• อดีตคนเสื้อแดงช้ำ ขอโทษหลวงตาบัว ขอบคุณแม่ทัพภาค 2 ที่ทำให้รู้ความจริง! [28/7/68]

    #อดีตคนเสื้อแดง #ขอโทษหลวงตาบัว #ขอบคุณแม่ทัพภาค2 #ตาสว่างเพราะความจริง #เปลี่ยนใจเพราะข้อเท็จจริง #รู้แล้วว่าใครพูดจริง #ปลุกสติคนไทย #เปิดใจยอมรับ #ข่าวร้อนการเมืองไทย #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง
    #กัมพูชายิงก่อน #柬埔寨先开火 #カンボジアが先に発砲 #캄보디아가먼저발포 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #thaitimes #news1 #shorts
    อดีตคนเสื้อแดงช้ำ ขอโทษหลวงตาบัว ขอบคุณแม่ทัพภาค 2 ที่ทำให้รู้ความจริง! [28/7/68] #อดีตคนเสื้อแดง #ขอโทษหลวงตาบัว #ขอบคุณแม่ทัพภาค2 #ตาสว่างเพราะความจริง #เปลี่ยนใจเพราะข้อเท็จจริง #รู้แล้วว่าใครพูดจริง #ปลุกสติคนไทย #เปิดใจยอมรับ #ข่าวร้อนการเมืองไทย #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #กัมพูชายิงก่อน #柬埔寨先开火 #カンボジアが先に発砲 #캄보디아가먼저발포 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #thaitimes #news1 #shorts
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 0 Reviews
  • เมื่อใจนึกถึงพระ...ใจก็ไม่ตกต่ำอีกเลย

    เมื่อจิตนึกถึงพระ
    คือจิตกำลังผูกอยู่กับของสูง
    ไม่ว่าโลกจะกดดัน บีบคั้น หรือพาให้ทุกข์เพียงใด
    ตราบใดจิตยังนึกถึงพระ จิตจะไม่ตกต่ำลงได้เลย

    เหมือนคนกำลังจะล้ม
    แต่มีเชือกเส้นหนึ่งดึงไว้
    ไม่ให้ร่วงลงสู่เหวลึก

    การสวดมนต์
    ไม่ใช่แค่การท่องบทศักดิ์สิทธิ์
    แต่เป็นการ “เปลี่ยนคลื่นใจ”
    ให้หันออกจากความกลัว ความทุกข์ ความอาฆาต
    มาผูกไว้กับพลังแห่งการพ้นทุกข์
    ผูกไว้กับคุณแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

    พลังพุทธคุณ
    คือพลังแห่งแสงสว่างที่อยู่เหนือความมืดทุกชนิด
    คือแรงส่งที่ไม่ต้องร้องขอ
    แต่ได้มาเพราะเปิดใจยอมรับความสว่างนั้น
    ด้วยการสรรเสริญ ไม่ใช่การเรียกร้อง
    ด้วยความน้อม ไม่ใช่ความอยาก

    บทสวดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลก
    คือบทที่สวดออกจากศรัทธา
    โดยไม่มีเงื่อนไข ไม่มีการต่อรอง
    ไม่ใช่บทที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวอักษร
    แต่ศักดิ์สิทธิ์เพราะทำให้ใจสงบ
    ทำให้เราน้อมลง
    และเปิดประตูให้ความดีงามเข้ามาในชีวิต

    สวดอย่างไรให้ได้พลังพุทธคุณ?
    ไม่ใช่แค่จำบทได้ครบ
    แต่คือสวดแล้ว “ใจเบา”
    สวดแล้ว “อัตตาลด”
    สวดแล้ว “พร้อมจะเจริญสติ”
    มองเห็นความไม่เที่ยง
    เห็นว่าอะไรๆ ก็ไม่ใช่ของเราอย่างแท้จริง

    ถ้าสวดแล้วรู้สึกโล่ง
    รู้สึกอยากทำดี
    รู้สึกอยากปล่อยวาง
    รู้สึกพร้อมจะเริ่มต้นใหม่กับใจที่สงบกว่าเดิม
    แปลว่า…คุณสวดถูกทางแล้ว

    เพียงแค่ใจผูกไว้กับพระ จิตก็เหมือนมีที่ยึด
    ที่ไม่หวั่นไหวตามคลื่นโลก
    ไม่ว่าข้างนอกจะมีเรื่องเลวร้ายขนาดไหน
    แต่ข้างใน...ยังมีแสงแห่งพระรัตนตรัย
    เป็นพลังงานศักดิ์สิทธิ์ที่ปลอดภัยและบริสุทธิ์ที่สุด

    #พลังพุทธคุณ
    #สวดมนต์เพื่อพ้นทุกข์
    #ธรรมะเยียวยาหัวใจ
    #การสวดมนต์ไม่ใช่แค่บทท่องจำ
    #แต่คือบทแปรเปลี่ยนจิต
    🕯️ เมื่อใจนึกถึงพระ...ใจก็ไม่ตกต่ำอีกเลย เมื่อจิตนึกถึงพระ คือจิตกำลังผูกอยู่กับของสูง ไม่ว่าโลกจะกดดัน บีบคั้น หรือพาให้ทุกข์เพียงใด ตราบใดจิตยังนึกถึงพระ จิตจะไม่ตกต่ำลงได้เลย เหมือนคนกำลังจะล้ม แต่มีเชือกเส้นหนึ่งดึงไว้ ไม่ให้ร่วงลงสู่เหวลึก 📿 การสวดมนต์ ไม่ใช่แค่การท่องบทศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นการ “เปลี่ยนคลื่นใจ” ให้หันออกจากความกลัว ความทุกข์ ความอาฆาต มาผูกไว้กับพลังแห่งการพ้นทุกข์ ผูกไว้กับคุณแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ✨ พลังพุทธคุณ คือพลังแห่งแสงสว่างที่อยู่เหนือความมืดทุกชนิด คือแรงส่งที่ไม่ต้องร้องขอ แต่ได้มาเพราะเปิดใจยอมรับความสว่างนั้น ด้วยการสรรเสริญ ไม่ใช่การเรียกร้อง ด้วยความน้อม ไม่ใช่ความอยาก 🙏 บทสวดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลก คือบทที่สวดออกจากศรัทธา โดยไม่มีเงื่อนไข ไม่มีการต่อรอง ไม่ใช่บทที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวอักษร แต่ศักดิ์สิทธิ์เพราะทำให้ใจสงบ ทำให้เราน้อมลง และเปิดประตูให้ความดีงามเข้ามาในชีวิต 🧘‍♂️ สวดอย่างไรให้ได้พลังพุทธคุณ? ไม่ใช่แค่จำบทได้ครบ แต่คือสวดแล้ว “ใจเบา” สวดแล้ว “อัตตาลด” สวดแล้ว “พร้อมจะเจริญสติ” มองเห็นความไม่เที่ยง เห็นว่าอะไรๆ ก็ไม่ใช่ของเราอย่างแท้จริง 🌿 ถ้าสวดแล้วรู้สึกโล่ง รู้สึกอยากทำดี รู้สึกอยากปล่อยวาง รู้สึกพร้อมจะเริ่มต้นใหม่กับใจที่สงบกว่าเดิม แปลว่า…คุณสวดถูกทางแล้ว 🕊️ เพียงแค่ใจผูกไว้กับพระ จิตก็เหมือนมีที่ยึด ที่ไม่หวั่นไหวตามคลื่นโลก ไม่ว่าข้างนอกจะมีเรื่องเลวร้ายขนาดไหน แต่ข้างใน...ยังมีแสงแห่งพระรัตนตรัย เป็นพลังงานศักดิ์สิทธิ์ที่ปลอดภัยและบริสุทธิ์ที่สุด #พลังพุทธคุณ #สวดมนต์เพื่อพ้นทุกข์ #ธรรมะเยียวยาหัวใจ #การสวดมนต์ไม่ใช่แค่บทท่องจำ #แต่คือบทแปรเปลี่ยนจิต
    0 Comments 0 Shares 315 Views 0 Reviews
  • 20 เมษา “วันกัญชาโลก” เดอะวอลโดส โค้ดลับ โฟร์ทเวนตี ต่างชาติหลงใหลกัญชาไทย เสน่ห์ใหม่ หรือว่า… ปัญหางอก! จากรหัสลับ สู่สนามถกเถียงระดับโลก

    จากเรื่องเล่ากลุ่มวัยรุ่น The Waldos สู่กระแสร่วมสมัยในไทย การใช้กัญชาควรเป็นเสรีภาพเพื่อสุขภาพ หรือแค่แฟชั่นเสพติด?

    หากเคยเห็นคำว่า “420” หรือ “4/20” บนเสื้อผ้า โซเชียลมีเดีย หรือในบทสนทนาระหว่างกลุ่มวัยรุ่น และสงสัยว่า... หมายถึงอะไร? คำตอบคือ 420 คือรหัสลับของผู้ใช้กัญชาทั่วโลก ที่ถูกยกระดับให้กลายเป็น "วันกัญชาโลก" หรือ "World Cannabis Day"

    ทุกวันที่ 20 เมษายน (20/4) ของทุกปี กลายเป็นวันเฉลิมฉลอง ของผู้สนับสนุนเสรีภาพในการใช้กัญชา ทั้งในด้านการแพทย์ การพักผ่อน และการรณรงค์ให้กฎหมายในแต่ละประเทศ เปิดใจยอมรับพืชชนิดนี้มากขึ้น

    แต่... การเฉลิมฉลองนั้น ควรมีขอบเขตแค่ไหน? เสรีภาพจะพาไปสู่โอกาส หรือปัญหางอกไม่รู้จบ?

    จุดเริ่มต้นจากกลุ่ม The Waldos สู่วัฒนธรรมสมัยนิยม เรื่องราวของ “420” เริ่มต้นในปี 2514 จากกลุ่มวัยรุ่นชื่อ "The Waldos" ที่เมืองซานราฟาเอล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขานัดเจอกันทุกวันเวลา 16.20 น. หรือ 4:20 PM เพื่อออกตามหาต้นกัญชาลึกลับ ในค่ายทหาร "abandoned" โดยใช้เวลา 4:20 เป็นรหัสลับระหว่างกัน

    แม้จะไม่เจอต้นกัญชานั้นจริงๆ แต่คำว่า “420” กลายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ใช้กัญชา โดยถูกผลักดันจากวงดนตรี "Grateful Dead" และต่อมากลายเป็นวัฒนธรรมย่อย ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก

    วันที่ 20 เมษายน หรือ “4/20” ตามรูปแบบการเขียนเดือนและวัน ของสหรัฐฯ ถูกยกระดับให้เป็น วันแห่งการเฉลิมฉลองกัญชา โดยผู้ใช้กัญชาทั่วโลก จะออกมารวมตัวจัดกิจกรรม สังสรรค์ หรือแม้แต่ประท้วง เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายที่เป็นธรรม เกี่ยวกับการใช้กัญชา

    ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ แม้กัญชาจะเคยถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษ แต่ด้วยการวิจัยทางการแพทย์ล่าสุด กัญชาถูกมองใหม่ในฐานะ “สมุนไพรทางเลือก” ที่มี CBD และ THC เป็นสารออกฤทธิ์สำคัญ ซึ่งช่วยรักษาอาการ ได้หลายประเภท

    ประโยชน์ที่ได้รับการยอมรับ ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดประสาท ปวดข้อ ช่วยให้ผู้ป่วยหลับสบายขึ้น ลดอาการวิตกกังวล เฉพาะบางกรณี

    ทั้งนี้.... การใช้ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น

    ความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจ กัญชาไม่ใช่ยาวิเศษ เพราะมันมีผลข้างเคียงหากใช้อย่างไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการเสพติด หากใช้ต่อเนื่องในปริมาณมาก ส่งผลต่อสมอง โดยเฉพาะในวัยรุ่น อาจก่อให้เกิดความจำสั้น สมาธิสั้น และอารมณ์แปรปรวน มีความเสี่ยงต่อภาวะจิตประสาท ในบางราย

    "กัญชาไทย" จากปลดล็อกสู่การควบคุม ปี 2565 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลประกาศ “ปลดล็อกกัญชา” ออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อเปิดโอกาสให้ใช้เพื่อการแพทย์ และเศรษฐกิจภายในครัวเรือน

    แต่เมื่อขาดกฎหมายควบคุมที่ชัดเจน ปัญหาจึงตามมา เยาวชนเข้าถึงได้ง่ายเกินไป โฆษณาเกินจริงบนโลกออนไลน์ และการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่ตระหนักถึงผลเสีย

    ธุรกิจกัญชาไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว มีมูลค่าตลาดคาดการณ์สูงถึง 20,000 ล้านบาท หากสามารถจัดการได้ดี

    เสรีภาพ กับความปลอดภัย สมดุลที่ต้องคิดให้รอบด้าน คำถามใหญ่ที่สังคมไทยกำลังเผชิญในปี 2568 คือ...

    “กัญชาเป็นเสรีภาพใหม่ หรือปัญหางอก?”

    แม้หลายฝ่ายจะชูธงเรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่กลุ่มทางการแพทย์และผู้ปกครอง กลับกังวลถึงผลกระทบระยะยาวต่อเด็ก และเยาวชน โดยเฉพาะเมื่อไม่มีพระราชบัญญัติ ควบคุมที่ชัดเจน

    ล่าสุด รัฐบาลมีแนวโน้มจะออก "พระราชบัญญัติกัญชา" เพื่อควบคุมให้ใช้เพื่อสุขภาพ และการแพทย์เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อความบันเทิง

    เยาวชนคือกลุ่มเสี่ยงที่สุด ผลกระทบต่อสมองและพฤติกรรม การพัฒนาสมองถูกรบกวนโดยสาร THC เพิ่มความเสี่ยงโรคซึมเศร้า โรคจิตเภท และอาการหลอน พฤติกรรมเสี่ยงมากขึ้น เช่น การลองยาเสพติดอื่น

    แนวทางป้องกันคือ ให้ความรู้ในโรงเรียน ควบคุมการโฆษณา และจำหน่ายอย่างเคร่งครัด จำกัดอายุขั้นต่ำ ในการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา

    ต่างชาติหลงใหล “กัญชาไทย” หรือแค่... โบนัสท่องเที่ยว? หลังปลดล็อกกัญชาในปี 2565 ไทยกลายเป็น “จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสายเขียว”

    โดยเฉพาะจากประเทศที่มีกฎหมายยาเสพติดเข้มงวด เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ นักท่องเที่ยวบางคนมองว่า กัญชาไทยเป็นเสน่ห์ใหม่ ของการท่องเที่ยว แต่บางส่วนกลับกังวลว่า อาจบ่อนทำลายภาพลักษณ์ไทย ในสายตาชาวโลก

    กฎหมายของไทย อาจไม่ตรงกับกฎหมายในประเทศต้นทาง นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา!

    เศรษฐกิจกัญชา โอกาสทองหรือความเสี่ยงซ่อนเร้น? ประเทศที่ปลดล็อกกัญชาแล้วประสบความสำเร็จ เช่น แคนาดา อุรุกวัย มอลตา ล้วนมีระบบควบคุมกัญชาเข้มงวด ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจ

    หากไม่มีการควบคุมที่ดี เศรษฐกิจกัญชาจะกลายเป็นดาบสองคม ทำให้ปัญหาสังคมลุกลาม และลดความน่าเชื่อถือของประเทศได้

    แพทย์เตือน กัญชาเป็น “เครื่องมือ” ไม่ใช่ “ของเล่น” วงการแพทย์ย้ำว่า...

    “กัญชาใช้รักษาโรคได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุม และไม่ควรใช้แบบสันทนาการทั่วไป”

    กลุ่มโรคที่อาจได้ประโยชน์จากกัญชาคือ ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ที่ปวดเรื้อรัง ผู้ที่นอนไม่หลับ และผู้ป่วยจิตเวชบางกลุ่ม

    อย่างไรก็ตาม การใช้ต้องอาศัยการวินิจฉัยจากแพทย์ และข้อมูลวิจัยเพิ่มเติม

    ควรฉลองหรือทบทวน? วันกัญชาโลก (420) คือโอกาสให้เราหยุดคิด ทบทวน และสร้างบทสนทนาที่มีคุณภาพ ในสังคมไทย ไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง

    สิ่งที่สังคมควรย้ำคือ

    สนับสนุนการใช้กัญชา เพื่อการแพทย์และสุขภาพ

    ต่อต้านการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่มีการควบคุม

    สร้างสมดุลระหว่างสิทธิเสรีภาพ และความปลอดภัยของสาธารณชน

    "กัญชาอาจเป็นพืชมหัศจรรย์... ถ้าเราใช้ด้วยความรู้ ไม่ใช่แค่ตามกระแส"

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200924 เม.ย. 2568

    #วันกัญชาโลก #420ไทย #โฟร์ทเวนตี้ #กัญชาเพื่อการแพทย์
    #กัญชาไทย #เสรีภาพไม่ใช่สันทนาการ #TheWaldos #กัญชากับเยาวชน
    #สังคมกับกัญชา #กัญชาอย่างปลอดภัย
    🌿 20 เมษา “วันกัญชาโลก” เดอะวอลโดส โค้ดลับ โฟร์ทเวนตี ต่างชาติหลงใหลกัญชาไทย เสน่ห์ใหม่ หรือว่า… ปัญหางอก! จากรหัสลับ สู่สนามถกเถียงระดับโลก จากเรื่องเล่ากลุ่มวัยรุ่น The Waldos สู่กระแสร่วมสมัยในไทย การใช้กัญชาควรเป็นเสรีภาพเพื่อสุขภาพ หรือแค่แฟชั่นเสพติด? 🔍 หากเคยเห็นคำว่า “420” หรือ “4/20” บนเสื้อผ้า โซเชียลมีเดีย หรือในบทสนทนาระหว่างกลุ่มวัยรุ่น และสงสัยว่า... หมายถึงอะไร? คำตอบคือ 420 คือรหัสลับของผู้ใช้กัญชาทั่วโลก ที่ถูกยกระดับให้กลายเป็น "วันกัญชาโลก" หรือ "World Cannabis Day" 🗓️ ทุกวันที่ 20 เมษายน (20/4) ของทุกปี กลายเป็นวันเฉลิมฉลอง ของผู้สนับสนุนเสรีภาพในการใช้กัญชา ทั้งในด้านการแพทย์ การพักผ่อน และการรณรงค์ให้กฎหมายในแต่ละประเทศ เปิดใจยอมรับพืชชนิดนี้มากขึ้น 📢 แต่... การเฉลิมฉลองนั้น ควรมีขอบเขตแค่ไหน? เสรีภาพจะพาไปสู่โอกาส หรือปัญหางอกไม่รู้จบ? 🧠 จุดเริ่มต้นจากกลุ่ม The Waldos สู่วัฒนธรรมสมัยนิยม เรื่องราวของ “420” เริ่มต้นในปี 2514 จากกลุ่มวัยรุ่นชื่อ "The Waldos" ที่เมืองซานราฟาเอล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขานัดเจอกันทุกวันเวลา 16.20 น. หรือ 4:20 PM เพื่อออกตามหาต้นกัญชาลึกลับ ในค่ายทหาร "abandoned" โดยใช้เวลา 4:20 เป็นรหัสลับระหว่างกัน 🕓 แม้จะไม่เจอต้นกัญชานั้นจริงๆ แต่คำว่า “420” กลายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ใช้กัญชา โดยถูกผลักดันจากวงดนตรี "Grateful Dead" และต่อมากลายเป็นวัฒนธรรมย่อย ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก 🌍 📅 วันที่ 20 เมษายน หรือ “4/20” ตามรูปแบบการเขียนเดือนและวัน ของสหรัฐฯ ถูกยกระดับให้เป็น วันแห่งการเฉลิมฉลองกัญชา โดยผู้ใช้กัญชาทั่วโลก จะออกมารวมตัวจัดกิจกรรม สังสรรค์ หรือแม้แต่ประท้วง เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายที่เป็นธรรม เกี่ยวกับการใช้กัญชา ✊ 🌿 ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ แม้กัญชาจะเคยถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษ แต่ด้วยการวิจัยทางการแพทย์ล่าสุด กัญชาถูกมองใหม่ในฐานะ “สมุนไพรทางเลือก” ที่มี CBD และ THC เป็นสารออกฤทธิ์สำคัญ ซึ่งช่วยรักษาอาการ ได้หลายประเภท 🧪 ✅ ประโยชน์ที่ได้รับการยอมรับ ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด 🤢 บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดประสาท ปวดข้อ 🤕 ช่วยให้ผู้ป่วยหลับสบายขึ้น 💤 ลดอาการวิตกกังวล เฉพาะบางกรณี 😟➡️🙂 📌 ทั้งนี้.... การใช้ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น ❌ ความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจ กัญชาไม่ใช่ยาวิเศษ เพราะมันมีผลข้างเคียงหากใช้อย่างไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการเสพติด หากใช้ต่อเนื่องในปริมาณมาก 🔄 ส่งผลต่อสมอง โดยเฉพาะในวัยรุ่น 🧠 อาจก่อให้เกิดความจำสั้น สมาธิสั้น และอารมณ์แปรปรวน 😵 มีความเสี่ยงต่อภาวะจิตประสาท ในบางราย 🧨 🇹🇭 "กัญชาไทย" จากปลดล็อกสู่การควบคุม ปี 2565 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลประกาศ “ปลดล็อกกัญชา” ออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อเปิดโอกาสให้ใช้เพื่อการแพทย์ และเศรษฐกิจภายในครัวเรือน 👩‍⚕️🏠 แต่เมื่อขาดกฎหมายควบคุมที่ชัดเจน ปัญหาจึงตามมา เยาวชนเข้าถึงได้ง่ายเกินไป 👦👧 โฆษณาเกินจริงบนโลกออนไลน์ 💻 และการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่ตระหนักถึงผลเสีย 🚬 📈 ธุรกิจกัญชาไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว มีมูลค่าตลาดคาดการณ์สูงถึง 20,000 ล้านบาท หากสามารถจัดการได้ดี 💸 🧩 เสรีภาพ กับความปลอดภัย สมดุลที่ต้องคิดให้รอบด้าน คำถามใหญ่ที่สังคมไทยกำลังเผชิญในปี 2568 คือ... “กัญชาเป็นเสรีภาพใหม่ หรือปัญหางอก?” แม้หลายฝ่ายจะชูธงเรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่กลุ่มทางการแพทย์และผู้ปกครอง กลับกังวลถึงผลกระทบระยะยาวต่อเด็ก และเยาวชน โดยเฉพาะเมื่อไม่มีพระราชบัญญัติ ควบคุมที่ชัดเจน 😰 🔒 ล่าสุด รัฐบาลมีแนวโน้มจะออก "พระราชบัญญัติกัญชา" เพื่อควบคุมให้ใช้เพื่อสุขภาพ และการแพทย์เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อความบันเทิง 👶 เยาวชนคือกลุ่มเสี่ยงที่สุด ผลกระทบต่อสมองและพฤติกรรม การพัฒนาสมองถูกรบกวนโดยสาร THC 🧠 เพิ่มความเสี่ยงโรคซึมเศร้า โรคจิตเภท และอาการหลอน 😨 พฤติกรรมเสี่ยงมากขึ้น เช่น การลองยาเสพติดอื่น 🔗 แนวทางป้องกันคือ ให้ความรู้ในโรงเรียน 🏫 ควบคุมการโฆษณา และจำหน่ายอย่างเคร่งครัด 🔞 จำกัดอายุขั้นต่ำ ในการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา 🚫 ✈️ ต่างชาติหลงใหล “กัญชาไทย” หรือแค่... โบนัสท่องเที่ยว? หลังปลดล็อกกัญชาในปี 2565 ไทยกลายเป็น “จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสายเขียว” 🌍💚 โดยเฉพาะจากประเทศที่มีกฎหมายยาเสพติดเข้มงวด เช่น 🇯🇵 ญี่ปุ่น 🇰🇷 เกาหลีใต้ นักท่องเที่ยวบางคนมองว่า กัญชาไทยเป็นเสน่ห์ใหม่ ของการท่องเที่ยว แต่บางส่วนกลับกังวลว่า อาจบ่อนทำลายภาพลักษณ์ไทย ในสายตาชาวโลก 📢 กฎหมายของไทย อาจไม่ตรงกับกฎหมายในประเทศต้นทาง นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา! 💼 เศรษฐกิจกัญชา โอกาสทองหรือความเสี่ยงซ่อนเร้น? ประเทศที่ปลดล็อกกัญชาแล้วประสบความสำเร็จ เช่น 🇨🇦 แคนาดา 🇺🇾 อุรุกวัย 🇲🇹 มอลตา ล้วนมีระบบควบคุมกัญชาเข้มงวด ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจ 📉 หากไม่มีการควบคุมที่ดี เศรษฐกิจกัญชาจะกลายเป็นดาบสองคม ทำให้ปัญหาสังคมลุกลาม และลดความน่าเชื่อถือของประเทศได้ 🧑‍⚕️ แพทย์เตือน กัญชาเป็น “เครื่องมือ” ไม่ใช่ “ของเล่น” วงการแพทย์ย้ำว่า... “กัญชาใช้รักษาโรคได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุม และไม่ควรใช้แบบสันทนาการทั่วไป” กลุ่มโรคที่อาจได้ประโยชน์จากกัญชาคือ ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ที่ปวดเรื้อรัง ผู้ที่นอนไม่หลับ และผู้ป่วยจิตเวชบางกลุ่ม อย่างไรก็ตาม การใช้ต้องอาศัยการวินิจฉัยจากแพทย์ และข้อมูลวิจัยเพิ่มเติม 🔍 📚 ควรฉลองหรือทบทวน? วันกัญชาโลก (420) คือโอกาสให้เราหยุดคิด ทบทวน และสร้างบทสนทนาที่มีคุณภาพ ในสังคมไทย ไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง 🎉 สิ่งที่สังคมควรย้ำคือ ✅ สนับสนุนการใช้กัญชา เพื่อการแพทย์และสุขภาพ ❌ ต่อต้านการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่มีการควบคุม ⚖️ สร้างสมดุลระหว่างสิทธิเสรีภาพ และความปลอดภัยของสาธารณชน "กัญชาอาจเป็นพืชมหัศจรรย์... ถ้าเราใช้ด้วยความรู้ ไม่ใช่แค่ตามกระแส" 🌱 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200924 เม.ย. 2568 📌 #วันกัญชาโลก #420ไทย #โฟร์ทเวนตี้ #กัญชาเพื่อการแพทย์ #กัญชาไทย #เสรีภาพไม่ใช่สันทนาการ #TheWaldos #กัญชากับเยาวชน #สังคมกับกัญชา #กัญชาอย่างปลอดภัย
    0 Comments 0 Shares 1174 Views 0 Reviews
  • พุทธศาสนากับไพ่ทาโรต์ดูจะเป็นอะไรที่ไม่น่าไปด้วยกันได้ ถ้าเป็นคริสต์ศาสนาก็ยังพอมีจุดที่นำไปเชื่อมโยงกับไพ่ได้อยู่ แต่ไพ่ชุดที่จะกล่าวถึงในคราวนี้เป็นอีกหนึ่งหลักฐานว่า ไม่มีอะไรที่ศักดิ์สิทธิ์เกินไปสำหรับไพ่ทาโรต์

    'Siddhartha Tarot' เป็นไพ่ทาโรต์ในสังกัด Lo Scarabeo ตีพิมพ์เมื่อปี 2022 ผลิตและวางจำหน่ายแบบไพ่แมสตามร้านหนังสือชั้นนำ พอเป็นไพ่แมสของ สนพ. นี้จะมีสเปกเหมือน ๆ กันหมด คือพิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตหนาประมาณ 280 gsm (ซึ่งถือว่าค่อนข้างบางแล้วเมื่อเทียบกับไพ่ของผู้ผลิตไทยหลายรายเดี๋ยวนี้) เคลือบมันทั้งหน้าและหลัง บรรจุในกล่องกระดาษแบบฝาเปิดด้านบน (Tuck box) และมีคู่มือกระดาษเล่มเล็กแบบเย็บมุงหลังคาแถมมาให้ด้วย คราวนี้ขอเอาสเปกขึ้นก่อน เพราะไพ่ชุดนี้มีอะไรมัน ๆ ให้พิมพ์ถึงอีกมาก

    ดูจากชื่อไพ่กับหน้ากล่องแล้วก็น่าจะเข้าใจไม่ยากว่าเป็นไพ่ธีมพุทธ "Siddhartha" คือ สิทธารถะ ซึ่งเป็นการออกเสียงแบบสันสกฤตของชื่อ "สิทธัตถะ" หรือพระนามเดิมของพระพุทธเจ้าที่ไทยเรารู้จัก แต่ไพ่ชุดนี้เป็นธีมพุทธแบบนิกายมหายาน (โดยเน้นไปที่ฝั่งทิเบต) ซึ่งมีความเชื่อและหลักธรรมคำสอนแตกต่างไปจากนิกายหินยานหรือเถรวาทแบบของไทยเรา ต้องบอกไว้แบบนี้ก่อน เพราะเดี๋ยวจะมีใครเห็นรูปพระปาง "ยับยุม" บนหน้าไพ่ Lovers แล้วจะอกแตกหรือไม่ก็เส้นเลือดในสมองแตกเอา โปรดจำไว้ว่า พระพุทธเจ้าและพระพุทธศาสนาไม่ได้เป็นกรรมสิทธิ์ในการนับถือและตีความโดยชาวไทยพุทธเท่านั้น เข้าใจนะครับ ถ้าเข้าใจตรงนี้ได้ คุณก็จะยอมรับและสนุกกับไพ่ชุดนี้ได้

    สำรับไพ่ชุดนี้มี 78 ใบตามโครงสร้างของทาโรต์มาตรฐาน ภาพหน้าไพ่วาดในสไตล์กึ่งอาร์ตนูโวกึ่งการ์ตูนสมจริงแบบคอมิกฝรั่ง บนหน้าไพ่แต่ละใบเป็นรูปพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ตามคติมหายาน ตลอดจนบุคคลสำคัญ (เช่น ดาไลลามะ ในไพ่ 10 เหรียญ) และสถานที่สำคัญทางศาสนา (เช่น สถูป ในไพ่ 10 ไม้เท้า) ส่วนไพ่ Ace แต่ละตระกูลจะเป็นท่ามุทรา 4 ท่า ซึ่งเชื่อมโยงกับพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ตรงนี้เดี๋ยวจะขยายความต่อไป

    ผมรู้ครับว่าคนไทยบางส่วนเข็ดขยาดกับการอ่านหนังสือ มิพักต้องพูดถึงหนังสือในภาษาต่างประเทศ แต่ถ้าอยากเข้าถึงและใช้งานไพ่ชุดนี้ได้อย่างเต็มที่ หากว่าคุณเป็นคนไทยพุทธที่ไม่ได้คุ้นเคยอะไรกับระบบความเชื่อแบบพุทธมหายานแล้ว คู่มือเล่มเล็ก ๆ ที่แถมมาในกล่องไพ่ชุดนี้จะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด และถ้าคุณสนใจหรือกำลังอยากศึกษา Mythology ของพุทธมหายาน คู่มือไพ่ชุดนี้ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นอันประเสริฐ เพราะคนที่ออกแบบไพ่ชุดนี้ขึ้นมาน่าจะศึกษาคติมหายานมาลึกซึ้งไม่น้อย และยังนำมาดัดแปลงเป็นโครงสร้างไพ่ทาโรต์ได้น่าสนใจมาก ๆ

    ตามที่คู่มือบอกมา ไพ่ชุดนี้ออกแบบโดยมีโครงสร้างหลักคือ "พระธยานิพุทธะ" หรือพระพุทธเจ้า 5 องค์ ซึ่งเป็นแก่นความเชื่อของพุทธมหายาน และผู้สร้างไพ่ก็นำแต่ละพระองค์ไปเชื่อมโยงกับ Suits หรือไพ่ทั้ง 5 กลุ่มในสารบบทาโรต์ ได้แก่

    - ไพ่ชุดหลัก (Major Arcana) : พระไวโรจนพุทธเจ้า (Vairochana) ธาตุอากาศ สีขาว มีสัญลักษณ์คือ ธรรมจักร

    - ไพ่ถ้วย (Cups) : พระอมิตาภพุทธเจ้า (Amithaba) ธาตุไฟ สีแดง มีสัญลักษณ์คือ ดอกบัว (ปทมะ) คนไทยพุทธน่าจะคุ้นเคยกับภาพหน้าไพ่กลุ่มนี้มากที่สุด เพราะแสดงถึงฉากเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติของพระศากยมุณีพุทธเจ้า (เจ้าชายสิทธัตถะ) ไพ่ Ace เป็นรูปธยานมุทรา

    - ไพ่เหรียญ (Pentacles) : พระรัตนสัมภวพุทธเจ้า (Ratnasambhava) ธาตุดิน สีเหลือง มีสัญลักษณ์คือ รัตนมณี หรือหินมีค่า ไพ่ Ace เป็นรูปวรทมุทรา

    - ไพ่ไม้เท้า (Wands) : พระอักโษภยพุทธเจ้า (Aksobhaya) ธาตุน้ำ สีน้ำเงิน มีสัญลักษณ์คือ วัชระ ไพ่ Ace เป็นรูปภูมิผัสมุทรา

    - ไพ่ดาบ (Swords) : พระอโมฆสิทธิพุทธเจ้า (Amoghasiddhi) ธาตุลม สีเขียว มีสัญลักษณ์คือ วัชระแฝด (กรรมะ) ไพ่ Ace เป็นรูปอภยมุทรา

    ในไพ่ชุดรองทั้ง 4 กลุ่ม พระพุทธเจ้าที่เป็นองค์ประจำกลุ่มจะอยู่ในไพ่ King ส่วนในไพ่ชุดหลัก พระไวโรจนพุทธเจ้าที่เป็นองค์ประจำกลุ่มอยู่ในไพ่ The Fool พร้อมกับทรงทำมือเป็นท่าธรรมจักรมุทรา และพระศากยมุณีหรือพระพุทธเจ้าของไทยเราจะอยู่ในไพ่ The World

    ถ้าคุณได้อ่านบรรทัดเกี่ยวกับไพ่แต่ละกลุ่มข้างบน จะเห็นว่าไพ่ถ้วยกับไม้เท้าไม่ได้เป็นธาตุน้ำกับไฟตามที่ยึดถือกันในขนบทาโรต์มาตรฐาน แต่เป็นการยึดตามคติพุทธมหายานแทน ไม่ใช่แค่นั้น ความหมายไพ่แต่ละใบ ตามที่อธิบายไว้ในคู่มือ ก็มีการตีความแตกต่างไปจากทาโรต์มาตรฐานด้วย ดังนั้นการใช้งานไพ่ชุดนี้จึงเป็นเรื่องท้าทายเอามาก ๆ สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับความเชื่อแบบมหายาน ทางที่ดีคือยึดเอาจากในคู่มือเป็นหลักเถอะครับ ถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนั้นค่อยนำความหมายไพ่แบบมาตรฐานโปะ ๆ เข้าไป

    ส่วนตัวผมมองว่า การจะใช้ไพ่ชุดนี้ให้เต็มประสิทธิภาพ (ถ้ามีใครอยากใช้จริง ๆ อะนะ) ก็ต้องทำไม่ต่างจากเวลาชาวไทยพุทธเราเจอรูปพระปาง "ยับ-ยุม" หรือความเชื่อเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าที่แตกต่างไปจากที่เราเรียนกันมาในวิชาพระพุทธศาสนา นั่นคือ "วางอคติลง และ เปิดใจยอมรับ" พึงระลึกไว้ครับว่า พุทธศาสนามีอายุมากว่า 2,500 ปี ผ่านวิวัฒนาการจนแตกสาแหรกแขนงความเชื่อไปเยอะ และจะไม่หยุดเปลี่ยนแปลงตราบใดที่ยังมีมนุษย์อยู่ ดังนั้น ย้ำอีกครั้งว่า พุทธศาสนาไม่ใช่กรรมสิทธิ์ในการตีความและนับถือโดยชาวพุทธไทยแต่เพียงกลุ่มเดียว

    ปัจจุบัน ไพ่ Siddhartha Tarot ยังคงมีขายในร้าน Asia Books และคิโนะคูนิยะของบ้านเราครับ
    พุทธศาสนากับไพ่ทาโรต์ดูจะเป็นอะไรที่ไม่น่าไปด้วยกันได้ ถ้าเป็นคริสต์ศาสนาก็ยังพอมีจุดที่นำไปเชื่อมโยงกับไพ่ได้อยู่ แต่ไพ่ชุดที่จะกล่าวถึงในคราวนี้เป็นอีกหนึ่งหลักฐานว่า ไม่มีอะไรที่ศักดิ์สิทธิ์เกินไปสำหรับไพ่ทาโรต์ 'Siddhartha Tarot' เป็นไพ่ทาโรต์ในสังกัด Lo Scarabeo ตีพิมพ์เมื่อปี 2022 ผลิตและวางจำหน่ายแบบไพ่แมสตามร้านหนังสือชั้นนำ พอเป็นไพ่แมสของ สนพ. นี้จะมีสเปกเหมือน ๆ กันหมด คือพิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตหนาประมาณ 280 gsm (ซึ่งถือว่าค่อนข้างบางแล้วเมื่อเทียบกับไพ่ของผู้ผลิตไทยหลายรายเดี๋ยวนี้) เคลือบมันทั้งหน้าและหลัง บรรจุในกล่องกระดาษแบบฝาเปิดด้านบน (Tuck box) และมีคู่มือกระดาษเล่มเล็กแบบเย็บมุงหลังคาแถมมาให้ด้วย คราวนี้ขอเอาสเปกขึ้นก่อน เพราะไพ่ชุดนี้มีอะไรมัน ๆ ให้พิมพ์ถึงอีกมาก ดูจากชื่อไพ่กับหน้ากล่องแล้วก็น่าจะเข้าใจไม่ยากว่าเป็นไพ่ธีมพุทธ "Siddhartha" คือ สิทธารถะ ซึ่งเป็นการออกเสียงแบบสันสกฤตของชื่อ "สิทธัตถะ" หรือพระนามเดิมของพระพุทธเจ้าที่ไทยเรารู้จัก แต่ไพ่ชุดนี้เป็นธีมพุทธแบบนิกายมหายาน (โดยเน้นไปที่ฝั่งทิเบต) ซึ่งมีความเชื่อและหลักธรรมคำสอนแตกต่างไปจากนิกายหินยานหรือเถรวาทแบบของไทยเรา ต้องบอกไว้แบบนี้ก่อน เพราะเดี๋ยวจะมีใครเห็นรูปพระปาง "ยับยุม" บนหน้าไพ่ Lovers แล้วจะอกแตกหรือไม่ก็เส้นเลือดในสมองแตกเอา โปรดจำไว้ว่า พระพุทธเจ้าและพระพุทธศาสนาไม่ได้เป็นกรรมสิทธิ์ในการนับถือและตีความโดยชาวไทยพุทธเท่านั้น เข้าใจนะครับ ถ้าเข้าใจตรงนี้ได้ คุณก็จะยอมรับและสนุกกับไพ่ชุดนี้ได้ สำรับไพ่ชุดนี้มี 78 ใบตามโครงสร้างของทาโรต์มาตรฐาน ภาพหน้าไพ่วาดในสไตล์กึ่งอาร์ตนูโวกึ่งการ์ตูนสมจริงแบบคอมิกฝรั่ง บนหน้าไพ่แต่ละใบเป็นรูปพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ตามคติมหายาน ตลอดจนบุคคลสำคัญ (เช่น ดาไลลามะ ในไพ่ 10 เหรียญ) และสถานที่สำคัญทางศาสนา (เช่น สถูป ในไพ่ 10 ไม้เท้า) ส่วนไพ่ Ace แต่ละตระกูลจะเป็นท่ามุทรา 4 ท่า ซึ่งเชื่อมโยงกับพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ตรงนี้เดี๋ยวจะขยายความต่อไป ผมรู้ครับว่าคนไทยบางส่วนเข็ดขยาดกับการอ่านหนังสือ มิพักต้องพูดถึงหนังสือในภาษาต่างประเทศ แต่ถ้าอยากเข้าถึงและใช้งานไพ่ชุดนี้ได้อย่างเต็มที่ หากว่าคุณเป็นคนไทยพุทธที่ไม่ได้คุ้นเคยอะไรกับระบบความเชื่อแบบพุทธมหายานแล้ว คู่มือเล่มเล็ก ๆ ที่แถมมาในกล่องไพ่ชุดนี้จะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด และถ้าคุณสนใจหรือกำลังอยากศึกษา Mythology ของพุทธมหายาน คู่มือไพ่ชุดนี้ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นอันประเสริฐ เพราะคนที่ออกแบบไพ่ชุดนี้ขึ้นมาน่าจะศึกษาคติมหายานมาลึกซึ้งไม่น้อย และยังนำมาดัดแปลงเป็นโครงสร้างไพ่ทาโรต์ได้น่าสนใจมาก ๆ ตามที่คู่มือบอกมา ไพ่ชุดนี้ออกแบบโดยมีโครงสร้างหลักคือ "พระธยานิพุทธะ" หรือพระพุทธเจ้า 5 องค์ ซึ่งเป็นแก่นความเชื่อของพุทธมหายาน และผู้สร้างไพ่ก็นำแต่ละพระองค์ไปเชื่อมโยงกับ Suits หรือไพ่ทั้ง 5 กลุ่มในสารบบทาโรต์ ได้แก่ - ไพ่ชุดหลัก (Major Arcana) : พระไวโรจนพุทธเจ้า (Vairochana) ธาตุอากาศ สีขาว มีสัญลักษณ์คือ ธรรมจักร - ไพ่ถ้วย (Cups) : พระอมิตาภพุทธเจ้า (Amithaba) ธาตุไฟ สีแดง มีสัญลักษณ์คือ ดอกบัว (ปทมะ) คนไทยพุทธน่าจะคุ้นเคยกับภาพหน้าไพ่กลุ่มนี้มากที่สุด เพราะแสดงถึงฉากเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติของพระศากยมุณีพุทธเจ้า (เจ้าชายสิทธัตถะ) ไพ่ Ace เป็นรูปธยานมุทรา - ไพ่เหรียญ (Pentacles) : พระรัตนสัมภวพุทธเจ้า (Ratnasambhava) ธาตุดิน สีเหลือง มีสัญลักษณ์คือ รัตนมณี หรือหินมีค่า ไพ่ Ace เป็นรูปวรทมุทรา - ไพ่ไม้เท้า (Wands) : พระอักโษภยพุทธเจ้า (Aksobhaya) ธาตุน้ำ สีน้ำเงิน มีสัญลักษณ์คือ วัชระ ไพ่ Ace เป็นรูปภูมิผัสมุทรา - ไพ่ดาบ (Swords) : พระอโมฆสิทธิพุทธเจ้า (Amoghasiddhi) ธาตุลม สีเขียว มีสัญลักษณ์คือ วัชระแฝด (กรรมะ) ไพ่ Ace เป็นรูปอภยมุทรา ในไพ่ชุดรองทั้ง 4 กลุ่ม พระพุทธเจ้าที่เป็นองค์ประจำกลุ่มจะอยู่ในไพ่ King ส่วนในไพ่ชุดหลัก พระไวโรจนพุทธเจ้าที่เป็นองค์ประจำกลุ่มอยู่ในไพ่ The Fool พร้อมกับทรงทำมือเป็นท่าธรรมจักรมุทรา และพระศากยมุณีหรือพระพุทธเจ้าของไทยเราจะอยู่ในไพ่ The World ถ้าคุณได้อ่านบรรทัดเกี่ยวกับไพ่แต่ละกลุ่มข้างบน จะเห็นว่าไพ่ถ้วยกับไม้เท้าไม่ได้เป็นธาตุน้ำกับไฟตามที่ยึดถือกันในขนบทาโรต์มาตรฐาน แต่เป็นการยึดตามคติพุทธมหายานแทน ไม่ใช่แค่นั้น ความหมายไพ่แต่ละใบ ตามที่อธิบายไว้ในคู่มือ ก็มีการตีความแตกต่างไปจากทาโรต์มาตรฐานด้วย ดังนั้นการใช้งานไพ่ชุดนี้จึงเป็นเรื่องท้าทายเอามาก ๆ สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับความเชื่อแบบมหายาน ทางที่ดีคือยึดเอาจากในคู่มือเป็นหลักเถอะครับ ถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนั้นค่อยนำความหมายไพ่แบบมาตรฐานโปะ ๆ เข้าไป ส่วนตัวผมมองว่า การจะใช้ไพ่ชุดนี้ให้เต็มประสิทธิภาพ (ถ้ามีใครอยากใช้จริง ๆ อะนะ) ก็ต้องทำไม่ต่างจากเวลาชาวไทยพุทธเราเจอรูปพระปาง "ยับ-ยุม" หรือความเชื่อเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าที่แตกต่างไปจากที่เราเรียนกันมาในวิชาพระพุทธศาสนา นั่นคือ "วางอคติลง และ เปิดใจยอมรับ" พึงระลึกไว้ครับว่า พุทธศาสนามีอายุมากว่า 2,500 ปี ผ่านวิวัฒนาการจนแตกสาแหรกแขนงความเชื่อไปเยอะ และจะไม่หยุดเปลี่ยนแปลงตราบใดที่ยังมีมนุษย์อยู่ ดังนั้น ย้ำอีกครั้งว่า พุทธศาสนาไม่ใช่กรรมสิทธิ์ในการตีความและนับถือโดยชาวพุทธไทยแต่เพียงกลุ่มเดียว ปัจจุบัน ไพ่ Siddhartha Tarot ยังคงมีขายในร้าน Asia Books และคิโนะคูนิยะของบ้านเราครับ
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 1193 Views 0 Reviews
  • ความสำเร็จ...จะได้มาเพราะ
    การเคารพในความเป็น
    ธรรมชาติของตัวเอง
    ไม่ใช่การถูกยัดเยียดจากคนอื่น
    .
    "ความแตกต่าง" นั้นเริ่มต้น ตั้งแต่ตอนเกิด
    แต่พอโตมาคนส่วนใหญ่ดันจบความคิด ด้วยการทำ "สิ่งที่ไม่แตกต่าง" แค่เดินไปตามทางของคนอื่นๆ ก็เพียงพอแล้ว เรียบง่ายและสำเร็จได้เช่นกัน
    .
    นี้คือการปิดกั้นพลังที่แท้จริง และเสมือนว่าเป็นการดูถูกตัวเองเพราะมัวแต่ไปไล่ล่าหาทางในแบบขอบคนอื่น เห็นคนอื่นทำได้ดี ก็ไปทำตามเขา พยายามไปเลียนแบบให้เป็นเขา ไม่เคารพในความเป็นธรรมชาติของตัวเอง
    .
    เมื่อไม่เคารพในตัวเอง ธรรมชาติของนิสัย ก็เกิดแรงต้าน แรงต้านนี้ก็กลายมาเป็น หมดไฟ , ไม่อยากทำงานแล้ว อยากออกไปหาในสิ่งที่ชอบ หรืออีกหลากหลายอาการที่เกิดขึ้นมา
    .
    ธรรมชาติของตัวเองนั้นพลังมหาศาล คนที่สำรวจและรู้ตัวเองก่อนใครจะสามารถเดินในทางได้อย่างถูกต้อง ทั้งง่ายและเร็วกว่าคนอื่นหลายเท่า คงเคยเห็นนิสัยของบางคนทำไม ทำอะไรก็ดูสำเร็จง่ายไปหมด แต่พอเราไปทำตามบ้าง ทำไมทำไม่เห็นได้แบบเขา
    .
    นั้นเพราะคุณกำลังเดินทางในแบบของคนอื่น
    เดินทางในธรรมชาติของคนอื่น
    .
    วิธีค้นหาและขั้นตอนการใช้ "พลังธรรมชาติ"ของตัวเอง
    .
    - ทำความรู้จักตนเองให้ดี เขียนทุกความรู้สึกออกมาเป็นตัวอักษร หาสมุดบันทึกซักเล่มแล้วจดลงไปให้เหมือนไดอารี่ (ไม่ได้ให้บันทึกทั้งชีวิต เอาแค่ตอนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงก็พอ) ยิ่งจดจะเห็นความซ้ำซาก ความซ้ำซากพวกนั้นแหละ จะทำให้พบ "ธรรมชาติของตัวเอง"
    .
    - "เปิดช่องว่าง" โดยให้อภัยตนเอง เมื่อเจอธรรมชาติของตัวเองแล้ว ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยเรื่องราวแย่ๆ สิ่งห่วยๆ ที่ทั้งตัวเองได้ทำ หรือเจอมา เพื่อให้เกิดช่องว่าง เหมือนเราเอาทองที่เลอะโคลนไปล้าง น้ำที่เปื้อนโคลนก็ต้องทิ้งไป ไม่ต้องเก็บมาไว้กับทอง
    .
    - "เตรียมของใหม่" ยอมรับและสร้างความมั่นใจในตนเอง หาสิ่งที่จะทำใหม่ๆ สิ่งใหม่ที่เหมาะสมกับ "ธรรมชาติของตัวเองเรา"
    .
    ก่อนที่จะ "เปลี่ยนแปลง" ตัวเองเป็นคนใหม่คุณจะต้องเปิดใจยอมรับตัวตนที่แท้จริงของคุณให้ได้เสียก่อนและต้องเรียนรู้ที่จะมีความสุขในแบบของคุณเอง และทำตัวให้มีค่าและควรคู่กับการได้รับความเคารพจากผู้อื่น
    .
    .
    #ไปให้ถึง100ล้าน
    #100WEALTH
    ความสำเร็จ...จะได้มาเพราะ การเคารพในความเป็น ธรรมชาติของตัวเอง ไม่ใช่การถูกยัดเยียดจากคนอื่น . "ความแตกต่าง" นั้นเริ่มต้น ตั้งแต่ตอนเกิด แต่พอโตมาคนส่วนใหญ่ดันจบความคิด ด้วยการทำ "สิ่งที่ไม่แตกต่าง" แค่เดินไปตามทางของคนอื่นๆ ก็เพียงพอแล้ว เรียบง่ายและสำเร็จได้เช่นกัน . นี้คือการปิดกั้นพลังที่แท้จริง และเสมือนว่าเป็นการดูถูกตัวเองเพราะมัวแต่ไปไล่ล่าหาทางในแบบขอบคนอื่น เห็นคนอื่นทำได้ดี ก็ไปทำตามเขา พยายามไปเลียนแบบให้เป็นเขา ไม่เคารพในความเป็นธรรมชาติของตัวเอง . เมื่อไม่เคารพในตัวเอง ธรรมชาติของนิสัย ก็เกิดแรงต้าน แรงต้านนี้ก็กลายมาเป็น หมดไฟ , ไม่อยากทำงานแล้ว อยากออกไปหาในสิ่งที่ชอบ หรืออีกหลากหลายอาการที่เกิดขึ้นมา . ธรรมชาติของตัวเองนั้นพลังมหาศาล คนที่สำรวจและรู้ตัวเองก่อนใครจะสามารถเดินในทางได้อย่างถูกต้อง ทั้งง่ายและเร็วกว่าคนอื่นหลายเท่า คงเคยเห็นนิสัยของบางคนทำไม ทำอะไรก็ดูสำเร็จง่ายไปหมด แต่พอเราไปทำตามบ้าง ทำไมทำไม่เห็นได้แบบเขา . นั้นเพราะคุณกำลังเดินทางในแบบของคนอื่น เดินทางในธรรมชาติของคนอื่น . วิธีค้นหาและขั้นตอนการใช้ "พลังธรรมชาติ"ของตัวเอง . - ทำความรู้จักตนเองให้ดี เขียนทุกความรู้สึกออกมาเป็นตัวอักษร หาสมุดบันทึกซักเล่มแล้วจดลงไปให้เหมือนไดอารี่ (ไม่ได้ให้บันทึกทั้งชีวิต เอาแค่ตอนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงก็พอ) ยิ่งจดจะเห็นความซ้ำซาก ความซ้ำซากพวกนั้นแหละ จะทำให้พบ "ธรรมชาติของตัวเอง" . - "เปิดช่องว่าง" โดยให้อภัยตนเอง เมื่อเจอธรรมชาติของตัวเองแล้ว ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยเรื่องราวแย่ๆ สิ่งห่วยๆ ที่ทั้งตัวเองได้ทำ หรือเจอมา เพื่อให้เกิดช่องว่าง เหมือนเราเอาทองที่เลอะโคลนไปล้าง น้ำที่เปื้อนโคลนก็ต้องทิ้งไป ไม่ต้องเก็บมาไว้กับทอง . - "เตรียมของใหม่" ยอมรับและสร้างความมั่นใจในตนเอง หาสิ่งที่จะทำใหม่ๆ สิ่งใหม่ที่เหมาะสมกับ "ธรรมชาติของตัวเองเรา" . ก่อนที่จะ "เปลี่ยนแปลง" ตัวเองเป็นคนใหม่คุณจะต้องเปิดใจยอมรับตัวตนที่แท้จริงของคุณให้ได้เสียก่อนและต้องเรียนรู้ที่จะมีความสุขในแบบของคุณเอง และทำตัวให้มีค่าและควรคู่กับการได้รับความเคารพจากผู้อื่น . . #ไปให้ถึง100ล้าน #100WEALTH
    0 Comments 0 Shares 507 Views 0 Reviews