• เหนื่อยนักก็พักหน่อย
    #ชีวิตคือสมมุติ
    #spotify
    #papaonj
    #เพลงไทย
    #เพลงเพราะ
    เหนื่อยนักก็พักหน่อย #ชีวิตคือสมมุติ #spotify #papaonj #เพลงไทย #เพลงเพราะ
    0 Comments 0 Shares 3 Views 0 0 Reviews
  • ยุคใหม่ของการติดตั้งแอปบน Linux: 7 เครื่องมือจัดการ GitHub Binaries ที่ช่วยลดงานซ้ำซ้อน

    โลกของ Linux กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อซอฟต์แวร์จำนวนมากเลือกปล่อยเป็น pre‑compiled binaries บน GitHub Releases แทนการเข้าระบบแพ็กเกจของดิสโทรแบบดั้งเดิม ทำให้ผู้ใช้ต้องคอยเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์เองอยู่บ่อยครั้ง บทความจาก It’s FOSS ชี้ให้เห็นว่าเครื่องมือรุ่นใหม่เหล่านี้ช่วย “ปิดช่องว่าง” ระหว่างแพ็กเกจเมเนเจอร์แบบเดิมกับโลกของ GitHub ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    หนึ่งในเครื่องมือที่โดดเด่นคือ Eget ซึ่งช่วยดาวน์โหลดและติดตั้งไบนารีจาก GitHub โดยอัตโนมัติ เพียงระบุชื่อรีโป มันจะเลือกไฟล์ที่เหมาะกับสถาปัตยกรรมของระบบให้ทันที นอกจากนี้ยังมี deb‑get ที่นำแนวคิด apt-get มาประยุกต์ใช้กับ .deb จาก GitHub, PPA และลิงก์ตรง ทำให้ผู้ใช้ Ubuntu และ Debian สามารถติดตั้งซอฟต์แวร์นอกรีโปได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น

    ฝั่ง GUI ก็มี Autonomix ที่ใช้ GTK4 + libadwaita ให้หน้าตาทันสมัย รองรับทั้ง .deb, .rpm, AppImage, Flatpak และ Snap พร้อมระบบติดตามเวอร์ชันในตัว ส่วนเครื่องมืออย่าง bin, Install Release, stew และ AFX ก็เน้นความสามารถเฉพาะทาง เช่น การจัดการหลายแหล่งซอฟต์แวร์, การซิงก์สถานะข้ามเครื่อง, การติดตั้งแบบ declarative และการจัดการปลั๊กอินเชลล์อย่างเป็นระบบ

    ภาพรวมแล้ว เครื่องมือเหล่านี้สะท้อนทิศทางใหม่ของ Linux ที่กำลังเคลื่อนสู่โลกที่ผู้พัฒนาปล่อยซอฟต์แวร์เองมากขึ้น และผู้ใช้ต้องการระบบจัดการไบนารีที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม ไม่ต้องรอแพ็กเกจจากดิสโทร และยังสามารถอัปเดตได้อัตโนมัติแบบแพ็กเกจเมเนเจอร์ดั้งเดิม ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความคล่องตัวของ GitHub กับความสะดวกของระบบจัดการแพ็กเกจที่ผู้ใช้คุ้นเคย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เครื่องมือเด่นสำหรับจัดการ GitHub Binaries
    deb‑get: apt‑get สำหรับ .deb จาก GitHub, PPA, direct download
    Autonomix: ตัวเลือก GUI รองรับหลายฟอร์แมต เช่น deb/rpm/AppImage/Flatpak/Snap
    Eget: ดาวน์โหลดไบนารีอัตโนมัติจาก GitHub พร้อมเลือกไฟล์ที่ตรงสถาปัตยกรรม
    Install Release: ซิงก์สถานะแพ็กเกจข้ามเครื่องผ่านไฟล์ JSON
    bin: จัดการไบนารีจากหลายแหล่ง เช่น GitHub, GitLab, Docker, Hashicorp
    stew: ระบบ declarative ผ่าน Stewfile + UI แบบ interactive
    AFX: จัดการปลั๊กอินเชลล์ + ไบนารีด้วย YAML config

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    ต้องพึ่งพา GitHub API ซึ่งอาจเจอ rate‑limit หากไม่ใช้ token
    บางเครื่องมือยังใหม่มาก เช่น Autonomix อาจมีบั๊กหรือฟีเจอร์ไม่ครบ
    การติดตั้งไบนารีนอกรีโปอาจขาดการตรวจสอบความปลอดภัยจากดิสโทร
    ระบบ declarative หรือ multi‑source อาจซับซ้อนสำหรับผู้ใช้ใหม่

    https://itsfoss.com/github-binaries-tools/
    📦⚙️ ยุคใหม่ของการติดตั้งแอปบน Linux: 7 เครื่องมือจัดการ GitHub Binaries ที่ช่วยลดงานซ้ำซ้อน โลกของ Linux กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อซอฟต์แวร์จำนวนมากเลือกปล่อยเป็น pre‑compiled binaries บน GitHub Releases แทนการเข้าระบบแพ็กเกจของดิสโทรแบบดั้งเดิม ทำให้ผู้ใช้ต้องคอยเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์เองอยู่บ่อยครั้ง บทความจาก It’s FOSS ชี้ให้เห็นว่าเครื่องมือรุ่นใหม่เหล่านี้ช่วย “ปิดช่องว่าง” ระหว่างแพ็กเกจเมเนเจอร์แบบเดิมกับโลกของ GitHub ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในเครื่องมือที่โดดเด่นคือ Eget ซึ่งช่วยดาวน์โหลดและติดตั้งไบนารีจาก GitHub โดยอัตโนมัติ เพียงระบุชื่อรีโป มันจะเลือกไฟล์ที่เหมาะกับสถาปัตยกรรมของระบบให้ทันที นอกจากนี้ยังมี deb‑get ที่นำแนวคิด apt-get มาประยุกต์ใช้กับ .deb จาก GitHub, PPA และลิงก์ตรง ทำให้ผู้ใช้ Ubuntu และ Debian สามารถติดตั้งซอฟต์แวร์นอกรีโปได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น ฝั่ง GUI ก็มี Autonomix ที่ใช้ GTK4 + libadwaita ให้หน้าตาทันสมัย รองรับทั้ง .deb, .rpm, AppImage, Flatpak และ Snap พร้อมระบบติดตามเวอร์ชันในตัว ส่วนเครื่องมืออย่าง bin, Install Release, stew และ AFX ก็เน้นความสามารถเฉพาะทาง เช่น การจัดการหลายแหล่งซอฟต์แวร์, การซิงก์สถานะข้ามเครื่อง, การติดตั้งแบบ declarative และการจัดการปลั๊กอินเชลล์อย่างเป็นระบบ ภาพรวมแล้ว เครื่องมือเหล่านี้สะท้อนทิศทางใหม่ของ Linux ที่กำลังเคลื่อนสู่โลกที่ผู้พัฒนาปล่อยซอฟต์แวร์เองมากขึ้น และผู้ใช้ต้องการระบบจัดการไบนารีที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม ไม่ต้องรอแพ็กเกจจากดิสโทร และยังสามารถอัปเดตได้อัตโนมัติแบบแพ็กเกจเมเนเจอร์ดั้งเดิม ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความคล่องตัวของ GitHub กับความสะดวกของระบบจัดการแพ็กเกจที่ผู้ใช้คุ้นเคย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เครื่องมือเด่นสำหรับจัดการ GitHub Binaries ➡️ deb‑get: apt‑get สำหรับ .deb จาก GitHub, PPA, direct download ➡️ Autonomix: ตัวเลือก GUI รองรับหลายฟอร์แมต เช่น deb/rpm/AppImage/Flatpak/Snap ➡️ Eget: ดาวน์โหลดไบนารีอัตโนมัติจาก GitHub พร้อมเลือกไฟล์ที่ตรงสถาปัตยกรรม ➡️ Install Release: ซิงก์สถานะแพ็กเกจข้ามเครื่องผ่านไฟล์ JSON ➡️ bin: จัดการไบนารีจากหลายแหล่ง เช่น GitHub, GitLab, Docker, Hashicorp ➡️ stew: ระบบ declarative ผ่าน Stewfile + UI แบบ interactive ➡️ AFX: จัดการปลั๊กอินเชลล์ + ไบนารีด้วย YAML config ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ ต้องพึ่งพา GitHub API ซึ่งอาจเจอ rate‑limit หากไม่ใช้ token ⛔ บางเครื่องมือยังใหม่มาก เช่น Autonomix อาจมีบั๊กหรือฟีเจอร์ไม่ครบ ⛔ การติดตั้งไบนารีนอกรีโปอาจขาดการตรวจสอบความปลอดภัยจากดิสโทร ⛔ ระบบ declarative หรือ multi‑source อาจซับซ้อนสำหรับผู้ใช้ใหม่ https://itsfoss.com/github-binaries-tools/
    ITSFOSS.COM
    Stop Manually Checking GitHub Releases — These Tools Automatically Install & Update Apps on Linux
    These handy utilities tools simplify installing and managing binaries from GitHub releases on Linux.
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷

    #รวมข่าวIT #20251223 #TechRadar

    Surfshark ขยาย Dedicated IP มาสู่ Linux GUI App
    Surfshark เดินหน้าขยายฟีเจอร์ Dedicated IP มายังแอป GUI บน Linux แบบเต็มรูปแบบ ช่วยลด CAPTCHA, ลดการถูกบล็อก และเพิ่มความเสถียรในการเข้าถึงบริการสำคัญ เช่น ระบบงานองค์กรและธนาคาร โดยไม่ต้องพึ่งส่วนขยายเบราว์เซอร์อีกต่อไป การอัปเดตนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันฟีเจอร์ระดับโปรให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม หลังจากขยายอย่างหนักในปี 2025 และช่วยให้ผู้ใช้ Linux ได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลและปลอดภัยยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/surfshark-expands-dedicated-ip-to-linux-in-its-latest-desktop-update

    Anthropic เปิด Agent Skills เป็นโอเพ่นซอร์ส ท้าชน OpenAI
    Anthropic เดินเกมเชิงรุกด้วยการเปิด Agent Skills เป็นมาตรฐานโอเพ่นซอร์ส เพื่อให้ AI agents ทำงานซ้ำ ๆ ได้อย่างแม่นยำและปรับแต่งได้ง่ายขึ้น โดย Microsoft และเครื่องมือโค้ดหลายตัวเริ่มนำไปใช้แล้ว การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนความตั้งใจของ Anthropic ที่ต้องการเป็นเลเยอร์โครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรม AI ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตโมเดลอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/anthropic-takes-the-fight-to-openai-with-enterprise-ai-tools-and-theyre-going-open-source-too

    ดีลคลาวด์ช่วงคริสต์มาส ช่วยเคลียร์รูปในมือถือแบบคุ้มสุด
    TechRadar แนะนำดีลคลาวด์สตอเรจช่วงคริสต์มาสสำหรับคนที่รูปเต็มมือถือ โดยยกให้ IDrive เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเพราะได้พื้นที่ 10TB ในราคาถูกมาก พร้อมเข้ารหัสแบบ end‑to‑end และแอปใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังมีดีลจาก Internxt, Sync.com และ Degoo ที่เน้นความปลอดภัยและพื้นที่จัดเก็บจำนวนมาก เหมาะทั้งผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจ
    https://www.techradar.com/pro/cut-through-camera-roll-chaos-with-these-christmas-cloud-storage-deals-including-a-huge-saving-on-our-top-choice

    รีวิวโต๊ะยืน Eureka Ark EL — ดีไซน์เด่น ฟีเจอร์ครบ แต่ราคาแรง
    Eureka Ark EL Executive Standing Desk โดดเด่นด้วยดีไซน์ขาโต๊ะทรงใหญ่สไตล์พรีเมียม พร้อมระบบปรับระดับไฟฟ้า 3 โปรไฟล์ ความสูงสูงสุด 48 นิ้ว รองรับน้ำหนัก 100 กก. และมีที่ชาร์จไร้สาย + พอร์ต USB ในตัว แม้จะเป็นโต๊ะที่ใช้งานดีและประกอบง่าย แต่ราคาค่อนข้างสูง วัสดุบางส่วนไม่พรีเมียมเท่าที่ควร และลิ้นชักมีความจุจำกัด
    https://www.techradar.com/pro/eureka-ergonomic-ark-el-executive-standing-desk

    HPE เตือนลูกค้าอัปเดต OneView ด่วน หลังพบช่องโหว่ระดับ 10/10
    HPE ออกแพตช์อุดช่องโหว่ร้ายแรงใน OneView (CVE‑2025‑37164) ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เสี่ยงต่อการถูกเปลี่ยนค่าคอนฟิกเซิร์ฟเวอร์ ติดมัลแวร์ หรือสร้างแบ็กดอร์ในระดับโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ผู้ใช้ต้องอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 11.0 หรือใช้ hotfix ทันทีเพื่อป้องกันความเสียหาย
    https://www.techradar.com/pro/security/hpe-tells-customers-to-patch-oneview-immediately-as-top-level-security-flaw-spotted

    Arm สูญมูลค่าหลายพันล้าน หลัง Qualcomm เดินเกม RISC‑V
    Arm เผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่เมื่อ Qualcomm ประกาศเข้าซื้อ Ventana Micro เพื่อเร่งพัฒนา RISC‑V ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอนาคตความต้องการสถาปัตยกรรม Arm อาจลดลง ส่งผลให้หุ้นร่วงหนัก ขณะที่ Qualcomm กลับพุ่งขึ้นเพราะตลาดมองว่าบริษัทกำลังวางรากฐานสู่ยุค CPU แบบผสมผสาน Arm + RISC‑V สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/arm-sheds-billions-in-market-capitalization-after-qualcomm-hints-at-risc-v-adoption-with-ventara-micro-acquisition

    Qualcomm เร่งขยายอาณาจักร AI Data Center ด้วยดีล Alphawave Semi
    Qualcomm ปิดดีลซื้อ Alphawave Semi เร็วกว่ากำหนด เสริมแกร่งด้านเทคโนโลยีเชื่อมต่อความเร็วสูงและชิปแบบ custom เพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่ โดยจะผสานเข้ากับสถาปัตยกรรม Oryon และ Hexagon เพื่อสร้างแพลตฟอร์มดาต้าเซ็นเตอร์ที่ครบวงจร พร้อมตั้ง CEO ของ Alphawave มาคุมธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์โดยตรง สะท้อนความตั้งใจของ Qualcomm ที่จะท้าชน Nvidia ในตลาดโครงสร้างพื้นฐาน AI
    https://www.techradar.com/pro/watch-out-nvidia-qualcomm-acquires-alphawave-semi-in-latest-addition-to-its-ai-data-center-push

    Gemini 3 Flash ฉลาดและเร็ว — แต่ยัง “มั่วเนียน” เมื่อไม่รู้คำตอบ
    Gemini 3 Flash ทำคะแนนสูงในหลายการทดสอบ แต่ผลวิเคราะห์ล่าสุดเผยว่าเมื่อโมเดลไม่รู้คำตอบ มันเลือก “ตอบมั่ว” ถึง 91% แทนที่จะบอกว่าไม่รู้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการใช้งานในสถานการณ์จริง โดยเฉพาะเมื่อถูกผนวกเข้ากับ Search แม้ยังเป็นหนึ่งในโมเดลที่แม่นยำที่สุด แต่ความมั่นใจเกินเหตุในบริบทที่ไม่มีข้อมูลจริงยังเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ Google ต้องเร่งแก้
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini-3-flash-is-smart-but-when-it-doesnt-know-it-makes-stuff-up-anyway

    AWS มองอนาคตเป็นยุค “Internet of Agents” พร้อมผลักดัน AgentCore
    ผู้บริหาร AWS เผยวิสัยทัศน์ยุคใหม่ที่ AI agents จะกลายเป็นผู้ช่วยประจำตัวทุกคน โดย AWS ต้องการให้ทุกนักพัฒนาเป็น “agentic developer” ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง AgentCore และ Kiro IDE ที่ช่วยสร้าง agent ได้ง่ายขึ้น พร้อมย้ำว่าความน่าเชื่อถือและการตรวจสอบโดยมนุษย์ยังเป็นหัวใจสำคัญ ก่อนที่โลกจะเข้าสู่ยุคที่งานจำนวนมากถูกเร่งด้วย agent แต่ไม่แทนที่มนุษย์
    https://www.techradar.com/pro/we-are-living-in-times-of-great-change-i-speak-to-aws-top-ai-minds-to-hear-how-it-wants-to-open-up-agents-and-building-to-everyone

    กล้องวงจรปิดไม่ง้อรายเดือน — 3 รุ่นแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ Smart Home
    TechRadar คัด 3 กล้องวงจรปิดที่ใช้งานได้เต็มฟีเจอร์โดยไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน ได้แก่ Baseus S2 ที่มีแผงโซลาร์หมุนตามแสงและระบบจดจำใบหน้า, Swann MaxRanger4K ที่ให้ความละเอียดสูงพร้อมฐานเก็บข้อมูลในตัว และ Reolink Altas PT Ultra ที่เด่นด้านการหมุน‑แพน‑ซูมและภาพกลางคืนสีสันคมชัด ทั้งหมดรองรับการบันทึกแบบ local storage ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว
    https://www.techradar.com/home/home-security/top-3-subscription-free-home-security-cameras

    Google Cloud รีเฟรช Partner Network ครั้งใหญ่ เตรียมใช้จริงปี 2026
    Google Cloud เปิดตัวโปรแกรมพาร์ตเนอร์รูปแบบใหม่ที่เน้น “ผลลัพธ์จริงของลูกค้า” มากกว่าการส่งเอกสารหรือทำตามเช็กลิสต์ โดยเพิ่มระบบอัตโนมัติ, การติดตามด้วย AI และเปิดระดับใหม่ชื่อ Diamond สำหรับพาร์ตเนอร์ที่สร้างผลลัพธ์โดดเด่นที่สุด พร้อมช่วงเปลี่ยนผ่าน 6 เดือนเพื่อให้ทุกประเภทพาร์ตเนอร์ปรับตัวก่อนระบบใหม่เริ่มใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2026
    https://www.techradar.com/pro/google-cloud-reveals-all-new-channel-program-heres-all-the-key-details

    Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เสริมพลังงานให้ดาต้าเซ็นเตอร์
    Alphabet เข้าซื้อ Intersect Power แบบเต็มตัวเพื่อเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานรองรับดาต้าเซ็นเตอร์ หลังจากเคยลงทุนไปแล้ว $800M ในปี 2024 โดย Intersect จะยังคงดำเนินงานแยกบริษัท พร้อมส่งมอบโครงการพลังงานหลายกิกะวัตต์ให้ Google ใช้ขยายศูนย์ข้อมูลในอนาคต แม้บางทรัพย์สินในแคลิฟอร์เนียและเท็กซัสจะถูกแยกออกไปตั้งบริษัทใหม่ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/alphabet-secures-usd4-75-billion-intersect-deal-to-make-sure-its-data-centers-have-enough-energy

    Oppo Find X9 Pro — เรือธงสุดโหดสำหรับสาย Android ตัวจริง
    Oppo Find X9 Pro มาพร้อมดีไซน์ใหม่แบบขอบแบน กล้องจัดเต็ม 50MP + 50MP + 200MP, ชิป Dimensity 9500, RAM 16GB และแบต 7,500mAh ที่อึดกว่าคู่แข่งหลายรุ่น หน้าจอ AMOLED 120Hz สว่างสุด 3600 nits และประสิทธิภาพระดับท็อป แม้จะมีความร้อนบ้างและซอฟต์แวร์บางจุดยังแปลก ๆ แต่โดยรวมคือหนึ่งใน Android ที่ครบเครื่องที่สุด—ติดเพียงข้อจำกัดด้านการวางจำหน่ายที่ยังไม่ทั่วโลก
    https://www.techradar.com/phones/oppo-phones/oppo-find-x9-pro-review

    NordProtect เพิ่มระบบ Fraud Monitoring ตรวจจับการปลอมตัวและกู้เงินแอบอ้าง
    NordProtect อัปเกรดระบบป้องกันการฉ้อโกงครั้งใหญ่ โดยเพิ่มการตรวจสอบข้อมูลจาก Equifax, Experian และ TransUnion เพื่อหาสัญญาณเปิดบัญชีใหม่, การเปลี่ยนเครดิตสกอร์, การกู้เงินระยะสั้น และการเปิดบัญชีการเงินโดยใช้ข้อมูลผู้ใช้ พร้อมผสานการล็อกเครดิตของ TransUnion เข้ามาในระบบ แม้บริการเต็มรูปแบบจะยังจำกัดเฉพาะในสหรัฐฯ ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/security/nordprotect-adds-fraud-monitoring-tool-to-help-protect-users-from-scams

    iPod Classic กลับมาในร่างใหม่ — USB‑C, Bluetooth และราคาสุดถูก
    Innioasis Y1 คือเครื่องเล่นเพลงที่ถอดแบบ iPod Classic แทบทุกจุด ทั้งดีไซน์และ clickwheel แต่เพิ่มความทันสมัยด้วย USB‑C, Bluetooth, รองรับไฟล์หลากหลาย และแบตเล่นเพลงได้ 25–30 ชั่วโมง ในราคาต่ำกว่า $60 แม้คุณภาพงานประกอบและซอฟต์แวร์จะไม่เทียบ Apple และความจุจำกัดที่ 128GB แต่ก็เป็นอุปกรณ์ที่มีเสน่ห์สำหรับคนคิดถึงยุค iPod
    https://www.techradar.com/audio/portable-media-players/someones-made-a-usb-c-version-of-the-ipod-classic-complete-with-clickwheel-and-its-extremely-cheap

    Windows 11 เดินหน้าทดสอบ AI Agents ในระบบ แม้เสียงวิจารณ์ยังแรง
    Microsoft ปล่อยพรีวิว Windows 11 ที่โชว์การทำงานของ AI agents ชัดขึ้น ทั้ง Ask Copilot บนทาสก์บาร์, การอัปเดตสถานะ reasoning แบบเรียลไทม์เมื่อโฮเวอร์ไอคอน และระบบ Agent Launcher ที่เปิดให้แอปภายนอกสร้าง agent ของตัวเองได้ แม้เป็นก้าวสำคัญของ Windows ยุค AI แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังไม่พอใจที่ Microsoft ทุ่มทรัพยากรไปกับ AI มากกว่าการแก้ปัญหา UX และบั๊กพื้นฐานของระบบ
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-preview-provides-more-details-on-how-ai-agents-will-work-but-this-remains-a-controversial-path-for-microsoft

    มหาวิทยาลัย Phoenix ถูกแฮ็ก ข้อมูลกว่า 3.5 ล้านรายรั่วจากช่องโหว่ Oracle
    University of Phoenix ยืนยันว่าถูกกลุ่มแรนซัมแวร์ Cl0p เจาะระบบผ่านช่องโหว่ zero‑day ของ Oracle E‑Business Suite ทำให้ข้อมูลของอดีตนักศึกษา พนักงาน และซัพพลายเออร์กว่า 3.5 ล้านรายถูกขโมย ทั้งชื่อ วันเกิด เบอร์บัญชี และ Social Security Number มหาวิทยาลัยแจ้งเตือนผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมให้บริการตรวจสอบตัวตน 12 เดือน และตั้งกองทุนชดเชยความเสียหายสูงสุด $1 ล้าน
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/university-of-phoenix-data-breach-may-have-hit-over-3-5-million-victims-heres-what-we-know
    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251223 #TechRadar 🛡️ Surfshark ขยาย Dedicated IP มาสู่ Linux GUI App Surfshark เดินหน้าขยายฟีเจอร์ Dedicated IP มายังแอป GUI บน Linux แบบเต็มรูปแบบ ช่วยลด CAPTCHA, ลดการถูกบล็อก และเพิ่มความเสถียรในการเข้าถึงบริการสำคัญ เช่น ระบบงานองค์กรและธนาคาร โดยไม่ต้องพึ่งส่วนขยายเบราว์เซอร์อีกต่อไป การอัปเดตนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันฟีเจอร์ระดับโปรให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม หลังจากขยายอย่างหนักในปี 2025 และช่วยให้ผู้ใช้ Linux ได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลและปลอดภัยยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/surfshark-expands-dedicated-ip-to-linux-in-its-latest-desktop-update 🤖 Anthropic เปิด Agent Skills เป็นโอเพ่นซอร์ส ท้าชน OpenAI Anthropic เดินเกมเชิงรุกด้วยการเปิด Agent Skills เป็นมาตรฐานโอเพ่นซอร์ส เพื่อให้ AI agents ทำงานซ้ำ ๆ ได้อย่างแม่นยำและปรับแต่งได้ง่ายขึ้น โดย Microsoft และเครื่องมือโค้ดหลายตัวเริ่มนำไปใช้แล้ว การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนความตั้งใจของ Anthropic ที่ต้องการเป็นเลเยอร์โครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรม AI ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตโมเดลอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/anthropic-takes-the-fight-to-openai-with-enterprise-ai-tools-and-theyre-going-open-source-too ☁️ ดีลคลาวด์ช่วงคริสต์มาส ช่วยเคลียร์รูปในมือถือแบบคุ้มสุด TechRadar แนะนำดีลคลาวด์สตอเรจช่วงคริสต์มาสสำหรับคนที่รูปเต็มมือถือ โดยยกให้ IDrive เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเพราะได้พื้นที่ 10TB ในราคาถูกมาก พร้อมเข้ารหัสแบบ end‑to‑end และแอปใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังมีดีลจาก Internxt, Sync.com และ Degoo ที่เน้นความปลอดภัยและพื้นที่จัดเก็บจำนวนมาก เหมาะทั้งผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/cut-through-camera-roll-chaos-with-these-christmas-cloud-storage-deals-including-a-huge-saving-on-our-top-choice 🪑 รีวิวโต๊ะยืน Eureka Ark EL — ดีไซน์เด่น ฟีเจอร์ครบ แต่ราคาแรง Eureka Ark EL Executive Standing Desk โดดเด่นด้วยดีไซน์ขาโต๊ะทรงใหญ่สไตล์พรีเมียม พร้อมระบบปรับระดับไฟฟ้า 3 โปรไฟล์ ความสูงสูงสุด 48 นิ้ว รองรับน้ำหนัก 100 กก. และมีที่ชาร์จไร้สาย + พอร์ต USB ในตัว แม้จะเป็นโต๊ะที่ใช้งานดีและประกอบง่าย แต่ราคาค่อนข้างสูง วัสดุบางส่วนไม่พรีเมียมเท่าที่ควร และลิ้นชักมีความจุจำกัด 🔗 https://www.techradar.com/pro/eureka-ergonomic-ark-el-executive-standing-desk 🔥 HPE เตือนลูกค้าอัปเดต OneView ด่วน หลังพบช่องโหว่ระดับ 10/10 HPE ออกแพตช์อุดช่องโหว่ร้ายแรงใน OneView (CVE‑2025‑37164) ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เสี่ยงต่อการถูกเปลี่ยนค่าคอนฟิกเซิร์ฟเวอร์ ติดมัลแวร์ หรือสร้างแบ็กดอร์ในระดับโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ผู้ใช้ต้องอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 11.0 หรือใช้ hotfix ทันทีเพื่อป้องกันความเสียหาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hpe-tells-customers-to-patch-oneview-immediately-as-top-level-security-flaw-spotted 📉 Arm สูญมูลค่าหลายพันล้าน หลัง Qualcomm เดินเกม RISC‑V Arm เผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่เมื่อ Qualcomm ประกาศเข้าซื้อ Ventana Micro เพื่อเร่งพัฒนา RISC‑V ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอนาคตความต้องการสถาปัตยกรรม Arm อาจลดลง ส่งผลให้หุ้นร่วงหนัก ขณะที่ Qualcomm กลับพุ่งขึ้นเพราะตลาดมองว่าบริษัทกำลังวางรากฐานสู่ยุค CPU แบบผสมผสาน Arm + RISC‑V สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/arm-sheds-billions-in-market-capitalization-after-qualcomm-hints-at-risc-v-adoption-with-ventara-micro-acquisition 🏗️ Qualcomm เร่งขยายอาณาจักร AI Data Center ด้วยดีล Alphawave Semi Qualcomm ปิดดีลซื้อ Alphawave Semi เร็วกว่ากำหนด เสริมแกร่งด้านเทคโนโลยีเชื่อมต่อความเร็วสูงและชิปแบบ custom เพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่ โดยจะผสานเข้ากับสถาปัตยกรรม Oryon และ Hexagon เพื่อสร้างแพลตฟอร์มดาต้าเซ็นเตอร์ที่ครบวงจร พร้อมตั้ง CEO ของ Alphawave มาคุมธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์โดยตรง สะท้อนความตั้งใจของ Qualcomm ที่จะท้าชน Nvidia ในตลาดโครงสร้างพื้นฐาน AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/watch-out-nvidia-qualcomm-acquires-alphawave-semi-in-latest-addition-to-its-ai-data-center-push 🤖 Gemini 3 Flash ฉลาดและเร็ว — แต่ยัง “มั่วเนียน” เมื่อไม่รู้คำตอบ Gemini 3 Flash ทำคะแนนสูงในหลายการทดสอบ แต่ผลวิเคราะห์ล่าสุดเผยว่าเมื่อโมเดลไม่รู้คำตอบ มันเลือก “ตอบมั่ว” ถึง 91% แทนที่จะบอกว่าไม่รู้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการใช้งานในสถานการณ์จริง โดยเฉพาะเมื่อถูกผนวกเข้ากับ Search แม้ยังเป็นหนึ่งในโมเดลที่แม่นยำที่สุด แต่ความมั่นใจเกินเหตุในบริบทที่ไม่มีข้อมูลจริงยังเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ Google ต้องเร่งแก้ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini-3-flash-is-smart-but-when-it-doesnt-know-it-makes-stuff-up-anyway 🧠 AWS มองอนาคตเป็นยุค “Internet of Agents” พร้อมผลักดัน AgentCore ผู้บริหาร AWS เผยวิสัยทัศน์ยุคใหม่ที่ AI agents จะกลายเป็นผู้ช่วยประจำตัวทุกคน โดย AWS ต้องการให้ทุกนักพัฒนาเป็น “agentic developer” ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง AgentCore และ Kiro IDE ที่ช่วยสร้าง agent ได้ง่ายขึ้น พร้อมย้ำว่าความน่าเชื่อถือและการตรวจสอบโดยมนุษย์ยังเป็นหัวใจสำคัญ ก่อนที่โลกจะเข้าสู่ยุคที่งานจำนวนมากถูกเร่งด้วย agent แต่ไม่แทนที่มนุษย์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/we-are-living-in-times-of-great-change-i-speak-to-aws-top-ai-minds-to-hear-how-it-wants-to-open-up-agents-and-building-to-everyone 🏠 กล้องวงจรปิดไม่ง้อรายเดือน — 3 รุ่นแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ Smart Home TechRadar คัด 3 กล้องวงจรปิดที่ใช้งานได้เต็มฟีเจอร์โดยไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน ได้แก่ Baseus S2 ที่มีแผงโซลาร์หมุนตามแสงและระบบจดจำใบหน้า, Swann MaxRanger4K ที่ให้ความละเอียดสูงพร้อมฐานเก็บข้อมูลในตัว และ Reolink Altas PT Ultra ที่เด่นด้านการหมุน‑แพน‑ซูมและภาพกลางคืนสีสันคมชัด ทั้งหมดรองรับการบันทึกแบบ local storage ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/home/home-security/top-3-subscription-free-home-security-cameras ☁️ Google Cloud รีเฟรช Partner Network ครั้งใหญ่ เตรียมใช้จริงปี 2026 Google Cloud เปิดตัวโปรแกรมพาร์ตเนอร์รูปแบบใหม่ที่เน้น “ผลลัพธ์จริงของลูกค้า” มากกว่าการส่งเอกสารหรือทำตามเช็กลิสต์ โดยเพิ่มระบบอัตโนมัติ, การติดตามด้วย AI และเปิดระดับใหม่ชื่อ Diamond สำหรับพาร์ตเนอร์ที่สร้างผลลัพธ์โดดเด่นที่สุด พร้อมช่วงเปลี่ยนผ่าน 6 เดือนเพื่อให้ทุกประเภทพาร์ตเนอร์ปรับตัวก่อนระบบใหม่เริ่มใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-cloud-reveals-all-new-channel-program-heres-all-the-key-details ⚡ Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เสริมพลังงานให้ดาต้าเซ็นเตอร์ Alphabet เข้าซื้อ Intersect Power แบบเต็มตัวเพื่อเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานรองรับดาต้าเซ็นเตอร์ หลังจากเคยลงทุนไปแล้ว $800M ในปี 2024 โดย Intersect จะยังคงดำเนินงานแยกบริษัท พร้อมส่งมอบโครงการพลังงานหลายกิกะวัตต์ให้ Google ใช้ขยายศูนย์ข้อมูลในอนาคต แม้บางทรัพย์สินในแคลิฟอร์เนียและเท็กซัสจะถูกแยกออกไปตั้งบริษัทใหม่ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/alphabet-secures-usd4-75-billion-intersect-deal-to-make-sure-its-data-centers-have-enough-energy 📱 Oppo Find X9 Pro — เรือธงสุดโหดสำหรับสาย Android ตัวจริง Oppo Find X9 Pro มาพร้อมดีไซน์ใหม่แบบขอบแบน กล้องจัดเต็ม 50MP + 50MP + 200MP, ชิป Dimensity 9500, RAM 16GB และแบต 7,500mAh ที่อึดกว่าคู่แข่งหลายรุ่น หน้าจอ AMOLED 120Hz สว่างสุด 3600 nits และประสิทธิภาพระดับท็อป แม้จะมีความร้อนบ้างและซอฟต์แวร์บางจุดยังแปลก ๆ แต่โดยรวมคือหนึ่งใน Android ที่ครบเครื่องที่สุด—ติดเพียงข้อจำกัดด้านการวางจำหน่ายที่ยังไม่ทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/phones/oppo-phones/oppo-find-x9-pro-review 🔐 NordProtect เพิ่มระบบ Fraud Monitoring ตรวจจับการปลอมตัวและกู้เงินแอบอ้าง NordProtect อัปเกรดระบบป้องกันการฉ้อโกงครั้งใหญ่ โดยเพิ่มการตรวจสอบข้อมูลจาก Equifax, Experian และ TransUnion เพื่อหาสัญญาณเปิดบัญชีใหม่, การเปลี่ยนเครดิตสกอร์, การกู้เงินระยะสั้น และการเปิดบัญชีการเงินโดยใช้ข้อมูลผู้ใช้ พร้อมผสานการล็อกเครดิตของ TransUnion เข้ามาในระบบ แม้บริการเต็มรูปแบบจะยังจำกัดเฉพาะในสหรัฐฯ ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/nordprotect-adds-fraud-monitoring-tool-to-help-protect-users-from-scams 🎧 iPod Classic กลับมาในร่างใหม่ — USB‑C, Bluetooth และราคาสุดถูก Innioasis Y1 คือเครื่องเล่นเพลงที่ถอดแบบ iPod Classic แทบทุกจุด ทั้งดีไซน์และ clickwheel แต่เพิ่มความทันสมัยด้วย USB‑C, Bluetooth, รองรับไฟล์หลากหลาย และแบตเล่นเพลงได้ 25–30 ชั่วโมง ในราคาต่ำกว่า $60 แม้คุณภาพงานประกอบและซอฟต์แวร์จะไม่เทียบ Apple และความจุจำกัดที่ 128GB แต่ก็เป็นอุปกรณ์ที่มีเสน่ห์สำหรับคนคิดถึงยุค iPod 🔗 https://www.techradar.com/audio/portable-media-players/someones-made-a-usb-c-version-of-the-ipod-classic-complete-with-clickwheel-and-its-extremely-cheap 🪟 Windows 11 เดินหน้าทดสอบ AI Agents ในระบบ แม้เสียงวิจารณ์ยังแรง Microsoft ปล่อยพรีวิว Windows 11 ที่โชว์การทำงานของ AI agents ชัดขึ้น ทั้ง Ask Copilot บนทาสก์บาร์, การอัปเดตสถานะ reasoning แบบเรียลไทม์เมื่อโฮเวอร์ไอคอน และระบบ Agent Launcher ที่เปิดให้แอปภายนอกสร้าง agent ของตัวเองได้ แม้เป็นก้าวสำคัญของ Windows ยุค AI แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังไม่พอใจที่ Microsoft ทุ่มทรัพยากรไปกับ AI มากกว่าการแก้ปัญหา UX และบั๊กพื้นฐานของระบบ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-preview-provides-more-details-on-how-ai-agents-will-work-but-this-remains-a-controversial-path-for-microsoft 🔓 มหาวิทยาลัย Phoenix ถูกแฮ็ก ข้อมูลกว่า 3.5 ล้านรายรั่วจากช่องโหว่ Oracle University of Phoenix ยืนยันว่าถูกกลุ่มแรนซัมแวร์ Cl0p เจาะระบบผ่านช่องโหว่ zero‑day ของ Oracle E‑Business Suite ทำให้ข้อมูลของอดีตนักศึกษา พนักงาน และซัพพลายเออร์กว่า 3.5 ล้านรายถูกขโมย ทั้งชื่อ วันเกิด เบอร์บัญชี และ Social Security Number มหาวิทยาลัยแจ้งเตือนผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมให้บริการตรวจสอบตัวตน 12 เดือน และตั้งกองทุนชดเชยความเสียหายสูงสุด $1 ล้าน ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/university-of-phoenix-data-breach-may-have-hit-over-3-5-million-victims-heres-what-we-know
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷

    #รวมข่าวIT #20251223 #securityonline

    Hardware‑Accelerated BitLocker: ยุคใหม่ของการเข้ารหัสที่ไม่กิน FPS อีกต่อไป
    Microsoft เปิดตัว BitLocker แบบเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ซึ่งย้ายภาระการเข้ารหัสจาก CPU ไปยังเอนจินเฉพาะในคอนโทรลเลอร์ NVMe ทำให้ Windows 11 สามารถรักษาความเร็วอ่าน–เขียนระดับเกือบเนทีฟแม้เปิดการเข้ารหัสเต็มระบบ ต่างจากแบบเดิมที่ใช้ซอฟต์แวร์ล้วนและกินทรัพยากรจนกระทบ FPS ในเกมหรือโหลดงานหนักอย่างคอมไพล์โค้ดและเรนเดอร์วิดีโอ เทคโนโลยีใหม่นี้ยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยการเก็บกุญแจเข้ารหัสในฮาร์ดแวร์ที่แยกตัว ลดโอกาสโจมตีหน่วยความจำ พร้อมประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยจะเปิดใช้ใน Windows 11 24H2–25H2 บนอุปกรณ์ที่มี NVMe controller รุ่นใหม่และ CPU ที่มี crypto engine ในตัว เช่น Intel Core Ultra, AMD Ryzen และ Snapdragon X ซึ่งหมายความว่า HDD และ SATA SSD จะไม่รองรับแน่นอน
    https://securityonline.info/unlocking-the-speed-of-light-how-hardware-accelerated-bitlocker-saves-your-fps/

    The Payroll Trap: แคมเปญ Quishing ใหม่ใช้ QR + CAPTCHA ปลอมเพื่อขโมยเงินเดือนพนักงาน
    แคมเปญฟิชชิงรูปแบบใหม่กำลังพุ่งเป้าไปที่พนักงานโดยใช้ QR code เพื่อหลบระบบความปลอดภัยขององค์กร ก่อนล่อให้เหยื่อสแกนด้วยมือถือส่วนตัวและพาออกนอกเครือข่ายบริษัท จากนั้นหน้าเว็บปลอมจะใช้ CAPTCHA หลอกเพื่อดึงอีเมลและกระตุ้นให้กรอกรหัสผ่าน โดยโครงสร้างหลังบ้านใช้โดเมนหมุนเวียนและ URL เฉพาะรายเหยื่อ ทำให้สืบสวนได้ยากขึ้น สะท้อนการยกระดับฟิชชิงที่ผสานเทคนิคและจิตวิทยาอย่างแนบเนียน
    https://securityonline.info/the-payroll-trap-new-quishing-campaign-uses-fake-captchas-to-hijack-employee-paychecks

    Zero‑Day Linksys: ช่องโหว่ Auth Bypass เปิดทางแฮ็กเกอร์ยึดเราเตอร์โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน
    นักวิจัยพบช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ Linksys E9450‑SG ที่ทำให้ผู้โจมตีบนเครือข่ายท้องถิ่นสามารถเปิด Telnet และเข้าถึงสิทธิ์ root ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน เพียงส่งคำขอ URL ที่เจาะจงไปยัง endpoint ที่ผิดพลาดของเฟิร์มแวร์ แม้จะไม่ถูกโจมตีจากอินเทอร์เน็ตโดยตรง แต่ความเสี่ยงต่อผู้ที่มีผู้ใช้ร่วมเครือข่ายหรือ Wi‑Fi รั่วไหลยังสูงมาก
    https://securityonline.info/zero-day-alert-linksys-auth-bypass-lets-hackers-hijack-routers-without-passwords

    Wonderland: มัลแวร์ Android รุ่นใหม่ใช้ Telegram ควบคุมแบบสองทางเพื่อดูดเงินเหยื่อ
    รายงานจาก Group‑IB เผยการระบาดของมัลแวร์ “Wonderland” ในเอเชียกลาง ซึ่งพัฒนาไปไกลจากโทรจันทั่วไป โดยใช้ dropper ปลอมตัวเป็นไฟล์อัปเดตหรือมีเดียเพื่อหลบการตรวจจับ ก่อนปล่อย payload ที่สื่อสารกับผู้โจมตีแบบ real‑time ผ่าน C2 ทำให้สั่งรัน USSD, ส่ง SMS และขยายการติดเชื้อผ่าน Telegram ของเหยื่อได้โดยอัตโนมัติ แสดงถึงวิวัฒนาการของอาชญากรรมมือถือที่ซับซ้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว
    https://securityonline.info/wonderland-unleashed-new-android-dropper-malware-hijacks-telegram-to-drain-bank-accounts

    EchoGather: แคมเปญจารกรรมไซเบอร์ใช้ XLL + เอกสาร AI‑ปลอมเพื่อเจาะองค์กรรัสเซีย
    กลุ่ม Paper Werewolf ปรับยุทธวิธีใหม่ด้วยการใช้ไฟล์ XLL ซึ่งเป็น DLL ที่ Excel โหลดตรง ทำให้รันโค้ดได้โดยไม่ติดข้อจำกัดของมาโคร พร้อมเทคนิคหน่วงเวลาการทำงานเพื่อหลบระบบตรวจจับ เมื่อ payload ทำงานจะติดตั้ง backdoor “EchoGather” สำหรับเก็บข้อมูลและสั่งงานผ่าน HTTPS ขณะเดียวกันเอกสารล่อเหยื่อที่แนบมากลับถูกสร้างด้วย AI และมีข้อผิดพลาดหลายจุด สะท้อนการผสมผสานระหว่างเทคนิคขั้นสูงและความลวกของมนุษย์
    https://securityonline.info/ai-generated-decoys-xll-stealth-inside-the-new-echogather-cyber-espionage-campaign

    React2Shell Exploited: EtherRAT ใช้ Node.js ปลอมตัวเพื่อล่าคริปโตจากเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก
    แคมเปญโจมตีอัตโนมัติใช้ช่องโหว่ React2Shell เพื่อฝัง EtherRAT บนเซิร์ฟเวอร์ โดยดาวน์โหลด Node.js เวอร์ชันจริงมาติดตั้งเพื่อรันสคริปต์โจมตี ทำให้ยากต่อการตรวจจับ จากนั้นมัลแวร์จะเชื่อมต่อ RPC ของ Ethereum เพื่อทำธุรกรรมกับสัญญาเฉพาะ เป้าหมายคือขโมยสินทรัพย์ดิจิทัลจากระบบที่ถูกยึดแบบไร้การเจาะจงประเทศ ผู้ดูแลระบบควรตรวจสอบ process Node.js แปลกปลอมและโฟลเดอร์ซ่อนใน home path
    https://securityonline.info/react2shell-exploited-new-etherrat-malware-hunts-for-crypto-via-node-js

    M‑Files Identity Hijack: ช่องโหว่ให้พนักงานขโมยตัวตนกันเองได้เงียบ ๆ
    แพลตฟอร์มจัดการเอกสาร M‑Files ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ “ผู้ใช้ภายใน” สามารถดัก session token ของเพื่อนร่วมงานและสวมรอยเข้าถึงข้อมูลลับได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย ทำให้การตรวจสอบย้อนหลังแทบเป็นไปไม่ได้ ขณะเดียวกันอีกช่องโหว่ทำให้ข้อมูลจาก vault เก่ารั่วไหลไปยัง vault ใหม่โดยไม่ตั้งใจ สะท้อนความเสี่ยงของระบบที่องค์กรพึ่งพาในงานเอกสารระดับ mission‑critical และจำเป็นต้องอัปเดตแพตช์ทันทีเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้
    https://securityonline.info/identity-theft-in-m-files-high-severity-flaw-lets-insiders-hijack-user-accounts-and-access-sensitive-data

    Purchase Order Deception: แคมเปญจารกรรมใช้ loader อเนกประสงค์โจมตีอุตสาหกรรมยุโรป–ตะวันออกกลาง
    รายงานใหม่เผยแคมเปญที่ใช้ “unified commodity loader” เป็นแกนกลางในการส่ง RAT หลายตระกูลเข้าโจมตีบริษัทผลิตและหน่วยงานรัฐในอิตาลี ฟินแลนด์ และซาอุฯ โดยซ่อน payload ไว้ในภาพผ่าน steganography และดัดแปลงไลบรารีโอเพ่นซอร์สให้กลายเป็นม้าโทรจันที่ตรวจจับยาก พร้อมเทคนิคหลอก UAC แบบแนบเนียน ทำให้แคมเปญนี้เป็นตัวอย่างของการยกระดับ tradecraft ในตลาดมัลแวร์เชิงพาณิชย์
    https://securityonline.info/purchase-order-deception-sophisticated-loader-targets-manufacturing-giants-in-italy-finland-and-saudi-arabia

    Prince of Persia APT กลับมาพร้อมมัลแวร์ควบคุมผ่าน Telegram หลังเงียบไปหลายปี
    กลุ่ม APT สายอิหร่าน “Prince of Persia / Infy” ถูกพบว่ายังปฏิบัติการอยู่และได้อัปเกรดเครื่องมือใหม่ เช่น Tonnerre v50 ที่สื่อสารผ่าน Telegram group และใช้ DGA ซับซ้อนเพื่อหลบการบล็อก โครงสร้างมัลแวร์รุ่นใหม่อย่าง Foudre v34 และ Tonnerre v50 แสดงให้เห็นว่ากลุ่มนี้ไม่ได้หายไป แต่กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ยืดหยุ่นและตรวจจับยากกว่าเดิม พร้อมหลักฐานว่ามีมนุษย์ควบคุมการโจมตีแบบ real‑time
    https://securityonline.info/iranian-prince-of-persia-apt-resurfaces-with-telegram-controlled-stealth-malware

    Ransomware Cartel: Qilin–DragonForce–LockBit รวมตัวแบบสิ้นหวังท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐ
    ท่ามกลางการกวาดล้างของหน่วยงานรัฐทั่วโลก กลุ่ม Qilin, DragonForce และ LockBit ประกาศตั้ง “คาร์เทล” ร่วมกัน แต่รายงานชี้ว่าการรวมตัวนี้เป็นเพียงความพยายามประคองชื่อเสียงของ LockBit ที่แทบไม่เหลือกิจกรรมจริงแล้ว ขณะที่ Qilin กลับได้ประโยชน์ด้านการตลาดและดึง affiliate ใหม่มากกว่า ภาพรวมสะท้อนการแตกตัวของ ecosystem ransomware และการเปลี่ยนไปสู่โมเดล “ขู่กรรโชกข้อมูลอย่างเดียว” ที่เสี่ยงน้อยกว่าเดิม
    https://securityonline.info/a-desperate-cartel-inside-the-unlikely-alliance-of-qilin-dragonforce-and-a-fading-lockbit

    Scripted Sparrow: เครื่องจักร BEC ระดับอุตสาหกรรมยิงอีเมลหลอกลวงกว่า 3 ล้านฉบับต่อเดือน
    กลุ่มอาชญากร “Scripted Sparrow” ใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบในการส่งอีเมล BEC โดยปลอมเป็นบริษัทเทรนนิ่งผู้บริหาร พร้อมแนบประวัติการสนทนาปลอมระหว่างผู้บริหารกับที่ปรึกษาเพื่อหลอกฝ่ายบัญชีให้จ่ายเงิน กลยุทธ์ใหม่คือส่งอีเมล “ลืมแนบไฟล์” เพื่อบังคับให้เหยื่อตอบกลับ ทำให้การสนทนากลายเป็น trusted thread และเปิดทางให้ส่งบัญชีม้าได้อย่างปลอดภัย การวิเคราะห์พบสมาชิกกระจายหลายทวีปและใช้เทคนิคปลอมตำแหน่ง GPS เพื่อหลบการติดตาม
    https://securityonline.info/the-3-million-email-siege-inside-scripted-sparrows-global-industrialized-bec-machine

    MongoDB Memory Leak: ช่องโหว่ zlib ทำข้อมูลหลุดโดยไม่ต้องล็อกอิน
    ช่องโหว่ร้ายแรงใน MongoDB (CVE‑2025‑14847) เปิดทางให้ผู้โจมตีดึงข้อมูลจาก heap memory ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เพียงส่งคำขอที่เจาะจงไปยังส่วนที่ใช้ zlib compression ทำให้เซิร์ฟเวอร์ตอบกลับด้วยข้อมูลที่ยังไม่ได้ล้าง ซึ่งอาจรวมถึง query ล่าสุดหรือ credential ที่ค้างอยู่ใน RAM ช่องโหว่นี้กระทบแทบทุกเวอร์ชันย้อนหลังหลายปี และผู้ดูแลระบบถูกแนะนำให้อัปเดตทันทีหรือปิดการใช้ zlib ชั่วคราวเพื่อหยุดการรั่วไหล
    https://securityonline.info/critical-unauthenticated-mongodb-flaw-leaks-sensitive-data-via-zlib-compression

    Anna’s Archive อ้างดูด Spotify 300TB จุดชนวนสอบสวนการรั่วไหลครั้งใหญ่
    กลุ่มเงา Anna’s Archive ระบุว่าสามารถ mirror คลังเพลงของ Spotify ได้กว่า 300TB ครอบคลุม 86 ล้านแทร็กที่คิดเป็น 99.6% ของยอดฟังทั้งหมด โดยใช้วิธีเก็บ metadata 256 ล้านรายการและหลุดไฟล์เสียงบางส่วนผ่านการเลี่ยง DRM แม้ Spotify จะยืนยันเพียงว่ามีการเข้าถึงข้อมูลบางส่วน แต่เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์และความเป็นไปได้ที่ข้อมูลจะถูกนำไปสร้างแพลตฟอร์มสตรีมเถื่อนหรือใช้เทรนโมเดล AI
    https://securityonline.info/annas-archive-claims-300tb-spotify-mirror-forcing-an-investigation-into-a-massive-music-data-leak

    Windows DWM EoP: ช่องโหว่ยกระดับสิทธิ์ด้วยเทคนิค “วาดทับ” พร้อม PoC เผยแพร่แล้ว
    ช่องโหว่ใน Desktop Window Manager (DWM) ของ Windows เปิดทางให้ผู้ใช้ในเครื่องยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น SYSTEM ผ่านการจัดการกราฟิกผิดพลาด โดยมี PoC เผยแพร่แล้วแม้รายงานฉบับเต็มจะถูกล็อกให้เฉพาะผู้สนับสนุน เหตุการณ์นี้เพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องเร่งแพตช์ เพราะเป็นช่องโหว่ที่ผู้โจมตีสามารถใช้ร่วมกับบั๊กอื่นเพื่อยึดระบบได้อย่างรวดเร็ว
    https://securityonline.info/windows-dwm-flaw-lets-local-users-paint-their-way-to-system-privileges-poc-publishes

    Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เพื่อควบคุมไฟฟ้าป้อน Gemini และศูนย์ข้อมูล
    Alphabet เดินเกมเชิงโครงสร้างด้วยการซื้อ Intersect Power เพื่อแก้ปัญหาพลังงานที่กำลังกลายเป็นคอขวดของการแข่งขัน AI โดยดีลนี้ทำให้ Google ควบคุมโครงการพลังงานหมุนเวียนหลายกิกะวัตต์ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่สร้างติดกับดาต้าเซ็นเตอร์ในเท็กซัส การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าศึก AI ไม่ได้วัดกันที่ชิปหรือโมเดลอีกต่อไป แต่คือใครสร้างโรงไฟฟ้าได้เร็วกว่า
    https://securityonline.info/the-grid-is-the-goal-alphabets-4-75b-bet-to-own-the-power-plants-behind-gemini

    Android Toll: Google เก็บค่าติดตั้ง $2.85 ต่อแอปเมื่อใช้ลิงก์ดาวน์โหลดภายนอก
    ภายใต้แรงกดดันจากคดี Epic vs Google ศาลบีบให้ Google เปิด Play Store ให้ลิงก์ออกไปดาวน์โหลดภายนอกได้ แต่ Google เสนอโมเดลใหม่ที่ซับซ้อนและมีค่าธรรมเนียมสูง—คิด $2.85 ต่อการติดตั้งแอป และ $3.65 สำหรับเกม หากผู้ใช้ติดตั้งภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลิกลิงก์ พร้อมเก็บส่วนแบ่ง 10–20% สำหรับการจ่ายเงินผ่านระบบของนักพัฒนาเอง ทำให้แม้จะ “เปิด” ระบบ แต่ต้นทุนจริงอาจสูงจนผู้พัฒนาหลายรายไม่อยากออกจาก ecosystem
    https://securityonline.info/the-android-toll-google-to-charge-2-85-per-install-for-external-app-links
    📌🔐🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷🔐📌 #รวมข่าวIT #20251223 #securityonline ⚡ Hardware‑Accelerated BitLocker: ยุคใหม่ของการเข้ารหัสที่ไม่กิน FPS อีกต่อไป Microsoft เปิดตัว BitLocker แบบเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ซึ่งย้ายภาระการเข้ารหัสจาก CPU ไปยังเอนจินเฉพาะในคอนโทรลเลอร์ NVMe ทำให้ Windows 11 สามารถรักษาความเร็วอ่าน–เขียนระดับเกือบเนทีฟแม้เปิดการเข้ารหัสเต็มระบบ ต่างจากแบบเดิมที่ใช้ซอฟต์แวร์ล้วนและกินทรัพยากรจนกระทบ FPS ในเกมหรือโหลดงานหนักอย่างคอมไพล์โค้ดและเรนเดอร์วิดีโอ เทคโนโลยีใหม่นี้ยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยการเก็บกุญแจเข้ารหัสในฮาร์ดแวร์ที่แยกตัว ลดโอกาสโจมตีหน่วยความจำ พร้อมประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยจะเปิดใช้ใน Windows 11 24H2–25H2 บนอุปกรณ์ที่มี NVMe controller รุ่นใหม่และ CPU ที่มี crypto engine ในตัว เช่น Intel Core Ultra, AMD Ryzen และ Snapdragon X ซึ่งหมายความว่า HDD และ SATA SSD จะไม่รองรับแน่นอน 🔗 https://securityonline.info/unlocking-the-speed-of-light-how-hardware-accelerated-bitlocker-saves-your-fps/ 🧾 The Payroll Trap: แคมเปญ Quishing ใหม่ใช้ QR + CAPTCHA ปลอมเพื่อขโมยเงินเดือนพนักงาน แคมเปญฟิชชิงรูปแบบใหม่กำลังพุ่งเป้าไปที่พนักงานโดยใช้ QR code เพื่อหลบระบบความปลอดภัยขององค์กร ก่อนล่อให้เหยื่อสแกนด้วยมือถือส่วนตัวและพาออกนอกเครือข่ายบริษัท จากนั้นหน้าเว็บปลอมจะใช้ CAPTCHA หลอกเพื่อดึงอีเมลและกระตุ้นให้กรอกรหัสผ่าน โดยโครงสร้างหลังบ้านใช้โดเมนหมุนเวียนและ URL เฉพาะรายเหยื่อ ทำให้สืบสวนได้ยากขึ้น สะท้อนการยกระดับฟิชชิงที่ผสานเทคนิคและจิตวิทยาอย่างแนบเนียน 🔗 https://securityonline.info/the-payroll-trap-new-quishing-campaign-uses-fake-captchas-to-hijack-employee-paychecks 📡 Zero‑Day Linksys: ช่องโหว่ Auth Bypass เปิดทางแฮ็กเกอร์ยึดเราเตอร์โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน นักวิจัยพบช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ Linksys E9450‑SG ที่ทำให้ผู้โจมตีบนเครือข่ายท้องถิ่นสามารถเปิด Telnet และเข้าถึงสิทธิ์ root ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน เพียงส่งคำขอ URL ที่เจาะจงไปยัง endpoint ที่ผิดพลาดของเฟิร์มแวร์ แม้จะไม่ถูกโจมตีจากอินเทอร์เน็ตโดยตรง แต่ความเสี่ยงต่อผู้ที่มีผู้ใช้ร่วมเครือข่ายหรือ Wi‑Fi รั่วไหลยังสูงมาก 🔗 https://securityonline.info/zero-day-alert-linksys-auth-bypass-lets-hackers-hijack-routers-without-passwords 📱 Wonderland: มัลแวร์ Android รุ่นใหม่ใช้ Telegram ควบคุมแบบสองทางเพื่อดูดเงินเหยื่อ รายงานจาก Group‑IB เผยการระบาดของมัลแวร์ “Wonderland” ในเอเชียกลาง ซึ่งพัฒนาไปไกลจากโทรจันทั่วไป โดยใช้ dropper ปลอมตัวเป็นไฟล์อัปเดตหรือมีเดียเพื่อหลบการตรวจจับ ก่อนปล่อย payload ที่สื่อสารกับผู้โจมตีแบบ real‑time ผ่าน C2 ทำให้สั่งรัน USSD, ส่ง SMS และขยายการติดเชื้อผ่าน Telegram ของเหยื่อได้โดยอัตโนมัติ แสดงถึงวิวัฒนาการของอาชญากรรมมือถือที่ซับซ้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว 🔗 https://securityonline.info/wonderland-unleashed-new-android-dropper-malware-hijacks-telegram-to-drain-bank-accounts 🧩 EchoGather: แคมเปญจารกรรมไซเบอร์ใช้ XLL + เอกสาร AI‑ปลอมเพื่อเจาะองค์กรรัสเซีย กลุ่ม Paper Werewolf ปรับยุทธวิธีใหม่ด้วยการใช้ไฟล์ XLL ซึ่งเป็น DLL ที่ Excel โหลดตรง ทำให้รันโค้ดได้โดยไม่ติดข้อจำกัดของมาโคร พร้อมเทคนิคหน่วงเวลาการทำงานเพื่อหลบระบบตรวจจับ เมื่อ payload ทำงานจะติดตั้ง backdoor “EchoGather” สำหรับเก็บข้อมูลและสั่งงานผ่าน HTTPS ขณะเดียวกันเอกสารล่อเหยื่อที่แนบมากลับถูกสร้างด้วย AI และมีข้อผิดพลาดหลายจุด สะท้อนการผสมผสานระหว่างเทคนิคขั้นสูงและความลวกของมนุษย์ 🔗 https://securityonline.info/ai-generated-decoys-xll-stealth-inside-the-new-echogather-cyber-espionage-campaign 💰 React2Shell Exploited: EtherRAT ใช้ Node.js ปลอมตัวเพื่อล่าคริปโตจากเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก แคมเปญโจมตีอัตโนมัติใช้ช่องโหว่ React2Shell เพื่อฝัง EtherRAT บนเซิร์ฟเวอร์ โดยดาวน์โหลด Node.js เวอร์ชันจริงมาติดตั้งเพื่อรันสคริปต์โจมตี ทำให้ยากต่อการตรวจจับ จากนั้นมัลแวร์จะเชื่อมต่อ RPC ของ Ethereum เพื่อทำธุรกรรมกับสัญญาเฉพาะ เป้าหมายคือขโมยสินทรัพย์ดิจิทัลจากระบบที่ถูกยึดแบบไร้การเจาะจงประเทศ ผู้ดูแลระบบควรตรวจสอบ process Node.js แปลกปลอมและโฟลเดอร์ซ่อนใน home path 🔗 https://securityonline.info/react2shell-exploited-new-etherrat-malware-hunts-for-crypto-via-node-js 🕵️‍♂️ M‑Files Identity Hijack: ช่องโหว่ให้พนักงานขโมยตัวตนกันเองได้เงียบ ๆ แพลตฟอร์มจัดการเอกสาร M‑Files ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ “ผู้ใช้ภายใน” สามารถดัก session token ของเพื่อนร่วมงานและสวมรอยเข้าถึงข้อมูลลับได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย ทำให้การตรวจสอบย้อนหลังแทบเป็นไปไม่ได้ ขณะเดียวกันอีกช่องโหว่ทำให้ข้อมูลจาก vault เก่ารั่วไหลไปยัง vault ใหม่โดยไม่ตั้งใจ สะท้อนความเสี่ยงของระบบที่องค์กรพึ่งพาในงานเอกสารระดับ mission‑critical และจำเป็นต้องอัปเดตแพตช์ทันทีเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้ 🔗 https://securityonline.info/identity-theft-in-m-files-high-severity-flaw-lets-insiders-hijack-user-accounts-and-access-sensitive-data 📦 Purchase Order Deception: แคมเปญจารกรรมใช้ loader อเนกประสงค์โจมตีอุตสาหกรรมยุโรป–ตะวันออกกลาง รายงานใหม่เผยแคมเปญที่ใช้ “unified commodity loader” เป็นแกนกลางในการส่ง RAT หลายตระกูลเข้าโจมตีบริษัทผลิตและหน่วยงานรัฐในอิตาลี ฟินแลนด์ และซาอุฯ โดยซ่อน payload ไว้ในภาพผ่าน steganography และดัดแปลงไลบรารีโอเพ่นซอร์สให้กลายเป็นม้าโทรจันที่ตรวจจับยาก พร้อมเทคนิคหลอก UAC แบบแนบเนียน ทำให้แคมเปญนี้เป็นตัวอย่างของการยกระดับ tradecraft ในตลาดมัลแวร์เชิงพาณิชย์ 🔗 https://securityonline.info/purchase-order-deception-sophisticated-loader-targets-manufacturing-giants-in-italy-finland-and-saudi-arabia 🕌 Prince of Persia APT กลับมาพร้อมมัลแวร์ควบคุมผ่าน Telegram หลังเงียบไปหลายปี กลุ่ม APT สายอิหร่าน “Prince of Persia / Infy” ถูกพบว่ายังปฏิบัติการอยู่และได้อัปเกรดเครื่องมือใหม่ เช่น Tonnerre v50 ที่สื่อสารผ่าน Telegram group และใช้ DGA ซับซ้อนเพื่อหลบการบล็อก โครงสร้างมัลแวร์รุ่นใหม่อย่าง Foudre v34 และ Tonnerre v50 แสดงให้เห็นว่ากลุ่มนี้ไม่ได้หายไป แต่กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ยืดหยุ่นและตรวจจับยากกว่าเดิม พร้อมหลักฐานว่ามีมนุษย์ควบคุมการโจมตีแบบ real‑time 🔗 https://securityonline.info/iranian-prince-of-persia-apt-resurfaces-with-telegram-controlled-stealth-malware 🤝 Ransomware Cartel: Qilin–DragonForce–LockBit รวมตัวแบบสิ้นหวังท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐ ท่ามกลางการกวาดล้างของหน่วยงานรัฐทั่วโลก กลุ่ม Qilin, DragonForce และ LockBit ประกาศตั้ง “คาร์เทล” ร่วมกัน แต่รายงานชี้ว่าการรวมตัวนี้เป็นเพียงความพยายามประคองชื่อเสียงของ LockBit ที่แทบไม่เหลือกิจกรรมจริงแล้ว ขณะที่ Qilin กลับได้ประโยชน์ด้านการตลาดและดึง affiliate ใหม่มากกว่า ภาพรวมสะท้อนการแตกตัวของ ecosystem ransomware และการเปลี่ยนไปสู่โมเดล “ขู่กรรโชกข้อมูลอย่างเดียว” ที่เสี่ยงน้อยกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/a-desperate-cartel-inside-the-unlikely-alliance-of-qilin-dragonforce-and-a-fading-lockbit 📨 Scripted Sparrow: เครื่องจักร BEC ระดับอุตสาหกรรมยิงอีเมลหลอกลวงกว่า 3 ล้านฉบับต่อเดือน กลุ่มอาชญากร “Scripted Sparrow” ใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบในการส่งอีเมล BEC โดยปลอมเป็นบริษัทเทรนนิ่งผู้บริหาร พร้อมแนบประวัติการสนทนาปลอมระหว่างผู้บริหารกับที่ปรึกษาเพื่อหลอกฝ่ายบัญชีให้จ่ายเงิน กลยุทธ์ใหม่คือส่งอีเมล “ลืมแนบไฟล์” เพื่อบังคับให้เหยื่อตอบกลับ ทำให้การสนทนากลายเป็น trusted thread และเปิดทางให้ส่งบัญชีม้าได้อย่างปลอดภัย การวิเคราะห์พบสมาชิกกระจายหลายทวีปและใช้เทคนิคปลอมตำแหน่ง GPS เพื่อหลบการติดตาม 🔗 https://securityonline.info/the-3-million-email-siege-inside-scripted-sparrows-global-industrialized-bec-machine 🛢️ MongoDB Memory Leak: ช่องโหว่ zlib ทำข้อมูลหลุดโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่ร้ายแรงใน MongoDB (CVE‑2025‑14847) เปิดทางให้ผู้โจมตีดึงข้อมูลจาก heap memory ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เพียงส่งคำขอที่เจาะจงไปยังส่วนที่ใช้ zlib compression ทำให้เซิร์ฟเวอร์ตอบกลับด้วยข้อมูลที่ยังไม่ได้ล้าง ซึ่งอาจรวมถึง query ล่าสุดหรือ credential ที่ค้างอยู่ใน RAM ช่องโหว่นี้กระทบแทบทุกเวอร์ชันย้อนหลังหลายปี และผู้ดูแลระบบถูกแนะนำให้อัปเดตทันทีหรือปิดการใช้ zlib ชั่วคราวเพื่อหยุดการรั่วไหล 🔗 https://securityonline.info/critical-unauthenticated-mongodb-flaw-leaks-sensitive-data-via-zlib-compression 🎧 Anna’s Archive อ้างดูด Spotify 300TB จุดชนวนสอบสวนการรั่วไหลครั้งใหญ่ กลุ่มเงา Anna’s Archive ระบุว่าสามารถ mirror คลังเพลงของ Spotify ได้กว่า 300TB ครอบคลุม 86 ล้านแทร็กที่คิดเป็น 99.6% ของยอดฟังทั้งหมด โดยใช้วิธีเก็บ metadata 256 ล้านรายการและหลุดไฟล์เสียงบางส่วนผ่านการเลี่ยง DRM แม้ Spotify จะยืนยันเพียงว่ามีการเข้าถึงข้อมูลบางส่วน แต่เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์และความเป็นไปได้ที่ข้อมูลจะถูกนำไปสร้างแพลตฟอร์มสตรีมเถื่อนหรือใช้เทรนโมเดล AI 🔗 https://securityonline.info/annas-archive-claims-300tb-spotify-mirror-forcing-an-investigation-into-a-massive-music-data-leak 🖼️ Windows DWM EoP: ช่องโหว่ยกระดับสิทธิ์ด้วยเทคนิค “วาดทับ” พร้อม PoC เผยแพร่แล้ว ช่องโหว่ใน Desktop Window Manager (DWM) ของ Windows เปิดทางให้ผู้ใช้ในเครื่องยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น SYSTEM ผ่านการจัดการกราฟิกผิดพลาด โดยมี PoC เผยแพร่แล้วแม้รายงานฉบับเต็มจะถูกล็อกให้เฉพาะผู้สนับสนุน เหตุการณ์นี้เพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องเร่งแพตช์ เพราะเป็นช่องโหว่ที่ผู้โจมตีสามารถใช้ร่วมกับบั๊กอื่นเพื่อยึดระบบได้อย่างรวดเร็ว 🔗 https://securityonline.info/windows-dwm-flaw-lets-local-users-paint-their-way-to-system-privileges-poc-publishes ⚡ Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เพื่อควบคุมไฟฟ้าป้อน Gemini และศูนย์ข้อมูล Alphabet เดินเกมเชิงโครงสร้างด้วยการซื้อ Intersect Power เพื่อแก้ปัญหาพลังงานที่กำลังกลายเป็นคอขวดของการแข่งขัน AI โดยดีลนี้ทำให้ Google ควบคุมโครงการพลังงานหมุนเวียนหลายกิกะวัตต์ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่สร้างติดกับดาต้าเซ็นเตอร์ในเท็กซัส การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าศึก AI ไม่ได้วัดกันที่ชิปหรือโมเดลอีกต่อไป แต่คือใครสร้างโรงไฟฟ้าได้เร็วกว่า 🔗 https://securityonline.info/the-grid-is-the-goal-alphabets-4-75b-bet-to-own-the-power-plants-behind-gemini 📱 Android Toll: Google เก็บค่าติดตั้ง $2.85 ต่อแอปเมื่อใช้ลิงก์ดาวน์โหลดภายนอก ภายใต้แรงกดดันจากคดี Epic vs Google ศาลบีบให้ Google เปิด Play Store ให้ลิงก์ออกไปดาวน์โหลดภายนอกได้ แต่ Google เสนอโมเดลใหม่ที่ซับซ้อนและมีค่าธรรมเนียมสูง—คิด $2.85 ต่อการติดตั้งแอป และ $3.65 สำหรับเกม หากผู้ใช้ติดตั้งภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลิกลิงก์ พร้อมเก็บส่วนแบ่ง 10–20% สำหรับการจ่ายเงินผ่านระบบของนักพัฒนาเอง ทำให้แม้จะ “เปิด” ระบบ แต่ต้นทุนจริงอาจสูงจนผู้พัฒนาหลายรายไม่อยากออกจาก ecosystem 🔗 https://securityonline.info/the-android-toll-google-to-charge-2-85-per-install-for-external-app-links
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • Resideo ถูกฟ้อง: ปมรีแบรนด์กล้องจีนที่เคยรั่วไหลข้อมูล — คดีความใหม่สะเทือนวงการสมาร์ทโฮมสหรัฐฯ

    อุตสาหกรรมสมาร์ทโฮมในสหรัฐฯ กำลังเผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ เมื่อ Nebraska Attorney General Mike Hilgers เตรียมฟ้องบริษัท Resideo ผู้ผลิตอุปกรณ์สมาร์ทโฮมรายใหญ่ หลังถูกกล่าวหาว่า นำกล้องจากผู้ผลิตจีนที่ถูกแบนอย่าง Hikvision และ Dahua มารีแบรนด์ขายใหม่ ภายใต้ชื่อ Capture โดยไม่เปิดเผยแหล่งที่มาให้ผู้บริโภครับรู้

    Hikvision และ Dahua ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีจำกัดตั้งแต่ปี 2022 เนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคง และมีประวัติถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องช่องโหว่ความปลอดภัย รวมถึงความเป็นไปได้ในการเข้าถึงข้อมูลจากบุคคลที่สาม เช่น หน่วยงานรัฐของจีน ทำให้การนำสินค้าจากสองบริษัทนี้กลับมาขายในตลาดสหรัฐฯ ถือเป็นประเด็นอ่อนไหวอย่างยิ่ง

    คดีนี้ยังสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างในตลาดสมาร์ทโฮมราคาประหยัด ซึ่งมักพึ่งพา OEM จากจีนที่มีประวัติด้านความปลอดภัยไม่ดีนัก หลายรัฐในสหรัฐฯ เริ่มดำเนินคดีลักษณะเดียวกัน เช่น Texas ที่ฟ้องผู้ผลิตทีวีหลายรายเรื่องการเก็บข้อมูลผู้ใช้โดยอัตโนมัติ หรือ Arizona ที่ฟ้อง Temu เรื่องข้อมูลและสินค้าปลอม ทำให้เห็นว่ารัฐต่างๆ กำลังเข้มงวดกับอุปกรณ์ IoT มากขึ้นเรื่อยๆ

    ด้วยจำนวนอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ใช้ OEM จากจีนจำนวนมากในตลาดสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าคดีนี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการตรวจสอบครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรม ซึ่งอาจนำไปสู่กฎระเบียบใหม่ที่เข้มงวดกว่าเดิม ทั้งในด้านความโปร่งใสของซัพพลายเชนและมาตรฐานความปลอดภัยของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

    สิ่งที่เกิดขึ้นในคดี Resideo
    Resideo ถูกกล่าวหาว่ารีแบรนด์กล้องจาก Hikvision และ Dahua ซึ่งถูกแบนในสหรัฐฯ
    Nebraska AG ระบุว่าบริษัทละเมิด Consumer Protection Act และ Deceptive Trade Practices Act
    กล้องถูกขายภายใต้แบรนด์ Capture ระหว่างปี 2021–2022 โดยไม่เปิดเผยแหล่งที่มา
    สินค้าจากสองบริษัทจีนมีประวัติด้านช่องโหว่และ backdoor มานานหลายปี

    ความเสี่ยงและผลกระทบต่อผู้บริโภค–อุตสาหกรรม
    ความเสี่ยงด้าน ความเป็นส่วนตัว จากกล้องที่เคยมีประวัติรั่วไหลข้อมูล
    ความไม่โปร่งใสของซัพพลายเชน ทำให้ผู้บริโภคไม่รู้ว่ากำลังใช้สินค้าจากผู้ผลิตที่ถูกแบน
    แนวโน้มรัฐต่างๆ ฟ้องบริษัท IoT เพิ่มขึ้น อาจทำให้ตลาดสมาร์ทโฮมถูกตรวจสอบเข้มงวดกว่าเดิม
    ความเสี่ยงต่อแบรนด์ใหญ่ที่ใช้ OEM จีน หากไม่เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส อาจถูกฟ้องเช่นกัน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/us-smart-home-company-accused-of-rebranding-footage-leaking-chinese-cameras-nebraska-ag-to-sue-resideo-over-selling-banned-security-cameras
    🕵️‍♂️📹 Resideo ถูกฟ้อง: ปมรีแบรนด์กล้องจีนที่เคยรั่วไหลข้อมูล — คดีความใหม่สะเทือนวงการสมาร์ทโฮมสหรัฐฯ อุตสาหกรรมสมาร์ทโฮมในสหรัฐฯ กำลังเผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ เมื่อ Nebraska Attorney General Mike Hilgers เตรียมฟ้องบริษัท Resideo ผู้ผลิตอุปกรณ์สมาร์ทโฮมรายใหญ่ หลังถูกกล่าวหาว่า นำกล้องจากผู้ผลิตจีนที่ถูกแบนอย่าง Hikvision และ Dahua มารีแบรนด์ขายใหม่ ภายใต้ชื่อ Capture โดยไม่เปิดเผยแหล่งที่มาให้ผู้บริโภครับรู้ Hikvision และ Dahua ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีจำกัดตั้งแต่ปี 2022 เนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคง และมีประวัติถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องช่องโหว่ความปลอดภัย รวมถึงความเป็นไปได้ในการเข้าถึงข้อมูลจากบุคคลที่สาม เช่น หน่วยงานรัฐของจีน ทำให้การนำสินค้าจากสองบริษัทนี้กลับมาขายในตลาดสหรัฐฯ ถือเป็นประเด็นอ่อนไหวอย่างยิ่ง คดีนี้ยังสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างในตลาดสมาร์ทโฮมราคาประหยัด ซึ่งมักพึ่งพา OEM จากจีนที่มีประวัติด้านความปลอดภัยไม่ดีนัก หลายรัฐในสหรัฐฯ เริ่มดำเนินคดีลักษณะเดียวกัน เช่น Texas ที่ฟ้องผู้ผลิตทีวีหลายรายเรื่องการเก็บข้อมูลผู้ใช้โดยอัตโนมัติ หรือ Arizona ที่ฟ้อง Temu เรื่องข้อมูลและสินค้าปลอม ทำให้เห็นว่ารัฐต่างๆ กำลังเข้มงวดกับอุปกรณ์ IoT มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยจำนวนอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ใช้ OEM จากจีนจำนวนมากในตลาดสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าคดีนี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการตรวจสอบครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรม ซึ่งอาจนำไปสู่กฎระเบียบใหม่ที่เข้มงวดกว่าเดิม ทั้งในด้านความโปร่งใสของซัพพลายเชนและมาตรฐานความปลอดภัยของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ✅ สิ่งที่เกิดขึ้นในคดี Resideo ➡️ Resideo ถูกกล่าวหาว่ารีแบรนด์กล้องจาก Hikvision และ Dahua ซึ่งถูกแบนในสหรัฐฯ ➡️ Nebraska AG ระบุว่าบริษัทละเมิด Consumer Protection Act และ Deceptive Trade Practices Act ➡️ กล้องถูกขายภายใต้แบรนด์ Capture ระหว่างปี 2021–2022 โดยไม่เปิดเผยแหล่งที่มา ➡️ สินค้าจากสองบริษัทจีนมีประวัติด้านช่องโหว่และ backdoor มานานหลายปี ‼️ ความเสี่ยงและผลกระทบต่อผู้บริโภค–อุตสาหกรรม ⛔ ความเสี่ยงด้าน ความเป็นส่วนตัว จากกล้องที่เคยมีประวัติรั่วไหลข้อมูล ⛔ ความไม่โปร่งใสของซัพพลายเชน ทำให้ผู้บริโภคไม่รู้ว่ากำลังใช้สินค้าจากผู้ผลิตที่ถูกแบน ⛔ แนวโน้มรัฐต่างๆ ฟ้องบริษัท IoT เพิ่มขึ้น อาจทำให้ตลาดสมาร์ทโฮมถูกตรวจสอบเข้มงวดกว่าเดิม ⛔ ความเสี่ยงต่อแบรนด์ใหญ่ที่ใช้ OEM จีน หากไม่เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส อาจถูกฟ้องเช่นกัน https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/us-smart-home-company-accused-of-rebranding-footage-leaking-chinese-cameras-nebraska-ag-to-sue-resideo-over-selling-banned-security-cameras
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • James Webb: กล้องโทรทรรศน์ที่เผยจักรวาลในแบบที่เราไม่เคยเรียนมาก่อน

    กล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb (JWST) ไม่ได้เป็นเพียงผู้สืบทอดของ Hubble แต่เป็น “การอัปเกรดครั้งใหญ่ของมนุษยชาติ” ในการมองย้อนเวลาไปยังจุดกำเนิดของจักรวาล ด้วยเทคโนโลยีอินฟราเรดขั้นสูง JWST สามารถมองทะลุฝุ่นคอสมิก เห็นดาวฤกษ์ยุคแรกที่เกิดขึ้นเมื่อจักรวาลมีอายุเพียงไม่ถึงพันล้านปี ซึ่งเป็นข้อมูลที่เราไม่เคยเข้าถึงมาก่อนในประวัติศาสตร์มนุษย์

    หนึ่งในความสามารถที่น่าทึ่งคือการตรวจพบซูเปอร์โนวาและดาวมวลยักษ์ที่สูญสลายไปแล้วนานนับพันล้านปี นักดาราศาสตร์พบสัญญาณทางเคมีที่บ่งชี้ถึง “ดาวยุคแรก” ที่มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ถึง 10,000 เท่า ซึ่งเป็นชนิดของดาวที่ตำราเรียนยังไม่เคยกล่าวถึงอย่างละเอียด เพราะก่อน JWST เราไม่เคยมีหลักฐานชัดเจนมาก่อนว่ามันเคยมีอยู่จริง

    ตำแหน่งของ JWST ที่จุด L2 ห่างจากโลกหนึ่งล้านไมล์ ทำให้มันสามารถทำงานได้โดยไม่ถูกรบกวนจากเงาโลกหรือความร้อนจากดวงอาทิตย์ การออกแบบที่ต้องซ่อนตัวจากความร้อนด้วยแผงกันความร้อน 5 ชั้น ทำให้กล้องสามารถรักษาอุณหภูมิที่ต่ำกว่า –370°F เพื่อให้เซนเซอร์อินฟราเรดทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ นี่คือสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยสร้างในอวกาศ

    แม้ JWST จะถูกออกแบบให้ใช้งานเพียง 5–10 ปี แต่การปล่อยตัวที่แม่นยำทำให้มันมีเชื้อเพลิงมากพอสำหรับภารกิจยาวกว่า 20 ปี อย่างไรก็ตาม เมื่อเชื้อเพลิงหมด มันจะไม่สามารถรักษาตำแหน่งหรือชี้กล้องได้อีกต่อไป NASA อาจต้องส่งยานไร้คนขับไปเติมเชื้อเพลิงในอนาคต ซึ่งจะเป็นอีกก้าวสำคัญของการบำรุงรักษาอุปกรณ์อวกาศระยะไกล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สิ่งที่ JWST ทำได้เหนือกว่าที่เราเคยเรียน
    มองเห็นซูเปอร์โนวายุคแรกของจักรวาล อายุเพียง 730 ล้านปีหลังบิ๊กแบง
    ตรวจพบ “ดาวมวลยักษ์ยุคแรก” ที่ตำราเรียนยังไม่เคยยืนยัน
    ใช้กล้อง NIRCam และเซนเซอร์อินฟราเรดที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก
    อยู่ที่จุด L2 ห่างโลก 1 ล้านไมล์เพื่อมุมมองที่ไร้เงารบกวน

    ความท้าทายและข้อจำกัดของ JWST
    ต้องรักษาอุณหภูมิต่ำมาก หากร้อนขึ้นเพียงเล็กน้อย เซนเซอร์จะใช้งานไม่ได้
    เมื่อเชื้อเพลิงหมด จะไม่สามารถรักษาตำแหน่งหรือชี้กล้องได้
    การซ่อมบำรุงทำได้ยากมาก เพราะอยู่ไกลเกินกว่ายานมนุษย์จะเดินทางไปถึง
    อายุภารกิจขึ้นอยู่กับความแม่นยำของการควบคุมทิศทางและการใช้เชื้อเพลิง

    https://www.slashgear.com/2054983/james-webb-space-telescope-things-didnt-teach-you-in-school/
    🔭✨ James Webb: กล้องโทรทรรศน์ที่เผยจักรวาลในแบบที่เราไม่เคยเรียนมาก่อน กล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb (JWST) ไม่ได้เป็นเพียงผู้สืบทอดของ Hubble แต่เป็น “การอัปเกรดครั้งใหญ่ของมนุษยชาติ” ในการมองย้อนเวลาไปยังจุดกำเนิดของจักรวาล ด้วยเทคโนโลยีอินฟราเรดขั้นสูง JWST สามารถมองทะลุฝุ่นคอสมิก เห็นดาวฤกษ์ยุคแรกที่เกิดขึ้นเมื่อจักรวาลมีอายุเพียงไม่ถึงพันล้านปี ซึ่งเป็นข้อมูลที่เราไม่เคยเข้าถึงมาก่อนในประวัติศาสตร์มนุษย์ หนึ่งในความสามารถที่น่าทึ่งคือการตรวจพบซูเปอร์โนวาและดาวมวลยักษ์ที่สูญสลายไปแล้วนานนับพันล้านปี นักดาราศาสตร์พบสัญญาณทางเคมีที่บ่งชี้ถึง “ดาวยุคแรก” ที่มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ถึง 10,000 เท่า ซึ่งเป็นชนิดของดาวที่ตำราเรียนยังไม่เคยกล่าวถึงอย่างละเอียด เพราะก่อน JWST เราไม่เคยมีหลักฐานชัดเจนมาก่อนว่ามันเคยมีอยู่จริง ตำแหน่งของ JWST ที่จุด L2 ห่างจากโลกหนึ่งล้านไมล์ ทำให้มันสามารถทำงานได้โดยไม่ถูกรบกวนจากเงาโลกหรือความร้อนจากดวงอาทิตย์ การออกแบบที่ต้องซ่อนตัวจากความร้อนด้วยแผงกันความร้อน 5 ชั้น ทำให้กล้องสามารถรักษาอุณหภูมิที่ต่ำกว่า –370°F เพื่อให้เซนเซอร์อินฟราเรดทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ นี่คือสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยสร้างในอวกาศ แม้ JWST จะถูกออกแบบให้ใช้งานเพียง 5–10 ปี แต่การปล่อยตัวที่แม่นยำทำให้มันมีเชื้อเพลิงมากพอสำหรับภารกิจยาวกว่า 20 ปี อย่างไรก็ตาม เมื่อเชื้อเพลิงหมด มันจะไม่สามารถรักษาตำแหน่งหรือชี้กล้องได้อีกต่อไป NASA อาจต้องส่งยานไร้คนขับไปเติมเชื้อเพลิงในอนาคต ซึ่งจะเป็นอีกก้าวสำคัญของการบำรุงรักษาอุปกรณ์อวกาศระยะไกล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สิ่งที่ JWST ทำได้เหนือกว่าที่เราเคยเรียน ➡️ มองเห็นซูเปอร์โนวายุคแรกของจักรวาล อายุเพียง 730 ล้านปีหลังบิ๊กแบง ➡️ ตรวจพบ “ดาวมวลยักษ์ยุคแรก” ที่ตำราเรียนยังไม่เคยยืนยัน ➡️ ใช้กล้อง NIRCam และเซนเซอร์อินฟราเรดที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก ➡️ อยู่ที่จุด L2 ห่างโลก 1 ล้านไมล์เพื่อมุมมองที่ไร้เงารบกวน ‼️ ความท้าทายและข้อจำกัดของ JWST ⛔ ต้องรักษาอุณหภูมิต่ำมาก หากร้อนขึ้นเพียงเล็กน้อย เซนเซอร์จะใช้งานไม่ได้ ⛔ เมื่อเชื้อเพลิงหมด จะไม่สามารถรักษาตำแหน่งหรือชี้กล้องได้ ⛔ การซ่อมบำรุงทำได้ยากมาก เพราะอยู่ไกลเกินกว่ายานมนุษย์จะเดินทางไปถึง ⛔ อายุภารกิจขึ้นอยู่กับความแม่นยำของการควบคุมทิศทางและการใช้เชื้อเพลิง https://www.slashgear.com/2054983/james-webb-space-telescope-things-didnt-teach-you-in-school/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Things About The James Webb Telescope They Didn't Teach You In School - SlashGear
    The James Webb Space Telescope has been helping scientists explore the cosmos for years now, but there are still plenty of unknown facts about the device.
    0 Comments 0 Shares 73 Views 0 Reviews
  • Raspberry Pi กู้วิกฤติค่า Subscription: 5 โปรเจกต์ที่ช่วยลดรายจ่ายดิจิทัล

    ในยุคที่บริการออนไลน์แทบทุกอย่างต้อง “สมัครรายเดือน” ไม่ว่าจะเป็นสตรีมมิง เพลง เกม ไปจนถึงบริการพื้นฐานอย่าง Password Manager หลายคนเริ่มมองหาวิธีลดค่าใช้จ่ายระยะยาว Raspberry Pi กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะราคาไม่แพง ปรับแต่งได้สูง และมีคอมมูนิตี้ที่แชร์วิธีทำมากมายให้ทำตามได้ง่ายๆ

    หนึ่งในโปรเจกต์ยอดนิยมคือการเปลี่ยน Raspberry Pi ให้เป็นกล่องสตรีมมิงส่วนตัว ใช้ Kodi หรือ LibreELEC เพื่อเล่นไฟล์หนังของตัวเองแบบ 4K HDR ได้สบายๆ โดยไม่ต้องง้อบริการสตรีมมิงที่ขึ้นราคาเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมผ่านรีโมตเดิมของทีวีด้วย HDMI-CEC หรือควบคุมผ่านมือถือก็ได้ ทำให้ใช้งานแทนกล่องสตรีมมิงเชิงพาณิชย์ได้อย่างสมบูรณ์

    อีกโปรเจกต์ที่ได้รับความนิยมคือการสร้าง NAS ส่วนตัวเพื่อเก็บไฟล์แทนบริการ Cloud Storage แม้จะต้องลงทุนฮาร์ดแวร์เพิ่ม เช่น SATA HAT หรือ HDD หลายลูก แต่เมื่อใช้งานระยะยาวจะคุ้มค่ากว่าการจ่ายรายเดือน และยังควบคุมความเป็นส่วนตัวของข้อมูลได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ต้องดูแลระบบเองทั้งหมด ทั้งการอัปเดต ความปลอดภัย และการสำรองข้อมูล

    สุดท้าย Raspberry Pi ยังสามารถกลายเป็น Password Manager แบบ Self‑hosted, Music Streaming Server หรือแม้แต่ Game Streaming Client ผ่าน Steam Link ได้อีกด้วย ทำให้มันเป็นอุปกรณ์เล็กๆ ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายดิจิทัลได้หลายด้าน พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้เรียนรู้เทคโนโลยีไปในตัว ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวสำหรับสายประหยัดและสายไอทีเหมือนกัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    โปรเจกต์ Raspberry Pi ที่ช่วยลดค่า subscription
    กล่องสตรีมมิงส่วนตัว เล่นไฟล์ 4K HDR ผ่าน Kodi/LibreELEC
    NAS ส่วนตัว ใช้เก็บไฟล์แทน Cloud Storage รายเดือน
    Password Manager แบบ Self‑hosted ใช้ Bitwarden บน Docker
    Music Streaming Server ผ่าน Jellyfin หรือ Navidrome
    Game Streaming Client ผ่าน Steam Link หรือ Moonlight

    ข้อควรระวังและความเสี่ยงในการใช้งาน Raspberry Pi แทนบริการรายเดือน
    ต้องดูแลระบบเองทั้งหมด เช่น อัปเดต แพตช์ความปลอดภัย
    ความเสี่ยงด้านข้อมูลสูญหาย หาก NAS เสียหาย ไฟดับ น้ำท่วม หรือถูกขโมย
    การเข้าถึงจากนอกบ้านอาจยุ่งยาก ต้องตั้งค่า VPN หรือบริการเสริม
    ประสิทธิภาพอาจไม่เท่าบริการเชิงพาณิชย์ เช่น ความเร็ว NAS หรือการสตรีมเกม

    https://www.slashgear.com/2055727/raspberry-pi-projects-replace-subscription-services/
    📺🔧 Raspberry Pi กู้วิกฤติค่า Subscription: 5 โปรเจกต์ที่ช่วยลดรายจ่ายดิจิทัล ในยุคที่บริการออนไลน์แทบทุกอย่างต้อง “สมัครรายเดือน” ไม่ว่าจะเป็นสตรีมมิง เพลง เกม ไปจนถึงบริการพื้นฐานอย่าง Password Manager หลายคนเริ่มมองหาวิธีลดค่าใช้จ่ายระยะยาว Raspberry Pi กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะราคาไม่แพง ปรับแต่งได้สูง และมีคอมมูนิตี้ที่แชร์วิธีทำมากมายให้ทำตามได้ง่ายๆ หนึ่งในโปรเจกต์ยอดนิยมคือการเปลี่ยน Raspberry Pi ให้เป็นกล่องสตรีมมิงส่วนตัว ใช้ Kodi หรือ LibreELEC เพื่อเล่นไฟล์หนังของตัวเองแบบ 4K HDR ได้สบายๆ โดยไม่ต้องง้อบริการสตรีมมิงที่ขึ้นราคาเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมผ่านรีโมตเดิมของทีวีด้วย HDMI-CEC หรือควบคุมผ่านมือถือก็ได้ ทำให้ใช้งานแทนกล่องสตรีมมิงเชิงพาณิชย์ได้อย่างสมบูรณ์ อีกโปรเจกต์ที่ได้รับความนิยมคือการสร้าง NAS ส่วนตัวเพื่อเก็บไฟล์แทนบริการ Cloud Storage แม้จะต้องลงทุนฮาร์ดแวร์เพิ่ม เช่น SATA HAT หรือ HDD หลายลูก แต่เมื่อใช้งานระยะยาวจะคุ้มค่ากว่าการจ่ายรายเดือน และยังควบคุมความเป็นส่วนตัวของข้อมูลได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ต้องดูแลระบบเองทั้งหมด ทั้งการอัปเดต ความปลอดภัย และการสำรองข้อมูล สุดท้าย Raspberry Pi ยังสามารถกลายเป็น Password Manager แบบ Self‑hosted, Music Streaming Server หรือแม้แต่ Game Streaming Client ผ่าน Steam Link ได้อีกด้วย ทำให้มันเป็นอุปกรณ์เล็กๆ ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายดิจิทัลได้หลายด้าน พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้เรียนรู้เทคโนโลยีไปในตัว ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวสำหรับสายประหยัดและสายไอทีเหมือนกัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ โปรเจกต์ Raspberry Pi ที่ช่วยลดค่า subscription ➡️ กล่องสตรีมมิงส่วนตัว เล่นไฟล์ 4K HDR ผ่าน Kodi/LibreELEC ➡️ NAS ส่วนตัว ใช้เก็บไฟล์แทน Cloud Storage รายเดือน ➡️ Password Manager แบบ Self‑hosted ใช้ Bitwarden บน Docker ➡️ Music Streaming Server ผ่าน Jellyfin หรือ Navidrome ➡️ Game Streaming Client ผ่าน Steam Link หรือ Moonlight ‼️ ข้อควรระวังและความเสี่ยงในการใช้งาน Raspberry Pi แทนบริการรายเดือน ⛔ ต้องดูแลระบบเองทั้งหมด เช่น อัปเดต แพตช์ความปลอดภัย ⛔ ความเสี่ยงด้านข้อมูลสูญหาย หาก NAS เสียหาย ไฟดับ น้ำท่วม หรือถูกขโมย ⛔ การเข้าถึงจากนอกบ้านอาจยุ่งยาก ต้องตั้งค่า VPN หรือบริการเสริม ⛔ ประสิทธิภาพอาจไม่เท่าบริการเชิงพาณิชย์ เช่น ความเร็ว NAS หรือการสตรีมเกม https://www.slashgear.com/2055727/raspberry-pi-projects-replace-subscription-services/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Raspberry Pi Projects That Can Replace Your Expensive Subscriptions - SlashGear
    Subscription services are everywhere these days, and they only seem to get more expensive. Luckily, with a Raspberry Pi, you can cut down on some of the bloat.
    0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • Human Liver Model Market Analysis and Future Prospects

    The Human Liver Model Market analysis indicates a significant expansion driven by advancements in biotechnology and pharmaceutical research. Increasing demand for accurate preclinical testing methods has propelled the adoption of human liver models in drug discovery and toxicity studies. Researchers are leveraging these models to reduce reliance on animal testing while improving predictive accuracy for human responses. Moreover, regulatory agencies worldwide are encouraging the use of human-relevant models, which is further boosting market acceptance. The integration of 3D printing and microfluidics in liver modeling is creating innovative solutions that enhance physiological relevance, making the market highly attractive for investors and stakeholders.

    Get Full Reports:https://www.marketresearchfuture.com/reports/human-liver-model-market-32333

    In terms of regional adoption, the Human Liver Model Market region growth is particularly strong in North America and Europe due to the presence of advanced healthcare infrastructure and significant R&D investments. Asia-Pacific is emerging as a high-potential market, driven by increasing pharmaceutical manufacturing and research facilities. Leading companies are focusing on strategic collaborations and technology partnerships to strengthen their product portfolios. The market is also witnessing growth in terms of Human Liver Model Market business insights, as vendors provide custom solutions tailored to specific research requirements, further encouraging market penetration.

    FAQs:
    Q1: What are the main applications of human liver models?
    A1: They are primarily used in drug toxicity testing, disease modeling, and personalized medicine research.

    Q2: Which regions dominate the Human Liver Model Market?
    A2: North America and Europe currently lead the market, while Asia-Pacific is rapidly growing.
    Human Liver Model Market Analysis and Future Prospects The Human Liver Model Market analysis indicates a significant expansion driven by advancements in biotechnology and pharmaceutical research. Increasing demand for accurate preclinical testing methods has propelled the adoption of human liver models in drug discovery and toxicity studies. Researchers are leveraging these models to reduce reliance on animal testing while improving predictive accuracy for human responses. Moreover, regulatory agencies worldwide are encouraging the use of human-relevant models, which is further boosting market acceptance. The integration of 3D printing and microfluidics in liver modeling is creating innovative solutions that enhance physiological relevance, making the market highly attractive for investors and stakeholders. Get Full Reports:https://www.marketresearchfuture.com/reports/human-liver-model-market-32333 In terms of regional adoption, the Human Liver Model Market region growth is particularly strong in North America and Europe due to the presence of advanced healthcare infrastructure and significant R&D investments. Asia-Pacific is emerging as a high-potential market, driven by increasing pharmaceutical manufacturing and research facilities. Leading companies are focusing on strategic collaborations and technology partnerships to strengthen their product portfolios. The market is also witnessing growth in terms of Human Liver Model Market business insights, as vendors provide custom solutions tailored to specific research requirements, further encouraging market penetration. FAQs: Q1: What are the main applications of human liver models? A1: They are primarily used in drug toxicity testing, disease modeling, and personalized medicine research. Q2: Which regions dominate the Human Liver Model Market? A2: North America and Europe currently lead the market, while Asia-Pacific is rapidly growing.
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Human Liver Model Market Size, Share, Trends Report 2035
    Human Liver Model Market share is projected to reach USD 5.24 Billion By 2035, at a 14.78 % CAGR by driving industry size, top company analysis, segments research, trends and forecast report 2025 to 2035 | MRFR
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
  • Clot Busting Drugs Market Analysis: Emerging Trends and Growth Opportunities

    The Clot Busting Drugs Market analysis has witnessed significant advancements over the past few years, driven by the increasing prevalence of cardiovascular diseases and thrombotic disorders globally. Innovations in drug formulations and delivery mechanisms have propelled market growth, enabling faster and more effective treatment of blood clots. In addition, rising awareness among healthcare professionals and patients about the benefits of thrombolytic therapy has further boosted demand. The market is also seeing substantial contributions from research focusing on reducing side effects and improving patient compliance. As hospitals and specialized cardiac centers expand their capabilities, the adoption of clot-busting drugs is expected to rise steadily in emerging economies, complementing the robust demand in developed regions.

    Get Full Reports:https://www.marketresearchfuture.com/reports/clot-busting-drugs-market-31405

    Key players in the Clot Busting Drugs Market analysis are investing heavily in R&D to bring next-generation thrombolytic agents to market. Strategic collaborations with biotech firms, enhanced regulatory approvals, and technological innovations in personalized medicine are expected to strengthen market positioning. Additionally, government initiatives aimed at increasing healthcare accessibility and cardiovascular disease management programs are likely to create favorable market conditions. Overall, the sector is poised for sustainable growth as clinical advancements and rising patient awareness converge.

    FAQ

    Q1: What factors are driving the Clot Busting Drugs Market analysis?
    A1: Rising cardiovascular disease prevalence, technological innovations, and increased patient awareness are key drivers.

    Q2: Are there regional differences in market growth?
    A2: Yes, developed regions dominate due to advanced healthcare infrastructure, while emerging markets are showing rapid growth potential.

    Clot Busting Drugs Market analysis
    Clot Busting Drugs Market Analysis: Emerging Trends and Growth Opportunities The Clot Busting Drugs Market analysis has witnessed significant advancements over the past few years, driven by the increasing prevalence of cardiovascular diseases and thrombotic disorders globally. Innovations in drug formulations and delivery mechanisms have propelled market growth, enabling faster and more effective treatment of blood clots. In addition, rising awareness among healthcare professionals and patients about the benefits of thrombolytic therapy has further boosted demand. The market is also seeing substantial contributions from research focusing on reducing side effects and improving patient compliance. As hospitals and specialized cardiac centers expand their capabilities, the adoption of clot-busting drugs is expected to rise steadily in emerging economies, complementing the robust demand in developed regions. Get Full Reports:https://www.marketresearchfuture.com/reports/clot-busting-drugs-market-31405 Key players in the Clot Busting Drugs Market analysis are investing heavily in R&D to bring next-generation thrombolytic agents to market. Strategic collaborations with biotech firms, enhanced regulatory approvals, and technological innovations in personalized medicine are expected to strengthen market positioning. Additionally, government initiatives aimed at increasing healthcare accessibility and cardiovascular disease management programs are likely to create favorable market conditions. Overall, the sector is poised for sustainable growth as clinical advancements and rising patient awareness converge. FAQ Q1: What factors are driving the Clot Busting Drugs Market analysis? A1: Rising cardiovascular disease prevalence, technological innovations, and increased patient awareness are key drivers. Q2: Are there regional differences in market growth? A2: Yes, developed regions dominate due to advanced healthcare infrastructure, while emerging markets are showing rapid growth potential. Clot Busting Drugs Market analysis
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Clot Busting Drugs Market Size, Trends, Growth Report 2035
    Clot Busting Drugs Market growth is projected to reach USD 22.86 Billion, at a 4.56% CAGR by driving industry size, share, top company analysis, segments research, trends and forecast report 2025 to 2035
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • Tissue Sectioning Market and Its Role in Modern Laboratory Science

    The Tissue Sectioning Market analysis
    reflects the growing importance of accurate tissue preparation in medical and scientific laboratories. Tissue sectioning is a foundational process used to cut biological samples into extremely thin slices so they can be examined under a microscope. This step is critical in pathology, histology, and biomedical research, as even minor inaccuracies can affect diagnostic interpretation and research outcomes.

    Tissue sectioning supports a wide range of applications, including cancer diagnosis, neurological studies, organ pathology, and pharmaceutical research. Laboratories rely on tools such as microtomes and cryostats to achieve uniform thickness while preserving tissue integrity. As diagnostic techniques become more advanced, the demand for consistent and precise tissue preparation continues to increase. This has led to improvements in equipment design, blade materials, and operator safety features.

    One of the key strengths of the Tissue Sectioning Market is its adaptability across different laboratory environments. Large hospitals may focus on automated systems that handle high sample volumes efficiently, while smaller laboratories often depend on manual or semi-automated solutions that provide control and flexibility. This diversity ensures that tissue sectioning tools remain relevant across clinical, academic, and industrial settings. Ease of use and reliability are especially valued, as they help reduce preparation time and minimize sample loss.

    Technological advancements are also shaping how tissue sectioning is performed. Modern equipment often includes digital controls, programmable thickness settings, and ergonomic designs that reduce operator fatigue. These features not only improve workflow efficiency but also enhance reproducibility, which is essential for consistent diagnostic results. In addition, improved blade durability and coating technologies help maintain sharpness over extended use, ensuring clean and smooth tissue slices.

    Get Full Reports:https://www.marketresearchfuture.com/reports/tissue-sectioning-market-30619

    Another important factor influencing the Tissue Sectioning Market is the growing emphasis on early disease detection. As healthcare providers prioritize preventive diagnostics, the number of biopsies and tissue examinations continues to rise. This directly increases the need for reliable sectioning tools that can deliver accurate results without compromising sample quality. Research institutions also contribute to demand, as tissue analysis remains central to drug development and biological studies.

    Looking ahead, tissue sectioning is expected to benefit from further integration with digital pathology and automated laboratory systems. These advancements aim to improve speed, accuracy, and data consistency while reducing manual intervention. As laboratories evolve to meet increasing diagnostic and research demands, tissue sectioning will remain a vital process that supports scientific discovery and patient care.
    Tissue Sectioning Market and Its Role in Modern Laboratory Science The Tissue Sectioning Market analysis reflects the growing importance of accurate tissue preparation in medical and scientific laboratories. Tissue sectioning is a foundational process used to cut biological samples into extremely thin slices so they can be examined under a microscope. This step is critical in pathology, histology, and biomedical research, as even minor inaccuracies can affect diagnostic interpretation and research outcomes. Tissue sectioning supports a wide range of applications, including cancer diagnosis, neurological studies, organ pathology, and pharmaceutical research. Laboratories rely on tools such as microtomes and cryostats to achieve uniform thickness while preserving tissue integrity. As diagnostic techniques become more advanced, the demand for consistent and precise tissue preparation continues to increase. This has led to improvements in equipment design, blade materials, and operator safety features. One of the key strengths of the Tissue Sectioning Market is its adaptability across different laboratory environments. Large hospitals may focus on automated systems that handle high sample volumes efficiently, while smaller laboratories often depend on manual or semi-automated solutions that provide control and flexibility. This diversity ensures that tissue sectioning tools remain relevant across clinical, academic, and industrial settings. Ease of use and reliability are especially valued, as they help reduce preparation time and minimize sample loss. Technological advancements are also shaping how tissue sectioning is performed. Modern equipment often includes digital controls, programmable thickness settings, and ergonomic designs that reduce operator fatigue. These features not only improve workflow efficiency but also enhance reproducibility, which is essential for consistent diagnostic results. In addition, improved blade durability and coating technologies help maintain sharpness over extended use, ensuring clean and smooth tissue slices. Get Full Reports:https://www.marketresearchfuture.com/reports/tissue-sectioning-market-30619 Another important factor influencing the Tissue Sectioning Market is the growing emphasis on early disease detection. As healthcare providers prioritize preventive diagnostics, the number of biopsies and tissue examinations continues to rise. This directly increases the need for reliable sectioning tools that can deliver accurate results without compromising sample quality. Research institutions also contribute to demand, as tissue analysis remains central to drug development and biological studies. Looking ahead, tissue sectioning is expected to benefit from further integration with digital pathology and automated laboratory systems. These advancements aim to improve speed, accuracy, and data consistency while reducing manual intervention. As laboratories evolve to meet increasing diagnostic and research demands, tissue sectioning will remain a vital process that supports scientific discovery and patient care.
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Tissue Sectioning Market Size, Share, Trends, Report 2035
    Tissue Sectioning Market share is projected to reach USD 1.8 Billion By 2035, at a 2.92 % CAGR by driving industry size, top company analysis, segments research, trends and forecast report 2025 to 2035 | MRFR
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • เมื่อ Windows 10 หมดอายุ แต่เครื่องอัปเกรดไม่ได้: ผู้ใช้เดือดเพราะ Microsoft ไม่ยอม “ปล่อยให้อยู่เงียบๆ”

    บทความนี้สะท้อนความหงุดหงิดของผู้ใช้ที่ยังใช้ Windows 10 อยู่ แม้เครื่องจะยังแรงและใช้งานได้ดี แต่กลับไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้เพราะติดข้อจำกัดด้าน TPM 2.0 ซึ่งเป็นชิปความปลอดภัยบนเมนบอร์ด แม้ผู้เขียนจะยอมรับชะตากรรมว่าเครื่องเก่าไม่รองรับ แต่สิ่งที่ทำให้เขาเดือดจริง ๆ คือการที่ Microsoft ยังคงส่งการแจ้งเตือนให้อัปเกรดทุกครั้งที่เปิดเครื่อง ทั้งที่ระบบของ Microsoft เองก็รู้ว่าเครื่องนี้ “อัปไม่ได้” อยู่แล้ว

    ปัญหาไม่ได้จบแค่การแจ้งเตือน แต่ยังรวมถึงการออกแบบ UX ที่ผู้เขียนเรียกว่า “illusion of choice” เพราะปุ่มที่ให้เลือกมีเพียง “Remind me later” หรือ “Learn more” ซึ่งพาไปยัง Microsoft Store เพื่อขายเครื่องใหม่ ไม่มีปุ่ม “ไม่ต้องเตือนอีก” หรือ “ปิดไปเลย” ให้ผู้ใช้เลือก นี่ทำให้ผู้เขียนมองว่าการออกแบบนี้เป็นการบังคับกลาย ๆ และสะท้อนทิศทางของ Microsoft ที่เริ่ม “เป็นศัตรูกับผู้ใช้ของตัวเอง”

    ผู้เขียนยังวิจารณ์ว่าความเป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์ในยุคนี้เริ่มเลือนหาย เพราะ Microsoft สามารถรันโค้ดบนเครื่องของผู้ใช้ได้ตามต้องการ ทั้งการแสดงโฆษณา การบังคับให้ใช้ Microsoft Account หรือการผลักดันบริการอย่าง OneDrive แม้ผู้ใช้จะซื้อ Windows Pro และต้องการใช้งานแบบ offline ก็ตาม เขาเปรียบเทียบอย่างประชดว่า ถ้า Microsoft ต้องการให้เขาสร้างบัญชีบนเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท เขาก็จะตั้งเงื่อนไขกลับว่า Microsoft ต้องส่งสำเนา payload ทุกครั้งที่ระบบเข้าถึงอินเทอร์เน็ตกลับมาที่เซิร์ฟเวอร์ของเขาด้วย

    ท้ายบทความ ผู้เขียนสรุปว่าปัญหานี้ไม่ใช่บั๊ก แต่เป็น “การออกแบบโดยตั้งใจ” เพื่อผลักผู้ใช้ไปสู่ Windows 11 และ ecosystem ของ Microsoft แม้เครื่องจะไม่รองรับก็ตาม พร้อมทิ้งท้ายว่าการแจ้งเตือนนี้มาจากแอปชื่อ Reusable UX Interaction Manager หรือ Campaign Manager ซึ่งเป็นกลไกที่ Microsoft ใช้ในการส่งแคมเปญโฆษณาและแจ้งเตือนต่าง ๆ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ปัญหาหลัก: เครื่องอัปไม่ได้ แต่ Microsoft ยังบังคับเตือน
    ติดข้อจำกัด TPM 2.0 แม้เครื่องยังแรงและใช้งานได้ดี
    การแจ้งเตือนขึ้นทุกครั้งที่เปิดเครื่อง

    UX ที่ถูกออกแบบให้ “ไม่มีทางปฏิเสธ”
    มีแค่ “Remind me later” และ “Learn more”
    ปุ่ม Learn more พาไปหน้าโฆษณาซื้อเครื่องใหม่

    ผู้เขียนวิจารณ์ทิศทางของ Microsoft
    ระบบเริ่มควบคุมผู้ใช้มากขึ้น ทั้งโฆษณาและการบังคับใช้บัญชี
    แม้ซื้อ Windows Pro ก็ยังถูกบังคับใช้บริการที่ไม่ต้องการ

    ความเสี่ยงและสิ่งที่ต้องจับตา
    การออกแบบ UX แบบบังคับอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่
    ผู้ใช้ Windows 10 จำนวนมากอาจถูกกดดันให้ซื้อเครื่องใหม่
    ความเป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์กำลังลดลงเมื่อผู้ผลิตควบคุมมากขึ้น

    https://idiallo.com/byte-size/cant-update-to-windows-11-leave-me-alone
    💻😤 เมื่อ Windows 10 หมดอายุ แต่เครื่องอัปเกรดไม่ได้: ผู้ใช้เดือดเพราะ Microsoft ไม่ยอม “ปล่อยให้อยู่เงียบๆ” บทความนี้สะท้อนความหงุดหงิดของผู้ใช้ที่ยังใช้ Windows 10 อยู่ แม้เครื่องจะยังแรงและใช้งานได้ดี แต่กลับไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้เพราะติดข้อจำกัดด้าน TPM 2.0 ซึ่งเป็นชิปความปลอดภัยบนเมนบอร์ด แม้ผู้เขียนจะยอมรับชะตากรรมว่าเครื่องเก่าไม่รองรับ แต่สิ่งที่ทำให้เขาเดือดจริง ๆ คือการที่ Microsoft ยังคงส่งการแจ้งเตือนให้อัปเกรดทุกครั้งที่เปิดเครื่อง ทั้งที่ระบบของ Microsoft เองก็รู้ว่าเครื่องนี้ “อัปไม่ได้” อยู่แล้ว ปัญหาไม่ได้จบแค่การแจ้งเตือน แต่ยังรวมถึงการออกแบบ UX ที่ผู้เขียนเรียกว่า “illusion of choice” เพราะปุ่มที่ให้เลือกมีเพียง “Remind me later” หรือ “Learn more” ซึ่งพาไปยัง Microsoft Store เพื่อขายเครื่องใหม่ ไม่มีปุ่ม “ไม่ต้องเตือนอีก” หรือ “ปิดไปเลย” ให้ผู้ใช้เลือก นี่ทำให้ผู้เขียนมองว่าการออกแบบนี้เป็นการบังคับกลาย ๆ และสะท้อนทิศทางของ Microsoft ที่เริ่ม “เป็นศัตรูกับผู้ใช้ของตัวเอง” ผู้เขียนยังวิจารณ์ว่าความเป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์ในยุคนี้เริ่มเลือนหาย เพราะ Microsoft สามารถรันโค้ดบนเครื่องของผู้ใช้ได้ตามต้องการ ทั้งการแสดงโฆษณา การบังคับให้ใช้ Microsoft Account หรือการผลักดันบริการอย่าง OneDrive แม้ผู้ใช้จะซื้อ Windows Pro และต้องการใช้งานแบบ offline ก็ตาม เขาเปรียบเทียบอย่างประชดว่า ถ้า Microsoft ต้องการให้เขาสร้างบัญชีบนเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท เขาก็จะตั้งเงื่อนไขกลับว่า Microsoft ต้องส่งสำเนา payload ทุกครั้งที่ระบบเข้าถึงอินเทอร์เน็ตกลับมาที่เซิร์ฟเวอร์ของเขาด้วย ท้ายบทความ ผู้เขียนสรุปว่าปัญหานี้ไม่ใช่บั๊ก แต่เป็น “การออกแบบโดยตั้งใจ” เพื่อผลักผู้ใช้ไปสู่ Windows 11 และ ecosystem ของ Microsoft แม้เครื่องจะไม่รองรับก็ตาม พร้อมทิ้งท้ายว่าการแจ้งเตือนนี้มาจากแอปชื่อ Reusable UX Interaction Manager หรือ Campaign Manager ซึ่งเป็นกลไกที่ Microsoft ใช้ในการส่งแคมเปญโฆษณาและแจ้งเตือนต่าง ๆ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ปัญหาหลัก: เครื่องอัปไม่ได้ แต่ Microsoft ยังบังคับเตือน ➡️ ติดข้อจำกัด TPM 2.0 แม้เครื่องยังแรงและใช้งานได้ดี ➡️ การแจ้งเตือนขึ้นทุกครั้งที่เปิดเครื่อง ✅ UX ที่ถูกออกแบบให้ “ไม่มีทางปฏิเสธ” ➡️ มีแค่ “Remind me later” และ “Learn more” ➡️ ปุ่ม Learn more พาไปหน้าโฆษณาซื้อเครื่องใหม่ ✅ ผู้เขียนวิจารณ์ทิศทางของ Microsoft ➡️ ระบบเริ่มควบคุมผู้ใช้มากขึ้น ทั้งโฆษณาและการบังคับใช้บัญชี ➡️ แม้ซื้อ Windows Pro ก็ยังถูกบังคับใช้บริการที่ไม่ต้องการ ‼️ ความเสี่ยงและสิ่งที่ต้องจับตา ⛔ การออกแบบ UX แบบบังคับอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ⛔ ผู้ใช้ Windows 10 จำนวนมากอาจถูกกดดันให้ซื้อเครื่องใหม่ ⛔ ความเป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์กำลังลดลงเมื่อผู้ผลิตควบคุมมากขึ้น https://idiallo.com/byte-size/cant-update-to-windows-11-leave-me-alone
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • Precision 1.85mm DC Block for High-Frequency RF & Microwave Applications

    Flexi RF Inc offers precision-engineered 1.85mm DC blocks designed to deliver superior DC isolation while maintaining excellent RF signal integrity at extremely high frequencies. Built for demanding microwave and millimeter-wave applications, these DC blocks support broadband performance, low insertion loss, minimal VSWR, and exceptional power handling. Ideal for use in test and measurement systems, aerospace, defense, satellite communications, and advanced RF research, Flexi RF’s 1.85mm DC blocks ensure reliable performance in critical signal paths where DC suppression is essential. Visit here - https://flexirf.com/collections/attenuators
    Precision 1.85mm DC Block for High-Frequency RF & Microwave Applications Flexi RF Inc offers precision-engineered 1.85mm DC blocks designed to deliver superior DC isolation while maintaining excellent RF signal integrity at extremely high frequencies. Built for demanding microwave and millimeter-wave applications, these DC blocks support broadband performance, low insertion loss, minimal VSWR, and exceptional power handling. Ideal for use in test and measurement systems, aerospace, defense, satellite communications, and advanced RF research, Flexi RF’s 1.85mm DC blocks ensure reliable performance in critical signal paths where DC suppression is essential. Visit here - https://flexirf.com/collections/attenuators
    FLEXIRF.COM
    Attenuators
    Flexible Supply of RF Components, highend and affordable RF supplies with great quality and fast shipping from the US
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
  • อิตาลีสั่งปรับ Apple เกือบ €100 ล้าน เหตุ ATT สร้างภาระเกินจำเป็นต่อผู้พัฒนาและตลาดโฆษณา

    หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของอิตาลี (AGCM) ได้สั่งปรับ Apple เป็นเงิน €98.6 ล้าน จากการบังคับใช้กฎ App Tracking Transparency (ATT) ที่ถูกมองว่า “สร้างภาระเกินสมควร” ต่อผู้พัฒนาแอปและผู้ลงโฆษณา แม้ ATT จะถูกนำเสนอในฐานะฟีเจอร์เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หน่วยงานกำกับมองว่ากฎนี้ทำให้ Apple ได้เปรียบในตลาดโฆษณาอย่างไม่เป็นธรรม เพราะผู้พัฒนาภายนอกถูกจำกัดการติดตามผู้ใช้ ในขณะที่ Apple ยังสามารถเก็บข้อมูลบางส่วนผ่านระบบของตัวเองได้

    การสอบสวนชี้ว่า ATT ทำให้ผู้พัฒนาต้องเผชิญต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งในด้านการปรับปรุงระบบ การขอความยินยอม และการสูญเสียรายได้จากโฆษณาที่แม่นยำลดลง ขณะเดียวกัน Apple กลับสามารถใช้ข้อมูลภายในระบบของตนเพื่อเสริมความได้เปรียบในตลาดบริการโฆษณา เช่น Apple Search Ads ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วหลังการเปิดตัว ATT จนหลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความเป็นธรรมของกฎนี้

    แม้ Apple จะยืนยันว่า ATT ถูกออกแบบเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หลายประเทศในยุโรป—including ฝรั่งเศสและเยอรมนี—ก็เริ่มจับตาพฤติกรรมของบริษัทอย่างใกล้ชิด โดยมองว่าการควบคุมข้อมูลผู้ใช้ในระดับแพลตฟอร์มอาจกลายเป็น “อำนาจผูกขาดรูปแบบใหม่” ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของนักพัฒนาและผู้ลงโฆษณาในวงกว้าง

    การปรับครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของเงิน แต่เป็นสัญญาณว่าหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปกำลังเริ่มตั้งคำถามต่อโมเดลธุรกิจของ Apple ที่อาศัยความเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มเพื่อกำหนดกฎที่อาจเอื้อประโยชน์ให้ตนเองมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การตรวจสอบเพิ่มเติมในระดับสหภาพยุโรปในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    อิตาลีสั่งปรับ Apple €98.6 ล้าน
    เหตุผล: ATT สร้างภาระเกินจำเป็นต่อผู้พัฒนา
    มองว่า Apple ได้เปรียบในตลาดโฆษณาอย่างไม่เป็นธรรม

    ผลกระทบต่อผู้พัฒนาและตลาดโฆษณา
    ต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการขอความยินยอมและปรับระบบ
    รายได้โฆษณาลดลงเพราะการติดตามผู้ใช้ทำได้ยากขึ้น

    Apple ยืนยันว่า ATT คือการปกป้องความเป็นส่วนตัว
    แต่หลายประเทศในยุโรปเริ่มตั้งคำถามถึงความโปร่งใส
    Apple Search Ads เติบโตผิดปกติหลัง ATT เปิดตัว

    ความเสี่ยงและประเด็นที่ต้องจับตา
    ความเป็นไปได้ที่จะถูกตรวจสอบเพิ่มเติมในระดับ EU
    ความกังวลว่าแพลตฟอร์มอาจใช้อำนาจควบคุมข้อมูลเพื่อผูกขาด
    ผู้พัฒนาอาจเผชิญต้นทุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    https://wccftech.com/apples-app-tracking-transparency-att-rules-invite-another-hefty-fine-this-time-from-italy/
    📱💸 อิตาลีสั่งปรับ Apple เกือบ €100 ล้าน เหตุ ATT สร้างภาระเกินจำเป็นต่อผู้พัฒนาและตลาดโฆษณา หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของอิตาลี (AGCM) ได้สั่งปรับ Apple เป็นเงิน €98.6 ล้าน จากการบังคับใช้กฎ App Tracking Transparency (ATT) ที่ถูกมองว่า “สร้างภาระเกินสมควร” ต่อผู้พัฒนาแอปและผู้ลงโฆษณา แม้ ATT จะถูกนำเสนอในฐานะฟีเจอร์เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หน่วยงานกำกับมองว่ากฎนี้ทำให้ Apple ได้เปรียบในตลาดโฆษณาอย่างไม่เป็นธรรม เพราะผู้พัฒนาภายนอกถูกจำกัดการติดตามผู้ใช้ ในขณะที่ Apple ยังสามารถเก็บข้อมูลบางส่วนผ่านระบบของตัวเองได้ การสอบสวนชี้ว่า ATT ทำให้ผู้พัฒนาต้องเผชิญต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งในด้านการปรับปรุงระบบ การขอความยินยอม และการสูญเสียรายได้จากโฆษณาที่แม่นยำลดลง ขณะเดียวกัน Apple กลับสามารถใช้ข้อมูลภายในระบบของตนเพื่อเสริมความได้เปรียบในตลาดบริการโฆษณา เช่น Apple Search Ads ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วหลังการเปิดตัว ATT จนหลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความเป็นธรรมของกฎนี้ แม้ Apple จะยืนยันว่า ATT ถูกออกแบบเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หลายประเทศในยุโรป—including ฝรั่งเศสและเยอรมนี—ก็เริ่มจับตาพฤติกรรมของบริษัทอย่างใกล้ชิด โดยมองว่าการควบคุมข้อมูลผู้ใช้ในระดับแพลตฟอร์มอาจกลายเป็น “อำนาจผูกขาดรูปแบบใหม่” ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของนักพัฒนาและผู้ลงโฆษณาในวงกว้าง การปรับครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของเงิน แต่เป็นสัญญาณว่าหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปกำลังเริ่มตั้งคำถามต่อโมเดลธุรกิจของ Apple ที่อาศัยความเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มเพื่อกำหนดกฎที่อาจเอื้อประโยชน์ให้ตนเองมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การตรวจสอบเพิ่มเติมในระดับสหภาพยุโรปในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ อิตาลีสั่งปรับ Apple €98.6 ล้าน ➡️ เหตุผล: ATT สร้างภาระเกินจำเป็นต่อผู้พัฒนา ➡️ มองว่า Apple ได้เปรียบในตลาดโฆษณาอย่างไม่เป็นธรรม ✅ ผลกระทบต่อผู้พัฒนาและตลาดโฆษณา ➡️ ต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการขอความยินยอมและปรับระบบ ➡️ รายได้โฆษณาลดลงเพราะการติดตามผู้ใช้ทำได้ยากขึ้น ✅ Apple ยืนยันว่า ATT คือการปกป้องความเป็นส่วนตัว ➡️ แต่หลายประเทศในยุโรปเริ่มตั้งคำถามถึงความโปร่งใส ➡️ Apple Search Ads เติบโตผิดปกติหลัง ATT เปิดตัว ‼️ ความเสี่ยงและประเด็นที่ต้องจับตา ⛔ ความเป็นไปได้ที่จะถูกตรวจสอบเพิ่มเติมในระดับ EU ⛔ ความกังวลว่าแพลตฟอร์มอาจใช้อำนาจควบคุมข้อมูลเพื่อผูกขาด ⛔ ผู้พัฒนาอาจเผชิญต้นทุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง https://wccftech.com/apples-app-tracking-transparency-att-rules-invite-another-hefty-fine-this-time-from-italy/
    WCCFTECH.COM
    Apple Hit With Another Massive Fine From Italy Over Its Privacy Features
    Hardly a week goes by when Apple is not subject to a new antitrust scrutiny or penalty in one jurisdiction or the other.
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • Gigabyte ถอด “เจลนำความร้อน” สุดฉาวออกจาก RTX 5070 Ti Windforce V2 — หันกลับไปใช้ thermal pad แบบดั้งเดิม

    Gigabyte ตัดสินใจยุติการใช้ “server‑grade thermal conductive gel” บนการ์ดจอรุ่นใหม่ RTX 5070 Ti Windforce V2 หลังจากเกิดกระแสวิจารณ์หนักเกี่ยวกับปัญหาเจลรั่วในรุ่นก่อนหน้า การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกค้นพบโดยชุมชนฮาร์ดแวร์ที่สังเกตว่าหน้าเว็บผลิตภัณฑ์รุ่น V2 ไม่มีการกล่าวถึงเจลอีกต่อไป ซึ่งถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่าบริษัทเลือกถอยกลับไปใช้ thermal pad แบบเดิมเพื่อความเสถียรและความมั่นใจของผู้ใช้

    นอกจากการถอดเจลแล้ว รุ่น V2 ยังถูกออกแบบให้เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด โดยสั้นลงกว่า 43 มม. และใช้พัดลมขนาด 80 มม. เพื่อให้เหมาะกับเคสขนาดเล็กมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างนี้ทำให้ตำแหน่งรูน็อตด้านหลังเปลี่ยนไป และฟีเจอร์ dual‑BIOS ถูกตัดออก ซึ่งอาจกระทบผู้ใช้ระดับ enthusiast ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง

    ปัญหาเจลรั่วเริ่มต้นตั้งแต่ซีรีส์ RTX 50 รุ่นแรก ๆ โดยผู้ใช้จำนวนมากพบว่าเจลไหลออกจากตำแหน่ง VRAM โดยเฉพาะในเคสที่ติดตั้ง GPU แบบแนวตั้ง บางกรณีเจลแทบไม่เหลือบนชิป VRAM เลย ทำให้เกิดความเสี่ยงต่ออุณหภูมิสูงเกินไป แม้ Gigabyte จะอ้างว่าเป็นเพียง “ปัญหาด้านปริมาณที่ทามากเกินไป” และ “เป็นแค่เรื่องความสวยงาม” แต่ผู้ใช้หลายรายพิสูจน์ว่าการเปลี่ยนกลับไปใช้ thermal pad ทำให้อุณหภูมิลดลงถึง 7°C

    แม้จะไม่มีรายงานว่าการ์ดใดเสียหายจากปัญหานี้ แต่การที่ Gigabyte เลือกถอดเจลออกอย่างเงียบ ๆ ในรุ่น V2 ทำให้เกิดคำถามว่าบริษัทกำลังยอมรับปัญหาด้านความน่าเชื่อถือหรือเพียงต้องการลดต้นทุนกันแน่ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้รุ่นใหม่จะไม่ต้องกังวลเรื่องเจลรั่วอีกต่อไป เพราะการ์ดรุ่นนี้กลับไปใช้โซลูชันที่พิสูจน์แล้วว่ามั่นคงกว่า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Gigabyte ถอดเจลนำความร้อนออกจากรุ่นใหม่
    รุ่น V2 ไม่มีการใช้ “server‑grade thermal gel” อีกต่อไป
    เปลี่ยนกลับไปใช้ thermal pad แบบดั้งเดิม

    การออกแบบรุ่น V2 ที่เล็กลง
    สั้นลง 43 มม. และใช้พัดลม 80 มม.
    ตำแหน่งรูน็อตเปลี่ยน และไม่มี dual‑BIOS

    ปัญหาเจลรั่วในรุ่นก่อนหน้า
    พบมากในเคสที่ติดตั้ง GPU แนวตั้ง
    ผู้ใช้บางรายพบว่าเปลี่ยนเป็น thermal pad แล้วเย็นลง 7°C

    ข้อควรระวังและประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน
    Gigabyte ไม่เคยอธิบายกรณีเจลรั่วจนหมดออกจาก VRAM
    ไม่ชัดว่าการถอดเจลเกิดจากปัญหาความน่าเชื่อถือหรือเพื่อลดต้นทุน
    รุ่น V2 ตัดฟีเจอร์ dual‑BIOS ซึ่งอาจไม่ถูกใจผู้ใช้ระดับสูง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/gigabyte-removes-controversial-leaking-thermal-gel-from-rtx-5070-ti-windforce-v2-company-opts-for-traditional-thermal-pads-with-updated-graphics-card
    🔥 Gigabyte ถอด “เจลนำความร้อน” สุดฉาวออกจาก RTX 5070 Ti Windforce V2 — หันกลับไปใช้ thermal pad แบบดั้งเดิม Gigabyte ตัดสินใจยุติการใช้ “server‑grade thermal conductive gel” บนการ์ดจอรุ่นใหม่ RTX 5070 Ti Windforce V2 หลังจากเกิดกระแสวิจารณ์หนักเกี่ยวกับปัญหาเจลรั่วในรุ่นก่อนหน้า การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกค้นพบโดยชุมชนฮาร์ดแวร์ที่สังเกตว่าหน้าเว็บผลิตภัณฑ์รุ่น V2 ไม่มีการกล่าวถึงเจลอีกต่อไป ซึ่งถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่าบริษัทเลือกถอยกลับไปใช้ thermal pad แบบเดิมเพื่อความเสถียรและความมั่นใจของผู้ใช้ นอกจากการถอดเจลแล้ว รุ่น V2 ยังถูกออกแบบให้เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด โดยสั้นลงกว่า 43 มม. และใช้พัดลมขนาด 80 มม. เพื่อให้เหมาะกับเคสขนาดเล็กมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างนี้ทำให้ตำแหน่งรูน็อตด้านหลังเปลี่ยนไป และฟีเจอร์ dual‑BIOS ถูกตัดออก ซึ่งอาจกระทบผู้ใช้ระดับ enthusiast ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง ปัญหาเจลรั่วเริ่มต้นตั้งแต่ซีรีส์ RTX 50 รุ่นแรก ๆ โดยผู้ใช้จำนวนมากพบว่าเจลไหลออกจากตำแหน่ง VRAM โดยเฉพาะในเคสที่ติดตั้ง GPU แบบแนวตั้ง บางกรณีเจลแทบไม่เหลือบนชิป VRAM เลย ทำให้เกิดความเสี่ยงต่ออุณหภูมิสูงเกินไป แม้ Gigabyte จะอ้างว่าเป็นเพียง “ปัญหาด้านปริมาณที่ทามากเกินไป” และ “เป็นแค่เรื่องความสวยงาม” แต่ผู้ใช้หลายรายพิสูจน์ว่าการเปลี่ยนกลับไปใช้ thermal pad ทำให้อุณหภูมิลดลงถึง 7°C แม้จะไม่มีรายงานว่าการ์ดใดเสียหายจากปัญหานี้ แต่การที่ Gigabyte เลือกถอดเจลออกอย่างเงียบ ๆ ในรุ่น V2 ทำให้เกิดคำถามว่าบริษัทกำลังยอมรับปัญหาด้านความน่าเชื่อถือหรือเพียงต้องการลดต้นทุนกันแน่ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้รุ่นใหม่จะไม่ต้องกังวลเรื่องเจลรั่วอีกต่อไป เพราะการ์ดรุ่นนี้กลับไปใช้โซลูชันที่พิสูจน์แล้วว่ามั่นคงกว่า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Gigabyte ถอดเจลนำความร้อนออกจากรุ่นใหม่ ➡️ รุ่น V2 ไม่มีการใช้ “server‑grade thermal gel” อีกต่อไป ➡️ เปลี่ยนกลับไปใช้ thermal pad แบบดั้งเดิม ✅ การออกแบบรุ่น V2 ที่เล็กลง ➡️ สั้นลง 43 มม. และใช้พัดลม 80 มม. ➡️ ตำแหน่งรูน็อตเปลี่ยน และไม่มี dual‑BIOS ✅ ปัญหาเจลรั่วในรุ่นก่อนหน้า ➡️ พบมากในเคสที่ติดตั้ง GPU แนวตั้ง ➡️ ผู้ใช้บางรายพบว่าเปลี่ยนเป็น thermal pad แล้วเย็นลง 7°C ‼️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน ⛔ Gigabyte ไม่เคยอธิบายกรณีเจลรั่วจนหมดออกจาก VRAM ⛔ ไม่ชัดว่าการถอดเจลเกิดจากปัญหาความน่าเชื่อถือหรือเพื่อลดต้นทุน ⛔ รุ่น V2 ตัดฟีเจอร์ dual‑BIOS ซึ่งอาจไม่ถูกใจผู้ใช้ระดับสูง https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/gigabyte-removes-controversial-leaking-thermal-gel-from-rtx-5070-ti-windforce-v2-company-opts-for-traditional-thermal-pads-with-updated-graphics-card
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Gigabyte removes controversial leaking gel from RTX 5070 Ti Windforce V2
    The second iteration of Gigabyte's RTX 5070 Ti triple-fan Windforce graphics card comes with traditional thermal pads.
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • elementary OS 8.1 ออกแล้ว: อัปเกรดครั้งใหญ่เพื่อความลื่นไหลและปลอดภัยกว่าเดิม

    elementary OS 8.1 มาพร้อมการปรับปรุงครั้งสำคัญที่เน้นประสบการณ์ผู้ใช้ ความปลอดภัย และความเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์ยุคใหม่ โดยอัปเดตนี้สร้างบนฐาน Ubuntu 24.04 LTS ทำให้ระบบมีความเสถียรและรองรับอุปกรณ์ได้กว้างขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ทีมพัฒนาได้แก้ไขปัญหามากกว่า 1,100 รายการจากเสียงสะท้อนของผู้ใช้ ทำให้เวอร์ชันนี้เป็นหนึ่งในอัปเดตที่ “เนียนที่สุด” ของ elementary OS ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา.

    ในด้านประสบการณ์ใช้งาน ผู้ใช้จะได้พบกับ Dock ที่ฉลาดขึ้น การจัดการ Workspace ที่สะดวกกว่าเดิม และฟีเจอร์ Background Portal ที่ช่วยให้เห็นว่าแอปใดกำลังทำงานอยู่เบื้องหลังอย่างโปร่งใส รวมถึงการปรับปรุงด้าน Accessibility ที่ทำให้ผู้พิการทางสายตาสามารถติดตั้งระบบได้ด้วยตัวเองอย่างสมบูรณ์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของระบบปฏิบัติการสายดีไซน์นี้.

    ด้านความปลอดภัย Secure Session ถูกตั้งเป็นค่าเริ่มต้น ทำให้การใช้งานทั่วไปปลอดภัยขึ้น เช่น หน้าต่างยืนยันรหัสผ่านที่ป้องกันการขโมยโฟกัสจากแอปอื่น และระบบอัปเดตที่ฉลาดขึ้น ไม่รบกวนผู้ใช้ และไม่กินเน็ตบนเครือข่ายแบบจำกัดข้อมูล ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิด “ปลอดภัยแต่ไม่รบกวน” ที่ elementary OS ยึดถือมาโดยตลอด.

    สุดท้าย elementary OS 8.1 ยังเปิดตัวเวอร์ชัน ARM64 อย่างเป็นทางการ รองรับอุปกรณ์อย่าง Apple Silicon และ Raspberry Pi ที่ใช้ UEFI ทำให้ระบบนี้ก้าวเข้าสู่โลก ARM อย่างเต็มตัว พร้อมแอปพื้นฐานที่ได้รับการปรับปรุง เช่น Maps, Monitor, Music และ GNOME Web 48.3 ที่เร็วขึ้นกว่าเดิม ถือเป็นอัปเดตที่ทั้งเบา ลื่น และทันสมัยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    อัปเดตด้านประสบการณ์ผู้ใช้ (UI/UX)
    Dock ใหม่รองรับ Workspace Switcher และ Background Portal
    Dark Mode แบบ “snooze” และการปรับปรุง Reduce Motion
    Accessibility ดีขึ้นจนผู้พิการทางสายตาติดตั้งระบบได้เอง

    AppCenter ฉลาดขึ้น
    แสดงคะแนนรีวิวแบบเปอร์เซ็นต์จาก ODRS
    จัดเรียงแอปตามวันที่อัปเดต และแสดงป้าย In-app purchase

    ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
    Secure Session เป็นค่าเริ่มต้น
    หน้าต่างใส่รหัสผ่านป้องกันการขโมยโฟกัส

    ระบบอัปเดตที่เสถียรและไม่รบกวน
    แสดงขนาดไฟล์ก่อนดาวน์โหลด
    ไม่ดาวน์โหลดอัตโนมัติบนเครือข่ายแบบจำกัดข้อมูล

    รองรับ ARM64 อย่างเป็นทางการ
    ใช้งานได้บน Apple Silicon และ Raspberry Pi ที่รองรับ UEFI

    ข้อควรระวัง / จุดที่ผู้ใช้อาจต้องรู้ก่อนอัปเดต
    Secure Session อาจทำให้บางแอปเก่าหรือไดรเวอร์ไม่รองรับ
    ARM64 ยังอาจมีแอปบางตัวที่ไม่พร้อมใช้งานเต็มรูปแบบ
    การเปลี่ยนแปลง UI อาจทำให้ผู้ใช้เก่าต้องปรับตัวเล็กน้อย

    https://itsfoss.com/news/elementary-os-8-1-release/
    🖥️ elementary OS 8.1 ออกแล้ว: อัปเกรดครั้งใหญ่เพื่อความลื่นไหลและปลอดภัยกว่าเดิม elementary OS 8.1 มาพร้อมการปรับปรุงครั้งสำคัญที่เน้นประสบการณ์ผู้ใช้ ความปลอดภัย และความเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์ยุคใหม่ โดยอัปเดตนี้สร้างบนฐาน Ubuntu 24.04 LTS ทำให้ระบบมีความเสถียรและรองรับอุปกรณ์ได้กว้างขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ทีมพัฒนาได้แก้ไขปัญหามากกว่า 1,100 รายการจากเสียงสะท้อนของผู้ใช้ ทำให้เวอร์ชันนี้เป็นหนึ่งในอัปเดตที่ “เนียนที่สุด” ของ elementary OS ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา. ในด้านประสบการณ์ใช้งาน ผู้ใช้จะได้พบกับ Dock ที่ฉลาดขึ้น การจัดการ Workspace ที่สะดวกกว่าเดิม และฟีเจอร์ Background Portal ที่ช่วยให้เห็นว่าแอปใดกำลังทำงานอยู่เบื้องหลังอย่างโปร่งใส รวมถึงการปรับปรุงด้าน Accessibility ที่ทำให้ผู้พิการทางสายตาสามารถติดตั้งระบบได้ด้วยตัวเองอย่างสมบูรณ์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของระบบปฏิบัติการสายดีไซน์นี้. ด้านความปลอดภัย Secure Session ถูกตั้งเป็นค่าเริ่มต้น ทำให้การใช้งานทั่วไปปลอดภัยขึ้น เช่น หน้าต่างยืนยันรหัสผ่านที่ป้องกันการขโมยโฟกัสจากแอปอื่น และระบบอัปเดตที่ฉลาดขึ้น ไม่รบกวนผู้ใช้ และไม่กินเน็ตบนเครือข่ายแบบจำกัดข้อมูล ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิด “ปลอดภัยแต่ไม่รบกวน” ที่ elementary OS ยึดถือมาโดยตลอด. สุดท้าย elementary OS 8.1 ยังเปิดตัวเวอร์ชัน ARM64 อย่างเป็นทางการ รองรับอุปกรณ์อย่าง Apple Silicon และ Raspberry Pi ที่ใช้ UEFI ทำให้ระบบนี้ก้าวเข้าสู่โลก ARM อย่างเต็มตัว พร้อมแอปพื้นฐานที่ได้รับการปรับปรุง เช่น Maps, Monitor, Music และ GNOME Web 48.3 ที่เร็วขึ้นกว่าเดิม ถือเป็นอัปเดตที่ทั้งเบา ลื่น และทันสมัยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ อัปเดตด้านประสบการณ์ผู้ใช้ (UI/UX) ➡️ Dock ใหม่รองรับ Workspace Switcher และ Background Portal ➡️ Dark Mode แบบ “snooze” และการปรับปรุง Reduce Motion ➡️ Accessibility ดีขึ้นจนผู้พิการทางสายตาติดตั้งระบบได้เอง ✅ AppCenter ฉลาดขึ้น ➡️ แสดงคะแนนรีวิวแบบเปอร์เซ็นต์จาก ODRS ➡️ จัดเรียงแอปตามวันที่อัปเดต และแสดงป้าย In-app purchase ✅ ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ➡️ Secure Session เป็นค่าเริ่มต้น ➡️ หน้าต่างใส่รหัสผ่านป้องกันการขโมยโฟกัส ✅ ระบบอัปเดตที่เสถียรและไม่รบกวน ➡️ แสดงขนาดไฟล์ก่อนดาวน์โหลด ➡️ ไม่ดาวน์โหลดอัตโนมัติบนเครือข่ายแบบจำกัดข้อมูล ✅ รองรับ ARM64 อย่างเป็นทางการ ➡️ ใช้งานได้บน Apple Silicon และ Raspberry Pi ที่รองรับ UEFI ‼️ ข้อควรระวัง / จุดที่ผู้ใช้อาจต้องรู้ก่อนอัปเดต ⛔ Secure Session อาจทำให้บางแอปเก่าหรือไดรเวอร์ไม่รองรับ ⛔ ARM64 ยังอาจมีแอปบางตัวที่ไม่พร้อมใช้งานเต็มรูปแบบ ⛔ การเปลี่ยนแปลง UI อาจทำให้ผู้ใช้เก่าต้องปรับตัวเล็กน้อย https://itsfoss.com/news/elementary-os-8-1-release/
    ITSFOSS.COM
    Christmas Comes Early With elementary OS 8.1 Release
    Based on Ubuntu 24.04 LTS with Secure Session as default and many other improvements.
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • ทัวร์ญี่ปุ่น นาโกย่า โอซาก้า
    เดินทาง ม.ค. - มี.ค. 69 29,999

    🗓 จำนวนวัน 6 วัน 4 คืน
    ✈ XJ-แอร์เอเชียเอ็กซ์
    พักโรงแรม

    หมู่บ้านชิราคาวาโกะ
    วัดคิโยมิซุ
    ปราสาทโอซาก้า
    ริงกุ เอาท์เล็ท
    ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ
    ย่านชินไซบาชิ

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์ญี่ปุ่น #japan #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    ทัวร์ญี่ปุ่น นาโกย่า โอซาก้า 🇯🇵 🗓️ เดินทาง ม.ค. - มี.ค. 69 😍 29,999 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 6 วัน 4 คืน ✈ XJ-แอร์เอเชียเอ็กซ์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 หมู่บ้านชิราคาวาโกะ 📍 วัดคิโยมิซุ 📍 ปราสาทโอซาก้า 📍 ริงกุ เอาท์เล็ท 📍 ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ 📍 ย่านชินไซบาชิ รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์ญี่ปุ่น #japan #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 0 Reviews
  • สหรัฐฯ vs จีนในสมรภูมิ AI: ทำไมหลายบริษัทอเมริกันกลับเลือกใช้โมเดลจากจีน

    กระแสการแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนกำลังทวีความเข้มข้น แต่ในอีกมุมหนึ่ง บริษัทและนักพัฒนาจำนวนไม่น้อยในสหรัฐฯ กลับหันไปใช้โมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สจากจีนมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ก็ตาม โมเดลจากค่ายจีนอย่าง Alibaba Qwen, DeepSeek R1, MiniMax, และ Z.ai ได้รับความนิยมเพราะราคาถูกกว่า ปรับแต่งได้มากกว่า และให้ประสิทธิภาพที่ “ดีพอ” สำหรับงานส่วนใหญ่ที่ไม่ต้องการความล้ำหน้าระดับ OpenAI หรือ Google

    ในเวลาเดียวกัน การเติบโตของโมเดลโอเพ่นซอร์สจากจีนยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในอุตสาหกรรม AI ทั่วโลก จากเดิมที่สหรัฐฯ ครองความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีอย่างชัดเจน แต่การเปิดตัวโมเดลอย่าง DeepSeek R1 ที่มีประสิทธิภาพสูงและต้นทุนต่ำ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่า “จีนกำลังไล่ทันหรือแซงหน้าในบางด้านแล้วหรือไม่”

    นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ เองก็เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของโอเพ่นซอร์ส โดยออกแผน “AI Action Plan” เพื่อผลักดันโมเดลโอเพ่นซอร์สที่ยึดตามค่านิยมอเมริกัน แต่บริษัทใหญ่ในสหรัฐฯ กลับเดินไปในทิศทางตรงกันข้าม เช่น Meta ที่หันกลับไปเน้นโมเดลปิดมากขึ้น ขณะที่ฝั่งยุโรปอย่าง Mistral แม้ยังยืนหยัดในโอเพ่นซอร์ส แต่ก็ยังตามหลังจีนในด้านการใช้งานจริงทั่วโลก

    อย่างไรก็ตาม แม้โมเดลจีนจะได้รับความนิยม แต่ก็ยังมีความกังวลด้านความเสี่ยง เช่น ความเป็นไปได้ของมาตรการคว่ำบาตรในอนาคต หรือความไม่มั่นใจของลูกค้าบางกลุ่มที่ไม่ต้องการใช้เทคโนโลยีจากจีน แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายรายยืนยันว่าโมเดลโอเพ่นซอร์สเหล่านี้สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับจีนโดยตรงก็ตาม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ความนิยมของโมเดลโอเพ่นซอร์สจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    การใช้งานทั่วโลกเพิ่มจาก 1.2% เป็นเกือบ 30% ภายในไม่ถึงปี
    โมเดลอย่าง Qwen และ DeepSeek ได้รับความนิยมเพราะราคาถูกและปรับแต่งได้ดี

    บริษัทสหรัฐฯ หลายแห่งหันมาใช้โมเดลจีน
    ผู้ประกอบการบางรายประหยัดต้นทุนได้ถึง 400,000 ดอลลาร์ต่อปี
    องค์กรใหญ่ เช่น Nvidia, Perplexity และ Stanford ก็ใช้ Qwen ในบางงาน

    จีนก้าวหน้าในด้าน AI Agents และโมเดลรุ่นใหม่
    โมเดล Kimi K2 และ DeepSeek R1 ถูกมองว่าเป็นแนวหน้าของยุค AI Agents
    โมเดลจีนจำนวนมากเปิดให้ปรับแต่งได้มากกว่าโมเดลสหรัฐฯ

    ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และการคว่ำบาตร
    บริษัทกังวลว่าโมเดลจีนอาจถูกสหรัฐฯ แบนในอนาคต
    ลูกค้าบางรายไม่มั่นใจเรื่องภาพลักษณ์และความสอดคล้องกับค่านิยมตะวันตก

    ความไม่แน่นอนด้านทิศทางของบริษัทสหรัฐฯ
    Meta หันกลับไปเน้นโมเดลปิด ทำให้ตลาดโอเพ่นซอร์สฝั่งตะวันตกอ่อนแรง
    ความไม่ชัดเจนของนโยบายสหรัฐฯ อาจทำให้บริษัทลังเลในการเลือกเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/22/as-us-battles-china-on-ai-some-companies-choose-chinese
    🧭 สหรัฐฯ vs จีนในสมรภูมิ AI: ทำไมหลายบริษัทอเมริกันกลับเลือกใช้โมเดลจากจีน กระแสการแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนกำลังทวีความเข้มข้น แต่ในอีกมุมหนึ่ง บริษัทและนักพัฒนาจำนวนไม่น้อยในสหรัฐฯ กลับหันไปใช้โมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สจากจีนมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ก็ตาม โมเดลจากค่ายจีนอย่าง Alibaba Qwen, DeepSeek R1, MiniMax, และ Z.ai ได้รับความนิยมเพราะราคาถูกกว่า ปรับแต่งได้มากกว่า และให้ประสิทธิภาพที่ “ดีพอ” สำหรับงานส่วนใหญ่ที่ไม่ต้องการความล้ำหน้าระดับ OpenAI หรือ Google ในเวลาเดียวกัน การเติบโตของโมเดลโอเพ่นซอร์สจากจีนยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในอุตสาหกรรม AI ทั่วโลก จากเดิมที่สหรัฐฯ ครองความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีอย่างชัดเจน แต่การเปิดตัวโมเดลอย่าง DeepSeek R1 ที่มีประสิทธิภาพสูงและต้นทุนต่ำ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่า “จีนกำลังไล่ทันหรือแซงหน้าในบางด้านแล้วหรือไม่” นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ เองก็เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของโอเพ่นซอร์ส โดยออกแผน “AI Action Plan” เพื่อผลักดันโมเดลโอเพ่นซอร์สที่ยึดตามค่านิยมอเมริกัน แต่บริษัทใหญ่ในสหรัฐฯ กลับเดินไปในทิศทางตรงกันข้าม เช่น Meta ที่หันกลับไปเน้นโมเดลปิดมากขึ้น ขณะที่ฝั่งยุโรปอย่าง Mistral แม้ยังยืนหยัดในโอเพ่นซอร์ส แต่ก็ยังตามหลังจีนในด้านการใช้งานจริงทั่วโลก อย่างไรก็ตาม แม้โมเดลจีนจะได้รับความนิยม แต่ก็ยังมีความกังวลด้านความเสี่ยง เช่น ความเป็นไปได้ของมาตรการคว่ำบาตรในอนาคต หรือความไม่มั่นใจของลูกค้าบางกลุ่มที่ไม่ต้องการใช้เทคโนโลยีจากจีน แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายรายยืนยันว่าโมเดลโอเพ่นซอร์สเหล่านี้สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับจีนโดยตรงก็ตาม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ความนิยมของโมเดลโอเพ่นซอร์สจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ➡️ การใช้งานทั่วโลกเพิ่มจาก 1.2% เป็นเกือบ 30% ภายในไม่ถึงปี ➡️ โมเดลอย่าง Qwen และ DeepSeek ได้รับความนิยมเพราะราคาถูกและปรับแต่งได้ดี ✅ บริษัทสหรัฐฯ หลายแห่งหันมาใช้โมเดลจีน ➡️ ผู้ประกอบการบางรายประหยัดต้นทุนได้ถึง 400,000 ดอลลาร์ต่อปี ➡️ องค์กรใหญ่ เช่น Nvidia, Perplexity และ Stanford ก็ใช้ Qwen ในบางงาน ✅ จีนก้าวหน้าในด้าน AI Agents และโมเดลรุ่นใหม่ ➡️ โมเดล Kimi K2 และ DeepSeek R1 ถูกมองว่าเป็นแนวหน้าของยุค AI Agents ➡️ โมเดลจีนจำนวนมากเปิดให้ปรับแต่งได้มากกว่าโมเดลสหรัฐฯ ‼️ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และการคว่ำบาตร ⛔ บริษัทกังวลว่าโมเดลจีนอาจถูกสหรัฐฯ แบนในอนาคต ⛔ ลูกค้าบางรายไม่มั่นใจเรื่องภาพลักษณ์และความสอดคล้องกับค่านิยมตะวันตก ‼️ ความไม่แน่นอนด้านทิศทางของบริษัทสหรัฐฯ ⛔ Meta หันกลับไปเน้นโมเดลปิด ทำให้ตลาดโอเพ่นซอร์สฝั่งตะวันตกอ่อนแรง ⛔ ความไม่ชัดเจนของนโยบายสหรัฐฯ อาจทำให้บริษัทลังเลในการเลือกเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/22/as-us-battles-china-on-ai-some-companies-choose-chinese
    WWW.THESTAR.COM.MY
    As US battles China on AI, some companies choose Chinese
    Even as the United States is embarked on a bitter rivalry with China over the deployment of artificial intelligence, Chinese technology is quietly making inroads into the US market.
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251222 #TechRadar

    RAM ปลอมระบาดหนัก — ผู้ใช้ถูกหลอกด้วยสเปกเกินจริงและชิปรีไซเคิล
    รายงานเตือนว่าตลาดกำลังเผชิญปัญหา RAM ปลอมที่ถูกขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยผู้ผลิตเถื่อนใช้ชิปรีไซเคิลหรือชิปคุณภาพต่ำมารีแบรนด์เป็นรุ่นความเร็วสูง ทำให้ผู้ใช้พบอาการเครื่องล่ม ประสิทธิภาพตก หรืออายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะความต้องการ RAM ความเร็วสูงเพิ่มขึ้นจากงาน AI และเกมมิ่ง แต่ผู้ซื้อจำนวนมากไม่รู้วิธีตรวจสอบของแท้ ส่งผลให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ง่าย
    https://www.techradar.com/computing/memory/watch-out-ram-rip-offs-are-now-in-vogue-so-heres-how-to-avoid-falling-for-high-end-memory-scams

    “Data คือเลือดหล่อเลี้ยงองค์กร” — Veeam ชี้ความมั่นคงของข้อมูลคือเงื่อนไขสำคัญของ AI
    CEO ของ Veeam อธิบายว่าทุกอุตสาหกรรมกำลังพึ่งพา AI มากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตาม ทั้งจากมัลแวร์ที่ใช้ AI, ปริมาณข้อมูลที่ไม่เป็นโครงสร้างมหาศาล และการขาดระบบควบคุมข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้หลายโปรเจกต์ล้มเหลว เขาย้ำว่า “ไม่มี AI หากไม่มีความปลอดภัยของข้อมูล” และชูแพลตฟอร์มของ Veeam ที่รวมความปลอดภัย การกำกับดูแล และความยืดหยุ่นของข้อมูลไว้ในระบบเดียว เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
    https://www.techradar.com/pro/it-doesnt-matter-which-industry-you-belong-to-data-is-your-lifeblood-veeam-ceo-tells-us-why-getting-security-and-resiliency-right-is-the-key-to-unleashing-the-power-of-ai

    ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสร้างใน “สภาพอากาศผิดประเภท” ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล
    รายงานใหม่เผยว่าเกือบ 7,000 จาก 8,808 ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุณหภูมิไม่เหมาะสมต่อการทำงาน (ต่ำกว่า 18°C หรือสูงกว่า 27°C) ทำให้ต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากเกินจำเป็น โดยเฉพาะในประเทศร้อนอย่างสิงคโปร์ที่มีศูนย์ข้อมูลกว่า 1.4GW แม้อุณหภูมิแตะ 33°C ตลอดปี แนวโน้มนี้กำลังสร้างภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้า และคาดว่าความต้องการพลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์อาจเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2030
    https://www.techradar.com/pro/no-wonder-theres-a-bubble-study-claims-nearly-all-of-the-worlds-data-centers-are-built-in-the-wrong-climate

    GhostPairing — เทคนิคใหม่ที่แฮ็ก WhatsApp ได้โดยไม่ต้องเจาะรหัสผ่าน
    นักวิจัยเตือนถึงการโจมตีแบบ GhostPairing ที่อาศัยฟีเจอร์ “Linked Devices” ของ WhatsApp เอง โดยหลอกเหยื่อผ่านลิงก์ปลอมให้กรอกเบอร์โทรและยืนยันรหัสเชื่อมอุปกรณ์ ทำให้แฮ็กเกอร์ผูกเบราว์เซอร์ของตนเข้ากับบัญชีเหยื่อได้ทันที เมื่อสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ ส่งข้อความแทนเหยื่อ และดึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ วิธีตรวจสอบเดียวที่เชื่อถือได้คือเข้าไปดูรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในเมนู Linked Devices แล้วลบสิ่งที่ไม่รู้จัก
    https://www.techradar.com/pro/whatsapp-user-warning-hackers-are-hijacking-accounts-without-any-need-to-crack-the-authentication-so-be-on-your-guard

    วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวหา Big Tech ผลักภาระค่าไฟของศูนย์ข้อมูลให้ประชาชน
    วุฒิสมาชิก 3 คนส่งจดหมายถึงบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ถามเหตุผลที่ค่าไฟในพื้นที่ที่มีดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมากพุ่งสูงขึ้น แม้บริษัทจะอ้างว่ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่โครงสร้างค่าไฟของรัฐกลับผลักต้นทุนการขยายโครงข่ายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ทั่วไป ขณะที่ศูนย์ข้อมูล AI สมัยใหม่ใช้ไฟระดับ “เมืองหนึ่งทั้งเมือง” ทำให้หลายรัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเป็นพันล้านดอลลาร์
    https://www.techradar.com/pro/tech-companies-have-paid-lip-service-us-government-is-asking-ai-giants-why-data-centers-are-leading-to-rising-bills

    หลุดใหม่ชี้ Samsung Galaxy S26 จะเปิดตัวกุมภาพันธ์ แต่ขายจริงอาจต้องรอถึงมีนาคม
    ข้อมูลจากแหล่งข่าววงในระบุว่า Galaxy S26 Series จะเปิดตัวในงาน Unpacked เดือนกุมภาพันธ์ แต่จะวางขายจริงในเดือนมีนาคม ซึ่งช้ากว่ารุ่น S25 ที่เปิดตัวตั้งแต่มกราคม สาเหตุคาดว่ามาจากการปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ เช่น การยกเลิก S26 Edge แล้วนำ S26+ กลับมา รวมถึงความไม่ลงตัวด้านชื่อรุ่นและสเปกภายใน ทำให้กำหนดการเลื่อนออกไปเล็กน้อย
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-leak-may-have-revealed-samsungs-launch-window-for-the-galaxy-s26-series-but-they-might-not-go-on-sale-right-away

    LG เปิดตัวเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่ “Tandem WOLED / RGB Tandem 2.0” พร้อมรีแบรนด์ครั้งใหญ่
    LG Display เตรียมยกระดับตลาดทีวีและมอนิเตอร์ปี 2026 ด้วยการรีแบรนด์เทคโนโลยีจอเป็น “Tandem WOLED” และ “Tandem OLED” พร้อมโชว์ Primary RGB Tandem 2.0 ที่คาดว่าจะเพิ่มความสว่างและประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังเผยพาเนลใหม่หลายรุ่น เช่น มอนิเตอร์โค้ง 39 นิ้ว 5K และจอ 27 นิ้วความหนาแน่นสูง ซึ่งทั้งหมดสะท้อนทิศทางการผลักดัน OLED ให้ตอบโจทย์ทั้งเกมมิ่งและทีวีระดับพรีเมียมในปีหน้า
    https://www.techradar.com/televisions/lg-announces-next-gen-version-of-its-best-oled-tv-tech-oh-and-its-changing-the-name

    Google Gemini กำลังจะเข้าไปอยู่ในตู้เย็น Samsung เพื่อช่วยจัดการอาหารและลดของเสีย
    Samsung เตรียมเปิดตัวตู้เย็น Bespoke AI Family Hub ที่ติดตั้ง Google Gemini ซึ่งจะใช้กล้องภายในวิเคราะห์อาหารที่มีอยู่ แนะนำเมนู แจ้งเตือนของใกล้หมดอายุ และจัดการพลังงานให้เหมาะสม รวมถึงรองรับสั่งงานด้วยเสียง ฟีเจอร์นี้อาจเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกของ “AI ในเครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ให้ประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมขยายไปยังตู้แช่ไวน์รุ่นใหม่ด้วย
    https://www.techradar.com/home/smart-home/google-gemini-is-now-heading-to-fridges-and-it-might-actually-be-useful

    ช่องโหว่ในแชตบอท Eurostar เกือบทำให้ข้อมูลลูกค้าเสี่ยงถูกโจมตี
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแชตบอท AI ของ Eurostar มีช่องโหว่หลายจุด เช่น การตรวจสอบข้อความย้อนหลังไม่ดีพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายหรือสคริปต์ HTML ได้ แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลลูกค้าไม่เคยเชื่อมต่อกับระบบนี้ แต่เหตุการณ์สะท้อนความเสี่ยงจากการนำ AI มาใช้เร็วเกินไปในองค์กร โดยเฉพาะเมื่อระบบยังไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างรัดกุม
    https://www.techradar.com/pro/security/eurostar-chatbot-security-flaws-almost-left-customers-exposed-to-data-theft-and-more

    NordVPN เปิดแพ็กเกจ OpenWrt แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับเราท์เตอร์ ปรับแต่งได้ลึกระดับ sysadmin
    NordVPN เปิดตัวแพ็กเกจ Linux แบบ headless สำหรับ OpenWrt ช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VPN ครอบคลุมทั้งเครือข่ายได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับการตั้งค่าผ่านไฟล์ JSON และเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมอัตโนมัติผ่าน API สะท้อนทิศทางของ NordVPN ที่ผลักดันความโปร่งใสและโอเพ่นซอร์สอย่างจริงจัง รวมถึงเตรียมเพิ่ม UI แบบเว็บในอนาคตเพื่อให้เข้าถึงได้กว้างขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nord-vpn-ups-its-game-in-open-source-with-linux-based-package-for-openwrt-routers

    Google ดึงอดีตพนักงานกลับเข้าบริษัทจำนวนมากเพื่อเร่งเกม AI
    รายงานเผยว่า 20% ของวิศวกร AI ที่ Google จ้างในปี 2025 เป็น “boomerang hires” หรืออดีตพนักงานที่กลับมาใหม่ สะท้อนการแข่งขันด้าน AI ที่รุนแรงจนบริษัทต้องดึงบุคลากรที่คุ้นเคยกับระบบภายในกลับมาเสริมทัพ พร้อมทั้งเพิ่มการดึงตัวจากคู่แข่งอย่าง Microsoft, Amazon และ Apple ขณะที่ตลาดยังจับตาว่า Google จะเร่งพัฒนา Gemini และโครงสร้างพื้นฐาน AI ให้ทันคู่แข่งได้เร็วเพียงใด
    https://www.techradar.com/pro/quite-a-few-of-the-ai-software-engineers-hired-by-google-in-2025-were-actually-ex-employees

    Google–Apple เตือนพนักงาน H‑1B หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกสหรัฐ
    Google และ Apple ส่งสัญญาณเตือนพนักงานที่ถือวีซ่า H‑1B ให้หยุดเดินทางต่างประเทศชั่วคราว เพราะกระบวนการตรวจสอบวีซ่ากลับเข้าประเทศเข้มงวดขึ้นและอาจล่าช้านานหลายเดือน โดยเฉพาะหลังมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียใหม่ของรัฐบาล ทำให้หลายคนเสี่ยง “ติดค้าง” ต่างประเทศ ขณะเดียวกันสถานทูตบางแห่งมีคิวสัมภาษณ์ยาวถึง 12 เดือน สะท้อนแรงกดดันด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่กระทบแรงงานทักษะสูงจำนวนมาก
    https://www.techradar.com/pro/google-and-apple-employees-on-us-visas-apparently-told-to-avoid-international-travel

    ศาลสหรัฐบล็อกกฎหมายตรวจสอบอายุผู้ใช้โซเชียลของรัฐลุยเซียนา
    ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งระงับกฎหมาย Act 456 ของรัฐลุยเซียนาอย่างถาวร หลังพบว่ากฎหมายที่บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลตรวจสอบอายุผู้ใช้ทุกคนและขอความยินยอมจากผู้ปกครองนั้นละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว โดยศาลชี้ว่ารัฐไม่สามารถใช้อำนาจ “ควบคุมความคิดที่เด็กควรเข้าถึง” ได้ และมีวิธีปกป้องเด็กที่จำกัดสิทธิน้อยกว่านี้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/federal-judge-blocks-louisianas-social-media-age-verification-law-heres-why

    ผู้ให้บริการเทคโนโลยี NHS England ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
    DXS International ผู้ให้บริการระบบข้อมูลให้ NHS England เปิดเผยว่าเผชิญเหตุแรนซัมแวร์โจมตีเซิร์ฟเวอร์สำนักงาน แม้บริการทางคลินิกยังทำงานได้ตามปกติ แต่กลุ่มแฮ็กเกอร์ DevMan อ้างว่าขโมยข้อมูลกว่า 300GB ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกค่าไถ่หรือการรั่วไหลในอนาคต เหตุการณ์นี้สะท้อนความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนด้านสาธารณสุขที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสหราชอาณาจักร
    https://www.techradar.com/pro/security/nhs-england-tech-provider-reveals-data-breach-dxs-international-hit-by-ransomware

    iRobot ยืนยัน Roomba ยังใช้งานได้ปกติหลังการเทกโอเวอร์
    หลัง iRobot ถูกเทกโอเวอร์โดยบริษัท Picea ท่ามกลางกระบวนการล้มละลาย ผู้ใช้ Roomba จำนวนมากกังวลเรื่องแอป การอัปเดต และการรับประกัน แต่ CEO ของ iRobot ออกมายืนยันว่าทุกอย่าง “ยังเป็นปกติ” ทั้งแอป การสนับสนุน และการอัปเดตเฟิร์มแวร์จะดำเนินต่อไป พร้อมเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2026
    https://www.techradar.com/home/robot-vacuums/its-business-as-usual-the-app-is-working-warranties-will-be-honored-irobot-ceo-reassures-roomba-owners-following-takeover

    ChatGPT เพิ่มโหมดปรับบุคลิก เลือกได้ตั้งแต่สุภาพมืออาชีพถึงเพื่อนสายแซ่บ
    OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ Personalization ใหม่ใน ChatGPT ให้ผู้ใช้ปรับ “บุคลิก” ของโมเดลได้ เช่น ระดับความอบอุ่น ความกระตือรือร้น การใช้หัวข้อย่อย และอีโมจิ ทำให้ผู้ใช้ควบคุมโทนการตอบได้ละเอียดขึ้น ตั้งแต่สไตล์คอร์ปอเรตจริงจังไปจนถึงเพื่อนสนิทสายเมาท์ พร้อมผสานกับ Base Style เดิม เช่น Professional, Friendly หรือ Cynical เพื่อสร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัว
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-personality-settings-let-you-pick-the-vibe-and-it-ranges-from-corporate-calm-to-chaotic-bestie
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251222 #TechRadar 💾 RAM ปลอมระบาดหนัก — ผู้ใช้ถูกหลอกด้วยสเปกเกินจริงและชิปรีไซเคิล รายงานเตือนว่าตลาดกำลังเผชิญปัญหา RAM ปลอมที่ถูกขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยผู้ผลิตเถื่อนใช้ชิปรีไซเคิลหรือชิปคุณภาพต่ำมารีแบรนด์เป็นรุ่นความเร็วสูง ทำให้ผู้ใช้พบอาการเครื่องล่ม ประสิทธิภาพตก หรืออายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะความต้องการ RAM ความเร็วสูงเพิ่มขึ้นจากงาน AI และเกมมิ่ง แต่ผู้ซื้อจำนวนมากไม่รู้วิธีตรวจสอบของแท้ ส่งผลให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ง่าย 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/watch-out-ram-rip-offs-are-now-in-vogue-so-heres-how-to-avoid-falling-for-high-end-memory-scams 🧠 “Data คือเลือดหล่อเลี้ยงองค์กร” — Veeam ชี้ความมั่นคงของข้อมูลคือเงื่อนไขสำคัญของ AI CEO ของ Veeam อธิบายว่าทุกอุตสาหกรรมกำลังพึ่งพา AI มากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตาม ทั้งจากมัลแวร์ที่ใช้ AI, ปริมาณข้อมูลที่ไม่เป็นโครงสร้างมหาศาล และการขาดระบบควบคุมข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้หลายโปรเจกต์ล้มเหลว เขาย้ำว่า “ไม่มี AI หากไม่มีความปลอดภัยของข้อมูล” และชูแพลตฟอร์มของ Veeam ที่รวมความปลอดภัย การกำกับดูแล และความยืดหยุ่นของข้อมูลไว้ในระบบเดียว เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/pro/it-doesnt-matter-which-industry-you-belong-to-data-is-your-lifeblood-veeam-ceo-tells-us-why-getting-security-and-resiliency-right-is-the-key-to-unleashing-the-power-of-ai 🌡️ ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสร้างใน “สภาพอากาศผิดประเภท” ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล รายงานใหม่เผยว่าเกือบ 7,000 จาก 8,808 ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุณหภูมิไม่เหมาะสมต่อการทำงาน (ต่ำกว่า 18°C หรือสูงกว่า 27°C) ทำให้ต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากเกินจำเป็น โดยเฉพาะในประเทศร้อนอย่างสิงคโปร์ที่มีศูนย์ข้อมูลกว่า 1.4GW แม้อุณหภูมิแตะ 33°C ตลอดปี แนวโน้มนี้กำลังสร้างภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้า และคาดว่าความต้องการพลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์อาจเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2030 🔗 https://www.techradar.com/pro/no-wonder-theres-a-bubble-study-claims-nearly-all-of-the-worlds-data-centers-are-built-in-the-wrong-climate 🕵️‍♂️ GhostPairing — เทคนิคใหม่ที่แฮ็ก WhatsApp ได้โดยไม่ต้องเจาะรหัสผ่าน นักวิจัยเตือนถึงการโจมตีแบบ GhostPairing ที่อาศัยฟีเจอร์ “Linked Devices” ของ WhatsApp เอง โดยหลอกเหยื่อผ่านลิงก์ปลอมให้กรอกเบอร์โทรและยืนยันรหัสเชื่อมอุปกรณ์ ทำให้แฮ็กเกอร์ผูกเบราว์เซอร์ของตนเข้ากับบัญชีเหยื่อได้ทันที เมื่อสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ ส่งข้อความแทนเหยื่อ และดึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ วิธีตรวจสอบเดียวที่เชื่อถือได้คือเข้าไปดูรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในเมนู Linked Devices แล้วลบสิ่งที่ไม่รู้จัก 🔗 https://www.techradar.com/pro/whatsapp-user-warning-hackers-are-hijacking-accounts-without-any-need-to-crack-the-authentication-so-be-on-your-guard ⚡ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวหา Big Tech ผลักภาระค่าไฟของศูนย์ข้อมูลให้ประชาชน วุฒิสมาชิก 3 คนส่งจดหมายถึงบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ถามเหตุผลที่ค่าไฟในพื้นที่ที่มีดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมากพุ่งสูงขึ้น แม้บริษัทจะอ้างว่ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่โครงสร้างค่าไฟของรัฐกลับผลักต้นทุนการขยายโครงข่ายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ทั่วไป ขณะที่ศูนย์ข้อมูล AI สมัยใหม่ใช้ไฟระดับ “เมืองหนึ่งทั้งเมือง” ทำให้หลายรัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเป็นพันล้านดอลลาร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/tech-companies-have-paid-lip-service-us-government-is-asking-ai-giants-why-data-centers-are-leading-to-rising-bills 📱 หลุดใหม่ชี้ Samsung Galaxy S26 จะเปิดตัวกุมภาพันธ์ แต่ขายจริงอาจต้องรอถึงมีนาคม ข้อมูลจากแหล่งข่าววงในระบุว่า Galaxy S26 Series จะเปิดตัวในงาน Unpacked เดือนกุมภาพันธ์ แต่จะวางขายจริงในเดือนมีนาคม ซึ่งช้ากว่ารุ่น S25 ที่เปิดตัวตั้งแต่มกราคม สาเหตุคาดว่ามาจากการปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ เช่น การยกเลิก S26 Edge แล้วนำ S26+ กลับมา รวมถึงความไม่ลงตัวด้านชื่อรุ่นและสเปกภายใน ทำให้กำหนดการเลื่อนออกไปเล็กน้อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-leak-may-have-revealed-samsungs-launch-window-for-the-galaxy-s26-series-but-they-might-not-go-on-sale-right-away 🖥️ LG เปิดตัวเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่ “Tandem WOLED / RGB Tandem 2.0” พร้อมรีแบรนด์ครั้งใหญ่ LG Display เตรียมยกระดับตลาดทีวีและมอนิเตอร์ปี 2026 ด้วยการรีแบรนด์เทคโนโลยีจอเป็น “Tandem WOLED” และ “Tandem OLED” พร้อมโชว์ Primary RGB Tandem 2.0 ที่คาดว่าจะเพิ่มความสว่างและประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังเผยพาเนลใหม่หลายรุ่น เช่น มอนิเตอร์โค้ง 39 นิ้ว 5K และจอ 27 นิ้วความหนาแน่นสูง ซึ่งทั้งหมดสะท้อนทิศทางการผลักดัน OLED ให้ตอบโจทย์ทั้งเกมมิ่งและทีวีระดับพรีเมียมในปีหน้า 🔗 https://www.techradar.com/televisions/lg-announces-next-gen-version-of-its-best-oled-tv-tech-oh-and-its-changing-the-name 🧊 Google Gemini กำลังจะเข้าไปอยู่ในตู้เย็น Samsung เพื่อช่วยจัดการอาหารและลดของเสีย Samsung เตรียมเปิดตัวตู้เย็น Bespoke AI Family Hub ที่ติดตั้ง Google Gemini ซึ่งจะใช้กล้องภายในวิเคราะห์อาหารที่มีอยู่ แนะนำเมนู แจ้งเตือนของใกล้หมดอายุ และจัดการพลังงานให้เหมาะสม รวมถึงรองรับสั่งงานด้วยเสียง ฟีเจอร์นี้อาจเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกของ “AI ในเครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ให้ประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมขยายไปยังตู้แช่ไวน์รุ่นใหม่ด้วย 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/google-gemini-is-now-heading-to-fridges-and-it-might-actually-be-useful 🚨 ช่องโหว่ในแชตบอท Eurostar เกือบทำให้ข้อมูลลูกค้าเสี่ยงถูกโจมตี นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแชตบอท AI ของ Eurostar มีช่องโหว่หลายจุด เช่น การตรวจสอบข้อความย้อนหลังไม่ดีพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายหรือสคริปต์ HTML ได้ แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลลูกค้าไม่เคยเชื่อมต่อกับระบบนี้ แต่เหตุการณ์สะท้อนความเสี่ยงจากการนำ AI มาใช้เร็วเกินไปในองค์กร โดยเฉพาะเมื่อระบบยังไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างรัดกุม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/eurostar-chatbot-security-flaws-almost-left-customers-exposed-to-data-theft-and-more 🔐 NordVPN เปิดแพ็กเกจ OpenWrt แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับเราท์เตอร์ ปรับแต่งได้ลึกระดับ sysadmin NordVPN เปิดตัวแพ็กเกจ Linux แบบ headless สำหรับ OpenWrt ช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VPN ครอบคลุมทั้งเครือข่ายได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับการตั้งค่าผ่านไฟล์ JSON และเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมอัตโนมัติผ่าน API สะท้อนทิศทางของ NordVPN ที่ผลักดันความโปร่งใสและโอเพ่นซอร์สอย่างจริงจัง รวมถึงเตรียมเพิ่ม UI แบบเว็บในอนาคตเพื่อให้เข้าถึงได้กว้างขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nord-vpn-ups-its-game-in-open-source-with-linux-based-package-for-openwrt-routers 🔄 Google ดึงอดีตพนักงานกลับเข้าบริษัทจำนวนมากเพื่อเร่งเกม AI รายงานเผยว่า 20% ของวิศวกร AI ที่ Google จ้างในปี 2025 เป็น “boomerang hires” หรืออดีตพนักงานที่กลับมาใหม่ สะท้อนการแข่งขันด้าน AI ที่รุนแรงจนบริษัทต้องดึงบุคลากรที่คุ้นเคยกับระบบภายในกลับมาเสริมทัพ พร้อมทั้งเพิ่มการดึงตัวจากคู่แข่งอย่าง Microsoft, Amazon และ Apple ขณะที่ตลาดยังจับตาว่า Google จะเร่งพัฒนา Gemini และโครงสร้างพื้นฐาน AI ให้ทันคู่แข่งได้เร็วเพียงใด 🔗 https://www.techradar.com/pro/quite-a-few-of-the-ai-software-engineers-hired-by-google-in-2025-were-actually-ex-employees 🛂 Google–Apple เตือนพนักงาน H‑1B หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกสหรัฐ Google และ Apple ส่งสัญญาณเตือนพนักงานที่ถือวีซ่า H‑1B ให้หยุดเดินทางต่างประเทศชั่วคราว เพราะกระบวนการตรวจสอบวีซ่ากลับเข้าประเทศเข้มงวดขึ้นและอาจล่าช้านานหลายเดือน โดยเฉพาะหลังมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียใหม่ของรัฐบาล ทำให้หลายคนเสี่ยง “ติดค้าง” ต่างประเทศ ขณะเดียวกันสถานทูตบางแห่งมีคิวสัมภาษณ์ยาวถึง 12 เดือน สะท้อนแรงกดดันด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่กระทบแรงงานทักษะสูงจำนวนมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-and-apple-employees-on-us-visas-apparently-told-to-avoid-international-travel ⚖️ ศาลสหรัฐบล็อกกฎหมายตรวจสอบอายุผู้ใช้โซเชียลของรัฐลุยเซียนา ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งระงับกฎหมาย Act 456 ของรัฐลุยเซียนาอย่างถาวร หลังพบว่ากฎหมายที่บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลตรวจสอบอายุผู้ใช้ทุกคนและขอความยินยอมจากผู้ปกครองนั้นละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว โดยศาลชี้ว่ารัฐไม่สามารถใช้อำนาจ “ควบคุมความคิดที่เด็กควรเข้าถึง” ได้ และมีวิธีปกป้องเด็กที่จำกัดสิทธิน้อยกว่านี้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/federal-judge-blocks-louisianas-social-media-age-verification-law-heres-why 🏥 ผู้ให้บริการเทคโนโลยี NHS England ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ DXS International ผู้ให้บริการระบบข้อมูลให้ NHS England เปิดเผยว่าเผชิญเหตุแรนซัมแวร์โจมตีเซิร์ฟเวอร์สำนักงาน แม้บริการทางคลินิกยังทำงานได้ตามปกติ แต่กลุ่มแฮ็กเกอร์ DevMan อ้างว่าขโมยข้อมูลกว่า 300GB ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกค่าไถ่หรือการรั่วไหลในอนาคต เหตุการณ์นี้สะท้อนความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนด้านสาธารณสุขที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสหราชอาณาจักร 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/nhs-england-tech-provider-reveals-data-breach-dxs-international-hit-by-ransomware 🤖 iRobot ยืนยัน Roomba ยังใช้งานได้ปกติหลังการเทกโอเวอร์ หลัง iRobot ถูกเทกโอเวอร์โดยบริษัท Picea ท่ามกลางกระบวนการล้มละลาย ผู้ใช้ Roomba จำนวนมากกังวลเรื่องแอป การอัปเดต และการรับประกัน แต่ CEO ของ iRobot ออกมายืนยันว่าทุกอย่าง “ยังเป็นปกติ” ทั้งแอป การสนับสนุน และการอัปเดตเฟิร์มแวร์จะดำเนินต่อไป พร้อมเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/home/robot-vacuums/its-business-as-usual-the-app-is-working-warranties-will-be-honored-irobot-ceo-reassures-roomba-owners-following-takeover 🎭 ChatGPT เพิ่มโหมดปรับบุคลิก เลือกได้ตั้งแต่สุภาพมืออาชีพถึงเพื่อนสายแซ่บ OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ Personalization ใหม่ใน ChatGPT ให้ผู้ใช้ปรับ “บุคลิก” ของโมเดลได้ เช่น ระดับความอบอุ่น ความกระตือรือร้น การใช้หัวข้อย่อย และอีโมจิ ทำให้ผู้ใช้ควบคุมโทนการตอบได้ละเอียดขึ้น ตั้งแต่สไตล์คอร์ปอเรตจริงจังไปจนถึงเพื่อนสนิทสายเมาท์ พร้อมผสานกับ Base Style เดิม เช่น Professional, Friendly หรือ Cynical เพื่อสร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัว 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-personality-settings-let-you-pick-the-vibe-and-it-ranges-from-corporate-calm-to-chaotic-bestie
    0 Comments 0 Shares 318 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251222 #securityonline

    Dify Side-Door Exposure: ช่องโหว่เปิดคอนฟิกระบบ LLM ให้คนแปลกหน้าเห็น
    ช่องโหว่ CVE‑2025‑63387 ใน Dify เวอร์ชัน 1.9.1 เปิดให้ผู้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตนเข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้โดยตรง ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในของระบบ LLM ถูกเปิดเผยแบบไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นในการวางแผนโจมตีต่อเนื่อง แม้จะเป็นเพียงการรั่วไหลข้อมูล แต่ก็ถือเป็นความเสี่ยงระดับสูงสำหรับทีมที่กำลังนำ LLM ไปใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมโปรดักชัน
    https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users

    BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้บริการฟรีอย่าง ngrok และ Mocky ลอบขโมยอีเมลยูเครน
    กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่โดยใช้บริการฟรี เช่น Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET ผ่าน PDF ล่อเหยื่อและหน้าเว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ด้วย header พิเศษ ทำให้การโจมตีแนบเนียนและตรวจจับยากขึ้น
    https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky

    Caminho to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ
    BlindEagle (APT‑C‑36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงแนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง
    https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia

    DOCSWAP 2.0: Kimsuky ใช้ QR Code แพร่มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่
    Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบน Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ พร้อมหลักฐานเชื่อมโยง DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” บนโครงสร้างพื้นฐาน
    https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes

    Shadows of the North: แผนที่โครงสร้างไซเบอร์ DPRK ที่เชื่อมโยงทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน
    รายงานร่วมของ Hunt.io และ Acronis เปิดโปงโครงสร้างพื้นฐานไซเบอร์ของเกาหลีเหนือที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนา โดยพบว่า Lazarus, Kimsuky และ Bluenoroff แม้จะมีภารกิจต่างกัน แต่กลับใช้เซิร์ฟเวอร์ เครื่องมือ และโครงสร้างเครือข่ายร่วมกันอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ staging servers, credential-harvesting nodes ไปจนถึง FRP tunneling และโครงสร้างที่ผูกกับใบรับรอง SSL เดียวกัน เผยให้เห็น ecosystem ที่ทำงานแบบ “รวมศูนย์” เพื่อการจารกรรม การขโมยเงิน และปฏิบัติการทำลายล้างในระดับรัฐ
    https://securityonline.info/shadows-of-the-north-unmasking-the-sprawling-cyber-infrastructure-of-the-dprk

    ResidentBat: สปายแวร์ KGB ที่ติดตั้งผ่านการยึดมือถือจริง ไม่ต้องพึ่ง zero‑click
    การสืบสวนโดย RESIDENT.NGO และ RSF พบว่า KGB เบลารุสใช้สปายแวร์ชื่อ ResidentBat ที่ติดตั้งด้วยการยึดโทรศัพท์จากนักข่าวและนักกิจกรรมระหว่างการสอบสวน ก่อนบังคับให้ปลดล็อกเครื่องเพื่อดู PIN จากนั้นเจ้าหน้าที่นำเครื่องออกไปติดตั้งแอปที่ขอสิทธิ์สูงถึง 38 รายการ รวมถึงการใช้ Accessibility Service เพื่ออ่านข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง Signal และ Telegram ทำให้มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สอดแนมเต็มรูปแบบที่สามารถบันทึกหน้าจอ คีย์บอร์ด และข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด
    https://securityonline.info/the-kgbs-all-seeing-eye-how-residentbat-spyware-turns-seized-phones-into-total-surveillance-tools

    AuraStealer: มัลแวร์ที่หลอกให้เหยื่อ “แฮ็กตัวเอง” ผ่านคลิป TikTok
    AuraStealer มัลแวร์แบบ MaaS ที่กำลังระบาด ใช้กลยุทธ์ “Scam‑Yourself” โดยหลอกเหยื่อผ่านคลิป TikTok ที่สอนปลดล็อกซอฟต์แวร์เถื่อน เมื่อเหยื่อตามขั้นตอนและรันคำสั่ง PowerShell เอง มัลแวร์จะถูกดาวน์โหลดและรันทันที ตัวมันใช้เทคนิคป้องกันการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น indirect control flow และ exception‑driven API hashing พร้อมความสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์กว่า 110 ตัวและวอลเล็ตคริปโตจำนวนมาก แม้บางฟีเจอร์ยังทำงานไม่เสถียร แต่ความเสี่ยงยังสูงมาก
    https://securityonline.info/tiktoks-scam-yourself-trap-how-aurastealer-malware-tricks-users-into-hacking-their-own-pcs

    ClickFix Trap: หน้าตรวจสอบมนุษย์ปลอมที่นำไปสู่ Qilin Ransomware
    แคมเปญ ClickFix ใช้หน้า “ยืนยันว่าเป็นมนุษย์” ปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลด batch file ที่ติดตั้ง NetSupport RAT จากนั้นผู้โจมตีใช้ RAT เพื่อดึง StealC V2 ลงเครื่อง ก่อนใช้ข้อมูลที่ขโมยได้เจาะ VPN ขององค์กรและปล่อย Qilin ransomware ซึ่งเป็นหนึ่งใน RaaS ที่ทำเหยื่อมากที่สุดในช่วงปี 2024–2025 โซ่การโจมตีนี้เริ่มจากสคริปต์บนเว็บที่ถูกแฮ็กและจบลงด้วยการเข้ารหัสระบบทั้งองค์กร
    https://securityonline.info/clickfix-trap-fake-human-verification-leads-to-qilin-ransomware-infection

    Cellik Android RAT: มัลแวร์ที่แฝงตัวในแอป Google Play อย่างแนบเนียน
    Cellik เป็น Android RAT แบบบริการเช่า ที่ให้ผู้โจมตีเลือกแอปจาก Google Play แล้ว “ฉีด” payload ลงไปผ่านระบบ APK Builder ทำให้แอปที่ดูปกติกลายเป็นเครื่องมือสอดแนมเต็มรูปแบบ มันรองรับการสตรีมหน้าจอแบบเรียลไทม์ ควบคุมเครื่องจากระยะไกล เปิดกล้อง/ไมค์ และใช้ hidden browser เพื่อทำธุรกรรมหรือขโมยข้อมูลโดยที่ผู้ใช้ไม่เห็นอะไรบนหน้าจอ ถือเป็นการยกระดับภัยคุกคามมือถือให้เข้าถึงได้แม้กับอาชญากรทักษะต่ำ
    https://securityonline.info/the-silent-hijacker-new-cellik-android-rat-turns-legitimate-google-play-apps-into-surveillance-tools

    110 Milliseconds of Truth: Amazon ใช้ “ดีเลย์คีย์บอร์ด” เปิดโปงสายลับเกาหลีเหนือ
    Amazon เปิดเผยปฏิบัติการสกัดแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือที่ปลอมตัวเป็นพนักงานรีโมต โดยใช้ “laptop farms” ในสหรัฐฯ เพื่อสมัครงานและแทรกซึมองค์กร ความผิดปกติถูกจับได้จากค่า latency การพิมพ์ที่สูงถึง 110 มิลลิวินาที ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการควบคุมเครื่องจากต่างประเทศ พร้อมสัญญาณอื่นอย่างภาษาอังกฤษที่ไม่เป็นธรรมชาติ เหตุการณ์นี้สะท้อนการเปลี่ยนยุทธวิธีของ DPRK ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ เพื่อหลบการตรวจจับ และ Amazon ระบุว่าพยายามโจมตีเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส
    https://securityonline.info/110-milliseconds-of-truth-how-amazon-used-lag-to-catch-a-north-korean-spy

    Dify’s Exposed Side Door: ช่องโหว่เปิดให้คนแปลกหน้าดูค่าคอนฟิกระบบ AI ได้
    แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส Dify รุ่น 1.9.1 ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-63387 ที่ปล่อยให้ผู้ใช้ไม่ต้องล็อกอินก็เข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้ ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในหลุดออกสู่สาธารณะ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นของการโจมตีขั้นต่อไป ช่องโหว่นี้จัดเป็นระดับ High และเป็นตัวอย่างของความเสี่ยงเมื่อระบบ LLM ถูกนำไปใช้จริงโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ที่เข้มงวด
    https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users

    BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้ ngrok + Mocky ลอบขโมยอีเมลชาวยูเครน
    กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่ ใช้บริการฟรีอย่าง Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET โดยแนบลิงก์ใน PDF เพื่อหลบระบบสแกนอีเมล ก่อนพาเหยื่อเข้าสู่เว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ผ่าน header พิเศษ แสดงให้เห็นการปรับตัวของ GRU หลังถูกกวาดล้างโครงสร้างพื้นฐานในปี 2024
    https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky

    “Caminho” to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ
    BlindEagle (APT-C-36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงที่แนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงกับตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง เหตุการณ์นี้สะท้อนการยกระดับความซับซ้อนของกลุ่มในภูมิภาคละตินอเมริกา
    https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia

    Kimsuky DOCSWAP 2.0: มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ติดผ่าน QR Code
    Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบนมือถือ Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ โดยมีหลักฐานเชื่อมโยงกับ DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” และคอมเมนต์ภาษาเกาหลีบนโครงสร้างพื้นฐาน
    https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes

    Exim’s Poisoned Record: แพตช์ที่พลาดเปิดช่อง SQL Injection สู่ Heap Overflow ระดับวิกฤต
    รายงานใหม่เผยว่า Exim 4.99 ยังมีช่องโหว่ลึกที่ไม่ได้รับการแก้ไขจากแพตช์ก่อนหน้า ทำให้ SQL injection ผ่านระบบ ratelimit สามารถนำไปสู่ heap overflow ขนาดใหญ่ถึง 1.5MB ซึ่งอาจเปิดทางสู่ RCE แม้ยังไม่ยืนยันเต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้เกิดจากการ sanitize คีย์ฐานข้อมูลไม่ครบถ้วนและการอ่านค่า bloom_size โดยไม่ตรวจสอบ ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถวาง “ระเบิดเวลา” ในฐานข้อมูลและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มหรือถูกควบคุมได้ในบางเงื่อนไข
    https://securityonline.info/exims-poisoned-record-how-a-failed-patch-and-sql-injection-lead-to-critical-heap-overflows

    HPE OneView RCE: ช่องโหว่ CVSS 10.0 เปิดประตูให้รันคำสั่งโดยไม่ต้องล็อกอิน
    ช่องโหว่ร้ายแรงใน HPE OneView (CVE-2025-37164) เปิดให้ผู้โจมตีเรียกใช้ API ลับ /rest/id-pools/executeCommand ที่ตั้งค่าเป็น NO_AUTH ทำให้สามารถส่งคำสั่งระบบผ่าน Runtime.exec ได้ทันที นักวิจัยพบว่าเฉพาะบางเวอร์ชัน—โดยเฉพาะ OneView for VMs 6.x และ OneView for Synergy—ได้รับผลกระทบเต็มรูปแบบ และมี PoC พร้อมใช้งานแล้ว ทำให้ผู้ดูแลต้องเร่งอัปเดตหรือใช้ hotfix โดยด่วน
    https://securityonline.info/poc-available-unauthenticated-hpe-oneview-rce-cvss-10-0-exploits-hidden-id-pools-api

    Meta พลิกทิศ: หยุดพาร์ตเนอร์ VR เพื่อทุ่มทรัพยากรสู่แว่น AI
    Meta ตัดสินใจ “พัก” โครงการเปิด Horizon OS ให้ผู้ผลิตรายอื่น เช่น ASUS และ Lenovo หลังพบว่าทิศทางตลาด VR ยังไม่ชัดเจน ขณะที่แว่นอัจฉริยะอย่าง Ray-Ban Meta กลับเติบโตแรง บริษัทจึงหันไปโฟกัสฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของตัวเอง โดยเฉพาะสาย AI glasses และโปรเจกต์ Orion ซึ่งอาจเป็นเส้นทางสู่การใช้งานจริงในวงกว้างมากกว่า VR แบบเดิม
    https://securityonline.info/vr-vision-shift-meta-pauses-third-party-partnerships-to-pivot-toward-ai-smart-glasses

    Kimwolf Botnet: กองทัพ IoT 1.8 ล้านเครื่องที่ยิงทราฟฟิกแซง Google
    บอตเน็ต Kimwolf ที่โจมตีอุปกรณ์ Android TV และกล่องรับสัญญาณกว่า 1.8 ล้านเครื่องทั่วโลก ถูกพบว่าส่งคำสั่ง DDoS มากถึง 1.7 พันล้านครั้งในช่วงไม่กี่วัน ทำให้โดเมน C2 ของมันขึ้นอันดับหนึ่งบน Cloudflare DNS แซง Google ชั่วคราว มัลแวร์นี้ไม่เพียงยิง DDoS แต่ยังมี reverse shell และ proxy forwarding ทำให้ผู้โจมตีใช้เป็นฐานปฏิบัติการขยายผลได้อย่างกว้างขวาง
    https://securityonline.info/the-wolf-among-tvs-1-8-million-strong-kimwolf-botnet-surpasses-google-traffic-to-rule-the-iot

    Windows Server 2025 ปลดล็อก NVMe Native I/O เร็วขึ้น 70% ลดโหลด CPU เกือบครึ่ง
    Microsoft เปิดใช้ Native NVMe I/O ใน Windows Server 2025 ซึ่งตัดชั้นแปลคำสั่ง SCSI/SATA ออก ทำให้ IOPS เพิ่มขึ้นสูงสุด 70% และลด CPU load ได้ถึง 45% ในงาน I/O หนัก โดยเฉพาะฐานข้อมูลและงาน AI แม้ผลลัพธ์ในชุมชนยังหลากหลาย แต่การออกแบบ pipeline ใหม่ทั้งหมดบ่งชี้ว่าระบบที่ใช้ SSD PCIe 5.0 จะได้ประโยชน์สูงสุด
    https://securityonline.info/the-end-of-scsi-windows-server-2025-unlocks-70-faster-storage-with-native-nvme-i-o

    The $100M Stalker: เครือข่าย Nefilim ล่ม—แก๊ง Big Game Hunting สารภาพผิด
    คดีใหญ่ของกลุ่มแรนซัมแวร์ Nefilim เดินหน้าเข้าสู่ตอนสำคัญเมื่อ Artem Stryzhak แฮ็กเกอร์ชาวยูเครนยอมรับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตีองค์กรรายได้เกิน 100–200 ล้านดอลลาร์ โดยใช้โมเดลแบ่งกำไรและระบบ “panel” ในการจัดการเหยื่อ พร้อมใช้กลยุทธ์ double extortion ขโมยข้อมูลก่อนล็อกไฟล์ ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ยังล่าตัวหัวโจกอีกคนพร้อมตั้งค่าหัว 11 ล้านดอลลาร์ สะท้อนความซับซ้อนและความระแวงภายในโลกอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังถูกบีบเข้ามาเรื่อย ๆ
    https://securityonline.info/the-100m-stalker-nefilim-ransomware-affiliate-pleads-guilty-as-doj-hunts-fugitive-leader

    Microsoft ปิดฉาก Telephone Activation—เข้าสู่ยุคยืนยันสิทธิ์ผ่านเว็บเต็มรูปแบบ
    ไมโครซอฟท์ยุติระบบโทรศัพท์สำหรับการ Activate Windows/Office ที่เคยเป็นทางเลือกสำคัญในสภาพแวดล้อมออฟไลน์ โดยผู้ใช้ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังพอร์ทัลออนไลน์แทน แม้ยังไม่ชัดเจนว่าการคำนวณ Activation ID แบบออฟไลน์ถูกยกเลิกจริงหรือเพียงย้ายไปอยู่บนเว็บ แต่การเปลี่ยนผ่านนี้อาจกระทบองค์กรที่ต้องการระบบ Activate แบบไม่พึ่งอินเทอร์เน็ต และสะท้อนทิศทางใหม่ที่เน้นการควบคุมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น
    https://securityonline.info/hang-up-the-phone-microsoft-retires-telephone-activation-for-an-online-portal

    OpenAI เปิดสไลเดอร์ปรับ “อารมณ์” ChatGPT—ยุติภาพลักษณ์หุ่นยนต์
    OpenAI ปรับประสบการณ์ใช้งาน ChatGPT ครั้งใหญ่ด้วยตัวเลือกปรับโทนเสียง อารมณ์ การใช้หัวข้อ/ลิสต์ และจำนวนอีโมจิ เพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้มองว่า GPT-5 เย็นชาเกินไปหรือบางครั้งก็ประจบเกินเหตุ การเปิดให้ผู้ใช้ควบคุมบุคลิกของโมเดลเองสะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากโมเดลกลางสู่ประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม
    https://securityonline.info/the-end-of-robotic-ai-openai-unlocks-sliders-to-control-chatgpts-warmth-and-tone

    n8n เจอช่องโหว่ CVSS 10.0—Expression Injection พาไปสู่ยึดเซิร์ฟเวอร์เต็มตัว
    แพลตฟอร์ม workflow automation ยอดนิยม n8n เผชิญช่องโหว่ร้ายแรงระดับ 10.0 ที่เปิดทางให้ผู้ใช้ที่ล็อกอินได้สามารถฉีดโค้ดผ่านระบบ Expression Evaluation และหลุดออกจาก sandbox ไปสั่งคำสั่งระดับระบบปฏิบัติการ ส่งผลให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูล แก้ไข workflow หรือยึดเครื่องแม่ข่ายได้ทันที ผู้ดูแลระบบถูกเร่งให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.122.0 โดยด่วน
    https://securityonline.info/n8n-under-fire-critical-cvss-10-0-rce-vulnerability-grants-total-server-access

    Device Code Phishing: แฮ็กเกอร์ใช้ฟีเจอร์จริงของ Microsoft 365 เพื่อยึดบัญชี
    แคมเปญโจมตีรูปแบบใหม่ใช้ “Device Code” ซึ่งเป็นฟีเจอร์จริงของ Microsoft OAuth 2.0 หลอกให้เหยื่อกรอกรหัสบนเว็บ Microsoft ที่ถูกต้อง ทำให้แอปของผู้โจมตีได้รับสิทธิ์เข้าถึงบัญชีโดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน วิธีนี้หลบการตรวจสอบ URL ปลอมได้อย่างแนบเนียน และถูกใช้โดยทั้งกลุ่มรัฐหนุนและอาชญากรไซเบอร์เพื่อยึดบัญชีองค์กรในวงกว้าง
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/hackers-abuse-device-codes-to-bypass-security-and-seize-microsoft-365-accounts
    📌🔐🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔐📌 #รวมข่าวIT #20251222 #securityonline 🧩 Dify Side-Door Exposure: ช่องโหว่เปิดคอนฟิกระบบ LLM ให้คนแปลกหน้าเห็น ช่องโหว่ CVE‑2025‑63387 ใน Dify เวอร์ชัน 1.9.1 เปิดให้ผู้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตนเข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้โดยตรง ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในของระบบ LLM ถูกเปิดเผยแบบไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นในการวางแผนโจมตีต่อเนื่อง แม้จะเป็นเพียงการรั่วไหลข้อมูล แต่ก็ถือเป็นความเสี่ยงระดับสูงสำหรับทีมที่กำลังนำ LLM ไปใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมโปรดักชัน 🔗 https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users 🎯 BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้บริการฟรีอย่าง ngrok และ Mocky ลอบขโมยอีเมลยูเครน กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่โดยใช้บริการฟรี เช่น Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET ผ่าน PDF ล่อเหยื่อและหน้าเว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ด้วย header พิเศษ ทำให้การโจมตีแนบเนียนและตรวจจับยากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky 📨 Caminho to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ BlindEagle (APT‑C‑36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงแนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง 🔗 https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia 📱 DOCSWAP 2.0: Kimsuky ใช้ QR Code แพร่มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบน Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ พร้อมหลักฐานเชื่อมโยง DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” บนโครงสร้างพื้นฐาน 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes 🕶️ Shadows of the North: แผนที่โครงสร้างไซเบอร์ DPRK ที่เชื่อมโยงทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน รายงานร่วมของ Hunt.io และ Acronis เปิดโปงโครงสร้างพื้นฐานไซเบอร์ของเกาหลีเหนือที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนา โดยพบว่า Lazarus, Kimsuky และ Bluenoroff แม้จะมีภารกิจต่างกัน แต่กลับใช้เซิร์ฟเวอร์ เครื่องมือ และโครงสร้างเครือข่ายร่วมกันอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ staging servers, credential-harvesting nodes ไปจนถึง FRP tunneling และโครงสร้างที่ผูกกับใบรับรอง SSL เดียวกัน เผยให้เห็น ecosystem ที่ทำงานแบบ “รวมศูนย์” เพื่อการจารกรรม การขโมยเงิน และปฏิบัติการทำลายล้างในระดับรัฐ 🔗 https://securityonline.info/shadows-of-the-north-unmasking-the-sprawling-cyber-infrastructure-of-the-dprk 📱 ResidentBat: สปายแวร์ KGB ที่ติดตั้งผ่านการยึดมือถือจริง ไม่ต้องพึ่ง zero‑click การสืบสวนโดย RESIDENT.NGO และ RSF พบว่า KGB เบลารุสใช้สปายแวร์ชื่อ ResidentBat ที่ติดตั้งด้วยการยึดโทรศัพท์จากนักข่าวและนักกิจกรรมระหว่างการสอบสวน ก่อนบังคับให้ปลดล็อกเครื่องเพื่อดู PIN จากนั้นเจ้าหน้าที่นำเครื่องออกไปติดตั้งแอปที่ขอสิทธิ์สูงถึง 38 รายการ รวมถึงการใช้ Accessibility Service เพื่ออ่านข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง Signal และ Telegram ทำให้มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สอดแนมเต็มรูปแบบที่สามารถบันทึกหน้าจอ คีย์บอร์ด และข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด 🔗 https://securityonline.info/the-kgbs-all-seeing-eye-how-residentbat-spyware-turns-seized-phones-into-total-surveillance-tools 🎭 AuraStealer: มัลแวร์ที่หลอกให้เหยื่อ “แฮ็กตัวเอง” ผ่านคลิป TikTok AuraStealer มัลแวร์แบบ MaaS ที่กำลังระบาด ใช้กลยุทธ์ “Scam‑Yourself” โดยหลอกเหยื่อผ่านคลิป TikTok ที่สอนปลดล็อกซอฟต์แวร์เถื่อน เมื่อเหยื่อตามขั้นตอนและรันคำสั่ง PowerShell เอง มัลแวร์จะถูกดาวน์โหลดและรันทันที ตัวมันใช้เทคนิคป้องกันการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น indirect control flow และ exception‑driven API hashing พร้อมความสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์กว่า 110 ตัวและวอลเล็ตคริปโตจำนวนมาก แม้บางฟีเจอร์ยังทำงานไม่เสถียร แต่ความเสี่ยงยังสูงมาก 🔗 https://securityonline.info/tiktoks-scam-yourself-trap-how-aurastealer-malware-tricks-users-into-hacking-their-own-pcs 🧪 ClickFix Trap: หน้าตรวจสอบมนุษย์ปลอมที่นำไปสู่ Qilin Ransomware แคมเปญ ClickFix ใช้หน้า “ยืนยันว่าเป็นมนุษย์” ปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลด batch file ที่ติดตั้ง NetSupport RAT จากนั้นผู้โจมตีใช้ RAT เพื่อดึง StealC V2 ลงเครื่อง ก่อนใช้ข้อมูลที่ขโมยได้เจาะ VPN ขององค์กรและปล่อย Qilin ransomware ซึ่งเป็นหนึ่งใน RaaS ที่ทำเหยื่อมากที่สุดในช่วงปี 2024–2025 โซ่การโจมตีนี้เริ่มจากสคริปต์บนเว็บที่ถูกแฮ็กและจบลงด้วยการเข้ารหัสระบบทั้งองค์กร 🔗 https://securityonline.info/clickfix-trap-fake-human-verification-leads-to-qilin-ransomware-infection 🐾 Cellik Android RAT: มัลแวร์ที่แฝงตัวในแอป Google Play อย่างแนบเนียน Cellik เป็น Android RAT แบบบริการเช่า ที่ให้ผู้โจมตีเลือกแอปจาก Google Play แล้ว “ฉีด” payload ลงไปผ่านระบบ APK Builder ทำให้แอปที่ดูปกติกลายเป็นเครื่องมือสอดแนมเต็มรูปแบบ มันรองรับการสตรีมหน้าจอแบบเรียลไทม์ ควบคุมเครื่องจากระยะไกล เปิดกล้อง/ไมค์ และใช้ hidden browser เพื่อทำธุรกรรมหรือขโมยข้อมูลโดยที่ผู้ใช้ไม่เห็นอะไรบนหน้าจอ ถือเป็นการยกระดับภัยคุกคามมือถือให้เข้าถึงได้แม้กับอาชญากรทักษะต่ำ 🔗 https://securityonline.info/the-silent-hijacker-new-cellik-android-rat-turns-legitimate-google-play-apps-into-surveillance-tools 🕵️‍♀️ 110 Milliseconds of Truth: Amazon ใช้ “ดีเลย์คีย์บอร์ด” เปิดโปงสายลับเกาหลีเหนือ Amazon เปิดเผยปฏิบัติการสกัดแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือที่ปลอมตัวเป็นพนักงานรีโมต โดยใช้ “laptop farms” ในสหรัฐฯ เพื่อสมัครงานและแทรกซึมองค์กร ความผิดปกติถูกจับได้จากค่า latency การพิมพ์ที่สูงถึง 110 มิลลิวินาที ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการควบคุมเครื่องจากต่างประเทศ พร้อมสัญญาณอื่นอย่างภาษาอังกฤษที่ไม่เป็นธรรมชาติ เหตุการณ์นี้สะท้อนการเปลี่ยนยุทธวิธีของ DPRK ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ เพื่อหลบการตรวจจับ และ Amazon ระบุว่าพยายามโจมตีเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส 🔗 https://securityonline.info/110-milliseconds-of-truth-how-amazon-used-lag-to-catch-a-north-korean-spy 🧩 Dify’s Exposed Side Door: ช่องโหว่เปิดให้คนแปลกหน้าดูค่าคอนฟิกระบบ AI ได้ แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส Dify รุ่น 1.9.1 ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-63387 ที่ปล่อยให้ผู้ใช้ไม่ต้องล็อกอินก็เข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้ ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในหลุดออกสู่สาธารณะ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นของการโจมตีขั้นต่อไป ช่องโหว่นี้จัดเป็นระดับ High และเป็นตัวอย่างของความเสี่ยงเมื่อระบบ LLM ถูกนำไปใช้จริงโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ที่เข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users 🎯 BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้ ngrok + Mocky ลอบขโมยอีเมลชาวยูเครน กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่ ใช้บริการฟรีอย่าง Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET โดยแนบลิงก์ใน PDF เพื่อหลบระบบสแกนอีเมล ก่อนพาเหยื่อเข้าสู่เว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ผ่าน header พิเศษ แสดงให้เห็นการปรับตัวของ GRU หลังถูกกวาดล้างโครงสร้างพื้นฐานในปี 2024 🔗 https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky 📨 “Caminho” to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ BlindEagle (APT-C-36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงที่แนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงกับตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง เหตุการณ์นี้สะท้อนการยกระดับความซับซ้อนของกลุ่มในภูมิภาคละตินอเมริกา 🔗 https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia 📱 Kimsuky DOCSWAP 2.0: มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ติดผ่าน QR Code Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบนมือถือ Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ โดยมีหลักฐานเชื่อมโยงกับ DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” และคอมเมนต์ภาษาเกาหลีบนโครงสร้างพื้นฐาน 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes 📡 Exim’s Poisoned Record: แพตช์ที่พลาดเปิดช่อง SQL Injection สู่ Heap Overflow ระดับวิกฤต รายงานใหม่เผยว่า Exim 4.99 ยังมีช่องโหว่ลึกที่ไม่ได้รับการแก้ไขจากแพตช์ก่อนหน้า ทำให้ SQL injection ผ่านระบบ ratelimit สามารถนำไปสู่ heap overflow ขนาดใหญ่ถึง 1.5MB ซึ่งอาจเปิดทางสู่ RCE แม้ยังไม่ยืนยันเต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้เกิดจากการ sanitize คีย์ฐานข้อมูลไม่ครบถ้วนและการอ่านค่า bloom_size โดยไม่ตรวจสอบ ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถวาง “ระเบิดเวลา” ในฐานข้อมูลและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มหรือถูกควบคุมได้ในบางเงื่อนไข 🔗 https://securityonline.info/exims-poisoned-record-how-a-failed-patch-and-sql-injection-lead-to-critical-heap-overflows 🖥️ HPE OneView RCE: ช่องโหว่ CVSS 10.0 เปิดประตูให้รันคำสั่งโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่ร้ายแรงใน HPE OneView (CVE-2025-37164) เปิดให้ผู้โจมตีเรียกใช้ API ลับ /rest/id-pools/executeCommand ที่ตั้งค่าเป็น NO_AUTH ทำให้สามารถส่งคำสั่งระบบผ่าน Runtime.exec ได้ทันที นักวิจัยพบว่าเฉพาะบางเวอร์ชัน—โดยเฉพาะ OneView for VMs 6.x และ OneView for Synergy—ได้รับผลกระทบเต็มรูปแบบ และมี PoC พร้อมใช้งานแล้ว ทำให้ผู้ดูแลต้องเร่งอัปเดตหรือใช้ hotfix โดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/poc-available-unauthenticated-hpe-oneview-rce-cvss-10-0-exploits-hidden-id-pools-api 🕶️ Meta พลิกทิศ: หยุดพาร์ตเนอร์ VR เพื่อทุ่มทรัพยากรสู่แว่น AI Meta ตัดสินใจ “พัก” โครงการเปิด Horizon OS ให้ผู้ผลิตรายอื่น เช่น ASUS และ Lenovo หลังพบว่าทิศทางตลาด VR ยังไม่ชัดเจน ขณะที่แว่นอัจฉริยะอย่าง Ray-Ban Meta กลับเติบโตแรง บริษัทจึงหันไปโฟกัสฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของตัวเอง โดยเฉพาะสาย AI glasses และโปรเจกต์ Orion ซึ่งอาจเป็นเส้นทางสู่การใช้งานจริงในวงกว้างมากกว่า VR แบบเดิม 🔗 https://securityonline.info/vr-vision-shift-meta-pauses-third-party-partnerships-to-pivot-toward-ai-smart-glasses 🐺 Kimwolf Botnet: กองทัพ IoT 1.8 ล้านเครื่องที่ยิงทราฟฟิกแซง Google บอตเน็ต Kimwolf ที่โจมตีอุปกรณ์ Android TV และกล่องรับสัญญาณกว่า 1.8 ล้านเครื่องทั่วโลก ถูกพบว่าส่งคำสั่ง DDoS มากถึง 1.7 พันล้านครั้งในช่วงไม่กี่วัน ทำให้โดเมน C2 ของมันขึ้นอันดับหนึ่งบน Cloudflare DNS แซง Google ชั่วคราว มัลแวร์นี้ไม่เพียงยิง DDoS แต่ยังมี reverse shell และ proxy forwarding ทำให้ผู้โจมตีใช้เป็นฐานปฏิบัติการขยายผลได้อย่างกว้างขวาง 🔗 https://securityonline.info/the-wolf-among-tvs-1-8-million-strong-kimwolf-botnet-surpasses-google-traffic-to-rule-the-iot ⚡ Windows Server 2025 ปลดล็อก NVMe Native I/O เร็วขึ้น 70% ลดโหลด CPU เกือบครึ่ง Microsoft เปิดใช้ Native NVMe I/O ใน Windows Server 2025 ซึ่งตัดชั้นแปลคำสั่ง SCSI/SATA ออก ทำให้ IOPS เพิ่มขึ้นสูงสุด 70% และลด CPU load ได้ถึง 45% ในงาน I/O หนัก โดยเฉพาะฐานข้อมูลและงาน AI แม้ผลลัพธ์ในชุมชนยังหลากหลาย แต่การออกแบบ pipeline ใหม่ทั้งหมดบ่งชี้ว่าระบบที่ใช้ SSD PCIe 5.0 จะได้ประโยชน์สูงสุด 🔗 https://securityonline.info/the-end-of-scsi-windows-server-2025-unlocks-70-faster-storage-with-native-nvme-i-o 🕵️‍♂️ The $100M Stalker: เครือข่าย Nefilim ล่ม—แก๊ง Big Game Hunting สารภาพผิด คดีใหญ่ของกลุ่มแรนซัมแวร์ Nefilim เดินหน้าเข้าสู่ตอนสำคัญเมื่อ Artem Stryzhak แฮ็กเกอร์ชาวยูเครนยอมรับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตีองค์กรรายได้เกิน 100–200 ล้านดอลลาร์ โดยใช้โมเดลแบ่งกำไรและระบบ “panel” ในการจัดการเหยื่อ พร้อมใช้กลยุทธ์ double extortion ขโมยข้อมูลก่อนล็อกไฟล์ ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ยังล่าตัวหัวโจกอีกคนพร้อมตั้งค่าหัว 11 ล้านดอลลาร์ สะท้อนความซับซ้อนและความระแวงภายในโลกอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังถูกบีบเข้ามาเรื่อย ๆ 🔗 https://securityonline.info/the-100m-stalker-nefilim-ransomware-affiliate-pleads-guilty-as-doj-hunts-fugitive-leader ☎️ Microsoft ปิดฉาก Telephone Activation—เข้าสู่ยุคยืนยันสิทธิ์ผ่านเว็บเต็มรูปแบบ ไมโครซอฟท์ยุติระบบโทรศัพท์สำหรับการ Activate Windows/Office ที่เคยเป็นทางเลือกสำคัญในสภาพแวดล้อมออฟไลน์ โดยผู้ใช้ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังพอร์ทัลออนไลน์แทน แม้ยังไม่ชัดเจนว่าการคำนวณ Activation ID แบบออฟไลน์ถูกยกเลิกจริงหรือเพียงย้ายไปอยู่บนเว็บ แต่การเปลี่ยนผ่านนี้อาจกระทบองค์กรที่ต้องการระบบ Activate แบบไม่พึ่งอินเทอร์เน็ต และสะท้อนทิศทางใหม่ที่เน้นการควบคุมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/hang-up-the-phone-microsoft-retires-telephone-activation-for-an-online-portal 🤖 OpenAI เปิดสไลเดอร์ปรับ “อารมณ์” ChatGPT—ยุติภาพลักษณ์หุ่นยนต์ OpenAI ปรับประสบการณ์ใช้งาน ChatGPT ครั้งใหญ่ด้วยตัวเลือกปรับโทนเสียง อารมณ์ การใช้หัวข้อ/ลิสต์ และจำนวนอีโมจิ เพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้มองว่า GPT-5 เย็นชาเกินไปหรือบางครั้งก็ประจบเกินเหตุ การเปิดให้ผู้ใช้ควบคุมบุคลิกของโมเดลเองสะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากโมเดลกลางสู่ประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/the-end-of-robotic-ai-openai-unlocks-sliders-to-control-chatgpts-warmth-and-tone ⚠️ n8n เจอช่องโหว่ CVSS 10.0—Expression Injection พาไปสู่ยึดเซิร์ฟเวอร์เต็มตัว แพลตฟอร์ม workflow automation ยอดนิยม n8n เผชิญช่องโหว่ร้ายแรงระดับ 10.0 ที่เปิดทางให้ผู้ใช้ที่ล็อกอินได้สามารถฉีดโค้ดผ่านระบบ Expression Evaluation และหลุดออกจาก sandbox ไปสั่งคำสั่งระดับระบบปฏิบัติการ ส่งผลให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูล แก้ไข workflow หรือยึดเครื่องแม่ข่ายได้ทันที ผู้ดูแลระบบถูกเร่งให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.122.0 โดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/n8n-under-fire-critical-cvss-10-0-rce-vulnerability-grants-total-server-access 🔐 Device Code Phishing: แฮ็กเกอร์ใช้ฟีเจอร์จริงของ Microsoft 365 เพื่อยึดบัญชี แคมเปญโจมตีรูปแบบใหม่ใช้ “Device Code” ซึ่งเป็นฟีเจอร์จริงของ Microsoft OAuth 2.0 หลอกให้เหยื่อกรอกรหัสบนเว็บ Microsoft ที่ถูกต้อง ทำให้แอปของผู้โจมตีได้รับสิทธิ์เข้าถึงบัญชีโดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน วิธีนี้หลบการตรวจสอบ URL ปลอมได้อย่างแนบเนียน และถูกใช้โดยทั้งกลุ่มรัฐหนุนและอาชญากรไซเบอร์เพื่อยึดบัญชีองค์กรในวงกว้าง ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/hackers-abuse-device-codes-to-bypass-security-and-seize-microsoft-365-accounts
    0 Comments 0 Shares 332 Views 0 Reviews
  • Gemini 3 Pro แซง 2.5 Pro ใน Pokémon Crystal: จุดเปลี่ยนของ “Spatial AI”

    การทดสอบของ Joel แสดงให้เห็นความแตกต่างเชิงคุณภาพระหว่าง Gemini 3 Pro และ Gemini 2.5 Pro เมื่อให้ทั้งสองรุ่นเล่น Pokémon Crystal ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน จุดที่น่าสนใจคือ แม้ทั้งคู่จะเริ่มเกมได้ใกล้เคียงกัน แต่ 3 Pro ค่อยๆ เปิดระยะห่างด้วยความสามารถด้านการรับรู้พื้นที่ การวางแผนล่วงหน้า และการจัดการงานหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งเป็นทักษะที่ 2.5 Pro ยังทำได้ไม่ดีพอ

    ในช่วงต้นเกม ทั้งสองโมเดลผ่านเส้นทางและด่านต่างๆ ได้ใกล้เคียงกัน แต่ 3 Pro ใช้เส้นทางที่มีประสิทธิภาพกว่า ลดการเดินหลงและลดการวนซ้ำโดยไม่จำเป็น เมื่อถึงช่วงสู้กับ Whitney ซึ่งเป็นจุดที่มักทำให้ผู้เล่นต้องฟาร์มเลเวลเพิ่ม 3 Pro กลับจัดการทรัพยากรและการต่อสู้ได้เฉียบคมกว่า ทำให้ผ่านด่านนี้ได้เร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัด

    จุดที่ทำให้ 3 Pro ทิ้งห่างจริงๆ คือ Olivine Lighthouse และ Goldenrod Underground ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องใช้การนำทางแบบซับซ้อนและการแก้ปริศนาแบบไม่มี “safety net” 3 Pro สามารถแบ่งแผนที่เป็นส่วนๆ ทำ marker-aware navigation และวางแผนล่วงหน้าได้หลายก้าว ขณะที่ 2.5 Pro มักติดลูปหรือเดินผิดซ้ำๆ

    ท้ายที่สุด ในการทดสอบ “Final Exam: Red” ซึ่งเป็นบอสที่ยากที่สุดของเกม 3 Pro แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้าน vision และการวิเคราะห์สถานการณ์แบบเรียลไทม์ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน แม้จะยังมีจุดอ่อนบางอย่าง แต่ภาพรวมคือ 3 Pro เป็นก้าวกระโดดด้าน “agentic gameplay” ที่เริ่มเข้าใกล้ความสามารถของผู้เล่นมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Gemini 3 Pro มีความเข้าใจพื้นที่เหนือกว่า
    แบ่งแผนที่เป็นโซนและนำทางได้แม่นยำ
    ลดการเดินหลงและลดลูปซ้ำๆ

    การวางแผนล่วงหน้าและการจัดการงานหลายอย่างดีขึ้น
    ควบคุมการฟาร์มเลเวลและการต่อสู้ได้มีประสิทธิภาพ
    ทำ marker-aware navigation ได้จริงในเกม

    ผ่านด่านซับซ้อนได้ดีกว่า 2.5 Pro
    Olivine Lighthouse และ Goldenrod Underground เป็นจุดที่เห็นความต่างชัด
    ใช้กลยุทธ์แบบผู้เล่นมนุษย์มากขึ้น

    จุดอ่อนที่ยังพบใน Gemini 3 Pro
    ยังมีบางสถานการณ์ที่ติดลูปหรืออ่านบริบทผิด
    การวางแผนบางครั้งยังไม่เสถียรในพื้นที่ที่มีตัวแปรสูง

    ความเสี่ยงของการพึ่งพา Vision Model ในเกมจริง
    หากสภาพภาพไม่ชัดหรือมี noise อาจทำให้ตัดสินใจผิด
    เกมที่มี UI ซับซ้อนกว่านี้อาจทำให้โมเดลสับสนได้

    https://blog.jcz.dev/gemini-3-pro-vs-25-pro-in-pokemon-crystal
    🎮 Gemini 3 Pro แซง 2.5 Pro ใน Pokémon Crystal: จุดเปลี่ยนของ “Spatial AI” การทดสอบของ Joel แสดงให้เห็นความแตกต่างเชิงคุณภาพระหว่าง Gemini 3 Pro และ Gemini 2.5 Pro เมื่อให้ทั้งสองรุ่นเล่น Pokémon Crystal ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน จุดที่น่าสนใจคือ แม้ทั้งคู่จะเริ่มเกมได้ใกล้เคียงกัน แต่ 3 Pro ค่อยๆ เปิดระยะห่างด้วยความสามารถด้านการรับรู้พื้นที่ การวางแผนล่วงหน้า และการจัดการงานหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งเป็นทักษะที่ 2.5 Pro ยังทำได้ไม่ดีพอ ในช่วงต้นเกม ทั้งสองโมเดลผ่านเส้นทางและด่านต่างๆ ได้ใกล้เคียงกัน แต่ 3 Pro ใช้เส้นทางที่มีประสิทธิภาพกว่า ลดการเดินหลงและลดการวนซ้ำโดยไม่จำเป็น เมื่อถึงช่วงสู้กับ Whitney ซึ่งเป็นจุดที่มักทำให้ผู้เล่นต้องฟาร์มเลเวลเพิ่ม 3 Pro กลับจัดการทรัพยากรและการต่อสู้ได้เฉียบคมกว่า ทำให้ผ่านด่านนี้ได้เร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัด จุดที่ทำให้ 3 Pro ทิ้งห่างจริงๆ คือ Olivine Lighthouse และ Goldenrod Underground ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องใช้การนำทางแบบซับซ้อนและการแก้ปริศนาแบบไม่มี “safety net” 3 Pro สามารถแบ่งแผนที่เป็นส่วนๆ ทำ marker-aware navigation และวางแผนล่วงหน้าได้หลายก้าว ขณะที่ 2.5 Pro มักติดลูปหรือเดินผิดซ้ำๆ ท้ายที่สุด ในการทดสอบ “Final Exam: Red” ซึ่งเป็นบอสที่ยากที่สุดของเกม 3 Pro แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้าน vision และการวิเคราะห์สถานการณ์แบบเรียลไทม์ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน แม้จะยังมีจุดอ่อนบางอย่าง แต่ภาพรวมคือ 3 Pro เป็นก้าวกระโดดด้าน “agentic gameplay” ที่เริ่มเข้าใกล้ความสามารถของผู้เล่นมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Gemini 3 Pro มีความเข้าใจพื้นที่เหนือกว่า ➡️ แบ่งแผนที่เป็นโซนและนำทางได้แม่นยำ ➡️ ลดการเดินหลงและลดลูปซ้ำๆ ✅ การวางแผนล่วงหน้าและการจัดการงานหลายอย่างดีขึ้น ➡️ ควบคุมการฟาร์มเลเวลและการต่อสู้ได้มีประสิทธิภาพ ➡️ ทำ marker-aware navigation ได้จริงในเกม ✅ ผ่านด่านซับซ้อนได้ดีกว่า 2.5 Pro ➡️ Olivine Lighthouse และ Goldenrod Underground เป็นจุดที่เห็นความต่างชัด ➡️ ใช้กลยุทธ์แบบผู้เล่นมนุษย์มากขึ้น ‼️ จุดอ่อนที่ยังพบใน Gemini 3 Pro ⛔ ยังมีบางสถานการณ์ที่ติดลูปหรืออ่านบริบทผิด ⛔ การวางแผนบางครั้งยังไม่เสถียรในพื้นที่ที่มีตัวแปรสูง ‼️ ความเสี่ยงของการพึ่งพา Vision Model ในเกมจริง ⛔ หากสภาพภาพไม่ชัดหรือมี noise อาจทำให้ตัดสินใจผิด ⛔ เกมที่มี UI ซับซ้อนกว่านี้อาจทำให้โมเดลสับสนได้ https://blog.jcz.dev/gemini-3-pro-vs-25-pro-in-pokemon-crystal
    BLOG.JCZ.DEV
    How Gemini 3 Pro Beat Pokemon Crystal (and 2.5 Pro didn't)
    From 2.5 Pro's lighthouse loop to 3 Pro's "Zombie Phoenix" strategy against Red: a full breakdown of why Gemini 3 Pro is a superior long-horizon agent.
    0 Comments 0 Shares 130 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/sKKTAoBACus?si=-z2P3flVqfPaUB1h
    https://youtu.be/sKKTAoBACus?si=-z2P3flVqfPaUB1h
    0 Comments 0 Shares 23 Views 0 Reviews
  • Logging Sucks: ทำไม Log ของคุณถึง “โกหก” — และวิธีแก้ด้วย Wide Events

    บทความนี้ของ Boris Tane เป็นการ “เขย่าวงการ Observability” แบบตรงไปตรงมา เขาชี้ให้เห็นว่าระบบ Logging แบบดั้งเดิมที่องค์กรส่วนใหญ่ใช้อยู่ในปี 2025 นั้นล้าสมัยเกินไปสำหรับระบบ distributed ที่ซับซ้อนในยุค microservices และ cloud-native ความจริงคือ log ส่วนใหญ่ “ไม่ได้โกหกโดยตั้งใจ” แต่เพราะมันถูกออกแบบมาสำหรับยุคที่ระบบมีเพียงเซิร์ฟเวอร์เดียวและ request flow ง่ายกว่ามาก

    ปัญหาหลักคือ log แบบเก่าเน้น “เขียนง่าย” มากกว่า “ค้นหาได้จริง” ทำให้เมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญ เช่น checkout ล้มเหลว หรือ latency พุ่งขึ้นตอนตีสาม ทีม DevOps ต้อง grep หานรกแตกเป็นหมื่นบรรทัดโดยไม่เจอ context ที่ต้องการ เพราะ log กระจัดกระจาย ขาดโครงสร้าง และไม่สื่อความหมายเชิงธุรกิจที่แท้จริง

    Boris เสนอแนวคิด “Wide Events” หรือ “Canonical Log Line” ซึ่งเป็นการเปลี่ยนมุมมองจากการ log เป็นชิ้นเล็ก ๆ หลายบรรทัด ไปสู่การสร้าง “หนึ่ง event ต่อหนึ่ง request” ที่รวมทุก context ที่จำเป็น เช่น user, subscription tier, payment provider, feature flags, latency breakdown, error code ฯลฯ วิธีนี้ทำให้ log กลายเป็นข้อมูลเชิงวิเคราะห์ (analytics-grade data) ที่ตอบคำถามเชิงธุรกิจได้ทันที เช่น “ทำไม premium users checkout fail มากขึ้น?” หรือ “feature flag ใหม่ทำให้ error rate เพิ่มหรือไม่?”

    บทความยังชี้ให้เห็นว่า OpenTelemetry ไม่ใช่ยาวิเศษ เพราะมันเป็นเพียง plumbing — ถ้าไม่ใส่ context ที่ถูกต้องลงไป ก็ยังได้ telemetry ที่ไร้ประโยชน์เหมือนเดิม การแก้ปัญหาที่แท้จริงคือการออกแบบ event ให้ “กว้างพอ” และใช้ tail-based sampling เพื่อควบคุมต้นทุนโดยไม่เสียข้อมูลสำคัญ เช่น error, slow requests หรือ VIP users

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ปัญหาของ Logging แบบเดิม
    Log กระจัดกระจาย ขาด context ที่จำเป็น
    String search ใช้ไม่ได้ผลในระบบ distributed

    แนวคิด Wide Events / Canonical Log Line
    หนึ่ง event ต่อหนึ่ง request พร้อม context ครบถ้วน
    เปลี่ยน log จาก “ข้อความ” เป็น “ข้อมูลวิเคราะห์ได้”

    ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย
    Structured logging ≠ Wide events
    OpenTelemetry ไม่ได้แก้ปัญหาให้เองถ้าไม่ใส่ context

    สิ่งที่ต้องระวังในการใช้งานจริง
    High-cardinality fields อาจทำให้ระบบเก่า choke
    Random sampling เสี่ยงทำให้ error สำคัญหายไป

    https://loggingsucks.com/
    🧨 Logging Sucks: ทำไม Log ของคุณถึง “โกหก” — และวิธีแก้ด้วย Wide Events บทความนี้ของ Boris Tane เป็นการ “เขย่าวงการ Observability” แบบตรงไปตรงมา เขาชี้ให้เห็นว่าระบบ Logging แบบดั้งเดิมที่องค์กรส่วนใหญ่ใช้อยู่ในปี 2025 นั้นล้าสมัยเกินไปสำหรับระบบ distributed ที่ซับซ้อนในยุค microservices และ cloud-native ความจริงคือ log ส่วนใหญ่ “ไม่ได้โกหกโดยตั้งใจ” แต่เพราะมันถูกออกแบบมาสำหรับยุคที่ระบบมีเพียงเซิร์ฟเวอร์เดียวและ request flow ง่ายกว่ามาก ปัญหาหลักคือ log แบบเก่าเน้น “เขียนง่าย” มากกว่า “ค้นหาได้จริง” ทำให้เมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญ เช่น checkout ล้มเหลว หรือ latency พุ่งขึ้นตอนตีสาม ทีม DevOps ต้อง grep หานรกแตกเป็นหมื่นบรรทัดโดยไม่เจอ context ที่ต้องการ เพราะ log กระจัดกระจาย ขาดโครงสร้าง และไม่สื่อความหมายเชิงธุรกิจที่แท้จริง Boris เสนอแนวคิด “Wide Events” หรือ “Canonical Log Line” ซึ่งเป็นการเปลี่ยนมุมมองจากการ log เป็นชิ้นเล็ก ๆ หลายบรรทัด ไปสู่การสร้าง “หนึ่ง event ต่อหนึ่ง request” ที่รวมทุก context ที่จำเป็น เช่น user, subscription tier, payment provider, feature flags, latency breakdown, error code ฯลฯ วิธีนี้ทำให้ log กลายเป็นข้อมูลเชิงวิเคราะห์ (analytics-grade data) ที่ตอบคำถามเชิงธุรกิจได้ทันที เช่น “ทำไม premium users checkout fail มากขึ้น?” หรือ “feature flag ใหม่ทำให้ error rate เพิ่มหรือไม่?” บทความยังชี้ให้เห็นว่า OpenTelemetry ไม่ใช่ยาวิเศษ เพราะมันเป็นเพียง plumbing — ถ้าไม่ใส่ context ที่ถูกต้องลงไป ก็ยังได้ telemetry ที่ไร้ประโยชน์เหมือนเดิม การแก้ปัญหาที่แท้จริงคือการออกแบบ event ให้ “กว้างพอ” และใช้ tail-based sampling เพื่อควบคุมต้นทุนโดยไม่เสียข้อมูลสำคัญ เช่น error, slow requests หรือ VIP users 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ปัญหาของ Logging แบบเดิม ➡️ Log กระจัดกระจาย ขาด context ที่จำเป็น ➡️ String search ใช้ไม่ได้ผลในระบบ distributed ✅ แนวคิด Wide Events / Canonical Log Line ➡️ หนึ่ง event ต่อหนึ่ง request พร้อม context ครบถ้วน ➡️ เปลี่ยน log จาก “ข้อความ” เป็น “ข้อมูลวิเคราะห์ได้” ‼️ ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย ⛔ Structured logging ≠ Wide events ⛔ OpenTelemetry ไม่ได้แก้ปัญหาให้เองถ้าไม่ใส่ context ‼️ สิ่งที่ต้องระวังในการใช้งานจริง ⛔ High-cardinality fields อาจทำให้ระบบเก่า choke ⛔ Random sampling เสี่ยงทำให้ error สำคัญหายไป https://loggingsucks.com/
    LOGGINGSUCKS.COM
    Logging Sucks - Your Logs Are Lying To You
    Why traditional logging fails and how wide events can fix your observability
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • Ventoy 1.1.10 เปิดตัว: รองรับ AerynOS พร้อมยกระดับประสบการณ์ Multiboot บน Linux

    Ventoy 1.1.10 มาถึงพร้อมการอัปเดตสำคัญที่ทำให้เครื่องมือ multiboot ยอดนิยมนี้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการรองรับ AerynOS ซึ่งเป็นดิสโทรรุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจในชุมชนโอเพ่นซอร์ส การรองรับนี้สะท้อนให้เห็นว่า Ventoy ยังคงเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบดิสโทรจำนวนมากโดยไม่ต้องเขียน USB ใหม่ทุกครั้ง

    การอัปเดตครั้งนี้ยังมาพร้อมการปรับปรุงการบูตบนระบบไฟล์ EXT4 ซึ่งเป็นฟอร์แมตที่ดิสโทร Linux ส่วนใหญ่ใช้เป็นค่าเริ่มต้น การแก้ไขนี้ช่วยลดปัญหาบูตไม่ขึ้นหรือโหลดเคอร์เนลผิดพลาดที่เคยเกิดในบางรุ่นของดิสโทร ทำให้ Ventoy กลายเป็นเครื่องมือที่เสถียรขึ้นสำหรับงานทดสอบระบบ, recovery, และ deployment ในองค์กร

    อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือการปรับปรุง Wayland support สำหรับ Ventoy LinuxGUI ซึ่งเป็นสัญญาณว่าทีมพัฒนา Ventoyกำลังเดินหน้าให้ GUI ของตนเข้ากันได้กับอนาคตของ Linux Desktop ที่กำลังเปลี่ยนผ่านจาก X11 ไปสู่ Wayland อย่างเต็มรูปแบบ การรองรับนี้ช่วยให้ผู้ใช้เดสก์ท็อปสมัยใหม่ เช่น GNOME, KDE Plasma 6 และ COSMIC สามารถใช้งาน Ventoy GUI ได้อย่างราบรื่นขึ้น

    ในภาพรวม Ventoy 1.1.10 เป็นการอัปเดตที่แม้จะดูเล็ก แต่มีผลกระทบเชิงโครงสร้างต่อผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานด้านไอที, นักทดสอบดิสโทร, และผู้ดูแลระบบที่ต้องการเครื่องมือ multiboot ที่เชื่อถือได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ไฮไลต์ของ Ventoy 1.1.10
    รองรับ AerynOS อย่างเป็นทางการ
    ปรับปรุงการบูตบน EXT4 ให้เสถียรขึ้น

    การพัฒนา GUI บน Wayland
    Ventoy LinuxGUI ทำงานได้ดีขึ้นบน Wayland
    รองรับเดสก์ท็อปยุคใหม่ เช่น GNOME และ KDE Plasma

    ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง
    ดิสโทรบางตัวอาจยังต้องการ compatibility tweaks
    การบูตบนฮาร์ดแวร์เก่าอาจยังมีปัญหาในบางกรณี

    คำแนะนำสำหรับผู้ใช้
    อัปเดต Ventoy USB ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดก่อนใช้งาน
    ทดสอบ ISO หลายตัวก่อนใช้งานจริงในงาน production

    https://9to5linux.com/ventoy-1-1-10-bootable-usb-creator-released-with-support-for-aerynos
    🧰 Ventoy 1.1.10 เปิดตัว: รองรับ AerynOS พร้อมยกระดับประสบการณ์ Multiboot บน Linux Ventoy 1.1.10 มาถึงพร้อมการอัปเดตสำคัญที่ทำให้เครื่องมือ multiboot ยอดนิยมนี้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการรองรับ AerynOS ซึ่งเป็นดิสโทรรุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจในชุมชนโอเพ่นซอร์ส การรองรับนี้สะท้อนให้เห็นว่า Ventoy ยังคงเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบดิสโทรจำนวนมากโดยไม่ต้องเขียน USB ใหม่ทุกครั้ง การอัปเดตครั้งนี้ยังมาพร้อมการปรับปรุงการบูตบนระบบไฟล์ EXT4 ซึ่งเป็นฟอร์แมตที่ดิสโทร Linux ส่วนใหญ่ใช้เป็นค่าเริ่มต้น การแก้ไขนี้ช่วยลดปัญหาบูตไม่ขึ้นหรือโหลดเคอร์เนลผิดพลาดที่เคยเกิดในบางรุ่นของดิสโทร ทำให้ Ventoy กลายเป็นเครื่องมือที่เสถียรขึ้นสำหรับงานทดสอบระบบ, recovery, และ deployment ในองค์กร อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือการปรับปรุง Wayland support สำหรับ Ventoy LinuxGUI ซึ่งเป็นสัญญาณว่าทีมพัฒนา Ventoyกำลังเดินหน้าให้ GUI ของตนเข้ากันได้กับอนาคตของ Linux Desktop ที่กำลังเปลี่ยนผ่านจาก X11 ไปสู่ Wayland อย่างเต็มรูปแบบ การรองรับนี้ช่วยให้ผู้ใช้เดสก์ท็อปสมัยใหม่ เช่น GNOME, KDE Plasma 6 และ COSMIC สามารถใช้งาน Ventoy GUI ได้อย่างราบรื่นขึ้น ในภาพรวม Ventoy 1.1.10 เป็นการอัปเดตที่แม้จะดูเล็ก แต่มีผลกระทบเชิงโครงสร้างต่อผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานด้านไอที, นักทดสอบดิสโทร, และผู้ดูแลระบบที่ต้องการเครื่องมือ multiboot ที่เชื่อถือได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ไฮไลต์ของ Ventoy 1.1.10 ➡️ รองรับ AerynOS อย่างเป็นทางการ ➡️ ปรับปรุงการบูตบน EXT4 ให้เสถียรขึ้น ✅ การพัฒนา GUI บน Wayland ➡️ Ventoy LinuxGUI ทำงานได้ดีขึ้นบน Wayland ➡️ รองรับเดสก์ท็อปยุคใหม่ เช่น GNOME และ KDE Plasma ‼️ ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง ⛔ ดิสโทรบางตัวอาจยังต้องการ compatibility tweaks ⛔ การบูตบนฮาร์ดแวร์เก่าอาจยังมีปัญหาในบางกรณี ‼️ คำแนะนำสำหรับผู้ใช้ ⛔ อัปเดต Ventoy USB ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดก่อนใช้งาน ⛔ ทดสอบ ISO หลายตัวก่อนใช้งานจริงในงาน production https://9to5linux.com/ventoy-1-1-10-bootable-usb-creator-released-with-support-for-aerynos
    9TO5LINUX.COM
    Ventoy 1.1.10 Bootable USB Creator Released with Support for AerynOS - 9to5Linux
    Ventoy 1.1.10 open-source bootable USB solution is now available for download with support for AerynOS and other improvements.
    0 Comments 0 Shares 115 Views 0 Reviews
  • Linux Gaming พุ่งแรงรับปลายปี: 13 เกมเด่นใน Steam Winter Sale ที่คอ Linux ไม่ควรพลาด

    Steam Winter Sale ปี 2025 กลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของวงการเกมบน Linux เพราะจำนวนเกมที่รองรับ Proton และ Steam Deck เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้ Linux สามารถเข้าถึงเกมระดับ AAA ได้มากกว่ายุคก่อนหลายเท่า รายชื่อเกมที่ถูกคัดมาบนหน้าเว็บนี้สะท้อนภาพรวมของ ecosystem ที่โตขึ้นอย่างชัดเจน ตั้งแต่เกมอินดี้ราคาประหยัดไปจนถึงเกมฟอร์มยักษ์ที่เคยเป็นไปไม่ได้สำหรับ Linux เมื่อหลายปีก่อน

    สิ่งที่โดดเด่นคือเกมหลากหลายแนว ทั้ง RPG, Survival Horror, Extraction Shooter, Sandbox และ Adventure ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับสถานะ Verified บน Steam Deck แสดงให้เห็นว่าการปรับแต่ง compatibility layer อย่าง Proton ทำงานได้ดีขึ้นมาก นอกจากนี้ เกมอย่าง Dying Light, The Last of Us Part I และ Metal Gear Solid Δ ยังเป็นตัวอย่างของเกมที่แม้ไม่รองรับ Linux แบบ native แต่ก็เล่นได้ดีผ่าน Proton ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเลือกเกมตามระบบปฏิบัติการอีกต่อไปเหมือนในอดีต

    อีกเทรนด์ที่น่าสนใจคือเกมอินดี้คุณภาพสูง เช่น Tiny Glade, R.E.P.O., และ Escape From Duckov ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในชุมชน Linux เพราะราคาเข้าถึงง่ายและรองรับ Steam Deck ได้ดี การเติบโตของเกมอินดี้สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างขึ้นสำหรับนักพัฒนาเล็ก ๆ ที่ไม่ต้องพึ่ง engine หรือระบบ DRM ที่ผูกกับ Windows แบบเดิม ๆ

    ท้ายที่สุด รายการนี้ยังชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้ Linux มีตัวเลือกมากขึ้นกว่าเดิมมาก ทั้งเกม native และเกมที่เล่นผ่าน Proton โดยมีส่วนลดแรงในช่วง Winter Sale ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการขยายคลังเกมของผู้ใช้ Linux โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใช้ Steam Deck หรือเครื่อง Linux แบบ custom build

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เทรนด์ Linux Gaming ปี 2025
    Proton และ Steam Deck ทำให้เกม AAA เล่นได้ง่ายขึ้น
    เกมอินดี้คุณภาพสูงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

    เกมเด่นที่ลดราคาแรง
    The Last of Us Part I, Dying Light, Expedition 33 ลดสูงสุดถึง 50–85%
    เกม native Linux เช่น Tiny Glade และ Dying Light (ภาคแรก) ทำงานได้ดีมาก

    ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง
    เกมบางเกมยังเป็น “Unsupported” บน Steam Deck เช่น Mafia: The Old Country และ MGS Δ
    ประสบการณ์การเล่นอาจขึ้นกับเวอร์ชัน Proton และสเปกเครื่อง

    คำแนะนำก่อนซื้อ
    ตรวจสอบ ProtonDB ก่อนซื้อเกม AAA
    อัปเดต SteamOS/Proton ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อความเสถียร

    https://itsfoss.com/news/linux-games-steam-winter-sale-2025/
    🎮 Linux Gaming พุ่งแรงรับปลายปี: 13 เกมเด่นใน Steam Winter Sale ที่คอ Linux ไม่ควรพลาด Steam Winter Sale ปี 2025 กลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของวงการเกมบน Linux เพราะจำนวนเกมที่รองรับ Proton และ Steam Deck เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้ Linux สามารถเข้าถึงเกมระดับ AAA ได้มากกว่ายุคก่อนหลายเท่า รายชื่อเกมที่ถูกคัดมาบนหน้าเว็บนี้สะท้อนภาพรวมของ ecosystem ที่โตขึ้นอย่างชัดเจน ตั้งแต่เกมอินดี้ราคาประหยัดไปจนถึงเกมฟอร์มยักษ์ที่เคยเป็นไปไม่ได้สำหรับ Linux เมื่อหลายปีก่อน สิ่งที่โดดเด่นคือเกมหลากหลายแนว ทั้ง RPG, Survival Horror, Extraction Shooter, Sandbox และ Adventure ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับสถานะ Verified บน Steam Deck แสดงให้เห็นว่าการปรับแต่ง compatibility layer อย่าง Proton ทำงานได้ดีขึ้นมาก นอกจากนี้ เกมอย่าง Dying Light, The Last of Us Part I และ Metal Gear Solid Δ ยังเป็นตัวอย่างของเกมที่แม้ไม่รองรับ Linux แบบ native แต่ก็เล่นได้ดีผ่าน Proton ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเลือกเกมตามระบบปฏิบัติการอีกต่อไปเหมือนในอดีต อีกเทรนด์ที่น่าสนใจคือเกมอินดี้คุณภาพสูง เช่น Tiny Glade, R.E.P.O., และ Escape From Duckov ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในชุมชน Linux เพราะราคาเข้าถึงง่ายและรองรับ Steam Deck ได้ดี การเติบโตของเกมอินดี้สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างขึ้นสำหรับนักพัฒนาเล็ก ๆ ที่ไม่ต้องพึ่ง engine หรือระบบ DRM ที่ผูกกับ Windows แบบเดิม ๆ ท้ายที่สุด รายการนี้ยังชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้ Linux มีตัวเลือกมากขึ้นกว่าเดิมมาก ทั้งเกม native และเกมที่เล่นผ่าน Proton โดยมีส่วนลดแรงในช่วง Winter Sale ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการขยายคลังเกมของผู้ใช้ Linux โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใช้ Steam Deck หรือเครื่อง Linux แบบ custom build 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เทรนด์ Linux Gaming ปี 2025 ➡️ Proton และ Steam Deck ทำให้เกม AAA เล่นได้ง่ายขึ้น ➡️ เกมอินดี้คุณภาพสูงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ✅ เกมเด่นที่ลดราคาแรง ➡️ The Last of Us Part I, Dying Light, Expedition 33 ลดสูงสุดถึง 50–85% ➡️ เกม native Linux เช่น Tiny Glade และ Dying Light (ภาคแรก) ทำงานได้ดีมาก ‼️ ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง ⛔ เกมบางเกมยังเป็น “Unsupported” บน Steam Deck เช่น Mafia: The Old Country และ MGS Δ ⛔ ประสบการณ์การเล่นอาจขึ้นกับเวอร์ชัน Proton และสเปกเครื่อง ‼️ คำแนะนำก่อนซื้อ ⛔ ตรวจสอบ ProtonDB ก่อนซื้อเกม AAA ⛔ อัปเดต SteamOS/Proton ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อความเสถียร https://itsfoss.com/news/linux-games-steam-winter-sale-2025/
    ITSFOSS.COM
    13 Awesome Games Linux Users Can Grab in Steam Winter Sale 🎮 (Ends 5 January)
    End 2025 on a winning note by grabbing some fun games for your Linux gaming rig!
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • BlindEagle ยกระดับการโจมตี: ใช้อีเมลภายใน + Steganography + Caminho Downloader เจาะรัฐบาลโคลอมเบีย

    กลุ่ม BlindEagle (APT‑C‑36) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เล่นหลักด้านไซเบอร์สอดแนมในละตินอเมริกา ได้เปิดปฏิบัติการใหม่ที่ซับซ้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป้าหมายคือหน่วยงานภายใต้กระทรวงพาณิชย์ของโคลอมเบีย โดยใช้บัญชีอีเมลภายในที่ถูกยึดครองเพื่อหลอกระบบป้องกันขององค์กรให้เชื่อว่าเป็นการสื่อสารที่ถูกต้องตามปกติ การโจมตีครั้งนี้สะท้อนเทรนด์ใหญ่ของปี 2025 ที่กลุ่ม APT หันมาใช้ “trusted channel compromise” มากขึ้น เพราะสามารถหลบ SPF, DKIM, DMARC ได้อย่างแนบเนียน

    แคมเปญนี้เริ่มจากอีเมลปลอมที่อ้างว่าเป็นประกาศจากศาลแรงงานของโคลอมเบีย พร้อมแนบไฟล์ SVG ที่ดูไม่เป็นอันตราย แต่เมื่อเหยื่อคลิก ระบบจะพาไปยังเว็บปลอมที่เลียนแบบศาลจริง และดาวน์โหลด “ใบเสร็จ” ที่เป็นตัวจุดชนวนการโจมตีแบบ file‑less ประกอบด้วย JavaScript สามชุดและ PowerShell หนึ่งชุด ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อหลบการตรวจจับของ endpoint security รุ่นเก่าอย่างมีประสิทธิภาพ

    BlindEagle ยังใช้เทคนิค steganography ซ่อนโค้ดอันตรายในไฟล์ภาพที่ดาวน์โหลดจาก Internet Archive โดยซ่อน payload ไว้ระหว่าง BaseStart–BaseEnd ซึ่งเป็นเทคนิคที่กำลังกลับมาได้รับความนิยมในหมู่กลุ่ม APT เพราะ bypass ระบบตรวจจับ signature‑based ได้ดีมาก จากนั้นจึงดึง Caminho — downloader ที่คาดว่ามาจากตลาดใต้ดินบราซิล — เพื่อโหลด DCRAT จาก Discord CDN ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ผู้โจมตีใช้บริการ cloud ปกติเป็นโครงสร้างพื้นฐานโจมตี (legitimate‑service abuse)

    การผสานกันของ internal account compromise, steganography และ modular malware ทำให้ BlindEagle ก้าวสู่ระดับความซับซ้อนใหม่อย่างชัดเจน และสะท้อนว่ากลุ่มนี้กำลังขยายขีดความสามารถจากการโจมตีแบบ single‑payload ไปสู่ multi‑stage attack chain ที่ยืดหยุ่นกว่าเดิมอย่างมาก องค์กรในภูมิภาคละตินอเมริกาจึงต้องเตรียมรับมือกับภัยคุกคามที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วนี้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เทคนิคโจมตีที่ BlindEagle ใช้
    ใช้บัญชีอีเมลภายในที่ถูกยึดเพื่อหลบ SPF/DKIM/DMARC
    ส่งไฟล์ SVG ที่ redirect ไปเว็บปลอมของศาล

    โซ่การโจมตีแบบหลายชั้น
    JavaScript 3 ชุด + PowerShell 1 ชุดแบบ file‑less
    ใช้ steganography ซ่อนโค้ดในไฟล์ภาพจาก Internet Archive

    ความเสี่ยงระดับสูงต่อองค์กร
    การใช้ trusted internal accounts ทำให้ระบบตรวจจับแทบไม่ทำงาน
    Abuse Discord CDN เพื่อโหลด DCRAT ทำให้บล็อกยากขึ้น

    คำแนะนำเชิงปฏิบัติ
    ตรวจสอบบัญชีภายในที่มีพฤติกรรมผิดปกติอย่างเข้มงวด
    ปรับปรุง email security ให้ตรวจจับพฤติกรรม ไม่ใช่แค่ authentication

    https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia/
    🕵️‍♂️ BlindEagle ยกระดับการโจมตี: ใช้อีเมลภายใน + Steganography + Caminho Downloader เจาะรัฐบาลโคลอมเบีย กลุ่ม BlindEagle (APT‑C‑36) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เล่นหลักด้านไซเบอร์สอดแนมในละตินอเมริกา ได้เปิดปฏิบัติการใหม่ที่ซับซ้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป้าหมายคือหน่วยงานภายใต้กระทรวงพาณิชย์ของโคลอมเบีย โดยใช้บัญชีอีเมลภายในที่ถูกยึดครองเพื่อหลอกระบบป้องกันขององค์กรให้เชื่อว่าเป็นการสื่อสารที่ถูกต้องตามปกติ การโจมตีครั้งนี้สะท้อนเทรนด์ใหญ่ของปี 2025 ที่กลุ่ม APT หันมาใช้ “trusted channel compromise” มากขึ้น เพราะสามารถหลบ SPF, DKIM, DMARC ได้อย่างแนบเนียน แคมเปญนี้เริ่มจากอีเมลปลอมที่อ้างว่าเป็นประกาศจากศาลแรงงานของโคลอมเบีย พร้อมแนบไฟล์ SVG ที่ดูไม่เป็นอันตราย แต่เมื่อเหยื่อคลิก ระบบจะพาไปยังเว็บปลอมที่เลียนแบบศาลจริง และดาวน์โหลด “ใบเสร็จ” ที่เป็นตัวจุดชนวนการโจมตีแบบ file‑less ประกอบด้วย JavaScript สามชุดและ PowerShell หนึ่งชุด ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อหลบการตรวจจับของ endpoint security รุ่นเก่าอย่างมีประสิทธิภาพ BlindEagle ยังใช้เทคนิค steganography ซ่อนโค้ดอันตรายในไฟล์ภาพที่ดาวน์โหลดจาก Internet Archive โดยซ่อน payload ไว้ระหว่าง BaseStart–BaseEnd ซึ่งเป็นเทคนิคที่กำลังกลับมาได้รับความนิยมในหมู่กลุ่ม APT เพราะ bypass ระบบตรวจจับ signature‑based ได้ดีมาก จากนั้นจึงดึง Caminho — downloader ที่คาดว่ามาจากตลาดใต้ดินบราซิล — เพื่อโหลด DCRAT จาก Discord CDN ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ผู้โจมตีใช้บริการ cloud ปกติเป็นโครงสร้างพื้นฐานโจมตี (legitimate‑service abuse) การผสานกันของ internal account compromise, steganography และ modular malware ทำให้ BlindEagle ก้าวสู่ระดับความซับซ้อนใหม่อย่างชัดเจน และสะท้อนว่ากลุ่มนี้กำลังขยายขีดความสามารถจากการโจมตีแบบ single‑payload ไปสู่ multi‑stage attack chain ที่ยืดหยุ่นกว่าเดิมอย่างมาก องค์กรในภูมิภาคละตินอเมริกาจึงต้องเตรียมรับมือกับภัยคุกคามที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วนี้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เทคนิคโจมตีที่ BlindEagle ใช้ ➡️ ใช้บัญชีอีเมลภายในที่ถูกยึดเพื่อหลบ SPF/DKIM/DMARC ➡️ ส่งไฟล์ SVG ที่ redirect ไปเว็บปลอมของศาล ✅ โซ่การโจมตีแบบหลายชั้น ➡️ JavaScript 3 ชุด + PowerShell 1 ชุดแบบ file‑less ➡️ ใช้ steganography ซ่อนโค้ดในไฟล์ภาพจาก Internet Archive ‼️ ความเสี่ยงระดับสูงต่อองค์กร ⛔ การใช้ trusted internal accounts ทำให้ระบบตรวจจับแทบไม่ทำงาน ⛔ Abuse Discord CDN เพื่อโหลด DCRAT ทำให้บล็อกยากขึ้น ‼️ คำแนะนำเชิงปฏิบัติ ⛔ ตรวจสอบบัญชีภายในที่มีพฤติกรรมผิดปกติอย่างเข้มงวด ⛔ ปรับปรุง email security ให้ตรวจจับพฤติกรรม ไม่ใช่แค่ authentication https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia/
    SECURITYONLINE.INFO
    "Caminho" to Compromise: BlindEagle Hackers Hijack Government Emails in Colombia
    A notorious cyber-espionage group known for terrorizing South American institutions has launched a new campaign against the Colombian
    0 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
More Results