Raspberry Pi กับหน้าจอสัมผัส 5 นิ้ว – เล็กลง แต่ยังไม่ใช่คำตอบทั้งหมด
ในปี 2025 Raspberry Pi ได้เปิดตัวหน้าจอสัมผัสรุ่นใหม่ขนาด 5 นิ้ว ซึ่งเป็นรุ่นย่อส่วนจาก Touch Display 2 ขนาด 7 นิ้วที่เปิดตัวเมื่อปีก่อน โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับโปรเจกต์ขนาดเล็ก เช่น สมาร์ทโฮม คีออสพกพา หรือแดชบอร์ดฝังตัว
แม้จะมีขนาดเล็กลงและราคาถูกลง (MSRP อยู่ที่ $40) แต่หน้าจอใหม่นี้ยังคงใช้ความละเอียด 720x1280 พิกเซลเหมือนเดิม และไม่ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใด ๆ ทั้งสิ้น ตัวหน้าจอใช้ระบบสัมผัสแบบ capacitive รองรับการสัมผัสหลายจุด (multi-touch) และเชื่อมต่อผ่านพอร์ต DSI โดยไม่ต้องใช้สาย HDMI หรือแหล่งจ่ายไฟแยก
ข้อดีคือการติดตั้งง่ายมาก – ไม่ต้องปรับแต่งไดรเวอร์หรือแก้ device tree ให้ยุ่งยาก และสามารถใช้งานได้ทันทีบน Raspberry Pi OS หรือแม้แต่ Ubuntu ก็รองรับเช่นกัน
Raspberry Pi ยังโชว์การใช้ AI ในการช่วยพัฒนาแอปสไลด์โชว์เพื่อสาธิตการทำงานของหน้าจอ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดสามารถช่วยลดเวลาและเพิ่มความแม่นยำได้
อย่างไรก็ตาม หลายคนตั้งคำถามว่า “การลดขนาดหน้าจอ” เป็นการแก้ปัญหาที่แท้จริงหรือไม่ เพราะความละเอียดยังคงเท่าเดิม และประสบการณ์การสัมผัสยังขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์ที่อาจมีข้อจำกัด
สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
Raspberry Pi เปิดตัวหน้าจอสัมผัสขนาด 5 นิ้วรุ่นใหม่ในปี 2025
ใช้ความละเอียด 720x1280 พิกเซล เหมือนรุ่น 7 นิ้ว
รองรับ multi-touch และเชื่อมต่อผ่าน DSI port โดยไม่ต้องใช้ HDMI
ติดตั้งง่าย ใช้งานได้ทันทีบน Raspberry Pi OS โดยไม่ต้องปรับแต่งไดรเวอร์
ใช้พลังงานจาก GPIO 5V ของบอร์ด Raspberry Pi โดยตรง
เหมาะสำหรับโปรเจกต์ขนาดเล็ก เช่น สมาร์ทโฮม คีออส หรือแดชบอร์ดฝังตัว
Raspberry Pi ใช้ AI ในการช่วยพัฒนาแอปสาธิตการใช้งานหน้าจอ
ราคาขายปลีกอยู่ที่ประมาณ $40–$50 แล้วแต่ผู้จัดจำหน่าย
รองรับการใช้งานบน Ubuntu และ Linux distros อื่น ๆ ด้วย
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
หน้าจอใช้ LCD TFT แบบ 24-bit RGB ให้สีสันระดับ “ล้านสี”
รองรับการสัมผัสพร้อมกัน 5 จุด (five-finger gestures)
Raspberry Pi ประกาศว่าจะผลิตหน้าจอนี้ต่อเนื่องถึงปี 2030
SunFounder 10.1 นิ้ว เป็นอีกทางเลือกที่มีความละเอียดสูงกว่า (1280x800) และรองรับ 10-point touch
หน้าจอ 5 นิ้วเหมาะกับการใช้งานแบบฝังตัวมากกว่าการใช้งานทั่วไป เช่น เขียนบล็อกหรือทำงานเอกสาร
https://www.techradar.com/pro/time-for-your-next-smart-home-project-raspberry-pi-adds-an-improved-touchscreen-so-its-time-to-get-building
ในปี 2025 Raspberry Pi ได้เปิดตัวหน้าจอสัมผัสรุ่นใหม่ขนาด 5 นิ้ว ซึ่งเป็นรุ่นย่อส่วนจาก Touch Display 2 ขนาด 7 นิ้วที่เปิดตัวเมื่อปีก่อน โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับโปรเจกต์ขนาดเล็ก เช่น สมาร์ทโฮม คีออสพกพา หรือแดชบอร์ดฝังตัว
แม้จะมีขนาดเล็กลงและราคาถูกลง (MSRP อยู่ที่ $40) แต่หน้าจอใหม่นี้ยังคงใช้ความละเอียด 720x1280 พิกเซลเหมือนเดิม และไม่ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใด ๆ ทั้งสิ้น ตัวหน้าจอใช้ระบบสัมผัสแบบ capacitive รองรับการสัมผัสหลายจุด (multi-touch) และเชื่อมต่อผ่านพอร์ต DSI โดยไม่ต้องใช้สาย HDMI หรือแหล่งจ่ายไฟแยก
ข้อดีคือการติดตั้งง่ายมาก – ไม่ต้องปรับแต่งไดรเวอร์หรือแก้ device tree ให้ยุ่งยาก และสามารถใช้งานได้ทันทีบน Raspberry Pi OS หรือแม้แต่ Ubuntu ก็รองรับเช่นกัน
Raspberry Pi ยังโชว์การใช้ AI ในการช่วยพัฒนาแอปสไลด์โชว์เพื่อสาธิตการทำงานของหน้าจอ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดสามารถช่วยลดเวลาและเพิ่มความแม่นยำได้
อย่างไรก็ตาม หลายคนตั้งคำถามว่า “การลดขนาดหน้าจอ” เป็นการแก้ปัญหาที่แท้จริงหรือไม่ เพราะความละเอียดยังคงเท่าเดิม และประสบการณ์การสัมผัสยังขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์ที่อาจมีข้อจำกัด
สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
Raspberry Pi เปิดตัวหน้าจอสัมผัสขนาด 5 นิ้วรุ่นใหม่ในปี 2025
ใช้ความละเอียด 720x1280 พิกเซล เหมือนรุ่น 7 นิ้ว
รองรับ multi-touch และเชื่อมต่อผ่าน DSI port โดยไม่ต้องใช้ HDMI
ติดตั้งง่าย ใช้งานได้ทันทีบน Raspberry Pi OS โดยไม่ต้องปรับแต่งไดรเวอร์
ใช้พลังงานจาก GPIO 5V ของบอร์ด Raspberry Pi โดยตรง
เหมาะสำหรับโปรเจกต์ขนาดเล็ก เช่น สมาร์ทโฮม คีออส หรือแดชบอร์ดฝังตัว
Raspberry Pi ใช้ AI ในการช่วยพัฒนาแอปสาธิตการใช้งานหน้าจอ
ราคาขายปลีกอยู่ที่ประมาณ $40–$50 แล้วแต่ผู้จัดจำหน่าย
รองรับการใช้งานบน Ubuntu และ Linux distros อื่น ๆ ด้วย
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
หน้าจอใช้ LCD TFT แบบ 24-bit RGB ให้สีสันระดับ “ล้านสี”
รองรับการสัมผัสพร้อมกัน 5 จุด (five-finger gestures)
Raspberry Pi ประกาศว่าจะผลิตหน้าจอนี้ต่อเนื่องถึงปี 2030
SunFounder 10.1 นิ้ว เป็นอีกทางเลือกที่มีความละเอียดสูงกว่า (1280x800) และรองรับ 10-point touch
หน้าจอ 5 นิ้วเหมาะกับการใช้งานแบบฝังตัวมากกว่าการใช้งานทั่วไป เช่น เขียนบล็อกหรือทำงานเอกสาร
https://www.techradar.com/pro/time-for-your-next-smart-home-project-raspberry-pi-adds-an-improved-touchscreen-so-its-time-to-get-building
🎙️ Raspberry Pi กับหน้าจอสัมผัส 5 นิ้ว – เล็กลง แต่ยังไม่ใช่คำตอบทั้งหมด
ในปี 2025 Raspberry Pi ได้เปิดตัวหน้าจอสัมผัสรุ่นใหม่ขนาด 5 นิ้ว ซึ่งเป็นรุ่นย่อส่วนจาก Touch Display 2 ขนาด 7 นิ้วที่เปิดตัวเมื่อปีก่อน โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับโปรเจกต์ขนาดเล็ก เช่น สมาร์ทโฮม คีออสพกพา หรือแดชบอร์ดฝังตัว
แม้จะมีขนาดเล็กลงและราคาถูกลง (MSRP อยู่ที่ $40) แต่หน้าจอใหม่นี้ยังคงใช้ความละเอียด 720x1280 พิกเซลเหมือนเดิม และไม่ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใด ๆ ทั้งสิ้น ตัวหน้าจอใช้ระบบสัมผัสแบบ capacitive รองรับการสัมผัสหลายจุด (multi-touch) และเชื่อมต่อผ่านพอร์ต DSI โดยไม่ต้องใช้สาย HDMI หรือแหล่งจ่ายไฟแยก
ข้อดีคือการติดตั้งง่ายมาก – ไม่ต้องปรับแต่งไดรเวอร์หรือแก้ device tree ให้ยุ่งยาก และสามารถใช้งานได้ทันทีบน Raspberry Pi OS หรือแม้แต่ Ubuntu ก็รองรับเช่นกัน
Raspberry Pi ยังโชว์การใช้ AI ในการช่วยพัฒนาแอปสไลด์โชว์เพื่อสาธิตการทำงานของหน้าจอ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดสามารถช่วยลดเวลาและเพิ่มความแม่นยำได้
อย่างไรก็ตาม หลายคนตั้งคำถามว่า “การลดขนาดหน้าจอ” เป็นการแก้ปัญหาที่แท้จริงหรือไม่ เพราะความละเอียดยังคงเท่าเดิม และประสบการณ์การสัมผัสยังขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์ที่อาจมีข้อจำกัด
📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
➡️ Raspberry Pi เปิดตัวหน้าจอสัมผัสขนาด 5 นิ้วรุ่นใหม่ในปี 2025
➡️ ใช้ความละเอียด 720x1280 พิกเซล เหมือนรุ่น 7 นิ้ว
➡️ รองรับ multi-touch และเชื่อมต่อผ่าน DSI port โดยไม่ต้องใช้ HDMI
➡️ ติดตั้งง่าย ใช้งานได้ทันทีบน Raspberry Pi OS โดยไม่ต้องปรับแต่งไดรเวอร์
➡️ ใช้พลังงานจาก GPIO 5V ของบอร์ด Raspberry Pi โดยตรง
➡️ เหมาะสำหรับโปรเจกต์ขนาดเล็ก เช่น สมาร์ทโฮม คีออส หรือแดชบอร์ดฝังตัว
➡️ Raspberry Pi ใช้ AI ในการช่วยพัฒนาแอปสาธิตการใช้งานหน้าจอ
➡️ ราคาขายปลีกอยู่ที่ประมาณ $40–$50 แล้วแต่ผู้จัดจำหน่าย
➡️ รองรับการใช้งานบน Ubuntu และ Linux distros อื่น ๆ ด้วย
✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก
➡️ หน้าจอใช้ LCD TFT แบบ 24-bit RGB ให้สีสันระดับ “ล้านสี”
➡️ รองรับการสัมผัสพร้อมกัน 5 จุด (five-finger gestures)
➡️ Raspberry Pi ประกาศว่าจะผลิตหน้าจอนี้ต่อเนื่องถึงปี 2030
➡️ SunFounder 10.1 นิ้ว เป็นอีกทางเลือกที่มีความละเอียดสูงกว่า (1280x800) และรองรับ 10-point touch
➡️ หน้าจอ 5 นิ้วเหมาะกับการใช้งานแบบฝังตัวมากกว่าการใช้งานทั่วไป เช่น เขียนบล็อกหรือทำงานเอกสาร
https://www.techradar.com/pro/time-for-your-next-smart-home-project-raspberry-pi-adds-an-improved-touchscreen-so-its-time-to-get-building
0 Comments
0 Shares
2 Views
0 Reviews