• เรื่องเล่าจากข่าว: Virtual Boy กลับมาในสีสันสดใส บน 3DS ผ่านอีมูเลเตอร์ Red Viper

    ย้อนกลับไปเมื่อปี 1995 Nintendo เปิดตัว Virtual Boy เครื่องเกมพกพาแบบ VR ที่ใช้จอ LED สีแดงสองจอเพื่อสร้างภาพสามมิติ แม้จะล้ำยุค แต่ก็ล้มเหลวอย่างรวดเร็วเพราะภาพสีแดง-ดำที่ทำให้ผู้เล่นปวดหัว และข้อจำกัดด้านการพกพา

    แต่ในปี 2025 นี้ Red Viper—a Virtual Boy emulator สำหรับ 3DS—ได้ออกเวอร์ชัน 1.0 เพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของเครื่องเกมนี้ โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เปลี่ยนประสบการณ์เดิมให้สดใสขึ้น:
    - รองรับการปรับแต่งสีได้ถึง 4 ระดับ
    - เล่นเกมได้เต็มความเร็วทุกเกม
    - รองรับ Circle Pad Pro และการควบคุมแบบใหม่
    - ใช้จอ 3DS แบบ glasses-free เพื่อสร้างภาพสามมิติที่ใกล้เคียงต้นฉบับ

    ผู้ใช้สามารถเลือกสีใหม่ผ่านหน้าจอสัมผัส และบันทึกพาเลตต์เฉพาะสำหรับแต่ละเกมได้ ทำให้เกมอย่าง Red Alarm หรือ Wario Land ดูมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    Red Viper เวอร์ชัน 1.0 เปิดตัวบน 3DS เพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของ Virtual Boy
    รองรับการเล่นเกมทุกเกมอย่างเต็มความเร็ว
    ใช้จอ 3DS เพื่อจำลองภาพสามมิติแบบต้นฉบับ

    เพิ่มฟีเจอร์ปรับแต่งสีแบบเต็มรูปแบบ
    ผู้เล่นสามารถเลือกสีได้ 4 ระดับ: Darkest, Dark, Light, Lightest
    ปรับความสว่างและความอิ่มสีได้ผ่านหน้าจอสัมผัส

    รองรับการควบคุมใหม่ เช่น Circle Pad Pro และการแมปปุ่มแบบกำหนดเอง
    เพิ่มความสะดวกในการเล่นเกมที่ต้องการความแม่นยำ
    รองรับการบันทึกสถานะเกมและเซฟไฟล์

    สามารถติดตั้งผ่าน Universal Updater หรือ GitHub สำหรับผู้ใช้ 3DS ที่ติดตั้ง custom firmware แล้ว
    ต้องมี ROM ของ Virtual Boy ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
    รองรับการสร้าง “forwarder” เพื่อให้เกมปรากฏบนเมนูหลักของ 3DS

    มีการปรับปรุงประสิทธิภาพ เช่น double buffering และ interrupt prediction
    ลดการกระตุกและปรับความเร็วให้ใกล้เคียงเครื่องจริง
    แก้บั๊กในเกมอย่าง Space Invaders และ Golf

    Virtual Boy มีเกมเพียง 22 เกม และถูกยกเลิกภายใน 1 ปีหลังเปิดตัว
    เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลวที่สุดของ Nintendo
    แต่กลายเป็นของสะสมที่หายากในหมู่แฟนเกม

    Red Viper เป็นอีมูเลเตอร์ที่แม่นยำที่สุดสำหรับ Virtual Boy บนทุกแพลตฟอร์ม
    รองรับการจำลองเวลา render และเสียงแบบต้นฉบับ
    มีโหมด anaglyph สำหรับผู้ใช้ 2DS ที่ไม่มีจอสามมิติ

    การเพิ่มสีช่วยให้เกม Virtual Boy เล่นง่ายขึ้นและดูมีชีวิตชีวา
    เช่น การใช้สีเหลือง-เขียวเพื่อแยกศัตรูออกจากฉากหลัง
    ช่วยให้เกมอย่าง Red Alarm และ Jack Bros. เล่นสนุกขึ้นมาก

    ยังมีอีมูเลเตอร์ Virtual Boy สำหรับ Meta Quest และ Apple Vision Pro
    ให้ประสบการณ์ VR ที่ใกล้เคียงต้นฉบับมากขึ้น
    เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเล่นในรูปแบบ immersive

    ต้องใช้เครื่อง 3DS ที่ติดตั้ง custom firmware เท่านั้น
    ไม่สามารถใช้งานบนเครื่องที่ไม่ได้เจลเบรก
    อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยหากติดตั้งผิดวิธี

    ผู้ใช้ต้องหา ROM ด้วยตนเอง ซึ่งอาจมีข้อกฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์
    การดาวน์โหลด ROM โดยไม่ได้เป็นเจ้าของอาจผิดกฎหมาย
    ควรใช้เฉพาะ ROM ที่ได้จากการสำรองข้อมูลของตนเอง

    ไม่มีพาเลตต์สีสำเร็จรูป ต้องปรับแต่งเองในแต่ละเกม
    อาจต้องใช้เวลาในการทดลองเพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม
    หากไม่บันทึกพาเลตต์ อาจต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้ง

    ภาพที่ได้อาจไม่ตรงกับศิลปะต้นฉบับของเกม 8-bit หรือ pixel art
    สีที่เลือกอาจทำให้ภาพดูผิดเพี้ยนจากต้นฉบับ
    ต้องเลือกสีอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เสียอรรถรส

    https://www.techspot.com/news/108892-30-years-later-virtual-boy-games-finally-playable.html
    🎮 เรื่องเล่าจากข่าว: Virtual Boy กลับมาในสีสันสดใส บน 3DS ผ่านอีมูเลเตอร์ Red Viper ย้อนกลับไปเมื่อปี 1995 Nintendo เปิดตัว Virtual Boy เครื่องเกมพกพาแบบ VR ที่ใช้จอ LED สีแดงสองจอเพื่อสร้างภาพสามมิติ แม้จะล้ำยุค แต่ก็ล้มเหลวอย่างรวดเร็วเพราะภาพสีแดง-ดำที่ทำให้ผู้เล่นปวดหัว และข้อจำกัดด้านการพกพา แต่ในปี 2025 นี้ Red Viper—a Virtual Boy emulator สำหรับ 3DS—ได้ออกเวอร์ชัน 1.0 เพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของเครื่องเกมนี้ โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เปลี่ยนประสบการณ์เดิมให้สดใสขึ้น: - รองรับการปรับแต่งสีได้ถึง 4 ระดับ - เล่นเกมได้เต็มความเร็วทุกเกม - รองรับ Circle Pad Pro และการควบคุมแบบใหม่ - ใช้จอ 3DS แบบ glasses-free เพื่อสร้างภาพสามมิติที่ใกล้เคียงต้นฉบับ ผู้ใช้สามารถเลือกสีใหม่ผ่านหน้าจอสัมผัส และบันทึกพาเลตต์เฉพาะสำหรับแต่ละเกมได้ ทำให้เกมอย่าง Red Alarm หรือ Wario Land ดูมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ✅ Red Viper เวอร์ชัน 1.0 เปิดตัวบน 3DS เพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของ Virtual Boy ➡️ รองรับการเล่นเกมทุกเกมอย่างเต็มความเร็ว ➡️ ใช้จอ 3DS เพื่อจำลองภาพสามมิติแบบต้นฉบับ ✅ เพิ่มฟีเจอร์ปรับแต่งสีแบบเต็มรูปแบบ ➡️ ผู้เล่นสามารถเลือกสีได้ 4 ระดับ: Darkest, Dark, Light, Lightest ➡️ ปรับความสว่างและความอิ่มสีได้ผ่านหน้าจอสัมผัส ✅ รองรับการควบคุมใหม่ เช่น Circle Pad Pro และการแมปปุ่มแบบกำหนดเอง ➡️ เพิ่มความสะดวกในการเล่นเกมที่ต้องการความแม่นยำ ➡️ รองรับการบันทึกสถานะเกมและเซฟไฟล์ ✅ สามารถติดตั้งผ่าน Universal Updater หรือ GitHub สำหรับผู้ใช้ 3DS ที่ติดตั้ง custom firmware แล้ว ➡️ ต้องมี ROM ของ Virtual Boy ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ➡️ รองรับการสร้าง “forwarder” เพื่อให้เกมปรากฏบนเมนูหลักของ 3DS ✅ มีการปรับปรุงประสิทธิภาพ เช่น double buffering และ interrupt prediction ➡️ ลดการกระตุกและปรับความเร็วให้ใกล้เคียงเครื่องจริง ➡️ แก้บั๊กในเกมอย่าง Space Invaders และ Golf ✅ Virtual Boy มีเกมเพียง 22 เกม และถูกยกเลิกภายใน 1 ปีหลังเปิดตัว ➡️ เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลวที่สุดของ Nintendo ➡️ แต่กลายเป็นของสะสมที่หายากในหมู่แฟนเกม ✅ Red Viper เป็นอีมูเลเตอร์ที่แม่นยำที่สุดสำหรับ Virtual Boy บนทุกแพลตฟอร์ม ➡️ รองรับการจำลองเวลา render และเสียงแบบต้นฉบับ ➡️ มีโหมด anaglyph สำหรับผู้ใช้ 2DS ที่ไม่มีจอสามมิติ ✅ การเพิ่มสีช่วยให้เกม Virtual Boy เล่นง่ายขึ้นและดูมีชีวิตชีวา ➡️ เช่น การใช้สีเหลือง-เขียวเพื่อแยกศัตรูออกจากฉากหลัง ➡️ ช่วยให้เกมอย่าง Red Alarm และ Jack Bros. เล่นสนุกขึ้นมาก ✅ ยังมีอีมูเลเตอร์ Virtual Boy สำหรับ Meta Quest และ Apple Vision Pro ➡️ ให้ประสบการณ์ VR ที่ใกล้เคียงต้นฉบับมากขึ้น ➡️ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเล่นในรูปแบบ immersive ‼️ ต้องใช้เครื่อง 3DS ที่ติดตั้ง custom firmware เท่านั้น ⛔ ไม่สามารถใช้งานบนเครื่องที่ไม่ได้เจลเบรก ⛔ อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยหากติดตั้งผิดวิธี ‼️ ผู้ใช้ต้องหา ROM ด้วยตนเอง ซึ่งอาจมีข้อกฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ ⛔ การดาวน์โหลด ROM โดยไม่ได้เป็นเจ้าของอาจผิดกฎหมาย ⛔ ควรใช้เฉพาะ ROM ที่ได้จากการสำรองข้อมูลของตนเอง ‼️ ไม่มีพาเลตต์สีสำเร็จรูป ต้องปรับแต่งเองในแต่ละเกม ⛔ อาจต้องใช้เวลาในการทดลองเพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม ⛔ หากไม่บันทึกพาเลตต์ อาจต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้ง ‼️ ภาพที่ได้อาจไม่ตรงกับศิลปะต้นฉบับของเกม 8-bit หรือ pixel art ⛔ สีที่เลือกอาจทำให้ภาพดูผิดเพี้ยนจากต้นฉบับ ⛔ ต้องเลือกสีอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เสียอรรถรส https://www.techspot.com/news/108892-30-years-later-virtual-boy-games-finally-playable.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    30 years later, Virtual Boy games are finally playable in color
    Nintendo 3DS owners who install custom firmware can now play Virtual Boy games in colors other than black and red. The functionality comes with a significant update...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • Melk River Cruise Port จุดแวะสุดคลาสสิคริมแม่น้ำดานูบ ที่งดงามทั้งศิลปะ ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติ
    ท่าเรือขนาดเล็กแต่สำคัญบนเส้นทางล่องเรือแม่น้ำดานูบ (Danube River) ประเทศออสเตรีย
    ตั้งอยู่ในเมืองเมลค์ (Melk) เมืองเก่าแก่ที่รายล้อมด้วยทัศนียภาพอันเขียวชอุ่มของหุบเขา Wachau ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO

    ⭐️ Melk Abbey มหาวิหารเมลค์
    ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1089 โดยราชวงศ์ Babenberg เป็นอารามเบเนดิกตินที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป สถาปัตยกรรมสไตล์บาโรกออสเตรีย ตกแต่งด้วยทองคำแท้และภาพเขียนฝ้าเพดานอันงดงาม

    ⭐️ Melk Old Town เมืองเก่าเมลค์
    เมืองเล็กๆ มีถนนคนเดินสายหลักชื่อ Hauptstraße เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านกาแฟ และร้านขนมหวาน อาคารส่วนใหญ่สร้างในสไตล์บาโรกและนีโอคลาสสิก

    ⭐️ Schallaburg Castle ปราสาทชัลลาบวร์ก
    ปราสาทสมัย เรอเนสซองส์ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี โดดเด่นด้วย ลานโค้งเสา (Arcaded Courtyard) และ งานปูนปั้นแบบอิตาเลียน ภายในมีการจัด นิทรรศการพิเศษหมุนเวียน

    ⭐️ Aggstein Castle Ruins ปราสาทซากอักชไตน์
    ซากปราสาทยุคกลางที่สร้างตั้งแต่ ศตวรรษที่ 12 ตั้งอยู่บนเขาสูงริมแม่น้ำ วิวจากบนนี้มองเห็นแม่น้ำดานูบและหุบเขาวาเคาได้กว้างไกล มีบันไดหิน ทางเดินเก่า และห้องแสดงประวัติศาสตร์

    สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที!
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #MelkRiverCruisePort #DanubeRiver #Austria #MelkAbbey #MelkOldTown #SchallaburgCastle #AggsteinCastleRuins #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ข่าวอัพเดต #เที่ยว
    Melk River Cruise Port จุดแวะสุดคลาสสิคริมแม่น้ำดานูบ ที่งดงามทั้งศิลปะ ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติ ท่าเรือขนาดเล็กแต่สำคัญบนเส้นทางล่องเรือแม่น้ำดานูบ (Danube River) ประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ในเมืองเมลค์ (Melk) เมืองเก่าแก่ที่รายล้อมด้วยทัศนียภาพอันเขียวชอุ่มของหุบเขา Wachau ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ⭐️ Melk Abbey มหาวิหารเมลค์ ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1089 โดยราชวงศ์ Babenberg เป็นอารามเบเนดิกตินที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป สถาปัตยกรรมสไตล์บาโรกออสเตรีย ตกแต่งด้วยทองคำแท้และภาพเขียนฝ้าเพดานอันงดงาม ⭐️ Melk Old Town เมืองเก่าเมลค์ เมืองเล็กๆ มีถนนคนเดินสายหลักชื่อ Hauptstraße เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านกาแฟ และร้านขนมหวาน อาคารส่วนใหญ่สร้างในสไตล์บาโรกและนีโอคลาสสิก ⭐️ Schallaburg Castle ปราสาทชัลลาบวร์ก ปราสาทสมัย เรอเนสซองส์ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี โดดเด่นด้วย ลานโค้งเสา (Arcaded Courtyard) และ งานปูนปั้นแบบอิตาเลียน ภายในมีการจัด นิทรรศการพิเศษหมุนเวียน ⭐️ Aggstein Castle Ruins ปราสาทซากอักชไตน์ ซากปราสาทยุคกลางที่สร้างตั้งแต่ ศตวรรษที่ 12 ตั้งอยู่บนเขาสูงริมแม่น้ำ วิวจากบนนี้มองเห็นแม่น้ำดานูบและหุบเขาวาเคาได้กว้างไกล มีบันไดหิน ทางเดินเก่า และห้องแสดงประวัติศาสตร์ สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที! https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 : 0 2116 9696 #MelkRiverCruisePort #DanubeRiver #Austria #MelkAbbey #MelkOldTown #SchallaburgCastle #AggsteinCastleRuins #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ข่าวอัพเดต #เที่ยว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • นาฬิกาปลุก
    ปี พศ 2568

    วันหนึ่งนานประมาณยี่สิบปีมาแล้ว ผมนั่งรถลงใต้ มันเป็นช่วงต้นหน้าฝนฟ้าครึ้ม
    อากาศกำลังสบาย ผมนั่งเหม่อ ๆ ดู 2 ข้างทางไปเรื่อย ๆ
    สัก 4 โมงเย็นรถก็ผ่านตรงช่วงเขาวัง เพชรบุรี ผมมองขึ้นไปที่พระราชวังบนยอดเขา
    เห็นแสงแดดกำลังส่องทะลุเมฆไปต้องพระราชวัง ทำให้พระราชวังงดงามเหลือเกิน
    ผมยกมือไหว้สักการะอย่างที่ทำทุกครั้งที่ผ่าน …
    ความรู้สึกของผมตอนนั้นบอกไม่ถูก เหมือนข้ามเวลา ข้ามมิติ
    ผมนึกในใจ นี่คงเหมือนเราเห็นสวรรค์กระมังนะ …ยังไม่เคยไป ได้แต่เดา

    แล้วรถก็แล่นผ่านทุ่งนากับต้นตาล ที่ยังพอมีให้เห็นชื่นใจ
    ดวงอาทิตย์เริ่มส่องแสงออกมามากขึ้น มันเป็นเวลาที่เขาเรียกว่าแดดสวย
    ผมมองทุ่งนาสีเขียวสดผืนใหญ่ กับทิวเขายาวอยู่ไกล ๆ
    เมฆที่ยอดเขาสะท้อนกับแสงอาทิตย์ สีสวยจัด มันสวยสงบและรู้สึกอบอุ่น
    เป็นภาพที่อยู่ในใจผมอย่างไม่มีวันจาง ทุกครั้งที่ผมนึกถึงวันนั้น
    ผมจะมีอาการตื้นตันบอกตัวเอง นี่ คือ … วาสนาของชาวสยาม…
    วาสนาที่บางทีเราลืมที่จะนึกถึงและรับรู้… เพราะถูกบดบังจากสิ่งลวงตา

    เราอยู่ในแผ่นดิน ที่เคยได้รับคำกล่าวขานว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มีความอุดมสมบูรณ์
    มีศาสนา มีสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการศึกษา การอบรมเลี้ยงดู ศิลปะ วัฒนธรรมประเพณี
    ชีวิตความเป็นอยู่ที่สอดคล้องกับธรรมชาติของบ้านเรามาเป็นเวลานานแล้ว …

    แต่ปัจจุบันนี้ ดูเหมือนเราจะมองข้าม หรือไม่ใส่ใจจริง
    กับความโชคดีและวาสนาของเรานัก …เรามักจะหลงไหลได้ปลื้ม
    กับบรรดาสรรพสิ่งไม่ว่าเป็นรูปแบบใด ที่ “พวกตะวันตก” เขาเอามาฝังหัวลวงหลอกเราไว้
    แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนจะแกะลอกล้างสิ่งที่พวกเขาฝั่งเอาไว้ไม่ออก
    ไม่สะอาดหมดจดเสียที

    ผมตั้งข้อสังเกต ปนสงสัยมานานแล้วว่าเหตุการณ์ในบ้านเมืองเรา
    ที่เกิดขึ้นอย่างน้อยก็ตั้งแต่ช่วงก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง น่าจะมีส่วนเกี่ยวโยง
    กับปัจจัยนอกบ้าน มากกว่าที่เราคิด
    ผมค่อย ๆ หาข้อมูลมาอ่านแก้ความสงสัยของตัวเองไปเรื่อย ๆ แต่มันไปไม่ได้
    ไกลอย่างที่ต้องการ เพราะเวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการทำงานเพื่อดำรงชีพ
    และก็ไปทำเรื่องอื่น ๆ ที่สุดท้ายแล้ว ก็เลยยังไม่ได้คำตอบมาแก้ข้อสงสัยที่ค้างอยู่นั้น

    หลายสิบปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ในบ้านเราเกิดขึ้นมากมาย มีความพยายามแก้ปัญหา
    แต่เหมือนแก้ไม่ถูกจุด เหมือนเรามองข้าม หรือเรามองปัญหาไม่แตก
    มันทำให้ผมย้อนกลับมาคิดถึงข้อสงสัย เกี่ยวกับปัจจัยนอกบ้านที่ยังคาใจผมอยู่

    และถ้ามันเป็นอย่างที่ผมสงสัยจริง…และถ้าเราไม่ตื่นมารู้เรื่องด้วยกัน
    อีกไม่นานหรอก ประเทศเราอาจจะตกเป็นเหยื่อ เป็นอาณานิคมในรูปแบบใหม่ต่อไป
    และวันนั้น สีของธงชาติเราไม่รู้จะยังอยู่ครบไหม
    สถาบันที่เรารักเคารพ วัดพระแก้ว เขาวัง ท้องนาสีเขียวและอีกหลาย ๆ อย่าง ฯลฯ
    ไม่รู้จะเหลืออยู่แค่ไหน แบบไหน…หรือมันจะกลายเป็นเหมือนหลายๆเมือง
    ที่เราเห็นในข่าว !?!

    คำถามเกิดขึ้นในหัวเต็มไปหมด

    ผมบอกตัวเองว่า มันคงจะดีไม่น้อย ถ้าชาวสยามรับรู้ถึงวาสนาของตนเอง
    และทำความเข้าใจกับความเป็นไปทั้งนอกบ้านและในบ้านเมืองของเราให้มากขึ้น
    จะได้มีความหวงและห่วงใยบ้านเมืองของเรา…บ้านของเรานะครับ

    ผมนึกถึงวันที่ผมเห็นแดดทอแสงสวยบนเขาวัง กับท้องนาที่เขียวชอุ่มกับเมฆสีสวย

    แล้วผมก็ตัดสินใจเขียนนิทาน เกี่ยวกับการเมืองโลก ทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยเขียนอะไร
    เป็นเรื่องเป็นราวมาก่อนเลย ผมเล่ามุมมองของผม แบบอ่านง่าย ๆ และนำมาลง
    ให้อ่านผ่านเพจนิทานเรื่องจริง ตำนานการลวงหลอกล่อฯ ทางเฟสบุ๊ก
    ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.2556 …
    ผมเขียนไปและอ่านข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมไปเรื่อย ๆทุกวันๆละประมาณ 10 ชั่วโมง
    มาตลอด เว้นแต่ช่วงเวลาที่สุขภาพของผมไม่อำนวย จนถึงตอนนี้ (พศ 2568)
    ผมมีเอกสารและหนังสือที่ใช้เขียนนิทาน ถึง 4 ตู้ใหญ่ 5 ตู้เล็ก กับอีก 20 กล่อง

    เมื่อผมเริ่มเขียนนิทาน ผมมีความเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย ว่าการล่าเหยื่อ
    ล่าอาณานิคมยังมีอยู่ เพียงแต่มีการพรางตัวเปลี่ยนรูปแบบการล่าไปตามยุคสมัย
    มันไม่ใช่เป็นเพียงข้อสังเกตหรือข้อสงสัยอีกแล้ว …สำหรับผมมันเป็นข้อเท็จจริง…
    บ้านเมืองเราตกเป็นเหยื่อของต่างชาติ มานานเต็มทีแล้ว!!

    และมาถึงวันนี้ ผมเชื่อว่าโลกเรากำลังจะก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่
    ในอีกไม่นานนัก และการเปลี่ยนแปลงนั้น อาจจะมาเร็วจนเราตั้งตัวตั้งสติไม่ทัน

    บ้านเรามีการเตรียมการอะไรไหม ผมตอบไม่ได้ ผมไม่ได้เป็นผู้บริหารประเทศ
    สิ่งที่ผมพอทำได้ในฐานะประชาชน และกำลังทำอยู่ คือ เล่านิทาน
    เพื่อให้ทำหน้าที่เหมือนเป็นนาฬิกาปลุก ให้เพื่อนร่วมชาติตื่นขึ้นมาสนใจ
    เหตุการณ์นอกบ้าน ที่อาจกระทบกับบ้านเมืองเรา และเกิดความรู้สึกห่วงใย
    หวงแหนบ้านเมืองของเราบ้าง พร้อมกับเตรียมการเตรียมตัวรับมือ
    กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก…
    ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ว่าอาจจะหนักหนาสาหัสยิ่งนัก !!!

    นิทานแต่ละเรื่อง แม้จะเขียนเรื่องต่างประเทศ แต่ผมได้พยายามเขียนระหว่างบรรทัด
    ให้ข้อคิดเกี่ยวกับบ้านเมืองของเราไปด้วย ผมพยายามร้อยเรียงนิทาน
    โดยเริ่มจากเรื่องในบ้านเรา เล่ามาเรื่อย ๆ ถึง การล่าการตกเป็นเหยื่อ
    การต่อสู้ดิ้นรนของเหยื่อ และวิธีการของนักล่าในการงับเหยื่อในรูปแบบต่างๆ
    เพื่อไม่ให้เหยื่อมีโอกาสหลุดออกจากปากของมัน และตัวละครสำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

    มาถึงปัจจุบันนี้ (เดือน เมษายน พศ 2568)
    ผมไม่แน่ใจว่าผมจะมีกำลังเขียนนิทานลงในเพจไปได้อีกหรือไม่
    หรือเขียนได้อีกนานเท่าไหร่ เนื่องจากสภาพสังขารของผมเอง
    และปัจจัยอื่น ที่มันเกินการควบคุมของผม …

    ผมคาดว่านิทานเรื่องจริงฯ ที่ผมเขียนมานั้น น่าจะเป็นที่สนใจสำหรับผู้ที่ติดตาม
    การเมืองโลก และเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการรักษาชาติบ้านเมือง รักษาแผ่นดิน
    และสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรา…
    และยังทำหน้าที่เป็นนาฬิกาปลุกที่ไม่ล้าสมัยเกินไป
    ผมจึงเอานิทานเรื่องจริงฯ เล่มที่ 1 ถึง 9 (หน้าปกสีส้ม)ที่เคยได้ตีพิมพ์มาครั้งหนึ่ง
    เมื่อเดือนตุลาคม พศ 2559 และเล่มที่ 10 (หน้าปกสีส้ม) เมื่อเดือนมีนาคม พศ 2560
    รวมทั้งนิทานที่เขียนและลงโพสต์ไปแล้วทั้งหมด จนถึงเรื่องสุดท้าย (ปี พศ 2567)
    (หน้าปกสีน้ำเงิน) แต่ยังไม่ได้มีโอกาสตีพิมพ์เป็นเล่ม มาจัดให้อยู่ในรูปเว็บไซต์
    อย่างเป็นระบบ เพื่อผู้ที่มีความสนใจ จะได้เข้าถึงอย่างสะดวกขึ้น…

    ขอบคุณครับ
    จากคนเล่านิทาน
    20 เมษายน 2568
    นาฬิกาปลุก ปี พศ 2568 วันหนึ่งนานประมาณยี่สิบปีมาแล้ว ผมนั่งรถลงใต้ มันเป็นช่วงต้นหน้าฝนฟ้าครึ้ม อากาศกำลังสบาย ผมนั่งเหม่อ ๆ ดู 2 ข้างทางไปเรื่อย ๆ สัก 4 โมงเย็นรถก็ผ่านตรงช่วงเขาวัง เพชรบุรี ผมมองขึ้นไปที่พระราชวังบนยอดเขา เห็นแสงแดดกำลังส่องทะลุเมฆไปต้องพระราชวัง ทำให้พระราชวังงดงามเหลือเกิน ผมยกมือไหว้สักการะอย่างที่ทำทุกครั้งที่ผ่าน … ความรู้สึกของผมตอนนั้นบอกไม่ถูก เหมือนข้ามเวลา ข้ามมิติ ผมนึกในใจ นี่คงเหมือนเราเห็นสวรรค์กระมังนะ …ยังไม่เคยไป ได้แต่เดา แล้วรถก็แล่นผ่านทุ่งนากับต้นตาล ที่ยังพอมีให้เห็นชื่นใจ ดวงอาทิตย์เริ่มส่องแสงออกมามากขึ้น มันเป็นเวลาที่เขาเรียกว่าแดดสวย ผมมองทุ่งนาสีเขียวสดผืนใหญ่ กับทิวเขายาวอยู่ไกล ๆ เมฆที่ยอดเขาสะท้อนกับแสงอาทิตย์ สีสวยจัด มันสวยสงบและรู้สึกอบอุ่น เป็นภาพที่อยู่ในใจผมอย่างไม่มีวันจาง ทุกครั้งที่ผมนึกถึงวันนั้น ผมจะมีอาการตื้นตันบอกตัวเอง นี่ คือ … วาสนาของชาวสยาม… วาสนาที่บางทีเราลืมที่จะนึกถึงและรับรู้… เพราะถูกบดบังจากสิ่งลวงตา เราอยู่ในแผ่นดิน ที่เคยได้รับคำกล่าวขานว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มีความอุดมสมบูรณ์ มีศาสนา มีสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการศึกษา การอบรมเลี้ยงดู ศิลปะ วัฒนธรรมประเพณี ชีวิตความเป็นอยู่ที่สอดคล้องกับธรรมชาติของบ้านเรามาเป็นเวลานานแล้ว … แต่ปัจจุบันนี้ ดูเหมือนเราจะมองข้าม หรือไม่ใส่ใจจริง กับความโชคดีและวาสนาของเรานัก …เรามักจะหลงไหลได้ปลื้ม กับบรรดาสรรพสิ่งไม่ว่าเป็นรูปแบบใด ที่ “พวกตะวันตก” เขาเอามาฝังหัวลวงหลอกเราไว้ แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนจะแกะลอกล้างสิ่งที่พวกเขาฝั่งเอาไว้ไม่ออก ไม่สะอาดหมดจดเสียที ผมตั้งข้อสังเกต ปนสงสัยมานานแล้วว่าเหตุการณ์ในบ้านเมืองเรา ที่เกิดขึ้นอย่างน้อยก็ตั้งแต่ช่วงก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง น่าจะมีส่วนเกี่ยวโยง กับปัจจัยนอกบ้าน มากกว่าที่เราคิด ผมค่อย ๆ หาข้อมูลมาอ่านแก้ความสงสัยของตัวเองไปเรื่อย ๆ แต่มันไปไม่ได้ ไกลอย่างที่ต้องการ เพราะเวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการทำงานเพื่อดำรงชีพ และก็ไปทำเรื่องอื่น ๆ ที่สุดท้ายแล้ว ก็เลยยังไม่ได้คำตอบมาแก้ข้อสงสัยที่ค้างอยู่นั้น หลายสิบปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ในบ้านเราเกิดขึ้นมากมาย มีความพยายามแก้ปัญหา แต่เหมือนแก้ไม่ถูกจุด เหมือนเรามองข้าม หรือเรามองปัญหาไม่แตก มันทำให้ผมย้อนกลับมาคิดถึงข้อสงสัย เกี่ยวกับปัจจัยนอกบ้านที่ยังคาใจผมอยู่ และถ้ามันเป็นอย่างที่ผมสงสัยจริง…และถ้าเราไม่ตื่นมารู้เรื่องด้วยกัน อีกไม่นานหรอก ประเทศเราอาจจะตกเป็นเหยื่อ เป็นอาณานิคมในรูปแบบใหม่ต่อไป และวันนั้น สีของธงชาติเราไม่รู้จะยังอยู่ครบไหม สถาบันที่เรารักเคารพ วัดพระแก้ว เขาวัง ท้องนาสีเขียวและอีกหลาย ๆ อย่าง ฯลฯ ไม่รู้จะเหลืออยู่แค่ไหน แบบไหน…หรือมันจะกลายเป็นเหมือนหลายๆเมือง ที่เราเห็นในข่าว !?! คำถามเกิดขึ้นในหัวเต็มไปหมด ผมบอกตัวเองว่า มันคงจะดีไม่น้อย ถ้าชาวสยามรับรู้ถึงวาสนาของตนเอง และทำความเข้าใจกับความเป็นไปทั้งนอกบ้านและในบ้านเมืองของเราให้มากขึ้น จะได้มีความหวงและห่วงใยบ้านเมืองของเรา…บ้านของเรานะครับ ผมนึกถึงวันที่ผมเห็นแดดทอแสงสวยบนเขาวัง กับท้องนาที่เขียวชอุ่มกับเมฆสีสวย แล้วผมก็ตัดสินใจเขียนนิทาน เกี่ยวกับการเมืองโลก ทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยเขียนอะไร เป็นเรื่องเป็นราวมาก่อนเลย ผมเล่ามุมมองของผม แบบอ่านง่าย ๆ และนำมาลง ให้อ่านผ่านเพจนิทานเรื่องจริง ตำนานการลวงหลอกล่อฯ ทางเฟสบุ๊ก ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.2556 … ผมเขียนไปและอ่านข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมไปเรื่อย ๆทุกวันๆละประมาณ 10 ชั่วโมง มาตลอด เว้นแต่ช่วงเวลาที่สุขภาพของผมไม่อำนวย จนถึงตอนนี้ (พศ 2568) ผมมีเอกสารและหนังสือที่ใช้เขียนนิทาน ถึง 4 ตู้ใหญ่ 5 ตู้เล็ก กับอีก 20 กล่อง เมื่อผมเริ่มเขียนนิทาน ผมมีความเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย ว่าการล่าเหยื่อ ล่าอาณานิคมยังมีอยู่ เพียงแต่มีการพรางตัวเปลี่ยนรูปแบบการล่าไปตามยุคสมัย มันไม่ใช่เป็นเพียงข้อสังเกตหรือข้อสงสัยอีกแล้ว …สำหรับผมมันเป็นข้อเท็จจริง… บ้านเมืองเราตกเป็นเหยื่อของต่างชาติ มานานเต็มทีแล้ว!! และมาถึงวันนี้ ผมเชื่อว่าโลกเรากำลังจะก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ ในอีกไม่นานนัก และการเปลี่ยนแปลงนั้น อาจจะมาเร็วจนเราตั้งตัวตั้งสติไม่ทัน บ้านเรามีการเตรียมการอะไรไหม ผมตอบไม่ได้ ผมไม่ได้เป็นผู้บริหารประเทศ สิ่งที่ผมพอทำได้ในฐานะประชาชน และกำลังทำอยู่ คือ เล่านิทาน เพื่อให้ทำหน้าที่เหมือนเป็นนาฬิกาปลุก ให้เพื่อนร่วมชาติตื่นขึ้นมาสนใจ เหตุการณ์นอกบ้าน ที่อาจกระทบกับบ้านเมืองเรา และเกิดความรู้สึกห่วงใย หวงแหนบ้านเมืองของเราบ้าง พร้อมกับเตรียมการเตรียมตัวรับมือ กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก… ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ว่าอาจจะหนักหนาสาหัสยิ่งนัก !!! นิทานแต่ละเรื่อง แม้จะเขียนเรื่องต่างประเทศ แต่ผมได้พยายามเขียนระหว่างบรรทัด ให้ข้อคิดเกี่ยวกับบ้านเมืองของเราไปด้วย ผมพยายามร้อยเรียงนิทาน โดยเริ่มจากเรื่องในบ้านเรา เล่ามาเรื่อย ๆ ถึง การล่าการตกเป็นเหยื่อ การต่อสู้ดิ้นรนของเหยื่อ และวิธีการของนักล่าในการงับเหยื่อในรูปแบบต่างๆ เพื่อไม่ให้เหยื่อมีโอกาสหลุดออกจากปากของมัน และตัวละครสำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มาถึงปัจจุบันนี้ (เดือน เมษายน พศ 2568) ผมไม่แน่ใจว่าผมจะมีกำลังเขียนนิทานลงในเพจไปได้อีกหรือไม่ หรือเขียนได้อีกนานเท่าไหร่ เนื่องจากสภาพสังขารของผมเอง และปัจจัยอื่น ที่มันเกินการควบคุมของผม … ผมคาดว่านิทานเรื่องจริงฯ ที่ผมเขียนมานั้น น่าจะเป็นที่สนใจสำหรับผู้ที่ติดตาม การเมืองโลก และเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการรักษาชาติบ้านเมือง รักษาแผ่นดิน และสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรา… และยังทำหน้าที่เป็นนาฬิกาปลุกที่ไม่ล้าสมัยเกินไป ผมจึงเอานิทานเรื่องจริงฯ เล่มที่ 1 ถึง 9 (หน้าปกสีส้ม)ที่เคยได้ตีพิมพ์มาครั้งหนึ่ง เมื่อเดือนตุลาคม พศ 2559 และเล่มที่ 10 (หน้าปกสีส้ม) เมื่อเดือนมีนาคม พศ 2560 รวมทั้งนิทานที่เขียนและลงโพสต์ไปแล้วทั้งหมด จนถึงเรื่องสุดท้าย (ปี พศ 2567) (หน้าปกสีน้ำเงิน) แต่ยังไม่ได้มีโอกาสตีพิมพ์เป็นเล่ม มาจัดให้อยู่ในรูปเว็บไซต์ อย่างเป็นระบบ เพื่อผู้ที่มีความสนใจ จะได้เข้าถึงอย่างสะดวกขึ้น… ขอบคุณครับ จากคนเล่านิทาน 20 เมษายน 2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระมงคลบุรี วัดมหาธาตุวรวิหาร จ.ราชบุรี ปี2542
    เหรียญพระมงคลบุรี วัดมหาธาตุวรวิหาร จ.ราชบุรี ปี2542 //พระมงคลบุรี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิคู่บ้านคู่เมือง จ.ราชบุรี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณของพระมงคลบุรีนั้น เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองราชบุรี. ผู้คนมักจะมาขอพรเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล แคล้วคลาดปลอดภัย และเจริญก้าวหน้าในชีวิต >>

    ** วัดมหาธาตุวรวิหาร อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดหน้าพระธาตุ” หรือ “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ” สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยทวารวดี ราวพุทธศตวรรษที่ 15-16 พระมงคลบุรี พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 8 ศอก 1 คืบ ศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น พระพักตร์สุโขทัย หันพระพักตร์สู่ทิศตะวันออก ด้านหลังสร้างพระหันหลังให้กันอีกหนึ่งองค์ชื่อ พระศรีนัศร์ หันพระพักตร์สู่ทิศตะวันตก การสร้างพระพุทธรูปลักษณะนี้หมายถึงอาราธนาให้ช่วยระวังภัยพิบัติด้านหน้าและหลัง เรียก พระรักษาเมือง ตามความเชื่อของคนสมัยอยุธยา >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระมงคลบุรี วัดมหาธาตุวรวิหาร จ.ราชบุรี ปี2542 เหรียญพระมงคลบุรี วัดมหาธาตุวรวิหาร จ.ราชบุรี ปี2542 //พระมงคลบุรี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิคู่บ้านคู่เมือง จ.ราชบุรี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณของพระมงคลบุรีนั้น เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองราชบุรี. ผู้คนมักจะมาขอพรเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล แคล้วคลาดปลอดภัย และเจริญก้าวหน้าในชีวิต >> ** วัดมหาธาตุวรวิหาร อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดหน้าพระธาตุ” หรือ “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ” สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยทวารวดี ราวพุทธศตวรรษที่ 15-16 พระมงคลบุรี พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 8 ศอก 1 คืบ ศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น พระพักตร์สุโขทัย หันพระพักตร์สู่ทิศตะวันออก ด้านหลังสร้างพระหันหลังให้กันอีกหนึ่งองค์ชื่อ พระศรีนัศร์ หันพระพักตร์สู่ทิศตะวันตก การสร้างพระพุทธรูปลักษณะนี้หมายถึงอาราธนาให้ช่วยระวังภัยพิบัติด้านหน้าและหลัง เรียก พระรักษาเมือง ตามความเชื่อของคนสมัยอยุธยา >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • มวยไทย กับ กุนขแมร์ 26/07/68 #มวยไทย #กุนขแมร์ #มวยเขมร #ศิลปะการต่อสู้ #กีฬามวย
    มวยไทย กับ กุนขแมร์ 26/07/68 #มวยไทย #กุนขแมร์ #มวยเขมร #ศิลปะการต่อสู้ #กีฬามวย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากคลังภาพที่มีชีวิต: เมื่อ Google Photos เปลี่ยนภาพนิ่งให้กลายเป็นวิดีโอด้วย AI

    Google Photos เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ 3 อย่างที่ใช้ AI เพื่อให้ผู้ใช้ “เล่นกับภาพ” ได้มากขึ้น:

    1️⃣. Photo-to-Video Generator
    ผู้ใช้สามารถเลือกภาพจากแกลเลอรี แล้วใส่ prompt ง่าย ๆ เช่น “Subtle movements” หรือ “I’m feeling lucky” เพื่อให้ AI สร้างวิดีโอสั้นความยาว 6 วินาที — คล้ายกับฟีเจอร์ใน Gemini หรือ TikTok AI Alive แต่ควบคุมได้น้อยกว่า

    2️⃣. Remix
    ฟีเจอร์นี้ใช้ style transfer เพื่อเปลี่ยนภาพให้เป็นรูปแบบศิลปะ เช่น:
    - ภาพสัตว์เลี้ยงกลายเป็นอนิเมะ
    - ภาพคนกลายเป็นการ์ตูนหรือ 3D animation

    จะเริ่มทยอยเปิดให้ใช้ในสหรัฐฯ ทั้งบน Android และ iOS ภายในไม่กี่สัปดาห์

    3️⃣. Create Tab
    Google เพิ่มแท็บใหม่ชื่อ “Create” เป็นศูนย์รวมฟีเจอร์สร้างสรรค์ทั้งหมด เช่น:
    - Collage
    - Highlight video
    - Photo-to-video
    - Remix

    จะเริ่มปรากฏในแอปช่วงเดือนสิงหาคม

    เพื่อความโปร่งใส Google ใช้ SynthID watermark แบบมองไม่เห็นในเนื้อหาที่สร้างด้วย AI และเพิ่มลายน้ำที่มองเห็นในวิดีโอที่สร้างขึ้น — เหมือนกับที่ใช้ในฟีเจอร์ ReImagine

    https://www.neowin.net/news/google-photos-app-updated-with-ai-that-turns-your-pictures-into-short-videos/
    🎙️ เรื่องเล่าจากคลังภาพที่มีชีวิต: เมื่อ Google Photos เปลี่ยนภาพนิ่งให้กลายเป็นวิดีโอด้วย AI Google Photos เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ 3 อย่างที่ใช้ AI เพื่อให้ผู้ใช้ “เล่นกับภาพ” ได้มากขึ้น: 1️⃣. Photo-to-Video Generator ผู้ใช้สามารถเลือกภาพจากแกลเลอรี แล้วใส่ prompt ง่าย ๆ เช่น “Subtle movements” หรือ “I’m feeling lucky” เพื่อให้ AI สร้างวิดีโอสั้นความยาว 6 วินาที — คล้ายกับฟีเจอร์ใน Gemini หรือ TikTok AI Alive แต่ควบคุมได้น้อยกว่า 2️⃣. Remix ฟีเจอร์นี้ใช้ style transfer เพื่อเปลี่ยนภาพให้เป็นรูปแบบศิลปะ เช่น: - ภาพสัตว์เลี้ยงกลายเป็นอนิเมะ - ภาพคนกลายเป็นการ์ตูนหรือ 3D animation จะเริ่มทยอยเปิดให้ใช้ในสหรัฐฯ ทั้งบน Android และ iOS ภายในไม่กี่สัปดาห์ 3️⃣. Create Tab Google เพิ่มแท็บใหม่ชื่อ “Create” เป็นศูนย์รวมฟีเจอร์สร้างสรรค์ทั้งหมด เช่น: - Collage - Highlight video - Photo-to-video - Remix จะเริ่มปรากฏในแอปช่วงเดือนสิงหาคม เพื่อความโปร่งใส Google ใช้ SynthID watermark แบบมองไม่เห็นในเนื้อหาที่สร้างด้วย AI และเพิ่มลายน้ำที่มองเห็นในวิดีโอที่สร้างขึ้น — เหมือนกับที่ใช้ในฟีเจอร์ ReImagine https://www.neowin.net/news/google-photos-app-updated-with-ai-that-turns-your-pictures-into-short-videos/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google Photos app updated with AI that turns your pictures into short videos
    Google has updated Photos with new AI features, including one that can transform images in your gallery into videos.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • โจห์ โลว์ นักธุรกิจผู้อื้อฉาว ซุกเชี่ยงไฮ้-ใช้ชื่อปลอม

    โจห์ โลว์ (Jho Low) หรือ โลว์ เต็ก โจห์ (Low Taek Jho) นักธุรกิจชาวปีนัง ประเทศมาเลเซียวัย 43 ปี ในฐานะผู้ต้องหาหลบหนีคดีทุจริตยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบี (1MDB) กองทุนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวของมาเลเซีย 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ตำรวจสากล (Interpol) ต้องการตัวมาตั้งแต่ปี 2561 ล่าสุดสองนักข่าวสายสืบสวนอย่าง แบรดลีย์ โฮป (Bradley Hope) และ ทอม ไรต์ (Tom Wright) เปิดเผยผ่านพอดแคสต์ Finding Jho Low เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ค.) ว่ายังคงใช้ชีวิตอย่างหรูหราในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และใช้หนังสือเดินทางปลอมของออสเตรเลีย

    ทั้งสองอ้างว่า อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค แนะนำให้โลว์หลบหนีออกนอกประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ แม้จะเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี แต่ก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในย่านกรีนฮิลล์ (Green Hills) ซึ่งเป็นย่านเศรษฐี มีบ้านสไตล์อเมริกันและเป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ รวมทั้งขับรถยนต์หรู และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวจีน 2 คนคอยดูแล นอกจากนี้ ยังเปิดเผยเอกสารที่ได้รับมาใหม่ เป็นหนังสือเดินทางปลอมของออสเตรเลีย ใช้ชื่อภาษากรีกว่า คอนสเตนติโนส อคิลลีส (Constantinos Achilles) อีกด้วย

    อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวของสำนักข่าวเบอร์นามา ระบุว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ไม่ทราบอย่างเป็นทางการว่า โจห์ โลว์ หนีไปประเทศจีน ต้องตรวจสอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก่อน ส่วนสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ของออสเตรเลีย ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศและการค้า (DFAT) และตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลียเพื่อสอบถามเพิ่มเติม กลับไม่ยืนยันว่าทราบเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาออสเตรเลียเคยขับไล่ทูตอิสราเอลออกไปเมื่อปี 2553 เพราะหน่วยข่าวกรองของอิสราเอล (Mossad) ใช้หนังสือเดินทางออสเตรเลียปลอมลอบ สังหารผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาสในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

    สำหรับโจห์ โลว์ ได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจเพลย์บอยคนหนึ่งในมาเลเซีย ยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบีไปซื้ออสังหาริมทรัพย์หรูหราในสหรัฐฯ รวมถึงงานศิลปะ เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และเรือยอทช์สุดหรูที่ชื่อว่า อีควลนิมิตี (Equanimity) ซึ่งถูกทางการอินโดนีเซียกักบริเวณนอกชายฝั่งเกาะบาหลี ก่อนขายทอดตลาดและนำเงินคืนรัฐบาลมาเลเซีย รวมทั้งสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์ The Wolf of Wall Street (คนจะรวย ช่วยไม่ได้) ในปี 2556 นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ซึ่งต่อมากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อ้างว่าได้รับเงินทุนจากเงินมาเลเซียที่ยักยอกมา ปัจจุบันยังคงถูกทางการมาเลเซีย สิงคโปร์ และสหรัฐฯ ออกหมายจับ

    #Newskit
    โจห์ โลว์ นักธุรกิจผู้อื้อฉาว ซุกเชี่ยงไฮ้-ใช้ชื่อปลอม โจห์ โลว์ (Jho Low) หรือ โลว์ เต็ก โจห์ (Low Taek Jho) นักธุรกิจชาวปีนัง ประเทศมาเลเซียวัย 43 ปี ในฐานะผู้ต้องหาหลบหนีคดีทุจริตยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบี (1MDB) กองทุนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวของมาเลเซีย 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ตำรวจสากล (Interpol) ต้องการตัวมาตั้งแต่ปี 2561 ล่าสุดสองนักข่าวสายสืบสวนอย่าง แบรดลีย์ โฮป (Bradley Hope) และ ทอม ไรต์ (Tom Wright) เปิดเผยผ่านพอดแคสต์ Finding Jho Low เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ค.) ว่ายังคงใช้ชีวิตอย่างหรูหราในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และใช้หนังสือเดินทางปลอมของออสเตรเลีย ทั้งสองอ้างว่า อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค แนะนำให้โลว์หลบหนีออกนอกประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ แม้จะเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี แต่ก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในย่านกรีนฮิลล์ (Green Hills) ซึ่งเป็นย่านเศรษฐี มีบ้านสไตล์อเมริกันและเป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ รวมทั้งขับรถยนต์หรู และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวจีน 2 คนคอยดูแล นอกจากนี้ ยังเปิดเผยเอกสารที่ได้รับมาใหม่ เป็นหนังสือเดินทางปลอมของออสเตรเลีย ใช้ชื่อภาษากรีกว่า คอนสเตนติโนส อคิลลีส (Constantinos Achilles) อีกด้วย อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวของสำนักข่าวเบอร์นามา ระบุว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ไม่ทราบอย่างเป็นทางการว่า โจห์ โลว์ หนีไปประเทศจีน ต้องตรวจสอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก่อน ส่วนสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ของออสเตรเลีย ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศและการค้า (DFAT) และตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลียเพื่อสอบถามเพิ่มเติม กลับไม่ยืนยันว่าทราบเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาออสเตรเลียเคยขับไล่ทูตอิสราเอลออกไปเมื่อปี 2553 เพราะหน่วยข่าวกรองของอิสราเอล (Mossad) ใช้หนังสือเดินทางออสเตรเลียปลอมลอบ สังหารผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาสในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สำหรับโจห์ โลว์ ได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจเพลย์บอยคนหนึ่งในมาเลเซีย ยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบีไปซื้ออสังหาริมทรัพย์หรูหราในสหรัฐฯ รวมถึงงานศิลปะ เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และเรือยอทช์สุดหรูที่ชื่อว่า อีควลนิมิตี (Equanimity) ซึ่งถูกทางการอินโดนีเซียกักบริเวณนอกชายฝั่งเกาะบาหลี ก่อนขายทอดตลาดและนำเงินคืนรัฐบาลมาเลเซีย รวมทั้งสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์ The Wolf of Wall Street (คนจะรวย ช่วยไม่ได้) ในปี 2556 นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ซึ่งต่อมากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อ้างว่าได้รับเงินทุนจากเงินมาเลเซียที่ยักยอกมา ปัจจุบันยังคงถูกทางการมาเลเซีย สิงคโปร์ และสหรัฐฯ ออกหมายจับ #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • สลามเมืองไทย EP26 | เอกลักษณ์ทางศาสนา มัสยิด 300 ปี (มัสยิดวาดีลฮูเซ็น หรือ มัสยิดตะโละมาเนาะ) จ.นราธิวาส

    มัสยิดวาดีลฮูเซ็น หรือ มัสยิดตะโละมาเนาะ จังหวัดนราธิวาส ยืนหยัดผ่านกาลเวลากว่า 300 ปี ในฐานะศูนย์กลางศรัทธาของพี่น้องมุสลิมชายแดนใต้ โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ทางศาสนาและศิลปะมลายูโบราณ ที่ผสมผสานกับวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนอย่างกลมกลืน

    โครงสร้างมัสยิดที่ทำด้วยไม้ทั้งหลังและหลังคาซ้อนชั้นอันวิจิตรงดงาม สะท้อนความศรัทธาและความประณีตของบรรพบุรุษ ทั้งยังเป็นสถานที่หล่อหลอมศรัทธาและความสามัคคีของผู้ศรัทธาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

    ติดตามเรื่องราวของมัสยิดตะโละมาเนาะ สัญลักษณ์แห่งความมั่นคงของศาสนาและชุมชนมุสลิมใต้ ที่แม้กาลเวลาจะผ่านไป แต่ความศรัทธายังคงงดงามและทรงคุณค่าเสมอ

    #สลามเมืองไทย #EP26 #มัสยิดตะโละมาเนาะ #มัสยิดวาดีลฮูเซ็น #เอกลักษณ์ศาสนา #ศรัทธาและวิถีมุสลิม #มรดกชายแดนใต้ #นราธิวาส #ThaiMuslimCommunity #ThaiTimes
    สลามเมืองไทย EP26 | เอกลักษณ์ทางศาสนา มัสยิด 300 ปี (มัสยิดวาดีลฮูเซ็น หรือ มัสยิดตะโละมาเนาะ) จ.นราธิวาส มัสยิดวาดีลฮูเซ็น หรือ มัสยิดตะโละมาเนาะ จังหวัดนราธิวาส ยืนหยัดผ่านกาลเวลากว่า 300 ปี ในฐานะศูนย์กลางศรัทธาของพี่น้องมุสลิมชายแดนใต้ โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ทางศาสนาและศิลปะมลายูโบราณ ที่ผสมผสานกับวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนอย่างกลมกลืน โครงสร้างมัสยิดที่ทำด้วยไม้ทั้งหลังและหลังคาซ้อนชั้นอันวิจิตรงดงาม สะท้อนความศรัทธาและความประณีตของบรรพบุรุษ ทั้งยังเป็นสถานที่หล่อหลอมศรัทธาและความสามัคคีของผู้ศรัทธาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ติดตามเรื่องราวของมัสยิดตะโละมาเนาะ สัญลักษณ์แห่งความมั่นคงของศาสนาและชุมชนมุสลิมใต้ ที่แม้กาลเวลาจะผ่านไป แต่ความศรัทธายังคงงดงามและทรงคุณค่าเสมอ #สลามเมืองไทย #EP26 #มัสยิดตะโละมาเนาะ #มัสยิดวาดีลฮูเซ็น #เอกลักษณ์ศาสนา #ศรัทธาและวิถีมุสลิม #มรดกชายแดนใต้ #นราธิวาส #ThaiMuslimCommunity #ThaiTimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ‘Agro Tourism’ เสริมแกร่งเศรษฐกิจฐานราก : [Biz Talk]

    Essence of Agriculture ธ.ก.ส.เชื่อมโยงเครือข่ายชุมชนท่องเที่ยว สู่ธุรกิจชุมชนผ่านโครงการ BAAC Agro Tourism ชู ‘บ้านชีทวน’ จ.อุบลราชธานี ต้นแบบชุมชนท่องเที่ยวที่มีอัตลักษณ์ท้องถิ่น ด้วยการผสมผสานเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ลุยพัฒนาชุมชนให้ผ่านมาตรฐานท่องเที่ยว 97 ชุมชน และพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร อีก 21 เส้นทางทั่วไทย ภายในปี 68
    ‘Agro Tourism’ เสริมแกร่งเศรษฐกิจฐานราก : [Biz Talk] Essence of Agriculture ธ.ก.ส.เชื่อมโยงเครือข่ายชุมชนท่องเที่ยว สู่ธุรกิจชุมชนผ่านโครงการ BAAC Agro Tourism ชู ‘บ้านชีทวน’ จ.อุบลราชธานี ต้นแบบชุมชนท่องเที่ยวที่มีอัตลักษณ์ท้องถิ่น ด้วยการผสมผสานเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ลุยพัฒนาชุมชนให้ผ่านมาตรฐานท่องเที่ยว 97 ชุมชน และพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร อีก 21 เส้นทางทั่วไทย ภายในปี 68
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 560 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • นักเรียนไทยยุค AI: อยู่รอดอย่างไรในโลกที่เปลี่ยนเร็วกว่าเดิม?
    โลกยุคใหม่ไม่ได้รอใครอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อนวัตกรรมอย่าง AI เข้ามามีบทบาทในแทบทุกด้านของชีวิต ตั้งแต่การเรียน ไปจนถึงการทำงานในอนาคต และนักเรียนไทยจะต้องไม่ใช่แค่ “ปรับตัว” แต่ต้อง “เปลี่ยนวิธีคิด” เพื่อให้อยู่รอดและเติบโตในโลกที่ AI ครองเวที

    แล้วนักเรียนต้องพัฒนาอะไรบ้าง?
    1️⃣. AI Literacy – ทักษะความรู้เรื่อง AI
    ไม่ใช่แค่ใช้ ChatGPT ได้ แต่ต้องเข้าใจว่า AI ทำงานอย่างไร มีข้อดี ข้อจำกัด และ “อคติ” อย่างไรบ้าง นักเรียนต้องฝึกคิดแบบวิพากษ์ ไม่เชื่อทุกอย่างที่ AI บอกมา ต้องกล้าตั้งคำถาม และตรวจสอบแหล่งข้อมูลให้เป็น

    2️⃣. ทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา
    AI เก่งในเรื่อง “การจำและประมวลผล” แต่การตั้งคำถาม การตีความ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ยังเป็นทักษะของมนุษย์ นักเรียนควรฝึกคิดในเชิงลึก ฝึกตั้งสมมุติฐาน ทดลอง และปรับปรุง ไม่ใช่แค่หาคำตอบเร็วๆ จากอินเทอร์เน็ต

    3️⃣. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
    AI ช่วยเราคิดได้ แต่ไม่สามารถ “คิดแทนเราได้หมด” การสร้างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น เขียนเรื่องราว แต่งเพลง ทำโครงการนวัตกรรม หรือผลงานศิลปะ ยังคงต้องใช้พลังความคิดของมนุษย์อย่างแท้จริง

    4️⃣. การทำงานร่วมกันกับ AI และมนุษย์
    นักเรียนในยุคนี้ต้องทำงานเป็นทีม ทั้งกับคนและกับเทคโนโลยี ต้องรู้ว่าเมื่อไรควรใช้ AI ช่วย และเมื่อไรควรใช้หัวใจของมนุษย์ เช่น การฟังเพื่อน ความเข้าใจอารมณ์ หรือการทำโปรเจกต์ร่วมกัน

    5️⃣. จริยธรรมและความรับผิดชอบ
    การใช้ AI อย่างถูกจริยธรรมเป็นเรื่องใหญ่ เช่น ไม่คัดลอกเนื้อหาที่ AI สร้างมาโดยไม่เข้าใจ การเคารพความเป็นส่วนตัวของคนอื่น และรู้เท่าทัน Deepfake หรือข้อมูลบิดเบือนที่อาจเจอในชีวิตประจำวัน

    AI คือเพื่อน ไม่ใช่ศัตรู
    หลายคนกลัวว่า AI จะมาแย่งงาน หรือทำให้คนไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป แต่ในความเป็นจริง AI คือ “เครื่องมือ” ที่ดีมาก ถ้าเราใช้เป็น มันจะช่วยให้เราเก่งขึ้น ไม่ใช่ถูกแทนที่

    เช่น:
    - นักเรียนสามารถใช้ AI ช่วยสรุปบทเรียน ติวสอบ หรือสร้างไอเดียสำหรับโปรเจกต์
    - ครูสามารถใช้ AI ช่วยตรวจข้อสอบ วางแผนบทเรียน และมีเวลาสอนนักเรียนแบบใกล้ชิดขึ้น
    - โรงเรียนหลายแห่งก็เริ่มใช้ AI อย่าง SplashLearn, ChatGPT หรือ Writable เพื่อช่วยให้การเรียนสนุกและเข้าถึงได้มากขึ้น

    แต่อย่าลืมความเสี่ยง
    แม้ว่า AI จะช่วยได้มาก แต่ก็มีความท้าทาย เช่น:
    - ความเครียดจากการอยู่กับหน้าจอนานๆ
    - ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือมีอคติจาก AI
    - ความเหลื่อมล้ำเรื่องอุปกรณ์และทักษะในบางพื้นที่ของประเทศ

    ดังนั้น นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และภาครัฐต้องร่วมมือกัน สร้างระบบการเรียนรู้ที่ปลอดภัย เท่าเทียม และพัฒนาความรู้รอบด้านไปพร้อมกัน

    สรุปง่ายๆ สำหรับนักเรียนไทยในยุค AI:
    - อย่าใช้ AI แค่ “ให้มันทำให้” แต่ต้อง “ใช้มันเพื่อให้เราเก่งขึ้น”
    - พัฒนาให้รอบด้าน ทั้งสมอง จิตใจ และจริยธรรม
    - ฝึกเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะเทคโนโลยีจะไม่หยุดรอเราแน่นอน

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    🎓 นักเรียนไทยยุค AI: อยู่รอดอย่างไรในโลกที่เปลี่ยนเร็วกว่าเดิม? โลกยุคใหม่ไม่ได้รอใครอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อนวัตกรรมอย่าง AI เข้ามามีบทบาทในแทบทุกด้านของชีวิต ตั้งแต่การเรียน ไปจนถึงการทำงานในอนาคต และนักเรียนไทยจะต้องไม่ใช่แค่ “ปรับตัว” แต่ต้อง “เปลี่ยนวิธีคิด” เพื่อให้อยู่รอดและเติบโตในโลกที่ AI ครองเวที ✅ แล้วนักเรียนต้องพัฒนาอะไรบ้าง? 1️⃣. AI Literacy – ทักษะความรู้เรื่อง AI ไม่ใช่แค่ใช้ ChatGPT ได้ แต่ต้องเข้าใจว่า AI ทำงานอย่างไร มีข้อดี ข้อจำกัด และ “อคติ” อย่างไรบ้าง นักเรียนต้องฝึกคิดแบบวิพากษ์ ไม่เชื่อทุกอย่างที่ AI บอกมา ต้องกล้าตั้งคำถาม และตรวจสอบแหล่งข้อมูลให้เป็น 2️⃣. ทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา AI เก่งในเรื่อง “การจำและประมวลผล” แต่การตั้งคำถาม การตีความ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ยังเป็นทักษะของมนุษย์ นักเรียนควรฝึกคิดในเชิงลึก ฝึกตั้งสมมุติฐาน ทดลอง และปรับปรุง ไม่ใช่แค่หาคำตอบเร็วๆ จากอินเทอร์เน็ต 3️⃣. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) AI ช่วยเราคิดได้ แต่ไม่สามารถ “คิดแทนเราได้หมด” การสร้างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น เขียนเรื่องราว แต่งเพลง ทำโครงการนวัตกรรม หรือผลงานศิลปะ ยังคงต้องใช้พลังความคิดของมนุษย์อย่างแท้จริง 4️⃣. การทำงานร่วมกันกับ AI และมนุษย์ นักเรียนในยุคนี้ต้องทำงานเป็นทีม ทั้งกับคนและกับเทคโนโลยี ต้องรู้ว่าเมื่อไรควรใช้ AI ช่วย และเมื่อไรควรใช้หัวใจของมนุษย์ เช่น การฟังเพื่อน ความเข้าใจอารมณ์ หรือการทำโปรเจกต์ร่วมกัน 5️⃣. จริยธรรมและความรับผิดชอบ การใช้ AI อย่างถูกจริยธรรมเป็นเรื่องใหญ่ เช่น ไม่คัดลอกเนื้อหาที่ AI สร้างมาโดยไม่เข้าใจ การเคารพความเป็นส่วนตัวของคนอื่น และรู้เท่าทัน Deepfake หรือข้อมูลบิดเบือนที่อาจเจอในชีวิตประจำวัน 📌 AI คือเพื่อน ไม่ใช่ศัตรู หลายคนกลัวว่า AI จะมาแย่งงาน หรือทำให้คนไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป แต่ในความเป็นจริง AI คือ “เครื่องมือ” ที่ดีมาก ถ้าเราใช้เป็น มันจะช่วยให้เราเก่งขึ้น ไม่ใช่ถูกแทนที่ เช่น: - นักเรียนสามารถใช้ AI ช่วยสรุปบทเรียน ติวสอบ หรือสร้างไอเดียสำหรับโปรเจกต์ - ครูสามารถใช้ AI ช่วยตรวจข้อสอบ วางแผนบทเรียน และมีเวลาสอนนักเรียนแบบใกล้ชิดขึ้น - โรงเรียนหลายแห่งก็เริ่มใช้ AI อย่าง SplashLearn, ChatGPT หรือ Writable เพื่อช่วยให้การเรียนสนุกและเข้าถึงได้มากขึ้น 🚨 แต่อย่าลืมความเสี่ยง แม้ว่า AI จะช่วยได้มาก แต่ก็มีความท้าทาย เช่น: - ความเครียดจากการอยู่กับหน้าจอนานๆ - ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือมีอคติจาก AI - ความเหลื่อมล้ำเรื่องอุปกรณ์และทักษะในบางพื้นที่ของประเทศ ดังนั้น นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และภาครัฐต้องร่วมมือกัน สร้างระบบการเรียนรู้ที่ปลอดภัย เท่าเทียม และพัฒนาความรู้รอบด้านไปพร้อมกัน 💡 สรุปง่ายๆ สำหรับนักเรียนไทยในยุค AI: - อย่าใช้ AI แค่ “ให้มันทำให้” แต่ต้อง “ใช้มันเพื่อให้เราเก่งขึ้น” - พัฒนาให้รอบด้าน ทั้งสมอง จิตใจ และจริยธรรม - ฝึกเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะเทคโนโลยีจะไม่หยุดรอเราแน่นอน #ลุงเขียนหลานอ่าน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 รีวิว
  • MSC World Asia เรือสำราญระดับ World-class ลำใหม่ล่าสุดจาก MSC Cruises
    เตรียมเปิดให้บริการเที่ยวแรกในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนวันที่ 11 ธันวาคม 2568

    เรือรุ่นที่ 3 ในซีรีส์ “World-class” ต่อจาก MSC World Europa และ MSC World America ใช้พลังงานสะอาด LNG (Liquefied Natural Gas) ลดการปล่อยคาร์บอน พร้อมโครงสร้างรูปตัว “Y” ลานโปรเมอนาดกลางแจ้งขนาดใหญ่ด้านท้ายเรือ ตกแต่งด้วยแรงบันดาลใจจากศิลปะและวัฒนธรรมเอเชีย ทั้งโทนสี ลวดลาย และการจัดวางพื้นที่

    MSC จะไม่ใช่แค่เรือสำราญ แต่เป็น “ประสบการณ์เอเชียบนเรือยุโรป” ที่สะดวกสบายและล้ำสมัย
    ผสมผสาน มรดกวัฒนธรรมโลกเข้ากับเทคโนโลยีเดินเรือระดับสูง สำหรับผู้โดยสารยุคใหม่ที่ต้องการความแปลกใหม่และคุณภาพแบบพรีเมียม

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    http://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 02-1169696

    #เรือMSCCruises #MSCWorldAsia #Worldclass #Mediterranean #MSC #แพ็คเกจล่องเรือ #cruisedomain #News #ข่าวเรือสำราญ #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    🚢 MSC World Asia เรือสำราญระดับ World-class ลำใหม่ล่าสุดจาก MSC Cruises เตรียมเปิดให้บริการเที่ยวแรกในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนวันที่ 11 ธันวาคม 2568 🌏 เรือรุ่นที่ 3 ในซีรีส์ “World-class” ต่อจาก MSC World Europa และ MSC World America ใช้พลังงานสะอาด LNG (Liquefied Natural Gas) ลดการปล่อยคาร์บอน พร้อมโครงสร้างรูปตัว “Y” ลานโปรเมอนาดกลางแจ้งขนาดใหญ่ด้านท้ายเรือ ตกแต่งด้วยแรงบันดาลใจจากศิลปะและวัฒนธรรมเอเชีย ทั้งโทนสี ลวดลาย และการจัดวางพื้นที่ MSC จะไม่ใช่แค่เรือสำราญ แต่เป็น “ประสบการณ์เอเชียบนเรือยุโรป” ที่สะดวกสบายและล้ำสมัย ผสมผสาน มรดกวัฒนธรรมโลกเข้ากับเทคโนโลยีเดินเรือระดับสูง สำหรับผู้โดยสารยุคใหม่ที่ต้องการความแปลกใหม่และคุณภาพแบบพรีเมียม ✅ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด http://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 02-1169696 #เรือMSCCruises #MSCWorldAsia #Worldclass #Mediterranean #MSC #แพ็คเกจล่องเรือ #cruisedomain #News #ข่าวเรือสำราญ #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าทุกข์โทษที่เกิดจากกาม
    สัทธรรมลำดับที่ : 311
    ชื่อบทธรรม :- ทุกข์โทษที่เกิดจากกาม
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=311
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ทุกข์โทษที่เกิดจากกาม
    --ภิกษุ ท. ! โทษของกามทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! กุลบุตรในโลกนี้ สำเร็จการเลี้ยงชีวิตด้วยอาชีพศิลปะใด ๆ เช่น
    ศิลปะแห่งการใช้สัญญาด้วยมือ,
    ศิลปะแห่งการคำนวณ,
    ศิลปะแห่งการพยากรณ์,
    การทำกสิกรรม พาณิชยกรรม และโครักขกรรม,
    ศิลปะแห่งศัสตราวุธ,
    และการทำราชการ และศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง ;
    เพราะการประกอบอาชีพนั้น ๆ เขาต้องเผชิญหน้าต่อความหนาว ความร้อน
    เผชิญหน้าด้วย เหลือบ ยุง ลม แดด และสัมผัสด้วยสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย
    ซูบผอมอยู่ หิวระหายอยู่ เพราะการไม่ได้บริโภคตามเวลา.
    --ภิกษุ ท. ! นี้ เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว.

    --ภิกษุ ท. ! เมื่อกุลบุตรนั้น พากเพียร ขวนขวาย พยายามอยู่อย่างนี้,
    โภคทรัพย์ ก็ยังไม่สำเร็จแก่เขา,
    เขา ย่อมโศกเศร้า ระทมใจ คร่ำครวญ ตีอก ร่ำไห้ ถึงความมืดมัวอยู่ ว่า
    “ความขยันของเรา เป็นหมันหนอ,
    ความพยายามของเราไร้ผลหนอ”
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว.

    --ภิกษุ ท. ! เมื่อกุลบุตรนั้น พากเพียร ขวนขวาย พยายาม อยู่อย่างนี้,
    โภคทรัพย์ ก็สำเร็จแก่เขาด้วย เขา ก็จะต้องเสวยทุกข์ โทมนัส
    เพราะการอารักขาโภคทรัพย์เหล่านั้นเป็นต้นเหตุ ด้วยหวังอยู่ ว่า
    “พระราชาจะไม่ริบทรัพย์เหล่านั้นไป,
    โจร จะไม่ปล้นทรัพย์เหล่านั้นไป,
    ไฟ จะไม่ไหม้ทรัพย์เหล่านั้น,
    น้ำ จะไม่ท่วมทำลายทรัพย์เหล่านั้น ;
    ทายาทที่ไม่พอใจ จะไม่ยื้อแย่งทรัพย์เหล่านั้นไป”
    ดังนี้.
    เมื่อกุลบุตรนั้น ทำการอารักขาคุ้มครองอยู่อย่างนี้
    พระราชา ริบเอาทรัพย์เหล่านั้นไปเสียก็ตาม,
    โจร ปล้นเอาทรัพย์เหล่านั้นไปเสียก็ตาม,
    ไฟ ไหม้ทรัพย์เหล่านั้นเสียก็ตาม,
    น้ำ ท่วมทำลายทรัพย์เหล่านั้นเสียก็ตาม,
    หรือทายาทที่ไม่พอใจ ยื้อแย่งเอาทรัพย์เหล่านั้นไปได้ก็ตาม,
    เขา ย่อมโศกเศร้า ระทมใจ คร่ำครวญ ตีอกร่ำไห้ ถึงความมืดมัวรำพันอยู่ ว่า
    “ ทรัพย์ใดได้มีแล้วแก่เรา ทรัพย์นั้นไม่มีเสียแล้ว”
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย
    เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว.

    --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว
    :พระราชา ย่อมวิวาทกับพระราชาบ้าง,
    กษัตริย์ย่อมวิวาทกับกษัตริย์บ้าง,
    พราหมณ์ย่อมวิวาทกับพราหมณ์บ้าง,
    คฤหบดีย่อมวิวาทกับคฤหบดีบ้าง,
    มารดาย่อมวิวาทกับบุตรบ้าง,
    บุตรย่อมวิวาทกับมารดาบ้าง,
    บิดาย่อมวิวาทกับบุตรบ้าง,
    บุตรย่อมวิวาทกับบิดาบ้าง,
    พี่น้องชายย่อมวิวาทกับพี่น้องชายบ้าง,
    พี่น้องชายย่อมวิวาทกับพี่น้องหญิงบ้าง,
    พี่น้องหญิงย่อมวิวาทกับพี่น้องชายบ้าง,
    สหายย่อมวิวาทกับสหายบ้าง ;
    คนเหล่านั้น ทำการทะเลาะ วิวาท บาดหมางกันแล้ว
    ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยมือบ้าง,
    ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยก้อนดินบ้าง,
    ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยท่อนไม้บ้าง,
    ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยศัสตราบ้าง, อยู่ในที่นั้นๆ.
    เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ.
    --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    +--เป็นเหตุ เพราะกามนั่นเทียว.

    --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว
    : คนทั้งหลาย ถือดาบและโล่ ผูกสอดธนูและแล่งศร แบ่งกันเป็นสองกองทัพ
    พุ่งเข้าทำสงครามกัน.
    เมื่อลูกศรถูกปล่อยไป, เมื่อหอกถูกซัดไป, เมื่อดาบถูกกวัดแกว่งอยู่,
    คนเหล่านั้น ยิงกันด้วยลูกศรบ้าง, แทงกันด้วยหอกบ้าง, ตัดศีรษะกันด้วยดาบบ้าง,
    ในสงครามนั้น ๆ, เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตายหรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ.
    --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษ ของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว.

    --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว
    : คนทั้งหลาย ถือดาบและโล่ ผูกสอดธนูและแล่งศร วิ่งขึ้นปีนเชิงเทิน (เพื่อปล้นเอาเมือง), เมื่อลูกศรถูกปล่อยไป, เมื่อหอกถูกซัดไป, เมื่อดาบถูกกวัดแกว่งอยู่,
    คนเหล่านั้น ยิงกันด้วยลูกศรบ้าง, แทงกันด้วยหอกบ้าง,
    ราดกันด้วยเถ้าถ่านโคมัยอันร้อนบ้าง.
    ปล่อยของหนักให้ตกลงทับทีเดียวตายทั้งหมู่บ้าง, ตัดศีรษะกันด้วยดาบบ้าง,
    ในสงครามนั้น ๆ, เขาเหล่านั้นย่อมถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ.
    --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว.
    --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว

    : คนทั้งหลาย ย่อมตัดช่อง ย่องเบา ปล้นสะดมในเรือนหลังเดียว
    คอยดักทำร้ายในที่เปลี่ยว และล่วงภรรยาผู้อื่น.
    พระราชา จับคนเหล่านั้นมาแล้ว ให้ลงกรรมกรณ์หลายวิธีด้วยกัน
    เช่นเฆี่ยนด้วยหวายบ้าง, หวดด้วยเชือกหนังบ้าง, ทุบด้วยท่อนไม้บ้าง, ตัดมือเสียบ้าง,
    ตัดเท้าเสียบ้าง, ตัดเสียทั้งมือและเท้าบ้าง, ตัดหูบ้าง, ตัดจมูกบ้าง, ตัดเสียทั้งหูและจมูกบ้าง,
    ยอมทำโทษโดยวิธี หม้อเคี่ยวน้ำส้ม-๑ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี ขอดสังข์๒ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี ปากราหู-๓ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี มาลัยไฟ-๔ บ้าง.
    ย่อมทำโทษ โดยวิธี คบมือ-๕ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี ริ้วส่าย-๖ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี นุ่งเปลือกไม้-๗ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี ยืนกวาง-๘ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี เกี่ยวเหยื่อเบ็ด-๙ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี เหรียญกษปณ์-๑๐ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี ทาเกลือบ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี แปรงแสบ-๑๑ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี กางเกวียน-๑๒ บ้าง,
    ย่อมทำโทษโดยวิธี ตั่งฟาง๑๓ บ้าง,
    ย่อมราดด้วยน้ำมันร้อนๆ บ้าง,
    ย่อมปล่อยให้สุนัขทึ้ง-๑๔ บ้าง,
    ย่อมให้นอนหงายบนหลาวทั้งเป็น ๆ บ้าง,
    ย่อมตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง.
    เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ.
    --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย
    เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว.

    --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ
    เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว
    : คนทั้งหลาย ย่อมประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ.
    ครั้นประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจแล้ว,
    เขาเหล่านั้น ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เบื้องหน้าแต่การตาย
    เพราะการแตกสลายแห่งกาย.
    --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย
    เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เองมีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ
    +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว,.
    ดังนี้แล.-

    ! --
    ©หมายเหตุ ตามนัยอรรถกถาและพระไตรปิฎกแปลของ ม.อำไพจริต.
    -๑. หม้อเคี่ยวน้ำส้ม คือต่อยหัวขมองแยกออก แล้วใช้คีมคีบก้อนเหล็กที่ลุกแดงใส่ลงไปให้มันสมองเดือดพลุ่งขึ้น เหมือนน้ำส้มเดือดล้นหม้อ.-
    -๒. ขอดสังข์ คือตัดหนังควั่นไปให้รอบจอนหูทั้งสองข้าง และหลุมคอ แล้วรวบผมทั้งหมดขมวดไว้ ใช้ไม้สอดหมุ ยกขึ้น ให้หนังหลุดติดขึ้นมาพร้อมกับผมแล้วใช้ทรายหยาบขัดกระโหลกศีรษะล้างให้ขาว ดั่งสังข์.-
    -๓. ปากราหู คือใช้ขอเหล็กง้างปากให้อ้าแล้วจุดไฟในปาก. อีกอย่างหนึ่ง ใช้สิ่วตอกเจาะตั้งแต่จอนหูเข้าไปจนถึงปาก ให้โลหิตไหลออกมาเต็มปาก ดูปากอ้า ดั่งปากราหู.-
    -๔. มาลัยไฟ คือใช้ผ้าชุบน้ำมันพันจนทั่วตัวแล้วจุดไฟ-
    -๕. คบมือ คือใช้ผ้าชุบน้ำมันพันมือทั่วสองข้างจนทั่ว แล้วจุดไฟ.-
    -๖. ริ้วส่าย คือเชือดหนังลอกออกเป็นริ้วๆ ตั้งแต่ใต้คอไปจนถึงข้อเท้า แล้วเอาเชือกผูกฉุดคร่าไป นักโทษเดินเหยียบริ้วหนังของตัวล้มลุกคลุกคลานไปกว่าจะตาย-
    -๗. นุ่งเปลือกไม้ คือเชือดหนังเป็นริ้ว ๆ อย่างบทก่อน แต่ทำเป็นสองตอน ตั้งแต่ใต้คอจนถึงเอวตอนหนึ่ง ตั้งแต่เอวจนถึงข้อเท้าตอนหนึ่ง ริ้วหนังตอนบนห้อยคลุมลงมาปิดกายตอนล่าง ดูดั่งนุ่งเปลือกไม้-
    -๘. ยืนกวาง คือใช้ห่วงเหล็กรัดศอกทั้งสอง และเข่าทั้งสอง ตรึงติดไว้กับหลักเหล็กสี่หลักบนพื้นดิน ดูดั่ง กวางถูกตรึง แล้วก่อไฟล้อมลนไปกว่าจะตาย.-
    -๙. เกี่ยวเหยื่อเบ็ด คือใช้เบ็ดมีเงี่ยงสองข้าง เกี่ยวตัวดึงเอาหนังเนื้อและเอ็นออกมาให้หมด.-
    -๑๐. เหรียญกษาปณ์ คือใช้มีดคมเชือดเนื้อออกเป็นแว่นๆ ขนาดเท่าเงินเหรียญจนกว่าจะตาย.-
    -๑๑. แปรงแสบ คือฟันสับเสียให้ยับทั่วกาย แล้วใช้แปรงชุบน้ำแสบ (มีน้ำเกลือเป็นต้น) ถูครูดสีไปมาให้หนังเนื้อเอ็น ขาดหลุดออกมาหมด เหลือแต่กระดูก.-
    -๑๒. กางเกวียน คือให้นอนตะแคง แล้วใช้หลาวเหล็กตอกเข้าช่องหูให้ทะลุ ลงไปตรึงแน่นอยู่กับดิน แล้วจับเท้าทั้งสองยกเดินเวียน.-
    -๑๓. ตั่งฟาง คือใช้ลูกหินบดทับตัว บดให้กระดูกแตกละเอียด แต่ไม่ให้หนังขาด แล้วจับผมรวบขึ้นเขย่าๆ ให้เนื้อรวมเข้าเป็นกอง แล้วใช้ผมนั่นแหละพันตะล่อมวางไว้ เหมือนดั่งที่ทำด้วยฟางสำหรับเช็ดเท้า.-
    -๑๔. ให้สุนัขทึ้ง คือขังฝูงสุนัขให้อดหิวโซหลายวัน แล้วปล่อยให้ออกมารุมทึ้ง พักเดียวเหลือแต่กระดูก.
    ---!

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/116/198.
    http://etipitaka.com/read/thai/12/116/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๑๖๙/๑๙๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/169/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%98
    ศึกษาเพิ่มเติม..
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=311
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=21&id=311
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=21
    ลำดับสาธยายธรรม : 21 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_21.mp3
    อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าทุกข์โทษที่เกิดจากกาม สัทธรรมลำดับที่ : 311 ชื่อบทธรรม :- ทุกข์โทษที่เกิดจากกาม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=311 เนื้อความทั้งหมด :- --ทุกข์โทษที่เกิดจากกาม --ภิกษุ ท. ! โทษของกามทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! กุลบุตรในโลกนี้ สำเร็จการเลี้ยงชีวิตด้วยอาชีพศิลปะใด ๆ เช่น ศิลปะแห่งการใช้สัญญาด้วยมือ, ศิลปะแห่งการคำนวณ, ศิลปะแห่งการพยากรณ์, การทำกสิกรรม พาณิชยกรรม และโครักขกรรม, ศิลปะแห่งศัสตราวุธ, และการทำราชการ และศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง ; เพราะการประกอบอาชีพนั้น ๆ เขาต้องเผชิญหน้าต่อความหนาว ความร้อน เผชิญหน้าด้วย เหลือบ ยุง ลม แดด และสัมผัสด้วยสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย ซูบผอมอยู่ หิวระหายอยู่ เพราะการไม่ได้บริโภคตามเวลา. --ภิกษุ ท. ! นี้ เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. --ภิกษุ ท. ! เมื่อกุลบุตรนั้น พากเพียร ขวนขวาย พยายามอยู่อย่างนี้, โภคทรัพย์ ก็ยังไม่สำเร็จแก่เขา, เขา ย่อมโศกเศร้า ระทมใจ คร่ำครวญ ตีอก ร่ำไห้ ถึงความมืดมัวอยู่ ว่า “ความขยันของเรา เป็นหมันหนอ, ความพยายามของเราไร้ผลหนอ” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. --ภิกษุ ท. ! เมื่อกุลบุตรนั้น พากเพียร ขวนขวาย พยายาม อยู่อย่างนี้, โภคทรัพย์ ก็สำเร็จแก่เขาด้วย เขา ก็จะต้องเสวยทุกข์ โทมนัส เพราะการอารักขาโภคทรัพย์เหล่านั้นเป็นต้นเหตุ ด้วยหวังอยู่ ว่า “พระราชาจะไม่ริบทรัพย์เหล่านั้นไป, โจร จะไม่ปล้นทรัพย์เหล่านั้นไป, ไฟ จะไม่ไหม้ทรัพย์เหล่านั้น, น้ำ จะไม่ท่วมทำลายทรัพย์เหล่านั้น ; ทายาทที่ไม่พอใจ จะไม่ยื้อแย่งทรัพย์เหล่านั้นไป” ดังนี้. เมื่อกุลบุตรนั้น ทำการอารักขาคุ้มครองอยู่อย่างนี้ พระราชา ริบเอาทรัพย์เหล่านั้นไปเสียก็ตาม, โจร ปล้นเอาทรัพย์เหล่านั้นไปเสียก็ตาม, ไฟ ไหม้ทรัพย์เหล่านั้นเสียก็ตาม, น้ำ ท่วมทำลายทรัพย์เหล่านั้นเสียก็ตาม, หรือทายาทที่ไม่พอใจ ยื้อแย่งเอาทรัพย์เหล่านั้นไปได้ก็ตาม, เขา ย่อมโศกเศร้า ระทมใจ คร่ำครวญ ตีอกร่ำไห้ ถึงความมืดมัวรำพันอยู่ ว่า “ ทรัพย์ใดได้มีแล้วแก่เรา ทรัพย์นั้นไม่มีเสียแล้ว” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว :พระราชา ย่อมวิวาทกับพระราชาบ้าง, กษัตริย์ย่อมวิวาทกับกษัตริย์บ้าง, พราหมณ์ย่อมวิวาทกับพราหมณ์บ้าง, คฤหบดีย่อมวิวาทกับคฤหบดีบ้าง, มารดาย่อมวิวาทกับบุตรบ้าง, บุตรย่อมวิวาทกับมารดาบ้าง, บิดาย่อมวิวาทกับบุตรบ้าง, บุตรย่อมวิวาทกับบิดาบ้าง, พี่น้องชายย่อมวิวาทกับพี่น้องชายบ้าง, พี่น้องชายย่อมวิวาทกับพี่น้องหญิงบ้าง, พี่น้องหญิงย่อมวิวาทกับพี่น้องชายบ้าง, สหายย่อมวิวาทกับสหายบ้าง ; คนเหล่านั้น ทำการทะเลาะ วิวาท บาดหมางกันแล้ว ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยมือบ้าง, ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยก้อนดินบ้าง, ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยท่อนไม้บ้าง, ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยศัสตราบ้าง, อยู่ในที่นั้นๆ. เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ. --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ +--เป็นเหตุ เพราะกามนั่นเทียว. --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ถือดาบและโล่ ผูกสอดธนูและแล่งศร แบ่งกันเป็นสองกองทัพ พุ่งเข้าทำสงครามกัน. เมื่อลูกศรถูกปล่อยไป, เมื่อหอกถูกซัดไป, เมื่อดาบถูกกวัดแกว่งอยู่, คนเหล่านั้น ยิงกันด้วยลูกศรบ้าง, แทงกันด้วยหอกบ้าง, ตัดศีรษะกันด้วยดาบบ้าง, ในสงครามนั้น ๆ, เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตายหรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ. --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษ ของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ถือดาบและโล่ ผูกสอดธนูและแล่งศร วิ่งขึ้นปีนเชิงเทิน (เพื่อปล้นเอาเมือง), เมื่อลูกศรถูกปล่อยไป, เมื่อหอกถูกซัดไป, เมื่อดาบถูกกวัดแกว่งอยู่, คนเหล่านั้น ยิงกันด้วยลูกศรบ้าง, แทงกันด้วยหอกบ้าง, ราดกันด้วยเถ้าถ่านโคมัยอันร้อนบ้าง. ปล่อยของหนักให้ตกลงทับทีเดียวตายทั้งหมู่บ้าง, ตัดศีรษะกันด้วยดาบบ้าง, ในสงครามนั้น ๆ, เขาเหล่านั้นย่อมถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ. --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ย่อมตัดช่อง ย่องเบา ปล้นสะดมในเรือนหลังเดียว คอยดักทำร้ายในที่เปลี่ยว และล่วงภรรยาผู้อื่น. พระราชา จับคนเหล่านั้นมาแล้ว ให้ลงกรรมกรณ์หลายวิธีด้วยกัน เช่นเฆี่ยนด้วยหวายบ้าง, หวดด้วยเชือกหนังบ้าง, ทุบด้วยท่อนไม้บ้าง, ตัดมือเสียบ้าง, ตัดเท้าเสียบ้าง, ตัดเสียทั้งมือและเท้าบ้าง, ตัดหูบ้าง, ตัดจมูกบ้าง, ตัดเสียทั้งหูและจมูกบ้าง, ยอมทำโทษโดยวิธี หม้อเคี่ยวน้ำส้ม-๑ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ขอดสังข์๒ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ปากราหู-๓ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี มาลัยไฟ-๔ บ้าง. ย่อมทำโทษ โดยวิธี คบมือ-๕ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ริ้วส่าย-๖ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี นุ่งเปลือกไม้-๗ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ยืนกวาง-๘ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี เกี่ยวเหยื่อเบ็ด-๙ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี เหรียญกษปณ์-๑๐ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ทาเกลือบ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี แปรงแสบ-๑๑ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี กางเกวียน-๑๒ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ตั่งฟาง๑๓ บ้าง, ย่อมราดด้วยน้ำมันร้อนๆ บ้าง, ย่อมปล่อยให้สุนัขทึ้ง-๑๔ บ้าง, ย่อมให้นอนหงายบนหลาวทั้งเป็น ๆ บ้าง, ย่อมตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง. เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ. --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. --ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ย่อมประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ. ครั้นประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจแล้ว, เขาเหล่านั้น ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เบื้องหน้าแต่การตาย เพราะการแตกสลายแห่งกาย. --ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เองมีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ +--เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว,. ดังนี้แล.- ! -- ©หมายเหตุ ตามนัยอรรถกถาและพระไตรปิฎกแปลของ ม.อำไพจริต. -๑. หม้อเคี่ยวน้ำส้ม คือต่อยหัวขมองแยกออก แล้วใช้คีมคีบก้อนเหล็กที่ลุกแดงใส่ลงไปให้มันสมองเดือดพลุ่งขึ้น เหมือนน้ำส้มเดือดล้นหม้อ.- -๒. ขอดสังข์ คือตัดหนังควั่นไปให้รอบจอนหูทั้งสองข้าง และหลุมคอ แล้วรวบผมทั้งหมดขมวดไว้ ใช้ไม้สอดหมุ ยกขึ้น ให้หนังหลุดติดขึ้นมาพร้อมกับผมแล้วใช้ทรายหยาบขัดกระโหลกศีรษะล้างให้ขาว ดั่งสังข์.- -๓. ปากราหู คือใช้ขอเหล็กง้างปากให้อ้าแล้วจุดไฟในปาก. อีกอย่างหนึ่ง ใช้สิ่วตอกเจาะตั้งแต่จอนหูเข้าไปจนถึงปาก ให้โลหิตไหลออกมาเต็มปาก ดูปากอ้า ดั่งปากราหู.- -๔. มาลัยไฟ คือใช้ผ้าชุบน้ำมันพันจนทั่วตัวแล้วจุดไฟ- -๕. คบมือ คือใช้ผ้าชุบน้ำมันพันมือทั่วสองข้างจนทั่ว แล้วจุดไฟ.- -๖. ริ้วส่าย คือเชือดหนังลอกออกเป็นริ้วๆ ตั้งแต่ใต้คอไปจนถึงข้อเท้า แล้วเอาเชือกผูกฉุดคร่าไป นักโทษเดินเหยียบริ้วหนังของตัวล้มลุกคลุกคลานไปกว่าจะตาย- -๗. นุ่งเปลือกไม้ คือเชือดหนังเป็นริ้ว ๆ อย่างบทก่อน แต่ทำเป็นสองตอน ตั้งแต่ใต้คอจนถึงเอวตอนหนึ่ง ตั้งแต่เอวจนถึงข้อเท้าตอนหนึ่ง ริ้วหนังตอนบนห้อยคลุมลงมาปิดกายตอนล่าง ดูดั่งนุ่งเปลือกไม้- -๘. ยืนกวาง คือใช้ห่วงเหล็กรัดศอกทั้งสอง และเข่าทั้งสอง ตรึงติดไว้กับหลักเหล็กสี่หลักบนพื้นดิน ดูดั่ง กวางถูกตรึง แล้วก่อไฟล้อมลนไปกว่าจะตาย.- -๙. เกี่ยวเหยื่อเบ็ด คือใช้เบ็ดมีเงี่ยงสองข้าง เกี่ยวตัวดึงเอาหนังเนื้อและเอ็นออกมาให้หมด.- -๑๐. เหรียญกษาปณ์ คือใช้มีดคมเชือดเนื้อออกเป็นแว่นๆ ขนาดเท่าเงินเหรียญจนกว่าจะตาย.- -๑๑. แปรงแสบ คือฟันสับเสียให้ยับทั่วกาย แล้วใช้แปรงชุบน้ำแสบ (มีน้ำเกลือเป็นต้น) ถูครูดสีไปมาให้หนังเนื้อเอ็น ขาดหลุดออกมาหมด เหลือแต่กระดูก.- -๑๒. กางเกวียน คือให้นอนตะแคง แล้วใช้หลาวเหล็กตอกเข้าช่องหูให้ทะลุ ลงไปตรึงแน่นอยู่กับดิน แล้วจับเท้าทั้งสองยกเดินเวียน.- -๑๓. ตั่งฟาง คือใช้ลูกหินบดทับตัว บดให้กระดูกแตกละเอียด แต่ไม่ให้หนังขาด แล้วจับผมรวบขึ้นเขย่าๆ ให้เนื้อรวมเข้าเป็นกอง แล้วใช้ผมนั่นแหละพันตะล่อมวางไว้ เหมือนดั่งที่ทำด้วยฟางสำหรับเช็ดเท้า.- -๑๔. ให้สุนัขทึ้ง คือขังฝูงสุนัขให้อดหิวโซหลายวัน แล้วปล่อยให้ออกมารุมทึ้ง พักเดียวเหลือแต่กระดูก. ---! #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/116/198. http://etipitaka.com/read/thai/12/116/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๑๖๙/๑๙๘. http://etipitaka.com/read/pali/12/169/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม.. https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=311 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=21&id=311 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=21 ลำดับสาธยายธรรม : 21 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_21.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (เรื่องนี้ควรจะอยู่ในหมวดนิโรธ แต่นำมาใส่ไว้ต่อท้ายเรื่องนี้ซึ่งเป็นหมวดสมุทัยก็เพื่อความสะดวกแก่การศึกษา คือศึกษาพร้อมกัน อันจะเป็นการง่าย ได้ผลดีกว่าที่จะแยกกัน.
    -(เรื่องนี้ควรจะอยู่ในหมวดนิโรธ แต่นำมาใส่ไว้ต่อท้ายเรื่องนี้ซึ่งเป็นหมวดสมุทัยก็เพื่อความสะดวกแก่การศึกษา คือศึกษาพร้อมกัน อันจะเป็นการง่าย ได้ผลดีกว่าที่จะแยกกัน. แต่ยังมีลักษณะแห่งจิตของผู้ที่เรียกว่าอยู่คนเดียวที่ลึกซึ้งกว่า ประณีตกว่าเรื่องนี้ในหมวดนิโรธ หรือภาค ๓ ขอให้ดูจากที่นั้น ที่หน้า ๖๙๕ โดยหัวข้อว่า “ผู้อยู่คนเดียวคือผู้ไม่ข้องติดอยู่ในธรรมทั้งปวง”). ทุกข์โทษที่เกิดจากกาม ภิกษุ ท. ! โทษของกามทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! กุลบุตรในโลกนี้ สำเร็จการเลี้ยงชีวิตด้วยอาชีพศิลปะใด ๆ เช่นศิลปะแห่งการใช้สัญญาด้วยมือ, ศิลปะแห่งการคำนวณ, ศิลปะแห่งการพยากรณ์, การทำกสิกรรม พาณิชยกรรม และโครักขกรรม, ศิลปะแห่งศัสตราวุธ, และการทำราชการ และศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง ; เพราะการประกอบอาชีพนั้น ๆ เขาต้องเผชิญหน้าต่อความหนาว ความร้อน เผชิญหน้าด้วย เหลือบ ยุง ลม แดด และสัมผัสด้วยสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย ซูบผอมอยู่ หิวระหายอยู่ เพราะการไม่ได้บริโภคตามเวลา. ภิกษุ ท. ! นี้ เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. ภิกษุ ท. ! เมื่อกุลบุตรนั้น พากเพียร ขวนขวาย พยายามอยู่อย่างนี้, โภคทรัพย์ ก็ยังไม่สำเร็จแก่เขา, เขา ย่อมโศกเศร้า ระทมใจ คร่ำครวญ ตีอก ร่ำไห้ ถึงความมืดมัวอยู่ ว่า “ความขยันของเรา เป็นหมันหนอ, ความพยายามของเราไร้ผลหนอ” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. ภิกษุ ท. ! เมื่อกุลบุตรนั้น พากเพียร ขวนขวาย พยายาม อยู่อย่างนี้, โภคทรัพย์ ก็สำเร็จแก่เขาด้วย เขา ก็จะต้องเสวยทุกข์ โทมนัสเพราะการอารักขาโภคทรัพย์เหล่านั้นเป็นต้นเหตุ ด้วยหวังอยู่ ว่า “พระราชาจะไม่ริบทรัพย์เหล่านั้นไป, โจร จะไม่ปล้นทรัพย์เหล่านั้นไป, ไฟ จะไม่ไหม้ทรัพย์เหล่านั้น, น้ำ จะไม่ท่วมทำลายทรัพย์เหล่านั้น ; ทายาทที่ไม่พอใจ จะไม่ยื้อแย่งทรัพย์เหล่านั้นไป” ดังนี้. เมื่อกุลบุตรนั้น ทำการอารักขาคุ้มครองอยู่อย่างนี้ พระราชา ริบเอาทรัพย์เหล่านั้นไปเสียก็ตาม, โจร ปล้นเอาทรัพย์เหล่านั้นไปเสียก็ตาม, ไฟ ไหม้ทรัพย์เหล่านั้นเสียก็ตาม, น้ำ ท่วมทำลายทรัพย์เหล่านั้นเสียก็ตาม, หรือทายาทที่ไม่พอใจ ยื้อแย่งเอาทรัพย์เหล่านั้นไปได้ก็ตาม, เขา ย่อมโศกเศร้า ระทมใจ คร่ำครวญ ตีอกร่ำไห้ ถึงความมืดมัวรำพันอยู่ ว่า “ ทรัพย์ใดได้มีแล้วแก่เรา ทรัพย์นั้นไม่มีเสียแล้ว” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : พระราชา ย่อมวิวาทกับพระราชาบ้าง, กษัตริย์ย่อมวิวาทกับกษัตริย์บ้าง, พราหมณ์ย่อมวิวาทกับพราหมณ์บ้าง, คฤหบดีย่อมวิวาทกับคฤหบดีบ้าง, มารดาย่อมวิวาทกับบุตรบ้าง, บุตรย่อมวิวาทกับมารดาบ้าง, บิดาย่อมวิวาทกับบุตรบ้าง. บุตรย่อมวิวาทกับบิดาบ้าง, พี่น้องชายย่อมวิวาทกับพี่น้องชายบ้าง, พี่น้องชายย่อมวิวาทกับพี่น้องหญิงบ้าง, พี่น้องหญิงย่อมวิวาทกับพี่น้องชายบ้าง, สหายย่อมวิวาทกับสหายบ้าง ; คนเหล่านั้น ทำการทะเลาะ วิวาท บาดหมางกันแล้ว ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยมือบ้าง, ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยก้อนดินบ้าง ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยท่อนไม้บ้าง, ย่อมต่อสู้กันและกันด้วยศัสตราบ้าง, อยู่ในที่นั้นๆ. เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ. ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุ เพราะกามนั่นเทียว. ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ถือดาบและโล่ ผูกสอดธนูและแล่งศร แบ่งกันเป็นสองกองทัพ พุ่งเข้าทำสงครามกัน. เมื่อลูกศรถูกปล่อยไป, เมื่อหอกถูกซัดไป, เมื่อดาบถูกกวัดแกว่งอยู่, คนเหล่านั้น ยิงกันด้วยลูกศรบ้าง, แทงกันด้วยหอกบ้าง, ตัดศีรษะกันด้วยดาบบ้าง, ในสงครามนั้น ๆ, เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตายหรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ. ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษ ของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ถือดาบและโล่ ผูกสอดธนูและแล่งศร วิ่งขึ้นปีนเชิงเทิน (เพื่อปล้นเอาเมือง), เมื่อลูกศรถูกปล่อยไป, เมื่อหอกถูกซัดไป, เมื่อดาบถูกกวัดแกว่งอยู่, คนเหล่านั้น ยิงกันด้วยลูกศรบ้าง, แทงกันด้วยหอกบ้าง, ราดกันด้วยเถ้าถ่านโคมัยอันร้อนบ้าง. ปล่อยของหนักให้ตกลงทับทีเดียวตายทั้งหมู่บ้าง, ตัดศีรษะกันด้วยดาบบ้าง, ในสงครามนั้น ๆ, เขาเหล่านั้นย่อมถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ. ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ย่อมตัดช่อง ย่องเบา ปล้นสะดมในเรือนหลังเดียว คอยดักทำร้ายในที่เปลี่ยว และล่วงภรรยาผู้อื่น. พระราชา จับคนเหล่านั้นมาแล้ว ให้ลงกรรมกรณ์หลายวิธีด้วยกัน เช่นเฆี่ยนด้วยหวายบ้าง, หวดด้วยเชือกหนังบ้าง, ทุบด้วยท่อนไม้บ้าง, ตัดมือเสียบ้าง, ตัดเท้าเสียบ้าง, ตัดเสียทั้งมือและเท้าบ้าง, ตัดหูบ้าง, ตัดจมูกบ้าง, ตัดเสียทั้งหูและจมูกบ้าง, ยอมทำโทษโดยวิธี หม้อเคี่ยวน้ำส้ม๑ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ขอดสังข์๒ บ้าง. ย่อมทำโทษ ๑. หม้อเคี่ยวน้ำส้ม คือต่อยหัวขมองแยกออก แล้วใช้คีมคีบก้อนเหล็กที่ลุกแดงใส่ลงไปให้มันสมองเดือดพลุ่งขึ้น เหมือนน้ำส้มเดือดล้นหม้อ. ๒. ขอดสังข์ คือตัดหนังควั่นไปให้รอบจอนหูทั้งสองข้าง และหลุมคอ แล้วรวบผมทั้งหมดขมวดไว้ ใช้ไม้สอดหมุ ยกขึ้น ให้หนังหลุดติดขึ้นมาพร้อมกับผมแล้วใช้ทรายหยาบขัดกระโหลกศีรษะล้างให้ขาว ดั่งสังข์. โดยวิธี ปากราหู๓ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี มาลัยไฟ๔ บ้าง. ย่อมทำโทษ โดยวิธีคบมือ๕ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ริ้วส่าย๖ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี นุ่งเปลือกไม้๗ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ยืนกวาง๘ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธีเกี่ยวเหยื่อเบ็ด๙ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี เหรียญกษปณ์๑๐ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ทาเกลือบ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี แปรงแสบ๑๑ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี กางเกวียน๑๒ บ้าง, ย่อมทำโทษโดยวิธี ตั่งฟาง๑๓ บ้าง, ย่อมราดด้วยน้ำมันร้อนๆ บ้าง, ย่อมปล่อยให้สุนัขทึ้ง๑๔ บ้าง, ย่อมให้นอนหงายบนหลาวทั้งเป็น ๆ บ้าง, ย่อมตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง. เขาเหล่านั้น ย่อม ๓. ปากราหู คือใช้ขอเหล็กง้างปากให้อ้าแล้วจุดไฟในปาก. อีกอย่างหนึ่ง ใช้สิ่วตอกเจาะตั้งแต่จอนหูเข้าไปจนถึงปาก ให้โลหิตไหลออกมาเต็มปาก ดูปากอ้า ดั่งปากราหู. ๔. มาลัยไฟ คือใช้ผ้าชุบน้ำมันพันจนทั่วตัวแล้วจุดไฟ ๕. คบมือ คือใช้ผ้าชุบน้ำมันพันมือทั่วสองข้างจนทั่ว แล้วจุดไฟ. ๖. ริ้วส่าย คือเชือดหนังลอกออกเป็นริ้วๆ ตั้งแต่ใต้คอไปจนถึงข้อเท้า แล้วเอาเชือกผูกฉุดคร่าไป นักโทษเดินเหยียบริ้วหนังของตัวล้มลุกคลุกคลานไปกว่าจะตาย ๗. นุ่งเปลือกไม้ คือเชือดหนังเป็นริ้ว ๆ อย่างบทก่อน แต่ทำเป็นสองตอน ตั้งแต่ใต้คอจนถึงเอวตอนหนึ่ง ตั้งแต่เอวจนถึงข้อเท้าตอนหนึ่ง ริ้วหนังตอนบนห้อยคลุมลงมาปิดกายตอนล่าง ดูดั่งนุ่งเปลือกไม้ ๘. ยืนกวาง คือใช้ห่วงเหล็กรัดศอกทั้งสอง และเข่าทั้งสอง ตรึงติดไว้กับหลักเหล็กสี่หลักบนพื้นดิน ดูดั่ง กวางถูกตรึง แล้วก่อไฟล้อมลนไปกว่าจะตาย. ๙. เกี่ยวเหยื่อเบ็ด คือใช้เบ็ดมีเงี่ยงสองข้าง เกี่ยวตัวดึงเอาหนังเนื้อและเอ็นออกมาให้หมด. ๑๐. เหรียญกษาปณ์ คือใช้มีดคมเชือดเนื้อออกเป็นแว่นๆ ขนาดเท่าเงินเหรียญจนกว่าจะตาย. ๑๑. แปรงแสบ คือฟันสับเสียให้ยับทั่วกาย แล้วใช้แปรงชุบน้ำแสบ (มีน้ำเกลือเป็นต้น) ถูครูดสีไปมาให้หนังเนื้อเอ็น ขาดหลุดออกมาหมด เหลือแต่กระดูก. ๑๒. างเกวียน คือให้นอนตะแคง แล้วใช้หลาวเหล็กตอกเข้าช่องหูให้ทะลุ ลงไปตรึงแน่นอยู่กับดิน แล้วจับเท้าทั้งสองยกเดินเวียน. ๑๓. ตั่งฟาง คือใช้ลูกหินบดทับตัว บดให้กระดูกแตกละเอียด แต่ไม่ให้หนังขาด แล้วจับผมรวบขึ้นเขย่าๆ ให้เนื้อรวมเข้าเป็นกอง แล้วใช้ผมนั่นแหละพันตะล่อมวางไว้ เหมือนดั่งที่ทำด้วยฟางสำหรับเช็ดเท้า. ๑๔. ให้สุนัขทึ้ง คือขังฝูงสุนัขให้อดหิวโซหลายวัน แล้วปล่อยให้ออกมารุมทึ้ง พักเดียวเหลือแต่กระดูก, -นัยอรรถกถา และพระไตรปิฎกแปลของ ม.อำไพจริต. ถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ในที่นั้น ๆ. ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เอง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว. ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : เพราะกามเป็นเหตุ เพราะกามเป็นเครื่องก่อ เพราะกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว : คนทั้งหลาย ย่อมประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ. ครั้นประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจแล้ว, เขาเหล่านั้น ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เบื้องหน้าแต่การตาย เพราะการแตกสลายแห่งกาย. ภิกษุ ท. ! แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นได้เองมีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นเครื่องก่อ มีกามเป็นเครื่องให้กระทำ เป็นเหตุเพราะกามนั่นเทียว, ดังนี้แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
  • ออกเดินทางกับเรือ Allure of the Seas
    เรือสำราญระดับโลกจาก Royal Caribbean พร้อมเส้นทางยุโรปสุดไฮไลต์!

    เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 1-10 ตุลาคม และ 15-24 ตุลาคม 2568

    สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
    ชมเมืองเวนิสสุดโรแมนติก
    ล่องเรือเที่ยวมาร์เซย์
    เที่ยวบาร์เซโลนา เมืองแห่งศิลปะ
    เดินชมสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิกที่มิลาน
    ล่องเรือชมวิวสวยในลาซาเปลซิ

    ราคาเริ่มต้นเพียง 139,900 บาท/ท่าน

    ✔ พักโรงแรมในโรม 1 คืน
    ✔ พักบนเรือ Allure of the Seas 7 คืน
    ✔ รวมทัวร์พาเที่ยวทุกประเทศ
    ✔ รวมค่าวีซ่าแล้ว
    ✔ รวมค่าทิปพนักงานบนเรือแล้ว

    รหัสแพคเกจทัวร์ : ROYT-AZ-10D8N-CVV-CVV-2510151
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/eab4ce

    ดูเรือ Royal Caribean ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/648705

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #เรือRoyalCaribean #RoyalCaribbean #AllureoftheSeas #Mediterranean #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain#thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    🚢 ออกเดินทางกับเรือ Allure of the Seas เรือสำราญระดับโลกจาก Royal Caribbean พร้อมเส้นทางยุโรปสุดไฮไลต์! 🌍✨ 📅 เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 1-10 ตุลาคม และ 15-24 ตุลาคม 2568 📍 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ✅ ชมเมืองเวนิสสุดโรแมนติก ✅ ล่องเรือเที่ยวมาร์เซย์ ✅ เที่ยวบาร์เซโลนา เมืองแห่งศิลปะ ✅ เดินชมสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิกที่มิลาน ✅ ล่องเรือชมวิวสวยในลาซาเปลซิ 💥 ราคาเริ่มต้นเพียง 139,900 บาท/ท่าน ✔ พักโรงแรมในโรม 1 คืน ✔ พักบนเรือ Allure of the Seas 7 คืน ✔ รวมทัวร์พาเที่ยวทุกประเทศ ✔ รวมค่าวีซ่าแล้ว ✔ รวมค่าทิปพนักงานบนเรือแล้ว ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : ROYT-AZ-10D8N-CVV-CVV-2510151 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/eab4ce ดูเรือ Royal Caribean ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/648705 ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #เรือRoyalCaribean #RoyalCaribbean #AllureoftheSeas #Mediterranean #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain#thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 422 มุมมอง 0 รีวิว
  • Linz River Cruise Port เที่ยว Linz แบบครบทุกมุม! เมืองเล็กแต่มากเสน่ห์ริมแม่น้ำดานูบ ที่ต้องหลงรักตั้งแต่ก้าวแรก ชมจัตุรัสเก่าใจกลางเมือง ปราสาทริมแม่น้ำ พิพิธภัณฑ์ไฮเทค ไปจนถึงรถรางขึ้นเขาที่ชันที่สุดในยุโรป

    Hauptplatz - จัตุรัสหลักของลินซ์
    ศูนย์กลางอำนาจทางศาสนาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปในศตวรรษที่ 14 พระราชวังแห่งนี้มีลักษณะเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงหินหนา สะท้อนถึงความมั่งคั่งและอิทธิพลของศาสนจักรในยุคนั้น

    Ars Electronica Center - พิพิธภัณฑ์ศิลปะและเทคโนโลยี
    ศูนย์วิทยาศาสตร์และศิลปะที่เน้นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมยุคใหม่ จัดแสดงผลงานศิลปะดิจิทัล, การทดลองทางวิทยาศาสตร์, และสื่ออินเตอร์แอคทีฟ

    Linz Castle - ปราสาทลินซ์
    ปราสาทที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงสามารถมองเห็นวิวเมือง Linz และแม่น้ำ Danube เดิมเป็นปราสาทโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่ยุคกลาง และได้ถูกบูรณะหลายครั้ง

    Pöstlingberg - ยอดเขาโพสต์ลิงแบร์ก
    จุดชมวิวธรรมชาติที่สวยที่สุดในลินซ์ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ในปี 1898 ได้สร้าง Pöstlingbergbahn ซึ่งเป็น รถรางขึ้นเขาที่ชันที่สุดในยุโรป

    สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที!
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #LinzRiverCruisePort #DanubeRiver #Hauptplatz #ArsElectronicaCenter #LinzCastle #Pöstlingberg #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    🌟 Linz River Cruise Port เที่ยว Linz แบบครบทุกมุม! เมืองเล็กแต่มากเสน่ห์ริมแม่น้ำดานูบ ที่ต้องหลงรักตั้งแต่ก้าวแรก ✨ ชมจัตุรัสเก่าใจกลางเมือง ปราสาทริมแม่น้ำ พิพิธภัณฑ์ไฮเทค ไปจนถึงรถรางขึ้นเขาที่ชันที่สุดในยุโรป 📍 ✅ Hauptplatz - จัตุรัสหลักของลินซ์ ศูนย์กลางอำนาจทางศาสนาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปในศตวรรษที่ 14 พระราชวังแห่งนี้มีลักษณะเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงหินหนา สะท้อนถึงความมั่งคั่งและอิทธิพลของศาสนจักรในยุคนั้น ✅ Ars Electronica Center - พิพิธภัณฑ์ศิลปะและเทคโนโลยี ศูนย์วิทยาศาสตร์และศิลปะที่เน้นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมยุคใหม่ จัดแสดงผลงานศิลปะดิจิทัล, การทดลองทางวิทยาศาสตร์, และสื่ออินเตอร์แอคทีฟ ✅ Linz Castle - ปราสาทลินซ์ ปราสาทที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงสามารถมองเห็นวิวเมือง Linz และแม่น้ำ Danube เดิมเป็นปราสาทโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่ยุคกลาง และได้ถูกบูรณะหลายครั้ง ✅ Pöstlingberg - ยอดเขาโพสต์ลิงแบร์ก จุดชมวิวธรรมชาติที่สวยที่สุดในลินซ์ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ในปี 1898 ได้สร้าง Pöstlingbergbahn ซึ่งเป็น รถรางขึ้นเขาที่ชันที่สุดในยุโรป 📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที! https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #LinzRiverCruisePort #DanubeRiver #Hauptplatz #ArsElectronicaCenter #LinzCastle #Pöstlingberg #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 402 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมองส่วนหน้าควบคุมสติสัมปชัญญะและความสนใจของตัวเองและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจอย่างมาก มีผู้ป่วยที่ได้รับกระทบกระเทือนสมองส่วนหน้าเขาสามารถตัดสินใจได้แต่เขาไม่สามารถเลือกตัดสินใจในสิ่งที่ดีแบบคนทั่วไปได้ นอกจากนี้ผู้ป่วยยังเสียความสามารถในการรับรู้ทางด้านดนตรีและงานศิลปะด้วย ดังนั้นจึงเป็นทฤษฎีที่ว่าคนเรามีตรรกะและเหตุผลมากๆจะตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมนั้นไม่ครบซะทีเดียวต้องมีการใช้ศิลปะในการตัดสินใจด้วย

    จากหนังสือ #เก่งด้วยศาสตร์นะขาดด้วยศิลป์
    สมองส่วนหน้าควบคุมสติสัมปชัญญะและความสนใจของตัวเองและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจอย่างมาก มีผู้ป่วยที่ได้รับกระทบกระเทือนสมองส่วนหน้าเขาสามารถตัดสินใจได้แต่เขาไม่สามารถเลือกตัดสินใจในสิ่งที่ดีแบบคนทั่วไปได้ นอกจากนี้ผู้ป่วยยังเสียความสามารถในการรับรู้ทางด้านดนตรีและงานศิลปะด้วย ดังนั้นจึงเป็นทฤษฎีที่ว่าคนเรามีตรรกะและเหตุผลมากๆจะตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมนั้นไม่ครบซะทีเดียวต้องมีการใช้ศิลปะในการตัดสินใจด้วย จากหนังสือ #เก่งด้วยศาสตร์นะขาดด้วยศิลป์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • พอเราพูดถึงพัดลม CPU ในคอม หลายคนอาจมองเป็นแค่ก้อนเหล็ก–พัดลมหมุน ๆ ที่เอาไว้ระบายความร้อนให้ชิปไม่ร้อนเกินไป แต่จริง ๆ แล้วทุกชิ้นที่เห็นในนั้นผ่านกระบวนการผลิตกว่า 15 ขั้นตอน ตั้งแต่การดัดท่อทองแดง, เชื่อมฐานสัมผัส, เคลือบป้องกันสนิม, ประกอบซี่ฟินอลูมิเนียม, จนถึงทดสอบแรงลมและแพ็กใส่กล่อง

    สิ่งที่เซอร์ไพรส์คือ “หลายขั้นตอนยังต้องใช้ฝีมือแรงงานมนุษย์อยู่มาก” เช่น การเชื่อมแผ่นฐาน vapor chamber กับ heatpipe ต้องทำด้วยมือ เพราะแค่พลาด 0.1 มม. ก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพได้

    YouTube ช่อง SatisFactory Process ที่พาไปถ่ายทำถึงโรงงานในปักกิ่งบอกว่า ดูเพลินอย่างกับสารคดี — เพราะมันแสดงให้เห็นว่าวงการคอมพิวเตอร์ยังไม่ใช่แค่ AI หรือ cloud อย่างเดียว แต่ "ชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์" ที่เราจับต้องได้ก็เต็มไปด้วยศิลปะการผลิตไม่แพ้กัน

    DeepCool เปิดโรงงานในปักกิ่งให้ชมการผลิตชุดระบายความร้อน CPU ตั้งแต่ต้นจนจบ  
    • วิดีโอยาว ~30 นาที จากช่อง SatisFactory Process  
    • เห็นตั้งแต่การสร้าง heatpipe → เชื่อมฐาน → ประกอบพัดลม → ทดสอบ

    กระบวนการผลิตมีมากกว่า 15 ขั้นตอน เช่น:  
    • ตัด-ขึ้นรูปทองแดง, เติมสารภายใน, ทำความสะอาด, ทดสอบ leak  
    • ประกอบ fin, เจาะรูติด heatpipe, ติดพัดลม  
    • แพ็กกิ้งพร้อมส่ง

    บางขั้นตอนต้องอาศัยแรงงานมนุษย์ เช่น:  
    • การติดแผ่นฐาน vapor chamber → ถ้าเยื้องนิดเดียวประสิทธิภาพลด  
    • การเดินสายไฟพัดลม, ตรวจ QC ก่อนบรรจุ

    เครื่องมือชั้นสูงผสมกับเทคนิคดั้งเดิม เช่น automated filling + soldering manual  
    • โรงงานใช้ทั้งระบบ automation และพนักงานตรวจสอบสภาพ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/air-cooling/heres-a-behind-the-scenes-look-at-how-a-cpu-air-cooler-is-made-deepcool-gives-a-start-to-finish-tour-of-its-main-production-facility
    พอเราพูดถึงพัดลม CPU ในคอม หลายคนอาจมองเป็นแค่ก้อนเหล็ก–พัดลมหมุน ๆ ที่เอาไว้ระบายความร้อนให้ชิปไม่ร้อนเกินไป แต่จริง ๆ แล้วทุกชิ้นที่เห็นในนั้นผ่านกระบวนการผลิตกว่า 15 ขั้นตอน ตั้งแต่การดัดท่อทองแดง, เชื่อมฐานสัมผัส, เคลือบป้องกันสนิม, ประกอบซี่ฟินอลูมิเนียม, จนถึงทดสอบแรงลมและแพ็กใส่กล่อง สิ่งที่เซอร์ไพรส์คือ “หลายขั้นตอนยังต้องใช้ฝีมือแรงงานมนุษย์อยู่มาก” เช่น การเชื่อมแผ่นฐาน vapor chamber กับ heatpipe ต้องทำด้วยมือ เพราะแค่พลาด 0.1 มม. ก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพได้ YouTube ช่อง SatisFactory Process ที่พาไปถ่ายทำถึงโรงงานในปักกิ่งบอกว่า ดูเพลินอย่างกับสารคดี — เพราะมันแสดงให้เห็นว่าวงการคอมพิวเตอร์ยังไม่ใช่แค่ AI หรือ cloud อย่างเดียว แต่ "ชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์" ที่เราจับต้องได้ก็เต็มไปด้วยศิลปะการผลิตไม่แพ้กัน ✅ DeepCool เปิดโรงงานในปักกิ่งให้ชมการผลิตชุดระบายความร้อน CPU ตั้งแต่ต้นจนจบ   • วิดีโอยาว ~30 นาที จากช่อง SatisFactory Process   • เห็นตั้งแต่การสร้าง heatpipe → เชื่อมฐาน → ประกอบพัดลม → ทดสอบ ✅ กระบวนการผลิตมีมากกว่า 15 ขั้นตอน เช่น:   • ตัด-ขึ้นรูปทองแดง, เติมสารภายใน, ทำความสะอาด, ทดสอบ leak   • ประกอบ fin, เจาะรูติด heatpipe, ติดพัดลม   • แพ็กกิ้งพร้อมส่ง ✅ บางขั้นตอนต้องอาศัยแรงงานมนุษย์ เช่น:   • การติดแผ่นฐาน vapor chamber → ถ้าเยื้องนิดเดียวประสิทธิภาพลด   • การเดินสายไฟพัดลม, ตรวจ QC ก่อนบรรจุ ✅ เครื่องมือชั้นสูงผสมกับเทคนิคดั้งเดิม เช่น automated filling + soldering manual   • โรงงานใช้ทั้งระบบ automation และพนักงานตรวจสอบสภาพ https://www.tomshardware.com/pc-components/air-cooling/heres-a-behind-the-scenes-look-at-how-a-cpu-air-cooler-is-made-deepcool-gives-a-start-to-finish-tour-of-its-main-production-facility
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดย...วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย

    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาหลายครั้ง ทรงพบว่าประชาชนที่อยู่ในท้องถิ่นห่างไกลมีความทุกข์ยากอันเนื่องมาจากขาดโอกาสทางการศึกษาและความยากลำบากในการเข้ารับการศึกษาของเด็กชาวกัมพูชา ซึ่งปัญหาดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกับปัญหาในประเทศไทย จึงมีพระราชดำริพระราชทานความช่วยเหลือแก่กัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการศึกษาและการสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมราชองครักษ์ กองบัญชาการทหารสูงสุด กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมสนองพระราชดำริ ได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งคณะกรรมการโครงการโรงเรียนพระราชทานในราชอาณาจักรกัมพูชา และทรงรับเป็นประธานโครงการ

    รัฐบาลกัมพูชาโดยฮุนเซน นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความปลื้มปีติในพระมหากรุณาธิคุณ และยินดีรับสนองพระราชดำริอย่างเต็มที่ และน้อมเกล้าฯ ถวายที่ดินจำนวน 45 ไร่ ตั้งอยู่ที่ตำบลซ็อมโบร์ จังหวัดกำปงธม สำหรับเป็นพื้นที่ก่อสร้างวิทยาลัยกำปงเฌอเตียล

    วันที่ 17 พ.ค. 2544 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างอาคารสถานที่ต่างๆ โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือน ก.ย. 2544 ต่อมามีการก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมอีกจำนวนมากและขยายพื้นที่ออกไปอีก 72 ไร่ รวมเป็น 117 ไร่ การก่อสร้างทั้งหมดเสร็จสิ้นในเดือน เม.ย. 2548

    วิทยาลัยกำปงเฌอเตียล เป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา เปิดสอนทั้งสายสามัญและสายอาชีวศึกษา ปัจจุบันมีนักเรียนรวมประมาณ 1,200 คน โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กและเยาวชนกัมพูชามีโอกาสได้รับการศึกษามากขึ้น ดังพระราชดำรัสในพิธีเปิดวิทยาลัยกำปงเฌอเตียล ณ จังหวัดกำปงธม ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2548 ความตอนหนึ่งว่า

    “... ข้าพเจ้ามาศึกษาศิลปะและวัฒนธรรมในประเทศกัมพูชาหลายครั้งทุกครั้งที่มารัฐบาลแห่งประเทศกัมพูชา อีกทั้งประชาชนชาวกัมพูชาต้อนรับข้าพเจ้าอย่างดียิ่ง สะท้อนให้เห็นความเป็นมิตรที่ดีต่อกันมานาน ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจไมตรีของรัฐบาลและประชาชนกัมพูชา และมีใจปรารถนาที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นการสนองตอบ ข้าพเจ้าไม่เห็นว่าจะมีสิ่งใดดีไปกว่าการส่งเสริมการศึกษา เพื่อให้เยาวชนมีความรู้และมีอนาคต จึงได้คิดโครงการสร้างสถานศึกษาขึ้น ณที่นี้ เมื่อเริ่มต้นโครงการก็ได้รับการสนับสนุนจากหลายๆ ฝ่าย จากทั้งสองประเทศ และผู้มีจิตศรัทธาร่วมช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก... วิทยาลัยกำปงเฌอเตียลนี้ จะเป็นเสมือนอนุสรณ์แห่งสายสัมพันธ์อันมั่นคงและยั่งยืนระหว่างเราสองประเทศสืบไปตราบนานเท่านาน ...”

    นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนการศึกษาของวิทยาลัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทุนแก่นักเรียนเพื่อให้มาศึกษาต่อในประเทศไทยในหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิตและหลักสูตรอาชีวศึกษาเพื่อนำความรู้กลับไปสอนและพัฒนาการจัดการศึกษาของวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังได้พระราชทานเครื่องดนตรีปี่พาทย์ครบชุด และพระราชทานทรัพย์สำหรับจ้างครูท้องถิ่นผู้ชำนาญการสอนนาฏศิลป์และดนตรี

    ต่อมาในปี 2549 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในพระราชฐานะทูตสันถวไมตรีขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ร่วมมือกับราชอาณาจักรกัมพูชา ทำโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนใน 3 จังหวัด คือโรงเรียนประถมศึกษาดอมเบย (Domber Primary School) ในจังหวัดกำปงจาม (Kampong Cham Province) โรงเรียนประถมศึกษาทมปุง (Tompung Primary School) ในจังหวัดกำปงสะปือ (Kampong Speu Province) และโรงเรียนประถมศึกษาปุนเลย (Ponlei Primary School) ในจังหวัดเปรแวง (Prey Veng Province) ที่มีกิจกรรมการเกษตรแบบผสมผสานขนาดเล็ก พัฒนาแหล่งน้ำประจำโรงเรียน การบริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งการพัฒนาอนามัยส่วนบุคคลและสุขาภิบาล การดำเนินงานโครงการครอบคลุมเด็กนักเรียน 2,348 คน ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้แก่โรงเรียนและชุมชนอื่นๆ ต่อไป

    โดย...วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาหลายครั้ง ทรงพบว่าประชาชนที่อยู่ในท้องถิ่นห่างไกลมีความทุกข์ยากอันเนื่องมาจากขาดโอกาสทางการศึกษาและความยากลำบากในการเข้ารับการศึกษาของเด็กชาวกัมพูชา ซึ่งปัญหาดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกับปัญหาในประเทศไทย จึงมีพระราชดำริพระราชทานความช่วยเหลือแก่กัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการศึกษาและการสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมราชองครักษ์ กองบัญชาการทหารสูงสุด กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมสนองพระราชดำริ ได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งคณะกรรมการโครงการโรงเรียนพระราชทานในราชอาณาจักรกัมพูชา และทรงรับเป็นประธานโครงการ รัฐบาลกัมพูชาโดยฮุนเซน นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความปลื้มปีติในพระมหากรุณาธิคุณ และยินดีรับสนองพระราชดำริอย่างเต็มที่ และน้อมเกล้าฯ ถวายที่ดินจำนวน 45 ไร่ ตั้งอยู่ที่ตำบลซ็อมโบร์ จังหวัดกำปงธม สำหรับเป็นพื้นที่ก่อสร้างวิทยาลัยกำปงเฌอเตียล วันที่ 17 พ.ค. 2544 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างอาคารสถานที่ต่างๆ โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือน ก.ย. 2544 ต่อมามีการก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมอีกจำนวนมากและขยายพื้นที่ออกไปอีก 72 ไร่ รวมเป็น 117 ไร่ การก่อสร้างทั้งหมดเสร็จสิ้นในเดือน เม.ย. 2548 วิทยาลัยกำปงเฌอเตียล เป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา เปิดสอนทั้งสายสามัญและสายอาชีวศึกษา ปัจจุบันมีนักเรียนรวมประมาณ 1,200 คน โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กและเยาวชนกัมพูชามีโอกาสได้รับการศึกษามากขึ้น ดังพระราชดำรัสในพิธีเปิดวิทยาลัยกำปงเฌอเตียล ณ จังหวัดกำปงธม ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2548 ความตอนหนึ่งว่า “... ข้าพเจ้ามาศึกษาศิลปะและวัฒนธรรมในประเทศกัมพูชาหลายครั้งทุกครั้งที่มารัฐบาลแห่งประเทศกัมพูชา อีกทั้งประชาชนชาวกัมพูชาต้อนรับข้าพเจ้าอย่างดียิ่ง สะท้อนให้เห็นความเป็นมิตรที่ดีต่อกันมานาน ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจไมตรีของรัฐบาลและประชาชนกัมพูชา และมีใจปรารถนาที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นการสนองตอบ ข้าพเจ้าไม่เห็นว่าจะมีสิ่งใดดีไปกว่าการส่งเสริมการศึกษา เพื่อให้เยาวชนมีความรู้และมีอนาคต จึงได้คิดโครงการสร้างสถานศึกษาขึ้น ณที่นี้ เมื่อเริ่มต้นโครงการก็ได้รับการสนับสนุนจากหลายๆ ฝ่าย จากทั้งสองประเทศ และผู้มีจิตศรัทธาร่วมช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก... วิทยาลัยกำปงเฌอเตียลนี้ จะเป็นเสมือนอนุสรณ์แห่งสายสัมพันธ์อันมั่นคงและยั่งยืนระหว่างเราสองประเทศสืบไปตราบนานเท่านาน ...” นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนการศึกษาของวิทยาลัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทุนแก่นักเรียนเพื่อให้มาศึกษาต่อในประเทศไทยในหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิตและหลักสูตรอาชีวศึกษาเพื่อนำความรู้กลับไปสอนและพัฒนาการจัดการศึกษาของวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังได้พระราชทานเครื่องดนตรีปี่พาทย์ครบชุด และพระราชทานทรัพย์สำหรับจ้างครูท้องถิ่นผู้ชำนาญการสอนนาฏศิลป์และดนตรี ต่อมาในปี 2549 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในพระราชฐานะทูตสันถวไมตรีขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ร่วมมือกับราชอาณาจักรกัมพูชา ทำโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนใน 3 จังหวัด คือโรงเรียนประถมศึกษาดอมเบย (Domber Primary School) ในจังหวัดกำปงจาม (Kampong Cham Province) โรงเรียนประถมศึกษาทมปุง (Tompung Primary School) ในจังหวัดกำปงสะปือ (Kampong Speu Province) และโรงเรียนประถมศึกษาปุนเลย (Ponlei Primary School) ในจังหวัดเปรแวง (Prey Veng Province) ที่มีกิจกรรมการเกษตรแบบผสมผสานขนาดเล็ก พัฒนาแหล่งน้ำประจำโรงเรียน การบริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งการพัฒนาอนามัยส่วนบุคคลและสุขาภิบาล การดำเนินงานโครงการครอบคลุมเด็กนักเรียน 2,348 คน ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้แก่โรงเรียนและชุมชนอื่นๆ ต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 0 รีวิว
  • Family Trip CHENGDU 4 วัน 3 คืน เส้นทางสายมู ไหว้พระเสริมเฮง เที่ยวครบ จบแบบปัง!

    เดินทางโดย Thai Airways
    วันนี้ - 31 ก.ค. 68
    พักดี 3 คืนที่ JINNIU EVEN HOTEL by IHG
    น้ำหนักกระเป๋า 23 กก.
    เริ่มต้นเพียง 26,888.-

    ไฮไลท์เสริมสิริมงคล & เที่ยวฟินๆ
    • วัดต้าสือ ขอพรโชคดี วัดที่ “พระถังซัมจั๋ง” เคยบวช
    • อารามเหวินซู ชมศิลปะโบราณราชวงศ์ถัง
    • ศาลเจ้าหลี่ปิง แห่งยุคสามก๊ก
    • ภูเขาชิงเฉิง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ระดับ A5
    • เมืองโบราณเจียจือ & ถนนโบราณจินหลี่
    • ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า สุดน่ารัก
    • ถนนคนเดินควานจ๋าย & ถนนชุนหลี่
    • ลิ้มรสของอร่อยขึ้นชื่อ: เสี่ยวหลงเปา, หม่าล่า, เต้าหู้เหม็น
    • แวะจิบชา Hey Tea สุดชิค ถ่ายรูปปังลง IG
    เซลฟี่กับแพนด้าถือไม้เซลฟี่สีชมพู มุมห้ามพลาด!

    #เฉิงตู #สายมูต้องมา #FamilyTripChengdu #เที่ยวจีน2568 #ฟรีวีซ่าไต้หวัน #สายบุญเสริมดวง #แพนด้าเฉิงตู #เที่ยวจีนกับครอบครัว #กินเที่ยวไหว้ครบจบในทริปเดียว

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e53048

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    🎉 Family Trip CHENGDU 4 วัน 3 คืน ✈️ เส้นทางสายมู ไหว้พระเสริมเฮง เที่ยวครบ จบแบบปัง! 🐼 🛫 เดินทางโดย Thai Airways 📅 วันนี้ - 31 ก.ค. 68 🏨 พักดี 3 คืนที่ JINNIU EVEN HOTEL by IHG 💼 น้ำหนักกระเป๋า 23 กก. 💰 เริ่มต้นเพียง 26,888.- ไฮไลท์เสริมสิริมงคล & เที่ยวฟินๆ • วัดต้าสือ ขอพรโชคดี วัดที่ “พระถังซัมจั๋ง” เคยบวช • อารามเหวินซู ชมศิลปะโบราณราชวงศ์ถัง • ศาลเจ้าหลี่ปิง แห่งยุคสามก๊ก • ภูเขาชิงเฉิง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ระดับ A5 • เมืองโบราณเจียจือ & ถนนโบราณจินหลี่ • ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า สุดน่ารัก • ถนนคนเดินควานจ๋าย & ถนนชุนหลี่ • ลิ้มรสของอร่อยขึ้นชื่อ: เสี่ยวหลงเปา, หม่าล่า, เต้าหู้เหม็น • แวะจิบชา Hey Tea สุดชิค ถ่ายรูปปังลง IG • 📸 เซลฟี่กับแพนด้าถือไม้เซลฟี่สีชมพู มุมห้ามพลาด! #เฉิงตู #สายมูต้องมา #FamilyTripChengdu #เที่ยวจีน2568 #ฟรีวีซ่าไต้หวัน #สายบุญเสริมดวง #แพนด้าเฉิงตู #เที่ยวจีนกับครอบครัว #กินเที่ยวไหว้ครบจบในทริปเดียว 🐼⛰🧧 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e53048 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 597 มุมมอง 0 รีวิว
  • หน่อย เปิดอบรมพัฒนาศักยภาพศูนย์พัฒนาวิชาการโรงเรียนสังกัด อบจ.นครราชสีมา เป็นการเสริมสร้างศักยภาพในการปฏิบัติงานของกรรมการศูนย์ฯ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ร่วมกัน เพื่อนำไปสู่ผลงานที่รวดเร็วและถูกต้อง โดยปัจจุบันคณะกรรมการศูนย์ฯ มีจำนวน 7 ศูนย์ 195 คน ครอบคลุม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย, กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, งานวัดผลและประเมินผลการเรียน, กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน(แนะแนว), กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ, งานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยหลังจากจบการอบรมจะได้นำความรู้ไปสู่การปฏิบัติงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ณ โรงแรมลามอนเต้ เขาใหญ่ อ.ปากช่อง

    ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล
    นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา
    17 มิถุนายน 2568

    #หน่อยยลดา
    #นายกหน่อย
    #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    หน่อย เปิดอบรมพัฒนาศักยภาพศูนย์พัฒนาวิชาการโรงเรียนสังกัด อบจ.นครราชสีมา เป็นการเสริมสร้างศักยภาพในการปฏิบัติงานของกรรมการศูนย์ฯ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ร่วมกัน เพื่อนำไปสู่ผลงานที่รวดเร็วและถูกต้อง โดยปัจจุบันคณะกรรมการศูนย์ฯ มีจำนวน 7 ศูนย์ 195 คน ครอบคลุม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย, กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, งานวัดผลและประเมินผลการเรียน, กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน(แนะแนว), กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ, งานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยหลังจากจบการอบรมจะได้นำความรู้ไปสู่การปฏิบัติงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ณ โรงแรมลามอนเต้ เขาใหญ่ อ.ปากช่อง ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา 17 มิถุนายน 2568 #หน่อยยลดา #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์' จาก 'ศิลปินแห่งชาติ' สู่ 'ศิลปินของชาติ'
    .
    การประกาศลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ บนเวทีกิจกรรมจัดการมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ จ.ภูเก็ต ถือว่าเป็นเรื่องที่สร้างความประหลาดใจให้พอสมควร จนทำให้หลายฝ่ายสงสัยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นอีกหรือไม่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000055057

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes

    'เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์' จาก 'ศิลปินแห่งชาติ' สู่ 'ศิลปินของชาติ' . การประกาศลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ บนเวทีกิจกรรมจัดการมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ จ.ภูเก็ต ถือว่าเป็นเรื่องที่สร้างความประหลาดใจให้พอสมควร จนทำให้หลายฝ่ายสงสัยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นอีกหรือไม่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000055057 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 516 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อผาเงา วัดพระธาตุผาเงา จ.เชียงราย ปี2538
    เหรียญหลวงพ่อผาเงา วัดพระธาตุผาเงา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ปี2538 // พระดีพิธีใหญ่ รุ่นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีทรงเสด็จเททอง //พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ อธิษฐานขอได้ไหว์รับ คุ้มครองป้องกันภัย แคล้วคลาด โชคลาภ เรียกทรัพย์ กันผี กันคุณไสยมนต์ดำ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง >>

    ** พระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงา เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ศิลปะสมัยเชียงแสนสิงห์สาม มีอายุระหว่าง 700-1,300 ปี ขุดค้นพบในวันที่ 17 มีนาคม 2519 เวลา 14.00 น. ที่มาของชื่อ “หลวงพ่อผาเงา” ได้มาจากความฝันของคุณพ่อจันทา พรมมา หนึ่งในคณะศรัทธาทั้งหมดที่ เริ่มบุกเบิกแผ้วถางป่าได้นอนหลับฝันในเวลากลางคืนว่ามีพระภิกษุรูปหนึ่งร่างสูงดำ มาบอกว่าก่อนยกชิ้นส่วนองค์พระประธานเดิมขึ้นให้นิมนต์พระ 8 รูป มาสวดถอนแล้วจะพบสิ่งมหัศจรรย์ยิ่งกว่านี้ เมื่อปฏิบัติตามนั้นจึงขุดพบพระพุทธรูปดังกล่าวและตั้งชื่อตามพระธาตุที่ตั้งอยู่บนก้อนหินใหญ่กับที่ฝันเห็นพระภิกษุว่า “หลวงพ่อผาเงา” นั่นเอง >>


    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อผาเงา วัดพระธาตุผาเงา จ.เชียงราย ปี2538 เหรียญหลวงพ่อผาเงา วัดพระธาตุผาเงา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ปี2538 // พระดีพิธีใหญ่ รุ่นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีทรงเสด็จเททอง //พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ อธิษฐานขอได้ไหว์รับ คุ้มครองป้องกันภัย แคล้วคลาด โชคลาภ เรียกทรัพย์ กันผี กันคุณไสยมนต์ดำ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง >> ** พระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงา เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ศิลปะสมัยเชียงแสนสิงห์สาม มีอายุระหว่าง 700-1,300 ปี ขุดค้นพบในวันที่ 17 มีนาคม 2519 เวลา 14.00 น. ที่มาของชื่อ “หลวงพ่อผาเงา” ได้มาจากความฝันของคุณพ่อจันทา พรมมา หนึ่งในคณะศรัทธาทั้งหมดที่ เริ่มบุกเบิกแผ้วถางป่าได้นอนหลับฝันในเวลากลางคืนว่ามีพระภิกษุรูปหนึ่งร่างสูงดำ มาบอกว่าก่อนยกชิ้นส่วนองค์พระประธานเดิมขึ้นให้นิมนต์พระ 8 รูป มาสวดถอนแล้วจะพบสิ่งมหัศจรรย์ยิ่งกว่านี้ เมื่อปฏิบัติตามนั้นจึงขุดพบพระพุทธรูปดังกล่าวและตั้งชื่อตามพระธาตุที่ตั้งอยู่บนก้อนหินใหญ่กับที่ฝันเห็นพระภิกษุว่า “หลวงพ่อผาเงา” นั่นเอง >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขัวศิลปะโพสต์
    “อาจารย์เฉลิมชัยฯ ลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ โดยรายละเอียด ได้ประจักษ์ตามหนังสือลายมือขอลาออกจากตำแหน่งศิลปินแห่งชาติ (อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์)
    ขัวศิลปะโพสต์ “อาจารย์เฉลิมชัยฯ ลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ โดยรายละเอียด ได้ประจักษ์ตามหนังสือลายมือขอลาออกจากตำแหน่งศิลปินแห่งชาติ (อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์)
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทคนิคใหม่ในการสร้างภาพบนแผ่น CD โดยใช้ข้อมูลดิจิทัล
    นักพัฒนาได้รื้อฟื้น โปรเจคซอฟต์แวร์อายุเกือบ 20 ปี ที่ช่วยให้สามารถ สร้างภาพบนพื้นผิวบันทึกข้อมูลของแผ่น CD โดยใช้ การจัดเรียงข้อมูลแบบ 1s และ 0s ซึ่งแตกต่างจากเทคโนโลยี Lightscribe และ LabelTag ที่เคยใช้กันมาก่อน

    วิธีการทำงานของเทคนิคนี้
    เทคนิคนี้ใช้ การบันทึกข้อมูลเสียงเป็นภาพ ซึ่งหมายความว่า แผ่น CD ที่ผ่านกระบวนการนี้จะไม่สามารถใช้เก็บข้อมูลอื่น ๆ ได้ เนื่องจาก พื้นที่ทั้งหมดถูกใช้เพื่อสร้างภาพ

    ข้อมูลจากข่าว
    - เทคนิคนี้ใช้การบันทึกข้อมูลเสียงเพื่อสร้างภาพบนแผ่น CD
    = ไม่ต้องใช้ Lightscribe, LabelTag หรือฮาร์ดแวร์พิเศษ
    - สามารถใช้กับแผ่น CD ทั่วไปและไดรฟ์ CD-RW มาตรฐาน
    = อาศัยหลักการที่ว่า 1s และ 0s ที่บันทึกลงบนแผ่น CD จะสะท้อนแสงแตกต่างกัน
    - แผ่น CD ที่ผ่านกระบวนการนี้จะกลายเป็นงานศิลปะและไม่สามารถใช้เก็บข้อมูลได้

    ความแตกต่างจาก Lightscribe และ LabelTag
    Lightscribe และ LabelTag ใช้ พื้นผิวพิเศษบนแผ่น CD เพื่อให้สามารถ บันทึกภาพบนด้านที่ไม่ได้ใช้เก็บข้อมูล ขณะที่เทคนิคใหม่นี้ ใช้พื้นที่บันทึกข้อมูลโดยตรง

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แผ่น CD ที่ผ่านกระบวนการนี้จะไม่สามารถใช้เก็บข้อมูลอื่น ๆ ได้
    - ต้องใช้แผ่น CD ที่รองรับการสร้างภาพ เนื่องจากแต่ละแบรนด์มีความแตกต่างกัน
    = มีเพียง 4 แบรนด์ที่ได้รับการทดสอบ ได้แก่ Verbatim (2 รุ่น), TDK และ ePerformance
    - ต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะในการสร้างไฟล์เสียงที่มีรูปแบบข้อมูล 1s และ 0s ที่เหมาะสม

    เทคนิคนี้ อาจช่วยให้ศิลปินสามารถสร้างงานศิลปะบนแผ่น CD ได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์พิเศษ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการพัฒนาเพิ่มเติมจะช่วยให้สามารถใช้กับแผ่น CD ได้หลากหลายขึ้นหรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/new-tool-burns-images-onto-compact-discs-recording-area-using-ones-and-zeros-unlike-lightscribe-the-technique-works-on-any-disc
    💿 เทคนิคใหม่ในการสร้างภาพบนแผ่น CD โดยใช้ข้อมูลดิจิทัล นักพัฒนาได้รื้อฟื้น โปรเจคซอฟต์แวร์อายุเกือบ 20 ปี ที่ช่วยให้สามารถ สร้างภาพบนพื้นผิวบันทึกข้อมูลของแผ่น CD โดยใช้ การจัดเรียงข้อมูลแบบ 1s และ 0s ซึ่งแตกต่างจากเทคโนโลยี Lightscribe และ LabelTag ที่เคยใช้กันมาก่อน 🔍 วิธีการทำงานของเทคนิคนี้ เทคนิคนี้ใช้ การบันทึกข้อมูลเสียงเป็นภาพ ซึ่งหมายความว่า แผ่น CD ที่ผ่านกระบวนการนี้จะไม่สามารถใช้เก็บข้อมูลอื่น ๆ ได้ เนื่องจาก พื้นที่ทั้งหมดถูกใช้เพื่อสร้างภาพ ✅ ข้อมูลจากข่าว - เทคนิคนี้ใช้การบันทึกข้อมูลเสียงเพื่อสร้างภาพบนแผ่น CD = ไม่ต้องใช้ Lightscribe, LabelTag หรือฮาร์ดแวร์พิเศษ - สามารถใช้กับแผ่น CD ทั่วไปและไดรฟ์ CD-RW มาตรฐาน = อาศัยหลักการที่ว่า 1s และ 0s ที่บันทึกลงบนแผ่น CD จะสะท้อนแสงแตกต่างกัน - แผ่น CD ที่ผ่านกระบวนการนี้จะกลายเป็นงานศิลปะและไม่สามารถใช้เก็บข้อมูลได้ 🔥 ความแตกต่างจาก Lightscribe และ LabelTag Lightscribe และ LabelTag ใช้ พื้นผิวพิเศษบนแผ่น CD เพื่อให้สามารถ บันทึกภาพบนด้านที่ไม่ได้ใช้เก็บข้อมูล ขณะที่เทคนิคใหม่นี้ ใช้พื้นที่บันทึกข้อมูลโดยตรง ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แผ่น CD ที่ผ่านกระบวนการนี้จะไม่สามารถใช้เก็บข้อมูลอื่น ๆ ได้ - ต้องใช้แผ่น CD ที่รองรับการสร้างภาพ เนื่องจากแต่ละแบรนด์มีความแตกต่างกัน = มีเพียง 4 แบรนด์ที่ได้รับการทดสอบ ได้แก่ Verbatim (2 รุ่น), TDK และ ePerformance - ต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะในการสร้างไฟล์เสียงที่มีรูปแบบข้อมูล 1s และ 0s ที่เหมาะสม เทคนิคนี้ อาจช่วยให้ศิลปินสามารถสร้างงานศิลปะบนแผ่น CD ได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์พิเศษ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการพัฒนาเพิ่มเติมจะช่วยให้สามารถใช้กับแผ่น CD ได้หลากหลายขึ้นหรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/new-tool-burns-images-onto-compact-discs-recording-area-using-ones-and-zeros-unlike-lightscribe-the-technique-works-on-any-disc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ปันความสุขสู่ภูมิภาค.. ยกทัพอาสาสมัครศิลปิน และของรางวัลหลากหลายรายการ จัดคาราวานป่อเต็กตึ๊ง ปันความสุข ให้ชุมชน” มอบความสุขให้แก่ชาวสมุทรสาคร
    .
    วันนี้ (วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ และนายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ จัด “คาราวาน ป่อเต็กตึ๊ง ปันความสุข ให้ชุมชน” ครั้งที่ 6 ยกทัพอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รวมถึงอาสาสมัครศิลปิน อาทิ นายธวัชชัย คชาอนันต์ (แฮ็ค ชวนชื่น) นางสาวอธิชา เทศขำ (เมย์-อธิชา) นายขวัญชัย เย็นพายัพ (เจี๊ยวจ๊าว เชิญยิ้ม) นายสมบูรณ์ จุลมุสิก (ทศพล หิมพานต์) นายรัชต์พงษ์ ทองทับ (น้าทูล) นายสัญญา วงพรนารายณ์ (เก่ง) นายสดใส โรจนวิชัย นางสาวกฤษณา แซ่โค้ว (กุง) มุ่งสู่จังหวัดสมุทรสาคร มอบความสุข พร้อมจัดกิจกรรมแจกของขวัญ และของรางวัลสุดพิเศษ นอกจากนี้ ยังได้จัดบริการด้านการแพทย์ฟรีจากหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชนมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กิจกรรมนันทนาการร่วมสนุกรับของรางวัล และกิจกรรมเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และหน่วยงานในเครือ ได้แก่ โรงพยาบาลหัวเฉียว คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว (คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว) และมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ อาทิ การตรวจรักษาโรคทั่วไป แจกจ่ายยา ตรวจและแจกแว่นสายตา ตัดผม การเจาะเลือด เพื่อตรวจการทำงานของตับ ไต ไขมันในเส้นเลือด น้ำตาลในเลือด และเก๊าท์เบื้องต้น ฯลฯ รวมทั้งจัดบูธแจกจ่ายอาหาร เครื่องดื่ม และขนม ให้กับชาวสมุทรสาคร โดยมี นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธี นายอุดม สมพร้อม ผู้อำนวยการโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย คณะมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร แขกผู้มีเกียรติ และชาวสมุทรสาคร ร่วมในพิธี โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานและอิ่มเอมใจ ณ โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย จังหวัดสมุทรสาคร
    .
    ตลอดระยะเวลาวิกฤตกาลแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ผ่านมาประชาชนต้องผ่านสถานการณ์ที่ทุกข์ยาก และได้รับผลกระทบในการดำรงชีวิตอย่างยากลำบาก เมื่อสถานการณ์ได้เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จึงตระหนักในหน้าที่ ที่จะต้องสร้างความสุข สร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชนในชุมชนต่างๆ ซึ่ง “คาราวาน ป่อเต็กตึ๊ง ปันความสุข ให้ชุมชน” ครั้งที่ 6 มูลนิธิฯ ได้ขยายโครงการสู่ภูมิภาคเป็นครั้งแรก โดยมูลนิธิฯ ยึดมั่นการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขโดยไม่แบ่งแยกชนชั้น เชื้อชาติ วรรณะ และศาสนา ตามหลักปณิธาน “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” ที่มูลนิธิฯ ได้ดำเนินการมากว่า 115 ปี
    .
    ติดต่อสอบถาม ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    #ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต#
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418
    #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ปันความสุขสู่ภูมิภาค.. ยกทัพอาสาสมัครศิลปิน และของรางวัลหลากหลายรายการ จัดคาราวานป่อเต็กตึ๊ง ปันความสุข ให้ชุมชน” มอบความสุขให้แก่ชาวสมุทรสาคร . วันนี้ (วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ และนายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ จัด “คาราวาน ป่อเต็กตึ๊ง ปันความสุข ให้ชุมชน” ครั้งที่ 6 ยกทัพอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รวมถึงอาสาสมัครศิลปิน อาทิ นายธวัชชัย คชาอนันต์ (แฮ็ค ชวนชื่น) นางสาวอธิชา เทศขำ (เมย์-อธิชา) นายขวัญชัย เย็นพายัพ (เจี๊ยวจ๊าว เชิญยิ้ม) นายสมบูรณ์ จุลมุสิก (ทศพล หิมพานต์) นายรัชต์พงษ์ ทองทับ (น้าทูล) นายสัญญา วงพรนารายณ์ (เก่ง) นายสดใส โรจนวิชัย นางสาวกฤษณา แซ่โค้ว (กุง) มุ่งสู่จังหวัดสมุทรสาคร มอบความสุข พร้อมจัดกิจกรรมแจกของขวัญ และของรางวัลสุดพิเศษ นอกจากนี้ ยังได้จัดบริการด้านการแพทย์ฟรีจากหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชนมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กิจกรรมนันทนาการร่วมสนุกรับของรางวัล และกิจกรรมเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และหน่วยงานในเครือ ได้แก่ โรงพยาบาลหัวเฉียว คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว (คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว) และมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ อาทิ การตรวจรักษาโรคทั่วไป แจกจ่ายยา ตรวจและแจกแว่นสายตา ตัดผม การเจาะเลือด เพื่อตรวจการทำงานของตับ ไต ไขมันในเส้นเลือด น้ำตาลในเลือด และเก๊าท์เบื้องต้น ฯลฯ รวมทั้งจัดบูธแจกจ่ายอาหาร เครื่องดื่ม และขนม ให้กับชาวสมุทรสาคร โดยมี นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธี นายอุดม สมพร้อม ผู้อำนวยการโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย คณะมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร แขกผู้มีเกียรติ และชาวสมุทรสาคร ร่วมในพิธี โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานและอิ่มเอมใจ ณ โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย จังหวัดสมุทรสาคร . ตลอดระยะเวลาวิกฤตกาลแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ผ่านมาประชาชนต้องผ่านสถานการณ์ที่ทุกข์ยาก และได้รับผลกระทบในการดำรงชีวิตอย่างยากลำบาก เมื่อสถานการณ์ได้เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จึงตระหนักในหน้าที่ ที่จะต้องสร้างความสุข สร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชนในชุมชนต่างๆ ซึ่ง “คาราวาน ป่อเต็กตึ๊ง ปันความสุข ให้ชุมชน” ครั้งที่ 6 มูลนิธิฯ ได้ขยายโครงการสู่ภูมิภาคเป็นครั้งแรก โดยมูลนิธิฯ ยึดมั่นการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขโดยไม่แบ่งแยกชนชั้น เชื้อชาติ วรรณะ และศาสนา ตามหลักปณิธาน “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” ที่มูลนิธิฯ ได้ดำเนินการมากว่า 115 ปี . ติดต่อสอบถาม ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . #ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต# #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 582 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระสมเด็จพ่อปู่นริศ นรินโท อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
    พระสมเด็จเพ็ชรภูหลวง ( ฝังของดีที่หน้าอกพระ ) เนื้อผงพุทธคุณ พ่อปู่นริศ นรินโท ลานธรรมบารมีศรีปทุมแสงธรรมหนอ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา // พระดีพิธีใหญ่ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาดป้องกันภัย มหาอุด กลับร้ายกลายเป็นดี เน้นๆ มหาโชค มหาลาภผลพูนทวี มหาอุดมโชค โภคทรัพย์ การเงิน การงาน ความอยู่ดีกินดี เป็นต้น ทั้งเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ >>

    ** " พ่อปู่นริศ นรินโท " ท่านเป็นพระที่เก่งหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่อง ศิลปะทางภาคใต้ เช่น มโนราห์ ที่ต้องสืบทอด และ เป็นศิลปะ แขนงนี้ ถือว่าเป็นศิลปะชั้นสูง อยู่คู่ กับชาวภาคใต้ มาหลายร้อย ฉะนั้นท่านก็สอนว่า เราอย่าลืมรากเง้าของเรา จงภูมิใจ ในบรรพบุรุษ " ศรัทธาให้จริง เชื่อให้จริง ทำให้จริง ถึงจะเห็นผล " >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระสมเด็จพ่อปู่นริศ นรินโท อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พระสมเด็จเพ็ชรภูหลวง ( ฝังของดีที่หน้าอกพระ ) เนื้อผงพุทธคุณ พ่อปู่นริศ นรินโท ลานธรรมบารมีศรีปทุมแสงธรรมหนอ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา // พระดีพิธีใหญ่ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ แคล้วคลาดป้องกันภัย มหาอุด กลับร้ายกลายเป็นดี เน้นๆ มหาโชค มหาลาภผลพูนทวี มหาอุดมโชค โภคทรัพย์ การเงิน การงาน ความอยู่ดีกินดี เป็นต้น ทั้งเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ >> ** " พ่อปู่นริศ นรินโท " ท่านเป็นพระที่เก่งหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่อง ศิลปะทางภาคใต้ เช่น มโนราห์ ที่ต้องสืบทอด และ เป็นศิลปะ แขนงนี้ ถือว่าเป็นศิลปะชั้นสูง อยู่คู่ กับชาวภาคใต้ มาหลายร้อย ฉะนั้นท่านก็สอนว่า เราอย่าลืมรากเง้าของเรา จงภูมิใจ ในบรรพบุรุษ " ศรัทธาให้จริง เชื่อให้จริง ทำให้จริง ถึงจะเห็นผล " >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts