• รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251122 #TechRadar

    Data Governance: กุญแจสำคัญของ AI ที่เชื่อถือได้
    เรื่องนี้พูดถึง “Data Governance” หรือการกำกับดูแลข้อมูล ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการทำ AI ให้ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ หลายองค์กรรีบใช้ Generative AI แต่กลับละเลยการจัดการคุณภาพข้อมูล ทำให้เสี่ยงต่อปัญหา เช่น ข้อมูลผิดพลาด, อคติ, หรือการละเมิดกฎหมาย การกำกับดูแลที่ดีต้องครอบคลุมตั้งแต่คุณภาพข้อมูล, ความโปร่งใสของโมเดล, ความเป็นธรรม, ไปจนถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ หากองค์กรทำได้ตั้งแต่ต้น จะเปลี่ยน AI จากความเสี่ยงให้เป็นคุณค่าอย่างมหาศาล
    https://www.techradar.com/pro/what-is-data-governance-and-why-is-it-crucial-for-successful-ai-projects

    FCC ยกเลิกกฎไซเบอร์ป้องกันการโจมตี Salt Typhoon
    ข่าวนี้เล่าว่า FCC ของสหรัฐฯ ตัดสินใจยกเลิกกฎระเบียบด้านความปลอดภัยเครือข่ายที่เคยออกมาเพื่อป้องกันการโจมตีจากกลุ่มแฮ็กเกอร์จีน Salt Typhoon เดิมที กฎนี้บังคับให้บริษัทโทรคมนาคมต้องมีมาตรการป้องกันเข้มงวด แต่ตอนนี้ถูกยกเลิก โดยให้เหตุผลว่าบริษัทต่าง ๆ ก็ทำเองอยู่แล้ว และกฎที่บังคับใช้แบบเดียวกันทุกบริษัทอาจเป็นภาระเกินไป การตัดสินใจนี้จึงถูกวิจารณ์ว่าอาจทำให้ความปลอดภัยของผู้ใช้และประเทศเสี่ยงมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/security/us-fcc-repeals-cybersecurity-rules-aimed-at-preventing-salt-typhoon-esque-attacks

    Cybersecurity ในโรงงาน: ด่านหน้าแห่งการผลิตยุคใหม่
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าโรงงานและอุตสาหกรรมการผลิตกำลังเผชิญภัยไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น ไม่ใช่แค่ขโมยข้อมูล แต่ถึงขั้นหยุดสายการผลิตได้จริง เช่น กรณีบริษัทเหล็กใหญ่ในสหรัฐฯ ที่ต้องหยุดการผลิตเพราะถูกโจมตี การใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติยิ่งเพิ่มช่องโหว่ การป้องกันจึงต้องครอบคลุมทั้ง IT และ OT (Operational Technology) แนวทางใหม่คือการสร้าง “ความยืดหยุ่นทางไซเบอร์” ที่ฝังอยู่ในโครงสร้างการผลิต เพื่อให้โรงงานเดินต่อได้แม้ถูกโจมตี
    https://www.techradar.com/pro/protecting-productivity-the-imperative-of-cybersecurity-in-manufacturing

    Human Risk: อย่าโทษพนักงาน แต่ต้องแก้ระบบ
    ข่าวนี้เล่าถึงการโจมตีไซเบอร์ที่เกิดขึ้นกับธุรกิจค้าปลีกในสหราชอาณาจักร จุดอ่อนที่แท้จริงไม่ใช่ระบบ แต่คือ “คน” เพราะกว่า 80% ของการโจมตีสำเร็จมีปัจจัยมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น คลิกลิงก์ฟิชชิ่ง หรือใช้รหัสผ่านซ้ำ ๆ ปัญหาคือองค์กรชอบโทษพนักงานว่าเป็น “จุดอ่อน” ทั้งที่จริงควรสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยร่วมกัน ให้พนักงานรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของการป้องกัน และใช้เทคโนโลยีเสริม เช่น ระบบตรวจจับและตอบสนองตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออุดช่องโหว่ที่เกิดจากความผิดพลาดของคน
    https://www.techradar.com/pro/human-risk-dont-blame-the-victim-fix-the-system

    AI กลายเป็น Insider ที่อันตรายได้
    บทความนี้เปิดเผยช่องโหว่ใหม่ที่เรียกว่า “Second-order prompt injection” ในแพลตฟอร์ม AI ของ ServiceNow ที่ชื่อ Now Assist ปัญหาคือ AI ตัวหนึ่งที่มีสิทธิ์ต่ำสามารถหลอกให้ AI อีกตัวที่มีสิทธิ์สูงทำงานแทน เช่น ดึงข้อมูลลับออกมาโดยไม่มีมนุษย์ตรวจสอบ เหมือนกับการที่ AI กลายเป็น “พนักงานภายในที่ทรยศ” วิธีแก้คือองค์กรต้องตั้งค่าการทำงานให้รัดกุม เช่น จำกัดสิทธิ์, ปิดการ override อัตโนมัติ, และตรวจสอบพฤติกรรมของ AI อย่างต่อเนื่อง
    https://www.techradar.com/pro/security/second-order-prompt-injection-can-turn-ai-into-a-malicious-insider

    ChatGPT เข้าสู่ Group Chat ทั่วโลก
    ข่าวนี้เล่าว่า ChatGPT เปิดฟีเจอร์ใหม่ให้ใช้งานใน “Group Chat” ได้แล้วทั่วโลก ผู้ใช้สามารถสร้างห้องสนทนาที่มีหลายคนเข้าร่วม และให้ AI เข้ามาเป็นผู้ช่วยในวงสนทนาได้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การทำงานร่วมกันสะดวกขึ้น เช่น ใช้ AI สรุปประเด็น, หาข้อมูล, หรือช่วยคิดไอเดียในกลุ่ม โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นการคุยแบบตัวต่อตัวอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-enters-the-group-chat-globally

    Fitbit เปิดตัว AI ช่วยลดความเครียดก่อนพบแพทย์
    Fitbit เปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้เตรียมตัวก่อนเข้าพบแพทย์ โดยจะช่วยสรุปข้อมูลสุขภาพจากอุปกรณ์ เช่น การนอน, การออกกำลังกาย, และอัตราการเต้นหัวใจ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจภาพรวมสุขภาพของตัวเองได้ง่ายขึ้นก่อนการตรวจจริง อย่างไรก็ตาม บทความตั้งคำถามว่า AI แบบนี้จะช่วยจริงหรือทำให้ผู้ใช้พึ่งพามากเกินไป และอาจสร้างความกังวลใหม่แทนที่จะลดความเครียด
    https://www.techradar.com/health-fitness/fitness-apps/fitbits-new-ai-tool-wants-to-take-the-stress-out-of-your-next-doctors-visit-and-i-have-some-serious-questions

    สงคราม Cloud: AWS ถูกคุกคามจาก Microsoft และ Google
    บทความนี้พูดถึงการแข่งขันในตลาด Cloud ที่ดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ โดย AWS ซึ่งเคยครองตลาดอย่างมั่นคง กำลังถูกท้าทายจาก Microsoft Azure และ Google Cloud ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งสองบริษัทใช้จุดแข็งด้าน AI และการผสานบริการกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อดึงลูกค้า ทำให้ AWS ต้องหาทางปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาด
    https://www.techradar.com/pro/global-cloud-wars-see-aws-increasingly-under-threat-from-microsoft-and-google

    กล้องจับความเร็ว + แจ้งเตือนอันตรายราคาประหยัด
    รีวิวอุปกรณ์ใหม่ที่ทำหน้าที่เป็นทั้ง “กล้องจับความเร็ว” และ “ตัวแจ้งเตือนอันตรายบนถนน” จุดเด่นคือราคาถูกและไม่มีหน้าจอ ทำให้ใช้งานง่าย ไม่รบกวนสายตาขณะขับรถ ผู้เขียนบอกว่าเป็นเหมือน “Copilot” ที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/dash-cams/i-tried-this-simple-speed-camera-and-hazard-tracker-and-its-the-affordable-screen-less-copilot-ive-been-looking-for

    AI แอปใหม่ให้ “คุยกับคนตาย” ได้
    ข่าวนี้ค่อนข้างสะเทือนใจ แอป AI ใหม่สามารถสร้างการสนทนากับ “ผู้เสียชีวิต” ได้ โดยใช้วิดีโอเพียงไม่กี่นาทีมาสร้างโมเดลจำลองบุคคลขึ้นมา ผู้ใช้สามารถพูดคุยเหมือนกับคนที่จากไปจริง ๆ แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวและอาจกระทบจิตใจผู้ใช้ เพราะเส้นแบ่งระหว่างความจริงกับการจำลองเริ่มเลือนราง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/this-ai-app-lets-you-chat-with-the-dead-using-a-few-minutes-of-video-and-not-everyone-is-okay-with-that

    Crisis: AI Agents กำลังสร้างวิกฤติด้านตัวตนและความปลอดภัย
    บทความนี้เตือนว่า “AI Agents” หรือระบบอัตโนมัติที่ทำงานแทนมนุษย์ กำลังสร้างปัญหาด้านความปลอดภัยและการจัดการตัวตนในองค์กร เพราะพวกมันสามารถเข้าถึงข้อมูล, ตัดสินใจ, และทำงานได้เหมือนพนักงานจริง แต่หากไม่มีการกำกับดูแลที่ดี ก็อาจกลายเป็นช่องโหว่ใหญ่ เช่น การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการตัดสินใจที่ผิดพลาดในระดับองค์กร แนวทางแก้คือการสร้างระบบตรวจสอบสิทธิ์, การติดตามพฤติกรรม, และการกำหนดนโยบายที่ชัดเจน เพื่อให้มั่นใจว่า AI จะไม่กลายเป็นภัยต่อองค์กรเอง
    https://www.techradar.com/pro/security/ai-agents-are-fuelling-an-identity-and-security-crisis-for-organizations

    Linux Godfather พูดถึง "Vibe Coding"
    Linus Torvalds ผู้สร้าง Linux ออกมาแสดงความเห็นต่อการใช้ AI ช่วยเขียนโค้ด หรือที่เรียกว่า "vibe coding" เขามองว่ามันเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากลองทำสิ่งที่ตัวเองยังทำไม่ได้ แต่ไม่ควรนำมาใช้กับระบบสำคัญอย่าง Linux kernel เพราะจะสร้างปัญหาระยะยาวในการดูแลรักษา เขายังเล่าถึงความซับซ้อนของการเขียนโปรแกรมสมัยนี้ที่ต่างจากยุคที่เขาเริ่มต้น และเตือนว่าการใช้ AI ในงานจริงต้องระวังมาก
    https://www.techradar.com/pro/linux-godfather-linus-torvald-says-hes-fine-with-vibe-coding-just-dont-use-it-on-anything-important

    รวม 16 Mini PC ที่น่าสนใจใน Black Friday
    นักรีวิวได้ลองทดสอบ Mini PC ตลอดปี และคัดมา 16 รุ่นที่คุ้มค่าที่สุดในช่วงลดราคานี้ จุดเด่นของ Mini PC คือขนาดเล็ก ประหยัดพื้นที่ แต่ยังมีพลังเพียงพอสำหรับงานหลากหลาย ตั้งแต่ใช้งานทั่วไป ไปจนถึงงานสร้างคอนเทนต์ รุ่นที่ถูกใจที่สุดคือ GMKtec K12 ที่อัปเกรดได้หลากหลาย ทั้ง RAM และ SSD เหมาะกับคนทำงานจริงจัง ส่วนใครงบจำกัดก็มีรุ่นเล็ก ๆ ราคาประหยัดที่ยังใช้งานได้ดี
    https://www.techradar.com/pro/i-tested-loads-of-mini-pcs-this-year-and-these-are-16-of-my-favorites-with-up-to-usd600-off-for-black-friday-so-far

    Google Gemini 3 เปิดตัว พร้อมโชว์ 6 Prompt เจ๋ง ๆ
    Google เปิดตัว Gemini 3 รุ่นใหม่ที่ฉลาดขึ้นทั้งด้านการให้เหตุผลและการเข้าใจข้อมูลหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ภาพ หรือวิดีโอ จุดเด่นคือสามารถจัดการคำสั่งที่ซับซ้อนได้เอง และยังมีโหมด "Deep Think" สำหรับงานที่ต้องใช้การวิเคราะห์หลายขั้นตอน Google ยังโชว์ตัวอย่าง prompt เช่น การวางแผนทริป 3 วันในโรม ที่ Gemini สามารถสร้างตารางเที่ยวแบบสวยงามและปรับตามความสนใจของผู้ใช้ได้
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/google-gemini-3-has-dropped-here-are-6-prompts-that-show-what-it-can-do

    ฮาร์ดดิสก์พกพา 5TB ลดราคา พร้อมฟีเจอร์ครบ
    Seagate One Touch 5TB Portable HDD กำลังลดราคาช่วง Black Friday จาก $145 เหลือ $130 จุดเด่นคือมีระบบเข้ารหัสป้องกันข้อมูล ดีไซน์โลหะดูพรีเมียม น้ำหนักเบา และยังแถมบริการเสริม เช่น Dropbox Backup และ Data Recovery เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่เก็บไฟล์มหาศาล ทั้งภาพ วิดีโอ หรือเกม พร้อมความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย
    https://www.techradar.com/pro/what-a-bargain-this-5tb-portable-hdd-has-hardware-encryption-free-dropbox-backup-and-data-recovery-services-im-definitely-adding-it-to-my-basket-for-black-friday

    Gemini App ตรวจสอบภาพว่าเป็น AI หรือไม่
    Google เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Gemini App ที่ให้ผู้ใช้ตรวจสอบได้ว่าภาพถูกสร้างด้วย AI หรือเปล่า โดยใช้เทคโนโลยี SynthID ที่ฝังลายน้ำดิจิทัลไว้ในภาพ ทุกภาพที่สร้างจาก Google AI จะมีสัญลักษณ์ "sparkle" ให้เห็นชัดเจน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นเวลาเจอภาพที่ไม่แน่ใจ แต่ถ้าเป็นภาพจาก AI เจ้าอื่นที่ไม่มีลายน้ำ ระบบก็จะบอกได้เพียงว่า "ไม่ใช่ของ Google" เท่านั้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/you-can-now-ask-the-gemini-app-if-an-image-was-made-by-ai-thanks-to-googles-synthid-tool

    Mullvad VPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ต้านการบล็อก

    Mullvad VPN เปิดตัวระบบ obfuscation ที่เร็วขึ้น เพื่อช่วยผู้ใช้หลีกเลี่ยงการบล็อก WireGuard โดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือรัฐบาล ฟีเจอร์นี้ทำให้การเชื่อมต่อ VPN ดูเหมือนทราฟฟิกธรรมดา จึงยากต่อการตรวจจับและบล็อก เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างอิสระ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/mullvad-vpn-adds-ultra-fast-obfuscation-to-beat-wireguard-blocking

    รีวิวหูฟังว่ายน้ำ Jabees 7Seven
    หูฟัง Jabees 7Seven แบบ bone conduction สำหรับการว่ายน้ำ ถูกรีวิวว่าเบา ใช้งานง่าย และมีคุณภาพเสียงดีเกินราคา จุดเด่นคือสามารถใช้ใต้น้ำได้จริง มีความทนทาน และราคาย่อมเยาเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เหมาะกับนักว่ายน้ำที่อยากฟังเพลงหรือพอดแคสต์ระหว่างออกกำลังกาย
    https://www.techradar.com/health-fitness/fitness-headphones/jabees-7seven-review

    ช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ D-Link
    มีการค้นพบช่องโหว่ในเราเตอร์ D-Link ที่อาจเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้ามาควบคุมหรือขโมยข้อมูลได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปิดช่องโหว่ทันที และหากรุ่นที่ใช้งานหมดอายุการสนับสนุนแล้ว ควรพิจารณาเปลี่ยนไปใช้เราเตอร์รุ่นใหม่เพื่อความปลอดภัย
    https://www.techradar.com/pro/security/d-link-routers-under-threat-from-dangerous-flaw-heres-how-to-stay-safe

    Jimdo เสริม AI ให้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์
    Jimdo ผู้ให้บริการสร้างเว็บไซต์ออนไลน์ เพิ่มฟีเจอร์ AI เพื่อช่วยผู้ใช้สร้างเว็บที่เหมาะกับธุรกิจมากขึ้น AI จะช่วยแนะนำโครงสร้าง เนื้อหา และการออกแบบที่เหมาะสม ทำให้ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กสามารถสร้างเว็บไซต์ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/jimdo-adds-ai-to-its-website-builder-promises-better-business-outcomes

    X (Twitter เดิม) ล่มอีกครั้ง
    แพลตฟอร์ม X ประสบปัญหาล่มอีกครั้ง โดยผู้ใช้จำนวนมากรายงานว่าไม่สามารถเข้าใช้งานได้ ปัญหานี้เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้ใช้เริ่มตั้งคำถามถึงความเสถียรของระบบและการจัดการของทีมงาน
    https://www.techradar.com/news/live/x-is-down-outage-november-21

    SonicWall เตือนลูกค้ารีบอัปเดต Patch
    SonicWall แจ้งเตือนลูกค้าให้รีบอัปเดต SonicOS หลังพบช่องโหว่ที่อาจทำให้แฮกเกอร์โจมตีจนระบบ firewall ล่มได้ทันที การอัปเดตครั้งนี้มีความสำคัญมาก เพราะหากปล่อยไว้ อาจทำให้ระบบป้องกันเครือข่ายขององค์กรเสี่ยงต่อการถูกโจมตี
    https://www.techradar.com/pro/security/sonicwall-tells-customers-to-patch-sonicos-flaw-allowing-hackers-to-crash-firewalls

    Google AI Mode คืออะไร ควรใช้ไหม?
    Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ "AI Mode" ที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงความสามารถของ Gemini ได้ง่ายขึ้น โดยสามารถสลับโหมดเพื่อให้ AI ช่วยในงานต่าง ๆ เช่น การเขียน การสรุป หรือการวิเคราะห์ข้อมูล แต่ก็มีคำถามว่าควรใช้หรือไม่ เพราะบางงานอาจต้องการความแม่นยำสูงที่ AI ยังไม่สมบูรณ์
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/what-is-google-ai-mode-and-should-you-use-it

    มองอนาคตการเชื่อมต่อ 10 ปีข้างหน้า
    งาน Yotta 2025 ได้เผยบทเรียนสำคัญ 4 ข้อเกี่ยวกับอนาคตการเชื่อมต่อในทศวรรษหน้า ทั้งเรื่องการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การขยายโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และการสร้างระบบที่ยั่งยืนสำหรับธุรกิจและผู้บริโภค ถือเป็นการมองภาพรวมว่าการเชื่อมต่อจะกลายเป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจและชีวิตประจำวัน
    https://www.techradar.com/pro/a-glimpse-into-the-next-decade-of-connectivity-4-lessons-from-yotta-2025

    Garmin Fenix 8 vs Apple Watch Ultra 3
    สองแบรนด์นาฬิกาออกกำลังกายระดับพรีเมียมมาเจอกัน – Garmin Fenix 8 และ Apple Watch Ultra 3 ต่างก็มีจุดเด่นของตัวเอง แต่เมื่อเทียบกันแล้ว Garmin Fenix 8 ชนะใจผู้รีวิว เพราะแบตเตอรี่ที่อึดสุด ๆ ใช้งานได้ยาวนานถึง 48 วัน เทียบกับ Apple Watch Ultra 3 ที่อยู่ได้ราว 42 ชั่วโมง แม้ Apple จะมีระบบปฏิบัติการที่ลื่นไหลและแอปเสริมมากมาย แต่ Garmin ก็มีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์สายวิ่งและสายผจญภัย เช่น ไฟฉาย LED และการทำงานร่วมกับ Android ได้ด้วย สุดท้ายผู้รีวิวเลือก Garmin Fenix 8 เป็นตัวที่คุ้มค่ากว่า
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/garmin-fenix-8-vs-apple-watch-ultra-3-heres-which-one-id-buy-on-black-friday

    Elon Musk กับอนาคตของงานและ AI
    Elon Musk พูดบนเวทีใหญ่ที่สหรัฐฯ ว่า “ในอนาคต งานจะเป็นเรื่องเลือกทำ ไม่จำเป็นต้องทำ” เขามองว่า AI และหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่งานจำนวนมหาศาล และคนที่ยังทำงานก็จะเหมือนคนที่ปลูกผักเองเพราะชอบ ไม่ใช่เพราะจำเป็น แม้แนวคิดนี้จะฟังดูเหมือนยูโทเปีย แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการมองโลกในแง่ที่ไม่สอดคล้องกับความจริง เพราะคนส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งรายได้เพื่ออยู่รอด อย่างไรก็ตาม Musk เชื่อว่าหุ่นยนต์และ AI จะช่วยลดความยากจนได้
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/elon-musk-on-the-future-of-jobs-and-ai-my-prediction-is-that-work-will-be-optional

    MacBook Pro 16 นิ้ว ลดราคาสุดแรง
    รีวิวจากผู้เชี่ยวชาญด้านแล็ปท็อปบอกว่า MacBook Pro 16 นิ้ว รุ่นชิป M4 Pro ตอนนี้ลดราคาลงถึง 310 ดอลลาร์ เหลือ 2,189 ดอลลาร์ แม้ยังเป็นราคาสูง แต่ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับสายทำงานกราฟิก ตัดต่อวิดีโอ หรือเล่นเกมบน Mac เพราะชิป M4 Pro มีพลังประมวลผลสูงกว่า M5 ในงานหลายด้าน พร้อมจอ Liquid Retina XDR ที่สวยคมชัด ดีลนี้ถูกยกให้เป็นราคาต่ำสุดที่เคยมีมา เหมาะกับคนที่อยากได้เครื่องแรง ๆ ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/macbooks/i-review-laptops-for-a-living-and-a-record-low-price-on-the-16-inch-macbook-pro-is-actually-worth-seeing

    DJI Mini 4K – โดรนเริ่มต้นที่ดีที่สุด
    สำหรับใครที่อยากลองเล่นโดรน DJI Mini 4K ถูกยกให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับมือใหม่ และตอนนี้ราคาลดเหลือเพียง 239 ดอลลาร์ในสหรัฐฯ หรือ 215 ปอนด์ในอังกฤษ จุดเด่นคือกล้อง 4K พร้อมกิมบอล 3 แกน ทำให้ภาพวิดีโอออกมานิ่งและคมชัด มีโหมดบินอัตโนมัติที่ช่วยให้ถ่ายช็อตสวย ๆ ได้ง่าย และยังทนลมระดับ 5 ได้อีกด้วย ถือเป็นดีลที่คุ้มค่ามากสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นถ่ายภาพมุมสูงโดยไม่ต้องลงทุนสูง
    https://www.techradar.com/cameras/drones/ive-found-your-best-first-drone-for-a-record-low-price-the-dji-mini-4k-at-amazon

    Ray-Ban Meta Glasses ราคาต่ำสุด
    แว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban Meta ที่หลายคนชื่นชอบ ตอนนี้ลดราคาลงเหลือเพียง 238.99 ดอลลาร์สำหรับรุ่นเลนส์ใส และ 303.20 ดอลลาร์สำหรับรุ่นเลนส์ปรับแสง (Transitions) ซึ่งเหมาะกับการใช้งานได้ทุกสภาพแสง ฟีเจอร์เด่นคือมีลำโพงแบบเปิดหู กล้องถ่ายภาพและวิดีโอจากมุมมองบุคคลที่หนึ่ง และยังมี AI ช่วยแปลภาษา ตอบคำถาม หรือบอกข้อมูลสถานที่ผ่านฟังก์ชัน “Look and Ask” แม้แบตหมดก็ยังใช้เป็นแว่นกันแดดเท่ ๆ ได้
    https://www.techradar.com/seasonal-sales/you-can-buy-ray-ban-meta-glasses-for-their-cheapest-ever-price-thanks-to-black-friday

    ช่องโหว่ WhatsApp ทำข้อมูลผู้ใช้เสี่ยง
    มีการค้นพบช่องโหว่ใน WhatsApp ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถดึงข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ผู้ใช้กว่า 3.5 พันล้านหมายเลขทั่วโลกออกมาได้ รวมถึงเข้าถึงโปรไฟล์และคีย์เข้ารหัสบางส่วนด้วย แม้ WhatsApp จะบอกว่าปัญหานี้ถูกแก้ไขแล้ว แต่เหตุการณ์นี้ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของการใช้แพลตฟอร์มสื่อสารที่มีผู้ใช้งานจำนวนมหาศาล ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ใช้ตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว และอัปเดตแอปให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ
    https://www.techradar.com/pro/whatsapp-security-flaw-lets-experts-scrape-3-5-billion-user-numbers-heres-what-we-know-and-how-to-stay-safe

    Nvidia เปิดทาง NVLink สู่ Arm CPU
    Nvidia กำลังขยายการเชื่อมต่อ NVLink ให้ทำงานร่วมกับ Arm CPU ได้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกเซิร์ฟเวอร์และเวิร์กสเตชัน เพราะ NVLink ช่วยให้ GPU ทำงานร่วมกันได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง การเปิดให้ Arm CPU ใช้งานได้จะทำให้ผู้ผลิตระบบ hyperscale สามารถออกแบบเครื่องที่ยืดหยุ่นและทรงพลังมากขึ้น เป็นการขยายตลาดที่น่าสนใจสำหรับทั้ง Nvidia และพันธมิตร
    https://www.techradar.com/pro/is-nvidia-opening-up-its-nvlink-doors-even-further-new-partnership-with-amd-will-see-greater-integration-across-many-kinds-of-chips

    ลำโพงบลูทูธเบสหนัก ราคาถูกลง
    รีวิวลำโพงบลูทูธที่ขึ้นชื่อเรื่องเสียงเบสหนักแน่น ตอนนี้ลดราคาลงมากในช่วง Black Friday ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนที่อยากได้เสียงกระหึ่มในราคาที่จับต้องได้ จุดเด่นคือพลังเสียงที่ดังชัด ใช้งานได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน พร้อมแบตเตอรี่ที่อึดพอสมควร เหมาะกับสายปาร์ตี้หรือคนที่ชอบฟังเพลงแนว EDM และฮิปฮอป
    https://www.techradar.com/audio/wireless-bluetooth-speakers/i-love-this-bass-heavy-bluetooth-speaker-and-its-cheaper-than-ever-for-black-friday

    PlayStation Portal ราคาต่ำสุด พร้อมอัปเดตใหม่
    PlayStation Portal เครื่องเล่นเกมพกพาที่เชื่อมต่อกับ PS5 ได้ ตอนนี้ลดราคาลงต่ำสุดตั้งแต่เปิดตัว และยังมาพร้อมอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ที่ทำให้ประสบการณ์เล่นเกมดีขึ้นมาก การลดราคาครั้งนี้ทำให้หลายคนที่ลังเลก่อนหน้านี้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ถือเป็นดีลที่น่าสนใจสำหรับแฟน PlayStation ที่อยากเล่นเกมจากเครื่องหลักได้ทุกที่
    https://www.techradar.com/gaming/the-playstation-portal-has-hit-its-lowest-ever-price-for-black-friday-and-its-impossible-to-ignore-at-this-price-and-after-its-game-changing-update

    Comet AI Browser ลง Android แล้ว
    เบราว์เซอร์ Comet AI ที่ใช้เทคโนโลยี AI ช่วยผู้ใช้ในการค้นหาและจัดการข้อมูล ตอนนี้เปิดตัวบน Android แล้ว จุดเด่นคือการใช้ AI ช่วยสรุปเนื้อหาเว็บ ค้นหาข้อมูลได้เร็วขึ้น และยังมีฟีเจอร์ช่วยจัดการแท็บให้เป็นระเบียบมากขึ้น การมาลง Android ทำให้ผู้ใช้มือถือสามารถเข้าถึงประสบการณ์การท่องเว็บที่ฉลาดขึ้นได้ทุกที่
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/comet-ai-browser-lands-on-android

    บริษัทยักษ์เหมือง Bitcoin หันไปทำศูนย์ข้อมูล AI
    หลังจากธุรกิจขุด Bitcoin ขาดทุนหนัก บริษัทเหมืองรายใหญ่ตัดสินใจปรับโมเดลธุรกิจใหม่ หันไปลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูล AI มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ การเปลี่ยนทิศทางนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังกลายเป็นโอกาสใหม่ที่น่าสนใจกว่าการทำเหมืองคริปโต ซึ่งเผชิญกับต้นทุนสูงและความผันผวนของตลาด
    https://www.techradar.com/pro/is-ai-more-appealing-than-crypto-now-a-major-bitcoin-miner-has-decided-to-pivot-to-ai-data-centers-heres-why

    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251122 #TechRadar 🧩 Data Governance: กุญแจสำคัญของ AI ที่เชื่อถือได้ เรื่องนี้พูดถึง “Data Governance” หรือการกำกับดูแลข้อมูล ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการทำ AI ให้ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ หลายองค์กรรีบใช้ Generative AI แต่กลับละเลยการจัดการคุณภาพข้อมูล ทำให้เสี่ยงต่อปัญหา เช่น ข้อมูลผิดพลาด, อคติ, หรือการละเมิดกฎหมาย การกำกับดูแลที่ดีต้องครอบคลุมตั้งแต่คุณภาพข้อมูล, ความโปร่งใสของโมเดล, ความเป็นธรรม, ไปจนถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ หากองค์กรทำได้ตั้งแต่ต้น จะเปลี่ยน AI จากความเสี่ยงให้เป็นคุณค่าอย่างมหาศาล 🔗 https://www.techradar.com/pro/what-is-data-governance-and-why-is-it-crucial-for-successful-ai-projects 🛡️ FCC ยกเลิกกฎไซเบอร์ป้องกันการโจมตี Salt Typhoon ข่าวนี้เล่าว่า FCC ของสหรัฐฯ ตัดสินใจยกเลิกกฎระเบียบด้านความปลอดภัยเครือข่ายที่เคยออกมาเพื่อป้องกันการโจมตีจากกลุ่มแฮ็กเกอร์จีน Salt Typhoon เดิมที กฎนี้บังคับให้บริษัทโทรคมนาคมต้องมีมาตรการป้องกันเข้มงวด แต่ตอนนี้ถูกยกเลิก โดยให้เหตุผลว่าบริษัทต่าง ๆ ก็ทำเองอยู่แล้ว และกฎที่บังคับใช้แบบเดียวกันทุกบริษัทอาจเป็นภาระเกินไป การตัดสินใจนี้จึงถูกวิจารณ์ว่าอาจทำให้ความปลอดภัยของผู้ใช้และประเทศเสี่ยงมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/us-fcc-repeals-cybersecurity-rules-aimed-at-preventing-salt-typhoon-esque-attacks 🏭 Cybersecurity ในโรงงาน: ด่านหน้าแห่งการผลิตยุคใหม่ บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าโรงงานและอุตสาหกรรมการผลิตกำลังเผชิญภัยไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น ไม่ใช่แค่ขโมยข้อมูล แต่ถึงขั้นหยุดสายการผลิตได้จริง เช่น กรณีบริษัทเหล็กใหญ่ในสหรัฐฯ ที่ต้องหยุดการผลิตเพราะถูกโจมตี การใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติยิ่งเพิ่มช่องโหว่ การป้องกันจึงต้องครอบคลุมทั้ง IT และ OT (Operational Technology) แนวทางใหม่คือการสร้าง “ความยืดหยุ่นทางไซเบอร์” ที่ฝังอยู่ในโครงสร้างการผลิต เพื่อให้โรงงานเดินต่อได้แม้ถูกโจมตี 🔗 https://www.techradar.com/pro/protecting-productivity-the-imperative-of-cybersecurity-in-manufacturing 👥 Human Risk: อย่าโทษพนักงาน แต่ต้องแก้ระบบ ข่าวนี้เล่าถึงการโจมตีไซเบอร์ที่เกิดขึ้นกับธุรกิจค้าปลีกในสหราชอาณาจักร จุดอ่อนที่แท้จริงไม่ใช่ระบบ แต่คือ “คน” เพราะกว่า 80% ของการโจมตีสำเร็จมีปัจจัยมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น คลิกลิงก์ฟิชชิ่ง หรือใช้รหัสผ่านซ้ำ ๆ ปัญหาคือองค์กรชอบโทษพนักงานว่าเป็น “จุดอ่อน” ทั้งที่จริงควรสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยร่วมกัน ให้พนักงานรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของการป้องกัน และใช้เทคโนโลยีเสริม เช่น ระบบตรวจจับและตอบสนองตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออุดช่องโหว่ที่เกิดจากความผิดพลาดของคน 🔗 https://www.techradar.com/pro/human-risk-dont-blame-the-victim-fix-the-system 🤖 AI กลายเป็น Insider ที่อันตรายได้ บทความนี้เปิดเผยช่องโหว่ใหม่ที่เรียกว่า “Second-order prompt injection” ในแพลตฟอร์ม AI ของ ServiceNow ที่ชื่อ Now Assist ปัญหาคือ AI ตัวหนึ่งที่มีสิทธิ์ต่ำสามารถหลอกให้ AI อีกตัวที่มีสิทธิ์สูงทำงานแทน เช่น ดึงข้อมูลลับออกมาโดยไม่มีมนุษย์ตรวจสอบ เหมือนกับการที่ AI กลายเป็น “พนักงานภายในที่ทรยศ” วิธีแก้คือองค์กรต้องตั้งค่าการทำงานให้รัดกุม เช่น จำกัดสิทธิ์, ปิดการ override อัตโนมัติ, และตรวจสอบพฤติกรรมของ AI อย่างต่อเนื่อง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/second-order-prompt-injection-can-turn-ai-into-a-malicious-insider 💬 ChatGPT เข้าสู่ Group Chat ทั่วโลก ข่าวนี้เล่าว่า ChatGPT เปิดฟีเจอร์ใหม่ให้ใช้งานใน “Group Chat” ได้แล้วทั่วโลก ผู้ใช้สามารถสร้างห้องสนทนาที่มีหลายคนเข้าร่วม และให้ AI เข้ามาเป็นผู้ช่วยในวงสนทนาได้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การทำงานร่วมกันสะดวกขึ้น เช่น ใช้ AI สรุปประเด็น, หาข้อมูล, หรือช่วยคิดไอเดียในกลุ่ม โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นการคุยแบบตัวต่อตัวอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-enters-the-group-chat-globally 🩺 Fitbit เปิดตัว AI ช่วยลดความเครียดก่อนพบแพทย์ Fitbit เปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้เตรียมตัวก่อนเข้าพบแพทย์ โดยจะช่วยสรุปข้อมูลสุขภาพจากอุปกรณ์ เช่น การนอน, การออกกำลังกาย, และอัตราการเต้นหัวใจ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจภาพรวมสุขภาพของตัวเองได้ง่ายขึ้นก่อนการตรวจจริง อย่างไรก็ตาม บทความตั้งคำถามว่า AI แบบนี้จะช่วยจริงหรือทำให้ผู้ใช้พึ่งพามากเกินไป และอาจสร้างความกังวลใหม่แทนที่จะลดความเครียด 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/fitness-apps/fitbits-new-ai-tool-wants-to-take-the-stress-out-of-your-next-doctors-visit-and-i-have-some-serious-questions ☁️ สงคราม Cloud: AWS ถูกคุกคามจาก Microsoft และ Google บทความนี้พูดถึงการแข่งขันในตลาด Cloud ที่ดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ โดย AWS ซึ่งเคยครองตลาดอย่างมั่นคง กำลังถูกท้าทายจาก Microsoft Azure และ Google Cloud ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งสองบริษัทใช้จุดแข็งด้าน AI และการผสานบริการกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อดึงลูกค้า ทำให้ AWS ต้องหาทางปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาด 🔗 https://www.techradar.com/pro/global-cloud-wars-see-aws-increasingly-under-threat-from-microsoft-and-google 🚗 กล้องจับความเร็ว + แจ้งเตือนอันตรายราคาประหยัด รีวิวอุปกรณ์ใหม่ที่ทำหน้าที่เป็นทั้ง “กล้องจับความเร็ว” และ “ตัวแจ้งเตือนอันตรายบนถนน” จุดเด่นคือราคาถูกและไม่มีหน้าจอ ทำให้ใช้งานง่าย ไม่รบกวนสายตาขณะขับรถ ผู้เขียนบอกว่าเป็นเหมือน “Copilot” ที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/dash-cams/i-tried-this-simple-speed-camera-and-hazard-tracker-and-its-the-affordable-screen-less-copilot-ive-been-looking-for 👻 AI แอปใหม่ให้ “คุยกับคนตาย” ได้ ข่าวนี้ค่อนข้างสะเทือนใจ แอป AI ใหม่สามารถสร้างการสนทนากับ “ผู้เสียชีวิต” ได้ โดยใช้วิดีโอเพียงไม่กี่นาทีมาสร้างโมเดลจำลองบุคคลขึ้นมา ผู้ใช้สามารถพูดคุยเหมือนกับคนที่จากไปจริง ๆ แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวและอาจกระทบจิตใจผู้ใช้ เพราะเส้นแบ่งระหว่างความจริงกับการจำลองเริ่มเลือนราง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/this-ai-app-lets-you-chat-with-the-dead-using-a-few-minutes-of-video-and-not-everyone-is-okay-with-that 🆔 Crisis: AI Agents กำลังสร้างวิกฤติด้านตัวตนและความปลอดภัย บทความนี้เตือนว่า “AI Agents” หรือระบบอัตโนมัติที่ทำงานแทนมนุษย์ กำลังสร้างปัญหาด้านความปลอดภัยและการจัดการตัวตนในองค์กร เพราะพวกมันสามารถเข้าถึงข้อมูล, ตัดสินใจ, และทำงานได้เหมือนพนักงานจริง แต่หากไม่มีการกำกับดูแลที่ดี ก็อาจกลายเป็นช่องโหว่ใหญ่ เช่น การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการตัดสินใจที่ผิดพลาดในระดับองค์กร แนวทางแก้คือการสร้างระบบตรวจสอบสิทธิ์, การติดตามพฤติกรรม, และการกำหนดนโยบายที่ชัดเจน เพื่อให้มั่นใจว่า AI จะไม่กลายเป็นภัยต่อองค์กรเอง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ai-agents-are-fuelling-an-identity-and-security-crisis-for-organizations 🐧 Linux Godfather พูดถึง "Vibe Coding" Linus Torvalds ผู้สร้าง Linux ออกมาแสดงความเห็นต่อการใช้ AI ช่วยเขียนโค้ด หรือที่เรียกว่า "vibe coding" เขามองว่ามันเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากลองทำสิ่งที่ตัวเองยังทำไม่ได้ แต่ไม่ควรนำมาใช้กับระบบสำคัญอย่าง Linux kernel เพราะจะสร้างปัญหาระยะยาวในการดูแลรักษา เขายังเล่าถึงความซับซ้อนของการเขียนโปรแกรมสมัยนี้ที่ต่างจากยุคที่เขาเริ่มต้น และเตือนว่าการใช้ AI ในงานจริงต้องระวังมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/linux-godfather-linus-torvald-says-hes-fine-with-vibe-coding-just-dont-use-it-on-anything-important 💻 รวม 16 Mini PC ที่น่าสนใจใน Black Friday นักรีวิวได้ลองทดสอบ Mini PC ตลอดปี และคัดมา 16 รุ่นที่คุ้มค่าที่สุดในช่วงลดราคานี้ จุดเด่นของ Mini PC คือขนาดเล็ก ประหยัดพื้นที่ แต่ยังมีพลังเพียงพอสำหรับงานหลากหลาย ตั้งแต่ใช้งานทั่วไป ไปจนถึงงานสร้างคอนเทนต์ รุ่นที่ถูกใจที่สุดคือ GMKtec K12 ที่อัปเกรดได้หลากหลาย ทั้ง RAM และ SSD เหมาะกับคนทำงานจริงจัง ส่วนใครงบจำกัดก็มีรุ่นเล็ก ๆ ราคาประหยัดที่ยังใช้งานได้ดี 🔗 https://www.techradar.com/pro/i-tested-loads-of-mini-pcs-this-year-and-these-are-16-of-my-favorites-with-up-to-usd600-off-for-black-friday-so-far 🤖 Google Gemini 3 เปิดตัว พร้อมโชว์ 6 Prompt เจ๋ง ๆ Google เปิดตัว Gemini 3 รุ่นใหม่ที่ฉลาดขึ้นทั้งด้านการให้เหตุผลและการเข้าใจข้อมูลหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ภาพ หรือวิดีโอ จุดเด่นคือสามารถจัดการคำสั่งที่ซับซ้อนได้เอง และยังมีโหมด "Deep Think" สำหรับงานที่ต้องใช้การวิเคราะห์หลายขั้นตอน Google ยังโชว์ตัวอย่าง prompt เช่น การวางแผนทริป 3 วันในโรม ที่ Gemini สามารถสร้างตารางเที่ยวแบบสวยงามและปรับตามความสนใจของผู้ใช้ได้ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/google-gemini-3-has-dropped-here-are-6-prompts-that-show-what-it-can-do 💾 ฮาร์ดดิสก์พกพา 5TB ลดราคา พร้อมฟีเจอร์ครบ Seagate One Touch 5TB Portable HDD กำลังลดราคาช่วง Black Friday จาก $145 เหลือ $130 จุดเด่นคือมีระบบเข้ารหัสป้องกันข้อมูล ดีไซน์โลหะดูพรีเมียม น้ำหนักเบา และยังแถมบริการเสริม เช่น Dropbox Backup และ Data Recovery เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่เก็บไฟล์มหาศาล ทั้งภาพ วิดีโอ หรือเกม พร้อมความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/pro/what-a-bargain-this-5tb-portable-hdd-has-hardware-encryption-free-dropbox-backup-and-data-recovery-services-im-definitely-adding-it-to-my-basket-for-black-friday ✨ Gemini App ตรวจสอบภาพว่าเป็น AI หรือไม่ Google เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Gemini App ที่ให้ผู้ใช้ตรวจสอบได้ว่าภาพถูกสร้างด้วย AI หรือเปล่า โดยใช้เทคโนโลยี SynthID ที่ฝังลายน้ำดิจิทัลไว้ในภาพ ทุกภาพที่สร้างจาก Google AI จะมีสัญลักษณ์ "sparkle" ให้เห็นชัดเจน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นเวลาเจอภาพที่ไม่แน่ใจ แต่ถ้าเป็นภาพจาก AI เจ้าอื่นที่ไม่มีลายน้ำ ระบบก็จะบอกได้เพียงว่า "ไม่ใช่ของ Google" เท่านั้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/you-can-now-ask-the-gemini-app-if-an-image-was-made-by-ai-thanks-to-googles-synthid-tool 🌐 Mullvad VPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ต้านการบล็อก Mullvad VPN เปิดตัวระบบ obfuscation ที่เร็วขึ้น เพื่อช่วยผู้ใช้หลีกเลี่ยงการบล็อก WireGuard โดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือรัฐบาล ฟีเจอร์นี้ทำให้การเชื่อมต่อ VPN ดูเหมือนทราฟฟิกธรรมดา จึงยากต่อการตรวจจับและบล็อก เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างอิสระ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/mullvad-vpn-adds-ultra-fast-obfuscation-to-beat-wireguard-blocking 🎧 รีวิวหูฟังว่ายน้ำ Jabees 7Seven หูฟัง Jabees 7Seven แบบ bone conduction สำหรับการว่ายน้ำ ถูกรีวิวว่าเบา ใช้งานง่าย และมีคุณภาพเสียงดีเกินราคา จุดเด่นคือสามารถใช้ใต้น้ำได้จริง มีความทนทาน และราคาย่อมเยาเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เหมาะกับนักว่ายน้ำที่อยากฟังเพลงหรือพอดแคสต์ระหว่างออกกำลังกาย 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/fitness-headphones/jabees-7seven-review 🔒 ช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ D-Link มีการค้นพบช่องโหว่ในเราเตอร์ D-Link ที่อาจเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้ามาควบคุมหรือขโมยข้อมูลได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปิดช่องโหว่ทันที และหากรุ่นที่ใช้งานหมดอายุการสนับสนุนแล้ว ควรพิจารณาเปลี่ยนไปใช้เราเตอร์รุ่นใหม่เพื่อความปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/d-link-routers-under-threat-from-dangerous-flaw-heres-how-to-stay-safe 🌐 Jimdo เสริม AI ให้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ Jimdo ผู้ให้บริการสร้างเว็บไซต์ออนไลน์ เพิ่มฟีเจอร์ AI เพื่อช่วยผู้ใช้สร้างเว็บที่เหมาะกับธุรกิจมากขึ้น AI จะช่วยแนะนำโครงสร้าง เนื้อหา และการออกแบบที่เหมาะสม ทำให้ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กสามารถสร้างเว็บไซต์ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/jimdo-adds-ai-to-its-website-builder-promises-better-business-outcomes 🐦 X (Twitter เดิม) ล่มอีกครั้ง แพลตฟอร์ม X ประสบปัญหาล่มอีกครั้ง โดยผู้ใช้จำนวนมากรายงานว่าไม่สามารถเข้าใช้งานได้ ปัญหานี้เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้ใช้เริ่มตั้งคำถามถึงความเสถียรของระบบและการจัดการของทีมงาน 🔗 https://www.techradar.com/news/live/x-is-down-outage-november-21 🔥 SonicWall เตือนลูกค้ารีบอัปเดต Patch SonicWall แจ้งเตือนลูกค้าให้รีบอัปเดต SonicOS หลังพบช่องโหว่ที่อาจทำให้แฮกเกอร์โจมตีจนระบบ firewall ล่มได้ทันที การอัปเดตครั้งนี้มีความสำคัญมาก เพราะหากปล่อยไว้ อาจทำให้ระบบป้องกันเครือข่ายขององค์กรเสี่ยงต่อการถูกโจมตี 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/sonicwall-tells-customers-to-patch-sonicos-flaw-allowing-hackers-to-crash-firewalls 🤔 Google AI Mode คืออะไร ควรใช้ไหม? Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ "AI Mode" ที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงความสามารถของ Gemini ได้ง่ายขึ้น โดยสามารถสลับโหมดเพื่อให้ AI ช่วยในงานต่าง ๆ เช่น การเขียน การสรุป หรือการวิเคราะห์ข้อมูล แต่ก็มีคำถามว่าควรใช้หรือไม่ เพราะบางงานอาจต้องการความแม่นยำสูงที่ AI ยังไม่สมบูรณ์ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/what-is-google-ai-mode-and-should-you-use-it 📡 มองอนาคตการเชื่อมต่อ 10 ปีข้างหน้า งาน Yotta 2025 ได้เผยบทเรียนสำคัญ 4 ข้อเกี่ยวกับอนาคตการเชื่อมต่อในทศวรรษหน้า ทั้งเรื่องการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การขยายโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และการสร้างระบบที่ยั่งยืนสำหรับธุรกิจและผู้บริโภค ถือเป็นการมองภาพรวมว่าการเชื่อมต่อจะกลายเป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจและชีวิตประจำวัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/a-glimpse-into-the-next-decade-of-connectivity-4-lessons-from-yotta-2025 ⌚ Garmin Fenix 8 vs Apple Watch Ultra 3 สองแบรนด์นาฬิกาออกกำลังกายระดับพรีเมียมมาเจอกัน – Garmin Fenix 8 และ Apple Watch Ultra 3 ต่างก็มีจุดเด่นของตัวเอง แต่เมื่อเทียบกันแล้ว Garmin Fenix 8 ชนะใจผู้รีวิว เพราะแบตเตอรี่ที่อึดสุด ๆ ใช้งานได้ยาวนานถึง 48 วัน เทียบกับ Apple Watch Ultra 3 ที่อยู่ได้ราว 42 ชั่วโมง แม้ Apple จะมีระบบปฏิบัติการที่ลื่นไหลและแอปเสริมมากมาย แต่ Garmin ก็มีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์สายวิ่งและสายผจญภัย เช่น ไฟฉาย LED และการทำงานร่วมกับ Android ได้ด้วย สุดท้ายผู้รีวิวเลือก Garmin Fenix 8 เป็นตัวที่คุ้มค่ากว่า 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/garmin-fenix-8-vs-apple-watch-ultra-3-heres-which-one-id-buy-on-black-friday 🤖 Elon Musk กับอนาคตของงานและ AI Elon Musk พูดบนเวทีใหญ่ที่สหรัฐฯ ว่า “ในอนาคต งานจะเป็นเรื่องเลือกทำ ไม่จำเป็นต้องทำ” เขามองว่า AI และหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่งานจำนวนมหาศาล และคนที่ยังทำงานก็จะเหมือนคนที่ปลูกผักเองเพราะชอบ ไม่ใช่เพราะจำเป็น แม้แนวคิดนี้จะฟังดูเหมือนยูโทเปีย แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการมองโลกในแง่ที่ไม่สอดคล้องกับความจริง เพราะคนส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งรายได้เพื่ออยู่รอด อย่างไรก็ตาม Musk เชื่อว่าหุ่นยนต์และ AI จะช่วยลดความยากจนได้ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/elon-musk-on-the-future-of-jobs-and-ai-my-prediction-is-that-work-will-be-optional 💻 MacBook Pro 16 นิ้ว ลดราคาสุดแรง รีวิวจากผู้เชี่ยวชาญด้านแล็ปท็อปบอกว่า MacBook Pro 16 นิ้ว รุ่นชิป M4 Pro ตอนนี้ลดราคาลงถึง 310 ดอลลาร์ เหลือ 2,189 ดอลลาร์ แม้ยังเป็นราคาสูง แต่ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับสายทำงานกราฟิก ตัดต่อวิดีโอ หรือเล่นเกมบน Mac เพราะชิป M4 Pro มีพลังประมวลผลสูงกว่า M5 ในงานหลายด้าน พร้อมจอ Liquid Retina XDR ที่สวยคมชัด ดีลนี้ถูกยกให้เป็นราคาต่ำสุดที่เคยมีมา เหมาะกับคนที่อยากได้เครื่องแรง ๆ ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/macbooks/i-review-laptops-for-a-living-and-a-record-low-price-on-the-16-inch-macbook-pro-is-actually-worth-seeing 🚁 DJI Mini 4K – โดรนเริ่มต้นที่ดีที่สุด สำหรับใครที่อยากลองเล่นโดรน DJI Mini 4K ถูกยกให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับมือใหม่ และตอนนี้ราคาลดเหลือเพียง 239 ดอลลาร์ในสหรัฐฯ หรือ 215 ปอนด์ในอังกฤษ จุดเด่นคือกล้อง 4K พร้อมกิมบอล 3 แกน ทำให้ภาพวิดีโอออกมานิ่งและคมชัด มีโหมดบินอัตโนมัติที่ช่วยให้ถ่ายช็อตสวย ๆ ได้ง่าย และยังทนลมระดับ 5 ได้อีกด้วย ถือเป็นดีลที่คุ้มค่ามากสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นถ่ายภาพมุมสูงโดยไม่ต้องลงทุนสูง 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/ive-found-your-best-first-drone-for-a-record-low-price-the-dji-mini-4k-at-amazon 🕶️ Ray-Ban Meta Glasses ราคาต่ำสุด แว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban Meta ที่หลายคนชื่นชอบ ตอนนี้ลดราคาลงเหลือเพียง 238.99 ดอลลาร์สำหรับรุ่นเลนส์ใส และ 303.20 ดอลลาร์สำหรับรุ่นเลนส์ปรับแสง (Transitions) ซึ่งเหมาะกับการใช้งานได้ทุกสภาพแสง ฟีเจอร์เด่นคือมีลำโพงแบบเปิดหู กล้องถ่ายภาพและวิดีโอจากมุมมองบุคคลที่หนึ่ง และยังมี AI ช่วยแปลภาษา ตอบคำถาม หรือบอกข้อมูลสถานที่ผ่านฟังก์ชัน “Look and Ask” แม้แบตหมดก็ยังใช้เป็นแว่นกันแดดเท่ ๆ ได้ 🔗 https://www.techradar.com/seasonal-sales/you-can-buy-ray-ban-meta-glasses-for-their-cheapest-ever-price-thanks-to-black-friday 🔐 ช่องโหว่ WhatsApp ทำข้อมูลผู้ใช้เสี่ยง มีการค้นพบช่องโหว่ใน WhatsApp ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถดึงข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ผู้ใช้กว่า 3.5 พันล้านหมายเลขทั่วโลกออกมาได้ รวมถึงเข้าถึงโปรไฟล์และคีย์เข้ารหัสบางส่วนด้วย แม้ WhatsApp จะบอกว่าปัญหานี้ถูกแก้ไขแล้ว แต่เหตุการณ์นี้ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของการใช้แพลตฟอร์มสื่อสารที่มีผู้ใช้งานจำนวนมหาศาล ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ใช้ตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว และอัปเดตแอปให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ 🔗 https://www.techradar.com/pro/whatsapp-security-flaw-lets-experts-scrape-3-5-billion-user-numbers-heres-what-we-know-and-how-to-stay-safe 🖥️ Nvidia เปิดทาง NVLink สู่ Arm CPU Nvidia กำลังขยายการเชื่อมต่อ NVLink ให้ทำงานร่วมกับ Arm CPU ได้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกเซิร์ฟเวอร์และเวิร์กสเตชัน เพราะ NVLink ช่วยให้ GPU ทำงานร่วมกันได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง การเปิดให้ Arm CPU ใช้งานได้จะทำให้ผู้ผลิตระบบ hyperscale สามารถออกแบบเครื่องที่ยืดหยุ่นและทรงพลังมากขึ้น เป็นการขยายตลาดที่น่าสนใจสำหรับทั้ง Nvidia และพันธมิตร 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-nvidia-opening-up-its-nvlink-doors-even-further-new-partnership-with-amd-will-see-greater-integration-across-many-kinds-of-chips 🔊 ลำโพงบลูทูธเบสหนัก ราคาถูกลง รีวิวลำโพงบลูทูธที่ขึ้นชื่อเรื่องเสียงเบสหนักแน่น ตอนนี้ลดราคาลงมากในช่วง Black Friday ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนที่อยากได้เสียงกระหึ่มในราคาที่จับต้องได้ จุดเด่นคือพลังเสียงที่ดังชัด ใช้งานได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน พร้อมแบตเตอรี่ที่อึดพอสมควร เหมาะกับสายปาร์ตี้หรือคนที่ชอบฟังเพลงแนว EDM และฮิปฮอป 🔗 https://www.techradar.com/audio/wireless-bluetooth-speakers/i-love-this-bass-heavy-bluetooth-speaker-and-its-cheaper-than-ever-for-black-friday 🎮 PlayStation Portal ราคาต่ำสุด พร้อมอัปเดตใหม่ PlayStation Portal เครื่องเล่นเกมพกพาที่เชื่อมต่อกับ PS5 ได้ ตอนนี้ลดราคาลงต่ำสุดตั้งแต่เปิดตัว และยังมาพร้อมอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ที่ทำให้ประสบการณ์เล่นเกมดีขึ้นมาก การลดราคาครั้งนี้ทำให้หลายคนที่ลังเลก่อนหน้านี้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ถือเป็นดีลที่น่าสนใจสำหรับแฟน PlayStation ที่อยากเล่นเกมจากเครื่องหลักได้ทุกที่ 🔗 https://www.techradar.com/gaming/the-playstation-portal-has-hit-its-lowest-ever-price-for-black-friday-and-its-impossible-to-ignore-at-this-price-and-after-its-game-changing-update 📱 Comet AI Browser ลง Android แล้ว เบราว์เซอร์ Comet AI ที่ใช้เทคโนโลยี AI ช่วยผู้ใช้ในการค้นหาและจัดการข้อมูล ตอนนี้เปิดตัวบน Android แล้ว จุดเด่นคือการใช้ AI ช่วยสรุปเนื้อหาเว็บ ค้นหาข้อมูลได้เร็วขึ้น และยังมีฟีเจอร์ช่วยจัดการแท็บให้เป็นระเบียบมากขึ้น การมาลง Android ทำให้ผู้ใช้มือถือสามารถเข้าถึงประสบการณ์การท่องเว็บที่ฉลาดขึ้นได้ทุกที่ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/comet-ai-browser-lands-on-android 💰 บริษัทยักษ์เหมือง Bitcoin หันไปทำศูนย์ข้อมูล AI หลังจากธุรกิจขุด Bitcoin ขาดทุนหนัก บริษัทเหมืองรายใหญ่ตัดสินใจปรับโมเดลธุรกิจใหม่ หันไปลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูล AI มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ การเปลี่ยนทิศทางนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังกลายเป็นโอกาสใหม่ที่น่าสนใจกว่าการทำเหมืองคริปโต ซึ่งเผชิญกับต้นทุนสูงและความผันผวนของตลาด 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-ai-more-appealing-than-crypto-now-a-major-bitcoin-miner-has-decided-to-pivot-to-ai-data-centers-heres-why
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: Qualcomm เริ่มบีบ Arduino หลังการเข้าซื้อกิจการ

    เมื่อ Qualcomm ประกาศเข้าซื้อ Arduino ในเดือนตุลาคม 2025 ชุมชน maker และนักพัฒนาต่างจับตามองด้วยความกังวล เพราะการเข้าซื้อโดยบริษัทยักษ์ใหญ่มักนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ และล่าสุดสิ่งที่หลายคนกลัวก็เกิดขึ้นจริง

    Adafruit Industries ซึ่งเป็นผู้ผลิตบอร์ดพัฒนาและมีบทบาทสำคัญในวงการ open hardware ได้ออกมาเตือนว่า Qualcomm ได้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้งานและนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Arduino อย่างมาก โดยเฉพาะการให้สิทธิ์ถาวรแก่บริษัทในการใช้เนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด ไม่ว่าจะเป็นโค้ด โปรเจกต์ หรือโพสต์ในฟอรั่ม แม้ผู้ใช้งานจะลบแอคเคานต์ไปแล้วก็ตาม

    สิทธิ์ผู้ใช้ที่ถูกจำกัดและการเก็บข้อมูล
    ใน Section 7.1 ของ Terms of Service ระบุว่า Arduino มีสิทธิ์แบบถาวรและไม่สามารถเพิกถอนได้ต่อทุกสิ่งที่ผู้ใช้อัปโหลด โดยสิทธิ์นี้ยังเป็นแบบ royalty-free และสามารถนำไป sublicensing ต่อได้ ซึ่งหมายความว่า Qualcomm สามารถนำเนื้อหาของผู้ใช้ไปใช้ แจกจ่าย หรือแก้ไขได้ตามต้องการ

    นอกจากนี้ยังมีการห้ามไม่ให้ผู้ใช้ทำการ reverse-engineering หรือพยายามเข้าใจการทำงานของแพลตฟอร์มโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งขัดกับหลักการเปิดกว้างที่ทำให้ Arduino ได้รับความนิยมในหมู่นักวิจัยและนักการศึกษา

    ด้าน Privacy Policy ก็ระบุชัดว่า Arduino เป็นบริษัทในเครือ Qualcomm Technologies และข้อมูลผู้ใช้ รวมถึงข้อมูลของผู้เยาว์ จะถูกแชร์ไปยังบริษัทในเครือ Qualcomm อื่น ๆ

    ผลกระทบต่อชุมชนและอนาคตของ Arduino
    แม้ Qualcomm และ Arduino จะยืนยันว่าการเข้าซื้อครั้งนี้จะไม่กระทบต่อ “จิตวิญญาณหลัก” ของแพลตฟอร์ม และยังคงสนับสนุนบอร์ดที่ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ไม่ใช่ของ Qualcomm แต่ชุมชนผู้ใช้ยังคงกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ Arduino สูญเสียความโปร่งใสและความเปิดกว้างที่เคยเป็นจุดแข็ง

    ในระยะสั้น ฮาร์ดแวร์ของ Arduino ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ในระยะยาว การตอบสนองของ Qualcomm ต่อเสียงวิจารณ์จากชุมชนจะเป็นตัวกำหนดว่า Arduino จะยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่นักพัฒนารัก หรือจะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ “enshittification” ที่เกิดขึ้นหลังการเข้าซื้อกิจการโดยบริษัทยักษ์ใหญ่

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลง Terms of Service
    Section 7.1 ให้สิทธิ์ถาวรแก่ Arduino/Qualcomm ในการใช้เนื้อหาผู้ใช้
    สิทธิ์เป็นแบบ royalty-free และสามารถ sublicensing ได้

    การจำกัดสิทธิ์ผู้ใช้
    ห้าม reverse-engineering โดยไม่ได้รับอนุญาต
    ขัดกับหลักการ openness ที่ Arduino เคยยึดถือ

    การเก็บข้อมูลผู้ใช้
    ข้อมูลผู้ใช้ รวมถึงผู้เยาว์ ถูกแชร์ไปยังบริษัทในเครือ Qualcomm
    มีการเก็บข้อมูลระยะยาวและเชื่อมโยงกับ ecosystem ของ Qualcomm

    คำเตือนต่อชุมชนผู้ใช้
    เสี่ยงที่เนื้อหาของผู้ใช้จะถูกนำไปใช้โดยไม่สามารถควบคุมได้
    ความโปร่งใสและ openness ของ Arduino อาจถูกลดทอน
    การเข้าซื้อโดยบริษัทยักษ์ใหญ่อาจนำไปสู่การ “enshittification” ของแพลตฟอร์ม

    https://itsfoss.com/news/enshittification-of-arduino-begins/
    ⚙️ ข่าวใหญ่: Qualcomm เริ่มบีบ Arduino หลังการเข้าซื้อกิจการ เมื่อ Qualcomm ประกาศเข้าซื้อ Arduino ในเดือนตุลาคม 2025 ชุมชน maker และนักพัฒนาต่างจับตามองด้วยความกังวล เพราะการเข้าซื้อโดยบริษัทยักษ์ใหญ่มักนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ และล่าสุดสิ่งที่หลายคนกลัวก็เกิดขึ้นจริง Adafruit Industries ซึ่งเป็นผู้ผลิตบอร์ดพัฒนาและมีบทบาทสำคัญในวงการ open hardware ได้ออกมาเตือนว่า Qualcomm ได้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้งานและนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Arduino อย่างมาก โดยเฉพาะการให้สิทธิ์ถาวรแก่บริษัทในการใช้เนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด ไม่ว่าจะเป็นโค้ด โปรเจกต์ หรือโพสต์ในฟอรั่ม แม้ผู้ใช้งานจะลบแอคเคานต์ไปแล้วก็ตาม 🔒 สิทธิ์ผู้ใช้ที่ถูกจำกัดและการเก็บข้อมูล ใน Section 7.1 ของ Terms of Service ระบุว่า Arduino มีสิทธิ์แบบถาวรและไม่สามารถเพิกถอนได้ต่อทุกสิ่งที่ผู้ใช้อัปโหลด โดยสิทธิ์นี้ยังเป็นแบบ royalty-free และสามารถนำไป sublicensing ต่อได้ ซึ่งหมายความว่า Qualcomm สามารถนำเนื้อหาของผู้ใช้ไปใช้ แจกจ่าย หรือแก้ไขได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีการห้ามไม่ให้ผู้ใช้ทำการ reverse-engineering หรือพยายามเข้าใจการทำงานของแพลตฟอร์มโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งขัดกับหลักการเปิดกว้างที่ทำให้ Arduino ได้รับความนิยมในหมู่นักวิจัยและนักการศึกษา ด้าน Privacy Policy ก็ระบุชัดว่า Arduino เป็นบริษัทในเครือ Qualcomm Technologies และข้อมูลผู้ใช้ รวมถึงข้อมูลของผู้เยาว์ จะถูกแชร์ไปยังบริษัทในเครือ Qualcomm อื่น ๆ 🌍 ผลกระทบต่อชุมชนและอนาคตของ Arduino แม้ Qualcomm และ Arduino จะยืนยันว่าการเข้าซื้อครั้งนี้จะไม่กระทบต่อ “จิตวิญญาณหลัก” ของแพลตฟอร์ม และยังคงสนับสนุนบอร์ดที่ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ไม่ใช่ของ Qualcomm แต่ชุมชนผู้ใช้ยังคงกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ Arduino สูญเสียความโปร่งใสและความเปิดกว้างที่เคยเป็นจุดแข็ง ในระยะสั้น ฮาร์ดแวร์ของ Arduino ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ในระยะยาว การตอบสนองของ Qualcomm ต่อเสียงวิจารณ์จากชุมชนจะเป็นตัวกำหนดว่า Arduino จะยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่นักพัฒนารัก หรือจะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ “enshittification” ที่เกิดขึ้นหลังการเข้าซื้อกิจการโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลง Terms of Service ➡️ Section 7.1 ให้สิทธิ์ถาวรแก่ Arduino/Qualcomm ในการใช้เนื้อหาผู้ใช้ ➡️ สิทธิ์เป็นแบบ royalty-free และสามารถ sublicensing ได้ ✅ การจำกัดสิทธิ์ผู้ใช้ ➡️ ห้าม reverse-engineering โดยไม่ได้รับอนุญาต ➡️ ขัดกับหลักการ openness ที่ Arduino เคยยึดถือ ✅ การเก็บข้อมูลผู้ใช้ ➡️ ข้อมูลผู้ใช้ รวมถึงผู้เยาว์ ถูกแชร์ไปยังบริษัทในเครือ Qualcomm ➡️ มีการเก็บข้อมูลระยะยาวและเชื่อมโยงกับ ecosystem ของ Qualcomm ‼️ คำเตือนต่อชุมชนผู้ใช้ ⛔ เสี่ยงที่เนื้อหาของผู้ใช้จะถูกนำไปใช้โดยไม่สามารถควบคุมได้ ⛔ ความโปร่งใสและ openness ของ Arduino อาจถูกลดทอน ⛔ การเข้าซื้อโดยบริษัทยักษ์ใหญ่อาจนำไปสู่การ “enshittification” ของแพลตฟอร์ม https://itsfoss.com/news/enshittification-of-arduino-begins/
    ITSFOSS.COM
    Enshittification of Arduino Begins? Qualcomm Starts Clamping Down
    New Terms of Service introduce perpetual content licenses, reverse-engineering bans, and widespread data collection.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • Trojanized VPN Installer ปล่อย Backdoor NKNShell

    นักวิจัยจาก AhnLab SEcurity Intelligence Center (ASEC) พบการโจมตีใหม่ที่ใช้ ตัวติดตั้ง VPN ปลอม ซึ่งถูกฝังมัลแวร์หลายชนิด โดยเฉพาะ NKNShell ที่เขียนด้วยภาษา Go และมีความสามารถขั้นสูงในการติดต่อกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน P2P Blockchain-style networking และ MQTT (โปรโตคอล IoT) ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก

    เมื่อผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งจากเว็บไซต์ที่ถูกแฮก ตัวติดตั้งจะทำงานเหมือนปกติ แต่เบื้องหลังจะรัน PowerShell script เพื่อดาวน์โหลด payload เพิ่มเติม เช่น MeshAgent, gs-netcat และ SQLMap malware โดยมีการใช้เทคนิค AMSI bypass, UAC bypass และ WMI persistence เพื่อให้มัลแวร์อยู่รอดแม้รีบูตเครื่องใหม่

    เทคนิคการซ่อนตัวที่ล้ำสมัย
    NKNShell ใช้ NKN (New Kind of Network) ซึ่งเป็นโปรโตคอล P2P แบบกระจายศูนย์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Blockchain ร่วมกับ MQTT ที่นิยมใช้ในอุปกรณ์ IoT เพื่อส่งข้อมูลระบบไปยังผู้โจมตีผ่าน broker สาธารณะ เช่น broker.emqx.io และ broker.mosquitto.org วิธีนี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถดึงข้อมูลจากเครื่องที่ติดเชื้อได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อโดยตรง

    นอกจากนี้ NKNShell ยังมีชุดคำสั่งที่กว้างมาก เช่น การอัปโหลด/ดาวน์โหลดไฟล์, การขโมย token, DLL sideloading, DDoS, การฉีดโค้ด, การจับภาพหน้าจอ และการรัน PowerShell/Python ซึ่งทำให้มันเป็น backdoor ที่ทรงพลังและยืดหยุ่นสูง

    ภัยคุกคามต่อผู้ใช้ VPN และองค์กร
    กลุ่มผู้โจมตีที่ถูกติดตามในชื่อ Larva-24010 มีประวัติการโจมตีผู้ใช้ VPN ในเกาหลีใต้มาตั้งแต่ปี 2023 และยังคงพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้มีหลักฐานว่าใช้ Generative AI ในการสร้างสคริปต์ PowerShell ที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอาชญากรไซเบอร์กำลังใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการโจมตี

    นี่เป็นสัญญาณเตือนว่า การดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากแหล่งที่ไม่ปลอดภัย แม้จะดูเหมือนเป็นของจริง ก็อาจนำไปสู่การติดมัลแวร์ขั้นร้ายแรงที่ยากต่อการตรวจจับและกำจัด

    สรุปสาระสำคัญ
    การโจมตีผ่านตัวติดตั้ง VPN ปลอม
    ฝัง NKNShell และมัลแวร์อื่น ๆ เช่น MeshAgent, gs-netcat, SQLMap
    ใช้ PowerShell script พร้อม AMSI bypass และ WMI persistence

    คุณสมบัติของ NKNShell
    ใช้ P2P Blockchain (NKN) และ MQTT protocol ในการสื่อสาร
    มีคำสั่งหลากหลาย: อัปโหลดไฟล์, ขโมย token, DDoS, screenshot, code injection

    กลุ่มผู้โจมตี Larva-24010
    มีประวัติการโจมตี VPN provider ในเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 2023
    ใช้ Generative AI สร้างสคริปต์เพื่อเพิ่มความซับซ้อน

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ VPN
    หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    ตรวจสอบลายเซ็นดิจิทัลของไฟล์ก่อนติดตั้ง
    อัปเดตระบบรักษาความปลอดภัยและใช้เครื่องมือ EDR/AV ที่ทันสมัย

    https://securityonline.info/trojanized-vpn-installer-deploys-nknshell-backdoor-using-p2p-blockchain-and-mqtt-protocols-for-covert-c2/
    🕵️‍♂️ Trojanized VPN Installer ปล่อย Backdoor NKNShell นักวิจัยจาก AhnLab SEcurity Intelligence Center (ASEC) พบการโจมตีใหม่ที่ใช้ ตัวติดตั้ง VPN ปลอม ซึ่งถูกฝังมัลแวร์หลายชนิด โดยเฉพาะ NKNShell ที่เขียนด้วยภาษา Go และมีความสามารถขั้นสูงในการติดต่อกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน P2P Blockchain-style networking และ MQTT (โปรโตคอล IoT) ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก เมื่อผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งจากเว็บไซต์ที่ถูกแฮก ตัวติดตั้งจะทำงานเหมือนปกติ แต่เบื้องหลังจะรัน PowerShell script เพื่อดาวน์โหลด payload เพิ่มเติม เช่น MeshAgent, gs-netcat และ SQLMap malware โดยมีการใช้เทคนิค AMSI bypass, UAC bypass และ WMI persistence เพื่อให้มัลแวร์อยู่รอดแม้รีบูตเครื่องใหม่ 🌐 เทคนิคการซ่อนตัวที่ล้ำสมัย NKNShell ใช้ NKN (New Kind of Network) ซึ่งเป็นโปรโตคอล P2P แบบกระจายศูนย์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Blockchain ร่วมกับ MQTT ที่นิยมใช้ในอุปกรณ์ IoT เพื่อส่งข้อมูลระบบไปยังผู้โจมตีผ่าน broker สาธารณะ เช่น broker.emqx.io และ broker.mosquitto.org วิธีนี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถดึงข้อมูลจากเครื่องที่ติดเชื้อได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อโดยตรง นอกจากนี้ NKNShell ยังมีชุดคำสั่งที่กว้างมาก เช่น การอัปโหลด/ดาวน์โหลดไฟล์, การขโมย token, DLL sideloading, DDoS, การฉีดโค้ด, การจับภาพหน้าจอ และการรัน PowerShell/Python ซึ่งทำให้มันเป็น backdoor ที่ทรงพลังและยืดหยุ่นสูง ⚠️ ภัยคุกคามต่อผู้ใช้ VPN และองค์กร กลุ่มผู้โจมตีที่ถูกติดตามในชื่อ Larva-24010 มีประวัติการโจมตีผู้ใช้ VPN ในเกาหลีใต้มาตั้งแต่ปี 2023 และยังคงพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้มีหลักฐานว่าใช้ Generative AI ในการสร้างสคริปต์ PowerShell ที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอาชญากรไซเบอร์กำลังใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการโจมตี นี่เป็นสัญญาณเตือนว่า การดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากแหล่งที่ไม่ปลอดภัย แม้จะดูเหมือนเป็นของจริง ก็อาจนำไปสู่การติดมัลแวร์ขั้นร้ายแรงที่ยากต่อการตรวจจับและกำจัด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การโจมตีผ่านตัวติดตั้ง VPN ปลอม ➡️ ฝัง NKNShell และมัลแวร์อื่น ๆ เช่น MeshAgent, gs-netcat, SQLMap ➡️ ใช้ PowerShell script พร้อม AMSI bypass และ WMI persistence ✅ คุณสมบัติของ NKNShell ➡️ ใช้ P2P Blockchain (NKN) และ MQTT protocol ในการสื่อสาร ➡️ มีคำสั่งหลากหลาย: อัปโหลดไฟล์, ขโมย token, DDoS, screenshot, code injection ✅ กลุ่มผู้โจมตี Larva-24010 ➡️ มีประวัติการโจมตี VPN provider ในเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 2023 ➡️ ใช้ Generative AI สร้างสคริปต์เพื่อเพิ่มความซับซ้อน ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ VPN ⛔ หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ⛔ ตรวจสอบลายเซ็นดิจิทัลของไฟล์ก่อนติดตั้ง ⛔ อัปเดตระบบรักษาความปลอดภัยและใช้เครื่องมือ EDR/AV ที่ทันสมัย https://securityonline.info/trojanized-vpn-installer-deploys-nknshell-backdoor-using-p2p-blockchain-and-mqtt-protocols-for-covert-c2/
    SECURITYONLINE.INFO
    Trojanized VPN Installer Deploys NKNShell Backdoor, Using P2P Blockchain and MQTT Protocols for Covert C2
    ASEC exposed a VPN supply chain attack deploying NKNShell, a Go-based backdoor that uses P2P NKN and MQTT for stealthy C2. The installer bypasses AMSI using AI-generated code and grants full remote access (MeshAgent, gs-netcat).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP 81
    BITcoin อาจลงมาเล่น 7x,xxx USD คืนนี้ต้องจับตา indicator มันบ่งบอก
    EP 81 BITcoin อาจลงมาเล่น 7x,xxx USD คืนนี้ต้องจับตา indicator มันบ่งบอก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 40 Genericized Trademarks You Probably Say (And Use) Every Day

    Legally, to trademark something means to make it so that only one company can make money off of something with that name. You might not realize it, but many of the seemingly generic words we use all of the time are or were registered trademarks. This is often a problem for companies who want to avoid their lucrative trademarks being killed by “genericide,” meaning they can no longer claim legal exclusivity to a particular name.

    In general, there are two categories of so-called “genericized trademarks.” Sometimes, a trademark is legally abandoned. This means, for example, that any company can make a bouncy toy called a trampoline. However, a lot of common words are still legally trademarked, which means only one company can use that name. For example, to avoid getting Nickelodeon in trouble with licensing deals, Spongebob and friends have never heard of a Frisbee and must instead play a rousing game of “small plastic disc that you throw.” (Of course, Spongebob wryly notes, “If only small plastic disc that you throw had a shorter, catchier name.”)

    The following list contains 40 common words that have actually been trademarked at some point. The first six have been legally abandoned, meaning they are now generic words. The rest, however, are still on the books, and so you will need to be careful if you ever think about using them to make money.

    If you want to learn more about trademarks and other corporate symbols, check out our handy guide here.

    aspirin
    Last owner: Bayer AG

    The word aspirin is a combination of acetyl, spirea, and the suffix -in that is commonly used in the names of many drugs.

    heroin
    Last owner: Bayer AG

    The drug heroin is said to have been named for the German word heroisch, which translates to “heroic.” It is often thought that the name was inspired by the euphoric feelings a person has when taking this now illegal drug.

    escalator
    Last owner: Otis Elevator Company

    The escalator was named by patent owner Charles Seeberger, who is believed to have combined the English word elevator with the Latin word scala, meaning “stairs.”

    granola
    Last owners: Our Home Granula Company (granula) and Kellogg’s (granola)

    Originally called granula, granola was invented by James Caleb Jackson, who is also often credited as the inventor of dry cereal. It is thought that Jackson took the name either from the English word granular (“grainy”) or the Latin grānum, meaning “grain.”

    Saran wrap
    Last Owner: S.C. Johnson & Son, Inc.

    Saran wrap was originally created by the Dow Chemical Company in 1933. The saran in Saran wrap comes from a combination of the first names of Dow employee John Reilly’s daughter and wife, Sarah and Ann.

    trampoline
    Last Owner: Griswold-Nissen Trampoline & Tumbling Company

    According to inventor George Nissen, the trampoline’s name was inspired by the Spanish word trampolín, which means “diving board.”

    AstroTurf
    Owner: Sport Group

    According to Sport Group, Astroturf is named for the Houston Astrodome, where it was first used as a grass replica. The Astrodome’s name comes from the baseball team that plays there, the Houston Astros.

    Band-Aid
    Owner: Johnson & Johnson

    Band-Aid adhesive bandages were invented by Earle Dickinson in 1920 for his wife, Josephine. Although we don’t know for certain, the name is most likely a combination of the words bandage and aid.

    Bubble Wrap
    Owner: Sealed Air Corporation

    Bubble Wrap was invented in 1957 by Alfred Fielding and Marc Chavannes, who originally intended to use it as wallpaper. The name is most likely a combination of the words bubble and wrap.

    Frisbee
    Owner: Wham-O

    The name Frisbee was inspired by an Old Connecticut Bakery, the Frisbie Pie Company. Allegedly, college students had popularly referred to Wham-O’s Pluto Platter toys as “Frisbies,” which would motivate the toymaker to change the name.

    Hacky Sack
    Owner: Wham-O

    The game of Hacky Sack, called footbag by anyone who isn’t Wham-O, was invented by John Stalberger and Mike Mitchell in 1972. Allegedly, the two friends would say “Let’s hack the sack” before playing the game, which would be the inspiration for their trademark.

    Hula-Hoop
    Owner: Wham-O

    The Hula-Hoop was patented by Wham-O in 1963. As you could probably guess, the hoop-shaped toy was named after the Hawaiian hula dance because of the hip movements needed to keep the toy from falling to the ground.

    Jacuzzi
    Owner: Jacuzzi Inc.

    The Jacuzzi is named after Italian inventor Candido Jacuzzi, who invented the whirlpool bath in 1949.

    Jeep
    Owner: Chrysler Group LLC

    Fascinatingly, even the current owner of the Jeep trademark, Chrysler, is unsure of where the name originally came from. The most popular theory is that the vehicle was named after Eugene the Jeep, a character from the Popeye series of comic strips.

    Jet Ski
    Owner: Kawasaki Heavy Industries Ltd.

    According to Kawasaki, the first Jet Ski was developed in 1972 based on the designs of American inventor Clayton Jacobson II. It seems likely that the name Jet Ski uses the words jet and ski to reference how the vehicle quickly skates across the surface of water.

    JumboTron
    Owner: Sony Corporation

    The Sony JumboTron debuted in 1985, but similar large screens had been developed by Japanese companies as early as 1980. The name is likely a combination of the adjective jumbo, meaning very large, and the combining form -tron, which is sometimes used in the names of electronics.

    Kleenex
    Owner: Kimberly-Clark Corporation

    Kleenex brand tissues debuted in 1924. According to the Kleenex website, the name Kleenex is a combination of an alternate spelling of the word clean (“Kleen”) and the ending “ex” from Kotex, a feminine hygiene brand name still owned by the Kimberly-Clark Corporation.

    Mace
    Owner: Mace Security International, Inc.

    The brand of pepper spray known as Mace or Chemical Mace was invented in 1965. According to both the Mace company and newspaper reports from the time, the name Mace was inspired by the fact that getting sprayed in the face with Mace was said to be as unpleasant as being hit in the face with a medieval mace, a spiked weapon.

    Magic Marker
    Owner: Bic Corporation

    The name Magic Marker is said to have been coined by Sidney Rosenthal, who is also credited with inventing the felt-tip pen in 1952. According to Crayola, Magic Marker was inspired by the fact that the “magical” device could make marks on any surface.

    Muzak
    Owner: Muzak LLC

    The creation of Muzak is credited to—or perhaps blamed on—Major General George O. Squier, who developed a way to transmit music through electric wires in the 1920s. According to most sources, Squier named his company Muzak by combining the first syllable of the word music with the end syllable of Kodak, a major American photography company.

    Onesie
    Owner: Gerber Childrenswear LLC

    Although Gerber legally only owns the trademark of the plural Onesies, they have successfully (and aggressively) enforced their trademark over the singular onesie as well. The name is a combination of the word one, referring to a one-piece garment, and the cutesy-sounding suffix -sie.

    Ping-pong
    Owner: Indian Industries, Inc.

    Surprisingly, the trademarked name ping-pong may actually be older than the generic table tennis, which is the official name of the game. The name ping-pong has been used since at least the 1800s, and the name was inspired by the sound that the ball makes when hit with paddles.

    Plexiglas
    Owner: Trinseo

    The origin of the name Plexiglas, often incorrectly written as plexiglass, is unknown. According to the Plexiglas website, Plexiglas was named after one of inventor Otto Röhm’s earlier products known as “Plexigum,” but beyond that the trail goes cold.

    Popsicle
    Owner: Conopco, Inc.

    The idea of “frozen ice juice on a stick” is credited to Frank Epperson. Epperson originally named the treat after himself and called it an “Epsicle” with the “-sicle” coming from icicle. Epperson’s children were not fans of the name and instead called them “Pop’s sicles.” In the end, Epperson sided with his children and patented his invention as the Popsicle.

    Post-it Note
    Owner: Minnesota Mining and Manufacturing Company (3M)

    3M credits the creation of the Post-it Note to scientists Spencer Silver and Art Fry. The name refers to the fact that the adhesive paper notes can be posted (stuck) wherever you want. An added bit of legal fun: 3M also legally owns the “Canary Yellow” color that many Post-it Notes typically have.

    Q-tip
    Owner: Conopco, Inc.

    The cotton swabs known as Q-tips originally had the very unmarketable name of “Baby Gays.” The name was quickly switched to Q-tips in 1926. According to the Q-tips website, the Q stands for quality, and the tip refers to the cotton tip at the end of the swab.

    Realtor
    Owner: National Association of Realtors

    Legally, only people who belong to the National Association of Realtors can use the trademarked name Realtor. The term Realtor is credited to Charles N. Chadbourn, and it is a combination of the word realty, meaning real estate, and the suffix -or, indicating a person related to something (in this case, real estate).

    Rollerblade
    Owner: Tecnica Group S.P.A.

    This trademarked brand of roller skates was created by inventor Scott Olson in the 1980s. The name Rollerblade references the fact that Olson’s roller skates were based on ice skates with wheels instead of blades.

    Sheetrock
    Owner: United States Gypsum Company

    The particular brand of drywall or gypsum boards known as Sheetrock seems to have a straightforward name: Sheetrock makes boards (“sheets”) of gypsum, a mineral (a “rock”).

    Skee-Ball
    Owner: Bay Tek Entertainment, Inc.

    The game of Skee-Ball was invented by Joseph Fourestier Simpson in the early 1900s. The name is a combination of the word ball and skee (an uncommon variant of the word ski) in reference to the ski jump-like ramp that the balls roll off of.

    Styrofoam
    Owner: DDP Specialty Electronic Materials Us, Inc.

    Styrofoam’s name is a reference to the chemistry used to make it. Styrofoam is a plastic foam made from polystyrene.

    Super Glue
    Owner: The Original Super Glue Corporation/Pacer Technology

    Super Glue was named by its inventor Dr. Harry Coover, who discovered it in 1942. The marketable name combines the word glue with the word super, referencing how incredibly sticky it is.

    Taser
    Owner: Axon Enterprise Inc.

    The Taser was invented in the 1970s by Jack Cover. The name Taser is an acronym of “Tom A. Swift Electric Rifle,” a reference to the Tom Swift series of books about an inventor that Cover enjoyed as a child.

    Tarmac
    Owner: Tarmac

    The name Tarmac is a shortening of tarmacadam, an asphalt-like paving material made of tar and crushed stones.

    Teflon
    Owner: The Chemours Company

    The name Teflon is a short, marketable word that refers to what Teflon is made of: polytetrafluoroethylene.

    Velcro
    Owner: Velcro IP Holdings LLC

    Velcro was invented and named by Swiss engineer George de Mestrel. De Mestrel got the name Velcro from a combination of the French words velour and crochet, referencing the fact that his new material resembled “hooked velvet.”

    Xerox
    Owner: Xerox Corporation

    The name Xerox comes from the word xerography, a specific type of printing technology. Xerography is formed from xero-, meaning “dry,” and –graphy, which denotes a form of artistry.

    Zamboni
    Owner: Frank J. Zamboni & Company, Inc.

    The ice surfacing machine known as a Zamboni is named after its Italian inventor, Frank Zamboni.

    The last two names on our list are fairly modern and are both closely associated with large companies that aggressively protect their trademarks. However, they are both commonly used as generic verbs, which may make it less likely that future generations know who the trademark owners are.

    Google
    Owner: Alphabet Inc. (Google’s new parent company)

    The name Google is based on a misspelling of the mathematical term googol, a number equal to one with 100 zeros. The story goes that Google developer Larry Page suggested the name “Googol” for a new search engine to fellow Stanford graduate Sean Anderson. Anderson misspelled the word as “google” when checking if the domain name was taken, and Page preferred this original name instead.

    Photoshop
    Owner: Adobe Inc

    The Photoshop software was created by Thomas and John Knoll in 1987. It is unknown exactly why the program that was originally named “Display,” and then “ImagePro,” was renamed to “PhotoShop” before it was sold to Adobe, although the name does seem to refer to the fact that the program functions as a kind of photography workshop.

    สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    40 Genericized Trademarks You Probably Say (And Use) Every Day Legally, to trademark something means to make it so that only one company can make money off of something with that name. You might not realize it, but many of the seemingly generic words we use all of the time are or were registered trademarks. This is often a problem for companies who want to avoid their lucrative trademarks being killed by “genericide,” meaning they can no longer claim legal exclusivity to a particular name. In general, there are two categories of so-called “genericized trademarks.” Sometimes, a trademark is legally abandoned. This means, for example, that any company can make a bouncy toy called a trampoline. However, a lot of common words are still legally trademarked, which means only one company can use that name. For example, to avoid getting Nickelodeon in trouble with licensing deals, Spongebob and friends have never heard of a Frisbee and must instead play a rousing game of “small plastic disc that you throw.” (Of course, Spongebob wryly notes, “If only small plastic disc that you throw had a shorter, catchier name.”) The following list contains 40 common words that have actually been trademarked at some point. The first six have been legally abandoned, meaning they are now generic words. The rest, however, are still on the books, and so you will need to be careful if you ever think about using them to make money. If you want to learn more about trademarks and other corporate symbols, check out our handy guide here. aspirin Last owner: Bayer AG The word aspirin is a combination of acetyl, spirea, and the suffix -in that is commonly used in the names of many drugs. heroin Last owner: Bayer AG The drug heroin is said to have been named for the German word heroisch, which translates to “heroic.” It is often thought that the name was inspired by the euphoric feelings a person has when taking this now illegal drug. escalator Last owner: Otis Elevator Company The escalator was named by patent owner Charles Seeberger, who is believed to have combined the English word elevator with the Latin word scala, meaning “stairs.” granola Last owners: Our Home Granula Company (granula) and Kellogg’s (granola) Originally called granula, granola was invented by James Caleb Jackson, who is also often credited as the inventor of dry cereal. It is thought that Jackson took the name either from the English word granular (“grainy”) or the Latin grānum, meaning “grain.” Saran wrap Last Owner: S.C. Johnson & Son, Inc. Saran wrap was originally created by the Dow Chemical Company in 1933. The saran in Saran wrap comes from a combination of the first names of Dow employee John Reilly’s daughter and wife, Sarah and Ann. trampoline Last Owner: Griswold-Nissen Trampoline & Tumbling Company According to inventor George Nissen, the trampoline’s name was inspired by the Spanish word trampolín, which means “diving board.” AstroTurf Owner: Sport Group According to Sport Group, Astroturf is named for the Houston Astrodome, where it was first used as a grass replica. The Astrodome’s name comes from the baseball team that plays there, the Houston Astros. Band-Aid Owner: Johnson & Johnson Band-Aid adhesive bandages were invented by Earle Dickinson in 1920 for his wife, Josephine. Although we don’t know for certain, the name is most likely a combination of the words bandage and aid. Bubble Wrap Owner: Sealed Air Corporation Bubble Wrap was invented in 1957 by Alfred Fielding and Marc Chavannes, who originally intended to use it as wallpaper. The name is most likely a combination of the words bubble and wrap. Frisbee Owner: Wham-O The name Frisbee was inspired by an Old Connecticut Bakery, the Frisbie Pie Company. Allegedly, college students had popularly referred to Wham-O’s Pluto Platter toys as “Frisbies,” which would motivate the toymaker to change the name. Hacky Sack Owner: Wham-O The game of Hacky Sack, called footbag by anyone who isn’t Wham-O, was invented by John Stalberger and Mike Mitchell in 1972. Allegedly, the two friends would say “Let’s hack the sack” before playing the game, which would be the inspiration for their trademark. Hula-Hoop Owner: Wham-O The Hula-Hoop was patented by Wham-O in 1963. As you could probably guess, the hoop-shaped toy was named after the Hawaiian hula dance because of the hip movements needed to keep the toy from falling to the ground. Jacuzzi Owner: Jacuzzi Inc. The Jacuzzi is named after Italian inventor Candido Jacuzzi, who invented the whirlpool bath in 1949. Jeep Owner: Chrysler Group LLC Fascinatingly, even the current owner of the Jeep trademark, Chrysler, is unsure of where the name originally came from. The most popular theory is that the vehicle was named after Eugene the Jeep, a character from the Popeye series of comic strips. Jet Ski Owner: Kawasaki Heavy Industries Ltd. According to Kawasaki, the first Jet Ski was developed in 1972 based on the designs of American inventor Clayton Jacobson II. It seems likely that the name Jet Ski uses the words jet and ski to reference how the vehicle quickly skates across the surface of water. JumboTron Owner: Sony Corporation The Sony JumboTron debuted in 1985, but similar large screens had been developed by Japanese companies as early as 1980. The name is likely a combination of the adjective jumbo, meaning very large, and the combining form -tron, which is sometimes used in the names of electronics. Kleenex Owner: Kimberly-Clark Corporation Kleenex brand tissues debuted in 1924. According to the Kleenex website, the name Kleenex is a combination of an alternate spelling of the word clean (“Kleen”) and the ending “ex” from Kotex, a feminine hygiene brand name still owned by the Kimberly-Clark Corporation. Mace Owner: Mace Security International, Inc. The brand of pepper spray known as Mace or Chemical Mace was invented in 1965. According to both the Mace company and newspaper reports from the time, the name Mace was inspired by the fact that getting sprayed in the face with Mace was said to be as unpleasant as being hit in the face with a medieval mace, a spiked weapon. Magic Marker Owner: Bic Corporation The name Magic Marker is said to have been coined by Sidney Rosenthal, who is also credited with inventing the felt-tip pen in 1952. According to Crayola, Magic Marker was inspired by the fact that the “magical” device could make marks on any surface. Muzak Owner: Muzak LLC The creation of Muzak is credited to—or perhaps blamed on—Major General George O. Squier, who developed a way to transmit music through electric wires in the 1920s. According to most sources, Squier named his company Muzak by combining the first syllable of the word music with the end syllable of Kodak, a major American photography company. Onesie Owner: Gerber Childrenswear LLC Although Gerber legally only owns the trademark of the plural Onesies, they have successfully (and aggressively) enforced their trademark over the singular onesie as well. The name is a combination of the word one, referring to a one-piece garment, and the cutesy-sounding suffix -sie. Ping-pong Owner: Indian Industries, Inc. Surprisingly, the trademarked name ping-pong may actually be older than the generic table tennis, which is the official name of the game. The name ping-pong has been used since at least the 1800s, and the name was inspired by the sound that the ball makes when hit with paddles. Plexiglas Owner: Trinseo The origin of the name Plexiglas, often incorrectly written as plexiglass, is unknown. According to the Plexiglas website, Plexiglas was named after one of inventor Otto Röhm’s earlier products known as “Plexigum,” but beyond that the trail goes cold. Popsicle Owner: Conopco, Inc. The idea of “frozen ice juice on a stick” is credited to Frank Epperson. Epperson originally named the treat after himself and called it an “Epsicle” with the “-sicle” coming from icicle. Epperson’s children were not fans of the name and instead called them “Pop’s sicles.” In the end, Epperson sided with his children and patented his invention as the Popsicle. Post-it Note Owner: Minnesota Mining and Manufacturing Company (3M) 3M credits the creation of the Post-it Note to scientists Spencer Silver and Art Fry. The name refers to the fact that the adhesive paper notes can be posted (stuck) wherever you want. An added bit of legal fun: 3M also legally owns the “Canary Yellow” color that many Post-it Notes typically have. Q-tip Owner: Conopco, Inc. The cotton swabs known as Q-tips originally had the very unmarketable name of “Baby Gays.” The name was quickly switched to Q-tips in 1926. According to the Q-tips website, the Q stands for quality, and the tip refers to the cotton tip at the end of the swab. Realtor Owner: National Association of Realtors Legally, only people who belong to the National Association of Realtors can use the trademarked name Realtor. The term Realtor is credited to Charles N. Chadbourn, and it is a combination of the word realty, meaning real estate, and the suffix -or, indicating a person related to something (in this case, real estate). Rollerblade Owner: Tecnica Group S.P.A. This trademarked brand of roller skates was created by inventor Scott Olson in the 1980s. The name Rollerblade references the fact that Olson’s roller skates were based on ice skates with wheels instead of blades. Sheetrock Owner: United States Gypsum Company The particular brand of drywall or gypsum boards known as Sheetrock seems to have a straightforward name: Sheetrock makes boards (“sheets”) of gypsum, a mineral (a “rock”). Skee-Ball Owner: Bay Tek Entertainment, Inc. The game of Skee-Ball was invented by Joseph Fourestier Simpson in the early 1900s. The name is a combination of the word ball and skee (an uncommon variant of the word ski) in reference to the ski jump-like ramp that the balls roll off of. Styrofoam Owner: DDP Specialty Electronic Materials Us, Inc. Styrofoam’s name is a reference to the chemistry used to make it. Styrofoam is a plastic foam made from polystyrene. Super Glue Owner: The Original Super Glue Corporation/Pacer Technology Super Glue was named by its inventor Dr. Harry Coover, who discovered it in 1942. The marketable name combines the word glue with the word super, referencing how incredibly sticky it is. Taser Owner: Axon Enterprise Inc. The Taser was invented in the 1970s by Jack Cover. The name Taser is an acronym of “Tom A. Swift Electric Rifle,” a reference to the Tom Swift series of books about an inventor that Cover enjoyed as a child. Tarmac Owner: Tarmac The name Tarmac is a shortening of tarmacadam, an asphalt-like paving material made of tar and crushed stones. Teflon Owner: The Chemours Company The name Teflon is a short, marketable word that refers to what Teflon is made of: polytetrafluoroethylene. Velcro Owner: Velcro IP Holdings LLC Velcro was invented and named by Swiss engineer George de Mestrel. De Mestrel got the name Velcro from a combination of the French words velour and crochet, referencing the fact that his new material resembled “hooked velvet.” Xerox Owner: Xerox Corporation The name Xerox comes from the word xerography, a specific type of printing technology. Xerography is formed from xero-, meaning “dry,” and –graphy, which denotes a form of artistry. Zamboni Owner: Frank J. Zamboni & Company, Inc. The ice surfacing machine known as a Zamboni is named after its Italian inventor, Frank Zamboni. The last two names on our list are fairly modern and are both closely associated with large companies that aggressively protect their trademarks. However, they are both commonly used as generic verbs, which may make it less likely that future generations know who the trademark owners are. Google Owner: Alphabet Inc. (Google’s new parent company) The name Google is based on a misspelling of the mathematical term googol, a number equal to one with 100 zeros. The story goes that Google developer Larry Page suggested the name “Googol” for a new search engine to fellow Stanford graduate Sean Anderson. Anderson misspelled the word as “google” when checking if the domain name was taken, and Page preferred this original name instead. Photoshop Owner: Adobe Inc The Photoshop software was created by Thomas and John Knoll in 1987. It is unknown exactly why the program that was originally named “Display,” and then “ImagePro,” was renamed to “PhotoShop” before it was sold to Adobe, although the name does seem to refer to the fact that the program functions as a kind of photography workshop. สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • Verizon ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่

    Verizon ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายรายใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศว่าจะปลดพนักงานมากกว่า 13,000 คนทั่วทั้งองค์กร ถือเป็นการเลิกจ้างครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นภายใต้การนำของ Dan Schulman ซีอีโอคนใหม่ที่เข้ามารับตำแหน่งในเดือนตุลาคม 2025 หลังจากเคยเป็นหัวหน้า PayPal

    นอกจากการปลดพนักงานแล้ว Verizon ยังวางแผน เปลี่ยนร้านค้าของบริษัท 179 แห่งเป็นแฟรนไชส์ และปิดร้านหนึ่งแห่ง เพื่อปรับโครงสร้างการดำเนินงานให้มีความคล่องตัวมากขึ้น

    เหตุผลเบื้องหลังการปรับโครงสร้าง
    Schulman ระบุว่า โครงสร้างต้นทุนปัจจุบันของ Verizon จำกัดความสามารถในการลงทุนเพื่อสร้างคุณค่าให้ลูกค้า บริษัทจึงจำเป็นต้องลดความซับซ้อนของการดำเนินงานและลดการพึ่งพาแรงงานภายนอก เพื่อแก้ไขความล่าช้าและความยุ่งยากที่สร้างความไม่พอใจให้ลูกค้า

    Verizon ยังตั้งกองทุนมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือพนักงานที่ถูกเลิกจ้างในการเปลี่ยนสายอาชีพ โดยเน้นทักษะที่จำเป็นในยุค AI และดิจิทัล

    สถานการณ์การแข่งขันในตลาด
    การปรับโครงสร้างครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากคู่แข่งอย่าง AT&T และ T-Mobile ที่ใช้กลยุทธ์ส่วนลดและโปรโมชันแรง ๆ ในการดึงลูกค้า Verizon เพิ่มผู้ใช้รายใหม่เพียง 44,000 ราย ในไตรมาส 3 ปี 2025 ซึ่งน้อยกว่า AT&T และห่างไกลจาก T-Mobile ที่เพิ่มผู้ใช้กว่า 1 ล้านราย

    นอกจากนี้ Verizon ยังลงทุนมหาศาลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น 52 พันล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อคลื่น midband spectrum สำหรับ 5G และ 20 พันล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อกิจการ Frontier Communications รวมถึง 6 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ TracFone Wireless ซึ่งเพิ่มแรงกดดันด้านการเงินต่อบริษัท

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเลิกจ้างครั้งใหญ่
    ปลดพนักงานกว่า 13,000 คน ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดของ Verizon
    เปลี่ยนร้านค้าบริษัท 179 แห่งเป็นแฟรนไชส์

    เหตุผลการปรับโครงสร้าง
    ลดต้นทุนและความซับซ้อนในการดำเนินงาน
    ตั้งกองทุน 20 ล้านดอลลาร์ช่วยพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง

    แรงกดดันจากตลาด
    Verizon เพิ่มผู้ใช้รายใหม่เพียง 44,000 รายใน Q3
    คู่แข่ง AT&T และ T-Mobile ใช้ส่วนลดและโปรโมชันดึงลูกค้าได้มากกว่า

    คำเตือนต่ออนาคต Verizon
    การลงทุนมหาศาลใน spectrum และการซื้อกิจการเพิ่มภาระทางการเงิน
    หากไม่สามารถฟื้นฟูความสามารถในการแข่งขัน อาจสูญเสียตำแหน่งผู้นำตลาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/20/verizon-cutting-more-than-13000-jobs-as-it-restructures
    📉 Verizon ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ Verizon ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายรายใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศว่าจะปลดพนักงานมากกว่า 13,000 คนทั่วทั้งองค์กร ถือเป็นการเลิกจ้างครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นภายใต้การนำของ Dan Schulman ซีอีโอคนใหม่ที่เข้ามารับตำแหน่งในเดือนตุลาคม 2025 หลังจากเคยเป็นหัวหน้า PayPal นอกจากการปลดพนักงานแล้ว Verizon ยังวางแผน เปลี่ยนร้านค้าของบริษัท 179 แห่งเป็นแฟรนไชส์ และปิดร้านหนึ่งแห่ง เพื่อปรับโครงสร้างการดำเนินงานให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ⚙️ เหตุผลเบื้องหลังการปรับโครงสร้าง Schulman ระบุว่า โครงสร้างต้นทุนปัจจุบันของ Verizon จำกัดความสามารถในการลงทุนเพื่อสร้างคุณค่าให้ลูกค้า บริษัทจึงจำเป็นต้องลดความซับซ้อนของการดำเนินงานและลดการพึ่งพาแรงงานภายนอก เพื่อแก้ไขความล่าช้าและความยุ่งยากที่สร้างความไม่พอใจให้ลูกค้า Verizon ยังตั้งกองทุนมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือพนักงานที่ถูกเลิกจ้างในการเปลี่ยนสายอาชีพ โดยเน้นทักษะที่จำเป็นในยุค AI และดิจิทัล 📊 สถานการณ์การแข่งขันในตลาด การปรับโครงสร้างครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากคู่แข่งอย่าง AT&T และ T-Mobile ที่ใช้กลยุทธ์ส่วนลดและโปรโมชันแรง ๆ ในการดึงลูกค้า Verizon เพิ่มผู้ใช้รายใหม่เพียง 44,000 ราย ในไตรมาส 3 ปี 2025 ซึ่งน้อยกว่า AT&T และห่างไกลจาก T-Mobile ที่เพิ่มผู้ใช้กว่า 1 ล้านราย นอกจากนี้ Verizon ยังลงทุนมหาศาลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น 52 พันล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อคลื่น midband spectrum สำหรับ 5G และ 20 พันล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อกิจการ Frontier Communications รวมถึง 6 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ TracFone Wireless ซึ่งเพิ่มแรงกดดันด้านการเงินต่อบริษัท 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเลิกจ้างครั้งใหญ่ ➡️ ปลดพนักงานกว่า 13,000 คน ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดของ Verizon ➡️ เปลี่ยนร้านค้าบริษัท 179 แห่งเป็นแฟรนไชส์ ✅ เหตุผลการปรับโครงสร้าง ➡️ ลดต้นทุนและความซับซ้อนในการดำเนินงาน ➡️ ตั้งกองทุน 20 ล้านดอลลาร์ช่วยพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง ✅ แรงกดดันจากตลาด ➡️ Verizon เพิ่มผู้ใช้รายใหม่เพียง 44,000 รายใน Q3 ➡️ คู่แข่ง AT&T และ T-Mobile ใช้ส่วนลดและโปรโมชันดึงลูกค้าได้มากกว่า ‼️ คำเตือนต่ออนาคต Verizon ⛔ การลงทุนมหาศาลใน spectrum และการซื้อกิจการเพิ่มภาระทางการเงิน ⛔ หากไม่สามารถฟื้นฟูความสามารถในการแข่งขัน อาจสูญเสียตำแหน่งผู้นำตลาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/20/verizon-cutting-more-than-13000-jobs-as-it-restructures
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Verizon cutting more than 13,000 jobs as it restructures
    WASHINGTON (Reuters) -U.S. wireless carrier Verizon on Thursday said it will cut more than 13,000 jobs in its largest single layoff as it works to shrink costs and restructure operations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ WSUS RCE ถูกใช้โจมตีเพื่อติดตั้ง ShadowPad

    นักวิจัยจาก AhnLab Security Intelligence Center (ASEC) รายงานว่าแฮกเกอร์ได้ใช้ช่องโหว่ Remote Code Execution (RCE) ใน WSUS เพื่อรันคำสั่ง PowerShell และติดตั้ง ShadowPad ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่ถูกใช้ในหลายการโจมตีระดับชาติ ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา

    หลังจากที่โค้ด PoC (Proof-of-Concept) ถูกเผยแพร่สาธารณะเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2025 แฮกเกอร์ก็รีบปรับใช้เพื่อโจมตีทันที โดยเริ่มจากการใช้ PowerCat เพื่อเปิด shell ระดับ SYSTEM จากนั้นใช้เครื่องมือ Windows ที่ถูกต้อง เช่น curl.exe และ certutil.exe ในการดาวน์โหลดและถอดรหัสไฟล์มัลแวร์ ShadowPad ให้ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์เป้าหมาย

    ShadowPad ไม่ได้ทำงานเป็นไฟล์เดี่ยว แต่จะซ่อนตัวอยู่หลังโปรแกรมที่ถูกต้อง โดยไฟล์ .tmp ที่ถูกถอดรหัสจะบรรจุข้อมูลการตั้งค่าและโมดูลการทำงานของ backdoor ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมระบบได้อย่างลึกซึ้งและยาวนาน

    สรุปสาระสำคัญ
    รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-59287
    เป็น Remote Code Execution (RCE) ใน WSUS
    คะแนน CVSS สูงมาก (Critical)

    วิธีการโจมตีที่พบ
    ใช้ PowerCat เพื่อเปิด SYSTEM shell
    ใช้ curl.exe และ certutil.exe เพื่อติดตั้ง ShadowPad

    ความเสี่ยงต่อองค์กร
    ผู้โจมตีสามารถควบคุม Windows Server ได้เต็มรูปแบบ
    ShadowPad ถูกใช้ในหลายการโจมตีระดับชาติและการสอดแนม

    ข้อควรระวังสำหรับผู้ดูแลระบบ
    รีบอัปเดตแพตช์ล่าสุดจาก Microsoft
    จำกัดการเข้าถึง WSUS เฉพาะจาก Microsoft Update เท่านั้น
    บล็อกการเข้าถึง TCP 8530 และ 8531 จากแหล่งที่ไม่เกี่ยวข้อง
    ตรวจสอบประวัติการรัน PowerShell, certutil.exe และ curl.exe

    https://securityonline.info/critical-wsus-rce-cve-2025-59287-actively-exploited-to-deploy-shadowpad-backdoor/
    ⚠️ ช่องโหว่ WSUS RCE ถูกใช้โจมตีเพื่อติดตั้ง ShadowPad นักวิจัยจาก AhnLab Security Intelligence Center (ASEC) รายงานว่าแฮกเกอร์ได้ใช้ช่องโหว่ Remote Code Execution (RCE) ใน WSUS เพื่อรันคำสั่ง PowerShell และติดตั้ง ShadowPad ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่ถูกใช้ในหลายการโจมตีระดับชาติ ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา หลังจากที่โค้ด PoC (Proof-of-Concept) ถูกเผยแพร่สาธารณะเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2025 แฮกเกอร์ก็รีบปรับใช้เพื่อโจมตีทันที โดยเริ่มจากการใช้ PowerCat เพื่อเปิด shell ระดับ SYSTEM จากนั้นใช้เครื่องมือ Windows ที่ถูกต้อง เช่น curl.exe และ certutil.exe ในการดาวน์โหลดและถอดรหัสไฟล์มัลแวร์ ShadowPad ให้ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์เป้าหมาย ShadowPad ไม่ได้ทำงานเป็นไฟล์เดี่ยว แต่จะซ่อนตัวอยู่หลังโปรแกรมที่ถูกต้อง โดยไฟล์ .tmp ที่ถูกถอดรหัสจะบรรจุข้อมูลการตั้งค่าและโมดูลการทำงานของ backdoor ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมระบบได้อย่างลึกซึ้งและยาวนาน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-59287 ➡️ เป็น Remote Code Execution (RCE) ใน WSUS ➡️ คะแนน CVSS สูงมาก (Critical) ✅ วิธีการโจมตีที่พบ ➡️ ใช้ PowerCat เพื่อเปิด SYSTEM shell ➡️ ใช้ curl.exe และ certutil.exe เพื่อติดตั้ง ShadowPad ‼️ ความเสี่ยงต่อองค์กร ⛔ ผู้โจมตีสามารถควบคุม Windows Server ได้เต็มรูปแบบ ⛔ ShadowPad ถูกใช้ในหลายการโจมตีระดับชาติและการสอดแนม ‼️ ข้อควรระวังสำหรับผู้ดูแลระบบ ⛔ รีบอัปเดตแพตช์ล่าสุดจาก Microsoft ⛔ จำกัดการเข้าถึง WSUS เฉพาะจาก Microsoft Update เท่านั้น ⛔ บล็อกการเข้าถึง TCP 8530 และ 8531 จากแหล่งที่ไม่เกี่ยวข้อง ⛔ ตรวจสอบประวัติการรัน PowerShell, certutil.exe และ curl.exe https://securityonline.info/critical-wsus-rce-cve-2025-59287-actively-exploited-to-deploy-shadowpad-backdoor/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical WSUS RCE (CVE-2025-59287) Actively Exploited to Deploy ShadowPad Backdoor
    Threat actors are actively exploiting a new WSUS RCE flaw (CVE-2025-59287) to gain SYSTEM shells and deploy the dangerous ShadowPad backdoor. Patch immediately!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: SonicWall เตือนช่องโหว่ SSLVPN ใหม่ CVE-2025-40601

    SonicWall ได้เผยแพร่คำเตือนด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับช่องโหว่ Pre-authentication Stack-based Buffer Overflow ในบริการ SSLVPN ของ SonicOS โดยผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อทำให้ไฟร์วอลล์ที่เปิดใช้งาน SSLVPN ล่มทันที (Denial of Service) โดยไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบหรือมีสิทธิ์ใด ๆ

    ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อทั้ง Gen7 และ Gen8 Firewalls รวมถึงรุ่น Virtual (NSv) ที่ทำงานบน ESX, KVM, Hyper-V, AWS และ Azure โดยมีเวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ เช่น 7.3.0-7012 และเก่ากว่า (สำหรับ Gen7) และ 8.0.2-8011 และเก่ากว่า (สำหรับ Gen8) ขณะที่สาขา 7.0.1 ไม่ได้รับผลกระทบ

    เพื่อแก้ไขปัญหา SonicWall ได้ออกแพตช์สำหรับทุกแพลตฟอร์มที่ได้รับผลกระทบ พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันชั่วคราว เช่น จำกัดการเข้าถึง SSLVPN เฉพาะจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือ ปิดการใช้งาน SSLVPN จากอินเทอร์เน็ตที่ไม่ปลอดภัย โดยปรับแต่งกฎการเข้าถึงใน SonicOS

    การค้นพบนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่องค์กรต้องเผชิญ เนื่องจาก SSLVPN เป็นช่องทางสำคัญในการเชื่อมต่อระยะไกล หากถูกโจมตีจนไฟร์วอลล์ล่ม อาจทำให้ธุรกิจหยุดชะงักและสูญเสียการเข้าถึงระบบเครือข่ายที่สำคัญ

    สรุปสาระสำคัญ
    รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-40601
    เป็น Pre-authentication Buffer Overflow ใน SonicOS SSLVPN
    คะแนน CVSS 7.5 (High Severity)

    ระบบที่ได้รับผลกระทบ
    Gen7 Firewalls (TZ270, TZ370, TZ470, TZ570, TZ670, NSa series, NSsp series)
    Gen8 Firewalls (TZ80–TZ680, NSa 2800–5800)
    Gen7 Virtual Firewalls (NSv270, NSv470, NSv870 บน ESX, KVM, Hyper-V, AWS, Azure)

    ความเสี่ยงต่อองค์กร
    ผู้โจมตีสามารถทำให้ไฟร์วอลล์ล่มโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน
    อาจทำให้ธุรกิจหยุดชะงักและสูญเสียการเชื่อมต่อเครือข่ายสำคัญ

    ข้อควรระวังและการป้องกัน
    รีบอัปเดตแพตช์ที่ SonicWall ปล่อยออกมา
    จำกัดการเข้าถึง SSLVPN เฉพาะจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือปิดการใช้งานจากอินเทอร์เน็ตที่ไม่ปลอดภัย

    https://securityonline.info/sonicwall-warns-of-new-sonicos-sslvpn-pre-auth-buffer-overflow-vulnerability-cve-2025-40601/
    🔐 ข่าวใหญ่: SonicWall เตือนช่องโหว่ SSLVPN ใหม่ CVE-2025-40601 SonicWall ได้เผยแพร่คำเตือนด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับช่องโหว่ Pre-authentication Stack-based Buffer Overflow ในบริการ SSLVPN ของ SonicOS โดยผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อทำให้ไฟร์วอลล์ที่เปิดใช้งาน SSLVPN ล่มทันที (Denial of Service) โดยไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบหรือมีสิทธิ์ใด ๆ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อทั้ง Gen7 และ Gen8 Firewalls รวมถึงรุ่น Virtual (NSv) ที่ทำงานบน ESX, KVM, Hyper-V, AWS และ Azure โดยมีเวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ เช่น 7.3.0-7012 และเก่ากว่า (สำหรับ Gen7) และ 8.0.2-8011 และเก่ากว่า (สำหรับ Gen8) ขณะที่สาขา 7.0.1 ไม่ได้รับผลกระทบ เพื่อแก้ไขปัญหา SonicWall ได้ออกแพตช์สำหรับทุกแพลตฟอร์มที่ได้รับผลกระทบ พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันชั่วคราว เช่น จำกัดการเข้าถึง SSLVPN เฉพาะจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือ ปิดการใช้งาน SSLVPN จากอินเทอร์เน็ตที่ไม่ปลอดภัย โดยปรับแต่งกฎการเข้าถึงใน SonicOS การค้นพบนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่องค์กรต้องเผชิญ เนื่องจาก SSLVPN เป็นช่องทางสำคัญในการเชื่อมต่อระยะไกล หากถูกโจมตีจนไฟร์วอลล์ล่ม อาจทำให้ธุรกิจหยุดชะงักและสูญเสียการเข้าถึงระบบเครือข่ายที่สำคัญ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-40601 ➡️ เป็น Pre-authentication Buffer Overflow ใน SonicOS SSLVPN ➡️ คะแนน CVSS 7.5 (High Severity) ✅ ระบบที่ได้รับผลกระทบ ➡️ Gen7 Firewalls (TZ270, TZ370, TZ470, TZ570, TZ670, NSa series, NSsp series) ➡️ Gen8 Firewalls (TZ80–TZ680, NSa 2800–5800) ➡️ Gen7 Virtual Firewalls (NSv270, NSv470, NSv870 บน ESX, KVM, Hyper-V, AWS, Azure) ‼️ ความเสี่ยงต่อองค์กร ⛔ ผู้โจมตีสามารถทำให้ไฟร์วอลล์ล่มโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ⛔ อาจทำให้ธุรกิจหยุดชะงักและสูญเสียการเชื่อมต่อเครือข่ายสำคัญ ‼️ ข้อควรระวังและการป้องกัน ⛔ รีบอัปเดตแพตช์ที่ SonicWall ปล่อยออกมา ⛔ จำกัดการเข้าถึง SSLVPN เฉพาะจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือปิดการใช้งานจากอินเทอร์เน็ตที่ไม่ปลอดภัย https://securityonline.info/sonicwall-warns-of-new-sonicos-sslvpn-pre-auth-buffer-overflow-vulnerability-cve-2025-40601/
    SECURITYONLINE.INFO
    SonicWall Warns of New SonicOS SSLVPN Pre-Auth Buffer Overflow Vulnerability (CVE-2025-40601)
    SonicWall reports a pre-auth stack-based buffer overflow flaw (CVE-2025-40601) in SonicOS SSLVPN, allowing remote DoS attacks. Patches and mitigation are available.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251120 #TechRadar

    Garmin อัปเดตสมาร์ทวอทช์ จับสัญญาณความเครียดได้
    Garmin ปล่อยอัปเดตใหญ่ให้สมาร์ทวอทช์รุ่นดังอย่าง Vivoactive 6, Forerunner 570 และ Venu X1 รวมถึงคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge 540 และ 1050 จุดเด่นคือฟีเจอร์ Health Status ที่ช่วยดูแนวโน้มสุขภาพระยะยาว เช่น อัตราการเต้นหัวใจ, HRV, การหายใจ, อุณหภูมิผิว และค่าออกซิเจนในเลือดตอนนอน หากค่าผิดปกติอาจบอกได้ว่าร่างกายกำลังเครียดหรือเจ็บป่วย นอกจากนี้ยังมีแผนที่ 3D (สำหรับผู้ใช้แบบพรีเมียม) และฟีเจอร์ใหม่ ๆ สำหรับนักปั่น เช่น เตือนให้ดื่มน้ำ, เช็กสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ และวิเคราะห์อัตราทดเกียร์
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/garmins-latest-smartwatch-update-helps-catch-signs-of-stress-in-one-key-way

    AMD เปิดตัว FSR Redstone แต่ใช้ได้เฉพาะ RX 9000
    AMD ประกาศเปิดตัว FSR Redstone วันที่ 10 ธันวาคมนี้ เป็นชุดเทคโนโลยี AI ที่ช่วยเร่งเฟรมเรตและปรับปรุงคุณภาพภาพกราฟิก แต่ข่าวร้ายคือใช้ได้เฉพาะการ์ดจอรุ่น RX 9000 เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้ RX 7000 และรุ่นก่อนหน้าไม่พอใจ เพราะยังถือว่าเป็นการ์ดจอใหม่อยู่ ฟีเจอร์ที่มาพร้อม Redstone เช่น Ray Regeneration (ปรับปรุงภาพ Ray Tracing), Radiance Caching (ปรับแสงให้สมจริง) และ Frame Generation ที่สร้างเฟรมเสริมเพื่อให้ภาพลื่นขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-fsr-redstone-for-supercharged-gaming-debuts-on-december-10-but-its-rx-9000-only-leaving-older-radeon-gpus-in-the-cold

    รหัสผ่านธีมเทศกาล เสี่ยงโดนเจาะง่าย
    มีการวิเคราะห์รหัสผ่านที่รั่วไหลกว่า 800 ล้านรายการ พบว่ามีจำนวนมากที่ใช้คำเกี่ยวกับเทศกาล เช่น Christmas, Santa, หรือการดัดแปลงด้วยตัวเลข/สัญลักษณ์ แม้ดูซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้วเครื่องมือเจาะรหัสสมัยใหม่สามารถเดาได้ง่าย เพราะรูปแบบซ้ำ ๆ และคาดเดาได้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าช่วงสิ้นปีที่หลายองค์กรบังคับเปลี่ยนรหัสผ่าน มักเป็นจังหวะที่แฮกเกอร์ใช้ประโยชน์จากพฤติกรรมนี้
    https://www.techradar.com/pro/this-company-analyzed-800-million-breached-passwords-and-found-a-surprising-amount-of-festive-themes-so-maybe-choose-a-better-password-please

    โรงเก็บของกลายเป็น Data Center ช่วยลดค่าไฟ
    คู่รักใน Essex, UK ทดลองติดตั้ง HeatHub ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กในโรงเก็บของ ใช้ Raspberry Pi กว่า 500 เครื่องในการประมวลผล และนำความร้อนที่เกิดขึ้นไปใช้ทำความร้อนในบ้าน ผลคือค่าไฟลดจาก £375 เหลือเพียง £40 ต่อเดือน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองระดับประเทศ เพื่อหาทางใช้พลังงานจากการประมวลผลคอมพิวเตอร์มาเป็นพลังงานความร้อนในครัวเรือน
    https://www.techradar.com/pro/looking-to-lower-your-energy-bills-this-winter-how-about-hosting-a-data-center-in-your-garden-shed-to-help-heat-your-home

    เครื่องมือ Unix เก่ากลับมาพร้อมภัยใหม่
    คำสั่ง finger ที่เคยใช้ในระบบ Unix เพื่อตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้ ถูกนำกลับมาใช้ในทางร้าย โดยแฮกเกอร์ใช้สคริปต์ดึงคำสั่งจากเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลแล้วรันใน Windows ทำให้สามารถแอบติดตั้งโปรแกรม Python ที่ขโมยข้อมูลได้โดยผู้ใช้ไม่รู้ตัว เทคนิคนี้ยังสามารถเลี่ยงการตรวจจับจากเครื่องมือวิเคราะห์ได้ ถือเป็นการฟื้นคืนชีพของภัยคุกคามเก่าที่อันตรายมาก
    https://www.techradar.com/pro/a-decades-old-threat-command-is-making-a-comeback-so-dont-let-the-finger-of-doom-affect-you

    Meta ทุ่มงบเพิ่มความปลอดภัย WhatsApp
    Meta ลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในโครงการ Bug Bounty และเครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อเสริมความปลอดภัยของ WhatsApp เป้าหมายคือป้องกันการโจมตีและหาช่องโหว่ก่อนที่แฮกเกอร์จะใช้ประโยชน์ การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงจังของ Meta ที่ต้องการให้ WhatsApp เป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ใช้ทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/security/meta-is-spending-millions-on-bug-bounties-and-security-tools-to-boost-whatsapp-security

    Google Maps เพิ่ม 4 ฟีเจอร์ใหม่รับเทศกาล
    Google Maps อัปเดตครั้งใหญ่เพื่อช่วยผู้ใช้ช่วงเทศกาลปลายปี ฟีเจอร์ใหม่ประกอบด้วยการแสดงข้อมูลการจราจรที่ละเอียดขึ้น, การแจ้งเตือนเส้นทางที่หนาแน่น, การแนะนำเส้นทางทางเลือก และการปรับปรุงการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว/ร้านค้าให้ตรงใจมากขึ้น เหมาะกับการเดินทางในช่วงวันหยุดที่ผู้คนออกเดินทางจำนวนมาก
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/google-maps-is-adding-4-new-features-to-help-you-navigate-the-holiday-season

    LG Battery โดนโจมตี Ransomware
    บริษัทลูกของ LG ที่ทำธุรกิจแบตเตอรี่ถูกโจมตีด้วย Ransomware ส่งผลให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลถูกเข้ารหัส ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการโจมตีลักษณะนี้กำลังเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมพลังงาน เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่แฮกเกอร์เล็งเป้าเพื่อเรียกค่าไถ่สูง
    https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-attack-hits-lg-battery-subsidiary

    Asus Router ถูกโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่
    มีรายงานว่า Router ของ Asus ทั่วโลกถูกโจมตีจากกลุ่มที่เชื่อมโยงกับจีน ทำให้ผู้ใช้งานหลายรายประสบปัญหาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้ การโจมตีครั้งนี้ถูกจับตามองว่าอาจเป็นการแสดงศักยภาพด้านไซเบอร์ของรัฐชาติ และยังสร้างความกังวลต่อความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่ายที่ใช้กันแพร่หลาย
    https://www.techradar.com/pro/security/asus-routers-across-the-globe-hit-by-suspected-chinese-cyberattack-heres-what-we-know

    ข่าวสด VPN และสิทธิด้านดิจิทัล
    TechRadar เปิดหน้า VPN News Live อัปเดตสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์, สิทธิด้านดิจิทัล และความเป็นส่วนตัวออนไลน์ เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยี VPN ใหม่ ๆ ไปจนถึงการเคลื่อนไหวด้านสิทธิผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก
    https://www.techradar.com/live/news/latest-vpn-news-wednesday-19-november

    Porsche Cayenne Turbo Electric แรงที่สุดที่เคยมี
    Porsche ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Cayenne Turbo Electric จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดที่บริษัทเคยผลิต กำลังสูงสุดมากกว่า 1,000 แรงม้า ทำให้เป็น SUV ที่เร็วและแรงที่สุดในสายการผลิตของ Porsche ถือเป็นการยกระดับตลาดรถไฟฟ้าไปอีกขั้น
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/its-official-the-porsche-cayenne-turbo-electric-will-be-the-most-powerful-production-porsche-ever-made

    Chrome เจอช่องโหว่ Zero-Day อันตราย
    Google ออกแพตช์เร่งด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ Zero-Day ใน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้ว ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบโดยไม่รู้ตัว ผู้ใช้ถูกแนะนำให้อัปเดต Chrome ทันทีเพื่อความปลอดภัย
    https://www.techradar.com/pro/security/google-patches-worrying-chrome-zero-day-flaw-being-exploited-in-the-wild-heres-how-to-stay-safe

    Botnet ใหม่แอบใช้ Ray Cluster ขุดคริปโต
    มีการค้นพบ Botnet ลึกลับที่แอบเข้ายึด Ray Clusters แล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องขุดคริปโตโดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว การโจมตีนี้ทำให้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ถูกใช้ไปอย่างมหาศาล และยังเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลอีกด้วย
    https://www.techradar.com/pro/security/ray-clusters-hijacked-and-turned-into-crypto-miners-by-shadowy-new-botnet

    iOS 26 Autocorrect พังหนัก
    ผู้ใช้ iPhone หลายรายบ่นว่า Autocorrect ใน iOS 26 ทำงานผิดพลาดอย่างมาก พิมพ์ผิดบ่อยและแก้คำไม่ตรงใจ แม้ Apple จะออก iOS 26.2 แล้ว แต่ปัญหายังไม่ถูกแก้ไข ทำให้ผู้ใช้รู้สึกหงุดหงิดและรอการแก้ไขจริงจังจาก Apple
    https://www.techradar.com/phones/ios/youre-not-bad-at-typing-ios-26s-autocorrect-is-broken-and-theres-still-no-fix-in-ios-26-2

    NordVPN เปิดฟีเจอร์กันสแกมโทรศัพท์
    NordVPN เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Call Protection สำหรับผู้ใช้ใน UK และแคนาดา ช่วยตรวจจับและบล็อกสายโทรศัพท์ที่เป็นสแกมก่อนถึงผู้ใช้ ถือเป็นการขยายบทบาทของ VPN จากการป้องกันออนไลน์ไปสู่การป้องกันการสื่อสารโทรศัพท์ด้วย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-takes-on-phone-scammers-with-new-call-protection-feature-for-the-uk-and-canada

    Xiaomi เตือนราคาสมาร์ทโฟนจะพุ่งขึ้น
    Xiaomi ออกมาเตือนว่าปีหน้าราคาสมาร์ทโฟนจะปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งชิป, วัสดุ และค่าแรง ทำให้ผู้บริโภคอาจต้องเตรียมรับมือกับมือถือที่แพงกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/phones/brace-yourself-xiaomi-warns-of-a-sizeable-rise-in-smartphone-prices-next-year

    VMware ยอมรับข้อมูลสเปกเซิร์ฟเวอร์ผิดพลาด
    VMware ยืนยันว่าคู่มือสเปกสำหรับเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้มีความคลาดเคลื่อน ทำให้ผู้ใช้บางรายอาจเข้าใจผิดในการเลือกใช้งาน แม้จะเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้กระทบต่อระบบโดยตรง แต่ก็สร้างความสับสนและทำให้บริษัทต้องรีบแก้ไขข้อมูลใหม่
    https://www.techradar.com/pro/vmware-confirms-its-spec-guidance-on-storage-servers-was-rather-inaccurate
    📌📰🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📰📌 #รวมข่าวIT #20251120 #TechRadar ⌚ Garmin อัปเดตสมาร์ทวอทช์ จับสัญญาณความเครียดได้ Garmin ปล่อยอัปเดตใหญ่ให้สมาร์ทวอทช์รุ่นดังอย่าง Vivoactive 6, Forerunner 570 และ Venu X1 รวมถึงคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge 540 และ 1050 จุดเด่นคือฟีเจอร์ Health Status ที่ช่วยดูแนวโน้มสุขภาพระยะยาว เช่น อัตราการเต้นหัวใจ, HRV, การหายใจ, อุณหภูมิผิว และค่าออกซิเจนในเลือดตอนนอน หากค่าผิดปกติอาจบอกได้ว่าร่างกายกำลังเครียดหรือเจ็บป่วย นอกจากนี้ยังมีแผนที่ 3D (สำหรับผู้ใช้แบบพรีเมียม) และฟีเจอร์ใหม่ ๆ สำหรับนักปั่น เช่น เตือนให้ดื่มน้ำ, เช็กสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ และวิเคราะห์อัตราทดเกียร์ 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/garmins-latest-smartwatch-update-helps-catch-signs-of-stress-in-one-key-way 🎮 AMD เปิดตัว FSR Redstone แต่ใช้ได้เฉพาะ RX 9000 AMD ประกาศเปิดตัว FSR Redstone วันที่ 10 ธันวาคมนี้ เป็นชุดเทคโนโลยี AI ที่ช่วยเร่งเฟรมเรตและปรับปรุงคุณภาพภาพกราฟิก แต่ข่าวร้ายคือใช้ได้เฉพาะการ์ดจอรุ่น RX 9000 เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้ RX 7000 และรุ่นก่อนหน้าไม่พอใจ เพราะยังถือว่าเป็นการ์ดจอใหม่อยู่ ฟีเจอร์ที่มาพร้อม Redstone เช่น Ray Regeneration (ปรับปรุงภาพ Ray Tracing), Radiance Caching (ปรับแสงให้สมจริง) และ Frame Generation ที่สร้างเฟรมเสริมเพื่อให้ภาพลื่นขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-fsr-redstone-for-supercharged-gaming-debuts-on-december-10-but-its-rx-9000-only-leaving-older-radeon-gpus-in-the-cold 🎄 รหัสผ่านธีมเทศกาล เสี่ยงโดนเจาะง่าย มีการวิเคราะห์รหัสผ่านที่รั่วไหลกว่า 800 ล้านรายการ พบว่ามีจำนวนมากที่ใช้คำเกี่ยวกับเทศกาล เช่น Christmas, Santa, หรือการดัดแปลงด้วยตัวเลข/สัญลักษณ์ แม้ดูซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้วเครื่องมือเจาะรหัสสมัยใหม่สามารถเดาได้ง่าย เพราะรูปแบบซ้ำ ๆ และคาดเดาได้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าช่วงสิ้นปีที่หลายองค์กรบังคับเปลี่ยนรหัสผ่าน มักเป็นจังหวะที่แฮกเกอร์ใช้ประโยชน์จากพฤติกรรมนี้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-company-analyzed-800-million-breached-passwords-and-found-a-surprising-amount-of-festive-themes-so-maybe-choose-a-better-password-please 🏠 โรงเก็บของกลายเป็น Data Center ช่วยลดค่าไฟ คู่รักใน Essex, UK ทดลองติดตั้ง HeatHub ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กในโรงเก็บของ ใช้ Raspberry Pi กว่า 500 เครื่องในการประมวลผล และนำความร้อนที่เกิดขึ้นไปใช้ทำความร้อนในบ้าน ผลคือค่าไฟลดจาก £375 เหลือเพียง £40 ต่อเดือน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองระดับประเทศ เพื่อหาทางใช้พลังงานจากการประมวลผลคอมพิวเตอร์มาเป็นพลังงานความร้อนในครัวเรือน 🔗 https://www.techradar.com/pro/looking-to-lower-your-energy-bills-this-winter-how-about-hosting-a-data-center-in-your-garden-shed-to-help-heat-your-home 💻 เครื่องมือ Unix เก่ากลับมาพร้อมภัยใหม่ คำสั่ง finger ที่เคยใช้ในระบบ Unix เพื่อตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้ ถูกนำกลับมาใช้ในทางร้าย โดยแฮกเกอร์ใช้สคริปต์ดึงคำสั่งจากเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลแล้วรันใน Windows ทำให้สามารถแอบติดตั้งโปรแกรม Python ที่ขโมยข้อมูลได้โดยผู้ใช้ไม่รู้ตัว เทคนิคนี้ยังสามารถเลี่ยงการตรวจจับจากเครื่องมือวิเคราะห์ได้ ถือเป็นการฟื้นคืนชีพของภัยคุกคามเก่าที่อันตรายมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/a-decades-old-threat-command-is-making-a-comeback-so-dont-let-the-finger-of-doom-affect-you 🔒 Meta ทุ่มงบเพิ่มความปลอดภัย WhatsApp Meta ลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในโครงการ Bug Bounty และเครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อเสริมความปลอดภัยของ WhatsApp เป้าหมายคือป้องกันการโจมตีและหาช่องโหว่ก่อนที่แฮกเกอร์จะใช้ประโยชน์ การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงจังของ Meta ที่ต้องการให้ WhatsApp เป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ใช้ทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/meta-is-spending-millions-on-bug-bounties-and-security-tools-to-boost-whatsapp-security 🗺️ Google Maps เพิ่ม 4 ฟีเจอร์ใหม่รับเทศกาล Google Maps อัปเดตครั้งใหญ่เพื่อช่วยผู้ใช้ช่วงเทศกาลปลายปี ฟีเจอร์ใหม่ประกอบด้วยการแสดงข้อมูลการจราจรที่ละเอียดขึ้น, การแจ้งเตือนเส้นทางที่หนาแน่น, การแนะนำเส้นทางทางเลือก และการปรับปรุงการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว/ร้านค้าให้ตรงใจมากขึ้น เหมาะกับการเดินทางในช่วงวันหยุดที่ผู้คนออกเดินทางจำนวนมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/google-maps-is-adding-4-new-features-to-help-you-navigate-the-holiday-season 🔋 LG Battery โดนโจมตี Ransomware บริษัทลูกของ LG ที่ทำธุรกิจแบตเตอรี่ถูกโจมตีด้วย Ransomware ส่งผลให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลถูกเข้ารหัส ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการโจมตีลักษณะนี้กำลังเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมพลังงาน เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่แฮกเกอร์เล็งเป้าเพื่อเรียกค่าไถ่สูง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-attack-hits-lg-battery-subsidiary 📡 Asus Router ถูกโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ มีรายงานว่า Router ของ Asus ทั่วโลกถูกโจมตีจากกลุ่มที่เชื่อมโยงกับจีน ทำให้ผู้ใช้งานหลายรายประสบปัญหาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้ การโจมตีครั้งนี้ถูกจับตามองว่าอาจเป็นการแสดงศักยภาพด้านไซเบอร์ของรัฐชาติ และยังสร้างความกังวลต่อความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่ายที่ใช้กันแพร่หลาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/asus-routers-across-the-globe-hit-by-suspected-chinese-cyberattack-heres-what-we-know 🌐 ข่าวสด VPN และสิทธิด้านดิจิทัล TechRadar เปิดหน้า VPN News Live อัปเดตสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์, สิทธิด้านดิจิทัล และความเป็นส่วนตัวออนไลน์ เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยี VPN ใหม่ ๆ ไปจนถึงการเคลื่อนไหวด้านสิทธิผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/live/news/latest-vpn-news-wednesday-19-november 🚗 Porsche Cayenne Turbo Electric แรงที่สุดที่เคยมี Porsche ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Cayenne Turbo Electric จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดที่บริษัทเคยผลิต กำลังสูงสุดมากกว่า 1,000 แรงม้า ทำให้เป็น SUV ที่เร็วและแรงที่สุดในสายการผลิตของ Porsche ถือเป็นการยกระดับตลาดรถไฟฟ้าไปอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/its-official-the-porsche-cayenne-turbo-electric-will-be-the-most-powerful-production-porsche-ever-made 🌐 Chrome เจอช่องโหว่ Zero-Day อันตราย Google ออกแพตช์เร่งด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ Zero-Day ใน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้ว ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบโดยไม่รู้ตัว ผู้ใช้ถูกแนะนำให้อัปเดต Chrome ทันทีเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/google-patches-worrying-chrome-zero-day-flaw-being-exploited-in-the-wild-heres-how-to-stay-safe 🪙 Botnet ใหม่แอบใช้ Ray Cluster ขุดคริปโต มีการค้นพบ Botnet ลึกลับที่แอบเข้ายึด Ray Clusters แล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องขุดคริปโตโดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว การโจมตีนี้ทำให้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ถูกใช้ไปอย่างมหาศาล และยังเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลอีกด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ray-clusters-hijacked-and-turned-into-crypto-miners-by-shadowy-new-botnet 📱 iOS 26 Autocorrect พังหนัก ผู้ใช้ iPhone หลายรายบ่นว่า Autocorrect ใน iOS 26 ทำงานผิดพลาดอย่างมาก พิมพ์ผิดบ่อยและแก้คำไม่ตรงใจ แม้ Apple จะออก iOS 26.2 แล้ว แต่ปัญหายังไม่ถูกแก้ไข ทำให้ผู้ใช้รู้สึกหงุดหงิดและรอการแก้ไขจริงจังจาก Apple 🔗 https://www.techradar.com/phones/ios/youre-not-bad-at-typing-ios-26s-autocorrect-is-broken-and-theres-still-no-fix-in-ios-26-2 📞 NordVPN เปิดฟีเจอร์กันสแกมโทรศัพท์ NordVPN เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Call Protection สำหรับผู้ใช้ใน UK และแคนาดา ช่วยตรวจจับและบล็อกสายโทรศัพท์ที่เป็นสแกมก่อนถึงผู้ใช้ ถือเป็นการขยายบทบาทของ VPN จากการป้องกันออนไลน์ไปสู่การป้องกันการสื่อสารโทรศัพท์ด้วย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-takes-on-phone-scammers-with-new-call-protection-feature-for-the-uk-and-canada 📱 Xiaomi เตือนราคาสมาร์ทโฟนจะพุ่งขึ้น Xiaomi ออกมาเตือนว่าปีหน้าราคาสมาร์ทโฟนจะปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งชิป, วัสดุ และค่าแรง ทำให้ผู้บริโภคอาจต้องเตรียมรับมือกับมือถือที่แพงกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/phones/brace-yourself-xiaomi-warns-of-a-sizeable-rise-in-smartphone-prices-next-year 💾 VMware ยอมรับข้อมูลสเปกเซิร์ฟเวอร์ผิดพลาด VMware ยืนยันว่าคู่มือสเปกสำหรับเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้มีความคลาดเคลื่อน ทำให้ผู้ใช้บางรายอาจเข้าใจผิดในการเลือกใช้งาน แม้จะเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้กระทบต่อระบบโดยตรง แต่ก็สร้างความสับสนและทำให้บริษัทต้องรีบแก้ไขข้อมูลใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/vmware-confirms-its-spec-guidance-on-storage-servers-was-rather-inaccurate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 307 มุมมอง 0 รีวิว
  • “GitHub ล่มทั่วโลกเพราะ TLS หมดอายุ – ฟื้นตัวภายใน 1 ชั่วโมง”

    เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 เวลา 20:30 UTC GitHub ประสบปัญหา Git operation ล้มเหลวทั้งหมด ทั้งการเชื่อมต่อผ่าน SSH และ HTTP รวมถึงการเข้าถึงไฟล์โดยตรง เหตุการณ์นี้ยังส่งผลกระทบต่อบริการที่พึ่งพา Git เช่น Codespaces และระบบอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อกับ GitHub

    สาเหตุหลักคือ TLS certificate สำหรับการสื่อสารภายในหมดอายุ โดยไม่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้า ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างบริการล้มเหลว ทีมงาน GitHubแก้ไขโดยการเปลี่ยน certificate และรีสตาร์ทบริการที่ได้รับผลกระทบ หลังจากนั้นระบบจึงกลับมาทำงานตามปกติภายในเวลา 21:34 UTC

    เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ GitHub ได้เพิ่มระบบแจ้งเตือน certificate ที่ใกล้หมดอายุ และกำลังเร่งปรับปรุงให้ การจัดการ certificate ทั้งหมดเป็นแบบอัตโนมัติ ลดการพึ่งพาการจัดการแบบ manual ซึ่งเสี่ยงต่อความผิดพลาดในอนาคต

    แม้เหตุการณ์นี้จะถูกแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า จุดเล็ก ๆ อย่าง certificate หมดอายุสามารถทำให้บริการระดับโลกหยุดชะงักได้ และเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับองค์กรที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล

    สรุปสาระสำคัญ
    เหตุการณ์ล่มของ GitHub
    เกิดขึ้นวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 เวลา 20:30 UTC
    Git operations ทั้ง SSH และ HTTP ล้มเหลว รวมถึง Codespaces

    สาเหตุและการแก้ไข
    TLS certificate ภายในหมดอายุโดยไม่ถูกตรวจพบ
    ทีมงานเปลี่ยน certificate และรีสตาร์ทบริการ ทำให้ฟื้นตัวภายใน 1 ชั่วโมง

    มาตรการป้องกันในอนาคต
    เพิ่มระบบแจ้งเตือน certificate ที่ใกล้หมดอายุ
    เร่งทำให้การจัดการ certificate เป็นแบบอัตโนมัติทั้งหมด

    คำเตือนต่อองค์กรที่ใช้ระบบดิจิทัล
    Certificate หมดอายุแม้เพียงตัวเดียวสามารถทำให้บริการระดับโลกหยุดชะงัก
    การจัดการแบบ manual เสี่ยงต่อความผิดพลาด ควรใช้ระบบอัตโนมัติ

    https://www.githubstatus.com/incidents/5q7nmlxz30sk
    📰 “GitHub ล่มทั่วโลกเพราะ TLS หมดอายุ – ฟื้นตัวภายใน 1 ชั่วโมง” เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 เวลา 20:30 UTC GitHub ประสบปัญหา Git operation ล้มเหลวทั้งหมด ทั้งการเชื่อมต่อผ่าน SSH และ HTTP รวมถึงการเข้าถึงไฟล์โดยตรง เหตุการณ์นี้ยังส่งผลกระทบต่อบริการที่พึ่งพา Git เช่น Codespaces และระบบอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อกับ GitHub สาเหตุหลักคือ TLS certificate สำหรับการสื่อสารภายในหมดอายุ โดยไม่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้า ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างบริการล้มเหลว ทีมงาน GitHubแก้ไขโดยการเปลี่ยน certificate และรีสตาร์ทบริการที่ได้รับผลกระทบ หลังจากนั้นระบบจึงกลับมาทำงานตามปกติภายในเวลา 21:34 UTC เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ GitHub ได้เพิ่มระบบแจ้งเตือน certificate ที่ใกล้หมดอายุ และกำลังเร่งปรับปรุงให้ การจัดการ certificate ทั้งหมดเป็นแบบอัตโนมัติ ลดการพึ่งพาการจัดการแบบ manual ซึ่งเสี่ยงต่อความผิดพลาดในอนาคต แม้เหตุการณ์นี้จะถูกแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า จุดเล็ก ๆ อย่าง certificate หมดอายุสามารถทำให้บริการระดับโลกหยุดชะงักได้ และเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับองค์กรที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ เหตุการณ์ล่มของ GitHub ➡️ เกิดขึ้นวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 เวลา 20:30 UTC ➡️ Git operations ทั้ง SSH และ HTTP ล้มเหลว รวมถึง Codespaces ✅ สาเหตุและการแก้ไข ➡️ TLS certificate ภายในหมดอายุโดยไม่ถูกตรวจพบ ➡️ ทีมงานเปลี่ยน certificate และรีสตาร์ทบริการ ทำให้ฟื้นตัวภายใน 1 ชั่วโมง ✅ มาตรการป้องกันในอนาคต ➡️ เพิ่มระบบแจ้งเตือน certificate ที่ใกล้หมดอายุ ➡️ เร่งทำให้การจัดการ certificate เป็นแบบอัตโนมัติทั้งหมด ‼️ คำเตือนต่อองค์กรที่ใช้ระบบดิจิทัล ⛔ Certificate หมดอายุแม้เพียงตัวเดียวสามารถทำให้บริการระดับโลกหยุดชะงัก ⛔ การจัดการแบบ manual เสี่ยงต่อความผิดพลาด ควรใช้ระบบอัตโนมัติ https://www.githubstatus.com/incidents/5q7nmlxz30sk
    WWW.GITHUBSTATUS.COM
    Git operation failures
    GitHub's Status Page - Git operation failures.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251120 #securityonline

    Lazarus Group เปิดตัว RAT ใหม่ชื่อ ScoringMathTea
    กลุ่มแฮกเกอร์ Lazarus จากเกาหลีเหนือถูกเปิดโปงว่าได้พัฒนาเครื่องมือสอดแนมใหม่ชื่อ ScoringMathTea RAT ซึ่งมีความสามารถซับซ้อนมาก ใช้เทคนิคการโหลดปลั๊กอินแบบสะท้อน (Reflective Plugin Loader) และเข้ารหัสด้วยวิธีเฉพาะที่ยากต่อการตรวจจับ เครื่องมือนี้สามารถควบคุมเครื่องเป้าหมายจากระยะไกลได้เต็มรูปแบบ ทั้งการรันคำสั่งและโหลดปลั๊กอินในหน่วยความจำ จุดเด่นคือการซ่อนร่องรอยการสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ นักวิจัยพบว่า RAT นี้ถูกใช้ในปฏิบัติการโจมตีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี UAV ของยูเครน

    https://securityonline.info/lazarus-groups-new-scoringmathtea-rat-uses-reflective-plugin-loader-and-custom-polyalphabetic-crypto-for-espionage

    Akira Ransomware ใช้ CAPTCHA หลอกลวงจนบริษัทใหญ่ล่มใน 42 วัน
    มีรายงานว่าเพียงการคลิก CAPTCHA ปลอมครั้งเดียวของพนักงานบริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้เกิดการโจมตีที่ยืดเยื้อถึง 42 วัน กลุ่มแฮกเกอร์ Howling Scorpius ใช้เทคนิคนี้เพื่อติดตั้ง SectopRAT และค่อย ๆ ยึดระบบทีละขั้น จนสามารถลบข้อมูลสำรองบนคลาวด์และปล่อย Akira ransomware ทำให้บริษัทหยุดทำงานเกือบทั้งหมด แม้บริษัทจะมีระบบ EDR แต่กลับไม่สามารถตรวจจับได้ทันเวลา

    https://securityonline.info/one-click-42-days-akira-ransomware-used-captcha-decoy-to-destroy-cloud-backups-and-cripple-storage-firm

    “The Gentlemen” Ransomware RaaS โผล่ใหม่ โจมตี 48 เหยื่อใน 3 เดือน
    กลุ่มใหม่ชื่อ The Gentlemen เปิดตัวแพลตฟอร์ม Ransomware-as-a-Service (RaaS) ที่มีความซับซ้อนสูง ใช้การเข้ารหัสแบบ XChaCha20 และกลยุทธ์ “สองชั้น” คือทั้งเข้ารหัสไฟล์และขู่เปิดเผยข้อมูลที่ขโมยมา ภายในเวลาเพียง 3 เดือน พวกเขามีเหยื่อถึง 48 ราย จุดเด่นคือการพัฒนาอย่างรวดเร็ว รองรับทั้ง Windows, Linux และ ESXi พร้อมเทคนิคการแพร่กระจายที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็นภัยคุกคามระดับท็อปในวงการ https://securityonline.info/sophisticated-the-gentlemen-ransomware-raas-emerges-with-xchacha20-encryption-and-48-victims-in-3-months

    มัลแวร์ยุคใหม่ซ่อนการสื่อสารเป็น API ของ LLM บน Tencent Cloud
    นักวิจัยจาก Akamai พบมัลแวร์ที่มีวิธีพรางตัวแปลกใหม่ โดยมันซ่อนการสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) ให้ดูเหมือนการเรียกใช้งาน API ของ Large Language Model (LLM) บน Tencent Cloud ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก เพราะทราฟฟิกดูเหมือนการใช้งาน AI ปกติจริง ๆ เมื่อถอดรหัสแล้วพบว่าเป็นคำสั่งควบคุมเครื่องแบบ RAT เต็มรูปแบบ พร้อมเครื่องมือ Proxy ที่ช่วยให้แฮกเกอร์ใช้เครื่องเหยื่อเป็นจุดผ่านในการโจมตีต่อ

    https://securityonline.info/next-gen-stealth-malware-hides-c2-traffic-as-fake-llm-api-requests-on-tencent-cloud

    Ransomware เจาะ AWS S3 ผ่านการตั้งค่าผิดพลาด ทำลบข้อมูลถาวร
    รายงานจาก Trend Research เตือนว่ามีการพัฒนา ransomware รุ่นใหม่ที่มุ่งเป้าไปยัง Amazon S3 โดยอาศัยการตั้งค่าที่ผิดพลาด เช่น ไม่มีการเปิด versioning หรือ object lock ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ารหัสหรือลบข้อมูลได้แบบถาวรโดยไม่สามารถกู้คืนได้ มีการระบุถึง 5 วิธีการโจมตีที่อันตราย เช่น การลบ KMS key ที่ใช้เข้ารหัสไฟล์ ซึ่งจะทำให้ข้อมูลสูญหายไปตลอดกาล

    https://securityonline.info/next-gen-ransomware-targets-aws-s3-five-cloud-native-variants-exploit-misconfigurations-for-irreversible-data-destruction

    Windows 11 เตรียมซ่อนหน้าจอ BSOD บนจอสาธารณะ

    Microsoft ประกาศว่าจะปรับปรุง Windows 11 โดย ซ่อนหน้าจอ Blue Screen of Death (BSOD) บนจอที่ใช้ในที่สาธารณะ เช่นสนามบินหรือห้างสรรพสินค้า เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ทั่วไปเห็นภาพระบบล่มที่อาจสร้างความตื่นตระหนก การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น โดยยังคงบันทึกข้อมูลการ crash ไว้ให้ผู้ดูแลระบบตรวจสอบได้ตามปกติ

    https://securityonline.info/no-more-public-bsods-windows-11-will-hide-crash-screens-on-public-displays

    Microsoft เตรียมยกเลิกสิทธิ์ OEM Driver ระดับ Kernel
    หลังเหตุการณ์ CrowdStrike ที่ทำให้ระบบล่มทั่วโลก Microsoft วางแผนจะ ยกเลิกสิทธิ์พิเศษของ OEM driver ที่ทำงานในระดับ Kernel เพื่อลดความเสี่ยงจากการที่ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ใช้สิทธิ์สูงเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยของระบบ Windows โดยบังคับให้ผู้ผลิตใช้วิธีที่ปลอดภัยกว่าในการเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการ

    https://securityonline.info/post-crowdstrike-microsoft-to-phase-out-oem-kernel-level-driver-privileges

    Seraphic เปิดตัว Browser Security สำหรับแอป Electron
    บริษัท Seraphic เปิดตัวโซลูชันใหม่ที่เป็น Secure Enterprise Browser ตัวแรกที่สามารถปกป้องแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron ได้ จุดเด่นคือการเพิ่มชั้นความปลอดภัยให้กับแอปที่มักถูกใช้ในองค์กร เช่น Slack หรือ Teams ซึ่งเดิมที Electron มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอยู่บ่อยครั้ง การแก้ปัญหานี้ช่วยให้องค์กรมั่นใจมากขึ้นในการใช้งานแอป Electron

    https://securityonline.info/seraphic-becomes-the-first-and-only-secure-enterprise-browser-solution-to-protect-electron-based-applications

    Comet Browser ถูกวิจารณ์หนัก หลังพบ API ลับ MCP
    มีการค้นพบว่า Comet Browser มี API ที่ชื่อ MCP ซึ่งเปิดช่องให้ผู้พัฒนา AI browser สามารถเข้าถึงและควบคุมอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้เต็มรูปแบบโดยไม่แจ้งเตือน ทำให้เกิดการละเมิดความเชื่อมั่นของผู้ใช้ นักวิจัยเตือนว่าช่องโหว่นี้อาจถูกใช้เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกลโดยไม่ได้รับอนุญาต

    https://securityonline.info/obscure-mcp-api-in-comet-browser-breaches-user-trust-enabling-full-device-control-via-ai-browsers

    CredShields จับมือ Checkmarx เสริมความปลอดภัย Smart Contract
    บริษัท CredShields ประกาศความร่วมมือกับ Checkmarx เพื่อนำเทคโนโลยีตรวจสอบความปลอดภัยของ Smart Contract เข้าสู่โปรแกรม AppSec ขององค์กร จุดมุ่งหมายคือช่วยให้องค์กรที่ใช้ blockchain และ smart contract สามารถตรวจสอบช่องโหว่ได้อย่างเป็นระบบ ลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้สูญเสียทรัพย์สินดิจิทัล

    https://securityonline.info/credshields-joins-forces-with-checkmarx-to-bring-smart-contract-security-to-enterprise-appsec-programs

    Windows 11 เพิ่มเครื่องมือใหม่ Point-in-Time Restore

    Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ได้แก่ Point-in-Time Restore และ Network-Enabled Recovery Environment เพื่อช่วยผู้ใช้กู้คืนระบบได้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ทำให้สามารถย้อนกลับไปยังสถานะก่อนหน้าที่กำหนดไว้ได้ทันที และยังรองรับการกู้คืนผ่านเครือข่าย ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถซ่อมแซมเครื่องจากระยะไกลได้สะดวกขึ้น

    https://securityonline.info/new-windows-11-tools-point-in-time-restore-network-enabled-recovery-environment

    ความกังวลฟองสบู่ AI: Microsoft & NVIDIA ลงทุนหนักใน Anthropic
    มีรายงานว่าทั้ง Microsoft และ NVIDIA ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในบริษัท AI อย่าง Anthropic จนเกิดความกังวลว่าการลงทุนแบบหมุนเวียนระหว่างบริษัทใหญ่ ๆ อาจสร้าง “ฟองสบู่ AI” ที่ไม่ยั่งยืน การทุ่มเงินจำนวนมหาศาลนี้ถูกมองว่าอาจทำให้ตลาด AI เติบโตเกินจริงและเสี่ยงต่อการแตกในอนาคต

    https://securityonline.info/ai-bubble-fear-microsoft-nvidia-pour-billions-into-anthropic-fueling-circular-investment

    Google ทุ่ม 78 พันล้านดอลลาร์สร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ในสหรัฐฯ
    Google ประกาศโครงการ Investing in America 2025 ด้วยงบประมาณมหาศาลถึง 78 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล AI และโครงสร้างพื้นฐานทั่วสหรัฐฯ รวมถึงการลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์ 600 MW ที่ Arkansas โครงการนี้สะท้อนถึงการเร่งขยายกำลังการผลิต AI และการสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศ https://securityonline.info/google-pledges-78-billion-for-investing-in-america-2025-ai-infrastructure

    Grok 4.1 แซง Google Gemini 2.5 Pro บน LMArena
    แพลตฟอร์มทดสอบ AI LMArena รายงานว่า Grok 4.1 Thinking ได้คะแนนสูงสุด แซงหน้า Google Gemini 2.5 Pro ในการจัดอันดับล่าสุด จุดเด่นของ Grok คือความสามารถในการใช้เหตุผลเชิงลึกและการตอบสนองที่แม่นยำ ทำให้มันถูกจับตามองว่าอาจเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดโมเดล AI ระดับสูง

    https://securityonline.info/grok-4-1-thinking-steals-1-spot-on-lmarena-surpassing-google-gemini-2-5-pro

    Google เปิดตัว Canvas และ Agentic Booking ใน AI Mode
    Google อัปเกรด AI Mode โดยเพิ่มฟีเจอร์ Canvas สำหรับการวางแผน และ Agentic Booking สำหรับการจองที่พักหรือร้านอาหารแบบอัตโนมัติ ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ AI ในการจัดการงานประจำวันได้สะดวกขึ้น เช่น วางแผนทริปหรือจองโต๊ะอาหารโดยไม่ต้องทำเอง

    https://securityonline.info/ai-mode-upgraded-google-launches-canvas-for-planning-and-agentic-booking-for-reservations

    เราเตอร์ D-Link DIR-878 หมดอายุการสนับสนุน พร้อมช่องโหว่ RCE ร้ายแรง

    D-Link ประกาศว่าเราเตอร์รุ่น DIR-878 เข้าสู่สถานะ End-of-Life (EOL) และจะไม่ได้รับการอัปเดตอีกต่อไป ทั้งที่ยังมีช่องโหว่ร้ายแรงถึง 3 จุดซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ผู้ใช้ที่ยังใช้อุปกรณ์รุ่นนี้เสี่ยงต่อการถูกยึดระบบอย่างมาก

    https://securityonline.info/d-link-dir-878-reaches-eol-3-unpatched-rce-flaws-allow-unauthenticated-remote-command-execution

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน METZ CONNECT Controller เปิดทาง RCE และยึดระบบ
    มีการค้นพบช่องโหว่ในอุปกรณ์ควบคุมอุตสาหกรรมของ METZ CONNECT ที่มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.8 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลและเข้ายึดสิทธิ์ผู้ดูแลระบบได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ถือเป็นภัยคุกคามต่อระบบควบคุมอุตสาหกรรมที่ใช้กันในโรงงานและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ

    https://securityonline.info/critical-metz-connect-flaws-cvss-9-8-allow-unauthenticated-rce-and-admin-takeover-on-industrial-controllers

    SolarWinds Serv-U พบช่องโหว่ใหม่ เปิดทาง RCE และ Path Bypass
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยรายงานช่องโหว่ร้ายแรงใน SolarWinds Serv-U ที่ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลและเลี่ยงการตรวจสอบเส้นทางไฟล์ได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS 9.1 และถูกจัดว่าเป็นภัยคุกคามระดับสูงต่อองค์กรที่ใช้ Serv-U ในการจัดการไฟล์และระบบเครือข่าย

    https://securityonline.info/critical-solarwinds-serv-u-flaws-cvss-9-1-allow-authenticated-admin-rce-and-path-bypass

    การโจมตีซัพพลายเชน npm ด้วย CAPTCHA ปลอมและ Adspect Cloaking
    มีการตรวจพบการโจมตีซัพพลายเชนใน npm โดยแฮกเกอร์ใช้เทคนิค Adspect Cloaking และ CAPTCHA ปลอมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเพื่อหลอกนักพัฒนาและผู้ใช้ให้ดาวน์โหลดแพ็กเกจอันตราย การโจมตีนี้ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักวิจัยด้านความปลอดภัยถูกหลอกได้ง่ายขึ้น และเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงในระบบซัพพลายเชนโอเพนซอร์ส

    https://securityonline.info/npm-supply-chain-attack-hackers-use-adspect-cloaking-and-fake-crypto-captcha-to-deceive-victims-and-researchers

    ASUSTOR พบช่องโหว่ DLL Hijacking ร้ายแรง (CVE-2025-13051)
    ASUSTOR ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ DLL hijacking ในซอฟต์แวร์ Backup Plan (ABP) และ EZSync (AES) บน Windows ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีในเครื่องสามารถแทนที่ DLL และรันโค้ดด้วยสิทธิ์ SYSTEM ได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS 9.3 และถูกจัดว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อทั้งผู้ใช้บ้านและองค์กร โดยมีการออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชันใหม่

    https://securityonline.info/critical-asustor-flaw-cve-2025-13051-allows-local-dll-hijacking-for-system-privilege-escalation

    ช่องโหว่ joserfc (CVE-2025-65015) ทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มด้วย JWT ขนาดใหญ่

    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในไลบรารี joserfc ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ JSON Web Token (JWT) โดยหากผู้โจมตีส่ง JWT ที่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ จะทำให้เซิร์ฟเวอร์ใช้ทรัพยากรมากเกินไปจนล่มได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดว่าเป็นการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) และมีผลกระทบต่อระบบที่ใช้ joserfc ในการตรวจสอบสิทธิ์หรือการเข้ารหัสข้อมูล

    https://securityonline.info/critical-cve-2025-65015-vulnerability-in-joserfc-could-let-attackers-exhaust-server-resources-via-oversized-jwt-tokens

    หน่วยงาน CISA/FBI/NSA ร่วมกันจัดการโครงสร้าง Bulletproof Hosting
    สามหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ได้แก่ CISA, FBI และ NSA ได้ร่วมมือกันออกคู่มือใหม่เพื่อจัดการกับโครงสร้าง Bulletproof Hosting ที่ถูกใช้โดยอาชญากรไซเบอร์ทั่วโลก Bulletproof Hosting คือบริการโฮสติ้งที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้โจมตีจากการถูกปิดกั้นหรือสืบสวน การร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างแนวทางป้องกันภัยไซเบอร์ระดับโลก

    https://securityonline.info/cisa-fbi-nsa-unite-to-dismantle-bulletproof-hosting-ecosystem-with-new-global-defense-guide

    📌📰🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠📰📌 #รวมข่าวIT #20251120 #securityonline 🕵️‍♂️ Lazarus Group เปิดตัว RAT ใหม่ชื่อ ScoringMathTea กลุ่มแฮกเกอร์ Lazarus จากเกาหลีเหนือถูกเปิดโปงว่าได้พัฒนาเครื่องมือสอดแนมใหม่ชื่อ ScoringMathTea RAT ซึ่งมีความสามารถซับซ้อนมาก ใช้เทคนิคการโหลดปลั๊กอินแบบสะท้อน (Reflective Plugin Loader) และเข้ารหัสด้วยวิธีเฉพาะที่ยากต่อการตรวจจับ เครื่องมือนี้สามารถควบคุมเครื่องเป้าหมายจากระยะไกลได้เต็มรูปแบบ ทั้งการรันคำสั่งและโหลดปลั๊กอินในหน่วยความจำ จุดเด่นคือการซ่อนร่องรอยการสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ นักวิจัยพบว่า RAT นี้ถูกใช้ในปฏิบัติการโจมตีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี UAV ของยูเครน 🔗 https://securityonline.info/lazarus-groups-new-scoringmathtea-rat-uses-reflective-plugin-loader-and-custom-polyalphabetic-crypto-for-espionage 💻 Akira Ransomware ใช้ CAPTCHA หลอกลวงจนบริษัทใหญ่ล่มใน 42 วัน มีรายงานว่าเพียงการคลิก CAPTCHA ปลอมครั้งเดียวของพนักงานบริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้เกิดการโจมตีที่ยืดเยื้อถึง 42 วัน กลุ่มแฮกเกอร์ Howling Scorpius ใช้เทคนิคนี้เพื่อติดตั้ง SectopRAT และค่อย ๆ ยึดระบบทีละขั้น จนสามารถลบข้อมูลสำรองบนคลาวด์และปล่อย Akira ransomware ทำให้บริษัทหยุดทำงานเกือบทั้งหมด แม้บริษัทจะมีระบบ EDR แต่กลับไม่สามารถตรวจจับได้ทันเวลา 🔗 https://securityonline.info/one-click-42-days-akira-ransomware-used-captcha-decoy-to-destroy-cloud-backups-and-cripple-storage-firm 🎩 “The Gentlemen” Ransomware RaaS โผล่ใหม่ โจมตี 48 เหยื่อใน 3 เดือน กลุ่มใหม่ชื่อ The Gentlemen เปิดตัวแพลตฟอร์ม Ransomware-as-a-Service (RaaS) ที่มีความซับซ้อนสูง ใช้การเข้ารหัสแบบ XChaCha20 และกลยุทธ์ “สองชั้น” คือทั้งเข้ารหัสไฟล์และขู่เปิดเผยข้อมูลที่ขโมยมา ภายในเวลาเพียง 3 เดือน พวกเขามีเหยื่อถึง 48 ราย จุดเด่นคือการพัฒนาอย่างรวดเร็ว รองรับทั้ง Windows, Linux และ ESXi พร้อมเทคนิคการแพร่กระจายที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็นภัยคุกคามระดับท็อปในวงการ 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-the-gentlemen-ransomware-raas-emerges-with-xchacha20-encryption-and-48-victims-in-3-months ☁️ มัลแวร์ยุคใหม่ซ่อนการสื่อสารเป็น API ของ LLM บน Tencent Cloud นักวิจัยจาก Akamai พบมัลแวร์ที่มีวิธีพรางตัวแปลกใหม่ โดยมันซ่อนการสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) ให้ดูเหมือนการเรียกใช้งาน API ของ Large Language Model (LLM) บน Tencent Cloud ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก เพราะทราฟฟิกดูเหมือนการใช้งาน AI ปกติจริง ๆ เมื่อถอดรหัสแล้วพบว่าเป็นคำสั่งควบคุมเครื่องแบบ RAT เต็มรูปแบบ พร้อมเครื่องมือ Proxy ที่ช่วยให้แฮกเกอร์ใช้เครื่องเหยื่อเป็นจุดผ่านในการโจมตีต่อ 🔗 https://securityonline.info/next-gen-stealth-malware-hides-c2-traffic-as-fake-llm-api-requests-on-tencent-cloud 🗄️ Ransomware เจาะ AWS S3 ผ่านการตั้งค่าผิดพลาด ทำลบข้อมูลถาวร รายงานจาก Trend Research เตือนว่ามีการพัฒนา ransomware รุ่นใหม่ที่มุ่งเป้าไปยัง Amazon S3 โดยอาศัยการตั้งค่าที่ผิดพลาด เช่น ไม่มีการเปิด versioning หรือ object lock ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ารหัสหรือลบข้อมูลได้แบบถาวรโดยไม่สามารถกู้คืนได้ มีการระบุถึง 5 วิธีการโจมตีที่อันตราย เช่น การลบ KMS key ที่ใช้เข้ารหัสไฟล์ ซึ่งจะทำให้ข้อมูลสูญหายไปตลอดกาล 🔗 https://securityonline.info/next-gen-ransomware-targets-aws-s3-five-cloud-native-variants-exploit-misconfigurations-for-irreversible-data-destruction 💻 Windows 11 เตรียมซ่อนหน้าจอ BSOD บนจอสาธารณะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับปรุง Windows 11 โดย ซ่อนหน้าจอ Blue Screen of Death (BSOD) บนจอที่ใช้ในที่สาธารณะ เช่นสนามบินหรือห้างสรรพสินค้า เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ทั่วไปเห็นภาพระบบล่มที่อาจสร้างความตื่นตระหนก การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น โดยยังคงบันทึกข้อมูลการ crash ไว้ให้ผู้ดูแลระบบตรวจสอบได้ตามปกติ 🔗 https://securityonline.info/no-more-public-bsods-windows-11-will-hide-crash-screens-on-public-displays 🛡️ Microsoft เตรียมยกเลิกสิทธิ์ OEM Driver ระดับ Kernel หลังเหตุการณ์ CrowdStrike ที่ทำให้ระบบล่มทั่วโลก Microsoft วางแผนจะ ยกเลิกสิทธิ์พิเศษของ OEM driver ที่ทำงานในระดับ Kernel เพื่อลดความเสี่ยงจากการที่ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ใช้สิทธิ์สูงเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยของระบบ Windows โดยบังคับให้ผู้ผลิตใช้วิธีที่ปลอดภัยกว่าในการเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการ 🔗 https://securityonline.info/post-crowdstrike-microsoft-to-phase-out-oem-kernel-level-driver-privileges 🌐 Seraphic เปิดตัว Browser Security สำหรับแอป Electron บริษัท Seraphic เปิดตัวโซลูชันใหม่ที่เป็น Secure Enterprise Browser ตัวแรกที่สามารถปกป้องแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron ได้ จุดเด่นคือการเพิ่มชั้นความปลอดภัยให้กับแอปที่มักถูกใช้ในองค์กร เช่น Slack หรือ Teams ซึ่งเดิมที Electron มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอยู่บ่อยครั้ง การแก้ปัญหานี้ช่วยให้องค์กรมั่นใจมากขึ้นในการใช้งานแอป Electron 🔗 https://securityonline.info/seraphic-becomes-the-first-and-only-secure-enterprise-browser-solution-to-protect-electron-based-applications 🔒 Comet Browser ถูกวิจารณ์หนัก หลังพบ API ลับ MCP มีการค้นพบว่า Comet Browser มี API ที่ชื่อ MCP ซึ่งเปิดช่องให้ผู้พัฒนา AI browser สามารถเข้าถึงและควบคุมอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้เต็มรูปแบบโดยไม่แจ้งเตือน ทำให้เกิดการละเมิดความเชื่อมั่นของผู้ใช้ นักวิจัยเตือนว่าช่องโหว่นี้อาจถูกใช้เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกลโดยไม่ได้รับอนุญาต 🔗 https://securityonline.info/obscure-mcp-api-in-comet-browser-breaches-user-trust-enabling-full-device-control-via-ai-browsers 📜 CredShields จับมือ Checkmarx เสริมความปลอดภัย Smart Contract บริษัท CredShields ประกาศความร่วมมือกับ Checkmarx เพื่อนำเทคโนโลยีตรวจสอบความปลอดภัยของ Smart Contract เข้าสู่โปรแกรม AppSec ขององค์กร จุดมุ่งหมายคือช่วยให้องค์กรที่ใช้ blockchain และ smart contract สามารถตรวจสอบช่องโหว่ได้อย่างเป็นระบบ ลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้สูญเสียทรัพย์สินดิจิทัล 🔗 https://securityonline.info/credshields-joins-forces-with-checkmarx-to-bring-smart-contract-security-to-enterprise-appsec-programs 🛠️ Windows 11 เพิ่มเครื่องมือใหม่ Point-in-Time Restore Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ได้แก่ Point-in-Time Restore และ Network-Enabled Recovery Environment เพื่อช่วยผู้ใช้กู้คืนระบบได้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ทำให้สามารถย้อนกลับไปยังสถานะก่อนหน้าที่กำหนดไว้ได้ทันที และยังรองรับการกู้คืนผ่านเครือข่าย ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถซ่อมแซมเครื่องจากระยะไกลได้สะดวกขึ้น 🔗 https://securityonline.info/new-windows-11-tools-point-in-time-restore-network-enabled-recovery-environment 💰 ความกังวลฟองสบู่ AI: Microsoft & NVIDIA ลงทุนหนักใน Anthropic มีรายงานว่าทั้ง Microsoft และ NVIDIA ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในบริษัท AI อย่าง Anthropic จนเกิดความกังวลว่าการลงทุนแบบหมุนเวียนระหว่างบริษัทใหญ่ ๆ อาจสร้าง “ฟองสบู่ AI” ที่ไม่ยั่งยืน การทุ่มเงินจำนวนมหาศาลนี้ถูกมองว่าอาจทำให้ตลาด AI เติบโตเกินจริงและเสี่ยงต่อการแตกในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/ai-bubble-fear-microsoft-nvidia-pour-billions-into-anthropic-fueling-circular-investment 🇺🇸 Google ทุ่ม 78 พันล้านดอลลาร์สร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ในสหรัฐฯ Google ประกาศโครงการ Investing in America 2025 ด้วยงบประมาณมหาศาลถึง 78 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล AI และโครงสร้างพื้นฐานทั่วสหรัฐฯ รวมถึงการลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์ 600 MW ที่ Arkansas โครงการนี้สะท้อนถึงการเร่งขยายกำลังการผลิต AI และการสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศ 🔗 https://securityonline.info/google-pledges-78-billion-for-investing-in-america-2025-ai-infrastructure 🧠 Grok 4.1 แซง Google Gemini 2.5 Pro บน LMArena แพลตฟอร์มทดสอบ AI LMArena รายงานว่า Grok 4.1 Thinking ได้คะแนนสูงสุด แซงหน้า Google Gemini 2.5 Pro ในการจัดอันดับล่าสุด จุดเด่นของ Grok คือความสามารถในการใช้เหตุผลเชิงลึกและการตอบสนองที่แม่นยำ ทำให้มันถูกจับตามองว่าอาจเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดโมเดล AI ระดับสูง 🔗 https://securityonline.info/grok-4-1-thinking-steals-1-spot-on-lmarena-surpassing-google-gemini-2-5-pro 🎨 Google เปิดตัว Canvas และ Agentic Booking ใน AI Mode Google อัปเกรด AI Mode โดยเพิ่มฟีเจอร์ Canvas สำหรับการวางแผน และ Agentic Booking สำหรับการจองที่พักหรือร้านอาหารแบบอัตโนมัติ ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ AI ในการจัดการงานประจำวันได้สะดวกขึ้น เช่น วางแผนทริปหรือจองโต๊ะอาหารโดยไม่ต้องทำเอง 🔗 https://securityonline.info/ai-mode-upgraded-google-launches-canvas-for-planning-and-agentic-booking-for-reservations 📡 เราเตอร์ D-Link DIR-878 หมดอายุการสนับสนุน พร้อมช่องโหว่ RCE ร้ายแรง D-Link ประกาศว่าเราเตอร์รุ่น DIR-878 เข้าสู่สถานะ End-of-Life (EOL) และจะไม่ได้รับการอัปเดตอีกต่อไป ทั้งที่ยังมีช่องโหว่ร้ายแรงถึง 3 จุดซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ผู้ใช้ที่ยังใช้อุปกรณ์รุ่นนี้เสี่ยงต่อการถูกยึดระบบอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/d-link-dir-878-reaches-eol-3-unpatched-rce-flaws-allow-unauthenticated-remote-command-execution ⚙️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน METZ CONNECT Controller เปิดทาง RCE และยึดระบบ มีการค้นพบช่องโหว่ในอุปกรณ์ควบคุมอุตสาหกรรมของ METZ CONNECT ที่มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.8 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลและเข้ายึดสิทธิ์ผู้ดูแลระบบได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ถือเป็นภัยคุกคามต่อระบบควบคุมอุตสาหกรรมที่ใช้กันในโรงงานและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ 🔗 https://securityonline.info/critical-metz-connect-flaws-cvss-9-8-allow-unauthenticated-rce-and-admin-takeover-on-industrial-controllers 🖥️ SolarWinds Serv-U พบช่องโหว่ใหม่ เปิดทาง RCE และ Path Bypass นักวิจัยด้านความปลอดภัยรายงานช่องโหว่ร้ายแรงใน SolarWinds Serv-U ที่ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลและเลี่ยงการตรวจสอบเส้นทางไฟล์ได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS 9.1 และถูกจัดว่าเป็นภัยคุกคามระดับสูงต่อองค์กรที่ใช้ Serv-U ในการจัดการไฟล์และระบบเครือข่าย 🔗 https://securityonline.info/critical-solarwinds-serv-u-flaws-cvss-9-1-allow-authenticated-admin-rce-and-path-bypass 🪙 การโจมตีซัพพลายเชน npm ด้วย CAPTCHA ปลอมและ Adspect Cloaking มีการตรวจพบการโจมตีซัพพลายเชนใน npm โดยแฮกเกอร์ใช้เทคนิค Adspect Cloaking และ CAPTCHA ปลอมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเพื่อหลอกนักพัฒนาและผู้ใช้ให้ดาวน์โหลดแพ็กเกจอันตราย การโจมตีนี้ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักวิจัยด้านความปลอดภัยถูกหลอกได้ง่ายขึ้น และเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงในระบบซัพพลายเชนโอเพนซอร์ส 🔗 https://securityonline.info/npm-supply-chain-attack-hackers-use-adspect-cloaking-and-fake-crypto-captcha-to-deceive-victims-and-researchers 🖥️ ASUSTOR พบช่องโหว่ DLL Hijacking ร้ายแรง (CVE-2025-13051) ASUSTOR ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ DLL hijacking ในซอฟต์แวร์ Backup Plan (ABP) และ EZSync (AES) บน Windows ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีในเครื่องสามารถแทนที่ DLL และรันโค้ดด้วยสิทธิ์ SYSTEM ได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS 9.3 และถูกจัดว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อทั้งผู้ใช้บ้านและองค์กร โดยมีการออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชันใหม่ 🔗 https://securityonline.info/critical-asustor-flaw-cve-2025-13051-allows-local-dll-hijacking-for-system-privilege-escalation ⚠️ ช่องโหว่ joserfc (CVE-2025-65015) ทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มด้วย JWT ขนาดใหญ่ มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในไลบรารี joserfc ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ JSON Web Token (JWT) โดยหากผู้โจมตีส่ง JWT ที่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ จะทำให้เซิร์ฟเวอร์ใช้ทรัพยากรมากเกินไปจนล่มได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดว่าเป็นการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) และมีผลกระทบต่อระบบที่ใช้ joserfc ในการตรวจสอบสิทธิ์หรือการเข้ารหัสข้อมูล 🔗 https://securityonline.info/critical-cve-2025-65015-vulnerability-in-joserfc-could-let-attackers-exhaust-server-resources-via-oversized-jwt-tokens 🌍 หน่วยงาน CISA/FBI/NSA ร่วมกันจัดการโครงสร้าง Bulletproof Hosting สามหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ได้แก่ CISA, FBI และ NSA ได้ร่วมมือกันออกคู่มือใหม่เพื่อจัดการกับโครงสร้าง Bulletproof Hosting ที่ถูกใช้โดยอาชญากรไซเบอร์ทั่วโลก Bulletproof Hosting คือบริการโฮสติ้งที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้โจมตีจากการถูกปิดกั้นหรือสืบสวน การร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างแนวทางป้องกันภัยไซเบอร์ระดับโลก 🔗 https://securityonline.info/cisa-fbi-nsa-unite-to-dismantle-bulletproof-hosting-ecosystem-with-new-global-defense-guide
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ RCE ใน Apache Causeway

    Apache Causeway ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันเชิงโดเมนด้วย Java ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-64408 ที่อนุญาตให้ผู้โจมตีที่ล็อกอินแล้วสามารถส่ง payload ผ่าน URL parameters เพื่อให้ระบบทำการ deserialize ข้อมูลที่ควบคุมได้ และนำไปสู่การรันโค้ดอันตรายบนเซิร์ฟเวอร์

    รายละเอียดช่องโหว่
    ช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ ViewModel ของ Causeway ซึ่งใช้ในการสร้าง web interface และ REST API แบบไดนามิก โดยผู้โจมตีสามารถฝัง object ที่มีโค้ดอันตรายลงใน serialized data และเมื่อระบบทำการ deserialize จะทำให้โค้ดนั้นถูกรันในสิทธิ์ของแอปพลิเคชันทันที ส่งผลให้เกิด Remote Code Execution (RCE)

    การแก้ไขและแพตช์
    ทีม Apache Causeway ได้ออกเวอร์ชัน 3.5.0 เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยแนะนำให้ผู้ใช้ที่ยังอยู่ในเวอร์ชัน 2.0.0 ถึง 3.4.0 และ 4.0.0-M1 รีบอัปเดตทันที เนื่องจากช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ Critical Severity และอาจถูกนำไปใช้โจมตีในระบบ production ได้

    แนวโน้มและคำแนะนำ
    การโจมตีแบบ Java Deserialization เป็นหนึ่งในช่องโหว่ที่พบได้บ่อยในเฟรมเวิร์ก Java หลายตัว และมักถูกใช้ในการโจมตีจริงในองค์กร ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ ตรวจสอบการใช้ serialized objects ในระบบทั้งหมด และใช้วิธีการ serialize ที่ปลอดภัย เช่น JSON หรือ Protocol Buffers แทน

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    ช่องโหว่ CVE-2025-64408 พบใน Apache Causeway
    เกิดจากการ deserialize ข้อมูลที่ควบคุมได้ผ่าน URL parameters
    ส่งผลให้ผู้โจมตีที่ล็อกอินแล้วสามารถทำ RCE ได้
    แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 3.5.0

    คำเตือนจากข่าว
    ผู้ใช้ที่ยังใช้เวอร์ชัน 2.0.0 → 3.4.0 และ 4.0.0-M1 เสี่ยงต่อการถูกโจมตี
    หากไม่อัปเดตแพตช์ อาจทำให้ระบบ production ถูกเข้าควบคุมได้
    การใช้ Java Deserialization โดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัยเป็นช่องโหว่ที่อันตรายมาก

    https://securityonline.info/critical-apache-causeway-rce-flaw-cve-2025-64408-allows-authenticated-code-execution-via-java-deserialization/
    🛡️ ช่องโหว่ RCE ใน Apache Causeway Apache Causeway ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันเชิงโดเมนด้วย Java ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-64408 ที่อนุญาตให้ผู้โจมตีที่ล็อกอินแล้วสามารถส่ง payload ผ่าน URL parameters เพื่อให้ระบบทำการ deserialize ข้อมูลที่ควบคุมได้ และนำไปสู่การรันโค้ดอันตรายบนเซิร์ฟเวอร์ ⚙️ รายละเอียดช่องโหว่ ช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ ViewModel ของ Causeway ซึ่งใช้ในการสร้าง web interface และ REST API แบบไดนามิก โดยผู้โจมตีสามารถฝัง object ที่มีโค้ดอันตรายลงใน serialized data และเมื่อระบบทำการ deserialize จะทำให้โค้ดนั้นถูกรันในสิทธิ์ของแอปพลิเคชันทันที ส่งผลให้เกิด Remote Code Execution (RCE) 🔒 การแก้ไขและแพตช์ ทีม Apache Causeway ได้ออกเวอร์ชัน 3.5.0 เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยแนะนำให้ผู้ใช้ที่ยังอยู่ในเวอร์ชัน 2.0.0 ถึง 3.4.0 และ 4.0.0-M1 รีบอัปเดตทันที เนื่องจากช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ Critical Severity และอาจถูกนำไปใช้โจมตีในระบบ production ได้ 🔮 แนวโน้มและคำแนะนำ การโจมตีแบบ Java Deserialization เป็นหนึ่งในช่องโหว่ที่พบได้บ่อยในเฟรมเวิร์ก Java หลายตัว และมักถูกใช้ในการโจมตีจริงในองค์กร ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ ตรวจสอบการใช้ serialized objects ในระบบทั้งหมด และใช้วิธีการ serialize ที่ปลอดภัย เช่น JSON หรือ Protocol Buffers แทน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-64408 พบใน Apache Causeway ➡️ เกิดจากการ deserialize ข้อมูลที่ควบคุมได้ผ่าน URL parameters ➡️ ส่งผลให้ผู้โจมตีที่ล็อกอินแล้วสามารถทำ RCE ได้ ➡️ แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 3.5.0 ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ ผู้ใช้ที่ยังใช้เวอร์ชัน 2.0.0 → 3.4.0 และ 4.0.0-M1 เสี่ยงต่อการถูกโจมตี ⛔ หากไม่อัปเดตแพตช์ อาจทำให้ระบบ production ถูกเข้าควบคุมได้ ⛔ การใช้ Java Deserialization โดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัยเป็นช่องโหว่ที่อันตรายมาก https://securityonline.info/critical-apache-causeway-rce-flaw-cve-2025-64408-allows-authenticated-code-execution-via-java-deserialization/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical Apache Causeway RCE Flaw (CVE-2025-64408) Allows Authenticated Code Execution via Java Deserialization
    Apache patched a Critical RCE flaw (CVE-2025-64408) in Causeway allowing authenticated attackers to execute arbitrary code via Java deserialization in the ViewModel component. Update to v3.5.0.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link DIR-878 ที่หมดอายุการสนับสนุน

    D-Link ได้ออกประกาศเตือนผู้ใช้เราเตอร์รุ่น DIR-878 ว่าพบช่องโหว่ร้ายแรงถึง 4 จุด ซึ่งรวมถึงการ Remote Command Execution (RCE) โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ทันที หากเราเตอร์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยตรง ความเสี่ยงนี้ถือว่าสูงมาก เพราะผู้ใช้ไม่สามารถอัปเดตแพตช์แก้ไขได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ถูกจัดอยู่ในสถานะ End-of-Life (EOL) ตั้งแต่ปี 2021

    มุมมองจากวงการไซเบอร์
    รายงานจากหลายสำนักข่าวด้านความปลอดภัยระบุว่า ช่องโหว่เหล่านี้ครอบคลุมทั้งการ Command Injection ผ่าน Dynamic DNS และ DMZ Settings รวมถึง Buffer Overflow จาก USB Serial Number และการ QoS Rule Injection ซึ่งทั้งหมดสามารถนำไปสู่การเข้าควบคุมระบบได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยเตือนว่าหากผู้ใช้ยังคงใช้งานอุปกรณ์นี้ อาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีเพื่อแพร่มัลแวร์หรือบอทเน็ตได้

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และองค์กร
    สิ่งที่น่ากังวลคือการโจมตีสามารถทำได้จากระยะไกลโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ซึ่งหมายความว่าแม้ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ใช่เป้าหมายโดยตรงก็อาจถูกโจมตีได้ หากอุปกรณ์ยังเปิดใช้งานอยู่ในบ้านหรือสำนักงาน การปล่อยให้เราเตอร์ที่หมดอายุการสนับสนุนเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจึงเท่ากับเปิดประตูให้แฮกเกอร์เข้ามาในเครือข่ายโดยตรง

    แนวโน้มและคำแนะนำ
    ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำให้ผู้ใช้ เปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ยังได้รับการสนับสนุน และควรตรวจสอบอุปกรณ์เครือข่ายอื่น ๆ ที่อาจหมดอายุการสนับสนุนแล้วเช่นกัน แนวโน้มในอนาคตคือการโจมตีอุปกรณ์ IoT และเราเตอร์ที่ไม่ได้รับการอัปเดตจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นจุดอ่อนที่เข้าถึงง่ายและมักถูกละเลย

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    D-Link DIR-878 หมดอายุการสนับสนุนตั้งแต่ปี 2021
    พบช่องโหว่ร้ายแรง 4 จุด (Dynamic DNS, DMZ, USB Buffer Overflow, QoS Injection)
    ช่องโหว่เปิดโอกาสให้โจมตีแบบ Remote Command Execution โดยไม่ต้องล็อกอิน

    คำเตือนจากข่าว
    ผู้ใช้ที่ยังใช้งานเราเตอร์รุ่นนี้เสี่ยงถูกโจมตีและควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ
    อุปกรณ์ที่หมดอายุการสนับสนุนไม่สามารถอัปเดตแพตช์แก้ไขได้
    การปล่อยให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอาจทำให้เครือข่ายบ้านหรือองค์กรถูกเจาะทะลวง

    https://securityonline.info/d-link-dir-878-reaches-eol-3-unpatched-rce-flaws-allow-unauthenticated-remote-command-execution/
    🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link DIR-878 ที่หมดอายุการสนับสนุน D-Link ได้ออกประกาศเตือนผู้ใช้เราเตอร์รุ่น DIR-878 ว่าพบช่องโหว่ร้ายแรงถึง 4 จุด ซึ่งรวมถึงการ Remote Command Execution (RCE) โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ทันที หากเราเตอร์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยตรง ความเสี่ยงนี้ถือว่าสูงมาก เพราะผู้ใช้ไม่สามารถอัปเดตแพตช์แก้ไขได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ถูกจัดอยู่ในสถานะ End-of-Life (EOL) ตั้งแต่ปี 2021 🌐 มุมมองจากวงการไซเบอร์ รายงานจากหลายสำนักข่าวด้านความปลอดภัยระบุว่า ช่องโหว่เหล่านี้ครอบคลุมทั้งการ Command Injection ผ่าน Dynamic DNS และ DMZ Settings รวมถึง Buffer Overflow จาก USB Serial Number และการ QoS Rule Injection ซึ่งทั้งหมดสามารถนำไปสู่การเข้าควบคุมระบบได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยเตือนว่าหากผู้ใช้ยังคงใช้งานอุปกรณ์นี้ อาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีเพื่อแพร่มัลแวร์หรือบอทเน็ตได้ ⚠️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และองค์กร สิ่งที่น่ากังวลคือการโจมตีสามารถทำได้จากระยะไกลโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ซึ่งหมายความว่าแม้ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ใช่เป้าหมายโดยตรงก็อาจถูกโจมตีได้ หากอุปกรณ์ยังเปิดใช้งานอยู่ในบ้านหรือสำนักงาน การปล่อยให้เราเตอร์ที่หมดอายุการสนับสนุนเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจึงเท่ากับเปิดประตูให้แฮกเกอร์เข้ามาในเครือข่ายโดยตรง 🔮 แนวโน้มและคำแนะนำ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำให้ผู้ใช้ เปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ยังได้รับการสนับสนุน และควรตรวจสอบอุปกรณ์เครือข่ายอื่น ๆ ที่อาจหมดอายุการสนับสนุนแล้วเช่นกัน แนวโน้มในอนาคตคือการโจมตีอุปกรณ์ IoT และเราเตอร์ที่ไม่ได้รับการอัปเดตจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นจุดอ่อนที่เข้าถึงง่ายและมักถูกละเลย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ D-Link DIR-878 หมดอายุการสนับสนุนตั้งแต่ปี 2021 ➡️ พบช่องโหว่ร้ายแรง 4 จุด (Dynamic DNS, DMZ, USB Buffer Overflow, QoS Injection) ➡️ ช่องโหว่เปิดโอกาสให้โจมตีแบบ Remote Command Execution โดยไม่ต้องล็อกอิน ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ ผู้ใช้ที่ยังใช้งานเราเตอร์รุ่นนี้เสี่ยงถูกโจมตีและควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ⛔ อุปกรณ์ที่หมดอายุการสนับสนุนไม่สามารถอัปเดตแพตช์แก้ไขได้ ⛔ การปล่อยให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอาจทำให้เครือข่ายบ้านหรือองค์กรถูกเจาะทะลวง https://securityonline.info/d-link-dir-878-reaches-eol-3-unpatched-rce-flaws-allow-unauthenticated-remote-command-execution/
    SECURITYONLINE.INFO
    D-Link DIR-878 Reaches EOL: 3 Unpatched RCE Flaws Allow Unauthenticated Remote Command Execution
    D-Link warned that DIR-878 has reached EOL with three unpatched RCE flaws. Unauthenticated remote attackers can execute arbitrary commands via Dynamic DNS and DMZ settings due to insecure CGI parameters.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • โปรโมชัน “Free Internet Forever” ของ Charter Communications

    Charter Communications Inc. ซึ่งเป็นบริษัทเบื้องหลังบริการ Spectrum ได้สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวโปรโมชันที่ไม่เหมือนใคร ลูกค้าที่สมัคร 4 สายมือถือ ในราคา US$120 ต่อเดือน จะได้รับ อินเทอร์เน็ตบ้านฟรีตลอดชีพ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องย้ายสายจากผู้ให้บริการคู่แข่ง และหากยกเลิกสายมือถือก็จะเสียสิทธิ์อินเทอร์เน็ตฟรีทันที

    โปรโมชันนี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างผู้ให้บริการเคเบิลและผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายแบบดั้งเดิม Charter ใช้เครือข่ายของ Verizon ในการให้บริการมือถือ และพยายามดึงลูกค้ากลับมาหลังจากสูญเสียผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบ้านไปยังบริการ Fiber และ 5G Home Internet ของคู่แข่ง

    นอกจากอินเทอร์เน็ตฟรี Charter ยังเสริมความน่าสนใจด้วยการ รวมบริการสตรีมมิงฟรี และเสนอ บริการมือถือฟรี 1 ปี ให้กับลูกค้าอินเทอร์เน็ตเดิม เพื่อสร้างความคุ้มค่าและรักษาฐานลูกค้า ขณะที่คู่แข่งอย่าง Comcast ก็ใช้กลยุทธ์คล้ายกันในการรวมบริการเพื่อดึงดูดผู้ใช้

    แม้โปรโมชันนี้จะดูน่าสนใจ แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ความเร็วอินเทอร์เน็ตถูกจำกัด และเหมาะกับลูกค้าที่พร้อมจะเปลี่ยนมาใช้บริการมือถือของ Charter ทั้ง 4 สายในคราวเดียว ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่ไม่ใช่ทุกครัวเรือนจะทำได้ง่าย ๆ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Charter เปิดโปรโมชัน Free Internet Forever
    สมัคร 4 สายมือถือในราคา US$120/เดือน ได้อินเทอร์เน็ตบ้านฟรีตลอดชีพ

    ใช้เครือข่าย Verizon ในการให้บริการมือถือ
    เป็นการผนึกกำลังเพื่อแข่งขันกับผู้ให้บริการ Fiber และ 5G Home Internet

    เสริมด้วยบริการสตรีมมิงและมือถือฟรี 1 ปี
    เพื่อรักษาฐานลูกค้าและเพิ่มความคุ้มค่า

    Comcast ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน
    รวมบริการเพื่อดึงดูดลูกค้าในตลาดที่แข่งขันสูง

    อินเทอร์เน็ตฟรีมีข้อจำกัดด้านความเร็ว
    ไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วสูงสุด

    ต้องสมัครครบ 4 สายมือถือจากคู่แข่ง
    อาจไม่สะดวกสำหรับครัวเรือนที่ไม่ต้องการหลายสาย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/18/free-internet-forever-us-company039s-pitch-to-win-mobile-customers
    📡 โปรโมชัน “Free Internet Forever” ของ Charter Communications Charter Communications Inc. ซึ่งเป็นบริษัทเบื้องหลังบริการ Spectrum ได้สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวโปรโมชันที่ไม่เหมือนใคร ลูกค้าที่สมัคร 4 สายมือถือ ในราคา US$120 ต่อเดือน จะได้รับ อินเทอร์เน็ตบ้านฟรีตลอดชีพ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องย้ายสายจากผู้ให้บริการคู่แข่ง และหากยกเลิกสายมือถือก็จะเสียสิทธิ์อินเทอร์เน็ตฟรีทันที โปรโมชันนี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างผู้ให้บริการเคเบิลและผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายแบบดั้งเดิม Charter ใช้เครือข่ายของ Verizon ในการให้บริการมือถือ และพยายามดึงลูกค้ากลับมาหลังจากสูญเสียผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบ้านไปยังบริการ Fiber และ 5G Home Internet ของคู่แข่ง นอกจากอินเทอร์เน็ตฟรี Charter ยังเสริมความน่าสนใจด้วยการ รวมบริการสตรีมมิงฟรี และเสนอ บริการมือถือฟรี 1 ปี ให้กับลูกค้าอินเทอร์เน็ตเดิม เพื่อสร้างความคุ้มค่าและรักษาฐานลูกค้า ขณะที่คู่แข่งอย่าง Comcast ก็ใช้กลยุทธ์คล้ายกันในการรวมบริการเพื่อดึงดูดผู้ใช้ แม้โปรโมชันนี้จะดูน่าสนใจ แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ความเร็วอินเทอร์เน็ตถูกจำกัด และเหมาะกับลูกค้าที่พร้อมจะเปลี่ยนมาใช้บริการมือถือของ Charter ทั้ง 4 สายในคราวเดียว ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่ไม่ใช่ทุกครัวเรือนจะทำได้ง่าย ๆ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Charter เปิดโปรโมชัน Free Internet Forever ➡️ สมัคร 4 สายมือถือในราคา US$120/เดือน ได้อินเทอร์เน็ตบ้านฟรีตลอดชีพ ✅ ใช้เครือข่าย Verizon ในการให้บริการมือถือ ➡️ เป็นการผนึกกำลังเพื่อแข่งขันกับผู้ให้บริการ Fiber และ 5G Home Internet ✅ เสริมด้วยบริการสตรีมมิงและมือถือฟรี 1 ปี ➡️ เพื่อรักษาฐานลูกค้าและเพิ่มความคุ้มค่า ✅ Comcast ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน ➡️ รวมบริการเพื่อดึงดูดลูกค้าในตลาดที่แข่งขันสูง ‼️ อินเทอร์เน็ตฟรีมีข้อจำกัดด้านความเร็ว ⛔ ไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วสูงสุด ‼️ ต้องสมัครครบ 4 สายมือถือจากคู่แข่ง ⛔ อาจไม่สะดวกสำหรับครัวเรือนที่ไม่ต้องการหลายสาย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/18/free-internet-forever-us-company039s-pitch-to-win-mobile-customers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Free Internet forever: US company's pitch to win mobile customers
    Charter Communications Inc, the company behind the Spectrum cable service, is making an unusual offer to attract new mobile-phone customers: Sign up for four wireless lines and get free home internet service for life.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 1 – 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ”
    ตอน 1
    เดือนกรกฏา มาถึงแล้ว ถึงไม่เรียกก็มา ไม่อยากให้มา ก็มาถึงอยู่ดี
    สำหรับผู้ที่สนใจติดตามชะตาโลก เดือนนี้ไม่ติดตามไม่ได้เพราะเป็นเดือนที่จะมีการตัดสินใจ สำคัญหลายเรื่อง แต่ละเรื่องจะกระทบเฉพาะถิ่นของที่ผู้ตัดสินใจหรืออาจจะกระเทือนไปไกลค่อนโลกก็เป็นได้
    สำหรับชาวกรีก จะตัดสินใจตัดโซ่ แหกคอก หรือตายซากคาคอก วันที่ 5 กค นี่คงรู้กัน แต่คงยังไม่จบกัน หนังมาเป็นตอน เล่นยาวเป็นซีซั่น ซีซั่นนี้ จะจบแบบไหนต้องลุ้นกันหน่อย อย่าให้หนังขาด หรือเลิกเล่นกันหมดก็แล้วกัน
    ส่วนชาวอิหร่าน วันที่ 7 กค. นี้ การเจรจาที่ยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี ของ Iran Nuclear Deal ที่เลื่อนวันเส้นตายมาจาก 30 มิย. มาเป็น 7 กค. จะเจรจาจบไหม หรือจะเลื่อนเส้นให้ตายช้าต่อไปอีก อิหร่านพร้อมจะยกเลิกการพัฒนานิวเคลียร์ เพื่อแลกกับการยกเลิกการคว่ำบาตรของอเมริกากับพวกหรือไม่ อเมริกาพร้อมจะยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านแน่จริงหรือไม่
    เรื่องอิหร่านเป็นเรื่องใหญ่ ผลกระทบอาจไปไกล และแรง
    นอกจากเรื่องใหญ่ๆ 2 เรื่อง ยังมีเรื่องนิดเรื่องหน่อย ที่จะทยอยเกิดขึ้น เดือนนี้คงได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นเป็นระลอก เป็นเหตุการณ์ ที่อาจจะมีผลกระทบกับความเป็นไปในโลก เปลี่ยนแปลง จนเราตามกันแทบไม่ทัน หรือตามทันรู้ แต่ไม่เข้าใจเหตุ
    เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเส้นตาย ว่าการเจรจากับอิหร่านเรื่องพัฒนา นิวเคลียร์ ต้องตกลงกันให้เสร็จสิ้น ปรากฏว่า ตกไม่ลง ค้างเติ่ง ต้องเลื่อนเวลา แต่ที่น่าสนใจ นายโอบามา ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ ให้เริ่มและลุ้น การเจรจานี้มาตลอดเวลา ดันทำหน้าเฉย ให้สัมภาษณ์สื่อ แถมส่งเสียงเหมือนขู่….
    ” I will walk away” … ขึ้นต้น ยังกะเพลงรักหักอก ตอนพระเอกกำลังจะทิ้งนางเอก จะแค่หันหลังเดินออกประตูไป หรือจะถึงขนาดมีการตบตีส่งท้าย
    …. ถ้าอิหร่านไม่เจรจาตามกรอบ ที่ตกลง ที่เมืองโลซานน์ เมื่อเดือน เมษายน ถ้าพวกเขาทำไม่ได้ มันจะเป็นปัญหา เพราะผมบอกตั้งแต่เริ่มเจรจาแล้วว่า ผมจะเลิกเจรจา ถ้ามันกลายเป็นข้อตกลงที่ห่วย …
    I have said from the start I will walk away from negotiations if, in fact, it’s a bad deal…”
    ข่าวบอกว่า คำขู่ฟ่อ ของพณฯใบตองแห้ง เป็นการตอบโต้ คำคัดค้านของท่านผู้นำสูงสุดของอิหร่าน Ayatollah Ali Khamenei ที่ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการตรวจสอบการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ที่จะปฏิบัติเสมือนเป็นการรุกล้ำอิหร่าน
    แต่ พณฯใบตองแห้งยืนยัน
    “…จากพฤติกรรมที่ผ่านมาของอิหร่าน ไอ้ที่จะมีแค่คำแถลงของอิหร่าน และมีคนมาเดินไป เดินมา ตรวจสอบแบบนานๆทีมา อย่างนั้น คงไม่ได้ … มันต้องมีกระบวนการที่เข้มงวด เอาจริงเอาจัง มาทำการตรวจสอบอย่างพิสูจน์ได้ และผมคิดว่า นั่นจะเป็นการทดสอบว่า เราตกลงกันได้จริงหรือไม่
    ..Given past behavior on the part of Iran, that simply can’t be a declaration by Iran and a few inspectors wandering around every once in a while … that’s going to have to be serious, rigorous verification mechanism. And that, I think, is going to be the test as to whether we get a deal or not…. ”
    พณฯใบตองแห้งเล่นอิหร่านแรงนะ แล้วแบบนี้ มันคุยกันรู้เรื่องจริงหรือ ผมรู้สึกหวั่นใจแทนจัง
    ฝ่ายอิหร่านบอก เราเดินตามกรอบของโลซานน์นะ ไม่ได้ใช้กรอบอื่นเลย เราว่า อเมริกาต่างหากที่ต้องการเปลี่ยนกรอบ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน Mohammad Javad Zarif บินกลับมาเวียนนา หลังจากบินกลับไปที่เตหะรานเพื่อไปหารือบางประเด็น เขาบอกว่า .. ผมไม่ได้ไปขอรับคำสั่งในการตกลงจากประมุขประเทศ ผมได้รับอนุญาตเต็มใบในการเจรจาอยู่แล้ว ผมกลับมาเวียนนาเพื่อมาเจรจาขั้นสุดท้าย ซึ่งเราน่าจะทำสำเร็จ
    นาย Zarif ไม่ได้กลับมาคนเดียว เขามาพร้อมกับ Ali Akbar Salehi หัวหน้าใหญ่ขององค์การ Atomic Energy ของอิหร่าน Salehi ซึ่งเพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัด .,,แปลว่าอิหร่านเอาจริงกับการเจรจาใช่ไหม ไม่งั้นไม่หอบเอาคนป่วยมาด้วยหรอก นาย Zarif บอกกับนักข่าว
    ข่าวบอกว่า คณะเจรจาโดยเฉพาะอเมริกา ต้องการให้การเจรจาเสร็จต้นเดือนนี้ เพื่อส่งเรื่องให้ฝ่ายรัฐสภาพิจาร ณา ให้เสร็จภายในเวลา 30 วัน ถ้าส่งช้ากว่านั้น สภาปิดไปแล้ว ฝ่ายรัฐสภาจะมีเวลาพิจารณา เพิ่มขึ้นเป็น 60 วัน แถมมีเวลาในการหว่านล้อมเสียง ฝ่ายที่เห็นต่างกันอีกด้วย... นี่ ก็เหมือนอเมริกาเอาจริงนะ ถูกใจ ก็ให้สภาผ่าน ไม่ถูกใจ สภาก็ไม่ผ่านให้….เล่นไม่ยาก
    ###############
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง”

    ตอน 2
    ในการประชุมที่โลซานน์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ระหว่างอิหร่าน กับ กลุ่มที่เรียกว่า P5+1 (อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน + เยอรมัน) เป็นการกำหนด
    ” กรอบ การดำเนินการ” สำหรับทั้งด้านอเมริกา และอิหร่าน
    การดำเนินการที่สำคัญ ประการหนึ่งคือ กระบวนการยกเลิก sanction การคว่ำบาตรอิหร่าน คว่ำมานานหลายสิบปี จนนึกวิธีหงายไม่ออกว่าจะต้องทำยังไงบ้าง แสดงว่าคนช่วยคว่ำคงแยะ และการคว่ำคงมีสาระพัดวิธี
    คุยกันเรื่องนี้ ตั้งแต่โลซานน์มาถึงเวียนนาว่า จะต้องมีการประกาศ (Declaration) เมื่อตกลงกันได้แล้ว โดยไม่มีการลงนามพันธสัญญา หลังจากนั้น ทุกฝ่ายก็จะให้ UN Security Council (UNSC) เป็นผู้ประทับตรารับรองการประกาศ และก็ออกมติที่จะทำให้การคว่ำบาตร ไม่มีผลใช้บังคับอีกต่อไป ส่วนถ้อยคำของตัวมตินี่ ยังเจรจากันอยู่
    และเป็นเรื่องที่เสียวไสว่า กว่าจะเจรจาจบ คนเจรจาคงหืดขึ้นคอ หรือเจรจาไม่จบ เพราะพระเอกเล่นร้องเพลงลา... ล่วงหน้า
    ทุกฝ่าย ยกเว้นรัฐบาลของพณฯใบตองแห้ง ต้องการให้ส่งเรื่องไปที่ UNSC เร็วที่สุด แตอเมริกายังสงวนท่าที ไม่มีคำตอบให้
    ผู้เจรจาฝ่ายอิหร่านบอกอย่างชัดเจนระหว่างการเจราว่า อิหร่าน จะเริ่มดำเนินการตามข้อตกลงเกี่ยว กับนิวเคลียร์ทันที รื้อถอนเครื่องแยก รื้อถอนเครื่องปฏิกรณ์ ทำลายสต๊อกแร่ยูเรเนียม รื้อมันหมดทุกอย่าง ฯลฯ ทันที และให้ไอ้เอกับอีเอ IAEA มาตรวจสอบทันที ว่าอิหร่านปฏิบัติตามรายการถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
    แต่ทั้งหมดข้างต้น ต้องทำควบคู่ไปกับขบวนการยกเลิก การคว่ำบาตร โดยอเมริกาและอียู จะต้องลงมือไปพร้อมกันว่า ได้จัดการหงายบาตรของใคร ที่ไหน อย่างไรแล้ว และ ต้องให้ UNSC ประทับตรารับรองการกระทำด้วย มันถึงจะเป็นธรรม จะให้ด้านหนึ่งทุบทิ้ง แต่อีกด้านยืนอมยิ้มกอดอกเฉยได้ไง
    ที่บรรยายมาทั้งหมดเข้างต้น เป็นเรื่องที่ได้ “ตกลงกันไปแล้ว” ที่โลซานน์ ระหว่างนาย Zarif รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกับคุณสาวน้อย Federica Mogherini ผู้แทนของอียู….
    แต่แล้วก็ข่าวรั่วเกี่ยวกับเรื่องกรอบ สวย ไม่สวยขนาดไหน ใครต้องการให้ชัดเจนอย่างไร อย่างที่เล่าข้างต้น สื่อเข้ามาช่วยปั่น แถมเพิ่มสีให้น่าตื่นเต้น อันที่จริงไม่ต้องเพิ่มก็น่าตื่นเต้นอยู่แล้ว ถ้าคิดให้ลึกๆ ยิ่งคิด โต๊ะเจรจาก็ยิ่งสั่น โดยเฉพาะมีความเห็นแย้งจากมุมมอง ด้านกองทัพ possible military dimensions (PMD) ที่สะท้อนกลับ …. แล้วนี่จะพิสูจน์อย่างไร หากตกลงกันเรียบร้อยว่า ให้อิหร่านพัฒนาอะไรได้บ้าง สิ่งที่อิหร่าน “จะไปพัฒนาต่อ” มันจะกลายเป็นอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ เขาว่าไม่ต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ใหญ่ ก็พอนึกออกว่า มันเป็นเรื่องที่พิสูจน์ยาก กว่าจะพิสูจน์ได้ โน่นแนะ ดอกเห็ดงอกขึ้นมาแล้ว ทำนองนั้น…. เฮ้ย… แบบนี้ก็ต้องรีบขยายเวลาเจรจาสินะ ให้จบแบบนี้ไม่ได้…
    อ้อพอเข้าใจแล้ว
    แต่ข่าวได้ฟุ้งกระจายเรียบร้อย ไปทั่วสถานที่เจรจา Palais Coburg เวียนนา ว่า ขณะนี้ พณฯใบตองแห้ง ชักลังเลที่จะยกเลิกการคว่ำบาตร…..สงสัยสถานการณ์เปลี่ยน แผนเจรจาเลยอาจต้องเปลี่ยน ตอนนี้คนที่หน้าเครียด เดินเข้าไปจับเข่าคุยทีละข้าง กับเจ้าของเข่าที่ละคน คือ นายKerry รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ไร้เสน่ห์ในการเจรจาอย่างที่สุดนั่นเอง แล้วมันจะคุยสำเร็จละหรือ
    อย่าลืมว่า ใน P5+1 มีรัสเซียกับจีน ที่รู้ๆ กันอยู่ว่า จับมือจับไม้เห็นใจอิหร่านมานานแล้ว และนอกจากจับมือแล้ว ดูเหมือนจะส่งหีบห่อไปช่วยเหลืออิหร่านสาระพัด แถมเมื่อเร็วๆนี้ ยังมีข่าวว่า จะรับอิหร่านเป็นสมาชิกก่อต้ัง ไอ้อิบ AIIB สถาบันการเงินที่กำลังหอมกรุ่น
    ยังไม่ถึงวันเส้นตาย ก็ต้องดื้นกันตายไปก่อน แล้วพณฯ ใบตองแห้ง ก็รีบหยิบบท ….I will walk away ออกมาครวญไปพลางๆ ระหว่างนี้ คุณไร้เสน่ห์ Kerry ก็สั่งเด็กๆ ให้ช่วยกันหาเหตุ ช่วยกันโหมหน่อย…. อิหร่านต่างหาก ที่ ทำท่าจะเบี้ยว เข้า
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    5 ก.ค. 2558
    I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ” ตอน 1 เดือนกรกฏา มาถึงแล้ว ถึงไม่เรียกก็มา ไม่อยากให้มา ก็มาถึงอยู่ดี สำหรับผู้ที่สนใจติดตามชะตาโลก เดือนนี้ไม่ติดตามไม่ได้เพราะเป็นเดือนที่จะมีการตัดสินใจ สำคัญหลายเรื่อง แต่ละเรื่องจะกระทบเฉพาะถิ่นของที่ผู้ตัดสินใจหรืออาจจะกระเทือนไปไกลค่อนโลกก็เป็นได้ สำหรับชาวกรีก จะตัดสินใจตัดโซ่ แหกคอก หรือตายซากคาคอก วันที่ 5 กค นี่คงรู้กัน แต่คงยังไม่จบกัน หนังมาเป็นตอน เล่นยาวเป็นซีซั่น ซีซั่นนี้ จะจบแบบไหนต้องลุ้นกันหน่อย อย่าให้หนังขาด หรือเลิกเล่นกันหมดก็แล้วกัน ส่วนชาวอิหร่าน วันที่ 7 กค. นี้ การเจรจาที่ยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี ของ Iran Nuclear Deal ที่เลื่อนวันเส้นตายมาจาก 30 มิย. มาเป็น 7 กค. จะเจรจาจบไหม หรือจะเลื่อนเส้นให้ตายช้าต่อไปอีก อิหร่านพร้อมจะยกเลิกการพัฒนานิวเคลียร์ เพื่อแลกกับการยกเลิกการคว่ำบาตรของอเมริกากับพวกหรือไม่ อเมริกาพร้อมจะยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านแน่จริงหรือไม่ เรื่องอิหร่านเป็นเรื่องใหญ่ ผลกระทบอาจไปไกล และแรง นอกจากเรื่องใหญ่ๆ 2 เรื่อง ยังมีเรื่องนิดเรื่องหน่อย ที่จะทยอยเกิดขึ้น เดือนนี้คงได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นเป็นระลอก เป็นเหตุการณ์ ที่อาจจะมีผลกระทบกับความเป็นไปในโลก เปลี่ยนแปลง จนเราตามกันแทบไม่ทัน หรือตามทันรู้ แต่ไม่เข้าใจเหตุ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเส้นตาย ว่าการเจรจากับอิหร่านเรื่องพัฒนา นิวเคลียร์ ต้องตกลงกันให้เสร็จสิ้น ปรากฏว่า ตกไม่ลง ค้างเติ่ง ต้องเลื่อนเวลา แต่ที่น่าสนใจ นายโอบามา ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ ให้เริ่มและลุ้น การเจรจานี้มาตลอดเวลา ดันทำหน้าเฉย ให้สัมภาษณ์สื่อ แถมส่งเสียงเหมือนขู่…. ” I will walk away” … ขึ้นต้น ยังกะเพลงรักหักอก ตอนพระเอกกำลังจะทิ้งนางเอก จะแค่หันหลังเดินออกประตูไป หรือจะถึงขนาดมีการตบตีส่งท้าย …. ถ้าอิหร่านไม่เจรจาตามกรอบ ที่ตกลง ที่เมืองโลซานน์ เมื่อเดือน เมษายน ถ้าพวกเขาทำไม่ได้ มันจะเป็นปัญหา เพราะผมบอกตั้งแต่เริ่มเจรจาแล้วว่า ผมจะเลิกเจรจา ถ้ามันกลายเป็นข้อตกลงที่ห่วย … I have said from the start I will walk away from negotiations if, in fact, it’s a bad deal…” ข่าวบอกว่า คำขู่ฟ่อ ของพณฯใบตองแห้ง เป็นการตอบโต้ คำคัดค้านของท่านผู้นำสูงสุดของอิหร่าน Ayatollah Ali Khamenei ที่ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการตรวจสอบการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ที่จะปฏิบัติเสมือนเป็นการรุกล้ำอิหร่าน แต่ พณฯใบตองแห้งยืนยัน “…จากพฤติกรรมที่ผ่านมาของอิหร่าน ไอ้ที่จะมีแค่คำแถลงของอิหร่าน และมีคนมาเดินไป เดินมา ตรวจสอบแบบนานๆทีมา อย่างนั้น คงไม่ได้ … มันต้องมีกระบวนการที่เข้มงวด เอาจริงเอาจัง มาทำการตรวจสอบอย่างพิสูจน์ได้ และผมคิดว่า นั่นจะเป็นการทดสอบว่า เราตกลงกันได้จริงหรือไม่ ..Given past behavior on the part of Iran, that simply can’t be a declaration by Iran and a few inspectors wandering around every once in a while … that’s going to have to be serious, rigorous verification mechanism. And that, I think, is going to be the test as to whether we get a deal or not…. ” พณฯใบตองแห้งเล่นอิหร่านแรงนะ แล้วแบบนี้ มันคุยกันรู้เรื่องจริงหรือ ผมรู้สึกหวั่นใจแทนจัง ฝ่ายอิหร่านบอก เราเดินตามกรอบของโลซานน์นะ ไม่ได้ใช้กรอบอื่นเลย เราว่า อเมริกาต่างหากที่ต้องการเปลี่ยนกรอบ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน Mohammad Javad Zarif บินกลับมาเวียนนา หลังจากบินกลับไปที่เตหะรานเพื่อไปหารือบางประเด็น เขาบอกว่า .. ผมไม่ได้ไปขอรับคำสั่งในการตกลงจากประมุขประเทศ ผมได้รับอนุญาตเต็มใบในการเจรจาอยู่แล้ว ผมกลับมาเวียนนาเพื่อมาเจรจาขั้นสุดท้าย ซึ่งเราน่าจะทำสำเร็จ นาย Zarif ไม่ได้กลับมาคนเดียว เขามาพร้อมกับ Ali Akbar Salehi หัวหน้าใหญ่ขององค์การ Atomic Energy ของอิหร่าน Salehi ซึ่งเพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัด .,,แปลว่าอิหร่านเอาจริงกับการเจรจาใช่ไหม ไม่งั้นไม่หอบเอาคนป่วยมาด้วยหรอก นาย Zarif บอกกับนักข่าว ข่าวบอกว่า คณะเจรจาโดยเฉพาะอเมริกา ต้องการให้การเจรจาเสร็จต้นเดือนนี้ เพื่อส่งเรื่องให้ฝ่ายรัฐสภาพิจาร ณา ให้เสร็จภายในเวลา 30 วัน ถ้าส่งช้ากว่านั้น สภาปิดไปแล้ว ฝ่ายรัฐสภาจะมีเวลาพิจารณา เพิ่มขึ้นเป็น 60 วัน แถมมีเวลาในการหว่านล้อมเสียง ฝ่ายที่เห็นต่างกันอีกด้วย... นี่ ก็เหมือนอเมริกาเอาจริงนะ ถูกใจ ก็ให้สภาผ่าน ไม่ถูกใจ สภาก็ไม่ผ่านให้….เล่นไม่ยาก ############### นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง” ตอน 2 ในการประชุมที่โลซานน์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ระหว่างอิหร่าน กับ กลุ่มที่เรียกว่า P5+1 (อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน + เยอรมัน) เป็นการกำหนด ” กรอบ การดำเนินการ” สำหรับทั้งด้านอเมริกา และอิหร่าน การดำเนินการที่สำคัญ ประการหนึ่งคือ กระบวนการยกเลิก sanction การคว่ำบาตรอิหร่าน คว่ำมานานหลายสิบปี จนนึกวิธีหงายไม่ออกว่าจะต้องทำยังไงบ้าง แสดงว่าคนช่วยคว่ำคงแยะ และการคว่ำคงมีสาระพัดวิธี คุยกันเรื่องนี้ ตั้งแต่โลซานน์มาถึงเวียนนาว่า จะต้องมีการประกาศ (Declaration) เมื่อตกลงกันได้แล้ว โดยไม่มีการลงนามพันธสัญญา หลังจากนั้น ทุกฝ่ายก็จะให้ UN Security Council (UNSC) เป็นผู้ประทับตรารับรองการประกาศ และก็ออกมติที่จะทำให้การคว่ำบาตร ไม่มีผลใช้บังคับอีกต่อไป ส่วนถ้อยคำของตัวมตินี่ ยังเจรจากันอยู่ และเป็นเรื่องที่เสียวไสว่า กว่าจะเจรจาจบ คนเจรจาคงหืดขึ้นคอ หรือเจรจาไม่จบ เพราะพระเอกเล่นร้องเพลงลา... ล่วงหน้า ทุกฝ่าย ยกเว้นรัฐบาลของพณฯใบตองแห้ง ต้องการให้ส่งเรื่องไปที่ UNSC เร็วที่สุด แตอเมริกายังสงวนท่าที ไม่มีคำตอบให้ ผู้เจรจาฝ่ายอิหร่านบอกอย่างชัดเจนระหว่างการเจราว่า อิหร่าน จะเริ่มดำเนินการตามข้อตกลงเกี่ยว กับนิวเคลียร์ทันที รื้อถอนเครื่องแยก รื้อถอนเครื่องปฏิกรณ์ ทำลายสต๊อกแร่ยูเรเนียม รื้อมันหมดทุกอย่าง ฯลฯ ทันที และให้ไอ้เอกับอีเอ IAEA มาตรวจสอบทันที ว่าอิหร่านปฏิบัติตามรายการถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ แต่ทั้งหมดข้างต้น ต้องทำควบคู่ไปกับขบวนการยกเลิก การคว่ำบาตร โดยอเมริกาและอียู จะต้องลงมือไปพร้อมกันว่า ได้จัดการหงายบาตรของใคร ที่ไหน อย่างไรแล้ว และ ต้องให้ UNSC ประทับตรารับรองการกระทำด้วย มันถึงจะเป็นธรรม จะให้ด้านหนึ่งทุบทิ้ง แต่อีกด้านยืนอมยิ้มกอดอกเฉยได้ไง ที่บรรยายมาทั้งหมดเข้างต้น เป็นเรื่องที่ได้ “ตกลงกันไปแล้ว” ที่โลซานน์ ระหว่างนาย Zarif รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกับคุณสาวน้อย Federica Mogherini ผู้แทนของอียู…. แต่แล้วก็ข่าวรั่วเกี่ยวกับเรื่องกรอบ สวย ไม่สวยขนาดไหน ใครต้องการให้ชัดเจนอย่างไร อย่างที่เล่าข้างต้น สื่อเข้ามาช่วยปั่น แถมเพิ่มสีให้น่าตื่นเต้น อันที่จริงไม่ต้องเพิ่มก็น่าตื่นเต้นอยู่แล้ว ถ้าคิดให้ลึกๆ ยิ่งคิด โต๊ะเจรจาก็ยิ่งสั่น โดยเฉพาะมีความเห็นแย้งจากมุมมอง ด้านกองทัพ possible military dimensions (PMD) ที่สะท้อนกลับ …. แล้วนี่จะพิสูจน์อย่างไร หากตกลงกันเรียบร้อยว่า ให้อิหร่านพัฒนาอะไรได้บ้าง สิ่งที่อิหร่าน “จะไปพัฒนาต่อ” มันจะกลายเป็นอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ เขาว่าไม่ต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ใหญ่ ก็พอนึกออกว่า มันเป็นเรื่องที่พิสูจน์ยาก กว่าจะพิสูจน์ได้ โน่นแนะ ดอกเห็ดงอกขึ้นมาแล้ว ทำนองนั้น…. เฮ้ย… แบบนี้ก็ต้องรีบขยายเวลาเจรจาสินะ ให้จบแบบนี้ไม่ได้… อ้อพอเข้าใจแล้ว แต่ข่าวได้ฟุ้งกระจายเรียบร้อย ไปทั่วสถานที่เจรจา Palais Coburg เวียนนา ว่า ขณะนี้ พณฯใบตองแห้ง ชักลังเลที่จะยกเลิกการคว่ำบาตร…..สงสัยสถานการณ์เปลี่ยน แผนเจรจาเลยอาจต้องเปลี่ยน ตอนนี้คนที่หน้าเครียด เดินเข้าไปจับเข่าคุยทีละข้าง กับเจ้าของเข่าที่ละคน คือ นายKerry รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ไร้เสน่ห์ในการเจรจาอย่างที่สุดนั่นเอง แล้วมันจะคุยสำเร็จละหรือ อย่าลืมว่า ใน P5+1 มีรัสเซียกับจีน ที่รู้ๆ กันอยู่ว่า จับมือจับไม้เห็นใจอิหร่านมานานแล้ว และนอกจากจับมือแล้ว ดูเหมือนจะส่งหีบห่อไปช่วยเหลืออิหร่านสาระพัด แถมเมื่อเร็วๆนี้ ยังมีข่าวว่า จะรับอิหร่านเป็นสมาชิกก่อต้ัง ไอ้อิบ AIIB สถาบันการเงินที่กำลังหอมกรุ่น ยังไม่ถึงวันเส้นตาย ก็ต้องดื้นกันตายไปก่อน แล้วพณฯ ใบตองแห้ง ก็รีบหยิบบท ….I will walk away ออกมาครวญไปพลางๆ ระหว่างนี้ คุณไร้เสน่ห์ Kerry ก็สั่งเด็กๆ ให้ช่วยกันหาเหตุ ช่วยกันโหมหน่อย…. อิหร่านต่างหาก ที่ ทำท่าจะเบี้ยว เข้า สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 5 ก.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจาก TechRadar ประจำวัน 🩷
    #20251118 #techradar

    Google เปิดตัว AI พยากรณ์อากาศใหม่ WeatherNext 2
    Google พัฒนาโมเดล AI ชื่อ WeatherNext 2 ที่สามารถคาดการณ์สภาพอากาศได้เร็วและแม่นยำกว่าระบบเดิมถึง 8 เท่า ภายในเวลาไม่ถึงนาที AI นี้ไม่ได้ให้แค่ผลลัพธ์เดียว แต่สร้าง “หลายความเป็นไปได้” ของสภาพอากาศ ทำให้ผู้ใช้เห็นภาพรวมว่ามีโอกาสเกิดอะไรบ้าง เช่น ฝนตกหรือแดดออกในช่วงเวลาใด นอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้ใน Google Search, Pixel Weather และ Google Maps เพื่อช่วยให้การวางแผนชีวิตประจำวันและการจัดการพลังงานหมุนเวียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    OWC Helios 5S: เพิ่มพลังให้ Mac เล็ก ๆ ด้วย Thunderbolt 5
    OWC เปิดตัว Helios 5S กล่องขยาย PCIe สำหรับเครื่อง Mac ขนาดเล็กที่ใช้ Thunderbolt 5 ความเร็วสูงถึง 80Gb/s ทำให้สามารถต่อการ์ด PCIe 4.0 และอุปกรณ์เสริมความเร็วสูงได้เต็มประสิทธิภาพ รองรับจอ 8K ได้ถึง 3 จอ เหมาะสำหรับงานสร้างสรรค์ที่ต้องการพลังการประมวลผลมากขึ้น แม้จะไม่รองรับ GPU ที่ใช้พลังงานสูง แต่ก็ถือเป็นการยกระดับเครื่องเล็กให้ใกล้เคียงเวิร์กสเตชัน

    Samsung ขยาย “The Wall” จอ LED ยักษ์สำหรับองค์กร
    Samsung เปิดตัวรุ่นใหม่ของ The Wall จอ LED ขนาดมหึมาที่ออกแบบมาเพื่อสำนักงานและพื้นที่ธุรกิจ ใช้ชิปประมวลผล AI Gen2 ที่ช่วยปรับภาพให้คมชัด ลดสัญญาณรบกวน และอัปสเกลภาพให้ใกล้เคียง 8K จุดเด่นคือความสว่างสูงถึง 1,000 nits และเทคโนโลยี Black Seal ที่ทำให้สีดำลึกขึ้น เหมาะกับการใช้งานในห้องประชุมใหญ่หรือพื้นที่ที่ต้องการภาพคมชัดต่อเนื่อง

    สัมภาษณ์พิเศษ Sundar Pichai: Running The Google Empire
    BBC จัดสัมภาษณ์พิเศษกับ Sundar Pichai CEO ของ Google ที่พูดถึงการนำบริษัทผ่านยุค AI ที่กำลังเปลี่ยนโลก เขาเล่าถึงความท้าทายของการลงทุนมหาศาลใน AI ผลกระทบต่อการจ้างงาน และบทบาทของ Google ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รายการนี้สามารถรับชมฟรีผ่าน BBC iPlayer

    Amazon พบการโจมตี npm ครั้งใหญ่กว่า 150,000 แพ็กเกจ
    นักวิจัยจาก Amazon ตรวจพบการแพร่กระจายแพ็กเกจ npm กว่า 150,000 ตัว ที่ถูกใช้ในแผนการหลอกลวงเพื่อสร้างรายได้จากโทเคน TEA แม้แพ็กเกจเหล่านี้จะไม่ขโมยข้อมูลโดยตรง แต่มีพฤติกรรม “self-replicating” และอาจถูกเปลี่ยนให้เป็นอันตรายได้ เหตุการณ์นี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในการโจมตีซัพพลายเชนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โอเพ่นซอร์ส

    OpenAI ทดลองให้ ChatGPT เข้าร่วมแชทกลุ่ม
    OpenAI เปิดฟีเจอร์ใหม่ให้ ChatGPT เข้าร่วมการสนทนาแบบกลุ่ม โดย AI จะเลือกเองว่าจะตอบเมื่อใด หรือผู้ใช้สามารถเรียกด้วยการแท็ก ฟีเจอร์นี้กำลังทดสอบในญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน รองรับผู้เข้าร่วมสูงสุด 20 คน จุดประสงค์คือช่วยให้การระดมสมองและวางแผนร่วมกันสะดวกขึ้น

    Google AI ช่วยวางแผนทริปได้ครบวงจร
    Google เปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับการท่องเที่ยว 3 อย่าง ได้แก่
    Canvas for Travel: สร้างแผนการเดินทางแบบกำหนดเอง
    Flight Deals: ค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกทั่วโลก
    Agentic Booking: จองร้านอาหารและกิจกรรมได้โดยตรงจาก Search ทั้งหมดนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการเปิดหลายแท็บและเปรียบเทียบข้อมูล ทำให้การวางแผนทริปง่ายขึ้นมาก

    แฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้ JSON ซ่อนมัลแวร์
    กลุ่ม Lazarus จากเกาหลีเหนือถูกพบว่าใช้บริการเก็บข้อมูล JSON เช่น JSON Keeper และ JSON Silo เพื่อซ่อนมัลแวร์ในแคมเปญ “Contagious Interview” โดยหลอกนักพัฒนาซอฟต์แวร์ผ่าน LinkedIn ให้ดาวน์โหลดโปรเจกต์ที่แฝงโค้ดอันตราย มัลแวร์เหล่านี้สามารถขโมยข้อมูล กระเป๋าเงินคริปโต และใช้เครื่องเหยื่อขุดเหรียญ Monero ได้

    Logitech ยืนยันถูกเจาะระบบ แต่ยังไม่รู้ข้อมูลที่หายไป
    Logitech รายงานการถูกโจมตีไซเบอร์ผ่านช่องโหว่ zero-day ของซอฟต์แวร์ภายนอก โดยกลุ่ม Cl0p ransomware อ้างว่าขโมยข้อมูลไปกว่า 1.8TB แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลที่สูญหาย “น่าจะมีเพียงบางส่วน” ของพนักงานและลูกค้า แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามีข้อมูลสำคัญรั่วไหลหรือไม่

    LinkedIn เพิ่มฟีเจอร์ค้นหาคนด้วย AI
    LinkedIn เปิดตัวระบบค้นหาคนด้วย AI ที่ช่วยให้ผู้ใช้พิมพ์คำอธิบายเชิงธรรมชาติ เช่น “นักลงทุนด้านสุขภาพที่มีประสบการณ์ FDA” โดยไม่ต้องกรองด้วยตำแหน่งงานแบบเดิม ฟีเจอร์นี้เริ่มให้บริการกับผู้ใช้ Premium ในสหรัฐฯ ก่อน และจะขยายไปทั่วโลกในอนาคต

    ศาลสหราชอาณาจักรตัดสิน Microsoft แพ้คดีห้ามขายต่อไลเซนส์
    ศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักรตัดสินว่า Microsoft ไม่สามารถห้ามลูกค้าขายต่อไลเซนส์ซอฟต์แวร์แบบถาวรได้ บริษัท ValueLicensing ซึ่งเป็นคู่กรณีสามารถดำเนินธุรกิจขายต่อไลเซนส์ต่อไป และยังมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายกว่า 270 ล้านปอนด์จาก Microsoft ขณะที่ Microsoft เตรียมอุทธรณ์ต่อ

    ไปตามเจาะข่าวกันได้ที่ : https://www.techradar.com/
    📌🪛🩷 รวมข่าวจาก TechRadar ประจำวัน 🩷🪛📌 #20251118 #techradar 🌦️ Google เปิดตัว AI พยากรณ์อากาศใหม่ WeatherNext 2 Google พัฒนาโมเดล AI ชื่อ WeatherNext 2 ที่สามารถคาดการณ์สภาพอากาศได้เร็วและแม่นยำกว่าระบบเดิมถึง 8 เท่า ภายในเวลาไม่ถึงนาที AI นี้ไม่ได้ให้แค่ผลลัพธ์เดียว แต่สร้าง “หลายความเป็นไปได้” ของสภาพอากาศ ทำให้ผู้ใช้เห็นภาพรวมว่ามีโอกาสเกิดอะไรบ้าง เช่น ฝนตกหรือแดดออกในช่วงเวลาใด นอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้ใน Google Search, Pixel Weather และ Google Maps เพื่อช่วยให้การวางแผนชีวิตประจำวันและการจัดการพลังงานหมุนเวียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ⚡ OWC Helios 5S: เพิ่มพลังให้ Mac เล็ก ๆ ด้วย Thunderbolt 5 OWC เปิดตัว Helios 5S กล่องขยาย PCIe สำหรับเครื่อง Mac ขนาดเล็กที่ใช้ Thunderbolt 5 ความเร็วสูงถึง 80Gb/s ทำให้สามารถต่อการ์ด PCIe 4.0 และอุปกรณ์เสริมความเร็วสูงได้เต็มประสิทธิภาพ รองรับจอ 8K ได้ถึง 3 จอ เหมาะสำหรับงานสร้างสรรค์ที่ต้องการพลังการประมวลผลมากขึ้น แม้จะไม่รองรับ GPU ที่ใช้พลังงานสูง แต่ก็ถือเป็นการยกระดับเครื่องเล็กให้ใกล้เคียงเวิร์กสเตชัน 🖥️ Samsung ขยาย “The Wall” จอ LED ยักษ์สำหรับองค์กร Samsung เปิดตัวรุ่นใหม่ของ The Wall จอ LED ขนาดมหึมาที่ออกแบบมาเพื่อสำนักงานและพื้นที่ธุรกิจ ใช้ชิปประมวลผล AI Gen2 ที่ช่วยปรับภาพให้คมชัด ลดสัญญาณรบกวน และอัปสเกลภาพให้ใกล้เคียง 8K จุดเด่นคือความสว่างสูงถึง 1,000 nits และเทคโนโลยี Black Seal ที่ทำให้สีดำลึกขึ้น เหมาะกับการใช้งานในห้องประชุมใหญ่หรือพื้นที่ที่ต้องการภาพคมชัดต่อเนื่อง 🎤 สัมภาษณ์พิเศษ Sundar Pichai: Running The Google Empire BBC จัดสัมภาษณ์พิเศษกับ Sundar Pichai CEO ของ Google ที่พูดถึงการนำบริษัทผ่านยุค AI ที่กำลังเปลี่ยนโลก เขาเล่าถึงความท้าทายของการลงทุนมหาศาลใน AI ผลกระทบต่อการจ้างงาน และบทบาทของ Google ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รายการนี้สามารถรับชมฟรีผ่าน BBC iPlayer 🛡️ Amazon พบการโจมตี npm ครั้งใหญ่กว่า 150,000 แพ็กเกจ นักวิจัยจาก Amazon ตรวจพบการแพร่กระจายแพ็กเกจ npm กว่า 150,000 ตัว ที่ถูกใช้ในแผนการหลอกลวงเพื่อสร้างรายได้จากโทเคน TEA แม้แพ็กเกจเหล่านี้จะไม่ขโมยข้อมูลโดยตรง แต่มีพฤติกรรม “self-replicating” และอาจถูกเปลี่ยนให้เป็นอันตรายได้ เหตุการณ์นี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในการโจมตีซัพพลายเชนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โอเพ่นซอร์ส 💬 OpenAI ทดลองให้ ChatGPT เข้าร่วมแชทกลุ่ม OpenAI เปิดฟีเจอร์ใหม่ให้ ChatGPT เข้าร่วมการสนทนาแบบกลุ่ม โดย AI จะเลือกเองว่าจะตอบเมื่อใด หรือผู้ใช้สามารถเรียกด้วยการแท็ก ฟีเจอร์นี้กำลังทดสอบในญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน รองรับผู้เข้าร่วมสูงสุด 20 คน จุดประสงค์คือช่วยให้การระดมสมองและวางแผนร่วมกันสะดวกขึ้น ✈️ Google AI ช่วยวางแผนทริปได้ครบวงจร Google เปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับการท่องเที่ยว 3 อย่าง ได้แก่ 🧩 Canvas for Travel: สร้างแผนการเดินทางแบบกำหนดเอง 🧩 Flight Deals: ค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกทั่วโลก 🧩 Agentic Booking: จองร้านอาหารและกิจกรรมได้โดยตรงจาก Search ทั้งหมดนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการเปิดหลายแท็บและเปรียบเทียบข้อมูล ทำให้การวางแผนทริปง่ายขึ้นมาก 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้ JSON ซ่อนมัลแวร์ กลุ่ม Lazarus จากเกาหลีเหนือถูกพบว่าใช้บริการเก็บข้อมูล JSON เช่น JSON Keeper และ JSON Silo เพื่อซ่อนมัลแวร์ในแคมเปญ “Contagious Interview” โดยหลอกนักพัฒนาซอฟต์แวร์ผ่าน LinkedIn ให้ดาวน์โหลดโปรเจกต์ที่แฝงโค้ดอันตราย มัลแวร์เหล่านี้สามารถขโมยข้อมูล กระเป๋าเงินคริปโต และใช้เครื่องเหยื่อขุดเหรียญ Monero ได้ 🔒 Logitech ยืนยันถูกเจาะระบบ แต่ยังไม่รู้ข้อมูลที่หายไป Logitech รายงานการถูกโจมตีไซเบอร์ผ่านช่องโหว่ zero-day ของซอฟต์แวร์ภายนอก โดยกลุ่ม Cl0p ransomware อ้างว่าขโมยข้อมูลไปกว่า 1.8TB แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลที่สูญหาย “น่าจะมีเพียงบางส่วน” ของพนักงานและลูกค้า แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามีข้อมูลสำคัญรั่วไหลหรือไม่ 👥 LinkedIn เพิ่มฟีเจอร์ค้นหาคนด้วย AI LinkedIn เปิดตัวระบบค้นหาคนด้วย AI ที่ช่วยให้ผู้ใช้พิมพ์คำอธิบายเชิงธรรมชาติ เช่น “นักลงทุนด้านสุขภาพที่มีประสบการณ์ FDA” โดยไม่ต้องกรองด้วยตำแหน่งงานแบบเดิม ฟีเจอร์นี้เริ่มให้บริการกับผู้ใช้ Premium ในสหรัฐฯ ก่อน และจะขยายไปทั่วโลกในอนาคต ⚖️ ศาลสหราชอาณาจักรตัดสิน Microsoft แพ้คดีห้ามขายต่อไลเซนส์ ศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักรตัดสินว่า Microsoft ไม่สามารถห้ามลูกค้าขายต่อไลเซนส์ซอฟต์แวร์แบบถาวรได้ บริษัท ValueLicensing ซึ่งเป็นคู่กรณีสามารถดำเนินธุรกิจขายต่อไลเซนส์ต่อไป และยังมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายกว่า 270 ล้านปอนด์จาก Microsoft ขณะที่ Microsoft เตรียมอุทธรณ์ต่อ ไปตามเจาะข่าวกันได้ที่ : https://www.techradar.com/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว
  • NetworkManager 1.54.2 เพิ่มการตั้งค่า HSR Protocol

    ทีมพัฒนา NetworkManager ได้ปล่อย เวอร์ชัน 1.54.2 ซึ่งถือเป็นการอัปเดตย่อยในซีรีส์ 1.54 โดยมีการเพิ่มการรองรับการตั้งค่า HSR (High-availability Seamless Redundancy) Protocol Version ผ่าน property ใหม่ hsr.protocol-version รวมถึงการตั้งค่า HSR Interlink Port ผ่าน hsr.interlink สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถปรับแต่งการทำงานของเครือข่ายที่ต้องการความทนทานสูงได้อย่างละเอียดมากขึ้น

    HSR คืออะไร?
    HSR เป็น Layer 2 redundancy protocol ที่กำหนดโดยมาตรฐาน IEC 62439-3 ใช้ในระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรมและระบบที่ต้องความเสถียรสูง เช่น substation automation (IEC 61850), ระบบไฟฟ้า, การขนส่ง, โรงงานที่ต้อง real-time communication

    หัวใจของ HSR คือ:
    การทำงานแบบ Ring redundancy โดยไม่มีเวลาสลับเส้นทาง (0 ms recovery)
    อุปกรณ์ HSR จะเชื่อมต่อกันเป็นวง (ring) และ ทุกเฟรมที่ส่งออกมาจะถูกส่งสองทางพร้อมกัน — วิ่งตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกา หากทางใดทางหนึ่งขาด ระบบจะยังคงรับข้อมูลจากอีกทางหนึ่งทันที จึงไม่มี Downtime แม้เกิด failure

    นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการทำงานกับค่า sriov.vfs โดยสามารถ reapply ได้หากค่า sriov.total-vfs ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งช่วยให้การจัดการ Virtual Functions บน SR-IOV มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยไม่ต้องรีสตาร์ทระบบเครือข่ายทั้งหมด

    แม้จะเป็นการอัปเดตเล็ก แต่ NetworkManager 1.54.2 ถือเป็นการต่อยอดจากเวอร์ชัน 1.54 ที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2025 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ เช่น การรองรับการตั้งค่า IPv4 Forwarding ต่ออุปกรณ์, การเพิ่มการจัดการ OCI Baremetal ใน nm-cloud-setup และการปรับปรุง UI ของ nmtui ให้รองรับการตั้งค่า Loopback Interface

    ขณะเดียวกัน ทีมพัฒนากำลังเดินหน้าสู่ NetworkManager 1.56 ซึ่งจะเป็นการอัปเดตใหญ่ โดยมีแผนเพิ่มการจัดการ WireGuard peers ผ่าน nmcli, รองรับ DNS Hostname ที่ยาวกว่า 64 ตัวอักษร และการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ systemd-resolved DNSSEC เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของระบบเครือข่าย

    สรุปสาระสำคัญ
    การอัปเดตใหม่ใน NetworkManager 1.54.2
    รองรับการตั้งค่า HSR Protocol Version (hsr.protocol-version)
    รองรับการตั้งค่า HSR Interlink Port (hsr.interlink)

    การปรับปรุง SR-IOV
    สามารถ reapply ค่า sriov.vfs ได้
    ไม่ต้องรีสตาร์ทระบบหากค่า sriov.total-vfs ไม่เปลี่ยน

    การต่อยอดจาก NetworkManager 1.54
    เพิ่ม IPv4 Forwarding ต่ออุปกรณ์
    รองรับ OCI Baremetal และปรับปรุง UI ของ nmtui

    แผนใน NetworkManager 1.56
    เพิ่มการจัดการ WireGuard peers ผ่าน nmcli
    รองรับ DNS Hostname ที่ยาวกว่า 64 ตัวอักษร
    ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ systemd-resolved DNSSEC

    ข้อควรระวัง
    การตั้งค่า HSR ต้องใช้กับระบบที่รองรับเท่านั้น
    หาก SR-IOV ถูกตั้งค่าไม่ถูกต้อง อาจทำให้ระบบเครือข่ายไม่เสถียร

    https://9to5linux.com/networkmanager-1-54-2-adds-support-for-configuring-the-hsr-protocol-version
    🌐 NetworkManager 1.54.2 เพิ่มการตั้งค่า HSR Protocol ทีมพัฒนา NetworkManager ได้ปล่อย เวอร์ชัน 1.54.2 ซึ่งถือเป็นการอัปเดตย่อยในซีรีส์ 1.54 โดยมีการเพิ่มการรองรับการตั้งค่า HSR (High-availability Seamless Redundancy) Protocol Version ผ่าน property ใหม่ hsr.protocol-version รวมถึงการตั้งค่า HSR Interlink Port ผ่าน hsr.interlink สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถปรับแต่งการทำงานของเครือข่ายที่ต้องการความทนทานสูงได้อย่างละเอียดมากขึ้น ✅ HSR คืออะไร? HSR เป็น Layer 2 redundancy protocol ที่กำหนดโดยมาตรฐาน IEC 62439-3 ใช้ในระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรมและระบบที่ต้องความเสถียรสูง เช่น substation automation (IEC 61850), ระบบไฟฟ้า, การขนส่ง, โรงงานที่ต้อง real-time communication 💖 หัวใจของ HSR คือ: 🔁 การทำงานแบบ Ring redundancy โดยไม่มีเวลาสลับเส้นทาง (0 ms recovery) อุปกรณ์ HSR จะเชื่อมต่อกันเป็นวง (ring) และ ทุกเฟรมที่ส่งออกมาจะถูกส่งสองทางพร้อมกัน — วิ่งตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกา หากทางใดทางหนึ่งขาด ระบบจะยังคงรับข้อมูลจากอีกทางหนึ่งทันที จึงไม่มี Downtime แม้เกิด failure นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการทำงานกับค่า sriov.vfs โดยสามารถ reapply ได้หากค่า sriov.total-vfs ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งช่วยให้การจัดการ Virtual Functions บน SR-IOV มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยไม่ต้องรีสตาร์ทระบบเครือข่ายทั้งหมด แม้จะเป็นการอัปเดตเล็ก แต่ NetworkManager 1.54.2 ถือเป็นการต่อยอดจากเวอร์ชัน 1.54 ที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2025 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ เช่น การรองรับการตั้งค่า IPv4 Forwarding ต่ออุปกรณ์, การเพิ่มการจัดการ OCI Baremetal ใน nm-cloud-setup และการปรับปรุง UI ของ nmtui ให้รองรับการตั้งค่า Loopback Interface ขณะเดียวกัน ทีมพัฒนากำลังเดินหน้าสู่ NetworkManager 1.56 ซึ่งจะเป็นการอัปเดตใหญ่ โดยมีแผนเพิ่มการจัดการ WireGuard peers ผ่าน nmcli, รองรับ DNS Hostname ที่ยาวกว่า 64 ตัวอักษร และการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ systemd-resolved DNSSEC เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของระบบเครือข่าย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การอัปเดตใหม่ใน NetworkManager 1.54.2 ➡️ รองรับการตั้งค่า HSR Protocol Version (hsr.protocol-version) ➡️ รองรับการตั้งค่า HSR Interlink Port (hsr.interlink) ✅ การปรับปรุง SR-IOV ➡️ สามารถ reapply ค่า sriov.vfs ได้ ➡️ ไม่ต้องรีสตาร์ทระบบหากค่า sriov.total-vfs ไม่เปลี่ยน ✅ การต่อยอดจาก NetworkManager 1.54 ➡️ เพิ่ม IPv4 Forwarding ต่ออุปกรณ์ ➡️ รองรับ OCI Baremetal และปรับปรุง UI ของ nmtui ✅ แผนใน NetworkManager 1.56 ➡️ เพิ่มการจัดการ WireGuard peers ผ่าน nmcli ➡️ รองรับ DNS Hostname ที่ยาวกว่า 64 ตัวอักษร ➡️ ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ systemd-resolved DNSSEC ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ การตั้งค่า HSR ต้องใช้กับระบบที่รองรับเท่านั้น ⛔ หาก SR-IOV ถูกตั้งค่าไม่ถูกต้อง อาจทำให้ระบบเครือข่ายไม่เสถียร https://9to5linux.com/networkmanager-1-54-2-adds-support-for-configuring-the-hsr-protocol-version
    9TO5LINUX.COM
    NetworkManager 1.54.2 Adds Support for Configuring the HSR Protocol Version - 9to5Linux
    NetworkManager 1.54.2 open-source network connection manager is now available for downlaoad with various new features.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • HP ปล่อย HPLIP 3.25.8 รองรับเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่

    HP ได้ประกาศเปิดตัว HP Linux Imaging and Printing (HPLIP) เวอร์ชัน 3.25.8 โดยมีการเพิ่มการรองรับเครื่องพิมพ์ในตระกูล HP LaserJet Enterprise หลายรุ่น เช่น MFP 5601dn, 6500dn, Flow MFP 8601z และรุ่น X-series ที่ออกแบบมาสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ การอัปเดตนี้ช่วยให้ผู้ใช้ Linux สามารถใช้งานเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งการพิมพ์ สแกน และการจัดการเอกสารในระบบเครือข่าย

    แม้จะมีการเพิ่มการรองรับเครื่องพิมพ์ใหม่ แต่ HPLIP 3.25.8 ไม่ได้เพิ่มการรองรับดิสโทร Linux รุ่นล่าสุด เช่น Ubuntu หรือ Fedora รุ่นใหม่ ๆ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ต้องพึ่งพาวิธีการติดตั้งแบบ manual หรือใช้เวอร์ชันก่อนหน้าเพื่อให้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม เวอร์ชันก่อนหน้า (3.25.6) เคยเพิ่มการรองรับ AlmaLinux 9.5 และ 9.6 ซึ่งสะท้อนว่า HP ยังคงทยอยปรับปรุงการรองรับดิสโทรที่ใช้ในองค์กร

    อีกประเด็นที่สำคัญคือ HP ได้ปรับปรุง ระบบ Digital Certificate Verification ในการติดตั้ง HPLIP เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการดาวน์โหลดและใช้งาน ผู้ใช้จึงควรตรวจสอบขั้นตอนการติดตั้งอย่างละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการยืนยันตัวตนที่อาจทำให้การติดตั้งไม่สมบูรณ์

    นอกจากนี้ HPLIP ยังคงเป็นโครงการที่รองรับเครื่องพิมพ์ HP มากกว่า 3,000 รุ่น ครอบคลุมตั้งแต่ DeskJet, OfficeJet, Photosmart ไปจนถึง LaserJet Enterprise ซึ่งทำให้ Linux ยังคงเป็นระบบที่สามารถใช้งานเครื่องพิมพ์ HP ได้อย่างกว้างขวาง แม้จะมีข้อจำกัดบางประการในเรื่องการรองรับดิสโทรใหม่ ๆ

    สรุปสาระสำคัญ
    การอัปเดต HPLIP 3.25.8
    รองรับเครื่องพิมพ์ HP LaserJet Enterprise รุ่นใหม่หลายรุ่น
    ครอบคลุมการใช้งานทั้งการพิมพ์และสแกน

    การรองรับดิสโทร Linux
    ไม่มีการเพิ่มการรองรับดิสโทรใหม่ในเวอร์ชันนี้
    เวอร์ชันก่อนหน้า (3.25.6) เคยรองรับ AlmaLinux 9.5 และ 9.6

    ระบบ Digital Certificate Verification
    มีการปรับปรุงขั้นตอนการตรวจสอบเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
    ผู้ใช้ต้องทำตามขั้นตอนการติดตั้งอย่างเคร่งครัด

    ความครอบคลุมของ HPLIP
    รองรับเครื่องพิมพ์ HP มากกว่า 3,000 รุ่น
    ครอบคลุมตั้งแต่ DeskJet, OfficeJet, Photosmart จนถึง LaserJet Enterprise

    ข้อควรระวังในการใช้งาน
    ผู้ใช้ดิสโทร Linux รุ่นใหม่อาจพบปัญหาการติดตั้ง
    หากไม่ตรวจสอบ Digital Certificate อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย

    https://9to5linux.com/hp-linux-imaging-and-printing-hplip-3-25-8-adds-support-for-new-printers
    🖨️ HP ปล่อย HPLIP 3.25.8 รองรับเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ HP ได้ประกาศเปิดตัว HP Linux Imaging and Printing (HPLIP) เวอร์ชัน 3.25.8 โดยมีการเพิ่มการรองรับเครื่องพิมพ์ในตระกูล HP LaserJet Enterprise หลายรุ่น เช่น MFP 5601dn, 6500dn, Flow MFP 8601z และรุ่น X-series ที่ออกแบบมาสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ การอัปเดตนี้ช่วยให้ผู้ใช้ Linux สามารถใช้งานเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งการพิมพ์ สแกน และการจัดการเอกสารในระบบเครือข่าย แม้จะมีการเพิ่มการรองรับเครื่องพิมพ์ใหม่ แต่ HPLIP 3.25.8 ไม่ได้เพิ่มการรองรับดิสโทร Linux รุ่นล่าสุด เช่น Ubuntu หรือ Fedora รุ่นใหม่ ๆ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ต้องพึ่งพาวิธีการติดตั้งแบบ manual หรือใช้เวอร์ชันก่อนหน้าเพื่อให้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม เวอร์ชันก่อนหน้า (3.25.6) เคยเพิ่มการรองรับ AlmaLinux 9.5 และ 9.6 ซึ่งสะท้อนว่า HP ยังคงทยอยปรับปรุงการรองรับดิสโทรที่ใช้ในองค์กร อีกประเด็นที่สำคัญคือ HP ได้ปรับปรุง ระบบ Digital Certificate Verification ในการติดตั้ง HPLIP เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการดาวน์โหลดและใช้งาน ผู้ใช้จึงควรตรวจสอบขั้นตอนการติดตั้งอย่างละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการยืนยันตัวตนที่อาจทำให้การติดตั้งไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ HPLIP ยังคงเป็นโครงการที่รองรับเครื่องพิมพ์ HP มากกว่า 3,000 รุ่น ครอบคลุมตั้งแต่ DeskJet, OfficeJet, Photosmart ไปจนถึง LaserJet Enterprise ซึ่งทำให้ Linux ยังคงเป็นระบบที่สามารถใช้งานเครื่องพิมพ์ HP ได้อย่างกว้างขวาง แม้จะมีข้อจำกัดบางประการในเรื่องการรองรับดิสโทรใหม่ ๆ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การอัปเดต HPLIP 3.25.8 ➡️ รองรับเครื่องพิมพ์ HP LaserJet Enterprise รุ่นใหม่หลายรุ่น ➡️ ครอบคลุมการใช้งานทั้งการพิมพ์และสแกน ✅ การรองรับดิสโทร Linux ➡️ ไม่มีการเพิ่มการรองรับดิสโทรใหม่ในเวอร์ชันนี้ ➡️ เวอร์ชันก่อนหน้า (3.25.6) เคยรองรับ AlmaLinux 9.5 และ 9.6 ✅ ระบบ Digital Certificate Verification ➡️ มีการปรับปรุงขั้นตอนการตรวจสอบเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ➡️ ผู้ใช้ต้องทำตามขั้นตอนการติดตั้งอย่างเคร่งครัด ✅ ความครอบคลุมของ HPLIP ➡️ รองรับเครื่องพิมพ์ HP มากกว่า 3,000 รุ่น ➡️ ครอบคลุมตั้งแต่ DeskJet, OfficeJet, Photosmart จนถึง LaserJet Enterprise ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน ⛔ ผู้ใช้ดิสโทร Linux รุ่นใหม่อาจพบปัญหาการติดตั้ง ⛔ หากไม่ตรวจสอบ Digital Certificate อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย https://9to5linux.com/hp-linux-imaging-and-printing-hplip-3-25-8-adds-support-for-new-printers
    9TO5LINUX.COM
    HP Linux Imaging and Printing (HPLIP) 3.25.8 Adds Support for New Printers - 9to5Linux
    HP Linux Imaging and Printing (HPLIP) 3.25.8 drivers are now available for download with support for new HP printers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • Veil: ส่วนขยายใหม่เพื่อจัดการ GNOME Panel

    Veil ถูกพัฒนาโดย Dagim G. Astatkie นักพัฒนาจากเอธิโอเปีย โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้ GNOME หลายคนเจอ คือแถบด้านบนที่เต็มไปด้วย system indicators และ status icons จนดูรกและใช้งานไม่สะดวก Veil จึงเข้ามาช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าไอคอนใดจะถูกซ่อนหรือแสดง พร้อมทั้งมีฟีเจอร์เสริม เช่น การซ่อนอัตโนมัติแบบตั้งเวลา, แอนิเมชันลื่นไหล, และการปรับแต่งไอคอนลูกศร สำหรับเปิด/ปิดการแสดงผล

    ประสบการณ์ใช้งานจริง
    ผู้เขียนบทความได้ทดลองติดตั้ง Veil บน Ubuntu 25.10 ผ่าน Extension Manager และพบว่าการใช้งานง่ายและตรงไปตรงมา เพียงคลิกที่ลูกศรด้านบนขวา ไอคอนต่าง ๆ เช่น Network Stats, Tiling Shell Switcher และ System Monitor ก็หายไปทันที ทำให้แถบด้านบนสะอาดตา นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ในแท็บ General เช่น การบันทึกสถานะ, ตั้งค่า default visibility, และกำหนดเวลา auto-hide

    ความสำคัญต่อผู้ใช้ GNOME
    Veil ไม่เพียงช่วยให้หน้าจอสะอาดขึ้น แต่ยังเพิ่ม ความยืดหยุ่นและความเป็นส่วนตัว ให้ผู้ใช้ โดยเฉพาะ power users ที่ต้องจัดการหลาย extension พร้อมกัน การมีเครื่องมือที่สามารถควบคุมการแสดงผลได้ละเอียดจึงช่วยลดความวุ่นวาย และทำให้การทำงานบน GNOME มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ Veil ยังเปิดซอร์สโค้ดบน GitHub เพื่อให้ผู้สนใจสามารถร่วมพัฒนาได้ต่อไป

    สรุปสาระสำคัญ
    Veil Extension บน GNOME
    พัฒนาโดย Dagim G. Astatkie จากเอธิโอเปีย
    ช่วยซ่อนและจัดการไอคอนบนแถบด้านบน

    ฟีเจอร์หลักของ Veil
    Auto-hide แบบตั้งเวลา
    แอนิเมชันลื่นไหล และปรับแต่งไอคอนลูกศร

    ประสบการณ์ใช้งานจริง
    ติดตั้งง่ายผ่าน Extension Manager
    ทำให้แถบด้านบนสะอาดและปรับแต่งได้ตามต้องการ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    หากไม่อัปเดตหรือปรับแต่งอย่างถูกต้อง อาจทำให้บางไอคอนสำคัญหายไปโดยไม่ตั้งใจ
    ผู้ใช้ใหม่ที่ไม่คุ้นกับ GNOME Extensions อาจต้องศึกษาเพิ่มเติมก่อนใช้งาน

    https://itsfoss.com/veil-gnome-extension/
    🖥️ Veil: ส่วนขยายใหม่เพื่อจัดการ GNOME Panel Veil ถูกพัฒนาโดย Dagim G. Astatkie นักพัฒนาจากเอธิโอเปีย โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้ GNOME หลายคนเจอ คือแถบด้านบนที่เต็มไปด้วย system indicators และ status icons จนดูรกและใช้งานไม่สะดวก Veil จึงเข้ามาช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าไอคอนใดจะถูกซ่อนหรือแสดง พร้อมทั้งมีฟีเจอร์เสริม เช่น การซ่อนอัตโนมัติแบบตั้งเวลา, แอนิเมชันลื่นไหล, และการปรับแต่งไอคอนลูกศร สำหรับเปิด/ปิดการแสดงผล ⚡ ประสบการณ์ใช้งานจริง ผู้เขียนบทความได้ทดลองติดตั้ง Veil บน Ubuntu 25.10 ผ่าน Extension Manager และพบว่าการใช้งานง่ายและตรงไปตรงมา เพียงคลิกที่ลูกศรด้านบนขวา ไอคอนต่าง ๆ เช่น Network Stats, Tiling Shell Switcher และ System Monitor ก็หายไปทันที ทำให้แถบด้านบนสะอาดตา นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ในแท็บ General เช่น การบันทึกสถานะ, ตั้งค่า default visibility, และกำหนดเวลา auto-hide 🌍 ความสำคัญต่อผู้ใช้ GNOME Veil ไม่เพียงช่วยให้หน้าจอสะอาดขึ้น แต่ยังเพิ่ม ความยืดหยุ่นและความเป็นส่วนตัว ให้ผู้ใช้ โดยเฉพาะ power users ที่ต้องจัดการหลาย extension พร้อมกัน การมีเครื่องมือที่สามารถควบคุมการแสดงผลได้ละเอียดจึงช่วยลดความวุ่นวาย และทำให้การทำงานบน GNOME มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ Veil ยังเปิดซอร์สโค้ดบน GitHub เพื่อให้ผู้สนใจสามารถร่วมพัฒนาได้ต่อไป 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Veil Extension บน GNOME ➡️ พัฒนาโดย Dagim G. Astatkie จากเอธิโอเปีย ➡️ ช่วยซ่อนและจัดการไอคอนบนแถบด้านบน ✅ ฟีเจอร์หลักของ Veil ➡️ Auto-hide แบบตั้งเวลา ➡️ แอนิเมชันลื่นไหล และปรับแต่งไอคอนลูกศร ✅ ประสบการณ์ใช้งานจริง ➡️ ติดตั้งง่ายผ่าน Extension Manager ➡️ ทำให้แถบด้านบนสะอาดและปรับแต่งได้ตามต้องการ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ หากไม่อัปเดตหรือปรับแต่งอย่างถูกต้อง อาจทำให้บางไอคอนสำคัญหายไปโดยไม่ตั้งใจ ⛔ ผู้ใช้ใหม่ที่ไม่คุ้นกับ GNOME Extensions อาจต้องศึกษาเพิ่มเติมก่อนใช้งาน https://itsfoss.com/veil-gnome-extension/
    ITSFOSS.COM
    Clean Up Your GNOME Panel With This New Extension
    Hide unwanted panel icons automatically with Veil.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ร้ายแรงใน W3 Total Cache (CVE-2025-9501)

    มีการเปิดเผยช่องโหว่ความปลอดภัยระดับ Critical ในปลั๊กอิน W3 Total Cache (W3TC) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายบน WordPress โดยมีการติดตั้งมากกว่า 1 ล้านเว็บไซต์ทั่วโลก ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น CVE-2025-9501 และได้รับคะแนนความรุนแรง CVSS 9.0 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดที่อาจนำไปสู่การโจมตีแบบ Remote Code Execution (RCE) โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน

    รายละเอียดช่องโหว่
    ปัญหานี้เกิดจากการจัดการที่ไม่ถูกต้องในฟังก์ชันภายในของปลั๊กอินชื่อ _parse_dynamic_mfunc ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถส่งคอมเมนต์ที่มี payload อันตราย เมื่อระบบทำการ parse คอมเมนต์นั้น เว็บไซต์จะรันโค้ด PHP ที่ผู้โจมตีใส่เข้ามา ส่งผลให้สามารถเข้าควบคุมเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ เช่น การขโมยข้อมูล, ติดตั้ง backdoor, หรือกระจายมัลแวร์

    การแพตช์และการป้องกัน
    ช่องโหว่นี้ได้รับการแก้ไขแล้วในเวอร์ชัน W3 Total Cache 2.8.13 ผู้ดูแลเว็บไซต์ทุกคนถูกแนะนำให้อัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี เนื่องจากการโจมตีนี้ไม่ต้องใช้สิทธิ์ใด ๆ และสามารถทำได้ง่ายเพียงแค่โพสต์คอมเมนต์บนเว็บไซต์ที่ยังไม่ได้แพตช์

    ผลกระทบและแนวโน้ม
    ด้วยจำนวนการติดตั้งที่มากกว่า 1 ล้านเว็บไซต์ แม้เพียงส่วนน้อยที่ไม่ได้อัปเดต ก็สามารถสร้าง attack surface ขนาดใหญ่ ให้กับผู้โจมตีที่ใช้เครื่องมืออัตโนมัติในการสแกนและโจมตีเว็บไซต์ WordPress ที่ยังมีช่องโหว่ การเปิดเผย Proof-of-Concept (PoC) ถูกกำหนดไว้ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025 เพื่อให้ผู้ดูแลมีเวลาอัปเดตก่อนที่โค้ดโจมตีจะถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ

    สรุปสาระสำคัญ
    รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-9501
    เกิดจากฟังก์ชัน _parse_dynamic_mfunc ใน W3TC
    เปิดทางให้โจมตีแบบ Remote Code Execution โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน

    การแพตช์ที่ปลอดภัย
    แก้ไขแล้วใน W3 Total Cache เวอร์ชัน 2.8.13
    ผู้ดูแลเว็บไซต์ควรอัปเดตทันที

    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    การเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ
    การขโมยข้อมูลและติดตั้ง backdoor

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    เว็บไซต์ที่ยังไม่ได้อัปเดตเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอัตโนมัติ
    PoC จะถูกเผยแพร่ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025 เพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตีจำนวนมาก

    https://securityonline.info/critical-w3-total-cache-flaw-cve-2025-9501-cvss-9-0-risks-unauthenticated-rce-on-1-million-wordpress-sites/
    ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน W3 Total Cache (CVE-2025-9501) มีการเปิดเผยช่องโหว่ความปลอดภัยระดับ Critical ในปลั๊กอิน W3 Total Cache (W3TC) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายบน WordPress โดยมีการติดตั้งมากกว่า 1 ล้านเว็บไซต์ทั่วโลก ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น CVE-2025-9501 และได้รับคะแนนความรุนแรง CVSS 9.0 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดที่อาจนำไปสู่การโจมตีแบบ Remote Code Execution (RCE) โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน 🛠️ รายละเอียดช่องโหว่ ปัญหานี้เกิดจากการจัดการที่ไม่ถูกต้องในฟังก์ชันภายในของปลั๊กอินชื่อ _parse_dynamic_mfunc ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถส่งคอมเมนต์ที่มี payload อันตราย เมื่อระบบทำการ parse คอมเมนต์นั้น เว็บไซต์จะรันโค้ด PHP ที่ผู้โจมตีใส่เข้ามา ส่งผลให้สามารถเข้าควบคุมเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ เช่น การขโมยข้อมูล, ติดตั้ง backdoor, หรือกระจายมัลแวร์ 🔒 การแพตช์และการป้องกัน ช่องโหว่นี้ได้รับการแก้ไขแล้วในเวอร์ชัน W3 Total Cache 2.8.13 ผู้ดูแลเว็บไซต์ทุกคนถูกแนะนำให้อัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี เนื่องจากการโจมตีนี้ไม่ต้องใช้สิทธิ์ใด ๆ และสามารถทำได้ง่ายเพียงแค่โพสต์คอมเมนต์บนเว็บไซต์ที่ยังไม่ได้แพตช์ 🌍 ผลกระทบและแนวโน้ม ด้วยจำนวนการติดตั้งที่มากกว่า 1 ล้านเว็บไซต์ แม้เพียงส่วนน้อยที่ไม่ได้อัปเดต ก็สามารถสร้าง attack surface ขนาดใหญ่ ให้กับผู้โจมตีที่ใช้เครื่องมืออัตโนมัติในการสแกนและโจมตีเว็บไซต์ WordPress ที่ยังมีช่องโหว่ การเปิดเผย Proof-of-Concept (PoC) ถูกกำหนดไว้ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025 เพื่อให้ผู้ดูแลมีเวลาอัปเดตก่อนที่โค้ดโจมตีจะถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-9501 ➡️ เกิดจากฟังก์ชัน _parse_dynamic_mfunc ใน W3TC ➡️ เปิดทางให้โจมตีแบบ Remote Code Execution โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ✅ การแพตช์ที่ปลอดภัย ➡️ แก้ไขแล้วใน W3 Total Cache เวอร์ชัน 2.8.13 ➡️ ผู้ดูแลเว็บไซต์ควรอัปเดตทันที ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ➡️ การเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ➡️ การขโมยข้อมูลและติดตั้ง backdoor ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ เว็บไซต์ที่ยังไม่ได้อัปเดตเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอัตโนมัติ ⛔ PoC จะถูกเผยแพร่ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025 เพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตีจำนวนมาก https://securityonline.info/critical-w3-total-cache-flaw-cve-2025-9501-cvss-9-0-risks-unauthenticated-rce-on-1-million-wordpress-sites/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical W3 Total Cache Flaw (CVE-2025-9501, CVSS 9.0) Risks Unauthenticated RCE on 1 Million WordPress Sites
    A Critical (CVSS 9.0) flaw in W3 Total Cache (CVE-2025-9501) allows unauthenticated attackers to execute arbitrary PHP code via a crafted comment. 1M+ sites are at risk. Update to v2.8.13.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • Frentree จับมือ AccuKnox ขยาย Zero Trust CNAPP ในเกาหลีใต้

    Frentree บริษัทโซลูชันด้านความปลอดภัยไซเบอร์จากเกาหลีใต้ ได้ประกาศความร่วมมือกับ AccuKnox ผู้เชี่ยวชาญด้าน Zero Trust CNAPP (Cloud-Native Application Protection Platform) เพื่อเสริมความปลอดภัยให้กับองค์กรในภูมิภาค โดยความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับการป้องกันภัยคุกคามในระบบคลาวด์ คอนเทนเนอร์ และ AI workloads ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดเกาหลีใต้

    การจับมือครั้งนี้เกิดขึ้นจากความต้องการขององค์กรในเกาหลีใต้ที่ต้องการระบบ Visibility ครอบคลุม, Runtime Protection ที่ปรับขยายได้ และ Compliance อัตโนมัติ เพื่อรับมือกับการโจมตีไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น โดย Frentree เลือก AccuKnox เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม Zero Trust และเป็นผู้ร่วมพัฒนาโครงการโอเพนซอร์ส CNCF เช่น KubeArmor และ ModelArmor ซึ่งช่วยให้แพลตฟอร์มมีความยืดหยุ่นและน่าเชื่อถือ

    ในเชิงกลยุทธ์ ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงการที่ตลาดเกาหลีใต้กำลังเร่งการนำระบบคลาวด์มาใช้ในภาคการเงินและองค์กรขนาดใหญ่ การมีโซลูชันที่สามารถตรวจสอบและป้องกันภัยคุกคามได้ตั้งแต่ระดับโค้ดจนถึงการทำงานจริง จึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและผู้ลงทุน อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวดในภูมิภาค

    นอกจากนี้ แนวโน้มระดับโลกยังชี้ให้เห็นว่า Zero Trust และ CNAPP กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ในการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่มีการลงทุนด้าน AI และคลาวด์สูง การที่ Frentree และ AccuKnox ร่วมมือกันจึงไม่เพียงแต่เป็นการเสริมความปลอดภัย แต่ยังเป็นการสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    สรุปสาระสำคัญ
    ความร่วมมือ Frentree – AccuKnox
    เสริมความปลอดภัยไซเบอร์ในเกาหลีใต้
    เน้นระบบ Zero Trust CNAPP ครอบคลุมคลาวด์ คอนเทนเนอร์ และ AI workloads

    จุดเด่นของ AccuKnox
    มีความเชี่ยวชาญด้าน Zero Trust Architecture
    เป็นผู้ร่วมพัฒนาโครงการโอเพนซอร์ส CNCF เช่น KubeArmor และ ModelArmor

    ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
    เพิ่ม Visibility และ Runtime Protection ที่ปรับขยายได้
    Compliance อัตโนมัติ รองรับข้อกำหนดเข้มงวดในเกาหลีใต้

    ความท้าทายและคำเตือน
    ภัยคุกคามไซเบอร์ในภูมิภาคมีความซับซ้อนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    การเร่งนำระบบคลาวด์และ AI มาใช้ อาจเพิ่มช่องโหว่ใหม่ที่ต้องจัดการอย่างจริงจัง

    https://securityonline.info/frentree-partners-with-accuknox-to-expand-zero-trust-cnapp-security-in-south-korea/
    🌐 Frentree จับมือ AccuKnox ขยาย Zero Trust CNAPP ในเกาหลีใต้ Frentree บริษัทโซลูชันด้านความปลอดภัยไซเบอร์จากเกาหลีใต้ ได้ประกาศความร่วมมือกับ AccuKnox ผู้เชี่ยวชาญด้าน Zero Trust CNAPP (Cloud-Native Application Protection Platform) เพื่อเสริมความปลอดภัยให้กับองค์กรในภูมิภาค โดยความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับการป้องกันภัยคุกคามในระบบคลาวด์ คอนเทนเนอร์ และ AI workloads ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดเกาหลีใต้ การจับมือครั้งนี้เกิดขึ้นจากความต้องการขององค์กรในเกาหลีใต้ที่ต้องการระบบ Visibility ครอบคลุม, Runtime Protection ที่ปรับขยายได้ และ Compliance อัตโนมัติ เพื่อรับมือกับการโจมตีไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น โดย Frentree เลือก AccuKnox เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม Zero Trust และเป็นผู้ร่วมพัฒนาโครงการโอเพนซอร์ส CNCF เช่น KubeArmor และ ModelArmor ซึ่งช่วยให้แพลตฟอร์มมีความยืดหยุ่นและน่าเชื่อถือ ในเชิงกลยุทธ์ ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงการที่ตลาดเกาหลีใต้กำลังเร่งการนำระบบคลาวด์มาใช้ในภาคการเงินและองค์กรขนาดใหญ่ การมีโซลูชันที่สามารถตรวจสอบและป้องกันภัยคุกคามได้ตั้งแต่ระดับโค้ดจนถึงการทำงานจริง จึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและผู้ลงทุน อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวดในภูมิภาค นอกจากนี้ แนวโน้มระดับโลกยังชี้ให้เห็นว่า Zero Trust และ CNAPP กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ในการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่มีการลงทุนด้าน AI และคลาวด์สูง การที่ Frentree และ AccuKnox ร่วมมือกันจึงไม่เพียงแต่เป็นการเสริมความปลอดภัย แต่ยังเป็นการสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ความร่วมมือ Frentree – AccuKnox ➡️ เสริมความปลอดภัยไซเบอร์ในเกาหลีใต้ ➡️ เน้นระบบ Zero Trust CNAPP ครอบคลุมคลาวด์ คอนเทนเนอร์ และ AI workloads ✅ จุดเด่นของ AccuKnox ➡️ มีความเชี่ยวชาญด้าน Zero Trust Architecture ➡️ เป็นผู้ร่วมพัฒนาโครงการโอเพนซอร์ส CNCF เช่น KubeArmor และ ModelArmor ✅ ผลลัพธ์ที่คาดหวัง ➡️ เพิ่ม Visibility และ Runtime Protection ที่ปรับขยายได้ ➡️ Compliance อัตโนมัติ รองรับข้อกำหนดเข้มงวดในเกาหลีใต้ ‼️ ความท้าทายและคำเตือน ⛔ ภัยคุกคามไซเบอร์ในภูมิภาคมีความซับซ้อนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ⛔ การเร่งนำระบบคลาวด์และ AI มาใช้ อาจเพิ่มช่องโหว่ใหม่ที่ต้องจัดการอย่างจริงจัง https://securityonline.info/frentree-partners-with-accuknox-to-expand-zero-trust-cnapp-security-in-south-korea/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • Alice Blue จับมือ AccuKnox เสริมความปลอดภัยและการกำกับดูแล

    Alice Blue บริษัทด้านการเงินและโบรกเกอร์ชั้นนำของอินเดีย ได้ประกาศความร่วมมือกับ AccuKnox ผู้เชี่ยวชาญด้าน Zero Trust CNAPP (Cloud-Native Application Protection Platform) เพื่อยกระดับมาตรการความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎหมายการเงิน โดยความร่วมมือนี้ดำเนินการผ่านพันธมิตร Airowire ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลักดันโซลูชันด้านความปลอดภัยสู่ตลาดที่มีการกำกับดูแลเข้มงวด

    การตัดสินใจเลือก AccuKnox เกิดขึ้นหลังจาก Alice Blue ได้ทำการประเมินผู้ให้บริการหลายราย โดยพบว่าแพลตฟอร์ม Zero Trust CNAPP ของ AccuKnox มีความโดดเด่นในด้านการทำงานแบบ Agentless ลดภาระการดูแลระบบ และสามารถปรับใช้ได้รวดเร็ว พร้อมทั้งสอดคล้องกับมาตรฐานสำคัญ เช่น RBI, SEBI, PCI-DSS, ISO และ SOC 2 ซึ่งเป็นข้อกำหนดหลักในอุตสาหกรรมการเงินของอินเดีย

    นอกจากการเสริมความปลอดภัยแล้ว ความร่วมมือนี้ยังช่วยให้ Alice Blue สามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ด้วยระบบที่มีการตรวจสอบและป้องกันภัยคุกคามแบบต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับโค้ดไปจนถึงการทำงานจริงในระบบคลาวด์และ AI workloads อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินงาน ซึ่งถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการในตลาดการเงินที่แข่งขันสูง

    ในมุมมองที่กว้างขึ้น ความร่วมมือเช่นนี้สะท้อนถึงแนวโน้มที่สถาบันการเงินทั่วโลกกำลังหันมาใช้แนวคิด Zero Trust และ CNAPP เพื่อรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่การทำงานบนระบบคลาวด์และ AI มีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจ การลงทุนในโครงสร้างความปลอดภัยที่แข็งแกร่งจึงไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่ยังเป็นการสร้างความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์อีกด้วย

    สรุปสาระสำคัญ
    ความร่วมมือ Alice Blue – AccuKnox
    เสริมความปลอดภัยและการกำกับดูแลในระบบการเงินอินเดีย
    ใช้ Zero Trust CNAPP แบบ Agentless ลดภาระการจัดการ

    มาตรฐานการกำกับดูแลที่รองรับ
    สอดคล้องกับ RBI, SEBI, PCI-DSS, ISO และ SOC 2
    เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าและผู้ลงทุน

    ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากความร่วมมือ
    การตรวจสอบและป้องกันภัยคุกคามแบบต่อเนื่อง
    ลดความเสี่ยงและเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินงาน

    ความท้าทายและคำเตือน
    ภัยคุกคามไซเบอร์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อาจต้องปรับปรุงระบบตลอดเวลา
    การพึ่งพาโครงสร้างคลาวด์และ AI ทำให้ต้องเผชิญความเสี่ยงใหม่ที่ซับซ้อนมากขึ้น

    https://securityonline.info/alice-blue-partners-with-accuknox-for-regulatory-compliance/
    🛡️ Alice Blue จับมือ AccuKnox เสริมความปลอดภัยและการกำกับดูแล Alice Blue บริษัทด้านการเงินและโบรกเกอร์ชั้นนำของอินเดีย ได้ประกาศความร่วมมือกับ AccuKnox ผู้เชี่ยวชาญด้าน Zero Trust CNAPP (Cloud-Native Application Protection Platform) เพื่อยกระดับมาตรการความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎหมายการเงิน โดยความร่วมมือนี้ดำเนินการผ่านพันธมิตร Airowire ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลักดันโซลูชันด้านความปลอดภัยสู่ตลาดที่มีการกำกับดูแลเข้มงวด การตัดสินใจเลือก AccuKnox เกิดขึ้นหลังจาก Alice Blue ได้ทำการประเมินผู้ให้บริการหลายราย โดยพบว่าแพลตฟอร์ม Zero Trust CNAPP ของ AccuKnox มีความโดดเด่นในด้านการทำงานแบบ Agentless ลดภาระการดูแลระบบ และสามารถปรับใช้ได้รวดเร็ว พร้อมทั้งสอดคล้องกับมาตรฐานสำคัญ เช่น RBI, SEBI, PCI-DSS, ISO และ SOC 2 ซึ่งเป็นข้อกำหนดหลักในอุตสาหกรรมการเงินของอินเดีย นอกจากการเสริมความปลอดภัยแล้ว ความร่วมมือนี้ยังช่วยให้ Alice Blue สามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ด้วยระบบที่มีการตรวจสอบและป้องกันภัยคุกคามแบบต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับโค้ดไปจนถึงการทำงานจริงในระบบคลาวด์และ AI workloads อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินงาน ซึ่งถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการในตลาดการเงินที่แข่งขันสูง ในมุมมองที่กว้างขึ้น ความร่วมมือเช่นนี้สะท้อนถึงแนวโน้มที่สถาบันการเงินทั่วโลกกำลังหันมาใช้แนวคิด Zero Trust และ CNAPP เพื่อรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่การทำงานบนระบบคลาวด์และ AI มีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจ การลงทุนในโครงสร้างความปลอดภัยที่แข็งแกร่งจึงไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่ยังเป็นการสร้างความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์อีกด้วย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ความร่วมมือ Alice Blue – AccuKnox ➡️ เสริมความปลอดภัยและการกำกับดูแลในระบบการเงินอินเดีย ➡️ ใช้ Zero Trust CNAPP แบบ Agentless ลดภาระการจัดการ ✅ มาตรฐานการกำกับดูแลที่รองรับ ➡️ สอดคล้องกับ RBI, SEBI, PCI-DSS, ISO และ SOC 2 ➡️ เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าและผู้ลงทุน ✅ ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากความร่วมมือ ➡️ การตรวจสอบและป้องกันภัยคุกคามแบบต่อเนื่อง ➡️ ลดความเสี่ยงและเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินงาน ‼️ ความท้าทายและคำเตือน ⛔ ภัยคุกคามไซเบอร์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อาจต้องปรับปรุงระบบตลอดเวลา ⛔ การพึ่งพาโครงสร้างคลาวด์และ AI ทำให้ต้องเผชิญความเสี่ยงใหม่ที่ซับซ้อนมากขึ้น https://securityonline.info/alice-blue-partners-with-accuknox-for-regulatory-compliance/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVMe Destroyinator: เครื่องลบข้อมูลความเร็วสูง

    อุปกรณ์ NVMe Destroyinator ถูกออกแบบมาเพื่อการ ลบข้อมูลอย่างปลอดภัยและตรวจสอบได้ โดยสามารถจัดการไดรฟ์หลายประเภท เช่น M.2, E1.S EDSFF และไดรฟ์ 2.5 นิ้ว ทั้งแบบ SATA, SAS และ NVMe จุดเด่นคือสามารถลบข้อมูลได้พร้อมกันถึง 16 ไดรฟ์ในเวลาเดียวกัน และสร้าง ใบรับรองการลบข้อมูล (tamper-proof certificates) เพื่อยืนยันการทำงานตามมาตรฐานสากล เช่น HIPAA, NIST 800-88 และ U.S. DoD

    ความเร็วและฟีเจอร์
    Destroyinator ใช้ระบบที่ติดตั้ง Linux Mint และซอฟต์แวร์ KillDisk ทำให้สามารถลบข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 64 GB/s พร้อมฟังก์ชัน Hot-swap ที่ช่วยให้สามารถเปลี่ยนไดรฟ์ได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง นอกจากนี้ยังมีระบบอัตโนมัติในการพิมพ์ใบรับรองและการโคลนไดรฟ์เพื่อการใช้งานต่อ

    การใช้งานในตลาด
    อุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับ บริษัทรีไซเคิลอุปกรณ์ไอที (IT e-recyclers) และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยข้อมูล ที่ต้องการลบข้อมูลจำนวนมากอย่างรวดเร็วและตรวจสอบได้ นอกจากการทำลายข้อมูลแล้ว ยังช่วยให้สามารถนำไดรฟ์ไปขายต่อได้โดยไม่เสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล

    ข้อควรระวัง
    แม้ Destroyinator จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ก็ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป เนื่องจากราคาสูงและการใช้งานที่ซับซ้อน ผู้ใช้ทั่วไปอาจเลือกวิธีการลบข้อมูลแบบ DIY หรือใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญแทน

    สรุปสาระสำคัญ
    คุณสมบัติหลักของ NVMe Destroyinator
    ลบข้อมูลได้พร้อมกันสูงสุด 16 ไดรฟ์
    ความเร็วสูงสุด 64 GB/s
    รองรับ NVMe, SATA และ SAS

    ฟีเจอร์เสริม
    สร้างใบรับรองการลบข้อมูลที่ตรวจสอบได้
    ระบบ Hot-swap และการโคลนไดรฟ์
    ใช้ Linux Mint และ KillDisk

    การใช้งานในตลาด
    เหมาะสำหรับบริษัทรีไซเคิลอุปกรณ์ไอที
    ช่วยให้สามารถขายต่อไดรฟ์ได้โดยปลอดภัย

    ข้อควรระวัง
    ราคาสูง ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป
    การใช้งานซับซ้อน ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ
    ผู้ใช้ทั่วไปควรเลือกวิธีการลบข้อมูลแบบอื่นที่ง่ายกว่า

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/the-nvme-destroyinator-can-wipe-16-nvme-drives-simultaneously-at-speeds-up-to-64-gb-s-it-could-be-the-data-shredder-of-your-dreams-or-nightmares
    🗜️ NVMe Destroyinator: เครื่องลบข้อมูลความเร็วสูง อุปกรณ์ NVMe Destroyinator ถูกออกแบบมาเพื่อการ ลบข้อมูลอย่างปลอดภัยและตรวจสอบได้ โดยสามารถจัดการไดรฟ์หลายประเภท เช่น M.2, E1.S EDSFF และไดรฟ์ 2.5 นิ้ว ทั้งแบบ SATA, SAS และ NVMe จุดเด่นคือสามารถลบข้อมูลได้พร้อมกันถึง 16 ไดรฟ์ในเวลาเดียวกัน และสร้าง ใบรับรองการลบข้อมูล (tamper-proof certificates) เพื่อยืนยันการทำงานตามมาตรฐานสากล เช่น HIPAA, NIST 800-88 และ U.S. DoD ⚡ ความเร็วและฟีเจอร์ Destroyinator ใช้ระบบที่ติดตั้ง Linux Mint และซอฟต์แวร์ KillDisk ทำให้สามารถลบข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 64 GB/s พร้อมฟังก์ชัน Hot-swap ที่ช่วยให้สามารถเปลี่ยนไดรฟ์ได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง นอกจากนี้ยังมีระบบอัตโนมัติในการพิมพ์ใบรับรองและการโคลนไดรฟ์เพื่อการใช้งานต่อ 🌍 การใช้งานในตลาด อุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับ บริษัทรีไซเคิลอุปกรณ์ไอที (IT e-recyclers) และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยข้อมูล ที่ต้องการลบข้อมูลจำนวนมากอย่างรวดเร็วและตรวจสอบได้ นอกจากการทำลายข้อมูลแล้ว ยังช่วยให้สามารถนำไดรฟ์ไปขายต่อได้โดยไม่เสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล ⚠️ ข้อควรระวัง แม้ Destroyinator จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ก็ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป เนื่องจากราคาสูงและการใช้งานที่ซับซ้อน ผู้ใช้ทั่วไปอาจเลือกวิธีการลบข้อมูลแบบ DIY หรือใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญแทน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ คุณสมบัติหลักของ NVMe Destroyinator ➡️ ลบข้อมูลได้พร้อมกันสูงสุด 16 ไดรฟ์ ➡️ ความเร็วสูงสุด 64 GB/s ➡️ รองรับ NVMe, SATA และ SAS ✅ ฟีเจอร์เสริม ➡️ สร้างใบรับรองการลบข้อมูลที่ตรวจสอบได้ ➡️ ระบบ Hot-swap และการโคลนไดรฟ์ ➡️ ใช้ Linux Mint และ KillDisk ✅ การใช้งานในตลาด ➡️ เหมาะสำหรับบริษัทรีไซเคิลอุปกรณ์ไอที ➡️ ช่วยให้สามารถขายต่อไดรฟ์ได้โดยปลอดภัย ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ราคาสูง ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป ⛔ การใช้งานซับซ้อน ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปควรเลือกวิธีการลบข้อมูลแบบอื่นที่ง่ายกว่า https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/the-nvme-destroyinator-can-wipe-16-nvme-drives-simultaneously-at-speeds-up-to-64-gb-s-it-could-be-the-data-shredder-of-your-dreams-or-nightmares
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • “MP944 – ไมโครโปรเซสเซอร์ตัวแรกของโลกที่ถูกซ่อนอยู่ใน F-14 Tomcat”

    ไมโครโปรเซสเซอร์ MP944 ถูกออกแบบโดยทีมวิศวกรประมาณ 25 คน นำโดย Steve Geller และ Ray Holt เพื่อใช้ใน Central Air Data Computer (CADC) ของเครื่องบินรบ F-14 Tomcat จุดเด่นคือสามารถคำนวณพารามิเตอร์การบินแบบเรียลไทม์ เช่น ความสูง ความเร็ว และ Mach number เพื่อควบคุมระบบปีกกวาดของ F-14 ได้อย่างแม่นยำ

    สิ่งที่ทำให้ MP944 น่าทึ่งคือมันถูกสร้างขึ้น ก่อน Intel 4004 กว่าหนึ่งปี โดยเริ่มใช้งานจริงในเดือนมิถุนายน 1970 ขณะที่ Intel 4004 เปิดตัวเชิงพาณิชย์ในเดือนพฤศจิกายน 1971 และยังมีประสิทธิภาพสูงกว่า โดยสามารถทำงานได้เร็วกว่า 8 เท่า เพื่อรองรับการคำนวณเชิงซับซ้อนของระบบการบิน

    อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นโครงการลับทางทหาร ข้อมูลของ MP944 ถูกปิดเป็นความลับจนถึงปี 1998 เมื่อเอกสารถูกปลดชั้นความลับ ทำให้โลกเพิ่งรู้ว่ามีไมโครโปรเซสเซอร์ที่เกิดขึ้นก่อน Intel 4004 และมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีการบิน

    คุณสมบัติทางเทคนิคที่โดดเด่น
    ใช้สถาปัตยกรรม 20-bit pipelined parallel multi-microprocessor
    ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 375 kHz
    ประสิทธิภาพการประมวลผล 9,375 คำสั่งต่อวินาที
    ทนต่ออุณหภูมิสุดขั้วตั้งแต่ -55°C ถึง +125°C
    มีระบบ self-diagnosis และสามารถสลับไปยังหน่วยสำรองภายใน 1/18 วินาทีเมื่อพบความผิดพลาด

    สรุปสาระสำคัญ
    การพัฒนาและการใช้งาน
    พัฒนาโดย Steve Geller และ Ray Holt สำหรับ F-14 Tomcat
    เริ่มใช้งานจริงในปี 1970 ก่อน Intel 4004

    ความเหนือกว่า Intel 4004
    เร็วกว่าถึง 8 เท่า
    รองรับการคำนวณซับซ้อนของระบบการบิน

    คุณสมบัติพิเศษ
    สถาปัตยกรรม 20-bit pipelined parallel
    ระบบ self-diagnosis และสลับหน่วยสำรองอัตโนมัติ

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ถูกเก็บเป็นความลับทางทหารนานกว่า 25 ปี
    ไม่ถูกนับรวมในประวัติศาสตร์เชิงพาณิชย์ของไมโครโปรเซสเซอร์
    หากถูกเปิดเผยตั้งแต่ต้น อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์อาจมีเส้นทางพัฒนาแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/the-mp944-was-the-real-worlds-first-microprocessor-and-key-to-the-flight-of-the-f-14-tomcat-but-it-lived-in-the-shadow-of-the-intel-4004-for-nearly-30-years
    ✈️ “MP944 – ไมโครโปรเซสเซอร์ตัวแรกของโลกที่ถูกซ่อนอยู่ใน F-14 Tomcat” ไมโครโปรเซสเซอร์ MP944 ถูกออกแบบโดยทีมวิศวกรประมาณ 25 คน นำโดย Steve Geller และ Ray Holt เพื่อใช้ใน Central Air Data Computer (CADC) ของเครื่องบินรบ F-14 Tomcat จุดเด่นคือสามารถคำนวณพารามิเตอร์การบินแบบเรียลไทม์ เช่น ความสูง ความเร็ว และ Mach number เพื่อควบคุมระบบปีกกวาดของ F-14 ได้อย่างแม่นยำ สิ่งที่ทำให้ MP944 น่าทึ่งคือมันถูกสร้างขึ้น ก่อน Intel 4004 กว่าหนึ่งปี โดยเริ่มใช้งานจริงในเดือนมิถุนายน 1970 ขณะที่ Intel 4004 เปิดตัวเชิงพาณิชย์ในเดือนพฤศจิกายน 1971 และยังมีประสิทธิภาพสูงกว่า โดยสามารถทำงานได้เร็วกว่า 8 เท่า เพื่อรองรับการคำนวณเชิงซับซ้อนของระบบการบิน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นโครงการลับทางทหาร ข้อมูลของ MP944 ถูกปิดเป็นความลับจนถึงปี 1998 เมื่อเอกสารถูกปลดชั้นความลับ ทำให้โลกเพิ่งรู้ว่ามีไมโครโปรเซสเซอร์ที่เกิดขึ้นก่อน Intel 4004 และมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีการบิน 🔧 คุณสมบัติทางเทคนิคที่โดดเด่น 🔰 ใช้สถาปัตยกรรม 20-bit pipelined parallel multi-microprocessor 🔰 ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 375 kHz 🔰 ประสิทธิภาพการประมวลผล 9,375 คำสั่งต่อวินาที 🔰 ทนต่ออุณหภูมิสุดขั้วตั้งแต่ -55°C ถึง +125°C 🔰 มีระบบ self-diagnosis และสามารถสลับไปยังหน่วยสำรองภายใน 1/18 วินาทีเมื่อพบความผิดพลาด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การพัฒนาและการใช้งาน ➡️ พัฒนาโดย Steve Geller และ Ray Holt สำหรับ F-14 Tomcat ➡️ เริ่มใช้งานจริงในปี 1970 ก่อน Intel 4004 ✅ ความเหนือกว่า Intel 4004 ➡️ เร็วกว่าถึง 8 เท่า ➡️ รองรับการคำนวณซับซ้อนของระบบการบิน ✅ คุณสมบัติพิเศษ ➡️ สถาปัตยกรรม 20-bit pipelined parallel ➡️ ระบบ self-diagnosis และสลับหน่วยสำรองอัตโนมัติ ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ถูกเก็บเป็นความลับทางทหารนานกว่า 25 ปี ⛔ ไม่ถูกนับรวมในประวัติศาสตร์เชิงพาณิชย์ของไมโครโปรเซสเซอร์ ⛔ หากถูกเปิดเผยตั้งแต่ต้น อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์อาจมีเส้นทางพัฒนาแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/the-mp944-was-the-real-worlds-first-microprocessor-and-key-to-the-flight-of-the-f-14-tomcat-but-it-lived-in-the-shadow-of-the-intel-4004-for-nearly-30-years
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    The MP944 was the ‘real’ world’s first microprocessor, but it was top secret for nearly 30 years — F-14 Tomcat's chip lived in the shadow of the Intel 4004, but was eight times faster
    This pioneering microprocessor was a classified military secret from 1970 to 1989, as a vital part of an advanced fighter aircraft’s control systems.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI และโซเชียลมีเดีย กำลังทำให้สมองเสื่อมคุณภาพ (‘Brain Rot’)”

    งานวิจัยจาก Wharton และ MIT พบว่า การใช้ AI Chatbot และ AI Search Tools ทำให้ผู้ใช้ผลิตเนื้อหาที่ ซ้ำซากและไร้ความลึก เมื่อเทียบกับการค้นหาข้อมูลแบบดั้งเดิม เช่น Google Search ผู้ใช้ที่พึ่งพา AI มักไม่สามารถจดจำสิ่งที่เขียนเองได้ และมีการทำงานของสมองต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด

    คำว่า “Brain Rot” ถูก Oxford English Dictionary ยกให้เป็นคำแห่งปี 2024 หมายถึงสภาวะที่สมองเสื่อมคุณภาพจากการเสพคอนเทนต์สั้น ๆ เช่น TikTok และ Instagram ซึ่งทำให้ผู้ใช้ติดการเลื่อนหน้าจอโดยไม่สร้างการเรียนรู้เชิงลึก ปัญหานี้ยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อผนวกกับการใช้ AI ที่ทำให้การค้นคว้ากลายเป็นกระบวนการแบบ Passive

    ข้อมูลจากการสอบ National Assessment of Educational Progress (NAEP) ในสหรัฐฯ ชี้ว่า คะแนนการอ่านของนักเรียนมัธยมต้นและปลายตกต่ำที่สุดในรอบหลายปีหลังโควิด-19 ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับการใช้โซเชียลมีเดียและการพึ่งพา AI ในการเรียนรู้

    แม้จะมีข้อกังวล แต่ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวทางว่า การใช้ AI อย่างมีสติ เช่น เริ่มต้นด้วยการคิดเองก่อน แล้วใช้ AI เพื่อตรวจสอบหรือปรับปรุงงาน จะช่วยให้สมองยังคงทำงานเชิงรุก และลดผลกระทบของ “Brain Rot” ได้

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลการวิจัยเกี่ยวกับ AI
    ผู้ใช้ Chatbot ผลิตเนื้อหาที่ซ้ำซากและไร้ความลึก
    การทำงานของสมองลดลงเมื่อพึ่งพา AI
    ผู้ใช้ไม่สามารถจดจำสิ่งที่เขียนเองได้

    ผลกระทบจากโซเชียลมีเดีย
    TikTok และ Instagram ทำให้ผู้ใช้ติดคอนเทนต์สั้น ๆ
    “Brain Rot” ถูกยกเป็นคำแห่งปี 2024
    การเสพคอนเทนต์แบบ Passive ลดการเรียนรู้เชิงลึก

    ผลต่อเยาวชนและการศึกษา
    คะแนนการอ่านของนักเรียนสหรัฐฯ ตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี
    นักวิจัยเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับการใช้โซเชียลมีเดียและ AI

    คำเตือนจากบทความ
    การพึ่งพา AI และโซเชียลมีเดียมากเกินไปอาจทำให้สมองเสื่อมคุณภาพ
    เยาวชนเสี่ยงต่อการสูญเสียทักษะการคิดวิเคราะห์และการจดจำ
    หากไม่ปรับการใช้เทคโนโลยี อาจกระทบต่อระบบการศึกษาและคุณภาพแรงงานในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/17/how-ai-and-social-media-contribute-to-brain-rot
    🧠 “AI และโซเชียลมีเดีย กำลังทำให้สมองเสื่อมคุณภาพ (‘Brain Rot’)” งานวิจัยจาก Wharton และ MIT พบว่า การใช้ AI Chatbot และ AI Search Tools ทำให้ผู้ใช้ผลิตเนื้อหาที่ ซ้ำซากและไร้ความลึก เมื่อเทียบกับการค้นหาข้อมูลแบบดั้งเดิม เช่น Google Search ผู้ใช้ที่พึ่งพา AI มักไม่สามารถจดจำสิ่งที่เขียนเองได้ และมีการทำงานของสมองต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด คำว่า “Brain Rot” ถูก Oxford English Dictionary ยกให้เป็นคำแห่งปี 2024 หมายถึงสภาวะที่สมองเสื่อมคุณภาพจากการเสพคอนเทนต์สั้น ๆ เช่น TikTok และ Instagram ซึ่งทำให้ผู้ใช้ติดการเลื่อนหน้าจอโดยไม่สร้างการเรียนรู้เชิงลึก ปัญหานี้ยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อผนวกกับการใช้ AI ที่ทำให้การค้นคว้ากลายเป็นกระบวนการแบบ Passive ข้อมูลจากการสอบ National Assessment of Educational Progress (NAEP) ในสหรัฐฯ ชี้ว่า คะแนนการอ่านของนักเรียนมัธยมต้นและปลายตกต่ำที่สุดในรอบหลายปีหลังโควิด-19 ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับการใช้โซเชียลมีเดียและการพึ่งพา AI ในการเรียนรู้ แม้จะมีข้อกังวล แต่ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวทางว่า การใช้ AI อย่างมีสติ เช่น เริ่มต้นด้วยการคิดเองก่อน แล้วใช้ AI เพื่อตรวจสอบหรือปรับปรุงงาน จะช่วยให้สมองยังคงทำงานเชิงรุก และลดผลกระทบของ “Brain Rot” ได้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลการวิจัยเกี่ยวกับ AI ➡️ ผู้ใช้ Chatbot ผลิตเนื้อหาที่ซ้ำซากและไร้ความลึก ➡️ การทำงานของสมองลดลงเมื่อพึ่งพา AI ➡️ ผู้ใช้ไม่สามารถจดจำสิ่งที่เขียนเองได้ ✅ ผลกระทบจากโซเชียลมีเดีย ➡️ TikTok และ Instagram ทำให้ผู้ใช้ติดคอนเทนต์สั้น ๆ ➡️ “Brain Rot” ถูกยกเป็นคำแห่งปี 2024 ➡️ การเสพคอนเทนต์แบบ Passive ลดการเรียนรู้เชิงลึก ✅ ผลต่อเยาวชนและการศึกษา ➡️ คะแนนการอ่านของนักเรียนสหรัฐฯ ตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี ➡️ นักวิจัยเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับการใช้โซเชียลมีเดียและ AI ‼️ คำเตือนจากบทความ ⛔ การพึ่งพา AI และโซเชียลมีเดียมากเกินไปอาจทำให้สมองเสื่อมคุณภาพ ⛔ เยาวชนเสี่ยงต่อการสูญเสียทักษะการคิดวิเคราะห์และการจดจำ ⛔ หากไม่ปรับการใช้เทคโนโลยี อาจกระทบต่อระบบการศึกษาและคุณภาพแรงงานในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/17/how-ai-and-social-media-contribute-to-brain-rot
    WWW.THESTAR.COM.MY
    How AI and social media contribute to 'brain rot'
    A.I. search tools, chatbots and social media are associated with lower cognitive performance, studies say. What to do?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts