• ตอน 7
    ไม่ช้าไม่นาน สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ก็ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) สภาพัฒน์ฯ ควรบันทึกไว้ด้วยว่า เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ คนแรก ชื่อนายพจน์ สารสิน (พจน์ อีกแล้ว!)
    อย่างที่เล่าไว้ตอนแรกๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1 ได้ถูกทำขึ้นโดยใช้วิธีแปลรายงานของธนาคารโลก (World Bank) ทั้งฉบับเป็นภาษาไทย ฝ่ายไทยไม่ต้องออกแรงเปลืองหัวสมองเท่าเม็ดถั่ว แค่แปลแล้วนำก็มาใช้เป็นแผนแม่ บทของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ก็เท่านั้นเอง
    รายการที่ไทยแลนด์ต้องพัฒนาเป็นการด่วน คือระบบสาธารณูปโภค ด้านไฟฟ้า น้ำประปา ปรับปรุงระบบขน ส่ง สร้างถนน สร้างท่าเรือ สร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และสร้างสนามบิน! ฟังดูดี๊ดีนะครับ แต่ลองสังเกตอีกที  สิ่งที่พี่เบิ้มเขาให้เราทำน่ะ มันอะไรกันแน่
    แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาปรับปรุงระบบต่างๆ มาก่อสร้างตามรายการ และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผน มันเกินกว่างบประมาณไปหลายจี๋นะ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นคนเคยรวยเร็วไปหน่อยมั้ย คุณป๋ารำพึงดังๆ
    แน่นอน พีเบิ้มหูไว ก็ติดเครื่องดักฟังไว้ทั่วราชอาณาจักรไทย ได้ยินดังนั้นก็บอกว่า สมันน้อยไม่ต้องห่วง เดี๋ยวไอจัดให้ !
    ไอหาเงินกู้ดอกถูกไว้ให้ยูแล้ว ของธนาคารโลก ไงล่ะ สำรวจเอง เขียนเอง ให้กู้เอง ไม่รู้สึกแปลกกันบ้างเหรอไง ว่าแล้วชาวเราก็กระโดดลงหม้อตุ๋นด้วยความขอบคุณ
    โปรดรับทราบว่า ไทยสร้างสนามบินตามแผนพัฒนาฯ ด้วยเงินกู้ทั้งหมด 7 แห่ง คือ อู่ตะเภา ตาคลี อุบล อุดร โคราช น้ำพอง และนครพนม พัฒนาประเทศไทยจริงๆ ชาวบ้านยังขี่สองล้อ สามล้อกันอยู่เลย คุณพ่อให้สร้างสนามบิน เฮ้อ เกินจะบรรยาย มันจะให้กู ขี้สามล้อ วิ่งเล่นในสนามบินหรือไงนะเนี่ย
    สาธารณูปโภคที่สร้างก็อยู่ในจังหวัดที่สร้างสนามบินหรือใกล้เคียง นั่นแหละเช่น ถนนสายอู่ตะเภา โคราช สายพิษณุโลกขอนแก่น ถนนพวกนี้ตามรายงานของ ซีไอเอ เขาเรียกว่า ถนนยุทธศาสตร์! พัฒนาประเทศไทยจริงๆ
    นอกจากนี้ยังสร้าง สถานีเรดาร์ที่อุดร อุบล ศรีราชา ฯลฯ
    สถานีเรดาร์ใหญ่ที่สุดอยู่ที่อุดร ชื่อสถานีรามสูร มีอุปกรณ์ตรวจสอบครบเครื่อง บริเวณกว้างขวางขนาดมีสนามกอล์ฟ 9 หลุม สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิคฯลฯ มีพนักงานชาวอเมริกัน 1,000 คนและลูกจ้างชาวไทยอีก1,400 คน รวมพนักงานทั้งหมด 2,400 คน มันจะเอาไว้ดักฟังสัญญาณดาวอังคารหรือไงวุ้ย
    ที่สำคัญ สถานีนี้ไม่อนุญาตให้คนไทยทั่วไปเข้าในบริเวณ แล้วมันอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ได้ไงเนี่ย
    หลังสงครามเวียตนามเลิก อเมริกาถอนทัพออกจากประเทศไทย แต่ลืมถอนสถานีรามสูรกลับไปด้วย ยังฝากไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งของประเทศไทย เอาไว้ดักฟังหนุ่มสาวไทยจีบกันหรือไงไม่รู้ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องที่เรากระซิบกันน่ะ พี่เขารู้หมดน่ะ เรื่องนี้ ผมเล่าแล้วก็เสี่ยงกับการกลายเป็นมนุษย์ล่องหนอย่างยิ่ง
    คิดออก มองเห็นหรือยัง อเมริกามหามิตรมอบของขวัญแบบไหนให้ไทยแลนด์ ประเภทล้วงกระเป๋าเรา เอาไปซื้อของของขวัญให้เราน่ะ หลงดีใจจนเนื้อเต้น
    ที่นี้เข้าใจหรือยัง ไอ้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ น่ะ มันวางไว้ก่อนแล้ว มันเตรียมการพัฒนาบ้านเรา เพื่อใช้บ้านเราเป็นฐานไปรบกับคอมมี่ที่เวียตนาม จะเอารถบรรทุกทหารหัวทองวิ่งมาบนท้องนาได้ไง บางแห่งถนนยังไม่มี มีแต่ทางเกวียน สนุกจริงๆ
    อย่าลืมถนนมิตรภาพ ที่อเมริกาสร้างให้ไทย ที่คนไทยภูมิใจหนักหนาด้วยล่ะ  วันเปิดถนนทำพิธีใหญ่โต ไปยืนตบมือกันเปาะแปะ เอารถไปทดลองวิ่งกันเป็นแถว แหม! มันเรียบดีนะ เอาถ้วยกาแฟวางหน้ารถไม่หกเลยจ๊ะ เฮ้ย! ไม่ทันคิดว่าถนนนี้เป็นเส้นทางหลักที่พี่เบิ้มเขาจะใช้ในการลำเลียงพลและอาวุธยุทโธปกรณ์เอาไว้ไปรบกะเวียตนาม
    มันคล้ายๆ บ้านเรายังกินข้าวด้วยมือเปิบอยู่ แต่วันดีคืนร้าย ดันมีคนให้ของขวัญ เราก็ดีใจเปิดกล่องของขวัญออกมา อ้าวตาย กลายเป็น มีดกับส้อม เขาบอกว่า…เอาไว้ใช้เวลาไอมาทานข้าวบ้านยูไง ของขวัญแบบนั่นน่ะ เข้าใจไหมครับ
    หลังจากเตรียมการเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ไทยแลนด์แดนสวรรค์มีถนน มีน้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี (แต่ยังไม่มีงานทำ 555) สนามบินก็สร้างแล้ว ตำรวจสารพัดนึกก็มีแล้ว เหลืออะไรล่ะที่เรายังไม่ได้ให้ไทยแลนด์ทำกองทัพไงจ้ะ ไทยแลนด์ต้องมีกองทัพอันเกรียงไกร เอาไว้ป้องกันประเทศ เอาไว้กันไม่ให้พวกคอมมี่ มันขยายตัวแหลมหัวเข้ามาแถวนี้
    ตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึง พ.ศ.2515 ตลอดเวลาที่อเมริกา นำทัพสู้ในสงครามเวียตนาม ไทยมีส่วนสำคัญ ในการรบเคียงขาเคียงบ่าเคียงไหล่กับอเมริกา รวมไปถึงการรบในลาวและกัมพูชา ตลอดเวลาดังกล่าว มีทหารอเมริกันอยู่ในประเทศไทย น้อยสุด 50,000 นาย และมากสุดถึง 200,000 นาย มีเครื่องบินขึ้นลงทั้งหมดไม่น้อยกว่า 70, 000 เที่ยว บินไปปฏิบัติการรบทั้งที่ เวียตนาม ลาวและกัมพูชา
    ที่น่าสนใจ การที่อเมริกาเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพ โจมตีเวียตนามและเพื่อนบ้าน อเมริกาไม่เคยทำข้อตกลงอย่างเป็นรูปธรรมกับไทย มันเป็นความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายอเมริกาก็ไม่ต้องการมีข้อผูกมัด แค่มาใช้บ้านเขาเฉยๆ เอง มาเมื่อไหร่ ไปเมื่อไหร่ ไม่มีข้อผูกพัน… ฝ่ายเจ้าของบ้านคือรัฐบาลก็ O.K งุบๆ งิบๆ อย่างนี้ดีกว่า …ไม่มีใครรู้เงินช่วยเหลือเข้ามาเท่าไหร่ ส่วนไหนของวัด ส่วนไหนของกรรมการ อู้ฟู้กันเป็นแถวๆ
    และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้น พี่เบิ้มอ้างว่า ปฏิบัติการที่ใช้ไทยเป็นฐานทัพน่ะ เป็นปฏิบัติการลับเสีย 99% เพราะฉะนั้นเกือบทุกครั้งที่เครื่องบินรบของพี่เขาจะบินขึ้นจากฐานทัพ (ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย) พี่เขาไม่ต้องขออนุญาตไทย …ไทยแลนด์ยูไม่ต้องยุ่ง… เดี๋ยวความลับรั่วไหลเหมือนท่อน้ำประปาบ้านยู
    ทหารไทยก็ใจกว้าง ตกลงงั้นไอมอบอำนาจให้ยูอนุมัติบินได้เลยนะ ทูตอเมริกันประจำไทย ขณะนั้น นายมาร์ติน (Martin) จึงเป็นคนอนุมัติ กดปุ่ม O.K.!
    สิทธิสภาพนอกอาณาเขตยุคสงครามเวียตนาม ประชาชนคนไทยรู้ไหมเป็นเมืองขึ้นเขาไปแล้ว! แล้วจะไม่บอกว่า ทหารไทยนี่เป็นยอดดวงใจของพี่เบิ้มอเมริกาได้ยังไง ยังไม่จบเรื่องยอดดวงใจนี้ มีหลายภาค ค่อยๆ อ่านไป
    เห็นชัดหรือยังครับ ลองเรียบเรียงดูการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) แผนพัฒนาเศรษฐกิจ การตั้งสภาพัฒน์ การพัฒนาประเทศ การให้ความช่วยเหลือโดย CIA แก่กรมตำรวจ การให้ความช่วยเหลือแก่กอง ทัพไทย การควบ คุมจัดตั้งการเลือกตั้ง การควบคุมการเมืองไทยทั้งทางตรงทางอ้อม มันโยงกันไหมและทำเพื่ออะไร ผลประ โยชน์ของใคร อาจมีผู้เห็นแย้งว่า ไทยก็ได้ประโยชน์ ป้องกันไม่ให้ระบอบคอม มิวนิสต์เข้ายึดครองประเทศไทย แต่ถามว่า แล้วเรามีวิธีป้องกันด้วยวิธีอื่นหรือไม่ ที่ไม่ต้องเปลี่ยนประ เทศกลับหัวกลับหางหกคะเมนตีลังกาเช่นนี้
    เมื่ออเมริกาถอนฐานทัพออกไปจากไทยเมื่อปี พ.ศ.2517 (ค.ศ.1974) ประเทศไทยมีสภาพเป็นอย่างไร ผู้ที่เกิดไม่ทันสมัยนั้น ลองไปหาประวัติศาสตร์อ่านกันดูหน่อย รีบๆ ทำความรู้จักไว้ เพราะเหตุการณ์เช่น สงครามเวียตนาม ฐานทัพ และวัฒนธรรมอเมริกัน การควบคุมชีวิตของคนไทยโดยการเมืองและกองทัพของอเมริกา อาจกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้ถ้ากลับมาอีก ไทยเรายังจะมีประเทศเหลือหรือเปล่า ไม่แน่ใจ
    หยิบกระดาษมา 1 แผ่น ด้านซ้ายเขียนต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ ด้านขวาเขียนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพื่อนำเข้าทุนนิยมเสรี เปลี่ยนประเทศทำเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรม ดูทีละด้าน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องเดียวกัน แต่ลองเอามาร้อยเรียงกัน เหมือนต่อจิกซอว์ เราน่าจะเห็นว่า นี่มันคือการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่แนบเนียน ชนิดถ้าไม่ทำ CSI ก็จับผู้ร้ายไม่ได้เด็ดขาด
    ชาวไทยที่รักทั้งหลาย จงอย่างดูอะไรที่ละด้าน ที่ละชิ้น …หัดมองภาพรวม หัดต่อภาพให้เป็น แล้วจะได้เห็นภาพใหญ่ พวกสื่อเขาไม่ทำให้เราหรอกครับ เขาเสนอทีละภาพ ทีละเหตุการณ์ จิกซอว์ที่ละตัว เราก็เห็นก็ตามเท่าที่เขาเสนอให้ดู แล้วยิ่งถ้ามันเสนอแบบฟอกย้อมล่ะ จะรู้ได้ยังไง ว่าที่สีฟ้าๆ น่ะ มันน้ำหรือท้องฟ้า สีเขียว ๆ น่ะมันดอลลาร์ หรือใบตองที่แน่สีทองๆ อย่านึกว่าเป็นทอง อาจเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ
    ภายใต้ Pax Americana หรือการขยายระบบทุนนิยมของอเมริกา ไทยแลนด์แดนเนรมิต ต้องแต่งตัวใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อให้ทุนนิยมอุตสาหกรรมเข้ามาในบ้านเราได้เต็มที่ พี่เบิ้มจึงทั้งบีบทั้งบี้ ถึงขนาดขู่ว่า ถ้าไม่เป็นเด็กดีจะตัดงบช่วยเหลือ พวก good boy เลย ต้องออกพรบ.ให้พี่เบิ้มเต็มพิกัดในพ.ศ.2505 เช่น พรบ.ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม เป็นการจูงใจให้นักลง ทุน ต ด (แปลว่าต่างด้าว) เต็มที่ พรบ.งบประมาณ และตั้งสนง.งบประมาณ ไทยแลนด์ ยูจะได้ไม่เอาเงินช่วยเหลือไปใช้จ่ายรุ่ยร่าย เงินของไอนะ พรบ.ธนาคารพาณิชย์ จะได้เข้ามาตรฐาน ต ด (ต่างด้าว) เปิดทางให้ ต ด มาลงทุน
    แล้วดูตอนนี้ซิ ลงทุนกันไปถึงไหน ธนาคารชื่อไทยน่ะ ทุนไทยเหลือแค่ไหน เป็นของฝรั่งตาน้ำข้าวหัวทอง ตาตี่หัวดำ อย่างสิงคโปร์ขี้ข้าฝรั่งเข้าไปเท่าไหร่ ถ้าอยากรู้ตัวเลขจริงๆ ทำใจแข็งไปขอดูรายงานของ ธปท.เลยครับ รู้แล้วอย่าเป็นลมก็แล้วกัน!
    เรื่องนี้ ถ้าเล่าขบวนการสมคบอันชั่วร้ายของขบวนการทุนนิยมเสรีแล้ว
    ท่านผู้อ่านอาจอยากเปลี่ยนใจไปใช้เงินพดด้วง!
    นอกจากนี้พี้เบิ้มยังแนะนำ (บังคับ!) ให้สมันน้อยยกเลิกรัฐวิสาหกิจ 150 แห่ง ที่ตั้งมาตั้งกะสมัยคณะราษฎร (อันนี้มันส์พะยะค่ะ เล่นเอาพวกปล้นเจ้า หน้าจ๋อยไปเลย) เพราะว่าการเป็นรัฐวิสาหกิจ หมายความว่า รัฐเป็นผู้ดำเนินกิจการเอง ควบคุมเอง ทุนต่างด้าว ทุนนิยมเสรีจะเข้ามาค้าแล้วรวยได้อย่างไร มันก็เหมือนเล่นไพ่กับเจ้ามือ มันจะไปได้กินเจ้ามืออย่างไร ดังนั้นพี่เบิ้มเลยบังคับให้มีทั้งการตัด การตอนรัฐวิสาหกิจให้หดและหายไปในที่สุด …ไอ้ทฤษฏีตอนไม่ให้โตน่ะ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก็ยังใช้เล่นต่อ เนื่องมาถึงทุกวันนี้ เห็นฤทธิ์ทุนนิยมเสรีหรือยัง มันมาทั้งได้ในรูปทุนนิยมต่างด้าว และทุนนิยมเผด็จการไทย
    ชาวบ้านอย่างเราๆ ก็มีแต่จนแห้งตายซาก ทั้งขึ้น ทั้งล่อง


    คนเล่านิทาน
    ตอน 7 ไม่ช้าไม่นาน สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ก็ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) สภาพัฒน์ฯ ควรบันทึกไว้ด้วยว่า เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ คนแรก ชื่อนายพจน์ สารสิน (พจน์ อีกแล้ว!) อย่างที่เล่าไว้ตอนแรกๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1 ได้ถูกทำขึ้นโดยใช้วิธีแปลรายงานของธนาคารโลก (World Bank) ทั้งฉบับเป็นภาษาไทย ฝ่ายไทยไม่ต้องออกแรงเปลืองหัวสมองเท่าเม็ดถั่ว แค่แปลแล้วนำก็มาใช้เป็นแผนแม่ บทของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ก็เท่านั้นเอง รายการที่ไทยแลนด์ต้องพัฒนาเป็นการด่วน คือระบบสาธารณูปโภค ด้านไฟฟ้า น้ำประปา ปรับปรุงระบบขน ส่ง สร้างถนน สร้างท่าเรือ สร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และสร้างสนามบิน! ฟังดูดี๊ดีนะครับ แต่ลองสังเกตอีกที  สิ่งที่พี่เบิ้มเขาให้เราทำน่ะ มันอะไรกันแน่ แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาปรับปรุงระบบต่างๆ มาก่อสร้างตามรายการ และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผน มันเกินกว่างบประมาณไปหลายจี๋นะ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นคนเคยรวยเร็วไปหน่อยมั้ย คุณป๋ารำพึงดังๆ แน่นอน พีเบิ้มหูไว ก็ติดเครื่องดักฟังไว้ทั่วราชอาณาจักรไทย ได้ยินดังนั้นก็บอกว่า สมันน้อยไม่ต้องห่วง เดี๋ยวไอจัดให้ ! ไอหาเงินกู้ดอกถูกไว้ให้ยูแล้ว ของธนาคารโลก ไงล่ะ สำรวจเอง เขียนเอง ให้กู้เอง ไม่รู้สึกแปลกกันบ้างเหรอไง ว่าแล้วชาวเราก็กระโดดลงหม้อตุ๋นด้วยความขอบคุณ โปรดรับทราบว่า ไทยสร้างสนามบินตามแผนพัฒนาฯ ด้วยเงินกู้ทั้งหมด 7 แห่ง คือ อู่ตะเภา ตาคลี อุบล อุดร โคราช น้ำพอง และนครพนม พัฒนาประเทศไทยจริงๆ ชาวบ้านยังขี่สองล้อ สามล้อกันอยู่เลย คุณพ่อให้สร้างสนามบิน เฮ้อ เกินจะบรรยาย มันจะให้กู ขี้สามล้อ วิ่งเล่นในสนามบินหรือไงนะเนี่ย สาธารณูปโภคที่สร้างก็อยู่ในจังหวัดที่สร้างสนามบินหรือใกล้เคียง นั่นแหละเช่น ถนนสายอู่ตะเภา โคราช สายพิษณุโลกขอนแก่น ถนนพวกนี้ตามรายงานของ ซีไอเอ เขาเรียกว่า ถนนยุทธศาสตร์! พัฒนาประเทศไทยจริงๆ นอกจากนี้ยังสร้าง สถานีเรดาร์ที่อุดร อุบล ศรีราชา ฯลฯ สถานีเรดาร์ใหญ่ที่สุดอยู่ที่อุดร ชื่อสถานีรามสูร มีอุปกรณ์ตรวจสอบครบเครื่อง บริเวณกว้างขวางขนาดมีสนามกอล์ฟ 9 หลุม สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิคฯลฯ มีพนักงานชาวอเมริกัน 1,000 คนและลูกจ้างชาวไทยอีก1,400 คน รวมพนักงานทั้งหมด 2,400 คน มันจะเอาไว้ดักฟังสัญญาณดาวอังคารหรือไงวุ้ย ที่สำคัญ สถานีนี้ไม่อนุญาตให้คนไทยทั่วไปเข้าในบริเวณ แล้วมันอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ได้ไงเนี่ย หลังสงครามเวียตนามเลิก อเมริกาถอนทัพออกจากประเทศไทย แต่ลืมถอนสถานีรามสูรกลับไปด้วย ยังฝากไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งของประเทศไทย เอาไว้ดักฟังหนุ่มสาวไทยจีบกันหรือไงไม่รู้ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องที่เรากระซิบกันน่ะ พี่เขารู้หมดน่ะ เรื่องนี้ ผมเล่าแล้วก็เสี่ยงกับการกลายเป็นมนุษย์ล่องหนอย่างยิ่ง คิดออก มองเห็นหรือยัง อเมริกามหามิตรมอบของขวัญแบบไหนให้ไทยแลนด์ ประเภทล้วงกระเป๋าเรา เอาไปซื้อของของขวัญให้เราน่ะ หลงดีใจจนเนื้อเต้น ที่นี้เข้าใจหรือยัง ไอ้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ น่ะ มันวางไว้ก่อนแล้ว มันเตรียมการพัฒนาบ้านเรา เพื่อใช้บ้านเราเป็นฐานไปรบกับคอมมี่ที่เวียตนาม จะเอารถบรรทุกทหารหัวทองวิ่งมาบนท้องนาได้ไง บางแห่งถนนยังไม่มี มีแต่ทางเกวียน สนุกจริงๆ อย่าลืมถนนมิตรภาพ ที่อเมริกาสร้างให้ไทย ที่คนไทยภูมิใจหนักหนาด้วยล่ะ  วันเปิดถนนทำพิธีใหญ่โต ไปยืนตบมือกันเปาะแปะ เอารถไปทดลองวิ่งกันเป็นแถว แหม! มันเรียบดีนะ เอาถ้วยกาแฟวางหน้ารถไม่หกเลยจ๊ะ เฮ้ย! ไม่ทันคิดว่าถนนนี้เป็นเส้นทางหลักที่พี่เบิ้มเขาจะใช้ในการลำเลียงพลและอาวุธยุทโธปกรณ์เอาไว้ไปรบกะเวียตนาม มันคล้ายๆ บ้านเรายังกินข้าวด้วยมือเปิบอยู่ แต่วันดีคืนร้าย ดันมีคนให้ของขวัญ เราก็ดีใจเปิดกล่องของขวัญออกมา อ้าวตาย กลายเป็น มีดกับส้อม เขาบอกว่า…เอาไว้ใช้เวลาไอมาทานข้าวบ้านยูไง ของขวัญแบบนั่นน่ะ เข้าใจไหมครับ หลังจากเตรียมการเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ไทยแลนด์แดนสวรรค์มีถนน มีน้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี (แต่ยังไม่มีงานทำ 555) สนามบินก็สร้างแล้ว ตำรวจสารพัดนึกก็มีแล้ว เหลืออะไรล่ะที่เรายังไม่ได้ให้ไทยแลนด์ทำกองทัพไงจ้ะ ไทยแลนด์ต้องมีกองทัพอันเกรียงไกร เอาไว้ป้องกันประเทศ เอาไว้กันไม่ให้พวกคอมมี่ มันขยายตัวแหลมหัวเข้ามาแถวนี้ ตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึง พ.ศ.2515 ตลอดเวลาที่อเมริกา นำทัพสู้ในสงครามเวียตนาม ไทยมีส่วนสำคัญ ในการรบเคียงขาเคียงบ่าเคียงไหล่กับอเมริกา รวมไปถึงการรบในลาวและกัมพูชา ตลอดเวลาดังกล่าว มีทหารอเมริกันอยู่ในประเทศไทย น้อยสุด 50,000 นาย และมากสุดถึง 200,000 นาย มีเครื่องบินขึ้นลงทั้งหมดไม่น้อยกว่า 70, 000 เที่ยว บินไปปฏิบัติการรบทั้งที่ เวียตนาม ลาวและกัมพูชา ที่น่าสนใจ การที่อเมริกาเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพ โจมตีเวียตนามและเพื่อนบ้าน อเมริกาไม่เคยทำข้อตกลงอย่างเป็นรูปธรรมกับไทย มันเป็นความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายอเมริกาก็ไม่ต้องการมีข้อผูกมัด แค่มาใช้บ้านเขาเฉยๆ เอง มาเมื่อไหร่ ไปเมื่อไหร่ ไม่มีข้อผูกพัน… ฝ่ายเจ้าของบ้านคือรัฐบาลก็ O.K งุบๆ งิบๆ อย่างนี้ดีกว่า …ไม่มีใครรู้เงินช่วยเหลือเข้ามาเท่าไหร่ ส่วนไหนของวัด ส่วนไหนของกรรมการ อู้ฟู้กันเป็นแถวๆ และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้น พี่เบิ้มอ้างว่า ปฏิบัติการที่ใช้ไทยเป็นฐานทัพน่ะ เป็นปฏิบัติการลับเสีย 99% เพราะฉะนั้นเกือบทุกครั้งที่เครื่องบินรบของพี่เขาจะบินขึ้นจากฐานทัพ (ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย) พี่เขาไม่ต้องขออนุญาตไทย …ไทยแลนด์ยูไม่ต้องยุ่ง… เดี๋ยวความลับรั่วไหลเหมือนท่อน้ำประปาบ้านยู ทหารไทยก็ใจกว้าง ตกลงงั้นไอมอบอำนาจให้ยูอนุมัติบินได้เลยนะ ทูตอเมริกันประจำไทย ขณะนั้น นายมาร์ติน (Martin) จึงเป็นคนอนุมัติ กดปุ่ม O.K.! สิทธิสภาพนอกอาณาเขตยุคสงครามเวียตนาม ประชาชนคนไทยรู้ไหมเป็นเมืองขึ้นเขาไปแล้ว! แล้วจะไม่บอกว่า ทหารไทยนี่เป็นยอดดวงใจของพี่เบิ้มอเมริกาได้ยังไง ยังไม่จบเรื่องยอดดวงใจนี้ มีหลายภาค ค่อยๆ อ่านไป เห็นชัดหรือยังครับ ลองเรียบเรียงดูการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) แผนพัฒนาเศรษฐกิจ การตั้งสภาพัฒน์ การพัฒนาประเทศ การให้ความช่วยเหลือโดย CIA แก่กรมตำรวจ การให้ความช่วยเหลือแก่กอง ทัพไทย การควบ คุมจัดตั้งการเลือกตั้ง การควบคุมการเมืองไทยทั้งทางตรงทางอ้อม มันโยงกันไหมและทำเพื่ออะไร ผลประ โยชน์ของใคร อาจมีผู้เห็นแย้งว่า ไทยก็ได้ประโยชน์ ป้องกันไม่ให้ระบอบคอม มิวนิสต์เข้ายึดครองประเทศไทย แต่ถามว่า แล้วเรามีวิธีป้องกันด้วยวิธีอื่นหรือไม่ ที่ไม่ต้องเปลี่ยนประ เทศกลับหัวกลับหางหกคะเมนตีลังกาเช่นนี้ เมื่ออเมริกาถอนฐานทัพออกไปจากไทยเมื่อปี พ.ศ.2517 (ค.ศ.1974) ประเทศไทยมีสภาพเป็นอย่างไร ผู้ที่เกิดไม่ทันสมัยนั้น ลองไปหาประวัติศาสตร์อ่านกันดูหน่อย รีบๆ ทำความรู้จักไว้ เพราะเหตุการณ์เช่น สงครามเวียตนาม ฐานทัพ และวัฒนธรรมอเมริกัน การควบคุมชีวิตของคนไทยโดยการเมืองและกองทัพของอเมริกา อาจกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้ถ้ากลับมาอีก ไทยเรายังจะมีประเทศเหลือหรือเปล่า ไม่แน่ใจ หยิบกระดาษมา 1 แผ่น ด้านซ้ายเขียนต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ ด้านขวาเขียนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพื่อนำเข้าทุนนิยมเสรี เปลี่ยนประเทศทำเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรม ดูทีละด้าน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องเดียวกัน แต่ลองเอามาร้อยเรียงกัน เหมือนต่อจิกซอว์ เราน่าจะเห็นว่า นี่มันคือการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่แนบเนียน ชนิดถ้าไม่ทำ CSI ก็จับผู้ร้ายไม่ได้เด็ดขาด ชาวไทยที่รักทั้งหลาย จงอย่างดูอะไรที่ละด้าน ที่ละชิ้น …หัดมองภาพรวม หัดต่อภาพให้เป็น แล้วจะได้เห็นภาพใหญ่ พวกสื่อเขาไม่ทำให้เราหรอกครับ เขาเสนอทีละภาพ ทีละเหตุการณ์ จิกซอว์ที่ละตัว เราก็เห็นก็ตามเท่าที่เขาเสนอให้ดู แล้วยิ่งถ้ามันเสนอแบบฟอกย้อมล่ะ จะรู้ได้ยังไง ว่าที่สีฟ้าๆ น่ะ มันน้ำหรือท้องฟ้า สีเขียว ๆ น่ะมันดอลลาร์ หรือใบตองที่แน่สีทองๆ อย่านึกว่าเป็นทอง อาจเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ ภายใต้ Pax Americana หรือการขยายระบบทุนนิยมของอเมริกา ไทยแลนด์แดนเนรมิต ต้องแต่งตัวใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อให้ทุนนิยมอุตสาหกรรมเข้ามาในบ้านเราได้เต็มที่ พี่เบิ้มจึงทั้งบีบทั้งบี้ ถึงขนาดขู่ว่า ถ้าไม่เป็นเด็กดีจะตัดงบช่วยเหลือ พวก good boy เลย ต้องออกพรบ.ให้พี่เบิ้มเต็มพิกัดในพ.ศ.2505 เช่น พรบ.ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม เป็นการจูงใจให้นักลง ทุน ต ด (แปลว่าต่างด้าว) เต็มที่ พรบ.งบประมาณ และตั้งสนง.งบประมาณ ไทยแลนด์ ยูจะได้ไม่เอาเงินช่วยเหลือไปใช้จ่ายรุ่ยร่าย เงินของไอนะ พรบ.ธนาคารพาณิชย์ จะได้เข้ามาตรฐาน ต ด (ต่างด้าว) เปิดทางให้ ต ด มาลงทุน แล้วดูตอนนี้ซิ ลงทุนกันไปถึงไหน ธนาคารชื่อไทยน่ะ ทุนไทยเหลือแค่ไหน เป็นของฝรั่งตาน้ำข้าวหัวทอง ตาตี่หัวดำ อย่างสิงคโปร์ขี้ข้าฝรั่งเข้าไปเท่าไหร่ ถ้าอยากรู้ตัวเลขจริงๆ ทำใจแข็งไปขอดูรายงานของ ธปท.เลยครับ รู้แล้วอย่าเป็นลมก็แล้วกัน! เรื่องนี้ ถ้าเล่าขบวนการสมคบอันชั่วร้ายของขบวนการทุนนิยมเสรีแล้ว ท่านผู้อ่านอาจอยากเปลี่ยนใจไปใช้เงินพดด้วง! นอกจากนี้พี้เบิ้มยังแนะนำ (บังคับ!) ให้สมันน้อยยกเลิกรัฐวิสาหกิจ 150 แห่ง ที่ตั้งมาตั้งกะสมัยคณะราษฎร (อันนี้มันส์พะยะค่ะ เล่นเอาพวกปล้นเจ้า หน้าจ๋อยไปเลย) เพราะว่าการเป็นรัฐวิสาหกิจ หมายความว่า รัฐเป็นผู้ดำเนินกิจการเอง ควบคุมเอง ทุนต่างด้าว ทุนนิยมเสรีจะเข้ามาค้าแล้วรวยได้อย่างไร มันก็เหมือนเล่นไพ่กับเจ้ามือ มันจะไปได้กินเจ้ามืออย่างไร ดังนั้นพี่เบิ้มเลยบังคับให้มีทั้งการตัด การตอนรัฐวิสาหกิจให้หดและหายไปในที่สุด …ไอ้ทฤษฏีตอนไม่ให้โตน่ะ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก็ยังใช้เล่นต่อ เนื่องมาถึงทุกวันนี้ เห็นฤทธิ์ทุนนิยมเสรีหรือยัง มันมาทั้งได้ในรูปทุนนิยมต่างด้าว และทุนนิยมเผด็จการไทย ชาวบ้านอย่างเราๆ ก็มีแต่จนแห้งตายซาก ทั้งขึ้น ทั้งล่อง คนเล่านิทาน
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน 6
    ต้องเล่าย้อนหลังไปถึงการเมืองไทยยุคจอมพล ป. หน่อย เล่าข้ามเดี๋ยวเหมือนหนังขาด
    จอมพล ป. ขึ้นมามีอำนาจ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2490 หลังจากแยกวงกับนายปรีดี พนมยงค์ พอถึงปี พ.ศ.2492 ทางฝ่ายจีนก็เริ่มเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง เป็นระบอบคอมมิวนิสต์  พี่เบิ้มก็ตาเขียวขึ้นมาทันที มือหนึ่งถือกระเป๋าเงินหนัก 7.5 ล้านเหรียญ อีกมือหนึ่งจับบ่าจอมพล ป. ถามว่า จอมพลคนแปลก ยูจะเอายังไง จะดื่มโค้กกับไอ หรือจะไปแทะเม็ดกวยจี๊
    แหม! ไม่อยากคิดเลยว่าเราจะเป็นพวกเห็นแก่เงิน เอาว่า ไทยเราเป็นประเภทนักการทูตนกรู้แล้วกันนะ ว่าแล้วก็จิบโค้กแกล้มเงินช่วยเหลือ 7.5 ล้านเหรียญ อร่อย (เอ๊ะ! ตอนนี้ฝรั่งต้มไทยหรือไทยต้มฝรั่งกันแน่)
    พอให้เงินแค่ 7.5 ล้านเหรียญ พี่เบิ้มก็เริ่มเบียดกระแซะไทยเข้ามาอีกคืบ
    จับมือไทยลงชื่อแปะโป้งลงนามสัญญา 3 ฉบับ ในปี พ.ศ.2493 (ค.ศ.1950) (อีตอนนี้สงสัยฝรั่งต้มไทยนะ…อ้าว) เกี่ยวกับการร่วมมือการศึกษาและวัฒนธรรม 1 ฉบับ, ความตกลงร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิทยาการอีก 1 ฉบับ…แต่ฉบับที่สำคัญ คือ ความตกลงช่วยเหลือทางการทหาร เรียกย่อๆ ว่า สัญญา JUSMAC อีก1 ฉบับ
    เฉพาะรายการหลัง เพื่อให้แน่ใจว่า สมันน้อยผูกคอตัวเองจนแน่น พี่เบิ้มใจดีจ่ายค่าแปะโป้งให้อีก 10ล้านเหรียญ! อืม… มันหวังดีจริงนะ จำสัญญานี้ให้ดีๆ นะครับ เรื่องนี้สำคัญมากๆ
    มันเป็นสัญญาที่ทำให้ไทย คล้ายจะกลายเป็นทาสในเรือนเบี้ยของพี่เบิ้ม ไปตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงทุกวันนี้สัญญานี้ก็ยังมีผลบังคับอยู่ สนใจก็ไปหามาอ่านกันนะครับ หรือไปถามลุงตู่เอาก็แล้วกัน ผมเล่ามากกว่านี้เดี๋ยวก็จะโดนข้อหา เอาความลับของทางราชการมาเผย เดี๋ยวลุงตู่แกจะตวาดเอา (คนอะไรของขึ้นง่ายจัง)
    ก็ใอ้สัญญาที่ผูกมัดประเทศแบบนี้แหละ ที่เขาไม่อยากให้ประชาชนอย่างเราๆ รู้ เขาถึงคิดแก้รัฐ ธรรมนูญกัน เพื่อเอาสิทธิของประชาชนคืนไป แล้วไงครับ… เราก็ไม่รู้ไม่ชี้ นั่งดูละครน้ำเน่าต่อ… ยังกะบ้านเมืองไม่ใช่ของเรา…
    จอมพล ป. เจ้าของ “มาลานำไทย ใส่หมวกแล้วชาติเจริญนั้นน่ะ เป็นคนที่เชื่อในลัทธิชาตินิยม ออกกฎหมายลักษณะชาตินิยมทางเศรษฐกิจไว้แยะ เรื่องนี้ก็ต้องย้อนไป ตั้งกะสมัยปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ซะหน่อย
    เราๆ เข้าใจว่า ปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองล้มเจ้าแล้ว ชาวเราได้ปกครองหรือเปล่าหรอก เปลี่ยนจากเจ้าก็มาเป็นพวกเขาที่ทำการปฏิวัตินั่นแหละ มันเป็นการย้ายที่ทุนกับอำนาจ ยังไง จำได้ไหม เกริ่นไว้ตั้งกะแรกนะ
    ก่อนพ.ศ. 2475 อำนาจกับทุนอยู่ที่พระมหากษัตริย์ หลังพ.ศ. 2475 อำนาจกับทุนย้ายมาอยู่ที่พวกปฏิวัติ หรือจริงๆ ก็คือ พวกอำมาตย์ (ทหาร+ข้าราชการ) และพ่อค้า ไม่ได้มาอยู่ที่เราประชาชนคนไทย อย่างที่อ้าง และเข้าใจกันหรอกนะครับ
    (นิทานตอนนี้อยากให้พวกนิติเรดมาอ่าน แยะๆ เผื่อจะชอบแนวคิดนี้บ้าง 555)
    สมัยพระมหากษัตริย์ปกครอง พระองค์ท่านมิได้ทำทำการค้าขายเอง แต่ให้นายอากรเป็นผู้ดำเนินการ แล้วก็จ่ายค่าอากรให้หลวง ถึงเรียกว่านายอากร นายอากรนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนจีน ดังนั้นการค้าส่วนใหญ่สมัยรัตน โกสินทร์ส่วนใหญ่ก็อยู่ในมือพี่น้องคนจีนที่มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารอยู่ในแผ่นดินไทย
    พอหลัง พ.ศ.2475 คณะราษฎร์ ก็รวบทั้งอำนาจและทุน แล้วก็ออกกฎหมายใหม่ อะไรที่นายอากรเคยทำ ก็เอามาทำเอง จึงกำเนิดรัฐวิสาหกิจ 100 กว่าแห่ง ธนาคารอีกเกือบ 10 แห่ง
    แล้วพวกคณะราษฎร์นั่นแหละ ก็เข้าไปร่วมถือหุ้นในกิจการต่างๆ เหล่านั้น
    แล้วมันปฏิวัติเพื่อประชาชนตรงไหน มีเวลาจะเล่ารายละเอียดว่า ตระกูลไหน ใครบ้างเข้าไปถือหุ้นในรัฐวิสาหกิจอะไร ธนาคารอะไร ไม่งั้นมันจะยังรวยก็อยู่ถึงตอนนี้เหรอ ผ่านไปตั้ง 70-80 ปีแล้ว (เอ้า! พวกนิติเรด อย่าลืมเล่าตรงนี้บ้างนะ)
    นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนจีนที่เคยค้าขายในประเทศไทย ส่งเงินไปสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพราะเห็นว่า ถูกกลั่นแกล้งจากรัฐบาลไทย (ที่กำกับโดยพี่เบิ้มอเมริกา)
    ขณะเดียวกัน พี่เบิ้มก็บี้ไทยซ้ำ ยูจะเอายังไง ไอบอกว่าทุนนิยม ยูก็จะชาตินิยม เดี๋ยวเอาเงินคืนนะ ถึงขนาดส่งนายจอห์น ดัลลัส (John Dulles) รมต.ตปท. มาบีบลูกกระเดือกจอมพล คนแปลกเอง
    มันเกี่ยวกับเรื่องจอมพลคนแปลก มาลานำไทยแล้วชาติเจริญ ไม่ยอมเปลี่ยนจากชาตินิยมเป็นทุนนิยมหรือเปล่ามันก็น่าคิด เพราะช่วงพ.ศ.2498-พ.ศ.2500 สถานการณ์ของจอมพล ป. ก็คลอนแคลน โยกเยก แล้วในที่สุด 16 ก.ย. พ.ศ.2500 จอมพลผ้าขะม้าก็ทำรัฐประหาร
    จอมพล ป. ก็รีบเก็บกระเป๋าขึ้นรถ นั่งตัวตรงลี้ภัยไปที่เขมร ก่อนที่จะติดปีกบินต่อไปญี่ปุ่น ผู้ทำหน้าที่ขับรถพาท่านจอมพลไปเขมรชื่อ ชุมพล โลหะชาละ คุ้นๆชื่อนี้ไหมครับ ส่วนนายพลเผ่า ซีซัพพลาย (Sea Supply) ก็หรูหน่อยขึ้นเครื่องบินลี้ภัยไปสวิส
    น่าคิดนะ ไม่ว่าใครที่ขวางทาง  หรือไม่เป็นเด็กดีตามใบสั่งพี่เบิ้มนี่ ไม่นานหรอกก็มีอันต้องเก็บฉากหายตัวเป็นแถวๆ ตามดูไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน
    จอมพลผ้าขะม้ารัฐประหารแล้วไม่เป็นนายกเอง แปลกนะ! คนเป็นนายกชื่อ นายพจน์ สารสิน (แปลกไม่แปลกเอ่ย อ่านๆ ไปก็รู้เอง) คล้ายๆ กับ พล.อ.สุจินดาทำรัฐประหาร แล้วให้นายอานันท์เป็นนายกเลยนะ อิ! อิ!
    นายพจน์ เป็นนายกได้ไม่นาน ก็จัดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยใบสั่งรุ่นแรกปี พ.ศ.2501 หวยก็ไปตกที่พล.อ. ถนอม เป็นนายก โดยมีคุณป๋าผ้าขะม้าถือไม้เรียวคุมเข้มอยู่ข้างหลัง
    รัฐประหารไม่เท่าไหร่ น้าหนอมยังเป็นนายกตั้งไข่ คุณป๋าผ้าขะม้าก็ล้มป่วย
    พี่เบิ้มตาเหลือก ยุ่งล่ะสิ! วางแผนซะเกือบตาย กำลังจะไปได้สวย ทุกอย่างอยู่ในอวยหมดแล้ว ทำไม ทำไม จะหมดวาสนาเอาง่ายๆ พี่เบิ้มก็เลยกล่อมให้คุณป๋าไปรักษาตัวที่ รพ. Water Reed อันลือชื่อของพี่เบิ้ม ระหว่างที่คุณป๋าสฤษดิ์รักษาตัวไป พักฟื้นไป พี่เบิ้มก็ส่งพี่เลี้ยงชื่อ พล.อ. เออร์สกิน (Erskine) มานั่งจับมือคุณป๋า เล่านิทานเรื่องภัยคอมมิวนิสต์ในอินโดจีนให้คุณป๋าฟังทุกวัน ทุกวัน
    คุณป๋าแกเป็นทหารรักชาติของจริง ไม่ใช่ประเภทเห็นแก่ร้องเท้ากอล์ฟคู่เดียว หรือมีวันนี้เพราะพี่ให้ แกฟังพี่เลี้ยงใส่สีตีไข่ทุกวัน คุณป๋าเลือดรักชาติ พุ่งกระฉูดแทบหายป่วยเลย
    อะไรมันจะขนาดนั้น ภัยมันจ่อคอหอยบ้านเราแล้วหรือ แถมลาวน้องรักก็กำลังจะถึงซึ่งชีวี มีหรือพี่จะนอนต่อไปได้ ว่าแล้วคุณป๋าก็ลุกขึ้น ทำเสียงเข้มใส่พี่เบิ้มทันที บอกมาบัดเดี๋ยวนี้ เราจะช่วยบ้านเราและบ้านพี่เมืองน้องของเรา ให้พ้นจากภัยคุกคาม ของเหล่าคอมมิวนิสต์ตัวร้ายได้อย่างไร
    อ้า! สมันน้อยติดกับเราเรียบร้อยแล้ว…เสียงรำพึงขึ้นจมูกโด่งงุ้มของใครบางคนดังขึ้น
    อย่าตกใจไปเลยสมันน้อย เราได้เตรียมการไว้ให้ท่านสมันน้อย เอ๊ย มิตรรัก ไว้พร้อมสรรพแล้ว เพียงท่านทำตามที่เราบอก บ้านท่าน รวมทั้งบ้านพี่บ้านน้องท่านก็จักพ้นภัย
    วิธีจัดการกับสมันน้อยนามไทยแลนด์ของพี่เบิ้มเนียนมาก
    ด้านหนึ่งก็บอกว่าต้องพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า ชาวประชาต้องมีงานทำ
    พวกคอมมี่มันจะได้เข้าไม่ถึง ถ้าเรายากจน เขาก็มาช่วงชิงประชาชนไปได้
    อีกด้านหนึ่งเราก็ต้องจัดการ ให้ยูมีกองกำลังเอาไว้ป้องกันตัว บดขยี้ไอ้พวกคอมมี่ที่จะมาตีบ้านตีเมืองยู ไอไม่ปล่อยให้ยูเดียวดาย โฮมอะโลนหรอกเพื่อนรัก
    แล้วการจะทำทุกอย่างให้มีประสิทธิภาพน่ะ เพื่อนต้องมีอำนาจเบ็ดเสร็จ การเมืองต้องนิ่ง คุมสภาให้อยู่หมัด เพื่อนอย่าเพิ่งมึน
    แหม! นี่ถ้าไม่บอกว่า พี่มะกันพูดกะป๋าสฤษดิ์น่ะ ท่านผู้อ่านอาจเผลอนึกว่า พี่มะกันพูดกับพี่น้องนักซุก ว.5
    ดังนั้นไทยแลนด์เพื่อนรัก เพื่อนจงรีบจัดการ เรื่องการบ้านการเมืองบ้านยูให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็ดำเนิน การพัฒนาประเทศเป็นการด่วน ไอได้ทำการสำรวจ และทำข้อแนะนำไว้ให้ยูเรียบร้อยแล้ว เห็นไหม ไอรู้ใจเพื่อนรักขนาดไหน ยูรีบไปดูแล จัดตั้งหน่วยงานพัฒนาเสียโดยดี เพื่อนจะรออะไรอีก เงินไม่มี ไอก็จะให้กู้ โอ๊ย! เพื่อนใจป้ำอย่างนี้หาได้ง่ายๆ ที่ไหน
    แบบนี้คุณป๋าหายป่วยเลย รีบกลับบ้านเรียกประชุมมิตรรักนักเพลงที่คอเดียวกับพี่เบิ้มมะกันเป็นการด่วน
    เร็วๆ พวกเรา คอมมิวนิสต์มันจ่อก้นเราแล้ว เราต้องช่วงชิงประชาชนกลับมา นำความเจริญไปสู่เขา ฯลฯ แหม นกแก้วรุ่นพ่อก็ท่องคล่องเหมือนกันนะ นึกว่ามีแต่นกแก้วสมัยนี้
    ระหว่างที่คุณป๋าสฤษดิ์รักษาตัวอยู่ ที่สหรัฐฯ น้าหนอมเป็นนายกก็จริง แต่เริ่มมีรัศมีของลุงตุ๊ หนวดจิ๋ม ขึ้นมาบดบัง คุณป๋าก็ร้อนใจ โอ๊ย! ไหนจะเรื่องคอมมี่ ไหนจะเรื่องหนวดจิ๋ม
    พี่เบิ้มนี่น่ารักจริง ๆ ไม่ปล่อยให้คุณป๋าร้อนใจนานหรอก คนรักกันชอบกัน ทำมั้ยทำไม เรื่องแค่นี้จะทำให้กันไม่ได้ พี่เบิ้มเขาทำอะไรให้นะ ใจเย็น ๆ อ่านต่อไปครับ
    คุณป๋าบินกลับไทยแลนด์ ในเดือนตุลา พ.ศ.2501  มาถึงก็สั่งปรับ ครม. ทันที แต่ก่อนคุณป๋าจะกลับมา ก็มีคนช่วยจัดการเตรียมแผนให้คุณป๋ามีอำนาจเบ็ดเสร็จ ตามที่มีผู้ปรารถนาดีแต่ประสงค์ร้ายแนะนำเอาไว้แล้ว
    ช่วงกลางปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) คุณป๋าก็เดินทางไปอังกฤษ อ้างว่าจะไปตรวจสุขภาพ (อีก)
    รายงานของ CIA อ้างว่า คุณป๋าไปเตรียมแผนปฏิวัติอยู่ที่ ซันนิ่ง เดล Sunning Dale ในลอนดอน (London) หอบเอาคณะมันสมองไปด้วยประมาณ 1 โหล ในรายงานบอกว่ามีแต่เด็ดๆ ทั้งนั้นเช่น ถนัด คอมันตร์ หลวงวิจิตรวาทการสุนทร หงส์ลดารมภ์ บุญชู จันทรุเบกษา พงษ์สวัสดิ สุริโยทัย เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร ฯลฯ
    ระหว่างเตรียมการรัฐประหาร CIA ระบุในรายงานของตนว่า เป็นการเตรียมตัวของไทยแลนด์ เข้าสู่การพัฒนาตาม Pax Americana ให้บรรลุผลสำเร็จ พี่เบิ้มต้องรีบเอาผ้าเช็ดหน้ามาอุดปาก น้ำลายมันไหลเยิ้มไม่หยุด อู้ย! หมูกำลังเต๊าะแต๊ะๆ เข้าอวยแล้ว
    รายงานของ CIA ยังบอกอีกว่า ได้ส่งกำลังมาอารักขาครอบครัวของคณะท่าน ซันนิ่ง เดล โดยส่งครอบครัวไปซ่อนในที่ปลอดภัยที่หัวหิน มาแล้วไง ค่ายนเรศวร บอกแล้วว่าให้จำไว้ อย่าลืมๆ โดยมีขบวนรถของอเมริกาเตรียมพร้อมตลอดเวลา เพื่อนำครอบครัวของคณะซันนิ่ง เผ่นลงใต้ หากแผนล่ม!
    19 ต.ค. พ.ศ.2502 คุณป๋าและคณะเดินทางกลับประเทศไทย
    20 ต.ค. พ.ศ.2502 น้าหนอมยื่นใบลาออกจากการเป็นนายกฯ วันเดียวกันนั้น คุณป๋าก็ปฏิบัติการยึดอำนาจ โดยคณะทหารที่เรียกตัวเองว่า “คณะปฎิวัติ” แล้วคุณป๋าก็ตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าคณะปฎิวัติ และให้น้าหนอมเป็นรองหัวหน้าคณะฯ
    CIA รายงานว่าการรัฐประหารครั้งนี้มุ่งลดอำนาจลุงตุ๊ และทำให้คุณป๋ามีอำนาจเบ็ดเสร็จ
    Pax Americanaเดินหน้าอย่างไม่มีอุปสรรคแล้ว ดื่ม Coke แก้กระหายด่วน (โฆษณาให้ฟรี จะส่งเงินมาสม ทบก็ไม่ขัดข้อง)


    คนเล่านิทาน
    ตอน 6 ต้องเล่าย้อนหลังไปถึงการเมืองไทยยุคจอมพล ป. หน่อย เล่าข้ามเดี๋ยวเหมือนหนังขาด จอมพล ป. ขึ้นมามีอำนาจ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2490 หลังจากแยกวงกับนายปรีดี พนมยงค์ พอถึงปี พ.ศ.2492 ทางฝ่ายจีนก็เริ่มเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง เป็นระบอบคอมมิวนิสต์  พี่เบิ้มก็ตาเขียวขึ้นมาทันที มือหนึ่งถือกระเป๋าเงินหนัก 7.5 ล้านเหรียญ อีกมือหนึ่งจับบ่าจอมพล ป. ถามว่า จอมพลคนแปลก ยูจะเอายังไง จะดื่มโค้กกับไอ หรือจะไปแทะเม็ดกวยจี๊ แหม! ไม่อยากคิดเลยว่าเราจะเป็นพวกเห็นแก่เงิน เอาว่า ไทยเราเป็นประเภทนักการทูตนกรู้แล้วกันนะ ว่าแล้วก็จิบโค้กแกล้มเงินช่วยเหลือ 7.5 ล้านเหรียญ อร่อย (เอ๊ะ! ตอนนี้ฝรั่งต้มไทยหรือไทยต้มฝรั่งกันแน่) พอให้เงินแค่ 7.5 ล้านเหรียญ พี่เบิ้มก็เริ่มเบียดกระแซะไทยเข้ามาอีกคืบ จับมือไทยลงชื่อแปะโป้งลงนามสัญญา 3 ฉบับ ในปี พ.ศ.2493 (ค.ศ.1950) (อีตอนนี้สงสัยฝรั่งต้มไทยนะ…อ้าว) เกี่ยวกับการร่วมมือการศึกษาและวัฒนธรรม 1 ฉบับ, ความตกลงร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิทยาการอีก 1 ฉบับ…แต่ฉบับที่สำคัญ คือ ความตกลงช่วยเหลือทางการทหาร เรียกย่อๆ ว่า สัญญา JUSMAC อีก1 ฉบับ เฉพาะรายการหลัง เพื่อให้แน่ใจว่า สมันน้อยผูกคอตัวเองจนแน่น พี่เบิ้มใจดีจ่ายค่าแปะโป้งให้อีก 10ล้านเหรียญ! อืม… มันหวังดีจริงนะ จำสัญญานี้ให้ดีๆ นะครับ เรื่องนี้สำคัญมากๆ มันเป็นสัญญาที่ทำให้ไทย คล้ายจะกลายเป็นทาสในเรือนเบี้ยของพี่เบิ้ม ไปตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงทุกวันนี้สัญญานี้ก็ยังมีผลบังคับอยู่ สนใจก็ไปหามาอ่านกันนะครับ หรือไปถามลุงตู่เอาก็แล้วกัน ผมเล่ามากกว่านี้เดี๋ยวก็จะโดนข้อหา เอาความลับของทางราชการมาเผย เดี๋ยวลุงตู่แกจะตวาดเอา (คนอะไรของขึ้นง่ายจัง) ก็ใอ้สัญญาที่ผูกมัดประเทศแบบนี้แหละ ที่เขาไม่อยากให้ประชาชนอย่างเราๆ รู้ เขาถึงคิดแก้รัฐ ธรรมนูญกัน เพื่อเอาสิทธิของประชาชนคืนไป แล้วไงครับ… เราก็ไม่รู้ไม่ชี้ นั่งดูละครน้ำเน่าต่อ… ยังกะบ้านเมืองไม่ใช่ของเรา… จอมพล ป. เจ้าของ “มาลานำไทย ใส่หมวกแล้วชาติเจริญนั้นน่ะ เป็นคนที่เชื่อในลัทธิชาตินิยม ออกกฎหมายลักษณะชาตินิยมทางเศรษฐกิจไว้แยะ เรื่องนี้ก็ต้องย้อนไป ตั้งกะสมัยปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ซะหน่อย เราๆ เข้าใจว่า ปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองล้มเจ้าแล้ว ชาวเราได้ปกครองหรือเปล่าหรอก เปลี่ยนจากเจ้าก็มาเป็นพวกเขาที่ทำการปฏิวัตินั่นแหละ มันเป็นการย้ายที่ทุนกับอำนาจ ยังไง จำได้ไหม เกริ่นไว้ตั้งกะแรกนะ ก่อนพ.ศ. 2475 อำนาจกับทุนอยู่ที่พระมหากษัตริย์ หลังพ.ศ. 2475 อำนาจกับทุนย้ายมาอยู่ที่พวกปฏิวัติ หรือจริงๆ ก็คือ พวกอำมาตย์ (ทหาร+ข้าราชการ) และพ่อค้า ไม่ได้มาอยู่ที่เราประชาชนคนไทย อย่างที่อ้าง และเข้าใจกันหรอกนะครับ (นิทานตอนนี้อยากให้พวกนิติเรดมาอ่าน แยะๆ เผื่อจะชอบแนวคิดนี้บ้าง 555) สมัยพระมหากษัตริย์ปกครอง พระองค์ท่านมิได้ทำทำการค้าขายเอง แต่ให้นายอากรเป็นผู้ดำเนินการ แล้วก็จ่ายค่าอากรให้หลวง ถึงเรียกว่านายอากร นายอากรนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนจีน ดังนั้นการค้าส่วนใหญ่สมัยรัตน โกสินทร์ส่วนใหญ่ก็อยู่ในมือพี่น้องคนจีนที่มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารอยู่ในแผ่นดินไทย พอหลัง พ.ศ.2475 คณะราษฎร์ ก็รวบทั้งอำนาจและทุน แล้วก็ออกกฎหมายใหม่ อะไรที่นายอากรเคยทำ ก็เอามาทำเอง จึงกำเนิดรัฐวิสาหกิจ 100 กว่าแห่ง ธนาคารอีกเกือบ 10 แห่ง แล้วพวกคณะราษฎร์นั่นแหละ ก็เข้าไปร่วมถือหุ้นในกิจการต่างๆ เหล่านั้น แล้วมันปฏิวัติเพื่อประชาชนตรงไหน มีเวลาจะเล่ารายละเอียดว่า ตระกูลไหน ใครบ้างเข้าไปถือหุ้นในรัฐวิสาหกิจอะไร ธนาคารอะไร ไม่งั้นมันจะยังรวยก็อยู่ถึงตอนนี้เหรอ ผ่านไปตั้ง 70-80 ปีแล้ว (เอ้า! พวกนิติเรด อย่าลืมเล่าตรงนี้บ้างนะ) นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนจีนที่เคยค้าขายในประเทศไทย ส่งเงินไปสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพราะเห็นว่า ถูกกลั่นแกล้งจากรัฐบาลไทย (ที่กำกับโดยพี่เบิ้มอเมริกา) ขณะเดียวกัน พี่เบิ้มก็บี้ไทยซ้ำ ยูจะเอายังไง ไอบอกว่าทุนนิยม ยูก็จะชาตินิยม เดี๋ยวเอาเงินคืนนะ ถึงขนาดส่งนายจอห์น ดัลลัส (John Dulles) รมต.ตปท. มาบีบลูกกระเดือกจอมพล คนแปลกเอง มันเกี่ยวกับเรื่องจอมพลคนแปลก มาลานำไทยแล้วชาติเจริญ ไม่ยอมเปลี่ยนจากชาตินิยมเป็นทุนนิยมหรือเปล่ามันก็น่าคิด เพราะช่วงพ.ศ.2498-พ.ศ.2500 สถานการณ์ของจอมพล ป. ก็คลอนแคลน โยกเยก แล้วในที่สุด 16 ก.ย. พ.ศ.2500 จอมพลผ้าขะม้าก็ทำรัฐประหาร จอมพล ป. ก็รีบเก็บกระเป๋าขึ้นรถ นั่งตัวตรงลี้ภัยไปที่เขมร ก่อนที่จะติดปีกบินต่อไปญี่ปุ่น ผู้ทำหน้าที่ขับรถพาท่านจอมพลไปเขมรชื่อ ชุมพล โลหะชาละ คุ้นๆชื่อนี้ไหมครับ ส่วนนายพลเผ่า ซีซัพพลาย (Sea Supply) ก็หรูหน่อยขึ้นเครื่องบินลี้ภัยไปสวิส น่าคิดนะ ไม่ว่าใครที่ขวางทาง  หรือไม่เป็นเด็กดีตามใบสั่งพี่เบิ้มนี่ ไม่นานหรอกก็มีอันต้องเก็บฉากหายตัวเป็นแถวๆ ตามดูไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน จอมพลผ้าขะม้ารัฐประหารแล้วไม่เป็นนายกเอง แปลกนะ! คนเป็นนายกชื่อ นายพจน์ สารสิน (แปลกไม่แปลกเอ่ย อ่านๆ ไปก็รู้เอง) คล้ายๆ กับ พล.อ.สุจินดาทำรัฐประหาร แล้วให้นายอานันท์เป็นนายกเลยนะ อิ! อิ! นายพจน์ เป็นนายกได้ไม่นาน ก็จัดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยใบสั่งรุ่นแรกปี พ.ศ.2501 หวยก็ไปตกที่พล.อ. ถนอม เป็นนายก โดยมีคุณป๋าผ้าขะม้าถือไม้เรียวคุมเข้มอยู่ข้างหลัง รัฐประหารไม่เท่าไหร่ น้าหนอมยังเป็นนายกตั้งไข่ คุณป๋าผ้าขะม้าก็ล้มป่วย พี่เบิ้มตาเหลือก ยุ่งล่ะสิ! วางแผนซะเกือบตาย กำลังจะไปได้สวย ทุกอย่างอยู่ในอวยหมดแล้ว ทำไม ทำไม จะหมดวาสนาเอาง่ายๆ พี่เบิ้มก็เลยกล่อมให้คุณป๋าไปรักษาตัวที่ รพ. Water Reed อันลือชื่อของพี่เบิ้ม ระหว่างที่คุณป๋าสฤษดิ์รักษาตัวไป พักฟื้นไป พี่เบิ้มก็ส่งพี่เลี้ยงชื่อ พล.อ. เออร์สกิน (Erskine) มานั่งจับมือคุณป๋า เล่านิทานเรื่องภัยคอมมิวนิสต์ในอินโดจีนให้คุณป๋าฟังทุกวัน ทุกวัน คุณป๋าแกเป็นทหารรักชาติของจริง ไม่ใช่ประเภทเห็นแก่ร้องเท้ากอล์ฟคู่เดียว หรือมีวันนี้เพราะพี่ให้ แกฟังพี่เลี้ยงใส่สีตีไข่ทุกวัน คุณป๋าเลือดรักชาติ พุ่งกระฉูดแทบหายป่วยเลย อะไรมันจะขนาดนั้น ภัยมันจ่อคอหอยบ้านเราแล้วหรือ แถมลาวน้องรักก็กำลังจะถึงซึ่งชีวี มีหรือพี่จะนอนต่อไปได้ ว่าแล้วคุณป๋าก็ลุกขึ้น ทำเสียงเข้มใส่พี่เบิ้มทันที บอกมาบัดเดี๋ยวนี้ เราจะช่วยบ้านเราและบ้านพี่เมืองน้องของเรา ให้พ้นจากภัยคุกคาม ของเหล่าคอมมิวนิสต์ตัวร้ายได้อย่างไร อ้า! สมันน้อยติดกับเราเรียบร้อยแล้ว…เสียงรำพึงขึ้นจมูกโด่งงุ้มของใครบางคนดังขึ้น อย่าตกใจไปเลยสมันน้อย เราได้เตรียมการไว้ให้ท่านสมันน้อย เอ๊ย มิตรรัก ไว้พร้อมสรรพแล้ว เพียงท่านทำตามที่เราบอก บ้านท่าน รวมทั้งบ้านพี่บ้านน้องท่านก็จักพ้นภัย วิธีจัดการกับสมันน้อยนามไทยแลนด์ของพี่เบิ้มเนียนมาก ด้านหนึ่งก็บอกว่าต้องพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า ชาวประชาต้องมีงานทำ พวกคอมมี่มันจะได้เข้าไม่ถึง ถ้าเรายากจน เขาก็มาช่วงชิงประชาชนไปได้ อีกด้านหนึ่งเราก็ต้องจัดการ ให้ยูมีกองกำลังเอาไว้ป้องกันตัว บดขยี้ไอ้พวกคอมมี่ที่จะมาตีบ้านตีเมืองยู ไอไม่ปล่อยให้ยูเดียวดาย โฮมอะโลนหรอกเพื่อนรัก แล้วการจะทำทุกอย่างให้มีประสิทธิภาพน่ะ เพื่อนต้องมีอำนาจเบ็ดเสร็จ การเมืองต้องนิ่ง คุมสภาให้อยู่หมัด เพื่อนอย่าเพิ่งมึน แหม! นี่ถ้าไม่บอกว่า พี่มะกันพูดกะป๋าสฤษดิ์น่ะ ท่านผู้อ่านอาจเผลอนึกว่า พี่มะกันพูดกับพี่น้องนักซุก ว.5 ดังนั้นไทยแลนด์เพื่อนรัก เพื่อนจงรีบจัดการ เรื่องการบ้านการเมืองบ้านยูให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็ดำเนิน การพัฒนาประเทศเป็นการด่วน ไอได้ทำการสำรวจ และทำข้อแนะนำไว้ให้ยูเรียบร้อยแล้ว เห็นไหม ไอรู้ใจเพื่อนรักขนาดไหน ยูรีบไปดูแล จัดตั้งหน่วยงานพัฒนาเสียโดยดี เพื่อนจะรออะไรอีก เงินไม่มี ไอก็จะให้กู้ โอ๊ย! เพื่อนใจป้ำอย่างนี้หาได้ง่ายๆ ที่ไหน แบบนี้คุณป๋าหายป่วยเลย รีบกลับบ้านเรียกประชุมมิตรรักนักเพลงที่คอเดียวกับพี่เบิ้มมะกันเป็นการด่วน เร็วๆ พวกเรา คอมมิวนิสต์มันจ่อก้นเราแล้ว เราต้องช่วงชิงประชาชนกลับมา นำความเจริญไปสู่เขา ฯลฯ แหม นกแก้วรุ่นพ่อก็ท่องคล่องเหมือนกันนะ นึกว่ามีแต่นกแก้วสมัยนี้ ระหว่างที่คุณป๋าสฤษดิ์รักษาตัวอยู่ ที่สหรัฐฯ น้าหนอมเป็นนายกก็จริง แต่เริ่มมีรัศมีของลุงตุ๊ หนวดจิ๋ม ขึ้นมาบดบัง คุณป๋าก็ร้อนใจ โอ๊ย! ไหนจะเรื่องคอมมี่ ไหนจะเรื่องหนวดจิ๋ม พี่เบิ้มนี่น่ารักจริง ๆ ไม่ปล่อยให้คุณป๋าร้อนใจนานหรอก คนรักกันชอบกัน ทำมั้ยทำไม เรื่องแค่นี้จะทำให้กันไม่ได้ พี่เบิ้มเขาทำอะไรให้นะ ใจเย็น ๆ อ่านต่อไปครับ คุณป๋าบินกลับไทยแลนด์ ในเดือนตุลา พ.ศ.2501  มาถึงก็สั่งปรับ ครม. ทันที แต่ก่อนคุณป๋าจะกลับมา ก็มีคนช่วยจัดการเตรียมแผนให้คุณป๋ามีอำนาจเบ็ดเสร็จ ตามที่มีผู้ปรารถนาดีแต่ประสงค์ร้ายแนะนำเอาไว้แล้ว ช่วงกลางปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) คุณป๋าก็เดินทางไปอังกฤษ อ้างว่าจะไปตรวจสุขภาพ (อีก) รายงานของ CIA อ้างว่า คุณป๋าไปเตรียมแผนปฏิวัติอยู่ที่ ซันนิ่ง เดล Sunning Dale ในลอนดอน (London) หอบเอาคณะมันสมองไปด้วยประมาณ 1 โหล ในรายงานบอกว่ามีแต่เด็ดๆ ทั้งนั้นเช่น ถนัด คอมันตร์ หลวงวิจิตรวาทการสุนทร หงส์ลดารมภ์ บุญชู จันทรุเบกษา พงษ์สวัสดิ สุริโยทัย เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร ฯลฯ ระหว่างเตรียมการรัฐประหาร CIA ระบุในรายงานของตนว่า เป็นการเตรียมตัวของไทยแลนด์ เข้าสู่การพัฒนาตาม Pax Americana ให้บรรลุผลสำเร็จ พี่เบิ้มต้องรีบเอาผ้าเช็ดหน้ามาอุดปาก น้ำลายมันไหลเยิ้มไม่หยุด อู้ย! หมูกำลังเต๊าะแต๊ะๆ เข้าอวยแล้ว รายงานของ CIA ยังบอกอีกว่า ได้ส่งกำลังมาอารักขาครอบครัวของคณะท่าน ซันนิ่ง เดล โดยส่งครอบครัวไปซ่อนในที่ปลอดภัยที่หัวหิน มาแล้วไง ค่ายนเรศวร บอกแล้วว่าให้จำไว้ อย่าลืมๆ โดยมีขบวนรถของอเมริกาเตรียมพร้อมตลอดเวลา เพื่อนำครอบครัวของคณะซันนิ่ง เผ่นลงใต้ หากแผนล่ม! 19 ต.ค. พ.ศ.2502 คุณป๋าและคณะเดินทางกลับประเทศไทย 20 ต.ค. พ.ศ.2502 น้าหนอมยื่นใบลาออกจากการเป็นนายกฯ วันเดียวกันนั้น คุณป๋าก็ปฏิบัติการยึดอำนาจ โดยคณะทหารที่เรียกตัวเองว่า “คณะปฎิวัติ” แล้วคุณป๋าก็ตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าคณะปฎิวัติ และให้น้าหนอมเป็นรองหัวหน้าคณะฯ CIA รายงานว่าการรัฐประหารครั้งนี้มุ่งลดอำนาจลุงตุ๊ และทำให้คุณป๋ามีอำนาจเบ็ดเสร็จ Pax Americanaเดินหน้าอย่างไม่มีอุปสรรคแล้ว ดื่ม Coke แก้กระหายด่วน (โฆษณาให้ฟรี จะส่งเงินมาสม ทบก็ไม่ขัดข้อง) คนเล่านิทาน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ ไม่รู้ว่าคนอย่างสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งเชี่ย เฒ่าสามกีบ จะมีลมหายใจต่อไปทำไม ใครได้ประโยชน์ ในที่สุดสุชาติก็ไปจบที่ลอยอังคาร
    #7ดอกจิก
    ♣ ไม่รู้ว่าคนอย่างสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งเชี่ย เฒ่าสามกีบ จะมีลมหายใจต่อไปทำไม ใครได้ประโยชน์ ในที่สุดสุชาติก็ไปจบที่ลอยอังคาร #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก AI: เมื่อ Dave Barry “ตายไปแล้ว” (ตาม Google AI)

    ทุกอย่างเริ่มจากการที่ Dave Barry เสิร์ชชื่อของเขาใน Google แล้วพบว่า Google AI Overview สรุปว่าเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2023 พร้อมรูปภาพจริงและข้อมูลรางวัล Pulitzer ที่เขาเคยได้รับ…แต่ก็รวมถึงคำกล่าวว่า “เขาเสียชีวิต” ซึ่งแน่นอนว่าไม่จริง

    เขาลองส่ง feedback ไปยัง Google AI เพื่อแจ้งว่าตัวเองยังไม่ตาย และไม่น่าใช่ “นักเคลื่อนไหวการเมืองจาก Dorchester” อย่างที่ AI บอกไว้

    ผลตอบรับที่ได้คือ…Google เปลี่ยนเนื้อหาให้ผิดกว่าเดิมอีก! คราวนี้ AI Overview กลับรวมข้อมูลของ “Dave Barry อีกคนหนึ่ง” ที่เป็นนักเคลื่อนไหวจริง ๆ ซึ่งเสียชีวิตในปี 2016 มาแทน ()

    หลังจากบทสนทนากับแชตของ Google AI ที่ไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดเลยแม้แต่น้อย เขาจึงส่ง feedback อีกรอบ พร้อมข้อความว่า:

    “I am Dave Barry and I am not dead.”

    และในที่สุด — Google ก็เปลี่ยนเนื้อหาใหม่ให้เขากลับมา “มีชีวิต” อีกครั้ง แต่...ก็อยู่ไม่นาน เพราะไม่กี่วันหลังจากนั้น AI Overview กลับมาบอกว่าเขา “ตายแล้ว” อีกครั้ง

    Dave Barry พบข้อความว่าเขาเสียชีวิตใน Google AI Overview
    ระบุวันตายเป็น 20 พ.ย. 2023 ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่จริง

    มีการรวมข้อมูลของ Dave Barry คนอื่นที่เป็นนักเคลื่อนไหวจาก Dorchester
    ซึ่งเสียชีวิตในปี 2016 แต่ AI สรุปว่าเป็นคนเดียวกัน

    Dave ส่ง feedback ไปยัง Google AI หลายรอบเพื่อแจ้งว่า “ยังมีชีวิตอยู่”
    ใช้ข้อความง่าย ๆ ว่า “I am Dave Barry and I am not dead.”

    หลังจาก feedback AI จึงเปลี่ยนเนื้อหาให้ถูกต้องเป็นบางช่วง
    แต่เนื้อหายังไม่แม่น เช่น ชื่อหนังสือผิด และระบุว่าเขายังเขียนคอลัมน์ที่เขาเลิกเขียนไปแล้ว

    AI Overview เปลี่ยนข้อมูลไปมาหลายครั้ง จนล่าสุดบอกว่า “มีความสับสน”
    สุดท้าย Dave สรุปว่าเขายังมีชีวิตอยู่ — แต่ไม่กล้าทำแผนระยะยาว

    https://davebarry.substack.com/p/death-by-ai
    🎙️ เรื่องเล่าจาก AI: เมื่อ Dave Barry “ตายไปแล้ว” (ตาม Google AI) 😂 ทุกอย่างเริ่มจากการที่ Dave Barry เสิร์ชชื่อของเขาใน Google แล้วพบว่า Google AI Overview สรุปว่าเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2023 พร้อมรูปภาพจริงและข้อมูลรางวัล Pulitzer ที่เขาเคยได้รับ…แต่ก็รวมถึงคำกล่าวว่า “เขาเสียชีวิต” ซึ่งแน่นอนว่าไม่จริง เขาลองส่ง feedback ไปยัง Google AI เพื่อแจ้งว่าตัวเองยังไม่ตาย และไม่น่าใช่ “นักเคลื่อนไหวการเมืองจาก Dorchester” อย่างที่ AI บอกไว้ ผลตอบรับที่ได้คือ…Google เปลี่ยนเนื้อหาให้ผิดกว่าเดิมอีก! คราวนี้ AI Overview กลับรวมข้อมูลของ “Dave Barry อีกคนหนึ่ง” ที่เป็นนักเคลื่อนไหวจริง ๆ ซึ่งเสียชีวิตในปี 2016 มาแทน (😩) หลังจากบทสนทนากับแชตของ Google AI ที่ไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดเลยแม้แต่น้อย เขาจึงส่ง feedback อีกรอบ พร้อมข้อความว่า: “I am Dave Barry and I am not dead.” และในที่สุด — Google ก็เปลี่ยนเนื้อหาใหม่ให้เขากลับมา “มีชีวิต” อีกครั้ง แต่...ก็อยู่ไม่นาน เพราะไม่กี่วันหลังจากนั้น AI Overview กลับมาบอกว่าเขา “ตายแล้ว” อีกครั้ง 😵 ✅ Dave Barry พบข้อความว่าเขาเสียชีวิตใน Google AI Overview ➡️ ระบุวันตายเป็น 20 พ.ย. 2023 ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่จริง ✅ มีการรวมข้อมูลของ Dave Barry คนอื่นที่เป็นนักเคลื่อนไหวจาก Dorchester ➡️ ซึ่งเสียชีวิตในปี 2016 แต่ AI สรุปว่าเป็นคนเดียวกัน ✅ Dave ส่ง feedback ไปยัง Google AI หลายรอบเพื่อแจ้งว่า “ยังมีชีวิตอยู่” ➡️ ใช้ข้อความง่าย ๆ ว่า “I am Dave Barry and I am not dead.” ✅ หลังจาก feedback AI จึงเปลี่ยนเนื้อหาให้ถูกต้องเป็นบางช่วง ➡️ แต่เนื้อหายังไม่แม่น เช่น ชื่อหนังสือผิด และระบุว่าเขายังเขียนคอลัมน์ที่เขาเลิกเขียนไปแล้ว ✅ AI Overview เปลี่ยนข้อมูลไปมาหลายครั้ง จนล่าสุดบอกว่า “มีความสับสน” ➡️ สุดท้าย Dave สรุปว่าเขายังมีชีวิตอยู่ — แต่ไม่กล้าทำแผนระยะยาว 😅 https://davebarry.substack.com/p/death-by-ai
    DAVEBARRY.SUBSTACK.COM
    Death by AI
    One man's struggle with his mortality.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ถ้าเราซื้อทุกอย่างโดยไม่มีการผลิตใช้เอง รัสเซียจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน และสูญเสียอธิปไตยไปในที่สุด"

    "นี่คือเหตุผลที่ผมไม่เห็นด้วยกับคนที่แนะนำให้ซื้อทุกอย่างจากต่างประเทศ"

    — นี่คือแนวคิดที่ยิ่งใหญ่ของประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย
    "ถ้าเราซื้อทุกอย่างโดยไม่มีการผลิตใช้เอง รัสเซียจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน และสูญเสียอธิปไตยไปในที่สุด" "นี่คือเหตุผลที่ผมไม่เห็นด้วยกับคนที่แนะนำให้ซื้อทุกอย่างจากต่างประเทศ" — นี่คือแนวคิดที่ยิ่งใหญ่ของประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เปิดหน้า!?!

    ในที่สุด อาลีเยฟ ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจานก็เปิดเผยตัวตนที่หลบซ่อนอยู่ เขากล่าวถึงสถานการณ์ในยูเครนว่า "ยูเครนไม่ควรยินยอมให้มีการยึดครองต่อไป และอย่ายอมแพ้!"

    "ครั้งหนึ่งผมเคยมีโอกาสตอบคำถามจากตัวแทนของยูเครนในงานสัมมนาเมื่อหลายปีก่อน คำถามนั้นก็คล้ายๆ กัน และคำตอบของผมก็คงไม่ต่างจากที่ผมเคยพูดไว้ เรื่องนี้สอดคล้องกับความปรารถนาของชาวยูเครนที่จะไม่ยอมรับการยึดครอง นี่คือคำแนะนำหลักจากผม นี่คือสิ่งที่ยูเครนต้องสู้ต่อไป"
    เปิดหน้า!?! ในที่สุด อาลีเยฟ ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจานก็เปิดเผยตัวตนที่หลบซ่อนอยู่ เขากล่าวถึงสถานการณ์ในยูเครนว่า "ยูเครนไม่ควรยินยอมให้มีการยึดครองต่อไป และอย่ายอมแพ้!" "ครั้งหนึ่งผมเคยมีโอกาสตอบคำถามจากตัวแทนของยูเครนในงานสัมมนาเมื่อหลายปีก่อน คำถามนั้นก็คล้ายๆ กัน และคำตอบของผมก็คงไม่ต่างจากที่ผมเคยพูดไว้ เรื่องนี้สอดคล้องกับความปรารถนาของชาวยูเครนที่จะไม่ยอมรับการยึดครอง นี่คือคำแนะนำหลักจากผม นี่คือสิ่งที่ยูเครนต้องสู้ต่อไป"
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • อ.สนธิ ครับ “โครงสร้าง สังคมยุคใหม่” ต้องสร้างให้สมบูรณ์ ซึ่งจำเป็นให้มี เพื่อเป็นภาพให้ภาคประชาชนเรามุ่งก้าวเดิน เพื่อเดินเป็นเอกภาพกัน
    ซึ่ง “โครงสร้าง สังคมยุคใหม่ ภาค 1.2” นี้ มันเป็นร่างขั้นต้นเท่านั้น ดังนั้น ต้องช่วยกันพัฒนาร่างใหม่ให้สมบูรณ์ที่สุด
    เพราะมันจะเป็นแม่บทให้ก้าวเดินเอกภาพกัน เพื่อเป็นแม่บทแด่”พรรคการเมืองใหม่”ก้าวเดิน

    โครงสร้าง สังคมยุคใหม่ ภาค 1.2 .. ศุกร์ 18-7-68 E:\
    1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม
    2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิง “อำนาจครองเมือง” เพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของ ระบบแข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อชิง “อำนาจครองเมือง” แห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่า “สส.อดัม สมิธ” ครองเมืองอีกต่อไป
    3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้!
    4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม
    5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา
    6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดผนวกระบบสังคมนิยม
    - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา
    • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว
    • ขจัดความยากจนของประเทศ
    • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด
    - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย
    กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว
    การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้
    ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ
    7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
    8. ยกเลิก “ธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง” การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รพ.เอกชน
    9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม
    # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4
    -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี
    -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ
    # ยกเลิกระบบลูกจ้าง
    -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ)
    -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน
    9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด
    9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ไกล ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎระเบียบ จัดวางระเบียบ. บริหารการปฏิบัติในระบบ-ระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (บุคลากรทั้วไป)ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแต่ไม่ถนัดใช้สมอง ฯ
    ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด
    ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"
    ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบในส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขาในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม
    9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน หาแววที่มีคุณภาพด้วยการจองตัวนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัย เลือกนักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งานของเขา
    9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ก็ต้องรู้จักคัดเลือกแววตามลักษณะพิเศษของเขาให้ตรงตำแหน่งหน้าที่งาน ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำ(วิสัยทัศณ์ไกล คิดการล่วงหน้า)ขององค์กร กับแวว-ผู้บริหารขององค์กร (คุมกฎระเบียบวินัยเคร่งครัด) บริหารให้บรรลุข้อกำหนดและเป้าหมายที่วางเอาไว้
    -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ
    -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่
    -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต
    -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ
    9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :-
    9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
    • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ
    • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ
    • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา
    • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ!
    9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
    อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยอมรับว่า ตัวเขาความจำไม่ดีนัก แต่อาศัยความทรหดกับความมีจินตนาการในการค้นคว้า
    A======================== =============


    อ.สนธิ ครับ “โครงสร้าง สังคมยุคใหม่” ต้องสร้างให้สมบูรณ์ ซึ่งจำเป็นให้มี เพื่อเป็นภาพให้ภาคประชาชนเรามุ่งก้าวเดิน เพื่อเดินเป็นเอกภาพกัน ซึ่ง “โครงสร้าง สังคมยุคใหม่ ภาค 1.2” นี้ มันเป็นร่างขั้นต้นเท่านั้น ดังนั้น ต้องช่วยกันพัฒนาร่างใหม่ให้สมบูรณ์ที่สุด เพราะมันจะเป็นแม่บทให้ก้าวเดินเอกภาพกัน เพื่อเป็นแม่บทแด่”พรรคการเมืองใหม่”ก้าวเดิน โครงสร้าง สังคมยุคใหม่ ภาค 1.2 .. ศุกร์ 18-7-68 E:\ 1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม 2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิง “อำนาจครองเมือง” เพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของ ระบบแข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อชิง “อำนาจครองเมือง” แห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่า “สส.อดัม สมิธ” ครองเมืองอีกต่อไป 3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้! 4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม 5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา 6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดผนวกระบบสังคมนิยม - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว • ขจัดความยากจนของประเทศ • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้ ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ 7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม 8. ยกเลิก “ธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง” การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รพ.เอกชน 9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4 -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ # ยกเลิกระบบลูกจ้าง -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ) -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน 9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด 9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ไกล ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎระเบียบ จัดวางระเบียบ. บริหารการปฏิบัติในระบบ-ระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (บุคลากรทั้วไป)ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแต่ไม่ถนัดใช้สมอง ฯ ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบในส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขาในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม 9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน หาแววที่มีคุณภาพด้วยการจองตัวนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัย เลือกนักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งานของเขา 9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ก็ต้องรู้จักคัดเลือกแววตามลักษณะพิเศษของเขาให้ตรงตำแหน่งหน้าที่งาน ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำ(วิสัยทัศณ์ไกล คิดการล่วงหน้า)ขององค์กร กับแวว-ผู้บริหารขององค์กร (คุมกฎระเบียบวินัยเคร่งครัด) บริหารให้บรรลุข้อกำหนดและเป้าหมายที่วางเอาไว้ -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ 9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :- 9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ! 9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยอมรับว่า ตัวเขาความจำไม่ดีนัก แต่อาศัยความทรหดกับความมีจินตนาการในการค้นคว้า A======================== =============
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ภาค 1.1 .. 16-7-68 E:\
    1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม
    2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิง “อำนาจครองเมือง” เพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของ ระบบแข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อชิง “อำนาจครองเมือง” แห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่า “สส.อดัม สมิธ” ครองเมืองอีกต่อไป
    3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้!
    4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม
    5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา
    6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดผนวกระบบสังคมนิยม
    - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา
    • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว
    • ขจัดความยากจนของประเทศ
    • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด
    - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย
    กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว
    การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้
    ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ
    7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
    8. ยกเลิก “ธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง” การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รพ.เอกชน
    9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม
    # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4
    -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี
    -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ
    # ยกเลิกระบบลูกจ้าง
    -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ)
    -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน
    9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด
    9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ไกล ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎระเบียบ จัดวางระเบียบ. บริหารการปฏิบัติในระบบ-ระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (บุคลากรทั้วไป)ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแต่ไม่ถนัดใช้สมอง ฯ
    ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด
    ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"
    ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบในส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขาในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม
    9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน หาแววที่มีคุณภาพด้วยการจองตัวนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัย เลือกนักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งานของเขา
    9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ก็ต้องรู้จักคัดเลือกแววตามลักษณะพิเศษของเขาให้ตรงตำแหน่งหน้าที่งาน ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำ(วิสัยทัศณ์ไกล คิดการล่วงหน้า)ขององค์กร กับแวว-ผู้บริหารขององค์กร (คุมกฎระเบียบวินัยเคร่งครัด) บริหารให้บรรลุข้อกำหนดและเป้าหมายที่วางเอาไว้
    -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ
    -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่
    -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต
    -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ
    9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :-
    9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
    • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ
    • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ
    • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา
    • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ!
    9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
    อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยอมรับว่า ตัวเขาความจำไม่ดีนัก แต่อาศัยความทรหดกับความมีจินตนาการในการค้นคว้า
    A======================== =============

    โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ภาค 1.1 .. 16-7-68 E:\ 1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม 2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิง “อำนาจครองเมือง” เพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของ ระบบแข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อชิง “อำนาจครองเมือง” แห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่า “สส.อดัม สมิธ” ครองเมืองอีกต่อไป 3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้! 4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม 5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา 6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดผนวกระบบสังคมนิยม - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว • ขจัดความยากจนของประเทศ • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้ ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ 7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม 8. ยกเลิก “ธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง” การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รพ.เอกชน 9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4 -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ # ยกเลิกระบบลูกจ้าง -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ) -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน 9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด 9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ไกล ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎระเบียบ จัดวางระเบียบ. บริหารการปฏิบัติในระบบ-ระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (บุคลากรทั้วไป)ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแต่ไม่ถนัดใช้สมอง ฯ ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบในส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขาในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม 9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน หาแววที่มีคุณภาพด้วยการจองตัวนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัย เลือกนักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งานของเขา 9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ก็ต้องรู้จักคัดเลือกแววตามลักษณะพิเศษของเขาให้ตรงตำแหน่งหน้าที่งาน ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำ(วิสัยทัศณ์ไกล คิดการล่วงหน้า)ขององค์กร กับแวว-ผู้บริหารขององค์กร (คุมกฎระเบียบวินัยเคร่งครัด) บริหารให้บรรลุข้อกำหนดและเป้าหมายที่วางเอาไว้ -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ 9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :- 9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ! 9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยอมรับว่า ตัวเขาความจำไม่ดีนัก แต่อาศัยความทรหดกับความมีจินตนาการในการค้นคว้า A======================== =============
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 410 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฐานทัพแลกภาษีทรัมป์ เรียกแขก-ชักศึกเข้าบ้าน?

    ในที่สุดนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าสหรัฐอเมริกาขอใช้ฐานทัพเรือพังงา เพราะอยู่ในงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อีกทั้งอยู่ในแผนของกองทัพเรืออยู่แล้ว แต่เป็นคนละเรื่องกับการเจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ หลังนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ เปิดโปงว่าฝ่ายสหรัฐฯ ได้ต่อรอง 3-4 เรื่อง แลกกับเรื่องภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่ไทยโดนไป 36%

    ได้แก่ การปล่อยตัวนายพอล แชมเบอร์ส อาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวร ชาวอเมริกัน ผู้ต้องหาคดี 112 การเปิดให้ประชาชนคนไทยมีสิทธิเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะมาตรา 112 การห้ามส่งชาวอุยกูร์กลับไปจีนเพื่อที่จะกั๊กจีนเรื่องซินเกียง และการขอใช้ฐานทัพเรือพังงา เพื่อเลื่อนกองทัพเรือของสหรัฐฯ มาบล็อกช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันไปประเทศจีนด้วย ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร บิดา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รู้อยู่แล้วแต่ไม่กล้าพูด

    ถึงกระนั้น ยังมีการทำสงครามข่าวสาร ด้วยแหล่งข่าวในกองทัพเรือที่ไม่เปิดเผยนาม ระบุว่า ยังไม่เคยมีข้อเสนอว่าจะใช้ฐานทัพเรือพังงาเป็นฐานทัพเรือของสหรัฐฯ แม้มีแผนพัฒนาแต่ติดขัดเรื่องงบประมาณ ฝ่ายรัฐบาลยังไม่ยืนยันถึงขั้นที่สหรัฐฯ จะมาร่วมพัฒนาหรือสนับสนุนบประมาณ แต้อ้างว่าไม่สามารถทำได้ ถึงกระนั้นตามข้อตกลงระหว่างไทยกับสหรัฐฯ การส่งกำลังบำรุง สหรัฐฯ สามารถจอดเรือที่ฐานทัพเรือพังงา และรับการส่งกำลังบำรุง เติมน้ำมัน หรือพักเรือได้อยู่แล้วเช่นเดียวกับประเทศอื่น

    รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว The Publisher เตือนว่าไทยต้องอยู่บนหลักว่า ไม่ชักศึกเข้าบ้าน ไม่ให้ตั้งฐานทัพถาวร และหากมีข้อตกลงใดเกิดขึ้น ต้องผ่านสภาฯ ให้ประชาชนรับรู้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน สหรัฐฯ ต้องการยุทธศาสตร์ปิดล้อมจีนที่ลาดตระเวนในพื้นที่เชื่อมโยงกับอินโด-แปซิฟิกในรูปแบบครึ่งวงแหวนเพิ่มขึ้น อีกทั้งไทยต้องมีข้อเสนอกับจีนควบคู่ไปด้วย เพื่อรักษาสมดุลเชิงยุทธศาสตร์ หากเกิดสงครามระหว่างทั้งสองฝ่าย

    ขณะที่นายกรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร สำนักข่าว The Better ระบุว่า ทีมประธานาธิบดีทรัมป์ปฏิเสธข้อเสนอจากไทย เพราะต้องการฐานทัพในไทยและให้ไทยซื้ออาวุธเพิ่ม จากที่ให้ไทยแยกตัวจากเศรษฐกิจจีน (Decoupling) จะกลายเป็นการบีบให้ไทยเลือกข้างสหรัฐฯ ในด้านความมั่นคง และกลายเป็นหอกข้างแคร่ เพราะไทยเป็นหลังบ้านที่จะเข้าสู่จีน และสหรัฐฯ ล้มเหลวในการสร้างแนวพันธมิตรอินโด-แปซิฟิกเพื่อล้อมจีน หากปล่อยเช่นนั้นจะชักศึกเข้าบ้านโดยแท้

    #Newskit
    ฐานทัพแลกภาษีทรัมป์ เรียกแขก-ชักศึกเข้าบ้าน? ในที่สุดนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าสหรัฐอเมริกาขอใช้ฐานทัพเรือพังงา เพราะอยู่ในงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อีกทั้งอยู่ในแผนของกองทัพเรืออยู่แล้ว แต่เป็นคนละเรื่องกับการเจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ หลังนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ เปิดโปงว่าฝ่ายสหรัฐฯ ได้ต่อรอง 3-4 เรื่อง แลกกับเรื่องภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่ไทยโดนไป 36% ได้แก่ การปล่อยตัวนายพอล แชมเบอร์ส อาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวร ชาวอเมริกัน ผู้ต้องหาคดี 112 การเปิดให้ประชาชนคนไทยมีสิทธิเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะมาตรา 112 การห้ามส่งชาวอุยกูร์กลับไปจีนเพื่อที่จะกั๊กจีนเรื่องซินเกียง และการขอใช้ฐานทัพเรือพังงา เพื่อเลื่อนกองทัพเรือของสหรัฐฯ มาบล็อกช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันไปประเทศจีนด้วย ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร บิดา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รู้อยู่แล้วแต่ไม่กล้าพูด ถึงกระนั้น ยังมีการทำสงครามข่าวสาร ด้วยแหล่งข่าวในกองทัพเรือที่ไม่เปิดเผยนาม ระบุว่า ยังไม่เคยมีข้อเสนอว่าจะใช้ฐานทัพเรือพังงาเป็นฐานทัพเรือของสหรัฐฯ แม้มีแผนพัฒนาแต่ติดขัดเรื่องงบประมาณ ฝ่ายรัฐบาลยังไม่ยืนยันถึงขั้นที่สหรัฐฯ จะมาร่วมพัฒนาหรือสนับสนุนบประมาณ แต้อ้างว่าไม่สามารถทำได้ ถึงกระนั้นตามข้อตกลงระหว่างไทยกับสหรัฐฯ การส่งกำลังบำรุง สหรัฐฯ สามารถจอดเรือที่ฐานทัพเรือพังงา และรับการส่งกำลังบำรุง เติมน้ำมัน หรือพักเรือได้อยู่แล้วเช่นเดียวกับประเทศอื่น รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว The Publisher เตือนว่าไทยต้องอยู่บนหลักว่า ไม่ชักศึกเข้าบ้าน ไม่ให้ตั้งฐานทัพถาวร และหากมีข้อตกลงใดเกิดขึ้น ต้องผ่านสภาฯ ให้ประชาชนรับรู้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน สหรัฐฯ ต้องการยุทธศาสตร์ปิดล้อมจีนที่ลาดตระเวนในพื้นที่เชื่อมโยงกับอินโด-แปซิฟิกในรูปแบบครึ่งวงแหวนเพิ่มขึ้น อีกทั้งไทยต้องมีข้อเสนอกับจีนควบคู่ไปด้วย เพื่อรักษาสมดุลเชิงยุทธศาสตร์ หากเกิดสงครามระหว่างทั้งสองฝ่าย ขณะที่นายกรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร สำนักข่าว The Better ระบุว่า ทีมประธานาธิบดีทรัมป์ปฏิเสธข้อเสนอจากไทย เพราะต้องการฐานทัพในไทยและให้ไทยซื้ออาวุธเพิ่ม จากที่ให้ไทยแยกตัวจากเศรษฐกิจจีน (Decoupling) จะกลายเป็นการบีบให้ไทยเลือกข้างสหรัฐฯ ในด้านความมั่นคง และกลายเป็นหอกข้างแคร่ เพราะไทยเป็นหลังบ้านที่จะเข้าสู่จีน และสหรัฐฯ ล้มเหลวในการสร้างแนวพันธมิตรอินโด-แปซิฟิกเพื่อล้อมจีน หากปล่อยเช่นนั้นจะชักศึกเข้าบ้านโดยแท้ #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 500 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปี 2550 ภาพจิตรกรรม “ภิกษุสันดานกา” เคยตกเป็นข่าวถกเถียงมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นผลงานของ “อนุพงษ์ จันทร “ใช้เทคนิคการวาดภาพด้วยสีอะคริลิกลงบนจีวรพระ ได้แรงบันดาลใจจากคติความเชื่อของไทยเรื่อง "เปรตภูมิ” และภาพ ”บรรพชิตทุศีล” ในสมุดภาพไตรภูมิ มีข้อความปรากฏเอาไว้ด้านล่างภาพว่า "บาปเป็นบรรพชิตทุศีลแลเลี้ยงชีพผิดมิชอบด้วยธรรม ตายไปต้องกลายเป็นเปรต มีไฟไหม้ลุกจีวรไหม้กาย"อนุพงษ์ ยืนยันว่า ”ภิกษุสันดานกา” ไม่ใช่ชื่อที่ตนตั้งขึ้นมาเอง แต่มีระบุในพระไตรปิฎก ในหนังสือคำพยากรณ์ของพระพุทธเจ้า ตำราดูพระภิกษุ และตนขอยืนยันว่า ภาพที่ตนเขียนขึ้นมา ไม่ใช่ภาพพระดีดีในสังคม แต่ตนเขียนเปรตที่แอบแฝงอยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์ เพื่อเตือนสติคนในสังคม โดยสื่อภาพออกมาในเชิงสัญลักษณ์ ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเปรียบเทียบพระภิกษุลามกว่า มีนิสัยเหมือนกา 10 อย่าง“ภิกษุทั้งหลาย กาเป็นสัตว์ประกอบด้วยความเลวสิบประการ” สิบประการเป็นไฉน? สิบประการคือ1. กาเป็นสัตว์ทำลายความดี 2. กาเป็นสัตว์คะนอง 3. กาเป็นสัตว์ทะเยอทะยาน 4. กาเป็นสัตว์กินจุ 5. กาเป็นสัตว์หยาบคาย 6. กาเป็นสัตว์ไม่กรุณาปรานี 7. กาเป็นสัตว์ทุรพล 8. กาเป็นสัตว์เสียงอึง 9. กาเป็นสัตว์ปล่อยสติ 10. กาเป็นสัตว์สะสมของกินภิกษุทั้งหลาย! ภิกษุลามกก็เป็นเช่นเดียวกับกานั่นแหละ เป็นคนประกอบด้วยอสัทธรรมสิบประการ สิบประการเป็นไฉน? สิบประการคือ1. ภิกษุลามกเป็นคนทำลายความดี 2. ภิกษุลามกเป็นคนคะนอง 3. ภิกษุลามกเป็นคนทะเยอทะยาน 4. ภิกษุลามกเป็นคนกินจุ 5. ภิกษุลามกเป็นคนหยาบคาย 6. ภิกษุลามกเป็นคนไม่กรุณาปรานี 7. ภิกษุลามกเป็นคนทุรพล 8. ภิกษุลามกเป็นคนร้องเสียงอึง 9. ภิกษุลามกเป็นคนปล่อยสติ 10. ภิกษุลามกเป็นคนสะสมของกินโดยนัยแห่งพฤติกรรมของนกกา สิบประการดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่าล้วนแล้วแต่เป็นความเลวที่ไม่เหมาะไม่ควรที่คนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนมีศีล เช่น ภิกษุในพระพุทธศาสนาไม่ควรประพฤติ ไม่ควรปฏิบัติแต่ในความเป็นจริง ความเป็นปุถุชนคนมีกิเลส ถึงแม้ว่าจะมาบวชถือศีล 227 ข้อแล้วก็ยังมีภิกษุบางรูปในครั้งพุทธกาลมีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ พระพุทธองค์จึงได้ตรัสสอนด้วยข้อวัตรปฏิบัติที่พระภิกษุที่เข้ามาบวชเพื่อการทำความดี โดยมุ่งความหลุดพ้น ควรงดเว้นอสัทธรรม 10 ประการ อันเป็นพฤติกรรมของกาดังกล่าวอ.สามารถ มังสัง เคยเสนอแนวทางแก้ปัญหาภิกษุสันดานกาไว้ว่า “แต่ในความเป็นจริงที่ปรากฏพฤติกรรมอันไม่เหมาะไม่ควรในวงการสงฆ์ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากสงฆ์ด้วยกันเท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่มหาเถรสมาคม และสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ควรจะได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา และกำหนดมาตรการแก้ไขและป้องกันดังต่อไปนี้1. ทำการสำรวจสำมโนประชากรพระสงฆ์ในประเทศไทยให้แน่ชัดว่ามีอยู่เท่าใด และมีรายละเอียดลงลึกถึงเรื่องการศึกษา อายุพรรษา และภาระหน้าที่ต่อสังคมเท่าที่พระจะพึงกระทำได้ เช่น เป็นครูสอนศีลธรรม อบรมประชาชน และให้ความรู้แก่พระภิกษุสงฆ์ เป็นต้น2. เมื่อได้ข้อมูลแล้วให้จัดทำแผนฟื้นฟูพฤติกรรมพระสงฆ์ที่ไม่ได้รับการศึกษา และการอบรมอย่างทั่วถึง3. ให้นำพระภิกษุสงฆ์ที่มีความรู้ความสามารถในการสอนมาประชุมแลกเปลี่ยนความรู้ แนวทางการปรับองค์กรสงฆ์ แล้วมอบหมายให้แต่ละท่านกลับไปดำเนินการในถิ่นของตนเองเป็นระยะเวลา 1-3 ปี แล้วส่งคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานออกไปทำการประเมินในการดำเนินการ 3 ประการนี้ ทางรัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนทางด้านการเงิน และบุคลากรให้เพียงพอแก่การดำเนินงานในขณะเดียวกัน ถ้าพบว่าในท้องถิ่นใดดำเนินการไม่ได้ผล ก็ควรอย่างยิ่งที่ทางการปกครองจะต้องเข้ามาดูแลแก้ไขโดยใช้อำนาจบริหาร เช่น การโยกย้ายหรือปลดออกจากตำแหน่ง เป็นการลงโทษผู้รับผิดชอบในระดับเจ้าคณะจังหวัด อำเภอ และตำบลลงไปตามลำดับชั้นยิ่งกว่านี้ ทางมหาเถรสมาคมจะต้องไม่ปล่อยให้พระสงฆ์ในระดับปกครองเข้าไปมีส่วนได้เสียกับกิจกรรมใดๆ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการช่วยกันปกปิดความผิดของผู้อยู่ใต้ปกครอง เพื่อแลกกับลาภสักการะที่ผู้กระทำผิดมอบให้ถ้าทุกหน่วยงานดำเนินการได้เยี่ยงนี้ เชื่อว่าพฤติกรรมอันไม่เหมาะไม่ควรของพระสงฆ์จะลดลง และหมดไปในที่สุด”https://www.facebook.com/share/1Cj37basD6/?mibextid=wwXIfr
    ปี 2550 ภาพจิตรกรรม “ภิกษุสันดานกา” เคยตกเป็นข่าวถกเถียงมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นผลงานของ “อนุพงษ์ จันทร “ใช้เทคนิคการวาดภาพด้วยสีอะคริลิกลงบนจีวรพระ ได้แรงบันดาลใจจากคติความเชื่อของไทยเรื่อง "เปรตภูมิ” และภาพ ”บรรพชิตทุศีล” ในสมุดภาพไตรภูมิ มีข้อความปรากฏเอาไว้ด้านล่างภาพว่า "บาปเป็นบรรพชิตทุศีลแลเลี้ยงชีพผิดมิชอบด้วยธรรม ตายไปต้องกลายเป็นเปรต มีไฟไหม้ลุกจีวรไหม้กาย"อนุพงษ์ ยืนยันว่า ”ภิกษุสันดานกา” ไม่ใช่ชื่อที่ตนตั้งขึ้นมาเอง แต่มีระบุในพระไตรปิฎก ในหนังสือคำพยากรณ์ของพระพุทธเจ้า ตำราดูพระภิกษุ และตนขอยืนยันว่า ภาพที่ตนเขียนขึ้นมา ไม่ใช่ภาพพระดีดีในสังคม แต่ตนเขียนเปรตที่แอบแฝงอยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์ เพื่อเตือนสติคนในสังคม โดยสื่อภาพออกมาในเชิงสัญลักษณ์ ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเปรียบเทียบพระภิกษุลามกว่า มีนิสัยเหมือนกา 10 อย่าง“ภิกษุทั้งหลาย กาเป็นสัตว์ประกอบด้วยความเลวสิบประการ” สิบประการเป็นไฉน? สิบประการคือ1. กาเป็นสัตว์ทำลายความดี 2. กาเป็นสัตว์คะนอง 3. กาเป็นสัตว์ทะเยอทะยาน 4. กาเป็นสัตว์กินจุ 5. กาเป็นสัตว์หยาบคาย 6. กาเป็นสัตว์ไม่กรุณาปรานี 7. กาเป็นสัตว์ทุรพล 8. กาเป็นสัตว์เสียงอึง 9. กาเป็นสัตว์ปล่อยสติ 10. กาเป็นสัตว์สะสมของกินภิกษุทั้งหลาย! ภิกษุลามกก็เป็นเช่นเดียวกับกานั่นแหละ เป็นคนประกอบด้วยอสัทธรรมสิบประการ สิบประการเป็นไฉน? สิบประการคือ1. ภิกษุลามกเป็นคนทำลายความดี 2. ภิกษุลามกเป็นคนคะนอง 3. ภิกษุลามกเป็นคนทะเยอทะยาน 4. ภิกษุลามกเป็นคนกินจุ 5. ภิกษุลามกเป็นคนหยาบคาย 6. ภิกษุลามกเป็นคนไม่กรุณาปรานี 7. ภิกษุลามกเป็นคนทุรพล 8. ภิกษุลามกเป็นคนร้องเสียงอึง 9. ภิกษุลามกเป็นคนปล่อยสติ 10. ภิกษุลามกเป็นคนสะสมของกินโดยนัยแห่งพฤติกรรมของนกกา สิบประการดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่าล้วนแล้วแต่เป็นความเลวที่ไม่เหมาะไม่ควรที่คนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนมีศีล เช่น ภิกษุในพระพุทธศาสนาไม่ควรประพฤติ ไม่ควรปฏิบัติแต่ในความเป็นจริง ความเป็นปุถุชนคนมีกิเลส ถึงแม้ว่าจะมาบวชถือศีล 227 ข้อแล้วก็ยังมีภิกษุบางรูปในครั้งพุทธกาลมีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ พระพุทธองค์จึงได้ตรัสสอนด้วยข้อวัตรปฏิบัติที่พระภิกษุที่เข้ามาบวชเพื่อการทำความดี โดยมุ่งความหลุดพ้น ควรงดเว้นอสัทธรรม 10 ประการ อันเป็นพฤติกรรมของกาดังกล่าวอ.สามารถ มังสัง เคยเสนอแนวทางแก้ปัญหาภิกษุสันดานกาไว้ว่า “แต่ในความเป็นจริงที่ปรากฏพฤติกรรมอันไม่เหมาะไม่ควรในวงการสงฆ์ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากสงฆ์ด้วยกันเท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่มหาเถรสมาคม และสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ควรจะได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา และกำหนดมาตรการแก้ไขและป้องกันดังต่อไปนี้1. ทำการสำรวจสำมโนประชากรพระสงฆ์ในประเทศไทยให้แน่ชัดว่ามีอยู่เท่าใด และมีรายละเอียดลงลึกถึงเรื่องการศึกษา อายุพรรษา และภาระหน้าที่ต่อสังคมเท่าที่พระจะพึงกระทำได้ เช่น เป็นครูสอนศีลธรรม อบรมประชาชน และให้ความรู้แก่พระภิกษุสงฆ์ เป็นต้น2. เมื่อได้ข้อมูลแล้วให้จัดทำแผนฟื้นฟูพฤติกรรมพระสงฆ์ที่ไม่ได้รับการศึกษา และการอบรมอย่างทั่วถึง3. ให้นำพระภิกษุสงฆ์ที่มีความรู้ความสามารถในการสอนมาประชุมแลกเปลี่ยนความรู้ แนวทางการปรับองค์กรสงฆ์ แล้วมอบหมายให้แต่ละท่านกลับไปดำเนินการในถิ่นของตนเองเป็นระยะเวลา 1-3 ปี แล้วส่งคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานออกไปทำการประเมินในการดำเนินการ 3 ประการนี้ ทางรัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนทางด้านการเงิน และบุคลากรให้เพียงพอแก่การดำเนินงานในขณะเดียวกัน ถ้าพบว่าในท้องถิ่นใดดำเนินการไม่ได้ผล ก็ควรอย่างยิ่งที่ทางการปกครองจะต้องเข้ามาดูแลแก้ไขโดยใช้อำนาจบริหาร เช่น การโยกย้ายหรือปลดออกจากตำแหน่ง เป็นการลงโทษผู้รับผิดชอบในระดับเจ้าคณะจังหวัด อำเภอ และตำบลลงไปตามลำดับชั้นยิ่งกว่านี้ ทางมหาเถรสมาคมจะต้องไม่ปล่อยให้พระสงฆ์ในระดับปกครองเข้าไปมีส่วนได้เสียกับกิจกรรมใดๆ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการช่วยกันปกปิดความผิดของผู้อยู่ใต้ปกครอง เพื่อแลกกับลาภสักการะที่ผู้กระทำผิดมอบให้ถ้าทุกหน่วยงานดำเนินการได้เยี่ยงนี้ เชื่อว่าพฤติกรรมอันไม่เหมาะไม่ควรของพระสงฆ์จะลดลง และหมดไปในที่สุด”https://www.facebook.com/share/1Cj37basD6/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 426 มุมมอง 0 รีวิว
  • MK ร่วมแจม ศึกสุกี้ตลาดแมส

    ในที่สุด บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) หรือ M เจ้าของภัตตาคารอาหารเอ็มเค และอีกสารพัดแบรนด์ ตัดสินใจโดดร่วมสมรภูมิสุกี้ตลาดแมส ด้วยการเปิดร้านสุกี้แบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า "โบนัสสุกี้" ประเดิมสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สระบุรี จ.สระบุรี ในวันที่ 16 ก.ค. ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึง 05.00 น. พร้อมเปิดตัวอย่างร้อนแรงด้วยโปรโมชันฉลองเปิดสาขา 1 ฟรี 1 เป็นเวลา 5 วัน วันละ 100 สิทธิ์

    นับเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของเอ็มเค หลังคู่แข่งอย่างร้านสุกี้ตี๋น้อย ของ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด ประสบความสำเร็จด้วยจำนวนสาขา 82 สาขา มีกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 รวม 271 ล้านบาท แซงหน้าเอ็มเคที่มีกำไรสุทธิ 234 ล้านบาท รวมทั้งคู่แข่งในตลาดเดียวกันอย่าง ร้านลัคกี้สุกี้ ของบริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด ที่มี 19 สาขาอีกด้วย ทำให้เอ็มเคตัดสินใจตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า บริษัท คุ้มคุ้ม จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา

    สำหรับจังหวัดสระบุรี นอกจากมีรายได้ต่อหัวสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ เป็นแหล่งผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ รวมทั้งมีค่ายอดิศร เป็นที่ตั้งของศูนย์การทหารม้า มณฑลทหารบกที่ 18 รวมทั้งโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ที่ อ.มวกเหล็ก แล้ว ยังเป็นทางผ่านสู่ภาคอีสานด้วยถนนมิตรภาพ และมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา ที่ผ่านมามีสุกี้ตี๋น้อย เปิดสาขาสระบุรีที่ปั๊มบางจาก B5 อเวนิว ใกล้ห้างบิ๊กซีเพลสสระบุรี และลัคกี้สุกี้ สาขาโลตัสสระบุรี

    ก่อนหน้านี้เอ็มเคได้ทดลองจัดโปรโมชัน “MK บุฟเฟต์ คุ้มคุ้มอิ่มไม่อั้น 90 นาที” ราคา 299 บาทต่อคน หากลูกค้ามา 4 คน สามารถสั่งกุ้งแม่น้ำได้ไม่อั้น เฉพาะร้านเอ็มเค เรสโตรองต์ สาขาในห้างค้าปลีก เช่น โลตัส และบิ๊กซี รวม 250 สาขา พบว่าลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี จึงขยายโปรโมชันถึงวันที่ 31 ก.ค. 2568 พร้อมเพิ่มสาขาร่วมรายการอีก 49 สาขา รวม 299 สาขา นอกจากนี้ ยังทดลองขยายเวลาให้บริการถึงเวลา 24.00 น. จำนวน 9 สาขา และเวลา 23.00 น. จำนวน 8 สาขา เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการรับประทานอาหารในช่วงกลางคืนหรือหลังเลิกงาน

    การเปิดแบรนด์สุกี้ใหม่ของเอ็มเค นอกจากจะสร้างสีสันการแข่งขันสุกี้ตลาดแมสให้คึกคัก ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพเศรษฐกิจแล้ว ยังส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก เช่น ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ที่ปัจจุบันมีพื้นที่ว่างจำนวนมาก แม้จะต้องปรับตัวเรื่องการรักษาความปลอดภัยหลังศูนย์การค้าปิดให้บริการก็ตาม

    #Newskit
    MK ร่วมแจม ศึกสุกี้ตลาดแมส ในที่สุด บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) หรือ M เจ้าของภัตตาคารอาหารเอ็มเค และอีกสารพัดแบรนด์ ตัดสินใจโดดร่วมสมรภูมิสุกี้ตลาดแมส ด้วยการเปิดร้านสุกี้แบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า "โบนัสสุกี้" ประเดิมสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สระบุรี จ.สระบุรี ในวันที่ 16 ก.ค. ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึง 05.00 น. พร้อมเปิดตัวอย่างร้อนแรงด้วยโปรโมชันฉลองเปิดสาขา 1 ฟรี 1 เป็นเวลา 5 วัน วันละ 100 สิทธิ์ นับเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของเอ็มเค หลังคู่แข่งอย่างร้านสุกี้ตี๋น้อย ของ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด ประสบความสำเร็จด้วยจำนวนสาขา 82 สาขา มีกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 รวม 271 ล้านบาท แซงหน้าเอ็มเคที่มีกำไรสุทธิ 234 ล้านบาท รวมทั้งคู่แข่งในตลาดเดียวกันอย่าง ร้านลัคกี้สุกี้ ของบริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด ที่มี 19 สาขาอีกด้วย ทำให้เอ็มเคตัดสินใจตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า บริษัท คุ้มคุ้ม จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา สำหรับจังหวัดสระบุรี นอกจากมีรายได้ต่อหัวสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ เป็นแหล่งผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ รวมทั้งมีค่ายอดิศร เป็นที่ตั้งของศูนย์การทหารม้า มณฑลทหารบกที่ 18 รวมทั้งโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ที่ อ.มวกเหล็ก แล้ว ยังเป็นทางผ่านสู่ภาคอีสานด้วยถนนมิตรภาพ และมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา ที่ผ่านมามีสุกี้ตี๋น้อย เปิดสาขาสระบุรีที่ปั๊มบางจาก B5 อเวนิว ใกล้ห้างบิ๊กซีเพลสสระบุรี และลัคกี้สุกี้ สาขาโลตัสสระบุรี ก่อนหน้านี้เอ็มเคได้ทดลองจัดโปรโมชัน “MK บุฟเฟต์ คุ้มคุ้มอิ่มไม่อั้น 90 นาที” ราคา 299 บาทต่อคน หากลูกค้ามา 4 คน สามารถสั่งกุ้งแม่น้ำได้ไม่อั้น เฉพาะร้านเอ็มเค เรสโตรองต์ สาขาในห้างค้าปลีก เช่น โลตัส และบิ๊กซี รวม 250 สาขา พบว่าลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี จึงขยายโปรโมชันถึงวันที่ 31 ก.ค. 2568 พร้อมเพิ่มสาขาร่วมรายการอีก 49 สาขา รวม 299 สาขา นอกจากนี้ ยังทดลองขยายเวลาให้บริการถึงเวลา 24.00 น. จำนวน 9 สาขา และเวลา 23.00 น. จำนวน 8 สาขา เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการรับประทานอาหารในช่วงกลางคืนหรือหลังเลิกงาน การเปิดแบรนด์สุกี้ใหม่ของเอ็มเค นอกจากจะสร้างสีสันการแข่งขันสุกี้ตลาดแมสให้คึกคัก ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพเศรษฐกิจแล้ว ยังส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก เช่น ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ที่ปัจจุบันมีพื้นที่ว่างจำนวนมาก แม้จะต้องปรับตัวเรื่องการรักษาความปลอดภัยหลังศูนย์การค้าปิดให้บริการก็ตาม #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 427 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?
    #12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง

    สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว

    เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย

    บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย

    จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน

    นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์

    ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”

    การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง

    การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย

    ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน

    อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน

    “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ”

    แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

    นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย

    ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ

    ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา

    ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา

    เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย

    แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?

    คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น

    ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม?

    นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป

    โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก

    แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ

    โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้

    ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"

    โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด

    ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

    ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ

    หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก

    แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ

    ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา

    ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง"

    คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า

    หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้

    ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย

    ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ

    การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้

    ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา

    การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น

    ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน

    การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้

    แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด

    จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง

    สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา

    การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน

    นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย

    เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน

    โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า

    กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ
    🤠#เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?🤠 🤠#12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง🤠 สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์ 🥰ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”🥰 การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ” แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย 🥰แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?🥰 คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น 🥰ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม? 🥰 นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้ 🥰ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"🥰 โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง" คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า 🥰หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้🥰 ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้ 🥰ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา🥰 การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้ แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด 🥰จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง🥰 สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน 💓โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า💓 😍กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ😍
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 593 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาค1 ส 12-7-68 ..
    E:\- m1 ภาค ส่ง
    1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม
    2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิงอำนาจครองเมืองเพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของระบบ “แข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง” เพื่อชิงอำนาจครองเมืองแห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน -นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่าสส.อดัม สมิธ ครองเมืองอีก
    3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้!
    4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม
    5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา
    6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดควบระบบสังคมนิยม
    - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา
    • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว
    • ขจัดความยากจนของประเทศ
    • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด
    - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย
    กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว
    การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้
    ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ
    7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
    8. ยกเลิกธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์
    9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม
    # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4
    -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี
    -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ
    # ยกเลิกระบบลูกจ้าง
    -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล
    ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ)
    -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน
    9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด
    9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎ ชอบจัด-วางระเบียบ. บุคลากรปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบออกแรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบออกแรงแต่ไม่ชอบใช้สมอง ฯ
    ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด
    ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"
    ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขา นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขา ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม
    9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน ด้วยการจองตัวนักศึกษากับมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งาน
    9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ควรวางตัวบุคคลากรในหน่วยงานตามลัษณะพิเศษของแวว ในตำแหน่งสำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำองค์กร แวว-ผู้บริหารองค์กร
    -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ
    -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่
    -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต
    -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ
    9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :-
    9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
    • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ
    • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ
    • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา
    • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ!
    9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
    จินตนาการหมายถึง การคิดสร้างภาพในจิตใจหรือพลังของจิตที่สร้างภาพขันใหม่ภายในใจ ให้น่าพอใจกว่า สวยกว่า เป็นระเบียบกว่าหรือร้ายกาจกว่าสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติทั่วไป จินตนาการทำให้เกิดภาพขึ้นในสำนึกเรียกว่า “จินตภาพ” จินตภาพเหล่านี้เชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ได้นับสะสมอยู่ภายใน

    ปล.ภาค1 ยังไม่จบ ต่อภาค2 ก่อน เกี่ยวกับตั้งพรรคการเมือง

    ภาค1 ส 12-7-68 .. E:\- m1 ภาค ส่ง 1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม 2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิงอำนาจครองเมืองเพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของระบบ “แข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง” เพื่อชิงอำนาจครองเมืองแห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน -นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่าสส.อดัม สมิธ ครองเมืองอีก 3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้! 4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม 5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา 6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดควบระบบสังคมนิยม - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว • ขจัดความยากจนของประเทศ • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้ ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ 7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม 8. ยกเลิกธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ 9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4 -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ # ยกเลิกระบบลูกจ้าง -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ) -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน 9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด 9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎ ชอบจัด-วางระเบียบ. บุคลากรปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบออกแรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบออกแรงแต่ไม่ชอบใช้สมอง ฯ ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขา นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขา ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม 9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน ด้วยการจองตัวนักศึกษากับมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งาน 9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ควรวางตัวบุคคลากรในหน่วยงานตามลัษณะพิเศษของแวว ในตำแหน่งสำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำองค์กร แวว-ผู้บริหารองค์กร -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ 9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :- 9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ! 9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ จินตนาการหมายถึง การคิดสร้างภาพในจิตใจหรือพลังของจิตที่สร้างภาพขันใหม่ภายในใจ ให้น่าพอใจกว่า สวยกว่า เป็นระเบียบกว่าหรือร้ายกาจกว่าสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติทั่วไป จินตนาการทำให้เกิดภาพขึ้นในสำนึกเรียกว่า “จินตภาพ” จินตภาพเหล่านี้เชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ได้นับสะสมอยู่ภายใน ปล.ภาค1 ยังไม่จบ ต่อภาค2 ก่อน เกี่ยวกับตั้งพรรคการเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 453 มุมมอง 0 รีวิว
  • Scattered Spider เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่เริ่มปรากฏตัวตั้งแต่ปี 2022 โดยใช้วิธี SIM-swapping และ ransomware โจมตีบริษัทโทรคมนาคมและบันเทิง เช่น MGM Resorts และ Caesars Entertainment แต่ในปี 2025 พวกเขาขยายเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมค้าปลีก (Marks & Spencer, Harrods) และสายการบิน (Hawaiian, Qantas) สร้างความเสียหายหลายล้านดอลลาร์

    เทคนิคที่ใช้ล่าสุดคือการหลอกพนักงาน help desk ด้วยข้อมูลส่วนตัวของผู้บริหาร เช่น วันเกิดและเลขประกันสังคม เพื่อรีเซ็ตอุปกรณ์และเข้าถึงบัญชีระดับสูง จากนั้นใช้สิทธิ์นั้นเจาะระบบ Entra ID (Azure AD), SharePoint, Horizon VDI และ VPN เพื่อควบคุมระบบทั้งหมด

    เมื่อถูกตรวจจับ กลุ่มนี้ไม่หนี แต่กลับโจมตีระบบอย่างเปิดเผย เช่น ลบกฎไฟร์วอลล์ของ Azure และปิด domain controller เพื่อขัดขวางการกู้คืนระบบ

    นักวิจัยจาก Rapid7 และ ReliaQuest พบว่า Scattered Spider:
    - ใช้เครื่องมือเช่น ngrok และ Teleport เพื่อสร้างช่องทางลับ
    - ใช้ IAM role enumeration และ EC2 Serial Console เพื่อเจาะระบบ AWS
    - ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบที่ถูกแฮกเพื่อดึงข้อมูลจาก CyberArk password vault กว่า 1,400 รายการ

    แม้ Microsoft จะเข้ามาช่วยกู้คืนระบบได้ในที่สุด แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของกลุ่มแฮกเกอร์ที่ผสมผสาน “การหลอกมนุษย์” กับ “การเจาะระบบเทคนิค” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ข้อมูลจากข่าว
    - Scattered Spider เริ่มโจมตีตั้งแต่ปี 2022 โดยใช้ SIM-swapping และ ransomware
    - ขยายเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมค้าปลีกและสายการบินในปี 2025
    - ใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้บริหารเพื่อหลอก help desk และเข้าถึงบัญชีระดับสูง
    - เจาะระบบ Entra ID, SharePoint, Horizon VDI, VPN และ CyberArk
    - ใช้เครื่องมือเช่น ngrok, Teleport, EC2 Serial Console และ IAM role enumeration
    - ลบกฎไฟร์วอลล์ Azure และปิด domain controller เพื่อขัดขวางการกู้คืน
    - Microsoft ต้องเข้ามาช่วยกู้คืนระบบ
    - Rapid7 และ ReliaQuest แนะนำให้ใช้ MFA แบบต้าน phishing และจำกัดสิทธิ์ผู้ใช้งาน

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - การหลอก help desk ด้วยข้อมูลส่วนตัวยังคงเป็นช่องโหว่ใหญ่ขององค์กร
    - บัญชีผู้บริหารมักมีสิทธิ์มากเกินไป ทำให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบได้ง่าย
    - การใช้เครื่องมือ legitimate เช่น Teleport อาจหลบการตรวจจับได้
    - หากไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์และพฤติกรรมผู้ใช้อย่างสม่ำเสมอ องค์กรอาจไม่รู้ตัวว่าถูกแฮก
    - การพึ่งพา endpoint detection เพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันการเจาะระบบแบบนี้ได้
    - องค์กรควรฝึกอบรมพนักงานเรื่อง social engineering และมีระบบตรวจสอบการรีเซ็ตบัญชีที่เข้มงวด

    https://www.csoonline.com/article/4020567/anatomy-of-a-scattered-spider-attack-a-growing-ransomware-threat-evolves.html
    Scattered Spider เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่เริ่มปรากฏตัวตั้งแต่ปี 2022 โดยใช้วิธี SIM-swapping และ ransomware โจมตีบริษัทโทรคมนาคมและบันเทิง เช่น MGM Resorts และ Caesars Entertainment แต่ในปี 2025 พวกเขาขยายเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมค้าปลีก (Marks & Spencer, Harrods) และสายการบิน (Hawaiian, Qantas) สร้างความเสียหายหลายล้านดอลลาร์ เทคนิคที่ใช้ล่าสุดคือการหลอกพนักงาน help desk ด้วยข้อมูลส่วนตัวของผู้บริหาร เช่น วันเกิดและเลขประกันสังคม เพื่อรีเซ็ตอุปกรณ์และเข้าถึงบัญชีระดับสูง จากนั้นใช้สิทธิ์นั้นเจาะระบบ Entra ID (Azure AD), SharePoint, Horizon VDI และ VPN เพื่อควบคุมระบบทั้งหมด เมื่อถูกตรวจจับ กลุ่มนี้ไม่หนี แต่กลับโจมตีระบบอย่างเปิดเผย เช่น ลบกฎไฟร์วอลล์ของ Azure และปิด domain controller เพื่อขัดขวางการกู้คืนระบบ นักวิจัยจาก Rapid7 และ ReliaQuest พบว่า Scattered Spider: - ใช้เครื่องมือเช่น ngrok และ Teleport เพื่อสร้างช่องทางลับ - ใช้ IAM role enumeration และ EC2 Serial Console เพื่อเจาะระบบ AWS - ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบที่ถูกแฮกเพื่อดึงข้อมูลจาก CyberArk password vault กว่า 1,400 รายการ แม้ Microsoft จะเข้ามาช่วยกู้คืนระบบได้ในที่สุด แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของกลุ่มแฮกเกอร์ที่ผสมผสาน “การหลอกมนุษย์” กับ “การเจาะระบบเทคนิค” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Scattered Spider เริ่มโจมตีตั้งแต่ปี 2022 โดยใช้ SIM-swapping และ ransomware - ขยายเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมค้าปลีกและสายการบินในปี 2025 - ใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้บริหารเพื่อหลอก help desk และเข้าถึงบัญชีระดับสูง - เจาะระบบ Entra ID, SharePoint, Horizon VDI, VPN และ CyberArk - ใช้เครื่องมือเช่น ngrok, Teleport, EC2 Serial Console และ IAM role enumeration - ลบกฎไฟร์วอลล์ Azure และปิด domain controller เพื่อขัดขวางการกู้คืน - Microsoft ต้องเข้ามาช่วยกู้คืนระบบ - Rapid7 และ ReliaQuest แนะนำให้ใช้ MFA แบบต้าน phishing และจำกัดสิทธิ์ผู้ใช้งาน ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - การหลอก help desk ด้วยข้อมูลส่วนตัวยังคงเป็นช่องโหว่ใหญ่ขององค์กร - บัญชีผู้บริหารมักมีสิทธิ์มากเกินไป ทำให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบได้ง่าย - การใช้เครื่องมือ legitimate เช่น Teleport อาจหลบการตรวจจับได้ - หากไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์และพฤติกรรมผู้ใช้อย่างสม่ำเสมอ องค์กรอาจไม่รู้ตัวว่าถูกแฮก - การพึ่งพา endpoint detection เพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันการเจาะระบบแบบนี้ได้ - องค์กรควรฝึกอบรมพนักงานเรื่อง social engineering และมีระบบตรวจสอบการรีเซ็ตบัญชีที่เข้มงวด https://www.csoonline.com/article/4020567/anatomy-of-a-scattered-spider-attack-a-growing-ransomware-threat-evolves.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Anatomy of a Scattered Spider attack: A growing ransomware threat evolves
    The cybercriminal group has broadened its attack scope across several new industries, bringing valid credentials to bear on help desks before leveraging its new learnings of cloud intrusion tradecraft to set the stage for ransomware.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • Outlook ล่มทั่วโลก – Microsoft เร่งแก้ไขหลังผู้ใช้เดือดร้อนหลายชั่วโมง

    ช่วงเย็นวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 ตามเวลา UTC ผู้ใช้ Outlook ทั่วโลกเริ่มรายงานปัญหาไม่สามารถเข้าถึงอีเมลได้ ไม่ว่าจะผ่านเว็บเบราว์เซอร์ แอปมือถือ หรือโปรแกรม Outlook บนเดสก์ท็อป โดยเฉพาะในช่วงเช้าของฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเวลาทำงาน ทำให้เกิดความวุ่นวายในการติดต่อสื่อสารขององค์กรและบุคคลทั่วไป

    Microsoft ยืนยันว่าปัญหาเกิดจากการตั้งค่าระบบ authentication ที่ผิดพลาด และได้เริ่ม deploy การแก้ไขแบบเร่งด่วนในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด พร้อมตรวจสอบการตั้งค่าคอนฟิกเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าระบบกลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัย

    แม้จะใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ในที่สุด Microsoft ก็ประกาศว่าได้แก้ไขปัญหาในโครงสร้างพื้นฐานเป้าหมายแล้ว และกำลังขยายการ deploy ไปยังผู้ใช้ทั่วโลก โดยผู้ดูแลระบบสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากรหัสเหตุการณ์ EX1112414 ใน Microsoft 365 Admin Center

    https://www.techradar.com/pro/live/outlook-down-microsoft-email-platform-apparently-suffering-major-outage-heres-what-we-know
    Outlook ล่มทั่วโลก – Microsoft เร่งแก้ไขหลังผู้ใช้เดือดร้อนหลายชั่วโมง ช่วงเย็นวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 ตามเวลา UTC ผู้ใช้ Outlook ทั่วโลกเริ่มรายงานปัญหาไม่สามารถเข้าถึงอีเมลได้ ไม่ว่าจะผ่านเว็บเบราว์เซอร์ แอปมือถือ หรือโปรแกรม Outlook บนเดสก์ท็อป โดยเฉพาะในช่วงเช้าของฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเวลาทำงาน ทำให้เกิดความวุ่นวายในการติดต่อสื่อสารขององค์กรและบุคคลทั่วไป Microsoft ยืนยันว่าปัญหาเกิดจากการตั้งค่าระบบ authentication ที่ผิดพลาด และได้เริ่ม deploy การแก้ไขแบบเร่งด่วนในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด พร้อมตรวจสอบการตั้งค่าคอนฟิกเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าระบบกลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัย แม้จะใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ในที่สุด Microsoft ก็ประกาศว่าได้แก้ไขปัญหาในโครงสร้างพื้นฐานเป้าหมายแล้ว และกำลังขยายการ deploy ไปยังผู้ใช้ทั่วโลก โดยผู้ดูแลระบบสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากรหัสเหตุการณ์ EX1112414 ใน Microsoft 365 Admin Center https://www.techradar.com/pro/live/outlook-down-microsoft-email-platform-apparently-suffering-major-outage-heres-what-we-know
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 288 มุมมอง 0 รีวิว
  • แชตบอทสมัครงานของ McDonald’s ทำข้อมูลหลุด 64 ล้านคน เพราะรหัสผ่าน “123456”

    ในช่วงต้นปี 2025 ผู้สมัครงานกับ McDonald’s ทั่วโลกอาจไม่รู้เลยว่าข้อมูลส่วนตัวของพวกเขา—ชื่อ เบอร์โทร อีเมล ที่อยู่ และสถานะการจ้างงาน—ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะโดยไม่ตั้งใจ

    เรื่องเริ่มจาก Ian Carroll นักวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ พบช่องโหว่ในระบบของ Paradox.ai ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนาแชตบอทชื่อ “Olivia” ให้ McDonald’s ใช้สัมภาษณ์งานอัตโนมัติในกว่า 90% ของสาขา

    Carroll พบว่าหน้าเข้าสู่ระบบของพนักงาน Paradox ยังเปิดให้เข้าถึงได้ และที่น่าตกใจคือ เขาสามารถล็อกอินด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน “123456” ได้ทันที! จากนั้นเขาเข้าถึงโค้ดของเว็บไซต์ และพบ API ที่สามารถเรียกดูประวัติการสนทนาของผู้สมัครงานได้ทั้งหมด—รวมกว่า 64 ล้านรายการ

    ข้อมูลที่หลุดออกมานั้นไม่ใช่แค่ข้อความแชต แต่รวมถึง token การยืนยันตัวตน และสถานะการจ้างงานของผู้สมัครด้วย

    Carroll พยายามแจ้งเตือน Paradox แต่ไม่พบช่องทางรายงานช่องโหว่ด้านความปลอดภัยเลย ต้องส่งอีเมลสุ่มไปยังพนักงาน จนในที่สุด Paradox และ McDonald’s ยืนยันว่าได้แก้ไขปัญหาแล้วในต้นเดือนกรกฎาคม

    ข้อมูลจากข่าว
    - ข้อมูลผู้สมัครงานกว่า 64 ล้านคนถูกเปิดเผยจากระบบของ Paradox.ai
    - นักวิจัยสามารถล็อกอินด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน “123456”
    - เข้าถึง API ที่แสดงประวัติแชตของแชตบอท Olivia ได้ทั้งหมด
    - ข้อมูลที่หลุดรวมถึงชื่อ เบอร์โทร อีเมล ที่อยู่ token และสถานะการจ้างงาน
    - Paradox ไม่มีช่องทางรายงานช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอย่างเป็นทางการ
    - McDonald’s และ Paradox ยืนยันว่าแก้ไขปัญหาแล้วในเดือนกรกฎาคม
    - Olivia ถูกใช้ในกว่า 90% ของสาขา McDonald’s เพื่อสัมภาษณ์งานอัตโนมัติ

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - การใช้รหัสผ่านง่าย ๆ เช่น “123456” ยังคงเป็นช่องโหว่ร้ายแรงที่พบได้บ่อย
    - ระบบ AI ที่จัดการข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวด
    - บริษัทที่ไม่มีช่องทางรายงานช่องโหว่ อาจทำให้การแก้ไขล่าช้าและเสี่ยงต่อการโจมตี
    - ผู้สมัครงานควรระวังการให้ข้อมูลผ่านระบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะข้อมูลส่วนตัว
    - องค์กรควรตรวจสอบระบบ third-party อย่างสม่ำเสมอ และมีการทดสอบความปลอดภัย (penetration test)
    - การใช้ AI ในงาน HR ต้องมาพร้อมกับ governance และการตรวจสอบจากมนุษย์

    https://www.techspot.com/news/108619-mcdonald-ai-hiring-chatbot-exposed-data-64-million.html
    แชตบอทสมัครงานของ McDonald’s ทำข้อมูลหลุด 64 ล้านคน เพราะรหัสผ่าน “123456” ในช่วงต้นปี 2025 ผู้สมัครงานกับ McDonald’s ทั่วโลกอาจไม่รู้เลยว่าข้อมูลส่วนตัวของพวกเขา—ชื่อ เบอร์โทร อีเมล ที่อยู่ และสถานะการจ้างงาน—ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะโดยไม่ตั้งใจ เรื่องเริ่มจาก Ian Carroll นักวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ พบช่องโหว่ในระบบของ Paradox.ai ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนาแชตบอทชื่อ “Olivia” ให้ McDonald’s ใช้สัมภาษณ์งานอัตโนมัติในกว่า 90% ของสาขา Carroll พบว่าหน้าเข้าสู่ระบบของพนักงาน Paradox ยังเปิดให้เข้าถึงได้ และที่น่าตกใจคือ เขาสามารถล็อกอินด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน “123456” ได้ทันที! จากนั้นเขาเข้าถึงโค้ดของเว็บไซต์ และพบ API ที่สามารถเรียกดูประวัติการสนทนาของผู้สมัครงานได้ทั้งหมด—รวมกว่า 64 ล้านรายการ ข้อมูลที่หลุดออกมานั้นไม่ใช่แค่ข้อความแชต แต่รวมถึง token การยืนยันตัวตน และสถานะการจ้างงานของผู้สมัครด้วย Carroll พยายามแจ้งเตือน Paradox แต่ไม่พบช่องทางรายงานช่องโหว่ด้านความปลอดภัยเลย ต้องส่งอีเมลสุ่มไปยังพนักงาน จนในที่สุด Paradox และ McDonald’s ยืนยันว่าได้แก้ไขปัญหาแล้วในต้นเดือนกรกฎาคม ✅ ข้อมูลจากข่าว - ข้อมูลผู้สมัครงานกว่า 64 ล้านคนถูกเปิดเผยจากระบบของ Paradox.ai - นักวิจัยสามารถล็อกอินด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน “123456” - เข้าถึง API ที่แสดงประวัติแชตของแชตบอท Olivia ได้ทั้งหมด - ข้อมูลที่หลุดรวมถึงชื่อ เบอร์โทร อีเมล ที่อยู่ token และสถานะการจ้างงาน - Paradox ไม่มีช่องทางรายงานช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอย่างเป็นทางการ - McDonald’s และ Paradox ยืนยันว่าแก้ไขปัญหาแล้วในเดือนกรกฎาคม - Olivia ถูกใช้ในกว่า 90% ของสาขา McDonald’s เพื่อสัมภาษณ์งานอัตโนมัติ ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - การใช้รหัสผ่านง่าย ๆ เช่น “123456” ยังคงเป็นช่องโหว่ร้ายแรงที่พบได้บ่อย - ระบบ AI ที่จัดการข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวด - บริษัทที่ไม่มีช่องทางรายงานช่องโหว่ อาจทำให้การแก้ไขล่าช้าและเสี่ยงต่อการโจมตี - ผู้สมัครงานควรระวังการให้ข้อมูลผ่านระบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะข้อมูลส่วนตัว - องค์กรควรตรวจสอบระบบ third-party อย่างสม่ำเสมอ และมีการทดสอบความปลอดภัย (penetration test) - การใช้ AI ในงาน HR ต้องมาพร้อมกับ governance และการตรวจสอบจากมนุษย์ https://www.techspot.com/news/108619-mcdonald-ai-hiring-chatbot-exposed-data-64-million.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    McDonald's AI hiring chatbot exposed data of 64 million applicants with "123456" password
    Security researcher Ian Carroll successfully logged into an administrative account for Paradox.ai, the company that built McDonald's AI job interviewer, using "123456" as both a username and...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีบินเดินทางมาถึงกรุงโรม ประเทศอิตาลี เพื่อเข้าร่วมการประชุม “การฟื้นฟูยูเครน”

    เมื่อสัปดาห์ก่อน สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า BlackRock ได้ยกเลิกการลงทุนในกองทุนพัฒนายูเครนมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ไปแล้ว เนื่องจากไม่มีนักลงทุนสนใจมากพอ

    กองทุนดังกล่าวมีกำหนดเปิดตัวในช่วงที่เซเลนสกีเดินทางมาโรม ประเทศอิตาลี แต่หลังจากความลังเลของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ ทำให้การลงทุนจะเหลือเพียงเยอรมนี อิตาลี และโปแลนด์ ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอน และนักลงทุนสูญเสียความสนใจในโครงการดังกล่าว ในที่สุดกองทุนนี้ก็ถูกยกเลิกไป
    เซเลนสกีบินเดินทางมาถึงกรุงโรม ประเทศอิตาลี เพื่อเข้าร่วมการประชุม “การฟื้นฟูยูเครน” เมื่อสัปดาห์ก่อน สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า BlackRock ได้ยกเลิกการลงทุนในกองทุนพัฒนายูเครนมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ไปแล้ว เนื่องจากไม่มีนักลงทุนสนใจมากพอ กองทุนดังกล่าวมีกำหนดเปิดตัวในช่วงที่เซเลนสกีเดินทางมาโรม ประเทศอิตาลี แต่หลังจากความลังเลของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ ทำให้การลงทุนจะเหลือเพียงเยอรมนี อิตาลี และโปแลนด์ ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอน และนักลงทุนสูญเสียความสนใจในโครงการดังกล่าว ในที่สุดกองทุนนี้ก็ถูกยกเลิกไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..555,ข่าวแหกตา เศรษฐกิจโลกมันพังปกติอยู่แล้ว โยนบาปให้ทรัมป์เป็นแพะว่าชาติต่างๆจะล้มละลายเพราะนโยบายทรัมป์ ซึ่งมันไม่จริงอะไรเลย อเมริกามีประชากรไม่กี่ร้อยล้านคนจะบริโภคห่าเหวอะไรมากมายขนาดนั้น,ส่วนใหญ่อาจแค่ใข้อเมริกาเป็นทางผ่านแบรนด์นามใช้ชื่อโลโก้อเมริกานั้นล่ะ,นำเข้าหลอกๆอีก ไม่ได้เข้าอเมริกาเป็นรูปร่างรูปธรรมห่าอะไรด้วย แค่นำเข้าในนามกระดาษ แบรนด์อเมริกากิจการเครือข่ายอเมริกาแต่ละชาติรับไปขายต่อผ่านอเมริกาเท่านั่น มุกตย.หนึ่งแค่นั้นล่ะ เช่นเรือน้ำมันอเมริกาแท่งขุดบริษัทอเมริกาลอยลำในไทยตีตราว่าส่งออกเข้าอเมริกาแล้ววนเอกสารนำเข้ามาไทยในที่สุดนั้นล่ะ,อเมริกาคิดภาษีเสร็จแล้วก็มาขายคืนไทย0%กำไรทันทีถ้าตกลงแบบเวียดนามให้สินค้าอเมริกามาขายเวียดนามในอัตรานำเข้า0%แลกส่งออกไปอเมริกาก็ว่า ,เจ้าสัวไทยไม่เดือดร้อนอะไรหรอกสมุนอีลิทมันรับรู้ล่วงหน้าแล้วเลยไม่ตั้งสายการผลิตทั่วอาเชียนทั่วเอเชียก็ส่งออกในชื่อที่ภาษีถูกคิดน้อยๆไง,คืออเมริกามีแต่ได้จริงๆในภาวะตังเงินโลกพัง,ทรัมป์ก็เหี้ยถูกจังหวะพอดี,เลยรับซวยไป,มองอีกมุม ทรัมป์กำลังเล่นงานบริษัทกิจการอีลิทdeep stateอยู่ก็ได้,ปลดปล่อยทาสแรงงานออกจากระบบทาสdeep stateที่ควบคุมมานานคือทำงานรับใช้พวกมันเหมือนทาสในกิจการบริษัทมันนั้นล่ะ,เร่งให้คนออกจากระบบทาสมันกลับบ้านใครบ้านมันไปอยู่ในธรรมชาติบ้านเกิดท้องเมืองนอนเดิมตนเสียก็ว่า,แก้ง่ายๆคือนายกฯต้องมานำประเทศแบบมุ่งการพึ่งพาตนเองภายในประเทศตนและกันและกันให้ได้ก่อน,ต้องมาในลักษณะพิเศษ กฎหมายพิเศษด้วย คือนายกฯพระราชทานนั้นล่ะมาบริหารชาติด้วยกฎหมายพิเศษมีอำนาจเด็ดขาดพร้อมสร้างทุกๆกลยุทธทางสงครามตังปากท้องและอธิปไตยตนทันทีสลับสับเปลี่ยนคล่องตัวก็ว่า,โดยกลไกปกติทำไม่ได้ ไม่ทันกาล ทันยุคที่การเปลี่ยนทางกระสุนตังกระสุนเงินรวดเร็วมาก,อเมริกาก็เป็นบ้าเป็นบอเพราะตังเพราะเงินใช้หนี้นี้ล่ะ,ญี่ปุ่นก็จะล่มละลายทั่งประเทศก็ตังนี้ล่ะบวกภัยธรรมชาติแบบแผ่นดินไหวอีก,"ตัง"คือชื่อเรียกหนึ่งว่าชื่อ"เศรษฐกิจ"ในชื่อเรียกหนึ่งเท่านั้น,
    ..อนาคตคนไทยต้องตกงานแน่นอนอยู่แล้วเพราะจักรกลจะมาแทนที่เป็นอันมากตลอดAIแทรกซึมทุกๆกระบวนการทำตังแล้ว,ช่องทางปกติอาจลดบทบาทลงมากขึ้น,คนจะถูกแทนที่มากขึ้นเรื่อยๆจากเอไอ,ผู้นำประเทศไทยเราจึงสำคัญมากในยุคการละครบทบาทเวลานี้ที่จะมาลงเล่นในยุคต่อไป,นำพาคนไทยทั้งประเทศตั้งรับและรุกหรือถอยเพื่อชนะตนเองหรือการดำรงอยู่ของคนไทยและประเทศชาติให้ได้บนฐานความอิ่มดีมีสุขก็ว่า,คือทั่วโลกจะเป็นห่าเหวอะไร,แต่ภายในประเทศเรา ครอบครัวพร้อมหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขตังทองพอดีพองามไม่ขาดไม่เดือดร้อน มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ อาหารการกินเต็มบ้าน แบ่งปันกันภายในประเทศไทยตน เหลือก็ขาย ยาสมุนไพรเคมีเพียงพอแก่การรักษาคนในชาติไทยตน,คือผู้นำสามารถนำพาชาติไทยตนตั้งรับตั้งรุกหรือนิ่งเฉยได้หมด,คืออุดมสมบูรณ์ปกติดีทั่วถึงแก่ทุกๆคนไทยเราอย่างไร,,ทรัมป์กีดกันก็ค้าขายกับชาติอื่น ขายคนแค่100คน กับขายคนรวมกันหลายๆบ้านกว่า1,000คนได้ตังหลายพันบาทมากกว่าร้อยบาทย่อมดีแน่นอน,บางทีอาจแลกเปลี่ยนวัตถุดิบในรัฐต่อรัฐได้เช่น ไทยขุดน้ำมันเอง ยึดทุกๆบ่อน้ำมันเสร็จ แลกน้ำมันกับจักรกลทางการเกษตรหรืออุตสากรรมก็ได้อีกมาช่วยทุ่นแรงคนไทยตนในราคาไม่แพง,อาหารแลกอาหาร,เสบียงใดเราขาดก็แลกเสบียงนั้นที่เขาขาดได้,รัฐสร้างโรงงานผลิตยานบินในฮับไทย ขาดวัตถุดิบก็ใช้ทรัพยากรเรามีที่เขาต้องการแลกกัน,ผลิตเสร็จขายราคาไม่แพงแก่เขาก็ได้หรือประเทศอื่นในราคาไม่แพงก็ได้อีก,คือผู้นำเราทั้งสิ้นจะควบคุมกลไกให้สมดุลในระบบแบบใด,ประเทศไทยเราพร้อมหมด,ฉีกกฎหมายผูกตีผูกมือผูกการกระทำกิจกรรมที่สร้างสรรคของคนไทยทิ้ง จะเพิ่มโอกาสนวัตกรรมใหม่ตรึมบนแผ่นดินไทยเรา,เพราะผู้ปกครองชั่วเลวปกครองกดขี่คนไทยด้วยกฎหมายผีบ้าผีบ้อมากมายนั่นล่ะ,คนชั่วในไทยแม้มีมากแต่ระบบสังคมจะจัดการเขาเองร่วมด้วยก็ได้,อาทิ เสพยาบ้าแล้วคลั่ง ชุมชนสะกำได้ทันทีก็ว่า,ข่มขื่นไทบ้านชาวบ้านรุมสะกัมเกือบตายก็ได้ซึ่งคนชั่วเลวที่ชัดเจน สมควรต้องเปิดเผยถูกกระซากหน้าให้สังคมรับรู้ เช่นแบงค์สถุนกากยักยอกตังคนฝากก็ประจานชื่อแบงค์สถุนกากนั้นเลย สาขาอะไร พนักงานคนไหน เป็นต้น นี้อะไรเขียนกฎหมายช่วยเหลือคนชั่วเลวเป็นต้น,นี้คือลักษณะกฎหมายเลวชั่วแบบเปิดสัมปทานน้ำมันแต่ไม่เอาเข้าสภาสส.สว.นั้นล่ะ,นี้คือกฎหมายเลวก็ด้วย,แบบพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ที่ร่างออกมาจะออกเป็นพรบ.มาบังคับคนปลูกต่างๆทั่วไทยโดยเฉพาะสานคนเกษตรกรรมซวยแน่นอนหากพรบ.500ยึดทหารยุดอำนาจนั้นผ่านได้เอกชนไทยแดกรวบทั้งระบบทั้งประเทศทันที นี้คือกฎหมายชั่วสารเลวอีกตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนว่า,กฎหมายเราคือตัวถ่วงความเจริญอยู่ดีมีสุขสงบร่มเย็นพึ่งพาตนเองได้จริงของคนไทยโดยการปล้นชิงผ่านกฎหมายนั้นเองไปจากประชาชนคนไทย,สร้างข้อกำหนด ทำได้ทำไม่ได้นั่นล่ะ,ปลูกกัญชาเสรีก็ทำไม่ได้ สกัดยาสาระพัดวิจัย5ปีก่อนนะ,แต่วัคซีนโควิดไม่มีงานวิจัยปลอดภัยอะไรรองรับเสือกฉีดเข้าร่างกายคนไทยกว่า60ล้านคนหน้าตาเฉย ต่างชาติบริษัทยามันเองรับผิดถูกฟ้องคดีตรึมบอกเองว่ามีผลเป็นพิษจริงแก่คนฉีดมากกว่า1โรคโน้น รัฐบาลไทยเปลี่ยนมาสองนายกฯสองรักษาการแล้วนะก็ไม่ยอมประกาศความจริงอย่างเป็นทางการเลนด้วย.
    ..นี้จึงคือสาเหตุชัดต้องล้างทั้งหมด,ทรัมป์คือปัญหาภายนอกผู้นำภายนอก,เราต้องจัดการภายในเราก่อน,จึงนายกฯพระราชทานคือทางออก,และเด็ดขาดกับความชั่วเลวจริง,เด็ดขาดกับเดอะแก๊งแดกประเทศไทยทั้งหมดจริงด้วย.
    ..
    ..https://youtu.be/UqqWf54tRMM?si=T-lTaXTTUXijbHdQ
    ..555,ข่าวแหกตา เศรษฐกิจโลกมันพังปกติอยู่แล้ว โยนบาปให้ทรัมป์เป็นแพะว่าชาติต่างๆจะล้มละลายเพราะนโยบายทรัมป์ ซึ่งมันไม่จริงอะไรเลย อเมริกามีประชากรไม่กี่ร้อยล้านคนจะบริโภคห่าเหวอะไรมากมายขนาดนั้น,ส่วนใหญ่อาจแค่ใข้อเมริกาเป็นทางผ่านแบรนด์นามใช้ชื่อโลโก้อเมริกานั้นล่ะ,นำเข้าหลอกๆอีก ไม่ได้เข้าอเมริกาเป็นรูปร่างรูปธรรมห่าอะไรด้วย แค่นำเข้าในนามกระดาษ แบรนด์อเมริกากิจการเครือข่ายอเมริกาแต่ละชาติรับไปขายต่อผ่านอเมริกาเท่านั่น มุกตย.หนึ่งแค่นั้นล่ะ เช่นเรือน้ำมันอเมริกาแท่งขุดบริษัทอเมริกาลอยลำในไทยตีตราว่าส่งออกเข้าอเมริกาแล้ววนเอกสารนำเข้ามาไทยในที่สุดนั้นล่ะ,อเมริกาคิดภาษีเสร็จแล้วก็มาขายคืนไทย0%กำไรทันทีถ้าตกลงแบบเวียดนามให้สินค้าอเมริกามาขายเวียดนามในอัตรานำเข้า0%แลกส่งออกไปอเมริกาก็ว่า ,เจ้าสัวไทยไม่เดือดร้อนอะไรหรอกสมุนอีลิทมันรับรู้ล่วงหน้าแล้วเลยไม่ตั้งสายการผลิตทั่วอาเชียนทั่วเอเชียก็ส่งออกในชื่อที่ภาษีถูกคิดน้อยๆไง,คืออเมริกามีแต่ได้จริงๆในภาวะตังเงินโลกพัง,ทรัมป์ก็เหี้ยถูกจังหวะพอดี,เลยรับซวยไป,มองอีกมุม ทรัมป์กำลังเล่นงานบริษัทกิจการอีลิทdeep stateอยู่ก็ได้,ปลดปล่อยทาสแรงงานออกจากระบบทาสdeep stateที่ควบคุมมานานคือทำงานรับใช้พวกมันเหมือนทาสในกิจการบริษัทมันนั้นล่ะ,เร่งให้คนออกจากระบบทาสมันกลับบ้านใครบ้านมันไปอยู่ในธรรมชาติบ้านเกิดท้องเมืองนอนเดิมตนเสียก็ว่า,แก้ง่ายๆคือนายกฯต้องมานำประเทศแบบมุ่งการพึ่งพาตนเองภายในประเทศตนและกันและกันให้ได้ก่อน,ต้องมาในลักษณะพิเศษ กฎหมายพิเศษด้วย คือนายกฯพระราชทานนั้นล่ะมาบริหารชาติด้วยกฎหมายพิเศษมีอำนาจเด็ดขาดพร้อมสร้างทุกๆกลยุทธทางสงครามตังปากท้องและอธิปไตยตนทันทีสลับสับเปลี่ยนคล่องตัวก็ว่า,โดยกลไกปกติทำไม่ได้ ไม่ทันกาล ทันยุคที่การเปลี่ยนทางกระสุนตังกระสุนเงินรวดเร็วมาก,อเมริกาก็เป็นบ้าเป็นบอเพราะตังเพราะเงินใช้หนี้นี้ล่ะ,ญี่ปุ่นก็จะล่มละลายทั่งประเทศก็ตังนี้ล่ะบวกภัยธรรมชาติแบบแผ่นดินไหวอีก,"ตัง"คือชื่อเรียกหนึ่งว่าชื่อ"เศรษฐกิจ"ในชื่อเรียกหนึ่งเท่านั้น, ..อนาคตคนไทยต้องตกงานแน่นอนอยู่แล้วเพราะจักรกลจะมาแทนที่เป็นอันมากตลอดAIแทรกซึมทุกๆกระบวนการทำตังแล้ว,ช่องทางปกติอาจลดบทบาทลงมากขึ้น,คนจะถูกแทนที่มากขึ้นเรื่อยๆจากเอไอ,ผู้นำประเทศไทยเราจึงสำคัญมากในยุคการละครบทบาทเวลานี้ที่จะมาลงเล่นในยุคต่อไป,นำพาคนไทยทั้งประเทศตั้งรับและรุกหรือถอยเพื่อชนะตนเองหรือการดำรงอยู่ของคนไทยและประเทศชาติให้ได้บนฐานความอิ่มดีมีสุขก็ว่า,คือทั่วโลกจะเป็นห่าเหวอะไร,แต่ภายในประเทศเรา ครอบครัวพร้อมหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขตังทองพอดีพองามไม่ขาดไม่เดือดร้อน มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ อาหารการกินเต็มบ้าน แบ่งปันกันภายในประเทศไทยตน เหลือก็ขาย ยาสมุนไพรเคมีเพียงพอแก่การรักษาคนในชาติไทยตน,คือผู้นำสามารถนำพาชาติไทยตนตั้งรับตั้งรุกหรือนิ่งเฉยได้หมด,คืออุดมสมบูรณ์ปกติดีทั่วถึงแก่ทุกๆคนไทยเราอย่างไร,,ทรัมป์กีดกันก็ค้าขายกับชาติอื่น ขายคนแค่100คน กับขายคนรวมกันหลายๆบ้านกว่า1,000คนได้ตังหลายพันบาทมากกว่าร้อยบาทย่อมดีแน่นอน,บางทีอาจแลกเปลี่ยนวัตถุดิบในรัฐต่อรัฐได้เช่น ไทยขุดน้ำมันเอง ยึดทุกๆบ่อน้ำมันเสร็จ แลกน้ำมันกับจักรกลทางการเกษตรหรืออุตสากรรมก็ได้อีกมาช่วยทุ่นแรงคนไทยตนในราคาไม่แพง,อาหารแลกอาหาร,เสบียงใดเราขาดก็แลกเสบียงนั้นที่เขาขาดได้,รัฐสร้างโรงงานผลิตยานบินในฮับไทย ขาดวัตถุดิบก็ใช้ทรัพยากรเรามีที่เขาต้องการแลกกัน,ผลิตเสร็จขายราคาไม่แพงแก่เขาก็ได้หรือประเทศอื่นในราคาไม่แพงก็ได้อีก,คือผู้นำเราทั้งสิ้นจะควบคุมกลไกให้สมดุลในระบบแบบใด,ประเทศไทยเราพร้อมหมด,ฉีกกฎหมายผูกตีผูกมือผูกการกระทำกิจกรรมที่สร้างสรรคของคนไทยทิ้ง จะเพิ่มโอกาสนวัตกรรมใหม่ตรึมบนแผ่นดินไทยเรา,เพราะผู้ปกครองชั่วเลวปกครองกดขี่คนไทยด้วยกฎหมายผีบ้าผีบ้อมากมายนั่นล่ะ,คนชั่วในไทยแม้มีมากแต่ระบบสังคมจะจัดการเขาเองร่วมด้วยก็ได้,อาทิ เสพยาบ้าแล้วคลั่ง ชุมชนสะกำได้ทันทีก็ว่า,ข่มขื่นไทบ้านชาวบ้านรุมสะกัมเกือบตายก็ได้ซึ่งคนชั่วเลวที่ชัดเจน สมควรต้องเปิดเผยถูกกระซากหน้าให้สังคมรับรู้ เช่นแบงค์สถุนกากยักยอกตังคนฝากก็ประจานชื่อแบงค์สถุนกากนั้นเลย สาขาอะไร พนักงานคนไหน เป็นต้น นี้อะไรเขียนกฎหมายช่วยเหลือคนชั่วเลวเป็นต้น,นี้คือลักษณะกฎหมายเลวชั่วแบบเปิดสัมปทานน้ำมันแต่ไม่เอาเข้าสภาสส.สว.นั้นล่ะ,นี้คือกฎหมายเลวก็ด้วย,แบบพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ที่ร่างออกมาจะออกเป็นพรบ.มาบังคับคนปลูกต่างๆทั่วไทยโดยเฉพาะสานคนเกษตรกรรมซวยแน่นอนหากพรบ.500ยึดทหารยุดอำนาจนั้นผ่านได้เอกชนไทยแดกรวบทั้งระบบทั้งประเทศทันที นี้คือกฎหมายชั่วสารเลวอีกตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนว่า,กฎหมายเราคือตัวถ่วงความเจริญอยู่ดีมีสุขสงบร่มเย็นพึ่งพาตนเองได้จริงของคนไทยโดยการปล้นชิงผ่านกฎหมายนั้นเองไปจากประชาชนคนไทย,สร้างข้อกำหนด ทำได้ทำไม่ได้นั่นล่ะ,ปลูกกัญชาเสรีก็ทำไม่ได้ สกัดยาสาระพัดวิจัย5ปีก่อนนะ,แต่วัคซีนโควิดไม่มีงานวิจัยปลอดภัยอะไรรองรับเสือกฉีดเข้าร่างกายคนไทยกว่า60ล้านคนหน้าตาเฉย ต่างชาติบริษัทยามันเองรับผิดถูกฟ้องคดีตรึมบอกเองว่ามีผลเป็นพิษจริงแก่คนฉีดมากกว่า1โรคโน้น รัฐบาลไทยเปลี่ยนมาสองนายกฯสองรักษาการแล้วนะก็ไม่ยอมประกาศความจริงอย่างเป็นทางการเลนด้วย. ..นี้จึงคือสาเหตุชัดต้องล้างทั้งหมด,ทรัมป์คือปัญหาภายนอกผู้นำภายนอก,เราต้องจัดการภายในเราก่อน,จึงนายกฯพระราชทานคือทางออก,และเด็ดขาดกับความชั่วเลวจริง,เด็ดขาดกับเดอะแก๊งแดกประเทศไทยทั้งหมดจริงด้วย. .. ..https://youtu.be/UqqWf54tRMM?si=T-lTaXTTUXijbHdQ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 513 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซึงพิเศษที่ผมปรับปรุงขึ้นมาใช้นี้มีความเป็นมายาวนานกว่า 15 ปี เริ่มจากตัวแรกให้ช่างทำซึงจากเชียงใหม่ ทำพิเศษให้ผมตามรูปที่วาดไว้ คือมีสาย Double Strings สามสายคู่ (หมายถึงแต่ละสายมีสายสองเส้น) ซึ่งปกติซึงล้านนาจะมีแค่ Double String สองสายคู่ แล้วก็ให้แกะสลักลายตามที่ผมวาดด้วย จากนั้นก็เอาไปให้พี่เชนอลิเซียทำ finger board แรกเริ่มก็วางเฟร็ตสเกลล้านนานั่นแหละ ผมยังขอให้ทำเฟร็ตช่องที่สองสามารถเลื่อนได้ในกรณีที่ต้องการเล่นจูนนิ่งแบบล้านนาสลับกับตะวันตก แต่เล่นไปเล่นมาหลายปี มีข้อจำกัดเรื่องคีย์ที่เป็นอุปสรรค อยากจะเล่นคีย์อื่นได้ ผมก็เติมเฟร็ตไปเรื่อยจนกระทั่งเต็มคอ เล่นได้ทุกคีย์ในที่สุด ในระหว่างนั้นก็เกิดความคิดที่จะปรับปรุงอีก อยากให้มันมี Harp ในตัวด้วย ก็เลยลองออกแบบสเก็ตช์ขึ้นมาตามที่เห็นในรูป แล้วส่งไปให้พี่เชนแห่งร้านกีต้าร์อลิเซียทำให้
    .
    อย่างที่เล่าให้ฟัง พี่เชน อลิเซียเป็นช่างกีต้าร์ที่ยอมทำอะไรประหลาดๆ ให้ผม เช่น พี่เชนโมดิไฟด์กระจับปี่ไทยให้ผม จนเสียงดีในแบบที่ผมต้องการ (ไม่ได้เสียงแบบดั้งเดิมที่ดังแฟ่ดๆ จากหย่องที่ผมไม่ชอบเลย) สามารถเลื่อนเฟร็ตได้ทั้งคอ เพราะ finger board มีร่องที่แต่ละเฟร็ตสามารถสไลด์ไปได้ อย่างที่เราต้องการ ผมซื้อเครื่องสายของภูฏานมาตัวหนึ่งมันเรียกว่า Dramnyen แต่เครื่องผลิตมาด้วยคุณภาพชาวบ้าน วัสดุเป็นไม้เนื้ออ่อนและไม่แข็งแรง ผมให้พี่เชนสร้างให้ใหม่ สวยงามมากและเกรดโปรมาก สามตัวที่เห็นในรูปเป็นฝีมือพี่เชนทั้งหมด
    .
    ซึงตัวที่พัฒนาล่าสุดนี้มี 11 สาย และคราวนี้เป็นโครมาติคเฟร็ตบน finger board ไม้มะเกลือ การใส่สายและตั้งสาย ส่วนของซึงจะเป็น Double Strings สามสายคู่เหมือนเดิม จูนนิ่ง C (.022) - G (.012) - D (.009) (สายบนลงล่าง) / ในส่วนของ harp มีแปดสาย จูนนิ่ง G (.045) - A (.035) - C (.035) - G (.035) - C (0.12) - D (0.12) - E (0.12) - G (0.12) (จากบนลงล่าง) ส่วนของ harp มีหย่องที่เลื่อนได้ เพิ่มเข้าไปเมื่อต้องการจาก default ที่เป็น Key C ขยับไป D > E > F ได้ สูงกว่านี้เสียงจะบางไปไม่ได้คุณภาพ
    .
    มันเป็นการพัฒนาที่ยาวไกลและจะว่าไปเป็นการปรับปรุงที่ได้ผลดีมากสำหรับผม และนี่น่าจะเป็นเครื่องดนตรีที่ผมจะเล่นในช่วงบั้นปลายชีวิต ใครอยากจะพัฒนาตามนี้ นี่คือข้อมูลสำหรับคุณ ผมยังมีคอร์ดชาร์ตสำหรับซึงรุ่นนี้ด้วย
    .
    อยากให้น้องๆ รุ่นใหม่ อย่าได้ลังเลที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเครื่องดนตรีไทยให้ดีขึ้น บรรพาจารย์ทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วจะยินดีที่เกิดการพัฒนาอย่างแน่นอน ใครที่ต่อต้านการพัฒนา ย่อมเป็นผู้ถ่วงความเจริญครับ
    .
    ซึงพิเศษที่ผมปรับปรุงขึ้นมาใช้นี้มีความเป็นมายาวนานกว่า 15 ปี เริ่มจากตัวแรกให้ช่างทำซึงจากเชียงใหม่ ทำพิเศษให้ผมตามรูปที่วาดไว้ คือมีสาย Double Strings สามสายคู่ (หมายถึงแต่ละสายมีสายสองเส้น) ซึ่งปกติซึงล้านนาจะมีแค่ Double String สองสายคู่ แล้วก็ให้แกะสลักลายตามที่ผมวาดด้วย จากนั้นก็เอาไปให้พี่เชนอลิเซียทำ finger board แรกเริ่มก็วางเฟร็ตสเกลล้านนานั่นแหละ ผมยังขอให้ทำเฟร็ตช่องที่สองสามารถเลื่อนได้ในกรณีที่ต้องการเล่นจูนนิ่งแบบล้านนาสลับกับตะวันตก แต่เล่นไปเล่นมาหลายปี มีข้อจำกัดเรื่องคีย์ที่เป็นอุปสรรค อยากจะเล่นคีย์อื่นได้ ผมก็เติมเฟร็ตไปเรื่อยจนกระทั่งเต็มคอ เล่นได้ทุกคีย์ในที่สุด ในระหว่างนั้นก็เกิดความคิดที่จะปรับปรุงอีก อยากให้มันมี Harp ในตัวด้วย ก็เลยลองออกแบบสเก็ตช์ขึ้นมาตามที่เห็นในรูป แล้วส่งไปให้พี่เชนแห่งร้านกีต้าร์อลิเซียทำให้ . อย่างที่เล่าให้ฟัง พี่เชน อลิเซียเป็นช่างกีต้าร์ที่ยอมทำอะไรประหลาดๆ ให้ผม เช่น พี่เชนโมดิไฟด์กระจับปี่ไทยให้ผม จนเสียงดีในแบบที่ผมต้องการ (ไม่ได้เสียงแบบดั้งเดิมที่ดังแฟ่ดๆ จากหย่องที่ผมไม่ชอบเลย) สามารถเลื่อนเฟร็ตได้ทั้งคอ เพราะ finger board มีร่องที่แต่ละเฟร็ตสามารถสไลด์ไปได้ อย่างที่เราต้องการ ผมซื้อเครื่องสายของภูฏานมาตัวหนึ่งมันเรียกว่า Dramnyen แต่เครื่องผลิตมาด้วยคุณภาพชาวบ้าน วัสดุเป็นไม้เนื้ออ่อนและไม่แข็งแรง ผมให้พี่เชนสร้างให้ใหม่ สวยงามมากและเกรดโปรมาก สามตัวที่เห็นในรูปเป็นฝีมือพี่เชนทั้งหมด . ซึงตัวที่พัฒนาล่าสุดนี้มี 11 สาย และคราวนี้เป็นโครมาติคเฟร็ตบน finger board ไม้มะเกลือ การใส่สายและตั้งสาย ส่วนของซึงจะเป็น Double Strings สามสายคู่เหมือนเดิม จูนนิ่ง C (.022) - G (.012) - D (.009) (สายบนลงล่าง) / ในส่วนของ harp มีแปดสาย จูนนิ่ง G (.045) - A (.035) - C (.035) - G (.035) - C (0.12) - D (0.12) - E (0.12) - G (0.12) (จากบนลงล่าง) ส่วนของ harp มีหย่องที่เลื่อนได้ เพิ่มเข้าไปเมื่อต้องการจาก default ที่เป็น Key C ขยับไป D > E > F ได้ สูงกว่านี้เสียงจะบางไปไม่ได้คุณภาพ . มันเป็นการพัฒนาที่ยาวไกลและจะว่าไปเป็นการปรับปรุงที่ได้ผลดีมากสำหรับผม และนี่น่าจะเป็นเครื่องดนตรีที่ผมจะเล่นในช่วงบั้นปลายชีวิต ใครอยากจะพัฒนาตามนี้ นี่คือข้อมูลสำหรับคุณ ผมยังมีคอร์ดชาร์ตสำหรับซึงรุ่นนี้ด้วย . อยากให้น้องๆ รุ่นใหม่ อย่าได้ลังเลที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเครื่องดนตรีไทยให้ดีขึ้น บรรพาจารย์ทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วจะยินดีที่เกิดการพัฒนาอย่างแน่นอน ใครที่ต่อต้านการพัฒนา ย่อมเป็นผู้ถ่วงความเจริญครับ .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน! BlackRock ยกเลิกการลงทุนในกองทุนพัฒนายูเครนมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์แล้ว

    BlackRock หยุดมองหาผู้ลงทุนเพื่อลงทุนในกองทุนพัฒนายูเครนตั้งแต่ต้นปี หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง เนื่องจากไม่มีนักลงทุนสนใจ

    กองทุนดังกล่าวมีกำหนดเปิดตัวในสัปดาห์หน้า ในงานประชุมเกี่ยวกับการฟื้นฟูยูเครนในกรุงโรม ประเทศอิตาลี แต่หลังจากความลังเลของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ ทำให้การลงทุนจะเหลือเพียงเยอรมนี อิตาลี และโปแลนด์ ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอน และนักลงทุนสูญเสียความสนใจในโครงการดังกล่าว ในที่สุดกองทุนนี้ก็ถูกยกเลิกไป



    ด่วน! BlackRock ยกเลิกการลงทุนในกองทุนพัฒนายูเครนมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์แล้ว BlackRock หยุดมองหาผู้ลงทุนเพื่อลงทุนในกองทุนพัฒนายูเครนตั้งแต่ต้นปี หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง เนื่องจากไม่มีนักลงทุนสนใจ กองทุนดังกล่าวมีกำหนดเปิดตัวในสัปดาห์หน้า ในงานประชุมเกี่ยวกับการฟื้นฟูยูเครนในกรุงโรม ประเทศอิตาลี แต่หลังจากความลังเลของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ ทำให้การลงทุนจะเหลือเพียงเยอรมนี อิตาลี และโปแลนด์ ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอน และนักลงทุนสูญเสียความสนใจในโครงการดังกล่าว ในที่สุดกองทุนนี้ก็ถูกยกเลิกไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 380 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส้มผสมน้ำเงิน ฝ่ายค้านสงวนจุดต่าง

    การเมืองไทยในช่วงที่รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีคลิปเสียงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ด้วยข้อกล่าวหาไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง หลังศาลมีคำสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จึงมีการแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรี 5 คน นำโดย นายภูมิธรรม เวชยะชัย รักษาราชการแทนนายกฯ มีอำนาจเต็มทั้งบริหารงาน และอนุมัติงบประมาณ ระหว่างรอศาลวินิจฉัยซึ่งคาดว่ากินเวลา 2-3 เดือน ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ก็อาศัยช่องว่างปฎิบัติหน้าที่ รมว.วัฒนธรรมแทน

    ส่วนพรรคฝ่ายค้าน หลังจากพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ในที่สุดได้ร่วมกับพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชน ผนึกกำลังรวมกัน 234 เสียง ประกอบด้วย พรรคประชาชน 142 เสียง พรรคภูมิใจไทย 69 เสียง (ไม่นับรวม สส.ที่มาจากพรรคอื่น 2 เสียง) พรรคพลังประชารัฐ 19 เสียง พรรคไทยสร้างไทย 1 เสียง และพรรคเป็นธรรม 1 เสียง

    นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า การรวมตัวครั้งนี้เพื่อแสวงหาจุดร่วม ภายใต้สถานการณ์ของประเทศที่วิกฤตในปัจจุบัน และพรรคฝ่ายค้านมีบางอย่างที่ไม่เหมือนพรรคร่วมรัฐบาล จึงให้เกียรติซึ่งกันและกัน อะไรที่เป็นจุดยืนหรือข้อแตกต่างของพรรคฝ่ายค้านก็จะไม่ก้าวก่ายกัน ส่วนนายอนุทิน ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยจะปฎิบัติหน้าที่ในฐานะและบทบาทของการเป็นฝ่ายค้าน เพื่อตรวจสอบในสภาผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่ร่วมกันกับพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค

    เมื่อเช็กเสียงฝ่ายรัฐบาล พบว่ามี สส. 261 เสียง ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย 142 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคประชาธิปัตย์ 25 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคชาติพัฒนา 3 เสียง พรรคไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง (โหวตสวน) พรรคไทยก้าวหน้า 1 เสียง ที่น่าสนใจ คือ พรรคกล้าธรรม นอกจากมี สส.ในมือ 31 เสียงแล้ว ยังพบว่ามี สส. ที่ย้ายมาร่วมงาน จากพรรคประชาชน 1 เสียง พรรคพลังประชารัฐ 1 เสียง พรรคไทยสร้างไทย 3 เสียง

    แม้พรรคประชาชนจะดึงพรรคภูมิใจไทยเป็นฝ่ายค้าน แต่หากมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอีก จะต้องเป็นคนที่ประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี 2568 โดยจัดทำประชามติเรื่องการมี สสร.จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และอีกหลายหัวข้อ ท่ามกลางชะตากรรมของ น.ส.แพทองธารที่ยังต้องลุ้น และสังคมยังเคลือบแคลงสงสัยถึงท่าทีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เคยดีลลับกับนายทักษิณ ชินวัตรที่ฮ่องกงว่า ยังมองพรรคเพื่อไทยเป็นมิตรหรือไม่?

    #Newskit
    ส้มผสมน้ำเงิน ฝ่ายค้านสงวนจุดต่าง การเมืองไทยในช่วงที่รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีคลิปเสียงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ด้วยข้อกล่าวหาไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง หลังศาลมีคำสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จึงมีการแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรี 5 คน นำโดย นายภูมิธรรม เวชยะชัย รักษาราชการแทนนายกฯ มีอำนาจเต็มทั้งบริหารงาน และอนุมัติงบประมาณ ระหว่างรอศาลวินิจฉัยซึ่งคาดว่ากินเวลา 2-3 เดือน ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ก็อาศัยช่องว่างปฎิบัติหน้าที่ รมว.วัฒนธรรมแทน ส่วนพรรคฝ่ายค้าน หลังจากพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ในที่สุดได้ร่วมกับพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชน ผนึกกำลังรวมกัน 234 เสียง ประกอบด้วย พรรคประชาชน 142 เสียง พรรคภูมิใจไทย 69 เสียง (ไม่นับรวม สส.ที่มาจากพรรคอื่น 2 เสียง) พรรคพลังประชารัฐ 19 เสียง พรรคไทยสร้างไทย 1 เสียง และพรรคเป็นธรรม 1 เสียง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า การรวมตัวครั้งนี้เพื่อแสวงหาจุดร่วม ภายใต้สถานการณ์ของประเทศที่วิกฤตในปัจจุบัน และพรรคฝ่ายค้านมีบางอย่างที่ไม่เหมือนพรรคร่วมรัฐบาล จึงให้เกียรติซึ่งกันและกัน อะไรที่เป็นจุดยืนหรือข้อแตกต่างของพรรคฝ่ายค้านก็จะไม่ก้าวก่ายกัน ส่วนนายอนุทิน ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยจะปฎิบัติหน้าที่ในฐานะและบทบาทของการเป็นฝ่ายค้าน เพื่อตรวจสอบในสภาผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่ร่วมกันกับพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค เมื่อเช็กเสียงฝ่ายรัฐบาล พบว่ามี สส. 261 เสียง ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย 142 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคประชาธิปัตย์ 25 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคชาติพัฒนา 3 เสียง พรรคไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง (โหวตสวน) พรรคไทยก้าวหน้า 1 เสียง ที่น่าสนใจ คือ พรรคกล้าธรรม นอกจากมี สส.ในมือ 31 เสียงแล้ว ยังพบว่ามี สส. ที่ย้ายมาร่วมงาน จากพรรคประชาชน 1 เสียง พรรคพลังประชารัฐ 1 เสียง พรรคไทยสร้างไทย 3 เสียง แม้พรรคประชาชนจะดึงพรรคภูมิใจไทยเป็นฝ่ายค้าน แต่หากมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอีก จะต้องเป็นคนที่ประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี 2568 โดยจัดทำประชามติเรื่องการมี สสร.จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และอีกหลายหัวข้อ ท่ามกลางชะตากรรมของ น.ส.แพทองธารที่ยังต้องลุ้น และสังคมยังเคลือบแคลงสงสัยถึงท่าทีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เคยดีลลับกับนายทักษิณ ชินวัตรที่ฮ่องกงว่า ยังมองพรรคเพื่อไทยเป็นมิตรหรือไม่? #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 630 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ.

    ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล
    BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม!

    ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน

    แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต

    BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ!

    คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้

    NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ

    BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว!

    ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง

    “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์

    BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา!
    จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ

    ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป

    BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม!

    ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง

    ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น

    BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ!

    บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว!

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น

    BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย!

    นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์

    นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม

    BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก!

    ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา

    นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน

    BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม!

    NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา

    และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่

    BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้!

    ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง

    ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด

    บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก

    1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่

    2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์

    3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง

    4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น

    5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต

    6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ

    7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ

    8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต

    9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส

    11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน

    12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร

    13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ

    15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย

    17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง

    18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก

    19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

    20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง

    21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป

    22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด

    24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น


    25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว
    26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม

    27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA

    28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง

    29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย
    30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม

    ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่

    31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง

    บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ. ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม! ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ! คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้ NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว! ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์ BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา! จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม! ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ! บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว! นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย! นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก! ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม! NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่ BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้! ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก 1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่ 2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์ 3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง 4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น 5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต 6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ 7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ 8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต 9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ 10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส 11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน 12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร 13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ 14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ 15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ 16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย 17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง 18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก 19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ 20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง 21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป 22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ 23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด 24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น 25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว 26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม 27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA 28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง 29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย 30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่ 31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 835 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘แพทองธาร’ ควบ 2 เก้าอี้ หาช่องไม่โดนแช่แข็ง ย้อนเกล็ดศาล รธน.
    .
    ในที่สุดพรรคเพื่อไทยก็ได้จัดโผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการแล้ว เหลือขอแค่การประกาศออกมาเป็นทางการเท่านั้น ซึ่งมีประเด็นสำคัญ คือ กรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ตัดสินใจควบเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมอีกหนึ่งตำแหน่ง โดยโยกนางสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล จากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ไปดำรงตำแหน่ง รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งเป็นเก้าอี้เดิมของพรรคภูมิใจไทยที่ปัจจุบันปลิวไปเป็นฝ่ายค้านแล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000061744

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ‘แพทองธาร’ ควบ 2 เก้าอี้ หาช่องไม่โดนแช่แข็ง ย้อนเกล็ดศาล รธน. . ในที่สุดพรรคเพื่อไทยก็ได้จัดโผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการแล้ว เหลือขอแค่การประกาศออกมาเป็นทางการเท่านั้น ซึ่งมีประเด็นสำคัญ คือ กรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ตัดสินใจควบเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมอีกหนึ่งตำแหน่ง โดยโยกนางสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล จากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ไปดำรงตำแหน่ง รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งเป็นเก้าอี้เดิมของพรรคภูมิใจไทยที่ปัจจุบันปลิวไปเป็นฝ่ายค้านแล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000061744 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Angry
    Sad
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 531 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีเริ่มขั้นตอนถอนตัวออกจากสนธิสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) ปี 1997 ที่ห้ามมีการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยที่คำสั่งของเซเลนสกีปรากฏบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการแล้ว แม้ว่าจะมีผลบังคับใช้ทันที แต่การถอนตัวจะมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการภายในหกเดือนหลังจากที่สหประชาชาติได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการ


    สื่อยูเครนรายงานว่า การถอนตัวออกจากอนุสัญญานี้ได้มีการหารือกันแบบลับๆ ตั้งแต่ปี 2023 ร่วมกับพันธมิตร ซึ่งได้มีการอนุญาตให้ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของตนเองได้ และในที่สุดเซเลนสกีต้องการมากกว่านั้น จึงได้มีการลงนามในกฎหมายเพื่อทำให้เป็นทางการต่อไป

    ความมุ่งหวังของเซเลนสกีคือ ต้องการให้ยูเครนสามารถกลับมาผลิตทุ่นระเบิดดังกล่าวในประเทศได้อีกครั้งเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตทุ่นระเบิดดังกล่าว

    ขณะเซเลนสกี ให้ข้ออ้างต่อชาวยูเครนว่า รัสเซียก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอนุสัญญาฉบับดังกล่าวเช่นกัน

    .
    อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) ได้รับการรับรองในปี 1997 โดยมีจุดมุ่งหมายคือการรณรงค์ให้ทั่วโลกห้ามใช้ สะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Landmines: APLs) ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ไอซีอาร์ซี (International Committee of the Red Cross – ICRC) 


    ทุ่นระเบิดดังกล่าวมักจะทำให้เหยื่อนผู้เคราะห์มีความพิการ หรือคร่าชีวิตได้ทันที นอกจากนี้ ทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ยังถือเป็นอันตรายระยะยาวต่อชีวิตพลเรือนอรีกด้วย

    มี 160 ประเทศ ที่เข้าร่วมภาคีของอนุสัญญาออตตาวา แต่ทั้งสหรัฐอเมริกาและรัสเซียไม่ได้เข้าร่วม ส่วนยูเครนให้สัตยาบันรับรองเมื่อปี 2005

    เซเลนสกีเริ่มขั้นตอนถอนตัวออกจากสนธิสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) ปี 1997 ที่ห้ามมีการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยที่คำสั่งของเซเลนสกีปรากฏบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการแล้ว แม้ว่าจะมีผลบังคับใช้ทันที แต่การถอนตัวจะมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการภายในหกเดือนหลังจากที่สหประชาชาติได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการ สื่อยูเครนรายงานว่า การถอนตัวออกจากอนุสัญญานี้ได้มีการหารือกันแบบลับๆ ตั้งแต่ปี 2023 ร่วมกับพันธมิตร ซึ่งได้มีการอนุญาตให้ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของตนเองได้ และในที่สุดเซเลนสกีต้องการมากกว่านั้น จึงได้มีการลงนามในกฎหมายเพื่อทำให้เป็นทางการต่อไป ความมุ่งหวังของเซเลนสกีคือ ต้องการให้ยูเครนสามารถกลับมาผลิตทุ่นระเบิดดังกล่าวในประเทศได้อีกครั้งเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตทุ่นระเบิดดังกล่าว ขณะเซเลนสกี ให้ข้ออ้างต่อชาวยูเครนว่า รัสเซียก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอนุสัญญาฉบับดังกล่าวเช่นกัน . 👉อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) ได้รับการรับรองในปี 1997 โดยมีจุดมุ่งหมายคือการรณรงค์ให้ทั่วโลกห้ามใช้ สะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Landmines: APLs) ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ไอซีอาร์ซี (International Committee of the Red Cross – ICRC)  👉ทุ่นระเบิดดังกล่าวมักจะทำให้เหยื่อนผู้เคราะห์มีความพิการ หรือคร่าชีวิตได้ทันที นอกจากนี้ ทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ยังถือเป็นอันตรายระยะยาวต่อชีวิตพลเรือนอรีกด้วย 👉มี 160 ประเทศ ที่เข้าร่วมภาคีของอนุสัญญาออตตาวา แต่ทั้งสหรัฐอเมริกาและรัสเซียไม่ได้เข้าร่วม ส่วนยูเครนให้สัตยาบันรับรองเมื่อปี 2005
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนสูญเสียเครื่องบิน F-16 พร้อมนักบิน ระหว่างการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนขนาดใหญ่ของรัสเซียเมื่อคืนนี้ ในภูมิภาค Chernihiv ดินแดนยูเครน

    ในแถลงการณ์จากกองทัพอากาศยืนยันว่า เครื่องบิน F-16 ของพันโทมักซิม อุสติเมนโก (Maksym Ustymenko) วัย 32 ปี ได้รับความเสียหายขณะที่เขาพยายามยิงสกัดโดรนของรัสเซีย และสูญเสียการควบคุมทำให้ตกลงในที่สุด นักบินประจำไม่สามารถดีดตัวออกจากเครื่องบินได้ และเสียชีวิตในที่สุด

    เซเลนสกี กล่าวยอมรับถึงการสูญเสียชีวิตของนักบิน และเครื่องบิน F-16 ในครั้งนี้แล้ว

    ยังมีอีกรายงานของสื่อที่ระบุว่า เครื่องบิน F-16 ของกองทัพอากาศยูเครนอาจถูกยิงตกโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย หรืออาจจะเป็นเครื่องบิน Su-57 ซึ่งได้รับการระบุตำแหน่งโดยเครื่องบินตรวจการณ์ A-50
    ยูเครนสูญเสียเครื่องบิน F-16 พร้อมนักบิน ระหว่างการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนขนาดใหญ่ของรัสเซียเมื่อคืนนี้ ในภูมิภาค Chernihiv ดินแดนยูเครน ในแถลงการณ์จากกองทัพอากาศยืนยันว่า เครื่องบิน F-16 ของพันโทมักซิม อุสติเมนโก (Maksym Ustymenko) วัย 32 ปี ได้รับความเสียหายขณะที่เขาพยายามยิงสกัดโดรนของรัสเซีย และสูญเสียการควบคุมทำให้ตกลงในที่สุด นักบินประจำไม่สามารถดีดตัวออกจากเครื่องบินได้ และเสียชีวิตในที่สุด เซเลนสกี กล่าวยอมรับถึงการสูญเสียชีวิตของนักบิน และเครื่องบิน F-16 ในครั้งนี้แล้ว ยังมีอีกรายงานของสื่อที่ระบุว่า เครื่องบิน F-16 ของกองทัพอากาศยูเครนอาจถูกยิงตกโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย หรืออาจจะเป็นเครื่องบิน Su-57 ซึ่งได้รับการระบุตำแหน่งโดยเครื่องบินตรวจการณ์ A-50
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts