• 🔥🔥 ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ SCBEIC เผยแพร่ข้อมูล
    แนวโน้มและทิศทางของอุตสาหกรรมเหล็กไทยปี 2568

    🚩โดยมองว่า การผลิตเหล็กในปี 2568 ของไทยมีแนวโน้ม
    ขยายตัวเล็กน้อย จากการผลิตเหล็กทรงยาวที่เพิ่มขึ้น
    และอุปสงค์การใช้งานที่เพิ่มขึ้นในภาคการก่อสร้างเป็นหลัก
    แต่ยังมีปัจจัยกดดันจากเหล็กจีนที่เข้ามาตีตลาดอย่างต่อเนื่อง

    🚩ในปี 2567 นี้ อุปสงค์การใช้งานเหล็กที่หดตัวทั้งในภาคการก่อสร้าง
    และการผลิตรถยนต์ ประกอบกับเหล็กราคาถูกจากต่างประเทศ
    เข้ามาตีตลาด ส่งผลให้ปริมาณการผลิตเหล็กในประเทศปี 2567 นี้
    มีแนวโน้มหดตัว 12.7%

    🚩อย่างไรก็ดี ปริมาณการผลิตเหล็กมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในปี 2568
    โดยคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5.8 ล้านตัน จากอุปสงค์การใช้งาน
    ที่ขยายตัว โดยเฉพาะในภาคการก่อสร้าง

    🚩ขณะที่เหล็กจากต่างประเทศที่มีราคาถูกกว่ายังคงถูกนำเข้ามา
    ใช้งานต่อไป กระทบกับอัตราการใช้กำลังการผลิตเหล็กของไทย
    ที่ลดลงมาอย่างต่อเนื่อง จนอยู่ในระดับต่ำกว่า 30%
    ซึ่งเป็นอัตราที่ถือว่าค่อนข้างวิกฤตในปัจจุบัน

    🚩นอกจากนี้ การเข้ามาตั้งโรงงานผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา
    ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเข้ามาทำการตลาดเชิงรุก
    ของผู้ผลิตและผู้ค้าเหล็กจากจีน ยังเป็นปัจจัยกดดันให้
    อุตสาหกรรมเหล็กของไทยต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตที่หนักกว่าเดิม

    🚩สำหรับราคาเหล็กในปี 2568 ยังคงมีแนวโน้มที่ลดลง
    ตามแนวโน้มราคาวัตถุดิบ และราคาพลังงาน ส่งผลให้ผู้ประกอบการ
    ในอุตสาหกรรมเหล็กต้องหาแนวทางบริหารจัดการต้นทุน และ
    การระบายสต็อกสินค้า เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
    ของราคาจำหน่ายสินค้าเหล็กที่มีโอกาสลดลง

    ที่มา : SCBEIC

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #อุตสาหกรรมเหล็กไทย #thaitimes
    🔥🔥 ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ SCBEIC เผยแพร่ข้อมูล แนวโน้มและทิศทางของอุตสาหกรรมเหล็กไทยปี 2568 🚩โดยมองว่า การผลิตเหล็กในปี 2568 ของไทยมีแนวโน้ม ขยายตัวเล็กน้อย จากการผลิตเหล็กทรงยาวที่เพิ่มขึ้น และอุปสงค์การใช้งานที่เพิ่มขึ้นในภาคการก่อสร้างเป็นหลัก แต่ยังมีปัจจัยกดดันจากเหล็กจีนที่เข้ามาตีตลาดอย่างต่อเนื่อง 🚩ในปี 2567 นี้ อุปสงค์การใช้งานเหล็กที่หดตัวทั้งในภาคการก่อสร้าง และการผลิตรถยนต์ ประกอบกับเหล็กราคาถูกจากต่างประเทศ เข้ามาตีตลาด ส่งผลให้ปริมาณการผลิตเหล็กในประเทศปี 2567 นี้ มีแนวโน้มหดตัว 12.7% 🚩อย่างไรก็ดี ปริมาณการผลิตเหล็กมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในปี 2568 โดยคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5.8 ล้านตัน จากอุปสงค์การใช้งาน ที่ขยายตัว โดยเฉพาะในภาคการก่อสร้าง 🚩ขณะที่เหล็กจากต่างประเทศที่มีราคาถูกกว่ายังคงถูกนำเข้ามา ใช้งานต่อไป กระทบกับอัตราการใช้กำลังการผลิตเหล็กของไทย ที่ลดลงมาอย่างต่อเนื่อง จนอยู่ในระดับต่ำกว่า 30% ซึ่งเป็นอัตราที่ถือว่าค่อนข้างวิกฤตในปัจจุบัน 🚩นอกจากนี้ การเข้ามาตั้งโรงงานผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเข้ามาทำการตลาดเชิงรุก ของผู้ผลิตและผู้ค้าเหล็กจากจีน ยังเป็นปัจจัยกดดันให้ อุตสาหกรรมเหล็กของไทยต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตที่หนักกว่าเดิม 🚩สำหรับราคาเหล็กในปี 2568 ยังคงมีแนวโน้มที่ลดลง ตามแนวโน้มราคาวัตถุดิบ และราคาพลังงาน ส่งผลให้ผู้ประกอบการ ในอุตสาหกรรมเหล็กต้องหาแนวทางบริหารจัดการต้นทุน และ การระบายสต็อกสินค้า เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ของราคาจำหน่ายสินค้าเหล็กที่มีโอกาสลดลง ที่มา : SCBEIC #หุ้นติดดอย #การลงทุน #อุตสาหกรรมเหล็กไทย #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 502 มุมมอง 0 รีวิว