• 📌 พลังของคำพูด: พูดลบ → ดึงอัปมงคล | พูดบวก → ดึงโชคดี


    ---

    ❌ "คำพูดลบ" เป็นอัปมงคลจริงหรือ?

    ✅ พูดลบครั้งสองครั้ง → อาจไม่มีผลมาก
    ✅ พูดลบบ่อย → กลายเป็น "นิสัย" และ "พลังงานชีวิต"
    ✅ คำพูดลบ = สร้าง "หลุมดำ" ดูดสิ่งไม่ดีเข้ามา

    🎯 ถ้าพูดบ่น พูดด่า พูดเป็นลางร้ายทุกวัน → ชีวิตจะยิ่งจมลง
    🎯 เพราะพลังงานลบจากคำพูด → กลายเป็นแม่เหล็กดึงโชคร้าย


    ---

    📌 "คำพูดลบ" ส่งผลร้ายได้อย่างไร?

    1️⃣ ทำให้จิตใจ "จมดิ่ง" เองโดยไม่รู้ตัว

    ❌ บ่นทุกวัน = ใจหดหู่ทุกวัน
    ❌ ด่าทุกวัน = ใจร้อนทุกวัน
    ❌ สาปแช่งทุกวัน = ใจเป็นพิษทุกวัน

    🎯 "พูดแย่ → ใจแย่ → ดึงดูดสิ่งแย่เข้ามา"


    ---

    2️⃣ ทำให้คนรอบข้าง "รังเกียจ"

    ❌ คนที่พูดแง่ลบ → ทำให้คนอื่น "รู้สึกแย่"
    ❌ พลังงานลบจากคำพูด → ทำให้คนฟังหมดกำลังใจ
    ❌ คนที่ฟังบ่อยๆ → จะเริ่มตีตัวออกห่าง

    🎯 "พูดลบเยอะ → คนรอบข้างถอยห่าง → เหลือตัวคนเดียว"


    ---

    3️⃣ ดึง "เคราะห์ร้าย" เข้าตัวจริงๆ

    ❌ พูดลบ → จิตกลายเป็นลบ → ดึงดูดโชคร้าย
    ❌ พูดดี → จิตกลายเป็นบวก → ดึงดูดโชคดี

    🎯 "คำพูด = คำพยากรณ์ชีวิต"
    🎯 "พูดว่าแย่ → จิตสร้างความแย่ → ชีวิตก็แย่"
    🎯 "พูดว่าโชคดี → จิตสร้างโชคดี → ชีวิตก็ดีขึ้น"


    ---

    🔥 เปลี่ยนชีวิตด้วย "คำพูดบวก" 🔥

    ✅ 1️⃣ เปลี่ยน "คำพูดลบ" เป็น "คำพูดสร้างพลัง"

    ❌ "แย่จัง" → ✅ "มีอะไรดีที่เราเรียนรู้จากเรื่องนี้?"
    ❌ "ซวยอีกแล้ว" → ✅ "นี่คือโอกาสให้ฉันแก้ปัญหา"
    ❌ "ไม่มีทางสำเร็จ" → ✅ "ต้องมีทางไหนสักทางที่เวิร์ก"

    🎯 "พูดเปลี่ยน → ใจเปลี่ยน → ชีวิตเปลี่ยน"


    ---

    ✅ 2️⃣ ฝึก "มองหาสิ่งดีๆ" ในเรื่องแย่ๆ

    ❌ ล้มเหลว → ✅ ได้บทเรียน
    ❌ โดนหักหลัง → ✅ ได้รู้จักคน
    ❌ สูญเสียบางสิ่ง → ✅ ได้รับบางอย่างกลับมา

    🎯 "คิดดีได้ → พูดดีได้ → ดึงดูดสิ่งดีๆได้"


    ---

    ✅ 3️⃣ ฝึกพูดให้ "ตัวเองมีพลัง" และ "คนอื่นรู้สึกดี"

    ✅ พูดให้กำลังใจตัวเอง → "ฉันทำได้"
    ✅ พูดให้กำลังใจคนอื่น → "เธอเก่งมาก"
    ✅ พูดให้ชีวิตเป็นพลังบวก → "ทุกอย่างกำลังดีขึ้น"

    🎯 "พลังคำพูด = พลังชีวิต"
    🎯 "พูดดีบ่อยๆ → จิตใจสว่าง → ชีวิตมีโชค"


    ---

    🎯 สรุป: พลังของคำพูด สร้างชีวิตได้จริง!

    ✔ พูดลบ = ดึงดูดอัปมงคล
    ✔ พูดบวก = ดึงดูดโชคดี
    ✔ คำพูด = คำพยากรณ์ชีวิต

    🔥 "พูดดี = ดึงดูดสิ่งดีเข้ามา"
    🔥 "พูดลบ = ดูดโชคร้ายเข้าตัว"

    🎯 เริ่มเปลี่ยนได้วันนี้ → ฝึกพูดดี → ชีวิตจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน!

    📌 พลังของคำพูด: พูดลบ → ดึงอัปมงคล | พูดบวก → ดึงโชคดี --- ❌ "คำพูดลบ" เป็นอัปมงคลจริงหรือ? ✅ พูดลบครั้งสองครั้ง → อาจไม่มีผลมาก ✅ พูดลบบ่อย → กลายเป็น "นิสัย" และ "พลังงานชีวิต" ✅ คำพูดลบ = สร้าง "หลุมดำ" ดูดสิ่งไม่ดีเข้ามา 🎯 ถ้าพูดบ่น พูดด่า พูดเป็นลางร้ายทุกวัน → ชีวิตจะยิ่งจมลง 🎯 เพราะพลังงานลบจากคำพูด → กลายเป็นแม่เหล็กดึงโชคร้าย --- 📌 "คำพูดลบ" ส่งผลร้ายได้อย่างไร? 1️⃣ ทำให้จิตใจ "จมดิ่ง" เองโดยไม่รู้ตัว ❌ บ่นทุกวัน = ใจหดหู่ทุกวัน ❌ ด่าทุกวัน = ใจร้อนทุกวัน ❌ สาปแช่งทุกวัน = ใจเป็นพิษทุกวัน 🎯 "พูดแย่ → ใจแย่ → ดึงดูดสิ่งแย่เข้ามา" --- 2️⃣ ทำให้คนรอบข้าง "รังเกียจ" ❌ คนที่พูดแง่ลบ → ทำให้คนอื่น "รู้สึกแย่" ❌ พลังงานลบจากคำพูด → ทำให้คนฟังหมดกำลังใจ ❌ คนที่ฟังบ่อยๆ → จะเริ่มตีตัวออกห่าง 🎯 "พูดลบเยอะ → คนรอบข้างถอยห่าง → เหลือตัวคนเดียว" --- 3️⃣ ดึง "เคราะห์ร้าย" เข้าตัวจริงๆ ❌ พูดลบ → จิตกลายเป็นลบ → ดึงดูดโชคร้าย ❌ พูดดี → จิตกลายเป็นบวก → ดึงดูดโชคดี 🎯 "คำพูด = คำพยากรณ์ชีวิต" 🎯 "พูดว่าแย่ → จิตสร้างความแย่ → ชีวิตก็แย่" 🎯 "พูดว่าโชคดี → จิตสร้างโชคดี → ชีวิตก็ดีขึ้น" --- 🔥 เปลี่ยนชีวิตด้วย "คำพูดบวก" 🔥 ✅ 1️⃣ เปลี่ยน "คำพูดลบ" เป็น "คำพูดสร้างพลัง" ❌ "แย่จัง" → ✅ "มีอะไรดีที่เราเรียนรู้จากเรื่องนี้?" ❌ "ซวยอีกแล้ว" → ✅ "นี่คือโอกาสให้ฉันแก้ปัญหา" ❌ "ไม่มีทางสำเร็จ" → ✅ "ต้องมีทางไหนสักทางที่เวิร์ก" 🎯 "พูดเปลี่ยน → ใจเปลี่ยน → ชีวิตเปลี่ยน" --- ✅ 2️⃣ ฝึก "มองหาสิ่งดีๆ" ในเรื่องแย่ๆ ❌ ล้มเหลว → ✅ ได้บทเรียน ❌ โดนหักหลัง → ✅ ได้รู้จักคน ❌ สูญเสียบางสิ่ง → ✅ ได้รับบางอย่างกลับมา 🎯 "คิดดีได้ → พูดดีได้ → ดึงดูดสิ่งดีๆได้" --- ✅ 3️⃣ ฝึกพูดให้ "ตัวเองมีพลัง" และ "คนอื่นรู้สึกดี" ✅ พูดให้กำลังใจตัวเอง → "ฉันทำได้" ✅ พูดให้กำลังใจคนอื่น → "เธอเก่งมาก" ✅ พูดให้ชีวิตเป็นพลังบวก → "ทุกอย่างกำลังดีขึ้น" 🎯 "พลังคำพูด = พลังชีวิต" 🎯 "พูดดีบ่อยๆ → จิตใจสว่าง → ชีวิตมีโชค" --- 🎯 สรุป: พลังของคำพูด สร้างชีวิตได้จริง! ✔ พูดลบ = ดึงดูดอัปมงคล ✔ พูดบวก = ดึงดูดโชคดี ✔ คำพูด = คำพยากรณ์ชีวิต 🔥 "พูดดี = ดึงดูดสิ่งดีเข้ามา" 🔥 "พูดลบ = ดูดโชคร้ายเข้าตัว" 🎯 เริ่มเปลี่ยนได้วันนี้ → ฝึกพูดดี → ชีวิตจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการศึกษาล่าสุดของนักวิจัยที่ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ NASA เพื่อสร้างแบบจำลองใหม่ของ Oort Cloud ซึ่งอยู่ไกลออกไปจากวงโคจรของดาวพลูโต Oort Cloud เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยวัตถุที่เป็นน้ำแข็งซึ่งโคจรรอบดวงอาทิตย์ และเป็นที่มาของดาวหางระยะยาวที่บางครั้งจะพุ่งเข้าสู่ระบบสุริยะของเรา

    Oort Cloud เริ่มต้นที่ระยะประมาณ 2,000 ถึง 5,000 หน่วยดาราศาสตร์ (AU) จากดวงอาทิตย์ โดย 1 AU คือระยะทางเฉลี่ยระหว่างโลกและดวงอาทิตย์ ขอบเขตด้านนอกของ Oort Cloud ยาวถึง 10,000 ถึง 100,000 AU ซึ่งอยู่ไกลเกินกว่าที่เราจะเห็นได้ แต่สามารถอนุมานได้จากดาวหางที่มาจากพื้นที่นี้

    จนถึงขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์รู้ว่า Oort Cloud มีอยู่จริงแต่ไม่เข้าใจรูปร่างของมันมากนัก อย่างไรก็ตาม นักวิจัยจาก Southwest Research Institute และ American Museum of Natural History ได้เสนอว่าโครงสร้างภายในของ Oort Cloud อาจเป็น เกลียว คล้ายกับกาแล็กซีขนาดจิ๋ว

    นักวิจัยได้ศึกษาปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "galactic tide" ซึ่งเป็นผลรวมของแรงดึงดูดจากดาวฤกษ์ หลุมดำ และมวลรวมอื่น ๆ ภายในกาแล็กซี่ทางช้างเผือก สำหรับวัตถุที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ แรงเหล่านี้ไม่สำคัญเท่าแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ แต่ใน Oort Cloud แรงเหล่านี้กลายเป็นปัจจัยหลัก

    โดยใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Pleiades ของ NASA ทีมวิจัยได้รันการจำลองที่รวม galactic tide และผลกระทบอื่น ๆ เป็นเวลาหลายพันล้านปี ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า Oort Cloud มีโครงสร้างเป็นแผ่นเกลียวขนาดประมาณ 15,000 AU โดยมีเกลียวสองเส้น ซึ่งทำให้ Oort Cloud ดูเหมือนกับกาแล็กซีขนาดเล็กและแปลกจากรูปแบบที่เคยเห็นในโมเดลส่วนใหญ่ในปัจจุบัน

    สาเหตุของการเกิดเกลียวนี้มาจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Kozai-Lidov effect ซึ่งเป็นปรากฏการณ์แรงดึงดูดที่ทำให้เกิดการสั่นไหวระยะยาวในวงโคจรของวัตถุใน Oort Cloud ในขณะที่แรงดึงดูดจากดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเรามีผลกระทบน้อยมาก

    การจับภาพเพื่อยืนยันโครงสร้างนี้เป็นความท้าทายใหญ่ วิธีหนึ่งที่อาจใช้ได้คือการติดตามวัตถุใน Oort Cloud จำนวนมากในระยะยาว อีกวิธีหนึ่งคือการตรวจจับแสงที่มองเห็นร่วมกันของพวกมันในขณะที่กรองแสงจากแหล่งอื่นออกไป แต่น่าเสียดายว่าทั้งสองวิธีนี้ยังไม่มีการลงทุนที่เพียงพอ

    https://www.techspot.com/news/106898-nasa-supercomputer-suggests-oort-cloud-may-spiral-like.html
    มีการศึกษาล่าสุดของนักวิจัยที่ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ NASA เพื่อสร้างแบบจำลองใหม่ของ Oort Cloud ซึ่งอยู่ไกลออกไปจากวงโคจรของดาวพลูโต Oort Cloud เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยวัตถุที่เป็นน้ำแข็งซึ่งโคจรรอบดวงอาทิตย์ และเป็นที่มาของดาวหางระยะยาวที่บางครั้งจะพุ่งเข้าสู่ระบบสุริยะของเรา Oort Cloud เริ่มต้นที่ระยะประมาณ 2,000 ถึง 5,000 หน่วยดาราศาสตร์ (AU) จากดวงอาทิตย์ โดย 1 AU คือระยะทางเฉลี่ยระหว่างโลกและดวงอาทิตย์ ขอบเขตด้านนอกของ Oort Cloud ยาวถึง 10,000 ถึง 100,000 AU ซึ่งอยู่ไกลเกินกว่าที่เราจะเห็นได้ แต่สามารถอนุมานได้จากดาวหางที่มาจากพื้นที่นี้ จนถึงขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์รู้ว่า Oort Cloud มีอยู่จริงแต่ไม่เข้าใจรูปร่างของมันมากนัก อย่างไรก็ตาม นักวิจัยจาก Southwest Research Institute และ American Museum of Natural History ได้เสนอว่าโครงสร้างภายในของ Oort Cloud อาจเป็น เกลียว คล้ายกับกาแล็กซีขนาดจิ๋ว นักวิจัยได้ศึกษาปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "galactic tide" ซึ่งเป็นผลรวมของแรงดึงดูดจากดาวฤกษ์ หลุมดำ และมวลรวมอื่น ๆ ภายในกาแล็กซี่ทางช้างเผือก สำหรับวัตถุที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ แรงเหล่านี้ไม่สำคัญเท่าแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ แต่ใน Oort Cloud แรงเหล่านี้กลายเป็นปัจจัยหลัก โดยใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Pleiades ของ NASA ทีมวิจัยได้รันการจำลองที่รวม galactic tide และผลกระทบอื่น ๆ เป็นเวลาหลายพันล้านปี ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า Oort Cloud มีโครงสร้างเป็นแผ่นเกลียวขนาดประมาณ 15,000 AU โดยมีเกลียวสองเส้น ซึ่งทำให้ Oort Cloud ดูเหมือนกับกาแล็กซีขนาดเล็กและแปลกจากรูปแบบที่เคยเห็นในโมเดลส่วนใหญ่ในปัจจุบัน สาเหตุของการเกิดเกลียวนี้มาจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Kozai-Lidov effect ซึ่งเป็นปรากฏการณ์แรงดึงดูดที่ทำให้เกิดการสั่นไหวระยะยาวในวงโคจรของวัตถุใน Oort Cloud ในขณะที่แรงดึงดูดจากดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเรามีผลกระทบน้อยมาก การจับภาพเพื่อยืนยันโครงสร้างนี้เป็นความท้าทายใหญ่ วิธีหนึ่งที่อาจใช้ได้คือการติดตามวัตถุใน Oort Cloud จำนวนมากในระยะยาว อีกวิธีหนึ่งคือการตรวจจับแสงที่มองเห็นร่วมกันของพวกมันในขณะที่กรองแสงจากแหล่งอื่นออกไป แต่น่าเสียดายว่าทั้งสองวิธีนี้ยังไม่มีการลงทุนที่เพียงพอ https://www.techspot.com/news/106898-nasa-supercomputer-suggests-oort-cloud-may-spiral-like.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    NASA supercomputer suggests the Oort Cloud may be a spiral, like a miniature galaxy
    The Oort Cloud begins roughly 2,000 – 5,000 astronomical units (AU) from the Sun, with 1 AU being the average distance between Earth and the Sun. Its...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 307 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดนมาร์กเปิดเผย จะทุ่มงบประมาณ 14,600 ล้านโครเนอเดนมาร์ก (ประมาณ 2,050 ล้านดอลลาร์ หรือ 69,000 ล้านบาท) เสริมประจำการทางทหารในอาร์กติก ตามหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แสดงความสนใจซ้ำๆ ที่จะเข้าควบคุมกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก และเย้ยหยันโคเปนเฮเกน ว่าไม่มีศักยภาพพอที่จะปกป้องเกาะแห่งนี้
    .
    ในเดือนนี้ ทรัมป์ บอกว่ากรีนแลนด์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ และเดนมาร์กต้องปล่อยมือจากการควบคุมเกาะอาร์กติกที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้
    .
    หลังจากปรับลดการใช้จ่ายด้านการป้องกันตนเองลงอย่างมากมานานกว่า 1 ทศวรรษ เดนมาร์ก แถลงในวันจันทร์ (27 ม.ค.) ว่าจะใช้จ่ายเงิน 14,600 ล้านโครเนอ ในการเสริมความมั่นคงในภูมิภาคอาร์กติก ดินแดนยุทธศาสตร์ใกล้กับทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย
    .
    "เราต้องเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริงที่ว่า มีความท้าทายร้ายแรงในเรื่องความมั่นคงและด้านการป้องกันตนเองในอาร์กติกและนอร์ทแอตแลนติก" โทรเอลส์ ลุนด์ โพลเซน รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุในถ้อยแถลง
    .
    ในขณะที่ เดนมาร์ก รับผิดชอบมอบความมั่นคงและการป้องกันตนเองแก่กรีนแลนด์ แต่พวกเขากลับมีแสนยานุภาพทางทหารอย่างจำกัดบนเกาะที่ใหญ่โตแห่งนี้ จนถึงมองอย่างกว้างว่าเป็นหลุมดำด้านความมั่นคง
    .
    ณ ปัจจุบัน ศักยภาพของเดนมาร์กนั้นมีเพียงแค่เรือตรวจการณ์เก่าเก็บ 4 ลำ เครื่องบินลาดตระเวนชาลเลนเจอร์ 1 ลำ และสุนัขลากเลื่อนลาดตระเวน 12 ตัว ซึ่งทั้งหมดมีหน้าที่รับผิดชอบตรวจการณ์ทั่วเกาะ ที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าฝรั่งเศสถึง 4 เท่า
    .
    ในงบประมาณใหม่นี้ รวมไปถึงเงินทุนสำหรับเรือราชนาวีอาร์กติกใหม่ 3 ลำ เพิ่มโดรนตรวจการณ์ระยะไกลที่วางแผนไว้อีกเท่าตัวเป็น 4 ลำ เช่นเดียวกับดาวเทียวสอดแนม ถ้อยแถลงรัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุ
    .
    รายงานข่าวระบุว่า บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ของเดนมาร์ก เห็นพ้องกันจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับอาร์กติก ในข้อตกลงหนึ่งๆ ที่จะนำเสนอในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้
    .
    ในด้านกองทัพสหรัฐฯ พวกเขามีกำลังพลประจำการถาวรอยู่ ณ ฐานทัพอวกาศพิทัฟฟิก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะกรีนแลนด์ ตำแหน่งยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของระบบแจ้งเตือนขีปนาวุธล่วงหน้า ในขณะที่จุดดังกล่าวเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสำหรับเดินทางจากยุโรปไปยังอเมริกาเหนือ ผ่านเกาะแห่งนี้
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (25 ม.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน บอกว่า เดนมาร์กไม่มีแสนยานุภาพเพียงพอที่จะปกป้องเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ความเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนเป็นการเย้ยยันข่าวลือที่หลุดออกมาว่า เดนมาร์กมีแผนเพิ่มประจำการทางทหารบนเกาะในอาร์กติกแห่งนี้
    .
    ทรัมป์ เคยหยิบยกความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์ ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก และรื้อฟื้นความคิดดังกล่าวหลังได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
    .
    ผู้นำอเมริการายนี้เน้นย้ำว่ากรีนแลนด์มีความสำคัญในด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง ในขณะที่เดนมาร์กปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย
    .
    ทรัมป์ กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าเกาะกรีนแลนด์ เราจะได้มันมา เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำจริงๆ เพื่อเสรีภาพของโลก มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสหรัฐฯ เหนือสิ่งอื่นใดที่เรามีคือ สามารถมอบเสรีภาพ เดนมาร์กไม่สามารถมอบให้ได้ พวกเขาส่งสุนัขลากเลื่อนเข้าไปอีก 2 ตัวเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน พวกเขาคิดหรือว่านั่นเป็นการป้องกัน" ทรัมป์บอกกับไฟแนนเชียลไทม์ส
    .
    ดูเหมือนว่า ทรัมป์ จะพาดพิงถึงถ้อยแถลงของรัฐมนตรีกลาโหมของเดนมาร์ก ที่บอกว่าโคเปนเฮเกนมีแผนเพิ่มเติมเรือตรวจการณ์ 2 ลำ โดรน 2 ลำ และสุนัขลากเลื่อนลาดตระเวน 2 ตัว เข้าไปเสริมกองกำลังพล 75 นาย เรือ 4 ลำ และเครื่องบินลาดตระเวน 1 ลำ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
    .
    "ผมไม่รู้ว่า เดนมาร์ก จะอ้างว่าอย่างไร แต่มันจะเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตรมากๆ หากพวกเขาไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น" ทรัมป์บอกเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมอ้างว่า "ประชาชนชาวกรีนแลนด์ต้องการเข้าร่วมกับเรา"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008692
    ..............
    Sondhi X
    เดนมาร์กเปิดเผย จะทุ่มงบประมาณ 14,600 ล้านโครเนอเดนมาร์ก (ประมาณ 2,050 ล้านดอลลาร์ หรือ 69,000 ล้านบาท) เสริมประจำการทางทหารในอาร์กติก ตามหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แสดงความสนใจซ้ำๆ ที่จะเข้าควบคุมกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก และเย้ยหยันโคเปนเฮเกน ว่าไม่มีศักยภาพพอที่จะปกป้องเกาะแห่งนี้ . ในเดือนนี้ ทรัมป์ บอกว่ากรีนแลนด์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ และเดนมาร์กต้องปล่อยมือจากการควบคุมเกาะอาร์กติกที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้ . หลังจากปรับลดการใช้จ่ายด้านการป้องกันตนเองลงอย่างมากมานานกว่า 1 ทศวรรษ เดนมาร์ก แถลงในวันจันทร์ (27 ม.ค.) ว่าจะใช้จ่ายเงิน 14,600 ล้านโครเนอ ในการเสริมความมั่นคงในภูมิภาคอาร์กติก ดินแดนยุทธศาสตร์ใกล้กับทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย . "เราต้องเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริงที่ว่า มีความท้าทายร้ายแรงในเรื่องความมั่นคงและด้านการป้องกันตนเองในอาร์กติกและนอร์ทแอตแลนติก" โทรเอลส์ ลุนด์ โพลเซน รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุในถ้อยแถลง . ในขณะที่ เดนมาร์ก รับผิดชอบมอบความมั่นคงและการป้องกันตนเองแก่กรีนแลนด์ แต่พวกเขากลับมีแสนยานุภาพทางทหารอย่างจำกัดบนเกาะที่ใหญ่โตแห่งนี้ จนถึงมองอย่างกว้างว่าเป็นหลุมดำด้านความมั่นคง . ณ ปัจจุบัน ศักยภาพของเดนมาร์กนั้นมีเพียงแค่เรือตรวจการณ์เก่าเก็บ 4 ลำ เครื่องบินลาดตระเวนชาลเลนเจอร์ 1 ลำ และสุนัขลากเลื่อนลาดตระเวน 12 ตัว ซึ่งทั้งหมดมีหน้าที่รับผิดชอบตรวจการณ์ทั่วเกาะ ที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าฝรั่งเศสถึง 4 เท่า . ในงบประมาณใหม่นี้ รวมไปถึงเงินทุนสำหรับเรือราชนาวีอาร์กติกใหม่ 3 ลำ เพิ่มโดรนตรวจการณ์ระยะไกลที่วางแผนไว้อีกเท่าตัวเป็น 4 ลำ เช่นเดียวกับดาวเทียวสอดแนม ถ้อยแถลงรัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุ . รายงานข่าวระบุว่า บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ของเดนมาร์ก เห็นพ้องกันจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับอาร์กติก ในข้อตกลงหนึ่งๆ ที่จะนำเสนอในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ . ในด้านกองทัพสหรัฐฯ พวกเขามีกำลังพลประจำการถาวรอยู่ ณ ฐานทัพอวกาศพิทัฟฟิก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะกรีนแลนด์ ตำแหน่งยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของระบบแจ้งเตือนขีปนาวุธล่วงหน้า ในขณะที่จุดดังกล่าวเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสำหรับเดินทางจากยุโรปไปยังอเมริกาเหนือ ผ่านเกาะแห่งนี้ . ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (25 ม.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน บอกว่า เดนมาร์กไม่มีแสนยานุภาพเพียงพอที่จะปกป้องเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ความเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนเป็นการเย้ยยันข่าวลือที่หลุดออกมาว่า เดนมาร์กมีแผนเพิ่มประจำการทางทหารบนเกาะในอาร์กติกแห่งนี้ . ทรัมป์ เคยหยิบยกความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์ ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก และรื้อฟื้นความคิดดังกล่าวหลังได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา . ผู้นำอเมริการายนี้เน้นย้ำว่ากรีนแลนด์มีความสำคัญในด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง ในขณะที่เดนมาร์กปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย . ทรัมป์ กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าเกาะกรีนแลนด์ เราจะได้มันมา เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำจริงๆ เพื่อเสรีภาพของโลก มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสหรัฐฯ เหนือสิ่งอื่นใดที่เรามีคือ สามารถมอบเสรีภาพ เดนมาร์กไม่สามารถมอบให้ได้ พวกเขาส่งสุนัขลากเลื่อนเข้าไปอีก 2 ตัวเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน พวกเขาคิดหรือว่านั่นเป็นการป้องกัน" ทรัมป์บอกกับไฟแนนเชียลไทม์ส . ดูเหมือนว่า ทรัมป์ จะพาดพิงถึงถ้อยแถลงของรัฐมนตรีกลาโหมของเดนมาร์ก ที่บอกว่าโคเปนเฮเกนมีแผนเพิ่มเติมเรือตรวจการณ์ 2 ลำ โดรน 2 ลำ และสุนัขลากเลื่อนลาดตระเวน 2 ตัว เข้าไปเสริมกองกำลังพล 75 นาย เรือ 4 ลำ และเครื่องบินลาดตระเวน 1 ลำ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน . "ผมไม่รู้ว่า เดนมาร์ก จะอ้างว่าอย่างไร แต่มันจะเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตรมากๆ หากพวกเขาไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น" ทรัมป์บอกเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมอ้างว่า "ประชาชนชาวกรีนแลนด์ต้องการเข้าร่วมกับเรา" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008692 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Wow
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1406 มุมมอง 0 รีวิว
  • จิต: เส้นทางจากความมืดสู่ความสว่าง

    ความเป็นไปของจิต
    จิตของเราเป็นได้ทั้งหลุมดำที่ดึงดูดสิ่งร้าย หรือเป็นหลุมขาวที่ดึงดูดสิ่งดี ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สะท้อนถึงสถานะของจิตในแต่ละขณะ:

    1. อกุศลจิต

    หลุมดำ: ดูดสิ่งร้ายเข้าสู่ตัว

    ก้อนหิน: หนักและทึบ

    พายุ: ปั่นป่วนและไร้ทิศทาง

    ฝุ่นทราย: ซัดส่ายและไร้ความมั่นคง

    เป็นธรรมฝ่ายมืด ขวางกั้นทางสู่ความสุข นำไปสู่ความทุกข์ในวัฏสงสาร

    2. กุศลจิต

    หลุมขาว: ดึงดูดสิ่งดีและบริสุทธิ์

    ฟองสบู่: ใสและเบา

    ดวงแสง: ส่องสว่าง

    อากาศบริสุทธิ์: ว่างและสงบ

    เป็นธรรมฝ่ายสว่าง นำพาไปสู่ทางหลุดพ้นและความสุขยั่งยืน

    ---

    คำสอนพุทธเพื่อจิตที่ผ่องใส

    1. ละบาปเพื่อป้องกันจิตมืด

    การละบาปช่วยให้จิตไม่กลายเป็นหลุมดำที่ดึงสิ่งร้าย

    ห้ามใจจากสิ่งที่ได้มาด้วยวิถีบาป แม้จะเป็นสิ่งที่อยากได้

    เป็นการป้องกันจิตไม่ให้ถลำลึกในเส้นทางแห่งความทุกข์

    2. บำเพ็ญบุญเพื่อหลุมขาว

    การบำเพ็ญบุญช่วยให้จิตสว่างและเบา

    แม้การทำดีอาจดูเหมือนเสียเปรียบในโลก แต่ในทางจิตใจ เราได้กำไรเสมอ

    สิ่งดีที่เราดึงดูดเข้ามาจะส่งผลในระยะยาว

    3. รักษาความผ่องแผ้วของจิต

    จิตผ่องแผ้วคือจิตที่ไม่หมองมัว ไม่ดึงดูดมลทิน

    การมีจิตที่บริสุทธิ์ช่วยให้เราเห็นทางถูก และก้าวเดินสู่ความหลุดพ้น

    เมื่อจิตใสเบา เราจะรู้ว่ากำลังเดินอยู่บนทางที่ถูกต้อง

    ---

    บทสรุป
    จิตของเราเป็นได้ทั้งแหล่งกำเนิดความทุกข์และบ่อเกิดของความสุข คำสอนพุทธชี้ให้เราเลือกหนทางที่นำไปสู่ความสว่าง ด้วยการละบาป บำเพ็ญบุญ และรักษาความผ่องแผ้วในจิตของเราเอง เมื่อถึงจุดที่จิตโปร่งเบาและใสสะอาด เราจะไม่สงสัยอีกเลยว่า เรากำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องสู่ความหลุดพ้น!
    จิต: เส้นทางจากความมืดสู่ความสว่าง ความเป็นไปของจิต จิตของเราเป็นได้ทั้งหลุมดำที่ดึงดูดสิ่งร้าย หรือเป็นหลุมขาวที่ดึงดูดสิ่งดี ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สะท้อนถึงสถานะของจิตในแต่ละขณะ: 1. อกุศลจิต หลุมดำ: ดูดสิ่งร้ายเข้าสู่ตัว ก้อนหิน: หนักและทึบ พายุ: ปั่นป่วนและไร้ทิศทาง ฝุ่นทราย: ซัดส่ายและไร้ความมั่นคง เป็นธรรมฝ่ายมืด ขวางกั้นทางสู่ความสุข นำไปสู่ความทุกข์ในวัฏสงสาร 2. กุศลจิต หลุมขาว: ดึงดูดสิ่งดีและบริสุทธิ์ ฟองสบู่: ใสและเบา ดวงแสง: ส่องสว่าง อากาศบริสุทธิ์: ว่างและสงบ เป็นธรรมฝ่ายสว่าง นำพาไปสู่ทางหลุดพ้นและความสุขยั่งยืน --- คำสอนพุทธเพื่อจิตที่ผ่องใส 1. ละบาปเพื่อป้องกันจิตมืด การละบาปช่วยให้จิตไม่กลายเป็นหลุมดำที่ดึงสิ่งร้าย ห้ามใจจากสิ่งที่ได้มาด้วยวิถีบาป แม้จะเป็นสิ่งที่อยากได้ เป็นการป้องกันจิตไม่ให้ถลำลึกในเส้นทางแห่งความทุกข์ 2. บำเพ็ญบุญเพื่อหลุมขาว การบำเพ็ญบุญช่วยให้จิตสว่างและเบา แม้การทำดีอาจดูเหมือนเสียเปรียบในโลก แต่ในทางจิตใจ เราได้กำไรเสมอ สิ่งดีที่เราดึงดูดเข้ามาจะส่งผลในระยะยาว 3. รักษาความผ่องแผ้วของจิต จิตผ่องแผ้วคือจิตที่ไม่หมองมัว ไม่ดึงดูดมลทิน การมีจิตที่บริสุทธิ์ช่วยให้เราเห็นทางถูก และก้าวเดินสู่ความหลุดพ้น เมื่อจิตใสเบา เราจะรู้ว่ากำลังเดินอยู่บนทางที่ถูกต้อง --- บทสรุป จิตของเราเป็นได้ทั้งแหล่งกำเนิดความทุกข์และบ่อเกิดของความสุข คำสอนพุทธชี้ให้เราเลือกหนทางที่นำไปสู่ความสว่าง ด้วยการละบาป บำเพ็ญบุญ และรักษาความผ่องแผ้วในจิตของเราเอง เมื่อถึงจุดที่จิตโปร่งเบาและใสสะอาด เราจะไม่สงสัยอีกเลยว่า เรากำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องสู่ความหลุดพ้น!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ)
    จากร้าน ซีเอ็ด


    ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ
    จำนวน 1,000 หน้า


    ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้
    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา

    ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น

    ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ

    เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ


    ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ


    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ


    I have a dream.

    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่

    https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8-(Stars-%26-Space)-2-1dwstd12ckalgcq1kol3
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน ซีเอ็ด ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ จำนวน 1,000 หน้า ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8-(Stars-%26-Space)-2-1dwstd12ckalgcq1kol3
    WWW.SE-ED.COM
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars Space) 2 (PDF)
    สำหรับผู้ที่สนใจ ความรู้ด้านดวงดาว และอวกาศทั่วไป สภาวะของอวกาศ กาแล็กซี (ดาราจักร) ดวงดาวต่างๆ ผู้เขียน T.M.E. เนื้อหาโดยสังเขป : ดวงดาว และอวกาศ (Stars Space) 2 (PDF) เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. ข้อมูลหนังสือ : ดวงดาว และอวกาศ (Stars Space) 2 (PDF) รหัสสินค้า : 5522840327581 (-ไม่ระบุ) 1000 หน้า ชนิดกระดาษ : PDF เดือนปีที่พิมพ์ : --/----
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 492 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ)
    จากร้าน ซีเอ็ด


    ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ
    จำนวน 1,000 หน้า


    ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้
    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา

    ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น

    ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ

    เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ


    ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ


    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ


    I have a dream.

    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่

    https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8-(Stars-%26-Space)-2-1dwstd12ckalgcq1kol3
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน ซีเอ็ด ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ จำนวน 1,000 หน้า ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8-(Stars-%26-Space)-2-1dwstd12ckalgcq1kol3
    WWW.SE-ED.COM
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars Space) 2 (PDF)
    สำหรับผู้ที่สนใจ ความรู้ด้านดวงดาว และอวกาศทั่วไป สภาวะของอวกาศ กาแล็กซี (ดาราจักร) ดวงดาวต่างๆ ผู้เขียน T.M.E. เนื้อหาโดยสังเขป : ดวงดาว และอวกาศ (Stars Space) 2 (PDF) เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. ข้อมูลหนังสือ : ดวงดาว และอวกาศ (Stars Space) 2 (PDF) รหัสสินค้า : 5522840327581 (-ไม่ระบุ) 1000 หน้า ชนิดกระดาษ : PDF เดือนปีที่พิมพ์ : --/----
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 448 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน meb

    ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ
    จำนวน 1,000 หน้า


    ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้
    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา

    ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น

    ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ

    เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ


    ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ


    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ


    I have a dream.

    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่
    http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI2NDU4MSI7fQ
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน meb ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ จำนวน 1,000 หน้า ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI2NDU4MSI7fQ
    WWW.MEBMARKET.COM
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ):: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ):: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 539 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน meb

    ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ
    จำนวน 1,000 หน้า


    ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้
    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา

    ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น

    ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ

    เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ


    ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ


    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ


    I have a dream.

    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่
    http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI2NDU4MSI7fQ
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน meb ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ จำนวน 1,000 หน้า ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI2NDU4MSI7fQ
    WWW.MEBMARKET.COM
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ):: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ):: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 477 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปลี่ยนความเกลียดให้เป็นแสงสว่างในจิตความเกลียดไม่ใช่อุปสรรคจากภายนอก แต่เป็นเงามืดในใจเราเองความเกลียดไม่ใช่เมฆหมอกที่ลอยมาปกคลุมเราโดยไม่มีที่มา แต่มันเป็นหลุมดำที่ก่อตัวจากกลางใจเรา และคอยดูดกลืนความสุขของเราไป การจัดการความเกลียดจึงไม่ใช่การพยายามกำจัดสิ่งนอกตัว แต่เป็นการแปรเปลี่ยนหลุมดำในใจให้กลายเป็นแสงสว่างของความกุศล---คนส่วนใหญ่และคนส่วนน้อยคนส่วนใหญ่ไม่พยายามจัดการกับความเกลียด พวกเขาปล่อยให้ความเกลียดครอบงำ จนทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยความทุกข์ ไม่ว่ามากหรือน้อยคนส่วนน้อยเลือกที่จะฝึกจัดการกับความเกลียด แม้จะไม่สามารถละทุกข์ได้ทั้งหมด แต่พวกเขาก็มีพื้นที่แห่งความสงบสุขในใจมุมมองแบบพุทธ มองว่าการเอาชนะความเกลียด คือการสร้างจิตที่เป็นกุศล จิตที่สงบ เยือกเย็น และตั้งมั่นในความสว่าง---จิตที่พ้นจากความเกลียดจิตที่ไม่ถูกความเกลียดครอบงำไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญมันต้องอาศัยกระบวนการฝึกฝนและการเรียนรู้จากความเกลียดนั้นเอง:1. เริ่มต้นจากการยอมรับความเกลียดเมื่อรู้สึกเกลียด อย่าปฏิเสธหรือกดมันไว้ ยอมรับว่าเราเกลียดและมองมันด้วยสติตระหนักว่าความเกลียดคือเงามืดที่ไม่จีรัง และจะจางลงได้เองในลมหายใจถัดไป2. สังเกตการไปมาของความมืดในใจหากเราไม่ตรึกตรองถึงศัตรู ความมืดในใจจะค่อยๆ จางลงแต่ถ้ากลับมาคิดถึงศัตรู ความมืดก็จะกลับมาอีกเมื่อเห็นความจริงนี้บ่อยครั้ง เราจะเริ่มเข้าใจว่าความมืดไม่ใช่ตัวเรา3. แยกตัวเองออกจากความมืดสักวันหนึ่ง ปัญญาจะเกิดขึ้น และเราจะรู้สึกว่า "เรา" เป็นสิ่งที่ต่างจากความเกลียดจิตจะเริ่มแยกจากความมืด และตั้งอยู่ในความสว่างได้ง่ายขึ้น---ชีวิตที่พ้นจากความเกลียดเมื่อจิตตั้งมั่นในความสว่าง ความเกลียดจะกลายเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ ไม่คุ้มค่ากับพลังงานที่เสียไปความโปร่งเบาและกุศลจิตจะกลายเป็นที่พึ่งให้ใจของเราเมื่อถึงจุดนี้ คุณอาจเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตรได้ โดยไม่ต้องเสแสร้ง เพียงด้วยความจริงใจที่เปล่งประกายออกมาจากจิตที่สว่าง---ความสุขที่ไม่ได้มาโดยบังเอิญหากคุณสามารถหลุดพ้นจากเส้นทางแห่งความเกลียดชัง และใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมากกว่าคนส่วนใหญ่ในโลก นั่นไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่เพราะคุณเลือกที่จะฝึกฝนจิตใจ และสร้างเส้นทางใหม่ให้ตัวเองจงหมั่นฝึกฝน พาตัวเองออกจากเส้นทางแห่งความเกลียดชังในใจ และคุณจะพบความสว่างที่แท้จริงในชีวิต!
    เปลี่ยนความเกลียดให้เป็นแสงสว่างในจิตความเกลียดไม่ใช่อุปสรรคจากภายนอก แต่เป็นเงามืดในใจเราเองความเกลียดไม่ใช่เมฆหมอกที่ลอยมาปกคลุมเราโดยไม่มีที่มา แต่มันเป็นหลุมดำที่ก่อตัวจากกลางใจเรา และคอยดูดกลืนความสุขของเราไป การจัดการความเกลียดจึงไม่ใช่การพยายามกำจัดสิ่งนอกตัว แต่เป็นการแปรเปลี่ยนหลุมดำในใจให้กลายเป็นแสงสว่างของความกุศล---คนส่วนใหญ่และคนส่วนน้อยคนส่วนใหญ่ไม่พยายามจัดการกับความเกลียด พวกเขาปล่อยให้ความเกลียดครอบงำ จนทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยความทุกข์ ไม่ว่ามากหรือน้อยคนส่วนน้อยเลือกที่จะฝึกจัดการกับความเกลียด แม้จะไม่สามารถละทุกข์ได้ทั้งหมด แต่พวกเขาก็มีพื้นที่แห่งความสงบสุขในใจมุมมองแบบพุทธ มองว่าการเอาชนะความเกลียด คือการสร้างจิตที่เป็นกุศล จิตที่สงบ เยือกเย็น และตั้งมั่นในความสว่าง---จิตที่พ้นจากความเกลียดจิตที่ไม่ถูกความเกลียดครอบงำไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญมันต้องอาศัยกระบวนการฝึกฝนและการเรียนรู้จากความเกลียดนั้นเอง:1. เริ่มต้นจากการยอมรับความเกลียดเมื่อรู้สึกเกลียด อย่าปฏิเสธหรือกดมันไว้ ยอมรับว่าเราเกลียดและมองมันด้วยสติตระหนักว่าความเกลียดคือเงามืดที่ไม่จีรัง และจะจางลงได้เองในลมหายใจถัดไป2. สังเกตการไปมาของความมืดในใจหากเราไม่ตรึกตรองถึงศัตรู ความมืดในใจจะค่อยๆ จางลงแต่ถ้ากลับมาคิดถึงศัตรู ความมืดก็จะกลับมาอีกเมื่อเห็นความจริงนี้บ่อยครั้ง เราจะเริ่มเข้าใจว่าความมืดไม่ใช่ตัวเรา3. แยกตัวเองออกจากความมืดสักวันหนึ่ง ปัญญาจะเกิดขึ้น และเราจะรู้สึกว่า "เรา" เป็นสิ่งที่ต่างจากความเกลียดจิตจะเริ่มแยกจากความมืด และตั้งอยู่ในความสว่างได้ง่ายขึ้น---ชีวิตที่พ้นจากความเกลียดเมื่อจิตตั้งมั่นในความสว่าง ความเกลียดจะกลายเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ ไม่คุ้มค่ากับพลังงานที่เสียไปความโปร่งเบาและกุศลจิตจะกลายเป็นที่พึ่งให้ใจของเราเมื่อถึงจุดนี้ คุณอาจเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตรได้ โดยไม่ต้องเสแสร้ง เพียงด้วยความจริงใจที่เปล่งประกายออกมาจากจิตที่สว่าง---ความสุขที่ไม่ได้มาโดยบังเอิญหากคุณสามารถหลุดพ้นจากเส้นทางแห่งความเกลียดชัง และใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมากกว่าคนส่วนใหญ่ในโลก นั่นไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่เพราะคุณเลือกที่จะฝึกฝนจิตใจ และสร้างเส้นทางใหม่ให้ตัวเองจงหมั่นฝึกฝน พาตัวเองออกจากเส้นทางแห่งความเกลียดชังในใจ และคุณจะพบความสว่างที่แท้จริงในชีวิต!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..อนาคตเทคโนโลยีจะก้าวกระโดดเป็นอันมาก ยิ่งทรัมป์ฝ่ายแสงชนะเปิดเผยตัวตนเอง, จะเริ่มการปลดปล่อยอิสระเสรีเป็นอันมากกว่าอดีตทวีคูณหลายเท่า,เพราะจริงๆโลกเราสมควรอัพเรเวลสู่คนมิติทะลุ5Dนานแล้ว,ขั้นใช้โทรจิตพูดคุยกันทั่วโลกนานแล้วแต่ซาตานปกครองทั้งดัดแปลงDNAเรา ปิดระบบหยั่งรู้เราอีกด้วยสารพิษต่างๆในการใช้ชีวิตประจำวันเรา ทั้งดิ้นรนตามระบบทาสตังซาตานอย่างบ้าคลั่งเกินไปจนลืมย้อนพิจารณากายในจิตในของตนใครมัน,หากทรัมป์และคณะผู้นำผิวโลกปฏิบัติสำเร็จ เทคโนโลยีต่างๆที่จะมาย่อมวางใจได้เพราะฝ่ายดีควบคุมมิใช่เผด็จการซาตานแรปทีเลี่ยนกิ่งก่าคุม,และค่าจริงของจักรวาลจะเริ่มอุบัติสู่ปฐมบทของจริงนับแต่นี้เป็นต้นไป ใครจิตเลว จริตชั่วอาจต้องถูกย้ายไปดวงดาวอื่นที่ค่าจริตเสมอกันโดยยานอวกาศขนส่งฝ่ายกาแล็กติก,ทะลุหลุมดำสู่ดวงดาวอื่นโลกอื่นต่อไปวาล์ปไป รูหนอนอะไรก็แล้วแต่ต่อไป,จะมีกระบวนการจัดการคัดแยกคงเร็วๆนี้,การเรียนรู้ใหม่ค่าจริงใหม่ของโลกของจักรวาลจะบังเกิดค่าจริงเปิดโลกเปิดจักรวาลกันจริงๆ ใครปราถนาย้ายดวงดาวไปอาศัยอยู่ไหนก็จะตามเจตจำนงเสรีท่านๆ,จิตระลึกเองว่ามาจากดวงดาวไหนก็คงกลับบ้านใครดาวมัน ใครลงมาเกิดเพื่อทำภาระกิจ จบงานก็กลับบ้านใครดาวมันที่อาสาลงมาช่วยโลกในกายเนื้อมนุษย์นี้.,หรืออยู่เล่นต่อไปสักระยะจนจบอายุขัยก็ตามสบายหรือไปช่วยเหลือดวงดาวอื่นก็คงตามแต่ภาระสัญญากับสภาจักรวาลท่าน.,ถ้าผลชนะจบจริง ทรัมป์ขึ้นจริง,ที่เหลือก็แค่มาดูค่าจริงว่า ของปลอมหรือของแท้,แค่นั้น ของปลอมคือซวยหนักหนาสาหัสกว่าเดิมอีก,ของจริง คนทั้งโลกได้เป็นนีโอแน่ๆเพราะจะบินไปทั่วจักรวาลด้วยความตื่นรู้ว่ามันสุดยอดขนาดไหนเมื่อเปิดประตูหน้าต่างสู่โลกภายนอกที่มิใช่มนุษย์โลกเพียงเผ่าพันธุ์เราเท่านั้นในระบบจักรวาลเล็ก จักรวาลกลางและมหาจักรวาลนี้ เบื่อจะท่องเที่ยวเลยล่ะ.,น่าสนใจมากค่าจริงนับจากนี้,จึงสมควรจบจริงๆความไม่สงบวุ่นวายบนโลกเราที่ฝ่ายมืดก่อตลอดมาที่ยึดครองโลกใบนี้ไป.
    ..อนาคตเทคโนโลยีจะก้าวกระโดดเป็นอันมาก ยิ่งทรัมป์ฝ่ายแสงชนะเปิดเผยตัวตนเอง, จะเริ่มการปลดปล่อยอิสระเสรีเป็นอันมากกว่าอดีตทวีคูณหลายเท่า,เพราะจริงๆโลกเราสมควรอัพเรเวลสู่คนมิติทะลุ5Dนานแล้ว,ขั้นใช้โทรจิตพูดคุยกันทั่วโลกนานแล้วแต่ซาตานปกครองทั้งดัดแปลงDNAเรา ปิดระบบหยั่งรู้เราอีกด้วยสารพิษต่างๆในการใช้ชีวิตประจำวันเรา ทั้งดิ้นรนตามระบบทาสตังซาตานอย่างบ้าคลั่งเกินไปจนลืมย้อนพิจารณากายในจิตในของตนใครมัน,หากทรัมป์และคณะผู้นำผิวโลกปฏิบัติสำเร็จ เทคโนโลยีต่างๆที่จะมาย่อมวางใจได้เพราะฝ่ายดีควบคุมมิใช่เผด็จการซาตานแรปทีเลี่ยนกิ่งก่าคุม,และค่าจริงของจักรวาลจะเริ่มอุบัติสู่ปฐมบทของจริงนับแต่นี้เป็นต้นไป ใครจิตเลว จริตชั่วอาจต้องถูกย้ายไปดวงดาวอื่นที่ค่าจริตเสมอกันโดยยานอวกาศขนส่งฝ่ายกาแล็กติก,ทะลุหลุมดำสู่ดวงดาวอื่นโลกอื่นต่อไปวาล์ปไป รูหนอนอะไรก็แล้วแต่ต่อไป,จะมีกระบวนการจัดการคัดแยกคงเร็วๆนี้,การเรียนรู้ใหม่ค่าจริงใหม่ของโลกของจักรวาลจะบังเกิดค่าจริงเปิดโลกเปิดจักรวาลกันจริงๆ ใครปราถนาย้ายดวงดาวไปอาศัยอยู่ไหนก็จะตามเจตจำนงเสรีท่านๆ,จิตระลึกเองว่ามาจากดวงดาวไหนก็คงกลับบ้านใครดาวมัน ใครลงมาเกิดเพื่อทำภาระกิจ จบงานก็กลับบ้านใครดาวมันที่อาสาลงมาช่วยโลกในกายเนื้อมนุษย์นี้.,หรืออยู่เล่นต่อไปสักระยะจนจบอายุขัยก็ตามสบายหรือไปช่วยเหลือดวงดาวอื่นก็คงตามแต่ภาระสัญญากับสภาจักรวาลท่าน.,ถ้าผลชนะจบจริง ทรัมป์ขึ้นจริง,ที่เหลือก็แค่มาดูค่าจริงว่า ของปลอมหรือของแท้,แค่นั้น ของปลอมคือซวยหนักหนาสาหัสกว่าเดิมอีก,ของจริง คนทั้งโลกได้เป็นนีโอแน่ๆเพราะจะบินไปทั่วจักรวาลด้วยความตื่นรู้ว่ามันสุดยอดขนาดไหนเมื่อเปิดประตูหน้าต่างสู่โลกภายนอกที่มิใช่มนุษย์โลกเพียงเผ่าพันธุ์เราเท่านั้นในระบบจักรวาลเล็ก จักรวาลกลางและมหาจักรวาลนี้ เบื่อจะท่องเที่ยวเลยล่ะ.,น่าสนใจมากค่าจริงนับจากนี้,จึงสมควรจบจริงๆความไม่สงบวุ่นวายบนโลกเราที่ฝ่ายมืดก่อตลอดมาที่ยึดครองโลกใบนี้ไป.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 523 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • 🤠#สงครามเกาหลีมีผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นอย่างไร ตอน02.🤠

    😎เมื่อสงครามจบลงแล้ว😎

    นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง หนทางเดินของอเมริกาดำเนินไปอย่างราบรื่น พวกเขาเข้าควบคุมยุโรปด้วยวิธีการต่างๆ และกลายเป็นประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก

    ก่อนที่สงครามเกาหลีจะปะทุขึ้น พวกเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและคิดว่าตนเองจะชนะ แต่เมื่อหลังจากจีนส่งทหารไป สหรัฐฯ ยังคงเพิกเฉย

    แต่สุดท้ายจีนก็เป็นผู้ชนะ

    ดังนั้นจนกระทั่งมีการลงนามข้อตกลง ตัวแทนชาวอเมริกันจึงดูเหมือนยังคงฝันอยู่

    เนื่องจากสหรัฐฯ มีจิตใจที่หนักอึ้ง พวกเขาจึงไม่พูดอะไรสักคำในระหว่างกระบวนการลงนามข้อตกลงสงบศึกทั้งหมด และสถานที่จัดงานก็เงียบสนิท

    หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายลงนามในข้อตกลง จากนั้นก็นำข้อตกลงไปให้กับ เผิงเต๋อะไหว(彭德怀) และนายพลมาร์ค ดับเบิลยู. คลาร์ก(Mark W. Clark马克·克拉克) ชาวอเมริกันเพื่อลงนาม

    หลังจากที่จอมพลเผิงเต๋อะไหวลงนาม เขาก็กล่าวอย่างภาคภูมิใจในรายงานฉบับต่อมาว่า:

    “เป็นเวลาหลายร้อยปีที่ผู้รุกรานชาวตะวันตกสามารถยึดครองประเทศได้โดยการวางปืนใหญ่เพียงไม่กี่กระบอกบนชายฝั่งทางตะวันออกนั้นได้หายไปตลอดกาล”

    มาร์ค ดับเบิลยู. คลาร์ก(Mark W. Clark马克·克拉克) คร่ำครวญว่า: เขาเป็นผู้บัญชาการคนแรกในประวัติศาสตร์ของกองทัพสหรัฐฯ ที่ลงนามข้อตกลงสงบศึกโดยไม่ได้รับชัยชนะ

    สงครามสิ้นสุดลงแล้ว แต่ผลกระทบยังขยายวงกว้าง สงครามเกาหลีประทับเงาทางจิตวิทยาที่ร้ายแรงอย่างยิ่งทิ้งไว้ต่อสหรัฐอเมริกา ซึ่งถึงกับเรียกสงครามเกาหลีว่าเป็นหลุมดำในประวัติศาสตร์อเมริกา

    หนังสือพิมพ์อเมริกันระบุว่า:

    “(จีน) ใช้อาวุธจำนวนน้อยจนน่าสมเพชและระบบการจัดหาแบบดั้งเดิมที่น่าหัวเราะ แค่สามารถยับยั้งสหรัฐอเมริกามหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกซึ่งมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ อุตสาหกรรมขั้นสูง และอาวุธล้ำสมัยจำนวนมากลงได้”

    ความรู้สึกว่าพ่ายแพ้นี้ก่อให้เกิดผลโดยตรงสองประการ ประการแรก ความรู้สึกต่อต้านจีนในสหรัฐอเมริกามีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขานำเอาสาเหตุของความพ่ายแพ้ของสงครามเกาหลี ทั้งหมดนี้โยนให้กับจีน

    ในความเป็นจริงแล้วในสถานการณ์สู้รบจริงพวกเขามีความเกรงกลัวต่อจีน

    เป็นเวลาหลายปีต่อจากนั้น ทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนไม่เคยมีความขัดแย้งในสนามรบโดยตรง นี่เป็นเพราะสงครามเกาหลีทำให้สหรัฐฯตระหนักว่า แม้จีนจะอ่อนแอ แต่ก็ไม่ใช่ประเทศที่สามารถรังแกได้

    ประธานเหมาเคยกล่าวไว้ว่า: ในสงครามเกาหลีครั้งหนึ่งสร้างสันติภาพมาห้าสิบปี!

    นี่ไม่ใช่คำพูดที่ว่างเปล่าไร้สาระ แต่เป็นชัยชนะที่คนรุ่นก่อนได้แลกมาด้วยเลือดเนื้อ

    😎อิทธิพลผลกระทบที่กว้างขวาง😎

    นอกจากตัวเอกที่เป็นอเมริกาแล้ว ปฏิกิริยาจากประเทศอื่นๆ ก็น่าสนใจเช่นกัน ในจำนวนประเทศทั้งหมดนี้ที่มีคุณค่ากล่าวขวัญถึง คือ ญี่ปุ่น

    ญี่ปุ่นมีความเกลียดชังอย่างรุนแรงต่อจีนมาโดยตลอด เมื่อเกิดสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ปฏิกิริยาของญี่ปุ่นคือการได้ดูรายการการแสดงดีๆ นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังได้รับประโยชน์มากมายจากสงครามเกาหลี

    หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจของญี่ปุ่นอยู่ในสภาพที่ซบเซา สังคมทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยเงาแห่งความพ่ายแพ้สงคราม และประเทศก็ตกอยู่ในสภาวะที่บิดเบี้ยว

    ในเวลาขณะนี้ชาวอเมริกันก็มาถึง แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะสามารถควบคุมญี่ปุ่นไว้ได้ และใช้เป็นหุ่นเชิดทิ้งไว้ในเอเชีย แต่ญี่ปุ่นกลับต้องมีความคิดพึ่งพาต้นไม้ใหญ่เช่นสหรัฐอเมริกา

    ญี่ปุ่นมีจิตวิทยาที่แปลกประหลาด พวกเขาประสบความสูญเสียอย่างหนักจากระเบิดปรมาณูของสหรัฐฯ แต่สิ่งนี้กลับทำให้พวกเขาอยู่ใต้อำนาจของสหรัฐอเมริกาแทน

    ในทางการเมืองและเศรษฐกิจ พวกเขามีความสัมพันธ์ที่แยกไม่ออกกับสหรัฐอเมริกา จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นพยายามทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อทำให้ชาวอเมริกันพอใจ หากสหรัฐฯ ต้องการโจมตีเกาหลีเหนือและจีน ญี่ปุ่นก็จะกระตือรือร้นอย่างมาก

    เนื่องจากปัญหาที่คั่งค้างมาทางประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นจึงไม่สามารถประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือและจีนต่อสาธารณะได้ แต่เบื้องหลังได้ช่วยเหลือสหรัฐฯมากมาย

    ในปี ค.ศ. 1950 ญี่ปุ่นรับหน้าที่บำรุงรักษารถบรรทุกทหารมากกว่า 6,000 คันจากสหรัฐอเมริกา และผลิตอาวุธจำนวนมากให้กับสหรัฐอเมริกา

    ในขณะเดียวกัน ในระหว่างการยกพลขึ้นบกที่อินช็อน(Incheon仁川) ดักลาส แมกอาเธอร์(Douglas MacArthur道格拉斯·麦克阿瑟) พบว่า ตัวเองขาดกำลังคน แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีกำลังทหารเพียงพอ แต่ระยะทางจากอเมริกาไปยังเอเชียนั้นห่างไหลมาก เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ญี่ปุ่นจะเดินทางไปเกาหลีเหนือได้สะดวกกว่ามาก

    ดังนั้นในระหว่างการยกพลขึ้นบกที่อินช็อน(Incheon仁川) ในบรรดาเรือบรรทุกรถถังจำนวน 47 ลำที่กองทัพสหรัฐฯ ส่งมา จริงๆแล้วมีเรือ 30 ลำที่ขับเคลื่อนโดยคนชาวญี่ปุ่น

    นอกจากนี้ โดยพื้นฐานแล้วสหรัฐอเมริกายังใช้ฐานทัพอากาศในญี่ปุ่นเพื่อขนส่งวัสดุและบุคลากรตลอดช่วงสงคราม

    ตามสถิติที่ไม่สมบูรณ์นัก ตลอดช่วงสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นช่วยสหรัฐฯ ในการขนส่งทหารมากกว่า 3 ล้านคนและเสบียงมากกว่า 700,000 ตัน

    ในช่วงสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นกลายเป็นฐานทัพทหารและคลังแสงของสหรัฐอเมริกา เมื่อประเทศหนึ่งเป็นผู้ทำสงครามโดยล้างผลาญใช้ทรัพยากรของประเทศอื่น แต่ญี่ปุ่นไม่รู้สึกละอายกับสิ่งนี้ แต่กลับมีความภาคภูมิใจกับสิ่งนี้

    นอกจากนี้ เศรษฐกิจของพวกเขายังได้รับการฟื้นฟูโดยการทำกำไรจากสงคราม

    ระหว่างปี ค.ศ. 1950 ถึงค.ศ. 1953 ญี่ปุ่นมีรายได้มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์จากการส่งออกอาวุธและยุทโธปกรณ์อื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา

    เมื่อสงครามสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1953 การส่งออกของญี่ปุ่นประมาณ 60% ถูกกำหนดไว้สำหรับสนามรบของเกาหลี

    นอกจากการส่งออกทางเศรษฐกิจแล้ว ญี่ปุ่นยังส่งคนงานจำนวนมากไปยังสนามรบเกาหลีอย่างเงียบๆ เพื่อช่วยเหลือกองทัพสหรัฐฯ ในการสู้รบ

    ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นบางคนในช่วงสงครามรุกรานจีนก็ถูกส่งไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อชี้แนะสหรัฐอเมริกาในการทำสงครามเชื้อโรค ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นยังได้ส่งคณะร้องเพลงและเต้นรำจำนวนมากไปยังแนวหน้าเพื่อมอบความบันเทิง และแสดงการปลอบขวัญให้กำลังใจต่อกองทัพสหรัฐฯ

    ญี่ปุ่นกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสงครามเกาหลีได้ขจัดความเศร้าโศกภายหลังความพ่ายแพ้ของกองทัพญี่ปุ่น

    หลังจากการลงนามข้อตกลงสงบศึกในปี ค.ศ. 1953 ในที่สุดสหรัฐฯ ก็ระงับความร่วมมือทางเศรษฐกิจพหุภาคีกับญี่ปุ่น ในเวลานี้ญี่ปุ่นมีความมั่งคั่งเพียงพอแล้ว แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะยอมรับมัน แม้จะเผชิญกับความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นก็ยังอินต่อเหตุการณ์มากกว่าชาวอเมริกันอีกด้วย

    ดังคำกล่าวที่ว่า เป็นเรื่องง่ายที่จะเพลิดเพลินไปกับร่มเงาโดยมีต้นไม้ใหญ่อยู่ด้านหลัง พวกเขามีชีวิตที่ดีได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น เนื่องมาจากเหตุการณ์สงครามที่เริ่มต้นขึ้นโดยสหรัฐอเมริกา ขณะนี้สหรัฐฯ ได้ถอนทหารออกไปแล้ว ญี่ปุ่นกังวลเรื่องความอยู่รอดของตนเองมากที่สุด

    ดังนั้น ก่อนที่จะลงนามข้อตกลงสงบศึก ญี่ปุ่นจึงเตรียมการหลายประการและกระชับความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาอย่างเข้มข้นเพื่อปูทางไปสู่ความมั่งคั่งหลังสงคราม

    ในเวลาเดียวกัน สิ่งนี้กระตุ้นให้ญี่ปุ่นเกิดความกลัวต่อจีนในระดับลึกลงไปถึงที่สุด

    เมื่อสงครามต่อต้านญี่ปุ่นสิ้นสุดลง ภายในประเทศญี่ปุ่นได้เกิดมีกระแสความสงสัยในตนเองเกิดขึ้นมามากมาย พวกเขาเชื่อว่ากองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นอยู่ยงคงกระพัน แต่ทำไมจีนถึงกลายเป็นผู้ชนะในเมื่อเทคโนโลยีล้าหลังมากและประเทศก็ยากจนมาก?

    แต่ตอนนี้ จีนไม่เพียงแต่เอาชนะญี่ปุ่นได้เท่านั้น แม้แต่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของโลกก็ยังพ่ายแพ้อีกด้วย ญี่ปุ่นยิ่งเพิ่มความสงสัยในตัวเองมากขึ้น

    ต้องรู้ว่าในเวลานี้ญี่ปุ่นยังไม่สลัดรอดพ้นเงาของประเทศลัทธิรัฐเผด็จการทหาร แม้กระทั้งว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่ลัทธิรัฐเผด็จการทหารก็ยังแสดงสัญญาณของการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

    ดังนั้นในด้านสุดขั้วของจิตวิทยาของพวกเขาจึงทำให้พวกเขาไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกาได้เลย ในหนังสือพิมพ์ ญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการพูดถึงชัยชนะของจีน แต่กลับพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาสาเหตุของความล้มเหลวของสหรัฐฯ

    แน่นอนว่ามีการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น นับตั้งแต่การลงนามข้อตกลงสงบศึกในปี ค.ศ. 1953 ในภาษาเขียนของญี่ปุ่น คำว่า“จวือน่า(支那)”ชื่อเรียกที่แฝงด้วยการดูถูกดูแคลนนี้ค่อยๆหายไป

    ในความเป็นจริง ในช่วงต้นปึ ค.ศ. 1946 สหรัฐฯ สั่งให้ญี่ปุ่นไม่ให้ใช้ คำว่า“จวือน่า(支那)”และอื่นๆชื่อเรียกที่แฝงด้วยการดูถูกดูแคลน

    อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกฎระเบียบอย่างเป็นทางการ คนญี่ปุ่นก็ยังคงไปตามทางของตัวเอง

    เพราะพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนความดูถูกภายในใจที่มีต่อจีนได้ และถึงกับเชื่ออย่างหยิ่งผยองว่ารัฐบาลจีนใหม่จะอยู่ได้ไม่นาน จนถึงสงครามเกาหลีทำให้พวกเขาตระหนักถึงความเป็นจริง

    สงครามครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษต่อจีน โดยประกาศให้โลกรู้ว่าจีนกำลังผงาดขึ้น

    ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือประเทศในยุโรป พวกเขาค่อยๆ ตระหนักว่าจีนไม่ใช่คนป่วยของเอเชียตะวันออกอีกต่อไป

    ในช่วงหลายปีหลังสงครามเกาหลี แม้ว่าโลกยังคงประสบกับความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์ที่จีนเผชิญยังคงยากลำบาก ในสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียดเช่นนี้ สถานะระหว่างประเทศของจีนยังคงดีขึ้นทีละขั้น

    ทั้งหมดนี้แยกออกจากรากฐานที่วางไว้โดยการการช่วยเหลือเกาหลีรบต่อต้านการรุกรานของสหรัฐฯ ดังนั้น ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของสงครามเกาหลีจึงสมควรได้รับการจดจำตลอดไปโดยคนรุ่นต่อๆ ไป

    🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#สงครามเกาหลีมีผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นอย่างไร ตอน02.🤠 😎เมื่อสงครามจบลงแล้ว😎 นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง หนทางเดินของอเมริกาดำเนินไปอย่างราบรื่น พวกเขาเข้าควบคุมยุโรปด้วยวิธีการต่างๆ และกลายเป็นประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก ก่อนที่สงครามเกาหลีจะปะทุขึ้น พวกเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและคิดว่าตนเองจะชนะ แต่เมื่อหลังจากจีนส่งทหารไป สหรัฐฯ ยังคงเพิกเฉย แต่สุดท้ายจีนก็เป็นผู้ชนะ ดังนั้นจนกระทั่งมีการลงนามข้อตกลง ตัวแทนชาวอเมริกันจึงดูเหมือนยังคงฝันอยู่ เนื่องจากสหรัฐฯ มีจิตใจที่หนักอึ้ง พวกเขาจึงไม่พูดอะไรสักคำในระหว่างกระบวนการลงนามข้อตกลงสงบศึกทั้งหมด และสถานที่จัดงานก็เงียบสนิท หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายลงนามในข้อตกลง จากนั้นก็นำข้อตกลงไปให้กับ เผิงเต๋อะไหว(彭德怀) และนายพลมาร์ค ดับเบิลยู. คลาร์ก(Mark W. Clark马克·克拉克) ชาวอเมริกันเพื่อลงนาม หลังจากที่จอมพลเผิงเต๋อะไหวลงนาม เขาก็กล่าวอย่างภาคภูมิใจในรายงานฉบับต่อมาว่า: “เป็นเวลาหลายร้อยปีที่ผู้รุกรานชาวตะวันตกสามารถยึดครองประเทศได้โดยการวางปืนใหญ่เพียงไม่กี่กระบอกบนชายฝั่งทางตะวันออกนั้นได้หายไปตลอดกาล” มาร์ค ดับเบิลยู. คลาร์ก(Mark W. Clark马克·克拉克) คร่ำครวญว่า: เขาเป็นผู้บัญชาการคนแรกในประวัติศาสตร์ของกองทัพสหรัฐฯ ที่ลงนามข้อตกลงสงบศึกโดยไม่ได้รับชัยชนะ สงครามสิ้นสุดลงแล้ว แต่ผลกระทบยังขยายวงกว้าง สงครามเกาหลีประทับเงาทางจิตวิทยาที่ร้ายแรงอย่างยิ่งทิ้งไว้ต่อสหรัฐอเมริกา ซึ่งถึงกับเรียกสงครามเกาหลีว่าเป็นหลุมดำในประวัติศาสตร์อเมริกา หนังสือพิมพ์อเมริกันระบุว่า: “(จีน) ใช้อาวุธจำนวนน้อยจนน่าสมเพชและระบบการจัดหาแบบดั้งเดิมที่น่าหัวเราะ แค่สามารถยับยั้งสหรัฐอเมริกามหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกซึ่งมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ อุตสาหกรรมขั้นสูง และอาวุธล้ำสมัยจำนวนมากลงได้” ความรู้สึกว่าพ่ายแพ้นี้ก่อให้เกิดผลโดยตรงสองประการ ประการแรก ความรู้สึกต่อต้านจีนในสหรัฐอเมริกามีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขานำเอาสาเหตุของความพ่ายแพ้ของสงครามเกาหลี ทั้งหมดนี้โยนให้กับจีน ในความเป็นจริงแล้วในสถานการณ์สู้รบจริงพวกเขามีความเกรงกลัวต่อจีน เป็นเวลาหลายปีต่อจากนั้น ทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนไม่เคยมีความขัดแย้งในสนามรบโดยตรง นี่เป็นเพราะสงครามเกาหลีทำให้สหรัฐฯตระหนักว่า แม้จีนจะอ่อนแอ แต่ก็ไม่ใช่ประเทศที่สามารถรังแกได้ ประธานเหมาเคยกล่าวไว้ว่า: ในสงครามเกาหลีครั้งหนึ่งสร้างสันติภาพมาห้าสิบปี! นี่ไม่ใช่คำพูดที่ว่างเปล่าไร้สาระ แต่เป็นชัยชนะที่คนรุ่นก่อนได้แลกมาด้วยเลือดเนื้อ 😎อิทธิพลผลกระทบที่กว้างขวาง😎 นอกจากตัวเอกที่เป็นอเมริกาแล้ว ปฏิกิริยาจากประเทศอื่นๆ ก็น่าสนใจเช่นกัน ในจำนวนประเทศทั้งหมดนี้ที่มีคุณค่ากล่าวขวัญถึง คือ ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นมีความเกลียดชังอย่างรุนแรงต่อจีนมาโดยตลอด เมื่อเกิดสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ปฏิกิริยาของญี่ปุ่นคือการได้ดูรายการการแสดงดีๆ นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังได้รับประโยชน์มากมายจากสงครามเกาหลี หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจของญี่ปุ่นอยู่ในสภาพที่ซบเซา สังคมทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยเงาแห่งความพ่ายแพ้สงคราม และประเทศก็ตกอยู่ในสภาวะที่บิดเบี้ยว ในเวลาขณะนี้ชาวอเมริกันก็มาถึง แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะสามารถควบคุมญี่ปุ่นไว้ได้ และใช้เป็นหุ่นเชิดทิ้งไว้ในเอเชีย แต่ญี่ปุ่นกลับต้องมีความคิดพึ่งพาต้นไม้ใหญ่เช่นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นมีจิตวิทยาที่แปลกประหลาด พวกเขาประสบความสูญเสียอย่างหนักจากระเบิดปรมาณูของสหรัฐฯ แต่สิ่งนี้กลับทำให้พวกเขาอยู่ใต้อำนาจของสหรัฐอเมริกาแทน ในทางการเมืองและเศรษฐกิจ พวกเขามีความสัมพันธ์ที่แยกไม่ออกกับสหรัฐอเมริกา จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นพยายามทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อทำให้ชาวอเมริกันพอใจ หากสหรัฐฯ ต้องการโจมตีเกาหลีเหนือและจีน ญี่ปุ่นก็จะกระตือรือร้นอย่างมาก เนื่องจากปัญหาที่คั่งค้างมาทางประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นจึงไม่สามารถประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือและจีนต่อสาธารณะได้ แต่เบื้องหลังได้ช่วยเหลือสหรัฐฯมากมาย ในปี ค.ศ. 1950 ญี่ปุ่นรับหน้าที่บำรุงรักษารถบรรทุกทหารมากกว่า 6,000 คันจากสหรัฐอเมริกา และผลิตอาวุธจำนวนมากให้กับสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกัน ในระหว่างการยกพลขึ้นบกที่อินช็อน(Incheon仁川) ดักลาส แมกอาเธอร์(Douglas MacArthur道格拉斯·麦克阿瑟) พบว่า ตัวเองขาดกำลังคน แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีกำลังทหารเพียงพอ แต่ระยะทางจากอเมริกาไปยังเอเชียนั้นห่างไหลมาก เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ญี่ปุ่นจะเดินทางไปเกาหลีเหนือได้สะดวกกว่ามาก ดังนั้นในระหว่างการยกพลขึ้นบกที่อินช็อน(Incheon仁川) ในบรรดาเรือบรรทุกรถถังจำนวน 47 ลำที่กองทัพสหรัฐฯ ส่งมา จริงๆแล้วมีเรือ 30 ลำที่ขับเคลื่อนโดยคนชาวญี่ปุ่น นอกจากนี้ โดยพื้นฐานแล้วสหรัฐอเมริกายังใช้ฐานทัพอากาศในญี่ปุ่นเพื่อขนส่งวัสดุและบุคลากรตลอดช่วงสงคราม ตามสถิติที่ไม่สมบูรณ์นัก ตลอดช่วงสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นช่วยสหรัฐฯ ในการขนส่งทหารมากกว่า 3 ล้านคนและเสบียงมากกว่า 700,000 ตัน ในช่วงสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นกลายเป็นฐานทัพทหารและคลังแสงของสหรัฐอเมริกา เมื่อประเทศหนึ่งเป็นผู้ทำสงครามโดยล้างผลาญใช้ทรัพยากรของประเทศอื่น แต่ญี่ปุ่นไม่รู้สึกละอายกับสิ่งนี้ แต่กลับมีความภาคภูมิใจกับสิ่งนี้ นอกจากนี้ เศรษฐกิจของพวกเขายังได้รับการฟื้นฟูโดยการทำกำไรจากสงคราม ระหว่างปี ค.ศ. 1950 ถึงค.ศ. 1953 ญี่ปุ่นมีรายได้มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์จากการส่งออกอาวุธและยุทโธปกรณ์อื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา เมื่อสงครามสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1953 การส่งออกของญี่ปุ่นประมาณ 60% ถูกกำหนดไว้สำหรับสนามรบของเกาหลี นอกจากการส่งออกทางเศรษฐกิจแล้ว ญี่ปุ่นยังส่งคนงานจำนวนมากไปยังสนามรบเกาหลีอย่างเงียบๆ เพื่อช่วยเหลือกองทัพสหรัฐฯ ในการสู้รบ ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นบางคนในช่วงสงครามรุกรานจีนก็ถูกส่งไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อชี้แนะสหรัฐอเมริกาในการทำสงครามเชื้อโรค ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นยังได้ส่งคณะร้องเพลงและเต้นรำจำนวนมากไปยังแนวหน้าเพื่อมอบความบันเทิง และแสดงการปลอบขวัญให้กำลังใจต่อกองทัพสหรัฐฯ ญี่ปุ่นกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสงครามเกาหลีได้ขจัดความเศร้าโศกภายหลังความพ่ายแพ้ของกองทัพญี่ปุ่น หลังจากการลงนามข้อตกลงสงบศึกในปี ค.ศ. 1953 ในที่สุดสหรัฐฯ ก็ระงับความร่วมมือทางเศรษฐกิจพหุภาคีกับญี่ปุ่น ในเวลานี้ญี่ปุ่นมีความมั่งคั่งเพียงพอแล้ว แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะยอมรับมัน แม้จะเผชิญกับความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นก็ยังอินต่อเหตุการณ์มากกว่าชาวอเมริกันอีกด้วย ดังคำกล่าวที่ว่า เป็นเรื่องง่ายที่จะเพลิดเพลินไปกับร่มเงาโดยมีต้นไม้ใหญ่อยู่ด้านหลัง พวกเขามีชีวิตที่ดีได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น เนื่องมาจากเหตุการณ์สงครามที่เริ่มต้นขึ้นโดยสหรัฐอเมริกา ขณะนี้สหรัฐฯ ได้ถอนทหารออกไปแล้ว ญี่ปุ่นกังวลเรื่องความอยู่รอดของตนเองมากที่สุด ดังนั้น ก่อนที่จะลงนามข้อตกลงสงบศึก ญี่ปุ่นจึงเตรียมการหลายประการและกระชับความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาอย่างเข้มข้นเพื่อปูทางไปสู่ความมั่งคั่งหลังสงคราม ในเวลาเดียวกัน สิ่งนี้กระตุ้นให้ญี่ปุ่นเกิดความกลัวต่อจีนในระดับลึกลงไปถึงที่สุด เมื่อสงครามต่อต้านญี่ปุ่นสิ้นสุดลง ภายในประเทศญี่ปุ่นได้เกิดมีกระแสความสงสัยในตนเองเกิดขึ้นมามากมาย พวกเขาเชื่อว่ากองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นอยู่ยงคงกระพัน แต่ทำไมจีนถึงกลายเป็นผู้ชนะในเมื่อเทคโนโลยีล้าหลังมากและประเทศก็ยากจนมาก? แต่ตอนนี้ จีนไม่เพียงแต่เอาชนะญี่ปุ่นได้เท่านั้น แม้แต่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของโลกก็ยังพ่ายแพ้อีกด้วย ญี่ปุ่นยิ่งเพิ่มความสงสัยในตัวเองมากขึ้น ต้องรู้ว่าในเวลานี้ญี่ปุ่นยังไม่สลัดรอดพ้นเงาของประเทศลัทธิรัฐเผด็จการทหาร แม้กระทั้งว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่ลัทธิรัฐเผด็จการทหารก็ยังแสดงสัญญาณของการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นในด้านสุดขั้วของจิตวิทยาของพวกเขาจึงทำให้พวกเขาไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกาได้เลย ในหนังสือพิมพ์ ญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการพูดถึงชัยชนะของจีน แต่กลับพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาสาเหตุของความล้มเหลวของสหรัฐฯ แน่นอนว่ามีการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น นับตั้งแต่การลงนามข้อตกลงสงบศึกในปี ค.ศ. 1953 ในภาษาเขียนของญี่ปุ่น คำว่า“จวือน่า(支那)”ชื่อเรียกที่แฝงด้วยการดูถูกดูแคลนนี้ค่อยๆหายไป ในความเป็นจริง ในช่วงต้นปึ ค.ศ. 1946 สหรัฐฯ สั่งให้ญี่ปุ่นไม่ให้ใช้ คำว่า“จวือน่า(支那)”และอื่นๆชื่อเรียกที่แฝงด้วยการดูถูกดูแคลน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกฎระเบียบอย่างเป็นทางการ คนญี่ปุ่นก็ยังคงไปตามทางของตัวเอง เพราะพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนความดูถูกภายในใจที่มีต่อจีนได้ และถึงกับเชื่ออย่างหยิ่งผยองว่ารัฐบาลจีนใหม่จะอยู่ได้ไม่นาน จนถึงสงครามเกาหลีทำให้พวกเขาตระหนักถึงความเป็นจริง สงครามครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษต่อจีน โดยประกาศให้โลกรู้ว่าจีนกำลังผงาดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือประเทศในยุโรป พวกเขาค่อยๆ ตระหนักว่าจีนไม่ใช่คนป่วยของเอเชียตะวันออกอีกต่อไป ในช่วงหลายปีหลังสงครามเกาหลี แม้ว่าโลกยังคงประสบกับความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์ที่จีนเผชิญยังคงยากลำบาก ในสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียดเช่นนี้ สถานะระหว่างประเทศของจีนยังคงดีขึ้นทีละขั้น ทั้งหมดนี้แยกออกจากรากฐานที่วางไว้โดยการการช่วยเหลือเกาหลีรบต่อต้านการรุกรานของสหรัฐฯ ดังนั้น ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของสงครามเกาหลีจึงสมควรได้รับการจดจำตลอดไปโดยคนรุ่นต่อๆ ไป 🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 799 มุมมอง 0 รีวิว
  • อันพญาครุฑบัดนี้พระนารายณ์เกิดบั่นทอนเกิดภยันตรายจากพวกเราปีศาจพวกมิจฉาทิฐิขอให้เหล่าพญาครุฑกระพือปีกให้พวกมันไปไกลสุดขอบจักรวาลเข้าหลุมดำไม่มีวันกลับมาอีกต่อไปหรือพัดไปลงสู่อเวจีมหานรกไปสู่นรกแห่งการโกงกินรับผิดในกฎแห่งกรรมณบัดนี้ด้วยเถิด
    อันพญาครุฑบัดนี้พระนารายณ์เกิดบั่นทอนเกิดภยันตรายจากพวกเราปีศาจพวกมิจฉาทิฐิขอให้เหล่าพญาครุฑกระพือปีกให้พวกมันไปไกลสุดขอบจักรวาลเข้าหลุมดำไม่มีวันกลับมาอีกต่อไปหรือพัดไปลงสู่อเวจีมหานรกไปสู่นรกแห่งการโกงกินรับผิดในกฎแห่งกรรมณบัดนี้ด้วยเถิด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความยิ่งใหญ่ของวัตถุในจักรวาลเมื่อเทียบกับโลก
    #จักรวาล #อวกาศ #หลุมดำ
    ความยิ่งใหญ่ของวัตถุในจักรวาลเมื่อเทียบกับโลก #จักรวาล #อวกาศ #หลุมดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 32 0 รีวิว
  • หลุมดำแห่งบางบอน
    ฉายานี้ ได้ยินมาว่า ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
    คนแถวนั้นเค้ารู้จักเธอดี
    เป็นคำตอบว่าทำไม เธอถึงได้กล้าแสดงพฤติกรรมแย่ๆ
    บ่อยครั้ง นั่นก็เพราะมีที่มาจากประสบการณ์
    อันมากมายหลากหลาย จนดุจหลุมดำ
    พร้อมกลืนกินวัตถุใดๆ
    ถ้ารู้ความจริง อาจต้องอุทันลั่นว่า
    ไอซ์ "โหหหหห บี๋ๆๆๆๆๆ"
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ไอซ์
    #บางบอน
    #หลุมดำแห่งบางบอน
    หลุมดำแห่งบางบอน ฉายานี้ ได้ยินมาว่า ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย คนแถวนั้นเค้ารู้จักเธอดี เป็นคำตอบว่าทำไม เธอถึงได้กล้าแสดงพฤติกรรมแย่ๆ บ่อยครั้ง นั่นก็เพราะมีที่มาจากประสบการณ์ อันมากมายหลากหลาย จนดุจหลุมดำ พร้อมกลืนกินวัตถุใดๆ ถ้ารู้ความจริง อาจต้องอุทันลั่นว่า ไอซ์ "โหหหหห บี๋ๆๆๆๆๆ" #คิงส์โพธิ์แดง #ไอซ์ #บางบอน #หลุมดำแห่งบางบอน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว