• ศาลอาญาไม่มีคำสั่งประกันตัว ลูกเกด-ชลธิชา สส.พรรคประชาชน แต่ส่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา หลังเจอพิพากษาจำคุก 2 ปี 8 เดือน คดีมาตรา 112 กรณีปราศรัยคาร์ม็อบปี 64 ชี้ถ้าประกันตัวไม่ทันวันนีั ต้องเข้าเรือนจำ หมดสถานภาพ สส. ทันที
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085872

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ศาลอาญาไม่มีคำสั่งประกันตัว ลูกเกด-ชลธิชา สส.พรรคประชาชน แต่ส่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา หลังเจอพิพากษาจำคุก 2 ปี 8 เดือน คดีมาตรา 112 กรณีปราศรัยคาร์ม็อบปี 64 ชี้ถ้าประกันตัวไม่ทันวันนีั ต้องเข้าเรือนจำ หมดสถานภาพ สส. ทันที . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085872 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • "อนุทิน" เมินเพื่อไทยร้องศาลตีความ MOA ยันถูกต้องตามกฎหมาย ด้าน "พรรคประชาชน" โพสต์เตือนอย่าตั้ง "รมต.เทา" ปมเอี่ยวคดีค้ามนุษย์แรงงานไทยเก็บเบอร์รี่ฟินแลนด์ พร้อมเร่งสอบสวนเอาผิดข้าราชการระดับสูง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085751

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    "อนุทิน" เมินเพื่อไทยร้องศาลตีความ MOA ยันถูกต้องตามกฎหมาย ด้าน "พรรคประชาชน" โพสต์เตือนอย่าตั้ง "รมต.เทา" ปมเอี่ยวคดีค้ามนุษย์แรงงานไทยเก็บเบอร์รี่ฟินแลนด์ พร้อมเร่งสอบสวนเอาผิดข้าราชการระดับสูง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085751 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 128 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากภาพแจ้งเตือนปลอมถึงมัลแวร์จริง: เมื่อไฟล์ SVG กลายเป็นชุดฟิชชิ่งเต็มรูปแบบ

    รายงานล่าสุดจาก VirusTotal เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ได้ใช้ไฟล์ SVG (Scalable Vector Graphics) ซึ่งเป็นไฟล์ภาพแบบ XML ที่สามารถฝังโค้ด HTML และ JavaScript ได้ เพื่อสร้างเว็บปลอมที่เลียนแบบระบบศาลของรัฐบาลโคลอมเบีย โดยเมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ SVG ผ่านเบราว์เซอร์ จะเห็นหน้าเว็บที่ดูเหมือนเป็นระบบแจ้งเตือนทางกฎหมาย พร้อมแถบดาวน์โหลดและรหัสผ่าน

    เมื่อคลิกดาวน์โหลด ผู้ใช้จะได้รับไฟล์ ZIP ที่มีไฟล์ .exe ของเบราว์เซอร์ Comodo Dragon ซึ่งถูกเซ็นรับรองอย่างถูกต้อง และไฟล์ .dll ที่เป็นมัลแวร์ซ่อนอยู่ หากผู้ใช้เปิด .exe มัลแวร์จะถูก sideload โดยอัตโนมัติ และเริ่มติดตั้ง payload เพิ่มเติมในระบบ

    VirusTotal ตรวจพบว่าแคมเปญนี้มีไฟล์ SVG ที่เกี่ยวข้องถึง 523 ไฟล์ โดย 44 ไฟล์ไม่ถูกตรวจจับโดยแอนตี้ไวรัสใด ๆ เลยในช่วงเวลาที่ถูกอัปโหลด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการหลบเลี่ยงการตรวจจับผ่านเทคนิคเช่น code obfuscation และการใส่โค้ดขยะเพื่อเพิ่ม entropy

    ก่อนหน้านี้ IBM X-Force และ Cloudflare ก็เคยพบการใช้ SVG ในการโจมตีฟิชชิ่ง โดยเฉพาะกับธนาคารและบริษัทประกันภัย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า SVG กำลังกลายเป็นช่องทางใหม่ที่แฮกเกอร์ใช้ในการหลอกลวงและติดตั้งมัลแวร์

    Microsoft จึงประกาศยกเลิกการรองรับการแสดงผล SVG แบบ inline ใน Outlook for Web และ Outlook for Windows เพื่อปิดช่องทางการโจมตีนี้ โดยจะไม่แสดงผล SVG ที่ฝังอยู่ในอีเมลอีกต่อไป

    ลักษณะของแคมเปญ SVG ฟิชชิ่ง
    ใช้ SVG สร้างหน้าเว็บปลอมที่เลียนแบบระบบศาลโคลอมเบีย
    มีแถบดาวน์โหลดและรหัสผ่านเพื่อหลอกให้ผู้ใช้เปิดไฟล์ ZIP
    ZIP มี .exe ที่เซ็นรับรองและ .dll ที่เป็นมัลแวร์ซ่อนอยู่

    เทคนิคที่ใช้ในการหลบเลี่ยงการตรวจจับ
    ใช้ JavaScript ฝังใน SVG เพื่อแสดง HTML และเรียกใช้ payload
    ใช้ code obfuscation และโค้ดขยะเพื่อเพิ่ม entropy
    44 ไฟล์ไม่ถูกตรวจจับโดยแอนตี้ไวรัสใด ๆ ในช่วงแรก

    การตอบสนองจากผู้ให้บริการและนักวิจัย
    VirusTotal ใช้ AI Code Insight ตรวจพบแคมเปญนี้
    IBM X-Force และ Cloudflare เคยพบการใช้ SVG ในการโจมตีฟิชชิ่ง
    Microsoft ยกเลิกการแสดงผล SVG inline ใน Outlook เพื่อป้องกัน

    https://www.tomshardware.com/software/security-software/hackers-hide-malware-in-svg-files
    🎙️ เรื่องเล่าจากภาพแจ้งเตือนปลอมถึงมัลแวร์จริง: เมื่อไฟล์ SVG กลายเป็นชุดฟิชชิ่งเต็มรูปแบบ รายงานล่าสุดจาก VirusTotal เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ได้ใช้ไฟล์ SVG (Scalable Vector Graphics) ซึ่งเป็นไฟล์ภาพแบบ XML ที่สามารถฝังโค้ด HTML และ JavaScript ได้ เพื่อสร้างเว็บปลอมที่เลียนแบบระบบศาลของรัฐบาลโคลอมเบีย โดยเมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ SVG ผ่านเบราว์เซอร์ จะเห็นหน้าเว็บที่ดูเหมือนเป็นระบบแจ้งเตือนทางกฎหมาย พร้อมแถบดาวน์โหลดและรหัสผ่าน เมื่อคลิกดาวน์โหลด ผู้ใช้จะได้รับไฟล์ ZIP ที่มีไฟล์ .exe ของเบราว์เซอร์ Comodo Dragon ซึ่งถูกเซ็นรับรองอย่างถูกต้อง และไฟล์ .dll ที่เป็นมัลแวร์ซ่อนอยู่ หากผู้ใช้เปิด .exe มัลแวร์จะถูก sideload โดยอัตโนมัติ และเริ่มติดตั้ง payload เพิ่มเติมในระบบ VirusTotal ตรวจพบว่าแคมเปญนี้มีไฟล์ SVG ที่เกี่ยวข้องถึง 523 ไฟล์ โดย 44 ไฟล์ไม่ถูกตรวจจับโดยแอนตี้ไวรัสใด ๆ เลยในช่วงเวลาที่ถูกอัปโหลด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการหลบเลี่ยงการตรวจจับผ่านเทคนิคเช่น code obfuscation และการใส่โค้ดขยะเพื่อเพิ่ม entropy ก่อนหน้านี้ IBM X-Force และ Cloudflare ก็เคยพบการใช้ SVG ในการโจมตีฟิชชิ่ง โดยเฉพาะกับธนาคารและบริษัทประกันภัย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า SVG กำลังกลายเป็นช่องทางใหม่ที่แฮกเกอร์ใช้ในการหลอกลวงและติดตั้งมัลแวร์ Microsoft จึงประกาศยกเลิกการรองรับการแสดงผล SVG แบบ inline ใน Outlook for Web และ Outlook for Windows เพื่อปิดช่องทางการโจมตีนี้ โดยจะไม่แสดงผล SVG ที่ฝังอยู่ในอีเมลอีกต่อไป ✅ ลักษณะของแคมเปญ SVG ฟิชชิ่ง ➡️ ใช้ SVG สร้างหน้าเว็บปลอมที่เลียนแบบระบบศาลโคลอมเบีย ➡️ มีแถบดาวน์โหลดและรหัสผ่านเพื่อหลอกให้ผู้ใช้เปิดไฟล์ ZIP ➡️ ZIP มี .exe ที่เซ็นรับรองและ .dll ที่เป็นมัลแวร์ซ่อนอยู่ ✅ เทคนิคที่ใช้ในการหลบเลี่ยงการตรวจจับ ➡️ ใช้ JavaScript ฝังใน SVG เพื่อแสดง HTML และเรียกใช้ payload ➡️ ใช้ code obfuscation และโค้ดขยะเพื่อเพิ่ม entropy ➡️ 44 ไฟล์ไม่ถูกตรวจจับโดยแอนตี้ไวรัสใด ๆ ในช่วงแรก ✅ การตอบสนองจากผู้ให้บริการและนักวิจัย ➡️ VirusTotal ใช้ AI Code Insight ตรวจพบแคมเปญนี้ ➡️ IBM X-Force และ Cloudflare เคยพบการใช้ SVG ในการโจมตีฟิชชิ่ง ➡️ Microsoft ยกเลิกการแสดงผล SVG inline ใน Outlook เพื่อป้องกัน https://www.tomshardware.com/software/security-software/hackers-hide-malware-in-svg-files
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Malware found hidden in image files, can dodge antivirus detection entirely — VirusTotal discovers undetected SVG phishing campaign
    A new report links over 500 weaponized SVGs to a phishing campaign that spoofed a Colombian government portal.
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • ชาวอิสราเอลหลายพันคนชุมนุมในเทลอาวีฟและเยรูซาเลม เรียกร้องทรัมป์ช่วยยุติสงครามในกาซาและปล่อยตัวประกัน อย่างไรก็ดี ด้านกองทัพอิสราเอลสั่งชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากตึกสูงในกาซาซิตี้โดยอ้างว่า เชื่อว่าเป็นที่กบดานของกลุ่มฮามาส ขณะที่เนทันยาฮูยังปฏิเสธข้อเสนอปล่อยตัวประกันทั้งหมดของนักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้แลกกับการถอนทหารยิวออกจากกาซา โดยยืนกรานว่า ฮามาสต้องยอมแพ้เท่านั้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085719

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ชาวอิสราเอลหลายพันคนชุมนุมในเทลอาวีฟและเยรูซาเลม เรียกร้องทรัมป์ช่วยยุติสงครามในกาซาและปล่อยตัวประกัน อย่างไรก็ดี ด้านกองทัพอิสราเอลสั่งชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากตึกสูงในกาซาซิตี้โดยอ้างว่า เชื่อว่าเป็นที่กบดานของกลุ่มฮามาส ขณะที่เนทันยาฮูยังปฏิเสธข้อเสนอปล่อยตัวประกันทั้งหมดของนักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้แลกกับการถอนทหารยิวออกจากกาซา โดยยืนกรานว่า ฮามาสต้องยอมแพ้เท่านั้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085719 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
  • รัสเซียถล่มโจมตีทางอากาศเล่นงานยูเครนทั่วประเทศครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในช่วงคืนวันเสาร์ (6 ก.ย.) ต่อเนื่องถึงก่อนรุ่งสางวันอาทิตย์ (7) โดยที่เคียฟระบุว่าทำให้เกิดไฟไหม้หลังคาอาคารหลักของรัฐบาลในเมืองหลวง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่สิ่งปลูกสร้างนี้ตกเป็นเป้าหมายการถล่มของแดนหมีขาว อย่างไรก็ดี มอสโกออกมาปฏิเสธ โดยอ้างว่า จำกัดการโจมตีให้อยู่เฉพาะพวกเป้าหมายทางทหารและอุตสาหกรรมทางทหาร
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085716

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    รัสเซียถล่มโจมตีทางอากาศเล่นงานยูเครนทั่วประเทศครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในช่วงคืนวันเสาร์ (6 ก.ย.) ต่อเนื่องถึงก่อนรุ่งสางวันอาทิตย์ (7) โดยที่เคียฟระบุว่าทำให้เกิดไฟไหม้หลังคาอาคารหลักของรัฐบาลในเมืองหลวง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่สิ่งปลูกสร้างนี้ตกเป็นเป้าหมายการถล่มของแดนหมีขาว อย่างไรก็ดี มอสโกออกมาปฏิเสธ โดยอ้างว่า จำกัดการโจมตีให้อยู่เฉพาะพวกเป้าหมายทางทหารและอุตสาหกรรมทางทหาร . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085716 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    Wow
    5
    0 Comments 0 Shares 182 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​การเห็นกายและเวทนาในระดับแห่งผู้หลุดพ้น
    สัทธรรมลำดับที่ : 740
    ชื่อบทธรรม :- การเห็นกายและเวทนาในระดับแห่งผู้หลุดพ้น
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=740
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --การเห็นกายและเวทนาในระดับแห่งผู้หลุดพ้น
    --อัคคิเวสสนะ ! กายนี้ มีรูป
    ประกอบด้วยมหาภูตสี่ มีมารดาบิดา เป็นแดนเกิด
    เจริญขึ้นด้วยข้าวสุกและขนมสด
    ทั้งที่มีการขัดสีนวดฟั้นอยู่ก็ยังมีการแตกสลายกระจัดกระจาย
    เพราะความไม่เที่ยงนั่นเองเป็นธรรมดา

    อันบุคคลควรตามเห็นโดยความเป็นของไม่เที่ยง
    โดยความเป็นทุกข์ เป็นโรค เป็นหัวฝี เป็นลูกศร เป็นความยากลำบาก เป็นอาพาธ
    เป็นดังผู้อื่น เป็นของแตกสลาย เป็นของว่าง เป็นของไม่ใช่ตน.

    เมื่อบุคคคลนั้น ตามเห็นอยู่ซึ่งกายนี้โดยความเป็นของไม่เที่ยง
    โดยความเป็นทุกข์ เป็นโรค เป็นหัวฝี เป็นลูกศร เป็นความยากลำบาก เป็นอาพาธ
    เป็นดังผู้อื่น เป็นของแตกสลาย เป็นของว่าง เป็นของไม่ใช่ตน,

    ความพอใจในกาย ความสิเนหาในกาย ความตกอยู่ในอำนาจของกาย
    ที่มีอยู่ในกาย เขาย่อมละเสียได้.

    --อัคคิเวสสนะ ! เวทนาสามอย่าง เหล่านี้ มีอยู่ คือ
    สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนา.
    -​-อัคคิเวสสนะ !
    สมัยใด บุคคลเสวยสุขเวทนา,
    สมัยนั้นไม่ได้เสวยทุกขเวทนา ไม่ได้เสวยอทุกขมสุขเวทนา,
    สมัยนั้นคงเสวยแต่สุขเวทนาเท่านั้น.
    --อัคคิเวสสนะ !
    สมัยใด บุคคลเสวยทุกขเวทนา,
    สมัยนั้นไม่ได้เสวยสุขเวทนา ไม่ได้เสวยอทุกขมสุขเวทนา,
    สมัยนั้นคงเสวยแต่ทุกขเวทนาเท่านั้น.
    --อัคคิเวสสนะ !
    สมัยใด บุคคลเสวยอทุกขมสุขเวทนา,
    สมัยนั้นไม่ได้เสวยสุขเวทนา ไม่ได้เสวยทุกขเวทนา,
    สมัยนั้นคงเสวยแต่อทุกขมสุขเวทนาเท่านั้น.
    --อัคคิเวสสนะ ! #สุขเวทนา
    เป็นของไม่เที่ยง (อนิจฺจา)
    เป็นของปรุงแต่ง (สงฺขตา)
    เป็นของอาศัยกันเกิดขึ้น (ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา)
    http://etipitaka.com/read/pali/13/267/?keywords=ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา
    มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา (ขยธมฺมา)
    มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา (วยธมฺมา)
    มีความจางคลายไปเป็นธรรมดา (วิราคธมฺมา)
    มีความดับไปเป็นธรรมดา (นิโรธธมฺมา).
    --อัคคิเวสสนะ ! แม้ #ทุกขเวทนา ก็
    เป็นของไม่เที่ยง เป็นของปรุงแต่ง เป็นของอาศัยกันเกิดขึ้น
    มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
    มีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับไปเป็นธรรมดา.
    --อัคคิเวสสนะ ! แม้ #อทุกขมสุขเวทนา ก็
    เป็นของไม่เที่ยง เป็นของปรุงแต่ง เป็นของอาศัยกันเกิดขึ้น
    มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
    มีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับไปเป็นธรรมดา.

    --อัคคิเวสสนะ ! อริยสาวกผู้มีการสดับ เมื่อเห็นอยู่อย่างนี้
    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในสุขเวทนา แม้ในทุกขเวทนา แม้ในอทุกขมสุขเวทนา ;
    เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด ;
    เพราะคลายกำหนัด ย่อมหลุดพ้น ;
    เมื่อหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว.
    อริยสาวกนั้น ย่อมรู้ชัดว่า
    “ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว
    กิจอย่างอื่นที่จะต้องทำ เพื่อความหลุดพ้นอย่างนี้ มิได้มีอีก”
    ดังนี้.
    --อัคคิเวสสนะ ! ภิกษุผู้มีจิตหลุดพ้นแล้วอย่างนี้แล
    ย่อมไม่กล่าวคำประจบใครๆ ย่อมไม่กล่าวคำขัดแย้งใครๆ
    และโวหารใดที่เขากล่าวกันอยู่ในโลก เธอก็กล่าวโดยโวหารนั้น
    ไม่ยึดมั่นความหมายไรๆ อยู่.

    (เมื่อจบพระพุทธดำรัสนี้
    พระสารีบุตรผู้ถวายงานพัดอยู่เบื้องหลัง ได้ #บรรลุพระอรหันต์
    ).-
    http://etipitaka.com/read/pali/13/268/?keywords=สารีปุตฺตสฺส

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ม.ม. 13/206-207/272-273.
    http://etipitaka.com/read/thai/13/206/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%97%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ม.ม. ๑๓/๒๖๖-๒๖๗/๒๗๒-๒๗๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/13/266/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%97%E0%B9%92
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=740
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=740
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56
    ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​การเห็นกายและเวทนาในระดับแห่งผู้หลุดพ้น สัทธรรมลำดับที่ : 740 ชื่อบทธรรม :- การเห็นกายและเวทนาในระดับแห่งผู้หลุดพ้น https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=740 เนื้อความทั้งหมด :- --การเห็นกายและเวทนาในระดับแห่งผู้หลุดพ้น --อัคคิเวสสนะ ! กายนี้ มีรูป ประกอบด้วยมหาภูตสี่ มีมารดาบิดา เป็นแดนเกิด เจริญขึ้นด้วยข้าวสุกและขนมสด ทั้งที่มีการขัดสีนวดฟั้นอยู่ก็ยังมีการแตกสลายกระจัดกระจาย เพราะความไม่เที่ยงนั่นเองเป็นธรรมดา อันบุคคลควรตามเห็นโดยความเป็นของไม่เที่ยง โดยความเป็นทุกข์ เป็นโรค เป็นหัวฝี เป็นลูกศร เป็นความยากลำบาก เป็นอาพาธ เป็นดังผู้อื่น เป็นของแตกสลาย เป็นของว่าง เป็นของไม่ใช่ตน. เมื่อบุคคคลนั้น ตามเห็นอยู่ซึ่งกายนี้โดยความเป็นของไม่เที่ยง โดยความเป็นทุกข์ เป็นโรค เป็นหัวฝี เป็นลูกศร เป็นความยากลำบาก เป็นอาพาธ เป็นดังผู้อื่น เป็นของแตกสลาย เป็นของว่าง เป็นของไม่ใช่ตน, ความพอใจในกาย ความสิเนหาในกาย ความตกอยู่ในอำนาจของกาย ที่มีอยู่ในกาย เขาย่อมละเสียได้. --อัคคิเวสสนะ ! เวทนาสามอย่าง เหล่านี้ มีอยู่ คือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนา. -​-อัคคิเวสสนะ ! สมัยใด บุคคลเสวยสุขเวทนา, สมัยนั้นไม่ได้เสวยทุกขเวทนา ไม่ได้เสวยอทุกขมสุขเวทนา, สมัยนั้นคงเสวยแต่สุขเวทนาเท่านั้น. --อัคคิเวสสนะ ! สมัยใด บุคคลเสวยทุกขเวทนา, สมัยนั้นไม่ได้เสวยสุขเวทนา ไม่ได้เสวยอทุกขมสุขเวทนา, สมัยนั้นคงเสวยแต่ทุกขเวทนาเท่านั้น. --อัคคิเวสสนะ ! สมัยใด บุคคลเสวยอทุกขมสุขเวทนา, สมัยนั้นไม่ได้เสวยสุขเวทนา ไม่ได้เสวยทุกขเวทนา, สมัยนั้นคงเสวยแต่อทุกขมสุขเวทนาเท่านั้น. --อัคคิเวสสนะ ! #สุขเวทนา เป็นของไม่เที่ยง (อนิจฺจา) เป็นของปรุงแต่ง (สงฺขตา) เป็นของอาศัยกันเกิดขึ้น (ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา) http://etipitaka.com/read/pali/13/267/?keywords=ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา (ขยธมฺมา) มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา (วยธมฺมา) มีความจางคลายไปเป็นธรรมดา (วิราคธมฺมา) มีความดับไปเป็นธรรมดา (นิโรธธมฺมา). --อัคคิเวสสนะ ! แม้ #ทุกขเวทนา ก็ เป็นของไม่เที่ยง เป็นของปรุงแต่ง เป็นของอาศัยกันเกิดขึ้น มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา มีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับไปเป็นธรรมดา. --อัคคิเวสสนะ ! แม้ #อทุกขมสุขเวทนา ก็ เป็นของไม่เที่ยง เป็นของปรุงแต่ง เป็นของอาศัยกันเกิดขึ้น มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา มีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับไปเป็นธรรมดา. --อัคคิเวสสนะ ! อริยสาวกผู้มีการสดับ เมื่อเห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในสุขเวทนา แม้ในทุกขเวทนา แม้ในอทุกขมสุขเวทนา ; เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด ; เพราะคลายกำหนัด ย่อมหลุดพ้น ; เมื่อหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว. อริยสาวกนั้น ย่อมรู้ชัดว่า “ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจอย่างอื่นที่จะต้องทำ เพื่อความหลุดพ้นอย่างนี้ มิได้มีอีก” ดังนี้. --อัคคิเวสสนะ ! ภิกษุผู้มีจิตหลุดพ้นแล้วอย่างนี้แล ย่อมไม่กล่าวคำประจบใครๆ ย่อมไม่กล่าวคำขัดแย้งใครๆ และโวหารใดที่เขากล่าวกันอยู่ในโลก เธอก็กล่าวโดยโวหารนั้น ไม่ยึดมั่นความหมายไรๆ อยู่. (เมื่อจบพระพุทธดำรัสนี้ พระสารีบุตรผู้ถวายงานพัดอยู่เบื้องหลัง ได้ #บรรลุพระอรหันต์ ).- http://etipitaka.com/read/pali/13/268/?keywords=สารีปุตฺตสฺส #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ม.ม. 13/206-207/272-273. http://etipitaka.com/read/thai/13/206/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%97%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ม.ม. ๑๓/๒๖๖-๒๖๗/๒๗๒-๒๗๓. http://etipitaka.com/read/pali/13/266/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%97%E0%B9%92 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=740 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=740 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56 ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ในลักษณะที่เป็นทิฏฐิ คือเป็นเพียงความเห็น ไม่มีประจักษ์พยานที่เป็นวัตถุสิ่งของมาแสดงให้เห็นชัดได้ ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องสร้างทิฏฐิขึ้นมาในลักษณะที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขโดยส่วนเดียว
    -(สัมมาทิฏฐิแห่งพระบาลีนี้ ยังเป็นประเภท โลกิยสัมมาทิฏฐิ คือยังมีอาสวะ มีความยึดมั่นว่าสัตว์ว่าบุคคล มีความดีความชั่ว มีนรกสวรรค์ เป็นต้น ซึ่งแบ่งได้เป็นสองฝ่าย. เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ในลักษณะที่เป็นทิฏฐิ คือเป็นเพียงความเห็น ไม่มีประจักษ์พยานที่เป็นวัตถุสิ่งของมาแสดงให้เห็นชัดได้ ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องสร้างทิฏฐิขึ้นมาในลักษณะที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขโดยส่วนเดียว. ตัวอย่างปัญหาเกิดขึ้นมาว่า โลกอื่นมี หรือไม่มี เราจะต้องถือเอาข้างฝ่ายทิฏฐิที่ทำให้เกิดประโยชน์โดยส่วนเดียว ซึ่งในที่นี้ได้แก่ทิฏฐิที่ถือว่าโลกอื่นมี ซึ่งเป็นเหตุให้ขวนขวายบำเพ็ญประโยชน์อันเป็นไปเพื่อโลกอื่น และได้รับประโยชน์ สุขในโลกอื่น; ถ้าเผอิญโลกอื่นไม่มี ตนก็ไม่เสียประโยชน์อะไร การกระทำเพื่อประโยชน์โลกอื่นก็ไม่เสียเปล่า คือเป็นความดีที่ได้รับการสรรเสริญจากวิญญูชนในโลกนี้ และได้รับประโยชน์สุขในโลกนี้อย่างเต็มที่. ดังนั้นจึงสรุปว่า การมีทิฏฐิว่าโลกอื่นมี ย่อมถือเอาได้ซึ่งประโยชน์โดยส่วนสอง คือแม้โลกอื่นจะไม่มีก็ยังได้รับประโยชน์ ยิ่งโลกอื่นมีก็ยิ่งได้รับประโยชน์จึง เรียกทิฏฐิชนิดนี้ว่าเป็นอปัณณกธรรม คือธรรมที่ผิดไม่ได้ทั้งสองฝ่าย เป็นสัมมาทิฏฐิที่ตัดปัญหาออกไปเสียได้โดยประการทั้งปวง ในเมื่อเกิดปัญหาที่แย้งกันอย่างตรงข้ามเป็นสองฝ่าย ดังที่กล่าวไว้ในพระบาลีนี้. เราจึงถือว่า สัมมาทิฏฐิ ชนิดนี้ระงับผลร้ายเสียได้ในเมื่อเกิดการขัดแย้งในระหว่างลัทธิ. ในความขัดแย้งระหว่างทิฏฐิคู่อื่นๆ เช่นทิฏฐิว่า การกระทำไม่ชื่อว่าเป็นอันกระทำหรือการกระทำชื่อว่าเป็นอันกระทำ (ทำบุญทำบาปไม่ชื่อว่าเป็นอันกระทำ หรือทำบุญทำบาปชื่อว่าเป็นอันกระทำ) เกิดเป็นปัญหาขัดแย้งกันขึ้นมาแล้ว พึงเลือกถือเอาทิฏฐิข้างฝ่ายที่จะผิดไม่ได้อีกอย่างเดียวกัน คือทิฏฐิที่ว่า การกระทำชื่อว่าเป็นอันกระทำและเลือกกระทำแต่ฝ่ายข้างดี; แม้สมมุติว่าการกระทำนั้นจะไม่เป็นการกระทำ เขาก็ยังได้รับผลของการกระทำ คือเป็นที่สรรเสริญแห่งวิญญูชน และผู้นั้นก็ได้รับประโยชน์สุขอยู่นั่นเอง. นี้เป็น สัมมาทิฏฐิที่ควรมี หรือถือเป็นหลักในเมื่อเกิดการขัดแย้งขึ้นเกี่ยวกับลัทธิที่ต่างกันชนิดหนึ่ง. - ม. ม. ๑๓/๑๐๕-๑๑๐ /๑๑๐-๑๑๔. สำหรับทิฏฐิที่ว่ามีเหตุหรือไม่มีเหตุแห่งความเศร้าหมองหรือความบริสุทธิ์ของสัตว์ นั้น ก็มีหลักเกณฑ์ทำนองเดียวกัน คือถ้า ถือว่า มีเหตุ ก็จะเป็นความปลอดภัยกว่าการถือว่าไม่มีเหตุ. ผู้ที่ถือว่ามีเหตุ ย่อมกระทำการกระทำที่เป็นการสร้างเหตุดีเว้นเหตุชั่ว; สมมุติว่าสิ่งทั้งหลายจะเป็นสิ่งที่ไม่มีเหตุขึ้นมา การกระทำของเขาก็ยังเป็นความดีทั้งสองสถาน คือวิญญูชนสรรเสริญ และเขาก็ได้รับผลดีแห่งการกระทำของเขา คือเป็นสุขทั้งโลกนี้และโลกอื่น. แม้นี้ก็คือ สัมมาทิฏฐิที่ควรสร้างขึ้น เมื่อมีการขัดแย้งระหว่างลัทธิ ด้วยเหมือนกัน. - ม. ม. ๑๓/๑๑๑-๑๑๕/๑๑๕-๑๑๙. สำหรับทิฏฐิที่ว่า อารุปปธรรม (คุณสมบัติที่เป็นสภาวะไม่มีรูป) เป็นสิ่งที่ มีอยู่หรือไม่ได้มีอยู่ นั้น ิญญูชนจะเลือกถือเอาข้างที่ว่า มีอยู่ และปฏิบัติเพื่อให้ได้ซึ่งคุณธรรมประเภทที่ ไม่มีรูปนั้น เขาก็จะได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ; คือสมมุติว่าถ้าอารุปปธรรมเป็นสิ่งที่มิได้มีอยู่ เขาก็ยังได้รับประโยชน์ที่รองลงมา คือ รุปปธรรม (คุณสมบัติหรือคุณค่าที่มีรูป). ถ้าหากว่าอารุปปธรรมมีจริง เขาก็จะได้รับคุณค่าหรือประโยชน์ชั้นที่เป็นอารุปปธรรมนั้นตามความมุ่งหมาย. ดังนั้น การที่ถือว่า อารุปปธรรมเป็นสิ่งที่มีอยู่นั้น จัดเป็นสัมมาทิฏฐิที่ไม่อาจจะผิดได้ ในเมื่อเกิดการขัดแย้งกันขึ้นในระหว่างลัทธิ. อนึ่ง ถ้าอธิบายตามแบบเก่าๆ อย่างในอรรถกถา ก็คือให้ถือว่า อรูปพรหมมีอยู่ แล้วปฏิบัติเพื่ออรูปพรหมนั้น ถ้าสมมุติว่าอรูปพรหมไม่มี ก็ยังได้รับผลเป็นรูปพรหมที่รองลงมา แต่ถ้าอรูปพรหมมีก็จะได้รับผลเต็มตามความหมายของอรูปพรหม จึงถือว่าเป็นทิฏฐิที่ถูกต้อง. อีกอย่างหนึ่ง ถ้ากล่าวสำหรับผู้มีการศึกษาแห่งยุคปัจจุบัน ก็ต้องกล่าวว่า คุณค่าหรือคุณสมบัติชนิดที่ไม่ต้องมีสภาวะเป็นรูปธรรม (คือไม่เป็นวัตถุนิยม) นั้นก็มีอยู่และมีผลเป็นความสะดวกกว่า สบายกว่าเป็นสุขสงบกว่า ประเสริฐกว่า เพราะไม่ต้องมีการกระทบกระทั่งฝ่ายรูปธรรม เช่นการทะเลาะวิวาทหรือป่วยไข้ทางร่างกายเป็นต้น. - ม. ม. ๑๓/๑๑๕/๑๒๐. สำหรับทิฏฐิว่า ความดับแห่งภพโดยประการทั้งปวง เป็นสิ่งที่มีอยู่หรือไม่มี นั้น วิญญูชนจะถือเอาข้างฝ่ายที่ถือว่า มีความดับแห่งภพ แล้วก็ปฏิบัติเพื่อความดับแห่งภพ เขาก็จะได้รับผลเป็นปรินิพพานในทิฏฐธรรมนี้; ส่วนพวกที่ถือว่า ความดับแห่งภพโดยประการทั้งปวงไม่มีนั้น เขาก็จะไปติดตันตายด้านอยู่เพียงแค่อรูปภพอันเป็นภพสูงสุด. ดังนั้น การถือว่า ความดับแห่งภพโดยประการทั้งปวงมีอยู่ นั้นเป็นสัมมาทิฏฐิที่ไม่มีทางจะผิดได้ ในเมื่อมีการมีการทุ่มเถียงขัดแย้ง กันระหว่างลัทธิ. - ม.ม ๑๓/๑๑๗/๑๒๑. สรุปความว่า ปัญหาทางลัทธินั้น คือปัญหาเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่อาจมองเห็นตัว หรือได้ยินเสียงโดยตรง จนถึงกับเรากล่าวว่ามันเป็นอย่างไรๆได้ ดังนั้น จึงต้องตั้งขึ้นเป็นลัทธิชนิดที่เป็นสัมมาทิฏฐิ คือทำให้ได้รับประโยชน์โดยส่วนเดียวเกี่ยวกับสิ่งที่เขามองไม่เห็นหรือฟังเสียงโดยตรงไม่ได้นั้นๆ เราจึงต้องจัดทำหรือต้องมีอย่างถูกต้องชนิดผิดไม่ได้ ดังที่กล่าวไว้ในหัวข้อธรรมะเหล่านี้). การเห็นกายและเวทนาในระดับแห่งผู้หลุดพ้น อัคคิเวสสนะ ! กายนี้ มีรูป ประกอบด้วยมหาภูตสี่ มีมารดาบิดา เป็นแดนเกิด เจริญขึ้นด้วยข้าวสุกและขนมสด ทั้งที่มีการขัดสีนวดฟั้นอยู่ก็ยังมีการแตกสลายกระจัดกระจายเพราะความไม่เที่ยงนั่นเองเป็นธรรมดา อันบุคคลควรตามเห็นโดยความเป็นของไม่เที่ยง โดยความเป็นทุกข์ เป็นโรค เป็นหัวฝี เป็นลูกศร เป็นความยากลำบาก เป็นอาพาธ เป็นดังผู้อื่น เป็นของแตกสลาย เป็นของว่าง เป็นของไม่ใช่ตน. เมื่อบุคคคลนั้น ตามเห็นอยู่ซึ่งกายนี้โดยความเป็นของไม่เที่ยง โดยความเป็นทุกข์ เป็นโรค เป็นหัวฝี เป็นลูกศร เป็นความยากลำบาก เป็นอาพาธ เป็นดังผู้อื่น เป็นของแตกสลาย เป็นของว่าง เป็นของไม่ใช่ตน, ความพอใจในกาย ความสิเนหาในกาย ความตกอยู่ในอำนาจของกาย ที่มีอยู่ในกาย เขาย่อมละเสียได้. อัคคิเวสสนะ ! เวทนาสามอย่าง เหล่านี้ มีอยู่ คือสุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนา. อัคคิเวสสนะ ! สมัยใด บุคคลเสวยสุขเวทนา, สมัยนั้นไม่ได้เสวยทุกขเวทนา ไม่ได้เสวยอทุกขมสุขเวทนา, สมัยนั้นคงเสวยแต่สุขเวทนาเท่านั้น. อัคคิเวสสนะ ! สมัยใด บุคคลเสวยทุกขเวทนา, สมัยนั้นไม่ได้เสวยสุขเวทนา ไม่ได้เสวยอทุกขมสุขเวทนา, สมัยนั้นคงเสวยแต่ทุกขเวทนาเท่านั้น. อัคคิเวสสนะ ! สมัยใด บุคคลเสวยอทุกขมสุขเวทนา, สมัยนั้นไม่ได้เสวยสุขเวทนา ไม่ได้เสวยทุกขเวทนา, สมัยนั้นคงเสวยแต่อทุกขมสุขเวทนาเท่านั้น. อัคคิเวสสนะ ! สุขเวทนา เป็นของไม่เที่ยง (อนิจฺจา) เป็นของปรุงแต่ง (สงฺขตา) เป็นของอาศัยกันเกิดขึ้น (ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา) มีความสิ้นไป เป็นธรรมดา (ขยธมฺมา) มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา (วยธมฺมา) มีความจางคลายไปเป็นธรรมดา (วิราคธมฺมา) มีความดับไปเป็นธรรมดา (นิโรธธมฺมา). อัคคิเวสสนะ ! แม้ทุกขเวทนา ก็เป็นของไม่เที่ยง เป็นของปรุงแต่ง เป็นของอาศัยกันเกิดขึ้น มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา มีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับไปเป็นธรรมดา. อัคคิเวสสนะ ! แม้อทุกขมสุขเวทนา ก็เป็นของไม่เที่ยง เป็นของปรุงแต่ง เป็นของอาศัยกันเกิดขึ้น มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา มีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับไปเป็นธรรมดา. อัคคิเวสสนะ ! อริยสาวกผู้มีการสดับ เมื่อเห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในสุขเวทนา แม้ในทุกขเวทนา แม้ในอทุกขมสุขเวทนา ; เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด ; เพราะคลายกำหนัด ย่อมหลุดพ้น ; เมื่อหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว. อริยสาวกนั้น ย่อมรู้ชัดว่า “ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจอย่างอื่นที่จะต้องทำ เพื่อความหลุดพ้นอย่างนี้ มิได้มีอีก” ดังนี้. อัคคิเวสสนะ ! ภิกษุผู้มีจิตหลุดพ้นแล้วอย่างนี้แล ย่อมไม่กล่าวคำประจบใครๆ ย่อมไม่กล่าวคำขัดแย้งใครๆ และโวหารใดที่เขากล่าวกันอยู่ในโลก เธอก็กล่าวโดยโวหารนั้น ไม่ยึดมั่นความหมายไรๆ อยู่. (เมื่อจบพระพุทธดำรัสนี้ พระสารีบุตรผู้ถวายงานพัดอยู่เบื้องหลัง ได้บรรลุพระอรหันต์).
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • ผู้ร่วมก่อตั้ง Gojek ถูกกล่าวหาทุจริต Chromebook

    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (4 ก.ย.) สำนักงานอัยการสูงสุดของอินโดนีเซีย (AGO RI) ควบคุมตัวนายนาดีม มาคาริม (Nadiem Makarim) อดีต รมว.ศึกษาธิการ วัฒนธรรม การวิจัย และเทคโนโลยีของอินโดนีเซีย ไปกักขังเพื่อสอบสวนเพิ่มเติมเป็นเวลา 20 วัน หลังจากตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย คดีทุจริตการจัดซื้อคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปสำหรับโรงเรียน เชื่อมโยงกับ Chromebook ของ Google มูลค่า 9.3 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 18,161 ล้านบาท

    โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2563-2565 สมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโจโค วิโดโด มีการแจกจ่าย Chromebook จำนวน 1.2 ล้านเครื่องให้กับโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล ตามนโยบายเปลี่ยนผ่านการศึกษาสู่ระบบดิจิทัล แต่อัยการชี้ว่าอุปกรณ์ดังกล่าวไม่เหมาะสำหรับโครงการนี้ เนื่องจาก Chromebook จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร แต่กลับไม่สามารถใช้ได้ในพื้นที่เป้าหมายหลายแห่ง ซึ่งมีไฟฟ้าจำกัดและการเชื่อมต่อที่ย่ำแย่ ส่งผลให้รัฐบาลอินโดนีเซียเสียหายกว่า 1.98 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 3,866 ล้านบาท

    จากการเปิดเผยของนายนูร์คาห์โย จุงกุง มาดโย (Nurcahyo Jungkung Madyo) ผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวนการทุจริตของสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า นายนาดีม ถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีโดยมิชอบ มีการประชุมแบบปิดผ่าน Zoom เมื่อวันที่ 6 พ.ค.2563 สั่งการให้คนใกล้ชิดนำระบบปฏิบัติการ Chrome ของ Google มาใช้ในการจัดซื้อแล็ปท็อปของกระทรวงศึกษาธิการฯ ทั่วประเทศ อีกทั้งในเดือน ก.พ.2564 นายนาดีมได้ออกกฎกระทรวง กำหนดให้ใช้ระบบปฎิบัติการ ChromeOS และฟีเจอร์ที่เชื่อมโยงกับบริการด้านการศึกษาของ Google กลายเป็นการล็อกสเปก ทำให้เกิดการแข่งขันไม่เป็นธรรม

    ด้านนายนาดีมตะโกนบอกผู้สื่อข่าวระหว่างถูกควบคุมตัวว่า “ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ขอพระเจ้าคุ้มครองผม ความจริงจะปรากฏ อัลลอฮ์จะทรงทราบความจริง” ขณะที่ทนายความของนายนาดีม ยืนยันว่านายนาดีมไม่ได้รับแม้แต่เซ็นต์เดียว ทั้งนี้ หากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง โทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต

    สำหรับนายนาดีม มาคาริม อายุ 41 ปี เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทโกเจ็ก (Gojek) แพลตฟอร์มเรียกรถโดยสาร สั่งอาหาร และชำระเงินออนไลน์ของอินโดนีเซีย ก่อนจะลาออกในปี 2562 เพื่อเข้าร่วมคณะรัฐมนตรี หลังจากนั้นบริษัทฯ ได้ควบรวมกิจการกับ Tokopedia ในปี 2564 เป็น GoTo Gojek Tokopedia บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ชี้แจงว่า หลังนายนาดีมลาออก เขาก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายบริหาร หรือการดำเนินงานของบริษัทฯ อีกต่อไป

    #Newskit
    ผู้ร่วมก่อตั้ง Gojek ถูกกล่าวหาทุจริต Chromebook เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (4 ก.ย.) สำนักงานอัยการสูงสุดของอินโดนีเซีย (AGO RI) ควบคุมตัวนายนาดีม มาคาริม (Nadiem Makarim) อดีต รมว.ศึกษาธิการ วัฒนธรรม การวิจัย และเทคโนโลยีของอินโดนีเซีย ไปกักขังเพื่อสอบสวนเพิ่มเติมเป็นเวลา 20 วัน หลังจากตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย คดีทุจริตการจัดซื้อคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปสำหรับโรงเรียน เชื่อมโยงกับ Chromebook ของ Google มูลค่า 9.3 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 18,161 ล้านบาท โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2563-2565 สมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโจโค วิโดโด มีการแจกจ่าย Chromebook จำนวน 1.2 ล้านเครื่องให้กับโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล ตามนโยบายเปลี่ยนผ่านการศึกษาสู่ระบบดิจิทัล แต่อัยการชี้ว่าอุปกรณ์ดังกล่าวไม่เหมาะสำหรับโครงการนี้ เนื่องจาก Chromebook จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร แต่กลับไม่สามารถใช้ได้ในพื้นที่เป้าหมายหลายแห่ง ซึ่งมีไฟฟ้าจำกัดและการเชื่อมต่อที่ย่ำแย่ ส่งผลให้รัฐบาลอินโดนีเซียเสียหายกว่า 1.98 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 3,866 ล้านบาท จากการเปิดเผยของนายนูร์คาห์โย จุงกุง มาดโย (Nurcahyo Jungkung Madyo) ผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวนการทุจริตของสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า นายนาดีม ถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีโดยมิชอบ มีการประชุมแบบปิดผ่าน Zoom เมื่อวันที่ 6 พ.ค.2563 สั่งการให้คนใกล้ชิดนำระบบปฏิบัติการ Chrome ของ Google มาใช้ในการจัดซื้อแล็ปท็อปของกระทรวงศึกษาธิการฯ ทั่วประเทศ อีกทั้งในเดือน ก.พ.2564 นายนาดีมได้ออกกฎกระทรวง กำหนดให้ใช้ระบบปฎิบัติการ ChromeOS และฟีเจอร์ที่เชื่อมโยงกับบริการด้านการศึกษาของ Google กลายเป็นการล็อกสเปก ทำให้เกิดการแข่งขันไม่เป็นธรรม ด้านนายนาดีมตะโกนบอกผู้สื่อข่าวระหว่างถูกควบคุมตัวว่า “ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ขอพระเจ้าคุ้มครองผม ความจริงจะปรากฏ อัลลอฮ์จะทรงทราบความจริง” ขณะที่ทนายความของนายนาดีม ยืนยันว่านายนาดีมไม่ได้รับแม้แต่เซ็นต์เดียว ทั้งนี้ หากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง โทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต สำหรับนายนาดีม มาคาริม อายุ 41 ปี เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทโกเจ็ก (Gojek) แพลตฟอร์มเรียกรถโดยสาร สั่งอาหาร และชำระเงินออนไลน์ของอินโดนีเซีย ก่อนจะลาออกในปี 2562 เพื่อเข้าร่วมคณะรัฐมนตรี หลังจากนั้นบริษัทฯ ได้ควบรวมกิจการกับ Tokopedia ในปี 2564 เป็น GoTo Gojek Tokopedia บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ชี้แจงว่า หลังนายนาดีมลาออก เขาก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายบริหาร หรือการดำเนินงานของบริษัทฯ อีกต่อไป #Newskit
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก Camry สู่ Leaf: เมื่อรถเล็กไฟฟ้ากลายเป็นคำตอบของชีวิตที่ไม่ต้องเร่งรีบ

    Jeff Geerling นักพัฒนาและบล็อกเกอร์สายเทคโนโลยี ตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้าคันแรกในรอบ 15 ปี—เป็น Nissan Leaf SV Plus รุ่นปี 2023 มือสอง ที่มีระยะทางใช้งาน 36,000 ไมล์ และแบตเตอรี่ยังมีสุขภาพดีถึง 94% โดยเขาได้ราคาสุทธิหลังหักส่วนลดและเครดิตภาษีเหลือเพียง $11,000

    เหตุผลหลักที่เขาเลือก Leaf คือ “ราคา” และความเรียบง่ายของรถที่ไม่พยายามเป็นอะไรเกินตัว ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ไม่ต้องมีระบบขับอัตโนมัติที่ซับซ้อน และยังมีฟีเจอร์พื้นฐานที่ใช้งานได้จริง เช่น CarPlay แบบมีสาย, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และ lane assist

    เขาเสริมอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น เครื่องชาร์จ Grizzl-E L2 สำหรับบ้าน, อะแดปเตอร์ NACS to J1772 และ CCS1 to CHAdeMO เพื่อรองรับการชาร์จแบบต่าง ๆ รวมถึงติดตั้ง dashcam และระบบ CarPlay แบบไร้สายผ่าน CarlinKit

    Geerling ยังใช้ LeafSpy Pro ร่วมกับ LeLink 2 เพื่อวิเคราะห์สุขภาพแบตเตอรี่ผ่าน OBD-II โดยพบว่าแบตเตอรี่ยังมีประสิทธิภาพดี และเขาพยายามดูแลแบตเตอรี่ด้วยการหลีกเลี่ยงการชาร์จเร็วบ่อย ๆ, รักษาระดับชาร์จไว้ที่ 50–80%, และชาร์จเต็มเดือนละครั้งเพื่อปรับสมดุลเซลล์

    แม้จะมีข้อดีมากมาย เช่น ความเงียบ, แรงบิดทันใจ, และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาที่ต่ำ แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธว่า Leaf ยังมีข้อจำกัด เช่น พอร์ต CHAdeMO ที่กำลังถูกเลิกใช้ในสหรัฐฯ, ขาดระบบระบายความร้อนแบตเตอรี่, และการออกแบบที่ไม่สะดวกในบางจุด เช่น ไม่มีปุ่ม play/pause บนพวงมาลัย หรือการเข้าเกียร์ N ที่ต้องใช้จังหวะเฉพาะ

    เขายังตั้งข้อสังเกตว่า แม้ EV จะเหมาะกับการใช้งานในเมือง แต่การเดินทางไกลยังต้องวางแผนอย่างละเอียด โดยเฉพาะเรื่องการชาร์จ และการพกอุปกรณ์เสริมที่กินพื้นที่ท้ายรถมากกว่าที่คิด

    เหตุผลในการเลือก Nissan Leaf มือสอง
    ราคาถูกที่สุดในกลุ่ม EV มือสองที่ยังมีคุณภาพดี
    ฟีเจอร์พื้นฐานครบ เช่น CarPlay, adaptive cruise, lane assist
    ไม่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ตหรือระบบขับอัตโนมัติที่ซับซ้อน

    การดูแลและตรวจสอบแบตเตอรี่
    ใช้ LeafSpy Pro กับ LeLink 2 ผ่าน OBD-II
    ตรวจสอบ SoH, Hx และข้อมูลเซลล์แบตเตอรี่
    หลีกเลี่ยงการชาร์จเร็วบ่อย ๆ และรักษาระดับชาร์จให้อยู่ในช่วงปลอดภัย

    อุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งเพิ่มเติม
    เครื่องชาร์จ L2 สำหรับบ้าน และอะแดปเตอร์ชาร์จหลายแบบ
    Dashcam และ CarPlay แบบไร้สาย
    ติดตั้งอุปกรณ์จัดเก็บสายชาร์จในท้ายรถ

    ข้อดีของการใช้ EV
    ขับเงียบ, แรงบิดดี, ค่าใช้จ่ายในการดูแลต่ำ
    ไม่ต้องเติมน้ำมันหรือเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
    สามารถเปิดแอร์/ฮีตเตอร์ล่วงหน้าได้แม้อยู่ในโรงรถ

    https://www.jeffgeerling.com/blog/2025/i-bought-cheapest-ev-used-nissan-leaf
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Camry สู่ Leaf: เมื่อรถเล็กไฟฟ้ากลายเป็นคำตอบของชีวิตที่ไม่ต้องเร่งรีบ Jeff Geerling นักพัฒนาและบล็อกเกอร์สายเทคโนโลยี ตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้าคันแรกในรอบ 15 ปี—เป็น Nissan Leaf SV Plus รุ่นปี 2023 มือสอง ที่มีระยะทางใช้งาน 36,000 ไมล์ และแบตเตอรี่ยังมีสุขภาพดีถึง 94% โดยเขาได้ราคาสุทธิหลังหักส่วนลดและเครดิตภาษีเหลือเพียง $11,000 เหตุผลหลักที่เขาเลือก Leaf คือ “ราคา” และความเรียบง่ายของรถที่ไม่พยายามเป็นอะไรเกินตัว ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ไม่ต้องมีระบบขับอัตโนมัติที่ซับซ้อน และยังมีฟีเจอร์พื้นฐานที่ใช้งานได้จริง เช่น CarPlay แบบมีสาย, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และ lane assist เขาเสริมอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น เครื่องชาร์จ Grizzl-E L2 สำหรับบ้าน, อะแดปเตอร์ NACS to J1772 และ CCS1 to CHAdeMO เพื่อรองรับการชาร์จแบบต่าง ๆ รวมถึงติดตั้ง dashcam และระบบ CarPlay แบบไร้สายผ่าน CarlinKit Geerling ยังใช้ LeafSpy Pro ร่วมกับ LeLink 2 เพื่อวิเคราะห์สุขภาพแบตเตอรี่ผ่าน OBD-II โดยพบว่าแบตเตอรี่ยังมีประสิทธิภาพดี และเขาพยายามดูแลแบตเตอรี่ด้วยการหลีกเลี่ยงการชาร์จเร็วบ่อย ๆ, รักษาระดับชาร์จไว้ที่ 50–80%, และชาร์จเต็มเดือนละครั้งเพื่อปรับสมดุลเซลล์ แม้จะมีข้อดีมากมาย เช่น ความเงียบ, แรงบิดทันใจ, และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาที่ต่ำ แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธว่า Leaf ยังมีข้อจำกัด เช่น พอร์ต CHAdeMO ที่กำลังถูกเลิกใช้ในสหรัฐฯ, ขาดระบบระบายความร้อนแบตเตอรี่, และการออกแบบที่ไม่สะดวกในบางจุด เช่น ไม่มีปุ่ม play/pause บนพวงมาลัย หรือการเข้าเกียร์ N ที่ต้องใช้จังหวะเฉพาะ เขายังตั้งข้อสังเกตว่า แม้ EV จะเหมาะกับการใช้งานในเมือง แต่การเดินทางไกลยังต้องวางแผนอย่างละเอียด โดยเฉพาะเรื่องการชาร์จ และการพกอุปกรณ์เสริมที่กินพื้นที่ท้ายรถมากกว่าที่คิด ✅ เหตุผลในการเลือก Nissan Leaf มือสอง ➡️ ราคาถูกที่สุดในกลุ่ม EV มือสองที่ยังมีคุณภาพดี ➡️ ฟีเจอร์พื้นฐานครบ เช่น CarPlay, adaptive cruise, lane assist ➡️ ไม่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ตหรือระบบขับอัตโนมัติที่ซับซ้อน ✅ การดูแลและตรวจสอบแบตเตอรี่ ➡️ ใช้ LeafSpy Pro กับ LeLink 2 ผ่าน OBD-II ➡️ ตรวจสอบ SoH, Hx และข้อมูลเซลล์แบตเตอรี่ ➡️ หลีกเลี่ยงการชาร์จเร็วบ่อย ๆ และรักษาระดับชาร์จให้อยู่ในช่วงปลอดภัย ✅ อุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งเพิ่มเติม ➡️ เครื่องชาร์จ L2 สำหรับบ้าน และอะแดปเตอร์ชาร์จหลายแบบ ➡️ Dashcam และ CarPlay แบบไร้สาย ➡️ ติดตั้งอุปกรณ์จัดเก็บสายชาร์จในท้ายรถ ✅ ข้อดีของการใช้ EV ➡️ ขับเงียบ, แรงบิดดี, ค่าใช้จ่ายในการดูแลต่ำ ➡️ ไม่ต้องเติมน้ำมันหรือเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ➡️ สามารถเปิดแอร์/ฮีตเตอร์ล่วงหน้าได้แม้อยู่ในโรงรถ https://www.jeffgeerling.com/blog/2025/i-bought-cheapest-ev-used-nissan-leaf
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • วันนี้ (7 ก.ย. 2568) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด นายอนุทินเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หลังสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ตามรัฐธรรมนูญ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085512

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    วันนี้ (7 ก.ย. 2568) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด นายอนุทินเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หลังสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ตามรัฐธรรมนูญ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085512 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 340 Views 0 Reviews
  • เพื่อไทยยื่นศาล รธน. ฟัน "อนุทิน" ตั้งรัฐบาลขัด รธน. สส.เพื่อไทยร่วมลงชื่อยื่นประธานสภาฯ ส่งศาลวินิจฉัย ปมภูมิใจไทยจับมือประชาชน ชี้เสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ฝ่าหลักประชาธิปไตย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085497

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เพื่อไทยยื่นศาล รธน. ฟัน "อนุทิน" ตั้งรัฐบาลขัด รธน. สส.เพื่อไทยร่วมลงชื่อยื่นประธานสภาฯ ส่งศาลวินิจฉัย ปมภูมิใจไทยจับมือประชาชน ชี้เสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ฝ่าหลักประชาธิปไตย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085497 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 362 Views 0 Reviews
  • 'อนุทิน' นั่งนายกฯ! 'นพดล' ไขก๊อกพ้น สส.เพื่อไทย 'ภูมิธรรม' ย้ำเคารพมติพรรคประชาชน พร้อมทำงานต่อจนรัฐบาลใหม่เข้ารับตำแหน่ง แซะภูมิใจไทย-สว.เคยต้านแก้ รธน. เจ้าหน้าที่ขนของออกจากทำเนียบฯ คาดของ รมต.ชุดเดิม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085472

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    'อนุทิน' นั่งนายกฯ! 'นพดล' ไขก๊อกพ้น สส.เพื่อไทย 'ภูมิธรรม' ย้ำเคารพมติพรรคประชาชน พร้อมทำงานต่อจนรัฐบาลใหม่เข้ารับตำแหน่ง แซะภูมิใจไทย-สว.เคยต้านแก้ รธน. เจ้าหน้าที่ขนของออกจากทำเนียบฯ คาดของ รมต.ชุดเดิม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085472 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 352 Views 0 Reviews
  • เอกชนหนุน "คนละครึ่ง" คืนชีพ! หวังช่วยเศรษฐกิจฐานราก-ลดค่าครองชีพ อนุทินลั่นพร้อมเดินหน้าทันทีที่รับตำแหน่ง ภัตตาคารไทยเผยยอดขายตกฮวบ มอง "คนละครึ่ง" ตรงจุด-ช่วยเหลือประชาชน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085470

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เอกชนหนุน "คนละครึ่ง" คืนชีพ! หวังช่วยเศรษฐกิจฐานราก-ลดค่าครองชีพ อนุทินลั่นพร้อมเดินหน้าทันทีที่รับตำแหน่ง ภัตตาคารไทยเผยยอดขายตกฮวบ มอง "คนละครึ่ง" ตรงจุด-ช่วยเหลือประชาชน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085470 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 347 Views 0 Reviews
  • อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​การทำให้เกิดสัมมาทิฏฐิเมื่อมีปัญหาระหว่างลัทธิ
    สัทธรรมลำดับที่ : 739
    ชื่อบทธรรม :- การทำให้เกิดสัมมาทิฏฐิเมื่อมีปัญหาระหว่างลัทธิ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=739
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --การทำให้เกิดสัมมาทิฏฐิเมื่อมีปัญหาระหว่างลัทธิ
    (นัตถิก - อัตถิกวาท, อกิริย - กิริยวาท, อเหตุก - เหตุกวาท, อารุปปวาท, ภวนิโรธวาท)
    (พราหมณ์และคหบดีชาวบ้านชาวสาเลยยกะ ได้ยินเสียงเล่าลือว่า
    พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นพระอรหันต์ รู้แจ้งโลกทั้งปวง
    แสดงธรรมงดงามบริบูรณ์ ประกาศพรหมจรรย์บริสุทธิ์
    ก็พากันไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เสด็จมาถึงหมู่บ้านนี้แล้ว จนถึงที่ประทับ.
    บางพวกแสดงความเคารพ บางพวกไม่แสดงความเคารพ นั่งอยู่.
    พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสแก่ชาวบ้านสาเลยยกะเหล่านั้น ว่า :-
    )
    --คหบดี ท. ! มีอยู่ไหม ศาสดาไรๆ ซึ่งเป็นที่พอใจของท่าน
    จนถึงกับท่านปลงสัทธาไปแล้วอย่างมีเหตุผล ?
    “ยังไม่มี พระเจ้าข้า !”
    --คหบดี ท. ! สำหรับพวกท่านที่ยังไม่มีศาสดาอันเป็นที่พอใจ
    ธรรมะอันผิดไม่ได้ (อปัณณกธรรม) นี้ มีอยู่
    สำหรับพวกท่านสมาทานแล้วปฏิบัติ.
    --คหบดี ท. ! ธรรมะอันผิดไม่ได้นั้น เมื่อท่านสมาทานเต็มเปี่ยมแล้ว
    จักเป็นไปเพื่อหิตสุขแก่พวกท่านตลอดกาลนาน.
    --คหบดี ท. ! ธรรมะอันผิดไม่ได้นั้น เป็นอย่างไรเล่า ?
    --คหบดี ท. ! มีสมณพราหมณ์พวกหนึ่ง มีวาทะมีทิฏฐิอย่างนี้ว่า
    “ทานที่ให้แล้ว ไม่มี (ผล), ยัญที่บูชาแล้ว ไม่มี (ผล), การบูชาที่บูชาแล้ว ไม่มี (ผล),
    ผลวิบากแห่งกรรมที่สัตว์ทำดีทำชั่ว ไม่มี, โลกนี้ ไม่มี, โลกอื่น ไม่มี,
    มารดา ไม่มี, บิดา ไม่มี, โอปปาติกะสัตว์ ไม่มี,
    สมณพราหมณ์ที่ไปแล้วปฏิบัติแล้วโดยชอบ ถึงกับกระทำให้แจ้งโลกนี้และโลกอื่น
    ด้วยปัญญาโดยชอบเอง แล้วประกาศให้ผู้อื่นรู้ ก็ไม่มี”
    ดังนี้.
    --คหบดี ท. ! ยังมีสมณพราหมณ์อีกพวกหนึ่ง ซึ่งมีวาทะเป็นข้าศึก
    โดยตรงต่อสมณพราหมณ์เหล่านั้น กล่าวอยู่อย่างนี้ว่า
    “ทานที่ให้แล้ว มี (ผล), ยัญที่บูชาแล้ว มี (ผล) , การบูชาที่บูชาแล้ว มี (ผล) ,
    ผลวิบากแห่งกรรมที่สัตว์ทำดีทำชั่ว มี, โลกนี้ มี, โลกอื่น มี,
    มารดา มี, บิดา มี, โอปปาติกะสัตว์ มี,
    สมณพราหมณ์ที่ไปแล้วปฏิบัติแล้วโดยชอบ ถึงกับกระทำให้แจ้งโลกนี้และโลกอื่น
    โดยปัญญาโดยชอบเอง แล้วประกาศให้ผู้อื่นรู้ ก็มี”
    ดังนี้.
    --คหบดี ท. ! ท่านจะสำคัญข้อความนี้อย่างไร
    : สมณพราหมณ์สองพวกนี้ เป็นผู้มีวาทะเป็นข้าศึกโดยตรงต่อกันและกัน มิใช่หรือ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --คหบดี ท. ! ในบรรดาสมณพราหมณ์ทั้งสองพวกนั้น สมณพราหมณ์ พวกใดมีวาทะมีทิฏฐิว่า
    “ทานที่ให้แล้ว ไม่มี, ยัญที่บูชาแล้ว ไม่มี, ...ฯลฯ...
    ผู้ทำให้แจ้งโลกนี้และโลกอื่น ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว ประกาศให้ผู้อื่นรู้ ก็ไม่มี”
    ดังนี้นั้น พวกเขาพึงหวังได้ในข้อนี้ คือ
    เลิก ละกุศลธรรม สามประการนี้ กล่าวคือ
    กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต เสีย
    แล้วสมาทานประพฤติ อกุศลธรรม สามประการ
    กล่าวคือ กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต เป็นแน่นอน.
    ข้อนั้นเพราะเหตุไร ?
    เพราะเหตุว่า สมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น
    ไม่มองเห็นโทษอันต่ำทรามเศร้าหมองของ อกุศลธรรม
    และไม่มองเห็นอานิสงส์ในเนกขัมมะอันเป็นธรรมขาวผ่องฝ่ายกุศลธรรมทั้งหลาย เสียเลย.
    ทิฏฐิของเขา ต่อโลกอื่นซึ่งมีอยู่แท้ ๆ กลับไปเห็นเสียว่าโลกอื่นไม่มี
    ทิฏฐินั้นของเขา จึงเป็น มิจฉาทิฏฐิ
    โลกอื่นซึ่งมีอยู่แท้ ๆ เขาดำริไปว่า โลกอื่นไม่มี ความดำรินั้นของเขาจึงเป็น มิจฉาสังกัปปะ.
    เขากล่าวซึ่งโลกอื่นอันมีอยู่แท้ ๆ ว่าโลกอื่นไม่มี วาจานั้นของเขา จึงเป็น มิจฉาวาจา.
    เขากล่าวซึ่งโลกอื่นอันมีอยู่แท้ ๆ ว่าโลกอื่นไม่มี
    เช่นนี้ชื่อว่าเขาทำตนเป็นข้าศึกต่อพระอรหันต์ทั้งหลายผู้รู้แจ้งโลกอื่น.
    โลกอื่นมีอยู่แท้ ๆ เขาทำให้ผู้อื่นสำคัญว่าโลกอื่นไม่มี
    การกระทำของเขานั้น จึงเป็น #อสัทธัมมสัญญัตติ์
    (ทำให้ผู้อื่นหมายมั่นใน อสัทธรรม)
    และด้วยอสัทธัมมสัญญัตติ์ของเขานั่นเอง เขายกตนข่มผู้อื่น.
    ด้วยการกระทำอย่างนี้ ชื่อว่า เขาละปกติภาวะอันดีงามในกาลก่อนของเขาเสีย
    มาตั้งอยู่ในปกติภาวะอันเลวทราม คือมิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ มิจฉาวาจา
    ความเป็นข้าศึกต่อพระอริยเจ้า อสัทธัมมสัญญัตติ์ การยกตน และการข่มผู้อื่น.
    ด้วยอาการอย่างนี้ อกุศลธรรมอันลามกเป็นอเนกเหล่านั้น ย่อมเกิดแก่เขา
    เพราะมีมิจฉาทิฏฐิเป็นปัจจัย.
    --คหบดี ท. ! ในบรรดาทิฏฐิทั้งสองอย่างนั้น บุรุษผู้วิญญูชน
    ย่อม ใคร่ครวญเห็นอย่างนี้ว่า ถ้าโลกอื่นไม่มี บุรุษผู้เจริญ (ผู้ถืออยู่ว่าโลกอื่นไม่มี)
    นี้หลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกาย จักทำความสวัสดีให้แก่ตนได้
    เพราะเหตุนั้น ก็จริงอยู่ ;
    +‐-แต่ถ้าโลกอื่นไม่มี บุรุษผู้เจริญนี้ หลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    จักเข้าถึง อบายทุคติวินิบาตนรก เพราะเหตุนั้น เป็นแน่แท้.
    +--เอาละ เป็นอันว่าโลกอื่นก็อย่ามี คำจริงของสมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น
    ก็ไม่ต้องเอามากล่าวอ้าง ;
    ถึงกระนั้น บุรุษผู้เจริญนั้น ก็ยังจะถูกวิญญูชนติเตียนในทิฏฐิธรรมนี้แหละ
    ว่าเป็นคน ทุศีล เป็นมิจฉาทิฏฐิ เป็น #นัตถิกวาท ดังนี้อยู่นั่นเอง.
    +--ถ้าว่าโลกอื่นเกิดมีขึ้นมาจริงๆแล้ว การได้รับกระลี*--๑ ทั้งสองฝ่าย
    ย่อมมีแก่บุรุษผู้เจริญนั้น กล่าวคือ ในทิฏฐิธรรมนี้ก็ถูกวิญญูชนติเตียน
    และหลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกาย ก็เข้าถึง #อบายทุคติวินิบาตนรก.
    นี่แหละ คือ อปัณณกธรรม (ธรรมอันผิดไม่ได้)
    นี้ ที่ทุกคนนี้ถือเอาผิดโดยสิ้นเชิงย่อมแผ่ไป โดยท่าเดียว
    ตั้งอยู่อย่างลิดรอนซึ่งรากฐานแห่งกุศล
    -----
    *--๑. คำว่า กระลี (ในบทว่า กลิคฺคาโห) เป็นคำที่แปลเป็นไทยได้ยาก
    หมายถึงความชั่วร้ายที่มาจากผีชนิดหนึ่ง ในที่นี้ จึงแปลทับศัพท์ว่า “กระลี“
    ซึ่งแม้จะแปลว่า ความชั่ว ความเลว ความพ่ายแพ้ ฯลฯ
    ก็ไม่มีความหมายเต็มตามความหมายเดิมของคำคำนี้.
    ---‐-
    --คหบดี ท. ! ในบรรดาสมณพราหมณ์ทั้งสองพวกนั้น สมณพราหมณ์พวกใด
    มีวาทะมีทิฏฐิอย่างนี้ว่า
    “ทานที่ให้แล้ว มี(ผล), ยัญที่บูชาแล้ว มี(ผล),
    ... ฯลฯ ...
    ผู้ทำให้แจ้งโลกนี้และโลกอื่น ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว ประกาศให้ผู้อื่นรู้ ก็มี”
    ดังนี้นั้น
    พวกเขาพึงหวังได้ในข้อนี้ คือเลิกละอกุศลธรรมสามประการ
    กล่าวคือกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต เสีย
    แล้วสมาทานประพฤติ กุศลธรรม สามประการ
    กล่าวคือ กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต เป็นแน่นอน.
    ข้อนั้นเพราะเหตุไร ?
    เพราะเหตุว่าสมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น มองเห็นโทษอันต่ำทรามเศร้าหมอง
    ของ อกุศลธรรม และมองเห็นอานิสงส์ใน เนกขัมมะ
    อันเป็นธรรมขาวผ่องฝ่ายกุศลธรรมทั้งหลาย.
    ทิฏฐิของเขา ต่อโลกอื่นซึ่งมีอยู่นั่นเทียว ก็เป็นทิฏฐิที่เห็นว่าโลกอื่นมีอยู่
    ทิฏฐินั้นของเขาจึงเป็น สัมมาทิฏฐิ
    โลกอื่นซึ่งมีอยู่นั่นเทียว เขาก็ดำริว่าโลกอื่นมีอยู่
    ความดำรินั้นของเขา จึงเป็น สัมมาสังกัปปะ.
    เขากล่าวซึ่งโลกอื่นอันมีอยู่นั่นเทียวว่าโลกอื่นมีอยู่
    วาจานั้นของเขา จึงเป็น สัมมาวาจา.
    เขากล่าวซึ่งโลกอื่นอันมีอยู่นั่นเทียว ว่าโลกอื่นมีอยู่ เช่นนี้
    ชื่อว่าเขาทำตนไม่เป็นข้าศึกต่อพระอรหันต์ทั้งหลายผู้รู้แจ้งโลกอื่น.
    โลกอื่นมีอยู่นั่นเทียว เขาทำให้ผู้อื่นสำคัญว่าโลกอื่นมีอยู่
    การกระทำของเขานั้น จึงเป็น สัทธัมมสัญญัตติ์ (ทำให้ผู้อื่นหมายมั่นในสัทธรรม)
    และด้วยสัทธัมมสัญญัตติ์ของเขานั่นเอง เขาย่อมไม่ยกตนข่มผู้อื่น.
    ด้วยการกระทำอย่างนี้ ชื่อว่า เขาละปกติภาวะอันเลวทรามในกาลก่อนของเขาเสีย
    มาตั้งอยู่ในภาวะอันดีงาม คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา
    ความไม่เป็นข้าศึกต่อพระอริยเจ้า สัทธัมมสัญญัตติ์ การไม่ยกตัว และการไม่ข่มผู้อื่น.
    ด้วยอาการอย่างนี้ กุศลธรรมอเนกเหล่านั้น ย่อมเกิดแก่เขาเพราะมี สัมมาทิฏฐิ เป็นปัจจัย.
    --คหบดี ท. ! ในบรรดาทิฏฐิทั้งสองอย่างนั้น บุรุษผู้วิญญูชน ย่อม
    ใคร่ครวญเห็นอย่างนี้ว่า ถ้าโลกอื่นมีอยู่ บุรุษผู้เจริญนี้
    หลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกาย จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะเหตุนั้น.
    +--เอาละ เป็นอันว่าโลกอื่นก็อย่ามีกันเลย คำจริงของสมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น
    ก็ไม่ต้องเอามากล่าวอ้าง; ถึงกระนั้น บุรุษผู้เจริญนั้น
    +--ก็ยังจะเป็นผู้อันวิญญูชนสรรเสริญในทิฏฐิธรรมนี้แหละ ว่าเป็นคนมีศีล เป็นสัมมาทิฏฐิ
    เป็น #อัตถิกวาท ดังนี้ อยู่นั่นเอง.
    ถ้าว่าโลกอื่นเกิดมีขึ้นมาจริงๆแล้ว การถือเอาซึ่งความสำเร็จทั้งสองฝ่าย
    ย่อมมีแก่บุรุษผู้เจริญนั้น กล่าวคือ ในทิฏฐิธรรมนี้ก็เป็นผู้อันวิญญูชนสรรเสริญ
    และหลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกายก็เข้าถึง #สุคติโลกสวรรค์.
    นี่แหละคืออปัณณกธรรม (ธรรมอันผิดไม่ได้) นี้ ที่บุคคลนี้ถือเอาถูกโดยสิ้นเชิง
    ย่อมแผ่ไป โดยส่วนทั้งสอง ตั้งอยู่อย่างลิดรอนซึ่งรากฐานแห่งอกุศล.-

    ------‐
    **ขยายความโดยสูตรอื่นอีก**
    (ทิฏฐิแห่งพระบาลีนี้ ยังเป็นประเภท โลกิยสัมมาทิฏฐิ คือยังมีอาสวะ
    มีความยึดมั่นว่าสัตว์ว่าบุคคล มีความดีความชั่ว มีนรกสวรรค์ เป็นต้น ซึ่งแบ่งได้เป็นสองฝ่าย.
    --เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ในลักษณะที่เป็นทิฏฐิ คือเป็นเพียงความเห็น ไม่มีประจักษ์พยานที่เป็นวัตถุสิ่งของมาแสดงให้เห็นชัดได้ ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องสร้างทิฏฐิขึ้นมาในลักษณะที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขโดยส่วนเดียว.
    ตัวอย่างปัญหาเกิดขึ้นมาว่า โลกอื่นมี หรือไม่มี เราจะต้องถือเอาข้างฝ่ายทิฏฐิที่ทำให้เกิดประโยชน์โดยส่วนเดียว ซึ่งในที่นี้ได้แก่ทิฏฐิที่ถือว่าโลกอื่นมี ซึ่งเป็นเหตุให้ขวนขวายบำเพ็ญประโยชน์อันเป็นไปเพื่อโลกอื่น และได้รับประโยชน์สุขในโลกอื่น;
    ถ้าเผอิญโลกอื่นไม่มี ตนก็ไม่เสียประโยชน์อะไร การกระทำเพื่อประโยชน์โลกอื่นก็ไม่เสียเปล่า คือเป็นความดีที่ได้รับการสรรเสริญจากวิญญูชนในโลกนี้ และได้รับประโยชน์สุขในโลกนี้อย่างเต็มที่.
    ดังนั้นจึงสรุปว่า การมีทิฏฐิว่าโลกอื่นมี ย่อมถือเอาได้ซึ่งประโยชน์โดยส่วนสอง คือแม้โลกอื่นจะไม่มีก็ยังได้รับประโยชน์ ยิ่งโลกอื่นมีก็ยิ่งได้รับประโยชน์จึง เรียกทิฏฐิชนิดนี้ว่าเป็นอปัณณกธรรม คือธรรมที่ผิดไม่ได้ทั้งสองฝ่าย เป็นสัมมาทิฏฐิที่ตัดปัญหาออกไปเสียได้โดยประการทั้งปวง ในเมื่อเกิดปัญหาที่แย้งกันอย่างตรงข้ามเป็นสองฝ่าย ดังที่กล่าวไว้ในพระบาลีนี้. เราจึงถือว่า สัมมาทิฏฐิ ชนิดนี้ระงับผลร้ายเสียได้ในเมื่อเกิดการขัดแย้งในระหว่างลัทธิ.
    --ในความขัดแย้งระหว่างทิฏฐิคู่อื่นๆ เช่นทิฏฐิว่า
    การกระทำไม่ชื่อว่าเป็นอันกระทำหรือการกระทำชื่อว่าเป็นอันกระทำ
    (ทำบุญทำบาปไม่ชื่อว่าเป็นอันกระทำ หรือทำบุญทำบาปชื่อว่าเป็นอันกระทำ)
    เกิดเป็นปัญหาขัดแย้งกันขึ้นมาแล้ว พึงเลือกถือเอาทิฏฐิข้างฝ่ายที่จะผิดไม่ได้อีกอย่างเดียวกัน คือทิฏฐิที่ว่า การกระทำชื่อว่าเป็นอันกระทำและเลือกกระทำแต่ฝ่ายข้างดี;
    แม้สมมุติว่าการกระทำนั้นจะไม่เป็นการกระทำ เขาก็ยังได้รับผลของการกระทำ
    คือเป็นที่สรรเสริญแห่งวิญญูชน และผู้นั้นก็ได้รับประโยชน์สุขอยู่นั่นเอง.
    นี้เป็น สัมมาทิฏฐิที่ควรมี หรือถือเป็นหลักในเมื่อเกิดการขัดแย้งขึ้นเกี่ยวกับลัทธิที่ต่างกันชนิดหนึ่ง.
    ---- ม. ม. ๑๓/๑๐๕-๑๑๐ /๑๑๐-๑๑๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/13/105/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%91%E0%B9%90

    --สำหรับทิฏฐิที่ว่ามีเหตุหรือไม่มีเหตุแห่งความเศร้าหมองหรือความบริสุทธิ์ของสัตว์ นั้น
    ก็มีหลักเกณฑ์ทำนองเดียวกัน คือถ้า ถือว่า มีเหตุ ก็จะเป็นความปลอดภัยกว่าการถือว่าไม่มีเหตุ.
    ผู้ที่ถือว่ามีเหตุ ย่อมกระทำการกระทำที่เป็นการสร้างเหตุดีเว้นเหตุชั่ว;
    สมมุติว่าสิ่งทั้งหลายจะเป็นสิ่งที่ไม่มีเหตุขึ้นมา การกระทำของเขาก็ยังเป็นความดีทั้งสองสถาน คือวิญญูชนสรรเสริญ และเขาก็ได้รับผลดีแห่งการกระทำของเขา
    คือเป็นสุขทั้งโลกนี้และโลกอื่น. แม้นี้ก็คือ สัมมาทิฏฐิที่ควรสร้างขึ้น
    เมื่อมีการขัดแย้งระหว่างลัทธิ ด้วยเหมือนกัน.
    - ม. ม. ๑๓/๑๑๑-๑๑๕/๑๑๕-๑๑๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/13/111/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%91%E0%B9%95

    --สำหรับทิฏฐิที่ว่า อารุปปธรรม (คุณสมบัติที่เป็นสภาวะไม่มีรูป) เป็นสิ่งที่ มีอยู่หรือไม่ได้มีอยู่ นั้น ิญญูชนจะเลือกถือเอาข้างที่ว่า มีอยู่ และปฏิบัติเพื่อให้ได้ซึ่งคุณธรรมประเภทที่--ไม่มีรูปนั้น เขาก็จะได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ; คือสมมุติว่าถ้าอารุปปธรรมเป็นสิ่งที่มิได้มีอยู่ เขาก็ยังได้รับประโยชน์ที่รองลงมา คือ รุปปธรรม (คุณสมบัติหรือคุณค่าที่มีรูป). ถ้าหากว่าอารุปปธรรมมีจริง เขาก็จะได้รับคุณค่าหรือประโยชน์ชั้นที่เป็นอารุปปธรรมนั้นตามความมุ่งหมาย. ดังนั้น การที่ถือว่า อารุปปธรรมเป็นสิ่งที่มีอยู่นั้น จัดเป็นสัมมาทิฏฐิที่ไม่อาจจะผิดได้ ในเมื่อเกิดการขัดแย้งกันขึ้นในระหว่างลัทธิ. อนึ่ง ถ้าอธิบายตามแบบเก่าๆ อย่างในอรรถกถา ก็คือให้ถือว่า อรูปพรหมมีอยู่ แล้วปฏิบัติเพื่ออรูปพรหมนั้น ถ้าสมมุติว่าอรูปพรหมไม่มี ก็ยังได้รับผลเป็นรูปพรหมที่รองลงมา แต่ถ้าอรูปพรหมมีก็จะได้รับผลเต็มตามความหมายของอรูปพรหม จึงถือว่าเป็นทิฏฐิที่ถูกต้อง. อีกอย่างหนึ่ง ถ้ากล่าวสำหรับผู้มีการศึกษาแห่งยุคปัจจุบัน ก็ต้องกล่าวว่า คุณค่าหรือคุณสมบัติชนิดที่ไม่ต้องมีสภาวะเป็นรูปธรรม (คือไม่เป็นวัตถุนิยม) นั้นก็มีอยู่และมีผลเป็นความสะดวกกว่า สบายกว่าเป็นสุขสงบกว่า ประเสริฐกว่า เพราะไม่ต้องมีการกระทบกระทั่งฝ่ายรูปธรรม เช่นการทะเลาะวิวาทหรือป่วยไข้ทางร่างกายเป็นต้น.
    - ม. ม. ๑๓/๑๑๕/๑๒๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/13/115/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%90

    --สำหรับทิฏฐิว่า ความดับแห่งภพโดยประการทั้งปวง เป็นสิ่งที่มีอยู่หรือไม่มี นั้น วิญญูชนจะถือเอาข้างฝ่ายที่ถือว่า มีความดับแห่งภพ แล้วก็ปฏิบัติเพื่อความดับแห่งภพ เขาก็จะได้รับผลเป็นปรินิพพานในทิฏฐธรรมนี้; ส่วนพวกที่ถือว่า ความดับแห่งภพโดยประการทั้งปวงไม่มีนั้น เขาก็จะไปติดตันตายด้านอยู่เพียงแค่อรูปภพอันเป็นภพสูงสุด. ดังนั้น การถือว่า ความดับแห่งภพโดยประการทั้งปวงมีอยู่ นั้นเป็นสัมมาทิฏฐิที่ไม่มีทางจะผิดได้ ในเมื่อมีการมีการทุ่มเถียงขัดแย้ง กันระหว่างลัทธิ.
    - ม.ม ๑๓/๑๑๗/๑๒๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/13/117/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%91

    --สรุปความว่า
    ปัญหาทางลัทธินั้น คือปัญหาเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่อาจมองเห็นตัว หรือได้ยินเสียงโดยตรง จนถึงกับเรากล่าวว่ามันเป็นอย่างไรๆได้ ดังนั้น จึงต้องตั้งขึ้นเป็นลัทธิชนิดที่เป็นสัมมาทิฏฐิ คือทำให้ได้รับประโยชน์โดยส่วนเดียวเกี่ยวกับสิ่งที่เขามองไม่เห็นหรือฟังเสียงโดยตรงไม่ได้นั้นๆ เราจึงต้องจัดทำหรือต้องมีอย่างถูกต้องชนิดผิดไม่ได้ ดังที่กล่าวไว้ในหัวข้อธรรมะเหล่านี้
    ).
    **
    #สัมมาทิฏฐิ
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ม.ม. 13/81 - 85/104 - 109.
    http://etipitaka.com/read/thai/13/81/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ม.ม. ๑๓/๑๐๑ - ๑๐๕/๑๐๔ - ๑๐๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/13/101/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=739
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=739
    ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​การทำให้เกิดสัมมาทิฏฐิเมื่อมีปัญหาระหว่างลัทธิ สัทธรรมลำดับที่ : 739 ชื่อบทธรรม :- การทำให้เกิดสัมมาทิฏฐิเมื่อมีปัญหาระหว่างลัทธิ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=739 เนื้อความทั้งหมด :- --การทำให้เกิดสัมมาทิฏฐิเมื่อมีปัญหาระหว่างลัทธิ (นัตถิก - อัตถิกวาท, อกิริย - กิริยวาท, อเหตุก - เหตุกวาท, อารุปปวาท, ภวนิโรธวาท) (พราหมณ์และคหบดีชาวบ้านชาวสาเลยยกะ ได้ยินเสียงเล่าลือว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นพระอรหันต์ รู้แจ้งโลกทั้งปวง แสดงธรรมงดงามบริบูรณ์ ประกาศพรหมจรรย์บริสุทธิ์ ก็พากันไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เสด็จมาถึงหมู่บ้านนี้แล้ว จนถึงที่ประทับ. บางพวกแสดงความเคารพ บางพวกไม่แสดงความเคารพ นั่งอยู่. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสแก่ชาวบ้านสาเลยยกะเหล่านั้น ว่า :- ) --คหบดี ท. ! มีอยู่ไหม ศาสดาไรๆ ซึ่งเป็นที่พอใจของท่าน จนถึงกับท่านปลงสัทธาไปแล้วอย่างมีเหตุผล ? “ยังไม่มี พระเจ้าข้า !” --คหบดี ท. ! สำหรับพวกท่านที่ยังไม่มีศาสดาอันเป็นที่พอใจ ธรรมะอันผิดไม่ได้ (อปัณณกธรรม) นี้ มีอยู่ สำหรับพวกท่านสมาทานแล้วปฏิบัติ. --คหบดี ท. ! ธรรมะอันผิดไม่ได้นั้น เมื่อท่านสมาทานเต็มเปี่ยมแล้ว จักเป็นไปเพื่อหิตสุขแก่พวกท่านตลอดกาลนาน. --คหบดี ท. ! ธรรมะอันผิดไม่ได้นั้น เป็นอย่างไรเล่า ? --คหบดี ท. ! มีสมณพราหมณ์พวกหนึ่ง มีวาทะมีทิฏฐิอย่างนี้ว่า “ทานที่ให้แล้ว ไม่มี (ผล), ยัญที่บูชาแล้ว ไม่มี (ผล), การบูชาที่บูชาแล้ว ไม่มี (ผล), ผลวิบากแห่งกรรมที่สัตว์ทำดีทำชั่ว ไม่มี, โลกนี้ ไม่มี, โลกอื่น ไม่มี, มารดา ไม่มี, บิดา ไม่มี, โอปปาติกะสัตว์ ไม่มี, สมณพราหมณ์ที่ไปแล้วปฏิบัติแล้วโดยชอบ ถึงกับกระทำให้แจ้งโลกนี้และโลกอื่น ด้วยปัญญาโดยชอบเอง แล้วประกาศให้ผู้อื่นรู้ ก็ไม่มี” ดังนี้. --คหบดี ท. ! ยังมีสมณพราหมณ์อีกพวกหนึ่ง ซึ่งมีวาทะเป็นข้าศึก โดยตรงต่อสมณพราหมณ์เหล่านั้น กล่าวอยู่อย่างนี้ว่า “ทานที่ให้แล้ว มี (ผล), ยัญที่บูชาแล้ว มี (ผล) , การบูชาที่บูชาแล้ว มี (ผล) , ผลวิบากแห่งกรรมที่สัตว์ทำดีทำชั่ว มี, โลกนี้ มี, โลกอื่น มี, มารดา มี, บิดา มี, โอปปาติกะสัตว์ มี, สมณพราหมณ์ที่ไปแล้วปฏิบัติแล้วโดยชอบ ถึงกับกระทำให้แจ้งโลกนี้และโลกอื่น โดยปัญญาโดยชอบเอง แล้วประกาศให้ผู้อื่นรู้ ก็มี” ดังนี้. --คหบดี ท. ! ท่านจะสำคัญข้อความนี้อย่างไร : สมณพราหมณ์สองพวกนี้ เป็นผู้มีวาทะเป็นข้าศึกโดยตรงต่อกันและกัน มิใช่หรือ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --คหบดี ท. ! ในบรรดาสมณพราหมณ์ทั้งสองพวกนั้น สมณพราหมณ์ พวกใดมีวาทะมีทิฏฐิว่า “ทานที่ให้แล้ว ไม่มี, ยัญที่บูชาแล้ว ไม่มี, ...ฯลฯ... ผู้ทำให้แจ้งโลกนี้และโลกอื่น ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว ประกาศให้ผู้อื่นรู้ ก็ไม่มี” ดังนี้นั้น พวกเขาพึงหวังได้ในข้อนี้ คือ เลิก ละกุศลธรรม สามประการนี้ กล่าวคือ กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต เสีย แล้วสมาทานประพฤติ อกุศลธรรม สามประการ กล่าวคือ กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต เป็นแน่นอน. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะเหตุว่า สมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น ไม่มองเห็นโทษอันต่ำทรามเศร้าหมองของ อกุศลธรรม และไม่มองเห็นอานิสงส์ในเนกขัมมะอันเป็นธรรมขาวผ่องฝ่ายกุศลธรรมทั้งหลาย เสียเลย. ทิฏฐิของเขา ต่อโลกอื่นซึ่งมีอยู่แท้ ๆ กลับไปเห็นเสียว่าโลกอื่นไม่มี ทิฏฐินั้นของเขา จึงเป็น มิจฉาทิฏฐิ โลกอื่นซึ่งมีอยู่แท้ ๆ เขาดำริไปว่า โลกอื่นไม่มี ความดำรินั้นของเขาจึงเป็น มิจฉาสังกัปปะ. เขากล่าวซึ่งโลกอื่นอันมีอยู่แท้ ๆ ว่าโลกอื่นไม่มี วาจานั้นของเขา จึงเป็น มิจฉาวาจา. เขากล่าวซึ่งโลกอื่นอันมีอยู่แท้ ๆ ว่าโลกอื่นไม่มี เช่นนี้ชื่อว่าเขาทำตนเป็นข้าศึกต่อพระอรหันต์ทั้งหลายผู้รู้แจ้งโลกอื่น. โลกอื่นมีอยู่แท้ ๆ เขาทำให้ผู้อื่นสำคัญว่าโลกอื่นไม่มี การกระทำของเขานั้น จึงเป็น #อสัทธัมมสัญญัตติ์ (ทำให้ผู้อื่นหมายมั่นใน อสัทธรรม) และด้วยอสัทธัมมสัญญัตติ์ของเขานั่นเอง เขายกตนข่มผู้อื่น. ด้วยการกระทำอย่างนี้ ชื่อว่า เขาละปกติภาวะอันดีงามในกาลก่อนของเขาเสีย มาตั้งอยู่ในปกติภาวะอันเลวทราม คือมิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ มิจฉาวาจา ความเป็นข้าศึกต่อพระอริยเจ้า อสัทธัมมสัญญัตติ์ การยกตน และการข่มผู้อื่น. ด้วยอาการอย่างนี้ อกุศลธรรมอันลามกเป็นอเนกเหล่านั้น ย่อมเกิดแก่เขา เพราะมีมิจฉาทิฏฐิเป็นปัจจัย. --คหบดี ท. ! ในบรรดาทิฏฐิทั้งสองอย่างนั้น บุรุษผู้วิญญูชน ย่อม ใคร่ครวญเห็นอย่างนี้ว่า ถ้าโลกอื่นไม่มี บุรุษผู้เจริญ (ผู้ถืออยู่ว่าโลกอื่นไม่มี) นี้หลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกาย จักทำความสวัสดีให้แก่ตนได้ เพราะเหตุนั้น ก็จริงอยู่ ; +‐-แต่ถ้าโลกอื่นไม่มี บุรุษผู้เจริญนี้ หลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกาย จักเข้าถึง อบายทุคติวินิบาตนรก เพราะเหตุนั้น เป็นแน่แท้. +--เอาละ เป็นอันว่าโลกอื่นก็อย่ามี คำจริงของสมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น ก็ไม่ต้องเอามากล่าวอ้าง ; ถึงกระนั้น บุรุษผู้เจริญนั้น ก็ยังจะถูกวิญญูชนติเตียนในทิฏฐิธรรมนี้แหละ ว่าเป็นคน ทุศีล เป็นมิจฉาทิฏฐิ เป็น #นัตถิกวาท ดังนี้อยู่นั่นเอง. +--ถ้าว่าโลกอื่นเกิดมีขึ้นมาจริงๆแล้ว การได้รับกระลี*--๑ ทั้งสองฝ่าย ย่อมมีแก่บุรุษผู้เจริญนั้น กล่าวคือ ในทิฏฐิธรรมนี้ก็ถูกวิญญูชนติเตียน และหลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกาย ก็เข้าถึง #อบายทุคติวินิบาตนรก. นี่แหละ คือ อปัณณกธรรม (ธรรมอันผิดไม่ได้) นี้ ที่ทุกคนนี้ถือเอาผิดโดยสิ้นเชิงย่อมแผ่ไป โดยท่าเดียว ตั้งอยู่อย่างลิดรอนซึ่งรากฐานแห่งกุศล ----- *--๑. คำว่า กระลี (ในบทว่า กลิคฺคาโห) เป็นคำที่แปลเป็นไทยได้ยาก หมายถึงความชั่วร้ายที่มาจากผีชนิดหนึ่ง ในที่นี้ จึงแปลทับศัพท์ว่า “กระลี“ ซึ่งแม้จะแปลว่า ความชั่ว ความเลว ความพ่ายแพ้ ฯลฯ ก็ไม่มีความหมายเต็มตามความหมายเดิมของคำคำนี้. ---‐- --คหบดี ท. ! ในบรรดาสมณพราหมณ์ทั้งสองพวกนั้น สมณพราหมณ์พวกใด มีวาทะมีทิฏฐิอย่างนี้ว่า “ทานที่ให้แล้ว มี(ผล), ยัญที่บูชาแล้ว มี(ผล), ... ฯลฯ ... ผู้ทำให้แจ้งโลกนี้และโลกอื่น ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว ประกาศให้ผู้อื่นรู้ ก็มี” ดังนี้นั้น พวกเขาพึงหวังได้ในข้อนี้ คือเลิกละอกุศลธรรมสามประการ กล่าวคือกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต เสีย แล้วสมาทานประพฤติ กุศลธรรม สามประการ กล่าวคือ กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต เป็นแน่นอน. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะเหตุว่าสมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น มองเห็นโทษอันต่ำทรามเศร้าหมอง ของ อกุศลธรรม และมองเห็นอานิสงส์ใน เนกขัมมะ อันเป็นธรรมขาวผ่องฝ่ายกุศลธรรมทั้งหลาย. ทิฏฐิของเขา ต่อโลกอื่นซึ่งมีอยู่นั่นเทียว ก็เป็นทิฏฐิที่เห็นว่าโลกอื่นมีอยู่ ทิฏฐินั้นของเขาจึงเป็น สัมมาทิฏฐิ โลกอื่นซึ่งมีอยู่นั่นเทียว เขาก็ดำริว่าโลกอื่นมีอยู่ ความดำรินั้นของเขา จึงเป็น สัมมาสังกัปปะ. เขากล่าวซึ่งโลกอื่นอันมีอยู่นั่นเทียวว่าโลกอื่นมีอยู่ วาจานั้นของเขา จึงเป็น สัมมาวาจา. เขากล่าวซึ่งโลกอื่นอันมีอยู่นั่นเทียว ว่าโลกอื่นมีอยู่ เช่นนี้ ชื่อว่าเขาทำตนไม่เป็นข้าศึกต่อพระอรหันต์ทั้งหลายผู้รู้แจ้งโลกอื่น. โลกอื่นมีอยู่นั่นเทียว เขาทำให้ผู้อื่นสำคัญว่าโลกอื่นมีอยู่ การกระทำของเขานั้น จึงเป็น สัทธัมมสัญญัตติ์ (ทำให้ผู้อื่นหมายมั่นในสัทธรรม) และด้วยสัทธัมมสัญญัตติ์ของเขานั่นเอง เขาย่อมไม่ยกตนข่มผู้อื่น. ด้วยการกระทำอย่างนี้ ชื่อว่า เขาละปกติภาวะอันเลวทรามในกาลก่อนของเขาเสีย มาตั้งอยู่ในภาวะอันดีงาม คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา ความไม่เป็นข้าศึกต่อพระอริยเจ้า สัทธัมมสัญญัตติ์ การไม่ยกตัว และการไม่ข่มผู้อื่น. ด้วยอาการอย่างนี้ กุศลธรรมอเนกเหล่านั้น ย่อมเกิดแก่เขาเพราะมี สัมมาทิฏฐิ เป็นปัจจัย. --คหบดี ท. ! ในบรรดาทิฏฐิทั้งสองอย่างนั้น บุรุษผู้วิญญูชน ย่อม ใคร่ครวญเห็นอย่างนี้ว่า ถ้าโลกอื่นมีอยู่ บุรุษผู้เจริญนี้ หลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกาย จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะเหตุนั้น. +--เอาละ เป็นอันว่าโลกอื่นก็อย่ามีกันเลย คำจริงของสมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น ก็ไม่ต้องเอามากล่าวอ้าง; ถึงกระนั้น บุรุษผู้เจริญนั้น +--ก็ยังจะเป็นผู้อันวิญญูชนสรรเสริญในทิฏฐิธรรมนี้แหละ ว่าเป็นคนมีศีล เป็นสัมมาทิฏฐิ เป็น #อัตถิกวาท ดังนี้ อยู่นั่นเอง. ถ้าว่าโลกอื่นเกิดมีขึ้นมาจริงๆแล้ว การถือเอาซึ่งความสำเร็จทั้งสองฝ่าย ย่อมมีแก่บุรุษผู้เจริญนั้น กล่าวคือ ในทิฏฐิธรรมนี้ก็เป็นผู้อันวิญญูชนสรรเสริญ และหลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกายก็เข้าถึง #สุคติโลกสวรรค์. นี่แหละคืออปัณณกธรรม (ธรรมอันผิดไม่ได้) นี้ ที่บุคคลนี้ถือเอาถูกโดยสิ้นเชิง ย่อมแผ่ไป โดยส่วนทั้งสอง ตั้งอยู่อย่างลิดรอนซึ่งรากฐานแห่งอกุศล.- ------‐ **ขยายความโดยสูตรอื่นอีก** (ทิฏฐิแห่งพระบาลีนี้ ยังเป็นประเภท โลกิยสัมมาทิฏฐิ คือยังมีอาสวะ มีความยึดมั่นว่าสัตว์ว่าบุคคล มีความดีความชั่ว มีนรกสวรรค์ เป็นต้น ซึ่งแบ่งได้เป็นสองฝ่าย. --เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ในลักษณะที่เป็นทิฏฐิ คือเป็นเพียงความเห็น ไม่มีประจักษ์พยานที่เป็นวัตถุสิ่งของมาแสดงให้เห็นชัดได้ ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องสร้างทิฏฐิขึ้นมาในลักษณะที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขโดยส่วนเดียว. ตัวอย่างปัญหาเกิดขึ้นมาว่า โลกอื่นมี หรือไม่มี เราจะต้องถือเอาข้างฝ่ายทิฏฐิที่ทำให้เกิดประโยชน์โดยส่วนเดียว ซึ่งในที่นี้ได้แก่ทิฏฐิที่ถือว่าโลกอื่นมี ซึ่งเป็นเหตุให้ขวนขวายบำเพ็ญประโยชน์อันเป็นไปเพื่อโลกอื่น และได้รับประโยชน์สุขในโลกอื่น; ถ้าเผอิญโลกอื่นไม่มี ตนก็ไม่เสียประโยชน์อะไร การกระทำเพื่อประโยชน์โลกอื่นก็ไม่เสียเปล่า คือเป็นความดีที่ได้รับการสรรเสริญจากวิญญูชนในโลกนี้ และได้รับประโยชน์สุขในโลกนี้อย่างเต็มที่. ดังนั้นจึงสรุปว่า การมีทิฏฐิว่าโลกอื่นมี ย่อมถือเอาได้ซึ่งประโยชน์โดยส่วนสอง คือแม้โลกอื่นจะไม่มีก็ยังได้รับประโยชน์ ยิ่งโลกอื่นมีก็ยิ่งได้รับประโยชน์จึง เรียกทิฏฐิชนิดนี้ว่าเป็นอปัณณกธรรม คือธรรมที่ผิดไม่ได้ทั้งสองฝ่าย เป็นสัมมาทิฏฐิที่ตัดปัญหาออกไปเสียได้โดยประการทั้งปวง ในเมื่อเกิดปัญหาที่แย้งกันอย่างตรงข้ามเป็นสองฝ่าย ดังที่กล่าวไว้ในพระบาลีนี้. เราจึงถือว่า สัมมาทิฏฐิ ชนิดนี้ระงับผลร้ายเสียได้ในเมื่อเกิดการขัดแย้งในระหว่างลัทธิ. --ในความขัดแย้งระหว่างทิฏฐิคู่อื่นๆ เช่นทิฏฐิว่า การกระทำไม่ชื่อว่าเป็นอันกระทำหรือการกระทำชื่อว่าเป็นอันกระทำ (ทำบุญทำบาปไม่ชื่อว่าเป็นอันกระทำ หรือทำบุญทำบาปชื่อว่าเป็นอันกระทำ) เกิดเป็นปัญหาขัดแย้งกันขึ้นมาแล้ว พึงเลือกถือเอาทิฏฐิข้างฝ่ายที่จะผิดไม่ได้อีกอย่างเดียวกัน คือทิฏฐิที่ว่า การกระทำชื่อว่าเป็นอันกระทำและเลือกกระทำแต่ฝ่ายข้างดี; แม้สมมุติว่าการกระทำนั้นจะไม่เป็นการกระทำ เขาก็ยังได้รับผลของการกระทำ คือเป็นที่สรรเสริญแห่งวิญญูชน และผู้นั้นก็ได้รับประโยชน์สุขอยู่นั่นเอง. นี้เป็น สัมมาทิฏฐิที่ควรมี หรือถือเป็นหลักในเมื่อเกิดการขัดแย้งขึ้นเกี่ยวกับลัทธิที่ต่างกันชนิดหนึ่ง. ---- ม. ม. ๑๓/๑๐๕-๑๑๐ /๑๑๐-๑๑๔. http://etipitaka.com/read/pali/13/105/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%91%E0%B9%90 --สำหรับทิฏฐิที่ว่ามีเหตุหรือไม่มีเหตุแห่งความเศร้าหมองหรือความบริสุทธิ์ของสัตว์ นั้น ก็มีหลักเกณฑ์ทำนองเดียวกัน คือถ้า ถือว่า มีเหตุ ก็จะเป็นความปลอดภัยกว่าการถือว่าไม่มีเหตุ. ผู้ที่ถือว่ามีเหตุ ย่อมกระทำการกระทำที่เป็นการสร้างเหตุดีเว้นเหตุชั่ว; สมมุติว่าสิ่งทั้งหลายจะเป็นสิ่งที่ไม่มีเหตุขึ้นมา การกระทำของเขาก็ยังเป็นความดีทั้งสองสถาน คือวิญญูชนสรรเสริญ และเขาก็ได้รับผลดีแห่งการกระทำของเขา คือเป็นสุขทั้งโลกนี้และโลกอื่น. แม้นี้ก็คือ สัมมาทิฏฐิที่ควรสร้างขึ้น เมื่อมีการขัดแย้งระหว่างลัทธิ ด้วยเหมือนกัน. - ม. ม. ๑๓/๑๑๑-๑๑๕/๑๑๕-๑๑๙. http://etipitaka.com/read/pali/13/111/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%91%E0%B9%95 --สำหรับทิฏฐิที่ว่า อารุปปธรรม (คุณสมบัติที่เป็นสภาวะไม่มีรูป) เป็นสิ่งที่ มีอยู่หรือไม่ได้มีอยู่ นั้น ิญญูชนจะเลือกถือเอาข้างที่ว่า มีอยู่ และปฏิบัติเพื่อให้ได้ซึ่งคุณธรรมประเภทที่--ไม่มีรูปนั้น เขาก็จะได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ; คือสมมุติว่าถ้าอารุปปธรรมเป็นสิ่งที่มิได้มีอยู่ เขาก็ยังได้รับประโยชน์ที่รองลงมา คือ รุปปธรรม (คุณสมบัติหรือคุณค่าที่มีรูป). ถ้าหากว่าอารุปปธรรมมีจริง เขาก็จะได้รับคุณค่าหรือประโยชน์ชั้นที่เป็นอารุปปธรรมนั้นตามความมุ่งหมาย. ดังนั้น การที่ถือว่า อารุปปธรรมเป็นสิ่งที่มีอยู่นั้น จัดเป็นสัมมาทิฏฐิที่ไม่อาจจะผิดได้ ในเมื่อเกิดการขัดแย้งกันขึ้นในระหว่างลัทธิ. อนึ่ง ถ้าอธิบายตามแบบเก่าๆ อย่างในอรรถกถา ก็คือให้ถือว่า อรูปพรหมมีอยู่ แล้วปฏิบัติเพื่ออรูปพรหมนั้น ถ้าสมมุติว่าอรูปพรหมไม่มี ก็ยังได้รับผลเป็นรูปพรหมที่รองลงมา แต่ถ้าอรูปพรหมมีก็จะได้รับผลเต็มตามความหมายของอรูปพรหม จึงถือว่าเป็นทิฏฐิที่ถูกต้อง. อีกอย่างหนึ่ง ถ้ากล่าวสำหรับผู้มีการศึกษาแห่งยุคปัจจุบัน ก็ต้องกล่าวว่า คุณค่าหรือคุณสมบัติชนิดที่ไม่ต้องมีสภาวะเป็นรูปธรรม (คือไม่เป็นวัตถุนิยม) นั้นก็มีอยู่และมีผลเป็นความสะดวกกว่า สบายกว่าเป็นสุขสงบกว่า ประเสริฐกว่า เพราะไม่ต้องมีการกระทบกระทั่งฝ่ายรูปธรรม เช่นการทะเลาะวิวาทหรือป่วยไข้ทางร่างกายเป็นต้น. - ม. ม. ๑๓/๑๑๕/๑๒๐. http://etipitaka.com/read/pali/13/115/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%90 --สำหรับทิฏฐิว่า ความดับแห่งภพโดยประการทั้งปวง เป็นสิ่งที่มีอยู่หรือไม่มี นั้น วิญญูชนจะถือเอาข้างฝ่ายที่ถือว่า มีความดับแห่งภพ แล้วก็ปฏิบัติเพื่อความดับแห่งภพ เขาก็จะได้รับผลเป็นปรินิพพานในทิฏฐธรรมนี้; ส่วนพวกที่ถือว่า ความดับแห่งภพโดยประการทั้งปวงไม่มีนั้น เขาก็จะไปติดตันตายด้านอยู่เพียงแค่อรูปภพอันเป็นภพสูงสุด. ดังนั้น การถือว่า ความดับแห่งภพโดยประการทั้งปวงมีอยู่ นั้นเป็นสัมมาทิฏฐิที่ไม่มีทางจะผิดได้ ในเมื่อมีการมีการทุ่มเถียงขัดแย้ง กันระหว่างลัทธิ. - ม.ม ๑๓/๑๑๗/๑๒๑. http://etipitaka.com/read/pali/13/117/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%91 --สรุปความว่า ปัญหาทางลัทธินั้น คือปัญหาเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่อาจมองเห็นตัว หรือได้ยินเสียงโดยตรง จนถึงกับเรากล่าวว่ามันเป็นอย่างไรๆได้ ดังนั้น จึงต้องตั้งขึ้นเป็นลัทธิชนิดที่เป็นสัมมาทิฏฐิ คือทำให้ได้รับประโยชน์โดยส่วนเดียวเกี่ยวกับสิ่งที่เขามองไม่เห็นหรือฟังเสียงโดยตรงไม่ได้นั้นๆ เราจึงต้องจัดทำหรือต้องมีอย่างถูกต้องชนิดผิดไม่ได้ ดังที่กล่าวไว้ในหัวข้อธรรมะเหล่านี้ ). ** #สัมมาทิฏฐิ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ม.ม. 13/81 - 85/104 - 109. http://etipitaka.com/read/thai/13/81/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ม.ม. ๑๓/๑๐๑ - ๑๐๕/๑๐๔ - ๑๐๙. http://etipitaka.com/read/pali/13/101/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=739 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=739 ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - การทำให้เกิดสัมมาทิฏฐิเมื่อมีปัญหาระหว่างลัทธิ
    -การทำให้เกิดสัมมาทิฏฐิเมื่อมีปัญหาระหว่างลัทธิ (นัตถิก - อัตถิกวาท, อกิริย - กิริยวาท, อเหตุก - เหตุกวาท, อารุปปวาท, ภวนิโรธวาท) (พราหมณ์และคหบดีชาวบ้านชาวสาเลยยกะ ได้ยินเสียงเล่าลือว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นพระอรหันต์ รู้แจ้งโลกทั้งปวง แสดงธรรมงดงามบริบูรณ์ ประกาศพรหมจรรย์บริสุทธิ์ ก็พากันไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เสด็จมาถึงหมู่บ้านนี้แล้ว จนถึงที่ประทับ. บางพวกแสดงความเคารพ บางพวกไม่แสดงความเคารพ นั่งอยู่. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสแก่ชาวบ้านสาเลยยกะเหล่านั้น ว่า :- ) คหบดี ท. ! มีอยู่ไหม ศาสดาไรๆ ซึ่งเป็นที่พอใจของท่าน จนถึงกับท่านปลงสัทธาไปแล้วอย่างมีเหตุผล ? “ยังไม่มี พระเจ้าข้า !” คหบดี ท. ! สำหรับพวกท่านที่ยังไม่มีศาสดาอันเป็นที่พอใจ ธรรมะอันผิดไม่ได้ (อปัณณกธรรม) นี้ มีอยู่ สำหรับพวกท่านสมาทานแล้วปฏิบัติ. คหบดี ท. ! ธรรมะอันผิดไม่ได้นั้น เมื่อท่านสมาทานเต็มเปี่ยมแล้ว จักเป็นไปเพื่อหิตสุขแก่พวกท่านตลอดกาลนาน. คหบดี ท.! ธรรมะอันผิดไม่ได้นั้น เป็นอย่างไรเล่า ? คหบดี ท. ! มีสมณพราหมณ์พวกหนึ่ง มีวาทะมีทิฏฐิอย่างนี้ว่า “ทานที่ให้แล้ว ไม่มี (ผล), ยัญที่บูชาแล้ว ไม่มี (ผล), การบูชาที่บูชาแล้ว ไม่มี (ผล), ผลวิบากแห่งกรรมที่สัตว์ทำดีทำชั่ว ไม่มี, โลกนี้ ไม่มี, โลกอื่น ไม่มี, มารดา ไม่มี, บิดา ไม่มี, โอปปาติกะสัตว์ ไม่มี, สมณพราหมณ์ที่ไปแล้วปฏิบัติแล้วโดยชอบ ถึงกับกระทำให้แจ้งโลกนี้และโลกอื่น ด้วยปัญญาโดยชอบเอง แล้วประกาศให้ผู้อื่นรู้ ก็ไม่มี” ดังนี้. คหบดี ท. ! ยังมีสมณพราหมณ์อีกพวกหนึ่ง ซึ่งมีวาทะเป็นข้าศึก โดยตรงต่อสมณพราหมณ์เหล่านั้น กล่าวอยู่อย่างนี้ว่า “ทานที่ให้แล้ว มี (ผล), ยัญที่บูชาแล้ว มี (ผล) , การบูชาที่บูชาแล้ว มี (ผล) , ผลวิบากแห่งกรรมที่สัตว์ทำดีทำชั่ว มี, โลกนี้ มี, โลกอื่น มี, มารดา มี, บิดา มี, โอปปาติกะสัตว์ มี, สมณพราหมณ์ที่ไปแล้วปฏิบัติแล้วโดยชอบ ถึงกับกระทำให้แจ้งโลกนี้และโลกอื่น โดยปัญญาโดยชอบเอง แล้วประกาศให้ผู้อื่นรู้ ก็มี” ดังนี้. คหบดี ท. ! ท่านจะสำคัญข้อความนี้อย่างไร : สมณพราหมณ์สองพวกนี้ เป็นผู้มีวาทะเป็นข้าศึกโดยตรงต่อกันและกัน มิใช่หรือ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” คหบดี ท. ! ในบรรดาสมณพราหมณ์ทั้งสองพวกนั้น สมณพราหมณ์ พวกใดมีวาทะมีทิฏฐิว่า “ทานที่ให้แล้ว ไม่มี, ยัญที่บูชาแล้ว ไม่มี, ...ฯลฯ... ผู้ทำให้แจ้งโลกนี้และโลกอื่น ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว ประกาศให้ผู้อื่นรู้ ก็ไม่มี” ดังนี้นั้น พวกเขาพึงหวังได้ในข้อนี้ คือเลิกละกุศลธรรมสามประการนี้ กล่าวคือ กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต เสีย แล้วสมาทานประพฤติอกุศลธรรมสามประการ กล่าวคือ กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต เป็นแน่นอน. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะเหตุว่า สมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น ไม่มองเห็นโทษอันต่ำทรามเศร้าหมองของอกุศลธรรม และไม่มองเห็นอานิสงส์ในเนกขัมมะอันเป็นธรรมขาวผ่องฝ่ายกุศลธรรมทั้งหลาย เสียเลย. ทิฏฐิของเขา ต่อโลกอื่นซึ่งมีอยู่แท้ ๆ กลับไปเห็นเสียว่าโลกอื่นไม่มี ทิฏฐินั้นของเขาจึงเป็นมิจฉาทิฏฐิ โลกอื่นซึ่งมีอยู่แท้ ๆ เขาดำริไปว่า โลกอื่นไม่มี ความดำรินั้นของเขาจึงเป็นมิจฉาสังกัปปะ. เขากล่าวซึ่งโลกอื่นอันมีอยู่แท้ ๆ ว่าโลกอื่นไม่มี วาจานั้นของเขา จึงเป็นมิจฉาวาจา. เขากล่าวซึ่งโลกอื่นอันมีอยู่แท้ ๆ ว่าโลก อื่นไม่มี เช่นนี้ชื่อว่าเขาทำตนเป็นข้าศึกต่อพระอรหันต์ทั้งหลายผู้รู้แจ้งโลกอื่น. โลกอื่นมีอยู่แท้ ๆ เขาทำให้ผู้อื่นสำคัญว่าโลกอื่นไม่มี การกระทำของเขานั้น จึงเป็นอสัทธัมมสัญญัตติ์ (ทำให้ผู้อื่นหมายมั่นในอสัทธรรม) และด้วยอสัทธัมมสัญญัตติ์ของเขานั่นเอง เขายกตนข่มผู้อื่น. ด้วยการกระทำอย่างนี้ ชื่อว่า เขาละปกติภาวะอันดีงามในกาลก่อนของเขาเสีย มาตั้งอยู่ในปกติภาวะอันเลวทราม คือมิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ มิจฉาวาจา ความเป็นข้าศึกต่อพระอริยเจ้า อสัทธัมมสัญญัตติ์ การยกตน และการข่มผู้อื่น. ด้วยอาการอย่างนี้ อกุศลธรรมอันลามกเป็นอเนกเหล่านั้น ย่อมเกิดแก่เขา เพราะมีมิจฉาทิฏฐิเป็นปัจจัย. คหบดี ท. ! ในบรรดาทิฏฐิทั้งสองอย่างนั้น บุรุษผู้วิญญูชน ย่อม ใคร่ครวญเห็นอย่างนี้ว่า ถ้าโลกอื่นไม่มี บุรุษผู้เจริญ (ผู้ถืออยู่ว่าโลกอื่นไม่มี) นี้หลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกาย จักทำความสวัสดีให้แก่ตนได้ เพราะเหตุนั้น ก็จริงอยู่ ; แต่ถ้าโลกอื่นไม่มี บุรุษผู้เจริญนี้ หลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกาย จักเข้าถึงอบายทุคติวินิบาตนรก เพราะเหตุนั้น เป็นแน่แท้. เอาละ เป็นอันว่าโลกอื่นก็อย่ามี คำจริงของสมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น ก็ไม่ต้องเอามากล่าวอ้าง ; ถึงกระนั้น บุรุษผู้เจริญนั้น ก็ยังจะถูกวิญญูชนติเตียนในทิฏฐิธรรมนี้แหละ ว่าเป็นคนทุศีล เป็นมิจฉาทิฏฐิ เป็น นัตถิกวาท ดังนี้อยู่นั่นเอง. ถ้าว่าโลกอื่นเกิดมีขึ้นมาจริงๆแล้ว การได้รับกระลี๑ ทั้งสองฝ่าย ย่อมมีแก่บุรุษผู้เจริญนั้น กล่าวคือ ในทิฏฐิธรรมนี้ก็ถูกวิญญูชนติเตียน และหลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกาย ก็เข้าถึงอบายทุคติวินิบาตนรก. ๑. คำว่า กระลี (ในบทว่า กลิคฺคาโห) เป็นคำที่แปลเป็นไทยได้ยาก หมายถึงความชั่วร้ายที่มาจากผีชนิดหนึ่ง ในที่นี้ จึงแปลทับศัพท์ว่า “กระลี“ ซึ่งแม้จะแปลว่า ความชั่ว ความเลว ความพ่ายแพ้ ฯลฯ ก็ไม่มีความหมายเต็มตามความหมายเดิมของคำคำนี้. นี่แหละ คืออปัณณกธรรม (ธรรมอันผิดไม่ได้) นี้ ที่ทุกคนนี้ถือเอาผิดโดยสิ้นเชิงย่อมแผ่ไป โดยท่าเดียว ตั้งอยู่อย่างลิดรอนซึ่งรากฐานแห่งกุศล. คหบดี ท. ! ในบรรดาสมณพราหมณ์ทั้งสองพวกนั้น สมณพราหมณ์พวกใด มีวาทะมีทิฏฐิอย่างนี้ว่า “ทานที่ให้แล้ว มี(ผล), ยัญที่บูชาแล้ว มี(ผล), ... ฯลฯ ... ผู้ทำให้แจ้งโลกนี้และโลกอื่น ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว ประกาศให้ผู้อื่นรู้ ก็มี” ดังนี้นั้น พวกเขาพึงหวังได้ในข้อนี้ คือเลิกละอกุศลธรรมสามประการ กล่าวคือกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต เสีย แล้วสมาทานประพฤติกุศลธรรมสามประการ กล่าวคือ กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต เป็นแน่นอน. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะเหตุว่าสมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น มองเห็นโทษอันต่ำทรามเศร้าหมอง ของอกุศลธรรม และมองเห็นอานิสงส์ในเนกขัมมะ อันเป็นธรรมขาวผ่องฝ่ายกุศลธรรมทั้งหลาย. ทิฏฐิของเขา ต่อโลกอื่นซึ่งมีอยู่นั่นเทียว ก็เป็นทิฏฐิที่เห็นว่าโลกอื่นมีอยู่ ทิฏฐินั้นของเขาจึงเป็นสัมมาทิฏฐิ โลกอื่นซึ่งมีอยู่นั่นเทียว เขาก็ดำริว่าโลกอื่นมีอยู่ ความดำรินั้นของเขา จึงเป็นสัมมาสังกัปปะ. เขากล่าวซึ่งโลกอื่นอันมีอยู่นั่นเทียวว่าโลกอื่นมีอยู่ วาจานั้นของเขา จึงเป็นสัมมาวาจา. เขากล่าวซึ่งโลกอื่นอันมีอยู่นั่นเทียว ว่าโลกอื่นมีอยู่ เช่นนี้ชื่อว่าเขาทำตนไม่เป็นข้าศึกต่อพระอรหันต์ทั้งหลายผู้รู้แจ้งโลกอื่น. โลกอื่นมีอยู่นั่นเทียว เขาทำให้ผู้อื่นสำคัญว่าโลกอื่นมีอยู่ การกระทำของเขานั้น จึงเป็น สัทธัมมสัญญัตติ์ (ทำให้ผู้อื่นหมายมั่นในสัทธรรม) และด้วยสัทธัมมสัญญัตติ์ของเขานั่นเอง เขาย่อมไม่ยกตนข่มผู้อื่น. ด้วยการกระทำอย่างนี้ ชื่อว่า เขาละปกติภาวะอันเลวทรามในกาลก่อนของเขาเสีย มาตั้งอยู่ในภาวะอันดีงาม คือสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา ความไม่เป็นข้าศึกต่อพระอริยเจ้า สัทธัมมสัญญัตติ์ การไม่ยกตัว และการไม่ข่มผู้อื่น. ด้วย อาการอย่างนี้ กุศลธรรมอเนกเหล่านั้น ย่อมเกิดแก่เขาเพราะมีสัมมาทิฏฐิ เป็นปัจจัย. คหบดี ท. ! ในบรรดาทิฏฐิทั้งสองอย่างนั้น บุรุษผู้วิญญูชน ย่อม ใคร่ครวญเห็นอย่างนี้ว่า ถ้าโลกอื่นมีอยู่ บุรุษผู้เจริญนี้ หลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกาย จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะเหตุนั้น. เอาละ เป็นอันว่าโลกอื่นก็อย่ามีกันเลย คำจริงของสมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น ก็ไม่ต้องเอามากล่าวอ้าง; ถึงกระนั้น บุรุษผู้เจริญนั้น ก็ยังจะเป็นผู้อันวิญญูชนสรรเสริญในทิฏฐิธรรมนี้แหละ ว่าเป็นคนมีศีล เป็นสัมมาทิฏฐิ เป็น อัตถิกวาท ดังนี้ อยู่นั่นเอง. ถ้าว่าโลกอื่นเกิดมีขึ้นมาจริงๆแล้ว การถือเอาซึ่งความสำเร็จทั้งสองฝ่าย ย่อมมีแก่บุรุษผู้เจริญนั้น กล่าวคือ ในทิฏฐิธรรมนี้ก็เป็นผู้อันวิญญูชนสรรเสริญ และหลังจากการตายเพราะการทำลายแห่งกายก็เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์. นี่แหละคืออปัณณกธรรม (ธรรมอันผิดไม่ได้) นี้ ที่บุคคลนี้ถือเอาถูกโดยสิ้นเชิง ย่อมแผ่ไป โดยส่วนทั้งสอง ตั้งอยู่อย่างลิดรอนซึ่งรากฐานแห่งอกุศล.
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ
    สัทธรรมลำดับที่ : 370
    ชื่อบทธรรม :- ความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=370
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ภิกษุ ท. ! ความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ และความตั้งอยู่ไม่ได้
    แห่งรูป แห่งเสียง แห่งกลิ่น แห่งรส แห่งโผฏฐัพพะ แห่งธรรมารมณ์ ใด ๆ ;
    อันนั้นแหละ #เป็นความดับแห่งทุกข์,
    http://etipitaka.com/read/pali/17/284/?keywords=ทุกฺขสฺเสโส+นิโรโธ
    อันนั้นแหละ เป็นความเข้าไปสงบรำงับแห่งสิ่งซึ่งมีปกติเสียบแทงทั้งหลาย,
    อันนั้นแหละ เป็นความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งชราและมรณะ
    แล.-

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/253/482.
    http://etipitaka.com/read/thai/17/253/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%98%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๘๔/๔๘๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/17/284/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%98%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=370
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=370
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ สัทธรรมลำดับที่ : 370 ชื่อบทธรรม :- ความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=370 เนื้อความทั้งหมด :- --ภิกษุ ท. ! ความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ และความตั้งอยู่ไม่ได้ แห่งรูป แห่งเสียง แห่งกลิ่น แห่งรส แห่งโผฏฐัพพะ แห่งธรรมารมณ์ ใด ๆ ; อันนั้นแหละ #เป็นความดับแห่งทุกข์, http://etipitaka.com/read/pali/17/284/?keywords=ทุกฺขสฺเสโส+นิโรโธ อันนั้นแหละ เป็นความเข้าไปสงบรำงับแห่งสิ่งซึ่งมีปกติเสียบแทงทั้งหลาย, อันนั้นแหละ เป็นความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งชราและมรณะ แล.- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/253/482. http://etipitaka.com/read/thai/17/253/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%98%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๘๔/๔๘๒. http://etipitaka.com/read/pali/17/284/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%98%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=370 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=370 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ¸„วามดับ ความเข้าไปสงบรำงับ
    -ภิกษุ ท. ! ความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ และความตั้งอยู่ไม่ได้ แห่งรูป แห่งเสียง แห่งกลิ่น แห่งรส แห่งโผฏฐัพพะ แห่งธรรมารมณ์ ใด ๆ ; อันนั้นแหละ เป็นความดับแห่งทุกข์, อันนั้นแหละ เป็นความเข้าไปสงบรำงับแห่งสิ่งซึ่งมีปกติเสียบแทงทั้งหลาย, อันนั้นแหละ เป็นความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งชราและมรณะ แล.
    0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากเสียงดนตรีถึงฟิสิกส์ควอนตัม: เมื่อ Fourier เปลี่ยนความวุ่นวายให้กลายเป็นคลื่นที่เข้าใจได้

    Jean-Baptiste Joseph Fourier เกิดในปี 1768 ท่ามกลางความวุ่นวายของฝรั่งเศสก่อนการปฏิวัติ เขาเกือบจะกลายเป็นนักบวช แต่เลือกเส้นทางคณิตศาสตร์แทน และในช่วงที่เขาเกือบถูกประหารชีวิตจากการแสดงความเห็นทางการเมือง Fourier ก็ได้กลับมาสู่โลกวิชาการ และกลายเป็นที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของนโปเลียน

    ในช่วงที่เขาอยู่ในอียิปต์ Fourier เริ่มสนใจการกระจายความร้อนในโลหะ และเสนอว่าอุณหภูมิในแท่งโลหะสามารถเขียนเป็นผลรวมของคลื่นง่าย ๆ ได้—แม้จะเป็นแท่งที่ครึ่งหนึ่งร้อน ครึ่งหนึ่งเย็นก็ตาม แนวคิดนี้ถูกมองว่า “เป็นไปไม่ได้” ในยุคนั้น แต่ Fourier ยืนยันว่าแม้จะต้องใช้คลื่นจำนวนอนันต์ ก็สามารถอธิบายการกระจายความร้อนได้

    จากแนวคิดนี้เกิดเป็น Fourier Transform ซึ่งสามารถแยกฟังก์ชันใด ๆ ออกเป็นคลื่นไซน์และโคไซน์ที่มีความถี่ต่างกัน—เหมือนการฟังเสียงดนตรีแล้วแยกเสียงแต่ละเครื่องดนตรีออกมาได้

    ในยุคปัจจุบัน Fourier Transform ถูกใช้ในทุกอย่างตั้งแต่การบีบอัดภาพ JPEG, การกรองเสียงรบกวน, การตรวจจับคลื่นความโน้มถ่วง, ไปจนถึงการอธิบายหลักความไม่แน่นอนในฟิสิกส์ควอนตัม ที่ตำแหน่งและโมเมนตัมของอนุภาคไม่สามารถรู้ได้พร้อมกัน เพราะ Fourier Transform ของตำแหน่งจะกระจายโมเมนตัมออกไป

    นอกจากนี้ยังมี Fourier Series ซึ่งใช้ในการประมาณฟังก์ชันที่มีขอบคม เช่น square wave โดยใช้คลื่นไซน์จำนวนมากมารวมกันให้ใกล้เคียงที่สุด

    ในปี 1960s มีการพัฒนา Fast Fourier Transform (FFT) โดย Cooley และ Tukey ซึ่งทำให้การคำนวณ Fourier Transform เร็วขึ้นมาก และกลายเป็นหัวใจของการประมวลผลสัญญาณในยุคดิจิทัล

    จุดกำเนิดของ Fourier Transform
    Jean-Baptiste Joseph Fourier เสนอแนวคิดในปี 1807 ว่าความร้อนสามารถอธิบายด้วยคลื่น
    แม้จะถูกคัดค้านในตอนแรก แต่แนวคิดนี้กลายเป็นรากฐานของ harmonic analysis
    Fourier Transform แยกฟังก์ชันออกเป็นคลื่นไซน์และโคไซน์ที่มีความถี่ต่างกัน

    การใช้งานในยุคปัจจุบัน
    ใช้ในการบีบอัดภาพ (JPEG), การกรองเสียง, การวิเคราะห์คลื่นความโน้มถ่วง
    ใช้ในฟิสิกส์ควอนตัมเพื่ออธิบายหลักความไม่แน่นอน
    ใช้ในการวิเคราะห์ภาพและเสียงแบบหลายมิติ

    การพัฒนาเพิ่มเติม
    Fourier Series ใช้ในการประมาณฟังก์ชันที่มีขอบคม
    Fast Fourier Transform (FFT) ทำให้การคำนวณเร็วขึ้นมาก
    ใช้ในเรดาร์, MRI, การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่

    ความเชื่อมโยงกับคณิตศาสตร์บริสุทธิ์
    Harmonic analysis เชื่อมโยงกับ number theory และการแจกแจงจำนวนเฉพาะ
    ใช้ในการแก้สมการเชิงอนุพันธ์และปัญหาในฟิสิกส์ทฤษฎี
    เป็นเครื่องมือหลักในการแปลงปัญหายากให้กลายเป็นปัญหาที่เข้าใจง่าย

    ความเสี่ยงจากการใช้กับฟังก์ชันที่ซับซ้อน
    Fourier Transform ไม่สามารถใช้กับฟังก์ชันที่แกว่งไม่หยุดแม้จะซูมเข้าไป
    ต้องใช้เงื่อนไขทางคณิตศาสตร์ที่เข้มงวด เช่น integrability และ continuity

    ความเปราะบางของการตีความในฟิสิกส์
    การแปลงตำแหน่งเป็นโมเมนตัมในควอนตัมอาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนสูง
    ต้องระวังการใช้ Fourier Transform ในบริบทที่ต้องการความแม่นยำสูง

    ความไม่แน่นอนของการใช้งานในระบบจริง
    การบีบอัดภาพด้วย Fourier อาจทำให้รายละเอียดเล็ก ๆ หายไป
    การกรองเสียงอาจทำให้เสียงบางส่วนถูกตัดออกโดยไม่ตั้งใจ

    https://www.quantamagazine.org/what-is-the-fourier-transform-20250903/
    🎙️ เรื่องเล่าจากเสียงดนตรีถึงฟิสิกส์ควอนตัม: เมื่อ Fourier เปลี่ยนความวุ่นวายให้กลายเป็นคลื่นที่เข้าใจได้ Jean-Baptiste Joseph Fourier เกิดในปี 1768 ท่ามกลางความวุ่นวายของฝรั่งเศสก่อนการปฏิวัติ เขาเกือบจะกลายเป็นนักบวช แต่เลือกเส้นทางคณิตศาสตร์แทน และในช่วงที่เขาเกือบถูกประหารชีวิตจากการแสดงความเห็นทางการเมือง Fourier ก็ได้กลับมาสู่โลกวิชาการ และกลายเป็นที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของนโปเลียน ในช่วงที่เขาอยู่ในอียิปต์ Fourier เริ่มสนใจการกระจายความร้อนในโลหะ และเสนอว่าอุณหภูมิในแท่งโลหะสามารถเขียนเป็นผลรวมของคลื่นง่าย ๆ ได้—แม้จะเป็นแท่งที่ครึ่งหนึ่งร้อน ครึ่งหนึ่งเย็นก็ตาม แนวคิดนี้ถูกมองว่า “เป็นไปไม่ได้” ในยุคนั้น แต่ Fourier ยืนยันว่าแม้จะต้องใช้คลื่นจำนวนอนันต์ ก็สามารถอธิบายการกระจายความร้อนได้ จากแนวคิดนี้เกิดเป็น Fourier Transform ซึ่งสามารถแยกฟังก์ชันใด ๆ ออกเป็นคลื่นไซน์และโคไซน์ที่มีความถี่ต่างกัน—เหมือนการฟังเสียงดนตรีแล้วแยกเสียงแต่ละเครื่องดนตรีออกมาได้ ในยุคปัจจุบัน Fourier Transform ถูกใช้ในทุกอย่างตั้งแต่การบีบอัดภาพ JPEG, การกรองเสียงรบกวน, การตรวจจับคลื่นความโน้มถ่วง, ไปจนถึงการอธิบายหลักความไม่แน่นอนในฟิสิกส์ควอนตัม ที่ตำแหน่งและโมเมนตัมของอนุภาคไม่สามารถรู้ได้พร้อมกัน เพราะ Fourier Transform ของตำแหน่งจะกระจายโมเมนตัมออกไป นอกจากนี้ยังมี Fourier Series ซึ่งใช้ในการประมาณฟังก์ชันที่มีขอบคม เช่น square wave โดยใช้คลื่นไซน์จำนวนมากมารวมกันให้ใกล้เคียงที่สุด ในปี 1960s มีการพัฒนา Fast Fourier Transform (FFT) โดย Cooley และ Tukey ซึ่งทำให้การคำนวณ Fourier Transform เร็วขึ้นมาก และกลายเป็นหัวใจของการประมวลผลสัญญาณในยุคดิจิทัล ✅ จุดกำเนิดของ Fourier Transform ➡️ Jean-Baptiste Joseph Fourier เสนอแนวคิดในปี 1807 ว่าความร้อนสามารถอธิบายด้วยคลื่น ➡️ แม้จะถูกคัดค้านในตอนแรก แต่แนวคิดนี้กลายเป็นรากฐานของ harmonic analysis ➡️ Fourier Transform แยกฟังก์ชันออกเป็นคลื่นไซน์และโคไซน์ที่มีความถี่ต่างกัน ✅ การใช้งานในยุคปัจจุบัน ➡️ ใช้ในการบีบอัดภาพ (JPEG), การกรองเสียง, การวิเคราะห์คลื่นความโน้มถ่วง ➡️ ใช้ในฟิสิกส์ควอนตัมเพื่ออธิบายหลักความไม่แน่นอน ➡️ ใช้ในการวิเคราะห์ภาพและเสียงแบบหลายมิติ ✅ การพัฒนาเพิ่มเติม ➡️ Fourier Series ใช้ในการประมาณฟังก์ชันที่มีขอบคม ➡️ Fast Fourier Transform (FFT) ทำให้การคำนวณเร็วขึ้นมาก ➡️ ใช้ในเรดาร์, MRI, การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ✅ ความเชื่อมโยงกับคณิตศาสตร์บริสุทธิ์ ➡️ Harmonic analysis เชื่อมโยงกับ number theory และการแจกแจงจำนวนเฉพาะ ➡️ ใช้ในการแก้สมการเชิงอนุพันธ์และปัญหาในฟิสิกส์ทฤษฎี ➡️ เป็นเครื่องมือหลักในการแปลงปัญหายากให้กลายเป็นปัญหาที่เข้าใจง่าย ‼️ ความเสี่ยงจากการใช้กับฟังก์ชันที่ซับซ้อน ⛔ Fourier Transform ไม่สามารถใช้กับฟังก์ชันที่แกว่งไม่หยุดแม้จะซูมเข้าไป ⛔ ต้องใช้เงื่อนไขทางคณิตศาสตร์ที่เข้มงวด เช่น integrability และ continuity ‼️ ความเปราะบางของการตีความในฟิสิกส์ ⛔ การแปลงตำแหน่งเป็นโมเมนตัมในควอนตัมอาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนสูง ⛔ ต้องระวังการใช้ Fourier Transform ในบริบทที่ต้องการความแม่นยำสูง ‼️ ความไม่แน่นอนของการใช้งานในระบบจริง ⛔ การบีบอัดภาพด้วย Fourier อาจทำให้รายละเอียดเล็ก ๆ หายไป ⛔ การกรองเสียงอาจทำให้เสียงบางส่วนถูกตัดออกโดยไม่ตั้งใจ https://www.quantamagazine.org/what-is-the-fourier-transform-20250903/
    WWW.QUANTAMAGAZINE.ORG
    What Is the Fourier Transform?
    Amid the chaos of revolutionary France, one man’s mathematical obsession gave way to a calculation that now underpins much of mathematics and physics. The calculation, called the Fourier transform, decomposes any function into its parts.
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​รสอร่อย-โทษอันต่ำทราม-อุบายเครื่องออก ด้วยสัมมาสมาธิ​
    สัทธรรมลำดับที่ : 738
    ชื่อบทธรรม : -รสอร่อย-โทษอันต่ำทราม-อุบายเครื่องออก ด้วยสัมมาสมาธิ​
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=738
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของเวทนา
    (ธรรมลักษณะ ๓ ประการของเวทนา : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ)
    --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นอัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลาย ?

    (ก) ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้
    : ภิกษุ เพราะสงัดจากกามและสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย ย่อมบรรลุ ฌานที่หนึ่ง
    ซึ่งมีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกแล้วแลอยู่.
    +--ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ
    เพราะสงัดจากกามและสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย ย่อมบรรลุ ฌานที่หนึ่ง
    มีวิตกวิจาร มีปีติและสุข เกิดแต่วิเวก นั้นแล้วแลอยู่.
    ในสมัยนั้น เธอ
    ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเอง,
    ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น, และ
    ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย.
    ในสมัยนั้น (ในขณะนั้น) เธอย่อมเสวย เวทนา อันไม่ทำความเดือดร้อนแต่อย่างใดเลย.
    +--ภิกษุ ท. ! เรากล่าว อัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลาย ว่า
    มีการไม่ทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่ง.

    (ข) ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : ภิกษุ เพราะสงบวิตกวิจารเสียได้ ย่อมบรรลุ ฌานที่สอง
    อันเป็นเครื่องผ่องใสในภายใน นำให้เกิดสมาธิมีอารมณ์อันเดียวแห่งใจ
    ไม่มีวิตกวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิ แล้วแลอยู่.
    +--ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ
    เพราะสงบวิตกวิจารเสียได้ ย่อมบรรลุ ฌานที่สอง
    อันเป็นเครื่องผ่องใสในภายใน นำให้เกิดสมาธิมีอารมณ์อันเดียวแห่งใจ
    ไม่มีวิตกวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิ
    นั้นแล้วแลอยู่. ในสมัยนั้น เธอ
    ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเอง,
    ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น,
    และย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย.
    ในสมัยนั้น เธอย่อม เสวยเวทนา อันไม่ทำความเดือดร้อนแต่อย่างใดเลย.
    +--ภิกษุ ท. ! เรากล่าว อัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลาย ว่า
    มีการไม่ทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่ง.

    (ค) ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : ภิกษุ เพราะความจางคลายไปแห่งปีติ เป็นผู้อยู่อุเบกขา
    มีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกาย ย่อมบรรลุ ฌานที่สาม
    อันเป็นฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลายกล่าวว่า
    “ผู้ได้บรรลุฌานนี้ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นปกติสุข” ดังนี้ แล้วแลอยู่.
    +--ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ
    เพราะความจางคลายไปแห่งปีติ เป็นผู้อยู่อุเบกขา
    มีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกาย ย่อมบรรลุฌานที่สาม
    อันเป็นฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลายกล่าวว่า
    “ผู้ได้บรรลุฌานนี้ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นปกติสุข” ดังนี้
    นั้นแล้วแลอยู่. ในสมัยนั้น เธอ
    ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเอง,
    ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น,
    และย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย.
    ในสมัยนั้น เธอย่อมเสวย เวทนา อันไม่ทำความเดือดร้อนแต่อย่างใดเลย.
    +--ภิกษุ ท. ! เรากล่าวอัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลาย ว่า
    มีการไม่ทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่ง.

    (ง) ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : ภิกษุ เพราะละสุขเสียได้ และเพราะละทุกข์เสียได้
    เพราะความดับหายไปแห่งโสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน ย่อมบรรลุ ฌานที่สี่
    อันไม่ทุกข์ไม่สุข มีแต่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่.
    +--ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ
    เพราะละสุขเสียได้ และเพราะละทุกข์เสียได้ เพราะความดับหายไปแห่งโสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน ย่อมบรรลุฌานที่สี่
    อันไม่ทุกข์ไม่สุข มีแต่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ เพราะอุเบกขา
    นั้นแล้วแลอยู่. ในสมัยนั้น เธอ
    ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเอง,
    ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น,
    และย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย.
    ในสมัยนั้น เธอย่อมเสวย เวทนา อันไม่ทำความเดือดร้อนแต่อย่างใดเลย.
    +--ภิกษุ ท. ! เรากล่าว อัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลายว่า
    มีการไม่ทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่ง.

    --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นอาทีนวะ (โทษอันต่ำทราม) ของเวทนา ทั้งหลาย ?
    +--ภิกษุ ท. ! เวทนาไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็น ธรรมดาอันใด,
    อันนั้น เป็นอาทีนวะของเวทนาทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นนิสสรณะ (อุบายเครื่องออก) จากเวทนาทั้งหลาย ?
    +--ภิกษุ ท. ! การนำออกเสียได้ซึ่งฉันทราคะ
    การละเสียได้ซึ่งฉันทราคะ ในเวทนาทั้งหลาย อันใด,
    อันนั้น เป็นนิสสรณะจากเวทนาทั้งหลาย.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/177/?keywords=ฉนฺทราคปฺปหานํ
    --ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด ไม่รู้ชัดตามเป็นจริง
    ซึ่ง อัสสาทะแห่งเวทนาทั้งหลาย โดยความเป็นอัสสาทะด้วย
    ซึ่ง อาทีนวะ โดยความเป็นอาทีนวะด้วย
    ซึ่ง นิสสรณะ โดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่;
    สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นน่ะหรือ จักรอบรู้ซึ่งเวทนาทั้งหลายด้วยตนเอง
    หรือว่าจักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งเวทนาทั้งหลายเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว
    ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่มีได้.

    --ภิกษุ ท. ! ส่วน สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด รู้ชัดตามเป็นจริง
    ซึ่ง อัสสาทะแห่งเวทนาทั้งหลาย โดยความเป็นอัสสาทะด้วย
    ซึ่ง อาทีนวะ โดยความเป็นอาทีนวะด้วย
    ซึ่ง นิสสรณะ โดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่;
    สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นนั่นแหละ จักรอบรู้ซึ่งเวทนาทั้งหลายด้วยตนเอง
    หรือว่าจักชักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งเวทนาทั้งหลายเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว
    ดังนี้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่มีได้.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/121-122/205-208.
    http://etipitaka.com/read/thai/12/121/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%95
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๑๗๖-๑๗๗/๒๐๕-๒๐๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/176/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%95
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=738
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=55&id=738
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=55
    ลำดับสาธยายธรรม : 55 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_55.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​รสอร่อย-โทษอันต่ำทราม-อุบายเครื่องออก ด้วยสัมมาสมาธิ​ สัทธรรมลำดับที่ : 738 ชื่อบทธรรม : -รสอร่อย-โทษอันต่ำทราม-อุบายเครื่องออก ด้วยสัมมาสมาธิ​ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=738 เนื้อความทั้งหมด :- --อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของเวทนา (ธรรมลักษณะ ๓ ประการของเวทนา : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ) --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นอัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลาย ? (ก) ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ : ภิกษุ เพราะสงัดจากกามและสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย ย่อมบรรลุ ฌานที่หนึ่ง ซึ่งมีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกแล้วแลอยู่. +--ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ เพราะสงัดจากกามและสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย ย่อมบรรลุ ฌานที่หนึ่ง มีวิตกวิจาร มีปีติและสุข เกิดแต่วิเวก นั้นแล้วแลอยู่. ในสมัยนั้น เธอ ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเอง, ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น, และ ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย. ในสมัยนั้น (ในขณะนั้น) เธอย่อมเสวย เวทนา อันไม่ทำความเดือดร้อนแต่อย่างใดเลย. +--ภิกษุ ท. ! เรากล่าว อัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลาย ว่า มีการไม่ทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่ง. (ข) ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : ภิกษุ เพราะสงบวิตกวิจารเสียได้ ย่อมบรรลุ ฌานที่สอง อันเป็นเครื่องผ่องใสในภายใน นำให้เกิดสมาธิมีอารมณ์อันเดียวแห่งใจ ไม่มีวิตกวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิ แล้วแลอยู่. +--ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ เพราะสงบวิตกวิจารเสียได้ ย่อมบรรลุ ฌานที่สอง อันเป็นเครื่องผ่องใสในภายใน นำให้เกิดสมาธิมีอารมณ์อันเดียวแห่งใจ ไม่มีวิตกวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิ นั้นแล้วแลอยู่. ในสมัยนั้น เธอ ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเอง, ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น, และย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย. ในสมัยนั้น เธอย่อม เสวยเวทนา อันไม่ทำความเดือดร้อนแต่อย่างใดเลย. +--ภิกษุ ท. ! เรากล่าว อัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลาย ว่า มีการไม่ทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่ง. (ค) ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : ภิกษุ เพราะความจางคลายไปแห่งปีติ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกาย ย่อมบรรลุ ฌานที่สาม อันเป็นฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลายกล่าวว่า “ผู้ได้บรรลุฌานนี้ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นปกติสุข” ดังนี้ แล้วแลอยู่. +--ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ เพราะความจางคลายไปแห่งปีติ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกาย ย่อมบรรลุฌานที่สาม อันเป็นฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลายกล่าวว่า “ผู้ได้บรรลุฌานนี้ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นปกติสุข” ดังนี้ นั้นแล้วแลอยู่. ในสมัยนั้น เธอ ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเอง, ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น, และย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย. ในสมัยนั้น เธอย่อมเสวย เวทนา อันไม่ทำความเดือดร้อนแต่อย่างใดเลย. +--ภิกษุ ท. ! เรากล่าวอัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลาย ว่า มีการไม่ทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่ง. (ง) ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : ภิกษุ เพราะละสุขเสียได้ และเพราะละทุกข์เสียได้ เพราะความดับหายไปแห่งโสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน ย่อมบรรลุ ฌานที่สี่ อันไม่ทุกข์ไม่สุข มีแต่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่. +--ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ เพราะละสุขเสียได้ และเพราะละทุกข์เสียได้ เพราะความดับหายไปแห่งโสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน ย่อมบรรลุฌานที่สี่ อันไม่ทุกข์ไม่สุข มีแต่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ เพราะอุเบกขา นั้นแล้วแลอยู่. ในสมัยนั้น เธอ ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเอง, ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น, และย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย. ในสมัยนั้น เธอย่อมเสวย เวทนา อันไม่ทำความเดือดร้อนแต่อย่างใดเลย. +--ภิกษุ ท. ! เรากล่าว อัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลายว่า มีการไม่ทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่ง. --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นอาทีนวะ (โทษอันต่ำทราม) ของเวทนา ทั้งหลาย ? +--ภิกษุ ท. ! เวทนาไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็น ธรรมดาอันใด, อันนั้น เป็นอาทีนวะของเวทนาทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นนิสสรณะ (อุบายเครื่องออก) จากเวทนาทั้งหลาย ? +--ภิกษุ ท. ! การนำออกเสียได้ซึ่งฉันทราคะ การละเสียได้ซึ่งฉันทราคะ ในเวทนาทั้งหลาย อันใด, อันนั้น เป็นนิสสรณะจากเวทนาทั้งหลาย. http://etipitaka.com/read/pali/12/177/?keywords=ฉนฺทราคปฺปหานํ --ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด ไม่รู้ชัดตามเป็นจริง ซึ่ง อัสสาทะแห่งเวทนาทั้งหลาย โดยความเป็นอัสสาทะด้วย ซึ่ง อาทีนวะ โดยความเป็นอาทีนวะด้วย ซึ่ง นิสสรณะ โดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่; สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นน่ะหรือ จักรอบรู้ซึ่งเวทนาทั้งหลายด้วยตนเอง หรือว่าจักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งเวทนาทั้งหลายเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่มีได้. --ภิกษุ ท. ! ส่วน สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด รู้ชัดตามเป็นจริง ซึ่ง อัสสาทะแห่งเวทนาทั้งหลาย โดยความเป็นอัสสาทะด้วย ซึ่ง อาทีนวะ โดยความเป็นอาทีนวะด้วย ซึ่ง นิสสรณะ โดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่; สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นนั่นแหละ จักรอบรู้ซึ่งเวทนาทั้งหลายด้วยตนเอง หรือว่าจักชักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งเวทนาทั้งหลายเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว ดังนี้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่มีได้.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/121-122/205-208. http://etipitaka.com/read/thai/12/121/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๑๗๖-๑๗๗/๒๐๕-๒๐๘. http://etipitaka.com/read/pali/12/176/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%95 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=738 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=55&id=738 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=55 ลำดับสาธยายธรรม : 55 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_55.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของเวทนา--(ธรรมลักษณะ ๓ ประการของเวทนา : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ)
    -(ความรู้ดังกล่าวนี้สงเคราะห์ลงในสัมมาทิฏฐิ ดังนั้นจึงนำมารวมไว้ในที่นี้). อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของเวทนา (ธรรมลักษณะ ๓ ประการของเวทนา : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ) ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นอัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลาย ? (ก) ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ ภิกษุ เพราะสงัดจากกามและสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย ย่อมบรรลุ ฌานที่หนึ่ง ซึ่งมีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกแล้วแลอยู่. ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ เพราะสงัดจากกามและสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย ย่อมบรรลุฌานที่หนึ่ง .... นั้นแล้วแลอยู่. ในสมัยนั้น เธอย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเอง, ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น, และย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย. ในสมัยนั้น (ในขณะนั้น) เธอย่อมเสวย เวทนา อันไม่ทำความเดือดร้อนแต่อย่างใดเลย. ภิกษุ ท. ! เรากล่าว อัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลาย ว่า มีการไม่ทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่ง. (ข) ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : ภิกษุ เพราะสงบวิตกวิจารเสียได้ ย่อมบรรลุ ฌานที่สอง อันเป็นเครื่องผ่องใสในภายใน นำให้เกิดสมาธิมีอารมณ์อันเดียวแห่งใจ ไม่มีวิตกวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิ แล้วแลอยู่. ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ เพราะสงบวิตกวิจารเสียได้ ย่อมบรรลุ ฌานที่สอง .... นั้นแล้วแลอยู่. ในสมัยนั้น เธอย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเอง, ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น, และย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย. ในสมัยนั้น เธอย่อม เสวยเวทนา อันไม่ทำความเดือดร้อนแต่อย่างใดเลย. ภิกษุ ท. ! เรากล่าว อัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลาย ว่า มีการไม่ทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่ง. (ค) ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : ภิกษุ เพราะความจางคลายไปแห่งปีติ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกาย ย่อมบรรลุ ฌานที่สาม อันเป็นฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลายกล่าวว่า “ผู้ได้บรรลุฌานนี้ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นปกติสุข” ดังนี้ แล้วแลอยู่. ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ เพราะความจางคลายไปแห่งปีติ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกาย ย่อมบรรลุฌานที่สาม .... นั้นแล้วแลอยู่. ในสมัยนั้น เธอย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเอง, ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น, และย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย. ในสมัยนั้น เธอย่อมเสวย เวทนา อันไม่ทำความเดือดร้อนแต่อย่างใดเลย. ภิกษุ ท. ! เรากล่าวอัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลาย ว่า มีการไม่ทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่ง. (ง) ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : ภิกษุ เพราะละสุขเสียได้ และเพราะละทุกข์เสียได้ เพราะความดับหายไปแห่งโสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน ย่อมบรรลุ ฌานที่สี่ อันไม่ทุกข์ไม่สุข มีแต่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่. ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ เพราะละสุขเสียได้ และเพราะละทุกข์เสียได้ เพราะความดับหายไปแห่งโสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน ย่อมบรรลุฌานที่สี่ …. นั้นแล้วแลอยู่. ในสมัยนั้น เธอย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเอง, ย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น, และย่อมไม่คิดแม้ในทางที่จะให้เกิดความเดือดร้อนแก่ ตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย. ในสมัยนั้น เธอย่อมเสวย เวทนา อันไม่ทำความเดือดร้อนแต่อย่างใดเลย. ภิกษุ ท. ! เรากล่าว อัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนาทั้งหลายว่า มีการไม่ทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใดเป็นอย่างยิ่ง. ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นอาทีนวะ (โทษอันต่ำทราม) ของเวทนา ทั้งหลาย ? ภิกษุ ท. ! เวทนาไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็น ธรรมดาอันใด, อันนั้น เป็นอาทีนวะของเวทนาทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นนิสสรณะ (อุบายเครื่องออก) จากเวทนาทั้งหลาย ? ภิกษุ ท. ! การนำออกเสียได้ซึ่งฉันทราคะ การละเสียได้ซึ่งฉันทราคะ ในเวทนาทั้งหลาย อันใด, อันนั้น เป็นนิสสรณะจากเวทนาทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด ไม่รู้ชัดตามเป็นจริง ซึ่ง อัสสาทะแห่งเวทนาทั้งหลายโดยความเป็นอัสสาทะด้วย ซึ่งอาทีนวะโดยความเป็นอาทีนวะด้วย ซึ่งนิสสรณะโดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่; สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นน่ะหรือ จักรอบรู้ซึ่งเวทนาทั้งหลายด้วยตนเอง หรือว่าจักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งเวทนาทั้งหลายเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่มีได้. ภิกษุ ท. ! ส่วน สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด รู้ชัดตามเป็นจริง ซึ่งอัสสาทะแห่งเวทนาทั้งหลายโดยความเป็นอัสสาทะด้วย ซึ่งอาทีนวะโดยความเป็นอาทีนวะด้วย ซึ่งนิสสรณะโดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่; สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นนั่นแหละ จักรอบรู้ซึ่งเวทนาทั้งหลายด้วยตนเอง หรือว่าจักชักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งเวทนาทั้งหลายเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว ดังนี้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่มีได้.
    0 Comments 0 Shares 130 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าธรรมที่ชื่อว่า “นิพพาน”
    แห่งชราและมรณะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 369
    ชื่อบทธรรม :- ธรรมที่ชื่อว่า “นิพพาน”
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=369
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ธรรมที่ชื่อว่า “นิพพาน”
    --นั่น สงบจริง ! นั่น ประณีตจริง ! ที่นี้เอง
    เป็นที่สงบสังขารทั้งปวง,
    เป็นที่สละคืนอุปธิทั้งปวง,
    เป็นที่สิ้นตัณหา,
    เป็นที่คลายความกำหนัด,
    เป็นที่ดับกิเลส.​ #นี่คือนิพพานแล.-
    http://etipitaka.com/read/pali/18/17/?keywords=อภินิพฺพตฺติ

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/12/21.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/12/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๗/๒๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/17/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%91
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=369
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=369
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าธรรมที่ชื่อว่า “นิพพาน” แห่งชราและมรณะ สัทธรรมลำดับที่ : 369 ชื่อบทธรรม :- ธรรมที่ชื่อว่า “นิพพาน” https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=369 เนื้อความทั้งหมด :- --ธรรมที่ชื่อว่า “นิพพาน” --นั่น สงบจริง ! นั่น ประณีตจริง ! ที่นี้เอง เป็นที่สงบสังขารทั้งปวง, เป็นที่สละคืนอุปธิทั้งปวง, เป็นที่สิ้นตัณหา, เป็นที่คลายความกำหนัด, เป็นที่ดับกิเลส.​ #นี่คือนิพพานแล.- http://etipitaka.com/read/pali/18/17/?keywords=อภินิพฺพตฺติ #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/12/21. http://etipitaka.com/read/thai/18/12/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๗/๒๑. http://etipitaka.com/read/pali/18/17/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=369 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=369 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ธรรมที่ชื่อว่า “นิพพาน”
    -ธรรมที่ชื่อว่า “นิพพาน” นั่น สงบจริง ! นั่น ประณีตจริง ! ที่นี้เอง เป็นที่สงบสังขารทั้งปวง, เป็นที่สละคืนอุปธิทั้งปวง, เป็นที่สิ้นตัณหา, เป็นที่คลายความกำหนัด, เป็นที่ดับกิเลส. นี่คือนิพพาน แล.
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก 175 ล้านสู่ 200 ล้าน: เมื่อ TikTok กลายเป็นสื่อหลักของยุโรป แต่ต้องแลกด้วยค่าปรับมหาศาล

    TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่พัฒนาโดย ByteDance จากจีน ประกาศว่ามีผู้ใช้งานประจำในยุโรปมากกว่า 200 ล้านคนต่อเดือนแล้วในเดือนกันยายน 2025 เพิ่มขึ้นจาก 175 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว โดยครอบคลุมผู้ใช้ใน 32 ประเทศทั่วทวีป—เท่ากับประมาณหนึ่งในสามของประชากรยุโรปทั้งหมด

    การเติบโตนี้สะท้อนถึงความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ที่ใช้ TikTok เป็นช่องทางหลักในการรับข่าวสาร ความบันเทิง และการแสดงออกส่วนตัว ขณะเดียวกัน TikTok ก็มีผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือนแล้ว

    แต่เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแล โดยเฉพาะในยุโรปที่ TikTok ถูกปรับเป็นเงิน 530 ล้านยูโร (ประมาณ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป (GDPR) โดยเฉพาะการจัดการข้อมูลของผู้ใช้เยาวชน และการเข้าถึงข้อมูลจากพนักงานในจีน

    TikTok ยืนยันว่าได้ใช้มาตรการป้องกันข้อมูลตามมาตรฐาน EU และไม่เคยส่งข้อมูลให้รัฐบาลจีน แต่หน่วยงานกำกับดูแลยังคงเปิดการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้ในยุโรปบนเซิร์ฟเวอร์ในจีน ซึ่งอาจขัดต่อข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและอธิปไตยข้อมูล

    ในขณะเดียวกัน ByteDance กำลังเตรียมเปิดโครงการซื้อหุ้นคืนจากพนักงาน ซึ่งจะประเมินมูลค่าบริษัทไว้ที่กว่า 330 พันล้านดอลลาร์—สะท้อนถึงความมั่นใจในอนาคตของแพลตฟอร์ม แม้จะเผชิญแรงกดดันจากทั้งสหรัฐฯ และยุโรป

    การเติบโตของ TikTok ในยุโรป
    มีผู้ใช้งานประจำมากกว่า 200 ล้านคนต่อเดือนใน 32 ประเทศ
    เพิ่มขึ้นจาก 175 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว
    คิดเป็นประมาณหนึ่งในสามของประชากรยุโรปทั้งหมด

    สถานะของ TikTok ทั่วโลก
    มีผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน
    เป็นแพลตฟอร์มหลักของวัยรุ่นในการรับข่าวสารและความบันเทิง
    ByteDance เตรียมเปิดโครงการซื้อหุ้นคืน มูลค่าบริษัทกว่า $330B

    ปัญหาด้านข้อมูลและการกำกับดูแล
    ถูกปรับ 530 ล้านยูโรจากการละเมิด GDPR โดยเฉพาะข้อมูลเยาวชน
    หน่วยงาน EU กังวลเรื่องการเข้าถึงข้อมูลโดยพนักงานในจีน
    มีการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์จีน

    การตอบสนองของ TikTok
    ยืนยันว่าใช้มาตรฐาน EU และไม่เคยส่งข้อมูลให้รัฐบาลจีน
    ใช้สัญญาแบบ EU-standard clauses และระบบความปลอดภัยที่ปรับปรุงในปี 2023
    กำลังอุทธรณ์คำตัดสินและเตือนว่าอาจเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อบริษัทระดับโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/05/tiktok-users-top-200-million-in-europe-firm-says
    🎙️ เรื่องเล่าจาก 175 ล้านสู่ 200 ล้าน: เมื่อ TikTok กลายเป็นสื่อหลักของยุโรป แต่ต้องแลกด้วยค่าปรับมหาศาล TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่พัฒนาโดย ByteDance จากจีน ประกาศว่ามีผู้ใช้งานประจำในยุโรปมากกว่า 200 ล้านคนต่อเดือนแล้วในเดือนกันยายน 2025 เพิ่มขึ้นจาก 175 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว โดยครอบคลุมผู้ใช้ใน 32 ประเทศทั่วทวีป—เท่ากับประมาณหนึ่งในสามของประชากรยุโรปทั้งหมด การเติบโตนี้สะท้อนถึงความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ที่ใช้ TikTok เป็นช่องทางหลักในการรับข่าวสาร ความบันเทิง และการแสดงออกส่วนตัว ขณะเดียวกัน TikTok ก็มีผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือนแล้ว แต่เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแล โดยเฉพาะในยุโรปที่ TikTok ถูกปรับเป็นเงิน 530 ล้านยูโร (ประมาณ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป (GDPR) โดยเฉพาะการจัดการข้อมูลของผู้ใช้เยาวชน และการเข้าถึงข้อมูลจากพนักงานในจีน TikTok ยืนยันว่าได้ใช้มาตรการป้องกันข้อมูลตามมาตรฐาน EU และไม่เคยส่งข้อมูลให้รัฐบาลจีน แต่หน่วยงานกำกับดูแลยังคงเปิดการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้ในยุโรปบนเซิร์ฟเวอร์ในจีน ซึ่งอาจขัดต่อข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและอธิปไตยข้อมูล ในขณะเดียวกัน ByteDance กำลังเตรียมเปิดโครงการซื้อหุ้นคืนจากพนักงาน ซึ่งจะประเมินมูลค่าบริษัทไว้ที่กว่า 330 พันล้านดอลลาร์—สะท้อนถึงความมั่นใจในอนาคตของแพลตฟอร์ม แม้จะเผชิญแรงกดดันจากทั้งสหรัฐฯ และยุโรป ✅ การเติบโตของ TikTok ในยุโรป ➡️ มีผู้ใช้งานประจำมากกว่า 200 ล้านคนต่อเดือนใน 32 ประเทศ ➡️ เพิ่มขึ้นจาก 175 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว ➡️ คิดเป็นประมาณหนึ่งในสามของประชากรยุโรปทั้งหมด ✅ สถานะของ TikTok ทั่วโลก ➡️ มีผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน ➡️ เป็นแพลตฟอร์มหลักของวัยรุ่นในการรับข่าวสารและความบันเทิง ➡️ ByteDance เตรียมเปิดโครงการซื้อหุ้นคืน มูลค่าบริษัทกว่า $330B ✅ ปัญหาด้านข้อมูลและการกำกับดูแล ➡️ ถูกปรับ 530 ล้านยูโรจากการละเมิด GDPR โดยเฉพาะข้อมูลเยาวชน ➡️ หน่วยงาน EU กังวลเรื่องการเข้าถึงข้อมูลโดยพนักงานในจีน ➡️ มีการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์จีน ✅ การตอบสนองของ TikTok ➡️ ยืนยันว่าใช้มาตรฐาน EU และไม่เคยส่งข้อมูลให้รัฐบาลจีน ➡️ ใช้สัญญาแบบ EU-standard clauses และระบบความปลอดภัยที่ปรับปรุงในปี 2023 ➡️ กำลังอุทธรณ์คำตัดสินและเตือนว่าอาจเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อบริษัทระดับโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/05/tiktok-users-top-200-million-in-europe-firm-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    TikTok users top 200 million in Europe, firm says
    LONDON (Reuters) -TikTok has more than 200 million monthly users in Europe, or roughly one in three citizens on the continent, the short video app platform said on Friday, the latest sign of its rapid growth among teenagers.
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • พบข้อมูลสนามบินเซเลตาร์ สิงคโปร์ เปิดทำการบินถึง 4 ทุ่มตามที่ทักษิณอ้าง เหตุเป็นช่วง "ไนท์ เคอร์ฟิว" ลดเสียงรบกวนชุมชนโดยรอบสนามบิน แถมกลางวันยังมีชั่วโมงฝึกบิน 1 ชั่วโมง 4 ช่วง ด้านอินฟลูเอนเซอร์สายวิทย์ฯ กังขา ถ้าบอกว่ามาหาหมอลงจอดได้ ไม่ต้องไปประเทศอื่น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085048

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    พบข้อมูลสนามบินเซเลตาร์ สิงคโปร์ เปิดทำการบินถึง 4 ทุ่มตามที่ทักษิณอ้าง เหตุเป็นช่วง "ไนท์ เคอร์ฟิว" ลดเสียงรบกวนชุมชนโดยรอบสนามบิน แถมกลางวันยังมีชั่วโมงฝึกบิน 1 ชั่วโมง 4 ช่วง ด้านอินฟลูเอนเซอร์สายวิทย์ฯ กังขา ถ้าบอกว่ามาหาหมอลงจอดได้ ไม่ต้องไปประเทศอื่น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085048 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    5
    0 Comments 0 Shares 527 Views 0 Reviews
  • โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร 862 นาย ขยับ พล.อ.อุกฤษฎ์ ตท.24 เป็น ผบ.ทสส. พล.ร.อ.ไพโรจน์ จาก เสธ.เป็น ผบ.ทร. พล.อ.อ.เสกสรร ขยับเป็น ผบ.ทอ. พบ พล.ท.อมฤต จาก มทภ.1 ขยับเป็น ผช.ผบ.ทบ.ตามคาด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000084995

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร 862 นาย ขยับ พล.อ.อุกฤษฎ์ ตท.24 เป็น ผบ.ทสส. พล.ร.อ.ไพโรจน์ จาก เสธ.เป็น ผบ.ทร. พล.อ.อ.เสกสรร ขยับเป็น ผบ.ทอ. พบ พล.ท.อมฤต จาก มทภ.1 ขยับเป็น ผช.ผบ.ทบ.ตามคาด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000084995 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 2 Shares 581 Views 0 Reviews
  • ทักษิณบินดูไบ! เปลี่ยนแผนกะทันหัน อ้างตม.ไทยถ่วงเวลาทำตกเครื่องไปสิงคโปร์ ยันกลับไทย 8 ก.ย. ตามนัดศาล 9 ก.ย.
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000084909

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทักษิณบินดูไบ! เปลี่ยนแผนกะทันหัน อ้างตม.ไทยถ่วงเวลาทำตกเครื่องไปสิงคโปร์ ยันกลับไทย 8 ก.ย. ตามนัดศาล 9 ก.ย. . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000084909 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 568 Views 0 Reviews
  • เพื่อไทยทิ้งไพ่ยุบสภา ไม่ต้องรอ 4 เดือน : [NEWS UPDATE]

    นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ยืนยัน พรรคเพื่อไทยตอบรับข้อเสนอทุกข้อของพรรคประชาชน หากได้รับการลงคะแนนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะยุบสภาทันทีไม่ต้องรอถึง 4 เดือน เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเข้าสู่การเลือกตั้ง ย้ำ ปฏิบัติตามข้อตกลงนี้โดยไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีเงื่อนไขเพิ่มเติม

    -ไม่ปิดประตูดีลเพื่อไทย

    -กล้าธรรมไม่แตกแถว

    -ไม่บังคับโชว์วิสัยทัศน์

    -ขานชื่อลงเสียงทีละคน
    เพื่อไทยทิ้งไพ่ยุบสภา ไม่ต้องรอ 4 เดือน : [NEWS UPDATE] นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ยืนยัน พรรคเพื่อไทยตอบรับข้อเสนอทุกข้อของพรรคประชาชน หากได้รับการลงคะแนนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะยุบสภาทันทีไม่ต้องรอถึง 4 เดือน เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเข้าสู่การเลือกตั้ง ย้ำ ปฏิบัติตามข้อตกลงนี้โดยไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีเงื่อนไขเพิ่มเติม -ไม่ปิดประตูดีลเพื่อไทย -กล้าธรรมไม่แตกแถว -ไม่บังคับโชว์วิสัยทัศน์ -ขานชื่อลงเสียงทีละคน
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 301 Views 0 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก Altera ถึง Arrow Lake: เมื่อ Intel ยอมรับว่า TSMC คือคู่ชีวิต และเงินจากรัฐบาลคือทางออกจากหนี้

    ในการประชุม Citi Global Tech 2025 ที่ซานฟรานซิสโก CFO ของ Intel, David Zinsner ประกาศว่า Intel จะใช้ TSMC “ตลอดไป” โดยระบุว่า “พวกเขาเป็นพันธมิตรที่ยอดเยี่ยม” และยืนยันว่า 30% ของผลิตภัณฑ์ของ Intel มาจาก TSMC แล้ว แม้จะมีแผนลดสัดส่วนในอนาคต แต่ก็ยังมากกว่าที่เคยเป็นในอดีต

    Intel ยังยืนยันว่าจะใช้เงินทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้จาก CHIPS Act เพื่อชำระหนี้มูลค่า $3.8 พันล้านที่ครบกำหนดในปีนี้ โดยไม่รีไฟแนนซ์ใหม่ พร้อมประกาศว่าเงินทุนที่เคยไม่แน่นอนตอนนี้กลายเป็น “หุ้น” ที่รัฐบาลถืออยู่ 10% และจะลงคะแนนตามมติของบอร์ดเท่านั้น

    นอกจากนี้ Intel ยังเตรียมปิดดีลขายธุรกิจ Altera เพื่อรับเงินเพิ่มอีก $3.5 พันล้าน และรอเงินลงทุนจาก SoftBank ที่จะเข้ามาเสริมภายในไตรมาสนี้

    ในด้านเทคโนโลยี Zinsner ยอมรับว่า Intel “ใช้เงินล่วงหน้าก่อนมีดีมานด์” ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และนั่นทำให้บริษัทต้องปรับแผนใหม่ โดยหันไปพัฒนา 14A process node ที่ใช้ High NA EUV และมีต้นทุนสูงกว่า 18A แต่มีความหวังว่าจะดึงลูกค้าใหม่ได้มากกว่า

    แม้จะยังไม่แยกธุรกิจ Foundry ออกเป็นบริษัทลูก แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าอาจเกิดขึ้นในอนาคต หากมีความพร้อมและความน่าสนใจสำหรับนักลงทุน

    การใช้ TSMC เป็นพันธมิตรระยะยาว
    Intel ยืนยันว่าจะใช้ TSMC “ตลอดไป” สำหรับบางผลิตภัณฑ์
    ปัจจุบัน 30% ของผลิตภัณฑ์มาจาก TSMC เช่น Lunar Lake และ Arrow Lake
    แม้จะลดสัดส่วนในอนาคต แต่ยังมากกว่าระดับในอดีต

    การใช้เงินทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ
    Intel ได้รับเงินทุนจาก CHIPS Act รวม $7.9 พันล้าน (บางส่วนยังทยอยจ่าย)
    เงินทุนถูกเปลี่ยนเป็นหุ้น 10% ที่รัฐบาลถืออยู่
    ใช้เงินเพื่อชำระหนี้ $3.8 พันล้านที่ครบกำหนดในปี 2025

    การขายธุรกิจ Altera และเงินลงทุนจาก SoftBank
    เตรียมปิดดีลขาย Altera เพื่อรับเงิน $3.5 พันล้าน
    SoftBank จะลงทุนเพิ่มเติมหลังผ่านการอนุมัติด้านกฎระเบียบ
    เงินทั้งหมดจะใช้ชำระหนี้ ไม่รีไฟแนนซ์ใหม่

    การพัฒนาเทคโนโลยี 14A และการเปลี่ยนยุทธศาสตร์
    14A ใช้ High NA EUV และมีต้นทุน wafer สูงกว่า 18A
    มีความหวังว่าจะดึงลูกค้าใหม่ได้มากกว่า 18A
    ยังไม่มีแผนแยกธุรกิจ Foundry แต่เปิดโอกาสในอนาคต

    https://wccftech.com/intel-will-use-tsmc-forever-says-cfo-as-shares-rise-after-he-confirms-plan-to-use-us-funding-to-pay-back-debt/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Altera ถึง Arrow Lake: เมื่อ Intel ยอมรับว่า TSMC คือคู่ชีวิต และเงินจากรัฐบาลคือทางออกจากหนี้ ในการประชุม Citi Global Tech 2025 ที่ซานฟรานซิสโก CFO ของ Intel, David Zinsner ประกาศว่า Intel จะใช้ TSMC “ตลอดไป” โดยระบุว่า “พวกเขาเป็นพันธมิตรที่ยอดเยี่ยม” และยืนยันว่า 30% ของผลิตภัณฑ์ของ Intel มาจาก TSMC แล้ว แม้จะมีแผนลดสัดส่วนในอนาคต แต่ก็ยังมากกว่าที่เคยเป็นในอดีต Intel ยังยืนยันว่าจะใช้เงินทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้จาก CHIPS Act เพื่อชำระหนี้มูลค่า $3.8 พันล้านที่ครบกำหนดในปีนี้ โดยไม่รีไฟแนนซ์ใหม่ พร้อมประกาศว่าเงินทุนที่เคยไม่แน่นอนตอนนี้กลายเป็น “หุ้น” ที่รัฐบาลถืออยู่ 10% และจะลงคะแนนตามมติของบอร์ดเท่านั้น นอกจากนี้ Intel ยังเตรียมปิดดีลขายธุรกิจ Altera เพื่อรับเงินเพิ่มอีก $3.5 พันล้าน และรอเงินลงทุนจาก SoftBank ที่จะเข้ามาเสริมภายในไตรมาสนี้ ในด้านเทคโนโลยี Zinsner ยอมรับว่า Intel “ใช้เงินล่วงหน้าก่อนมีดีมานด์” ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และนั่นทำให้บริษัทต้องปรับแผนใหม่ โดยหันไปพัฒนา 14A process node ที่ใช้ High NA EUV และมีต้นทุนสูงกว่า 18A แต่มีความหวังว่าจะดึงลูกค้าใหม่ได้มากกว่า แม้จะยังไม่แยกธุรกิจ Foundry ออกเป็นบริษัทลูก แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าอาจเกิดขึ้นในอนาคต หากมีความพร้อมและความน่าสนใจสำหรับนักลงทุน ✅ การใช้ TSMC เป็นพันธมิตรระยะยาว ➡️ Intel ยืนยันว่าจะใช้ TSMC “ตลอดไป” สำหรับบางผลิตภัณฑ์ ➡️ ปัจจุบัน 30% ของผลิตภัณฑ์มาจาก TSMC เช่น Lunar Lake และ Arrow Lake ➡️ แม้จะลดสัดส่วนในอนาคต แต่ยังมากกว่าระดับในอดีต ✅ การใช้เงินทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ➡️ Intel ได้รับเงินทุนจาก CHIPS Act รวม $7.9 พันล้าน (บางส่วนยังทยอยจ่าย) ➡️ เงินทุนถูกเปลี่ยนเป็นหุ้น 10% ที่รัฐบาลถืออยู่ ➡️ ใช้เงินเพื่อชำระหนี้ $3.8 พันล้านที่ครบกำหนดในปี 2025 ✅ การขายธุรกิจ Altera และเงินลงทุนจาก SoftBank ➡️ เตรียมปิดดีลขาย Altera เพื่อรับเงิน $3.5 พันล้าน ➡️ SoftBank จะลงทุนเพิ่มเติมหลังผ่านการอนุมัติด้านกฎระเบียบ ➡️ เงินทั้งหมดจะใช้ชำระหนี้ ไม่รีไฟแนนซ์ใหม่ ✅ การพัฒนาเทคโนโลยี 14A และการเปลี่ยนยุทธศาสตร์ ➡️ 14A ใช้ High NA EUV และมีต้นทุน wafer สูงกว่า 18A ➡️ มีความหวังว่าจะดึงลูกค้าใหม่ได้มากกว่า 18A ➡️ ยังไม่มีแผนแยกธุรกิจ Foundry แต่เปิดโอกาสในอนาคต https://wccftech.com/intel-will-use-tsmc-forever-says-cfo-as-shares-rise-after-he-confirms-plan-to-use-us-funding-to-pay-back-debt/
    WCCFTECH.COM
    Intel Will Use TSMC "Forever" Says CFO, As Shares Rise After He Confirms Plan To Use US Funding To Pay Back Debt
    Intel CFO outlines $10 billion government stake, plans to pay $3.8 billion in debt, and confirms continued reliance on TSMC.
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของรูปกาย
    สัทธรรมลำดับที่ : 737
    ชื่อบทธรรม :- อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของรูปกาย(ธรรมลักษณะ ๓ ประการของรูป : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ)
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=737
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของรูปกาย
    (ธรรมลักษณะ ๓ ประการของรูป : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ)
    --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นอัสสาทะ (รสอร่อย) ของรูป ?
    +--ภิกษุ ท. ! เหมือนอย่างว่านางสาวน้อยแห่งกษัตริย์ก็ดี
    นางสาวน้อยแห่งพราหมณ์ก็ดี หรือนางสาวน้อยแห่งคหบดีก็ดี
    ที่แสดงลักษณะว่ามีอายุสิบห้าปีก็ดี หรือสิบหกปีก็ดี
    ซึ่งมีทรวดทรงไม่สูงนัก ไม่ต่ำนัก ไม่ผอมนัก ไม่อ้วนนัก ไม่ดำนัก ไม่ขาวนัก
    +--ภิกษุ ท. ! ในสมัยนั้น สีสรรวรรณะแห่งหญิงนั้น ย่อมงดงามอย่างยิ่ง มิใช่หรือ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    +-ภิกษุ ท. ! สุขโสมนัสที่อาศัยสีสรรวรรณะอัน งดงามแล้วบังเกิดขึ้น อันใด,
    อันนั้น #เป็นอัสสาทะของรูป.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/173/?keywords=อสฺสาโท

    --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็น อาทีนวะ (โทษอันต่ำทราม) ของรูป ?
    (ก) ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้
    บุคคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ
    โดยกาลต่อมา มีอายุได้ ๘๐ ปีบ้าง ๙๐ ปีบ้าง ๑๐๐ ปีบ้าง
    ชราทรุดโทรมแล้ว มีหลังงอเหมือน โคปานสิแห่งหลังคา*--๑
    มีกายคดไปคดมา
    มีไม้เท้ายันไปในเบื้องหน้า เดินตัวสั่นเทิ้ม กระสับกระส่าย ผ่านวัยอันแข็งแกร่งไปแล้ว
    มีฟันหักแล้ว มีผมหงอกแล้ว มีผมตัดสั้นอย่างลวกๆ
    มีผิวหนังหย่อนยานและมีตัวเต็มไปด้วยจุด.
    +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร :
    สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีมาแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้วมิใช่หรือ ?
    “อย่างนั้นพระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ท. ! นั่นคือ #อาทีนวะของรูป.
    ------
    *--๑. คำนี้เคยแปลกันว่า กลอนหรือจันทัน แต่ไม่สมเหตุสมผลคือไม่ได้โค้ง.
    รูปเรือนโบราณที่ปรากฏอยู่ในสิลาสลักของโบราณ เห็นโค้งอยู่แต่ส่วนที่เรียกว่าปั้นลม
    โค้งงอเป็นรูปดอกบัว พอที่จะเปรียบกับหลังโกงได้.
    หรือมิฉะนั้น ก็ต้องเป็นเรือนที่มีหลังคาเป็นรูปประทุนเรือจันทันหรือกลอนจึงจะโค้งงอได้, ทำให้ไม่แน่ใจว่าแปลคำนี้ว่าอะไรดี จึงไม่แปลและคงไว้ตามเดิมว่า โคปานสิ.

    (ข) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ
    อาพาธลง ได้รับทุกข์ทรมาณ เป็นไข้หนัก
    นอนกลิ้งเกลือกอยู่ในมูตรและคูถของตนเอง
    อันบุคคลต้องช่วยพยุงให้ลุกและนอน.
    +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอเข้าใจข้อความนี้ว่าอย่างไร
    : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป.

    (ค) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง)
    นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ
    ตายแล้ววันหนึ่ง บ้าง ตายแล้วสองวัน บ้าง ตายแล้วสามวัน บ้าง กำลังขึ้นพอง บ้าง
    มีสีเขียว บ้าง มีหนองไหล บ้าง.
    +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะข้าใจความหมายนี้อย่างไร
    : สีสันวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป.

    (ง) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง)
    นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพอัน
    ฝูงกาจิกกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงแร้งจิกกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงตะกรุมจิกกินอยู่ บ้าง
    อัน ฝูงสุนัขกัดกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงสุนัขจิ้งจอกกัดกินอยู่ บ้าง
    และอัน หมู่หนอนต่างชนิดบ่อนกินอยู่ บ้าง.
    +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร
    : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป.

    (จ) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ
    บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ
    เป็นร่างกระดูก ยังมีเนื้อและเลือด และยังมีเอ็นเป็นเครื่องรึงรัดอยู่ บ้าง
    เป็นร่างกระดูกที่ ปราศจากเนื้อ แต่ยังมีเลือดเปื้อนอยู่ และยังมีเอ็นเป็นเครื่องรึงรัดไว้ บ้าง
    เป็นร่างกระดูกที่ ปราศจากเนื้อและเลือด แต่ยังมีอ็นเป็นเครื่องรึงรัดไว้ บ้าง
    เป็นท่อนกระดูกที่ ปราศจากเอ็นเป็นเครื่องรึงรัด กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง คือกระดูกมือไปทางหนึ่ง กระดูกเท้าไปทางหนึ่ง กระดูกแข้งไปทางหนึ่ง กระดูกขาไปทางหนึ่ง กระดูกสะเอวไปทางหนึ่ง กระดูกข้อสันหลังไปทางหนึ่ง กระดูกสีข้างไปทางหนึ่ง กระดูกหน้าอกไปทางหนึ่ง กระดูกแขนไปทางหนึ่ง กระดูกไหล่ไปทางหนึ่ง กระดูกคอไปทางหนึ่ง กระดูกคางไปทางหนึ่ง ฟันไปทางหนึ่ง กระโหลกศีรษะไปทางหนึ่ง บ้าง.
    +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร :
    สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป.

    (ฉ) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ
    บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ
    เป็นชิ้นกระดูก มีสีขาวดังสีสังข์ บ้าง
    เป็นชิ้นกระดูก กองเรี่ยรายอยู่นานเกินกว่าปีหนึ่งไปแล้ว บ้าง
    เป็นกระดูก เปื่อยผงละเอียดไปแล้ว บ้าง
    +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร
    : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป.

    --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นนิสสรณะ (อุบายเครื่องออก) จากรูป ?
    +--ภิกษุ ท. ! การนำออกเสียได้ซึ่งฉันทราคะ การละเสียได้ซึ่งฉันทราคะในรูปอันใด,
    อันนั้น เป็น #นิสสรณะของรูป.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/175/?keywords=ฉนฺทราคปฺปหานํ
    --ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด ไม่รู้ชัดตามเป็นจริง
    ซึ่ง อัสสาทะแห่งรูปโดยความเป็นอัสสาทะด้วย
    ซึ่ง อาทีนวะโดยความเป็นอาทีนวะด้วย
    ซึ่ง นิสสรณะโดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่;
    สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นน่ะหรือ จักรอบรู้ซึ่งรูปด้วยตนเอง
    หรือว่าจักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งรูปเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว
    ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่มีได้.
    --ภิกษุ ท. ! ส่วนสมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด รู้ชัดตามความเป็นจริง
    ซึ่ง อัสสาทะแห่งรูปโดยความเป็นอัสสาทะด้วย
    ซึ่ง อาทีนวะโดยความเป็นอาทีนวะด้วย
    ซึ่ง นิสสรณะโดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่
    สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น จักรอบรู้ซึ่งรูปด้วยตนเอง
    หรือว่าจักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งรูปเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว
    ดังนี้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่มีได้.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/118-121/201-204.
    http://etipitaka.com/read/thai/12/118/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๑๗๓-๑๗๕/๒๐๑-๒๐๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/173/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%91
    ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=737
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=55&id=737
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=55
    ลำดับสาธยายธรรม : 55 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_55.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของรูปกาย สัทธรรมลำดับที่ : 737 ชื่อบทธรรม :- อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของรูปกาย(ธรรมลักษณะ ๓ ประการของรูป : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ) https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=737 เนื้อความทั้งหมด :- --อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของรูปกาย (ธรรมลักษณะ ๓ ประการของรูป : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ) --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นอัสสาทะ (รสอร่อย) ของรูป ? +--ภิกษุ ท. ! เหมือนอย่างว่านางสาวน้อยแห่งกษัตริย์ก็ดี นางสาวน้อยแห่งพราหมณ์ก็ดี หรือนางสาวน้อยแห่งคหบดีก็ดี ที่แสดงลักษณะว่ามีอายุสิบห้าปีก็ดี หรือสิบหกปีก็ดี ซึ่งมีทรวดทรงไม่สูงนัก ไม่ต่ำนัก ไม่ผอมนัก ไม่อ้วนนัก ไม่ดำนัก ไม่ขาวนัก +--ภิกษุ ท. ! ในสมัยนั้น สีสรรวรรณะแห่งหญิงนั้น ย่อมงดงามอย่างยิ่ง มิใช่หรือ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” +-ภิกษุ ท. ! สุขโสมนัสที่อาศัยสีสรรวรรณะอัน งดงามแล้วบังเกิดขึ้น อันใด, อันนั้น #เป็นอัสสาทะของรูป. http://etipitaka.com/read/pali/12/173/?keywords=อสฺสาโท --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็น อาทีนวะ (โทษอันต่ำทราม) ของรูป ? (ก) ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ บุคคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ โดยกาลต่อมา มีอายุได้ ๘๐ ปีบ้าง ๙๐ ปีบ้าง ๑๐๐ ปีบ้าง ชราทรุดโทรมแล้ว มีหลังงอเหมือน โคปานสิแห่งหลังคา*--๑ มีกายคดไปคดมา มีไม้เท้ายันไปในเบื้องหน้า เดินตัวสั่นเทิ้ม กระสับกระส่าย ผ่านวัยอันแข็งแกร่งไปแล้ว มีฟันหักแล้ว มีผมหงอกแล้ว มีผมตัดสั้นอย่างลวกๆ มีผิวหนังหย่อนยานและมีตัวเต็มไปด้วยจุด. +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีมาแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้วมิใช่หรือ ? “อย่างนั้นพระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ท. ! นั่นคือ #อาทีนวะของรูป. ------ *--๑. คำนี้เคยแปลกันว่า กลอนหรือจันทัน แต่ไม่สมเหตุสมผลคือไม่ได้โค้ง. รูปเรือนโบราณที่ปรากฏอยู่ในสิลาสลักของโบราณ เห็นโค้งอยู่แต่ส่วนที่เรียกว่าปั้นลม โค้งงอเป็นรูปดอกบัว พอที่จะเปรียบกับหลังโกงได้. หรือมิฉะนั้น ก็ต้องเป็นเรือนที่มีหลังคาเป็นรูปประทุนเรือจันทันหรือกลอนจึงจะโค้งงอได้, ทำให้ไม่แน่ใจว่าแปลคำนี้ว่าอะไรดี จึงไม่แปลและคงไว้ตามเดิมว่า โคปานสิ. (ข) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ อาพาธลง ได้รับทุกข์ทรมาณ เป็นไข้หนัก นอนกลิ้งเกลือกอยู่ในมูตรและคูถของตนเอง อันบุคคลต้องช่วยพยุงให้ลุกและนอน. +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอเข้าใจข้อความนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป. (ค) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ ตายแล้ววันหนึ่ง บ้าง ตายแล้วสองวัน บ้าง ตายแล้วสามวัน บ้าง กำลังขึ้นพอง บ้าง มีสีเขียว บ้าง มีหนองไหล บ้าง. +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะข้าใจความหมายนี้อย่างไร : สีสันวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป. (ง) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพอัน ฝูงกาจิกกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงแร้งจิกกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงตะกรุมจิกกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงสุนัขกัดกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงสุนัขจิ้งจอกกัดกินอยู่ บ้าง และอัน หมู่หนอนต่างชนิดบ่อนกินอยู่ บ้าง. +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป. (จ) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ เป็นร่างกระดูก ยังมีเนื้อและเลือด และยังมีเอ็นเป็นเครื่องรึงรัดอยู่ บ้าง เป็นร่างกระดูกที่ ปราศจากเนื้อ แต่ยังมีเลือดเปื้อนอยู่ และยังมีเอ็นเป็นเครื่องรึงรัดไว้ บ้าง เป็นร่างกระดูกที่ ปราศจากเนื้อและเลือด แต่ยังมีอ็นเป็นเครื่องรึงรัดไว้ บ้าง เป็นท่อนกระดูกที่ ปราศจากเอ็นเป็นเครื่องรึงรัด กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง คือกระดูกมือไปทางหนึ่ง กระดูกเท้าไปทางหนึ่ง กระดูกแข้งไปทางหนึ่ง กระดูกขาไปทางหนึ่ง กระดูกสะเอวไปทางหนึ่ง กระดูกข้อสันหลังไปทางหนึ่ง กระดูกสีข้างไปทางหนึ่ง กระดูกหน้าอกไปทางหนึ่ง กระดูกแขนไปทางหนึ่ง กระดูกไหล่ไปทางหนึ่ง กระดูกคอไปทางหนึ่ง กระดูกคางไปทางหนึ่ง ฟันไปทางหนึ่ง กระโหลกศีรษะไปทางหนึ่ง บ้าง. +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป. (ฉ) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ เป็นชิ้นกระดูก มีสีขาวดังสีสังข์ บ้าง เป็นชิ้นกระดูก กองเรี่ยรายอยู่นานเกินกว่าปีหนึ่งไปแล้ว บ้าง เป็นกระดูก เปื่อยผงละเอียดไปแล้ว บ้าง +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป. --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นนิสสรณะ (อุบายเครื่องออก) จากรูป ? +--ภิกษุ ท. ! การนำออกเสียได้ซึ่งฉันทราคะ การละเสียได้ซึ่งฉันทราคะในรูปอันใด, อันนั้น เป็น #นิสสรณะของรูป. http://etipitaka.com/read/pali/12/175/?keywords=ฉนฺทราคปฺปหานํ --ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด ไม่รู้ชัดตามเป็นจริง ซึ่ง อัสสาทะแห่งรูปโดยความเป็นอัสสาทะด้วย ซึ่ง อาทีนวะโดยความเป็นอาทีนวะด้วย ซึ่ง นิสสรณะโดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่; สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นน่ะหรือ จักรอบรู้ซึ่งรูปด้วยตนเอง หรือว่าจักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งรูปเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่มีได้. --ภิกษุ ท. ! ส่วนสมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด รู้ชัดตามความเป็นจริง ซึ่ง อัสสาทะแห่งรูปโดยความเป็นอัสสาทะด้วย ซึ่ง อาทีนวะโดยความเป็นอาทีนวะด้วย ซึ่ง นิสสรณะโดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่ สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น จักรอบรู้ซึ่งรูปด้วยตนเอง หรือว่าจักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งรูปเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว ดังนี้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่มีได้.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/118-121/201-204. http://etipitaka.com/read/thai/12/118/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๑๗๓-๑๗๕/๒๐๑-๒๐๔. http://etipitaka.com/read/pali/12/173/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=737 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=55&id=737 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=55 ลำดับสาธยายธรรม : 55 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_55.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของรูปกาย--(ธรรมลักษณะ ๓ ประการของรูป : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ)
    -(ความรู้ดังกล่าวนี้สงเคราะห์ลงในสัมมาทิฏฐิ ดังนั้นจึงนำมารวมไว้ในที่นี้). อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของรูปกาย (ธรรมลักษณะ ๓ ประการของรูป : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ) ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นอัสสาทะ (รสอร่อย) ของรูป ? ภิกษุ ท. ! เหมือนอย่างว่านางสาวน้อยแห่งกษัตริย์ก็ดี นางสาวน้อยแห่งพราหมณ์ก็ดี หรือนางสาวน้อยแห่งคหบดีก็ดี ที่แสดงลักษณะว่ามีอายุสิบห้าปีก็ดี หรือสิบหกปีก็ดี ซึ่งมีทรวดทรงไม่สูงนัก ไม่ต่ำนัก ไม่ผอมนัก ไม่อ้วนนัก ไม่ดำนัก ไม่ขาวนัก ภิกษุ ท. ! ในสมัยนั้น สีสรรวรรณะแห่งหญิงนั้น ย่อมงดงามอย่างยิ่ง มิใช่หรือ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! สุขโสมนัสที่อาศัยสีสรรวรรณะอัน งดงามแล้วบังเกิดขึ้น อันใด, อันนั้น เป็นอัสสาทะของรูป. ภิกษุ ท. ! อะไร เป็น อาทีนวะ (โทษอันต่ำทราม) ของรูป ? (ก) ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ บุคคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ โดยกาลต่อมา มีอายุได้ ๘๐ ปีบ้าง ๙๐ ปีบ้าง ๑๐๐ ปีบ้าง ชราทรุดโทรมแล้ว มีหลังงอเหมือนโคปานสิแห่งหลังคา๑ มีกายคดไปคดมา มีไม้เท้ายันไป ๑. คำนี้เคยแปลกันว่า กลอนหรือจันทัน แต่ไม่สมเหตุสมผลคือไม่ได้โค้ง. รูปเรือนโบราณที่ปรากฏอยู่ในสิลาสลักของโบราณ เห็นโค้งอยู่แต่ส่วนที่เรียกว่าปั้นลม โค้งงอเป็นรูปดอกบัว พอที่จะเปรียบกับหลังโกงได้. หรือมิฉะนั้น ก็ต้องเป็นเรือนที่มีหลังคาเป็นรูปประทุนเรือจันทันหรือกลอนจึงจะโค้งงอได้, ทำให้ไม่แน่ใจว่าแปลคำนี้ว่าอะไรดี จึงไม่แปลและคงไว้ตามเดิมว่า โคปานสิ. ในเบื้องหน้า เดินตัวสั่นเทิ้ม กระสับกระส่าย ผ่านวัยอันแข็งแกร่งไปแล้ว มีฟันหักแล้ว มีผมหงอกแล้ว มีผมตัดสั้นอย่างลวกๆ มีผิวหนังหย่อนยานและมีตัวเต็มไปด้วยจุด. ภิกษุ ท. ! พวกเธอเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีมาแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้วมิใช่หรือ ? “อย่างนั้นพระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! นั่นคือ อาทีนวะของรูป. (ข) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ อาพาธลง ได้รับทุกข์ทรมาณ เป็นไข้หนัก นอนกลิ้งเกลือกอยู่ในมูตรและคูถของตนเอง อันบุคคลต้องช่วยพยุงให้ลุกและนอน. ภิกษุ ท. ! พวกเธอเข้าใจข้อความนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คืออาทีนวะของรูป. (ค) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ ตายแล้ววันหนึ่ง บ้าง ตายแล้วสองวัน บ้าง ตายแล้วสามวัน บ้าง กำลังขึ้นพอง บ้าง มีสีเขียว บ้าง มีหนองไหล บ้าง. ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะข้าใจความหมายนี้อย่างไร : สีสันวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คืออาทีนวะ ของรูป. (ง) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ อัน ฝูงกาจิกกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงแร้งจิกกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงตะกรุมจิกกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงสุนัขกัดกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงสุนัขจิ้งจอกกัดกินอยู่ บ้าง และอัน หมู่หนอนต่างชนิดบ่อนกินอยู่ บ้าง. ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คืออาทีนวะของรูป. (จ) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ เป็นร่างกระดูก ยังมีเนื้อและเลือด และยังมีเอ็นเป็นเครื่องรึงรัดอยู่ บ้าง เป็นร่างกระดูกที่ ปราศจากเนื้อ แต่ยังมีเลือดเปื้อนอยู่ และยังมีเอ็นเป็นเครื่องรึงรัดไว้บ้าง เป็นร่างกระดูกที่ปราศจากเนื้อและเลือด แต่ยังมีอ็นเป็นเครื่องรึงรัดไว้บ้าง เป็นท่อนกระดูกที่ปราศจากเอ็นเป็นเครื่องรึงรัด กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง คือกระดูกมือไปทางหนึ่ง กระดูกเท้าไปทางหนึ่ง กระดูกแข้งไปทางหนึ่ง กระดูกขาไปทางหนึ่ง กระดูกสะเอวไปทางหนึ่ง กระดูกข้อสันหลังไปทางหนึ่ง กระดูกสีข้างไปทางหนึ่ง กระดูกหน้าอกไปทางหนึ่ง กระดูกแขนไปทางหนึ่ง กระดูกไหล่ไปทางหนึ่ง กระดูกคอไปทางหนึ่ง กระดูกคางไปทางหนึ่ง ฟันไปทางหนึ่ง กระโหลกศีรษะไปทางหนึ่งบ้าง. ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คืออาทีนวะของรูป. (ฉ) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ เป็นชิ้นกระดูก มีสีขาวดังสีสังข์ บ้าง เป็นชิ้นกระดูก กองเรี่ยรายอยู่นานเกินกว่าปีหนึ่งไปแล้ว บ้าง เป็นกระดูก เปื่อยผงละเอียดไปแล้ว บ้าง ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คืออาทีนวะของรูป. ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นนิสสรณะ (อุบายเครื่องออก) จากรูป ? ภิกษุ ท. ! การนำออกเสียได้ซึ่งฉันทราคะ การละเสียได้ซึ่งฉันทราคะในรูปอันใด, อันนั้น เป็นนิสสรณะของรูป. ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด ไม่รู้ชัดตามเป็นจริง ซึ่ง อัสสาทะแห่งรูปโดยความเป็นอัสสาทะด้วย ซึ่งอาทีนวะโดยความเป็นอาทีนวะด้วย ซึ่งนิสสรณะโดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่; สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นน่ะหรือ จักรอบรู้ซึ่งรูปด้วยตนเอง หรือว่าจักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งรูปเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่มีได้. ภิกษุ ท. ! ส่วนสมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด รู้ชัดตามความเป็น จริง ซึ่งอัสสาทะแห่งรูปโดยความเป็นอัสสาทะด้วย ซึ่งอาทีนวะโดยความเป็นอาทีนวะด้วย ซึ่งนิสสรณะโดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่ สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น จักรอบรู้ซึ่งรูปด้วยตนเอง หรือว่าจักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งรูปเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว ดังนี้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่มีได้.
    0 Comments 0 Shares 153 Views 0 Reviews
  • อาริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความดับของอายตนะ คือ ความดับของทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 368
    ชื่อบทธรรม :- ความดับของอายตนะ คือ ความดับของทุกข์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=368
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ความดับของอายตนะ คือ ความดับของทุกข์
    --ภิกษุ ท. ! ความดับ ความเข้าไปสงบรำงับและความตั้งอยู่ไม่ได้
    แห่งตา แห่งหู แห่งจมูก แห่งลิ้น แห่งกาย แห่งใจ ใด ๆ ;
    http://etipitaka.com/read/pali/17/283/?keywords=ทุกฺขสฺเสโส+นิโรโธ
    #อันนั้นแหละเป็นความดับแห่งทุกข์,
    อันนั้นแหละเป็นความเข้าไปสงบรำงับแห่งสิ่งซึ่งมีปกติเสียบแทงทั้งหลาย,
    อันนั้นแหละเป็นความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งชราและมรณะ แล.-

    #ทุกขนิโรธ#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/252/480
    http://etipitaka.com/read/thai/17/252/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%98%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๘๓/๔๘๐
    http://etipitaka.com/read/pali/17/283/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%98%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=368
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=368
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อาริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความดับของอายตนะ คือ ความดับของทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 368 ชื่อบทธรรม :- ความดับของอายตนะ คือ ความดับของทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=368 เนื้อความทั้งหมด :- --ความดับของอายตนะ คือ ความดับของทุกข์ --ภิกษุ ท. ! ความดับ ความเข้าไปสงบรำงับและความตั้งอยู่ไม่ได้ แห่งตา แห่งหู แห่งจมูก แห่งลิ้น แห่งกาย แห่งใจ ใด ๆ ; http://etipitaka.com/read/pali/17/283/?keywords=ทุกฺขสฺเสโส+นิโรโธ #อันนั้นแหละเป็นความดับแห่งทุกข์, อันนั้นแหละเป็นความเข้าไปสงบรำงับแห่งสิ่งซึ่งมีปกติเสียบแทงทั้งหลาย, อันนั้นแหละเป็นความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งชราและมรณะ แล.- #ทุกขนิโรธ​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/252/480 http://etipitaka.com/read/thai/17/252/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%98%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๘๓/๔๘๐ http://etipitaka.com/read/pali/17/283/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%98%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=368 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=368 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ความดับของอายตนะ คือ ความดับของทุกข์
    -ความดับของอายตนะ คือ ความดับของทุกข์ ภิกษุ ท. ! ความดับ ความเข้าไปสงบรำงับ และความตั้งอยู่ไม่ได้ แห่งตา แห่งหู แห่งจมูก แห่งลิ้น แห่งกาย แห่งใจ ใด ๆ ; อันนั้นแหละเป็นความดับแห่งทุกข์, อันนั้นแหละเป็นความเข้าไปสงบรำงับแห่งสิ่งซึ่งมีปกติเสียบแทงทั้งหลาย, อันนั้นแหละเป็นความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งชราและมรณะ แล.
    0 Comments 0 Shares 130 Views 0 Reviews
More Results