• ...สวัสดีค่ะ...Hello...again #โอมชัยยะชัยยะศรีคเณศายะนะมะหะ
    ...สวัสดีค่ะ...Hello...again #โอมชัยยะชัยยะศรีคเณศายะนะมะหะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • โอมมณีปัทเมฮุม 16ชั้นฟ้า 15ชั้นดิน เทพ อินทร์ พรหม ยักษ์ กราบขอความเมตตาบอกกล่าวถึงศาล (หลักเมือง) ช่วยจับปิศาจ ของบ้านเมือง ลงหม้อ ถ่วงลงอบายภูมิ ด้วยเทอญ
    โอมมณีปัทเมฮุม 16ชั้นฟ้า 15ชั้นดิน เทพ อินทร์ พรหม ยักษ์ กราบขอความเมตตาบอกกล่าวถึงศาล (หลักเมือง) ช่วยจับปิศาจ ของบ้านเมือง ลงหม้อ ถ่วงลงอบายภูมิ ด้วยเทอญ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยกให้เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่คุ้มสุดๆ อูนิไม่อั้น 𝗧𝗢𝗥𝗔 𝗬𝗮𝗸𝗶𝗻𝗶𝗸𝘂 𝘅 𝗖𝗮𝗳𝗲́ เป็นสายอาหารญี่ปุ่นที่ต้องห้ามพลาดเลย
    ที่รวมตัวท็อปๆไว้หมด ไม่ว่าจะะเป็นที่สุดของเนื้อ อย่างวากิว A5 ซูชิโอโทโร ฟัวกราส์ หรือแม้แต่ฮูนิ
    คุ้มสุดๆเลย มันฟิวคือเหมือนกินโอมากาเสะเลยนะ เพราะแต่ละเมนูเค้าพิถีพิถันมาโดยเฉพาะ เมนูมีหลายร้อนเมนูเลย

    - เนื้อวากิว A4 A5 วากิว Marble Score 9+
    - ซูชิอูนิ โอโทโร่ ชูโทโร่
    - โฮตาเตะ ฟัวกราส์ ฮามาจิ
    - Kagigori, TimberRing

    📍 TORA Yakiniku x Café
    #ร้านอาหารบรรยากาศดี #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    ยกให้เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่คุ้มสุดๆ อูนิไม่อั้น 𝗧𝗢𝗥𝗔 𝗬𝗮𝗸𝗶𝗻𝗶𝗸𝘂 𝘅 𝗖𝗮𝗳𝗲́ เป็นสายอาหารญี่ปุ่นที่ต้องห้ามพลาดเลย ที่รวมตัวท็อปๆไว้หมด ไม่ว่าจะะเป็นที่สุดของเนื้อ อย่างวากิว A5 ซูชิโอโทโร ฟัวกราส์ หรือแม้แต่ฮูนิ คุ้มสุดๆเลย มันฟิวคือเหมือนกินโอมากาเสะเลยนะ เพราะแต่ละเมนูเค้าพิถีพิถันมาโดยเฉพาะ เมนูมีหลายร้อนเมนูเลย - เนื้อวากิว A4 A5 วากิว Marble Score 9+ - ซูชิอูนิ โอโทโร่ ชูโทโร่ - โฮตาเตะ ฟัวกราส์ ฮามาจิ - Kagigori, TimberRing 📍 TORA Yakiniku x Café #ร้านอาหารบรรยากาศดี #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 1 รีวิว
  • #Thaitimes ควรต้องปรับปรุงให้ใส่คลิปวิดีโอมากกว่า 1 คลิปในโพสต์ และสำหรับในคอมเม้นต์ก็ควรให้ใส่คลิปวิดีโอได้
    #Thaitimes ควรต้องปรับปรุงให้ใส่คลิปวิดีโอมากกว่า 1 คลิปในโพสต์ และสำหรับในคอมเม้นต์ก็ควรให้ใส่คลิปวิดีโอได้
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 307 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณถูกหลอกมาตลอดเกี่ยวกับฟลูออไรด์หรือเปล่า?
    ไม่มีอะไรเทียบได้กับน้ำใสๆ เย็นๆ สักแก้วดับกระหายของคุณ แต่คราวหน้าที่คุณเปิดก๊อกน้ำ คุณอาจต้องการตั้งคำถามว่าจริงหรือไม่ น้ำนั้นเป็นพิษเกินกว่าจะดื่มได้ ถ้าน้ำของคุณมีฟลูออไรด์ผสมอยู่ คำตอบน่าจะเป็น "จริง" แม้ว่า "เจ้าหน้าที่" ด้านสุขภาพออกมาประกาศว่า "ปลอดภัย" และ "เป็นธรรมชาติ" ก็ไม่มีอะไรจะมากไปกว่าความจริงได้
    เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่เราได้รับคำโกหก คำโกหกที่นำไปสู่การเสียชีวิตของชาวอเมริกันหลายแสนคน และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงอีกหลายสิบล้านคน การโกหกนี้เรียกว่า "การผสมฟลูออไรด์" กระบวนการที่เราเชื่อว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการปกป้องฟันจากฟันผุ อันที่จริงแล้วเป็นการฉ้อโกง ในคำพูดของ Dr. Robert Carton อดีตนักวิทยาศาสตร์ของ EPA “ฟลูออไรด์เป็นกรณีที่ใหญ่ที่สุดของการฉ้อโกงทางวิทยาศาสตร์ของศตวรรษนี้ หรือไม่ก็ตลอดกาล”
    “กระบวนการปั่น” เริ่มต้นขึ้น
    ในปี ค.ศ. 1920 การผลิตอะลูมิเนียมซึ่งส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมกระป๋องที่กำลังเฟื่องฟู แต่ก็ยังเป็นผู้ผลิตขยะฟลูออไรด์ที่เป็นพิษรายใหญ่ ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ใหญ่ที่สุดคือค่าใช้จ่ายในการกำจัดของเสียอันตรายอย่างปลอดภัยซึ่งแพงมาก อุตสาหกรรมนี้จึงได้ทำการตลาดและขายของเสียที่เป็นพิษ (โซเดียมฟลูออไรด์) เพื่อใช้ผลิตเป็นยาฆ่าแมลงและยาฆ่าหนู แต่ทว่าพวกเขาต้องการตลาดที่ใหญ่กว่านั้น... มนุษย์ไง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีอุปสรรคอยู่เล็กน้อย
    ในวารสารสมาคมทันตกรรมอเมริกันวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1944 ADA เตือนว่า “โอกาสที่จะเกิดอันตราย (จากฟลูออไรด์) มีมากกว่าประโยชน์ในทางที่ดี” แต่ในปี 1947 Oscar R. Ewing (ซึ่งเป็นทนายความของ ALCOA มาเป็นเวลานาน) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้เขารับผิดชอบด้านบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา และแล้วภายใต้การนำของเขา แคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ระดับชาติจึงเริ่มต้นขึ้น
    นักยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์สำหรับแคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Edwin L. Bernays หลานชายของ Sigmund Freud หรือที่รู้จักในชื่อ "เจ้าพ่อแห่งการปั่น" Bernays เป็นผู้บุกเบิกการประยุกต์ใช้ทฤษฎีของ Freud มาใช้กับการโฆษณาและ "ความจริงครึ่งเดียวของรัฐบาล"
    ในหนังสือ "โฆษณาชวนเชื่อ" ของเขา Bernays ได้อ้างว่าความคิดเห็นสาธารณะซึ่งใช้วิทยาศาสตร์บงการเป็นกุญแจสำคัญ เขากล่าวว่า "คนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งมีอิทธิพลควบคุมจิตใจของสาธารณชน" แคมเปญฟลูออไรด์ของรัฐบาลเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยั่งยืนที่สุดของเขา
    เทคนิคของเบอร์เนย์นั้นเรียบง่าย แสร้งทำเป็นว่ามีงานวิจัยที่น่าพอใจโดยใช้วลีเช่น "การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็น ... " หรือ "การวิจัยพิสูจน์แล้ว ... " หรือ "ผู้วิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้พบ ... " (แต่ไม่เคยพูดอ้างอิงถึงสิ่งใดเลย) พูดให้นานพอและดังพอ แล้วในที่สุดผู้คนจะเชื่อมัน หากใครสงสัยหรือซักไซ้เรื่องโกหกนี้ ก็โจมตีหน้าที่การงานและ/หรือสติปัญญาของพวกเขา
    แล้ว "งานศึกษา" ล่ะ?
    ไม่มี "งานศึกษาทางวิทยาศาสตร์" ที่พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์ปลอดภัยเลยหรือ? ในช่วงทศวรรษที่ 1940 นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า ผู้คนจะมีสุขภาพฟันโดยรวมที่ดีขึ้น (โดยส่วนใหญ่เป็นฟันผุน้อยกว่า) หากพวกเขาอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีฟลูออรีนในระดับที่สูงขึ้นตามธรรมชาติ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ได้เกิดคำถามเรื่อง “การศึกษาวิจัย” และมีความกังวลอย่างมากว่าข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเพียงการประดิษฐ์ขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มีความผูกพันกับบริษัทที่มีส่วนได้เสียในการขายฟลูออไรด์ การปั้นแต่งข้อมูลในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวข้องกับสุขภาพ มีบริษัทจำนวนหนึ่งที่จะได้รับผลประโยชน์จากสุขภาพที่ย่ำแย่ของสาธารณชน
    ตรงกันข้ามกับความเห็นส่วนใหญ่ ฟลูออไรด์กลับไม่ได้หยุดฟันผุเลย จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์เป็นพิษต่อระบบประสาทและทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิด และโรคกระดูกพรุน ฟลูออไรด์ยังทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหารและระบบทางเดินหายใจ รวมถึงตับไตและสมอง และอาจนำไปสู่ความบกพร่องทางการเรียนรู้ ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีความบกพร่องในการอ่าน สมาธิสั้น และออทิสติก
    ในปี 2012 นักวิจัยของฮาร์วาร์ดรายงานว่าการศึกษา 26 จาก 27 ชิ้นที่พวกเขาทบทวนพบว่าไอคิวในวัยเด็กลดลงเมื่อความเข้มข้นของฟลูออไรด์เพิ่มขึ้น รายงานปี 2006 จากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติได้ทบทวนการศึกษาหลายร้อยชิ้นที่เชื่อมโยงน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับความเสียหายทางระบบประสาท ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ และ … ใช่แล้ว …. โรคมะเร็ง
    ในปี 1955 วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์รายงานว่าจำนวนผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์เพิ่มขึ้น 400% ในช่วงหลายปีหลังจากที่น้ำในซานฟรานซิสโกเริ่มได้รับการผสมฟลูออไรด์ ต่อมาในปี 1977 สภาคองเกรสได้สั่งให้หน่วยงานบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาดำเนินการศึกษาในสัตว์เพื่อพิจารณาว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดมะเร็งหรือไม่ หลังจากวิเคราะห์ผลการศึกษาในหนูแล้ว พบว่าหนูที่ดื่มน้ำฟลูออไรด์มีเนื้องอกและมะเร็งเพิ่มขึ้นในเซลล์สความัสในช่องปาก ก่อตัวเป็นรูปแบบที่พบได้ยากของมะเร็งกระดูกที่เรียกว่า osteosarcoma และพบว่ามีเนื้องอกในเซลล์ต่อมไทรอยด์ฟอลลิคูลาร์เพิ่มขึ้น
    การค้นพบที่สำคัญที่สุดคือการเกิดขึ้นของมะเร็งตับรูปแบบที่หายากมาก มะเร็งตับในหนูเพศผู้และเพศเมียที่ได้รับฟลูออไรด์ นอกจากนี้ในปี 1977 ยังแสดงให้เห็นว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งประมาณ 10,000 รายในการศึกษาทางระบาดวิทยาโดย Dr. Dean Burk อดีตหัวหน้าแผนกไซโตเคมี ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ Dr. John Yiamouyiannis แม้จะมีการค้นพบในปี 1977 แต่ก็ไม่ได้เต็มใจที่จะเปิดเผยจนกระทั่งปี 1989
    ในปี 2006 ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นักวิจัยระบุถึงความเชื่อมโยงระหว่างฟลูออไรด์กับ osteosarcoma การศึกษานี้นำโดย Dr. Elise Bassin และตีพิมพ์ออนไลน์ใน Cancer Causes and Control (วารสารทางการของศูนย์ป้องกันมะเร็งฮาร์วาร์ด) พบว่ามีความเชื่อมโยงอย่างมากระหว่างน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับ osteocarcoma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกที่หายากและมักเสียชีวิตในเด็กชาย การศึกษายืนยันโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) และแผนกสุขภาพของรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งพบอัตราการเกิดมะเร็งกระดูกที่เพิ่มขึ้นในเด็กผู้ชายที่ดื่มน้ำประปาที่มีฟลูออไรด์ ผลการวิจัยยืนยันผลการศึกษาของรัฐบาลก่อนหน้าในปี 1990 ที่เกี่ยวข้องกับหนูที่ได้รับฟลูออไรด์
    แต่ยังมีอีก...
    เมื่อเข้าไปในร่างกายของคุณ ฟลูออไรด์จะทำลายเอนไซม์ของคุณด้วยการเปลี่ยนรูปร่าง ร่างกายของคุณต้องอาศัยเอ็นไซม์หลายพันชนิดเพื่อทำปฏิกิริยาของเซลล์จำนวนมาก ถ้าไม่มีเอ็นไซม์ เราทุกคนคงตายกันหมด เอ็นไซม์เป็นเหมือนกุญแจที่เข้ากับระบบล็อคภายในเซลล์ของคุณ อย่างไรก็ตาม เมื่อฟลูออไรด์ทำลายรูปร่างของ "กุญแจ" มันจะไม่เข้ากับตัวล็อคอีกต่อไป และร่างกายของคุณไม่รู้จักเอ็นไซม์อีกต่อไป เอนไซม์ที่เสียหายเหล่านี้สามารถนำไปสู่การสลายคอลลาเจน ความเสียหายของดีเอ็นเอ ความเสียหายของเนื้อเยื่อ และการกดภูมิคุ้มกัน
    ในช่วงต้นปี 2010 มีเรื่องราวสองเรื่องในอินเดียเปิดเผยว่าเด็ก ๆ ตาบอดและพิการบางส่วน อันเป็นผลมาจากการเติมฟลูออไรด์ลงในน้ำดื่มของพวกเขา และในหมู่บ้าน Gaudiyan ของอินเดีย ประชากรมากกว่าครึ่งมีความผิดปกติของกระดูก ทำให้มีความพิการทางร่างกาย เด็กเกิดมาปกติดี แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มดื่มน้ำที่มีฟลูออไรด์ พวกเขาก็เริ่มมีความพิการที่มือและเท้า
    เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2010 นิตยสาร Time ระบุว่าฟลูออไรด์เป็นหนึ่งใน "สารพิษในครัวเรือน 10 อันดับแรก" และอธิบายว่าฟลูออไรด์ "เป็นพิษต่อระบบประสาทและอาจเกิดเนื้องอกได้หากกลืนเข้าไป" มีการบอกความจริงนี้ในเกือบทุกประเทศในโลก (รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย) มันผิดกฎหมายที่จะ "ให้ยาขนานใหญ่" กับประชากรทั้งหมดด้วยสารที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นพิษ
    ด้วยความจริงที่ว่าฟลูออไรด์สามารถสะสมในร่างกายได้ จึงเป็นเหตุให้กฎหมายแห่งสหรัฐอเมริกาได้กำหนดให้กรมการแพทย์ทหารตั้งค่า "ระดับสารปนเปื้อนสูงสุด" (MCL) สำหรับปริมาณฟลูออไรด์ในแหล่งน้ำสาธารณะตามที่ EPA กำหนด มันทำให้ผมสับสนจากการที่ทันตแพทย์ที่ถูกล้างสมองหลายพันคนประกาศอย่างภาคภูมิใจว่าฟลูออไรด์เป็น "สารอาหารมหัศจรรย์" ที่ป้องกันฟันผุและส่งเสริมสุขภาพฟันและเหงือก ผมขอตั้งคำถามหน่อยนะ สารพิษสะสมและผลิตภัณฑ์จากขยะพิษจะเรียกว่า “สารอาหาร” ได้อย่างไร
    เป็นความโชคร้าย หากคุณต้องใช้ชีวิตในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย หรือแคนาดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจในระดับสูง (มีความเป็นไปได้มากที่การผสมฟลูออไรด์ในน้ำจะเป็นเรื่องปกติ) หมายความว่ามีการตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพของคุณโดยที่คุณไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการนี้เลย
    จากเกือบ 320 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ประมาณ 72% บริโภคน้ำที่มีฟลูออไรด์อย่างสม่ำเสมอ และจากข้อมูลของ CDC รัฐทั้งหมด 50 รัฐ ได้ผสมฟลูออไรด์ลงในแหล่งน้ำ
    แล้วคุณจะทำอะไรได้บ้าง?
    การกรองแบบ Reverse Osmosis ถือว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดฟลูออไรด์ออกจากน้ำ เกลือฟลูออไรด์จะเข้าไปแทนที่ไอโอดีนซึ่งต่อมไทรอยด์จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน การเสริมไอโอดีนในอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ การเสริมด้วยอัตราส่วนแมกนีเซียมต่อแคลเซียมสูงจะให้แร่ธาตุที่ช่วยขจัดฟลูออไรด์ นอกจากนี้ วิตามิน K2 ที่สกัดจากเอนไซม์ในถั่วเน่าญี่ปุ่น ยังช่วยป้องกันการกลายเป็นหินปูนฟลูออไรด์ในอวัยวะที่มีเนื้อเยื่ออ่อน เช่น หลอดเลือดแดงและสมอง
    ใช่แล้ว... อีกอย่างที่คุณทำได้คือหยุดใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ คุณเคยอ่านฉลากหรือไม่? ผมแนะนำให้คุณอ่านซะ ในปี 1997 องค์การอาหารและยาได้สั่งให้ผู้ผลิตยาสีฟันเพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับพิษจากยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ทั้งหมดที่จำหน่ายในสหรัฐฯ คำเตือนดังกล่าวระบุว่าควรเก็บให้ห่างจากเด็ก ผมสงสัยว่าเพราะเหตุใดกัน อาจเป็นเพราะถ้าเด็กเล็กกินยาสีฟันทั้งหลอด ปริมาณเท่านี้อาจทำให้ถึงตายได้!
    บทสรุป
    ในช่วงต้นปี 2010 มีภูเขาไฟระเบิดขนาดใหญ่ในประเทศไอซ์แลนด์ สัตว์ในไอซ์แลนด์ตอนใต้มีความเสี่ยงที่จะเป็นพิษจากฟลูออไรด์ หากพวกมันสูดดมหรือกลืนกินเถ้าจากการปะทุ พิษจากฟลูออไรด์สามารถนำไปสู่การมีเลือดออกภายใน ความเสียหายของกระดูกในระยะยาว และการสูญเสียฟัน ตามข่าวบีบีซี (19 เมษายน 2010): "ฟลูออไรด์ในเถ้าสร้างกรดในกระเพาะของสัตว์ กัดกร่อนลำไส้และทำให้เลือดออก นอกจากนี้ยังจับกับแคลเซียมในกระแสเลือดและหลังจากได้รับสารหนักในช่วงเวลาหลายวันทำให้กระดูกเปราะบางแม้กระทั่งทำให้ฟันผุ" คนส่วนใหญ่ไม่เคย "เชื่อมโยงจุดต่างๆ" ระหว่างพิษอันน่าสลดใจของสัตว์เหล่านี้อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ทางธรรมชาติ กับพิษของมนุษย์จากการได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปในแต่ละวัน
    มีงานศึกษาซึ่งทบทวนโดยคณะผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 500 ชิ้นที่บันทึกถึงผลข้างเคียงของฟลูออไรด์ตั้งแต่มะเร็งไปจนถึงความเสียหายต่อสมอง แต่ถึงกระนั้น เขตเทศบาลต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาก็ซื้อผลิตภัณฑ์นี้จริงๆ แล้วหยดลงในแหล่งน้ำสาธารณะ Dr. Charles G. Heyd อดีตประธานของ AMA กล่าวว่า "ผมรู้สึกตกใจที่ได้เห็นการใช้น้ำเป็นพาหนะส่งยา ฟลูออไรด์เป็นสารพิษกัดกร่อนซึ่งจะส่งผลร้ายแรงในระยะยาว ความพยายามใดๆ ที่จะใช้น้ำในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่น่าประณาม"
    ระบบมันเสียหายไปแล้ว ระบบการดูแลสุขภาพของเรา อุตสาหกรรมยา รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล สื่อของเรา และแม้แต่ภาคเทคโนโลยีล้วนได้รับความเสียหาย เรากำลังอยู่ในระหว่างสงครามข้อมูล โดยมีการปกปิดและการเซ็นเซอร์ในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ชมตัวอย่างสารคดีชุดใหม่ของเรา: PROPAGANDA EXPOSED! ค้นพบความจริงที่ Big Pharma และ Mainstream Media ไม่ต้องการให้คุณเห็น ดูฟรี 100%… และอาจช่วยชีวิตคุณได้
    https://go.propaganda-exposed.com/?a_bid=f9f117e3...
    ผู้เขียน : Ty Bollinger
    ‼ รวมลิสต์รายชื่อยี่ห้อยาสีฟันที่ไม่มี ❌สารฟลูaaไรด์❌ โดยโค๊ชนาตาลี
    🦷 1. ยาสีฟัน Doctor V (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี)
    🦷 2. ยาสีฟัน Grants Of Australia
    🦷 3. ยาสีฟัน Sparkle White (ทุกรุ่น)
    🦷 4. ยาสีฟันเอมไทย (AimThai)
    🦷 5. ยาสีฟันน้ำมันมะพร้าว (Tropicana)
    🦷 6. ยาสีฟันสมุนไพรโครงการหลวง เฮอร์เบิลทูธเพสท์
    🦷 7. ยาสีฟัน Curaprox (Enzycal Zero)
    🦷 8. ยาสีฟัน ยาสีฟันโคโค่เมท (Cocomate toothpaste)
    🦷 9. ยาสีฟันก๊กเลี้ยง (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี สังเกตฝากล่องด้านใน)
    🦷 10. ยาสีเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 11. ยาสีฟันดอกบัวคู่ (แก้ไข สูตรดั้งเดิม,สูตรเซนซิที,สูตรเกลือสมุนไพร,สูตรเฟรชแอนด์คูล = ไม่มี สูตรเอเวอร์เฟรชและสูตรฟ้าทลายโจร = มี)
    🦷 12. ยาสีฟันสมุนไพรวาซ Wazz
    🦷 13. ยาสีฟันใจฟ้า
    🦷 14. ยาสีฟัน Dentiste (แค่บางรุ่น ควรอ่านฉลากก่อนซื้อ)
    🦷 15. ยาสีฟัน Thieves Young Living
    🦷 16. ยาสีฟัน Mama's Choice สูตรธรรมชาติ
    🦷 17. ยาสีฟันเพียวรีน (Pureen Maternity Toothpaste)
    🦷 18. ยาสีฟันเด็กเพียวรีน Pureen kids (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 19. ยาสีฟันเด็กเอมไทย กรีน คิดส์ ออร์แกนิค (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 20. ยาสีฟันเด็ก Mama's Choice (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 21. ยาสีฟันเด็ก ดอกบัวคู่คิด (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 22. ยาสีฟันเจสัน Jason Since 1956
    🦷 23. ยาสีฟันซองวิเศษนิยม (มีในร้านสะดวกซื้อ)
    🦷 24. ยาสีฟันสมุนไพรทิพย์นิยม
    🦷 25. ยาสีฟันวันเดอร์สไมล์ (Wonder Smile)
    🦷 26. ยาสีฟันเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 27. ยาสีฟันเทโซโร่ เฟรช
    🦷 28. ยาสีฟันไอวิศน์ (IVISN)
    🦷 29. ยาสีฟันนกไทย 5 ดาว 4A สูตรดั้งเดิม
    ขอเพิ่มเติม
    🦷 30.ยาสีฟันคอลบาเด้นท์ (Kolbadent)
    🦷 31. ยาสีฟันพาโรดอนแทกซ์ (Parodontax)
    🦷 32. ยาสีฟันเดนตาเมท (Denta mate)
    🦷 33. เกลือสีฟันทรีออร์คิดส์
    🦷 34. ยาสีฟัน Sante ของอ.สันติ มาะดี(หมอนอกกะลา)
    🦷 35. ยาสีฟันรุ่งอรุณ
    🦷 36. ยาสีฟันไบโอมิเนอรัลส์
    (ยี่ห้อนี้ต้องขอขอบคุณครับดร.(ผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง) ที่มาช่วยกิจกรรมกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้เคลื่อนไหวช่วยคนไทยในการจัดกิจกรรม แอดไลน์ด้วย QR Code ในภาพเมื่อท่านแจ้งแอดมินตอนสั่งซื้อว่ามาจากกลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ กำไรจะถูกหักเข้ากองทุนสำหรับกิจกรรมกลุ่ม)
    เป็นต้น
    https://youtube.com/shorts/cj_brYDAlBM?si=waEMU4F2I0-CWcny
    ขอบคุณเจ้าของบทความต่างๆ
    คุณถูกหลอกมาตลอดเกี่ยวกับฟลูออไรด์หรือเปล่า? ไม่มีอะไรเทียบได้กับน้ำใสๆ เย็นๆ สักแก้วดับกระหายของคุณ แต่คราวหน้าที่คุณเปิดก๊อกน้ำ คุณอาจต้องการตั้งคำถามว่าจริงหรือไม่ น้ำนั้นเป็นพิษเกินกว่าจะดื่มได้ ถ้าน้ำของคุณมีฟลูออไรด์ผสมอยู่ คำตอบน่าจะเป็น "จริง" แม้ว่า "เจ้าหน้าที่" ด้านสุขภาพออกมาประกาศว่า "ปลอดภัย" และ "เป็นธรรมชาติ" ก็ไม่มีอะไรจะมากไปกว่าความจริงได้ เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่เราได้รับคำโกหก คำโกหกที่นำไปสู่การเสียชีวิตของชาวอเมริกันหลายแสนคน และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงอีกหลายสิบล้านคน การโกหกนี้เรียกว่า "การผสมฟลูออไรด์" กระบวนการที่เราเชื่อว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการปกป้องฟันจากฟันผุ อันที่จริงแล้วเป็นการฉ้อโกง ในคำพูดของ Dr. Robert Carton อดีตนักวิทยาศาสตร์ของ EPA “ฟลูออไรด์เป็นกรณีที่ใหญ่ที่สุดของการฉ้อโกงทางวิทยาศาสตร์ของศตวรรษนี้ หรือไม่ก็ตลอดกาล” “กระบวนการปั่น” เริ่มต้นขึ้น ในปี ค.ศ. 1920 การผลิตอะลูมิเนียมซึ่งส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมกระป๋องที่กำลังเฟื่องฟู แต่ก็ยังเป็นผู้ผลิตขยะฟลูออไรด์ที่เป็นพิษรายใหญ่ ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ใหญ่ที่สุดคือค่าใช้จ่ายในการกำจัดของเสียอันตรายอย่างปลอดภัยซึ่งแพงมาก อุตสาหกรรมนี้จึงได้ทำการตลาดและขายของเสียที่เป็นพิษ (โซเดียมฟลูออไรด์) เพื่อใช้ผลิตเป็นยาฆ่าแมลงและยาฆ่าหนู แต่ทว่าพวกเขาต้องการตลาดที่ใหญ่กว่านั้น... มนุษย์ไง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีอุปสรรคอยู่เล็กน้อย ในวารสารสมาคมทันตกรรมอเมริกันวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1944 ADA เตือนว่า “โอกาสที่จะเกิดอันตราย (จากฟลูออไรด์) มีมากกว่าประโยชน์ในทางที่ดี” แต่ในปี 1947 Oscar R. Ewing (ซึ่งเป็นทนายความของ ALCOA มาเป็นเวลานาน) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้เขารับผิดชอบด้านบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา และแล้วภายใต้การนำของเขา แคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ระดับชาติจึงเริ่มต้นขึ้น นักยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์สำหรับแคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Edwin L. Bernays หลานชายของ Sigmund Freud หรือที่รู้จักในชื่อ "เจ้าพ่อแห่งการปั่น" Bernays เป็นผู้บุกเบิกการประยุกต์ใช้ทฤษฎีของ Freud มาใช้กับการโฆษณาและ "ความจริงครึ่งเดียวของรัฐบาล" ในหนังสือ "โฆษณาชวนเชื่อ" ของเขา Bernays ได้อ้างว่าความคิดเห็นสาธารณะซึ่งใช้วิทยาศาสตร์บงการเป็นกุญแจสำคัญ เขากล่าวว่า "คนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งมีอิทธิพลควบคุมจิตใจของสาธารณชน" แคมเปญฟลูออไรด์ของรัฐบาลเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยั่งยืนที่สุดของเขา เทคนิคของเบอร์เนย์นั้นเรียบง่าย แสร้งทำเป็นว่ามีงานวิจัยที่น่าพอใจโดยใช้วลีเช่น "การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็น ... " หรือ "การวิจัยพิสูจน์แล้ว ... " หรือ "ผู้วิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้พบ ... " (แต่ไม่เคยพูดอ้างอิงถึงสิ่งใดเลย) พูดให้นานพอและดังพอ แล้วในที่สุดผู้คนจะเชื่อมัน หากใครสงสัยหรือซักไซ้เรื่องโกหกนี้ ก็โจมตีหน้าที่การงานและ/หรือสติปัญญาของพวกเขา แล้ว "งานศึกษา" ล่ะ? ไม่มี "งานศึกษาทางวิทยาศาสตร์" ที่พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์ปลอดภัยเลยหรือ? ในช่วงทศวรรษที่ 1940 นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า ผู้คนจะมีสุขภาพฟันโดยรวมที่ดีขึ้น (โดยส่วนใหญ่เป็นฟันผุน้อยกว่า) หากพวกเขาอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีฟลูออรีนในระดับที่สูงขึ้นตามธรรมชาติ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ได้เกิดคำถามเรื่อง “การศึกษาวิจัย” และมีความกังวลอย่างมากว่าข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเพียงการประดิษฐ์ขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มีความผูกพันกับบริษัทที่มีส่วนได้เสียในการขายฟลูออไรด์ การปั้นแต่งข้อมูลในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวข้องกับสุขภาพ มีบริษัทจำนวนหนึ่งที่จะได้รับผลประโยชน์จากสุขภาพที่ย่ำแย่ของสาธารณชน ตรงกันข้ามกับความเห็นส่วนใหญ่ ฟลูออไรด์กลับไม่ได้หยุดฟันผุเลย จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์เป็นพิษต่อระบบประสาทและทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิด และโรคกระดูกพรุน ฟลูออไรด์ยังทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหารและระบบทางเดินหายใจ รวมถึงตับไตและสมอง และอาจนำไปสู่ความบกพร่องทางการเรียนรู้ ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีความบกพร่องในการอ่าน สมาธิสั้น และออทิสติก ในปี 2012 นักวิจัยของฮาร์วาร์ดรายงานว่าการศึกษา 26 จาก 27 ชิ้นที่พวกเขาทบทวนพบว่าไอคิวในวัยเด็กลดลงเมื่อความเข้มข้นของฟลูออไรด์เพิ่มขึ้น รายงานปี 2006 จากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติได้ทบทวนการศึกษาหลายร้อยชิ้นที่เชื่อมโยงน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับความเสียหายทางระบบประสาท ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ และ … ใช่แล้ว …. โรคมะเร็ง ในปี 1955 วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์รายงานว่าจำนวนผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์เพิ่มขึ้น 400% ในช่วงหลายปีหลังจากที่น้ำในซานฟรานซิสโกเริ่มได้รับการผสมฟลูออไรด์ ต่อมาในปี 1977 สภาคองเกรสได้สั่งให้หน่วยงานบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาดำเนินการศึกษาในสัตว์เพื่อพิจารณาว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดมะเร็งหรือไม่ หลังจากวิเคราะห์ผลการศึกษาในหนูแล้ว พบว่าหนูที่ดื่มน้ำฟลูออไรด์มีเนื้องอกและมะเร็งเพิ่มขึ้นในเซลล์สความัสในช่องปาก ก่อตัวเป็นรูปแบบที่พบได้ยากของมะเร็งกระดูกที่เรียกว่า osteosarcoma และพบว่ามีเนื้องอกในเซลล์ต่อมไทรอยด์ฟอลลิคูลาร์เพิ่มขึ้น การค้นพบที่สำคัญที่สุดคือการเกิดขึ้นของมะเร็งตับรูปแบบที่หายากมาก มะเร็งตับในหนูเพศผู้และเพศเมียที่ได้รับฟลูออไรด์ นอกจากนี้ในปี 1977 ยังแสดงให้เห็นว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งประมาณ 10,000 รายในการศึกษาทางระบาดวิทยาโดย Dr. Dean Burk อดีตหัวหน้าแผนกไซโตเคมี ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ Dr. John Yiamouyiannis แม้จะมีการค้นพบในปี 1977 แต่ก็ไม่ได้เต็มใจที่จะเปิดเผยจนกระทั่งปี 1989 ในปี 2006 ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นักวิจัยระบุถึงความเชื่อมโยงระหว่างฟลูออไรด์กับ osteosarcoma การศึกษานี้นำโดย Dr. Elise Bassin และตีพิมพ์ออนไลน์ใน Cancer Causes and Control (วารสารทางการของศูนย์ป้องกันมะเร็งฮาร์วาร์ด) พบว่ามีความเชื่อมโยงอย่างมากระหว่างน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับ osteocarcoma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกที่หายากและมักเสียชีวิตในเด็กชาย การศึกษายืนยันโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) และแผนกสุขภาพของรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งพบอัตราการเกิดมะเร็งกระดูกที่เพิ่มขึ้นในเด็กผู้ชายที่ดื่มน้ำประปาที่มีฟลูออไรด์ ผลการวิจัยยืนยันผลการศึกษาของรัฐบาลก่อนหน้าในปี 1990 ที่เกี่ยวข้องกับหนูที่ได้รับฟลูออไรด์ แต่ยังมีอีก... เมื่อเข้าไปในร่างกายของคุณ ฟลูออไรด์จะทำลายเอนไซม์ของคุณด้วยการเปลี่ยนรูปร่าง ร่างกายของคุณต้องอาศัยเอ็นไซม์หลายพันชนิดเพื่อทำปฏิกิริยาของเซลล์จำนวนมาก ถ้าไม่มีเอ็นไซม์ เราทุกคนคงตายกันหมด เอ็นไซม์เป็นเหมือนกุญแจที่เข้ากับระบบล็อคภายในเซลล์ของคุณ อย่างไรก็ตาม เมื่อฟลูออไรด์ทำลายรูปร่างของ "กุญแจ" มันจะไม่เข้ากับตัวล็อคอีกต่อไป และร่างกายของคุณไม่รู้จักเอ็นไซม์อีกต่อไป เอนไซม์ที่เสียหายเหล่านี้สามารถนำไปสู่การสลายคอลลาเจน ความเสียหายของดีเอ็นเอ ความเสียหายของเนื้อเยื่อ และการกดภูมิคุ้มกัน ในช่วงต้นปี 2010 มีเรื่องราวสองเรื่องในอินเดียเปิดเผยว่าเด็ก ๆ ตาบอดและพิการบางส่วน อันเป็นผลมาจากการเติมฟลูออไรด์ลงในน้ำดื่มของพวกเขา และในหมู่บ้าน Gaudiyan ของอินเดีย ประชากรมากกว่าครึ่งมีความผิดปกติของกระดูก ทำให้มีความพิการทางร่างกาย เด็กเกิดมาปกติดี แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มดื่มน้ำที่มีฟลูออไรด์ พวกเขาก็เริ่มมีความพิการที่มือและเท้า เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2010 นิตยสาร Time ระบุว่าฟลูออไรด์เป็นหนึ่งใน "สารพิษในครัวเรือน 10 อันดับแรก" และอธิบายว่าฟลูออไรด์ "เป็นพิษต่อระบบประสาทและอาจเกิดเนื้องอกได้หากกลืนเข้าไป" มีการบอกความจริงนี้ในเกือบทุกประเทศในโลก (รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย) มันผิดกฎหมายที่จะ "ให้ยาขนานใหญ่" กับประชากรทั้งหมดด้วยสารที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นพิษ ด้วยความจริงที่ว่าฟลูออไรด์สามารถสะสมในร่างกายได้ จึงเป็นเหตุให้กฎหมายแห่งสหรัฐอเมริกาได้กำหนดให้กรมการแพทย์ทหารตั้งค่า "ระดับสารปนเปื้อนสูงสุด" (MCL) สำหรับปริมาณฟลูออไรด์ในแหล่งน้ำสาธารณะตามที่ EPA กำหนด มันทำให้ผมสับสนจากการที่ทันตแพทย์ที่ถูกล้างสมองหลายพันคนประกาศอย่างภาคภูมิใจว่าฟลูออไรด์เป็น "สารอาหารมหัศจรรย์" ที่ป้องกันฟันผุและส่งเสริมสุขภาพฟันและเหงือก ผมขอตั้งคำถามหน่อยนะ สารพิษสะสมและผลิตภัณฑ์จากขยะพิษจะเรียกว่า “สารอาหาร” ได้อย่างไร เป็นความโชคร้าย หากคุณต้องใช้ชีวิตในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย หรือแคนาดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจในระดับสูง (มีความเป็นไปได้มากที่การผสมฟลูออไรด์ในน้ำจะเป็นเรื่องปกติ) หมายความว่ามีการตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพของคุณโดยที่คุณไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการนี้เลย จากเกือบ 320 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ประมาณ 72% บริโภคน้ำที่มีฟลูออไรด์อย่างสม่ำเสมอ และจากข้อมูลของ CDC รัฐทั้งหมด 50 รัฐ ได้ผสมฟลูออไรด์ลงในแหล่งน้ำ แล้วคุณจะทำอะไรได้บ้าง? การกรองแบบ Reverse Osmosis ถือว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดฟลูออไรด์ออกจากน้ำ เกลือฟลูออไรด์จะเข้าไปแทนที่ไอโอดีนซึ่งต่อมไทรอยด์จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน การเสริมไอโอดีนในอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ การเสริมด้วยอัตราส่วนแมกนีเซียมต่อแคลเซียมสูงจะให้แร่ธาตุที่ช่วยขจัดฟลูออไรด์ นอกจากนี้ วิตามิน K2 ที่สกัดจากเอนไซม์ในถั่วเน่าญี่ปุ่น ยังช่วยป้องกันการกลายเป็นหินปูนฟลูออไรด์ในอวัยวะที่มีเนื้อเยื่ออ่อน เช่น หลอดเลือดแดงและสมอง ใช่แล้ว... อีกอย่างที่คุณทำได้คือหยุดใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ คุณเคยอ่านฉลากหรือไม่? ผมแนะนำให้คุณอ่านซะ ในปี 1997 องค์การอาหารและยาได้สั่งให้ผู้ผลิตยาสีฟันเพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับพิษจากยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ทั้งหมดที่จำหน่ายในสหรัฐฯ คำเตือนดังกล่าวระบุว่าควรเก็บให้ห่างจากเด็ก ผมสงสัยว่าเพราะเหตุใดกัน อาจเป็นเพราะถ้าเด็กเล็กกินยาสีฟันทั้งหลอด ปริมาณเท่านี้อาจทำให้ถึงตายได้! บทสรุป ในช่วงต้นปี 2010 มีภูเขาไฟระเบิดขนาดใหญ่ในประเทศไอซ์แลนด์ สัตว์ในไอซ์แลนด์ตอนใต้มีความเสี่ยงที่จะเป็นพิษจากฟลูออไรด์ หากพวกมันสูดดมหรือกลืนกินเถ้าจากการปะทุ พิษจากฟลูออไรด์สามารถนำไปสู่การมีเลือดออกภายใน ความเสียหายของกระดูกในระยะยาว และการสูญเสียฟัน ตามข่าวบีบีซี (19 เมษายน 2010): "ฟลูออไรด์ในเถ้าสร้างกรดในกระเพาะของสัตว์ กัดกร่อนลำไส้และทำให้เลือดออก นอกจากนี้ยังจับกับแคลเซียมในกระแสเลือดและหลังจากได้รับสารหนักในช่วงเวลาหลายวันทำให้กระดูกเปราะบางแม้กระทั่งทำให้ฟันผุ" คนส่วนใหญ่ไม่เคย "เชื่อมโยงจุดต่างๆ" ระหว่างพิษอันน่าสลดใจของสัตว์เหล่านี้อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ทางธรรมชาติ กับพิษของมนุษย์จากการได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปในแต่ละวัน มีงานศึกษาซึ่งทบทวนโดยคณะผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 500 ชิ้นที่บันทึกถึงผลข้างเคียงของฟลูออไรด์ตั้งแต่มะเร็งไปจนถึงความเสียหายต่อสมอง แต่ถึงกระนั้น เขตเทศบาลต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาก็ซื้อผลิตภัณฑ์นี้จริงๆ แล้วหยดลงในแหล่งน้ำสาธารณะ Dr. Charles G. Heyd อดีตประธานของ AMA กล่าวว่า "ผมรู้สึกตกใจที่ได้เห็นการใช้น้ำเป็นพาหนะส่งยา ฟลูออไรด์เป็นสารพิษกัดกร่อนซึ่งจะส่งผลร้ายแรงในระยะยาว ความพยายามใดๆ ที่จะใช้น้ำในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่น่าประณาม" ระบบมันเสียหายไปแล้ว ระบบการดูแลสุขภาพของเรา อุตสาหกรรมยา รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล สื่อของเรา และแม้แต่ภาคเทคโนโลยีล้วนได้รับความเสียหาย เรากำลังอยู่ในระหว่างสงครามข้อมูล โดยมีการปกปิดและการเซ็นเซอร์ในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ชมตัวอย่างสารคดีชุดใหม่ของเรา: PROPAGANDA EXPOSED! ค้นพบความจริงที่ Big Pharma และ Mainstream Media ไม่ต้องการให้คุณเห็น ดูฟรี 100%… และอาจช่วยชีวิตคุณได้ https://go.propaganda-exposed.com/?a_bid=f9f117e3... ผู้เขียน : Ty Bollinger ‼ รวมลิสต์รายชื่อยี่ห้อยาสีฟันที่ไม่มี ❌สารฟลูaaไรด์❌ โดยโค๊ชนาตาลี 🦷 1. ยาสีฟัน Doctor V (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี) 🦷 2. ยาสีฟัน Grants Of Australia 🦷 3. ยาสีฟัน Sparkle White (ทุกรุ่น) 🦷 4. ยาสีฟันเอมไทย (AimThai) 🦷 5. ยาสีฟันน้ำมันมะพร้าว (Tropicana) 🦷 6. ยาสีฟันสมุนไพรโครงการหลวง เฮอร์เบิลทูธเพสท์ 🦷 7. ยาสีฟัน Curaprox (Enzycal Zero) 🦷 8. ยาสีฟัน ยาสีฟันโคโค่เมท (Cocomate toothpaste) 🦷 9. ยาสีฟันก๊กเลี้ยง (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี สังเกตฝากล่องด้านใน) 🦷 10. ยาสีเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒 🦷 11. ยาสีฟันดอกบัวคู่ (แก้ไข สูตรดั้งเดิม,สูตรเซนซิที,สูตรเกลือสมุนไพร,สูตรเฟรชแอนด์คูล = ไม่มี สูตรเอเวอร์เฟรชและสูตรฟ้าทลายโจร = มี) 🦷 12. ยาสีฟันสมุนไพรวาซ Wazz 🦷 13. ยาสีฟันใจฟ้า 🦷 14. ยาสีฟัน Dentiste (แค่บางรุ่น ควรอ่านฉลากก่อนซื้อ) 🦷 15. ยาสีฟัน Thieves Young Living 🦷 16. ยาสีฟัน Mama's Choice สูตรธรรมชาติ 🦷 17. ยาสีฟันเพียวรีน (Pureen Maternity Toothpaste) 🦷 18. ยาสีฟันเด็กเพียวรีน Pureen kids (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 19. ยาสีฟันเด็กเอมไทย กรีน คิดส์ ออร์แกนิค (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 20. ยาสีฟันเด็ก Mama's Choice (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 21. ยาสีฟันเด็ก ดอกบัวคู่คิด (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 22. ยาสีฟันเจสัน Jason Since 1956 🦷 23. ยาสีฟันซองวิเศษนิยม (มีในร้านสะดวกซื้อ) 🦷 24. ยาสีฟันสมุนไพรทิพย์นิยม 🦷 25. ยาสีฟันวันเดอร์สไมล์ (Wonder Smile) 🦷 26. ยาสีฟันเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒 🦷 27. ยาสีฟันเทโซโร่ เฟรช 🦷 28. ยาสีฟันไอวิศน์ (IVISN) 🦷 29. ยาสีฟันนกไทย 5 ดาว 4A สูตรดั้งเดิม ขอเพิ่มเติม 🦷 30.ยาสีฟันคอลบาเด้นท์ (Kolbadent) 🦷 31. ยาสีฟันพาโรดอนแทกซ์ (Parodontax) 🦷 32. ยาสีฟันเดนตาเมท (Denta mate) 🦷 33. เกลือสีฟันทรีออร์คิดส์ 🦷 34. ยาสีฟัน Sante ของอ.สันติ มาะดี(หมอนอกกะลา) 🦷 35. ยาสีฟันรุ่งอรุณ 🦷 36. ยาสีฟันไบโอมิเนอรัลส์ (ยี่ห้อนี้ต้องขอขอบคุณครับดร.(ผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง) ที่มาช่วยกิจกรรมกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้เคลื่อนไหวช่วยคนไทยในการจัดกิจกรรม แอดไลน์ด้วย QR Code ในภาพเมื่อท่านแจ้งแอดมินตอนสั่งซื้อว่ามาจากกลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ กำไรจะถูกหักเข้ากองทุนสำหรับกิจกรรมกลุ่ม) เป็นต้น https://youtube.com/shorts/cj_brYDAlBM?si=waEMU4F2I0-CWcny ขอบคุณเจ้าของบทความต่างๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 547 มุมมอง 0 รีวิว
  • Liverpool กำลังติดตามดูฟอร์มของแนวรุกรายใหม่ เพื่อที่จะคว้าตัวมาเสริมความแข็งแกร่ง และให้ความสนใจ คือ ไบรอัน เอ็มบูโม่ ของ เบรนท์ฟอร์ด และ อองตวน เซเมนโย่ ของ บอร์นมัธ

    ส่วนโอมาร์ มาร์มูช ของ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ไม่ได้อยู่ในเป้าหมายแต่อย่างใด

    Source: Lyall Thomas-Sky Sports News
    Liverpool กำลังติดตามดูฟอร์มของแนวรุกรายใหม่ เพื่อที่จะคว้าตัวมาเสริมความแข็งแกร่ง และให้ความสนใจ คือ ไบรอัน เอ็มบูโม่ ของ เบรนท์ฟอร์ด และ อองตวน เซเมนโย่ ของ บอร์นมัธ ส่วนโอมาร์ มาร์มูช ของ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ไม่ได้อยู่ในเป้าหมายแต่อย่างใด Source: Lyall Thomas-Sky Sports News
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • คลิปวิดีโอมาล่ะ!
    ทหารรับจ้างต่างชาติซึ่งเป็นพลเมืองชาวอเมริกัน โปแลนด์ และแคนาดา ที่ทำงานภายใต้กองทัพยูเครน หลังจากพยายามบุกเข้าไปในดินแดนรัสเซียในทิศทางภูมิภาค Bryansk
    ทั้งหมดถูกกำจัด! ตามนโยบายของปูติน
    คลิปวิดีโอมาล่ะ! ทหารรับจ้างต่างชาติซึ่งเป็นพลเมืองชาวอเมริกัน โปแลนด์ และแคนาดา ที่ทำงานภายใต้กองทัพยูเครน หลังจากพยายามบุกเข้าไปในดินแดนรัสเซียในทิศทางภูมิภาค Bryansk ทั้งหมดถูกกำจัด! ตามนโยบายของปูติน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 47 0 รีวิว
  • อิหร่านเผยเตรียมเข้าร่วมการซ้อมรบทางทะเลร่วมกันครั้งแรกกับซาอุดีอาระเบียในทะเลแดง

    ผู้บัญชาการกองทัพเรืออิหร่านกล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียแสดงความสนใจในการซ้อมรบร่วมทางกองทัพเรือ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่มุ่งเสริมสร้างความร่วมมือในภูมิภาค โดยทั้งสองประเทศส่งคำเชิญซึ่งกันและกันเกี่ยวกับการปรากฏตัวของพวกเขาในท่าเรือ

    พลจัตวาเตอกี อัล-มัลกี(Turki al-Malki) โฆษกกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบียกล่าวยืนยันว่า "กองทัพเรือซาอุดีอาระเบียเพิ่งสรุปการซ้อมรบทางทะเลร่วมกับกองทัพเรืออิหร่านและประเทศอื่นๆ ในทะเลโอมาน"

    อิหร่านและซาอุดีอาระเบียตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกันมาเป็นเวลาแปดปีหลังจากทางการซาอุดิอาระเบียลงโทษประหารชีวิต "ชีค นิมร์ อัล-นิมร์" นักการศาสนานิกายชีอะห์วัย 56 ปี ซึ่งซาอุดิอาระเบียเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐบาลของตนเองเมื่อปี 2559 นั้น

    ต่อมาในเดือนเมษายน 2566 ทั้งสองประเทศประกาศฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตโดยมีผลทันทีในกรุงปักกิ่ง หลังจากการประชุมอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างนักการทูตระดับสูงของทั้งสองประเทศในรอบกว่า 7 ปี
    อิหร่านเผยเตรียมเข้าร่วมการซ้อมรบทางทะเลร่วมกันครั้งแรกกับซาอุดีอาระเบียในทะเลแดง ผู้บัญชาการกองทัพเรืออิหร่านกล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียแสดงความสนใจในการซ้อมรบร่วมทางกองทัพเรือ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่มุ่งเสริมสร้างความร่วมมือในภูมิภาค โดยทั้งสองประเทศส่งคำเชิญซึ่งกันและกันเกี่ยวกับการปรากฏตัวของพวกเขาในท่าเรือ พลจัตวาเตอกี อัล-มัลกี(Turki al-Malki) โฆษกกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบียกล่าวยืนยันว่า "กองทัพเรือซาอุดีอาระเบียเพิ่งสรุปการซ้อมรบทางทะเลร่วมกับกองทัพเรืออิหร่านและประเทศอื่นๆ ในทะเลโอมาน" อิหร่านและซาอุดีอาระเบียตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกันมาเป็นเวลาแปดปีหลังจากทางการซาอุดิอาระเบียลงโทษประหารชีวิต "ชีค นิมร์ อัล-นิมร์" นักการศาสนานิกายชีอะห์วัย 56 ปี ซึ่งซาอุดิอาระเบียเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐบาลของตนเองเมื่อปี 2559 นั้น ต่อมาในเดือนเมษายน 2566 ทั้งสองประเทศประกาศฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตโดยมีผลทันทีในกรุงปักกิ่ง หลังจากการประชุมอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างนักการทูตระดับสูงของทั้งสองประเทศในรอบกว่า 7 ปี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • ซาอุดีอาระเบีย เป็นชาติแรกในการประณามอิสราเอลจากการโจมตีอิหร่าน

    แอลจีเรีย กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโอมาน ยังออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงตามมาอีกด้วย เพื่อแสดงถึงความสามัคคีกับพี่น้องชาวอิหร่าน
    ซาอุดีอาระเบีย เป็นชาติแรกในการประณามอิสราเอลจากการโจมตีอิหร่าน แอลจีเรีย กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโอมาน ยังออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงตามมาอีกด้วย เพื่อแสดงถึงความสามัคคีกับพี่น้องชาวอิหร่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลิเวอร์พูลอาจจะทำการพิจารณาในการเซ็นสัญญากับ โอมาร์ มาร์มูช กองหน้าจาก ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต มาร่วมทีมในช่วงเดือนมกราคมนี้

    Source: Ekrem KONUR-CaughtOffside
    ลิเวอร์พูลอาจจะทำการพิจารณาในการเซ็นสัญญากับ โอมาร์ มาร์มูช กองหน้าจาก ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต มาร่วมทีมในช่วงเดือนมกราคมนี้ Source: Ekrem KONUR-CaughtOffside
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • สืบเชื้อสายกันมาเลย ทาน-ทิม-ทั้ม โอมาน ลวงให้โลกรัก
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ตั้ม
    #ตั้ม71แก้ว
    สืบเชื้อสายกันมาเลย ทาน-ทิม-ทั้ม โอมาน ลวงให้โลกรัก #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #ตั้ม #ตั้ม71แก้ว
    Haha
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 416 มุมมอง 0 รีวิว
  • แมคโดนัลด์ ดิ้นรนจำกัดความเสียหายจากการแพร่ระบาดของเชื้ออีโคไล ที่เชื่อมโยงกับแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ ซึ่งแผ่ลามไปทั่วสหรัฐฯ คร่าชีวิตผู้บริโภคแล้ว 1 ราย และล้มป่วยอีกเกือบ 50 คน ในขณะที่พวกเขาตัดสินใจถอดเมนูดังกล่าวออกจากสาขาต่างๆ ในหลายสิบรัฐ
    .
    การระบาดทำให้ผู้คนล้มป่วยทั่วภูมิภาคทางตะวันตก และตะวันตกตอนกลางของสหรัฐฯ โดยในบรรดาผู้ป่วยเกือบ 50 คนนั้น มีอยู่ 10 รายที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล สืบเนื่องจากอาการแทรกซ้อนรุนแรง อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนการแพร่ระบาด ขณะที่โฆษกของแมคโดนัลด์ ยืนยันว่าการแพร่ระบาดจำกัดวงอยู่เฉพาะในอเมริกาเท่านั้น
    .
    ในบรรดาผู้ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น รวมไปถึงเด็กรายหนึ่งที่มีอาการฮีโมไลติกยูรีมิก (hemolytic uremic syndrome) เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดขนาดเล็กในไตได้รับความเสียหาย หรือเกิดการอักเสบจนอาจเป็นเหตุให้เกิดลิ่มเลือดภายในเส้นเลือด
    .
    "เราคาดหมายว่าจะพบเห็นเคสผู้ป่วยเพิ่มเติม" ทอม สคินเนอร์ โฆษกของซีดีซีระบุ "แมคโดนัลด์ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในการเข้าจัดการ และหวังว่ามันจะช่วยป้องกันเคสต่างๆ ได้มากมายเท่าที่จะเป็นไปได้"
    .
    เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) หน่วยงานสาธารณสุขแห่งนี้ออกคำแนะนำว่าบุคคลใดที่รับประทานแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ และมีอาการต่างๆ ของพิษเชื้ออีโคไล เช่น ท้องเสียง มีไข้สูงกว่า 38.9 องศาเซลเซียส และอาเจียนให้รีบไปพบแพทย์ในทันที
    .
    ปกติแล้วอาการต่างๆ เหล่านี้จะเริ่มขึ้น 3 ถึง 4 วันหลังจากติดเชื้อ และคนส่วนใหญ่จะฟื้นไข้ได้เองภายใน 5 ถึง 7 วัน โดยไม่ต้องรับการรักษาใดๆ อย่างไรก็ตาม มีบางเคสที่อาจมีอาการรุนแรงและจำเป็นต้องเข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาล
    .
    ก่อนหน้านี้ การแพร่ระบาดของเชื้ออีโคไล ณ บรรดาเครือข่ายอาหารฟาสต์ฟูดใหญ่ๆ ในสหรัฐฯ เคยเป็นเหตุให้ผู้บริโภคหมางเมินเครือข่ายร้านฟาสต์ฟูดเหล่านั้นเป็นเวลาหลายเดือน ในเรื่องนี้ทาง โจ เออร์ลินเกอร์ ประธานภูมิภาคอเมริกา ของแมคโดนัลด์ ยอมรับในวันพุธ (23 ต.ค.) ว่าพวกเขาจำเป็นต้องฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชน หลังถอดเมนูดังกล่าวออกจากสาขาต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ ประมาณ 1 ใน 5 จากทั้งหมด 14,000 สาขา
    .
    บริษัทถอดแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ ออกจากสาขาต่างๆ ของแมคโดนัลด์ ในรัฐโคโลราโด แคนซัส ยูทาห์ และไวโอมิง และในบางพื้นที่ในไอดาโฮ ไอโอวา มิสซูรี มอนแทนา เนบราสกา เนวาดา นิวเม็กซิโกและโอคลาโฮมา
    .
    ซีดีซี และแมคโดนัลด์กำลังดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มข้นบรรดาซัปพลายเออร์ทั้งหลายของบริษัท ที่เป็นผู้ป้อนหัวหอมหั่นและเนื้อบด ในความพยายามสรุปถึงสาเหตุของการแพร่ระบาด
    .
    เชื้ออีโคไลสายพันธุ์ O157:H7 ที่นำมาซึ่งการแพร่ระบาดในแมคโดนัลด์ เป็นสายพันธุ์เดียวกับที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเครือข่ายร้านฟาสต์ฟูดแจ็คอินเดอะบ็อกซ์เมื่อปี 1993 ที่คราวนั้นคร่าชีวิตเด็กไป 4 ราย มันสามารถก่อการติดเชื้ออาการรุนแรงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนชรา เด็กและบุคคลที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผิดปกติ
    .
    โฆษกของแมคโดนัลด์ อ้างว่าบรรดาซัปพลายเออร์ของแมคโดนัลด์ ได้มีการทดสอบผลิตภัณฑ์ของตนเองบ่อยครั้ง และในนั้นรวมถึงในตอนที่ทางซีดีซีระบุว่าเป็นช่วงเวลาของการแพร่ระบาด และไม่พบเชื้ออีโคไลในผลิตภันฑ์เหล่านั้นแต่อย่างใด
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นบีซีในวันพุธ (23 ต.ค.) เออร์ลินเกอร์ เน้นย้ำว่าทางบริษัทได้ใช้มาตรการต่างๆ อย่างรวดเร็วในการถอดแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ ออกจากเมนู ในพื้่นที่ต่างๆ ที่การแพร่ระบาดเกิดขึ้น "สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ลำดับความสำคัญของเราคือเสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคอเมริกา"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102309
    ..............
    Sondhi X
    แมคโดนัลด์ ดิ้นรนจำกัดความเสียหายจากการแพร่ระบาดของเชื้ออีโคไล ที่เชื่อมโยงกับแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ ซึ่งแผ่ลามไปทั่วสหรัฐฯ คร่าชีวิตผู้บริโภคแล้ว 1 ราย และล้มป่วยอีกเกือบ 50 คน ในขณะที่พวกเขาตัดสินใจถอดเมนูดังกล่าวออกจากสาขาต่างๆ ในหลายสิบรัฐ . การระบาดทำให้ผู้คนล้มป่วยทั่วภูมิภาคทางตะวันตก และตะวันตกตอนกลางของสหรัฐฯ โดยในบรรดาผู้ป่วยเกือบ 50 คนนั้น มีอยู่ 10 รายที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล สืบเนื่องจากอาการแทรกซ้อนรุนแรง อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนการแพร่ระบาด ขณะที่โฆษกของแมคโดนัลด์ ยืนยันว่าการแพร่ระบาดจำกัดวงอยู่เฉพาะในอเมริกาเท่านั้น . ในบรรดาผู้ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น รวมไปถึงเด็กรายหนึ่งที่มีอาการฮีโมไลติกยูรีมิก (hemolytic uremic syndrome) เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดขนาดเล็กในไตได้รับความเสียหาย หรือเกิดการอักเสบจนอาจเป็นเหตุให้เกิดลิ่มเลือดภายในเส้นเลือด . "เราคาดหมายว่าจะพบเห็นเคสผู้ป่วยเพิ่มเติม" ทอม สคินเนอร์ โฆษกของซีดีซีระบุ "แมคโดนัลด์ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในการเข้าจัดการ และหวังว่ามันจะช่วยป้องกันเคสต่างๆ ได้มากมายเท่าที่จะเป็นไปได้" . เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) หน่วยงานสาธารณสุขแห่งนี้ออกคำแนะนำว่าบุคคลใดที่รับประทานแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ และมีอาการต่างๆ ของพิษเชื้ออีโคไล เช่น ท้องเสียง มีไข้สูงกว่า 38.9 องศาเซลเซียส และอาเจียนให้รีบไปพบแพทย์ในทันที . ปกติแล้วอาการต่างๆ เหล่านี้จะเริ่มขึ้น 3 ถึง 4 วันหลังจากติดเชื้อ และคนส่วนใหญ่จะฟื้นไข้ได้เองภายใน 5 ถึง 7 วัน โดยไม่ต้องรับการรักษาใดๆ อย่างไรก็ตาม มีบางเคสที่อาจมีอาการรุนแรงและจำเป็นต้องเข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาล . ก่อนหน้านี้ การแพร่ระบาดของเชื้ออีโคไล ณ บรรดาเครือข่ายอาหารฟาสต์ฟูดใหญ่ๆ ในสหรัฐฯ เคยเป็นเหตุให้ผู้บริโภคหมางเมินเครือข่ายร้านฟาสต์ฟูดเหล่านั้นเป็นเวลาหลายเดือน ในเรื่องนี้ทาง โจ เออร์ลินเกอร์ ประธานภูมิภาคอเมริกา ของแมคโดนัลด์ ยอมรับในวันพุธ (23 ต.ค.) ว่าพวกเขาจำเป็นต้องฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชน หลังถอดเมนูดังกล่าวออกจากสาขาต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ ประมาณ 1 ใน 5 จากทั้งหมด 14,000 สาขา . บริษัทถอดแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ ออกจากสาขาต่างๆ ของแมคโดนัลด์ ในรัฐโคโลราโด แคนซัส ยูทาห์ และไวโอมิง และในบางพื้นที่ในไอดาโฮ ไอโอวา มิสซูรี มอนแทนา เนบราสกา เนวาดา นิวเม็กซิโกและโอคลาโฮมา . ซีดีซี และแมคโดนัลด์กำลังดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มข้นบรรดาซัปพลายเออร์ทั้งหลายของบริษัท ที่เป็นผู้ป้อนหัวหอมหั่นและเนื้อบด ในความพยายามสรุปถึงสาเหตุของการแพร่ระบาด . เชื้ออีโคไลสายพันธุ์ O157:H7 ที่นำมาซึ่งการแพร่ระบาดในแมคโดนัลด์ เป็นสายพันธุ์เดียวกับที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเครือข่ายร้านฟาสต์ฟูดแจ็คอินเดอะบ็อกซ์เมื่อปี 1993 ที่คราวนั้นคร่าชีวิตเด็กไป 4 ราย มันสามารถก่อการติดเชื้ออาการรุนแรงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนชรา เด็กและบุคคลที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผิดปกติ . โฆษกของแมคโดนัลด์ อ้างว่าบรรดาซัปพลายเออร์ของแมคโดนัลด์ ได้มีการทดสอบผลิตภัณฑ์ของตนเองบ่อยครั้ง และในนั้นรวมถึงในตอนที่ทางซีดีซีระบุว่าเป็นช่วงเวลาของการแพร่ระบาด และไม่พบเชื้ออีโคไลในผลิตภันฑ์เหล่านั้นแต่อย่างใด . ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นบีซีในวันพุธ (23 ต.ค.) เออร์ลินเกอร์ เน้นย้ำว่าทางบริษัทได้ใช้มาตรการต่างๆ อย่างรวดเร็วในการถอดแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ ออกจากเมนู ในพื้่นที่ต่างๆ ที่การแพร่ระบาดเกิดขึ้น "สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ลำดับความสำคัญของเราคือเสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคอเมริกา" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102309 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Angry
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1845 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22/10/67


    หาดห้าสี อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา สตูล # อุทยานธรณีสตูล

    เป็นหาดเล็กๆ หน้าหาดหันเข้าหาอ่าวละงู ตะวันตกเขาโต๊ะหงาย บนหาดทรายเล็กๆนั้นมีกลุ่มก้อนหินสี อยู่บนชายหาดอย่างละลานตา เป็นหินสีแดง ฟ้า เหลือง ขาว ดำ หินพวกนี้มาจากไหน?

    หินสีแดง มาจากหินภูเขาโต๊ะหงาย เป็นหินทรายเก่าแก่ในยุคแคมเบรียน อายุ.....๕๔๒- ๔๘๘ ล้านปี ซึ่งภูเขาโต๊ะหงายทางด้านตะวันตกเป็นหินนี้เกือบทั้งหมด

    หินสีฟ้า เป็นหินปูนยุคออโดวิเชียนอายุ ๔๘๘-๔๔๔ ซึ่งก็ต่อจากยุคแคมแบรียนนั่นเอง หินปูนนี้จะอยู่ฝั่งตะวันออกของเขาโต๊ะหงาย

    ส่วนสีขาว และดำ น่าจะเป็นเหมือนกรวด สีดำนั้นคล้ายบนหาดหินงาม

    ทุกก้อนกลม มน คิดว่าคงจะถูกคลื่นพัดพาขัดสีกันจนเป็นลักษณะมน พอมาอยู่รวมกันบนหาด มันเลย
    เหมือนสลิ่ม คละสี

    เป็นความมหัศจรรย์ทางธรณีที่น่าสนใจมาก
    ใครจะถ่ายรูป แนะให้มาตอนเย็น แดดจะเข้าทางตะวันตกพอดี แล้วดูพระอาทิตย์ตกด้วยรูปจะสวยกว่านี้

    ## ที่สำคัญ ต้องย้ำกันเลยว่า...อย่าเอาหินพวกนี้ไปนะ...มันเป็นสมบัติของประเทศชาติ อย่าเอาไปครอบครองส่วนตัว เก็บไว้ให้คนอื่นได้ดูและชื่นชมร่วมกัน เก็บเอาไปไว้ที่บ้าน มันจะเป็นแค่ก้อนหินธรรมดา แต่เมื่อมันอยู่บนหาด มันคือหาดห้าสีที่สวยงามของไทย หาไม่ได้ง่ายๆในโลก ควรช่วยกันเก็บรักษา ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอมา ไม่มีใครว่าอะไร​
    22/10/67 หาดห้าสี อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา สตูล # อุทยานธรณีสตูล เป็นหาดเล็กๆ หน้าหาดหันเข้าหาอ่าวละงู ตะวันตกเขาโต๊ะหงาย บนหาดทรายเล็กๆนั้นมีกลุ่มก้อนหินสี อยู่บนชายหาดอย่างละลานตา เป็นหินสีแดง ฟ้า เหลือง ขาว ดำ หินพวกนี้มาจากไหน? หินสีแดง มาจากหินภูเขาโต๊ะหงาย เป็นหินทรายเก่าแก่ในยุคแคมเบรียน อายุ.....๕๔๒- ๔๘๘ ล้านปี ซึ่งภูเขาโต๊ะหงายทางด้านตะวันตกเป็นหินนี้เกือบทั้งหมด หินสีฟ้า เป็นหินปูนยุคออโดวิเชียนอายุ ๔๘๘-๔๔๔ ซึ่งก็ต่อจากยุคแคมแบรียนนั่นเอง หินปูนนี้จะอยู่ฝั่งตะวันออกของเขาโต๊ะหงาย ส่วนสีขาว และดำ น่าจะเป็นเหมือนกรวด สีดำนั้นคล้ายบนหาดหินงาม ทุกก้อนกลม มน คิดว่าคงจะถูกคลื่นพัดพาขัดสีกันจนเป็นลักษณะมน พอมาอยู่รวมกันบนหาด มันเลย เหมือนสลิ่ม คละสี เป็นความมหัศจรรย์ทางธรณีที่น่าสนใจมาก ใครจะถ่ายรูป แนะให้มาตอนเย็น แดดจะเข้าทางตะวันตกพอดี แล้วดูพระอาทิตย์ตกด้วยรูปจะสวยกว่านี้ ## ที่สำคัญ ต้องย้ำกันเลยว่า...อย่าเอาหินพวกนี้ไปนะ...มันเป็นสมบัติของประเทศชาติ อย่าเอาไปครอบครองส่วนตัว เก็บไว้ให้คนอื่นได้ดูและชื่นชมร่วมกัน เก็บเอาไปไว้ที่บ้าน มันจะเป็นแค่ก้อนหินธรรมดา แต่เมื่อมันอยู่บนหาด มันคือหาดห้าสีที่สวยงามของไทย หาไม่ได้ง่ายๆในโลก ควรช่วยกันเก็บรักษา ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอมา ไม่มีใครว่าอะไร​
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุดท้ายแล้ว 'บอสพอล' คือผู้ชนะตัวจริง
    //////

    ข่าวล่าสุดวันนี้

    "พบเส้นทางเงินผิดปกติกว่า 247,911,936 USDT มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาท ถูกโอนออกไปก่อนที่ 'โค๊ชแล็ป่ ดิไอคอน จะถูกจับเพียง 1 ชั่วโมง"

    ตอนนี้มันชัดแล้วว่า "เกมดูดทรัพย์" จากแชร์ลูกโซ่แสนล้าน The Icon เกมนี้ บอสพอลคือผู้ชนะตัวจริง แบบ Winner Takes All (ชนะแบบกินรวบคนเดียว)

    เงินเหรียญคริปโตมูลค่าแปดฟันกว่าล้านที่หายไปในความมืดนี้ คือเครื่องพิสูจน์อย่างชัดแจ้งที่สุดว่า ...

    ● แชร์ลูกโซ่ The Icon วงนี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น หนึ่งแสนล้านบาท มิใช่หมื่นล้านดังที่บอสพอลเจตนาปล่อยข้อมูลลวงผ่านการให้สัมภาษณ์ในรายการ The Standard ก่อนถูกจับ

    ● ข้อมูล "จ่ายส่วยหมื่นล้าน" ที่บอสพอลให้คนออกมาปล่อยข้อมูลนี้แก่กลุ่มทนายจิตอาสา น่าจะเป็นเรื่องจริงแน่นอน

    ● ที่ประเมินกันว่า เกมนี้บอสพอลน่าจะ "ดูดทรัพย์" ไปคนเดียวสองหมื่นล้าน จึงมีเค้าว่าน่าจะจริงเช่นกัน

    ........

    จากข่าวนี้ยังงั้นก็แสดงว่าบริษัท The Icon นี้เปิดมาเพื่อฟอกเงิน และทำแชร์ลูกโซ่อีกส่วนหนึ่งด้วยใช่หรือไม่?

    ผมคิดว่าบอสพอลน่าจะทำแชร์ลูกโซ่แล้วฟอกเงินเพื่อส่งส่วย กับเตรียมเอาไปใช้เสพสุขหลังพ้นคดีแล้วมากกว่านะ

    อันที่จริงทั้งหมดอยู่ในแผนการใหญ่ของบอสพอลตั้งแต่แรกแล้วละ รวมทั้งการยอมถูกจับดำเนินคดีด้วย

    ตอนนี้บอสพอลจึง 'นิ่ง' มากกว่าใครในบรรดาบอส 18 คนทั้งหมดที่โดนดำเนินคดี

    "การยอมตกเป็นผู้ต้องหา" คือ ห่วงโซ่ข้อที่สำคัญที่สุดในแผนการใหญ่ของบอสพอลที่เขาวางไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนริเริ่มขบวนการแชร์ลูกโซ่ The Icon เมื่อหกปีก่อน

    วินาทีนี้ ตัวบอสพอลเองรู้แน่ชัดแล้วว่า ตัวเขาคือ 'ผู้ชนะตัวจริง' ของเกมนี้โดยที่ทั้งหมดเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้แต่แรก

    แผนก่อนหน้าของบอสพอลประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ...
    เมื่อบอสพอลหันมาว่าจ้างพวก 'บอสดารา' อย่างทุ่มไม่อั้น เพื่อเพิ่มจำนวนรายชื่อคนที่สมัครมาเป็นดีลเลอร์รายละ 250,000 อย่างก้าวกระโดด โดยที่บุคคลเหล่านั้นได้ถูกทำให้เป็น 'บัญชีม้า' ของบริษัทไปแบบไม่รู้ตัว

    ตอนนั้นพวก 'บอสดาราหน้าโง่' ที่ถูกบอสพอลหลอกใช้ ล้วนหลงดีใจกระดี๊กระด๊ามีความสุข เพราะเห็นตัวเลขยอดขายและลูกข่ายพุ่งขี้นตลอด

    โดยหารู้ไม่ว่า คนที่ยิ้มกริ่มจริง ๆ ก็คือตัวบอสพอล
    เพราะการว่าจ้างพวกบอสดาราหน้าโง่ค่าตัวแพงเหล่านี้ มันสามารถช่วยอายุต่อเกมดูดทรัพย์-แชร์ลูกโซ่วงนี้ได้อีกสองปี แถมยังดูดทรัพย์เพิ่มขึ้นอีกหลายหมื่นล้านจนแชร์ลูกโซ่วงนี้ทะลุแสนล้านได้ในที่สุด

    เพราะพวกบอสดาราหน้าโง่พวกนี้แท้ ๆ จึงทำให้บอสพอลได้ รายชื่อ (เหยื่อ) มาฟรี ๆ อีกสามแสนกว่าคน ทั้งยังได้ฟอกเงินแปลงเป็นเหรียญคริปโตอีกสามหมื่นกว่าล้าน

    เรียกว่า winner takes all สุด ๆ ...คือทำให้บอสพอลกินรวบจนพุงกาง อิ่มสุด ๆ

    ถ้าผมเป็นบอสพอล กลยุทธ์ต่อจากนี้ของผมคือ กลยุทธ์ "เตมีย์ใบ้" ทำให้สังคมค่อย ๆ ลืมเลือนตัวตนและเรื่องราวของเขา จนหายไปจากความทรงจำของสังคมและผู้คน โดยปล่อยให้ 'บอสกันต์' รับบาปแทนไปเต็ม ๆ คนเดียว

    บอสพอลเล็งเป้าไปที่ 'บอสกันต์' ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ที่จะให้ "รับบาปแทนตัวเอง" เพราะบอสพอลศึกษาพฤติกรรมในอดีตจนเข้าใจตัวตนของบอสกันต์อย่างทะลุปรุโปร่งว่า ชายคนนี้ทั้งกร่าง ทั้งละโมบ ทั้งหิวแสง และชอบอวดตัวตน บอสพอลจึงตั้งใจ "ปรนเปรอ" บอสกันต์อย่างไม่อั้น
    จน 'บอสกันต์' ติดกับดักของ 'บอสพอล' อย่างดิ้นไม่หลุด

    ตอนนี้บอสพอลน่าจะนั่งยิ้มเยาะ "พวกหน้าโง่ทั้งหลายในโซเชียล" ที่หันไปรุมถล่มสมน้ำหน้า "บอสกันต์" แถมด้วย "บอสวอ" ที่โดนลูกหลง

    คนพวกนี้ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า พวกตนถูกจมูงจมูกโดยพวกไอโอที่เป็นสมุนรับจ้างของบอสพอล ให้คอยยุแหย่ ปล่อยข่าวเบี่ยงเบนความสนใจของกระแสโซเชียลให้ฟุ่งเป้าความหมั่นไส้และใส่ใจทั้งปวงไปที่ "บอสกันต์" แทน

    "พวกหน้าโง่พวกนี้ มันไม่มีวันตามหมากของกูทันหรอก เพราะพวกมันมีสติปัญญาแค่เสพสารที่พวกกูคอยป้อนให้พวกมันอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น"

    การจ้างไอโอมืออาชีพเพื่อให้ทำหน้าที่เบี่ยงเบนกระแสโจมตีไปจากตัวเอง คือห่วงโซ่อีกข้อหนึ่งที่ 'บอสพอล' ยอมทุ่มเงินทอง โดยจ่ายเงินมัดจำก้อนโตไปแล้วก่อนหน้านี้

    ผมจะไม่แปลกใจเลยหากตอนนี้ 'บอสพอล' กำลังยิ้มเยาะอย่างลำพองอยู่ในใจคนเดียวในห้องคุมขัง ... เพราะนี่คือส่วนหนึ่งของแผน 'ปิดเกม' (end game) ของเขาตั้งแต่แรก

    จุดสำคัญคือ ปปง.จะอายัดทรัพย์สิน The Icon ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเงินอย่างน้อยเกือบสองหมื่นล้านน่าจะหายเข้ากลีบเมฆในรูปของเหรียญคริปโตไปแล้ว

    เงินชดเชยที่ผู้เสียหายจะได้รับคืน ถ้าได้ถึง 10% ก็บุญโขแล้วละ

    เนื่องจากเรื่องนี้มี "อำนาจมืด" ผู้รับส่วยจากบอสพอลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในเชิงลึก สุดท้ายทางการคงปล่อยให้พวกบอสดารารับกรรมกันไป ส่วน 'บอสพอล' คงลอยนวลหลังจากติดคุกพอเป็นพิธีเท่านั้น

    นี่คือข้อตกลงลับที่ 'บอสพอล' น่าจะได้รับมาตั้งแต่สามสี่ปีที่แล้ว

    โลกแห่งความเป็นจริงมันก็เป็นเช่นนี้แหละ

    ~ สุวินัย ภรณวลัย
    Suvinai Pornavalai
    สุดท้ายแล้ว 'บอสพอล' คือผู้ชนะตัวจริง ////// ข่าวล่าสุดวันนี้ "พบเส้นทางเงินผิดปกติกว่า 247,911,936 USDT มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาท ถูกโอนออกไปก่อนที่ 'โค๊ชแล็ป่ ดิไอคอน จะถูกจับเพียง 1 ชั่วโมง" ตอนนี้มันชัดแล้วว่า "เกมดูดทรัพย์" จากแชร์ลูกโซ่แสนล้าน The Icon เกมนี้ บอสพอลคือผู้ชนะตัวจริง แบบ Winner Takes All (ชนะแบบกินรวบคนเดียว) เงินเหรียญคริปโตมูลค่าแปดฟันกว่าล้านที่หายไปในความมืดนี้ คือเครื่องพิสูจน์อย่างชัดแจ้งที่สุดว่า ... ● แชร์ลูกโซ่ The Icon วงนี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น หนึ่งแสนล้านบาท มิใช่หมื่นล้านดังที่บอสพอลเจตนาปล่อยข้อมูลลวงผ่านการให้สัมภาษณ์ในรายการ The Standard ก่อนถูกจับ ● ข้อมูล "จ่ายส่วยหมื่นล้าน" ที่บอสพอลให้คนออกมาปล่อยข้อมูลนี้แก่กลุ่มทนายจิตอาสา น่าจะเป็นเรื่องจริงแน่นอน ● ที่ประเมินกันว่า เกมนี้บอสพอลน่าจะ "ดูดทรัพย์" ไปคนเดียวสองหมื่นล้าน จึงมีเค้าว่าน่าจะจริงเช่นกัน ........ จากข่าวนี้ยังงั้นก็แสดงว่าบริษัท The Icon นี้เปิดมาเพื่อฟอกเงิน และทำแชร์ลูกโซ่อีกส่วนหนึ่งด้วยใช่หรือไม่? ผมคิดว่าบอสพอลน่าจะทำแชร์ลูกโซ่แล้วฟอกเงินเพื่อส่งส่วย กับเตรียมเอาไปใช้เสพสุขหลังพ้นคดีแล้วมากกว่านะ อันที่จริงทั้งหมดอยู่ในแผนการใหญ่ของบอสพอลตั้งแต่แรกแล้วละ รวมทั้งการยอมถูกจับดำเนินคดีด้วย ตอนนี้บอสพอลจึง 'นิ่ง' มากกว่าใครในบรรดาบอส 18 คนทั้งหมดที่โดนดำเนินคดี "การยอมตกเป็นผู้ต้องหา" คือ ห่วงโซ่ข้อที่สำคัญที่สุดในแผนการใหญ่ของบอสพอลที่เขาวางไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนริเริ่มขบวนการแชร์ลูกโซ่ The Icon เมื่อหกปีก่อน วินาทีนี้ ตัวบอสพอลเองรู้แน่ชัดแล้วว่า ตัวเขาคือ 'ผู้ชนะตัวจริง' ของเกมนี้โดยที่ทั้งหมดเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้แต่แรก แผนก่อนหน้าของบอสพอลประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ... เมื่อบอสพอลหันมาว่าจ้างพวก 'บอสดารา' อย่างทุ่มไม่อั้น เพื่อเพิ่มจำนวนรายชื่อคนที่สมัครมาเป็นดีลเลอร์รายละ 250,000 อย่างก้าวกระโดด โดยที่บุคคลเหล่านั้นได้ถูกทำให้เป็น 'บัญชีม้า' ของบริษัทไปแบบไม่รู้ตัว ตอนนั้นพวก 'บอสดาราหน้าโง่' ที่ถูกบอสพอลหลอกใช้ ล้วนหลงดีใจกระดี๊กระด๊ามีความสุข เพราะเห็นตัวเลขยอดขายและลูกข่ายพุ่งขี้นตลอด โดยหารู้ไม่ว่า คนที่ยิ้มกริ่มจริง ๆ ก็คือตัวบอสพอล เพราะการว่าจ้างพวกบอสดาราหน้าโง่ค่าตัวแพงเหล่านี้ มันสามารถช่วยอายุต่อเกมดูดทรัพย์-แชร์ลูกโซ่วงนี้ได้อีกสองปี แถมยังดูดทรัพย์เพิ่มขึ้นอีกหลายหมื่นล้านจนแชร์ลูกโซ่วงนี้ทะลุแสนล้านได้ในที่สุด เพราะพวกบอสดาราหน้าโง่พวกนี้แท้ ๆ จึงทำให้บอสพอลได้ รายชื่อ (เหยื่อ) มาฟรี ๆ อีกสามแสนกว่าคน ทั้งยังได้ฟอกเงินแปลงเป็นเหรียญคริปโตอีกสามหมื่นกว่าล้าน เรียกว่า winner takes all สุด ๆ ...คือทำให้บอสพอลกินรวบจนพุงกาง อิ่มสุด ๆ ถ้าผมเป็นบอสพอล กลยุทธ์ต่อจากนี้ของผมคือ กลยุทธ์ "เตมีย์ใบ้" ทำให้สังคมค่อย ๆ ลืมเลือนตัวตนและเรื่องราวของเขา จนหายไปจากความทรงจำของสังคมและผู้คน โดยปล่อยให้ 'บอสกันต์' รับบาปแทนไปเต็ม ๆ คนเดียว บอสพอลเล็งเป้าไปที่ 'บอสกันต์' ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ที่จะให้ "รับบาปแทนตัวเอง" เพราะบอสพอลศึกษาพฤติกรรมในอดีตจนเข้าใจตัวตนของบอสกันต์อย่างทะลุปรุโปร่งว่า ชายคนนี้ทั้งกร่าง ทั้งละโมบ ทั้งหิวแสง และชอบอวดตัวตน บอสพอลจึงตั้งใจ "ปรนเปรอ" บอสกันต์อย่างไม่อั้น จน 'บอสกันต์' ติดกับดักของ 'บอสพอล' อย่างดิ้นไม่หลุด ตอนนี้บอสพอลน่าจะนั่งยิ้มเยาะ "พวกหน้าโง่ทั้งหลายในโซเชียล" ที่หันไปรุมถล่มสมน้ำหน้า "บอสกันต์" แถมด้วย "บอสวอ" ที่โดนลูกหลง คนพวกนี้ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า พวกตนถูกจมูงจมูกโดยพวกไอโอที่เป็นสมุนรับจ้างของบอสพอล ให้คอยยุแหย่ ปล่อยข่าวเบี่ยงเบนความสนใจของกระแสโซเชียลให้ฟุ่งเป้าความหมั่นไส้และใส่ใจทั้งปวงไปที่ "บอสกันต์" แทน "พวกหน้าโง่พวกนี้ มันไม่มีวันตามหมากของกูทันหรอก เพราะพวกมันมีสติปัญญาแค่เสพสารที่พวกกูคอยป้อนให้พวกมันอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น" การจ้างไอโอมืออาชีพเพื่อให้ทำหน้าที่เบี่ยงเบนกระแสโจมตีไปจากตัวเอง คือห่วงโซ่อีกข้อหนึ่งที่ 'บอสพอล' ยอมทุ่มเงินทอง โดยจ่ายเงินมัดจำก้อนโตไปแล้วก่อนหน้านี้ ผมจะไม่แปลกใจเลยหากตอนนี้ 'บอสพอล' กำลังยิ้มเยาะอย่างลำพองอยู่ในใจคนเดียวในห้องคุมขัง ... เพราะนี่คือส่วนหนึ่งของแผน 'ปิดเกม' (end game) ของเขาตั้งแต่แรก จุดสำคัญคือ ปปง.จะอายัดทรัพย์สิน The Icon ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเงินอย่างน้อยเกือบสองหมื่นล้านน่าจะหายเข้ากลีบเมฆในรูปของเหรียญคริปโตไปแล้ว เงินชดเชยที่ผู้เสียหายจะได้รับคืน ถ้าได้ถึง 10% ก็บุญโขแล้วละ เนื่องจากเรื่องนี้มี "อำนาจมืด" ผู้รับส่วยจากบอสพอลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในเชิงลึก สุดท้ายทางการคงปล่อยให้พวกบอสดารารับกรรมกันไป ส่วน 'บอสพอล' คงลอยนวลหลังจากติดคุกพอเป็นพิธีเท่านั้น นี่คือข้อตกลงลับที่ 'บอสพอล' น่าจะได้รับมาตั้งแต่สามสี่ปีที่แล้ว โลกแห่งความเป็นจริงมันก็เป็นเช่นนี้แหละ ~ สุวินัย ภรณวลัย Suvinai Pornavalai
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิหร่านระงับการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับวอชิงตัน, ซึ่งจัดขึ้นที่โอมาน - รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน
    .
    ⚡️JUST IN

    Iran has Suspended Nuclear Talks with Washington, which were taking place in Oman. - Iran's Foriegn Minister
    .
    10:25 PM · Oct 16, 2024 · 316.6K Views
    https://x.com/IranObserver0/status/1846573085949911187
    อิหร่านระงับการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับวอชิงตัน, ซึ่งจัดขึ้นที่โอมาน - รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน . ⚡️JUST IN Iran has Suspended Nuclear Talks with Washington, which were taking place in Oman. - Iran's Foriegn Minister . 10:25 PM · Oct 16, 2024 · 316.6K Views https://x.com/IranObserver0/status/1846573085949911187
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุลต่านแห่งโอมานโทรศัพท์หาประธานาธิบดีอิหร่านวันนี้ 🤣เนื่องจากชาวอเมริกันแสดงความกังวลอย่างมาก หลังจากที่อิหร่านยุติการเจรจาทางอ้อมกับสหรัฐอเมริกา🤣 - ผู้สื่อข่าว BBC ในเทลอาวีฟ
    .
    ⚡️BREAKING

    The Sultan of Oman called the President of Iran today because of the great concern of the Americans after Iran stopped indirect talks with the United States - BBC Correspondent in Tel Aviv
    .
    6:14 PM · Oct 16, 2024 · 181.9K Views
    https://x.com/IranObserver0/status/1846510135197229219
    สุลต่านแห่งโอมานโทรศัพท์หาประธานาธิบดีอิหร่านวันนี้ 🤣เนื่องจากชาวอเมริกันแสดงความกังวลอย่างมาก หลังจากที่อิหร่านยุติการเจรจาทางอ้อมกับสหรัฐอเมริกา🤣 - ผู้สื่อข่าว BBC ในเทลอาวีฟ . ⚡️BREAKING The Sultan of Oman called the President of Iran today because of the great concern of the Americans after Iran stopped indirect talks with the United States - BBC Correspondent in Tel Aviv . 6:14 PM · Oct 16, 2024 · 181.9K Views https://x.com/IranObserver0/status/1846510135197229219
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุว่า ได้สรุปเป้าหมายออกหมายจับและหมายค้นในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 18 คน ซึ่งได้ออกหมายจับใน 2 ข้อหา ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย
    1. นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล (บอสพอล) ถูกจับกุมแล้ว
    2. น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร (บอสปัน) ถูกจับกุมแล้ว
    3. นายกลด เศรษฐนันท์ (บอสปีเตอร์)ถูกจับกุมแล้ว
    4. นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ (บอสหมอเอก) ถูกจับกุมแล้ว
    5. น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ (บอสสวย) ถูกจับกุมแล้ว
    6. น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสโซดา) ถูกจับกุมแล้ว
    7. นายนันท์ธรัฐ เชาวนปรีชา (บอสโอม) ถูกจับกุมแล้ว
    8. นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ (บอสวิน) ถูกจับกุมแล้ว
    9. น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ (บอสแม่หญิง) ถูกจับกุมแล้ว
    10. น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา (บอสอูมมี่) ถูกจับกุมแล้ว
    11. นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ (บอสทอมมี่) ถูกจับกุมแล้ว
    12. นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสป๊อป) ถูกจับกุมแล้ว
    13. นายจิระวัฒน์ แสงภักดี (โค้ชแล็ป) ถูกจับกุมแล้ว
    14. นางวิไลลักษณ์ เจ็งสุวรรณ (บอสออย) ถูกจับกุมแล้ว
    15. นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ (บอสอ๊อฟ) ถูกจับกุมแล้ว
    16. นายกันต์ กันตถาวร (บอสกันต์) ถูกจับกุมแล้ว
    17. น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี (โค้ชมีน) ถูกจับกุมแล้ว
    18. นายยุรนันท์ ภมรมนตรี (บอสแซม) ถูกจับกุมแล้ว

    #Thaitimes
    รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุว่า ได้สรุปเป้าหมายออกหมายจับและหมายค้นในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 18 คน ซึ่งได้ออกหมายจับใน 2 ข้อหา ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย 1. นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล (บอสพอล) ถูกจับกุมแล้ว 2. น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร (บอสปัน) ถูกจับกุมแล้ว 3. นายกลด เศรษฐนันท์ (บอสปีเตอร์)ถูกจับกุมแล้ว 4. นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ (บอสหมอเอก) ถูกจับกุมแล้ว 5. น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ (บอสสวย) ถูกจับกุมแล้ว 6. น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสโซดา) ถูกจับกุมแล้ว 7. นายนันท์ธรัฐ เชาวนปรีชา (บอสโอม) ถูกจับกุมแล้ว 8. นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ (บอสวิน) ถูกจับกุมแล้ว 9. น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ (บอสแม่หญิง) ถูกจับกุมแล้ว 10. น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา (บอสอูมมี่) ถูกจับกุมแล้ว 11. นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ (บอสทอมมี่) ถูกจับกุมแล้ว 12. นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสป๊อป) ถูกจับกุมแล้ว 13. นายจิระวัฒน์ แสงภักดี (โค้ชแล็ป) ถูกจับกุมแล้ว 14. นางวิไลลักษณ์ เจ็งสุวรรณ (บอสออย) ถูกจับกุมแล้ว 15. นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ (บอสอ๊อฟ) ถูกจับกุมแล้ว 16. นายกันต์ กันตถาวร (บอสกันต์) ถูกจับกุมแล้ว 17. น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี (โค้ชมีน) ถูกจับกุมแล้ว 18. นายยุรนันท์ ภมรมนตรี (บอสแซม) ถูกจับกุมแล้ว #Thaitimes
    เผย 18 รายชื่อเครือข่ายดิไอคอนฯ ออกหมายจับฉ้อโกง-พ.ร.บ.คอมฯ
    .
    วันนี้ (16 ต.ค.) รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุว่า ได้สรุปเป้าหมายออกหมายจับและหมายค้นในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 18 คน ซึ่งได้ออกหมายจับใน 2 ข้อหา ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย
    .
    1. นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล (บอสพอล) ถูกจับกุมแล้ว
    2. น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร (บอสปัน) ถูกจับกุมแล้ว
    3. นายกลด เศรษฐนันท์ (บอสปีเตอร์)
    4. นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ (บอสหมอเอก) ถูกจับกุมแล้ว
    5. น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ (บอสสวย) ถูกจับกุมแล้ว
    6. น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสโซดา) ถูกจับกุมแล้ว
    7. นายนันท์ธรัฐ เชาวนปรีชา (บอสโอม) ถูกจับกุมแล้ว
    8. นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ (บอสวิน) ถูกจับกุมแล้ว
    9. น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ (บอสแม่หญิง)
    10. น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา (บอสอูมมี่)
    .
    11. นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ (บอสทอมมี่)
    12. นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสป๊อป) ถูกจับกุมแล้ว
    13. นายจิระวัฒน์ แสงภักดี (โค้ชแล็ป)
    14. นางวิไลลักษณ์ เจ็งสุวรรณ (บอสออย) ถูกจับกุมแล้ว
    15. นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ (บอสอ๊อฟ) ถูกจับกุมแล้ว
    16. นายกันต์ กันตถาวร (บอสกันต์)
    17. น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี (โค้ชมีน) ถูกจับกุมแล้ว
    18. นายยุรนันท์ ภมรมนตรี (บอสแซม) ถูกจับกุมแล้ว
    .
    รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กำลังตำรวจชุดหนึ่งบุกเข้าแจ้งหมายจับกุมนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ขณะเข้าชี้แจงที่สำนักงาน สคบ. จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ่านหมายจับของศาลอาญาให้บอสพอลฟัง ก่อนควบคุมตัวไปสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.)
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. บอสพอลเดินทางมาที่ สคบ. ตามที่ สคบ. ได้ทำหนังสือเรียกไปก่อนหน้านี้ แม้ สคบ.จะแจ้งว่า เลยกำหนดเวลาที่จะสามารถชี้แจงได้แล้ว โดยเมื่อออกจากลิฟต์ ได้ยกมือไหว้ผู้สื่อข่าว ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะกรูเข้าไปสอบถาม แต่บอสพอลไม่ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มเมื่อถามถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยึดอายัดทรัพย์สิน ซึ่งในจังหวะที่ชุลมุน การ์ดของบอสพอลพยายามกันผู้สื่อข่าว เหยียบขาตั้งกล้องของช่างภาพ ได้รับความเสียหาย และเกิดการกระทบกระทั่ง บางช่วงการ์ดของบอสพอล ได้ตะโกนว่า "อย่าทำร้ายครับ เจ็บครับ" ก่อนที่ช่างภาพจะตะโกนกลับว่า "ไม่มีใครทำร้ายครับ"
    .
    รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุอีกด้วยว่า ณ เวลา 17.00 น. บอสแซม และบอสมีน นักแสดงที่เป็นพรีเซนเตอร์ ถูกจับกุมแล้วเช่นกัน
    .
    คลิกอ่าน >> https://www.sondhitalk.com/detail/9670000099858
    .
    Sondhi X
    WWW.SONDHITALK.COM
    เผย 18 รายชื่อเครือข่ายดิไอคอนฯ ออกหมายจับฉ้อโกง-พ.ร.บ.คอมฯ
    วันนี้ (16 ต.ค.) รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุว่า ได้สรุปเป้าหมายออกหมายจับและหมายค้นในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 18 คน ซึ่งได้ออกหมายจับใน 2 ข้อหา ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 0 รีวิว
  • เผย 18 รายชื่อเครือข่ายดิไอคอนฯ ออกหมายจับฉ้อโกง-พ.ร.บ.คอมฯ
    .
    วันนี้ (16 ต.ค.) รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุว่า ได้สรุปเป้าหมายออกหมายจับและหมายค้นในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 18 คน ซึ่งได้ออกหมายจับใน 2 ข้อหา ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย
    .
    1. นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล (บอสพอล) ถูกจับกุมแล้ว
    2. น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร (บอสปัน) ถูกจับกุมแล้ว
    3. นายกลด เศรษฐนันท์ (บอสปีเตอร์)
    4. นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ (บอสหมอเอก) ถูกจับกุมแล้ว
    5. น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ (บอสสวย) ถูกจับกุมแล้ว
    6. น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสโซดา) ถูกจับกุมแล้ว
    7. นายนันท์ธรัฐ เชาวนปรีชา (บอสโอม) ถูกจับกุมแล้ว
    8. นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ (บอสวิน) ถูกจับกุมแล้ว
    9. น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ (บอสแม่หญิง)
    10. น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา (บอสอูมมี่)
    .
    11. นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ (บอสทอมมี่)
    12. นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสป๊อป) ถูกจับกุมแล้ว
    13. นายจิระวัฒน์ แสงภักดี (โค้ชแล็ป)
    14. นางวิไลลักษณ์ เจ็งสุวรรณ (บอสออย) ถูกจับกุมแล้ว
    15. นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ (บอสอ๊อฟ) ถูกจับกุมแล้ว
    16. นายกันต์ กันตถาวร (บอสกันต์)
    17. น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี (โค้ชมีน) ถูกจับกุมแล้ว
    18. นายยุรนันท์ ภมรมนตรี (บอสแซม) ถูกจับกุมแล้ว
    .
    รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กำลังตำรวจชุดหนึ่งบุกเข้าแจ้งหมายจับกุมนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ขณะเข้าชี้แจงที่สำนักงาน สคบ. จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ่านหมายจับของศาลอาญาให้บอสพอลฟัง ก่อนควบคุมตัวไปสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.)
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. บอสพอลเดินทางมาที่ สคบ. ตามที่ สคบ. ได้ทำหนังสือเรียกไปก่อนหน้านี้ แม้ สคบ.จะแจ้งว่า เลยกำหนดเวลาที่จะสามารถชี้แจงได้แล้ว โดยเมื่อออกจากลิฟต์ ได้ยกมือไหว้ผู้สื่อข่าว ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะกรูเข้าไปสอบถาม แต่บอสพอลไม่ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มเมื่อถามถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยึดอายัดทรัพย์สิน ซึ่งในจังหวะที่ชุลมุน การ์ดของบอสพอลพยายามกันผู้สื่อข่าว เหยียบขาตั้งกล้องของช่างภาพ ได้รับความเสียหาย และเกิดการกระทบกระทั่ง บางช่วงการ์ดของบอสพอล ได้ตะโกนว่า "อย่าทำร้ายครับ เจ็บครับ" ก่อนที่ช่างภาพจะตะโกนกลับว่า "ไม่มีใครทำร้ายครับ"
    .
    รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุอีกด้วยว่า ณ เวลา 17.00 น. บอสแซม และบอสมีน นักแสดงที่เป็นพรีเซนเตอร์ ถูกจับกุมแล้วเช่นกัน
    .
    คลิกอ่าน >> https://www.sondhitalk.com/detail/9670000099858
    .
    Sondhi X
    เผย 18 รายชื่อเครือข่ายดิไอคอนฯ ออกหมายจับฉ้อโกง-พ.ร.บ.คอมฯ . วันนี้ (16 ต.ค.) รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุว่า ได้สรุปเป้าหมายออกหมายจับและหมายค้นในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 18 คน ซึ่งได้ออกหมายจับใน 2 ข้อหา ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย . 1. นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล (บอสพอล) ถูกจับกุมแล้ว 2. น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร (บอสปัน) ถูกจับกุมแล้ว 3. นายกลด เศรษฐนันท์ (บอสปีเตอร์) 4. นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ (บอสหมอเอก) ถูกจับกุมแล้ว 5. น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ (บอสสวย) ถูกจับกุมแล้ว 6. น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสโซดา) ถูกจับกุมแล้ว 7. นายนันท์ธรัฐ เชาวนปรีชา (บอสโอม) ถูกจับกุมแล้ว 8. นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ (บอสวิน) ถูกจับกุมแล้ว 9. น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ (บอสแม่หญิง) 10. น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา (บอสอูมมี่) . 11. นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ (บอสทอมมี่) 12. นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสป๊อป) ถูกจับกุมแล้ว 13. นายจิระวัฒน์ แสงภักดี (โค้ชแล็ป) 14. นางวิไลลักษณ์ เจ็งสุวรรณ (บอสออย) ถูกจับกุมแล้ว 15. นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ (บอสอ๊อฟ) ถูกจับกุมแล้ว 16. นายกันต์ กันตถาวร (บอสกันต์) 17. น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี (โค้ชมีน) ถูกจับกุมแล้ว 18. นายยุรนันท์ ภมรมนตรี (บอสแซม) ถูกจับกุมแล้ว . รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กำลังตำรวจชุดหนึ่งบุกเข้าแจ้งหมายจับกุมนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ขณะเข้าชี้แจงที่สำนักงาน สคบ. จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ่านหมายจับของศาลอาญาให้บอสพอลฟัง ก่อนควบคุมตัวไปสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) . ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. บอสพอลเดินทางมาที่ สคบ. ตามที่ สคบ. ได้ทำหนังสือเรียกไปก่อนหน้านี้ แม้ สคบ.จะแจ้งว่า เลยกำหนดเวลาที่จะสามารถชี้แจงได้แล้ว โดยเมื่อออกจากลิฟต์ ได้ยกมือไหว้ผู้สื่อข่าว ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะกรูเข้าไปสอบถาม แต่บอสพอลไม่ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มเมื่อถามถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยึดอายัดทรัพย์สิน ซึ่งในจังหวะที่ชุลมุน การ์ดของบอสพอลพยายามกันผู้สื่อข่าว เหยียบขาตั้งกล้องของช่างภาพ ได้รับความเสียหาย และเกิดการกระทบกระทั่ง บางช่วงการ์ดของบอสพอล ได้ตะโกนว่า "อย่าทำร้ายครับ เจ็บครับ" ก่อนที่ช่างภาพจะตะโกนกลับว่า "ไม่มีใครทำร้ายครับ" . รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุอีกด้วยว่า ณ เวลา 17.00 น. บอสแซม และบอสมีน นักแสดงที่เป็นพรีเซนเตอร์ ถูกจับกุมแล้วเช่นกัน . คลิกอ่าน >> https://www.sondhitalk.com/detail/9670000099858 . Sondhi X
    WWW.SONDHITALK.COM
    เผย 18 รายชื่อเครือข่ายดิไอคอนฯ ออกหมายจับฉ้อโกง-พ.ร.บ.คอมฯ
    วันนี้ (16 ต.ค.) รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุว่า ได้สรุปเป้าหมายออกหมายจับและหมายค้นในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 18 คน ซึ่งได้ออกหมายจับใน 2 ข้อหา ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอ
    Like
    15
    1 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 1284 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศกร้าว มาจะเล่นงานฮิซบอลเลาะห์โดยปราศจากความปรานี หนึ่งวันหลังจากพวกติดอาวุธเลบานอนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านกลุ่มนี้ โจมตีอิสราเอล ครั้งนองเลือดที่สุดนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายเดือนกันยายน
    .
    การโจมตีด้วยโดรนของฮิซบอลเลาะห์ ถล่มฐานทัพแห่งหนึ่งของอิสราเอล เมื่อวันอาทิตย์(13ต.ค.) ปลิดชีพทหารไป 4 นาย ขณะที่อาสาสมัครกู้ภัยเผยว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 60 คน "เราจะเดินหน้าโจมตีฮิซบอลเลาะห์ ในทุกๆพื้นที่ของเลบานอน ในนั้นรวมถึงเบรุต" เนทันยาฮูกล่าวระหว่างเดินทางเยือนฐานทัพแห่งหนึ่งใกล้เมืองบินยามินา ทางใต้ของไฮฟา
    .
    ฮิซบอลเลาะห์เผยว่าได้ปล่อยฝูงโดรนโจมตีเล่นงานอิสราเอล ตอบโต้การโจมตีต่างๆนานาของรัฐยิว หนึ่งในนั้นรวมถึงการโจมตีหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ทางกระทรวงสาธารณสุขเลบานอน เผยว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 รายในกรุงเบรุต
    .
    นับตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนเป็นต้นมา อิสราเอลยกระดับการโจมตีเป้าหมายต่างๆในเลบานอน ในสงครามที่สังหารชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 1,315 ราย จากการนับของเอเอฟพี แต่เชื่อว่ายอดที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้
    .
    ก่อนหน้าคำแถลงรอบใหม่ของเนทันยาฮู ได้มีปฏิบัติการโจมตีรอบใหม่เกิดขึ้นกับเป้าหมายต่างๆทั่วเลบานอน ในนั้นรวมถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางเหนือ ที่มีชาวคริสเตียนเป็นชนกลุ่มใหญ่ คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 21 รายในวันจันทร์(14ต.ค.)
    .
    ฮิซบอลเลาะห์ระบุว่าตอนราวๆเที่ยงวันของวันจันทร์(14ต.ค.) พวกเขาได้ยิงจรวดเข้าใส่ฐานทัพเรือแห่งหนึ่งใกล้เมืองไฮฟา ก่อนที่จะรัวยิงจรวดอีกชุดใหญ่ในตอนเย็น เข้าใส่เมืองซาเฟดของอิสราเอล
    .
    นอกจากนี้แล้วฮิซบอลเลาะห์เผยด้วยว่า นักรบของพวกเขายังปะทะอย่างดุเดือดกับกองกำลังอิสราเอล ในหมู่บ้าไอตา อัล-ชาบ ตามแนวหน้าของเลบานอน และกำลังสู้รบในที่อื่นๆเช่นกัน
    .
    เสียงไซเรนดังระงมทั่วภาคกลางของอิสราเอลในช่วงเย็น ในนั้นรวมถึงเทลอาวีฟ ศูนย์กลางทางการค้า หลังจากก่อนหน้านี้มีรายงานว่าอิสราเอลได้ยิงสกัดโดรน 2 ลำ ที่มุ่งหน้ามาจากซีเรีย
    .
    เกือบ 1 ปีหลังการยิงตอบโต้กันไปมา ระหว่างฮิซบอลเลาะห์กับกองกำลังอิสราเอล ตามแนวชายแดนเลบานอน ทางอิสราเอลได้ยกระดับการโจมตีเป้าหมายต่างๆในเลบานอน ในช่วงปลายเดือนที่แล้ว ก่อนส่งทหารราบรุกรานเข้าไปไม่นานหลังจากนั้น
    .
    อิสราเอลต้องการผลักดันให้ฮิซบอลเลาะห์ล่าถอยไป เพื่อคุ้มกันแนวชายแดนทางเหนือของประเทศ และเปิดทางให้ประชาชนผู้หลายหมื่นรายที่ไร้ถิ่นฐานจากจรวดของฮิซบอลเลาะห์ที่ยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปีที่แล้ว ได้กลับสู่บ้านเกิดเมืองนอนอย่างปลอดภัย
    .
    ฮิซบอลเลาะห์บอกว่าพวกเขาปฏิบัติการโจมตีต่างๆนานาเพื่อสนับสนุนกลุ่มนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ซึ่งลงมือจู่โจมเล่นงานอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปีก่อน สังหารผู้คนไปราวๆ 1,200 ราย กระตุ้นให้อิสราเอลเปิดปฏิบัติการรุกรานแก้แค้นในกาซา สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 42,289 ราย
    .
    องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตรวจสอบพบมีชาวบ้านมากกว่า 690,000 รายต้องไร้ถิ่นฐานจากสงครามในเลบานอน
    .
    ขณะเดียวกันอิสราเอลก็ต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบใหม่ต่อกรณีก่ออาการบาดเจ็บและก่อความเสียหายแก่กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ที่ประจำการอยู่ในเลบานอนมาตั้งแต่ปี 1978 หลังจากอิสราเอลรุกรานคราวก่อน
    .
    เนทันยาฮู ยืนยันในวันจันทร์(14ต.ค.) ว่ากองทัพอิสราเอลกำลังทำทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก และเรียกร้องซ้ำอีกรอบให้กองกำลังรักษาสันติภาพปลีกตัวออกจากหนทางที่จะได้รับอันตราย
    .
    ด้วยสงครามทั้งในกาซาและในเลบานอน ไม่มีสัญญาณของการเบาลงใดๆ จึงมีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆเกี่ยวกับความขัดแย้งที่ลุกลามบานปลายไปทั่วภูมิภาคในวงกว้าง เหตุนี้เองจึงได้เห็น อิหร่าน ซึ่งให้การสนับสนุนทั้งฮิซบอลเลาะห์และฮามาส ง่วนอยู่กับความพยายามประสานงานทางการทูตกับบรรดาพันธมิตรและมหาอำนาจอื่นๆ
    .
    อับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน เดินทางไปโอมาน เพื่อพบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งของพวกฮูตี ขบวนการเคลื่อนไหวที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในเยเมน โดยโอมานถือเป็นชาติล่าสุดที่เขาแวะพูดคุยเจรจา ในการทัวร์ทางการทูตทั่วภูมิภาค
    .
    กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 ของจอร์แดน เตือนว่า "สงครามระดับภูมิภาคจะก่อความเสียกายแก่ทุกๆฝ่าย" ระหว่างหารือกับ นาจิบ มากาติ นายกรัฐมนตรีเลบานอน ในวันจันทร์(14ก.ย.)
    .
    คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่อิสราเอลกำลังชั่งใจตอบโต้อิหร่าน กรณีเตหะรานรัวยิงห่าขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม แก้แค้นรัฐยิวที่สังหารพวกผู้นำนักรบที่เป็นพันธมิตรของอิหร่านในภูมิภาคไปแล้วหลายคน เช่นเดียวกับนายพลรายหนึ่งของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099222
    ..............
    Sondhi X
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศกร้าว มาจะเล่นงานฮิซบอลเลาะห์โดยปราศจากความปรานี หนึ่งวันหลังจากพวกติดอาวุธเลบานอนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านกลุ่มนี้ โจมตีอิสราเอล ครั้งนองเลือดที่สุดนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายเดือนกันยายน . การโจมตีด้วยโดรนของฮิซบอลเลาะห์ ถล่มฐานทัพแห่งหนึ่งของอิสราเอล เมื่อวันอาทิตย์(13ต.ค.) ปลิดชีพทหารไป 4 นาย ขณะที่อาสาสมัครกู้ภัยเผยว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 60 คน "เราจะเดินหน้าโจมตีฮิซบอลเลาะห์ ในทุกๆพื้นที่ของเลบานอน ในนั้นรวมถึงเบรุต" เนทันยาฮูกล่าวระหว่างเดินทางเยือนฐานทัพแห่งหนึ่งใกล้เมืองบินยามินา ทางใต้ของไฮฟา . ฮิซบอลเลาะห์เผยว่าได้ปล่อยฝูงโดรนโจมตีเล่นงานอิสราเอล ตอบโต้การโจมตีต่างๆนานาของรัฐยิว หนึ่งในนั้นรวมถึงการโจมตีหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ทางกระทรวงสาธารณสุขเลบานอน เผยว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 รายในกรุงเบรุต . นับตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนเป็นต้นมา อิสราเอลยกระดับการโจมตีเป้าหมายต่างๆในเลบานอน ในสงครามที่สังหารชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 1,315 ราย จากการนับของเอเอฟพี แต่เชื่อว่ายอดที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้ . ก่อนหน้าคำแถลงรอบใหม่ของเนทันยาฮู ได้มีปฏิบัติการโจมตีรอบใหม่เกิดขึ้นกับเป้าหมายต่างๆทั่วเลบานอน ในนั้นรวมถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางเหนือ ที่มีชาวคริสเตียนเป็นชนกลุ่มใหญ่ คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 21 รายในวันจันทร์(14ต.ค.) . ฮิซบอลเลาะห์ระบุว่าตอนราวๆเที่ยงวันของวันจันทร์(14ต.ค.) พวกเขาได้ยิงจรวดเข้าใส่ฐานทัพเรือแห่งหนึ่งใกล้เมืองไฮฟา ก่อนที่จะรัวยิงจรวดอีกชุดใหญ่ในตอนเย็น เข้าใส่เมืองซาเฟดของอิสราเอล . นอกจากนี้แล้วฮิซบอลเลาะห์เผยด้วยว่า นักรบของพวกเขายังปะทะอย่างดุเดือดกับกองกำลังอิสราเอล ในหมู่บ้าไอตา อัล-ชาบ ตามแนวหน้าของเลบานอน และกำลังสู้รบในที่อื่นๆเช่นกัน . เสียงไซเรนดังระงมทั่วภาคกลางของอิสราเอลในช่วงเย็น ในนั้นรวมถึงเทลอาวีฟ ศูนย์กลางทางการค้า หลังจากก่อนหน้านี้มีรายงานว่าอิสราเอลได้ยิงสกัดโดรน 2 ลำ ที่มุ่งหน้ามาจากซีเรีย . เกือบ 1 ปีหลังการยิงตอบโต้กันไปมา ระหว่างฮิซบอลเลาะห์กับกองกำลังอิสราเอล ตามแนวชายแดนเลบานอน ทางอิสราเอลได้ยกระดับการโจมตีเป้าหมายต่างๆในเลบานอน ในช่วงปลายเดือนที่แล้ว ก่อนส่งทหารราบรุกรานเข้าไปไม่นานหลังจากนั้น . อิสราเอลต้องการผลักดันให้ฮิซบอลเลาะห์ล่าถอยไป เพื่อคุ้มกันแนวชายแดนทางเหนือของประเทศ และเปิดทางให้ประชาชนผู้หลายหมื่นรายที่ไร้ถิ่นฐานจากจรวดของฮิซบอลเลาะห์ที่ยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปีที่แล้ว ได้กลับสู่บ้านเกิดเมืองนอนอย่างปลอดภัย . ฮิซบอลเลาะห์บอกว่าพวกเขาปฏิบัติการโจมตีต่างๆนานาเพื่อสนับสนุนกลุ่มนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ซึ่งลงมือจู่โจมเล่นงานอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปีก่อน สังหารผู้คนไปราวๆ 1,200 ราย กระตุ้นให้อิสราเอลเปิดปฏิบัติการรุกรานแก้แค้นในกาซา สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 42,289 ราย . องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตรวจสอบพบมีชาวบ้านมากกว่า 690,000 รายต้องไร้ถิ่นฐานจากสงครามในเลบานอน . ขณะเดียวกันอิสราเอลก็ต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบใหม่ต่อกรณีก่ออาการบาดเจ็บและก่อความเสียหายแก่กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ที่ประจำการอยู่ในเลบานอนมาตั้งแต่ปี 1978 หลังจากอิสราเอลรุกรานคราวก่อน . เนทันยาฮู ยืนยันในวันจันทร์(14ต.ค.) ว่ากองทัพอิสราเอลกำลังทำทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก และเรียกร้องซ้ำอีกรอบให้กองกำลังรักษาสันติภาพปลีกตัวออกจากหนทางที่จะได้รับอันตราย . ด้วยสงครามทั้งในกาซาและในเลบานอน ไม่มีสัญญาณของการเบาลงใดๆ จึงมีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆเกี่ยวกับความขัดแย้งที่ลุกลามบานปลายไปทั่วภูมิภาคในวงกว้าง เหตุนี้เองจึงได้เห็น อิหร่าน ซึ่งให้การสนับสนุนทั้งฮิซบอลเลาะห์และฮามาส ง่วนอยู่กับความพยายามประสานงานทางการทูตกับบรรดาพันธมิตรและมหาอำนาจอื่นๆ . อับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน เดินทางไปโอมาน เพื่อพบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งของพวกฮูตี ขบวนการเคลื่อนไหวที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในเยเมน โดยโอมานถือเป็นชาติล่าสุดที่เขาแวะพูดคุยเจรจา ในการทัวร์ทางการทูตทั่วภูมิภาค . กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 ของจอร์แดน เตือนว่า "สงครามระดับภูมิภาคจะก่อความเสียกายแก่ทุกๆฝ่าย" ระหว่างหารือกับ นาจิบ มากาติ นายกรัฐมนตรีเลบานอน ในวันจันทร์(14ก.ย.) . คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่อิสราเอลกำลังชั่งใจตอบโต้อิหร่าน กรณีเตหะรานรัวยิงห่าขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม แก้แค้นรัฐยิวที่สังหารพวกผู้นำนักรบที่เป็นพันธมิตรของอิหร่านในภูมิภาคไปแล้วหลายคน เช่นเดียวกับนายพลรายหนึ่งของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099222 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 963 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิเคราะห์ 5 ประเด็นสำคัญ การให้สัมภาษณ์ของ บอสพอล ในรายการโหนกระแส /ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    จากกรณีที่ วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ที่ตัดสินใจมาออกรายการโหนกระแส ดำเนินรายการการโดยพี่หนุ่มกรรชัย กำเนิดพลอยนั้น เป็นการเตรียมคำตอบสำหรับการต่อสู้คดี แต่บางคำตอบอาจจะเป็นสาระสำคัญแห่งคดีมีดังต่อไปนี้

    1.บอสพอลระบุว่า ตัวแทนจำหน่ายหลักมี 10 ราย คือ บอสปัน, บอสสวย, บอสวิน, บอสหมอเอก, บอสโซดา+บอสป๊อป, บอสทอมมี่, บอสต่าย, บอสอ๊อฟ+บอสจอย, บอสแม่หญิง, บอสโอม โดยบริษัทจะขายให้คนเหล่านี้เท่านั้น ส่วนแต่ละทีมจะไปแตกทีมขายด้วยกรรมวิธีอย่างไร เป็นเรื่องความรับผิดชอบของแต่ละทีม (เป็นอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ว่าขอตัดตอนในกระบวนการขายทั้งหมด ให้เป็นความรับผิดชอบของตัวแทนจำหน่าย แม่ทีม และลูกทีม)

    อย่างไรก็ตามบอสพอลระบุว่าได้เคยดูการขายออนไลน์ทั้ง 3 ขั้นตอน 1.สอนคอร์สขายของออนไลน์ 2.แนะนำสินค้า 3.การลงทุน 250,000 บาท ซึ่งแปลว่ารับรู้กระบวนการขายที่เน้นการลงทุนและหาเครือข่ายต่อนี้ด้วย จึงไม่อาจปฏิเสธขั้นตอนการขายของแม่ทีม หรือ ตัวแทนจำหน่ายได้

    2.บอสพอลระบุว่าดาราซึ่งเป็นผู้ที่มีรายรับตาม % ของ “ยอดขาย” คือ บอสกัณต์, บอสแซม, บอสมิน ดังนั้นถือว่าดาราเหล่านี้เป็นขบวนการที่มีค่าตอบแทนตาม “ยอดขาย” ยิ่งมีการลงทุนมาก หรือขายได้มาก ยิ่งได้รับผลตอบแทนมาก

    ดาราเหล่านี้ที่รับประโยชน์ตาม % ของยอดขาย จึงถือเป็นผู้มีส่วนได้เสียไม่ใช่เพียงแค่รับจ้างทั่วไป โดยเฉพาะดารามีการระบุสถานภาพเกินกว่าพรีเซ็นเตอร์ในทางสาธารณะ และทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่ามีดาราเหล่านี้เป็นผู้บริหาร จึงเร่งสร้างความน่าเชื่อถือในการลงทุน

    ส่วนบอสพอลระบุว่าสคริปต์ที่ให้เหล่าดาราพูดนั้นเป็นข้อๆ (Bullet) แต่ก็มีการร้องขอให้พูดเรื่องอื่นๆด้วย ซึ่งไม่สามารถบังคับให้ดาราเหล่านี้พูดตามหรือไม่พูดตามได้

    3.บอสพอลยอมรับว่าผู้ชื้อทุกรายอยู่ในฐานะ “ผู้ลงทุน” ซื้อสินค้ากับบริษัทโดยตรง บ้างก็รับสินค้าไป บ้างก็ฝากสินค้าเอาไว้กับบริษัท

    แต่…

    4.บอสพอลระบุว่าการลงพื้นที่ของตำรวจเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567 แล้วสินค้าในคงคลังแทบไม่มี เพราะหลังเกิดเรื่องเป็นต้นมา ทำให้มีประชาชนบาเบิกสินค้าในคงคลังจนแทบหมด และกำลังจะเร่งสั่ง ”นำเข้ามา“ อีก เพราะบริษัทสั่งผลิต “ตามที่เบิก”

    ข้อสงสัยและคำถามประเด็นนี้ คือการสั่งผลิตสินค้า ”ตามที่เบิก“ ไม่ได้มีสินค้าตาม ”การสั่งซื้อ“ทั้งหมด หรือรับเงินมาแต่อาจจะยังไม่มีสินค้าเลยก็ได้ ดังนั้น

    เงินของคนที่จ่ายเงินมาเหล่านั้นจึงอาจไม่ใช่การซื้อสินค้า แต่อาจะเป็นการซื้อสต๊อกลมที่ไม่มีอยู่จริง หรือการกู้ยืมเงินมาหมุนโดยอ้างว่าเป็นการซื้อสินค้า หรือไม่?

    และเมื่อมีการแห่กันเบิกสินค้าจึงเริ่มสั่งซื้อสินค้าหรือไม่?

    คำถามคือคนที่จ่ายเงินไปโดยไม่สินค้าอยู่ในมือและไม่คิดจะขายสินค้า หรือคิดแต่จะหาสมาชิกเพิ่มขึ้นนั้น ได้รับผลตอบแทนเป็นอย่างไร?

    เพราะมาตรา 19 ของพระราชบัญญัติขายตรงและการตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 ความว่า

    “มาตรา 19 ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงและผู้ประกอบกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจขายตรงหรือในการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง โดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น“

    5.สรุปว่าบอสพอลเงินจ่ายเงินที่ถูกไถจากนักร้องเรียน ทนาย และส่วนงานอื่นๆ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองแผลในทางธุรกิจตัวเองบางอย่าง มีตั้งแต่หลักแสน และการการถูกรีดไถในระดับ 1-3 ล้านบาท แต่ไม่ให้ความร่วมมือว่าจ่ายไปให้ใครและเพื่อกลบเกลื่อนแผลทางธุรกิจอะไร?

    ขอบคุณรายการโหนกระแสที่จัดการสัมภาษณ์ ครั้งนี้ให้เกิดความชัดเจนขึ้นครับ

    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    14 ตุลาคม 2567

    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1073002797526753/?

    #Thaitimes
    วิเคราะห์ 5 ประเด็นสำคัญ การให้สัมภาษณ์ของ บอสพอล ในรายการโหนกระแส /ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ จากกรณีที่ วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ที่ตัดสินใจมาออกรายการโหนกระแส ดำเนินรายการการโดยพี่หนุ่มกรรชัย กำเนิดพลอยนั้น เป็นการเตรียมคำตอบสำหรับการต่อสู้คดี แต่บางคำตอบอาจจะเป็นสาระสำคัญแห่งคดีมีดังต่อไปนี้ 1.บอสพอลระบุว่า ตัวแทนจำหน่ายหลักมี 10 ราย คือ บอสปัน, บอสสวย, บอสวิน, บอสหมอเอก, บอสโซดา+บอสป๊อป, บอสทอมมี่, บอสต่าย, บอสอ๊อฟ+บอสจอย, บอสแม่หญิง, บอสโอม โดยบริษัทจะขายให้คนเหล่านี้เท่านั้น ส่วนแต่ละทีมจะไปแตกทีมขายด้วยกรรมวิธีอย่างไร เป็นเรื่องความรับผิดชอบของแต่ละทีม (เป็นอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ว่าขอตัดตอนในกระบวนการขายทั้งหมด ให้เป็นความรับผิดชอบของตัวแทนจำหน่าย แม่ทีม และลูกทีม) อย่างไรก็ตามบอสพอลระบุว่าได้เคยดูการขายออนไลน์ทั้ง 3 ขั้นตอน 1.สอนคอร์สขายของออนไลน์ 2.แนะนำสินค้า 3.การลงทุน 250,000 บาท ซึ่งแปลว่ารับรู้กระบวนการขายที่เน้นการลงทุนและหาเครือข่ายต่อนี้ด้วย จึงไม่อาจปฏิเสธขั้นตอนการขายของแม่ทีม หรือ ตัวแทนจำหน่ายได้ 2.บอสพอลระบุว่าดาราซึ่งเป็นผู้ที่มีรายรับตาม % ของ “ยอดขาย” คือ บอสกัณต์, บอสแซม, บอสมิน ดังนั้นถือว่าดาราเหล่านี้เป็นขบวนการที่มีค่าตอบแทนตาม “ยอดขาย” ยิ่งมีการลงทุนมาก หรือขายได้มาก ยิ่งได้รับผลตอบแทนมาก ดาราเหล่านี้ที่รับประโยชน์ตาม % ของยอดขาย จึงถือเป็นผู้มีส่วนได้เสียไม่ใช่เพียงแค่รับจ้างทั่วไป โดยเฉพาะดารามีการระบุสถานภาพเกินกว่าพรีเซ็นเตอร์ในทางสาธารณะ และทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่ามีดาราเหล่านี้เป็นผู้บริหาร จึงเร่งสร้างความน่าเชื่อถือในการลงทุน ส่วนบอสพอลระบุว่าสคริปต์ที่ให้เหล่าดาราพูดนั้นเป็นข้อๆ (Bullet) แต่ก็มีการร้องขอให้พูดเรื่องอื่นๆด้วย ซึ่งไม่สามารถบังคับให้ดาราเหล่านี้พูดตามหรือไม่พูดตามได้ 3.บอสพอลยอมรับว่าผู้ชื้อทุกรายอยู่ในฐานะ “ผู้ลงทุน” ซื้อสินค้ากับบริษัทโดยตรง บ้างก็รับสินค้าไป บ้างก็ฝากสินค้าเอาไว้กับบริษัท แต่… 4.บอสพอลระบุว่าการลงพื้นที่ของตำรวจเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567 แล้วสินค้าในคงคลังแทบไม่มี เพราะหลังเกิดเรื่องเป็นต้นมา ทำให้มีประชาชนบาเบิกสินค้าในคงคลังจนแทบหมด และกำลังจะเร่งสั่ง ”นำเข้ามา“ อีก เพราะบริษัทสั่งผลิต “ตามที่เบิก” ข้อสงสัยและคำถามประเด็นนี้ คือการสั่งผลิตสินค้า ”ตามที่เบิก“ ไม่ได้มีสินค้าตาม ”การสั่งซื้อ“ทั้งหมด หรือรับเงินมาแต่อาจจะยังไม่มีสินค้าเลยก็ได้ ดังนั้น เงินของคนที่จ่ายเงินมาเหล่านั้นจึงอาจไม่ใช่การซื้อสินค้า แต่อาจะเป็นการซื้อสต๊อกลมที่ไม่มีอยู่จริง หรือการกู้ยืมเงินมาหมุนโดยอ้างว่าเป็นการซื้อสินค้า หรือไม่? และเมื่อมีการแห่กันเบิกสินค้าจึงเริ่มสั่งซื้อสินค้าหรือไม่? คำถามคือคนที่จ่ายเงินไปโดยไม่สินค้าอยู่ในมือและไม่คิดจะขายสินค้า หรือคิดแต่จะหาสมาชิกเพิ่มขึ้นนั้น ได้รับผลตอบแทนเป็นอย่างไร? เพราะมาตรา 19 ของพระราชบัญญัติขายตรงและการตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 ความว่า “มาตรา 19 ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงและผู้ประกอบกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจขายตรงหรือในการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง โดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น“ 5.สรุปว่าบอสพอลเงินจ่ายเงินที่ถูกไถจากนักร้องเรียน ทนาย และส่วนงานอื่นๆ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองแผลในทางธุรกิจตัวเองบางอย่าง มีตั้งแต่หลักแสน และการการถูกรีดไถในระดับ 1-3 ล้านบาท แต่ไม่ให้ความร่วมมือว่าจ่ายไปให้ใครและเพื่อกลบเกลื่อนแผลทางธุรกิจอะไร? ขอบคุณรายการโหนกระแสที่จัดการสัมภาษณ์ ครั้งนี้ให้เกิดความชัดเจนขึ้นครับ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 14 ตุลาคม 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1073002797526753/? #Thaitimes
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1114 มุมมอง 1 รีวิว
  • 🔹️แพ็กคู่ซีรีส์ชุด พิกัดต่อไปใครเป็นศพ❗

    คำเตือน เนื้อหายาวมากถึงมากที่สุด

    1 #พิกัดต่อไปใครเป็นศพ #masqueradehotel

    อ่านจนจบในวันเดียว หนาถึง 547 หน้า ดีที่ขนาดไม่เทอะทะแม้หนาแต่ไม่หนัก ตอนตัดสินใจเลือกยืมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยชมที่สร้างเป็นหนังมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน พออ่านไปได้ไม่กี่หน้าเริ่มรู้สึกฉากช่างคุ้นเคย เนื้อเรื่องเหมือนเคยรู้มาก่อน ทบทวนความทรงจำตนเองจึงค่อยจำได้ว่าคือเรื่องเดียวกับหนังที่ดูจบแล้วชอบมากนั่นเอง แต่ห้วงเวลาที่ชมนั้นไม่เคยทราบว่าสร้างจากนิยายเล่มนี้ ดูเพราะชอบนักแสดงหลักทั้งสองคนเลยคือ ทาคูยะ และมาซามิ และก็ไม่ผิดหวังทั้งคู่แสดงในบทบาทที่ได้รับได้ดีมาก พระนางมีการขัดแย้งในความเห็นอย่างที่เรียกว่าคู่กัด แต่ก็ห่วงใยช่วยเหลือกันมีความน่ารักปนน่าหมั่นไส้ โรงแรมที่ใช้เป็นฉากก็หรูหราโอ่โถงงดงามน่าใช้บริการอย่างมากครับ

    📚วกกลับมาเข้าเรื่องในหนังสือ

    สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 425 บาท
    ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน
    อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล

    เนื้อหาในเล่มกล่าวถึงชีวิตของพนักงานโรงแรมคอร์เทเชียโตเกียวสุดหรูที่มีนามว่า ยามางิชิ นาโอมิ ซึ่งเป็นตัวเอกที่ดำเนินเรื่องหลักของนิยายเล่มนี้ ที่ฉากแรกปรากฏก็เปิดตัวอย่างสง่างามสมกับความเป็นพนักงานต้อนรับมืออาชีพยิ่ง เพราะมีลูกค้าชายประเภทที่จงใจก่อปัญหาเพื่อหวังจะได้เข้าพักในห้องราคาสูงกว่าที่ตนได้เลือกจองไว้ จนพนักงานยกกระเป๋าที่เข็นของไปให้ ต้องโทร.ลงมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ซึ่งเธอสามารถบริหารจัดการให้ผ่านพ้นสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าลงได้อย่างสวยงาม

    จากนั้นเรื่องจึงนำพาผู้อ่านเข้าสู่ประเด็นของที่มาอันกลายเป็นชื่อเรื่องคือ ทางผู้จัดการใหญ่ที่รับผิดชอบดูแลพนักงานในโรงแรมทั้งหมด ได้รับการติดต่อขอความร่วมมือจากกรมตำรวจนครบาลโตเกียว ในการสืบสวนคดีที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้ ที่มีแนวโน้มเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องโดยคนร้ายรายเดียวกัน

    🏨

    รายละเอียดของคดีคือ มีการพบศพผู้ตาย 3 ราย ในระยะเวลาห่างกันประมาณ 6-7 วันนับจากศพแรก ทราบชื่อผู้ตายทั้งสาม เป็นชาย2หญิง1 สาเหตุเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายด้วยการตีจากด้านหลังบ้าง รัดคอบ้าง ทุกรายพบตัวเลขปริศนา2ชุดในจุดเกิดเหตุ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับการตายของเหยื่อหรือไม่อย่างไร แต่ตำรวจมั่นใจว่าคนร้ายหมายตาที่จะก่อเหตุในครั้งต่อไป โดยเล็งเป้าหมายคือโรงแรมที่นาโอมิทำงานอยู่ ปัญหาใหญ่คือไม่ทราบว่าใครที่คนร้ายหมายจะฆ่า ทำไมถึงเลือกที่นี่ และคนร้ายคือใคร ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยพวกนี้ ฝ่ายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้คุยตกลงกันกับผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมแล้ว ดังนั้นจึงเรียกตัว หัวหน้าจากหลายฝ่ายให้มาร่วมประชุม ไม่ว่าฝ่ายห้องพัก ฝ่ายเข็นสัมภาระลูกค้าไปส่งห้อง ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และในการนี้นาโอมิยังถูกระบุให้เข้าร่วมประชุมแม้จะเป็นแค่เพียง พนักงานระดับปฏิบัติการณ์ฝ่ายต้อนรับเท่านั้น

    🏨

    เหตุผลเพราะหัวหน้างานไว้วางใจ เชื่อมั่นในคุณสมบัติและประสบการณ์ของเธอจะสามารถเป็นพี่เลี้ยงให้กับตำรวจ ที่จะปลอมเข้ามาเป็นพนักงานเพื่อเฝ้าสังเกตบุคคลที่มาใช้บริการโรงแรม ซึ่งแผนกต้อนรับเองนาโอมิถูกเลือกให้จับคู่กับรองสารวัตรนิตตะ ส่วนแผนกอื่นก็มีตำรวจปลอมตัวเข้าไปด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นก็มีตำรวจส่วนหนึ่งที่ถูกสั่งการให้ปะปนเข้ามาเป็นคนใช้บริการหรือจับตาความเคลื่อนไหวบริเวณโถงรับแขก ห้องอาหาร และอื่นๆ

    🏨

    นั่นคือจุดเริ่มแห่งความหรรษา เพราะนิตตะไม่ชอบอะไรที่เป็นพิธีการ แต่จำใจต้องเชื่อฟังนาโอมิที่อายุน้อยกว่า ตั้งแต่เรื่องชุดพนักงาน ท่าทีการพูดจา บุคลิกภายนอกที่ต้องถูกปรับให้กลายจากความเป็นตำรวจมาเป็นพนักงานต้อนรับให้สมจริงมากที่สุด ทั้งคู่จึงมีการกระทบกระทั่งทางความคิดที่ไม่ตรงกัน จนมีการโต้เถียงบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นความบันเทิงประการหนึ่ง ด้วยคู่นี้มีความน่ารัก น่าลุ้น ที่จะกลายมาเป็นคู่ใจในอนาคตได้

    🏨

    ระหว่างนั้น นาโอมิมีข้อสงสัยมากมายหลายประการ เธอมักถามนิตตะที่ทราบรายละเอียดของคดีมากกว่าที่พนักงานโรงแรมทราบ แต่นิตตะไม่บอกเล่าโดยให้เหตุผลว่าเป็นความลับของทางราชการไม่อาจให้คนนอกทราบได้

    งานบริการของนาโอมิยังคงต้องดำเนินต่อไป เกิดปัญหาจากความต้องการของลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาพักเป็นระยะ ซึ่งเธอและนิตตะต้องพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านพ้น ทำให้ทั้งสองเริ่มมีความเข้าใจและยอมรับในตัวตนและงานของอีกฝ่ายได้ดีขึ้นกว่าเมื่อแรกพบหน้า ลูกค้าบางคนดูไม่น่าไว้ใจและมีท่าทางแปลกจนนิตตะจับตามองเป็นพิเศษ ด้วยสัญชาตญาณของนักสืบ

    🏨

    ขณะที่มีตำรวจวัยเลยกลางคนไปแล้ว ซึ่งเป็นตำรวจในท้องที่เกิดเหตุคนหนึ่งที่รู้จักกับนิตตะ และได้รับการมอบหมายให้เป็นคู่หูสืบคดีก่อนที่นิตตะจะต้องปลอมตัวมาเป็นพนักงานต้อนรับนั้น มีน้ำใจที่อยากจะช่วยเหลือ จึงมักอาสาช่วยสืบเรื่องราวต่าง ๆ จากด้านนอก ตามที่นิตตะมีความสงสัยด้วยอีกทางหนึ่ง

    ในที่สุดนิตตะก็ทนรบเร้าจากนาโอมิไม่ไหว อีกทั้งเริ่มมีความไว้ใจเธอมากขึ้น จนยอมเล่าให้ทราบถึงปริศนาของชุดตัวเลขที่ปรากฏทุกครั้งในสถานที่พบศพอันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตำรวจตัดสินใจปะปนเข้ามาในโรงแรม ทำให้เธอเริ่มเกิดความตื่นตัวและทึ่งในความสามารถของเขา รวมถึงมีความกังวลถึงเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้จนส่งผลต่อสุขภาพและงานในหน้าที่ความรับผิดชอบ

    🏨

    อย่างไรก็ตาม สุดท้ายตัวคนร้ายคือคนที่คิดไม่ถึง ซึ่งไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าจะวางแผนการณ์ได้อย่างแยบยลขนาดนั้น แต่แรงจูงใจในการก่อคดียังรู้สึกว่ามีน้ำหนักน้อยไปสักหน่อย คงเพราะความที่คนร้ายเป็นคนประเภทมีจิตรุนแรงในพื้นนิสัย ทำให้ต้องลุ้นเอาใจช่วยนิตตะและนาโอมิในตอนที่เนื้อเรื่องเปิดเผยให้คนอ่านทราบแล้วว่าเป็นใคร ทั้งสองจะปลอดภัยหรือไม่ จะจับตัวคนร้ายได้ไหม ใครจะถูกฆ่าเป็นรายถัดไปหรือเปล่า ต้องตามอ่านต่อในพิกัดต่อไปใครเป็นศพครับ

    🖋วิจารณ์หลังจบเรื่อง

    เป็นการเล่าในมุมมองบุคคลที่สามคือมุมมองพระเจ้า ฉากหลักตลอดทั้งเรื่องเกิดขึ้นภายในโรงแรม ตัวละครที่มีการเอ่ยชื่อและมีบทบาทสำคัญไม่เยอะจนเกินไป จึงทำให้คนอ่านจดจำและรู้สึกใกล้ชิดกับตัวเอก ไปจนตัวรองที่ถูกกล่าวถึงบ่อย ๆ ได้ไม่ยาก ความจริงในส่วนของคดีที่เกิดในเล่มนี้นั้น พูดตามจริงแล้วไม่ได้มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไร รูปแบบการฆ่าก็ธรรมดาเกินกว่าจะดูน่ากลัวหรือลึกลับ เพียงแต่มีจุดเด่นตรงชุดตัวเลขปริศนาว่าหมายถึงอะไร และชวนน่าสงสัยเล็กน้อยว่าคนร้ายจะฆ่าคนไปทำไม เพราะดูเหมือนตำรวจมีข้อมูลน้อยมาก จนการสืบสวนแทบไม่เดินหน้าไปไหนเลย

    🏨

    เป็นความตั้งใจของผู้เขียนที่คงจะต้องการให้โทนของเรื่องออกมาในลักษณะนี้ คือไม่เน้นที่การสืบสวนคลี่คลายปมเป็นพิเศษ จึงไม่จำเป็นต้องผูกเรื่องราวของคดีที่เกิดขึ้นให้มีความอลังการ จนดึงดูดความสนใจกระหายใคร่รู้ และกระตุ้มต่อมนักสืบของคนอ่านจนพุ่งสูงด้วยความเข้มข้นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ แต่กลับเลือกที่จะให้ดูเป็นคดีทั่วไป ไม่มีความโชกเลือดหรือบ้าคลั่งของฆาตกรเป็นที่ปรากฏออกมาในบรรยากาศ ซึ่งในแง่นี้ถือว่านักอ่านหลายคนอาจถูกภาพปกของหนังสือหลอกเอาได้ เพราะโทนสีดำแดง กับเลือดเปรอะกระจายบนแผนที่ อีกทั้งชื่อเรื่องชวนค้นหาว่าคงจะดำเนินไปในแนวทางน่าตื่นเต้นกับการตามสืบอะไรทำนองนั้น ซึ่งใครที่คาดหวังมากก็อาจผิดหวังเมื่อพบว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่ตนคาดว่าจะได้พบเจอ

    🏨

    แต่นี่ไม่มีปัญหากับผม ส่วนตัวชอบมาก แทบไม่ได้สนใจในคดีด้วยซ้ำว่าใครจะเป็นคนร้าย ใครเป็นเป้าหมายที่กำลังจะถูกฆ่า และทำไมต้องฆ่า คืออ่านไปได้เรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลิน ชอบในความที่เนื้อหาเจาะลึกถึงวงการคนโรงแรม ทำให้เราได้รู้ข้อมูลหลายอย่าง สิ่งที่พนักงานต้องแบกรับและพบเจอที่เป็นเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลัง ซึ่งคนทั่วไปไม่ค่อยได้คำนึงถึงและไม่เคยมองในมุมของคนทำงานเหล่านั้น จึงเป็นความบันเทิงที่สามารถได้รู้เรื่องราวอินไซด์โดยผ่านการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของนาโอมิ กับประเด็นต่าง ๆ ที่เข้ามามากมาย คล้ายกำลังได้ติดตามดูซีรีส์ชีวิตการทำงานในอาชีพด้านการบริหารโรงแรมดี ๆ สักเรื่องหนึ่ง ซึ่งอดีตเมื่อ 30 กว่าปีก่อน เคยได้รับชมมาบ้างทั้งของญี่ปุ่นและเกาหลี

    🏨

    จุดเด่นในการดำเนินเรื่องคือเราจะได้เห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นของสองตัวละครหลัก ในระหว่างร่วมกันแก้ไขปัญหา แม้มีความขัดแย้งจากความเห็นมุมมองที่ต่างสถานะบ้างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ดีเสียอีกทำให้ต่างฝ่ายได้เรียนรู้เพิ่ม เป็นประสบการณ์ใหม่และเปิดมุมมองอีกด้านที่ตนไม่เคยใส่ใจ จนเกิดเป็นความเห็นอกเห็นใจ และเชื่อใจกันโดยไม่รู้ตัว แม้นภายนอกเหมือนไม่ชอบหน้ากันก็ตาม ที่สำคัญคือแม้เรื่องแนวทางการสืบหาตัวคนร้ายเหมือนไม่คืบหน้าไปไหน แต่เมื่อนาโอมิแก้ปัญหาลูกค้าไปทีละเรื่องต่อเนื่องไป ทำให้นิตตะเองสะดุดคิดได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่จะเกี่ยวโยงไปถึงคดีได้อย่างไม่ตั้งใจ บางครั้งคำพูดของนาโอมิเองช่วงสนทนากับนิตตะ ไปจุดประกายให้เขาพลันนึกอะไรได้ขึ้นมาอย่างกะทันหันก็มี รวมถึงคู่หูนายตำรวจท้องที่ผู้มีอายุมากกว่าเขา ก็ยังมีส่วนช่วยอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน ทำให้เห็นถึงพลังของความช่วยเหลือกันและกันของความเป็นเพื่อน แม้เพิ่งทำความรู้จักกันชั่วระยะเวลาไม่นาน นี่จึงไม่ใช่นิยายสืบสวนที่เน้นความเก่งฉกาจของนักสืบที่รับผิดชอบคดีแบบฉายเดี่ยว แต่ต้องอาศัยความเชื่อใจระหว่างกันในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็นที่มีของตนคนเดียวอาจจะไม่เพียงพอ

    หากพิจารณาให้ดี จะได้เห็นถึงความสำคัญของบุคคลแวดล้อมที่ดูราวกับไม่มีส่วนสำคัญ แต่แท้จริงถ้าไม่ได้ความคิดเห็นหรือความช่วยเหลือของเขา พระเอกของเราก็ยังคงไม่อาจฉุกใจได้คิด จนนำไปสู่การรู้ตัวคนร้ายในช่วงท้ายของเรื่อง

    บทสรุปก่อนจบ มีแนวโน้มให้คนอ่านได้ลุ้นว่านิตตะกับนาโอมิ จะมีความเป็นไปได้ในการเป็นคู่รักหรือไม่ แต่ที่มั่นใจคือน่าจะมีเล่มต่อให้ได้ติดตามกันอย่างแน่นอน.

    .........................................

    2. #พิกัดต่อไปใครเป็นศพตอนลางร้ายใต้หน้ากาก #masqueradeeve

    เล่มที่สองของซีรีส์ ที่ยังคงความสนุกได้ไม่แพ้เล่มแรก แต่ความหนาน้อยลงเหลือ 352 หน้า

    สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 345 บาท
    ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน
    อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล

    เนื้อหาย่อของเล่มนี้

    ถึงจะออกมาเป็นเล่มที่สองของชุด แต่เหตุการณ์เป็นเรื่องก่อนหน้าคดีในเล่มแรก คือย้อนไปเล่าสมัยที่นาโอมิเพิ่งจะเข้าทำงานใน คอร์เทเชียโตเกียวได้แค่สี่ปี และย้ายแผนกมาอยู่ฝ่ายต้อนรับไม่นาน ยังเห็นถึงความผิดพลาดบกพร่องที่ไม่คล่องตัว ยังไม่มีความเชื่อมั่นในประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญดังภาพที่ปรากฏในเล่มก่อนหน้า ทว่าก็ยังคงบุคลิกที่มุ่งมั่นในการให้บริการ และมีหัวใจในการคิดถึงและเอาใจใส่ต่อลูกค้าทุกคนอย่างซื่อสัตย์

    🏨

    เริ่มต้นมา นาโอมิก็ได้แสดงความสามารถที่ทำให้เห็นถึงความมีไหวพริบปฏิภาณ และช่างสังเกต อันเป็นคุณสมบัติที่ควรต้องมีในคนที่ทำอาชีพเช่นเธอ โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งนาโอมิจดจำได้ว่าเป็นอดีตแฟนที่เคยคบหากันชั่วเวลาหนึ่งสมัยที่เธอเรียนมหาวิทยาลัย แต่มีเหตุให้ต้องเลิกราแยกย้ายกันไปคนละเส้นทาง เขามากับชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นนักกีฬาเบสบอลอาชีพที่มีชื่อเสียงมาก โดยทำหน้าที่เป็นผจก.ส่วนตัวนักกีฬาชาย แล้วได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นในขณะที่ทั้งสองมาพักอยู่ในโรงแรม จนเป็นเหตุให้แฟนเก่าคนนี้โทร.ตามตัวนาโอมิจากหน้าฟรอนต์ให้มาช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งเธอไม่เต็มใจนักแต่ต้องตัดความรู้สึกส่วนตัวออก แล้วสวมหัวใจพนักงานฝ่ายต้อนรับที่ต้องช่วยเหลือบริการแก่ลูกค้าอย่างดีที่สุด ซึ่งสุดท้ายเธอก็สามารถจัดการกับปัญหาให้จบลงด้วยดี

    🏨

    ทางด้านนิตตะนั้น เพิ่งเริ่มต้นอาชีพด้วยการเข้าเป็นน้องใหม่ในสังกัดกรมตำรวจหลังกลับมาจากต่างประเทศไม่นาน โดยมีรุ่นพี่โมโตมิยะ(ปรากฏตัวในเล่มแรกด้วย โดยเป็นหนึ่งที่ปลอมตัวเข้าไปในโรงแรม) ที่เป็นคู่หูและพี่เลี้ยง ซึ่งคดีแรกที่เขาต้องคลี่คลายคือ คดีฆาตกรรมวันไวต์เดย์ โดยตำรวจได้รับแจ้งจากหญิงสาวคนหนึ่งว่าสามีของตนออกไปวิ่งออกกำลังตอนกลางดึกแต่ยังไม่กลับถึงบ้านตามเวลา สุดท้ายมีการพบว่าสามีของเธอกลายเป็นศพอยู่ในสวน ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกแทงที่ท้องและหลัง มีอะไรหลายอย่างที่พบในที่เกิดเหตุ รวมถึงข้อมูลที่ตำรวจได้สืบทราบมา ที่รบกวนใจของนิตตะ เขาได้แสดงความสามารถออกมาเป็นที่ปรากฏจนรุ่นพี่ออกจะไม่พอใจและหมั่นไส้อยู่บ้าง ด้วยสิ่งที่นิตตะคาดคะเนและวิเคราะห์ทำให้ตำรวจสามารถพบตัวของผู้ก่อเหตุได้ในเวลาไม่นาน แต่คดีนี้มีอะไรที่ซับซ้อนยิ่งกว่าสิ่งที่ตำรวจรู้

    🏨

    ตัดมาที่การปฏิบัติงานของนาโอมิ ในเหตุการณ์ที่มีกลุ่มชายหลายคน มาจองห้องพักและมีพฤติการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าแปลกพิกล ต่อมาทราบว่าที่แท้คนกลุ่มนี้หวังที่จะมาเฝ้ารอเพื่อจะได้พบเจอกับนักเขียนนิยายที่โด่งดังนามว่า ทาจิบานะ ซากุระซึ่งเขียนแนวประโลมโลก และจะเข้ามาพักที่โรงแรมเพื่อเขียนงานใหม่ เนื่องจากเหล่าสาวกที่ชื่นชอบงานเขียนของซากุระ ไปเห็นรูปที่ถูกระบุว่าเป็นนักเขียนหญิงคนดังในโซเชียลมีเดีย พอเห็นว่าเป็นสาวสวยจึงหาวิธีที่จะได้พบเจอตัวจริงให้ได้ จึงเป็นหน้าที่ของนาโอมิ ที่จะต้องรักษาความเป็นส่วนตัวรวมถึงความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ ความยุ่งยากจึงเกิดขึ้น

    🏨

    ตอนสุดท้าย นาโอมิได้รับการขอจากผู้จัดการให้ช่วยไปสอนงานให้กับพนักงานแผนกต้อนรับที่สาขาโอซาก้า ซึ่งเพิ่งเปิดโรงแรมได้ไม่นาน เธอจึงต้องไปทำงานอยู่ที่นั่นชั่วระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่เกินครึ่งปี ในขณะที่นิตตะมีคดีใหม่ที่ต้องรับผิดชอบกับรุ่นพี่โมโตมิยะ คือการตายของอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องทางสิทยาศาสตร์ โดยพบศพในห้องทำงาน คดีนี้มีผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะเป็นบุคคลคนหนึ่ง แต่ทว่าเขากลับมีหลักฐานยืนยันที่อยู่ชัดเจนในช่วงเวลาที่คาดว่าเหยื่อถูกฆ่าตาย ซึ่งเจ้าตัวเข้าใจว่าตนเองรอดพ้นแน่แต่แท้จริงเบื้องหลังยังมีอะไรที่ไม่เป็นดังที่คิด ที่มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่า

    ในกรณีทีมสืบสวนเอง ผู้ใหญ่ได้สั่งการลงมาให้นิตตะจับคู่กันกับตำรวจหญิงวัยละอ่อน ที่เป็นตำรวจท้องที่มีนามว่า ริสะ ที่ถูกย้ายมาจากแผนกความปลอดภัยชุมชน ให้มาร่วมในทีมเป็นครั้งแรก นิตตะไม่พอใจนักแต่จำใจต้องทำตาม แม้จะดูเหมือนเป็นตำรวจหญิงที่อ่อนต่อโลก พูดเป็นต่อยหอย และขาดไหวพริบม แต่ริสะก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความกระตือรือร้น มุ่งมั่นใส่ใจในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่เธอได้รับคำสั่งจากนิตตะให้ไปสืบเช็กข้อมูลจากโรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้า เพื่อยืนยันคำพูดจากปากของชายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ทำให้ริสะได้พบกับนาโอมิ อันก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากมาถึงผลลัพธ์ในภายหลัง

    🖋วิเคราะห์หลังอ่านจบ

    เล่มนี้เล่าเรื่องโดยแยกเนื้อหาระหว่างการแก้ปัญหาในโรงแรมของนาโอมิ กับการไขคดีของนิตตะออกจากกันชัดเจนเป็นตอนที่จบในตัว เริ่มจากตอนของนาโอมิก่อน จากนั้นสลับไปเล่าฝั่งนิตตะ แต่ในตอนสุดท้ายจะผนวกสองฝั่งให้เชื่อมถึงกันในคดีที่มีผู้เกี่ยวข้องได้ไปเข้าพักที่โรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้าซึ่งนาโอมิกำลังอยู่ในช่วงที่สอนงานให้พนักงานที่นั่น

    ทั้งคู่ไม่ได้พบกันเลย เพราะการพบกันครั้งแรกเกิดขึ้นในเล่มแรก แต่ผู้เขียนมีความสามารถในการผูกโยงเรื่องราวให้คนอ่านรู้สึกเหมือนว่าได้เห็นคนทั้งสองอย่างใกล้ชิด และได้เห็นบุคลิกกับอุปนิสัยส่วนตัวของนาโอมิกับนิตตะมากขึ้น

    นิตตะในเล่มนี้ มีโอกาสได้แสดงฝีมือในการคิดวิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์กับข้อมูลที่ใช้หาตัวคนร้าย ได้เด่นชัดกว่าเล่มแรก สมกับที่เป็นระดับหัวกะทิที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่เราก็จะได้เห็นถึงข้อเสียใหญ่ของเขาที่ไม่น่ารักเช่นกัน คือเป็นคนมั่นใจในความฉลาดของตนมากจนเหมือนดูถูกคนที่ด้อยกว่า โดยเฉพาะความคิดที่เห็นว่าผู้หญิงเป็นตัวถ่วง สู้ผู้ชายไม่ได้ ดังที่นิตตะแสดงออกทางสีหน้าท่าทางและคำพูดต่อเด็กใหม่อย่างริสะ ที่เหมือนเป็นได้แค่ลูกไล่ไร้ประโยชน์ ซึ่งต่างจากนาโอมิ ที่แม้จะมองออกว่าริสะเป็นตำรวจที่ความสามารถไม่ถึงขั้น แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีรำคาญ กลับมองเห็นถึงมุมที่เป็นความอดทน ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดของตำรวจหญิงในการพยายามค้นหาความจริงให้ได้ ความมุ่งมั่นของริสะจึงเอาชนะใจของนาโอมิ จนยอมช่วยเหลือด้วยการเปิดเผยเรื่องราวบางส่วนให้ริสะทราบ

    ในส่วนของการคลี่คลายคดี ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนจนเกินไป แต่เล่มนี้จะเน้นไปที่คดีที่น่าจะเป็นที่มาของชื่อตอน (ลางร้ายใต้หน้ากาก) ถึงสองคดีด้วยกันครับ ถ้าได้อ่านแล้วจะเข้าใจ และน่าจะเห็นตรงกันว่าภายใต้หน้ากากที่ภายนอกดูไม่ได้รู้เลยว่าจะกลายเป็นคนร้ายได้ สุดท้ายก็แอบซ่อนความบิดเบี้ยวของใจที่โดนกิเลสเข้าครอบงำได้อย่างน่ากลัว

    ตัวละครในเรื่อง สำหรับเล่มนี้ รู้สึกว่าริสะที่แม้จะมีบทบาทเพียงแค่ช่วงคดีสุดท้ายนั้น เป็นตัวละครที่เขียนมาได้น่าสนใจมาก โผล่มาทีไรก็ทำให้คนอ่านอย่างผมอดขำไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ไปต่อในเล่มอื่น ๆ ของชุดนี้หรือไม่ ส่วนนาโอมินั้นยังคงเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์เช่นเดิม เทียบกับนิตตะแล้วส่วนตัวมีความรู้สึกชอบนาโอมิมากกว่า

    นอกจากนี้ยังชอบตอนจบของเรื่อง ที่มีการโยงถึงเหตุการณ์ที่เป็นต้นตอนำไปสู่ความอาฆาตแค้นของฆาตกรในคดีที่เกิดขึ้นในเล่มแรก สรุปว่าอ่านจบเล่มสองแล้วก็จะไปต่อเหตุการณ์ของเล่มแรกพอดี

    ใครเริ่มอ่านจากเล่มนี้ก่อน สามารถอ่านเล่มแรกต่อเนื่องได้เลย

    📌คำเตือน : สำหรับคนที่ชอบการสืบคดีแบบเข้มข้น มีวิธีการฆ่าที่ค่อนข้างแปลกพิสดารหรือโหดสยอง และมีกลวิธีในการอำพรางซ่อนเร้นที่ไม่ธรรมดา ซีรีส์ชุดนี้อาจไม่ตอบโจทย์ แล้วเลยพาลจะไม่ชอบหรือหมดสนุกได้ง่าย แต่ถ้าชอบแนวได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพของตัวเอกควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการไขคดีที่ไม่โลดโผน ชุดนี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคุณได้ไม่ยากครับ

    ป.ล. มีปกใหม่ออกมาที่คิดว่าทำได้ดีตรงกับแนวเรื่องและชื่อตอนมากกว่าปกฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกด้วย เพราะปกของเล่มสองนี้ดูเหมือนน่าจะโหดมาก แต่เนื้อในไม่ใช่อย่างที่คิด

    ใครอ่านตั้งแต่ต้นมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ได้ขอได้รับความขอบคุณจากผมด้วยครับ

    #thaitimes
    #หนังสือ
    #หนังสือน่าอ่าน
    #นิยายแปล
    #นิยายญี่ปุ่น
    #นิยายสืบสวน
    #สืบสวน
    #คดีฆาตกรรม
    #งานโรงแรม
    #พนักงานต้อนรับ
    #ตำรวจ
    #นักสืบ
    #ลูกค้า
    #งานบริการ
    #อาชีพ
    #ฮิงาชิโนะเคโงะ
    🔹️แพ็กคู่ซีรีส์ชุด พิกัดต่อไปใครเป็นศพ❗ คำเตือน เนื้อหายาวมากถึงมากที่สุด 1 #พิกัดต่อไปใครเป็นศพ #masqueradehotel อ่านจนจบในวันเดียว หนาถึง 547 หน้า ดีที่ขนาดไม่เทอะทะแม้หนาแต่ไม่หนัก ตอนตัดสินใจเลือกยืมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยชมที่สร้างเป็นหนังมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน พออ่านไปได้ไม่กี่หน้าเริ่มรู้สึกฉากช่างคุ้นเคย เนื้อเรื่องเหมือนเคยรู้มาก่อน ทบทวนความทรงจำตนเองจึงค่อยจำได้ว่าคือเรื่องเดียวกับหนังที่ดูจบแล้วชอบมากนั่นเอง แต่ห้วงเวลาที่ชมนั้นไม่เคยทราบว่าสร้างจากนิยายเล่มนี้ ดูเพราะชอบนักแสดงหลักทั้งสองคนเลยคือ ทาคูยะ และมาซามิ และก็ไม่ผิดหวังทั้งคู่แสดงในบทบาทที่ได้รับได้ดีมาก พระนางมีการขัดแย้งในความเห็นอย่างที่เรียกว่าคู่กัด แต่ก็ห่วงใยช่วยเหลือกันมีความน่ารักปนน่าหมั่นไส้ โรงแรมที่ใช้เป็นฉากก็หรูหราโอ่โถงงดงามน่าใช้บริการอย่างมากครับ 📚วกกลับมาเข้าเรื่องในหนังสือ สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 425 บาท ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล เนื้อหาในเล่มกล่าวถึงชีวิตของพนักงานโรงแรมคอร์เทเชียโตเกียวสุดหรูที่มีนามว่า ยามางิชิ นาโอมิ ซึ่งเป็นตัวเอกที่ดำเนินเรื่องหลักของนิยายเล่มนี้ ที่ฉากแรกปรากฏก็เปิดตัวอย่างสง่างามสมกับความเป็นพนักงานต้อนรับมืออาชีพยิ่ง เพราะมีลูกค้าชายประเภทที่จงใจก่อปัญหาเพื่อหวังจะได้เข้าพักในห้องราคาสูงกว่าที่ตนได้เลือกจองไว้ จนพนักงานยกกระเป๋าที่เข็นของไปให้ ต้องโทร.ลงมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ซึ่งเธอสามารถบริหารจัดการให้ผ่านพ้นสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าลงได้อย่างสวยงาม จากนั้นเรื่องจึงนำพาผู้อ่านเข้าสู่ประเด็นของที่มาอันกลายเป็นชื่อเรื่องคือ ทางผู้จัดการใหญ่ที่รับผิดชอบดูแลพนักงานในโรงแรมทั้งหมด ได้รับการติดต่อขอความร่วมมือจากกรมตำรวจนครบาลโตเกียว ในการสืบสวนคดีที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้ ที่มีแนวโน้มเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องโดยคนร้ายรายเดียวกัน 🏨 รายละเอียดของคดีคือ มีการพบศพผู้ตาย 3 ราย ในระยะเวลาห่างกันประมาณ 6-7 วันนับจากศพแรก ทราบชื่อผู้ตายทั้งสาม เป็นชาย2หญิง1 สาเหตุเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายด้วยการตีจากด้านหลังบ้าง รัดคอบ้าง ทุกรายพบตัวเลขปริศนา2ชุดในจุดเกิดเหตุ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับการตายของเหยื่อหรือไม่อย่างไร แต่ตำรวจมั่นใจว่าคนร้ายหมายตาที่จะก่อเหตุในครั้งต่อไป โดยเล็งเป้าหมายคือโรงแรมที่นาโอมิทำงานอยู่ ปัญหาใหญ่คือไม่ทราบว่าใครที่คนร้ายหมายจะฆ่า ทำไมถึงเลือกที่นี่ และคนร้ายคือใคร ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยพวกนี้ ฝ่ายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้คุยตกลงกันกับผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมแล้ว ดังนั้นจึงเรียกตัว หัวหน้าจากหลายฝ่ายให้มาร่วมประชุม ไม่ว่าฝ่ายห้องพัก ฝ่ายเข็นสัมภาระลูกค้าไปส่งห้อง ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และในการนี้นาโอมิยังถูกระบุให้เข้าร่วมประชุมแม้จะเป็นแค่เพียง พนักงานระดับปฏิบัติการณ์ฝ่ายต้อนรับเท่านั้น 🏨 เหตุผลเพราะหัวหน้างานไว้วางใจ เชื่อมั่นในคุณสมบัติและประสบการณ์ของเธอจะสามารถเป็นพี่เลี้ยงให้กับตำรวจ ที่จะปลอมเข้ามาเป็นพนักงานเพื่อเฝ้าสังเกตบุคคลที่มาใช้บริการโรงแรม ซึ่งแผนกต้อนรับเองนาโอมิถูกเลือกให้จับคู่กับรองสารวัตรนิตตะ ส่วนแผนกอื่นก็มีตำรวจปลอมตัวเข้าไปด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นก็มีตำรวจส่วนหนึ่งที่ถูกสั่งการให้ปะปนเข้ามาเป็นคนใช้บริการหรือจับตาความเคลื่อนไหวบริเวณโถงรับแขก ห้องอาหาร และอื่นๆ 🏨 นั่นคือจุดเริ่มแห่งความหรรษา เพราะนิตตะไม่ชอบอะไรที่เป็นพิธีการ แต่จำใจต้องเชื่อฟังนาโอมิที่อายุน้อยกว่า ตั้งแต่เรื่องชุดพนักงาน ท่าทีการพูดจา บุคลิกภายนอกที่ต้องถูกปรับให้กลายจากความเป็นตำรวจมาเป็นพนักงานต้อนรับให้สมจริงมากที่สุด ทั้งคู่จึงมีการกระทบกระทั่งทางความคิดที่ไม่ตรงกัน จนมีการโต้เถียงบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นความบันเทิงประการหนึ่ง ด้วยคู่นี้มีความน่ารัก น่าลุ้น ที่จะกลายมาเป็นคู่ใจในอนาคตได้ 🏨 ระหว่างนั้น นาโอมิมีข้อสงสัยมากมายหลายประการ เธอมักถามนิตตะที่ทราบรายละเอียดของคดีมากกว่าที่พนักงานโรงแรมทราบ แต่นิตตะไม่บอกเล่าโดยให้เหตุผลว่าเป็นความลับของทางราชการไม่อาจให้คนนอกทราบได้ งานบริการของนาโอมิยังคงต้องดำเนินต่อไป เกิดปัญหาจากความต้องการของลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาพักเป็นระยะ ซึ่งเธอและนิตตะต้องพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านพ้น ทำให้ทั้งสองเริ่มมีความเข้าใจและยอมรับในตัวตนและงานของอีกฝ่ายได้ดีขึ้นกว่าเมื่อแรกพบหน้า ลูกค้าบางคนดูไม่น่าไว้ใจและมีท่าทางแปลกจนนิตตะจับตามองเป็นพิเศษ ด้วยสัญชาตญาณของนักสืบ 🏨 ขณะที่มีตำรวจวัยเลยกลางคนไปแล้ว ซึ่งเป็นตำรวจในท้องที่เกิดเหตุคนหนึ่งที่รู้จักกับนิตตะ และได้รับการมอบหมายให้เป็นคู่หูสืบคดีก่อนที่นิตตะจะต้องปลอมตัวมาเป็นพนักงานต้อนรับนั้น มีน้ำใจที่อยากจะช่วยเหลือ จึงมักอาสาช่วยสืบเรื่องราวต่าง ๆ จากด้านนอก ตามที่นิตตะมีความสงสัยด้วยอีกทางหนึ่ง ในที่สุดนิตตะก็ทนรบเร้าจากนาโอมิไม่ไหว อีกทั้งเริ่มมีความไว้ใจเธอมากขึ้น จนยอมเล่าให้ทราบถึงปริศนาของชุดตัวเลขที่ปรากฏทุกครั้งในสถานที่พบศพอันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตำรวจตัดสินใจปะปนเข้ามาในโรงแรม ทำให้เธอเริ่มเกิดความตื่นตัวและทึ่งในความสามารถของเขา รวมถึงมีความกังวลถึงเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้จนส่งผลต่อสุขภาพและงานในหน้าที่ความรับผิดชอบ 🏨 อย่างไรก็ตาม สุดท้ายตัวคนร้ายคือคนที่คิดไม่ถึง ซึ่งไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าจะวางแผนการณ์ได้อย่างแยบยลขนาดนั้น แต่แรงจูงใจในการก่อคดียังรู้สึกว่ามีน้ำหนักน้อยไปสักหน่อย คงเพราะความที่คนร้ายเป็นคนประเภทมีจิตรุนแรงในพื้นนิสัย ทำให้ต้องลุ้นเอาใจช่วยนิตตะและนาโอมิในตอนที่เนื้อเรื่องเปิดเผยให้คนอ่านทราบแล้วว่าเป็นใคร ทั้งสองจะปลอดภัยหรือไม่ จะจับตัวคนร้ายได้ไหม ใครจะถูกฆ่าเป็นรายถัดไปหรือเปล่า ต้องตามอ่านต่อในพิกัดต่อไปใครเป็นศพครับ 🖋วิจารณ์หลังจบเรื่อง เป็นการเล่าในมุมมองบุคคลที่สามคือมุมมองพระเจ้า ฉากหลักตลอดทั้งเรื่องเกิดขึ้นภายในโรงแรม ตัวละครที่มีการเอ่ยชื่อและมีบทบาทสำคัญไม่เยอะจนเกินไป จึงทำให้คนอ่านจดจำและรู้สึกใกล้ชิดกับตัวเอก ไปจนตัวรองที่ถูกกล่าวถึงบ่อย ๆ ได้ไม่ยาก ความจริงในส่วนของคดีที่เกิดในเล่มนี้นั้น พูดตามจริงแล้วไม่ได้มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไร รูปแบบการฆ่าก็ธรรมดาเกินกว่าจะดูน่ากลัวหรือลึกลับ เพียงแต่มีจุดเด่นตรงชุดตัวเลขปริศนาว่าหมายถึงอะไร และชวนน่าสงสัยเล็กน้อยว่าคนร้ายจะฆ่าคนไปทำไม เพราะดูเหมือนตำรวจมีข้อมูลน้อยมาก จนการสืบสวนแทบไม่เดินหน้าไปไหนเลย 🏨 เป็นความตั้งใจของผู้เขียนที่คงจะต้องการให้โทนของเรื่องออกมาในลักษณะนี้ คือไม่เน้นที่การสืบสวนคลี่คลายปมเป็นพิเศษ จึงไม่จำเป็นต้องผูกเรื่องราวของคดีที่เกิดขึ้นให้มีความอลังการ จนดึงดูดความสนใจกระหายใคร่รู้ และกระตุ้มต่อมนักสืบของคนอ่านจนพุ่งสูงด้วยความเข้มข้นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ แต่กลับเลือกที่จะให้ดูเป็นคดีทั่วไป ไม่มีความโชกเลือดหรือบ้าคลั่งของฆาตกรเป็นที่ปรากฏออกมาในบรรยากาศ ซึ่งในแง่นี้ถือว่านักอ่านหลายคนอาจถูกภาพปกของหนังสือหลอกเอาได้ เพราะโทนสีดำแดง กับเลือดเปรอะกระจายบนแผนที่ อีกทั้งชื่อเรื่องชวนค้นหาว่าคงจะดำเนินไปในแนวทางน่าตื่นเต้นกับการตามสืบอะไรทำนองนั้น ซึ่งใครที่คาดหวังมากก็อาจผิดหวังเมื่อพบว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่ตนคาดว่าจะได้พบเจอ 🏨 แต่นี่ไม่มีปัญหากับผม ส่วนตัวชอบมาก แทบไม่ได้สนใจในคดีด้วยซ้ำว่าใครจะเป็นคนร้าย ใครเป็นเป้าหมายที่กำลังจะถูกฆ่า และทำไมต้องฆ่า คืออ่านไปได้เรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลิน ชอบในความที่เนื้อหาเจาะลึกถึงวงการคนโรงแรม ทำให้เราได้รู้ข้อมูลหลายอย่าง สิ่งที่พนักงานต้องแบกรับและพบเจอที่เป็นเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลัง ซึ่งคนทั่วไปไม่ค่อยได้คำนึงถึงและไม่เคยมองในมุมของคนทำงานเหล่านั้น จึงเป็นความบันเทิงที่สามารถได้รู้เรื่องราวอินไซด์โดยผ่านการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของนาโอมิ กับประเด็นต่าง ๆ ที่เข้ามามากมาย คล้ายกำลังได้ติดตามดูซีรีส์ชีวิตการทำงานในอาชีพด้านการบริหารโรงแรมดี ๆ สักเรื่องหนึ่ง ซึ่งอดีตเมื่อ 30 กว่าปีก่อน เคยได้รับชมมาบ้างทั้งของญี่ปุ่นและเกาหลี 🏨 จุดเด่นในการดำเนินเรื่องคือเราจะได้เห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นของสองตัวละครหลัก ในระหว่างร่วมกันแก้ไขปัญหา แม้มีความขัดแย้งจากความเห็นมุมมองที่ต่างสถานะบ้างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ดีเสียอีกทำให้ต่างฝ่ายได้เรียนรู้เพิ่ม เป็นประสบการณ์ใหม่และเปิดมุมมองอีกด้านที่ตนไม่เคยใส่ใจ จนเกิดเป็นความเห็นอกเห็นใจ และเชื่อใจกันโดยไม่รู้ตัว แม้นภายนอกเหมือนไม่ชอบหน้ากันก็ตาม ที่สำคัญคือแม้เรื่องแนวทางการสืบหาตัวคนร้ายเหมือนไม่คืบหน้าไปไหน แต่เมื่อนาโอมิแก้ปัญหาลูกค้าไปทีละเรื่องต่อเนื่องไป ทำให้นิตตะเองสะดุดคิดได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่จะเกี่ยวโยงไปถึงคดีได้อย่างไม่ตั้งใจ บางครั้งคำพูดของนาโอมิเองช่วงสนทนากับนิตตะ ไปจุดประกายให้เขาพลันนึกอะไรได้ขึ้นมาอย่างกะทันหันก็มี รวมถึงคู่หูนายตำรวจท้องที่ผู้มีอายุมากกว่าเขา ก็ยังมีส่วนช่วยอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน ทำให้เห็นถึงพลังของความช่วยเหลือกันและกันของความเป็นเพื่อน แม้เพิ่งทำความรู้จักกันชั่วระยะเวลาไม่นาน นี่จึงไม่ใช่นิยายสืบสวนที่เน้นความเก่งฉกาจของนักสืบที่รับผิดชอบคดีแบบฉายเดี่ยว แต่ต้องอาศัยความเชื่อใจระหว่างกันในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็นที่มีของตนคนเดียวอาจจะไม่เพียงพอ หากพิจารณาให้ดี จะได้เห็นถึงความสำคัญของบุคคลแวดล้อมที่ดูราวกับไม่มีส่วนสำคัญ แต่แท้จริงถ้าไม่ได้ความคิดเห็นหรือความช่วยเหลือของเขา พระเอกของเราก็ยังคงไม่อาจฉุกใจได้คิด จนนำไปสู่การรู้ตัวคนร้ายในช่วงท้ายของเรื่อง บทสรุปก่อนจบ มีแนวโน้มให้คนอ่านได้ลุ้นว่านิตตะกับนาโอมิ จะมีความเป็นไปได้ในการเป็นคู่รักหรือไม่ แต่ที่มั่นใจคือน่าจะมีเล่มต่อให้ได้ติดตามกันอย่างแน่นอน. ......................................... 2. #พิกัดต่อไปใครเป็นศพตอนลางร้ายใต้หน้ากาก #masqueradeeve เล่มที่สองของซีรีส์ ที่ยังคงความสนุกได้ไม่แพ้เล่มแรก แต่ความหนาน้อยลงเหลือ 352 หน้า สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 345 บาท ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล เนื้อหาย่อของเล่มนี้ ถึงจะออกมาเป็นเล่มที่สองของชุด แต่เหตุการณ์เป็นเรื่องก่อนหน้าคดีในเล่มแรก คือย้อนไปเล่าสมัยที่นาโอมิเพิ่งจะเข้าทำงานใน คอร์เทเชียโตเกียวได้แค่สี่ปี และย้ายแผนกมาอยู่ฝ่ายต้อนรับไม่นาน ยังเห็นถึงความผิดพลาดบกพร่องที่ไม่คล่องตัว ยังไม่มีความเชื่อมั่นในประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญดังภาพที่ปรากฏในเล่มก่อนหน้า ทว่าก็ยังคงบุคลิกที่มุ่งมั่นในการให้บริการ และมีหัวใจในการคิดถึงและเอาใจใส่ต่อลูกค้าทุกคนอย่างซื่อสัตย์ 🏨 เริ่มต้นมา นาโอมิก็ได้แสดงความสามารถที่ทำให้เห็นถึงความมีไหวพริบปฏิภาณ และช่างสังเกต อันเป็นคุณสมบัติที่ควรต้องมีในคนที่ทำอาชีพเช่นเธอ โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งนาโอมิจดจำได้ว่าเป็นอดีตแฟนที่เคยคบหากันชั่วเวลาหนึ่งสมัยที่เธอเรียนมหาวิทยาลัย แต่มีเหตุให้ต้องเลิกราแยกย้ายกันไปคนละเส้นทาง เขามากับชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นนักกีฬาเบสบอลอาชีพที่มีชื่อเสียงมาก โดยทำหน้าที่เป็นผจก.ส่วนตัวนักกีฬาชาย แล้วได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นในขณะที่ทั้งสองมาพักอยู่ในโรงแรม จนเป็นเหตุให้แฟนเก่าคนนี้โทร.ตามตัวนาโอมิจากหน้าฟรอนต์ให้มาช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งเธอไม่เต็มใจนักแต่ต้องตัดความรู้สึกส่วนตัวออก แล้วสวมหัวใจพนักงานฝ่ายต้อนรับที่ต้องช่วยเหลือบริการแก่ลูกค้าอย่างดีที่สุด ซึ่งสุดท้ายเธอก็สามารถจัดการกับปัญหาให้จบลงด้วยดี 🏨 ทางด้านนิตตะนั้น เพิ่งเริ่มต้นอาชีพด้วยการเข้าเป็นน้องใหม่ในสังกัดกรมตำรวจหลังกลับมาจากต่างประเทศไม่นาน โดยมีรุ่นพี่โมโตมิยะ(ปรากฏตัวในเล่มแรกด้วย โดยเป็นหนึ่งที่ปลอมตัวเข้าไปในโรงแรม) ที่เป็นคู่หูและพี่เลี้ยง ซึ่งคดีแรกที่เขาต้องคลี่คลายคือ คดีฆาตกรรมวันไวต์เดย์ โดยตำรวจได้รับแจ้งจากหญิงสาวคนหนึ่งว่าสามีของตนออกไปวิ่งออกกำลังตอนกลางดึกแต่ยังไม่กลับถึงบ้านตามเวลา สุดท้ายมีการพบว่าสามีของเธอกลายเป็นศพอยู่ในสวน ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกแทงที่ท้องและหลัง มีอะไรหลายอย่างที่พบในที่เกิดเหตุ รวมถึงข้อมูลที่ตำรวจได้สืบทราบมา ที่รบกวนใจของนิตตะ เขาได้แสดงความสามารถออกมาเป็นที่ปรากฏจนรุ่นพี่ออกจะไม่พอใจและหมั่นไส้อยู่บ้าง ด้วยสิ่งที่นิตตะคาดคะเนและวิเคราะห์ทำให้ตำรวจสามารถพบตัวของผู้ก่อเหตุได้ในเวลาไม่นาน แต่คดีนี้มีอะไรที่ซับซ้อนยิ่งกว่าสิ่งที่ตำรวจรู้ 🏨 ตัดมาที่การปฏิบัติงานของนาโอมิ ในเหตุการณ์ที่มีกลุ่มชายหลายคน มาจองห้องพักและมีพฤติการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าแปลกพิกล ต่อมาทราบว่าที่แท้คนกลุ่มนี้หวังที่จะมาเฝ้ารอเพื่อจะได้พบเจอกับนักเขียนนิยายที่โด่งดังนามว่า ทาจิบานะ ซากุระซึ่งเขียนแนวประโลมโลก และจะเข้ามาพักที่โรงแรมเพื่อเขียนงานใหม่ เนื่องจากเหล่าสาวกที่ชื่นชอบงานเขียนของซากุระ ไปเห็นรูปที่ถูกระบุว่าเป็นนักเขียนหญิงคนดังในโซเชียลมีเดีย พอเห็นว่าเป็นสาวสวยจึงหาวิธีที่จะได้พบเจอตัวจริงให้ได้ จึงเป็นหน้าที่ของนาโอมิ ที่จะต้องรักษาความเป็นส่วนตัวรวมถึงความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ ความยุ่งยากจึงเกิดขึ้น 🏨 ตอนสุดท้าย นาโอมิได้รับการขอจากผู้จัดการให้ช่วยไปสอนงานให้กับพนักงานแผนกต้อนรับที่สาขาโอซาก้า ซึ่งเพิ่งเปิดโรงแรมได้ไม่นาน เธอจึงต้องไปทำงานอยู่ที่นั่นชั่วระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่เกินครึ่งปี ในขณะที่นิตตะมีคดีใหม่ที่ต้องรับผิดชอบกับรุ่นพี่โมโตมิยะ คือการตายของอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องทางสิทยาศาสตร์ โดยพบศพในห้องทำงาน คดีนี้มีผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะเป็นบุคคลคนหนึ่ง แต่ทว่าเขากลับมีหลักฐานยืนยันที่อยู่ชัดเจนในช่วงเวลาที่คาดว่าเหยื่อถูกฆ่าตาย ซึ่งเจ้าตัวเข้าใจว่าตนเองรอดพ้นแน่แต่แท้จริงเบื้องหลังยังมีอะไรที่ไม่เป็นดังที่คิด ที่มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่า ในกรณีทีมสืบสวนเอง ผู้ใหญ่ได้สั่งการลงมาให้นิตตะจับคู่กันกับตำรวจหญิงวัยละอ่อน ที่เป็นตำรวจท้องที่มีนามว่า ริสะ ที่ถูกย้ายมาจากแผนกความปลอดภัยชุมชน ให้มาร่วมในทีมเป็นครั้งแรก นิตตะไม่พอใจนักแต่จำใจต้องทำตาม แม้จะดูเหมือนเป็นตำรวจหญิงที่อ่อนต่อโลก พูดเป็นต่อยหอย และขาดไหวพริบม แต่ริสะก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความกระตือรือร้น มุ่งมั่นใส่ใจในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่เธอได้รับคำสั่งจากนิตตะให้ไปสืบเช็กข้อมูลจากโรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้า เพื่อยืนยันคำพูดจากปากของชายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ทำให้ริสะได้พบกับนาโอมิ อันก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากมาถึงผลลัพธ์ในภายหลัง 🖋วิเคราะห์หลังอ่านจบ เล่มนี้เล่าเรื่องโดยแยกเนื้อหาระหว่างการแก้ปัญหาในโรงแรมของนาโอมิ กับการไขคดีของนิตตะออกจากกันชัดเจนเป็นตอนที่จบในตัว เริ่มจากตอนของนาโอมิก่อน จากนั้นสลับไปเล่าฝั่งนิตตะ แต่ในตอนสุดท้ายจะผนวกสองฝั่งให้เชื่อมถึงกันในคดีที่มีผู้เกี่ยวข้องได้ไปเข้าพักที่โรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้าซึ่งนาโอมิกำลังอยู่ในช่วงที่สอนงานให้พนักงานที่นั่น ทั้งคู่ไม่ได้พบกันเลย เพราะการพบกันครั้งแรกเกิดขึ้นในเล่มแรก แต่ผู้เขียนมีความสามารถในการผูกโยงเรื่องราวให้คนอ่านรู้สึกเหมือนว่าได้เห็นคนทั้งสองอย่างใกล้ชิด และได้เห็นบุคลิกกับอุปนิสัยส่วนตัวของนาโอมิกับนิตตะมากขึ้น นิตตะในเล่มนี้ มีโอกาสได้แสดงฝีมือในการคิดวิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์กับข้อมูลที่ใช้หาตัวคนร้าย ได้เด่นชัดกว่าเล่มแรก สมกับที่เป็นระดับหัวกะทิที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่เราก็จะได้เห็นถึงข้อเสียใหญ่ของเขาที่ไม่น่ารักเช่นกัน คือเป็นคนมั่นใจในความฉลาดของตนมากจนเหมือนดูถูกคนที่ด้อยกว่า โดยเฉพาะความคิดที่เห็นว่าผู้หญิงเป็นตัวถ่วง สู้ผู้ชายไม่ได้ ดังที่นิตตะแสดงออกทางสีหน้าท่าทางและคำพูดต่อเด็กใหม่อย่างริสะ ที่เหมือนเป็นได้แค่ลูกไล่ไร้ประโยชน์ ซึ่งต่างจากนาโอมิ ที่แม้จะมองออกว่าริสะเป็นตำรวจที่ความสามารถไม่ถึงขั้น แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีรำคาญ กลับมองเห็นถึงมุมที่เป็นความอดทน ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดของตำรวจหญิงในการพยายามค้นหาความจริงให้ได้ ความมุ่งมั่นของริสะจึงเอาชนะใจของนาโอมิ จนยอมช่วยเหลือด้วยการเปิดเผยเรื่องราวบางส่วนให้ริสะทราบ ในส่วนของการคลี่คลายคดี ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนจนเกินไป แต่เล่มนี้จะเน้นไปที่คดีที่น่าจะเป็นที่มาของชื่อตอน (ลางร้ายใต้หน้ากาก) ถึงสองคดีด้วยกันครับ ถ้าได้อ่านแล้วจะเข้าใจ และน่าจะเห็นตรงกันว่าภายใต้หน้ากากที่ภายนอกดูไม่ได้รู้เลยว่าจะกลายเป็นคนร้ายได้ สุดท้ายก็แอบซ่อนความบิดเบี้ยวของใจที่โดนกิเลสเข้าครอบงำได้อย่างน่ากลัว ตัวละครในเรื่อง สำหรับเล่มนี้ รู้สึกว่าริสะที่แม้จะมีบทบาทเพียงแค่ช่วงคดีสุดท้ายนั้น เป็นตัวละครที่เขียนมาได้น่าสนใจมาก โผล่มาทีไรก็ทำให้คนอ่านอย่างผมอดขำไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ไปต่อในเล่มอื่น ๆ ของชุดนี้หรือไม่ ส่วนนาโอมินั้นยังคงเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์เช่นเดิม เทียบกับนิตตะแล้วส่วนตัวมีความรู้สึกชอบนาโอมิมากกว่า นอกจากนี้ยังชอบตอนจบของเรื่อง ที่มีการโยงถึงเหตุการณ์ที่เป็นต้นตอนำไปสู่ความอาฆาตแค้นของฆาตกรในคดีที่เกิดขึ้นในเล่มแรก สรุปว่าอ่านจบเล่มสองแล้วก็จะไปต่อเหตุการณ์ของเล่มแรกพอดี ใครเริ่มอ่านจากเล่มนี้ก่อน สามารถอ่านเล่มแรกต่อเนื่องได้เลย 📌คำเตือน : สำหรับคนที่ชอบการสืบคดีแบบเข้มข้น มีวิธีการฆ่าที่ค่อนข้างแปลกพิสดารหรือโหดสยอง และมีกลวิธีในการอำพรางซ่อนเร้นที่ไม่ธรรมดา ซีรีส์ชุดนี้อาจไม่ตอบโจทย์ แล้วเลยพาลจะไม่ชอบหรือหมดสนุกได้ง่าย แต่ถ้าชอบแนวได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพของตัวเอกควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการไขคดีที่ไม่โลดโผน ชุดนี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคุณได้ไม่ยากครับ ป.ล. มีปกใหม่ออกมาที่คิดว่าทำได้ดีตรงกับแนวเรื่องและชื่อตอนมากกว่าปกฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกด้วย เพราะปกของเล่มสองนี้ดูเหมือนน่าจะโหดมาก แต่เนื้อในไม่ใช่อย่างที่คิด ใครอ่านตั้งแต่ต้นมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ได้ขอได้รับความขอบคุณจากผมด้วยครับ #thaitimes #หนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #นิยายแปล #นิยายญี่ปุ่น #นิยายสืบสวน #สืบสวน #คดีฆาตกรรม #งานโรงแรม #พนักงานต้อนรับ #ตำรวจ #นักสืบ #ลูกค้า #งานบริการ #อาชีพ #ฮิงาชิโนะเคโงะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1239 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กล้ากลับมาหาแดรกในประเทศไทยกี่โมง
    #กล้าเปิดตตเป็นสาธารณะกี่โมง
    #กล้าเปิดไอจีเป็นสาธารณะกี่โมง
    มีไอโอมาอ้อร้อ บอก ให้หยุดบลาๆๆๆ
    ถามกลับไปว่า
    #เลิกให้ร้ายน้องชาลีกี่โมง
    #เลิกสร้างยูซผีไล่ปั่นเม้นกี่โมง
    #เลิกปั่นเทรนทิพย์ด้วยยูซผีกี่โมง
    #เลิกขู่คนไทยด้วยการฟ้-อ-งปิดปากกี่โมง
    ถ้ารู้ว่ากี่โมง บอกกรรรูด้วย
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #กล้ากลับมาหาแดรกในประเทศไทยกี่โมง #กล้าเปิดตตเป็นสาธารณะกี่โมง #กล้าเปิดไอจีเป็นสาธารณะกี่โมง มีไอโอมาอ้อร้อ บอก ให้หยุดบลาๆๆๆ ถามกลับไปว่า #เลิกให้ร้ายน้องชาลีกี่โมง #เลิกสร้างยูซผีไล่ปั่นเม้นกี่โมง #เลิกปั่นเทรนทิพย์ด้วยยูซผีกี่โมง #เลิกขู่คนไทยด้วยการฟ้-อ-งปิดปากกี่โมง ถ้ารู้ว่ากี่โมง บอกกรรรูด้วย ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 642 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประวัติศาสตร์แล้ว! ภาพ การระเบิด ของปล่องเหมือง Yuzhnodonbasskaya No. 3 ซึ่งศัตรูขุดได้

    ❗️ เราขอเตือนคุณว่าการเก็บกู้ทุ่นระเบิดไม่สามารถทำได้เนื่องจากความใจร้ายของศัตรู ศัตรูไม่ได้ละทิ้งทุ่นระเบิด - ในวิดีโอมี TM-57, MAT-62b ของโรมาเนียพร้อมฟิวส์ P-62, MAT-76, m/52b ของสวีเดน, กล่องที่มี TNT และทุ่นระเบิด
    ประวัติศาสตร์แล้ว! ภาพ การระเบิด ของปล่องเหมือง Yuzhnodonbasskaya No. 3 ซึ่งศัตรูขุดได้ ❗️ เราขอเตือนคุณว่าการเก็บกู้ทุ่นระเบิดไม่สามารถทำได้เนื่องจากความใจร้ายของศัตรู ศัตรูไม่ได้ละทิ้งทุ่นระเบิด - ในวิดีโอมี TM-57, MAT-62b ของโรมาเนียพร้อมฟิวส์ P-62, MAT-76, m/52b ของสวีเดน, กล่องที่มี TNT และทุ่นระเบิด
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 200 0 รีวิว
  • #ตลึงคนดังเองพีเคห้านาทีได้ยี่สิบห้าล้านผู้น่าสงสาร
    ขณะนี้ ตต.ตั้งเป็นค่าส่วนตัว
    และ ไอจี ก็เช่นกัน
    คนดีคนดังที่โจ และทุยต้องปกป้อง
    ก็ใช่ดิ สร้างเครือข่ายจากงบทุนเงินดาร์ค
    ผ่านเอเจน โจสยายปีก
    เอาไอโอมาสร้างกระแสรัวๆ
    ระวังน้า ของจะเข้าตัว
    อิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ตลึงคนดังเองพีเคห้านาทีได้ยี่สิบห้าล้านผู้น่าสงสาร ขณะนี้ ตต.ตั้งเป็นค่าส่วนตัว และ ไอจี ก็เช่นกัน คนดีคนดังที่โจ และทุยต้องปกป้อง ก็ใช่ดิ สร้างเครือข่ายจากงบทุนเงินดาร์ค ผ่านเอเจน โจสยายปีก เอาไอโอมาสร้างกระแสรัวๆ ระวังน้า ของจะเข้าตัว อิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1301 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทองคำฟิวเจอร์สสร้างสถิติพุ่งทะลุระดับ2,600เหรียญ

    ในสัปดาห์ประวัติศาสตร์สำหรับตลาดโลหะมีค่า โกลด์ฟิวเจอร์สได้ทำลายสถิติ โดยทะลุระดับ 2,600 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์เป็นครั้งแรก

    ณ เวลา 17.00 น. EDTของวันศุกร์ที่ผ่านมา สัญญาเซื้อขายทองคำสำหรับเดือนธันวาคมอยู่ที่ 2,606.20 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นผลตอบแทนสุทธิ 19 ดอลลาร์หรือ 0.73% สำหรับวันนั้น การพุ่งขึ้นนี้ถือเป็นวันที่สองติดต่อกันของการทำลายสถิติสูงสุด โดยจุดสูงสุดระหว่างวันแตะระดับ $2,614.60 อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    การเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งของราคาทองคำเกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของเมื่อวันศุกร์ที่ 47 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในวันเดียวที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม การเพิ่มขึ้นอย่างมากของสัปดาห์นี้จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ทางการเงินอย่างไม่ต้องสงสัย ในขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้าก้าวข้ามหลักชัยที่ 2,600 ดอลลาร์

    ในขณะที่ฝุ่นจางหายไปในเหตุการณ์สำคัญนี้ ผู้เข้าร่วมตลาดกำลังมุ่งความสนใจไปที่การประชุมคณะกรรมการตลาดกลางของรัฐบาลกลาง (FOMC) ในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกอย่างกว้างขวางนับตั้งแต่ปี 2020 มีความเห็นพ้องต้องกันระหว่างนักวิเคราะห์ นักเศรษฐศาสตร์ และผู้สังเกตการณ์ตลาดก็คือการลดอัตราดอกเบี้ยนั้นเป็นสิ่งที่แน่นอน

    เวทีสำหรับการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นในวันที่ 20 สิงหาคม เมื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์ ส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางมีความพร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง จุดยืนของพาวเวลล์สะท้อนจากเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆ โดยเน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นว่าการผ่อนคลายทางการเงินกำลังใกล้เข้ามา

    เมื่อเร็วๆ นี้ นาย Austan Goolsbee ประธานเฟดแห่งชิคาโกเน้นย้ำว่าแนวโน้มระยะยาวทั้งในตลาดแรงงานและข้อมูลเงินเฟ้อ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วไปสู่นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น Goolsbee เตือนไม่ให้ใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดเป็นเวลานาน โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับระดับการจ้างงาน

    แม้ว่าความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะมีสูง แต่ประเด็นสำคัญยังคงเป็นประเด็นถกเถียง นักเศรษฐศาสตร์ที่ Fitch คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดจุดพื้นฐาน 0.25%สองครั้ง หนึ่งครั้งในสัปดาห์หน้าและอีกครั้งในเดือนธันวาคม

    อย่างไรก็ตาม เสียงบางส่วน เช่น Krishna Guha จาก Evercore ISI สนับสนุนการลดดอกเบี้ยพื้นฐาน 0.50%เพื่อปกป้องเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
    ที่มา Kitco
    ทองคำฟิวเจอร์สสร้างสถิติพุ่งทะลุระดับ2,600เหรียญ ในสัปดาห์ประวัติศาสตร์สำหรับตลาดโลหะมีค่า โกลด์ฟิวเจอร์สได้ทำลายสถิติ โดยทะลุระดับ 2,600 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์เป็นครั้งแรก ณ เวลา 17.00 น. EDTของวันศุกร์ที่ผ่านมา สัญญาเซื้อขายทองคำสำหรับเดือนธันวาคมอยู่ที่ 2,606.20 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นผลตอบแทนสุทธิ 19 ดอลลาร์หรือ 0.73% สำหรับวันนั้น การพุ่งขึ้นนี้ถือเป็นวันที่สองติดต่อกันของการทำลายสถิติสูงสุด โดยจุดสูงสุดระหว่างวันแตะระดับ $2,614.60 อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งของราคาทองคำเกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของเมื่อวันศุกร์ที่ 47 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในวันเดียวที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม การเพิ่มขึ้นอย่างมากของสัปดาห์นี้จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ทางการเงินอย่างไม่ต้องสงสัย ในขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้าก้าวข้ามหลักชัยที่ 2,600 ดอลลาร์ ในขณะที่ฝุ่นจางหายไปในเหตุการณ์สำคัญนี้ ผู้เข้าร่วมตลาดกำลังมุ่งความสนใจไปที่การประชุมคณะกรรมการตลาดกลางของรัฐบาลกลาง (FOMC) ในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกอย่างกว้างขวางนับตั้งแต่ปี 2020 มีความเห็นพ้องต้องกันระหว่างนักวิเคราะห์ นักเศรษฐศาสตร์ และผู้สังเกตการณ์ตลาดก็คือการลดอัตราดอกเบี้ยนั้นเป็นสิ่งที่แน่นอน เวทีสำหรับการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นในวันที่ 20 สิงหาคม เมื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์ ส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางมีความพร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง จุดยืนของพาวเวลล์สะท้อนจากเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆ โดยเน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นว่าการผ่อนคลายทางการเงินกำลังใกล้เข้ามา เมื่อเร็วๆ นี้ นาย Austan Goolsbee ประธานเฟดแห่งชิคาโกเน้นย้ำว่าแนวโน้มระยะยาวทั้งในตลาดแรงงานและข้อมูลเงินเฟ้อ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วไปสู่นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น Goolsbee เตือนไม่ให้ใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดเป็นเวลานาน โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับระดับการจ้างงาน แม้ว่าความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะมีสูง แต่ประเด็นสำคัญยังคงเป็นประเด็นถกเถียง นักเศรษฐศาสตร์ที่ Fitch คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดจุดพื้นฐาน 0.25%สองครั้ง หนึ่งครั้งในสัปดาห์หน้าและอีกครั้งในเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม เสียงบางส่วน เช่น Krishna Guha จาก Evercore ISI สนับสนุนการลดดอกเบี้ยพื้นฐาน 0.50%เพื่อปกป้องเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ที่มา Kitco
    Like
    Love
    Haha
    17
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1523 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts