• ฉีกหน้ากาก”โกงซ้อนโกง” ตึก สตง.ถล่ม
    ปลอมลายเซ็นวิศวกร บิดเบือนไม่รับผิดชอบ
    .
    เรื่องตึก สตง.(สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน)ถล่ม อีกสิบปีก็พูดได้ว่ามันเป็นมหากาพย์การโกง ผมว่ามันโคตรจะระยำตำบอนเลย ผม 78 ปี ปีนี้ ผมทำข่าวมาห้าสิบกว่าปี ผมไม่เคยเจอขบวนการคอร์รัปชันที่ยิ่งใหญ่และลึกลับซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยก็ว่าได้ เรื่องขบวนการทุจริตในการจัดจ้างเพื่อก่อสร้างและตกแต่งอาคาร สตง. แห่งใหม่ ในเขตจตุจักร อย่างที่ผมฟันธงและบอกไปแล้วว่ามันมีเงื่อนงำในทุกกระบวนการ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
    .
    จริงๆ เรื่องนี้ต้องทำเป็นกรณีศึกษา Case study สถาบันการศึกษา อาจารย์น่าจะเอาข้อมูลพวกนี้ แล้วมาสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาว่ามันโกงกันอย่างไร ความเป็น สตง. นี่ไงที่ผมบอกว่าผมจะฟ้องท่านผู้ชม ให้จารึกลงในประวัติศาสตร์ ให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานมันพูดถึงคน สตง. เลวๆ ที่มันระยำตำบอนและโกงชาติบ้านเมือง ทำผิดคุณธรรม จริยธรรม ในหน้าที่ที่ตัวเองต้องตรวจสอบการทุจริต แต่กลับทุจริตเสียเอง
    .
    ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความไม่ชอบมาพากลในการจัดจ้างเพื่อก่อสร้างโครงการนี้ยิ่งขึ้นไปอีก คือมันมีการปลอมลายเซ็นสำหรับกรณีวิศวกรทั้งสองคนที่มีชื่อไปเกี่ยวข้องและรับผิดชอบเกี่ยวกับการควบคุมการก่อสร้างและออกแบบอาคาร คือ หนึ่ง คุณสมเกียรติ ชูแสงสุข ที่ถูกอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นว่าเป็นผู้ควบคุมงานของกิจการร่วมค้า PWK สอง คือคุณพิมล เจริญยิ่ง วิศวกรอายุ 85 ปี ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ออกแบบอาคาร 2 สตง. จริงหรือไม่ เจ้าตัวกลับปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องด้วย และไม่ได้ทำงานออกแบบมาหลายปีแล้ว ท่านผู้ชมครับเห็นหรือยังครับ มหากาพย์ของการโกง โกงกันตั้งแต่เริ่มออกแบบแล้ว ตรงนี้มันมีพิรุธไหม ? เพราะกรมโยธาธิการฯได้แจ้งว่า ที่ขอมาขอให้มีการเร่งออกแบบตึก สตง.ที่มีงบสองพันล้านบาทภายใน 180 วันไม่ทัน ก็เป็นสิทธิ์หน่วยงานนี้จะเอาสิทธิ์ตรงนั้นไปแจ้งบริษัทเอกชนออกแบบแทน นี่คือการเจตนาที่จะทุจริตที่เห็นได้ชัดเจน
    .
    มีคนหนึ่งที่ผมอยากให้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ใจแทบขาด เพราะน่าจะเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง คือ คุณปฏิวัติ ศิริไทย ซีอีโอ และเจ้าของบริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด ซึ่งบริษัทนี้เป็นหนึ่งในสามบริษัทที่ไปรวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้า PKWได้งานควบคุมก่อสร้างตึก สตง. ในวงเงิน 74.65 ล้านบาท
    .
    คุณปฏิวัติครับ คุณอย่านั่งนิ่งเฉย เพราะผมได้ยินว่าคุณเป็นผู้กว้างขวาง รู้จักคุณประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่าฯ สตง. รู้จักนายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าฯ สตง. มือไม้ของคุณประจักษ์ รวมทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ อย่างประธาน คตง. คือ พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธาน คตง. หรือประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เรื่อยไปจนถึงคนใกล้ชิด ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ซึ่งเป็นเครือญาติและคนใกล้ชิด พล.อ.ชนะทัพ ด้วย แม้หน่วยงานโคตรอภิสิทธิ์อย่าง สตง. ยืนยันที่ทำนั้น ล้วนแต่ดำเนินด้วยความถูกต้องบริสุทธิ์ผูดผ่องทั้งสิ้น
    .
    แต่ถ้ามันเน่าข้างในหมดแล้ว จะเอาหนังอะไรมากลบ ใส่เสื้อกี่ตัว กลิ่นมันออก พอกลิ่นมันออก ถอดเสื้อออกก็เหม็นเสื้อเชิ้ตก็เหม็น ถอดเสื้อเชิ้ตออก เสื้อเชิ้ตก็เหม็น ถอดคอกลมออก คอกลมก็เหม็น พอถอดออกหมดแล้ว อ้าว ตายห่า มันเน่าหมดแล้วนี่ มันเน่าก็คือว่า ทำมาหาแดกกันทุกระดับ ตั้งแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ใน สตง. จะเป็นใครก็ตาม ท่านผู้ชมเดาเอาเองก็แล้วกัน
    ฉีกหน้ากาก”โกงซ้อนโกง” ตึก สตง.ถล่ม ปลอมลายเซ็นวิศวกร บิดเบือนไม่รับผิดชอบ . เรื่องตึก สตง.(สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน)ถล่ม อีกสิบปีก็พูดได้ว่ามันเป็นมหากาพย์การโกง ผมว่ามันโคตรจะระยำตำบอนเลย ผม 78 ปี ปีนี้ ผมทำข่าวมาห้าสิบกว่าปี ผมไม่เคยเจอขบวนการคอร์รัปชันที่ยิ่งใหญ่และลึกลับซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยก็ว่าได้ เรื่องขบวนการทุจริตในการจัดจ้างเพื่อก่อสร้างและตกแต่งอาคาร สตง. แห่งใหม่ ในเขตจตุจักร อย่างที่ผมฟันธงและบอกไปแล้วว่ามันมีเงื่อนงำในทุกกระบวนการ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ . จริงๆ เรื่องนี้ต้องทำเป็นกรณีศึกษา Case study สถาบันการศึกษา อาจารย์น่าจะเอาข้อมูลพวกนี้ แล้วมาสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาว่ามันโกงกันอย่างไร ความเป็น สตง. นี่ไงที่ผมบอกว่าผมจะฟ้องท่านผู้ชม ให้จารึกลงในประวัติศาสตร์ ให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานมันพูดถึงคน สตง. เลวๆ ที่มันระยำตำบอนและโกงชาติบ้านเมือง ทำผิดคุณธรรม จริยธรรม ในหน้าที่ที่ตัวเองต้องตรวจสอบการทุจริต แต่กลับทุจริตเสียเอง . ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความไม่ชอบมาพากลในการจัดจ้างเพื่อก่อสร้างโครงการนี้ยิ่งขึ้นไปอีก คือมันมีการปลอมลายเซ็นสำหรับกรณีวิศวกรทั้งสองคนที่มีชื่อไปเกี่ยวข้องและรับผิดชอบเกี่ยวกับการควบคุมการก่อสร้างและออกแบบอาคาร คือ หนึ่ง คุณสมเกียรติ ชูแสงสุข ที่ถูกอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นว่าเป็นผู้ควบคุมงานของกิจการร่วมค้า PWK สอง คือคุณพิมล เจริญยิ่ง วิศวกรอายุ 85 ปี ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ออกแบบอาคาร 2 สตง. จริงหรือไม่ เจ้าตัวกลับปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องด้วย และไม่ได้ทำงานออกแบบมาหลายปีแล้ว ท่านผู้ชมครับเห็นหรือยังครับ มหากาพย์ของการโกง โกงกันตั้งแต่เริ่มออกแบบแล้ว ตรงนี้มันมีพิรุธไหม ? เพราะกรมโยธาธิการฯได้แจ้งว่า ที่ขอมาขอให้มีการเร่งออกแบบตึก สตง.ที่มีงบสองพันล้านบาทภายใน 180 วันไม่ทัน ก็เป็นสิทธิ์หน่วยงานนี้จะเอาสิทธิ์ตรงนั้นไปแจ้งบริษัทเอกชนออกแบบแทน นี่คือการเจตนาที่จะทุจริตที่เห็นได้ชัดเจน . มีคนหนึ่งที่ผมอยากให้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ใจแทบขาด เพราะน่าจะเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง คือ คุณปฏิวัติ ศิริไทย ซีอีโอ และเจ้าของบริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด ซึ่งบริษัทนี้เป็นหนึ่งในสามบริษัทที่ไปรวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้า PKWได้งานควบคุมก่อสร้างตึก สตง. ในวงเงิน 74.65 ล้านบาท . คุณปฏิวัติครับ คุณอย่านั่งนิ่งเฉย เพราะผมได้ยินว่าคุณเป็นผู้กว้างขวาง รู้จักคุณประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่าฯ สตง. รู้จักนายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าฯ สตง. มือไม้ของคุณประจักษ์ รวมทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ อย่างประธาน คตง. คือ พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธาน คตง. หรือประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เรื่อยไปจนถึงคนใกล้ชิด ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ซึ่งเป็นเครือญาติและคนใกล้ชิด พล.อ.ชนะทัพ ด้วย แม้หน่วยงานโคตรอภิสิทธิ์อย่าง สตง. ยืนยันที่ทำนั้น ล้วนแต่ดำเนินด้วยความถูกต้องบริสุทธิ์ผูดผ่องทั้งสิ้น . แต่ถ้ามันเน่าข้างในหมดแล้ว จะเอาหนังอะไรมากลบ ใส่เสื้อกี่ตัว กลิ่นมันออก พอกลิ่นมันออก ถอดเสื้อออกก็เหม็นเสื้อเชิ้ตก็เหม็น ถอดเสื้อเชิ้ตออก เสื้อเชิ้ตก็เหม็น ถอดคอกลมออก คอกลมก็เหม็น พอถอดออกหมดแล้ว อ้าว ตายห่า มันเน่าหมดแล้วนี่ มันเน่าก็คือว่า ทำมาหาแดกกันทุกระดับ ตั้งแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ใน สตง. จะเป็นใครก็ตาม ท่านผู้ชมเดาเอาเองก็แล้วกัน
    Like
    Love
    25
    0 Comments 1 Shares 1182 Views 0 Reviews
  • เสื้อเชิ๊ตสำหรับคนอ้วนๆตัวใหญ่ๆ
    เป็นมือ2คัดสภาพสวยๆใหม่กริบครับ
    เสื้อเชิ๊ตสำหรับคนอ้วนๆตัวใหญ่ๆ เป็นมือ2คัดสภาพสวยๆใหม่กริบครับ
    Wow
    1
    0 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
  • เสื้อเชิ๊ตคนตัวอ้วนๆมือ2คัดเกรดสวยๆครับ
    ตัวละ100-150ส่งฟรี
    เสื้อเชิ๊ตคนตัวอ้วนๆมือ2คัดเกรดสวยๆครับ ตัวละ100-150ส่งฟรี
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 178 Views 0 Reviews
  • #เสื้อเชิ๊ตคนอ้วนมือ2คัดสวยๆใหม่ๆ
    #เสื้อเชิ๊ตคนอ้วนมือ2คัดสวยๆใหม่ๆ
    Yay
    1
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • รายการสินค้าจำหน่ายทั้งปลีก-ส่ง
    ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม่ระหว่างซอยนวมินทร์ 72-74
    โซนด้านหน้าติดถนนนวมินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่
    โซนด้านหลังตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่
    โซนด้านหน้าศูนย์อาหารตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่
    โซนฝั่งโรงเรียนบดินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่

    #เสื้อเชิ้ต
    #เสื้อเชิ้ต สีขาว
    #เสื้อเชิ้ตลาคอส
    #เสื้อขาว
    #เสื้อยืดพิมพ์ลายสีขาว
    #เสื้อยืดคอกลม
    #เสื้อยืดสีขาว
    #เสื้อยืด
    #เสือสำลี
    #เสื้อถัก
    #ชุดแซกถัก
    #เดรสยีนส์
    #เสื้อผ้าร่ม
    #เสื้อแฟชั่นผู้ญิง โอเวอร์ไซส์
    #เสื้อยืดกีฬา
    #เสื้อวอร์ม
    #เสื้อฮาวาย
    #กางเกงเวสปอยท์ขายาว
    #กางเกงเวสปอยท์ขาสั้น
    #กางเกงขายาวเวสปอยท์กระเป๋าข้าง
    #กางเกงขาสั้น
    #กางเกงกีฬาขาสั้น
    #กางเกงกีฬาขาสั้น
    #กางเกงทรงลุงขาสั้น
    #กางเกงขาสั้นกระเป๋าข้าง
    #กางเกงสแล็ค
    #กางเกงลูกฟูก
    #กางเกงสแล็คขาสั้น
    #กางเกงเอวยืดผู้หญิง
    #กางเกงยีนส์
    #กางเกงยีนส์ลีวาย
    #กางเกงกีฬา
    #กางเกงดิกกี้
    #ผ้าม่าน
    #ผ้าห่ม
    #พรมปูพื้น
    #เสื้อยีนส์
    #เสื้อเชิ้ดยีนส์
    #พรมเช็ดเท้า
    #เสื้อช่าง
    ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม่ระหว่างซอยนวมินทร์ 72-74
    โซนฝั่งโรงเรียนบดินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่
    https://shop.line.me/@640eaiee
    LINE ID 0934962777
    Line Open Chat
    https://shorturl.asia/PwpIM

    โทรศัพท์ 0638814705
    0937199406
    0611076355
    #ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม #ร้านเฮียเมาเจ้พรสินค้ามือสอง


    รายการสินค้าจำหน่ายทั้งปลีก-ส่ง ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม่ระหว่างซอยนวมินทร์ 72-74 โซนด้านหน้าติดถนนนวมินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ โซนด้านหลังตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ โซนด้านหน้าศูนย์อาหารตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ โซนฝั่งโรงเรียนบดินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ #เสื้อเชิ้ต #เสื้อเชิ้ต สีขาว #เสื้อเชิ้ตลาคอส #เสื้อขาว #เสื้อยืดพิมพ์ลายสีขาว #เสื้อยืดคอกลม #เสื้อยืดสีขาว #เสื้อยืด #เสือสำลี #เสื้อถัก #ชุดแซกถัก #เดรสยีนส์ #เสื้อผ้าร่ม #เสื้อแฟชั่นผู้ญิง โอเวอร์ไซส์ #เสื้อยืดกีฬา #เสื้อวอร์ม #เสื้อฮาวาย #กางเกงเวสปอยท์ขายาว #กางเกงเวสปอยท์ขาสั้น #กางเกงขายาวเวสปอยท์กระเป๋าข้าง #กางเกงขาสั้น #กางเกงกีฬาขาสั้น #กางเกงกีฬาขาสั้น #กางเกงทรงลุงขาสั้น #กางเกงขาสั้นกระเป๋าข้าง #กางเกงสแล็ค #กางเกงลูกฟูก #กางเกงสแล็คขาสั้น #กางเกงเอวยืดผู้หญิง #กางเกงยีนส์ #กางเกงยีนส์ลีวาย #กางเกงกีฬา #กางเกงดิกกี้ #ผ้าม่าน #ผ้าห่ม #พรมปูพื้น #เสื้อยีนส์ #เสื้อเชิ้ดยีนส์ #พรมเช็ดเท้า #เสื้อช่าง ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม่ระหว่างซอยนวมินทร์ 72-74 โซนฝั่งโรงเรียนบดินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ https://shop.line.me/@640eaiee LINE ID 0934962777 Line Open Chat https://shorturl.asia/PwpIM โทรศัพท์ 0638814705 0937199406 0611076355 #ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม #ร้านเฮียเมาเจ้พรสินค้ามือสอง
    0 Comments 0 Shares 2148 Views 0 Reviews
  • รายการสินค้าจำหน่ายทั้งปลีก-ส่ง
    ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม่ระหว่างซอยนวมินทร์ 72-74
    โซนด้านหน้าติดถนนนวมินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่
    โซนด้านหลังตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่
    โซนด้านหน้าศูนย์อาหารตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่
    โซนฝั่งโรงเรียนบดินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่

    #เสื้อเชิ้ต
    #เสื้อเชิ้ต สีขาว
    #เสื้อเชิ้ตลาคอส
    #เสื้อขาว
    #เสื้อยืดพิมพ์ลายสีขาว
    #เสื้อยืดคอกลม
    #เสื้อยืดสีขาว
    #เสื้อยืด
    #เสือสำลี
    #เสื้อถัก
    #ชุดแซกถัก
    #เดรสยีนส์
    #เสื้อผ้าร่ม
    #เสื้อแฟชั่นผู้ญิง โอเวอร์ไซส์
    #เสื้อยืดกีฬา
    #เสื้อวอร์ม
    #เสื้อฮาวาย
    #กางเกงเวสปอยท์ขายาว
    #กางเกงเวสปอยท์ขาสั้น
    #กางเกงขายาวเวสปอยท์กระเป๋าข้าง
    #กางเกงขาสั้น
    #กางเกงกีฬาขาสั้น
    #กางเกงกีฬาขาสั้น
    #กางเกงทรงลุงขาสั้น
    #กางเกงขาสั้นกระเป๋าข้าง
    #กางเกงสแล็ค
    #กางเกงลูกฟูก
    #กางเกงสแล็คขาสั้น
    #กางเกงเอวยืดผู้หญิง
    #กางเกงยีนส์
    #กางเกงยีนส์ลีวาย
    #กางเกงกีฬา
    #กางเกงดิกกี้
    #ผ้าม่าน
    #ผ้าห่ม
    #พรมปูพื้น
    #เสื้อยีนส์
    #เสื้อเชิ้ดยีนส์
    #พรมเช็ดเท้า
    #เสื้อช่าง
    ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม่ระหว่างซอยนวมินทร์ 72-74
    โซนฝั่งโรงเรียนบดินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่
    https://shop.line.me/@640eaiee
    LINE ID 0934962777
    Line Open Chat
    https://shorturl.asia/PwpIM

    โทรศัพท์ 0638814705
    0937199406
    0611076355
    #ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม #ร้านเฮียเมาเจ้พรสินค้ามือสอง


    รายการสินค้าจำหน่ายทั้งปลีก-ส่ง ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม่ระหว่างซอยนวมินทร์ 72-74 โซนด้านหน้าติดถนนนวมินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ โซนด้านหลังตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ โซนด้านหน้าศูนย์อาหารตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ โซนฝั่งโรงเรียนบดินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ #เสื้อเชิ้ต #เสื้อเชิ้ต สีขาว #เสื้อเชิ้ตลาคอส #เสื้อขาว #เสื้อยืดพิมพ์ลายสีขาว #เสื้อยืดคอกลม #เสื้อยืดสีขาว #เสื้อยืด #เสือสำลี #เสื้อถัก #ชุดแซกถัก #เดรสยีนส์ #เสื้อผ้าร่ม #เสื้อแฟชั่นผู้ญิง โอเวอร์ไซส์ #เสื้อยืดกีฬา #เสื้อวอร์ม #เสื้อฮาวาย #กางเกงเวสปอยท์ขายาว #กางเกงเวสปอยท์ขาสั้น #กางเกงขายาวเวสปอยท์กระเป๋าข้าง #กางเกงขาสั้น #กางเกงกีฬาขาสั้น #กางเกงกีฬาขาสั้น #กางเกงทรงลุงขาสั้น #กางเกงขาสั้นกระเป๋าข้าง #กางเกงสแล็ค #กางเกงลูกฟูก #กางเกงสแล็คขาสั้น #กางเกงเอวยืดผู้หญิง #กางเกงยีนส์ #กางเกงยีนส์ลีวาย #กางเกงกีฬา #กางเกงดิกกี้ #ผ้าม่าน #ผ้าห่ม #พรมปูพื้น #เสื้อยีนส์ #เสื้อเชิ้ดยีนส์ #พรมเช็ดเท้า #เสื้อช่าง ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม่ระหว่างซอยนวมินทร์ 72-74 โซนฝั่งโรงเรียนบดินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ https://shop.line.me/@640eaiee LINE ID 0934962777 Line Open Chat https://shorturl.asia/PwpIM โทรศัพท์ 0638814705 0937199406 0611076355 #ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม #ร้านเฮียเมาเจ้พรสินค้ามือสอง
    0 Comments 0 Shares 2088 Views 0 Reviews
  • ภรรยา และลูกสาวของ “หมอบุญ” พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจที่ บช.น. ทนายเผยทั้งสองถูกปลอมแปลงลายเซ็นเอกสารกู้ยืมเงิน แต่ไม่ทราบว่าเป็นฝีมือใคร มารู้ตัวตอนถูกฟ้องคดีแพ่ง

    วันนี้ ( 23 พ.ย.) ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นพ.บุญ วนาสิน ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อ เป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ พร้อมด้วย นางสาวนลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของ นพ.บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ โดยทั้ง 2 เป็นผู้ต้องหาในหมายจับข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน โดยมีนายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความ เดินทางมาด้วย

    โดยนางจารุวรรณ ได้สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีชมพูอ่อน สวมแว่นตาดำ และนางสาวนลิน สวมเสื้อยืดสีเขียว สวมหมวกแก๊ปสีน้ำเงิน ในระหว่างที่เดินทางขึ้นมาพบตำรวจนั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามข้อเท็จจริงดังกล่าว แต่นางจารุวรรณและนางสาวนลิน ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000112747

    #MGROnline #ภรรยา #ลูกสาว #หมอบุญ
    ภรรยา และลูกสาวของ “หมอบุญ” พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจที่ บช.น. ทนายเผยทั้งสองถูกปลอมแปลงลายเซ็นเอกสารกู้ยืมเงิน แต่ไม่ทราบว่าเป็นฝีมือใคร มารู้ตัวตอนถูกฟ้องคดีแพ่ง • วันนี้ ( 23 พ.ย.) ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นพ.บุญ วนาสิน ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อ เป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ พร้อมด้วย นางสาวนลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของ นพ.บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ โดยทั้ง 2 เป็นผู้ต้องหาในหมายจับข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน โดยมีนายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความ เดินทางมาด้วย • โดยนางจารุวรรณ ได้สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีชมพูอ่อน สวมแว่นตาดำ และนางสาวนลิน สวมเสื้อยืดสีเขียว สวมหมวกแก๊ปสีน้ำเงิน ในระหว่างที่เดินทางขึ้นมาพบตำรวจนั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามข้อเท็จจริงดังกล่าว แต่นางจารุวรรณและนางสาวนลิน ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000112747 • #MGROnline #ภรรยา #ลูกสาว #หมอบุญ
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 688 Views 0 Reviews
  • คนร้ายดักปล้นพนักงานเซเว่นหน้าธนาคารใน อ.มายอ จ.ปัตตานีได้เงินสด 1.2 ล้านบาท

    ปัตตานี - สองคนร้ายดักปล้นสองพนักงานเซเว่นหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาปาลัส อ.มายอ ชักปืนขู่ก่อนฉกเงินไป 1.2 ล้านบาท ยังคงหลบหนีลอยนวล

    วันนี้ (18 พ.ย.) เวลา 14.30 น. ร.ต.อ.มณฑล บัวพัว รอง สารวัจรสอบสวน สภ.มายอ จ.ปัตตานีรับแจ้งเหตุคนร้ายปล้นทรัพย์บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาปาลัส ถนนเพชรเกษม ต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี ทรัพย์สินที่ถูกปล้นเป็นสดเงินจำนวน 1,200,000 บาท

    จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าเมื่อ เวลาประมาณ 14.30 น. ชป.ลางารับแจ้งจาก พนักงานเซเว่น ชื่อ น.ส.มารีนา มะมิง อายุ 27 ปี ว่า ตนพร้อมเพื่อน 1 คน นั่งรถจักรยานยนต์นำเงินสดมาฝากธนาคารกสิกรไทย สาขาปาลัส ม.5 ต.ลางา จำนวน 1,200,000 บาท เมื่อถึงหน้าธนาคารกสิกรไทยสาขาปาลัส ได้มีคนร้าย 2 คนได้ชักอาวุธปืนพกสั้นออกมาและพูดภาษามาลายูว่า ให้เอาเงินมา

    หลังจากนั้น คนร้ายได้เข้ามาเปิดเบาะรถจักรยานยนต์แล้วนำเงินหนีไปเส้นทางมุ่งหน้าอำเภอมายอ ยานพาหนะเป็นรถเจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 รุ่นเก่า สีดำ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน คนขับใส่เสื้อเชิ้ต คนซ้อนท้ายใส่เสื้อฮูด สีดำ กางเกงยีนส์ขายาว
    คนร้ายดักปล้นพนักงานเซเว่นหน้าธนาคารใน อ.มายอ จ.ปัตตานีได้เงินสด 1.2 ล้านบาท ปัตตานี - สองคนร้ายดักปล้นสองพนักงานเซเว่นหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาปาลัส อ.มายอ ชักปืนขู่ก่อนฉกเงินไป 1.2 ล้านบาท ยังคงหลบหนีลอยนวล วันนี้ (18 พ.ย.) เวลา 14.30 น. ร.ต.อ.มณฑล บัวพัว รอง สารวัจรสอบสวน สภ.มายอ จ.ปัตตานีรับแจ้งเหตุคนร้ายปล้นทรัพย์บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาปาลัส ถนนเพชรเกษม ต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี ทรัพย์สินที่ถูกปล้นเป็นสดเงินจำนวน 1,200,000 บาท จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าเมื่อ เวลาประมาณ 14.30 น. ชป.ลางารับแจ้งจาก พนักงานเซเว่น ชื่อ น.ส.มารีนา มะมิง อายุ 27 ปี ว่า ตนพร้อมเพื่อน 1 คน นั่งรถจักรยานยนต์นำเงินสดมาฝากธนาคารกสิกรไทย สาขาปาลัส ม.5 ต.ลางา จำนวน 1,200,000 บาท เมื่อถึงหน้าธนาคารกสิกรไทยสาขาปาลัส ได้มีคนร้าย 2 คนได้ชักอาวุธปืนพกสั้นออกมาและพูดภาษามาลายูว่า ให้เอาเงินมา หลังจากนั้น คนร้ายได้เข้ามาเปิดเบาะรถจักรยานยนต์แล้วนำเงินหนีไปเส้นทางมุ่งหน้าอำเภอมายอ ยานพาหนะเป็นรถเจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 รุ่นเก่า สีดำ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน คนขับใส่เสื้อเชิ้ต คนซ้อนท้ายใส่เสื้อฮูด สีดำ กางเกงยีนส์ขายาว
    0 Comments 0 Shares 630 Views 0 Reviews
  • คนโกง โกงทุกอย่างแม้กระทั้งการป่วยไข้
    สรุป! คือแม้วไม่ได้ป่วย อาการปกติ เจอกัน คุยกันที่ห้องรับแขก ก็จะใส่เสื้อเชิ๊ต กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ไม่มีชุดผู้ป่วย ปลอกคอ รถเข็นอะไรก็ไม่มี ไปๆมาๆ ชั้น 14 เป็นพื้นที่รับแขกสำคัญๆหรือนี่ ?
    คนโกง โกงทุกอย่างแม้กระทั้งการป่วยไข้ สรุป! คือแม้วไม่ได้ป่วย อาการปกติ เจอกัน คุยกันที่ห้องรับแขก ก็จะใส่เสื้อเชิ๊ต กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ไม่มีชุดผู้ป่วย ปลอกคอ รถเข็นอะไรก็ไม่มี ไปๆมาๆ ชั้น 14 เป็นพื้นที่รับแขกสำคัญๆหรือนี่ ?
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • “ทนายตั้ม” จูบหน้าผากภรรยา ก่อนส่งตัวฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ
    .
    ตำรวจกองปราบฯ คุมตัวทนายตั้มและภรรยา ไปฝากขังที่ศาลอาญา จูบหน้าผากก่อนขึ้นศาล ยกมือไหว้สื่อแต่ไม่ตอบคำถาม พนง.สอบสวนค้านประกันตัว หวั่นยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน
    .
    วันนี้ (8 พ.ย.) ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พร้อมกับ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา ขึ้นรถตู้ 1 คัน โดยมีรถตำรวจ บก.ป. นำขบวน 1 คัน เพื่อไปทำการฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ตามขั้นตอนทางกฎหมาย
    .
    โดยระหว่างคุมตัวผู้ต้องหา ทนายตั้มสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์ ส่วนภรรยาสวมเสื้อยืดสีดำ ใส่แว่นตาสีดำ พร้อมสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งทันทีที่เดินออกมาจากตัวอาคารประชาอารักษ์ ตัวทนายตั้มได้ยกมือไหว้กับกองทัพสื่อมวลชน และไม่ได้กล่าวอะไร แม้สื่อมวลชนพยายามสอบถามในทุกประเด็น
    .
    จากการสังเกตทนายตั้ม มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ตอบคำถามใดๆ ขณะที่ภรรยาก็เช่นเดียวกัน และเมื่อขึ้นรถตู้ไป ก็ได้ขยับไปนั่งข้างๆ ภรรยา ก่อนจะประคองศีรษะมาใกล้ ๆ และจูบที่หน้าผาก โดยทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันต่อ จากนั้นรถตู้ก็ได้เคลื่อนตัวไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกทันที
    .
    โดยพนักงานสอบสวน จะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเหตุผลตามหมายจับ ระบุว่า มีหลักฐานตามสมควรว่าได้หรือน่าจะทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงเกิน 3 ปี รวมทั้งได้หรือน่าจะกระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานกับก่อให้เกิดอันตรายประการอื่น
    ..............
    Sondhi X
    “ทนายตั้ม” จูบหน้าผากภรรยา ก่อนส่งตัวฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ . ตำรวจกองปราบฯ คุมตัวทนายตั้มและภรรยา ไปฝากขังที่ศาลอาญา จูบหน้าผากก่อนขึ้นศาล ยกมือไหว้สื่อแต่ไม่ตอบคำถาม พนง.สอบสวนค้านประกันตัว หวั่นยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน . วันนี้ (8 พ.ย.) ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พร้อมกับ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา ขึ้นรถตู้ 1 คัน โดยมีรถตำรวจ บก.ป. นำขบวน 1 คัน เพื่อไปทำการฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ตามขั้นตอนทางกฎหมาย . โดยระหว่างคุมตัวผู้ต้องหา ทนายตั้มสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์ ส่วนภรรยาสวมเสื้อยืดสีดำ ใส่แว่นตาสีดำ พร้อมสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งทันทีที่เดินออกมาจากตัวอาคารประชาอารักษ์ ตัวทนายตั้มได้ยกมือไหว้กับกองทัพสื่อมวลชน และไม่ได้กล่าวอะไร แม้สื่อมวลชนพยายามสอบถามในทุกประเด็น . จากการสังเกตทนายตั้ม มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ตอบคำถามใดๆ ขณะที่ภรรยาก็เช่นเดียวกัน และเมื่อขึ้นรถตู้ไป ก็ได้ขยับไปนั่งข้างๆ ภรรยา ก่อนจะประคองศีรษะมาใกล้ ๆ และจูบที่หน้าผาก โดยทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันต่อ จากนั้นรถตู้ก็ได้เคลื่อนตัวไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกทันที . โดยพนักงานสอบสวน จะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเหตุผลตามหมายจับ ระบุว่า มีหลักฐานตามสมควรว่าได้หรือน่าจะทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงเกิน 3 ปี รวมทั้งได้หรือน่าจะกระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานกับก่อให้เกิดอันตรายประการอื่น .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    4
    2 Comments 0 Shares 1335 Views 0 Reviews
  • เมื่อคืน “ทนายตั้ม” นอนซังเต
    หลังกองปราบสอบ 11 ชม.
    .
    ตำรวจกองปราบคุมตัวทนายตั้มเข้าห้องขัง หลังสอบมาราธอน 11 ชั่วโมง
    .
    จากกรณีตำรวจกองปราบติดตามจับกุมตัวนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ในข้อหาฉ้อโกง , ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิด ฐานฟอกเงิน และนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ได้ที่ ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)
    .
    ล่าสุดเมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 8 พ.ย.ที่อาคารกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายหลังการสอบปากคำกว่า 11 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนร่วมกันควบคุมตัวนายษิทรา เบี้ยบังเกิด (สวมเสื้อเชิ๊ตเเขสั้นสีขาว กางเกงยีน) พร้อมนางปทิตตา ฯ (เสื้อยืดสีดำ) สองสามีภรรยา ลงจากห้องสอบสวน เพื่อนำตัวเข้าห้องขังที่บริเวณชั้น 1 บก.ป.
    .
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่ทนายตั้ม จะลงมาห้องขัง ได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ว่า "ยังมีนักข่าวเฝ้าอยู่หรือไม่" เนื่องจากไม่อยากเจอสื่อมวลชน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบจึงขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนให้ออกมาเฝ้าสังเกตุการณ์ด้านนอกอาคารแทน กระทั่งผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าควบคุมตัวทนายตั้ม เดินลงจากห้องสอบสวน โดยทนายตั้ม มีสีหน้าอิฐโรย และพยายามเหลือบมองสื่อมวลชน รวมถึงนางปทิตตา ก็ได้เดินก้มหน้า ก่อนทั้งสองจะถูกนำตัวเข้าห้องขังไปทันที .
    .
    ด้าน นาย สายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของทนายตั้ม เปิดเผยว่าทนายตั้มไม่เครียดกับการถูกดำเนินคดี พร้อมทั้งยังเตรียมตัวถูกจับกุมจากตำรวจมาเป็นเวลานานถึง 5 วัน โดยใส่สูทแต่งตัวรอให้ถูกจับกุมอยู่ที่บ้านตลอดเวลา กระทั่งวันนี้เห็นว่ายังไม่มีการออกหมายจับจึงเดินทางไปทำบุญที่วัดในจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งมีความบริสุทธิ์ใจสังเกตได้จากการแต่งตัวและเสื้อผ้า ที่ทั้งสองคนวางแผนว่าจะไปนอนทำวัตรเย็นที่วัดและเดินทางกลับบ้าน ไม่ได้จะเดินทางหนีออกไปยังชายแดนอย่างที่ทุกคนตั้งข้อสังเกต แต่ยอมรับว่าภรรยาของทนายสิทธามีอาการเครียด เนื่องจากเป็นผู้หญิงและไม่คิดว่าจะต้องถูกดำเนินคดีเข้าเรือนจำ
    .
    ส่วนแนวทางการต่อสู้คดี ยืนยันว่าตนเองและทนายตั้มได้เตรียมพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารหลักฐานสัญญาไว้อย่างละเอียดแล้ว และเชื่อว่าจะสามารถนำไปต่อสู้คดีในชั้นศาลได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและการตีความกฎหมาย นอกจากนี้จะหารือกับญาติของลูกความทั้งสองคนว่าจะเตรียมหลักทรัพย์ในการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไว้อย่างไร
    ..............
    Sondhi X
    เมื่อคืน “ทนายตั้ม” นอนซังเต หลังกองปราบสอบ 11 ชม. . ตำรวจกองปราบคุมตัวทนายตั้มเข้าห้องขัง หลังสอบมาราธอน 11 ชั่วโมง . จากกรณีตำรวจกองปราบติดตามจับกุมตัวนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ในข้อหาฉ้อโกง , ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิด ฐานฟอกเงิน และนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ได้ที่ ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) . ล่าสุดเมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 8 พ.ย.ที่อาคารกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายหลังการสอบปากคำกว่า 11 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนร่วมกันควบคุมตัวนายษิทรา เบี้ยบังเกิด (สวมเสื้อเชิ๊ตเเขสั้นสีขาว กางเกงยีน) พร้อมนางปทิตตา ฯ (เสื้อยืดสีดำ) สองสามีภรรยา ลงจากห้องสอบสวน เพื่อนำตัวเข้าห้องขังที่บริเวณชั้น 1 บก.ป. . ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่ทนายตั้ม จะลงมาห้องขัง ได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ว่า "ยังมีนักข่าวเฝ้าอยู่หรือไม่" เนื่องจากไม่อยากเจอสื่อมวลชน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบจึงขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนให้ออกมาเฝ้าสังเกตุการณ์ด้านนอกอาคารแทน กระทั่งผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าควบคุมตัวทนายตั้ม เดินลงจากห้องสอบสวน โดยทนายตั้ม มีสีหน้าอิฐโรย และพยายามเหลือบมองสื่อมวลชน รวมถึงนางปทิตตา ก็ได้เดินก้มหน้า ก่อนทั้งสองจะถูกนำตัวเข้าห้องขังไปทันที . . ด้าน นาย สายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของทนายตั้ม เปิดเผยว่าทนายตั้มไม่เครียดกับการถูกดำเนินคดี พร้อมทั้งยังเตรียมตัวถูกจับกุมจากตำรวจมาเป็นเวลานานถึง 5 วัน โดยใส่สูทแต่งตัวรอให้ถูกจับกุมอยู่ที่บ้านตลอดเวลา กระทั่งวันนี้เห็นว่ายังไม่มีการออกหมายจับจึงเดินทางไปทำบุญที่วัดในจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งมีความบริสุทธิ์ใจสังเกตได้จากการแต่งตัวและเสื้อผ้า ที่ทั้งสองคนวางแผนว่าจะไปนอนทำวัตรเย็นที่วัดและเดินทางกลับบ้าน ไม่ได้จะเดินทางหนีออกไปยังชายแดนอย่างที่ทุกคนตั้งข้อสังเกต แต่ยอมรับว่าภรรยาของทนายสิทธามีอาการเครียด เนื่องจากเป็นผู้หญิงและไม่คิดว่าจะต้องถูกดำเนินคดีเข้าเรือนจำ . ส่วนแนวทางการต่อสู้คดี ยืนยันว่าตนเองและทนายตั้มได้เตรียมพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารหลักฐานสัญญาไว้อย่างละเอียดแล้ว และเชื่อว่าจะสามารถนำไปต่อสู้คดีในชั้นศาลได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและการตีความกฎหมาย นอกจากนี้จะหารือกับญาติของลูกความทั้งสองคนว่าจะเตรียมหลักทรัพย์ในการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไว้อย่างไร .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Wow
    11
    0 Comments 0 Shares 1231 Views 0 Reviews
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.75: มอร์มอน

    เมื่อเช้านี้ระหว่างที่ผมรถติดอยู่แถวๆบ้าน สายตาก็เหลือบไปเห็นฝรั่งวัยหนุ่ม 2 คน ท่าทางดี แต่งตัวเรียบร้อยนั่งอยู่บนรถสองแถวครับ

    จากประสบการณ์นั้น มองปร๊าดเดียวก็รู้ว่าพ่อหนุ่มสองคนนี้เป็นพวกเผยแพร่ศาสนาคริสต์ และผมคิดว่าเป็นนิกายมอร์มอน (Mormon) เพราะการแต่งตัวสไตล์เสื้อเชิ้ตแขนสั้น ผูกไท สะพายกระเป๋าดำและมีป้ายชื่อสีดำอันใหญ่ๆนี่ ดูยังไงก็มอร์มอน

    และน่าจะเป็นชาวอเมริกัน เพราะพวกมอร์มอนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นอเมริกัน เพราะนิกายมอร์มอนนั้นกำเนิดในอเมริกาครับ

    ตอนสมัยที่ผมได้ไปเรียนอยู่ที่อเมริกาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผมเคยเจอวัยรุ่นมอร์มอนมาเคาะประตูบ้านและชวนไปเข้าลัทธิกับเขา ได้ฟังเขาเล่าเรื่องของมอร์มอนแล้วก็สนุกดี

    วันนี้ก็ผมจึงไปค้นคว้าหาเรื่องของพวกมอร์มอนมาเล่าสู่กันฟังสนุกๆครับ
    .
    .
    .
    นิกายมอร์มอนนั้นเกิดขึ้นในช่วงที่อเมริกาเพิ่งจะประกาศอิสรภาพแยกตัวจากอังกฤษใหม่ๆครับ นั่นก็คือ ช่วงประมาณ ค.ศ.1800 โน่น

    ความน่าสนใจของนิกายนี้ ก็คือ ผู้ที่เป็นศาสดาหรือผู้นำสารของพระเจ้านั้นเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นชาวนิวยอร์คชื่อ “โจเซฟ สมิธ” ซึ่งโจเซฟผู้นี้เขาไม่ได้มีการศึกษาอะไร แต่เป็นเด็กที่รักการค้นหาขุดหาสมบัติในสวนหลังบ้าน

    อันนี้เราก็ต้องเข้าใจบริบทในยุคนั้นด้วยนิดนึงครับ เพราะอเมริกานั้นเป็นดินแดนโลกใหม่ ดังนั้นความเชื่อเรื่องการขุดหาสมบัติลึกลับของโจรสลัดหรือขุมทรัพย์โบราณก็ยังแพร่หลายครับ

    วันหนึ่งระหว่างที่เด็กชายโจเซฟวัย 15 ขวบนี้กำลังหาโน่นนี่อยู่ในป่าหลังบ้าน ก็ให้บังเอิญได้ไปพบกับร่างมนุษย์ศักดิ์สิทธิ์สองร่างกำลังลอยอยู่ และบอกกับโจเซฟว่า ร่างหนึ่งคือพระเจ้าและอีกร่างคือพระเยซูบุตรของพระเจ้า

    พระเจ้าบอกกับโจเซฟว่า บรรดานิกายศาสนาคริสต์และศาสนาทั้งหลายที่มีอยู่บนโลกนี้นั้นล้วนแต่เสื่อมโทรมทั้งสิ้น และพระเจ้าได้บอกให้โจเซฟเตรียมตัวที่จะสร้างดินแดนที่วันหนึ่งพระเยซูจะกลับมาพิพากษาคนบาป

    โจเซฟเจอดังนี้แล้ว ก็กลับบ้านมาแต่ก็ไม่ได้คิดจะบอกอะไรใคร ได้แต่เก็บไว้เป็นความลับส่วนตัว

    เวลาผ่านไปอีกสามปี เมื่อโจเซฟอายุได้ 18 ปี ก็ได้มีเทวดาองค์หนึ่งมาปรากฏตัวขึ้นในห้องของโจเซฟ เทวดาบอกกับโจเซฟว่าให้เดินไปที่เนินเขาใกล้ๆบ้านแล้วจะได้พบกับแผ่นทองคำจารึกข้อความสำคัญที่อยากจะให้โจเซฟเอามาเผยแพร่ต่อมนุษย์โลก

    แน่นอนว่าโจเซฟก็ทำตามนั้น และเขาก็ได้พบกับแผ่นทองคำปึกใหญ่ๆจริงๆ บนแผ่นทองคำนั้นจารึกด้วยภาษาฮีบรูโบราณซึ่งโจเซฟอ่านไม่ออก แต่เขาก็เอากลับมาเก็บไว้ที่บ้าน แล้วก็เล่าเรื่องให้พ่อแม่พี่น้องและภรรยาฟัง

    ซึ่งทุกคนก็เชื่อเขาสนิทใจโดยไม่มีข้อโต้แย้งแต่อย่างใด

    แต่ทั้งนี้โจเซฟก็ไม่ได้ให้ใครได้เห็นแผ่นจารึกทองคำนี้เลยนะครับ และเมื่อโจเซฟคิดจะแปลข้อความจากแผ่นทองคำนี้เป็นภาษาอังกฤษ โจเซฟก็จะใช้วิธีขึงผ้าม่านหนาๆใหญ่ๆกั้นระหว่างตัวเขากับคนจดบันทึก (ซึ่งบางทีก็เป็นภรรยาเขาหรือไม่ก็น้องชาย)

    แล้วโจเซฟก็จะใช้เครื่องมือวิเศษที่สามารถมองข้อความบนแผ่นทองคำให้ออกมาเป็นภาษาอังกฤษ โจเซฟก็จะอ่านให้คนจดบันทึกไปเรื่อยๆ ทำอย่างนี้อยู่ราวๆสามเดือน ก็ได้หนังสือขนาดความยาว 800 กว่าหน้า

    เรียกว่า “เดอะบุ๊คออฟมอร์มอน - The Book of Mormon"

    เมื่อโจเซฟตรวจทานหนังสือเล่มนี้เสร็จแล้ว เขาก็จัดการส่งคืนแผ่นทองคำต้นฉบับนี้ให้เทวดาองค์เดิมไป เป็นอันว่าไม่เคยมีใครได้เห็นแผ่นทองคำนี้นอกจากโจเซฟเอง
    .
    .
    .
    ความน่าสนใจก็คือ โจเซฟนั้นเป็นคนที่ไม่ได้รับการศึกษาอะไร แต่สามารถแต่งหนังสือขึ้นความยาว 800 กว่าหน้านี้ได้ก็ถือว่าเก่ง แม้ว่าภายหลังจะมีผู้พบว่า เนื้อหาในหลายๆส่วนนั้นลอกจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ลมาแบบ copy and paste ก็ตามที

    ถ้าเราสังเกตดีๆ โจเซฟเขาไม่ได้ตั้งชื่อหนังสือเขาว่า ”มอร์มอนไบเบิ้ล“ แต่เรียกว่า ”เดอะบุ๊คออฟมอร์มอน“ นะครับ เพราะเขาคิดว่าลัทธิของเขาคือลัทธิใหม่ ไม่ได้เกี่ยวกับไบเบิ้ล

    และในเดอะบุ๊คออฟมอร์มอนนี้ โจเซฟเขาเขียนเล่าไว้ว่า เมื่อราวๆ 600 ปีก่อนสมัยพระเยซูนั้น มีชาวยิวกลุ่มหนึ่งได้หลบหนีออกจากกรุงเยรูซาเล็ม เดินข้ามทะเลทรายและขึ้นเรือรอนแรมมาจนกระทั่งถึงอเมริกา

    ชาวยิวกลุ่มนี้ได้เดินทางเข้ามาพำนักอาศัยอยู่ในแผ่นดินอเมริกาและเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เป็นบรรพบุรุษชาวชนพื้นเมืองอเมริกัน (Native American)

    แน่นอนว่าเมื่อเทคโนโลยีทันสมัยขึ้น การตรวจดีเอ็นเอของชนพื้นเมืองอเมริกันก็พบว่าไม่ได้มีเชื้อสายยิวเลยแม้แต่น้อย

    นอกนั้นในบุ๊คออฟมอร์มอนยังบอกอีกว่า หลังจากที่พระเยซูถูกตรึงกางเขนตายไปนั้น พระองค์ยังได้มาปรากฏตัวอยู่ที่อเมริกาด้วย

    แต่เอาเถิดครับ....ไม่ว่าเรื่องราวจะพิสดารเพียงใด เมื่อโจเซฟประกาศลัทธิใหม่ออกไป ประกอบกับว่าเขาเป็นคนมีวาทศิลป์ดี โน้มน้าวคนได้เก่ง ก็ปรากฏว่ามีผู้เชื่อถือลัทธิมอร์มอนของโจเซฟอยู่หลายพันคน

    และอีกครั้งที่ผมอยากจะขอให้ท่านผู้อ่านนึกภาพว่า นี่คือเหตุการณ์เมื่อ 200 ปีก่อน ที่คนอเมริกันคือชาวยุโรปที่อพยพมาค้นหาโลกใหม่ การที่พวกเขาจะเริ่มต้นกับลัทธิความเชื่อใหม่บนแผ่นดินใหม่ที่ต่างไปจากความเชื่อเดิมที่พวกเขาละทิ้งมา ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
    .
    .
    .
    พ่อหนุ่มโจเซฟในวัย 26 ปีได้ประกาศกับสาวกของตัวเองว่า พระเจ้าได้ขอให้โจเซฟและชาวมอร์มอนสร้างแผ่นดินใหม่ที่เรียกว่า “ไซออน - Zion" เพื่อรอรับการกลับมาของพระเยซู

    ซึ่งการจะทำดั่งนี้ได้ ชาวมอร์มอนทั้งหลายจะต้องเดินทางอพยพไปสร้างเมืองใหม่ขึ้นมา

    ว่าแล้วโจเซฟกับชาวมอร์มอนหลายพันคนก็ออกเดินทางจากนิวยอร์คไปยังรัฐโอไฮโอแล้วก็เริ่มสร้างเมือง แต่สร้างได้สักพักก็โดนชาวเมืองที่เขาอาศัยอยู่เดิมเขาขับไล่ด้วยความที่เป็นพวกลัทธิประหลาด

    โจเซฟและพวกก็อพยพอีกรอบ คราวนี้เดินทางกันต่อมาที่เมืองแจ็คสันวิลล์ รัฐมิสซูรี ทีนี้โจเซฟได้ประกาศว่า ”ที่นี่แหละที่เราจะสร้างเมืองไซออนของเราขึ้นมา เพราะที่นี่อยู่ใกล้กับสวนสวรรค์อีเดนของพระเจ้า“

    จำนวนชาวมอร์มอนเริ่มขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังขยันก่อสร้างกันเสียอีก เพราะโจเซฟเขาได้ออกแบบผังเมืองเป็นรูปกริด (Grid) บล็อคๆสี่เหลี่ยมเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม

    ชาวมิสซูรีเดิมเห็นท่าไม่ดี เกรงว่าบ้านเรือนของตัวเองจะโดนพวกมอร์มอนยึดเรียบ ก็เลยขับไล่พวกมอร์มอน แล้วก็เกิดการรบพุ่งกันจริงจังขึ้นจนกระทั่งผู้ว่าการรัฐมิสซูรีต้องประกาศสงครามกันดุเดือด

    พวกมอร์มอนก็จึงต้องย้ายอีก..... คราวนี้ไปอยู่ที่รัฐอิลลินอยส์ ใกล้ๆกับเมืองชิคาโก ทีนี่แหละครับที่โจเซฟชะตาขาด เพราะเมื่อตัวเองเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นก็กำเริบถึงขนาดลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี และเริ่มใช้กำลังทหารของตัวเองไปทำลายโรงพิมพ์ที่ตีพิมพ์บทความต่อต้านพวกมอร์มอน

    ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์จึงจับตัวโจเซฟและน้องชายมาขังตัวไว้ ปรากฏว่าโดนฝูงชนบุกเข้าไปถึงห้องขัง ยิงโจเซฟตายขณะที่พยายามกระโดดหนีออกจากชั้นสอง

    โจเซฟ สมิธตายในวัยเพียง 34 ปี มีสาวกเป็นชาวมอร์มอนอยู่นับหมื่นคน
    .
    .
    .
    บรรดาชาวมอร์มอนทั้งหลายก็อพยพอีกรอบ คราวนี้ระหกระเหินมุ่งหน้าไปฝั่งตะวันตกเรื่อยๆจนกระทั่งไปถึงดินแดนหุบเขาอันกว้างใหญ่ที่ครอบคลุมรัฐยูท่าห์ รัฐอริโซน่า รัฐโคโลราโด และรัฐแคลิฟอร์เนีย

    เพียงแต่สมัยนั้นยังไม่มีชื่อรัฐเช่นนี้ เพราะดินแดนที่ผมเขียนไปข้างต้นนั้นยังคงเป็นของเม็กซิโกเขา และมีชนพื้นเมืองอเมริกันอาศัยกันอยู่

    พวกมอร์มอนมาถึงปุ๊บ ก็เร่งรีบสร้างเมืองกันทันทีเพราะเขาเชื่อกันว่าใกล้จะถึงวันที่พระเยซูจะมาถึงเต็มแก่

    ทั้งนี้เราก็ต้องยกย่องในความสามารถในทางวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมของพวกมอร์มอน ที่เขาสามารถสร้างเมือง โบสถ์ โรงเรียน โรงเหล็ก เหมืองและระบบระบายน้ำขึ้นมาได้จากดินแดนอันว่างเปล่า

    เมืองของพวกมอร์มอนขยายตัวกันอย่างรวดเร็ว และรูปแบบของเมืองก็ยังคงเป็นแบบกริด (Grid) หรือบล็อคสี่เหลี่ยมๆเป็นระเบียบตามแบบที่โจเซฟ สมิธออกแบบไว้

    พวกมอร์มอนเรียกเมืองของเขาว่า “เดเซเร็ท - Deseret" อันเป็นภาษาโบราณแปลว่า ”รังผึ้ง“ ครับ อันสื่อความหมายถึงความร่วมมือร่วมใจกันชุมชนที่ทำงานร่วมกัน

    ที่เมืองเดเซเร็ทนี้ พวกมอร์มอนเขาเริ่มออกสกุลเงิน ธนบัตร เริ่มออกกฎหมายของตัวเอง มีภาษาเขียนของตัวเอง

    ทีนี้รัฐบาลกลางสหรัฐเริ่มชักจะเหล่สายตามาที่พวกมอร์มอนอีกรอบ เพราะชักจะเริ่มทำทีท่าคล้ายๆจะแยกเป็นประเทศต่างหาก ไม่ขึ้นกับสหรัฐอเมริกาอีกแล้ว

    รัฐบาลก็เลยเรียกผู้นำของมอร์มอนในเวลานั้น คือ นายบริกแฮม ยัง (Brigham Young) ไปคุยด้วยว่าจะเอายังไงกันแน่ นายยังเขาบอกว่า เขาจะยังอยู่กับอเมริกานี่แหละ แต่เขาขอดินแดนทั้งหมดตั้งขึ้นเป็นรัฐใหม่เรียกว่า ”รัฐเดเซเร็ท“

    รัฐบาลอเมริกาไปนั่งดูแล้ว ก็คิดว่าให้ไม่ได้ เพราะดินแดนที่นายยังขอมานั้นกว้างใหญ่ขนาดครอบคลุมถึง 6 รัฐในปัจจุบัน ก็เลยบอกนายยังไปว่าให้ได้แค่พื้นที่เท่ากับรัฐยูท่าในปัจจุบันเท่านั้นแหละ

    จะเอาไม่เอาก็บอกมา

    ซึ่งนายยังก็ยอมตามนั้น รัฐบาลก็เลยตั้งให้นายยังเป็นผู้ว่าการรัฐคนแรกไป

    ทุกวันนี้ถ้าเพื่อนๆคนไหนได้ไปเที่ยวที่เมืองซอลท์เลกซิตี้ รัฐยูท่า ก็จะเห็นระบบการออกแบบบ้านเมืองตามสไตล์ของพวกมอร์มอนครับ เป็นกริดและมีระเบียบเรียบร้อย

    แต่ช้าก่อน....เวรกรรมของพวกมอร์มอนยังไม่หยุดแค่นั้น เพราะยังมีพฤติกรรมหลายๆอย่างของมอร์มอนที่ชนอเมริกันส่วนใหญ่รับไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือ “การแต่งงานมีหลายเมีย - Polygamy” เพราะชนอเมริกันนั้นมองว่าการมีเมียหลายๆคนนั้น เป็นหนึ่งในรูปแบบของการใช้แรงงานทาสแบบกลายๆ

    ทีนี้ตามกฎของมอร์มอนในเวลานั้น การแต่งงานมีเมียหลายคนนั้นคือส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวไปสู่สรวงสวรรค์ อย่างนายโจเซฟ สมิธนั้นก็มีเมียมากถึง 40 คน ส่วนนายบริกแฮม ยังนั้นมีเมียเยอะถึง 50 กว่าคน

    แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วกฎหมายของพวกมอร์มอนก็ถูกลบทิ้งไปหมดสิ้น ทิ้งไว้แต่ความเชื่อในลัทธิมอร์มอนที่ยังคงเข้มแข็งอยู่

    ที่รัฐยูท่านั้นยังเป็นหนึ่งในรัฐที่ความเป็นมอร์มอนเข้มแข็ง วิทยาลัยสอนศาสนามอร์มอนก็ยังคงมีอยู่ โบสถ์มอร์มอนก็ยังมี

    ทุกวันนี้ที่รัฐนิวยอร์ค ก็ยังคงมีการจัดพิธีเฉลิมฉลองและการแสดงตรงเนินเขา “คูโมรา - Cumorah" ที่โจเซฟ สมิธได้ไปพบกับแผ่นจารึกทองคำอันเป็นกำเนิดของหนังสือเดอะบุ๊คออฟมอร์มอนกันอยู่เลย
    .
    .
    .
    ผมเองก็เคยได้หนังสือมอร์มอนนี้มาเหมือนกัน แต่เสียดายว่าทิ้งไว้ที่อเมริกา ไม่ได้เอากลับมาเมืองไทยด้วย

    อ้อ.... เกร็ดเล็กๆที่อยากแถมไว้ก็คือ ที่อนุสาวรีย์ “วอชิงตัน มอนิวเม้นท์” ที่เป็นรูปแท่งหินสูงใหญ่ ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตันดีซีน่ะครับ

    ตรงฐานของอนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นจากก้อนอิฐใหญ่ๆที่นำมาจากทุกรัฐทั่วสหรัฐอเมริกา อิฐแต่ละก้อนก็จะมีสลักสัญลักษณ์และชื่อรัฐของเขาเอาไว้

    มีอยู่รัฐหนึ่งที่ไม่ยอมใช้ชื่อรัฐตัวเอง แน่นอนว่าคือ ”รัฐยูท่า“ เพราะเขาใช้ชื่อว่า “เดเซเร็ท - Deseret" แบบดั้งเดิมและสลักเป็นรูปรังผึ้งขนาดใหญ่ และมีดวงตาของพระเจ้ามองลงมายังรังผึ้งของเขาด้วย

    อันเป็นการแสดงออกว่า ”เราคือมอร์มอนนะจ๊ะ“

    .....เอามาเล่าสู่กันฟังครับ เขียนยาวเหยียดไปหน่อยต้องขออภัย.....

    ใครสนใจเรื่องนี้ลองเข้าไปชมตามยูทูบวิดีโอข้างล่างนี้ได้เลยครับ

    https://youtu.be/hUW7j9GmXjI?si=3Mbhr_4mIJ15AoIA
    https://youtu.be/aTMsfOcHiJg?si=700kX_fdK2uUdJPS
    https://youtu.be/vJzRAiqg4zg?si=QhybEsnWh3GXeAgX

    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.75: มอร์มอน เมื่อเช้านี้ระหว่างที่ผมรถติดอยู่แถวๆบ้าน สายตาก็เหลือบไปเห็นฝรั่งวัยหนุ่ม 2 คน ท่าทางดี แต่งตัวเรียบร้อยนั่งอยู่บนรถสองแถวครับ จากประสบการณ์นั้น มองปร๊าดเดียวก็รู้ว่าพ่อหนุ่มสองคนนี้เป็นพวกเผยแพร่ศาสนาคริสต์ และผมคิดว่าเป็นนิกายมอร์มอน (Mormon) เพราะการแต่งตัวสไตล์เสื้อเชิ้ตแขนสั้น ผูกไท สะพายกระเป๋าดำและมีป้ายชื่อสีดำอันใหญ่ๆนี่ ดูยังไงก็มอร์มอน และน่าจะเป็นชาวอเมริกัน เพราะพวกมอร์มอนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นอเมริกัน เพราะนิกายมอร์มอนนั้นกำเนิดในอเมริกาครับ ตอนสมัยที่ผมได้ไปเรียนอยู่ที่อเมริกาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผมเคยเจอวัยรุ่นมอร์มอนมาเคาะประตูบ้านและชวนไปเข้าลัทธิกับเขา ได้ฟังเขาเล่าเรื่องของมอร์มอนแล้วก็สนุกดี วันนี้ก็ผมจึงไปค้นคว้าหาเรื่องของพวกมอร์มอนมาเล่าสู่กันฟังสนุกๆครับ . . . นิกายมอร์มอนนั้นเกิดขึ้นในช่วงที่อเมริกาเพิ่งจะประกาศอิสรภาพแยกตัวจากอังกฤษใหม่ๆครับ นั่นก็คือ ช่วงประมาณ ค.ศ.1800 โน่น ความน่าสนใจของนิกายนี้ ก็คือ ผู้ที่เป็นศาสดาหรือผู้นำสารของพระเจ้านั้นเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นชาวนิวยอร์คชื่อ “โจเซฟ สมิธ” ซึ่งโจเซฟผู้นี้เขาไม่ได้มีการศึกษาอะไร แต่เป็นเด็กที่รักการค้นหาขุดหาสมบัติในสวนหลังบ้าน อันนี้เราก็ต้องเข้าใจบริบทในยุคนั้นด้วยนิดนึงครับ เพราะอเมริกานั้นเป็นดินแดนโลกใหม่ ดังนั้นความเชื่อเรื่องการขุดหาสมบัติลึกลับของโจรสลัดหรือขุมทรัพย์โบราณก็ยังแพร่หลายครับ วันหนึ่งระหว่างที่เด็กชายโจเซฟวัย 15 ขวบนี้กำลังหาโน่นนี่อยู่ในป่าหลังบ้าน ก็ให้บังเอิญได้ไปพบกับร่างมนุษย์ศักดิ์สิทธิ์สองร่างกำลังลอยอยู่ และบอกกับโจเซฟว่า ร่างหนึ่งคือพระเจ้าและอีกร่างคือพระเยซูบุตรของพระเจ้า พระเจ้าบอกกับโจเซฟว่า บรรดานิกายศาสนาคริสต์และศาสนาทั้งหลายที่มีอยู่บนโลกนี้นั้นล้วนแต่เสื่อมโทรมทั้งสิ้น และพระเจ้าได้บอกให้โจเซฟเตรียมตัวที่จะสร้างดินแดนที่วันหนึ่งพระเยซูจะกลับมาพิพากษาคนบาป โจเซฟเจอดังนี้แล้ว ก็กลับบ้านมาแต่ก็ไม่ได้คิดจะบอกอะไรใคร ได้แต่เก็บไว้เป็นความลับส่วนตัว เวลาผ่านไปอีกสามปี เมื่อโจเซฟอายุได้ 18 ปี ก็ได้มีเทวดาองค์หนึ่งมาปรากฏตัวขึ้นในห้องของโจเซฟ เทวดาบอกกับโจเซฟว่าให้เดินไปที่เนินเขาใกล้ๆบ้านแล้วจะได้พบกับแผ่นทองคำจารึกข้อความสำคัญที่อยากจะให้โจเซฟเอามาเผยแพร่ต่อมนุษย์โลก แน่นอนว่าโจเซฟก็ทำตามนั้น และเขาก็ได้พบกับแผ่นทองคำปึกใหญ่ๆจริงๆ บนแผ่นทองคำนั้นจารึกด้วยภาษาฮีบรูโบราณซึ่งโจเซฟอ่านไม่ออก แต่เขาก็เอากลับมาเก็บไว้ที่บ้าน แล้วก็เล่าเรื่องให้พ่อแม่พี่น้องและภรรยาฟัง ซึ่งทุกคนก็เชื่อเขาสนิทใจโดยไม่มีข้อโต้แย้งแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้โจเซฟก็ไม่ได้ให้ใครได้เห็นแผ่นจารึกทองคำนี้เลยนะครับ และเมื่อโจเซฟคิดจะแปลข้อความจากแผ่นทองคำนี้เป็นภาษาอังกฤษ โจเซฟก็จะใช้วิธีขึงผ้าม่านหนาๆใหญ่ๆกั้นระหว่างตัวเขากับคนจดบันทึก (ซึ่งบางทีก็เป็นภรรยาเขาหรือไม่ก็น้องชาย) แล้วโจเซฟก็จะใช้เครื่องมือวิเศษที่สามารถมองข้อความบนแผ่นทองคำให้ออกมาเป็นภาษาอังกฤษ โจเซฟก็จะอ่านให้คนจดบันทึกไปเรื่อยๆ ทำอย่างนี้อยู่ราวๆสามเดือน ก็ได้หนังสือขนาดความยาว 800 กว่าหน้า เรียกว่า “เดอะบุ๊คออฟมอร์มอน - The Book of Mormon" เมื่อโจเซฟตรวจทานหนังสือเล่มนี้เสร็จแล้ว เขาก็จัดการส่งคืนแผ่นทองคำต้นฉบับนี้ให้เทวดาองค์เดิมไป เป็นอันว่าไม่เคยมีใครได้เห็นแผ่นทองคำนี้นอกจากโจเซฟเอง . . . ความน่าสนใจก็คือ โจเซฟนั้นเป็นคนที่ไม่ได้รับการศึกษาอะไร แต่สามารถแต่งหนังสือขึ้นความยาว 800 กว่าหน้านี้ได้ก็ถือว่าเก่ง แม้ว่าภายหลังจะมีผู้พบว่า เนื้อหาในหลายๆส่วนนั้นลอกจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ลมาแบบ copy and paste ก็ตามที ถ้าเราสังเกตดีๆ โจเซฟเขาไม่ได้ตั้งชื่อหนังสือเขาว่า ”มอร์มอนไบเบิ้ล“ แต่เรียกว่า ”เดอะบุ๊คออฟมอร์มอน“ นะครับ เพราะเขาคิดว่าลัทธิของเขาคือลัทธิใหม่ ไม่ได้เกี่ยวกับไบเบิ้ล และในเดอะบุ๊คออฟมอร์มอนนี้ โจเซฟเขาเขียนเล่าไว้ว่า เมื่อราวๆ 600 ปีก่อนสมัยพระเยซูนั้น มีชาวยิวกลุ่มหนึ่งได้หลบหนีออกจากกรุงเยรูซาเล็ม เดินข้ามทะเลทรายและขึ้นเรือรอนแรมมาจนกระทั่งถึงอเมริกา ชาวยิวกลุ่มนี้ได้เดินทางเข้ามาพำนักอาศัยอยู่ในแผ่นดินอเมริกาและเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เป็นบรรพบุรุษชาวชนพื้นเมืองอเมริกัน (Native American) แน่นอนว่าเมื่อเทคโนโลยีทันสมัยขึ้น การตรวจดีเอ็นเอของชนพื้นเมืองอเมริกันก็พบว่าไม่ได้มีเชื้อสายยิวเลยแม้แต่น้อย นอกนั้นในบุ๊คออฟมอร์มอนยังบอกอีกว่า หลังจากที่พระเยซูถูกตรึงกางเขนตายไปนั้น พระองค์ยังได้มาปรากฏตัวอยู่ที่อเมริกาด้วย แต่เอาเถิดครับ....ไม่ว่าเรื่องราวจะพิสดารเพียงใด เมื่อโจเซฟประกาศลัทธิใหม่ออกไป ประกอบกับว่าเขาเป็นคนมีวาทศิลป์ดี โน้มน้าวคนได้เก่ง ก็ปรากฏว่ามีผู้เชื่อถือลัทธิมอร์มอนของโจเซฟอยู่หลายพันคน และอีกครั้งที่ผมอยากจะขอให้ท่านผู้อ่านนึกภาพว่า นี่คือเหตุการณ์เมื่อ 200 ปีก่อน ที่คนอเมริกันคือชาวยุโรปที่อพยพมาค้นหาโลกใหม่ การที่พวกเขาจะเริ่มต้นกับลัทธิความเชื่อใหม่บนแผ่นดินใหม่ที่ต่างไปจากความเชื่อเดิมที่พวกเขาละทิ้งมา ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร . . . พ่อหนุ่มโจเซฟในวัย 26 ปีได้ประกาศกับสาวกของตัวเองว่า พระเจ้าได้ขอให้โจเซฟและชาวมอร์มอนสร้างแผ่นดินใหม่ที่เรียกว่า “ไซออน - Zion" เพื่อรอรับการกลับมาของพระเยซู ซึ่งการจะทำดั่งนี้ได้ ชาวมอร์มอนทั้งหลายจะต้องเดินทางอพยพไปสร้างเมืองใหม่ขึ้นมา ว่าแล้วโจเซฟกับชาวมอร์มอนหลายพันคนก็ออกเดินทางจากนิวยอร์คไปยังรัฐโอไฮโอแล้วก็เริ่มสร้างเมือง แต่สร้างได้สักพักก็โดนชาวเมืองที่เขาอาศัยอยู่เดิมเขาขับไล่ด้วยความที่เป็นพวกลัทธิประหลาด โจเซฟและพวกก็อพยพอีกรอบ คราวนี้เดินทางกันต่อมาที่เมืองแจ็คสันวิลล์ รัฐมิสซูรี ทีนี้โจเซฟได้ประกาศว่า ”ที่นี่แหละที่เราจะสร้างเมืองไซออนของเราขึ้นมา เพราะที่นี่อยู่ใกล้กับสวนสวรรค์อีเดนของพระเจ้า“ จำนวนชาวมอร์มอนเริ่มขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังขยันก่อสร้างกันเสียอีก เพราะโจเซฟเขาได้ออกแบบผังเมืองเป็นรูปกริด (Grid) บล็อคๆสี่เหลี่ยมเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม ชาวมิสซูรีเดิมเห็นท่าไม่ดี เกรงว่าบ้านเรือนของตัวเองจะโดนพวกมอร์มอนยึดเรียบ ก็เลยขับไล่พวกมอร์มอน แล้วก็เกิดการรบพุ่งกันจริงจังขึ้นจนกระทั่งผู้ว่าการรัฐมิสซูรีต้องประกาศสงครามกันดุเดือด พวกมอร์มอนก็จึงต้องย้ายอีก..... คราวนี้ไปอยู่ที่รัฐอิลลินอยส์ ใกล้ๆกับเมืองชิคาโก ทีนี่แหละครับที่โจเซฟชะตาขาด เพราะเมื่อตัวเองเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นก็กำเริบถึงขนาดลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี และเริ่มใช้กำลังทหารของตัวเองไปทำลายโรงพิมพ์ที่ตีพิมพ์บทความต่อต้านพวกมอร์มอน ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์จึงจับตัวโจเซฟและน้องชายมาขังตัวไว้ ปรากฏว่าโดนฝูงชนบุกเข้าไปถึงห้องขัง ยิงโจเซฟตายขณะที่พยายามกระโดดหนีออกจากชั้นสอง โจเซฟ สมิธตายในวัยเพียง 34 ปี มีสาวกเป็นชาวมอร์มอนอยู่นับหมื่นคน . . . บรรดาชาวมอร์มอนทั้งหลายก็อพยพอีกรอบ คราวนี้ระหกระเหินมุ่งหน้าไปฝั่งตะวันตกเรื่อยๆจนกระทั่งไปถึงดินแดนหุบเขาอันกว้างใหญ่ที่ครอบคลุมรัฐยูท่าห์ รัฐอริโซน่า รัฐโคโลราโด และรัฐแคลิฟอร์เนีย เพียงแต่สมัยนั้นยังไม่มีชื่อรัฐเช่นนี้ เพราะดินแดนที่ผมเขียนไปข้างต้นนั้นยังคงเป็นของเม็กซิโกเขา และมีชนพื้นเมืองอเมริกันอาศัยกันอยู่ พวกมอร์มอนมาถึงปุ๊บ ก็เร่งรีบสร้างเมืองกันทันทีเพราะเขาเชื่อกันว่าใกล้จะถึงวันที่พระเยซูจะมาถึงเต็มแก่ ทั้งนี้เราก็ต้องยกย่องในความสามารถในทางวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมของพวกมอร์มอน ที่เขาสามารถสร้างเมือง โบสถ์ โรงเรียน โรงเหล็ก เหมืองและระบบระบายน้ำขึ้นมาได้จากดินแดนอันว่างเปล่า เมืองของพวกมอร์มอนขยายตัวกันอย่างรวดเร็ว และรูปแบบของเมืองก็ยังคงเป็นแบบกริด (Grid) หรือบล็อคสี่เหลี่ยมๆเป็นระเบียบตามแบบที่โจเซฟ สมิธออกแบบไว้ พวกมอร์มอนเรียกเมืองของเขาว่า “เดเซเร็ท - Deseret" อันเป็นภาษาโบราณแปลว่า ”รังผึ้ง“ ครับ อันสื่อความหมายถึงความร่วมมือร่วมใจกันชุมชนที่ทำงานร่วมกัน ที่เมืองเดเซเร็ทนี้ พวกมอร์มอนเขาเริ่มออกสกุลเงิน ธนบัตร เริ่มออกกฎหมายของตัวเอง มีภาษาเขียนของตัวเอง ทีนี้รัฐบาลกลางสหรัฐเริ่มชักจะเหล่สายตามาที่พวกมอร์มอนอีกรอบ เพราะชักจะเริ่มทำทีท่าคล้ายๆจะแยกเป็นประเทศต่างหาก ไม่ขึ้นกับสหรัฐอเมริกาอีกแล้ว รัฐบาลก็เลยเรียกผู้นำของมอร์มอนในเวลานั้น คือ นายบริกแฮม ยัง (Brigham Young) ไปคุยด้วยว่าจะเอายังไงกันแน่ นายยังเขาบอกว่า เขาจะยังอยู่กับอเมริกานี่แหละ แต่เขาขอดินแดนทั้งหมดตั้งขึ้นเป็นรัฐใหม่เรียกว่า ”รัฐเดเซเร็ท“ รัฐบาลอเมริกาไปนั่งดูแล้ว ก็คิดว่าให้ไม่ได้ เพราะดินแดนที่นายยังขอมานั้นกว้างใหญ่ขนาดครอบคลุมถึง 6 รัฐในปัจจุบัน ก็เลยบอกนายยังไปว่าให้ได้แค่พื้นที่เท่ากับรัฐยูท่าในปัจจุบันเท่านั้นแหละ จะเอาไม่เอาก็บอกมา ซึ่งนายยังก็ยอมตามนั้น รัฐบาลก็เลยตั้งให้นายยังเป็นผู้ว่าการรัฐคนแรกไป ทุกวันนี้ถ้าเพื่อนๆคนไหนได้ไปเที่ยวที่เมืองซอลท์เลกซิตี้ รัฐยูท่า ก็จะเห็นระบบการออกแบบบ้านเมืองตามสไตล์ของพวกมอร์มอนครับ เป็นกริดและมีระเบียบเรียบร้อย แต่ช้าก่อน....เวรกรรมของพวกมอร์มอนยังไม่หยุดแค่นั้น เพราะยังมีพฤติกรรมหลายๆอย่างของมอร์มอนที่ชนอเมริกันส่วนใหญ่รับไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือ “การแต่งงานมีหลายเมีย - Polygamy” เพราะชนอเมริกันนั้นมองว่าการมีเมียหลายๆคนนั้น เป็นหนึ่งในรูปแบบของการใช้แรงงานทาสแบบกลายๆ ทีนี้ตามกฎของมอร์มอนในเวลานั้น การแต่งงานมีเมียหลายคนนั้นคือส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวไปสู่สรวงสวรรค์ อย่างนายโจเซฟ สมิธนั้นก็มีเมียมากถึง 40 คน ส่วนนายบริกแฮม ยังนั้นมีเมียเยอะถึง 50 กว่าคน แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วกฎหมายของพวกมอร์มอนก็ถูกลบทิ้งไปหมดสิ้น ทิ้งไว้แต่ความเชื่อในลัทธิมอร์มอนที่ยังคงเข้มแข็งอยู่ ที่รัฐยูท่านั้นยังเป็นหนึ่งในรัฐที่ความเป็นมอร์มอนเข้มแข็ง วิทยาลัยสอนศาสนามอร์มอนก็ยังคงมีอยู่ โบสถ์มอร์มอนก็ยังมี ทุกวันนี้ที่รัฐนิวยอร์ค ก็ยังคงมีการจัดพิธีเฉลิมฉลองและการแสดงตรงเนินเขา “คูโมรา - Cumorah" ที่โจเซฟ สมิธได้ไปพบกับแผ่นจารึกทองคำอันเป็นกำเนิดของหนังสือเดอะบุ๊คออฟมอร์มอนกันอยู่เลย . . . ผมเองก็เคยได้หนังสือมอร์มอนนี้มาเหมือนกัน แต่เสียดายว่าทิ้งไว้ที่อเมริกา ไม่ได้เอากลับมาเมืองไทยด้วย อ้อ.... เกร็ดเล็กๆที่อยากแถมไว้ก็คือ ที่อนุสาวรีย์ “วอชิงตัน มอนิวเม้นท์” ที่เป็นรูปแท่งหินสูงใหญ่ ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตันดีซีน่ะครับ ตรงฐานของอนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นจากก้อนอิฐใหญ่ๆที่นำมาจากทุกรัฐทั่วสหรัฐอเมริกา อิฐแต่ละก้อนก็จะมีสลักสัญลักษณ์และชื่อรัฐของเขาเอาไว้ มีอยู่รัฐหนึ่งที่ไม่ยอมใช้ชื่อรัฐตัวเอง แน่นอนว่าคือ ”รัฐยูท่า“ เพราะเขาใช้ชื่อว่า “เดเซเร็ท - Deseret" แบบดั้งเดิมและสลักเป็นรูปรังผึ้งขนาดใหญ่ และมีดวงตาของพระเจ้ามองลงมายังรังผึ้งของเขาด้วย อันเป็นการแสดงออกว่า ”เราคือมอร์มอนนะจ๊ะ“ .....เอามาเล่าสู่กันฟังครับ เขียนยาวเหยียดไปหน่อยต้องขออภัย..... ใครสนใจเรื่องนี้ลองเข้าไปชมตามยูทูบวิดีโอข้างล่างนี้ได้เลยครับ https://youtu.be/hUW7j9GmXjI?si=3Mbhr_4mIJ15AoIA https://youtu.be/aTMsfOcHiJg?si=700kX_fdK2uUdJPS https://youtu.be/vJzRAiqg4zg?si=QhybEsnWh3GXeAgX นัทแนะ
    Like
    2
    6 Comments 0 Shares 4474 Views 0 Reviews
  • บริการตัดชุดสูท ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

    บริการในสถานที่ของลูกค้า เอง
    มีตัวอย่างผ้าให้ลูกค้าเลือก
    ตัวอย่างกระดุม
    ตัวอย่างเสื้อเชิ้ต
    ตัวอย่างกางเกง
    และตัวอย่างกระโปรง
    บริการตัดชุดสูท ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย บริการในสถานที่ของลูกค้า เอง มีตัวอย่างผ้าให้ลูกค้าเลือก ตัวอย่างกระดุม ตัวอย่างเสื้อเชิ้ต ตัวอย่างกางเกง และตัวอย่างกระโปรง
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 255 Views 0 Reviews