• ข้อมูลหุ้นไทย คัดกรองสำหรับเทรด ลงทุน
    อัพเดตเป็นประจำ ดูต่อได้ที่…

    #หุ้นไทย
    #SET
    #sSET
    ข้อมูลหุ้นไทย คัดกรองสำหรับเทรด ลงทุน อัพเดตเป็นประจำ ดูต่อได้ที่… #หุ้นไทย #SET #sSET
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ประเทศไทยเราเองก็อาจเดินตามอเมริกาเช่นกัน,สูติบัตรเราคือการค้ำประกันหนี้แก่ประเทศไทย ,คือคนไทยทุกๆคนมีค่าตัวตั้งแต่เกืดมาทันทีหรือมีมูลค่าทันที,เพราะคนไทยคือทรัพย์สินมิใช่สิ่งมีชีวิต,ทาสก็ว่า เทียบใบหุ้นใบหนึ่งหรือตราสารหนี้ระดับชาติโดยค้ำประกันหนี้จากคนไทย,เพราะคนไทยคือแหล่งค้ำประกันหนี้คือสูติบัตรเราอ้างสมมุติไปทำแทนตัวเป็นๆ,อเมริกาสูติบัตรเขามีมูลค่าเป็นล้านเหรียญและปั่นจนกว่าพันล้านเหรียญ,คนไทยก็คงเช่นกันปั่นกว่าพันล้านถึงหมื่นล้านบาทแน่ๆต่อสูติบัตร1คน,ยิ่งมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ มีมูลน่าเชื่อได้,รัฐฐะทั่วโลกฝ่ายอีลิทชนชั้นสูงยึดปกครองหมด แน่นอนมันต้องวางหมากวางนโยบายปั่นตีตรามูลค่าสูติบัตรเป็นนโยบายหลักบังคับใช้ในทุกๆประเทศทั่วโลกที่มันปกครอง ไม่เว้นแม้แต่ไทยด้วย,ธนาคารมันอีลิทก็ต้นคิดก่อตั้งแม้ในไทยก็ด้วย,ตลาดหุ้นในไทยมันเองอีกที่ก่อการหัวคิดก่อตั้งในไทยให้ขี้ข้าสมุนรับใช้ในไทยเดินเนื้องานลงหน้างานดำเนินการเปิดให้ได้,พะสาสูติบัตรแน่นอนมันสร้างมูลลค่าแน่ๆและยิ่งฝ่ายดีถ้ามีและคิดอ่านทำอีก แสดงว่าฝ่ายไม่ดียิ่งเหี้ย หามุกโกงแดกฝ่ายดีที่ตั้งราคาหัวสูติบัตรคนบนโลกไว้,ฝ่ายไม่ดีอาสาทำงานให้ฝ่ายดีก็ว่า ,โดยขณะทำงานก็คตโกงสร้างมุกต่างๆวางหมากวางสนุ๊คต่างๆโกงตังชาวโลกก็ว่าในกองทุนกลางของโลกฝ่ายดีที่โอนตังให้ชาวโลกใช้หรือตั้งมูลค่าตังไว้แล้วว่าตลอดการเกิดถึงตาย คนแต่ละน่าจะใช้จ่ายตังดำรงชีพจนถึงตายคงประมาณนี้ ร้อยล้านพันล้านก็ว่าไป,พวกฝ่ายไม่ดีก็ล้างสมองมิให้เรารับรู้ผ่านผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆอย่าเปิดปากบอกคนพวกนี้นะก็ว่า,ก็เปิดธนาคาร ปล่อยกู้โดยเอาตังเราๆนั้นล่ะมาปล่อย กินสองทาง ทางตรงแดกจากกองทุนเช่นซื้อบ้านจ่าย10ล้าน กองทุนจ่ายทันที10ล้านโดยเราไม่รู้หรือหักผ่านกองทุนเราใครมันแต่ละคนที่ส่วนกลางกำหนดไว้แล้วอาทิคนละ1หมื่นล้านบาทในไทย หักอัตโนมัติซื้อบ้านที่ดินรถนั้นนี้โน้นตลอดชีพผ่านกองทุนใครมัน,แต่รัฐฐะที่ปกครองล้มเหลวผิดพลาดหมายแดก เสือกมิให้คนไทยรับรู้,หอบตังเหมารวมว่าเองอาจกว่าล้านล้านล้านบาท จากนั้นกระจายให้อีลิทกิจการขี้ข้าทาสซาตานเครือข่ายเต็มไทยไปทำ แบบแบงค์ก็ปล่อยกู้ กิน2ต่อ ต่อที่1กินจากทางตรงของกองทุนที่ว่า,ต่อที่2กินจากคนไทยคนนั้นล่ะมาซื้อมาผ่อนมาจ่ายค่าดาวน์ค่าผ่อนในอนาคตตลอด30ปีหรือกว่า50ปีที่ทำในสัญญาณผ่อนกับแบงค์ในค่าผ่อนน้อยๆใครผ่อนมากๆเดือนละ4-5หมื่นอาจหมด3-4ปีก็หมดหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินที่ซื้อผ่อนกับแบงค์,ทั้งที่จริงๆรัฐฐะที่ดีหากทำถูกตรง ประชาชนจะไม่เสียตังอะไรใดๆโดยรัฐฐะจ่ายตรงหักผ่านกองทุนที่รัฐฐะดูแลบัญชีกองทุนแทนบุคคลนั้นๆทันที,ไม่อุ๊บอิ๊บกินเองร่วมกับเอกชนเครือข่ายฝ่ายไม่ดีก็ว่า,
    ..สูติบัตรเรามีมูลค่าแต่ฝ่ายไม่ดีมาปล้นมาชิงเอาไปจากความไม่รู้ของคนทั้งโลก นำโดยผู้นำผู้ปกครองในประเทศนั้นๆสมคบคิดกับโจรเหล่านี้ด้วย.
    ..คนไทยร่ำรวยเลยถ้าจริงแบบนี้,บ่อน้ำมันบ่อทองคำจะเสมือนเพียงตัวหลอก จริงๆอาจคือสมบัติร่วมสร้างโลกพัฒนาโลกวิวัฒนาการโลกไปทางดีงานแบ่งปันช่วยเหลือกันและกันหรือซึ่งกันและกันได้สบาย,ผลิตเกินส่วนไหน สามารถเอาส่วนเกินนั้นส่งไปช่วยเหลือพื้นที่ตรงจุดของโลกส่วนอื่นๆที่ผู้คนชาวโลกเรายังขาดแคลนได้เช่นอาหารการกินต่างๆพืชผักผลไม้ ไม่ต้องทำลายทิังได้ เผลอส่งเสริมการแลกเปลี่ยนซื้อขายต่อกันและกันในราคามิตรภาพอีก.

    .
    รัฐบาลใหญ่
    เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย!


    โดย เมเดีย กรีเร่14 เมษายน 2568อัปเดต:19 พฤษภาคม 256849
    เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย!

    พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงแล้วหรือยัง? ป่วยจากการโกหก? เข้าร่วมกับเรา ช่องโทรเลข ตอนนี้ ถึงเวลาสําหรับเรื่องจริง! ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน!

    หมายเหตุบรรณาธิการ: ข้อมูลที่แบ่งปันในเนื้อหานี้มีต้นกําเนิดมาจาก เรดดิต, วิกิพีเดีย และ X เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ขับเคลื่อนโดยชุมชนและสร้างขึ้นโดยผู้ใช้ จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้ ฉันเพียงแบ่งปันเนื้อหานี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและไม่อ้างสิทธิ์การประพันธ์หรือความรับผิดชอบต่อเนื้อหา

    สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงเอกสาร—มันเป็น พันธบัตรมูลค่าหลายล้าน ซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ! รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเจ้าของคุณตั้งแต่แรกเกิด ตื่น และเรียนรู้ว่าคุณถูกขาย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และ ทาส! อ่านตอนนี้ก่อนที่พวกเขาจะฝังความจริง!


    สูติบัตรของคุณ: การหลอกลวงขั้นสูงสุด – วิธีที่คุณถูกซื้อและขายตั้งแต่แรกเกิด
    โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นของทาสยุคใหม่- ตื่น! ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเข้าสู่โลกนี้ คุณตกเป็นทาส คุณไม่ยินยอม คุณไม่ได้รับทางเลือก คุณผูกพันกับระบบที่ทุจริตและร้ายกาจมากจนทําให้การดํารงอยู่ของคุณกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ นี่ไม่ใช่การคาดเดา นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการบันทึกไว้และปฏิเสธไม่ได้
    สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงบันทึก —it เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของ คุณไม่ใช่บุคคลที่เป็นอิสระภายใต้กฎหมาย คุณเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นทรัพย์สินชิ้นหนึ่งในเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่ออกแบบมาเพื่อ ใช้ประโยชน์จากคุณ


    สูติบัตรของคุณ: การแสดงความเป็นเจ้าของขององค์กร
    เคยสงสัยไหมว่าทําไมคุณถึงต้องมีสูติบัตร? คิดดูสิ เมื่อเรือมาถึงท่าเรือ ก ใบรับรองรายการ ออกให้เพื่อจัดทําเอกสารสินค้า และเมื่อคุณเกิด คุณได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสินค้า มีการออกสูติบัตร—NOT เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความยินดี แต่เป็นสัญญาการเป็นเจ้าของ
    คุณเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ รัฐไม่เห็นคุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอํานาจอธิปไตย คุณเป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้สร้างความมั่งคั่งให้กับชนชั้นสูง เหล่านั้น หมายเลขซีเรียลสีแดง ในสูติบัตรของคุณ? เป็นหมายเลขตลาดหลักทรัพย์ เป็นตัวเลขที่เชื่อมโยงกับหลักทรัพย์ที่ซื้อขายบน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก● การดํารงอยู่ของคุณสร้างรายได้แล้ว



    พันธบัตรสูติบัตร: มีมูลค่านับพันล้านและคุณเป็นทาส
    คุณรู้ไหมว่าสูติบัตรของคุณถูกสร้างเป็นพันธบัตรมูลค่าหลายพันล้าน?!
    หากคุณสงสัยว่าพันธบัตรสูติบัตรคืออะไรขอให้ชัดเจน: คุณคือมัน คุณได้รับคํามั่นสัญญาว่าจะเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศนี้—A หนี้ที่จะไม่มีวันจ่าย
    เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลายในปี พ.ศ.2476 ให้คํามั่นว่าจะเป็นคนอเมริกันทุกคน เป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ
    ประธานาธิบดีรูสเวลต์ โดยทาง คําสั่งผู้บริหาร 6073, 6102, 6111 และ 6260, ประกาศให้ประเทศล้มละลายและยึด ALL GOLD ความสามารถของประชาชนในการชําระหนี้ของตนเองถูกลบออกไปอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว [ดู: รายงานของวุฒิสภา 93-549, หน้า 187 และ 594 ภายใต้ “Trading With The Enemy Act.”]



    แต่รัฐบาลต้องจัดให้มี วิธีการใหม่ ของการชําระเงิน—สิ่งที่ไม่ต้องพึ่งพาทองคํา แต่พวกเขาสร้างระบบที่เรียกว่า การยกเว้น
    ได้รับการยกเว้นจากอะไร? ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายอะไรเลย!
    ในทางปฏิบัติ นั่นหมายความว่าชาวอเมริกันทุกคนต้องได้รับ บางสิ่งบางอย่าง เพื่อชําระเงินด้วย—AND ว่าบางสิ่งคือเครดิตของคุณ
    คุณค่าของคุณต่อสังคมคํานวณโดยใช้ตารางคณิตศาสตร์ประกันภัย เมื่อแรกเกิด, พันธบัตรที่เท่ากับค่าเฉลี่ย “นี้ ” ถูกสร้างขึ้นและยังคงถูกสร้างขึ้น
    ทําความเข้าใจสิ่งนี้: ปัจจุบันพันธบัตรสูติบัตรของคุณคาดว่าจะมีมูลค่าระหว่างหนึ่งถึงสองล้านดอลลาร์
    พันธบัตรเหล่านี้ค้ําประกันโดยสูติบัตรของคุณ และเปลี่ยนเป็น ตราสารเปลี่ยนมือได้● พวกเขาถูกสมมุติฐานและซื้อขาย ซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนกว่ามูลค่าของพวกมันจะไม่จํากัด


    เครดิตทั้งหมดนั้นเป็นของคุณในทางเทคนิคและถูกต้อง
    ในความเป็นจริง, คุณควรจะสามารถเดินเข้าไปในร้านค้าใด ๆ, รับสิ่งที่คุณต้องการ และบอกให้พนักงานเรียกเก็บเงินเข้าบัญชียกเว้นของคุณ
    บัญชีการยกเว้นนั้นจะถูกระบุโดย หมายเลขเก้าหลัก—หมายเลขประกันสังคมของคุณโดยไม่มีขีดกลาง
    หมายเลขนั้นเป็นของคุณ EIN (หมายเลขประจําตัวการยกเว้น)
    นี่คือความจริงที่เก็บไว้จากคุณมาตลอดชีวิต


    CERTIFICATE = ความเป็นเจ้าของ: การหลอกลวงทางกฎหมาย
    ก ใบรับรอง คือเอกสารกรรมสิทธิ์ ก ใบรับรองหุ้น หมายถึงความเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัท ก ใบรับรองที่ดิน หมายถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
    และคุณ สูติบัตร แสดงถึงความเป็นเจ้าของของคุณ
    รัฐบาลไม่ได้มองว่าพลเมืองเป็นบุคคลที่มีสิทธิโดยธรรมชาติ พวกเขามองว่าคุณเป็น ASSET— สิ่งที่ต้องเสียภาษี ติดตาม และควบคุม สูติบัตรทุกใบแสดงถึง เครื่องมือทางการเงิน ใช้ค้ําประกันหนี้ นี่คือรากฐานของเรือนจําเศรษฐกิจที่กดขี่คุณ


    ความไว้วางใจสูติบัตร: อธิบายความเป็นทาสทางเศรษฐกิจ
    อดีตประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ยอมรับความจริงด้วยคําพูดของเขาเอง:
    “เร็วๆ นี้ ชาวอเมริกันทุกคนจะต้องลงทะเบียนทรัพย์สินทางชีวภาพของตนในระบบระดับชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตามผู้คน และจะดําเนินการภายใต้ระบบคํามั่นสัญญาแบบโบราณ ด้วยวิธีการดังกล่าว เราสามารถบังคับให้ผู้คนส่งวาระการประชุมของเรา ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของเราในฐานะการคืนเงินสําหรับสกุลเงินกระดาษ FIAT ของเรา ชาวอเมริกันทุกคนจะถูกบังคับให้ลงทะเบียน หรือประสบ...”
    นี่คือเกม คุณเป็น ให้คํามั่นไว้แต่กําเนิด เพื่อเติมพลังให้กับเครื่องจักรทางการเงินของรัฐบาล


    คําเตือนสุดท้าย: ตื่นหรือยังคงเป็นทาส
    นี่ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว นี่มันเกี่ยวกับ ชีวิตของคุณ อิสรภาพของคุณ และอนาคตของคุณ● ระบบสูติบัตรคือ การหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์● มันได้เปลี่ยนทุกชีวิตให้กลายเป็น ทาสหนี้●
    คุณเกิดมาอย่างอิสระ แต่คุณเป็น ตีตราและจําหน่าย ก่อนที่คุณจะพูดได้
    ทางเลือกเป็นของคุณ คุณยังคงเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในระบบของพวกเขาหรือไม่? หรือคุณยึดอํานาจของคุณกลับคืนมาและทวงคืนอํานาจอธิปไตยของคุณ?
    ถึงเวลาที่จะต่อสู้กลับแล้ว!

    ..
    ..ประเทศไทยเราเองก็อาจเดินตามอเมริกาเช่นกัน,สูติบัตรเราคือการค้ำประกันหนี้แก่ประเทศไทย ,คือคนไทยทุกๆคนมีค่าตัวตั้งแต่เกืดมาทันทีหรือมีมูลค่าทันที,เพราะคนไทยคือทรัพย์สินมิใช่สิ่งมีชีวิต,ทาสก็ว่า เทียบใบหุ้นใบหนึ่งหรือตราสารหนี้ระดับชาติโดยค้ำประกันหนี้จากคนไทย,เพราะคนไทยคือแหล่งค้ำประกันหนี้คือสูติบัตรเราอ้างสมมุติไปทำแทนตัวเป็นๆ,อเมริกาสูติบัตรเขามีมูลค่าเป็นล้านเหรียญและปั่นจนกว่าพันล้านเหรียญ,คนไทยก็คงเช่นกันปั่นกว่าพันล้านถึงหมื่นล้านบาทแน่ๆต่อสูติบัตร1คน,ยิ่งมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ มีมูลน่าเชื่อได้,รัฐฐะทั่วโลกฝ่ายอีลิทชนชั้นสูงยึดปกครองหมด แน่นอนมันต้องวางหมากวางนโยบายปั่นตีตรามูลค่าสูติบัตรเป็นนโยบายหลักบังคับใช้ในทุกๆประเทศทั่วโลกที่มันปกครอง ไม่เว้นแม้แต่ไทยด้วย,ธนาคารมันอีลิทก็ต้นคิดก่อตั้งแม้ในไทยก็ด้วย,ตลาดหุ้นในไทยมันเองอีกที่ก่อการหัวคิดก่อตั้งในไทยให้ขี้ข้าสมุนรับใช้ในไทยเดินเนื้องานลงหน้างานดำเนินการเปิดให้ได้,พะสาสูติบัตรแน่นอนมันสร้างมูลลค่าแน่ๆและยิ่งฝ่ายดีถ้ามีและคิดอ่านทำอีก แสดงว่าฝ่ายไม่ดียิ่งเหี้ย หามุกโกงแดกฝ่ายดีที่ตั้งราคาหัวสูติบัตรคนบนโลกไว้,ฝ่ายไม่ดีอาสาทำงานให้ฝ่ายดีก็ว่า ,โดยขณะทำงานก็คตโกงสร้างมุกต่างๆวางหมากวางสนุ๊คต่างๆโกงตังชาวโลกก็ว่าในกองทุนกลางของโลกฝ่ายดีที่โอนตังให้ชาวโลกใช้หรือตั้งมูลค่าตังไว้แล้วว่าตลอดการเกิดถึงตาย คนแต่ละน่าจะใช้จ่ายตังดำรงชีพจนถึงตายคงประมาณนี้ ร้อยล้านพันล้านก็ว่าไป,พวกฝ่ายไม่ดีก็ล้างสมองมิให้เรารับรู้ผ่านผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆอย่าเปิดปากบอกคนพวกนี้นะก็ว่า,ก็เปิดธนาคาร ปล่อยกู้โดยเอาตังเราๆนั้นล่ะมาปล่อย กินสองทาง ทางตรงแดกจากกองทุนเช่นซื้อบ้านจ่าย10ล้าน กองทุนจ่ายทันที10ล้านโดยเราไม่รู้หรือหักผ่านกองทุนเราใครมันแต่ละคนที่ส่วนกลางกำหนดไว้แล้วอาทิคนละ1หมื่นล้านบาทในไทย หักอัตโนมัติซื้อบ้านที่ดินรถนั้นนี้โน้นตลอดชีพผ่านกองทุนใครมัน,แต่รัฐฐะที่ปกครองล้มเหลวผิดพลาดหมายแดก เสือกมิให้คนไทยรับรู้,หอบตังเหมารวมว่าเองอาจกว่าล้านล้านล้านบาท จากนั้นกระจายให้อีลิทกิจการขี้ข้าทาสซาตานเครือข่ายเต็มไทยไปทำ แบบแบงค์ก็ปล่อยกู้ กิน2ต่อ ต่อที่1กินจากทางตรงของกองทุนที่ว่า,ต่อที่2กินจากคนไทยคนนั้นล่ะมาซื้อมาผ่อนมาจ่ายค่าดาวน์ค่าผ่อนในอนาคตตลอด30ปีหรือกว่า50ปีที่ทำในสัญญาณผ่อนกับแบงค์ในค่าผ่อนน้อยๆใครผ่อนมากๆเดือนละ4-5หมื่นอาจหมด3-4ปีก็หมดหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินที่ซื้อผ่อนกับแบงค์,ทั้งที่จริงๆรัฐฐะที่ดีหากทำถูกตรง ประชาชนจะไม่เสียตังอะไรใดๆโดยรัฐฐะจ่ายตรงหักผ่านกองทุนที่รัฐฐะดูแลบัญชีกองทุนแทนบุคคลนั้นๆทันที,ไม่อุ๊บอิ๊บกินเองร่วมกับเอกชนเครือข่ายฝ่ายไม่ดีก็ว่า, ..สูติบัตรเรามีมูลค่าแต่ฝ่ายไม่ดีมาปล้นมาชิงเอาไปจากความไม่รู้ของคนทั้งโลก นำโดยผู้นำผู้ปกครองในประเทศนั้นๆสมคบคิดกับโจรเหล่านี้ด้วย. ..คนไทยร่ำรวยเลยถ้าจริงแบบนี้,บ่อน้ำมันบ่อทองคำจะเสมือนเพียงตัวหลอก จริงๆอาจคือสมบัติร่วมสร้างโลกพัฒนาโลกวิวัฒนาการโลกไปทางดีงานแบ่งปันช่วยเหลือกันและกันหรือซึ่งกันและกันได้สบาย,ผลิตเกินส่วนไหน สามารถเอาส่วนเกินนั้นส่งไปช่วยเหลือพื้นที่ตรงจุดของโลกส่วนอื่นๆที่ผู้คนชาวโลกเรายังขาดแคลนได้เช่นอาหารการกินต่างๆพืชผักผลไม้ ไม่ต้องทำลายทิังได้ เผลอส่งเสริมการแลกเปลี่ยนซื้อขายต่อกันและกันในราคามิตรภาพอีก. . รัฐบาลใหญ่ เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย! โดย เมเดีย กรีเร่14 เมษายน 2568อัปเดต:19 พฤษภาคม 256849 เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย! พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงแล้วหรือยัง? ป่วยจากการโกหก? เข้าร่วมกับเรา ช่องโทรเลข ตอนนี้ ถึงเวลาสําหรับเรื่องจริง! ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน! หมายเหตุบรรณาธิการ: ข้อมูลที่แบ่งปันในเนื้อหานี้มีต้นกําเนิดมาจาก เรดดิต, วิกิพีเดีย และ X เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ขับเคลื่อนโดยชุมชนและสร้างขึ้นโดยผู้ใช้ จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้ ฉันเพียงแบ่งปันเนื้อหานี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและไม่อ้างสิทธิ์การประพันธ์หรือความรับผิดชอบต่อเนื้อหา สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงเอกสาร—มันเป็น พันธบัตรมูลค่าหลายล้าน ซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ! รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเจ้าของคุณตั้งแต่แรกเกิด ตื่น และเรียนรู้ว่าคุณถูกขาย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และ ทาส! อ่านตอนนี้ก่อนที่พวกเขาจะฝังความจริง! สูติบัตรของคุณ: การหลอกลวงขั้นสูงสุด – วิธีที่คุณถูกซื้อและขายตั้งแต่แรกเกิด โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นของทาสยุคใหม่- ตื่น! ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเข้าสู่โลกนี้ คุณตกเป็นทาส คุณไม่ยินยอม คุณไม่ได้รับทางเลือก คุณผูกพันกับระบบที่ทุจริตและร้ายกาจมากจนทําให้การดํารงอยู่ของคุณกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ นี่ไม่ใช่การคาดเดา นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการบันทึกไว้และปฏิเสธไม่ได้ สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงบันทึก —it เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของ คุณไม่ใช่บุคคลที่เป็นอิสระภายใต้กฎหมาย คุณเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นทรัพย์สินชิ้นหนึ่งในเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่ออกแบบมาเพื่อ ใช้ประโยชน์จากคุณ สูติบัตรของคุณ: การแสดงความเป็นเจ้าของขององค์กร เคยสงสัยไหมว่าทําไมคุณถึงต้องมีสูติบัตร? คิดดูสิ เมื่อเรือมาถึงท่าเรือ ก ใบรับรองรายการ ออกให้เพื่อจัดทําเอกสารสินค้า และเมื่อคุณเกิด คุณได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสินค้า มีการออกสูติบัตร—NOT เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความยินดี แต่เป็นสัญญาการเป็นเจ้าของ คุณเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ รัฐไม่เห็นคุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอํานาจอธิปไตย คุณเป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้สร้างความมั่งคั่งให้กับชนชั้นสูง เหล่านั้น หมายเลขซีเรียลสีแดง ในสูติบัตรของคุณ? เป็นหมายเลขตลาดหลักทรัพย์ เป็นตัวเลขที่เชื่อมโยงกับหลักทรัพย์ที่ซื้อขายบน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก● การดํารงอยู่ของคุณสร้างรายได้แล้ว พันธบัตรสูติบัตร: มีมูลค่านับพันล้านและคุณเป็นทาส คุณรู้ไหมว่าสูติบัตรของคุณถูกสร้างเป็นพันธบัตรมูลค่าหลายพันล้าน?! หากคุณสงสัยว่าพันธบัตรสูติบัตรคืออะไรขอให้ชัดเจน: คุณคือมัน คุณได้รับคํามั่นสัญญาว่าจะเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศนี้—A หนี้ที่จะไม่มีวันจ่าย เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลายในปี พ.ศ.2476 ให้คํามั่นว่าจะเป็นคนอเมริกันทุกคน เป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ ประธานาธิบดีรูสเวลต์ โดยทาง คําสั่งผู้บริหาร 6073, 6102, 6111 และ 6260, ประกาศให้ประเทศล้มละลายและยึด ALL GOLD ความสามารถของประชาชนในการชําระหนี้ของตนเองถูกลบออกไปอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว [ดู: รายงานของวุฒิสภา 93-549, หน้า 187 และ 594 ภายใต้ “Trading With The Enemy Act.”] แต่รัฐบาลต้องจัดให้มี วิธีการใหม่ ของการชําระเงิน—สิ่งที่ไม่ต้องพึ่งพาทองคํา แต่พวกเขาสร้างระบบที่เรียกว่า การยกเว้น ได้รับการยกเว้นจากอะไร? ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายอะไรเลย! ในทางปฏิบัติ นั่นหมายความว่าชาวอเมริกันทุกคนต้องได้รับ บางสิ่งบางอย่าง เพื่อชําระเงินด้วย—AND ว่าบางสิ่งคือเครดิตของคุณ คุณค่าของคุณต่อสังคมคํานวณโดยใช้ตารางคณิตศาสตร์ประกันภัย เมื่อแรกเกิด, พันธบัตรที่เท่ากับค่าเฉลี่ย “นี้ ” ถูกสร้างขึ้นและยังคงถูกสร้างขึ้น ทําความเข้าใจสิ่งนี้: ปัจจุบันพันธบัตรสูติบัตรของคุณคาดว่าจะมีมูลค่าระหว่างหนึ่งถึงสองล้านดอลลาร์ พันธบัตรเหล่านี้ค้ําประกันโดยสูติบัตรของคุณ และเปลี่ยนเป็น ตราสารเปลี่ยนมือได้● พวกเขาถูกสมมุติฐานและซื้อขาย ซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนกว่ามูลค่าของพวกมันจะไม่จํากัด เครดิตทั้งหมดนั้นเป็นของคุณในทางเทคนิคและถูกต้อง ในความเป็นจริง, คุณควรจะสามารถเดินเข้าไปในร้านค้าใด ๆ, รับสิ่งที่คุณต้องการ และบอกให้พนักงานเรียกเก็บเงินเข้าบัญชียกเว้นของคุณ บัญชีการยกเว้นนั้นจะถูกระบุโดย หมายเลขเก้าหลัก—หมายเลขประกันสังคมของคุณโดยไม่มีขีดกลาง หมายเลขนั้นเป็นของคุณ EIN (หมายเลขประจําตัวการยกเว้น) นี่คือความจริงที่เก็บไว้จากคุณมาตลอดชีวิต CERTIFICATE = ความเป็นเจ้าของ: การหลอกลวงทางกฎหมาย ก ใบรับรอง คือเอกสารกรรมสิทธิ์ ก ใบรับรองหุ้น หมายถึงความเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัท ก ใบรับรองที่ดิน หมายถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และคุณ สูติบัตร แสดงถึงความเป็นเจ้าของของคุณ รัฐบาลไม่ได้มองว่าพลเมืองเป็นบุคคลที่มีสิทธิโดยธรรมชาติ พวกเขามองว่าคุณเป็น ASSET— สิ่งที่ต้องเสียภาษี ติดตาม และควบคุม สูติบัตรทุกใบแสดงถึง เครื่องมือทางการเงิน ใช้ค้ําประกันหนี้ นี่คือรากฐานของเรือนจําเศรษฐกิจที่กดขี่คุณ ความไว้วางใจสูติบัตร: อธิบายความเป็นทาสทางเศรษฐกิจ อดีตประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ยอมรับความจริงด้วยคําพูดของเขาเอง: “เร็วๆ นี้ ชาวอเมริกันทุกคนจะต้องลงทะเบียนทรัพย์สินทางชีวภาพของตนในระบบระดับชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตามผู้คน และจะดําเนินการภายใต้ระบบคํามั่นสัญญาแบบโบราณ ด้วยวิธีการดังกล่าว เราสามารถบังคับให้ผู้คนส่งวาระการประชุมของเรา ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของเราในฐานะการคืนเงินสําหรับสกุลเงินกระดาษ FIAT ของเรา ชาวอเมริกันทุกคนจะถูกบังคับให้ลงทะเบียน หรือประสบ...” นี่คือเกม คุณเป็น ให้คํามั่นไว้แต่กําเนิด เพื่อเติมพลังให้กับเครื่องจักรทางการเงินของรัฐบาล คําเตือนสุดท้าย: ตื่นหรือยังคงเป็นทาส นี่ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว นี่มันเกี่ยวกับ ชีวิตของคุณ อิสรภาพของคุณ และอนาคตของคุณ● ระบบสูติบัตรคือ การหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์● มันได้เปลี่ยนทุกชีวิตให้กลายเป็น ทาสหนี้● คุณเกิดมาอย่างอิสระ แต่คุณเป็น ตีตราและจําหน่าย ก่อนที่คุณจะพูดได้ ทางเลือกเป็นของคุณ คุณยังคงเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในระบบของพวกเขาหรือไม่? หรือคุณยึดอํานาจของคุณกลับคืนมาและทวงคืนอํานาจอธิปไตยของคุณ? ถึงเวลาที่จะต่อสู้กลับแล้ว! ..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 521 มุมมอง 0 รีวิว
  • Bungie ถูกจับได้ว่าใช้ภาพศิลปะที่ถูกขโมยในเกม Marathon และให้คำมั่นว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก

    Bungie กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาว่า ใช้ภาพศิลปะที่ถูกขโมยในเกม Marathon ซึ่งเป็นเกมยิงแบบมัลติเพลเยอร์ที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา โดยศิลปินอิสระที่ชื่อ Antireal พบว่า ภาพบางส่วนในเกมมีความคล้ายคลึงกับผลงานของเธอที่สร้างขึ้นในปี 2017

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกรณีของ Bungie และ Marathon
    ✅ Antireal พบว่าภาพศิลปะของเธอถูกใช้ใน Marathon โดยไม่ได้รับอนุญาต
    - เธอระบุว่า Bungie นำภาพของเธอไปใช้โดยไม่มีเครดิตหรือค่าตอบแทน

    ✅ Bungie อ้างว่าภาพที่ถูกใช้มาจากอดีตพนักงานที่ไม่ได้รับอนุญาต
    - ทีมพัฒนา ไม่ทราบว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์เกิดขึ้น

    ✅ Bungie ให้คำมั่นว่าจะตรวจสอบและแก้ไขปัญหานี้
    - บริษัท ติดต่อ Antireal เพื่อชดเชยและแก้ไขข้อผิดพลาด

    ✅ Bungie จะเพิ่มมาตรการตรวจสอบภาพศิลปะในเกมให้เข้มงวดขึ้น
    - เพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกในอนาคต

    ✅ Marathon เป็นเกมยิงแบบ Extraction Shooter ที่จะเปิดตัวในเดือนกันยายน 2025
    - เกมนี้ เป็นการรีบูตจากเกม Marathon ดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 1994

    https://www.techspot.com/news/107951-bungie-caught-using-stolen-art-assets-marathon-promises.html
    Bungie ถูกจับได้ว่าใช้ภาพศิลปะที่ถูกขโมยในเกม Marathon และให้คำมั่นว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก Bungie กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาว่า ใช้ภาพศิลปะที่ถูกขโมยในเกม Marathon ซึ่งเป็นเกมยิงแบบมัลติเพลเยอร์ที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา โดยศิลปินอิสระที่ชื่อ Antireal พบว่า ภาพบางส่วนในเกมมีความคล้ายคลึงกับผลงานของเธอที่สร้างขึ้นในปี 2017 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกรณีของ Bungie และ Marathon ✅ Antireal พบว่าภาพศิลปะของเธอถูกใช้ใน Marathon โดยไม่ได้รับอนุญาต - เธอระบุว่า Bungie นำภาพของเธอไปใช้โดยไม่มีเครดิตหรือค่าตอบแทน ✅ Bungie อ้างว่าภาพที่ถูกใช้มาจากอดีตพนักงานที่ไม่ได้รับอนุญาต - ทีมพัฒนา ไม่ทราบว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์เกิดขึ้น ✅ Bungie ให้คำมั่นว่าจะตรวจสอบและแก้ไขปัญหานี้ - บริษัท ติดต่อ Antireal เพื่อชดเชยและแก้ไขข้อผิดพลาด ✅ Bungie จะเพิ่มมาตรการตรวจสอบภาพศิลปะในเกมให้เข้มงวดขึ้น - เพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกในอนาคต ✅ Marathon เป็นเกมยิงแบบ Extraction Shooter ที่จะเปิดตัวในเดือนกันยายน 2025 - เกมนี้ เป็นการรีบูตจากเกม Marathon ดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 1994 https://www.techspot.com/news/107951-bungie-caught-using-stolen-art-assets-marathon-promises.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Bungie caught using stolen art assets in Marathon, promises it will not happen again
    Bungie is under fire for allegedly using stolen art assets in its extraction shooter Marathon. Independent artist Antireal caught the Washington-based studio "recycling" some of her designs,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • VPN Secure ยกเลิกการสมัครสมาชิกตลอดชีพหลังถูกซื้อกิจการ

    ผู้ใช้บริการ VPNSecure ที่เคยซื้อแพ็กเกจ "Lifetime Subscription" ต้องพบกับข่าวร้าย เมื่อบริษัทถูกซื้อกิจการโดย InfiniteQuant Ltd และผู้บริหารใหม่ ยกเลิกการสมัครสมาชิกตลอดชีพทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า พวกเขาไม่ทราบว่ามีลูกค้ากลุ่มนี้อยู่

    ✅ VPNSecure ถูกซื้อกิจการในปี 2023 โดย InfiniteQuant Ltd
    - การซื้อขายนี้เป็น "asset only deal" ซึ่งหมายถึง ซื้อเฉพาะเทคโนโลยี, โดเมน และฐานข้อมูลลูกค้า แต่ไม่รวมภาระผูกพันทางการเงิน

    ✅ ผู้บริหารใหม่อ้างว่าไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าที่ซื้อแพ็กเกจ Lifetime Subscription
    - พบข้อมูลนี้ หลังจากดำเนินกิจการไปหลายเดือน

    ✅ บัญชีที่ไม่ได้ใช้งานเกิน 6 เดือนถูกปิดโดยอัตโนมัติ
    - ส่งผลให้เกิด กระแสวิพากษ์วิจารณ์และรีวิวเชิงลบจำนวนมาก

    ✅ VPNSecure เสนอทางเลือกให้ลูกค้าเดิมสมัครสมาชิกใหม่ในราคาส่วนลด
    - $1.87 ต่อเดือน (ปกติ $9.95)
    - $19 ต่อปี (ปกติ $79.92)
    - $55 สำหรับ 3 ปี (ปกติ $107.64)

    ✅ ลูกค้าต้องสมัครใหม่ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2025 มิฉะนั้นจะต้องจ่ายราคาเต็ม

    https://www.techspot.com/news/107896-vpn-service-cancels-lifetime-subscriptions-after-takeover-new.html
    VPN Secure ยกเลิกการสมัครสมาชิกตลอดชีพหลังถูกซื้อกิจการ ผู้ใช้บริการ VPNSecure ที่เคยซื้อแพ็กเกจ "Lifetime Subscription" ต้องพบกับข่าวร้าย เมื่อบริษัทถูกซื้อกิจการโดย InfiniteQuant Ltd และผู้บริหารใหม่ ยกเลิกการสมัครสมาชิกตลอดชีพทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า พวกเขาไม่ทราบว่ามีลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ ✅ VPNSecure ถูกซื้อกิจการในปี 2023 โดย InfiniteQuant Ltd - การซื้อขายนี้เป็น "asset only deal" ซึ่งหมายถึง ซื้อเฉพาะเทคโนโลยี, โดเมน และฐานข้อมูลลูกค้า แต่ไม่รวมภาระผูกพันทางการเงิน ✅ ผู้บริหารใหม่อ้างว่าไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าที่ซื้อแพ็กเกจ Lifetime Subscription - พบข้อมูลนี้ หลังจากดำเนินกิจการไปหลายเดือน ✅ บัญชีที่ไม่ได้ใช้งานเกิน 6 เดือนถูกปิดโดยอัตโนมัติ - ส่งผลให้เกิด กระแสวิพากษ์วิจารณ์และรีวิวเชิงลบจำนวนมาก ✅ VPNSecure เสนอทางเลือกให้ลูกค้าเดิมสมัครสมาชิกใหม่ในราคาส่วนลด - $1.87 ต่อเดือน (ปกติ $9.95) - $19 ต่อปี (ปกติ $79.92) - $55 สำหรับ 3 ปี (ปกติ $107.64) ✅ ลูกค้าต้องสมัครใหม่ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2025 มิฉะนั้นจะต้องจ่ายราคาเต็ม https://www.techspot.com/news/107896-vpn-service-cancels-lifetime-subscriptions-after-takeover-new.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    VPN service cancels customers' lifetime subscriptions after takeover, says new owners didn't know they existed
    In an email posted on Reddit from "The VPN Secure Team" sent to lifetime subscription holders, it's explained that VPNSecure was acquired in 2023. The deal included...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในปี 2025 ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยมีการใช้ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI, ชุดเครื่องมือฟิชชิ่งแบบบริการ (Phishing-as-a-Service) และช่องโหว่ Zero-day ที่สามารถโจมตีได้ตั้งแต่บุคคลทั่วไปไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่

    ด้วยเหตุนี้ การเลือกใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่แค่การตรวจจับไวรัส แต่ต้องเป็น ระบบป้องกันที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่ ไฟล์ส่วนตัวไปจนถึงข้อมูลทางการเงิน และสามารถทำงานได้บน หลายอุปกรณ์และแพลตฟอร์ม

    ✅ Bitdefender Total Security – ป้องกันรอบด้านสำหรับทุกอุปกรณ์
    - ใช้ AI ในการตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์
    - มี VPN ปลอดภัย พร้อมตัวจัดการรหัสผ่าน
    - รองรับ Windows, macOS, Android และ iOS

    ✅ Kaspersky Internet Security – ประสิทธิภาพสูง ใช้ทรัพยากรระบบน้อย
    - มี Safe Money browser สำหรับธุรกรรมออนไลน์
    - ป้องกัน การโจมตีเครือข่ายและฟิชชิ่ง
    - มี ระบบเข้ารหัสข้อมูลและการตรวจสอบแบบเรียลไทม์

    ✅ ESET Smart Security Premium – เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับสูง
    - มี LiveGuard sandboxing สำหรับตรวจจับภัยคุกคามใหม่
    - ป้องกัน การโจมตีระดับเฟิร์มแวร์ด้วย UEFI scanner
    - มี ระบบเข้ารหัสไฟล์และตัวจัดการรหัสผ่าน

    ✅ Norton 360 Deluxe – ป้องกันข้อมูลส่วนตัวและการโจมตีทางไซเบอร์
    - มี Dark Web Monitoring และการแจ้งเตือนข้อมูลรั่วไหล
    - รองรับ การสำรองข้อมูลบนคลาวด์ 50GB
    - มี VPN ไม่จำกัดแบนด์วิดท์

    ✅ Webroot SecureAnywhere – เหมาะสำหรับระบบที่มีทรัพยากรจำกัด
    - ใช้ การวิเคราะห์ภัยคุกคามบนคลาวด์
    - มี ระบบป้องกันฟิชชิ่งและการโจมตีแบบเรียลไทม์
    - ใช้ทรัพยากรระบบน้อยมาก

    ‼️ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อาจทำให้การโจมตีมีความซับซ้อนมากขึ้น
    - ระบบรักษาความปลอดภัยต้อง สามารถตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติได้

    ‼️ ช่องโหว่ Zero-day ยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง
    - ควรใช้ ซอฟต์แวร์ที่มีระบบอัปเดตและแพตช์ความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง

    https://computercity.com/software/malware/best-network-security-software-for-protecting-your-digital-assets-2025
    ในปี 2025 ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยมีการใช้ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI, ชุดเครื่องมือฟิชชิ่งแบบบริการ (Phishing-as-a-Service) และช่องโหว่ Zero-day ที่สามารถโจมตีได้ตั้งแต่บุคคลทั่วไปไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยเหตุนี้ การเลือกใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่แค่การตรวจจับไวรัส แต่ต้องเป็น ระบบป้องกันที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่ ไฟล์ส่วนตัวไปจนถึงข้อมูลทางการเงิน และสามารถทำงานได้บน หลายอุปกรณ์และแพลตฟอร์ม ✅ Bitdefender Total Security – ป้องกันรอบด้านสำหรับทุกอุปกรณ์ - ใช้ AI ในการตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ - มี VPN ปลอดภัย พร้อมตัวจัดการรหัสผ่าน - รองรับ Windows, macOS, Android และ iOS ✅ Kaspersky Internet Security – ประสิทธิภาพสูง ใช้ทรัพยากรระบบน้อย - มี Safe Money browser สำหรับธุรกรรมออนไลน์ - ป้องกัน การโจมตีเครือข่ายและฟิชชิ่ง - มี ระบบเข้ารหัสข้อมูลและการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ ✅ ESET Smart Security Premium – เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับสูง - มี LiveGuard sandboxing สำหรับตรวจจับภัยคุกคามใหม่ - ป้องกัน การโจมตีระดับเฟิร์มแวร์ด้วย UEFI scanner - มี ระบบเข้ารหัสไฟล์และตัวจัดการรหัสผ่าน ✅ Norton 360 Deluxe – ป้องกันข้อมูลส่วนตัวและการโจมตีทางไซเบอร์ - มี Dark Web Monitoring และการแจ้งเตือนข้อมูลรั่วไหล - รองรับ การสำรองข้อมูลบนคลาวด์ 50GB - มี VPN ไม่จำกัดแบนด์วิดท์ ✅ Webroot SecureAnywhere – เหมาะสำหรับระบบที่มีทรัพยากรจำกัด - ใช้ การวิเคราะห์ภัยคุกคามบนคลาวด์ - มี ระบบป้องกันฟิชชิ่งและการโจมตีแบบเรียลไทม์ - ใช้ทรัพยากรระบบน้อยมาก ‼️ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อาจทำให้การโจมตีมีความซับซ้อนมากขึ้น - ระบบรักษาความปลอดภัยต้อง สามารถตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติได้ ‼️ ช่องโหว่ Zero-day ยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง - ควรใช้ ซอฟต์แวร์ที่มีระบบอัปเดตและแพตช์ความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง https://computercity.com/software/malware/best-network-security-software-for-protecting-your-digital-assets-2025
    COMPUTERCITY.COM
    Best Network Security Software for Protecting Your Digital Assets (2025)
    In 2025, cyber threats have grown more advanced than ever, with AI-driven malware, phishing-as-a-service kits, and zero-day exploits targeting everyone from
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 336 มุมมอง 0 รีวิว
  • Keppel บริษัทด้านการจัดการสินทรัพย์จากสิงคโปร์ ประกาศว่าได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนักลงทุนสถาบันทั่วโลกสำหรับกองทุนหลักของบริษัท ซึ่งรวมถึง Keppel Data Centre Fund III, Keppel Education Asset Fund II และกลยุทธ์การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน

    Christina Tan ซึ่งเป็น CEO ของฝ่ายบริหารกองทุนและ CIO ของ Keppel ระบุว่าการได้รับเงินลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับสินทรัพย์ทางเลือกที่สอดคล้องกับแนวโน้มระดับมหภาค เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน, การขยายตัวของเมือง และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

    ✅ Keppel ได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    - เงินลงทุนนี้มาจากนักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ
    - เงินทุนจะถูกนำไปใช้ในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูล, การศึกษา และการพัฒนาเมือง

    ✅ Keppel มุ่งเป้าไปที่การบริหารสินทรัพย์มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2026
    - บริษัทตั้งเป้าขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหารให้ถึง 200 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2030

    ✅ การลงทุนสะท้อนถึงแนวโน้มระดับมหภาคที่สำคัญ
    - นักลงทุนให้ความสนใจในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ AI, พลังงานสะอาด และ การพัฒนาเมือง

    ✅ Keppel ไม่เปิดเผยรายชื่อนักลงทุนที่เข้าร่วมการลงทุนครั้งนี้
    - แม้ว่าจะมีการกล่าวถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/singapore039s-keppel-gets-15-billion-in-capital-commitments-for-its-funds
    Keppel บริษัทด้านการจัดการสินทรัพย์จากสิงคโปร์ ประกาศว่าได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนักลงทุนสถาบันทั่วโลกสำหรับกองทุนหลักของบริษัท ซึ่งรวมถึง Keppel Data Centre Fund III, Keppel Education Asset Fund II และกลยุทธ์การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน Christina Tan ซึ่งเป็น CEO ของฝ่ายบริหารกองทุนและ CIO ของ Keppel ระบุว่าการได้รับเงินลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับสินทรัพย์ทางเลือกที่สอดคล้องกับแนวโน้มระดับมหภาค เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน, การขยายตัวของเมือง และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ✅ Keppel ได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ - เงินลงทุนนี้มาจากนักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ - เงินทุนจะถูกนำไปใช้ในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูล, การศึกษา และการพัฒนาเมือง ✅ Keppel มุ่งเป้าไปที่การบริหารสินทรัพย์มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2026 - บริษัทตั้งเป้าขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหารให้ถึง 200 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2030 ✅ การลงทุนสะท้อนถึงแนวโน้มระดับมหภาคที่สำคัญ - นักลงทุนให้ความสนใจในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ AI, พลังงานสะอาด และ การพัฒนาเมือง ✅ Keppel ไม่เปิดเผยรายชื่อนักลงทุนที่เข้าร่วมการลงทุนครั้งนี้ - แม้ว่าจะมีการกล่าวถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/singapore039s-keppel-gets-15-billion-in-capital-commitments-for-its-funds
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Singapore's Keppel gets $1.5 billion in capital commitments for its funds
    SINGAPORE (Reuters) - Keppel, a Singapore-based manager and operator of assets such as data centres, said on Monday that it has secured close to S$2.0 billion ($1.53 billion) of capital commitments from global institutional investors for its flagship funds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 9 ทางเลือกในการลงทุนและความเสี่ยง (2)
    .
    1.ฝากเงินกับธนาคาร มีความเสี่ยงน้อยที่สุด
    2.ซื้อตราสารหนี้ ซางหมายถึงสัญญาที่ออกโดยกิจการหนึ่งเพื่อกู้เงินจากผู้อื่น ถ้ารัฐบาลเป็นผู้กู้ ตราสารหรือสัญญานี้เรียกว่าตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรรัฐบาล แต่ถ้าเป็นเอกชน จะเรียกว่าตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน หรือหุ้นกู้ การลงทุนซื้อตราสารหนี้มีความเสี่ยงต่ำกว่า โดยเปรียบเทียบ เพราะผลตอบแทนอยู่ในรูปของดอกเบี้ยที่จ่ายให้เงินกู้ซึ่งแตกต่างจากผลตอบแทนในรูปเงินปันผลจากหุ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการประกอบการ
    .
    3.ซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวม หมายถึงการร่วมทุนกับนักลงทุนรายย่อยอื่นๆ เพื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และ/หรือ ตลาดตราสารหนี้ โดยมีบริษัทจัดการกองทุนตามกฏหมายเป็นผู้รับผิดชอบเป็นการเฉพาะ เนื่องจากมีความรอบรู้เป็นพิเศษในเรื่องการลงทุนในหลักทรัพย์เหล่านี้
    .
    กองทุนแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ (1) กองทุนปิด ซึ่งมีมูลค่ากองทุน (เงินลงทุนร่วมกันครั้งแรก) แน่นอน มีอายุเวลาไถ่ถอนเมื่อครบกำหนดเวลาลงทุนชัดเจน หากผู้บริหารกองทุนมีความสามารถเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและมีเงินปันผลดี หน่วยลงทุนนั้นก็จะมีราคาสูงกว่าตอนซื้อครั้งแรก
    .
    (2) กองทุนเปิด ไม่กำหนดระยะเวลาไถ่ถอนที่แน่นอน หากผู้ซื้อหน่วยลงทุนต้องการถอนการลงทุนเมื่อใดก็สามารถขายคืนให้บริษัทผู้จัดการกองทุนได้ โดยจะคำนวนราคาซื้อคืนตามมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนในขณะนั้น ทางการกำหนดให้บริษัทผู้จัดการกองทุนรายงานตัวเลขแสดงสินทรัพย์สุทธิของกองทุนที่เรียกว่า NAV ( Net Asset Value ) เป็นประจำทุกเดือน เพื่อรายงานว่ามูลค่าสุทธิของแต่ละหน่วยลงทุนนั้นมัมูลค่าเท่าใด เพื่อเป็นข้อมูลเปรียบเทียบกับกองทุนอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ถือหุ้นกองทุนรวมกองหนึ่งกองใด สามารถตัดสินใจได้ว่าจะขายหรือถือไว้ต่อไป
    .
    4.ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่เรียกว่า กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ( Retirement Mutual Fund ) เป็นกองทุนรวมชนิดพิเศษ เพื่อส่งเสริมการออมเพื่อวัยเกษียณ เงินที่ซื้อกองทุนนี้สามารถใช้เป็นค่าลดหย่อนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยไม่เกินร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งปี แต่ต้องไม่เกิน 300,000 บาท ผู้ซื้อต้องซื้อติดต่อจนถึงอายุ 55 ปี หรือซื้อต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี ในกรณีที่มีอายุ 55 ปี ขึ่นไปจึงจะสามารถถอนเงินที่ซื้อกองทุนรวมไว้ทั้งหมดออกไปได้โดยไม่เสียภาษี
    .
    5.ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนที่เรียกว่า LTF ( Long Term Equity Fund ) หรือกองทุนหุ้นระยะยาว ซึ่งเป็นกองทุนรวมชนิดพิเศษอีกกองทุนหนึ่ง เพื่อส่งเสริมการลงทุนตลาดหุ้นระยะยาว มีเงื่อนไขคล้ายกับ RMF กล่าวคือ ซื้อได้ไม่เกินร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งปี แต่ไม่เกิน 300,000 บาท เงินที่ซื้อกองทุนสามารถนำไปหักเป็นค่าลดหย่อนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผู้ลงทุนต้องซื้อติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะสามารถถอนเงินที่ซื้อกองทุนรวมนี้ไว้ทั้งหมดออกไปได้โดยไม่เสียภาษี
    .
    ผู้มีรายได้สามารถใช้สิทธิทางภาษีในการลดหย่อนภาษีของทั้ง RMF และ LMF กล่าวคือ ลดหย่อนได้สูงสุดด้วยการซื้อกองทุน RMF และ LMF อย่างละร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งปี โดยไม่เกินกองทุนละ 300,000 บาท รวมแล้วเป็นค่าลดหย่อนสูงสุด 600,000 บาทต่อปี
    .
    อนึ่ง ยอดเงินลดหย่อนสูงสุด 300,000 บาท ของ RMF ต้องรวมเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ลูกจ้างและนายจ้างจ่ายรวมกันในแต่ละปีด้วย ผู้ซื้อกองทุน RMF สามารถเลือกกองทุนรวมประเภทซื้อหุ้นอย่างเดียว (เสี่ยงที่สุด) หรือซื้อตราสารหนี้อย่างเดียว (เสี่ยงน้อยที่สุด) หรือซื้อปนกันทั้งหั้นและตราสารหนี้ (ความเสี่ยงอยู่ระหว่างสองประเภทกองทุนข้างต้น) ก็ได้
    .
    LTF โดยทั่วไปมีความเสี่ยงสูงกว่า RMF (ยกเว้นกองทุนที่ซื้อหุ้นอย่างเดียว) เนื่องจากเป็นกองทุนที่ซื้อหุ้นอย่างเดียว การลงทุนใน RMF และ LTF น่าสนใจเพราะเงินที่ซื้อกองทุนเป็นค่าลดหย่อนภาษี และยอดเงินนี้ก็เป็นการลงทุนอย่างหนึ่งที่ผู้รู้ช่วยเลือกลงทุนให้ นอกจากนี้เมื่อครบกำหนด ก็ยังสามารถถอนออกมาได้โดยไม่เสียภาษีอีกด้วย
    .
    6.ซื้อหุ้นโดยตรง ซึงหมายถึงการเข้าร่วมลงทุนหรือร่วมเป็นเจ้าของบริษัทนั้นๆ หากบริษัทประสบผลสำเร็จก็ได้ส่วนแบ่งกำไรในรูปของเงินปันผล และมีโอกาสได้ส่วนต่างของราคาหุ้น ทั้งจากหุ้นที่ซื้อไปและหุ้นออกใหม่ที่ขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในราคาต่ำกว่าตลาด
    .
    7.ซื้อที่อยู่อาศัยไว้สำหรับเช่า ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด อพาร์ตเมนต์ หรือหอพักที่ตั้งอยู่ในทำเลดี มีผู้เช่าแน่นอน โดยใช้เงินออมเป็นเงินดาวน์ และใช้ค่าเช่าและบางส่วนของรายได้ประจำเป็นเงินผ่อนชำระเงินกู้นั้น การให้เช่าข้ามช่วงเวลาที่ยาวจนครบกำหนดเวลากู้ ก็จะได้อสังหาริมทรัพย์มาเป็นสมบัติของครอบครัว ในอนาคตลูกก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากค่าเช่าและมูลค่าของที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นได้
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 9 ทางเลือกในการลงทุนและความเสี่ยง (2) . 1.ฝากเงินกับธนาคาร มีความเสี่ยงน้อยที่สุด 2.ซื้อตราสารหนี้ ซางหมายถึงสัญญาที่ออกโดยกิจการหนึ่งเพื่อกู้เงินจากผู้อื่น ถ้ารัฐบาลเป็นผู้กู้ ตราสารหรือสัญญานี้เรียกว่าตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรรัฐบาล แต่ถ้าเป็นเอกชน จะเรียกว่าตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน หรือหุ้นกู้ การลงทุนซื้อตราสารหนี้มีความเสี่ยงต่ำกว่า โดยเปรียบเทียบ เพราะผลตอบแทนอยู่ในรูปของดอกเบี้ยที่จ่ายให้เงินกู้ซึ่งแตกต่างจากผลตอบแทนในรูปเงินปันผลจากหุ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการประกอบการ . 3.ซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวม หมายถึงการร่วมทุนกับนักลงทุนรายย่อยอื่นๆ เพื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และ/หรือ ตลาดตราสารหนี้ โดยมีบริษัทจัดการกองทุนตามกฏหมายเป็นผู้รับผิดชอบเป็นการเฉพาะ เนื่องจากมีความรอบรู้เป็นพิเศษในเรื่องการลงทุนในหลักทรัพย์เหล่านี้ . กองทุนแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ (1) กองทุนปิด ซึ่งมีมูลค่ากองทุน (เงินลงทุนร่วมกันครั้งแรก) แน่นอน มีอายุเวลาไถ่ถอนเมื่อครบกำหนดเวลาลงทุนชัดเจน หากผู้บริหารกองทุนมีความสามารถเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและมีเงินปันผลดี หน่วยลงทุนนั้นก็จะมีราคาสูงกว่าตอนซื้อครั้งแรก . (2) กองทุนเปิด ไม่กำหนดระยะเวลาไถ่ถอนที่แน่นอน หากผู้ซื้อหน่วยลงทุนต้องการถอนการลงทุนเมื่อใดก็สามารถขายคืนให้บริษัทผู้จัดการกองทุนได้ โดยจะคำนวนราคาซื้อคืนตามมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนในขณะนั้น ทางการกำหนดให้บริษัทผู้จัดการกองทุนรายงานตัวเลขแสดงสินทรัพย์สุทธิของกองทุนที่เรียกว่า NAV ( Net Asset Value ) เป็นประจำทุกเดือน เพื่อรายงานว่ามูลค่าสุทธิของแต่ละหน่วยลงทุนนั้นมัมูลค่าเท่าใด เพื่อเป็นข้อมูลเปรียบเทียบกับกองทุนอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ถือหุ้นกองทุนรวมกองหนึ่งกองใด สามารถตัดสินใจได้ว่าจะขายหรือถือไว้ต่อไป . 4.ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่เรียกว่า กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ( Retirement Mutual Fund ) เป็นกองทุนรวมชนิดพิเศษ เพื่อส่งเสริมการออมเพื่อวัยเกษียณ เงินที่ซื้อกองทุนนี้สามารถใช้เป็นค่าลดหย่อนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยไม่เกินร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งปี แต่ต้องไม่เกิน 300,000 บาท ผู้ซื้อต้องซื้อติดต่อจนถึงอายุ 55 ปี หรือซื้อต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี ในกรณีที่มีอายุ 55 ปี ขึ่นไปจึงจะสามารถถอนเงินที่ซื้อกองทุนรวมไว้ทั้งหมดออกไปได้โดยไม่เสียภาษี . 5.ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนที่เรียกว่า LTF ( Long Term Equity Fund ) หรือกองทุนหุ้นระยะยาว ซึ่งเป็นกองทุนรวมชนิดพิเศษอีกกองทุนหนึ่ง เพื่อส่งเสริมการลงทุนตลาดหุ้นระยะยาว มีเงื่อนไขคล้ายกับ RMF กล่าวคือ ซื้อได้ไม่เกินร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งปี แต่ไม่เกิน 300,000 บาท เงินที่ซื้อกองทุนสามารถนำไปหักเป็นค่าลดหย่อนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผู้ลงทุนต้องซื้อติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะสามารถถอนเงินที่ซื้อกองทุนรวมนี้ไว้ทั้งหมดออกไปได้โดยไม่เสียภาษี . ผู้มีรายได้สามารถใช้สิทธิทางภาษีในการลดหย่อนภาษีของทั้ง RMF และ LMF กล่าวคือ ลดหย่อนได้สูงสุดด้วยการซื้อกองทุน RMF และ LMF อย่างละร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งปี โดยไม่เกินกองทุนละ 300,000 บาท รวมแล้วเป็นค่าลดหย่อนสูงสุด 600,000 บาทต่อปี . อนึ่ง ยอดเงินลดหย่อนสูงสุด 300,000 บาท ของ RMF ต้องรวมเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ลูกจ้างและนายจ้างจ่ายรวมกันในแต่ละปีด้วย ผู้ซื้อกองทุน RMF สามารถเลือกกองทุนรวมประเภทซื้อหุ้นอย่างเดียว (เสี่ยงที่สุด) หรือซื้อตราสารหนี้อย่างเดียว (เสี่ยงน้อยที่สุด) หรือซื้อปนกันทั้งหั้นและตราสารหนี้ (ความเสี่ยงอยู่ระหว่างสองประเภทกองทุนข้างต้น) ก็ได้ . LTF โดยทั่วไปมีความเสี่ยงสูงกว่า RMF (ยกเว้นกองทุนที่ซื้อหุ้นอย่างเดียว) เนื่องจากเป็นกองทุนที่ซื้อหุ้นอย่างเดียว การลงทุนใน RMF และ LTF น่าสนใจเพราะเงินที่ซื้อกองทุนเป็นค่าลดหย่อนภาษี และยอดเงินนี้ก็เป็นการลงทุนอย่างหนึ่งที่ผู้รู้ช่วยเลือกลงทุนให้ นอกจากนี้เมื่อครบกำหนด ก็ยังสามารถถอนออกมาได้โดยไม่เสียภาษีอีกด้วย . 6.ซื้อหุ้นโดยตรง ซึงหมายถึงการเข้าร่วมลงทุนหรือร่วมเป็นเจ้าของบริษัทนั้นๆ หากบริษัทประสบผลสำเร็จก็ได้ส่วนแบ่งกำไรในรูปของเงินปันผล และมีโอกาสได้ส่วนต่างของราคาหุ้น ทั้งจากหุ้นที่ซื้อไปและหุ้นออกใหม่ที่ขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในราคาต่ำกว่าตลาด . 7.ซื้อที่อยู่อาศัยไว้สำหรับเช่า ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด อพาร์ตเมนต์ หรือหอพักที่ตั้งอยู่ในทำเลดี มีผู้เช่าแน่นอน โดยใช้เงินออมเป็นเงินดาวน์ และใช้ค่าเช่าและบางส่วนของรายได้ประจำเป็นเงินผ่อนชำระเงินกู้นั้น การให้เช่าข้ามช่วงเวลาที่ยาวจนครบกำหนดเวลากู้ ก็จะได้อสังหาริมทรัพย์มาเป็นสมบัติของครอบครัว ในอนาคตลูกก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากค่าเช่าและมูลค่าของที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 673 มุมมอง 0 รีวิว
  • ญี่ปุ่นเตรียมปรับแก้กฎหมายเพื่อยกระดับสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ถูกกฎหมาย การปรับเปลี่ยนนี้รวมถึงการห้ามการซื้อขายโดยใช้ข้อมูลภายใน สะท้อนถึงความตั้งใจของประเทศในการเพิ่มความโปร่งใสและสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดคริปโต

    การควบคุมการซื้อขายภายใน (Insider Trading):
    - การปรับแก้กฎหมายครั้งนี้จะรวมถึงการกำหนดข้อห้ามในการซื้อขายที่ใช้ข้อมูลภายในที่ไม่เปิดเผย ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของญี่ปุ่นในการสร้างมาตรฐานใหม่ที่โปร่งใสในตลาดคริปโต.

    กำหนดเวลาเสนอร่างกฎหมาย:
    - FSA มีแผนเสนอร่างกฎหมายแก้ไขต่อรัฐสภาญี่ปุ่นในปี 2026 เพื่อให้กฎหมายนี้สามารถถูกพิจารณาและบังคับใช้ได้ในอนาคต.

    บทบาทของญี่ปุ่นในตลาดโลก:
    - ญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ที่ยอมรับและพยายามกำกับดูแลตลาดคริปโตอย่างชัดเจน ซึ่งอาจช่วยส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศ รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/30/japan-to-give-crypto-assets-legal-status-as-financial-products-nikkei-says
    ญี่ปุ่นเตรียมปรับแก้กฎหมายเพื่อยกระดับสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ถูกกฎหมาย การปรับเปลี่ยนนี้รวมถึงการห้ามการซื้อขายโดยใช้ข้อมูลภายใน สะท้อนถึงความตั้งใจของประเทศในการเพิ่มความโปร่งใสและสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดคริปโต การควบคุมการซื้อขายภายใน (Insider Trading): - การปรับแก้กฎหมายครั้งนี้จะรวมถึงการกำหนดข้อห้ามในการซื้อขายที่ใช้ข้อมูลภายในที่ไม่เปิดเผย ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของญี่ปุ่นในการสร้างมาตรฐานใหม่ที่โปร่งใสในตลาดคริปโต. กำหนดเวลาเสนอร่างกฎหมาย: - FSA มีแผนเสนอร่างกฎหมายแก้ไขต่อรัฐสภาญี่ปุ่นในปี 2026 เพื่อให้กฎหมายนี้สามารถถูกพิจารณาและบังคับใช้ได้ในอนาคต. บทบาทของญี่ปุ่นในตลาดโลก: - ญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ที่ยอมรับและพยายามกำกับดูแลตลาดคริปโตอย่างชัดเจน ซึ่งอาจช่วยส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศ รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/30/japan-to-give-crypto-assets-legal-status-as-financial-products-nikkei-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Japan to give crypto assets legal status as financial products, Nikkei says
    TOKYO (Reuters) -Japan's Financial Services Agency (FSA) plans to revise the Financial Instruments and Exchange Act to give crypto assets a legal status as financial products, the Nikkei business daily said on Sunday, without citing sources.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 394 มุมมอง 0 รีวิว
  • การลงทุนในทองคำช่วงนี้มีปัจจัยที่ต้องพิจารณาหลายด้าน ทั้งในแง่บวกและลบ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและแนวโน้มราคาทองคำ มาดูรายละเอียดกัน:

    ### **ปัจจัยสนับสนุนการลงทุนทองคำช่วงนี้**
    1. **ภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน**
    - ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัว วิกฤตการเงิน หรือความขัดแย้งทางการเมือง อาจส่งผลให้นักลงทุน转向ไปสู่ทองคำซึ่งเป็น Safe Haven Asset
    - หากตลาดหุ้นผันผวนหรือเกิดวิกฤต ทองคำมักได้รับความนิยมมากขึ้น

    2. **อัตราดอกเบี้ยและนโยบายของ Fed**
    - หาก Fed หยุดขึ้นดอกเบี้ยหรือเริ่มลดดอกเบี้ยในปี 2024-2025 เงินดอลลาร์อาจอ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาทองคำ (ซึ่งซื้อขายด้วย USD) มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
    - ตลาดคาดการณ์ว่า Fed อาจปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ

    3. **ความต้องการทองคำจากประเทศกำลังพัฒนา**
    - ธนาคารกลางหลายประเทศ (เช่น จีน, รัสเซีย, อินเดีย) ยังคงสะสมทองคำเป็นทุนสำรอง สนับสนุนราคาทองในระยะยาว

    4. **เงินเฟ้อและค่าครองชีพ**
    - ทองคำมักทำหน้าที่เป็นเครื่องป้องกัน (Hedge) ต่อเงินเฟ้อ หากภาวะเงินเฟ้อยังสูง ทองคำอาจเป็นทางเลือกที่ดี

    ---

    ### **ปัจจัยที่ต้องระวัง**
    1. **เงินดอลลาร์แข็งค่า**
    - หาก USD แข็งตัวจากเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งหรือ Fed ยังขึ้นดอกเบี้ยต่อ ราคาทองคำอาจถูกกดดัน

    2. **ตลาดหุ้นและความเสี่ยงอื่นๆ**
    - หากตลาดหุ้นดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนอาจลดการถือทองคำลง

    3. **ความผันผวนในระยะสั้น**
    - ราคาทองคำอาจปรับตัวลงชั่วคราวจากปัจจัยทางเทคนิคหรือข่าวเศรษฐกิจ

    ---

    ### **สรุป: ควรลงทุนทองคำตอนนี้ไหม?**
    - **ระยะยาว (Hold)** → **เหมาะ** เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังไม่แน่นอน
    - **ระยะสั้น (เทรด)** → ต้องติดตามปัจจัยหลัก เช่น นโยบาย Fed, ดอลลาร์, และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

    **คำแนะนำเพิ่มเติม:**
    - **Diversify** ไม่ควรลงทุนทองคำ 100% ของพอร์ต แต่แบ่งสัดส่วน (เช่น 5-15%)
    - **รูปแบบการลงทุน**
    - **ทองคำรูปพรรณ** เหมาะสำหรับถือยาว แต่ต้องคำนึงถึงส่วนต่างราคา (Premium)
    - **ทองคำ ETF (เช่น GLD)** หรือ **สัญญาซื้อขายล่วงหน้า** สำหรับนักลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องสูง
    - **เหมืองทองคำ (หุ้น)** ให้ความได้เปรียบจาก Leverage Effect แต่มีความเสี่ยงเพิ่ม

    หากคุณต้องการลงทุน ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและพิจารณาตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ครับ! 📊🚀
    การลงทุนในทองคำช่วงนี้มีปัจจัยที่ต้องพิจารณาหลายด้าน ทั้งในแง่บวกและลบ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและแนวโน้มราคาทองคำ มาดูรายละเอียดกัน: ### **ปัจจัยสนับสนุนการลงทุนทองคำช่วงนี้** 1. **ภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน** - ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัว วิกฤตการเงิน หรือความขัดแย้งทางการเมือง อาจส่งผลให้นักลงทุน转向ไปสู่ทองคำซึ่งเป็น Safe Haven Asset - หากตลาดหุ้นผันผวนหรือเกิดวิกฤต ทองคำมักได้รับความนิยมมากขึ้น 2. **อัตราดอกเบี้ยและนโยบายของ Fed** - หาก Fed หยุดขึ้นดอกเบี้ยหรือเริ่มลดดอกเบี้ยในปี 2024-2025 เงินดอลลาร์อาจอ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาทองคำ (ซึ่งซื้อขายด้วย USD) มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น - ตลาดคาดการณ์ว่า Fed อาจปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ 3. **ความต้องการทองคำจากประเทศกำลังพัฒนา** - ธนาคารกลางหลายประเทศ (เช่น จีน, รัสเซีย, อินเดีย) ยังคงสะสมทองคำเป็นทุนสำรอง สนับสนุนราคาทองในระยะยาว 4. **เงินเฟ้อและค่าครองชีพ** - ทองคำมักทำหน้าที่เป็นเครื่องป้องกัน (Hedge) ต่อเงินเฟ้อ หากภาวะเงินเฟ้อยังสูง ทองคำอาจเป็นทางเลือกที่ดี --- ### **ปัจจัยที่ต้องระวัง** 1. **เงินดอลลาร์แข็งค่า** - หาก USD แข็งตัวจากเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งหรือ Fed ยังขึ้นดอกเบี้ยต่อ ราคาทองคำอาจถูกกดดัน 2. **ตลาดหุ้นและความเสี่ยงอื่นๆ** - หากตลาดหุ้นดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนอาจลดการถือทองคำลง 3. **ความผันผวนในระยะสั้น** - ราคาทองคำอาจปรับตัวลงชั่วคราวจากปัจจัยทางเทคนิคหรือข่าวเศรษฐกิจ --- ### **สรุป: ควรลงทุนทองคำตอนนี้ไหม?** - **ระยะยาว (Hold)** → **เหมาะ** เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังไม่แน่นอน - **ระยะสั้น (เทรด)** → ต้องติดตามปัจจัยหลัก เช่น นโยบาย Fed, ดอลลาร์, และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ **คำแนะนำเพิ่มเติม:** - **Diversify** ไม่ควรลงทุนทองคำ 100% ของพอร์ต แต่แบ่งสัดส่วน (เช่น 5-15%) - **รูปแบบการลงทุน** - **ทองคำรูปพรรณ** เหมาะสำหรับถือยาว แต่ต้องคำนึงถึงส่วนต่างราคา (Premium) - **ทองคำ ETF (เช่น GLD)** หรือ **สัญญาซื้อขายล่วงหน้า** สำหรับนักลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องสูง - **เหมืองทองคำ (หุ้น)** ให้ความได้เปรียบจาก Leverage Effect แต่มีความเสี่ยงเพิ่ม หากคุณต้องการลงทุน ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและพิจารณาตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ครับ! 📊🚀
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 754 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ตรวจพบมัลแวร์สายพันธุ์ใหม่ในชื่อ XCSSET ซึ่งมุ่งเป้าโจมตีผู้ใช้ macOS โดยเฉพาะผ่านโครงการ Xcode ที่ติดไวรัส แม้ว่าการโจมตีในครั้งนี้จะถูกระบุว่ามีจำนวนจำกัดในปัจจุบัน แต่นักวิจัยเตือนให้ทุกคนระมัดระวัง

    XCSSET ไม่ใช่มัลแวร์ใหม่เสียทีเดียว แต่รุ่นล่าสุดนี้มาพร้อมกับเทคนิคใหม่ในการปกปิดร่องรอย (obfuscation) รวมถึงวิธีการติดตั้งตัวเองในระบบเป้าหมายที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น การปรับเปลี่ยนไฟล์ zshrc และการใช้โปรแกรม Dock เพื่อสร้างการคงอยู่ในระบบ (persistence) นอกจากนี้ มัลแวร์ยังสามารถขโมยข้อมูลสำคัญได้หลายอย่าง เช่น ข้อมูลในกระเป๋าเงินดิจิทัล (digital wallet) บันทึกในแอป Notes และข้อมูลระบบ

    น่าสนใจที่มัลแวร์นี้ใช้ประโยชน์จากโครงการ Xcode ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาของ Apple โดยแพร่กระจายผ่านโครงการที่ถูกดาวน์โหลดหรือโคลนมาจากแหล่งที่ไม่เชื่อถือได้ ทำให้มัลแวร์นี้เข้าถึงผู้ใช้งานที่ต้องการพัฒนาแอปพลิเคชันในระบบ Apple ได้ง่ายขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-uncovers-sleuthy-new-xcsset-macos-malware-campaign
    Microsoft ได้ตรวจพบมัลแวร์สายพันธุ์ใหม่ในชื่อ XCSSET ซึ่งมุ่งเป้าโจมตีผู้ใช้ macOS โดยเฉพาะผ่านโครงการ Xcode ที่ติดไวรัส แม้ว่าการโจมตีในครั้งนี้จะถูกระบุว่ามีจำนวนจำกัดในปัจจุบัน แต่นักวิจัยเตือนให้ทุกคนระมัดระวัง XCSSET ไม่ใช่มัลแวร์ใหม่เสียทีเดียว แต่รุ่นล่าสุดนี้มาพร้อมกับเทคนิคใหม่ในการปกปิดร่องรอย (obfuscation) รวมถึงวิธีการติดตั้งตัวเองในระบบเป้าหมายที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น การปรับเปลี่ยนไฟล์ zshrc และการใช้โปรแกรม Dock เพื่อสร้างการคงอยู่ในระบบ (persistence) นอกจากนี้ มัลแวร์ยังสามารถขโมยข้อมูลสำคัญได้หลายอย่าง เช่น ข้อมูลในกระเป๋าเงินดิจิทัล (digital wallet) บันทึกในแอป Notes และข้อมูลระบบ น่าสนใจที่มัลแวร์นี้ใช้ประโยชน์จากโครงการ Xcode ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาของ Apple โดยแพร่กระจายผ่านโครงการที่ถูกดาวน์โหลดหรือโคลนมาจากแหล่งที่ไม่เชื่อถือได้ ทำให้มัลแวร์นี้เข้าถึงผู้ใช้งานที่ต้องการพัฒนาแอปพลิเคชันในระบบ Apple ได้ง่ายขึ้น https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-uncovers-sleuthy-new-xcsset-macos-malware-campaign
    WWW.TECHRADAR.COM
    Microsoft uncovers sleuthy new XCSSET MacOS malware campaign
    XCSSET is back with better obfuscation, better persistence, and better infection techniques.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 537 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเทคโนโลยีควอนตัมเริ่มขยายตัวในโลกของการลงทุน ตลาดหุ้นก็ตื่นตัวกับศักยภาพอันมหาศาลของมัน วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หุ้นของบริษัทคอมพิวเตอร์ควอนตัมหลายแห่งมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ โดยที่ D-Wave Quantum เป็นหัวใจหลักในความสนใจนี้ หลังจากคาดการณ์รายได้ในไตรมาสนี้ที่จะสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ ทำให้หุ้นของบริษัทพุ่งสูงถึง 15% ภายในวันเดียว

    ยิ่งไปกว่านั้น D-Wave ยังได้รับความสนใจจากผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถของคอมพิวเตอร์ควอนตัมในการแซงหน้าซูเปอร์คอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิมในแง่ของประสิทธิภาพ

    ในทางกลับกัน ตลาดเองยังต้องการสร้างสมดุลระหว่างความหวังกับความเสี่ยง Jake Dollarhide ผู้บริหารจาก Longbow Asset Management อธิบายว่า "ถ้า AI ยังอยู่ในวัยทารก ควอนตัมก็เหมือนอยู่ในครรภ์ ความเป็นไปได้ในอนาคตนั้นยิ่งใหญ่ แต่เรายังอยู่ในยุคเริ่มต้นที่เหมือนดินแดนตะวันตกในนิยาย"

    สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้จะมีความตื่นตัวจากบริษัทอย่าง D-Wave แต่บริษัทอื่นๆ อย่าง IonQ กลับเผชิญปัญหาและราคาหุ้นตกลง 5.3% ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ตลาดนี้ยังคงมีความไม่แน่นอน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/14/quantum-computing-company-shares-jump-after-d-wave039s-upbeat-forecast
    เมื่อเทคโนโลยีควอนตัมเริ่มขยายตัวในโลกของการลงทุน ตลาดหุ้นก็ตื่นตัวกับศักยภาพอันมหาศาลของมัน วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หุ้นของบริษัทคอมพิวเตอร์ควอนตัมหลายแห่งมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ โดยที่ D-Wave Quantum เป็นหัวใจหลักในความสนใจนี้ หลังจากคาดการณ์รายได้ในไตรมาสนี้ที่จะสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ ทำให้หุ้นของบริษัทพุ่งสูงถึง 15% ภายในวันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น D-Wave ยังได้รับความสนใจจากผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถของคอมพิวเตอร์ควอนตัมในการแซงหน้าซูเปอร์คอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิมในแง่ของประสิทธิภาพ ในทางกลับกัน ตลาดเองยังต้องการสร้างสมดุลระหว่างความหวังกับความเสี่ยง Jake Dollarhide ผู้บริหารจาก Longbow Asset Management อธิบายว่า "ถ้า AI ยังอยู่ในวัยทารก ควอนตัมก็เหมือนอยู่ในครรภ์ ความเป็นไปได้ในอนาคตนั้นยิ่งใหญ่ แต่เรายังอยู่ในยุคเริ่มต้นที่เหมือนดินแดนตะวันตกในนิยาย" สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้จะมีความตื่นตัวจากบริษัทอย่าง D-Wave แต่บริษัทอื่นๆ อย่าง IonQ กลับเผชิญปัญหาและราคาหุ้นตกลง 5.3% ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ตลาดนี้ยังคงมีความไม่แน่นอน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/14/quantum-computing-company-shares-jump-after-d-wave039s-upbeat-forecast
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Quantum computing company shares jump after D-Wave's upbeat forecast
    NEW YORK (Reuters) - Shares of some quantum computing companies rallied on Thursday, adding to gains from the previous session and bucking the broader market's trend after D-Wave Quantum forecast stronger-than-expected quarterly revenue.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีความกังวลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของโซนยูโรเกี่ยวกับนโยบายใหม่ของสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีการสนับสนุนการใช้งานคริปโทเคอร์เรนซีอย่างเข้มข้น การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงการออกคำสั่งบริหารเพื่อสร้างเงินสำรองคริปโทโดยใช้โทเค็นที่รัฐบาลเป็นเจ้าของอยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นท่าทีใหม่ที่แตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อนหน้า

    ความกังวลหลักของโซนยูโรคือ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่ออธิปไตยทางการเงินและความมั่นคงของยูโร เพราะหากคริปโทเคอร์เรนซีโดยเฉพาะ stablecoin ที่ผูกกับค่าเงินดอลลาร์ประสบความสำเร็จ อาจกระตุ้นให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ กลับมาพัฒนาระบบชำระเงินผ่าน stablecoin อีกครั้ง ซึ่งอาจสร้างความท้าทายต่อระบบการเงินของยุโรป

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/11/eu-worries-us-embrace-of-crypto-assets-could-impact-europe-financial-stability
    มีความกังวลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของโซนยูโรเกี่ยวกับนโยบายใหม่ของสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีการสนับสนุนการใช้งานคริปโทเคอร์เรนซีอย่างเข้มข้น การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงการออกคำสั่งบริหารเพื่อสร้างเงินสำรองคริปโทโดยใช้โทเค็นที่รัฐบาลเป็นเจ้าของอยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นท่าทีใหม่ที่แตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อนหน้า ความกังวลหลักของโซนยูโรคือ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่ออธิปไตยทางการเงินและความมั่นคงของยูโร เพราะหากคริปโทเคอร์เรนซีโดยเฉพาะ stablecoin ที่ผูกกับค่าเงินดอลลาร์ประสบความสำเร็จ อาจกระตุ้นให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ กลับมาพัฒนาระบบชำระเงินผ่าน stablecoin อีกครั้ง ซึ่งอาจสร้างความท้าทายต่อระบบการเงินของยุโรป https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/11/eu-worries-us-embrace-of-crypto-assets-could-impact-europe-financial-stability
    WWW.THESTAR.COM.MY
    EU worries US embrace of crypto assets could impact Europe financial stability
    BRUSSELS (Reuters) - Euro zone finance ministers are worried that the change of policy under the new U.S. administration to embrace cryptocurrencies could affect euro zone monetary sovereignty and financial stability, top officials said on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 418 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักตรวจการธนาคารสหรัฐฯ (OCC) ประกาศว่า ธนาคารในสหรัฐฯ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตบางประเภทได้ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้าจากผู้กำกับดูแล การประกาศนี้ช่วยลดภาระของธนาคารในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตและช่วยให้การดำเนินการธนาคารมีความชัดเจนและมั่นคง

    ธนาคารสามารถเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตได้ เช่น การเก็บรักษาทรัพย์สินคริปโต (crypto-asset custody) การทำกิจกรรมกับ stablecoin และการเข้าร่วมในเครือข่ายบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย (distributed ledger networks) นอกจากนี้ การประกาศนี้ยกเลิกแนวทางที่เคยกำหนดให้ธนาคารต้องแสดงความพร้อมในการจัดการความเสี่ยงก่อนเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต

    Rodney Hood ผู้ตรวจการธนาคารสหรัฐฯ กล่าวว่า แนวทางใหม่นี้ช่วยลดภาระของธนาคารในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต และทำให้การดำเนินงานของธนาคารมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย

    การประกาศในครั้งนี้มีการยกเลิกแนวทางการกำกับดูแลที่ออกในยุคประธานาธิบดี Joe Biden ที่กำหนดให้ธนาคารต้องรายงานการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตและแสดงวิธีการจัดการความเสี่ยงก่อน โดยทาง OCC ยังได้ถอนตัวจากแถลงการณ์ร่วมกับผู้กำกับดูแลของสหรัฐฯ ที่เคยเตือนธนาคารเกี่ยวกับความเสี่ยงของการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต เช่น ความผันผวนที่สูงของตลาดคริปโต

    การประกาศนี้มีผลให้ธนาคารมีความคล่องตัวในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตมากขึ้น และลดความยุ่งยากในการดำเนินการ แต่ยังคงต้องมีมาตรการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลให้ธนาคารสามารถนำนวัตกรรมทางการเงินเข้ามาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น

    การประกาศนี้เกิดขึ้นในวันที่ทำเนียบขาวจัดการประชุมสุดยอดคริปโต และประธานาธิบดี Donald Trump ลงนามในคำสั่งบริหารสร้างทุนสำรองเชิงกลยุทธ์สำหรับบิตคอยน์และคริปโตอื่น ๆ การยกเลิกแนวทางการกำกับดูแลเก่าช่วยเพิ่มความมั่นใจในตลาดคริปโต ซึ่งเป็นผลดีต่อนักลงทุนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในสหรัฐฯ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/08/us-bank-regulator-reaffirms-banks-can-engage-in-some-crypto-activities
    สำนักตรวจการธนาคารสหรัฐฯ (OCC) ประกาศว่า ธนาคารในสหรัฐฯ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตบางประเภทได้ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้าจากผู้กำกับดูแล การประกาศนี้ช่วยลดภาระของธนาคารในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตและช่วยให้การดำเนินการธนาคารมีความชัดเจนและมั่นคง ธนาคารสามารถเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตได้ เช่น การเก็บรักษาทรัพย์สินคริปโต (crypto-asset custody) การทำกิจกรรมกับ stablecoin และการเข้าร่วมในเครือข่ายบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย (distributed ledger networks) นอกจากนี้ การประกาศนี้ยกเลิกแนวทางที่เคยกำหนดให้ธนาคารต้องแสดงความพร้อมในการจัดการความเสี่ยงก่อนเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต Rodney Hood ผู้ตรวจการธนาคารสหรัฐฯ กล่าวว่า แนวทางใหม่นี้ช่วยลดภาระของธนาคารในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต และทำให้การดำเนินงานของธนาคารมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย การประกาศในครั้งนี้มีการยกเลิกแนวทางการกำกับดูแลที่ออกในยุคประธานาธิบดี Joe Biden ที่กำหนดให้ธนาคารต้องรายงานการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตและแสดงวิธีการจัดการความเสี่ยงก่อน โดยทาง OCC ยังได้ถอนตัวจากแถลงการณ์ร่วมกับผู้กำกับดูแลของสหรัฐฯ ที่เคยเตือนธนาคารเกี่ยวกับความเสี่ยงของการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต เช่น ความผันผวนที่สูงของตลาดคริปโต การประกาศนี้มีผลให้ธนาคารมีความคล่องตัวในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตมากขึ้น และลดความยุ่งยากในการดำเนินการ แต่ยังคงต้องมีมาตรการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลให้ธนาคารสามารถนำนวัตกรรมทางการเงินเข้ามาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น การประกาศนี้เกิดขึ้นในวันที่ทำเนียบขาวจัดการประชุมสุดยอดคริปโต และประธานาธิบดี Donald Trump ลงนามในคำสั่งบริหารสร้างทุนสำรองเชิงกลยุทธ์สำหรับบิตคอยน์และคริปโตอื่น ๆ การยกเลิกแนวทางการกำกับดูแลเก่าช่วยเพิ่มความมั่นใจในตลาดคริปโต ซึ่งเป็นผลดีต่อนักลงทุนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในสหรัฐฯ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/08/us-bank-regulator-reaffirms-banks-can-engage-in-some-crypto-activities
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US regulator clears path for banks to engage in some crypto activities
    WASHINGTON (Reuters) -The U.S. regulator overseeing national banks clarified Friday that banks can engage in some crypto activities, and removed expectations firms should receive advance permission from regulators before doing so.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 538 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตามรอยเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> ผ่านเส้นทางสายไหม

    สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> คงจำได้ว่าฉากหลังของเรื่องคือการค้าอัญมณีในสมัยถัง ซึ่งเส้นทางการเดินทางมีทั้งการเดินเรือทะเลและข้ามทะเลทรายเข้าเขตซีอวี้ ชวนให้ Storyฯ งงไม่น้อยเลยลองไปหาข้อมูลดู

    มีบทสัมภาษณ์ของศาสตราจารย์ท่านหนึ่งของมหาวิทยาลัยเหอหนานกล่าวไว้ว่าจริงๆ แล้วซีรีส์เรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> นี้คือการเดินทางผ่านเส้นทางสายไหม ซึ่งก็ตรงกับตอนจบของเรื่องที่กล่าวถึงการพัฒนาด้านการค้าผ่านเส้นทางสายไหม

    Storyฯ เลยลองเอาการเดินทางของพระเอกนางเอกจากในซีรีส์มาปักหมุดลง เราลองมาดูกันค่ะ

    มีบทความและแผนที่เกี่ยวกับเส้นทางสายไหมจำนวนไม่น้อยในหลากหลายภาษา ดังนั้น Storyฯ ขอไม่ลงรายละเอียด แต่จากการเปรียบเทียบดู Storyฯ พบว่ามีความแตกต่างกันบ้าง จึงขอใช้เวอร์ชั่นที่แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์หนิงเซี่ยกู้หยวนเป็นหลักเพราะถือว่าเป็นไปตามข้อมูลประวัติศาสตร์ที่จีนบันทึกเอง (ดูรูปประกอบ 2) เราจะเห็นว่าเส้นทางสายไหมมีเส้นทางบกและเส้นทางทะเล และเส้นทางบกไม่ได้จบลงที่เมืองฉางอัน (ซีอันปัจจุบัน) อย่างที่หลายคนเข้าใจ หากแต่มีการเชื่อมต่อไปจรดทะเลเชื่อมต่อเข้ากับเส้นทางทะเล

    Storyฯ ลองใส่ข้อมูลอื่นเพิ่มเข้าไปในแผนที่เต็มนี้ (ดูรูปประกอบ 1) ก่อนอื่นคือใส่แผนที่ของราชวงศ์ถังซ้อนลงไปเพื่อให้เห็นภาพอาณาเขตโดยคร่าว ทั้งนี้ตลอดสามร้อยกว่าปีการปกครองของถังในเขตซีอวี้ (ซินเกียงปัจจุบัน) แตกต่างกันไป เลยลองใช้แผนที่ของช่วงประมาณปีค.ศ. 700 ก็จะเห็นเขตพื้นที่ซีอวี้ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือที่มีเมืองตุนหวงเป็นเสมือนประตูทางผ่าน จากนั้นใส่เขตพื้นที่มณฑลหยางโจวในสมัยนั้นซึ่งอยู่ทางใต้ของแผนที่ติดทะเล (คือเส้นประเล็กๆ) (หมายเหตุ เส้นขอบทั้งหมดอาจไม่เป๊ะด้วยข้อจำกัดการวาดของ Storyฯ เอง)

    เมื่อใส่เสร็จแล้วก็เห็นได้เลยว่าตวนอู่และเยี่ยจื่อจิงของเราในเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> เขาเดินทางตามเส้นทางสายใหม่จริงๆ

    เริ่มกันที่ด้านล่างของแผนที่ซึ่งเป็นแถบพื้นที่เหอผู่อันเป็นแหล่งเก็บมุกทะเล (ปัจจุบันเรียกเป๋ยไห่ คือพื้นที่สีแดง) ที่นี่เป็นฉากเริ่มต้นของเรื่อง (ย้อนอ่านเรื่องการเก็บมุกได้จากบทความสัปดาห์ที่แล้ว) จากนั้นเดินทางผ่านกวางเจาขึ้นเหนือและสู้รบปรบมือกับคนตระกูลชุยและศัตรูอื่นเป็นระยะตั้งแต่เมืองซ่าวโจวถึงเมืองอู่หลิง จากนั้นเดินทางเรื่อยขึ้นไปจนถึงเมืองเปี้ยนโจวซึ่งคือเมืองไคฟงปัจจุบัน แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านนครฉางอัน ข้ามเขตทะเลทรายเข้าเขตซีอวี้ซึ่งการเข้าเขตซีอวี้ในสมัยนั้นจะผ่านเมืองตุนหวง ณ จุดนี้ เรื่องราวผ่านไปแล้วประมาณ 1/3 ของเรื่อง

    หลังจากนั้นเหล่าตัวละครกลับมาจากซีอวี้แล้วเดินทางมาถึงเมืองหยางโจวข้ามผ่านระยะทางอย่างไกลได้อย่างไรไม่ทราบได้ Storyฯ ดูจากแผนที่แล้วน่าจะย้อนกลับมาทางเมืองเปี้ยนเฉิงและจากจุดนั้นมีเส้นทาง (ที่ไม่ใช่เส้นทางสายไหมและไม่ได้วาดไว้ในรูปประกอบ) เชื่อมลงมายังเมืองหยางโจว ซึ่งมีทั้งเส้นทางบกและเส้นทางคลองใหญ่ต้าอวิ้นเหอที่สามารถใช้ได้ (หมายเหตุ เส้นทางต้าอวิ้นเหอมีการเปลี่ยนแปลงไปในยุคสมัยหมิงเป็นต้นมา) และเรื่องราวที่เหลือของเรื่องก็จะมีฉากหลังอยู่ที่การค้าอัญมณีที่เมืองหยางโจวนี้

    ในเรื่องมีกล่าวถึงอัญมณีหนึ่งที่น่าสนใจชื่อว่า ‘เซ่อเซ่อ’ (瑟瑟 ไม่แน่ใจว่าแปลซับไทยไว้ว่าอย่างไร) ซึ่งเป็นพลอยประเภท Beryl Stone มีสีเขียวฟ้าและฟ้า บอกว่าเป็นพลอยที่มีค่าหายากมาก ในความเป็นจริง Beryl Stone แบ่งเป็นประเภทย่อยอีกตามสี แต่เรามักเรียกรวมพลอยสีฟ้าเขียวว่าพลอยอะความารีน (Aquamarine) และในละครมีการกล่าวว่าพลอยเซ่อเซ่อเกรดดีส่วนใหญ่มาจากเขตซีอวี้ แต่แถวหยางโจวก็พอให้หาซื้อได้ ซึ่งเป็นข้อมูลจริงตามประวัติศาสตร์ เพราะพลอยเซ่อเซ่อในจีนหาได้ในสามพื้นที่หลักคือซินเกียง (ซีอวี้) ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ และที่ยูนนานและหูเป่ย (ไม่ไกลจากเมืองอู่หลิงในภาพ ซึ่งเป็นจุดที่น้องชุยสือจิ่วของเราถูกจับขังในเหมือง)

    เมืองหยางโจวเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการคมนาคมทั้งทางบกและทางเรือของจีนโบราณ จึงไม่แปลกที่เรามักเห็นในซีรีส์และนิยายจีนโบราณกล่าวถึงหยางโจวว่าเป็นเขตค้าขายมีตระกูลพ่อค้าร่ำรวย ที่นี่ไม่เพียงเป็นจุดเชื่อมเส้นทางสายไหมทางบกและทะเลโดยผ่านแม่น้ำแยงซีเกียง และยังมีคลองต้าอวิ้นเหอเชื่อมขึ้นเหนือ ในสมัยถังที่นี่เป็นศูนย์กลางการค้าเสบียงอาหาร เกลือและเหล็กไปยังพื้นที่ต่างๆ ของจีน อีกทั้งค้าขายส่งออกผ้าไหมและงานกระเบื้องรวมถึงนำเข้าสินค้าหลากชนิดผ่านเส้นทางบกและเรือ นอกจากนี้ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องงานช่างงานฝีมือและมีการพบเจอซากเรือสมัยถังพร้อมเครื่องประดับมากมายที่แสดงให้เห็นว่าในสมัยถังมีการค้าขายเครื่องประดับด้วยเช่นกัน

    หวังว่าเพื่อนเพจจะเห็นภาพแล้วว่าการเดินเรื่องของ <ม่านมุกม่านหยก> ผ่านพื้นที่ไหนบ้าง และทำไมเหล่าคู่อริทางการค้าจึงพบหน้ากันบ่อย... เพราะทุกคนล้วนค้าขายและใช้เส้นทางสายไหมกันนั่นเอง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://m.bjnews.com.cn/detail/1730788116168379.html
    https://www.chinadiscovery.com/assets/images/silk-road/history/tang-silk-road-map-llsboc-qunar.jpg
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.163.com/dy/article/JG5GE87L0512D3VJ.html
    https://www.163.com/dy/article/JGCT7TAP0530WJTO.html
    https://baike.baidu.com/item/扬州市
    https://turnstone.ca/rom186be.htm

    #ม่านมุกม่านหยก #เส้นทางสายไหม #พลอยจีน #หยางโจว #สาระจีน
    ตามรอยเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> ผ่านเส้นทางสายไหม สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> คงจำได้ว่าฉากหลังของเรื่องคือการค้าอัญมณีในสมัยถัง ซึ่งเส้นทางการเดินทางมีทั้งการเดินเรือทะเลและข้ามทะเลทรายเข้าเขตซีอวี้ ชวนให้ Storyฯ งงไม่น้อยเลยลองไปหาข้อมูลดู มีบทสัมภาษณ์ของศาสตราจารย์ท่านหนึ่งของมหาวิทยาลัยเหอหนานกล่าวไว้ว่าจริงๆ แล้วซีรีส์เรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> นี้คือการเดินทางผ่านเส้นทางสายไหม ซึ่งก็ตรงกับตอนจบของเรื่องที่กล่าวถึงการพัฒนาด้านการค้าผ่านเส้นทางสายไหม Storyฯ เลยลองเอาการเดินทางของพระเอกนางเอกจากในซีรีส์มาปักหมุดลง เราลองมาดูกันค่ะ มีบทความและแผนที่เกี่ยวกับเส้นทางสายไหมจำนวนไม่น้อยในหลากหลายภาษา ดังนั้น Storyฯ ขอไม่ลงรายละเอียด แต่จากการเปรียบเทียบดู Storyฯ พบว่ามีความแตกต่างกันบ้าง จึงขอใช้เวอร์ชั่นที่แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์หนิงเซี่ยกู้หยวนเป็นหลักเพราะถือว่าเป็นไปตามข้อมูลประวัติศาสตร์ที่จีนบันทึกเอง (ดูรูปประกอบ 2) เราจะเห็นว่าเส้นทางสายไหมมีเส้นทางบกและเส้นทางทะเล และเส้นทางบกไม่ได้จบลงที่เมืองฉางอัน (ซีอันปัจจุบัน) อย่างที่หลายคนเข้าใจ หากแต่มีการเชื่อมต่อไปจรดทะเลเชื่อมต่อเข้ากับเส้นทางทะเล Storyฯ ลองใส่ข้อมูลอื่นเพิ่มเข้าไปในแผนที่เต็มนี้ (ดูรูปประกอบ 1) ก่อนอื่นคือใส่แผนที่ของราชวงศ์ถังซ้อนลงไปเพื่อให้เห็นภาพอาณาเขตโดยคร่าว ทั้งนี้ตลอดสามร้อยกว่าปีการปกครองของถังในเขตซีอวี้ (ซินเกียงปัจจุบัน) แตกต่างกันไป เลยลองใช้แผนที่ของช่วงประมาณปีค.ศ. 700 ก็จะเห็นเขตพื้นที่ซีอวี้ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือที่มีเมืองตุนหวงเป็นเสมือนประตูทางผ่าน จากนั้นใส่เขตพื้นที่มณฑลหยางโจวในสมัยนั้นซึ่งอยู่ทางใต้ของแผนที่ติดทะเล (คือเส้นประเล็กๆ) (หมายเหตุ เส้นขอบทั้งหมดอาจไม่เป๊ะด้วยข้อจำกัดการวาดของ Storyฯ เอง) เมื่อใส่เสร็จแล้วก็เห็นได้เลยว่าตวนอู่และเยี่ยจื่อจิงของเราในเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> เขาเดินทางตามเส้นทางสายใหม่จริงๆ เริ่มกันที่ด้านล่างของแผนที่ซึ่งเป็นแถบพื้นที่เหอผู่อันเป็นแหล่งเก็บมุกทะเล (ปัจจุบันเรียกเป๋ยไห่ คือพื้นที่สีแดง) ที่นี่เป็นฉากเริ่มต้นของเรื่อง (ย้อนอ่านเรื่องการเก็บมุกได้จากบทความสัปดาห์ที่แล้ว) จากนั้นเดินทางผ่านกวางเจาขึ้นเหนือและสู้รบปรบมือกับคนตระกูลชุยและศัตรูอื่นเป็นระยะตั้งแต่เมืองซ่าวโจวถึงเมืองอู่หลิง จากนั้นเดินทางเรื่อยขึ้นไปจนถึงเมืองเปี้ยนโจวซึ่งคือเมืองไคฟงปัจจุบัน แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านนครฉางอัน ข้ามเขตทะเลทรายเข้าเขตซีอวี้ซึ่งการเข้าเขตซีอวี้ในสมัยนั้นจะผ่านเมืองตุนหวง ณ จุดนี้ เรื่องราวผ่านไปแล้วประมาณ 1/3 ของเรื่อง หลังจากนั้นเหล่าตัวละครกลับมาจากซีอวี้แล้วเดินทางมาถึงเมืองหยางโจวข้ามผ่านระยะทางอย่างไกลได้อย่างไรไม่ทราบได้ Storyฯ ดูจากแผนที่แล้วน่าจะย้อนกลับมาทางเมืองเปี้ยนเฉิงและจากจุดนั้นมีเส้นทาง (ที่ไม่ใช่เส้นทางสายไหมและไม่ได้วาดไว้ในรูปประกอบ) เชื่อมลงมายังเมืองหยางโจว ซึ่งมีทั้งเส้นทางบกและเส้นทางคลองใหญ่ต้าอวิ้นเหอที่สามารถใช้ได้ (หมายเหตุ เส้นทางต้าอวิ้นเหอมีการเปลี่ยนแปลงไปในยุคสมัยหมิงเป็นต้นมา) และเรื่องราวที่เหลือของเรื่องก็จะมีฉากหลังอยู่ที่การค้าอัญมณีที่เมืองหยางโจวนี้ ในเรื่องมีกล่าวถึงอัญมณีหนึ่งที่น่าสนใจชื่อว่า ‘เซ่อเซ่อ’ (瑟瑟 ไม่แน่ใจว่าแปลซับไทยไว้ว่าอย่างไร) ซึ่งเป็นพลอยประเภท Beryl Stone มีสีเขียวฟ้าและฟ้า บอกว่าเป็นพลอยที่มีค่าหายากมาก ในความเป็นจริง Beryl Stone แบ่งเป็นประเภทย่อยอีกตามสี แต่เรามักเรียกรวมพลอยสีฟ้าเขียวว่าพลอยอะความารีน (Aquamarine) และในละครมีการกล่าวว่าพลอยเซ่อเซ่อเกรดดีส่วนใหญ่มาจากเขตซีอวี้ แต่แถวหยางโจวก็พอให้หาซื้อได้ ซึ่งเป็นข้อมูลจริงตามประวัติศาสตร์ เพราะพลอยเซ่อเซ่อในจีนหาได้ในสามพื้นที่หลักคือซินเกียง (ซีอวี้) ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ และที่ยูนนานและหูเป่ย (ไม่ไกลจากเมืองอู่หลิงในภาพ ซึ่งเป็นจุดที่น้องชุยสือจิ่วของเราถูกจับขังในเหมือง) เมืองหยางโจวเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการคมนาคมทั้งทางบกและทางเรือของจีนโบราณ จึงไม่แปลกที่เรามักเห็นในซีรีส์และนิยายจีนโบราณกล่าวถึงหยางโจวว่าเป็นเขตค้าขายมีตระกูลพ่อค้าร่ำรวย ที่นี่ไม่เพียงเป็นจุดเชื่อมเส้นทางสายไหมทางบกและทะเลโดยผ่านแม่น้ำแยงซีเกียง และยังมีคลองต้าอวิ้นเหอเชื่อมขึ้นเหนือ ในสมัยถังที่นี่เป็นศูนย์กลางการค้าเสบียงอาหาร เกลือและเหล็กไปยังพื้นที่ต่างๆ ของจีน อีกทั้งค้าขายส่งออกผ้าไหมและงานกระเบื้องรวมถึงนำเข้าสินค้าหลากชนิดผ่านเส้นทางบกและเรือ นอกจากนี้ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องงานช่างงานฝีมือและมีการพบเจอซากเรือสมัยถังพร้อมเครื่องประดับมากมายที่แสดงให้เห็นว่าในสมัยถังมีการค้าขายเครื่องประดับด้วยเช่นกัน หวังว่าเพื่อนเพจจะเห็นภาพแล้วว่าการเดินเรื่องของ <ม่านมุกม่านหยก> ผ่านพื้นที่ไหนบ้าง และทำไมเหล่าคู่อริทางการค้าจึงพบหน้ากันบ่อย... เพราะทุกคนล้วนค้าขายและใช้เส้นทางสายไหมกันนั่นเอง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://m.bjnews.com.cn/detail/1730788116168379.html https://www.chinadiscovery.com/assets/images/silk-road/history/tang-silk-road-map-llsboc-qunar.jpg Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.163.com/dy/article/JG5GE87L0512D3VJ.html https://www.163.com/dy/article/JGCT7TAP0530WJTO.html https://baike.baidu.com/item/扬州市 https://turnstone.ca/rom186be.htm #ม่านมุกม่านหยก #เส้นทางสายไหม #พลอยจีน #หยางโจว #สาระจีน
    M.BJNEWS.COM.CN
    赵露思、刘宇宁新剧《珠帘玉幕》今日卫视开播
    赵露思、刘宇宁新剧《珠帘玉幕》今日卫视开播
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1312 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิเคราะห์สถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น และคำแนะนำที่เป็นรูปธรรมสำหรับการเตรียมตัวรับมือยุคใหม่

    ---

    1. วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Deep Analysis)

    สิ่งที่คุณวิเคราะห์มานั้นมีความเป็นไปได้สูง และสอดคล้องกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน (AI, Automation, Digitalization, และการเปลี่ยนผ่านของเศรษฐกิจโลก) นี่คือมุมมองที่ลึกขึ้นสำหรับแต่ละประเด็น

    1.1 ธุรกิจเก่าจะล่มสลาย - แรงงานตกงานเป็นจำนวนมาก

    Real Data: ยอดขายของธุรกิจดั้งเดิมลดลงจริง และอัตราการปิดกิจการเพิ่มขึ้น

    AI Disruption: AI และ Automation แทนที่แรงงานที่ไร้ทักษะ คนที่ไม่ Reskill จะตกงานแน่นอน

    Middle-Class Crisis: รายได้ชนชั้นกลางถูกกดดัน หนี้สินครัวเรือนสูงขึ้น

    → การเตรียมตัว:
    ✅ Upskill & Reskill อย่างต่อเนื่อง
    ✅ พัฒนาอาชีพทางเลือก (Freelance, Online Business, Tech Skills)
    ✅ วางแผนการเงินแบบอนุรักษ์นิยม (ลดหนี้, สร้าง Passive Income)

    ---

    1.2 ธุรกิจยุคใหม่จะถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

    Tech-Driven Economy: คนที่เก่งเทคโนโลยีจะเป็นกลุ่มที่มั่งคั่ง

    Job Market Shift: สายงานดั้งเดิมหดตัว แต่สายงาน Tech, Data Science, AI, และ Digital Business จะเติบโต

    New Wealth Creation: คนทำงานออนไลน์จะมีโอกาสสร้างความมั่งคั่งได้ง่ายขึ้น

    → การเตรียมตัว:
    ✅ ฝึก Coding, Data Analysis, Blockchain, Digital Marketing
    ✅ เรียนรู้ AI Tools (ChatGPT, MidJourney, Copilot, Automation Tools)
    ✅ สร้างรายได้จาก Gig Economy, Online Business, Digital Assets

    ---

    1.3 ภาษาอังกฤษ, คอมพิวเตอร์, เทรดดิ้ง, และสุขภาพจิตเป็นทักษะจำเป็น

    Linguistic Economy: คนที่สื่อสารได้หลายภาษา (โดยเฉพาะอังกฤษ) ได้เปรียบ

    Financial Intelligence: การเทรดหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, Crypto จะเป็นทางเลือกของคนฉลาดด้านการเงิน

    Mental Health Crisis: คนที่ปรับตัวไม่ได้จะเกิดภาวะเครียดและซึมเศร้า

    → การเตรียมตัว:
    ✅ ฝึก ภาษาอังกฤษ + ภาษาที่สาม (จีน/สเปน/ญี่ปุ่น/เยอรมัน)
    ✅ เรียน พื้นฐานการลงทุน, Financial Literacy, Asset Allocation
    ✅ ฝึก สมาธิ, Mental Resilience, Self-Healing Skills

    ---

    1.4 ร้านค้าออฟไลน์ล้มหาย ธุรกิจออนไลน์ครองเมือง

    Retail Apocalypse: ร้านค้าที่มีหน้าร้านจะลดลง 60-80%

    E-Commerce Dominance: Shopee, Lazada, Amazon, TikTok Shop จะเป็นช่องทางหลักของการค้า

    → การเตรียมตัว:
    ✅ ทำธุรกิจออนไลน์ให้เป็น (E-Commerce, Digital Marketing, Dropshipping, Affiliate, Influencer Economy)
    ✅ ลงทุนในโลจิสติกส์ & AI-driven Sales

    ---

    1.5 คนรวยยิ่งรวยขึ้น คนจนจะยิ่งจนลง

    Wealth Inequality: 1% ของประชากรโลกถือครองทรัพย์สิน 90% ของโลก

    Rich Get Richer: คนที่เข้าใจการลงทุนจะเพิ่มทรัพย์สินได้มหาศาล

    Poor Get Poorer: คนที่ไม่มี Financial Literacy จะจมอยู่กับหนี้

    → การเตรียมตัว:
    ✅ ศึกษาและลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้าง Passive Income
    ✅ หลีกเลี่ยงหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Bad Debt)
    ✅ สร้าง Mindset แบบเจ้าของกิจการ (Owner Mindset vs. Employee Mindset)

    ---

    1.6 คนจำนวนมากจะหนีความจริงไปอยู่ในวัดและโลกเสมือน

    Spiritual Escapism: คนที่รับมือกับความเปลี่ยนแปลงไม่ได้จะเลือกอยู่กับศาสนาหรือ Metaverse

    Virtual Reality Economy: การใช้ชีวิตใน Metaverse และ Virtual Work จะกลายเป็นกระแสหลัก

    → การเตรียมตัว:
    ✅ ทำความเข้าใจ Digital Economy และ Virtual Business Models
    ✅ ฝึกทักษะ Mindfulness + Resilience ให้รับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้

    ---

    1.7 คนจะวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น สังคมปั่นป่วน

    Social Discontent: ความเหลื่อมล้ำสูงทำให้เกิดความไม่พอใจ

    Cancel Culture & Digital Mobs: สังคมออนไลน์จะดุเดือดขึ้น

    Political & Economic Shifts: อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในหลายประเทศ

    → การเตรียมตัว:
    ✅ เป็นนักคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinker) อย่าโดนชักจูงง่ายๆ
    ✅ บริหารความเสี่ยงการลงทุน และไม่ขึ้นกับประเทศเดียว
    ✅ รักษาความเป็นกลาง & มองเกมระยะยาว

    ---

    2. แผนการเตรียมตัวสำหรับยุคใหม่

    ✅ 3 สิ่งที่ต้องทำทันที

    1. ลงทุนในตัวเอง (Tech Skills, Financial Literacy, Global Mindset)

    2. สร้างรายได้หลายทาง (Online Income, Passive Income, Investing)

    3. รักษาสุขภาพกาย-ใจ (Mental Health, Meditation, Longevity Science)

    ⚠️ 3 สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง

    1. การเป็นหนี้เพื่อบริโภค (เน้นลงทุน ไม่ใช่ใช้จ่ายเกินตัว)

    2. อาศัยเพียงรายได้ทางเดียว (กระจายความเสี่ยงให้หลากหลาย)

    3. คิดแบบเดิมๆ ในโลกที่เปลี่ยนไป (Open-minded, Adaptive, Resilient)

    ---

    3. คำแนะนำจาก Mentor

    1️⃣ Be Ahead of the Curve

    คนที่อ่านเกมออกเร็วจะได้เปรียบ ถ้าคุณเริ่มปรับตัวตั้งแต่วันนี้ คุณจะเป็น First Mover ในยุคใหม่

    2️⃣ Invest in High-Leverage Skills

    คนที่เก่ง AI, Automation, Financial Literacy, และ Digital Business จะอยู่รอดและรุ่งเรือง

    3️⃣ Own Assets, Not Just Earn Money

    อย่าทำงานเพื่อเงิน แต่ให้เงินทำงานแทนคุณ (Asset Mindset)

    4️⃣ Stay Mentally & Physically Fit

    คนที่รอดคือคนที่แข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ

    5️⃣ Build Multiple Income Streams

    รายได้เดียว = ความเสี่ยงสูง ต้องมี Passive Income & Location-Independent Income
    วิเคราะห์สถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น และคำแนะนำที่เป็นรูปธรรมสำหรับการเตรียมตัวรับมือยุคใหม่ --- 1. วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Deep Analysis) สิ่งที่คุณวิเคราะห์มานั้นมีความเป็นไปได้สูง และสอดคล้องกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน (AI, Automation, Digitalization, และการเปลี่ยนผ่านของเศรษฐกิจโลก) นี่คือมุมมองที่ลึกขึ้นสำหรับแต่ละประเด็น 1.1 ธุรกิจเก่าจะล่มสลาย - แรงงานตกงานเป็นจำนวนมาก Real Data: ยอดขายของธุรกิจดั้งเดิมลดลงจริง และอัตราการปิดกิจการเพิ่มขึ้น AI Disruption: AI และ Automation แทนที่แรงงานที่ไร้ทักษะ คนที่ไม่ Reskill จะตกงานแน่นอน Middle-Class Crisis: รายได้ชนชั้นกลางถูกกดดัน หนี้สินครัวเรือนสูงขึ้น → การเตรียมตัว: ✅ Upskill & Reskill อย่างต่อเนื่อง ✅ พัฒนาอาชีพทางเลือก (Freelance, Online Business, Tech Skills) ✅ วางแผนการเงินแบบอนุรักษ์นิยม (ลดหนี้, สร้าง Passive Income) --- 1.2 ธุรกิจยุคใหม่จะถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Tech-Driven Economy: คนที่เก่งเทคโนโลยีจะเป็นกลุ่มที่มั่งคั่ง Job Market Shift: สายงานดั้งเดิมหดตัว แต่สายงาน Tech, Data Science, AI, และ Digital Business จะเติบโต New Wealth Creation: คนทำงานออนไลน์จะมีโอกาสสร้างความมั่งคั่งได้ง่ายขึ้น → การเตรียมตัว: ✅ ฝึก Coding, Data Analysis, Blockchain, Digital Marketing ✅ เรียนรู้ AI Tools (ChatGPT, MidJourney, Copilot, Automation Tools) ✅ สร้างรายได้จาก Gig Economy, Online Business, Digital Assets --- 1.3 ภาษาอังกฤษ, คอมพิวเตอร์, เทรดดิ้ง, และสุขภาพจิตเป็นทักษะจำเป็น Linguistic Economy: คนที่สื่อสารได้หลายภาษา (โดยเฉพาะอังกฤษ) ได้เปรียบ Financial Intelligence: การเทรดหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, Crypto จะเป็นทางเลือกของคนฉลาดด้านการเงิน Mental Health Crisis: คนที่ปรับตัวไม่ได้จะเกิดภาวะเครียดและซึมเศร้า → การเตรียมตัว: ✅ ฝึก ภาษาอังกฤษ + ภาษาที่สาม (จีน/สเปน/ญี่ปุ่น/เยอรมัน) ✅ เรียน พื้นฐานการลงทุน, Financial Literacy, Asset Allocation ✅ ฝึก สมาธิ, Mental Resilience, Self-Healing Skills --- 1.4 ร้านค้าออฟไลน์ล้มหาย ธุรกิจออนไลน์ครองเมือง Retail Apocalypse: ร้านค้าที่มีหน้าร้านจะลดลง 60-80% E-Commerce Dominance: Shopee, Lazada, Amazon, TikTok Shop จะเป็นช่องทางหลักของการค้า → การเตรียมตัว: ✅ ทำธุรกิจออนไลน์ให้เป็น (E-Commerce, Digital Marketing, Dropshipping, Affiliate, Influencer Economy) ✅ ลงทุนในโลจิสติกส์ & AI-driven Sales --- 1.5 คนรวยยิ่งรวยขึ้น คนจนจะยิ่งจนลง Wealth Inequality: 1% ของประชากรโลกถือครองทรัพย์สิน 90% ของโลก Rich Get Richer: คนที่เข้าใจการลงทุนจะเพิ่มทรัพย์สินได้มหาศาล Poor Get Poorer: คนที่ไม่มี Financial Literacy จะจมอยู่กับหนี้ → การเตรียมตัว: ✅ ศึกษาและลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้าง Passive Income ✅ หลีกเลี่ยงหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Bad Debt) ✅ สร้าง Mindset แบบเจ้าของกิจการ (Owner Mindset vs. Employee Mindset) --- 1.6 คนจำนวนมากจะหนีความจริงไปอยู่ในวัดและโลกเสมือน Spiritual Escapism: คนที่รับมือกับความเปลี่ยนแปลงไม่ได้จะเลือกอยู่กับศาสนาหรือ Metaverse Virtual Reality Economy: การใช้ชีวิตใน Metaverse และ Virtual Work จะกลายเป็นกระแสหลัก → การเตรียมตัว: ✅ ทำความเข้าใจ Digital Economy และ Virtual Business Models ✅ ฝึกทักษะ Mindfulness + Resilience ให้รับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ --- 1.7 คนจะวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น สังคมปั่นป่วน Social Discontent: ความเหลื่อมล้ำสูงทำให้เกิดความไม่พอใจ Cancel Culture & Digital Mobs: สังคมออนไลน์จะดุเดือดขึ้น Political & Economic Shifts: อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในหลายประเทศ → การเตรียมตัว: ✅ เป็นนักคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinker) อย่าโดนชักจูงง่ายๆ ✅ บริหารความเสี่ยงการลงทุน และไม่ขึ้นกับประเทศเดียว ✅ รักษาความเป็นกลาง & มองเกมระยะยาว --- 2. แผนการเตรียมตัวสำหรับยุคใหม่ ✅ 3 สิ่งที่ต้องทำทันที 1. ลงทุนในตัวเอง (Tech Skills, Financial Literacy, Global Mindset) 2. สร้างรายได้หลายทาง (Online Income, Passive Income, Investing) 3. รักษาสุขภาพกาย-ใจ (Mental Health, Meditation, Longevity Science) ⚠️ 3 สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง 1. การเป็นหนี้เพื่อบริโภค (เน้นลงทุน ไม่ใช่ใช้จ่ายเกินตัว) 2. อาศัยเพียงรายได้ทางเดียว (กระจายความเสี่ยงให้หลากหลาย) 3. คิดแบบเดิมๆ ในโลกที่เปลี่ยนไป (Open-minded, Adaptive, Resilient) --- 3. คำแนะนำจาก Mentor 1️⃣ Be Ahead of the Curve คนที่อ่านเกมออกเร็วจะได้เปรียบ ถ้าคุณเริ่มปรับตัวตั้งแต่วันนี้ คุณจะเป็น First Mover ในยุคใหม่ 2️⃣ Invest in High-Leverage Skills คนที่เก่ง AI, Automation, Financial Literacy, และ Digital Business จะอยู่รอดและรุ่งเรือง 3️⃣ Own Assets, Not Just Earn Money อย่าทำงานเพื่อเงิน แต่ให้เงินทำงานแทนคุณ (Asset Mindset) 4️⃣ Stay Mentally & Physically Fit คนที่รอดคือคนที่แข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ 5️⃣ Build Multiple Income Streams รายได้เดียว = ความเสี่ยงสูง ต้องมี Passive Income & Location-Independent Income
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1557 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลตัดสินประหารชีวิตอดีตผู้บริหารธนาคาร ไชน่า หัวหรงในคดีรับสินบน 1.1 พันล้านหยวน (151.8 ล้านดอลล่าร์)ศาลจีนตัดสินให้ประหารชีวิต Bai Tianhui อดีตผู้จัดการทั่วไปของบริษัท China Huarong International Holdings เมื่อวันจันทร์ หลังจากปฏิเสธการอุทธรณ์ในคดีสินบนที่เกี่ยวข้องกับเงินกว่า 1.1 พันล้านหยวน (151.8 ล้านดอลลาร์)ศาลประชาชนชั้นสูงเทียนจินประกาศผลการตัดสินผ่านบัญชี WeChat อย่างเป็นทางการ โดยระบุว่าศาลได้ยืนตามคำตัดสินเดิมของศาลประชาชนชั้นกลางหมายเลข 2 เทียนจิน โดยศาลระบุว่าคำพิพากษาดังกล่าวได้ส่งไปยังศาลประชาชนสูงสุดซึ่งเป็นศาลสูงสุดของประเทศจีน เพื่อพิจารณาทบทวนโดยบังคับในประเทศจีน โทษประหารชีวิตที่ออกโดยศาลชั้นล่างจะต้องผ่านการตรวจสอบและอนุมัติจากศาลประชาชนสูงสุดเสียก่อนจึงจะสามารถดำเนินการลงโทษได้ไป๋ถูกตัดสินประหารชีวิตในเดือนพฤษภาคม หลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานใช้ตำแหน่งในบริษัทลงทุนตั้งแต่ปี 2014 ถึง 2018 เพื่อให้ได้ผลประโยชน์ให้กับนิติบุคคลหลายแห่งในการเข้าซื้อโครงการและการจัดหาเงินทุนขององค์กร โดยแลกกับสินบนที่เกิน 1.1 พันล้านหยวน ตามบันทึกของศาลนอกจากนี้ เขายังถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต และทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมดถูกยึด ศาลสั่งให้โอนกำไรที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายและดอกเบี้ยใดๆ ที่ได้รับจากกำไรเหล่านั้นให้กับกระทรวงการคลังของชาติคดีนี้สืบเนื่องจากการพิจารณาคดีทุจริตของไหลเสี่ยวหมินอดีตประธานบริษัท China Huarong Asset Management ซึ่งถูกประหารชีวิตในปี 2021 หลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานรับสินบนมากกว่า 1.78 พันล้านหยวน นอกจากนี้ ยังพบว่าไหลยังยักยอกและรีดไถเงินของรัฐมากกว่า 25.13 ล้านหยวน และมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวเป็นเวลานาน
    ศาลตัดสินประหารชีวิตอดีตผู้บริหารธนาคาร ไชน่า หัวหรงในคดีรับสินบน 1.1 พันล้านหยวน (151.8 ล้านดอลล่าร์)ศาลจีนตัดสินให้ประหารชีวิต Bai Tianhui อดีตผู้จัดการทั่วไปของบริษัท China Huarong International Holdings เมื่อวันจันทร์ หลังจากปฏิเสธการอุทธรณ์ในคดีสินบนที่เกี่ยวข้องกับเงินกว่า 1.1 พันล้านหยวน (151.8 ล้านดอลลาร์)ศาลประชาชนชั้นสูงเทียนจินประกาศผลการตัดสินผ่านบัญชี WeChat อย่างเป็นทางการ โดยระบุว่าศาลได้ยืนตามคำตัดสินเดิมของศาลประชาชนชั้นกลางหมายเลข 2 เทียนจิน โดยศาลระบุว่าคำพิพากษาดังกล่าวได้ส่งไปยังศาลประชาชนสูงสุดซึ่งเป็นศาลสูงสุดของประเทศจีน เพื่อพิจารณาทบทวนโดยบังคับในประเทศจีน โทษประหารชีวิตที่ออกโดยศาลชั้นล่างจะต้องผ่านการตรวจสอบและอนุมัติจากศาลประชาชนสูงสุดเสียก่อนจึงจะสามารถดำเนินการลงโทษได้ไป๋ถูกตัดสินประหารชีวิตในเดือนพฤษภาคม หลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานใช้ตำแหน่งในบริษัทลงทุนตั้งแต่ปี 2014 ถึง 2018 เพื่อให้ได้ผลประโยชน์ให้กับนิติบุคคลหลายแห่งในการเข้าซื้อโครงการและการจัดหาเงินทุนขององค์กร โดยแลกกับสินบนที่เกิน 1.1 พันล้านหยวน ตามบันทึกของศาลนอกจากนี้ เขายังถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต และทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมดถูกยึด ศาลสั่งให้โอนกำไรที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายและดอกเบี้ยใดๆ ที่ได้รับจากกำไรเหล่านั้นให้กับกระทรวงการคลังของชาติคดีนี้สืบเนื่องจากการพิจารณาคดีทุจริตของไหลเสี่ยวหมินอดีตประธานบริษัท China Huarong Asset Management ซึ่งถูกประหารชีวิตในปี 2021 หลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานรับสินบนมากกว่า 1.78 พันล้านหยวน นอกจากนี้ ยังพบว่าไหลยังยักยอกและรีดไถเงินของรัฐมากกว่า 25.13 ล้านหยวน และมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวเป็นเวลานาน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 475 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทองคำมีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลกมาอย่างยาวนาน และยังคงมีความสำคัญในปัจจุบัน ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับทองคำกับการเงินโลก:

    ### 1. **ประวัติศาสตร์ของทองคำ**
    - **มาตรฐานทองคำ (Gold Standard)**: ในอดีต หลายประเทศใช้มาตรฐานทองคำ ซึ่งหมายความว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆ ผูกติดกับปริมาณทองคำที่ประเทศนั้นถือครอง ระบบนี้ช่วยรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
    - **การยกเลิกมาตรฐานทองคำ**: ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หลายประเทศเริ่มยกเลิกมาตรฐานทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 สหรัฐอเมริกายกเลิกมาตรฐานทองคำอย่างสมบูรณ์ในปี 1971 ภายใต้การนำของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน

    ### 2. **บทบาทของทองคำในระบบการเงินสมัยใหม่**
    - **ทุนสำรองระหว่างประเทศ**: ทองคำยังคงเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศของหลายประเทศ ทองคำช่วยเพิ่มความมั่นใจในเสถียรภาพทางการเงินของประเทศและสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
    - **การลงทุน**: ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven Asset) ที่นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินมีความไม่แน่นอน เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
    - **เครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ**: ทองคำมักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ เนื่องจากมูลค่าของทองคำมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อค่าของเงินกระดาษลดลง

    ### 3. **ตลาดทองคำ**
    - **ตลาดฟิสิคัล**: ตลาดทองคำฟิสิคัลมีการซื้อขายทองคำในรูปแบบของแท่งทองคำ เหรียญทองคำ และเครื่องประดับ ตลาดสำคัญได้แก่ อินเดีย จีน และตะวันออกกลาง
    - **ตลาดอนุพันธ์**: ตลาดอนุพันธ์เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) และตัวเลือก (Options) ช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ

    ### 4. **ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ**
    - **ภาวะเศรษฐกิจโลก**: ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น
    - **อัตราดอกเบี้ย**: อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนการถือครองทองคำลดลง
    - **ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ**: ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากทองคำถูกซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์
    - **ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์**: ความขัดแย้งหรือความตึงเครียดทางการเมืองมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย

    ### 5. **อนาคตของทองคำในระบบการเงินโลก**
    - **การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี**: การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจส่งผลต่อบทบาทของทองคำในระบบการเงินโลก
    - **ความยั่งยืน**: การทำเหมืองทองคำและการผลิตทองคำมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจส่งผลต่อความต้องการทองคำในอนาคต

    ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำคัญในระบบการเงินโลก ทั้งในแง่ของการลงทุน การป้องกันความเสี่ยง และการเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ การเข้าใจบทบาทและปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำจะช่วยให้นักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    ทองคำมีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลกมาอย่างยาวนาน และยังคงมีความสำคัญในปัจจุบัน ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับทองคำกับการเงินโลก: ### 1. **ประวัติศาสตร์ของทองคำ** - **มาตรฐานทองคำ (Gold Standard)**: ในอดีต หลายประเทศใช้มาตรฐานทองคำ ซึ่งหมายความว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆ ผูกติดกับปริมาณทองคำที่ประเทศนั้นถือครอง ระบบนี้ช่วยรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ - **การยกเลิกมาตรฐานทองคำ**: ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หลายประเทศเริ่มยกเลิกมาตรฐานทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 สหรัฐอเมริกายกเลิกมาตรฐานทองคำอย่างสมบูรณ์ในปี 1971 ภายใต้การนำของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ### 2. **บทบาทของทองคำในระบบการเงินสมัยใหม่** - **ทุนสำรองระหว่างประเทศ**: ทองคำยังคงเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศของหลายประเทศ ทองคำช่วยเพิ่มความมั่นใจในเสถียรภาพทางการเงินของประเทศและสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ - **การลงทุน**: ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven Asset) ที่นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินมีความไม่แน่นอน เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ - **เครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ**: ทองคำมักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ เนื่องจากมูลค่าของทองคำมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อค่าของเงินกระดาษลดลง ### 3. **ตลาดทองคำ** - **ตลาดฟิสิคัล**: ตลาดทองคำฟิสิคัลมีการซื้อขายทองคำในรูปแบบของแท่งทองคำ เหรียญทองคำ และเครื่องประดับ ตลาดสำคัญได้แก่ อินเดีย จีน และตะวันออกกลาง - **ตลาดอนุพันธ์**: ตลาดอนุพันธ์เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) และตัวเลือก (Options) ช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ ### 4. **ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ** - **ภาวะเศรษฐกิจโลก**: ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น - **อัตราดอกเบี้ย**: อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนการถือครองทองคำลดลง - **ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ**: ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากทองคำถูกซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์ - **ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์**: ความขัดแย้งหรือความตึงเครียดทางการเมืองมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย ### 5. **อนาคตของทองคำในระบบการเงินโลก** - **การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี**: การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจส่งผลต่อบทบาทของทองคำในระบบการเงินโลก - **ความยั่งยืน**: การทำเหมืองทองคำและการผลิตทองคำมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจส่งผลต่อความต้องการทองคำในอนาคต ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำคัญในระบบการเงินโลก ทั้งในแง่ของการลงทุน การป้องกันความเสี่ยง และการเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ การเข้าใจบทบาทและปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำจะช่วยให้นักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1218 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตรวจพบมัลแวร์ใหม่ในระบบ macOS โดย Microsoft ซึ่งมัลแวร์นี้เป็นเวอร์ชันปรับปรุงของ XCSSET infostealer ที่เคยมีอยู่ก่อนหน้านี้ครับ มีการพัฒนาวิธีการปกปิดตัวเองให้ซับซ้อนยิ่งขึ้น และเพิ่มความสามารถในการติดตั้งและคงอยู่ในระบบ

    Microsoft รายงานว่ามัลแวร์ XCSSET ตัวใหม่นี้สามารถดึงข้อมูลระบบและไฟล์ต่างๆ ขโมยข้อมูลในกระเป๋าเงินดิจิทัล และดึงข้อมูลจากแอป Notes ของ Apple ด้วยการติดตั้งมัลแวร์ในโครงการ Xcode ซึ่งเป็นเครื่องมือพัฒนาแอปของ Apple

    ความน่าสนใจของมัลแวร์ตัวนี้คือการใช้เทคนิคสุ่มเพื่อสร้าง payload และการติดตั้งมัลแวร์ในไฟล์ .zshrc และ dock ซึ่งมัลแวร์จะสร้างไฟล์ที่มี payload แล้วเพิ่มคำสั่งในไฟล์ .zshrc เพื่อให้ payload ถูกเรียกใช้ทุกครั้งที่มีการเปิด shell ใหม่ และยังใช้เครื่องมือ dockutil ที่ถูกดาวน์โหลดจากเซิร์ฟเวอร์ควบคุมเพื่อจัดการรายการใน dock โดยสร้างแอป Launchpad ปลอมและแทนที่แอปจริง

    ถึงแม้ว่าจะมีการโจมตีในวงจำกัด แต่ Microsoft เตือนให้ผู้ใช้ทุกคนตรวจสอบโครงการ Xcode ที่ดาวน์โหลดหรือโคลนจาก repositories อย่างละเอียด และควรติดตั้งแอปจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น

    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-spies-a-new-and-worrying-macos-malware-strain
    ตรวจพบมัลแวร์ใหม่ในระบบ macOS โดย Microsoft ซึ่งมัลแวร์นี้เป็นเวอร์ชันปรับปรุงของ XCSSET infostealer ที่เคยมีอยู่ก่อนหน้านี้ครับ มีการพัฒนาวิธีการปกปิดตัวเองให้ซับซ้อนยิ่งขึ้น และเพิ่มความสามารถในการติดตั้งและคงอยู่ในระบบ Microsoft รายงานว่ามัลแวร์ XCSSET ตัวใหม่นี้สามารถดึงข้อมูลระบบและไฟล์ต่างๆ ขโมยข้อมูลในกระเป๋าเงินดิจิทัล และดึงข้อมูลจากแอป Notes ของ Apple ด้วยการติดตั้งมัลแวร์ในโครงการ Xcode ซึ่งเป็นเครื่องมือพัฒนาแอปของ Apple ความน่าสนใจของมัลแวร์ตัวนี้คือการใช้เทคนิคสุ่มเพื่อสร้าง payload และการติดตั้งมัลแวร์ในไฟล์ .zshrc และ dock ซึ่งมัลแวร์จะสร้างไฟล์ที่มี payload แล้วเพิ่มคำสั่งในไฟล์ .zshrc เพื่อให้ payload ถูกเรียกใช้ทุกครั้งที่มีการเปิด shell ใหม่ และยังใช้เครื่องมือ dockutil ที่ถูกดาวน์โหลดจากเซิร์ฟเวอร์ควบคุมเพื่อจัดการรายการใน dock โดยสร้างแอป Launchpad ปลอมและแทนที่แอปจริง ถึงแม้ว่าจะมีการโจมตีในวงจำกัด แต่ Microsoft เตือนให้ผู้ใช้ทุกคนตรวจสอบโครงการ Xcode ที่ดาวน์โหลดหรือโคลนจาก repositories อย่างละเอียด และควรติดตั้งแอปจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-spies-a-new-and-worrying-macos-malware-strain
    WWW.TECHRADAR.COM
    Microsoft spies a new and worrying macOS malware strain
    XCSSET infostealer was updated after more than two years
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • sSET พยายามจะฟื้นตัวขึ้น ไม่ได้ลงต่อ
    ส่วน SET50, SET ถูกกดดัชนีด้วย DELTA, AOT
    (แต่วันนี้ ตัวใหญ่อื่นๆ ก็บวกยกแผงนะ)

    17/02/2568

    ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไลน์ "100Per by ของดี".
    🌼พิมพ์รห้สเข้า 100perr

    Visit the link below to join the OpenChat.
    https://line.me/ti/g2/W8kfAjEr152TggKzNe5m-gwfOQ3sOnq-0d7YiQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    sSET พยายามจะฟื้นตัวขึ้น ไม่ได้ลงต่อ ส่วน SET50, SET ถูกกดดัชนีด้วย DELTA, AOT (แต่วันนี้ ตัวใหญ่อื่นๆ ก็บวกยกแผงนะ) 17/02/2568 ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไลน์ "100Per by ของดี". 🌼พิมพ์รห้สเข้า 100perr Visit the link below to join the OpenChat. https://line.me/ti/g2/W8kfAjEr152TggKzNe5m-gwfOQ3sOnq-0d7YiQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    LINE.ME
    ของดี
    สิ่งดีๆสำหรับทุกคน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • แพม บอนดี (Pam Bondi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ มีคำสั่งปิดหน่วยงานเฉพาะกิจ ที่ใช้ต่อต้านรัสเซีย

    - Task Force KleptoCapture
    - The DOJ Kleptocracy Team
    - The DOJ Kleptocracy Asset Recovery Initiative

    หน่วยงานเหล่านี้ในยุคของไบเดนถูกให้ทำหน้าที่บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรบุคคลสำคัญรวมทั้งนักธุรกิจของรัสเซีย ที่ผ่านมาสามารถยึด(ขโมย)ทรัพย์สินไปได้หลายพันล้านเหรียญตั้งแต่ปี 2010

    โดยเฉพาะในช่วงปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียตั้งแต่ปี 2022 หน่วยงานเหล่านี้ ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินของกลุ่มผู้มีอำนาจตัดสินใจของรัสเซียกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เรือยอทช์ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์หรูหรา

    ที่ผ่านมาการอายัดทรัพย์สินของรัสเซียกลายเป็นส่วนหนึ่งในชนวนความขัดแย้งครั้งใหญ่ระหว่างสหรัฐและรัสเซีย

    เจ้าหน้าที่จะถูกมอบหมายหน้าที่ใหม่ไปที่การต่อสู้กับกลุ่มค้ายาและความปลอดภัยชายแดนแทน

    แพม บอนดี (Pam Bondi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ มีคำสั่งปิดหน่วยงานเฉพาะกิจ ที่ใช้ต่อต้านรัสเซีย - Task Force KleptoCapture - The DOJ Kleptocracy Team - The DOJ Kleptocracy Asset Recovery Initiative หน่วยงานเหล่านี้ในยุคของไบเดนถูกให้ทำหน้าที่บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรบุคคลสำคัญรวมทั้งนักธุรกิจของรัสเซีย ที่ผ่านมาสามารถยึด(ขโมย)ทรัพย์สินไปได้หลายพันล้านเหรียญตั้งแต่ปี 2010 โดยเฉพาะในช่วงปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียตั้งแต่ปี 2022 หน่วยงานเหล่านี้ ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินของกลุ่มผู้มีอำนาจตัดสินใจของรัสเซียกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เรือยอทช์ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์หรูหรา ที่ผ่านมาการอายัดทรัพย์สินของรัสเซียกลายเป็นส่วนหนึ่งในชนวนความขัดแย้งครั้งใหญ่ระหว่างสหรัฐและรัสเซีย เจ้าหน้าที่จะถูกมอบหมายหน้าที่ใหม่ไปที่การต่อสู้กับกลุ่มค้ายาและความปลอดภัยชายแดนแทน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 455 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท BlackRock กำลังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ (bitcoin exchange-traded product) ในยุโรปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้ผู้จัดการกองทุนและผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี่ได้มากขึ้น แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์นี้จะถูกจดทะเบียนในสวิตเซอร์แลนด์

    ที่ผ่านมา BlackRock เป็นหนึ่งในนักลงทุนสถาบันรายแรกที่เสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ติดตามราคาจริงของบิทคอยน์ หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อนุมัติผลิตภัณฑ์ในเดือนมกราคม 2024 การเคลื่อนไหวนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความหวังให้กับอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี่ว่าคริปโตจะเป็นส่วนหนึ่งของการเงินกระแสหลักมากขึ้น

    ผลิตภัณฑ์บิทคอยน์ของ BlackRock ชื่อ IBIT ได้รับความนิยมอย่างมาก มีสินทรัพย์สุทธิถึง $57.5 พันล้าน ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2025 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทั่วโลกบางส่วนไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้

    ตลาดคริปโตในยุโรปกำลังเผชิญกับการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น โดยสหภาพยุโรปได้เริ่มใช้กรอบการกำกับดูแลคริปโตที่เรียกว่า Markets in Crypto-Assets Regulation (MiCA) ตั้งแต่ต้นปี 2023 ทำให้บริษัทในยุโรปต้องปรับตัวและปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่เหล่านี้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/06/blackrock-prepares-to-launch-bitcoin-exchange-traded-product-in-europe-source-says
    บริษัท BlackRock กำลังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ (bitcoin exchange-traded product) ในยุโรปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้ผู้จัดการกองทุนและผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี่ได้มากขึ้น แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์นี้จะถูกจดทะเบียนในสวิตเซอร์แลนด์ ที่ผ่านมา BlackRock เป็นหนึ่งในนักลงทุนสถาบันรายแรกที่เสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ติดตามราคาจริงของบิทคอยน์ หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อนุมัติผลิตภัณฑ์ในเดือนมกราคม 2024 การเคลื่อนไหวนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความหวังให้กับอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี่ว่าคริปโตจะเป็นส่วนหนึ่งของการเงินกระแสหลักมากขึ้น ผลิตภัณฑ์บิทคอยน์ของ BlackRock ชื่อ IBIT ได้รับความนิยมอย่างมาก มีสินทรัพย์สุทธิถึง $57.5 พันล้าน ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2025 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทั่วโลกบางส่วนไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้ ตลาดคริปโตในยุโรปกำลังเผชิญกับการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น โดยสหภาพยุโรปได้เริ่มใช้กรอบการกำกับดูแลคริปโตที่เรียกว่า Markets in Crypto-Assets Regulation (MiCA) ตั้งแต่ต้นปี 2023 ทำให้บริษัทในยุโรปต้องปรับตัวและปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่เหล่านี้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/06/blackrock-prepares-to-launch-bitcoin-exchange-traded-product-in-europe-source-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    BlackRock prepares to launch bitcoin exchange-traded product in Europe, source says
    LONDON (Reuters) - BlackRock is gearing up to launch a bitcoin exchange-traded product in Europe within weeks, a source familiar with the matter told Reuters, amid growing demand for exposure to cryptocurrencies from both money managers and consumers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 488 มุมมอง 0 รีวิว
  • Verbatim และ I-O Data ได้ให้คำมั่นว่าจะยังคงสนับสนุนตลาดสื่อบันทึกข้อมูลแบบออปติคอล หลังจากที่ Sony Japan ประกาศถอนตัวจากตลาด Blu-ray ที่สามารถบันทึกได้ Verbatim ได้ออกแถลงการณ์บนเว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่นของตนว่า จะตอบสนองความไว้วางใจของลูกค้าผ่านการจัดหาดิสก์ออปติคอลอย่างต่อเนื่องในตลาดญี่ปุ่น และยังคงขายต่อไป

    การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Sony ประกาศปิดโรงงานผลิตสื่อบันทึกข้อมูลในญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึง Blu-ray, MiniDiscs และ MiniDV cassettes ที่สามารถบันทึกได้ โรงงานสุดท้ายของ Sony ในญี่ปุ่นจะปิดตัวลงในเดือนนี้ และได้หยุดจัดหาสื่อบันทึก Blu-ray ให้กับผู้บริโภคตั้งแต่ฤดูร้อนที่ผ่านมา

    Verbatim ย้ำว่าการจัดหาสื่อบันทึกข้อมูลคุณภาพสูงให้กับลูกค้าชาวญี่ปุ่นเป็น "สิ่งสำคัญอันดับต้น" และจะยังคงให้บริการสื่อบันทึกข้อมูลเหล่านี้ต่อไป แม้ว่าตลาดจะอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

    นอกจากนี้ Verbatim ยังได้เปิดตัวฮาร์ดแวร์การอ่าน/เขียนดิสก์ออปติคอลใหม่ เช่น Slimline Blu-ray Writer ที่งาน CES 2025 ซึ่งเป็นเครื่องเขียน 4K ที่สามารถเล่น Ultra HD Blu-ray และใช้พลังงานจากสาย USB

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/verbatim-pledges-stable-supply-of-optical-disks-after-sony-japans-recordable-blu-ray-exit
    Verbatim และ I-O Data ได้ให้คำมั่นว่าจะยังคงสนับสนุนตลาดสื่อบันทึกข้อมูลแบบออปติคอล หลังจากที่ Sony Japan ประกาศถอนตัวจากตลาด Blu-ray ที่สามารถบันทึกได้ Verbatim ได้ออกแถลงการณ์บนเว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่นของตนว่า จะตอบสนองความไว้วางใจของลูกค้าผ่านการจัดหาดิสก์ออปติคอลอย่างต่อเนื่องในตลาดญี่ปุ่น และยังคงขายต่อไป การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Sony ประกาศปิดโรงงานผลิตสื่อบันทึกข้อมูลในญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึง Blu-ray, MiniDiscs และ MiniDV cassettes ที่สามารถบันทึกได้ โรงงานสุดท้ายของ Sony ในญี่ปุ่นจะปิดตัวลงในเดือนนี้ และได้หยุดจัดหาสื่อบันทึก Blu-ray ให้กับผู้บริโภคตั้งแต่ฤดูร้อนที่ผ่านมา Verbatim ย้ำว่าการจัดหาสื่อบันทึกข้อมูลคุณภาพสูงให้กับลูกค้าชาวญี่ปุ่นเป็น "สิ่งสำคัญอันดับต้น" และจะยังคงให้บริการสื่อบันทึกข้อมูลเหล่านี้ต่อไป แม้ว่าตลาดจะอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นอกจากนี้ Verbatim ยังได้เปิดตัวฮาร์ดแวร์การอ่าน/เขียนดิสก์ออปติคอลใหม่ เช่น Slimline Blu-ray Writer ที่งาน CES 2025 ซึ่งเป็นเครื่องเขียน 4K ที่สามารถเล่น Ultra HD Blu-ray และใช้พลังงานจากสาย USB https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/verbatim-pledges-stable-supply-of-optical-disks-after-sony-japans-recordable-blu-ray-exit
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Verbatim pledges 'stable supply of optical disks' after Sony Japan's recordable Blu-ray exit
    Says it will continue to supply recordable Blu-ray, DVD, and CDs to the Japan market.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 558 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sony ประกาศยุติการผลิตสื่อบันทึกข้อมูล Blu-ray ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการสิ้นสุดการผลิตที่ยาวนานเกือบสองทศวรรษ. นอกจากนี้ยังรวมถึงการยุติการผลิต MiniDiscs สำหรับการบันทึก, MD data สำหรับการบันทึก, และ MiniDV cassettes ด้วย. Sony ระบุว่าจะไม่มีรุ่นต่อจาก Blu-ray อีกต่อไป

    การยุติการผลิตนี้เกิดขึ้นเนื่องจากยอดขายสื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้บริโภคหันมาใช้บริการสตรีมมิ่งมากขึ้น แม้ว่า Blu-ray จะเคยเป็นที่นิยมในช่วงแรกๆ เนื่องจากความร่วมมือกับสตูดิโอภาพยนตร์และการรวมเทคโนโลยี Blu-ray ใน PlayStation 3 แต่ปัจจุบันยอดขายไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจสื่อบันทึกข้อมูลของ Sony ยังคงอยู่ได้

    น่าสนใจที่เห็นว่าการยุติการผลิต Blu-ray ของ Sony อาจทำให้การหาซื้อแผ่น Blu-ray และเครื่องเล่น Blu-ray จากร้านค้าปลีกยากขึ้น แต่ยังคงสามารถหาซื้อได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์เช่น Amazon ในขณะที่การใช้สื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นลดลง ผู้ใช้หลายคนหันมาใช้การเก็บข้อมูลบนคลาวด์แทน แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายรายเดือนและปัญหาด้านความปลอดภัย

    การเก็บข้อมูลบนสื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นยังคงมีข้อดี เนื่องจากสามารถเก็บข้อมูลได้นานหลายทศวรรษ หากเก็บรักษาอย่างถูกต้อง แม้ว่า Sony จะยุติการผลิต Blu-ray แต่คู่แข่งอย่าง Pioneer ยังคงพัฒนาสื่อบันทึกข้อมูล Blu-ray ที่ออกแบบมาให้มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 100 ปี และนักวิจัยบางคนกำลังทำงานกับการเก็บข้อมูลบนแก้วที่สามารถเก็บข้อมูลได้นานถึง 5,000 ปี

    การยุติการผลิต Blu-ray ของ Sony เป็นการสิ้นสุดยุคหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้ผู้สะสมภาพยนตร์ต้องหาวิธีใหม่ในการเก็บรักษาคอลเลกชันของพวกเขา การเปลี่ยนไปใช้บริการสตรีมมิ่งทำให้การเป็นเจ้าของภาพยนตร์และรายการทีวีเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน เนื่องจากอาจหายไปจากบริการสตรีมมิ่งโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/after-18-years-blu-ray-media-production-draws-to-a-close-sony-shuts-its-last-factory-in-feb
    Sony ประกาศยุติการผลิตสื่อบันทึกข้อมูล Blu-ray ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการสิ้นสุดการผลิตที่ยาวนานเกือบสองทศวรรษ. นอกจากนี้ยังรวมถึงการยุติการผลิต MiniDiscs สำหรับการบันทึก, MD data สำหรับการบันทึก, และ MiniDV cassettes ด้วย. Sony ระบุว่าจะไม่มีรุ่นต่อจาก Blu-ray อีกต่อไป การยุติการผลิตนี้เกิดขึ้นเนื่องจากยอดขายสื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้บริโภคหันมาใช้บริการสตรีมมิ่งมากขึ้น แม้ว่า Blu-ray จะเคยเป็นที่นิยมในช่วงแรกๆ เนื่องจากความร่วมมือกับสตูดิโอภาพยนตร์และการรวมเทคโนโลยี Blu-ray ใน PlayStation 3 แต่ปัจจุบันยอดขายไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจสื่อบันทึกข้อมูลของ Sony ยังคงอยู่ได้ น่าสนใจที่เห็นว่าการยุติการผลิต Blu-ray ของ Sony อาจทำให้การหาซื้อแผ่น Blu-ray และเครื่องเล่น Blu-ray จากร้านค้าปลีกยากขึ้น แต่ยังคงสามารถหาซื้อได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์เช่น Amazon ในขณะที่การใช้สื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นลดลง ผู้ใช้หลายคนหันมาใช้การเก็บข้อมูลบนคลาวด์แทน แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายรายเดือนและปัญหาด้านความปลอดภัย การเก็บข้อมูลบนสื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นยังคงมีข้อดี เนื่องจากสามารถเก็บข้อมูลได้นานหลายทศวรรษ หากเก็บรักษาอย่างถูกต้อง แม้ว่า Sony จะยุติการผลิต Blu-ray แต่คู่แข่งอย่าง Pioneer ยังคงพัฒนาสื่อบันทึกข้อมูล Blu-ray ที่ออกแบบมาให้มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 100 ปี และนักวิจัยบางคนกำลังทำงานกับการเก็บข้อมูลบนแก้วที่สามารถเก็บข้อมูลได้นานถึง 5,000 ปี การยุติการผลิต Blu-ray ของ Sony เป็นการสิ้นสุดยุคหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้ผู้สะสมภาพยนตร์ต้องหาวิธีใหม่ในการเก็บรักษาคอลเลกชันของพวกเขา การเปลี่ยนไปใช้บริการสตรีมมิ่งทำให้การเป็นเจ้าของภาพยนตร์และรายการทีวีเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน เนื่องจากอาจหายไปจากบริการสตรีมมิ่งโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/after-18-years-blu-ray-media-production-draws-to-a-close-sony-shuts-its-last-factory-in-feb
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    After 18 years, Sony's Blu-ray media production draws to a close — shuts its last factory in Feb
    MiniDiscs for recording, MD data for recording, and MiniDV cassettes will also be abandoned.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอุทธรณ์สหรัฐยกเลิกคำสั่งสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ให้ถอนการคว่ำบาตร Tornado Cash ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคริปโตมิกเซอร์ โดยคำตัดสินใหม่ระบุว่า “ศาลมีคำสั่งให้คำตัดสินเดิมถูกยกเลิก และส่งกลับไปยังศาลชั้นต้นเพื่อดำเนินการพิจารณาเพิ่มเติม”

    ทั้งนี้ OFAC ทำหน้าที่บริหารและบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการค้าต่อเขตอำนาจศาลและระบอบการปกครองต่างประเทศที่เป็นเป้าหมาย ตลอดจนบุคคลและนิติบุคคลที่กระทำกิจกรรมที่เป็นอันตราย เช่น ผู้ก่อการร้าย ผู้ค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ผู้แพร่ขยายอาวุธทำลายล้างสูง

    สาเหตุคว่ำบาตร Tornado Cash เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2022 Office of Foreign Assets Control (OFAC) ได้กำหนดให้ Tornado Cash เป็นหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตร โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้โดยเกาหลีเหนือในการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ เช่น การฟอกเงินจากคริปโตที่ถูกขโมย นอกจากนี้ Alexey Pertsev นักพัฒนาของ Tornado Cash ยังถูกตัดสินจำคุกกว่า 5 ปีในข้อหาฟอกเงิน

    หลังจากการคว่ำบาตร Tornado Cash ผู้ใช้งานชื่อ Joseph Van Loon และผู้ร่วมฟ้องร้องอีก 5 คนได้ยื่นฟ้องต่อกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยอ้างว่าการคว่ำบาตรดังกล่าวเกินขอบเขตอำนาจที่กำหนดไว้ใน International Emergency Economic Powers Act (IEEPA)

    โดยข้อถกเถียงหลักอยู่ที่คำจำกัดความของคำว่า “ทรัพย์สิน” ซึ่งในกรณีของ Tornado Cash ศาลอุทธรณ์เห็นว่า smart contracts ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (immutable) ไม่ถือเป็นทรัพย์สินตามคำจำกัดความ

    ในขณะที่ศาลอุทธรณ์ระบุว่า แม้ OFAC จะอ้างว่าการคว่ำบาตรสามารถขยายไปถึง “สัญญา” แต่ immutable smart contracts ไม่ใช่สัญญาที่ต้องมีการตกลงกันระหว่างสองฝ่าย อีกทั้ง Tornado Cash ซึ่งดำเนินการโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ ก็ไม่เข้าข่ายการเป็น “บริการ” ตามที่กระทรวงการคลังได้โต้แย้ง

    คำตัดสินนี้แสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดของ IEEPA ในการกำหนดอำนาจของประธานาธิบดีในการควบคุมธุรกรรมทางเศรษฐกิจ ศาลย้ำว่า “การแก้ไขช่องโหว่หรือปรับปรุงผลกระทบของกฎหมายเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ของศาล”

    ที่มา: TheBlock ในขณะที่ศาลอุทธรณ์ระบุว่า แม้ OFAC จะอ้างว่าการคว่ำบาตรสามารถขยายไปถึง “สัญญา” แต่ immutable smart contracts ไม่ใช่สัญญาที่ต้องมีการตกลงกันระหว่างสองฝ่าย อีกทั้ง Tornado Cash ซึ่งดำเนินการโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ ก็ไม่เข้าข่ายการเป็น “บริการ” ตามที่กระทรวงการคลังได้โต้แย้ง

    คำตัดสินนี้แสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดของ IEEPA ในการกำหนดอำนาจของประธานาธิบดีในการควบคุมธุรกรรมทางเศรษฐกิจ ศาลย้ำว่า “การแก้ไขช่องโหว่หรือปรับปรุงผลกระทบของกฎหมายเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ของศาล”

    ที่มา:
    https://storage.courtlistener.com/recap/gov.uscourts.txwd.1211705/gov.uscourts.txwd.1211705.99.0.pdf
    ศาลอุทธรณ์สหรัฐยกเลิกคำสั่งสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ให้ถอนการคว่ำบาตร Tornado Cash ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคริปโตมิกเซอร์ โดยคำตัดสินใหม่ระบุว่า “ศาลมีคำสั่งให้คำตัดสินเดิมถูกยกเลิก และส่งกลับไปยังศาลชั้นต้นเพื่อดำเนินการพิจารณาเพิ่มเติม” ทั้งนี้ OFAC ทำหน้าที่บริหารและบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการค้าต่อเขตอำนาจศาลและระบอบการปกครองต่างประเทศที่เป็นเป้าหมาย ตลอดจนบุคคลและนิติบุคคลที่กระทำกิจกรรมที่เป็นอันตราย เช่น ผู้ก่อการร้าย ผู้ค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ผู้แพร่ขยายอาวุธทำลายล้างสูง สาเหตุคว่ำบาตร Tornado Cash เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2022 Office of Foreign Assets Control (OFAC) ได้กำหนดให้ Tornado Cash เป็นหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตร โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้โดยเกาหลีเหนือในการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ เช่น การฟอกเงินจากคริปโตที่ถูกขโมย นอกจากนี้ Alexey Pertsev นักพัฒนาของ Tornado Cash ยังถูกตัดสินจำคุกกว่า 5 ปีในข้อหาฟอกเงิน หลังจากการคว่ำบาตร Tornado Cash ผู้ใช้งานชื่อ Joseph Van Loon และผู้ร่วมฟ้องร้องอีก 5 คนได้ยื่นฟ้องต่อกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยอ้างว่าการคว่ำบาตรดังกล่าวเกินขอบเขตอำนาจที่กำหนดไว้ใน International Emergency Economic Powers Act (IEEPA) โดยข้อถกเถียงหลักอยู่ที่คำจำกัดความของคำว่า “ทรัพย์สิน” ซึ่งในกรณีของ Tornado Cash ศาลอุทธรณ์เห็นว่า smart contracts ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (immutable) ไม่ถือเป็นทรัพย์สินตามคำจำกัดความ ในขณะที่ศาลอุทธรณ์ระบุว่า แม้ OFAC จะอ้างว่าการคว่ำบาตรสามารถขยายไปถึง “สัญญา” แต่ immutable smart contracts ไม่ใช่สัญญาที่ต้องมีการตกลงกันระหว่างสองฝ่าย อีกทั้ง Tornado Cash ซึ่งดำเนินการโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ ก็ไม่เข้าข่ายการเป็น “บริการ” ตามที่กระทรวงการคลังได้โต้แย้ง คำตัดสินนี้แสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดของ IEEPA ในการกำหนดอำนาจของประธานาธิบดีในการควบคุมธุรกรรมทางเศรษฐกิจ ศาลย้ำว่า “การแก้ไขช่องโหว่หรือปรับปรุงผลกระทบของกฎหมายเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ของศาล” ที่มา: TheBlock ในขณะที่ศาลอุทธรณ์ระบุว่า แม้ OFAC จะอ้างว่าการคว่ำบาตรสามารถขยายไปถึง “สัญญา” แต่ immutable smart contracts ไม่ใช่สัญญาที่ต้องมีการตกลงกันระหว่างสองฝ่าย อีกทั้ง Tornado Cash ซึ่งดำเนินการโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ ก็ไม่เข้าข่ายการเป็น “บริการ” ตามที่กระทรวงการคลังได้โต้แย้ง คำตัดสินนี้แสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดของ IEEPA ในการกำหนดอำนาจของประธานาธิบดีในการควบคุมธุรกรรมทางเศรษฐกิจ ศาลย้ำว่า “การแก้ไขช่องโหว่หรือปรับปรุงผลกระทบของกฎหมายเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ของศาล” ที่มา: https://storage.courtlistener.com/recap/gov.uscourts.txwd.1211705/gov.uscourts.txwd.1211705.99.0.pdf
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 632 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ของจีน มีศักยภาพที่จะตามทัน Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ในด้านมูลค่าตลาด โดยนาย Wong Kok Hoi ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ APS Asset Management เชื่อว่า SMIC จะสามารถลดช่องว่างระหว่างสองบริษัทนี้ได้ในอนาคต

    นาย Wong Kok Hoi เชื่อว่า SMIC มีข้อได้เปรียบจากทรัพยากรมนุษย์และการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินงานในขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาลูกค้าจากตะวันตก นอกจากนี้ ตลาดภายในประเทศจีนที่ใหญ่โตยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ SMIC สามารถทำกำไรได้โดยไม่ต้องพึ่งพาตลาดสหรัฐอเมริกา

    นาย Wong ยังกล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาอุปกรณ์ EUV lithography ซึ่งหากบริษัทจีนสามารถพัฒนาได้สำเร็จ จะทำให้สงครามชิปสิ้นสุดลง และบริษัทสหรัฐอเมริกาจะประสบปัญหาใหญ่เนื่องจากบริษัทจีนจะไม่ต้องการซื้ออุปกรณ์หรือชิปจากสหรัฐอเมริกาอีกต่อไป

    TSMC เป็นผู้ผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าตลาดล่าสุดอยู่ที่ 841 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Apple, NVIDIA และ AMD. ในขณะที่ SMIC เป็นผู้ผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในจีน แต่ยังคงประสบปัญหาในการพัฒนาชิปที่มีเทคโนโลยีสูงกว่า 7 นาโนเมตร เนื่องจากการคว่ำบาตรจากสหรัฐอเมริกา

    https://wccf.tech/1fsi0
    บริษัท Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ของจีน มีศักยภาพที่จะตามทัน Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ในด้านมูลค่าตลาด โดยนาย Wong Kok Hoi ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ APS Asset Management เชื่อว่า SMIC จะสามารถลดช่องว่างระหว่างสองบริษัทนี้ได้ในอนาคต นาย Wong Kok Hoi เชื่อว่า SMIC มีข้อได้เปรียบจากทรัพยากรมนุษย์และการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินงานในขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาลูกค้าจากตะวันตก นอกจากนี้ ตลาดภายในประเทศจีนที่ใหญ่โตยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ SMIC สามารถทำกำไรได้โดยไม่ต้องพึ่งพาตลาดสหรัฐอเมริกา นาย Wong ยังกล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาอุปกรณ์ EUV lithography ซึ่งหากบริษัทจีนสามารถพัฒนาได้สำเร็จ จะทำให้สงครามชิปสิ้นสุดลง และบริษัทสหรัฐอเมริกาจะประสบปัญหาใหญ่เนื่องจากบริษัทจีนจะไม่ต้องการซื้ออุปกรณ์หรือชิปจากสหรัฐอเมริกาอีกต่อไป TSMC เป็นผู้ผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าตลาดล่าสุดอยู่ที่ 841 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Apple, NVIDIA และ AMD. ในขณะที่ SMIC เป็นผู้ผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในจีน แต่ยังคงประสบปัญหาในการพัฒนาชิปที่มีเทคโนโลยีสูงกว่า 7 นาโนเมตร เนื่องจากการคว่ำบาตรจากสหรัฐอเมริกา https://wccf.tech/1fsi0
    WCCF.TECH
    SMIC Will Catch Up With TSMC's 'Trillion Dollar' Market Cap, Says Hedge Fund Boss
    China's SMIC will catch up to TSMC in market value with key breakthrough being EUV equipment, believes a hedge fund boss.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 405 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts