• ReactOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการโอเพ่นซอร์สที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้เข้ากันได้กับ Windows NT ได้เพิ่มการรองรับไดรเวอร์สำหรับ GPU รุ่น Voodoo5 ของ 3dfx ซึ่งเป็นการ์ดจอที่ได้รับความนิยมในยุค 90 โดยนักพัฒนาได้รายงานว่าประสิทธิภาพในแอปพลิเคชัน OpenGL นั้นใกล้เคียงกับการใช้งานบน Windows NT แม้ว่าจะยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การไม่รองรับโหมดหน้าต่าง

    การ์ดจอ Voodoo5 ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายของ 3dfx ได้รับความนิยมในหมู่เกมเมอร์และนักสะสม เนื่องจากความสามารถในการรองรับเกมที่ใช้ Glide API และความเร็วที่โดดเด่นในยุคนั้น

    ReactOS ยังคงอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา Alpha และมีเป้าหมายเพื่อให้เป็นระบบที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับการใช้งานฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า โดยในเวอร์ชันล่าสุด 0.4.15 ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น การรองรับ Plug-and-Play และการจัดการหน่วยความจำที่ดีขึ้น

    ✅ การรองรับ GPU รุ่น Voodoo5
    - ReactOS เพิ่มการรองรับไดรเวอร์สำหรับ GPU รุ่น Voodoo5
    - ประสิทธิภาพในแอปพลิเคชัน OpenGL ใกล้เคียงกับการใช้งานบน Windows NT

    ✅ ความสำคัญของการ์ดจอ Voodoo5
    - เป็นรุ่นสุดท้ายของ 3dfx และได้รับความนิยมในหมู่เกมเมอร์และนักสะสม
    - รองรับเกมที่ใช้ Glide API และมีความเร็วที่โดดเด่นในยุคนั้น

    ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน ReactOS เวอร์ชัน 0.4.15
    - รองรับ Plug-and-Play และการจัดการหน่วยความจำที่ดีขึ้น
    - เพิ่มการรองรับรูปแบบเสียงและอุปกรณ์เสริม

    ✅ เป้าหมายของ ReactOS
    - มุ่งเน้นการเป็นระบบที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับการใช้งานฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า
    - เหมาะสำหรับการทดสอบและการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความปลอดภัย

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/reactos-now-supports-3dfxs-voodoo5-gpus-open-source-windows-alternative-offers-near-native-performance-for-retro-gamers
    ReactOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการโอเพ่นซอร์สที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้เข้ากันได้กับ Windows NT ได้เพิ่มการรองรับไดรเวอร์สำหรับ GPU รุ่น Voodoo5 ของ 3dfx ซึ่งเป็นการ์ดจอที่ได้รับความนิยมในยุค 90 โดยนักพัฒนาได้รายงานว่าประสิทธิภาพในแอปพลิเคชัน OpenGL นั้นใกล้เคียงกับการใช้งานบน Windows NT แม้ว่าจะยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การไม่รองรับโหมดหน้าต่าง การ์ดจอ Voodoo5 ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายของ 3dfx ได้รับความนิยมในหมู่เกมเมอร์และนักสะสม เนื่องจากความสามารถในการรองรับเกมที่ใช้ Glide API และความเร็วที่โดดเด่นในยุคนั้น ReactOS ยังคงอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา Alpha และมีเป้าหมายเพื่อให้เป็นระบบที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับการใช้งานฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า โดยในเวอร์ชันล่าสุด 0.4.15 ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น การรองรับ Plug-and-Play และการจัดการหน่วยความจำที่ดีขึ้น ✅ การรองรับ GPU รุ่น Voodoo5 - ReactOS เพิ่มการรองรับไดรเวอร์สำหรับ GPU รุ่น Voodoo5 - ประสิทธิภาพในแอปพลิเคชัน OpenGL ใกล้เคียงกับการใช้งานบน Windows NT ✅ ความสำคัญของการ์ดจอ Voodoo5 - เป็นรุ่นสุดท้ายของ 3dfx และได้รับความนิยมในหมู่เกมเมอร์และนักสะสม - รองรับเกมที่ใช้ Glide API และมีความเร็วที่โดดเด่นในยุคนั้น ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน ReactOS เวอร์ชัน 0.4.15 - รองรับ Plug-and-Play และการจัดการหน่วยความจำที่ดีขึ้น - เพิ่มการรองรับรูปแบบเสียงและอุปกรณ์เสริม ✅ เป้าหมายของ ReactOS - มุ่งเน้นการเป็นระบบที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับการใช้งานฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า - เหมาะสำหรับการทดสอบและการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความปลอดภัย https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/reactos-now-supports-3dfxs-voodoo5-gpus-open-source-windows-alternative-offers-near-native-performance-for-retro-gamers
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • Intel ได้ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในแผนงานการผลิตชิป โดยเปิดตัวกระบวนการผลิตใหม่ที่เรียกว่า 18A-PT ซึ่งรองรับเทคโนโลยีการซ้อนชิปแบบ 3D (Foveros Direct 3D) และการเชื่อมต่อแบบไฮบริด (Hybrid Bonding) ซึ่งช่วยเพิ่มความหนาแน่นของการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพการทำงานของชิป นอกจากนี้ Intel ยังได้เริ่มการผลิตแบบเสี่ยง (Risk Production) สำหรับกระบวนการ 18A และเตรียมเข้าสู่การผลิตในปริมาณมากภายในสิ้นปีนี้

    Intel ยังได้เปิดตัวกระบวนการผลิต 14A ซึ่งเป็นรุ่นต่อจาก 18A โดยใช้เทคโนโลยี High-NA EUV Lithography เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม และมีการพัฒนาเทคโนโลยี PowerDirect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายพลังงาน

    ในขณะเดียวกัน Intel ได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม เช่น EDA และ IP Partners เพื่อสนับสนุนการออกแบบชิปที่มีมาตรฐานสูง

    ✅ กระบวนการผลิต 18A และ 18A-PT
    - 18A-PT รองรับการซ้อนชิปแบบ 3D และการเชื่อมต่อแบบไฮบริด
    - 18A เริ่มการผลิตแบบเสี่ยงและเตรียมเข้าสู่การผลิตในปริมาณมาก

    ✅ กระบวนการผลิต 14A
    - ใช้เทคโนโลยี High-NA EUV Lithography เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม
    - พัฒนาเทคโนโลยี PowerDirect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายพลังงาน

    ✅ การขยายความร่วมมือในอุตสาหกรรม
    - ร่วมมือกับ EDA และ IP Partners เพื่อสนับสนุนการออกแบบชิป
    - ขยายโปรแกรม Intel Foundry Accelerator Alliance

    ✅ ความสำคัญของการพัฒนา
    - Intel เป็นผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ เพียงรายเดียวที่มีเทคโนโลยีการผลิตชั้นนำ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-foundry-roadmap-update-new-18a-pt-variant-that-enables-3d-die-stacking-14a-process-node-enablement
    Intel ได้ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในแผนงานการผลิตชิป โดยเปิดตัวกระบวนการผลิตใหม่ที่เรียกว่า 18A-PT ซึ่งรองรับเทคโนโลยีการซ้อนชิปแบบ 3D (Foveros Direct 3D) และการเชื่อมต่อแบบไฮบริด (Hybrid Bonding) ซึ่งช่วยเพิ่มความหนาแน่นของการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพการทำงานของชิป นอกจากนี้ Intel ยังได้เริ่มการผลิตแบบเสี่ยง (Risk Production) สำหรับกระบวนการ 18A และเตรียมเข้าสู่การผลิตในปริมาณมากภายในสิ้นปีนี้ Intel ยังได้เปิดตัวกระบวนการผลิต 14A ซึ่งเป็นรุ่นต่อจาก 18A โดยใช้เทคโนโลยี High-NA EUV Lithography เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม และมีการพัฒนาเทคโนโลยี PowerDirect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายพลังงาน ในขณะเดียวกัน Intel ได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม เช่น EDA และ IP Partners เพื่อสนับสนุนการออกแบบชิปที่มีมาตรฐานสูง ✅ กระบวนการผลิต 18A และ 18A-PT - 18A-PT รองรับการซ้อนชิปแบบ 3D และการเชื่อมต่อแบบไฮบริด - 18A เริ่มการผลิตแบบเสี่ยงและเตรียมเข้าสู่การผลิตในปริมาณมาก ✅ กระบวนการผลิต 14A - ใช้เทคโนโลยี High-NA EUV Lithography เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม - พัฒนาเทคโนโลยี PowerDirect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายพลังงาน ✅ การขยายความร่วมมือในอุตสาหกรรม - ร่วมมือกับ EDA และ IP Partners เพื่อสนับสนุนการออกแบบชิป - ขยายโปรแกรม Intel Foundry Accelerator Alliance ✅ ความสำคัญของการพัฒนา - Intel เป็นผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ เพียงรายเดียวที่มีเทคโนโลยีการผลิตชั้นนำ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-foundry-roadmap-update-new-18a-pt-variant-that-enables-3d-die-stacking-14a-process-node-enablement
    0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทย เกิดจากนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 เม.ย. มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทยจากสถานะ “ทรงตัว” เป็น “โน้มลง” ถึงแม้ระดับเรตติ้งจะคงเดิมก็ตาม (Baa1)นักวิเคราะห์บางคนเข้าใจว่า เกิดจากปัจจัยภาษีทรัมป์ ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของรัฐบาล โดยอาจดูจากคำบรรยาย[The already announced US tariffs are likely to weigh significantly on global trade and global economic growth, and which will affect Thailand's open economy. In addition, there remains significant uncertainty as to whether the US will implement additional tariffs on Thailand and other countries, after the 90-day pause elapse.][ภาษีทรัมป์จะกระทบเศรษฐกิจการค้าโลก และจะกระทบไทยเนื่องจากมีการส่งออกมาก รวมทั้งไม่ชัดเจนว่า เมื่อครบ 90 วัน สหรัฐจะยังเก็บภาษีตอบโต้เท่าใด]**แต่ในข้อเท็จจริง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ใช้พิจารณานั้น อยู่ที่นโยบายรัฐบาล ดังเห็นได้ว่า คำอธิบายเหตุผลเริ่มต้นว่า[The decision to change the outlook to negative from stable captures the risks that Thailand's economic and fiscal strength will weaken further.][เหตุผลที่เราลดอันดับ เนื่องจากไทยมีความเสี่ยงทั้งด้านเศรษฐกิจและฐานะการคลังมีแนวโน้มจะเลวลง][This shock exacerbates Thailand's already sluggish economic recovery post-pandemic, and risk aggravating the trend decline in the country's potential growth. Material downward pressures on Thailand's growth raises risks of further weakening in the government's fiscal position, which has already deteriorated since the pandemic.][เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิดอย่างอืดอาด และศักยภาพการเติบโตมีแนวโน้มต่ำลง ซึ่งจะยิ่งทำให้ฐานะการคลังที่อ่อนแออยู่แล้วตั้งแต่โควิด จะเลวลงไปอีก]**นี่เอง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ลดอันดับอนาคตไทย ก็เนื่องจากความเป็นห่วงในฐานะการคลัง **ซึ่งรัฐบาลมีรายจ่ายเกินรายได้ > ทำให้ขาดดุลงบประมาณทุกปี > ประกอบกับรัฐบาลนี้และรัฐบาลก่อนหน้ากู้เงินมาแจกหมื่น > เพื่อกินใช้รายวัน > โดยไม่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน > ถึงแม้ จีดีพีเพิ่มบ้างเล็กน้อยก็เป็นแบบไฟไหม้ฟาง วูบเดียวก็หมดไป**อย่างไรก็ดี มูดี้ส์ ให้คะแนน 3 ปัจจัยบวกหนึ่ง แบงค์ชาติและระบบราชการน่าเชื่อถือ[The affirmation of the Baa1 ratings reflects the country's moderately strong institutions and governance which support sound monetary and macroeconomic policies.][เรายังคงอันดับเครดิตไว้ที่ Baa1 เพราะองค์กรด้านนโยบายการเงินและพัฒนาเศรษฐกิจยังพอจะสามารถประคองความน่าเชื่อถือ]**ผมเพิ่มเติมว่า คือสังคมไทยยังช่วยกันคัดค้านการแทรกแซงที่ไม่ถูกต้องสอง มีการพัฒนาตลาดพันธบัตรดี[The Baal ratings also take into account Thailand's moderately strong debt affordability - despite the sharp increase in government debt since the pandemic - supported by its deep domestic markets and the fact that its government debt is almost entirely denominated in local currency.][และถึงแม้รัฐบาลจะกู้เงินมากแล้วตั้งแต่วิกฤตโควิด ตลาดพันธบัตรไทยได้พัฒนาจนมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับการกู้เพิ่มได้ การที่หนี้สาธารณะเกือบทั้งหมดเป็นสกุลบาท (ทำให้รัฐบาลไม่มีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน)]**ผมเพิ่มเติมว่า บุคคลหลักที่สร้างรากฐานตลาดพันธบัตรไทยคือ 2 อดีตผู้ว่าฯ ม.ร.ว.จตุมงคล และ ม.ร.ว.ปรีดียาธร โดยผมรับลูกในตำแหน่งเลขา ก.ล.ต.สาม มีทุนสำรองมั่นคง[Moreover, Thailand has a strong external position, with ample foreign exchange reserves buffer.][และไทยมีทุนสำรองมากพอ ฐานะหนี้สกุลต่างประเทศต่ำ]ผมจึงขอแนะนำให้รัฐบาลนำข้อวิเคราะห์เหล่านี้ไปปรับปรุงนโยบายเป็นการด่วนวันที่ 30 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทย เกิดจากนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 เม.ย. มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทยจากสถานะ “ทรงตัว” เป็น “โน้มลง” ถึงแม้ระดับเรตติ้งจะคงเดิมก็ตาม (Baa1)นักวิเคราะห์บางคนเข้าใจว่า เกิดจากปัจจัยภาษีทรัมป์ ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของรัฐบาล โดยอาจดูจากคำบรรยาย[The already announced US tariffs are likely to weigh significantly on global trade and global economic growth, and which will affect Thailand's open economy. In addition, there remains significant uncertainty as to whether the US will implement additional tariffs on Thailand and other countries, after the 90-day pause elapse.][ภาษีทรัมป์จะกระทบเศรษฐกิจการค้าโลก และจะกระทบไทยเนื่องจากมีการส่งออกมาก รวมทั้งไม่ชัดเจนว่า เมื่อครบ 90 วัน สหรัฐจะยังเก็บภาษีตอบโต้เท่าใด]**แต่ในข้อเท็จจริง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ใช้พิจารณานั้น อยู่ที่นโยบายรัฐบาล ดังเห็นได้ว่า คำอธิบายเหตุผลเริ่มต้นว่า[The decision to change the outlook to negative from stable captures the risks that Thailand's economic and fiscal strength will weaken further.][เหตุผลที่เราลดอันดับ เนื่องจากไทยมีความเสี่ยงทั้งด้านเศรษฐกิจและฐานะการคลังมีแนวโน้มจะเลวลง][This shock exacerbates Thailand's already sluggish economic recovery post-pandemic, and risk aggravating the trend decline in the country's potential growth. Material downward pressures on Thailand's growth raises risks of further weakening in the government's fiscal position, which has already deteriorated since the pandemic.][เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิดอย่างอืดอาด และศักยภาพการเติบโตมีแนวโน้มต่ำลง ซึ่งจะยิ่งทำให้ฐานะการคลังที่อ่อนแออยู่แล้วตั้งแต่โควิด จะเลวลงไปอีก]**นี่เอง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ลดอันดับอนาคตไทย ก็เนื่องจากความเป็นห่วงในฐานะการคลัง **ซึ่งรัฐบาลมีรายจ่ายเกินรายได้ > ทำให้ขาดดุลงบประมาณทุกปี > ประกอบกับรัฐบาลนี้และรัฐบาลก่อนหน้ากู้เงินมาแจกหมื่น > เพื่อกินใช้รายวัน > โดยไม่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน > ถึงแม้ จีดีพีเพิ่มบ้างเล็กน้อยก็เป็นแบบไฟไหม้ฟาง วูบเดียวก็หมดไป**อย่างไรก็ดี มูดี้ส์ ให้คะแนน 3 ปัจจัยบวกหนึ่ง แบงค์ชาติและระบบราชการน่าเชื่อถือ[The affirmation of the Baa1 ratings reflects the country's moderately strong institutions and governance which support sound monetary and macroeconomic policies.][เรายังคงอันดับเครดิตไว้ที่ Baa1 เพราะองค์กรด้านนโยบายการเงินและพัฒนาเศรษฐกิจยังพอจะสามารถประคองความน่าเชื่อถือ]**ผมเพิ่มเติมว่า คือสังคมไทยยังช่วยกันคัดค้านการแทรกแซงที่ไม่ถูกต้องสอง มีการพัฒนาตลาดพันธบัตรดี[The Baal ratings also take into account Thailand's moderately strong debt affordability - despite the sharp increase in government debt since the pandemic - supported by its deep domestic markets and the fact that its government debt is almost entirely denominated in local currency.][และถึงแม้รัฐบาลจะกู้เงินมากแล้วตั้งแต่วิกฤตโควิด ตลาดพันธบัตรไทยได้พัฒนาจนมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับการกู้เพิ่มได้ การที่หนี้สาธารณะเกือบทั้งหมดเป็นสกุลบาท (ทำให้รัฐบาลไม่มีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน)]**ผมเพิ่มเติมว่า บุคคลหลักที่สร้างรากฐานตลาดพันธบัตรไทยคือ 2 อดีตผู้ว่าฯ ม.ร.ว.จตุมงคล และ ม.ร.ว.ปรีดียาธร โดยผมรับลูกในตำแหน่งเลขา ก.ล.ต.สาม มีทุนสำรองมั่นคง[Moreover, Thailand has a strong external position, with ample foreign exchange reserves buffer.][และไทยมีทุนสำรองมากพอ ฐานะหนี้สกุลต่างประเทศต่ำ]ผมจึงขอแนะนำให้รัฐบาลนำข้อวิเคราะห์เหล่านี้ไปปรับปรุงนโยบายเป็นการด่วนวันที่ 30 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • Samsung ได้ประกาศอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่สำหรับสมาร์ทโฟน Galaxy A Series บางรุ่น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งาน Gemini AI Assistant ได้อย่างรวดเร็วผ่านการกดปุ่มด้านข้างค้างไว้ ฟีเจอร์นี้เคยมีเฉพาะในรุ่นเรือธงอย่าง Galaxy S Series แต่ตอนนี้ถูกนำมาใช้ในรุ่นที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เช่น Galaxy A56 5G, A36 5G และ A26 5G

    การอัปเดตนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง Samsung และ Google ที่มุ่งเน้นการผสานรวม AI เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Gemini ได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น การตรวจสอบตารางเวลา ค้นหาสถานที่ใกล้เคียง หรือแชร์ตำแหน่งผ่านแอปต่างๆ โดยไม่ต้องปลดล็อกโทรศัพท์

    ฟีเจอร์นี้จะเริ่มเปิดตัวทั่วโลกในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมสำหรับรุ่นที่รองรับ One UI 7

    ✅ การเปิดใช้งาน Gemini ผ่านปุ่มด้านข้าง
    - ช่วยให้ผู้ใช้เปิดใช้งาน AI Assistant ได้อย่างรวดเร็ว
    - ฟีเจอร์นี้เคยมีเฉพาะใน Galaxy S Series แต่ตอนนี้ขยายมาสู่ Galaxy A Series

    ✅ การผสานรวม AI กับการใช้งานประจำวัน
    - ใช้ Gemini เพื่อค้นหาสถานที่ แชร์ตำแหน่ง หรือจัดการตารางเวลา
    - ช่วยให้การใช้งาน AI เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน

    ✅ ความร่วมมือระหว่าง Samsung และ Google
    - มุ่งเน้นการพัฒนา AI ที่ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกกลุ่ม
    - ขยายฟีเจอร์ Awesome Intelligence ไปยัง Galaxy A Series

    ✅ การเปิดตัวฟีเจอร์
    - เริ่มเปิดตัวในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมสำหรับรุ่นที่รองรับ One UI 7

    https://www.neowin.net/news/certain-galaxy-a-series-users-will-soon-get-direct-gemini-access-through-the-side-button/
    Samsung ได้ประกาศอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่สำหรับสมาร์ทโฟน Galaxy A Series บางรุ่น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งาน Gemini AI Assistant ได้อย่างรวดเร็วผ่านการกดปุ่มด้านข้างค้างไว้ ฟีเจอร์นี้เคยมีเฉพาะในรุ่นเรือธงอย่าง Galaxy S Series แต่ตอนนี้ถูกนำมาใช้ในรุ่นที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เช่น Galaxy A56 5G, A36 5G และ A26 5G การอัปเดตนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง Samsung และ Google ที่มุ่งเน้นการผสานรวม AI เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Gemini ได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น การตรวจสอบตารางเวลา ค้นหาสถานที่ใกล้เคียง หรือแชร์ตำแหน่งผ่านแอปต่างๆ โดยไม่ต้องปลดล็อกโทรศัพท์ ฟีเจอร์นี้จะเริ่มเปิดตัวทั่วโลกในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมสำหรับรุ่นที่รองรับ One UI 7 ✅ การเปิดใช้งาน Gemini ผ่านปุ่มด้านข้าง - ช่วยให้ผู้ใช้เปิดใช้งาน AI Assistant ได้อย่างรวดเร็ว - ฟีเจอร์นี้เคยมีเฉพาะใน Galaxy S Series แต่ตอนนี้ขยายมาสู่ Galaxy A Series ✅ การผสานรวม AI กับการใช้งานประจำวัน - ใช้ Gemini เพื่อค้นหาสถานที่ แชร์ตำแหน่ง หรือจัดการตารางเวลา - ช่วยให้การใช้งาน AI เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน ✅ ความร่วมมือระหว่าง Samsung และ Google - มุ่งเน้นการพัฒนา AI ที่ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกกลุ่ม - ขยายฟีเจอร์ Awesome Intelligence ไปยัง Galaxy A Series ✅ การเปิดตัวฟีเจอร์ - เริ่มเปิดตัวในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมสำหรับรุ่นที่รองรับ One UI 7 https://www.neowin.net/news/certain-galaxy-a-series-users-will-soon-get-direct-gemini-access-through-the-side-button/
    WWW.NEOWIN.NET
    Certain Galaxy A Series users will soon get direct Gemini access through the side button
    Samsung has announced eligible Galaxy A devices for its upcoming software update, which includes direct access to Gemini via the side button.
    0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของ หมายเลขโทรศัพท์เสมือน (Virtual Phone Number) สำหรับธุรกิจขนาดเล็กในปี 2025 โดยเน้นถึงประโยชน์ที่ช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพ ความคล่องตัว และประสิทธิภาพในการจัดการการสื่อสาร

    หมายเลขโทรศัพท์เสมือนช่วยให้ธุรกิจสามารถรับสาย ส่งข้อความ และจัดการข้อความเสียงผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บอินเทอร์เฟซ โดยไม่ต้องใช้ระบบโทรศัพท์แบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถแยกหมายเลขส่วนตัวออกจากหมายเลขธุรกิจได้

    ในปี 2025 มีผู้ให้บริการหมายเลขโทรศัพท์เสมือนหลายรายที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เช่น OpenPhone, Google Voice, Grasshopper, RingCentral และ Nextiva โดยแต่ละรายมีจุดเด่นและราคาที่แตกต่างกัน

    ✅ ประโยชน์ของหมายเลขโทรศัพท์เสมือน
    - เพิ่มความเป็นมืออาชีพด้วยการตั้งค่าทักทายและเมนูการโทร
    - รองรับการทำงานจากทุกที่ผ่านสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป หรือแท็บเล็ต
    - ขยายธุรกิจได้ง่ายโดยเพิ่มหมายเลขหรือสมาชิกทีม

    ✅ ผู้ให้บริการที่แนะนำในปี 2025
    - OpenPhone: เหมาะสำหรับทีมระยะไกลและการส่งข้อความ ($19/เดือน)
    - Google Voice: เหมาะสำหรับผู้ประกอบการเดี่ยว (ฟรี/$10/เดือน)
    - Grasshopper: เหมาะสำหรับธุรกิจแบบดั้งเดิม ($31/เดือน)
    - RingCentral: รองรับ VoIP และการทำงานร่วมกัน ($30/เดือน)
    - Nextiva: เน้นการบริการลูกค้าและการสนับสนุน ($25.95/เดือน)

    ✅ ฟีเจอร์ที่ควรพิจารณา
    - การส่งข้อความ (SMS/MMS)
    - การสนับสนุนผู้ใช้หลายคน
    - การรวมเข้ากับเครื่องมือ CRM หรือ Slack

    https://computercity.com/internet/best-virtual-phone-number-for-small-business-2025
    บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของ หมายเลขโทรศัพท์เสมือน (Virtual Phone Number) สำหรับธุรกิจขนาดเล็กในปี 2025 โดยเน้นถึงประโยชน์ที่ช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพ ความคล่องตัว และประสิทธิภาพในการจัดการการสื่อสาร หมายเลขโทรศัพท์เสมือนช่วยให้ธุรกิจสามารถรับสาย ส่งข้อความ และจัดการข้อความเสียงผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บอินเทอร์เฟซ โดยไม่ต้องใช้ระบบโทรศัพท์แบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถแยกหมายเลขส่วนตัวออกจากหมายเลขธุรกิจได้ ในปี 2025 มีผู้ให้บริการหมายเลขโทรศัพท์เสมือนหลายรายที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เช่น OpenPhone, Google Voice, Grasshopper, RingCentral และ Nextiva โดยแต่ละรายมีจุดเด่นและราคาที่แตกต่างกัน ✅ ประโยชน์ของหมายเลขโทรศัพท์เสมือน - เพิ่มความเป็นมืออาชีพด้วยการตั้งค่าทักทายและเมนูการโทร - รองรับการทำงานจากทุกที่ผ่านสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป หรือแท็บเล็ต - ขยายธุรกิจได้ง่ายโดยเพิ่มหมายเลขหรือสมาชิกทีม ✅ ผู้ให้บริการที่แนะนำในปี 2025 - OpenPhone: เหมาะสำหรับทีมระยะไกลและการส่งข้อความ ($19/เดือน) - Google Voice: เหมาะสำหรับผู้ประกอบการเดี่ยว (ฟรี/$10/เดือน) - Grasshopper: เหมาะสำหรับธุรกิจแบบดั้งเดิม ($31/เดือน) - RingCentral: รองรับ VoIP และการทำงานร่วมกัน ($30/เดือน) - Nextiva: เน้นการบริการลูกค้าและการสนับสนุน ($25.95/เดือน) ✅ ฟีเจอร์ที่ควรพิจารณา - การส่งข้อความ (SMS/MMS) - การสนับสนุนผู้ใช้หลายคน - การรวมเข้ากับเครื่องมือ CRM หรือ Slack https://computercity.com/internet/best-virtual-phone-number-for-small-business-2025
    COMPUTERCITY.COM
    Best Virtual Phone Number for Small Business (2025)
    In today’s competitive market, small businesses need every edge they can get—and communication is one of the most important. A virtual phone number gives your
    0 Comments 0 Shares 35 Views 0 Reviews
  • บทความนี้เปรียบเทียบแอปพลิเคชันการจัดการการเงินส่วนบุคคลระหว่าง Monarch Money และ Quicken (รวมถึง Simplifi by Quicken) โดยเน้นถึงความแตกต่างในด้านฟีเจอร์ การใช้งาน และกลุ่มเป้าหมาย

    Monarch Money เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การจัดการการเงินที่ทันสมัยและเรียบง่าย โดยเน้นการตั้งเป้าหมายและการทำงานร่วมกัน ขณะที่ Quicken เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มีพอร์ตการเงินซับซ้อน เช่น การติดตามการลงทุนหรือการจัดการทรัพย์สินให้เช่า

    ✅ Monarch Money: ทันสมัยและเน้นเป้าหมาย
    - การตั้งเป้าหมายที่ปรับแต่งได้: ช่วยให้ผู้ใช้สร้างเป้าหมายการออมและหนี้สินได้ไม่จำกัด
    - การติดตามมูลค่าสุทธิ: มีกราฟแบบโต้ตอบที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าสุทธิ
    - การทำงานร่วมกัน: รองรับการจัดการการเงินร่วมกันในครอบครัวหรือคู่รัก
    - ราคา: $14.99/เดือน หรือ $99.99/ปี พร้อมรหัสส่วนลด MONARCHVIP ลด 50%

    ✅ Quicken: สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการรายละเอียด
    - การจัดการการลงทุนขั้นสูง: ติดตามพอร์ตโฟลิโอ กำไรจากการลงทุน และการคาดการณ์การเกษียณ
    - เครื่องมือสำหรับธุรกิจและทรัพย์สินให้เช่า: ช่วยจัดการรายได้ ค่าใช้จ่าย และผู้เช่า
    - การใช้งานแบบออฟไลน์: รองรับการใช้งานโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    - ราคา: Simplifi $71.88/ปี, Quicken Classic $35.99–$93.59/ปี

    ✅ การเปรียบเทียบฟีเจอร์
    - Monarch: อินเทอร์เฟซทันสมัย ง่ายต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
    - Quicken: มีฟีเจอร์ที่ซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการจัดการการเงินเชิงลึก

    https://computercity.com/software/apps/monarch-vs-quicken
    บทความนี้เปรียบเทียบแอปพลิเคชันการจัดการการเงินส่วนบุคคลระหว่าง Monarch Money และ Quicken (รวมถึง Simplifi by Quicken) โดยเน้นถึงความแตกต่างในด้านฟีเจอร์ การใช้งาน และกลุ่มเป้าหมาย Monarch Money เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การจัดการการเงินที่ทันสมัยและเรียบง่าย โดยเน้นการตั้งเป้าหมายและการทำงานร่วมกัน ขณะที่ Quicken เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มีพอร์ตการเงินซับซ้อน เช่น การติดตามการลงทุนหรือการจัดการทรัพย์สินให้เช่า ✅ Monarch Money: ทันสมัยและเน้นเป้าหมาย - การตั้งเป้าหมายที่ปรับแต่งได้: ช่วยให้ผู้ใช้สร้างเป้าหมายการออมและหนี้สินได้ไม่จำกัด - การติดตามมูลค่าสุทธิ: มีกราฟแบบโต้ตอบที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าสุทธิ - การทำงานร่วมกัน: รองรับการจัดการการเงินร่วมกันในครอบครัวหรือคู่รัก - ราคา: $14.99/เดือน หรือ $99.99/ปี พร้อมรหัสส่วนลด MONARCHVIP ลด 50% ✅ Quicken: สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการรายละเอียด - การจัดการการลงทุนขั้นสูง: ติดตามพอร์ตโฟลิโอ กำไรจากการลงทุน และการคาดการณ์การเกษียณ - เครื่องมือสำหรับธุรกิจและทรัพย์สินให้เช่า: ช่วยจัดการรายได้ ค่าใช้จ่าย และผู้เช่า - การใช้งานแบบออฟไลน์: รองรับการใช้งานโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต - ราคา: Simplifi $71.88/ปี, Quicken Classic $35.99–$93.59/ปี ✅ การเปรียบเทียบฟีเจอร์ - Monarch: อินเทอร์เฟซทันสมัย ง่ายต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น - Quicken: มีฟีเจอร์ที่ซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการจัดการการเงินเชิงลึก https://computercity.com/software/apps/monarch-vs-quicken
    COMPUTERCITY.COM
    Monarch vs Quicken: Which Personal Finance App Is Best for You?
    Choosing between Monarch Money and Quicken (including Simplifi by Quicken) comes down to what kind of financial life you lead—and what kind of control you
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการปรับปรุงฟีเจอร์ การค้นหาของ ChatGPT ซึ่ง OpenAI ได้เพิ่มความสามารถใหม่หลายอย่างเพื่อให้การค้นหาข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    หนึ่งในฟีเจอร์ที่สำคัญคือ การปรับปรุงระบบอ้างอิง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดยตอนนี้ แต่ละย่อหน้าสามารถมีหลายแหล่งอ้างอิง และเมื่อผู้ใช้เลื่อนเมาส์ไปที่อ้างอิง ระบบจะแสดงส่วนของข้อความที่เกี่ยวข้อง

    นอกจากนี้ OpenAI ยังได้พัฒนา ระบบแนะนำคำค้นหาแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเห็นคำแนะนำที่เกี่ยวข้องขณะพิมพ์ข้อความค้นหา ฟีเจอร์นี้คล้ายกับระบบ autocomplete ของ Google แต่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปิดตัว

    อีกหนึ่งการปรับปรุงที่สำคัญคือ ระบบความจำที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยให้ ChatGPT สามารถจดจำข้อมูลที่ผู้ใช้เคยค้นหามาก่อน และนำมาใช้ในการค้นหาครั้งต่อไป ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องอธิบายข้อมูลเดิมซ้ำๆ เช่น หากผู้ใช้ไม่ต้องการเห็นผลลัพธ์จากแบรนด์ใด ChatGPT จะจดจำและกรองผลลัพธ์ให้

    ✅ ระบบอ้างอิงที่ดีขึ้น
    - แต่ละย่อหน้าสามารถมีหลายแหล่งอ้างอิง
    - ผู้ใช้สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ง่ายขึ้น

    ✅ ระบบแนะนำคำค้นหาแบบเรียลไทม์
    - แสดงคำแนะนำที่เกี่ยวข้องขณะพิมพ์ข้อความค้นหา
    - คล้ายกับระบบ autocomplete ของ Google

    ✅ ระบบความจำที่ดีขึ้น
    - ChatGPT สามารถจดจำข้อมูลที่ผู้ใช้เคยค้นหามาก่อน
    - ช่วยให้การค้นหาครั้งต่อไปมีความแม่นยำมากขึ้น

    ✅ การรวมเข้ากับ WhatsApp
    - ผู้ใช้สามารถเพิ่ม ChatGPT เป็นรายชื่อใน WhatsApp และสนทนาได้โดยตรง

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-just-powered-up-search-for-everyone-here-are-all-the-new-features
    บทความนี้กล่าวถึงการปรับปรุงฟีเจอร์ การค้นหาของ ChatGPT ซึ่ง OpenAI ได้เพิ่มความสามารถใหม่หลายอย่างเพื่อให้การค้นหาข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น หนึ่งในฟีเจอร์ที่สำคัญคือ การปรับปรุงระบบอ้างอิง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดยตอนนี้ แต่ละย่อหน้าสามารถมีหลายแหล่งอ้างอิง และเมื่อผู้ใช้เลื่อนเมาส์ไปที่อ้างอิง ระบบจะแสดงส่วนของข้อความที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ OpenAI ยังได้พัฒนา ระบบแนะนำคำค้นหาแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเห็นคำแนะนำที่เกี่ยวข้องขณะพิมพ์ข้อความค้นหา ฟีเจอร์นี้คล้ายกับระบบ autocomplete ของ Google แต่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปิดตัว อีกหนึ่งการปรับปรุงที่สำคัญคือ ระบบความจำที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยให้ ChatGPT สามารถจดจำข้อมูลที่ผู้ใช้เคยค้นหามาก่อน และนำมาใช้ในการค้นหาครั้งต่อไป ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องอธิบายข้อมูลเดิมซ้ำๆ เช่น หากผู้ใช้ไม่ต้องการเห็นผลลัพธ์จากแบรนด์ใด ChatGPT จะจดจำและกรองผลลัพธ์ให้ ✅ ระบบอ้างอิงที่ดีขึ้น - แต่ละย่อหน้าสามารถมีหลายแหล่งอ้างอิง - ผู้ใช้สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ง่ายขึ้น ✅ ระบบแนะนำคำค้นหาแบบเรียลไทม์ - แสดงคำแนะนำที่เกี่ยวข้องขณะพิมพ์ข้อความค้นหา - คล้ายกับระบบ autocomplete ของ Google ✅ ระบบความจำที่ดีขึ้น - ChatGPT สามารถจดจำข้อมูลที่ผู้ใช้เคยค้นหามาก่อน - ช่วยให้การค้นหาครั้งต่อไปมีความแม่นยำมากขึ้น ✅ การรวมเข้ากับ WhatsApp - ผู้ใช้สามารถเพิ่ม ChatGPT เป็นรายชื่อใน WhatsApp และสนทนาได้โดยตรง https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-just-powered-up-search-for-everyone-here-are-all-the-new-features
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
  • Shokz ได้เปิดตัว OpenDots ONE ซึ่งเป็นหูฟังไร้สายแบบเปิดที่มีขนาดเล็กที่สุดของบริษัท โดยมีน้ำหนักเพียง 0.23 ออนซ์ (ประมาณ 6 กรัม) ต่อข้าง และใช้ดีไซน์แบบ clip-on ที่ช่วยให้หูฟังติดแน่นกับหูของผู้ใช้ แม้ไม่มีดีไซน์แบบ wraparound เหมือนรุ่นก่อน

    OpenDots ONE ใช้ ไดรเวอร์ขนาด 11.8 มม. พร้อมเทคโนโลยี Bassphere ที่ช่วยเพิ่มเสียงเบส และมี DirectPitch Audio ที่ช่วยลดการรั่วไหลของเสียง แม้ว่าหูฟังจะไม่ได้อยู่ในช่องหูโดยตรง

    นอกจากนี้ หูฟังยังมี แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถใช้งานรวมกับเคสชาร์จได้ถึง 40 ชั่วโมง รองรับ IP54 กันน้ำและเหงื่อ และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกันผ่าน multipoint connectivity

    ✅ ดีไซน์และน้ำหนักเบา
    - น้ำหนักเพียง 0.23 ออนซ์ (ประมาณ 6 กรัม) ต่อข้าง
    - ดีไซน์แบบ clip-on ที่ช่วยให้หูฟังติดแน่นกับหู

    ✅ คุณภาพเสียงและเทคโนโลยี
    - ไดรเวอร์ขนาด 11.8 มม. พร้อมเทคโนโลยี Bassphere
    - DirectPitch Audio ช่วยลดการรั่วไหลของเสียง

    ✅ แบตเตอรี่และการใช้งาน
    - ใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
    - ใช้งานรวมกับเคสชาร์จได้ถึง 40 ชั่วโมง

    ✅ คุณสมบัติพิเศษ
    - IP54 กันน้ำและเหงื่อ
    - Multipoint connectivity เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกัน

    https://www.techradar.com/audio/earbuds-airpods/shokz-launches-its-smallest-open-earbuds-yet-and-im-ready-to-hear-this-one-out-despite-the-high-price
    Shokz ได้เปิดตัว OpenDots ONE ซึ่งเป็นหูฟังไร้สายแบบเปิดที่มีขนาดเล็กที่สุดของบริษัท โดยมีน้ำหนักเพียง 0.23 ออนซ์ (ประมาณ 6 กรัม) ต่อข้าง และใช้ดีไซน์แบบ clip-on ที่ช่วยให้หูฟังติดแน่นกับหูของผู้ใช้ แม้ไม่มีดีไซน์แบบ wraparound เหมือนรุ่นก่อน OpenDots ONE ใช้ ไดรเวอร์ขนาด 11.8 มม. พร้อมเทคโนโลยี Bassphere ที่ช่วยเพิ่มเสียงเบส และมี DirectPitch Audio ที่ช่วยลดการรั่วไหลของเสียง แม้ว่าหูฟังจะไม่ได้อยู่ในช่องหูโดยตรง นอกจากนี้ หูฟังยังมี แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถใช้งานรวมกับเคสชาร์จได้ถึง 40 ชั่วโมง รองรับ IP54 กันน้ำและเหงื่อ และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกันผ่าน multipoint connectivity ✅ ดีไซน์และน้ำหนักเบา - น้ำหนักเพียง 0.23 ออนซ์ (ประมาณ 6 กรัม) ต่อข้าง - ดีไซน์แบบ clip-on ที่ช่วยให้หูฟังติดแน่นกับหู ✅ คุณภาพเสียงและเทคโนโลยี - ไดรเวอร์ขนาด 11.8 มม. พร้อมเทคโนโลยี Bassphere - DirectPitch Audio ช่วยลดการรั่วไหลของเสียง ✅ แบตเตอรี่และการใช้งาน - ใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง - ใช้งานรวมกับเคสชาร์จได้ถึง 40 ชั่วโมง ✅ คุณสมบัติพิเศษ - IP54 กันน้ำและเหงื่อ - Multipoint connectivity เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกัน https://www.techradar.com/audio/earbuds-airpods/shokz-launches-its-smallest-open-earbuds-yet-and-im-ready-to-hear-this-one-out-despite-the-high-price
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • MSI ได้เปิดตัวสายไฟ 12V-2x6 รุ่นใหม่ที่มีปลายสีเหลืองเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบการเชื่อมต่อได้ง่ายขึ้น และลดความเสี่ยงจากการละลายของสายไฟ อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดจากผู้ใช้พบว่า สายไฟยังคงมีปัญหาความร้อนสูง และอาจละลายได้ แม้ว่าจะมีการออกแบบเพื่อป้องกันปัญหานี้

    ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นกับ MSI RTX 5090 Suprim ซึ่งใช้สายไฟ 4x 8-pin to 16-pin ที่มาพร้อมกับตัวช่วยตรวจสอบการเชื่อมต่อแบบสีเหลือง ผู้ใช้รายหนึ่งพบว่า แถวขั้วต่อ 12V ทั้งหมดถูกเผาไหม้ หลังจากเล่นเกมที่ใช้พลังงาน 400W แม้ว่าจะใช้ PSU ATX 3.1 ขนาด 1,300W ที่ได้มาตรฐาน

    ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เนื่องจาก 12VHPWR เคยสร้างปัญหาให้กับการ์ดจอ RTX 40 รุ่นก่อนหน้าแล้ว โดยปัญหาหลักเกิดจาก การกระจายโหลดที่ไม่สมดุล ซึ่งทำให้บางขั้วต่อรับกระแสไฟมากเกินไป และอาจร้อนจนละลาย

    ✅ การออกแบบเพื่อป้องกันปัญหา
    - MSI ใช้ปลายสายสีเหลืองเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบการเชื่อมต่อ
    - สายไฟถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการละลาย

    ✅ ปัญหาที่พบจากผู้ใช้
    - สายไฟยังคงมีปัญหาความร้อนสูงและอาจละลายได้
    - พบการเผาไหม้ที่แถวขั้วต่อ 12V หลังจากใช้งานที่ 400W

    ✅ สาเหตุของปัญหา
    - การกระจายโหลดที่ไม่สมดุลทำให้บางขั้วต่อรับกระแสไฟมากเกินไป
    - RTX 50 รุ่นมาตรฐานไม่สามารถวัดกระแสไฟต่อขั้วต่อได้

    ✅ แนวทางแก้ไขที่แนะนำ
    - ASUS ใช้ shunt resistors เพื่อตรวจจับกระแสไฟที่มากเกินไป
    - Zotac มีระบบ safety light ที่ป้องกันการเปิดเครื่องหากสายไฟเชื่อมต่อไม่ถูกต้อง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/msis-secure-yellow-tipped-rtx-5090-12v-2x6-cable-is-still-vulnerable-to-melting-user-report-suggests
    MSI ได้เปิดตัวสายไฟ 12V-2x6 รุ่นใหม่ที่มีปลายสีเหลืองเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบการเชื่อมต่อได้ง่ายขึ้น และลดความเสี่ยงจากการละลายของสายไฟ อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดจากผู้ใช้พบว่า สายไฟยังคงมีปัญหาความร้อนสูง และอาจละลายได้ แม้ว่าจะมีการออกแบบเพื่อป้องกันปัญหานี้ ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นกับ MSI RTX 5090 Suprim ซึ่งใช้สายไฟ 4x 8-pin to 16-pin ที่มาพร้อมกับตัวช่วยตรวจสอบการเชื่อมต่อแบบสีเหลือง ผู้ใช้รายหนึ่งพบว่า แถวขั้วต่อ 12V ทั้งหมดถูกเผาไหม้ หลังจากเล่นเกมที่ใช้พลังงาน 400W แม้ว่าจะใช้ PSU ATX 3.1 ขนาด 1,300W ที่ได้มาตรฐาน ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เนื่องจาก 12VHPWR เคยสร้างปัญหาให้กับการ์ดจอ RTX 40 รุ่นก่อนหน้าแล้ว โดยปัญหาหลักเกิดจาก การกระจายโหลดที่ไม่สมดุล ซึ่งทำให้บางขั้วต่อรับกระแสไฟมากเกินไป และอาจร้อนจนละลาย ✅ การออกแบบเพื่อป้องกันปัญหา - MSI ใช้ปลายสายสีเหลืองเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบการเชื่อมต่อ - สายไฟถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการละลาย ✅ ปัญหาที่พบจากผู้ใช้ - สายไฟยังคงมีปัญหาความร้อนสูงและอาจละลายได้ - พบการเผาไหม้ที่แถวขั้วต่อ 12V หลังจากใช้งานที่ 400W ✅ สาเหตุของปัญหา - การกระจายโหลดที่ไม่สมดุลทำให้บางขั้วต่อรับกระแสไฟมากเกินไป - RTX 50 รุ่นมาตรฐานไม่สามารถวัดกระแสไฟต่อขั้วต่อได้ ✅ แนวทางแก้ไขที่แนะนำ - ASUS ใช้ shunt resistors เพื่อตรวจจับกระแสไฟที่มากเกินไป - Zotac มีระบบ safety light ที่ป้องกันการเปิดเครื่องหากสายไฟเชื่อมต่อไม่ถูกต้อง https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/msis-secure-yellow-tipped-rtx-5090-12v-2x6-cable-is-still-vulnerable-to-melting-user-report-suggests
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • Nike กำลังเผชิญกับคดีความมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ CloneX NFTs ซึ่งเป็นคอลเลกชันดิจิทัลของบริษัท หายไปจากอินเทอร์เน็ต เนื่องจากข้อผิดพลาดด้านการโฮสต์บน Cloudflare เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ Cloudflare ลดระดับบัญชีของ RTFKT ซึ่งเป็นสตูดิโอดิจิทัลที่ Nike เข้าซื้อในปี 2021 ไปเป็นแผนฟรีก่อนกำหนด ส่งผลให้ภาพ NFT กว่า 19,000 รายการ ไม่สามารถเข้าถึงได้บนแพลตฟอร์มซื้อขาย เช่น OpenSea และ Blur

    แม้ว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไขและภาพ NFT กลับมาออนไลน์ แต่เหตุการณ์นี้ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักสะสม และเผยให้เห็นถึง ความเปราะบางของสินทรัพย์ดิจิทัล ที่แม้จะอยู่บนบล็อกเชน แต่ยังต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์กลางในการแสดงผล

    นอกจากนี้ Nike ยังประกาศปิดตัว RTFKT ในเดือนธันวาคม 2024 ทำให้ Samuel Cardillo ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของ RTFKT กลายเป็นผู้ดูแลโครงสร้างพื้นฐานของโปรเจ็กต์เพียงคนเดียว เขากำลังดำเนินการ ย้ายไฟล์ไปยังระบบจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ เช่น Arweave เพื่อป้องกันปัญหาลักษณะนี้ในอนาคต

    ✅ สาเหตุของปัญหา
    - Cloudflare ลดระดับบัญชีของ RTFKT ไปเป็นแผนฟรีก่อนกำหนด
    - ส่งผลให้ภาพ NFT กว่า 19,000 รายการไม่สามารถเข้าถึงได้

    ✅ ผลกระทบต่อ NFT และนักสะสม
    - เผยให้เห็นถึงความเปราะบางของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์กลาง
    - นักสะสมบางรายซื้อ NFT ในราคาสูงถึง $1.25 ล้าน แต่พบว่าภาพหายไป

    ✅ การตอบสนองของ RTFKT
    - Samuel Cardillo กำลังดำเนินการย้ายไฟล์ไปยังระบบจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์
    - ใช้ Arweave เพื่อป้องกันปัญหาการสูญหายของภาพ NFT ในอนาคต

    ✅ คดีความที่ถูกยื่นฟ้อง
    - กลุ่มนักลงทุนยื่นฟ้อง Nike ในศาลรัฐบาลกลาง Brooklyn
    - กล่าวหาว่า Nike ละเลยโครงการ และทำให้เกิดความสูญเสียทางการเงิน

    https://www.techspot.com/news/107717-nike-faces-5-million-lawsuit-after-cloudflare-outage.html
    Nike กำลังเผชิญกับคดีความมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ CloneX NFTs ซึ่งเป็นคอลเลกชันดิจิทัลของบริษัท หายไปจากอินเทอร์เน็ต เนื่องจากข้อผิดพลาดด้านการโฮสต์บน Cloudflare เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ Cloudflare ลดระดับบัญชีของ RTFKT ซึ่งเป็นสตูดิโอดิจิทัลที่ Nike เข้าซื้อในปี 2021 ไปเป็นแผนฟรีก่อนกำหนด ส่งผลให้ภาพ NFT กว่า 19,000 รายการ ไม่สามารถเข้าถึงได้บนแพลตฟอร์มซื้อขาย เช่น OpenSea และ Blur แม้ว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไขและภาพ NFT กลับมาออนไลน์ แต่เหตุการณ์นี้ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักสะสม และเผยให้เห็นถึง ความเปราะบางของสินทรัพย์ดิจิทัล ที่แม้จะอยู่บนบล็อกเชน แต่ยังต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์กลางในการแสดงผล นอกจากนี้ Nike ยังประกาศปิดตัว RTFKT ในเดือนธันวาคม 2024 ทำให้ Samuel Cardillo ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของ RTFKT กลายเป็นผู้ดูแลโครงสร้างพื้นฐานของโปรเจ็กต์เพียงคนเดียว เขากำลังดำเนินการ ย้ายไฟล์ไปยังระบบจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ เช่น Arweave เพื่อป้องกันปัญหาลักษณะนี้ในอนาคต ✅ สาเหตุของปัญหา - Cloudflare ลดระดับบัญชีของ RTFKT ไปเป็นแผนฟรีก่อนกำหนด - ส่งผลให้ภาพ NFT กว่า 19,000 รายการไม่สามารถเข้าถึงได้ ✅ ผลกระทบต่อ NFT และนักสะสม - เผยให้เห็นถึงความเปราะบางของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์กลาง - นักสะสมบางรายซื้อ NFT ในราคาสูงถึง $1.25 ล้าน แต่พบว่าภาพหายไป ✅ การตอบสนองของ RTFKT - Samuel Cardillo กำลังดำเนินการย้ายไฟล์ไปยังระบบจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ - ใช้ Arweave เพื่อป้องกันปัญหาการสูญหายของภาพ NFT ในอนาคต ✅ คดีความที่ถูกยื่นฟ้อง - กลุ่มนักลงทุนยื่นฟ้อง Nike ในศาลรัฐบาลกลาง Brooklyn - กล่าวหาว่า Nike ละเลยโครงการ และทำให้เกิดความสูญเสียทางการเงิน https://www.techspot.com/news/107717-nike-faces-5-million-lawsuit-after-cloudflare-outage.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nike faces $5M lawsuit after CloneX NFTs go dark due to hosting error
    The disruption was not the result of a hack or a blockchain malfunction, but rather a mundane technical issue. The images for the CloneX NFTs – avatars...
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • Apple กำลังเผชิญกับความท้าทายในการย้ายฐานการผลิต iPhone ไปยังสหรัฐฯ เนื่องจากอุปกรณ์นี้มีชิ้นส่วนมากถึง 2,700 รายการ จาก 187 ซัพพลายเออร์ ใน 28 ประเทศ โดยจีนเป็นแหล่งผลิตหลักของชิ้นส่วนเหล่านี้ และมีเพียง 30 ซัพพลายเออร์ เท่านั้นที่ดำเนินงานนอกประเทศจีน

    แม้ว่าจะมีชิ้นส่วนบางอย่างที่ผลิตในสหรัฐฯ เช่น กระจกหน้าจอและเลเซอร์สำหรับ Face ID แต่ส่วนประกอบสำคัญ เช่น ชั้นแบ็คไลท์ของหน้าจอ ยังคงต้องพึ่งพาการผลิตจากจีน นอกจากนี้ การประกอบ iPhone ส่วนใหญ่ดำเนินการโดย Foxconn ซึ่งมีโรงงานหลายแห่งในจีน

    Apple กำลังเร่งย้ายการประกอบ iPhone สำหรับตลาดสหรัฐฯ ไปยัง อินเดีย ภายในปี 2026 แต่การผลิต iPhone ที่เป็น 100% ผลิตในสหรัฐฯ นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ และหากเกิดขึ้นจริง ราคาของ iPhone อาจสูงถึง $3,500

    ✅ จำนวนชิ้นส่วนและซัพพลายเออร์
    - iPhone มีชิ้นส่วนมากถึง 2,700 รายการ
    - ใช้ซัพพลายเออร์ 187 รายจาก 28 ประเทศ

    ✅ บทบาทของจีนในกระบวนการผลิต
    - จีนเป็นแหล่งผลิตหลักของชิ้นส่วน iPhone
    - มีเพียง 30 ซัพพลายเออร์ที่ดำเนินงานนอกประเทศจีน

    ✅ การผลิตชิ้นส่วนในสหรัฐฯ
    - มีบางชิ้นส่วนที่ผลิตในสหรัฐฯ เช่น กระจกหน้าจอและเลเซอร์สำหรับ Face ID
    - ส่วนประกอบสำคัญ เช่น ชั้นแบ็คไลท์ของหน้าจอ ยังคงต้องพึ่งพาจีน

    ✅ การประกอบ iPhone
    - 85% ของ iPhone ถูกประกอบโดย Foxconn ในจีน
    - Apple กำลังเร่งย้ายการประกอบ iPhone สำหรับตลาดสหรัฐฯ ไปยังอินเดียภายในปี 2026

    https://www.techspot.com/news/107720-why-apple-cant-easily-move-iphone-production-us.html
    Apple กำลังเผชิญกับความท้าทายในการย้ายฐานการผลิต iPhone ไปยังสหรัฐฯ เนื่องจากอุปกรณ์นี้มีชิ้นส่วนมากถึง 2,700 รายการ จาก 187 ซัพพลายเออร์ ใน 28 ประเทศ โดยจีนเป็นแหล่งผลิตหลักของชิ้นส่วนเหล่านี้ และมีเพียง 30 ซัพพลายเออร์ เท่านั้นที่ดำเนินงานนอกประเทศจีน แม้ว่าจะมีชิ้นส่วนบางอย่างที่ผลิตในสหรัฐฯ เช่น กระจกหน้าจอและเลเซอร์สำหรับ Face ID แต่ส่วนประกอบสำคัญ เช่น ชั้นแบ็คไลท์ของหน้าจอ ยังคงต้องพึ่งพาการผลิตจากจีน นอกจากนี้ การประกอบ iPhone ส่วนใหญ่ดำเนินการโดย Foxconn ซึ่งมีโรงงานหลายแห่งในจีน Apple กำลังเร่งย้ายการประกอบ iPhone สำหรับตลาดสหรัฐฯ ไปยัง อินเดีย ภายในปี 2026 แต่การผลิต iPhone ที่เป็น 100% ผลิตในสหรัฐฯ นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ และหากเกิดขึ้นจริง ราคาของ iPhone อาจสูงถึง $3,500 ✅ จำนวนชิ้นส่วนและซัพพลายเออร์ - iPhone มีชิ้นส่วนมากถึง 2,700 รายการ - ใช้ซัพพลายเออร์ 187 รายจาก 28 ประเทศ ✅ บทบาทของจีนในกระบวนการผลิต - จีนเป็นแหล่งผลิตหลักของชิ้นส่วน iPhone - มีเพียง 30 ซัพพลายเออร์ที่ดำเนินงานนอกประเทศจีน ✅ การผลิตชิ้นส่วนในสหรัฐฯ - มีบางชิ้นส่วนที่ผลิตในสหรัฐฯ เช่น กระจกหน้าจอและเลเซอร์สำหรับ Face ID - ส่วนประกอบสำคัญ เช่น ชั้นแบ็คไลท์ของหน้าจอ ยังคงต้องพึ่งพาจีน ✅ การประกอบ iPhone - 85% ของ iPhone ถูกประกอบโดย Foxconn ในจีน - Apple กำลังเร่งย้ายการประกอบ iPhone สำหรับตลาดสหรัฐฯ ไปยังอินเดียภายในปี 2026 https://www.techspot.com/news/107720-why-apple-cant-easily-move-iphone-production-us.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Why Apple can't easily move iPhone production to the US: 2,700+ parts, 187 suppliers, 28 countries
    Donald Trump believes the huge tariffs implemented on goods imported from China and other countries will encourage US firms to manufacture their devices domestically. That's easier said...
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • Google Wallet อาจได้รับการอัปเกรดครั้งสำคัญที่ช่วยให้การเพิ่มบัตรชำระเงินแบบไร้สัมผัสง่ายและรวดเร็วขึ้น โดยฟีเจอร์ใหม่นี้จะใช้เทคโนโลยี NFC (Near-Field Communication) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มบัตรชำระเงินได้เพียงแค่แตะบัตรกับโทรศัพท์มือถือ เช่นเดียวกับการแตะบัตรบนเครื่องอ่านบัตรไร้สัมผัส

    ฟีเจอร์นี้จะปรากฏในหน้าจอ “Add payment method” พร้อมกับวิธีการเพิ่มบัตรแบบเดิม เช่น การกรอกข้อมูลบัตรด้วยตนเอง แม้ว่าการใช้ NFC จะช่วยลดเวลาในการเพิ่มบัตร แต่ยังคงต้องกรอกหมายเลข CVV หรือ CVC เพื่อความปลอดภัย

    อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของบัตรและผู้ให้บริการ หรือว่าฟีเจอร์นี้จะมาพร้อมกับ Android 16 หรือเป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดตเล็กๆ

    ✅ การเพิ่มบัตรด้วย NFC
    - ใช้เทคโนโลยี NFC เพื่อเพิ่มบัตรชำระเงินแบบไร้สัมผัส
    - ลดเวลาในการเพิ่มบัตรเมื่อเทียบกับการกรอกข้อมูลด้วยตนเอง

    ✅ ความปลอดภัย
    - ยังคงต้องกรอกหมายเลข CVV หรือ CVC เพื่อป้องกันการเพิ่มบัตรโดยไม่ได้รับอนุญาต

    ✅ การใช้งานและความเข้ากันได้
    - ฟีเจอร์นี้จะปรากฏในหน้าจอ “Add payment method”
    - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของบัตรและผู้ให้บริการ

    ✅ เป้าหมายของฟีเจอร์
    - เพิ่มความสะดวกและลดเวลาในการเพิ่มบัตรชำระเงิน

    https://www.techradar.com/phones/android/google-wallet-could-soon-let-you-add-cards-by-tapping-them-on-your-phone-and-i-cant-believe-this-isnt-already-a-thing
    Google Wallet อาจได้รับการอัปเกรดครั้งสำคัญที่ช่วยให้การเพิ่มบัตรชำระเงินแบบไร้สัมผัสง่ายและรวดเร็วขึ้น โดยฟีเจอร์ใหม่นี้จะใช้เทคโนโลยี NFC (Near-Field Communication) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มบัตรชำระเงินได้เพียงแค่แตะบัตรกับโทรศัพท์มือถือ เช่นเดียวกับการแตะบัตรบนเครื่องอ่านบัตรไร้สัมผัส ฟีเจอร์นี้จะปรากฏในหน้าจอ “Add payment method” พร้อมกับวิธีการเพิ่มบัตรแบบเดิม เช่น การกรอกข้อมูลบัตรด้วยตนเอง แม้ว่าการใช้ NFC จะช่วยลดเวลาในการเพิ่มบัตร แต่ยังคงต้องกรอกหมายเลข CVV หรือ CVC เพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของบัตรและผู้ให้บริการ หรือว่าฟีเจอร์นี้จะมาพร้อมกับ Android 16 หรือเป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดตเล็กๆ ✅ การเพิ่มบัตรด้วย NFC - ใช้เทคโนโลยี NFC เพื่อเพิ่มบัตรชำระเงินแบบไร้สัมผัส - ลดเวลาในการเพิ่มบัตรเมื่อเทียบกับการกรอกข้อมูลด้วยตนเอง ✅ ความปลอดภัย - ยังคงต้องกรอกหมายเลข CVV หรือ CVC เพื่อป้องกันการเพิ่มบัตรโดยไม่ได้รับอนุญาต ✅ การใช้งานและความเข้ากันได้ - ฟีเจอร์นี้จะปรากฏในหน้าจอ “Add payment method” - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของบัตรและผู้ให้บริการ ✅ เป้าหมายของฟีเจอร์ - เพิ่มความสะดวกและลดเวลาในการเพิ่มบัตรชำระเงิน https://www.techradar.com/phones/android/google-wallet-could-soon-let-you-add-cards-by-tapping-them-on-your-phone-and-i-cant-believe-this-isnt-already-a-thing
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงความกังวลด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ที่ผลิตในจีน โดยเฉพาะในบริบทของการใช้งานในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีการเตือนให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลและทหารหลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือกับรถยนต์เหล่านี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่ข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อความ เอกสาร และตำแหน่งที่ตั้ง อาจถูกเก็บรวบรวมและนำไปใช้โดยรัฐจีน

    มีการเปรียบเทียบการเชื่อมต่อโทรศัพท์กับรถยนต์จีนว่าเหมือนกับการเสียบ USB ที่ไม่รู้จักเข้ากับคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจนำไปสู่การโจมตีทางไซเบอร์หรือการสอดแนม นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับไมโครโฟนในรถยนต์ที่อาจถูกใช้ในการดักฟัง

    ✅ คำเตือนเกี่ยวกับการใช้งานรถยนต์จีน
    - หลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือกับรถยนต์ที่ผลิตในจีน
    - มีความเสี่ยงที่ข้อมูลส่วนตัวอาจถูกเก็บรวบรวม

    ✅ การเปรียบเทียบความเสี่ยง
    - การเชื่อมต่อโทรศัพท์กับรถยนต์จีนเปรียบเสมือนการเสียบ USB ที่ไม่รู้จัก
    - อาจนำไปสู่การโจมตีทางไซเบอร์หรือการสอดแนม

    ✅ ข้อกังวลเกี่ยวกับไมโครโฟนในรถยนต์
    - ไมโครโฟนอาจถูกใช้ในการดักฟังโดยรัฐจีน

    ✅ การตอบสนองของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์
    - ผู้ผลิตรถยนต์ในสหราชอาณาจักรต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยข้อมูล

    https://www.techradar.com/pro/security/uk-defense-firm-warns-staff-against-charging-phones-in-chinese-cars
    บทความนี้กล่าวถึงความกังวลด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ที่ผลิตในจีน โดยเฉพาะในบริบทของการใช้งานในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีการเตือนให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลและทหารหลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือกับรถยนต์เหล่านี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่ข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อความ เอกสาร และตำแหน่งที่ตั้ง อาจถูกเก็บรวบรวมและนำไปใช้โดยรัฐจีน มีการเปรียบเทียบการเชื่อมต่อโทรศัพท์กับรถยนต์จีนว่าเหมือนกับการเสียบ USB ที่ไม่รู้จักเข้ากับคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจนำไปสู่การโจมตีทางไซเบอร์หรือการสอดแนม นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับไมโครโฟนในรถยนต์ที่อาจถูกใช้ในการดักฟัง ✅ คำเตือนเกี่ยวกับการใช้งานรถยนต์จีน - หลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือกับรถยนต์ที่ผลิตในจีน - มีความเสี่ยงที่ข้อมูลส่วนตัวอาจถูกเก็บรวบรวม ✅ การเปรียบเทียบความเสี่ยง - การเชื่อมต่อโทรศัพท์กับรถยนต์จีนเปรียบเสมือนการเสียบ USB ที่ไม่รู้จัก - อาจนำไปสู่การโจมตีทางไซเบอร์หรือการสอดแนม ✅ ข้อกังวลเกี่ยวกับไมโครโฟนในรถยนต์ - ไมโครโฟนอาจถูกใช้ในการดักฟังโดยรัฐจีน ✅ การตอบสนองของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ - ผู้ผลิตรถยนต์ในสหราชอาณาจักรต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยข้อมูล https://www.techradar.com/pro/security/uk-defense-firm-warns-staff-against-charging-phones-in-chinese-cars
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • Intel ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมใหม่ของ CPU รุ่น Panther Lake ซึ่งจะใช้คอร์ประสิทธิภาพสูง (Performance Core) ที่มีชื่อว่า Cougar Cove และคอร์ประหยัดพลังงาน (Efficiency Core) ที่มีชื่อว่า Darkmont โดย Panther Lake จะเป็นรุ่นต่อจาก Arrow Lake และคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025

    CPU รุ่นนี้มีการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างพลังของ Arrow Lake และประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานของ Lunar Lake โดยมีคอร์แบบไฮบริดสูงสุด 18 คอร์ (6P+8E+4LPE) และคอร์กราฟิก 12 Xe ที่ใช้สถาปัตยกรรม Celestial (Xe3) นอกจากนี้ยังมีการรองรับหน่วยความจำแบบ LPCAMM ที่ช่วยเพิ่มความเร็วและความยืดหยุ่น

    Panther Lake ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในอุปกรณ์หลากหลาย เช่น โน้ตบุ๊กระดับเริ่มต้น อุปกรณ์พกพา และแล็ปท็อปสำหรับเล่นเกม โดยมี TDP สูงสุด 64W และยังมีแผนที่จะนำสถาปัตยกรรมนี้ไปใช้ในยานยนต์

    ✅ สถาปัตยกรรมใหม่
    - ใช้คอร์ประสิทธิภาพสูง Cougar Cove และคอร์ประหยัดพลังงาน Darkmont
    - มีคอร์แบบไฮบริดสูงสุด 18 คอร์ (6P+8E+4LPE)

    ✅ การรองรับกราฟิกและหน่วยความจำ
    - คอร์กราฟิก 12 Xe ใช้สถาปัตยกรรม Celestial (Xe3)
    - รองรับหน่วยความจำแบบ LPCAMM ที่ช่วยเพิ่มความเร็วและความยืดหยุ่น

    ✅ การใช้งานในอุปกรณ์หลากหลาย
    - ใช้งานในโน้ตบุ๊กระดับเริ่มต้น อุปกรณ์พกพา และแล็ปท็อปสำหรับเล่นเกม
    - มี TDP สูงสุด 64W และแผนที่จะนำไปใช้ในยานยนต์

    ✅ เป้าหมายของ Intel
    - ผสมผสานพลังของ Arrow Lake และประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานของ Lunar Lake

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-cougar-cove-p-darkmont-e-core-architectures-revealed-in-panther-lake-perfmon-commit
    Intel ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมใหม่ของ CPU รุ่น Panther Lake ซึ่งจะใช้คอร์ประสิทธิภาพสูง (Performance Core) ที่มีชื่อว่า Cougar Cove และคอร์ประหยัดพลังงาน (Efficiency Core) ที่มีชื่อว่า Darkmont โดย Panther Lake จะเป็นรุ่นต่อจาก Arrow Lake และคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025 CPU รุ่นนี้มีการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างพลังของ Arrow Lake และประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานของ Lunar Lake โดยมีคอร์แบบไฮบริดสูงสุด 18 คอร์ (6P+8E+4LPE) และคอร์กราฟิก 12 Xe ที่ใช้สถาปัตยกรรม Celestial (Xe3) นอกจากนี้ยังมีการรองรับหน่วยความจำแบบ LPCAMM ที่ช่วยเพิ่มความเร็วและความยืดหยุ่น Panther Lake ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในอุปกรณ์หลากหลาย เช่น โน้ตบุ๊กระดับเริ่มต้น อุปกรณ์พกพา และแล็ปท็อปสำหรับเล่นเกม โดยมี TDP สูงสุด 64W และยังมีแผนที่จะนำสถาปัตยกรรมนี้ไปใช้ในยานยนต์ ✅ สถาปัตยกรรมใหม่ - ใช้คอร์ประสิทธิภาพสูง Cougar Cove และคอร์ประหยัดพลังงาน Darkmont - มีคอร์แบบไฮบริดสูงสุด 18 คอร์ (6P+8E+4LPE) ✅ การรองรับกราฟิกและหน่วยความจำ - คอร์กราฟิก 12 Xe ใช้สถาปัตยกรรม Celestial (Xe3) - รองรับหน่วยความจำแบบ LPCAMM ที่ช่วยเพิ่มความเร็วและความยืดหยุ่น ✅ การใช้งานในอุปกรณ์หลากหลาย - ใช้งานในโน้ตบุ๊กระดับเริ่มต้น อุปกรณ์พกพา และแล็ปท็อปสำหรับเล่นเกม - มี TDP สูงสุด 64W และแผนที่จะนำไปใช้ในยานยนต์ ✅ เป้าหมายของ Intel - ผสมผสานพลังของ Arrow Lake และประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานของ Lunar Lake https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-cougar-cove-p-darkmont-e-core-architectures-revealed-in-panther-lake-perfmon-commit
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงความสำเร็จของ Arm ในการพัฒนาและส่งมอบชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงาน โดย Arm ได้เริ่มต้นการพัฒนาชิปตั้งแต่ปี 1985 ด้วยชิป ARM1 ที่มีเพียง 6,000 gates และใช้เทคโนโลยี 3μm ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในคอมพิวเตอร์ Acorn Archimedes ในสหราชอาณาจักร

    ปัจจุบัน Arm ได้ส่งมอบชิปไปแล้วกว่า 250 พันล้านชิ้น ซึ่งถูกใช้งานในอุปกรณ์หลากหลายประเภท เช่น เซ็นเซอร์ สมาร์ทโฟน และศูนย์ข้อมูล โดยชิปที่ทันสมัยที่สุดของ Arm มีมากกว่า 100 ล้าน gates และใช้เทคโนโลยีการผลิต 3nm

    Arm ยังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับโลก โดยมีเป้าหมายที่จะครองตลาด CPU ในศูนย์ข้อมูลถึง 50% ภายในปี 2025 อย่างไรก็ตาม Arm ต้องเผชิญกับความท้าทายจากคู่แข่ง เช่น RISC-V และบริษัทเทคโนโลยีในจีนที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว

    ✅ การเริ่มต้นและการพัฒนา
    - ชิป ARM1 มีเพียง 6,000 gates และใช้เทคโนโลยี 3μm
    - ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในคอมพิวเตอร์ Acorn Archimedes

    ✅ ความสำเร็จในปัจจุบัน
    - ส่งมอบชิปไปแล้วกว่า 250 พันล้านชิ้น
    - ชิปที่ทันสมัยที่สุดมีมากกว่า 100 ล้าน gates และใช้เทคโนโลยี 3nm

    ✅ บทบาทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
    - เป้าหมายที่จะครองตลาด CPU ในศูนย์ข้อมูลถึง 50% ภายในปี 2025
    - มีบทบาทสำคัญในอุปกรณ์หลากหลายประเภท เช่น เซ็นเซอร์และสมาร์ทโฟน

    ✅ ความสำคัญของการประหยัดพลังงาน
    - ชิปของ Arm มีคุณสมบัติที่ประหยัดพลังงานและมีประสิทธิภาพสูง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/over-250-billion-arm-chips-have-shipped-since-the-first-arm1-processor-launched-40-years-ago
    บทความนี้กล่าวถึงความสำเร็จของ Arm ในการพัฒนาและส่งมอบชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงาน โดย Arm ได้เริ่มต้นการพัฒนาชิปตั้งแต่ปี 1985 ด้วยชิป ARM1 ที่มีเพียง 6,000 gates และใช้เทคโนโลยี 3μm ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในคอมพิวเตอร์ Acorn Archimedes ในสหราชอาณาจักร ปัจจุบัน Arm ได้ส่งมอบชิปไปแล้วกว่า 250 พันล้านชิ้น ซึ่งถูกใช้งานในอุปกรณ์หลากหลายประเภท เช่น เซ็นเซอร์ สมาร์ทโฟน และศูนย์ข้อมูล โดยชิปที่ทันสมัยที่สุดของ Arm มีมากกว่า 100 ล้าน gates และใช้เทคโนโลยีการผลิต 3nm Arm ยังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับโลก โดยมีเป้าหมายที่จะครองตลาด CPU ในศูนย์ข้อมูลถึง 50% ภายในปี 2025 อย่างไรก็ตาม Arm ต้องเผชิญกับความท้าทายจากคู่แข่ง เช่น RISC-V และบริษัทเทคโนโลยีในจีนที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ✅ การเริ่มต้นและการพัฒนา - ชิป ARM1 มีเพียง 6,000 gates และใช้เทคโนโลยี 3μm - ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในคอมพิวเตอร์ Acorn Archimedes ✅ ความสำเร็จในปัจจุบัน - ส่งมอบชิปไปแล้วกว่า 250 พันล้านชิ้น - ชิปที่ทันสมัยที่สุดมีมากกว่า 100 ล้าน gates และใช้เทคโนโลยี 3nm ✅ บทบาทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี - เป้าหมายที่จะครองตลาด CPU ในศูนย์ข้อมูลถึง 50% ภายในปี 2025 - มีบทบาทสำคัญในอุปกรณ์หลากหลายประเภท เช่น เซ็นเซอร์และสมาร์ทโฟน ✅ ความสำคัญของการประหยัดพลังงาน - ชิปของ Arm มีคุณสมบัติที่ประหยัดพลังงานและมีประสิทธิภาพสูง https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/over-250-billion-arm-chips-have-shipped-since-the-first-arm1-processor-launched-40-years-ago
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • Apple ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับแอปเบราว์เซอร์ยอดนิยมที่มีการสอดแนมข้อมูลผู้ใช้งาน โดยในวิดีโอพาโรดีปี 2024 Apple ได้แนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนมาใช้ Safari แทน Chrome ของ Google วิดีโอที่ชื่อว่า Privacy on iPhone: Flock แสดงภาพกล้องวงจรปิดที่มีปีกบินตามผู้ใช้งาน iPhone และเฝ้าดูพฤติกรรมของพวกเขาอย่างใกล้ชิด

    วิดีโอดังกล่าวเป็นการอ้างอิงถึงเทคโนโลยี FLoC (Federated Learning of Cohorts) ของ Google ซึ่งใช้ในการจัดกลุ่มผู้ใช้งานเพื่อส่งโฆษณาแบบเฉพาะเจาะจงโดยไม่ต้องติดตามพฤติกรรมออนไลน์ของผู้ใช้งานแบบรายบุคคล แม้ว่า Google จะยกเลิกการใช้ FLoC แต่ยังคงติดตามกิจกรรมของผู้ใช้งานผ่านวิธีอื่น เช่น การใช้คุกกี้บุคคลที่สาม

    Safari ของ Apple มีจุดเด่นที่ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ภายนอกติดตามกิจกรรมของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ Apple ใช้ในการแข่งขันกับ Chrome

    ✅ การอ้างอิงถึง FLoC
    - FLoC เป็นเทคโนโลยีที่ Google ใช้ในการจัดกลุ่มผู้ใช้งานเพื่อส่งโฆษณา
    - Google ยกเลิกการใช้ FLoC แต่ยังคงติดตามกิจกรรมของผู้ใช้งานผ่านวิธีอื่น

    ✅ ข้อได้เปรียบของ Safari
    - Safari ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ภายนอกติดตามกิจกรรมของผู้ใช้งาน
    - Apple ใช้ข้อได้เปรียบนี้ในการแข่งขันกับ Chrome

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน
    - ผู้ใช้งานได้รับการปกป้องข้อมูลส่วนตัวมากขึ้นเมื่อใช้ Safari

    ✅ เป้าหมายของ Apple
    - ส่งเสริมการใช้ Safari เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/28/this-popular-internet-browser-app-is-spying-on-you-apple-warns
    Apple ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับแอปเบราว์เซอร์ยอดนิยมที่มีการสอดแนมข้อมูลผู้ใช้งาน โดยในวิดีโอพาโรดีปี 2024 Apple ได้แนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนมาใช้ Safari แทน Chrome ของ Google วิดีโอที่ชื่อว่า Privacy on iPhone: Flock แสดงภาพกล้องวงจรปิดที่มีปีกบินตามผู้ใช้งาน iPhone และเฝ้าดูพฤติกรรมของพวกเขาอย่างใกล้ชิด วิดีโอดังกล่าวเป็นการอ้างอิงถึงเทคโนโลยี FLoC (Federated Learning of Cohorts) ของ Google ซึ่งใช้ในการจัดกลุ่มผู้ใช้งานเพื่อส่งโฆษณาแบบเฉพาะเจาะจงโดยไม่ต้องติดตามพฤติกรรมออนไลน์ของผู้ใช้งานแบบรายบุคคล แม้ว่า Google จะยกเลิกการใช้ FLoC แต่ยังคงติดตามกิจกรรมของผู้ใช้งานผ่านวิธีอื่น เช่น การใช้คุกกี้บุคคลที่สาม Safari ของ Apple มีจุดเด่นที่ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ภายนอกติดตามกิจกรรมของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ Apple ใช้ในการแข่งขันกับ Chrome ✅ การอ้างอิงถึง FLoC - FLoC เป็นเทคโนโลยีที่ Google ใช้ในการจัดกลุ่มผู้ใช้งานเพื่อส่งโฆษณา - Google ยกเลิกการใช้ FLoC แต่ยังคงติดตามกิจกรรมของผู้ใช้งานผ่านวิธีอื่น ✅ ข้อได้เปรียบของ Safari - Safari ไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ภายนอกติดตามกิจกรรมของผู้ใช้งาน - Apple ใช้ข้อได้เปรียบนี้ในการแข่งขันกับ Chrome ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน - ผู้ใช้งานได้รับการปกป้องข้อมูลส่วนตัวมากขึ้นเมื่อใช้ Safari ✅ เป้าหมายของ Apple - ส่งเสริมการใช้ Safari เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/28/this-popular-internet-browser-app-is-spying-on-you-apple-warns
    WWW.THESTAR.COM.MY
    This popular Internet browser app is spying on you, Apple warns
    An old warning from Apple about a popular Internet browsing app is gaining renewed attention.
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • งาน Auto Shanghai 2025 ได้เปิดตัวนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตที่เน้นเทคโนโลยีล้ำสมัยและความสะดวกสบายของผู้โดยสาร โดยมีการจัดแสดงรถยนต์ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ เบาะนวด และฟีเจอร์เสริมอื่นๆ รวมถึงการเปิดตัวแท็กซี่บินได้ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าชม

    งานนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้งาน มากกว่าการเน้นสมรรถนะของเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว

    ✅ นวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต
    - รถยนต์ที่มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่และเบาะนวด
    - การเปิดตัวแท็กซี่บินได้ที่ดึงดูดความสนใจ

    ✅ การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์
    - มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้งาน
    - ลดความสำคัญของสมรรถนะเครื่องยนต์

    ✅ การจัดแสดงและผู้เข้าร่วมงาน
    - มีผู้ผลิตรถยนต์และซัพพลายเออร์เข้าร่วมงานหลายร้อยราย
    - การจัดแสดงรถยนต์ที่เน้นความสะดวกสบายและเทคโนโลยีล้ำสมัย

    ✅ เป้าหมายของงาน
    - นำเสนอเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/28/screens-drones-massages-shanghai-flaunts-the-future-of-cars
    งาน Auto Shanghai 2025 ได้เปิดตัวนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตที่เน้นเทคโนโลยีล้ำสมัยและความสะดวกสบายของผู้โดยสาร โดยมีการจัดแสดงรถยนต์ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ เบาะนวด และฟีเจอร์เสริมอื่นๆ รวมถึงการเปิดตัวแท็กซี่บินได้ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าชม งานนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้งาน มากกว่าการเน้นสมรรถนะของเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว ✅ นวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต - รถยนต์ที่มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่และเบาะนวด - การเปิดตัวแท็กซี่บินได้ที่ดึงดูดความสนใจ ✅ การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ - มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้งาน - ลดความสำคัญของสมรรถนะเครื่องยนต์ ✅ การจัดแสดงและผู้เข้าร่วมงาน - มีผู้ผลิตรถยนต์และซัพพลายเออร์เข้าร่วมงานหลายร้อยราย - การจัดแสดงรถยนต์ที่เน้นความสะดวกสบายและเทคโนโลยีล้ำสมัย ✅ เป้าหมายของงาน - นำเสนอเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/28/screens-drones-massages-shanghai-flaunts-the-future-of-cars
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Screens, drones, massages: Shanghai flaunts the future of cars
    At the huge Auto Shanghai industry show this week, the chatter was less about powerful engines and more about cutting-edge technology and passenger comfort.
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • ศธ.เร่งถลุงงบแท็บเล็ต นักเรียนทันใช้เทอมสอง ย้อนดูความพังยุค 'ยิ่งลักษณ์'
    .
    ถ้าใครยังจำกันได้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอโครงการส่งเสริมการศึกษาเท่าเทียมด้วยระบบดิจิทัลพัฒนาทักษะและเครดิตพอร์ตโฟลิโอ โดยอนุมัติงบประมาณ 4,214,738,090 บาท และโครงการจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ทุกที่ ทุกเวลา
    .
    อย่างไรก็ตาม โครงการลักษณะนี้เคยมีมาก่อนในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับโครงการ "One Tablet PC per Child" (ปี 2555-2556) ใช้งบรวมกว่า 6,600 ล้านบาท แต่ประสบปัญหาความล่าช้าและปัญหาความปลอดภัยในการใช้งาน ก่อนถูกยกเลิกหลังการรัฐประหารปี 2557
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000039951
    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ศธ.เร่งถลุงงบแท็บเล็ต นักเรียนทันใช้เทอมสอง ย้อนดูความพังยุค 'ยิ่งลักษณ์' . ถ้าใครยังจำกันได้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอโครงการส่งเสริมการศึกษาเท่าเทียมด้วยระบบดิจิทัลพัฒนาทักษะและเครดิตพอร์ตโฟลิโอ โดยอนุมัติงบประมาณ 4,214,738,090 บาท และโครงการจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ทุกที่ ทุกเวลา . อย่างไรก็ตาม โครงการลักษณะนี้เคยมีมาก่อนในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับโครงการ "One Tablet PC per Child" (ปี 2555-2556) ใช้งบรวมกว่า 6,600 ล้านบาท แต่ประสบปัญหาความล่าช้าและปัญหาความปลอดภัยในการใช้งาน ก่อนถูกยกเลิกหลังการรัฐประหารปี 2557 . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000039951 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 535 Views 0 Reviews
  • Xiaomi กำลังเตรียมเปิดตัวชิปเซ็ต in-house ที่ชื่อว่า Xring ซึ่งเป็นชิปที่พัฒนาขึ้นเองโดยบริษัท โดยมีการคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวในวันที่ 20 พฤษภาคม 2025 หรือหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่การเปิดตัวอาจล่าช้าเนื่องจากปัจจัยต่างๆ

    ชิป Xring ใช้กระบวนการผลิต 4nm N4P ของ TSMC และมีการออกแบบ CPU ที่ใช้ ARM Cortex-X925 ซึ่งมีความเร็วสูงสุด 3.20GHz โดยไม่ได้ใช้กระบวนการผลิต 3nm เนื่องจากต้นทุนที่สูงและความเสี่ยงจากการถูกคว่ำบาตรจากรัฐบาลสหรัฐฯ เช่นเดียวกับ Huawei

    การพัฒนาชิป Xring เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Xiaomi ในการลดการพึ่งพาบริษัทอื่น เช่น Qualcomm และ MediaTek และสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดชิปเซ็ต

    ✅ การออกแบบและกระบวนการผลิต
    - ใช้กระบวนการผลิต 4nm N4P ของ TSMC
    - CPU ใช้ ARM Cortex-X925 ความเร็วสูงสุด 3.20GHz

    ✅ เป้าหมายของ Xiaomi
    - ลดการพึ่งพาบริษัทอื่น เช่น Qualcomm และ MediaTek
    - สร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดชิปเซ็ต

    ✅ การเปิดตัวและการพัฒนา
    - คาดว่าจะเปิดตัวในวันที่ 20 พฤษภาคม 2025 หรือหลังจากนั้น
    - มีความเป็นไปได้ที่การเปิดตัวอาจล่าช้า

    ✅ ความสำคัญของชิป Xring
    - เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาชิปเซ็ตของ Xiaomi

    https://wccftech.com/xiaomi-xring-in-house-soc-launch-date-mentioned-by-tipster/
    Xiaomi กำลังเตรียมเปิดตัวชิปเซ็ต in-house ที่ชื่อว่า Xring ซึ่งเป็นชิปที่พัฒนาขึ้นเองโดยบริษัท โดยมีการคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวในวันที่ 20 พฤษภาคม 2025 หรือหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่การเปิดตัวอาจล่าช้าเนื่องจากปัจจัยต่างๆ ชิป Xring ใช้กระบวนการผลิต 4nm N4P ของ TSMC และมีการออกแบบ CPU ที่ใช้ ARM Cortex-X925 ซึ่งมีความเร็วสูงสุด 3.20GHz โดยไม่ได้ใช้กระบวนการผลิต 3nm เนื่องจากต้นทุนที่สูงและความเสี่ยงจากการถูกคว่ำบาตรจากรัฐบาลสหรัฐฯ เช่นเดียวกับ Huawei การพัฒนาชิป Xring เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Xiaomi ในการลดการพึ่งพาบริษัทอื่น เช่น Qualcomm และ MediaTek และสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดชิปเซ็ต ✅ การออกแบบและกระบวนการผลิต - ใช้กระบวนการผลิต 4nm N4P ของ TSMC - CPU ใช้ ARM Cortex-X925 ความเร็วสูงสุด 3.20GHz ✅ เป้าหมายของ Xiaomi - ลดการพึ่งพาบริษัทอื่น เช่น Qualcomm และ MediaTek - สร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดชิปเซ็ต ✅ การเปิดตัวและการพัฒนา - คาดว่าจะเปิดตัวในวันที่ 20 พฤษภาคม 2025 หรือหลังจากนั้น - มีความเป็นไปได้ที่การเปิดตัวอาจล่าช้า ✅ ความสำคัญของชิป Xring - เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาชิปเซ็ตของ Xiaomi https://wccftech.com/xiaomi-xring-in-house-soc-launch-date-mentioned-by-tipster/
    WCCFTECH.COM
    Xiaomi’s Xring Is The Name Of The Company’s Upcoming In-House Chipset And It Finally Has A Potential Launch Date, Though Tipster Hints That It Could Be Delayed
    A tipster claims that the Xiaomi Xring custom chipset will launch next month, though there is a possibility that it is delayed
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการทดสอบโมดูลหน่วยความจำ GDDR7 ของ SK hynix ที่ใช้ใน GPU รุ่น RTX 5070 Ti โดยพบว่ามีศักยภาพในการโอเวอร์คล็อกที่ใกล้เคียงกับโมดูลของ Samsung โดยสามารถเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลได้ถึง 34 Gbps อย่างไรก็ตาม การทดสอบยังขาดข้อมูลด้านความร้อนและประสิทธิภาพพลังงาน

    การทดสอบนี้แสดงให้เห็นว่า Nvidia ได้เพิ่ม SK hynix เป็นผู้จัดหาหน่วยความจำ GDDR7 สำหรับซีรีส์ RTX 50 นอกเหนือจาก Samsung เพื่อเพิ่มความหลากหลายของซัพพลายเออร์ แม้ว่าจะมีข้อสันนิษฐานว่า BIOS ของ RTX 50 อาจขึ้นอยู่กับผู้ผลิตหน่วยความจำ ซึ่งอาจทำให้การใช้งาน BIOS ข้ามผู้ผลิตทำให้การ์ดจอเสียหายได้

    ✅ การทดสอบโมดูล GDDR7
    - SK Hynix GDDR7 สามารถโอเวอร์คล็อกได้ถึง 34 Gbps
    - มีศักยภาพใกล้เคียงกับโมดูลของ Samsung

    ✅ การเพิ่มความหลากหลายของซัพพลายเออร์
    - Nvidia เพิ่ม SK hynix เป็นผู้จัดหาหน่วยความจำ GDDR7 สำหรับซีรีส์ RTX 50

    ✅ ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับ BIOS
    - BIOS ของ RTX 50 อาจขึ้นอยู่กับผู้ผลิตหน่วยความจำ
    - การใช้งาน BIOS ข้ามผู้ผลิตอาจทำให้การ์ดจอเสียหาย

    ✅ เป้าหมายของ Nvidia
    - เพิ่มความหลากหลายของซัพพลายเออร์เพื่อความมั่นคงของการผลิต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/sk-hynix-gddr7-modules-hit-34-gbps-on-the-rtx-5070-ti-similar-oc-performance-to-samsung
    บทความนี้กล่าวถึงการทดสอบโมดูลหน่วยความจำ GDDR7 ของ SK hynix ที่ใช้ใน GPU รุ่น RTX 5070 Ti โดยพบว่ามีศักยภาพในการโอเวอร์คล็อกที่ใกล้เคียงกับโมดูลของ Samsung โดยสามารถเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลได้ถึง 34 Gbps อย่างไรก็ตาม การทดสอบยังขาดข้อมูลด้านความร้อนและประสิทธิภาพพลังงาน การทดสอบนี้แสดงให้เห็นว่า Nvidia ได้เพิ่ม SK hynix เป็นผู้จัดหาหน่วยความจำ GDDR7 สำหรับซีรีส์ RTX 50 นอกเหนือจาก Samsung เพื่อเพิ่มความหลากหลายของซัพพลายเออร์ แม้ว่าจะมีข้อสันนิษฐานว่า BIOS ของ RTX 50 อาจขึ้นอยู่กับผู้ผลิตหน่วยความจำ ซึ่งอาจทำให้การใช้งาน BIOS ข้ามผู้ผลิตทำให้การ์ดจอเสียหายได้ ✅ การทดสอบโมดูล GDDR7 - SK Hynix GDDR7 สามารถโอเวอร์คล็อกได้ถึง 34 Gbps - มีศักยภาพใกล้เคียงกับโมดูลของ Samsung ✅ การเพิ่มความหลากหลายของซัพพลายเออร์ - Nvidia เพิ่ม SK hynix เป็นผู้จัดหาหน่วยความจำ GDDR7 สำหรับซีรีส์ RTX 50 ✅ ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับ BIOS - BIOS ของ RTX 50 อาจขึ้นอยู่กับผู้ผลิตหน่วยความจำ - การใช้งาน BIOS ข้ามผู้ผลิตอาจทำให้การ์ดจอเสียหาย ✅ เป้าหมายของ Nvidia - เพิ่มความหลากหลายของซัพพลายเออร์เพื่อความมั่นคงของการผลิต https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/sk-hynix-gddr7-modules-hit-34-gbps-on-the-rtx-5070-ti-similar-oc-performance-to-samsung
    0 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการดัดแปลง GPU รุ่นเก่า Voodoo4 ให้สามารถใช้งานในแล็ปท็อปได้ โดยนักดัดแปลงฮาร์ดแวร์ Daniel Simionescu ได้พัฒนา PCB ที่ติดตั้ง GPU Voodoo4 พร้อมหน่วยความจำ SDR ขนาด 64MB และเชื่อมต่อกับแล็ปท็อป Dell Precision M4800 ผ่านโมดูล MXM (Mobile PCI Express Module) การดัดแปลงนี้ต้องใช้ FPGA, ตัวเชื่อมต่อ LVDS/eDP และ RealTek Scaler เพื่อให้ GPU รุ่นเก่าสามารถทำงานร่วมกับมาตรฐานปัจจุบันได้

    การทดสอบในระบบปฏิบัติการ Windows 98 พบปัญหาความเข้ากันไม่ได้ของ BIOS แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Windows XP และไดรเวอร์ VBE (VESA BIOS Extensions) ก็สามารถใช้งานได้บางส่วน เช่น การรัน 3DMark 2001 และเกม Need for Speed: Porsche Unleashed

    แม้ว่าการดัดแปลงนี้จะไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการค้า แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนผู้ใช้งานสามารถพัฒนาต่อได้ในรูปแบบโอเพ่นซอร์ส

    ✅ การออกแบบและการดัดแปลง
    - ใช้ PCB ที่ติดตั้ง GPU Voodoo4 พร้อมหน่วยความจำ SDR ขนาด 64MB
    - เชื่อมต่อกับแล็ปท็อปผ่านโมดูล MXM

    ✅ การแก้ปัญหาความเข้ากันได้
    - ใช้ FPGA, ตัวเชื่อมต่อ LVDS/eDP และ RealTek Scaler
    - ใช้ไดรเวอร์ VBE เพื่อแก้ปัญหาความเข้ากันไม่ได้ของ BIOS

    ✅ ผลการทดสอบ
    - สามารถรัน 3DMark 2001 และเกม Need for Speed: Porsche Unleashed บน Windows XP

    ✅ เป้าหมายของการดัดแปลง
    - เปิดโอกาสให้ชุมชนผู้ใช้งานพัฒนาต่อในรูปแบบโอเพ่นซอร์ส

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/legendary-voodoo4-gpu-modded-into-laptop-benchmarks-work-with-windows-xp
    บทความนี้กล่าวถึงการดัดแปลง GPU รุ่นเก่า Voodoo4 ให้สามารถใช้งานในแล็ปท็อปได้ โดยนักดัดแปลงฮาร์ดแวร์ Daniel Simionescu ได้พัฒนา PCB ที่ติดตั้ง GPU Voodoo4 พร้อมหน่วยความจำ SDR ขนาด 64MB และเชื่อมต่อกับแล็ปท็อป Dell Precision M4800 ผ่านโมดูล MXM (Mobile PCI Express Module) การดัดแปลงนี้ต้องใช้ FPGA, ตัวเชื่อมต่อ LVDS/eDP และ RealTek Scaler เพื่อให้ GPU รุ่นเก่าสามารถทำงานร่วมกับมาตรฐานปัจจุบันได้ การทดสอบในระบบปฏิบัติการ Windows 98 พบปัญหาความเข้ากันไม่ได้ของ BIOS แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Windows XP และไดรเวอร์ VBE (VESA BIOS Extensions) ก็สามารถใช้งานได้บางส่วน เช่น การรัน 3DMark 2001 และเกม Need for Speed: Porsche Unleashed แม้ว่าการดัดแปลงนี้จะไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการค้า แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนผู้ใช้งานสามารถพัฒนาต่อได้ในรูปแบบโอเพ่นซอร์ส ✅ การออกแบบและการดัดแปลง - ใช้ PCB ที่ติดตั้ง GPU Voodoo4 พร้อมหน่วยความจำ SDR ขนาด 64MB - เชื่อมต่อกับแล็ปท็อปผ่านโมดูล MXM ✅ การแก้ปัญหาความเข้ากันได้ - ใช้ FPGA, ตัวเชื่อมต่อ LVDS/eDP และ RealTek Scaler - ใช้ไดรเวอร์ VBE เพื่อแก้ปัญหาความเข้ากันไม่ได้ของ BIOS ✅ ผลการทดสอบ - สามารถรัน 3DMark 2001 และเกม Need for Speed: Porsche Unleashed บน Windows XP ✅ เป้าหมายของการดัดแปลง - เปิดโอกาสให้ชุมชนผู้ใช้งานพัฒนาต่อในรูปแบบโอเพ่นซอร์ส https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/legendary-voodoo4-gpu-modded-into-laptop-benchmarks-work-with-windows-xp
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • ลุงไม่คิดว่ามันจะต้องถึงขนาดนี้เลยนะ

    Asus ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน GPU รุ่น ROG Astral ที่ชื่อว่า Equipment Installation Check ซึ่งใช้เซ็นเซอร์ Bosch Sensortec BMI323 Inertial Measurement Unit (IMU) เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของการ์ดจอ ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันปัญหา GPU sagging หรือการที่การ์ดจอหนักเกินไปจนทำให้เกิดความเสียหายต่อเมนบอร์ด

    การ์ดจอ ROG Astral มีน้ำหนักถึง 3 กิโลกรัม ซึ่งหนักกว่าก้อนอิฐมาตรฐาน และแม้จะมีการเสริมความแข็งแรงในช่อง PCIe หรือการใช้ขาตั้งรองรับ แต่ก็ยังมีโอกาสที่ขาตั้งจะหลุดหรือคลายตัวเมื่อเวลาผ่านไป ฟีเจอร์นี้จึงช่วยแจ้งเตือนผู้ใช้งานหากการ์ดจอมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งโดยไม่ได้ตั้งใจ

    นอกจากนี้ ROG Astral ยังมาพร้อมฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Power Detector+ ที่ตรวจสอบการกระจายพลังงานในสายไฟ 12V และ Thermal Map ที่ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิรอบการ์ดจอเพื่อป้องกันจุดร้อน

    ✅ ฟีเจอร์ Equipment Installation Check
    - ใช้เซ็นเซอร์ IMU เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของการ์ดจอ
    - ช่วยป้องกันปัญหา GPU sagging ที่อาจทำให้เมนบอร์ดเสียหาย

    ✅ น้ำหนักและการออกแบบ
    - การ์ดจอมีน้ำหนักถึง 3 กิโลกรัม
    - มีการเสริมความแข็งแรงในช่อง PCIe และขาตั้งรองรับ

    ✅ ฟีเจอร์เสริมอื่นๆ
    - Power Detector+ ตรวจสอบการกระจายพลังงานในสายไฟ
    - Thermal Map ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิรอบการ์ดจอ

    ✅ เป้าหมายของฟีเจอร์
    - ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายต่อฮาร์ดแวร์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/gpus-built-in-gyro-and-accelerometer-tell-you-if-the-card-isnt-level-rog-astral-gpu-battles-card-sag-with-software-monitored-feature
    ลุงไม่คิดว่ามันจะต้องถึงขนาดนี้เลยนะ Asus ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน GPU รุ่น ROG Astral ที่ชื่อว่า Equipment Installation Check ซึ่งใช้เซ็นเซอร์ Bosch Sensortec BMI323 Inertial Measurement Unit (IMU) เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของการ์ดจอ ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันปัญหา GPU sagging หรือการที่การ์ดจอหนักเกินไปจนทำให้เกิดความเสียหายต่อเมนบอร์ด การ์ดจอ ROG Astral มีน้ำหนักถึง 3 กิโลกรัม ซึ่งหนักกว่าก้อนอิฐมาตรฐาน และแม้จะมีการเสริมความแข็งแรงในช่อง PCIe หรือการใช้ขาตั้งรองรับ แต่ก็ยังมีโอกาสที่ขาตั้งจะหลุดหรือคลายตัวเมื่อเวลาผ่านไป ฟีเจอร์นี้จึงช่วยแจ้งเตือนผู้ใช้งานหากการ์ดจอมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้ ROG Astral ยังมาพร้อมฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Power Detector+ ที่ตรวจสอบการกระจายพลังงานในสายไฟ 12V และ Thermal Map ที่ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิรอบการ์ดจอเพื่อป้องกันจุดร้อน ✅ ฟีเจอร์ Equipment Installation Check - ใช้เซ็นเซอร์ IMU เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของการ์ดจอ - ช่วยป้องกันปัญหา GPU sagging ที่อาจทำให้เมนบอร์ดเสียหาย ✅ น้ำหนักและการออกแบบ - การ์ดจอมีน้ำหนักถึง 3 กิโลกรัม - มีการเสริมความแข็งแรงในช่อง PCIe และขาตั้งรองรับ ✅ ฟีเจอร์เสริมอื่นๆ - Power Detector+ ตรวจสอบการกระจายพลังงานในสายไฟ - Thermal Map ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิรอบการ์ดจอ ✅ เป้าหมายของฟีเจอร์ - ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายต่อฮาร์ดแวร์ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/gpus-built-in-gyro-and-accelerometer-tell-you-if-the-card-isnt-level-rog-astral-gpu-battles-card-sag-with-software-monitored-feature
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • มีการดัดแปลง Integrated Heat Spreader (IHS) ของ CPU Intel Core i9-14900KS ให้กลายเป็น water block สำหรับระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ โดย YouTuber ชาวจีนชื่อ octppus ได้ใช้เครื่อง CNC ในการแกะสลัก IHS เพื่อสร้างช่องทางน้ำที่เชื่อมต่อกัน พร้อมติดตั้งจุดเชื่อมต่อสำหรับน้ำเข้าและออก และปิดผนึกด้วยปะเก็นเพื่อป้องกันการรั่วซึม

    การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่าการดัดแปลง IHS ช่วยลดระยะทางจาก die ของ CPU ไปยังน้ำหล่อเย็นถึง 4 เท่า ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนในบางสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม การออกแบบนี้ยังมีข้อจำกัด เช่น พื้นที่ผิวสัมผัสที่เล็กลงและการกระจายความร้อนที่ไม่สม่ำเสมอ

    แม้ว่าการดัดแปลงนี้จะไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป แต่ก็เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการปรับแต่งฮาร์ดแวร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    ✅ การออกแบบและการดัดแปลง
    - ใช้เครื่อง CNC ในการแกะสลัก IHS เพื่อสร้างช่องทางน้ำ
    - ติดตั้งจุดเชื่อมต่อสำหรับน้ำเข้าและออก พร้อมปิดผนึกด้วยปะเก็น

    ✅ ผลการทดลอง
    - ลดระยะทางจาก die ของ CPU ไปยังน้ำหล่อเย็นถึง 4 เท่า
    - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนในบางสถานการณ์

    ✅ ข้อจำกัดของการออกแบบ
    - พื้นที่ผิวสัมผัสเล็กลงและการกระจายความร้อนไม่สม่ำเสมอ
    - อุณหภูมิอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อความเร็วปั๊มน้ำลดลง

    ✅ ความน่าสนใจของการทดลอง
    - เป็นตัวอย่างของการปรับแต่งฮาร์ดแวร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/core-i9-14900ks-heatspreader-transformed-into-cpu-water-block-clever-machining-yields-a-functioning-water-block
    มีการดัดแปลง Integrated Heat Spreader (IHS) ของ CPU Intel Core i9-14900KS ให้กลายเป็น water block สำหรับระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ โดย YouTuber ชาวจีนชื่อ octppus ได้ใช้เครื่อง CNC ในการแกะสลัก IHS เพื่อสร้างช่องทางน้ำที่เชื่อมต่อกัน พร้อมติดตั้งจุดเชื่อมต่อสำหรับน้ำเข้าและออก และปิดผนึกด้วยปะเก็นเพื่อป้องกันการรั่วซึม การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่าการดัดแปลง IHS ช่วยลดระยะทางจาก die ของ CPU ไปยังน้ำหล่อเย็นถึง 4 เท่า ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนในบางสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม การออกแบบนี้ยังมีข้อจำกัด เช่น พื้นที่ผิวสัมผัสที่เล็กลงและการกระจายความร้อนที่ไม่สม่ำเสมอ แม้ว่าการดัดแปลงนี้จะไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป แต่ก็เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการปรับแต่งฮาร์ดแวร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ✅ การออกแบบและการดัดแปลง - ใช้เครื่อง CNC ในการแกะสลัก IHS เพื่อสร้างช่องทางน้ำ - ติดตั้งจุดเชื่อมต่อสำหรับน้ำเข้าและออก พร้อมปิดผนึกด้วยปะเก็น ✅ ผลการทดลอง - ลดระยะทางจาก die ของ CPU ไปยังน้ำหล่อเย็นถึง 4 เท่า - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนในบางสถานการณ์ ✅ ข้อจำกัดของการออกแบบ - พื้นที่ผิวสัมผัสเล็กลงและการกระจายความร้อนไม่สม่ำเสมอ - อุณหภูมิอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อความเร็วปั๊มน้ำลดลง ✅ ความน่าสนใจของการทดลอง - เป็นตัวอย่างของการปรับแต่งฮาร์ดแวร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/core-i9-14900ks-heatspreader-transformed-into-cpu-water-block-clever-machining-yields-a-functioning-water-block
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • The Last Equation of Elias Voltaire" encourages cognitive scientists, medical philosophers and especially for those grieving the death of a loved one.

    It highlights the importance of compassion and serves as a reminder of significant truths that may be overlooked.

    Book on Amazon : The Last Equation of Elias Voltaire https://www.amazon.com/dp/B0F1FH8LLG

    FashionFromPhilosophy : https://www.redbubble.com/shop/ap/170279088?ref=studio-promote

    Song - In the Beginning, There Was Stillness : https://open.spotify.com/playlist/0SDJzlDtAgZYdbTxfEGmCJ


    The Last Equation of Elias Voltaire: A New Cognitive and Medical Frontier
    https://www.facebook.com/groups/23980494804930838
    The Last Equation of Elias Voltaire" encourages cognitive scientists, medical philosophers and especially for those grieving the death of a loved one. It highlights the importance of compassion and serves as a reminder of significant truths that may be overlooked. Book on Amazon : The Last Equation of Elias Voltaire https://www.amazon.com/dp/B0F1FH8LLG FashionFromPhilosophy : https://www.redbubble.com/shop/ap/170279088?ref=studio-promote Song - In the Beginning, There Was Stillness : https://open.spotify.com/playlist/0SDJzlDtAgZYdbTxfEGmCJ The Last Equation of Elias Voltaire: A New Cognitive and Medical Frontier https://www.facebook.com/groups/23980494804930838
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงบทบาทของโซเชียลมีเดียที่กลายเป็นแหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิตสำหรับวัยรุ่นในสหรัฐฯ โดยผลการศึกษาจาก Pew Research Center พบว่า 34% ของวัยรุ่นอายุ 13-17 ปี ใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Instagram, TikTok และ YouTube เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพจิต และ 9% ใช้บ่อยหรือค่อนข้างบ่อย

    โซเชียลมีเดียไม่ได้เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มสำหรับความบันเทิงอีกต่อไป แต่ยังกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับวัยรุ่น อย่างไรก็ตาม การใช้งานโซเชียลมีเดียยังมีผลกระทบด้านลบ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่รายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบมากกว่าผู้ชาย

    ✅ การใช้งานเพื่อสุขภาพจิต
    - 34% ของวัยรุ่นใช้โซเชียลมีเดียเพื่อค้นหาข้อมูลด้านสุขภาพจิต
    - 9% ใช้บ่อยหรือค่อนข้างบ่อย

    ✅ แพลตฟอร์มที่นิยม
    - Instagram, TikTok และ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักที่วัยรุ่นใช้

    ✅ ผลกระทบต่อวัยรุ่น
    - โซเชียลมีเดียกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับวัยรุ่น
    - ผู้หญิงรายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบมากกว่าผู้ชาย

    ✅ การเปลี่ยนแปลงบทบาทของโซเชียลมีเดีย
    - จากแพลตฟอร์มความบันเทิงสู่แหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/27/social-media-is-a-mental-heath-resource-for-one-in-three-us-teens
    บทความนี้กล่าวถึงบทบาทของโซเชียลมีเดียที่กลายเป็นแหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิตสำหรับวัยรุ่นในสหรัฐฯ โดยผลการศึกษาจาก Pew Research Center พบว่า 34% ของวัยรุ่นอายุ 13-17 ปี ใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Instagram, TikTok และ YouTube เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพจิต และ 9% ใช้บ่อยหรือค่อนข้างบ่อย โซเชียลมีเดียไม่ได้เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มสำหรับความบันเทิงอีกต่อไป แต่ยังกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับวัยรุ่น อย่างไรก็ตาม การใช้งานโซเชียลมีเดียยังมีผลกระทบด้านลบ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่รายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบมากกว่าผู้ชาย ✅ การใช้งานเพื่อสุขภาพจิต - 34% ของวัยรุ่นใช้โซเชียลมีเดียเพื่อค้นหาข้อมูลด้านสุขภาพจิต - 9% ใช้บ่อยหรือค่อนข้างบ่อย ✅ แพลตฟอร์มที่นิยม - Instagram, TikTok และ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักที่วัยรุ่นใช้ ✅ ผลกระทบต่อวัยรุ่น - โซเชียลมีเดียกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับวัยรุ่น - ผู้หญิงรายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบมากกว่าผู้ชาย ✅ การเปลี่ยนแปลงบทบาทของโซเชียลมีเดีย - จากแพลตฟอร์มความบันเทิงสู่แหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/27/social-media-is-a-mental-heath-resource-for-one-in-three-us-teens
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Social media is a mental heath resource for one in three US teens
    From Instagram to TikTok to YouTube, social networks are no longer just for posting selfies or dance videos. For more than a third of American teenagers, they've also become the place to find information about mental health, according to a study by the Pew Research Center.
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
More Results