• วันนี้คุยต่อเรื่องราวสมัยราชวงศ์ซ่งอีกสักหน่อย สมัยนั้นมีการเผยแพร่วัฒนธรรมการดื่มชาไปในวงกว้าง ทำให้การดื่มชาเป็นที่นิยมทั่วไป แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า การชงชาในสมัยราชวงศ์ซ่งเป็นอย่างไร

    ความมีอยู่ว่า
    ... “ตำราจากราชวงศ์ก่อนน่ะรึ เป็นการต้มชา แต่ตอนนี้การชงชาต้องตีผสม ตำราจากราชวงศ์ก่อนย่อมบรรยายไม่ได้ชัด” นางสกุลหลินกล่าวต่อม่อหลันผู้เป็นลูกสาว...
    - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า)

    จากบทสนทนาข้างต้นก็พอจะรู้แล้วว่าการชงชาในสมัยราชวงศ์ซ่งแตกต่างจากราชวงศ์ถัง

    ไม่ทราบว่าเพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้จะสะดุดตาบ้างไหมกับการชงชาของตัวละครที่มีให้เห็นตลอดทั้งเรื่อง เป็นการใช้ช้อนไม้เล็กด้ามยาวตักผงชาลงในชามเล็ก เติมน้ำร้อนเล็กน้อย ใช้แปรงตีจนละลายเข้าเป็นน้ำชาข้น เติมน้ำอีก ตีอีกจนเป็นฟอง เติมน้ำอีก ตีอีก ทำอย่างนี้จนชาเปลี่ยนสีแล้วเทใส่ถ้วยที่มีจานรองแบบมีขาตั้งสูง (ดูจากรูปกรรมวิธี) หน้าตาของชาจะคล้ายกับชาญี่ปุ่นมัทฉะที่ตีเป็นฟองที่เรายังเห็นได้ในปัจจุบัน วิธีการชงชาแบบนี้เรียกว่า ‘เตี่ยนฉา’ (点茶)

    ศิลปะการชงชาแบบเตี่ยนฉาไม่ใช่เพียงชงเพื่อดื่ม หากแต่เป็นการฝึกความใจเย็น และในยุคนั้นหนึ่งในกิจกรรมสังสรรค์ยอดนิยมคือการแข่งชงชากัน (เรียกว่า ‘โต้วฉา’ / 斗茶) โดยจะเริ่มตั้งแต่การเอาชาอัดก้อนมาอังไฟให้หอม แล้วเอาก้อนชามาทุบละเอียด ชาที่ทุบแล้วก็ต้องนำมาโม่บดจนละเอียดมากขึ้นอีก เวลาจะกินก็ตักออกมาสักช้อนสองช้อนแล้วก็ชงตามกรรมวิธี

    ชงชาแบบเตี่ยนฉาอย่างไรจึงเรียกว่าดี? เขาว่าชาที่ดีนั้น เนื้อชาจะกระจายไปในน้ำอย่างสม่ำเสมอและเข้มข้นกำลังดี สีของน้ำชาที่ดีที่สุดคือขาวนวล รองลงมาคือขาวอมเขียว ขาวอมเทา หรือขาวอมเหลือง ถ้วยชาที่ใช้จึงมักเป็นสีดำเพื่อให้เห็นน้ำชาได้ชัดเจน

    ว่ากันว่าญี่ปุ่นได้วิธีชงชาแบบนี้จากพระและนักแสวงบุญที่เข้ามายังประเทศจีนในสมัยซ่งแล้วนำกลับไปทำที่ญี่ปุ่น แต่ Storyฯ ไม่ได้ไปศึกษาข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เพิ่มในประเด็นนี้

    แล้วยุคสมัยอื่นล่ะ? การดื่มชาในยุคสมัยก่อนราชวงศ์ถังนั้นเป็นการนำชามาต้มกับเครื่องอย่างอื่น เช่นขิง ดอกหอมหมื่นลี้ พริกไทยเป็นต้น ดื่มกินเหมือนน้ำแกง ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์สุยและถังจึงใช้เป็นการ ‘แช่’ ชาในน้ำร้อน (เหมือนที่เราเห็นในปัจจุบัน) สมัยนั้นจึงเรียกเป็นการต้มชาหรือว่า ‘จู่ฉา’ (煎茶)

    กรรมวิธีชงชาแบบเตี่ยนฉาสิ้นสุดลงเมื่อเข้าสู่ราชวงศ์หมิง ด้วยความที่มันยุ่งยากใช้คนมากในการหมักเก็บชามาอัดเป็นก้อน ไหนจะต้องทุบและบดก่อนกิน องค์จูหยวนจางทรงเห็นว่าการต้มชาใบร่วงง่ายและเหมาะกับชีวิตประจำวันของชาวบ้านธรรมดามากกว่า ในยุคสมัยนั้นการจัดจำหน่ายชาจึงเน้นเป็นรูปแบบใบชา ดังนั้นก้อนชาและวิธีชงแบบเตี่ยนฉาจึงค่อยๆ หายไป

    Storyฯ เล่าแบบง่ายๆ แต่จริงๆ แล้ว การชงชาในแต่ละยุคสมัยนั้นไม่ง่ายเลย มันมีขั้นตอนที่ละเมียดละไมและมีอุปกรณ์เฉพาะหลายชิ้น ใครที่เป็นคอชาจะทราบดี Storyฯ ไม่ได้เป็นคอชา รอเพื่อนเพจท่านใดที่ใช่ มาเล่าสู่กันฟังหน่อยนะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจากในละครและจาก:
    https://itw01.com/YNKQ3E4.html
    https://wantubizhi.com/image350909350928.html
    https://kknews.cc/zh-sg/culture/rr3kjxo.html
    http://www.tuanjiewang.cn/2019-11/04/content_8853866.htm
    http://www.guanfujianzhan.com/8119.html
    http://food.china.com.cn/2020-07/09/content_76253576.htm
    ดูกรรมวิธีการชงได้ที่ https://m.puercn.com/zhishi/97265/

    #หมิงหลัน #พิธีชงชาจีนโบราณ #เตี่ยนฉา #ราชวงศ์ซ่ง
    วันนี้คุยต่อเรื่องราวสมัยราชวงศ์ซ่งอีกสักหน่อย สมัยนั้นมีการเผยแพร่วัฒนธรรมการดื่มชาไปในวงกว้าง ทำให้การดื่มชาเป็นที่นิยมทั่วไป แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า การชงชาในสมัยราชวงศ์ซ่งเป็นอย่างไร ความมีอยู่ว่า ... “ตำราจากราชวงศ์ก่อนน่ะรึ เป็นการต้มชา แต่ตอนนี้การชงชาต้องตีผสม ตำราจากราชวงศ์ก่อนย่อมบรรยายไม่ได้ชัด” นางสกุลหลินกล่าวต่อม่อหลันผู้เป็นลูกสาว... - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า) จากบทสนทนาข้างต้นก็พอจะรู้แล้วว่าการชงชาในสมัยราชวงศ์ซ่งแตกต่างจากราชวงศ์ถัง ไม่ทราบว่าเพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้จะสะดุดตาบ้างไหมกับการชงชาของตัวละครที่มีให้เห็นตลอดทั้งเรื่อง เป็นการใช้ช้อนไม้เล็กด้ามยาวตักผงชาลงในชามเล็ก เติมน้ำร้อนเล็กน้อย ใช้แปรงตีจนละลายเข้าเป็นน้ำชาข้น เติมน้ำอีก ตีอีกจนเป็นฟอง เติมน้ำอีก ตีอีก ทำอย่างนี้จนชาเปลี่ยนสีแล้วเทใส่ถ้วยที่มีจานรองแบบมีขาตั้งสูง (ดูจากรูปกรรมวิธี) หน้าตาของชาจะคล้ายกับชาญี่ปุ่นมัทฉะที่ตีเป็นฟองที่เรายังเห็นได้ในปัจจุบัน วิธีการชงชาแบบนี้เรียกว่า ‘เตี่ยนฉา’ (点茶) ศิลปะการชงชาแบบเตี่ยนฉาไม่ใช่เพียงชงเพื่อดื่ม หากแต่เป็นการฝึกความใจเย็น และในยุคนั้นหนึ่งในกิจกรรมสังสรรค์ยอดนิยมคือการแข่งชงชากัน (เรียกว่า ‘โต้วฉา’ / 斗茶) โดยจะเริ่มตั้งแต่การเอาชาอัดก้อนมาอังไฟให้หอม แล้วเอาก้อนชามาทุบละเอียด ชาที่ทุบแล้วก็ต้องนำมาโม่บดจนละเอียดมากขึ้นอีก เวลาจะกินก็ตักออกมาสักช้อนสองช้อนแล้วก็ชงตามกรรมวิธี ชงชาแบบเตี่ยนฉาอย่างไรจึงเรียกว่าดี? เขาว่าชาที่ดีนั้น เนื้อชาจะกระจายไปในน้ำอย่างสม่ำเสมอและเข้มข้นกำลังดี สีของน้ำชาที่ดีที่สุดคือขาวนวล รองลงมาคือขาวอมเขียว ขาวอมเทา หรือขาวอมเหลือง ถ้วยชาที่ใช้จึงมักเป็นสีดำเพื่อให้เห็นน้ำชาได้ชัดเจน ว่ากันว่าญี่ปุ่นได้วิธีชงชาแบบนี้จากพระและนักแสวงบุญที่เข้ามายังประเทศจีนในสมัยซ่งแล้วนำกลับไปทำที่ญี่ปุ่น แต่ Storyฯ ไม่ได้ไปศึกษาข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เพิ่มในประเด็นนี้ แล้วยุคสมัยอื่นล่ะ? การดื่มชาในยุคสมัยก่อนราชวงศ์ถังนั้นเป็นการนำชามาต้มกับเครื่องอย่างอื่น เช่นขิง ดอกหอมหมื่นลี้ พริกไทยเป็นต้น ดื่มกินเหมือนน้ำแกง ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์สุยและถังจึงใช้เป็นการ ‘แช่’ ชาในน้ำร้อน (เหมือนที่เราเห็นในปัจจุบัน) สมัยนั้นจึงเรียกเป็นการต้มชาหรือว่า ‘จู่ฉา’ (煎茶) กรรมวิธีชงชาแบบเตี่ยนฉาสิ้นสุดลงเมื่อเข้าสู่ราชวงศ์หมิง ด้วยความที่มันยุ่งยากใช้คนมากในการหมักเก็บชามาอัดเป็นก้อน ไหนจะต้องทุบและบดก่อนกิน องค์จูหยวนจางทรงเห็นว่าการต้มชาใบร่วงง่ายและเหมาะกับชีวิตประจำวันของชาวบ้านธรรมดามากกว่า ในยุคสมัยนั้นการจัดจำหน่ายชาจึงเน้นเป็นรูปแบบใบชา ดังนั้นก้อนชาและวิธีชงแบบเตี่ยนฉาจึงค่อยๆ หายไป Storyฯ เล่าแบบง่ายๆ แต่จริงๆ แล้ว การชงชาในแต่ละยุคสมัยนั้นไม่ง่ายเลย มันมีขั้นตอนที่ละเมียดละไมและมีอุปกรณ์เฉพาะหลายชิ้น ใครที่เป็นคอชาจะทราบดี Storyฯ ไม่ได้เป็นคอชา รอเพื่อนเพจท่านใดที่ใช่ มาเล่าสู่กันฟังหน่อยนะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจากในละครและจาก: https://itw01.com/YNKQ3E4.html https://wantubizhi.com/image350909350928.html https://kknews.cc/zh-sg/culture/rr3kjxo.html http://www.tuanjiewang.cn/2019-11/04/content_8853866.htm http://www.guanfujianzhan.com/8119.html http://food.china.com.cn/2020-07/09/content_76253576.htm ดูกรรมวิธีการชงได้ที่ https://m.puercn.com/zhishi/97265/ #หมิงหลัน #พิธีชงชาจีนโบราณ #เตี่ยนฉา #ราชวงศ์ซ่ง
    ITW01.COM
    IT Tools - Handy online tools for developers
    Collection of handy online tools for developers, with great UX. IT Tools is a free and open-source collection of handy online tools for developers & people working in IT.
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว

  • วันนี้คุยกันต่อเกี่ยวกับวัฒนธรรมในยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง ซึ่งเป็นยุคสมัยที่ศิลปะชั้นสูงหลายแขนงถูกเผยแพร่สู่ประชาชนในวงกว้าง

    จาก ‘บันทึกเมิ่งเหลียง’ มีศิลปะสี่แขนงที่ถูกยกย่องว่าเป็นสิ่งที่ ‘ต้องมี’ ในผู้ที่มีการศึกษาในสมัยซ่ง ซึ่งก็คือ การเผาผงหอม การเตี่ยนฉา (การชงชาแบบซ่งที่ Storyฯ เขียนถึงไปแล้วเมื่อก่อนปีใหม่) การเขียนภาพ และการจัดดอกไม้ ทั้งหมดล้วนเป็นศิลปะที่ชาวซ่งมองว่าฝึกให้คนใจเย็น ใครที่ได้ดูละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> จะเห็นการผสมดินและถ่านเพื่อเผาผงหอมในตอนที่มีครูแม่บ้านมาจากในวังมาสอนให้กับพี่น้องตระกูลเสิ้ง

    ความมีอยู่ว่า
    ... “ที่วางอยู่ข้างๆ พวกเจ้าล้วนเป็นผงไม้กฤษณาอย่างดี หากบังคับแรงไฟได้ดี ก้อนเล็กเพียงเท่าเล็บยังสามารถเผาได้นานถึงสองชั่วยาม (สี่ชั่วโมง) กลิ่นกรุ่นมิจาง...
    - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า)

    สมัยซ่งนั้นเป็นการเผาผงหอม เรียกว่าเฝินเซียง (焚香) ส่วนผสมที่ใช้หลากหลาย เช่นไม้กฤษณา ไม้จันทน์ พิมเสน กำยาน ตะไคร้ ลูกกระวาน เม็ดพริกไทย ฯลฯ มีการค้นคว้าสูตรผสมจัดเป็นตำราสูตรเครื่องหอม (ตัวอย่างสูตรรูปสองซ้ายบน) ทั้งเพื่อความจรรโลงใจและทั้งเพื่อสรรพคุณทางยา โดยเครื่องหอมที่ปรุงเสร็จก็จัดทำขึ้นหลากหลายรูปแบบ ทั้งอัดเม็ด อัดแผ่นบาง อัดแผ่นหนาห้อยติดกาย หรือเป็นแบบผง

    ในสมัยนั้น เครื่องหอมที่มีชื่อที่สุด แพงที่สุด (มีค่าเทียบเท่าทองคำ) และใช้ในวังเป็นหลักคือ ‘หลงเสียนเซียง’ (龙涎香) แปลตรงตัวว่าเครื่องหอมจากน้ำลายมังกร แต่จริงๆ แล้วมันเกิดจากการสำรอกหรือขับถ่ายจากปลาวาฬหัวทุย หลังถูกน้ำทะเลและแสงแดดหล่อหลอมนานปีจนเป็นก้อนไขมันหน้าตาคล้ายหินอ่อนก็จะมีกลิ่นหอม หรือที่เราเรียกกันว่า ‘อำพันขี้ปลา’ จัดเป็นยาหายากชนิดหนึ่งในจีนโบราณ มีสรรพคุณกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

    ยุคสมัยนั้นจริงจังกับเฝินเซียงแค่ไหน ดูได้จากชุดอุปกรณ์ (รูปแรกขวาล่าง) ในสมัยนั้นจึงเกิดการสรรค์สร้างเครื่องปั้นดินเผาเป็นเตาเผาผงหอมหน้าตาหลากหลาย ยกตัวอย่างมาให้ชมกัน (รูปสอง)

    การเผานั้นเป็นไปตามกรรมวิธีที่แสดงในละคร เริ่มจากการวางถ่านไม้ก้อนเล็กลงไปกลางรูที่ขุดไว้ในผงหอม ปิดด้วยแผ่นแร่กลีบหินหรือแผ่นตะแกรง แล้วก็วางชิ้นเครื่องหอมลงบนแผ่นแร่กลีบหินอีกที (ตามรูปแรกขวาบน) ผลลัพธ์ที่ดีคือมีกลิ่นแต่ไม่มีควัน

    Storyฯ เล่าแบบง่ายๆ (อีกแล้ว) แต่แน่นอนว่าทุกขั้นตอนแฝงไว้ด้วยความละเมียดละไม ไม่ว่าการผสมการจัดเก็บเครื่องหอม การเผาถ่าน ตำแหน่งการวางถ่าน ฯลฯ ศิลปะจากราชวงศ์ซ่งนี้อยู่คู่กับเรามาจวบจนปัจจุบัน แม้แต่สูตรเครื่องหอมบางสูตรหรือการใช้อำพันขี้ปลามาเป็นหัวเชื้อน้ำหอม ปัจจุบันก็ยังมีใช้อยู่

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://kknews.cc/culture/jv6zbal.html
    https://kknews.cc/culture/omg5ve5.html
    https://www.sohu.com/a/385169870_100171032
    http://collection.sina.com.cn/jczs/2018-03-16/doc-ifyshfuq0777119.shtml
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://kknews.cc/culture/omg5ve5.html
    https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=6255613423f1ab4117010e5a
    https://www.163.com/dy/article/FKVSEA9K05362446.html
    https://th.wikipedia.org/wiki/อำพันขี้ปลา

    #หมิงหลัน #เครื่องหอมจีนโบราณ #เฝินเซียง #ซาวเซียง #ราชวงศ์ซ่ง #หลงเสียนเซียง #อำพันขี้ปลา
    วันนี้คุยกันต่อเกี่ยวกับวัฒนธรรมในยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง ซึ่งเป็นยุคสมัยที่ศิลปะชั้นสูงหลายแขนงถูกเผยแพร่สู่ประชาชนในวงกว้าง จาก ‘บันทึกเมิ่งเหลียง’ มีศิลปะสี่แขนงที่ถูกยกย่องว่าเป็นสิ่งที่ ‘ต้องมี’ ในผู้ที่มีการศึกษาในสมัยซ่ง ซึ่งก็คือ การเผาผงหอม การเตี่ยนฉา (การชงชาแบบซ่งที่ Storyฯ เขียนถึงไปแล้วเมื่อก่อนปีใหม่) การเขียนภาพ และการจัดดอกไม้ ทั้งหมดล้วนเป็นศิลปะที่ชาวซ่งมองว่าฝึกให้คนใจเย็น ใครที่ได้ดูละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> จะเห็นการผสมดินและถ่านเพื่อเผาผงหอมในตอนที่มีครูแม่บ้านมาจากในวังมาสอนให้กับพี่น้องตระกูลเสิ้ง ความมีอยู่ว่า ... “ที่วางอยู่ข้างๆ พวกเจ้าล้วนเป็นผงไม้กฤษณาอย่างดี หากบังคับแรงไฟได้ดี ก้อนเล็กเพียงเท่าเล็บยังสามารถเผาได้นานถึงสองชั่วยาม (สี่ชั่วโมง) กลิ่นกรุ่นมิจาง... - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า) สมัยซ่งนั้นเป็นการเผาผงหอม เรียกว่าเฝินเซียง (焚香) ส่วนผสมที่ใช้หลากหลาย เช่นไม้กฤษณา ไม้จันทน์ พิมเสน กำยาน ตะไคร้ ลูกกระวาน เม็ดพริกไทย ฯลฯ มีการค้นคว้าสูตรผสมจัดเป็นตำราสูตรเครื่องหอม (ตัวอย่างสูตรรูปสองซ้ายบน) ทั้งเพื่อความจรรโลงใจและทั้งเพื่อสรรพคุณทางยา โดยเครื่องหอมที่ปรุงเสร็จก็จัดทำขึ้นหลากหลายรูปแบบ ทั้งอัดเม็ด อัดแผ่นบาง อัดแผ่นหนาห้อยติดกาย หรือเป็นแบบผง ในสมัยนั้น เครื่องหอมที่มีชื่อที่สุด แพงที่สุด (มีค่าเทียบเท่าทองคำ) และใช้ในวังเป็นหลักคือ ‘หลงเสียนเซียง’ (龙涎香) แปลตรงตัวว่าเครื่องหอมจากน้ำลายมังกร แต่จริงๆ แล้วมันเกิดจากการสำรอกหรือขับถ่ายจากปลาวาฬหัวทุย หลังถูกน้ำทะเลและแสงแดดหล่อหลอมนานปีจนเป็นก้อนไขมันหน้าตาคล้ายหินอ่อนก็จะมีกลิ่นหอม หรือที่เราเรียกกันว่า ‘อำพันขี้ปลา’ จัดเป็นยาหายากชนิดหนึ่งในจีนโบราณ มีสรรพคุณกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ยุคสมัยนั้นจริงจังกับเฝินเซียงแค่ไหน ดูได้จากชุดอุปกรณ์ (รูปแรกขวาล่าง) ในสมัยนั้นจึงเกิดการสรรค์สร้างเครื่องปั้นดินเผาเป็นเตาเผาผงหอมหน้าตาหลากหลาย ยกตัวอย่างมาให้ชมกัน (รูปสอง) การเผานั้นเป็นไปตามกรรมวิธีที่แสดงในละคร เริ่มจากการวางถ่านไม้ก้อนเล็กลงไปกลางรูที่ขุดไว้ในผงหอม ปิดด้วยแผ่นแร่กลีบหินหรือแผ่นตะแกรง แล้วก็วางชิ้นเครื่องหอมลงบนแผ่นแร่กลีบหินอีกที (ตามรูปแรกขวาบน) ผลลัพธ์ที่ดีคือมีกลิ่นแต่ไม่มีควัน Storyฯ เล่าแบบง่ายๆ (อีกแล้ว) แต่แน่นอนว่าทุกขั้นตอนแฝงไว้ด้วยความละเมียดละไม ไม่ว่าการผสมการจัดเก็บเครื่องหอม การเผาถ่าน ตำแหน่งการวางถ่าน ฯลฯ ศิลปะจากราชวงศ์ซ่งนี้อยู่คู่กับเรามาจวบจนปัจจุบัน แม้แต่สูตรเครื่องหอมบางสูตรหรือการใช้อำพันขี้ปลามาเป็นหัวเชื้อน้ำหอม ปัจจุบันก็ยังมีใช้อยู่ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://kknews.cc/culture/jv6zbal.html https://kknews.cc/culture/omg5ve5.html https://www.sohu.com/a/385169870_100171032 http://collection.sina.com.cn/jczs/2018-03-16/doc-ifyshfuq0777119.shtml Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://kknews.cc/culture/omg5ve5.html https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=6255613423f1ab4117010e5a https://www.163.com/dy/article/FKVSEA9K05362446.html https://th.wikipedia.org/wiki/อำพันขี้ปลา #หมิงหลัน #เครื่องหอมจีนโบราณ #เฝินเซียง #ซาวเซียง #ราชวงศ์ซ่ง #หลงเสียนเซียง #อำพันขี้ปลา
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • ม.ราชภัฏโคราช จัดอบรม “Korat Production Training 2025” สร้างนักผลิตสื่อรุ่นใหม่ สู่อุตสาหกรรมบันเทิง
    .
    เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์ดิจิทัล คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมสื่อสร้างสรรค์โคราช (Korat Creative Content Agency : KCCA) และเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล ได้จัด โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างสรรค์นักผลิตสื่ออุตสาหกรรมบันเทิงยุคดิจิทัล หรือ Korat Production Training 2025 ณ ห้องประชุม 22.14 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยมี รองศาสตราจารย์เนตรชนก บัวนาค รองคณบดีฝ่ายวิจัยและเครือข่ายสัมพันธ์ คณะวิทยาการจัดการ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการ และได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สวียา ปรารถนาดี ชาติวิวัฒนาการ รองอธิการบดีฝ่ายทรัพยากรบุคคลและกิจการทั่วไป เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรม
    .
    โครงการอบรม “Korat Production Training 2025” ซึ่งจัดขึ้นเป็นที่ 2 มีกำหนดการอบรมระหว่างวันที่ 27 – 28 พฤษภาคม 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพเยาวชนและนักศึกษาให้มีทักษะด้านการผลิตสื่อดิจิทัล โดยเน้นกระบวนการทำงานจริงในอุตสาหกรรมบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการกำกับภาพ การจัดแสง การจัดองค์ประกอบภาพ ไปจนถึงกระบวนการควบคุมการผลิตสื่อแบบมืออาชีพ สำหรับการอบรมในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากวิทยากรมืออาชีพ ได้แก่ คุณคีตะวัฒน์ ชินโคตร ตำแหน่ง CEO & Producer คุณสิริกร โสดา ตำแหน่ง Production Equipment คุณพชรดนัย ปัญญาภู ตำแหน่ง Director & Director of Photography จากบริษัท VelCurve Studio ผู้ผลิตภาพยนตร์ยูเรนัส 2324 และวิทยากรจากบริษัท แอดวานซ์ โฟโต้ซีสเทมส์ จำกัด ได้แก่ คุณรัฐนันท์ เฮ้าเฮง ตำแหน่ง Products Specialist & Marketing คุณจรัญ บุญสุข ตำแหน่ง Sale Manager คุณกนกศักดิ์ โพธิ์ขำ ตำแหน่ง Sale Executives และวิทยากรจากหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์ดิจิทัล คณะวิทยาการจัดการ ประกอบด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พีรวิชญ์ คำเจริญ อาจารย์ ดร.รุ่งกานต์ มูสโกภาส และผู้ช่วยศาสตราจารย์อิสรชัย ลาวรรณา สำหรับการอบรมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมอบรมจำนวนทั้งสิ้น 55 คน จากหลากหลายสถาบันทั้งในระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้รับโอกาสในการเรียนรู้ผ่านการฝึกปฏิบัติจริงจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ทั้งนี้หลังจบกิจกรรมการอบรมทั้ง 2 วัน ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้รับใบประกาศนียบัตรจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ด้านการผลิตสื่อสร้างสรรค์ของเยาวชนในจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงสร้างเครือข่ายวิชาการและอุตสาหกรรมสื่อเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงานในภาคอุตสาหกรรมบันเทิงต่อไป
    ม.ราชภัฏโคราช จัดอบรม “Korat Production Training 2025” สร้างนักผลิตสื่อรุ่นใหม่ สู่อุตสาหกรรมบันเทิง . เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์ดิจิทัล คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมสื่อสร้างสรรค์โคราช (Korat Creative Content Agency : KCCA) และเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล ได้จัด โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างสรรค์นักผลิตสื่ออุตสาหกรรมบันเทิงยุคดิจิทัล หรือ Korat Production Training 2025 ณ ห้องประชุม 22.14 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยมี รองศาสตราจารย์เนตรชนก บัวนาค รองคณบดีฝ่ายวิจัยและเครือข่ายสัมพันธ์ คณะวิทยาการจัดการ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการ และได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สวียา ปรารถนาดี ชาติวิวัฒนาการ รองอธิการบดีฝ่ายทรัพยากรบุคคลและกิจการทั่วไป เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรม . โครงการอบรม “Korat Production Training 2025” ซึ่งจัดขึ้นเป็นที่ 2 มีกำหนดการอบรมระหว่างวันที่ 27 – 28 พฤษภาคม 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพเยาวชนและนักศึกษาให้มีทักษะด้านการผลิตสื่อดิจิทัล โดยเน้นกระบวนการทำงานจริงในอุตสาหกรรมบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการกำกับภาพ การจัดแสง การจัดองค์ประกอบภาพ ไปจนถึงกระบวนการควบคุมการผลิตสื่อแบบมืออาชีพ สำหรับการอบรมในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากวิทยากรมืออาชีพ ได้แก่ คุณคีตะวัฒน์ ชินโคตร ตำแหน่ง CEO & Producer คุณสิริกร โสดา ตำแหน่ง Production Equipment คุณพชรดนัย ปัญญาภู ตำแหน่ง Director & Director of Photography จากบริษัท VelCurve Studio ผู้ผลิตภาพยนตร์ยูเรนัส 2324 และวิทยากรจากบริษัท แอดวานซ์ โฟโต้ซีสเทมส์ จำกัด ได้แก่ คุณรัฐนันท์ เฮ้าเฮง ตำแหน่ง Products Specialist & Marketing คุณจรัญ บุญสุข ตำแหน่ง Sale Manager คุณกนกศักดิ์ โพธิ์ขำ ตำแหน่ง Sale Executives และวิทยากรจากหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์ดิจิทัล คณะวิทยาการจัดการ ประกอบด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พีรวิชญ์ คำเจริญ อาจารย์ ดร.รุ่งกานต์ มูสโกภาส และผู้ช่วยศาสตราจารย์อิสรชัย ลาวรรณา สำหรับการอบรมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมอบรมจำนวนทั้งสิ้น 55 คน จากหลากหลายสถาบันทั้งในระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้รับโอกาสในการเรียนรู้ผ่านการฝึกปฏิบัติจริงจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ทั้งนี้หลังจบกิจกรรมการอบรมทั้ง 2 วัน ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้รับใบประกาศนียบัตรจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ด้านการผลิตสื่อสร้างสรรค์ของเยาวชนในจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงสร้างเครือข่ายวิชาการและอุตสาหกรรมสื่อเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงานในภาคอุตสาหกรรมบันเทิงต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ อาจช่วยเร่งการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน

    รายงานล่าสุดระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่มีเป้าหมายเพื่อจำกัดการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน อาจกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้จีนพัฒนาอุตสาหกรรมของตนเองได้เร็วขึ้น โดยพบว่า บริษัทจีนบางแห่งสามารถปรับตัวและสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งขึ้น แม้จะเผชิญกับข้อจำกัดด้านการนำเข้าเทคโนโลยีจากตะวันตก

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตร
    ✅ แม้สหรัฐฯ และจีนจะตกลงระงับภาษีที่รุนแรงเป็นเวลา 90 วัน แต่ความตึงเครียดในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ยังคงเพิ่มขึ้น
    - บริษัทไต้หวันที่ดำเนินธุรกิจในจีนกำลังถูกจับตามองมากขึ้น

    ✅ บริษัท Zhen Ding Technology ในจีนมีรายได้เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
    - เนื่องจาก กลยุทธ์ "China for China" ที่เน้นการผลิตเพื่อตลาดภายในประเทศ

    ✅ Nvidia CEO Jensen Huang ระบุว่าการห้ามส่งออกชิป AI ไปจีนเป็น "ความล้มเหลว"
    - เพราะ บริษัทจีนหันไปใช้ผลิตภัณฑ์จากคู่แข่งในประเทศแทน

    ✅ บริษัทจีนอาจใช้สวนอุตสาหกรรม AI ในไต้หวันเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
    - อาจทำให้ ห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เปลี่ยนแปลงไป

    ✅ Nvidia อาจเปิดตัวชิป Blackwell รุ่นใหม่สำหรับตลาดจีนภายในสิ้นปีนี้
    - เพื่อ ทดแทนชิป H20 ที่ถูกแบน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/instead-of-crippling-chinas-semiconductor-ambitions-u-s-sanctions-may-be-inadvertently-accelerating-them-report-claims-washington-measures-could-be-bolstering-chinas-chip-market
    มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ อาจช่วยเร่งการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน รายงานล่าสุดระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่มีเป้าหมายเพื่อจำกัดการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน อาจกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้จีนพัฒนาอุตสาหกรรมของตนเองได้เร็วขึ้น โดยพบว่า บริษัทจีนบางแห่งสามารถปรับตัวและสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งขึ้น แม้จะเผชิญกับข้อจำกัดด้านการนำเข้าเทคโนโลยีจากตะวันตก 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตร ✅ แม้สหรัฐฯ และจีนจะตกลงระงับภาษีที่รุนแรงเป็นเวลา 90 วัน แต่ความตึงเครียดในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ยังคงเพิ่มขึ้น - บริษัทไต้หวันที่ดำเนินธุรกิจในจีนกำลังถูกจับตามองมากขึ้น ✅ บริษัท Zhen Ding Technology ในจีนมีรายได้เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา - เนื่องจาก กลยุทธ์ "China for China" ที่เน้นการผลิตเพื่อตลาดภายในประเทศ ✅ Nvidia CEO Jensen Huang ระบุว่าการห้ามส่งออกชิป AI ไปจีนเป็น "ความล้มเหลว" - เพราะ บริษัทจีนหันไปใช้ผลิตภัณฑ์จากคู่แข่งในประเทศแทน ✅ บริษัทจีนอาจใช้สวนอุตสาหกรรม AI ในไต้หวันเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น - อาจทำให้ ห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เปลี่ยนแปลงไป ✅ Nvidia อาจเปิดตัวชิป Blackwell รุ่นใหม่สำหรับตลาดจีนภายในสิ้นปีนี้ - เพื่อ ทดแทนชิป H20 ที่ถูกแบน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/instead-of-crippling-chinas-semiconductor-ambitions-u-s-sanctions-may-be-inadvertently-accelerating-them-report-claims-washington-measures-could-be-bolstering-chinas-chip-market
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Report claims Washington measures could be bolstering China's chip market
    China's chip industry could emerge more resilient from U.S. sanctions
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครั้งแรกที่ทดลองเขียนบทความโดยใช้ ChatGPT หาข้อมูล ช่วยตรวจ และทำภาพประกอบ แต่ยังคงสำนวนของเราเอง

    ลองแปลภาษาอังกฤษ อันนี้โคตรตื่นเต้น ใช้ ChatGPT แปล

    ChatGPT in the ASEAN Market

    Artificial intelligence (AI) is playing an increasingly significant role in everyday life—especially through platforms like ChatGPT, an interactive assistant capable of understanding and responding to human language in a wide variety of contexts. From planning and problem-solving to providing daily advice, ChatGPT has become a go-to tool for many. Currently, it boasts around 800 million users worldwide, with approximately 122 million daily active users. It operates in a competitive field alongside major technology platforms such as Google, Microsoft, and Meta, as well as rising competitors from Asia like DeepSeek, Baidu, Alibaba, and Tencent.

    In Thailand, while the core user base consists of coders, programmers, and those generating AI visuals, ChatGPT is gradually gaining broader recognition for its role in content creation and ideation. About 14% of Thailand's population of 65.89 million are estimated to be users.

    Looking across the ASEAN region, which has a combined population of roughly 600 million, Indonesia leads in user share with around 32% of its 283.48 million citizens using the platform. The Philippines follows with an estimated 28% of its population (roughly 119 million) engaging with ChatGPT. In Singapore, usage is widespread among high-income, well-educated groups, while Malaysia is seeing steady growth, particularly among tech-savvy users. However, the region still faces significant challenges, including disparities in access to high-speed internet, AI-compatible devices, and the relatively high cost of AI services for certain demographics.

    To address these barriers, OpenAI, the US-based AI company behind ChatGPT, has begun collaborating with telecom providers across Southeast Asia. For example, in Laos, ChatGPT is accessible via the Unitel network; in Malaysia, CelcomDigi is planning to introduce AI-powered add-on services; and in Singapore, Singtel has started bundling AI services into consumer packages. In the Philippines, usage remains limited, while Indonesia is piloting AI services with select customer groups.

    Although Thailand has not yet officially launched ChatGPT service packages, interest is high and discussions with major telecom providers are reportedly underway. Meanwhile, Vietnam, Cambodia, Myanmar, and Brunei remain in the early or pilot phases of deployment.

    Overall, ASEAN markets are showing increased interest and activity around AI services, even though adoption rates have yet to match those in Europe or the United States. Partnerships between OpenAI and regional telecom providers are expected to be key in expanding ChatGPT’s accessibility and integration across broader segments of the population.
    ครั้งแรกที่ทดลองเขียนบทความโดยใช้ ChatGPT หาข้อมูล ช่วยตรวจ และทำภาพประกอบ แต่ยังคงสำนวนของเราเอง ลองแปลภาษาอังกฤษ อันนี้โคตรตื่นเต้น ใช้ ChatGPT แปล ChatGPT in the ASEAN Market Artificial intelligence (AI) is playing an increasingly significant role in everyday life—especially through platforms like ChatGPT, an interactive assistant capable of understanding and responding to human language in a wide variety of contexts. From planning and problem-solving to providing daily advice, ChatGPT has become a go-to tool for many. Currently, it boasts around 800 million users worldwide, with approximately 122 million daily active users. It operates in a competitive field alongside major technology platforms such as Google, Microsoft, and Meta, as well as rising competitors from Asia like DeepSeek, Baidu, Alibaba, and Tencent. In Thailand, while the core user base consists of coders, programmers, and those generating AI visuals, ChatGPT is gradually gaining broader recognition for its role in content creation and ideation. About 14% of Thailand's population of 65.89 million are estimated to be users. Looking across the ASEAN region, which has a combined population of roughly 600 million, Indonesia leads in user share with around 32% of its 283.48 million citizens using the platform. The Philippines follows with an estimated 28% of its population (roughly 119 million) engaging with ChatGPT. In Singapore, usage is widespread among high-income, well-educated groups, while Malaysia is seeing steady growth, particularly among tech-savvy users. However, the region still faces significant challenges, including disparities in access to high-speed internet, AI-compatible devices, and the relatively high cost of AI services for certain demographics. To address these barriers, OpenAI, the US-based AI company behind ChatGPT, has begun collaborating with telecom providers across Southeast Asia. For example, in Laos, ChatGPT is accessible via the Unitel network; in Malaysia, CelcomDigi is planning to introduce AI-powered add-on services; and in Singapore, Singtel has started bundling AI services into consumer packages. In the Philippines, usage remains limited, while Indonesia is piloting AI services with select customer groups. Although Thailand has not yet officially launched ChatGPT service packages, interest is high and discussions with major telecom providers are reportedly underway. Meanwhile, Vietnam, Cambodia, Myanmar, and Brunei remain in the early or pilot phases of deployment. Overall, ASEAN markets are showing increased interest and activity around AI services, even though adoption rates have yet to match those in Europe or the United States. Partnerships between OpenAI and regional telecom providers are expected to be key in expanding ChatGPT’s accessibility and integration across broader segments of the population.
    ChatGPT ในตลาดอาเซียน

    เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม ChatGPT ซึ่งเป็นผู้ช่วยโต้ตอบที่สามารถเข้าใจและตอบสนองภาษามนุษย์ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งในด้านการวางแผน แก้ปัญหา และให้คำแนะนำในชีวิตประจำวัน ปัจจุบันมีผู้ใช้งานทั่วโลกประมาณ 800 ล้านคน โดยมีผู้ใช้งานประจำวันราว 122 ล้านคน ท่ามกลางการแข่งขันกับแพลตฟอร์มจากค่ายเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Google, Microsoft, Meta ตลอดจนคู่แข่งจากฝั่งเอเชีย เช่น DeepSeek, Baidu, Alibaba และ Tencent

    สำหรับประเทศไทย แม้กลุ่มผู้ใช้งานหลักจะอยู่ในสายโค้ดดิ้ง โปรแกรมมิ่ง หรือการสร้างภาพ AI แต่ ChatGPT ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างด้านการใช้สร้างสรรค์เนื้อหาและแนวคิดใหม่ๆ โดยมีสัดส่วนผู้ใช้งานประมาณ 14% จากประชากร 65.89 ล้านคน

    หากพิจารณาภาพรวมของตลาดอาเซียน ซึ่งมีประชากรรวมราว 600 ล้านคน พบว่า อินโดนีเซียมีสัดส่วนผู้ใช้งานสูงที่สุด ประมาณ 32% ของประชากร 283.48 ล้านคน รองลงมาคือฟิลิปปินส์ ที่มีผู้ใช้งานประมาณ 28% จากประชากรราว 119 ล้านคน ส่วนสิงคโปร์มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในกลุ่มที่มีรายได้สูงและการศึกษาดี ขณะที่มาเลเซียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มผู้สนใจเทคโนโลยีใหม่ อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญของภูมิภาคนี้ยังอยู่ที่ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อุปกรณ์ที่รองรับ AI และต้นทุนบริการที่ยังถือว่าสูงสำหรับประชากรบางส่วน

    ที่ผ่านมา OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทด้าน AI จากสหรัฐอเมริกา ได้เปิดตัวโครงการ “OpenAI for Countries” ซึ่งเป็นความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และการเข้าถึง ChatGPT ในระดับประเทศ ขณะที่สิงคโปร์ OpenAI ได้ประกาศความร่วมมือกับโครงการ AI Singapore ซึ่งเป็นโครงการร่วมระหว่างรัฐบาลและสถาบันการศึกษา เพื่อส่งเสริมการนำ AI มาใช้ในประเทศ ส่วนประเทศอื่นๆ สามารถเข้าถึงได้ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ และผ่านเว็บไซต์

    โดยรวมแล้ว ตลาดอาเซียนกำลังตื่นตัวต่อบริการ AI มากขึ้น แม้ยังไม่เทียบเท่าตลาดยุโรปหรือสหรัฐฯ ความร่วมมือระหว่าง OpenAI กับผู้ให้บริการโทรคมนาคมในภูมิภาค จึงเป็นกุญแจสำคัญในการขยายการเข้าถึง ChatGPT ให้ครอบคลุมประชากรในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

    #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • How To Write A Professional Email: Tips & Examples

    During your professional career, you’ll need to write plenty of emails. While writing an email to a friend is pretty simple, writing an email to your boss or a person you have never met before requires a bit more thought if you want to be professional. Ideally, you want your emails to be clear, concise, and persuasive. If that is your goal, then you’ll get there in no time at all if you follow our tips on crafting professional emails.

    What to include in a professional email
    When writing an effective email, there are several things that should never be left out. Let’s walk through each major part of an email so you’ll know exactly how to write one.

    Subject line
    In most email programs, the subject line is entered into the box under the recipient’s email address. Besides your name and email address, the subject line is the first thing someone will see when they receive your email. The subject line should be a short summary of the purpose of your email. Some examples of subject lines include “Plans for Fall Product Lineup,” “Thank You for the Referral,” or “Question About Next Week’s Meeting.”

    If you are responding to or forwarding someone else’s email, an email program will typically fill in a subject line for you such as “Re: New Employee Training.” Generally, it is fine to keep these subject lines as doing so will make it easier for the original sender to keep track of potentially long email chains.

    Greeting
    The greeting is the first line of the email and is a salutation that establishes the tone of your email. Every professional email you send must have a greeting tailored toward the receiver. If you know the receiver’s name and title, you should use it. Avoid referring to anyone as “Mr.” “Mrs.” or “Ms.” unless you already know that person prefers one of those titles. For professional emails, formal greetings such as “Greetings,” “Dear,” or “Good morning/afternoon/evening” are preferred. If you do not know the identity of the person receiving your email, you can exclude a name or use the general greeting of “To Whom It May Concern.” Informal greetings such as “Hi” or “Yo” should be avoided.

    Body
    The body is the largest part of the email and where your actual message will be. You should begin the body by immediately saying what the purpose of the email is and expressing what you are trying to achieve by sending it. The body of the email should be concise, informative, and straight to the point. You should always be polite and use proper grammar in professional emails. Whether the body is a single sentence or several paragraphs, it should provide all the information a person needs to respond to your needs or take whatever actions you want them to.

    Closing
    The closing is the last line of the email before your name or signature. A closing is necessary to ensure proper etiquette and not having one is often seen as rude or inconsiderate. The closing can be very short and use formal words like “Best” or “Thank you.” The closing can also include a restatement of the main topic or a repeat of a request, such as “I look forward to hearing back from you regarding my proposal. Thank you!”

    What not to include in a professional email
    Now that we’ve looked at what should be in your emails, let’s take a look at what you should leave out if you want to come across as a professional.

    Decorative or distracting fonts
    Professional emails should use traditional fonts such as Times New Roman, Arial, or whatever font the email program uses as a standard. Decorative fonts such as Comic Sans are distracting and inappropriate, so they should not be used in your professional emails.

    Excessive punctuation
    Punctuation should follow the rules of proper grammar. It is fine to use question marks, commas, quotation marks, colons, and semicolons as long as you know how to properly use them. Exclamation points should be used sparingly, usually only in the closing or to emphasize a need for immediate action. Excessive, unnecessary use of punctuation is distracting and will make your email look unprofessional.

    Emoticons
    Unless you are emailing someone you have a friendly, informal relationship with, your email should not include emoji, emoticons, gifs, or memes. All of these things are distracting and typically seen as unprofessional, so you should not use them in an email that is supposed to be professional.

    Tips for writing a professional email
    We’ve covered everything that needs to go in an email and what should stay on the cutting room floor. Next, let’s review some general tips that will improve all of the emails you’ll need to write.

    Be concise
    A professional email should be short and to the point. At the same time, you should still use complete sentences and proper grammar. Avoid going on tangents or telling long stories in emails. Each sentence should have a purpose and should provide information that the receiver needs to respond or perform whatever action you need them to take. Avoid asking many questions or making several requests if possible. You can use followup emails to make further requests or ask additional questions if you need to.

    Convey a clear purpose
    A professional email should get straight to the point. Avoid wasting a person’s time by burying your main point deep in the body of an email. The very first line of the body should clearly state what the purpose of the email is and what action you want the receiver to take. The subject line should also establish the purpose of the email. The rest of the email should support the main point by including necessary information or important details that the receiver needs to be aware of.

    Proofread using Grammar Coach™
    A professional email should have proper grammar, punctuation, and spelling. To that end, you should thoroughly proofread your emails for any errors. To ensure that all of your emails are perfect, you can use our fantastic Grammar Coach™ that will review all of your emails for common errors and grammar mistakes. With Grammar Coach™ at your side, your emails will be error-free and have an air of professionalism that cannot be matched!

    Examples of professional emails
    Let’s finish things off by bringing it all together and taking a look at some different types of emails that effectively use all of our tips and advice.

    Example #1: Relationship building
    The following example shows how you could write an email with the intent of trying to establish a relationship with someone in order to add them to your growing network of professional contacts:

    Subject: Fantastic Lecture

    Dear Dr. Smith,

    I attended your Wednesday lecture on ancient Roman military tactics, and I wanted to express my gratitude for you coming to speak to our university. The lecture was extremely informative and your theories on Julius Caesar’s troop movements were something I had never considered. I am writing a dissertation on Caesar’s campaigns during the Gallic Wars, and your ideas have inspired me to view Caesar’s decisions from a new perspective. I plan on attending your upcoming lecture on the Punic Wars, and I know it will be just as illuminating. I look forward to hearing your views on the Roman war strategy!

    Thank you once again,
    Jane Doe

    Example #2: Referral requests
    When seeking a new career opportunity, having a referral or two will often give you a major advantage when it comes to submitting a job application. When asking another person for a referral via email, it is important to be polite and accommodating. The following example shows how you might ask for a referral through email:

    Subject: Referral Request – Zachary Adams

    Dear Professor Delgado,

    I hope you are well and wanted to thank you again for the instruction and guidance during my time at East Virginia University. I am applying for a position at the Research Institute Laboratories and was wondering if you would be willing to provide me with a referral.

    The position requires many of the same skills and lab work I performed during my time under your tutelage. Thanks to your instruction, I was able to excel in my studies and gain crucial experience using a nuclear fusion reactor. Due to your expertise and renown in the field, I know your referral would greatly improve my application.

    Thank you for considering my inquiry. I have attached a copy of my cover letter, resume, and the job posting for your review. Please let me know if you need anything else from me as you consider my request.

    Sincerely,
    Zachary Adams
    zadams@fakemail.abc
    (123) 456-7890

    Example #3: Resignation
    When leaving a job, you’ll need to submit a resignation letter. Your resignation email should be courteous and professional–even if you are looking forward to leaving your job. You never know if you might need to contact your former company for referrals or references, so it is important to remain professional and cordial even in your letter of resignation. The following example shows one possible approach you could take in your resignation email:

    Subject: Resignation – Laura Nores

    Dear Mrs. Smith,

    This email is my formal notification that I am resigning from my position as Head Marketing Consultant at Boxmart. My final day of employment will be April 1.

    I am grateful that I have had the opportunity to lead the marketing department at Boxmart for the past seven years. I’ve learned a lot about developing marketing campaigns and conducting demographic research during my time with the company. I’ve enjoyed being a member of the Boxmart team and appreciated the opportunities I’ve had to make the Boxmart brand a household name in the minds of customers worldwide. I will take everything I learned with me as I continue in my marketing career.

    During my final weeks with the company, I will ensure my team is prepared for the transition and will complete any outstanding responsibilities I have as Head Marketing Consultant. Please let me know if there is anything I need to do to assist in the transition.

    I hope Boxmart continues to be a market leader and that we remain in contact in the future.

    Best,
    Laura Nores

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    How To Write A Professional Email: Tips & Examples During your professional career, you’ll need to write plenty of emails. While writing an email to a friend is pretty simple, writing an email to your boss or a person you have never met before requires a bit more thought if you want to be professional. Ideally, you want your emails to be clear, concise, and persuasive. If that is your goal, then you’ll get there in no time at all if you follow our tips on crafting professional emails. What to include in a professional email When writing an effective email, there are several things that should never be left out. Let’s walk through each major part of an email so you’ll know exactly how to write one. Subject line In most email programs, the subject line is entered into the box under the recipient’s email address. Besides your name and email address, the subject line is the first thing someone will see when they receive your email. The subject line should be a short summary of the purpose of your email. Some examples of subject lines include “Plans for Fall Product Lineup,” “Thank You for the Referral,” or “Question About Next Week’s Meeting.” If you are responding to or forwarding someone else’s email, an email program will typically fill in a subject line for you such as “Re: New Employee Training.” Generally, it is fine to keep these subject lines as doing so will make it easier for the original sender to keep track of potentially long email chains. Greeting The greeting is the first line of the email and is a salutation that establishes the tone of your email. Every professional email you send must have a greeting tailored toward the receiver. If you know the receiver’s name and title, you should use it. Avoid referring to anyone as “Mr.” “Mrs.” or “Ms.” unless you already know that person prefers one of those titles. For professional emails, formal greetings such as “Greetings,” “Dear,” or “Good morning/afternoon/evening” are preferred. If you do not know the identity of the person receiving your email, you can exclude a name or use the general greeting of “To Whom It May Concern.” Informal greetings such as “Hi” or “Yo” should be avoided. Body The body is the largest part of the email and where your actual message will be. You should begin the body by immediately saying what the purpose of the email is and expressing what you are trying to achieve by sending it. The body of the email should be concise, informative, and straight to the point. You should always be polite and use proper grammar in professional emails. Whether the body is a single sentence or several paragraphs, it should provide all the information a person needs to respond to your needs or take whatever actions you want them to. Closing The closing is the last line of the email before your name or signature. A closing is necessary to ensure proper etiquette and not having one is often seen as rude or inconsiderate. The closing can be very short and use formal words like “Best” or “Thank you.” The closing can also include a restatement of the main topic or a repeat of a request, such as “I look forward to hearing back from you regarding my proposal. Thank you!” What not to include in a professional email Now that we’ve looked at what should be in your emails, let’s take a look at what you should leave out if you want to come across as a professional. Decorative or distracting fonts Professional emails should use traditional fonts such as Times New Roman, Arial, or whatever font the email program uses as a standard. Decorative fonts such as Comic Sans are distracting and inappropriate, so they should not be used in your professional emails. Excessive punctuation Punctuation should follow the rules of proper grammar. It is fine to use question marks, commas, quotation marks, colons, and semicolons as long as you know how to properly use them. Exclamation points should be used sparingly, usually only in the closing or to emphasize a need for immediate action. Excessive, unnecessary use of punctuation is distracting and will make your email look unprofessional. Emoticons Unless you are emailing someone you have a friendly, informal relationship with, your email should not include emoji, emoticons, gifs, or memes. All of these things are distracting and typically seen as unprofessional, so you should not use them in an email that is supposed to be professional. Tips for writing a professional email We’ve covered everything that needs to go in an email and what should stay on the cutting room floor. Next, let’s review some general tips that will improve all of the emails you’ll need to write. Be concise A professional email should be short and to the point. At the same time, you should still use complete sentences and proper grammar. Avoid going on tangents or telling long stories in emails. Each sentence should have a purpose and should provide information that the receiver needs to respond or perform whatever action you need them to take. Avoid asking many questions or making several requests if possible. You can use followup emails to make further requests or ask additional questions if you need to. Convey a clear purpose A professional email should get straight to the point. Avoid wasting a person’s time by burying your main point deep in the body of an email. The very first line of the body should clearly state what the purpose of the email is and what action you want the receiver to take. The subject line should also establish the purpose of the email. The rest of the email should support the main point by including necessary information or important details that the receiver needs to be aware of. Proofread using Grammar Coach™ A professional email should have proper grammar, punctuation, and spelling. To that end, you should thoroughly proofread your emails for any errors. To ensure that all of your emails are perfect, you can use our fantastic Grammar Coach™ that will review all of your emails for common errors and grammar mistakes. With Grammar Coach™ at your side, your emails will be error-free and have an air of professionalism that cannot be matched! Examples of professional emails Let’s finish things off by bringing it all together and taking a look at some different types of emails that effectively use all of our tips and advice. Example #1: Relationship building The following example shows how you could write an email with the intent of trying to establish a relationship with someone in order to add them to your growing network of professional contacts: Subject: Fantastic Lecture Dear Dr. Smith, I attended your Wednesday lecture on ancient Roman military tactics, and I wanted to express my gratitude for you coming to speak to our university. The lecture was extremely informative and your theories on Julius Caesar’s troop movements were something I had never considered. I am writing a dissertation on Caesar’s campaigns during the Gallic Wars, and your ideas have inspired me to view Caesar’s decisions from a new perspective. I plan on attending your upcoming lecture on the Punic Wars, and I know it will be just as illuminating. I look forward to hearing your views on the Roman war strategy! Thank you once again, Jane Doe Example #2: Referral requests When seeking a new career opportunity, having a referral or two will often give you a major advantage when it comes to submitting a job application. When asking another person for a referral via email, it is important to be polite and accommodating. The following example shows how you might ask for a referral through email: Subject: Referral Request – Zachary Adams Dear Professor Delgado, I hope you are well and wanted to thank you again for the instruction and guidance during my time at East Virginia University. I am applying for a position at the Research Institute Laboratories and was wondering if you would be willing to provide me with a referral. The position requires many of the same skills and lab work I performed during my time under your tutelage. Thanks to your instruction, I was able to excel in my studies and gain crucial experience using a nuclear fusion reactor. Due to your expertise and renown in the field, I know your referral would greatly improve my application. Thank you for considering my inquiry. I have attached a copy of my cover letter, resume, and the job posting for your review. Please let me know if you need anything else from me as you consider my request. Sincerely, Zachary Adams zadams@fakemail.abc (123) 456-7890 Example #3: Resignation When leaving a job, you’ll need to submit a resignation letter. Your resignation email should be courteous and professional–even if you are looking forward to leaving your job. You never know if you might need to contact your former company for referrals or references, so it is important to remain professional and cordial even in your letter of resignation. The following example shows one possible approach you could take in your resignation email: Subject: Resignation – Laura Nores Dear Mrs. Smith, This email is my formal notification that I am resigning from my position as Head Marketing Consultant at Boxmart. My final day of employment will be April 1. I am grateful that I have had the opportunity to lead the marketing department at Boxmart for the past seven years. I’ve learned a lot about developing marketing campaigns and conducting demographic research during my time with the company. I’ve enjoyed being a member of the Boxmart team and appreciated the opportunities I’ve had to make the Boxmart brand a household name in the minds of customers worldwide. I will take everything I learned with me as I continue in my marketing career. During my final weeks with the company, I will ensure my team is prepared for the transition and will complete any outstanding responsibilities I have as Head Marketing Consultant. Please let me know if there is anything I need to do to assist in the transition. I hope Boxmart continues to be a market leader and that we remain in contact in the future. Best, Laura Nores © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 377 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✅ศาสตร์โฮมิโอพาธีร์
    https://t.me/Covidtreatment_th/156
    ✍️ทำความเข้าใจ ศาสตร์การแพทย์โฮมีโอพาธีย์
    ให้อ่าน link ข้างล่างนี้
    1.ปรัชญา หลักการ และวิธีการของการแพทย์โฮมีโอพาธีย์โดยสังเขป
    https://www.facebook.com/groups/379706492124284/permalink/5679318815496332/?mibextid=cr9u03
    2.ความเป็นวิทยาศาสตร์ของโฮมีโอพาธีย์
    https://www.facebook.com/groups/379706492124284/permalink/4680459838715573/?mibextid=cr9u03
    3.กรรมวิธีในการผลิตยาโฮมีโอพาธีย์
    https://www.facebook.com/groups/379706492124284/permalink/4446194605475432/?mibextid=S66gvF
    ✍️ สมาชิกสามารถปรึกษาสุขภาพกับคุณหมอวัลลภ ธีรเวชกุล โดยเฉพาะความรู้ศาสตร์โฮมิโอพาธีร์ได้จากกลุ่มไลน์ “เริ่มเรียนรู้แพทย์ทางเลือก” https://line.me/ti/g/ZNK59IwynT
    ✍️เวปไซต์ โฮมิโอพาธีร์
    http://www.thaihomeopathy.org/content/index.php?fs=e&s=cl
    ✍️เพจ สมาคมโฮมิโอพาธีร์ ประเทศไทย
    https://www.facebook.com/groups/379706492124284/?ref=sharehttps://www.facebook.com/groups/379706492124284/?ref=share&exp=93fa
    ✍️เพจ โฮมิโอพาธีร์ ฮาเฮ
    https://www.facebook.com/HOMEOHAHE/
    ✍️แบบฟอร์มเพื่อขอรับ แจกฟรี! Bryonia
    https://forms.gle/M8bKkjUSDY1ayRKJ8
    ✍️แชร์ประสบการณ์การใช้ยา
    https://t.me/Covidtreatment_th/410
    ✍️กลุ่มไลน์ “โฮมีโอสู้โควิด"
    https://line.me/ti/g2/SfeqssFSRx9Lx_qIYQXHQ_5TPXD7xuRC2lrSKA?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    ✍️ศ.นพ.อมร เปรมกมล ยาล้างพิษ 5 ใบเถา
    https://t.me/goodthaidoctorclip/741 https://www.facebook.com/amornholistic
    https://www.tiktok.com/@amornpremgamone0?_t=8gAFDowuQok&_r=1
    https://youtube.com/@amornpr?si=6xHsCn4a7mzxmOVd
    ✅ศาสตร์โฮมิโอพาธีร์ https://t.me/Covidtreatment_th/156 ✍️ทำความเข้าใจ ศาสตร์การแพทย์โฮมีโอพาธีย์ ให้อ่าน link ข้างล่างนี้ 1.ปรัชญา หลักการ และวิธีการของการแพทย์โฮมีโอพาธีย์โดยสังเขป https://www.facebook.com/groups/379706492124284/permalink/5679318815496332/?mibextid=cr9u03 2.ความเป็นวิทยาศาสตร์ของโฮมีโอพาธีย์ https://www.facebook.com/groups/379706492124284/permalink/4680459838715573/?mibextid=cr9u03 3.กรรมวิธีในการผลิตยาโฮมีโอพาธีย์ https://www.facebook.com/groups/379706492124284/permalink/4446194605475432/?mibextid=S66gvF ✍️ สมาชิกสามารถปรึกษาสุขภาพกับคุณหมอวัลลภ ธีรเวชกุล โดยเฉพาะความรู้ศาสตร์โฮมิโอพาธีร์ได้จากกลุ่มไลน์ “เริ่มเรียนรู้แพทย์ทางเลือก” https://line.me/ti/g/ZNK59IwynT ✍️เวปไซต์ โฮมิโอพาธีร์ http://www.thaihomeopathy.org/content/index.php?fs=e&s=cl ✍️เพจ สมาคมโฮมิโอพาธีร์ ประเทศไทย https://www.facebook.com/groups/379706492124284/?ref=sharehttps://www.facebook.com/groups/379706492124284/?ref=share&exp=93fa ✍️เพจ โฮมิโอพาธีร์ ฮาเฮ https://www.facebook.com/HOMEOHAHE/ ✍️แบบฟอร์มเพื่อขอรับ แจกฟรี! Bryonia https://forms.gle/M8bKkjUSDY1ayRKJ8 ✍️แชร์ประสบการณ์การใช้ยา https://t.me/Covidtreatment_th/410 ✍️กลุ่มไลน์ “โฮมีโอสู้โควิด" https://line.me/ti/g2/SfeqssFSRx9Lx_qIYQXHQ_5TPXD7xuRC2lrSKA?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default ✍️ศ.นพ.อมร เปรมกมล ยาล้างพิษ 5 ใบเถา https://t.me/goodthaidoctorclip/741 https://www.facebook.com/amornholistic https://www.tiktok.com/@amornpremgamone0?_t=8gAFDowuQok&_r=1 https://youtube.com/@amornpr?si=6xHsCn4a7mzxmOVd
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • หจก.วู๊ดเด็ด สลีฟ
    #หาดใหญ่ #สงขลา
    หากคุณมีช่างเหล็กอยู่แล้ว บอกเลยว่าคุ้มมาก!
    โทร: 062-2437689 (คุณสมชาย เปี่ยมชล)
    Line ID: rotozon
    คุณสามารถมี หลังคาผ้าใบสวย ๆ กันแดดกันฝน ได้ในราคาประหยัด
    เหมาะสำหรับ
    ต่อเติมหน้าร้าน / หลังบ้าน
    กันแดด กันฝน
    คลุมสระน้ำ
    ร้านอาหาร คาเฟ่
    โกดัง โรงไม้
    ถ้ามีช่างเหล็กยิ่งประหยัด ซึ่งลูกค้าสามารถขึ้นโครงเองได้ เรายินดีให้คำปรึกษาเพียงสั่งตัดผ้าและซื้ออะไรจากทางเรา
    062437689 คุณสมชาย เปี่ยมชล
    If you have an Iron man, it's even more cost-effective, as customers can build the frame themselves. We are happy to provide consultation; you just need to order the fabric and purchase materials from us.
    Contact: 0622437689, Mr. Somchai Piomchon."
    #ผ้าใบโครงหลังคาเลื่อนแบบมือหมุน #ผ้าใบกันแดด #ผ้าใบกันฝน
    #ผ้าใบชักรอก #ผ้าใบแบบใส #ผ้าใบค้ำยัน #โครงกันสาด #pabaithai
    #ผ้าใบก้ามปูแบบมือหมุน #ผ้าใบก้ามปูแบบมอเตอร์รีโมท #Parachute tent
    #ผ้าใบโครงหลังคาเลื่อนระบบมอเตอร์รีโมท #ผ้าใบไทย #โรโตซอน #rotozon
    หจก.วู๊ดเด็ด สลีฟ #หาดใหญ่ #สงขลา หากคุณมีช่างเหล็กอยู่แล้ว บอกเลยว่าคุ้มมาก! โทร: 062-2437689 (คุณสมชาย เปี่ยมชล) Line ID: rotozon คุณสามารถมี หลังคาผ้าใบสวย ๆ กันแดดกันฝน ได้ในราคาประหยัด เหมาะสำหรับ ต่อเติมหน้าร้าน / หลังบ้าน กันแดด กันฝน คลุมสระน้ำ ร้านอาหาร คาเฟ่ โกดัง โรงไม้ ถ้ามีช่างเหล็กยิ่งประหยัด ซึ่งลูกค้าสามารถขึ้นโครงเองได้ เรายินดีให้คำปรึกษาเพียงสั่งตัดผ้าและซื้ออะไรจากทางเรา 062437689 คุณสมชาย เปี่ยมชล If you have an Iron man, it's even more cost-effective, as customers can build the frame themselves. We are happy to provide consultation; you just need to order the fabric and purchase materials from us. Contact: 0622437689, Mr. Somchai Piomchon." #ผ้าใบโครงหลังคาเลื่อนแบบมือหมุน #ผ้าใบกันแดด #ผ้าใบกันฝน #ผ้าใบชักรอก #ผ้าใบแบบใส #ผ้าใบค้ำยัน #โครงกันสาด #pabaithai #ผ้าใบก้ามปูแบบมือหมุน #ผ้าใบก้ามปูแบบมอเตอร์รีโมท #Parachute tent #ผ้าใบโครงหลังคาเลื่อนระบบมอเตอร์รีโมท #ผ้าใบไทย #โรโตซอน #rotozon
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • NEO เปิดตัวเทคโนโลยี 3D X-DRAM รองรับความจุสูงถึง 512GB

    NEO Semiconductor เปิดตัวเทคโนโลยี 3D X-DRAM ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ในการออกแบบ DRAM สำหรับยุค AI และการประมวลผลประสิทธิภาพสูง โดยมีการพัฒนา สถาปัตยกรรมแบบซ้อนชั้นที่ช่วยเพิ่มความเร็วและลดการใช้พลังงาน

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ 3D X-DRAM
    ✅ ใช้สถาปัตยกรรมแบบซ้อนชั้นคล้ายกับ 3D NAND
    - ช่วยให้ สามารถเพิ่มความหนาแน่นของหน่วยความจำได้มากขึ้น

    ✅ รองรับความจุสูงสุดถึง 512GB ต่อโมดูล
    - เปรียบเทียบกับ DRAM แบบดั้งเดิมที่มีความจุสูงสุดเพียง 48GB

    ✅ NEO กำลังพัฒนาเวอร์ชัน 1T0C และ 1T1C โดยคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026
    - 1T1C ใช้ IGZO transistors และ cylindrical high-k dielectric capacitors เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    ✅ เทคโนโลยีนี้ช่วยลด parasitic capacitance และเพิ่ม retention time ได้ถึง 450 วินาที
    - ทำให้ สามารถรองรับการซ้อนชั้นได้ถึง 128 ชั้น

    ✅ ออกแบบมาเพื่อรองรับ AI และระบบประมวลผลระดับองค์กร
    - คาดว่า จะถูกนำไปใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI มากกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไป

    https://www.techradar.com/pro/3d-x-dram-technology-will-bring-bigger-faster-memory-by-2026-but-theres-no-way-these-512-gb-modules-will-sell-to-consumers
    NEO เปิดตัวเทคโนโลยี 3D X-DRAM รองรับความจุสูงถึง 512GB NEO Semiconductor เปิดตัวเทคโนโลยี 3D X-DRAM ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ในการออกแบบ DRAM สำหรับยุค AI และการประมวลผลประสิทธิภาพสูง โดยมีการพัฒนา สถาปัตยกรรมแบบซ้อนชั้นที่ช่วยเพิ่มความเร็วและลดการใช้พลังงาน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ 3D X-DRAM ✅ ใช้สถาปัตยกรรมแบบซ้อนชั้นคล้ายกับ 3D NAND - ช่วยให้ สามารถเพิ่มความหนาแน่นของหน่วยความจำได้มากขึ้น ✅ รองรับความจุสูงสุดถึง 512GB ต่อโมดูล - เปรียบเทียบกับ DRAM แบบดั้งเดิมที่มีความจุสูงสุดเพียง 48GB ✅ NEO กำลังพัฒนาเวอร์ชัน 1T0C และ 1T1C โดยคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 - 1T1C ใช้ IGZO transistors และ cylindrical high-k dielectric capacitors เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ✅ เทคโนโลยีนี้ช่วยลด parasitic capacitance และเพิ่ม retention time ได้ถึง 450 วินาที - ทำให้ สามารถรองรับการซ้อนชั้นได้ถึง 128 ชั้น ✅ ออกแบบมาเพื่อรองรับ AI และระบบประมวลผลระดับองค์กร - คาดว่า จะถูกนำไปใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI มากกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไป https://www.techradar.com/pro/3d-x-dram-technology-will-bring-bigger-faster-memory-by-2026-but-theres-no-way-these-512-gb-modules-will-sell-to-consumers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • #งานผ้าใบ #ตรัง #โรงไม้ #บจก.เอเซียแปซิฟิคพาราวู้ด
    #งานผ้าใบ #อยุทยา #ร้านบ้านพ่อ #บ้านพ่อ
    #งานผ้าใบ #ท้ายเหมือง #พังงา
    ขายผ้าใบและอะไหล่ พร้อมบริการให้คำปรึกษาฟรี!
    หากคุณมีช่างเหล็กอยู่แล้ว บอกเลยว่าคุ้มมาก!
    โทร: 062-2437689 (คุณสมชาย เปี่ยมชล)
    Line ID: rotozon
    คุณสามารถมี หลังคาผ้าใบสวย ๆ กันแดดกันฝน ได้ในราคาประหยัด
    เหมาะสำหรับ
    ต่อเติมหน้าร้าน / หลังบ้าน
    กันแดด กันฝน
    คลุมสระน้ำ
    ร้านอาหาร คาเฟ่
    โกดัง โรงไม้
    ถ้ามีช่างเหล็กยิ่งประหยัด ซึ่งลูกค้าสามารถขึ้นโครงเองได้ เรายินดีให้คำปรึกษาเพียงสั่งตัดผ้าและซื้ออะไรจากทางเรา
    062437689 คุณสมชาย เปี่ยมชล
    If you have an Iron man, it's even more cost-effective, as customers can build the frame themselves. We are happy to provide consultation; you just need to order the fabric and purchase materials from us.
    Contact: 0622437689, Mr. Somchai Piomchon."
    #ผ้าใบโครงหลังคาเลื่อนแบบมือหมุน #ผ้าใบกันแดด #ผ้าใบกันฝน
    #ผ้าใบชักรอก #ผ้าใบแบบใส #ผ้าใบค้ำยัน #โครงกันสาด #pabaithai
    #ผ้าใบก้ามปูแบบมือหมุน #ผ้าใบก้ามปูแบบมอเตอร์รีโมท #Parachute tent
    #ผ้าใบโครงหลังคาเลื่อนระบบมอเตอร์รีโมท #ผ้าใบไทย #โรโตซอน #rotozon
    #งานผ้าใบ #ตรัง #โรงไม้ #บจก.เอเซียแปซิฟิคพาราวู้ด #งานผ้าใบ #อยุทยา #ร้านบ้านพ่อ #บ้านพ่อ #งานผ้าใบ #ท้ายเหมือง #พังงา ขายผ้าใบและอะไหล่ พร้อมบริการให้คำปรึกษาฟรี! หากคุณมีช่างเหล็กอยู่แล้ว บอกเลยว่าคุ้มมาก! โทร: 062-2437689 (คุณสมชาย เปี่ยมชล) Line ID: rotozon คุณสามารถมี หลังคาผ้าใบสวย ๆ กันแดดกันฝน ได้ในราคาประหยัด เหมาะสำหรับ ต่อเติมหน้าร้าน / หลังบ้าน กันแดด กันฝน คลุมสระน้ำ ร้านอาหาร คาเฟ่ โกดัง โรงไม้ ถ้ามีช่างเหล็กยิ่งประหยัด ซึ่งลูกค้าสามารถขึ้นโครงเองได้ เรายินดีให้คำปรึกษาเพียงสั่งตัดผ้าและซื้ออะไรจากทางเรา 062437689 คุณสมชาย เปี่ยมชล If you have an Iron man, it's even more cost-effective, as customers can build the frame themselves. We are happy to provide consultation; you just need to order the fabric and purchase materials from us. Contact: 0622437689, Mr. Somchai Piomchon." #ผ้าใบโครงหลังคาเลื่อนแบบมือหมุน #ผ้าใบกันแดด #ผ้าใบกันฝน #ผ้าใบชักรอก #ผ้าใบแบบใส #ผ้าใบค้ำยัน #โครงกันสาด #pabaithai #ผ้าใบก้ามปูแบบมือหมุน #ผ้าใบก้ามปูแบบมอเตอร์รีโมท #Parachute tent #ผ้าใบโครงหลังคาเลื่อนระบบมอเตอร์รีโมท #ผ้าใบไทย #โรโตซอน #rotozon
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • **คัมภีร์ชุนชิว**

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยเกี่ยวกับเกร็ดความรู้จากเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> ซึ่งเพื่อนเพจที่ได้ดูคงจำได้ว่าพ่อของนางเอกเป็นคนชอบหนังสือมาก และหนึ่งในหนังสือที่ถูกคุณพ่อกล่าวถึงอย่างยกย่องคือคัมภีร์ชุนชิว เดือดร้อนถึงพระเอกต้องรีบให้ผู้ติดตามคนสนิทไปหาหนังสือดังกล่าวมาตั้งไว้ในบ้าน

    คัมภีร์ชุนชิว (春秋) เป็นหนึ่งใน ‘สี่หนังสือห้าคัมภีร์’ (四书五经 /ซื่อซูอู่จิง บ้างก็แปลว่า ‘สี่ตำราห้าคัมภีร์’) ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นหนังสือว่าด้วยคำสอนของลัทธิหรู (หรือเรียกง่ายๆ ว่าลัทธิขงจื๊อ) ที่ถูกนำมาใช้เป็นพื้นฐานการศึกษาตั้งแต่โบราณและเนื้อหาของมันยังถูกนำมาใช้ในการสอบราชบัณฑิตอีกด้วย

    ถ้าจะให้อธิบายถึงสี่หนังสือห้าคัมภีร์ทั้งหมดมันจะยาวไป Storyฯ ขอพูดถึงแต่ในส่วนห้าคัมภีร์แล้วกันนะคะ

    ห้าคัมภีร์ประกอบด้วย (1) ‘ซือจิง’ (诗经) ซึ่งเป็นการรวมเล่มบทกวีและเพลงโบราณ (2) ‘ซ่างซู’ (尚书) ซึ่งเป็นการรวบรวมเหตุการณ์ผ่านบทสนทนาของกษัตริย์และรัฐบุรุษในประวัติศาสตร์เพื่อสะท้อนปรัชญาการปกครอง (3) ‘หลี่จี้’ (礼记 ) ซึ่งเป็นบันทึกเกี่ยวกับจารีตประเพณีและแนวทางปฏิบัติในด้านพิธีการต่างๆ (4) ‘โจวอี้’ (周易) หรือคัมภีร์อี้จิง ซึ่งเป็นตำราพยากรณ์ว่าด้วยหลักการดูฟ้าดิน หยินหยาง ฤดูการต่างๆ ฯลฯ และ (5) ‘ชุนชิว’ (春秋) หรือที่บางท่านแปลว่า ‘จดหมายเหตุวสันต์สารท’ ซึ่งเป็นบันทึกเหตุการณ์รายปีสมัยชุนชิวหรือยุควสันต์สารท (ปี 770-476 ก่อนคริสตกาล) เกี่ยวกับแคว้นหลู่

    แคว้นหลู่เป็นหนึ่งในแคว้นเล็กโดยมีขุนนางระดับบรรดาศักดิ์กงเป็นผู้ปกครองแคว้นและมีสถานะเป็นเมืองขึ้นของราชวงศ์โจว และมันเป็นบ้านเกิดของขงจื๊อ คัมภีร์ชุนชิวบันทึกถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในแต่ละปี เป็นผลงานเขียนและเรียบเรียงของขงจื๊อ แบ่งเป็นสิบสองบทสำหรับเหตุการณ์ในช่วงการปกครองของหลู่กงสิบสองคน โดยส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์ทางการเมืองของแคว้นหลู่ และมีกล่าวถึงแคว้นอื่นๆ และราชสำนักโจวด้วย

    ประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับคัมภีร์ชุนชิวคือการตีความเนื้อหาของมัน ทั้งนี้ เป็นเพราะว่าเหตุการณ์ต่างๆ ถูกเขียนบรรยายในลักษณะประโยคสั้น เช่น “ในวันฤดูใบไม้ผลิปีที่สิบสี่ของหลู่ไอกง ล่าได้กิเลนทางทิศตะวันตก” เขียนเป็นภาษาจีนเพียงเก้าอักษร และตลอดช่วงเวลาประวัติศาสตร์สองร้อยสี่สิบกว่าปีที่คัมภีร์ชุนชิวกล่าวถึงนั้น บันทึกเหตุการณ์ไว้ด้วยหนึ่งหมื่นหกพันกว่าอักษรเท่านั้น ในแต่ละเหตุการณ์สั้นสุดคือหนึ่งอักษรและยาวสุดคือสี่สิบอักษร!

    แต่ชนรุ่นหลังมองว่าเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้มักแฝงด้วยความรู้และปรัชญาทางการเมืองและการปกครอง จึงเกิดการเขียนขยายความประโยคสั้นๆ ให้เป็นข้อความที่ยาวและเข้าใจได้ง่ายขึ้น เกิดเป็นคัมภีร์ชุนชิวในหลากหลายเวอร์ชั่น โดยมีสามเวอร์ชั่นที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายและสืบทอดต่อเป็นตำราสำคัญของชนรุ่นหลัง เรียกรวมว่า ‘ชุนชิวสามฉบับ’ (ชุนชิวซานจ้วน/春秋三传) โดยแบ่งเป็นฉบับจั่วจ้วน (ประพันธ์โดยจั่วชิวหมิงในปลายสมัยชุนชิว) ฉบับกงหยางจ้วน (ประพันธ์โดยกงหยางเกาในยุคสมัยจ้านกั๋วหรือรณรัฐ) และฉบับกู่เหลียงจ้วน (ประพันธ์โดยกู่เหลียงชึในยุคสมัยจ้านกั๋ว)

    จั่วชิวหมิงเป็นขุนนางนักจดหมายเหตุ ดังนั้นคัมภีร์ชุนชิวฉบับจั่วจ้วนจึงเน้นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมของเหตุการณ์ที่ถูกกล่าวถึงในต้นฉบับคัมภีร์ชุนชิวให้ละเอียดขึ้นและถูกต้องยิ่งขึ้นตามข้อมูลจริงทางประวัติศาสตร์และอธิบายให้เห็นถึงบริบทชนชั้นทางสังคมและแนวความคิดในสมัยนั้น โดยขยายความจากหนึ่งหมื่นกว่าอักษรเป็นสองแสนอักษร ความยาวทั้งสิ้นสามสิบบรรพ

    ส่วนคัมภีร์ชุนชิวฉบับกงหยางจ้วนและกู่เหลียงจ้วนนั้น ล้วนยาวสิบเอ็ดบรรพ เนื้อความเน้นไปทางการอธิบายปรัชญาขงจื๊อที่สอดแทรกอยู่ในเหตุการณ์และการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองตามต้นฉบับคัมภีร์ชุนชิวและฉบับจั่วจ้วน โดยเรียบเรียงเป็นบทสนทนาเชิงถามตอบเพื่อเน้นให้คิด มากกว่าเป็นการลำดับเหตุการณ์อย่างเอกสารต้นฉบับ

    ดังนั้น คัมภีร์ชุนชิวที่ถูกกล่าวถึงในปัจจุบันไม่ใช่หนังสือเล่มเดียว หากแต่เป็นชุดสามฉบับที่กล่าวมาข้างต้น

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    บทความเก่าเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนของเด็ก: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/696535652474730

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.upmedia.mg/news_info.php?Type=196&SerialNo=218889
    https://www.sucaisucai.com/sucai/12330646.html
    https://www.chinasage.info/ancient-states.htm
    http://www.360doc.com/content/23/0602/14/35924208_1083211701.shtml
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.bjnews.com.cn/detail/1719635772168981.html
    https://www.sohu.com/a/445253069_120791762
    https://baike.baidu.com/item/四书五经/96723
    http://www.chinaknowledge.de/Literature/Classics/chunqiuzuozhuan.html
    https://baike.baidu.com/item/左传/371757
    https://baike.baidu.com/item/公羊传/685689
    https://baike.baidu.com/item/穀梁传/64769850

    #จิ่วฉงจื่อ #สี่ตำราห้าคัมภีร์ #ขงจื๊อ #คัมภีร์ชุนชิว #จั่วจ้วน #กงหยางจ้วน #กู่เหลียงจ้วน #สาระจีน
    **คัมภีร์ชุนชิว** สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยเกี่ยวกับเกร็ดความรู้จากเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> ซึ่งเพื่อนเพจที่ได้ดูคงจำได้ว่าพ่อของนางเอกเป็นคนชอบหนังสือมาก และหนึ่งในหนังสือที่ถูกคุณพ่อกล่าวถึงอย่างยกย่องคือคัมภีร์ชุนชิว เดือดร้อนถึงพระเอกต้องรีบให้ผู้ติดตามคนสนิทไปหาหนังสือดังกล่าวมาตั้งไว้ในบ้าน คัมภีร์ชุนชิว (春秋) เป็นหนึ่งใน ‘สี่หนังสือห้าคัมภีร์’ (四书五经 /ซื่อซูอู่จิง บ้างก็แปลว่า ‘สี่ตำราห้าคัมภีร์’) ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นหนังสือว่าด้วยคำสอนของลัทธิหรู (หรือเรียกง่ายๆ ว่าลัทธิขงจื๊อ) ที่ถูกนำมาใช้เป็นพื้นฐานการศึกษาตั้งแต่โบราณและเนื้อหาของมันยังถูกนำมาใช้ในการสอบราชบัณฑิตอีกด้วย ถ้าจะให้อธิบายถึงสี่หนังสือห้าคัมภีร์ทั้งหมดมันจะยาวไป Storyฯ ขอพูดถึงแต่ในส่วนห้าคัมภีร์แล้วกันนะคะ ห้าคัมภีร์ประกอบด้วย (1) ‘ซือจิง’ (诗经) ซึ่งเป็นการรวมเล่มบทกวีและเพลงโบราณ (2) ‘ซ่างซู’ (尚书) ซึ่งเป็นการรวบรวมเหตุการณ์ผ่านบทสนทนาของกษัตริย์และรัฐบุรุษในประวัติศาสตร์เพื่อสะท้อนปรัชญาการปกครอง (3) ‘หลี่จี้’ (礼记 ) ซึ่งเป็นบันทึกเกี่ยวกับจารีตประเพณีและแนวทางปฏิบัติในด้านพิธีการต่างๆ (4) ‘โจวอี้’ (周易) หรือคัมภีร์อี้จิง ซึ่งเป็นตำราพยากรณ์ว่าด้วยหลักการดูฟ้าดิน หยินหยาง ฤดูการต่างๆ ฯลฯ และ (5) ‘ชุนชิว’ (春秋) หรือที่บางท่านแปลว่า ‘จดหมายเหตุวสันต์สารท’ ซึ่งเป็นบันทึกเหตุการณ์รายปีสมัยชุนชิวหรือยุควสันต์สารท (ปี 770-476 ก่อนคริสตกาล) เกี่ยวกับแคว้นหลู่ แคว้นหลู่เป็นหนึ่งในแคว้นเล็กโดยมีขุนนางระดับบรรดาศักดิ์กงเป็นผู้ปกครองแคว้นและมีสถานะเป็นเมืองขึ้นของราชวงศ์โจว และมันเป็นบ้านเกิดของขงจื๊อ คัมภีร์ชุนชิวบันทึกถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในแต่ละปี เป็นผลงานเขียนและเรียบเรียงของขงจื๊อ แบ่งเป็นสิบสองบทสำหรับเหตุการณ์ในช่วงการปกครองของหลู่กงสิบสองคน โดยส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์ทางการเมืองของแคว้นหลู่ และมีกล่าวถึงแคว้นอื่นๆ และราชสำนักโจวด้วย ประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับคัมภีร์ชุนชิวคือการตีความเนื้อหาของมัน ทั้งนี้ เป็นเพราะว่าเหตุการณ์ต่างๆ ถูกเขียนบรรยายในลักษณะประโยคสั้น เช่น “ในวันฤดูใบไม้ผลิปีที่สิบสี่ของหลู่ไอกง ล่าได้กิเลนทางทิศตะวันตก” เขียนเป็นภาษาจีนเพียงเก้าอักษร และตลอดช่วงเวลาประวัติศาสตร์สองร้อยสี่สิบกว่าปีที่คัมภีร์ชุนชิวกล่าวถึงนั้น บันทึกเหตุการณ์ไว้ด้วยหนึ่งหมื่นหกพันกว่าอักษรเท่านั้น ในแต่ละเหตุการณ์สั้นสุดคือหนึ่งอักษรและยาวสุดคือสี่สิบอักษร! แต่ชนรุ่นหลังมองว่าเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้มักแฝงด้วยความรู้และปรัชญาทางการเมืองและการปกครอง จึงเกิดการเขียนขยายความประโยคสั้นๆ ให้เป็นข้อความที่ยาวและเข้าใจได้ง่ายขึ้น เกิดเป็นคัมภีร์ชุนชิวในหลากหลายเวอร์ชั่น โดยมีสามเวอร์ชั่นที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายและสืบทอดต่อเป็นตำราสำคัญของชนรุ่นหลัง เรียกรวมว่า ‘ชุนชิวสามฉบับ’ (ชุนชิวซานจ้วน/春秋三传) โดยแบ่งเป็นฉบับจั่วจ้วน (ประพันธ์โดยจั่วชิวหมิงในปลายสมัยชุนชิว) ฉบับกงหยางจ้วน (ประพันธ์โดยกงหยางเกาในยุคสมัยจ้านกั๋วหรือรณรัฐ) และฉบับกู่เหลียงจ้วน (ประพันธ์โดยกู่เหลียงชึในยุคสมัยจ้านกั๋ว) จั่วชิวหมิงเป็นขุนนางนักจดหมายเหตุ ดังนั้นคัมภีร์ชุนชิวฉบับจั่วจ้วนจึงเน้นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมของเหตุการณ์ที่ถูกกล่าวถึงในต้นฉบับคัมภีร์ชุนชิวให้ละเอียดขึ้นและถูกต้องยิ่งขึ้นตามข้อมูลจริงทางประวัติศาสตร์และอธิบายให้เห็นถึงบริบทชนชั้นทางสังคมและแนวความคิดในสมัยนั้น โดยขยายความจากหนึ่งหมื่นกว่าอักษรเป็นสองแสนอักษร ความยาวทั้งสิ้นสามสิบบรรพ ส่วนคัมภีร์ชุนชิวฉบับกงหยางจ้วนและกู่เหลียงจ้วนนั้น ล้วนยาวสิบเอ็ดบรรพ เนื้อความเน้นไปทางการอธิบายปรัชญาขงจื๊อที่สอดแทรกอยู่ในเหตุการณ์และการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองตามต้นฉบับคัมภีร์ชุนชิวและฉบับจั่วจ้วน โดยเรียบเรียงเป็นบทสนทนาเชิงถามตอบเพื่อเน้นให้คิด มากกว่าเป็นการลำดับเหตุการณ์อย่างเอกสารต้นฉบับ ดังนั้น คัมภีร์ชุนชิวที่ถูกกล่าวถึงในปัจจุบันไม่ใช่หนังสือเล่มเดียว หากแต่เป็นชุดสามฉบับที่กล่าวมาข้างต้น (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) บทความเก่าเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนของเด็ก: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/696535652474730 Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.upmedia.mg/news_info.php?Type=196&SerialNo=218889 https://www.sucaisucai.com/sucai/12330646.html https://www.chinasage.info/ancient-states.htm http://www.360doc.com/content/23/0602/14/35924208_1083211701.shtml Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.bjnews.com.cn/detail/1719635772168981.html https://www.sohu.com/a/445253069_120791762 https://baike.baidu.com/item/四书五经/96723 http://www.chinaknowledge.de/Literature/Classics/chunqiuzuozhuan.html https://baike.baidu.com/item/左传/371757 https://baike.baidu.com/item/公羊传/685689 https://baike.baidu.com/item/穀梁传/64769850 #จิ่วฉงจื่อ #สี่ตำราห้าคัมภีร์ #ขงจื๊อ #คัมภีร์ชุนชิว #จั่วจ้วน #กงหยางจ้วน #กู่เหลียงจ้วน #สาระจีน
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 423 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✅ข้อมูลอันตรายของวัคซีนมะเร็งปากมดลูก HPV
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122116163210647289/?
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115608906647289/?
    ✍️ผลกระทบจากการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV ในเด็ก
    https://childrenshealthdefense.org/wp-content/uploads/02-20-2020-Facts-about-HPV.pdf
    ✍️ วัคซีนป้องกันไวรัส Gardasil HPV ดูเหมือนจะเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มอายุที่ได้รับวัคซีน เช่นเดียวกับวัคซีน COVID ที่เพิ่มความเสี่ยงของ COVID ❗️❗️
    https://x.com/RobertKennedyJr/status/1618279143468306435?t=xz8ynSvBVa4atUraKqxh_Q&s=19
    https://t.co/WoqyxrRQya
    ✍️ วัคซีนป้องกันไวรัส HPV มีอัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนที่สูงที่สุด ไม่มีหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่าวัคซีนป้องกันไวรัส HPV จะช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก
    ✍️มีหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่าวัคซีนทำให้เกิดหรือมีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น ภาวะมีบุตรยาก
    https://x.com/Thaipithaksith/status/1816343960094400787?t=apFnO-o92obhiggFF7nqAw&s=19
    ✍️หากคุณกำลังคิดที่จะให้ลูกของคุณ ฉีดวัคซีน HPV (หูดหงอนไก่) คุณต้องดูวิดีโอนี้
    https://t.me/thailand_covid_vaccine_chat/77370
    ✍️คลิปการสัมภาษณ์ ดร. เชอรรี่ เทนเพนนี่ เรื่องวัคซีน HPV & วัคซีนในเด็ก
    https://fb.watch/xc2Iq0xYu4/?
    https://www.rookon.com/?p=1173
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122110664030647289/?
    คลิป 4 นาทีอธิบายเรื่องการสัมภาษณ์ในครั้งนี้
    https://vt.tiktok.com/ZSYCGuqoM/
    ✍️ข่าวเรื่องญี่ปุ่นประกาศไม่แนะนำว่าต้องฉีด HPV Vaccine หาอ่านได้ที่นี่ครับ(เข้าถึงเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2556)
    http://sanevax.org/breaking-news-japan-and-hpv-vaccines/
    http://sanevax.org/hpv-vaccines-japan-requires-disclosure-of-side-effects/
    ✍️บทความทางวิชาการที่สำรวจความคิดเห็นของผู้ที่ไม่ต้องการฉีด HPV Vaccine ในสหรัฐครับ(เข้าถึงเมื่อ 11 กันยายน 2556)
    http://pediatrics.aappublications.org/content/early/2013/03/12/peds.2012-2384.abstract
    ✍️Merck ถูกฟ้องปิดบังผลข้างเคียงร้ายแรง
    https://www.facebook.com/photo.php?fbid=122200589258234582&set=a.122096260418234582&type=3
    ✍️เด็กในอินเดียถูกฉีดวัคซีน HPV 24,000 คน ตายทันที
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122110761038647289/?
    https://x.com/Thaipithaksith/status/1816343960094400787?t=apFnO-o92obhiggFF7nqAw&s=19
    ✍️ดร. พอล โธมัส เตือนว่า “จะมีผู้เสียชีวิตจากวัคซีน [HPV] มากกว่ามะเร็งปากมดลูกเสียอีก แค่ดูจำนวนงานวิจัย และจำนวนผู้เสียชีวิต ก็น่ากลัวมากแล้ว”
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122109699794647289/?
    ✍️คุณรับได้ไหมกับผลลัพธ์หลังจากพาลูกไปรับวัคซีนมะเร็งปากมดลูก HPV
    🍎ลูกสาว11ปีเสียชีวิตหลังฉีด
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108855318647289/?
    https://www.thairath.co.th/news/local/central/1921241
    🍎ปวดหัวเป็นสัปดาห์หลังฉีดสุดท้ายเสียชีวิต พ่อแต่งกลอนอาลัยลูกสาว
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122107354964647289/?
    🍎ลูกสาวเสียชีวิตทันทีหลังโรงเรียนพาหมอมาฉีด
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108861930647289/?
    🍎นักเรียนไทย 11 ราย ได้รับผลกระทบทันที
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108858174647289/?
    🍎เคสต่างประเทศ ลูกสาวเสียชีวิต
    https://www.facebook.com/332186880241439/photos/a.332188263574634/554864934640298/?type=3
    🍎เคสต่างประเทศ โคม่า
    https://www.facebook.com/652558728/posts/10156341599408729/?
    🍎เคสต่างประเทศ ชักกระตุกรุนแรง
    https://www.facebook.com/share/v/1AB8rFrmXA/
    🍎เคสต่างประเทศ หลังฉีดทำให้ลูกชายพิการต่อมาฆ่าตัวตาย
    https://www.facebook.com/share/p/1CH5aU5TvM/

    ศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนการตัดสินใจ
    แพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ✅ข้อมูลอันตรายของวัคซีนมะเร็งปากมดลูก HPV https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122116163210647289/? https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115608906647289/? ✍️ผลกระทบจากการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV ในเด็ก https://childrenshealthdefense.org/wp-content/uploads/02-20-2020-Facts-about-HPV.pdf ✍️ วัคซีนป้องกันไวรัส Gardasil HPV ดูเหมือนจะเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มอายุที่ได้รับวัคซีน เช่นเดียวกับวัคซีน COVID ที่เพิ่มความเสี่ยงของ COVID ❗️❗️ https://x.com/RobertKennedyJr/status/1618279143468306435?t=xz8ynSvBVa4atUraKqxh_Q&s=19 https://t.co/WoqyxrRQya ✍️ วัคซีนป้องกันไวรัส HPV มีอัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนที่สูงที่สุด ไม่มีหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่าวัคซีนป้องกันไวรัส HPV จะช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก ✍️มีหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่าวัคซีนทำให้เกิดหรือมีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น ภาวะมีบุตรยาก https://x.com/Thaipithaksith/status/1816343960094400787?t=apFnO-o92obhiggFF7nqAw&s=19 ✍️หากคุณกำลังคิดที่จะให้ลูกของคุณ ฉีดวัคซีน HPV (หูดหงอนไก่) คุณต้องดูวิดีโอนี้ https://t.me/thailand_covid_vaccine_chat/77370 ✍️คลิปการสัมภาษณ์ ดร. เชอรรี่ เทนเพนนี่ เรื่องวัคซีน HPV & วัคซีนในเด็ก https://fb.watch/xc2Iq0xYu4/? https://www.rookon.com/?p=1173 https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122110664030647289/? คลิป 4 นาทีอธิบายเรื่องการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ https://vt.tiktok.com/ZSYCGuqoM/ ✍️ข่าวเรื่องญี่ปุ่นประกาศไม่แนะนำว่าต้องฉีด HPV Vaccine หาอ่านได้ที่นี่ครับ(เข้าถึงเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2556) http://sanevax.org/breaking-news-japan-and-hpv-vaccines/ http://sanevax.org/hpv-vaccines-japan-requires-disclosure-of-side-effects/ ✍️บทความทางวิชาการที่สำรวจความคิดเห็นของผู้ที่ไม่ต้องการฉีด HPV Vaccine ในสหรัฐครับ(เข้าถึงเมื่อ 11 กันยายน 2556) http://pediatrics.aappublications.org/content/early/2013/03/12/peds.2012-2384.abstract ✍️Merck ถูกฟ้องปิดบังผลข้างเคียงร้ายแรง https://www.facebook.com/photo.php?fbid=122200589258234582&set=a.122096260418234582&type=3 ✍️เด็กในอินเดียถูกฉีดวัคซีน HPV 24,000 คน ตายทันที https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122110761038647289/? https://x.com/Thaipithaksith/status/1816343960094400787?t=apFnO-o92obhiggFF7nqAw&s=19 ✍️ดร. พอล โธมัส เตือนว่า “จะมีผู้เสียชีวิตจากวัคซีน [HPV] มากกว่ามะเร็งปากมดลูกเสียอีก แค่ดูจำนวนงานวิจัย และจำนวนผู้เสียชีวิต ก็น่ากลัวมากแล้ว” https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122109699794647289/? ✍️คุณรับได้ไหมกับผลลัพธ์หลังจากพาลูกไปรับวัคซีนมะเร็งปากมดลูก HPV 🍎ลูกสาว11ปีเสียชีวิตหลังฉีด https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108855318647289/? https://www.thairath.co.th/news/local/central/1921241 🍎ปวดหัวเป็นสัปดาห์หลังฉีดสุดท้ายเสียชีวิต พ่อแต่งกลอนอาลัยลูกสาว https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122107354964647289/? 🍎ลูกสาวเสียชีวิตทันทีหลังโรงเรียนพาหมอมาฉีด https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108861930647289/? 🍎นักเรียนไทย 11 ราย ได้รับผลกระทบทันที https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108858174647289/? 🍎เคสต่างประเทศ ลูกสาวเสียชีวิต https://www.facebook.com/332186880241439/photos/a.332188263574634/554864934640298/?type=3 🍎เคสต่างประเทศ โคม่า https://www.facebook.com/652558728/posts/10156341599408729/? 🍎เคสต่างประเทศ ชักกระตุกรุนแรง https://www.facebook.com/share/v/1AB8rFrmXA/ 🍎เคสต่างประเทศ หลังฉีดทำให้ลูกชายพิการต่อมาฆ่าตัวตาย https://www.facebook.com/share/p/1CH5aU5TvM/ ศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนการตัดสินใจ แพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 456 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธุรกิจเริ่มมองหา CMS ที่ง่ายกว่า WordPress หลังพบปัญหาการใช้งาน

    ผลสำรวจจาก Liquid Web พบว่า เกือบ 90% ของธุรกิจที่เปลี่ยนจาก WordPress ไปใช้ CMS อื่นพึงพอใจกับการเปลี่ยนแปลง โดยแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ธุรกิจเลือกใช้แทน ได้แก่ Shopify (42%), Wix (38%) และ Squarespace (6%)

    ✅ 7 ใน 8 ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่เสียใจที่ตัดสินใจเปลี่ยน
    - ธุรกิจพบว่า การเปลี่ยนแปลงช่วยลดปัญหาด้านปลั๊กอินและการบำรุงรักษา

    ✅ เกือบ 70% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่พบว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
    - การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ งบประมาณของธุรกิจมากนัก

    ✅ 78% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นพบว่าปัญหาด้านปลั๊กอินลดลง
    - ปัญหาการอัปเดตและความเข้ากันได้ของปลั๊กอิน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

    ✅ 77% ของธุรกิจสามารถย้ายเนื้อหาไปยัง CMS ใหม่ได้โดยไม่มีปัญหาสำคัญ
    - การเปลี่ยนแปลง ราบรื่นกว่าที่คาดการณ์ไว้

    ✅ 72% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่คิดจะกลับไปใช้ WordPress อีก
    - ธุรกิจพบว่า CMS ใหม่มีความง่ายต่อการจัดการมากกว่า

    https://www.techradar.com/pro/nearly-90-percent-of-businesses-that-switched-from-wordpress-are-content-with-their-new-cms-survey-finds
    ธุรกิจเริ่มมองหา CMS ที่ง่ายกว่า WordPress หลังพบปัญหาการใช้งาน ผลสำรวจจาก Liquid Web พบว่า เกือบ 90% ของธุรกิจที่เปลี่ยนจาก WordPress ไปใช้ CMS อื่นพึงพอใจกับการเปลี่ยนแปลง โดยแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ธุรกิจเลือกใช้แทน ได้แก่ Shopify (42%), Wix (38%) และ Squarespace (6%) ✅ 7 ใน 8 ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่เสียใจที่ตัดสินใจเปลี่ยน - ธุรกิจพบว่า การเปลี่ยนแปลงช่วยลดปัญหาด้านปลั๊กอินและการบำรุงรักษา ✅ เกือบ 70% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่พบว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น - การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ งบประมาณของธุรกิจมากนัก ✅ 78% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นพบว่าปัญหาด้านปลั๊กอินลดลง - ปัญหาการอัปเดตและความเข้ากันได้ของปลั๊กอิน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ✅ 77% ของธุรกิจสามารถย้ายเนื้อหาไปยัง CMS ใหม่ได้โดยไม่มีปัญหาสำคัญ - การเปลี่ยนแปลง ราบรื่นกว่าที่คาดการณ์ไว้ ✅ 72% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่คิดจะกลับไปใช้ WordPress อีก - ธุรกิจพบว่า CMS ใหม่มีความง่ายต่อการจัดการมากกว่า https://www.techradar.com/pro/nearly-90-percent-of-businesses-that-switched-from-wordpress-are-content-with-their-new-cms-survey-finds
    WWW.TECHRADAR.COM
    Shopify and Wix winning over former WordPress users, new survey finds
    Shopify, Wix and Squarespace are the most popular alternatives
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows 11 อัปเดต Patch Tuesday พฤษภาคม 2025: ปรับปรุงความปลอดภัยและ AI

    Microsoft ได้ปล่อย Patch Tuesday อัปเดตสำหรับ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2, 23H2 และ 22H2 โดยมีการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ รวมถึง การอัปเดต AI Components เพื่อปรับปรุงการทำงานของระบบ

    ✅ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ได้รับอัปเดตผ่าน KB5058411
    - หลังอัปเดต Build Version จะเป็น 26100.4061

    ✅ Windows 11 เวอร์ชัน 23H2 และ 22H2 ได้รับอัปเดตผ่าน KB5058405
    - หลังอัปเดต Build Version จะเป็น 22631.5335 และ 22621.5335 ตามลำดับ

    ✅ แก้ไขปัญหาเสียงไมโครโฟนที่อาจถูกปิดเสียงโดยไม่ตั้งใจ
    - ปรับปรุง ระบบเสียงให้มีเสถียรภาพมากขึ้น

    ✅ แก้ไขปัญหาแอป Eye Controller ที่ไม่สามารถเปิดใช้งานได้
    - ช่วยให้ ผู้ใช้ที่ต้องการควบคุมด้วยดวงตาสามารถใช้งานได้ตามปกติ

    ✅ อัปเดต AI Components เช่น Image Search, Content Extraction และ Semantic Analysis
    - ปรับปรุง การทำงานของ AI เพื่อให้การค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ อัปเดต Servicing Stack เพื่อให้การติดตั้ง Windows Update มีความเสถียร
    - ผ่าน KB5058523 สำหรับ 24H2 และ KB5058528 สำหรับ 23H2 และ 22H2

    ✅ ไม่มีรายงานปัญหาหลังการอัปเดตในขณะนี้
    - Microsoft ระบุว่า ยังไม่พบข้อผิดพลาดที่เกิดจากอัปเดตนี้

    https://www.neowin.net/news/windows-11-kb5058411-kb5058405-may-2025-patch-tuesday-out/
    Windows 11 อัปเดต Patch Tuesday พฤษภาคม 2025: ปรับปรุงความปลอดภัยและ AI Microsoft ได้ปล่อย Patch Tuesday อัปเดตสำหรับ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2, 23H2 และ 22H2 โดยมีการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ รวมถึง การอัปเดต AI Components เพื่อปรับปรุงการทำงานของระบบ ✅ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ได้รับอัปเดตผ่าน KB5058411 - หลังอัปเดต Build Version จะเป็น 26100.4061 ✅ Windows 11 เวอร์ชัน 23H2 และ 22H2 ได้รับอัปเดตผ่าน KB5058405 - หลังอัปเดต Build Version จะเป็น 22631.5335 และ 22621.5335 ตามลำดับ ✅ แก้ไขปัญหาเสียงไมโครโฟนที่อาจถูกปิดเสียงโดยไม่ตั้งใจ - ปรับปรุง ระบบเสียงให้มีเสถียรภาพมากขึ้น ✅ แก้ไขปัญหาแอป Eye Controller ที่ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ - ช่วยให้ ผู้ใช้ที่ต้องการควบคุมด้วยดวงตาสามารถใช้งานได้ตามปกติ ✅ อัปเดต AI Components เช่น Image Search, Content Extraction และ Semantic Analysis - ปรับปรุง การทำงานของ AI เพื่อให้การค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ อัปเดต Servicing Stack เพื่อให้การติดตั้ง Windows Update มีความเสถียร - ผ่าน KB5058523 สำหรับ 24H2 และ KB5058528 สำหรับ 23H2 และ 22H2 ✅ ไม่มีรายงานปัญหาหลังการอัปเดตในขณะนี้ - Microsoft ระบุว่า ยังไม่พบข้อผิดพลาดที่เกิดจากอัปเดตนี้ https://www.neowin.net/news/windows-11-kb5058411-kb5058405-may-2025-patch-tuesday-out/
    WWW.NEOWIN.NET
    Windows 11 (KB5058411, KB5058405) May 2025 Patch Tuesday out
    Microsoft has released Patch Tuesday updates for Windows 11 (KB5058411, KB5058405) for May 2025. Here's what's included.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple กำลังร่วมมือกับ Synchron บริษัทด้านเทคโนโลยีประสาท เพื่อพัฒนา ระบบควบคุม iPhone และอุปกรณ์อัจฉริยะด้วยสัญญาณสมอง โดยเทคโนโลยีนี้ออกแบบมาเพื่อช่วย ผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย เช่น ผู้ป่วย ALS ให้สามารถใช้งานอุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น

    ✅ Apple ร่วมมือกับ Synchron เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีควบคุมอุปกรณ์ด้วยสัญญาณสมอง
    - ใช้ Stentrode ซึ่งเป็นอิเล็กโทรดที่สามารถอ่านสัญญาณสมอง

    ✅ Stentrode ถูกฝังในหลอดเลือดใกล้กับมอเตอร์คอร์เทกซ์ของสมอง
    - ช่วยให้สามารถ แปลสัญญาณสมองเป็นการเลือกไอคอนบนหน้าจอ

    ✅ เทคโนโลยีนี้ใช้ร่วมกับฟีเจอร์ Switch Control ของ Apple
    - คล้ายกับ ระบบ Bluetooth Accessibility สำหรับเครื่องช่วยฟัง

    ✅ Apple รอการอนุมัติจาก FDA ก่อนเปิดตัวเทคโนโลยีนี้
    - คาดว่า จะมีมาตรฐานซอฟต์แวร์สำหรับนักพัฒนาในปลายปีนี้

    ✅ ผู้ใช้รายแรกที่ทดสอบเทคโนโลยีนี้สามารถควบคุม iPhone และ Vision Pro ได้ด้วยความคิด
    - เช่น มองเห็นวิวภูเขาในสวิตเซอร์แลนด์ผ่าน Vision Pro แม้จะอยู่ในเพนซิลเวเนีย

    https://www.neowin.net/news/apple-could-be-developing-tech-that-lets-you-control-your-iphone-just-by-thinking/
    Apple กำลังร่วมมือกับ Synchron บริษัทด้านเทคโนโลยีประสาท เพื่อพัฒนา ระบบควบคุม iPhone และอุปกรณ์อัจฉริยะด้วยสัญญาณสมอง โดยเทคโนโลยีนี้ออกแบบมาเพื่อช่วย ผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย เช่น ผู้ป่วย ALS ให้สามารถใช้งานอุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น ✅ Apple ร่วมมือกับ Synchron เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีควบคุมอุปกรณ์ด้วยสัญญาณสมอง - ใช้ Stentrode ซึ่งเป็นอิเล็กโทรดที่สามารถอ่านสัญญาณสมอง ✅ Stentrode ถูกฝังในหลอดเลือดใกล้กับมอเตอร์คอร์เทกซ์ของสมอง - ช่วยให้สามารถ แปลสัญญาณสมองเป็นการเลือกไอคอนบนหน้าจอ ✅ เทคโนโลยีนี้ใช้ร่วมกับฟีเจอร์ Switch Control ของ Apple - คล้ายกับ ระบบ Bluetooth Accessibility สำหรับเครื่องช่วยฟัง ✅ Apple รอการอนุมัติจาก FDA ก่อนเปิดตัวเทคโนโลยีนี้ - คาดว่า จะมีมาตรฐานซอฟต์แวร์สำหรับนักพัฒนาในปลายปีนี้ ✅ ผู้ใช้รายแรกที่ทดสอบเทคโนโลยีนี้สามารถควบคุม iPhone และ Vision Pro ได้ด้วยความคิด - เช่น มองเห็นวิวภูเขาในสวิตเซอร์แลนด์ผ่าน Vision Pro แม้จะอยู่ในเพนซิลเวเนีย https://www.neowin.net/news/apple-could-be-developing-tech-that-lets-you-control-your-iphone-just-by-thinking/
    WWW.NEOWIN.NET
    Apple could be developing tech that let's you control your iPhone just by thinking
    Apple is apparently working on mind-control tech that could let users operate iPhones with their thoughts.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไหนๆ คราวที่แล้วคุยกันเรื่องบทกวีแล้ว วันนี้ต่ออีกสักเรื่อง สืบเนื่องจาก Storyฯ เกิดความ ‘เอ๊ะ’ เกี่ยวกับชื่อภาษาจีนของละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> ซึ่งชื่อจีนนั้นยาวมาก อ่านว่า ‘จือโฝ่ว จือโฝ่ว อิ้งซื่อลวี่เฝยหงโซ่ว’ (知否 知否 应是绿肥红瘦) แปลได้ตรงตัวว่า ‘รู้หรือไม่ รู้หรือไม่ ควรเป็นสีเขียวอ้วนหนาสีแดงผอมบาง’

    เป็นชื่อเรื่องที่แปลกประหลาดใช่ไหม?

    Storyฯ ไปทำการบ้านมา พบว่าประโยค ‘จือโฝ่วฯ’ นี้เป็นวรรคสุดท้ายของบทกวีในสมัยซ่งเหนือที่มีชื่อว่า ‘หรูเมิ่งลิ่ง:จั่วเยี่ยอวี่ซูเฟิงโจ้ว’ (如梦令·昨夜雨疏风骤) มีทั้งหมด 33 อักษร ประพันธ์โดยนักกวีหญิงซึ่งเป็นหนึ่งในกวีเอกของจีนโบราณ เธอคือหลี่ชิงเจ้า (ค.ศ. 1084-1155)

    บทกวีนี้เป็นผลงานยุคแรกๆ ของเธอ เป็นกลอนสั้นในรูปแบบที่เรียกว่า ‘ซ่งฉือ’ (宋词) ซึ่งจริงๆ แล้วสไตล์นี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฉิน แต่มานิยมอย่างแพร่หลายในสมัยราชวงศ์ซ่ง เรียกได้ว่า บทกวีในสมัยถังส่วนใหญ่คือ ‘ซือ’ (诗) และของสมัยซ่งส่วนใหญ่คือ ‘ฉือ’ (词)

    ‘ซือ’ (诗) แตกต่างจาก ‘ฉือ’ (词) อย่างไร?

    ‘ซือ’ (诗) ซึ่งนิยมในสมัยถังหรือที่เรียกกันว่า ‘ถังซือ’ เป็นสไตล์ที่โดยปกติมีความยาวจำนวนอักษรเท่ากันทุกวรรค มีความคล้องจองแบบโคลงกลอนที่เราคุ้นเคย (เช่นโคลงห้าที่ Storyฯ เคยเขียนถึงไปแล้วในเรื่องที่เกี่ยวกับละคร <ทุกชาติภพฯ>) แต่ ‘ฉือ’เป็นบทกวีที่มีความยาวสั้นไม่เท่ากันทุกวรรค แม้ว่าจะมีการกำหนดรูปแบบจำนวนอักษรและจุดที่คล้องจอง เดิมประพันธ์ขึ้นเพื่ออ่านเล่นยามบรรเลงดนตรี ความคล้องจองของวลีและความยาวสั้นจึงเน้นให้เข้ากับท่วงทำนองดนตรีเป็นหลัก ดังนั้น แรกเริ่มเลย ‘ฉือ’ จึงถูกมองว่าฉาบฉวยกว่า ในขณะที่ ‘ซือ’ ถูกมองว่าเป็นศิลปะอักษรขั้นสูงของผู้ที่มีการศึกษาซึ่งเน้นเนื้อหาเชิงปรัชญา แต่ ‘ฉือ’ เน้นบรรยายอารมณ์

    ‘หรูเมิ่งลิ่ง:จั่วเยี่ยอวี่ซูเฟิงโจ้ว’ โดยสรุปเป็นการบรรยายโดยกวีหญิงของเราว่า เมื่อคืนที่ฝนพรำแต่ลมแรงผ่านพ้นไป นางตื่นขึ้นมาแต่ยังรู้สึกไม่สร่างเมานัก ลองถามสาวใช้ว่านอกห้องเป็นอย่างไรบ้าง สาวใช้บอกว่าดอกไห่ถัง (ดอกแอปเปิ้ลชนิดหนึ่ง) ยังคงเดิม แต่นางไม่เชื่อ กลับพึมพำกึ่งบ่นด้วยอารมณ์เสียดายว่า จริงแล้วคงจะเป็นภาพของดอกไม้ที่ร่วงเกือบหมด (คือ ‘สีแดงผอมบาง’ ในบทกวี) เหลือแต่ใบสีเขียว (คือ ‘สีเขียวอ้วนหนา’ ในบทกวี)

    บทกวีนี้โด่งดังมาก เพราะเลือกใช้คำที่สะท้อนความรู้สึกได้ดี มีการใช้คำที่แปลก (เช่น ใช้คำว่า ‘อ้วนหนา’ และ ‘ผอมบาง’ ที่ปกติใช้บรรยายรูปร่างของคนมาบรรยายต้นไม้ดอกไม้) และสามารถสะท้อนถึงความรู้สึกเสียดายบุปผา (ซึ่งอาจหมายถึงช่วงเวลาที่เบ่งบานของสตรี) ที่ถูกซัดร่วงด้วยลมแรง

    เมื่อถูกนำมาใช้เป็นชื่อนิยายเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> นี้ เราจะรู้สึกได้ทันทีว่านี่เป็นเรื่องราวของบุปผาที่ต้องเผชิญกับลมแรง เป็นการสะท้อนถึงเรื่องราวของหมิงหลันและพี่สาวตระกูลเสิ้งที่ต้องเผชิญกับมรสุมชีวิต เฉกเช่นดอกไห่ถังที่บ้างก็ร่วงโรย บ้างก็คงอยู่ได้ภายหลังมรสุมผ่านพ้นไป

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://k.sina.cn/article_5039775130_p12c64dd9a02700mi8d.html
    https://m.baobeibaobei.com/zaojiao/13829.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.yiyiwenku.com/p/25984.html
    http://www.360doc.com/content/16/0329/06/6956316_546147932.shtml
    http://www.guoxuemeng.com/mingju/440922.html
    https://m.baobeibaobei.com/zaojiao/13829.html
    https://k.sina.cn/article_6401504340_17d8f345400100fpi0.html

    #หมิงหลัน #จือโฝ่ว #ซ่งฉือ #กวีซ่ง #หลี่ชิงเจ้า #ถังซือ #กวีถัง
    ไหนๆ คราวที่แล้วคุยกันเรื่องบทกวีแล้ว วันนี้ต่ออีกสักเรื่อง สืบเนื่องจาก Storyฯ เกิดความ ‘เอ๊ะ’ เกี่ยวกับชื่อภาษาจีนของละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> ซึ่งชื่อจีนนั้นยาวมาก อ่านว่า ‘จือโฝ่ว จือโฝ่ว อิ้งซื่อลวี่เฝยหงโซ่ว’ (知否 知否 应是绿肥红瘦) แปลได้ตรงตัวว่า ‘รู้หรือไม่ รู้หรือไม่ ควรเป็นสีเขียวอ้วนหนาสีแดงผอมบาง’ เป็นชื่อเรื่องที่แปลกประหลาดใช่ไหม? Storyฯ ไปทำการบ้านมา พบว่าประโยค ‘จือโฝ่วฯ’ นี้เป็นวรรคสุดท้ายของบทกวีในสมัยซ่งเหนือที่มีชื่อว่า ‘หรูเมิ่งลิ่ง:จั่วเยี่ยอวี่ซูเฟิงโจ้ว’ (如梦令·昨夜雨疏风骤) มีทั้งหมด 33 อักษร ประพันธ์โดยนักกวีหญิงซึ่งเป็นหนึ่งในกวีเอกของจีนโบราณ เธอคือหลี่ชิงเจ้า (ค.ศ. 1084-1155) บทกวีนี้เป็นผลงานยุคแรกๆ ของเธอ เป็นกลอนสั้นในรูปแบบที่เรียกว่า ‘ซ่งฉือ’ (宋词) ซึ่งจริงๆ แล้วสไตล์นี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฉิน แต่มานิยมอย่างแพร่หลายในสมัยราชวงศ์ซ่ง เรียกได้ว่า บทกวีในสมัยถังส่วนใหญ่คือ ‘ซือ’ (诗) และของสมัยซ่งส่วนใหญ่คือ ‘ฉือ’ (词) ‘ซือ’ (诗) แตกต่างจาก ‘ฉือ’ (词) อย่างไร? ‘ซือ’ (诗) ซึ่งนิยมในสมัยถังหรือที่เรียกกันว่า ‘ถังซือ’ เป็นสไตล์ที่โดยปกติมีความยาวจำนวนอักษรเท่ากันทุกวรรค มีความคล้องจองแบบโคลงกลอนที่เราคุ้นเคย (เช่นโคลงห้าที่ Storyฯ เคยเขียนถึงไปแล้วในเรื่องที่เกี่ยวกับละคร <ทุกชาติภพฯ>) แต่ ‘ฉือ’เป็นบทกวีที่มีความยาวสั้นไม่เท่ากันทุกวรรค แม้ว่าจะมีการกำหนดรูปแบบจำนวนอักษรและจุดที่คล้องจอง เดิมประพันธ์ขึ้นเพื่ออ่านเล่นยามบรรเลงดนตรี ความคล้องจองของวลีและความยาวสั้นจึงเน้นให้เข้ากับท่วงทำนองดนตรีเป็นหลัก ดังนั้น แรกเริ่มเลย ‘ฉือ’ จึงถูกมองว่าฉาบฉวยกว่า ในขณะที่ ‘ซือ’ ถูกมองว่าเป็นศิลปะอักษรขั้นสูงของผู้ที่มีการศึกษาซึ่งเน้นเนื้อหาเชิงปรัชญา แต่ ‘ฉือ’ เน้นบรรยายอารมณ์ ‘หรูเมิ่งลิ่ง:จั่วเยี่ยอวี่ซูเฟิงโจ้ว’ โดยสรุปเป็นการบรรยายโดยกวีหญิงของเราว่า เมื่อคืนที่ฝนพรำแต่ลมแรงผ่านพ้นไป นางตื่นขึ้นมาแต่ยังรู้สึกไม่สร่างเมานัก ลองถามสาวใช้ว่านอกห้องเป็นอย่างไรบ้าง สาวใช้บอกว่าดอกไห่ถัง (ดอกแอปเปิ้ลชนิดหนึ่ง) ยังคงเดิม แต่นางไม่เชื่อ กลับพึมพำกึ่งบ่นด้วยอารมณ์เสียดายว่า จริงแล้วคงจะเป็นภาพของดอกไม้ที่ร่วงเกือบหมด (คือ ‘สีแดงผอมบาง’ ในบทกวี) เหลือแต่ใบสีเขียว (คือ ‘สีเขียวอ้วนหนา’ ในบทกวี) บทกวีนี้โด่งดังมาก เพราะเลือกใช้คำที่สะท้อนความรู้สึกได้ดี มีการใช้คำที่แปลก (เช่น ใช้คำว่า ‘อ้วนหนา’ และ ‘ผอมบาง’ ที่ปกติใช้บรรยายรูปร่างของคนมาบรรยายต้นไม้ดอกไม้) และสามารถสะท้อนถึงความรู้สึกเสียดายบุปผา (ซึ่งอาจหมายถึงช่วงเวลาที่เบ่งบานของสตรี) ที่ถูกซัดร่วงด้วยลมแรง เมื่อถูกนำมาใช้เป็นชื่อนิยายเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> นี้ เราจะรู้สึกได้ทันทีว่านี่เป็นเรื่องราวของบุปผาที่ต้องเผชิญกับลมแรง เป็นการสะท้อนถึงเรื่องราวของหมิงหลันและพี่สาวตระกูลเสิ้งที่ต้องเผชิญกับมรสุมชีวิต เฉกเช่นดอกไห่ถังที่บ้างก็ร่วงโรย บ้างก็คงอยู่ได้ภายหลังมรสุมผ่านพ้นไป (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://k.sina.cn/article_5039775130_p12c64dd9a02700mi8d.html https://m.baobeibaobei.com/zaojiao/13829.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.yiyiwenku.com/p/25984.html http://www.360doc.com/content/16/0329/06/6956316_546147932.shtml http://www.guoxuemeng.com/mingju/440922.html https://m.baobeibaobei.com/zaojiao/13829.html https://k.sina.cn/article_6401504340_17d8f345400100fpi0.html #หมิงหลัน #จือโฝ่ว #ซ่งฉือ #กวีซ่ง #หลี่ชิงเจ้า #ถังซือ #กวีถัง
    赵丽颖主演的《知否知否应是绿肥红瘦》竟然已经重播39次了
    赵丽颖主演的《知否知否应是绿肥红瘦》竟然已经重播39次了,小赵也太能打了吧!这个成绩是真的亮眼 ​
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 378 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลับมาอีกครั้งกับเรื่องราวใน <ตำนานหมิงหลัน> เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้จะเห็นว่ามีหลายฉากที่ดำเนินเรื่องผ่านการนั่งเรียนหนังสือของสามสาวตระกูลเสิ้ง ซึ่งพวกนางเข้าเรียนพร้อมพี่ชายในโรงเรียนส่วนบุคคลของครอบครัวสกุลเสิ้ง หรือที่เรียกว่า ‘เจียสู’ (家塾/Family School)

    เจียสูคืออะไร?

    เจียสูมีมาตั้งแต่สมัยชุนชิว (กว่าเจ็ดร้อยปีก่อนคริสตกาล) จวบจนสมัยราชวงศ์ชิงก็ยังมีอยู่ เป็นการจัดห้องเรียนขึ้นที่บ้าน เชิญอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิมาสอน โดยปกติแล้วอาจารย์จะพำนักอยู่ในเรือนตระกูลนั้นเลย มีค่าจ้าง ที่พักและอาหารครบทุกมื้อ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นเฉพาะตระกูลที่มีฐานะ (ปกติเป็นตระกูลขุนนาง) จึงจะมีกำลังทรัพย์พอที่จะทำอย่างนี้ได้

    ในละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> นี้ มีฉีเหิงและกู้ถิงเยี่ยซึ่งเป็นบุรุษนอกสกุลมาร่วมเรียนด้วย ในนิยายบอกว่าฉีเหิงมาร่วมเรียนเพราะเป็นศิษย์ของอาจารย์คนนี้อยู่แล้ว ในขณะที่กู้ถิงเยี่ยเป็นญาติของตระกูลเสิ้งจึงมาร่วมเรียนได้ และที่ยอมมาเรียนที่เจียสูของตระกูลเสิ้งที่เป็นขุนนางยศต่ำกว่าครอบครัวของพวกเขาก็เพราะอาจารย์ท่านนี้ดังมาก ปกติไม่รับสอนตามเจียสู แต่ที่มาสอนให้ตระกูลเสิ้งก็เพื่อทดแทนบุญคุณ

    แต่ Storyฯ เกิดความ ‘เอ๊ะ’ ว่าทำไมพวกเขาทำได้ในเมื่อสตรีตระกูลสูงศักดิ์สมัยโบราณต้องเก็บตัวเงียบอยู่ในเรือนห้ามพบปะผู้ชายนอกสกุล?

    ในบทประพันธ์ <ความฝันในหอแดง> ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดวรรณกรรมจีนคลาสสิคมีการอธิบายโดยตัวละครเอกไว้ว่า คนในเครือวงศ์ตระกูลที่ไม่มีกำลังทรัพย์จ้างอาจารย์ส่วนตัวก็มาเรียนที่เจียสูได้ หรือหากใครมีญาติที่เป็นนักเรียนอยู่แล้วก็มาเรียนด้วยกันที่เจียสูนี้ได้ ซึ่งการเรียนในเจียสูเป็นการเรียนรวมคละวัยคละเพศชายหญิง

    เนื่องจากลูกหลานฝ่ายชายมีเป้าหมายคือลงสนามสอบราชบัณฑิตด้วย ดังนั้นหลักสูตรที่สอนจะเข้มข้นมาก แล้วเขาเรียนอะไร? หลักสูตรทั่วไปคือ ‘ซื่อซู อู่จิง’ (四书五经 / Four Books and Five Classics / สี่หนังสือห้าคัมภีร์) ซึ่ง ‘สี่หนังสือ’ นี้คือหนังสือว่าด้วยปรัชญาต่างๆ ของขงจื้อ ส่วน ‘ห้าคัมภีร์’ นั้นหมายถึง
    - ซือจิง (บทกวีและบทร้อยกรอง)
    - ซูจิง (บทความและประวัติศาสตร์)
    - อี้จิง (โหราศาสตร์)
    - ชุนชิว (บันทึกเหตุการณ์สำคัญและพงศาวดาร)
    - หลี่จี้ (พิธีกรรมและประเพณี)

    เจียสูเป็นหนึ่งในรูปแบบของการเรียนเอกชน นอกจากเจียสูนี้ เอกชนยังมีการลงขันเปิดเป็นโรงเรียนกันในหมู่บ้าน (เรียกว่า ชุนสู/村塾) หรืออาจมีเจ้าภาพที่ได้รับเงินบริจาคจัดตั้งเป็นโรงเรียนขึ้น (เรียกว่า อี้สู/义塾) หรืออาจเป็นตัวอาจารย์เองเปิดสอนหนังสือโดยเรียกเก็บค่าเล่าเรียนจากนักเรียน

    สตรีจีนโบราณไม่มีโอกาสได้เรียนในสำนักศึกษาหลวง และส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องจรรยาของสตรี โคลงกลอนและการดนตรี หากไม่ได้เรียนตามโรงเรียนเอกชนที่กล่าวมาข้างต้นก็จะเรียนกันที่บ้านตามมีตามเกิดหรือไม่ได้เรียน นอกจากนี้ ยังมีที่ศึกษาเองในระหว่างที่ออกบวชเป็นชี หรืออีกสุดขั้วหนึ่งคือการเรียนในหอนางโลมสำหรับนางโลมที่ต้องมีวิชาความรู้ติดตัวเพื่อทำมาหากิน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://kknews.cc/zh-my/entertainment/4k6q6zg.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.fxjyb.com/xiandai/276.html
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/77983438
    https://m.lunwendata.com/show.php?id=34312
    https://kknews.cc/history/pvkjmzj.html
    https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=e3ce1325253f66e731416fc1
    http://old-book.ru.ac.th/e-book/e/EF206(49)/EF206(49)-5.pdf
    #หมิงหลัน #การเรียนเอกชนจีนโบราณ #การเรียนสตรีจีนโบราณ #สี่หนังสือห้าคัมภีร์ #เจียสู
    กลับมาอีกครั้งกับเรื่องราวใน <ตำนานหมิงหลัน> เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้จะเห็นว่ามีหลายฉากที่ดำเนินเรื่องผ่านการนั่งเรียนหนังสือของสามสาวตระกูลเสิ้ง ซึ่งพวกนางเข้าเรียนพร้อมพี่ชายในโรงเรียนส่วนบุคคลของครอบครัวสกุลเสิ้ง หรือที่เรียกว่า ‘เจียสู’ (家塾/Family School) เจียสูคืออะไร? เจียสูมีมาตั้งแต่สมัยชุนชิว (กว่าเจ็ดร้อยปีก่อนคริสตกาล) จวบจนสมัยราชวงศ์ชิงก็ยังมีอยู่ เป็นการจัดห้องเรียนขึ้นที่บ้าน เชิญอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิมาสอน โดยปกติแล้วอาจารย์จะพำนักอยู่ในเรือนตระกูลนั้นเลย มีค่าจ้าง ที่พักและอาหารครบทุกมื้อ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นเฉพาะตระกูลที่มีฐานะ (ปกติเป็นตระกูลขุนนาง) จึงจะมีกำลังทรัพย์พอที่จะทำอย่างนี้ได้ ในละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> นี้ มีฉีเหิงและกู้ถิงเยี่ยซึ่งเป็นบุรุษนอกสกุลมาร่วมเรียนด้วย ในนิยายบอกว่าฉีเหิงมาร่วมเรียนเพราะเป็นศิษย์ของอาจารย์คนนี้อยู่แล้ว ในขณะที่กู้ถิงเยี่ยเป็นญาติของตระกูลเสิ้งจึงมาร่วมเรียนได้ และที่ยอมมาเรียนที่เจียสูของตระกูลเสิ้งที่เป็นขุนนางยศต่ำกว่าครอบครัวของพวกเขาก็เพราะอาจารย์ท่านนี้ดังมาก ปกติไม่รับสอนตามเจียสู แต่ที่มาสอนให้ตระกูลเสิ้งก็เพื่อทดแทนบุญคุณ แต่ Storyฯ เกิดความ ‘เอ๊ะ’ ว่าทำไมพวกเขาทำได้ในเมื่อสตรีตระกูลสูงศักดิ์สมัยโบราณต้องเก็บตัวเงียบอยู่ในเรือนห้ามพบปะผู้ชายนอกสกุล? ในบทประพันธ์ <ความฝันในหอแดง> ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดวรรณกรรมจีนคลาสสิคมีการอธิบายโดยตัวละครเอกไว้ว่า คนในเครือวงศ์ตระกูลที่ไม่มีกำลังทรัพย์จ้างอาจารย์ส่วนตัวก็มาเรียนที่เจียสูได้ หรือหากใครมีญาติที่เป็นนักเรียนอยู่แล้วก็มาเรียนด้วยกันที่เจียสูนี้ได้ ซึ่งการเรียนในเจียสูเป็นการเรียนรวมคละวัยคละเพศชายหญิง เนื่องจากลูกหลานฝ่ายชายมีเป้าหมายคือลงสนามสอบราชบัณฑิตด้วย ดังนั้นหลักสูตรที่สอนจะเข้มข้นมาก แล้วเขาเรียนอะไร? หลักสูตรทั่วไปคือ ‘ซื่อซู อู่จิง’ (四书五经 / Four Books and Five Classics / สี่หนังสือห้าคัมภีร์) ซึ่ง ‘สี่หนังสือ’ นี้คือหนังสือว่าด้วยปรัชญาต่างๆ ของขงจื้อ ส่วน ‘ห้าคัมภีร์’ นั้นหมายถึง - ซือจิง (บทกวีและบทร้อยกรอง) - ซูจิง (บทความและประวัติศาสตร์) - อี้จิง (โหราศาสตร์) - ชุนชิว (บันทึกเหตุการณ์สำคัญและพงศาวดาร) - หลี่จี้ (พิธีกรรมและประเพณี) เจียสูเป็นหนึ่งในรูปแบบของการเรียนเอกชน นอกจากเจียสูนี้ เอกชนยังมีการลงขันเปิดเป็นโรงเรียนกันในหมู่บ้าน (เรียกว่า ชุนสู/村塾) หรืออาจมีเจ้าภาพที่ได้รับเงินบริจาคจัดตั้งเป็นโรงเรียนขึ้น (เรียกว่า อี้สู/义塾) หรืออาจเป็นตัวอาจารย์เองเปิดสอนหนังสือโดยเรียกเก็บค่าเล่าเรียนจากนักเรียน สตรีจีนโบราณไม่มีโอกาสได้เรียนในสำนักศึกษาหลวง และส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องจรรยาของสตรี โคลงกลอนและการดนตรี หากไม่ได้เรียนตามโรงเรียนเอกชนที่กล่าวมาข้างต้นก็จะเรียนกันที่บ้านตามมีตามเกิดหรือไม่ได้เรียน นอกจากนี้ ยังมีที่ศึกษาเองในระหว่างที่ออกบวชเป็นชี หรืออีกสุดขั้วหนึ่งคือการเรียนในหอนางโลมสำหรับนางโลมที่ต้องมีวิชาความรู้ติดตัวเพื่อทำมาหากิน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://kknews.cc/zh-my/entertainment/4k6q6zg.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.fxjyb.com/xiandai/276.html https://zhuanlan.zhihu.com/p/77983438 https://m.lunwendata.com/show.php?id=34312 https://kknews.cc/history/pvkjmzj.html https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=e3ce1325253f66e731416fc1 http://old-book.ru.ac.th/e-book/e/EF206(49)/EF206(49)-5.pdf #หมิงหลัน #การเรียนเอกชนจีนโบราณ #การเรียนสตรีจีนโบราณ #สี่หนังสือห้าคัมภีร์ #เจียสู
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 523 มุมมอง 0 รีวิว
  • Baidu พัฒนา AI เพื่อแปลเสียงสัตว์เป็นภาษามนุษย์ Baidu บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรสำหรับ ระบบ AI ที่สามารถแปลเสียงสัตว์เป็นภาษามนุษย์ โดยใช้ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) และเทคนิคการประมวลผลเสียงขั้นสูง

    นักวิทยาศาสตร์พยายาม ศึกษาการสื่อสารของสัตว์มานานหลายทศวรรษ และระบบของ Baidu อาจเป็น ก้าวสำคัญในการทำความเข้าใจพฤติกรรมและอารมณ์ของสัตว์

    ✅ Baidu ยื่นขอจดสิทธิบัตรระบบ AI ที่สามารถแปลเสียงสัตว์เป็นภาษามนุษย์
    - ใช้ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) และเทคนิคการประมวลผลเสียงขั้นสูง

    ✅ นักวิทยาศาสตร์พยายามศึกษาการสื่อสารของสัตว์มานานหลายทศวรรษ
    - ระบบของ Baidu อาจช่วยให้ เข้าใจพฤติกรรมและอารมณ์ของสัตว์ได้ดีขึ้น

    ✅ เทคโนโลยีนี้อาจช่วยให้มนุษย์สามารถสื่อสารกับสัตว์เลี้ยงได้ดีขึ้น
    - อาจช่วยให้ เจ้าของสัตว์เลี้ยงเข้าใจความต้องการของสัตว์มากขึ้น

    ✅ Baidu เป็นเจ้าของเครื่องมือค้นหาที่ใหญ่ที่สุดในจีน และกำลังขยายงานด้าน AI
    - มีการลงทุนใน AI ด้านการแปลภาษาและการประมวลผลเสียง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/china039s-baidu-looks-to-patent-ai-system-to-decipher-animal-sounds
    Baidu พัฒนา AI เพื่อแปลเสียงสัตว์เป็นภาษามนุษย์ Baidu บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรสำหรับ ระบบ AI ที่สามารถแปลเสียงสัตว์เป็นภาษามนุษย์ โดยใช้ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) และเทคนิคการประมวลผลเสียงขั้นสูง นักวิทยาศาสตร์พยายาม ศึกษาการสื่อสารของสัตว์มานานหลายทศวรรษ และระบบของ Baidu อาจเป็น ก้าวสำคัญในการทำความเข้าใจพฤติกรรมและอารมณ์ของสัตว์ ✅ Baidu ยื่นขอจดสิทธิบัตรระบบ AI ที่สามารถแปลเสียงสัตว์เป็นภาษามนุษย์ - ใช้ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) และเทคนิคการประมวลผลเสียงขั้นสูง ✅ นักวิทยาศาสตร์พยายามศึกษาการสื่อสารของสัตว์มานานหลายทศวรรษ - ระบบของ Baidu อาจช่วยให้ เข้าใจพฤติกรรมและอารมณ์ของสัตว์ได้ดีขึ้น ✅ เทคโนโลยีนี้อาจช่วยให้มนุษย์สามารถสื่อสารกับสัตว์เลี้ยงได้ดีขึ้น - อาจช่วยให้ เจ้าของสัตว์เลี้ยงเข้าใจความต้องการของสัตว์มากขึ้น ✅ Baidu เป็นเจ้าของเครื่องมือค้นหาที่ใหญ่ที่สุดในจีน และกำลังขยายงานด้าน AI - มีการลงทุนใน AI ด้านการแปลภาษาและการประมวลผลเสียง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/china039s-baidu-looks-to-patent-ai-system-to-decipher-animal-sounds
    WWW.THESTAR.COM.MY
    China's Baidu looks to patent AI system to decipher animal sounds
    Ever wished you could understand what your cat is trying to tell you? A Chinese tech company is exploring whether it's possible to translate those mysterious meows into human language using artificial intelligence.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาทิตย์นี้มาโพสต์เร็วหน่อย เรามาคุยต่อกับ <ตำนานหมิงหลัน> เพราะละครเรื่องนี้มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยทางวัฒนธรรมให้เรียนรู้พอควร วันนี้ว่าด้วยฉากแต่งงานของพระนาง

    ความมีอยู่ว่า
    “ได้ยินมานานว่าผู้บังคับบัญชากู้เก่งด้านวรรณกรรม งั้นมาแต่งกลอนเร่งเจ้าสาวกันหน่อยดีกว่า ทุกคนรู้สึกว่าดี ถึงจะอนุญาตให้เข้าประตูมารับเจ้าสาวได้” คุณชายเขยห้ากล่าว
    - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> (ตามที่มีแปลซับไทยจ้า)

    เพื่อนเพจเชื้อสายจีนน่าจะคุ้นเคยดีกับธรรมเนียมที่ขบวนเจ้าบ่าวจะโดน ‘กั้นประตู’ ก่อนเข้าไปรับเจ้าสาวที่แต่งตัวเสร็จรออยู่แล้ว โดยปัจจุบันอาจต้องเล่นเกมต่างๆ เพื่อแลกกับการเปิดประตู และที่แน่ๆ ต้องมีแจกซองอั่งเปา

    ธรรมเนียมนี้ถูก ‘แปลงร่าง’ มาจากประเพณีเดิมตอนรับตัวเจ้าสาวในจีนโบราณ ในบันทึกประเพณีสมัยราชวงศ์เหนือใต้มีการระบุว่า หนึ่งในขั้นตอนการรับตัวเจ้าสาวคือมีการตะโกนเรียกเร่งให้นางแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จออกมาไวๆ ขั้นตอนนี้เรียกว่า ‘ชุยจวง’ (催装) เนื่องจากสมัยจีนโบราณจริงๆ แล้วมักจัดพิธีกราบไหว้ฟ้าดินในตอนเย็นก่อนมืด ซึ่งโดยปกติเจ้าสาวจะใช้เวลาแต่งตัวแต่งหน้านานมาก จึงมีการเร่งให้เจ้าสาวออกมาก่อนฟ้าจะมืด และเกิดการ ‘แกล้ง’ ขบวนเจ้าบ่าวก่อนจะเปิดประตูให้รับเจ้าสาวได้ ถึงขนาดใช้ไม้พลองหวดเจ้าบ่าวก็มี (!) ซึ่งการกลั่นแกล้งเหล่านี้เจ้าบ่าวต้องยอมรับแต่โดยดีและมีชื่อเรียกวิธีปฏิบัตินี้ว่า ‘เซี่ยซวี่’ (下婿 แปลตรงตัวได้ประมาณว่าเขยยอมเป็นเบี้ยล่าง)

    ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ถังที่การอักษรและโคลงกลอนรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก จึงเกิดเป็นธรรมเนียมการแต่ง ‘กลอนเร่งเจ้าสาว’ หรือที่เรียกว่า ‘ชุยจวงซือ’ (催妆诗) สำหรับชนชั้นสูงที่มีการศึกษา โดยเจ้าบ่าวจะแต่งกลอนเองก็ได้หรือให้เพื่อนเจ้าบ่าวแต่งก็ได้ เมื่อแต่งกลอนเสร็จแล้วก็จะมีคนนำไปเล่าให้เจ้าสาวฟังถึงในห้องเพื่อว่านางจะได้รีบออกมา

    กลอนเร่งเจ้าสาวจะมีเนื้อหาแตกต่างจากบทกวีสมัยถังทั่วไป โดยเอกลักษณ์ของมันคือมีเนื้อหาออกแนวเกี้ยวพาราสีหรือชมความงามเจ้าสาว ได้อารมณ์ประมาณว่า เจ้าอย่าเอียงอายรีบออกมาเถิดเราจะได้รีบไปกัน! จะเห็นว่าบทกลอนเร่งเจ้าสาวในเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> ก็ได้อารมณ์นี้เช่นกัน

    และเนื่องจากในสมัยราชวงศ์ซ่งมีการนิยมบทกวีในลักษณะ ‘ฉือ’ (词) มากกว่า ‘ซือ’ (诗) (Storyฯ เคยเขียนถึงความแตกต่างของบทกวีสองประเภทนี้ไปแล้วในตอนชื่อนิยายหมิงหลัน) ดังนั้นในสมัยซ่งจึงมีการแต่งกลอนเร่งเจ้าสาวในแบบสไตล์ ‘ฉือ’ ด้วย เรียกว่า ‘ชุยจวงฉือ’

    เมื่ออยู่ในห้องหอแล้วจะมีขั้นตอนการปลดพัดเจ้าสาวเรียกว่า ‘เชวี่ยซ่าน’ (却扇) แต่ในละครทำอย่างง่ายๆ หากทำแบบเต็มพิธีการจริงๆ ในสมัยถังเขาจะให้เจ้าบ่าวแต่งกลอนอีกรอบค่ะ เรียกว่า ‘เชวี่ยซ่านซือ’ หากเจ้าสาวพอใจจึงจะวางพัดลง แต่ Storyฯ หาข้อมูลไม่มีว่าเขาอนุญาตให้เพื่อนเจ้าบ่าวตามเข้ามาช่วยแต่งกลอนหรือไม่ (555) ดูไปแล้ว กว่าจะรับตัวเจ้าสาวได้นี่ไม่ง่ายเลย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.sohu.com/a/295145859_100301735
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://rijifang.com/index.php/post/9230.html
    https://www.52lishi.com/article/65423.html
    https://www.zhihu.com/question/446052944/answer/1747492245
    http://travel.china.com.cn/txt/2020-11/10/content_76894055.html

    #หมิงหลัน #กู้ถิงเยี่ย #งานแต่งงานจีนโบราณ #กวีจีน #ประเพณีจีนโบราณ #เซี่ยซวี่ #กลอนเร่งเจ้าสาว #ชุยจวง #ชุยจวงซือ #ชุยจวงฉือ #เชวี่ยซ่าน
    อาทิตย์นี้มาโพสต์เร็วหน่อย เรามาคุยต่อกับ <ตำนานหมิงหลัน> เพราะละครเรื่องนี้มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยทางวัฒนธรรมให้เรียนรู้พอควร วันนี้ว่าด้วยฉากแต่งงานของพระนาง ความมีอยู่ว่า “ได้ยินมานานว่าผู้บังคับบัญชากู้เก่งด้านวรรณกรรม งั้นมาแต่งกลอนเร่งเจ้าสาวกันหน่อยดีกว่า ทุกคนรู้สึกว่าดี ถึงจะอนุญาตให้เข้าประตูมารับเจ้าสาวได้” คุณชายเขยห้ากล่าว - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> (ตามที่มีแปลซับไทยจ้า) เพื่อนเพจเชื้อสายจีนน่าจะคุ้นเคยดีกับธรรมเนียมที่ขบวนเจ้าบ่าวจะโดน ‘กั้นประตู’ ก่อนเข้าไปรับเจ้าสาวที่แต่งตัวเสร็จรออยู่แล้ว โดยปัจจุบันอาจต้องเล่นเกมต่างๆ เพื่อแลกกับการเปิดประตู และที่แน่ๆ ต้องมีแจกซองอั่งเปา ธรรมเนียมนี้ถูก ‘แปลงร่าง’ มาจากประเพณีเดิมตอนรับตัวเจ้าสาวในจีนโบราณ ในบันทึกประเพณีสมัยราชวงศ์เหนือใต้มีการระบุว่า หนึ่งในขั้นตอนการรับตัวเจ้าสาวคือมีการตะโกนเรียกเร่งให้นางแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จออกมาไวๆ ขั้นตอนนี้เรียกว่า ‘ชุยจวง’ (催装) เนื่องจากสมัยจีนโบราณจริงๆ แล้วมักจัดพิธีกราบไหว้ฟ้าดินในตอนเย็นก่อนมืด ซึ่งโดยปกติเจ้าสาวจะใช้เวลาแต่งตัวแต่งหน้านานมาก จึงมีการเร่งให้เจ้าสาวออกมาก่อนฟ้าจะมืด และเกิดการ ‘แกล้ง’ ขบวนเจ้าบ่าวก่อนจะเปิดประตูให้รับเจ้าสาวได้ ถึงขนาดใช้ไม้พลองหวดเจ้าบ่าวก็มี (!) ซึ่งการกลั่นแกล้งเหล่านี้เจ้าบ่าวต้องยอมรับแต่โดยดีและมีชื่อเรียกวิธีปฏิบัตินี้ว่า ‘เซี่ยซวี่’ (下婿 แปลตรงตัวได้ประมาณว่าเขยยอมเป็นเบี้ยล่าง) ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ถังที่การอักษรและโคลงกลอนรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก จึงเกิดเป็นธรรมเนียมการแต่ง ‘กลอนเร่งเจ้าสาว’ หรือที่เรียกว่า ‘ชุยจวงซือ’ (催妆诗) สำหรับชนชั้นสูงที่มีการศึกษา โดยเจ้าบ่าวจะแต่งกลอนเองก็ได้หรือให้เพื่อนเจ้าบ่าวแต่งก็ได้ เมื่อแต่งกลอนเสร็จแล้วก็จะมีคนนำไปเล่าให้เจ้าสาวฟังถึงในห้องเพื่อว่านางจะได้รีบออกมา กลอนเร่งเจ้าสาวจะมีเนื้อหาแตกต่างจากบทกวีสมัยถังทั่วไป โดยเอกลักษณ์ของมันคือมีเนื้อหาออกแนวเกี้ยวพาราสีหรือชมความงามเจ้าสาว ได้อารมณ์ประมาณว่า เจ้าอย่าเอียงอายรีบออกมาเถิดเราจะได้รีบไปกัน! จะเห็นว่าบทกลอนเร่งเจ้าสาวในเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> ก็ได้อารมณ์นี้เช่นกัน และเนื่องจากในสมัยราชวงศ์ซ่งมีการนิยมบทกวีในลักษณะ ‘ฉือ’ (词) มากกว่า ‘ซือ’ (诗) (Storyฯ เคยเขียนถึงความแตกต่างของบทกวีสองประเภทนี้ไปแล้วในตอนชื่อนิยายหมิงหลัน) ดังนั้นในสมัยซ่งจึงมีการแต่งกลอนเร่งเจ้าสาวในแบบสไตล์ ‘ฉือ’ ด้วย เรียกว่า ‘ชุยจวงฉือ’ เมื่ออยู่ในห้องหอแล้วจะมีขั้นตอนการปลดพัดเจ้าสาวเรียกว่า ‘เชวี่ยซ่าน’ (却扇) แต่ในละครทำอย่างง่ายๆ หากทำแบบเต็มพิธีการจริงๆ ในสมัยถังเขาจะให้เจ้าบ่าวแต่งกลอนอีกรอบค่ะ เรียกว่า ‘เชวี่ยซ่านซือ’ หากเจ้าสาวพอใจจึงจะวางพัดลง แต่ Storyฯ หาข้อมูลไม่มีว่าเขาอนุญาตให้เพื่อนเจ้าบ่าวตามเข้ามาช่วยแต่งกลอนหรือไม่ (555) ดูไปแล้ว กว่าจะรับตัวเจ้าสาวได้นี่ไม่ง่ายเลย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.sohu.com/a/295145859_100301735 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://rijifang.com/index.php/post/9230.html https://www.52lishi.com/article/65423.html https://www.zhihu.com/question/446052944/answer/1747492245 http://travel.china.com.cn/txt/2020-11/10/content_76894055.html #หมิงหลัน #กู้ถิงเยี่ย #งานแต่งงานจีนโบราณ #กวีจีน #ประเพณีจีนโบราณ #เซี่ยซวี่ #กลอนเร่งเจ้าสาว #ชุยจวง #ชุยจวงซือ #ชุยจวงฉือ #เชวี่ยซ่าน
    WWW.SOHU.COM
    《知否?知否?应是绿肥红瘦》过百亿的播放量能说明什么?_顾廷烨
    作为近150万字的长篇小说,实在是有些长,我并没有看完,也理解作者的不易,本身作为兼职作者,平时工作也比较繁忙,可能只有夜晚的四五个小时可以利用,也会有家里的各种繁杂琐事时不时骚扰,从写法来看,看得出…
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 530 มุมมอง 0 รีวิว
  • Storyฯ นึกถึงภาพยนตร์จีนโบราณที่เคยผ่านตาเมื่อนานมาแล้วเรื่องหนึ่งชื่อว่า <หลิ่วหรูซื่อ> (Threads of Time)

    เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวประวัติของนางคณิกานามว่า ‘หลิ่วหรูซื่อ’ นางถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นกวีหญิงที่โดดเด่นในสมัยปลายราชวงศ์หมิง และเป็นสตรีที่รักชาติและต่อต้านการรุกรานจากชาวแมนจูในช่วงผลัดแผ่นดิน ไม่แน่ใจว่าเพื่อนเพจคุ้นเคยกับเรื่องของนางกันบ้างหรือไม่? วันนี้เลยมาคุยให้ฟังอย่างย่อ

    หลิ่วหรูซื่อ (ค.ศ. 1618-1664) ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสุดยอดแปดนางคณิกาจากแม่น้ำฉินหวย (ฉินหวยปาเยี่ยน / 秦淮八艳)

    อะไรคือ ‘ฉินหวยปาเยี่ยน’ ? ในสมัยปลายราชวงศ์หมิงนั้น สถานสอบราชบันฑิตที่ใหญ่ที่สุดคือเจียงหนานก้งเยวี่ยน (江南贡院) ตั้งอยู่ที่เมืองเจียงหนานริมฝั่งแม่น้ำฉินหวย ในแต่ละปีจะมีบัณฑิตและข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการสอบมาที่นี่ถึงสองสามหมื่นคน จากเมืองเจียงหนานข้ามแม่น้ำฉินหวยมาก็เป็นเมืองหนานจิง (นานกิง) ซึ่งนับว่าเป็นเมืองทางผ่านสำหรับเขาเหล่านี้ ที่นี่จึงกลายเป็นทำเลทองของกิจการหอนางโลม

    เพื่อนเพจอย่าได้คิดว่านางคณิกาเหล่านี้เน้นขายบริการทางเพศแต่อย่างเดียว ในยุคนั้นรายได้เป็นกอบเป็นกำมาจากการขายความบันเทิงทางศิลปะเคล้าสุรา เช่น เล่นดนตรี / เล่นหมากล้อม / โชว์เต้นรำ / แต่งกลอนวาดภาพ หรืออาจทำทั้งหมด มีนางคณิกาจำนวนไม่น้อยที่ขายศิลปะไม่ขายตัวและคนที่ชื่อดังจะต้องมีฝีมือดีเยี่ยม ทั้งนี้เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่มีการศึกษา ‘ฉินหวยปาเยี่ยน’ ทั้งแปดคนนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็น ‘ที่สุด’ ของนางคณิกาในย่านเมืองหนานจิงนี้นี่เอง

    หลิ่วหรูซื่อมีนามเดิมว่า ‘หยางอ้าย’ ต่อมาเปลี่ยนชื่อตนเองใหม่เป็น ‘อิ่ง’ และมีนามรองว่า ‘หรูซื่อ’ ตามบทกวีจากสมัยซ่ง บ่อยครั้งที่นางแต่งตัวเป็นชายออกไปโต้กลอนกับคนอื่นโดยใช้นามว่า ‘เหอตงจวิน’ นางโด่งดังที่สุดด้านงานอักษรและงานพู่กันจีน (บทกวี คัดพู่กัน และภาพวาด) ผลงานของนางมีมากมายทั้งในนาม ‘หลิ่วหรูซื่อ’ และ ‘เหอตงจวิน’ มีการรวมเล่มผลงานของนางออกจำหน่ายในหลายยุคสมัยจวบจนปัจจุบัน

    นางเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ถูกขายให้กับหอนางโลมเมื่ออายุแปดขวบ แต่แม่เล้ารับเป็นลูกบุญธรรมและได้ฝึกเรียนศิลปะแขนงต่างๆ ในชีวิตนางมีชายสามคนที่มีบทบาทมาก คนแรกคืออดีตเสนาบดีอดีตจอหงวน ที่รับนางเป็นอนุเมื่ออายุเพียง 14 ปี เขาโปรดปรานนางที่สุด ใช้เวลาทั้งวันกับการสอนศิลปะขั้นสูงเหล่านี้ให้กับนาง

    เมื่อเขาตายลงนางถูกขับออกจากเรือนจึงกลับไปอยู่หอนางโลมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีวิชาความรู้ติดตัวจนเป็นที่เลื่องลือ ทำให้นางใช้ชีวิตอยู่กับการคบหาสมาคมกับเหล่าบัณฑิตจนได้มาพบรักกับเฉินจื่อหลง เขาเป็นบัณฑิตที่ต่อมารับราชการไปได้ไกล ทั้งสองอยู่ด้วยกันนานหลายปี แต่สุดท้ายไปไม่รอดแยกย้ายกันไปและนางออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่นางมีผลงานด้านโคลงกลอนและภาพวาดมากมาย

    ต่อมาในวัย 23 ปี นางได้พบและแต่งงานกับอดีตขุนนางอายุกว่า 50 ปีนามว่าเฉียนเชียนอี้เป็นภรรยารอง (แต่ภรรยาคนแรกเสียไปแล้ว) และอยู่ด้วยกันนานกว่า 20 ปี มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน ช่วงเวลาที่อยู่กับเฉียนเชียนอี้นี้ เป็นช่วงเวลาที่นางได้รับการยกย่องเรื่องรักชาติ และนางเป็นผู้ผลักดันให้เฉียนเชียนอี้ทำงานต่อต้านแมนจูอย่างลับๆ เพื่อกอบกู้ราชวงศ์หมิง แม้ว่าฉากหน้าจะสวามิภักดิ์รับราชการกับทางการแมนจูไปแล้ว (เรื่องราวของเฉียนเชียนอี้ที่กลับไปกลับมากับการสนับสนุนฝ่ายใดเป็นเรื่องที่ยาว Storyฯ ขอไม่ลงในรายละเอียด) ต่อมาเฉียนเชียนอี้ลาออกไปใช้ชีวิตบั้นปลายในชนบทโดยนางติดตามไปด้วย เมื่อเขาตายลงมีการแย่งทรัพย์สมบัติ นางจึงฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องให้ทางการเอาผิดคนโกงและคืนทรัพย์สินกลับมาให้ลูก

    หลิ่วหรูซื่อไม่เพียงฝากผลงานเอาไว้ให้ชนรุ่นหลังมากมาย หากแต่ความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญและรักชาติของหลิ่วหรูซื่อถูกสะท้อนออกมาในบทประพันธ์ต่างๆ ของนางด้วยอารมณ์ประมาณว่า “ถ้าฉันเป็นชาย ฉันจะไปสู้เพื่อชาติ” แต่เมื่อเป็นหญิง นางจึงพยายามสนับสนุนกองกำลังกู้ชาติทางการเงินและผลักดันให้สามีของนางสนับสนุนด้วย และนี่คือสาเหตุว่าทำไมเรื่องราวของนางคณิกาธรรมดาคนนี้ยังไม่ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมา

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก:
    https://kknews.cc/history/b2nbjyo.html
    https://www.chinanews.com.cn/cul/news/2008/03-10/1186637.shtml
    https://new.qq.com/omn/20191102/20191102A03LG800.html
    https://kknews.cc/history/b2nbjyo.html
    http://www.360doc.com/content/20/0325/10/60244337_901533310.shtml
    https://kknews.cc/history/ogan4p.html
    https://baike.baidu.com/item/%E7%A7%A6%E6%B7%AE%E5%85%AB%E8%89%B3/384726

    #หลิ่วหรูซือ #เหอตงจวิน #นางคณิกาจีนโบราณ #ฉินหวยปาเยี่ยน #เฉียนเชียนอี้ #เฉินจื่อหลง #กอบกู้หมิง
    Storyฯ นึกถึงภาพยนตร์จีนโบราณที่เคยผ่านตาเมื่อนานมาแล้วเรื่องหนึ่งชื่อว่า <หลิ่วหรูซื่อ> (Threads of Time) เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวประวัติของนางคณิกานามว่า ‘หลิ่วหรูซื่อ’ นางถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นกวีหญิงที่โดดเด่นในสมัยปลายราชวงศ์หมิง และเป็นสตรีที่รักชาติและต่อต้านการรุกรานจากชาวแมนจูในช่วงผลัดแผ่นดิน ไม่แน่ใจว่าเพื่อนเพจคุ้นเคยกับเรื่องของนางกันบ้างหรือไม่? วันนี้เลยมาคุยให้ฟังอย่างย่อ หลิ่วหรูซื่อ (ค.ศ. 1618-1664) ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสุดยอดแปดนางคณิกาจากแม่น้ำฉินหวย (ฉินหวยปาเยี่ยน / 秦淮八艳) อะไรคือ ‘ฉินหวยปาเยี่ยน’ ? ในสมัยปลายราชวงศ์หมิงนั้น สถานสอบราชบันฑิตที่ใหญ่ที่สุดคือเจียงหนานก้งเยวี่ยน (江南贡院) ตั้งอยู่ที่เมืองเจียงหนานริมฝั่งแม่น้ำฉินหวย ในแต่ละปีจะมีบัณฑิตและข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการสอบมาที่นี่ถึงสองสามหมื่นคน จากเมืองเจียงหนานข้ามแม่น้ำฉินหวยมาก็เป็นเมืองหนานจิง (นานกิง) ซึ่งนับว่าเป็นเมืองทางผ่านสำหรับเขาเหล่านี้ ที่นี่จึงกลายเป็นทำเลทองของกิจการหอนางโลม เพื่อนเพจอย่าได้คิดว่านางคณิกาเหล่านี้เน้นขายบริการทางเพศแต่อย่างเดียว ในยุคนั้นรายได้เป็นกอบเป็นกำมาจากการขายความบันเทิงทางศิลปะเคล้าสุรา เช่น เล่นดนตรี / เล่นหมากล้อม / โชว์เต้นรำ / แต่งกลอนวาดภาพ หรืออาจทำทั้งหมด มีนางคณิกาจำนวนไม่น้อยที่ขายศิลปะไม่ขายตัวและคนที่ชื่อดังจะต้องมีฝีมือดีเยี่ยม ทั้งนี้เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่มีการศึกษา ‘ฉินหวยปาเยี่ยน’ ทั้งแปดคนนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็น ‘ที่สุด’ ของนางคณิกาในย่านเมืองหนานจิงนี้นี่เอง หลิ่วหรูซื่อมีนามเดิมว่า ‘หยางอ้าย’ ต่อมาเปลี่ยนชื่อตนเองใหม่เป็น ‘อิ่ง’ และมีนามรองว่า ‘หรูซื่อ’ ตามบทกวีจากสมัยซ่ง บ่อยครั้งที่นางแต่งตัวเป็นชายออกไปโต้กลอนกับคนอื่นโดยใช้นามว่า ‘เหอตงจวิน’ นางโด่งดังที่สุดด้านงานอักษรและงานพู่กันจีน (บทกวี คัดพู่กัน และภาพวาด) ผลงานของนางมีมากมายทั้งในนาม ‘หลิ่วหรูซื่อ’ และ ‘เหอตงจวิน’ มีการรวมเล่มผลงานของนางออกจำหน่ายในหลายยุคสมัยจวบจนปัจจุบัน นางเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ถูกขายให้กับหอนางโลมเมื่ออายุแปดขวบ แต่แม่เล้ารับเป็นลูกบุญธรรมและได้ฝึกเรียนศิลปะแขนงต่างๆ ในชีวิตนางมีชายสามคนที่มีบทบาทมาก คนแรกคืออดีตเสนาบดีอดีตจอหงวน ที่รับนางเป็นอนุเมื่ออายุเพียง 14 ปี เขาโปรดปรานนางที่สุด ใช้เวลาทั้งวันกับการสอนศิลปะขั้นสูงเหล่านี้ให้กับนาง เมื่อเขาตายลงนางถูกขับออกจากเรือนจึงกลับไปอยู่หอนางโลมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีวิชาความรู้ติดตัวจนเป็นที่เลื่องลือ ทำให้นางใช้ชีวิตอยู่กับการคบหาสมาคมกับเหล่าบัณฑิตจนได้มาพบรักกับเฉินจื่อหลง เขาเป็นบัณฑิตที่ต่อมารับราชการไปได้ไกล ทั้งสองอยู่ด้วยกันนานหลายปี แต่สุดท้ายไปไม่รอดแยกย้ายกันไปและนางออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่นางมีผลงานด้านโคลงกลอนและภาพวาดมากมาย ต่อมาในวัย 23 ปี นางได้พบและแต่งงานกับอดีตขุนนางอายุกว่า 50 ปีนามว่าเฉียนเชียนอี้เป็นภรรยารอง (แต่ภรรยาคนแรกเสียไปแล้ว) และอยู่ด้วยกันนานกว่า 20 ปี มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน ช่วงเวลาที่อยู่กับเฉียนเชียนอี้นี้ เป็นช่วงเวลาที่นางได้รับการยกย่องเรื่องรักชาติ และนางเป็นผู้ผลักดันให้เฉียนเชียนอี้ทำงานต่อต้านแมนจูอย่างลับๆ เพื่อกอบกู้ราชวงศ์หมิง แม้ว่าฉากหน้าจะสวามิภักดิ์รับราชการกับทางการแมนจูไปแล้ว (เรื่องราวของเฉียนเชียนอี้ที่กลับไปกลับมากับการสนับสนุนฝ่ายใดเป็นเรื่องที่ยาว Storyฯ ขอไม่ลงในรายละเอียด) ต่อมาเฉียนเชียนอี้ลาออกไปใช้ชีวิตบั้นปลายในชนบทโดยนางติดตามไปด้วย เมื่อเขาตายลงมีการแย่งทรัพย์สมบัติ นางจึงฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องให้ทางการเอาผิดคนโกงและคืนทรัพย์สินกลับมาให้ลูก หลิ่วหรูซื่อไม่เพียงฝากผลงานเอาไว้ให้ชนรุ่นหลังมากมาย หากแต่ความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญและรักชาติของหลิ่วหรูซื่อถูกสะท้อนออกมาในบทประพันธ์ต่างๆ ของนางด้วยอารมณ์ประมาณว่า “ถ้าฉันเป็นชาย ฉันจะไปสู้เพื่อชาติ” แต่เมื่อเป็นหญิง นางจึงพยายามสนับสนุนกองกำลังกู้ชาติทางการเงินและผลักดันให้สามีของนางสนับสนุนด้วย และนี่คือสาเหตุว่าทำไมเรื่องราวของนางคณิกาธรรมดาคนนี้ยังไม่ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมา (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก: https://kknews.cc/history/b2nbjyo.html https://www.chinanews.com.cn/cul/news/2008/03-10/1186637.shtml https://new.qq.com/omn/20191102/20191102A03LG800.html https://kknews.cc/history/b2nbjyo.html http://www.360doc.com/content/20/0325/10/60244337_901533310.shtml https://kknews.cc/history/ogan4p.html https://baike.baidu.com/item/%E7%A7%A6%E6%B7%AE%E5%85%AB%E8%89%B3/384726 #หลิ่วหรูซือ #เหอตงจวิน #นางคณิกาจีนโบราณ #ฉินหวยปาเยี่ยน #เฉียนเชียนอี้ #เฉินจื่อหลง #กอบกู้หมิง
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 443 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจากเพจเฟซบุ๊กBlognone ระบุว่า อุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ของสหรัฐฯ เตือนว่าการที่รัฐบาล Trump ปราบปรามพลังงานหมุนเวียนอย่างเข้มงวด กำลังขัดขวางการเติบโตของกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ และทำให้สหรัฐฯ เสี่ยงเสียตำแหน่งผู้นำ AI ระดับโลกให้กับจีนได้
    .
    จีนออกมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริม และปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ทันสมัย และการจ่ายพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งตรงข้ามกับสหรัฐฯ ที่ระงับการพัฒนาพลังงานสะอาดบนที่ดินของรัฐบาลกลาง หยุดการปล่อยเงินกู้สำหรับพลังงานสะอาด และยกเลิกโครงการสำคัญ เช่น โครงการพลังงานลมของ Equinor มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ฯ
    .
    ดาต้าเซ็นเตอร์จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าที่มั่นคงและมีราคาย่อมเยา ซึ่งพลังงานหมุนเวียนช่วยตอบโจทย์ได้ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากสหรัฐฯ เข้าถึงแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้น้อยลง ดาต้าเซ็นเตอร์อาจเผชิญกับปัญหาขาดแคลนพลังงาน ต้นทุนที่สูงขึ้น ความล่าช้าในการก่อสร้าง และต้องหันมาพึ่งพลังงานฟอสซิลมากขึ้น
    .
    แม้โครงการพลังงานก๊าซบางแห่งถูกเร่งดำเนินการ แต่ก็มีต้นทุนสูง และใช้เวลานานกว่าจะสร้างเสร็จ เช่นเดียวกับบิ๊กเทคฯ อย่าง Amazon, Google, และ Equinix ที่เจอปัญหาในการรักษาเป้าหมายด้านความยั่งยืน และควบคุมต้นทุนจากความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น
    .
    ตอนนี้ในรัฐเท็กซัส ซึ่งตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาร่างกฎหมายที่อาจเพิ่มข้อจำกัดต่อโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และลม ซึ่งจะยิ่งทำให้การขยายโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ยากขึ้น
    .
    https://www.ft.com/content/6821ec83-3a33-4a20-a3c6-152135c8ad57
    รายงานจากเพจเฟซบุ๊กBlognone ระบุว่า อุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ของสหรัฐฯ เตือนว่าการที่รัฐบาล Trump ปราบปรามพลังงานหมุนเวียนอย่างเข้มงวด กำลังขัดขวางการเติบโตของกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ และทำให้สหรัฐฯ เสี่ยงเสียตำแหน่งผู้นำ AI ระดับโลกให้กับจีนได้ . จีนออกมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริม และปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ทันสมัย และการจ่ายพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งตรงข้ามกับสหรัฐฯ ที่ระงับการพัฒนาพลังงานสะอาดบนที่ดินของรัฐบาลกลาง หยุดการปล่อยเงินกู้สำหรับพลังงานสะอาด และยกเลิกโครงการสำคัญ เช่น โครงการพลังงานลมของ Equinor มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ฯ . ดาต้าเซ็นเตอร์จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าที่มั่นคงและมีราคาย่อมเยา ซึ่งพลังงานหมุนเวียนช่วยตอบโจทย์ได้ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากสหรัฐฯ เข้าถึงแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้น้อยลง ดาต้าเซ็นเตอร์อาจเผชิญกับปัญหาขาดแคลนพลังงาน ต้นทุนที่สูงขึ้น ความล่าช้าในการก่อสร้าง และต้องหันมาพึ่งพลังงานฟอสซิลมากขึ้น . แม้โครงการพลังงานก๊าซบางแห่งถูกเร่งดำเนินการ แต่ก็มีต้นทุนสูง และใช้เวลานานกว่าจะสร้างเสร็จ เช่นเดียวกับบิ๊กเทคฯ อย่าง Amazon, Google, และ Equinix ที่เจอปัญหาในการรักษาเป้าหมายด้านความยั่งยืน และควบคุมต้นทุนจากความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น . ตอนนี้ในรัฐเท็กซัส ซึ่งตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาร่างกฎหมายที่อาจเพิ่มข้อจำกัดต่อโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และลม ซึ่งจะยิ่งทำให้การขยายโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ยากขึ้น . https://www.ft.com/content/6821ec83-3a33-4a20-a3c6-152135c8ad57
    WWW.FT.COM
    Donald Trump’s attack on green energy could hurt US in AI race, data centres warn
    Industry needs renewables to meet surging power demand from artificial intelligence
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD กำลังพัฒนา UDNA ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมกราฟิกใหม่ที่รวม RDNA และ CDNA เข้าด้วยกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพของ Ray Tracing และ AI ให้สามารถแข่งขันกับ Nvidia Blackwell ได้

    นักวิเคราะห์พบว่า AMD ได้จดสิทธิบัตรเกี่ยวกับการจัดการ BVH (Bounding Volume Hierarchy) ซึ่งช่วยให้ ลดภาระของ CPU และ VRAM ทำให้สามารถ เรนเดอร์ฉากที่มีวัตถุเคลื่อนไหวและสภาพแวดล้อมที่ถูกทำลายได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า PlayStation 6 อาจใช้เทคโนโลยี UDNA

    ✅ UDNA เป็นการรวม RDNA และ CDNA เข้าด้วยกัน
    - ช่วยให้ การพัฒนา GPU มีความเป็นเอกภาพมากขึ้น
    - อาจช่วยให้ AMD สามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้ดีขึ้น

    ✅ AMD จดสิทธิบัตรเกี่ยวกับ BVH เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ Ray Tracing
    - ลดภาระของ CPU และ VRAM
    - ช่วยให้สามารถ เรนเดอร์ฉากที่มีวัตถุเคลื่อนไหวและสภาพแวดล้อมที่ถูกทำลายได้ดีขึ้น

    ✅ PlayStation 6 อาจใช้เทคโนโลยี UDNA
    - มีข้อมูลว่าการพัฒนา PS6 อาจเกี่ยวข้องกับ AMD UDNA
    - อาจช่วยให้ คอนโซลมีประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่ดีขึ้น

    ✅ เปรียบเทียบกับ Nvidia Blackwell
    - สิทธิบัตรของ AMD ชี้ว่า UDNA อาจมีประสิทธิภาพ Ray Tracing ใกล้เคียงกับ Blackwell
    - อาจสามารถ แข่งขันกับ RTX Mega Geometry ของ Nvidia ได้

    https://www.techpowerup.com/336380/amd-patents-provide-early-udna-insights-blackwell-esque-ray-tracing-performance-could-be-achievable
    AMD กำลังพัฒนา UDNA ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมกราฟิกใหม่ที่รวม RDNA และ CDNA เข้าด้วยกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพของ Ray Tracing และ AI ให้สามารถแข่งขันกับ Nvidia Blackwell ได้ นักวิเคราะห์พบว่า AMD ได้จดสิทธิบัตรเกี่ยวกับการจัดการ BVH (Bounding Volume Hierarchy) ซึ่งช่วยให้ ลดภาระของ CPU และ VRAM ทำให้สามารถ เรนเดอร์ฉากที่มีวัตถุเคลื่อนไหวและสภาพแวดล้อมที่ถูกทำลายได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า PlayStation 6 อาจใช้เทคโนโลยี UDNA ✅ UDNA เป็นการรวม RDNA และ CDNA เข้าด้วยกัน - ช่วยให้ การพัฒนา GPU มีความเป็นเอกภาพมากขึ้น - อาจช่วยให้ AMD สามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้ดีขึ้น ✅ AMD จดสิทธิบัตรเกี่ยวกับ BVH เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ Ray Tracing - ลดภาระของ CPU และ VRAM - ช่วยให้สามารถ เรนเดอร์ฉากที่มีวัตถุเคลื่อนไหวและสภาพแวดล้อมที่ถูกทำลายได้ดีขึ้น ✅ PlayStation 6 อาจใช้เทคโนโลยี UDNA - มีข้อมูลว่าการพัฒนา PS6 อาจเกี่ยวข้องกับ AMD UDNA - อาจช่วยให้ คอนโซลมีประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่ดีขึ้น ✅ เปรียบเทียบกับ Nvidia Blackwell - สิทธิบัตรของ AMD ชี้ว่า UDNA อาจมีประสิทธิภาพ Ray Tracing ใกล้เคียงกับ Blackwell - อาจสามารถ แข่งขันกับ RTX Mega Geometry ของ Nvidia ได้ https://www.techpowerup.com/336380/amd-patents-provide-early-udna-insights-blackwell-esque-ray-tracing-performance-could-be-achievable
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD Patents Provide Early UDNA Insights - "Blackwell-esque" Ray Tracing Performance Could be Achievable
    Last September, AMD leadership publicly revealed UDNA—an "unforking" of previously separate enterprise and commercial GPU branches. Not long after this announcement, TechPowerUp's resident Serbian correspondent—AleksandarK—sat down with Team Red's Andrej Zdravkovic. The Chief Software Officer (and S...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple ถูกศาลอุทธรณ์ในลอนดอนสั่งให้จ่ายเงิน 502 ล้านดอลลาร์ ให้กับ Optis Cellular Technology LLC ซึ่งเป็นบริษัทด้านสิทธิบัตรจากสหรัฐฯ สำหรับการใช้ สิทธิบัตร 4G ในอุปกรณ์ต่างๆ เช่น iPhone และ iPad

    คดีนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2019 เมื่อ Optis ฟ้อง Apple ในลอนดอน โดยอ้างว่า Apple ใช้สิทธิบัตรที่จำเป็นต่อมาตรฐานเทคโนโลยี 4G โดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลสูงของลอนดอนเคยตัดสินให้ Apple จ่ายเงิน 56.43 ล้านดอลลาร์ แต่ Optis มองว่าจำนวนเงินดังกล่าวต่ำเกินไป และยื่นอุทธรณ์

    ศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินให้ Apple ต้องจ่ายเงินก้อนเดียว 502 ล้านดอลลาร์ สำหรับการใช้สิทธิบัตรของ Optis ตั้งแต่ปี 2013 ถึง 2027 ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมสำหรับ ใบอนุญาตระดับโลก

    Apple แสดงความไม่พอใจต่อคำตัดสินนี้ และประกาศว่าจะยื่นอุทธรณ์ โดยระบุว่า Optis ไม่ได้ผลิตสินค้าใดๆ และมีธุรกิจหลักคือการฟ้องร้องบริษัทที่ใช้สิทธิบัตรที่พวกเขาซื้อมา ขณะที่ Optis ยืนยันว่าคำตัดสินนี้ช่วยยืนยันมูลค่าที่แท้จริงของสิทธิบัตรของตน

    ✅ คำตัดสินของศาลอุทธรณ์ลอนดอน
    - Apple ต้องจ่าย 502 ล้านดอลลาร์ ให้ Optis สำหรับการใช้สิทธิบัตร 4G
    - ค่าธรรมเนียมครอบคลุมช่วงปี 2013-2027

    ✅ ประวัติของคดี
    - Optis ฟ้อง Apple ในปี 2019 โดยอ้างว่า Apple ใช้สิทธิบัตร 4G โดยไม่ได้รับอนุญาต
    - ศาลสูงเคยตัดสินให้ Apple จ่าย 56.43 ล้านดอลลาร์ แต่ Optis ยื่นอุทธรณ์

    ✅ ปฏิกิริยาของ Apple และ Optis
    - Apple ไม่พอใจและประกาศว่าจะยื่นอุทธรณ์
    - Optis ยืนยันว่าคำตัดสินช่วยยืนยันมูลค่าที่แท้จริงของสิทธิบัตร

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี
    - คดีนี้อาจส่งผลต่อแนวทางการกำหนดค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/01/apple-must-pay-optis-502-million-lump-sum-in-uk-patent-dispute-court-rules
    Apple ถูกศาลอุทธรณ์ในลอนดอนสั่งให้จ่ายเงิน 502 ล้านดอลลาร์ ให้กับ Optis Cellular Technology LLC ซึ่งเป็นบริษัทด้านสิทธิบัตรจากสหรัฐฯ สำหรับการใช้ สิทธิบัตร 4G ในอุปกรณ์ต่างๆ เช่น iPhone และ iPad คดีนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2019 เมื่อ Optis ฟ้อง Apple ในลอนดอน โดยอ้างว่า Apple ใช้สิทธิบัตรที่จำเป็นต่อมาตรฐานเทคโนโลยี 4G โดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลสูงของลอนดอนเคยตัดสินให้ Apple จ่ายเงิน 56.43 ล้านดอลลาร์ แต่ Optis มองว่าจำนวนเงินดังกล่าวต่ำเกินไป และยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินให้ Apple ต้องจ่ายเงินก้อนเดียว 502 ล้านดอลลาร์ สำหรับการใช้สิทธิบัตรของ Optis ตั้งแต่ปี 2013 ถึง 2027 ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมสำหรับ ใบอนุญาตระดับโลก Apple แสดงความไม่พอใจต่อคำตัดสินนี้ และประกาศว่าจะยื่นอุทธรณ์ โดยระบุว่า Optis ไม่ได้ผลิตสินค้าใดๆ และมีธุรกิจหลักคือการฟ้องร้องบริษัทที่ใช้สิทธิบัตรที่พวกเขาซื้อมา ขณะที่ Optis ยืนยันว่าคำตัดสินนี้ช่วยยืนยันมูลค่าที่แท้จริงของสิทธิบัตรของตน ✅ คำตัดสินของศาลอุทธรณ์ลอนดอน - Apple ต้องจ่าย 502 ล้านดอลลาร์ ให้ Optis สำหรับการใช้สิทธิบัตร 4G - ค่าธรรมเนียมครอบคลุมช่วงปี 2013-2027 ✅ ประวัติของคดี - Optis ฟ้อง Apple ในปี 2019 โดยอ้างว่า Apple ใช้สิทธิบัตร 4G โดยไม่ได้รับอนุญาต - ศาลสูงเคยตัดสินให้ Apple จ่าย 56.43 ล้านดอลลาร์ แต่ Optis ยื่นอุทธรณ์ ✅ ปฏิกิริยาของ Apple และ Optis - Apple ไม่พอใจและประกาศว่าจะยื่นอุทธรณ์ - Optis ยืนยันว่าคำตัดสินช่วยยืนยันมูลค่าที่แท้จริงของสิทธิบัตร ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี - คดีนี้อาจส่งผลต่อแนวทางการกำหนดค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/01/apple-must-pay-optis-502-million-lump-sum-in-uk-patent-dispute-court-rules
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Apple must pay Optis $502 million lump sum in UK patent dispute, court rules
    LONDON (Reuters) -Apple must pay a U.S. patent holder $502 million for the use of 4G patents in devices including iPhones and iPads, London's Court of Appeal ruled on Thursday, in the latest stage of a long-running legal battle.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทย เกิดจากนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 เม.ย. มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทยจากสถานะ “ทรงตัว” เป็น “โน้มลง” ถึงแม้ระดับเรตติ้งจะคงเดิมก็ตาม (Baa1)นักวิเคราะห์บางคนเข้าใจว่า เกิดจากปัจจัยภาษีทรัมป์ ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของรัฐบาล โดยอาจดูจากคำบรรยาย[The already announced US tariffs are likely to weigh significantly on global trade and global economic growth, and which will affect Thailand's open economy. In addition, there remains significant uncertainty as to whether the US will implement additional tariffs on Thailand and other countries, after the 90-day pause elapse.][ภาษีทรัมป์จะกระทบเศรษฐกิจการค้าโลก และจะกระทบไทยเนื่องจากมีการส่งออกมาก รวมทั้งไม่ชัดเจนว่า เมื่อครบ 90 วัน สหรัฐจะยังเก็บภาษีตอบโต้เท่าใด]**แต่ในข้อเท็จจริง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ใช้พิจารณานั้น อยู่ที่นโยบายรัฐบาล ดังเห็นได้ว่า คำอธิบายเหตุผลเริ่มต้นว่า[The decision to change the outlook to negative from stable captures the risks that Thailand's economic and fiscal strength will weaken further.][เหตุผลที่เราลดอันดับ เนื่องจากไทยมีความเสี่ยงทั้งด้านเศรษฐกิจและฐานะการคลังมีแนวโน้มจะเลวลง][This shock exacerbates Thailand's already sluggish economic recovery post-pandemic, and risk aggravating the trend decline in the country's potential growth. Material downward pressures on Thailand's growth raises risks of further weakening in the government's fiscal position, which has already deteriorated since the pandemic.][เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิดอย่างอืดอาด และศักยภาพการเติบโตมีแนวโน้มต่ำลง ซึ่งจะยิ่งทำให้ฐานะการคลังที่อ่อนแออยู่แล้วตั้งแต่โควิด จะเลวลงไปอีก]**นี่เอง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ลดอันดับอนาคตไทย ก็เนื่องจากความเป็นห่วงในฐานะการคลัง **ซึ่งรัฐบาลมีรายจ่ายเกินรายได้ > ทำให้ขาดดุลงบประมาณทุกปี > ประกอบกับรัฐบาลนี้และรัฐบาลก่อนหน้ากู้เงินมาแจกหมื่น > เพื่อกินใช้รายวัน > โดยไม่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน > ถึงแม้ จีดีพีเพิ่มบ้างเล็กน้อยก็เป็นแบบไฟไหม้ฟาง วูบเดียวก็หมดไป**อย่างไรก็ดี มูดี้ส์ ให้คะแนน 3 ปัจจัยบวกหนึ่ง แบงค์ชาติและระบบราชการน่าเชื่อถือ[The affirmation of the Baa1 ratings reflects the country's moderately strong institutions and governance which support sound monetary and macroeconomic policies.][เรายังคงอันดับเครดิตไว้ที่ Baa1 เพราะองค์กรด้านนโยบายการเงินและพัฒนาเศรษฐกิจยังพอจะสามารถประคองความน่าเชื่อถือ]**ผมเพิ่มเติมว่า คือสังคมไทยยังช่วยกันคัดค้านการแทรกแซงที่ไม่ถูกต้องสอง มีการพัฒนาตลาดพันธบัตรดี[The Baal ratings also take into account Thailand's moderately strong debt affordability - despite the sharp increase in government debt since the pandemic - supported by its deep domestic markets and the fact that its government debt is almost entirely denominated in local currency.][และถึงแม้รัฐบาลจะกู้เงินมากแล้วตั้งแต่วิกฤตโควิด ตลาดพันธบัตรไทยได้พัฒนาจนมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับการกู้เพิ่มได้ การที่หนี้สาธารณะเกือบทั้งหมดเป็นสกุลบาท (ทำให้รัฐบาลไม่มีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน)]**ผมเพิ่มเติมว่า บุคคลหลักที่สร้างรากฐานตลาดพันธบัตรไทยคือ 2 อดีตผู้ว่าฯ ม.ร.ว.จตุมงคล และ ม.ร.ว.ปรีดียาธร โดยผมรับลูกในตำแหน่งเลขา ก.ล.ต.สาม มีทุนสำรองมั่นคง[Moreover, Thailand has a strong external position, with ample foreign exchange reserves buffer.][และไทยมีทุนสำรองมากพอ ฐานะหนี้สกุลต่างประเทศต่ำ]ผมจึงขอแนะนำให้รัฐบาลนำข้อวิเคราะห์เหล่านี้ไปปรับปรุงนโยบายเป็นการด่วนวันที่ 30 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทย เกิดจากนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 เม.ย. มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทยจากสถานะ “ทรงตัว” เป็น “โน้มลง” ถึงแม้ระดับเรตติ้งจะคงเดิมก็ตาม (Baa1)นักวิเคราะห์บางคนเข้าใจว่า เกิดจากปัจจัยภาษีทรัมป์ ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของรัฐบาล โดยอาจดูจากคำบรรยาย[The already announced US tariffs are likely to weigh significantly on global trade and global economic growth, and which will affect Thailand's open economy. In addition, there remains significant uncertainty as to whether the US will implement additional tariffs on Thailand and other countries, after the 90-day pause elapse.][ภาษีทรัมป์จะกระทบเศรษฐกิจการค้าโลก และจะกระทบไทยเนื่องจากมีการส่งออกมาก รวมทั้งไม่ชัดเจนว่า เมื่อครบ 90 วัน สหรัฐจะยังเก็บภาษีตอบโต้เท่าใด]**แต่ในข้อเท็จจริง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ใช้พิจารณานั้น อยู่ที่นโยบายรัฐบาล ดังเห็นได้ว่า คำอธิบายเหตุผลเริ่มต้นว่า[The decision to change the outlook to negative from stable captures the risks that Thailand's economic and fiscal strength will weaken further.][เหตุผลที่เราลดอันดับ เนื่องจากไทยมีความเสี่ยงทั้งด้านเศรษฐกิจและฐานะการคลังมีแนวโน้มจะเลวลง][This shock exacerbates Thailand's already sluggish economic recovery post-pandemic, and risk aggravating the trend decline in the country's potential growth. Material downward pressures on Thailand's growth raises risks of further weakening in the government's fiscal position, which has already deteriorated since the pandemic.][เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิดอย่างอืดอาด และศักยภาพการเติบโตมีแนวโน้มต่ำลง ซึ่งจะยิ่งทำให้ฐานะการคลังที่อ่อนแออยู่แล้วตั้งแต่โควิด จะเลวลงไปอีก]**นี่เอง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ลดอันดับอนาคตไทย ก็เนื่องจากความเป็นห่วงในฐานะการคลัง **ซึ่งรัฐบาลมีรายจ่ายเกินรายได้ > ทำให้ขาดดุลงบประมาณทุกปี > ประกอบกับรัฐบาลนี้และรัฐบาลก่อนหน้ากู้เงินมาแจกหมื่น > เพื่อกินใช้รายวัน > โดยไม่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน > ถึงแม้ จีดีพีเพิ่มบ้างเล็กน้อยก็เป็นแบบไฟไหม้ฟาง วูบเดียวก็หมดไป**อย่างไรก็ดี มูดี้ส์ ให้คะแนน 3 ปัจจัยบวกหนึ่ง แบงค์ชาติและระบบราชการน่าเชื่อถือ[The affirmation of the Baa1 ratings reflects the country's moderately strong institutions and governance which support sound monetary and macroeconomic policies.][เรายังคงอันดับเครดิตไว้ที่ Baa1 เพราะองค์กรด้านนโยบายการเงินและพัฒนาเศรษฐกิจยังพอจะสามารถประคองความน่าเชื่อถือ]**ผมเพิ่มเติมว่า คือสังคมไทยยังช่วยกันคัดค้านการแทรกแซงที่ไม่ถูกต้องสอง มีการพัฒนาตลาดพันธบัตรดี[The Baal ratings also take into account Thailand's moderately strong debt affordability - despite the sharp increase in government debt since the pandemic - supported by its deep domestic markets and the fact that its government debt is almost entirely denominated in local currency.][และถึงแม้รัฐบาลจะกู้เงินมากแล้วตั้งแต่วิกฤตโควิด ตลาดพันธบัตรไทยได้พัฒนาจนมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับการกู้เพิ่มได้ การที่หนี้สาธารณะเกือบทั้งหมดเป็นสกุลบาท (ทำให้รัฐบาลไม่มีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน)]**ผมเพิ่มเติมว่า บุคคลหลักที่สร้างรากฐานตลาดพันธบัตรไทยคือ 2 อดีตผู้ว่าฯ ม.ร.ว.จตุมงคล และ ม.ร.ว.ปรีดียาธร โดยผมรับลูกในตำแหน่งเลขา ก.ล.ต.สาม มีทุนสำรองมั่นคง[Moreover, Thailand has a strong external position, with ample foreign exchange reserves buffer.][และไทยมีทุนสำรองมากพอ ฐานะหนี้สกุลต่างประเทศต่ำ]ผมจึงขอแนะนำให้รัฐบาลนำข้อวิเคราะห์เหล่านี้ไปปรับปรุงนโยบายเป็นการด่วนวันที่ 30 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 621 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนังสือเศรษฐศาสตร์ จากแบงค์ชาติ https://www.bot.or.th/content/dam/bot/documents/th/research-and-publications/articles-and-publications/publications/economics-book.pdf
    หนังสือเศรษฐศาสตร์ จากแบงค์ชาติ https://www.bot.or.th/content/dam/bot/documents/th/research-and-publications/articles-and-publications/publications/economics-book.pdf
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts