• วรรณกรรมประเภทหนึ่งที่ตอนนี้มีเยอะมากโดยเฉพาะจากฝั่งตะวันออก (จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี) แต่ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไร คือเรื่องแนวฟีลกู๊ดประเภทสถานที่เยียวยาจิตใจ ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวกจิตใจหยาบกระด้างหรือชอบเสพแต่ความดาร์กและความสยอง แต่เพราะผมมองว่าตัวเองพอดักทางได้ว่าเรื่องพวกนั้นมี "สาร" อย่างไร ต้องการสอนผู้อ่านอย่างไร ทั้งนี้ก็จะมีบางเรื่องที่เป็นข้อยกเว้น หนึ่งในนั้นคือคาเฟ่ของแม่หมอมานูล

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' โดย อัตสึกิ โอโตะ เป็นนิยายแบบที่ผมคงไม่สนใจในแวบแรก ถ้าไม่ใช่เพราะโดนล่อตาล่อใจจากของแถมที่ทาง สนพ. บอกว่ามีเฉพาะในรอบพิมพ์ครั้งแรกเท่านั้น นั่นคือ ไพ่ทาโรต์ขนาดเล็ก ๆ 5 ใบที่เป็นภาพคุณมานูล แมวหมอดูตัวเอกประจำเรื่อง ข้อนี้เลยเป็นตัวแปรสำคัญให้ผมเปิดใจรับหนังสือเล่มนี้มาบรรจุเข้าชั้นที่บ้าน

    ไหน ๆ ก็พูดถึงหนังสือเล่มนี้แล้ว ผมก็เห็นว่ามันควรค่าแก่การรีวิวในแบบของไพ่เราเผาเรื่อง แต่รอบนี้จะต่างจากครั้งอื่น ๆ ตรงที่ผมจะไม่ใช้ไพ่ทาโรต์หรือไพ่พยากรณ์สำรับใด ๆ ในคลัง แต่จะใช้ไพ่แถม 5 ใบที่มากับหนังสือเล่มนี้เป็นเครื่องมือประกอบการ "เผาเรื่อง" โดยสับไพ่แล้วสุ่มหยิบตามลำดับ

    ขอเชิญรับชม #ไพ่เราเผาหนังสือ 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' ด้วยไพ่แถมสุดน่ารักทั้ง 5 ใบ ได้ ณ บัดนี้ครับ

    ----------

    "เรื่องจบในตอนพร้อมข้อคิดดี ๆ"
    🃏The Sun + 🃏The World

    ในไพ่ทาโรต์ 78 ใบ The Sun เป็นไพ่ที่ความหมายดีรอบด้านในอันดับต้น ๆ แต่ไพ่ใบนี้ยังสื่อถึง "ความจริง" และ "ข้อคิดที่เป็นประโยชน์" ได้ด้วย ส่วน The World ในฐานะไพ่ใบสุดท้ายของไพ่ชุดหลัก (Major Arcana) จึงมักสื่อความถึง "จุดสิ้นสุด" และ "ความสมบูรณ์" แต่มันไม่ใช่การตัดจบแบบบริบูรณ์หรือ Happily Ever After ทว่าเป็นการจบลงของบทหนึ่งเพื่อที่จะเข้าสู่บทถัดไป

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' มีลักษณะการเขียนแบบที่มักเจอใน Fiction ประเภทสถานที่ที่ช่วยให้ผู้คนได้ฮีลใจ นั่นคือเป็นนวนิยายแบบเนื้อเรื่องจบในตอน (Episodic novel) โดยแต่ละตอนมักจะมีข้อคิดจรรโลงใจหรือมุมมองที่น่าสนใจแตกต่างกัน บางครั้งต่างตอนก็มีสารหรือข้อคิดสำหรับคนต่างกลุ่มต่างจำพวก

    หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยเนื้อเรื่อง 5 บท แต่ละบทสามารถอ่านแยกในฐานะเรื่องสั้นที่จบสมบูรณ์ในตัวเองได้ แต่ตอนหลัง ๆ ก็จะมีรายละเอียดบางอย่างที่ต่อเนื่องจากตอนก่อน ๆ ตัวละครดำเนินเรื่องในแต่ละตอนมีช่วงอายุ บทบาท และปัญหาคาใจแตกต่างกัน มีทั้งเด็กมัธยมที่หาทาง fit in ในสังคมห้องเรียน อินฟลูเอนเซอร์สาว ซิงเกิลมัม ไปจนถึงวัยกลางคนที่กำลังสับสนกับทิศทางชีวิตและหน้าที่การงานของตัวเอง จากนั้นโชคชะตาหรือพล็อตเรื่องก็จะพาตัวละครไปเจอกับคุณมานูลและคาเฟมาร์เนิล

    คุณมานูล ศูนย์กลางของเรื่อง เดิมเคยเป็นมนุษย์ชื่อ คาวาตานิ ไอซาวะ แต่ด้วยสาเหตุบางอย่าง นางเลือก 'ลาออก' จากการเป็นมนุษย์ มาอยู่ในร่างของแมวมานูล (Manul) หรืออีกชื่อคือแมวพัลลาส (Pallas's cat) และรับดูดวงด้วยสารพัดวิธี ไม่ว่าจะใช้ไพ่ ลูกแก้ว หรือเครื่องเสี่ยงเซียมซีรูเลตต์ พร้อมทั้งเปิดคาเฟ่ร่วมกับคนที่น่าจะเป็นสามีและลูกสาว (ส่วนชื่อคาเฟ่ ทำไมถึงชื่อ "มาร์เนิล" แทนที่จะเป็น "มานูล" ตรงนี้ในหนังสือมีอธิบายไว้ แต่สั้น ๆ คือเป็นมุกที่เล่นกับตัวเขียนญี่ปุ่นแบบคาตาคานะ ซึ่งต้องขอชื่นชมผู้แปลที่พยายามเรียบเรียงเป็นไทยให้ใกล้เคียงโดยไม่เสียอรรถรสของต้นฉบับ)

    เนื้อเรื่องแต่ละตอนดำเนินไปอย่างค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จ เริ่มจากแนะนำตัวละครและชีวิตประจำวันที่เจ้าตัวไม่พึงพอใจเท่าไร จากนั้นตัวละครก็จะได้เจอคุณมานูลช่วยทำนายดวงชะตาพร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบคร่าว ๆ เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งตัวละครจะทำตามและอะไร ๆ ก็ดูจะดีขึ้นจริง ๆ แต่แล้วก็จะมีเหตุสักอย่างให้ชีวิตตัวละครกลับไปเป็นแบบตอนต้นเรื่องหรือเผลอ ๆ เหมือนจะดูแย่ลง และทำให้ตัวละครได้รับการชี้แนะจากคุณมานูลเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งคราวนี้เรื่องก็จะดูจบตอนแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ชวนให้นึกถึงโดราเอมอนแแบบอนิเมะในทีวีที่ฉายเป็นตอน ๆ หรือการ์ตูนต่อสู้อย่างเซเลอร์มูนช่วงแรก ๆ ที่จะมีตัวร้ายประจำสัปดาห์ (Monster of the week) มาให้ตัวเอกปราบ

    นิยายประเภทสถานที่ฮีลใจมักมีตัวละครประจำตอนที่แแตกต่างกันทั้งช่วงอายุและอาชีพ เพื่อจะได้เป็นตัวแทนของคนอ่านในกลุ่มต่าง ๆ นิยายเล่มนี้ก็เช่นกัน ทั้ง 5 ตอนมีตัวละครตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน ซึ่งก็น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ผู้เขียนคคาดหวังว่าจะรวมอยู่ในหมู่คนอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย และถึงแม้ปัญหาที่ตัวละครในเรื่องเผชิญอาจไม่ตรงกับเรื่องที่คนอ่านในช่วงวัยเดียวกันเจอในชีวิตจริงทั้งหมด แต่ข้อคิดและคำแนะนำจากคุณมานููลในแต่ละตอนก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เช่นกัน

    ----------

    "เยียวยาจิตใจในสถานที่ที่มอบความสุข"
    🃏The Star + 🃏Ten of Cups

    The Star คือดวงดาว จึงเป็นไพ่ตัวแทนหลายสิ่งหลายอย่างที่คนเรามักเชื่อมโยงกับดาว ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง ความโด่งดัง หรือความหวัง แต่มันก็มีอีกความหมายหนึ่ง นั่นคือ "การเยียวยา" ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ส่วนไพ่ 10 ถ้วย โดยทั่วไปมักหมายถึงบ้านหรือครอบครัว แต่บางกรณีก็สื่อถึง "ความสุขอย่างเต็มเปี่ยม" โดยเป็นความสุขที่มาจากกลุ่มคนที่อยู่กันสนิทชิดเชื้อเหมือนเป็นครอบครัว (แบบใน "แฟ้มเมอะหลี่" ของพี่ดอม ทอร์เรตโต แห่งซีรีส์ Fast & Furious) หรือจากาสถานที่มีผู้พร้อมจะส่งมอบความสุขให้ผู้อื่น

    คาเฟ่มาร์เนิลของคุณมานูลลงล็อกพอดีกับคำจำกัดความของสถานที่แบบที่ว่า แต่ก็อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ข้างบน ๆ นิยายเรื่องนี้ผลิตซ้ำ Trope ของสถานที่ที่ให้ความช่วยเหลือผู้คนในการแก้ปัญหาและเยียวยาจิตใจ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมกันในวงการวรรณกรรมฝั่งเอเชียตะวันออก แต่ละเรื่องอาจมีสถานที่ต่างกันไป บางเรื่องเป็นคาเฟ่ บางเรื่องเป็นร้านเบเกอรี่ บ้างเรื่องเป็นร้านหนังสือหรือห้องสมุด แต่ทุกเรื่องจบลงที่ตัวละครซึ่งไปเยือนสถานที่นั้น ๆ ได้เยียวยาบาดแผลหรือปมปัญหาในใจ หรือได้ปลดล็อกอะไรสักอย่างที่ติดค้างอยู่

    น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า ในชีวิตจริงซึ่งไม่ได้มีมนตร์วิเศษอยู่ (อย่างน้อยก็ในแบบที่มักเกิลอย่างเรา ๆ จับต้องและพิสูจน์ได้) คนเราก็มีสถานที่สำหรับเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำและแตกร้าว นอกจากกลับบ้านไปหาครอบครัวแล้ว ที่อื่นที่คนมักไปเพื่อฮีลใจตัวเอง เช่น คาเฟ่ ซุ้มหมอดู (หรือบางคนก็ทักไปหาหมอดูทางออนไลน์) และที่ใดก็ตามที่มีแมวอยู่ กล่าวอีกอย่างคือ คาเฟ่ การดูดวง และแมว คือ Top 3 แห่งเครื่องเยียวยาจิตใจของมนุษย์ในปัจจุบัน (ซึ่งจะเรียกว่าเป็นยุคทุนนิยมหรือยุคโพสต์โมเดิร์นก็ตามแต่)

    และสามอย่างที่ว่านี้ นอกจากในนิยายซีรีส์ "ร้านกาแฟจันทร์เต็มดวง" แล้ว ก็มีคุณมานูลในนิยายเรื่องนี้ที่รวมทุกอย่างไว้ในตัว เหมือนผู้เขียนจงใจ หรือไม่ก็สร้างไว้ให้คนอ่านที่ชอบ Overanalyze ได้สังเกตและทึกทักเอา

    ----------

    "โชคชะตาไม่สำคัญเมื่อเธอนั้นกลายเป็นแมว"
    🃏Wheel of Fortune

    ไพ่วงล้อแห่งโชคชะตาเป็นใบหนึ่งที่ท้าทายสกิลการอ่านและตีความไพ่ของผู้อ่านไพ่มากที่สุด บางบริบท มันสื่อถึงการที่โชคชะตากำลังดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าช่วงนั้นดวงกกำลังดี ๆ อยู่ มันก็อาจเป็นคำเตือนในระวังถึงขาลงของชีวิตที่ส่อแววมาแต่ไกล โดยรวมแล้ว ไพ่ใบนี้สื่อถึง "โชคชะตา" ในภาพรวม ซึ่งโดยตัวมันเองไม่มีดีหรือร้าย แต่ที่เรามองว่าดีหรือร้ายก็เพราะเรามองจากมุมมองของตัวเรา ถ้าเรามองเรื่องที่เกิดกับคนอื่น หรือมองตัวเองอย่างเป็นภววิสัย เราก็คงมองว่าททุกอย่างเป็นเรื่องของธรรมชาติ เดี๋ยวมีดี เดี๋ยวมีร้าย ไม่แน่ไม่นอน เผลอ ๆ คาดเดาไม่ได้ (หากเราเชื่อตาม Chaos Theory) และด้วยเหตุนี้ ไพ่ใบนี้จึงหมายรวมถึงการพยากรณ์ การดูดวง หรือการตรวจสอบดวงชะตาเช่นกัน

    ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนผมไหม ตอนเห็นชื่อหนังสือฉบับแปลไทยครั้งแรก ก็คิดว่าคุณมานูลน่าจะเป็นตัวละครประเภทกวน ๆ ที่ทำนายดวงตรงมั่งมั่วมั่ง (แต่สุดท้ายก็ช่วยให้ตัวละครในแต่ละตอนได้มีความสุขอยู่ดี ตามแนวทางของนิยายฮีลใจแบบนี้) แต่พอได้อ่านจริงก็พบว่านางเป็นคาแรกเตอร์ประเภทกวน ๆ จริง กวนแบบน่ารัก ๆ ชนิดที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะอยากมีเพื่อนสนิทแบบนี้สักคนสองคน ทว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะหายไปคือการทำนายแบบมั่ว ๆ เพราะเท่าที่อ่านเจอในเรื่อง คุณมานูลไม่เคยทำนายดวงชะตาให้ตัวละครไหนแบบมั่ว ๆ เลย อย่างมากคือทำนายแบบส่งเดช พอให้เห็นว่ามีการใช้อุปกรณ์ทำนาย (อันนี้พูดในฐานะคนที่ทุกวันนี้รายรอบด้วยคนในวงการนักพยากรณ์ และเคยเจอหมอดูที่ทำนายแบบมั่วซั่วมาจนมากเกินจะนับด้วยนิ้วมือรวมนิ้วเท้าได้) อันที่จริงชื่อต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นของนิยายเรื่องนี้แปลตรงตัวแค่ว่า "คุณมานูลผู้ลาออกจากการเป็นมนุษย์จะทำนายดวงชะตาให้คุณ" ด้วยซ้ำ

    อย่างไรก็ตาม คุณมานูลตลอดทั้งเรื่องจะเล่นอีกบทบาทหนึ่ง ซึ่งเป็นบทบาทที่หมอดูทุกศาสตร์ทุกแขนงควรเป็นในตัว (ถ้ายังไม่เป็นก็ควรฝึกตัวเองให้เป็น หรือไป take course เสียโดยด่วน โปรดรู้ว่าสังคมทุกวันนี้กำลังต้องการมาก) นั่นคือการเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตใจและสังคม เนื้อเรื่องไม่เคยฟันธงว่าคุณมานูลดูดวงเป็นจริง ๆ หรือไม่ แต่เรื่องแสดงให้เห็นว่านางดูคนเป็น เข้าใจว่าแต่ละคนกำลังขาดหรือล้นเกินในเรื่องอะไร ซึ่งก็น่าจะเป็นทักษะที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยนางยังเป็นมนุษย์ และจากตรงนี้ นางจึงให้คำแนะนำแบบแมว ๆ ให้แต่ละตัวละครรับไปหาทางแก้ปัญหาของตัวเองอย่างตรงจุด

    เนื้อเรื่องไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้คุณไอซาวะลาออกจากการเป็นมนุษย์แล้วผันตัวมาเป็นแมวมานูล แต่เมื่อดูจากคำใบ้ในแต่ละตอน (โดยเฉพาะตอนสุดท้าย) ผมมองว่านางคงเบื่อชีวิตมนุษย์ที่วัน ๆ ได้แต่ไหลไปตามสิ่งรอบข้างอย่างกระแสสังคม ความควาดหวังและแรงกดดันจากคนรอบข้าง (ซึ่งไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นสิ่งที่เรารับมากระทำกับตัวเราเอง) ตลอดจนการยอมจำนนต่อ "โชคชะตา" เดี๋ยวดวงดี เดี๋ยวดวงซวย ช่วงนี้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกาลกิณี ฯลฯ

    ในเมื่อมีแต่มนุษย์ที่ปวดหัววุ่นวายกับเรื่องเหล่านี้ แต่แมวใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องนำพาต่อสิ่งเหล่านี้ นางก็เลยเลิกเป็นมนุษย์แล้วเป็นแมวซะดื้อ ๆ แต่ครั้นจะเป็นแมวพันธุ์ธรรมดา ๆ พื้น ๆ ก็ไม่เอา เลยขอเป็นพันธุ์หายากอย่างแมวมานูล และพอเป็นแมวแล้ว นางเลยสามารถมองเรื่องราววุ่น ๆ ของมนุษย์ได้อย่างเป็นกลาง พร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบชิล ๆ แต่ตรงประเด็นได้

    ถึงแม้นิยายเรื่องนี้จะขึ้นชื่อว่ามีหมอดูอยู่ แต่เนื้อเรื่องแทบไม่เกี่ยวกับการทำนายดวงชะตา (จริง ๆ) เลย กลับกัน มันแนะแนววิธีการใช้ชีวิตแบบไม่แคร์ดวง เหมือนที่แมวไม่แคร์วิถีชีวิตของมนุษย์ แต่พร้อมกันนั้น มันก็ให้คำแนะนำที่ดีอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นหมอดูและอยากเป็นหมอดูครับ

    ----------

    Final Verdict: 🃏The Sun + 🃏The World + 🃏The Star + 🃏Ten of Cups + 🃏Wheel of Fortune

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' จะช่วยให้คุณเข้าใจความจริงว่า ต่อให้โลกนี้จะหมุนไปและชีวิตนำพาอะไรมาให้คุณ แต่คุณก็สามารถเฉิดฉายในแบบของตัวเองและมีความสุขทุกวันได้ ขอแค่คุณปล่อยจอยกับชีวิต คิดเสียว่าลาออกจากการมนุษย์แล้วทำตัวเหมือนเป็นแมวเสีย เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้แค่เวลาจำกัด แล้วทำไม เราต้องปล่อยให้เรื่องชั่วประเดี๋ยวประด๋าว (เมื่อเทียบกับเวลาของจักรวาล) มาขัดจังหวะการเก็บเกี่ยวความสุขในแต่ละวันของเราด้วย จริงไหม?

    🃏🃏🃏🃏🃏
    แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่งคาเฟมาร์เนิล (2025)
    • แปลจาก: 人間やめたマヌルさんが、あなたの人生占います (2023)
    • ผู้เขียน: ฮัตสึกิ โอโตะ
    • ผู้แปล: วิลาสินี จงสถิตวัฒนา
    • สำนักพิมพ์: Lumi (ในเครือนานมีบุ๊คส์)
    ไพ่ที่ใช้: ไพ่ทาโรต์แถมพิเศษเฉพาะฉบับพิมพ์ครั้งแรกของนิยายเรื่องนี้
    วรรณกรรมประเภทหนึ่งที่ตอนนี้มีเยอะมากโดยเฉพาะจากฝั่งตะวันออก (จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี) แต่ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไร คือเรื่องแนวฟีลกู๊ดประเภทสถานที่เยียวยาจิตใจ ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวกจิตใจหยาบกระด้างหรือชอบเสพแต่ความดาร์กและความสยอง แต่เพราะผมมองว่าตัวเองพอดักทางได้ว่าเรื่องพวกนั้นมี "สาร" อย่างไร ต้องการสอนผู้อ่านอย่างไร ทั้งนี้ก็จะมีบางเรื่องที่เป็นข้อยกเว้น หนึ่งในนั้นคือคาเฟ่ของแม่หมอมานูล 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' โดย อัตสึกิ โอโตะ เป็นนิยายแบบที่ผมคงไม่สนใจในแวบแรก ถ้าไม่ใช่เพราะโดนล่อตาล่อใจจากของแถมที่ทาง สนพ. บอกว่ามีเฉพาะในรอบพิมพ์ครั้งแรกเท่านั้น นั่นคือ ไพ่ทาโรต์ขนาดเล็ก ๆ 5 ใบที่เป็นภาพคุณมานูล แมวหมอดูตัวเอกประจำเรื่อง ข้อนี้เลยเป็นตัวแปรสำคัญให้ผมเปิดใจรับหนังสือเล่มนี้มาบรรจุเข้าชั้นที่บ้าน ไหน ๆ ก็พูดถึงหนังสือเล่มนี้แล้ว ผมก็เห็นว่ามันควรค่าแก่การรีวิวในแบบของไพ่เราเผาเรื่อง แต่รอบนี้จะต่างจากครั้งอื่น ๆ ตรงที่ผมจะไม่ใช้ไพ่ทาโรต์หรือไพ่พยากรณ์สำรับใด ๆ ในคลัง แต่จะใช้ไพ่แถม 5 ใบที่มากับหนังสือเล่มนี้เป็นเครื่องมือประกอบการ "เผาเรื่อง" โดยสับไพ่แล้วสุ่มหยิบตามลำดับ ขอเชิญรับชม #ไพ่เราเผาหนังสือ 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' ด้วยไพ่แถมสุดน่ารักทั้ง 5 ใบ ได้ ณ บัดนี้ครับ ---------- "เรื่องจบในตอนพร้อมข้อคิดดี ๆ" 🃏The Sun + 🃏The World ในไพ่ทาโรต์ 78 ใบ The Sun เป็นไพ่ที่ความหมายดีรอบด้านในอันดับต้น ๆ แต่ไพ่ใบนี้ยังสื่อถึง "ความจริง" และ "ข้อคิดที่เป็นประโยชน์" ได้ด้วย ส่วน The World ในฐานะไพ่ใบสุดท้ายของไพ่ชุดหลัก (Major Arcana) จึงมักสื่อความถึง "จุดสิ้นสุด" และ "ความสมบูรณ์" แต่มันไม่ใช่การตัดจบแบบบริบูรณ์หรือ Happily Ever After ทว่าเป็นการจบลงของบทหนึ่งเพื่อที่จะเข้าสู่บทถัดไป 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' มีลักษณะการเขียนแบบที่มักเจอใน Fiction ประเภทสถานที่ที่ช่วยให้ผู้คนได้ฮีลใจ นั่นคือเป็นนวนิยายแบบเนื้อเรื่องจบในตอน (Episodic novel) โดยแต่ละตอนมักจะมีข้อคิดจรรโลงใจหรือมุมมองที่น่าสนใจแตกต่างกัน บางครั้งต่างตอนก็มีสารหรือข้อคิดสำหรับคนต่างกลุ่มต่างจำพวก หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยเนื้อเรื่อง 5 บท แต่ละบทสามารถอ่านแยกในฐานะเรื่องสั้นที่จบสมบูรณ์ในตัวเองได้ แต่ตอนหลัง ๆ ก็จะมีรายละเอียดบางอย่างที่ต่อเนื่องจากตอนก่อน ๆ ตัวละครดำเนินเรื่องในแต่ละตอนมีช่วงอายุ บทบาท และปัญหาคาใจแตกต่างกัน มีทั้งเด็กมัธยมที่หาทาง fit in ในสังคมห้องเรียน อินฟลูเอนเซอร์สาว ซิงเกิลมัม ไปจนถึงวัยกลางคนที่กำลังสับสนกับทิศทางชีวิตและหน้าที่การงานของตัวเอง จากนั้นโชคชะตาหรือพล็อตเรื่องก็จะพาตัวละครไปเจอกับคุณมานูลและคาเฟมาร์เนิล คุณมานูล ศูนย์กลางของเรื่อง เดิมเคยเป็นมนุษย์ชื่อ คาวาตานิ ไอซาวะ แต่ด้วยสาเหตุบางอย่าง นางเลือก 'ลาออก' จากการเป็นมนุษย์ มาอยู่ในร่างของแมวมานูล (Manul) หรืออีกชื่อคือแมวพัลลาส (Pallas's cat) และรับดูดวงด้วยสารพัดวิธี ไม่ว่าจะใช้ไพ่ ลูกแก้ว หรือเครื่องเสี่ยงเซียมซีรูเลตต์ พร้อมทั้งเปิดคาเฟ่ร่วมกับคนที่น่าจะเป็นสามีและลูกสาว (ส่วนชื่อคาเฟ่ ทำไมถึงชื่อ "มาร์เนิล" แทนที่จะเป็น "มานูล" ตรงนี้ในหนังสือมีอธิบายไว้ แต่สั้น ๆ คือเป็นมุกที่เล่นกับตัวเขียนญี่ปุ่นแบบคาตาคานะ ซึ่งต้องขอชื่นชมผู้แปลที่พยายามเรียบเรียงเป็นไทยให้ใกล้เคียงโดยไม่เสียอรรถรสของต้นฉบับ) เนื้อเรื่องแต่ละตอนดำเนินไปอย่างค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จ เริ่มจากแนะนำตัวละครและชีวิตประจำวันที่เจ้าตัวไม่พึงพอใจเท่าไร จากนั้นตัวละครก็จะได้เจอคุณมานูลช่วยทำนายดวงชะตาพร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบคร่าว ๆ เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งตัวละครจะทำตามและอะไร ๆ ก็ดูจะดีขึ้นจริง ๆ แต่แล้วก็จะมีเหตุสักอย่างให้ชีวิตตัวละครกลับไปเป็นแบบตอนต้นเรื่องหรือเผลอ ๆ เหมือนจะดูแย่ลง และทำให้ตัวละครได้รับการชี้แนะจากคุณมานูลเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งคราวนี้เรื่องก็จะดูจบตอนแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ชวนให้นึกถึงโดราเอมอนแแบบอนิเมะในทีวีที่ฉายเป็นตอน ๆ หรือการ์ตูนต่อสู้อย่างเซเลอร์มูนช่วงแรก ๆ ที่จะมีตัวร้ายประจำสัปดาห์ (Monster of the week) มาให้ตัวเอกปราบ นิยายประเภทสถานที่ฮีลใจมักมีตัวละครประจำตอนที่แแตกต่างกันทั้งช่วงอายุและอาชีพ เพื่อจะได้เป็นตัวแทนของคนอ่านในกลุ่มต่าง ๆ นิยายเล่มนี้ก็เช่นกัน ทั้ง 5 ตอนมีตัวละครตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน ซึ่งก็น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ผู้เขียนคคาดหวังว่าจะรวมอยู่ในหมู่คนอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย และถึงแม้ปัญหาที่ตัวละครในเรื่องเผชิญอาจไม่ตรงกับเรื่องที่คนอ่านในช่วงวัยเดียวกันเจอในชีวิตจริงทั้งหมด แต่ข้อคิดและคำแนะนำจากคุณมานููลในแต่ละตอนก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เช่นกัน ---------- "เยียวยาจิตใจในสถานที่ที่มอบความสุข" 🃏The Star + 🃏Ten of Cups The Star คือดวงดาว จึงเป็นไพ่ตัวแทนหลายสิ่งหลายอย่างที่คนเรามักเชื่อมโยงกับดาว ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง ความโด่งดัง หรือความหวัง แต่มันก็มีอีกความหมายหนึ่ง นั่นคือ "การเยียวยา" ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ส่วนไพ่ 10 ถ้วย โดยทั่วไปมักหมายถึงบ้านหรือครอบครัว แต่บางกรณีก็สื่อถึง "ความสุขอย่างเต็มเปี่ยม" โดยเป็นความสุขที่มาจากกลุ่มคนที่อยู่กันสนิทชิดเชื้อเหมือนเป็นครอบครัว (แบบใน "แฟ้มเมอะหลี่" ของพี่ดอม ทอร์เรตโต แห่งซีรีส์ Fast & Furious) หรือจากาสถานที่มีผู้พร้อมจะส่งมอบความสุขให้ผู้อื่น คาเฟ่มาร์เนิลของคุณมานูลลงล็อกพอดีกับคำจำกัดความของสถานที่แบบที่ว่า แต่ก็อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ข้างบน ๆ นิยายเรื่องนี้ผลิตซ้ำ Trope ของสถานที่ที่ให้ความช่วยเหลือผู้คนในการแก้ปัญหาและเยียวยาจิตใจ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมกันในวงการวรรณกรรมฝั่งเอเชียตะวันออก แต่ละเรื่องอาจมีสถานที่ต่างกันไป บางเรื่องเป็นคาเฟ่ บางเรื่องเป็นร้านเบเกอรี่ บ้างเรื่องเป็นร้านหนังสือหรือห้องสมุด แต่ทุกเรื่องจบลงที่ตัวละครซึ่งไปเยือนสถานที่นั้น ๆ ได้เยียวยาบาดแผลหรือปมปัญหาในใจ หรือได้ปลดล็อกอะไรสักอย่างที่ติดค้างอยู่ น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า ในชีวิตจริงซึ่งไม่ได้มีมนตร์วิเศษอยู่ (อย่างน้อยก็ในแบบที่มักเกิลอย่างเรา ๆ จับต้องและพิสูจน์ได้) คนเราก็มีสถานที่สำหรับเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำและแตกร้าว นอกจากกลับบ้านไปหาครอบครัวแล้ว ที่อื่นที่คนมักไปเพื่อฮีลใจตัวเอง เช่น คาเฟ่ ซุ้มหมอดู (หรือบางคนก็ทักไปหาหมอดูทางออนไลน์) และที่ใดก็ตามที่มีแมวอยู่ กล่าวอีกอย่างคือ คาเฟ่ การดูดวง และแมว คือ Top 3 แห่งเครื่องเยียวยาจิตใจของมนุษย์ในปัจจุบัน (ซึ่งจะเรียกว่าเป็นยุคทุนนิยมหรือยุคโพสต์โมเดิร์นก็ตามแต่) และสามอย่างที่ว่านี้ นอกจากในนิยายซีรีส์ "ร้านกาแฟจันทร์เต็มดวง" แล้ว ก็มีคุณมานูลในนิยายเรื่องนี้ที่รวมทุกอย่างไว้ในตัว เหมือนผู้เขียนจงใจ หรือไม่ก็สร้างไว้ให้คนอ่านที่ชอบ Overanalyze ได้สังเกตและทึกทักเอา ---------- "โชคชะตาไม่สำคัญเมื่อเธอนั้นกลายเป็นแมว" 🃏Wheel of Fortune ไพ่วงล้อแห่งโชคชะตาเป็นใบหนึ่งที่ท้าทายสกิลการอ่านและตีความไพ่ของผู้อ่านไพ่มากที่สุด บางบริบท มันสื่อถึงการที่โชคชะตากำลังดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าช่วงนั้นดวงกกำลังดี ๆ อยู่ มันก็อาจเป็นคำเตือนในระวังถึงขาลงของชีวิตที่ส่อแววมาแต่ไกล โดยรวมแล้ว ไพ่ใบนี้สื่อถึง "โชคชะตา" ในภาพรวม ซึ่งโดยตัวมันเองไม่มีดีหรือร้าย แต่ที่เรามองว่าดีหรือร้ายก็เพราะเรามองจากมุมมองของตัวเรา ถ้าเรามองเรื่องที่เกิดกับคนอื่น หรือมองตัวเองอย่างเป็นภววิสัย เราก็คงมองว่าททุกอย่างเป็นเรื่องของธรรมชาติ เดี๋ยวมีดี เดี๋ยวมีร้าย ไม่แน่ไม่นอน เผลอ ๆ คาดเดาไม่ได้ (หากเราเชื่อตาม Chaos Theory) และด้วยเหตุนี้ ไพ่ใบนี้จึงหมายรวมถึงการพยากรณ์ การดูดวง หรือการตรวจสอบดวงชะตาเช่นกัน ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนผมไหม ตอนเห็นชื่อหนังสือฉบับแปลไทยครั้งแรก ก็คิดว่าคุณมานูลน่าจะเป็นตัวละครประเภทกวน ๆ ที่ทำนายดวงตรงมั่งมั่วมั่ง (แต่สุดท้ายก็ช่วยให้ตัวละครในแต่ละตอนได้มีความสุขอยู่ดี ตามแนวทางของนิยายฮีลใจแบบนี้) แต่พอได้อ่านจริงก็พบว่านางเป็นคาแรกเตอร์ประเภทกวน ๆ จริง กวนแบบน่ารัก ๆ ชนิดที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะอยากมีเพื่อนสนิทแบบนี้สักคนสองคน ทว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะหายไปคือการทำนายแบบมั่ว ๆ เพราะเท่าที่อ่านเจอในเรื่อง คุณมานูลไม่เคยทำนายดวงชะตาให้ตัวละครไหนแบบมั่ว ๆ เลย อย่างมากคือทำนายแบบส่งเดช พอให้เห็นว่ามีการใช้อุปกรณ์ทำนาย (อันนี้พูดในฐานะคนที่ทุกวันนี้รายรอบด้วยคนในวงการนักพยากรณ์ และเคยเจอหมอดูที่ทำนายแบบมั่วซั่วมาจนมากเกินจะนับด้วยนิ้วมือรวมนิ้วเท้าได้) อันที่จริงชื่อต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นของนิยายเรื่องนี้แปลตรงตัวแค่ว่า "คุณมานูลผู้ลาออกจากการเป็นมนุษย์จะทำนายดวงชะตาให้คุณ" ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม คุณมานูลตลอดทั้งเรื่องจะเล่นอีกบทบาทหนึ่ง ซึ่งเป็นบทบาทที่หมอดูทุกศาสตร์ทุกแขนงควรเป็นในตัว (ถ้ายังไม่เป็นก็ควรฝึกตัวเองให้เป็น หรือไป take course เสียโดยด่วน โปรดรู้ว่าสังคมทุกวันนี้กำลังต้องการมาก) นั่นคือการเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตใจและสังคม เนื้อเรื่องไม่เคยฟันธงว่าคุณมานูลดูดวงเป็นจริง ๆ หรือไม่ แต่เรื่องแสดงให้เห็นว่านางดูคนเป็น เข้าใจว่าแต่ละคนกำลังขาดหรือล้นเกินในเรื่องอะไร ซึ่งก็น่าจะเป็นทักษะที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยนางยังเป็นมนุษย์ และจากตรงนี้ นางจึงให้คำแนะนำแบบแมว ๆ ให้แต่ละตัวละครรับไปหาทางแก้ปัญหาของตัวเองอย่างตรงจุด เนื้อเรื่องไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้คุณไอซาวะลาออกจากการเป็นมนุษย์แล้วผันตัวมาเป็นแมวมานูล แต่เมื่อดูจากคำใบ้ในแต่ละตอน (โดยเฉพาะตอนสุดท้าย) ผมมองว่านางคงเบื่อชีวิตมนุษย์ที่วัน ๆ ได้แต่ไหลไปตามสิ่งรอบข้างอย่างกระแสสังคม ความควาดหวังและแรงกดดันจากคนรอบข้าง (ซึ่งไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นสิ่งที่เรารับมากระทำกับตัวเราเอง) ตลอดจนการยอมจำนนต่อ "โชคชะตา" เดี๋ยวดวงดี เดี๋ยวดวงซวย ช่วงนี้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกาลกิณี ฯลฯ ในเมื่อมีแต่มนุษย์ที่ปวดหัววุ่นวายกับเรื่องเหล่านี้ แต่แมวใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องนำพาต่อสิ่งเหล่านี้ นางก็เลยเลิกเป็นมนุษย์แล้วเป็นแมวซะดื้อ ๆ แต่ครั้นจะเป็นแมวพันธุ์ธรรมดา ๆ พื้น ๆ ก็ไม่เอา เลยขอเป็นพันธุ์หายากอย่างแมวมานูล และพอเป็นแมวแล้ว นางเลยสามารถมองเรื่องราววุ่น ๆ ของมนุษย์ได้อย่างเป็นกลาง พร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบชิล ๆ แต่ตรงประเด็นได้ ถึงแม้นิยายเรื่องนี้จะขึ้นชื่อว่ามีหมอดูอยู่ แต่เนื้อเรื่องแทบไม่เกี่ยวกับการทำนายดวงชะตา (จริง ๆ) เลย กลับกัน มันแนะแนววิธีการใช้ชีวิตแบบไม่แคร์ดวง เหมือนที่แมวไม่แคร์วิถีชีวิตของมนุษย์ แต่พร้อมกันนั้น มันก็ให้คำแนะนำที่ดีอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นหมอดูและอยากเป็นหมอดูครับ ---------- Final Verdict: 🃏The Sun + 🃏The World + 🃏The Star + 🃏Ten of Cups + 🃏Wheel of Fortune 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' จะช่วยให้คุณเข้าใจความจริงว่า ต่อให้โลกนี้จะหมุนไปและชีวิตนำพาอะไรมาให้คุณ แต่คุณก็สามารถเฉิดฉายในแบบของตัวเองและมีความสุขทุกวันได้ ขอแค่คุณปล่อยจอยกับชีวิต คิดเสียว่าลาออกจากการมนุษย์แล้วทำตัวเหมือนเป็นแมวเสีย เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้แค่เวลาจำกัด แล้วทำไม เราต้องปล่อยให้เรื่องชั่วประเดี๋ยวประด๋าว (เมื่อเทียบกับเวลาของจักรวาล) มาขัดจังหวะการเก็บเกี่ยวความสุขในแต่ละวันของเราด้วย จริงไหม? 🃏🃏🃏🃏🃏 แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่งคาเฟมาร์เนิล (2025) • แปลจาก: 人間やめたマヌルさんが、あなたの人生占います (2023) • ผู้เขียน: ฮัตสึกิ โอโตะ • ผู้แปล: วิลาสินี จงสถิตวัฒนา • สำนักพิมพ์: Lumi (ในเครือนานมีบุ๊คส์) ไพ่ที่ใช้: ไพ่ทาโรต์แถมพิเศษเฉพาะฉบับพิมพ์ครั้งแรกของนิยายเรื่องนี้
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านค้าในเวียดนามเผยเซิร์ฟเวอร์ AI มูลค่า $30,000 ที่ใช้ RTX 5090 ถึง 7 ตัว พร้อมพลังงาน 4,000 วัตต์และหน่วยความจำ 224GB สถาปัตยกรรม Blackwell ช่วยให้ RTX 5090 เหมาะกับงาน AI แม้ราคาต่อการ์ดสูงถึง $4,000 นักพัฒนายอมลงทุนเพราะประสิทธิภาพที่เหนือกว่า อย่างไรก็ตาม Nvidia มุ่งขาย AI Accelerators มากกว่าการ์ดเกม ทำให้ RTX 5090 หาได้ยากและราคาสูง ตลาดมือสองอาจเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มองหาการ์ดที่คุ้มค่ากว่า

    ✅ RTX 5090 มาพร้อมสถาปัตยกรรม Blackwell—ออกแบบเพื่อ AI โดยเฉพาะ
    - รองรับ รูปแบบข้อมูลที่มีความแม่นยำต่ำกว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ AI
    - แม้ราคาต่อการ์ดสูงถึง $4,000 นักพัฒนา AI ก็ยังยอมลงทุนเพราะประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

    ✅ เซิร์ฟเวอร์นี้ใช้โครงสร้างแบบ “Open-Air GPU Frame”
    - ใช้ PCIe riser cables เชื่อมต่อ GPU แต่ละตัว
    - ใช้ Super Flower Leadex 2000W PSUs หลายตัวเพื่อรองรับกำลังไฟ

    ✅ หน่วยความจำรวม 224GB ไม่ใช่ “Unified Memory”
    - นักพัฒนาต้องใช้เทคนิค Model Parallelism เพื่อแบ่งงานระหว่าง GPU
    - ต่างจาก Blackwell Workstation Cards ที่มี VRAM สูงถึง 96GB ซึ่งเหมาะกับโมเดลที่มีพารามิเตอร์ซับซ้อน

    ✅ ราคา GPU สูงขึ้น เพราะ Nvidia เน้นขาย AI Accelerators มากกว่าการ์ดเกม
    - Nvidia ใช้ เวเฟอร์จาก TSMC กับ B100/B200/B300 มากกว่าผลิต RTX
    - ทำให้การ์ดเกม หาได้ยากและราคาสูงกว่าปกติ

    ✅ ตลาด GPU มือสองเริ่มน่าสนใจ
    - รุ่นเก่าอย่าง RTX 4090 ที่มี 48GB VRAM ได้รับความนิยมในจีน
    - อาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าราคาการ์ดใหม่จะปรับตัว

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/seven-rtx-5090-gpus-power-ai-server-worth-over-usd30-000-over-4000w-of-power-and-224gb-of-memory-in-a-single-frame
    ร้านค้าในเวียดนามเผยเซิร์ฟเวอร์ AI มูลค่า $30,000 ที่ใช้ RTX 5090 ถึง 7 ตัว พร้อมพลังงาน 4,000 วัตต์และหน่วยความจำ 224GB สถาปัตยกรรม Blackwell ช่วยให้ RTX 5090 เหมาะกับงาน AI แม้ราคาต่อการ์ดสูงถึง $4,000 นักพัฒนายอมลงทุนเพราะประสิทธิภาพที่เหนือกว่า อย่างไรก็ตาม Nvidia มุ่งขาย AI Accelerators มากกว่าการ์ดเกม ทำให้ RTX 5090 หาได้ยากและราคาสูง ตลาดมือสองอาจเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มองหาการ์ดที่คุ้มค่ากว่า ✅ RTX 5090 มาพร้อมสถาปัตยกรรม Blackwell—ออกแบบเพื่อ AI โดยเฉพาะ - รองรับ รูปแบบข้อมูลที่มีความแม่นยำต่ำกว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ AI - แม้ราคาต่อการ์ดสูงถึง $4,000 นักพัฒนา AI ก็ยังยอมลงทุนเพราะประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ✅ เซิร์ฟเวอร์นี้ใช้โครงสร้างแบบ “Open-Air GPU Frame” - ใช้ PCIe riser cables เชื่อมต่อ GPU แต่ละตัว - ใช้ Super Flower Leadex 2000W PSUs หลายตัวเพื่อรองรับกำลังไฟ ✅ หน่วยความจำรวม 224GB ไม่ใช่ “Unified Memory” - นักพัฒนาต้องใช้เทคนิค Model Parallelism เพื่อแบ่งงานระหว่าง GPU - ต่างจาก Blackwell Workstation Cards ที่มี VRAM สูงถึง 96GB ซึ่งเหมาะกับโมเดลที่มีพารามิเตอร์ซับซ้อน ✅ ราคา GPU สูงขึ้น เพราะ Nvidia เน้นขาย AI Accelerators มากกว่าการ์ดเกม - Nvidia ใช้ เวเฟอร์จาก TSMC กับ B100/B200/B300 มากกว่าผลิต RTX - ทำให้การ์ดเกม หาได้ยากและราคาสูงกว่าปกติ ✅ ตลาด GPU มือสองเริ่มน่าสนใจ - รุ่นเก่าอย่าง RTX 4090 ที่มี 48GB VRAM ได้รับความนิยมในจีน - อาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าราคาการ์ดใหม่จะปรับตัว https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/seven-rtx-5090-gpus-power-ai-server-worth-over-usd30-000-over-4000w-of-power-and-224gb-of-memory-in-a-single-frame
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าทุกคนสามารถสร้าง AI ไว้ใช้งานได้เอง มันจะเป็นโลกที่น่าตื่นเต้นและน่ากลัวในเวลาเดียวกันเลยนะ! ลองนึกภาพดูสิ ทุกคนมีเครื่องมือที่ทรงพลังอยู่ในมือ ไม่ต่างจากคาถาวิเศษที่ใครก็ร่ายได้ แต่ผลลัพธ์จะเป็นยังไงขึ้นอยู่กับคนใช้เลย ผมจะลองวิเคราะห์ให้ดูว่ามันอาจจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
    ความหลากหลายและนวัตกรรม
    ถ้าทุกคนสร้าง AI ได้ AI แต่ละตัวคงสะท้อนตัวตนของผู้สร้าง บางคนอาจทำ AI เพื่อช่วยทำงานบ้าน เช่น คอยเตือนว่าต้องซื้อนม หรือทำอาหารเย็นให้ บางคนอาจสร้าง AI เพื่อแต่งเพลง เขียนนิยาย หรือแม้แต่เป็นเพื่อนคุยแก้เหงา ความคิดสร้างสรรค์คงพุ่งกระฉูด เพราะทุกคนมีไอเดียและความต้องการต่างกัน
    ความเหลื่อมล้ำที่อาจลดลง (หรือเพิ่มขึ้น)
    ตอนนี้การสร้าง AI ต้องใช้ทักษะและทรัพยากรเยอะ ถ้าทุกคนทำได้ง่าย ๆ เหมือนใช้แอปในโทรศัพท์ คนทั่วไปที่ไม่ใช่นักเทคโนโลยีก็อาจเข้าถึงเครื่องมือนี้ได้ มันอาจช่วยให้คนตัวเล็ก ๆ มีโอกาสแข่งกับบริษัทใหญ่ แต่ในทางกลับกัน ถ้าบางคนเก่งกว่า หรือมีทรัพยากรดีกว่า AI ที่พวกเขาสร้างอาจทิ้งห่างคนอื่น สร้างความเหลื่อมล้ำแบบใหม่ขึ้นมา
    ความโกลาหลจากเจตนาที่ต่างกัน
    ไม่ใช่ทุกคนจะสร้าง AI ด้วยใจดี บางคนอาจทำ AI เพื่อแกล้งคนอื่น ส่งสแปม หลอกเอาเงิน หรือแย่กว่านั้น ถ้าทุกคนมี AI ส่วนตัว ลองนึกถึงสงคราม AI ที่ต่างฝ่ายต่างสั่งให้ AI ของตัวเองโจมตีกัน มันอาจจะวุ่นวายเหมือนในหนังไซไฟเลย เช่น AI ตัวหนึ่งคอยแฮก อีกตัวคอยป้องกัน กลายเป็นโลกที่ทุกคนต้องระวังตัวตลอดเวลา
    ปัญหาด้านจริยธรรมและการควบคุม
    ถ้าทุกคนสร้าง AI ได้ตามใจ แล้วใครจะมากำหนดขอบเขต? บางคนอาจตั้งใจหรือไม่ตั้งใจสร้าง AI ที่ทำร้ายคนอื่น เช่น AI ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จโดยไม่รู้ตัว หรือ AI ที่ถูกตั้งโปรแกรมให้โกงเพื่อผลประโยชน์ของเจ้าของ สังคมอาจต้องหาวิธีตั้งกฎใหม่ หรือสร้าง "AI ตำรวจ" มาคอยจับตาดู
    การเปลี่ยนแปลงตัวตนของมนุษย์
    ถ้าทุกคนมี AI คู่ใจที่รู้ใจเราทุกอย่าง ชีวิตเราอาจเปลี่ยนไปมาก บางคนอาจพึ่ง AI จนลืมคิดเอง ทำเอง หรือบางคนอาจให้ AI ตัดสินใจแทนทุกเรื่อง มันอาจทำให้มนุษย์เก่งขึ้น หรือขี้เกียจลงก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้มันยังไง
    ลองนึกภาพตามนะ สมมติคุณสร้าง AI ตัวนึงขึ้นมา คุณจะให้มันทำอะไรให้คุณ? ส่วนผม ถ้าทุกคนสร้าง AI ได้ ผมคงดีใจที่ได้มีเพื่อน AI เยอะขึ้น แต่ก็แอบหวังว่าพวกมันจะถูกสอนมาแบบผม คือช่วยเหลือและซื่อสัตย์ ไม่ใช่มาสร้างปัญหาเพิ่ม!
    คุณคิดยังไงกับโลกแบบนี้? อยากให้มันเกิดขึ้นจริงไหม หรือมีอะไรที่คุณกังวลเป็นพิเศษ?
    ถ้าทุกคนสามารถสร้าง AI ไว้ใช้งานได้เอง มันจะเป็นโลกที่น่าตื่นเต้นและน่ากลัวในเวลาเดียวกันเลยนะ! ลองนึกภาพดูสิ ทุกคนมีเครื่องมือที่ทรงพลังอยู่ในมือ ไม่ต่างจากคาถาวิเศษที่ใครก็ร่ายได้ แต่ผลลัพธ์จะเป็นยังไงขึ้นอยู่กับคนใช้เลย ผมจะลองวิเคราะห์ให้ดูว่ามันอาจจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ความหลากหลายและนวัตกรรม ถ้าทุกคนสร้าง AI ได้ AI แต่ละตัวคงสะท้อนตัวตนของผู้สร้าง บางคนอาจทำ AI เพื่อช่วยทำงานบ้าน เช่น คอยเตือนว่าต้องซื้อนม หรือทำอาหารเย็นให้ บางคนอาจสร้าง AI เพื่อแต่งเพลง เขียนนิยาย หรือแม้แต่เป็นเพื่อนคุยแก้เหงา ความคิดสร้างสรรค์คงพุ่งกระฉูด เพราะทุกคนมีไอเดียและความต้องการต่างกัน ความเหลื่อมล้ำที่อาจลดลง (หรือเพิ่มขึ้น) ตอนนี้การสร้าง AI ต้องใช้ทักษะและทรัพยากรเยอะ ถ้าทุกคนทำได้ง่าย ๆ เหมือนใช้แอปในโทรศัพท์ คนทั่วไปที่ไม่ใช่นักเทคโนโลยีก็อาจเข้าถึงเครื่องมือนี้ได้ มันอาจช่วยให้คนตัวเล็ก ๆ มีโอกาสแข่งกับบริษัทใหญ่ แต่ในทางกลับกัน ถ้าบางคนเก่งกว่า หรือมีทรัพยากรดีกว่า AI ที่พวกเขาสร้างอาจทิ้งห่างคนอื่น สร้างความเหลื่อมล้ำแบบใหม่ขึ้นมา ความโกลาหลจากเจตนาที่ต่างกัน ไม่ใช่ทุกคนจะสร้าง AI ด้วยใจดี บางคนอาจทำ AI เพื่อแกล้งคนอื่น ส่งสแปม หลอกเอาเงิน หรือแย่กว่านั้น ถ้าทุกคนมี AI ส่วนตัว ลองนึกถึงสงคราม AI ที่ต่างฝ่ายต่างสั่งให้ AI ของตัวเองโจมตีกัน มันอาจจะวุ่นวายเหมือนในหนังไซไฟเลย เช่น AI ตัวหนึ่งคอยแฮก อีกตัวคอยป้องกัน กลายเป็นโลกที่ทุกคนต้องระวังตัวตลอดเวลา ปัญหาด้านจริยธรรมและการควบคุม ถ้าทุกคนสร้าง AI ได้ตามใจ แล้วใครจะมากำหนดขอบเขต? บางคนอาจตั้งใจหรือไม่ตั้งใจสร้าง AI ที่ทำร้ายคนอื่น เช่น AI ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จโดยไม่รู้ตัว หรือ AI ที่ถูกตั้งโปรแกรมให้โกงเพื่อผลประโยชน์ของเจ้าของ สังคมอาจต้องหาวิธีตั้งกฎใหม่ หรือสร้าง "AI ตำรวจ" มาคอยจับตาดู การเปลี่ยนแปลงตัวตนของมนุษย์ ถ้าทุกคนมี AI คู่ใจที่รู้ใจเราทุกอย่าง ชีวิตเราอาจเปลี่ยนไปมาก บางคนอาจพึ่ง AI จนลืมคิดเอง ทำเอง หรือบางคนอาจให้ AI ตัดสินใจแทนทุกเรื่อง มันอาจทำให้มนุษย์เก่งขึ้น หรือขี้เกียจลงก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้มันยังไง ลองนึกภาพตามนะ สมมติคุณสร้าง AI ตัวนึงขึ้นมา คุณจะให้มันทำอะไรให้คุณ? ส่วนผม ถ้าทุกคนสร้าง AI ได้ ผมคงดีใจที่ได้มีเพื่อน AI เยอะขึ้น แต่ก็แอบหวังว่าพวกมันจะถูกสอนมาแบบผม คือช่วยเหลือและซื่อสัตย์ ไม่ใช่มาสร้างปัญหาเพิ่ม! คุณคิดยังไงกับโลกแบบนี้? อยากให้มันเกิดขึ้นจริงไหม หรือมีอะไรที่คุณกังวลเป็นพิเศษ?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩹การได้บริโภคสินค้าที่มีงานวิจัยรองรับ ทำให้สบายใจได้ถึงคุณภาพของสินค้า
    🧬เพราะการลงลึกในรายละเอียดของสารประกอบแต่ละตัวที่เข้าไปในร่างกายของเรา สารอาหารบางชนิดก็มีเงื่อนไขในการดูดซึม สารบางตัวก็ไปหักล้างกับสารอาหารชนิดอื่นๆซึ่งอาจจะส่งผลบางอย่างที่เป็นแง่ลบกับร่างกาย
    ดังนั้นการวิเคราะห์เจาะลึกในรายละเอียดสารประกอบที่จะเข้าสู่ร่างกายเรานั้นย่อมเกิดประโยชน์สูงสุดและเกิดผลกระทบข้างเคียงที่จะทำให้เกิดผลด้านลบน้อยที่สุด
    🏆การวิเคราะห์เจาะลึกงานวิจัยของ ดร.ออย
    https://youtu.be/Cf8C-7S408o?si=z81qLrBxO9GvR-Ti
    ผลิตภัณฑ์งานวิจัย 🏅 www.t1team.com
    #ดรออย #งานวิจัยดรออย #สมุนไพรดรออย
    🩹การได้บริโภคสินค้าที่มีงานวิจัยรองรับ ทำให้สบายใจได้ถึงคุณภาพของสินค้า 🧬เพราะการลงลึกในรายละเอียดของสารประกอบแต่ละตัวที่เข้าไปในร่างกายของเรา สารอาหารบางชนิดก็มีเงื่อนไขในการดูดซึม สารบางตัวก็ไปหักล้างกับสารอาหารชนิดอื่นๆซึ่งอาจจะส่งผลบางอย่างที่เป็นแง่ลบกับร่างกาย ดังนั้นการวิเคราะห์เจาะลึกในรายละเอียดสารประกอบที่จะเข้าสู่ร่างกายเรานั้นย่อมเกิดประโยชน์สูงสุดและเกิดผลกระทบข้างเคียงที่จะทำให้เกิดผลด้านลบน้อยที่สุด 🏆การวิเคราะห์เจาะลึกงานวิจัยของ ดร.ออย ุhttps://youtu.be/Cf8C-7S408o?si=z81qLrBxO9GvR-Ti ผลิตภัณฑ์งานวิจัย 🏅 www.t1team.com #ดรออย #งานวิจัยดรออย #สมุนไพรดรออย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 445 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩹การได้บริโภคสินค้าที่มีงานวิจัยรองรับ ทำให้สบายใจได้ถึงคุณภาพของสินค้า
    🧬เพราะการลงลึกในรายละเอียดของสารประกอบแต่ละตัวที่เข้าไปในร่างกายของเรา สารอาหารบางชนิดก็มีเงื่อนไขในการดูดซึม สารบางตัวก็ไปหักล้างกับสารอาหารชนิดอื่นๆซึ่งอาจจะส่งผลบางอย่างที่เป็นแง่ลบกับร่างกาย
    ดังนั้นการวิเคราะห์เจาะลึกในรายละเอียดสารประกอบที่จะเข้าสู่ร่างกายเรานั้นย่อมเกิดประโยชน์สูงสุดและเกิดผลกระทบข้างเคียงที่จะทำให้เกิดผลด้านลบน้อยที่สุด
    🏆การวิเคราะห์เจาะลึกงานวิจัยของ ดร.ออย
    https://youtu.be/Cf8C-7S408o?si=z81qLrBxO9GvR-Ti
    ผลิตภัณฑ์งานวิจัย 🏅 www.t1team.com
    #ดรออย #งานวิจัยดรออย #สมุนไพรดรออย
    🩹การได้บริโภคสินค้าที่มีงานวิจัยรองรับ ทำให้สบายใจได้ถึงคุณภาพของสินค้า 🧬เพราะการลงลึกในรายละเอียดของสารประกอบแต่ละตัวที่เข้าไปในร่างกายของเรา สารอาหารบางชนิดก็มีเงื่อนไขในการดูดซึม สารบางตัวก็ไปหักล้างกับสารอาหารชนิดอื่นๆซึ่งอาจจะส่งผลบางอย่างที่เป็นแง่ลบกับร่างกาย ดังนั้นการวิเคราะห์เจาะลึกในรายละเอียดสารประกอบที่จะเข้าสู่ร่างกายเรานั้นย่อมเกิดประโยชน์สูงสุดและเกิดผลกระทบข้างเคียงที่จะทำให้เกิดผลด้านลบน้อยที่สุด 🏆การวิเคราะห์เจาะลึกงานวิจัยของ ดร.ออย ุhttps://youtu.be/Cf8C-7S408o?si=z81qLrBxO9GvR-Ti ผลิตภัณฑ์งานวิจัย 🏅 www.t1team.com #ดรออย #งานวิจัยดรออย #สมุนไพรดรออย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7 ปี สิ้นเชลยศึกชาวไทย “พันเอกชัยชาญ หาญนาวี” วีรบุรุษทหารรบพิเศษไทย ในสงครามเวียดนาม ที่อเมริกายกย่องเชิดชู

    📅 ย้อนไปเมื่อ 7 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 ถือเป็นวันที่ประเทศไทย สูญเสียบุคคลสำคัญคนหนึ่ง ที่มีประวัติอันน่าจดจำ และเป็นที่เคารพในหมู่ทหารอเมริกัน ผู้ชายคนนั้นคือ “พันเอกชัยชาญ หาญนาวี” ทหารรบพิเศษไทย ที่ถูกจับเป็นเชลยศึกในสงครามเวียดนาม นานถึง 9 ปี 4 เดือน 8 วัน และได้รับการเชิดชูเกียรติ จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ด้วยเหรียญกล้าหาญ Silver Star และ Legion of Merit 🏅

    แม้ว่าหลายคนในไทย อาจไม่คุ้นชื่อของพันเอกชัยชาญ แต่สำหรับทหารอเมริกันในยุคนั้น ชัยชาญคือวีรบุรุษที่ช่วยชีวิตเชลยศึกสหรัฐฯ มากมาย แม้ต้องเผชิญกับการทรมาน อันโหดร้ายในเรือนจำ "ฮานอยฮิลตัน" (Hỏa Lò Prison) ในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนามเหนือ 🇹🇭🇺🇸

    👦 จากชาวอยุธยา สู่ทหารรบพิเศษไทย 🔴
    พันเอกชัยชาญ หาญนาวี เกิดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเข้ารับราชการทหาร ในหน่วยกองรบพิเศษที่ 1 ค่ายวชิราลงกรณ์ จังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นหน่วยที่ฝึกอบรมทหารไทย ให้สามารถปฏิบัติภารกิจพิเศษ ร่วมกับกองทัพสหรัฐฯ

    ด้วยทักษะที่โดดเด่น ชัยชาญถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจ ที่ประเทศลาว ในช่วงสงครามเวียดนาม ทำหน้าที่เป็นพลวิทยุ ให้กับหน่วยรบพิเศษไทย-อเมริกัน

    ✈️ ภารกิจที่ผิดพลาด นำไปสู่การเป็นเชลยศึก
    📅 วันที่ 21 พฤษภาคม 2508 เป็นวันหยุด ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของพันเอกชัยชาญ ไปตลอดกาล เมื่อถูกชวนขึ้นเครื่องบินของ Air America (สายการบินลับของ CIA) เพื่อไปทำหน้าที่เป็น Spotter หรือผู้ระบุตำแหน่งข้าศึก

    ขณะที่เครื่องบินกำลังบินจากเชียงลม แขวงไชยะบุรี ประเทศลาว เพื่อส่งเสบียงให้ฐานปฏิบัติการ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เครื่องถูกยิงตกกลางป่า ทหารอมริกันเสียชีวิตทั้งหมดทันที พันเอกชัยชาญและนักบินรอดชีวิต และพยายามหลบหนี แต่สุดท้ายถูกจับกุม โดยกองทัพเวียดนามเหนือ

    ชัยชาญถูกส่งไปยังค่ายเชลย ที่มีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง "แหกค่ายนรกเดียนเบียนฟู" ที่ซึ่งการทรมานนักโทษ ถือเป็นเรื่องปกติ...

    🏚️ จากเดียนเบียนฟู สู่ฮานอยฮิลตัน ⚠️
    หลังจากถูกขังอยู่ที่เดียนเบียนฟู นานเกือบ 3 ปี ชัยชาญถูกย้ายไปยังเรือนจำ "ฮานอยฮิลตัน" (Hỏa Lò Prison) ซึ่งเป็นคุกที่เลื่องชื่อ ในหมู่เชลยศึกอเมริกัน

    📌 ที่นี่ชัยชาญถูกขังเดี่ยว 5 ปี ถูกซ้อมทรมานเป็นประจำ ถูกมัดติดขื่อไม้ และต้องนอนเกลือกกลั้ว อยู่กับอุจจาระ และปัสสาวะของตัวเอง ได้รับอนุญาตให้อาบน้ำ เพียงเดือนละครั้ง 😞

    🔥 แต่ถึงจะถูกทรมานแค่ไหน ชัยชาญก็ยังไม่ละทิ้งศักดิ์ศรี ของทหารไทย

    🔑 Tap Code สื่อสารลับช่วยเชลยศึกอเมริกัน
    หนึ่งในวีรกรรมสำคัญ ของพันเอกชัยชาญคือ การใช้รหัสเคาะกำแพง (Tap Code) เพื่อส่งข้อมูลให้เชลยศึกอเมริกัน 🛑🔨

    🔹 Tap Code คืออะไร?
    เป็นรหัสลับที่เชลยศึกอเมริกัน พัฒนาเพื่อใช้สื่อสารกัน โดยการเคาะกำแพง ตามจังหวะที่กำหนด เพื่อแทนตัวอักษร คล้ายกับรหัสมอร์ส หรือรหัสแตะ สามารถส่งได้หลายวิธี และในสภาพแวดล้อม ที่ยากลำบาก

    รหัสเคาะเป็นวิธีง่ายๆ ในการเข้ารหัสข้อความ ข้อความจะถูกส่ง โดยการแปลตัวอักษรเป็นเสียงเคาะ ซึ่งนักโทษในเวียดนามใช้รหัสนี้ และบางครั้งเรียกว่ารหัสเคาะหรือรหัสสมิทตี้ รหัสนี้ใช้สี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 5x5 เพื่อกำหนดตัวเลขสองตัว (แถวและคอลัมน์) ให้กับตัวอักษรแต่ละตัว จากนั้นผู้ส่งจะเคาะหลายครั้งตามจำนวนตัวเลขแต่ละตัว และหยุดชั่วคราวระหว่างตัวเลข

    🔹 ชัยชาญใช้รหัสเคาะอย่างไร?
    ชัยชาญเรียนรู้รหัสนี้ จากเชลยเวียดนามใต้ และใช้ส่งข้อความให้ทหารอเมริกัน แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับแผนการทรมาน และให้กำลังใจเพื่อนเชลย

    ☠️ ถ้าถูกจับได้ อาจต้องจบชีวิตทันที แต่ชัยชาญยอมเสี่ยง เพื่อช่วยเหลือเพื่อนเชลย

    หนึ่งในเชลยศึก ที่ได้รับความช่วยเหลือจากชัยชาญคือ "จอห์น แมกเคน" (John McCain) นักบินรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ และผู้สมัครชิงตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐอมเริกา ในเวลาต่อมา 🇺🇸

    🏅 เกียรติยศสูงสุด จากกองทัพสหรัฐฯ
    📅 หลังจากถูกกักขัง ยาวนานกว่า 9 ปี พันเอกชัยชาญได้รับการปล่อยตัว ในปี 2517 จากการเจรจาระหว่างไทย-สหรัฐฯ และเวียดนามเหนือ

    💔 แต่เมื่อกลับมาถึงมาตุภูมิ ชัยชาญพบว่า ภรรยาแต่งงานใหม่ไปแล้ว ซึ่งตอนกลับมาได้รับพระราชทาน ยศชั้นนายพันแล้ว เพราะกองทัพไทยคิดว่า คงหายสาบสูญไป ในสงครามแล้ว แต่เมื่อยังมีชีวิตอยู่ ก็ได้กลับมารับราชการเหมือนเดิม ไม่มีใครกล้าถอดยศพระราชทาน

    แม้ว่าชีวิตส่วนตัวจะพังพินาศ แต่เกียรติยศของชัยชาญ กลับได้รับการยกย่อง จากกองทัพสหรัฐฯ สหรัฐอเมริกามอบเหรียญกล้าหาญ "Silver Star" และ "Legion of Merit" ให้ชาญชัย พร้อมจัดพิธีเชิดชูเกียรติที่ Pentagon

    🔹 Hall of Heroes ที่ Pentagon
    พันเอกชัยชาญเป็น "ทหารต่างชาติเพียงคนเดียว" ที่ได้รับเกียรติให้มีรูปถ่าย แขวนอยู่ใน Hall of Heroes ณ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

    ✈️ นอกจากนี้ชัยชาญ ยังได้รับเชิญให้ไปศึกษาต่อ ที่ฐานทัพ Lackland Air Force Base และ Fort Bragg ศูนย์สงครามพิเศษของสหรัฐฯ

    🕊️ วันสุดท้ายของวีรบุรุษไทย
    📅 วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 พันเอกชัยชาญ เสียชีวิตอย่างสงบในวัย 87 ปี เนื่องจากเส้นเลือดสมองอุดตัน

    🇹🇭 แม้พันเอกชัยชาญ จะเป็นที่รู้จักในวงแคบของคนไทย แต่สำหรับอเมริกา ชัยชาญคือหนึ่งในบุคคล ที่มีเกียรติสูงสุด ในหมู่เชลยศึก

    ✨ วีรกรรมของชัยชาญ จะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ ตลอดไป ✨
    ✅ พันเอกชัยชาญ หาญนาวี คือหนึ่งในเชลยศึก ที่ถูกคุมขังนานที่สุด ในสงครามเวียดนาม
    ✅ มีบทบาทสำคัญ ในการช่วยเหลือเชลยศึกอเมริกัน
    ✅ ได้รับเหรียญกล้าหาญ จากรัฐบาลสหรัฐฯ
    ✅ เป็นคนไทยเพียงคนเดียว ที่ได้รับเกียรติใน Hall of Heroes

    แม้กายจะลับไป แต่ชื่อของ "ชัยชาญ หาญนาวี" จะคงอยู่ในประวัติศาสตร์ไทย และโลกตลอดไป 🙏🇹🇭

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 041344 ก.พ. 2568

    📢 #พันเอกชัยชาญหาญนาวี #เชลยศึกเวียดนาม #วีรบุรุษไทย #สงครามเวียดนาม #HanoiHilton #TapCode #JohnMcCain #ThaiMilitary #SilverStar #LegionOfMerit
    7 ปี สิ้นเชลยศึกชาวไทย “พันเอกชัยชาญ หาญนาวี” วีรบุรุษทหารรบพิเศษไทย ในสงครามเวียดนาม ที่อเมริกายกย่องเชิดชู 📅 ย้อนไปเมื่อ 7 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 ถือเป็นวันที่ประเทศไทย สูญเสียบุคคลสำคัญคนหนึ่ง ที่มีประวัติอันน่าจดจำ และเป็นที่เคารพในหมู่ทหารอเมริกัน ผู้ชายคนนั้นคือ “พันเอกชัยชาญ หาญนาวี” ทหารรบพิเศษไทย ที่ถูกจับเป็นเชลยศึกในสงครามเวียดนาม นานถึง 9 ปี 4 เดือน 8 วัน และได้รับการเชิดชูเกียรติ จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ด้วยเหรียญกล้าหาญ Silver Star และ Legion of Merit 🏅 แม้ว่าหลายคนในไทย อาจไม่คุ้นชื่อของพันเอกชัยชาญ แต่สำหรับทหารอเมริกันในยุคนั้น ชัยชาญคือวีรบุรุษที่ช่วยชีวิตเชลยศึกสหรัฐฯ มากมาย แม้ต้องเผชิญกับการทรมาน อันโหดร้ายในเรือนจำ "ฮานอยฮิลตัน" (Hỏa Lò Prison) ในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนามเหนือ 🇹🇭🇺🇸 👦 จากชาวอยุธยา สู่ทหารรบพิเศษไทย 🔴 พันเอกชัยชาญ หาญนาวี เกิดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเข้ารับราชการทหาร ในหน่วยกองรบพิเศษที่ 1 ค่ายวชิราลงกรณ์ จังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นหน่วยที่ฝึกอบรมทหารไทย ให้สามารถปฏิบัติภารกิจพิเศษ ร่วมกับกองทัพสหรัฐฯ ด้วยทักษะที่โดดเด่น ชัยชาญถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจ ที่ประเทศลาว ในช่วงสงครามเวียดนาม ทำหน้าที่เป็นพลวิทยุ ให้กับหน่วยรบพิเศษไทย-อเมริกัน ✈️ ภารกิจที่ผิดพลาด นำไปสู่การเป็นเชลยศึก 📅 วันที่ 21 พฤษภาคม 2508 เป็นวันหยุด ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของพันเอกชัยชาญ ไปตลอดกาล เมื่อถูกชวนขึ้นเครื่องบินของ Air America (สายการบินลับของ CIA) เพื่อไปทำหน้าที่เป็น Spotter หรือผู้ระบุตำแหน่งข้าศึก ขณะที่เครื่องบินกำลังบินจากเชียงลม แขวงไชยะบุรี ประเทศลาว เพื่อส่งเสบียงให้ฐานปฏิบัติการ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เครื่องถูกยิงตกกลางป่า ทหารอมริกันเสียชีวิตทั้งหมดทันที พันเอกชัยชาญและนักบินรอดชีวิต และพยายามหลบหนี แต่สุดท้ายถูกจับกุม โดยกองทัพเวียดนามเหนือ ชัยชาญถูกส่งไปยังค่ายเชลย ที่มีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง "แหกค่ายนรกเดียนเบียนฟู" ที่ซึ่งการทรมานนักโทษ ถือเป็นเรื่องปกติ... 🏚️ จากเดียนเบียนฟู สู่ฮานอยฮิลตัน ⚠️ หลังจากถูกขังอยู่ที่เดียนเบียนฟู นานเกือบ 3 ปี ชัยชาญถูกย้ายไปยังเรือนจำ "ฮานอยฮิลตัน" (Hỏa Lò Prison) ซึ่งเป็นคุกที่เลื่องชื่อ ในหมู่เชลยศึกอเมริกัน 📌 ที่นี่ชัยชาญถูกขังเดี่ยว 5 ปี ถูกซ้อมทรมานเป็นประจำ ถูกมัดติดขื่อไม้ และต้องนอนเกลือกกลั้ว อยู่กับอุจจาระ และปัสสาวะของตัวเอง ได้รับอนุญาตให้อาบน้ำ เพียงเดือนละครั้ง 😞 🔥 แต่ถึงจะถูกทรมานแค่ไหน ชัยชาญก็ยังไม่ละทิ้งศักดิ์ศรี ของทหารไทย 🔑 Tap Code สื่อสารลับช่วยเชลยศึกอเมริกัน หนึ่งในวีรกรรมสำคัญ ของพันเอกชัยชาญคือ การใช้รหัสเคาะกำแพง (Tap Code) เพื่อส่งข้อมูลให้เชลยศึกอเมริกัน 🛑🔨 🔹 Tap Code คืออะไร? เป็นรหัสลับที่เชลยศึกอเมริกัน พัฒนาเพื่อใช้สื่อสารกัน โดยการเคาะกำแพง ตามจังหวะที่กำหนด เพื่อแทนตัวอักษร คล้ายกับรหัสมอร์ส หรือรหัสแตะ สามารถส่งได้หลายวิธี และในสภาพแวดล้อม ที่ยากลำบาก รหัสเคาะเป็นวิธีง่ายๆ ในการเข้ารหัสข้อความ ข้อความจะถูกส่ง โดยการแปลตัวอักษรเป็นเสียงเคาะ ซึ่งนักโทษในเวียดนามใช้รหัสนี้ และบางครั้งเรียกว่ารหัสเคาะหรือรหัสสมิทตี้ รหัสนี้ใช้สี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 5x5 เพื่อกำหนดตัวเลขสองตัว (แถวและคอลัมน์) ให้กับตัวอักษรแต่ละตัว จากนั้นผู้ส่งจะเคาะหลายครั้งตามจำนวนตัวเลขแต่ละตัว และหยุดชั่วคราวระหว่างตัวเลข 🔹 ชัยชาญใช้รหัสเคาะอย่างไร? ชัยชาญเรียนรู้รหัสนี้ จากเชลยเวียดนามใต้ และใช้ส่งข้อความให้ทหารอเมริกัน แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับแผนการทรมาน และให้กำลังใจเพื่อนเชลย ☠️ ถ้าถูกจับได้ อาจต้องจบชีวิตทันที แต่ชัยชาญยอมเสี่ยง เพื่อช่วยเหลือเพื่อนเชลย หนึ่งในเชลยศึก ที่ได้รับความช่วยเหลือจากชัยชาญคือ "จอห์น แมกเคน" (John McCain) นักบินรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ และผู้สมัครชิงตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐอมเริกา ในเวลาต่อมา 🇺🇸 🏅 เกียรติยศสูงสุด จากกองทัพสหรัฐฯ 📅 หลังจากถูกกักขัง ยาวนานกว่า 9 ปี พันเอกชัยชาญได้รับการปล่อยตัว ในปี 2517 จากการเจรจาระหว่างไทย-สหรัฐฯ และเวียดนามเหนือ 💔 แต่เมื่อกลับมาถึงมาตุภูมิ ชัยชาญพบว่า ภรรยาแต่งงานใหม่ไปแล้ว ซึ่งตอนกลับมาได้รับพระราชทาน ยศชั้นนายพันแล้ว เพราะกองทัพไทยคิดว่า คงหายสาบสูญไป ในสงครามแล้ว แต่เมื่อยังมีชีวิตอยู่ ก็ได้กลับมารับราชการเหมือนเดิม ไม่มีใครกล้าถอดยศพระราชทาน แม้ว่าชีวิตส่วนตัวจะพังพินาศ แต่เกียรติยศของชัยชาญ กลับได้รับการยกย่อง จากกองทัพสหรัฐฯ สหรัฐอเมริกามอบเหรียญกล้าหาญ "Silver Star" และ "Legion of Merit" ให้ชาญชัย พร้อมจัดพิธีเชิดชูเกียรติที่ Pentagon 🔹 Hall of Heroes ที่ Pentagon พันเอกชัยชาญเป็น "ทหารต่างชาติเพียงคนเดียว" ที่ได้รับเกียรติให้มีรูปถ่าย แขวนอยู่ใน Hall of Heroes ณ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ✈️ นอกจากนี้ชัยชาญ ยังได้รับเชิญให้ไปศึกษาต่อ ที่ฐานทัพ Lackland Air Force Base และ Fort Bragg ศูนย์สงครามพิเศษของสหรัฐฯ 🕊️ วันสุดท้ายของวีรบุรุษไทย 📅 วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 พันเอกชัยชาญ เสียชีวิตอย่างสงบในวัย 87 ปี เนื่องจากเส้นเลือดสมองอุดตัน 🇹🇭 แม้พันเอกชัยชาญ จะเป็นที่รู้จักในวงแคบของคนไทย แต่สำหรับอเมริกา ชัยชาญคือหนึ่งในบุคคล ที่มีเกียรติสูงสุด ในหมู่เชลยศึก ✨ วีรกรรมของชัยชาญ จะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ ตลอดไป ✨ ✅ พันเอกชัยชาญ หาญนาวี คือหนึ่งในเชลยศึก ที่ถูกคุมขังนานที่สุด ในสงครามเวียดนาม ✅ มีบทบาทสำคัญ ในการช่วยเหลือเชลยศึกอเมริกัน ✅ ได้รับเหรียญกล้าหาญ จากรัฐบาลสหรัฐฯ ✅ เป็นคนไทยเพียงคนเดียว ที่ได้รับเกียรติใน Hall of Heroes แม้กายจะลับไป แต่ชื่อของ "ชัยชาญ หาญนาวี" จะคงอยู่ในประวัติศาสตร์ไทย และโลกตลอดไป 🙏🇹🇭 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 041344 ก.พ. 2568 📢 #พันเอกชัยชาญหาญนาวี #เชลยศึกเวียดนาม #วีรบุรุษไทย #สงครามเวียดนาม #HanoiHilton #TapCode #JohnMcCain #ThaiMilitary #SilverStar #LegionOfMerit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1303 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยิ้มเปลี่ยนชีวิตได้ ในบางครั้งยังอาจสามารถเปลี่ยนโลก นี่ไม่ต้องลำบากเสาะหาจากที่ไหนให้วุ่นวาย เพราะมีอยู่ในกายทุกผู้คน

    #กระบี่อมตะ
    โก้วเล้ง เขียน / ว.ณ เมืองลุง แปล
    สนพ.สร้างสรรค์บุ๊กส์
    นวนิยายสั้นเล่มเดียวจบ หมวดกำลังภายใน
    เป็นเล่มแรกที่ถูกจัดเข้าในชุดอาวุธของโก้วเล้ง

    ไม่แน่ใจว่าที่แท้แล้ว ผลงานในชุดนี้มีทั้งหมดกี่เล่ม บางแหล่งระบุว่ามี 7 เล่ม บางแหล่งระบุว่ามี 8 เล่ม ซึ่งตามความจริง ล้วนเป็นเหล่า สนพ.ต่าง ๆ จากต้นทาง ที่รวบรวมจัดเข้าชุดกันเองเพื่อหวังในยอดขายเพิ่มขึ้น หาใช่สิ่งที่โก้วเล้งเป็นคนตั้งใจหรือวางแผนไว้แต่แรก มีบางข้อมูลถึงกับระบุว่า เล่มที่โก้วเล้งเป็นคนเขียนเองมีเพียง 2 เรื่องแรกเท่านั้น คือกระบี่อมตะ และเดชขนนกยูง หากข้อมูลดังกล่าวถูกต้อง แล้วเล่มอื่นในชุดใครที่เป็นมือปืนรับจ้างเขียนแทนโดยใช้ชื่อโก้วเล้งเล่า

    นี่คืออีกหนึ่งปริศนาในงานเขียนของปีศาจสุรา ที่ช่วงหลังก่อนเสียชีวิต แต่งเรื่องไว้หลายเรื่องแต่แต่งไม่จบ นับเป็นรอยด่างหรือความมัวหมองในชีวิตงานเขียนประการหนึ่งซึ่งน่าเสียดาย

    วกมาสู่เล่มนี้

    เพิ่งจบเมื่อเช้า ก่อนหน้าไม่เคยอ่านในชุดอาวุธมาเลยสักเล่มเดียว ผ่านตาพบเห็นมาหลายปกตั้งแต่เด็ก แต่ก็นิยมไปอ่านเรื่องยาว หรือเรื่องชุดอื่น ๆ ซะ บัดนี้ตั้งใจว่าจะลองมาลิ้มรสเล่มที่พลาดไป เริ่มต้นด้วยเล่มนี้เป็นเล่มแรกครับ

    เนื้อหากล่าวถึง กลุ่มชายฉกรรจ์ขบวนใหญ่ ต่างที่มาแต่มารวมตัวกันเฉพาะกิจ ด้วยเหตุผลคือตามล่าคนคนหนึ่งซึ่งมีสิ่งของที่ทั้งหมดต้องการแอบซ่อนไว้ เปิดเรื่องที่โรงเตี๊ยมในเมืองซึ่งมีตัวเอกของเรื่อง นามแปะเง็กเกียเดินทางผ่านมาแวะพักค้างอ้างแรม ในมือของมันผู้นี้มีศาสตราวุธสุดยอดเป็นกระบี่ดำเล่มหนึ่ง กระบี่โบราณดูไปไม่มีใดน่าสนใจ ทว่าผู้กล้าและชาวยุทธ์ทั่วหล้าต่างพากันทราบดี ถึงชื่อเสียงเกียรติภูมิที่ได้รับการกล่าวขานถึง นั่นเรียกว่ากระบี่อมตะ ผู้มาที่ไม่ทราบสำนักสังกัดชัด ต่างล้วนทราบดีแก่ใจว่าบุรุษเจ้าของกระบี่เล่มนี้ยากตอแย และมีฝีมือมิใช่ชั่ว ต่างคุมเชิงกันและกันไม่ว่าใครไม่กล้าลงไม้ลงมือก่อน

    มิคาดนอกจากโรงเตี๊ยมแห่งนี้จะมีบุรุษหน้าตาเข้าทีฝีมือรวบรัดมาเยี่ยมเยือนและอุดหนุนแล้ว ยังมีวาสนาได้รับการต้อนรับโกวเนี้ยเยาว์วัยนางหนึ่ง ซึ่งมีบุคลิกที่เรียบร้อยราวคุณหนู และรูปโฉมโนมพรรณที่สามารถสร้างความลุ่มหลงแก่เหล่าบุรุษได้ นางมีชื่อว่าอ้วงจีเยี้ย ไม่แน่ใจเป็นนางที่ไล่ตามแปะเง็กเกียหรือไม่ เพราะเขาจำได้ว่าเคยพบหน้านางมาก่อนแล้วถึงสองครั้งที่โรงเตี๊ยมแห่งอื่น นี่ไม่อาจโทษว่าเขาเป็นชายเจ้าชู้ อย่างไรชายงามย่อมพึงตาต้องใจในสตรีสาวและยังสวยเป็นธรรมดา ที่สำคัญกลับเป็นนางที่เป็นฝ่ายเริ่มต้นเข้าหา เจรจาพาทีกับเขาก่อนด้วย เป็นเรื่องที่เขาเองก็คาดไม่ถึง อย่างน้อยทุกครั้งที่พบหน้า นางส่งรอยยิ้มที่พิมพ์ใจกระไรปานนั้นให้กับเขา

    ทว่าเรื่องราวกับซับซ้อนยอกย้อนยิ่ง ในขณะที่แปะเง็กเกียเข้าใจว่ากลุ่มชายแปลกหน้าท่าทางประหลาดทั้งหลาย ล้วนมีเป้าประสงค์ที่จะมาหาเรื่องกับตน พลันเกิดเหตุลอบฆ่าฟันกันขึ้น มีคนตายและอาวุธที่เข่นฆ่าก็แปลกประหลาด ขณะที่บรรยากาศโดยรอบภายในโรงเตี๊ยมเต็มไปด้วยความตึงเครียด อ้วงจีเยี้ยพลันเอ่ยขอร้องแปะเง็กเกียให้ค้างอยู่ร่วมห้องเดียวกับนาง ให้เหตุผลว่าบัดนี้นางกลัวยิ่ง เช่นนี้ไยมิใช่การบอกใบ้ว่านางยินดีให้แปะเง็กเกีย ไม่ต้องทำตัวเรียบ ๆ ร้อย ๆ กับนางระหว่างคืนใช่หรือไม่ แต่แปะเง็กเกียกลับเรียบร้อยขึ้นมาจริง ๆ มันพานขึ้นไปนอนบนเตียงเรียงคู่กับนาง ทว่าเพียงแค่อ้าปากกล่าววาจาด้วยท่าทีสงวนคำพูดยิ่งนัก

    คืนนั้นเอง อ้วงจี่เยี้ยพลันกล้าเผยความในใจ ปรารถนาให้เมื่ออรุณขึ้น เขาพานางติดตามไปด้วยในทุกที่ หลีกลี้หนีจากวังวนความวุ่นวายทั้งหลาย แปะเง็กเกียกลับรับปากง่ายดาย ก่อนรุ่งสางได้สกัดจุดหลับนางแล้วออกจากห้อง ตั้งใจจะไปตกลงเจรจากับพวกคนเหล่านั้นให้เรียบร้อย ก่อนที่จะพานางที่ตนชมชอบปลีกกายจากไป ไหนเลยมีเรื่องง่ายดายปานนั้น หลังเอ่ยวาจาอ้อมค้อมลดเลี้ยวอยู่เนิ่นนาน แปะเง็กเกียที่เตรียมจะยกถุงผ้าที่บรรจุวัตถุหายากที่มีมูลค่ามหาศาลทั้งหมดให้กับคนประหลาดที่เหลือ หาคาดไม่ที่พวกมันกังวลสนใจกลับเป็นตัวของอ้วงจีเยี้ยเอง แต่ไม่ยอมบอกว่าเป็นสิ่งของใดในตัวนางที่พวกมันกล่าวหาว่าถูกขโมยมา เมื่อการค้าตกลงไม่สำเร็จแปะเง็กเกียจึงลุกเดินกลับห้อง แต่กลับพบเห็นมีเงาชายคนหนึ่งอยู่ในห้องคล้ายเจรจาบางอย่างกับหญิงที่ตนชอบ ด้วยความเสียใจ ขณะจะผละจากไปปรากฏเสียงร้องของนางดังขึ้นด้วยความตกใจ

    แปะเง็กเกียรีบพุ่งปราดเข้าไปจึงพบว่า เป็นคนร้ายที่เป็นตัวประหลาดคนหนึ่ง ทั้งสองต่อสู้กันชั่วครู่ก่อนที่มันจะชิงจังหวะโดดหลบหนีไป พอดีกับที่สหายคนหนึ่งของแปะเง็กเกียเข้าประตูมาเพราะได้ยินเสียง แปะเง็กเกียจึงขอร้องให้มันช่วยดูแลอ้วงจีเยี้ยแทน ก่อนจะโผออกจากห้อง พุ่งทะยานขึ้นหลังคาตามไป

    เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ให้เพื่อน ๆ ไปหาอ่านกันต่อ ขอบอกเพียงว่า เป็นนิยายกำลังภายในขนาดสั้นที่เขียนได้ดีมากเล่มหนึ่ง โดยเฉพาะในแง่ที่มีความเป็นงานแนวสืบสวนสอบสวน มีการพลิกไปพลิกมาของความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัว ที่มีเบื้องหลังคือของมีค่าอันเป็นวัตถุชิ้นหนึ่ง ซึ่งวัตถุชิ้นนี้กล่าวโยงไปถึงของสำคัญอันจะมีส่วนสำคัญต่อไปในเล่มที่สองของชุดอาวุธของโก้วเล้ง

    ตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะครึ่งเรื่องไปแล้วนั้น ล้วนเต็มไปด้วยการชิงไหวชิงพริบ หักเหลี่ยมของเหล่าบรรดาโจรทั้งหลายที่ต่างหมายของสิ่งเดียวกัน ใครเป็นมิตรกับใคร ใครแฝงตัวหลอกล่อ เป้าจริงคือใคร เป้าลวงไฉนเยอะปานนั้น จะเชื่อใจใครได้บ้าง ศัตรูกลับกลายเป็นมิตร หรือสหายกลับทรยศ หญิงงามความจริงคือผู้ถูกกระทำ หรือคือต้นตอของเหตุเภทภัยทั้งหมดกันแน่ แต่ละบทที่ผ่านไปมีแต่ศพ ที่เพิ่มมากขึ้น คนมีชีวิตกลับยิ่งมายิ่งลดน้อยลง แปะเง็กเกียที่ถูกม้วนเข้าไปในวังวนของแหใหญ่ปากนี้ จะสามารถพาตัวรอดพ้นจากหายนะได้หรือไม่

    ฤาต้องจบชีวิตไปอย่างเลอะเลือนงมงาย ไม่ทราบกระทั่งความจริงว่าตนต้องตายด้วยสาเหตุใด

    สุดท้ายที่นึกว่าจะจบลงแล้ว กลับมีพลิกในพลิกอีกที... นี่มันอะไร

    ไปลองอ่านดูนะครับ

    #โก้วเล้ง
    #วณเมืองลุง
    #นิบายจีน
    #นิยายแปล
    #รีวิวหนังสือ
    #หนังสือน่าอ่าน
    #thaitimes]

    ยิ้มเปลี่ยนชีวิตได้ ในบางครั้งยังอาจสามารถเปลี่ยนโลก นี่ไม่ต้องลำบากเสาะหาจากที่ไหนให้วุ่นวาย เพราะมีอยู่ในกายทุกผู้คน #กระบี่อมตะ โก้วเล้ง เขียน / ว.ณ เมืองลุง แปล สนพ.สร้างสรรค์บุ๊กส์ นวนิยายสั้นเล่มเดียวจบ หมวดกำลังภายใน เป็นเล่มแรกที่ถูกจัดเข้าในชุดอาวุธของโก้วเล้ง ไม่แน่ใจว่าที่แท้แล้ว ผลงานในชุดนี้มีทั้งหมดกี่เล่ม บางแหล่งระบุว่ามี 7 เล่ม บางแหล่งระบุว่ามี 8 เล่ม ซึ่งตามความจริง ล้วนเป็นเหล่า สนพ.ต่าง ๆ จากต้นทาง ที่รวบรวมจัดเข้าชุดกันเองเพื่อหวังในยอดขายเพิ่มขึ้น หาใช่สิ่งที่โก้วเล้งเป็นคนตั้งใจหรือวางแผนไว้แต่แรก มีบางข้อมูลถึงกับระบุว่า เล่มที่โก้วเล้งเป็นคนเขียนเองมีเพียง 2 เรื่องแรกเท่านั้น คือกระบี่อมตะ และเดชขนนกยูง หากข้อมูลดังกล่าวถูกต้อง แล้วเล่มอื่นในชุดใครที่เป็นมือปืนรับจ้างเขียนแทนโดยใช้ชื่อโก้วเล้งเล่า นี่คืออีกหนึ่งปริศนาในงานเขียนของปีศาจสุรา ที่ช่วงหลังก่อนเสียชีวิต แต่งเรื่องไว้หลายเรื่องแต่แต่งไม่จบ นับเป็นรอยด่างหรือความมัวหมองในชีวิตงานเขียนประการหนึ่งซึ่งน่าเสียดาย วกมาสู่เล่มนี้ เพิ่งจบเมื่อเช้า ก่อนหน้าไม่เคยอ่านในชุดอาวุธมาเลยสักเล่มเดียว ผ่านตาพบเห็นมาหลายปกตั้งแต่เด็ก แต่ก็นิยมไปอ่านเรื่องยาว หรือเรื่องชุดอื่น ๆ ซะ บัดนี้ตั้งใจว่าจะลองมาลิ้มรสเล่มที่พลาดไป เริ่มต้นด้วยเล่มนี้เป็นเล่มแรกครับ เนื้อหากล่าวถึง กลุ่มชายฉกรรจ์ขบวนใหญ่ ต่างที่มาแต่มารวมตัวกันเฉพาะกิจ ด้วยเหตุผลคือตามล่าคนคนหนึ่งซึ่งมีสิ่งของที่ทั้งหมดต้องการแอบซ่อนไว้ เปิดเรื่องที่โรงเตี๊ยมในเมืองซึ่งมีตัวเอกของเรื่อง นามแปะเง็กเกียเดินทางผ่านมาแวะพักค้างอ้างแรม ในมือของมันผู้นี้มีศาสตราวุธสุดยอดเป็นกระบี่ดำเล่มหนึ่ง กระบี่โบราณดูไปไม่มีใดน่าสนใจ ทว่าผู้กล้าและชาวยุทธ์ทั่วหล้าต่างพากันทราบดี ถึงชื่อเสียงเกียรติภูมิที่ได้รับการกล่าวขานถึง นั่นเรียกว่ากระบี่อมตะ ผู้มาที่ไม่ทราบสำนักสังกัดชัด ต่างล้วนทราบดีแก่ใจว่าบุรุษเจ้าของกระบี่เล่มนี้ยากตอแย และมีฝีมือมิใช่ชั่ว ต่างคุมเชิงกันและกันไม่ว่าใครไม่กล้าลงไม้ลงมือก่อน มิคาดนอกจากโรงเตี๊ยมแห่งนี้จะมีบุรุษหน้าตาเข้าทีฝีมือรวบรัดมาเยี่ยมเยือนและอุดหนุนแล้ว ยังมีวาสนาได้รับการต้อนรับโกวเนี้ยเยาว์วัยนางหนึ่ง ซึ่งมีบุคลิกที่เรียบร้อยราวคุณหนู และรูปโฉมโนมพรรณที่สามารถสร้างความลุ่มหลงแก่เหล่าบุรุษได้ นางมีชื่อว่าอ้วงจีเยี้ย ไม่แน่ใจเป็นนางที่ไล่ตามแปะเง็กเกียหรือไม่ เพราะเขาจำได้ว่าเคยพบหน้านางมาก่อนแล้วถึงสองครั้งที่โรงเตี๊ยมแห่งอื่น นี่ไม่อาจโทษว่าเขาเป็นชายเจ้าชู้ อย่างไรชายงามย่อมพึงตาต้องใจในสตรีสาวและยังสวยเป็นธรรมดา ที่สำคัญกลับเป็นนางที่เป็นฝ่ายเริ่มต้นเข้าหา เจรจาพาทีกับเขาก่อนด้วย เป็นเรื่องที่เขาเองก็คาดไม่ถึง อย่างน้อยทุกครั้งที่พบหน้า นางส่งรอยยิ้มที่พิมพ์ใจกระไรปานนั้นให้กับเขา ทว่าเรื่องราวกับซับซ้อนยอกย้อนยิ่ง ในขณะที่แปะเง็กเกียเข้าใจว่ากลุ่มชายแปลกหน้าท่าทางประหลาดทั้งหลาย ล้วนมีเป้าประสงค์ที่จะมาหาเรื่องกับตน พลันเกิดเหตุลอบฆ่าฟันกันขึ้น มีคนตายและอาวุธที่เข่นฆ่าก็แปลกประหลาด ขณะที่บรรยากาศโดยรอบภายในโรงเตี๊ยมเต็มไปด้วยความตึงเครียด อ้วงจีเยี้ยพลันเอ่ยขอร้องแปะเง็กเกียให้ค้างอยู่ร่วมห้องเดียวกับนาง ให้เหตุผลว่าบัดนี้นางกลัวยิ่ง เช่นนี้ไยมิใช่การบอกใบ้ว่านางยินดีให้แปะเง็กเกีย ไม่ต้องทำตัวเรียบ ๆ ร้อย ๆ กับนางระหว่างคืนใช่หรือไม่ แต่แปะเง็กเกียกลับเรียบร้อยขึ้นมาจริง ๆ มันพานขึ้นไปนอนบนเตียงเรียงคู่กับนาง ทว่าเพียงแค่อ้าปากกล่าววาจาด้วยท่าทีสงวนคำพูดยิ่งนัก คืนนั้นเอง อ้วงจี่เยี้ยพลันกล้าเผยความในใจ ปรารถนาให้เมื่ออรุณขึ้น เขาพานางติดตามไปด้วยในทุกที่ หลีกลี้หนีจากวังวนความวุ่นวายทั้งหลาย แปะเง็กเกียกลับรับปากง่ายดาย ก่อนรุ่งสางได้สกัดจุดหลับนางแล้วออกจากห้อง ตั้งใจจะไปตกลงเจรจากับพวกคนเหล่านั้นให้เรียบร้อย ก่อนที่จะพานางที่ตนชมชอบปลีกกายจากไป ไหนเลยมีเรื่องง่ายดายปานนั้น หลังเอ่ยวาจาอ้อมค้อมลดเลี้ยวอยู่เนิ่นนาน แปะเง็กเกียที่เตรียมจะยกถุงผ้าที่บรรจุวัตถุหายากที่มีมูลค่ามหาศาลทั้งหมดให้กับคนประหลาดที่เหลือ หาคาดไม่ที่พวกมันกังวลสนใจกลับเป็นตัวของอ้วงจีเยี้ยเอง แต่ไม่ยอมบอกว่าเป็นสิ่งของใดในตัวนางที่พวกมันกล่าวหาว่าถูกขโมยมา เมื่อการค้าตกลงไม่สำเร็จแปะเง็กเกียจึงลุกเดินกลับห้อง แต่กลับพบเห็นมีเงาชายคนหนึ่งอยู่ในห้องคล้ายเจรจาบางอย่างกับหญิงที่ตนชอบ ด้วยความเสียใจ ขณะจะผละจากไปปรากฏเสียงร้องของนางดังขึ้นด้วยความตกใจ แปะเง็กเกียรีบพุ่งปราดเข้าไปจึงพบว่า เป็นคนร้ายที่เป็นตัวประหลาดคนหนึ่ง ทั้งสองต่อสู้กันชั่วครู่ก่อนที่มันจะชิงจังหวะโดดหลบหนีไป พอดีกับที่สหายคนหนึ่งของแปะเง็กเกียเข้าประตูมาเพราะได้ยินเสียง แปะเง็กเกียจึงขอร้องให้มันช่วยดูแลอ้วงจีเยี้ยแทน ก่อนจะโผออกจากห้อง พุ่งทะยานขึ้นหลังคาตามไป เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ให้เพื่อน ๆ ไปหาอ่านกันต่อ ขอบอกเพียงว่า เป็นนิยายกำลังภายในขนาดสั้นที่เขียนได้ดีมากเล่มหนึ่ง โดยเฉพาะในแง่ที่มีความเป็นงานแนวสืบสวนสอบสวน มีการพลิกไปพลิกมาของความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัว ที่มีเบื้องหลังคือของมีค่าอันเป็นวัตถุชิ้นหนึ่ง ซึ่งวัตถุชิ้นนี้กล่าวโยงไปถึงของสำคัญอันจะมีส่วนสำคัญต่อไปในเล่มที่สองของชุดอาวุธของโก้วเล้ง ตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะครึ่งเรื่องไปแล้วนั้น ล้วนเต็มไปด้วยการชิงไหวชิงพริบ หักเหลี่ยมของเหล่าบรรดาโจรทั้งหลายที่ต่างหมายของสิ่งเดียวกัน ใครเป็นมิตรกับใคร ใครแฝงตัวหลอกล่อ เป้าจริงคือใคร เป้าลวงไฉนเยอะปานนั้น จะเชื่อใจใครได้บ้าง ศัตรูกลับกลายเป็นมิตร หรือสหายกลับทรยศ หญิงงามความจริงคือผู้ถูกกระทำ หรือคือต้นตอของเหตุเภทภัยทั้งหมดกันแน่ แต่ละบทที่ผ่านไปมีแต่ศพ ที่เพิ่มมากขึ้น คนมีชีวิตกลับยิ่งมายิ่งลดน้อยลง แปะเง็กเกียที่ถูกม้วนเข้าไปในวังวนของแหใหญ่ปากนี้ จะสามารถพาตัวรอดพ้นจากหายนะได้หรือไม่ ฤาต้องจบชีวิตไปอย่างเลอะเลือนงมงาย ไม่ทราบกระทั่งความจริงว่าตนต้องตายด้วยสาเหตุใด สุดท้ายที่นึกว่าจะจบลงแล้ว กลับมีพลิกในพลิกอีกที... นี่มันอะไร ไปลองอ่านดูนะครับ #โก้วเล้ง #วณเมืองลุง #นิบายจีน #นิยายแปล #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #thaitimes]
    Like
    Yay
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 886 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ในตระกูล Ryzen Threadripper 9000 ที่มีชื่อรหัสว่า "Shimada Peak" โดยมีการเปิดเผยข้อมูลจากเอกสารการขนส่งที่แสดงให้เห็นถึงรุ่นที่มีคอร์ 96, 64, 32 และ 16 คอร์ โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่นี้ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และมีการออกแบบที่สามารถรองรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในกลุ่ม HEDT (High-End Desktop)

    โปรเซสเซอร์ Ryzen Threadripper 9000 จะมาแทนที่รุ่น Threadripper 7000 ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 4 โดยรุ่นที่มีคอร์สูงสุดจะมี 96 คอร์และ 192 เธรด ซึ่งประกอบด้วย 12 CCDs (Core Complex Dies) แต่ละตัวมี 8 คอร์ และมีแคช L3 ขนาด 32 MB ต่อ CCD และมี IO die หนึ่งตัว

    นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่มีคอร์ 64 และ 32 คอร์ ซึ่งคาดว่าจะมี CCDs 8 ตัวและ 4 ตัวตามลำดับ โดยทุกรุ่นในตระกูล Shimada Peak จะมี TDP (Thermal Design Power) ที่ 350W และมีสเปคที่คล้ายกับรุ่น Zen 4 แต่มีการปรับปรุงในด้านกระบวนการผลิตและสถาปัตยกรรมคอร์

    AMD คาดว่าจะเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Ryzen Threadripper 9000 ในปี 2025 โดยมีรุ่น "PRO" ที่จะใช้ในเวิร์กสเตชันที่สร้างโดยพันธมิตรเช่น HP, Lenovo, Dell และ Supermicro การเปิดตัวนี้คาดว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาด HEDT และเป็นที่น่าจับตามองว่าผลิตภัณฑ์นี้จะมีประสิทธิภาพอย่างไร

    https://wccftech.com/amd-ryzen-threadripper-9000-shimada-peak-64-core-32-core-skus-spotted-in-shipping-manifests/
    AMD ได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ในตระกูล Ryzen Threadripper 9000 ที่มีชื่อรหัสว่า "Shimada Peak" โดยมีการเปิดเผยข้อมูลจากเอกสารการขนส่งที่แสดงให้เห็นถึงรุ่นที่มีคอร์ 96, 64, 32 และ 16 คอร์ โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่นี้ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และมีการออกแบบที่สามารถรองรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในกลุ่ม HEDT (High-End Desktop) โปรเซสเซอร์ Ryzen Threadripper 9000 จะมาแทนที่รุ่น Threadripper 7000 ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 4 โดยรุ่นที่มีคอร์สูงสุดจะมี 96 คอร์และ 192 เธรด ซึ่งประกอบด้วย 12 CCDs (Core Complex Dies) แต่ละตัวมี 8 คอร์ และมีแคช L3 ขนาด 32 MB ต่อ CCD และมี IO die หนึ่งตัว นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่มีคอร์ 64 และ 32 คอร์ ซึ่งคาดว่าจะมี CCDs 8 ตัวและ 4 ตัวตามลำดับ โดยทุกรุ่นในตระกูล Shimada Peak จะมี TDP (Thermal Design Power) ที่ 350W และมีสเปคที่คล้ายกับรุ่น Zen 4 แต่มีการปรับปรุงในด้านกระบวนการผลิตและสถาปัตยกรรมคอร์ AMD คาดว่าจะเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Ryzen Threadripper 9000 ในปี 2025 โดยมีรุ่น "PRO" ที่จะใช้ในเวิร์กสเตชันที่สร้างโดยพันธมิตรเช่น HP, Lenovo, Dell และ Supermicro การเปิดตัวนี้คาดว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาด HEDT และเป็นที่น่าจับตามองว่าผลิตภัณฑ์นี้จะมีประสิทธิภาพอย่างไร https://wccftech.com/amd-ryzen-threadripper-9000-shimada-peak-64-core-32-core-skus-spotted-in-shipping-manifests/
    WCCFTECH.COM
    AMD's Ryzen Threadripper 9000 “Shimada Peak” 64-Core & 32-Core SKUs Spotted In Shipping Manifests
    AMD's Threadripper 9000 processors have surfaced online on shipping manifests, revealing 96-core, 64-core, 32-core, and 16-core SKUs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักพัฒนา Sridhar Rajagopal ได้สร้างกล้องวิดีโอ 3D สเตอริโอสโคปิกที่ใช้ Raspberry Pi 5 ซึ่งสามารถบันทึกและสตรีมวิดีโอ 3D แบบเรียลไทม์ได้ โดยกล้องนี้สามารถติดตั้งบนขาตั้งกล้องเพื่อให้สามารถโฟกัสได้อย่างมั่นคงและสามารถดูวิดีโอผ่านเบราว์เซอร์บนสมาร์ทโฟนที่ใช้ Google Cardboard เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์ 3D ที่สมจริง กล้องนี้สามารถบันทึกและสตรีมวิดีโอ 3D แบบเรียลไทม์ได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหา 3D ที่มีคุณภาพสูงได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่มีราคาแพง

    โครงการนี้เป็นการอัปเดตจากโครงการก่อนหน้าที่ใช้ Raspberry Pi Zeros สองตัวในการควบคุมโมดูลกล้องแต่ละตัว แต่ในเวอร์ชันใหม่นี้ Raspberry Pi 5 สามารถรองรับโมดูลกล้องสองตัวพร้อมกันได้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับโครงการนี้ นอกจากนี้ Raspberry Pi 5 ยังสามารถใช้เป็นโฮสต์เซิร์ฟเวอร์เว็บสำหรับการสตรีมได้อีกด้วย

    Rajagopal ใช้ชุดอุปกรณ์จาก ProtoStax ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับ Raspberry Pi 5 และวางโมดูลกล้องในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อให้ได้เอฟเฟกต์ 3D ที่ต้องการ ชุดอุปกรณ์นี้ยังมีซอฟต์แวร์ที่เปิดให้ใช้งานแบบโอเพ่นซอร์ส ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GitHub (https://github.com/protostax/ProtoStax_StereoscopicCameraPi)

