ผลสำรวจคะแนนนิยมล่าสุดของพรรคการเมืองในเยอรมนีล่าสุด ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 นี้:
อันดับหนึ่ง พรรคคริสเตียนเดโมแครตยูเนียน (Christian Democratic Union - CDU) ซึ่งเป็นพรรคเมืองสายกลาง-ขวา ของ ฟรีดริช เมิร์ซ (Friedrich Merz) มีคะแนนนำในทุกโพล
อันดับสอง ตามมาด้วยพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี หรือ AfD (Alternative for Germany / Alternative für Deutschland) ของ อลิซ ไวเดล (Alice Weidel) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขวาจัด (อนุรักษนิยม)
อันดับที่สาม เป็นของพรรค SPD (Social Democratic Party of Germany) ของ โอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
สำหรับ ฟรีดริช เมิร์ซ ตัวเต็งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีคนใหม่ ประกาศอย่างชัดเจนว่าหากเขาชนะการเลือกตั้ง เขาจะยังคงนโยบายเคียงข้างยูเครนต่อไป และประกาศจะส่งมอบขีปนาวุธร่อน Taurus ที่มีพิสัยยิงมากกว่า 500 กม. ซึ่งเป็นสิ่งที่ โอลาฟ ชอลซ์ ไม่กล้าตัดสินใจ
ส่วนอลิซ ไวเดล ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะกลับมามีความสัมพันธ์ที่เป็นปกติกับรัสเซีย และพร้อมจะกลับมาใช้บริการก๊าซจากรัสเซียเช่นเดิม นอกจากนี้เธอจะใช้นโยบายที่แข็งกร้าวต่อผู้อพยพเข้าเมืองเช่นเดียวกับทรัมป์
ในช่วงแรก พรรค AfD มีคะแนนนิยมนำมาเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้เกิดความกังวลอย่างมากต่อพันธมิตรในยุโรป มีการปลุกระดมข่าวสาร เพื่อโจมตีไวเดลเกี่ยวกับนโยบายที่แข็งกร้าวด้านต่อต้านผู้อพยพ ทำให้เกิดการประท้วงเป็นวงกว้างในเยอรมนีเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทั้งในกรุงเบอร์ลิน และในเมืองอื่นๆ ของเยอรมนี ส่งผลให้คะแนนนิยมของเธอตกลงมาอย่างชัดเจน
อีลอน มัสก์ คนสนิทของทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนพรรค AfD ของไวเดล
แม้ว่าคะแนนนิยมของพรรค AfD ยังเป็นรองคู่แข่งจากพรรค CDU แต่ไม่ได้หมายความว่า ไวเดลหมดโอกาสชนะ เนื่องจากคะแนนนิยมที่ใกล้เคียงกัน และยังมีประชาชนเยอรมนีอีกมากที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ซึ่งอาจทำให้ผลการเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
โดยรวมแล้ว หลังการเลือกตั้งจบสิ้นลง รัฐบาลของเยอรมันยังคงเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรคการเมืองเช่นเดิม
อันดับหนึ่ง พรรคคริสเตียนเดโมแครตยูเนียน (Christian Democratic Union - CDU) ซึ่งเป็นพรรคเมืองสายกลาง-ขวา ของ ฟรีดริช เมิร์ซ (Friedrich Merz) มีคะแนนนำในทุกโพล
อันดับสอง ตามมาด้วยพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี หรือ AfD (Alternative for Germany / Alternative für Deutschland) ของ อลิซ ไวเดล (Alice Weidel) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขวาจัด (อนุรักษนิยม)
อันดับที่สาม เป็นของพรรค SPD (Social Democratic Party of Germany) ของ โอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
สำหรับ ฟรีดริช เมิร์ซ ตัวเต็งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีคนใหม่ ประกาศอย่างชัดเจนว่าหากเขาชนะการเลือกตั้ง เขาจะยังคงนโยบายเคียงข้างยูเครนต่อไป และประกาศจะส่งมอบขีปนาวุธร่อน Taurus ที่มีพิสัยยิงมากกว่า 500 กม. ซึ่งเป็นสิ่งที่ โอลาฟ ชอลซ์ ไม่กล้าตัดสินใจ
ส่วนอลิซ ไวเดล ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะกลับมามีความสัมพันธ์ที่เป็นปกติกับรัสเซีย และพร้อมจะกลับมาใช้บริการก๊าซจากรัสเซียเช่นเดิม นอกจากนี้เธอจะใช้นโยบายที่แข็งกร้าวต่อผู้อพยพเข้าเมืองเช่นเดียวกับทรัมป์
ในช่วงแรก พรรค AfD มีคะแนนนิยมนำมาเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้เกิดความกังวลอย่างมากต่อพันธมิตรในยุโรป มีการปลุกระดมข่าวสาร เพื่อโจมตีไวเดลเกี่ยวกับนโยบายที่แข็งกร้าวด้านต่อต้านผู้อพยพ ทำให้เกิดการประท้วงเป็นวงกว้างในเยอรมนีเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทั้งในกรุงเบอร์ลิน และในเมืองอื่นๆ ของเยอรมนี ส่งผลให้คะแนนนิยมของเธอตกลงมาอย่างชัดเจน
อีลอน มัสก์ คนสนิทของทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนพรรค AfD ของไวเดล
แม้ว่าคะแนนนิยมของพรรค AfD ยังเป็นรองคู่แข่งจากพรรค CDU แต่ไม่ได้หมายความว่า ไวเดลหมดโอกาสชนะ เนื่องจากคะแนนนิยมที่ใกล้เคียงกัน และยังมีประชาชนเยอรมนีอีกมากที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ซึ่งอาจทำให้ผลการเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
โดยรวมแล้ว หลังการเลือกตั้งจบสิ้นลง รัฐบาลของเยอรมันยังคงเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรคการเมืองเช่นเดิม
ผลสำรวจคะแนนนิยมล่าสุดของพรรคการเมืองในเยอรมนีล่าสุด ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 นี้:
อันดับหนึ่ง พรรคคริสเตียนเดโมแครตยูเนียน (Christian Democratic Union - CDU) ซึ่งเป็นพรรคเมืองสายกลาง-ขวา ของ ฟรีดริช เมิร์ซ (Friedrich Merz) มีคะแนนนำในทุกโพล
อันดับสอง ตามมาด้วยพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี หรือ AfD (Alternative for Germany / Alternative für Deutschland) ของ อลิซ ไวเดล (Alice Weidel) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขวาจัด (อนุรักษนิยม)
อันดับที่สาม เป็นของพรรค SPD (Social Democratic Party of Germany) ของ โอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
สำหรับ ฟรีดริช เมิร์ซ ตัวเต็งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีคนใหม่ ประกาศอย่างชัดเจนว่าหากเขาชนะการเลือกตั้ง เขาจะยังคงนโยบายเคียงข้างยูเครนต่อไป และประกาศจะส่งมอบขีปนาวุธร่อน Taurus ที่มีพิสัยยิงมากกว่า 500 กม. ซึ่งเป็นสิ่งที่ โอลาฟ ชอลซ์ ไม่กล้าตัดสินใจ
ส่วนอลิซ ไวเดล ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะกลับมามีความสัมพันธ์ที่เป็นปกติกับรัสเซีย และพร้อมจะกลับมาใช้บริการก๊าซจากรัสเซียเช่นเดิม นอกจากนี้เธอจะใช้นโยบายที่แข็งกร้าวต่อผู้อพยพเข้าเมืองเช่นเดียวกับทรัมป์
ในช่วงแรก พรรค AfD มีคะแนนนิยมนำมาเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้เกิดความกังวลอย่างมากต่อพันธมิตรในยุโรป มีการปลุกระดมข่าวสาร เพื่อโจมตีไวเดลเกี่ยวกับนโยบายที่แข็งกร้าวด้านต่อต้านผู้อพยพ ทำให้เกิดการประท้วงเป็นวงกว้างในเยอรมนีเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทั้งในกรุงเบอร์ลิน และในเมืองอื่นๆ ของเยอรมนี ส่งผลให้คะแนนนิยมของเธอตกลงมาอย่างชัดเจน
อีลอน มัสก์ คนสนิทของทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนพรรค AfD ของไวเดล
แม้ว่าคะแนนนิยมของพรรค AfD ยังเป็นรองคู่แข่งจากพรรค CDU แต่ไม่ได้หมายความว่า ไวเดลหมดโอกาสชนะ เนื่องจากคะแนนนิยมที่ใกล้เคียงกัน และยังมีประชาชนเยอรมนีอีกมากที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ซึ่งอาจทำให้ผลการเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
โดยรวมแล้ว หลังการเลือกตั้งจบสิ้นลง รัฐบาลของเยอรมันยังคงเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรคการเมืองเช่นเดิม
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
60 มุมมอง
0 รีวิว