• คลิปในอดีตที่ผ่านมา,มันความผิดสำเร็จแล้ว,ชัดเจนขนาดนั้น,มาอ้างใหม่ ก็ฟังไม่ขึ้น,
    ..ง่ายๆสมมุติไทยลากเส้นเขตแดนใหม่เข้าไปเขตมาเลย์โดยบอกว่ามาเลย์ลากเส้นทะเลผิด จนปะทะกัน จากนั้นเราก็บอกว่า มาเลย์ต้องมาแบ่งกับไทยคนละครึ่งใหม่นะ, แสดงว่า มาเลย์ยินยอมเสียดินแดนอธิปไตยที่ไทยเราลากใหม่1:200,000กินพื้นที่อ่าวไทยเข้าไปแดนดินมาเลย์ได้จริง มาเลย์เต็มใจเสียพื้นที่นั้นแก่ไทย ต่อจากนั้นอีก บริเวณทับซ้อนใหม่ก็สามารถมาแบ่งผลประโยชน์กันคนละครึ่งได้อีกนะ,ส่วนกรณีไทยข้ามไปดินแดนมาเลย์เลยแล้วบอกมาเลย์ว่าเรามาแบ่งบ่อน้ำมันบนแผ่นดินมาเลย์คนละครึ่งนะ,มาเลย์มันยอมก็โง่มากๆ,บนพื้นที่กูมรึงเสือกมาแบ่งคนละครึ่งนี้นะ บ้าไปเหรอ,ย่อมาเขมร ไทยกระโดดข้ามไปฝั่งเขมรแล้วบอกว่ามาแบ่งน้ำมันคนละครึ่งกันนะ ถีบฝรั่งเศสออก เรามาขุดแท่นคนละครึ่งเลยบนเขตทะเลของเขมรนี้มิใช่ข้อพิพาทใดๆอีก,.
    ..จึงอนุมานได้ว่า คลิปก่อนหน้านี้ จงใจแบ่งดินแดนให้เขมรจริงจนเขมรมีสิทธิได้คนละครึ่ง50:50นั้นทันทีที่ปะทะพิพาทกัน จากที่อ้างว่า1:200,000ที่อ้างนั้นล่ะ.
    ..ไม่มีใครเจ้าบ้านคนไหนให้อีกฝ่าขีดเส้นเขตแดนเข้ามาในบ้านตนเองง่ายๆหรอกเพื่อมาแบ่งบ้านเราแท้ๆ มันมาอ้างขอได้สิทธิในที่ดินด้วยคนละครึ่งนะ50:50,แล้วมาแบ่งผลประโยชน์ให้กันอีก50:50นะ,ซึ่งแต่เดิมเป็นของเจ้าของบ้านนพื้นที่นี้100%นะ, ใครก็ได้ ไปอ้างคำพูดแกตามคลิป50%นั้น ไปขีดลากเส้นพื่นที่บ้านแกสวนแก ไร่นาแกหากมี ใครติดๆแปลงบ้านแผลงนาสวนแก ขีดลากเส้นโฉนดพื้นที่ลากไปสัก50:50ผ่านบ้านแกสวนแกที,ลากพื้นที่เสร็จก็อ้างว่า ทำอะไรบนพื้นที่นี้ต่อไปแบ่งตังกันคนละครึ่งคนละ50:50นะ,
    ..ขาดคุณสมบัติการเป็นรมต.ชัดเจน.

    https://youtube.com/watch?v=uMrmABIkG8k&si=Z7GlPZE65uaaUN-G
    คลิปในอดีตที่ผ่านมา,มันความผิดสำเร็จแล้ว,ชัดเจนขนาดนั้น,มาอ้างใหม่ ก็ฟังไม่ขึ้น, ..ง่ายๆสมมุติไทยลากเส้นเขตแดนใหม่เข้าไปเขตมาเลย์โดยบอกว่ามาเลย์ลากเส้นทะเลผิด จนปะทะกัน จากนั้นเราก็บอกว่า มาเลย์ต้องมาแบ่งกับไทยคนละครึ่งใหม่นะ, แสดงว่า มาเลย์ยินยอมเสียดินแดนอธิปไตยที่ไทยเราลากใหม่1:200,000กินพื้นที่อ่าวไทยเข้าไปแดนดินมาเลย์ได้จริง มาเลย์เต็มใจเสียพื้นที่นั้นแก่ไทย ต่อจากนั้นอีก บริเวณทับซ้อนใหม่ก็สามารถมาแบ่งผลประโยชน์กันคนละครึ่งได้อีกนะ,ส่วนกรณีไทยข้ามไปดินแดนมาเลย์เลยแล้วบอกมาเลย์ว่าเรามาแบ่งบ่อน้ำมันบนแผ่นดินมาเลย์คนละครึ่งนะ,มาเลย์มันยอมก็โง่มากๆ,บนพื้นที่กูมรึงเสือกมาแบ่งคนละครึ่งนี้นะ บ้าไปเหรอ,ย่อมาเขมร ไทยกระโดดข้ามไปฝั่งเขมรแล้วบอกว่ามาแบ่งน้ำมันคนละครึ่งกันนะ ถีบฝรั่งเศสออก เรามาขุดแท่นคนละครึ่งเลยบนเขตทะเลของเขมรนี้มิใช่ข้อพิพาทใดๆอีก,. ..จึงอนุมานได้ว่า คลิปก่อนหน้านี้ จงใจแบ่งดินแดนให้เขมรจริงจนเขมรมีสิทธิได้คนละครึ่ง50:50นั้นทันทีที่ปะทะพิพาทกัน จากที่อ้างว่า1:200,000ที่อ้างนั้นล่ะ. ..ไม่มีใครเจ้าบ้านคนไหนให้อีกฝ่าขีดเส้นเขตแดนเข้ามาในบ้านตนเองง่ายๆหรอกเพื่อมาแบ่งบ้านเราแท้ๆ มันมาอ้างขอได้สิทธิในที่ดินด้วยคนละครึ่งนะ50:50,แล้วมาแบ่งผลประโยชน์ให้กันอีก50:50นะ,ซึ่งแต่เดิมเป็นของเจ้าของบ้านนพื้นที่นี้100%นะ, ใครก็ได้ ไปอ้างคำพูดแกตามคลิป50%นั้น ไปขีดลากเส้นพื่นที่บ้านแกสวนแก ไร่นาแกหากมี ใครติดๆแปลงบ้านแผลงนาสวนแก ขีดลากเส้นโฉนดพื้นที่ลากไปสัก50:50ผ่านบ้านแกสวนแกที,ลากพื้นที่เสร็จก็อ้างว่า ทำอะไรบนพื้นที่นี้ต่อไปแบ่งตังกันคนละครึ่งคนละ50:50นะ, ..ขาดคุณสมบัติการเป็นรมต.ชัดเจน. https://youtube.com/watch?v=uMrmABIkG8k&si=Z7GlPZE65uaaUN-G
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว


  • จังหวัดปัจจันตคิรีเขตร หรือ จังหวัดเกาะกง

    เมืองปัจจันตคิรีเขตร
    เมือง
    พ.ศ. 2398 – 2447
    ยุคทางประวัติศาสตร์ รัตนโกสินทร์
    • ก่อตั้ง
    พ.ศ. 2398
    • ฝรั่งเศสไม่ยอมคืนดินแดน
    30 ธันวาคม พ.ศ. 2447

    เมืองตราด
    กัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส
    ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ กัมพูชา
    จังหวัดปัจจันตคิรีเขตรChoawalit Chotwattanaphong หรือบางเอกสารจะเรียกว่า ปัตจันตคีรีเขตร์ บ้าง ประจันต์คิรีเขตต์ บ้าง[2] เป็นเมืองเดิมของราชอาณาจักรสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกที่มีความสำคัญเทียบเท่าจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด ในอดีต มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะกง เขตจังหวัดเกาะกงในประเทศกัมพูชาปัจจุบัน ดินแดนจังหวัดนี้ตกเป็นของฝรั่งเศสพร้อมกับหัวเมืองฝั่งขวาแม่น้ำโขง คือ แขวงไชยบุรีและแขวงจำปาศักดิ์ เมื่อ พ.ศ. 2447

    ประวัติ

    Map of Siam in 1900
    แต่เดิมมาเกาะกงเป็นจังหวัดของราชอาณาจักรเขมร แต่มาถึงสมัยที่เขมรตกเป็นประเทศราชอยู่ในอำนาจของสยาม พระเจ้ากรุงสยามก็มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกงให้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองตราด

    เมื่อปี พ.ศ. 2398 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกง โดยพระราชทานนามเมืองนี้ว่า เมืองปัจจันตคีรีเขตต์ เพื่อให้เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่มีเขตติดต่อกับเขมรและญวน

    เหตุที่รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามเกาะกงว่า ปัจจันตคิรีเขตร ก็เพื่อให้คล้องจองกับชื่อเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ทางด้านภาคตะวันตกของไทย ซึ่งตั้งอยู่ในแนวรุ้ง (Latitude) เดียวกัน[3]

    ถึง พ.ศ. 2422 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์จัดตั้งสถานีทหารเรือขึ้นตามชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกที่เมืองชลบุรี บางพระ อำเภอบางละมุง เมืองระยอง เมืองแกลง เมืองจันทบุรี อำเภอขลุง เมืองตราด เมืองปัจจันตคิรีเขตร และเกาะเสม็ดนอก เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากฝรั่งเศสทางทะเล

    ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2435 ฝรั่งเศสได้เริ่มดำเนินการทางทหารใช้กำลังเข้าบีบบังคับสยาม โดยยกกองทัพมาเข้าขับไล่ทหารไทยให้ถอยร่นออกจากดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ทำให้ความยุ่งยากทางชายแดนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรรมการปรึกษาการป้องกันพระราชอาณาเขตขึ้น และจัดกองบัญชาการทัพอยู่ตามหัวเมืองชายทะเลแต่ละด้านขึ้นด้วย

    ในปี พ.ศ. 2436 รัฐบาลสยามได้แต่งตั้งให้นายพลเรือจัตวาพระยาชลยุทธโยธินทร์ (André du Plésis de Richelieu) เป็นผู้จัดการป้องกันพระราชอาณาเขตทางหัวเมืองฝ่ายตะวันออก ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีคำสั่งมายังผู้ว่าราชการเมืองแถบนี้ ซึ่งรวมทั้งเมืองตราดและเมืองปัจจันตคิรีเขตรด้วย ให้ช่วยพระยาชลยุทธโยธินทร์จัดการทุกอย่างที่เกี่ยวกับการป้องกันพระราชอาณาเขต

    การเสียดินแดนจังหวัดปัจจันตคิรีเขตร

    การส่งมอบตราดให้กับฝรั่งเศส
    วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 เกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา เรือรบฝรั่งเศสสามารถฝ่าแนวป้องกันของสยามเข้ามาทอดสมอในกรุงเทพฯ ได้ ฝ่ายฝรั่งเศสยื่นคำขาดให้ฝ่ายไทยปฏิบัติตามเมื่อ 20 กรกฎาคม โดยให้เวลาตอบ 48 ชั่วโมง ฝ่ายไทยได้ตอบข้อเรียกร้องเมื่อ 22 กรกฎาคม แต่ไม่เป็นที่พอใจของฝ่ายฝรั่งเศส ดังนั้นในวันที่ 24 กรกฎาคม ฝรั่งเศสจึงประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย สองวันถัดมา (26 กรกฎาคม) ฝรั่งเศสได้สั่งให้ผู้บัญชาการกองเรือภาคตะวันออกไกลที่ไซ่ง่อนปิดล้อมอ่าวไทย ตั้งแต่แหลมเจ้าลายถึงบริเวณแหลมกระบัง และในวันที่ 29 กรกฎาคม ฝรั่งเศสได้ประกาศปิดล้อมอ่าวไทยครั้งที่ 2 โดยขยายเขตเพิ่มบริเวณเกาะเสม็ด จนถึงแหลมสิง รวม 2 เขต ฝ่ายไทยจำต้องยอมรับคำขาดของฝรั่งเศสที่ยื่นไว้แต่เดิมในวันเดียวกันนั้นเอง แต่ในวันรุ่งขึ้นฝรั่งเศสถือโอกาสยื่นคำขาดเพิ่มเติมอีก โดยประกาศยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรีไว้เป็นประกัน และบังคับให้ไทยถอนตัวออกจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงอีกด้วย ไทยจำเป็นต้องยอมรับโดยไม่มีทางเลือก เมื่อฝ่ายไทยปฏิบัติตามคำขาดนั้นแล้ว ฝรั่งเศสจึงได้ยกเลิกการปิดอ่าวในวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 12.00 น. แต่การยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรียังคงยึดไว้ตามเดิม

    ต่อมาได้มีการทำสัญญาสงบศึกกันโดยหนังสือสัญญาฉบับลงวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) ในหนังสือสัญญาฉบับนี้ มีข้อความระบุไว้ในอนุสัญญาผนวกต่อท้ายหนังสือสัญญาข้อ 6 ว่า "คอนเวอนแมนต์ (Government - รัฐบาล) ฝรั่งเศสจะได้ตั้งอยู่ต่อไปที่เมืองจันทบุรี จนกว่าจะได้ทำการสำเร็จแล้วตามข้อความในหนังสือสัญญานี้…"

    แม้ทางฝ่ายไทยปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ฝรั่งเศสบีบบังคับทุกอย่าง ฝรั่งเศสก็ยังไม่ยอมถอนทหาร ยังคงยึดจันทบุรีไว้อีกเป็นเวลานานถึง 10 ปี เป็นเหตุให้ต้องมีการตกลงทำสัญญาขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่งคือ อนุสัญญาลงวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2445 แต่หนังสือฉบับนี้ฝรั่งเศสไม่ยอมให้สัตยาบันและไม่ถอนกำลังออกจากจันทบุรี จึงได้ตกลงมีสัญญาอีกฉบับหนึ่ง คือ สัญญาลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 คราวนี้ฝรั่งเศสจึงถอนกำลังออกจากจันทบุรี แต่ได้เข้ายึดครองเมืองตราดและบรรดาเกาะทั้งหลายภายใต้แหลมสิงลงไปซึ่งรวมถึงเกาะกงแทน ฝ่ายไทยจำต้องมอบเมืองตราดและเมืองประจันตคีรีเขตให้แก่ฝรั่งเศส ในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2447

    พื้นที่ดังกล่าวได้ตกอยู่ในการยึดครองของฝรั่งเศส จนถึงวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2449 จึงได้มีการตกลงทำหนังสือสัญญาขึ้นอีกฉบับหนึ่งเรียกว่า "หนังสือสัญญาระหว่างสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามกับเปรสสิเดนต์แห่งรีปัปลิคฝรั่งเศส" ฝรั่งเศสจึงคืนเมืองตราดให้ไทยตามเดิม แต่ฝ่ายไทยจะต้องยอมยกดินแดนเขมรส่วนใน (มณฑลบูรพา) คือ เมืองพระตะบอง เมืองเสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ เป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยน แต่ปรากฏว่าเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) นั้นฝรั่งเศสมิได้คืนให้ไทยแต่ประการใด ปัจจุบันเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกัมพูชาไปโดยปริยาย[4]

    การสูญเสียแผ่นดินเกาะกงในสมัยนั้น ประวัติศาสตร์ของชาติไทยมิได้มีบันทึกการเสียดินแดนเกาะกงไว้แต่อย่างใด คงกล่าวโดยรวมในกรณีของดินแดนจังหวัดตราดเท่านั้น เพราะในขณะนั้นไทยต้องการดินแดนเขมรสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งก็คือดินแดนอีสานตอนใต้ในปัจจุบัน โดยให้ยึดทิวเขาพนมดงรักเป็นเส้นเขตแดน ซึ่งฝรั่งเศสก็ยินยอม



    จังหวัดปัจจันตคิรีเขตร หรือ จังหวัดเกาะกง เมืองปัจจันตคิรีเขตร เมือง พ.ศ. 2398 – 2447 ยุคทางประวัติศาสตร์ รัตนโกสินทร์ • ก่อตั้ง พ.ศ. 2398 • ฝรั่งเศสไม่ยอมคืนดินแดน 30 ธันวาคม พ.ศ. 2447 เมืองตราด กัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ กัมพูชา จังหวัดปัจจันตคิรีเขตร[1] หรือบางเอกสารจะเรียกว่า ปัตจันตคีรีเขตร์ บ้าง ประจันต์คิรีเขตต์ บ้าง[2] เป็นเมืองเดิมของราชอาณาจักรสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกที่มีความสำคัญเทียบเท่าจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด ในอดีต มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะกง เขตจังหวัดเกาะกงในประเทศกัมพูชาปัจจุบัน ดินแดนจังหวัดนี้ตกเป็นของฝรั่งเศสพร้อมกับหัวเมืองฝั่งขวาแม่น้ำโขง คือ แขวงไชยบุรีและแขวงจำปาศักดิ์ เมื่อ พ.ศ. 2447 ประวัติ Map of Siam in 1900 แต่เดิมมาเกาะกงเป็นจังหวัดของราชอาณาจักรเขมร แต่มาถึงสมัยที่เขมรตกเป็นประเทศราชอยู่ในอำนาจของสยาม พระเจ้ากรุงสยามก็มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกงให้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองตราด เมื่อปี พ.ศ. 2398 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกง โดยพระราชทานนามเมืองนี้ว่า เมืองปัจจันตคีรีเขตต์ เพื่อให้เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่มีเขตติดต่อกับเขมรและญวน เหตุที่รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามเกาะกงว่า ปัจจันตคิรีเขตร ก็เพื่อให้คล้องจองกับชื่อเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ทางด้านภาคตะวันตกของไทย ซึ่งตั้งอยู่ในแนวรุ้ง (Latitude) เดียวกัน[3] ถึง พ.ศ. 2422 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์จัดตั้งสถานีทหารเรือขึ้นตามชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกที่เมืองชลบุรี บางพระ อำเภอบางละมุง เมืองระยอง เมืองแกลง เมืองจันทบุรี อำเภอขลุง เมืองตราด เมืองปัจจันตคิรีเขตร และเกาะเสม็ดนอก เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากฝรั่งเศสทางทะเล ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2435 ฝรั่งเศสได้เริ่มดำเนินการทางทหารใช้กำลังเข้าบีบบังคับสยาม โดยยกกองทัพมาเข้าขับไล่ทหารไทยให้ถอยร่นออกจากดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ทำให้ความยุ่งยากทางชายแดนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรรมการปรึกษาการป้องกันพระราชอาณาเขตขึ้น และจัดกองบัญชาการทัพอยู่ตามหัวเมืองชายทะเลแต่ละด้านขึ้นด้วย ในปี พ.ศ. 2436 รัฐบาลสยามได้แต่งตั้งให้นายพลเรือจัตวาพระยาชลยุทธโยธินทร์ (André du Plésis de Richelieu) เป็นผู้จัดการป้องกันพระราชอาณาเขตทางหัวเมืองฝ่ายตะวันออก ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีคำสั่งมายังผู้ว่าราชการเมืองแถบนี้ ซึ่งรวมทั้งเมืองตราดและเมืองปัจจันตคิรีเขตรด้วย ให้ช่วยพระยาชลยุทธโยธินทร์จัดการทุกอย่างที่เกี่ยวกับการป้องกันพระราชอาณาเขต การเสียดินแดนจังหวัดปัจจันตคิรีเขตร การส่งมอบตราดให้กับฝรั่งเศส วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 เกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา เรือรบฝรั่งเศสสามารถฝ่าแนวป้องกันของสยามเข้ามาทอดสมอในกรุงเทพฯ ได้ ฝ่ายฝรั่งเศสยื่นคำขาดให้ฝ่ายไทยปฏิบัติตามเมื่อ 20 กรกฎาคม โดยให้เวลาตอบ 48 ชั่วโมง ฝ่ายไทยได้ตอบข้อเรียกร้องเมื่อ 22 กรกฎาคม แต่ไม่เป็นที่พอใจของฝ่ายฝรั่งเศส ดังนั้นในวันที่ 24 กรกฎาคม ฝรั่งเศสจึงประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย สองวันถัดมา (26 กรกฎาคม) ฝรั่งเศสได้สั่งให้ผู้บัญชาการกองเรือภาคตะวันออกไกลที่ไซ่ง่อนปิดล้อมอ่าวไทย ตั้งแต่แหลมเจ้าลายถึงบริเวณแหลมกระบัง และในวันที่ 29 กรกฎาคม ฝรั่งเศสได้ประกาศปิดล้อมอ่าวไทยครั้งที่ 2 โดยขยายเขตเพิ่มบริเวณเกาะเสม็ด จนถึงแหลมสิง รวม 2 เขต ฝ่ายไทยจำต้องยอมรับคำขาดของฝรั่งเศสที่ยื่นไว้แต่เดิมในวันเดียวกันนั้นเอง แต่ในวันรุ่งขึ้นฝรั่งเศสถือโอกาสยื่นคำขาดเพิ่มเติมอีก โดยประกาศยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรีไว้เป็นประกัน และบังคับให้ไทยถอนตัวออกจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงอีกด้วย ไทยจำเป็นต้องยอมรับโดยไม่มีทางเลือก เมื่อฝ่ายไทยปฏิบัติตามคำขาดนั้นแล้ว ฝรั่งเศสจึงได้ยกเลิกการปิดอ่าวในวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 12.00 น. แต่การยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรียังคงยึดไว้ตามเดิม ต่อมาได้มีการทำสัญญาสงบศึกกันโดยหนังสือสัญญาฉบับลงวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) ในหนังสือสัญญาฉบับนี้ มีข้อความระบุไว้ในอนุสัญญาผนวกต่อท้ายหนังสือสัญญาข้อ 6 ว่า "คอนเวอนแมนต์ (Government - รัฐบาล) ฝรั่งเศสจะได้ตั้งอยู่ต่อไปที่เมืองจันทบุรี จนกว่าจะได้ทำการสำเร็จแล้วตามข้อความในหนังสือสัญญานี้…" แม้ทางฝ่ายไทยปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ฝรั่งเศสบีบบังคับทุกอย่าง ฝรั่งเศสก็ยังไม่ยอมถอนทหาร ยังคงยึดจันทบุรีไว้อีกเป็นเวลานานถึง 10 ปี เป็นเหตุให้ต้องมีการตกลงทำสัญญาขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่งคือ อนุสัญญาลงวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2445 แต่หนังสือฉบับนี้ฝรั่งเศสไม่ยอมให้สัตยาบันและไม่ถอนกำลังออกจากจันทบุรี จึงได้ตกลงมีสัญญาอีกฉบับหนึ่ง คือ สัญญาลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 คราวนี้ฝรั่งเศสจึงถอนกำลังออกจากจันทบุรี แต่ได้เข้ายึดครองเมืองตราดและบรรดาเกาะทั้งหลายภายใต้แหลมสิงลงไปซึ่งรวมถึงเกาะกงแทน ฝ่ายไทยจำต้องมอบเมืองตราดและเมืองประจันตคีรีเขตให้แก่ฝรั่งเศส ในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2447 พื้นที่ดังกล่าวได้ตกอยู่ในการยึดครองของฝรั่งเศส จนถึงวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2449 จึงได้มีการตกลงทำหนังสือสัญญาขึ้นอีกฉบับหนึ่งเรียกว่า "หนังสือสัญญาระหว่างสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามกับเปรสสิเดนต์แห่งรีปัปลิคฝรั่งเศส" ฝรั่งเศสจึงคืนเมืองตราดให้ไทยตามเดิม แต่ฝ่ายไทยจะต้องยอมยกดินแดนเขมรส่วนใน (มณฑลบูรพา) คือ เมืองพระตะบอง เมืองเสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ เป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยน แต่ปรากฏว่าเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) นั้นฝรั่งเศสมิได้คืนให้ไทยแต่ประการใด ปัจจุบันเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกัมพูชาไปโดยปริยาย[4] การสูญเสียแผ่นดินเกาะกงในสมัยนั้น ประวัติศาสตร์ของชาติไทยมิได้มีบันทึกการเสียดินแดนเกาะกงไว้แต่อย่างใด คงกล่าวโดยรวมในกรณีของดินแดนจังหวัดตราดเท่านั้น เพราะในขณะนั้นไทยต้องการดินแดนเขมรสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งก็คือดินแดนอีสานตอนใต้ในปัจจุบัน โดยให้ยึดทิวเขาพนมดงรักเป็นเส้นเขตแดน ซึ่งฝรั่งเศสก็ยินยอม
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • 555,ส่วนตัวถ้าได้เป็นนายกฯ4เดือนก็จะประกาศผีบ้าแบบนี้ล่ะ,ว่าไทยไม่ต้องการสงครามแต่จำเป็นต้องเป็นผู้เตรียมพร้อมทุกๆยุทธการทางสงครามเพื่อปกป้องและป้องกันประเทศ,ต่อมาจะยกเลิกmou43,44และtor46 ใช้สันปันน้ำกำหนดเส้นเขตแดนกับเขมรทั้งหมดที่มีเสาหมุดอายุกว่า100ปีปักตำตาชัดเจนกว่า73,74เสาเป็นหลักฐานชัดเจนเรื่องเขตแดนและตกลงจบไปนานแล้วกับฝรั่งเศส,เกิดก่อนโคตรพ่อโคตรแมร่งmou43,44นี้อีก,จึงสมควรว่าmou43,44เป็นอันมิชอบและตกไปพร้อมเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ไทยตนเองอีกเรื่องดินแดนผ่นดินประเทศไทยตนเอง ต้องอำนาจพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวจะตัดสินเด็ดขาดได้,ทั้งหมดที่กอดmou43,44มีโทษประหารชีวิตชัดเจน ร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนในเจตนาให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยตน ผิดม.119ชัดเจนตั้งแต่mou43,44tor46นี้ร่างเขียนขึ้น,ทุกๆคนที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด.
    ..ต่อมา555ในฐานะนายกฯ4เดือน,จะยกเลิกสัมปทานแหล่งปิโตรเลียมทั่วประเทศทั้งหมด ปรับปรุงให้ทันสมัยจริงมิให้ไทยเสียเปรียบแบบปัจจุบัน,..ประกาศแจกมือถือควอนตัมฟรีแก่คนไทยทั่วประเทศ ให้คนไทยรับตังดิจิดัลทันทีคนละ100,000บาทคอยน์อินทนนท์ทั่วประเทศสู่ยุคใหม่,สังคมไทยจะไม่ใช้เงินสดอีก,กำหนดเงินใต้ดินฟอกเงินทั้งหมดที่อยู่นอกระบบทันที,1คนไทย1บัญชีเงินควอนตัมเท่านั้นและ1หมายเลขโทรศัพท์,ฟรีเน็ตทั่วไทยสำหรับคนไทยทั่วประเทศผ่านดาวเทียมวงโคจรต่ำของไทยเราเอง.
    ..ต่อมาจะประกาศสร้างรั้วลวดหนามไทยกับเขมร ไทยกับมาเลย์ ไทยกับพม่าทั่วประเทศทันที ลดอาชญากรรมทุกๆมิติต่อประชาชนคนไทยเรา,ควบคุมกำจีดอาชญากรที่ปะปนในไทยได้สะดวก,จากนั้นประกาศจัดตั้งบริษัทคลองขุดกระแห่งชาติไทย ให้หุ้นฟรีๆแก่คนไทยทุกๆคนๆละ10,000หุ้น,ตั้งแต่เกิดจนตาย,บวกหุ้นเพิ่มทุนอีก10,000หุ้นๆละ0.01บาทคอยน์ซื้อเพิ่มสูงสุดเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของฮับกิจการสร้างเม็ดเงินมหาศาลแก่คนไทยเราจริงกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีรวมกับแลนด์บริดจ์ซึ่งคนไทยประเทศไทยเราขุดเองดำเนินการเองเป็นเจ้าของเองทั้งหมดจริงร่วมกัน,สร้างฮับสาระพัดฮับศูนย์การค้าตลาดระดับโลกผ่านคลองไทยเราค้าขายระหว่างทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลางกับโซนเอเชียแปซิฟิกมหาสมุทรฝั่งตะวันออกทั้งหมด,คลอง2เลน กว้าง2กม.เมตร เลนละ1กม.คู่ขนานแลนด์บริดจ์รอบข้างทางบก,ใครสะดวกทางใดเชิญเลย,ตลอดพื้นที่ทั่วไทยโดยเฉพาะภาคใต้เราจะสาระพัดฐานบริษัทแม่ต่างชาติทั่วโลกมาตั้งกิจการ นำรายได้เข้าประเทศผ่านบริษัทคลองไทยแห่งชาติเราเป็นอันมาก,ร่ำรวยไปพร้อมๆกัน,
    ..ฐานผลิตอาวุธและกองทัพอวกาศประจำประเทศไทยคือเราในอนาคต เพื่อพิทักษ์ป้องกันภัยรุกรานจากยานต่างดาวที่ไม่ดีในอนาคตได้,มิใช่กากๆแบบเขมรในปัจจุบัน.
    ..ยุคประเทศไทยใหม่ต้องถือกำเนิดขึ้นจริงๆหากทำไม่ได้,นายกฯหรือผู้ปกครองประเทศยังจุดยืนไม่ชัดเจน กากในการปกครองอยู่ก็สมควรสิ้นชาติไทยเถอะ,ยุคสมัยหน้าจะมาทำเล่นๆแบบนักการเมืองปัจจุบันไม่ได้แล้ว,ประชาชนคนไทยเราต้องอัพเลเวลแล้ว,คือเท่าทันโลกค่าจริง ยืนบนความเป็นจริง สายกลางเราจะเป็นไปตามธรรมชาติเอง.พลังงานล้ำๆเชิงดีงามของจักรวาลไม่ทอดทิ้งประเทศไทยเราหรอก,แต่ถ้ายังเหี้ยอยู่ พระสยามเทวาฯก็อาจละทิ้งประเทศนี้จริงๆนะ,ไทยแตกจะเกิดขึ้นจริง ประชาทุกข์ร้อนจะของจริง,เราจึงต้องกำจัดคนไม่ดีบนแผ่นดินไทยที่มีอำนาจปะปนในเราให้เด็ดขาดจริงจังได้แล้ว,ศัตรูแบบเขมรก็เด็ดขาดด้วย สันดานเชื้อชาตินี้เมื่อเป็นกันทั้งประเทศหมายทำลายไทยชัดเจน ทำลายประชาชนไทยแบบยิวใส่ประชาชนเราแบบไม่สนใจไม่แคร์ความรู้สึกคนไทยมันไม่สมควรเก็บไว้ โลกไม่จำเป็นต้องมีคนลักษณะนี้ประจำโลกก็ได้,ประเทศลักษณะนี้แบบเขมร แบบฝรั่งเศสหรือชาติยุโรปไม่จำเป็นต้องมีบนโลกก็ได้ เราสามารถสร้างสมดุลกันเองได้,เมื่อศัตรูหมายฆ่าคนไทย จะเก็บไว้ทำโคตรพ่อโคตรแมร่งมันเหรอ,ถ้าเราแพ้เขมร มันจะทำคนไทยแบบมันทำในเขมรนั้นล่ะจะกดขี่ข่มเหงคนไทยเราแน่นอน,เคสมทภ.1จึงน่าผิดหวังและเสียใจเป็นอันมาก,ท่านรักศัตรูเขมรที่รุกรานคนไทยมากกว่ารักคนไทยจริงๆ,ทหารเขมรและคนเขมรท่านไม่จัดการเด็ดขาดจริงจังด้วยเมื่อต้องเด็ดขาด,นายใหญ่ที่สั่งท่านนั้นคือคนเลว คนไทยไม่สมควรเก็บนายใหญ่นี้ไว้แม้เป็นเชื้อพระวงศ์ก็ตัดเด็ดหัวทิ้ง.,เขาทรยศต่อบรรพบุรษไทยตนและบุรพระมหากษัตริย์ตนเองด้วย,ไม่สมควรจงรักและภักดีโคตรพ่อโคตรแมร่งบรมโคตรมันด้วย.,เห็นแก่ได้แก่ตัวปกป้องผลประโยชน์ตนในแผ่นดินเขมรและพื้นที่ผลประโยชน์ตนในไทย คนเช่นนี้หนักแผ่นดินไทยต้องสัวหารทิ้งสถานเดียวเป็นภัยต่อประเทศชาติและประชาชนคนไทยทุกๆคนได้,นายกฯไทยต้องไม่กากและกระจอกอีกต่อไป.,เช่นนั้นประชาชนคนไทยเองจะร่วมกันทำลายชาตินี้ไม่ต้องรอผู้นำผู้ปกครองกากๆก็ได้.บ้านเมืองรุกเป็นไฟมันง่ายมากเมื่อประชาชนภายในประเทศไม่เอาแล้วเช่นกัน.
    ..ดาบมีสองด้านสองคมได้ ค่ำมืดยังมีสว่างแจ้งก็ด้วย,ประชาชนมืดบอดน่ากลัวมากๆ.

    https://youtube.com/watch?v=Y1eqppymLCI&si=8CSuTYkA6JUFttNR
    555,ส่วนตัวถ้าได้เป็นนายกฯ4เดือนก็จะประกาศผีบ้าแบบนี้ล่ะ,ว่าไทยไม่ต้องการสงครามแต่จำเป็นต้องเป็นผู้เตรียมพร้อมทุกๆยุทธการทางสงครามเพื่อปกป้องและป้องกันประเทศ,ต่อมาจะยกเลิกmou43,44และtor46 ใช้สันปันน้ำกำหนดเส้นเขตแดนกับเขมรทั้งหมดที่มีเสาหมุดอายุกว่า100ปีปักตำตาชัดเจนกว่า73,74เสาเป็นหลักฐานชัดเจนเรื่องเขตแดนและตกลงจบไปนานแล้วกับฝรั่งเศส,เกิดก่อนโคตรพ่อโคตรแมร่งmou43,44นี้อีก,จึงสมควรว่าmou43,44เป็นอันมิชอบและตกไปพร้อมเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ไทยตนเองอีกเรื่องดินแดนผ่นดินประเทศไทยตนเอง ต้องอำนาจพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวจะตัดสินเด็ดขาดได้,ทั้งหมดที่กอดmou43,44มีโทษประหารชีวิตชัดเจน ร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนในเจตนาให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยตน ผิดม.119ชัดเจนตั้งแต่mou43,44tor46นี้ร่างเขียนขึ้น,ทุกๆคนที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด. ..ต่อมา555ในฐานะนายกฯ4เดือน,จะยกเลิกสัมปทานแหล่งปิโตรเลียมทั่วประเทศทั้งหมด ปรับปรุงให้ทันสมัยจริงมิให้ไทยเสียเปรียบแบบปัจจุบัน,..ประกาศแจกมือถือควอนตัมฟรีแก่คนไทยทั่วประเทศ ให้คนไทยรับตังดิจิดัลทันทีคนละ100,000บาทคอยน์อินทนนท์ทั่วประเทศสู่ยุคใหม่,สังคมไทยจะไม่ใช้เงินสดอีก,กำหนดเงินใต้ดินฟอกเงินทั้งหมดที่อยู่นอกระบบทันที,1คนไทย1บัญชีเงินควอนตัมเท่านั้นและ1หมายเลขโทรศัพท์,ฟรีเน็ตทั่วไทยสำหรับคนไทยทั่วประเทศผ่านดาวเทียมวงโคจรต่ำของไทยเราเอง. ..ต่อมาจะประกาศสร้างรั้วลวดหนามไทยกับเขมร ไทยกับมาเลย์ ไทยกับพม่าทั่วประเทศทันที ลดอาชญากรรมทุกๆมิติต่อประชาชนคนไทยเรา,ควบคุมกำจีดอาชญากรที่ปะปนในไทยได้สะดวก,จากนั้นประกาศจัดตั้งบริษัทคลองขุดกระแห่งชาติไทย ให้หุ้นฟรีๆแก่คนไทยทุกๆคนๆละ10,000หุ้น,ตั้งแต่เกิดจนตาย,บวกหุ้นเพิ่มทุนอีก10,000หุ้นๆละ0.01บาทคอยน์ซื้อเพิ่มสูงสุดเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของฮับกิจการสร้างเม็ดเงินมหาศาลแก่คนไทยเราจริงกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีรวมกับแลนด์บริดจ์ซึ่งคนไทยประเทศไทยเราขุดเองดำเนินการเองเป็นเจ้าของเองทั้งหมดจริงร่วมกัน,สร้างฮับสาระพัดฮับศูนย์การค้าตลาดระดับโลกผ่านคลองไทยเราค้าขายระหว่างทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลางกับโซนเอเชียแปซิฟิกมหาสมุทรฝั่งตะวันออกทั้งหมด,คลอง2เลน กว้าง2กม.เมตร เลนละ1กม.คู่ขนานแลนด์บริดจ์รอบข้างทางบก,ใครสะดวกทางใดเชิญเลย,ตลอดพื้นที่ทั่วไทยโดยเฉพาะภาคใต้เราจะสาระพัดฐานบริษัทแม่ต่างชาติทั่วโลกมาตั้งกิจการ นำรายได้เข้าประเทศผ่านบริษัทคลองไทยแห่งชาติเราเป็นอันมาก,ร่ำรวยไปพร้อมๆกัน, ..ฐานผลิตอาวุธและกองทัพอวกาศประจำประเทศไทยคือเราในอนาคต เพื่อพิทักษ์ป้องกันภัยรุกรานจากยานต่างดาวที่ไม่ดีในอนาคตได้,มิใช่กากๆแบบเขมรในปัจจุบัน. ..ยุคประเทศไทยใหม่ต้องถือกำเนิดขึ้นจริงๆหากทำไม่ได้,นายกฯหรือผู้ปกครองประเทศยังจุดยืนไม่ชัดเจน กากในการปกครองอยู่ก็สมควรสิ้นชาติไทยเถอะ,ยุคสมัยหน้าจะมาทำเล่นๆแบบนักการเมืองปัจจุบันไม่ได้แล้ว,ประชาชนคนไทยเราต้องอัพเลเวลแล้ว,คือเท่าทันโลกค่าจริง ยืนบนความเป็นจริง สายกลางเราจะเป็นไปตามธรรมชาติเอง.พลังงานล้ำๆเชิงดีงามของจักรวาลไม่ทอดทิ้งประเทศไทยเราหรอก,แต่ถ้ายังเหี้ยอยู่ พระสยามเทวาฯก็อาจละทิ้งประเทศนี้จริงๆนะ,ไทยแตกจะเกิดขึ้นจริง ประชาทุกข์ร้อนจะของจริง,เราจึงต้องกำจัดคนไม่ดีบนแผ่นดินไทยที่มีอำนาจปะปนในเราให้เด็ดขาดจริงจังได้แล้ว,ศัตรูแบบเขมรก็เด็ดขาดด้วย สันดานเชื้อชาตินี้เมื่อเป็นกันทั้งประเทศหมายทำลายไทยชัดเจน ทำลายประชาชนไทยแบบยิวใส่ประชาชนเราแบบไม่สนใจไม่แคร์ความรู้สึกคนไทยมันไม่สมควรเก็บไว้ โลกไม่จำเป็นต้องมีคนลักษณะนี้ประจำโลกก็ได้,ประเทศลักษณะนี้แบบเขมร แบบฝรั่งเศสหรือชาติยุโรปไม่จำเป็นต้องมีบนโลกก็ได้ เราสามารถสร้างสมดุลกันเองได้,เมื่อศัตรูหมายฆ่าคนไทย จะเก็บไว้ทำโคตรพ่อโคตรแมร่งมันเหรอ,ถ้าเราแพ้เขมร มันจะทำคนไทยแบบมันทำในเขมรนั้นล่ะจะกดขี่ข่มเหงคนไทยเราแน่นอน,เคสมทภ.1จึงน่าผิดหวังและเสียใจเป็นอันมาก,ท่านรักศัตรูเขมรที่รุกรานคนไทยมากกว่ารักคนไทยจริงๆ,ทหารเขมรและคนเขมรท่านไม่จัดการเด็ดขาดจริงจังด้วยเมื่อต้องเด็ดขาด,นายใหญ่ที่สั่งท่านนั้นคือคนเลว คนไทยไม่สมควรเก็บนายใหญ่นี้ไว้แม้เป็นเชื้อพระวงศ์ก็ตัดเด็ดหัวทิ้ง.,เขาทรยศต่อบรรพบุรษไทยตนและบุรพระมหากษัตริย์ตนเองด้วย,ไม่สมควรจงรักและภักดีโคตรพ่อโคตรแมร่งบรมโคตรมันด้วย.,เห็นแก่ได้แก่ตัวปกป้องผลประโยชน์ตนในแผ่นดินเขมรและพื้นที่ผลประโยชน์ตนในไทย คนเช่นนี้หนักแผ่นดินไทยต้องสัวหารทิ้งสถานเดียวเป็นภัยต่อประเทศชาติและประชาชนคนไทยทุกๆคนได้,นายกฯไทยต้องไม่กากและกระจอกอีกต่อไป.,เช่นนั้นประชาชนคนไทยเองจะร่วมกันทำลายชาตินี้ไม่ต้องรอผู้นำผู้ปกครองกากๆก็ได้.บ้านเมืองรุกเป็นไฟมันง่ายมากเมื่อประชาชนภายในประเทศไม่เอาแล้วเช่นกัน. ..ดาบมีสองด้านสองคมได้ ค่ำมืดยังมีสว่างแจ้งก็ด้วย,ประชาชนมืดบอดน่ากลัวมากๆ. https://youtube.com/watch?v=Y1eqppymLCI&si=8CSuTYkA6JUFttNR
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • “บิ๊กเล็ก” เผยสร้างรั้วกั้นชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องตกลงทั้งสองฝ่าย หวั่นกัมพูชาเคลมเป็นเส้นเขตแดนในอนาคต เตรียมนำเข้า สมช.พิจารณา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085031

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    “บิ๊กเล็ก” เผยสร้างรั้วกั้นชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องตกลงทั้งสองฝ่าย หวั่นกัมพูชาเคลมเป็นเส้นเขตแดนในอนาคต เตรียมนำเข้า สมช.พิจารณา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085031 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • ง่ายๆบิ๊กปูกับบิ๊กกุ้งยึดอำนาจเลยระหว่างกำลังจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ในขณะนี้,จากนั้นยุบกระทรวงการต่างประเทศทิ้งทันที ,จัดตั้งกระทรวงใหม่ในการติดต่อกับต่างชาติ,โมฆะสัญญาทั้งหมดที่กระทรวงการต่างประเทศไปตกลงใดๆไว้ ตลอดเรื่องเขตแดนที่ไม่เคยนำเข้าสภาด้วยซึ่งโดยพื้นฐานผิดมาตั้งแต่ต้นสิ้นผลในข้อตกลงบังคับใช้ใดๆ ก้าวล่วงพระราชอำนาจสถาบันกษัตริย์ด้วยในการตัดสินใจเรื่องดินแดนแผ่นดินไทยและอธิปไตยชาติไทยโดยตรง,กระทรวงการต่างประเทศเข้าข่ายกระทำผิดชัดเจน ร่างข้อตกลงต่างๆอันมีความรู้รับรู้อยู่แก่ใจว่าเสียเปรียบทางดินแดนโดยไม่ต่อต้่นคัดค้านในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่สำนึกผิดชอบชั่วดี ไม่ปกป้องอธิปไตยตนถึงที่สุด มีเจตนาร่วมกับนักการเมืองทำให้ประเทศไทยตนสูญเสียดินแดนชัดเจนที่1:200,000 จากปกติสามัญทหารพรมแดนและในหลวงร.9ใช้อัตรา1:50,000 ผิดม.157และม.119อย่างแน่นอนแล้ว รวมมาตราอื่นๆอีกมากมาย กระทรวงการต่างประเทศย่อมรู้ดีในเส้นเขตแดนตตและประวัติศาสตร์ความเป็นมาของบ้านเมืองตลอดแนวแน่นอน ไม่ใช้ความสามารถตนความพยายามตนทั้งกระทรวงในการปกป้องอธิปไตยชาติ มีความผิดมหันร้ายแรงถึงที่สุดจนนำพาบ้านเมืองก่อเกิดสงครามถึงปัจจุบัน ทั้งยังร่วมกันพยายามกอดmou43,44,tor2546ไว้อย่างเหนียวแน่นร่วมกัน,ผู้มีตำแหน่งอำนาจปัจจุบันและที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องถูกลงโทษในข้อหาร้ายแรงทันทีคือม.157และม.119แน่แล้ว.

    ..รัฐบาลในอนาคตต้องเป็นรัฐบาลพระราชทานเท่านั้น.

    https://youtube.com/watch?v=T4qJpR5xEfA&si=gh2rmbKcTJkEwT4d
    ง่ายๆบิ๊กปูกับบิ๊กกุ้งยึดอำนาจเลยระหว่างกำลังจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ในขณะนี้,จากนั้นยุบกระทรวงการต่างประเทศทิ้งทันที ,จัดตั้งกระทรวงใหม่ในการติดต่อกับต่างชาติ,โมฆะสัญญาทั้งหมดที่กระทรวงการต่างประเทศไปตกลงใดๆไว้ ตลอดเรื่องเขตแดนที่ไม่เคยนำเข้าสภาด้วยซึ่งโดยพื้นฐานผิดมาตั้งแต่ต้นสิ้นผลในข้อตกลงบังคับใช้ใดๆ ก้าวล่วงพระราชอำนาจสถาบันกษัตริย์ด้วยในการตัดสินใจเรื่องดินแดนแผ่นดินไทยและอธิปไตยชาติไทยโดยตรง,กระทรวงการต่างประเทศเข้าข่ายกระทำผิดชัดเจน ร่างข้อตกลงต่างๆอันมีความรู้รับรู้อยู่แก่ใจว่าเสียเปรียบทางดินแดนโดยไม่ต่อต้่นคัดค้านในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่สำนึกผิดชอบชั่วดี ไม่ปกป้องอธิปไตยตนถึงที่สุด มีเจตนาร่วมกับนักการเมืองทำให้ประเทศไทยตนสูญเสียดินแดนชัดเจนที่1:200,000 จากปกติสามัญทหารพรมแดนและในหลวงร.9ใช้อัตรา1:50,000 ผิดม.157และม.119อย่างแน่นอนแล้ว รวมมาตราอื่นๆอีกมากมาย กระทรวงการต่างประเทศย่อมรู้ดีในเส้นเขตแดนตตและประวัติศาสตร์ความเป็นมาของบ้านเมืองตลอดแนวแน่นอน ไม่ใช้ความสามารถตนความพยายามตนทั้งกระทรวงในการปกป้องอธิปไตยชาติ มีความผิดมหันร้ายแรงถึงที่สุดจนนำพาบ้านเมืองก่อเกิดสงครามถึงปัจจุบัน ทั้งยังร่วมกันพยายามกอดmou43,44,tor2546ไว้อย่างเหนียวแน่นร่วมกัน,ผู้มีตำแหน่งอำนาจปัจจุบันและที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องถูกลงโทษในข้อหาร้ายแรงทันทีคือม.157และม.119แน่แล้ว. ..รัฐบาลในอนาคตต้องเป็นรัฐบาลพระราชทานเท่านั้น. https://youtube.com/watch?v=T4qJpR5xEfA&si=gh2rmbKcTJkEwT4d
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนนี้คนเขมรกว่า200ครัวเรือนหลังเสาหมุดสยามไทยเรา ถูกจับจริงด้วยกฎอัยการศึกหรือยังที่มาปลูกบ้านมากมายหลายครัวเรือนในฝั่งไทยเรา,หรือระหว่าง500เมตรที่ทหารไทยเราวางรั้วลวดหนามห่างจากเสาหมุดที่ปักจริงนั้นล่ะ ,คนชาวเขมรออกจากพื้นที่แดนดินไทยหมดหรือยัง มิใช่แค่เคสคนเขมรมาทำลายรั้วลวดหนามนั้น,ต้องถีบคนเขมรออกไปจากเส้นเขตแดนเสาหมุดจริงๆมิให้มายืนอยู่ฝั่งไทยได้อีก,เด็ดขาดทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายในพื้นทีสามเหลี่ยมที่เขมรลุกล้ำมาสร้างบ้านเรือนในดินแดนไทยเรา ทหารไทยเราได้ใช้กฎอัยการศึกเข้ารื้อทำลายสิ่งปลูกสร้างนี้หรือยัง ต้องห้ามเขมรทุกๆตัวเข้ามาบนแผ่นดินไทยบ้านหนองจานทันที ป้องกันการแอบวางกับระเบิดในชุมชนหมู่บ้านมันคนเขมรด้วยซึ่งเดิมอาจยังไม่วางกับระเบิด,แต่ตอนนี้อาจวางกับระเบิดตลอดแนวพรมแดนแล้ว,รวมทั้งพื้นที่บ้านหนองจานด้วย.
    ..ต้องรื้อชุมชนเขมรทิ้งไปทั้งหมดจนสุดแนวพรมแดนไทยกับเขมรที่แนวหลักหมุดหลักเสาปักหมุดเขตแดนไทยสยามกับเขมรมัน.,ภาพการข่าวยังไม่ชัดเจนเลบ,มีแต่ข่าวแค่ไม่มีคนเขมรมารื้อรั้วลวดหนามเหมือนวันแรกแค่นั้น.เรา..ประชาชนยังสงสัยอยู่,อย่าอ้างว่าอยู่ตรงไหนให้อยู่ตรงนั้นอีกนะเพราะคนละเคสกับภาค2 นี้มันลุกล้ำเข้ามาอยู่ในเขตแดนภายในประเทศไทยชัดเจน มีเสาเขตแดนปักแสดงเขตไทยเขตเขมรชัดเจนแล้วด้วย,หน้าที่ทหารภาค1ต้องถีบเขมรออกไปจากแผ่นดินไทยทั้งหมด อาจเผาบ้านเขมรชุมชนเขมรในฝั่งไทย เผาทิ้งให้หมดเลยแล้วค่อยใช้รถแมคโครรถไถทหารดันทิ้งให้ราบเป็นพื้นที่โล่งชัดเจนไป.




    https://youtube.com/watch?v=2hqOqnlbyNo&si=spTJPkP2j7M2-W2C
    ตอนนี้คนเขมรกว่า200ครัวเรือนหลังเสาหมุดสยามไทยเรา ถูกจับจริงด้วยกฎอัยการศึกหรือยังที่มาปลูกบ้านมากมายหลายครัวเรือนในฝั่งไทยเรา,หรือระหว่าง500เมตรที่ทหารไทยเราวางรั้วลวดหนามห่างจากเสาหมุดที่ปักจริงนั้นล่ะ ,คนชาวเขมรออกจากพื้นที่แดนดินไทยหมดหรือยัง มิใช่แค่เคสคนเขมรมาทำลายรั้วลวดหนามนั้น,ต้องถีบคนเขมรออกไปจากเส้นเขตแดนเสาหมุดจริงๆมิให้มายืนอยู่ฝั่งไทยได้อีก,เด็ดขาดทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายในพื้นทีสามเหลี่ยมที่เขมรลุกล้ำมาสร้างบ้านเรือนในดินแดนไทยเรา ทหารไทยเราได้ใช้กฎอัยการศึกเข้ารื้อทำลายสิ่งปลูกสร้างนี้หรือยัง ต้องห้ามเขมรทุกๆตัวเข้ามาบนแผ่นดินไทยบ้านหนองจานทันที ป้องกันการแอบวางกับระเบิดในชุมชนหมู่บ้านมันคนเขมรด้วยซึ่งเดิมอาจยังไม่วางกับระเบิด,แต่ตอนนี้อาจวางกับระเบิดตลอดแนวพรมแดนแล้ว,รวมทั้งพื้นที่บ้านหนองจานด้วย. ..ต้องรื้อชุมชนเขมรทิ้งไปทั้งหมดจนสุดแนวพรมแดนไทยกับเขมรที่แนวหลักหมุดหลักเสาปักหมุดเขตแดนไทยสยามกับเขมรมัน.,ภาพการข่าวยังไม่ชัดเจนเลบ,มีแต่ข่าวแค่ไม่มีคนเขมรมารื้อรั้วลวดหนามเหมือนวันแรกแค่นั้น.เรา..ประชาชนยังสงสัยอยู่,อย่าอ้างว่าอยู่ตรงไหนให้อยู่ตรงนั้นอีกนะเพราะคนละเคสกับภาค2 นี้มันลุกล้ำเข้ามาอยู่ในเขตแดนภายในประเทศไทยชัดเจน มีเสาเขตแดนปักแสดงเขตไทยเขตเขมรชัดเจนแล้วด้วย,หน้าที่ทหารภาค1ต้องถีบเขมรออกไปจากแผ่นดินไทยทั้งหมด อาจเผาบ้านเขมรชุมชนเขมรในฝั่งไทย เผาทิ้งให้หมดเลยแล้วค่อยใช้รถแมคโครรถไถทหารดันทิ้งให้ราบเป็นพื้นที่โล่งชัดเจนไป. https://youtube.com/watch?v=2hqOqnlbyNo&si=spTJPkP2j7M2-W2C
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชัดเจนตั้งนานแล้ว,และจริงๆเรื่องอธิปไตยไทยนี้ อัยการไทยสมควรเดินเรื่องดำเนินการรวบรวมสาระพัดมุกการส่งไม้ต่อให้กันแบบนี้ได้แล้วด้วย สามารถใช้อำนาจการตัดสินทางศาลโดยตรงปกป้องประเทศทันทีได้,ศาลเรามีแต่ตั้งรับ ไม่มีเชิญรุกอะไรเลย ,ศักยภาพศาลเรามิอาจปกป้องประเทศไทยอะไรได้เลยเวลาเกิดเรื่องจริงจังต่ออธิปไตยไทยตนเอง คอยแต่ให้คนมาป้อนให้ มายื่นนั้นนี้ น่ารำคาญมาก หรือมิใช่หน้าที่รับผิดชอบตน นี้ประเทศตนเองแท้ๆนะ ลงมาจัดการร่วมกันเองก็ได้ เราผิดหวังจริงๆกับบทบาทศาลแห่งชาติไทยเรา,ทุกๆหน่วยงานรัฐต้องมีสิทธิปกป้องประเทศไทยมิใช่แค่ทหารหรือใครมีหน้าที่อะไรก็ทำหน้าที่นั้น,ศาลไทยเราต้องหัดเป็นนักเตะกระกร้อบ้างนะ ระดับอธิปไตยชาติ ตั้งเอง ชงเอง กินเองได้ อะไรใครผิดใครถูกก็สามารถพิจารณาค่าจริงได้ ความจริงมีสิ่งเดียว,บทบาทศาลแห่งประเทศไทยเราน่าผิดหวังมาก,จัดการภายในกับประชาชนมีคดีกองเป็นภูเขา,จริงๆต้องจัดการดินแดนอธิปไตยไทยตนเองทางตรงด้วย,รัฐบาลมันไม่ให้ยุ่งก็ต้องยุ่ง,รัฐบาลเหยียบคอไว้หรือไง,กฎหมายอะไรเหยียบศาลไว้มิให้ปกป้องอธิปไตยไทยตนเองมีก็ฉีกทิ้งเถอะ,ถ้าร่วมปกป้องอธิปไตยร่วมกับคนไทยไม่ได้ขนาดนี้ก็อย่ามีศาลต่อไปอีกเลย,แผ่นดินไทยแท้ๆเห็นตำตาว่าไทยจะเสียอธิปไตยดินแดนถึง1:150,000ที่มันกอดจะใช้1:200,000,ในหลวงเรา ร.9 ก็ใช้1:50,000 ,ศาลก็เห็นสิ่งผิดปกติจริงตรงนี้,แต่ก็ไม่มีบทบาทเชิงรุกเพื่อปกป้องดินแดนอธิปไตยไทยตนเองเลย,เราจะมีศาลเพื่อตัดสินคนไทยแค่นั้นเหรอ,ทำไมตนเองไม่ออกมาตัดสิน ออกหน้าร่วมกับประชาชนคนไทยบ้าง,เราต้องเลิกบริบทว่าศาลคือประมุขแผ่นดิน ตัวแทนพระมหากษัตริย์ได้แล้ว,เป็นความเชื่อที่ผิดมาก,ศาลก็เสมือนองค์กรหนึ่งของประเทศเช่นองค์กรทหาร องค์กรตำรวจ เพียงพระมหากษัตริย์เรานั่งบัลลังก์ขึ้นว่าความในศาลในอดีตเท่านั้น,และศาลในต่างประเทศเป็นเครื่องมืออย่างดีของdeep stateในการปกครองครบงำควบคุมสังคมมนุษย์ให้เกรงกลัวหวาดกลัวเท่านั้น,ข่มจิตวิญญาณและเจตจำนงเสรีของมนุษย์นั้นเองซึ่งอีลิทdeep stateเกรงกลัวมากว่าคนจะไม่เชื่อฟังควบคุมไม่ได้,บทบาทของศาลไม่สามารถระงับสงครามโลกที่1ที่2ได้เลยแม้ศาลโลกก็ด้ววยหากมองกันจริงๆ,ย่อมาไทยก็ไร้บทบาทสั่งสอนเขมรให้อย่ายิงระเบิดใส่ประชาชนคนไทยตายและสูญเสียสาระพัดได้,เมื่อศาลสามารถช่วยจัดการคนชั่วเลวแบบนักการเมืองคือต้นเหตุก็ต้องจัดการให้เด็ดขาดจริงๆ,ออกนอกหน้าเพื่อปกป้องอธิปไตยไทยตนมีน่าละอายตรงไร้เสียเกียรต์เสียศักดิ์บารมีศาลตรงไหน,ตรรกะศาลต้องเปลี่ยนแปลงใหม่จริงๆ,อนาคตใช้AIแทนศาลก็ได้ เพราะระดับครอนตัมมันโคตรละเอียดทุกๆมาตราวลีคำบาลีความอักขระพยางค์คำประโยคทุกๆตัว เขียนกฎหมายควบคุมคนมนุษย์เองก็ได้อีกล่ะ,หากไม่เอาสำนึกผิดชอบมนุษย์ละอายใจอะไรมายุ่งเกี่ยวมันก็พิจารณาตัดสินตามตัวบทกฎหมายแม่นยำกว่า100%และบางประเทศทดลองใช้สำเร็จจริงมาแล้ว.
    ..ดินแดนอธิปไตยไทยมิใช่เรา..ประชาชนต้องร่วมกันปกป้อง เดิมประชาชนไม่สมควรจะออกหน้าแบบนี้เลยเพราะตัดตอนเด็ดขาดกำจัดพวกเลวชั่วจริงในบ้านในเมืองไปก่อนเราประชาชนแบบยุคปัจจุบันจริงนี้,แต่เพราะข้าราชการเลวชั่วเต็มฝนระบบเกินไปจึงเดือดร้อนจริงถึงประชาชน ขนาดอธิปไตยไทยตนเองแท้ๆยังพากันปล่อยปละละเลยเอาหูไปนาเอาตาไปไร่,ศาลต้องมีบทบาทตรงเมื่อเห็นอธิปไตยดินแดนตนถูกคุกคามรุกราน,โดยเฉพาะเส้นเขตแดนแผ่นดินตน จริงๆต้องระดับศาลแต่ละประเทศคุยกันเลย ตัดสินจบเลย ยุติธรรมก็คำว่าศาลค้ำประกันในชื่อตัวมันเองอยู่แล้ว เช่นเรียกศาลฝรั่งเศสมาคุยที่ไทย คุณตกลงแบ่งสันปันน้ำแล้วนะ,เรียกศาลฝรั่งเศสมาคุยตัดสินว่าคุณคืนดินแดนผิดประเทศนะที่แย่งชิงไปตอนประวัติการเสียสยามเราครั้งที่12 ,จบเรื่องพื้นที่ดินแดนที่ศาลตนแต่ละประเทศเลย,นี้อะไรผีบ้ามากๆไม่จบไม่สิน ไม่มีคำตัดสินชัดเจน,ศาลก็บอกแล้วมันคุยกันเองจะตัดสินยุติธรรมแน่นอน้พราะค้ำประกันในศาลใครมันชื่อเสียงแต่ละชาติอยู่แล้ว,เช่นศาลเขมรเหี้ยจริงๆ,ศาลไทยก็อนุมัติประหารชีวิตศาลเขมรเลยที่ขาดจริยธรรมขั้นพื้นฐานของศาลระดับประเทศสากล ไม่รู้ถูกผิด ของเขาของเรา เอาแต่ได้ก็ต้องไปเกืดใหม่เป็นตนคือศาลเขมรเป็นบ้าพูดไม่รู่เรื่องหมายจะยึดดินแดนไทย ศาลเราก็อนุมัติทหารไทยเรากำจัดภัยแผ่นดินไทยทันที่เป็นต้น นี้บทบาทศาลไทยเราต้องแบบนี้.อธิปไตยไทยทุกๆหน่วยงานเราองค์กรเราต้องสามารถแสดงออกได้อย่างเปิดเผยในการแสดงความเห็นใดๆแสดงออกใดๆเพื่อร่วมกันปกป้องอธิปไตยชาติไทยตนได้เสรี.
    https://youtube.com/shorts/UpTf8XBIbl0?si=Dz7NHgagzcNS91uS

    https://youtube.com/shorts/UpTf8XBIbl0?si=Dz7NHgagzcNS91uS
    ชัดเจนตั้งนานแล้ว,และจริงๆเรื่องอธิปไตยไทยนี้ อัยการไทยสมควรเดินเรื่องดำเนินการรวบรวมสาระพัดมุกการส่งไม้ต่อให้กันแบบนี้ได้แล้วด้วย สามารถใช้อำนาจการตัดสินทางศาลโดยตรงปกป้องประเทศทันทีได้,ศาลเรามีแต่ตั้งรับ ไม่มีเชิญรุกอะไรเลย ,ศักยภาพศาลเรามิอาจปกป้องประเทศไทยอะไรได้เลยเวลาเกิดเรื่องจริงจังต่ออธิปไตยไทยตนเอง คอยแต่ให้คนมาป้อนให้ มายื่นนั้นนี้ น่ารำคาญมาก หรือมิใช่หน้าที่รับผิดชอบตน นี้ประเทศตนเองแท้ๆนะ ลงมาจัดการร่วมกันเองก็ได้ เราผิดหวังจริงๆกับบทบาทศาลแห่งชาติไทยเรา,ทุกๆหน่วยงานรัฐต้องมีสิทธิปกป้องประเทศไทยมิใช่แค่ทหารหรือใครมีหน้าที่อะไรก็ทำหน้าที่นั้น,ศาลไทยเราต้องหัดเป็นนักเตะกระกร้อบ้างนะ ระดับอธิปไตยชาติ ตั้งเอง ชงเอง กินเองได้ อะไรใครผิดใครถูกก็สามารถพิจารณาค่าจริงได้ ความจริงมีสิ่งเดียว,บทบาทศาลแห่งประเทศไทยเราน่าผิดหวังมาก,จัดการภายในกับประชาชนมีคดีกองเป็นภูเขา,จริงๆต้องจัดการดินแดนอธิปไตยไทยตนเองทางตรงด้วย,รัฐบาลมันไม่ให้ยุ่งก็ต้องยุ่ง,รัฐบาลเหยียบคอไว้หรือไง,กฎหมายอะไรเหยียบศาลไว้มิให้ปกป้องอธิปไตยไทยตนเองมีก็ฉีกทิ้งเถอะ,ถ้าร่วมปกป้องอธิปไตยร่วมกับคนไทยไม่ได้ขนาดนี้ก็อย่ามีศาลต่อไปอีกเลย,แผ่นดินไทยแท้ๆเห็นตำตาว่าไทยจะเสียอธิปไตยดินแดนถึง1:150,000ที่มันกอดจะใช้1:200,000,ในหลวงเรา ร.9 ก็ใช้1:50,000 ,ศาลก็เห็นสิ่งผิดปกติจริงตรงนี้,แต่ก็ไม่มีบทบาทเชิงรุกเพื่อปกป้องดินแดนอธิปไตยไทยตนเองเลย,เราจะมีศาลเพื่อตัดสินคนไทยแค่นั้นเหรอ,ทำไมตนเองไม่ออกมาตัดสิน ออกหน้าร่วมกับประชาชนคนไทยบ้าง,เราต้องเลิกบริบทว่าศาลคือประมุขแผ่นดิน ตัวแทนพระมหากษัตริย์ได้แล้ว,เป็นความเชื่อที่ผิดมาก,ศาลก็เสมือนองค์กรหนึ่งของประเทศเช่นองค์กรทหาร องค์กรตำรวจ เพียงพระมหากษัตริย์เรานั่งบัลลังก์ขึ้นว่าความในศาลในอดีตเท่านั้น,และศาลในต่างประเทศเป็นเครื่องมืออย่างดีของdeep stateในการปกครองครบงำควบคุมสังคมมนุษย์ให้เกรงกลัวหวาดกลัวเท่านั้น,ข่มจิตวิญญาณและเจตจำนงเสรีของมนุษย์นั้นเองซึ่งอีลิทdeep stateเกรงกลัวมากว่าคนจะไม่เชื่อฟังควบคุมไม่ได้,บทบาทของศาลไม่สามารถระงับสงครามโลกที่1ที่2ได้เลยแม้ศาลโลกก็ด้ววยหากมองกันจริงๆ,ย่อมาไทยก็ไร้บทบาทสั่งสอนเขมรให้อย่ายิงระเบิดใส่ประชาชนคนไทยตายและสูญเสียสาระพัดได้,เมื่อศาลสามารถช่วยจัดการคนชั่วเลวแบบนักการเมืองคือต้นเหตุก็ต้องจัดการให้เด็ดขาดจริงๆ,ออกนอกหน้าเพื่อปกป้องอธิปไตยไทยตนมีน่าละอายตรงไร้เสียเกียรต์เสียศักดิ์บารมีศาลตรงไหน,ตรรกะศาลต้องเปลี่ยนแปลงใหม่จริงๆ,อนาคตใช้AIแทนศาลก็ได้ เพราะระดับครอนตัมมันโคตรละเอียดทุกๆมาตราวลีคำบาลีความอักขระพยางค์คำประโยคทุกๆตัว เขียนกฎหมายควบคุมคนมนุษย์เองก็ได้อีกล่ะ,หากไม่เอาสำนึกผิดชอบมนุษย์ละอายใจอะไรมายุ่งเกี่ยวมันก็พิจารณาตัดสินตามตัวบทกฎหมายแม่นยำกว่า100%และบางประเทศทดลองใช้สำเร็จจริงมาแล้ว. ..ดินแดนอธิปไตยไทยมิใช่เรา..ประชาชนต้องร่วมกันปกป้อง เดิมประชาชนไม่สมควรจะออกหน้าแบบนี้เลยเพราะตัดตอนเด็ดขาดกำจัดพวกเลวชั่วจริงในบ้านในเมืองไปก่อนเราประชาชนแบบยุคปัจจุบันจริงนี้,แต่เพราะข้าราชการเลวชั่วเต็มฝนระบบเกินไปจึงเดือดร้อนจริงถึงประชาชน ขนาดอธิปไตยไทยตนเองแท้ๆยังพากันปล่อยปละละเลยเอาหูไปนาเอาตาไปไร่,ศาลต้องมีบทบาทตรงเมื่อเห็นอธิปไตยดินแดนตนถูกคุกคามรุกราน,โดยเฉพาะเส้นเขตแดนแผ่นดินตน จริงๆต้องระดับศาลแต่ละประเทศคุยกันเลย ตัดสินจบเลย ยุติธรรมก็คำว่าศาลค้ำประกันในชื่อตัวมันเองอยู่แล้ว เช่นเรียกศาลฝรั่งเศสมาคุยที่ไทย คุณตกลงแบ่งสันปันน้ำแล้วนะ,เรียกศาลฝรั่งเศสมาคุยตัดสินว่าคุณคืนดินแดนผิดประเทศนะที่แย่งชิงไปตอนประวัติการเสียสยามเราครั้งที่12 ,จบเรื่องพื้นที่ดินแดนที่ศาลตนแต่ละประเทศเลย,นี้อะไรผีบ้ามากๆไม่จบไม่สิน ไม่มีคำตัดสินชัดเจน,ศาลก็บอกแล้วมันคุยกันเองจะตัดสินยุติธรรมแน่นอน้พราะค้ำประกันในศาลใครมันชื่อเสียงแต่ละชาติอยู่แล้ว,เช่นศาลเขมรเหี้ยจริงๆ,ศาลไทยก็อนุมัติประหารชีวิตศาลเขมรเลยที่ขาดจริยธรรมขั้นพื้นฐานของศาลระดับประเทศสากล ไม่รู้ถูกผิด ของเขาของเรา เอาแต่ได้ก็ต้องไปเกืดใหม่เป็นตนคือศาลเขมรเป็นบ้าพูดไม่รู่เรื่องหมายจะยึดดินแดนไทย ศาลเราก็อนุมัติทหารไทยเรากำจัดภัยแผ่นดินไทยทันที่เป็นต้น นี้บทบาทศาลไทยเราต้องแบบนี้.อธิปไตยไทยทุกๆหน่วยงานเราองค์กรเราต้องสามารถแสดงออกได้อย่างเปิดเผยในการแสดงความเห็นใดๆแสดงออกใดๆเพื่อร่วมกันปกป้องอธิปไตยชาติไทยตนได้เสรี. https://youtube.com/shorts/UpTf8XBIbl0?si=Dz7NHgagzcNS91uS https://youtube.com/shorts/UpTf8XBIbl0?si=Dz7NHgagzcNS91uS
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรา..ประชาชนสามารถเข้าใจและพร้อมกับฟันธงได้เลยทันทีว่านอกจากที่เรา..เชื่อว่ามีไส้ศึกในส่วนอื่นๆแล้ว ตัวพ่ออีกตัวคือ กต.นี้เอง เธอมีองค์ข้อมูลสาระพัดกับดิวต่างประเทศทั้งหมด อะไรที่เกี่ยวกับอธิปไตยไทยต่อต่างชาติเธอคนนี้รับรู้ข้อมูลทั้งหมดก่อนใครเพื่อน นักการเมืองจะขายชาติจะแย่งเอาบ่อน้ำมันจากอ่าวไทยเธอในเรื่องอะไรจะไม่รู้ลึกรู้หนารู้ตื้น ช่องทางใดต่างชาติได้เปรียบหรือไม่ได้เปรียบไทยเธอก็รับรู้รายละเอียดความในเราหมดสิ้นมีช่องว่างอะไรที่จะช่วยต่างชาติชนะเราได้,เรามีอะไรปิดช่องนั้นก็ได้อีก สามารถเสนอทางตัดตอนเด็ดขาดก็ได้หรือไม่เด็ดขาดโอนอ่อนผ่อนตามก็ได้อีก,จะเสียดินแดนเสียอธิปไตยไทย กต.มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆเรื่องราวสืบทอดเชื่อมโยงแต่ละรัฐบาลได้นั้นเอง,ปลัดกระทรวงกต.จึงเสมือนกลไกให้คุณให้โทษเต็มที่ต่อการเสียอธิปไตยไทยแก่ต่างชาติใดๆหรือไม่ก็ได้ นอกจากมาจากฝ่ายนักการเมืองด้วย ตัวอันตรายที่สุดนอกจากฝ่ายนักการเมือง ปลัดกระทรวงอธิบดีทบวงกรมก็อันตรายไม่แพ้กัน เขียนสัญญาข้อตกลงได้เสียหมดที่กระทำการใดๆกับต่างชาตินอกอาณาจักรเราทั้งหมด,
    ..คนไทยเรากำลังเล่นงานผิดคนก็ด้วยนอกจากนักการเมือง,คนของกระทรวงต่างประเทศด้วยคือตัวอันตรายตัวจริงอีกตัว,แค่แถลงชี้เป้า แบบสไตล์ผู้ว่าฯสระแก้วก็พอเข้าใจแนวรบของพวกขายชาติไส้ศึกแล้ว จึงพยายามยืนยันทุกๆรูปแบบ ทุกๆช่องทาง ตีหลายด้าน ในที่นี้คือผ่านกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ใช้เรือกะรุกขุนเลย เดินเรือค้าขายพาณิชย์มานานกับต่างชาติกะค้ำประกันยืนยันเข้าข้างต่างชาติเสียสะงันว่าต้องใช้1:200,000แน่นอน แม้ ในหลวงร.9เราถือใช้กางออกร่วมกับทหารแนวพรมแดนก็เป็นตกไป กระทรวงการต่างประเทศใหญ่กว่าในหลวงเรา ร.9เราที่ทรงใช้แผนที่1:50,000ตลอดการครองราชพระองค์ท่าน กระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าเสียเองแล้ว เป็นเจ้าของแผ่นดินไทยนี้เสียแล้ว เป็นผู้กำหนดแผ่นดินเขตแดนราชอาณาจักรไทยแล้วว่าต้องใช้อัตราเขตแดน1:200,000นะเพื่อเป็นประโยชน์แก่เขมร เป็นประโยชน์แก่อเมริกาฝรั่งเศสลากเส้นเขตแดนแดกบ่อน้ำมันในอ่าวไทยได้ รับตังมาแล้วต้องเร่งรีบตามแผนเดี๋ยวต่างชาติอเมริกาฝรั่งเศสdeep stateเอากูตาย ,ข้ามีอำนาจเต็มใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับต่างประเทศตลอดข้อตกลงต่างๆข้าเท่านั้นเป็นผู้อนุมัตและกำหนดกฎกติกาเงื่อนไขใดๆจะเข้าข้างต่างชาติจะทำไมทำอะไรกูได้เพราะกูมีอำนาจเต็มมือแล้วตอนนี้ คำโพสต์คำยืนยัน คำใดๆประกาศผ่านกูคือราชโองการโว้ย เขตแดนทั่วราชอาณาจักรไทยกูจะขีดจะรับกฎกติกาสมยอมเลียตีนใครก็เรื่องของกูเพราะกูใหญ่ กูจึงประกาศชัดเจนในที่นี้ว่าต้องใช้1:200,000เท่านั้น,ในประเทศไทยนี้ใครใหญ่กว่ากูตอนนี้ กูบอกยืนยันใช้ต้องใช้ตามกูบอก ,กูมีอเมริกาฝรั่งเศสหนุนหลังด้วยเรือจอดท่าเรียมแล้วเช่นนั้นกูไม่กล้าเจาะจงโพสต์วันนี้หรอกมันว่า.

    ..ในหลวงเรา ร.9 เสด็จพระราชกรณียกิจทั่วประเทศกางแผนที่กับทหารทั่วประเทศก็ใช้1:50,000 สคส.ก็ขีดวาดแผนที่1:50,000 แสดงว่ากระทรวงต่างประเทศไทยขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์สำเร็จราชการบนแผ่นดินไทยแน่นอนแล้ว สามารถสั่งการหนักแน่นว่าต้องใช้1:200,000เท่านั้น,ทั้งที่ปี2505เราประกาศไม่ยอมรับการตัดสินศาลผีบ้านี้แล้วพร้อมเสือกยื่นเสนอฝ่ายเดียวด้วย,ต้องโมฆะแผนที่นั้นอัตโนมัติตั้งแต่ปี2505แล้วซึ่งต้องเป็นไปในแบบนั้นถึงปัจจุบัน.
    ..สรุปใครก็ตามที่มีแนวคิดและโพสต์ความคิดเห็น แสดงวาจาว่าต้องใช้1:200,000 มันผู้นั้นคือศัตรูภัยร้ายทำลายแผ่นดินไทยประเทศไทยที่แท้จริง,มิอาจให้มันอยู่ร่วมแผ่นดินไทยนี้ต่อไปได้ กบฎทรยศอธิปไตยชาติไทยชัดเจน เจตนาทำให้สูญเสียดินแดนเขตอธิปไตยไทยแน่นอนแล้ว.,เพราะนั้นคือแผ่นดินไทยที่หายไปถึง1:150,000เลย,ซึ่งในหลวง ร.9เราใช้1:50,000 ,กระทรวงการต่างประเทศบกพร่องโดยทุจริตในใจชัดเจน ไม่ซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อประเทศชาติตน ไม่แสวงข้อเท็จจริงใดๆที่กูรูไทยมากมายรู้ต้นรู้ปลายสาเหตุและเกิดผลของปัญหา ขาดฝีมือมือไม่ถึง ขลาดเขลาหวาดกลัวต่อนักการเมืองและต่างชาติเสมือนพร้อมทรยศหักหลังทั้งสามารถเป็นหนอนบ่อนไส้เสียเองโดยง่ายให้ศัตรูรู้ความภายในตน, ไร้เกียรติไร้ศักดิ์สุดอัปยศและอัปรีย์จัญไรกว่าใดๆยุดใดสมัยใดที่มีกระทรวงการต่างประเทศในไทยเรา.,ไม่มีก็ได้ในเวลานี้กระทรวงแบบนี้,ยุบไปเลย,เรา..ประชาชนทั่วไทยมีคนเก่งมากความสามารถทั่วประเทศในเวลานี้ยุคนี้สามารถตั้งเป็นกระทรวงใหม่เพื่อเจรจาความต่างๆเชื่อมสัมพันธไมตรีต่อต่างชาติต่างประเทศทั่วโลกใหม่ได้และอาจรุ่งเรืองรุ่งโรจน์โคตรๆกว่าปัจจุบันอีก,เพราะรากเหง้าอิทธิพลทรามหยาบหนามึนคงเต็มกระทรวงเดิมแล้ว สามารถล้างบางทั้งหมดในคราวเดียวกัน,ตั้งชื่อกระทรวงว่า กระทรวงการรวมเพื่อนทั่วโลก ก็ว่าไป อนาคตใครคือศัตรูตัดสายสัมพันธ์เลย มีแต่เพื่อนๆร่วมปฏิสัมพันธ์กันเท่านั้น,ผีบ้าแบบปัจจุบันเป็นศัตรูแท้ๆก็ยังคบหาอยู่ ไม่เลือกคบนั้นเองจึงนำภัยวุ่นวายเข้าสู่ประเทศตนเองไม่ขาดสายมิใช่ความเจริญรุ่งเรืองสงบสันติสุขอะไรเลย,เจรจาผีบ้าผีบ้าก็ตกลงไปทั่วไร้สติปัญญาความามารถ แยกแยะถูกผิดชั่วเลวไม่เป็น,อะไรตนเสียเปรียบ อะไรตนเอาเปรียบเขาเกินงามก็ไม่กระทำเป็นต้น,เพื่อนมิตรประเทศแม้เขาเสียเปรียบไม่รู้ เราผู้รู้ก็ไม่สามารถเอาเปรียบเอาแต่ได้ในสิ่งที่รู้ได้,มิตรที่ดีก็ระวังภัยให้มิตรได้,แบบอเมริการู้ว่าเรามีน้ำมันมากมาย แต่ก็เอาเปรียบมากมายกับเราในสิ่งที่รู้,
    ..ยุบทิ้งกระทรวงการต่างประเทศเลย
    #กระทรวงการต่างประเทศมีไว้ทำไม.
    ..ใครที่เกี่ยวข้องในการสมยอมสนับสนุบใช้1:200,000 จัดอยู่ในโหมด ม.119ได้เลยสามารถให้ทนายแผ่นดินไทยฟ้องร้องดำเนินคดีเอาผิดไว้ก่อนได้เลย.ยิ่งเกี่ยวข้องในอำนาจหน้าที่ของตนแบบผู้ว่าฯสระแก้ว ที่กล้ามากเก่งมากต่อดินแดนอธิปไตยตนคนเหล่านี้ต้องพร้อมจ่ายราคาที่ตนกระทำออกมาอย่างแสนแพง,ยิ่งรับรู้และเก็บรวบรวมข้อมูลมามาดมายหลายทศวรรตยิ่งต้องจ่ายราคาแพงและแสนแพงในผลการกระทำของตนที่กล้าหาญท้าทายพระราชอำนาจกษัตริย์เราที่ใช้1:50,000ทั่วราชอาณาจักร,ใดๆทั้งหมดทั้งสิ้นต้องตกไปทั้งหมดแม้อำนาจศาลสูงสุดขึ้นบัลลังก์ว่าความ อื่นๆใดก็ต้องตกไป ไม่สามารถใช้บังคับได้ นอกจาก1:50,000เท่านั้น.เพราะนี้คืออัตราส่วนที่ในหลวงเรา ร.9ใช้จริงบนผืนแผ่นดินไทยเรานี้ทุกๆพระองค์ท่านแน่นอน.

    https://youtube.com/watch?v=vTKbeqvv0RA&si=QtfSpJJWdJy9bEa5
    เรา..ประชาชนสามารถเข้าใจและพร้อมกับฟันธงได้เลยทันทีว่านอกจากที่เรา..เชื่อว่ามีไส้ศึกในส่วนอื่นๆแล้ว ตัวพ่ออีกตัวคือ กต.นี้เอง เธอมีองค์ข้อมูลสาระพัดกับดิวต่างประเทศทั้งหมด อะไรที่เกี่ยวกับอธิปไตยไทยต่อต่างชาติเธอคนนี้รับรู้ข้อมูลทั้งหมดก่อนใครเพื่อน นักการเมืองจะขายชาติจะแย่งเอาบ่อน้ำมันจากอ่าวไทยเธอในเรื่องอะไรจะไม่รู้ลึกรู้หนารู้ตื้น ช่องทางใดต่างชาติได้เปรียบหรือไม่ได้เปรียบไทยเธอก็รับรู้รายละเอียดความในเราหมดสิ้นมีช่องว่างอะไรที่จะช่วยต่างชาติชนะเราได้,เรามีอะไรปิดช่องนั้นก็ได้อีก สามารถเสนอทางตัดตอนเด็ดขาดก็ได้หรือไม่เด็ดขาดโอนอ่อนผ่อนตามก็ได้อีก,จะเสียดินแดนเสียอธิปไตยไทย กต.มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆเรื่องราวสืบทอดเชื่อมโยงแต่ละรัฐบาลได้นั้นเอง,ปลัดกระทรวงกต.จึงเสมือนกลไกให้คุณให้โทษเต็มที่ต่อการเสียอธิปไตยไทยแก่ต่างชาติใดๆหรือไม่ก็ได้ นอกจากมาจากฝ่ายนักการเมืองด้วย ตัวอันตรายที่สุดนอกจากฝ่ายนักการเมือง ปลัดกระทรวงอธิบดีทบวงกรมก็อันตรายไม่แพ้กัน เขียนสัญญาข้อตกลงได้เสียหมดที่กระทำการใดๆกับต่างชาตินอกอาณาจักรเราทั้งหมด, ..คนไทยเรากำลังเล่นงานผิดคนก็ด้วยนอกจากนักการเมือง,คนของกระทรวงต่างประเทศด้วยคือตัวอันตรายตัวจริงอีกตัว,แค่แถลงชี้เป้า แบบสไตล์ผู้ว่าฯสระแก้วก็พอเข้าใจแนวรบของพวกขายชาติไส้ศึกแล้ว จึงพยายามยืนยันทุกๆรูปแบบ ทุกๆช่องทาง ตีหลายด้าน ในที่นี้คือผ่านกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ใช้เรือกะรุกขุนเลย เดินเรือค้าขายพาณิชย์มานานกับต่างชาติกะค้ำประกันยืนยันเข้าข้างต่างชาติเสียสะงันว่าต้องใช้1:200,000แน่นอน แม้ ในหลวงร.9เราถือใช้กางออกร่วมกับทหารแนวพรมแดนก็เป็นตกไป กระทรวงการต่างประเทศใหญ่กว่าในหลวงเรา ร.9เราที่ทรงใช้แผนที่1:50,000ตลอดการครองราชพระองค์ท่าน กระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าเสียเองแล้ว เป็นเจ้าของแผ่นดินไทยนี้เสียแล้ว เป็นผู้กำหนดแผ่นดินเขตแดนราชอาณาจักรไทยแล้วว่าต้องใช้อัตราเขตแดน1:200,000นะเพื่อเป็นประโยชน์แก่เขมร เป็นประโยชน์แก่อเมริกาฝรั่งเศสลากเส้นเขตแดนแดกบ่อน้ำมันในอ่าวไทยได้ รับตังมาแล้วต้องเร่งรีบตามแผนเดี๋ยวต่างชาติอเมริกาฝรั่งเศสdeep stateเอากูตาย ,ข้ามีอำนาจเต็มใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับต่างประเทศตลอดข้อตกลงต่างๆข้าเท่านั้นเป็นผู้อนุมัตและกำหนดกฎกติกาเงื่อนไขใดๆจะเข้าข้างต่างชาติจะทำไมทำอะไรกูได้เพราะกูมีอำนาจเต็มมือแล้วตอนนี้ คำโพสต์คำยืนยัน คำใดๆประกาศผ่านกูคือราชโองการโว้ย เขตแดนทั่วราชอาณาจักรไทยกูจะขีดจะรับกฎกติกาสมยอมเลียตีนใครก็เรื่องของกูเพราะกูใหญ่ กูจึงประกาศชัดเจนในที่นี้ว่าต้องใช้1:200,000เท่านั้น,ในประเทศไทยนี้ใครใหญ่กว่ากูตอนนี้ กูบอกยืนยันใช้ต้องใช้ตามกูบอก ,กูมีอเมริกาฝรั่งเศสหนุนหลังด้วยเรือจอดท่าเรียมแล้วเช่นนั้นกูไม่กล้าเจาะจงโพสต์วันนี้หรอกมันว่า. ..ในหลวงเรา ร.9 เสด็จพระราชกรณียกิจทั่วประเทศกางแผนที่กับทหารทั่วประเทศก็ใช้1:50,000 สคส.ก็ขีดวาดแผนที่1:50,000 แสดงว่ากระทรวงต่างประเทศไทยขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์สำเร็จราชการบนแผ่นดินไทยแน่นอนแล้ว สามารถสั่งการหนักแน่นว่าต้องใช้1:200,000เท่านั้น,ทั้งที่ปี2505เราประกาศไม่ยอมรับการตัดสินศาลผีบ้านี้แล้วพร้อมเสือกยื่นเสนอฝ่ายเดียวด้วย,ต้องโมฆะแผนที่นั้นอัตโนมัติตั้งแต่ปี2505แล้วซึ่งต้องเป็นไปในแบบนั้นถึงปัจจุบัน. ..สรุปใครก็ตามที่มีแนวคิดและโพสต์ความคิดเห็น แสดงวาจาว่าต้องใช้1:200,000 มันผู้นั้นคือศัตรูภัยร้ายทำลายแผ่นดินไทยประเทศไทยที่แท้จริง,มิอาจให้มันอยู่ร่วมแผ่นดินไทยนี้ต่อไปได้ กบฎทรยศอธิปไตยชาติไทยชัดเจน เจตนาทำให้สูญเสียดินแดนเขตอธิปไตยไทยแน่นอนแล้ว.,เพราะนั้นคือแผ่นดินไทยที่หายไปถึง1:150,000เลย,ซึ่งในหลวง ร.9เราใช้1:50,000 ,กระทรวงการต่างประเทศบกพร่องโดยทุจริตในใจชัดเจน ไม่ซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อประเทศชาติตน ไม่แสวงข้อเท็จจริงใดๆที่กูรูไทยมากมายรู้ต้นรู้ปลายสาเหตุและเกิดผลของปัญหา ขาดฝีมือมือไม่ถึง ขลาดเขลาหวาดกลัวต่อนักการเมืองและต่างชาติเสมือนพร้อมทรยศหักหลังทั้งสามารถเป็นหนอนบ่อนไส้เสียเองโดยง่ายให้ศัตรูรู้ความภายในตน, ไร้เกียรติไร้ศักดิ์สุดอัปยศและอัปรีย์จัญไรกว่าใดๆยุดใดสมัยใดที่มีกระทรวงการต่างประเทศในไทยเรา.,ไม่มีก็ได้ในเวลานี้กระทรวงแบบนี้,ยุบไปเลย,เรา..ประชาชนทั่วไทยมีคนเก่งมากความสามารถทั่วประเทศในเวลานี้ยุคนี้สามารถตั้งเป็นกระทรวงใหม่เพื่อเจรจาความต่างๆเชื่อมสัมพันธไมตรีต่อต่างชาติต่างประเทศทั่วโลกใหม่ได้และอาจรุ่งเรืองรุ่งโรจน์โคตรๆกว่าปัจจุบันอีก,เพราะรากเหง้าอิทธิพลทรามหยาบหนามึนคงเต็มกระทรวงเดิมแล้ว สามารถล้างบางทั้งหมดในคราวเดียวกัน,ตั้งชื่อกระทรวงว่า กระทรวงการรวมเพื่อนทั่วโลก ก็ว่าไป อนาคตใครคือศัตรูตัดสายสัมพันธ์เลย มีแต่เพื่อนๆร่วมปฏิสัมพันธ์กันเท่านั้น,ผีบ้าแบบปัจจุบันเป็นศัตรูแท้ๆก็ยังคบหาอยู่ ไม่เลือกคบนั้นเองจึงนำภัยวุ่นวายเข้าสู่ประเทศตนเองไม่ขาดสายมิใช่ความเจริญรุ่งเรืองสงบสันติสุขอะไรเลย,เจรจาผีบ้าผีบ้าก็ตกลงไปทั่วไร้สติปัญญาความามารถ แยกแยะถูกผิดชั่วเลวไม่เป็น,อะไรตนเสียเปรียบ อะไรตนเอาเปรียบเขาเกินงามก็ไม่กระทำเป็นต้น,เพื่อนมิตรประเทศแม้เขาเสียเปรียบไม่รู้ เราผู้รู้ก็ไม่สามารถเอาเปรียบเอาแต่ได้ในสิ่งที่รู้ได้,มิตรที่ดีก็ระวังภัยให้มิตรได้,แบบอเมริการู้ว่าเรามีน้ำมันมากมาย แต่ก็เอาเปรียบมากมายกับเราในสิ่งที่รู้, ..ยุบทิ้งกระทรวงการต่างประเทศเลย #กระทรวงการต่างประเทศมีไว้ทำไม. ..ใครที่เกี่ยวข้องในการสมยอมสนับสนุบใช้1:200,000 จัดอยู่ในโหมด ม.119ได้เลยสามารถให้ทนายแผ่นดินไทยฟ้องร้องดำเนินคดีเอาผิดไว้ก่อนได้เลย.ยิ่งเกี่ยวข้องในอำนาจหน้าที่ของตนแบบผู้ว่าฯสระแก้ว ที่กล้ามากเก่งมากต่อดินแดนอธิปไตยตนคนเหล่านี้ต้องพร้อมจ่ายราคาที่ตนกระทำออกมาอย่างแสนแพง,ยิ่งรับรู้และเก็บรวบรวมข้อมูลมามาดมายหลายทศวรรตยิ่งต้องจ่ายราคาแพงและแสนแพงในผลการกระทำของตนที่กล้าหาญท้าทายพระราชอำนาจกษัตริย์เราที่ใช้1:50,000ทั่วราชอาณาจักร,ใดๆทั้งหมดทั้งสิ้นต้องตกไปทั้งหมดแม้อำนาจศาลสูงสุดขึ้นบัลลังก์ว่าความ อื่นๆใดก็ต้องตกไป ไม่สามารถใช้บังคับได้ นอกจาก1:50,000เท่านั้น.เพราะนี้คืออัตราส่วนที่ในหลวงเรา ร.9ใช้จริงบนผืนแผ่นดินไทยเรานี้ทุกๆพระองค์ท่านแน่นอน. https://youtube.com/watch?v=vTKbeqvv0RA&si=QtfSpJJWdJy9bEa5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย นำคณะลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จุดที่มวลชนชาวกัมพูชารวมกลุ่มร้องรื้อรั้วลวดหนาม ชี้หมู่บ้านเขมรล้ำเข้ามา ไม่ว่าจะใช้เส้นเขตแดนของไทยหรือกัมพูชาก็ล้ำอยู่ดี จี้สองพ่อลูกตระกูลฮุนลงมาดูแลด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นทหารไทยมีสิทธิ์โดยชอบธรรม ขับไล่ออกจากแผ่นดินไทย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081336

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย นำคณะลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จุดที่มวลชนชาวกัมพูชารวมกลุ่มร้องรื้อรั้วลวดหนาม ชี้หมู่บ้านเขมรล้ำเข้ามา ไม่ว่าจะใช้เส้นเขตแดนของไทยหรือกัมพูชาก็ล้ำอยู่ดี จี้สองพ่อลูกตระกูลฮุนลงมาดูแลด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นทหารไทยมีสิทธิ์โดยชอบธรรม ขับไล่ออกจากแผ่นดินไทย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081336 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 407 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย นำคณะลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จุดที่มวลชนชาวกัมพูชารวมกลุ่มร้องรื้อรั้วลวดหนาม ชี้หมู่บ้านเขมรล้ำเข้ามา ไม่ว่าจะใช้เส้นเขตแดนของไทยหรือกัมพูชาก็ล้ำอยู่ดี จี้สองพ่อลูกตระกูลฮุนลงมาดูแลด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นทหารไทยมีสิทธิ์โดยชอบธรรม ขับไล่ออกจากแผ่นดินไทย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000081336

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย นำคณะลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จุดที่มวลชนชาวกัมพูชารวมกลุ่มร้องรื้อรั้วลวดหนาม ชี้หมู่บ้านเขมรล้ำเข้ามา ไม่ว่าจะใช้เส้นเขตแดนของไทยหรือกัมพูชาก็ล้ำอยู่ดี จี้สองพ่อลูกตระกูลฮุนลงมาดูแลด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นทหารไทยมีสิทธิ์โดยชอบธรรม ขับไล่ออกจากแผ่นดินไทย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000081336 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 815 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าจริง,ชาวบ้านหนองจานกับทนายมีดีอาจเอาผิดข้าราชการหลายระดับถึงสูงได้เลย,ไม่ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนออกมาพูดชี้นำชาวเขมรให้บุกเข้ายึดดินแดนไทยอย่างหน้าหนาหน้ามึนต่อไปได้ สนับสนุนชี้ช่องว่าที่ดินนี้ไร้เจ้าของ เขมรมีสิทธิ์ในการทำกินนี้ชอบธรรมได้อาจเสมือนเจตนามอบดินแดนให้เขมรเป็นนัยๆ,สมยอมสามารถต่อยอดลากเส้นเขตแดนกินเนื้อที่อ่าวไทยต่อไปได้อีก.,ม.157 119 เต็ม.
    https://youtube.com/shorts/SRhRrD4shGc?si=JjdX85dcGIdfHjMg
    ถ้าจริง,ชาวบ้านหนองจานกับทนายมีดีอาจเอาผิดข้าราชการหลายระดับถึงสูงได้เลย,ไม่ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนออกมาพูดชี้นำชาวเขมรให้บุกเข้ายึดดินแดนไทยอย่างหน้าหนาหน้ามึนต่อไปได้ สนับสนุนชี้ช่องว่าที่ดินนี้ไร้เจ้าของ เขมรมีสิทธิ์ในการทำกินนี้ชอบธรรมได้อาจเสมือนเจตนามอบดินแดนให้เขมรเป็นนัยๆ,สมยอมสามารถต่อยอดลากเส้นเขตแดนกินเนื้อที่อ่าวไทยต่อไปได้อีก.,ม.157 119 เต็ม. https://youtube.com/shorts/SRhRrD4shGc?si=JjdX85dcGIdfHjMg
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • มันไม่เกี่ยวแล้ว รบกันแล้ว ถือว่าตลอดแนวพรมแดนมันคือช่วงความชอบธรรมจังหวะทั้งหมดในการถีบชาวบ้านเขมรออกจากพื้นที่ชายแดนไทยภายใน24ชม.ที่ติดพรมแดนและยึดครอบครองอยู่อาศัยทำกินบนแผ่นดินไทยมานานแบบบ้านหนองจาน เขมรต้องออกจากพื้นที่ไทยเดินเข้าไปฝั่งเขมรมรึงทันทีภายใน24ชม.คือวันที่24,25ต้องไม่มีคนชาวบ้านเขมรอยู่บนแผ่นดินที่เป็นข้อปะทะทางชายแดนขณะนี้ ทหารเขมรปะทะหรือไม่ไม่ใช่ประเด็นแล้วเพราะเรายิงกันที่อีสานใต้แล้ว หน้าที่ภาค1ไล่เขมรออกจากแผ่นดินไทยโดยชอบแล้วในจังหวะ ขนาดมันยังยิงที่ตราดเลย,นั้นแสดงว่าตลอดพรมแดนคือแนวรบแนวถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยทั้งหมด,และเข้าใจว่า มีการสั่งสื่อหรือบีบสื่อห้ามนำเสนอคนเขมรแถวบ้านหนองจานหรือสระแก้วด้วยเพื่อปกป้องผลประโยชน์กับเขมรที่มีมานาน หักเหความสนใจอย่ามาแตะแถวนี้นั้นเอง,ถ้าทำจริงจะไม่มีเหตุการณ์แบบปัจจุบันที่เขมรพาพวกผีบ้ามาถ่ายรูปหลักหมุดเสาสยามในฝั่งมันแน่นอนและไม่ผีบ้าวางรั้วลาดหนามห่างจากเสาหมุดจุดเขตสยามกว่า200เมตรหรือ500เมตรแบบทั้ง อ.วีระ มีรูปหลักฐานโชว์ชัดเจน อาสนธิเหยียบปากความเท็จอีกดอกแน่,นี้คือข้อหาเจตนาจงใจทำให้เราสูญเสียดินแดนอธิปไตยชัดเจนมาก หากไม่คาจุดหลักหมุดเสาซีเมนต์สยามเราจะถูกเขมรเอาเคลมเป็นหลักฐานว่าจากรั้วลวดหนามเข้าไปฝั่งมันเป็นของเขมรกูทั้งหมดนะ แต่เสือกตำตาคาเสาหมุเขตแดนเขียนว่าสยามเหยียบหน้ามันก็ว่าจึงอ้างเอาดินแดนไทยอีกไม่ได้,นี้คือการปล่อยควายปล่อยวัวปล่อยหมูและปล่อยไก่ให้มันได้แดกได้ที่ดินแผ่นดินไทยชัดเจน ตลอดเมื่อปล่อยไก่อ้างเป็นของมันชัดเจนก็จะอ้างเส้นเขตแดนนี้ใหม่โดยสมบูรณ์เพื่อลากเขตแดนใหม่นี้ลงอ่าวไทย ได้แดกบ่อน้ำมันในอ่าวไทยสมใจเพราะเขตแดนเก่าถ้าไม่อำนวยแบบนี้จะขีดจะลากลงอ่าวไทยแดก10ล้านล้านบาทไม่ได้ของทรัพยากรน้ำมันไทย,เพราะไม่ต้องอ้างอีสานใต้อีกก็ว่า.หักเหความสนใจให้คนสนใจอีสานใต้แต่แผนจริงจะยึดล้ำเขตแดนเข้าไปให้เป็น1:200,000ให้ได้แบบเงียบๆ ซึ่ง อ.วีระ พูดชัดว่า แนวรั้วลวดหนามที่ภาค1วางนีัใกล้เคียง1:200,000มาก แค่นี้เด็ก8ขวบก็รู้แล้ว กบฎชัดเจน.



    https://youtube.com/shorts/h-S1H7dKq4Y?si=gNjyuMXMS1ycxQck
    มันไม่เกี่ยวแล้ว รบกันแล้ว ถือว่าตลอดแนวพรมแดนมันคือช่วงความชอบธรรมจังหวะทั้งหมดในการถีบชาวบ้านเขมรออกจากพื้นที่ชายแดนไทยภายใน24ชม.ที่ติดพรมแดนและยึดครอบครองอยู่อาศัยทำกินบนแผ่นดินไทยมานานแบบบ้านหนองจาน เขมรต้องออกจากพื้นที่ไทยเดินเข้าไปฝั่งเขมรมรึงทันทีภายใน24ชม.คือวันที่24,25ต้องไม่มีคนชาวบ้านเขมรอยู่บนแผ่นดินที่เป็นข้อปะทะทางชายแดนขณะนี้ ทหารเขมรปะทะหรือไม่ไม่ใช่ประเด็นแล้วเพราะเรายิงกันที่อีสานใต้แล้ว หน้าที่ภาค1ไล่เขมรออกจากแผ่นดินไทยโดยชอบแล้วในจังหวะ ขนาดมันยังยิงที่ตราดเลย,นั้นแสดงว่าตลอดพรมแดนคือแนวรบแนวถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยทั้งหมด,และเข้าใจว่า มีการสั่งสื่อหรือบีบสื่อห้ามนำเสนอคนเขมรแถวบ้านหนองจานหรือสระแก้วด้วยเพื่อปกป้องผลประโยชน์กับเขมรที่มีมานาน หักเหความสนใจอย่ามาแตะแถวนี้นั้นเอง,ถ้าทำจริงจะไม่มีเหตุการณ์แบบปัจจุบันที่เขมรพาพวกผีบ้ามาถ่ายรูปหลักหมุดเสาสยามในฝั่งมันแน่นอนและไม่ผีบ้าวางรั้วลาดหนามห่างจากเสาหมุดจุดเขตสยามกว่า200เมตรหรือ500เมตรแบบทั้ง อ.วีระ มีรูปหลักฐานโชว์ชัดเจน อาสนธิเหยียบปากความเท็จอีกดอกแน่,นี้คือข้อหาเจตนาจงใจทำให้เราสูญเสียดินแดนอธิปไตยชัดเจนมาก หากไม่คาจุดหลักหมุดเสาซีเมนต์สยามเราจะถูกเขมรเอาเคลมเป็นหลักฐานว่าจากรั้วลวดหนามเข้าไปฝั่งมันเป็นของเขมรกูทั้งหมดนะ แต่เสือกตำตาคาเสาหมุเขตแดนเขียนว่าสยามเหยียบหน้ามันก็ว่าจึงอ้างเอาดินแดนไทยอีกไม่ได้,นี้คือการปล่อยควายปล่อยวัวปล่อยหมูและปล่อยไก่ให้มันได้แดกได้ที่ดินแผ่นดินไทยชัดเจน ตลอดเมื่อปล่อยไก่อ้างเป็นของมันชัดเจนก็จะอ้างเส้นเขตแดนนี้ใหม่โดยสมบูรณ์เพื่อลากเขตแดนใหม่นี้ลงอ่าวไทย ได้แดกบ่อน้ำมันในอ่าวไทยสมใจเพราะเขตแดนเก่าถ้าไม่อำนวยแบบนี้จะขีดจะลากลงอ่าวไทยแดก10ล้านล้านบาทไม่ได้ของทรัพยากรน้ำมันไทย,เพราะไม่ต้องอ้างอีสานใต้อีกก็ว่า.หักเหความสนใจให้คนสนใจอีสานใต้แต่แผนจริงจะยึดล้ำเขตแดนเข้าไปให้เป็น1:200,000ให้ได้แบบเงียบๆ ซึ่ง อ.วีระ พูดชัดว่า แนวรั้วลวดหนามที่ภาค1วางนีัใกล้เคียง1:200,000มาก แค่นี้เด็ก8ขวบก็รู้แล้ว กบฎชัดเจน. https://youtube.com/shorts/h-S1H7dKq4Y?si=gNjyuMXMS1ycxQck
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุป เดชา นฤอะไรนี้กับวาสนา นาอะไรนี้ กำลังช่วยเข้าข้างแม่ทัพภาคที่1ใช่มั้ย,แก้ต่างชัดเจนมากแล้วความจริงคืออะไรล่ะ,ความจริงก็เห็นกับตาประจักษ์ชัด อ.วีระ จะพูดโกหกหน้าด้านๆแลกกับชื่อเสียงตัวเองเหรอ ,ผีบ้าอะไรช่องวางเขตแดนห่าเหวเหี้ยนนี้มันยาวขนาดนี้,รั้วจีนรั้วเวียดนามมันยังบอกว่าฝั่งนี้ของเวียดนาม อีกฝั่งรกๆขึ้นติดรั้วเวียดนามคือฝั่งเขมร,มันก็ไม่ได้บอกว่าห่างออกไป500เมตรนับจากรั้วคือดินแดนเขมรนะ,อ้างผีบ้าอะไร ไว้ๆห่างๆกันจะดูข้าศึกรุกรานทันพะนะ ไว้ดูเขารุกรานเพื่อจะตั้งรับมือได้ทันหากเขาเดินมาเหรอ ไว้เจรจาเหรอ มีพื้นที่ช่องว่างเดินมาเจรจากัน คนไทยทั้งประเทศหมุดปักพื้นที่โฉนดกันยังไม่ห่างเป็นครึ่งกิโลเมตรแบบอาสนธิว่าห่างกว่า500เมตรโน้น เหี้ยเขมรยิ่งสมควรสรั่งบ้านเรือนพวกมรึงทุกๆตัวห่างจากเสาหมุดเขตแดนสยามเขมรนี้นับไป500เมตรเช่นกัน เหี้ยมาสร้างติดเขตแดนทำพ่องมรึงอะไรถึงปัจจุบัน ตึกสูงๆสร้างติดรั้วลวดหนามโน้น ต้องทุบทำลายทิ้ง ห้ามมีสิ่งปลูกสร้างใดๆในรัศมีห่างจากเขตเสาหมุดแดน500เมตรสิ,ทหารโดยแม่ทัพภาค1ต้องโชว์ตัวออกมาประกาศผ่านสื่อให้คนเขมรย้ายออกทันทีจากพื้นที่ช่องวางนี้,ไม่ทำระเบิดทิ้งทันที เผาทิ้งทันที คนเขมรลุกล้ำมายองทิ้งทันที., อ.วีระยิ่งโหด มรึงล้อมรั้วจะตรงจะใกล้เคียงอะไรกับมาตรา1:200,000ขนาดนั้นโน้น, จริงๆขี้หมาถ้าห่างจากเสาเขตแดนก็สูงสุดแค่บวกลบไม่เกิน3-4เมตรแค่นั้นล่ะ,พิกัดดาวเทียมบวกลบไม่เกิน0.01ซม.แล้วตอนนี้.หรือบวกลบไม่เกิน1ซม.ก็ได้,นี้ห่างจากเสาหมุดเขียนว่าสยามอีกตั้ง500เมตรแบบอาสนธิพูด ใกล้เคียงอัตรา1:200,000อย่างที่เขมรมันต้องการอีก นี้เขาเรียกว่าสมยอม เจตนาเปิดช่องชี้ช่องให้เขมรอ้างเอาดินแดนได้เลยนะ ถ้าไม่มีเสาเขตแดนสยาทปักอยู่มันจะบอกฝรั่งว่าตั้งแต่ที่ทหารไทยวางรั้วลวดหนามคือดินแดนเขมรทั้งหมดแล้วนะ สื่อจงเป็นพยานหลักฐานด้วย เวลากางอ้างแผนที่1:200,000มันก็จะอ้างหลักฐานนี้ที่สมยอมฝั่งไทยว่านี้ไงล่ะทหารไทยยังวางรั้วลวดหนามยอมรับเขตดินแดนในอัตรา1:200,000แล้วไงเหมือนแผนที่ทางเขมรทำไว้พอดีเลย จึงลากเส้นเขตแดนโดยชอบธรรมทางทะเลอ่าวไทยตามที่เขียนตกลงกันไว้แล้วด้วย ไทยจะไม่ตกลงตามข้อตกลงไม่ได้,นี้ไง คือการวางรั้วลวดหนามให้สมยอมเขมรมัน,แล้วมันก็มาตีข่าวสับสนว่าต้องรื้อลวดหนามออกตลอดแนวพรมแดน แต่ในความเป็นจริงเขาให้รื้อลวดหนามเฉพาะรััวลวดหนามผีบ้านี้ที่จะสมคบคิดยินยอมเจตนาทำให้ไทยตนสูญเสียอธิปไตยดินแดนผ่านมุกว่าวางรั้วลวดนามแบบทำนองนี้ล่ะโดยแม่ทัพภาคที่1และคณะทีมบัญชาการทั้งหมดต้องเจอ ม.119และม.157แน่นอน รวมอื่นๆที่จัดการฟ้องคดีแบบชาวขอนแก่นอัพเรเวลช่วยภูมิธรรมให้แบบนั่นล่ะ.
    ..
    ..คลิปนี้แฉชัดเจนจริงแล้ว,เป็นความจริงของแท้.,ไส้ศึกกบฎและคนทรยศในยุคนี้สมควรจบจริงๆในรุ่นเรา,อย่าส่งต่อพวกมันสู่ยุครุ่นลูกรุ่นหลานเราอีกเลย,กำจัดและกวาดล้างกันจริงๆเถอะ,นี้คือสงครามระหว่างผู้รักชาติไทยทหารพระราชากับพวกกบฎเข้าด้วยกับศัตรูคนต่างชาติขนาดใหญ่ทายาทอสูร2475จริงๆ.


    https://youtube.com/watch?v=3bhoE33ua1g&si=HJcxo8rfY8FWB-bh
    สรุป เดชา นฤอะไรนี้กับวาสนา นาอะไรนี้ กำลังช่วยเข้าข้างแม่ทัพภาคที่1ใช่มั้ย,แก้ต่างชัดเจนมากแล้วความจริงคืออะไรล่ะ,ความจริงก็เห็นกับตาประจักษ์ชัด อ.วีระ จะพูดโกหกหน้าด้านๆแลกกับชื่อเสียงตัวเองเหรอ ,ผีบ้าอะไรช่องวางเขตแดนห่าเหวเหี้ยนนี้มันยาวขนาดนี้,รั้วจีนรั้วเวียดนามมันยังบอกว่าฝั่งนี้ของเวียดนาม อีกฝั่งรกๆขึ้นติดรั้วเวียดนามคือฝั่งเขมร,มันก็ไม่ได้บอกว่าห่างออกไป500เมตรนับจากรั้วคือดินแดนเขมรนะ,อ้างผีบ้าอะไร ไว้ๆห่างๆกันจะดูข้าศึกรุกรานทันพะนะ ไว้ดูเขารุกรานเพื่อจะตั้งรับมือได้ทันหากเขาเดินมาเหรอ ไว้เจรจาเหรอ มีพื้นที่ช่องว่างเดินมาเจรจากัน คนไทยทั้งประเทศหมุดปักพื้นที่โฉนดกันยังไม่ห่างเป็นครึ่งกิโลเมตรแบบอาสนธิว่าห่างกว่า500เมตรโน้น เหี้ยเขมรยิ่งสมควรสรั่งบ้านเรือนพวกมรึงทุกๆตัวห่างจากเสาหมุดเขตแดนสยามเขมรนี้นับไป500เมตรเช่นกัน เหี้ยมาสร้างติดเขตแดนทำพ่องมรึงอะไรถึงปัจจุบัน ตึกสูงๆสร้างติดรั้วลวดหนามโน้น ต้องทุบทำลายทิ้ง ห้ามมีสิ่งปลูกสร้างใดๆในรัศมีห่างจากเขตเสาหมุดแดน500เมตรสิ,ทหารโดยแม่ทัพภาค1ต้องโชว์ตัวออกมาประกาศผ่านสื่อให้คนเขมรย้ายออกทันทีจากพื้นที่ช่องวางนี้,ไม่ทำระเบิดทิ้งทันที เผาทิ้งทันที คนเขมรลุกล้ำมายองทิ้งทันที., อ.วีระยิ่งโหด มรึงล้อมรั้วจะตรงจะใกล้เคียงอะไรกับมาตรา1:200,000ขนาดนั้นโน้น, จริงๆขี้หมาถ้าห่างจากเสาเขตแดนก็สูงสุดแค่บวกลบไม่เกิน3-4เมตรแค่นั้นล่ะ,พิกัดดาวเทียมบวกลบไม่เกิน0.01ซม.แล้วตอนนี้.หรือบวกลบไม่เกิน1ซม.ก็ได้,นี้ห่างจากเสาหมุดเขียนว่าสยามอีกตั้ง500เมตรแบบอาสนธิพูด ใกล้เคียงอัตรา1:200,000อย่างที่เขมรมันต้องการอีก นี้เขาเรียกว่าสมยอม เจตนาเปิดช่องชี้ช่องให้เขมรอ้างเอาดินแดนได้เลยนะ ถ้าไม่มีเสาเขตแดนสยาทปักอยู่มันจะบอกฝรั่งว่าตั้งแต่ที่ทหารไทยวางรั้วลวดหนามคือดินแดนเขมรทั้งหมดแล้วนะ สื่อจงเป็นพยานหลักฐานด้วย เวลากางอ้างแผนที่1:200,000มันก็จะอ้างหลักฐานนี้ที่สมยอมฝั่งไทยว่านี้ไงล่ะทหารไทยยังวางรั้วลวดหนามยอมรับเขตดินแดนในอัตรา1:200,000แล้วไงเหมือนแผนที่ทางเขมรทำไว้พอดีเลย จึงลากเส้นเขตแดนโดยชอบธรรมทางทะเลอ่าวไทยตามที่เขียนตกลงกันไว้แล้วด้วย ไทยจะไม่ตกลงตามข้อตกลงไม่ได้,นี้ไง คือการวางรั้วลวดหนามให้สมยอมเขมรมัน,แล้วมันก็มาตีข่าวสับสนว่าต้องรื้อลวดหนามออกตลอดแนวพรมแดน แต่ในความเป็นจริงเขาให้รื้อลวดหนามเฉพาะรััวลวดหนามผีบ้านี้ที่จะสมคบคิดยินยอมเจตนาทำให้ไทยตนสูญเสียอธิปไตยดินแดนผ่านมุกว่าวางรั้วลวดนามแบบทำนองนี้ล่ะโดยแม่ทัพภาคที่1และคณะทีมบัญชาการทั้งหมดต้องเจอ ม.119และม.157แน่นอน รวมอื่นๆที่จัดการฟ้องคดีแบบชาวขอนแก่นอัพเรเวลช่วยภูมิธรรมให้แบบนั่นล่ะ. .. ..คลิปนี้แฉชัดเจนจริงแล้ว,เป็นความจริงของแท้.,ไส้ศึกกบฎและคนทรยศในยุคนี้สมควรจบจริงๆในรุ่นเรา,อย่าส่งต่อพวกมันสู่ยุครุ่นลูกรุ่นหลานเราอีกเลย,กำจัดและกวาดล้างกันจริงๆเถอะ,นี้คือสงครามระหว่างผู้รักชาติไทยทหารพระราชากับพวกกบฎเข้าด้วยกับศัตรูคนต่างชาติขนาดใหญ่ทายาทอสูร2475จริงๆ. https://youtube.com/watch?v=3bhoE33ua1g&si=HJcxo8rfY8FWB-bh
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพจ “กองทัพบก ทันกระแส”เปรียบเทียบภาพถ่ายทางอากาศ จุดวางลวดหนามบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ปี 2528 กับปัจจุบัน เห็นชัดเขมรบุกรุกเข้ามาตั้งหมู่บ้านทีหลัง พร้อมแจงเหตุไม่ล้อมรั้วตรงหลักหมุด เพราะแนวลวดหนามไม่ใช่เส้นเขตแดน เป็นแค่การสร้างความมั่นคงทางทหาร ตามข้อตกลงหลังปะทะ อยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000078338

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เพจ “กองทัพบก ทันกระแส”เปรียบเทียบภาพถ่ายทางอากาศ จุดวางลวดหนามบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ปี 2528 กับปัจจุบัน เห็นชัดเขมรบุกรุกเข้ามาตั้งหมู่บ้านทีหลัง พร้อมแจงเหตุไม่ล้อมรั้วตรงหลักหมุด เพราะแนวลวดหนามไม่ใช่เส้นเขตแดน เป็นแค่การสร้างความมั่นคงทางทหาร ตามข้อตกลงหลังปะทะ อยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000078338 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 673 มุมมอง 0 รีวิว
  • " ที่ปะทะกัน ลุงแม่ทัพก็ ขอแผ่นดินผมคืนละกัน ยึดคืนเกือบทั้งหมดใช้เวลา 5 วัน 4 คืน ได้มาเต็มที่แล้ว
    พี่ทหารของพวกเราทวงแผ่นดินคืน เช่นภูมะเขือได้พื้นที่คืนประมาณ 1 ตร.กม. และหลายพื้นที่เรายึดคืน ได้ตามเส้นเขตแดนอธิปไตยไทย "
    .
    พล.ท. บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2
    บรรยายพิเศษ “สาธิตเกษตรรวมใจสู่แนวหน้า ปลูกต้นกล้าแทนคุณแผ่นดิน”
    14 สิงหาคม 2568
    .
    #TruthFromThailand
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    " ที่ปะทะกัน ลุงแม่ทัพก็ ขอแผ่นดินผมคืนละกัน ยึดคืนเกือบทั้งหมดใช้เวลา 5 วัน 4 คืน ได้มาเต็มที่แล้ว พี่ทหารของพวกเราทวงแผ่นดินคืน เช่นภูมะเขือได้พื้นที่คืนประมาณ 1 ตร.กม. และหลายพื้นที่เรายึดคืน ได้ตามเส้นเขตแดนอธิปไตยไทย " . พล.ท. บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บรรยายพิเศษ “สาธิตเกษตรรวมใจสู่แนวหน้า ปลูกต้นกล้าแทนคุณแผ่นดิน” 14 สิงหาคม 2568 . #TruthFromThailand #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • สันเนินสันภูเขาสามารถแบ่งเส้นดินแดนได้ชัดเจน สันปันน้ำถูกต้องที่สุดแล้ว,ด้านไหลลงต่ำคือเขตแดนเขมร,ด้านสูงชันขึ้นมาทัังหมดตลอดแนวพรมแดนไทยเขมรคือส่วนเขตแดนไทยทั้งหมด ขีดเส้นง่ายมากแต่นักการเมืองนักปกครองทำให้ยากเองเพื่อทำมาหากินบนความไม่สงบนี้,ค้าอาวุธของต่างชาติด้วยก็ได้,

    ..เขตแดนจึงต้องแก้ด้วยกฎอัยการศึก,ทหารไทยต้องขีดเส้นเขตแดนด้วยมือตนเองเพราะนี้คือแผ่นดินไทย.



    https://youtube.com/shorts/E_d9roI5zzE?si=_31ett9DQ7ATPniL
    สันเนินสันภูเขาสามารถแบ่งเส้นดินแดนได้ชัดเจน สันปันน้ำถูกต้องที่สุดแล้ว,ด้านไหลลงต่ำคือเขตแดนเขมร,ด้านสูงชันขึ้นมาทัังหมดตลอดแนวพรมแดนไทยเขมรคือส่วนเขตแดนไทยทั้งหมด ขีดเส้นง่ายมากแต่นักการเมืองนักปกครองทำให้ยากเองเพื่อทำมาหากินบนความไม่สงบนี้,ค้าอาวุธของต่างชาติด้วยก็ได้, ..เขตแดนจึงต้องแก้ด้วยกฎอัยการศึก,ทหารไทยต้องขีดเส้นเขตแดนด้วยมือตนเองเพราะนี้คือแผ่นดินไทย. https://youtube.com/shorts/E_d9roI5zzE?si=_31ett9DQ7ATPniL
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • การใช้คำสั่งทางเทคนิค หรือ TI
    TI ย่อมาจาก “Technical Instructions” (ข้อกำหนดทางเทคนิค)
    เป็นเอกสารที่ คณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วมไทย–กัมพูชา (JTSC) ใช้ร่างขึ้นเพื่อกำหนดรายละเอียดวิธีปฏิบัติของ “ชุดสำรวจร่วม” ในการวัดพิกัด เส้นเขตแดน และการจัดทำแผนที่ในแต่ละพื้นที่


    ---

    ทำไม TI สำคัญ?

    เพราะ TI คือ “คู่มือภาคสนาม” ที่ระบุอย่างชัดเจนว่า:

    จะใช้ พิกัดจากระบบใด (GPS / Lidar / Orthophoto)

    จะวางแนวเขตตาม เส้นตรง, ลำน้ำ, หรือ แผนที่ฝรั่งเศส 1:200,000 ตาม TOR 2003

    จะให้ตำแหน่งของหลักเขตอยู่ที่ใด

    จะยอมรับ “ภาพถ่ายจากมุมสูง” หรือ “การตีเส้นแนวใหม่” อย่างไร

    และหากไม่มี ข้อสงวนสิทธิของไทย — จะกลายเป็นหลักฐานที่ “อาจใช้ฟ้องไทยในเวทีโลก” ได้



    ---

    ความเสี่ยงของ TI ถ้าคนไทยไม่รู้

    ประเด็น ความเสี่ยง

    TI ยึดแนวแผนที่ 1:200,000 (ฝรั่งเศสทำ) อาจยอมรับแนวเขตที่ “กินเข้ามาในฝั่งไทย” โดยไม่รู้ตัว
    หาก TI ไม่มีข้อสงวน จะถูกตีความว่า “ไทยยอมรับแนวเขตนั้น” โดยสมัครใจ
    TI ไม่ผ่านรัฐสภา ขัด ม.178 → แต่ ยังมีผลจริงในภาคสนาม หาก JTSC ลงนามและ JBC รับรอง
    ประชาชนไม่รู้ ทำให้ เกิดการเสียสิทธิโดยเงียบ ไม่สามารถทักท้วงได้ทันเวลา



    ---

    คนไทยควรรู้อะไรเกี่ยวกับ TI?

    1. TI กำหนดอนาคตของพรมแดนไทยแบบเงียบ ๆ


    2. TI ที่ไม่ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะ = เสี่ยงต่อการตัดสินใจแบบไม่โปร่งใส


    3. หากประชาชนไม่จับตา → ไทยอาจถูกลดเขตแดนทีละส่วน โดยไม่มีเสียงคัดค้าน




    ---

    บทสรุป:

    > “TI ไม่ใช่แค่เอกสารทางเทคนิค — แต่มันคือแผนที่อนาคตของชาติ”
    หากร่างโดยยอมรับแผนที่ที่ไม่เป็นธรรม = เรากำลังยอมมอบแผ่นดินให้โดยไม่รู้ตัว


    45 จุดที่ผ่านความเห็นชอบร่วมกันระหว่างไทย–กัมพูชาแล้วในการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 (14 กรกฎาคม 2567) และได้รับ การรับรองใน JBC ครั้งที่ 6 (14 มิถุนายน 2568) ถือเป็น "จุดเปลี่ยนสำคัญ" ที่คนไทย ต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพราะ:


    ---

    45 จุดนั้นคืออะไร?

    คือ จุดหลักเขตแดน (Boundary Pillars หรือ BPs) ที่คณะเทคนิคไทย–กัมพูชาได้ “ลงสำรวจภาคสนามร่วมกัน”

    ใช้ Orthophoto (ภาพถ่ายทางอากาศ) ผสานกับ LiDAR + GPS → แล้ว "ตีพิกัดร่วม"

    จุดที่เห็นพ้อง = ถือเป็นจุดที่อ้างอิงเขตแดนได้ในทางปฏิบัติ



    ---

    ความเสี่ยงจาก 45 จุดนี้

    ประเด็น ความเสี่ยง

    รับรองพิกัด หมายถึง ไทย–กัมพูชา ยอมรับร่วมกันแล้วว่า จุดนี้คือ “เขตแดน”
    ผูกพันตาม TI หาก TI ถูกเขียนทีหลัง โดยอิงกับ TOR2003 (แผนที่ 1:200,000) → จุดเหล่านี้จะผูกกับแนวเขตที่ อาจเข้าข้างแผนที่ฝรั่งเศส
    ไม่ผ่านรัฐสภา หากรับรองใน JBC แล้ว แต่ ไม่เข้าสภาตาม ม.178 → อาจผิดรัฐธรรมนูญ
    ไม่เผยแพร่แผนที่จริง ประชาชนยังไม่เห็นว่า “ทั้ง 45 จุดอยู่ตรงไหน” → เสี่ยงที่เราจะ “เสียทีละจุด” โดยไม่รู้ตัว
    บางจุดอยู่ในพื้นที่พิพาท เช่น บริเวณปราสาทตาเมือนธม / ปราสาทตาควาย / เขาสัตตะโสม ฯลฯ → หากตีพิกัดผิด = อธิปไตยอาจหลุดมือ



    ---

    ข้อเท็จจริงที่คุณต้องรู้

    การเห็นพ้องใน 45 จุด ไม่ได้หมายถึง “ตกลงเส้นเขตแดนทั้งเส้น”

    แต่ “หากมีการเขียน TI ต่อ” โดยไม่มี ข้อสงวน หรือ การนำเข้าสภา → 45 จุดนี้จะกลายเป็น “แนวเขตถาวรโดยพฤตินัย”



    ---

    คุณจะทำอะไรได้ตอนนี้?

    1. เรียกร้องให้เปิดเผยแผนที่ 45 จุดบนเว็บไซต์ของรัฐ


    2. ขอดู TI ที่กำลังร่าง จาก JTSC → ต้องเปิดเผยก่อนเข้าสู่ JBC ครั้งหน้า


    3. ยื่นผ่าน ส.ส. ให้ตั้ง กมธ.ตรวจสอบ


    4. ส่งต่อข้อมูลนี้ให้คนไทยรู้ ว่า “เราอาจยอมรับแนวเขต 45 จุด โดยไม่รู้ตัว”




    ---

    > “จุดที่เราไม่ทันระวัง คือจุดที่เราจะเสียแผ่นดิน”
    — นี่คือเหตุผลที่คุณตื่นรู้แล้วต้องไม่หยุดเคลื่อนไหว


    การใช้คำสั่งทางเทคนิค หรือ TI TI ย่อมาจาก “Technical Instructions” (ข้อกำหนดทางเทคนิค) เป็นเอกสารที่ คณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วมไทย–กัมพูชา (JTSC) ใช้ร่างขึ้นเพื่อกำหนดรายละเอียดวิธีปฏิบัติของ “ชุดสำรวจร่วม” ในการวัดพิกัด เส้นเขตแดน และการจัดทำแผนที่ในแต่ละพื้นที่ --- 📌 ทำไม TI สำคัญ? เพราะ TI คือ “คู่มือภาคสนาม” ที่ระบุอย่างชัดเจนว่า: ✅ จะใช้ พิกัดจากระบบใด (GPS / Lidar / Orthophoto) ✅ จะวางแนวเขตตาม เส้นตรง, ลำน้ำ, หรือ แผนที่ฝรั่งเศส 1:200,000 ตาม TOR 2003 ✅ จะให้ตำแหน่งของหลักเขตอยู่ที่ใด ✅ จะยอมรับ “ภาพถ่ายจากมุมสูง” หรือ “การตีเส้นแนวใหม่” อย่างไร ❌ และหากไม่มี ข้อสงวนสิทธิของไทย — จะกลายเป็นหลักฐานที่ “อาจใช้ฟ้องไทยในเวทีโลก” ได้ --- ⚠️ ความเสี่ยงของ TI ถ้าคนไทยไม่รู้ ประเด็น ความเสี่ยง TI ยึดแนวแผนที่ 1:200,000 (ฝรั่งเศสทำ) อาจยอมรับแนวเขตที่ “กินเข้ามาในฝั่งไทย” โดยไม่รู้ตัว หาก TI ไม่มีข้อสงวน จะถูกตีความว่า “ไทยยอมรับแนวเขตนั้น” โดยสมัครใจ TI ไม่ผ่านรัฐสภา ขัด ม.178 → แต่ ยังมีผลจริงในภาคสนาม หาก JTSC ลงนามและ JBC รับรอง ประชาชนไม่รู้ ทำให้ เกิดการเสียสิทธิโดยเงียบ ไม่สามารถทักท้วงได้ทันเวลา --- 🎯 คนไทยควรรู้อะไรเกี่ยวกับ TI? 1. TI กำหนดอนาคตของพรมแดนไทยแบบเงียบ ๆ 2. TI ที่ไม่ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะ = เสี่ยงต่อการตัดสินใจแบบไม่โปร่งใส 3. หากประชาชนไม่จับตา → ไทยอาจถูกลดเขตแดนทีละส่วน โดยไม่มีเสียงคัดค้าน --- 📣 บทสรุป: > “TI ไม่ใช่แค่เอกสารทางเทคนิค — แต่มันคือแผนที่อนาคตของชาติ” หากร่างโดยยอมรับแผนที่ที่ไม่เป็นธรรม = เรากำลังยอมมอบแผ่นดินให้โดยไม่รู้ตัว 45 จุดที่ผ่านความเห็นชอบร่วมกันระหว่างไทย–กัมพูชาแล้วในการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 (14 กรกฎาคม 2567) และได้รับ การรับรองใน JBC ครั้งที่ 6 (14 มิถุนายน 2568) ถือเป็น "จุดเปลี่ยนสำคัญ" ที่คนไทย ต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพราะ: --- 📌 45 จุดนั้นคืออะไร? คือ จุดหลักเขตแดน (Boundary Pillars หรือ BPs) ที่คณะเทคนิคไทย–กัมพูชาได้ “ลงสำรวจภาคสนามร่วมกัน” ใช้ Orthophoto (ภาพถ่ายทางอากาศ) ผสานกับ LiDAR + GPS → แล้ว "ตีพิกัดร่วม" จุดที่เห็นพ้อง = ถือเป็นจุดที่อ้างอิงเขตแดนได้ในทางปฏิบัติ --- ⚠️ ความเสี่ยงจาก 45 จุดนี้ ประเด็น ความเสี่ยง ✅ รับรองพิกัด หมายถึง ไทย–กัมพูชา ยอมรับร่วมกันแล้วว่า จุดนี้คือ “เขตแดน” ❗ ผูกพันตาม TI หาก TI ถูกเขียนทีหลัง โดยอิงกับ TOR2003 (แผนที่ 1:200,000) → จุดเหล่านี้จะผูกกับแนวเขตที่ อาจเข้าข้างแผนที่ฝรั่งเศส ❗ ไม่ผ่านรัฐสภา หากรับรองใน JBC แล้ว แต่ ไม่เข้าสภาตาม ม.178 → อาจผิดรัฐธรรมนูญ ❗ ไม่เผยแพร่แผนที่จริง ประชาชนยังไม่เห็นว่า “ทั้ง 45 จุดอยู่ตรงไหน” → เสี่ยงที่เราจะ “เสียทีละจุด” โดยไม่รู้ตัว ❗ บางจุดอยู่ในพื้นที่พิพาท เช่น บริเวณปราสาทตาเมือนธม / ปราสาทตาควาย / เขาสัตตะโสม ฯลฯ → หากตีพิกัดผิด = อธิปไตยอาจหลุดมือ --- 🛑 ข้อเท็จจริงที่คุณต้องรู้ การเห็นพ้องใน 45 จุด ไม่ได้หมายถึง “ตกลงเส้นเขตแดนทั้งเส้น” แต่ “หากมีการเขียน TI ต่อ” โดยไม่มี ข้อสงวน หรือ การนำเข้าสภา → 45 จุดนี้จะกลายเป็น “แนวเขตถาวรโดยพฤตินัย” --- ✊ คุณจะทำอะไรได้ตอนนี้? 1. เรียกร้องให้เปิดเผยแผนที่ 45 จุดบนเว็บไซต์ของรัฐ 2. ขอดู TI ที่กำลังร่าง จาก JTSC → ต้องเปิดเผยก่อนเข้าสู่ JBC ครั้งหน้า 3. ยื่นผ่าน ส.ส. ให้ตั้ง กมธ.ตรวจสอบ 4. ส่งต่อข้อมูลนี้ให้คนไทยรู้ ว่า “เราอาจยอมรับแนวเขต 45 จุด โดยไม่รู้ตัว” --- > 📣 “จุดที่เราไม่ทันระวัง คือจุดที่เราจะเสียแผ่นดิน” — นี่คือเหตุผลที่คุณตื่นรู้แล้วต้องไม่หยุดเคลื่อนไหว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 486 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ประเทศไทยเราน่าเศร้าใจจริงๆ มีคนทรยศมากเกินไป,ที่ไม่กล้ารบกับเขมรนั้นดีต่อชีวิตทหารเราและประชาชนฝั่งไทยเราแน่นอน ,แต่ความจริงอีกด้านอีกมุม คือคนทรยศไปทำมาหากินบนแผ่นดินเขมรไม่น้อยและเยอะพอสมควร เจ้าสัวก็ด้วยมิใช่แค่คนข้าราชการไทยเราที่50:50หรือ60:40คนชั่วไทยได้60,คนชั่วเขมรได้40 คนชั่วไทยยืมมือเขมรบุกรุกไทยในนามเขมรหมายทำประโยชน์ของคนชั่วเลวอย่างตนนั้นเอง,มีกูรูไทยเรามากมายออกมาแฉค่าจริงของกลุ่มอิทธิพลเลวสายทหารที่ทรยศและหากินในเขตพื้นที่สีเทานี้ตลอดหากินในเขตประเทศเขมรรวมทั้งหนีออกจากไทยหลบคดีต่างๆไปเขมรก็เป็นอันมากในสมุนคนรับใช้ของตนที่ก่อการในไทยใช้เสร็จก็หนีเข้าเขมรตลอดอดีตผู้นำเลวชั่วไทยและข้าราชการเลวชั่วไทยเป็นอันมากก็หนีไปพักตัวที่เขมรก่อนจึงหนีออกนอกอาเชียนออกไปอีกที,จริงๆจัดการเขมรไม่ยากอะไรเลยแค่ปิดพรมแดนตลอดเส้นเขตแดนทั้งหมดจะด่านถาวรหรือด่านชั่วคราวและสามารถใช้งบประมาณแผ่นดินปีละไม่กี่หมื่นล้านสร้างกำแพงปิดกันบริเวณที่สร้างได้ชั่วคราวมิให้เดินทาง/เข้าออกไทยง่ายๆทางธรรมชาติได้สะดวกซึ่งกับคนทรยศเนรคุณแบบเขมรเหมาะสมและสมควรตัดไฟแต่ต้นไว้ก่อน,พร้อมสั่งสอนจริงไปในตัวในเวลานีั,การค้าการขายเจ้าสัวคนใหญ่โตทั้งนั้นในบ้านในเมืองไปค้าขายกับมัน มันกลัวเสียผลประโยชน์นั้นล่ะ,เอกชนพวกนี้ไม่สนใจอะไรหรอก ชาติคือเสียงหัวเราะมัน,ไม่รวมนักการเมืองเลวข้าราชการชั่วไปลงทุนนั้นนี้โน้นด้วย,หากเอาชาติจริงๆจะจัดการเขมรเด็ดขาดได้,ไร้มาตรการใดๆในเวลานีั มันชัดเจนว่าปาหี่ สมคบคิดกันในระดับบน,จึงต้องยึดอำนาจแล้วจัดการนักเลือกตั้งนี้ทั้งหมดที่ทุนมากมายมาจากอีลิทเอกชนเจ้าสัวร่วมลงทุนในระบบการเลือกตั้งกาสส.เลือกนายกฯด้วย,นายทุนครอบงำอำนาจการตัดสินใจสั่งการต่างๆนั้นก็มีด้วยเช่นกัน,จึงเป็นอะไรที่ผิดปกติให้เห็นทั้งหมดในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาทั้งหมด,ไม่รวมมุกเบี่ยงเบนความสนใจด้านอื่นหักเหความสนใจอื่นเช่นเร่งให้ผ่านพรบ.บ่อนคาสิโน กฎหมายที่ซ่อนใต้พรมทั้งหมดด้วย คดีตัดสินโทนีก็ด้วย13มิ.ย.68นี้,ต้องเข้าใจว่าเข้าสนิทกันทางผลประโยชน์ชัดเจน ระหว่างครอบครัวโทนี่และครอบครัวฮุนเชน ตั้งแต่รุ่นพ่อจนรักษาหมายผลประโยชน์รุ่นลูก,พ่อไม่อยู่ครอบครัวโทนี่ก่อนเป็นนายกฯก็เดินทางพบปะกันเสมอ,จึงทางภาพลักษณ์มันชัดเจนว่าขาดคุณสมบัติต้องห้ามขึ้นมาเป็นผู้นำจริงๆ,ชาติไทยจึงไม่สงบสุขถึงปัจจุบัน วุ่นวายโกลาหลภายในประเทศไทยตลอดเวลา ไม่รวมเขมรเคยตกเป็นของชาติตะวันตกอีก ,เครื่องมือชาติตะวันตกของแท้ผ่านโทนี่จับมือผูกเอาไว้ด้วย,จีนนี้ไม่ใช่เลยแม้มาสร้างนั้นนี้จริงในเขมรตลอดให้ตังกู้ยืมยึดดินแดนเขมรสร้างท่าเรือจีน เขมรมันเกลียดจีนเข้าใส่จึงจับมือบอกนัยยะพึ่งฝรั่งไส้ศึกฝรั่งปกติผ่านจับมือกับโทนี่นั้นล่ะ(,หากตัดจีนdeep stateอีกไปเหลือจีนฝ่ายแสงนะ)โทนี่ เขมร ฝรั่งแบบกะให้ฝรั่งใช้ศาลโลกมาแทรกแซงยึดบ่อน้ำมันไทยก็ว่า,และประวัติศาสตร์ไทยถูกกระทรวงศึกษาดึงออกจากหลักสูตรชัดเจนมากนี้ก็แหล่งชั่วอีกตัว,มุสลิมเลวตรึมในระบบศึกษาเราหลบซ่อนหลังฉากทำลายทางลับก็ด้วยและเป็นเครื่องมือฝรั่งชั่วใช้ในนามมุสลิมมาทำลายไทยนี้ก็ใช่อีก,เรามีคนทรยศเยอะจริงๆ,ผู้นำผู้ปกครองคนใหม่จึงสำคัญมาก.
    ..
    ..https://youtu.be/KVJkZvlSjzg?si=BmXwepnLWEUcEXcS
    ..ประเทศไทยเราน่าเศร้าใจจริงๆ มีคนทรยศมากเกินไป,ที่ไม่กล้ารบกับเขมรนั้นดีต่อชีวิตทหารเราและประชาชนฝั่งไทยเราแน่นอน ,แต่ความจริงอีกด้านอีกมุม คือคนทรยศไปทำมาหากินบนแผ่นดินเขมรไม่น้อยและเยอะพอสมควร เจ้าสัวก็ด้วยมิใช่แค่คนข้าราชการไทยเราที่50:50หรือ60:40คนชั่วไทยได้60,คนชั่วเขมรได้40 คนชั่วไทยยืมมือเขมรบุกรุกไทยในนามเขมรหมายทำประโยชน์ของคนชั่วเลวอย่างตนนั้นเอง,มีกูรูไทยเรามากมายออกมาแฉค่าจริงของกลุ่มอิทธิพลเลวสายทหารที่ทรยศและหากินในเขตพื้นที่สีเทานี้ตลอดหากินในเขตประเทศเขมรรวมทั้งหนีออกจากไทยหลบคดีต่างๆไปเขมรก็เป็นอันมากในสมุนคนรับใช้ของตนที่ก่อการในไทยใช้เสร็จก็หนีเข้าเขมรตลอดอดีตผู้นำเลวชั่วไทยและข้าราชการเลวชั่วไทยเป็นอันมากก็หนีไปพักตัวที่เขมรก่อนจึงหนีออกนอกอาเชียนออกไปอีกที,จริงๆจัดการเขมรไม่ยากอะไรเลยแค่ปิดพรมแดนตลอดเส้นเขตแดนทั้งหมดจะด่านถาวรหรือด่านชั่วคราวและสามารถใช้งบประมาณแผ่นดินปีละไม่กี่หมื่นล้านสร้างกำแพงปิดกันบริเวณที่สร้างได้ชั่วคราวมิให้เดินทาง/เข้าออกไทยง่ายๆทางธรรมชาติได้สะดวกซึ่งกับคนทรยศเนรคุณแบบเขมรเหมาะสมและสมควรตัดไฟแต่ต้นไว้ก่อน,พร้อมสั่งสอนจริงไปในตัวในเวลานีั,การค้าการขายเจ้าสัวคนใหญ่โตทั้งนั้นในบ้านในเมืองไปค้าขายกับมัน มันกลัวเสียผลประโยชน์นั้นล่ะ,เอกชนพวกนี้ไม่สนใจอะไรหรอก ชาติคือเสียงหัวเราะมัน,ไม่รวมนักการเมืองเลวข้าราชการชั่วไปลงทุนนั้นนี้โน้นด้วย,หากเอาชาติจริงๆจะจัดการเขมรเด็ดขาดได้,ไร้มาตรการใดๆในเวลานีั มันชัดเจนว่าปาหี่ สมคบคิดกันในระดับบน,จึงต้องยึดอำนาจแล้วจัดการนักเลือกตั้งนี้ทั้งหมดที่ทุนมากมายมาจากอีลิทเอกชนเจ้าสัวร่วมลงทุนในระบบการเลือกตั้งกาสส.เลือกนายกฯด้วย,นายทุนครอบงำอำนาจการตัดสินใจสั่งการต่างๆนั้นก็มีด้วยเช่นกัน,จึงเป็นอะไรที่ผิดปกติให้เห็นทั้งหมดในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาทั้งหมด,ไม่รวมมุกเบี่ยงเบนความสนใจด้านอื่นหักเหความสนใจอื่นเช่นเร่งให้ผ่านพรบ.บ่อนคาสิโน กฎหมายที่ซ่อนใต้พรมทั้งหมดด้วย คดีตัดสินโทนีก็ด้วย13มิ.ย.68นี้,ต้องเข้าใจว่าเข้าสนิทกันทางผลประโยชน์ชัดเจน ระหว่างครอบครัวโทนี่และครอบครัวฮุนเชน ตั้งแต่รุ่นพ่อจนรักษาหมายผลประโยชน์รุ่นลูก,พ่อไม่อยู่ครอบครัวโทนี่ก่อนเป็นนายกฯก็เดินทางพบปะกันเสมอ,จึงทางภาพลักษณ์มันชัดเจนว่าขาดคุณสมบัติต้องห้ามขึ้นมาเป็นผู้นำจริงๆ,ชาติไทยจึงไม่สงบสุขถึงปัจจุบัน วุ่นวายโกลาหลภายในประเทศไทยตลอดเวลา ไม่รวมเขมรเคยตกเป็นของชาติตะวันตกอีก ,เครื่องมือชาติตะวันตกของแท้ผ่านโทนี่จับมือผูกเอาไว้ด้วย,จีนนี้ไม่ใช่เลยแม้มาสร้างนั้นนี้จริงในเขมรตลอดให้ตังกู้ยืมยึดดินแดนเขมรสร้างท่าเรือจีน เขมรมันเกลียดจีนเข้าใส่จึงจับมือบอกนัยยะพึ่งฝรั่งไส้ศึกฝรั่งปกติผ่านจับมือกับโทนี่นั้นล่ะ(,หากตัดจีนdeep stateอีกไปเหลือจีนฝ่ายแสงนะ)โทนี่ เขมร ฝรั่งแบบกะให้ฝรั่งใช้ศาลโลกมาแทรกแซงยึดบ่อน้ำมันไทยก็ว่า,และประวัติศาสตร์ไทยถูกกระทรวงศึกษาดึงออกจากหลักสูตรชัดเจนมากนี้ก็แหล่งชั่วอีกตัว,มุสลิมเลวตรึมในระบบศึกษาเราหลบซ่อนหลังฉากทำลายทางลับก็ด้วยและเป็นเครื่องมือฝรั่งชั่วใช้ในนามมุสลิมมาทำลายไทยนี้ก็ใช่อีก,เรามีคนทรยศเยอะจริงๆ,ผู้นำผู้ปกครองคนใหม่จึงสำคัญมาก. .. ..https://youtu.be/KVJkZvlSjzg?si=BmXwepnLWEUcEXcS
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 498 มุมมอง 0 รีวิว
  • รมต.กต.ถึงกรุงปารีสก่อนร่วมประชุม OECD พรุ่งนี้ เผยติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาใกล้ชิด สั่งปลัด กต รวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะข้อกฎหมาย เตรียมท่าทีสำหรับเจรจาในกรอบ JBC เร็วๆ นี้ ยันผู้นำกัมพูชาขอมติสภาส่งร้องศาลโลก เป็นสิทธิ์ ไม่กระทบคุย JBC เผยประท้วงกลับกัมพูชาแล้ว ย้ำไทยปฏิบัติตามหลักสากล ยึดหลักอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน

    เมื่อเวลา 11:00 น. วันที่ 2 มิ.ย.ตามเวลาประเทศฝรั่งเศส นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรี OECD ในระดับรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ พร้อมเผยถึง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าตน และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ต่อเนื่อง และได้สั่งการให้ปลัดกต.เรียกประชุมกรมกองที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาท่าทีในเรื่องนี้ โดยมอบนโยบายว่าเราจะต้องใช้ยุทธศาสตร์ที่เรามีทุกอย่าง ไปในทิศทางเดียวกัน ที่สำคัญที่สุด คืออยากจะเห็นนโยบายที่เราจะต้องเจรจา และหาทางแก้ไขปัญหานี้อย่างสันติ ไม่นำไปสู่การขยายตัวของความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตนไม่อยากเห็นว่าประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างยาวนาน สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ไม่ใช้กำลัง จึงเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นสิ่งที่นักการทูตจำเป็นจะต้องใช้

    อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ปลัด กต. ไปคุยกับกรมกองที่เกี่ยวข้องเพื่อไปรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านกฎหมาย รวมภาพถ่ายทั้งหลายเตรียมท่าทีสำหรับไปเจรจาโดยเร็วในกรอบของ JBC ซึ่งตัวนี้จะมีความสำคัญ เพราะเราสามารถเจรจาหาทางออกได้ ซึ่งจะได้หรือไม่ได้นั้นตนไม่สามารถที่จะการันตีได้ แต่ว่าเป็นกลไกสำคัญที่เรามีอยู่กับกัมพูชา ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ทั้งนี้ประเทศไทยได้ผลักดันกับทางกัมพูชา ที่จะขอให้มีการจัดการประชุม JBC โดยเร็วที่สุด ขณะนี้กัมพูชา จะต้องเป็นเจ้าภาพการประชุม แต่ตนก็ยืนยันไปด้วยว่า ถ้ากัมพูชายังไม่มีความพร้อม ประเทศไทยพร้อมจัด เนื่องจากเราเห็นความสำคัญของกลไกนี้ ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาใน 2 ด้าน 1. การลดความตึงเครียด ที่เกิดขึ้น และ 2. การมานั่งพูดคุยว่าเราจะกำหนด หรือหาทางแก้ไขเส้นเขตแดนระหว่างประเทศได้อย่างไร

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051893

    #MGROnline #ไทย #กัมพูชา
    รมต.กต.ถึงกรุงปารีสก่อนร่วมประชุม OECD พรุ่งนี้ เผยติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาใกล้ชิด สั่งปลัด กต รวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะข้อกฎหมาย เตรียมท่าทีสำหรับเจรจาในกรอบ JBC เร็วๆ นี้ ยันผู้นำกัมพูชาขอมติสภาส่งร้องศาลโลก เป็นสิทธิ์ ไม่กระทบคุย JBC เผยประท้วงกลับกัมพูชาแล้ว ย้ำไทยปฏิบัติตามหลักสากล ยึดหลักอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน • เมื่อเวลา 11:00 น. วันที่ 2 มิ.ย.ตามเวลาประเทศฝรั่งเศส นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรี OECD ในระดับรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ พร้อมเผยถึง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าตน และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ต่อเนื่อง และได้สั่งการให้ปลัดกต.เรียกประชุมกรมกองที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาท่าทีในเรื่องนี้ โดยมอบนโยบายว่าเราจะต้องใช้ยุทธศาสตร์ที่เรามีทุกอย่าง ไปในทิศทางเดียวกัน ที่สำคัญที่สุด คืออยากจะเห็นนโยบายที่เราจะต้องเจรจา และหาทางแก้ไขปัญหานี้อย่างสันติ ไม่นำไปสู่การขยายตัวของความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตนไม่อยากเห็นว่าประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างยาวนาน สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ไม่ใช้กำลัง จึงเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นสิ่งที่นักการทูตจำเป็นจะต้องใช้ • อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ปลัด กต. ไปคุยกับกรมกองที่เกี่ยวข้องเพื่อไปรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านกฎหมาย รวมภาพถ่ายทั้งหลายเตรียมท่าทีสำหรับไปเจรจาโดยเร็วในกรอบของ JBC ซึ่งตัวนี้จะมีความสำคัญ เพราะเราสามารถเจรจาหาทางออกได้ ซึ่งจะได้หรือไม่ได้นั้นตนไม่สามารถที่จะการันตีได้ แต่ว่าเป็นกลไกสำคัญที่เรามีอยู่กับกัมพูชา ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ทั้งนี้ประเทศไทยได้ผลักดันกับทางกัมพูชา ที่จะขอให้มีการจัดการประชุม JBC โดยเร็วที่สุด ขณะนี้กัมพูชา จะต้องเป็นเจ้าภาพการประชุม แต่ตนก็ยืนยันไปด้วยว่า ถ้ากัมพูชายังไม่มีความพร้อม ประเทศไทยพร้อมจัด เนื่องจากเราเห็นความสำคัญของกลไกนี้ ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาใน 2 ด้าน 1. การลดความตึงเครียด ที่เกิดขึ้น และ 2. การมานั่งพูดคุยว่าเราจะกำหนด หรือหาทางแก้ไขเส้นเขตแดนระหว่างประเทศได้อย่างไร • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051893 • #MGROnline #ไทย #กัมพูชา
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 424 มุมมอง 0 รีวิว
  • 37 ปี ยุทธการบ้านร่มเกล้า ไทย-ลาว ปะทะเดือด พิพาทเนิน 1428 สงครามบ่อแตน

    ย้อนไปเมื่อ 37 ปี ที่ผ่านมา “สมรภูมิร่มเกล้า” คือหนึ่งในเหตุการณ์ ความขัดแย้งทางทหาร ที่รุนแรงที่สุด ระหว่างไทยและลาว จุดศูนย์กลางของสงครามครั้งนี้คือ พื้นที่บ้านร่มเกล้า ต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ซึ่งเกิดการสู้รบ ระหว่างกองทัพไทย และกองทัพประชาชนลาว เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 นับเป็นเหตุการณ์ ที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหา การปักปันเขตแดน ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ จนถึงปัจจุบัน

    ต้นตอของความขัดแย้ง ปัญหาเขตแดนไทย-ลาว
    สนธิสัญญาปักปันเขตแดนสยาม-ฝรั่งเศส (2447-2450)
    ปัญหาการปะทะกัน ที่บ้านร่มเกล้า เกิดจากความคลาดเคลื่อน ในการตีความสนธิสัญญา ระหว่างราชอาณาจักรสยาม กับฝรั่งเศส (ขณะนั้น ลาวเป็นอาณานิคม ของฝรั่งเศส)

    ปี พ.ศ. 2447 และ พ.ศ. 2450 ไทยและฝรั่งเศส ได้ตกลงกำหนดเขตแดน โดยใช้แม่น้ำเหือง เป็นเส้นแบ่งระหว่างดินแดน ไทยและลาว อย่างไรก็ตาม "แม่น้ำเหือง" มี 2 สาย คือ
    - แม่น้ำเหืองป่าหมัน ต้นกำเนิดจากภูสอยดาว
    - แม่น้ำเหืองงา ต้นกำเนิดจากภูเมี่ยง

    ไทยอ้างว่า เส้นเขตแดนต้องใช้ "แม่น้ำเหืองงา" ตามต้นน้ำภูเมี่ยง
    ลาวอ้างว่า เส้นเขตแดนต้องใช้ "แม่น้ำเหืองป่าหมัน" ตามเส้นทางน้ำ ที่ไหลลงแม่น้ำโขง

    ความแตกต่างในการตีความนี้ ทำให้เกิดพื้นที่พิพาทกว่า 70 ตารางกิโลเมตร รวมถึงบริเวณบ้านร่มเกล้า ที่ทั้งสองประเทศอ้างสิทธิ์

    "บ้านร่มเกล้า" จุดยุทธศาสตร์ ที่นำไปสู่สงคราม
    การตั้งถิ่นฐานของชาวม้ง และการสัมปทานป่าไม้
    - พ.ศ. 2526 รัฐบาลไทยจัดตั้งหมู่บ้านร่มเกล้า เป็นที่อยู่ของชาวม้ง อดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ แห่งประเทศไทย (พคท.) ที่เข้าร่วมพัฒนาชาติ
    - พ.ศ. 2528 ไทยให้สัมปทานตัดไม้ในพื้นที่นี้ โดยกองทัพภาคที่ 3 ดูแล

    ลาวมองว่า ไทยเข้ามารุกล้ำพื้นที่ และให้กลุ่มม้ง ที่เคยต่อต้านรัฐบาลลาว เข้ามาตั้งถิ่นฐาน เป็นภัยต่อความมั่นคงของลาว

    ความตึงเครียดเพิ่มขึ้น นำไปสู่สงคราม
    - 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2530 ทหารลาวบุกโจมตี แคมป์ตัดไม้ของไทย ทำให้เกิดการปะทะครั้งแรก
    - 8 สิงหาคม พ.ศ. 2530 ทหารพรานไทย ปะทะกับทหารลาว 200-300 นาย ที่บ้านร่มเกล้า
    - ปลายปี พ.ศ. 2530 ทหารลาวสร้างฐานที่มั่น บนเนิน 1428 และเนิน 1182 ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ
    - 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 กองทัพบกไทยเริ่ม "ยุทธการบ้านร่มเกล้า" เพื่อตอบโต้

    สมรภูมิร่มเกล้า การรบที่ดุเดือดที่สุด ระหว่างไทย-ลาว
    ยุทธการบ้านร่มเกล้า ปฏิบัติการผลักดันทหารลาว
    - ไทยใช้กำลังทหารราบ ทหารม้า ทหารปืนใหญ่ และทหารพราน ในการโจมตี พร้อมส่งเครื่องบินรบ F-5E และ OV-10 โจมตีฐานที่มั่นลาว
    - ทหารลาวมีจรวดแซม และปืนต่อสู้อากาศยาน ทำให้เครื่องบินไทยถูกยิงตกไป 2 ลำ

    การสู้รบดำเนินไปอย่างดุเดือด เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ ไทยสามารถยึดคืนพื้นที่ได้ 70% แต่เนิน 1428 ยังคงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ยังตียึดไม่ได้

    กองทัพอากาศไทยสูญเสียเครื่องบิน
    F-5E ตก 1 ลำ
    OV-10 ตก 1 ลำ

    ไทยพยายามยึดเนิน 1428 แต่ลาวได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ ทำให้ไทยไม่สามารถรุกคืบไปได้

    การเจรจาหยุดยิง และบทสรุปของสงคราม
    19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 หยุดยิงและถอยทัพ
    - 11 กุมภาพันธ์ 2531 นายไกรสอน พรหมวิหาร นายกรัฐมนตรีลาว เสนอหยุดยิง
    - 16-17 กุมภาพันธ์ 2531 ผู้บัญชาการทหารของไทยและลาว เจรจากันที่กรุงเทพฯ
    - 19 กุมภาพันธ์ 2531 ตกลงหยุดยิง ถอยกำลังทหารฝ่ายละ 3 กิโลเมตร

    ความสูญเสียจากสมรภูมิร่มเกล้า
    - ทหารไทยเสียชีวิต 147 นาย, บาดเจ็บ 166 นาย
    - ทหารลาวคาดว่าเสียชีวิต 300-400 นาย, บาดเจ็บ 200-300 นาย
    - ไทยใช้งบประมาณ ในสงครามครั้งนี้กว่า 3,000 ล้านบาท

    37 ปี ผ่านไป เขตแดนยังไม่ชัดเจน
    แม้สงครามจะจบลงด้วยการเจรจา แต่ปัญหาเขตแดนไทย-ลาว ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน จนถึงปัจจุบัน สนธิสัญญาปี 2450 ยังถูกตีความต่างกัน ไทยและลาว ยังคงมีข้อพิพาทบางจุด ตามแนวชายแดน บทเรียนของสมรภูมิร่มเกล้า คือ ความสำคัญของการเจรจาทางการทูต แทนการใช้กำลังทหาร

    FAQ: คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับสมรภูมิร่มเกล้า
    สมรภูมิร่มเกล้า เกิดขึ้นเมื่อไหร่?
    เกิดขึ้นช่วง 1-19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531

    ทำไมไทยกับลาวถึงสู้รบกัน?
    เกิดจากความขัดแย้งเรื่อง เส้นเขตแดนบริเวณแม่น้ำเหือง ซึ่งไทยและลาว ตีความต่างกัน

    ไทยชนะสงครามนี้หรือไม่?
    ไทยสามารถยึดคืนพื้นที่ได้ 70% แต่ ไม่สามารถยึดเนิน 1428 ได้ ทำให้ไม่มีฝ่ายใดเป็นผู้ชนะ โดยสมบูรณ์

    ปัจจุบันไทย-ลาว ยังมีปัญหาชายแดนหรือไม่?
    ยังมีข้อพิพาทบางจุด แต่ปัจจุบันไทยและลาว เน้นการเจรจา แทนการใช้กำลัง

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 010707 ก.พ. 2568

    #สมรภูมิร่มเกล้า #สงครามไทยลาว #ประวัติศาสตร์ไทย #พิพาทชายแดน #ยุทธการบ้านร่มเกล้า #เนิน1428 #ไทยลาวสัมพันธ์ #ปักปันเขตแดน #แม่น้ำเหือง #สงครามบ่อแตน
    37 ปี ยุทธการบ้านร่มเกล้า ไทย-ลาว ปะทะเดือด พิพาทเนิน 1428 สงครามบ่อแตน ย้อนไปเมื่อ 37 ปี ที่ผ่านมา “สมรภูมิร่มเกล้า” คือหนึ่งในเหตุการณ์ ความขัดแย้งทางทหาร ที่รุนแรงที่สุด ระหว่างไทยและลาว จุดศูนย์กลางของสงครามครั้งนี้คือ พื้นที่บ้านร่มเกล้า ต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ซึ่งเกิดการสู้รบ ระหว่างกองทัพไทย และกองทัพประชาชนลาว เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 นับเป็นเหตุการณ์ ที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหา การปักปันเขตแดน ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ จนถึงปัจจุบัน 🔥 ต้นตอของความขัดแย้ง ปัญหาเขตแดนไทย-ลาว 📜 สนธิสัญญาปักปันเขตแดนสยาม-ฝรั่งเศส (2447-2450) ปัญหาการปะทะกัน ที่บ้านร่มเกล้า เกิดจากความคลาดเคลื่อน ในการตีความสนธิสัญญา ระหว่างราชอาณาจักรสยาม กับฝรั่งเศส (ขณะนั้น ลาวเป็นอาณานิคม ของฝรั่งเศส) ปี พ.ศ. 2447 และ พ.ศ. 2450 ไทยและฝรั่งเศส ได้ตกลงกำหนดเขตแดน โดยใช้แม่น้ำเหือง เป็นเส้นแบ่งระหว่างดินแดน ไทยและลาว อย่างไรก็ตาม "แม่น้ำเหือง" มี 2 สาย คือ - แม่น้ำเหืองป่าหมัน ต้นกำเนิดจากภูสอยดาว - แม่น้ำเหืองงา ต้นกำเนิดจากภูเมี่ยง ไทยอ้างว่า เส้นเขตแดนต้องใช้ "แม่น้ำเหืองงา" ตามต้นน้ำภูเมี่ยง ลาวอ้างว่า เส้นเขตแดนต้องใช้ "แม่น้ำเหืองป่าหมัน" ตามเส้นทางน้ำ ที่ไหลลงแม่น้ำโขง ความแตกต่างในการตีความนี้ ทำให้เกิดพื้นที่พิพาทกว่า 70 ตารางกิโลเมตร รวมถึงบริเวณบ้านร่มเกล้า ที่ทั้งสองประเทศอ้างสิทธิ์ 🔥 "บ้านร่มเกล้า" จุดยุทธศาสตร์ ที่นำไปสู่สงคราม 🏡 การตั้งถิ่นฐานของชาวม้ง และการสัมปทานป่าไม้ - พ.ศ. 2526 รัฐบาลไทยจัดตั้งหมู่บ้านร่มเกล้า เป็นที่อยู่ของชาวม้ง อดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ แห่งประเทศไทย (พคท.) ที่เข้าร่วมพัฒนาชาติ - พ.ศ. 2528 ไทยให้สัมปทานตัดไม้ในพื้นที่นี้ โดยกองทัพภาคที่ 3 ดูแล ลาวมองว่า ไทยเข้ามารุกล้ำพื้นที่ และให้กลุ่มม้ง ที่เคยต่อต้านรัฐบาลลาว เข้ามาตั้งถิ่นฐาน เป็นภัยต่อความมั่นคงของลาว 🔫 ความตึงเครียดเพิ่มขึ้น นำไปสู่สงคราม - 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2530 ทหารลาวบุกโจมตี แคมป์ตัดไม้ของไทย ทำให้เกิดการปะทะครั้งแรก - 8 สิงหาคม พ.ศ. 2530 ทหารพรานไทย ปะทะกับทหารลาว 200-300 นาย ที่บ้านร่มเกล้า - ปลายปี พ.ศ. 2530 ทหารลาวสร้างฐานที่มั่น บนเนิน 1428 และเนิน 1182 ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ - 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 กองทัพบกไทยเริ่ม "ยุทธการบ้านร่มเกล้า" เพื่อตอบโต้ 🔥 สมรภูมิร่มเกล้า การรบที่ดุเดือดที่สุด ระหว่างไทย-ลาว ⚔️ ยุทธการบ้านร่มเกล้า ปฏิบัติการผลักดันทหารลาว - ไทยใช้กำลังทหารราบ ทหารม้า ทหารปืนใหญ่ และทหารพราน ในการโจมตี พร้อมส่งเครื่องบินรบ F-5E และ OV-10 โจมตีฐานที่มั่นลาว - ทหารลาวมีจรวดแซม และปืนต่อสู้อากาศยาน ทำให้เครื่องบินไทยถูกยิงตกไป 2 ลำ 🔥 การสู้รบดำเนินไปอย่างดุเดือด เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ ไทยสามารถยึดคืนพื้นที่ได้ 70% แต่เนิน 1428 ยังคงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ยังตียึดไม่ได้ ✈️ กองทัพอากาศไทยสูญเสียเครื่องบิน F-5E ตก 1 ลำ OV-10 ตก 1 ลำ ไทยพยายามยึดเนิน 1428 แต่ลาวได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ ทำให้ไทยไม่สามารถรุกคืบไปได้ ✍️ การเจรจาหยุดยิง และบทสรุปของสงคราม 🤝 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 หยุดยิงและถอยทัพ - 11 กุมภาพันธ์ 2531 นายไกรสอน พรหมวิหาร นายกรัฐมนตรีลาว เสนอหยุดยิง - 16-17 กุมภาพันธ์ 2531 ผู้บัญชาการทหารของไทยและลาว เจรจากันที่กรุงเทพฯ - 19 กุมภาพันธ์ 2531 ตกลงหยุดยิง ถอยกำลังทหารฝ่ายละ 3 กิโลเมตร 💔 ความสูญเสียจากสมรภูมิร่มเกล้า - ทหารไทยเสียชีวิต 147 นาย, บาดเจ็บ 166 นาย - ทหารลาวคาดว่าเสียชีวิต 300-400 นาย, บาดเจ็บ 200-300 นาย - ไทยใช้งบประมาณ ในสงครามครั้งนี้กว่า 3,000 ล้านบาท ❓ 37 ปี ผ่านไป เขตแดนยังไม่ชัดเจน แม้สงครามจะจบลงด้วยการเจรจา แต่ปัญหาเขตแดนไทย-ลาว ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน จนถึงปัจจุบัน สนธิสัญญาปี 2450 ยังถูกตีความต่างกัน ไทยและลาว ยังคงมีข้อพิพาทบางจุด ตามแนวชายแดน บทเรียนของสมรภูมิร่มเกล้า คือ ความสำคัญของการเจรจาทางการทูต แทนการใช้กำลังทหาร 🔎 FAQ: คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับสมรภูมิร่มเกล้า ❓ สมรภูมิร่มเกล้า เกิดขึ้นเมื่อไหร่? 📌 เกิดขึ้นช่วง 1-19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 ❓ ทำไมไทยกับลาวถึงสู้รบกัน? 📌 เกิดจากความขัดแย้งเรื่อง เส้นเขตแดนบริเวณแม่น้ำเหือง ซึ่งไทยและลาว ตีความต่างกัน ❓ ไทยชนะสงครามนี้หรือไม่? 📌 ไทยสามารถยึดคืนพื้นที่ได้ 70% แต่ ไม่สามารถยึดเนิน 1428 ได้ ทำให้ไม่มีฝ่ายใดเป็นผู้ชนะ โดยสมบูรณ์ ❓ ปัจจุบันไทย-ลาว ยังมีปัญหาชายแดนหรือไม่? 📌 ยังมีข้อพิพาทบางจุด แต่ปัจจุบันไทยและลาว เน้นการเจรจา แทนการใช้กำลัง ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 010707 ก.พ. 2568 🔗 #สมรภูมิร่มเกล้า #สงครามไทยลาว #ประวัติศาสตร์ไทย #พิพาทชายแดน #ยุทธการบ้านร่มเกล้า #เนิน1428 #ไทยลาวสัมพันธ์ #ปักปันเขตแดน #แม่น้ำเหือง #สงครามบ่อแตน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1429 มุมมอง 0 รีวิว
  • ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ข่มขู่ใช้กำลังทหารเข้ายึดคลองปานามาและเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งเขาอ้างว่ามีความสำคัญต่อความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา ขณะเดียวกันก็ประกาศใช้มาตรการบีบบังคับทางเศรษฐกิจเพื่อผนวกแคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐอเมริกา
    .
    ภายหลังรัฐสภาสหรัฐฯประกาศรับรองอย่างเป็นทางการในวันอังคาร (7) ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้มีชัยในการเลือกตั้งซึ่งจัดขึ้นเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่าน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯผู้นี้ได้เชิญพวกผู้สื่อข่าวไปที่รีสอร์ตส่วนตัว มาร์-อา-ลาโก ของเขา ในรัฐฟลอริดา เพื่อประกาศโครงการลงทุนด้านเทคโนโลยีในสหรัฐฯมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ก่อนที่บรรยากาศของการแถลงข่าวจะเปลี่ยนไปจนคล้ายกับช่วงการหาเสียงอย่างรวดเร็ว
    .
    ทรัมป์ที่จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 ที่จะถึงนี้ เริ่มต้นด้วยการอวดอ้างว่า นับจากที่เขาชนะการเลือกตั้ง ความคิดของทั่วโลกก็เปลี่ยนไป และผู้คนจากประเทศต่างๆ โทรศัพท์มาขอบคุณเขา
    .
    มหาเศรษฐีจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผู้นี้ประกาศว่า จะเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโก เป็น “อ่าวอเมริกา” พร้อมขู่รีดภาษี ถ้าเม็กซิโกไม่จัดการปัญหาผู้อพยพลักลอบข้ามพรมแดนเข้าสู่อเมริกา
    .
    ทรัมป์ยังไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารเพื่อยึดเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนในอธิปไตยของเดนมาร์ก ตลอดจนคลองปานามา ที่เขาระบุว่าอยากได้มานานแล้ว ซ้ำยังวิพากษ์วิจารณ์อดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ผู้เพิ่งล่วงลับ ที่อนุญาตให้ปานามาเข้าควบคุมคลองปานามาแทนที่สหรัฐฯ เมื่อตอนที่เป็นประธานาธิบดี
    .
    เกี่ยวกับแคนาดาที่ทรัมป์คุยฟุ้งมาหลายหนแล้วว่า จะทำให้ประเทศนี้กลายเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกานั้น ล่าสุดเมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่า จะใช้กำลังทหารบุกแคนาดาหรือไม่ ว่าที่ประมุขทำเนียบขาวตอบว่า จะใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ และสำทับว่า การลบ “เส้นเขตแดนที่มนุษย์กำหนดขึ้น” ระหว่างพรมแดนอเมริกากับแคนาดาน่าจะเป็นผลดีต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ
    .
    แม้มีความยากลำบากที่จะแยกความแตกต่างระหว่างการมุ่งโอ้อวดและปล่อยมุกมุ่งสร้างอารมณ์ขันของทรัมป์ กับการมุ่งมั่นดำเนินนโยบายที่แท้จริง แต่การประกาศเหล่านี้อีกคำรบหนึ่งของเขา ก็ถูกมองว่า เป็นการตอกย้ำวาทกรรมเกี่ยวกับการขยายดินแดน และทำให้ถูกต่อต้านจากพวกประเทศที่ถูกพาดพิงถึง
    .
    เริ่มจากนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ที่ตอบโต้ว่า ไม่มีทางที่แคนาดาจะผนวกกับอเมริกา
    .
    ด้าน ฌาเวียร์ มาร์ติเนซ-อาชา รัฐมนตรีต่างประเทศปานามา ยืนกรานว่า อธิปไตยคลองปานามาเป็นสิ่งที่ไม่อาจต่อรองได้ และสำทับว่า ผู้ที่ควบคุมคลองปานามาในเวลานี้มีเพียงปานามาเท่านั้นและจะเป็นเช่นนี้ต่อไป ซึ่งเป็นการตอบโต้การกล่าวหาอย่างเป็นเท็จของทรัมป์ที่ว่า ปัจจุบันทหารจีนเป็นผู้ควบคุมคลองแห่งนี้ ที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกกับแปซิฟิก
    .
    ทั้งนี้ อเมริกาเป็นผู้ขุดคลองปานามา และตั้งแต่เมื่อ 25 ปีก่อนในสมัยประธานาธิบีดคาร์เตอร์ ได้ยินยอมมอบสิทธิในการควบคุมดูแลคืนให้รัฐบาลปานามา
    .
    ไม่เพียงเท่านั้น ทรัมป์ยังทำให้ยุโรปขุ่นเคืองด้วยการเสนอซื้อกรีนแลนด์ เกาะใหญ่ในอาร์กติกซึ่งปัจจุบันมีฐานทัพของอเมริกาตั้งอยู่ด้วย
    .
    ก่อนที่ทรัมป์จะพูดพาดพิงถึงกรีนแลนด์ในครั้งนี้ไม่กี่วัน โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของทรัมป์ได้เดินทางไปยังเกาะนี้ โดยระบุว่า เป็นทริปส่วนตัวและไม่มีกำหนดการพบกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแต่อย่างใด
    .
    กรีนแลนด์เป็นเขตปกครองตนเองของเดนมาร์กที่เป็นพันธมิตรของอเมริกา และสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต)
    .
    นายกรัฐมนตรีเมตเทอ เฟรเดริกเซน ของเดนมาร์ก แสดงปฏิกิริยาโดยให้สัมภาษณ์สถานีทีวี2 ของแดนโคนมว่า อเมริกาเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดและสำคัญที่สุดของเดนมาร์ก และเธอไม่เชื่อว่า อเมริกาจะใช้อำนาจทางทหารหรือเศรษฐกิจเพื่อเข้ายึดกรีนแลนด์
    .
    ไม่เพียงระรานดินแดนของหลายประเทศ ในการพูดคุยกับผู้สื่อข่าวครั้งนี้ ทรัมป์ยังโจมตีประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรื่องถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน ความขัดแย้งในยูเครนและซีเรีย รวมทั้งย้ำข้อกล่าวอ้างอย่างผิดข้อเท็จจริงที่ว่า ระหว่างที่ตนเองเป็นประธานาธิบดีสมัยแรกนั้น อเมริกา “ไม่เคยมีสงคราม”
    .
    เขายังกล่าวหาพวกเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวในปัจจบันพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางการเปลี่ยนผ่านอำนาจ โดยไม่เอ่ยถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ตั้งแต่เมื่อ 4 ปีที่แล้วจนกระทั่งถึงตอนนี้ ตัวเขาเองไม่เคยยอมรับว่าพ่ายแพ้การเลือกตั้งแก่ ไบเดน อีกทั้งไม่ยอมไปร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของไบเดน
    .
    ทรัมป์ยังกล่าวหาไบเดนว่า อยู่เบื้องหลังการฟ้องร้องทางกฎหมายมากมายหลายคดีที่ตนเองเผชิญอยู่ และขู่ว่า จะยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของผู้นำเดโมแครตในการห้ามการพัฒนาโครงการก๊าซและน้ำมันนอกชายฝั่งอเมริกา
    .
    ทรัมป์ปิดท้ายค่ำวันอังคารด้วยการโพสต์มีมภาพแคนาดาเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนสหรัฐฯอเมริกา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000002351
    ..............
    Sondhi X
    ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ข่มขู่ใช้กำลังทหารเข้ายึดคลองปานามาและเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งเขาอ้างว่ามีความสำคัญต่อความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา ขณะเดียวกันก็ประกาศใช้มาตรการบีบบังคับทางเศรษฐกิจเพื่อผนวกแคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐอเมริกา . ภายหลังรัฐสภาสหรัฐฯประกาศรับรองอย่างเป็นทางการในวันอังคาร (7) ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้มีชัยในการเลือกตั้งซึ่งจัดขึ้นเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่าน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯผู้นี้ได้เชิญพวกผู้สื่อข่าวไปที่รีสอร์ตส่วนตัว มาร์-อา-ลาโก ของเขา ในรัฐฟลอริดา เพื่อประกาศโครงการลงทุนด้านเทคโนโลยีในสหรัฐฯมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ก่อนที่บรรยากาศของการแถลงข่าวจะเปลี่ยนไปจนคล้ายกับช่วงการหาเสียงอย่างรวดเร็ว . ทรัมป์ที่จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 ที่จะถึงนี้ เริ่มต้นด้วยการอวดอ้างว่า นับจากที่เขาชนะการเลือกตั้ง ความคิดของทั่วโลกก็เปลี่ยนไป และผู้คนจากประเทศต่างๆ โทรศัพท์มาขอบคุณเขา . มหาเศรษฐีจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผู้นี้ประกาศว่า จะเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโก เป็น “อ่าวอเมริกา” พร้อมขู่รีดภาษี ถ้าเม็กซิโกไม่จัดการปัญหาผู้อพยพลักลอบข้ามพรมแดนเข้าสู่อเมริกา . ทรัมป์ยังไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารเพื่อยึดเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนในอธิปไตยของเดนมาร์ก ตลอดจนคลองปานามา ที่เขาระบุว่าอยากได้มานานแล้ว ซ้ำยังวิพากษ์วิจารณ์อดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ผู้เพิ่งล่วงลับ ที่อนุญาตให้ปานามาเข้าควบคุมคลองปานามาแทนที่สหรัฐฯ เมื่อตอนที่เป็นประธานาธิบดี . เกี่ยวกับแคนาดาที่ทรัมป์คุยฟุ้งมาหลายหนแล้วว่า จะทำให้ประเทศนี้กลายเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกานั้น ล่าสุดเมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่า จะใช้กำลังทหารบุกแคนาดาหรือไม่ ว่าที่ประมุขทำเนียบขาวตอบว่า จะใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ และสำทับว่า การลบ “เส้นเขตแดนที่มนุษย์กำหนดขึ้น” ระหว่างพรมแดนอเมริกากับแคนาดาน่าจะเป็นผลดีต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ . แม้มีความยากลำบากที่จะแยกความแตกต่างระหว่างการมุ่งโอ้อวดและปล่อยมุกมุ่งสร้างอารมณ์ขันของทรัมป์ กับการมุ่งมั่นดำเนินนโยบายที่แท้จริง แต่การประกาศเหล่านี้อีกคำรบหนึ่งของเขา ก็ถูกมองว่า เป็นการตอกย้ำวาทกรรมเกี่ยวกับการขยายดินแดน และทำให้ถูกต่อต้านจากพวกประเทศที่ถูกพาดพิงถึง . เริ่มจากนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ที่ตอบโต้ว่า ไม่มีทางที่แคนาดาจะผนวกกับอเมริกา . ด้าน ฌาเวียร์ มาร์ติเนซ-อาชา รัฐมนตรีต่างประเทศปานามา ยืนกรานว่า อธิปไตยคลองปานามาเป็นสิ่งที่ไม่อาจต่อรองได้ และสำทับว่า ผู้ที่ควบคุมคลองปานามาในเวลานี้มีเพียงปานามาเท่านั้นและจะเป็นเช่นนี้ต่อไป ซึ่งเป็นการตอบโต้การกล่าวหาอย่างเป็นเท็จของทรัมป์ที่ว่า ปัจจุบันทหารจีนเป็นผู้ควบคุมคลองแห่งนี้ ที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกกับแปซิฟิก . ทั้งนี้ อเมริกาเป็นผู้ขุดคลองปานามา และตั้งแต่เมื่อ 25 ปีก่อนในสมัยประธานาธิบีดคาร์เตอร์ ได้ยินยอมมอบสิทธิในการควบคุมดูแลคืนให้รัฐบาลปานามา . ไม่เพียงเท่านั้น ทรัมป์ยังทำให้ยุโรปขุ่นเคืองด้วยการเสนอซื้อกรีนแลนด์ เกาะใหญ่ในอาร์กติกซึ่งปัจจุบันมีฐานทัพของอเมริกาตั้งอยู่ด้วย . ก่อนที่ทรัมป์จะพูดพาดพิงถึงกรีนแลนด์ในครั้งนี้ไม่กี่วัน โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของทรัมป์ได้เดินทางไปยังเกาะนี้ โดยระบุว่า เป็นทริปส่วนตัวและไม่มีกำหนดการพบกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแต่อย่างใด . กรีนแลนด์เป็นเขตปกครองตนเองของเดนมาร์กที่เป็นพันธมิตรของอเมริกา และสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) . นายกรัฐมนตรีเมตเทอ เฟรเดริกเซน ของเดนมาร์ก แสดงปฏิกิริยาโดยให้สัมภาษณ์สถานีทีวี2 ของแดนโคนมว่า อเมริกาเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดและสำคัญที่สุดของเดนมาร์ก และเธอไม่เชื่อว่า อเมริกาจะใช้อำนาจทางทหารหรือเศรษฐกิจเพื่อเข้ายึดกรีนแลนด์ . ไม่เพียงระรานดินแดนของหลายประเทศ ในการพูดคุยกับผู้สื่อข่าวครั้งนี้ ทรัมป์ยังโจมตีประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรื่องถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน ความขัดแย้งในยูเครนและซีเรีย รวมทั้งย้ำข้อกล่าวอ้างอย่างผิดข้อเท็จจริงที่ว่า ระหว่างที่ตนเองเป็นประธานาธิบดีสมัยแรกนั้น อเมริกา “ไม่เคยมีสงคราม” . เขายังกล่าวหาพวกเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวในปัจจบันพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางการเปลี่ยนผ่านอำนาจ โดยไม่เอ่ยถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ตั้งแต่เมื่อ 4 ปีที่แล้วจนกระทั่งถึงตอนนี้ ตัวเขาเองไม่เคยยอมรับว่าพ่ายแพ้การเลือกตั้งแก่ ไบเดน อีกทั้งไม่ยอมไปร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของไบเดน . ทรัมป์ยังกล่าวหาไบเดนว่า อยู่เบื้องหลังการฟ้องร้องทางกฎหมายมากมายหลายคดีที่ตนเองเผชิญอยู่ และขู่ว่า จะยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของผู้นำเดโมแครตในการห้ามการพัฒนาโครงการก๊าซและน้ำมันนอกชายฝั่งอเมริกา . ทรัมป์ปิดท้ายค่ำวันอังคารด้วยการโพสต์มีมภาพแคนาดาเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนสหรัฐฯอเมริกา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000002351 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1918 มุมมอง 0 รีวิว
  • “นพดล ปัทมะ” คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนแรกของประเทศไทย ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ/ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    ณ บ้านพระอาทิตย์
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    ประเด็นที่  นายนพดล ปัทมะ อ้างว่า ปราสาทพระวิหารได้เป็นของกัมพูชาตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเมื่อปี พ.ศ.2505 แล้ว แถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา จึงไม่กระทบต่อประเทศไทยใดๆเกี่ยวกับปราสาทพระวิหารเป็นความจริงที่พูดไม่ครบเพราะ

    ประการแรก นายนพดลอาจจะไม่ได้ตระหนักว่า นายถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในเวลานั้นได้ยื่นหนังสือ “ข้อสงวนที่จะทวงคืนปราสาทพระวิหารในวันข้างหน้า” ถึงผู้รักษาการเลขาธิการสหประชาชาติเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 เอาไว้ด้วย โดยผู้รักษาการเลขาธิการสหประชาชาติก็ไม่มีข้อปฏิเสธใดๆ

    ข้อสงวนดังกล่าวเป็นการแสดงออกของรัฐบาลไทย ถึงความอยุติธรรมของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ 

    ข้อสงวนดังกล่าวไม่ได้อ้างข้อบทบัญญัติในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ แต่เมื่อฝ่ายไทยเพลี่ยงพล้ำในเวทีนี้ ฝ่ายไทยก็ไม่ได้เป็นสมาชิกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศอีกจนถึงปัจจุบัน และข้อสงวนของฝ่ายไทยนั้นก็ไม่ได้อ้างอิงข้อบทในกฎหมายของศาลยุติธรรมต่างประเทศในเวลานั้น หากแต่วันหนึ่งในวันข้างหน้าที่กฎหมายพัฒนา หรือเกิดสิทธิที่ถูกต้องเป็นธรรมขึ้น ก็พร้อมที่จะทวงคืนประสาทพระวิหารกลับคืนมาด้วย จึงเป็นการสงวนสิทธิ์ในอนาคตแบบไม่ได้กำหนดระยะเวลา

    ดังนั้น การอ้างว่าไทยได้แพ้ในคดีปราสาทพระวิหารไปแล้ว การลงนามในแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา จึงไม่ได้เป็นการยกปราสาทพระวิหารให้เป็นมรดกโลกของกัมพูชาฝ่ายเดียวนั้น จึงต้องตั้งคำถามว่ารัฐบาลไทยได้ละทิ้งข้อสงวนของไทยที่นายถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ในเวลานั้นได้ยื่นหนังสือ “ข้อสงวน” ถึงผู้รักษาการเลขาธิการสหประชาชาติเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 จริงหรือไม่?

     ประการที่สอง ประเด็นการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของตัวปราสาทวิหารนั้นจะไม่สามารถทำได้ หากไม่มีพื้นที่พัฒนา พื้นที่กันชน ซึ่งเป็นเรื่อง “แผ่นดิน” นอกเหนือจาก “ตัวปราสาทพระวิหาร” ตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เมื่อปี พ.ศ. 2505 จึงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนว่า มีการยินยอมจากฝ่ายไทยในแผนผัง(N1, N2, N3) ให้ตัวปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของกัมพูชาฝ่ายเดียวในแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชาได้อย่างไร โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา

    ความจริงเรื่องนี้ไม่ควรจะถกเถียงใดๆ อีกแล้ว เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 6-7/2511 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2551 ได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดสิ้นสุดไปแล้ว ในคดีที่สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า แถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา ฉบับลงวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2551 เป็นหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 หรือไม่ โดยปรากฏคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในหน้าที่ 23-24 ความตอนหนึ่งว่า

    “ส่วนเรื่องอาณาเขตของประเทศนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในบริเวณที่ยังมีข้อขัดแย้งกันอยู่ระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ การดำเนินการและการพิจารณาวินิจฉัยในเรื่องนี้จึงต้องกระทำอย่างรอบคอบ หากเป็นกรณีที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตของประเทศแล้ว ย่อมจะต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วรรคสองด้วย

    สำหรับคำแถลงการณ์ร่วม-กัมพูชา ฉบับลงวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551 นั้น แม้จะไม่ได้ปรากฏสาระสำคัญอย่างชัดเจนว่าเป็นหนังสือสัญญาที่มีบทเปลี่ยนแปลงเขตพื้นที่อันเป็นอาณาเขตของประเทศไทยก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาข้อบททั้งหมดในคำแถลงการณ์ร่วมประกอบกับแผนที่หรือแผนผังแนบท้ายซึ่งจัดทำขึ้นโดยประเทศกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว อันประกอบเป็นส่วนหนึ่งของคำแถลงการณ์ร่วมแล้ว จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าแผนที่ดังกล่าวได้กล่าวอ้างถึงพื้นที่ N.1 N.2 และ N.3 ได้ชัดเจนว่ามีบริเวณครอบคลุมส่วนใดของประเทศใดเป็นจำนวนเท่าใด ซึ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อผลกระทบเรื่องอาณาเขตของประเทศไทย อันเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนและอาจก่อให้เกิดข้อพิพาทระหว่างประเทศตอบไปภายหน้าได้ 

    ประกอบกับการที่ประเทศกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกนั้นมีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่เป็นประเด็นโต้เถียงกันในเรื่องของเส้นเขตแดนและขอบเขตที่ปราสาทตั้งอยู่ ทั้งเป็นประเด็นที่มีความเห็นแตกต่างกันทั้งทางด้านสังคมและการเมืองมาโดยตลอด

    การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการเจรจากับประเทศกัมพูชาก่อนที่จะได้มีการลงนามคำแถลงการร่วมดังกล่าว พึงเล็งเห็นได้ว่า การลงนามคำแถลงการณ์ร่วมไป ก็อาจก่อให้เกิดการแตกแยกกันทางด้านความคิดเห็นของคนในสังคมทั้งสองประเทศ อีกทั้งอาจก่อให้เกิดวิกฤติแก่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา อันมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางสังคมอย่างกว้างขวาง คำแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวจึงเป็นหนังสือสัญญาที่อาจมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตประเทศไทย จึงเป็นหนังสือสัญญาที่รัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรคสอง กำหนดให้ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา

    อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ศาลรัฐธรรมนูญจึงวินิจฉัยชี้ขาดว่า คำแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา หรือ Joint Communiqe’ ฉบับลงวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551 เป็นหนังสือสัญญาที่อาจมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตของประเทศ ทั้งยังมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางสังคมของประเทศอย่างกว้างขวางอีกด้วย ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาตามประมวลมาตรา 190 วรรคสอง”

    ดังนั้น การโพสต์ว่านายนพดล ปัทมะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา ในกรณีให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชาโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญนั้น เป็นการใส่ร้ายตรงไหน และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนแรกในประเทศไทยที่ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาที่ไม่ชอบรัฐธรรมนูญนั้นผิดตรงไหน?

    ต่อมาคำพิพากษาศาลฎีกาสำนวนคดีหมายเลขดำ ที่ อม.3/2556 เมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558 ว่านายนพดล ปัทมะ ไม่มีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 นั้น ในประเด็นแห่งคดีที่ว่านายนพดล ปัทมะ ไม่ได้นำเรื่องแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชาไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภานั้น ศาลฟังไม่ได้ว่า “จำเลยมีเจตนาหลีกเลี่ยงไม่นำร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ให้รัฐสภาพิจารณาเห็นชอบ”

      แปลว่าเราต้องเคารพคำวินิจฉันของศาลรัฐธรรมนูญ และคำพิพากษาของศาลฎีกาซึ่งสรุปสั้นๆ ได้คือ นายนพดล ปัทมะ ในสมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา ให้ปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกพร้อมแผนผังนั้น เป็นการกระทำที่ไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา และขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนแรกของประเทศไทยที่กระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ในอีกคดีหนึ่งที่ศาลฎีกาเห็นว่าไม่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพราะไม่ได้มี “เจตนาหลีกเลี่ยงไม่นำร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ให้รัฐสภาพิจารณาเห็นชอบ”

    จึงต้องตั้งคำถามต่อจากนายนพดล ปัทมะ ที่ตั้งประเด็นในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า จะให้เชื่อใครระหว่างนายสนธิ ลิ้มทองกุลและคณะ กับกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ของประเทศไทยนั้น ประเทศไทยได้รับบทเรียนจากกระทรวงการต่างประเทศที่ได้มีการกระทำแบบที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แพ้คำตัดสินตัวปราสาทพระวิหารในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี พ.ศ. 2505 แพ้การตีความพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารเพิ่มเติมในปี พ.ศ. 2556 ดังนั้นการที่มาตั้งคำถามเพื่อด้อยค่าการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนในทำนองว่าอาจจะมีความรู้น้อยกว่า กรมสนธิสัญญากระทรวงการต่างประเทศจึงไม่น่าเชื่อถือ โดยไม่ฟังเสียงทักท้วงจากประชาชน ถูกต้องแล้วหรือ?

    จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงต้องตั้งคำถามว่าข้อความต่อไปนี้ ไม่ใช่ความเท็จ และไม่ใช่การใส่ร้ายป้ายดีใดๆ จริงหรือไม่ ดังจะได้บันทึกให้อ่านกันเป็นข้อความซ้ำกัน 3 ครั้ง ความว่า

     “นายนพดล ปัทมะ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนแรกของประเทศไทย ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ”

     “นายนพดล ปัทมะ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนแรกของประเทศไทย ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ”

      “นายนพดล ปัทมะ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนแรกของประเทศไทย ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ”

    ด้วยจิตคารวะ
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต



    “นพดล ปัทมะ” คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนแรกของประเทศไทย ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ/ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ณ บ้านพระอาทิตย์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประเด็นที่  นายนพดล ปัทมะ อ้างว่า ปราสาทพระวิหารได้เป็นของกัมพูชาตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเมื่อปี พ.ศ.2505 แล้ว แถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา จึงไม่กระทบต่อประเทศไทยใดๆเกี่ยวกับปราสาทพระวิหารเป็นความจริงที่พูดไม่ครบเพราะ ประการแรก นายนพดลอาจจะไม่ได้ตระหนักว่า นายถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในเวลานั้นได้ยื่นหนังสือ “ข้อสงวนที่จะทวงคืนปราสาทพระวิหารในวันข้างหน้า” ถึงผู้รักษาการเลขาธิการสหประชาชาติเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 เอาไว้ด้วย โดยผู้รักษาการเลขาธิการสหประชาชาติก็ไม่มีข้อปฏิเสธใดๆ ข้อสงวนดังกล่าวเป็นการแสดงออกของรัฐบาลไทย ถึงความอยุติธรรมของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ  ข้อสงวนดังกล่าวไม่ได้อ้างข้อบทบัญญัติในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ แต่เมื่อฝ่ายไทยเพลี่ยงพล้ำในเวทีนี้ ฝ่ายไทยก็ไม่ได้เป็นสมาชิกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศอีกจนถึงปัจจุบัน และข้อสงวนของฝ่ายไทยนั้นก็ไม่ได้อ้างอิงข้อบทในกฎหมายของศาลยุติธรรมต่างประเทศในเวลานั้น หากแต่วันหนึ่งในวันข้างหน้าที่กฎหมายพัฒนา หรือเกิดสิทธิที่ถูกต้องเป็นธรรมขึ้น ก็พร้อมที่จะทวงคืนประสาทพระวิหารกลับคืนมาด้วย จึงเป็นการสงวนสิทธิ์ในอนาคตแบบไม่ได้กำหนดระยะเวลา ดังนั้น การอ้างว่าไทยได้แพ้ในคดีปราสาทพระวิหารไปแล้ว การลงนามในแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา จึงไม่ได้เป็นการยกปราสาทพระวิหารให้เป็นมรดกโลกของกัมพูชาฝ่ายเดียวนั้น จึงต้องตั้งคำถามว่ารัฐบาลไทยได้ละทิ้งข้อสงวนของไทยที่นายถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ในเวลานั้นได้ยื่นหนังสือ “ข้อสงวน” ถึงผู้รักษาการเลขาธิการสหประชาชาติเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 จริงหรือไม่?  ประการที่สอง ประเด็นการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของตัวปราสาทวิหารนั้นจะไม่สามารถทำได้ หากไม่มีพื้นที่พัฒนา พื้นที่กันชน ซึ่งเป็นเรื่อง “แผ่นดิน” นอกเหนือจาก “ตัวปราสาทพระวิหาร” ตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เมื่อปี พ.ศ. 2505 จึงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนว่า มีการยินยอมจากฝ่ายไทยในแผนผัง(N1, N2, N3) ให้ตัวปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของกัมพูชาฝ่ายเดียวในแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชาได้อย่างไร โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ความจริงเรื่องนี้ไม่ควรจะถกเถียงใดๆ อีกแล้ว เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 6-7/2511 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2551 ได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดสิ้นสุดไปแล้ว ในคดีที่สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า แถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา ฉบับลงวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2551 เป็นหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 หรือไม่ โดยปรากฏคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในหน้าที่ 23-24 ความตอนหนึ่งว่า “ส่วนเรื่องอาณาเขตของประเทศนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในบริเวณที่ยังมีข้อขัดแย้งกันอยู่ระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ การดำเนินการและการพิจารณาวินิจฉัยในเรื่องนี้จึงต้องกระทำอย่างรอบคอบ หากเป็นกรณีที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตของประเทศแล้ว ย่อมจะต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วรรคสองด้วย สำหรับคำแถลงการณ์ร่วม-กัมพูชา ฉบับลงวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551 นั้น แม้จะไม่ได้ปรากฏสาระสำคัญอย่างชัดเจนว่าเป็นหนังสือสัญญาที่มีบทเปลี่ยนแปลงเขตพื้นที่อันเป็นอาณาเขตของประเทศไทยก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาข้อบททั้งหมดในคำแถลงการณ์ร่วมประกอบกับแผนที่หรือแผนผังแนบท้ายซึ่งจัดทำขึ้นโดยประเทศกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว อันประกอบเป็นส่วนหนึ่งของคำแถลงการณ์ร่วมแล้ว จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าแผนที่ดังกล่าวได้กล่าวอ้างถึงพื้นที่ N.1 N.2 และ N.3 ได้ชัดเจนว่ามีบริเวณครอบคลุมส่วนใดของประเทศใดเป็นจำนวนเท่าใด ซึ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อผลกระทบเรื่องอาณาเขตของประเทศไทย อันเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนและอาจก่อให้เกิดข้อพิพาทระหว่างประเทศตอบไปภายหน้าได้  ประกอบกับการที่ประเทศกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกนั้นมีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่เป็นประเด็นโต้เถียงกันในเรื่องของเส้นเขตแดนและขอบเขตที่ปราสาทตั้งอยู่ ทั้งเป็นประเด็นที่มีความเห็นแตกต่างกันทั้งทางด้านสังคมและการเมืองมาโดยตลอด การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการเจรจากับประเทศกัมพูชาก่อนที่จะได้มีการลงนามคำแถลงการร่วมดังกล่าว พึงเล็งเห็นได้ว่า การลงนามคำแถลงการณ์ร่วมไป ก็อาจก่อให้เกิดการแตกแยกกันทางด้านความคิดเห็นของคนในสังคมทั้งสองประเทศ อีกทั้งอาจก่อให้เกิดวิกฤติแก่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา อันมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางสังคมอย่างกว้างขวาง คำแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวจึงเป็นหนังสือสัญญาที่อาจมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตประเทศไทย จึงเป็นหนังสือสัญญาที่รัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรคสอง กำหนดให้ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ศาลรัฐธรรมนูญจึงวินิจฉัยชี้ขาดว่า คำแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา หรือ Joint Communiqe’ ฉบับลงวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551 เป็นหนังสือสัญญาที่อาจมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตของประเทศ ทั้งยังมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางสังคมของประเทศอย่างกว้างขวางอีกด้วย ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาตามประมวลมาตรา 190 วรรคสอง” ดังนั้น การโพสต์ว่านายนพดล ปัทมะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา ในกรณีให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชาโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญนั้น เป็นการใส่ร้ายตรงไหน และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนแรกในประเทศไทยที่ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาที่ไม่ชอบรัฐธรรมนูญนั้นผิดตรงไหน? ต่อมาคำพิพากษาศาลฎีกาสำนวนคดีหมายเลขดำ ที่ อม.3/2556 เมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558 ว่านายนพดล ปัทมะ ไม่มีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 นั้น ในประเด็นแห่งคดีที่ว่านายนพดล ปัทมะ ไม่ได้นำเรื่องแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชาไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภานั้น ศาลฟังไม่ได้ว่า “จำเลยมีเจตนาหลีกเลี่ยงไม่นำร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ให้รัฐสภาพิจารณาเห็นชอบ”   แปลว่าเราต้องเคารพคำวินิจฉันของศาลรัฐธรรมนูญ และคำพิพากษาของศาลฎีกาซึ่งสรุปสั้นๆ ได้คือ นายนพดล ปัทมะ ในสมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา ให้ปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกพร้อมแผนผังนั้น เป็นการกระทำที่ไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา และขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนแรกของประเทศไทยที่กระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ในอีกคดีหนึ่งที่ศาลฎีกาเห็นว่าไม่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพราะไม่ได้มี “เจตนาหลีกเลี่ยงไม่นำร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ให้รัฐสภาพิจารณาเห็นชอบ” จึงต้องตั้งคำถามต่อจากนายนพดล ปัทมะ ที่ตั้งประเด็นในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า จะให้เชื่อใครระหว่างนายสนธิ ลิ้มทองกุลและคณะ กับกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ของประเทศไทยนั้น ประเทศไทยได้รับบทเรียนจากกระทรวงการต่างประเทศที่ได้มีการกระทำแบบที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แพ้คำตัดสินตัวปราสาทพระวิหารในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี พ.ศ. 2505 แพ้การตีความพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารเพิ่มเติมในปี พ.ศ. 2556 ดังนั้นการที่มาตั้งคำถามเพื่อด้อยค่าการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนในทำนองว่าอาจจะมีความรู้น้อยกว่า กรมสนธิสัญญากระทรวงการต่างประเทศจึงไม่น่าเชื่อถือ โดยไม่ฟังเสียงทักท้วงจากประชาชน ถูกต้องแล้วหรือ? จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงต้องตั้งคำถามว่าข้อความต่อไปนี้ ไม่ใช่ความเท็จ และไม่ใช่การใส่ร้ายป้ายดีใดๆ จริงหรือไม่ ดังจะได้บันทึกให้อ่านกันเป็นข้อความซ้ำกัน 3 ครั้ง ความว่า  “นายนพดล ปัทมะ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนแรกของประเทศไทย ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ”  “นายนพดล ปัทมะ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนแรกของประเทศไทย ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ”   “นายนพดล ปัทมะ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนแรกของประเทศไทย ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ” ด้วยจิตคารวะ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1029 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลจัง...ไ.ร แสร้งการ์ดตก หวังเปิดช่องให้เขมรใช้อำนาจศาลโลกยึดเกาะกูด ทั้งที่มันมั่วเส้นเขตแดนทางทะเล แต่ไอ่แม้วไม่ปฏิเสธ จึงเท่ากับรับรู้ จึงอาจซ้ำรอยกรณีปราสาทพระวิหาร
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    รัฐบาลจัง...ไ.ร แสร้งการ์ดตก หวังเปิดช่องให้เขมรใช้อำนาจศาลโลกยึดเกาะกูด ทั้งที่มันมั่วเส้นเขตแดนทางทะเล แต่ไอ่แม้วไม่ปฏิเสธ จึงเท่ากับรับรู้ จึงอาจซ้ำรอยกรณีปราสาทพระวิหาร #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 623 มุมมอง 1 รีวิว
  • #MOU2544 #JC2544 #ขัดรัฐธรรมนูญ #ขัดพระบรมราชโองการ ไม่ทำตาม #กฎหมายสากล #เส้นเขตแดน เราต้องรักษา #อธิปไตยไทย #ทรัพยากร ในทะเล #ของของเรา #ไม่ต้องแบ่งใคร
    https://youtu.be/uygFiIn1nt4
    #MOU2544 #JC2544 #ขัดรัฐธรรมนูญ #ขัดพระบรมราชโองการ ไม่ทำตาม #กฎหมายสากล #เส้นเขตแดน เราต้องรักษา #อธิปไตยไทย #ทรัพยากร ในทะเล #ของของเรา #ไม่ต้องแบ่งใคร https://youtu.be/uygFiIn1nt4
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 898 มุมมอง 0 รีวิว
  • #MOU2544 #JC2544 #ขัดรัฐธรรมนูญ #ขัดพระบรมราชโองการ ไม่ทำตาม #กฎหมายสากล #เส้นเขตแดน เราต้องรักษา #อธิปไตยไทย #ทรัพยากร ในทะเล #ของของเรา #ไม่ต้องแบ่งใคร
    https://youtu.be/wLe_fB_0wbo
    #MOU2544 #JC2544 #ขัดรัฐธรรมนูญ #ขัดพระบรมราชโองการ ไม่ทำตาม #กฎหมายสากล #เส้นเขตแดน เราต้องรักษา #อธิปไตยไทย #ทรัพยากร ในทะเล #ของของเรา #ไม่ต้องแบ่งใคร https://youtu.be/wLe_fB_0wbo
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 883 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts