สูตรยาดองมรณะ ผิดที่ผสมเมทานอล
คลัสเตอร์ยาดอง ที่ชาวบ้านในพื้นที่เขตคลองสามวา และเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ซื้อยาดองตามร้านริมทางดื่ม กระทั่งหลายคนมีอาการเลือดเป็นกรดอย่างรุนแรง มีอาการเหนื่อยหอบง่าย ซึม อ่อนเพลีย ตาพร่ามัว วิงเวียนศีรษะและอาเจียน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาลนพรัตนราชธานี และโรงพยาบาลใกล้เคียง ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่แล้ว (22 ส.ค.) ยังคงดำเนินการสืบหาความจริงต่อไป
ตำรวจชุดคลี่คลายคดี ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ร่วมตรวจสอบร้านยาดองในเขตพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 (บก.น.3) จำนวน 17 ร้าน และในซอยอ่อนนุช 77 อีก 1 ร้าน พร้อมตรวจยึดยาดองจากทุกร้านไปตรวจสอบ ทุกร้านให้การว่ารับมาจาก "เจ๊ปู" ลูกสาวป๋าเหน่ที่เสียชีวิตไปแล้ว
ต่อมาตำรวจเชิญตัว น.ส.ภัสส์รศา อารีจิตสุขศิริ หรือเจ๊ปู อายุ 49 ปี ผู้ผสมยาดองมาสอบปากคำ เจ๊ปูให้การว่า รับสุราขาวมาจากนายสุรศักดิ์ อินสาม หรือเอส อายุ 46 ปี และนายสุรชัย อินสาม หรืออาร์ท อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ส่วนวัตถุดิบที่ใส่ลงไปในเหล้าเป็นสิ่งของธรรมชาติ เป็นสูตรเก่าแก่ของบิดา
จากนั้นชุดคลี่คลายคดีเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งในซอยกาญจนาภิเษก 25 แยก 1-3 แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ พบทั้งคู่พร้อมของกลางเมทานอล และอุปกรณ์การผลิตสุราเถื่อนจำนวนมาก ทั้งสองอ้างว่าผสมน้ำเปล่าเพื่อเจือจางให้เหลือ 35 ดีกรี ใส่แกลลอนนำไปส่งให้กับเจ๊ปู จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน
จากการสอบปากคำ ทั้งสองรับสารภาพกับตำรวจว่าทำมาประมาณปีกว่า โดยหาข้อมูลผสมเหล้าเถื่อนจากอินเทอร์เน็ต ก่อนส่งขายไปตามซุ้มยาดองต่างๆ โดยเมทานอลรับมาจากโรงงานย่านลาดกระบัง เอามาผสมกับน้ำเปล่าเพื่อให้ไม่เกิน 35-40 ดีกรี จากนั้นบรรจุใส่แกลลอนเพื่อนำไปขายต่อ ซึ่งแต่ละร้านก็จะนำไปผสมยาดองอีกที
ที่ สน.มีนบุรี เมื่อวันที่ 26 ส.ค. เจ๊ปูชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวทำยาดองขายมากว่า 30 ปี ตั้งแต่รุ่นพ่อไม่เคยมีปัญหา ที่ผ่านมาไม่เคยรับสุราขาวจากเจ้าอื่น เพราะรับจากเจ้าประจำที่พ่อสั่งตลอด แต่เมื่อ 1 ปีที่แล้ว นายสุรศักดิ์และนายสุรชัย สองพี่น้องซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของแฟนบอกว่า งานน้อยลง อยากหารายได้ มีสูตรเหล้าขาวที่ไปเรียนทำมาอยากให้ช่วยซื้อ
เจ๊ปูจึงให้ลองทำว่าผ่านหรือไม่ เมื่อชิมแล้วพบว่าดีกรีได้ รสชาติคล้ายเจ้าเก่า จึงช่วยสั่งด้วยความสงสาร ซื้อมา 25 ลิตร 900 บาท เท่ากันกับเจ้าเก่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทำเองชิมเองตลอดก็ไม่เคยมีปัญหา
แต่ช่วงหลังลูกค้าตำหนิว่าเหล้าจืด ไม่แรง และมีรสชาติซ่าๆ ตนสอบถามนายสุรศักดิ์และนายสุรชัยว่าทำไมรสชาติมันเปลี่ยน และถามว่าเปลี่ยนวัตถุดิบหรือไม่ ก็ไม่ตอบ บอกแค่ว่าจะปรับปรุง และเมื่อตนทำแล้วชิมพบว่ารสชาติจางลง คิดว่าไม่เป็นอะไร เพราะพ่อสอนมาว่า ยาดองนั้นต้องมีกลิ่นยาจีนนำกลิ่นสุราอยู่แล้ว
ส่วนล็อตล่าสุดที่ทำมานั้น มีอาการท้องเสียเล็กน้อยมา 3 วัน แต่เมื่อทราบว่ามีผู้เสียชีวิตก็ตกใจมาก รู้สึกผิดและเสียใจ ไม่ได้อยากจะทำให้ใครตาย ตนก็อยากเยียวยาผู้เสียหาย เพราะหนึ่งในผู้เสียชีวิตก็เป็นเพื่อนของตน อยากไปเยี่ยมทุกคนที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่กล้ากลัวว่าทุกคนจะไม่เข้าใจ ยืนยันไม่ได้ตั้งใจทำให้ใครเสียชีวิต
สำหรับสูตรการทำยาดองของเจ๊ปู ใช้หม้อเบอร์ 32 ใส่น้ำ ต้มยาจีนหม้อละ 2 ห่อ กานพลู 1 ห่อ และชะเอม 5-6 ก้าน ต้มครั้งแรก 40 นาที จากนั้นจะใส่ดอกคำฝอยและกระชายอย่างละ 4 ขีด ต้มต่ออีก 40 นาที แล้วใส่มะตูมครึ่งกิโลกรัม ต้มอีก 40 นาที ใส่น้ำตาลทราย 2.5 กิโลกรัม คนให้ละลาย แล้วผสมเหล้าขาว เทใส่โอ่ง หมักไว้ 1-2 คืน แล้วนำมาแบ่งใส่แกลลอน
โดย 1 โอ่ง แบ่งได้ 23-24 แกลลอน ส่งขายตามซุ้มยาดอง แกลลอนละ 400 บาท ซุ้มละ 10 แกลลอน มีโปรโมชันซื้อ 10 แถม 1 แกลลอน ในใจอยากทำธุรกิจนี้ต่อเพราะเป็นความฝันของพ่อที่เสียชีวิตไป อยากจะทำให้ถูกต้อง จดทะเบียนตามกฎหมาย
ตำรวจ สน.บางชัน นำตัวนายสุรศักดิ์ และนายสุรชัย สองพี่น้องผลิตสุราเถื่อนไปฝากขังที่ศาลอาญามีนบุรี ในข้อหาร่วมกันผลิตสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไว้เพื่อขายซึ่งสุราที่ผลิตขึ้นโดยฝ่าฝน ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ส่วน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีกับ น.ส.ภัสส์รศา ฐานผลิตและจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต และกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
สำหรับสารเมทานอล เป็นสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ เช่น สารทำละลาย สารป้องกันความเย็น สารสกัด สารเชื้อเพลิง มีคุณสมบัติเป็นของเหลว ใส ไม่มีสี มีกลิ่นแอลกอฮอล์ คล้ายผลไม้ ระเหยง่าย และติดไฟง่าย สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทาง ได้แก่ ทางหายใจ ทางผิวหนัง และทางเดินอาหาร เกิดความเป็นพิษเริ่มจากผิวหนังอักเสบเป็นผื่นแดงหรือเป็นสะเก็ด เกิดการระคายเคืองผิวหนังและเยื่อบุอ่อน ระคายเคืองตา มีผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอาการคล้ายเมาสุรา ทำลายตับ ไต และอวัยวะอื่นๆ ถ้าสัมผัสสารนี้ปริมาณมาก อาจทำให้ตาบอดถาวร หมดสติ และเสียชีวิตได้ แต่ไม่เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์
ส่วนสถานการณ์ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้ป่วยจำแนกกลุ่มอาการรุนแรง (สีแดง) 12 ราย กลุ่มอาการสีเหลือง 3 ราย และกลุ่มอาการสีเขียว 9 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 22 ถึง 69 ปี อาการเจ็บป่วยโดยส่วนใหญ่พบภาวะเลือดเป็นกรด หายใจเหนื่อย ภาวะไตวาย ตาพร่ามัว ชัก หมดสติ ส่วน 7 รายไม่มีอาการใดๆ
นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ผู้ป่วยจากการดื่มสุราเถื่อนในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีประมาณ 50-100 ราย แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เนื่องจากเป็นสารเมทานอลที่เกิดจากการกลั่นสุรา แต่ในครั้งนี้พบว่าสารเมทานอลที่พบในสุราเถื่อน เป็นลักษณะที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม และมีปริมาณสูงถึง 100,000 ppm ทั้งที่มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกำหนดไว้ว่า ปริมาณเมทานอลในสุราทุกประเภท จะต้องไม่มีอยู่เลย
#Newskit #ยาดอง #เมทานอล สูตรยาดองมรณะ ผิดที่ผสมเมทานอล
คลัสเตอร์ยาดอง ที่ชาวบ้านในพื้นที่เขตคลองสามวา และเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ซื้อยาดองตามร้านริมทางดื่ม กระทั่งหลายคนมีอาการเลือดเป็นกรดอย่างรุนแรง มีอาการเหนื่อยหอบง่าย ซึม อ่อนเพลีย ตาพร่ามัว วิงเวียนศีรษะและอาเจียน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาลนพรัตนราชธานี และโรงพยาบาลใกล้เคียง ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่แล้ว (22 ส.ค.) ยังคงดำเนินการสืบหาความจริงต่อไป
ตำรวจชุดคลี่คลายคดี ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ร่วมตรวจสอบร้านยาดองในเขตพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 (บก.น.3) จำนวน 17 ร้าน และในซอยอ่อนนุช 77 อีก 1 ร้าน พร้อมตรวจยึดยาดองจากทุกร้านไปตรวจสอบ ทุกร้านให้การว่ารับมาจาก "เจ๊ปู" ลูกสาวป๋าเหน่ที่เสียชีวิตไปแล้ว
ต่อมาตำรวจเชิญตัว น.ส.ภัสส์รศา อารีจิตสุขศิริ หรือเจ๊ปู อายุ 49 ปี ผู้ผสมยาดองมาสอบปากคำ เจ๊ปูให้การว่า รับสุราขาวมาจากนายสุรศักดิ์ อินสาม หรือเอส อายุ 46 ปี และนายสุรชัย อินสาม หรืออาร์ท อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ส่วนวัตถุดิบที่ใส่ลงไปในเหล้าเป็นสิ่งของธรรมชาติ เป็นสูตรเก่าแก่ของบิดา
จากนั้นชุดคลี่คลายคดีเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งในซอยกาญจนาภิเษก 25 แยก 1-3 แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ พบทั้งคู่พร้อมของกลางเมทานอล และอุปกรณ์การผลิตสุราเถื่อนจำนวนมาก ทั้งสองอ้างว่าผสมน้ำเปล่าเพื่อเจือจางให้เหลือ 35 ดีกรี ใส่แกลลอนนำไปส่งให้กับเจ๊ปู จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน
จากการสอบปากคำ ทั้งสองรับสารภาพกับตำรวจว่าทำมาประมาณปีกว่า โดยหาข้อมูลผสมเหล้าเถื่อนจากอินเทอร์เน็ต ก่อนส่งขายไปตามซุ้มยาดองต่างๆ โดยเมทานอลรับมาจากโรงงานย่านลาดกระบัง เอามาผสมกับน้ำเปล่าเพื่อให้ไม่เกิน 35-40 ดีกรี จากนั้นบรรจุใส่แกลลอนเพื่อนำไปขายต่อ ซึ่งแต่ละร้านก็จะนำไปผสมยาดองอีกที
ที่ สน.มีนบุรี เมื่อวันที่ 26 ส.ค. เจ๊ปูชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวทำยาดองขายมากว่า 30 ปี ตั้งแต่รุ่นพ่อไม่เคยมีปัญหา ที่ผ่านมาไม่เคยรับสุราขาวจากเจ้าอื่น เพราะรับจากเจ้าประจำที่พ่อสั่งตลอด แต่เมื่อ 1 ปีที่แล้ว นายสุรศักดิ์และนายสุรชัย สองพี่น้องซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของแฟนบอกว่า งานน้อยลง อยากหารายได้ มีสูตรเหล้าขาวที่ไปเรียนทำมาอยากให้ช่วยซื้อ
เจ๊ปูจึงให้ลองทำว่าผ่านหรือไม่ เมื่อชิมแล้วพบว่าดีกรีได้ รสชาติคล้ายเจ้าเก่า จึงช่วยสั่งด้วยความสงสาร ซื้อมา 25 ลิตร 900 บาท เท่ากันกับเจ้าเก่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทำเองชิมเองตลอดก็ไม่เคยมีปัญหา
แต่ช่วงหลังลูกค้าตำหนิว่าเหล้าจืด ไม่แรง และมีรสชาติซ่าๆ ตนสอบถามนายสุรศักดิ์และนายสุรชัยว่าทำไมรสชาติมันเปลี่ยน และถามว่าเปลี่ยนวัตถุดิบหรือไม่ ก็ไม่ตอบ บอกแค่ว่าจะปรับปรุง และเมื่อตนทำแล้วชิมพบว่ารสชาติจางลง คิดว่าไม่เป็นอะไร เพราะพ่อสอนมาว่า ยาดองนั้นต้องมีกลิ่นยาจีนนำกลิ่นสุราอยู่แล้ว
ส่วนล็อตล่าสุดที่ทำมานั้น มีอาการท้องเสียเล็กน้อยมา 3 วัน แต่เมื่อทราบว่ามีผู้เสียชีวิตก็ตกใจมาก รู้สึกผิดและเสียใจ ไม่ได้อยากจะทำให้ใครตาย ตนก็อยากเยียวยาผู้เสียหาย เพราะหนึ่งในผู้เสียชีวิตก็เป็นเพื่อนของตน อยากไปเยี่ยมทุกคนที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่กล้ากลัวว่าทุกคนจะไม่เข้าใจ ยืนยันไม่ได้ตั้งใจทำให้ใครเสียชีวิต
สำหรับสูตรการทำยาดองของเจ๊ปู ใช้หม้อเบอร์ 32 ใส่น้ำ ต้มยาจีนหม้อละ 2 ห่อ กานพลู 1 ห่อ และชะเอม 5-6 ก้าน ต้มครั้งแรก 40 นาที จากนั้นจะใส่ดอกคำฝอยและกระชายอย่างละ 4 ขีด ต้มต่ออีก 40 นาที แล้วใส่มะตูมครึ่งกิโลกรัม ต้มอีก 40 นาที ใส่น้ำตาลทราย 2.5 กิโลกรัม คนให้ละลาย แล้วผสมเหล้าขาว เทใส่โอ่ง หมักไว้ 1-2 คืน แล้วนำมาแบ่งใส่แกลลอน
โดย 1 โอ่ง แบ่งได้ 23-24 แกลลอน ส่งขายตามซุ้มยาดอง แกลลอนละ 400 บาท ซุ้มละ 10 แกลลอน มีโปรโมชันซื้อ 10 แถม 1 แกลลอน ในใจอยากทำธุรกิจนี้ต่อเพราะเป็นความฝันของพ่อที่เสียชีวิตไป อยากจะทำให้ถูกต้อง จดทะเบียนตามกฎหมาย
ตำรวจ สน.บางชัน นำตัวนายสุรศักดิ์ และนายสุรชัย สองพี่น้องผลิตสุราเถื่อนไปฝากขังที่ศาลอาญามีนบุรี ในข้อหาร่วมกันผลิตสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไว้เพื่อขายซึ่งสุราที่ผลิตขึ้นโดยฝ่าฝน ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ส่วน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีกับ น.ส.ภัสส์รศา ฐานผลิตและจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต และกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
สำหรับสารเมทานอล เป็นสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ เช่น สารทำละลาย สารป้องกันความเย็น สารสกัด สารเชื้อเพลิง มีคุณสมบัติเป็นของเหลว ใส ไม่มีสี มีกลิ่นแอลกอฮอล์ คล้ายผลไม้ ระเหยง่าย และติดไฟง่าย สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทาง ได้แก่ ทางหายใจ ทางผิวหนัง และทางเดินอาหาร เกิดความเป็นพิษเริ่มจากผิวหนังอักเสบเป็นผื่นแดงหรือเป็นสะเก็ด เกิดการระคายเคืองผิวหนังและเยื่อบุอ่อน ระคายเคืองตา มีผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอาการคล้ายเมาสุรา ทำลายตับ ไต และอวัยวะอื่นๆ ถ้าสัมผัสสารนี้ปริมาณมาก อาจทำให้ตาบอดถาวร หมดสติ และเสียชีวิตได้ แต่ไม่เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์
ส่วนสถานการณ์ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้ป่วยจำแนกกลุ่มอาการรุนแรง (สีแดง) 12 ราย กลุ่มอาการสีเหลือง 3 ราย และกลุ่มอาการสีเขียว 9 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 22 ถึง 69 ปี อาการเจ็บป่วยโดยส่วนใหญ่พบภาวะเลือดเป็นกรด หายใจเหนื่อย ภาวะไตวาย ตาพร่ามัว ชัก หมดสติ ส่วน 7 รายไม่มีอาการใดๆ
นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ผู้ป่วยจากการดื่มสุราเถื่อนในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีประมาณ 50-100 ราย แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เนื่องจากเป็นสารเมทานอลที่เกิดจากการกลั่นสุรา แต่ในครั้งนี้พบว่าสารเมทานอลที่พบในสุราเถื่อน เป็นลักษณะที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม และมีปริมาณสูงถึง 100,000 ppm ทั้งที่มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกำหนดไว้ว่า ปริมาณเมทานอลในสุราทุกประเภท จะต้องไม่มีอยู่เลย
#Newskit #ยาดอง #เมทานอล