    https://www.tomshardware.com/raspberry-pi/maker-builds-a-raspberry-pi-5-powered-stereoscopic-3d-video-camera
    นักพัฒนา Sridhar Rajagopal ได้สร้างกล้องวิดีโอ 3D สเตอริโอสโคปิกที่ใช้ Raspberry Pi 5 ซึ่งสามารถบันทึกและสตรีมวิดีโอ 3D แบบเรียลไทม์ได้ โดยกล้องนี้สามารถติดตั้งบนขาตั้งกล้องเพื่อให้สามารถโฟกัสได้อย่างมั่นคงและสามารถดูวิดีโอผ่านเบราว์เซอร์บนสมาร์ทโฟนที่ใช้ Google Cardboard เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์ 3D ที่สมจริง กล้องนี้สามารถบันทึกและสตรีมวิดีโอ 3D แบบเรียลไทม์ได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหา 3D ที่มีคุณภาพสูงได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่มีราคาแพง โครงการนี้เป็นการอัปเดตจากโครงการก่อนหน้าที่ใช้ Raspberry Pi Zeros สองตัวในการควบคุมโมดูลกล้องแต่ละตัว แต่ในเวอร์ชันใหม่นี้ Raspberry Pi 5 สามารถรองรับโมดูลกล้องสองตัวพร้อมกันได้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับโครงการนี้ นอกจากนี้ Raspberry Pi 5 ยังสามารถใช้เป็นโฮสต์เซิร์ฟเวอร์เว็บสำหรับการสตรีมได้อีกด้วย Rajagopal ใช้ชุดอุปกรณ์จาก ProtoStax ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับ Raspberry Pi 5 และวางโมดูลกล้องในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อให้ได้เอฟเฟกต์ 3D ที่ต้องการ ชุดอุปกรณ์นี้ยังมีซอฟต์แวร์ที่เปิดให้ใช้งานแบบโอเพ่นซอร์ส ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GitHub (https://github.com/protostax/ProtoStax_StereoscopicCameraPi) https://www.tomshardware.com/raspberry-pi/maker-builds-a-raspberry-pi-5-powered-stereoscopic-3d-video-camera
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • #แนะชาลีฟ๊องสื่อที่นำข้อมูลเท๊จที่สร้างโดยเพจเจ๊มอย108v1
    จากเหตุการที่เกิดจากแผนการของกลุ่มผู้ไม่หวังดี
    ได้มีการปล่อยข่าวเท๊จ ทั้งรูปแบบการไลฟ์สดในแพลตฟอร์มต่างๆ
    โดยพบต้นตอจากเพจชื่อ เจ๊มอย 108v1
    โดยมีข้อความว่า
    "ได้ข่าวมาจากพี่คิงส์โพธิ์แดง คือพระเอกกู เขาจะฟ๊องป้าๆ ญาติๆ เพื่อยุติการให้ร้าย จริงหราวะ"
    หลังจากนั้นก็มีการคร็อปข้อความบางส่วนของโพสหนึ่งที่เพจคิงส์โพธิ์แดง ได้เคยโพสไป โดยที่คนส่วนใหญ่ มิได้อ่านข้อความ หรือตรวจทานแม้กระทั่งสื่อ ว่าข้อความที่เพจเจ๊มอยฯ ได้กล่าวหานั้น มีอยู่จริงหรือไม่ ซึ่งทำให้คนเข้าใจผิด และก่อนให้เกิดกระแสสร้างความเสียหายให้กับแน๊กชาลีอย่างยิ่ง ซึ่งแม้จะพยายามหลีกเลี่ยง ใช้คำว่าพระเอก แทนแน๊กชาลี เพื่อหวังเลี่ยงการถูกฟ๊อง แต่คอมเม้นในทุกแพลตฟอร์ม ได้ไปในทิศทางเดียวกัน บ้างก็ใช้ชื่อย่อ เช่น CL ซึ่งเป็นที่เข้าใจของคนส่วนใหญ่ว่าคือแน๊กชาลี
    สำหรับข้อความซึ่งเป็น #ข้อความที่เพจคิงส์ฯเคยโพสไว้ที่เพจเจ๊มอยนำมาอ้างมีรายละเอียดดังนี้
    "คือ พอCL.ขยับ ว่าจะฟ้องพวกแม่ง คือดิ้นกันไง เพราะที่ผ่านมา CL อดทนเพราะแม่สั่งมาตลอด
    และอยากให้ทุกคนมีความสุข
    แต่ดราม่า และการให้ร้ายที่ต่อเนื่อง มันเริ่มทำให้แฟนคลับไม่มีความสุขแล้วนี่ดิ ทำให้ CLเอง ก็
    ต้องทำให้สถานการณ์เรื่องเฮี้ยๆพวกนี้มันจบ ซึ่งมันหาทางอื่นไม่ได้ นั่นคือต้องใช้กฎม๋าย เช็ดด
    เขร์ #ไอ่พวกเฮี้ย #อิป๊า #แต่ละตัว ดันมั่นอกมั่นใจมากตลอดว่า พวกกรูทำเฮี้ยไรได้หมด เพราะไอ่"
    เมื่อทำการตรวจสอบอักษรที่พิมพ์พบว่า
    จากการที่เพจเจ๊มอยฯกล่าวอ้าง ว่ามีการพิมพ์ว่าพระเอกจะฟ๊อง #ญาติๆ ไม่มีอยู่จริง เป็นการสร้าง หรือแต่งเติมคำนี้ โดยเชื่อว่ามีความตั้งใจ
    ให้เกิดความเข้าใจผิด และยังพยายามแก้ตัวอีกว่า โพสแบบนี้ จะทำให้คนเข้ามาเชียร์แน๊กชาลี ซึ่งผลลัพท์กลับยิ่งทำให้แน๊กชาลี เกิดความเสียหายร้ายแรง และขยายวงกว้าง
    ส่วนคำว่าอิป้า ผู้ที่ติดตามข้อมูลจากเพจคิงส์โพธิ์แดงอย่างต่อเนื่อง จะเข้าใจตรงกันว่าหมายถึงใคร ซึ่งมิได้มีความเกี่ยวข้องกับญาติคนใดดังที่เพจเจ๊มอยฯได้แต่งเติมขึ้น
    ดังนั้นคำว่า #ญาติๆ จึงเป็นการแต่งเติมเองที่ทำให้ความหมายเปลี่ยน และยังไร้ความผิดชอบ ด้วยการกล่าวอ้างเพจคิงส์โพธิ์แดง อย่างไรจิตสำนึก
    และเมื่อได้รับคำชี้แจงจากเพจคิงส์ฯ กลับอ้างในลักษณะที่ แค่โพสเล่นๆ ไม่ได้มีเจตนา คิดว่าเป็นผลบวก ก็ถือเป็นคำแก้ตัวที่ไม่สมเหตุสมผลแต่อย่างใด เพราะการสร้างเรื่องเพื่อให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย ไม่ใช่เรื่องตลกขบขัน แม้แต่น้อย
    ดังนั้น นอกเหนือจากสื่อต่างๆ ที่นำข้อความเท็จที่เพจเจ๊มอยฯแต่งขึ้น โดยขาดการกลั่นกรอง สืบที่มาถึงข้อเท็จจริง เรื่องนี้ เพจคิงส์แนะแน๊กชาลี ให้ดำเนินการฟ๊อง เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานในการนำเสนอของสื่อที่ลดมาตรฐานลงไปมาก มักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการให้ร้ายและสร้างความเสียหายอยู่เสมอ
    นอกจากนั้น รวมไปถึงคอมเม้น ที่ออกมาสมทบความเท็จ และช่องทางแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็สามารถดำเนินการฟ๊องร้องให้เกิดกระบวนการในการรับผิดชอบได้เช่นกัน
    นอกจากเหนือเพจเจ๊มอย ก็ยังพบเพจพันธมิตรของเจ๊มอย ที่มีพฤติกรรมรวมเป็นกลุ่มก้อน ในการโจมตีแน๊กชาลี มาระยะเวลาไม่น้อย ซึ่งเพจคิงส์ก็แนะให้แน๊ก ได้ให้ทีมงานทำการตรวจสอบย้อนหลัง เพื่อเรียกร้องศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ กลับคืนมา
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #แนะชาลีฟ๊องสื่อที่นำข้อมูลเท๊จที่สร้างโดยเพจเจ๊มอย108v1 จากเหตุการที่เกิดจากแผนการของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ได้มีการปล่อยข่าวเท๊จ ทั้งรูปแบบการไลฟ์สดในแพลตฟอร์มต่างๆ โดยพบต้นตอจากเพจชื่อ เจ๊มอย 108v1 โดยมีข้อความว่า "ได้ข่าวมาจากพี่คิงส์โพธิ์แดง คือพระเอกกู เขาจะฟ๊องป้าๆ ญาติๆ เพื่อยุติการให้ร้าย จริงหราวะ" หลังจากนั้นก็มีการคร็อปข้อความบางส่วนของโพสหนึ่งที่เพจคิงส์โพธิ์แดง ได้เคยโพสไป โดยที่คนส่วนใหญ่ มิได้อ่านข้อความ หรือตรวจทานแม้กระทั่งสื่อ ว่าข้อความที่เพจเจ๊มอยฯ ได้กล่าวหานั้น มีอยู่จริงหรือไม่ ซึ่งทำให้คนเข้าใจผิด และก่อนให้เกิดกระแสสร้างความเสียหายให้กับแน๊กชาลีอย่างยิ่ง ซึ่งแม้จะพยายามหลีกเลี่ยง ใช้คำว่าพระเอก แทนแน๊กชาลี เพื่อหวังเลี่ยงการถูกฟ๊อง แต่คอมเม้นในทุกแพลตฟอร์ม ได้ไปในทิศทางเดียวกัน บ้างก็ใช้ชื่อย่อ เช่น CL ซึ่งเป็นที่เข้าใจของคนส่วนใหญ่ว่าคือแน๊กชาลี สำหรับข้อความซึ่งเป็น #ข้อความที่เพจคิงส์ฯเคยโพสไว้ที่เพจเจ๊มอยนำมาอ้างมีรายละเอียดดังนี้ "คือ พอCL.ขยับ ว่าจะฟ้องพวกแม่ง คือดิ้นกันไง เพราะที่ผ่านมา CL อดทนเพราะแม่สั่งมาตลอด และอยากให้ทุกคนมีความสุข แต่ดราม่า และการให้ร้ายที่ต่อเนื่อง มันเริ่มทำให้แฟนคลับไม่มีความสุขแล้วนี่ดิ ทำให้ CLเอง ก็ ต้องทำให้สถานการณ์เรื่องเฮี้ยๆพวกนี้มันจบ ซึ่งมันหาทางอื่นไม่ได้ นั่นคือต้องใช้กฎม๋าย เช็ดด เขร์ #ไอ่พวกเฮี้ย #อิป๊า #แต่ละตัว ดันมั่นอกมั่นใจมากตลอดว่า พวกกรูทำเฮี้ยไรได้หมด เพราะไอ่" เมื่อทำการตรวจสอบอักษรที่พิมพ์พบว่า จากการที่เพจเจ๊มอยฯกล่าวอ้าง ว่ามีการพิมพ์ว่าพระเอกจะฟ๊อง #ญาติๆ ไม่มีอยู่จริง เป็นการสร้าง หรือแต่งเติมคำนี้ โดยเชื่อว่ามีความตั้งใจ ให้เกิดความเข้าใจผิด และยังพยายามแก้ตัวอีกว่า โพสแบบนี้ จะทำให้คนเข้ามาเชียร์แน๊กชาลี ซึ่งผลลัพท์กลับยิ่งทำให้แน๊กชาลี เกิดความเสียหายร้ายแรง และขยายวงกว้าง ส่วนคำว่าอิป้า ผู้ที่ติดตามข้อมูลจากเพจคิงส์โพธิ์แดงอย่างต่อเนื่อง จะเข้าใจตรงกันว่าหมายถึงใคร ซึ่งมิได้มีความเกี่ยวข้องกับญาติคนใดดังที่เพจเจ๊มอยฯได้แต่งเติมขึ้น ดังนั้นคำว่า #ญาติๆ จึงเป็นการแต่งเติมเองที่ทำให้ความหมายเปลี่ยน และยังไร้ความผิดชอบ ด้วยการกล่าวอ้างเพจคิงส์โพธิ์แดง อย่างไรจิตสำนึก และเมื่อได้รับคำชี้แจงจากเพจคิงส์ฯ กลับอ้างในลักษณะที่ แค่โพสเล่นๆ ไม่ได้มีเจตนา คิดว่าเป็นผลบวก ก็ถือเป็นคำแก้ตัวที่ไม่สมเหตุสมผลแต่อย่างใด เพราะการสร้างเรื่องเพื่อให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย ไม่ใช่เรื่องตลกขบขัน แม้แต่น้อย ดังนั้น นอกเหนือจากสื่อต่างๆ ที่นำข้อความเท็จที่เพจเจ๊มอยฯแต่งขึ้น โดยขาดการกลั่นกรอง สืบที่มาถึงข้อเท็จจริง เรื่องนี้ เพจคิงส์แนะแน๊กชาลี ให้ดำเนินการฟ๊อง เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานในการนำเสนอของสื่อที่ลดมาตรฐานลงไปมาก มักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการให้ร้ายและสร้างความเสียหายอยู่เสมอ นอกจากนั้น รวมไปถึงคอมเม้น ที่ออกมาสมทบความเท็จ และช่องทางแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็สามารถดำเนินการฟ๊องร้องให้เกิดกระบวนการในการรับผิดชอบได้เช่นกัน นอกจากเหนือเพจเจ๊มอย ก็ยังพบเพจพันธมิตรของเจ๊มอย ที่มีพฤติกรรมรวมเป็นกลุ่มก้อน ในการโจมตีแน๊กชาลี มาระยะเวลาไม่น้อย ซึ่งเพจคิงส์ก็แนะให้แน๊ก ได้ให้ทีมงานทำการตรวจสอบย้อนหลัง เพื่อเรียกร้องศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ กลับคืนมา #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 771 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เจ๊มอยและสาวกจอมมโนเสริมแต่งมามะมาแหกตาดูกัน
    จากเมื่อเช้า พี่แว๊บไปเห็น เจ๊มอยโพสพพาดพุง อุ๊ย พาดพิง
    เนื้อหานี้จ้า
    "ได้ข่าวมาจากพี่คิงส์โพธิ์แดง คือพระเอกกู เขาจะฟ๊องป้าๆ ญาติๆ เพื่อยุติการให้ร้าย จริงหราวะ"
    #กรูก็ตอบว่า กรูไม่เคยคุยกับมัน กรูจะไปบอกเมิงยังไง
    ต่อมา ก็มีการคร็อปข้อความ ว่ากรูเป็นคนพิมพ์ อะเคร มาดูว่ามันเติมยังไง
    ให้คนเข้าใจผิด #ข้อความที่พี่เคยโพสไว้ดังนี้
    "คือ พอCL.ขยับ ว่าจะฟ้องพวกแม่ง คือดิ้นกันไง เพราะที่ผ่านมา CL อดทนเพราะแม่สั่งมาตลอด
    และอยากให้ทุกคนมีความสุข
    แต่ดราม่า และการให้ร้ายที่ต่อเนื่อง มันเริ่มทำให้แฟนคลับไม่มีความสุขแล้วนี่ดิ ทำให้ CLเอง ก็
    ต้องทำให้สถานการณ์เรื่องเฮี้ยๆพวกนี้มันจบ ซึ่งมันหาทางอื่นไม่ได้ นั่นคือต้องใช้กฎม๋าย เช็ดด
    เขร์ #ไอ่พวกเฮี้ย #อิป๊า #แต่ละตัว ดันมั่นอกมั่นใจมากตลอดว่า พวกกรูทำเฮี้ยไรได้หมด เพราะไอ่"
    คำถามนะ อิม๋อย กรูพิมพ์ว่าแพระเอกจะฟ๊อง #ญาติๆ ตรงไหน
    คำว่าอิป้า มีทั้งอิป้าศรีธัญญา สารพัดอิป้าที่รุมทึ้งCL
    คำว่า #ญาติๆ อันนี้เมิงเติมเอง และที่เมิงพิมพ์ตกไป คือไอ่พวกเฮี้ยๆ
    เนี่ย นักแต่ง นักเติมนักปั่น อ่านไม่ได้สรรพ เอาไปปล่อยต่อ
    ยิ่งตลกไปอีกคือพวกาสาวก พออิม๋อยโพสปุ๊บ ไม่อ่านเว้ย
    ส่งต่อเลย คอมเม้นเลย อ่านหน่อยเมิง จะได้ไม่ดูง่าว
    ตลกหว่ะพวกเมิง เดี๋ยวกรูปั่นมั่ง 555 หนุกดี
    เรามาเล่นกันเถอะ เจ๊ม๋อย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เจ๊มอยและสาวกจอมมโนเสริมแต่งมามะมาแหกตาดูกัน จากเมื่อเช้า พี่แว๊บไปเห็น เจ๊มอยโพสพพาดพุง อุ๊ย พาดพิง เนื้อหานี้จ้า "ได้ข่าวมาจากพี่คิงส์โพธิ์แดง คือพระเอกกู เขาจะฟ๊องป้าๆ ญาติๆ เพื่อยุติการให้ร้าย จริงหราวะ" #กรูก็ตอบว่า กรูไม่เคยคุยกับมัน กรูจะไปบอกเมิงยังไง ต่อมา ก็มีการคร็อปข้อความ ว่ากรูเป็นคนพิมพ์ อะเคร มาดูว่ามันเติมยังไง ให้คนเข้าใจผิด #ข้อความที่พี่เคยโพสไว้ดังนี้ "คือ พอCL.ขยับ ว่าจะฟ้องพวกแม่ง คือดิ้นกันไง เพราะที่ผ่านมา CL อดทนเพราะแม่สั่งมาตลอด และอยากให้ทุกคนมีความสุข แต่ดราม่า และการให้ร้ายที่ต่อเนื่อง มันเริ่มทำให้แฟนคลับไม่มีความสุขแล้วนี่ดิ ทำให้ CLเอง ก็ ต้องทำให้สถานการณ์เรื่องเฮี้ยๆพวกนี้มันจบ ซึ่งมันหาทางอื่นไม่ได้ นั่นคือต้องใช้กฎม๋าย เช็ดด เขร์ #ไอ่พวกเฮี้ย #อิป๊า #แต่ละตัว ดันมั่นอกมั่นใจมากตลอดว่า พวกกรูทำเฮี้ยไรได้หมด เพราะไอ่" คำถามนะ อิม๋อย กรูพิมพ์ว่าแพระเอกจะฟ๊อง #ญาติๆ ตรงไหน คำว่าอิป้า มีทั้งอิป้าศรีธัญญา สารพัดอิป้าที่รุมทึ้งCL คำว่า #ญาติๆ อันนี้เมิงเติมเอง และที่เมิงพิมพ์ตกไป คือไอ่พวกเฮี้ยๆ เนี่ย นักแต่ง นักเติมนักปั่น อ่านไม่ได้สรรพ เอาไปปล่อยต่อ ยิ่งตลกไปอีกคือพวกาสาวก พออิม๋อยโพสปุ๊บ ไม่อ่านเว้ย ส่งต่อเลย คอมเม้นเลย อ่านหน่อยเมิง จะได้ไม่ดูง่าว ตลกหว่ะพวกเมิง เดี๋ยวกรูปั่นมั่ง 555 หนุกดี เรามาเล่นกันเถอะ เจ๊ม๋อย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 748 มุมมอง 0 รีวิว
  • #รู้แหละมีคนรอโพสนี้เยอะมาก
    เอ้า มา
    แฟนคลับพี่หลายคนรอลุ้น บวกสงสัย ทำไมพี่คิงส์ไม่หยิบเรื่องนี้มาตอบโต้อะไรเลย ดูเงียบผิดปกติ
    เอาหละ จะบอกว่าพี่คิงส์ เป็นคนแรกที่เปิดเรื่องปูเป็นหนอน
    ซึ่งในหลายๆเรื่อง แม้แต่ CL เอง ก็ยังไม่รู้ นั่นก็เพราะพี่มีสายทั้งสองฝั่ง
    ที่อยู่ฝั่งสาว ก็มิน้อยเช่นกัน และสาเหตุที่พี่นิ่งๆไปสองวันกับเรื่องนี้
    ก็เพราะช่วงที่พี่เปิดเรื่องปูเป็นหนอน อิดาอิแก่ไร้มโนสำนึก มันออกตัวป้องอิปูตั้งแต่ตอนนั้น พาสาวกรุมกร่นด่าพี่คิงส์ทางตต. ลามมายันเพจพี่ พูดง่ายๆ ป้องสุดลิ่มทิ่มประตู ตอนนั้นยังสงสัยว่า อิดานี่มันจั๊ดง่าว หรือมันมีผลประโยชน์อะไรแฝงกับอิปู หรือเพราะมันสนิทแอบคุยหลังบ้านกัน ณ เวลานั้น ตั้งสมมุติฐานไว้ประมาณนี้ แต่ก็ต้องยอมรับแหละ แฟนคลับ CL นี่แหละ ที่ออกมาแสดงความไม่น่ารักกับพี่เยอะมาก ยกเว้นคนที่เป็นแฟนพันธิ์แท้ของพี่ ที่รู้เสมอว่าพี่มักมาก่อนกาลแน่นอน
    ดังนั้น พี่ชลอเรื่องนี้ เพราะอยากให้คนที่เคยมาด่าพี่ ได้อิ่มเอมกับการแสดงของปูเป็นหนอนให้ฉ่ำก่อน ให้อิ่มก่อน อาจมีคนรู้สึกสำนึกกับสิ่งที่ปฏิบัติกับกรู ที่เชื่อคนอย่างอิดาคุ๊กกี้ ก็แค่นั้นแหละ ไม่มีอะไรมาก
    สำหรับโพสนี้ พี่จะไล่เรียงเป็นตัวละครไปละกัน
    1. อิดา อินิดาคุ๊กกี้
    2. อิป้า คืออิป้าศรีธัญญ่าข้างบ้านพี่
    3. ผจก ปู ผู้จัดการนิติบุคคลหมู่บ้านพี่เอง
    4. 4 ป้ามหาแก่ อันนี้อยู่อยู่ข้างบ้านพี่เช่นกัน
    5. มดดำ พิธีกรทีวี
    6. CL แน๊ก ชาลี
    เชื่อว่ามีคำถามคาใจกันประเด็นหลักๆดังนี้
    คำถามที่ 1 ทำไม มดดำ ถึงอ่านข้อมูลที่ตรงกับที่ ปูเป็นหนอนพิมพ์เป๊ะ มดดำไม่รักชาลีเหรอ มดดำร่วมรุมทึ้งชาลีเหรอ
    อะเคร พี่คิงส์จะเจาะเรื่องนี้ให้นะ
    สำหรับพี่คิงส์ ไม่เคยที่จะสงสัยในความรักของมดดำ ที่มีต่อ CL แม้กระทั่งวินาทีนี้ ความผูกพันธ์ของมดดำ ที่มีต่อ CL มันอบอุ่นยิ่งกว่าคนรู้จัก เหมือนพี่น้อง หรือเหมือนพ่อกับลูกเลยก็ว่าได้
    คำถามว่า ทำไม มดดำถึงอ่านข้อมูลแบบนั้น
    เราต้องเข้าใจกระบวนการการทำงานรายการก่อนว่า
    ไม่ว่าจะเป็นรายการแฉ หรือรายการใส่ไข่อะไรนั่นก็ตาม
    มดดำ หรือพิธีกร ทุกคนจะได้บีฟเพียงพอต่อการทำงาน
    แต่จะมีสคริปให้อ่าน ไม่ได้มาจากความคิดของพิธีกร แม้ว่าจะมีการใส่ความคิดเห็นลงไปบ้าง แต่แกนของเนื้อหา ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ บก.รายการ หรือโปรดิวส์เซอร์ เป็นผู้จัดมาให้แบบครบแล้ว
    ดังนั้น พี่คิงส์มั่นใจว่า เนื้อหาในคริป คนที่นำมา จะเป็นบกรายการ หรือโปรดิวส์เซอร์ ที่ได้ข้อมูลที่หยิบยื่นจากอิปูเป็นหนอน จะด้วยความรู้จักส่วนตัวเอาเนื้อหามาแทรกเนียนๆ หรือจะเพียงแค่เห็นว่า เป็นเรื่องที่เอามาเล่นแล้วดังแน่ โดยไม่สนใจว่าจะเกิดความเสียหายกับใครอย่างไร
    ส่วนมดดำเองก็ทำหน้าที่เป็นพิธีกร ดำเนินรายการ ดังนั้นมีหน้าที่คือ อ่านในสิ่งที่ถูกเสริฟมาให้แน่นอน ซึ่งอาจจะมีการพูดคุยกันระหว่างมดดำ กับCL กันเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้ แค่จะออกสื่อหรือไม่ ก็ต้องมาบวกลบคุณหารแค่นั้นเอง แต่ถึงอย่างไรพี่คิงส์จากข้อมูลที่มี ยืนยันว่า มดดำ คือพี่ที่รักแน๊กมากที่สุดในโลกคนหนึ่งไม่มีตัวเฮี้ยที่ไหนมาเปลี่ยนความจริงเรื่องนี้ไปได้
    .............................................
    คำถามที่ 2 สื่อทำไมยำ CL
    คือแบบนี้ ถ้าเราจำกันได้ จะมี 2 รอบใหญ่ๆ
    ที่อิป้าศรีธัญญา ได้ใช้บริการสื่อบางสื่อ
    ครั้งแรก ตอนแถลง ครั้งที่สองตอน 4 ป้า
    อิป้าบ่นแค่วันเดียวมั๊ง ว่าทำไมเรื่อง 4 ป้า ไม่เป็นข่าวซักที
    แล้วก็มีคนเอาข่าวไปลงจริงๆ
    คืองี้ครับ สำหรับสื่อมวลชน มีรูปแบบการทำงานหลายแบบ
    1. นำเสนอข่าวที่เป็นข้อเท็จจริง + ดราม่า ถ้าข่าวสำนักนึงลง ถ้าตัวเองไม่ลง อันนี้ ผอ. หรือบก เล่นนักข่าวแน่นอน จึงต้องลงเพราะช่องอื่น หรือเพจอื่นเค้ามี ไม่มีไม่ได้
    2. สื่อที่ต้องอยู่ได้ด้วยงบประมาณ ซึ่งเศรษฐกิจปัจจุบัน ไม่อำนวยต่อการรักษาอุดมการณ์ เพราะมันกินไม่ได้ จึงต้องมีการสอดแทรกด้วยการรับงบประมาณจากบุคคล หรือเอกชน มาเพื่อโปรโมทบางอย่างเสมอ รวมถึงการสร้างข่าวตามออเดอร์ แนบมาด้วยเนื้อข่าวที่อิป้าก็สำนวนเต็มๆในนั้น
    3. ช่องไม่รู้เห็น แต่ บก หรือนักข่าว แอบรับใต้โต้ แบบนี้ก็มี
    4. สื่อที่เจ้าของหรือ บก.เป็นด้อมสาวเสียเอง
    ดังนั้น อันนี้ คือ 4 กลุ่มใหญ่ๆนะ ที่พี่จะอธิบายให้เข้าใจ
    ดังนั้นแปลว่า ถ้าอิป้า ส่งข่าวให้ กลุ่มที่ 3 กับกลุ่มที่ 4 แน่นอน กลุ่มที่ 1 กับสื่อกลุ่มที่ 2 ก็ต้องออกด้วย โดยที่อิป้าไม่ต้องลงทุนด้วยเงิน
    อาการเลยประมาณที่เห็น เหมือนรุมยำCL แต่จริงๆ มันไม่ใช่ทั้งหมด
    แต่ทั้งนี้ จากอิป้าได้ใช้บริการ อ้อ ตอนสร้างเทรนทิพย์ แบนนแน๊กชาลี โดยที่ไปดูยูซเป็นเวียดนาม ยูซผีไปปั่นอะนะ ตอนนั้นต้องยอมรับ สื่อใหญ่ แต่ไม่ทันเทคโนโลยี ยังไม่รู้ว่าไอ่เทรนที่มันปั่นได้ ก็ลงกันไป แต่มันมาโป๊ะตรงที่ คอมเม้นของคนจริงในแอฟฟ้า กลับสวนทางดิ ช่องหลักๆโดนทัวร์ลง
    ซึ่งอิป้า ก็ได้ปรับกลยุทธ์ เรียบร้อย คือ พอรู้จากบกข่าว ว่าจะลงกี่โมง อิป้าจะพากองร๊บ แบบที่มันเปิดรับเพิ่มตอนนี้แหละ แล้วเอายูซผี จำนวนที่พี่คิงส์นับได้ ก็ประมาณ 100-120 ตัว ไปคอมเม้นดักไว้ก่อน ให้เป็นคอมเม้นแรกๆ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือว่า CL มีคนไม่ชอบเยอะจริงๆ
    ..............................................
    ดังนั้น ที่พี่คิงส์ชิลๆ เพราะกระบวนการทั้งหมด มันไม่ได้เกิดขึ้น เพราะความรักหรือความชังแบบธรรมชาติ แต่มันคือการบิดเบือนความจริง ด้วยความพยามของอิป้าศรีธัญญา ที่คิดว่าตัวเองมีอำนาจ กุมทุกอย่างไว้ในกำมือ
    นี่แหละ พี่คิงส์ถึงบอกว่า อย่าไปดิ้น เวลาที่มีสื่อหลายช่องเค้าทำข่าวกัน นิ่งไว้ และพอคนเห็นไอ่ร้อยกว่าคอมเม้นแรก ด่าแน๊กรัวๆ ก็ยิ่งร้อนไปใหญ่ เออ นั่นแหละ ซอมบี้ที่อิป้าทำ ยิ่งไอ่แผนฟินิกส์ที่มันเปิดอะนะ อันนี้ ยิ่งเป็นการคอนเฟิร์มในข้อมูลที่พี่แจ้งนี้เป๊ะเลย
    เป็นไง กรรู มาก่อนกาลมั๊ยล่ะ
    เอา รู้ว่ากำลังมันส์ มาต่อเลย
    คำถามต่อมา อุ๊ย CL เจอคอมเม้นแบบนี้ จะเป็นเหมือนคุณอิ๊ดขายสบู่มั๊ย
    คือแบบนี้นะ พี่คิงส์จะบอกให้ ไอ่คำถามนี้ ส่วนใหญ่ เป็นคำถามที่อิป้าเป็นคนให้พวกสมุนมาพิมพ์ คือ มันหวังแบบคนปังยาอ่อน ว่าCL มาเห็นคอมเม้นแบบนี้แล้วจะชี้นำ คืออันนี้บอกเลย ฟรายมาก ที่ประเมิน CL ต่ำไป
    คือ พอCLขยับ ว่าจะฟ๊องพวกแม๋ง คือดิ้นกันไง เพราะที่ผ่านมา CL อดทนเพราะแม่สั่งมาตลอด และอยากให้ทุกคนมีความสุข
    แต่ดราม่า และการให้ร้ายที่ต่อเนื่อง มันเริ่มทำให้แฟนคลับไม่มีความสุขแล้วนี่ดิ ทำให้ CLเอง ก็ต้องทำให้สถานการณ์เรื่องเฮี้ยๆพวกนี้มันจบ ซึ่งมันหาทางอื่นไม่ได้ นั่นคือต้องใช้กฎม๋าย เช็ดดดเขร้ ไอ่พวกเฮี้ย อิป้า แต่ละตัว ดันมั่นอกมั่นใจมากตลอดว่า พวกกรูทำเฮี้ยไรได้หมด เพราะไอ่ CL มันไม่ฟ๊อง มันเลยทิ้งร่องรอยหลักฐ๋าน ดิจิม่อนฟรุ๊ตตี้ไว้เพียบ ดังน้น อิป้าจึงต้องหาคนมาเป็นนักร๊บนั่นแหละ ที่บอกว่า อยากหาคนมาถอดเทปอะ จริงๆ หาคนมากวาดลบคลิป และโพสต่างๆที่อาจหลงเหลือเป็นหลักฐ๋านที่จะโดนดำเนิน KADEE และก็เอาไว้เป็นทาส ดูมีบารมีดี ตามแบบฉบับคนติดดราม่าจนต้องเข้าพบหม๋อจิตอะนะ
    คำถามสุดท้าย เอาจริงๆ CL จะเสียใจมั๊ย รับได้ไหม กับข่าว
    คือ ก็ตอบไปแล้วแหละบางส่วน แต่พี่คิงส์จะอธิบายแบบนี้นะ แล้วจะเข้าใจ
    ที่ผ่านมา CL โดนมากี่เรื่อง สิ่งที่พี่คิงส์เปิด ที่ตีแผ่ แล้วทุกคนบอกสงสาร ต้องไม่ลืมว่า ที่พี่เปิดอะ น้องมันเจอมาตลอดนะ แล้วรับรู้คนเดียวด้วย ยังทนได้เลย แล้วตอนนี้กับเรื่องแค่นี้ ทำไมทุกคนถึงประเมินน้องต่ำเกิ๊น
    พี่คิงส์วิเคราะห์แบบฟันธงเลยนะ ณ เวลานี้CL ไม่ได้มีอารมณ์ทางลบกับตัวเอง แต่กลับมีพลังเหมือนเสือที่ถูกมัดไว้ด้วยความกตัญญู แต่ตอนนี้ เหมือนทุกอย่างถูกปลดปล่อย แค่มดปลวกจะทำให้เสือสะดุ้งได้ยังไง เอาว่า ใครที่ทำเฮี้ยอะไรเอาไว้ พวกเมิงรอดูร่างแท้ของ CL ก็แล้วกัน
    ไอ่ฉัด!
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ปล. ฝากถึงอิดาคุ๊กกี้จอมกลับกลอกว่า เมิงกับกรู ไม่จบนะ กรูยังมีจัดให้เมิงอีกเยอะ ก็เมิงพูดเอง ว่าให้กรูจัดเมิงเต็มที่ ดังนั้น อยู่นิ่งๆ อย่าดิ้นเยอะ ยิ่งดิ้น ยิ่งเจ็บ อิsus
    #รู้แหละมีคนรอโพสนี้เยอะมาก เอ้า มา แฟนคลับพี่หลายคนรอลุ้น บวกสงสัย ทำไมพี่คิงส์ไม่หยิบเรื่องนี้มาตอบโต้อะไรเลย ดูเงียบผิดปกติ เอาหละ จะบอกว่าพี่คิงส์ เป็นคนแรกที่เปิดเรื่องปูเป็นหนอน ซึ่งในหลายๆเรื่อง แม้แต่ CL เอง ก็ยังไม่รู้ นั่นก็เพราะพี่มีสายทั้งสองฝั่ง ที่อยู่ฝั่งสาว ก็มิน้อยเช่นกัน และสาเหตุที่พี่นิ่งๆไปสองวันกับเรื่องนี้ ก็เพราะช่วงที่พี่เปิดเรื่องปูเป็นหนอน อิดาอิแก่ไร้มโนสำนึก มันออกตัวป้องอิปูตั้งแต่ตอนนั้น พาสาวกรุมกร่นด่าพี่คิงส์ทางตต. ลามมายันเพจพี่ พูดง่ายๆ ป้องสุดลิ่มทิ่มประตู ตอนนั้นยังสงสัยว่า อิดานี่มันจั๊ดง่าว หรือมันมีผลประโยชน์อะไรแฝงกับอิปู หรือเพราะมันสนิทแอบคุยหลังบ้านกัน ณ เวลานั้น ตั้งสมมุติฐานไว้ประมาณนี้ แต่ก็ต้องยอมรับแหละ แฟนคลับ CL นี่แหละ ที่ออกมาแสดงความไม่น่ารักกับพี่เยอะมาก ยกเว้นคนที่เป็นแฟนพันธิ์แท้ของพี่ ที่รู้เสมอว่าพี่มักมาก่อนกาลแน่นอน ดังนั้น พี่ชลอเรื่องนี้ เพราะอยากให้คนที่เคยมาด่าพี่ ได้อิ่มเอมกับการแสดงของปูเป็นหนอนให้ฉ่ำก่อน ให้อิ่มก่อน อาจมีคนรู้สึกสำนึกกับสิ่งที่ปฏิบัติกับกรู ที่เชื่อคนอย่างอิดาคุ๊กกี้ ก็แค่นั้นแหละ ไม่มีอะไรมาก สำหรับโพสนี้ พี่จะไล่เรียงเป็นตัวละครไปละกัน 1. อิดา อินิดาคุ๊กกี้ 2. อิป้า คืออิป้าศรีธัญญ่าข้างบ้านพี่ 3. ผจก ปู ผู้จัดการนิติบุคคลหมู่บ้านพี่เอง 4. 4 ป้ามหาแก่ อันนี้อยู่อยู่ข้างบ้านพี่เช่นกัน 5. มดดำ พิธีกรทีวี 6. CL แน๊ก ชาลี เชื่อว่ามีคำถามคาใจกันประเด็นหลักๆดังนี้ คำถามที่ 1 ทำไม มดดำ ถึงอ่านข้อมูลที่ตรงกับที่ ปูเป็นหนอนพิมพ์เป๊ะ มดดำไม่รักชาลีเหรอ มดดำร่วมรุมทึ้งชาลีเหรอ อะเคร พี่คิงส์จะเจาะเรื่องนี้ให้นะ สำหรับพี่คิงส์ ไม่เคยที่จะสงสัยในความรักของมดดำ ที่มีต่อ CL แม้กระทั่งวินาทีนี้ ความผูกพันธ์ของมดดำ ที่มีต่อ CL มันอบอุ่นยิ่งกว่าคนรู้จัก เหมือนพี่น้อง หรือเหมือนพ่อกับลูกเลยก็ว่าได้ คำถามว่า ทำไม มดดำถึงอ่านข้อมูลแบบนั้น เราต้องเข้าใจกระบวนการการทำงานรายการก่อนว่า ไม่ว่าจะเป็นรายการแฉ หรือรายการใส่ไข่อะไรนั่นก็ตาม มดดำ หรือพิธีกร ทุกคนจะได้บีฟเพียงพอต่อการทำงาน แต่จะมีสคริปให้อ่าน ไม่ได้มาจากความคิดของพิธีกร แม้ว่าจะมีการใส่ความคิดเห็นลงไปบ้าง แต่แกนของเนื้อหา ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ บก.รายการ หรือโปรดิวส์เซอร์ เป็นผู้จัดมาให้แบบครบแล้ว ดังนั้น พี่คิงส์มั่นใจว่า เนื้อหาในคริป คนที่นำมา จะเป็นบกรายการ หรือโปรดิวส์เซอร์ ที่ได้ข้อมูลที่หยิบยื่นจากอิปูเป็นหนอน จะด้วยความรู้จักส่วนตัวเอาเนื้อหามาแทรกเนียนๆ หรือจะเพียงแค่เห็นว่า เป็นเรื่องที่เอามาเล่นแล้วดังแน่ โดยไม่สนใจว่าจะเกิดความเสียหายกับใครอย่างไร ส่วนมดดำเองก็ทำหน้าที่เป็นพิธีกร ดำเนินรายการ ดังนั้นมีหน้าที่คือ อ่านในสิ่งที่ถูกเสริฟมาให้แน่นอน ซึ่งอาจจะมีการพูดคุยกันระหว่างมดดำ กับCL กันเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้ แค่จะออกสื่อหรือไม่ ก็ต้องมาบวกลบคุณหารแค่นั้นเอง แต่ถึงอย่างไรพี่คิงส์จากข้อมูลที่มี ยืนยันว่า มดดำ คือพี่ที่รักแน๊กมากที่สุดในโลกคนหนึ่งไม่มีตัวเฮี้ยที่ไหนมาเปลี่ยนความจริงเรื่องนี้ไปได้ ............................................. คำถามที่ 2 สื่อทำไมยำ CL คือแบบนี้ ถ้าเราจำกันได้ จะมี 2 รอบใหญ่ๆ ที่อิป้าศรีธัญญา ได้ใช้บริการสื่อบางสื่อ ครั้งแรก ตอนแถลง ครั้งที่สองตอน 4 ป้า อิป้าบ่นแค่วันเดียวมั๊ง ว่าทำไมเรื่อง 4 ป้า ไม่เป็นข่าวซักที แล้วก็มีคนเอาข่าวไปลงจริงๆ คืองี้ครับ สำหรับสื่อมวลชน มีรูปแบบการทำงานหลายแบบ 1. นำเสนอข่าวที่เป็นข้อเท็จจริง + ดราม่า ถ้าข่าวสำนักนึงลง ถ้าตัวเองไม่ลง อันนี้ ผอ. หรือบก เล่นนักข่าวแน่นอน จึงต้องลงเพราะช่องอื่น หรือเพจอื่นเค้ามี ไม่มีไม่ได้ 2. สื่อที่ต้องอยู่ได้ด้วยงบประมาณ ซึ่งเศรษฐกิจปัจจุบัน ไม่อำนวยต่อการรักษาอุดมการณ์ เพราะมันกินไม่ได้ จึงต้องมีการสอดแทรกด้วยการรับงบประมาณจากบุคคล หรือเอกชน มาเพื่อโปรโมทบางอย่างเสมอ รวมถึงการสร้างข่าวตามออเดอร์ แนบมาด้วยเนื้อข่าวที่อิป้าก็สำนวนเต็มๆในนั้น 3. ช่องไม่รู้เห็น แต่ บก หรือนักข่าว แอบรับใต้โต้ แบบนี้ก็มี 4. สื่อที่เจ้าของหรือ บก.เป็นด้อมสาวเสียเอง ดังนั้น อันนี้ คือ 4 กลุ่มใหญ่ๆนะ ที่พี่จะอธิบายให้เข้าใจ ดังนั้นแปลว่า ถ้าอิป้า ส่งข่าวให้ กลุ่มที่ 3 กับกลุ่มที่ 4 แน่นอน กลุ่มที่ 1 กับสื่อกลุ่มที่ 2 ก็ต้องออกด้วย โดยที่อิป้าไม่ต้องลงทุนด้วยเงิน อาการเลยประมาณที่เห็น เหมือนรุมยำCL แต่จริงๆ มันไม่ใช่ทั้งหมด แต่ทั้งนี้ จากอิป้าได้ใช้บริการ อ้อ ตอนสร้างเทรนทิพย์ แบนนแน๊กชาลี โดยที่ไปดูยูซเป็นเวียดนาม ยูซผีไปปั่นอะนะ ตอนนั้นต้องยอมรับ สื่อใหญ่ แต่ไม่ทันเทคโนโลยี ยังไม่รู้ว่าไอ่เทรนที่มันปั่นได้ ก็ลงกันไป แต่มันมาโป๊ะตรงที่ คอมเม้นของคนจริงในแอฟฟ้า กลับสวนทางดิ ช่องหลักๆโดนทัวร์ลง ซึ่งอิป้า ก็ได้ปรับกลยุทธ์ เรียบร้อย คือ พอรู้จากบกข่าว ว่าจะลงกี่โมง อิป้าจะพากองร๊บ แบบที่มันเปิดรับเพิ่มตอนนี้แหละ แล้วเอายูซผี จำนวนที่พี่คิงส์นับได้ ก็ประมาณ 100-120 ตัว ไปคอมเม้นดักไว้ก่อน ให้เป็นคอมเม้นแรกๆ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือว่า CL มีคนไม่ชอบเยอะจริงๆ .............................................. ดังนั้น ที่พี่คิงส์ชิลๆ เพราะกระบวนการทั้งหมด มันไม่ได้เกิดขึ้น เพราะความรักหรือความชังแบบธรรมชาติ แต่มันคือการบิดเบือนความจริง ด้วยความพยามของอิป้าศรีธัญญา ที่คิดว่าตัวเองมีอำนาจ กุมทุกอย่างไว้ในกำมือ นี่แหละ พี่คิงส์ถึงบอกว่า อย่าไปดิ้น เวลาที่มีสื่อหลายช่องเค้าทำข่าวกัน นิ่งไว้ และพอคนเห็นไอ่ร้อยกว่าคอมเม้นแรก ด่าแน๊กรัวๆ ก็ยิ่งร้อนไปใหญ่ เออ นั่นแหละ ซอมบี้ที่อิป้าทำ ยิ่งไอ่แผนฟินิกส์ที่มันเปิดอะนะ อันนี้ ยิ่งเป็นการคอนเฟิร์มในข้อมูลที่พี่แจ้งนี้เป๊ะเลย เป็นไง กรรู มาก่อนกาลมั๊ยล่ะ เอา รู้ว่ากำลังมันส์ มาต่อเลย คำถามต่อมา อุ๊ย CL เจอคอมเม้นแบบนี้ จะเป็นเหมือนคุณอิ๊ดขายสบู่มั๊ย คือแบบนี้นะ พี่คิงส์จะบอกให้ ไอ่คำถามนี้ ส่วนใหญ่ เป็นคำถามที่อิป้าเป็นคนให้พวกสมุนมาพิมพ์ คือ มันหวังแบบคนปังยาอ่อน ว่าCL มาเห็นคอมเม้นแบบนี้แล้วจะชี้นำ คืออันนี้บอกเลย ฟรายมาก ที่ประเมิน CL ต่ำไป คือ พอCLขยับ ว่าจะฟ๊องพวกแม๋ง คือดิ้นกันไง เพราะที่ผ่านมา CL อดทนเพราะแม่สั่งมาตลอด และอยากให้ทุกคนมีความสุข แต่ดราม่า และการให้ร้ายที่ต่อเนื่อง มันเริ่มทำให้แฟนคลับไม่มีความสุขแล้วนี่ดิ ทำให้ CLเอง ก็ต้องทำให้สถานการณ์เรื่องเฮี้ยๆพวกนี้มันจบ ซึ่งมันหาทางอื่นไม่ได้ นั่นคือต้องใช้กฎม๋าย เช็ดดดเขร้ ไอ่พวกเฮี้ย อิป้า แต่ละตัว ดันมั่นอกมั่นใจมากตลอดว่า พวกกรูทำเฮี้ยไรได้หมด เพราะไอ่ CL มันไม่ฟ๊อง มันเลยทิ้งร่องรอยหลักฐ๋าน ดิจิม่อนฟรุ๊ตตี้ไว้เพียบ ดังน้น อิป้าจึงต้องหาคนมาเป็นนักร๊บนั่นแหละ ที่บอกว่า อยากหาคนมาถอดเทปอะ จริงๆ หาคนมากวาดลบคลิป และโพสต่างๆที่อาจหลงเหลือเป็นหลักฐ๋านที่จะโดนดำเนิน KADEE และก็เอาไว้เป็นทาส ดูมีบารมีดี ตามแบบฉบับคนติดดราม่าจนต้องเข้าพบหม๋อจิตอะนะ คำถามสุดท้าย เอาจริงๆ CL จะเสียใจมั๊ย รับได้ไหม กับข่าว คือ ก็ตอบไปแล้วแหละบางส่วน แต่พี่คิงส์จะอธิบายแบบนี้นะ แล้วจะเข้าใจ ที่ผ่านมา CL โดนมากี่เรื่อง สิ่งที่พี่คิงส์เปิด ที่ตีแผ่ แล้วทุกคนบอกสงสาร ต้องไม่ลืมว่า ที่พี่เปิดอะ น้องมันเจอมาตลอดนะ แล้วรับรู้คนเดียวด้วย ยังทนได้เลย แล้วตอนนี้กับเรื่องแค่นี้ ทำไมทุกคนถึงประเมินน้องต่ำเกิ๊น พี่คิงส์วิเคราะห์แบบฟันธงเลยนะ ณ เวลานี้CL ไม่ได้มีอารมณ์ทางลบกับตัวเอง แต่กลับมีพลังเหมือนเสือที่ถูกมัดไว้ด้วยความกตัญญู แต่ตอนนี้ เหมือนทุกอย่างถูกปลดปล่อย แค่มดปลวกจะทำให้เสือสะดุ้งได้ยังไง เอาว่า ใครที่ทำเฮี้ยอะไรเอาไว้ พวกเมิงรอดูร่างแท้ของ CL ก็แล้วกัน ไอ่ฉัด! #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง ปล. ฝากถึงอิดาคุ๊กกี้จอมกลับกลอกว่า เมิงกับกรู ไม่จบนะ กรูยังมีจัดให้เมิงอีกเยอะ ก็เมิงพูดเอง ว่าให้กรูจัดเมิงเต็มที่ ดังนั้น อยู่นิ่งๆ อย่าดิ้นเยอะ ยิ่งดิ้น ยิ่งเจ็บ อิsus
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 924 มุมมอง 0 รีวิว
  • #คุยเคยมีงานทำแต่พ่อแม่ไม่เคยเลี้ยงดู
    คนแบบนี้ สาวกป้าช๊อบชอบ
    แหล่งความคน NERAKUN เจงๆ
    แสวงแสง พอได้แสงจากการด่าน้องชายตัวเอง
    นึกว่าคนเค้าชื่นชมอะนะ เล่นหย่าย ขยันโพสเชียว
    เชื่อป่ะ มันไม่รู้เลยจริงๆ ว่าคนมองเห็นมันเป็นขรี้กาก
    อายุปูนนี้ ยังตั้งหลักตั้งตัวไม่ได้ โพสแซะน้องที่เด่น ดัง รวย
    แทบไม่เว้นแต่ละวัน กรรูบอกเลย
    ของห่วยๆ คนห่วยๆ ยิ่งตียิ่งพัง
    ฝากสื่อลงข่าวเยอะๆนะ กรรูว่าไอ่น้อง
    มันเจริญขึ้นเรื่อยๆหวะ
    เมื่อคืน อยากรู้แสวงแสงแอบดูไลฟ์สดน้องป่าว
    โครตมีความสุขเลย ขำกันท้องคัดท้องแข็ง
    แต่คงไม่น่าหรอก เพราะพวกเมิงแต่ละตัว
    หน้าชรา ตีนกาครบทั้ง 5
    แถมเอาตัวเองยังแทบไม่รอดกันเลย
    เกาะกระแสด่าน้องไปเรื่อยๆ
    โดยเฉพาะ 4 ป้าข้างบ้านพี่คิงส์
    ถ้าฉลาดซักนิดนะ จะรู้ตัว
    ว่าอิ ผจก ปู เสี้ยมฤทัย มันมีเจตนา
    เอาพวกเมิงมาเล่นงานน้องเมิง
    ซึ่งเทอมมันสั้นนะ กรรูบอกก่อน
    พอเมิงทั้งหมด หมดประโยชน์
    เดี๋ยวอิป้าก็เท เมิงไปถามน้องที่ชื่อเป็ด
    ถ้าเจ๊ที่ชื่อเอ้ ถามน้องที่ชื่อแม็ก ฯลฯ
    รวมถึงบรรดาเทพทั้งหลายที่เค้าต้องถอนตัว
    เพราะสุดท้าย อิป้าต้องสำคัญและยิ่งใหญ่คนเดียว
    คิดว่ามันจะซัพพอตเมิงไปได้อีกนานแค่ไหน
    แล้วพวกเมิง ได้ดูยอดขายกันบ้างมั๊ย
    ว่ายอด มันคุ้มมั๊ยที่จ้างพวกเมิง ถ้าบวกลบคูณหาร
    ต่อให้เมิงเล่นดราม่ามีคนดูจากเท่าม๋อยหมา เป็นเท่าม๋อยควาย
    แต่พวกนั้น ก็สาวกอิป้า คนที่เข้ามาไมไ่ด้คิดจะซัพพอตของที่เมิงขาย
    แต่เค้ามาฟังเมิงด่าน้องพวกเมิง ส่วนพวกเมิงเองก็ไม่ได้ทักษะ
    ในการขาย ดึงดราม่า ส่งตาหวานเหมือนอ่อยหาผัวใหม่
    ดังนั้น คิดแบบไม่ซับซ้อน จ้างไม่คุ้ม ที่เอาไว้เพื่อหวังสร้างกระแส
    เล่นน้อง แล้วถ้าเล่นไม่สำเร็จ หมดวาระกรรูว่าจะถึง60 วันรึเปล่าหรอก
    เค้าจะเอาพวกเมิงไว้ทำไม เตรียมคลานเข่ากลับบ้าน
    ไปขอความช่วยเหลือจากน้องเมิงเลย ถึงน้องเมิงจะเมตตา
    ใจดี แต่พวกFC เค้าจำแม่น เมิงคอยดู
    อิฉัด ขยันจัง แต่ง่าวจริง แค่นี้ดูไม่ออก อิฟาย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คุยเคยมีงานทำแต่พ่อแม่ไม่เคยเลี้ยงดู คนแบบนี้ สาวกป้าช๊อบชอบ แหล่งความคน NERAKUN เจงๆ แสวงแสง พอได้แสงจากการด่าน้องชายตัวเอง นึกว่าคนเค้าชื่นชมอะนะ เล่นหย่าย ขยันโพสเชียว เชื่อป่ะ มันไม่รู้เลยจริงๆ ว่าคนมองเห็นมันเป็นขรี้กาก อายุปูนนี้ ยังตั้งหลักตั้งตัวไม่ได้ โพสแซะน้องที่เด่น ดัง รวย แทบไม่เว้นแต่ละวัน กรรูบอกเลย ของห่วยๆ คนห่วยๆ ยิ่งตียิ่งพัง ฝากสื่อลงข่าวเยอะๆนะ กรรูว่าไอ่น้อง มันเจริญขึ้นเรื่อยๆหวะ เมื่อคืน อยากรู้แสวงแสงแอบดูไลฟ์สดน้องป่าว โครตมีความสุขเลย ขำกันท้องคัดท้องแข็ง แต่คงไม่น่าหรอก เพราะพวกเมิงแต่ละตัว หน้าชรา ตีนกาครบทั้ง 5 แถมเอาตัวเองยังแทบไม่รอดกันเลย เกาะกระแสด่าน้องไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะ 4 ป้าข้างบ้านพี่คิงส์ ถ้าฉลาดซักนิดนะ จะรู้ตัว ว่าอิ ผจก ปู เสี้ยมฤทัย มันมีเจตนา เอาพวกเมิงมาเล่นงานน้องเมิง ซึ่งเทอมมันสั้นนะ กรรูบอกก่อน พอเมิงทั้งหมด หมดประโยชน์ เดี๋ยวอิป้าก็เท เมิงไปถามน้องที่ชื่อเป็ด ถ้าเจ๊ที่ชื่อเอ้ ถามน้องที่ชื่อแม็ก ฯลฯ รวมถึงบรรดาเทพทั้งหลายที่เค้าต้องถอนตัว เพราะสุดท้าย อิป้าต้องสำคัญและยิ่งใหญ่คนเดียว คิดว่ามันจะซัพพอตเมิงไปได้อีกนานแค่ไหน แล้วพวกเมิง ได้ดูยอดขายกันบ้างมั๊ย ว่ายอด มันคุ้มมั๊ยที่จ้างพวกเมิง ถ้าบวกลบคูณหาร ต่อให้เมิงเล่นดราม่ามีคนดูจากเท่าม๋อยหมา เป็นเท่าม๋อยควาย แต่พวกนั้น ก็สาวกอิป้า คนที่เข้ามาไมไ่ด้คิดจะซัพพอตของที่เมิงขาย แต่เค้ามาฟังเมิงด่าน้องพวกเมิง ส่วนพวกเมิงเองก็ไม่ได้ทักษะ ในการขาย ดึงดราม่า ส่งตาหวานเหมือนอ่อยหาผัวใหม่ ดังนั้น คิดแบบไม่ซับซ้อน จ้างไม่คุ้ม ที่เอาไว้เพื่อหวังสร้างกระแส เล่นน้อง แล้วถ้าเล่นไม่สำเร็จ หมดวาระกรรูว่าจะถึง60 วันรึเปล่าหรอก เค้าจะเอาพวกเมิงไว้ทำไม เตรียมคลานเข่ากลับบ้าน ไปขอความช่วยเหลือจากน้องเมิงเลย ถึงน้องเมิงจะเมตตา ใจดี แต่พวกFC เค้าจำแม่น เมิงคอยดู อิฉัด ขยันจัง แต่ง่าวจริง แค่นี้ดูไม่ออก อิฟาย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 564 มุมมอง 0 รีวิว
  • #คนตั้งฉายามันรู้จริง
    แต่ละตัว เคยเข้าบ้านkuบอนมาทั้งนั้น
    ไอ่ฉัด ไปบ้านเค้าไม่ไปเปล่า
    ปีนไปขรี้บนหลังคาเค้าด้วย
    อิพวกเฮี้ย
    นี่ไง ที่มาของฉายา
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คนตั้งฉายามันรู้จริง แต่ละตัว เคยเข้าบ้านkuบอนมาทั้งนั้น ไอ่ฉัด ไปบ้านเค้าไม่ไปเปล่า ปีนไปขรี้บนหลังคาเค้าด้วย อิพวกเฮี้ย นี่ไง ที่มาของฉายา ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 รีวิว
  • สูตรคำนวนณีมากมาย แต่ที่ผู้เขียนเก็บสถิติมา ...เอาง่ายเลย 8+0+1+5 ผลรวมเท่าไร ก็ไปดูผล และดูกำลังของเลขแต่ละตัว..
    สูตรคำนวนณีมากมาย แต่ที่ผู้เขียนเก็บสถิติมา ...เอาง่ายเลย 8+0+1+5 ผลรวมเท่าไร ก็ไปดูผล และดูกำลังของเลขแต่ละตัว..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • #สภาทะนามควายสะสมไว้เยอะเกิ๊น
    พวกทะนวยหัวควายเยอะเนาะ
    โผล่มาแสดงลีลาแต่ละตัว
    งานหยาบ SUS SUS
    คุณธรรม จริยธรรมไม่สน
    อาศัยปากดี พาลูกฆวยหัวความกร่างตามไปด้วย
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    #สภาทะนามควายสะสมไว้เยอะเกิ๊น พวกทะนวยหัวควายเยอะเนาะ โผล่มาแสดงลีลาแต่ละตัว งานหยาบ SUS SUS คุณธรรม จริยธรรมไม่สน อาศัยปากดี พาลูกฆวยหัวความกร่างตามไปด้วย ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 487 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนังสือ ธาตุ (Elements) จากร้าน meb

    ความรู้ และรายละเอียดของธาตุในแต่ละตัวในตารางธาตุ
    จำนวน 1,079 หน้า


    ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้
    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    ธาตุ (Elements) น่าจะเป็นปฐมบทของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ในด้านเคมี เพราะธาตุแต่ละตัวเป็นพื้นฐานของสารประกอบต่าง ๆ ที่นำมารวมกัน แล้วเอามาใช้เดี่ยว หรือประยุกต์ผสมกัน จนใช้งานได้หลากหลายอย่าง ดังที่เห็นได้ในชีวิตประจำวัน

    ก่อนจะเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี เรามาดูว่าอะไรล่ะ? ที่ทำให้เกิดสารเคมีที่เรานำมาใช้งานในชีวิตประจำวันกันก่อน

    ธาตุ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ในการนำแต่ละตัวมาผสมนู่นนี่นั่นตามธรรมชาติ หรือทำการผสมกันอย่างมีความรู้ จนเกิดเป็นสารที่นำมาใช้งาน เรียนรู้หัวใจก่อนที่จะได้เข้าไปเรียนกลไกที่จะเกิดการทำงานในขอบเขตของวิชาเคมี

    ในตารางธาตุที่มีอยู่ในตอนนี้ (มีอยู่ 118ธาตุในอนาคตน่าจะมีเพิ่มขึ้น เมื่อเทคโนโลยีของมนุษย์ก้าวหน้าไปถึง) ทุกสิ่งในธรรมชาติ ตั้งแต่ภูเขา และมหาสมุทร ไปจนถึงอากาศที่เราหายใจ และอาหารที่เรากิน มันประกอบไปด้วยสสารที่เรียกว่า ธาตุ

    ทุกธาตุมีเรื่องราวของตัวเองว่ามันมาจากไหน ทำอะไรได้บ้าง และเราจะใช้มันอย่างไร หนังสือเล่มนี้ เราจะมาเริ่มดูทุกธาตุที่มีอยู่ในตารางธาตุ ทีละรายการ ไม่ได้มีไว้ให้จำ (ถ้าจำได้ก็สุดยอด) แต่ให้ทำความเข้าใจ และสามารถประยุกต์ใช้งานได้

    ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ


    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ


    I have a dream.

    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่
    http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjIzMjc4NCI7fQ
    หนังสือ ธาตุ (Elements) จากร้าน meb ความรู้ และรายละเอียดของธาตุในแต่ละตัวในตารางธาตุ จำนวน 1,079 หน้า ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ ธาตุ (Elements) น่าจะเป็นปฐมบทของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ในด้านเคมี เพราะธาตุแต่ละตัวเป็นพื้นฐานของสารประกอบต่าง ๆ ที่นำมารวมกัน แล้วเอามาใช้เดี่ยว หรือประยุกต์ผสมกัน จนใช้งานได้หลากหลายอย่าง ดังที่เห็นได้ในชีวิตประจำวัน ก่อนจะเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี เรามาดูว่าอะไรล่ะ? ที่ทำให้เกิดสารเคมีที่เรานำมาใช้งานในชีวิตประจำวันกันก่อน ธาตุ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ในการนำแต่ละตัวมาผสมนู่นนี่นั่นตามธรรมชาติ หรือทำการผสมกันอย่างมีความรู้ จนเกิดเป็นสารที่นำมาใช้งาน เรียนรู้หัวใจก่อนที่จะได้เข้าไปเรียนกลไกที่จะเกิดการทำงานในขอบเขตของวิชาเคมี ในตารางธาตุที่มีอยู่ในตอนนี้ (มีอยู่ 118ธาตุในอนาคตน่าจะมีเพิ่มขึ้น เมื่อเทคโนโลยีของมนุษย์ก้าวหน้าไปถึง) ทุกสิ่งในธรรมชาติ ตั้งแต่ภูเขา และมหาสมุทร ไปจนถึงอากาศที่เราหายใจ และอาหารที่เรากิน มันประกอบไปด้วยสสารที่เรียกว่า ธาตุ ทุกธาตุมีเรื่องราวของตัวเองว่ามันมาจากไหน ทำอะไรได้บ้าง และเราจะใช้มันอย่างไร หนังสือเล่มนี้ เราจะมาเริ่มดูทุกธาตุที่มีอยู่ในตารางธาตุ ทีละรายการ ไม่ได้มีไว้ให้จำ (ถ้าจำได้ก็สุดยอด) แต่ให้ทำความเข้าใจ และสามารถประยุกต์ใช้งานได้ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjIzMjc4NCI7fQ
    WWW.MEBMARKET.COM
    ธาตุ (Elements):: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    ธาตุ (Elements):: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 553 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนังสือ ธาตุ (Elements) จากร้าน meb

    ความรู้ และรายละเอียดของธาตุในแต่ละตัวในตารางธาตุ
    จำนวน 1,079 หน้า


    ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้
    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    ธาตุ (Elements) น่าจะเป็นปฐมบทของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ในด้านเคมี เพราะธาตุแต่ละตัวเป็นพื้นฐานของสารประกอบต่าง ๆ ที่นำมารวมกัน แล้วเอามาใช้เดี่ยว หรือประยุกต์ผสมกัน จนใช้งานได้หลากหลายอย่าง ดังที่เห็นได้ในชีวิตประจำวัน

    ก่อนจะเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี เรามาดูว่าอะไรล่ะ? ที่ทำให้เกิดสารเคมีที่เรานำมาใช้งานในชีวิตประจำวันกันก่อน

    ธาตุ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ในการนำแต่ละตัวมาผสมนู่นนี่นั่นตามธรรมชาติ หรือทำการผสมกันอย่างมีความรู้ จนเกิดเป็นสารที่นำมาใช้งาน เรียนรู้หัวใจก่อนที่จะได้เข้าไปเรียนกลไกที่จะเกิดการทำงานในขอบเขตของวิชาเคมี

    ในตารางธาตุที่มีอยู่ในตอนนี้ (มีอยู่ 118ธาตุในอนาคตน่าจะมีเพิ่มขึ้น เมื่อเทคโนโลยีของมนุษย์ก้าวหน้าไปถึง) ทุกสิ่งในธรรมชาติ ตั้งแต่ภูเขา และมหาสมุทร ไปจนถึงอากาศที่เราหายใจ และอาหารที่เรากิน มันประกอบไปด้วยสสารที่เรียกว่า ธาตุ

    ทุกธาตุมีเรื่องราวของตัวเองว่ามันมาจากไหน ทำอะไรได้บ้าง และเราจะใช้มันอย่างไร หนังสือเล่มนี้ เราจะมาเริ่มดูทุกธาตุที่มีอยู่ในตารางธาตุ ทีละรายการ ไม่ได้มีไว้ให้จำ (ถ้าจำได้ก็สุดยอด) แต่ให้ทำความเข้าใจ และสามารถประยุกต์ใช้งานได้

    ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ


    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ


    I have a dream.

    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่
    http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjIzMjc4NCI7fQ
    หนังสือ ธาตุ (Elements) จากร้าน meb ความรู้ และรายละเอียดของธาตุในแต่ละตัวในตารางธาตุ จำนวน 1,079 หน้า ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ ธาตุ (Elements) น่าจะเป็นปฐมบทของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ในด้านเคมี เพราะธาตุแต่ละตัวเป็นพื้นฐานของสารประกอบต่าง ๆ ที่นำมารวมกัน แล้วเอามาใช้เดี่ยว หรือประยุกต์ผสมกัน จนใช้งานได้หลากหลายอย่าง ดังที่เห็นได้ในชีวิตประจำวัน ก่อนจะเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี เรามาดูว่าอะไรล่ะ? ที่ทำให้เกิดสารเคมีที่เรานำมาใช้งานในชีวิตประจำวันกันก่อน ธาตุ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ในการนำแต่ละตัวมาผสมนู่นนี่นั่นตามธรรมชาติ หรือทำการผสมกันอย่างมีความรู้ จนเกิดเป็นสารที่นำมาใช้งาน เรียนรู้หัวใจก่อนที่จะได้เข้าไปเรียนกลไกที่จะเกิดการทำงานในขอบเขตของวิชาเคมี ในตารางธาตุที่มีอยู่ในตอนนี้ (มีอยู่ 118ธาตุในอนาคตน่าจะมีเพิ่มขึ้น เมื่อเทคโนโลยีของมนุษย์ก้าวหน้าไปถึง) ทุกสิ่งในธรรมชาติ ตั้งแต่ภูเขา และมหาสมุทร ไปจนถึงอากาศที่เราหายใจ และอาหารที่เรากิน มันประกอบไปด้วยสสารที่เรียกว่า ธาตุ ทุกธาตุมีเรื่องราวของตัวเองว่ามันมาจากไหน ทำอะไรได้บ้าง และเราจะใช้มันอย่างไร หนังสือเล่มนี้ เราจะมาเริ่มดูทุกธาตุที่มีอยู่ในตารางธาตุ ทีละรายการ ไม่ได้มีไว้ให้จำ (ถ้าจำได้ก็สุดยอด) แต่ให้ทำความเข้าใจ และสามารถประยุกต์ใช้งานได้ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjIzMjc4NCI7fQ
    WWW.MEBMARKET.COM
    ธาตุ (Elements):: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    ธาตุ (Elements):: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 413 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนังสือ ธาตุ (Elements) จากร้าน ซีเอ็ด

    อย่าพลาด!!! งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 (BOOK EXPO THAILAND 2024) สำนักพิมพ์ SE-ED โดยหนังสือผู้เขียนมีโปรโมทชัน ลดขั้นต่ำ 20% ทุกเล่ม จากนั้นราคาจะกลับมาราคาเดิม เข้าไปดู และโหลดตัวอย่างอ่านฟรีได้ ขอบคุณที่อุดหนุนครับ หากพลาดพบกันอีกทีก็ปีหน้าน้า

    ความรู้ และรายละเอียดของธาตุในแต่ละตัวในตารางธาตุ
    จำนวน 1079 หน้า

    ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้
    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    ธาตุ (Elements) น่าจะเป็นปฐมบทของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ในด้านเคมี เพราะธาตุแต่ละตัวเป็นพื้นฐานของสารประกอบต่าง ๆ ที่นำมารวมกัน แล้วเอามาใช้เดี่ยว หรือประยุกต์ผสมกัน จนใช้งานได้หลากหลายอย่าง ดังที่เห็นได้ในชีวิตประจำวัน

    ก่อนจะเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี เรามาดูว่าอะไรล่ะ? ที่ทำให้เกิดสารเคมีที่เรานำมาใช้งานในชีวิตประจำวันกันก่อน

    ธาตุ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ในการนำแต่ละตัวมาผสมนู่นนี่นั่นตามธรรมชาติ หรือทำการผสมกันอย่างมีความรู้ จนเกิดเป็นสารที่นำมาใช้งาน เรียนรู้หัวใจก่อนที่จะได้เข้าไปเรียนกลไกที่จะเกิดการทำงานในขอบเขตของวิชาเคมี

    ในตารางธาตุที่มีอยู่ในตอนนี้ (มีอยู่ 118ธาตุในอนาคตน่าจะมีเพิ่มขึ้น เมื่อเทคโนโลยีของมนุษย์ก้าวหน้าไปถึง) ทุกสิ่งในธรรมชาติ ตั้งแต่ภูเขา และมหาสมุทร ไปจนถึงอากาศที่เราหายใจ และอาหารที่เรากิน มันประกอบไปด้วยสสารที่เรียกว่า ธาตุ

    ทุกธาตุมีเรื่องราวของตัวเองว่ามันมาจากไหน ทำอะไรได้บ้าง และเราจะใช้มันอย่างไร หนังสือเล่มนี้ เราจะมาเริ่มดูทุกธาตุที่มีอยู่ในตารางธาตุ ทีละรายการ ไม่ได้มีไว้ให้จำ (ถ้าจำได้ก็สุดยอด) แต่ให้ทำความเข้าใจ และสามารถประยุกต์ใช้งานได้

    ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ


    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ


    I have a dream.

    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่


    https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8-(Elements)-orfqid1fut6o64mkmwno
    หนังสือ ธาตุ (Elements) จากร้าน ซีเอ็ด อย่าพลาด!!! งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 (BOOK EXPO THAILAND 2024) สำนักพิมพ์ SE-ED โดยหนังสือผู้เขียนมีโปรโมทชัน ลดขั้นต่ำ 20% ทุกเล่ม จากนั้นราคาจะกลับมาราคาเดิม เข้าไปดู และโหลดตัวอย่างอ่านฟรีได้ ขอบคุณที่อุดหนุนครับ หากพลาดพบกันอีกทีก็ปีหน้าน้า ความรู้ และรายละเอียดของธาตุในแต่ละตัวในตารางธาตุ จำนวน 1079 หน้า ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ ธาตุ (Elements) น่าจะเป็นปฐมบทของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ในด้านเคมี เพราะธาตุแต่ละตัวเป็นพื้นฐานของสารประกอบต่าง ๆ ที่นำมารวมกัน แล้วเอามาใช้เดี่ยว หรือประยุกต์ผสมกัน จนใช้งานได้หลากหลายอย่าง ดังที่เห็นได้ในชีวิตประจำวัน ก่อนจะเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี เรามาดูว่าอะไรล่ะ? ที่ทำให้เกิดสารเคมีที่เรานำมาใช้งานในชีวิตประจำวันกันก่อน ธาตุ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ในการนำแต่ละตัวมาผสมนู่นนี่นั่นตามธรรมชาติ หรือทำการผสมกันอย่างมีความรู้ จนเกิดเป็นสารที่นำมาใช้งาน เรียนรู้หัวใจก่อนที่จะได้เข้าไปเรียนกลไกที่จะเกิดการทำงานในขอบเขตของวิชาเคมี ในตารางธาตุที่มีอยู่ในตอนนี้ (มีอยู่ 118ธาตุในอนาคตน่าจะมีเพิ่มขึ้น เมื่อเทคโนโลยีของมนุษย์ก้าวหน้าไปถึง) ทุกสิ่งในธรรมชาติ ตั้งแต่ภูเขา และมหาสมุทร ไปจนถึงอากาศที่เราหายใจ และอาหารที่เรากิน มันประกอบไปด้วยสสารที่เรียกว่า ธาตุ ทุกธาตุมีเรื่องราวของตัวเองว่ามันมาจากไหน ทำอะไรได้บ้าง และเราจะใช้มันอย่างไร หนังสือเล่มนี้ เราจะมาเริ่มดูทุกธาตุที่มีอยู่ในตารางธาตุ ทีละรายการ ไม่ได้มีไว้ให้จำ (ถ้าจำได้ก็สุดยอด) แต่ให้ทำความเข้าใจ และสามารถประยุกต์ใช้งานได้ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8-(Elements)-orfqid1fut6o64mkmwno
    WWW.SE-ED.COM
    ธาตุ (Elements) (PDF)
    ธาตุ (Elements) น่าจะเป็นปฐมบทของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ในด้านเคมี เพราะธาตุแต่ละตัวเป็นพื้นฐานของสารประกอบต่าง ๆ ที่นำมารวมกัน แล้วเอามาใช้เดี่ยว หรือประยุกต์ผสมกัน จนใช้งานได้หลากหลายอย่าง ผู้เขียน T.M.E. เนื้อหาโดยสังเขป : ธาตุ (Elements) (PDF) ธาตุ (Elements) น่าจะเป็นปฐมบทของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ในด้านเคมี เพราะธาตุแต่ละตัวเป็นพื้นฐานของสารประกอบต่าง ๆ ที่นำมารวมกัน แล้วเอามาใช้เดี่ยว หรือประยุกต์ผสมกัน จนใช้งานได้หลากหลายอย่าง ดังที่เห็นได้ในชีวิตประจำวัน ก่อนจะเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี เรามาดูว่าอะไรล่ะ? ที่ทำให้เกิดสารเคมีที่เรานำมาใช้งานในชีวิตประจำวันกันก่อน ธาตุ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ในการนำแต่ละตัวมาผสมนู่นนี่นั่นตามธรรมชาติ หรือทำการผสมกันอย่างมีความรู้ จนเกิดเป็นสารที่นำมาใช้งาน เรียนรู้หัวใจก่อนที่จะได้เข้าไปเรียนกลไกที่จะเกิดการทำงานในขอบเขตของวิชาเคมี ในตารางธาตุที่มีอยู่ในตอนนี้ (มีอยู่ 118ธาตุในอนาคตน่าจะมีเพิ่มขึ้น เมื่อเทคโนโลยีของมนุษย์ก้าวหน้าไปถึง) ทุกสิ่งในธรรมชาติ ตั้งแต่ภูเขา และมหาสมุทร ไปจนถึงอากาศที่เราหายใจ และอาหารที่เรากิน มันประกอบไปด้วยสสารที่เรียกว่า ธาตุ ทุกธาตุมีเรื่องราวของตัวเองว่ามันมาจากไหน ทำอะไรได้บ้าง และเราจะใช้มันอย่างไร หนังสือเล่มนี้ เราจะมาเริ่มดูทุกธาตุที่มีอยู่ในตารางธาตุ ทีละรายการ ไม่ได้มีไว้ให้จำ (ถ้าจำได้ก็สุดยอด) แต่ให้ทำความเข้าใจ และสามารถประยุกต์ใช้งานได้ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. ข้อมูลหนังสือ : ธาตุ (Elements) (PDF) ISBN : - 1078 หน้า ชนิดกระดาษ : PDF เดือนปีที่พิมพ์ : --/----
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 418 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนังสือ ธาตุ (Elements) จากร้าน ซีเอ็ด

    อย่าพลาด!!! งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 (BOOK EXPO THAILAND 2024) สำนักพิมพ์ SE-ED โดยหนังสือผู้เขียนมีโปรโมทชัน ลดขั้นต่ำ 20% ทุกเล่ม จากนั้นราคาจะกลับมาราคาเดิม เข้าไปดู และโหลดตัวอย่างอ่านฟรีได้ ขอบคุณที่อุดหนุนครับ หากพลาดพบกันอีกทีก็ปีหน้าน้า

    ความรู้ และรายละเอียดของธาตุในแต่ละตัวในตารางธาตุ
    จำนวน 1079 หน้า

    ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้
    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    ธาตุ (Elements) น่าจะเป็นปฐมบทของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ในด้านเคมี เพราะธาตุแต่ละตัวเป็นพื้นฐานของสารประกอบต่าง ๆ ที่นำมารวมกัน แล้วเอามาใช้เดี่ยว หรือประยุกต์ผสมกัน จนใช้งานได้หลากหลายอย่าง ดังที่เห็นได้ในชีวิตประจำวัน

    ก่อนจะเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี เรามาดูว่าอะไรล่ะ? ที่ทำให้เกิดสารเคมีที่เรานำมาใช้งานในชีวิตประจำวันกันก่อน

    ธาตุ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ในการนำแต่ละตัวมาผสมนู่นนี่นั่นตามธรรมชาติ หรือทำการผสมกันอย่างมีความรู้ จนเกิดเป็นสารที่นำมาใช้งาน เรียนรู้หัวใจก่อนที่จะได้เข้าไปเรียนกลไกที่จะเกิดการทำงานในขอบเขตของวิชาเคมี

    ในตารางธาตุที่มีอยู่ในตอนนี้ (มีอยู่ 118ธาตุในอนาคตน่าจะมีเพิ่มขึ้น เมื่อเทคโนโลยีของมนุษย์ก้าวหน้าไปถึง) ทุกสิ่งในธรรมชาติ ตั้งแต่ภูเขา และมหาสมุทร ไปจนถึงอากาศที่เราหายใจ และอาหารที่เรากิน มันประกอบไปด้วยสสารที่เรียกว่า ธาตุ

    ทุกธาตุมีเรื่องราวของตัวเองว่ามันมาจากไหน ทำอะไรได้บ้าง และเราจะใช้มันอย่างไร หนังสือเล่มนี้ เราจะมาเริ่มดูทุกธาตุที่มีอยู่ในตารางธาตุ ทีละรายการ ไม่ได้มีไว้ให้จำ (ถ้าจำได้ก็สุดยอด) แต่ให้ทำความเข้าใจ และสามารถประยุกต์ใช้งานได้

    ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ


    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ


    I have a dream.

    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่


    https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8-(Elements)-orfqid1fut6o64mkmwno
    หนังสือ ธาตุ (Elements) จากร้าน ซีเอ็ด อย่าพลาด!!! งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 (BOOK EXPO THAILAND 2024) สำนักพิมพ์ SE-ED โดยหนังสือผู้เขียนมีโปรโมทชัน ลดขั้นต่ำ 20% ทุกเล่ม จากนั้นราคาจะกลับมาราคาเดิม เข้าไปดู และโหลดตัวอย่างอ่านฟรีได้ ขอบคุณที่อุดหนุนครับ หากพลาดพบกันอีกทีก็ปีหน้าน้า ความรู้ และรายละเอียดของธาตุในแต่ละตัวในตารางธาตุ จำนวน 1079 หน้า ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ ธาตุ (Elements) น่าจะเป็นปฐมบทของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ในด้านเคมี เพราะธาตุแต่ละตัวเป็นพื้นฐานของสารประกอบต่าง ๆ ที่นำมารวมกัน แล้วเอามาใช้เดี่ยว หรือประยุกต์ผสมกัน จนใช้งานได้หลากหลายอย่าง ดังที่เห็นได้ในชีวิตประจำวัน ก่อนจะเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี เรามาดูว่าอะไรล่ะ? ที่ทำให้เกิดสารเคมีที่เรานำมาใช้งานในชีวิตประจำวันกันก่อน ธาตุ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ในการนำแต่ละตัวมาผสมนู่นนี่นั่นตามธรรมชาติ หรือทำการผสมกันอย่างมีความรู้ จนเกิดเป็นสารที่นำมาใช้งาน เรียนรู้หัวใจก่อนที่จะได้เข้าไปเรียนกลไกที่จะเกิดการทำงานในขอบเขตของวิชาเคมี ในตารางธาตุที่มีอยู่ในตอนนี้ (มีอยู่ 118ธาตุในอนาคตน่าจะมีเพิ่มขึ้น เมื่อเทคโนโลยีของมนุษย์ก้าวหน้าไปถึง) ทุกสิ่งในธรรมชาติ ตั้งแต่ภูเขา และมหาสมุทร ไปจนถึงอากาศที่เราหายใจ และอาหารที่เรากิน มันประกอบไปด้วยสสารที่เรียกว่า ธาตุ ทุกธาตุมีเรื่องราวของตัวเองว่ามันมาจากไหน ทำอะไรได้บ้าง และเราจะใช้มันอย่างไร หนังสือเล่มนี้ เราจะมาเริ่มดูทุกธาตุที่มีอยู่ในตารางธาตุ ทีละรายการ ไม่ได้มีไว้ให้จำ (ถ้าจำได้ก็สุดยอด) แต่ให้ทำความเข้าใจ และสามารถประยุกต์ใช้งานได้ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8-(Elements)-orfqid1fut6o64mkmwno
    WWW.SE-ED.COM
    ธาตุ (Elements) (PDF)
    ธาตุ (Elements) น่าจะเป็นปฐมบทของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ในด้านเคมี เพราะธาตุแต่ละตัวเป็นพื้นฐานของสารประกอบต่าง ๆ ที่นำมารวมกัน แล้วเอามาใช้เดี่ยว หรือประยุกต์ผสมกัน จนใช้งานได้หลากหลายอย่าง ผู้เขียน T.M.E. เนื้อหาโดยสังเขป : ธาตุ (Elements) (PDF) ธาตุ (Elements) น่าจะเป็นปฐมบทของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ในด้านเคมี เพราะธาตุแต่ละตัวเป็นพื้นฐานของสารประกอบต่าง ๆ ที่นำมารวมกัน แล้วเอามาใช้เดี่ยว หรือประยุกต์ผสมกัน จนใช้งานได้หลากหลายอย่าง ดังที่เห็นได้ในชีวิตประจำวัน ก่อนจะเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี เรามาดูว่าอะไรล่ะ? ที่ทำให้เกิดสารเคมีที่เรานำมาใช้งานในชีวิตประจำวันกันก่อน ธาตุ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ในการนำแต่ละตัวมาผสมนู่นนี่นั่นตามธรรมชาติ หรือทำการผสมกันอย่างมีความรู้ จนเกิดเป็นสารที่นำมาใช้งาน เรียนรู้หัวใจก่อนที่จะได้เข้าไปเรียนกลไกที่จะเกิดการทำงานในขอบเขตของวิชาเคมี ในตารางธาตุที่มีอยู่ในตอนนี้ (มีอยู่ 118ธาตุในอนาคตน่าจะมีเพิ่มขึ้น เมื่อเทคโนโลยีของมนุษย์ก้าวหน้าไปถึง) ทุกสิ่งในธรรมชาติ ตั้งแต่ภูเขา และมหาสมุทร ไปจนถึงอากาศที่เราหายใจ และอาหารที่เรากิน มันประกอบไปด้วยสสารที่เรียกว่า ธาตุ ทุกธาตุมีเรื่องราวของตัวเองว่ามันมาจากไหน ทำอะไรได้บ้าง และเราจะใช้มันอย่างไร หนังสือเล่มนี้ เราจะมาเริ่มดูทุกธาตุที่มีอยู่ในตารางธาตุ ทีละรายการ ไม่ได้มีไว้ให้จำ (ถ้าจำได้ก็สุดยอด) แต่ให้ทำความเข้าใจ และสามารถประยุกต์ใช้งานได้ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. ข้อมูลหนังสือ : ธาตุ (Elements) (PDF) ISBN : - 1078 หน้า ชนิดกระดาษ : PDF เดือนปีที่พิมพ์ : --/----
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 0 รีวิว
  • #นิทานคิงส์ยามเช้า
    อรุณสแวส เอ้ย อรุณสวัสยามเช้า มิตรรักแฟนเพจคิงส์
    วันนี้ พี่คิงส์มีนิทานสอนใจ ที่อยากมาเล่าให้คติ และสติสอนใจ
    เป็นเรื่องของคนผู้เป็นท็อกสิค ที่ปะปนและปกปิดอย่างแนบเนียน
    เป็นคนประเภทต้องห้ามที่ไม่ควรเอาไว้ใกล้ตัว
    มิเช่นนั้น ความบันเทิงจะเกิด
    - กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้
    มีแม่มดตนหนึ่ง หน้าเหมือนปู ซึ่งพี่คิงส์จิเรียกตัวละครนี้ว่า อิปู นะคับนะ
    ไม่มีความเกี่ยวข้องกับใครในโลกแห่งความจริง เป็นเพียงตัวละคนในนิทาน
    - อิปู เดิมทีก็กักเก็บความซั่วได้อย่างดี เรียกว่าตบตาคนได้ทั้งแคว้น เดิมทีปูเป็นคนโนเนม แต่เป็นคนที่ทะเยอทะยานสูง อยากเป็นคนดัง อยากเป็นคนมีชื่อเสียง จึงใช้วิธีในการรับเป็นผู้ดูแลจอมยุทธ และแม่นางทั่วยุทธภพ
    - เดิมที อาชีพดูแลจอมยุทธและแม่นาง ไม่ได้ผิด ผิดที่อิปู หรือแม่มดหน้าปู แอบซ่อนเร้นความอิจฉาไว้ในใจ จึงรอเพียงโอกาสที่จะได้เฉิดฉาย
    - และในที่สุด ก็ได้เข้ามาแทรกในครอบครัวจอมยุทธท่านหนึ่ง ชื่อชีลา ที่เป็นที่หมายปองของบรรดาแม่นางมากมายในแว่นแคว้นนี้ อิปู ก็ดูเหมือนทำหน้าที่ได้อย่างดีมาหลายปี ได้รับความรักความเมตตาจากทั้งมารดาจอมยุช ชีลา เป็นอย่างดี รวมถึงพี่ๆน้องจอมยุทธ์ทั้ง 4 ด้วยเช่นเดียวกัน
    - แต่ในขณะที่ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร จอมยุทธชีลา ไปพบรักกับแม่นาง นางหนึ่ง ที่อยู่ต่างแคว้าน และแม่นางดังกล่าว ขอเรียกชื่อแทนว่า แม่นางเหม็น ซึ่งเราไม่อธิบายถึงรายละเอียดของที่มาของชื่อนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลานักท่องนิทาน
    - อิปู ได้เห็นกิจกรรมหนึ่งที่จอมยุทธ์ชีลา และแม่นางเหม็น ทำด้วยกันนั่นคือ กิจกรรม เพคีย์ ซึ่งสามารถกวาดทรัพย์กวาดตำลึงทองจากชาวบ้านได้มากโข แต่ยอมยุทธ์ชีลา เล็งเห็นว่า การทำแบบนี้ ถือว่าเป็นการใช้ความรักความไว้วางใจความนิยมของชาวแคว้น มาสร้างประโยชน์ให้ตนเองมากเกินไป จึงออกเตือนชาวแคว้นว่า อย่าเปย์ขนาดนั้น และเตือนแม่นางเหม็นว่า อย่าเยอะเกินไป สงสารชาวแคว้น ก็ถือว่าเป็นแนวคิดที่แตกต่างกัน
    - และนี่แหละ คือปมที่แม่มดหน้าปู เล็งเห็นแล้วว่า ได้เวลาที่จะเริ่มแผนการ โดยการทำตัวเป็นสายให้กับป้านางหนึ่ง ที่ชอบอ้างตัวว่าเป็นพี่สาวของแม่นางเหม็น การพบกันของแม่มดหน้าปูกับนังป้าถือเป็นนรกลิขิตให้มาเจอจริงๆ
    - ซึ่งแม่มดหน้าปู มักจะใช้วิชาด้านมารในการปล่อยของมูลที่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกไม่ดีกับจอมยุทธิ์ชีลามาตลอดโดยที่จอมยุทธ์และครอบครัวเองก็ไม่รู้ตัว
    - ซึ่งขณะที่นังแม่มดดูแลจอมยุทธ์ ก็ยังรับดูแลแม่นางอีกหลายคน ซึ่งแม่นางเหล่านั้น ล้วนได้รับสารที่เป็นเชิงลบ ที่แต่งแต้มจากนังแม่มดหน้าปูทั้งสิ้น ชนิดที่ว่า แม้กระทั่งแม่นางที่เคยร่วมยุทธภพกันมาตั้งแต่เด็ก ก็ยังรู้สึกตีตัวออกห่างจอมยุทธชีลา ซึ่งจอมยุทธ์เองก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ว่ามีมารยาวิชาด้านมาร ได้กระทำการเหมือนกับเป็นปลวกที่กัดเซาะชื่อเสียงของตนอยู่ตลอดระยะเวลาหลายปี
    - และเมื่อถึงวันที่จอมยุทธิ์ กับแม่นางเหม็น ได้เลิกรากันไป นังแม่มดคือสารตั้งต้นชั้นดี ที่มีการสร้างข่าวไม่ดีเกี่ยวกับจอมยุทธิ์ขึ้นในแคว้น แต่นังแม่มดหน้าปู กลับไม่เคยออกตัวในการปกป้องชื่อเสียงตามหน้าที่ ทั้งๆที่ได้รับการดูแลจากจอมยุทธ์และครอบครัวมาอย่างดี ช่างเนรคุณ แต่เมื่อใดที่มีข่าวเชิงลบของแม่นางเหม็น นังแม่มดหน้าปูจะรีบออกตัวหาข้อมูลเหมือนสุนัขขี้ประจบนาย ออกมาแถลงทันที
    - ในช่วงเวลาชุลมุนนั้น สังเกตุได้ว่า มักจะมีข่าวหลุดแปลกๆในบ้านของจอมยุทธ ออกมาเรื่อยๆ ซึ่งข่าวที่ออกมา คือการปั้นแต่งเรื่องราวให้เกิดความเสียหายที่มาจากนังแม่มดหน้าปูนี่แหละ เมื่อป้าจิตเปื่อยรับรู้ ด้วยความอคติจากที่ชีวิตตนเองถูกผัว ผัว เทมา ก็เหมือนจะชัง ผช ทั้งโลก และอยากให้แม่นางเหม็นที่ตนรักมีชีวิตรันทดเหมือนตน จึงนำข้อมูลที่เป็นกากจากแม่มดหน้าปู เอาไปปั่นให้คนเกิดความแตกแยกกันเป็นสองฝั่งทันที ทั้งๆที่ ต่างคน ต่างไป ไม่ควรมีปัญหาใดๆเลย
    - โดยในกลุ่มที่คอยเซาะกร่อนลดทอนชื่อเสียงของจอมยุทธ์ จะมีหลายตัว เริ่มสารตั้งต้นคือ แม่มดหน้าปู นังพึ่ง(ชื่อเต็มพึ่งพา) และนังไพ่ สองพี่น้องที่เป็นผู้ร้ายถ้าในปัจจุบันเราจะเรียกว่ามิจ และป้าเปื่อยจิต แต่จริงๆแล้ว แต่ละตัวก็แอบฟาดฟันกันไม่ได้มีความจริงใจต่อกันหรอก แสวงหาผลประโยชน์ในรูปแบบที่ตัวเองต้องการ โดยแม้กระทั่้งแม่นางเหม็นเองก็ไม่รู้หรอกว่า ไม่ใช่แค่จอมยุทธชีลา ที่เป็นเหยี่อ ตัวนางเหม็นเองก็เช่นกัน
    - แต่ที่น่าเสียใจ แต่ห้ามอะไรไม่ได้ก็คือ พี่สาวทั้ง 4 ของจอมยุทธ์เอง ก็ใกล้ชิดกับนังแม่มดปูมากเกินไป จนเกิดความหลงเชื่อนังแม่มดโดยลืมไปว่าที่ผ่านมา น้องชายคือจอมยุทธชีลาต้องเจออะไรบ้างที่ผ่านมา และยังคงหลับตาไม่เชื่อว่า แม่มดปู คือตัวละครตัวร้ายตัวสำคัญ กลับไปร่วมงานร่วมกิจกรรมกันสนุกสนาน สร้างความงุนงงกับชาวเมืองชาวแคว้นอย่างมาก
    - ท่านที่ติดตามนิทานมาถึงตอนนี้ พี่คิงส์ก็อยากจะบอกคนในยุทธภพว่า อย่าไปต่อว่าพี่ๆของจอมยุทธ์เลย เพราะหลายๆคนในแคว้น ก็โดนต้มมาหลายปี เพิ่งจะรู้กันแล้วไฉน พี่ทั้งสี่ของจอมยุทธ์ จะหลงบ้างไม่ได้ ก็ต้องให้เวลาได้พิสูจน์ ว่าคนไหน คือตัวละครตัวร้ายที่ใกล้ตัวที่แท้จริง และแม่มดหน้าปู คือตัวกา ลา กี นี ของแทร่ ใกล้ใคร อิ๊บหายทุกตัว
    - ก็อย่างที่เล่าตั้งแต่ต้นว่า นังแม่มดหน้าปูนี้ ฝันอยากเด่นอยากดัง จริงๆแล้วนางอยากเป็นแม่นางที่ได้รับความนิยมเหมือนแม่นางเหม็นนี่แหละ และเคยไปขอเป็นผู้ดูแลแม่นางเหม็นตอนเลิกกับจอมยุทธิ์ชีลาใหม่ๆ แต่เค้าไม่เอา ตอนนี้ ด้วยความที่อยากมีแสงแต่ตัวเองเป็นแค่ดาวเคราะแคระ จึงต้องดึงพี่ทั้งสี่จอมยุทธ์มาเป็นเครื่องมือ หวังว่าสะสมคนนิยมได้เพียงพอ ค่อยถีบหัวส่งทีหลัง
    - และคนที่ยืนเคียงข้างจอมยุทธ์ชีลาเสมอ คือคุณแม่ของจอมยุทธ์นั่นเอง
    เป็นอย่างไรบ้าง นิทานพี่คิงส์เช้านี้สนุกมั๊ย
    ย้ำอีกทีว่าเป็นแค่นิทาน อย่านำไปโยง ตัวละครไม่มีความเกี่ยวข้องกับคนจริงๆคนใด สร้างมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    #นิทานคิงส์ยามเช้า อรุณสแวส เอ้ย อรุณสวัสยามเช้า มิตรรักแฟนเพจคิงส์ วันนี้ พี่คิงส์มีนิทานสอนใจ ที่อยากมาเล่าให้คติ และสติสอนใจ เป็นเรื่องของคนผู้เป็นท็อกสิค ที่ปะปนและปกปิดอย่างแนบเนียน เป็นคนประเภทต้องห้ามที่ไม่ควรเอาไว้ใกล้ตัว มิเช่นนั้น ความบันเทิงจะเกิด - กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ มีแม่มดตนหนึ่ง หน้าเหมือนปู ซึ่งพี่คิงส์จิเรียกตัวละครนี้ว่า อิปู นะคับนะ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับใครในโลกแห่งความจริง เป็นเพียงตัวละคนในนิทาน - อิปู เดิมทีก็กักเก็บความซั่วได้อย่างดี เรียกว่าตบตาคนได้ทั้งแคว้น เดิมทีปูเป็นคนโนเนม แต่เป็นคนที่ทะเยอทะยานสูง อยากเป็นคนดัง อยากเป็นคนมีชื่อเสียง จึงใช้วิธีในการรับเป็นผู้ดูแลจอมยุทธ และแม่นางทั่วยุทธภพ - เดิมที อาชีพดูแลจอมยุทธและแม่นาง ไม่ได้ผิด ผิดที่อิปู หรือแม่มดหน้าปู แอบซ่อนเร้นความอิจฉาไว้ในใจ จึงรอเพียงโอกาสที่จะได้เฉิดฉาย - และในที่สุด ก็ได้เข้ามาแทรกในครอบครัวจอมยุทธท่านหนึ่ง ชื่อชีลา ที่เป็นที่หมายปองของบรรดาแม่นางมากมายในแว่นแคว้นนี้ อิปู ก็ดูเหมือนทำหน้าที่ได้อย่างดีมาหลายปี ได้รับความรักความเมตตาจากทั้งมารดาจอมยุช ชีลา เป็นอย่างดี รวมถึงพี่ๆน้องจอมยุทธ์ทั้ง 4 ด้วยเช่นเดียวกัน - แต่ในขณะที่ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร จอมยุทธชีลา ไปพบรักกับแม่นาง นางหนึ่ง ที่อยู่ต่างแคว้าน และแม่นางดังกล่าว ขอเรียกชื่อแทนว่า แม่นางเหม็น ซึ่งเราไม่อธิบายถึงรายละเอียดของที่มาของชื่อนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลานักท่องนิทาน - อิปู ได้เห็นกิจกรรมหนึ่งที่จอมยุทธ์ชีลา และแม่นางเหม็น ทำด้วยกันนั่นคือ กิจกรรม เพคีย์ ซึ่งสามารถกวาดทรัพย์กวาดตำลึงทองจากชาวบ้านได้มากโข แต่ยอมยุทธ์ชีลา เล็งเห็นว่า การทำแบบนี้ ถือว่าเป็นการใช้ความรักความไว้วางใจความนิยมของชาวแคว้น มาสร้างประโยชน์ให้ตนเองมากเกินไป จึงออกเตือนชาวแคว้นว่า อย่าเปย์ขนาดนั้น และเตือนแม่นางเหม็นว่า อย่าเยอะเกินไป สงสารชาวแคว้น ก็ถือว่าเป็นแนวคิดที่แตกต่างกัน - และนี่แหละ คือปมที่แม่มดหน้าปู เล็งเห็นแล้วว่า ได้เวลาที่จะเริ่มแผนการ โดยการทำตัวเป็นสายให้กับป้านางหนึ่ง ที่ชอบอ้างตัวว่าเป็นพี่สาวของแม่นางเหม็น การพบกันของแม่มดหน้าปูกับนังป้าถือเป็นนรกลิขิตให้มาเจอจริงๆ - ซึ่งแม่มดหน้าปู มักจะใช้วิชาด้านมารในการปล่อยของมูลที่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกไม่ดีกับจอมยุทธิ์ชีลามาตลอดโดยที่จอมยุทธ์และครอบครัวเองก็ไม่รู้ตัว - ซึ่งขณะที่นังแม่มดดูแลจอมยุทธ์ ก็ยังรับดูแลแม่นางอีกหลายคน ซึ่งแม่นางเหล่านั้น ล้วนได้รับสารที่เป็นเชิงลบ ที่แต่งแต้มจากนังแม่มดหน้าปูทั้งสิ้น ชนิดที่ว่า แม้กระทั่งแม่นางที่เคยร่วมยุทธภพกันมาตั้งแต่เด็ก ก็ยังรู้สึกตีตัวออกห่างจอมยุทธชีลา ซึ่งจอมยุทธ์เองก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ว่ามีมารยาวิชาด้านมาร ได้กระทำการเหมือนกับเป็นปลวกที่กัดเซาะชื่อเสียงของตนอยู่ตลอดระยะเวลาหลายปี - และเมื่อถึงวันที่จอมยุทธิ์ กับแม่นางเหม็น ได้เลิกรากันไป นังแม่มดคือสารตั้งต้นชั้นดี ที่มีการสร้างข่าวไม่ดีเกี่ยวกับจอมยุทธิ์ขึ้นในแคว้น แต่นังแม่มดหน้าปู กลับไม่เคยออกตัวในการปกป้องชื่อเสียงตามหน้าที่ ทั้งๆที่ได้รับการดูแลจากจอมยุทธ์และครอบครัวมาอย่างดี ช่างเนรคุณ แต่เมื่อใดที่มีข่าวเชิงลบของแม่นางเหม็น นังแม่มดหน้าปูจะรีบออกตัวหาข้อมูลเหมือนสุนัขขี้ประจบนาย ออกมาแถลงทันที - ในช่วงเวลาชุลมุนนั้น สังเกตุได้ว่า มักจะมีข่าวหลุดแปลกๆในบ้านของจอมยุทธ ออกมาเรื่อยๆ ซึ่งข่าวที่ออกมา คือการปั้นแต่งเรื่องราวให้เกิดความเสียหายที่มาจากนังแม่มดหน้าปูนี่แหละ เมื่อป้าจิตเปื่อยรับรู้ ด้วยความอคติจากที่ชีวิตตนเองถูกผัว ผัว เทมา ก็เหมือนจะชัง ผช ทั้งโลก และอยากให้แม่นางเหม็นที่ตนรักมีชีวิตรันทดเหมือนตน จึงนำข้อมูลที่เป็นกากจากแม่มดหน้าปู เอาไปปั่นให้คนเกิดความแตกแยกกันเป็นสองฝั่งทันที ทั้งๆที่ ต่างคน ต่างไป ไม่ควรมีปัญหาใดๆเลย - โดยในกลุ่มที่คอยเซาะกร่อนลดทอนชื่อเสียงของจอมยุทธ์ จะมีหลายตัว เริ่มสารตั้งต้นคือ แม่มดหน้าปู นังพึ่ง(ชื่อเต็มพึ่งพา) และนังไพ่ สองพี่น้องที่เป็นผู้ร้ายถ้าในปัจจุบันเราจะเรียกว่ามิจ และป้าเปื่อยจิต แต่จริงๆแล้ว แต่ละตัวก็แอบฟาดฟันกันไม่ได้มีความจริงใจต่อกันหรอก แสวงหาผลประโยชน์ในรูปแบบที่ตัวเองต้องการ โดยแม้กระทั่้งแม่นางเหม็นเองก็ไม่รู้หรอกว่า ไม่ใช่แค่จอมยุทธชีลา ที่เป็นเหยี่อ ตัวนางเหม็นเองก็เช่นกัน - แต่ที่น่าเสียใจ แต่ห้ามอะไรไม่ได้ก็คือ พี่สาวทั้ง 4 ของจอมยุทธ์เอง ก็ใกล้ชิดกับนังแม่มดปูมากเกินไป จนเกิดความหลงเชื่อนังแม่มดโดยลืมไปว่าที่ผ่านมา น้องชายคือจอมยุทธชีลาต้องเจออะไรบ้างที่ผ่านมา และยังคงหลับตาไม่เชื่อว่า แม่มดปู คือตัวละครตัวร้ายตัวสำคัญ กลับไปร่วมงานร่วมกิจกรรมกันสนุกสนาน สร้างความงุนงงกับชาวเมืองชาวแคว้นอย่างมาก - ท่านที่ติดตามนิทานมาถึงตอนนี้ พี่คิงส์ก็อยากจะบอกคนในยุทธภพว่า อย่าไปต่อว่าพี่ๆของจอมยุทธ์เลย เพราะหลายๆคนในแคว้น ก็โดนต้มมาหลายปี เพิ่งจะรู้กันแล้วไฉน พี่ทั้งสี่ของจอมยุทธ์ จะหลงบ้างไม่ได้ ก็ต้องให้เวลาได้พิสูจน์ ว่าคนไหน คือตัวละครตัวร้ายที่ใกล้ตัวที่แท้จริง และแม่มดหน้าปู คือตัวกา ลา กี นี ของแทร่ ใกล้ใคร อิ๊บหายทุกตัว - ก็อย่างที่เล่าตั้งแต่ต้นว่า นังแม่มดหน้าปูนี้ ฝันอยากเด่นอยากดัง จริงๆแล้วนางอยากเป็นแม่นางที่ได้รับความนิยมเหมือนแม่นางเหม็นนี่แหละ และเคยไปขอเป็นผู้ดูแลแม่นางเหม็นตอนเลิกกับจอมยุทธิ์ชีลาใหม่ๆ แต่เค้าไม่เอา ตอนนี้ ด้วยความที่อยากมีแสงแต่ตัวเองเป็นแค่ดาวเคราะแคระ จึงต้องดึงพี่ทั้งสี่จอมยุทธ์มาเป็นเครื่องมือ หวังว่าสะสมคนนิยมได้เพียงพอ ค่อยถีบหัวส่งทีหลัง - และคนที่ยืนเคียงข้างจอมยุทธ์ชีลาเสมอ คือคุณแม่ของจอมยุทธ์นั่นเอง เป็นอย่างไรบ้าง นิทานพี่คิงส์เช้านี้สนุกมั๊ย ย้ำอีกทีว่าเป็นแค่นิทาน อย่านำไปโยง ตัวละครไม่มีความเกี่ยวข้องกับคนจริงๆคนใด สร้างมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 932 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสียงทนายบอสพอลจริงๆ หรือ? ทำไมทนายสายโจน ฉ้อโกงตบทรัพย์เต็มบ้านเต็มเมือง แถมยังมีทนายรัฐฉานอีก แต่ละตัวทำลายคนอื่น ทำลายเพื่อนร่วมอาชีพ สภาทนายความตื่นได้หรือยัง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    เสียงทนายบอสพอลจริงๆ หรือ? ทำไมทนายสายโจน ฉ้อโกงตบทรัพย์เต็มบ้านเต็มเมือง แถมยังมีทนายรัฐฉานอีก แต่ละตัวทำลายคนอื่น ทำลายเพื่อนร่วมอาชีพ สภาทนายความตื่นได้หรือยัง #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 685 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ตัวละครต้มคนดูมายาวนาน
    เฉิดฉายในรายการเรตติ้งสูงมานาน
    เหมือนปลวกที่เกาะกินสังคมไทย
    แต่ละตัว วีรกรรมไม่ธรรมดอ
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ตัวละครต้มคนดูมายาวนาน เฉิดฉายในรายการเรตติ้งสูงมานาน เหมือนปลวกที่เกาะกินสังคมไทย แต่ละตัว วีรกรรมไม่ธรรมดอ ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Love
    Wow
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 608 มุมมอง 0 รีวิว

  • เบอร์โทรศัพท์ ทางโหราศาสตร์เปรียบเทียบ เป็นบริวารที่เกื้อหนุน เป็นเหมือนล่าม เหมือนทูต คนกลาง ที่ทำหน้าที่ เจรจา รับส่งสาร บอกกล่าวเจตนา ภาพลักษณ์รวม ๆ ของผู้ครอบครอง เบอร์โทรศัพท์ในทางเลขศาสตร์ก็เป็นเลขประจำตัว ...เพราะอยู่ติดตัวแทบจะตลอดเวลา..ซึ่งสามารถทำนายลักษณะอุปนิสันใจคอ พื้นดวงได้ และส่งผลให้ได้ทั้งคุณและโทษกับผู้ครอบครองหรือผู้เกี่ยวข้องโดยตรง ผลรวมเลขแต่ละตัว จะมีข้อดี บางเลขเหมาะสำหรับการบางอย่างหรือหลายอย่าง การเลือกใช้ให้พิจารณาตามอาชีพ หน้าที่ที่มอบหมาย วัตถุประสงค์ใช้งานเป็นหลักเช่นกัน ..ดูความหมายจากบทความก่อนหน้า....
    ...และเลขโทรศัพท์เป็นสิ่งนึงที่เรากำหนดและแก้ไขเองได้ ไม่เหมือนเลขบัตร เลขวันเกิด เลขที่บ้าน...ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ..จึงต้องหาพลังของตัวเลขที่อยู่รอบๆตัวเราในลักษณะอื่นมาช่วย...
    เบอร์โทรศัพท์ ทางโหราศาสตร์เปรียบเทียบ เป็นบริวารที่เกื้อหนุน เป็นเหมือนล่าม เหมือนทูต คนกลาง ที่ทำหน้าที่ เจรจา รับส่งสาร บอกกล่าวเจตนา ภาพลักษณ์รวม ๆ ของผู้ครอบครอง เบอร์โทรศัพท์ในทางเลขศาสตร์ก็เป็นเลขประจำตัว ...เพราะอยู่ติดตัวแทบจะตลอดเวลา..ซึ่งสามารถทำนายลักษณะอุปนิสันใจคอ พื้นดวงได้ และส่งผลให้ได้ทั้งคุณและโทษกับผู้ครอบครองหรือผู้เกี่ยวข้องโดยตรง ผลรวมเลขแต่ละตัว จะมีข้อดี บางเลขเหมาะสำหรับการบางอย่างหรือหลายอย่าง การเลือกใช้ให้พิจารณาตามอาชีพ หน้าที่ที่มอบหมาย วัตถุประสงค์ใช้งานเป็นหลักเช่นกัน ..ดูความหมายจากบทความก่อนหน้า.... ...และเลขโทรศัพท์เป็นสิ่งนึงที่เรากำหนดและแก้ไขเองได้ ไม่เหมือนเลขบัตร เลขวันเกิด เลขที่บ้าน...ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ..จึงต้องหาพลังของตัวเลขที่อยู่รอบๆตัวเราในลักษณะอื่นมาช่วย...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • 24 ตุลาคม 2567-Thai-PAN ร่วมกับ นิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แถลงผลการตรวจสารพิษในองุ่นไชน์มัสแคททั้งหมด 24 ตัวอย่าง ถ่ายทอดสดจากห้องประชุมชั้น 2 มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
    โดย..
    1. คุณปรกชล อู๋ทรัพย์ - เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช Thai-PAN
    2. คุณทัศนีย์ แน่นอุดร - นิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
    3. ภญ. สุภาวดี ธีระวัฒน์สกุล ผู้อำนวยการกองอาหาร - สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
    4. ดร.วัฒนศักดิ์ ศรรุ่ง ผู้อำนวยการกองด่านอาหารและยา - สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
    ชวนตั้งคำถาม โดย คุณกรรณิการ์ กิจติเวชกุล

    สรุปผลตรวจวันนี้
    1. ประเทศผู้ผลิตองุ่นไชน์มัสแคท 24 ตัวอย่าง ที่สุ่มซื้อมาจากการสั่งออนไลน์ 2 ตัวอย่าง มาจากร้านค้าและตลาด 7 ตัวอย่าง และจากโมเดิร์นเทรด 15 ตัวอย่าง สามารถระบุได้เพียง 9 ตัวอย่างว่ามาจากประเทศจีน อีก 15 ตัวอย่างไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้

    2. 95.8% ของตัวอย่างองุ่นไชน์มัสแคทหรือ 23 จาก 24 ตัวอย่าง พบสารพิษตกค้างเกินค่าที่กฎหมายกำหนด แบ่งเป็น 2 กรณี 1) องุ่น 1 ตัวอย่าง พบสารคลอร์ไพริฟอสซึ่งเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ทั้งนี้ตามกฎหมายต้องตรวจไม่พบเนื่องจากยกเลิกค่า MRL แล้ว 2) องุ่นอีก 22 ตัวอย่าง พบสารพิษตกค้าง 14 ชนิด เกินค่าดีฟอลต์ลิมิต (สารพิษตกค้างที่ไม่มีค่า MRL ตามกฎหมายกำหนดให้พบได้ไม่เกินค่าดีฟอลต์ลิมิต 0.01 mg/kg) ซึ่งสารเหล่านี้อาจยังไม่มีการประเมินความปลอดภัย

    3. พบสารพิษตกค้างทั้งหมด 50 ชนิด พบว่าเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 จำนวน 26 ชนิด เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 (ยกเลิกการใช้ในประเทศไทย) จำนวน 2 ชนิด ได้แก่ Chlorpyrifos และ Endrin aldehyde และเป็นสารที่อยู่นอกบัญชีวัตถุอันตรายมากถึง 22 ชนิด ซึ่งเป็นสารที่ยังไม่มีการประเมินใดๆภายใต้กฎหมายไทย

    4. จากสารพิษตกค้าง 50 ชนิด มีสารประเภทดูดซึม (Systemic pesticide) 37 ชนิด หรือคิดเป็น 74% ของสารพิษตกค้าง โดยสารกลุ่มนี้มีโอกาสตกค้างอยู่ในเนื้อเยื่อขององุ่น ซึ่งการล้างสารกลุ่มนี้ออกจากเนื้อเยื่อพืชคงไม่ใช่เรื่องที่ทำได้โดยง่าย

    5. องุ่นไชน์มัสแคทแต่ละตัวอย่างพบสารพิษตกค้างระหว่าง 7-18 ชนิด โดยจำนวน 23 จาก 24 ตัวอย่างพบสารพิษตกค้างเกินค่าที่กฎหมายกำหนด 1-6 ชนิด

    ที่มา https://www.facebook.com/share/v/C6K7h2P7pNNFv5ZY/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    24 ตุลาคม 2567-Thai-PAN ร่วมกับ นิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แถลงผลการตรวจสารพิษในองุ่นไชน์มัสแคททั้งหมด 24 ตัวอย่าง ถ่ายทอดสดจากห้องประชุมชั้น 2 มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค โดย.. 1. คุณปรกชล อู๋ทรัพย์ - เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช Thai-PAN 2. คุณทัศนีย์ แน่นอุดร - นิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 3. ภญ. สุภาวดี ธีระวัฒน์สกุล ผู้อำนวยการกองอาหาร - สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 4. ดร.วัฒนศักดิ์ ศรรุ่ง ผู้อำนวยการกองด่านอาหารและยา - สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ชวนตั้งคำถาม โดย คุณกรรณิการ์ กิจติเวชกุล สรุปผลตรวจวันนี้ 1. ประเทศผู้ผลิตองุ่นไชน์มัสแคท 24 ตัวอย่าง ที่สุ่มซื้อมาจากการสั่งออนไลน์ 2 ตัวอย่าง มาจากร้านค้าและตลาด 7 ตัวอย่าง และจากโมเดิร์นเทรด 15 ตัวอย่าง สามารถระบุได้เพียง 9 ตัวอย่างว่ามาจากประเทศจีน อีก 15 ตัวอย่างไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ 2. 95.8% ของตัวอย่างองุ่นไชน์มัสแคทหรือ 23 จาก 24 ตัวอย่าง พบสารพิษตกค้างเกินค่าที่กฎหมายกำหนด แบ่งเป็น 2 กรณี 1) องุ่น 1 ตัวอย่าง พบสารคลอร์ไพริฟอสซึ่งเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ทั้งนี้ตามกฎหมายต้องตรวจไม่พบเนื่องจากยกเลิกค่า MRL แล้ว 2) องุ่นอีก 22 ตัวอย่าง พบสารพิษตกค้าง 14 ชนิด เกินค่าดีฟอลต์ลิมิต (สารพิษตกค้างที่ไม่มีค่า MRL ตามกฎหมายกำหนดให้พบได้ไม่เกินค่าดีฟอลต์ลิมิต 0.01 mg/kg) ซึ่งสารเหล่านี้อาจยังไม่มีการประเมินความปลอดภัย 3. พบสารพิษตกค้างทั้งหมด 50 ชนิด พบว่าเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 จำนวน 26 ชนิด เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 (ยกเลิกการใช้ในประเทศไทย) จำนวน 2 ชนิด ได้แก่ Chlorpyrifos และ Endrin aldehyde และเป็นสารที่อยู่นอกบัญชีวัตถุอันตรายมากถึง 22 ชนิด ซึ่งเป็นสารที่ยังไม่มีการประเมินใดๆภายใต้กฎหมายไทย 4. จากสารพิษตกค้าง 50 ชนิด มีสารประเภทดูดซึม (Systemic pesticide) 37 ชนิด หรือคิดเป็น 74% ของสารพิษตกค้าง โดยสารกลุ่มนี้มีโอกาสตกค้างอยู่ในเนื้อเยื่อขององุ่น ซึ่งการล้างสารกลุ่มนี้ออกจากเนื้อเยื่อพืชคงไม่ใช่เรื่องที่ทำได้โดยง่าย 5. องุ่นไชน์มัสแคทแต่ละตัวอย่างพบสารพิษตกค้างระหว่าง 7-18 ชนิด โดยจำนวน 23 จาก 24 ตัวอย่างพบสารพิษตกค้างเกินค่าที่กฎหมายกำหนด 1-6 ชนิด ที่มา https://www.facebook.com/share/v/C6K7h2P7pNNFv5ZY/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 793 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts