รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่าผู้จัดจำหน่ายในไต้หวันบางรายกำลังบังคับให้ลูกค้าซื้อเมนบอร์ดควบคู่กับโมดูล DRAM แบบ “1 ต่อ 1” เพื่อรับสินค้า
การขาดแคลน DRAM ทั่วโลกทำให้ผู้จัดจำหน่ายในไต้หวันใช้วิธี บังคับขายพ่วง (bundling) โดยลูกค้าที่ต้องการซื้อโมดูล DRAM ต้องซื้อเมนบอร์ดในสัดส่วน 1:1 ด้วย หากไม่ทำตามก็จะถูกปฏิเสธการเข้าถึงสินค้า วิธีนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอุตสาหกรรม DRAM และสะท้อนถึงความรุนแรงของวิกฤตที่กำลังดำเนินอยู่.
ผู้ผลิตที่ได้ประโยชน์
บริษัทเมนบอร์ดรายใหญ่ เช่น Asus, Gigabyte, MSI และ Chaintech ถูกมองว่าเป็นผู้ได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบายนี้ เพราะยอดขายเมนบอร์ดพุ่งสูงขึ้นทันที ขณะที่ผู้ซื้อรายย่อยและผู้ผลิตพีซีขนาดเล็กกลับต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นโดยไม่เต็มใจ.
ราคาพุ่งและผลกระทบต่อผู้บริโภค
ราคาสัญญา DRAM เพิ่มขึ้นกว่า 170% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีแรงหนุนจากความต้องการของผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI และสมาร์ตโฟน TrendForce คาดการณ์ว่าไตรมาส 4 ปีนี้จะเติบโตอีก 18–23% QoQ ผู้ผลิตพีซีอย่าง Minisforum ก็ปรับขึ้นราคาสำหรับรุ่นที่รวม DRAM และ SSD แต่คงราคาสำหรับ barebone SKU ไว้ เพื่อสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น.
ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทาน
แม้การบังคับขายพ่วงจะยังจำกัดอยู่ในตลาดไต้หวัน แต่ก็เป็นสัญญาณว่าการจัดสรร DRAM กำลังตึงตัวทั่วโลก หากแนวโน้มนี้ขยายไปยังภูมิภาคอื่น ผู้บริโภคและผู้ผลิตรายย่อยอาจเผชิญอุปสรรคใหม่ในการเข้าถึงหน่วยความจำที่จำเป็นต่อการผลิตและใช้งาน.
สรุปสาระสำคัญ
ผู้จัดจำหน่ายในไต้หวันบังคับขายพ่วง DRAM + เมนบอร์ด
ลูกค้าต้องซื้อแบบ 1:1 เพื่อเข้าถึงสินค้า
กลยุทธ์ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอุตสาหกรรม DRAM
ผู้ผลิตเมนบอร์ดได้ประโยชน์
Asus, Gigabyte, MSI, Chaintech ยอดขายพุ่ง
ผู้ซื้อรายย่อยต้องแบกรับต้นทุนสูงขึ้น
ราคาหน่วยความจำพุ่งแรง
DRAM เพิ่มขึ้นกว่า 170% YoY
TrendForce คาด Q4 โตอีก 18–23%
ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทาน
หากแนวโน้มขยายไปทั่วโลก ผู้บริโภคเข้าถึง DRAM ยากขึ้น
ผู้ผลิตรายย่อยอาจถูกบีบให้แบกรับต้นทุนสูงเกินไป
https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/taiwanese-distributors-enforcing-dram-motherboard-bundle-sales
การขาดแคลน DRAM ทั่วโลกทำให้ผู้จัดจำหน่ายในไต้หวันใช้วิธี บังคับขายพ่วง (bundling) โดยลูกค้าที่ต้องการซื้อโมดูล DRAM ต้องซื้อเมนบอร์ดในสัดส่วน 1:1 ด้วย หากไม่ทำตามก็จะถูกปฏิเสธการเข้าถึงสินค้า วิธีนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอุตสาหกรรม DRAM และสะท้อนถึงความรุนแรงของวิกฤตที่กำลังดำเนินอยู่.
ผู้ผลิตที่ได้ประโยชน์
บริษัทเมนบอร์ดรายใหญ่ เช่น Asus, Gigabyte, MSI และ Chaintech ถูกมองว่าเป็นผู้ได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบายนี้ เพราะยอดขายเมนบอร์ดพุ่งสูงขึ้นทันที ขณะที่ผู้ซื้อรายย่อยและผู้ผลิตพีซีขนาดเล็กกลับต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นโดยไม่เต็มใจ.
ราคาพุ่งและผลกระทบต่อผู้บริโภค
ราคาสัญญา DRAM เพิ่มขึ้นกว่า 170% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีแรงหนุนจากความต้องการของผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI และสมาร์ตโฟน TrendForce คาดการณ์ว่าไตรมาส 4 ปีนี้จะเติบโตอีก 18–23% QoQ ผู้ผลิตพีซีอย่าง Minisforum ก็ปรับขึ้นราคาสำหรับรุ่นที่รวม DRAM และ SSD แต่คงราคาสำหรับ barebone SKU ไว้ เพื่อสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น.
ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทาน
แม้การบังคับขายพ่วงจะยังจำกัดอยู่ในตลาดไต้หวัน แต่ก็เป็นสัญญาณว่าการจัดสรร DRAM กำลังตึงตัวทั่วโลก หากแนวโน้มนี้ขยายไปยังภูมิภาคอื่น ผู้บริโภคและผู้ผลิตรายย่อยอาจเผชิญอุปสรรคใหม่ในการเข้าถึงหน่วยความจำที่จำเป็นต่อการผลิตและใช้งาน.
สรุปสาระสำคัญ
ผู้จัดจำหน่ายในไต้หวันบังคับขายพ่วง DRAM + เมนบอร์ด
ลูกค้าต้องซื้อแบบ 1:1 เพื่อเข้าถึงสินค้า
กลยุทธ์ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอุตสาหกรรม DRAM
ผู้ผลิตเมนบอร์ดได้ประโยชน์
Asus, Gigabyte, MSI, Chaintech ยอดขายพุ่ง
ผู้ซื้อรายย่อยต้องแบกรับต้นทุนสูงขึ้น
ราคาหน่วยความจำพุ่งแรง
DRAM เพิ่มขึ้นกว่า 170% YoY
TrendForce คาด Q4 โตอีก 18–23%
ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทาน
หากแนวโน้มขยายไปทั่วโลก ผู้บริโภคเข้าถึง DRAM ยากขึ้น
ผู้ผลิตรายย่อยอาจถูกบีบให้แบกรับต้นทุนสูงเกินไป
https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/taiwanese-distributors-enforcing-dram-motherboard-bundle-sales
🟡🟡 รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่าผู้จัดจำหน่ายในไต้หวันบางรายกำลังบังคับให้ลูกค้าซื้อเมนบอร์ดควบคู่กับโมดูล DRAM แบบ “1 ต่อ 1” เพื่อรับสินค้า
การขาดแคลน DRAM ทั่วโลกทำให้ผู้จัดจำหน่ายในไต้หวันใช้วิธี บังคับขายพ่วง (bundling) โดยลูกค้าที่ต้องการซื้อโมดูล DRAM ต้องซื้อเมนบอร์ดในสัดส่วน 1:1 ด้วย หากไม่ทำตามก็จะถูกปฏิเสธการเข้าถึงสินค้า วิธีนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอุตสาหกรรม DRAM และสะท้อนถึงความรุนแรงของวิกฤตที่กำลังดำเนินอยู่.
🏭 ผู้ผลิตที่ได้ประโยชน์
บริษัทเมนบอร์ดรายใหญ่ เช่น Asus, Gigabyte, MSI และ Chaintech ถูกมองว่าเป็นผู้ได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบายนี้ เพราะยอดขายเมนบอร์ดพุ่งสูงขึ้นทันที ขณะที่ผู้ซื้อรายย่อยและผู้ผลิตพีซีขนาดเล็กกลับต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นโดยไม่เต็มใจ.
📈 ราคาพุ่งและผลกระทบต่อผู้บริโภค
ราคาสัญญา DRAM เพิ่มขึ้นกว่า 170% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีแรงหนุนจากความต้องการของผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI และสมาร์ตโฟน TrendForce คาดการณ์ว่าไตรมาส 4 ปีนี้จะเติบโตอีก 18–23% QoQ ผู้ผลิตพีซีอย่าง Minisforum ก็ปรับขึ้นราคาสำหรับรุ่นที่รวม DRAM และ SSD แต่คงราคาสำหรับ barebone SKU ไว้ เพื่อสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น.
⚠️ ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทาน
แม้การบังคับขายพ่วงจะยังจำกัดอยู่ในตลาดไต้หวัน แต่ก็เป็นสัญญาณว่าการจัดสรร DRAM กำลังตึงตัวทั่วโลก หากแนวโน้มนี้ขยายไปยังภูมิภาคอื่น ผู้บริโภคและผู้ผลิตรายย่อยอาจเผชิญอุปสรรคใหม่ในการเข้าถึงหน่วยความจำที่จำเป็นต่อการผลิตและใช้งาน.
📌 สรุปสาระสำคัญ
✅ ผู้จัดจำหน่ายในไต้หวันบังคับขายพ่วง DRAM + เมนบอร์ด
➡️ ลูกค้าต้องซื้อแบบ 1:1 เพื่อเข้าถึงสินค้า
➡️ กลยุทธ์ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอุตสาหกรรม DRAM
✅ ผู้ผลิตเมนบอร์ดได้ประโยชน์
➡️ Asus, Gigabyte, MSI, Chaintech ยอดขายพุ่ง
➡️ ผู้ซื้อรายย่อยต้องแบกรับต้นทุนสูงขึ้น
✅ ราคาหน่วยความจำพุ่งแรง
➡️ DRAM เพิ่มขึ้นกว่า 170% YoY
➡️ TrendForce คาด Q4 โตอีก 18–23%
‼️ ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทาน
⛔ หากแนวโน้มขยายไปทั่วโลก ผู้บริโภคเข้าถึง DRAM ยากขึ้น
⛔ ผู้ผลิตรายย่อยอาจถูกบีบให้แบกรับต้นทุนสูงเกินไป
https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/taiwanese-distributors-enforcing-dram-motherboard-bundle-sales
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
56 มุมมอง
0 รีวิว