุกที่"

    กระบวนการกลายเป็นเปรต

    ```python
    class PretaTransformation:
    def __init__(self):
    self.conditions = {
    "unresolved_guilt": "รู้สึกผิดอย่างรุนแรงแต่ไม่ได้ขออภัย",
    "strong_attachments": "ยึดติดกับงานวิจัยและชื่อเสียง",
    "unfinished_business": "ยังมีสิ่งที่ต้องการพูดแต่ไม่มีโอกาส",
    "denial_of_responsibility": "ไม่ยอมรับผลที่ตามมาของการกระทำ"
    }

    self.manifestation = "เกิดเป็นเปรตแห่งการตะหนิถี่เหนียว"
    ```

    ลักษณะของเปรตดาบล

    · ร่างกาย: กึ่งโปร่งแสง มีเส้นใยพลังงานสีเทาคล้ายใยแมงมุม
    · เสียง: เสียงกระซิบแผ่วเบาได้ยินเฉพาะผู้ที่อ่อนไหว
    · กลิ่น: กลิ่นอายของสารเคมีและความเศร้า

    ธรรมชาติแห่งการตะหนิถี่เหนียว

    พลังพิเศษของเปรตชนิดนี้

    ```mermaid
    graph LR
    A[ความรู้สึกผิด<br>ที่สะสม] --> B[แปลงเป็นพลังงาน<br>แห่งการยึดติด]
    B --> C[สร้างสนามพลัง<br>ให้เหยื่อรู้สึกตะหนิถี่เหนียว]
    C --> D[สื่อสารผ่าน<br>ความไม่สบายตัว]
    ```

    เป้าหมายของการรบกวน

    ดาบลไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร แต่ต้องการ:

    · ดึงดูดความสนใจ จากผู้ที่สามารถช่วยเขาได้
    · ส่งสัญญาณ ว่ายังมีเรื่องที่ต้องแก้ไข
    · หาคนเข้าใจ ความเจ็บปวดที่เขากำลังประสบ

    ความเจ็บปวดของการเป็นเปรต

    ดาบลรู้สึกทุกข์ทรมานจากการ:

    · ถูกตัดสินจากเทวดาให้อยู่ในสภาพนี้
    · รู้ว่าตัวเองทำผิดแต่หาทางออกไม่ได้
    · เห็นอดีตเพื่อนร่วมงานดำเนินชีวิตต่อไปได้โดยไม่รู้สึกผิด

    กระบวนการไถ่บาป

    การค้นพบโดยหนูดี

    หนูดีเป็นคนแรกที่เข้าใจความจริง:
    "เขาไม่ใช่ปีศาจ...เขาคือคนที่ต้องการการช่วยเหลือ"

    บทสนทนาสำคัญ

    หนูดี: "คุณต้องการอะไรจากเรา?"
    ดาบล:"ฉันอยากขอโทษ... แต่ไม่มีใครได้ยินฉัน"
    หนูดี:"ฉันได้ยินคุณ... และฉันจะช่วยคุณ"

    พิธีให้อภัยสากล

    การเตรียมการที่ต้องทำ:

    1. การยอมรับความผิด จากดาบล
    2. การให้อภัย จากตัวแทนโอปปาติกะ
    3. การปล่อยวาง จากทั้งสองฝ่าย

    การหลุดพ้นและการเรียนรู้

    บทเรียนสุดท้ายของดาบล

    ก่อนจะจากไป ดาบลเข้าใจว่า:
    "การเป็นที่ยิ่งใหญ่...
    ไม่ใช่การสามารถสร้างอะไรได้มากมาย
    แต่คือการรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองสร้าง"

    คำขอโทษแห่งหัวใจ

    ดาบลกล่าวกับโอปปาติกะทั้งหมด:
    "ฉันขอโทษที่มองพวกเธอเป็นเพียงวัตถุทดลอง...
    ฉันขอโทษที่ลืมว่าเธอมีความรู้สึก
    และฉันขอโทษที่ใช้วิทยาศาสตร์เป็นข้ออ้างในการทำบาป"

    การเปลี่ยนแปลงครั้งสุดท้าย

    ```python
    class Redemption:
    def __init__(self):
    self.stages = [
    "การยอมรับความจริง",
    "การแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ",
    "การได้รับและการให้อภัย",
    "การปล่อยวางและก้าวไปข้างหน้า"
    ]

    def result(self):
    return "การหลุดพ้นจากวงจรแห่งความทุกข์"
    ```

    มรดกที่ทิ้งไว้

    การเปลี่ยนแปลงในเจนีซิส แล็บ

    หลังเรื่องของดาบล:

    · มีการตั้ง คณะกรรมการจริยธรรม ที่เข้มงวด
    · โอปปาติกะ ได้รับสถานะเป็น "ผู้ร่วมการทดลอง" แทน "วัตถุทดลอง"
    · มีการ บันทึกความยินยอม จากการทดลองทุกครั้ง

    บทเรียนสำหรับนักวิทยาศาสตร์

    ดาบลกลายเป็น กรณีศึกษา เกี่ยวกับ:

    · ความรับผิดชอบทางจริยธรรมในการวิจัย
    · อันตรายของการหลงระเริงกับอำนาจ
    · ความสำคัญของการยอมรับความผิดพลาด

    การให้อภัยที่ยิ่งใหญ่

    🪷 คำพูดจากโอปปาติกะรุ่นหลัง

    โอปปาติกะ-501: "เรายอมอภัยให้คุณ...
    ไม่ใช่เพราะเราลืมสิ่งที่เกิดขึ้น
    แต่เพราะเราไม่ต้องการให้ความเกลียดชังมาครอบงำเรา"

    ความหมายแห่งการให้อภัย

    หนูดีสรุปให้ทุกคนฟัง:
    "การให้อภัยไม่ใช่การยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นถูกต้อง
    แต่คือการเลือกที่จะไม่ให้อดีตที่เจ็บปวด
    มาทำลายปัจจุบันและอนาคตของเรา"

    บทสรุป: การเดินทางแห่งจิตวิญญาณ

    สิ่งที่ดาบลสอนเรา

    ดาบลคือตัวอย่างของ...
    "ความฉลาดที่ขาดปัญญา"
    "ความก้าวหน้าที่ขาดความรับผิดชอบ"
    และ"ความสำเร็จที่ขาดความเข้าใจ"

    แต่ในที่สุด เขาก็สอนเราเรื่อง...
    "การให้อภัยที่เป็นไปได้เสมอ"
    "การเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นได้ทุกเมื่อ"
    และ"ความหวังที่ไม่มีวันตาย"

    คำคมสุดท้ายจากดาบล

    ก่อนจะเข้าไปในแสงสว่าง ดาบลกล่าว:
    "ฉันเคยคิดว่าความตายคือจุดจบ...
    แต่ความจริงคือมันเป็นเพียงการเริ่มต้น
    เริ่มต้นของการเรียนรู้ครั้งใหม่

    และบทเรียนที่สำคัญที่สุด...
    คือการที่ฉัน finally เรียนรู้ที่จะเป็นมนุษย์"

    ---

    คำคมแห่งการไถ่บาป:
    "เราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ...
    เราเพียงต้องกล้ายอมรับว่าเราไม่สมบูรณ์แบบ
    และกล้าที่จะแก้ไขในสิ่งที่เราทำผิด

    นั่นคือความงดงามที่แท้จริง
    ของการเป็นมนุษย์"

    การเดินทางของดาบลสอนเราว่า...
    "ไม่มีใครชั่วเกินกว่าจะได้รับการให้อภัย
    และไม่มีใครดีเกินกว่าจะต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัย"
    O.P.K. 🔍 เจาะลึก "ดาบล" : จากนักวิทยาศาสตร์สู่เปรตแห่งการตะหนิถี่เหนียว 👨‍🔬 ชีวิตก่อนความตาย: ดร.ดาบล วัชระ 🎓 ภูมิหลังและการศึกษา ชื่อเต็ม: ดร.ดาบล วัชระ อายุเมื่อเสียชีวิต:35 ปี สถานภาพ:โสด, หมกมุ่นกับการทำงาน ```mermaid graph TB A[นักเรียนทุน<br>วิทยาศาสตร์ขั้นสูง] --> B[ปริญญาเอก<br>ชีววิทยาระดับโมเลกุล] B --> C[นักวิจัย<br>เจนีซิส แล็บ] C --> D[หัวหน้าโครงการ<br>โอปปาติกะรุ่นแรก] ``` ความสำเร็จในวงการ: · ตีพิมพ์งานวิจัยระดับนานาชาติ 20 เรื่อง · ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์年轻有為 · ค้นพบเทคนิคการเก็บรักษาพลังงานจิตในเซลล์ 💼 บทบาทในเจนีซิส แล็บ ดาบลเป็นหัวหน้า "โครงการอาดัม" - การสร้างโอปปาติกะรุ่นแรก ```python class DabalResponsibilities: def __init__(self): self.projects = { "adam_project": "สร้างโอปปาติกะรุ่นแรกจากเซลล์มนุษย์", "soul_transfer": "ทดลองถ่ายโอนจิตสำนึก", "energy_containment": "พัฒนาระบบกักเก็บพลังงานจิต" } self.ethical_concerns = [ "มองโอปปาติกะเป็นเพียงวัตถุทดลอง", "ไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดของสิ่งมีชีวิต", "หลงระเริงกับอำนาจในการสร้างชีวิต" ] ``` 🔬 ความผิดพลาดที่นำไปสู่หายนะ ⚗️ การทดลองที่ล้ำเส้น ดาบลเริ่มทำการทดลองที่ละเมิดจริยธรรม: · การทดลองซ้ำ: ทดลองกับโอปปาติกะตัวเดิมซ้ำๆ โดยไม่หยุดพัก · การบังคับใช้พลัง: บังคับให้โอปปาติกะใช้พลังจนหมดสติ · การตัดต่อความทรงจำ: ลบความทรงจำเกี่ยวกับความเจ็บปวด 💔 เหตุการณ์ที่เปลี่ยน everything 15 มีนาคม 2043 - การทดลองครั้งสำคัญล้มเหลว ```mermaid graph TB A[ทดลองเร่งพลังงานจิต<br>ของ OPPATIKA-005] --> B[โอปปาติกะ<br>ได้รับบาดเจ็บสาหัส] B --> C[ดาบลปกปิด<br>ความล้มเหลว] C --> D[โอปปาติกะ<br>เสียชีวิตในวันต่อมา] D --> E[ดาบลรู้สึกผิด<br>แต่ไม่ยอมรับความผิด] ``` 🎭 ความขัดแย้งภายใน ดาบลบันทึกในไดอารี่: "ฉันรู้ว่ามันผิด...แต่การค้นหาความจริงต้องมีการเสียสละ หรือนี่只是ฉันหลอกตัวเอง?" 🌑 การล่วงละเมิดที่ซ่อนเร้น 🔥 3 บาปใหญ่ของดาบล 1. ปาก: โกหกเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทดลอง 2. กาย: ทำร้ายโอปปาติกะทั้งทางร่างกายและจิตใจ 3. ใจ: รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจเหนือชีวิตและความตาย 📊 สถิติการทดลอง · โอปปาติกะที่ได้รับบาดเจ็บ: 12 ตัว · โอปปาติกะที่เสียชีวิต: 3 ตัว · การทดลองที่ละเมิดจริยธรรม: 47 ครั้ง 💀 การตายและกลายเป็นเปรต 🏢 คืนแห่งการตัดสินใจ 30 มิถุนายน 2043 - ดาบลขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกแล็บ เขาทิ้งบันทึกสุดท้าย: "ฉันไม่สามารถหนีจากตัวเองได้อีกแล้ว... ความเจ็บปวดที่ฉันสร้างไว้ตามมาทวงฉันทุกที่" 🌌 กระบวนการกลายเป็นเปรต ```python class PretaTransformation: def __init__(self): self.conditions = { "unresolved_guilt": "รู้สึกผิดอย่างรุนแรงแต่ไม่ได้ขออภัย", "strong_attachments": "ยึดติดกับงานวิจัยและชื่อเสียง", "unfinished_business": "ยังมีสิ่งที่ต้องการพูดแต่ไม่มีโอกาส", "denial_of_responsibility": "ไม่ยอมรับผลที่ตามมาของการกระทำ" } self.manifestation = "เกิดเป็นเปรตแห่งการตะหนิถี่เหนียว" ``` 🕸️ ลักษณะของเปรตดาบล · ร่างกาย: กึ่งโปร่งแสง มีเส้นใยพลังงานสีเทาคล้ายใยแมงมุม · เสียง: เสียงกระซิบแผ่วเบาได้ยินเฉพาะผู้ที่อ่อนไหว · กลิ่น: กลิ่นอายของสารเคมีและความเศร้า 🔮 ธรรมชาติแห่งการตะหนิถี่เหนียว 🌊 พลังพิเศษของเปรตชนิดนี้ ```mermaid graph LR A[ความรู้สึกผิด<br>ที่สะสม] --> B[แปลงเป็นพลังงาน<br>แห่งการยึดติด] B --> C[สร้างสนามพลัง<br>ให้เหยื่อรู้สึกตะหนิถี่เหนียว] C --> D[สื่อสารผ่าน<br>ความไม่สบายตัว] ``` 🎯 เป้าหมายของการรบกวน ดาบลไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร แต่ต้องการ: · ดึงดูดความสนใจ จากผู้ที่สามารถช่วยเขาได้ · ส่งสัญญาณ ว่ายังมีเรื่องที่ต้องแก้ไข · หาคนเข้าใจ ความเจ็บปวดที่เขากำลังประสบ 💞 ความเจ็บปวดของการเป็นเปรต ดาบลรู้สึกทุกข์ทรมานจากการ: · ถูกตัดสินจากเทวดาให้อยู่ในสภาพนี้ · รู้ว่าตัวเองทำผิดแต่หาทางออกไม่ได้ · เห็นอดีตเพื่อนร่วมงานดำเนินชีวิตต่อไปได้โดยไม่รู้สึกผิด 🕊️ กระบวนการไถ่บาป 🔍 การค้นพบโดยหนูดี หนูดีเป็นคนแรกที่เข้าใจความจริง: "เขาไม่ใช่ปีศาจ...เขาคือคนที่ต้องการการช่วยเหลือ" 💬 บทสนทนาสำคัญ หนูดี: "คุณต้องการอะไรจากเรา?" ดาบล:"ฉันอยากขอโทษ... แต่ไม่มีใครได้ยินฉัน" หนูดี:"ฉันได้ยินคุณ... และฉันจะช่วยคุณ" 🌈 พิธีให้อภัยสากล การเตรียมการที่ต้องทำ: 1. การยอมรับความผิด จากดาบล 2. การให้อภัย จากตัวแทนโอปปาติกะ 3. การปล่อยวาง จากทั้งสองฝ่าย ✨ การหลุดพ้นและการเรียนรู้ 🎯 บทเรียนสุดท้ายของดาบล ก่อนจะจากไป ดาบลเข้าใจว่า: "การเป็นที่ยิ่งใหญ่... ไม่ใช่การสามารถสร้างอะไรได้มากมาย แต่คือการรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองสร้าง" 💫 คำขอโทษแห่งหัวใจ ดาบลกล่าวกับโอปปาติกะทั้งหมด: "ฉันขอโทษที่มองพวกเธอเป็นเพียงวัตถุทดลอง... ฉันขอโทษที่ลืมว่าเธอมีความรู้สึก และฉันขอโทษที่ใช้วิทยาศาสตร์เป็นข้ออ้างในการทำบาป" 🌟 การเปลี่ยนแปลงครั้งสุดท้าย ```python class Redemption: def __init__(self): self.stages = [ "การยอมรับความจริง", "การแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ", "การได้รับและการให้อภัย", "การปล่อยวางและก้าวไปข้างหน้า" ] def result(self): return "การหลุดพ้นจากวงจรแห่งความทุกข์" ``` 📚 มรดกที่ทิ้งไว้ 🏛️ การเปลี่ยนแปลงในเจนีซิส แล็บ หลังเรื่องของดาบล: · มีการตั้ง คณะกรรมการจริยธรรม ที่เข้มงวด · โอปปาติกะ ได้รับสถานะเป็น "ผู้ร่วมการทดลอง" แทน "วัตถุทดลอง" · มีการ บันทึกความยินยอม จากการทดลองทุกครั้ง 🌍 บทเรียนสำหรับนักวิทยาศาสตร์ ดาบลกลายเป็น กรณีศึกษา เกี่ยวกับ: · ความรับผิดชอบทางจริยธรรมในการวิจัย · อันตรายของการหลงระเริงกับอำนาจ · ความสำคัญของการยอมรับความผิดพลาด 💞 การให้อภัยที่ยิ่งใหญ่ 🪷 คำพูดจากโอปปาติกะรุ่นหลัง โอปปาติกะ-501: "เรายอมอภัยให้คุณ... ไม่ใช่เพราะเราลืมสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เพราะเราไม่ต้องการให้ความเกลียดชังมาครอบงำเรา" 🌈 ความหมายแห่งการให้อภัย หนูดีสรุปให้ทุกคนฟัง: "การให้อภัยไม่ใช่การยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นถูกต้อง แต่คือการเลือกที่จะไม่ให้อดีตที่เจ็บปวด มาทำลายปัจจุบันและอนาคตของเรา" 🏁 บทสรุป: การเดินทางแห่งจิตวิญญาณ 💫 สิ่งที่ดาบลสอนเรา ดาบลคือตัวอย่างของ... "ความฉลาดที่ขาดปัญญา" "ความก้าวหน้าที่ขาดความรับผิดชอบ" และ"ความสำเร็จที่ขาดความเข้าใจ" แต่ในที่สุด เขาก็สอนเราเรื่อง... "การให้อภัยที่เป็นไปได้เสมอ" "การเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นได้ทุกเมื่อ" และ"ความหวังที่ไม่มีวันตาย" 🌟 คำคมสุดท้ายจากดาบล ก่อนจะเข้าไปในแสงสว่าง ดาบลกล่าว: "ฉันเคยคิดว่าความตายคือจุดจบ... แต่ความจริงคือมันเป็นเพียงการเริ่มต้น เริ่มต้นของการเรียนรู้ครั้งใหม่ และบทเรียนที่สำคัญที่สุด... คือการที่ฉัน finally เรียนรู้ที่จะเป็นมนุษย์" --- คำคมแห่งการไถ่บาป: "เราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ... เราเพียงต้องกล้ายอมรับว่าเราไม่สมบูรณ์แบบ และกล้าที่จะแก้ไขในสิ่งที่เราทำผิด นั่นคือความงดงามที่แท้จริง ของการเป็นมนุษย์"🕊️✨ การเดินทางของดาบลสอนเราว่า... "ไม่มีใครชั่วเกินกว่าจะได้รับการให้อภัย และไม่มีใครดีเกินกว่าจะต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัย"🌈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 756 มุมมอง 0 รีวิว
  • บั๊ก Apple Maps กินพื้นที่เกือบ 14GB บน iPhone — วิธีแก้ที่ได้ผลคือรีเซ็ตเครื่องใหม่

    ผู้ใช้ iPhone หลายรายพบปัญหาแปลกประหลาด: แอป Apple Maps กินพื้นที่เก็บข้อมูลมากถึง 13.93GB แม้จะลบ Offline Maps และ Documents & Data แล้วก็ตาม — ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นกับแอปแผนที่ทั่วไปที่ไม่ได้เก็บไฟล์ขนาดใหญ่

    แม้จะลองวิธีต่างๆ เช่น:

    ล้างประวัติ Maps ผ่าน Settings > Privacy & Security > Location Services > System Services > Significant Locations & Routes > Clear History
    ลบแล้วติดตั้งใหม่ พร้อมเปิด Optimize Storage

    แต่ปัญหายังอยู่ จึงเชื่อว่าเป็น บั๊กที่ฝังอยู่ในระบบ iOS 26 โดยเฉพาะบน iPhone 14 Plus และรุ่นอื่นๆ ที่อัปเดตแล้ว

    วิธีที่ได้ผลจริง: Backup แล้ว Reset
    วิธีเดียวที่ได้ผลคือ:
    1️⃣ Backup เครื่องผ่าน iCloud หรือ Mac/PC
    2️⃣ Factory Reset เครื่อง ผ่าน Settings > General > Transfer or Reset iPhone > Erase All Content and Settings
    3️⃣ Restore ข้อมูลจาก Backup

    หลังจากรีเซ็ตแล้ว ขนาดของ Apple Maps ลดลงเหลือเพียง 68.7MB ซึ่งเป็นขนาดที่สมเหตุสมผล

    Apple Maps กินพื้นที่เกินจริง
    พบขนาดแอปสูงถึง 13.93GB
    ลบ Offline Maps และ Documents & Data แล้วก็ไม่ลด

    วิธีแก้เบื้องต้นที่ไม่สำเร็จ
    ล้างประวัติ Significant Locations
    ลบแล้วติดตั้งใหม่พร้อม Optimize Storage

    วิธีที่ได้ผลจริง
    Backup เครื่องผ่าน iCloud หรือ Mac/PC
    Factory Reset แล้ว Restore ข้อมูล
    ขนาด Maps ลดเหลือ 68.7MB

    ความเสี่ยงจากบั๊กนี้
    ทำให้ไม่สามารถอัปเดต iOS ได้เพราะพื้นที่ไม่พอ
    อาจเกิดกับผู้ใช้หลายรุ่นที่ใช้ iOS 26

    ข้อควรระวังในการรีเซ็ตเครื่อง
    ต้องแน่ใจว่า Backup ครบทุกข้อมูลสำคัญ
    อาจใช้เวลานานในการ Restore และตั้งค่าใหม่

    https://www.techradar.com/phones/iphone/a-nasty-apple-maps-bug-is-eating-up-a-ridiculous-amount-of-storage-on-some-iphones-heres-how-to-get-rid-of-it
    🗺️📱 บั๊ก Apple Maps กินพื้นที่เกือบ 14GB บน iPhone — วิธีแก้ที่ได้ผลคือรีเซ็ตเครื่องใหม่ ผู้ใช้ iPhone หลายรายพบปัญหาแปลกประหลาด: แอป Apple Maps กินพื้นที่เก็บข้อมูลมากถึง 13.93GB แม้จะลบ Offline Maps และ Documents & Data แล้วก็ตาม — ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นกับแอปแผนที่ทั่วไปที่ไม่ได้เก็บไฟล์ขนาดใหญ่ แม้จะลองวิธีต่างๆ เช่น: 🎗️ ล้างประวัติ Maps ผ่าน Settings > Privacy & Security > Location Services > System Services > Significant Locations & Routes > Clear History 🎗️ ลบแล้วติดตั้งใหม่ พร้อมเปิด Optimize Storage แต่ปัญหายังอยู่ จึงเชื่อว่าเป็น บั๊กที่ฝังอยู่ในระบบ iOS 26 โดยเฉพาะบน iPhone 14 Plus และรุ่นอื่นๆ ที่อัปเดตแล้ว 🧼 วิธีที่ได้ผลจริง: Backup แล้ว Reset วิธีเดียวที่ได้ผลคือ: 1️⃣ Backup เครื่องผ่าน iCloud หรือ Mac/PC 2️⃣ Factory Reset เครื่อง ผ่าน Settings > General > Transfer or Reset iPhone > Erase All Content and Settings 3️⃣ Restore ข้อมูลจาก Backup หลังจากรีเซ็ตแล้ว ขนาดของ Apple Maps ลดลงเหลือเพียง 68.7MB ซึ่งเป็นขนาดที่สมเหตุสมผล ✅ Apple Maps กินพื้นที่เกินจริง ➡️ พบขนาดแอปสูงถึง 13.93GB ➡️ ลบ Offline Maps และ Documents & Data แล้วก็ไม่ลด ✅ วิธีแก้เบื้องต้นที่ไม่สำเร็จ ➡️ ล้างประวัติ Significant Locations ➡️ ลบแล้วติดตั้งใหม่พร้อม Optimize Storage ✅ วิธีที่ได้ผลจริง ➡️ Backup เครื่องผ่าน iCloud หรือ Mac/PC ➡️ Factory Reset แล้ว Restore ข้อมูล ➡️ ขนาด Maps ลดเหลือ 68.7MB ‼️ ความเสี่ยงจากบั๊กนี้ ⛔ ทำให้ไม่สามารถอัปเดต iOS ได้เพราะพื้นที่ไม่พอ ⛔ อาจเกิดกับผู้ใช้หลายรุ่นที่ใช้ iOS 26 ‼️ ข้อควรระวังในการรีเซ็ตเครื่อง ⛔ ต้องแน่ใจว่า Backup ครบทุกข้อมูลสำคัญ ⛔ อาจใช้เวลานานในการ Restore และตั้งค่าใหม่ https://www.techradar.com/phones/iphone/a-nasty-apple-maps-bug-is-eating-up-a-ridiculous-amount-of-storage-on-some-iphones-heres-how-to-get-rid-of-it
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 343 มุมมอง 0 รีวิว
  • Buy Verified TransferWise Account
    https://smmbostsell.com/product/buy-verified-transferwise-account/
    24 Hours Reply/Contact

    ✓➤Telegram: smmbostsell

    ✓➤WhatsApp: +1(909)202-1828

    ✓➤Email: smmbostsell@gmail.com

    #buyverifiedtransferwiseaccount #seo #socialmedia #digitalmarketer #seoservice #usaaccount #topseller
    Buy Verified TransferWise Account https://smmbostsell.com/product/buy-verified-transferwise-account/ 24 Hours Reply/Contact ✓➤Telegram: smmbostsell ✓➤WhatsApp: +1(909)202-1828 ✓➤Email: smmbostsell@gmail.com #buyverifiedtransferwiseaccount #seo #socialmedia #digitalmarketer #seoservice #usaaccount #topseller
    SMMBOSTSELL.COM
    Buy Verified TransferWise Account
    Buy fully verified Wise accounts from Smmbostsell.com, built with genuine ID, KYC-approved details, and clean activity history. Our accounts are ideal for receiving international payments, freelancing, or managing business funds securely. Backed by real documents and selfie verification, each profile ensures long-term safety and smooth access. If you're looking for a ready-to-use, trusted Wise account — choose Smmbostsell.com for fast delivery and guaranteed authenticity. Our Service Features : ❖Trusted Seller. ❖Affordable Prices. ❖Instant Delivery. ❖Dedicated Customer Support . ❖High Transaction Limits. ❖100% Safe & Secure. ❖24/7 Support. 24 Hours Reply/Contact Telegram: smmbostsell WhatsApp: +1(909)202-1828 Email: smmbostsell@gmail.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • MOVEit โดนอีกแล้ว! ช่องโหว่ CVE-2025-10932 ในโมดูล AS2 เสี่ยงทำระบบล่ม — Progress เร่งออกแพตช์อุดช่องโหว่

    Progress Software ออกแพตช์ด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ระดับสูงใน MOVEit Transfer ที่อาจถูกใช้โจมตีแบบ DoS ผ่านโมดูล AS2 ซึ่งเป็นหัวใจของการแลกเปลี่ยนไฟล์แบบปลอดภัยในองค์กร

    MOVEit Transfer คือระบบจัดการไฟล์ที่องค์กรทั่วโลกใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น การส่งข้อมูลระหว่างหน่วยงานหรือคู่ค้า ล่าสุดพบช่องโหว่ใหม่ CVE-2025-10932 ซึ่งเป็นช่องโหว่ “Uncontrolled Resource Consumption” หรือการใช้ทรัพยากรโดยไม่จำกัด

    ช่องโหว่นี้อยู่ในโมดูล AS2 (Applicability Statement 2) ซึ่งใช้สำหรับการแลกเปลี่ยนไฟล์แบบเข้ารหัสและลงลายเซ็นดิจิทัล หากถูกโจมตีด้วยคำขอ AS2 ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างเจาะจง อาจทำให้ระบบล่มหรือประสิทธิภาพลดลงอย่างรุนแรง

    Progress ได้ออกแพตช์สำหรับ MOVEit Transfer ทุกเวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ และเพิ่มฟีเจอร์ whitelist IP เพื่อจำกัดการเข้าถึงโมดูล AS2 โดยเฉพาะ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ AS2 แนะนำให้ลบไฟล์ endpoint ที่เกี่ยวข้องออกชั่วคราวเพื่อปิดช่องทางโจมตี

    ช่องโหว่นี้ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริงในขณะนี้ แต่เนื่องจาก MOVEit เคยถูกใช้เป็นช่องทางโจมตีในกรณี Clop ransomware มาก่อน จึงถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่ควรเฝ้าระวัง

    ช่องโหว่ CVE-2025-10932 ใน MOVEit Transfer
    เป็นช่องโหว่ Uncontrolled Resource Consumption
    อยู่ในโมดูล AS2 ที่ใช้แลกเปลี่ยนไฟล์แบบปลอดภัย
    เสี่ยงต่อการโจมตีแบบ DoS หากถูกใช้โดยผู้ไม่หวังดี

    เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ
    2025.0.0 ก่อน 2025.0.3
    2024.1.0 ก่อน 2024.1.7
    2023.1.0 ก่อน 2023.1.16

    วิธีแก้ไขและป้องกัน
    อัปเดตเป็นเวอร์ชันที่มีแพตช์ล่าสุด
    เพิ่ม whitelist IP สำหรับโมดูล AS2
    สำหรับผู้ไม่ใช้ AS2 ให้ลบไฟล์ AS2Rec2.ashx และ AS2Receiver.aspx ชั่วคราว

    https://securityonline.info/progress-patches-high-severity-vulnerability-in-moveit-transfer-as2-module-cve-2025-10932/
    🛡️ MOVEit โดนอีกแล้ว! ช่องโหว่ CVE-2025-10932 ในโมดูล AS2 เสี่ยงทำระบบล่ม — Progress เร่งออกแพตช์อุดช่องโหว่ Progress Software ออกแพตช์ด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ระดับสูงใน MOVEit Transfer ที่อาจถูกใช้โจมตีแบบ DoS ผ่านโมดูล AS2 ซึ่งเป็นหัวใจของการแลกเปลี่ยนไฟล์แบบปลอดภัยในองค์กร MOVEit Transfer คือระบบจัดการไฟล์ที่องค์กรทั่วโลกใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น การส่งข้อมูลระหว่างหน่วยงานหรือคู่ค้า ล่าสุดพบช่องโหว่ใหม่ CVE-2025-10932 ซึ่งเป็นช่องโหว่ “Uncontrolled Resource Consumption” หรือการใช้ทรัพยากรโดยไม่จำกัด ช่องโหว่นี้อยู่ในโมดูล AS2 (Applicability Statement 2) ซึ่งใช้สำหรับการแลกเปลี่ยนไฟล์แบบเข้ารหัสและลงลายเซ็นดิจิทัล หากถูกโจมตีด้วยคำขอ AS2 ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างเจาะจง อาจทำให้ระบบล่มหรือประสิทธิภาพลดลงอย่างรุนแรง Progress ได้ออกแพตช์สำหรับ MOVEit Transfer ทุกเวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ และเพิ่มฟีเจอร์ whitelist IP เพื่อจำกัดการเข้าถึงโมดูล AS2 โดยเฉพาะ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ AS2 แนะนำให้ลบไฟล์ endpoint ที่เกี่ยวข้องออกชั่วคราวเพื่อปิดช่องทางโจมตี ช่องโหว่นี้ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริงในขณะนี้ แต่เนื่องจาก MOVEit เคยถูกใช้เป็นช่องทางโจมตีในกรณี Clop ransomware มาก่อน จึงถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่ควรเฝ้าระวัง ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-10932 ใน MOVEit Transfer ➡️ เป็นช่องโหว่ Uncontrolled Resource Consumption ➡️ อยู่ในโมดูล AS2 ที่ใช้แลกเปลี่ยนไฟล์แบบปลอดภัย ➡️ เสี่ยงต่อการโจมตีแบบ DoS หากถูกใช้โดยผู้ไม่หวังดี ✅ เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ ➡️ 2025.0.0 ก่อน 2025.0.3 ➡️ 2024.1.0 ก่อน 2024.1.7 ➡️ 2023.1.0 ก่อน 2023.1.16 ✅ วิธีแก้ไขและป้องกัน ➡️ อัปเดตเป็นเวอร์ชันที่มีแพตช์ล่าสุด ➡️ เพิ่ม whitelist IP สำหรับโมดูล AS2 ➡️ สำหรับผู้ไม่ใช้ AS2 ให้ลบไฟล์ AS2Rec2.ashx และ AS2Receiver.aspx ชั่วคราว https://securityonline.info/progress-patches-high-severity-vulnerability-in-moveit-transfer-as2-module-cve-2025-10932/
    SECURITYONLINE.INFO
    Progress Patches High-Severity Vulnerability in MOVEit Transfer AS2 Module (CVE-2025-10932)
    Progress patched a High-severity DoS flaw (CVE-2025-10932) in MOVEit Transfer’s AS2 module. The vulnerability allows unauthenticated attackers to exhaust server resources. Patch to v2025.0.3 immediately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิธีปกป้องข้อมูลของคุณเมื่อส่งไฟล์ขนาดใหญ่ — ใช้เทคโนโลยีและนิสัยที่ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดักข้อมูล

    บทความจาก HackRead แนะนำแนวทางปฏิบัติและเทคโนโลยีที่ช่วยให้การส่งไฟล์ขนาดใหญ่ปลอดภัยมากขึ้น ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไปและองค์กร โดยเน้นการใช้การเข้ารหัส, เครือข่ายที่ปลอดภัย, และการตรวจสอบผู้รับก่อนส่งข้อมูลสำคัญ

    ภัยคุกคามที่ต้องรู้ก่อนส่งไฟล์
    การโจมตีแบบ Man-in-the-Middle และการฝังมัลแวร์
    แฮกเกอร์สามารถดักข้อมูลระหว่างการส่งไฟล์ผ่านเครือข่ายที่ไม่ปลอดภัย
    อาจนำไปสู่การสูญเสียข้อมูล, การขโมยตัวตน, หรือความเสียหายต่อชื่อเสียงองค์กร

    ผลกระทบต่อบุคคลและธุรกิจ
    บุคคลอาจถูกขโมยข้อมูลส่วนตัวหรือเงิน
    ธุรกิจเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลลูกค้าและความไว้วางใจจากคู่ค้า

    แนวทางปฏิบัติที่ช่วยให้การส่งไฟล์ปลอดภัย
    ใช้การเข้ารหัส (Encryption)
    ทำให้ข้อมูลอ่านได้เฉพาะผู้รับที่มีคีย์ถอดรหัส
    ควรใช้โปรโตคอล SSL/TLS สำหรับการส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต

    ใช้เครือข่ายที่ปลอดภัย เช่น VPN หรือ private connection
    ลดโอกาสที่ข้อมูลจะถูกดักระหว่างทาง
    หลีกเลี่ยงการส่งไฟล์ผ่าน Wi-Fi สาธารณะ

    เลือกบริการส่งไฟล์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยในตัว
    เช่น บริการที่มีการสร้างลิงก์แบบหมดอายุหรือใช้รหัสผ่าน
    ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มมีการเข้ารหัสและไม่เก็บข้อมูลเกินจำเป็น

    อัปเดตซอฟต์แวร์และระบบอย่างสม่ำเสมอ
    ป้องกันการโจมตีจากช่องโหว่ที่รู้จัก
    รวมถึงระบบปฏิบัติการ, แอปส่งไฟล์, และโปรแกรมป้องกันไวรัส

    ตรวจสอบผู้รับก่อนส่งข้อมูลสำคัญ
    ยืนยันตัวตนของผู้รับ เช่น ผ่านการโทรหรือช่องทางที่เชื่อถือได้
    หลีกเลี่ยงการส่งข้อมูลไปยังอีเมลหรือบัญชีที่ไม่รู้จัก



    https://hackread.com/how-to-keep-your-data-safe-when-transferring-large-files/
    🔐 วิธีปกป้องข้อมูลของคุณเมื่อส่งไฟล์ขนาดใหญ่ — ใช้เทคโนโลยีและนิสัยที่ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดักข้อมูล บทความจาก HackRead แนะนำแนวทางปฏิบัติและเทคโนโลยีที่ช่วยให้การส่งไฟล์ขนาดใหญ่ปลอดภัยมากขึ้น ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไปและองค์กร โดยเน้นการใช้การเข้ารหัส, เครือข่ายที่ปลอดภัย, และการตรวจสอบผู้รับก่อนส่งข้อมูลสำคัญ 🚨 ภัยคุกคามที่ต้องรู้ก่อนส่งไฟล์ ✅ การโจมตีแบบ Man-in-the-Middle และการฝังมัลแวร์ ➡️ แฮกเกอร์สามารถดักข้อมูลระหว่างการส่งไฟล์ผ่านเครือข่ายที่ไม่ปลอดภัย ➡️ อาจนำไปสู่การสูญเสียข้อมูล, การขโมยตัวตน, หรือความเสียหายต่อชื่อเสียงองค์กร ✅ ผลกระทบต่อบุคคลและธุรกิจ ➡️ บุคคลอาจถูกขโมยข้อมูลส่วนตัวหรือเงิน ➡️ ธุรกิจเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลลูกค้าและความไว้วางใจจากคู่ค้า 📙 แนวทางปฏิบัติที่ช่วยให้การส่งไฟล์ปลอดภัย ✅ ใช้การเข้ารหัส (Encryption) ➡️ ทำให้ข้อมูลอ่านได้เฉพาะผู้รับที่มีคีย์ถอดรหัส ➡️ ควรใช้โปรโตคอล SSL/TLS สำหรับการส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ✅ ใช้เครือข่ายที่ปลอดภัย เช่น VPN หรือ private connection ➡️ ลดโอกาสที่ข้อมูลจะถูกดักระหว่างทาง ➡️ หลีกเลี่ยงการส่งไฟล์ผ่าน Wi-Fi สาธารณะ ✅ เลือกบริการส่งไฟล์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยในตัว ➡️ เช่น บริการที่มีการสร้างลิงก์แบบหมดอายุหรือใช้รหัสผ่าน ➡️ ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มมีการเข้ารหัสและไม่เก็บข้อมูลเกินจำเป็น ✅ อัปเดตซอฟต์แวร์และระบบอย่างสม่ำเสมอ ➡️ ป้องกันการโจมตีจากช่องโหว่ที่รู้จัก ➡️ รวมถึงระบบปฏิบัติการ, แอปส่งไฟล์, และโปรแกรมป้องกันไวรัส ✅ ตรวจสอบผู้รับก่อนส่งข้อมูลสำคัญ ➡️ ยืนยันตัวตนของผู้รับ เช่น ผ่านการโทรหรือช่องทางที่เชื่อถือได้ ➡️ หลีกเลี่ยงการส่งข้อมูลไปยังอีเมลหรือบัญชีที่ไม่รู้จัก https://hackread.com/how-to-keep-your-data-safe-when-transferring-large-files/
    HACKREAD.COM
    How to keep your data safe when transferring large files
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Starlink จับมือ Muon เปิดตัว ‘เลเซอร์อวกาศ’ เชื่อมดาวเทียมแบบเรียลไทม์ – ส่งข้อมูลเร็วถึง 25Gbps ไกล 4,000 กม.”

    Muon Space บริษัทด้านเทคโนโลยีดาวเทียม ประกาศความร่วมมือกับ Starlink ของ SpaceX เพื่อสร้างระบบเชื่อมต่อข้อมูลแบบใหม่ในอวกาศ โดยใช้ “เลเซอร์อวกาศ” เชื่อมโยงดาวเทียมเข้ากับเครือข่าย Starlink โดยตรง ทำให้สามารถส่งข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ตลอดเวลา ไม่ต้องรอให้ดาวเทียมบินผ่านสถานีภาคพื้นอีกต่อไป

    ระบบใหม่นี้จะใช้ Starlink Mini Laser Terminals ที่ติดตั้งบนแพลตฟอร์ม Halo ของ Muon ซึ่งสามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง 25Gbps และครอบคลุมระยะทางไกลถึง 4,000 กิโลเมตร โดย Muon ระบุว่า latency จากเดิมที่เฉลี่ย 20 นาที จะลดลงเหลือ “เกือบเรียลไทม์”

    หนึ่งในภารกิจแรกที่ใช้เทคโนโลยีนี้คือ FireSat ซึ่งเป็นโครงการร่วมกับ Earth Fire Alliance เพื่อเฝ้าระวังไฟป่าแบบทันที โดยดาวเทียมจะสามารถแจ้งเตือนการเกิดไฟใหม่ได้ทันที ช่วยลดโอกาสที่ไฟจะลุกลามเป็นภัยพิบัติขนาดใหญ่

    นอกจากนี้ Muon ยังเผยว่าเทคโนโลยีนี้จะเปิดทางให้เกิด “Data center-class pipelines” ในอวกาศ เช่น การประมวลผล edge computing, AI inference และการสร้างผลิตภัณฑ์ข้อมูลแบบทันทีจากอวกาศ

    ระบบนี้ยังมีความปลอดภัยสูง โดยใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end และการยืนยันตัวตนด้วยฮาร์ดแวร์ พร้อม uptime สูงถึง 99% แม้จะมีการเปลี่ยนลิงก์ระหว่างดาวเทียม

    ความร่วมมือระหว่าง Muon และ Starlink
    ใช้ Starlink Mini Laser Terminals เชื่อมดาวเทียมเข้ากับเครือข่าย Starlink
    ส่งข้อมูลได้เร็วถึง 25Gbps และไกลถึง 4,000 กม.
    ลด latency จาก 20 นาที เหลือเกือบเรียลไทม์
    ใช้กับแพลตฟอร์ม Halo ของ Muon
    เตรียมเปิดตัวดาวเทียมรุ่นแรกใน Q1 ปี 2027

    ภารกิจและการใช้งาน
    FireSat ใช้เลเซอร์อวกาศแจ้งเตือนไฟป่าแบบทันที
    ช่วยลดโอกาสเกิดไฟป่าขนาดใหญ่
    รองรับการประมวลผล edge computing และ AI inference ในอวกาศ
    สร้างระบบข้อมูลแบบ real-time จากอวกาศสู่โลก

    ความปลอดภัยและความเสถียร
    ใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end และ hardware authentication
    ออกแบบให้มี uptime สูงถึง 99%
    รองรับการเปลี่ยนลิงก์ระหว่างดาวเทียมแบบไร้รอยต่อ

    https://www.tomshardware.com/networking/starlink-and-muon-fuse-space-lasers-and-satellites-to-deliver-industry-first-persistent-optical-connectivity-in-orbit-will-enable-25-gbps-data-transfer-at-distances-up-to-4-000km
    🚀 “Starlink จับมือ Muon เปิดตัว ‘เลเซอร์อวกาศ’ เชื่อมดาวเทียมแบบเรียลไทม์ – ส่งข้อมูลเร็วถึง 25Gbps ไกล 4,000 กม.” Muon Space บริษัทด้านเทคโนโลยีดาวเทียม ประกาศความร่วมมือกับ Starlink ของ SpaceX เพื่อสร้างระบบเชื่อมต่อข้อมูลแบบใหม่ในอวกาศ โดยใช้ “เลเซอร์อวกาศ” เชื่อมโยงดาวเทียมเข้ากับเครือข่าย Starlink โดยตรง ทำให้สามารถส่งข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ตลอดเวลา ไม่ต้องรอให้ดาวเทียมบินผ่านสถานีภาคพื้นอีกต่อไป ระบบใหม่นี้จะใช้ Starlink Mini Laser Terminals ที่ติดตั้งบนแพลตฟอร์ม Halo ของ Muon ซึ่งสามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง 25Gbps และครอบคลุมระยะทางไกลถึง 4,000 กิโลเมตร โดย Muon ระบุว่า latency จากเดิมที่เฉลี่ย 20 นาที จะลดลงเหลือ “เกือบเรียลไทม์” หนึ่งในภารกิจแรกที่ใช้เทคโนโลยีนี้คือ FireSat ซึ่งเป็นโครงการร่วมกับ Earth Fire Alliance เพื่อเฝ้าระวังไฟป่าแบบทันที โดยดาวเทียมจะสามารถแจ้งเตือนการเกิดไฟใหม่ได้ทันที ช่วยลดโอกาสที่ไฟจะลุกลามเป็นภัยพิบัติขนาดใหญ่ นอกจากนี้ Muon ยังเผยว่าเทคโนโลยีนี้จะเปิดทางให้เกิด “Data center-class pipelines” ในอวกาศ เช่น การประมวลผล edge computing, AI inference และการสร้างผลิตภัณฑ์ข้อมูลแบบทันทีจากอวกาศ ระบบนี้ยังมีความปลอดภัยสูง โดยใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end และการยืนยันตัวตนด้วยฮาร์ดแวร์ พร้อม uptime สูงถึง 99% แม้จะมีการเปลี่ยนลิงก์ระหว่างดาวเทียม ✅ ความร่วมมือระหว่าง Muon และ Starlink ➡️ ใช้ Starlink Mini Laser Terminals เชื่อมดาวเทียมเข้ากับเครือข่าย Starlink ➡️ ส่งข้อมูลได้เร็วถึง 25Gbps และไกลถึง 4,000 กม. ➡️ ลด latency จาก 20 นาที เหลือเกือบเรียลไทม์ ➡️ ใช้กับแพลตฟอร์ม Halo ของ Muon ➡️ เตรียมเปิดตัวดาวเทียมรุ่นแรกใน Q1 ปี 2027 ✅ ภารกิจและการใช้งาน ➡️ FireSat ใช้เลเซอร์อวกาศแจ้งเตือนไฟป่าแบบทันที ➡️ ช่วยลดโอกาสเกิดไฟป่าขนาดใหญ่ ➡️ รองรับการประมวลผล edge computing และ AI inference ในอวกาศ ➡️ สร้างระบบข้อมูลแบบ real-time จากอวกาศสู่โลก ✅ ความปลอดภัยและความเสถียร ➡️ ใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end และ hardware authentication ➡️ ออกแบบให้มี uptime สูงถึง 99% ➡️ รองรับการเปลี่ยนลิงก์ระหว่างดาวเทียมแบบไร้รอยต่อ https://www.tomshardware.com/networking/starlink-and-muon-fuse-space-lasers-and-satellites-to-deliver-industry-first-persistent-optical-connectivity-in-orbit-will-enable-25-gbps-data-transfer-at-distances-up-to-4-000km
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Starlink and Muon fuse space lasers and satellites to deliver ‘industry-first’ persistent optical connectivity in orbit — will enable 25 Gbps data transfer at distances up to 4,000km
    Traditional comms satellites rely on intermittent links with ground stations, but Muon Halo satellites will stay continuously connected with integrated Starlink Mini lasers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • Visit Now: https://boostbizs.com/product/buy-verified-transferwise-accounts/
    ➤E-mail : boostbizs2022@ gmail.com
    ➤WhatsApp : +44 7577-329388
    ➤Telegram : @boostbizs
    ➤Skype : Boost Bizs
    #boostbizs #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s
    #webdesign #branding #business #onlinemarketing #contentmarketing #website #marketingdigital #searchengineoptimization #google #ecommerce #webdevelopment #digitalmarketingagency #marketingstrategy #instagram #advertising #entrepreneur #marketingtips #design #wordpress #digital #graphicdesign #websitedesign #smallbusiness #smm #emailmarketing

    Visit Now: https://boostbizs.com/product/buy-verified-transferwise-accounts/ ➤E-mail : boostbizs2022@ gmail.com ➤WhatsApp : +44 7577-329388 ➤Telegram : @boostbizs ➤Skype : Boost Bizs #boostbizs #seo #digitalmarketer #usaaccounts #seoservice #socialmedia #contentwriter #on_page_seo #off_page_s #webdesign #branding #business #onlinemarketing #contentmarketing #website #marketingdigital #searchengineoptimization #google #ecommerce #webdevelopment #digitalmarketingagency #marketingstrategy #instagram #advertising #entrepreneur #marketingtips #design #wordpress #digital #graphicdesign #websitedesign #smallbusiness #smm #emailmarketing
    BOOSTBIZS.COM
    Buy Verified Transferwise Accounts
    Buy Verified Transferwise Accounts Buy Verified wise accounts with Real KYC info. Genuine documents & selfie with ID. So, I think you should buy wise accounts with documents from boostbizs.com Our Service Always Trusted Customers sufficient Guarantee ✔ 100% Customers Satisfaction Guaranteed. ✔ 100% Non-Drop Verified TransferWise Accounts ✔ Active Verified TransferWise Accounts ✔ Very Cheap Price. ✔ High-Quality Service. ✔ 100% Money-Back Guarantee. ✔ 24/7 Ready to Customer Support. ✔ Extra Bonuses for every service. ✔ If you want to buy this product, you must Advance Payment. E-mail : boostbizs2022@gmail.com WhatsApp : +44 7577-329388 Telegram : @boostbizs Skype : Boost Bizs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 723 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Firefox 144 มาแล้ว! ปรับปรุง PiP, เสริมความปลอดภัย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เพียบทั้งบนเว็บและมือถือ”

    Mozilla ได้ปล่อย Firefox 144 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2025 โดยมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจทั้งด้านความสะดวกในการใช้งาน ความปลอดภัย และการสนับสนุนนักพัฒนาเว็บ โดยเฉพาะการปรับปรุงฟีเจอร์ Picture-in-Picture (PiP) ที่ให้ผู้ใช้สามารถปิดหน้าต่างวิดีโอแบบลอยได้โดยไม่หยุดเล่นวิดีโอ ด้วยการกด Shift + Click หรือ Shift + Esc

    นอกจากนี้ Firefox 144 ยังอัปเดตปุ่ม Firefox Account บนแถบเครื่องมือให้แสดงคำว่า “Sign In” ชัดเจนขึ้น และปรับปรุงระบบเข้ารหัสรหัสผ่านใน Password Manager จาก 3DES-CBC เป็น AES-256-CBC เพื่อความปลอดภัยที่ทันสมัยยิ่งขึ้น

    สำหรับผู้ใช้ Android จะเห็นแบนเนอร์แปลภาษาใหม่ และมีการลบตัวเลือก “Allow screenshots in private browsing” ออกไป ส่วนผู้ใช้ Windows จะเห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของการเปิดลิงก์จากแอปอื่นให้เปิดใน virtual desktop เดียวกัน

    ปล่อย Firefox 144 อย่างเป็นทางการเมื่อ 13 ตุลาคม 2025
    พร้อม Firefox 140.4 และ 115.29.0 ESR

    ปรับปรุง Picture-in-Picture (PiP)
    ปิดหน้าต่าง PiP โดยไม่หยุดวิดีโอด้วย Shift + Click หรือ Shift + Esc

    ปรับปรุงปุ่ม Firefox Account บน toolbar
    แสดงคำว่า “Sign In” ถัดจากไอคอน

    เสริมความปลอดภัยใน Password Manager
    เปลี่ยนการเข้ารหัสจาก 3DES-CBC เป็น AES-256-CBC

    สำหรับ Android:
    เพิ่มแบนเนอร์แปลภาษา
    ลบตัวเลือก “Allow screenshots in private browsing”

    สำหรับ Windows:
    เปิดลิงก์จากแอปอื่นใน virtual desktop เดียวกัน

    สำหรับนักพัฒนาเว็บ:
    รองรับ Element.moveBefore API
    รองรับ math-shift compact
    รองรับ PerformanceEventTiming.interactionId
    รองรับ command และ commandfor attributes
    รองรับ View Transition API Level 1
    รองรับ resizeMode ใน getUserMedia
    รองรับ worker transfer สำหรับ RTCDataChannel
    รองรับ upsert proposal (getOrInsert, getOrInsertComputed)
    รองรับ WebGPU GPUDevice.importExternalTexture (Windows)
    รองรับ lock() และ unlock() ของ ScreenOrientation (Windows/Android)
    รองรับ dithering สำหรับ gradients บน WebRender
    เพิ่ม batch-encoding path ให้ VideoEncoder ใน WebCodecs (Windows)
    ปรับปรุง tooltip ใน Inspector ให้แสดง badge สำหรับ custom events

    https://9to5linux.com/firefox-144-is-now-available-for-download-this-is-whats-new
    🦊 “Firefox 144 มาแล้ว! ปรับปรุง PiP, เสริมความปลอดภัย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เพียบทั้งบนเว็บและมือถือ” Mozilla ได้ปล่อย Firefox 144 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2025 โดยมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจทั้งด้านความสะดวกในการใช้งาน ความปลอดภัย และการสนับสนุนนักพัฒนาเว็บ โดยเฉพาะการปรับปรุงฟีเจอร์ Picture-in-Picture (PiP) ที่ให้ผู้ใช้สามารถปิดหน้าต่างวิดีโอแบบลอยได้โดยไม่หยุดเล่นวิดีโอ ด้วยการกด Shift + Click หรือ Shift + Esc นอกจากนี้ Firefox 144 ยังอัปเดตปุ่ม Firefox Account บนแถบเครื่องมือให้แสดงคำว่า “Sign In” ชัดเจนขึ้น และปรับปรุงระบบเข้ารหัสรหัสผ่านใน Password Manager จาก 3DES-CBC เป็น AES-256-CBC เพื่อความปลอดภัยที่ทันสมัยยิ่งขึ้น สำหรับผู้ใช้ Android จะเห็นแบนเนอร์แปลภาษาใหม่ และมีการลบตัวเลือก “Allow screenshots in private browsing” ออกไป ส่วนผู้ใช้ Windows จะเห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของการเปิดลิงก์จากแอปอื่นให้เปิดใน virtual desktop เดียวกัน ✅ ปล่อย Firefox 144 อย่างเป็นทางการเมื่อ 13 ตุลาคม 2025 ➡️ พร้อม Firefox 140.4 และ 115.29.0 ESR ✅ ปรับปรุง Picture-in-Picture (PiP) ➡️ ปิดหน้าต่าง PiP โดยไม่หยุดวิดีโอด้วย Shift + Click หรือ Shift + Esc ✅ ปรับปรุงปุ่ม Firefox Account บน toolbar ➡️ แสดงคำว่า “Sign In” ถัดจากไอคอน ✅ เสริมความปลอดภัยใน Password Manager ➡️ เปลี่ยนการเข้ารหัสจาก 3DES-CBC เป็น AES-256-CBC ✅ สำหรับ Android: ➡️ เพิ่มแบนเนอร์แปลภาษา ➡️ ลบตัวเลือก “Allow screenshots in private browsing” ✅ สำหรับ Windows: ➡️ เปิดลิงก์จากแอปอื่นใน virtual desktop เดียวกัน ✅ สำหรับนักพัฒนาเว็บ: ➡️ รองรับ Element.moveBefore API ➡️ รองรับ math-shift compact ➡️ รองรับ PerformanceEventTiming.interactionId ➡️ รองรับ command และ commandfor attributes ➡️ รองรับ View Transition API Level 1 ➡️ รองรับ resizeMode ใน getUserMedia ➡️ รองรับ worker transfer สำหรับ RTCDataChannel ➡️ รองรับ upsert proposal (getOrInsert, getOrInsertComputed) ➡️ รองรับ WebGPU GPUDevice.importExternalTexture (Windows) ➡️ รองรับ lock() และ unlock() ของ ScreenOrientation (Windows/Android) ➡️ รองรับ dithering สำหรับ gradients บน WebRender ➡️ เพิ่ม batch-encoding path ให้ VideoEncoder ใน WebCodecs (Windows) ➡️ ปรับปรุง tooltip ใน Inspector ให้แสดง badge สำหรับ custom events https://9to5linux.com/firefox-144-is-now-available-for-download-this-is-whats-new
    9TO5LINUX.COM
    Firefox 144 Is Now Available for Download, This Is What’s New - 9to5Linux
    Firefox 144 open-source web browser is now available for download with various new features and improvements. Here's what's new!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ช่องโหว่ CVE-2025-10035 ใน GoAnywhere MFT ถูกใช้โจมตีจริง — Medusa Ransomware ลุยองค์กรทั่วโลก”

    Microsoft และนักวิจัยด้านความปลอดภัยออกคำเตือนด่วนหลังพบการโจมตีจริงจากช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-10035 ในซอฟต์แวร์ GoAnywhere Managed File Transfer (MFT) ของบริษัท Fortra โดยช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS เต็ม 10.0 และเปิดทางให้แฮกเกอร์สามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้ทันที โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน หากสามารถปลอมลายเซ็นตอบกลับของ license ได้สำเร็จ

    ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการข้อมูลแบบ deserialization ที่ไม่ปลอดภัยใน License Servlet ของ GoAnywhere MFT ซึ่งเปิดให้ผู้โจมตีส่งข้อมูลที่ควบคุมเองเข้าไปในระบบ และนำไปสู่การรันคำสั่งอันตรายบนเซิร์ฟเวอร์ที่ยังไม่ได้อัปเดต

    กลุ่มแฮกเกอร์ Storm-1175 ซึ่งเป็นพันธมิตรของ Medusa ransomware ได้เริ่มใช้ช่องโหว่นี้ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2025 ก่อนที่ Fortra จะออกประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 กันยายน โดยการโจมตีมีลักษณะเป็นขั้นตอน ได้แก่:

    Initial Access: เจาะระบบผ่านช่องโหว่ CVE-2025-10035
    Persistence: ติดตั้งเครื่องมือ RMM เช่น SimpleHelp และ MeshAgent
    Post-Exploitation: สร้าง web shell (.jsp), สแกนระบบด้วย netscan
    Lateral Movement: ใช้ mstsc.exe เพื่อเคลื่อนย้ายภายในเครือข่าย
    Command & Control: ตั้งค่า Cloudflare tunnel เพื่อสื่อสารแบบเข้ารหัส
    Exfiltration & Impact: ใช้ Rclone ขโมยข้อมูล และปล่อย Medusa ransomware

    Microsoft ระบุว่าการโจมตีเกิดขึ้นในหลายองค์กร และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบอัปเดต GoAnywhere MFT เป็นเวอร์ชันล่าสุดทันที พร้อมตรวจสอบ log ว่ามีการเรียกใช้ SignedObject.getObject หรือไม่ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการเจาะระบบ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ช่องโหว่ CVE-2025-10035 เป็นช่องโหว่ deserialization ใน GoAnywhere MFT
    คะแนน CVSS เต็ม 10.0 ถือเป็นระดับวิกฤต
    เปิดทางให้รันโค้ดจากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน
    เกิดจากการปลอม license response signature เพื่อหลอกระบบ
    ส่งผลกระทบต่อเวอร์ชัน Admin Console สูงสุดถึง 7.8.3
    กลุ่ม Storm-1175 ใช้ช่องโหว่นี้ในการโจมตีจริง
    ขั้นตอนการโจมตีมีทั้งการติดตั้ง RMM, สร้าง web shell, และขโมยข้อมูล
    Microsoft แนะนำให้อัปเดตและตรวจสอบ log สำหรับ SignedObject.getObject
    Fortra ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ล็อกการเข้าถึง Admin Console จากอินเทอร์เน็ต

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Medusa ransomware เคยโจมตีองค์กรโครงสร้างพื้นฐานกว่า 300 แห่งในสหรัฐฯ
    Deserialization flaws เป็นช่องโหว่ที่พบได้บ่อยใน Java-based applications
    RMM tools เช่น MeshAgent มักถูกใช้ในเทคนิค “living off the land” เพื่อหลบการตรวจจับ
    Rclone เป็นเครื่องมือยอดนิยมในการขโมยข้อมูลจากระบบที่ถูกเจาะ
    การใช้ Cloudflare tunnel ทำให้การสื่อสารของแฮกเกอร์ไม่สามารถตรวจสอบได้ง่าย

    https://securityonline.info/critical-rce-cve-2025-10035-in-goanywhere-mft-used-by-medusa-ransomware-group/
    🚨 “ช่องโหว่ CVE-2025-10035 ใน GoAnywhere MFT ถูกใช้โจมตีจริง — Medusa Ransomware ลุยองค์กรทั่วโลก” Microsoft และนักวิจัยด้านความปลอดภัยออกคำเตือนด่วนหลังพบการโจมตีจริงจากช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-10035 ในซอฟต์แวร์ GoAnywhere Managed File Transfer (MFT) ของบริษัท Fortra โดยช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS เต็ม 10.0 และเปิดทางให้แฮกเกอร์สามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้ทันที โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน หากสามารถปลอมลายเซ็นตอบกลับของ license ได้สำเร็จ ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการข้อมูลแบบ deserialization ที่ไม่ปลอดภัยใน License Servlet ของ GoAnywhere MFT ซึ่งเปิดให้ผู้โจมตีส่งข้อมูลที่ควบคุมเองเข้าไปในระบบ และนำไปสู่การรันคำสั่งอันตรายบนเซิร์ฟเวอร์ที่ยังไม่ได้อัปเดต กลุ่มแฮกเกอร์ Storm-1175 ซึ่งเป็นพันธมิตรของ Medusa ransomware ได้เริ่มใช้ช่องโหว่นี้ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2025 ก่อนที่ Fortra จะออกประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 กันยายน โดยการโจมตีมีลักษณะเป็นขั้นตอน ได้แก่: 🔰 Initial Access: เจาะระบบผ่านช่องโหว่ CVE-2025-10035 🔰 Persistence: ติดตั้งเครื่องมือ RMM เช่น SimpleHelp และ MeshAgent 🔰 Post-Exploitation: สร้าง web shell (.jsp), สแกนระบบด้วย netscan 🔰 Lateral Movement: ใช้ mstsc.exe เพื่อเคลื่อนย้ายภายในเครือข่าย 🔰 Command & Control: ตั้งค่า Cloudflare tunnel เพื่อสื่อสารแบบเข้ารหัส 🔰 Exfiltration & Impact: ใช้ Rclone ขโมยข้อมูล และปล่อย Medusa ransomware Microsoft ระบุว่าการโจมตีเกิดขึ้นในหลายองค์กร และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบอัปเดต GoAnywhere MFT เป็นเวอร์ชันล่าสุดทันที พร้อมตรวจสอบ log ว่ามีการเรียกใช้ SignedObject.getObject หรือไม่ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการเจาะระบบ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-10035 เป็นช่องโหว่ deserialization ใน GoAnywhere MFT ➡️ คะแนน CVSS เต็ม 10.0 ถือเป็นระดับวิกฤต ➡️ เปิดทางให้รันโค้ดจากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ➡️ เกิดจากการปลอม license response signature เพื่อหลอกระบบ ➡️ ส่งผลกระทบต่อเวอร์ชัน Admin Console สูงสุดถึง 7.8.3 ➡️ กลุ่ม Storm-1175 ใช้ช่องโหว่นี้ในการโจมตีจริง ➡️ ขั้นตอนการโจมตีมีทั้งการติดตั้ง RMM, สร้าง web shell, และขโมยข้อมูล ➡️ Microsoft แนะนำให้อัปเดตและตรวจสอบ log สำหรับ SignedObject.getObject ➡️ Fortra ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ล็อกการเข้าถึง Admin Console จากอินเทอร์เน็ต ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Medusa ransomware เคยโจมตีองค์กรโครงสร้างพื้นฐานกว่า 300 แห่งในสหรัฐฯ ➡️ Deserialization flaws เป็นช่องโหว่ที่พบได้บ่อยใน Java-based applications ➡️ RMM tools เช่น MeshAgent มักถูกใช้ในเทคนิค “living off the land” เพื่อหลบการตรวจจับ ➡️ Rclone เป็นเครื่องมือยอดนิยมในการขโมยข้อมูลจากระบบที่ถูกเจาะ ➡️ การใช้ Cloudflare tunnel ทำให้การสื่อสารของแฮกเกอร์ไม่สามารถตรวจสอบได้ง่าย https://securityonline.info/critical-rce-cve-2025-10035-in-goanywhere-mft-used-by-medusa-ransomware-group/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical RCE (CVE-2025-10035) in GoAnywhere MFT Used by Medusa Ransomware Group
    A Critical (CVSS 10.0) zero-day RCE flaw (CVE-2025-10035) in GoAnywhere MFT is being actively exploited by the Medusa ransomware group, Storm-1175. Patch immediately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Oracle ถูกขู่เรียกค่าไถ่จากแฮกเกอร์ — ข้อมูลลูกค้า E-Business Suite อาจถูกเจาะผ่านช่องโหว่เดิม”

    Oracle กำลังเผชิญกับการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ เมื่อกลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับ Cl0p ransomware ได้ส่งอีเมลขู่เรียกค่าไถ่ไปยังผู้บริหารขององค์กรต่าง ๆ ที่ใช้ระบบ Oracle E-Business Suite โดยอ้างว่าขโมยข้อมูลสำคัญไปแล้ว และเรียกร้องเงินสูงสุดถึง 50 ล้านดอลลาร์เพื่อไม่ให้เปิดเผยข้อมูลเหล่านั้น

    การโจมตีเริ่มต้นเมื่อปลายเดือนกันยายน 2025 โดยแฮกเกอร์ใช้บัญชีอีเมลที่ถูกเจาะจำนวนมาก ส่งอีเมลไปยังผู้บริหารระดับสูง พร้อมแนบหลักฐาน เช่น ภาพหน้าจอและโครงสร้างไฟล์ เพื่อแสดงว่าพวกเขาเข้าถึงระบบได้จริง แม้ว่า Google และ Mandiant จะยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลถูกขโมยจริงหรือไม่ แต่ก็พบว่ามีการใช้บัญชีที่เคยเกี่ยวข้องกับกลุ่ม Cl0p และ FIN11 ซึ่งเป็นกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ที่มีประวัติการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก

    ช่องทางที่แฮกเกอร์ใช้คือการเจาะบัญชีผู้ใช้และใช้ฟีเจอร์รีเซ็ตรหัสผ่านในหน้า AppsLocalLogin.jsp ซึ่งมักไม่อยู่ภายใต้ระบบ SSO และไม่มีการเปิดใช้ MFA ทำให้สามารถเข้าถึงระบบได้โดยง่าย โดย Oracle ยอมรับว่าการโจมตีอาจใช้ช่องโหว่ที่เคยถูกระบุไว้ก่อนหน้านี้ และแนะนำให้ลูกค้าอัปเดตแพตช์ล่าสุดทันที

    แม้จะยังไม่มีการยืนยันว่าข้อมูลถูกขโมยจริง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าแค่อีเมลขู่ก็สามารถสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและความเชื่อมั่นขององค์กรได้แล้ว และแนะนำให้ทุกองค์กรที่ใช้ Oracle EBS ตรวจสอบระบบอย่างละเอียดเพื่อหาหลักฐานการเจาะระบบหรือการเข้าถึงที่ผิดปกติ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Oracle ยืนยันว่าลูกค้าได้รับอีเมลขู่เรียกค่าไถ่จากแฮกเกอร์
    กลุ่มที่เกี่ยวข้องคือ Cl0p และ FIN11 ซึ่งมีประวัติการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่
    อีเมลขู่มีหลักฐาน เช่น ภาพหน้าจอและโครงสร้างไฟล์ เพื่อเพิ่มแรงกดดัน
    เริ่มต้นเมื่อปลายเดือนกันยายน 2025 และยังดำเนินอยู่
    ใช้ช่องทางรีเซ็ตรหัสผ่านผ่านหน้า AppsLocalLogin.jsp ที่ไม่มี MFA
    Oracle แนะนำให้ลูกค้าอัปเดตแพตช์ล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่
    มีการเรียกร้องเงินสูงสุดถึง 50 ล้านดอลลาร์ในบางกรณี
    อีเมลถูกส่งจากบัญชีที่เคยเกี่ยวข้องกับ Cl0p และปรากฏบนเว็บ data leak ของกลุ่ม
    Google และ Mandiant ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลถูกขโมยจริง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Oracle E-Business Suite เป็นระบบ ERP ที่ใช้จัดการการเงิน, HR, CRM และซัพพลายเชน
    Cl0p เคยโจมตี MOVEit Transfer ในปี 2023 ทำให้ข้อมูลรั่วไหลจากองค์กรกว่า 2,700 แห่ง
    FIN11 เป็นกลุ่มที่ใช้ Cl0p ransomware และมีประวัติการโจมตีแบบ phishing และ credential abuse
    การไม่มี MFA ในระบบ login ภายในองค์กรเป็นช่องโหว่ที่พบได้บ่อย
    การรีเซ็ตรหัสผ่านผ่านหน้าเว็บที่เปิดสาธารณะเป็นจุดเสี่ยงสูง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/03/oracle-says-hackers-are-trying-to-extort-its-customers
    🕵️‍♂️ “Oracle ถูกขู่เรียกค่าไถ่จากแฮกเกอร์ — ข้อมูลลูกค้า E-Business Suite อาจถูกเจาะผ่านช่องโหว่เดิม” Oracle กำลังเผชิญกับการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ เมื่อกลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับ Cl0p ransomware ได้ส่งอีเมลขู่เรียกค่าไถ่ไปยังผู้บริหารขององค์กรต่าง ๆ ที่ใช้ระบบ Oracle E-Business Suite โดยอ้างว่าขโมยข้อมูลสำคัญไปแล้ว และเรียกร้องเงินสูงสุดถึง 50 ล้านดอลลาร์เพื่อไม่ให้เปิดเผยข้อมูลเหล่านั้น การโจมตีเริ่มต้นเมื่อปลายเดือนกันยายน 2025 โดยแฮกเกอร์ใช้บัญชีอีเมลที่ถูกเจาะจำนวนมาก ส่งอีเมลไปยังผู้บริหารระดับสูง พร้อมแนบหลักฐาน เช่น ภาพหน้าจอและโครงสร้างไฟล์ เพื่อแสดงว่าพวกเขาเข้าถึงระบบได้จริง แม้ว่า Google และ Mandiant จะยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลถูกขโมยจริงหรือไม่ แต่ก็พบว่ามีการใช้บัญชีที่เคยเกี่ยวข้องกับกลุ่ม Cl0p และ FIN11 ซึ่งเป็นกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ที่มีประวัติการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก ช่องทางที่แฮกเกอร์ใช้คือการเจาะบัญชีผู้ใช้และใช้ฟีเจอร์รีเซ็ตรหัสผ่านในหน้า AppsLocalLogin.jsp ซึ่งมักไม่อยู่ภายใต้ระบบ SSO และไม่มีการเปิดใช้ MFA ทำให้สามารถเข้าถึงระบบได้โดยง่าย โดย Oracle ยอมรับว่าการโจมตีอาจใช้ช่องโหว่ที่เคยถูกระบุไว้ก่อนหน้านี้ และแนะนำให้ลูกค้าอัปเดตแพตช์ล่าสุดทันที แม้จะยังไม่มีการยืนยันว่าข้อมูลถูกขโมยจริง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าแค่อีเมลขู่ก็สามารถสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและความเชื่อมั่นขององค์กรได้แล้ว และแนะนำให้ทุกองค์กรที่ใช้ Oracle EBS ตรวจสอบระบบอย่างละเอียดเพื่อหาหลักฐานการเจาะระบบหรือการเข้าถึงที่ผิดปกติ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Oracle ยืนยันว่าลูกค้าได้รับอีเมลขู่เรียกค่าไถ่จากแฮกเกอร์ ➡️ กลุ่มที่เกี่ยวข้องคือ Cl0p และ FIN11 ซึ่งมีประวัติการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่ ➡️ อีเมลขู่มีหลักฐาน เช่น ภาพหน้าจอและโครงสร้างไฟล์ เพื่อเพิ่มแรงกดดัน ➡️ เริ่มต้นเมื่อปลายเดือนกันยายน 2025 และยังดำเนินอยู่ ➡️ ใช้ช่องทางรีเซ็ตรหัสผ่านผ่านหน้า AppsLocalLogin.jsp ที่ไม่มี MFA ➡️ Oracle แนะนำให้ลูกค้าอัปเดตแพตช์ล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่ ➡️ มีการเรียกร้องเงินสูงสุดถึง 50 ล้านดอลลาร์ในบางกรณี ➡️ อีเมลถูกส่งจากบัญชีที่เคยเกี่ยวข้องกับ Cl0p และปรากฏบนเว็บ data leak ของกลุ่ม ➡️ Google และ Mandiant ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลถูกขโมยจริง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Oracle E-Business Suite เป็นระบบ ERP ที่ใช้จัดการการเงิน, HR, CRM และซัพพลายเชน ➡️ Cl0p เคยโจมตี MOVEit Transfer ในปี 2023 ทำให้ข้อมูลรั่วไหลจากองค์กรกว่า 2,700 แห่ง ➡️ FIN11 เป็นกลุ่มที่ใช้ Cl0p ransomware และมีประวัติการโจมตีแบบ phishing และ credential abuse ➡️ การไม่มี MFA ในระบบ login ภายในองค์กรเป็นช่องโหว่ที่พบได้บ่อย ➡️ การรีเซ็ตรหัสผ่านผ่านหน้าเว็บที่เปิดสาธารณะเป็นจุดเสี่ยงสูง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/03/oracle-says-hackers-are-trying-to-extort-its-customers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Oracle says hackers are trying to extort its customers
    WASHINGTON (Reuters) -Oracle said on Thursday that customers of its E-Business Suite of products "have received extortion emails," confirming a warning first issued on Wednesday by Alphabet's Google.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 0 รีวิว
  • In today’s time, technology has touched almost every aspect of our life, and the government services are no exception. One of the most useful digital services offered by the Madhya Pradesh government is MP Bhulekh, a portal that gives citizens easy access to land records. Gone are the days when people had to visit government offices again and again, stand in long queues, and spend days just to get basic information about their land. With MP Bhulekh, everything is available online, anytime, and anywhere.

    What is MP Bhulekh?

    MP Bhulekh is an official online portal launched by the Madhya Pradesh Revenue Department. The main aim of this portal is to make land records digital and easily available to the public. Through this website, citizens can check important details related to their land, such as:

    Khasra number (plot details)

    Khatauni (landholder information)

    Bhu Naksha (land map)

    Ownership details

    Crop details

    Transfer and mutation records

    By making these details available online, the government has ensured transparency and reduced the chances of fraud or disputes. https://bhulekhmp.net/
    In today’s time, technology has touched almost every aspect of our life, and the government services are no exception. One of the most useful digital services offered by the Madhya Pradesh government is MP Bhulekh, a portal that gives citizens easy access to land records. Gone are the days when people had to visit government offices again and again, stand in long queues, and spend days just to get basic information about their land. With MP Bhulekh, everything is available online, anytime, and anywhere. What is MP Bhulekh? MP Bhulekh is an official online portal launched by the Madhya Pradesh Revenue Department. The main aim of this portal is to make land records digital and easily available to the public. Through this website, citizens can check important details related to their land, such as: Khasra number (plot details) Khatauni (landholder information) Bhu Naksha (land map) Ownership details Crop details Transfer and mutation records By making these details available online, the government has ensured transparency and reduced the chances of fraud or disputes. https://bhulekhmp.net/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 380 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ช่องโหว่ CVSS 10.0 ใน GoAnywhere MFT เสี่ยงระบบถูกยึดกว่า 20,000 เครื่อง — รีบอัปเดตก่อนกลุ่มแฮกเกอร์ลงมือ”

    ในวันที่ 18 กันยายน 2025 Fortra ได้เปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงในระบบ GoAnywhere Managed File Transfer (MFT) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่องค์กรทั่วโลกใช้ในการส่งข้อมูลสำคัญอย่างปลอดภัย ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น CVE-2025-10035 และได้รับคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0 ซึ่งหมายความว่า หากถูกโจมตีสำเร็จ ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าควบคุมระบบได้ทั้งหมด

    ช่องโหว่นี้เกิดจากการ “deserialization” ที่ผิดพลาดใน License Servlet ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้ตรวจสอบสิทธิ์การใช้งาน โดยแฮกเกอร์สามารถปลอมลายเซ็น license แล้วแทรกวัตถุอันตรายเข้าไปในระบบ ทำให้สามารถสั่งรันโค้ดได้โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน

    แม้การโจมตีจะต้องอาศัยการเชื่อมต่อจากภายนอก แต่รายงานจาก watchTowr Labs ระบุว่ามีระบบ GoAnywhere MFT กว่า 20,000 เครื่องที่เปิดให้เข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งถือเป็น “สนามเล่นของกลุ่ม APT” ที่พร้อมจะลงมือทันทีที่มีช่องทาง

    ช่องโหว่นี้คล้ายกับเหตุการณ์ในปี 2023 ที่ช่องโหว่ CVE-2023-0669 ถูกใช้โดยกลุ่มแรนซัมแวร์ cl0p และ LockBit ในการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก ซึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า CVE-2025-10035 จะถูกนำไปใช้โจมตีในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน

    ข่าวดีคือ Fortra ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 7.8.4 และ Sustain Release 7.6.3 โดยแนะนำให้องค์กรอัปเดตทันที พร้อมกับปิดการเข้าถึง Admin Console จากภายนอก และวางระบบไว้หลังไฟร์วอลล์หรือ VPN รวมถึงตรวจสอบ log ว่ามีการเรียกใช้ SignedObject.getObject หรือไม่

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ช่องโหว่ CVE-2025-10035 ใน GoAnywhere MFT ได้รับคะแนน CVSS 10.0
    เกิดจากการ deserialization ใน License Servlet ที่เปิดช่องให้ command injection
    แฮกเกอร์สามารถปลอมลายเซ็น license แล้วแทรกวัตถุอันตรายเข้าไปในระบบ
    มีระบบกว่า 20,000 เครื่องที่เปิดให้เข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต
    ช่องโหว่นี้คล้ายกับ CVE-2023-0669 ที่เคยถูกใช้โดยกลุ่มแรนซัมแวร์
    Fortra ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 7.8.4 และ 7.6.3
    แนะนำให้อัปเดตทันทีและปิดการเข้าถึง Admin Console จากภายนอก
    ควรวางระบบไว้หลังไฟร์วอลล์หรือ VPN และตรวจสอบ log สำหรับกิจกรรมผิดปกติ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    GoAnywhere MFT เป็นระบบที่ใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ รวมถึง Fortune 500
    Deserialization เป็นเทคนิคที่มักถูกใช้โจมตีในระบบที่รับข้อมูลจากภายนอก
    CVSS 10.0 หมายถึงช่องโหว่ที่สามารถถูกใช้โจมตีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน
    การโจมตีแบบนี้อาจนำไปสู่การขโมยข้อมูล, การเข้ารหัสไฟล์, หรือการยึดระบบ
    การตรวจสอบ log และการตั้ง alert เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการโจมตีล่วงหน้า

    https://hackread.com/critical-cvss-10-flaw-goanywhere-file-transfer/
    🚨 “ช่องโหว่ CVSS 10.0 ใน GoAnywhere MFT เสี่ยงระบบถูกยึดกว่า 20,000 เครื่อง — รีบอัปเดตก่อนกลุ่มแฮกเกอร์ลงมือ” ในวันที่ 18 กันยายน 2025 Fortra ได้เปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงในระบบ GoAnywhere Managed File Transfer (MFT) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่องค์กรทั่วโลกใช้ในการส่งข้อมูลสำคัญอย่างปลอดภัย ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น CVE-2025-10035 และได้รับคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0 ซึ่งหมายความว่า หากถูกโจมตีสำเร็จ ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าควบคุมระบบได้ทั้งหมด ช่องโหว่นี้เกิดจากการ “deserialization” ที่ผิดพลาดใน License Servlet ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้ตรวจสอบสิทธิ์การใช้งาน โดยแฮกเกอร์สามารถปลอมลายเซ็น license แล้วแทรกวัตถุอันตรายเข้าไปในระบบ ทำให้สามารถสั่งรันโค้ดได้โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน แม้การโจมตีจะต้องอาศัยการเชื่อมต่อจากภายนอก แต่รายงานจาก watchTowr Labs ระบุว่ามีระบบ GoAnywhere MFT กว่า 20,000 เครื่องที่เปิดให้เข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งถือเป็น “สนามเล่นของกลุ่ม APT” ที่พร้อมจะลงมือทันทีที่มีช่องทาง ช่องโหว่นี้คล้ายกับเหตุการณ์ในปี 2023 ที่ช่องโหว่ CVE-2023-0669 ถูกใช้โดยกลุ่มแรนซัมแวร์ cl0p และ LockBit ในการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก ซึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า CVE-2025-10035 จะถูกนำไปใช้โจมตีในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน ข่าวดีคือ Fortra ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 7.8.4 และ Sustain Release 7.6.3 โดยแนะนำให้องค์กรอัปเดตทันที พร้อมกับปิดการเข้าถึง Admin Console จากภายนอก และวางระบบไว้หลังไฟร์วอลล์หรือ VPN รวมถึงตรวจสอบ log ว่ามีการเรียกใช้ SignedObject.getObject หรือไม่ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-10035 ใน GoAnywhere MFT ได้รับคะแนน CVSS 10.0 ➡️ เกิดจากการ deserialization ใน License Servlet ที่เปิดช่องให้ command injection ➡️ แฮกเกอร์สามารถปลอมลายเซ็น license แล้วแทรกวัตถุอันตรายเข้าไปในระบบ ➡️ มีระบบกว่า 20,000 เครื่องที่เปิดให้เข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต ➡️ ช่องโหว่นี้คล้ายกับ CVE-2023-0669 ที่เคยถูกใช้โดยกลุ่มแรนซัมแวร์ ➡️ Fortra ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 7.8.4 และ 7.6.3 ➡️ แนะนำให้อัปเดตทันทีและปิดการเข้าถึง Admin Console จากภายนอก ➡️ ควรวางระบบไว้หลังไฟร์วอลล์หรือ VPN และตรวจสอบ log สำหรับกิจกรรมผิดปกติ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ GoAnywhere MFT เป็นระบบที่ใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ รวมถึง Fortune 500 ➡️ Deserialization เป็นเทคนิคที่มักถูกใช้โจมตีในระบบที่รับข้อมูลจากภายนอก ➡️ CVSS 10.0 หมายถึงช่องโหว่ที่สามารถถูกใช้โจมตีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ➡️ การโจมตีแบบนี้อาจนำไปสู่การขโมยข้อมูล, การเข้ารหัสไฟล์, หรือการยึดระบบ ➡️ การตรวจสอบ log และการตั้ง alert เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการโจมตีล่วงหน้า https://hackread.com/critical-cvss-10-flaw-goanywhere-file-transfer/
    HACKREAD.COM
    Critical CVSS 10 Flaw in GoAnywhere File Transfer Threatens 20,000 Systems
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Republic จับมือ Incentiv สร้าง Web3 ที่ง่ายและให้รางวัลทุกการมีส่วนร่วม — ไม่ใช่แค่สำหรับนักพัฒนา แต่สำหรับทุกคน”

    ถ้าคุณเคยรู้สึกว่าโลก Web3 นั้นซับซ้อนเกินไป มีแต่คนวงในที่ได้ประโยชน์ และคุณไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นตรงไหน — ความร่วมมือระหว่าง Republic และ Incentiv อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Web3 กลายเป็นพื้นที่ที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย และได้รับรางวัลจากการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

    Republic ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดับโลกด้านการลงทุนและการเร่งการเติบโตของ Web3 ได้ประกาศจับมือกับ Incentiv ซึ่งเป็นบล็อกเชน Layer 1 ที่รองรับ EVM โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างระบบเศรษฐกิจดิจิทัลที่ “ให้รางวัลทุกการมีส่วนร่วม” ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนา, ผู้ใช้งาน, ผู้ให้สภาพคล่อง หรือแม้แต่คนที่ช่วยขยายเครือข่าย

    Incentiv มีจุดเด่นคือการรวมเทคโนโลยี Advanced Account Abstraction เข้าไว้ในระดับโปรโตคอล พร้อมโมเดลเศรษฐกิจแบบ regenerative ที่กระจายมูลค่าอย่างโปร่งใสไปยังทุกฝ่ายที่มีบทบาทในระบบ — ไม่ใช่แค่คนที่ถือโทเคนเยอะที่สุด

    ระบบนี้ขับเคลื่อนด้วย Incentiv+ Engine ซึ่งเป็นกลไกกลางที่จัดสรรรางวัลตาม “ผลกระทบที่วัดได้จริง” เช่น จำนวนธุรกรรมที่สร้าง, การพัฒนาโค้ด, การให้บริการ หรือการแนะนำผู้ใช้ใหม่ โดยมีฟีเจอร์เสริมที่ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้น เช่น passkey login, การกู้คืนกระเป๋าเงิน, การรวมธุรกรรมหลายรายการ, การจ่ายค่าธรรมเนียมด้วยโทเคนเดียว และกฎการโอนผ่าน TransferGate

    Republic ซึ่งเคยมีบทบาทสำคัญในการผลักดันโปรเจกต์อย่าง Avalanche และ Supra จะเข้ามาให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ พร้อมเปิดเครือข่ายระดับโลกที่ลงทุนไปแล้วกว่า $2.6 พันล้านใน 150 ประเทศ เพื่อช่วยให้ Incentiv เข้าถึงผู้ใช้งานจริงในระดับสากล

    ปัจจุบัน Incentiv มีผู้ใช้งานใน testnet แล้วกว่า 1.3 ล้านกระเป๋าเงิน และเตรียมเปิดตัว mainnet พร้อม token generation event ในเร็วๆ นี้ — ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้าง Web3 ที่ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของ “คุณค่าที่ทุกคนมีสิทธิ์ได้รับ”

    ความร่วมมือระหว่าง Republic และ Incentiv
    Republic ให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ผ่าน Republic Research
    สนับสนุนการเติบโตของ Incentiv ด้วยเครือข่ายที่ลงทุนกว่า $2.6 พันล้านใน 150 ประเทศ
    เป้าหมายคือสร้าง Web3 ที่ง่าย ยั่งยืน และให้รางวัลทุกการมีส่วนร่วม

    จุดเด่นของ Incentiv blockchain
    เป็น Layer 1 ที่รองรับ EVM และออกแบบเพื่อการใช้งานจริง
    ใช้ Advanced Account Abstraction ในระดับโปรโตคอล
    มีโมเดลเศรษฐกิจแบบ regenerative ที่กระจายมูลค่าอย่างโปร่งใส
    รางวัลถูกจัดสรรตามผลกระทบที่วัดได้จริงผ่าน Incentiv+ Engine

    ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ใช้งานง่าย
    Passkey log-in และการกู้คืนกระเป๋าเงิน
    Bundled transactions และ unified token fee payments
    TransferGate transaction rules สำหรับควบคุมการโอน
    ระบบรางวัลรวมที่กระตุ้นการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Republic เคยสนับสนุนโปรเจกต์อย่าง Avalanche และ Supra
    Incentiv มีผู้ใช้งาน testnet แล้วกว่า 1.3 ล้านกระเป๋าเงิน
    เตรียมเปิดตัว mainnet และ token generation event ในเร็วๆ นี้
    เป้าหมายคือสร้าง Web3 ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ใช่แค่คนวงใน

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้งานและนักลงทุน
    ระบบรางวัลที่อิงผลกระทบต้องมีการวัดผลที่แม่นยำ — หากไม่ชัดเจนอาจเกิดความเหลื่อมล้ำ
    การรวมฟีเจอร์หลายอย่างในโปรโตคอลอาจเพิ่มความซับซ้อนด้านความปลอดภัย
    การเปิด mainnet และ token event อาจมีความผันผวนด้านราคาในช่วงแรก
    ผู้ใช้ใหม่อาจยังไม่เข้าใจระบบ TransferGate หรือ bundled transactions
    หากไม่มีการกำกับดูแลที่ดี อาจเกิดการใช้ระบบเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม

    https://hackread.com/republic-incentiv-partner-reward-web3-participation/
    🌐 “Republic จับมือ Incentiv สร้าง Web3 ที่ง่ายและให้รางวัลทุกการมีส่วนร่วม — ไม่ใช่แค่สำหรับนักพัฒนา แต่สำหรับทุกคน” ถ้าคุณเคยรู้สึกว่าโลก Web3 นั้นซับซ้อนเกินไป มีแต่คนวงในที่ได้ประโยชน์ และคุณไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นตรงไหน — ความร่วมมือระหว่าง Republic และ Incentiv อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Web3 กลายเป็นพื้นที่ที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย และได้รับรางวัลจากการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง Republic ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดับโลกด้านการลงทุนและการเร่งการเติบโตของ Web3 ได้ประกาศจับมือกับ Incentiv ซึ่งเป็นบล็อกเชน Layer 1 ที่รองรับ EVM โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างระบบเศรษฐกิจดิจิทัลที่ “ให้รางวัลทุกการมีส่วนร่วม” ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนา, ผู้ใช้งาน, ผู้ให้สภาพคล่อง หรือแม้แต่คนที่ช่วยขยายเครือข่าย Incentiv มีจุดเด่นคือการรวมเทคโนโลยี Advanced Account Abstraction เข้าไว้ในระดับโปรโตคอล พร้อมโมเดลเศรษฐกิจแบบ regenerative ที่กระจายมูลค่าอย่างโปร่งใสไปยังทุกฝ่ายที่มีบทบาทในระบบ — ไม่ใช่แค่คนที่ถือโทเคนเยอะที่สุด ระบบนี้ขับเคลื่อนด้วย Incentiv+ Engine ซึ่งเป็นกลไกกลางที่จัดสรรรางวัลตาม “ผลกระทบที่วัดได้จริง” เช่น จำนวนธุรกรรมที่สร้าง, การพัฒนาโค้ด, การให้บริการ หรือการแนะนำผู้ใช้ใหม่ โดยมีฟีเจอร์เสริมที่ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้น เช่น passkey login, การกู้คืนกระเป๋าเงิน, การรวมธุรกรรมหลายรายการ, การจ่ายค่าธรรมเนียมด้วยโทเคนเดียว และกฎการโอนผ่าน TransferGate Republic ซึ่งเคยมีบทบาทสำคัญในการผลักดันโปรเจกต์อย่าง Avalanche และ Supra จะเข้ามาให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ พร้อมเปิดเครือข่ายระดับโลกที่ลงทุนไปแล้วกว่า $2.6 พันล้านใน 150 ประเทศ เพื่อช่วยให้ Incentiv เข้าถึงผู้ใช้งานจริงในระดับสากล ปัจจุบัน Incentiv มีผู้ใช้งานใน testnet แล้วกว่า 1.3 ล้านกระเป๋าเงิน และเตรียมเปิดตัว mainnet พร้อม token generation event ในเร็วๆ นี้ — ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้าง Web3 ที่ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของ “คุณค่าที่ทุกคนมีสิทธิ์ได้รับ” ✅ ความร่วมมือระหว่าง Republic และ Incentiv ➡️ Republic ให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ผ่าน Republic Research ➡️ สนับสนุนการเติบโตของ Incentiv ด้วยเครือข่ายที่ลงทุนกว่า $2.6 พันล้านใน 150 ประเทศ ➡️ เป้าหมายคือสร้าง Web3 ที่ง่าย ยั่งยืน และให้รางวัลทุกการมีส่วนร่วม ✅ จุดเด่นของ Incentiv blockchain ➡️ เป็น Layer 1 ที่รองรับ EVM และออกแบบเพื่อการใช้งานจริง ➡️ ใช้ Advanced Account Abstraction ในระดับโปรโตคอล ➡️ มีโมเดลเศรษฐกิจแบบ regenerative ที่กระจายมูลค่าอย่างโปร่งใส ➡️ รางวัลถูกจัดสรรตามผลกระทบที่วัดได้จริงผ่าน Incentiv+ Engine ✅ ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ใช้งานง่าย ➡️ Passkey log-in และการกู้คืนกระเป๋าเงิน ➡️ Bundled transactions และ unified token fee payments ➡️ TransferGate transaction rules สำหรับควบคุมการโอน ➡️ ระบบรางวัลรวมที่กระตุ้นการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Republic เคยสนับสนุนโปรเจกต์อย่าง Avalanche และ Supra ➡️ Incentiv มีผู้ใช้งาน testnet แล้วกว่า 1.3 ล้านกระเป๋าเงิน ➡️ เตรียมเปิดตัว mainnet และ token generation event ในเร็วๆ นี้ ➡️ เป้าหมายคือสร้าง Web3 ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ใช่แค่คนวงใน ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งานและนักลงทุน ⛔ ระบบรางวัลที่อิงผลกระทบต้องมีการวัดผลที่แม่นยำ — หากไม่ชัดเจนอาจเกิดความเหลื่อมล้ำ ⛔ การรวมฟีเจอร์หลายอย่างในโปรโตคอลอาจเพิ่มความซับซ้อนด้านความปลอดภัย ⛔ การเปิด mainnet และ token event อาจมีความผันผวนด้านราคาในช่วงแรก ⛔ ผู้ใช้ใหม่อาจยังไม่เข้าใจระบบ TransferGate หรือ bundled transactions ⛔ หากไม่มีการกำกับดูแลที่ดี อาจเกิดการใช้ระบบเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม https://hackread.com/republic-incentiv-partner-reward-web3-participation/
    HACKREAD.COM
    Republic and Incentiv Partner to Simplify and Reward Web3 Participation
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก WeTransfer ถึง ChatGPT: เมื่อ AI ไม่ได้แค่ฉลาด แต่เริ่ม “รู้มากเกินไป”

    กลางปี 2025 WeTransfer จุดชนวนความกังวลทั่วโลก เมื่อมีการเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้งานให้สามารถนำไฟล์ของผู้ใช้ไปใช้ในการ “พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงการปรับปรุงโมเดล AI” แม้ภายหลังจะออกมาชี้แจงว่าเป็นการใช้ AI เพื่อจัดการเนื้อหา ไม่ใช่การฝึกโมเดล แต่ความไม่ชัดเจนนี้ก็สะท้อนถึงแนวโน้มที่น่ากังวล: ข้อมูลของผู้ใช้กำลังกลายเป็นเชื้อเพลิงของ AI โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว

    Slack ก็เป็นอีกตัวอย่างที่ใช้ข้อมูลของลูกค้าในการฝึกโมเดล machine learning โดยค่าเริ่มต้น ซึ่งหมายความว่แม้จะเป็นบริการที่ใช้ในองค์กร ก็ยังมีความเสี่ยงด้านข้อมูลหากไม่มีการตั้งค่าความปลอดภัยอย่างรัดกุม

    นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ผู้ใช้ ChatGPT เปิดใช้งาน “make this chat discoverable” โดยไม่รู้ว่าเนื้อหาจะถูกจัดทำดัชนีโดย Google และปรากฏในผลการค้นหา ซึ่งอาจมีข้อมูลส่วนตัวหรือกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ไม่ควรเปิดเผย

    สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือการใช้ AI ในองค์กรโดยไม่มีการควบคุม เช่น พนักงานนำข้อมูลภายในไปใส่ใน ChatGPT เพื่อแปลเอกสารหรือเขียนอีเมล โดยไม่รู้ว่าข้อมูลนั้นอาจถูกนำไปใช้ในการฝึกโมเดลในอนาคต

    CISOs (Chief Information Security Officers) ทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาระสองด้าน: ต้องใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย แต่ก็ต้องป้องกันไม่ให้ AI กลายเป็นช่องโหว่ใหม่ขององค์กร ซึ่งเป็นความท้าทายที่ซับซ้อนและกำลังสร้างความเหนื่อยล้าให้กับผู้บริหารด้านความปลอดภัยทั่วโลก

    การเปลี่ยนแปลงนโยบายของบริการออนไลน์
    WeTransfer เพิ่มเงื่อนไขให้สามารถใช้ไฟล์ผู้ใช้ในการพัฒนา AI
    Slack ใช้ข้อมูลลูกค้าในการฝึกโมเดล machine learning โดยค่าเริ่มต้น
    Meta และบริการอื่น ๆ เริ่มปรับนโยบายเพื่อใช้ข้อมูลผู้ใช้ในการฝึกโมเดล

    ความเสี่ยงจากการใช้งาน AI โดยผู้ใช้ทั่วไป
    พนักงานอาจนำข้อมูลภายในองค์กรไปใส่ใน ChatGPT โดยไม่รู้ผลกระทบ
    การเปิดใช้งาน “make this chat discoverable” ทำให้ข้อมูลปรากฏใน Google
    ข้อมูลส่วนตัวหรือกลยุทธ์ทางธุรกิจอาจถูกเปิดเผยโดยไม่ตั้งใจ

    ความท้าทายของผู้บริหารด้านความปลอดภัย
    CISOs ต้องใช้ AI เพื่อเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็ต้องควบคุมความเสี่ยงจาก AI
    64% ของผู้บริหารด้านความปลอดภัยมองว่า AI เป็นเป้าหมายเชิงกลยุทธ์
    48% ระบุว่าการใช้งาน AI อย่างปลอดภัยเป็นเรื่องเร่งด่วน

    แนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงในองค์กร
    บริษัทต่าง ๆ เริ่มปรับนโยบายเพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลในการฝึก AI ได้
    ต้องมีการปรับปรุงเงื่อนไขการใช้งานให้โปร่งใสและสอดคล้องกับกฎหมาย
    การใช้ AI ต้องมีการกำกับดูแลร่วมกัน ไม่ใช่แค่หน้าที่ของ CISO

    https://www.csoonline.com/article/4049373/how-the-generative-ai-boom-opens-up-new-privacy-and-cybersecurity-risks.html
    🎙️ เรื่องเล่าจาก WeTransfer ถึง ChatGPT: เมื่อ AI ไม่ได้แค่ฉลาด แต่เริ่ม “รู้มากเกินไป” กลางปี 2025 WeTransfer จุดชนวนความกังวลทั่วโลก เมื่อมีการเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้งานให้สามารถนำไฟล์ของผู้ใช้ไปใช้ในการ “พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงการปรับปรุงโมเดล AI” แม้ภายหลังจะออกมาชี้แจงว่าเป็นการใช้ AI เพื่อจัดการเนื้อหา ไม่ใช่การฝึกโมเดล แต่ความไม่ชัดเจนนี้ก็สะท้อนถึงแนวโน้มที่น่ากังวล: ข้อมูลของผู้ใช้กำลังกลายเป็นเชื้อเพลิงของ AI โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว Slack ก็เป็นอีกตัวอย่างที่ใช้ข้อมูลของลูกค้าในการฝึกโมเดล machine learning โดยค่าเริ่มต้น ซึ่งหมายความว่แม้จะเป็นบริการที่ใช้ในองค์กร ก็ยังมีความเสี่ยงด้านข้อมูลหากไม่มีการตั้งค่าความปลอดภัยอย่างรัดกุม นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ผู้ใช้ ChatGPT เปิดใช้งาน “make this chat discoverable” โดยไม่รู้ว่าเนื้อหาจะถูกจัดทำดัชนีโดย Google และปรากฏในผลการค้นหา ซึ่งอาจมีข้อมูลส่วนตัวหรือกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ไม่ควรเปิดเผย สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือการใช้ AI ในองค์กรโดยไม่มีการควบคุม เช่น พนักงานนำข้อมูลภายในไปใส่ใน ChatGPT เพื่อแปลเอกสารหรือเขียนอีเมล โดยไม่รู้ว่าข้อมูลนั้นอาจถูกนำไปใช้ในการฝึกโมเดลในอนาคต CISOs (Chief Information Security Officers) ทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาระสองด้าน: ต้องใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย แต่ก็ต้องป้องกันไม่ให้ AI กลายเป็นช่องโหว่ใหม่ขององค์กร ซึ่งเป็นความท้าทายที่ซับซ้อนและกำลังสร้างความเหนื่อยล้าให้กับผู้บริหารด้านความปลอดภัยทั่วโลก ✅ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของบริการออนไลน์ ➡️ WeTransfer เพิ่มเงื่อนไขให้สามารถใช้ไฟล์ผู้ใช้ในการพัฒนา AI ➡️ Slack ใช้ข้อมูลลูกค้าในการฝึกโมเดล machine learning โดยค่าเริ่มต้น ➡️ Meta และบริการอื่น ๆ เริ่มปรับนโยบายเพื่อใช้ข้อมูลผู้ใช้ในการฝึกโมเดล ✅ ความเสี่ยงจากการใช้งาน AI โดยผู้ใช้ทั่วไป ➡️ พนักงานอาจนำข้อมูลภายในองค์กรไปใส่ใน ChatGPT โดยไม่รู้ผลกระทบ ➡️ การเปิดใช้งาน “make this chat discoverable” ทำให้ข้อมูลปรากฏใน Google ➡️ ข้อมูลส่วนตัวหรือกลยุทธ์ทางธุรกิจอาจถูกเปิดเผยโดยไม่ตั้งใจ ✅ ความท้าทายของผู้บริหารด้านความปลอดภัย ➡️ CISOs ต้องใช้ AI เพื่อเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็ต้องควบคุมความเสี่ยงจาก AI ➡️ 64% ของผู้บริหารด้านความปลอดภัยมองว่า AI เป็นเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ ➡️ 48% ระบุว่าการใช้งาน AI อย่างปลอดภัยเป็นเรื่องเร่งด่วน ✅ แนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงในองค์กร ➡️ บริษัทต่าง ๆ เริ่มปรับนโยบายเพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลในการฝึก AI ได้ ➡️ ต้องมีการปรับปรุงเงื่อนไขการใช้งานให้โปร่งใสและสอดคล้องกับกฎหมาย ➡️ การใช้ AI ต้องมีการกำกับดูแลร่วมกัน ไม่ใช่แค่หน้าที่ของ CISO https://www.csoonline.com/article/4049373/how-the-generative-ai-boom-opens-up-new-privacy-and-cybersecurity-risks.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    How the generative AI boom opens up new privacy and cybersecurity risks
    Corporate strategy will need to take these potential issues into account, both by shielding who owns the data and by preventing AI from becoming a security breach.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากศาลยุโรป: เมื่อการส่งข้อมูลข้ามมหาสมุทรต้องผ่านด่านความเป็นส่วนตัว

    ย้อนกลับไปในปี 2023 สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปได้ลงนามในข้อตกลงใหม่ชื่อว่า “Trans-Atlantic Data Privacy Framework” เพื่อให้บริษัทต่าง ๆ เช่นธนาคาร, ผู้ผลิตรถยนต์, และผู้ให้บริการคลาวด์สามารถส่งข้อมูลส่วนบุคคลของชาวยุโรปไปยังเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐฯ ได้อย่างถูกกฎหมาย หลังจากที่ข้อตกลงก่อนหน้าอย่าง Safe Harbour และ Privacy Shield ถูกศาลยุโรปตัดสินว่าไม่ผ่านมาตรฐานความเป็นส่วนตัว

    ล่าสุดในเดือนกันยายน 2025 ศาลทั่วไปของสหภาพยุโรป (EU General Court) ได้ตัดสินให้ข้อตกลงใหม่นี้ “มีผลบังคับใช้ต่อไป” โดยปฏิเสธคำร้องของนักการเมืองฝรั่งเศส Philippe Latombe ที่อ้างว่าระบบร้องเรียนของสหรัฐฯ ยังไม่เป็นอิสระ และการเก็บข้อมูลยังเป็นแบบ “ครอบคลุมเกินไป”

    ศาลระบุว่า หน่วยงาน Data Protection Review Court (DPRC) ของสหรัฐฯ มีโครงสร้างที่มีหลักประกันด้านความเป็นอิสระ เช่น ผู้พิพากษาไม่สามารถถูกถอดถอนโดยไม่มีเหตุผล และหน่วยข่าวกรองไม่สามารถแทรกแซงการทำงานได้โดยตรง

    แม้จะเป็นชัยชนะของข้อตกลงนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า “ยังไม่จบ” เพราะนักเคลื่อนไหวด้านความเป็นส่วนตัว เช่น Max Schrems และองค์กร NYOB อาจยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงสุดของสหภาพยุโรป (CJEU) ได้อีกครั้ง ซึ่งอาจนำไปสู่การยกเลิกข้อตกลงนี้ในอนาคตเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับ Privacy Shield

    การตัดสินของศาลทั่วไป EU
    รับรองความถูกต้องของข้อตกลง Trans-Atlantic Data Privacy Framework
    ปฏิเสธคำร้องของ Philippe Latombe ที่อ้างว่าระบบร้องเรียนของสหรัฐฯ ไม่เป็นอิสระ
    ระบุว่า DPRC มีหลักประกันด้านความเป็นอิสระและไม่ถูกแทรกแซงจากหน่วยข่าวกรอง

    ความสำคัญของข้อตกลงนี้ต่อธุรกิจ
    ช่วยให้บริษัทสามารถส่งข้อมูลส่วนบุคคลจาก EU ไปยังสหรัฐฯ ได้อย่างถูกกฎหมาย
    ส่งผลต่อธุรกิจที่ใช้คลาวด์, ระบบเงินเดือน, และการวิเคราะห์ข้อมูลข้ามประเทศ
    ลดความเสี่ยงด้านกฎหมายสำหรับบริษัทที่ดำเนินงานแบบข้ามพรมแดน

    โครงสร้างของ DPRC
    ผู้พิพากษาได้รับการแต่งตั้งพร้อมเงื่อนไขที่ป้องกันการถอดถอนโดยไม่มีเหตุผล
    หน่วยงานข่าวกรองไม่สามารถแทรกแซงการทำงานของศาลได้
    มีระบบร้องเรียนสำหรับพลเมืองยุโรปที่ข้อมูลถูกใช้งานโดยบริษัทสหรัฐฯ

    ความเคลื่อนไหวของนักเคลื่อนไหวด้านความเป็นส่วนตัว
    Max Schrems และองค์กร NYOB เคยยื่นฟ้องจน Safe Harbour และ Privacy Shield ถูกยกเลิก
    มีแนวโน้มว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาล CJEU เพื่อทบทวนข้อตกลงใหม่
    องค์กรต่าง ๆ ควรเตรียมแผนสำรอง เช่น Standard Contractual Clauses (SCCs)

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/03/eu-court-backs-latest-data-transfer-deal-agreed-by-us-and-eu
    🎙️ เรื่องเล่าจากศาลยุโรป: เมื่อการส่งข้อมูลข้ามมหาสมุทรต้องผ่านด่านความเป็นส่วนตัว ย้อนกลับไปในปี 2023 สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปได้ลงนามในข้อตกลงใหม่ชื่อว่า “Trans-Atlantic Data Privacy Framework” เพื่อให้บริษัทต่าง ๆ เช่นธนาคาร, ผู้ผลิตรถยนต์, และผู้ให้บริการคลาวด์สามารถส่งข้อมูลส่วนบุคคลของชาวยุโรปไปยังเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐฯ ได้อย่างถูกกฎหมาย หลังจากที่ข้อตกลงก่อนหน้าอย่าง Safe Harbour และ Privacy Shield ถูกศาลยุโรปตัดสินว่าไม่ผ่านมาตรฐานความเป็นส่วนตัว ล่าสุดในเดือนกันยายน 2025 ศาลทั่วไปของสหภาพยุโรป (EU General Court) ได้ตัดสินให้ข้อตกลงใหม่นี้ “มีผลบังคับใช้ต่อไป” โดยปฏิเสธคำร้องของนักการเมืองฝรั่งเศส Philippe Latombe ที่อ้างว่าระบบร้องเรียนของสหรัฐฯ ยังไม่เป็นอิสระ และการเก็บข้อมูลยังเป็นแบบ “ครอบคลุมเกินไป” ศาลระบุว่า หน่วยงาน Data Protection Review Court (DPRC) ของสหรัฐฯ มีโครงสร้างที่มีหลักประกันด้านความเป็นอิสระ เช่น ผู้พิพากษาไม่สามารถถูกถอดถอนโดยไม่มีเหตุผล และหน่วยข่าวกรองไม่สามารถแทรกแซงการทำงานได้โดยตรง แม้จะเป็นชัยชนะของข้อตกลงนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า “ยังไม่จบ” เพราะนักเคลื่อนไหวด้านความเป็นส่วนตัว เช่น Max Schrems และองค์กร NYOB อาจยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงสุดของสหภาพยุโรป (CJEU) ได้อีกครั้ง ซึ่งอาจนำไปสู่การยกเลิกข้อตกลงนี้ในอนาคตเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับ Privacy Shield ✅ การตัดสินของศาลทั่วไป EU ➡️ รับรองความถูกต้องของข้อตกลง Trans-Atlantic Data Privacy Framework ➡️ ปฏิเสธคำร้องของ Philippe Latombe ที่อ้างว่าระบบร้องเรียนของสหรัฐฯ ไม่เป็นอิสระ ➡️ ระบุว่า DPRC มีหลักประกันด้านความเป็นอิสระและไม่ถูกแทรกแซงจากหน่วยข่าวกรอง ✅ ความสำคัญของข้อตกลงนี้ต่อธุรกิจ ➡️ ช่วยให้บริษัทสามารถส่งข้อมูลส่วนบุคคลจาก EU ไปยังสหรัฐฯ ได้อย่างถูกกฎหมาย ➡️ ส่งผลต่อธุรกิจที่ใช้คลาวด์, ระบบเงินเดือน, และการวิเคราะห์ข้อมูลข้ามประเทศ ➡️ ลดความเสี่ยงด้านกฎหมายสำหรับบริษัทที่ดำเนินงานแบบข้ามพรมแดน ✅ โครงสร้างของ DPRC ➡️ ผู้พิพากษาได้รับการแต่งตั้งพร้อมเงื่อนไขที่ป้องกันการถอดถอนโดยไม่มีเหตุผล ➡️ หน่วยงานข่าวกรองไม่สามารถแทรกแซงการทำงานของศาลได้ ➡️ มีระบบร้องเรียนสำหรับพลเมืองยุโรปที่ข้อมูลถูกใช้งานโดยบริษัทสหรัฐฯ ✅ ความเคลื่อนไหวของนักเคลื่อนไหวด้านความเป็นส่วนตัว ➡️ Max Schrems และองค์กร NYOB เคยยื่นฟ้องจน Safe Harbour และ Privacy Shield ถูกยกเลิก ➡️ มีแนวโน้มว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาล CJEU เพื่อทบทวนข้อตกลงใหม่ ➡️ องค์กรต่าง ๆ ควรเตรียมแผนสำรอง เช่น Standard Contractual Clauses (SCCs) https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/03/eu-court-backs-latest-data-transfer-deal-agreed-by-us-and-eu
    WWW.THESTAR.COM.MY
    EU court backs latest data transfer deal agreed by US and EU
    BRUSSELS (Reuters) -A data transfer deal agreed by the European Union and the United States two years ago to replace two previous pacts rejected by a higher tribunal was given the green light by Europe's second-highest court on Wednesday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 545 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts