• แม่น้ำปิงเอ่อล้นตลิ่งท่วมในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ ทั้งย่านชุมชนอยู่อาศัยและย่านเศรษฐกิจการค้า ขยายวงกว้างต่อเนื่องรัศมี 1.5 กิโลเมตร ขณะที่ระดับน้ำยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุพื้นที่ต้นน้ำโดนฝนกระหน่ำหนัก คาดมวลน้ำก้อนใหญ่มาถึงคืนนี้และอาจสูงถึง 5.5 เมตร เบื้องต้นประกาศแจ้งเตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อมรับสถานการณ์แล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094032

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    แม่น้ำปิงเอ่อล้นตลิ่งท่วมในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ ทั้งย่านชุมชนอยู่อาศัยและย่านเศรษฐกิจการค้า ขยายวงกว้างต่อเนื่องรัศมี 1.5 กิโลเมตร ขณะที่ระดับน้ำยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุพื้นที่ต้นน้ำโดนฝนกระหน่ำหนัก คาดมวลน้ำก้อนใหญ่มาถึงคืนนี้และอาจสูงถึง 5.5 เมตร เบื้องต้นประกาศแจ้งเตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อมรับสถานการณ์แล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094032 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • ”วิสุทธิ์“ บอกไม่รู้ตอนนี้ “พิศาล” อยู่ไหน วิปรัฐบาลไม่มีหน้าที่ตามจับใคร ยันไม่ได้ปกป้อง แต่ต้องยึดตามรธน. ระหว่างสมัยประชุม ห้ามจับกุมคุมขัง สส. เว้นแต่สภาฯ อนุญาต ข้องใจเจตนา “โรม” ชงกระทู้ปมตากใบเพื่ออะไรหวั่นทำสังคมแตกแยก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094019

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ”วิสุทธิ์“ บอกไม่รู้ตอนนี้ “พิศาล” อยู่ไหน วิปรัฐบาลไม่มีหน้าที่ตามจับใคร ยันไม่ได้ปกป้อง แต่ต้องยึดตามรธน. ระหว่างสมัยประชุม ห้ามจับกุมคุมขัง สส. เว้นแต่สภาฯ อนุญาต ข้องใจเจตนา “โรม” ชงกระทู้ปมตากใบเพื่ออะไรหวั่นทำสังคมแตกแยก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094019 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชีวิตคือสมมุติ TikTok@yuija6055 #ซีรีส์ #หวังอันอวี่wanganyu #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    ชีวิตคือสมมุติ TikTok@yuija6055 #ซีรีส์ #หวังอันอวี่wanganyu #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 117 0 รีวิว
  • เล่าเรื่อง TikTok@mgronline #mgronline #news1 #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    เล่าเรื่อง TikTok@mgronline #mgronline #news1 #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 206 0 รีวิว
  • สมุนไพรสยามไภษัชย์ โดยคุณ วิลิต เตชะไพบูลย์
    เรามุ้งเน้นส่งมอบเพื่อดูเเลสุขภาพด้วยสมุนไพรไทยแบบองค์รวม

    มีผลิตภัณฑ์ภายใต้ สยามไภษัชย์
    🍃 VILITA : ยาอม , ยาน้ำบรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ ผสมมะขามป้อม , ยาระบายมะขามแขก : ชนิดแคปซูล
    🍃 HERBATIKA ชาสมุนไพร : ปรับสมดุลธาตุเจ้าเรือน , สบู่สมุนไพรธาตุเจ้าเรือน , กระเป๋าผ้า HERBATIKA กระเป๋านวัตกรรมผ้าพิมพ์สี จากธรรมชาติ (Eco Print Natural Bag)
    .
    สนใจผลิตภัณฑ์และขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่…
    Line OA : https://lin.ee/MOFhjQs
    Facebook : https://www.facebook.com/qr?id=100090076934583
    #โปรโมชั่นสุดคุ้ม #ผลิตภัณฑ์สมุนไพร #ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม #สยามไภษัชย์ #วิลิตา #เฮอร์บาติก้า #Siamphaisat #Vilita #Herbatika #thaitimes
    สมุนไพรสยามไภษัชย์ โดยคุณ วิลิต เตชะไพบูลย์ เรามุ้งเน้นส่งมอบเพื่อดูเเลสุขภาพด้วยสมุนไพรไทยแบบองค์รวม มีผลิตภัณฑ์ภายใต้ สยามไภษัชย์ 🍃 VILITA : ยาอม , ยาน้ำบรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ ผสมมะขามป้อม , ยาระบายมะขามแขก : ชนิดแคปซูล 🍃 HERBATIKA ชาสมุนไพร : ปรับสมดุลธาตุเจ้าเรือน , สบู่สมุนไพรธาตุเจ้าเรือน , กระเป๋าผ้า HERBATIKA กระเป๋านวัตกรรมผ้าพิมพ์สี จากธรรมชาติ (Eco Print Natural Bag) . สนใจผลิตภัณฑ์และขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่… Line OA : https://lin.ee/MOFhjQs Facebook : https://www.facebook.com/qr?id=100090076934583 #โปรโมชั่นสุดคุ้ม #ผลิตภัณฑ์สมุนไพร #ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม #สยามไภษัชย์ #วิลิตา #เฮอร์บาติก้า #Siamphaisat #Vilita #Herbatika #thaitimes
    Like
    Yay
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • เล่าข่าว TikTok@newsonetiktok #news1 #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    เล่าข่าว TikTok@newsonetiktok #news1 #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Like
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 277 0 รีวิว
  • RegeneLife Vital Center ศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพองค์รวม แผนกแพทย์แผนจีน เรามุ่งเน้นการดูแลปรับสมดุลร่างกาย อย่างครอบคลุมในเชิงป้องกันและบำบัดรักษา จากการวินิจฉัยอย่างละเอียดโดยการดูลิ้น จับชีพจร(แมะ) และเลือกหัตถการการรักษาที่ตรงจุด อาทิ การฝังเข็ม ครอบแก้ว รมยา กวาซา แปะเมล็ดผักกาด แช่เท้า อบตัวสมุนไพรจีน รวมทั้งจ่ายยาจีน ซึ่งมีทั้งในรูปแบบยาต้ม และยาแคปซูล ปรับเปลี่ยนตามสภาวะร่างกายของผู้รับบริการในแต่ละช่วงได้อย่างใกล้ชิด
    นอกจากทางศูนย์จะผ่านการรับรองตามมาตรฐาน ยังตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ทั้งโดย BTSราชดำริ และ MRT สีลม หมดความกังวลใจเรื่องที่จอดรถ เพราะทางเรามีบริการลานจอดรถที่รองรับผู้ใช้บริการอย่างกว้างขวาง
    จองคิวล่วงหน้าหรือสอบถามเพิ่มเติม
    💙 RVC Clinic Rajadamri
    ✅Line : @rvc.official https://lin.ee/9azUqvQ
    📞 phone : 083-9485178
    💙 Facebook : https://www.facebook.com/Regenelife?mibextid=uzlsIk
    💖Instagram: https://www.instagram.com/rvc_rajadamri...
    🌟TikTok : rvc.official
    📍5th Fl. Regent House 2 building
    https://maps.app.goo.gl/UgibdJL3NQibkYae9?g_st=ic
    ฝังเข็ม #ออฟฟิศซินโดรม #ครอบแก้ว #แพทย์แผนจีน #chinesemedicine #acupuncture #cupping #ราชดำริ #สวนลุมพินี #นอนไม่หลับ #หลับยาก #หน้าใส #ฝังเข็มหน้าใส #RegeneLife #regenelifevitalcenter #thaitimes
    RegeneLife Vital Center ศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพองค์รวม แผนกแพทย์แผนจีน เรามุ่งเน้นการดูแลปรับสมดุลร่างกาย อย่างครอบคลุมในเชิงป้องกันและบำบัดรักษา จากการวินิจฉัยอย่างละเอียดโดยการดูลิ้น จับชีพจร(แมะ) และเลือกหัตถการการรักษาที่ตรงจุด อาทิ การฝังเข็ม ครอบแก้ว รมยา กวาซา แปะเมล็ดผักกาด แช่เท้า อบตัวสมุนไพรจีน รวมทั้งจ่ายยาจีน ซึ่งมีทั้งในรูปแบบยาต้ม และยาแคปซูล ปรับเปลี่ยนตามสภาวะร่างกายของผู้รับบริการในแต่ละช่วงได้อย่างใกล้ชิด นอกจากทางศูนย์จะผ่านการรับรองตามมาตรฐาน ยังตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ทั้งโดย BTSราชดำริ และ MRT สีลม หมดความกังวลใจเรื่องที่จอดรถ เพราะทางเรามีบริการลานจอดรถที่รองรับผู้ใช้บริการอย่างกว้างขวาง จองคิวล่วงหน้าหรือสอบถามเพิ่มเติม 💙 RVC Clinic Rajadamri ✅Line : @rvc.official https://lin.ee/9azUqvQ 📞 phone : 083-9485178 💙 Facebook : https://www.facebook.com/Regenelife?mibextid=uzlsIk 💖Instagram: https://www.instagram.com/rvc_rajadamri... 🌟TikTok : rvc.official 📍5th Fl. Regent House 2 building https://maps.app.goo.gl/UgibdJL3NQibkYae9?g_st=ic ฝังเข็ม #ออฟฟิศซินโดรม #ครอบแก้ว #แพทย์แผนจีน #chinesemedicine #acupuncture #cupping #ราชดำริ #สวนลุมพินี #นอนไม่หลับ #หลับยาก #หน้าใส #ฝังเข็มหน้าใส #RegeneLife #regenelifevitalcenter #thaitimes
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • เล่าเรื่อง วิวสวย TikTok@bas_gowrntgo_Travel #ท่องเที่ยว #Thailand #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    เล่าเรื่อง วิวสวย TikTok@bas_gowrntgo_Travel #ท่องเที่ยว #Thailand #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 158 0 รีวิว
  • ผมกำลังเตรียมตัวจะมารับชมรับฟัง ที่ Thaitime แล้วครับ
    ผมกำลังเตรียมตัวจะมารับชมรับฟัง ที่ Thaitime แล้วครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชีวิตคือสมมุติ TikTok@yuija6055 #ซีรีส์ #หวังอันอวี่wanganyu #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    ชีวิตคือสมมุติ TikTok@yuija6055 #ซีรีส์ #หวังอันอวี่wanganyu #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 158 0 รีวิว
  • At Fit & Flow Studio, we offer a range of bespoke small group of yoga and private pilates classes.
    .
    The approach ensures that classes are specifically tailored for you, giving personal attention to help you reach your full potential.
    .
    🧘‍♀️ Small Group Yoga 🧡 Private Pilates
    🐱 Pet-friendly
    📍 Regent House 2, Ratchadamri
    📱@fitandflow.bkk
    #พิลาทิส #พิลาทีส #พิลาทีสราชดำริ #พิลาทิสเพื่อการบำบัด #pilates #pilatesbangkok #thaitimes
    At Fit & Flow Studio, we offer a range of bespoke small group of yoga and private pilates classes. . The approach ensures that classes are specifically tailored for you, giving personal attention to help you reach your full potential. . 🧘‍♀️ Small Group Yoga 🧡 Private Pilates 🐱 Pet-friendly 📍 Regent House 2, Ratchadamri 📱@fitandflow.bkk #พิลาทิส #พิลาทีส #พิลาทีสราชดำริ #พิลาทิสเพื่อการบำบัด #pilates #pilatesbangkok #thaitimes
    Like
    Love
    Yay
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหนื่อยนัก ก็พักหน่อย #หวังอี้ป๋อwangyibo #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes https://youtu.be/9mvYdbFRRuE?si=ZIWrlHCHduo7Olfq
    เหนื่อยนัก ก็พักหน่อย #หวังอี้ป๋อwangyibo #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes https://youtu.be/9mvYdbFRRuE?si=ZIWrlHCHduo7Olfq
    Like
    Yay
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌿ว่านหางจระเข้🌷

    สรรพคุณของวุ้นว่านหางจระเข้

    สรรพคุณเด่นที่รู้จักกันคือเมือกของว่านหางจระเข้ที่มีสรรพคุณในด้านการสมานแผลและรักษาบาดแผลที่เกิดจากความร้อนต่างๆ ได้ด้วยวุ้นเมือกภายในว่านหางจระเข้มีลักษณะเย็น
    จึงนิยมนำสรรพคุณส่วนนี้มาใช้ประโยชน์เป็นอันดับแรก ทั้งใช้เป็นย.าภายใน ใช้เป็นย.าภายนอก

    เป็นย.าฆ่.าเชื้อ ฝาดสมานแผล ห้ามเลือด ในขณะเดียวกันก็เป็นตัวกระตุ้นเซลล์เนื้อเยื่อให้เจริญเติบโต ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
    🌷🌿🍀
    และใช้ในการเสริมความงาม🍀🌿🌷
    วิธีใช้ประโยชน์ว่านหางจระเข้กับความงาม
    ✅️ใช้ว่านหางจระเข้บำรุงผมและหนังศีรษะเพื่อให้ผมที่นุ่มสลวย เงางามและมีฤทธิ์ในการขจัดรังแคได้ โดยนำเอาเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้ปั่นละเอียดแล้วนำมาชะโลมผมหมักไว้สักครู่เพื่อบำรุงผมและหนังศีรษะ หรือใช้ในผลิตภัณฑ์แชมพูสมุนไพร จะทำให้ผมนุ่มลื่นหวีง่าย บำรุงหนังศีรษะและเส้นผมให้แข็งแรง

    ✅️ว่านหางจระเข้มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการติดเชื้อ และมีกรดอ่อน ๆ ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ นำเนื้อวุ้นที่ล้างสะอาดทาบริเวณใบหน้าวันละ 2 ครั้ง ใช้เวลาสัก 1-2 เดือน
    หรือใช้ในผลิตภัณฑ์ สำหรับล้างหน้า
    ผิวหน้าดูใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
    จะเริ่มเห็นผลว่ารอยต่าง ๆ ดูจางลง

    ✅️ว่านหางจระเข้บำรุงผิวกาย สำหรับผู้ที่ต้องการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวพร้อมๆ กับการดูแลผิวด้วยวิธีธรรมชาติ การใช้เนื้อว่านหางจระเข้พอกหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า หรือจะนำมาใช้ใน
    ผลิตภัณฑ์ครีมหรือเจลอาบน้ำ
    หรือโลชั่น บำรุงผิว
    เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวก็ได้เช่นเดียวกัน
    เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยบำรุงผิวได้
    #ว่านหางจระเข้ #สมุนไพร
    #แชมพูว่านหางจระเข้
    #ครีมอาบน้ำว่านหางจระเข้
    #สบู่ว่านหางจระเข้
    #thaitimes
    🌿ว่านหางจระเข้🌷 สรรพคุณของวุ้นว่านหางจระเข้ สรรพคุณเด่นที่รู้จักกันคือเมือกของว่านหางจระเข้ที่มีสรรพคุณในด้านการสมานแผลและรักษาบาดแผลที่เกิดจากความร้อนต่างๆ ได้ด้วยวุ้นเมือกภายในว่านหางจระเข้มีลักษณะเย็น จึงนิยมนำสรรพคุณส่วนนี้มาใช้ประโยชน์เป็นอันดับแรก ทั้งใช้เป็นย.าภายใน ใช้เป็นย.าภายนอก เป็นย.าฆ่.าเชื้อ ฝาดสมานแผล ห้ามเลือด ในขณะเดียวกันก็เป็นตัวกระตุ้นเซลล์เนื้อเยื่อให้เจริญเติบโต ทำให้แผลหายเร็วขึ้น 🌷🌿🍀 และใช้ในการเสริมความงาม🍀🌿🌷 วิธีใช้ประโยชน์ว่านหางจระเข้กับความงาม ✅️ใช้ว่านหางจระเข้บำรุงผมและหนังศีรษะเพื่อให้ผมที่นุ่มสลวย เงางามและมีฤทธิ์ในการขจัดรังแคได้ โดยนำเอาเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้ปั่นละเอียดแล้วนำมาชะโลมผมหมักไว้สักครู่เพื่อบำรุงผมและหนังศีรษะ หรือใช้ในผลิตภัณฑ์แชมพูสมุนไพร จะทำให้ผมนุ่มลื่นหวีง่าย บำรุงหนังศีรษะและเส้นผมให้แข็งแรง ✅️ว่านหางจระเข้มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการติดเชื้อ และมีกรดอ่อน ๆ ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ นำเนื้อวุ้นที่ล้างสะอาดทาบริเวณใบหน้าวันละ 2 ครั้ง ใช้เวลาสัก 1-2 เดือน หรือใช้ในผลิตภัณฑ์ สำหรับล้างหน้า ผิวหน้าดูใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ จะเริ่มเห็นผลว่ารอยต่าง ๆ ดูจางลง ✅️ว่านหางจระเข้บำรุงผิวกาย สำหรับผู้ที่ต้องการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวพร้อมๆ กับการดูแลผิวด้วยวิธีธรรมชาติ การใช้เนื้อว่านหางจระเข้พอกหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า หรือจะนำมาใช้ใน ผลิตภัณฑ์ครีมหรือเจลอาบน้ำ หรือโลชั่น บำรุงผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวก็ได้เช่นเดียวกัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยบำรุงผิวได้ #ว่านหางจระเข้ #สมุนไพร #แชมพูว่านหางจระเข้ #ครีมอาบน้ำว่านหางจระเข้ #สบู่ว่านหางจระเข้ #thaitimes
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 139 0 รีวิว
  • ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า (Riverside Grilled Fish & Mala) ร้านอาหารจีน เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมเสิร์ฟเมนูซิกเนเจอร์ ปลาย่างกระทะร้อนสไตล์ฉงชิ่ง มีจุดเด่นอยู่ที่ซอสสูตรลับเฉพาะของร้านที่ทุกคนต้องลอง รวมถึงเมนูเด็ด หม่าล่าผัด ที่ลูกค้าสามารถเลือกวัตถุดิบได้ตามสไตล์ที่อยากทาน ตลอดจนเมนูอาหารจีนรสชาติตำรับแท้สไตล์ฉงชิ่ง-เสฉวนอีกมากมาย ให้สายอาหารจีนได้มาลิ้มลองซ้ำๆ ได้แบบไม่มีเบื่อ

    พิกัด : https://maps.app.goo.gl/FJouypVMvvpLFToo7
    ที่อยู่ : ชั้น 6 centralwOrld โซน beacOn
    ร้านเปิดบริการ : 10.00 - 21.00 น.

    #ร้านอาหารในห้าง #ร้านอร่อยรีวิว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า (Riverside Grilled Fish & Mala) ร้านอาหารจีน เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมเสิร์ฟเมนูซิกเนเจอร์ ปลาย่างกระทะร้อนสไตล์ฉงชิ่ง มีจุดเด่นอยู่ที่ซอสสูตรลับเฉพาะของร้านที่ทุกคนต้องลอง รวมถึงเมนูเด็ด หม่าล่าผัด ที่ลูกค้าสามารถเลือกวัตถุดิบได้ตามสไตล์ที่อยากทาน ตลอดจนเมนูอาหารจีนรสชาติตำรับแท้สไตล์ฉงชิ่ง-เสฉวนอีกมากมาย ให้สายอาหารจีนได้มาลิ้มลองซ้ำๆ ได้แบบไม่มีเบื่อ พิกัด : https://maps.app.goo.gl/FJouypVMvvpLFToo7 ที่อยู่ : ชั้น 6 centralwOrld โซน beacOn ร้านเปิดบริการ : 10.00 - 21.00 น. #ร้านอาหารในห้าง #ร้านอร่อยรีวิว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • TAI ER (ไท่เออร์) เป็นร้านอาหารจีนสไตล์เสฉวน ร้านดังจากเมืองจีนที่มีเมนูสุดฮิตอย่าง ต้มปลาผักกาดดอง หม่าล่าเสฉวน เมนูเด็ดที่ใครได้ทานก็ต้องติดใจ บอกเลยว่ารสชาติอร่อยจัดจ้านถึงใจ และที่ร้านยังมีเมนูอาหารอื่นๆ ให้เลือกอีกเยอะ รับรองว่าถูกใจครอบครัวสายหม่าล่าแน่นอน

    พิกัด : https://maps.app.goo.gl/mgjvUfgMXsKP8ZoK8
    ที่อยู่ : ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิลด์ โซน Atrium
    ร้านเปิดบริการ : 10.30 - 22.00 น.

    #ร้านอาหารในห้าง #ร้านอร่อยรีวิว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    TAI ER (ไท่เออร์) เป็นร้านอาหารจีนสไตล์เสฉวน ร้านดังจากเมืองจีนที่มีเมนูสุดฮิตอย่าง ต้มปลาผักกาดดอง หม่าล่าเสฉวน เมนูเด็ดที่ใครได้ทานก็ต้องติดใจ บอกเลยว่ารสชาติอร่อยจัดจ้านถึงใจ และที่ร้านยังมีเมนูอาหารอื่นๆ ให้เลือกอีกเยอะ รับรองว่าถูกใจครอบครัวสายหม่าล่าแน่นอน พิกัด : https://maps.app.goo.gl/mgjvUfgMXsKP8ZoK8 ที่อยู่ : ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิลด์ โซน Atrium ร้านเปิดบริการ : 10.30 - 22.00 น. #ร้านอาหารในห้าง #ร้านอร่อยรีวิว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • CIA เปิดรับสมัคร "สายลับ" สำหรับปฏิบัติการใน จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ

    4 ตุลาคม 2567-รายงานข่าว INN World News ระบุว่า หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐหรือ CIA เปิดรับสมัครสายลับในประเทศที่เป็นเป้าหมายและคู่แข่งสำคัญของสหรัฐ ที่ผู้สนใจสามารถส่งชื่อและข้อมูลสมัครได้ทางเว็บไซต์

    CIA ได้โพสต์ประกาศรับสมัครสายลับในหลายประเทศที่เป็นคู่แข่งกับสหรัฐฯ เช่น จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทั้ง X, Facebook, YouTube, Instagram, Telegram และ LinkedIn รวมถึงในเว็บมืด เป็นทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีนกลาง ภาษาฟาร์ซี และภาษาเกาหลี ซึ่งในโพสต์ดังกล่าวยังระบุถึงวิธีการสมัครและการติดต่อกับ CIA อย่างถูกต้อง

    อีกทั้ง CIA ยังขอให้ผู้สนใจแจ้งชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลการติดต่อของตนกลับมา รวมไปถึงได้แนะนำให้ผู้ใช้งานติดต่อ CIA ผ่านเว็บไซต์ทางการ โดยใช้เครือข่าย VPN ที่มีการเข้ารหัสที่น่าเชื่อถือ หรือผ่านเบราว์เซอร์เว็บแบบไม่ระบุตัวตนที่รู้จักกันในชื่อเครือข่าย Tor ซึ่งมักใช้ในการเข้าถึงเว็บมืด

    ส่วนสาเหตุที่ทำไม CIA ต้องประกาศรับสมัครสายลับผ่านโซเชียลมีเดียแทนที่จะไปหาสายลับกันแบบเงียบ ๆ เรื่องนี้โฆษก CIA กล่าวในแถลงการณ์ว่า "เราต้องการให้แน่ใจว่าบุคคลในระบอบเผด็จการอื่น ๆ รู้ว่าเราพร้อมอยู่เสมอ"

    เดวิด โคเฮน รองผู้อำนวยการ CIA แสดงความมั่นใจกับสำนักข่าว Bloomberg ว่าจะมีคนจากประเทศเหล่านี้จำนวนมาก มาสมัครเป็นสายลับกับ CIA อย่างแน่นอน โดยเขาบอกว่า มีคนจำนวนมากที่เข้าถึงข้อมูลภายในของรัฐบาลตัวเองและไม่พอใจกับระบอบการปกครองในประเทศของตัวเอง CIA จึงมั่นใจว่าคนกลุ่มนี้จะมาสมัคร

    อย่างไรก็ตาม เกิดคำถามว่าแล้วคนเกาหลีเหนือที่สนใจจะสมัครเป็นสายลับให้ CIA จะสมัครได้อย่างไร เพราะคนเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ CIA คาดว่าเป็นไปได้ที่คนเกาหลีเหนือที่อาศัยอยู่ติดชายแดนจีนมักจะข้ามพรมแดนเข้ามาค้าขายในจีนแล้วกลับไปที่เกาหลีเหนือ จุงทำให้ในช่วงที่มาฝั่งจีนเป็นโอกาสที่ดีที่พวกเขาจะเข้าถึงอินเตอร์เน็ตและอาจสนใจสมัครเป็นสายลับให้ CIA

    ขณะที่ โฆษกสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันดี.ซี. กล่าวว่า “ความพยายามใดๆ ที่จะบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างชาวจีนและพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะล้มเหลวอย่างแน่นอน" ซึ่งที่ผ่านมา จีนพยายามเตือนประชาชนของตัวเองให้ระวังถูกสายลับต่างชาติล่อลวงให้เผยแพร่ข้อมูลความลับ ส่วนในต่างประเทศก็มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายคนที่เป็นสายลับให้ประเทศจีน โดยผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าในยุคนี้เราจะเริ่มเห็นหลายประเทศกลับมาใช้ "สายลับ" เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำสงครามด้านข้อมูลอีกครั้ง

    ภาพ: Stock.Adobe
    ที่มา : TNNWorldNews
    https://www.facebook.com/share/p/EEvjf5xsd4aYD1vk/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    CIA เปิดรับสมัคร "สายลับ" สำหรับปฏิบัติการใน จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ 4 ตุลาคม 2567-รายงานข่าว INN World News ระบุว่า หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐหรือ CIA เปิดรับสมัครสายลับในประเทศที่เป็นเป้าหมายและคู่แข่งสำคัญของสหรัฐ ที่ผู้สนใจสามารถส่งชื่อและข้อมูลสมัครได้ทางเว็บไซต์ CIA ได้โพสต์ประกาศรับสมัครสายลับในหลายประเทศที่เป็นคู่แข่งกับสหรัฐฯ เช่น จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทั้ง X, Facebook, YouTube, Instagram, Telegram และ LinkedIn รวมถึงในเว็บมืด เป็นทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีนกลาง ภาษาฟาร์ซี และภาษาเกาหลี ซึ่งในโพสต์ดังกล่าวยังระบุถึงวิธีการสมัครและการติดต่อกับ CIA อย่างถูกต้อง อีกทั้ง CIA ยังขอให้ผู้สนใจแจ้งชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลการติดต่อของตนกลับมา รวมไปถึงได้แนะนำให้ผู้ใช้งานติดต่อ CIA ผ่านเว็บไซต์ทางการ โดยใช้เครือข่าย VPN ที่มีการเข้ารหัสที่น่าเชื่อถือ หรือผ่านเบราว์เซอร์เว็บแบบไม่ระบุตัวตนที่รู้จักกันในชื่อเครือข่าย Tor ซึ่งมักใช้ในการเข้าถึงเว็บมืด ส่วนสาเหตุที่ทำไม CIA ต้องประกาศรับสมัครสายลับผ่านโซเชียลมีเดียแทนที่จะไปหาสายลับกันแบบเงียบ ๆ เรื่องนี้โฆษก CIA กล่าวในแถลงการณ์ว่า "เราต้องการให้แน่ใจว่าบุคคลในระบอบเผด็จการอื่น ๆ รู้ว่าเราพร้อมอยู่เสมอ" เดวิด โคเฮน รองผู้อำนวยการ CIA แสดงความมั่นใจกับสำนักข่าว Bloomberg ว่าจะมีคนจากประเทศเหล่านี้จำนวนมาก มาสมัครเป็นสายลับกับ CIA อย่างแน่นอน โดยเขาบอกว่า มีคนจำนวนมากที่เข้าถึงข้อมูลภายในของรัฐบาลตัวเองและไม่พอใจกับระบอบการปกครองในประเทศของตัวเอง CIA จึงมั่นใจว่าคนกลุ่มนี้จะมาสมัคร อย่างไรก็ตาม เกิดคำถามว่าแล้วคนเกาหลีเหนือที่สนใจจะสมัครเป็นสายลับให้ CIA จะสมัครได้อย่างไร เพราะคนเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ CIA คาดว่าเป็นไปได้ที่คนเกาหลีเหนือที่อาศัยอยู่ติดชายแดนจีนมักจะข้ามพรมแดนเข้ามาค้าขายในจีนแล้วกลับไปที่เกาหลีเหนือ จุงทำให้ในช่วงที่มาฝั่งจีนเป็นโอกาสที่ดีที่พวกเขาจะเข้าถึงอินเตอร์เน็ตและอาจสนใจสมัครเป็นสายลับให้ CIA ขณะที่ โฆษกสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันดี.ซี. กล่าวว่า “ความพยายามใดๆ ที่จะบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างชาวจีนและพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะล้มเหลวอย่างแน่นอน" ซึ่งที่ผ่านมา จีนพยายามเตือนประชาชนของตัวเองให้ระวังถูกสายลับต่างชาติล่อลวงให้เผยแพร่ข้อมูลความลับ ส่วนในต่างประเทศก็มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายคนที่เป็นสายลับให้ประเทศจีน โดยผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าในยุคนี้เราจะเริ่มเห็นหลายประเทศกลับมาใช้ "สายลับ" เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำสงครามด้านข้อมูลอีกครั้ง ภาพ: Stock.Adobe ที่มา : TNNWorldNews https://www.facebook.com/share/p/EEvjf5xsd4aYD1vk/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☆บ้านไร่ ปลายนา baan rai pai na
    จังหวัด อุทัยธานี
    ☆เบอร์โทร
    088- 007-9836
    089-123-3687
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/baanraipaina.Uthai?mibextid=ZbWKwL
    《《
    ***บ้านพักมี 2 หลังเท่านั้น***
    ☆ราคาคืนวันเสาร์ และวันหยุดต่อเนื่อง 2,500 บาท
    ☆ราคาคืนวันธรรมดา 2,200 บาท
    ♡มีอาหารเช้า
    ◇อาหารเย็นสั่งเพิ่ม 500-800 บาท
    ■■■■■■■■■■■■
    #อุทัยธานี #โฮมสเตย์อุทัยธานี
    #เที่ยวอุทัยธานี #บ้านไร่ปลายนา #บ้านไร่ปลายนาอุทัยธานี #บ้านพักวิวทุ่งนา #มะนาวก้าวเดิน #เที่ยวไทยไปกับมะนาวก้าวเดิน #ขันโตกที่อุทัยธานี
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ☆บ้านไร่ ปลายนา baan rai pai na จังหวัด อุทัยธานี ☆เบอร์โทร 088- 007-9836 089-123-3687 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/baanraipaina.Uthai?mibextid=ZbWKwL 《《 ***บ้านพักมี 2 หลังเท่านั้น*** ☆ราคาคืนวันเสาร์ และวันหยุดต่อเนื่อง 2,500 บาท ☆ราคาคืนวันธรรมดา 2,200 บาท ♡มีอาหารเช้า ◇อาหารเย็นสั่งเพิ่ม 500-800 บาท ■■■■■■■■■■■■ #อุทัยธานี #โฮมสเตย์อุทัยธานี #เที่ยวอุทัยธานี #บ้านไร่ปลายนา #บ้านไร่ปลายนาอุทัยธานี #บ้านพักวิวทุ่งนา #มะนาวก้าวเดิน #เที่ยวไทยไปกับมะนาวก้าวเดิน #ขันโตกที่อุทัยธานี #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☆โรงแรมพิบูลย์สุข จ.อุทัยธานี
    ☆ราคาคืนละ 650 บาท
    ☆มีที่จอดรถ
    ☆ไม่มีอาหารเช้า
    เบอร์โทร
    056-511647
    เพจที่พัก
    》》
    https://www.facebook.com/profile.php?id=100054431861710&mibextid=ZbWKwL
    《《
    ■■■■■■■■■■
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    #thaitimesรีวิวโรงแรม #อุทัยธานี #โรงแรมพิบูลย์สุขอุทัยธานี #ที่พักหลักร้อยอุทัยธานี
    ☆โรงแรมพิบูลย์สุข จ.อุทัยธานี ☆ราคาคืนละ 650 บาท ☆มีที่จอดรถ ☆ไม่มีอาหารเช้า เบอร์โทร 056-511647 เพจที่พัก 》》 https://www.facebook.com/profile.php?id=100054431861710&mibextid=ZbWKwL 《《 ■■■■■■■■■■ #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #thaitimesรีวิวโรงแรม #อุทัยธานี #โรงแรมพิบูลย์สุขอุทัยธานี #ที่พักหลักร้อยอุทัยธานี
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥จากกรณีที่มีพนักงานเอาต์ซอส ของการไฟฟ้า
    ไปตัดกระแสไฟ ของบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียง
    ซึ่งต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทำให้ท่านนั้นเสียชีวิต
    ที่ นครพนม

    🚩เรื่องนี้ได้ทราบไปถึงการไฟฟ้า และไม่ได้นิ่งนอนใจ
    และได้แจ้งประชาสัมพันธ์ ให้ทุกบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียง
    ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และต้องใช้ไฟฟ้า
    เช่น เครื่องช่วยหายใจต่างๆ

    🚩ให้เจ้าของบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียงให้ไปลงทะเบียน
    ยื่นขอใช้สิทธิ์กับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ในพื้นที่
    ที่ท่านอาศัยอยู่ เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ
    การไฟฟ้านครหลวง เป็นต้น

    หลักฐานการยื่นขอใช้สิทธิ์ ได้แก่

    1. หลักฐานแสดงสถานที่ใช้ไฟฟ้า เช่น บิลล์ค่าไฟ
    2. ใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 1 เดือน
    3. สำเนาบัตรประชาชนของผู้ใช้ไฟฟ้า
    4. สำเนาบัตรประชาชนของผู้ป่วย
    5. กรณีที่ให้ผู้อื่นดำเนินการแทน ต้องมีหลักฐาน
    แสดงการมอบอำนาจ ของผู้มอบอำนาจ และ
    ผู้รับมอบอำนาจ

    หมายเหตุ: ในกรณีที่ท่านดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างถูกต้องแล้ว
    และมีคนมาตัดไฟโดยพละการ จนส่งผลให้ผู้ป่วยติดเตียง
    เกิดการเสียชีวิตจากการตัดไฟดังกล่าว
    สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้

    ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    🔥🔥จากกรณีที่มีพนักงานเอาต์ซอส ของการไฟฟ้า ไปตัดกระแสไฟ ของบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทำให้ท่านนั้นเสียชีวิต ที่ นครพนม 🚩เรื่องนี้ได้ทราบไปถึงการไฟฟ้า และไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้แจ้งประชาสัมพันธ์ ให้ทุกบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียง ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และต้องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องช่วยหายใจต่างๆ 🚩ให้เจ้าของบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียงให้ไปลงทะเบียน ยื่นขอใช้สิทธิ์กับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ในพื้นที่ ที่ท่านอาศัยอยู่ เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ การไฟฟ้านครหลวง เป็นต้น หลักฐานการยื่นขอใช้สิทธิ์ ได้แก่ 1. หลักฐานแสดงสถานที่ใช้ไฟฟ้า เช่น บิลล์ค่าไฟ 2. ใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 1 เดือน 3. สำเนาบัตรประชาชนของผู้ใช้ไฟฟ้า 4. สำเนาบัตรประชาชนของผู้ป่วย 5. กรณีที่ให้ผู้อื่นดำเนินการแทน ต้องมีหลักฐาน แสดงการมอบอำนาจ ของผู้มอบอำนาจ และ ผู้รับมอบอำนาจ หมายเหตุ: ในกรณีที่ท่านดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างถูกต้องแล้ว และมีคนมาตัดไฟโดยพละการ จนส่งผลให้ผู้ป่วยติดเตียง เกิดการเสียชีวิตจากการตัดไฟดังกล่าว สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร่วมเดินทางไปเช็คอิน EP.4
    》อุทัยธานี《

    ●บ้านไร่ ปลายนา อุทัยธานี
    089-123-3687
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/baanraipaina.Uthai?mibextid=ZbWKwL
    《《
    ■■■■■■■■■■■■
    #เบื้องหลังการถ่ายรายการสยามโสภา #ร่วมเดินทางไปเช็คอินEP4อุทัยธานี #บ้านไร่ปลายนา #อุทัยธานี #มะนาวก้าวเดิน
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ร่วมเดินทางไปเช็คอิน EP.4 》อุทัยธานี《 ●บ้านไร่ ปลายนา อุทัยธานี 089-123-3687 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/baanraipaina.Uthai?mibextid=ZbWKwL 《《 ■■■■■■■■■■■■ #เบื้องหลังการถ่ายรายการสยามโสภา #ร่วมเดินทางไปเช็คอินEP4อุทัยธานี #บ้านไร่ปลายนา #อุทัยธานี #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 160 0 รีวิว
  • ☆ดีแคทลอน สาขาพระราม4
    (โลตัสชั้น2)
    》》
    https://www.decathlon.co.th/en-TH/s/our-stores/rama-4
    《《
    อยู่ได้เป็นวันๆ
    เข้าไปเมื่อไหร่
    จัดของมันต้องมี
    ติดตัวกลับบ้านตลอด
    วันนี้จัดเบาๆเหลือตังค์ไว้จ่ายค่าทริป-///-
    แล้วตาม มะนาวก้าวเดิน ไปเดินป่า
    เขาหลวงสุโขทัย ด้วยกันน่าคร่า
    ■■■■■■■■
    #มะนาวก้าวเดิน #ดีแคทลอนสาขาพระรามสี่ #ดีแคทลอน #สายป่า
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ☆ดีแคทลอน สาขาพระราม4 (โลตัสชั้น2) 》》 https://www.decathlon.co.th/en-TH/s/our-stores/rama-4 《《 อยู่ได้เป็นวันๆ เข้าไปเมื่อไหร่ จัดของมันต้องมี ติดตัวกลับบ้านตลอด วันนี้จัดเบาๆเหลือตังค์ไว้จ่ายค่าทริป-///- แล้วตาม มะนาวก้าวเดิน ไปเดินป่า เขาหลวงสุโขทัย ด้วยกันน่าคร่า ■■■■■■■■ #มะนาวก้าวเดิน #ดีแคทลอนสาขาพระรามสี่ #ดีแคทลอน #สายป่า #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 170 0 รีวิว
  • นายกฯ"อุ๊งอิ๊งค์" ลุยเองได้มั้ย!? โศกนาฏกรรมรถบัส นร.-ครู ... "สุริยะ-อธิบดีกรมขนส่ง" ต้องรับผิดชอบ! ** “เพิ่มพูน” รมว.ศึกษาฯ วิสัยทัศน์แคบสั้น แก้ปลายเหตุ ปิดโอกาสเด็ก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000093915

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    นายกฯ"อุ๊งอิ๊งค์" ลุยเองได้มั้ย!? โศกนาฏกรรมรถบัส นร.-ครู ... "สุริยะ-อธิบดีกรมขนส่ง" ต้องรับผิดชอบ! ** “เพิ่มพูน” รมว.ศึกษาฯ วิสัยทัศน์แคบสั้น แก้ปลายเหตุ ปิดโอกาสเด็ก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000093915 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    Love
    39
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 812 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4 ตุลาคม 2567-Live รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ Ep262
    “โปรด...ฟังอีกครั้ง!” สนธิ เตือน นายกฯ อุ๊งอิ๊ง ทำเพื่อชาติ ไม่ใช่ทำเพื่อพ่อ โปรด...ฟังอีกครั้ง! ทำเพื่อชาติ ไม่ใช่ทำเพื่อพ่อ

    ThaiTimes คือแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ช่วยให้คุณ:
    - แพลตฟอร์มที่ไม่โดนปิดกั้น
    - แชร์รูปภาพและวิดีโอ
    - ติดตามข่าวสารล่าสุดจากคนที่คุณติดตาม
    แอป Thaitimes มีให้ Download ได้แล้วทั้งใน iOS และใน android
    iOS : https://apps.apple.com/th/app/thaitimes-social/id6502225132
    Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.thaitimes.app2&pcampaignid=web_share
    และ https://thaitimes.co/

    https://www.youtube.com/live/577KYbLB_SU?si=njKf8vYbHzL12FPg

    #Thaitimes
    4 ตุลาคม 2567-Live รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ Ep262 “โปรด...ฟังอีกครั้ง!” สนธิ เตือน นายกฯ อุ๊งอิ๊ง ทำเพื่อชาติ ไม่ใช่ทำเพื่อพ่อ โปรด...ฟังอีกครั้ง! ทำเพื่อชาติ ไม่ใช่ทำเพื่อพ่อ ThaiTimes คือแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ช่วยให้คุณ: - แพลตฟอร์มที่ไม่โดนปิดกั้น - แชร์รูปภาพและวิดีโอ - ติดตามข่าวสารล่าสุดจากคนที่คุณติดตาม แอป Thaitimes มีให้ Download ได้แล้วทั้งใน iOS และใน android iOS : https://apps.apple.com/th/app/thaitimes-social/id6502225132 Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.thaitimes.app2&pcampaignid=web_share และ https://thaitimes.co/ https://www.youtube.com/live/577KYbLB_SU?si=njKf8vYbHzL12FPg #Thaitimes
    Like
    Love
    13
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • #SondhiTalkLive
    ตั้งแต่ปีหน้า 2568 จะยุติการ Live ใน #Facebook แต่จะนำเสนอที่ #ThaiTime
    #SondhiTalkLive ตั้งแต่ปีหน้า 2568 จะยุติการ Live ใน #Facebook แต่จะนำเสนอที่ #ThaiTime
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🙏วันศุกร์ #sondhitalk #Thaitimes
    🙏วันศุกร์ #sondhitalk #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4 ตุลาคม 2567-Live รายการรอบบ้านเรา

    https://www.facebook.com/share/v/jBEt1aFHpYjf7AV8/?mibextid=0aVxPL

    #Thaitimes
    4 ตุลาคม 2567-Live รายการรอบบ้านเรา https://www.facebook.com/share/v/jBEt1aFHpYjf7AV8/?mibextid=0aVxPL #Thaitimes
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4 ตุลาคม 2567-ไทยรัฐสปอร์ตรายงานข่าวฟุตบอลยูโรปาลีกส์ว่า“เทน ฮาก รอดตาย "แม็คไกวร์" โขกพา แมนยูฯ 10 คน ไล่เจ๊า ปอร์โต 3-3 ศึกยูโรปาลีก

    แมนยูฯ

    ⚽️แรชฟอร์ด นาทีที่ 7
    ⚽️ฮอยลุนด์ นาทีที่ 20
    🟥บรูโน ใบแดง นาทีที่ 81
    ⚽️แม็คไกวร์ นาทีที่ 90+1

    ปอร์โต

    ⚽️เปเป้ นาทีที่ 27
    ⚽️ซามู โอโมโรเดียน นาทีที่ 34
    ⚽️ซามู โอโมโรเดียน นาทีที่ 50“

    ที่มา : เพจเฟซบุ๊กThairath Sport

    #Thaitimes
    4 ตุลาคม 2567-ไทยรัฐสปอร์ตรายงานข่าวฟุตบอลยูโรปาลีกส์ว่า“เทน ฮาก รอดตาย "แม็คไกวร์" โขกพา แมนยูฯ 10 คน ไล่เจ๊า ปอร์โต 3-3 ศึกยูโรปาลีก แมนยูฯ ⚽️แรชฟอร์ด นาทีที่ 7 ⚽️ฮอยลุนด์ นาทีที่ 20 🟥บรูโน ใบแดง นาทีที่ 81 ⚽️แม็คไกวร์ นาทีที่ 90+1 ปอร์โต ⚽️เปเป้ นาทีที่ 27 ⚽️ซามู โอโมโรเดียน นาทีที่ 34 ⚽️ซามู โอโมโรเดียน นาทีที่ 50“ ที่มา : เพจเฟซบุ๊กThairath Sport #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 379 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📚รีเบคก้า


    ดีใจที่ห้องสมุดมี และดีใจที่ยืมมาอ่าน แม้นอรรถรสอาจจะได้ไม่เต็มที่เพราะเคยดูหนังที่ฮิตช์ค็อกสร้างมาก่อน ถึงอย่างนั้นก็ยังสัมผัสได้ถึงความเป็นสุดยอดของนิยายยอดเยี่ยมแห่งยุคเรื่องหนึ่ง ไม่สงสัยแล้วว่าเหตุใดจึงยังไม่ถูกลืม เพราะความดีงามของเรื่องนั้นสามารถข้ามผ่านกาลเวลามาใกล้ 90 ปีเต็มที

    ขนาดพอรู้เรื่องคร่าวๆแม้นจำไม่ได้มากเพราะหนังดูไว้นานหลายปีแล้ว แต่เมื่อได้จับฉบับหนังสือก็ยังอดลุ้นระทึกตามไปกับตัวละครนำไม่ได้ ต้องสรรเสริญผู้เขียนคือ ดาฟเน ดู โมริเยร์ ที่ให้กำเนิดรีเบคก้าขึ้นมาอวดโฉมสู่สายตานักอ่านในบรรณพิภพ

    หนังสือพิมพ์ในไทยครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 ฉบับที่อ่านนี้เป็นของ สนพ.สร้างสรรค์-วิชาการ เป็นพิมพ์ครั้งที่ 7 เมื่อปี พ.ศ.2538 หนา 387 หน้า มีช่วงระหว่างหน้าที่ 283-298 ทำเอาใจวูบ เพราะกำลังดำเนินเรื่องถึงช่วงจุดสูงสุดที่จะเฉลยปม เลขหน้าข้าม ทีแรกก็เศร้าว่าหน้าหายเยอะขนาดนี้คงจะพลาดอะไรสำคัญไปเยอะ พลิกตรวจดูจึงรู้ว่า เป็นความผิดพลาดของการเข้าเล่ม ที่ทำให้ต้องเปิดพลิกกลับอ่านแบบญี่ปุ่นจากขวามาซ้ายประมาณ 16 หน้า จึงกลับสู่การอ่านแบบปกติได้ น่าจะเป็นทั้งล็อตในการพิมพ์หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ

    สองประการที่ลดคุณค่าของนิยายเล่มนี้ในฉบับพิมพ์ของสร้างสรรค์คือ หนึ่ง ตัวอักษรที่เลือกใช้ได้ทรมานสายตาคนอ่านอย่างมากคือทั้งเล็กและบาง เมื่อบวกกับแถวยาวเหยียดที่เบียดกันเป็นพรืด นาน ๆ จึงจะพบย่อหน้าสักครั้ง จึงต้องใช้พลังสมาธิและความพยายามอย่างยิ่งกว่าจะอ่านจบ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะความดีงามในตัวของนิยายเองที่ทำให้อยากอ่านต่อ อาจยอมแพ้เสียก่อน และสอง กระดาษที่ใช้คุณภาพไม่ดีเลย ความหนาแน่นของเนื้อเยื่อกระดาษบางมาก

    🔻

    เนื้อเรื่องโดยย่อ

    หญิงสาววัยสัก20ปี ที่เป็นผู้มีบุคลิกใสซื่อ มีความเป็นตัวของตัวเองอย่างบริสุทธิ์ตามธรรมชาตินางหนึ่ง พ่อแม่ตายไปตั้งแต่ยังเล็ก จึงจำต้องหาเลี้ยงตนเองมาแบบอัตคัด จนได้มาติดตามเป็นหญิงรับใช้ให้กับคุณนายอึ่งอ่างนางหนึ่ง(ขออภัย เธอมีชื่อแต่ลักษณะภายนอกที่ถูกบรรยายทำให้นึกไปถึงอึ่งจริง ๆ นะ) ซึ่งคุณนายคนนี้ก็มีนิสัยแย่ ชอบจิกใช้งานหญิงสาว และพูดจาเหยียบย่ำน้ำใจบ่อย อีกทั้งชอบทำตัวเจ๋อแจ้น เที่ยวปั้นหน้าไปคุยกับคนในแวดวงสังคม ไม่ใช่เพื่ออะไรมากไปกว่าตักตวงข่าวสารมาพูดนินทาต่อให้คนอื่นฟังด้วยความสนุกปากตามพื้นนิสัยเดิม ซึ่งสถานที่ที่ทำให้นางเอกและพระเอกได้พบกันครั้งแรกคือที่ โรงแรมแห่งหนึ่งในมอนติคาโล คุณนายอึ่งอ่างถือวิสาสะไปคุยด้วยกับหนุ่มใหญ่เจ้าของคฤหาสน์ มันเดอลีย์ ที่กำลังอยู่ในระหว่างท่องเที่ยวเพื่อลืมเลือนเรื่องอดีตเกี่ยวกับภรรยาสาวที่เสียชีวิตไปไม่นาน ในห้องอาหารชั้นล่างซึ่งนางเอกก็จำต้องอยู่ใกล้ชิดร่วมโต๊ะแม้นไม่อยาก เพราะอับอายแทนผู้ว่าจ้างของตน ด้วยเธอเป็นคนหน้าบางและมีสมบัติผู้ดีมากกว่าคุณนายอึ่งอ่าง ทั้งที่โดนกดและดูถูกว่าเป็นพวกชั้นล่าง

    ก็การพบหน้าคราวนั้นเองคือจุดเริ่มต้นแห่งเรื่องราวชวนฝัน ที่ประจวบเหมาะว่าวันต่อมาเจ้านายเธอมีไข้ไม่สบาย หมอให้พักสักสองสัปดาห์ในห้อง จึงเป็นโอกาสให้นางเอกของเรื่องพอจะมีเวลาเป็นของตนเอง ได้ใช้ชีวิตอิสระในตอนลงมากินข้าวที่ห้องอาหารชั้นล่าง ซึ่งก็พอดีได้พบพระเอกเป็นครั้งที่สอง แม้จะเจียมตัวไม่กล้าไปทักหรือร่วมโต๊ะ แต่สุดท้ายเหตุการณ์ก็พาไปให้พระเอกคือมิสเตอร์ เดอวินเตอร์ ตะล่อมพูดจนเธอยอมมานั่งกินอาหารโต๊ะเดียวกับเขา และได้พูดคุยพอเป็นที่รู้เรื่องความเป็นมาของฝ่ายสาว และในโอกาสต่อมาจากวันนั้น กลายเป็นว่าช่วงเวลาที่คุณนายอึ่งอ่างนอนแซ่วบนเตียง ที่ก็ไม่ได้ป่วยอะไรมาก แต่อยากหาเหตุให้คนอื่นมาเยี่ยมจะได้ชวนคุยนินทาสารพัดกับเล่นไพ่นั้น เปิดโอกาสให้นางเอกได้สานความสัมพันธ์อันดีกับพระเอกที่ยังคงมีมาดสุขุม ลึกลับ ครุ่นคิดตลอดเวลา และไม่ค่อยพูดจาหรือเปิดเผยเรื่องราวของตน จนฝ่ายหญิงเริ่มมีความรู้สึกที่ดีกับฝ่ายชายอย่างมาก ถึงขั้นที่เรียกว่ารักแรก ทุกวันพระเอกจะพบกับนางเอกที่ห้องอาหาร กินด้วยกันแล้วพาไปนั่งรถแล่นกินลมชมวิวไปตามที่ต่างๆ

    แต่แล้วเมื่ออาการของเจ้านายดีขึ้น วันหนึ่งก็สั่งนางเอกว่าให้รีบไปจองตั๋วรถไฟ เพราะลูกสาวของนางติดต่อมาว่าจะไปนิวยอร์ก และเจ้านายก็จะตามไปอยู่ด้วย แน่นอนว่าต้องเอานางเอกตามไปรับใช้ เมื่อทราบข่าวเธอถึงกับหัวใจสลาย เข่าอ่อน เหมือนความสุขที่เพิ่งปรากฏไม่นานในชีวิตกำลังจะสูญสลายไปตลอดกาล เธอพยายามจะลงไปพบเจอพระเอก แต่เขาไม่อยู่ไปทำธุระ ทำให้ในเธอรุ่มร้อนเป็นไฟ ในวันเดินทางที่ถูกใช้ให้ไปเปลี่ยนตั๋วเพื่อเลื่อนเที่ยวรถให้เร็วขึ้นจากช่วงสายเป็นช่วงเช้า เธอสิ้นหวังแล้ว แต่ไม่อาจตัดใจจากไปทั้งยังไม่ได้บอกลา จึงอาศัยช่วงที่เจ้านายสั่งให้มาติดต่อเปลี่ยนเที่ยวนั้น วิ่งหน้าตั้งไปเคาะห้องที่รู้ว่าพระเอกพักอยู่เพื่อจะบอกให้ทราบ และเมื่อพระเอกได้ฟัง จึงถามว่าทำไมเธอต้องปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามแต่เจ้านายจะบงการ เธอบอกเพราะเธอต้องใช้เงิน และการทำงานรับใช้ทั้งที่ไม่อยากก็เพื่อแลกกับค่าจ้างน้อยนิด พระเอกยื่นข้อเสนอให้เลือก ว่าเธอจะไปกับคุณนายอึ่งอ่างหรือจะไปกับเขา เธอไม่เข้าใจ เขาบอกอีกครั้งให้ชัดว่าเธอจะเลือกไปกับเขาในฐานะมิสซิส เดอวินเตอร์หรือไม่

    นั่นเอง คือการเดินทางครั้งใหม่ของนางเอก หลังเธอตกลงใจจะไปกับเขาเพราะความรัก ทั้งสองแต่งงานกันอย่างที่ไม่มีการสวมชุด เข้าโบสถ์หรือการเลี้ยงฉลอง เพราะเขาไม่ปรารถนา แล้วไปฮันนีมูนต่อที่อิตาลีอยู่หลายสัปดาห์ ก่อนที่ท้ายสุดจะตรงไปที่คฤหาสน์มันเดอลีย์อันแสนไกล งดงามตั้งตระหง่านอยู่ภายในวงล้อมของป่ารก ที่ซึ่งเธอต้องกลายจากนางสาวต็อกต๋อย ไร้ชื่อเสียง ไร้เงิน ไร้ศักดิ์ฐานะใดๆ ไปเป็นคุณนายภริยาคนใหม่ของเจ้าของคฤหาสน์หรูเก่าแก่ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ด้วยตัวคนเดียวโดดเดี่ยว และต้องเผชิญหน้ากับการต้อนรับอันเย็นชา และน่ากลัวของหญิงสาวผู้เป็นต้นห้องคนเก่าของมิสซิส เดอวินเตอร์คนที่ตายไปแล้ว อันมีนามว่า รีเบคกา กับบริวารรับใช้ชายหญิงอีกหลายคนที่ล้วนแล้วแต่มีอะไรที่เหมือนจะให้ความรู้สึกที่ไม่น่าไว้ใจ หดหู่ เร้นลับ

    ท่ามกลางความใหญ่โตกว้างขวางของห้องหับนับไม่ถ้วน ดอกไม้ป่านานาพรรณ อีกไม้ป่ายืนต้นรกชัฏ กับชายหาดและอ่าวที่เงียบเชียบ ดูเปลี่ยวเหงาวังเวง เสียงคลื่นทะเลที่ซัดเข้าหาฝั่ง กระทบโขดหิน ความดำมืดของบรรยากาศที่ทึบทึม ผู้คนที่จะเป็นมิตรก็ไม่ใช่ จะศัตรูก็ไม่เชิง กับเงาร่างของภรรยาสาวคนเก่าที่เพิ่งตายไปไม่นานของคนรักของเธอ ที่เหมือนยังมีชีวิตและปรากฏตัวไปทั่วทุกแห่ง

    นางเอกที่ยังอายุน้อยมาก กับพระเอกในวัย42 จะฟันฝ่าอุปสรรคและนำพาชีวิตรักไปรอดหรือไม่ ในขณะที่มีพี่สาวของสามีและพี่เขย อีกทั้งผู้จัดการงานทั่วไปของสามี คล้ายจะอยู่ฝ่ายเดียวกับเธอ และเอาใจช่วยให้ชีวิตของคนทั้งคู่เดินหน้าต่อไปได้ แต่ทว่าปริศนาทั้งหลายเกี่ยวกับคุณนายคนเก่า คือรีเบคกา และอุปสรรคจากแม่บ้านที่แสดงตนชัดว่าชิงชังรังเกียจ และหาเรื่องคอยสร้างปัญหาให้ ล้วนเป็นปราการใหญ่ที่ทำให้ผู้อ่านต้องลุ้นเอาใจช่วยเธอไปอย่างตื่นเต้น

    🔶️

    เชื่อว่าคนที่ไม่เคยรู้เรื่องราว ไม่เคยดูหนังมาก่อน จะได้รับอรรถรสความสนุกเต็มที่มากสุด ส่วนผู้เคยดูหนังแล้วก็ยังคงจะได้รับความสนุกได้ ในแง่ของการได้ทบทวนเก็บเกี่ยวรายละเอียดอีกครั้ง หากใครที่มีไว้ในกองดองแต่ยังไม่ได้อ่าน น่าเสียดายอย่างมาก

    ผู้แต่งมีอัจฉริยภาพในการเขียนบรรยายฉากอย่างแท้จริง ขอชื่นชมและสรรเสริญ โดนเฉพาะฉากที่พูดถึงนกชนิดต่าง ๆ พรรณไม้หลากหลายชนิดที่ขึ้นและปลูกไว้รายรอบคฤหาสน์ รายละเอียดของชนิดอาหาร เครื่องประกอบ เฟอร์นิเจอร์ของตกแต่ง คือมีความรอบรู้อย่างลึกจริง ทำให้คนอ่านเห็นภาพตามชัดเจน ยิ่งใครที่รู้จักอาหารประเภทต่าง ๆ เหล่านั้น รู้จักดอกไม้มากมายหลายชนิดที่กล่าวถึง คงจะยิ่งดำดิ่งเห็นภาพชัดราวกับเห็นลอยอยู่ตรงหน้า

    การใช้รูปแบบของอุปมาโวหารเชิงเปรียบเทียบช่างเป็นภาษาที่งดงาม แม้จะโบราณแต่เข้ากันมากกับยุคสมัยและบรรยากาศตามท้องเรื่อง ยิ่งบวกกับโครงเรื่องและแก่นที่แน่นเปรี๊ยะ อีกทั้งวิธีการเล่าอันน่าทึ่ง ซึ่งไม่ใช่ใครที่เป็นนักเขียนโดยทั่วไปก็สามารถทำได้ แน่นอนว่านักเขียนทุกคนล้วนปรารถนาให้ตนสามารถสร้างสรรค์งานเขียนดีเยี่ยมชนิดเป็นมาสเตอร์พีซของตนเองได้สักเล่มในชั่วชีวิตที่ผลิตงาน แต่มีไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำสำเร็จ และผมเชื่อว่า ดาฟเน ดู โมริเยร์ คือหนึ่งในนั้นได้อย่างเต็มภาคภูมิ ฉบับแปลไทยนี้ทำได้ดีทีเดียว แม้จะพบว่ามีบางคำออกจะแปลก ๆ ในความรู้สึกอยู่บ้าง เช่นใช้คำว่า กระท้อน ในความหมายที่สื่อถึงการ สะท้อน และอีก 2-3 คำ แต่พอเข้าใจได้ ไม่แน่ว่าในยุคสมัยที่ผู้แปลแปลไว้ คำไทยบางคำในเวลานั้นอาจใช้และสะกดต่างไปจากปัจจุบัน ซึ่งก็ได้แต่คาดเดาเพราะผมไม่มีความรู้มากพอในด้านนี้

    เรื่องนี้ทำให้เข้าใจถึงข้อด้อยที่น่ากำจัดหรือปรับปรุงแก้ไขให้ไม่มีอยู่ในอุปนิสัยของใครคนไหนก็ตามคือ "การคิดเองเออเอง" ซึ่งจะพบเห็นได้เยอะมากในตัวตนของนางเอก แทบจะตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเป็นจุดตายที่มีส่วนจะทำให้ชีวิตรักของนางอาจต้องถึงกาลอับปางอย่างน่าหวดเสียว และผู้หญิงส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นกันด้วยสิ ความคิดระแวง คิดเป็นตุเป็นตะ คิดหมกมุ่นเพ้อฝันไปล่วงหน้าและมักเป็นไปในทางร้ายนั้น ได้แสดงให้เห็นอิทธิพลของมันชัดเจนยิ่งในเรื่อง ว่าส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาตามมาอย่างไม่น่าเชื่อ สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากหากผู้อ่านจะนำมาสำรวจตรวจตรากับการดำเนินชีวิตตนเอง ที่จะไม่ให้มี "อิตถีภาวะ"มากเกินไปแม้ในเพศชายก็ตาม

    มีบ้างทีอ่านแล้วอาจจะรู้สึก "ลำไย" ในอุปนิสัยของนางเอก ที่เธอจะอะไรกันนักหนานะกับแทบทุกเรื่อง แต่ก็ดีที่ผู้เขียนได้สร้างเหตุแล้วให้ตัวละครของตน ได้รู้จักเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเองแล้วพัฒนาเติบโตขึ้นในช่วงหลัง ที่ไม่อ่อนวัย ใจใสไร้เดียงสาดังเช่นตอนต้นเรื่อง

    เป็นความชาญฉลาดในการวางผังอย่างดี ที่ให้เหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ค่อยๆเปิดเผยให้ตัวนางเอกและคนอ่านได้ค่อยๆ รู้เรื่องเกี่ยวกับรีเบคกาเพิ่มขึ้นทีละน้อย ๆ เต็มไปด้วยความหวาดระแวง แคลงใจ จนนำไปสู่ความน่าตื่นตะลึงในช่วงที่เฉลยความจริงให้นางเอกและผู้อ่านทราบไปพร้อมกัน ต่อจากนั้นอีกร้อยกว่าหน้า ก็เป็นช่วงที่ไม่ได้มีแผ่วลงเลยแม้แต่น้อย มีแต่เร่งเร้า เขย่าขวัญ สั่นประสาท ให้ต้องตามลุ้นระทึกเอาใจช่วยให้พระนางผ่านพ้นเรื่องร้ายแรงไปได้ด้วยดีเถิด แต่ละหน้า แต่ละบทสนทนาล้วนแต่พาเราให้ตื่นตัว ตื่นเต้นไปกับอุปสรรคต่อเนื่องที่ดาหน้าเข้าใส่ทั้งสองอย่างต่อเนื่อง ราวคลื่นทะเลที่ซัดหาฝั่งลูกแล้วลูกเล่า เหมือนโดนคลื่นพาลอยขึ้นไปจนสูงแล้วบัดดลก็จับโยนลงมาสู่เบื้องต่ำ ก่อนจะถูกม้วนลอยขึ้นไปที่สูงใหม่

    ที่ชอบมากที่สุดคือวิธีที่ผู้เขียนเลือกใช้ในการหาทางพาให้พระนางดิ้นรนไปตามทางที่ถูกตัวร้ายนำไป ไม่อาจเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า จำนนต่อสิ่งที่ปรากฏและจู่โจม แต่แล้วก็พาให้ตัวละครและเรื่องราวทั้งหมดดำเนินไปสู่จุดอันคลี่คลายอย่างชนิดที่ต้องร้องในใจว่า คิดได้ยังไง ไม่มีจุดตำหนิได้เลย เพราะไม่ใช่ตอนจบที่เหมือนไม่รู้จะจัดการกับปมที่สร้างมาอย่างไรแล้วก็ใส่วิธีจัดการเข้ามาแบบไม่สนใจอะไร แต่ทุกอย่างคือถูกวางมาแล้วแต่แรก อย่างมีระเบียบ และเงียบเชียบ บอกใบ้ไว้แต่ไม่กระโตกกระตาก มีความลุ่มลึก ที่ถ้าหากใครมีเวลามากพอ ควรอ่านอย่างช้า ๆ เพื่อเก็บละเอียดทุกประโยคแล้วจะได้พบกับความไม่ธรรมดาของนิยานเรื่องนี้ที่น่าอึ้ง ชวนหลงใหลตั้งแต่เปิดเรื่องมาด้วยท่อนอมตะที่ว่า

    "เมื่อคืนนี้ดิฉันฝันว่า ได้ไปที่คฤหาสน์มันเดอลีย์อีกครั้งหนึ่ง"

    สุดท้ายคือ การที่ตลอดทั้งเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ เรากลับไม่ได้รู้เลยว่าผู้เล่าเรื่องคือ ดิฉันนั้น แท้จริงชื่อเรียงเสียงไรกันแน่ เรารู้จักกับรีเบคกา ราวกับมีชีวิตทั้งที่ตายไปแล้ว กลับกันนางเอกหรือ ดิฉัน ที่ใกล้ชิดกับคนอ่านมากสุดราวกับคือตัวเราเองที่ยังไม่ตายนั้น เหมือนใกล้แต่ก็ไกล คือเป็นใครก็ได้ไม่ว่าผู้อ่านคือชายหรือหญิง เมื่อได้อ่านเรื่องนี้แล้วอดไม่ได้จะนำตนเองไปสวมเป็น ดิฉัน ไม่มากก็น้อย

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ป.ล. (คนที่ยังไม่เคยอ่านหรือดูหนังมาเลย ควรข้าม)

    เรื่องนี้มีฉบับฝาแฝด ที่ได้รับแรงบันดาลใจ จนนักเขียนนิยายไทยท่านหนึ่ง นำโครงเรื่องมาดัดแปลง กลายเป็นนิยายแปลงชื่อ คุณหญิงสีวิกา ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2534 สนพ.หมึกจีน เคยได้รับการนำไปสร้างเป็นละครช่อง 7 นำแสดงโดยคุณแอน อังคณา ทิมดี รับบทคุณหญิงสีวิกา และคุณจอห์นนี่ แอนโฟเน่ รับบทสามี ส่วนภรรยาสาวคนใหม่รับบทโดย คุณลูกศร ธนาภรณ์ รัตนเสน ผมยังได้รับชมเมื่อครั้งเรียนช่วงมัธยมปลายพอจำได้ ตอนนั้นก็สนุกนะ เพราะอยากทราบความจริงที่อยู่เบื้องหลัง ต้องตามอ่านจากไทยรัฐทุกวัน ซึ่งในเรื่องตัวคุณหญิงสีวิกามีอาการของคนที่ศัพท์เฉพาะใช้คำว่า "ฮิสทีเรีย" สมัยนั้นถึงกับมีดราม่ากันใหญ่โตว่าเรื่องนี้ไม่ใช่นิยายที่ควรนำมาทำเป็นละครฉายทางทีวีช่วงหลังข่าวภาคค่ำจบ ยุคนั้นละครมีประมาณชั่วโมงเดียว เริ่มสักสามทุ่มไปจบสี่ทุ่ม สุดท้ายกระแสต่อต้านเยอะจนไม่แน่ใจว่าถูกตัดทอนให้ตอนสั้นลงแล้วรีบตัดจบเอาดื้อ ๆ หรือไม่ จำไม่ค่อยได้แล้ว

    #thaitimes
    #รีเบคกา
    #นิยายแปล
    #นิยาย
    #ลึกลับ
    #ความวิปริตทางเพศ
    #มอนติคาโล
    #ท่องเที่ยว
    #บ้านริมหาด
    #คฤหาสน์
    #หนังสือดี
    #หนังสือน่าอ่าน
    #วรรณกรรมคลาสสิก
    📚รีเบคก้า ดีใจที่ห้องสมุดมี และดีใจที่ยืมมาอ่าน แม้นอรรถรสอาจจะได้ไม่เต็มที่เพราะเคยดูหนังที่ฮิตช์ค็อกสร้างมาก่อน ถึงอย่างนั้นก็ยังสัมผัสได้ถึงความเป็นสุดยอดของนิยายยอดเยี่ยมแห่งยุคเรื่องหนึ่ง ไม่สงสัยแล้วว่าเหตุใดจึงยังไม่ถูกลืม เพราะความดีงามของเรื่องนั้นสามารถข้ามผ่านกาลเวลามาใกล้ 90 ปีเต็มที ขนาดพอรู้เรื่องคร่าวๆแม้นจำไม่ได้มากเพราะหนังดูไว้นานหลายปีแล้ว แต่เมื่อได้จับฉบับหนังสือก็ยังอดลุ้นระทึกตามไปกับตัวละครนำไม่ได้ ต้องสรรเสริญผู้เขียนคือ ดาฟเน ดู โมริเยร์ ที่ให้กำเนิดรีเบคก้าขึ้นมาอวดโฉมสู่สายตานักอ่านในบรรณพิภพ หนังสือพิมพ์ในไทยครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 ฉบับที่อ่านนี้เป็นของ สนพ.สร้างสรรค์-วิชาการ เป็นพิมพ์ครั้งที่ 7 เมื่อปี พ.ศ.2538 หนา 387 หน้า มีช่วงระหว่างหน้าที่ 283-298 ทำเอาใจวูบ เพราะกำลังดำเนินเรื่องถึงช่วงจุดสูงสุดที่จะเฉลยปม เลขหน้าข้าม ทีแรกก็เศร้าว่าหน้าหายเยอะขนาดนี้คงจะพลาดอะไรสำคัญไปเยอะ พลิกตรวจดูจึงรู้ว่า เป็นความผิดพลาดของการเข้าเล่ม ที่ทำให้ต้องเปิดพลิกกลับอ่านแบบญี่ปุ่นจากขวามาซ้ายประมาณ 16 หน้า จึงกลับสู่การอ่านแบบปกติได้ น่าจะเป็นทั้งล็อตในการพิมพ์หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ สองประการที่ลดคุณค่าของนิยายเล่มนี้ในฉบับพิมพ์ของสร้างสรรค์คือ หนึ่ง ตัวอักษรที่เลือกใช้ได้ทรมานสายตาคนอ่านอย่างมากคือทั้งเล็กและบาง เมื่อบวกกับแถวยาวเหยียดที่เบียดกันเป็นพรืด นาน ๆ จึงจะพบย่อหน้าสักครั้ง จึงต้องใช้พลังสมาธิและความพยายามอย่างยิ่งกว่าจะอ่านจบ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะความดีงามในตัวของนิยายเองที่ทำให้อยากอ่านต่อ อาจยอมแพ้เสียก่อน และสอง กระดาษที่ใช้คุณภาพไม่ดีเลย ความหนาแน่นของเนื้อเยื่อกระดาษบางมาก 🔻 เนื้อเรื่องโดยย่อ หญิงสาววัยสัก20ปี ที่เป็นผู้มีบุคลิกใสซื่อ มีความเป็นตัวของตัวเองอย่างบริสุทธิ์ตามธรรมชาตินางหนึ่ง พ่อแม่ตายไปตั้งแต่ยังเล็ก จึงจำต้องหาเลี้ยงตนเองมาแบบอัตคัด จนได้มาติดตามเป็นหญิงรับใช้ให้กับคุณนายอึ่งอ่างนางหนึ่ง(ขออภัย เธอมีชื่อแต่ลักษณะภายนอกที่ถูกบรรยายทำให้นึกไปถึงอึ่งจริง ๆ นะ) ซึ่งคุณนายคนนี้ก็มีนิสัยแย่ ชอบจิกใช้งานหญิงสาว และพูดจาเหยียบย่ำน้ำใจบ่อย อีกทั้งชอบทำตัวเจ๋อแจ้น เที่ยวปั้นหน้าไปคุยกับคนในแวดวงสังคม ไม่ใช่เพื่ออะไรมากไปกว่าตักตวงข่าวสารมาพูดนินทาต่อให้คนอื่นฟังด้วยความสนุกปากตามพื้นนิสัยเดิม ซึ่งสถานที่ที่ทำให้นางเอกและพระเอกได้พบกันครั้งแรกคือที่ โรงแรมแห่งหนึ่งในมอนติคาโล คุณนายอึ่งอ่างถือวิสาสะไปคุยด้วยกับหนุ่มใหญ่เจ้าของคฤหาสน์ มันเดอลีย์ ที่กำลังอยู่ในระหว่างท่องเที่ยวเพื่อลืมเลือนเรื่องอดีตเกี่ยวกับภรรยาสาวที่เสียชีวิตไปไม่นาน ในห้องอาหารชั้นล่างซึ่งนางเอกก็จำต้องอยู่ใกล้ชิดร่วมโต๊ะแม้นไม่อยาก เพราะอับอายแทนผู้ว่าจ้างของตน ด้วยเธอเป็นคนหน้าบางและมีสมบัติผู้ดีมากกว่าคุณนายอึ่งอ่าง ทั้งที่โดนกดและดูถูกว่าเป็นพวกชั้นล่าง ก็การพบหน้าคราวนั้นเองคือจุดเริ่มต้นแห่งเรื่องราวชวนฝัน ที่ประจวบเหมาะว่าวันต่อมาเจ้านายเธอมีไข้ไม่สบาย หมอให้พักสักสองสัปดาห์ในห้อง จึงเป็นโอกาสให้นางเอกของเรื่องพอจะมีเวลาเป็นของตนเอง ได้ใช้ชีวิตอิสระในตอนลงมากินข้าวที่ห้องอาหารชั้นล่าง ซึ่งก็พอดีได้พบพระเอกเป็นครั้งที่สอง แม้จะเจียมตัวไม่กล้าไปทักหรือร่วมโต๊ะ แต่สุดท้ายเหตุการณ์ก็พาไปให้พระเอกคือมิสเตอร์ เดอวินเตอร์ ตะล่อมพูดจนเธอยอมมานั่งกินอาหารโต๊ะเดียวกับเขา และได้พูดคุยพอเป็นที่รู้เรื่องความเป็นมาของฝ่ายสาว และในโอกาสต่อมาจากวันนั้น กลายเป็นว่าช่วงเวลาที่คุณนายอึ่งอ่างนอนแซ่วบนเตียง ที่ก็ไม่ได้ป่วยอะไรมาก แต่อยากหาเหตุให้คนอื่นมาเยี่ยมจะได้ชวนคุยนินทาสารพัดกับเล่นไพ่นั้น เปิดโอกาสให้นางเอกได้สานความสัมพันธ์อันดีกับพระเอกที่ยังคงมีมาดสุขุม ลึกลับ ครุ่นคิดตลอดเวลา และไม่ค่อยพูดจาหรือเปิดเผยเรื่องราวของตน จนฝ่ายหญิงเริ่มมีความรู้สึกที่ดีกับฝ่ายชายอย่างมาก ถึงขั้นที่เรียกว่ารักแรก ทุกวันพระเอกจะพบกับนางเอกที่ห้องอาหาร กินด้วยกันแล้วพาไปนั่งรถแล่นกินลมชมวิวไปตามที่ต่างๆ แต่แล้วเมื่ออาการของเจ้านายดีขึ้น วันหนึ่งก็สั่งนางเอกว่าให้รีบไปจองตั๋วรถไฟ เพราะลูกสาวของนางติดต่อมาว่าจะไปนิวยอร์ก และเจ้านายก็จะตามไปอยู่ด้วย แน่นอนว่าต้องเอานางเอกตามไปรับใช้ เมื่อทราบข่าวเธอถึงกับหัวใจสลาย เข่าอ่อน เหมือนความสุขที่เพิ่งปรากฏไม่นานในชีวิตกำลังจะสูญสลายไปตลอดกาล เธอพยายามจะลงไปพบเจอพระเอก แต่เขาไม่อยู่ไปทำธุระ ทำให้ในเธอรุ่มร้อนเป็นไฟ ในวันเดินทางที่ถูกใช้ให้ไปเปลี่ยนตั๋วเพื่อเลื่อนเที่ยวรถให้เร็วขึ้นจากช่วงสายเป็นช่วงเช้า เธอสิ้นหวังแล้ว แต่ไม่อาจตัดใจจากไปทั้งยังไม่ได้บอกลา จึงอาศัยช่วงที่เจ้านายสั่งให้มาติดต่อเปลี่ยนเที่ยวนั้น วิ่งหน้าตั้งไปเคาะห้องที่รู้ว่าพระเอกพักอยู่เพื่อจะบอกให้ทราบ และเมื่อพระเอกได้ฟัง จึงถามว่าทำไมเธอต้องปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามแต่เจ้านายจะบงการ เธอบอกเพราะเธอต้องใช้เงิน และการทำงานรับใช้ทั้งที่ไม่อยากก็เพื่อแลกกับค่าจ้างน้อยนิด พระเอกยื่นข้อเสนอให้เลือก ว่าเธอจะไปกับคุณนายอึ่งอ่างหรือจะไปกับเขา เธอไม่เข้าใจ เขาบอกอีกครั้งให้ชัดว่าเธอจะเลือกไปกับเขาในฐานะมิสซิส เดอวินเตอร์หรือไม่ นั่นเอง คือการเดินทางครั้งใหม่ของนางเอก หลังเธอตกลงใจจะไปกับเขาเพราะความรัก ทั้งสองแต่งงานกันอย่างที่ไม่มีการสวมชุด เข้าโบสถ์หรือการเลี้ยงฉลอง เพราะเขาไม่ปรารถนา แล้วไปฮันนีมูนต่อที่อิตาลีอยู่หลายสัปดาห์ ก่อนที่ท้ายสุดจะตรงไปที่คฤหาสน์มันเดอลีย์อันแสนไกล งดงามตั้งตระหง่านอยู่ภายในวงล้อมของป่ารก ที่ซึ่งเธอต้องกลายจากนางสาวต็อกต๋อย ไร้ชื่อเสียง ไร้เงิน ไร้ศักดิ์ฐานะใดๆ ไปเป็นคุณนายภริยาคนใหม่ของเจ้าของคฤหาสน์หรูเก่าแก่ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ด้วยตัวคนเดียวโดดเดี่ยว และต้องเผชิญหน้ากับการต้อนรับอันเย็นชา และน่ากลัวของหญิงสาวผู้เป็นต้นห้องคนเก่าของมิสซิส เดอวินเตอร์คนที่ตายไปแล้ว อันมีนามว่า รีเบคกา กับบริวารรับใช้ชายหญิงอีกหลายคนที่ล้วนแล้วแต่มีอะไรที่เหมือนจะให้ความรู้สึกที่ไม่น่าไว้ใจ หดหู่ เร้นลับ ท่ามกลางความใหญ่โตกว้างขวางของห้องหับนับไม่ถ้วน ดอกไม้ป่านานาพรรณ อีกไม้ป่ายืนต้นรกชัฏ กับชายหาดและอ่าวที่เงียบเชียบ ดูเปลี่ยวเหงาวังเวง เสียงคลื่นทะเลที่ซัดเข้าหาฝั่ง กระทบโขดหิน ความดำมืดของบรรยากาศที่ทึบทึม ผู้คนที่จะเป็นมิตรก็ไม่ใช่ จะศัตรูก็ไม่เชิง กับเงาร่างของภรรยาสาวคนเก่าที่เพิ่งตายไปไม่นานของคนรักของเธอ ที่เหมือนยังมีชีวิตและปรากฏตัวไปทั่วทุกแห่ง นางเอกที่ยังอายุน้อยมาก กับพระเอกในวัย42 จะฟันฝ่าอุปสรรคและนำพาชีวิตรักไปรอดหรือไม่ ในขณะที่มีพี่สาวของสามีและพี่เขย อีกทั้งผู้จัดการงานทั่วไปของสามี คล้ายจะอยู่ฝ่ายเดียวกับเธอ และเอาใจช่วยให้ชีวิตของคนทั้งคู่เดินหน้าต่อไปได้ แต่ทว่าปริศนาทั้งหลายเกี่ยวกับคุณนายคนเก่า คือรีเบคกา และอุปสรรคจากแม่บ้านที่แสดงตนชัดว่าชิงชังรังเกียจ และหาเรื่องคอยสร้างปัญหาให้ ล้วนเป็นปราการใหญ่ที่ทำให้ผู้อ่านต้องลุ้นเอาใจช่วยเธอไปอย่างตื่นเต้น 🔶️ เชื่อว่าคนที่ไม่เคยรู้เรื่องราว ไม่เคยดูหนังมาก่อน จะได้รับอรรถรสความสนุกเต็มที่มากสุด ส่วนผู้เคยดูหนังแล้วก็ยังคงจะได้รับความสนุกได้ ในแง่ของการได้ทบทวนเก็บเกี่ยวรายละเอียดอีกครั้ง หากใครที่มีไว้ในกองดองแต่ยังไม่ได้อ่าน น่าเสียดายอย่างมาก ผู้แต่งมีอัจฉริยภาพในการเขียนบรรยายฉากอย่างแท้จริง ขอชื่นชมและสรรเสริญ โดนเฉพาะฉากที่พูดถึงนกชนิดต่าง ๆ พรรณไม้หลากหลายชนิดที่ขึ้นและปลูกไว้รายรอบคฤหาสน์ รายละเอียดของชนิดอาหาร เครื่องประกอบ เฟอร์นิเจอร์ของตกแต่ง คือมีความรอบรู้อย่างลึกจริง ทำให้คนอ่านเห็นภาพตามชัดเจน ยิ่งใครที่รู้จักอาหารประเภทต่าง ๆ เหล่านั้น รู้จักดอกไม้มากมายหลายชนิดที่กล่าวถึง คงจะยิ่งดำดิ่งเห็นภาพชัดราวกับเห็นลอยอยู่ตรงหน้า การใช้รูปแบบของอุปมาโวหารเชิงเปรียบเทียบช่างเป็นภาษาที่งดงาม แม้จะโบราณแต่เข้ากันมากกับยุคสมัยและบรรยากาศตามท้องเรื่อง ยิ่งบวกกับโครงเรื่องและแก่นที่แน่นเปรี๊ยะ อีกทั้งวิธีการเล่าอันน่าทึ่ง ซึ่งไม่ใช่ใครที่เป็นนักเขียนโดยทั่วไปก็สามารถทำได้ แน่นอนว่านักเขียนทุกคนล้วนปรารถนาให้ตนสามารถสร้างสรรค์งานเขียนดีเยี่ยมชนิดเป็นมาสเตอร์พีซของตนเองได้สักเล่มในชั่วชีวิตที่ผลิตงาน แต่มีไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำสำเร็จ และผมเชื่อว่า ดาฟเน ดู โมริเยร์ คือหนึ่งในนั้นได้อย่างเต็มภาคภูมิ ฉบับแปลไทยนี้ทำได้ดีทีเดียว แม้จะพบว่ามีบางคำออกจะแปลก ๆ ในความรู้สึกอยู่บ้าง เช่นใช้คำว่า กระท้อน ในความหมายที่สื่อถึงการ สะท้อน และอีก 2-3 คำ แต่พอเข้าใจได้ ไม่แน่ว่าในยุคสมัยที่ผู้แปลแปลไว้ คำไทยบางคำในเวลานั้นอาจใช้และสะกดต่างไปจากปัจจุบัน ซึ่งก็ได้แต่คาดเดาเพราะผมไม่มีความรู้มากพอในด้านนี้ เรื่องนี้ทำให้เข้าใจถึงข้อด้อยที่น่ากำจัดหรือปรับปรุงแก้ไขให้ไม่มีอยู่ในอุปนิสัยของใครคนไหนก็ตามคือ "การคิดเองเออเอง" ซึ่งจะพบเห็นได้เยอะมากในตัวตนของนางเอก แทบจะตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเป็นจุดตายที่มีส่วนจะทำให้ชีวิตรักของนางอาจต้องถึงกาลอับปางอย่างน่าหวดเสียว และผู้หญิงส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นกันด้วยสิ ความคิดระแวง คิดเป็นตุเป็นตะ คิดหมกมุ่นเพ้อฝันไปล่วงหน้าและมักเป็นไปในทางร้ายนั้น ได้แสดงให้เห็นอิทธิพลของมันชัดเจนยิ่งในเรื่อง ว่าส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาตามมาอย่างไม่น่าเชื่อ สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากหากผู้อ่านจะนำมาสำรวจตรวจตรากับการดำเนินชีวิตตนเอง ที่จะไม่ให้มี "อิตถีภาวะ"มากเกินไปแม้ในเพศชายก็ตาม มีบ้างทีอ่านแล้วอาจจะรู้สึก "ลำไย" ในอุปนิสัยของนางเอก ที่เธอจะอะไรกันนักหนานะกับแทบทุกเรื่อง แต่ก็ดีที่ผู้เขียนได้สร้างเหตุแล้วให้ตัวละครของตน ได้รู้จักเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเองแล้วพัฒนาเติบโตขึ้นในช่วงหลัง ที่ไม่อ่อนวัย ใจใสไร้เดียงสาดังเช่นตอนต้นเรื่อง เป็นความชาญฉลาดในการวางผังอย่างดี ที่ให้เหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ค่อยๆเปิดเผยให้ตัวนางเอกและคนอ่านได้ค่อยๆ รู้เรื่องเกี่ยวกับรีเบคกาเพิ่มขึ้นทีละน้อย ๆ เต็มไปด้วยความหวาดระแวง แคลงใจ จนนำไปสู่ความน่าตื่นตะลึงในช่วงที่เฉลยความจริงให้นางเอกและผู้อ่านทราบไปพร้อมกัน ต่อจากนั้นอีกร้อยกว่าหน้า ก็เป็นช่วงที่ไม่ได้มีแผ่วลงเลยแม้แต่น้อย มีแต่เร่งเร้า เขย่าขวัญ สั่นประสาท ให้ต้องตามลุ้นระทึกเอาใจช่วยให้พระนางผ่านพ้นเรื่องร้ายแรงไปได้ด้วยดีเถิด แต่ละหน้า แต่ละบทสนทนาล้วนแต่พาเราให้ตื่นตัว ตื่นเต้นไปกับอุปสรรคต่อเนื่องที่ดาหน้าเข้าใส่ทั้งสองอย่างต่อเนื่อง ราวคลื่นทะเลที่ซัดหาฝั่งลูกแล้วลูกเล่า เหมือนโดนคลื่นพาลอยขึ้นไปจนสูงแล้วบัดดลก็จับโยนลงมาสู่เบื้องต่ำ ก่อนจะถูกม้วนลอยขึ้นไปที่สูงใหม่ ที่ชอบมากที่สุดคือวิธีที่ผู้เขียนเลือกใช้ในการหาทางพาให้พระนางดิ้นรนไปตามทางที่ถูกตัวร้ายนำไป ไม่อาจเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า จำนนต่อสิ่งที่ปรากฏและจู่โจม แต่แล้วก็พาให้ตัวละครและเรื่องราวทั้งหมดดำเนินไปสู่จุดอันคลี่คลายอย่างชนิดที่ต้องร้องในใจว่า คิดได้ยังไง ไม่มีจุดตำหนิได้เลย เพราะไม่ใช่ตอนจบที่เหมือนไม่รู้จะจัดการกับปมที่สร้างมาอย่างไรแล้วก็ใส่วิธีจัดการเข้ามาแบบไม่สนใจอะไร แต่ทุกอย่างคือถูกวางมาแล้วแต่แรก อย่างมีระเบียบ และเงียบเชียบ บอกใบ้ไว้แต่ไม่กระโตกกระตาก มีความลุ่มลึก ที่ถ้าหากใครมีเวลามากพอ ควรอ่านอย่างช้า ๆ เพื่อเก็บละเอียดทุกประโยคแล้วจะได้พบกับความไม่ธรรมดาของนิยานเรื่องนี้ที่น่าอึ้ง ชวนหลงใหลตั้งแต่เปิดเรื่องมาด้วยท่อนอมตะที่ว่า "เมื่อคืนนี้ดิฉันฝันว่า ได้ไปที่คฤหาสน์มันเดอลีย์อีกครั้งหนึ่ง" สุดท้ายคือ การที่ตลอดทั้งเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ เรากลับไม่ได้รู้เลยว่าผู้เล่าเรื่องคือ ดิฉันนั้น แท้จริงชื่อเรียงเสียงไรกันแน่ เรารู้จักกับรีเบคกา ราวกับมีชีวิตทั้งที่ตายไปแล้ว กลับกันนางเอกหรือ ดิฉัน ที่ใกล้ชิดกับคนอ่านมากสุดราวกับคือตัวเราเองที่ยังไม่ตายนั้น เหมือนใกล้แต่ก็ไกล คือเป็นใครก็ได้ไม่ว่าผู้อ่านคือชายหรือหญิง เมื่อได้อ่านเรื่องนี้แล้วอดไม่ได้จะนำตนเองไปสวมเป็น ดิฉัน ไม่มากก็น้อย . . . . . . . . . ป.ล. (คนที่ยังไม่เคยอ่านหรือดูหนังมาเลย ควรข้าม) เรื่องนี้มีฉบับฝาแฝด ที่ได้รับแรงบันดาลใจ จนนักเขียนนิยายไทยท่านหนึ่ง นำโครงเรื่องมาดัดแปลง กลายเป็นนิยายแปลงชื่อ คุณหญิงสีวิกา ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2534 สนพ.หมึกจีน เคยได้รับการนำไปสร้างเป็นละครช่อง 7 นำแสดงโดยคุณแอน อังคณา ทิมดี รับบทคุณหญิงสีวิกา และคุณจอห์นนี่ แอนโฟเน่ รับบทสามี ส่วนภรรยาสาวคนใหม่รับบทโดย คุณลูกศร ธนาภรณ์ รัตนเสน ผมยังได้รับชมเมื่อครั้งเรียนช่วงมัธยมปลายพอจำได้ ตอนนั้นก็สนุกนะ เพราะอยากทราบความจริงที่อยู่เบื้องหลัง ต้องตามอ่านจากไทยรัฐทุกวัน ซึ่งในเรื่องตัวคุณหญิงสีวิกามีอาการของคนที่ศัพท์เฉพาะใช้คำว่า "ฮิสทีเรีย" สมัยนั้นถึงกับมีดราม่ากันใหญ่โตว่าเรื่องนี้ไม่ใช่นิยายที่ควรนำมาทำเป็นละครฉายทางทีวีช่วงหลังข่าวภาคค่ำจบ ยุคนั้นละครมีประมาณชั่วโมงเดียว เริ่มสักสามทุ่มไปจบสี่ทุ่ม สุดท้ายกระแสต่อต้านเยอะจนไม่แน่ใจว่าถูกตัดทอนให้ตอนสั้นลงแล้วรีบตัดจบเอาดื้อ ๆ หรือไม่ จำไม่ค่อยได้แล้ว #thaitimes #รีเบคกา #นิยายแปล #นิยาย #ลึกลับ #ความวิปริตทางเพศ #มอนติคาโล #ท่องเที่ยว #บ้านริมหาด #คฤหาสน์ #หนังสือดี #หนังสือน่าอ่าน #วรรณกรรมคลาสสิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☆ติดต่อสอบถามข้อมูล
    ☎️ : 0837910222 หรือ 032530487
    🌴 : Facebook - Green Gallery Hotel Hua Hin
    》》
    https://www.facebook.com/share/CENrwtDwUrSMgZtF/?mibextid=qi2Omg
    🌴 : Line ID @greengalleryhuahin
    🌴 : Instagram - greengalleryhotelhuahin
    Green Gallery Hotel Hua Hin
    ■■■■■■■■
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #thaitimesแนะนำที่พัก #thaitimesรีวิวที่พัก #หัวหิน #ที่พักติดชายทะเลหัวหิน #GreenGalleryHotelHuaHin
    ☆ติดต่อสอบถามข้อมูล ☎️ : 0837910222 หรือ 032530487 🌴 : Facebook - Green Gallery Hotel Hua Hin 》》 https://www.facebook.com/share/CENrwtDwUrSMgZtF/?mibextid=qi2Omg 🌴 : Line ID @greengalleryhuahin 🌴 : Instagram - greengalleryhotelhuahin Green Gallery Hotel Hua Hin ■■■■■■■■ #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #thaitimesแนะนำที่พัก #thaitimesรีวิวที่พัก #หัวหิน #ที่พักติดชายทะเลหัวหิน #GreenGalleryHotelHuaHin
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 470 มุมมอง 158 0 รีวิว
  • อรุณสวัสดิ์ยามเช้าวันศุกร์แรกของเดือนตุลาคม

    ภาพวาดสีน้ำบ้านในย่านชุมชนชาวจีน ผลงานศิลปิน Huangyouwei

    #thaitimes
    #สีน้ำ
    #ภาพวาด
    #ภาพเขียนสีน้ำ
    #งานศิลป์
    #ศิลปะ
    #ยามเช้า
    #หมู่บ้าน
    #ชุมชนจีนโบราณ
    อรุณสวัสดิ์ยามเช้าวันศุกร์แรกของเดือนตุลาคม ภาพวาดสีน้ำบ้านในย่านชุมชนชาวจีน ผลงานศิลปิน Huangyouwei #thaitimes #สีน้ำ #ภาพวาด #ภาพเขียนสีน้ำ #งานศิลป์ #ศิลปะ #ยามเช้า #หมู่บ้าน #ชุมชนจีนโบราณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
  • #thaitimes
    #กลอน
    #บทกวี
    #รักธรรมะ
    #ท่านจันทร์
    #กินเจ

    บทกลอนโดยท่านจันทร์
    #thaitimes #กลอน #บทกวี #รักธรรมะ #ท่านจันทร์ #กินเจ บทกลอนโดยท่านจันทร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥อินโดนีเซีย ได้แบนแพตฟอร์มอีคอมเมิร์ชเตมู Temu จากจีน ในทุกช่องทาง
    โดยให้เหตุผลว่า ถ้าให้ธุรกิจแบบนี้เข้ามาในประเทศ จะส่งผลกระทบ
    ต่อเศรษฐกิจการค้าในประเทศในวงกว้างให้ปิดกิจการไป โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก
    ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจขนาดไมโคร ซึ่งไม่สามารถแข่งขันในด้านราคาได้
    จากรูปแบบธุรกิจของ Temu ที่ขายสินค้าจากโรงงาน มาถึงผู้บริโภคโดยตรง
    ซึ่งถือว่า ขัดต่อกฎระเบียบการค้าของอินโดนีเซีย ซึ่งกำหนดให้ต้องมีตัวแทน
    หรือผู้จัดจำหน่ายในประเทศ
    ที่มา : cna

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #Temu #thaitimes
    🔥🔥อินโดนีเซีย ได้แบนแพตฟอร์มอีคอมเมิร์ชเตมู Temu จากจีน ในทุกช่องทาง โดยให้เหตุผลว่า ถ้าให้ธุรกิจแบบนี้เข้ามาในประเทศ จะส่งผลกระทบ ต่อเศรษฐกิจการค้าในประเทศในวงกว้างให้ปิดกิจการไป โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจขนาดไมโคร ซึ่งไม่สามารถแข่งขันในด้านราคาได้ จากรูปแบบธุรกิจของ Temu ที่ขายสินค้าจากโรงงาน มาถึงผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งถือว่า ขัดต่อกฎระเบียบการค้าของอินโดนีเซีย ซึ่งกำหนดให้ต้องมีตัวแทน หรือผู้จัดจำหน่ายในประเทศ ที่มา : cna #หุ้นติดดอย #การลงทุน #Temu #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 365 มุมมอง 0 รีวิว
  • “หลานม่า”ส่งถึงเวทีออสการ์ เมื่อสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ เลือก ‘หลานม่า’ เป็นตัวแทนภาพยนตร์ไทย โดยเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 97 สาขา "ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม" (97th Academy Awards - International Feature Film)

    ขอแสดงความยินดีกับทีมงานผู้สร้างภาพยนตร์ : พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ผู้กำกับ, เป็ด ทศพล เขียนบท,
    พี่เก้ง จิระ, พี่วัน วรรณฤดี โปรดิวเซอร์ บิวกิ้น, ยายแต๋ว อุษา, ดู๋ สัญญา, เจีย สฤญรัตน์, เผือก พงศธร, ตู ต้นตะวัน ทีมนักแสดงนำ รวมไปถึงทีมงานทุกฝ่าย สำหรับการได้รับเลือกเป็นตัวแทนหนังไทยในครั้งนี้ด้วย

    ที่มา : ภาพและข้อมูลจาก GDH

    #Thaitimes
    “หลานม่า”ส่งถึงเวทีออสการ์ เมื่อสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ เลือก ‘หลานม่า’ เป็นตัวแทนภาพยนตร์ไทย โดยเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 97 สาขา "ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม" (97th Academy Awards - International Feature Film) ขอแสดงความยินดีกับทีมงานผู้สร้างภาพยนตร์ : พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ผู้กำกับ, เป็ด ทศพล เขียนบท, พี่เก้ง จิระ, พี่วัน วรรณฤดี โปรดิวเซอร์ บิวกิ้น, ยายแต๋ว อุษา, ดู๋ สัญญา, เจีย สฤญรัตน์, เผือก พงศธร, ตู ต้นตะวัน ทีมนักแสดงนำ รวมไปถึงทีมงานทุกฝ่าย สำหรับการได้รับเลือกเป็นตัวแทนหนังไทยในครั้งนี้ด้วย ที่มา : ภาพและข้อมูลจาก GDH #Thaitimes
    Love
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช 2567 ซึ่งจะมีการเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 นี้ สถาบันไทยศึกษา ร่วมกับคณะอักษรศาสตร์ ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาการสอนภาษาไทย คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันสุนทรภู่ ดำริจัดโครงการประชุมวิชาการ “พระเสด็จโดยแดนชล” วัฒนธรรมเห่เรือในวรรณคดีและศิลปกรรมไทย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสมหามงคล และเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเห่เรือที่มีความสำคัญต่อวรรณคดีและศิลปกรรมของไทย

    คณะผู้จัดงานขอเรียนเชิญร่วมการประชุมวิชาการและพิธีมอบรางวัลการประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา ในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 เวลา 8.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 15 อาคารบรมราชกุมารี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    ลงทะเบียนทาง https://forms.gle/UKMzgSJzomVUhZCn7

    --------

    กำหนดการ

    08.30 - 09.00
    ลงทะเบียน

    09.00 - 09.15
    พิธีการ

    09.15 - 09.30
    อาเศียรวาทเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    09.30 - 10.10
    กาพย์เห่เฉลิมพระเกียรติ
    ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ชลดา เรืองรักษ์ลิขิต
    - ราชบัณฑิต สาขาวิชาวรรณกรรมร้อยกรอง ประเภทวิชาวรรณศิลป์ สำนักศิลปกรรม

    10.10 - 10.50
    “พระเสด็จโดยแดนชล” วัฒนธรรมเห่เรือในศิลปกรรมไทย
    ดร.ไพโรจน์ ทองคำสุก
    - ราชบัณฑิต สาขาวิชานาฏกรรมไทย ประเภทวิชาวิจิตรศิลป์ สำนักศิลปกรรม

    10.50 - 11.10
    พักการประชุม

    11.10 – 11.30
    การแสดงเห่เรือ ผลงานผู้ชนะเลิศประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา

    11.30 - 12.00
    พิธีมอบรางวัลการประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/o2aBwLn4SrE69GYz/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช 2567 ซึ่งจะมีการเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 นี้ สถาบันไทยศึกษา ร่วมกับคณะอักษรศาสตร์ ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาการสอนภาษาไทย คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันสุนทรภู่ ดำริจัดโครงการประชุมวิชาการ “พระเสด็จโดยแดนชล” วัฒนธรรมเห่เรือในวรรณคดีและศิลปกรรมไทย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสมหามงคล และเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเห่เรือที่มีความสำคัญต่อวรรณคดีและศิลปกรรมของไทย คณะผู้จัดงานขอเรียนเชิญร่วมการประชุมวิชาการและพิธีมอบรางวัลการประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา ในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 เวลา 8.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 15 อาคารบรมราชกุมารี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงทะเบียนทาง https://forms.gle/UKMzgSJzomVUhZCn7 -------- กำหนดการ 08.30 - 09.00 ลงทะเบียน 09.00 - 09.15 พิธีการ 09.15 - 09.30 อาเศียรวาทเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 09.30 - 10.10 กาพย์เห่เฉลิมพระเกียรติ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ชลดา เรืองรักษ์ลิขิต - ราชบัณฑิต สาขาวิชาวรรณกรรมร้อยกรอง ประเภทวิชาวรรณศิลป์ สำนักศิลปกรรม 10.10 - 10.50 “พระเสด็จโดยแดนชล” วัฒนธรรมเห่เรือในศิลปกรรมไทย ดร.ไพโรจน์ ทองคำสุก - ราชบัณฑิต สาขาวิชานาฏกรรมไทย ประเภทวิชาวิจิตรศิลป์ สำนักศิลปกรรม 10.50 - 11.10 พักการประชุม 11.10 – 11.30 การแสดงเห่เรือ ผลงานผู้ชนะเลิศประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา 11.30 - 12.00 พิธีมอบรางวัลการประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/o2aBwLn4SrE69GYz/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Love
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชีวิตนี้สั้นนัก ใจดีเข้าไว้เถอะนะ

    จากหนังสือ [หนังสือกอดใจ

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes
    ชีวิตนี้สั้นนัก ใจดีเข้าไว้เถอะนะ จากหนังสือ [หนังสือกอดใจ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 374 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขึ้น อย่า เหลิง
    ลง อย่า ท้อ
    ชีวิตคือการเรียนรู้
    เพื่ออยู่ให้ได้ ใน ณ ขณะนั้น

    จากหนังสือ |เป็นคนธรรมดาที่มีความสุข

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes #การเรียนรู้
    ขึ้น อย่า เหลิง ลง อย่า ท้อ ชีวิตคือการเรียนรู้ เพื่ออยู่ให้ได้ ใน ณ ขณะนั้น จากหนังสือ |เป็นคนธรรมดาที่มีความสุข #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes #การเรียนรู้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทมเป้ ชื่อเหมือนอาหารญี่ปุ่น
    แต่จริงๆแล้วคืออะไร?

    เทมเป้ ทำมาจากถั่วเหลือง
    ที่นำไปหมักกับเชื้อสายพันธุ์
    Rhizopus Oligosporus
    โดยเชื้อราชนิดนี้ มีคุณสมบัติ
    ช่วยย่อยโปรตีน ในถั่วเหลืองให้เป็นกรดอะมิโนโปรตีน อนุภาคเล็กๆ
    ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่าย
    และช่วยย่อยกรดไฟแตต
    (Phytic acid)
    ที่เป็นสารต้านโภชนาการ (anti nutrients)
    ขัดขวางการดูดซึม แคลเซียม สังกะสี
    และธาตุเหล็ก

    การรับประทานเทมเป้เป็นประจำ
    จึงทำให้ ร่างกายสามารถดู ดซึมสารอาหารเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

    เทมเป้นน.100 กรัม. มีโปรตีนสูงถึง 19 กรัม
    และยังมีกากใยไฟเบอร์ที่ดี
    มีวิตามินแร่ธาตุต่างๆโดยเฉพาะ
    วิตามินบี 12 ที่ช่วยบำรุงเลือดบำรุงสมอง
    ซึ่งมักไม่พบในพืชผักทั่วไป
    มีเลซิตินช่วยบำรุงตับ และยังเป็นโพรไบโอติดส์
    และพรีไบโอติกส์ ที่ ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายระบบลำไส้และภูมิคุ้มกัน อีกด้วยค่ะ

    เทมเป้มีรสชาติจืดๆมันๆเหมือนเต้าหู้
    แต่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง
    กว่าเต้าหู้หลายเท่า

    เทมเป้จึงเหมาะสำหรับท่านที่รักสุขภาพ
    และต้องการหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์
    เรามาทานเทมเป้กันค่ะ
    #tempeh #เทมเป้ #โปรตีน #vegan
    #เจ #มังสวิรัติ #plantbased
    #thaitimes
    เทมเป้ ชื่อเหมือนอาหารญี่ปุ่น แต่จริงๆแล้วคืออะไร? เทมเป้ ทำมาจากถั่วเหลือง ที่นำไปหมักกับเชื้อสายพันธุ์ Rhizopus Oligosporus โดยเชื้อราชนิดนี้ มีคุณสมบัติ ช่วยย่อยโปรตีน ในถั่วเหลืองให้เป็นกรดอะมิโนโปรตีน อนุภาคเล็กๆ ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่าย และช่วยย่อยกรดไฟแตต (Phytic acid) ที่เป็นสารต้านโภชนาการ (anti nutrients) ขัดขวางการดูดซึม แคลเซียม สังกะสี และธาตุเหล็ก การรับประทานเทมเป้เป็นประจำ จึงทำให้ ร่างกายสามารถดู ดซึมสารอาหารเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี เทมเป้นน.100 กรัม. มีโปรตีนสูงถึง 19 กรัม และยังมีกากใยไฟเบอร์ที่ดี มีวิตามินแร่ธาตุต่างๆโดยเฉพาะ วิตามินบี 12 ที่ช่วยบำรุงเลือดบำรุงสมอง ซึ่งมักไม่พบในพืชผักทั่วไป มีเลซิตินช่วยบำรุงตับ และยังเป็นโพรไบโอติดส์ และพรีไบโอติกส์ ที่ ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายระบบลำไส้และภูมิคุ้มกัน อีกด้วยค่ะ เทมเป้มีรสชาติจืดๆมันๆเหมือนเต้าหู้ แต่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง กว่าเต้าหู้หลายเท่า เทมเป้จึงเหมาะสำหรับท่านที่รักสุขภาพ และต้องการหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ เรามาทานเทมเป้กันค่ะ #tempeh #เทมเป้ #โปรตีน #vegan #เจ #มังสวิรัติ #plantbased #thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 400 มุมมอง 0 รีวิว
  • Kaelyn lip oil
    ลิปสติกจากน้ำมันธรรมชาติ ทำจากไขผึ้งและน้ำมันธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี
    เน้นการบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น สีสวยสดใส อย่างเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย
    #สอนทำลิปสติกจากน้ำมันธรรมชาติ
    #lipstick
    #lipoil
    #thaitimes
    Kaelyn lip oil ลิปสติกจากน้ำมันธรรมชาติ ทำจากไขผึ้งและน้ำมันธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี เน้นการบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น สีสวยสดใส อย่างเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย #สอนทำลิปสติกจากน้ำมันธรรมชาติ #lipstick #lipoil #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 524 มุมมอง 204 0 รีวิว
  • Tempeh lemon curd
    หอมอร่อยเปรี้ยวหวาน. สดชื่น โปรตีนสูง
    ใช้ทาหน้าขนมปังหรือใช้ตกแต่งหน้าขนมเค้กก็อร่อยค่ะเก็บใส่ตู้เย็นไว้ทานได้นาน
    วิธีทำ
    น้ำเลม่อน 100 กรัม
    น้ำตาลทราย 120 กรัม
    ผิวเลม่อนประมาณ 2ชช.
    เทมเป้หั้นละเอียด 100 กรัม
    ไข่ไก่ใหม่ๆ 1 ฟองและไข่แดงอีก 2 ฟอง
    เนยสด 65 กรัม
    เกลือเล็กน้อย
    นมข้นหวาน 1 ช้อนโต๊ะ
    แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา หรืออาจใช้เป็นเจลาตินก็ได้ค่ะ หรือจะไม่ใส่ก็ได้
    นำเปลือกเลม่อนผสมในน้ำตาลเพื่อให้กลิ่นน้ำมันหอมระเหยติดลงที่น้ำตาลทราย ตีไข่ไก่
    ใส่น้ำเลม่อน ใส่เนยสดเกลือ นมข้นหวาน เทมเป้
    คนให้เข้ากันนำขึ้นตั้งไฟกวนจนข้น
    ขั้นตอนสุดท้ายใส่แป้งข้าวโพดผสมน้ำเล็กน้อย
    ลงไป จะทำให้เนื้อข้นขึ้น หรือจะไม่ใส่ก็ได้ค่ะ
    เก็บใส่ขวดแก้วที่ฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนแล้ว
    ปิดฝาเก็บใส่ตู้เย็นไว้ทานได้นานค่ะ🥰
    ทำกินได้ ทำขายดี
    #lemoncurd #tempeh #เทมเป้ #เทมเป้กินกับอะไรก็อร่อย#เมนูอร่อยจากเทมเป้ #thaitimes
    Tempeh lemon curd หอมอร่อยเปรี้ยวหวาน. สดชื่น โปรตีนสูง ใช้ทาหน้าขนมปังหรือใช้ตกแต่งหน้าขนมเค้กก็อร่อยค่ะเก็บใส่ตู้เย็นไว้ทานได้นาน วิธีทำ น้ำเลม่อน 100 กรัม น้ำตาลทราย 120 กรัม ผิวเลม่อนประมาณ 2ชช. เทมเป้หั้นละเอียด 100 กรัม ไข่ไก่ใหม่ๆ 1 ฟองและไข่แดงอีก 2 ฟอง เนยสด 65 กรัม เกลือเล็กน้อย นมข้นหวาน 1 ช้อนโต๊ะ แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา หรืออาจใช้เป็นเจลาตินก็ได้ค่ะ หรือจะไม่ใส่ก็ได้ นำเปลือกเลม่อนผสมในน้ำตาลเพื่อให้กลิ่นน้ำมันหอมระเหยติดลงที่น้ำตาลทราย ตีไข่ไก่ ใส่น้ำเลม่อน ใส่เนยสดเกลือ นมข้นหวาน เทมเป้ คนให้เข้ากันนำขึ้นตั้งไฟกวนจนข้น ขั้นตอนสุดท้ายใส่แป้งข้าวโพดผสมน้ำเล็กน้อย ลงไป จะทำให้เนื้อข้นขึ้น หรือจะไม่ใส่ก็ได้ค่ะ เก็บใส่ขวดแก้วที่ฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนแล้ว ปิดฝาเก็บใส่ตู้เย็นไว้ทานได้นานค่ะ🥰 ทำกินได้ ทำขายดี #lemoncurd #tempeh #เทมเป้ #เทมเป้กินกับอะไรก็อร่อย#เมนูอร่อยจากเทมเป้ #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 410 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง! ‘ทีดีอาร์ไอ’ ชี้ 95% รถรับจ้างไม่ประจำทาง คือ ระเบิดเวลาบนท้องถนนไทย แนะรัฐตรวจเข้มกลุ่มรถที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมจัดงบฯ – สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หนุนผู้ประกอบการใช้วัสดุทนไฟ

    เหตุการณ์รถบัสนักเรียนไฟไหม้ ซึ่งนำไปสู่ความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น สะท้อนความล้มเหลวในการป้องกัน และควบคุมการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนไทย ตอกย้ำสมญานามประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากการจราจรมากที่สุด สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และครองแชมป์อันดับ 1 ในอาเซียน
    อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่เพียงชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยง ทั้งในด้านพฤติกรรมการขับขี่ ความรู้ในการเผชิญเหตุฉุกเฉิน ยังได้นำไปสู่การเปิดโปงข้อบกพร่องของ “ระบบตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย” โดยเฉพาะรถทัศนาจร หรือ “รถรับจ้างไม่ประจำทาง” ที่วิ่งให้บริการขวักไขว่ อันเป็นภาพคุ้นชินตาของคนไทย

    ‘ทีดีอาร์ไอ’ เผยมีรถรับจ้างไม่ประจำทางเพียง 5% ผ่าน “มาตรฐานลุกไหม้”
    ดร.สุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัย ด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า แม้ว่ากรมการขนส่งทางบก จะมีความพยายามในการปรับปรุงมาตรฐานรถโดยสารขนาดใหญ่ในหลายประเด็น รวมถึงมาตรฐานด้านการลุกไหม้มาตั้งแต่ปี 2559 โดยออกประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่องกำหนดคุณสมบัติด้านการลุกไหม้การลามไฟของวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในรถโดยสาร แต่ปรากฎว่าประกาศดังกล่าวถูกเลื่อนการบังคับใช้อยู่เรื่อย ๆ
    ด้วยเหตุผลเพราะผู้ประกอบการ ไม่มีความพร้อมในการแบกรับต้นทุน จากการเปลี่ยนไปใช้วัสดุกันไฟที่มีราคาแพง จนกระทั่งสุดท้ายเพิ่งบังคับใช้ได้จริงในปี 2565 แต่กลับไม่มีผลย้อนหลัง ซึ่งหมายความว่าใช้บังคับได้เฉพาะกับรถที่จดทะเบียนใหม่ หรือ มีการปรับปรุงตัวถังใหม่ในปี 2565 เท่านั้น “รถคันที่เกิดเหตุก็เป็นหนึ่งในกรณี ที่ไม่เข้าเงื่อนไขของประกาศฉบับนี้ เนื่องจากมีการจดเบียนใหม่ในปี 2561”

    ดร.สุเมธ ระบุว่าปัจจุบันรถทัศนาจรในกลุ่มมาตรฐาน 1 ซึ่งเป็นประเภทเดียวกับรถคันที่เกิดเหตุ มีจำนวน 5,896 คัน และรถมาตรฐาน 4 หรือรถ 2 ชั้น มีจำนวน 4,972 คน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าในจำนวนทั้งหมดกว่า 1 หมื่นคัน มีจำนวนเพียง 5% เท่านั้น ที่ผ่านมาตรฐานด้านการลุกไหม้ และอนุมานได้ว่าส่วนที่เหลืออีก 95% ที่เป็นรถจดทะเบียนก่อนประกาศดังกล่าวบังคับใช้ ยังไม่ถูกกำหนดให้มีมาตรฐานนี้ ขณะที่ในต่างประเทศเวลากำหนดมาตรฐานในเรื่องเหล่านี้ จะให้มีผลบังคับใช้ย้อนหลังด้วย และต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 ปี

    “คาดว่ามีรถที่ไม่ผ่านหรือไม่ได้มาตรฐานใหม่ ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดเป็นหมื่นคัน แสดงให้เห็นถึงขนาดของปัญหาที่วิ่งอยู่บนท้องถนนตอนนี้ เสมือนกับเป็นระเบิดเวลาที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุขึ้นอีกเมื่อไหร่ ดังนั้น กรมการขนส่งทางบก ควรติดตามตรวจสอบรถในกลุ่มนี้ ที่ยังวิ่งอยู่ในระบบ เช่น ด้านมาตรฐานทนไฟ การชนด้านหน้า สภาพรถเป็นอย่างไร ติดก๊าซหรือไม่ ฯลฯ โดยเร่งกำหนดมาตรการอย่างเข้มข้นในรถกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงก่อน”

    จี้ ขบ.ตรวจเข้มรถเสี่ยงสูง – เสนอรัฐจัดงบฯหนุนผู้ประกอบการใช้วัสดุทนไฟ
    ดร.สุเมธ เน้นย้ำว่าเหตุที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญ ของมาตรฐานความปลอดภัยของรถทัศนาจร ซึ่งความเสี่ยงนี้กระทบต่อสวัสดิภาพของประชาชน โจทย์ใหญ่ของรัฐคือจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงให้รถเหล่านี้มีมาตรฐานดีขึ้นได้อย่างไร ทั้งการเปลี่ยนวัสดุไวไฟ เช่น เบาะที่นั่ง ม่าน พรม ให้เป็นไปตามมาตรฐาน UNECE ซึ่งคือการใช้วัสดุที่ทนไฟได้ในระดับหนึ่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟลุกไหม้จะไม่เร็วและแรง สามารถช่วยซื้อเวลาให้ผู้โดยสารหนีออกภายนอกตัวรถได้
    “ภาครัฐอาจจะต้องเข้ามาร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อปรับปรุงมาตรฐานให้ดีขึ้น โดยสร้างแรงจูงใจต่าง ๆ เช่น การให้เงินช่วยเหลือโดยตรงไปยังผู้ประกอบการ หรือ อาจมีเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีทุนในการปรับปรุงมาตรฐานรถ”

    สำหรับกรณีระยะเวลาการใช้งานของรถคันเกิดเหตุ ที่พบว่ามีการจดทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2513 นั้น ดร.สุเมธ กล่าวว่า องค์ประกอบหลักของรถจะมี 2 ส่วน คือ
    ส่วนที่ 1 : โครงหลัก หรือที่เรียกว่า “แชสซี” ที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของรถ ซึ่งอยู่ด้านใต้ตัวรถติดกับโครงล้อ ซึ่งปกติรถขนาดใหญ่จะจดทะเบียนครั้งแรกด้วยแชสซี ซึ่งส่วนนี้มีอายุการใช้งาน 70-80 ปี
    ส่วนที่ 2 : ตัวถังรถ ประกอบไปด้วย หลังคา ประตู เบาะที่นั่ง โดยตัวถังรถมีอายุการใช้งาน 8-10 ปีเท่านั้น จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเป็นระยะ
    อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่าจะปรับปรุงตัวถังรถหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการเป็นหลักว่าต้องการเปลี่ยนหรือไม่ เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีมาตรการกำหนดอายุรถ หรือระยะเวลาการปรับปรุงสภาพรถ มีแต่การตรวจสอบตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยกรมการขนส่งทางบก 2 ครั้งต่อปี

    “ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง จะมีการปรับปรุงความเสี่ยงเหล่านี้อย่างไร การตรวจสอบมีความเข้มงวดมากน้อยขนาดไหน ตรงนี้ล้วนเป็นประเด็น เพราะมาตรฐานการติดตั้ง ยังเป็นสิ่งที่มีความท้าทายในการตรวจสอบอยู่ หากการติดตั้งทำโดยช่างผู้ชำนาญการก็จะได้มาตรฐานสูง แต่ถ้าติดตั้งโดยไม่รัดกุมมากนัก ก็จะทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ประกายไฟ ได้” ดร.สุเมธ ระบุ

    ยกระดับทัศนศึกษาปลอดภัย ซักซ้อม – วางแผน – ลงรายละเอียด รับมือเหตุไม่คาดคิด

    ด้าน นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) และอนุกรรมการด้านการขนส่งและยานพาหนะ สภาผู้บริโภค กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถึงเวลาที่กระทรวงศึกษาธิการ ต้องทบทวนเชิงระบบ เพื่อสร้างแนวทางการไปทัศนศึกษาที่ปลอดภัย โดยปัจจุบันการไปทัศนศึกษาของเด็กมีอยู่ 2 รูปแบบ 1. ไปเช้า – เย็นกลับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการทัศนศึกษาในช่วงปิดเทอมหนึ่ง ประมาณเดือนตุลาคม กับ 2. ทัศนศึกษาแบบพักค้างคืนจะอยู่ในช่วงเทอมสอง ซึ่งจะมีการเดินทางช่วงกลางคืน มีการใช้รถบัสสองชั้น การเกิดอุบัติเหตุจึงมักจะเกิดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม

    นพ.ธนะพงศ์ กล่าวว่า คณะผู้จัดกิจกรรมไปทัศนศึกษา ต้องวางแผนโดยการลงรายละเอียด ทั้งการเตรียมครูประจำรถกี่คนต่อจำนวนเด็ก ยิ่งเป็นเด็กเล็กยิ่งต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ เช่น อาจจะต้องเป็นครูหนึ่งคนต่อ 10 คน เป็นต้น หรือหากเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ หรือเกิดเพลิงไหม้ คุณครูก็ต้องรู้จักการใช้ถังดับเพลิง และถ้าจำเป็นต้องอพยพ คุณครูจะต้องวางแผนอพยพออกทางไหน ประตูอยู่ตรงจุดไหน เป็นต้น

    เสนอยกเลิกรถสองชั้นเด็ดขาด – เพิ่มวงเงินประกันภัยภาคบังคับ

    นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวถึงข้อเสนอในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ โดยเน้นย้ำการยกเลิกการใช้รถสองชั้นในการรับจ้างแบบไม่ประจำทาง อันเป็นสิ่งที่องค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศ ได้มีข้อเสนอเป็นระยะเวลาหลายปี แต่ยังไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง รวมถึงรื้อระบบตรวจสภาพรถบริการขนส่งสาธารณะ ปัจจุบันตรวจสภาพปีละสองครั้ง แต่ในบางประเทศตรวจทุกไตรมาส ซึ่งจริง ๆ ควรจะดูตามจํานวนการใช้งาน หรือกำหนดเป็นระยะเวลาตายตัวเพียงอย่างเดียว

    นอกจากนี้ เสนอให้ขยายวงเงินประกันภัยภาคบังคับ ของรถโดยสารแบบไม่ประจำทาง โดยเพิ่มวงเงินประกันเป็น 30 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันการทำประกันภัยรถภาคบังคับตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 กำหนดความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน แต่มีข้อกำหนดวงเงินเฉลี่ยจ่ายจากวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้ง ซึ่งไม่ครอบคลุมความเสียหายเมื่อเกิดเหตุร้ายแรงและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

    “ความสูญเสียที่เกิดขึ้นต้องนำไปสู่การพัฒนากฎ ระเบียบ มาตรการต่าง ๆ และวิธีการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของรถโดยสาร” เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าว

    จากอุบัติเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้ สู่ปัญหา “รถโรงเรียนไทยไม่ปลอดภัย”

    ความไม่ปลอดภัยของรถรับส่งนักเรียนไทย ไม่ใช่ปัญหาที่เพิ่งถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง และเปรียบเทียบมาตรฐานความปลอดภัยของไทยกับต่างประเทศ โดยล่าสุดในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ข้อมูล รถรับส่งนักเรียนในสหรัฐ มีการควบคุมความปลอดภัยมากกว่ารถปกติถึง 70 เท่า ขณะที่ของญี่ปุ่นกรณีรถบัสทัศนศึกษา นอกจากการตรวจสอบมาตรฐานตัวรถที่เข้มงวด ยังมีการติดตั้ง GPS ควบคุมความเร็วในการขับขี่อีกด้วย

    สำหรับประเทศไทย หากย้อนกลับไปที่ข้อมูลของ ศวปถ. และสภาองค์กรของผู้บริโภค ซึ่งระบุในคู่มือการจัดระบบรถโรงเรียนให้ปลอดภัยและเป็นธรรม พบว่าระหว่างปี 2562 – 2564 เกิดอุบัติเหตุกับรถโรงเรียนมากถึง 38 ครั้ง มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บรุนแรงถึงขึ้นเสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 431 ราย

    จากการสํารวจข้อมูลรถโรงเรียนทุกภูมิภาค ได้สะท้อนภาพปัญหาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง 3 ปมปัญหาใหญ่ที่รอเวลาเกิดเหตุ ได้แก่

    สภาพรถที่ไม่ได้มาตรฐาน : ดัดแปลงรถ ไม่มั่นคงแข็งแรง รวมถึงขาดอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ควรมี เช่น ค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง เป็นต้น

    ผู้ขับประมาทไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร : ใช้ประสบการณ์ความเคยชินขับเร็วเสี่ยงอันตราย ขาดความรู้ความเข้าใจบทบาทการขับรถส่งนักเรียน

    ขาดระบบจัดการรถที่ดี : ขาดระบบกำกับควบคุมผู้ขับขี่ รวมถึงกลไกสนับสนุนเพื่อให้เกิดระบบจัดการที่มีประสิทธิภาพ

    แม้การเพิ่มมาตรการและความเข้มงวดภายหลังเกิดเหตุ จะหนีไม่พ้นคำพูดที่ว่า “วัวหายล้อมคอก” แต่ในบริบทของประเทศไทย เมื่อเกิดบทเรียนขึ้นแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบทุกภาคส่วน ต้องร่วมมือกันล้อมคอกไม่ให้เกิดเหตุสลด เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต

    ที่มา https://thaipublica.org/2024/10/tdri-reveals-95-of-non-regular-taxis-are-ticking-time-bombs-on-thai-roads/

    #Thaitimes
    ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง! ‘ทีดีอาร์ไอ’ ชี้ 95% รถรับจ้างไม่ประจำทาง คือ ระเบิดเวลาบนท้องถนนไทย แนะรัฐตรวจเข้มกลุ่มรถที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมจัดงบฯ – สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หนุนผู้ประกอบการใช้วัสดุทนไฟ เหตุการณ์รถบัสนักเรียนไฟไหม้ ซึ่งนำไปสู่ความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น สะท้อนความล้มเหลวในการป้องกัน และควบคุมการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนไทย ตอกย้ำสมญานามประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากการจราจรมากที่สุด สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และครองแชมป์อันดับ 1 ในอาเซียน อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่เพียงชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยง ทั้งในด้านพฤติกรรมการขับขี่ ความรู้ในการเผชิญเหตุฉุกเฉิน ยังได้นำไปสู่การเปิดโปงข้อบกพร่องของ “ระบบตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย” โดยเฉพาะรถทัศนาจร หรือ “รถรับจ้างไม่ประจำทาง” ที่วิ่งให้บริการขวักไขว่ อันเป็นภาพคุ้นชินตาของคนไทย ‘ทีดีอาร์ไอ’ เผยมีรถรับจ้างไม่ประจำทางเพียง 5% ผ่าน “มาตรฐานลุกไหม้” ดร.สุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัย ด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า แม้ว่ากรมการขนส่งทางบก จะมีความพยายามในการปรับปรุงมาตรฐานรถโดยสารขนาดใหญ่ในหลายประเด็น รวมถึงมาตรฐานด้านการลุกไหม้มาตั้งแต่ปี 2559 โดยออกประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่องกำหนดคุณสมบัติด้านการลุกไหม้การลามไฟของวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในรถโดยสาร แต่ปรากฎว่าประกาศดังกล่าวถูกเลื่อนการบังคับใช้อยู่เรื่อย ๆ ด้วยเหตุผลเพราะผู้ประกอบการ ไม่มีความพร้อมในการแบกรับต้นทุน จากการเปลี่ยนไปใช้วัสดุกันไฟที่มีราคาแพง จนกระทั่งสุดท้ายเพิ่งบังคับใช้ได้จริงในปี 2565 แต่กลับไม่มีผลย้อนหลัง ซึ่งหมายความว่าใช้บังคับได้เฉพาะกับรถที่จดทะเบียนใหม่ หรือ มีการปรับปรุงตัวถังใหม่ในปี 2565 เท่านั้น “รถคันที่เกิดเหตุก็เป็นหนึ่งในกรณี ที่ไม่เข้าเงื่อนไขของประกาศฉบับนี้ เนื่องจากมีการจดเบียนใหม่ในปี 2561” ดร.สุเมธ ระบุว่าปัจจุบันรถทัศนาจรในกลุ่มมาตรฐาน 1 ซึ่งเป็นประเภทเดียวกับรถคันที่เกิดเหตุ มีจำนวน 5,896 คัน และรถมาตรฐาน 4 หรือรถ 2 ชั้น มีจำนวน 4,972 คน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าในจำนวนทั้งหมดกว่า 1 หมื่นคัน มีจำนวนเพียง 5% เท่านั้น ที่ผ่านมาตรฐานด้านการลุกไหม้ และอนุมานได้ว่าส่วนที่เหลืออีก 95% ที่เป็นรถจดทะเบียนก่อนประกาศดังกล่าวบังคับใช้ ยังไม่ถูกกำหนดให้มีมาตรฐานนี้ ขณะที่ในต่างประเทศเวลากำหนดมาตรฐานในเรื่องเหล่านี้ จะให้มีผลบังคับใช้ย้อนหลังด้วย และต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 ปี “คาดว่ามีรถที่ไม่ผ่านหรือไม่ได้มาตรฐานใหม่ ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดเป็นหมื่นคัน แสดงให้เห็นถึงขนาดของปัญหาที่วิ่งอยู่บนท้องถนนตอนนี้ เสมือนกับเป็นระเบิดเวลาที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุขึ้นอีกเมื่อไหร่ ดังนั้น กรมการขนส่งทางบก ควรติดตามตรวจสอบรถในกลุ่มนี้ ที่ยังวิ่งอยู่ในระบบ เช่น ด้านมาตรฐานทนไฟ การชนด้านหน้า สภาพรถเป็นอย่างไร ติดก๊าซหรือไม่ ฯลฯ โดยเร่งกำหนดมาตรการอย่างเข้มข้นในรถกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงก่อน” จี้ ขบ.ตรวจเข้มรถเสี่ยงสูง – เสนอรัฐจัดงบฯหนุนผู้ประกอบการใช้วัสดุทนไฟ ดร.สุเมธ เน้นย้ำว่าเหตุที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญ ของมาตรฐานความปลอดภัยของรถทัศนาจร ซึ่งความเสี่ยงนี้กระทบต่อสวัสดิภาพของประชาชน โจทย์ใหญ่ของรัฐคือจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงให้รถเหล่านี้มีมาตรฐานดีขึ้นได้อย่างไร ทั้งการเปลี่ยนวัสดุไวไฟ เช่น เบาะที่นั่ง ม่าน พรม ให้เป็นไปตามมาตรฐาน UNECE ซึ่งคือการใช้วัสดุที่ทนไฟได้ในระดับหนึ่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟลุกไหม้จะไม่เร็วและแรง สามารถช่วยซื้อเวลาให้ผู้โดยสารหนีออกภายนอกตัวรถได้ “ภาครัฐอาจจะต้องเข้ามาร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อปรับปรุงมาตรฐานให้ดีขึ้น โดยสร้างแรงจูงใจต่าง ๆ เช่น การให้เงินช่วยเหลือโดยตรงไปยังผู้ประกอบการ หรือ อาจมีเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีทุนในการปรับปรุงมาตรฐานรถ” สำหรับกรณีระยะเวลาการใช้งานของรถคันเกิดเหตุ ที่พบว่ามีการจดทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2513 นั้น ดร.สุเมธ กล่าวว่า องค์ประกอบหลักของรถจะมี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 : โครงหลัก หรือที่เรียกว่า “แชสซี” ที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของรถ ซึ่งอยู่ด้านใต้ตัวรถติดกับโครงล้อ ซึ่งปกติรถขนาดใหญ่จะจดทะเบียนครั้งแรกด้วยแชสซี ซึ่งส่วนนี้มีอายุการใช้งาน 70-80 ปี ส่วนที่ 2 : ตัวถังรถ ประกอบไปด้วย หลังคา ประตู เบาะที่นั่ง โดยตัวถังรถมีอายุการใช้งาน 8-10 ปีเท่านั้น จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่าจะปรับปรุงตัวถังรถหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการเป็นหลักว่าต้องการเปลี่ยนหรือไม่ เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีมาตรการกำหนดอายุรถ หรือระยะเวลาการปรับปรุงสภาพรถ มีแต่การตรวจสอบตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยกรมการขนส่งทางบก 2 ครั้งต่อปี “ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง จะมีการปรับปรุงความเสี่ยงเหล่านี้อย่างไร การตรวจสอบมีความเข้มงวดมากน้อยขนาดไหน ตรงนี้ล้วนเป็นประเด็น เพราะมาตรฐานการติดตั้ง ยังเป็นสิ่งที่มีความท้าทายในการตรวจสอบอยู่ หากการติดตั้งทำโดยช่างผู้ชำนาญการก็จะได้มาตรฐานสูง แต่ถ้าติดตั้งโดยไม่รัดกุมมากนัก ก็จะทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ประกายไฟ ได้” ดร.สุเมธ ระบุ ยกระดับทัศนศึกษาปลอดภัย ซักซ้อม – วางแผน – ลงรายละเอียด รับมือเหตุไม่คาดคิด ด้าน นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) และอนุกรรมการด้านการขนส่งและยานพาหนะ สภาผู้บริโภค กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถึงเวลาที่กระทรวงศึกษาธิการ ต้องทบทวนเชิงระบบ เพื่อสร้างแนวทางการไปทัศนศึกษาที่ปลอดภัย โดยปัจจุบันการไปทัศนศึกษาของเด็กมีอยู่ 2 รูปแบบ 1. ไปเช้า – เย็นกลับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการทัศนศึกษาในช่วงปิดเทอมหนึ่ง ประมาณเดือนตุลาคม กับ 2. ทัศนศึกษาแบบพักค้างคืนจะอยู่ในช่วงเทอมสอง ซึ่งจะมีการเดินทางช่วงกลางคืน มีการใช้รถบัสสองชั้น การเกิดอุบัติเหตุจึงมักจะเกิดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม นพ.ธนะพงศ์ กล่าวว่า คณะผู้จัดกิจกรรมไปทัศนศึกษา ต้องวางแผนโดยการลงรายละเอียด ทั้งการเตรียมครูประจำรถกี่คนต่อจำนวนเด็ก ยิ่งเป็นเด็กเล็กยิ่งต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ เช่น อาจจะต้องเป็นครูหนึ่งคนต่อ 10 คน เป็นต้น หรือหากเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ หรือเกิดเพลิงไหม้ คุณครูก็ต้องรู้จักการใช้ถังดับเพลิง และถ้าจำเป็นต้องอพยพ คุณครูจะต้องวางแผนอพยพออกทางไหน ประตูอยู่ตรงจุดไหน เป็นต้น เสนอยกเลิกรถสองชั้นเด็ดขาด – เพิ่มวงเงินประกันภัยภาคบังคับ นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวถึงข้อเสนอในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ โดยเน้นย้ำการยกเลิกการใช้รถสองชั้นในการรับจ้างแบบไม่ประจำทาง อันเป็นสิ่งที่องค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศ ได้มีข้อเสนอเป็นระยะเวลาหลายปี แต่ยังไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง รวมถึงรื้อระบบตรวจสภาพรถบริการขนส่งสาธารณะ ปัจจุบันตรวจสภาพปีละสองครั้ง แต่ในบางประเทศตรวจทุกไตรมาส ซึ่งจริง ๆ ควรจะดูตามจํานวนการใช้งาน หรือกำหนดเป็นระยะเวลาตายตัวเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ เสนอให้ขยายวงเงินประกันภัยภาคบังคับ ของรถโดยสารแบบไม่ประจำทาง โดยเพิ่มวงเงินประกันเป็น 30 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันการทำประกันภัยรถภาคบังคับตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 กำหนดความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน แต่มีข้อกำหนดวงเงินเฉลี่ยจ่ายจากวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้ง ซึ่งไม่ครอบคลุมความเสียหายเมื่อเกิดเหตุร้ายแรงและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก “ความสูญเสียที่เกิดขึ้นต้องนำไปสู่การพัฒนากฎ ระเบียบ มาตรการต่าง ๆ และวิธีการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของรถโดยสาร” เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าว จากอุบัติเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้ สู่ปัญหา “รถโรงเรียนไทยไม่ปลอดภัย” ความไม่ปลอดภัยของรถรับส่งนักเรียนไทย ไม่ใช่ปัญหาที่เพิ่งถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง และเปรียบเทียบมาตรฐานความปลอดภัยของไทยกับต่างประเทศ โดยล่าสุดในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ข้อมูล รถรับส่งนักเรียนในสหรัฐ มีการควบคุมความปลอดภัยมากกว่ารถปกติถึง 70 เท่า ขณะที่ของญี่ปุ่นกรณีรถบัสทัศนศึกษา นอกจากการตรวจสอบมาตรฐานตัวรถที่เข้มงวด ยังมีการติดตั้ง GPS ควบคุมความเร็วในการขับขี่อีกด้วย สำหรับประเทศไทย หากย้อนกลับไปที่ข้อมูลของ ศวปถ. และสภาองค์กรของผู้บริโภค ซึ่งระบุในคู่มือการจัดระบบรถโรงเรียนให้ปลอดภัยและเป็นธรรม พบว่าระหว่างปี 2562 – 2564 เกิดอุบัติเหตุกับรถโรงเรียนมากถึง 38 ครั้ง มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บรุนแรงถึงขึ้นเสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 431 ราย จากการสํารวจข้อมูลรถโรงเรียนทุกภูมิภาค ได้สะท้อนภาพปัญหาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง 3 ปมปัญหาใหญ่ที่รอเวลาเกิดเหตุ ได้แก่ สภาพรถที่ไม่ได้มาตรฐาน : ดัดแปลงรถ ไม่มั่นคงแข็งแรง รวมถึงขาดอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ควรมี เช่น ค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง เป็นต้น ผู้ขับประมาทไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร : ใช้ประสบการณ์ความเคยชินขับเร็วเสี่ยงอันตราย ขาดความรู้ความเข้าใจบทบาทการขับรถส่งนักเรียน ขาดระบบจัดการรถที่ดี : ขาดระบบกำกับควบคุมผู้ขับขี่ รวมถึงกลไกสนับสนุนเพื่อให้เกิดระบบจัดการที่มีประสิทธิภาพ แม้การเพิ่มมาตรการและความเข้มงวดภายหลังเกิดเหตุ จะหนีไม่พ้นคำพูดที่ว่า “วัวหายล้อมคอก” แต่ในบริบทของประเทศไทย เมื่อเกิดบทเรียนขึ้นแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบทุกภาคส่วน ต้องร่วมมือกันล้อมคอกไม่ให้เกิดเหตุสลด เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต ที่มา https://thaipublica.org/2024/10/tdri-reveals-95-of-non-regular-taxis-are-ticking-time-bombs-on-thai-roads/ #Thaitimes
    THAIPUBLICA.ORG
    ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง! ‘ทีดีอาร์ไอ’ ชี้ 95% รถรับจ้างไม่ประจำทาง คือ ระเบิดเวลาบนท้องถนนไทย
    ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง! ‘ทีดีอาร์ไอ’ ชี้ 95% รถรับจ้างไม่ประจำทาง คือ ระเบิดเวลาบนท้องถนนไทย แนะรัฐตรวจเข้มกลุ่มรถที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมจัดงบฯ - สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หนุนผู้ประกอบการใช้วัสดุทนไฟ
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 461 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่าน facebook ส่วนตัวเป็นภาพข่าวพระขณะกำลังซ้อมยิงปืน พร้อมระบุข้อความว่า

    “ สิ้นคิด :

    ตามที่สื่อไทยรัฐออนไลน์เสนอข่าวคลิปพระภิกษุรูปหนึ่งใช้อาวุธปืนสั้นแสดงออกมาคล้ายซ้อมยิงปืน นั้น

    ถือว่าเป็นการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับเพศบรรพชิต เป็นการประพฤติตนเยี่ยงคฤหัสถ์ ไม่เหมาะสมและควรถูกตำหนิโดยประการทั้งปวง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวก่อให้เกิดวิกฤติศรัทธาในหมู่ชาวพุทธเป็นอย่างมาก

    โดยในชั้นต้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ขอความร่วมมือผู้อำนวยการสำนักงานพระพระพุทธศาสนาจังหวัดทั่วประเทศ ประสานเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์เพื่อตรวจสอบพระภิกษุที่ปรากฎในคลิปดังกล่าว หากพบว่าเป็นพระภิกษุสังกัดวัดใด ให้รีบแจ้งเจ้าอาวาสเพื่อให้ท่านเจ้าอาวาสแนะนำและว่ากล่าวตักเตือนรวมถึงพิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนเรื่องอาวุธปืนและหรือความผิดทางโลก ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ”

    ที่มา : Ch Kitti Kittitharangkoon
    https://www.facebook.com/100000982132819/posts/27104679089148129/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v
    ภาพ : NBT Connext

    #Thaitimes
    นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่าน facebook ส่วนตัวเป็นภาพข่าวพระขณะกำลังซ้อมยิงปืน พร้อมระบุข้อความว่า “ สิ้นคิด : ตามที่สื่อไทยรัฐออนไลน์เสนอข่าวคลิปพระภิกษุรูปหนึ่งใช้อาวุธปืนสั้นแสดงออกมาคล้ายซ้อมยิงปืน นั้น ถือว่าเป็นการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับเพศบรรพชิต เป็นการประพฤติตนเยี่ยงคฤหัสถ์ ไม่เหมาะสมและควรถูกตำหนิโดยประการทั้งปวง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวก่อให้เกิดวิกฤติศรัทธาในหมู่ชาวพุทธเป็นอย่างมาก โดยในชั้นต้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ขอความร่วมมือผู้อำนวยการสำนักงานพระพระพุทธศาสนาจังหวัดทั่วประเทศ ประสานเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์เพื่อตรวจสอบพระภิกษุที่ปรากฎในคลิปดังกล่าว หากพบว่าเป็นพระภิกษุสังกัดวัดใด ให้รีบแจ้งเจ้าอาวาสเพื่อให้ท่านเจ้าอาวาสแนะนำและว่ากล่าวตักเตือนรวมถึงพิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนเรื่องอาวุธปืนและหรือความผิดทางโลก ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ” ที่มา : Ch Kitti Kittitharangkoon https://www.facebook.com/100000982132819/posts/27104679089148129/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v ภาพ : NBT Connext #Thaitimes
    Like
    Sad
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปปง.ติดป้ายยึดทรัพย์โครงการคฤหาสน์หรูทุนจีนหลังละ 200 ล้านบาทย่านสนามบินน้ำ ล่าสุดผู้จัดการโครงการล่องหนแล้ว  แต่คนงานยังเดินหน้าก่อสร้าง 

    3 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวมติชนระบุว่า หลังจากบริษัทแห่งหนึ่งของกลุ่มทุนจีนที่ร่วมกับคนไทย เข้าไปพัฒนาโครงการคฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนที่ดินประมาณ 30 ไร่ ติดถนนสนามบินน้ำ และแม่น้ำเจ้าพระยา พัฒนาเป็นคฤหาสน์หรูราคาแพง เดิมเคยระบุว่าราคาเริ่มต้นที่ 100 ล้านบาท ล่าสุดระบุว่าเริ่มต้นหลังละ 200 ล้านบาท และสูงสุดอาจถึง 700 ล้านบาท โดยเป็นบ้านเดี่ยวหรู 5 ชั้น ประมาณ 60 หลัง ซึ่งทุกหลังมีห้องใต้ดินและสระว่ายน้ำ ยังมีอาคาร 2 ชั้น เป็นอาคารพาณิชย์และสำนักงาน ท่าเรือ และเริ่มการก่อสร้างตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2568

    แต่ต่อมา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมนี้ มีรายงานว่าสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.) ได้มีการดำเนินการปิดประกาศการยึดทรัพย์คฤหาสน์หรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.193/2567

    ต่อมาบ่ายวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวมติชนลงพื้นที่ พบว่าโครงการยังคงมีการก่อสร้าง จากการสอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัย(รปภ.)ของโครงการ ระบุเพียงว่า โครงการไม่ได้หยุดการก่อสร้าง ส่วนกรณีที่ ปปง.ได้นำป้ายมาติดประกาศยึดทรัพย์นั้น ตนไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากวันดังกล่าวไม่ได้อยู่ที่โครงการ ส่วนผู้จัดการโครงการ ได้กลับไปประเทศจีน คาดว่าจะกลับมาในเร็วๆนี้

    ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_4826062#m1teo54z9zv43g2vhh4

    #Thaitimes
    ปปง.ติดป้ายยึดทรัพย์โครงการคฤหาสน์หรูทุนจีนหลังละ 200 ล้านบาทย่านสนามบินน้ำ ล่าสุดผู้จัดการโครงการล่องหนแล้ว  แต่คนงานยังเดินหน้าก่อสร้าง  3 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวมติชนระบุว่า หลังจากบริษัทแห่งหนึ่งของกลุ่มทุนจีนที่ร่วมกับคนไทย เข้าไปพัฒนาโครงการคฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนที่ดินประมาณ 30 ไร่ ติดถนนสนามบินน้ำ และแม่น้ำเจ้าพระยา พัฒนาเป็นคฤหาสน์หรูราคาแพง เดิมเคยระบุว่าราคาเริ่มต้นที่ 100 ล้านบาท ล่าสุดระบุว่าเริ่มต้นหลังละ 200 ล้านบาท และสูงสุดอาจถึง 700 ล้านบาท โดยเป็นบ้านเดี่ยวหรู 5 ชั้น ประมาณ 60 หลัง ซึ่งทุกหลังมีห้องใต้ดินและสระว่ายน้ำ ยังมีอาคาร 2 ชั้น เป็นอาคารพาณิชย์และสำนักงาน ท่าเรือ และเริ่มการก่อสร้างตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 แต่ต่อมา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมนี้ มีรายงานว่าสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.) ได้มีการดำเนินการปิดประกาศการยึดทรัพย์คฤหาสน์หรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.193/2567 ต่อมาบ่ายวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวมติชนลงพื้นที่ พบว่าโครงการยังคงมีการก่อสร้าง จากการสอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัย(รปภ.)ของโครงการ ระบุเพียงว่า โครงการไม่ได้หยุดการก่อสร้าง ส่วนกรณีที่ ปปง.ได้นำป้ายมาติดประกาศยึดทรัพย์นั้น ตนไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากวันดังกล่าวไม่ได้อยู่ที่โครงการ ส่วนผู้จัดการโครงการ ได้กลับไปประเทศจีน คาดว่าจะกลับมาในเร็วๆนี้ ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_4826062#m1teo54z9zv43g2vhh4 #Thaitimes
    WWW.MATICHON.CO.TH
    สะพัด โครงการคฤหาสน์หรู ทุนจีนหลังละ 200 ล.ย่านสนามบินน้ำ ถูกปปง.ติดป้ายยึดทรัพย์
    สะพัด โครงการคฤหาสน์หรูทุนจีนหลังละ 200 ล.ย่านสนามบินน้ำ ถูกปปง.ติดป้ายยึดทรัพย์ ล่าสุดล่องหนแล้ว คนงานยังเดินหน้าก่อสร้าง
    Like
    Sad
    3
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 0 รีวิว

  • 3 ตุลาคม 2567-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เชิญพวงมาลาพระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ วางหน้าหีบศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ตำบลลานสัก อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ที่ อาคารเอนกประสงค์ โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม Copyright © 2024 All Right Reserved

    ภาพโดย MGR PHOTO
    https://www.facebook.com/share/p/nBwvy9wkkaGRxm7f/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    3 ตุลาคม 2567-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เชิญพวงมาลาพระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ วางหน้าหีบศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ตำบลลานสัก อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ที่ อาคารเอนกประสงค์ โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม Copyright © 2024 All Right Reserved ภาพโดย MGR PHOTO https://www.facebook.com/share/p/nBwvy9wkkaGRxm7f/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Love
    Sad
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 468 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 ตุลาคม 2567-Live รายการคนเคาะข่าว News1
    ประเด็นทัศนศึกษา​ปลอดภัยได้ ต้องใส่ใจ​และรับผิดชอบ​ โดย นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน และ กิตติชัย ไพโรจน์ไชยกุล ดำเนินรายการ

    https://youtu.be/AEbrXs_09Qg?si=V1jFZ1JjMcb8bno4

    #Thaitimes
    3 ตุลาคม 2567-Live รายการคนเคาะข่าว News1 ประเด็นทัศนศึกษา​ปลอดภัยได้ ต้องใส่ใจ​และรับผิดชอบ​ โดย นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน และ กิตติชัย ไพโรจน์ไชยกุล ดำเนินรายการ https://youtu.be/AEbrXs_09Qg?si=V1jFZ1JjMcb8bno4 #Thaitimes
    Like
    Haha
    17
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 581 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรงพระเจริญ🙏 TikTok@kiang_wang #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    ทรงพระเจริญ🙏 TikTok@kiang_wang #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Like
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 580 มุมมอง 214 0 รีวิว
  • บทความบางส่วนเรื่อง“ช้างบรรณาการ” จากรัชกาลที่ ๔ จบชีวิตที่ร้านขายเนื้อกรุงปารีสจริงหรือ?โดย ไกรฤกษ์ นานา นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับกันยายน ๒๕๕๙

    “ เครื่องราชบรรณาการจากสยามสมัยรัชกาลที่ ๔ ส่งไปพระราชทานพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ ถึงฝรั่งเศส ไม่ได้มีเพียงพระมหามงกุฎเท่านั้น แต่ยังมีช้างสยามอีก ๒ เชือก ที่มีชีวิตอยู่ที่นั่นนานกว่า ๑๐ ปี แต่อนิจจา ช้างทั้ง ๒ เชือก ต้องเผชิญชะตากรรมน่ารันทด และจบชีวิตลงด้วยฝีมือทหารฝรั่งเศส ใน ค.ศ.๑๘๗๐ เกิดอะไรขึ้นกับของขวัญจากสยาม

    ช้างบรรณาการจากสยามได้รับการต้อนรับที่ปารีสอย่างอบอุ่น พระเจ้านโปเลียนที่ ๓ ได้ทรงมอบให้หน่วยงานของสวนสัตว์กรุงปารีสเป็นผู้ดูแลเป็นอย่างดี จนพอจะคุ้นเคยกับสภาพภูมิอากาศแบบเมืองหนาว และมีชื่อเสียงอย่างกว้างขวางกับเด็กๆ ที่มาเยี่ยมเยียนสวนสัตว์อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เมื่อใดที่มีการโฆษณาหรือพูดถึงสวนสัตว์ Jardin des Plantes ช้างสยาม ๒ เชือกนี้ก็จะเป็นดาวเด่นในใบโฆษณาเสมอ

    ที่ปารีสพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ได้พระราชทานชื่อใหม่อันโก้หร่านให้ช้างบรรณาการคู่นี้ว่า คาสเตอร์ และพอลลุกซ์ (Castor & Pollux) ตามชื่อของพระโอรสแฝดของเทพธิดาลีด และเทพเจ้าซีอุส (Leda & Zeus) ทำให้ช้างทั้งคู่มีสถานภาพค่อนข้างมีเส้นสายกับทางราชสำนักและมีกิตติศัพท์พอควร

    ช้างสยามทั้ง ๒ เชือก ใช้ชีวิตอยู่ภายในสวนสัตว์กรุงปารีสจนมีอายุราว ๑๔ ปี ก็เกิดวิกฤติการณ์ทางการเมืองขึ้นปลายรัชกาลของพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ ที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของช้างคู่นี้โดยตรง!?

    ในปี ค.ศ. ๑๘๗๐-๗๑ เกิดสงครามฟรังโก-ปรัสเซีย ส่งผลให้ฝรั่งเศสพ่ายแพ้อย่างยับเยิน พวกสาธารณรัฐนิยมในปารีสฉวยโอกาสทำการปฏิวัติล้มราชบัลลังก์ แล้วจัดตั้งระบอบสาธารณรัฐขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยโจมตีและประณามพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ ว่าเป็นต้นเหตุของความพ่ายแพ้และอับจน ทรงถูกจับและเนรเทศออกนอกประเทศอย่างน่าเวทนา คุณความดีของราชวงศ์โบนาปาร์ตลบเลือนออกไปจากหัวใจของประชาชนจนหมดสิ้น

    กรุงปารีสถูกปิดล้อมนานหลายเดือน เกิดยุคข้าวยากหมากแพง แต่ในปารีสเป็นที่อยู่ของทั้งคนรวยและคนจน คนจนต้องจับหนู และเอาหมาแมวที่ตนเลี้ยงไว้มากินกันตาย

    แต่คนรวยที่อยู่ในปารีสก็ยังพอใช้เงินซื้อหาอาหารได้ แต่ที่ขาดแคลนคืออาหารชั้นดีที่คนมีฐานะต้องการในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของสังคมมีระดับปลายปี ค.ศ. ๑๘๗๐ ทางการจึงตัดสินใจชำแหละเนื้อของสัตว์ในสวนสัตว์อันเป็นแหล่งเนื้อชั้นดีแห่งเดียวที่เหลืออยู่ และกองกำลังป้องกันชาติตั้งกองกำลังดูแลสัตว์จากการถูกขโมยมาปีกว่า

    แต่แล้วในที่สุด ช้างสยาม ๒ เชือกสุดท้าย ซึ่งเป็นของขวัญจากพระเจ้ากรุงสยามก็ถูกสังเวยชีวิตเพื่อเอาใจคนมีฐานะ ถูกฆ่าและชำแหละที่ร้านขายเนื้อ เป็นเมนูอาหารชั้นเลิศ ณ ภัตตาคารหรูของปารีส เป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วยุโรปต้นปี ค.ศ. ๑๘๑๗”

    #Thaitimes
    บทความบางส่วนเรื่อง“ช้างบรรณาการ” จากรัชกาลที่ ๔ จบชีวิตที่ร้านขายเนื้อกรุงปารีสจริงหรือ?โดย ไกรฤกษ์ นานา นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับกันยายน ๒๕๕๙ “ เครื่องราชบรรณาการจากสยามสมัยรัชกาลที่ ๔ ส่งไปพระราชทานพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ ถึงฝรั่งเศส ไม่ได้มีเพียงพระมหามงกุฎเท่านั้น แต่ยังมีช้างสยามอีก ๒ เชือก ที่มีชีวิตอยู่ที่นั่นนานกว่า ๑๐ ปี แต่อนิจจา ช้างทั้ง ๒ เชือก ต้องเผชิญชะตากรรมน่ารันทด และจบชีวิตลงด้วยฝีมือทหารฝรั่งเศส ใน ค.ศ.๑๘๗๐ เกิดอะไรขึ้นกับของขวัญจากสยาม ช้างบรรณาการจากสยามได้รับการต้อนรับที่ปารีสอย่างอบอุ่น พระเจ้านโปเลียนที่ ๓ ได้ทรงมอบให้หน่วยงานของสวนสัตว์กรุงปารีสเป็นผู้ดูแลเป็นอย่างดี จนพอจะคุ้นเคยกับสภาพภูมิอากาศแบบเมืองหนาว และมีชื่อเสียงอย่างกว้างขวางกับเด็กๆ ที่มาเยี่ยมเยียนสวนสัตว์อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เมื่อใดที่มีการโฆษณาหรือพูดถึงสวนสัตว์ Jardin des Plantes ช้างสยาม ๒ เชือกนี้ก็จะเป็นดาวเด่นในใบโฆษณาเสมอ ที่ปารีสพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ได้พระราชทานชื่อใหม่อันโก้หร่านให้ช้างบรรณาการคู่นี้ว่า คาสเตอร์ และพอลลุกซ์ (Castor & Pollux) ตามชื่อของพระโอรสแฝดของเทพธิดาลีด และเทพเจ้าซีอุส (Leda & Zeus) ทำให้ช้างทั้งคู่มีสถานภาพค่อนข้างมีเส้นสายกับทางราชสำนักและมีกิตติศัพท์พอควร ช้างสยามทั้ง ๒ เชือก ใช้ชีวิตอยู่ภายในสวนสัตว์กรุงปารีสจนมีอายุราว ๑๔ ปี ก็เกิดวิกฤติการณ์ทางการเมืองขึ้นปลายรัชกาลของพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ ที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของช้างคู่นี้โดยตรง!? ในปี ค.ศ. ๑๘๗๐-๗๑ เกิดสงครามฟรังโก-ปรัสเซีย ส่งผลให้ฝรั่งเศสพ่ายแพ้อย่างยับเยิน พวกสาธารณรัฐนิยมในปารีสฉวยโอกาสทำการปฏิวัติล้มราชบัลลังก์ แล้วจัดตั้งระบอบสาธารณรัฐขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยโจมตีและประณามพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ ว่าเป็นต้นเหตุของความพ่ายแพ้และอับจน ทรงถูกจับและเนรเทศออกนอกประเทศอย่างน่าเวทนา คุณความดีของราชวงศ์โบนาปาร์ตลบเลือนออกไปจากหัวใจของประชาชนจนหมดสิ้น กรุงปารีสถูกปิดล้อมนานหลายเดือน เกิดยุคข้าวยากหมากแพง แต่ในปารีสเป็นที่อยู่ของทั้งคนรวยและคนจน คนจนต้องจับหนู และเอาหมาแมวที่ตนเลี้ยงไว้มากินกันตาย แต่คนรวยที่อยู่ในปารีสก็ยังพอใช้เงินซื้อหาอาหารได้ แต่ที่ขาดแคลนคืออาหารชั้นดีที่คนมีฐานะต้องการในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของสังคมมีระดับปลายปี ค.ศ. ๑๘๗๐ ทางการจึงตัดสินใจชำแหละเนื้อของสัตว์ในสวนสัตว์อันเป็นแหล่งเนื้อชั้นดีแห่งเดียวที่เหลืออยู่ และกองกำลังป้องกันชาติตั้งกองกำลังดูแลสัตว์จากการถูกขโมยมาปีกว่า แต่แล้วในที่สุด ช้างสยาม ๒ เชือกสุดท้าย ซึ่งเป็นของขวัญจากพระเจ้ากรุงสยามก็ถูกสังเวยชีวิตเพื่อเอาใจคนมีฐานะ ถูกฆ่าและชำแหละที่ร้านขายเนื้อ เป็นเมนูอาหารชั้นเลิศ ณ ภัตตาคารหรูของปารีส เป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วยุโรปต้นปี ค.ศ. ๑๘๑๗” #Thaitimes
    Sad
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 รีวิว
  • เล่าเรื่อง วิวสวยTikTok@bas_gowentgo_Travel #ท่องเที่ยว #Thailand #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    เล่าเรื่อง วิวสวยTikTok@bas_gowentgo_Travel #ท่องเที่ยว #Thailand #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 581 มุมมอง 167 0 รีวิว
  • เหนื่อยนัก ก็พักหน่อย #เซียวจ้านxiaozhan #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes https://youtu.be/6XE0W2KvD0Q?si=BBxg52DEwLhfpjrX
    เหนื่อยนัก ก็พักหน่อย #เซียวจ้านxiaozhan #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes https://youtu.be/6XE0W2KvD0Q?si=BBxg52DEwLhfpjrX
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 471 มุมมอง 0 รีวิว
  • จนท.ขนส่งโคราชบุกตรวจยึดรถบัสนำเที่ยว 5 คันของบริษัท เจ้าของรถบัสเกิดเกตุไฟไหม้ครูและนักเรียนเสียชีวิต 23 ราย หลังพบรถบัสถูกเคลื่อนย้ายไปที่อู่แห่งหนึ่งในโคราช คาดนำไปถอดเปลี่ยนแปลงบางอย่าง จนท.เร่งตรวจสภาพรถบัสทุกคันที่ยึดได้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000093788

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    จนท.ขนส่งโคราชบุกตรวจยึดรถบัสนำเที่ยว 5 คันของบริษัท เจ้าของรถบัสเกิดเกตุไฟไหม้ครูและนักเรียนเสียชีวิต 23 ราย หลังพบรถบัสถูกเคลื่อนย้ายไปที่อู่แห่งหนึ่งในโคราช คาดนำไปถอดเปลี่ยนแปลงบางอย่าง จนท.เร่งตรวจสภาพรถบัสทุกคันที่ยึดได้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000093788 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    Sad
    53
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1275 มุมมอง 1 รีวิว
  • ตำรวจ ปคบ.ประชุมวางกรอบคดี "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" สั่งขยายผลอายัดทรัพย์เพิ่ม พร้อมเร่งตามหา Lamborghini - Ford Mustang ที่หายไป 2 คัน หลังเจ้าตัวเคยนำมาอวดในโซเชียลฯ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000093783

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตำรวจ ปคบ.ประชุมวางกรอบคดี "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" สั่งขยายผลอายัดทรัพย์เพิ่ม พร้อมเร่งตามหา Lamborghini - Ford Mustang ที่หายไป 2 คัน หลังเจ้าตัวเคยนำมาอวดในโซเชียลฯ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000093783 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Angry
    29
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1273 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts