• 🎮 Matrox เปิดตัวการ์ดจอ Dual-GPU สำหรับงานแสดงผลระดับสูง
    Matrox ซึ่งเป็นผู้ผลิตการ์ดจอระดับมืออาชีพ ได้เปิดตัว LUMA Pro A380 Octal ซึ่งเป็นการ์ดจอแบบ Dual-GPU ที่สามารถรองรับ 8 หน้าจอ 5K หรือ 4 หน้าจอ 8K ได้พร้อมกัน!

    ✅ รายละเอียดของ Matrox LUMA Pro A380 Octal
    - ใช้ Intel Arc A380E GPUs จำนวน 2 ตัว
    - มี 8 พอร์ต Mini DisplayPort 2.0 รองรับการแสดงผลแบบ HDR และ Adaptive Sync
    - หน่วยความจำ GDDR6 ขนาด 12GB
    - ใช้พลังงาน 130W พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Active Cooling
    - รองรับ DirectX 12 Ultimate, OpenGL 4.6, Vulkan 1.3 และ OpenCL 3.0
    - สามารถ เชื่อมต่อการ์ด 2 ใบในระบบเดียว เพื่อให้การแสดงผลมีความต่อเนื่องและซิงโครไนซ์กัน

    ‼️ ข้อควรระวัง
    - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับราคาและวันวางจำหน่าย Matrox ระบุว่าเป็น "Coming Soon"
    - ต้องใช้พลังงานสูงถึง 130W อาจต้องมีระบบระบายความร้อนที่ดี
    - ต้องใช้พอร์ต Mini DisplayPort 2.0 ซึ่งอาจต้องมีอะแดปเตอร์สำหรับการเชื่อมต่อกับหน้าจอทั่วไป

    🔍 แนวโน้มของตลาดการ์ดจอสำหรับงานแสดงผล
    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีการแสดงผล
    - Intel กำลังพัฒนา GPU แบบ Dual-Chip ที่มีหน่วยความจำ 48GB สำหรับงาน AI และการแสดงผลระดับสูง
    - AMD และ Nvidia กำลังแข่งขันกันในตลาดการ์ดจอสำหรับงานมืออาชีพ โดยเน้นไปที่การรองรับ 50 ล้านพิกเซลต่อพอร์ต
    - ตลาดการ์ดจอสำหรับงานแสดงผลหลายหน้าจอเติบโตขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบันเทิงและการประชุม

    ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับตลาดการ์ดจอ
    - ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์ เนื่องจากบางโปรแกรมอาจไม่รองรับการ์ดจอแบบ Dual-GPU
    - ต้องมีระบบระบายความร้อนที่ดี เพื่อป้องกันความร้อนสะสมจากการใช้งานหนัก
    - ต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบหลายหน้าจอ ซึ่งอาจสูงกว่าการใช้การ์ดจอทั่วไป

    🌍 อนาคตของการ์ดจอสำหรับงานมืออาชีพ
    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่
    - Matrox อาจเปิดตัวรุ่นที่มีพอร์ต HDMI เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายขึ้น
    - Nvidia และ AMD กำลังพัฒนาเทคโนโลยีการแสดงผลแบบ AI-Enhanced เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของภาพและวิดีโอ
    - ตลาดการ์ดจอสำหรับงานมืออาชีพอาจเติบโตขึ้น เนื่องจากความต้องการด้านการแสดงผลที่ซับซ้อนมากขึ้น

    ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่
    - ต้องมีการอัปเดตไดรเวอร์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบสามารถรองรับการ์ดจอรุ่นใหม่ได้
    - ต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดระบบ เนื่องจากการ์ดจอระดับมืออาชีพมักมีราคาสูง

    https://www.techradar.com/pro/legendary-video-card-maker-that-powers-las-vegas-sphere-debuts-dual-gpu-graphics-card-with-8-display-ports
    🎮 Matrox เปิดตัวการ์ดจอ Dual-GPU สำหรับงานแสดงผลระดับสูง Matrox ซึ่งเป็นผู้ผลิตการ์ดจอระดับมืออาชีพ ได้เปิดตัว LUMA Pro A380 Octal ซึ่งเป็นการ์ดจอแบบ Dual-GPU ที่สามารถรองรับ 8 หน้าจอ 5K หรือ 4 หน้าจอ 8K ได้พร้อมกัน! ✅ รายละเอียดของ Matrox LUMA Pro A380 Octal - ใช้ Intel Arc A380E GPUs จำนวน 2 ตัว - มี 8 พอร์ต Mini DisplayPort 2.0 รองรับการแสดงผลแบบ HDR และ Adaptive Sync - หน่วยความจำ GDDR6 ขนาด 12GB - ใช้พลังงาน 130W พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Active Cooling - รองรับ DirectX 12 Ultimate, OpenGL 4.6, Vulkan 1.3 และ OpenCL 3.0 - สามารถ เชื่อมต่อการ์ด 2 ใบในระบบเดียว เพื่อให้การแสดงผลมีความต่อเนื่องและซิงโครไนซ์กัน ‼️ ข้อควรระวัง - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับราคาและวันวางจำหน่าย Matrox ระบุว่าเป็น "Coming Soon" - ต้องใช้พลังงานสูงถึง 130W อาจต้องมีระบบระบายความร้อนที่ดี - ต้องใช้พอร์ต Mini DisplayPort 2.0 ซึ่งอาจต้องมีอะแดปเตอร์สำหรับการเชื่อมต่อกับหน้าจอทั่วไป 🔍 แนวโน้มของตลาดการ์ดจอสำหรับงานแสดงผล ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีการแสดงผล - Intel กำลังพัฒนา GPU แบบ Dual-Chip ที่มีหน่วยความจำ 48GB สำหรับงาน AI และการแสดงผลระดับสูง - AMD และ Nvidia กำลังแข่งขันกันในตลาดการ์ดจอสำหรับงานมืออาชีพ โดยเน้นไปที่การรองรับ 50 ล้านพิกเซลต่อพอร์ต - ตลาดการ์ดจอสำหรับงานแสดงผลหลายหน้าจอเติบโตขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบันเทิงและการประชุม ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับตลาดการ์ดจอ - ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์ เนื่องจากบางโปรแกรมอาจไม่รองรับการ์ดจอแบบ Dual-GPU - ต้องมีระบบระบายความร้อนที่ดี เพื่อป้องกันความร้อนสะสมจากการใช้งานหนัก - ต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบหลายหน้าจอ ซึ่งอาจสูงกว่าการใช้การ์ดจอทั่วไป 🌍 อนาคตของการ์ดจอสำหรับงานมืออาชีพ ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ - Matrox อาจเปิดตัวรุ่นที่มีพอร์ต HDMI เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายขึ้น - Nvidia และ AMD กำลังพัฒนาเทคโนโลยีการแสดงผลแบบ AI-Enhanced เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของภาพและวิดีโอ - ตลาดการ์ดจอสำหรับงานมืออาชีพอาจเติบโตขึ้น เนื่องจากความต้องการด้านการแสดงผลที่ซับซ้อนมากขึ้น ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ - ต้องมีการอัปเดตไดรเวอร์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบสามารถรองรับการ์ดจอรุ่นใหม่ได้ - ต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดระบบ เนื่องจากการ์ดจอระดับมืออาชีพมักมีราคาสูง https://www.techradar.com/pro/legendary-video-card-maker-that-powers-las-vegas-sphere-debuts-dual-gpu-graphics-card-with-8-display-ports
    WWW.TECHRADAR.COM
    Video card legend reveals eight-port graphics card that supports multiple synchronized displays
    Matrox LUMA Pro A380 Octal includes 12GB memory and 130W power draw with active cooling
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft Edge ได้รับการอัปเดตใหม่ที่มาพร้อมกับ ฟีเจอร์รหัสผ่านที่ปลอดภัย และ การแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย เพื่อให้การใช้งานเว็บปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับฟีเจอร์ที่ถูกยกเลิกและฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังจะมาในอนาคต

    Microsoft ได้เปิดตัว Secure Password Deployment ซึ่งช่วยให้ผู้ดูแลระบบ IT สามารถแชร์รหัสผ่านที่เข้ารหัสกับกลุ่มผู้ใช้ได้ โดยที่ผู้ใช้สามารถเข้าสู่ระบบเว็บไซต์โดยไม่ต้องเห็นรหัสผ่านจริง ทำให้เพิ่มความปลอดภัยขององค์กรได้มากขึ้น

    นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่สำคัญใน Chromium ซึ่งเป็นพื้นฐานของ Microsoft Edge ได้แก่

    - CVE-2025-5958: ช่องโหว่ที่เกี่ยวข้องกับการใช้หน่วยความจำหลังจากถูกปล่อย (Use after free) ใน Media ของ Google Chrome ซึ่งอาจถูกใช้เพื่อโจมตีระบบผ่านหน้า HTML ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ

    - CVE-2025-5959: ช่องโหว่ที่เกี่ยวข้องกับ Type Confusion ใน V8 ของ Google Chrome ซึ่งอาจถูกใช้เพื่อรันโค้ดอันตรายภายใน sandbox ผ่านหน้า HTML ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ

    Microsoft Edge สามารถอัปเดตได้โดยไปที่ edge://settings/help หรือรอให้เบราว์เซอร์อัปเดตอัตโนมัติระหว่างการรีสตาร์ท

    แนวโน้มด้านความปลอดภัยของเว็บเบราว์เซอร์: ปัจจุบันเบราว์เซอร์หลายตัวเริ่มให้ความสำคัญกับการป้องกันข้อมูลส่วนตัวและการเข้ารหัสรหัสผ่านมากขึ้น เพื่อป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์

    การเปลี่ยนแปลงของ Microsoft Edge: นอกจากฟีเจอร์ใหม่แล้ว Microsoft Edge ยังได้ยกเลิกฟีเจอร์บางอย่าง เช่น Wallet, Image Editor, Image Hover, Mini Menu และ Video Super Resolution เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเบราว์เซอร์

    ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Microsoft Edge
    - Secure Password Deployment ช่วยให้ผู้ใช้เข้าสู่ระบบโดยไม่ต้องเห็นรหัสผ่านจริง
    - การแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย CVE-2025-5958 และ CVE-2025-5959
    - การอัปเดตสามารถทำได้ผ่าน edge://settings/help หรืออัตโนมัติระหว่างการรีสตาร์ท

    ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    - ช่องโหว่ CVE-2025-5958 อาจถูกใช้เพื่อโจมตีระบบผ่านหน้า HTML ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ
    - ช่องโหว่ CVE-2025-5959 อาจถูกใช้เพื่อรันโค้ดอันตรายภายใน sandbox
    - ควรอัปเดตเบราว์เซอร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์

    https://www.neowin.net/news/microsoft-edge-gets-new-password-feature-and-security-fixes/
    Microsoft Edge ได้รับการอัปเดตใหม่ที่มาพร้อมกับ ฟีเจอร์รหัสผ่านที่ปลอดภัย และ การแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย เพื่อให้การใช้งานเว็บปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับฟีเจอร์ที่ถูกยกเลิกและฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังจะมาในอนาคต Microsoft ได้เปิดตัว Secure Password Deployment ซึ่งช่วยให้ผู้ดูแลระบบ IT สามารถแชร์รหัสผ่านที่เข้ารหัสกับกลุ่มผู้ใช้ได้ โดยที่ผู้ใช้สามารถเข้าสู่ระบบเว็บไซต์โดยไม่ต้องเห็นรหัสผ่านจริง ทำให้เพิ่มความปลอดภัยขององค์กรได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่สำคัญใน Chromium ซึ่งเป็นพื้นฐานของ Microsoft Edge ได้แก่ - CVE-2025-5958: ช่องโหว่ที่เกี่ยวข้องกับการใช้หน่วยความจำหลังจากถูกปล่อย (Use after free) ใน Media ของ Google Chrome ซึ่งอาจถูกใช้เพื่อโจมตีระบบผ่านหน้า HTML ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ - CVE-2025-5959: ช่องโหว่ที่เกี่ยวข้องกับ Type Confusion ใน V8 ของ Google Chrome ซึ่งอาจถูกใช้เพื่อรันโค้ดอันตรายภายใน sandbox ผ่านหน้า HTML ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ Microsoft Edge สามารถอัปเดตได้โดยไปที่ edge://settings/help หรือรอให้เบราว์เซอร์อัปเดตอัตโนมัติระหว่างการรีสตาร์ท แนวโน้มด้านความปลอดภัยของเว็บเบราว์เซอร์: ปัจจุบันเบราว์เซอร์หลายตัวเริ่มให้ความสำคัญกับการป้องกันข้อมูลส่วนตัวและการเข้ารหัสรหัสผ่านมากขึ้น เพื่อป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์ การเปลี่ยนแปลงของ Microsoft Edge: นอกจากฟีเจอร์ใหม่แล้ว Microsoft Edge ยังได้ยกเลิกฟีเจอร์บางอย่าง เช่น Wallet, Image Editor, Image Hover, Mini Menu และ Video Super Resolution เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเบราว์เซอร์ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Microsoft Edge - Secure Password Deployment ช่วยให้ผู้ใช้เข้าสู่ระบบโดยไม่ต้องเห็นรหัสผ่านจริง - การแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย CVE-2025-5958 และ CVE-2025-5959 - การอัปเดตสามารถทำได้ผ่าน edge://settings/help หรืออัตโนมัติระหว่างการรีสตาร์ท ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ด้านความปลอดภัย - ช่องโหว่ CVE-2025-5958 อาจถูกใช้เพื่อโจมตีระบบผ่านหน้า HTML ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ - ช่องโหว่ CVE-2025-5959 อาจถูกใช้เพื่อรันโค้ดอันตรายภายใน sandbox - ควรอัปเดตเบราว์เซอร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์ https://www.neowin.net/news/microsoft-edge-gets-new-password-feature-and-security-fixes/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft Edge gets new password feature and security fixes
    Microsoft is rolling out a new Edge update, bringing users security fixes and a new feature for passwords.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔊 Google นำฟีเจอร์ Audio Overviews จาก NotebookLM มาใช้ใน Google Search
    Google ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Audio Overviews ใน Google Search ซึ่งเป็น ระบบสรุปข้อมูลด้วยเสียงที่ใช้ AI โดยใช้ โมเดล Gemini เพื่อสร้าง บทสรุปเสียงที่เข้าใจง่ายและเป็นธรรมชาติ

    Audio Overviews ช่วยให้ผู้ใช้สามารถฟังสรุปข้อมูลของหัวข้อที่ค้นหาได้ โดย Google จะตัดสินใจว่าเมื่อใดควรแสดงตัวเลือกนี้

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Google นำฟีเจอร์ Audio Overviews จาก NotebookLM มาใช้ใน Google Search
    - ใช้โมเดล Gemini เพื่อสร้างบทสรุปเสียงที่เข้าใจง่าย
    - ผู้ใช้สามารถให้คะแนนบทสรุปเสียงโดยกดปุ่ม thumbs-up หรือ thumbs-down
    - Google จะเพิ่มลิงก์ที่เกี่ยวข้องภายในอินเทอร์เฟซของ Audio Overviews
    - ผู้ใช้สามารถทดลองใช้ฟีเจอร์นี้ได้โดยเข้าร่วมการทดลองใน Search Labs

    🔥 ผลกระทบต่อการค้นหาข้อมูล
    Audio Overviews ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับข้อมูลได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะ ในสถานการณ์ที่ต้องการใช้งานแบบแฮนด์ฟรี

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ฟีเจอร์นี้อาจไม่สามารถใช้ได้กับทุกคำค้นหา เนื่องจาก Google จะเลือกแสดงเฉพาะกรณีที่เห็นว่ามีประโยชน์
    - ต้องติดตามว่า Audio Overviews จะสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนได้หรือไม่
    - การใช้ AI ในการสรุปข้อมูลอาจมีข้อจำกัดด้านความแม่นยำและความลำเอียง
    - ต้องรอดูว่าผู้ใช้จะให้การตอบรับต่อฟีเจอร์นี้อย่างไร และ Google จะปรับปรุงตามความคิดเห็นของผู้ใช้หรือไม่

    Google กำลังพัฒนา AI ให้สามารถช่วยสรุปข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย Audio Overviews อาจเป็นก้าวแรกในการนำ AI มาใช้ในระบบค้นหาข้อมูลแบบเสียง

    https://www.neowin.net/news/notebooklms-audio-overviews-is-coming-to-google-search/
    🔊 Google นำฟีเจอร์ Audio Overviews จาก NotebookLM มาใช้ใน Google Search Google ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Audio Overviews ใน Google Search ซึ่งเป็น ระบบสรุปข้อมูลด้วยเสียงที่ใช้ AI โดยใช้ โมเดล Gemini เพื่อสร้าง บทสรุปเสียงที่เข้าใจง่ายและเป็นธรรมชาติ Audio Overviews ช่วยให้ผู้ใช้สามารถฟังสรุปข้อมูลของหัวข้อที่ค้นหาได้ โดย Google จะตัดสินใจว่าเมื่อใดควรแสดงตัวเลือกนี้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Google นำฟีเจอร์ Audio Overviews จาก NotebookLM มาใช้ใน Google Search - ใช้โมเดล Gemini เพื่อสร้างบทสรุปเสียงที่เข้าใจง่าย - ผู้ใช้สามารถให้คะแนนบทสรุปเสียงโดยกดปุ่ม thumbs-up หรือ thumbs-down - Google จะเพิ่มลิงก์ที่เกี่ยวข้องภายในอินเทอร์เฟซของ Audio Overviews - ผู้ใช้สามารถทดลองใช้ฟีเจอร์นี้ได้โดยเข้าร่วมการทดลองใน Search Labs 🔥 ผลกระทบต่อการค้นหาข้อมูล Audio Overviews ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับข้อมูลได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะ ในสถานการณ์ที่ต้องการใช้งานแบบแฮนด์ฟรี ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ฟีเจอร์นี้อาจไม่สามารถใช้ได้กับทุกคำค้นหา เนื่องจาก Google จะเลือกแสดงเฉพาะกรณีที่เห็นว่ามีประโยชน์ - ต้องติดตามว่า Audio Overviews จะสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนได้หรือไม่ - การใช้ AI ในการสรุปข้อมูลอาจมีข้อจำกัดด้านความแม่นยำและความลำเอียง - ต้องรอดูว่าผู้ใช้จะให้การตอบรับต่อฟีเจอร์นี้อย่างไร และ Google จะปรับปรุงตามความคิดเห็นของผู้ใช้หรือไม่ Google กำลังพัฒนา AI ให้สามารถช่วยสรุปข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย Audio Overviews อาจเป็นก้าวแรกในการนำ AI มาใช้ในระบบค้นหาข้อมูลแบบเสียง https://www.neowin.net/news/notebooklms-audio-overviews-is-coming-to-google-search/
    WWW.NEOWIN.NET
    NotebookLM's Audio Overviews is coming to Google Search
    Google's popular AI feature, which generates audio podcasts within minutes, is now coming to Google Search as a new experiment.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧠 AI ยังไม่สามารถใช้เหตุผลได้อย่างแท้จริง
    แม้ว่าหลายบริษัทจะอ้างว่า AI สามารถใช้เหตุผลได้ แต่ งานวิจัยล่าสุดจาก Apple และ ETH Zürich พบว่า AI ล้มเหลวในการแก้ปัญหาตรรกะที่ซับซ้อน โดยเฉพาะ ปริศนา Tower of Hanoi และโจทย์คณิตศาสตร์ระดับโอลิมปิก

    นักวิจัย ทดสอบ AI หลายรุ่น โดยให้ แก้ปริศนา Tower of Hanoi และอธิบายขั้นตอน พบว่า AI สามารถแก้โจทย์ง่าย ๆ ได้ แต่เมื่อจำนวนดิสก์เพิ่มขึ้น AI กลับทำผิดพลาดและให้คำตอบที่ขัดแย้งกันเอง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Apple และ ETH Zürich ทดสอบ AI กับปริศนา Tower of Hanoi และโจทย์คณิตศาสตร์ระดับโอลิมปิก
    - AI สามารถแก้โจทย์ง่าย ๆ ได้ แต่ล้มเหลวเมื่อความซับซ้อนเพิ่มขึ้น
    - Google Gemini 2.5 Pro ทำคะแนนได้ 24% จากการให้คำตอบบางส่วน แต่ไม่มี AI ตัวใดแก้โจทย์ได้สมบูรณ์
    - OpenAI o3-mini ทำคะแนนได้เพียง 2% และมักข้ามขั้นตอนหรือให้คำตอบที่ขัดแย้งกันเอง
    - นักวิจัยพบว่า AI ไม่ได้ใช้เหตุผลจริง ๆ แต่เพียงจับคู่รูปแบบข้อมูลที่เคยเห็นมาก่อน

    🔥 ผลกระทบต่อการพัฒนา AI
    แม้ว่าบริษัทเทคโนโลยี จะโฆษณาว่า AI สามารถใช้เหตุผลได้ แต่ งานวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่า AI ยังไม่สามารถคิดอย่างเป็นระบบได้จริง

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - AI อาจให้คำตอบที่ดูน่าเชื่อถือ แต่ไม่ได้มีตรรกะที่ถูกต้องเสมอไป
    - AI ที่ใช้ในงานที่ต้องการเหตุผล เช่น การแพทย์และกฎหมาย อาจต้องมีระบบตรวจสอบเพิ่มเติม
    - ต้องติดตามว่าบริษัทเทคโนโลยีจะพัฒนา AI ให้มีความสามารถด้านตรรกะที่ดีขึ้นได้หรือไม่
    - นักวิจัยเสนอให้ใช้ AI ร่วมกับระบบตรรกะเชิงสัญลักษณ์เพื่อเพิ่มความแม่นยำ

    🚀 อนาคตของ AI และตรรกะ
    แม้ว่า AI จะยังไม่สามารถใช้เหตุผลได้อย่างแท้จริง แต่ นักวิจัยกำลังพัฒนาแนวทางใหม่ เช่น การรวม AI กับตรรกะเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้ AI สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องมากขึ้น

    https://www.techspot.com/news/108294-ai-flunks-logic-test-multiple-studies-reveal-illusion.html
    🧠 AI ยังไม่สามารถใช้เหตุผลได้อย่างแท้จริง แม้ว่าหลายบริษัทจะอ้างว่า AI สามารถใช้เหตุผลได้ แต่ งานวิจัยล่าสุดจาก Apple และ ETH Zürich พบว่า AI ล้มเหลวในการแก้ปัญหาตรรกะที่ซับซ้อน โดยเฉพาะ ปริศนา Tower of Hanoi และโจทย์คณิตศาสตร์ระดับโอลิมปิก นักวิจัย ทดสอบ AI หลายรุ่น โดยให้ แก้ปริศนา Tower of Hanoi และอธิบายขั้นตอน พบว่า AI สามารถแก้โจทย์ง่าย ๆ ได้ แต่เมื่อจำนวนดิสก์เพิ่มขึ้น AI กลับทำผิดพลาดและให้คำตอบที่ขัดแย้งกันเอง ✅ ข้อมูลจากข่าว - Apple และ ETH Zürich ทดสอบ AI กับปริศนา Tower of Hanoi และโจทย์คณิตศาสตร์ระดับโอลิมปิก - AI สามารถแก้โจทย์ง่าย ๆ ได้ แต่ล้มเหลวเมื่อความซับซ้อนเพิ่มขึ้น - Google Gemini 2.5 Pro ทำคะแนนได้ 24% จากการให้คำตอบบางส่วน แต่ไม่มี AI ตัวใดแก้โจทย์ได้สมบูรณ์ - OpenAI o3-mini ทำคะแนนได้เพียง 2% และมักข้ามขั้นตอนหรือให้คำตอบที่ขัดแย้งกันเอง - นักวิจัยพบว่า AI ไม่ได้ใช้เหตุผลจริง ๆ แต่เพียงจับคู่รูปแบบข้อมูลที่เคยเห็นมาก่อน 🔥 ผลกระทบต่อการพัฒนา AI แม้ว่าบริษัทเทคโนโลยี จะโฆษณาว่า AI สามารถใช้เหตุผลได้ แต่ งานวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่า AI ยังไม่สามารถคิดอย่างเป็นระบบได้จริง ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - AI อาจให้คำตอบที่ดูน่าเชื่อถือ แต่ไม่ได้มีตรรกะที่ถูกต้องเสมอไป - AI ที่ใช้ในงานที่ต้องการเหตุผล เช่น การแพทย์และกฎหมาย อาจต้องมีระบบตรวจสอบเพิ่มเติม - ต้องติดตามว่าบริษัทเทคโนโลยีจะพัฒนา AI ให้มีความสามารถด้านตรรกะที่ดีขึ้นได้หรือไม่ - นักวิจัยเสนอให้ใช้ AI ร่วมกับระบบตรรกะเชิงสัญลักษณ์เพื่อเพิ่มความแม่นยำ 🚀 อนาคตของ AI และตรรกะ แม้ว่า AI จะยังไม่สามารถใช้เหตุผลได้อย่างแท้จริง แต่ นักวิจัยกำลังพัฒนาแนวทางใหม่ เช่น การรวม AI กับตรรกะเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้ AI สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องมากขึ้น https://www.techspot.com/news/108294-ai-flunks-logic-test-multiple-studies-reveal-illusion.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI flunks logic test: Multiple studies reveal illusion of reasoning
    Apple researchers have uncovered a key weakness in today's most hyped AI systems – they falter at solving puzzles that require step-by-step reasoning. In a new paper,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤖 Meta เร่งพัฒนา AI อัจฉริยะระดับสูง ดึงนักวิจัยชั้นนำจาก Google และ Sesame
    Meta กำลัง เร่งพัฒนา AI อัจฉริยะระดับสูง (Artificial General Intelligence - AGI) โดยดึง นักวิจัยชั้นนำจาก Google DeepMind และ Sesame AI เพื่อสร้างทีม "Superintelligence" ที่จะช่วยปรับปรุงโมเดล AI ของ Meta เช่น Llama 4

    Meta ได้ว่าจ้าง Jack Rae นักวิจัยหลักจาก Google DeepMind และ Johan Schalkwyk ผู้เชี่ยวชาญด้าน Machine Learning จาก Sesame AI นอกจากนี้ Alexandr Wang ซีอีโอของ Scale AI กำลังจะเข้าร่วมทีม หลังจาก Meta ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ใน Scale AI

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Meta ดึงนักวิจัยจาก Google DeepMind และ Sesame AI เพื่อพัฒนา AI ระดับสูง
    - Jack Rae จาก Google DeepMind และ Johan Schalkwyk จาก Sesame AI เข้าร่วมทีม Superintelligence
    - Meta กำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ใน Scale AI เพื่อเพิ่มคุณภาพข้อมูลสำหรับฝึกโมเดล AI
    - Mark Zuckerberg เสนอแพ็กเกจค่าตอบแทนระดับสูงเพื่อดึงดูดนักวิจัย AI ชั้นนำ
    - Meta ตั้งเป้าจ้างนักวิจัย AI ประมาณ 50 คน รวมถึงหัวหน้าทีมวิทยาศาสตร์

    🔥 การแข่งขันในตลาด AI
    Meta ต้องการ ไล่ตาม Google และ OpenAI หลังจาก Llama 4 ได้รับเสียงตอบรับที่ไม่ดี โดย Zuckerberg จัดประชุมกับนักวิจัย AI ที่บ้านของเขาใน Lake Tahoe และ Palo Alto เพื่อโน้มน้าวให้เข้าร่วมทีม

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้ Meta จะลงทุนมหาศาล แต่ยังต้องแข่งขันกับ Google และ OpenAI ที่มีโมเดล AI ที่แข็งแกร่งกว่า
    - บางนักวิจัย AI ปฏิเสธข้อเสนอของ Meta แม้จะมีค่าตอบแทนสูง
    - Google กำลังเร่งรักษานักวิจัย AI โดยแต่งตั้ง Koray Kavukcuoglu เป็น Chief AI Architect
    - ต้องติดตามว่า Meta จะสามารถพัฒนา AI ที่แข่งขันกับ Gemini และ ChatGPT ได้หรือไม่

    Meta กำลัง เร่งพัฒนา AI ที่สามารถแข่งขันกับ Google และ OpenAI โดยการลงทุนใน นักวิจัยระดับสูงและข้อมูลคุณภาพสูงจาก Scale AI อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่ออุตสาหกรรม AI อย่างไร

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/12/meta-taps-top-researchers-from-google-sesame-for-new-ai-lab
    🤖 Meta เร่งพัฒนา AI อัจฉริยะระดับสูง ดึงนักวิจัยชั้นนำจาก Google และ Sesame Meta กำลัง เร่งพัฒนา AI อัจฉริยะระดับสูง (Artificial General Intelligence - AGI) โดยดึง นักวิจัยชั้นนำจาก Google DeepMind และ Sesame AI เพื่อสร้างทีม "Superintelligence" ที่จะช่วยปรับปรุงโมเดล AI ของ Meta เช่น Llama 4 Meta ได้ว่าจ้าง Jack Rae นักวิจัยหลักจาก Google DeepMind และ Johan Schalkwyk ผู้เชี่ยวชาญด้าน Machine Learning จาก Sesame AI นอกจากนี้ Alexandr Wang ซีอีโอของ Scale AI กำลังจะเข้าร่วมทีม หลังจาก Meta ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ใน Scale AI ✅ ข้อมูลจากข่าว - Meta ดึงนักวิจัยจาก Google DeepMind และ Sesame AI เพื่อพัฒนา AI ระดับสูง - Jack Rae จาก Google DeepMind และ Johan Schalkwyk จาก Sesame AI เข้าร่วมทีม Superintelligence - Meta กำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ใน Scale AI เพื่อเพิ่มคุณภาพข้อมูลสำหรับฝึกโมเดล AI - Mark Zuckerberg เสนอแพ็กเกจค่าตอบแทนระดับสูงเพื่อดึงดูดนักวิจัย AI ชั้นนำ - Meta ตั้งเป้าจ้างนักวิจัย AI ประมาณ 50 คน รวมถึงหัวหน้าทีมวิทยาศาสตร์ 🔥 การแข่งขันในตลาด AI Meta ต้องการ ไล่ตาม Google และ OpenAI หลังจาก Llama 4 ได้รับเสียงตอบรับที่ไม่ดี โดย Zuckerberg จัดประชุมกับนักวิจัย AI ที่บ้านของเขาใน Lake Tahoe และ Palo Alto เพื่อโน้มน้าวให้เข้าร่วมทีม ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้ Meta จะลงทุนมหาศาล แต่ยังต้องแข่งขันกับ Google และ OpenAI ที่มีโมเดล AI ที่แข็งแกร่งกว่า - บางนักวิจัย AI ปฏิเสธข้อเสนอของ Meta แม้จะมีค่าตอบแทนสูง - Google กำลังเร่งรักษานักวิจัย AI โดยแต่งตั้ง Koray Kavukcuoglu เป็น Chief AI Architect - ต้องติดตามว่า Meta จะสามารถพัฒนา AI ที่แข่งขันกับ Gemini และ ChatGPT ได้หรือไม่ Meta กำลัง เร่งพัฒนา AI ที่สามารถแข่งขันกับ Google และ OpenAI โดยการลงทุนใน นักวิจัยระดับสูงและข้อมูลคุณภาพสูงจาก Scale AI อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่ออุตสาหกรรม AI อย่างไร https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/12/meta-taps-top-researchers-from-google-sesame-for-new-ai-lab
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta taps top researchers from Google, Sesame for new AI lab
    Meta Platforms Inc has poached top engineers from multiple tech firms, including Alphabet Inc's Google, for a new team focused on achieving a more advanced form of AI called artificial general intelligence.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚖️ Disney และ Universal ฟ้อง Midjourney ฐานละเมิดลิขสิทธิ์
    Disney และ Universal ได้ยื่นฟ้อง Midjourney ซึ่งเป็นบริษัท AI ที่พัฒนาเครื่องมือสร้างภาพจากข้อความ โดยกล่าวหาว่า Midjourney ใช้ข้อมูลจากคลังภาพของสตูดิโอโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสร้าง ภาพตัวละครที่มีลิขสิทธิ์ เช่น Darth Vader และ Minions

    คดีนี้ถูกยื่นฟ้องใน ศาลรัฐบาลกลางลอสแอนเจลิส โดยสตูดิโอทั้งสองกล่าวว่า Midjourney เป็น "ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์โดยสมบูรณ์" และเป็น "แหล่งรวมของการลอกเลียนแบบ"

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Disney และ Universal ฟ้อง Midjourney ฐานละเมิดลิขสิทธิ์
    - กล่าวหาว่า Midjourney ใช้ข้อมูลจากคลังภาพของสตูดิโอโดยไม่ได้รับอนุญาต
    - ตัวละครที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ได้แก่ Darth Vader และ Minions
    - คดีถูกยื่นฟ้องในศาลรัฐบาลกลางลอสแอนเจลิส
    - Midjourney ไม่ตอบสนองต่อคำขอให้หยุดการละเมิดลิขสิทธิ์

    🔥 ปฏิกิริยาจาก Midjourney และอุตสาหกรรม AI
    David Holz ซีอีโอของ Midjourney กล่าวในระหว่างการประชุมกับผู้ใช้ว่า บริษัทจะยังคงดำเนินงานต่อไป แม้ว่าจะเผชิญกับคดีความ

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - คดีนี้อาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของ AI ที่ใช้ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตในการฝึกโมเดล
    - Midjourney อาจต้องเปลี่ยนแนวทางการพัฒนา AI หากแพ้คดี
    - บริษัท AI อื่น ๆ อาจต้องพิจารณาทำข้อตกลงด้านลิขสิทธิ์กับเจ้าของเนื้อหา
    - ต้องติดตามว่าคดีนี้จะส่งผลต่อการพัฒนา AI ในอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างไร

    🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมบันเทิงและ AI
    คดีนี้เป็น คดีแรกที่สตูดิโอใหญ่ฟ้องบริษัท AI ด้านการสร้างภาพ ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของ การกำหนดแนวทางด้านลิขสิทธิ์สำหรับ AI ในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/12/disney-and-universal-sue-ai-firm-midjourney-for-copyright-infringement
    ⚖️ Disney และ Universal ฟ้อง Midjourney ฐานละเมิดลิขสิทธิ์ Disney และ Universal ได้ยื่นฟ้อง Midjourney ซึ่งเป็นบริษัท AI ที่พัฒนาเครื่องมือสร้างภาพจากข้อความ โดยกล่าวหาว่า Midjourney ใช้ข้อมูลจากคลังภาพของสตูดิโอโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสร้าง ภาพตัวละครที่มีลิขสิทธิ์ เช่น Darth Vader และ Minions คดีนี้ถูกยื่นฟ้องใน ศาลรัฐบาลกลางลอสแอนเจลิส โดยสตูดิโอทั้งสองกล่าวว่า Midjourney เป็น "ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์โดยสมบูรณ์" และเป็น "แหล่งรวมของการลอกเลียนแบบ" ✅ ข้อมูลจากข่าว - Disney และ Universal ฟ้อง Midjourney ฐานละเมิดลิขสิทธิ์ - กล่าวหาว่า Midjourney ใช้ข้อมูลจากคลังภาพของสตูดิโอโดยไม่ได้รับอนุญาต - ตัวละครที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ได้แก่ Darth Vader และ Minions - คดีถูกยื่นฟ้องในศาลรัฐบาลกลางลอสแอนเจลิส - Midjourney ไม่ตอบสนองต่อคำขอให้หยุดการละเมิดลิขสิทธิ์ 🔥 ปฏิกิริยาจาก Midjourney และอุตสาหกรรม AI David Holz ซีอีโอของ Midjourney กล่าวในระหว่างการประชุมกับผู้ใช้ว่า บริษัทจะยังคงดำเนินงานต่อไป แม้ว่าจะเผชิญกับคดีความ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - คดีนี้อาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของ AI ที่ใช้ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตในการฝึกโมเดล - Midjourney อาจต้องเปลี่ยนแนวทางการพัฒนา AI หากแพ้คดี - บริษัท AI อื่น ๆ อาจต้องพิจารณาทำข้อตกลงด้านลิขสิทธิ์กับเจ้าของเนื้อหา - ต้องติดตามว่าคดีนี้จะส่งผลต่อการพัฒนา AI ในอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างไร 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมบันเทิงและ AI คดีนี้เป็น คดีแรกที่สตูดิโอใหญ่ฟ้องบริษัท AI ด้านการสร้างภาพ ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของ การกำหนดแนวทางด้านลิขสิทธิ์สำหรับ AI ในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/12/disney-and-universal-sue-ai-firm-midjourney-for-copyright-infringement
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Disney and Universal sue AI firm Midjourney for copyright infringement
    Disney and Universal sued popular artificial intelligence image-generator Midjourney on June 11, marking the first time major Hollywood companies have taken legal action against a maker of generative AI technology that could upend the entertainment industry.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌍 Google Workspace เพิ่ม 10 ฟีเจอร์ AI ฟรีสำหรับองค์กรไม่แสวงหากำไร
    Google ได้ประกาศ ขยายโปรแกรม Google for Nonprofits ไปยัง กว่า 100 ประเทศทั่วโลก พร้อมเพิ่ม 10 ฟีเจอร์ AI ฟรี ให้กับ Workspace for Nonprofits ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้องค์กรสามารถ ใช้ Gmail, Calendar, Meet และแอป AI เช่น Gemini และ NotebookLM ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

    Google สำรวจองค์กรไม่แสวงหากำไร กว่า 9,000 แห่ง และพบว่า 90% รายงานว่าการใช้ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่มีเพียง 20% ที่ใช้งาน AI อย่างแพร่หลาย

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Google ขยายโปรแกรม Google for Nonprofits ไปยังกว่า 100 ประเทศ
    - Workspace for Nonprofits ให้บริการ Gmail, Calendar, Meet และแอป AI ฟรี
    - เพิ่ม 10 ฟีเจอร์ AI ใหม่ เช่น Gems Audio Overviews, Image Generation, Deep Research และ Mind Maps
    - NotebookLM รองรับ Summaries, Audio Overviews ในกว่า 50 ภาษา และ Q&A
    - องค์กรสามารถใช้ Google Vids เพื่อสร้างวิดีโอแบบกำหนดเองด้วย Veo 2

    🔥 ผลกระทบต่อองค์กรไม่แสวงหากำไร
    Google ระบุว่า องค์กรสามารถใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และ เชื่อมต่อกับผู้คนผ่านโฆษณาใน Google Maps ได้ฟรี

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมีฟีเจอร์ AI ฟรี แต่บางองค์กรอาจต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มเติมเพื่อปรับตัว
    - ต้องติดตามว่า Google จะขยายฟีเจอร์ AI ไปยังองค์กรขนาดเล็กหรือไม่
    - การใช้ AI ในองค์กรต้องมีแนวทางที่ชัดเจนเพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลผิดวัตถุประสงค์
    - ต้องรอดูว่าองค์กรจะสามารถใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้จริงหรือไม่

    https://www.neowin.net/news/google-workspace-brings-10-free-ai-features-for-nonprofit-organizations/
    🌍 Google Workspace เพิ่ม 10 ฟีเจอร์ AI ฟรีสำหรับองค์กรไม่แสวงหากำไร Google ได้ประกาศ ขยายโปรแกรม Google for Nonprofits ไปยัง กว่า 100 ประเทศทั่วโลก พร้อมเพิ่ม 10 ฟีเจอร์ AI ฟรี ให้กับ Workspace for Nonprofits ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้องค์กรสามารถ ใช้ Gmail, Calendar, Meet และแอป AI เช่น Gemini และ NotebookLM ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย Google สำรวจองค์กรไม่แสวงหากำไร กว่า 9,000 แห่ง และพบว่า 90% รายงานว่าการใช้ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่มีเพียง 20% ที่ใช้งาน AI อย่างแพร่หลาย ✅ ข้อมูลจากข่าว - Google ขยายโปรแกรม Google for Nonprofits ไปยังกว่า 100 ประเทศ - Workspace for Nonprofits ให้บริการ Gmail, Calendar, Meet และแอป AI ฟรี - เพิ่ม 10 ฟีเจอร์ AI ใหม่ เช่น Gems Audio Overviews, Image Generation, Deep Research และ Mind Maps - NotebookLM รองรับ Summaries, Audio Overviews ในกว่า 50 ภาษา และ Q&A - องค์กรสามารถใช้ Google Vids เพื่อสร้างวิดีโอแบบกำหนดเองด้วย Veo 2 🔥 ผลกระทบต่อองค์กรไม่แสวงหากำไร Google ระบุว่า องค์กรสามารถใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และ เชื่อมต่อกับผู้คนผ่านโฆษณาใน Google Maps ได้ฟรี ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมีฟีเจอร์ AI ฟรี แต่บางองค์กรอาจต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มเติมเพื่อปรับตัว - ต้องติดตามว่า Google จะขยายฟีเจอร์ AI ไปยังองค์กรขนาดเล็กหรือไม่ - การใช้ AI ในองค์กรต้องมีแนวทางที่ชัดเจนเพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลผิดวัตถุประสงค์ - ต้องรอดูว่าองค์กรจะสามารถใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้จริงหรือไม่ https://www.neowin.net/news/google-workspace-brings-10-free-ai-features-for-nonprofit-organizations/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google Workspace brings 10 free AI features for nonprofit organizations
    Google is bringing several new updates for nonprofits, including ten AI features through its dedicated Workspace tier.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥 Mozilla ปิดบริการ Firefox หลายตัว รวมถึง Pocket และ Orbit
    Mozilla กำลัง ปรับโครงสร้างธุรกิจ โดย ยุติบริการหลายตัวที่เกี่ยวข้องกับ Firefox เพื่อ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเบราว์เซอร์หลัก ซึ่งรวมถึง Pocket, Fakespot, Deep Fake Detector และ Orbit

    Pocket ซึ่งเป็น บริการบันทึกบทความเพื่ออ่านภายหลัง จะ หยุดให้บริการในวันที่ 8 กรกฎาคม 2025 และผู้ใช้มีเวลาถึง 8 ตุลาคม 2025 ในการดาวน์โหลดข้อมูลก่อนถูกลบถาวร

    Orbit ซึ่งเป็น เครื่องมือ AI ที่ช่วยสรุปบทความและตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาเว็บ จะ หยุดให้บริการในวันที่ 26 มิถุนายน 2025 โดย Mozilla แนะนำให้ผู้ใช้ เปลี่ยนไปใช้แถบด้านข้างใหม่ของ Firefox ที่รองรับ ChatGPT และ Gemini

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Mozilla ปิดบริการ Pocket, Fakespot, Deep Fake Detector และ Orbit
    - Pocket จะหยุดให้บริการในวันที่ 8 กรกฎาคม 2025 และข้อมูลจะถูกลบในวันที่ 8 ตุลาคม 2025
    - Deep Fake Detector ซึ่งใช้ ApolloDFT และ ZipPy จะหยุดให้บริการในวันที่ 26 มิถุนายน 2025
    - Orbit ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI ที่เน้นความเป็นส่วนตัว จะถูกแทนที่ด้วยแถบด้านข้างใหม่ของ Firefox
    - Mozilla ระบุว่าการปิดบริการเหล่านี้เป็นไปเพื่อมุ่งเน้นทรัพยากรไปที่ Firefox

    🔥 ผลกระทบต่อผู้ใช้
    การปิดบริการเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะ Orbit ซึ่ง ใช้โมเดล Mistral 7B ภายในระบบของ Mozilla โดยไม่แชร์ข้อมูลกับบริษัทอื่น

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ผู้ใช้ Pocket ต้องดาวน์โหลดข้อมูลก่อนวันที่ 8 ตุลาคม 2025 มิฉะนั้นข้อมูลจะถูกลบถาวร
    - Orbit ถูกแทนที่ด้วยแถบด้านข้างใหม่ของ Firefox ซึ่งเชื่อมต่อกับ ChatGPT และ Gemini
    - Mozilla อาจปิดบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคต หากไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์ใหม่
    - ต้องติดตามว่า Firefox จะสามารถแข่งขันกับเบราว์เซอร์อื่น ๆ ได้ดีขึ้นหลังการปรับโครงสร้างนี้หรือไม่

    https://www.neowin.net/news/mozilla-shuts-down-even-more-firefox-services-you-might-still-be-using/
    🔥 Mozilla ปิดบริการ Firefox หลายตัว รวมถึง Pocket และ Orbit Mozilla กำลัง ปรับโครงสร้างธุรกิจ โดย ยุติบริการหลายตัวที่เกี่ยวข้องกับ Firefox เพื่อ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเบราว์เซอร์หลัก ซึ่งรวมถึง Pocket, Fakespot, Deep Fake Detector และ Orbit Pocket ซึ่งเป็น บริการบันทึกบทความเพื่ออ่านภายหลัง จะ หยุดให้บริการในวันที่ 8 กรกฎาคม 2025 และผู้ใช้มีเวลาถึง 8 ตุลาคม 2025 ในการดาวน์โหลดข้อมูลก่อนถูกลบถาวร Orbit ซึ่งเป็น เครื่องมือ AI ที่ช่วยสรุปบทความและตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาเว็บ จะ หยุดให้บริการในวันที่ 26 มิถุนายน 2025 โดย Mozilla แนะนำให้ผู้ใช้ เปลี่ยนไปใช้แถบด้านข้างใหม่ของ Firefox ที่รองรับ ChatGPT และ Gemini ✅ ข้อมูลจากข่าว - Mozilla ปิดบริการ Pocket, Fakespot, Deep Fake Detector และ Orbit - Pocket จะหยุดให้บริการในวันที่ 8 กรกฎาคม 2025 และข้อมูลจะถูกลบในวันที่ 8 ตุลาคม 2025 - Deep Fake Detector ซึ่งใช้ ApolloDFT และ ZipPy จะหยุดให้บริการในวันที่ 26 มิถุนายน 2025 - Orbit ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI ที่เน้นความเป็นส่วนตัว จะถูกแทนที่ด้วยแถบด้านข้างใหม่ของ Firefox - Mozilla ระบุว่าการปิดบริการเหล่านี้เป็นไปเพื่อมุ่งเน้นทรัพยากรไปที่ Firefox 🔥 ผลกระทบต่อผู้ใช้ การปิดบริการเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะ Orbit ซึ่ง ใช้โมเดล Mistral 7B ภายในระบบของ Mozilla โดยไม่แชร์ข้อมูลกับบริษัทอื่น ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ผู้ใช้ Pocket ต้องดาวน์โหลดข้อมูลก่อนวันที่ 8 ตุลาคม 2025 มิฉะนั้นข้อมูลจะถูกลบถาวร - Orbit ถูกแทนที่ด้วยแถบด้านข้างใหม่ของ Firefox ซึ่งเชื่อมต่อกับ ChatGPT และ Gemini - Mozilla อาจปิดบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคต หากไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์ใหม่ - ต้องติดตามว่า Firefox จะสามารถแข่งขันกับเบราว์เซอร์อื่น ๆ ได้ดีขึ้นหลังการปรับโครงสร้างนี้หรือไม่ https://www.neowin.net/news/mozilla-shuts-down-even-more-firefox-services-you-might-still-be-using/
    WWW.NEOWIN.NET
    Mozilla shuts down even more Firefox services you might still be using
    Mozilla has announced the shutdown of several Firefox services as it shifts its focus and resources back to the core Firefox browser.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🖥️ GeeFarce 5027 POS: เมื่อ NUC ถูกฝังใน GPU
    CherryTree Inc. ได้สร้าง GeeFarce 5027 POS ซึ่งเป็น การนำ NUC มาฝังไว้ในกราฟิกการ์ด โดยใช้ Gigabyte RTX 20-series รุ่นเก่า และติดตั้ง Asus NUC 13 Pro ที่มาพร้อม Intel Core i7-1360P

    🔍 วิธีการทำงานของ GeeFarce 5027 POS
    CherryTree ถอดชิป GPU ออก และแทนที่ด้วย NUC 13 Pro ซึ่งมี 12 คอร์ / 16 เธรด และ กราฟิก Iris Xe พร้อม 64GB DDR4-3200 SO-DIMM และ SSD 2TB PCIe 3.0

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - CherryTree สร้าง GeeFarce 5027 POS โดยฝัง NUC 13 Pro ลงในกราฟิกการ์ด
    - ใช้ Gigabyte RTX 20-series รุ่นเก่าเป็นโครงสร้างหลัก
    - NUC 13 Pro มี Intel Core i7-1360P พร้อม 12 คอร์ / 16 เธรด
    - มาพร้อม 64GB DDR4-3200 SO-DIMM และ SSD 2TB PCIe 3.0
    - สามารถติดตั้งในช่อง PCIe ได้ แต่ไม่ได้ใช้การเชื่อมต่อ PCIe จริง

    🔥 ประสิทธิภาพและข้อจำกัด
    แม้ว่า GeeFarce 5027 POS จะสามารถรันเกมบางเกมได้ เช่น Doom และ Quantum Break แต่ Iris Xe iGPU ยังไม่สามารถเทียบกับ RTX 2070 Super ได้

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - PCIe บนกราฟิกการ์ดไม่สามารถใช้งานได้จริง
    - ต้องใช้แหล่งจ่ายไฟแยกผ่านอะแดปเตอร์จากเต้ารับ
    - Iris Xe iGPU มีประสิทธิภาพต่ำกว่ากราฟิกการ์ดแยก
    - GeeFarce 5027 POS เป็นเพียงโปรเจคทดลอง และไม่มีจำหน่ายจริง

    https://www.tomshardware.com/desktops/mini-pcs/custom-pc-company-stuffs-a-nuc-inside-a-gpu-geefarce-5027-pos-packs-2x-more-memory-than-nvidias-rtx-5090
    🖥️ GeeFarce 5027 POS: เมื่อ NUC ถูกฝังใน GPU CherryTree Inc. ได้สร้าง GeeFarce 5027 POS ซึ่งเป็น การนำ NUC มาฝังไว้ในกราฟิกการ์ด โดยใช้ Gigabyte RTX 20-series รุ่นเก่า และติดตั้ง Asus NUC 13 Pro ที่มาพร้อม Intel Core i7-1360P 🔍 วิธีการทำงานของ GeeFarce 5027 POS CherryTree ถอดชิป GPU ออก และแทนที่ด้วย NUC 13 Pro ซึ่งมี 12 คอร์ / 16 เธรด และ กราฟิก Iris Xe พร้อม 64GB DDR4-3200 SO-DIMM และ SSD 2TB PCIe 3.0 ✅ ข้อมูลจากข่าว - CherryTree สร้าง GeeFarce 5027 POS โดยฝัง NUC 13 Pro ลงในกราฟิกการ์ด - ใช้ Gigabyte RTX 20-series รุ่นเก่าเป็นโครงสร้างหลัก - NUC 13 Pro มี Intel Core i7-1360P พร้อม 12 คอร์ / 16 เธรด - มาพร้อม 64GB DDR4-3200 SO-DIMM และ SSD 2TB PCIe 3.0 - สามารถติดตั้งในช่อง PCIe ได้ แต่ไม่ได้ใช้การเชื่อมต่อ PCIe จริง 🔥 ประสิทธิภาพและข้อจำกัด แม้ว่า GeeFarce 5027 POS จะสามารถรันเกมบางเกมได้ เช่น Doom และ Quantum Break แต่ Iris Xe iGPU ยังไม่สามารถเทียบกับ RTX 2070 Super ได้ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - PCIe บนกราฟิกการ์ดไม่สามารถใช้งานได้จริง - ต้องใช้แหล่งจ่ายไฟแยกผ่านอะแดปเตอร์จากเต้ารับ - Iris Xe iGPU มีประสิทธิภาพต่ำกว่ากราฟิกการ์ดแยก - GeeFarce 5027 POS เป็นเพียงโปรเจคทดลอง และไม่มีจำหน่ายจริง https://www.tomshardware.com/desktops/mini-pcs/custom-pc-company-stuffs-a-nuc-inside-a-gpu-geefarce-5027-pos-packs-2x-more-memory-than-nvidias-rtx-5090
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • สะกดทุกสายตา ยิ่งใหญ่สมการรอคอย Mini Light & Sound แสงแห่ง “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ย้อนรอยอดีตรากเหง้าชาวพิมายตามเส้นทางอารยธรรมขอม

    วันที่ 6 มิถุนายน 2568 ที่บริเวณประตูชัย อ.พิมาย #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ประธานในพิธี พร้อมด้วย นายนิกร โสมกลาง สส.นครราชสีมา เขต 8 นายศิวะเสก สินโทรัมย์ นายอำเภอพิมาย และ นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ร่วมกันเปิดการแสดง แสง สี เสียง (Mini Light and Sound) “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ย้อนรอยอดีตตามเส้นทางท่องเที่ยวอารยธรรมขอม ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 7 มิถุนายน 2568 โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด และสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ที่ต้องการส่งเสริมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอมและโบราณสถานในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ให้เกิดการใช้ต้นทุนในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์ ด้วยเส้นทางเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอมโบราณของจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง สู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะที่พิมาย มีอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ไทรงาม รวมถึงเทศกาลเที่ยวพิมายและงานประเพณีแข่งเรือพิมาย ที่ถูกบรรจุไว้ในปฏิทินการท่องเที่ยว ที่สามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว และการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมาในอนาคต

    Mini Light And Sound “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 7 มิถุนายน 2568 วันแรกชมพิธีเปิดและชมการแสดง แสง สี เสียง ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7 ต่อด้วยการแสดงจากวงดนตรีลูกทุ่ง ส่วนวันที่ 7 จะมีการประกวดเทพธิดาอัปสรา ประจำปี 2568, การแสดงศิลปวัฒนธรรม 2 ชุดการแสดง จากนั้นชมการแสดง แสง สี เสียง “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ปิดท้ายด้วย การแสดงของวงดนตรีลูกทุ่ง ชมฟรี!! ตลอด 2 วัน 2 คืน พร้อมเลือกช้อปสินค้าและของดี อ.พิมาย ณ บริเวณประตูชัย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา

    #นายกหน่อย #พิมาย
    # MiniLightAndSound
    #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    สะกดทุกสายตา ยิ่งใหญ่สมการรอคอย Mini Light & Sound แสงแห่ง “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ย้อนรอยอดีตรากเหง้าชาวพิมายตามเส้นทางอารยธรรมขอม วันที่ 6 มิถุนายน 2568 ที่บริเวณประตูชัย อ.พิมาย #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ประธานในพิธี พร้อมด้วย นายนิกร โสมกลาง สส.นครราชสีมา เขต 8 นายศิวะเสก สินโทรัมย์ นายอำเภอพิมาย และ นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ร่วมกันเปิดการแสดง แสง สี เสียง (Mini Light and Sound) “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ย้อนรอยอดีตตามเส้นทางท่องเที่ยวอารยธรรมขอม ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 7 มิถุนายน 2568 โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด และสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ที่ต้องการส่งเสริมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอมและโบราณสถานในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ให้เกิดการใช้ต้นทุนในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์ ด้วยเส้นทางเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอมโบราณของจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง สู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะที่พิมาย มีอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ไทรงาม รวมถึงเทศกาลเที่ยวพิมายและงานประเพณีแข่งเรือพิมาย ที่ถูกบรรจุไว้ในปฏิทินการท่องเที่ยว ที่สามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว และการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมาในอนาคต Mini Light And Sound “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 7 มิถุนายน 2568 วันแรกชมพิธีเปิดและชมการแสดง แสง สี เสียง ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7 ต่อด้วยการแสดงจากวงดนตรีลูกทุ่ง ส่วนวันที่ 7 จะมีการประกวดเทพธิดาอัปสรา ประจำปี 2568, การแสดงศิลปวัฒนธรรม 2 ชุดการแสดง จากนั้นชมการแสดง แสง สี เสียง “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ปิดท้ายด้วย การแสดงของวงดนตรีลูกทุ่ง ชมฟรี!! ตลอด 2 วัน 2 คืน พร้อมเลือกช้อปสินค้าและของดี อ.พิมาย ณ บริเวณประตูชัย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา #นายกหน่อย #พิมาย # MiniLightAndSound #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • สะกดทุกสายตา ยิ่งใหญ่สมการรอคอย Mini Light & Sound แสงแห่ง “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ย้อนรอยอดีตรากเหง้าชาวพิมายตามเส้นทางอารยธรรมขอม

    วันที่ 6 มิถุนายน 2568 ที่บริเวณประตูชัย อ.พิมาย #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ประธานในพิธี พร้อมด้วย นายนิกร โสมกลางสส.นครราชสีมา เขต 8 นายศิวะเสก สินโทรัมย์ นายอำเภอพิมาย และ นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ร่วมกันเปิดการแสดง แสง สี เสียง (Mini Light and Sound) “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ย้อนรอยอดีตตามเส้นทางท่องเที่ยวอารยธรรมขอม ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 7 มิถุนายน 2568 โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด และสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ที่ต้องการส่งเสริมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอมและโบราณสถานในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ให้เกิดการใช้ต้นทุนในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์ ด้วยเส้นทางเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอมโบราณของจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง สู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะที่พิมาย มีอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ไทรงาม รวมถึงเทศกาลเที่ยวพิมายและงานประเพณีแข่งเรือพิมาย ที่ถูกบรรจุไว้ในปฏิทินการท่องเที่ยว ที่สามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว และการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมาในอนาคต

    Mini Light And Sound “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 7 มิถุนายน 2568 วันแรกชมพิธีเปิดและชมการแสดง แสง สี เสียง ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7 ต่อด้วยการแสดงจากวงดนตรีลูกทุ่ง ส่วนวันที่ 7 จะมีการประกวดเทพธิดาอัปสรา ประจำปี 2568, การแสดงศิลปวัฒนธรรม 2 ชุดการแสดง จากนั้นชมการแสดง แสง สี เสียง “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ปิดท้ายด้วย การแสดงของวงดนตรีลูกทุ่ง ชมฟรี!! ตลอด 2 วัน 2 คืน พร้อมเลือกช้อปสินค้าและของดี อ.พิมาย ณ บริเวณประตูชัย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา

    #นายกหน่อย #พิมาย
    # MiniLightAndSound
    #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    สะกดทุกสายตา ยิ่งใหญ่สมการรอคอย Mini Light & Sound แสงแห่ง “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ย้อนรอยอดีตรากเหง้าชาวพิมายตามเส้นทางอารยธรรมขอม วันที่ 6 มิถุนายน 2568 ที่บริเวณประตูชัย อ.พิมาย #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ประธานในพิธี พร้อมด้วย นายนิกร โสมกลางสส.นครราชสีมา เขต 8 นายศิวะเสก สินโทรัมย์ นายอำเภอพิมาย และ นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ร่วมกันเปิดการแสดง แสง สี เสียง (Mini Light and Sound) “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ย้อนรอยอดีตตามเส้นทางท่องเที่ยวอารยธรรมขอม ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 7 มิถุนายน 2568 โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด และสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ที่ต้องการส่งเสริมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอมและโบราณสถานในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ให้เกิดการใช้ต้นทุนในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์ ด้วยเส้นทางเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอมโบราณของจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง สู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะที่พิมาย มีอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ไทรงาม รวมถึงเทศกาลเที่ยวพิมายและงานประเพณีแข่งเรือพิมาย ที่ถูกบรรจุไว้ในปฏิทินการท่องเที่ยว ที่สามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว และการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมาในอนาคต Mini Light And Sound “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 7 มิถุนายน 2568 วันแรกชมพิธีเปิดและชมการแสดง แสง สี เสียง ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7 ต่อด้วยการแสดงจากวงดนตรีลูกทุ่ง ส่วนวันที่ 7 จะมีการประกวดเทพธิดาอัปสรา ประจำปี 2568, การแสดงศิลปวัฒนธรรม 2 ชุดการแสดง จากนั้นชมการแสดง แสง สี เสียง “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ปิดท้ายด้วย การแสดงของวงดนตรีลูกทุ่ง ชมฟรี!! ตลอด 2 วัน 2 คืน พร้อมเลือกช้อปสินค้าและของดี อ.พิมาย ณ บริเวณประตูชัย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา #นายกหน่อย #พิมาย # MiniLightAndSound #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✈️ FAA เตรียมยกเลิกการใช้แผ่นดิสก์และ Windows 95 ในระบบควบคุมการจราจรทางอากาศ
    Federal Aviation Administration (FAA) กำลังดำเนินโครงการ ปรับปรุงระบบควบคุมการจราจรทางอากาศ (ATC) ของสหรัฐฯ เพื่อ ยกเลิกการใช้แผ่นดิสก์และระบบปฏิบัติการ Windows 95 ซึ่งยังคงถูกใช้งานในหลายศูนย์ควบคุมทั่วประเทศ

    ปัจจุบัน FAA ยังคงใช้แผ่นดิสก์และกระดาษในการจัดการข้อมูลเที่ยวบิน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัยและ เสี่ยงต่อความล้มเหลวของระบบ แม้ว่าจะช่วยให้รอดพ้นจากเหตุการณ์ CrowdStrike outage ที่ส่งผลกระทบทั่วโลก แต่ FAA ยอมรับว่าระบบปัจจุบันไม่สามารถรองรับอนาคตได้

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - FAA เตรียมยกเลิกการใช้แผ่นดิสก์และ Windows 95 ในระบบควบคุมการจราจรทางอากาศ
    - ปัจจุบัน ATC ยังคงใช้กระดาษและแผ่นดิสก์ในการจัดการข้อมูลเที่ยวบิน
    - FAA ยอมรับว่าระบบปัจจุบันไม่สามารถรองรับอนาคตได้
    - โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย เนื่องจากเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ
    - FAA ได้เปิดรับข้อเสนอจากบริษัทเทคโนโลยีเพื่อช่วยปรับปรุงระบบ

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การอัปเกรดระบบ ATC ไม่สามารถทำได้ทันที เนื่องจากบางระบบต้องทำงานตลอดเวลา
    - ต้องมั่นใจว่าระบบใหม่มีความปลอดภัยสูงและสามารถป้องกันการแฮกได้
    - FAA ยังไม่ได้เปิดเผยงบประมาณที่ใช้ในการอัปเกรดระบบ
    - ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมองว่าแผนการปรับปรุงภายใน 4 ปีอาจไม่เป็นไปตามกำหนด

    การปรับปรุงระบบ ATC อาจช่วยให้การจัดการเที่ยวบินมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ ลดความเสี่ยงจากระบบที่ล้าสมัย อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อความปลอดภัยและความต่อเนื่องของบริการอย่างไร

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/the-faa-seeks-to-eliminate-floppy-disk-usage-in-air-traffic-control-systems
    ✈️ FAA เตรียมยกเลิกการใช้แผ่นดิสก์และ Windows 95 ในระบบควบคุมการจราจรทางอากาศ Federal Aviation Administration (FAA) กำลังดำเนินโครงการ ปรับปรุงระบบควบคุมการจราจรทางอากาศ (ATC) ของสหรัฐฯ เพื่อ ยกเลิกการใช้แผ่นดิสก์และระบบปฏิบัติการ Windows 95 ซึ่งยังคงถูกใช้งานในหลายศูนย์ควบคุมทั่วประเทศ ปัจจุบัน FAA ยังคงใช้แผ่นดิสก์และกระดาษในการจัดการข้อมูลเที่ยวบิน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัยและ เสี่ยงต่อความล้มเหลวของระบบ แม้ว่าจะช่วยให้รอดพ้นจากเหตุการณ์ CrowdStrike outage ที่ส่งผลกระทบทั่วโลก แต่ FAA ยอมรับว่าระบบปัจจุบันไม่สามารถรองรับอนาคตได้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - FAA เตรียมยกเลิกการใช้แผ่นดิสก์และ Windows 95 ในระบบควบคุมการจราจรทางอากาศ - ปัจจุบัน ATC ยังคงใช้กระดาษและแผ่นดิสก์ในการจัดการข้อมูลเที่ยวบิน - FAA ยอมรับว่าระบบปัจจุบันไม่สามารถรองรับอนาคตได้ - โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย เนื่องจากเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ - FAA ได้เปิดรับข้อเสนอจากบริษัทเทคโนโลยีเพื่อช่วยปรับปรุงระบบ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การอัปเกรดระบบ ATC ไม่สามารถทำได้ทันที เนื่องจากบางระบบต้องทำงานตลอดเวลา - ต้องมั่นใจว่าระบบใหม่มีความปลอดภัยสูงและสามารถป้องกันการแฮกได้ - FAA ยังไม่ได้เปิดเผยงบประมาณที่ใช้ในการอัปเกรดระบบ - ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมองว่าแผนการปรับปรุงภายใน 4 ปีอาจไม่เป็นไปตามกำหนด การปรับปรุงระบบ ATC อาจช่วยให้การจัดการเที่ยวบินมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ ลดความเสี่ยงจากระบบที่ล้าสมัย อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อความปลอดภัยและความต่อเนื่องของบริการอย่างไร https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/the-faa-seeks-to-eliminate-floppy-disk-usage-in-air-traffic-control-systems
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🖥️ นักพัฒนาโต้กลับ! AI ยังไม่สามารถแทนที่มนุษย์ในการเขียนโค้ด
    ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง เช่น Meta และ Anthropic กำลังผลักดันให้ AI เข้ามาแทนที่นักพัฒนาโค้ด Salvatore Sanfilippo ผู้สร้าง Redis ได้ออกมาแสดงจุดยืนว่า มนุษย์ยังคงเหนือกว่า AI ในการคิดแก้ปัญหาที่ซับซ้อน

    Sanfilippo ได้ทดลองใช้ Google Gemini AI เพื่อช่วยแก้ไขบั๊กในระบบของ Redis แต่พบว่า AI ไม่สามารถคิดนอกกรอบได้ และ ไม่สามารถให้คำตอบที่ดีกว่ามนุษย์

    เขาอธิบายว่า AI มีประโยชน์ในการตรวจสอบแนวคิดที่มนุษย์คิดขึ้นมา แต่ ไม่สามารถสร้างแนวทางแก้ไขที่ดีกว่ามนุษย์ได้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญของ Large Language Models (LLMs)

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Sanfilippo ทดลองใช้ Google Gemini AI เพื่อแก้ไขบั๊กใน Redis
    - AI สามารถช่วยตรวจสอบแนวคิดของมนุษย์ แต่ไม่สามารถคิดนอกกรอบได้
    - LLMs ยังไม่สามารถสร้างแนวทางแก้ไขที่ดีกว่ามนุษย์ได้
    - Meta และ Anthropic เชื่อว่า AI สามารถแทนที่นักพัฒนาโค้ดได้ แต่ Sanfilippo ไม่เห็นด้วย
    - Microsoft รายงานว่า นักพัฒนารุ่นใหม่พึ่งพา AI มากเกินไป จนอาจขาดความเข้าใจพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - AI อาจช่วยเร่งกระบวนการเขียนโค้ด แต่ยังต้องการการตรวจสอบจากมนุษย์
    - นักพัฒนาที่พึ่งพา AI มากเกินไป อาจขาดทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
    - บริษัทเทคโนโลยีบางแห่งเริ่มลดจำนวนพนักงานด้านการพัฒนาโค้ดเพื่อแทนที่ด้วย AI
    - ต้องติดตามว่า AI จะสามารถพัฒนาให้คิดนอกกรอบได้หรือไม่ในอนาคต

    แม้ว่า AI จะช่วยให้การเขียนโค้ดเร็วขึ้น แต่ยังต้องพึ่งพามนุษย์ในการคิดแก้ปัญหาที่ซับซ้อน นักพัฒนาควร ใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วย แต่ ไม่ควรพึ่งพามากเกินไปจนสูญเสียทักษะการคิดวิเคราะห์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/07/human-coders-are-still-better-than-ai-says-this-expert-developer
    🖥️ นักพัฒนาโต้กลับ! AI ยังไม่สามารถแทนที่มนุษย์ในการเขียนโค้ด ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง เช่น Meta และ Anthropic กำลังผลักดันให้ AI เข้ามาแทนที่นักพัฒนาโค้ด Salvatore Sanfilippo ผู้สร้าง Redis ได้ออกมาแสดงจุดยืนว่า มนุษย์ยังคงเหนือกว่า AI ในการคิดแก้ปัญหาที่ซับซ้อน Sanfilippo ได้ทดลองใช้ Google Gemini AI เพื่อช่วยแก้ไขบั๊กในระบบของ Redis แต่พบว่า AI ไม่สามารถคิดนอกกรอบได้ และ ไม่สามารถให้คำตอบที่ดีกว่ามนุษย์ เขาอธิบายว่า AI มีประโยชน์ในการตรวจสอบแนวคิดที่มนุษย์คิดขึ้นมา แต่ ไม่สามารถสร้างแนวทางแก้ไขที่ดีกว่ามนุษย์ได้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญของ Large Language Models (LLMs) ✅ ข้อมูลจากข่าว - Sanfilippo ทดลองใช้ Google Gemini AI เพื่อแก้ไขบั๊กใน Redis - AI สามารถช่วยตรวจสอบแนวคิดของมนุษย์ แต่ไม่สามารถคิดนอกกรอบได้ - LLMs ยังไม่สามารถสร้างแนวทางแก้ไขที่ดีกว่ามนุษย์ได้ - Meta และ Anthropic เชื่อว่า AI สามารถแทนที่นักพัฒนาโค้ดได้ แต่ Sanfilippo ไม่เห็นด้วย - Microsoft รายงานว่า นักพัฒนารุ่นใหม่พึ่งพา AI มากเกินไป จนอาจขาดความเข้าใจพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - AI อาจช่วยเร่งกระบวนการเขียนโค้ด แต่ยังต้องการการตรวจสอบจากมนุษย์ - นักพัฒนาที่พึ่งพา AI มากเกินไป อาจขาดทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน - บริษัทเทคโนโลยีบางแห่งเริ่มลดจำนวนพนักงานด้านการพัฒนาโค้ดเพื่อแทนที่ด้วย AI - ต้องติดตามว่า AI จะสามารถพัฒนาให้คิดนอกกรอบได้หรือไม่ในอนาคต แม้ว่า AI จะช่วยให้การเขียนโค้ดเร็วขึ้น แต่ยังต้องพึ่งพามนุษย์ในการคิดแก้ปัญหาที่ซับซ้อน นักพัฒนาควร ใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วย แต่ ไม่ควรพึ่งพามากเกินไปจนสูญเสียทักษะการคิดวิเคราะห์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/07/human-coders-are-still-better-than-ai-says-this-expert-developer
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Human coders are still better than AI, says this expert developer
    Some AI supporters, and even a few big tech CEOs are already replacing some of their coding workforce with AI systems. But maybe they're being premature.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • Pronoun Explainer: What Do Ella, Él, And Elle Mean In Pronoun Sets?

    If you’ve recently seen pronoun sets like she/her/ella, he/him/él, or they/them/elle, you may be wondering what the third word in each set means.

    In familiar pronoun sets like he/him/his, the third word indicates the possessive form. But that’s not the case with él, ella, and elle. Instead, these terms are used by people who speak both English and Spanish as a way to indicate their pronouns in both languages.

    What does she/her/ella mean? And he/him/él?
    In she/her/ella, the word ella—pronounced [ eh-yah ]—is the Spanish pronoun equivalent to the English she or her (in Spanish, the same word is used regardless of whether it’s the subject or the object).

    In he/him/él, él—simply pronounced [ el ]—is the Spanish pronoun equivalent to the English he or him. (It is often spelled without the accent mark.)

    Bilingual speakers of English and Spanish frequently use both English and Spanish in everyday life, so indicating their pronouns for both languages makes a lot of sense, especially in contexts where they may be conversing in both languages.

    ⚡️ What else bilingual pronoun sets show
    Informationally, bilingual pronoun sets can do double duty—not only do they indicate a person’s pronouns, they also indicate the two languages that a person speaks. Apart from its practical function, displaying a mixed-language pronoun set can also be a way for a person to express pride in their cultural identity.

    What does elle mean in they/them/elle?
    In English, pronouns like they and them can be used as singular, gender-neutral pronouns, including by people who identify as nonbinary or whose gender identity exists between or beyond the spectrum of strictly male or female. This is what the pronoun set they/them indicates.

    Sometimes, you’ll see the pronoun set they/them/elle.

    Because formal, traditional Spanish does not have a gender-neutral, singular pronoun (equivalent to the English they), some Spanish speakers use the neopronoun elle, which some pronounce as [ eh-yeh ].

    It’s used to avoid the grammatical gender that’s built into the Spanish language, whose traditional plural equivalents of they are the masculine ellos and the feminine ellas.

    Like singular they, elle is also used as a pronoun by some Spanish speakers whose gender identity is not strictly male or female. Some people use the similar neopronoun ellx, which like other terms uses the letter x to create gender-neutrality.

    Relatedly, the avoidance of gendered language is also the reason why some people use the term Latinx.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    Pronoun Explainer: What Do Ella, Él, And Elle Mean In Pronoun Sets? If you’ve recently seen pronoun sets like she/her/ella, he/him/él, or they/them/elle, you may be wondering what the third word in each set means. In familiar pronoun sets like he/him/his, the third word indicates the possessive form. But that’s not the case with él, ella, and elle. Instead, these terms are used by people who speak both English and Spanish as a way to indicate their pronouns in both languages. What does she/her/ella mean? And he/him/él? In she/her/ella, the word ella—pronounced [ eh-yah ]—is the Spanish pronoun equivalent to the English she or her (in Spanish, the same word is used regardless of whether it’s the subject or the object). In he/him/él, él—simply pronounced [ el ]—is the Spanish pronoun equivalent to the English he or him. (It is often spelled without the accent mark.) Bilingual speakers of English and Spanish frequently use both English and Spanish in everyday life, so indicating their pronouns for both languages makes a lot of sense, especially in contexts where they may be conversing in both languages. ⚡️ What else bilingual pronoun sets show Informationally, bilingual pronoun sets can do double duty—not only do they indicate a person’s pronouns, they also indicate the two languages that a person speaks. Apart from its practical function, displaying a mixed-language pronoun set can also be a way for a person to express pride in their cultural identity. What does elle mean in they/them/elle? In English, pronouns like they and them can be used as singular, gender-neutral pronouns, including by people who identify as nonbinary or whose gender identity exists between or beyond the spectrum of strictly male or female. This is what the pronoun set they/them indicates. Sometimes, you’ll see the pronoun set they/them/elle. Because formal, traditional Spanish does not have a gender-neutral, singular pronoun (equivalent to the English they), some Spanish speakers use the neopronoun elle, which some pronounce as [ eh-yeh ]. It’s used to avoid the grammatical gender that’s built into the Spanish language, whose traditional plural equivalents of they are the masculine ellos and the feminine ellas. Like singular they, elle is also used as a pronoun by some Spanish speakers whose gender identity is not strictly male or female. Some people use the similar neopronoun ellx, which like other terms uses the letter x to create gender-neutrality. Relatedly, the avoidance of gendered language is also the reason why some people use the term Latinx. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔒 Cisco เตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน ISE ที่ส่งผลกระทบต่อ AWS และ Azure
    Cisco ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Identity Services Engine (ISE) ซึ่งส่งผลกระทบต่อ การใช้งานบน AWS, Microsoft Azure และ Oracle Cloud Infrastructure (OCI) โดยช่องโหว่นี้มี คะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.9/10 และมี Proof-of-Concept (PoC) exploit เผยแพร่สู่สาธารณะแล้ว

    ช่องโหว่นี้ถูกติดตามภายใต้รหัส CVE-2025-20286 และเกิดจาก การสร้างข้อมูลล็อกอินที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ ISE ที่ติดตั้งบนแพลตฟอร์มคลาวด์เดียวกันสามารถแชร์ข้อมูลล็อกอินกันได้

    ผลกระทบคือ แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง ISE instances ที่อยู่ในคลาวด์อื่น ๆ ผ่านพอร์ตที่ไม่ได้รับการป้องกัน ซึ่งอาจนำไปสู่ การเข้าถึงข้อมูลสำคัญ, การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าระบบ และการรบกวนบริการ

    อย่างไรก็ตาม ช่องโหว่นี้จะเกิดขึ้นเฉพาะเมื่อ Primary Administration Node ถูกติดตั้งบนคลาวด์ หากติดตั้งแบบ On-Premises จะไม่ถูกโจมตี

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Cisco เตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน ISE ที่ส่งผลกระทบต่อ AWS, Azure และ OCI
    - ช่องโหว่ CVE-2025-20286 มีคะแนนความรุนแรง 9.9/10
    - เกิดจากการสร้างข้อมูลล็อกอินที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ ISE instances สามารถแชร์ข้อมูลล็อกอินกันได้
    - แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง ISE instances ผ่านพอร์ตที่ไม่ได้รับการป้องกัน
    - ช่องโหว่นี้จะเกิดขึ้นเฉพาะเมื่อ Primary Administration Node ถูกติดตั้งบนคลาวด์

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ช่องโหว่นี้มี Proof-of-Concept (PoC) exploit เผยแพร่สู่สาธารณะแล้ว
    - หาก ISE ถูกติดตั้งแบบ On-Premises จะไม่ถูกโจมตี
    - Cisco แนะนำให้ผู้ใช้ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยและอัปเดตแพตช์ทันที
    - ต้องติดตามว่าช่องโหว่นี้จะถูกนำไปใช้โจมตีในวงกว้างหรือไม่

    Cisco ได้ออก แพตช์แก้ไขช่องโหว่แล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้ อัปเดตซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด รวมถึง ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของ ISE บนคลาวด์

    https://www.techradar.com/pro/security/cisco-warns-over-worrying-security-flaws-in-ise-affecting-aws-azure-cloud-deployments
    🔒 Cisco เตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน ISE ที่ส่งผลกระทบต่อ AWS และ Azure Cisco ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Identity Services Engine (ISE) ซึ่งส่งผลกระทบต่อ การใช้งานบน AWS, Microsoft Azure และ Oracle Cloud Infrastructure (OCI) โดยช่องโหว่นี้มี คะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.9/10 และมี Proof-of-Concept (PoC) exploit เผยแพร่สู่สาธารณะแล้ว ช่องโหว่นี้ถูกติดตามภายใต้รหัส CVE-2025-20286 และเกิดจาก การสร้างข้อมูลล็อกอินที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ ISE ที่ติดตั้งบนแพลตฟอร์มคลาวด์เดียวกันสามารถแชร์ข้อมูลล็อกอินกันได้ ผลกระทบคือ แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง ISE instances ที่อยู่ในคลาวด์อื่น ๆ ผ่านพอร์ตที่ไม่ได้รับการป้องกัน ซึ่งอาจนำไปสู่ การเข้าถึงข้อมูลสำคัญ, การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าระบบ และการรบกวนบริการ อย่างไรก็ตาม ช่องโหว่นี้จะเกิดขึ้นเฉพาะเมื่อ Primary Administration Node ถูกติดตั้งบนคลาวด์ หากติดตั้งแบบ On-Premises จะไม่ถูกโจมตี ✅ ข้อมูลจากข่าว - Cisco เตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน ISE ที่ส่งผลกระทบต่อ AWS, Azure และ OCI - ช่องโหว่ CVE-2025-20286 มีคะแนนความรุนแรง 9.9/10 - เกิดจากการสร้างข้อมูลล็อกอินที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ ISE instances สามารถแชร์ข้อมูลล็อกอินกันได้ - แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง ISE instances ผ่านพอร์ตที่ไม่ได้รับการป้องกัน - ช่องโหว่นี้จะเกิดขึ้นเฉพาะเมื่อ Primary Administration Node ถูกติดตั้งบนคลาวด์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ช่องโหว่นี้มี Proof-of-Concept (PoC) exploit เผยแพร่สู่สาธารณะแล้ว - หาก ISE ถูกติดตั้งแบบ On-Premises จะไม่ถูกโจมตี - Cisco แนะนำให้ผู้ใช้ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยและอัปเดตแพตช์ทันที - ต้องติดตามว่าช่องโหว่นี้จะถูกนำไปใช้โจมตีในวงกว้างหรือไม่ Cisco ได้ออก แพตช์แก้ไขช่องโหว่แล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้ อัปเดตซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด รวมถึง ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของ ISE บนคลาวด์ https://www.techradar.com/pro/security/cisco-warns-over-worrying-security-flaws-in-ise-affecting-aws-azure-cloud-deployments
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚀 Starlink ได้รับใบอนุญาตให้ให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมในอินเดีย
    Elon Musk และบริษัท Starlink ได้รับ ใบอนุญาตจากกระทรวงโทรคมนาคมของอินเดีย เพื่อเริ่มดำเนินการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมในประเทศ ซึ่งถือเป็น ก้าวสำคัญในการขยายตลาดของ Starlink ในเอเชียใต้

    Starlink เป็น บริษัทที่สามที่ได้รับใบอนุญาตจากอินเดีย ต่อจาก Eutelsat's OneWeb และ Reliance Jio อย่างไรก็ตาม Starlink ยังต้องได้รับใบอนุญาตเพิ่มเติมจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านอวกาศของอินเดีย ก่อนที่จะสามารถเริ่มให้บริการได้

    นอกจากนี้ Starlink ยังต้อง ขอจัดสรรคลื่นความถี่จากรัฐบาล และ สร้างโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน รวมถึง ผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัย ตามข้อกำหนดของอินเดีย

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Starlink ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงโทรคมนาคมของอินเดีย
    - เป็นบริษัทที่สามที่ได้รับอนุญาต ต่อจาก OneWeb และ Reliance Jio
    - ยังต้องได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านอวกาศของอินเดีย
    - ต้องขอจัดสรรคลื่นความถี่จากรัฐบาลและสร้างโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน
    - ต้องผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัยก่อนเริ่มให้บริการ

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - กระบวนการเปิดตัวอาจใช้เวลาหลายเดือน เนื่องจากต้องผ่านการตรวจสอบหลายขั้นตอน
    - Starlink ยังต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานด้านความปลอดภัยของอินเดีย
    - อินเดียกำหนดให้ผู้ให้บริการดาวเทียมต้องจ่าย 4% ของรายได้ต่อปีให้รัฐบาล ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาค่าบริการ
    - ต้องติดตามว่าการแข่งขันระหว่าง Starlink และผู้ให้บริการท้องถิ่น เช่น Jio จะส่งผลต่อการกำหนดราคาหรือไม่

    การได้รับใบอนุญาตครั้งนี้ ช่วยให้ Starlink สามารถเข้าสู่ตลาดอินเดียได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจ ช่วยให้พื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่ากระบวนการเปิดตัวจะเป็นไปตามแผนหรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/06/musk039s-starlink-gets-key-india-licence-from-telecoms-ministry-sources-say
    🚀 Starlink ได้รับใบอนุญาตให้ให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมในอินเดีย Elon Musk และบริษัท Starlink ได้รับ ใบอนุญาตจากกระทรวงโทรคมนาคมของอินเดีย เพื่อเริ่มดำเนินการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมในประเทศ ซึ่งถือเป็น ก้าวสำคัญในการขยายตลาดของ Starlink ในเอเชียใต้ Starlink เป็น บริษัทที่สามที่ได้รับใบอนุญาตจากอินเดีย ต่อจาก Eutelsat's OneWeb และ Reliance Jio อย่างไรก็ตาม Starlink ยังต้องได้รับใบอนุญาตเพิ่มเติมจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านอวกาศของอินเดีย ก่อนที่จะสามารถเริ่มให้บริการได้ นอกจากนี้ Starlink ยังต้อง ขอจัดสรรคลื่นความถี่จากรัฐบาล และ สร้างโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน รวมถึง ผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัย ตามข้อกำหนดของอินเดีย ✅ ข้อมูลจากข่าว - Starlink ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงโทรคมนาคมของอินเดีย - เป็นบริษัทที่สามที่ได้รับอนุญาต ต่อจาก OneWeb และ Reliance Jio - ยังต้องได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านอวกาศของอินเดีย - ต้องขอจัดสรรคลื่นความถี่จากรัฐบาลและสร้างโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน - ต้องผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัยก่อนเริ่มให้บริการ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - กระบวนการเปิดตัวอาจใช้เวลาหลายเดือน เนื่องจากต้องผ่านการตรวจสอบหลายขั้นตอน - Starlink ยังต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานด้านความปลอดภัยของอินเดีย - อินเดียกำหนดให้ผู้ให้บริการดาวเทียมต้องจ่าย 4% ของรายได้ต่อปีให้รัฐบาล ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาค่าบริการ - ต้องติดตามว่าการแข่งขันระหว่าง Starlink และผู้ให้บริการท้องถิ่น เช่น Jio จะส่งผลต่อการกำหนดราคาหรือไม่ การได้รับใบอนุญาตครั้งนี้ ช่วยให้ Starlink สามารถเข้าสู่ตลาดอินเดียได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจ ช่วยให้พื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่ากระบวนการเปิดตัวจะเป็นไปตามแผนหรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/06/musk039s-starlink-gets-key-india-licence-from-telecoms-ministry-sources-say
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Musk's Starlink gets India licence to offer satcom services, sources say
    NEW DELHI (Reuters) -Elon Musk's Starlink has received a licence to launch commercial operations in India from the telecoms ministry, two sources told Reuters on Friday, clearing a major hurdle for the satellite provider that has long wanted to enter the South Asian country.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔍 อนาคตของการค้นหาข้อมูลท่ามกลางการเติบโตของ AI
    ผู้พิพากษา Amit Mehta ตั้งคำถามต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร ในขณะที่คดีต่อต้านการผูกขาดของ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้าย

    Mehta กำลังพิจารณาว่า AI ควรถือเป็นเทคโนโลยีที่แข่งขันกับการค้นหาข้อมูล หรือเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดย DOJ ต้องการให้ Google หยุดการจ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น

    นอกจากนี้ DOJ ยังเสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งสามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - ผู้พิพากษา Mehta ตั้งคำถามว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร
    - DOJ ต้องการให้ Google หยุดจ่ายเงินให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น
    - Google ได้ยกเลิกข้อตกลงพิเศษกับ Samsung และผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อให้สามารถติดตั้งแอปค้นหาของคู่แข่งได้
    - DOJ เสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งแข่งขันได้
    - OpenAI สนใจซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การบังคับให้ Google แบ่งปันข้อมูลการค้นหาอาจส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
    - AI อาจไม่สามารถแทนที่เครื่องมือค้นหาแบบดั้งเดิมได้ทั้งหมด
    - Google อาจใช้ข้อได้เปรียบจากการผูกขาดการค้นหาเพื่อพัฒนา AI ของตนเอง เช่น Gemini
    - ต้องติดตามว่าผู้พิพากษาจะตัดสินอย่างไรในเดือนสิงหาคม

    คดีนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับตลาดการค้นหาข้อมูล หาก DOJ ประสบความสำเร็จ Google อาจต้องปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ และเปิดโอกาสให้บริษัท AI เช่น OpenAI และ Perplexity เข้ามาแข่งขัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/google-and-doj-to-make-final-push-in-us-search-antitrust-case
    🔍 อนาคตของการค้นหาข้อมูลท่ามกลางการเติบโตของ AI ผู้พิพากษา Amit Mehta ตั้งคำถามต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร ในขณะที่คดีต่อต้านการผูกขาดของ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้าย Mehta กำลังพิจารณาว่า AI ควรถือเป็นเทคโนโลยีที่แข่งขันกับการค้นหาข้อมูล หรือเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดย DOJ ต้องการให้ Google หยุดการจ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น นอกจากนี้ DOJ ยังเสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งสามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม ✅ ข้อมูลจากข่าว - ผู้พิพากษา Mehta ตั้งคำถามว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร - DOJ ต้องการให้ Google หยุดจ่ายเงินให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น - Google ได้ยกเลิกข้อตกลงพิเศษกับ Samsung และผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อให้สามารถติดตั้งแอปค้นหาของคู่แข่งได้ - DOJ เสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งแข่งขันได้ - OpenAI สนใจซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การบังคับให้ Google แบ่งปันข้อมูลการค้นหาอาจส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ - AI อาจไม่สามารถแทนที่เครื่องมือค้นหาแบบดั้งเดิมได้ทั้งหมด - Google อาจใช้ข้อได้เปรียบจากการผูกขาดการค้นหาเพื่อพัฒนา AI ของตนเอง เช่น Gemini - ต้องติดตามว่าผู้พิพากษาจะตัดสินอย่างไรในเดือนสิงหาคม คดีนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับตลาดการค้นหาข้อมูล หาก DOJ ประสบความสำเร็จ Google อาจต้องปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ และเปิดโอกาสให้บริษัท AI เช่น OpenAI และ Perplexity เข้ามาแข่งขัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/google-and-doj-to-make-final-push-in-us-search-antitrust-case
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Judge in Google case questions future of search amid rise of AI
    WASHINGTON (Reuters) -A judge asked the U.S. Department of Justice on Friday how much room there would be for new search engines to emerge given the rise of artificial intelligence, as antitrust enforcers press for Alphabet's Google to take dramatic measures to restore competition in online search.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔐 การอัปเดตด้านความปลอดภัยของ Windows 11 และ Server 2025
    Microsoft ได้เปิดตัว Windows 11 24H2 และ Windows Server 2025 พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย เช่น Recall และ Windows Hotpatching ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อควรระวังสำหรับองค์กร

    Recall เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้อนดูการทำงานบนเครื่องได้ผ่าน AI และ Optical Character Recognition (OCR) อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้เคยถูกวิจารณ์ว่าเป็น "ฝันร้ายด้านความเป็นส่วนตัว" ทำให้ Microsoft ต้องปรับให้เป็น ระบบ opt-in

    Windows Hotpatching เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยให้สามารถติดตั้งอัปเดตด้านความปลอดภัยโดยไม่ต้องรีบูตเครื่อง ซึ่งช่วยลดเวลาหยุดทำงานของระบบ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Windows 11 24H2 และ Server 2025 มาพร้อมกับฟีเจอร์ Recall และ Windows Hotpatching
    - Recall ใช้ AI และ OCR เพื่อสร้างฐานข้อมูลกิจกรรมของผู้ใช้
    - Windows Hotpatching ช่วยให้สามารถติดตั้งอัปเดตโดยไม่ต้องรีบูตเครื่อง
    - Microsoft แนะนำให้ตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น การบล็อก NTLM และการใช้ Entra ID
    - Server 2025 มีการปรับปรุงนโยบาย Local Administrator Password Solution (LAPS)

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Recall เคยถูกวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัว และต้องมีการตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติม
    - Windows Hotpatching อาจไม่รองรับทุกอัปเดต และต้องมีการตรวจสอบก่อนใช้งาน
    - องค์กรควรพิจารณาการตั้งค่าความปลอดภัย เช่น การบล็อก NTLM เพื่อป้องกันการโจมตี
    - ต้องติดตามการอัปเดตจาก Microsoft เพื่อดูว่าฟีเจอร์ใหม่มีผลกระทบต่อระบบอย่างไร

    Windows 11 24H2 และ Server 2025 นำเสนอฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็มีข้อควรระวังที่องค์กรต้องพิจารณา เช่น การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของ Recall และการตรวจสอบความเข้ากันได้ของ Windows Hotpatching

    https://www.csoonline.com/article/3996290/securing-windows-11-and-server-2025-what-cisos-should-know-about-the-latest-updates.html
    🔐 การอัปเดตด้านความปลอดภัยของ Windows 11 และ Server 2025 Microsoft ได้เปิดตัว Windows 11 24H2 และ Windows Server 2025 พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย เช่น Recall และ Windows Hotpatching ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อควรระวังสำหรับองค์กร Recall เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้อนดูการทำงานบนเครื่องได้ผ่าน AI และ Optical Character Recognition (OCR) อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้เคยถูกวิจารณ์ว่าเป็น "ฝันร้ายด้านความเป็นส่วนตัว" ทำให้ Microsoft ต้องปรับให้เป็น ระบบ opt-in Windows Hotpatching เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยให้สามารถติดตั้งอัปเดตด้านความปลอดภัยโดยไม่ต้องรีบูตเครื่อง ซึ่งช่วยลดเวลาหยุดทำงานของระบบ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Windows 11 24H2 และ Server 2025 มาพร้อมกับฟีเจอร์ Recall และ Windows Hotpatching - Recall ใช้ AI และ OCR เพื่อสร้างฐานข้อมูลกิจกรรมของผู้ใช้ - Windows Hotpatching ช่วยให้สามารถติดตั้งอัปเดตโดยไม่ต้องรีบูตเครื่อง - Microsoft แนะนำให้ตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น การบล็อก NTLM และการใช้ Entra ID - Server 2025 มีการปรับปรุงนโยบาย Local Administrator Password Solution (LAPS) ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Recall เคยถูกวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัว และต้องมีการตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติม - Windows Hotpatching อาจไม่รองรับทุกอัปเดต และต้องมีการตรวจสอบก่อนใช้งาน - องค์กรควรพิจารณาการตั้งค่าความปลอดภัย เช่น การบล็อก NTLM เพื่อป้องกันการโจมตี - ต้องติดตามการอัปเดตจาก Microsoft เพื่อดูว่าฟีเจอร์ใหม่มีผลกระทบต่อระบบอย่างไร Windows 11 24H2 และ Server 2025 นำเสนอฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็มีข้อควรระวังที่องค์กรต้องพิจารณา เช่น การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของ Recall และการตรวจสอบความเข้ากันได้ของ Windows Hotpatching https://www.csoonline.com/article/3996290/securing-windows-11-and-server-2025-what-cisos-should-know-about-the-latest-updates.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Securing Windows 11 and Server 2025: What CISOs should know about the latest updates
    Microsoft’s latest rollouts to Windows 11 24H2 and Windows Server 2025 include the arrival of Recall and hotpatching. Here are the security settings and recommendations to note.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta ได้เปิดเผยว่า Meta AI ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI เชิงสร้างสรรค์ของบริษัท มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน โดย AI นี้ถูกฝังอยู่ในแอปต่าง ๆ ของ Meta เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องค้นหาแยกต่างหาก

    Meta กำลังแข่งขันกับ Google, Microsoft และ OpenAI ในตลาด AI โดยเฉพาะหลังจากที่ Google เปิดตัว AI Overviews ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ให้สรุปผลการค้นหาแบบอัตโนมัติ และมีผู้ใช้มากกว่า 1.5 พันล้านคน

    นอกจากนี้ Meta ยังเปิดตัว แอป Meta AI แบบ standalone เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2025 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง AI ได้โดยตรง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Meta AI มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน
    - AI ถูกฝังอยู่ในแอปของ Meta เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp
    - Meta เปิดตัวแอป Meta AI แบบ standalone เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2025
    - Google เปิดตัว AI Overviews ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 1.5 พันล้านคน
    - Google Gemini AI มีผู้ใช้มากกว่า 400 ล้านคนต่อเดือน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าผู้ใช้ Meta AI ใช้งานโดยตั้งใจหรือเป็นการใช้งานแบบอัตโนมัติ
    - การแข่งขันในตลาด AI กำลังรุนแรงขึ้น โดย Meta ต้องแข่งกับ Google, Microsoft และ OpenAI
    - AI ยังมีความท้าทายด้านการป้องกันข้อมูลผิดพลาดและโมเดลธุรกิจ
    - ต้องรอติดตามว่า Meta AI จะสามารถเป็นผู้นำในตลาด AI ส่วนบุคคลได้หรือไม่

    Meta กำลังผลักดัน Meta AI ให้เป็นผู้ช่วย AI ส่วนบุคคลที่มีผู้ใช้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดนี้ยังคงเข้มข้น และต้องจับตาดูว่า Meta จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำได้หรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/29/zuckerberg-meta-ai-bot-used-a-billion-times-monthly
    Meta ได้เปิดเผยว่า Meta AI ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI เชิงสร้างสรรค์ของบริษัท มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน โดย AI นี้ถูกฝังอยู่ในแอปต่าง ๆ ของ Meta เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องค้นหาแยกต่างหาก Meta กำลังแข่งขันกับ Google, Microsoft และ OpenAI ในตลาด AI โดยเฉพาะหลังจากที่ Google เปิดตัว AI Overviews ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ให้สรุปผลการค้นหาแบบอัตโนมัติ และมีผู้ใช้มากกว่า 1.5 พันล้านคน นอกจากนี้ Meta ยังเปิดตัว แอป Meta AI แบบ standalone เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2025 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง AI ได้โดยตรง ✅ ข้อมูลจากข่าว - Meta AI มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน - AI ถูกฝังอยู่ในแอปของ Meta เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp - Meta เปิดตัวแอป Meta AI แบบ standalone เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2025 - Google เปิดตัว AI Overviews ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 1.5 พันล้านคน - Google Gemini AI มีผู้ใช้มากกว่า 400 ล้านคนต่อเดือน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าผู้ใช้ Meta AI ใช้งานโดยตั้งใจหรือเป็นการใช้งานแบบอัตโนมัติ - การแข่งขันในตลาด AI กำลังรุนแรงขึ้น โดย Meta ต้องแข่งกับ Google, Microsoft และ OpenAI - AI ยังมีความท้าทายด้านการป้องกันข้อมูลผิดพลาดและโมเดลธุรกิจ - ต้องรอติดตามว่า Meta AI จะสามารถเป็นผู้นำในตลาด AI ส่วนบุคคลได้หรือไม่ Meta กำลังผลักดัน Meta AI ให้เป็นผู้ช่วย AI ส่วนบุคคลที่มีผู้ใช้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดนี้ยังคงเข้มข้น และต้องจับตาดูว่า Meta จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำได้หรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/29/zuckerberg-meta-ai-bot-used-a-billion-times-monthly
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Zuckerberg: Meta AI bot used a billion times monthly
    Meta chief Mark Zuckerberg touted the tech firm's generative artificial intelligence (Gen AI) assistant on May 28, telling shareholders it is used by a billion people each month across its platforms.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปลือ..ยชีวิต The Almost Prime Minister
    คนเกือบได้เป็นนายกฯ ที่ในชีวิตจริงก็ได้แค่เกือบแม่งทุกอย่าง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #นายกว่าว
    #พิธา
    เปลือ..ยชีวิต The Almost Prime Minister คนเกือบได้เป็นนายกฯ ที่ในชีวิตจริงก็ได้แค่เกือบแม่งทุกอย่าง #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #นายกว่าว #พิธา
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • เดี๋ยวจะมีภาคย่อย ของจักรวาลไอ้ Almost Prime Minister นายกฯว่าว ตลอดชีพ

    - Almost RIP (จำผิดพลาดงานศพพ่อง)
    - Almost Dual Degree (แหกตา ปริญญาสองใบ)
    - Almost Billionaire (อายุน้อยหนี้ร้อยล้าน)
    - Almost Prince of Battambang (เจ้าชายทิพย์พระตะบอง)
    - Almost Free Cannabis (เราเลิกเป็นเพื่อนกัญ)
    - Almost Family (เผด็จการบ้านแตก)
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #พิธา
    #นายกว่าว
    #จักรวาลคนเกือบได้เป็น
    เดี๋ยวจะมีภาคย่อย ของจักรวาลไอ้ Almost Prime Minister นายกฯว่าว ตลอดชีพ - Almost RIP (จำผิดพลาดงานศพพ่อง) - Almost Dual Degree (แหกตา ปริญญาสองใบ) - Almost Billionaire (อายุน้อยหนี้ร้อยล้าน) - Almost Prince of Battambang (เจ้าชายทิพย์พระตะบอง) - Almost Free Cannabis (เราเลิกเป็นเพื่อนกัญ) - Almost Family (เผด็จการบ้านแตก) #คิงส์โพธิ์แดง #พิธา #นายกว่าว #จักรวาลคนเกือบได้เป็น
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • พิธา นายกฯว่าว ไม่หยุดสร้างสตอรี่ขายฝันลวงโลก ปากอยากสร้างอนาคต แต่จมปลักกับอดีตที่พ่ายแพ้ ตัดพ้อชวดเป็นนายกฯ ทั้งที่ใครต่อใครก็เคยเกือบได้เป็นนายกฯ กันทั้งนั้น ยังดีที่คนอื่นๆ ไม่บ้าหาแดกทำหนังสือแบบมัน ไม่งั้นเราจะมีจักรวาล The Almost Prime Minister เกือบสิบซีรีย์
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #พิธา
    #นายกว่าว
    #นายก29.5
    พิธา นายกฯว่าว ไม่หยุดสร้างสตอรี่ขายฝันลวงโลก ปากอยากสร้างอนาคต แต่จมปลักกับอดีตที่พ่ายแพ้ ตัดพ้อชวดเป็นนายกฯ ทั้งที่ใครต่อใครก็เคยเกือบได้เป็นนายกฯ กันทั้งนั้น ยังดีที่คนอื่นๆ ไม่บ้าหาแดกทำหนังสือแบบมัน ไม่งั้นเราจะมีจักรวาล The Almost Prime Minister เกือบสิบซีรีย์ #คิงส์โพธิ์แดง #พิธา #นายกว่าว #นายก29.5
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับการจับมือกันระหว่าง Telegram และ xAI ของ Elon Musk เพื่อกระจายการใช้งาน Grok ในแพลตฟอร์มแชทที่มีผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก นับเป็นดีลที่อาจส่งผลต่อวงการ AI อย่างมีนัยสำคัญ

    Grok เป็น AI แชตบอทที่พัฒนาโดย xAI มีแนวทางที่แตกต่างจากคู่แข่งอย่าง ChatGPT หรือ Gemini โดย Grok มีแนวโน้มจะเน้นการตอบกลับแบบไม่เหมือนใครและเน้นการเสียดสีและความขบขัน

    การขยายฐานผู้ใช้ผ่าน Telegram อาจช่วยให้ xAI ได้ข้อมูลการโต้ตอบจากผู้ใช้จำนวนมาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาโมเดล AI และอาจเป็นแนวทางเดียวกับที่ Meta ใช้ข้อมูลสาธารณะจากผู้ใช้เพื่อฝึก AI ของตน


    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - xAI จ่ายเงิน 300 ล้านเหรียญ ให้ Telegram เพื่อเปิดตัว Grok ในแพลตฟอร์ม
    - ดีลนี้มีอายุ 1 ปี และ Telegram จะได้รับ ครึ่งหนึ่งของรายได้จากการสมัครสมาชิกผ่านแอป
    - Elon Musk กล่าวว่า ยังไม่มีการลงนามในข้อตกลงอย่างเป็นทางการ แต่ Durov ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงกันในหลักการแล้ว
    - xAI หวังใช้ข้อมูลที่ Telegram อาจให้มาเพื่อพัฒนาโมเดล AI ของตน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้อาจเป็นประเด็นสำคัญ เนื่องจาก X มีนโยบายการใช้โพสต์สาธารณะเพื่อฝึก AI แต่ยังไม่ชัดเจนว่า xAI จะใช้ข้อมูลจาก Telegram ในลักษณะเดียวกันหรือไม่
    - นักลงทุนที่สนใจ AI ของ Musk ควรติดตามรายละเอียดดีลนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังไม่มีสัญญาอย่างเป็นทางการ
    - การแข่งขันในตลาด AI กำลังดุเดือด บริษัทต่างๆ เช่น OpenAI, Google, และ Meta ต่างเร่งพัฒนา AI ของตน การที่ xAI เข้าสู่ Telegram อาจเป็นความท้าทายทั้งด้านเทคนิคและธุรกิจ

    นี่เป็นก้าวสำคัญของ xAI และ Telegram ในการนำ AI สู่แพลตฟอร์มแชทขนาดใหญ่ ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวทางการใช้ AI ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ข้อมูลและผลกระทบต่อผู้ใช้อาจต้องได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/28/telegram-musk039s-xai-partner-to-distribute-grok-to-messaging-app039s-users
    ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับการจับมือกันระหว่าง Telegram และ xAI ของ Elon Musk เพื่อกระจายการใช้งาน Grok ในแพลตฟอร์มแชทที่มีผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก นับเป็นดีลที่อาจส่งผลต่อวงการ AI อย่างมีนัยสำคัญ Grok เป็น AI แชตบอทที่พัฒนาโดย xAI มีแนวทางที่แตกต่างจากคู่แข่งอย่าง ChatGPT หรือ Gemini โดย Grok มีแนวโน้มจะเน้นการตอบกลับแบบไม่เหมือนใครและเน้นการเสียดสีและความขบขัน การขยายฐานผู้ใช้ผ่าน Telegram อาจช่วยให้ xAI ได้ข้อมูลการโต้ตอบจากผู้ใช้จำนวนมาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาโมเดล AI และอาจเป็นแนวทางเดียวกับที่ Meta ใช้ข้อมูลสาธารณะจากผู้ใช้เพื่อฝึก AI ของตน ✅ ข้อมูลจากข่าว - xAI จ่ายเงิน 300 ล้านเหรียญ ให้ Telegram เพื่อเปิดตัว Grok ในแพลตฟอร์ม - ดีลนี้มีอายุ 1 ปี และ Telegram จะได้รับ ครึ่งหนึ่งของรายได้จากการสมัครสมาชิกผ่านแอป - Elon Musk กล่าวว่า ยังไม่มีการลงนามในข้อตกลงอย่างเป็นทางการ แต่ Durov ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงกันในหลักการแล้ว - xAI หวังใช้ข้อมูลที่ Telegram อาจให้มาเพื่อพัฒนาโมเดล AI ของตน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้อาจเป็นประเด็นสำคัญ เนื่องจาก X มีนโยบายการใช้โพสต์สาธารณะเพื่อฝึก AI แต่ยังไม่ชัดเจนว่า xAI จะใช้ข้อมูลจาก Telegram ในลักษณะเดียวกันหรือไม่ - นักลงทุนที่สนใจ AI ของ Musk ควรติดตามรายละเอียดดีลนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังไม่มีสัญญาอย่างเป็นทางการ - การแข่งขันในตลาด AI กำลังดุเดือด บริษัทต่างๆ เช่น OpenAI, Google, และ Meta ต่างเร่งพัฒนา AI ของตน การที่ xAI เข้าสู่ Telegram อาจเป็นความท้าทายทั้งด้านเทคนิคและธุรกิจ นี่เป็นก้าวสำคัญของ xAI และ Telegram ในการนำ AI สู่แพลตฟอร์มแชทขนาดใหญ่ ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวทางการใช้ AI ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ข้อมูลและผลกระทบต่อผู้ใช้อาจต้องได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/28/telegram-musk039s-xai-partner-to-distribute-grok-to-messaging-app039s-users
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Telegram, Musk-owned xAI partner to distribute Grok to messaging app's users
    (Reuters) -Elon Musk's AI startup xAI will pay Telegram $300 million to deploy its Grok chatbot on the messaging app, aiming to tap the platform's more than one billion users and sharpen its competitive edge in the booming artificial intelligence market.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung เปิดตัวแว่น XR รุ่นต้นแบบ – อนาคตของ Smart Frames กำลังใกล้เข้ามา

    Samsung เผยโฉมแว่น XR รุ่นต้นแบบที่พัฒนาโดยร่วมมือกับ Google ซึ่งมีหน้าจอในตัวที่สามารถแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ เช่น เวลา, สภาพอากาศ และการนำทาง โดยแว่นนี้ ใช้เทคโนโลยี Android XR และมีการออกแบบที่คล้ายกับแว่นตาทั่วไป

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแว่น XR ของ Samsung
    ✅ แว่น XR ของ Samsung มีหน้าจอฝังอยู่ในเลนส์
    - สามารถ แสดงข้อมูลต่าง ๆ เช่น เวลา, สภาพอากาศ และข้อความแจ้งเตือน

    ✅ Google สาธิตฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์บนแว่น XR
    - แม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย แต่การสาธิตได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้เข้าร่วมงาน

    ✅ แว่น XR สามารถใช้สำหรับการนำทางโดยไม่รบกวนมุมมองของผู้ใช้
    - แสดงเส้นทางที่ด้านบนของมุมมอง โดยไม่ต้องก้มดูโทรศัพท์

    ✅ Google Gemini AI สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพที่ผู้ใช้มองเห็นผ่านแว่น XR
    - เช่น วิเคราะห์ภาพวาด, รีวิวหนังสือ และแนะนำสถานที่ซื้อสินค้า

    ✅ Samsung จะเปิดตัวแว่น XR รุ่นสมบูรณ์ภายในปีนี้
    - คาดว่า จะมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อรองรับแอปพลิเคชันจากนักพัฒนา

    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/samsungs-prototype-xr-glasses-hint-at-the-future-of-smart-frames-and-im-closer-to-all-in-than-ever-before
    Samsung เปิดตัวแว่น XR รุ่นต้นแบบ – อนาคตของ Smart Frames กำลังใกล้เข้ามา Samsung เผยโฉมแว่น XR รุ่นต้นแบบที่พัฒนาโดยร่วมมือกับ Google ซึ่งมีหน้าจอในตัวที่สามารถแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ เช่น เวลา, สภาพอากาศ และการนำทาง โดยแว่นนี้ ใช้เทคโนโลยี Android XR และมีการออกแบบที่คล้ายกับแว่นตาทั่วไป 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแว่น XR ของ Samsung ✅ แว่น XR ของ Samsung มีหน้าจอฝังอยู่ในเลนส์ - สามารถ แสดงข้อมูลต่าง ๆ เช่น เวลา, สภาพอากาศ และข้อความแจ้งเตือน ✅ Google สาธิตฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์บนแว่น XR - แม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย แต่การสาธิตได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้เข้าร่วมงาน ✅ แว่น XR สามารถใช้สำหรับการนำทางโดยไม่รบกวนมุมมองของผู้ใช้ - แสดงเส้นทางที่ด้านบนของมุมมอง โดยไม่ต้องก้มดูโทรศัพท์ ✅ Google Gemini AI สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพที่ผู้ใช้มองเห็นผ่านแว่น XR - เช่น วิเคราะห์ภาพวาด, รีวิวหนังสือ และแนะนำสถานที่ซื้อสินค้า ✅ Samsung จะเปิดตัวแว่น XR รุ่นสมบูรณ์ภายในปีนี้ - คาดว่า จะมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อรองรับแอปพลิเคชันจากนักพัฒนา https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/samsungs-prototype-xr-glasses-hint-at-the-future-of-smart-frames-and-im-closer-to-all-in-than-ever-before
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่งกำลังใจให้อูกันดา ขออย่าให้เจอนักแจกประชาธิปไตยผู้บ้าคลั่งเข้าแทรกแซง!!

    อูกันดาประกาศการค้นพบแร่ทองคำมากกว่า 31 ล้านเมตริกตัน โดยมีทองคำบริสุทธิ์มากกว่า 320,000 ตัน มูลค่าสูงถึง 12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

    หากความพยายามในการสกัดแร่ทองคำดำเนินไปได้อย่างราบรื่น อาจทำให้อูกันดากลายเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ของโลกได้ และอาจเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของอูกันดา ดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก และเขย่าตลาดทองคำระหว่างประเทศ

    มีรายงานว่า จีนอาจจะมีโอกาสมากกว่าใคร เนื่องจากอูกันดามีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน โดยในปี 2022 บริษัท Wagagai Gold Mining ของจีนได้รับอนุญาตให้พัฒนาแหล่งพลังงานน้ำมันบางส่วนในประเทศจากรัฐบาลอูกันดา โดยมีการลงทุนในโรงกลั่นมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์
    ส่งกำลังใจให้อูกันดา ขออย่าให้เจอนักแจกประชาธิปไตยผู้บ้าคลั่งเข้าแทรกแซง!! อูกันดาประกาศการค้นพบแร่ทองคำมากกว่า 31 ล้านเมตริกตัน โดยมีทองคำบริสุทธิ์มากกว่า 320,000 ตัน มูลค่าสูงถึง 12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หากความพยายามในการสกัดแร่ทองคำดำเนินไปได้อย่างราบรื่น อาจทำให้อูกันดากลายเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ของโลกได้ และอาจเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของอูกันดา ดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก และเขย่าตลาดทองคำระหว่างประเทศ มีรายงานว่า จีนอาจจะมีโอกาสมากกว่าใคร เนื่องจากอูกันดามีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน โดยในปี 2022 บริษัท Wagagai Gold Mining ของจีนได้รับอนุญาตให้พัฒนาแหล่งพลังงานน้ำมันบางส่วนในประเทศจากรัฐบาลอูกันดา โดยมีการลงทุนในโรงกลั่นมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts