• #เกาหลี #เกาะเชจู เริ่ม 5,999

    🗓 จำนวนวัน 5วัน 3คืน
    ✈ 7C-เจจูแอร์
    พักโรงแรม

    ชายหาดอิโฮเทวู
    ไร่ชาเขียวโอซุลลอค
    วัดซันบังโพมุนซา
    ถนนกังหันชินซางวินด์มิล
    ซองอัคซาน
    ถนนสายรุ้ง
    ชายหาดควังชิกี
    ภูเขาไฟซองซานอิลจุลบง

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์เกาหลี #ทัวร์เกาะเชจู #korea #jeju #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #เกาหลี #เกาะเชจู เริ่ม 5,999 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 5วัน 3คืน ✈ 7C-เจจูแอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 ชายหาดอิโฮเทวู 📍 ไร่ชาเขียวโอซุลลอค 📍 วัดซันบังโพมุนซา 📍 ถนนกังหันชินซางวินด์มิล 📍 ซองอัคซาน 📍 ถนนสายรุ้ง 📍 ชายหาดควังชิกี 📍 ภูเขาไฟซองซานอิลจุลบง รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เกาหลี #ทัวร์เกาะเชจู #korea #jeju #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Starbucks เกาหลีใต้ขอคืนพื้นที่: ห้ามตั้งออฟฟิศในร้านกาแฟ

    ในเกาหลีใต้ การใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานหรือเรียนกลายเป็นวัฒนธรรมที่แพร่หลายจน Starbucks ต้องออกมาตรการใหม่ทั่วประเทศ โดยติดป้ายประกาศห้ามลูกค้านำอุปกรณ์สำนักงานมาใช้ในร้าน เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เครื่องพิมพ์ ปลั๊กพ่วงหลายช่อง และฉากกั้นส่วนตัว

    กลุ่มลูกค้าที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ถูกเรียกว่า “คากงจก” (cagongjok) ซึ่งเป็นคำผสมระหว่าง “คาเฟ่” กับ “กงบู” (เรียน) หมายถึงคนที่ใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานหรือเรียนเป็นเวลานาน โดยบางคนถึงขั้นนำเครื่องพิมพ์มาเสียบปลั๊กของร้าน หรือสร้างบูธส่วนตัวด้วยฉากกั้น

    Starbucks ระบุว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ร้านสะดวกสำหรับลูกค้าทุกคน และลดความเสี่ยงจากการสูญหายหรือขโมยทรัพย์สิน โดยพนักงานจะคอยแจ้งเตือนลูกค้าที่ใช้พื้นที่เกินความจำเป็น หรือทิ้งของไว้บนโต๊ะนานเกินไป

    ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลาง “คาเฟ่บูม” ในเกาหลีใต้ ซึ่งมีร้านกาแฟมากกว่า 100,000 แห่งทั่วประเทศ และการใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่การนั่งนานเกินไปอาจทำให้ร้านขาดทุน เพราะกาแฟหนึ่งแก้วครอบคลุมค่าใช้ที่นั่งได้เพียง 1 ชั่วโมง 42 นาทีเท่านั้น

    https://www.tomshardware.com/software/social-media/korean-starbucks-bans-desktop-pcs-printers-and-office-partitions-power-strips-also-forbidden-in-crackdown-on-industrious-customers
    ☕🖥️ Starbucks เกาหลีใต้ขอคืนพื้นที่: ห้ามตั้งออฟฟิศในร้านกาแฟ ในเกาหลีใต้ การใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานหรือเรียนกลายเป็นวัฒนธรรมที่แพร่หลายจน Starbucks ต้องออกมาตรการใหม่ทั่วประเทศ โดยติดป้ายประกาศห้ามลูกค้านำอุปกรณ์สำนักงานมาใช้ในร้าน เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เครื่องพิมพ์ ปลั๊กพ่วงหลายช่อง และฉากกั้นส่วนตัว กลุ่มลูกค้าที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ถูกเรียกว่า “คากงจก” (cagongjok) ซึ่งเป็นคำผสมระหว่าง “คาเฟ่” กับ “กงบู” (เรียน) หมายถึงคนที่ใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานหรือเรียนเป็นเวลานาน โดยบางคนถึงขั้นนำเครื่องพิมพ์มาเสียบปลั๊กของร้าน หรือสร้างบูธส่วนตัวด้วยฉากกั้น Starbucks ระบุว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ร้านสะดวกสำหรับลูกค้าทุกคน และลดความเสี่ยงจากการสูญหายหรือขโมยทรัพย์สิน โดยพนักงานจะคอยแจ้งเตือนลูกค้าที่ใช้พื้นที่เกินความจำเป็น หรือทิ้งของไว้บนโต๊ะนานเกินไป ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลาง “คาเฟ่บูม” ในเกาหลีใต้ ซึ่งมีร้านกาแฟมากกว่า 100,000 แห่งทั่วประเทศ และการใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่การนั่งนานเกินไปอาจทำให้ร้านขาดทุน เพราะกาแฟหนึ่งแก้วครอบคลุมค่าใช้ที่นั่งได้เพียง 1 ชั่วโมง 42 นาทีเท่านั้น https://www.tomshardware.com/software/social-media/korean-starbucks-bans-desktop-pcs-printers-and-office-partitions-power-strips-also-forbidden-in-crackdown-on-industrious-customers
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Korean Starbucks bans desktop PCs, printers, and office partitions — power strips also forbidden in crackdown on industrious customers
    A new ‘Guide to comfortable use of the store’ asks café visitors to stop bringing in ‘Personal desktops, printers, power strips, partitions, etc.’
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: ScarCruft จากสายลับสู่โจรเรียกค่าไถ่

    ScarCruft กลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ เคยเป็นที่รู้จักในฐานะสายลับไซเบอร์ที่เน้นการขโมยข้อมูลจากหน่วยงานรัฐบาลและบุคคลสำคัญในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และรัสเซีย แต่ในเดือนกรกฎาคม 2025 พวกเขาเปลี่ยนแนวทางครั้งใหญ่ โดยหันมาใช้มัลแวร์เรียกค่าไถ่ (ransomware) ชื่อว่า VCD เพื่อโจมตีแบบหวังผลทางการเงิน

    การโจมตีครั้งนี้ดำเนินการโดยกลุ่มย่อยชื่อ ChinopuNK ผ่านอีเมลฟิชชิ่งที่แนบไฟล์ปลอมซึ่งแอบอ้างว่าเป็นการอัปเดตรหัสไปรษณีย์ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์จะถูกติดตั้งมัลแวร์มากกว่า 9 ชนิด รวมถึง ChillyChino รุ่นใหม่, LightPeek, FadeStealer และ NubSpy ซึ่งเป็น backdoor ที่เขียนด้วยภาษา Rust และใช้บริการ PubNub เพื่อซ่อนการสื่อสารให้ดูเหมือนทราฟฟิกปกติ

    ที่น่าตกใจคือ VCD ransomware ไม่เพียงเข้ารหัสไฟล์ของเหยื่อ แต่ยังแสดงข้อความเรียกค่าไถ่ทั้งภาษาอังกฤษและเกาหลี สะท้อนว่าพวกเขาเตรียมพร้อมโจมตีทั้งในประเทศและต่างประเทศ

    นักวิเคราะห์จาก DeepTempo เตือนว่า การใช้ ransomware อาจไม่ใช่แค่การหาเงิน แต่เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจจากการขโมยข้อมูล หรือใช้กดดันทางการเมือง ซึ่งเป็นแนวโน้มใหม่ของกลุ่ม APT ที่ผสมผสานการจารกรรมกับอาชญากรรมไซเบอร์

    ScarCruft เปลี่ยนจากการจารกรรมมาใช้ ransomware ชื่อ VCD
    เป็นการโจมตีแบบหวังผลทางการเงินครั้งแรกของกลุ่ม

    การโจมตีดำเนินการโดยกลุ่มย่อย ChinopuNK
    ใช้อีเมลฟิชชิ่งปลอมเป็นไฟล์อัปเดตรหัสไปรษณีย์

    มัลแวร์ที่ใช้มีมากกว่า 9 ชนิด รวมถึง ChillyChino รุ่นใหม่
    และ backdoor NubSpy ที่เขียนด้วยภาษา Rust

    NubSpy ใช้ PubNub เพื่อซ่อนการสื่อสารให้ดูเหมือนปกติ
    ทำให้ตรวจจับได้ยาก

    VCD ransomware เข้ารหัสไฟล์และแสดงข้อความเรียกค่าไถ่
    มีทั้งภาษาอังกฤษและเกาหลี

    นักวิเคราะห์ชี้ว่า ransomware อาจใช้เป็นเครื่องมือเบี่ยงเบนหรือกดดัน
    ไม่ใช่แค่การหาเงิน แต่เป็นยุทธศาสตร์หลายชั้น

    https://hackread.com/north-korean-group-scarcruft-spying-ransomware-attacks/
    🕵️‍♂️💰 เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: ScarCruft จากสายลับสู่โจรเรียกค่าไถ่ ScarCruft กลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ เคยเป็นที่รู้จักในฐานะสายลับไซเบอร์ที่เน้นการขโมยข้อมูลจากหน่วยงานรัฐบาลและบุคคลสำคัญในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และรัสเซีย แต่ในเดือนกรกฎาคม 2025 พวกเขาเปลี่ยนแนวทางครั้งใหญ่ โดยหันมาใช้มัลแวร์เรียกค่าไถ่ (ransomware) ชื่อว่า VCD เพื่อโจมตีแบบหวังผลทางการเงิน การโจมตีครั้งนี้ดำเนินการโดยกลุ่มย่อยชื่อ ChinopuNK ผ่านอีเมลฟิชชิ่งที่แนบไฟล์ปลอมซึ่งแอบอ้างว่าเป็นการอัปเดตรหัสไปรษณีย์ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์จะถูกติดตั้งมัลแวร์มากกว่า 9 ชนิด รวมถึง ChillyChino รุ่นใหม่, LightPeek, FadeStealer และ NubSpy ซึ่งเป็น backdoor ที่เขียนด้วยภาษา Rust และใช้บริการ PubNub เพื่อซ่อนการสื่อสารให้ดูเหมือนทราฟฟิกปกติ ที่น่าตกใจคือ VCD ransomware ไม่เพียงเข้ารหัสไฟล์ของเหยื่อ แต่ยังแสดงข้อความเรียกค่าไถ่ทั้งภาษาอังกฤษและเกาหลี สะท้อนว่าพวกเขาเตรียมพร้อมโจมตีทั้งในประเทศและต่างประเทศ นักวิเคราะห์จาก DeepTempo เตือนว่า การใช้ ransomware อาจไม่ใช่แค่การหาเงิน แต่เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจจากการขโมยข้อมูล หรือใช้กดดันทางการเมือง ซึ่งเป็นแนวโน้มใหม่ของกลุ่ม APT ที่ผสมผสานการจารกรรมกับอาชญากรรมไซเบอร์ ✅ ScarCruft เปลี่ยนจากการจารกรรมมาใช้ ransomware ชื่อ VCD ➡️ เป็นการโจมตีแบบหวังผลทางการเงินครั้งแรกของกลุ่ม ✅ การโจมตีดำเนินการโดยกลุ่มย่อย ChinopuNK ➡️ ใช้อีเมลฟิชชิ่งปลอมเป็นไฟล์อัปเดตรหัสไปรษณีย์ ✅ มัลแวร์ที่ใช้มีมากกว่า 9 ชนิด รวมถึง ChillyChino รุ่นใหม่ ➡️ และ backdoor NubSpy ที่เขียนด้วยภาษา Rust ✅ NubSpy ใช้ PubNub เพื่อซ่อนการสื่อสารให้ดูเหมือนปกติ ➡️ ทำให้ตรวจจับได้ยาก ✅ VCD ransomware เข้ารหัสไฟล์และแสดงข้อความเรียกค่าไถ่ ➡️ มีทั้งภาษาอังกฤษและเกาหลี ✅ นักวิเคราะห์ชี้ว่า ransomware อาจใช้เป็นเครื่องมือเบี่ยงเบนหรือกดดัน ➡️ ไม่ใช่แค่การหาเงิน แต่เป็นยุทธศาสตร์หลายชั้น https://hackread.com/north-korean-group-scarcruft-spying-ransomware-attacks/
    HACKREAD.COM
    North Korean Group ScarCruft Expands From Spying to Ransomware Attacks
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีใต้อยู่ข้างไทย ไม่เคยลืมบุญคุณ (11/8/68)
    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #Hunsenfiredfirst
    #CambodiaNoCeasefire
    #SouthKorea
    #Thailand
    #news1
    #thaitimes
    #shorts
    เกาหลีใต้อยู่ข้างไทย ไม่เคยลืมบุญคุณ (11/8/68) #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #CambodiaNoCeasefire #SouthKorea #Thailand #news1 #thaitimes #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ด่วน! สถานทูตญี่ปุ่น+เกาหลีใต้ แถลงการณ์ อย่าเชื่อข่าวเขมร! (7/8/68)
    South Korea and Japan issue statement: Do not believe false news from Cambodia.

    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #Hunsenfiredfirst
    #CambodianDeception
    #กัมพูชายิงก่อน
    #ไทยรบเพื่อปกป้องแผ่นดิน
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #news1
    #thaitimes
    #shorts
    ด่วน! สถานทูตญี่ปุ่น+เกาหลีใต้ แถลงการณ์ อย่าเชื่อข่าวเขมร! (7/8/68) South Korea and Japan issue statement: Do not believe false news from Cambodia. #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #CambodianDeception #กัมพูชายิงก่อน #ไทยรบเพื่อปกป้องแผ่นดิน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #news1 #thaitimes #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ฮะ! ทูตเกาหลีใต้ในเขมร โพสโต้ข่าวปลอมเขมร! (6/8/68)
    Whoa! The South Korean ambassador in Cambodia exposed Cambodia’s false claims!
    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #Hunsenfiredfirst
    #CambodiaNoCeasefire
    #กัมพูชายิงก่อน
    #ไทยรบเพื่อปกป้องแผ่นดิน
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #news1
    #thaitimes
    ฮะ! ทูตเกาหลีใต้ในเขมร โพสโต้ข่าวปลอมเขมร! (6/8/68) Whoa! The South Korean ambassador in Cambodia exposed Cambodia’s false claims! #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #CambodiaNoCeasefire #กัมพูชายิงก่อน #ไทยรบเพื่อปกป้องแผ่นดิน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #news1 #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ AI กลายเป็นเครื่องมือของสายลับเกาหลีเหนือ

    ลองจินตนาการว่าคุณกำลังสัมภาษณ์พนักงานไอทีผ่านวิดีโอคอล—เขาดูมืออาชีพ พูดภาษาอังกฤษคล่อง และมีโปรไฟล์ LinkedIn สมบูรณ์แบบ แต่เบื้องหลังนั้นคือปฏิบัติการระดับชาติของเกาหลีเหนือที่ใช้ AI ปลอมตัวคน สร้างเอกสารปลอม และแทรกซึมเข้าไปในบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก เพื่อหาเงินสนับสนุนโครงการอาวุธนิวเคลียร์

    รายงานล่าสุดจาก CrowdStrike เผยว่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มีกรณีที่สายลับไซเบอร์ของเกาหลีเหนือได้งานเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์แบบรีโมตกว่า 320 ครั้ง โดยใช้เครื่องมือ AI สร้างเรซูเม่ ปลอมภาพโปรไฟล์ และแม้แต่ใช้ deepfake เปลี่ยนใบหน้าในวิดีโอคอลให้ดูเหมือนคนอื่น

    เมื่อได้งานแล้ว พวกเขาใช้ AI ช่วยเขียนโค้ด แปลภาษา และตอบอีเมลจากหัวหน้าอย่างมืออาชีพ ทั้งที่บางคนทำงานพร้อมกันถึง 3–4 บริษัท และไม่พูดอังกฤษได้จริง

    เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ “ฟาร์มแล็ปท็อป” ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ โดยมีผู้ร่วมขบวนการชาวอเมริกันช่วยรับเครื่องจากบริษัท แล้วติดตั้งซอฟต์แวร์ให้สายลับเกาหลีเหนือเข้าถึงระบบจากต่างประเทศได้อย่างแนบเนียน

    รายได้จากแผนนี้สูงถึง 600 ล้านดอลลาร์ต่อปี และบางกรณีมีการขโมยข้อมูลภายในบริษัทเพื่อใช้ในการแบล็กเมล์หรือขายต่อให้แฮกเกอร์อื่น

    แม้จะมีการจับกุมและลงโทษผู้ร่วมขบวนการในสหรัฐฯ แต่ CrowdStrike เตือนว่าการตรวจสอบตัวตนแบบเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป และแนะนำให้ใช้เทคนิคใหม่ เช่น การทดสอบ deepfake แบบเรียลไทม์ในระหว่างสัมภาษณ์

    CrowdStrike พบการแทรกซึมของสายลับเกาหลีเหนือในบริษัทไอทีแบบรีโมตกว่า 320 กรณีใน 12 เดือน
    ใช้ AI สร้างเรซูเม่ ปลอมโปรไฟล์ และ deepfake ในวิดีโอคอล

    สายลับใช้ AI ช่วยทำงานจริง เช่น เขียนโค้ด แปลภาษา และตอบอีเมล
    บางคนทำงานพร้อมกันหลายบริษัทโดยไม่ถูกจับได้

    มีการตั้ง “ฟาร์มแล็ปท็อป” ในสหรัฐฯ เพื่อให้สายลับเข้าถึงระบบจากต่างประเทศ
    ผู้ร่วมขบวนการในสหรัฐฯ ถูกจับและจำคุกหลายปี

    รายได้จากแผนนี้ถูกนำไปสนับสนุนโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ
    สร้างรายได้สูงถึง 600 ล้านดอลลาร์ต่อปี

    Microsoft พบว่าเกาหลีเหนือใช้ AI เปลี่ยนภาพในเอกสารและใช้ซอฟต์แวร์เปลี่ยนเสียง
    เพื่อให้ดูเหมือนเป็นผู้สมัครงานจริงจากประเทศตะวันตก

    ทีมสายลับถูกฝึกจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในเปียงยาง
    มีเป้าหมายหาเงินเดือนขั้นต่ำ $10,000 ต่อคนต่อเดือน

    ฟาร์มแล็ปท็อปในสหรัฐฯ มีการควบคุมอุปกรณ์หลายสิบเครื่องพร้อมกัน
    ใช้ซอฟต์แวร์รีโมตเพื่อให้สายลับทำงานจากต่างประเทศได้

    บริษัทที่จ้างพนักงานรีโมตโดยไม่ตรวจสอบตัวตนอาจตกเป็นเหยื่อ
    เสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลหรือถูกแบล็กเมล์

    การใช้ deepfake ทำให้การสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
    ผู้สมัครสามารถเปลี่ยนใบหน้าและเสียงแบบเรียลไทม์

    การจ้างงานแบบรีโมตเปิดช่องให้สายลับแทรกซึมได้ง่ายขึ้น
    โดยเฉพาะในบริษัทที่ไม่มีระบบตรวจสอบดิจิทัลอย่างเข้มงวด

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/crowdstrike-report-details-scale-of-north-koreas-use-of-ai-in-remote-work-schemes-320-known-cases-in-the-last-year-funding-nations-weapons-programs
    🕵️‍♂️ เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ AI กลายเป็นเครื่องมือของสายลับเกาหลีเหนือ ลองจินตนาการว่าคุณกำลังสัมภาษณ์พนักงานไอทีผ่านวิดีโอคอล—เขาดูมืออาชีพ พูดภาษาอังกฤษคล่อง และมีโปรไฟล์ LinkedIn สมบูรณ์แบบ แต่เบื้องหลังนั้นคือปฏิบัติการระดับชาติของเกาหลีเหนือที่ใช้ AI ปลอมตัวคน สร้างเอกสารปลอม และแทรกซึมเข้าไปในบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก เพื่อหาเงินสนับสนุนโครงการอาวุธนิวเคลียร์ รายงานล่าสุดจาก CrowdStrike เผยว่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มีกรณีที่สายลับไซเบอร์ของเกาหลีเหนือได้งานเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์แบบรีโมตกว่า 320 ครั้ง โดยใช้เครื่องมือ AI สร้างเรซูเม่ ปลอมภาพโปรไฟล์ และแม้แต่ใช้ deepfake เปลี่ยนใบหน้าในวิดีโอคอลให้ดูเหมือนคนอื่น เมื่อได้งานแล้ว พวกเขาใช้ AI ช่วยเขียนโค้ด แปลภาษา และตอบอีเมลจากหัวหน้าอย่างมืออาชีพ ทั้งที่บางคนทำงานพร้อมกันถึง 3–4 บริษัท และไม่พูดอังกฤษได้จริง เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ “ฟาร์มแล็ปท็อป” ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ โดยมีผู้ร่วมขบวนการชาวอเมริกันช่วยรับเครื่องจากบริษัท แล้วติดตั้งซอฟต์แวร์ให้สายลับเกาหลีเหนือเข้าถึงระบบจากต่างประเทศได้อย่างแนบเนียน รายได้จากแผนนี้สูงถึง 600 ล้านดอลลาร์ต่อปี และบางกรณีมีการขโมยข้อมูลภายในบริษัทเพื่อใช้ในการแบล็กเมล์หรือขายต่อให้แฮกเกอร์อื่น แม้จะมีการจับกุมและลงโทษผู้ร่วมขบวนการในสหรัฐฯ แต่ CrowdStrike เตือนว่าการตรวจสอบตัวตนแบบเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป และแนะนำให้ใช้เทคนิคใหม่ เช่น การทดสอบ deepfake แบบเรียลไทม์ในระหว่างสัมภาษณ์ ✅ CrowdStrike พบการแทรกซึมของสายลับเกาหลีเหนือในบริษัทไอทีแบบรีโมตกว่า 320 กรณีใน 12 เดือน ➡️ ใช้ AI สร้างเรซูเม่ ปลอมโปรไฟล์ และ deepfake ในวิดีโอคอล ✅ สายลับใช้ AI ช่วยทำงานจริง เช่น เขียนโค้ด แปลภาษา และตอบอีเมล ➡️ บางคนทำงานพร้อมกันหลายบริษัทโดยไม่ถูกจับได้ ✅ มีการตั้ง “ฟาร์มแล็ปท็อป” ในสหรัฐฯ เพื่อให้สายลับเข้าถึงระบบจากต่างประเทศ ➡️ ผู้ร่วมขบวนการในสหรัฐฯ ถูกจับและจำคุกหลายปี ✅ รายได้จากแผนนี้ถูกนำไปสนับสนุนโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ ➡️ สร้างรายได้สูงถึง 600 ล้านดอลลาร์ต่อปี ✅ Microsoft พบว่าเกาหลีเหนือใช้ AI เปลี่ยนภาพในเอกสารและใช้ซอฟต์แวร์เปลี่ยนเสียง ➡️ เพื่อให้ดูเหมือนเป็นผู้สมัครงานจริงจากประเทศตะวันตก ✅ ทีมสายลับถูกฝึกจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในเปียงยาง ➡️ มีเป้าหมายหาเงินเดือนขั้นต่ำ $10,000 ต่อคนต่อเดือน ✅ ฟาร์มแล็ปท็อปในสหรัฐฯ มีการควบคุมอุปกรณ์หลายสิบเครื่องพร้อมกัน ➡️ ใช้ซอฟต์แวร์รีโมตเพื่อให้สายลับทำงานจากต่างประเทศได้ ‼️ บริษัทที่จ้างพนักงานรีโมตโดยไม่ตรวจสอบตัวตนอาจตกเป็นเหยื่อ ⛔ เสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลหรือถูกแบล็กเมล์ ‼️ การใช้ deepfake ทำให้การสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอไม่ปลอดภัยอีกต่อไป ⛔ ผู้สมัครสามารถเปลี่ยนใบหน้าและเสียงแบบเรียลไทม์ ‼️ การจ้างงานแบบรีโมตเปิดช่องให้สายลับแทรกซึมได้ง่ายขึ้น ⛔ โดยเฉพาะในบริษัทที่ไม่มีระบบตรวจสอบดิจิทัลอย่างเข้มงวด https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/crowdstrike-report-details-scale-of-north-koreas-use-of-ai-in-remote-work-schemes-320-known-cases-in-the-last-year-funding-nations-weapons-programs
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    CrowdStrike report details scale of North Korea's use of AI in remote work schemes — 320 known cases in the last year, funding nation's weapons programs
    The Democratic People's Republic of Korea is using generative AI tools to land agents jobs at tech companies to fund its weapons programs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขมร “ถ่อย” ก่อกวนคนไทยและธุรกิจไทยในเกาหลี (2/8/68)
    Cambodians harass Thai citizens and businesses in South Korea.

    #TruthFromThailand
    #CambodiaNoCeasefire
    #CambodianDeception
    #Hunsenfiredfirst
    #กัมพูชายิงก่อน
    #캄보디아인
    #한국내태국인위협
    #ThaiInKorea
    #ProtectThaiCitizens
    #News1 #Shorts
    เขมร “ถ่อย” ก่อกวนคนไทยและธุรกิจไทยในเกาหลี (2/8/68) Cambodians harass Thai citizens and businesses in South Korea. #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #CambodianDeception #Hunsenfiredfirst #กัมพูชายิงก่อน #캄보디아인 #한국내태국인위협 #ThaiInKorea #ProtectThaiCitizens #News1 #Shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สาวไทยในเกาหลี ชี้แจงด้วยภาษาเกาหลี เขมรไม่หยุดยิง!
    (Thai woman in Korea explains in Korean — Cambodia hasn’t stopped firing!) [30/7/68]

    #สาวไทยในเกาหลี #คนไทยในต่างแดนพูดแล้ว #สื่อสารด้วยภาษาเกาหลี #เสียงจากเกาหลีถึงโลก #CambodiaStillAttacking #ThaiVoiceFromKorea #Scambodia #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง
    #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #CambodiaNoCeasefire #TruthFromThailand #Hunsenfiredfirst #thaitimes #news1 #shorts
    สาวไทยในเกาหลี ชี้แจงด้วยภาษาเกาหลี เขมรไม่หยุดยิง! (Thai woman in Korea explains in Korean — Cambodia hasn’t stopped firing!) [30/7/68] #สาวไทยในเกาหลี #คนไทยในต่างแดนพูดแล้ว #สื่อสารด้วยภาษาเกาหลี #เสียงจากเกาหลีถึงโลก #CambodiaStillAttacking #ThaiVoiceFromKorea #Scambodia #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #CambodiaNoCeasefire #TruthFromThailand #Hunsenfiredfirst #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ “งานไอที” กลายเป็นช่องทางส่งเงินให้โครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ

    ลองจินตนาการว่าคุณเป็นบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ที่จ้างพนักงานไอทีทำงานจากระยะไกล โดยเชื่อว่าเขาเป็นพลเมืองอเมริกัน แต่จริงๆ แล้ว เขาคือเจ้าหน้าที่จากเกาหลีเหนือที่ใช้ตัวตนปลอม และเงินเดือนที่คุณจ่ายไปนั้นถูกส่งตรงไปยังรัฐบาลเปียงยางเพื่อใช้ในโครงการอาวุธนิวเคลียร์!

    นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในคดีของ Christina Marie Chapman หญิงวัย 50 ปีจากรัฐแอริโซนา ที่ถูกตัดสินจำคุก 8.5 ปีในเดือนกรกฎาคม 2025 จากการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ไอทีของเกาหลีเหนือให้ได้งานในบริษัทสหรัฐฯ กว่า 309 แห่ง รวมถึงบริษัทระดับ Fortune 500 โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า “ฟาร์มแล็ปท็อป” เพื่อหลอกให้บริษัทเชื่อว่าพนักงานเหล่านั้นทำงานจากในประเทศ

    Christina Chapman ถูกตัดสินจำคุก 102 เดือน ฐานช่วยเหลือขบวนการหลอกลวงงานไอทีให้เกาหลีเหนือ
    รับโทษจำคุก 8.5 ปี พร้อมถูกควบคุมหลังพ้นโทษอีก 3 ปี
    ต้องยึดทรัพย์ $284,555.92 และจ่ายค่าปรับ $176,850

    ขบวนการนี้สร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือกว่า $17.1 ล้าน
    ใช้ตัวตนปลอมของชาวอเมริกัน 68 คน
    ส่งข้อมูลเท็จไปยังหน่วยงานรัฐกว่า 100 ครั้ง

    Chapman ดำเนินการ “ฟาร์มแล็ปท็อป” ที่บ้านของเธอ
    รับเครื่องจากบริษัทสหรัฐฯ แล้วให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเข้าระบบจากต่างประเทศ
    ส่งแล็ปท็อป 49 เครื่องไปยังเมืองชายแดนจีน-เกาหลีเหนือ

    บริษัทที่ถูกหลอกรวมถึงเครือข่ายโทรทัศน์รายใหญ่, บริษัทเทคโนโลยีใน Silicon Valley, ผู้ผลิตรถยนต์และอากาศยาน
    มีความพยายามเข้าถึงหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ 2 แห่ง แต่ถูกสกัดไว้ได้
    บางบริษัทถูกขบวนการนี้ “เลือกเป้าหมาย” โดยเฉพาะ

    รายได้จากงานไอทีถูกส่งกลับไปยังเกาหลีเหนือผ่านการฟอกเงิน
    Chapman รับเงินเดือนแทน, ปลอมลายเซ็น, ฝากเช็ค และโอนเงินไปต่างประเทศ
    รายได้ถูกแจ้งเท็จต่อ IRS และ Social Security

    FBI และ IRS เป็นผู้สืบสวนหลักในคดีนี้
    ยึดแล็ปท็อปกว่า 90 เครื่องจากบ้านของ Chapman
    ถือเป็นหนึ่งในคดีใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงงานไอทีของเกาหลีเหนือ

    รัฐบาลสหรัฐฯ ออกคำแนะนำใหม่สำหรับบริษัทในการตรวจสอบพนักงานระยะไกล
    ตรวจสอบเอกสารตัวตน, ประวัติการศึกษาและการทำงาน
    ใช้วิดีโอสัมภาษณ์แบบเปิดกล้องและตรวจสอบภาพพื้นหลัง

    บริษัทที่ไม่ตรวจสอบพนักงานระยะไกลอย่างเข้มงวดเสี่ยงต่อการถูกแทรกซึม
    อาจถูกขโมยข้อมูล, ติดมัลแวร์ หรือถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน
    การใช้บริษัทจัดหางานภายนอกเพิ่มความเสี่ยง

    การใช้ตัวตนปลอมสร้างภาระให้กับพลเมืองสหรัฐฯ ที่ถูกขโมยข้อมูล
    เกิดภาระภาษีเท็จและข้อมูลผิดพลาดในระบบราชการ
    สร้างความเสียหายทางจิตใจและการเงินแก่ผู้ถูกแอบอ้าง

    รายได้จากงานไอทีถูกนำไปใช้สนับสนุนโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ
    เป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และสหประชาชาติ
    ส่งผลต่อความมั่นคงระดับโลก

    การใช้ AI และเทคโนโลยีใหม่เพิ่มความซับซ้อนในการปลอมตัว
    มีการใช้ AI เปลี่ยนภาพเอกสาร, ปรับเสียง และสร้างวิดีโอปลอม
    ทำให้การตรวจสอบตัวตนยากขึ้นสำหรับบริษัททั่วไป

    https://hackread.com/arizona-woman-jailed-help-north-korea-it-job-scam/
    🧑‍💻 เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ “งานไอที” กลายเป็นช่องทางส่งเงินให้โครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ ลองจินตนาการว่าคุณเป็นบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ที่จ้างพนักงานไอทีทำงานจากระยะไกล โดยเชื่อว่าเขาเป็นพลเมืองอเมริกัน แต่จริงๆ แล้ว เขาคือเจ้าหน้าที่จากเกาหลีเหนือที่ใช้ตัวตนปลอม และเงินเดือนที่คุณจ่ายไปนั้นถูกส่งตรงไปยังรัฐบาลเปียงยางเพื่อใช้ในโครงการอาวุธนิวเคลียร์! นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในคดีของ Christina Marie Chapman หญิงวัย 50 ปีจากรัฐแอริโซนา ที่ถูกตัดสินจำคุก 8.5 ปีในเดือนกรกฎาคม 2025 จากการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ไอทีของเกาหลีเหนือให้ได้งานในบริษัทสหรัฐฯ กว่า 309 แห่ง รวมถึงบริษัทระดับ Fortune 500 โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า “ฟาร์มแล็ปท็อป” เพื่อหลอกให้บริษัทเชื่อว่าพนักงานเหล่านั้นทำงานจากในประเทศ ✅ Christina Chapman ถูกตัดสินจำคุก 102 เดือน ฐานช่วยเหลือขบวนการหลอกลวงงานไอทีให้เกาหลีเหนือ ➡️ รับโทษจำคุก 8.5 ปี พร้อมถูกควบคุมหลังพ้นโทษอีก 3 ปี ➡️ ต้องยึดทรัพย์ $284,555.92 และจ่ายค่าปรับ $176,850 ✅ ขบวนการนี้สร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือกว่า $17.1 ล้าน ➡️ ใช้ตัวตนปลอมของชาวอเมริกัน 68 คน ➡️ ส่งข้อมูลเท็จไปยังหน่วยงานรัฐกว่า 100 ครั้ง ✅ Chapman ดำเนินการ “ฟาร์มแล็ปท็อป” ที่บ้านของเธอ ➡️ รับเครื่องจากบริษัทสหรัฐฯ แล้วให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเข้าระบบจากต่างประเทศ ➡️ ส่งแล็ปท็อป 49 เครื่องไปยังเมืองชายแดนจีน-เกาหลีเหนือ ✅ บริษัทที่ถูกหลอกรวมถึงเครือข่ายโทรทัศน์รายใหญ่, บริษัทเทคโนโลยีใน Silicon Valley, ผู้ผลิตรถยนต์และอากาศยาน ➡️ มีความพยายามเข้าถึงหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ 2 แห่ง แต่ถูกสกัดไว้ได้ ➡️ บางบริษัทถูกขบวนการนี้ “เลือกเป้าหมาย” โดยเฉพาะ ✅ รายได้จากงานไอทีถูกส่งกลับไปยังเกาหลีเหนือผ่านการฟอกเงิน ➡️ Chapman รับเงินเดือนแทน, ปลอมลายเซ็น, ฝากเช็ค และโอนเงินไปต่างประเทศ ➡️ รายได้ถูกแจ้งเท็จต่อ IRS และ Social Security ✅ FBI และ IRS เป็นผู้สืบสวนหลักในคดีนี้ ➡️ ยึดแล็ปท็อปกว่า 90 เครื่องจากบ้านของ Chapman ➡️ ถือเป็นหนึ่งในคดีใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงงานไอทีของเกาหลีเหนือ ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ ออกคำแนะนำใหม่สำหรับบริษัทในการตรวจสอบพนักงานระยะไกล ➡️ ตรวจสอบเอกสารตัวตน, ประวัติการศึกษาและการทำงาน ➡️ ใช้วิดีโอสัมภาษณ์แบบเปิดกล้องและตรวจสอบภาพพื้นหลัง ‼️ บริษัทที่ไม่ตรวจสอบพนักงานระยะไกลอย่างเข้มงวดเสี่ยงต่อการถูกแทรกซึม ⛔ อาจถูกขโมยข้อมูล, ติดมัลแวร์ หรือถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน ⛔ การใช้บริษัทจัดหางานภายนอกเพิ่มความเสี่ยง ‼️ การใช้ตัวตนปลอมสร้างภาระให้กับพลเมืองสหรัฐฯ ที่ถูกขโมยข้อมูล ⛔ เกิดภาระภาษีเท็จและข้อมูลผิดพลาดในระบบราชการ ⛔ สร้างความเสียหายทางจิตใจและการเงินแก่ผู้ถูกแอบอ้าง ‼️ รายได้จากงานไอทีถูกนำไปใช้สนับสนุนโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ ⛔ เป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และสหประชาชาติ ⛔ ส่งผลต่อความมั่นคงระดับโลก ‼️ การใช้ AI และเทคโนโลยีใหม่เพิ่มความซับซ้อนในการปลอมตัว ⛔ มีการใช้ AI เปลี่ยนภาพเอกสาร, ปรับเสียง และสร้างวิดีโอปลอม ⛔ ทำให้การตรวจสอบตัวตนยากขึ้นสำหรับบริษัททั่วไป https://hackread.com/arizona-woman-jailed-help-north-korea-it-job-scam/
    HACKREAD.COM
    Arizona Woman Jailed for Helping North Korea in $17M IT Job Scam
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชุดสายการบินประจำชาติในเอเชีย แต่ละประเทศคือมีเอกลักษณ์สุดๆ

    Thai Airways - ชุดผ้าไหมไทย สีม่วง-ทอง เรียบหรูดูแพง สะท้อนความเป็นไทยทุกองศา
    Singapore Airlines - ชุดสาหรี่นิดๆ แบบ Kebaya เรียบร้อยแต่แอบแซ่บ
    Korean Air - โทนพาสเทลฟ้าอ่อน สะอาด สบายตา ดูสุภาพแบบเกาหลีแท้
    Japan Airlines - เรียบเท่ ทรงโมเดิร์น สีขาว-เทา เน้นความคล่องตัว
    Air China - ชุดสูทเข้ารูป สไตล์เรียบร้อยแบบราชการจีน
    Vietnam Airlines - อ๋าวหญ่าย (Áo dài) สีฟ้าอมเขียว ใส่แล้วดูละมุนสุดๆ

    ชุดเหล่านี้ไม่ได้แค่สวย แต่ยังสะท้อนวัฒนธรรมของแต่ละชาติแบบลึกซึ้ง
    ใครเป็นสายแฟ สายเที่ยว เจอแอร์ที่ไหน ลองเดาดูสิว่ามาจากชาติไหนบ้าง

    #สายการบินเอเชีย #ยูนิฟอร์มบนฟ้า #ชุดแอร์โฮสเตส #แฟชั่นการบิน #เที่ยวไปดูไป #AsianAirlinesFashion #ใส่ใจทุกดีเทลบนเครื่อง
    🛫 ชุดสายการบินประจำชาติในเอเชีย แต่ละประเทศคือมีเอกลักษณ์สุดๆ 🇹🇭 Thai Airways - ชุดผ้าไหมไทย สีม่วง-ทอง เรียบหรูดูแพง สะท้อนความเป็นไทยทุกองศา 🇸🇬 Singapore Airlines - ชุดสาหรี่นิดๆ แบบ Kebaya เรียบร้อยแต่แอบแซ่บ 🇰🇷 Korean Air - โทนพาสเทลฟ้าอ่อน สะอาด สบายตา ดูสุภาพแบบเกาหลีแท้ 🇯🇵 Japan Airlines - เรียบเท่ ทรงโมเดิร์น สีขาว-เทา เน้นความคล่องตัว 🇨🇳 Air China - ชุดสูทเข้ารูป สไตล์เรียบร้อยแบบราชการจีน 🇻🇳 Vietnam Airlines - อ๋าวหญ่าย (Áo dài) สีฟ้าอมเขียว ใส่แล้วดูละมุนสุดๆ 👗 ชุดเหล่านี้ไม่ได้แค่สวย แต่ยังสะท้อนวัฒนธรรมของแต่ละชาติแบบลึกซึ้ง ใครเป็นสายแฟ สายเที่ยว เจอแอร์ที่ไหน ลองเดาดูสิว่ามาจากชาติไหนบ้าง ✨ #สายการบินเอเชีย #ยูนิฟอร์มบนฟ้า #ชุดแอร์โฮสเตส #แฟชั่นการบิน #เที่ยวไปดูไป #AsianAirlinesFashion #ใส่ใจทุกดีเทลบนเครื่อง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยวรอบเกาะญี่ปุ่น + เกาหลีใต้ กับเรือสำราญสุดหรู Diamond Princess!

    เริ่มจาก โยโกฮาม่า → อาคิตะ → โทยามะ → ซึรุงะ → ซาไกมินาโตะ
    แวะเยือน ปูซาน (เกาหลีใต้) แล้วกลับมาเที่ยวต่อที่ นางาซากิ ก่อนวนจบที่โตเกียว

    เดินทาง: 25 ต.ค. – 3 พ.ย. 2568

    โปรใหญ่สุดคุ้ม!
    ราคาเต็ม 1,827 USD → เหลือเพียง 1,079 USD/ท่าน (≈ 35,607 บาท)
    พิเศษ! ท่านที่ 3 และ 4 ฟรีค่าเรือ (พักรวมกันต่อห้อง) จ่ายแค่ค่าภาษีท่าเรือ + ทิปพนักงาน
    จองภายใน 21 ก.ค. 2568 เท่านั้น!

    ห้องพักบนเรือ 10 คืน
    อาหารทุกมื้อบนเรือ (ห้องอาหารหลัก + บุฟเฟต์)
    เข้าร่วมกิจกรรม และชมการแสดงโชว์สุดพิเศษบนเรือ

    ⭕️ รหัสแพคเกจทัวร์ : PRIP-11D10N-YOK-YOK-2510081
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e22b30

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #เรือDiamondPrincess #PrincessCruises #Japan #Busan #Korea #Nagasaki #Sakaiminato #เที่ยวญี่ปุ่น #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    🚢 เที่ยวรอบเกาะญี่ปุ่น + เกาหลีใต้ กับเรือสำราญสุดหรู Diamond Princess! 📍 เริ่มจาก โยโกฮาม่า → อาคิตะ → โทยามะ → ซึรุงะ → ซาไกมินาโตะ แวะเยือน ปูซาน (เกาหลีใต้) แล้วกลับมาเที่ยวต่อที่ นางาซากิ ก่อนวนจบที่โตเกียว 💬 เดินทาง: 25 ต.ค. – 3 พ.ย. 2568 🔥 โปรใหญ่สุดคุ้ม! 💸 ราคาเต็ม 1,827 USD → เหลือเพียง 1,079 USD/ท่าน (≈ 35,607 บาท) พิเศษ! ท่านที่ 3 และ 4 ฟรีค่าเรือ (พักรวมกันต่อห้อง) ✅ จ่ายแค่ค่าภาษีท่าเรือ + ทิปพนักงาน ⏰ จองภายใน 21 ก.ค. 2568 เท่านั้น! ✅ ห้องพักบนเรือ 10 คืน ✅ อาหารทุกมื้อบนเรือ (ห้องอาหารหลัก + บุฟเฟต์) ✅ เข้าร่วมกิจกรรม และชมการแสดงโชว์สุดพิเศษบนเรือ ⭕️ รหัสแพคเกจทัวร์ : PRIP-11D10N-YOK-YOK-2510081 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e22b30 ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #เรือDiamondPrincess #PrincessCruises #Japan #Busan #Korea #Nagasaki #Sakaiminato #เที่ยวญี่ปุ่น #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 479 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🛳 ล่องเรือสุดพรีเมียมกับ Diamond Princess เส้นทางญี่ปุ่น – เกาหลี – ญี่ปุ่น 11 วัน 10 คืน

    เส้นทางสุดคุ้ม เที่ยวครบเกาะคิวชู เกาหลีใต้ และเมืองท่าชื่อดังของญี่ปุ่น

    โตเกียว (โยโกฮาม่า)
    โทบะ – โคชิ – เบปปุ
    ช่องแคบคัมมง (ชมวิวทะเลจากเรือ)
    ปูซาน (เกาหลีใต้)
    นางาซากิ – โกเบ (ขึ้นเกียวโต) – ชิมิซุ – กลับโตเกียว

    🗓 เดินทาง: 8 – 18 ตุลาคม 2568

    โปรแรง! ฟรีค่าเรือท่านที่ 3 และ 4 (พักรวมกันห้องเดียว) เพียงชำระภาษีท่าเรือและทิปพนักงาน
    ราคาลดพิเศษเหลือเพียง 2,199 USD/ท่าน (≈ 72,567 บาท สำหรับห้องไม่มีหน้าต่าง)

    ห้องพักบนเรือ 10 คืน
    อาหารทุกมื้อบนเรือ (ห้องอาหารหลัก + บุฟเฟต์)
    เข้าร่วมกิจกรรม และชมการแสดงโชว์สุดพิเศษบนเรือ

    ⭕️ รหัสแพคเกจทัวร์ : PRIP-11D10N-YOK-YOK-2510081
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e22b30

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #เรือDiamondPrincess #PrincessCruises #Japan #Busan #Korea #Beppu #เที่ยวญี่ปุ่น #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    🛳 ล่องเรือสุดพรีเมียมกับ Diamond Princess เส้นทางญี่ปุ่น – เกาหลี – ญี่ปุ่น 11 วัน 10 คืน 🚩 เส้นทางสุดคุ้ม เที่ยวครบเกาะคิวชู เกาหลีใต้ และเมืองท่าชื่อดังของญี่ปุ่น 🔹 โตเกียว (โยโกฮาม่า) 🔹 โทบะ – โคชิ – เบปปุ 🔹 ช่องแคบคัมมง (ชมวิวทะเลจากเรือ) 🔹 ปูซาน (เกาหลีใต้) 🔹 นางาซากิ – โกเบ (ขึ้นเกียวโต) – ชิมิซุ – กลับโตเกียว 🗓 เดินทาง: 8 – 18 ตุลาคม 2568 🎉 โปรแรง! ฟรีค่าเรือท่านที่ 3 และ 4 (พักรวมกันห้องเดียว) 💸 เพียงชำระภาษีท่าเรือและทิปพนักงาน 💰 ราคาลดพิเศษเหลือเพียง 2,199 USD/ท่าน (≈ 72,567 บาท สำหรับห้องไม่มีหน้าต่าง) ✅ ห้องพักบนเรือ 10 คืน ✅ อาหารทุกมื้อบนเรือ (ห้องอาหารหลัก + บุฟเฟต์) ✅ เข้าร่วมกิจกรรม และชมการแสดงโชว์สุดพิเศษบนเรือ ⭕️ รหัสแพคเกจทัวร์ : PRIP-11D10N-YOK-YOK-2510081 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e22b30 ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #เรือDiamondPrincess #PrincessCruises #Japan #Busan #Korea #Beppu #เที่ยวญี่ปุ่น #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 466 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในยุคที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฝังในร่างกายและใช้งานใต้น้ำมีมากขึ้น การชาร์จแบตเตอรี่กลายเป็นเรื่องท้าทาย เพราะเทคโนโลยีไร้สายแบบเดิม เช่น RF หรือแม่เหล็กไฟฟ้า มีข้อจำกัดด้านระยะทางและการรบกวนสัญญาณ

    นักวิจัยจาก Korea Institute of Science and Technology (KIST) และ Korea University จึงพัฒนาเทคโนโลยีใหม่โดยใช้คลื่นเสียง (ultrasound) ซึ่งสามารถทะลุผ่านน้ำและเนื้อเยื่อมนุษย์ได้ดีกว่า RF และไม่รบกวนอุปกรณ์อื่น

    ทีมงานนำโดย Dr. Sunghoon Hur และ Prof. Hyun-Cheol Song สร้างตัวรับคลื่นเสียงแบบยืดหยุ่นจากวัสดุ piezoelectric ที่สามารถติดกับผิวหนังหรือพื้นผิวโค้งได้ และสามารถส่งพลังงานได้ถึง:

    - 20 มิลลิวัตต์ผ่านน้ำลึก 3 ซม.
    - 7 มิลลิวัตต์ผ่านผิวหนังลึก 3 ซม.

    พลังงานนี้เพียงพอสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น เซ็นเซอร์สวมใส่หรืออุปกรณ์ฝังในร่างกาย และยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ด้วย

    อีกทีมวิจัยยังพัฒนา US-TENGDF-B ซึ่งเป็น triboelectric nanogenerator ที่ใช้ ultrasound เพื่อผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นจากระยะไกล โดยสามารถสร้างแรงดัน 26 โวลต์ และจ่ายพลังงาน 6.7 มิลลิวัตต์จากระยะ 35 มม. แม้จะอยู่ในสภาพโค้งงอ

    เทคโนโลยีเหล่านี้เปิดทางให้กับอุปกรณ์ฝังในร่างกาย เช่น pacemaker, neurostimulator หรือแม้แต่โดรนใต้น้ำ ที่สามารถทำงานได้นานขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือชาร์จบ่อย ๆ

    https://www.neowin.net/news/scientists-summon-ultrasonic-tech-that-charges-devices-through-water-and-even-skin/
    ในยุคที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฝังในร่างกายและใช้งานใต้น้ำมีมากขึ้น การชาร์จแบตเตอรี่กลายเป็นเรื่องท้าทาย เพราะเทคโนโลยีไร้สายแบบเดิม เช่น RF หรือแม่เหล็กไฟฟ้า มีข้อจำกัดด้านระยะทางและการรบกวนสัญญาณ นักวิจัยจาก Korea Institute of Science and Technology (KIST) และ Korea University จึงพัฒนาเทคโนโลยีใหม่โดยใช้คลื่นเสียง (ultrasound) ซึ่งสามารถทะลุผ่านน้ำและเนื้อเยื่อมนุษย์ได้ดีกว่า RF และไม่รบกวนอุปกรณ์อื่น ทีมงานนำโดย Dr. Sunghoon Hur และ Prof. Hyun-Cheol Song สร้างตัวรับคลื่นเสียงแบบยืดหยุ่นจากวัสดุ piezoelectric ที่สามารถติดกับผิวหนังหรือพื้นผิวโค้งได้ และสามารถส่งพลังงานได้ถึง: - 20 มิลลิวัตต์ผ่านน้ำลึก 3 ซม. - 7 มิลลิวัตต์ผ่านผิวหนังลึก 3 ซม. พลังงานนี้เพียงพอสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น เซ็นเซอร์สวมใส่หรืออุปกรณ์ฝังในร่างกาย และยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ด้วย อีกทีมวิจัยยังพัฒนา US-TENGDF-B ซึ่งเป็น triboelectric nanogenerator ที่ใช้ ultrasound เพื่อผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นจากระยะไกล โดยสามารถสร้างแรงดัน 26 โวลต์ และจ่ายพลังงาน 6.7 มิลลิวัตต์จากระยะ 35 มม. แม้จะอยู่ในสภาพโค้งงอ เทคโนโลยีเหล่านี้เปิดทางให้กับอุปกรณ์ฝังในร่างกาย เช่น pacemaker, neurostimulator หรือแม้แต่โดรนใต้น้ำ ที่สามารถทำงานได้นานขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือชาร์จบ่อย ๆ https://www.neowin.net/news/scientists-summon-ultrasonic-tech-that-charges-devices-through-water-and-even-skin/
    WWW.NEOWIN.NET
    Scientists summon ultrasonic tech that charges devices through water and even skin
    Thanks to new research, an ultrasonic tech has been developed that sneaks through skin and water to wirelessly charge devices.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • United States announcesld tariffs on the following countries

    Thailand: 36%
    Cambodia: 36%
    Serbia: 35%
    Bangladesh: 35%
    Indonesia: 32%
    South Africa: 30%
    Bosnia: 30%
    Tunisia: 25%
    Malaysia: 25%
    Kazakhstan: 25%
    Japan: 25%
    South Korea: 25%
    Laos: 40%
    Myanmar: 40%
    🇺🇸 United States announcesld tariffs on the following countries 🇹🇭 Thailand: 36% 🇰🇭 Cambodia: 36% 🇷🇸 Serbia: 35% 🇧🇩 Bangladesh: 35% 🇮🇩 Indonesia: 32% 🇿🇦 South Africa: 30% 🇧🇦 Bosnia: 30% 🇹🇳 Tunisia: 25% 🇲🇾 Malaysia: 25% 🇰🇿 Kazakhstan: 25% 🇯🇵 Japan: 25% 🇰🇷 South Korea: 25% 🇱🇦 Laos: 40% 🇲🇲 Myanmar: 40%
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลเกาหลีใต้สั่งปรับและตำหนิ SK Telecom บริษัทมือถือเบอร์หนึ่งของประเทศ หลังปล่อยให้ข้อมูลผู้ใช้งานกว่า 26.96 ล้านรายการรั่วไหล เพราะถูกมัลแวร์เล่นงาน

    เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 ที่ผ่านมา เมื่อ SK Telecom ออกมายอมรับว่า ข้อมูลลูกค้าหลายสิบล้านชิ้นถูกโจมตี ผ่านมัลแวร์ และล่าสุดรัฐบาลเกาหลีใต้ก็สรุปผลสอบสวนว่า → “บริษัทละเลยหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยของข้อมูลอย่างร้ายแรง” → โดยเฉพาะข้อมูลจาก “USIM” ซึ่งก็คือชิประบุตัวตนที่อยู่ในมือถือทุกเครื่อง

    รัฐบาลจึงออกคำสั่งลงโทษหลายข้อ เช่น
    - ปรับเงินสูงสุด 30 ล้านวอน (~22,000 ดอลลาร์)
    - บังคับให้เพิ่มการตรวจสอบความปลอดภัยรายไตรมาส
    - ให้ CEO ดูแล data governance ด้วยตนเอง
    - ต้องเพิ่มทีมงานและงบลงทุนด้าน Cybersecurity

    ทาง SK Telecom ยอมรับความผิด และประกาศมาตรการชดเชย เช่น → แจก ส่วนลดค่าบริการ 50% ตลอดเดือนสิงหาคม ให้ลูกค้า 24 ล้านคน → แจก ซิม USIM ใหม่ฟรีให้กับลูกค้าทั้งหมด 23 ล้านคน (ณ สิ้น มิ.ย. มี 9.39 ล้านคนมาเปลี่ยนแล้ว) → ทุ่มงบ 700 พันล้านวอน (~513 ล้านดอลลาร์) ในช่วง 5 ปีเพื่อปรับปรุงระบบความปลอดภัย → ลดเป้ารายได้ปี 2025 ลงไป 800 พันล้านวอน เพื่อสะท้อนต้นทุนที่ใช้ในการชดเชยและระบบป้องกันใหม่

    ประธานกลุ่ม SK ยังออกมาขอโทษต่อสังคม และรัฐมนตรีวิทยาศาสตร์เกาหลีก็ย้ำว่า

    “เหตุการณ์นี้คือ wake-up call ด้านความมั่นคงไซเบอร์ของทั้งอุตสาหกรรมโทรคมนาคม”

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/04/south-korea-penalises-039negligent039-sk-telecom-over-major-data-leak
    รัฐบาลเกาหลีใต้สั่งปรับและตำหนิ SK Telecom บริษัทมือถือเบอร์หนึ่งของประเทศ หลังปล่อยให้ข้อมูลผู้ใช้งานกว่า 26.96 ล้านรายการรั่วไหล เพราะถูกมัลแวร์เล่นงาน เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 ที่ผ่านมา เมื่อ SK Telecom ออกมายอมรับว่า ข้อมูลลูกค้าหลายสิบล้านชิ้นถูกโจมตี ผ่านมัลแวร์ และล่าสุดรัฐบาลเกาหลีใต้ก็สรุปผลสอบสวนว่า → “บริษัทละเลยหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยของข้อมูลอย่างร้ายแรง” → โดยเฉพาะข้อมูลจาก “USIM” ซึ่งก็คือชิประบุตัวตนที่อยู่ในมือถือทุกเครื่อง 📌 รัฐบาลจึงออกคำสั่งลงโทษหลายข้อ เช่น - ปรับเงินสูงสุด 30 ล้านวอน (~22,000 ดอลลาร์) - บังคับให้เพิ่มการตรวจสอบความปลอดภัยรายไตรมาส - ให้ CEO ดูแล data governance ด้วยตนเอง - ต้องเพิ่มทีมงานและงบลงทุนด้าน Cybersecurity ทาง SK Telecom ยอมรับความผิด และประกาศมาตรการชดเชย เช่น → แจก ส่วนลดค่าบริการ 50% ตลอดเดือนสิงหาคม ให้ลูกค้า 24 ล้านคน → แจก ซิม USIM ใหม่ฟรีให้กับลูกค้าทั้งหมด 23 ล้านคน (ณ สิ้น มิ.ย. มี 9.39 ล้านคนมาเปลี่ยนแล้ว) → ทุ่มงบ 700 พันล้านวอน (~513 ล้านดอลลาร์) ในช่วง 5 ปีเพื่อปรับปรุงระบบความปลอดภัย → ลดเป้ารายได้ปี 2025 ลงไป 800 พันล้านวอน เพื่อสะท้อนต้นทุนที่ใช้ในการชดเชยและระบบป้องกันใหม่ ประธานกลุ่ม SK ยังออกมาขอโทษต่อสังคม และรัฐมนตรีวิทยาศาสตร์เกาหลีก็ย้ำว่า “เหตุการณ์นี้คือ wake-up call ด้านความมั่นคงไซเบอร์ของทั้งอุตสาหกรรมโทรคมนาคม” https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/04/south-korea-penalises-039negligent039-sk-telecom-over-major-data-leak
    WWW.THESTAR.COM.MY
    South Korea penalises 'negligent' SK Telecom over major data leak
    SEOUL (Reuters) -South Korean authorities ordered on Friday SK Telecom to strengthen data security and imposed a fine after the country's biggest mobile carrier was hit by a cyberattack that caused the leak of 26.96 million pieces of user data.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • From Trainee To Bias: The Big 16 K-Pop Slang Terms To Know

    K-pop is the name of a pop music sensation that originated in South Korea and is sweeping the globe. From its energetic choreography and music to the beauty of its idols, K-pop (or K for Korea combined with pop) has entranced international and Korean fans alike—and chances are you’ve heard it, hummed it, or danced to it. (Did you catch BTS’ “Friends” playing in the Marvel movie Eternals? And who knew Clifford the Dog was also a K-pop stan? At least, his trailer made it seem so.)

    Emerging from the 1990s, K-pop has created a unique fandom culture along the way. Fans have indulged fully in this media, creating their own celebrations, traditions, and—of course—slang. All of this can overwhelm the casual listener trying out K-pop sounds, and I have to admit, I once thought this fandom was a little over the top. But I’ve since been won over—after all, being a fan of a group like Red Velvet is no different from being a fan of Ariana Grande.

    To get you started, I am providing a short guide to K-pop’s complex terminology. Whether you’re interested in K-pop, saw BTS on the news, or have friends who listen to all of the above, here are a few terms to know.

    Please note: these words are used mainly by English-speaking international fans and are found across fan Twitters, Instagrams, TikToks and Tumblrs.

    bias
    In K-pop slang, a bias is a member in a group that you like or relate to the most. K-pop fans collect merchandise—for example, photocards (more on that later)—of their biases. Fans use this term to learn more about other fans.

    Example: Who is your Twice bias? (And you’d answer with your favorite.)

    biaswrecker
    Although fans have their fundamental biases, it doesn’t mean that a bias is monogamous. Most fans with biases will have their biaswreckers, too. These wreckers are members in a group that make you question who your true bias is.

    sasaeng
    One group of people widely looked down upon are sasaengs (사생팬) or sasaeng fans. This slang derives from a Korean word (sa for “private” and saeng for “life”) that refers to an obsessive fan who stalks or otherwise violates the privacy of a Korean idol. Sasaengs tend to own fan pages, and some say they operate much like the American tabloids of the 2000s.

    comeback
    When an idol group releases new music, it’s called a comeback. Comebacks usually take place every few months and include new promotions, hair colors, styles, music, etc. Era is another word used in this fandom to describe a comeback.

    Example: Did you hear that BTS are having a comeback in June?

    nugu
    This word literally means “Who?” in Korean, and is used by fans to describe small and relatively unknown idol groups. A group like IVE would not be described as a nugu (누구) but the girl group Weki Meki would.

    visual
    In K-pop, there are roles for each idol in a group, including a role as visual. The visual role is assigned by the company to the member or members in a group who best fit a strict Korean beauty standard. Fans also debate who they believe the visual to be in each group. For example, Jin is the official visual of the group BTS, but many consider Taehyung to fit the role. This harsh beauty standard prizes small facial features, cuteness, and specific measurements of the face, body, eyes, and much more.

    aegyo
    Aegyo (애교) can be used to describe K-pop idols (both male and female) who are acting cute and childlike. Aegyo moves require specific word choices, vocal tones, and both facial and body gestures. Aegyo (often translated as “cuteness”) is usually meant to show a flirtatious side of idols and is also used by the general Korean population.

    Example: The judges made Felix do aegyo as a punishment for losing the game.

    maknae
    Another Korean word that has been adopted into international fan spaces is maknae (막내) or “youngest person.” This slang is used to describe the youngest member of a group. The term maknae, much like visual, is a role a member takes on.

    trainee
    When an idol is training before they debut, they are considered a trainee. These trainees usually take part in promotions, trying to gain popularity before their debut. Trainees typically are under contract and fulfill years of rigorous training to be able to match the abilities of many idols you see today.

    subunit
    In some idol groups subunits are formed. These units comprise a few members in a group who create their own music or albums. Some groups, such as LOONA and NCT, use subunits as their concept. This term can also describe two or three members in a group who have a similar skill or talent (like a vocal or dance unit).

    antis
    Anti or anti-fan is used to describe people who hate an artist or group so much that they seem to follow their activities and content as much or more than a fan would. Some of these antis display sasaeng behavior, dedicating themselves completely to taking down or hate speech idols. These hate campaigns contain criticizing and insulting language. Shockingly, some antis have gone so far as hurting idols in real life.

    delulu
    This term is short for delusional, and it’s used to mock fans who believe they’ll date, marry, or befriend their favorite idol. The word can describe a fan who devotes an unhealthy amount of time and energy to an idol. You could say becoming a delulu is a first step on the pipeline towards sasaeng and usually includes behavior similar to said sasaeng.

    Example: Did you see that guy talking about how he and Nayeon are dating? He’s such a delulu.

    solo stan
    When a fan of an idol group only stans a single member, they are a self-proclaimed solo stan or are labeled as such by others in the community. A solo stan might hate other members in a group, which is why the term has a negative connotation in the community. The word solo stan also can describe someone who’s a fan of a singular idol (like Sunmi or IU) who does not participate in idol groups.

    photocard
    Photocards (or pocas or PCs) are typically 3” by 2” pieces of glossy paper photos included in a K-pop albums and prized by fans. They may not sound like much to the average joe, but to the average Jimin fan, these pictures are worth hundreds to thousands of dollars.

    the Big 3
    In Korea, idols are contracted under companies. The Big 3 describes the main three corporations that famous idols usually sign under. These three companies are HYBE Entertainment (previously known as BigHit Entertainment), with groups like BTS and TXT; SM Entertainment, with groups like Girls Generation and Aespa; and YG Entertainment, producing groups like BLACKPINK and iKON. The Big 3 not only produce idols but also sign and manage actors. JYP Entertainment can also be considered as part of the Big 3 (HYBE is a relative newcomer to the list), leading some to use the term “Big 4.”

    netizen
    The term netizen does generally mean an internet user, but it’s used in K-pop to refer to Korean fans who are online intensively. These fans or anti-fans are internet sleuths and usually the ones to create scandals and/or help in proving rumors wrong or right about specific idols. Netizens (or also K-netizens) hold power in the idol industry; companies want these internet personas to view their idols in a positive light and do their best to prevent scandals that might mobilize netizens.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    From Trainee To Bias: The Big 16 K-Pop Slang Terms To Know K-pop is the name of a pop music sensation that originated in South Korea and is sweeping the globe. From its energetic choreography and music to the beauty of its idols, K-pop (or K for Korea combined with pop) has entranced international and Korean fans alike—and chances are you’ve heard it, hummed it, or danced to it. (Did you catch BTS’ “Friends” playing in the Marvel movie Eternals? And who knew Clifford the Dog was also a K-pop stan? At least, his trailer made it seem so.) Emerging from the 1990s, K-pop has created a unique fandom culture along the way. Fans have indulged fully in this media, creating their own celebrations, traditions, and—of course—slang. All of this can overwhelm the casual listener trying out K-pop sounds, and I have to admit, I once thought this fandom was a little over the top. But I’ve since been won over—after all, being a fan of a group like Red Velvet is no different from being a fan of Ariana Grande. To get you started, I am providing a short guide to K-pop’s complex terminology. Whether you’re interested in K-pop, saw BTS on the news, or have friends who listen to all of the above, here are a few terms to know. Please note: these words are used mainly by English-speaking international fans and are found across fan Twitters, Instagrams, TikToks and Tumblrs. bias In K-pop slang, a bias is a member in a group that you like or relate to the most. K-pop fans collect merchandise—for example, photocards (more on that later)—of their biases. Fans use this term to learn more about other fans. Example: Who is your Twice bias? (And you’d answer with your favorite.) biaswrecker Although fans have their fundamental biases, it doesn’t mean that a bias is monogamous. Most fans with biases will have their biaswreckers, too. These wreckers are members in a group that make you question who your true bias is. sasaeng One group of people widely looked down upon are sasaengs (사생팬) or sasaeng fans. This slang derives from a Korean word (sa for “private” and saeng for “life”) that refers to an obsessive fan who stalks or otherwise violates the privacy of a Korean idol. Sasaengs tend to own fan pages, and some say they operate much like the American tabloids of the 2000s. comeback When an idol group releases new music, it’s called a comeback. Comebacks usually take place every few months and include new promotions, hair colors, styles, music, etc. Era is another word used in this fandom to describe a comeback. Example: Did you hear that BTS are having a comeback in June? nugu This word literally means “Who?” in Korean, and is used by fans to describe small and relatively unknown idol groups. A group like IVE would not be described as a nugu (누구) but the girl group Weki Meki would. visual In K-pop, there are roles for each idol in a group, including a role as visual. The visual role is assigned by the company to the member or members in a group who best fit a strict Korean beauty standard. Fans also debate who they believe the visual to be in each group. For example, Jin is the official visual of the group BTS, but many consider Taehyung to fit the role. This harsh beauty standard prizes small facial features, cuteness, and specific measurements of the face, body, eyes, and much more. aegyo Aegyo (애교) can be used to describe K-pop idols (both male and female) who are acting cute and childlike. Aegyo moves require specific word choices, vocal tones, and both facial and body gestures. Aegyo (often translated as “cuteness”) is usually meant to show a flirtatious side of idols and is also used by the general Korean population. Example: The judges made Felix do aegyo as a punishment for losing the game. maknae Another Korean word that has been adopted into international fan spaces is maknae (막내) or “youngest person.” This slang is used to describe the youngest member of a group. The term maknae, much like visual, is a role a member takes on. trainee When an idol is training before they debut, they are considered a trainee. These trainees usually take part in promotions, trying to gain popularity before their debut. Trainees typically are under contract and fulfill years of rigorous training to be able to match the abilities of many idols you see today. subunit In some idol groups subunits are formed. These units comprise a few members in a group who create their own music or albums. Some groups, such as LOONA and NCT, use subunits as their concept. This term can also describe two or three members in a group who have a similar skill or talent (like a vocal or dance unit). antis Anti or anti-fan is used to describe people who hate an artist or group so much that they seem to follow their activities and content as much or more than a fan would. Some of these antis display sasaeng behavior, dedicating themselves completely to taking down or hate speech idols. These hate campaigns contain criticizing and insulting language. Shockingly, some antis have gone so far as hurting idols in real life. delulu This term is short for delusional, and it’s used to mock fans who believe they’ll date, marry, or befriend their favorite idol. The word can describe a fan who devotes an unhealthy amount of time and energy to an idol. You could say becoming a delulu is a first step on the pipeline towards sasaeng and usually includes behavior similar to said sasaeng. Example: Did you see that guy talking about how he and Nayeon are dating? He’s such a delulu. solo stan When a fan of an idol group only stans a single member, they are a self-proclaimed solo stan or are labeled as such by others in the community. A solo stan might hate other members in a group, which is why the term has a negative connotation in the community. The word solo stan also can describe someone who’s a fan of a singular idol (like Sunmi or IU) who does not participate in idol groups. photocard Photocards (or pocas or PCs) are typically 3” by 2” pieces of glossy paper photos included in a K-pop albums and prized by fans. They may not sound like much to the average joe, but to the average Jimin fan, these pictures are worth hundreds to thousands of dollars. the Big 3 In Korea, idols are contracted under companies. The Big 3 describes the main three corporations that famous idols usually sign under. These three companies are HYBE Entertainment (previously known as BigHit Entertainment), with groups like BTS and TXT; SM Entertainment, with groups like Girls Generation and Aespa; and YG Entertainment, producing groups like BLACKPINK and iKON. The Big 3 not only produce idols but also sign and manage actors. JYP Entertainment can also be considered as part of the Big 3 (HYBE is a relative newcomer to the list), leading some to use the term “Big 4.” netizen The term netizen does generally mean an internet user, but it’s used in K-pop to refer to Korean fans who are online intensively. These fans or anti-fans are internet sleuths and usually the ones to create scandals and/or help in proving rumors wrong or right about specific idols. Netizens (or also K-netizens) hold power in the idol industry; companies want these internet personas to view their idols in a positive light and do their best to prevent scandals that might mobilize netizens. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 765 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมาร์ทโฟนในเกาหลีเหนือ: เครื่องมือเฝ้าระวังของรัฐบาล
    สมาร์ทโฟนที่ถูกลักลอบนำออกจาก เกาหลีเหนือ เผยให้เห็นถึง ระบบเฝ้าระวังที่เข้มงวด ซึ่งรัฐบาลใช้ในการควบคุมประชาชน โดยโทรศัพท์เหล่านี้ จับภาพหน้าจอทุก 5 นาที และบันทึกข้อมูลในโฟลเดอร์ที่ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงได้

    แม้สมาร์ทโฟนเหล่านี้จะมีรูปลักษณ์คล้ายกับ Huawei หรือ Honor แต่ซอฟต์แวร์ภายในถูก ปรับแต่งโดยรัฐบาล เพื่อจำกัดการใช้งานและเพิ่มการตรวจสอบ

    หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าตกใจคือ ระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติ ที่เปลี่ยนคำบางคำให้สอดคล้องกับ อุดมการณ์ของรัฐ เช่น
    - คำว่า "Oppa" ซึ่งเป็นคำเรียกพี่ชายหรือแฟนในเกาหลีใต้ ถูกเปลี่ยนเป็น "Comrade"
    - คำว่า "South Korea" ถูกแทนที่ด้วย "Puppet State" ตามภาษาทางการของรัฐบาล

    นอกจากนี้ โทรศัพท์ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก และถูกตรวจสอบโดย หน่วยงานพิเศษที่คอยค้นหาสื่อจากต่างประเทศ

    ข้อมูลจากข่าว
    - สมาร์ทโฟนในเกาหลีเหนือจับภาพหน้าจอทุก 5 นาที และบันทึกข้อมูลในโฟลเดอร์ที่ผู้ใช้เข้าถึงไม่ได้
    - ซอฟต์แวร์ถูกปรับแต่งโดยรัฐบาลเพื่อจำกัดการใช้งานและเพิ่มการตรวจสอบ
    - ระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติเปลี่ยนคำบางคำให้สอดคล้องกับอุดมการณ์ของรัฐ
    - โทรศัพท์ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก
    - หน่วยงานพิเศษตรวจสอบโทรศัพท์เพื่อค้นหาสื่อจากต่างประเทศ

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ประชาชนในเกาหลีเหนือไม่มีอิสระในการใช้เทคโนโลยี และถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด
    - การใช้คำผิดอาจนำไปสู่การสอบสวนหรือบทลงโทษจากรัฐบาล
    - การลักลอบนำสื่อจากต่างประเทศเข้าไปในประเทศมีความเสี่ยงสูง
    - ต้องติดตามว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือจะเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังมากขึ้นในอนาคตหรือไม่

    เทคโนโลยีที่ควรเป็นเครื่องมือในการเชื่อมต่อโลกกลับกลายเป็น เครื่องมือเฝ้าระวังของรัฐบาล ซึ่งทำให้ประชาชน ไม่มีอิสระในการสื่อสารและรับข้อมูลจากภายนอก อย่างไรก็ตาม ยังมีความพยายามในการลักลอบนำสื่อจากต่างประเทศเข้าไปในประเทศ

    https://www.techspot.com/news/108156-north-korean-smartphone-secretly-takes-screenshot-every-5.html
    📱 สมาร์ทโฟนในเกาหลีเหนือ: เครื่องมือเฝ้าระวังของรัฐบาล สมาร์ทโฟนที่ถูกลักลอบนำออกจาก เกาหลีเหนือ เผยให้เห็นถึง ระบบเฝ้าระวังที่เข้มงวด ซึ่งรัฐบาลใช้ในการควบคุมประชาชน โดยโทรศัพท์เหล่านี้ จับภาพหน้าจอทุก 5 นาที และบันทึกข้อมูลในโฟลเดอร์ที่ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงได้ แม้สมาร์ทโฟนเหล่านี้จะมีรูปลักษณ์คล้ายกับ Huawei หรือ Honor แต่ซอฟต์แวร์ภายในถูก ปรับแต่งโดยรัฐบาล เพื่อจำกัดการใช้งานและเพิ่มการตรวจสอบ หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าตกใจคือ ระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติ ที่เปลี่ยนคำบางคำให้สอดคล้องกับ อุดมการณ์ของรัฐ เช่น - คำว่า "Oppa" ซึ่งเป็นคำเรียกพี่ชายหรือแฟนในเกาหลีใต้ ถูกเปลี่ยนเป็น "Comrade" - คำว่า "South Korea" ถูกแทนที่ด้วย "Puppet State" ตามภาษาทางการของรัฐบาล นอกจากนี้ โทรศัพท์ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก และถูกตรวจสอบโดย หน่วยงานพิเศษที่คอยค้นหาสื่อจากต่างประเทศ ✅ ข้อมูลจากข่าว - สมาร์ทโฟนในเกาหลีเหนือจับภาพหน้าจอทุก 5 นาที และบันทึกข้อมูลในโฟลเดอร์ที่ผู้ใช้เข้าถึงไม่ได้ - ซอฟต์แวร์ถูกปรับแต่งโดยรัฐบาลเพื่อจำกัดการใช้งานและเพิ่มการตรวจสอบ - ระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติเปลี่ยนคำบางคำให้สอดคล้องกับอุดมการณ์ของรัฐ - โทรศัพท์ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก - หน่วยงานพิเศษตรวจสอบโทรศัพท์เพื่อค้นหาสื่อจากต่างประเทศ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ประชาชนในเกาหลีเหนือไม่มีอิสระในการใช้เทคโนโลยี และถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด - การใช้คำผิดอาจนำไปสู่การสอบสวนหรือบทลงโทษจากรัฐบาล - การลักลอบนำสื่อจากต่างประเทศเข้าไปในประเทศมีความเสี่ยงสูง - ต้องติดตามว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือจะเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังมากขึ้นในอนาคตหรือไม่ เทคโนโลยีที่ควรเป็นเครื่องมือในการเชื่อมต่อโลกกลับกลายเป็น เครื่องมือเฝ้าระวังของรัฐบาล ซึ่งทำให้ประชาชน ไม่มีอิสระในการสื่อสารและรับข้อมูลจากภายนอก อย่างไรก็ตาม ยังมีความพยายามในการลักลอบนำสื่อจากต่างประเทศเข้าไปในประเทศ https://www.techspot.com/news/108156-north-korean-smartphone-secretly-takes-screenshot-every-5.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    In North Korea, your phone secretly takes screenshots every 5 minutes for government surveillance
    The phone was featured in a BBC video, which showed it powering on with an animated North Korean flag waving across the screen. While the report did...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 378 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนลับของเกาหลีเหนือ: แทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ
    การสืบสวนล่าสุดเผยว่า เกาหลีเหนือใช้กลยุทธ์แทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ ผ่าน TikTok influencer ชาวมินนิโซตา โดยอาศัยช่องโหว่ของ การทำงานระยะไกล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของตนสามารถเข้าถึงระบบของบริษัทอเมริกัน

    แผนนี้เกี่ยวข้องกับ Christina Chapman ผู้ใช้ TikTok ที่มีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน ซึ่งไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ โดยเธอได้รับข้อเสนอผ่าน LinkedIn ให้เป็นตัวแทนของบริษัทที่จัดหางานไอทีจากต่างประเทศ

    Chapman ทำหน้าที่ รับและตั้งค่าคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือสามารถเข้าถึงระบบของบริษัทอเมริกันได้จากระยะไกล นอกจากนี้ เธอยังช่วยจัดการเอกสารภาษีปลอมและส่งเงินเดือนให้กับบุคคลเหล่านี้

    ข้อมูลจากข่าว
    - เกาหลีเหนือใช้แผนแทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ ผ่าน TikTok influencer
    - Christina Chapman ไม่รู้ตัวว่ากำลังช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ
    - เธอรับและตั้งค่าคอมพิวเตอร์ให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเข้าถึงระบบบริษัทอเมริกัน
    - แผนนี้เกี่ยวข้องกับกว่า 300 บริษัท และสร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือกว่า 17.1 ล้านเหรียญ
    - FBI ระบุว่าแผนลักษณะนี้สร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือหลายร้อยล้านเหรียญต่อปี

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - บริษัทอเมริกันอาจส่งอุปกรณ์และเงินให้กับเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือโดยไม่รู้ตัว
    - แฮกเกอร์ใช้ซอฟต์แวร์พิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและขโมยข้อมูล
    - มีการใช้ AI เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือในการสัมภาษณ์งานออนไลน์
    - บุคคลที่ถูกใช้เป็นตัวแทนอาจต้องรับผิดทางกฎหมาย แม้จะไม่รู้ตัวว่ากำลังช่วยเหลือแผนนี้

    ผลกระทบต่อความมั่นคงไซเบอร์
    แผนนี้แสดงให้เห็นถึง ความสามารถของเกาหลีเหนือในการใช้เทคโนโลยีเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร และสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล นอกจากนี้ ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้บริษัทต่าง ๆ เพิ่มมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยของพนักงานระยะไกล เพื่อป้องกันการแทรกซึมจากต่างชาติ

    https://www.techspot.com/news/108104-how-north-korea-infiltrated-remote-us-jobs-through.html
    🕵️‍♂️ แผนลับของเกาหลีเหนือ: แทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ การสืบสวนล่าสุดเผยว่า เกาหลีเหนือใช้กลยุทธ์แทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ ผ่าน TikTok influencer ชาวมินนิโซตา โดยอาศัยช่องโหว่ของ การทำงานระยะไกล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของตนสามารถเข้าถึงระบบของบริษัทอเมริกัน แผนนี้เกี่ยวข้องกับ Christina Chapman ผู้ใช้ TikTok ที่มีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน ซึ่งไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ โดยเธอได้รับข้อเสนอผ่าน LinkedIn ให้เป็นตัวแทนของบริษัทที่จัดหางานไอทีจากต่างประเทศ Chapman ทำหน้าที่ รับและตั้งค่าคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือสามารถเข้าถึงระบบของบริษัทอเมริกันได้จากระยะไกล นอกจากนี้ เธอยังช่วยจัดการเอกสารภาษีปลอมและส่งเงินเดือนให้กับบุคคลเหล่านี้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - เกาหลีเหนือใช้แผนแทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ ผ่าน TikTok influencer - Christina Chapman ไม่รู้ตัวว่ากำลังช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ - เธอรับและตั้งค่าคอมพิวเตอร์ให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเข้าถึงระบบบริษัทอเมริกัน - แผนนี้เกี่ยวข้องกับกว่า 300 บริษัท และสร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือกว่า 17.1 ล้านเหรียญ - FBI ระบุว่าแผนลักษณะนี้สร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือหลายร้อยล้านเหรียญต่อปี ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - บริษัทอเมริกันอาจส่งอุปกรณ์และเงินให้กับเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือโดยไม่รู้ตัว - แฮกเกอร์ใช้ซอฟต์แวร์พิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและขโมยข้อมูล - มีการใช้ AI เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือในการสัมภาษณ์งานออนไลน์ - บุคคลที่ถูกใช้เป็นตัวแทนอาจต้องรับผิดทางกฎหมาย แม้จะไม่รู้ตัวว่ากำลังช่วยเหลือแผนนี้ 🌍 ผลกระทบต่อความมั่นคงไซเบอร์ แผนนี้แสดงให้เห็นถึง ความสามารถของเกาหลีเหนือในการใช้เทคโนโลยีเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร และสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล นอกจากนี้ ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้บริษัทต่าง ๆ เพิ่มมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยของพนักงานระยะไกล เพื่อป้องกันการแทรกซึมจากต่างชาติ https://www.techspot.com/news/108104-how-north-korea-infiltrated-remote-us-jobs-through.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    How North Korea infiltrated remote US jobs through a TikTok user in Minnesota
    A recent Wall Street Journal investigation highlights the story of Christina Chapman, a Minnesota native and popular TikTok user, showing how ordinary Americans became entangled in a...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • Han Duck-soo อดีตผู้นำชั่วคราวของเกาหลีใต้และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ประกาศแผนจัดตั้งกระทรวง AI เพื่อผลักดัน นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ หากเขาได้รับเลือกตั้ง

    แผนดังกล่าวเป็น คำมั่นสัญญาแรกของเขาหลังจากเปิดตัวแคมเปญหาเสียง โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ AI และ จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท) เพื่อสนับสนุน บุคลากรในประเทศและดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ

    Han Duck-soo วางแผนจัดตั้งกระทรวง AI หากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี
    - มุ่งเน้น นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์
    - เป็น คำมั่นสัญญาแรกของเขาหลังจากเปิดตัวแคมเปญหาเสียง

    เป้าหมายหลักคือการเพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ AI
    - เกาหลีใต้ต้องการ แข่งขันกับประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยี AI

    จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท)
    - สนับสนุน บุคลากรในประเทศและดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ

    เกาหลีใต้ต้องการไล่ตามประเทศอื่น ๆ ในด้าน AI และเทคโนโลยีขั้นสูง
    - มุ่งเน้น การพัฒนาอุตสาหกรรม AI ให้สามารถแข่งขันในระดับโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/south-korea-presidential-hopeful-han-vows-to-create-ai-ministry
    Han Duck-soo อดีตผู้นำชั่วคราวของเกาหลีใต้และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ประกาศแผนจัดตั้งกระทรวง AI เพื่อผลักดัน นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ หากเขาได้รับเลือกตั้ง แผนดังกล่าวเป็น คำมั่นสัญญาแรกของเขาหลังจากเปิดตัวแคมเปญหาเสียง โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ AI และ จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท) เพื่อสนับสนุน บุคลากรในประเทศและดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ ✅ Han Duck-soo วางแผนจัดตั้งกระทรวง AI หากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี - มุ่งเน้น นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ - เป็น คำมั่นสัญญาแรกของเขาหลังจากเปิดตัวแคมเปญหาเสียง ✅ เป้าหมายหลักคือการเพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ AI - เกาหลีใต้ต้องการ แข่งขันกับประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยี AI ✅ จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท) - สนับสนุน บุคลากรในประเทศและดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ ✅ เกาหลีใต้ต้องการไล่ตามประเทศอื่น ๆ ในด้าน AI และเทคโนโลยีขั้นสูง - มุ่งเน้น การพัฒนาอุตสาหกรรม AI ให้สามารถแข่งขันในระดับโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/south-korea-presidential-hopeful-han-vows-to-create-ai-ministry
    WWW.THESTAR.COM.MY
    South Korea presidential hopeful Han vows to create AI ministry
    The election comes at a critical time for Asia's fourth-largest economy as it faces slowing exports resulting from Donald Trump's sweeping tariffs campaign.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกำลังเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โดยดึงดูดนักวิจัยจากต่างประเทศ ล่าสุด Lee Young-hee นักวิจัยชาวเกาหลีใต้ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัมที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย หลังจากไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้

    ศูนย์วิจัยนี้มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาอุตสาหกรรมในมณฑลหูเป่ย

    การแต่งตั้ง Lee Young-hee เป็นหนึ่งในหลายกรณีที่จีน ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านเซมิคอนดักเตอร์ แม้ว่าการวิจัยของเขาอาจไม่ได้ส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน แต่มีแนวโน้มจะมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า

    Lee Young-hee ได้รับตำแหน่งหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัม
    - ศูนย์วิจัยตั้งอยู่ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย
    - มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์

    เหตุผลที่ Lee Young-hee ย้ายไปจีน
    - ไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้หลังเกษียณ
    - เคยเสนอแผนวิจัยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ของเกาหลีใต้ แต่ไม่ได้รับการตอบรับ

    แนวโน้มของจีนในการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ
    - มีรายงานว่าจีน ดึงดูดวิศวกรจาก Apple และ TSMC ด้วยข้อเสนอเงินเดือนสูง
    - Huawei เคยเสนอเงินเดือน สามเท่า ให้กับพนักงาน TSMC เพื่อดึงดูดให้ย้ายไปทำงานในจีน

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - การวิจัยวัสดุควอนตัมอาจมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า
    - อาจช่วยให้จีนลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

    https://wccftech.com/china-appoints-south-korean-semiconductor-research-for-quantum-materials-research/
    จีนกำลังเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โดยดึงดูดนักวิจัยจากต่างประเทศ ล่าสุด Lee Young-hee นักวิจัยชาวเกาหลีใต้ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัมที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย หลังจากไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้ ศูนย์วิจัยนี้มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาอุตสาหกรรมในมณฑลหูเป่ย การแต่งตั้ง Lee Young-hee เป็นหนึ่งในหลายกรณีที่จีน ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านเซมิคอนดักเตอร์ แม้ว่าการวิจัยของเขาอาจไม่ได้ส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน แต่มีแนวโน้มจะมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า ✅ Lee Young-hee ได้รับตำแหน่งหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัม - ศูนย์วิจัยตั้งอยู่ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย - มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์ ✅ เหตุผลที่ Lee Young-hee ย้ายไปจีน - ไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้หลังเกษียณ - เคยเสนอแผนวิจัยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ของเกาหลีใต้ แต่ไม่ได้รับการตอบรับ ✅ แนวโน้มของจีนในการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ - มีรายงานว่าจีน ดึงดูดวิศวกรจาก Apple และ TSMC ด้วยข้อเสนอเงินเดือนสูง - Huawei เคยเสนอเงินเดือน สามเท่า ให้กับพนักงาน TSMC เพื่อดึงดูดให้ย้ายไปทำงานในจีน ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - การวิจัยวัสดุควอนตัมอาจมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า - อาจช่วยให้จีนลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ https://wccftech.com/china-appoints-south-korean-semiconductor-research-for-quantum-materials-research/
    WCCFTECH.COM
    China Has Recruited South Korean Semiconductor Researcher And Appointed Him Head Of Quantum Materials Research After He Was Unable To Find A Suitable Position In His Home Country
    After being unable to find a suitable research position in his home country, a South Korean semiconductor expert has been recruited by China
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 432 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยจีนมีส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2010 เป็น 38% ในปี 2024 ขณะที่ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งตลาดลดลง

    ไต้หวันเริ่มสร้างโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ใน สหรัฐฯ และยุโรป ส่วนญี่ปุ่นมีโครงการโรงงานใหม่เพียงไม่กี่แห่ง แม้ว่า TSMC จะมีแผนสร้างโรงงานใน คุมาโมโตะ

    แม้ว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีนจะชะลอตัวลงระหว่างปี 2019-2023 เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อ Huawei แต่จีนยังคงเติบโตที่ 9-10% ต่อปี และมีแนวโน้มจะเติบโตต่อไป

    จีนกำลังพัฒนา ระบบลิโทกราฟี EUV ภายในประเทศ โดยใช้เทคโนโลยี laser-induced discharge plasma ซึ่งจะเริ่มทดลองผลิตในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 และมีแผนผลิตจำนวนมากในปี 2026

    ส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น
    - จีนมีส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2010 เป็น 38% ในปี 2024
    - ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งตลาดลดลง

    การขยายตัวของโรงงานผลิต
    - ไต้หวันเริ่มสร้างโรงงานใน สหรัฐฯ และยุโรป
    - ญี่ปุ่นมีโครงการโรงงานใหม่เพียงไม่กี่แห่ง แม้ว่า TSMC จะมีแผนสร้างโรงงานใน คุมาโมโตะ

    ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
    - การเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีนชะลอตัวลงระหว่างปี 2019-2023
    - Huawei ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่จีนยังคงเติบโตที่ 9-10% ต่อปี

    การพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ
    - จีนกำลังพัฒนา ระบบลิโทกราฟี EUV โดยใช้ laser-induced discharge plasma
    - เริ่มทดลองผลิตในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 และมีแผนผลิตจำนวนมากในปี 2026

    https://www.techpowerup.com/336222/chinas-semiconductor-equipment-market-share-rises-as-taiwan-korea-and-japan-decline
    อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยจีนมีส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2010 เป็น 38% ในปี 2024 ขณะที่ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งตลาดลดลง ไต้หวันเริ่มสร้างโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ใน สหรัฐฯ และยุโรป ส่วนญี่ปุ่นมีโครงการโรงงานใหม่เพียงไม่กี่แห่ง แม้ว่า TSMC จะมีแผนสร้างโรงงานใน คุมาโมโตะ แม้ว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีนจะชะลอตัวลงระหว่างปี 2019-2023 เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อ Huawei แต่จีนยังคงเติบโตที่ 9-10% ต่อปี และมีแนวโน้มจะเติบโตต่อไป จีนกำลังพัฒนา ระบบลิโทกราฟี EUV ภายในประเทศ โดยใช้เทคโนโลยี laser-induced discharge plasma ซึ่งจะเริ่มทดลองผลิตในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 และมีแผนผลิตจำนวนมากในปี 2026 ✅ ส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น - จีนมีส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2010 เป็น 38% ในปี 2024 - ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งตลาดลดลง ✅ การขยายตัวของโรงงานผลิต - ไต้หวันเริ่มสร้างโรงงานใน สหรัฐฯ และยุโรป - ญี่ปุ่นมีโครงการโรงงานใหม่เพียงไม่กี่แห่ง แม้ว่า TSMC จะมีแผนสร้างโรงงานใน คุมาโมโตะ ✅ ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ - การเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีนชะลอตัวลงระหว่างปี 2019-2023 - Huawei ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่จีนยังคงเติบโตที่ 9-10% ต่อปี ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ - จีนกำลังพัฒนา ระบบลิโทกราฟี EUV โดยใช้ laser-induced discharge plasma - เริ่มทดลองผลิตในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 และมีแผนผลิตจำนวนมากในปี 2026 https://www.techpowerup.com/336222/chinas-semiconductor-equipment-market-share-rises-as-taiwan-korea-and-japan-decline
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    China's Semiconductor Equipment Market Share Rises as Taiwan, Korea and Japan Decline
    The global semiconductor industry is experiencing notable shifts, largely influenced by the rapid expansion of the Mainland China market. From 2010 to 2024, China's share of global semiconductor equipment sales rose significantly, from just 6% in 2010 to 38% in 2024. On the other side McKinsey repor...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟูดานในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้พัฒนาเทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลชแบบไม่ลบเลือน (Non-Volatile Memory) ที่เร็วที่สุดในโลก โดยใช้ชื่อว่า PoX (Phase-change Oxide) ซึ่งมีความเร็วในการเขียนข้อมูลถึง 400 พิโควินาที (ps) ซึ่งเร็วกว่าหน่วยความจำแบบ SRAM และ DRAM ที่ใช้ในปัจจุบัน เทคโนโลยีนี้ใช้ช่องกราฟีนสองมิติร่วมกับกลไกการฉีดพาหะร้อน (Hot-Carrier Injection) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเร่งพาหะและการฉีดข้อมูล

    PoX ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาคอขวดในงานประมวลผล AI ที่ต้องการความเร็วสูงและการใช้พลังงานต่ำ โดยสามารถทำงานได้อย่างเสถียรถึง 5.5 ล้านรอบ และเก็บข้อมูลได้ยาวนานถึง 10 ปี ในการทดสอบจำลอง ทีมวิจัยยังวางแผนที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ เพื่อแก้ปัญหาความล่าช้าและความร้อนที่เกิดจากเทคโนโลยีหน่วยความจำในปัจจุบัน

    ความเร็วและประสิทธิภาพ
    - ความเร็วในการเขียนข้อมูลถึง 400 พิโควินาที
    - ทำงานได้เสถียรถึง 5.5 ล้านรอบ และเก็บข้อมูลได้ยาวนานถึง 10 ปี

    การออกแบบและเทคโนโลยี
    - ใช้ช่องกราฟีนสองมิติและกลไกการฉีดพาหะร้อน
    - เพิ่มประสิทธิภาพการเร่งพาหะและการฉีดข้อมูล

    เป้าหมายของการพัฒนา
    - แก้ปัญหาคอขวดในงานประมวลผล AI
    - ลดความล่าช้าและความร้อนในหน่วยความจำ

    การนำไปใช้งานในอนาคต
    - วางแผนใช้ในสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์

    https://www.techradar.com/pro/faster-than-sram-new-flash-memory-tech-from-china-is-millions-of-times-faster-than-nand-rivals-from-us-japan-or-korea-but-please-change-its-name
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟูดานในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้พัฒนาเทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลชแบบไม่ลบเลือน (Non-Volatile Memory) ที่เร็วที่สุดในโลก โดยใช้ชื่อว่า PoX (Phase-change Oxide) ซึ่งมีความเร็วในการเขียนข้อมูลถึง 400 พิโควินาที (ps) ซึ่งเร็วกว่าหน่วยความจำแบบ SRAM และ DRAM ที่ใช้ในปัจจุบัน เทคโนโลยีนี้ใช้ช่องกราฟีนสองมิติร่วมกับกลไกการฉีดพาหะร้อน (Hot-Carrier Injection) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเร่งพาหะและการฉีดข้อมูล PoX ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาคอขวดในงานประมวลผล AI ที่ต้องการความเร็วสูงและการใช้พลังงานต่ำ โดยสามารถทำงานได้อย่างเสถียรถึง 5.5 ล้านรอบ และเก็บข้อมูลได้ยาวนานถึง 10 ปี ในการทดสอบจำลอง ทีมวิจัยยังวางแผนที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ เพื่อแก้ปัญหาความล่าช้าและความร้อนที่เกิดจากเทคโนโลยีหน่วยความจำในปัจจุบัน ✅ ความเร็วและประสิทธิภาพ - ความเร็วในการเขียนข้อมูลถึง 400 พิโควินาที - ทำงานได้เสถียรถึง 5.5 ล้านรอบ และเก็บข้อมูลได้ยาวนานถึง 10 ปี ✅ การออกแบบและเทคโนโลยี - ใช้ช่องกราฟีนสองมิติและกลไกการฉีดพาหะร้อน - เพิ่มประสิทธิภาพการเร่งพาหะและการฉีดข้อมูล ✅ เป้าหมายของการพัฒนา - แก้ปัญหาคอขวดในงานประมวลผล AI - ลดความล่าช้าและความร้อนในหน่วยความจำ ✅ การนำไปใช้งานในอนาคต - วางแผนใช้ในสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ https://www.techradar.com/pro/faster-than-sram-new-flash-memory-tech-from-china-is-millions-of-times-faster-than-nand-rivals-from-us-japan-or-korea-but-please-change-its-name
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือที่รู้จักในชื่อ Slow Pisces ได้เปิดตัวแคมเปญโจมตีที่ซับซ้อน โดยมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีผ่านแพลตฟอร์ม LinkedIn โดยแฮกเกอร์เหล่านี้ปลอมตัวเป็นผู้สรรหางานและเสนอการทดสอบการเขียนโค้ดที่ดูเหมือนจริง แต่แท้จริงแล้วมีมัลแวร์ซ่อนอยู่ในโค้ด Python และ JavaScript ที่ใช้ในการโจมตี

    แฮกเกอร์ใช้ LinkedIn เพื่อหลอกลวงนักพัฒนา
    - แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นผู้สรรหางานและส่งเอกสาร PDF ที่มีคำอธิบายงาน
    - การโจมตีเริ่มต้นด้วยการให้ผู้เสียหายทำการทดสอบเขียนโค้ดผ่าน GitHub

    มัลแวร์ที่ใช้ในการโจมตีมีความซับซ้อน
    - ใช้มัลแวร์ RN Loader และ RN Stealer ที่ซ่อนอยู่ในโค้ด Python และ JavaScript
    - มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น credentials, cloud configuration files และ SSH keys

    การโจมตีมุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี
    - ในปี 2023 กลุ่มนี้ถูกเชื่อมโยงกับการโจรกรรมมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์
    - การโจมตีรวมถึงการขโมยเงินจากบริษัทในดูไบและญี่ปุ่น

    การตอบสนองจาก GitHub และ LinkedIn
    - ทั้งสองแพลตฟอร์มได้ลบบัญชีและ repository ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี

    https://www.techradar.com/pro/north-korean-hackers-are-using-linkedin-to-entice-developers-to-coding-challenges-heres-what-you-need-to-know
    กลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือที่รู้จักในชื่อ Slow Pisces ได้เปิดตัวแคมเปญโจมตีที่ซับซ้อน โดยมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีผ่านแพลตฟอร์ม LinkedIn โดยแฮกเกอร์เหล่านี้ปลอมตัวเป็นผู้สรรหางานและเสนอการทดสอบการเขียนโค้ดที่ดูเหมือนจริง แต่แท้จริงแล้วมีมัลแวร์ซ่อนอยู่ในโค้ด Python และ JavaScript ที่ใช้ในการโจมตี ✅ แฮกเกอร์ใช้ LinkedIn เพื่อหลอกลวงนักพัฒนา - แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นผู้สรรหางานและส่งเอกสาร PDF ที่มีคำอธิบายงาน - การโจมตีเริ่มต้นด้วยการให้ผู้เสียหายทำการทดสอบเขียนโค้ดผ่าน GitHub ✅ มัลแวร์ที่ใช้ในการโจมตีมีความซับซ้อน - ใช้มัลแวร์ RN Loader และ RN Stealer ที่ซ่อนอยู่ในโค้ด Python และ JavaScript - มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น credentials, cloud configuration files และ SSH keys ✅ การโจมตีมุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี - ในปี 2023 กลุ่มนี้ถูกเชื่อมโยงกับการโจรกรรมมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ - การโจมตีรวมถึงการขโมยเงินจากบริษัทในดูไบและญี่ปุ่น ✅ การตอบสนองจาก GitHub และ LinkedIn - ทั้งสองแพลตฟอร์มได้ลบบัญชีและ repository ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี https://www.techradar.com/pro/north-korean-hackers-are-using-linkedin-to-entice-developers-to-coding-challenges-heres-what-you-need-to-know
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 428 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึง ภัยคุกคามจากแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ ที่แฝงตัวเข้ามาในบริษัทต่างๆ ทั่วโลกผ่านการสมัครงานในตำแหน่ง IT โดยใช้ ข้อมูลปลอมและเทคโนโลยี Deepfake เพื่อหลอกลวงนายจ้าง

    กลยุทธ์ของแฮกเกอร์เกาหลีเหนือ
    - ใช้ข้อมูลปลอม เช่น ชื่อและเอกสารของพลเมืองสหรัฐฯ
    - ใช้ Deepfake เพื่อปลอมแปลงใบหน้าระหว่างสัมภาษณ์งาน

    ภัยคุกคามต่อบริษัทต่างๆ
    - แฮกเกอร์ไม่ได้โจมตีระบบโดยตรง แต่ใช้สิทธิ์การเข้าถึงของพนักงาน
    - กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เตือนถึงภัยคุกคามนี้ตั้งแต่ปี 2022

    ตัวอย่างเหตุการณ์จริง
    - Christina Chapman ช่วยให้แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และสมัครงานในบริษัทกว่า 300 แห่ง
    - Oleksandr Didenko ขายบัญชีปลอมให้แฮกเกอร์เพื่อใช้สมัครงาน

    ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยขององค์กร
    - แฮกเกอร์สามารถใช้สิทธิ์ของพนักงานเพื่อเปิดทางให้กับการโจมตีไซเบอร์
    - บริษัทที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลพนักงานอย่างละเอียดอาจตกเป็นเป้าหมาย

    คำแนะนำสำหรับการป้องกัน
    - ตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครงานอย่างละเอียด รวมถึงการสัมภาษณ์แบบวิดีโอ
    - ใช้ระบบตรวจสอบตัวตนที่เข้มงวด เช่น การตรวจสอบเอกสารและที่อยู่

    https://www.csoonline.com/article/3497138/how-not-to-hire-a-north-korean-it-spy.html
    ข่าวนี้เล่าถึง ภัยคุกคามจากแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ ที่แฝงตัวเข้ามาในบริษัทต่างๆ ทั่วโลกผ่านการสมัครงานในตำแหน่ง IT โดยใช้ ข้อมูลปลอมและเทคโนโลยี Deepfake เพื่อหลอกลวงนายจ้าง ✅ กลยุทธ์ของแฮกเกอร์เกาหลีเหนือ - ใช้ข้อมูลปลอม เช่น ชื่อและเอกสารของพลเมืองสหรัฐฯ - ใช้ Deepfake เพื่อปลอมแปลงใบหน้าระหว่างสัมภาษณ์งาน ✅ ภัยคุกคามต่อบริษัทต่างๆ - แฮกเกอร์ไม่ได้โจมตีระบบโดยตรง แต่ใช้สิทธิ์การเข้าถึงของพนักงาน - กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เตือนถึงภัยคุกคามนี้ตั้งแต่ปี 2022 ✅ ตัวอย่างเหตุการณ์จริง - Christina Chapman ช่วยให้แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และสมัครงานในบริษัทกว่า 300 แห่ง - Oleksandr Didenko ขายบัญชีปลอมให้แฮกเกอร์เพื่อใช้สมัครงาน ℹ️ ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยขององค์กร - แฮกเกอร์สามารถใช้สิทธิ์ของพนักงานเพื่อเปิดทางให้กับการโจมตีไซเบอร์ - บริษัทที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลพนักงานอย่างละเอียดอาจตกเป็นเป้าหมาย ℹ️ คำแนะนำสำหรับการป้องกัน - ตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครงานอย่างละเอียด รวมถึงการสัมภาษณ์แบบวิดีโอ - ใช้ระบบตรวจสอบตัวตนที่เข้มงวด เช่น การตรวจสอบเอกสารและที่อยู่ https://www.csoonline.com/article/3497138/how-not-to-hire-a-north-korean-it-spy.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    How not to hire a North Korean IT spy
    CISOs are urged to carry out tighter vetting of new hires to ward off potential ‘moles’ — who are increasingly finding their way onto company payrolls and into their IT systems.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts