• รสนาเป็นพลทหารของประชาชนไม่มีวันเป็นขุนพลข้างกายนักการเมืองพรรคใด ตามที่สื่อเต้าข่าว !?!

    วันนี้มีเพื่อนส่งคลิปนักข่าว3คนเครือเนชั่น ออกมาวิเคราะห์เรื่องนโยบายพลังงานของนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.กระทรวงพลังงาน มีการเอาภาพใครต่อใครมาแปะข้างกายนายพีระพันธุ์ และพาดหัวใต้ภาพว่า ‘ขุนพลข้างกาย“พีระพันธุ์” พานโยบายย้อนยุค ?‘

    ในภาพดังกล่าว มีรูปดิฉันอยู่ด้วย และมีการพูดชื่อดิฉันชัดเจนในรายการ ทุนสื่อเนชั่นแกล้งเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า!? สิ่งที่นักข่าวทั้ง3คนพูด ไม่มีเนื้อหาสาระอะไรในเชิงวิเคราะห์ข่าวที่เต้าขึ้นมาแม้แต่น้อย แต่กล่าวหาดื้อๆว่าดิฉันเป็นขุนพล รมว.พีระพันธ์ุ

    นักข่าว นักสื่อมวลชนจะสื่อสารอะไรกับสังคมและประชาชนที่เวลานี้มีช่องทางอิสระในการหาความจริงได้มากกว่าทุนสื่อบางกลุ่มที่ทั้งตกยุค ตกเทรนด์พลังงานโลกยุคใหม่เสียอีก สื่อจึงควรมีเนื้อหาสาระ มีข้อมูลที่เป็นความจริงน่าเชื่อถือ มิเช่นนั้นอาจจะถูกมองว่าเป็นทุนสื่อของค่ายธุรกิจการเมืองบางกลุ่มที่หวาดกลัวการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์พลังงานโลกจนต้องเต้าข่าว ปั่นข่าวโคมลอย เพื่อดิสเครดิตใครก็ตามที่มุ่งสู่การปลดแอกทุนพลังงานจากบ่าประชาชน สื่อเต้าข่าวจำพวกนี้ ควรระวังที่จะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือในอนาคตอันใกล้ !!

    ดิฉันก็จบคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ สิ่งที่เราได้รับการอบรมสั่งสอนคือสื่อต้องมีจริยธรรม ในการนำเสนอความจริงต่อสังคม การเต้าข่าวเลื่อนลอยถือว่าเป็นอนันตริยกรรมในวิชาชีพสื่อ ใช่หรือไม่??!!

    ดิฉันไม่มีวันเป็นขุนพลข้างกายนักการเมืองของพรรคใดๆ ถ้าจะเป็น ก็จะเป็นเพียงพลทหารของประชาชน ที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนอย่างสุดฤทธิ์เท่านั้น

    ดิฉันทำงานต่อสู้เรื่องพลังงานมานานมากก่อนที่นักการเมืองคนใดจะสนใจประเด็นนี้เสียอีก

    รสนา โตสิตระกูล
    15 มกราคม 2568
    รสนาเป็นพลทหารของประชาชนไม่มีวันเป็นขุนพลข้างกายนักการเมืองพรรคใด ตามที่สื่อเต้าข่าว !?! วันนี้มีเพื่อนส่งคลิปนักข่าว3คนเครือเนชั่น ออกมาวิเคราะห์เรื่องนโยบายพลังงานของนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.กระทรวงพลังงาน มีการเอาภาพใครต่อใครมาแปะข้างกายนายพีระพันธุ์ และพาดหัวใต้ภาพว่า ‘ขุนพลข้างกาย“พีระพันธุ์” พานโยบายย้อนยุค ?‘ ในภาพดังกล่าว มีรูปดิฉันอยู่ด้วย และมีการพูดชื่อดิฉันชัดเจนในรายการ ทุนสื่อเนชั่นแกล้งเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า!? สิ่งที่นักข่าวทั้ง3คนพูด ไม่มีเนื้อหาสาระอะไรในเชิงวิเคราะห์ข่าวที่เต้าขึ้นมาแม้แต่น้อย แต่กล่าวหาดื้อๆว่าดิฉันเป็นขุนพล รมว.พีระพันธ์ุ นักข่าว นักสื่อมวลชนจะสื่อสารอะไรกับสังคมและประชาชนที่เวลานี้มีช่องทางอิสระในการหาความจริงได้มากกว่าทุนสื่อบางกลุ่มที่ทั้งตกยุค ตกเทรนด์พลังงานโลกยุคใหม่เสียอีก สื่อจึงควรมีเนื้อหาสาระ มีข้อมูลที่เป็นความจริงน่าเชื่อถือ มิเช่นนั้นอาจจะถูกมองว่าเป็นทุนสื่อของค่ายธุรกิจการเมืองบางกลุ่มที่หวาดกลัวการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์พลังงานโลกจนต้องเต้าข่าว ปั่นข่าวโคมลอย เพื่อดิสเครดิตใครก็ตามที่มุ่งสู่การปลดแอกทุนพลังงานจากบ่าประชาชน สื่อเต้าข่าวจำพวกนี้ ควรระวังที่จะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือในอนาคตอันใกล้ !! ดิฉันก็จบคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ สิ่งที่เราได้รับการอบรมสั่งสอนคือสื่อต้องมีจริยธรรม ในการนำเสนอความจริงต่อสังคม การเต้าข่าวเลื่อนลอยถือว่าเป็นอนันตริยกรรมในวิชาชีพสื่อ ใช่หรือไม่??!! ดิฉันไม่มีวันเป็นขุนพลข้างกายนักการเมืองของพรรคใดๆ ถ้าจะเป็น ก็จะเป็นเพียงพลทหารของประชาชน ที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนอย่างสุดฤทธิ์เท่านั้น ดิฉันทำงานต่อสู้เรื่องพลังงานมานานมากก่อนที่นักการเมืองคนใดจะสนใจประเด็นนี้เสียอีก รสนา โตสิตระกูล 15 มกราคม 2568
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • หลังจากชาวญี่ปุ่นไม่พอใจตำรวจไทยที่ถูกห้ามปล่อยโคมลอยจึงทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ล่าสุดในโลกออนไลน์เปิดกรณีศึกษาเรื่ององศาการโค้งขอโทษ ของชาวญี่ปุ่น

    จากกรณี นักท่องเที่ยวชายชาวญี่ปุ่นพยายามปล่อยโคมลอยในพื้นที่บริเวณลานประตูท่าแพ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ห้ามปล่อยโคมลอยเนื่องจากอาจจะเกิดเพลิงไหม้ บ้านเรือนประชาชนซึ่งพักอาศัยอยู่จำนวนมาก ในเขตพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่

    ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจพบและได้ห้ามปราม นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นรายดังกล่าวเกิดอารมณ์โมโหและแสดงกริยาที่ไม่เหมาะสม จากนั้น ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามาขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับแสดงความรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    ล่าสุด วันนี้ (2 ม.ค.) เพจ “ฮักเน่อ เชียงใหม่” ได้ออกมาโพสต์ประเด็นกรณีศึกษา เรื่องอาศาการโค้งขอโทษของชาวญี่ปุ่น โดยระบุว่า “รูปจากข่าว นททญี่ปุ่น เข้าพบ ตร. เชียงใหม่ ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่เพื่อขอโทษตำรวจ ที่ไปกระชากคอเสื้อตำรวจที่มาห้ามตอนปล่อยโคมลอยที่กำลังเป็นข่าวดังที่เชียงใหม่

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000000303

    #MGROnline #เชียงใหม่ #อาศาการโค้งขอโทษ #ชาวญี่ปุ่น #โคมลอย
    หลังจากชาวญี่ปุ่นไม่พอใจตำรวจไทยที่ถูกห้ามปล่อยโคมลอยจึงทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ล่าสุดในโลกออนไลน์เปิดกรณีศึกษาเรื่ององศาการโค้งขอโทษ ของชาวญี่ปุ่น • จากกรณี นักท่องเที่ยวชายชาวญี่ปุ่นพยายามปล่อยโคมลอยในพื้นที่บริเวณลานประตูท่าแพ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ห้ามปล่อยโคมลอยเนื่องจากอาจจะเกิดเพลิงไหม้ บ้านเรือนประชาชนซึ่งพักอาศัยอยู่จำนวนมาก ในเขตพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ • ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจพบและได้ห้ามปราม นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นรายดังกล่าวเกิดอารมณ์โมโหและแสดงกริยาที่ไม่เหมาะสม จากนั้น ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามาขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับแสดงความรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น • ล่าสุด วันนี้ (2 ม.ค.) เพจ “ฮักเน่อ เชียงใหม่” ได้ออกมาโพสต์ประเด็นกรณีศึกษา เรื่องอาศาการโค้งขอโทษของชาวญี่ปุ่น โดยระบุว่า “รูปจากข่าว นททญี่ปุ่น เข้าพบ ตร. เชียงใหม่ ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่เพื่อขอโทษตำรวจ ที่ไปกระชากคอเสื้อตำรวจที่มาห้ามตอนปล่อยโคมลอยที่กำลังเป็นข่าวดังที่เชียงใหม่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000000303 • #MGROnline #เชียงใหม่ #อาศาการโค้งขอโทษ #ชาวญี่ปุ่น #โคมลอย
    0 Comments 0 Shares 219 Views 0 Reviews