เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อบทสนทนาส่วนตัวกับ ChatGPT กลายเป็นสาธารณะใน Google โดยไม่รู้ตัว
ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2025 ผู้ใช้ ChatGPT หลายพันคนต้องตกใจเมื่อพบว่าบทสนทนาส่วนตัวของตนปรากฏในผลการค้นหาของ Google โดยไม่ตั้งใจ สาเหตุเกิดจากฟีเจอร์ “แชร์บทสนทนา” ที่มีตัวเลือกให้ “ทำให้ค้นหาได้” ซึ่งแม้จะต้องกดยืนยันเอง แต่ข้อความอธิบายกลับคลุมเครือและไม่ชัดเจน
Fast Company พบว่ามีบทสนทนากว่า 4,500 รายการที่ถูกจัดทำเป็นลิงก์สาธารณะ และถูก Google ดึงไปแสดงในผลการค้นหา โดยบางบทสนทนาเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ เมืองที่อยู่ อีเมล หรือแม้แต่เรื่องราวส่วนตัวอย่างความวิตกกังวล การเสพติด ความรุนแรงในครอบครัว และปัญหาความสัมพันธ์
แม้จะไม่มีการเปิดเผยตัวตนโดยตรง แต่เนื้อหาในบทสนทนาเพียงพอที่จะระบุตัวบุคคลได้ในบางกรณี
OpenAI ได้ลบฟีเจอร์นี้ออกทันที พร้อมดำเนินการให้ Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ ลบข้อมูลออกจากดัชนี แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการแคชหน้าเว็บที่อาจยังคงอยู่
ฟีเจอร์ “แชร์บทสนทนา” ของ ChatGPT ทำให้บทสนทนาส่วนตัวปรากฏใน Google Search
ผู้ใช้ต้องกดยืนยัน “ทำให้ค้นหาได้” แต่คำอธิบายไม่ชัดเจน
มีบทสนทนากว่า 4,500 รายการถูกค้นพบโดย Fast Company
เนื้อหาที่หลุดออกมามีข้อมูลส่วนตัวและเรื่องราวที่ละเอียดอ่อน
เช่น ความวิตกกังวล การเสพติด ปัญหาครอบครัว และความสัมพันธ์
บางบทสนทนาเผยชื่อ เมืองที่อยู่ และข้อมูลติดต่อ
OpenAI ลบฟีเจอร์ทันทีและดำเนินการให้ลบข้อมูลออกจากเครื่องมือค้นหา
ระบุว่าเป็น “การทดลองระยะสั้น” เพื่อให้ผู้คนค้นหาบทสนทนาที่มีประโยชน์
กำลังดำเนินการลบข้อมูลจากดัชนีของ Google
ผู้ใช้สามารถจัดการลิงก์ที่แชร์ได้ผ่าน Shared Links Dashboard
แต่การลบลิงก์ไม่รับประกันว่าข้อมูลจะหายจาก Google ทันที
หน้าแคชอาจยังคงอยู่ในระบบของเครื่องมือค้นหา
กรณีนี้เกิดขึ้นหลังจากศาลสหรัฐฯ สั่งให้ OpenAI เก็บบันทึกบทสนทนาไว้ทั้งหมด
เพื่อใช้ในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์
ทีมกฎหมายสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป
การแชร์บทสนทนาโดยไม่เข้าใจเงื่อนไขอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวหลุดสู่สาธารณะ
โดยเฉพาะเมื่อมีชื่อ อีเมล หรือข้อมูลบริษัทในบทสนทนา
แม้จะลบลิงก์แล้ว ข้อมูลอาจยังอยู่ใน Google ผ่านหน้าแคช
การใช้ ChatGPT เป็นพื้นที่ระบายอารมณ์หรือพูดคุยเรื่องส่วนตัวอาจไม่ปลอดภัย
ผู้ใช้บางรายใช้ ChatGPT เหมือนสมุดบันทึกส่วนตัว
แต่ระบบไม่ได้ออกแบบมาเพื่อความเป็นส่วนตัวระดับนั้น
บริษัทที่ใช้ ChatGPT ในการพัฒนาไอเดียหรือกลยุทธ์อาจเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล
เช่น การเขียนโค้ด การประชุม หรือแผนการตลาด
ข้อมูลภายในอาจถูกเผยแพร่โดยไม่ตั้งใจ
การเข้าใจผิดเกี่ยวกับฟีเจอร์ “แชร์” อาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัวโดยไม่รู้ตัว
ผู้ใช้บางรายคิดว่าลิงก์จะถูกส่งให้เฉพาะคนที่ตั้งใจ
แต่จริง ๆ แล้วลิงก์นั้นสามารถถูกค้นเจอได้โดยทุกคน
https://www.techspot.com/news/108911-thousands-private-chatgpt-conversations-found-google-search-after.html
ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2025 ผู้ใช้ ChatGPT หลายพันคนต้องตกใจเมื่อพบว่าบทสนทนาส่วนตัวของตนปรากฏในผลการค้นหาของ Google โดยไม่ตั้งใจ สาเหตุเกิดจากฟีเจอร์ “แชร์บทสนทนา” ที่มีตัวเลือกให้ “ทำให้ค้นหาได้” ซึ่งแม้จะต้องกดยืนยันเอง แต่ข้อความอธิบายกลับคลุมเครือและไม่ชัดเจน
Fast Company พบว่ามีบทสนทนากว่า 4,500 รายการที่ถูกจัดทำเป็นลิงก์สาธารณะ และถูก Google ดึงไปแสดงในผลการค้นหา โดยบางบทสนทนาเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ เมืองที่อยู่ อีเมล หรือแม้แต่เรื่องราวส่วนตัวอย่างความวิตกกังวล การเสพติด ความรุนแรงในครอบครัว และปัญหาความสัมพันธ์
แม้จะไม่มีการเปิดเผยตัวตนโดยตรง แต่เนื้อหาในบทสนทนาเพียงพอที่จะระบุตัวบุคคลได้ในบางกรณี
OpenAI ได้ลบฟีเจอร์นี้ออกทันที พร้อมดำเนินการให้ Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ ลบข้อมูลออกจากดัชนี แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการแคชหน้าเว็บที่อาจยังคงอยู่
ฟีเจอร์ “แชร์บทสนทนา” ของ ChatGPT ทำให้บทสนทนาส่วนตัวปรากฏใน Google Search
ผู้ใช้ต้องกดยืนยัน “ทำให้ค้นหาได้” แต่คำอธิบายไม่ชัดเจน
มีบทสนทนากว่า 4,500 รายการถูกค้นพบโดย Fast Company
เนื้อหาที่หลุดออกมามีข้อมูลส่วนตัวและเรื่องราวที่ละเอียดอ่อน
เช่น ความวิตกกังวล การเสพติด ปัญหาครอบครัว และความสัมพันธ์
บางบทสนทนาเผยชื่อ เมืองที่อยู่ และข้อมูลติดต่อ
OpenAI ลบฟีเจอร์ทันทีและดำเนินการให้ลบข้อมูลออกจากเครื่องมือค้นหา
ระบุว่าเป็น “การทดลองระยะสั้น” เพื่อให้ผู้คนค้นหาบทสนทนาที่มีประโยชน์
กำลังดำเนินการลบข้อมูลจากดัชนีของ Google
ผู้ใช้สามารถจัดการลิงก์ที่แชร์ได้ผ่าน Shared Links Dashboard
แต่การลบลิงก์ไม่รับประกันว่าข้อมูลจะหายจาก Google ทันที
หน้าแคชอาจยังคงอยู่ในระบบของเครื่องมือค้นหา
กรณีนี้เกิดขึ้นหลังจากศาลสหรัฐฯ สั่งให้ OpenAI เก็บบันทึกบทสนทนาไว้ทั้งหมด
เพื่อใช้ในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์
ทีมกฎหมายสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป
การแชร์บทสนทนาโดยไม่เข้าใจเงื่อนไขอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวหลุดสู่สาธารณะ
โดยเฉพาะเมื่อมีชื่อ อีเมล หรือข้อมูลบริษัทในบทสนทนา
แม้จะลบลิงก์แล้ว ข้อมูลอาจยังอยู่ใน Google ผ่านหน้าแคช
การใช้ ChatGPT เป็นพื้นที่ระบายอารมณ์หรือพูดคุยเรื่องส่วนตัวอาจไม่ปลอดภัย
ผู้ใช้บางรายใช้ ChatGPT เหมือนสมุดบันทึกส่วนตัว
แต่ระบบไม่ได้ออกแบบมาเพื่อความเป็นส่วนตัวระดับนั้น
บริษัทที่ใช้ ChatGPT ในการพัฒนาไอเดียหรือกลยุทธ์อาจเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล
เช่น การเขียนโค้ด การประชุม หรือแผนการตลาด
ข้อมูลภายในอาจถูกเผยแพร่โดยไม่ตั้งใจ
การเข้าใจผิดเกี่ยวกับฟีเจอร์ “แชร์” อาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัวโดยไม่รู้ตัว
ผู้ใช้บางรายคิดว่าลิงก์จะถูกส่งให้เฉพาะคนที่ตั้งใจ
แต่จริง ๆ แล้วลิงก์นั้นสามารถถูกค้นเจอได้โดยทุกคน
https://www.techspot.com/news/108911-thousands-private-chatgpt-conversations-found-google-search-after.html
🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อบทสนทนาส่วนตัวกับ ChatGPT กลายเป็นสาธารณะใน Google โดยไม่รู้ตัว
ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2025 ผู้ใช้ ChatGPT หลายพันคนต้องตกใจเมื่อพบว่าบทสนทนาส่วนตัวของตนปรากฏในผลการค้นหาของ Google โดยไม่ตั้งใจ สาเหตุเกิดจากฟีเจอร์ “แชร์บทสนทนา” ที่มีตัวเลือกให้ “ทำให้ค้นหาได้” ซึ่งแม้จะต้องกดยืนยันเอง แต่ข้อความอธิบายกลับคลุมเครือและไม่ชัดเจน
Fast Company พบว่ามีบทสนทนากว่า 4,500 รายการที่ถูกจัดทำเป็นลิงก์สาธารณะ และถูก Google ดึงไปแสดงในผลการค้นหา โดยบางบทสนทนาเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ เมืองที่อยู่ อีเมล หรือแม้แต่เรื่องราวส่วนตัวอย่างความวิตกกังวล การเสพติด ความรุนแรงในครอบครัว และปัญหาความสัมพันธ์
แม้จะไม่มีการเปิดเผยตัวตนโดยตรง แต่เนื้อหาในบทสนทนาเพียงพอที่จะระบุตัวบุคคลได้ในบางกรณี
OpenAI ได้ลบฟีเจอร์นี้ออกทันที พร้อมดำเนินการให้ Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ ลบข้อมูลออกจากดัชนี แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการแคชหน้าเว็บที่อาจยังคงอยู่
✅ ฟีเจอร์ “แชร์บทสนทนา” ของ ChatGPT ทำให้บทสนทนาส่วนตัวปรากฏใน Google Search
➡️ ผู้ใช้ต้องกดยืนยัน “ทำให้ค้นหาได้” แต่คำอธิบายไม่ชัดเจน
➡️ มีบทสนทนากว่า 4,500 รายการถูกค้นพบโดย Fast Company
✅ เนื้อหาที่หลุดออกมามีข้อมูลส่วนตัวและเรื่องราวที่ละเอียดอ่อน
➡️ เช่น ความวิตกกังวล การเสพติด ปัญหาครอบครัว และความสัมพันธ์
➡️ บางบทสนทนาเผยชื่อ เมืองที่อยู่ และข้อมูลติดต่อ
✅ OpenAI ลบฟีเจอร์ทันทีและดำเนินการให้ลบข้อมูลออกจากเครื่องมือค้นหา
➡️ ระบุว่าเป็น “การทดลองระยะสั้น” เพื่อให้ผู้คนค้นหาบทสนทนาที่มีประโยชน์
➡️ กำลังดำเนินการลบข้อมูลจากดัชนีของ Google
✅ ผู้ใช้สามารถจัดการลิงก์ที่แชร์ได้ผ่าน Shared Links Dashboard
➡️ แต่การลบลิงก์ไม่รับประกันว่าข้อมูลจะหายจาก Google ทันที
➡️ หน้าแคชอาจยังคงอยู่ในระบบของเครื่องมือค้นหา
✅ กรณีนี้เกิดขึ้นหลังจากศาลสหรัฐฯ สั่งให้ OpenAI เก็บบันทึกบทสนทนาไว้ทั้งหมด
➡️ เพื่อใช้ในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์
➡️ ทีมกฎหมายสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป
‼️ การแชร์บทสนทนาโดยไม่เข้าใจเงื่อนไขอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวหลุดสู่สาธารณะ
⛔ โดยเฉพาะเมื่อมีชื่อ อีเมล หรือข้อมูลบริษัทในบทสนทนา
⛔ แม้จะลบลิงก์แล้ว ข้อมูลอาจยังอยู่ใน Google ผ่านหน้าแคช
‼️ การใช้ ChatGPT เป็นพื้นที่ระบายอารมณ์หรือพูดคุยเรื่องส่วนตัวอาจไม่ปลอดภัย
⛔ ผู้ใช้บางรายใช้ ChatGPT เหมือนสมุดบันทึกส่วนตัว
⛔ แต่ระบบไม่ได้ออกแบบมาเพื่อความเป็นส่วนตัวระดับนั้น
‼️ บริษัทที่ใช้ ChatGPT ในการพัฒนาไอเดียหรือกลยุทธ์อาจเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล
⛔ เช่น การเขียนโค้ด การประชุม หรือแผนการตลาด
⛔ ข้อมูลภายในอาจถูกเผยแพร่โดยไม่ตั้งใจ
‼️ การเข้าใจผิดเกี่ยวกับฟีเจอร์ “แชร์” อาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัวโดยไม่รู้ตัว
⛔ ผู้ใช้บางรายคิดว่าลิงก์จะถูกส่งให้เฉพาะคนที่ตั้งใจ
⛔ แต่จริง ๆ แล้วลิงก์นั้นสามารถถูกค้นเจอได้โดยทุกคน
https://www.techspot.com/news/108911-thousands-private-chatgpt-conversations-found-google-search-after.html
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
56 มุมมอง
0 รีวิว