• 🚀 SpaceX เตรียมสร้างโรงงานบรรจุชิปขั้นสูงในเท็กซัส
    SpaceX กำลังขยายขีดความสามารถด้านการผลิต โดยเตรียมสร้าง โรงงานบรรจุชิปขั้นสูงในเท็กซัส ซึ่งจะใช้ เทคโนโลยี Fan-Out Panel-Level Packaging (FOPLP) และมี ขนาดแผ่นฐานชิปใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมที่ 700mm x 700mm

    ปัจจุบัน SpaceX ยังไม่ได้ผลิตชิปของตัวเอง แต่ใช้บริการจาก STMicroelectronics และ Innolux อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังผลักดันให้มีการผลิตชิปภายในประเทศ เพื่อสนับสนุน ความเป็นอิสระด้านเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ

    ปีที่แล้ว SpaceX ได้เปิด โรงงานผลิตแผงวงจรพิมพ์ (PCB) ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ที่เมือง Bastrop, Texas ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถ ลดต้นทุนและควบคุมกระบวนการผลิตดาวเทียมได้ดีขึ้น

    การสร้างโรงงานบรรจุชิปเป็น ขั้นตอนต่อไปที่สมเหตุสมผล เนื่องจาก กระบวนการ FOPLP มีความคล้ายคลึงกับการผลิต PCB เช่น การชุบทองแดง, การใช้เลเซอร์ และกระบวนการเติมสารกึ่งตัวนำ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - SpaceX เตรียมสร้างโรงงานบรรจุชิปขั้นสูงในเท็กซัส
    - ใช้เทคโนโลยี Fan-Out Panel-Level Packaging (FOPLP)
    - ขนาดแผ่นฐานชิปใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมที่ 700mm x 700mm
    - ปัจจุบัน SpaceX ยังไม่ได้ผลิตชิปของตัวเอง แต่ใช้บริการจาก STMicroelectronics และ Innolux
    - โรงงาน PCB ที่ Bastrop, Texas ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการผลิตดาวเทียม

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - SpaceX ยังต้องพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปของตัวเองก่อนที่จะสามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรายใหญ่ได้
    - ต้องติดตามว่าการลงทุนนี้จะช่วยให้สหรัฐฯ ลดการพึ่งพาเซมิคอนดักเตอร์จากต่างประเทศได้จริงหรือไม่
    - แม้ว่า FOPLP จะเหมาะกับอุตสาหกรรมอวกาศและการสื่อสาร แต่ยังต้องพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับเทคโนโลยีอื่น ๆ
    - การแข่งขันกับ TSMC, Intel และ GlobalFoundries อาจทำให้ SpaceX ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลในระยะยาว

    การเข้าสู่ตลาดบรรจุชิปของ SpaceX อาจช่วยให้สหรัฐฯ มีตัวเลือกที่ผลิตภายในประเทศมากขึ้น และ ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการลงทุนนี้จะสามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรายใหญ่ได้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/manufacturing/elon-musks-spacex-to-build-its-own-advanced-chip-packaging-factory-in-texas-700mm-x-700mm-substrate-size-purported-to-be-the-largest-in-the-industry
    🚀 SpaceX เตรียมสร้างโรงงานบรรจุชิปขั้นสูงในเท็กซัส SpaceX กำลังขยายขีดความสามารถด้านการผลิต โดยเตรียมสร้าง โรงงานบรรจุชิปขั้นสูงในเท็กซัส ซึ่งจะใช้ เทคโนโลยี Fan-Out Panel-Level Packaging (FOPLP) และมี ขนาดแผ่นฐานชิปใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมที่ 700mm x 700mm ปัจจุบัน SpaceX ยังไม่ได้ผลิตชิปของตัวเอง แต่ใช้บริการจาก STMicroelectronics และ Innolux อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังผลักดันให้มีการผลิตชิปภายในประเทศ เพื่อสนับสนุน ความเป็นอิสระด้านเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ ปีที่แล้ว SpaceX ได้เปิด โรงงานผลิตแผงวงจรพิมพ์ (PCB) ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ที่เมือง Bastrop, Texas ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถ ลดต้นทุนและควบคุมกระบวนการผลิตดาวเทียมได้ดีขึ้น การสร้างโรงงานบรรจุชิปเป็น ขั้นตอนต่อไปที่สมเหตุสมผล เนื่องจาก กระบวนการ FOPLP มีความคล้ายคลึงกับการผลิต PCB เช่น การชุบทองแดง, การใช้เลเซอร์ และกระบวนการเติมสารกึ่งตัวนำ ✅ ข้อมูลจากข่าว - SpaceX เตรียมสร้างโรงงานบรรจุชิปขั้นสูงในเท็กซัส - ใช้เทคโนโลยี Fan-Out Panel-Level Packaging (FOPLP) - ขนาดแผ่นฐานชิปใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมที่ 700mm x 700mm - ปัจจุบัน SpaceX ยังไม่ได้ผลิตชิปของตัวเอง แต่ใช้บริการจาก STMicroelectronics และ Innolux - โรงงาน PCB ที่ Bastrop, Texas ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการผลิตดาวเทียม ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - SpaceX ยังต้องพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปของตัวเองก่อนที่จะสามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรายใหญ่ได้ - ต้องติดตามว่าการลงทุนนี้จะช่วยให้สหรัฐฯ ลดการพึ่งพาเซมิคอนดักเตอร์จากต่างประเทศได้จริงหรือไม่ - แม้ว่า FOPLP จะเหมาะกับอุตสาหกรรมอวกาศและการสื่อสาร แต่ยังต้องพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับเทคโนโลยีอื่น ๆ - การแข่งขันกับ TSMC, Intel และ GlobalFoundries อาจทำให้ SpaceX ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลในระยะยาว การเข้าสู่ตลาดบรรจุชิปของ SpaceX อาจช่วยให้สหรัฐฯ มีตัวเลือกที่ผลิตภายในประเทศมากขึ้น และ ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการลงทุนนี้จะสามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรายใหญ่ได้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/manufacturing/elon-musks-spacex-to-build-its-own-advanced-chip-packaging-factory-in-texas-700mm-x-700mm-substrate-size-purported-to-be-the-largest-in-the-industry
    0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews
  • 🔒 Asus แนะนำให้รีเซ็ตโรงงานและตั้งรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง หลังพบการโจมตีจากบ็อตเน็ต
    Asus ได้ออกคำแนะนำให้ผู้ใช้ รีเซ็ตโรงงานและตั้งรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง หลังจากพบว่า บ็อตเน็ต AyySSHush ได้เจาะระบบของเราเตอร์กว่า 9,000 เครื่องทั่วโลก โดยใช้ช่องโหว่ CVE-2023-39780 ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์สามารถ เข้าถึงอุปกรณ์ได้แม้จะมีการอัปเดตเฟิร์มแวร์แล้วก็ตาม

    บ็อตเน็ตนี้ใช้ ช่องโหว่ Command Injection เพื่อเปิดใช้งาน SSH บนพอร์ตที่ไม่ได้มาตรฐาน (TCP 53282) และ แทรกคีย์ SSH ของแฮกเกอร์ลงในการตั้งค่าของเราเตอร์ ซึ่งทำให้ การเข้าถึงยังคงอยู่แม้จะมีการอัปเดตเฟิร์มแวร์หรือรีบูตอุปกรณ์

    นอกจากนี้ แฮกเกอร์ยังปิดระบบล็อกและฟีเจอร์ความปลอดภัย เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ ทำให้สามารถ ควบคุมเราเตอร์ได้ในระยะยาวโดยไม่ถูกตรวจพบ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Asus พบว่าเราเตอร์กว่า 9,000 เครื่องถูกโจมตีโดยบ็อตเน็ต AyySSHush
    - ช่องโหว่ CVE-2023-39780 ถูกใช้เพื่อเปิด SSH บนพอร์ต TCP 53282
    - แฮกเกอร์แทรกคีย์ SSH ลงในการตั้งค่าของเราเตอร์ ทำให้การเข้าถึงยังคงอยู่แม้จะอัปเดตเฟิร์มแวร์แล้ว
    - แฮกเกอร์ปิดระบบล็อกและฟีเจอร์ความปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
    - Asus แนะนำให้รีเซ็ตโรงงานและตั้งรหัสผ่านที่แข็งแกร่งเพื่อป้องกันการโจมตี

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การอัปเดตเฟิร์มแวร์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถลบช่องโหว่ได้ หากเราเตอร์ถูกโจมตีแล้ว
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบล็อกของเราเตอร์เพื่อดูว่ามีการพยายามล็อกอินผิดพลาดหรือไม่
    - เราเตอร์ที่หมดอายุการสนับสนุนควรติดตั้งเฟิร์มแวร์ล่าสุดและปิดการเข้าถึงระยะไกล
    - ต้องติดตามว่าบ็อตเน็ตนี้จะพัฒนาเทคนิคใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงการป้องกันหรือไม่

    🚀 วิธีป้องกันการโจมตี
    Asus แนะนำให้ผู้ใช้ ทำตามขั้นตอน 3 ขั้นตอนเพื่อป้องกันการโจมตี ได้แก่:

    1️⃣ อัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด
    2️⃣ รีเซ็ตโรงงานเพื่อกำจัดการตั้งค่าที่ไม่พึงประสงค์
    3️⃣ ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง โดยใช้ตัวอักษรใหญ่-เล็ก, ตัวเลข และสัญลักษณ์

    https://www.techspot.com/news/108218-asus-urges-factory-resets-strong-passwords-following-botnet.html
    🔒 Asus แนะนำให้รีเซ็ตโรงงานและตั้งรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง หลังพบการโจมตีจากบ็อตเน็ต Asus ได้ออกคำแนะนำให้ผู้ใช้ รีเซ็ตโรงงานและตั้งรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง หลังจากพบว่า บ็อตเน็ต AyySSHush ได้เจาะระบบของเราเตอร์กว่า 9,000 เครื่องทั่วโลก โดยใช้ช่องโหว่ CVE-2023-39780 ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์สามารถ เข้าถึงอุปกรณ์ได้แม้จะมีการอัปเดตเฟิร์มแวร์แล้วก็ตาม บ็อตเน็ตนี้ใช้ ช่องโหว่ Command Injection เพื่อเปิดใช้งาน SSH บนพอร์ตที่ไม่ได้มาตรฐาน (TCP 53282) และ แทรกคีย์ SSH ของแฮกเกอร์ลงในการตั้งค่าของเราเตอร์ ซึ่งทำให้ การเข้าถึงยังคงอยู่แม้จะมีการอัปเดตเฟิร์มแวร์หรือรีบูตอุปกรณ์ นอกจากนี้ แฮกเกอร์ยังปิดระบบล็อกและฟีเจอร์ความปลอดภัย เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ ทำให้สามารถ ควบคุมเราเตอร์ได้ในระยะยาวโดยไม่ถูกตรวจพบ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Asus พบว่าเราเตอร์กว่า 9,000 เครื่องถูกโจมตีโดยบ็อตเน็ต AyySSHush - ช่องโหว่ CVE-2023-39780 ถูกใช้เพื่อเปิด SSH บนพอร์ต TCP 53282 - แฮกเกอร์แทรกคีย์ SSH ลงในการตั้งค่าของเราเตอร์ ทำให้การเข้าถึงยังคงอยู่แม้จะอัปเดตเฟิร์มแวร์แล้ว - แฮกเกอร์ปิดระบบล็อกและฟีเจอร์ความปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ - Asus แนะนำให้รีเซ็ตโรงงานและตั้งรหัสผ่านที่แข็งแกร่งเพื่อป้องกันการโจมตี ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การอัปเดตเฟิร์มแวร์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถลบช่องโหว่ได้ หากเราเตอร์ถูกโจมตีแล้ว - ผู้ใช้ควรตรวจสอบล็อกของเราเตอร์เพื่อดูว่ามีการพยายามล็อกอินผิดพลาดหรือไม่ - เราเตอร์ที่หมดอายุการสนับสนุนควรติดตั้งเฟิร์มแวร์ล่าสุดและปิดการเข้าถึงระยะไกล - ต้องติดตามว่าบ็อตเน็ตนี้จะพัฒนาเทคนิคใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงการป้องกันหรือไม่ 🚀 วิธีป้องกันการโจมตี Asus แนะนำให้ผู้ใช้ ทำตามขั้นตอน 3 ขั้นตอนเพื่อป้องกันการโจมตี ได้แก่: 1️⃣ อัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด 2️⃣ รีเซ็ตโรงงานเพื่อกำจัดการตั้งค่าที่ไม่พึงประสงค์ 3️⃣ ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง โดยใช้ตัวอักษรใหญ่-เล็ก, ตัวเลข และสัญลักษณ์ https://www.techspot.com/news/108218-asus-urges-factory-resets-strong-passwords-following-botnet.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Asus urges factory resets and strong passwords following botnet breach
    The company's guidance follows the discovery of a widespread botnet attack that has compromised over 9,000 Asus routers globally. Known as the "AyySSHush" botnet, the campaign exploits...
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • 🔍 ช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน WordPress อาจทำให้กว่า 100,000 เว็บไซต์ตกอยู่ในความเสี่ยง
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่า TI WooCommerce Wishlist ซึ่งเป็นปลั๊กอินยอดนิยมสำหรับร้านค้าออนไลน์ มีช่องโหว่ที่เปิดให้แฮกเกอร์สามารถอัปโหลดไฟล์อันตรายได้โดยไม่ต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์ ทำให้เว็บไซต์อาจถูกเข้าควบคุมโดยสมบูรณ์

    🕵️‍♂️ รายละเอียดของช่องโหว่
    ช่องโหว่นี้ถูกติดตามภายใต้รหัส CVE-2025-47577 และได้รับคะแนนความรุนแรง 10/10 (critical) ซึ่งหมายความว่าเป็นช่องโหว่ที่มีความเสี่ยงสูงสุด

    ปลั๊กอินนี้มีการติดตั้งใช้งานมากกว่า 100,000 เว็บไซต์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็น เว็บไซต์ e-commerce ที่มีการทำธุรกรรมทางการเงิน ทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - TI WooCommerce Wishlist มีช่องโหว่ที่เปิดให้แฮกเกอร์อัปโหลดไฟล์อันตรายได้
    - ช่องโหว่นี้ถูกติดตามภายใต้รหัส CVE-2025-47577 และได้รับคะแนนความรุนแรง 10/10
    - ปลั๊กอินนี้มีการติดตั้งใช้งานมากกว่า 100,000 เว็บไซต์
    - เว็บไซต์ที่มี WC Fields Factory plugin ติดตั้งอยู่จะมีความเสี่ยงสูงขึ้น
    - เวอร์ชันล่าสุดของปลั๊กอินคือ 2.9.2 และยังไม่มีแพตช์แก้ไข

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ผู้ใช้ควรปิดการใช้งานและลบปลั๊กอิน TI WooCommerce Wishlist จนกว่าจะแก้ไขช่องโหว่
    - เว็บไซต์ e-commerce ที่ใช้ปลั๊กอินนี้อาจถูกแฮกและข้อมูลลูกค้าถูกขโมย
    - WC Fields Factory plugin อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ช่องโหว่นี้ถูกใช้โจมตีได้ง่ายขึ้น
    - ต้องติดตามการอัปเดตจากนักพัฒนาปลั๊กอินเพื่อดูว่ามีแพตช์แก้ไขออกมาเมื่อใด

    🔎 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม e-commerce
    ช่องโหว่นี้แสดงให้เห็นถึง ความสำคัญของการตรวจสอบความปลอดภัยของปลั๊กอิน WordPress โดยเฉพาะสำหรับเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงิน

    หากคุณใช้ TI WooCommerce Wishlist ควร ปิดการใช้งานและลบปลั๊กอิน จนกว่าจะแก้ไขช่องโหว่ เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/security/critical-security-flaw-could-leave-over-100-000-wordpress-sites-at-risk
    🔍 ช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน WordPress อาจทำให้กว่า 100,000 เว็บไซต์ตกอยู่ในความเสี่ยง นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่า TI WooCommerce Wishlist ซึ่งเป็นปลั๊กอินยอดนิยมสำหรับร้านค้าออนไลน์ มีช่องโหว่ที่เปิดให้แฮกเกอร์สามารถอัปโหลดไฟล์อันตรายได้โดยไม่ต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์ ทำให้เว็บไซต์อาจถูกเข้าควบคุมโดยสมบูรณ์ 🕵️‍♂️ รายละเอียดของช่องโหว่ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามภายใต้รหัส CVE-2025-47577 และได้รับคะแนนความรุนแรง 10/10 (critical) ซึ่งหมายความว่าเป็นช่องโหว่ที่มีความเสี่ยงสูงสุด ปลั๊กอินนี้มีการติดตั้งใช้งานมากกว่า 100,000 เว็บไซต์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็น เว็บไซต์ e-commerce ที่มีการทำธุรกรรมทางการเงิน ทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ✅ ข้อมูลจากข่าว - TI WooCommerce Wishlist มีช่องโหว่ที่เปิดให้แฮกเกอร์อัปโหลดไฟล์อันตรายได้ - ช่องโหว่นี้ถูกติดตามภายใต้รหัส CVE-2025-47577 และได้รับคะแนนความรุนแรง 10/10 - ปลั๊กอินนี้มีการติดตั้งใช้งานมากกว่า 100,000 เว็บไซต์ - เว็บไซต์ที่มี WC Fields Factory plugin ติดตั้งอยู่จะมีความเสี่ยงสูงขึ้น - เวอร์ชันล่าสุดของปลั๊กอินคือ 2.9.2 และยังไม่มีแพตช์แก้ไข ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ผู้ใช้ควรปิดการใช้งานและลบปลั๊กอิน TI WooCommerce Wishlist จนกว่าจะแก้ไขช่องโหว่ - เว็บไซต์ e-commerce ที่ใช้ปลั๊กอินนี้อาจถูกแฮกและข้อมูลลูกค้าถูกขโมย - WC Fields Factory plugin อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ช่องโหว่นี้ถูกใช้โจมตีได้ง่ายขึ้น - ต้องติดตามการอัปเดตจากนักพัฒนาปลั๊กอินเพื่อดูว่ามีแพตช์แก้ไขออกมาเมื่อใด 🔎 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม e-commerce ช่องโหว่นี้แสดงให้เห็นถึง ความสำคัญของการตรวจสอบความปลอดภัยของปลั๊กอิน WordPress โดยเฉพาะสำหรับเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงิน หากคุณใช้ TI WooCommerce Wishlist ควร ปิดการใช้งานและลบปลั๊กอิน จนกว่าจะแก้ไขช่องโหว่ เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น https://www.techradar.com/pro/security/critical-security-flaw-could-leave-over-100-000-wordpress-sites-at-risk
    0 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
  • 🔍 การโจมตี Asus Routers ด้วยมัลแวร์ ViciousTrap
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก GreyNoise พบว่ามีการโจมตี Asus routers กว่า 9,000 เครื่อง ด้วย ViciousTrap backdoor ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต

    แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่หลายจุด รวมถึง CVE-2023-39780 เพื่อเข้าถึงและควบคุมเราเตอร์ โดยใช้ brute-force login และเปิด SSH access ผ่านพอร์ตเฉพาะ จากนั้นพวกเขาจะฝัง public encryption key เพื่อให้สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ได้จากระยะไกล

    มัลแวร์นี้ถูกเก็บไว้ใน NVRAM ทำให้สามารถอยู่รอดได้แม้จะมีการรีบูตหรืออัปเดตเฟิร์มแวร์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - GreyNoise พบว่า Asus routers กว่า 9,000 เครื่องถูกโจมตีด้วย ViciousTrap backdoor
    - แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ CVE-2023-39780 และ brute-force login เพื่อเข้าถึงอุปกรณ์
    - มัลแวร์ถูกเก็บไว้ใน NVRAM ทำให้สามารถอยู่รอดได้แม้จะมีการรีบูตหรืออัปเดตเฟิร์มแวร์
    - Asus ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่แล้ว แต่ต้องมีการตรวจสอบและปิด SSH access ด้วยตนเอง
    - GreyNoise แนะนำให้ตรวจสอบการเชื่อมต่อจาก IP ที่น่าสงสัย เช่น 101.99.91.151 และ 79.141.163.179

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - หากไม่ได้ปิด SSH access ด้วยตนเอง มัลแวร์จะยังคงอยู่แม้จะอัปเดตเฟิร์มแวร์แล้ว
    - มัลแวร์นี้สามารถทำให้แฮกเกอร์ควบคุมเราเตอร์จากระยะไกลได้โดยไม่ถูกตรวจจับ
    - GreyNoise ยังไม่สามารถระบุเป้าหมายของแฮกเกอร์ได้ อาจเป็นการเตรียมการโจมตีขนาดใหญ่
    - ควรทำ factory reset หากสงสัยว่าเราเตอร์ถูกโจมตี และตั้งค่าความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด

    🔧 วิธีป้องกันและแก้ไข
    หากคุณใช้ Asus routers ควรตรวจสอบว่าเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด และปิด SSH access ที่ไม่ได้ใช้งาน นอกจากนี้ ควรตรวจสอบ IP ที่น่าสงสัย และทำ factory reset หากพบพฤติกรรมผิดปกติ

    การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการอัปเดตเฟิร์มแวร์และการตั้งค่าความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่าย เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

    https://www.techspot.com/news/108109-thousands-asus-routers-compromised-vicioustrap-backdoor.html
    🔍 การโจมตี Asus Routers ด้วยมัลแวร์ ViciousTrap นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก GreyNoise พบว่ามีการโจมตี Asus routers กว่า 9,000 เครื่อง ด้วย ViciousTrap backdoor ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่หลายจุด รวมถึง CVE-2023-39780 เพื่อเข้าถึงและควบคุมเราเตอร์ โดยใช้ brute-force login และเปิด SSH access ผ่านพอร์ตเฉพาะ จากนั้นพวกเขาจะฝัง public encryption key เพื่อให้สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ได้จากระยะไกล มัลแวร์นี้ถูกเก็บไว้ใน NVRAM ทำให้สามารถอยู่รอดได้แม้จะมีการรีบูตหรืออัปเดตเฟิร์มแวร์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - GreyNoise พบว่า Asus routers กว่า 9,000 เครื่องถูกโจมตีด้วย ViciousTrap backdoor - แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ CVE-2023-39780 และ brute-force login เพื่อเข้าถึงอุปกรณ์ - มัลแวร์ถูกเก็บไว้ใน NVRAM ทำให้สามารถอยู่รอดได้แม้จะมีการรีบูตหรืออัปเดตเฟิร์มแวร์ - Asus ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่แล้ว แต่ต้องมีการตรวจสอบและปิด SSH access ด้วยตนเอง - GreyNoise แนะนำให้ตรวจสอบการเชื่อมต่อจาก IP ที่น่าสงสัย เช่น 101.99.91.151 และ 79.141.163.179 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - หากไม่ได้ปิด SSH access ด้วยตนเอง มัลแวร์จะยังคงอยู่แม้จะอัปเดตเฟิร์มแวร์แล้ว - มัลแวร์นี้สามารถทำให้แฮกเกอร์ควบคุมเราเตอร์จากระยะไกลได้โดยไม่ถูกตรวจจับ - GreyNoise ยังไม่สามารถระบุเป้าหมายของแฮกเกอร์ได้ อาจเป็นการเตรียมการโจมตีขนาดใหญ่ - ควรทำ factory reset หากสงสัยว่าเราเตอร์ถูกโจมตี และตั้งค่าความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด 🔧 วิธีป้องกันและแก้ไข หากคุณใช้ Asus routers ควรตรวจสอบว่าเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด และปิด SSH access ที่ไม่ได้ใช้งาน นอกจากนี้ ควรตรวจสอบ IP ที่น่าสงสัย และทำ factory reset หากพบพฤติกรรมผิดปกติ การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการอัปเดตเฟิร์มแวร์และการตั้งค่าความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่าย เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต https://www.techspot.com/news/108109-thousands-asus-routers-compromised-vicioustrap-backdoor.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Thousands of Asus routers compromised by "ViciousTrap" backdoor
    Analysts at GreyNoise have uncovered a mysterious backdoor-based campaign affecting more than 9,000 Asus routers. The unknown cybercriminals are exploiting security vulnerabilities – some of which have...
    0 Comments 0 Shares 173 Views 0 Reviews
  • ภาพ PCB ของ AMD RX 9060 XT หลุดจากโรงงาน Gigabyte

    เว็บไซต์ HW Cooling เผยแพร่ภาพ PCB ของการ์ดจอ AMD Radeon RX 9060 XT จากโรงงาน Gigabyte ซึ่งแสดงให้เห็น การจัดวางชิ้นส่วน, หน่วยความจำ GDDR6 จาก SK Hynix และรายละเอียดอื่น ๆ โดยการ์ดจอรุ่นนี้ คาดว่าจะวางจำหน่ายในวันที่ 5 มิถุนายน

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ AMD RX 9060 XT
    ✅ ภาพ PCB แสดงให้เห็นชิป Navi 44 และหน่วยความจำ GDDR6 จาก SK Hynix
    - แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นรุ่น 8GB หรือ 16GB

    ✅ Gigabyte มีแผนเปิดตัว RX 9060 XT ทั้งหมด 4 รุ่น
    - ทุกโมเดล เป็นการ์ดจอแบบสองสล็อตและใช้พัดลมสามตัว

    ✅ การ์ดจอใช้พอร์ต PCIe 5.0 x16 และมีช่องเสียบไฟ 8-pin เพียงช่องเดียว
    - อาจช่วยให้ การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ AMD ตัดสินใจให้ RX 9060 XT มีเพียง 3 พอร์ตแสดงผล
    - ซึ่ง ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บางกลุ่ม

    ✅ ราคาของ RX 9060 XT รุ่น 8GB อยู่ที่ 299 ดอลลาร์ และรุ่น 16GB อยู่ที่ 349 ดอลลาร์
    - คาดว่า จะมีวางจำหน่ายอย่างแพร่หลายในวันที่ 5 มิถุนายน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/stray-amd-rx-9060-xt-pcb-photo-emerges-from-gigabyte-factory-tour
    ภาพ PCB ของ AMD RX 9060 XT หลุดจากโรงงาน Gigabyte เว็บไซต์ HW Cooling เผยแพร่ภาพ PCB ของการ์ดจอ AMD Radeon RX 9060 XT จากโรงงาน Gigabyte ซึ่งแสดงให้เห็น การจัดวางชิ้นส่วน, หน่วยความจำ GDDR6 จาก SK Hynix และรายละเอียดอื่น ๆ โดยการ์ดจอรุ่นนี้ คาดว่าจะวางจำหน่ายในวันที่ 5 มิถุนายน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ AMD RX 9060 XT ✅ ภาพ PCB แสดงให้เห็นชิป Navi 44 และหน่วยความจำ GDDR6 จาก SK Hynix - แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นรุ่น 8GB หรือ 16GB ✅ Gigabyte มีแผนเปิดตัว RX 9060 XT ทั้งหมด 4 รุ่น - ทุกโมเดล เป็นการ์ดจอแบบสองสล็อตและใช้พัดลมสามตัว ✅ การ์ดจอใช้พอร์ต PCIe 5.0 x16 และมีช่องเสียบไฟ 8-pin เพียงช่องเดียว - อาจช่วยให้ การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ AMD ตัดสินใจให้ RX 9060 XT มีเพียง 3 พอร์ตแสดงผล - ซึ่ง ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บางกลุ่ม ✅ ราคาของ RX 9060 XT รุ่น 8GB อยู่ที่ 299 ดอลลาร์ และรุ่น 16GB อยู่ที่ 349 ดอลลาร์ - คาดว่า จะมีวางจำหน่ายอย่างแพร่หลายในวันที่ 5 มิถุนายน https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/stray-amd-rx-9060-xt-pcb-photo-emerges-from-gigabyte-factory-tour
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Stray AMD RX 9060 XT PCB photo emerges from Gigabyte factory tour
    The photo clearly shows the board layout, SK Hynix GDDR6, and more.
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • งาน Dell Technologies World 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ณ ลาสเวกัส มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ๆ ที่เน้นเทคโนโลยี AI และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับองค์กร ดังนี้:
    1️⃣ Dell AI Factory with NVIDIA 2.0
    - อัปเกรดจากเวอร์ชันแรกที่เปิดตัวในปี 2024 เป็นโซลูชันที่รวมโครงสร้างพื้นฐาน AI อันทรงพลังและประหยัดพลังงาน รองรับการประมวลผล AI ในระดับองค์กร
    - รองรับการใช้งาน Large Language Models (LLMs) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีค่าใช้จ่ายในการประมวลผลบน On-Premises ถูกกว่าการใช้ Public Cloud สูงสุดถึง 62%
    - รองรับ GPU สูงสุด 256 ตัวในเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge เพื่อประมวลผล AI ขนาดใหญ่
    2️⃣ เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge รุ่นใหม่
    - ออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผล AI โดยเฉพาะ รองรับ NVIDIA GPUs เช่น GB10 และ GB300 รวมถึง RTX Pro Enterprise Server Edition สำหรับงาน AI ในระดับองค์กร
    - มีการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงานให้เหมาะสมกับ AI Factories
    3️⃣ Dell Project Lightning
    - ระบบไฟล์แบบ Parallel ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วย Throughput สูงกว่าคู่แข่งถึง 2 เท่า ช่วยเร่งการฝึกอบรม AI และจัดการเวิร์กโหลดที่ซับซ้อน
    - เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่น Recommendation Engines และ Semantic Search
    4️⃣ Dell Data Lakehouse Enhancements
    - ปรับปรุงเพื่อลดความซับซ้อนของเวิร์กโฟลว์ AI ช่วยให้สร้างและจัดการชุดข้อมูลที่พร้อมสำหรับ AI ได้ง่ายขึ้น รองรับ use cases เช่น การตรวจจับเจตนาของลูกค้า
    5️⃣ พีซี AI รุ่นใหม่
    - เปิดตัวพีซีเครื่องแรกของโลกที่มาพร้อม Qualcomm AI Accelerator แบบ Discrete เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI ที่ Edge
    - Dell Pro Max และ Pro Max Plus รุ่นใหม่ ใช้ชิป Qualcomm แทน NVIDIA เพื่อการประมวลผล AI ที่ Edge อย่างมีประสิทธิภาพ
    6️⃣ Dell Linear Pluggable Optics
    - เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ลด Latency และประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับ High Performance Computing (HPC) และ AI Fabrics
    7️⃣ Dell AI Security and Resiliency Services
    - บริการด้านความปลอดภัยและความยืดหยุ่นสำหรับ AI คาดว่าจะวางจำหน่ายในบางประเทศตั้งแต่มิถุนายน 2568
    8️⃣ จอภาพและอุปกรณ์ใหม่
    - จอ Dell UltraSharp 32 4K Thunderbolt Hub Monitor: จอแรกของโลกที่มี IPS Black Contrast Ratio 3000:1 ได้รับคะแนน 5 ดาวด้าน Eye Comfort
    - จอ Dell 32 Plus 4K QD-OLED Monitor: มาพร้อม 3D Spatial Audio และ Dolby Vision
    - Area-51 Desktop และ Laptop (16 และ 18 นิ้ว): ออกแบบใหม่สำหรับเกมเมอร์ ด้วยเทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูงและดีไซน์ Sci-Fi
    9️⃣ Dell NativeEdge AI Updates
    - อัปเดตซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการ AI ที่ Edge วางจำหน่ายแล้วในบางประเทศ
    ℹ️ℹ️ หมายเหตุ ℹ️ℹ️
    - งานนี้เน้นหนักไปที่ AI และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อย่าง NVIDIA, AMD, Intel, และ Qualcomm เพื่อเสริมแกร่งโซลูชัน
    - ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เน้นการใช้งานในระดับองค์กร แต่ก็มีบางส่วน เช่น จอภาพและพีซี Area-51 ที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคและเกมเมอร์
    - ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ อาจมีการอัปเดตเพิ่มเติม สามารถติดตามผ่านเว็บไซต์ Dell หรือ session recaps จากงาน

    งาน Dell Technologies World 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ณ ลาสเวกัส มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ๆ ที่เน้นเทคโนโลยี AI และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับองค์กร ดังนี้: 1️⃣ Dell AI Factory with NVIDIA 2.0 - อัปเกรดจากเวอร์ชันแรกที่เปิดตัวในปี 2024 เป็นโซลูชันที่รวมโครงสร้างพื้นฐาน AI อันทรงพลังและประหยัดพลังงาน รองรับการประมวลผล AI ในระดับองค์กร - รองรับการใช้งาน Large Language Models (LLMs) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีค่าใช้จ่ายในการประมวลผลบน On-Premises ถูกกว่าการใช้ Public Cloud สูงสุดถึง 62% - รองรับ GPU สูงสุด 256 ตัวในเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge เพื่อประมวลผล AI ขนาดใหญ่ 2️⃣ เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge รุ่นใหม่ - ออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผล AI โดยเฉพาะ รองรับ NVIDIA GPUs เช่น GB10 และ GB300 รวมถึง RTX Pro Enterprise Server Edition สำหรับงาน AI ในระดับองค์กร - มีการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงานให้เหมาะสมกับ AI Factories 3️⃣ Dell Project Lightning - ระบบไฟล์แบบ Parallel ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วย Throughput สูงกว่าคู่แข่งถึง 2 เท่า ช่วยเร่งการฝึกอบรม AI และจัดการเวิร์กโหลดที่ซับซ้อน - เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่น Recommendation Engines และ Semantic Search 4️⃣ Dell Data Lakehouse Enhancements - ปรับปรุงเพื่อลดความซับซ้อนของเวิร์กโฟลว์ AI ช่วยให้สร้างและจัดการชุดข้อมูลที่พร้อมสำหรับ AI ได้ง่ายขึ้น รองรับ use cases เช่น การตรวจจับเจตนาของลูกค้า 5️⃣ พีซี AI รุ่นใหม่ - เปิดตัวพีซีเครื่องแรกของโลกที่มาพร้อม Qualcomm AI Accelerator แบบ Discrete เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI ที่ Edge - Dell Pro Max และ Pro Max Plus รุ่นใหม่ ใช้ชิป Qualcomm แทน NVIDIA เพื่อการประมวลผล AI ที่ Edge อย่างมีประสิทธิภาพ 6️⃣ Dell Linear Pluggable Optics - เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ลด Latency และประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับ High Performance Computing (HPC) และ AI Fabrics 7️⃣ Dell AI Security and Resiliency Services - บริการด้านความปลอดภัยและความยืดหยุ่นสำหรับ AI คาดว่าจะวางจำหน่ายในบางประเทศตั้งแต่มิถุนายน 2568 8️⃣ จอภาพและอุปกรณ์ใหม่ - จอ Dell UltraSharp 32 4K Thunderbolt Hub Monitor: จอแรกของโลกที่มี IPS Black Contrast Ratio 3000:1 ได้รับคะแนน 5 ดาวด้าน Eye Comfort - จอ Dell 32 Plus 4K QD-OLED Monitor: มาพร้อม 3D Spatial Audio และ Dolby Vision - Area-51 Desktop และ Laptop (16 และ 18 นิ้ว): ออกแบบใหม่สำหรับเกมเมอร์ ด้วยเทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูงและดีไซน์ Sci-Fi 9️⃣ Dell NativeEdge AI Updates - อัปเดตซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการ AI ที่ Edge วางจำหน่ายแล้วในบางประเทศ ℹ️ℹ️ หมายเหตุ ℹ️ℹ️ - งานนี้เน้นหนักไปที่ AI และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อย่าง NVIDIA, AMD, Intel, และ Qualcomm เพื่อเสริมแกร่งโซลูชัน - ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เน้นการใช้งานในระดับองค์กร แต่ก็มีบางส่วน เช่น จอภาพและพีซี Area-51 ที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคและเกมเมอร์ - ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ อาจมีการอัปเดตเพิ่มเติม สามารถติดตามผ่านเว็บไซต์ Dell หรือ session recaps จากงาน
    0 Comments 0 Shares 349 Views 0 Reviews
  • Dell Technologies World 2025: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกเทคโนโลยี

    งาน Dell Technologies World 2025 ได้เผยโฉมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะมีบทบาทสำคัญในอนาคต โดยเน้นไปที่ AI, Cloud Computing, และโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล พร้อมการอภิปรายจากบุคคลสำคัญในวงการ

    🔍 ไฮไลท์สำคัญจากงาน Dell Technologies World 2025
    ✅ Dell เปิดตัว AI Factory รุ่นใหม่
    - เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถ นำ AI ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI มากกว่าการลงทุนในโครงการ Apollo ที่ส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์

    ✅ Dell ร่วมมือกับ Google นำ Gemini AI มาสู่เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge
    - ลูกค้าของ Dell สามารถใช้โมเดล AI ของ Google ได้โดยตรงบนเซิร์ฟเวอร์ของตน

    ✅ เปิดตัว Dell AI Data Platform และ Data Lakehouse
    - ช่วยให้ธุรกิจสามารถ จัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - รองรับการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์

    ✅ Dell เปิดตัว AI PC รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
    - มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น และรองรับการประมวลผล AI บนเครื่องโดยตรง

    ✅ การอภิปรายเกี่ยวกับ AI ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
    - Tom Hanks และ Ron Howard พูดถึงผลกระทบของ AI ต่อการสร้างภาพยนตร์
    - มีการถกเถียงเกี่ยวกับ การใช้ Deepfake และ CGI ในอนาคต

    ‼️ AI อาจเข้ามาแทนที่บางอาชีพในอนาคต
    - ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำให้ธุรกิจปรับตัวและพัฒนาทักษะใหม่ ๆ

    ‼️ การใช้ AI ในภาพยนตร์อาจต้องการกฎหมายควบคุม
    - Tom Hanks เรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของบุคคลในโลกดิจิทัล

    https://www.techradar.com/pro/live/dell-technologies-world-2025-all-the-latest-news-and-updates-live
    Dell Technologies World 2025: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกเทคโนโลยี งาน Dell Technologies World 2025 ได้เผยโฉมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะมีบทบาทสำคัญในอนาคต โดยเน้นไปที่ AI, Cloud Computing, และโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล พร้อมการอภิปรายจากบุคคลสำคัญในวงการ 🔍 ไฮไลท์สำคัญจากงาน Dell Technologies World 2025 ✅ Dell เปิดตัว AI Factory รุ่นใหม่ - เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถ นำ AI ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น - มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI มากกว่าการลงทุนในโครงการ Apollo ที่ส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ ✅ Dell ร่วมมือกับ Google นำ Gemini AI มาสู่เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge - ลูกค้าของ Dell สามารถใช้โมเดล AI ของ Google ได้โดยตรงบนเซิร์ฟเวอร์ของตน ✅ เปิดตัว Dell AI Data Platform และ Data Lakehouse - ช่วยให้ธุรกิจสามารถ จัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น - รองรับการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ✅ Dell เปิดตัว AI PC รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น - มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น และรองรับการประมวลผล AI บนเครื่องโดยตรง ✅ การอภิปรายเกี่ยวกับ AI ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ - Tom Hanks และ Ron Howard พูดถึงผลกระทบของ AI ต่อการสร้างภาพยนตร์ - มีการถกเถียงเกี่ยวกับ การใช้ Deepfake และ CGI ในอนาคต ‼️ AI อาจเข้ามาแทนที่บางอาชีพในอนาคต - ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำให้ธุรกิจปรับตัวและพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ‼️ การใช้ AI ในภาพยนตร์อาจต้องการกฎหมายควบคุม - Tom Hanks เรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของบุคคลในโลกดิจิทัล https://www.techradar.com/pro/live/dell-technologies-world-2025-all-the-latest-news-and-updates-live
    0 Comments 0 Shares 277 Views 0 Reviews
  • สรุปข่าว ℹ️ วันแรก ℹ️ ในงาน Microsoft Build 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองซีแอตเทิล

    ในวันแรกมีการประกาศนวัตกรรมสำคัญที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา โดยสรุปข่าวสำคัญดังนี้:

    1) Microsoft Discovery: เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ Agent AI เพื่อพลิกโฉมกระบวนการค้นคว้าและวิจัยวิทยาศาสตร์ ช่วยให้การวิจัยมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น.

    2) GitHub Copilot ปรับโฉมเป็น Coding Agent: จากเครื่องมือช่วยเขียนโค้ด กลายเป็น "เพื่อนนักพัฒนา" ที่สามารถแก้บั๊ก พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ และจัดการ GitHub Issues ได้โดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพนักพัฒนา.

    3) Copilot Tuning: เพิ่มความสามารถในการปรับแต่ง GitHub Copilot ให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของนักพัฒนา ช่วยให้การเขียนโค้ดเป็นไปอย่างแม่นยำและตรงความต้องการมากขึ้น.

    4.) Windows AI Foundry: เปิดตัวแพลตฟอร์มที่ช่วยนักพัฒนาสร้างฟีเจอร์ AI บน Windows รองรับการทำงานทั้งบน CPU, GPU และคลาวด์ เพิ่มความยืดหยุ่นในการพัฒนา.

    5) Agent Factory (Azure AI Foundry): เครื่องมือใหม่ใน Azure ที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้าง AI Agent ได้ง่ายขึ้น รองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI.

    6) NLWeb: เทคโนโลยีที่ช่วยให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ (Natural Language) บนเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น เปลี่ยนวิธีที่ผู้ใช้และนักพัฒนาโต้ตอบกับแพลตฟอร์มออนไลน์.

    7) Open Agentic Web: Microsoft ผลักดันแนวคิดการพัฒนาเว็บที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent โดยมีการอัปเดตที่เน้นความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของ AI Agent.

    8) การสนับสนุน Model Context Protocol (MCP): ร่วมมือกับ Anthropic เพื่อเพิ่มการรองรับ MCP ใน Windows และ Visual Studio Copilot ซึ่งจะกลายเป็นโอเพ่นซอร์ส ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้ง่ายขึ้น.

    9) Project Haven: เปิดตัวโครงการเพื่อใช้งาน Kubernetes บน Edge Device ช่วยให้การจัดการแอปพลิเคชันในสภาพแวดล้อมเอดจ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น.

    นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงความร่วมมือระดับโลก เช่น การปรากฏตัวของ Satya Nadella, Elon Musk, Jensen Huang และ Sam Altman ในงาน ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของ AI ในวงการเทคโนโลยี. งานนี้เน้นย้ำว่า Microsoft มุ่งพัฒนา AI เพื่อเปลี่ยนแปลงวงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์และเพิ่มศักยภาพให้กับนักพัฒนาทั่วโลก.

    สรุปข่าว ℹ️ วันแรก ℹ️ ในงาน Microsoft Build 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองซีแอตเทิล ในวันแรกมีการประกาศนวัตกรรมสำคัญที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา โดยสรุปข่าวสำคัญดังนี้: 1) Microsoft Discovery: เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ Agent AI เพื่อพลิกโฉมกระบวนการค้นคว้าและวิจัยวิทยาศาสตร์ ช่วยให้การวิจัยมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น. 2) GitHub Copilot ปรับโฉมเป็น Coding Agent: จากเครื่องมือช่วยเขียนโค้ด กลายเป็น "เพื่อนนักพัฒนา" ที่สามารถแก้บั๊ก พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ และจัดการ GitHub Issues ได้โดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพนักพัฒนา. 3) Copilot Tuning: เพิ่มความสามารถในการปรับแต่ง GitHub Copilot ให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของนักพัฒนา ช่วยให้การเขียนโค้ดเป็นไปอย่างแม่นยำและตรงความต้องการมากขึ้น. 4.) Windows AI Foundry: เปิดตัวแพลตฟอร์มที่ช่วยนักพัฒนาสร้างฟีเจอร์ AI บน Windows รองรับการทำงานทั้งบน CPU, GPU และคลาวด์ เพิ่มความยืดหยุ่นในการพัฒนา. 5) Agent Factory (Azure AI Foundry): เครื่องมือใหม่ใน Azure ที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้าง AI Agent ได้ง่ายขึ้น รองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI. 6) NLWeb: เทคโนโลยีที่ช่วยให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ (Natural Language) บนเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น เปลี่ยนวิธีที่ผู้ใช้และนักพัฒนาโต้ตอบกับแพลตฟอร์มออนไลน์. 7) Open Agentic Web: Microsoft ผลักดันแนวคิดการพัฒนาเว็บที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent โดยมีการอัปเดตที่เน้นความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของ AI Agent. 8) การสนับสนุน Model Context Protocol (MCP): ร่วมมือกับ Anthropic เพื่อเพิ่มการรองรับ MCP ใน Windows และ Visual Studio Copilot ซึ่งจะกลายเป็นโอเพ่นซอร์ส ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้ง่ายขึ้น. 9) Project Haven: เปิดตัวโครงการเพื่อใช้งาน Kubernetes บน Edge Device ช่วยให้การจัดการแอปพลิเคชันในสภาพแวดล้อมเอดจ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น. นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงความร่วมมือระดับโลก เช่น การปรากฏตัวของ Satya Nadella, Elon Musk, Jensen Huang และ Sam Altman ในงาน ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของ AI ในวงการเทคโนโลยี. งานนี้เน้นย้ำว่า Microsoft มุ่งพัฒนา AI เพื่อเปลี่ยนแปลงวงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์และเพิ่มศักยภาพให้กับนักพัฒนาทั่วโลก.
    0 Comments 0 Shares 226 Views 0 Reviews
  • Google เพิ่มระบบป้องกันการโจรกรรมให้ Android: ทำให้โทรศัพท์ที่ถูกขโมยใช้งานไม่ได้

    Google ได้เปิดตัว ระบบป้องกันการโจรกรรมที่ปรับปรุงใหม่ สำหรับ Android ซึ่งช่วยให้ โทรศัพท์ที่ถูกขโมยไม่สามารถใช้งานได้ แม้จะถูกรีเซ็ตเป็นค่าโรงงาน โดยฟีเจอร์นี้จะเปิดตัวพร้อมกับ Android 16 ในช่วงปลายปีนี้

    ✅ Android มีระบบป้องกันการโจรกรรมที่ล็อกอุปกรณ์และป้องกันการรีเซ็ตโรงงาน
    - ทำให้ โทรศัพท์ที่ถูกขโมยไม่สามารถรีเซ็ตและขายต่อได้

    ✅ Google ปรับปรุงระบบ Factory Reset Protection ให้แข็งแกร่งขึ้น
    - หากมีการรีเซ็ตโดยไม่ได้รับอนุญาต อุปกรณ์จะถูกล็อกและไม่สามารถใช้งานได้

    ✅ เจ้าของสามารถกู้คืนอุปกรณ์ที่ถูกขโมยผ่านการตรวจสอบสิทธิ์
    - ต้องใช้ รหัสผ่านล่าสุดหรือบัญชี Google ที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์

    ✅ ฟีเจอร์นี้จะเปิดตัวพร้อมกับ Android 16 ในช่วงปลายปี 2025
    - คาดว่าจะมาพร้อมกับ Quarterly Platform Release

    ✅ Android 16 จะมีดีไซน์ใหม่ Material 3 Expressive
    - เน้น สี, รูปร่าง, ขนาด, การเคลื่อนไหว และการจัดวาง เพื่อปรับปรุงการใช้งาน

    https://www.techspot.com/news/107914-google-enhancing-android-theft-protection-feature-make-stolen.html
    Google เพิ่มระบบป้องกันการโจรกรรมให้ Android: ทำให้โทรศัพท์ที่ถูกขโมยใช้งานไม่ได้ Google ได้เปิดตัว ระบบป้องกันการโจรกรรมที่ปรับปรุงใหม่ สำหรับ Android ซึ่งช่วยให้ โทรศัพท์ที่ถูกขโมยไม่สามารถใช้งานได้ แม้จะถูกรีเซ็ตเป็นค่าโรงงาน โดยฟีเจอร์นี้จะเปิดตัวพร้อมกับ Android 16 ในช่วงปลายปีนี้ ✅ Android มีระบบป้องกันการโจรกรรมที่ล็อกอุปกรณ์และป้องกันการรีเซ็ตโรงงาน - ทำให้ โทรศัพท์ที่ถูกขโมยไม่สามารถรีเซ็ตและขายต่อได้ ✅ Google ปรับปรุงระบบ Factory Reset Protection ให้แข็งแกร่งขึ้น - หากมีการรีเซ็ตโดยไม่ได้รับอนุญาต อุปกรณ์จะถูกล็อกและไม่สามารถใช้งานได้ ✅ เจ้าของสามารถกู้คืนอุปกรณ์ที่ถูกขโมยผ่านการตรวจสอบสิทธิ์ - ต้องใช้ รหัสผ่านล่าสุดหรือบัญชี Google ที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์ ✅ ฟีเจอร์นี้จะเปิดตัวพร้อมกับ Android 16 ในช่วงปลายปี 2025 - คาดว่าจะมาพร้อมกับ Quarterly Platform Release ✅ Android 16 จะมีดีไซน์ใหม่ Material 3 Expressive - เน้น สี, รูปร่าง, ขนาด, การเคลื่อนไหว และการจัดวาง เพื่อปรับปรุงการใช้งาน https://www.techspot.com/news/107914-google-enhancing-android-theft-protection-feature-make-stolen.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Android is making stolen phones unusable with enhanced theft protection
    Google hosted The Android Show: I/O Edition this week, offering a preview of Android 16 and Wear OS 6. While Gemini AI stole the spotlight, the company...
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • หุ่นยนต์ Unitree เกิดข้อผิดพลาดในโรงงาน เกือบทำร้ายพนักงาน วิดีโอที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็น หุ่นยนต์ Unitree H1 เกิดข้อผิดพลาดในโรงงาน โดยเริ่ม แกว่งแขนอย่างรุนแรงและเดินไปข้างหน้า ทำให้พนักงานต้อง หลบหลีกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่หนึ่งในพนักงานจะสามารถ ควบคุมหุ่นยนต์ได้โดยจับสายรัด

    https://x.com/sentdefender/status/1918879138019946557

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใน โรงงานทดสอบในประเทศจีน และคาดว่า อาจเกิดจากข้อผิดพลาดทางซอฟต์แวร์ อย่างไรก็ตาม Unitree ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสาเหตุของปัญหา

    ✅ หุ่นยนต์ Unitree H1 เกิดข้อผิดพลาดในโรงงานทดสอบในจีน
    - เริ่ม แกว่งแขนอย่างรุนแรงและเดินไปข้างหน้า
    - พนักงานต้อง หลบหลีกก่อนควบคุมหุ่นยนต์ได้

    ✅ คาดว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากข้อผิดพลาดทางซอฟต์แวร์
    - Unitree ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสาเหตุของปัญหา

    ✅ เหตุการณ์คล้ายกันเคยเกิดขึ้นในงาน Tianjin Winter Gala Festival
    - หุ่นยนต์ Unitree H1 พุ่งเข้าหาผู้ชมโดยไม่คาดคิด

    ✅ Unitree G1 เป็นหุ่นยนต์ผู้ช่วยในบ้านที่มีราคาประมาณ $16,000
    - ใช้ กล้อง 3D Lidar และสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ผ่านการเลียนแบบ

    ✅ บริษัทอื่น ๆ กำลังทดสอบหุ่นยนต์ในคลังสินค้า
    - เช่น Apptronik และ Jabil กำลังทดลองใช้หุ่นยนต์ในการประกอบแผงวงจร

    https://www.techspot.com/news/107856-factory-video-shows-unitree-robot-going-berserk-nearly.html
    หุ่นยนต์ Unitree เกิดข้อผิดพลาดในโรงงาน เกือบทำร้ายพนักงาน วิดีโอที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็น หุ่นยนต์ Unitree H1 เกิดข้อผิดพลาดในโรงงาน โดยเริ่ม แกว่งแขนอย่างรุนแรงและเดินไปข้างหน้า ทำให้พนักงานต้อง หลบหลีกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่หนึ่งในพนักงานจะสามารถ ควบคุมหุ่นยนต์ได้โดยจับสายรัด https://x.com/sentdefender/status/1918879138019946557 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใน โรงงานทดสอบในประเทศจีน และคาดว่า อาจเกิดจากข้อผิดพลาดทางซอฟต์แวร์ อย่างไรก็ตาม Unitree ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสาเหตุของปัญหา ✅ หุ่นยนต์ Unitree H1 เกิดข้อผิดพลาดในโรงงานทดสอบในจีน - เริ่ม แกว่งแขนอย่างรุนแรงและเดินไปข้างหน้า - พนักงานต้อง หลบหลีกก่อนควบคุมหุ่นยนต์ได้ ✅ คาดว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากข้อผิดพลาดทางซอฟต์แวร์ - Unitree ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสาเหตุของปัญหา ✅ เหตุการณ์คล้ายกันเคยเกิดขึ้นในงาน Tianjin Winter Gala Festival - หุ่นยนต์ Unitree H1 พุ่งเข้าหาผู้ชมโดยไม่คาดคิด ✅ Unitree G1 เป็นหุ่นยนต์ผู้ช่วยในบ้านที่มีราคาประมาณ $16,000 - ใช้ กล้อง 3D Lidar และสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ผ่านการเลียนแบบ ✅ บริษัทอื่น ๆ กำลังทดสอบหุ่นยนต์ในคลังสินค้า - เช่น Apptronik และ Jabil กำลังทดลองใช้หุ่นยนต์ในการประกอบแผงวงจร https://www.techspot.com/news/107856-factory-video-shows-unitree-robot-going-berserk-nearly.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Factory video shows Unitree robot going berserk, nearly injuring workers
    A chilling video that recently began circulating on social media allegedly shows a Unitree robot going berserk in a factory, nearly injuring two nearby workers. The cause...
    0 Comments 0 Shares 304 Views 0 Reviews
  • Nvidia กำลังขยายธุรกิจจาก AI compute ไปสู่การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ด้วยการเปิดตัว DOCA Argus ซึ่งเป็น เครื่องมือรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI

    DOCA Argus เป็นส่วนหนึ่งของ แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ DOCA และทำงานบน ฮาร์ดแวร์เครือข่าย BlueField โดยสามารถ ตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ

    ✅ DOCA Argus เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI
    - ทำงานบน ฮาร์ดแวร์เครือข่าย BlueField
    - สามารถ ตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ

    ✅ Cisco และ Nvidia ร่วมมือกันเพื่อสร้าง Secure AI Factory
    - มีเป้าหมายเพื่อ รักษาความปลอดภัยให้กับโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่สามารถขยายตัวได้

    ✅ DOCA Argus ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อตรวจจับภัยคุกคาม
    - สามารถ ตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วกว่าโซลูชันแบบไม่มีตัวแทนถึง 1,000 เท่า

    ✅ ระบบสามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ เช่น SIEM, SOAR และ XDR
    - ช่วยให้ องค์กรสามารถรวม DOCA Argus เข้ากับระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ได้ง่ายขึ้น

    ✅ DOCA Argus ได้รับการฝึกด้วยข้อมูลความปลอดภัยภายในของ Nvidia
    - ลดจำนวนการแจ้งเตือนที่ผิดพลาด เพื่อให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามจริงได้เร็วขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/after-ai-nvidia-wants-to-own-a-slice-of-that-sweet-trillion-dollar-cybersecurity-pie-with-its-new-doca-software-platfom
    Nvidia กำลังขยายธุรกิจจาก AI compute ไปสู่การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ด้วยการเปิดตัว DOCA Argus ซึ่งเป็น เครื่องมือรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI DOCA Argus เป็นส่วนหนึ่งของ แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ DOCA และทำงานบน ฮาร์ดแวร์เครือข่าย BlueField โดยสามารถ ตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ ✅ DOCA Argus เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI - ทำงานบน ฮาร์ดแวร์เครือข่าย BlueField - สามารถ ตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ ✅ Cisco และ Nvidia ร่วมมือกันเพื่อสร้าง Secure AI Factory - มีเป้าหมายเพื่อ รักษาความปลอดภัยให้กับโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่สามารถขยายตัวได้ ✅ DOCA Argus ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อตรวจจับภัยคุกคาม - สามารถ ตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วกว่าโซลูชันแบบไม่มีตัวแทนถึง 1,000 เท่า ✅ ระบบสามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ เช่น SIEM, SOAR และ XDR - ช่วยให้ องค์กรสามารถรวม DOCA Argus เข้ากับระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ได้ง่ายขึ้น ✅ DOCA Argus ได้รับการฝึกด้วยข้อมูลความปลอดภัยภายในของ Nvidia - ลดจำนวนการแจ้งเตือนที่ผิดพลาด เพื่อให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามจริงได้เร็วขึ้น https://www.techradar.com/pro/after-ai-nvidia-wants-to-own-a-slice-of-that-sweet-trillion-dollar-cybersecurity-pie-with-its-new-doca-software-platfom
    WWW.TECHRADAR.COM
    Nvidia’s DOCA Argus platform brings live threat detection to AI workloads without system drag
    Cisco is working with Nvidia to create a Secure AI Factory using its new architecture
    0 Comments 0 Shares 175 Views 0 Reviews
  • Tesla กำลังเร่งผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ที่ล่าช้ามานาน โดยมีแผนจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน ในรัฐเนวาดา เพื่อรองรับการผลิตที่โรงงาน Gigafactory ในเมือง Sparks โดย Tesla ได้ประกาศผ่านวิดีโอบน YouTube ว่าการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่นนี้จะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2025 และโรงงานจะมีความสามารถในการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คันต่อปี

    การผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ถือเป็นก้าวสำคัญของ Tesla ในการเข้าสู่ตลาดรถบรรทุกพลังงานสะอาด ซึ่งมีการแข่งขันสูงจากผู้ผลิตรายอื่น เช่น Nikola และ Volvo

    ✅ การจ้างงานเพิ่มในเนวาดา
    - Tesla จะจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน
    - รองรับการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ที่โรงงาน Gigafactory

    ✅ กำหนดการผลิต
    - การผลิตจะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2025
    - โรงงานมีความสามารถในการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คันต่อปี

    ✅ ความสำคัญของ Tesla Semi
    - เป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ตลาดรถบรรทุกพลังงานสะอาด
    - แข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่น เช่น Nikola และ Volvo

    ✅ การประกาศผ่านวิดีโอ YouTube
    - Tesla ใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคและนักลงทุน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/30/tesla-hiring-over-1000-workers-to-ramp-up-semi-truck-production-business-insider-reports
    Tesla กำลังเร่งผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ที่ล่าช้ามานาน โดยมีแผนจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน ในรัฐเนวาดา เพื่อรองรับการผลิตที่โรงงาน Gigafactory ในเมือง Sparks โดย Tesla ได้ประกาศผ่านวิดีโอบน YouTube ว่าการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่นนี้จะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2025 และโรงงานจะมีความสามารถในการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คันต่อปี การผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ถือเป็นก้าวสำคัญของ Tesla ในการเข้าสู่ตลาดรถบรรทุกพลังงานสะอาด ซึ่งมีการแข่งขันสูงจากผู้ผลิตรายอื่น เช่น Nikola และ Volvo ✅ การจ้างงานเพิ่มในเนวาดา - Tesla จะจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน - รองรับการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ที่โรงงาน Gigafactory ✅ กำหนดการผลิต - การผลิตจะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2025 - โรงงานมีความสามารถในการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คันต่อปี ✅ ความสำคัญของ Tesla Semi - เป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ตลาดรถบรรทุกพลังงานสะอาด - แข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่น เช่น Nikola และ Volvo ✅ การประกาศผ่านวิดีโอ YouTube - Tesla ใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคและนักลงทุน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/30/tesla-hiring-over-1000-workers-to-ramp-up-semi-truck-production-business-insider-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Tesla hiring over 1,000 workers to ramp up Semi truck production, Business Insider reports
    (Reuters) -Tesla is hiring more than a thousand new workers in Nevada as the electric vehicle maker looks to ramp up mass production of its much-delayed Semi trucks, Business Insider reported on Tuesday, citing people familiar with the matter.
    0 Comments 0 Shares 229 Views 0 Reviews
  • NVIDIA ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับ AI Factory โดยใช้ DOCA Argus ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กที่ช่วยตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ โดยทำงานบน NVIDIA BlueField ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายที่ช่วยปกป้องข้อมูลและการประมวลผล AI

    DOCA Argus ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ และสามารถตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วกว่าโซลูชันทั่วไปถึง 1,000 เท่า นอกจากนี้ยังสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโฮสต์ ทำให้มัลแวร์ไม่สามารถตรวจจับหรือปิดการทำงานของระบบได้

    Cisco ได้ร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อพัฒนา Secure AI Factory ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ตั้งแต่เริ่มต้น

    ✅ การเปิดตัว DOCA Argus
    - เฟรมเวิร์กสำหรับตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์
    - ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ

    ✅ การทำงานบน NVIDIA BlueField
    - ช่วยปกป้องข้อมูลและการประมวลผล AI
    - ทำงานโดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโฮสต์

    ✅ ความร่วมมือกับ Cisco
    - พัฒนา Secure AI Factory เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ตั้งแต่เริ่มต้น

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    - ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.techpowerup.com/336079/nvidia-bringing-cybersecurity-platform-to-every-ai-factory
    NVIDIA ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับ AI Factory โดยใช้ DOCA Argus ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กที่ช่วยตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ โดยทำงานบน NVIDIA BlueField ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายที่ช่วยปกป้องข้อมูลและการประมวลผล AI DOCA Argus ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ และสามารถตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วกว่าโซลูชันทั่วไปถึง 1,000 เท่า นอกจากนี้ยังสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโฮสต์ ทำให้มัลแวร์ไม่สามารถตรวจจับหรือปิดการทำงานของระบบได้ Cisco ได้ร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อพัฒนา Secure AI Factory ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ตั้งแต่เริ่มต้น ✅ การเปิดตัว DOCA Argus - เฟรมเวิร์กสำหรับตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ - ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ ✅ การทำงานบน NVIDIA BlueField - ช่วยปกป้องข้อมูลและการประมวลผล AI - ทำงานโดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโฮสต์ ✅ ความร่วมมือกับ Cisco - พัฒนา Secure AI Factory เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ตั้งแต่เริ่มต้น ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI - ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techpowerup.com/336079/nvidia-bringing-cybersecurity-platform-to-every-ai-factory
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    NVIDIA Bringing Cybersecurity Platform to Every AI Factory
    As enterprises increasingly adopt AI, securing AI factories—where complex, agentic workflows are executed—has never been more critical. NVIDIA is bringing runtime cybersecurity to every AI factory with a new NVIDIA DOCA software framework, part of the NVIDIA cybersecurity AI platform. Running on the...
    0 Comments 0 Shares 200 Views 0 Reviews
  • THE MALL LIFESTORE SUMMER-CATION FOOD FEST 2025🌞
    ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 68 – 30 เม.ย. 68 ที่ GRAND HALL ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช
    .
    👉พบกับสินค้าหัตกรรม และสินค้า OTOP จากชุมชน อาทิ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย เครื่องจักสาน เครื่องเงิน และสินค้าอหารแปรรูป จากร้าน ผ้าปูที่นอนกันไรฝุ่น , โหราศาสตร์ไทยประยุกต์ , SEECHA , HOMI HOME , ชิ้นปลาสนุก , เจ๊พริกกุยช่ายตลาดพลู , แซลม่อนย่าง กุ้งแช่น้ำปลา , หมึกเจี๊ยวจ๊าว , หวานพอดีสวีท คาเฟ่ , ริมปิง , กรอบแก้วโคราช , รุ่งเรืองการแว่น , COWAY , จิวแกลลอรี่ , ราชาเกี๊ยวต้ม , สามพี่น้องปากหม้อกุ่ยช่าย , หมูยอวชาลิสา , Ricco ลาซานญ่า , เจ้าสัวแต่เตี้ยม , ปลาแดดเดียว แม่สำรวย , KUNNOOK ORANGEJUICE , ข้าวเกรียบเฮเดย์ฟาร์ม , ไอติมปากช่อง , มีนาผ้าไทย , THE QUEEN ,ผ้าใยชากัญชง , ฮงเยาวราช , หยกมณี ก๋วยจั๊บญวน , อินากะซูชิ , MOCHI FACTORY , ครบเครื่องปูหลน , รุ่งลัดดา , DUCK DUCK , ขนมเบื้องป้าใหญ่ , ชามสุข , กุ๊กไก่ก๋วยเตี๋ยวเรือ เขาใหญ่ มาจัดรายการพิเศษ
    .
    🔥 ซัมเมอร์นี้ ชีเสิร์ฟเมนูอร่อยคลายร้อนมากมาย ที่รอทุกคนอยู่
    🗓️ 24 เม.ย. 68 – 30 เม.ย. 68
    📍 GRAND HALL ชั้น 1 #เดอะมอลล์โคราช
    #TheMallKorat
    #TheMallGroup
    #TheMallThailand
    #Themallshoppingcenter
    THE MALL LIFESTORE SUMMER-CATION FOOD FEST 2025🌞 ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 68 – 30 เม.ย. 68 ที่ GRAND HALL ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช . 👉พบกับสินค้าหัตกรรม และสินค้า OTOP จากชุมชน อาทิ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย เครื่องจักสาน เครื่องเงิน และสินค้าอหารแปรรูป จากร้าน ผ้าปูที่นอนกันไรฝุ่น , โหราศาสตร์ไทยประยุกต์ , SEECHA , HOMI HOME , ชิ้นปลาสนุก , เจ๊พริกกุยช่ายตลาดพลู , แซลม่อนย่าง กุ้งแช่น้ำปลา , หมึกเจี๊ยวจ๊าว , หวานพอดีสวีท คาเฟ่ , ริมปิง , กรอบแก้วโคราช , รุ่งเรืองการแว่น , COWAY , จิวแกลลอรี่ , ราชาเกี๊ยวต้ม , สามพี่น้องปากหม้อกุ่ยช่าย , หมูยอวชาลิสา , Ricco ลาซานญ่า , เจ้าสัวแต่เตี้ยม , ปลาแดดเดียว แม่สำรวย , KUNNOOK ORANGEJUICE , ข้าวเกรียบเฮเดย์ฟาร์ม , ไอติมปากช่อง , มีนาผ้าไทย , THE QUEEN ,ผ้าใยชากัญชง , ฮงเยาวราช , หยกมณี ก๋วยจั๊บญวน , อินากะซูชิ , MOCHI FACTORY , ครบเครื่องปูหลน , รุ่งลัดดา , DUCK DUCK , ขนมเบื้องป้าใหญ่ , ชามสุข , กุ๊กไก่ก๋วยเตี๋ยวเรือ เขาใหญ่ มาจัดรายการพิเศษ . 🔥 ซัมเมอร์นี้ ชีเสิร์ฟเมนูอร่อยคลายร้อนมากมาย ที่รอทุกคนอยู่ 🗓️ 24 เม.ย. 68 – 30 เม.ย. 68 📍 GRAND HALL ชั้น 1 #เดอะมอลล์โคราช #TheMallKorat #TheMallGroup #TheMallThailand #Themallshoppingcenter
    0 Comments 0 Shares 515 Views 0 Reviews
  • หน่วยงานความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับมัลแวร์ตัวใหม่ RESURGE ซึ่งกำลังโจมตีผลิตภัณฑ์ของ Ivanti หลายตัว โดยมัลแวร์นี้เป็น เวอร์ชันใหม่ของ SPAWNCHIMERA ที่เคยถูกใช้โจมตี Ivanti Connect Secure Appliances

    ✅ RESURGE ทำอะไรได้บ้าง?
    - สามารถ อยู่รอดหลังการรีบูตระบบ
    - สร้าง Web Shell เพื่อควบคุมอุปกรณ์ระยะไกล
    - เปลี่ยนแปลงระบบตรวจสอบความสมบูรณ์ไฟล์
    - ขโมยข้อมูลล็อกอิน สร้างบัญชีใหม่ รีเซ็ตรหัสผ่าน และเพิ่มสิทธิ์ผู้ใช้

    ✅ ช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตี—CVE-2025-0282
    - RESURGE อาศัยช่องโหว่ Stack-Based Buffer Overflow ใน Ivanti Connect Secure, Policy Secure และ Neurons for ZTA Gateways
    - ช่องโหว่นี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถ รันโค้ดระยะไกลโดยไม่ต้องล็อกอิน

    ✅ เวอร์ชันของ Ivanti ที่มีความเสี่ยงสูง
    - Connect Secure (ก่อนเวอร์ชัน 22.7R2.5)
    - Policy Secure (ก่อนเวอร์ชัน 22.7R1.2)
    - Neurons for ZTA Gateways (ก่อนเวอร์ชัน 22.7R2.3)

    ✅ CISA แนะนำแนวทางป้องกัน
    - Factory Reset อุปกรณ์ เพื่อกำจัดโค้ดที่แฝงตัว
    - เปลี่ยนรหัสผ่าน ของบัญชีที่มีสิทธิ์เข้าถึงทั้งหมด
    - ตรวจสอบสิทธิ์และการเข้าถึงระบบ เพื่อป้องกันการบุกรุกเพิ่มเติม
    - เฝ้าระวังบัญชีที่มีสิทธิ์ระดับสูง เช่น Admin Accounts

    https://www.techradar.com/pro/security/ivanti-products-targeted-by-dangerous-malware-yet-again
    หน่วยงานความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับมัลแวร์ตัวใหม่ RESURGE ซึ่งกำลังโจมตีผลิตภัณฑ์ของ Ivanti หลายตัว โดยมัลแวร์นี้เป็น เวอร์ชันใหม่ของ SPAWNCHIMERA ที่เคยถูกใช้โจมตี Ivanti Connect Secure Appliances ✅ RESURGE ทำอะไรได้บ้าง? - สามารถ อยู่รอดหลังการรีบูตระบบ - สร้าง Web Shell เพื่อควบคุมอุปกรณ์ระยะไกล - เปลี่ยนแปลงระบบตรวจสอบความสมบูรณ์ไฟล์ - ขโมยข้อมูลล็อกอิน สร้างบัญชีใหม่ รีเซ็ตรหัสผ่าน และเพิ่มสิทธิ์ผู้ใช้ ✅ ช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตี—CVE-2025-0282 - RESURGE อาศัยช่องโหว่ Stack-Based Buffer Overflow ใน Ivanti Connect Secure, Policy Secure และ Neurons for ZTA Gateways - ช่องโหว่นี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถ รันโค้ดระยะไกลโดยไม่ต้องล็อกอิน ✅ เวอร์ชันของ Ivanti ที่มีความเสี่ยงสูง - Connect Secure (ก่อนเวอร์ชัน 22.7R2.5) - Policy Secure (ก่อนเวอร์ชัน 22.7R1.2) - Neurons for ZTA Gateways (ก่อนเวอร์ชัน 22.7R2.3) ✅ CISA แนะนำแนวทางป้องกัน - Factory Reset อุปกรณ์ เพื่อกำจัดโค้ดที่แฝงตัว - เปลี่ยนรหัสผ่าน ของบัญชีที่มีสิทธิ์เข้าถึงทั้งหมด - ตรวจสอบสิทธิ์และการเข้าถึงระบบ เพื่อป้องกันการบุกรุกเพิ่มเติม - เฝ้าระวังบัญชีที่มีสิทธิ์ระดับสูง เช่น Admin Accounts https://www.techradar.com/pro/security/ivanti-products-targeted-by-dangerous-malware-yet-again
    WWW.TECHRADAR.COM
    Ivanti products targeted by dangerous malware yet again
    RESURGE is targeting Ivanti products, so make sure to stay safe
    0 Comments 0 Shares 253 Views 0 Reviews
  • มีข่าวล่าสุดที่น่าสนใจจาก TechSpot เกี่ยวกับการทดลองใช้หุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ในการผลิตหุ่นยนต์เพิ่มขึ้นเองที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส โดยบริษัทชื่อ Apptronik ได้ร่วมมือกับบริษัท Jabil ในการทดสอบการใช้งานหุ่นยนต์ Apollo ในสภาพแวดล้อมของโรงงาน

    หุ่นยนต์ Apollo มีความสูง 5 ฟุต 8 นิ้ว น้ำหนัก 160 ปอนด์ และสามารถทำงานได้ 4 ชั่วโมงต่อแบตเตอรี่หนึ่งชุด โดยหุ่นยนต์จะทำงานในหน้าที่ที่ซ้ำซ้อน เช่น ตรวจสอบสินค้า จัดเรียงของ การจัดส่งข้างไลน์ และการติดตั้งชิ้นส่วน หุ่นยนต์เหล่านี้จะเริ่มการผลิตในปี 2026 หากการทดลองนี้ประสบความสำเร็จ

    มีความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียงานของมนุษย์เนื่องจากหุ่นยนต์ แต่ทางบริษัทกล่าวว่า การนำหุ่นยนต์มาใช้จะช่วยให้พนักงานมีเวลามากขึ้นในการทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการวิเคราะห์

    เรื่องที่น่าสนใจคือ หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถสร้างหุ่นยนต์ได้อีก ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในวงการอุตสาหกรรมอย่างมหาศาล การพัฒนานี้สะท้อนให้เห็นถึงการก้าวกระโดดของเทคโนโลยีและความสามารถของมนุษย์ในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ

    https://www.techspot.com/news/106967-factory-trials-begin-humanoid-robots-could-build-more.html
    มีข่าวล่าสุดที่น่าสนใจจาก TechSpot เกี่ยวกับการทดลองใช้หุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ในการผลิตหุ่นยนต์เพิ่มขึ้นเองที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส โดยบริษัทชื่อ Apptronik ได้ร่วมมือกับบริษัท Jabil ในการทดสอบการใช้งานหุ่นยนต์ Apollo ในสภาพแวดล้อมของโรงงาน หุ่นยนต์ Apollo มีความสูง 5 ฟุต 8 นิ้ว น้ำหนัก 160 ปอนด์ และสามารถทำงานได้ 4 ชั่วโมงต่อแบตเตอรี่หนึ่งชุด โดยหุ่นยนต์จะทำงานในหน้าที่ที่ซ้ำซ้อน เช่น ตรวจสอบสินค้า จัดเรียงของ การจัดส่งข้างไลน์ และการติดตั้งชิ้นส่วน หุ่นยนต์เหล่านี้จะเริ่มการผลิตในปี 2026 หากการทดลองนี้ประสบความสำเร็จ มีความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียงานของมนุษย์เนื่องจากหุ่นยนต์ แต่ทางบริษัทกล่าวว่า การนำหุ่นยนต์มาใช้จะช่วยให้พนักงานมีเวลามากขึ้นในการทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการวิเคราะห์ เรื่องที่น่าสนใจคือ หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถสร้างหุ่นยนต์ได้อีก ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในวงการอุตสาหกรรมอย่างมหาศาล การพัฒนานี้สะท้อนให้เห็นถึงการก้าวกระโดดของเทคโนโลยีและความสามารถของมนุษย์ในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ https://www.techspot.com/news/106967-factory-trials-begin-humanoid-robots-could-build-more.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Factory begins trial for humanoid robots that can build more of themselves
    Robot-maker Apptronik has announced a pilot partnership with American firm Jabil. In addition to its supply chain services primarily serving OEMs, Jabil is involved in designing, engineering,...
    0 Comments 0 Shares 304 Views 0 Reviews
  • ธรรมชาติสร้างสรรค์ วิทยาศาสตร์เป็นตัวกำหนด ทุกความอร่อยต้องมีเรื่องราว…
    ..ช็อกโกแลตคือของทานเล่นที่ทำให้ทุกคนมีความสุข…ในทุกเพศทุกวัยเพื่อสุขภาพที่ดี

    COCORA ….Premium Chocolate.
    ..Taste note: Nutty>Floral>Fruitty
    เข้มข้น กลิ่นหอม กลมกล่อม ละมุนลิ้น ไม่มีเปรี้ยว

    ความจริงที่ควรรู้กี่ยวกับ…Craft chocolate …สำหรับคนรัก Chocolate
    ..….ถ้าเป็นCraft Chocolate มันต้องเปรี้ยวสิ !!..คำนี้หลายท่านคงได้ยินกันมาจนชิน จนหลายท่านอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมมันถึงเปรี้ยว ...คราฟท์ช็อกโกแลตที่เปรี้ยวนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากการหมักเมล็ดโกโก้ในกระบวนการแบบ Natural process ไปในทิศทางที่ไม่สมบูรณ์แบบ จนทำให้ในขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการหมักยังคงมีกรดอะซิติก(กรดนำ้ส้มสายชู)คงตกค้างอยู่ในเมล็ดจำนวนหนึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความพิถีพิถันของผู้หมัก ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำค่อนข้างยาก การหมักโกโก้จึงเป็นงานศิลปะที่ต้องใช้ความรู้และเทคนิคทางวิทยาศาสตร์ (food science )เข้ามาช่วยและต้องมีความละเอียดความเข้าใจในทุกขั้นตอนอย่างลึกซึ้ง ส่วนใหญ่กว่า90%มักจะทำให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยวนำเพราะไม่สามารถกำจัดกรดอะซิติกออกไปจนหมด…ความเปรี้ยวที่เกิดขึ้นนี้รสชาติจะเปรี้ยวโดดแตกต่างจากเมล็ดโกโก้ที่มีโอกาสเกิดความเปรี้ยวเล็กน้อยหรือเปรี้ยวปลายแบบรสชาติผลไม้นานาชนิดที่มี taste note เรียกว่า fruity ซึ่งรสชาตินี้จะเกิดขึ้นได้จริงๆจากการหมักที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น เมื่อการหมักสมบูรณ์ปัจจัยปลีกย่อยอีกหลายอย่างก็ตามมากำหนดรสชาติความเป็นพื้นถิ่น เช่นสายพันธุ์เมล็ดโกโก้ที่ปลูก ,แหล่งที่ปลูก ,สภาพพื้นดินที่เป็นกรดเป็นด่าง ,ปุ๋ยที่ใ้ช้ และสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันในแต่ฤดูกาล และยังมีอีกหลายด้านที่ยังคงเป็นความลับของธรรมชาติ ที่มีผลทำให้เกิดรสชาติเฉพาะในพื้นถิ่นนั้นๆ(origin) ซึ่งอาจจะได้ taste note ในอีกหลากหลายรสชาติเช่น Nutty,Herbal,Spicy,Fruity,Vegetal
    ,Dark, Sweet ซึ่งเป็นเสน่ห์ของ craft chocolate ดังนั้นความอร่อยของรสชาติที่แท้จริงของช็อกโกแลตจึงต้องมาจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพจากต้นทาง โดยเฉพาะกระบวนการหมักที่จะเป็นตัวกำหนดรสชาติ
    ซึ่งก็ไม่ต่างจากการหมักเบียร์ หมักไวน์ หรือการหมักอาหาร ที่ยังต้องใช้เทคนิคทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหารเข้ามาช่วย

    แตกต่างกับ Factory chocolate (กระบวนการหมักแบบDutch Proceess)ที่ต้องใช้สารเคมีโปแตสเซียม ,อัลคาไรด์ ที่มีคุณสมบัติเป็นด่าง เพื่อมาลดความเป็นกรด คือลดความเปรี้ยวเป็นหลัก รสชาติส่วนใหญ่จึงออกมาคลา้ยๆกันจนส่งผลกระทบต่อความหลากหลายของรสชาติอื่นๆ(taste note)ไปด้วย
    …ซึ่งไม่ว่าจะมาจากพื้นถิ่นไหน แถบใดของโลก สรุปได้ว่าถ้าเมล็ดที่หมักไม่สมบูรณ์ ก็จะเกิดความเปรี้ยวแบบลิ้นสัมผัสได้ว่ามันไม่ใช่รสชาติโกโก้ที่ทุกคนคุ้นเคยจนน่าแปลก ยิ่งถ้าเปรี้ยวโดดเปรี้ยวดีดแล้ว จะหารสชาติที่เป็น single origin นั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะความเปรี้ยวจะไปลดทอน taste noteที่แท้จริง ทำให้ยากที่จะหาความชัดเจนของรสชาติโกโก้เฉพาะถิ่นนั้นๆ ซึ่งบางท่านอาจจะเข้าใจผิดในสิ่งที่รับรู้มาจากการสร้างเรื่องราวของการอ้างดินฟ้าอากาศ พื้นที่ที่ปลูก ฯลฯ ซึ่งเป็นstory ที่เป็นเรื่องเล่าถูกสร้างมาแบบไม่มีวิทยาศาสตร์มารองรับ เอาจริงๆมันก็เกี่ยวในแง่ของรสชาติพื้นถิ่น แต่คนละเรื่องกับความเปรี้ยวที่ว่านี้ อย่าลืมนะครับว่าเรากำลังทานโกโก้ที่ผ่านกระบวนการหมักแล้ว ไม่ใช่ทานผลสด ที่จะอมเปรี้ยว อมหวาน….หรือว่าบางท่านอาจหลงไหลชื่นชอบในรสชาติความแปลกใหม่ของรสชาติเปรี้ยวนำ เปรี้ยวโดด ซึ่งเป็นความชอบเฉพาะตัว จนบางท่านหลงคิดว่าเป็นรสชาติ Fruitty แต่อย่าลืมว่ามันคือ…ช็อกโกแลตที่ใส่นำ้ส้มสายชู..ดีดีนี่เอง….

    -กระบวนการหมักที่สมบูรณ์แบบ Natural process
    = เกิดรสชาติโกโก้แท้ๆอาจมี taste noteและกลิ่นที่หลากหลายของผลไม้ ดอกไม้ สมุนไพรหรือถั่วต่างๆ และไม่มีรสชาติเปรี้ยวโดดที่เกิดจากกรดนำ้ส้มสายชูตกค้าง
    -กระบวนการหมักไม่สมบูรณ์แบบ Natural process
    =โกโก้+นำ้ส้มสายชูตกค้าง ทำให้มีรสชาติเปรี้ยวนำ เปรี้ยวโดด จนสูญเสียรสชาติช็อกโกแลตที่แท้จริงไป
    -กระบวนการหมักแบบ Dutch Process = โกโก้ + โปแตสเซียม + (อัลคาไลน์) หรือสารเคมีชนิดอื่น ที่มีคุณสมบัติเป็นด่างเพื่อลดกรดจะทำให้ไม่มีรสชาติเปรี้ยว ออกแนวขมเข้มข้น กลิ่นหอม มักจะคั่วที่อุณภูมิสูงขาดจนความหลากหลายของ taste note

    **การคั่วเข้มคั่วอ่อนก็ยังมีผลต่อรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ
    -คั่วอ่อน เมล็ดโกโก้แห้งจะมีกลิ่นหอมขึ้นระดับหนึ่ง รสชาติจะไม่เปลี่ยนแปลงไปมากยังคงได้taste note แบบดั้งเดิม และยังคงมีคุณค่าทางอาหารได้มากกว่าคั่วเข้ม
    -คั่วเข้ม รสชาติจะเข้มข้นขึ้น(dark)ออกไปทางขม(bitter) เพิ่มกลิ่นหอมของโกโก้ แต่จะเสียคุณค่าทางโภชนาการไปมากกว่า
    ….เรื่องราวทั้งหมดนี้ หวังว่าคงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนรัก craft chocolate ที่ต้องการทราบความจริงที่มีหนึ่งเดียว จริงๆแล้ววิทยาศาสตร์อยู่รอบตัวเรา การใช้ศาสตร์มาคิดวิเคราะห์ ด้วยหลักของเหตุผล เราก็จะได้ทราบถึงที่มาที่ไปและเข้าใจมันอย่างแท้จริง
    …หากท่านใดคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากกด Like กดShare ให้ผู้ที่รักและชื่นชอบ craft chocolate ได้เปิดโลกทัศน์ในโลกของโกโก้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
    #cocora
    #craftchocolate
    #perfectfermentation
    #ไม่เปรี้ยวแน่นอน
    #rareitem

    ….ความสะอาด พิถีพิถัน คือหัวใจของเรา
    อร่อยมาจากข้างในเพราะเราใส่ใจทุกกระบวนการผลิต

    ..สุขภาพดี …แค่เพียงปลายนิ้ว
    ..ส่งตรงถึงบ้าน..ไม่มีละลายด้วยการบรรจุหีบห่ออย่างดี

    สนใจสั่งซื้อรายละเอียดตามนี้ครับ
    Inbox messenger ….จะตอบกลับโดยเร็วที่สุด ง่ายต่อการสื่อสารและต้องการข้อมูลรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม สามารถดูเมนูได้ตามลิ้งค์ครับ

    https://www.facebook.com/share/p/1DqByxv8wA/?mibextid=wwXIfr

    ลิงค์ Lazada Shoppee (21/2/68 ปิดร้าน1วัน)

    https://s.lazada.co.th/s.Oi1un

    https://shope.ee/30OIXwR87J
    ธรรมชาติสร้างสรรค์ วิทยาศาสตร์เป็นตัวกำหนด ทุกความอร่อยต้องมีเรื่องราว… ..ช็อกโกแลตคือของทานเล่นที่ทำให้ทุกคนมีความสุข…ในทุกเพศทุกวัยเพื่อสุขภาพที่ดี COCORA ….Premium Chocolate. ..Taste note: Nutty>Floral>Fruitty เข้มข้น กลิ่นหอม กลมกล่อม ละมุนลิ้น ไม่มีเปรี้ยว ความจริงที่ควรรู้กี่ยวกับ…Craft chocolate …สำหรับคนรัก Chocolate ..….ถ้าเป็นCraft Chocolate มันต้องเปรี้ยวสิ !!..คำนี้หลายท่านคงได้ยินกันมาจนชิน จนหลายท่านอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมมันถึงเปรี้ยว ...คราฟท์ช็อกโกแลตที่เปรี้ยวนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากการหมักเมล็ดโกโก้ในกระบวนการแบบ Natural process ไปในทิศทางที่ไม่สมบูรณ์แบบ จนทำให้ในขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการหมักยังคงมีกรดอะซิติก(กรดนำ้ส้มสายชู)คงตกค้างอยู่ในเมล็ดจำนวนหนึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความพิถีพิถันของผู้หมัก ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำค่อนข้างยาก การหมักโกโก้จึงเป็นงานศิลปะที่ต้องใช้ความรู้และเทคนิคทางวิทยาศาสตร์ (food science )เข้ามาช่วยและต้องมีความละเอียดความเข้าใจในทุกขั้นตอนอย่างลึกซึ้ง ส่วนใหญ่กว่า90%มักจะทำให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยวนำเพราะไม่สามารถกำจัดกรดอะซิติกออกไปจนหมด…ความเปรี้ยวที่เกิดขึ้นนี้รสชาติจะเปรี้ยวโดดแตกต่างจากเมล็ดโกโก้ที่มีโอกาสเกิดความเปรี้ยวเล็กน้อยหรือเปรี้ยวปลายแบบรสชาติผลไม้นานาชนิดที่มี taste note เรียกว่า fruity ซึ่งรสชาตินี้จะเกิดขึ้นได้จริงๆจากการหมักที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น เมื่อการหมักสมบูรณ์ปัจจัยปลีกย่อยอีกหลายอย่างก็ตามมากำหนดรสชาติความเป็นพื้นถิ่น เช่นสายพันธุ์เมล็ดโกโก้ที่ปลูก ,แหล่งที่ปลูก ,สภาพพื้นดินที่เป็นกรดเป็นด่าง ,ปุ๋ยที่ใ้ช้ และสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันในแต่ฤดูกาล และยังมีอีกหลายด้านที่ยังคงเป็นความลับของธรรมชาติ ที่มีผลทำให้เกิดรสชาติเฉพาะในพื้นถิ่นนั้นๆ(origin) ซึ่งอาจจะได้ taste note ในอีกหลากหลายรสชาติเช่น Nutty,Herbal,Spicy,Fruity,Vegetal ,Dark, Sweet ซึ่งเป็นเสน่ห์ของ craft chocolate ดังนั้นความอร่อยของรสชาติที่แท้จริงของช็อกโกแลตจึงต้องมาจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพจากต้นทาง โดยเฉพาะกระบวนการหมักที่จะเป็นตัวกำหนดรสชาติ ซึ่งก็ไม่ต่างจากการหมักเบียร์ หมักไวน์ หรือการหมักอาหาร ที่ยังต้องใช้เทคนิคทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหารเข้ามาช่วย แตกต่างกับ Factory chocolate (กระบวนการหมักแบบDutch Proceess)ที่ต้องใช้สารเคมีโปแตสเซียม ,อัลคาไรด์ ที่มีคุณสมบัติเป็นด่าง เพื่อมาลดความเป็นกรด คือลดความเปรี้ยวเป็นหลัก รสชาติส่วนใหญ่จึงออกมาคลา้ยๆกันจนส่งผลกระทบต่อความหลากหลายของรสชาติอื่นๆ(taste note)ไปด้วย …ซึ่งไม่ว่าจะมาจากพื้นถิ่นไหน แถบใดของโลก สรุปได้ว่าถ้าเมล็ดที่หมักไม่สมบูรณ์ ก็จะเกิดความเปรี้ยวแบบลิ้นสัมผัสได้ว่ามันไม่ใช่รสชาติโกโก้ที่ทุกคนคุ้นเคยจนน่าแปลก ยิ่งถ้าเปรี้ยวโดดเปรี้ยวดีดแล้ว จะหารสชาติที่เป็น single origin นั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะความเปรี้ยวจะไปลดทอน taste noteที่แท้จริง ทำให้ยากที่จะหาความชัดเจนของรสชาติโกโก้เฉพาะถิ่นนั้นๆ ซึ่งบางท่านอาจจะเข้าใจผิดในสิ่งที่รับรู้มาจากการสร้างเรื่องราวของการอ้างดินฟ้าอากาศ พื้นที่ที่ปลูก ฯลฯ ซึ่งเป็นstory ที่เป็นเรื่องเล่าถูกสร้างมาแบบไม่มีวิทยาศาสตร์มารองรับ เอาจริงๆมันก็เกี่ยวในแง่ของรสชาติพื้นถิ่น แต่คนละเรื่องกับความเปรี้ยวที่ว่านี้ อย่าลืมนะครับว่าเรากำลังทานโกโก้ที่ผ่านกระบวนการหมักแล้ว ไม่ใช่ทานผลสด ที่จะอมเปรี้ยว อมหวาน….หรือว่าบางท่านอาจหลงไหลชื่นชอบในรสชาติความแปลกใหม่ของรสชาติเปรี้ยวนำ เปรี้ยวโดด ซึ่งเป็นความชอบเฉพาะตัว จนบางท่านหลงคิดว่าเป็นรสชาติ Fruitty แต่อย่าลืมว่ามันคือ…ช็อกโกแลตที่ใส่นำ้ส้มสายชู..ดีดีนี่เอง…. -กระบวนการหมักที่สมบูรณ์แบบ Natural process = เกิดรสชาติโกโก้แท้ๆอาจมี taste noteและกลิ่นที่หลากหลายของผลไม้ ดอกไม้ สมุนไพรหรือถั่วต่างๆ และไม่มีรสชาติเปรี้ยวโดดที่เกิดจากกรดนำ้ส้มสายชูตกค้าง -กระบวนการหมักไม่สมบูรณ์แบบ Natural process =โกโก้+นำ้ส้มสายชูตกค้าง ทำให้มีรสชาติเปรี้ยวนำ เปรี้ยวโดด จนสูญเสียรสชาติช็อกโกแลตที่แท้จริงไป -กระบวนการหมักแบบ Dutch Process = โกโก้ + โปแตสเซียม + (อัลคาไลน์) หรือสารเคมีชนิดอื่น ที่มีคุณสมบัติเป็นด่างเพื่อลดกรดจะทำให้ไม่มีรสชาติเปรี้ยว ออกแนวขมเข้มข้น กลิ่นหอม มักจะคั่วที่อุณภูมิสูงขาดจนความหลากหลายของ taste note **การคั่วเข้มคั่วอ่อนก็ยังมีผลต่อรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ -คั่วอ่อน เมล็ดโกโก้แห้งจะมีกลิ่นหอมขึ้นระดับหนึ่ง รสชาติจะไม่เปลี่ยนแปลงไปมากยังคงได้taste note แบบดั้งเดิม และยังคงมีคุณค่าทางอาหารได้มากกว่าคั่วเข้ม -คั่วเข้ม รสชาติจะเข้มข้นขึ้น(dark)ออกไปทางขม(bitter) เพิ่มกลิ่นหอมของโกโก้ แต่จะเสียคุณค่าทางโภชนาการไปมากกว่า ….เรื่องราวทั้งหมดนี้ หวังว่าคงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนรัก craft chocolate ที่ต้องการทราบความจริงที่มีหนึ่งเดียว จริงๆแล้ววิทยาศาสตร์อยู่รอบตัวเรา การใช้ศาสตร์มาคิดวิเคราะห์ ด้วยหลักของเหตุผล เราก็จะได้ทราบถึงที่มาที่ไปและเข้าใจมันอย่างแท้จริง …หากท่านใดคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากกด Like กดShare ให้ผู้ที่รักและชื่นชอบ craft chocolate ได้เปิดโลกทัศน์ในโลกของโกโก้ด้วยครับ ขอบคุณครับ #cocora #craftchocolate #perfectfermentation #ไม่เปรี้ยวแน่นอน #rareitem ….ความสะอาด พิถีพิถัน คือหัวใจของเรา อร่อยมาจากข้างในเพราะเราใส่ใจทุกกระบวนการผลิต ..สุขภาพดี …แค่เพียงปลายนิ้ว ..ส่งตรงถึงบ้าน..ไม่มีละลายด้วยการบรรจุหีบห่ออย่างดี สนใจสั่งซื้อรายละเอียดตามนี้ครับ Inbox messenger ….จะตอบกลับโดยเร็วที่สุด ง่ายต่อการสื่อสารและต้องการข้อมูลรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม สามารถดูเมนูได้ตามลิ้งค์ครับ https://www.facebook.com/share/p/1DqByxv8wA/?mibextid=wwXIfr ลิงค์ Lazada Shoppee (21/2/68 ปิดร้าน1วัน) https://s.lazada.co.th/s.Oi1un https://shope.ee/30OIXwR87J
    0 Comments 0 Shares 1409 Views 0 Reviews
  • 6G ตัวเปลี่ยนเกมและวิถีสงครามโลกยุคใหม่
    .
    หัวเว่ยกำลังสร้างนวัตกรรม 6G และเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลก หลังจากต้องเผชิญกับความมืดมน ความไม่แน่นอน และความพ่ายแพ้นับไม่ถ้วน แต่ก็ได้พบกับปาฏิหาริย์ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่ทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ กลายเป็นไปได้ ตามคำกล่าวของเมิ่ง หว่านโจว ลูกสาวของ เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้ง CEO ของหัวเว่ย ที่หลายปีก่อนเธอถูกจับเป็นตัวประกันที่แคนาดา ในสงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนกับอเมริกา
    .
    หัวเว่ยจะเป็นบริษัทแรกในโลกนี้ที่นำ 6G มาใช้ในเชิงพาณิชย์ ผมเคยพูดไว้แล้วในรายการตอน213เมื่อ29ตุลาคม2566 เกือบสองปีแล้วที่ผมวิเคราะห์ว่าเรื่อง Super Network 6G อนาคตโลกในมือจีน วันนี้หัวเว่ยประกาศว่าระบบการสื่อสารแบบ 6G จะมีการเปิดใช้เชิงพาณิชย์ ภายในปี 2573 อีกห้าปีข้างหน้า เร็วมาก ชีวิตประจำวันของคนเราจะเปลี่ยนไปโดย 6G ของหัวเว่ย ซึ่งได้รวมการสื่อสารภาคพื้นดิน อวกาศ ดาวเทียม และทะเล เข้าด้วยกัน นำไปใช้ในอุปกรณ์อย่างเช่น IoT: Internet of Things ใช้ในอุตสาหกรรมการขับขี่ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โรงงานที่เป็น Smart Factory และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
    .
    ขณะนี้รัฐบาลจีนได้อนุมัติใช้คลื่นความถี่ 6 กิกะเฮิร์ตซ เพื่อรองรับไว้แล้ว และจะปฏิวัติเทคโนโลยีการสื่อสารไปอีกขั้น เพราะ 6G มีความเร็วกว่า 5G ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ถึง 100 เท่า ปานสายฟ้าแลบและใช้พลังงานน้อยกว่าแบตเตอรีน้อยกว่า 5G ถึง 10 เท่า ทำให้หัวเว่ยเป็นผู้นำการพัฒนา 6G ทิ้งห่างประเทศตะวันตกอย่างยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น
    .
    หัวเว่ยมีสิทธิบัตรทาง 6G มากที่สุดในโลกถึง 12,700 ฉบับหรือประมาณ 35% ของทั่วโลก พิสูจน์ให้เห็นถึงความรุนแรงของสงคราม 6G ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ความสำเร็จของหัวเว่ยคือชัยชนะของนวัตกรรม หรือเป็นจุดเปลี่ยนในการต่อสู้กับมหาอำนาจอเมริกา และชาติตะวันตก ที่ตั้งใจจะบดขยี้หัวเว่ยให้จมดิน
    .
    ดังนั้น 6G กับแสนยานุภาพทางการทหารจีนที่จีนพุ่งเป้านำเทคโนโลยี 6G ไปใช้ในการทหารก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากสำหรับกองทัพแล้ว ประสิทธิภาพมีความสำคัญ และนี่คือสมรภูมิการแข่งขันที่มีความสำคัญ สมรภูมิการแข่งขันด้านเทคโนโลยีอาวุธและสนามรบด้านแสนยานุภาพของการทหารอีกด้วย
    .
    รายงานล่าสุดจากสำนักข่าวซินหัว เมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ระบุว่า จีนตอนนี้มีสถานีฐาน 5G 4.1 ล้านแห่งแล้ว สถานี 5G 4 ล้านกว่าแห่ง เป้าหมายต่อไปใน 2 ปีข้างหน้า 2570 ผู้ใช้เครือข่ายไร้สายในประเทศจีน ซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลมากกว่า 85% จะต้องเข้าถึงโครงข่าย 5G อีกสามปีข้างหน้านั่นเองและก็ถึงเวลาที่จะต้องเปิด 6G
    .
    จาก 5G ไปถึง 6G เทคโนโลยีที่เปรียบเทียบได้กับการแข่งขันทางอวกาศระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพโซเวียต แต่เป้าหมายในการแข่งขันนั้นไม่ใช่เรื่องการลงจอดบนดวงจันทร์อีกต่อไป แต่มันเป็นเรื่องการสร้างรากฐานของการเชื่อมต่อสำหรับทศวรรษหน้าที่กำลังจะมาถึง
    .
    จะเห็นได้ว่าการแข่งขันเพื่อ 6G ของหัวเว่ยนั้น มีความหมายมากกว่าความเร็วของอินเทอร์เน็ต แต่ยังเกี่ยวกับการที่ประเทศจีนกำลังจะเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม และสารสนเทศในอนาคต ซึ่งไม่เพียงแต่กำหนดนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภูมิรัฐศาสตร์ด้วย ซึ่งจีน อเมริกา และยุโรป กำลังแข่งขันกันเพื่อครองความได้เปรียบบนพื้นที่โลกดิจิทัลในอนาคต เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ของเกมเทคโนโลยีอันเป็นกุญแจสำคัญที่สุดที่จะนำพาประเทศนั้นๆ สังคมนั้นๆ ไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองระยะยาว
    6G ตัวเปลี่ยนเกมและวิถีสงครามโลกยุคใหม่ . หัวเว่ยกำลังสร้างนวัตกรรม 6G และเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลก หลังจากต้องเผชิญกับความมืดมน ความไม่แน่นอน และความพ่ายแพ้นับไม่ถ้วน แต่ก็ได้พบกับปาฏิหาริย์ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่ทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ กลายเป็นไปได้ ตามคำกล่าวของเมิ่ง หว่านโจว ลูกสาวของ เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้ง CEO ของหัวเว่ย ที่หลายปีก่อนเธอถูกจับเป็นตัวประกันที่แคนาดา ในสงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนกับอเมริกา . หัวเว่ยจะเป็นบริษัทแรกในโลกนี้ที่นำ 6G มาใช้ในเชิงพาณิชย์ ผมเคยพูดไว้แล้วในรายการตอน213เมื่อ29ตุลาคม2566 เกือบสองปีแล้วที่ผมวิเคราะห์ว่าเรื่อง Super Network 6G อนาคตโลกในมือจีน วันนี้หัวเว่ยประกาศว่าระบบการสื่อสารแบบ 6G จะมีการเปิดใช้เชิงพาณิชย์ ภายในปี 2573 อีกห้าปีข้างหน้า เร็วมาก ชีวิตประจำวันของคนเราจะเปลี่ยนไปโดย 6G ของหัวเว่ย ซึ่งได้รวมการสื่อสารภาคพื้นดิน อวกาศ ดาวเทียม และทะเล เข้าด้วยกัน นำไปใช้ในอุปกรณ์อย่างเช่น IoT: Internet of Things ใช้ในอุตสาหกรรมการขับขี่ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โรงงานที่เป็น Smart Factory และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง . ขณะนี้รัฐบาลจีนได้อนุมัติใช้คลื่นความถี่ 6 กิกะเฮิร์ตซ เพื่อรองรับไว้แล้ว และจะปฏิวัติเทคโนโลยีการสื่อสารไปอีกขั้น เพราะ 6G มีความเร็วกว่า 5G ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ถึง 100 เท่า ปานสายฟ้าแลบและใช้พลังงานน้อยกว่าแบตเตอรีน้อยกว่า 5G ถึง 10 เท่า ทำให้หัวเว่ยเป็นผู้นำการพัฒนา 6G ทิ้งห่างประเทศตะวันตกอย่างยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น . หัวเว่ยมีสิทธิบัตรทาง 6G มากที่สุดในโลกถึง 12,700 ฉบับหรือประมาณ 35% ของทั่วโลก พิสูจน์ให้เห็นถึงความรุนแรงของสงคราม 6G ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ความสำเร็จของหัวเว่ยคือชัยชนะของนวัตกรรม หรือเป็นจุดเปลี่ยนในการต่อสู้กับมหาอำนาจอเมริกา และชาติตะวันตก ที่ตั้งใจจะบดขยี้หัวเว่ยให้จมดิน . ดังนั้น 6G กับแสนยานุภาพทางการทหารจีนที่จีนพุ่งเป้านำเทคโนโลยี 6G ไปใช้ในการทหารก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากสำหรับกองทัพแล้ว ประสิทธิภาพมีความสำคัญ และนี่คือสมรภูมิการแข่งขันที่มีความสำคัญ สมรภูมิการแข่งขันด้านเทคโนโลยีอาวุธและสนามรบด้านแสนยานุภาพของการทหารอีกด้วย . รายงานล่าสุดจากสำนักข่าวซินหัว เมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ระบุว่า จีนตอนนี้มีสถานีฐาน 5G 4.1 ล้านแห่งแล้ว สถานี 5G 4 ล้านกว่าแห่ง เป้าหมายต่อไปใน 2 ปีข้างหน้า 2570 ผู้ใช้เครือข่ายไร้สายในประเทศจีน ซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลมากกว่า 85% จะต้องเข้าถึงโครงข่าย 5G อีกสามปีข้างหน้านั่นเองและก็ถึงเวลาที่จะต้องเปิด 6G . จาก 5G ไปถึง 6G เทคโนโลยีที่เปรียบเทียบได้กับการแข่งขันทางอวกาศระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพโซเวียต แต่เป้าหมายในการแข่งขันนั้นไม่ใช่เรื่องการลงจอดบนดวงจันทร์อีกต่อไป แต่มันเป็นเรื่องการสร้างรากฐานของการเชื่อมต่อสำหรับทศวรรษหน้าที่กำลังจะมาถึง . จะเห็นได้ว่าการแข่งขันเพื่อ 6G ของหัวเว่ยนั้น มีความหมายมากกว่าความเร็วของอินเทอร์เน็ต แต่ยังเกี่ยวกับการที่ประเทศจีนกำลังจะเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม และสารสนเทศในอนาคต ซึ่งไม่เพียงแต่กำหนดนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภูมิรัฐศาสตร์ด้วย ซึ่งจีน อเมริกา และยุโรป กำลังแข่งขันกันเพื่อครองความได้เปรียบบนพื้นที่โลกดิจิทัลในอนาคต เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ของเกมเทคโนโลยีอันเป็นกุญแจสำคัญที่สุดที่จะนำพาประเทศนั้นๆ สังคมนั้นๆ ไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองระยะยาว
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 1011 Views 0 Reviews
  • Sony ประกาศยุติการผลิตสื่อบันทึกข้อมูล Blu-ray ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการสิ้นสุดการผลิตที่ยาวนานเกือบสองทศวรรษ. นอกจากนี้ยังรวมถึงการยุติการผลิต MiniDiscs สำหรับการบันทึก, MD data สำหรับการบันทึก, และ MiniDV cassettes ด้วย. Sony ระบุว่าจะไม่มีรุ่นต่อจาก Blu-ray อีกต่อไป

    การยุติการผลิตนี้เกิดขึ้นเนื่องจากยอดขายสื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้บริโภคหันมาใช้บริการสตรีมมิ่งมากขึ้น แม้ว่า Blu-ray จะเคยเป็นที่นิยมในช่วงแรกๆ เนื่องจากความร่วมมือกับสตูดิโอภาพยนตร์และการรวมเทคโนโลยี Blu-ray ใน PlayStation 3 แต่ปัจจุบันยอดขายไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจสื่อบันทึกข้อมูลของ Sony ยังคงอยู่ได้

    น่าสนใจที่เห็นว่าการยุติการผลิต Blu-ray ของ Sony อาจทำให้การหาซื้อแผ่น Blu-ray และเครื่องเล่น Blu-ray จากร้านค้าปลีกยากขึ้น แต่ยังคงสามารถหาซื้อได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์เช่น Amazon ในขณะที่การใช้สื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นลดลง ผู้ใช้หลายคนหันมาใช้การเก็บข้อมูลบนคลาวด์แทน แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายรายเดือนและปัญหาด้านความปลอดภัย

    การเก็บข้อมูลบนสื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นยังคงมีข้อดี เนื่องจากสามารถเก็บข้อมูลได้นานหลายทศวรรษ หากเก็บรักษาอย่างถูกต้อง แม้ว่า Sony จะยุติการผลิต Blu-ray แต่คู่แข่งอย่าง Pioneer ยังคงพัฒนาสื่อบันทึกข้อมูล Blu-ray ที่ออกแบบมาให้มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 100 ปี และนักวิจัยบางคนกำลังทำงานกับการเก็บข้อมูลบนแก้วที่สามารถเก็บข้อมูลได้นานถึง 5,000 ปี

    การยุติการผลิต Blu-ray ของ Sony เป็นการสิ้นสุดยุคหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้ผู้สะสมภาพยนตร์ต้องหาวิธีใหม่ในการเก็บรักษาคอลเลกชันของพวกเขา การเปลี่ยนไปใช้บริการสตรีมมิ่งทำให้การเป็นเจ้าของภาพยนตร์และรายการทีวีเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน เนื่องจากอาจหายไปจากบริการสตรีมมิ่งโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/after-18-years-blu-ray-media-production-draws-to-a-close-sony-shuts-its-last-factory-in-feb
    Sony ประกาศยุติการผลิตสื่อบันทึกข้อมูล Blu-ray ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการสิ้นสุดการผลิตที่ยาวนานเกือบสองทศวรรษ. นอกจากนี้ยังรวมถึงการยุติการผลิต MiniDiscs สำหรับการบันทึก, MD data สำหรับการบันทึก, และ MiniDV cassettes ด้วย. Sony ระบุว่าจะไม่มีรุ่นต่อจาก Blu-ray อีกต่อไป การยุติการผลิตนี้เกิดขึ้นเนื่องจากยอดขายสื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้บริโภคหันมาใช้บริการสตรีมมิ่งมากขึ้น แม้ว่า Blu-ray จะเคยเป็นที่นิยมในช่วงแรกๆ เนื่องจากความร่วมมือกับสตูดิโอภาพยนตร์และการรวมเทคโนโลยี Blu-ray ใน PlayStation 3 แต่ปัจจุบันยอดขายไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจสื่อบันทึกข้อมูลของ Sony ยังคงอยู่ได้ น่าสนใจที่เห็นว่าการยุติการผลิต Blu-ray ของ Sony อาจทำให้การหาซื้อแผ่น Blu-ray และเครื่องเล่น Blu-ray จากร้านค้าปลีกยากขึ้น แต่ยังคงสามารถหาซื้อได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์เช่น Amazon ในขณะที่การใช้สื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นลดลง ผู้ใช้หลายคนหันมาใช้การเก็บข้อมูลบนคลาวด์แทน แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายรายเดือนและปัญหาด้านความปลอดภัย การเก็บข้อมูลบนสื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นยังคงมีข้อดี เนื่องจากสามารถเก็บข้อมูลได้นานหลายทศวรรษ หากเก็บรักษาอย่างถูกต้อง แม้ว่า Sony จะยุติการผลิต Blu-ray แต่คู่แข่งอย่าง Pioneer ยังคงพัฒนาสื่อบันทึกข้อมูล Blu-ray ที่ออกแบบมาให้มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 100 ปี และนักวิจัยบางคนกำลังทำงานกับการเก็บข้อมูลบนแก้วที่สามารถเก็บข้อมูลได้นานถึง 5,000 ปี การยุติการผลิต Blu-ray ของ Sony เป็นการสิ้นสุดยุคหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้ผู้สะสมภาพยนตร์ต้องหาวิธีใหม่ในการเก็บรักษาคอลเลกชันของพวกเขา การเปลี่ยนไปใช้บริการสตรีมมิ่งทำให้การเป็นเจ้าของภาพยนตร์และรายการทีวีเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน เนื่องจากอาจหายไปจากบริการสตรีมมิ่งโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/after-18-years-blu-ray-media-production-draws-to-a-close-sony-shuts-its-last-factory-in-feb
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    After 18 years, Sony's Blu-ray media production draws to a close — shuts its last factory in Feb
    MiniDiscs for recording, MD data for recording, and MiniDV cassettes will also be abandoned.
    0 Comments 0 Shares 365 Views 0 Reviews
  • เทสลา ไชน่า (Tesla China) รายงานยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในตลาดจีนปี 2567 ทะลุ 657,000 คัน เพิ่มขึ้น 8.8% จากปีก่อนหน้า ถือเป็นยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่บริษัทเริ่มดำเนินการในจีน ยอดขายเดือนธันวาคมแตะ 83,000 คัน ทำลายสถิติยอดขายรายเดือน เพิ่มขึ้น 12.8% จากเดือนพฤศจิกายน

    อย่างไรก็ตาม ยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกของเทสลาในปี 2567 อยู่ที่ 1.79 ล้านคัน ลดลงจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 1.83 ล้านคัน นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 9 ปี แม้ว่าปีนี้เทสลาจะผลิตรถยนต์ได้ 1.77 ล้านคันทั่วโลก

    เทสลายังลงทุนเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเติบโตของ EV โดยในปี 2567 บริษัทได้ติดตั้งสถานีซูเปอร์ชาร์จเจอร์เพิ่มกว่า 11,500 แห่งทั่วโลก เพิ่มขึ้น 19% ทำให้ปัจจุบันมีสถานีชาร์จรวมกว่า 67,000 แห่ง เทสลายังวางแผนเปิดตัวสถานีซูเปอร์ชาร์จเจอร์รุ่นใหม่ V4 (V4 Supercharger) ในจีนตั้งแต่ปี 2568

    นอกจากนี้ โรงงานเมกะแฟกทอรี (Megafactory) ในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเน้นผลิตแบตเตอรี่สำหรับกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “เมกะแพก” (Megapack) ได้เริ่มทดลองผลิตแล้วในช่วงปลายปี 2567 โดยโรงงานคาดว่าจะเริ่มการผลิตเต็มกำลังได้ในช่วงไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) ปี 2568

    #MGROnline #เทสลา #เทสลาไชน่า

    เทสลา ไชน่า (Tesla China) รายงานยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในตลาดจีนปี 2567 ทะลุ 657,000 คัน เพิ่มขึ้น 8.8% จากปีก่อนหน้า ถือเป็นยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่บริษัทเริ่มดำเนินการในจีน ยอดขายเดือนธันวาคมแตะ 83,000 คัน ทำลายสถิติยอดขายรายเดือน เพิ่มขึ้น 12.8% จากเดือนพฤศจิกายน • อย่างไรก็ตาม ยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกของเทสลาในปี 2567 อยู่ที่ 1.79 ล้านคัน ลดลงจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 1.83 ล้านคัน นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 9 ปี แม้ว่าปีนี้เทสลาจะผลิตรถยนต์ได้ 1.77 ล้านคันทั่วโลก • เทสลายังลงทุนเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเติบโตของ EV โดยในปี 2567 บริษัทได้ติดตั้งสถานีซูเปอร์ชาร์จเจอร์เพิ่มกว่า 11,500 แห่งทั่วโลก เพิ่มขึ้น 19% ทำให้ปัจจุบันมีสถานีชาร์จรวมกว่า 67,000 แห่ง เทสลายังวางแผนเปิดตัวสถานีซูเปอร์ชาร์จเจอร์รุ่นใหม่ V4 (V4 Supercharger) ในจีนตั้งแต่ปี 2568 • นอกจากนี้ โรงงานเมกะแฟกทอรี (Megafactory) ในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเน้นผลิตแบตเตอรี่สำหรับกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “เมกะแพก” (Megapack) ได้เริ่มทดลองผลิตแล้วในช่วงปลายปี 2567 โดยโรงงานคาดว่าจะเริ่มการผลิตเต็มกำลังได้ในช่วงไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) ปี 2568 • #MGROnline #เทสลา #เทสลาไชน่า
    0 Comments 0 Shares 677 Views 0 Reviews
  • 🍭 เก็บครบทุกสถานที่ไฮไลท์เริ่มเดินทางจากแหลมฉบัง ประเทศไทย ก่อนมุ่งหน้าสู่ ฮ่องกง แวะเยี่ยมชม นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เดินทาง 1 ได้ถึง 2 ทั้งล่องเรือและทัวร์บก 🕍💨

    🚢 ล่องเรือสำราญ Costa Serena (ขึ้นแหลมฉบัง-ลงฮ่องกง) (3 Plus B) 7 วัน 6 คืน

    📍 เส้นทาง : แหลมฉบัง - ฟูหมี, โฮจิมินห์ เที่ยว วัดเทียนหาว - ไปรษณีย์กลาง - โบสถ์นอร์ทเธอดาม - ช้อปปิ้งตลาดเบนถัน - ฮ่องกง - วัดแชกงหมิว - Jewelry Factory - ช้อปปิ้งที่ย่าน Tsim Sha Tsui

    💬 เดินทาง 22-28 ก.พ. 68

    💵 ราคาเริ่มต้น : ฿34,999 🚨‼️

    ✔️ รวมตั๋วเครื่องบินขากลับ และรวมเที่ยว
    ✔️ มีหัวหน้าทัวร์ดูแล
    ✔️ รวมอาหารทุกมื้อบนเรือ

    📢 รหัสแพคเกจทัวร์ : COST-SL-7D6N-LCH-HKG-2502221
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/edc5da

    ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    ☎️: 0 2116 9696 (Auto)

    #เรือCOSTA #เรือCostaSerena #CostaSerena #Costa #Hongkong #ฮ่องกง #แพ็คเกจเรือล่องเรือสำราญ #Vietnam #Phumy #BenThanhMarket #CruiseDomain#thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    อ่านน้อยลง
    🍭 เก็บครบทุกสถานที่ไฮไลท์เริ่มเดินทางจากแหลมฉบัง ประเทศไทย ก่อนมุ่งหน้าสู่ ฮ่องกง แวะเยี่ยมชม นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เดินทาง 1 ได้ถึง 2 ทั้งล่องเรือและทัวร์บก 🕍💨 🚢 ล่องเรือสำราญ Costa Serena (ขึ้นแหลมฉบัง-ลงฮ่องกง) (3 Plus B) 7 วัน 6 คืน 📍 เส้นทาง : แหลมฉบัง - ฟูหมี, โฮจิมินห์ เที่ยว วัดเทียนหาว - ไปรษณีย์กลาง - โบสถ์นอร์ทเธอดาม - ช้อปปิ้งตลาดเบนถัน - ฮ่องกง - วัดแชกงหมิว - Jewelry Factory - ช้อปปิ้งที่ย่าน Tsim Sha Tsui 💬 เดินทาง 22-28 ก.พ. 68 💵 ราคาเริ่มต้น : ฿34,999 🚨‼️ ✔️ รวมตั๋วเครื่องบินขากลับ และรวมเที่ยว ✔️ มีหัวหน้าทัวร์ดูแล ✔️ รวมอาหารทุกมื้อบนเรือ 📢 รหัสแพคเกจทัวร์ : COST-SL-7D6N-LCH-HKG-2502221 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/edc5da ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #เรือCOSTA #เรือCostaSerena #CostaSerena #Costa #Hongkong #ฮ่องกง #แพ็คเกจเรือล่องเรือสำราญ #Vietnam #Phumy #BenThanhMarket #CruiseDomain#thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ อ่านน้อยลง
    0 Comments 0 Shares 1796 Views 0 Reviews
  • ความบ้าของอีลอน มัสก์ที่เขย่าอุตสาหกรรมEVในปี 2014 อีลอนได้ “เปิดเผย” ความลับของ Tesla ให้กับ BMW ทุกคนคิดว่าเขาบ้าแต่ “การกระทำอันเป็นการกุศล” นี้กลับกลายเป็นการดำเนินธุรกิจที่โหดและเฉียบแหลมที่สุดในประวัติศาสตร์ธุรกิจองค์กรขณะนั้นBMW พร้อมที่จะครองตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในยุโรป: BMW มีแบรนด์ที่ทรงพลัง มีวิศวกรรมรถยนต์ชั้นเลิศ และพวกเขามีกลยุทธ์การตลาดที่สมบูรณ์แบบแต่พวกเขาได้คาดเดาผิดๆ เกี่ยวกับ "ของขวัญ" ของอีลอน มัสก์ ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยการเดิมพัน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐขณะที่ BMW กำลังลงนามสัญญาผลิตแบตเตอรี่...อีลอน มัสก์ประกาศเปิดตัวโรงงานกิกะแฟคทอรี่ ซึ่งเป็นโรงงานที่ได้รับการออกแบบให้ผลิตแบตเตอรี่ได้มากกว่าที่ทั้งโลกผลิตได้ในปี 2013ในวันที่ 12 มิถุนายน 2014 อีลอนได้เผยแพร่โพสต์บล็อกที่มีหัวข้อว่า“สิทธิบัตรทั้งหมดของเราเป็นของคุณ”เขาประกาศว่า Tesla จะมอบสิทธิบัตรทั้งหมดของตนฟรีโลกแห่งยานยนต์คิดว่าเขาเสียสติไปแล้ว แต่ความบ้าคลั่งนี้มีความอัจฉริยะซ่อนอยู่:แต่นั่นยังไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่กล้าหาญที่สุดของเขา...นี่คือเหตุผลที่ BMW ไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน: ขณะนั้นปี2014  Tesla มีปัญหา 2 ประการ:• ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีขนาดเล็กเกินไป• ไม่มีใครสร้างสถานีชาร์จอีลอน มัสก์ตระหนักดีว่า เทสลาไม่สามารถชนะเพียงลำพังได้ พวกเขาจำเป็นต้องขยายตลาดทั้งหมดเขาจึงได้ทำสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน:อีลอน มัสก์ใช้ความใจบุญเป็นอาวุธ ด้วยการให้สิทธิบัตร Tesla เพื่อ• ส่งเสริมให้ผู้อื่นสร้างรถยนต์ไฟฟ้า• โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จที่ขยายเพิ่มขึ้น• ทำให้เทคโนโลยีของตนเป็นมาตรฐานขณะที่ BMW มุ่งเน้นไปที่การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา แต่อีลอน มัสก์เล่นเกมที่ใหญ่กว่านี้:Gigafactory ไม่ได้มีแค่แบตเตอรี่เท่านั้น มันเป็นเรื่องของขนาดในขณะที่คู่แข่งใช้สิทธิบัตรของ Tesla เพื่อไล่ตาม อีลอน มัสก์ได้สร้างอาณาจักรที่สามารถผลิตแบตเตอรี่ได้ถูกกว่าใครๆ อยู่แล้วสิทธิบัตรของ Tesla ทำให้คนอื่นๆ ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในเทคโนโลยี EVแต่หากไม่มีขนาดของ Tesla พวกเขาไม่สามารถแข่งขันในเรื่องต้นทุนได้BMW ได้เรียนรู้บทเรียนนี้ด้วยวิธีที่ยากลำบาก:• ต้นทุนแบตเตอรี่ของ Tesla: 187 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ kWh• ต้นทุนแบตเตอรี่ของ BMW: 280 เหรียญสหรัฐฯ/kWhช่องว่างก็ยิ่งกว้างขึ้น และ“ของขวัญ” จริงๆ แล้วเป็นกับดักภายในปี 2016 Tesla ผลิตแบตเตอรี่ได้ราคาถูกกว่าคู่แข่งถึง 60%การ "แจกฟรี" สิทธิบัตรมีดังต่อไปนี้:• ทำให้เทคโนโลยีของ Tesla กลายเป็นมาตรฐาน• ได้ให้คนอื่นมาตรวจสอบตลาด• ในขณะที่ Tesla สร้างข้อได้เปรียบด้านต้นทุนที่ไม่อาจเอาชนะได้ นี่คือความฉลาดทางยุทธศาสตร์แต่สิ่งที่ทุกคนพลาดไปก็คือ:นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการเอาชนะ BMW เท่านั้นอีลอนพิสูจน์บางอย่างที่มีค่ายิ่งกว่านั้น:ในยุคดิจิทัล ยิ่งให้ ยิ่งได้ ด้วยวิธีเปิด เอาชนะความลับ พวกเขาแบ่งปันอย่างมีกลยุทธ์เพื่อ:• สร้างระบบนิเวศ• กำหนดมาตรฐาน• สร้างเอฟเฟกต์เครือข่ายในขณะที่ยังรักษาข้อได้เปรียบการแข่งขันที่สำคัญทั้งในด้านขนาดและการดำเนินการนี่คือเหตุผลว่าทำไมการเข้าใจเทคโนโลยีเกิดใหม่จึงไม่เพียงพอ…นวัตกรรมที่แท้จริงมาจากการมองภาพรวม:เทคโนโลยีสามารถสร้างมูลค่าผ่านความร่วมมือ ไม่ใช่แค่การแข่งขันเพียงอย่างเดียวได้อย่างไรเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ความสำเร็จเกิดจาก:• ความเปิดกว้างเชิงกลยุทธ์ Openess • เทคโนโลยีเพื่อรองรับความก้าวหน้าของมนุษย์ไม่ใช่แค่ขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ…ดังนั้น“ความร่วมมือ” อยู่ใน DNA ของ Tesla และ อีลอน มัสก์  รวมถึงผู้ติดตามของอีลอน  ไม่ได้มาจาก “แนวคิดผลรวมเป็นศูนย์” ที่ทุกคนต้องสูญเสียแต่ผู้ชนะในปัจจุบันคือเปิดว้างไม่กั๊กเทคโนโลยี
    ความบ้าของอีลอน มัสก์ที่เขย่าอุตสาหกรรมEVในปี 2014 อีลอนได้ “เปิดเผย” ความลับของ Tesla ให้กับ BMW ทุกคนคิดว่าเขาบ้าแต่ “การกระทำอันเป็นการกุศล” นี้กลับกลายเป็นการดำเนินธุรกิจที่โหดและเฉียบแหลมที่สุดในประวัติศาสตร์ธุรกิจองค์กรขณะนั้นBMW พร้อมที่จะครองตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในยุโรป: BMW มีแบรนด์ที่ทรงพลัง มีวิศวกรรมรถยนต์ชั้นเลิศ และพวกเขามีกลยุทธ์การตลาดที่สมบูรณ์แบบแต่พวกเขาได้คาดเดาผิดๆ เกี่ยวกับ "ของขวัญ" ของอีลอน มัสก์ ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยการเดิมพัน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐขณะที่ BMW กำลังลงนามสัญญาผลิตแบตเตอรี่...อีลอน มัสก์ประกาศเปิดตัวโรงงานกิกะแฟคทอรี่ ซึ่งเป็นโรงงานที่ได้รับการออกแบบให้ผลิตแบตเตอรี่ได้มากกว่าที่ทั้งโลกผลิตได้ในปี 2013ในวันที่ 12 มิถุนายน 2014 อีลอนได้เผยแพร่โพสต์บล็อกที่มีหัวข้อว่า“สิทธิบัตรทั้งหมดของเราเป็นของคุณ”เขาประกาศว่า Tesla จะมอบสิทธิบัตรทั้งหมดของตนฟรีโลกแห่งยานยนต์คิดว่าเขาเสียสติไปแล้ว แต่ความบ้าคลั่งนี้มีความอัจฉริยะซ่อนอยู่:แต่นั่นยังไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่กล้าหาญที่สุดของเขา...นี่คือเหตุผลที่ BMW ไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน: ขณะนั้นปี2014  Tesla มีปัญหา 2 ประการ:• ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีขนาดเล็กเกินไป• ไม่มีใครสร้างสถานีชาร์จอีลอน มัสก์ตระหนักดีว่า เทสลาไม่สามารถชนะเพียงลำพังได้ พวกเขาจำเป็นต้องขยายตลาดทั้งหมดเขาจึงได้ทำสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน:อีลอน มัสก์ใช้ความใจบุญเป็นอาวุธ ด้วยการให้สิทธิบัตร Tesla เพื่อ• ส่งเสริมให้ผู้อื่นสร้างรถยนต์ไฟฟ้า• โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จที่ขยายเพิ่มขึ้น• ทำให้เทคโนโลยีของตนเป็นมาตรฐานขณะที่ BMW มุ่งเน้นไปที่การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา แต่อีลอน มัสก์เล่นเกมที่ใหญ่กว่านี้:Gigafactory ไม่ได้มีแค่แบตเตอรี่เท่านั้น มันเป็นเรื่องของขนาดในขณะที่คู่แข่งใช้สิทธิบัตรของ Tesla เพื่อไล่ตาม อีลอน มัสก์ได้สร้างอาณาจักรที่สามารถผลิตแบตเตอรี่ได้ถูกกว่าใครๆ อยู่แล้วสิทธิบัตรของ Tesla ทำให้คนอื่นๆ ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในเทคโนโลยี EVแต่หากไม่มีขนาดของ Tesla พวกเขาไม่สามารถแข่งขันในเรื่องต้นทุนได้BMW ได้เรียนรู้บทเรียนนี้ด้วยวิธีที่ยากลำบาก:• ต้นทุนแบตเตอรี่ของ Tesla: 187 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ kWh• ต้นทุนแบตเตอรี่ของ BMW: 280 เหรียญสหรัฐฯ/kWhช่องว่างก็ยิ่งกว้างขึ้น และ“ของขวัญ” จริงๆ แล้วเป็นกับดักภายในปี 2016 Tesla ผลิตแบตเตอรี่ได้ราคาถูกกว่าคู่แข่งถึง 60%การ "แจกฟรี" สิทธิบัตรมีดังต่อไปนี้:• ทำให้เทคโนโลยีของ Tesla กลายเป็นมาตรฐาน• ได้ให้คนอื่นมาตรวจสอบตลาด• ในขณะที่ Tesla สร้างข้อได้เปรียบด้านต้นทุนที่ไม่อาจเอาชนะได้ นี่คือความฉลาดทางยุทธศาสตร์แต่สิ่งที่ทุกคนพลาดไปก็คือ:นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการเอาชนะ BMW เท่านั้นอีลอนพิสูจน์บางอย่างที่มีค่ายิ่งกว่านั้น:ในยุคดิจิทัล ยิ่งให้ ยิ่งได้ ด้วยวิธีเปิด เอาชนะความลับ พวกเขาแบ่งปันอย่างมีกลยุทธ์เพื่อ:• สร้างระบบนิเวศ• กำหนดมาตรฐาน• สร้างเอฟเฟกต์เครือข่ายในขณะที่ยังรักษาข้อได้เปรียบการแข่งขันที่สำคัญทั้งในด้านขนาดและการดำเนินการนี่คือเหตุผลว่าทำไมการเข้าใจเทคโนโลยีเกิดใหม่จึงไม่เพียงพอ…นวัตกรรมที่แท้จริงมาจากการมองภาพรวม:เทคโนโลยีสามารถสร้างมูลค่าผ่านความร่วมมือ ไม่ใช่แค่การแข่งขันเพียงอย่างเดียวได้อย่างไรเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ความสำเร็จเกิดจาก:• ความเปิดกว้างเชิงกลยุทธ์ Openess • เทคโนโลยีเพื่อรองรับความก้าวหน้าของมนุษย์ไม่ใช่แค่ขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ…ดังนั้น“ความร่วมมือ” อยู่ใน DNA ของ Tesla และ อีลอน มัสก์  รวมถึงผู้ติดตามของอีลอน  ไม่ได้มาจาก “แนวคิดผลรวมเป็นศูนย์” ที่ทุกคนต้องสูญเสียแต่ผู้ชนะในปัจจุบันคือเปิดว้างไม่กั๊กเทคโนโลยี
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 1078 Views 0 Reviews
  • คนที่ชอบ swab บ่อยๆ อดทนอ่านสักนิดนะ
    อันนี้เค้าแปลไทยมาให้แล้ว บรรทัดต่อบรรทัด
    ว่ามันอันตรายยังไง แบบไหน เพราะอะไร
    ⏩เหตุใดหน่วยงานภาครัฐจึงยังดึงดันที่จะบังคับใช้ TR-PCT test เป็น Gold Standard ในการวินิจฉัยผู้ติดเชื้อโkวิdให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และบ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะบ่อยได้ในบุคคลเดิม
    ⏩ทั้งที่เทคนิคนี้ได้รับการพิสูจน์อย่างกว้างขวางโดยนักวิทยาศาตร์และบุคลากรทางการแพทย์กว่าห้าหมื่นคนทั่วโลกแล้วว่าเป็นวิธีที่เชื่อถือไม่ได้
    ⏩ให้ผลบวกลวง หรือ False Positive มหาศาลกว่า 90% และแม้แต่ Dr. Kary Mullis ผู้คิดค้นเทคนิคนี้เอง
    ยังยืนกรานออกสื่อหลายครั้งว่ามันไม่เที่ยงตรงและนำไปสู่การแปลผลผิดพลาดได้
    ❓เหตุใดจึงเลือกวิธีล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะของพวกเราอย่างมากทั้งที่สามารถทำได้ง่ายจากการตรวจวิเคราะห์น้ำลาย
    📌การสอดไม้ Swab เข้าไปกว้านลึกถึงเพดานจมูกสามารถสร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อพังผืดที่ห่อหุ้ม Olfactory Nerve
    📌ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและอายุขัยของมนุษย์ เนื่องจาก olfactory nerve เป็นปราการด่านหนึ่งในสองของกะโหลกศรีษะ
    ⏩ซึ่งเชื่อมระหว่างโพรงจมูกกับสมอง ที่ไวรัสและแบคทีเรียสามารถเดินทางข้าม blood-brain barrier เข้าสู่สมองได้
    📌นอกจากนี้ olfactory nerve ยังเป็นเซลล์ชนิดเดียวในกะโหลกศรีษะที่มี stem cells เรียกว่า olfactory ensheathing cells ที่ล้อมรอบเซลล์รับกลิ่น olfactory sensory axons ส่วนที่ยื่นออกมาจากเซลล์ประสาท neuron
    ⏩ทำหน้าที่ส่งผ่านกระแสประสาทจากเซลล์ร่างกาย พวกมันทำหน้าที่ปกป้อง olfactory nerve และช่วยการสร้างเซลล์ใหม่เมื่อเกิดความบาดเจ็บเสียหาย (สเต็มเซลล์ชนิดนี้มีความพิเศษมากจนถูกนำไปใช้ในการซ่อมแซมไขสันหลังบาดเจ็บและรักษาโรคทางสมองหลายชนิดในการแพทย์ปัจจุบันอย่างประสบความสำเร็จ)
    ⏩นอกจากนี้ olfactory ensheathing cells ยังช่วยเป็นภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด
    ✅เนื่องจากมันประพฤติตัวเป็น phagocytic กล่าวคือ จับกินและย่อยสลายเชื้อโรคได้
    📌ดังนั้น มันจึงเป็นปราการสำคัญที่ช่วยป้องกันสมองโดยระบบภูมิคุ้มกันธรรมชาติของร่างกาย โดยเซลล์ประสาท Olfactory และ neuron bulb มีอายุขัย 4-8 เดือน
    ก่อนจะถูกแทนที่อย่างต่อเนื่องด้วย neuron stem cell อย่าง olfactory ensheathing cells
    ⏩มันช่วยส่งเสริมการอยู่รอดของเซลล์ประสาทและช่วยในการขยายตัวของ axon
    📌จากงานวิจัยล่าสุด แสดงให้เห็นว่า หาก olfactory ensheathing cells สูญเสียความสามารถในการสร้างใหม่หรือซ่อมแซมตัวเองไป
    ‼️จะทำให้โอกาสการเสียชีวิตภายใน 5 ปี ในผู้ใหญ่วัย 57 – 85 ปี เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 4 เท่าตัว
    📌การทำงานของ olfactory จึงเสมือนเป็นเครื่องทำนายความสามารถในการดำรงชีวิตภายใน 5 ปี เป็นสัญญาณเตือนเมื่อการสร้างใหม่ของเซลล์ช้าลง และใช้เป็นเครื่องบ่งชี้เมื่อมีการสะสมสารพิษที่สัมผัสจากสิ่งแวดล้อม
    ‼️ Olfactory nerve ที่เสียหายเสมือนป้อมปราการสู่สมองถูกทำลาย ทำให้ง่ายต่อการถูกโจมตีด้วยสิ่งแปลกปลอมและส่งผลอันตรายถึงแก่ชีวิต
    📌การ swab PCR เป็นระยะ จนทำลายความสามารถในการสร้างใหม่ต่อ Olfactory nerve ทำให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในผู้ใหญ่อายุ 57 – 85 ปี ซึ่งเป็นประชากรกลุ่มผู้สูงอายุ
    ‼️การทดสอบ PCR test มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเสียหายครั้งแล้วครั้งเล่าต่อ Olfactory nerve
    📌ทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    ⏩ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อนี้ได้ถูกนำไปสนับสนุนให้รัฐบาลยกระดับมาตรการต่อโรคระบาดยิ่งขึ้น
    📌เมื่อมีผู้ถูกทดสอบโดย PCR เพิ่มขึ้น เซลล์ป้องกันจึงถูกทำลายมากขึ้นและมีผู้ติดเชื้อหลากหลายชนิดเพิ่มขึ้นในครั้งต่อมา
    😔โดยจะถูกตีความต่อไปว่า เกิดการติดเชื้อจากไวรัสโkวิdด้วยการเพิ่มจำนวน Cycle ใน thermal cycler จนกว่าเปอร์เซ็นต์จะเพิ่มจนให้ผลเป็นบวก
    ⏩เพื่อสรุปว่าเป็นโkวิdตามต้องการ
    📌อาจมีการโต้แย้งว่า การทดสอบ swab ช่องจมูกที่ถูกต้อง ควรกวาดเป็นมุมสูงไม่เกิน 30 องศา จากแนวระนาบเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเส้นประสาทรับกลิ่น
    📌แต่ในตำแหน่งดังกล่าวนี้ ไม้ Swab จะไปไปสัมผัสเส้นประสาท Trigeminal แทน ซึ่งเป็น blood-brain barrier เข้าสู่สมองปราการที่สอง
    ‼️ส่งผลต่อการรับรสและการมองเห็น
    📌นอกจากนี้ เพื่อเป็นการทำลายประสาทรับกลิ่นและรส ไม้ swab ไม่จำเป็นต้องไปสัมผัสโดนจนก่ออันตรายต่อเซลล์ประสาท Trigeminal หรือ Olfactory โดยตรงเลย
    ⁉️แค่ลำพังการสร้างความระคายเคืองต่อเยื่อเมือกในโพรงจมูก ก็สามารถส่งผลกระทบต่ออวัยวะทั้งระบบ Limbic
    📌เนื่องจากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก
    ‼️สิ่งนี้สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดผู้ป่วยโควิดจึงสูญเสียการตอบสนองทางพฤติกรรมที่ควบคุมโดยระบบ Limbic เช่น การนอนหลับ ความเหนื่อยล้า การรับรู้ การปรับตัว การเคลื่อนไหว ความจำ เป็นต้น
    📌นอกจากปลายของไม้ swab มีเขี้ยวขรุขระ ประกอบกับวิธีการสอดที่ลึกและการหมุนที่กว้างอย่างรุนแรง
    ⏩ถูกออกแบบมาเพื่อขีดข่วนสร้างความเสียหายให้เยื่อยุผิวมากที่สุดแล้ว
    ‼️ยังพบว่ามีการใช้สารเคมี ethylene oxide ที่รู้จักกันดีว่าเป็นสารก่อมะเร็ง
    📌ถูกนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อใน PCR swab test ก่ออันตรายกับเยื่อเมือกโพรงจมูกซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่มีความไวต่อการแพ้
    📌ร่วมกับมาตรการบังคับใช้ให้สวมหน้ากากอนามัยทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง
    📌จึงเป็นการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียและไวรัสให้เข้าสู่สมองผ่าน Olfactory nerve และ Trigeminal neve ที่เสียหายให้มากยิ่งขึ้น
    📌จากผลการศึกษาหลายร้อยชิ้น แสดงให้เห็นว่าภายใต้หน้ากากอนามัยเป็นแหล่งปนเปื้อนแบคทีเรียและเชื้อราจำนวนมาก เมื่อสวมใส่เป็นเวลานาน
    📌และหลายงานวิจัยยืนยันว่าการใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของระบบทางเดินหายใจสั้นลง และความเหนื่อยล้าอย่างมีนัยสำคัญ (P<0.05)
    ⏩ในหน้ากาก N95 ออกซิเจนลดลง 72%, คาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น 82%, อาการปวดหัว 60%, ความบกพร่องของการหายในอุณหภูมิและความชื้นที่เพิ่มขึ้น 100%.
    📌นอกจากนี้ หลายการศึกษาพบว่า
    การใส่หน้ากากอนามัย ไม่สามารถปิดกั้นการแพร่กระจายของละอองไวรัสได้อย่างสมบูรณ์แม้ขณะปิดสนิท จึงไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ
    📌ในปี 2020 เด็กและวัยรุ่นส่วนใหญ่รอดพ้นการการทดสอบ PCR มีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีอาการแสดงการติดเชื้อโควิดเลย
    📌กระทั่งปี 2021 เมื่อมีการทดสอบเชิงรุก พวกเขาก็เริ่มแสดงอาการ ที่เกิดจากโkวิdทันที
    📌ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการสร้างความเสียหายต่อสมองโดยจงใจ
    ‼️ความบกพร่องในการทำงานของศูนย์กลางการหายใจในสมอง Medula oblongata ก่อให้เกิดภาวะหายใจลำบาก Dyspnoea โดยที่ไม่มีการติดเชื้อหรือรอยโรคใดที่ปอด แต่เป็นความเสียหายทางสมองและระบบประสาท
    เราเรียบเรียงใหม่จากส่วนหนึ่งในบทความ PCR Tests and the Depopulation Program by Kevin Galalae, 10 October 2021
    Cr : Ramone Jira
    คนที่ชอบ swab บ่อยๆ อดทนอ่านสักนิดนะ อันนี้เค้าแปลไทยมาให้แล้ว บรรทัดต่อบรรทัด ว่ามันอันตรายยังไง แบบไหน เพราะอะไร ⏩เหตุใดหน่วยงานภาครัฐจึงยังดึงดันที่จะบังคับใช้ TR-PCT test เป็น Gold Standard ในการวินิจฉัยผู้ติดเชื้อโkวิdให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และบ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะบ่อยได้ในบุคคลเดิม ⏩ทั้งที่เทคนิคนี้ได้รับการพิสูจน์อย่างกว้างขวางโดยนักวิทยาศาตร์และบุคลากรทางการแพทย์กว่าห้าหมื่นคนทั่วโลกแล้วว่าเป็นวิธีที่เชื่อถือไม่ได้ ⏩ให้ผลบวกลวง หรือ False Positive มหาศาลกว่า 90% และแม้แต่ Dr. Kary Mullis ผู้คิดค้นเทคนิคนี้เอง ยังยืนกรานออกสื่อหลายครั้งว่ามันไม่เที่ยงตรงและนำไปสู่การแปลผลผิดพลาดได้ ❓เหตุใดจึงเลือกวิธีล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะของพวกเราอย่างมากทั้งที่สามารถทำได้ง่ายจากการตรวจวิเคราะห์น้ำลาย 📌การสอดไม้ Swab เข้าไปกว้านลึกถึงเพดานจมูกสามารถสร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อพังผืดที่ห่อหุ้ม Olfactory Nerve 📌ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและอายุขัยของมนุษย์ เนื่องจาก olfactory nerve เป็นปราการด่านหนึ่งในสองของกะโหลกศรีษะ ⏩ซึ่งเชื่อมระหว่างโพรงจมูกกับสมอง ที่ไวรัสและแบคทีเรียสามารถเดินทางข้าม blood-brain barrier เข้าสู่สมองได้ 📌นอกจากนี้ olfactory nerve ยังเป็นเซลล์ชนิดเดียวในกะโหลกศรีษะที่มี stem cells เรียกว่า olfactory ensheathing cells ที่ล้อมรอบเซลล์รับกลิ่น olfactory sensory axons ส่วนที่ยื่นออกมาจากเซลล์ประสาท neuron ⏩ทำหน้าที่ส่งผ่านกระแสประสาทจากเซลล์ร่างกาย พวกมันทำหน้าที่ปกป้อง olfactory nerve และช่วยการสร้างเซลล์ใหม่เมื่อเกิดความบาดเจ็บเสียหาย (สเต็มเซลล์ชนิดนี้มีความพิเศษมากจนถูกนำไปใช้ในการซ่อมแซมไขสันหลังบาดเจ็บและรักษาโรคทางสมองหลายชนิดในการแพทย์ปัจจุบันอย่างประสบความสำเร็จ) ⏩นอกจากนี้ olfactory ensheathing cells ยังช่วยเป็นภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด ✅เนื่องจากมันประพฤติตัวเป็น phagocytic กล่าวคือ จับกินและย่อยสลายเชื้อโรคได้ 📌ดังนั้น มันจึงเป็นปราการสำคัญที่ช่วยป้องกันสมองโดยระบบภูมิคุ้มกันธรรมชาติของร่างกาย โดยเซลล์ประสาท Olfactory และ neuron bulb มีอายุขัย 4-8 เดือน ก่อนจะถูกแทนที่อย่างต่อเนื่องด้วย neuron stem cell อย่าง olfactory ensheathing cells ⏩มันช่วยส่งเสริมการอยู่รอดของเซลล์ประสาทและช่วยในการขยายตัวของ axon 📌จากงานวิจัยล่าสุด แสดงให้เห็นว่า หาก olfactory ensheathing cells สูญเสียความสามารถในการสร้างใหม่หรือซ่อมแซมตัวเองไป ‼️จะทำให้โอกาสการเสียชีวิตภายใน 5 ปี ในผู้ใหญ่วัย 57 – 85 ปี เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 4 เท่าตัว 📌การทำงานของ olfactory จึงเสมือนเป็นเครื่องทำนายความสามารถในการดำรงชีวิตภายใน 5 ปี เป็นสัญญาณเตือนเมื่อการสร้างใหม่ของเซลล์ช้าลง และใช้เป็นเครื่องบ่งชี้เมื่อมีการสะสมสารพิษที่สัมผัสจากสิ่งแวดล้อม ‼️ Olfactory nerve ที่เสียหายเสมือนป้อมปราการสู่สมองถูกทำลาย ทำให้ง่ายต่อการถูกโจมตีด้วยสิ่งแปลกปลอมและส่งผลอันตรายถึงแก่ชีวิต 📌การ swab PCR เป็นระยะ จนทำลายความสามารถในการสร้างใหม่ต่อ Olfactory nerve ทำให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในผู้ใหญ่อายุ 57 – 85 ปี ซึ่งเป็นประชากรกลุ่มผู้สูงอายุ ‼️การทดสอบ PCR test มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเสียหายครั้งแล้วครั้งเล่าต่อ Olfactory nerve 📌ทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ⏩ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อนี้ได้ถูกนำไปสนับสนุนให้รัฐบาลยกระดับมาตรการต่อโรคระบาดยิ่งขึ้น 📌เมื่อมีผู้ถูกทดสอบโดย PCR เพิ่มขึ้น เซลล์ป้องกันจึงถูกทำลายมากขึ้นและมีผู้ติดเชื้อหลากหลายชนิดเพิ่มขึ้นในครั้งต่อมา 😔โดยจะถูกตีความต่อไปว่า เกิดการติดเชื้อจากไวรัสโkวิdด้วยการเพิ่มจำนวน Cycle ใน thermal cycler จนกว่าเปอร์เซ็นต์จะเพิ่มจนให้ผลเป็นบวก ⏩เพื่อสรุปว่าเป็นโkวิdตามต้องการ 📌อาจมีการโต้แย้งว่า การทดสอบ swab ช่องจมูกที่ถูกต้อง ควรกวาดเป็นมุมสูงไม่เกิน 30 องศา จากแนวระนาบเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเส้นประสาทรับกลิ่น 📌แต่ในตำแหน่งดังกล่าวนี้ ไม้ Swab จะไปไปสัมผัสเส้นประสาท Trigeminal แทน ซึ่งเป็น blood-brain barrier เข้าสู่สมองปราการที่สอง ‼️ส่งผลต่อการรับรสและการมองเห็น 📌นอกจากนี้ เพื่อเป็นการทำลายประสาทรับกลิ่นและรส ไม้ swab ไม่จำเป็นต้องไปสัมผัสโดนจนก่ออันตรายต่อเซลล์ประสาท Trigeminal หรือ Olfactory โดยตรงเลย ⁉️แค่ลำพังการสร้างความระคายเคืองต่อเยื่อเมือกในโพรงจมูก ก็สามารถส่งผลกระทบต่ออวัยวะทั้งระบบ Limbic 📌เนื่องจากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก ‼️สิ่งนี้สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดผู้ป่วยโควิดจึงสูญเสียการตอบสนองทางพฤติกรรมที่ควบคุมโดยระบบ Limbic เช่น การนอนหลับ ความเหนื่อยล้า การรับรู้ การปรับตัว การเคลื่อนไหว ความจำ เป็นต้น 📌นอกจากปลายของไม้ swab มีเขี้ยวขรุขระ ประกอบกับวิธีการสอดที่ลึกและการหมุนที่กว้างอย่างรุนแรง ⏩ถูกออกแบบมาเพื่อขีดข่วนสร้างความเสียหายให้เยื่อยุผิวมากที่สุดแล้ว ‼️ยังพบว่ามีการใช้สารเคมี ethylene oxide ที่รู้จักกันดีว่าเป็นสารก่อมะเร็ง 📌ถูกนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อใน PCR swab test ก่ออันตรายกับเยื่อเมือกโพรงจมูกซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่มีความไวต่อการแพ้ 📌ร่วมกับมาตรการบังคับใช้ให้สวมหน้ากากอนามัยทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง 📌จึงเป็นการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียและไวรัสให้เข้าสู่สมองผ่าน Olfactory nerve และ Trigeminal neve ที่เสียหายให้มากยิ่งขึ้น 📌จากผลการศึกษาหลายร้อยชิ้น แสดงให้เห็นว่าภายใต้หน้ากากอนามัยเป็นแหล่งปนเปื้อนแบคทีเรียและเชื้อราจำนวนมาก เมื่อสวมใส่เป็นเวลานาน 📌และหลายงานวิจัยยืนยันว่าการใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของระบบทางเดินหายใจสั้นลง และความเหนื่อยล้าอย่างมีนัยสำคัญ (P<0.05) ⏩ในหน้ากาก N95 ออกซิเจนลดลง 72%, คาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น 82%, อาการปวดหัว 60%, ความบกพร่องของการหายในอุณหภูมิและความชื้นที่เพิ่มขึ้น 100%. 📌นอกจากนี้ หลายการศึกษาพบว่า การใส่หน้ากากอนามัย ไม่สามารถปิดกั้นการแพร่กระจายของละอองไวรัสได้อย่างสมบูรณ์แม้ขณะปิดสนิท จึงไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ 📌ในปี 2020 เด็กและวัยรุ่นส่วนใหญ่รอดพ้นการการทดสอบ PCR มีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีอาการแสดงการติดเชื้อโควิดเลย 📌กระทั่งปี 2021 เมื่อมีการทดสอบเชิงรุก พวกเขาก็เริ่มแสดงอาการ ที่เกิดจากโkวิdทันที 📌ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการสร้างความเสียหายต่อสมองโดยจงใจ ‼️ความบกพร่องในการทำงานของศูนย์กลางการหายใจในสมอง Medula oblongata ก่อให้เกิดภาวะหายใจลำบาก Dyspnoea โดยที่ไม่มีการติดเชื้อหรือรอยโรคใดที่ปอด แต่เป็นความเสียหายทางสมองและระบบประสาท เราเรียบเรียงใหม่จากส่วนหนึ่งในบทความ PCR Tests and the Depopulation Program by Kevin Galalae, 10 October 2021 Cr : Ramone Jira
    0 Comments 0 Shares 1065 Views 0 Reviews
  • Day camp Donbosco @3khaowfactory
    Day camp Donbosco @3khaowfactory
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • แวะกันนะ..ใจจะร่ม..สุขภาพจิตจะสมดุล..การบริการดีเลิศ ..
    When making coffee, factory have to be very careful with aflotoxin mold...

    Debunking the Myth About Mycotoxins in Coffee

    Many different types of mycotoxins exist, but the ones most relevant to coffee crops are aflatoxin B1 and ochratoxin A.

    Aflatoxin B1 is a known carcinogen and has been shown to have various harmful effects.


    แวะกันนะ..ใจจะร่ม..สุขภาพจิตจะสมดุล..การบริการดีเลิศ .. When making coffee, factory have to be very careful with aflotoxin mold... Debunking the Myth About Mycotoxins in Coffee Many different types of mycotoxins exist, but the ones most relevant to coffee crops are aflatoxin B1 and ochratoxin A. Aflatoxin B1 is a known carcinogen and has been shown to have various harmful effects.
    Love
    1
    2 Comments 0 Shares 468 Views 86 0 Reviews
More Results