• “Jonathan Clements จากไปอย่างสงบ — นักเขียนผู้เปลี่ยนชีวิตคนธรรมดาด้วยคำว่า ‘เงิน’ และ ‘ความหมาย’”

    Jonathan Clements ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ HumbleDollar และอดีตคอลัมนิสต์ชื่อดังของ The Wall Street Journal ได้เขียนข้อความอำลาครั้งสุดท้ายไว้ล่วงหน้าในฟอรัมของเว็บไซต์ ก่อนจากไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 ด้วยวัย 62 ปี

    เขาเริ่มต้นข้อความว่า “ถ้าคุณเห็นโพสต์นี้ แปลว่าผมจากไปแล้ว” พร้อมขอให้ผู้อ่านไม่เศร้า เพราะเขามีชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก ประสบการณ์ และโอกาสที่ดีในอาชีพ เขาหวังว่าใต้ต้นไม้หน้าบ้านในฟิลาเดลเฟีย ภรรยาของเขา Elaine จะวางแผ่นหินจารึกชื่อของเขา พร้อมคำว่า “Family • Readers • Words” ซึ่งเป็นสามสิ่งที่เขายึดถือมาตลอดชีวิต

    Jonathan เล่าถึงชีวิตตั้งแต่เกิดในลอนดอน ย้ายไปอเมริกาเมื่อพ่อได้งานที่ World Bank และต้องเผชิญกับชีวิตในโรงเรียนประจำที่โหดร้ายในอังกฤษ ก่อนจะสอบเข้า Cambridge และเริ่มต้นเส้นทางนักข่าวที่ Forbes และ The Wall Street Journal ซึ่งเขาเขียนคอลัมน์ “Getting Going” กว่า 1,000 ตอน

    เขาเป็นผู้ผลักดันแนวคิดการลงทุนในกองทุนดัชนี (index fund) ตั้งแต่ยุคที่ยังไม่เป็นที่นิยม และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่มีเป้าหมาย เขาเคยวิ่งมาราธอนใต้สามชั่วโมง และคว้าอันดับหนึ่งในฮาล์ฟมาราธอนบนเรือกลางทะเลแอนตาร์กติกา

    แม้ชีวิตคู่จะไม่ราบรื่นนัก แต่เขาพบรักครั้งสุดท้ายกับ Elaine ในปี 2020 และแต่งงานกันในปี 2024 เพียงห้าวันหลังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย

    เขาใช้เวลาช่วงสุดท้ายจัดการชีวิต เตรียมเว็บไซต์ HumbleDollar ให้ดำเนินต่อได้ และเขียนบทความเกี่ยวกับการเผชิญความตายอย่างมีสติ จนได้รับความสนใจจากสื่อหลายแห่ง เช่น The New York Times, WSJ และ AARP

    Jonathan ไม่เพียงเป็นนักเขียนด้านการเงิน แต่เป็นนักคิดที่ใช้ “คำ” เป็นเครื่องมือสร้างความเข้าใจชีวิต เขาจากไปอย่างสงบ แต่ทิ้งไว้ซึ่งบทเรียนเรื่องเงิน ความรัก และการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Jonathan Clements เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 ด้วยวัย 62 ปี
    เขาเขียนข้อความอำลาไว้ล่วงหน้าในฟอรัมของ HumbleDollar
    ขอให้ภรรยาวางแผ่นหินจารึกคำว่า “Family • Readers • Words” ใต้ต้นไม้หน้าบ้าน
    เกิดในลอนดอน ย้ายมาอเมริกาเมื่อพ่อได้งานที่ World Bank
    เรียนที่ Cambridge และเริ่มงานที่ Forbes ก่อนย้ายไป The Wall Street Journal
    เขียนคอลัมน์ “Getting Going” กว่า 1,000 ตอน และผลักดันแนวคิด index fund
    เคยวิ่งมาราธอนใต้สามชั่วโมง และชนะการแข่งขันหลายรายการ
    พบรักกับ Elaine ในปี 2020 และแต่งงานกันในปี 2024 หลังรู้ว่าเป็นมะเร็ง
    เตรียม HumbleDollar ให้ดำเนินต่อ และเขียนบทความเกี่ยวกับการเผชิญความตาย
    ได้รับการยกย่องจากสื่อหลายแห่ง เช่น NYT, WSJ, AARP

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Jonathan เป็นหนึ่งในนักเขียนด้านการเงินที่ผลักดัน index fund สู่กระแสหลัก
    หนังสือ “How to Think About Money” เป็นผลงานที่ขายดีที่สุดของเขา
    เขาเคยทำงานกับ Citigroup และ Creative Planning ในบทบาทด้านการศึกษาการเงิน
    HumbleDollar เปิดให้ผู้เขียนสมัครเล่นร่วมเขียนบทความ โดยเขาเป็นผู้แก้ไขด้วยตัวเอง
    เขาเชื่อว่าความสุขมาจากการใช้เงินเพื่อประสบการณ์ ไม่ใช่สิ่งของ

    https://humbledollar.com/forum/farewell-friends/
    🕊️ “Jonathan Clements จากไปอย่างสงบ — นักเขียนผู้เปลี่ยนชีวิตคนธรรมดาด้วยคำว่า ‘เงิน’ และ ‘ความหมาย’” Jonathan Clements ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ HumbleDollar และอดีตคอลัมนิสต์ชื่อดังของ The Wall Street Journal ได้เขียนข้อความอำลาครั้งสุดท้ายไว้ล่วงหน้าในฟอรัมของเว็บไซต์ ก่อนจากไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 ด้วยวัย 62 ปี เขาเริ่มต้นข้อความว่า “ถ้าคุณเห็นโพสต์นี้ แปลว่าผมจากไปแล้ว” พร้อมขอให้ผู้อ่านไม่เศร้า เพราะเขามีชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก ประสบการณ์ และโอกาสที่ดีในอาชีพ เขาหวังว่าใต้ต้นไม้หน้าบ้านในฟิลาเดลเฟีย ภรรยาของเขา Elaine จะวางแผ่นหินจารึกชื่อของเขา พร้อมคำว่า “Family • Readers • Words” ซึ่งเป็นสามสิ่งที่เขายึดถือมาตลอดชีวิต Jonathan เล่าถึงชีวิตตั้งแต่เกิดในลอนดอน ย้ายไปอเมริกาเมื่อพ่อได้งานที่ World Bank และต้องเผชิญกับชีวิตในโรงเรียนประจำที่โหดร้ายในอังกฤษ ก่อนจะสอบเข้า Cambridge และเริ่มต้นเส้นทางนักข่าวที่ Forbes และ The Wall Street Journal ซึ่งเขาเขียนคอลัมน์ “Getting Going” กว่า 1,000 ตอน เขาเป็นผู้ผลักดันแนวคิดการลงทุนในกองทุนดัชนี (index fund) ตั้งแต่ยุคที่ยังไม่เป็นที่นิยม และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่มีเป้าหมาย เขาเคยวิ่งมาราธอนใต้สามชั่วโมง และคว้าอันดับหนึ่งในฮาล์ฟมาราธอนบนเรือกลางทะเลแอนตาร์กติกา แม้ชีวิตคู่จะไม่ราบรื่นนัก แต่เขาพบรักครั้งสุดท้ายกับ Elaine ในปี 2020 และแต่งงานกันในปี 2024 เพียงห้าวันหลังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เขาใช้เวลาช่วงสุดท้ายจัดการชีวิต เตรียมเว็บไซต์ HumbleDollar ให้ดำเนินต่อได้ และเขียนบทความเกี่ยวกับการเผชิญความตายอย่างมีสติ จนได้รับความสนใจจากสื่อหลายแห่ง เช่น The New York Times, WSJ และ AARP Jonathan ไม่เพียงเป็นนักเขียนด้านการเงิน แต่เป็นนักคิดที่ใช้ “คำ” เป็นเครื่องมือสร้างความเข้าใจชีวิต เขาจากไปอย่างสงบ แต่ทิ้งไว้ซึ่งบทเรียนเรื่องเงิน ความรัก และการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Jonathan Clements เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 ด้วยวัย 62 ปี ➡️ เขาเขียนข้อความอำลาไว้ล่วงหน้าในฟอรัมของ HumbleDollar ➡️ ขอให้ภรรยาวางแผ่นหินจารึกคำว่า “Family • Readers • Words” ใต้ต้นไม้หน้าบ้าน ➡️ เกิดในลอนดอน ย้ายมาอเมริกาเมื่อพ่อได้งานที่ World Bank ➡️ เรียนที่ Cambridge และเริ่มงานที่ Forbes ก่อนย้ายไป The Wall Street Journal ➡️ เขียนคอลัมน์ “Getting Going” กว่า 1,000 ตอน และผลักดันแนวคิด index fund ➡️ เคยวิ่งมาราธอนใต้สามชั่วโมง และชนะการแข่งขันหลายรายการ ➡️ พบรักกับ Elaine ในปี 2020 และแต่งงานกันในปี 2024 หลังรู้ว่าเป็นมะเร็ง ➡️ เตรียม HumbleDollar ให้ดำเนินต่อ และเขียนบทความเกี่ยวกับการเผชิญความตาย ➡️ ได้รับการยกย่องจากสื่อหลายแห่ง เช่น NYT, WSJ, AARP ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Jonathan เป็นหนึ่งในนักเขียนด้านการเงินที่ผลักดัน index fund สู่กระแสหลัก ➡️ หนังสือ “How to Think About Money” เป็นผลงานที่ขายดีที่สุดของเขา ➡️ เขาเคยทำงานกับ Citigroup และ Creative Planning ในบทบาทด้านการศึกษาการเงิน ➡️ HumbleDollar เปิดให้ผู้เขียนสมัครเล่นร่วมเขียนบทความ โดยเขาเป็นผู้แก้ไขด้วยตัวเอง ➡️ เขาเชื่อว่าความสุขมาจากการใช้เงินเพื่อประสบการณ์ ไม่ใช่สิ่งของ https://humbledollar.com/forum/farewell-friends/
    HUMBLEDOLLAR.COM
    Farewell Friends - HumbleDollar
    If this post is appearing, it means I’ve succumbed to cancer or one of its side effects. Please don’t feel sad for me. I’ve had a life filled with love, great experiences and wonderful career opportunities. Despite my demise at a relatively young age, I consider myself beyond fortunate. I’m hoping that, under the tree in front of our little Philadelphia rowhome, my wife Elaine will place a stone tablet inscribed with my name, and the year I was born and died.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ 29 ก.ย. เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ที่แฟนเพจ "สโรชา พรอุดมศักดิ์" ของผู้ประกาศข่าวหญิง "แอ้ม" สโรชา พรอุดมศักดิ์ ได้มีการโพสต์ข้อความระบุว่า... "ด่วน! เรียนทุกท่านทราบ ช่วงบ่ายวันนี้คุณแอ้มได้ล้มป่วยจากอาการข้างเคียงโรคมะเร็งที่ตอนนี้กระจายไปหลายจุดของร่างกาย มีอาการชักเกร็งและหมดสติไป

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000093231

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    วันนี้ 29 ก.ย. เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ที่แฟนเพจ "สโรชา พรอุดมศักดิ์" ของผู้ประกาศข่าวหญิง "แอ้ม" สโรชา พรอุดมศักดิ์ ได้มีการโพสต์ข้อความระบุว่า... "ด่วน! เรียนทุกท่านทราบ ช่วงบ่ายวันนี้คุณแอ้มได้ล้มป่วยจากอาการข้างเคียงโรคมะเร็งที่ตอนนี้กระจายไปหลายจุดของร่างกาย มีอาการชักเกร็งและหมดสติไป อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000093231 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..มองผ่านๆว่านี้ของเล่นๆนะ,มันคือภัยความมั่นคงของชาติอีกด้านหนึ่งเลยล่ะ,นี้อาจมาจากผลงานวัคซีนยุคลุงตู่ที่ฉีดวัคซีนโควิดให้คนไทยอย่าง2เข็มจึงจะอนุญาตเข้าสังคมร้านค้า,ตลาด การค้า การขาย การบริการ การรับจ้างรับงานต่างๆ ขนส่งไม่ต่อใบอนุญาตให้หากไม่ฉีดวัคซีนโควิดอย่างน้อย2เข็ม อาชีพเอกชนก็ด้วย ราชการก็ไม่รอด นี้คือภัยความมั่นคงด้านการดำรงอยู่ของประชากรคนไทยเลยล่ะ, เช่นพ่อแม่เสียชีวิตไปก่อนลูกน้อยๆซึ่งมีมากมาย ทางรัฐบาลและหน่วยงานราชการไทยมียุทธศาสตร์ในสงครามนี้แล้วหรือยัง,มีองค์กรหน่วยใดตั้งขึ้นมาเพื่อต่อสู้ภัยนี้ รับมือกันจริงจังแล้วหรือยัง อย่าปล่อยเยาวชนไทยเราต้องโดดเดียว,รัฐบาลต้องร่วมดูแลเยียวยาอาจเลี้ยงดูเด็กๆเยาวชนไทยเราในโครงการพิเศษเลย,,และตั้งจัดตั้งกระทรวงพิเศษขึ้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะเพื่อแก้ไขปัญหาทางตรงทันที,เด็กๆเยาวชนใดๆไทยเรา พ่อแม่เสียชีวิตแบบเคสนี้กรณีนี้สามารถเข้ารับการดูแลพิเศษทันทีจากกระทรวงนี้โดยตรง,รัฐมีหน้าที่ตรงต้องดูแลเยาวชนไทยเราจนกว่าจะสามารถทำงานเลี้ยงดูตนเองได้,ที่ขาดญาติไร้มิตรหรือญาติพี่น้องผิดใจกันไม่เอามาเป็นภาระ,รัฐต้องเอามาเป็นภาระ,และสามารถสืบสวนการตายอย่างผิดปกติของพ่อแม่เด็กๆเหล่านี้ได้ว่า ,เป็นหนักขึ้นหลังไปรับวัคซีนmRNAโควิดมามั้ย,
    ..การตั้งกระทรวงพิเศษเพื่อรับภัยพิบัติจากสถานการณ์นี้ถือว่าสมควรมาก,คนไทยเราจะยิ่งมั่นใจในรัฐบาลของประเทศชาติตนเองมากขึ้น ฝากเป็นฝากตายกันได้,และนั้นคือทุกๆคนไทยเราจะสามัคคีร่วมกันสร้างชาติ ปกป้องชาติร่วมกันอย่างแข็งขัน,แม้ตนเสียชีวิตไปจากวัคซีนพิษที่รัฐบาลเชิญชวนกระตุ้นบีบบังคับทั้งทางตรงทางอ้อมให้ไปฉีดมา ฉีดใส่ร่างกายตนเอง ซึ่งมีโอกาสสูงในการก่อโรคใดโรคหนึ่งใน1,291โรค โรควูบ ลิ่มเลือดอุดตัน มะเร็งโทเบอร์ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ทำลายภูมิตุ้มกันธรรมชาติลงไปเรื่อยๆ เป็นต้น,เมื่อประชาชนพ่อแม่เขาตายไป รัฐบาลมีหน้าที่ตรงต้องรับเลี้ยงดูเด็กๆเยาวชนคนไทยเราต่อไปอย่างมีมาตราฐานอารยะธรรม ธรรมชาติที่ดีงามด้วย, หน่วยงานระดับอำเภอต้องเกิด,เพื่อบริหารจัดการส่งต่อเยาวชนเหล่านั้นไปรับการศึกษาเลี้ยงดูต่อไป,1ตำบล อาจมีเด็กๆลักษณะนี้ที่พ่อแม่ตายทั้งสองคน,ปู่ย่าตายายวูบตายอุบัติเหตุหมด ไร้ใครเลี้ยงดู รัฐบาลหน่วยงานที่ว่าต้องเข้าไปทำหน้าที่ทันที,1ตำบลมี10-15หมู่บ้าน อาจมีหมู่บ้านล่ะคนก็10-15คนต่อตำบล,1อำเภอมี8-10ตำบลก็ประมาณ150คนต่ออำเภอ,1จังหวัดมี18-20อำเภอก็3,000คนต่อจังหวัดอย่างน้อย,77จังหวัดก็ประมาณ231,000คน การตั้งกระทรวงพิเศษเพื่อดูแลปัญหานี้จึงสำคัญมาก,เพราะเยาวชนไทยเราเหล่านี้อนาคตคือกำลังพลที่สำคัญของชาติเช่นกันในการร่วมพัฒนาชาติไทยเราให้ก้าวไปด้วยร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวกัน เราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังของจริง.

    https://youtube.com/shorts/JGs1GNVGpFE?si=YGu7boLHFVNVvl_i
    ..มองผ่านๆว่านี้ของเล่นๆนะ,มันคือภัยความมั่นคงของชาติอีกด้านหนึ่งเลยล่ะ,นี้อาจมาจากผลงานวัคซีนยุคลุงตู่ที่ฉีดวัคซีนโควิดให้คนไทยอย่าง2เข็มจึงจะอนุญาตเข้าสังคมร้านค้า,ตลาด การค้า การขาย การบริการ การรับจ้างรับงานต่างๆ ขนส่งไม่ต่อใบอนุญาตให้หากไม่ฉีดวัคซีนโควิดอย่างน้อย2เข็ม อาชีพเอกชนก็ด้วย ราชการก็ไม่รอด นี้คือภัยความมั่นคงด้านการดำรงอยู่ของประชากรคนไทยเลยล่ะ, เช่นพ่อแม่เสียชีวิตไปก่อนลูกน้อยๆซึ่งมีมากมาย ทางรัฐบาลและหน่วยงานราชการไทยมียุทธศาสตร์ในสงครามนี้แล้วหรือยัง,มีองค์กรหน่วยใดตั้งขึ้นมาเพื่อต่อสู้ภัยนี้ รับมือกันจริงจังแล้วหรือยัง อย่าปล่อยเยาวชนไทยเราต้องโดดเดียว,รัฐบาลต้องร่วมดูแลเยียวยาอาจเลี้ยงดูเด็กๆเยาวชนไทยเราในโครงการพิเศษเลย,,และตั้งจัดตั้งกระทรวงพิเศษขึ้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะเพื่อแก้ไขปัญหาทางตรงทันที,เด็กๆเยาวชนใดๆไทยเรา พ่อแม่เสียชีวิตแบบเคสนี้กรณีนี้สามารถเข้ารับการดูแลพิเศษทันทีจากกระทรวงนี้โดยตรง,รัฐมีหน้าที่ตรงต้องดูแลเยาวชนไทยเราจนกว่าจะสามารถทำงานเลี้ยงดูตนเองได้,ที่ขาดญาติไร้มิตรหรือญาติพี่น้องผิดใจกันไม่เอามาเป็นภาระ,รัฐต้องเอามาเป็นภาระ,และสามารถสืบสวนการตายอย่างผิดปกติของพ่อแม่เด็กๆเหล่านี้ได้ว่า ,เป็นหนักขึ้นหลังไปรับวัคซีนmRNAโควิดมามั้ย, ..การตั้งกระทรวงพิเศษเพื่อรับภัยพิบัติจากสถานการณ์นี้ถือว่าสมควรมาก,คนไทยเราจะยิ่งมั่นใจในรัฐบาลของประเทศชาติตนเองมากขึ้น ฝากเป็นฝากตายกันได้,และนั้นคือทุกๆคนไทยเราจะสามัคคีร่วมกันสร้างชาติ ปกป้องชาติร่วมกันอย่างแข็งขัน,แม้ตนเสียชีวิตไปจากวัคซีนพิษที่รัฐบาลเชิญชวนกระตุ้นบีบบังคับทั้งทางตรงทางอ้อมให้ไปฉีดมา ฉีดใส่ร่างกายตนเอง ซึ่งมีโอกาสสูงในการก่อโรคใดโรคหนึ่งใน1,291โรค โรควูบ ลิ่มเลือดอุดตัน มะเร็งโทเบอร์ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ทำลายภูมิตุ้มกันธรรมชาติลงไปเรื่อยๆ เป็นต้น,เมื่อประชาชนพ่อแม่เขาตายไป รัฐบาลมีหน้าที่ตรงต้องรับเลี้ยงดูเด็กๆเยาวชนคนไทยเราต่อไปอย่างมีมาตราฐานอารยะธรรม ธรรมชาติที่ดีงามด้วย, หน่วยงานระดับอำเภอต้องเกิด,เพื่อบริหารจัดการส่งต่อเยาวชนเหล่านั้นไปรับการศึกษาเลี้ยงดูต่อไป,1ตำบล อาจมีเด็กๆลักษณะนี้ที่พ่อแม่ตายทั้งสองคน,ปู่ย่าตายายวูบตายอุบัติเหตุหมด ไร้ใครเลี้ยงดู รัฐบาลหน่วยงานที่ว่าต้องเข้าไปทำหน้าที่ทันที,1ตำบลมี10-15หมู่บ้าน อาจมีหมู่บ้านล่ะคนก็10-15คนต่อตำบล,1อำเภอมี8-10ตำบลก็ประมาณ150คนต่ออำเภอ,1จังหวัดมี18-20อำเภอก็3,000คนต่อจังหวัดอย่างน้อย,77จังหวัดก็ประมาณ231,000คน การตั้งกระทรวงพิเศษเพื่อดูแลปัญหานี้จึงสำคัญมาก,เพราะเยาวชนไทยเราเหล่านี้อนาคตคือกำลังพลที่สำคัญของชาติเช่นกันในการร่วมพัฒนาชาติไทยเราให้ก้าวไปด้วยร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวกัน เราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังของจริง. https://youtube.com/shorts/JGs1GNVGpFE?si=YGu7boLHFVNVvl_i
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เกม BlockBlasters บน Steam กลายเป็นกับดักมัลแวร์ — สตรีมเมอร์สูญเงินบริจาครักษามะเร็งกว่า $32,000 พร้อมเหยื่อรวมกว่า 478 ราย”

    เรื่องราวสุดสะเทือนใจของ Raivo “RastalandTV” สตรีมเมอร์บน Twitch ที่กำลังระดมทุนเพื่อรักษามะเร็งขั้นรุนแรง กลับต้องเผชิญเหตุการณ์ไม่คาดคิด เมื่อเกมที่มีชื่อว่า “BlockBlasters” บน Steam ซึ่งดูเหมือนเกม 2D ธรรมดา กลับกลายเป็นมัลแวร์ที่ขโมยเงินคริปโตจากกระเป๋าเงินของเขาไปกว่า $32,000 ระหว่างการไลฟ์สดในวันที่ 30 กันยายน 2025

    เกม BlockBlasters เปิดตัวในเดือนกรกฎาคมและดูปลอดภัยในช่วงแรก แต่หลังจากอัปเดตเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม มัลแวร์ถูกฝังเข้ามาในตัวเกมโดยไม่แจ้งเตือน ทำให้ผู้เล่นที่ดาวน์โหลดเกมในช่วงนั้นตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว

    มัลแวร์ในเกมสามารถขโมยข้อมูลล็อกอิน Steam, ที่อยู่ IP และข้อมูลกระเป๋าคริปโต จากนั้นส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุมของผู้โจมตี โดยใช้เทคนิค dropper script, Python backdoor และ payload ที่ชื่อว่า StealC ซึ่งมีความสามารถในการเจาะระบบอย่างลึก

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจากกลุ่ม vx-underground และ ZachXBT ระบุว่ามีผู้เสียหายรวมกว่า 478 ราย และมูลค่าความเสียหายรวมกว่า $150,000 โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้ Steam ที่มีคริปโตในบัญชี และถูกชักชวนให้ลองเกมผ่านช่องทางเช่น Twitter หรือ Discord

    แม้เกมจะถูกถอดออกจาก Steam แล้ว แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงช่องโหว่ในการตรวจสอบเนื้อหาเกมบนแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ไว้วางใจอย่างสูง และยังไม่มีคำตอบจาก Valve ถึงมาตรการป้องกันในอนาคต

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    เกม BlockBlasters บน Steam ถูกฝังมัลแวร์หลังอัปเดตเมื่อ 30 สิงหาคม 2025
    สตรีมเมอร์ RastalandTV สูญเงินบริจาครักษามะเร็งกว่า $32,000 ระหว่างไลฟ์สด
    มัลแวร์ขโมยข้อมูล Steam, IP และกระเป๋าคริปโต แล้วส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี
    นักวิจัยพบเหยื่อรวมกว่า 478 ราย และมูลค่าความเสียหายรวมกว่า $150,000
    เกมถูกถอดออกจาก Steam หลังเกิดเหตุการณ์ แต่ไม่มีคำชี้แจงจาก Valve

    เทคนิคที่ใช้ในการโจมตี
    ใช้ dropper script ตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อนขโมยข้อมูล
    ใช้ Python backdoor และ payload StealC เพื่อเจาะระบบ
    เหยื่อถูกชักชวนผ่าน Twitter และ Discord โดยเน้นกลุ่มที่ถือคริปโต
    Telegram bot ของผู้โจมตีถูกเปิดเผย พร้อม token ที่ใช้ควบคุม

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เกมที่มีรีวิว “Very Positive” และอยู่ในหมวด Early Access อาจถูกใช้เป็นช่องทางโจมตี
    การโจมตีแบบนี้คล้ายกับกรณี Chemia, PirateFi และ Sniper: Phantom’s Resolution ที่เคยเกิดขึ้นบน Steam
    การใช้มัลแวร์ในเกมเพื่อขโมยคริปโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2025
    ผู้ใช้ควรเปลี่ยนรหัส Steam และย้ายคริปโตไปยังกระเป๋าใหม่ทันทีหากเคยติดตั้งเกม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/twitch-streamer-raising-money-for-cancer-treatment-has-funds-stolen-by-malware-ridden-steam-game-blockblasters-title-stole-usd150-000-from-hundreds-of-players
    🎮 “เกม BlockBlasters บน Steam กลายเป็นกับดักมัลแวร์ — สตรีมเมอร์สูญเงินบริจาครักษามะเร็งกว่า $32,000 พร้อมเหยื่อรวมกว่า 478 ราย” เรื่องราวสุดสะเทือนใจของ Raivo “RastalandTV” สตรีมเมอร์บน Twitch ที่กำลังระดมทุนเพื่อรักษามะเร็งขั้นรุนแรง กลับต้องเผชิญเหตุการณ์ไม่คาดคิด เมื่อเกมที่มีชื่อว่า “BlockBlasters” บน Steam ซึ่งดูเหมือนเกม 2D ธรรมดา กลับกลายเป็นมัลแวร์ที่ขโมยเงินคริปโตจากกระเป๋าเงินของเขาไปกว่า $32,000 ระหว่างการไลฟ์สดในวันที่ 30 กันยายน 2025 เกม BlockBlasters เปิดตัวในเดือนกรกฎาคมและดูปลอดภัยในช่วงแรก แต่หลังจากอัปเดตเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม มัลแวร์ถูกฝังเข้ามาในตัวเกมโดยไม่แจ้งเตือน ทำให้ผู้เล่นที่ดาวน์โหลดเกมในช่วงนั้นตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว มัลแวร์ในเกมสามารถขโมยข้อมูลล็อกอิน Steam, ที่อยู่ IP และข้อมูลกระเป๋าคริปโต จากนั้นส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุมของผู้โจมตี โดยใช้เทคนิค dropper script, Python backdoor และ payload ที่ชื่อว่า StealC ซึ่งมีความสามารถในการเจาะระบบอย่างลึก นักวิจัยด้านความปลอดภัยจากกลุ่ม vx-underground และ ZachXBT ระบุว่ามีผู้เสียหายรวมกว่า 478 ราย และมูลค่าความเสียหายรวมกว่า $150,000 โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้ Steam ที่มีคริปโตในบัญชี และถูกชักชวนให้ลองเกมผ่านช่องทางเช่น Twitter หรือ Discord แม้เกมจะถูกถอดออกจาก Steam แล้ว แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงช่องโหว่ในการตรวจสอบเนื้อหาเกมบนแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ไว้วางใจอย่างสูง และยังไม่มีคำตอบจาก Valve ถึงมาตรการป้องกันในอนาคต ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ เกม BlockBlasters บน Steam ถูกฝังมัลแวร์หลังอัปเดตเมื่อ 30 สิงหาคม 2025 ➡️ สตรีมเมอร์ RastalandTV สูญเงินบริจาครักษามะเร็งกว่า $32,000 ระหว่างไลฟ์สด ➡️ มัลแวร์ขโมยข้อมูล Steam, IP และกระเป๋าคริปโต แล้วส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี ➡️ นักวิจัยพบเหยื่อรวมกว่า 478 ราย และมูลค่าความเสียหายรวมกว่า $150,000 ➡️ เกมถูกถอดออกจาก Steam หลังเกิดเหตุการณ์ แต่ไม่มีคำชี้แจงจาก Valve ✅ เทคนิคที่ใช้ในการโจมตี ➡️ ใช้ dropper script ตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อนขโมยข้อมูล ➡️ ใช้ Python backdoor และ payload StealC เพื่อเจาะระบบ ➡️ เหยื่อถูกชักชวนผ่าน Twitter และ Discord โดยเน้นกลุ่มที่ถือคริปโต ➡️ Telegram bot ของผู้โจมตีถูกเปิดเผย พร้อม token ที่ใช้ควบคุม ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เกมที่มีรีวิว “Very Positive” และอยู่ในหมวด Early Access อาจถูกใช้เป็นช่องทางโจมตี ➡️ การโจมตีแบบนี้คล้ายกับกรณี Chemia, PirateFi และ Sniper: Phantom’s Resolution ที่เคยเกิดขึ้นบน Steam ➡️ การใช้มัลแวร์ในเกมเพื่อขโมยคริปโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2025 ➡️ ผู้ใช้ควรเปลี่ยนรหัส Steam และย้ายคริปโตไปยังกระเป๋าใหม่ทันทีหากเคยติดตั้งเกม https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/twitch-streamer-raising-money-for-cancer-treatment-has-funds-stolen-by-malware-ridden-steam-game-blockblasters-title-stole-usd150-000-from-hundreds-of-players
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อความเศร้าไม่มีวันหมดอายุ — บันทึกของหมอฉุกเฉินผู้เป็นแม่หม้าย กับคำถามว่า “ยังเศร้าอยู่เหรอ?”

    บทความจาก Bess Stillman แพทย์ฉุกเฉินและนักเขียนผู้สูญเสียสามี Jake Seliger จากมะเร็งลิ้นเมื่อหนึ่งปีก่อน ถ่ายทอดความรู้สึกของการอยู่กับความเศร้าอย่างไม่มีกำหนดเวลา เธอเล่าว่าแม้เวลาจะผ่านไป แต่ความรู้สึกสูญเสียยังคงอยู่ในทุกการกระทำ ตั้งแต่การจองร้านอาหารที่เคยไปด้วยกัน ไปจนถึงการเลี้ยงลูกสาว Athena ที่มีใบหน้าเหมือนพ่อของเธอ

    บทความตั้งคำถามต่อการวินิจฉัย “ภาวะโศกเศร้าเรื้อรัง” (Prolonged Grief Disorder) ที่ถูกระบุใน DSM-5-TR โดยสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน ซึ่งกำหนดว่า หากผู้ใหญ่ยังมีอาการเศร้าอย่างรุนแรงเกิน 1 ปีหลังการสูญเสีย อาจเข้าข่ายภาวะผิดปกติ แต่ Bess มองว่า ความเศร้าไม่ใช่โรค และการพยายามจัดระเบียบความเศร้าอาจสะท้อนความกลัวของสังคมต่อความเจ็บปวดมากกว่าความเข้าใจ

    เธอเปรียบเทียบความเศร้าเป็น “การเรียนรู้ที่เจ็บปวด” ซึ่งต้องใช้การทำซ้ำเพื่อปรับตัวกับโลกที่ไม่มีคนรักอยู่ และแม้เธอจะสามารถกลับไปทำงาน ดูแลลูก และใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ภายในยังคงมีความรู้สึกสูญเสียที่ไม่เคยหายไป

    บทความยังสะท้อนความจริงที่ว่า สังคมมักหลีกเลี่ยงความเศร้า และพยายามหาคำอธิบายเพื่อป้องกันตัวเองจากความเจ็บปวด เช่น การถามถึงปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งของสามี เพื่อให้รู้สึกว่า “ฉันไม่น่าจะเป็นแบบนั้น” ทั้งที่ความตายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้

    ความเศร้าไม่มีวันหมดอายุ และไม่ควรถูกจำกัดด้วยกรอบเวลา
    Bess ยังรู้สึกถึง Jake ในชีวิตประจำวัน แม้เขาจะจากไปแล้วหนึ่งปี
    ความทรงจำและความรักยังคงอยู่ในทุกการกระทำ

    DSM-5-TR ระบุภาวะ “โศกเศร้าเรื้อรัง” หากมีอาการเกิน 1 ปี
    ต้องมีอาการอย่างน้อย 3 อย่าง เช่น ความรู้สึกไร้ความหมาย หรือความเศร้าอย่างรุนแรง
    Bess ตั้งคำถามว่า “แค่ 3 อาการก็เป็นโรคแล้วหรือ?”

    ความเศร้าเป็นการเรียนรู้ที่เจ็บปวด
    สมองต้องปรับตัวกับโลกที่ไม่มีคนรักอยู่
    การทำซ้ำช่วยให้เข้าใจว่าเขาจะไม่กลับมาอีก

    สังคมพยายามหลีกเลี่ยงความเศร้า
    คนมักถามถึงปัจจัยเสี่ยงเพื่อป้องกันตัวเองจากความกลัว
    ความเศร้าถูกซ่อนไว้หลังประตูห้องน้ำหรือการเดินเล่นคนเดียว

    ความเศร้าไม่ใช่โรค แต่เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นมนุษย์
    Bess ยืนยันว่า “ฉันไม่ได้ป่วย ฉันแค่ยังรักอยู่”
    ความเจ็บปวดคือหลักฐานของความรักที่ลึกซึ้ง

    คำเตือนเกี่ยวกับการวินิจฉัยความเศร้า
    การกำหนดกรอบเวลาอาจทำให้ผู้สูญเสียรู้สึกผิดที่ยังเศร้าอยู่
    การวินิจฉัยอาจสะท้อนความกลัวของสังคมมากกว่าความเข้าใจ
    การซ่อนความเศร้าอาจทำให้เกิดความเจ็บปวดในระยะยาว
    ความคาดหวังให้ “หายเศร้า” อาจทำให้ผู้สูญเสียรู้สึกโดดเดี่ยว

    https://bessstillman.substack.com/p/oh-****-youre-still-sad
    📰 เมื่อความเศร้าไม่มีวันหมดอายุ — บันทึกของหมอฉุกเฉินผู้เป็นแม่หม้าย กับคำถามว่า “ยังเศร้าอยู่เหรอ?” บทความจาก Bess Stillman แพทย์ฉุกเฉินและนักเขียนผู้สูญเสียสามี Jake Seliger จากมะเร็งลิ้นเมื่อหนึ่งปีก่อน ถ่ายทอดความรู้สึกของการอยู่กับความเศร้าอย่างไม่มีกำหนดเวลา เธอเล่าว่าแม้เวลาจะผ่านไป แต่ความรู้สึกสูญเสียยังคงอยู่ในทุกการกระทำ ตั้งแต่การจองร้านอาหารที่เคยไปด้วยกัน ไปจนถึงการเลี้ยงลูกสาว Athena ที่มีใบหน้าเหมือนพ่อของเธอ บทความตั้งคำถามต่อการวินิจฉัย “ภาวะโศกเศร้าเรื้อรัง” (Prolonged Grief Disorder) ที่ถูกระบุใน DSM-5-TR โดยสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน ซึ่งกำหนดว่า หากผู้ใหญ่ยังมีอาการเศร้าอย่างรุนแรงเกิน 1 ปีหลังการสูญเสีย อาจเข้าข่ายภาวะผิดปกติ แต่ Bess มองว่า ความเศร้าไม่ใช่โรค และการพยายามจัดระเบียบความเศร้าอาจสะท้อนความกลัวของสังคมต่อความเจ็บปวดมากกว่าความเข้าใจ เธอเปรียบเทียบความเศร้าเป็น “การเรียนรู้ที่เจ็บปวด” ซึ่งต้องใช้การทำซ้ำเพื่อปรับตัวกับโลกที่ไม่มีคนรักอยู่ และแม้เธอจะสามารถกลับไปทำงาน ดูแลลูก และใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ภายในยังคงมีความรู้สึกสูญเสียที่ไม่เคยหายไป บทความยังสะท้อนความจริงที่ว่า สังคมมักหลีกเลี่ยงความเศร้า และพยายามหาคำอธิบายเพื่อป้องกันตัวเองจากความเจ็บปวด เช่น การถามถึงปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งของสามี เพื่อให้รู้สึกว่า “ฉันไม่น่าจะเป็นแบบนั้น” ทั้งที่ความตายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ ✅ ความเศร้าไม่มีวันหมดอายุ และไม่ควรถูกจำกัดด้วยกรอบเวลา ➡️ Bess ยังรู้สึกถึง Jake ในชีวิตประจำวัน แม้เขาจะจากไปแล้วหนึ่งปี ➡️ ความทรงจำและความรักยังคงอยู่ในทุกการกระทำ ✅ DSM-5-TR ระบุภาวะ “โศกเศร้าเรื้อรัง” หากมีอาการเกิน 1 ปี ➡️ ต้องมีอาการอย่างน้อย 3 อย่าง เช่น ความรู้สึกไร้ความหมาย หรือความเศร้าอย่างรุนแรง ➡️ Bess ตั้งคำถามว่า “แค่ 3 อาการก็เป็นโรคแล้วหรือ?” ✅ ความเศร้าเป็นการเรียนรู้ที่เจ็บปวด ➡️ สมองต้องปรับตัวกับโลกที่ไม่มีคนรักอยู่ ➡️ การทำซ้ำช่วยให้เข้าใจว่าเขาจะไม่กลับมาอีก ✅ สังคมพยายามหลีกเลี่ยงความเศร้า ➡️ คนมักถามถึงปัจจัยเสี่ยงเพื่อป้องกันตัวเองจากความกลัว ➡️ ความเศร้าถูกซ่อนไว้หลังประตูห้องน้ำหรือการเดินเล่นคนเดียว ✅ ความเศร้าไม่ใช่โรค แต่เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นมนุษย์ ➡️ Bess ยืนยันว่า “ฉันไม่ได้ป่วย ฉันแค่ยังรักอยู่” ➡️ ความเจ็บปวดคือหลักฐานของความรักที่ลึกซึ้ง ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับการวินิจฉัยความเศร้า ⛔ การกำหนดกรอบเวลาอาจทำให้ผู้สูญเสียรู้สึกผิดที่ยังเศร้าอยู่ ⛔ การวินิจฉัยอาจสะท้อนความกลัวของสังคมมากกว่าความเข้าใจ ⛔ การซ่อนความเศร้าอาจทำให้เกิดความเจ็บปวดในระยะยาว ⛔ ความคาดหวังให้ “หายเศร้า” อาจทำให้ผู้สูญเสียรู้สึกโดดเดี่ยว https://bessstillman.substack.com/p/oh-fuck-youre-still-sad
    BESSSTILLMAN.SUBSTACK.COM
    Oh fuck, you're still sad?
    Grief gets an expiration date. Just like us.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ญี่ปุ่นทำสถิติใหม่! ผู้สูงวัยอายุเกิน 100 ปีเกือบแสนคน — เบื้องหลังความยืนยาวที่โลกต้องเรียนรู้”

    รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศตัวเลขล่าสุดในเดือนกันยายน 2025 ว่ามีประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไปถึง 99,763 คน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดเป็นปีที่ 55 ติดต่อกัน โดยในจำนวนนี้ ผู้หญิงมีสัดส่วนถึง 88% สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มอายุขัยที่ยืนยาวของผู้หญิงญี่ปุ่นอย่างชัดเจน

    ผู้สูงวัยที่อายุมากที่สุดในประเทศคือคุณ Shigeko Kagawa อายุ 114 ปี จากเมือง Nara ส่วนผู้ชายที่อายุมากที่สุดคือคุณ Kiyotaka Mizuno อายุ 111 ปี จากเมือง Iwata ซึ่งกล่าวว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือไม่เก็บเรื่องต่าง ๆ มาใส่ใจ” หรือในภาษาญี่ปุ่นคือ “ไม่ kuyokuyo” หมายถึงไม่วิตกกังวลเกินเหตุ

    เบื้องหลังความยืนยาวของชาวญี่ปุ่นมีหลายปัจจัย ทั้งอาหารที่เน้นปลา ผัก และลดเนื้อแดง การออกกำลังกายแบบกลุ่ม เช่น Radio Taiso ที่มีมาตั้งแต่ปี 1928 และการใช้ชีวิตที่มีจังหวะช้าแต่มั่นคง เช่น การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะแทนรถยนต์ส่วนตัว

    นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรม “hara hachi bu” หรือการกินแค่ 80% ของความอิ่ม และ “ikigai” หรือการมีเป้าหมายในชีวิต ซึ่งเป็นแนวคิดที่ฝังรากลึกในสังคมญี่ปุ่น โดยเฉพาะในพื้นที่ Blue Zone อย่าง Okinawa ที่มีอัตราผู้สูงวัยมากที่สุดในโลก

    อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลเรื่องความถูกต้องของข้อมูล เนื่องจากการตรวจสอบในปี 2010 พบว่ามีผู้ที่ถูกระบุว่าอายุเกิน 100 ปีแต่เสียชีวิตไปแล้วกว่า 230,000 คน ซึ่งเกิดจากการบันทึกข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน และบางกรณีมีการปกปิดการเสียชีวิตเพื่อรับเงินบำนาญ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ญี่ปุ่นมีผู้สูงวัยอายุเกิน 100 ปีถึง 99,763 คนในปี 2025
    ผู้หญิงมีสัดส่วนถึง 88% ของผู้สูงวัยทั้งหมด
    ผู้ที่อายุมากที่สุดคือ Shigeko Kagawa (114 ปี) และ Kiyotaka Mizuno (111 ปี)
    มีการจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติในวันที่ 15 กันยายน พร้อมมอบถ้วยเงินและจดหมายแสดงความยินดีจากนายกรัฐมนตรี

    ปัจจัยที่ส่งเสริมอายุยืน
    อาหารที่เน้นปลา ผัก และลดเนื้อแดง ลดอัตราโรคหัวใจและมะเร็ง
    การออกกำลังกายแบบกลุ่ม เช่น Radio Taiso ที่ออกอากาศทุกวัน
    วัฒนธรรม “hara hachi bu” และ “ikigai” ที่ส่งเสริมสุขภาพจิตและร่างกาย
    การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะช่วยให้ผู้สูงวัยเคลื่อนไหวมากขึ้น

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Okinawa เป็นหนึ่งใน Blue Zone ที่มีผู้สูงวัยมากที่สุดในโลก
    ผู้หญิงทั่วโลกมีแนวโน้มอายุยืนกว่าผู้ชายจากปัจจัยทางชีวภาพและพฤติกรรม
    ญี่ปุ่นมีอัตราโรคอ้วนต่ำ โดยเฉพาะในผู้หญิง
    การลดการบริโภคเกลือและน้ำตาลเป็นผลจากนโยบายสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ

    https://www.bbc.com/news/articles/cd07nljlyv0o
    🎉 “ญี่ปุ่นทำสถิติใหม่! ผู้สูงวัยอายุเกิน 100 ปีเกือบแสนคน — เบื้องหลังความยืนยาวที่โลกต้องเรียนรู้” รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศตัวเลขล่าสุดในเดือนกันยายน 2025 ว่ามีประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไปถึง 99,763 คน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดเป็นปีที่ 55 ติดต่อกัน โดยในจำนวนนี้ ผู้หญิงมีสัดส่วนถึง 88% สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มอายุขัยที่ยืนยาวของผู้หญิงญี่ปุ่นอย่างชัดเจน ผู้สูงวัยที่อายุมากที่สุดในประเทศคือคุณ Shigeko Kagawa อายุ 114 ปี จากเมือง Nara ส่วนผู้ชายที่อายุมากที่สุดคือคุณ Kiyotaka Mizuno อายุ 111 ปี จากเมือง Iwata ซึ่งกล่าวว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือไม่เก็บเรื่องต่าง ๆ มาใส่ใจ” หรือในภาษาญี่ปุ่นคือ “ไม่ kuyokuyo” หมายถึงไม่วิตกกังวลเกินเหตุ เบื้องหลังความยืนยาวของชาวญี่ปุ่นมีหลายปัจจัย ทั้งอาหารที่เน้นปลา ผัก และลดเนื้อแดง การออกกำลังกายแบบกลุ่ม เช่น Radio Taiso ที่มีมาตั้งแต่ปี 1928 และการใช้ชีวิตที่มีจังหวะช้าแต่มั่นคง เช่น การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะแทนรถยนต์ส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรม “hara hachi bu” หรือการกินแค่ 80% ของความอิ่ม และ “ikigai” หรือการมีเป้าหมายในชีวิต ซึ่งเป็นแนวคิดที่ฝังรากลึกในสังคมญี่ปุ่น โดยเฉพาะในพื้นที่ Blue Zone อย่าง Okinawa ที่มีอัตราผู้สูงวัยมากที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลเรื่องความถูกต้องของข้อมูล เนื่องจากการตรวจสอบในปี 2010 พบว่ามีผู้ที่ถูกระบุว่าอายุเกิน 100 ปีแต่เสียชีวิตไปแล้วกว่า 230,000 คน ซึ่งเกิดจากการบันทึกข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน และบางกรณีมีการปกปิดการเสียชีวิตเพื่อรับเงินบำนาญ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ญี่ปุ่นมีผู้สูงวัยอายุเกิน 100 ปีถึง 99,763 คนในปี 2025 ➡️ ผู้หญิงมีสัดส่วนถึง 88% ของผู้สูงวัยทั้งหมด ➡️ ผู้ที่อายุมากที่สุดคือ Shigeko Kagawa (114 ปี) และ Kiyotaka Mizuno (111 ปี) ➡️ มีการจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติในวันที่ 15 กันยายน พร้อมมอบถ้วยเงินและจดหมายแสดงความยินดีจากนายกรัฐมนตรี ✅ ปัจจัยที่ส่งเสริมอายุยืน ➡️ อาหารที่เน้นปลา ผัก และลดเนื้อแดง ลดอัตราโรคหัวใจและมะเร็ง ➡️ การออกกำลังกายแบบกลุ่ม เช่น Radio Taiso ที่ออกอากาศทุกวัน ➡️ วัฒนธรรม “hara hachi bu” และ “ikigai” ที่ส่งเสริมสุขภาพจิตและร่างกาย ➡️ การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะช่วยให้ผู้สูงวัยเคลื่อนไหวมากขึ้น ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Okinawa เป็นหนึ่งใน Blue Zone ที่มีผู้สูงวัยมากที่สุดในโลก ➡️ ผู้หญิงทั่วโลกมีแนวโน้มอายุยืนกว่าผู้ชายจากปัจจัยทางชีวภาพและพฤติกรรม ➡️ ญี่ปุ่นมีอัตราโรคอ้วนต่ำ โดยเฉพาะในผู้หญิง ➡️ การลดการบริโภคเกลือและน้ำตาลเป็นผลจากนโยบายสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ https://www.bbc.com/news/articles/cd07nljlyv0o
    WWW.BBC.COM
    Japan sets new record with nearly 100,000 people aged over 100
    The number of Japanese centenarians rose to 99,763 in September, with women making up 88% of the total.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 15-9-68
    .
    สวัสดีวันจันทร์ วันนี้บ้านพระอาทิตย์มีเมนูอาหารเช้าเป็น "ก๋วยเตี๋ยวไก่ สูตรคุณสนธิ" โดยหลังจากที่คุณสนธิร่วมประชุม และรับประทานอาหารเช้ากับทีมงานแล้ว ก็ได้พูดคุยกันในหลายประเด็นเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพการรักษาโรคมะเร็ง, สถานการณ์การเมืองโลก และการเมืองไทย ที่เห็นได้ชัดว่ากระแสฝ่ายอนุรักษ์นิยม (ฝ่ายขวา) กำลังมาแรง ทั้งในสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ยุโรป, ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทย โดยมีการพูดคุยกันถึงคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา นำโดย นายไชยชนก ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่มีการเชิญ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์เข้าไปเป็นที่ปรึกษาด้วย
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=vWs995gNVh0
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #มะเร็ง #การเมืองโลก #การเมืองไทย #MOU2543 #MOU2544
    สนธิเล่าเรื่อง 15-9-68 . สวัสดีวันจันทร์ วันนี้บ้านพระอาทิตย์มีเมนูอาหารเช้าเป็น "ก๋วยเตี๋ยวไก่ สูตรคุณสนธิ" โดยหลังจากที่คุณสนธิร่วมประชุม และรับประทานอาหารเช้ากับทีมงานแล้ว ก็ได้พูดคุยกันในหลายประเด็นเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพการรักษาโรคมะเร็ง, สถานการณ์การเมืองโลก และการเมืองไทย ที่เห็นได้ชัดว่ากระแสฝ่ายอนุรักษ์นิยม (ฝ่ายขวา) กำลังมาแรง ทั้งในสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ยุโรป, ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทย โดยมีการพูดคุยกันถึงคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา นำโดย นายไชยชนก ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่มีการเชิญ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์เข้าไปเป็นที่ปรึกษาด้วย . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=vWs995gNVh0 . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #มะเร็ง #การเมืองโลก #การเมืองไทย #MOU2543 #MOU2544
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • “EPA เตรียมถอยมาตรฐานน้ำดื่ม PFAS — เปิดช่องให้สารพิษ ‘อยู่ยาว’ ในชีวิตคนอเมริกัน”

    เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2025 สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐฯ (EPA) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลกลางเพื่อขอให้ยกเลิกมาตรฐานน้ำดื่มที่เคยออกมาเพื่อควบคุมสาร PFAS หรือที่เรียกกันว่า “สารเคมีอยู่ยาว” ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่พบได้ในผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น กระทะเคลือบสารกันติด โฟมดับเพลิง และบรรจุภัณฑ์อาหาร

    EPA ขอให้ศาลยกเลิกข้อกำหนดที่ควบคุมสาร PFAS 4 ชนิด ได้แก่ GenX, PFHxS, PFNA และ PFBS พร้อมทั้งขยายเวลาให้ระบบน้ำดื่มทั่วประเทศเลื่อนการปฏิบัติตามมาตรฐานของ PFOA และ PFOS ออกไปอีก 2 ปี จากปี 2029 เป็น 2031 ซึ่งหมายความว่าประชาชนกว่า 200 ล้านคนอาจยังคงได้รับน้ำดื่มที่ปนเปื้อนสารพิษเหล่านี้ต่อไป

    นักกฎหมายสิ่งแวดล้อมจาก Earthjustice และ NRDC ออกมาเตือนว่า การกระทำของ EPA ครั้งนี้เป็นการ “หลบเลี่ยง”ข้อห้ามตามกฎหมาย Safe Drinking Water Act ที่ไม่อนุญาตให้ลดมาตรฐานน้ำดื่มที่เคยตั้งไว้แล้ว โดยมองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรมเคมีและบริษัทน้ำมากกว่าความปลอดภัยของประชาชน

    PFAS เป็นสารที่ไม่สลายตัวในธรรมชาติและสามารถสะสมในร่างกายมนุษย์ได้ โดยมีผลกระทบต่อสุขภาพแม้ในระดับที่ต่ำมาก เช่น มะเร็งไตและอัณฑะ ความผิดปกติของฮอร์โมน ระบบสืบพันธุ์ และพัฒนาการของเด็ก EPA เองเคยประกาศในปี 2024 ว่า “ไม่มีระดับที่ปลอดภัย” สำหรับ PFOA และ PFOS แต่กลับเปลี่ยนท่าทีในปี 2025

    กลุ่มชุมชนจากหลายรัฐ เช่น North Carolina, New York และ Florida ได้ร่วมมือกับ Earthjustice เพื่อปกป้องมาตรฐานน้ำดื่มที่ออกมาในปี 2024 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการกำหนดค่ามาตรฐานสำหรับ PFAS อย่างเป็นทางการในระดับประเทศ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    EPA ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อยกเลิกมาตรฐานน้ำดื่มสำหรับ PFAS 4 ชนิด: GenX, PFHxS, PFNA, PFBS
    ขยายเวลาให้ระบบน้ำดื่มเลื่อนการปฏิบัติตามมาตรฐาน PFOA และ PFOS จากปี 2029 เป็น 2031
    PFAS ปนเปื้อนน้ำดื่มของประชาชนกว่า 200 ล้านคนทั่วสหรัฐฯ
    นักกฎหมายสิ่งแวดล้อมชี้ว่า EPA กำลังหลบเลี่ยงข้อห้ามตามกฎหมาย Safe Drinking Water Act

    ความเคลื่อนไหวจากภาคประชาชน
    Earthjustice และ NRDC ร่วมมือกับกลุ่มชุมชนในหลายรัฐเพื่อปกป้องมาตรฐานเดิม
    มาตรฐานปี 2024 เป็นครั้งแรกที่มีการกำหนดค่าควบคุม PFAS อย่างเป็นทางการ
    มาตรฐานเดิมครอบคลุม PFAS 6 ชนิด และกำหนดให้ระบบน้ำต้องตรวจสอบและรายงานผล
    EPA เคยประกาศว่าไม่มีระดับที่ปลอดภัยสำหรับ PFOA และ PFOS

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    PFAS เป็นสารที่ใช้กันแพร่หลายในอุตสาหกรรม และมีความทนทานต่อความร้อนและคราบ
    การสัมผัส PFAS แม้ในระดับต่ำสามารถก่อให้เกิดโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งและโรคหัวใจ
    เทคโนโลยีการกรอง PFAS มีอยู่แล้ว เช่น การใช้ activated carbon และ reverse osmosis
    การควบคุม PFAS เป็นประเด็นสำคัญในหลายประเทศ เช่น เยอรมนีและแคนาดา

    https://earthjustice.org/press/2025/epa-seeks-to-roll-back-pfas-drinking-water-rules-keeping-millions-exposed-to-toxic-forever-chemicals-in-tap-water
    🚱 “EPA เตรียมถอยมาตรฐานน้ำดื่ม PFAS — เปิดช่องให้สารพิษ ‘อยู่ยาว’ ในชีวิตคนอเมริกัน” เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2025 สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐฯ (EPA) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลกลางเพื่อขอให้ยกเลิกมาตรฐานน้ำดื่มที่เคยออกมาเพื่อควบคุมสาร PFAS หรือที่เรียกกันว่า “สารเคมีอยู่ยาว” ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่พบได้ในผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น กระทะเคลือบสารกันติด โฟมดับเพลิง และบรรจุภัณฑ์อาหาร EPA ขอให้ศาลยกเลิกข้อกำหนดที่ควบคุมสาร PFAS 4 ชนิด ได้แก่ GenX, PFHxS, PFNA และ PFBS พร้อมทั้งขยายเวลาให้ระบบน้ำดื่มทั่วประเทศเลื่อนการปฏิบัติตามมาตรฐานของ PFOA และ PFOS ออกไปอีก 2 ปี จากปี 2029 เป็น 2031 ซึ่งหมายความว่าประชาชนกว่า 200 ล้านคนอาจยังคงได้รับน้ำดื่มที่ปนเปื้อนสารพิษเหล่านี้ต่อไป นักกฎหมายสิ่งแวดล้อมจาก Earthjustice และ NRDC ออกมาเตือนว่า การกระทำของ EPA ครั้งนี้เป็นการ “หลบเลี่ยง”ข้อห้ามตามกฎหมาย Safe Drinking Water Act ที่ไม่อนุญาตให้ลดมาตรฐานน้ำดื่มที่เคยตั้งไว้แล้ว โดยมองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรมเคมีและบริษัทน้ำมากกว่าความปลอดภัยของประชาชน PFAS เป็นสารที่ไม่สลายตัวในธรรมชาติและสามารถสะสมในร่างกายมนุษย์ได้ โดยมีผลกระทบต่อสุขภาพแม้ในระดับที่ต่ำมาก เช่น มะเร็งไตและอัณฑะ ความผิดปกติของฮอร์โมน ระบบสืบพันธุ์ และพัฒนาการของเด็ก EPA เองเคยประกาศในปี 2024 ว่า “ไม่มีระดับที่ปลอดภัย” สำหรับ PFOA และ PFOS แต่กลับเปลี่ยนท่าทีในปี 2025 กลุ่มชุมชนจากหลายรัฐ เช่น North Carolina, New York และ Florida ได้ร่วมมือกับ Earthjustice เพื่อปกป้องมาตรฐานน้ำดื่มที่ออกมาในปี 2024 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการกำหนดค่ามาตรฐานสำหรับ PFAS อย่างเป็นทางการในระดับประเทศ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ EPA ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อยกเลิกมาตรฐานน้ำดื่มสำหรับ PFAS 4 ชนิด: GenX, PFHxS, PFNA, PFBS ➡️ ขยายเวลาให้ระบบน้ำดื่มเลื่อนการปฏิบัติตามมาตรฐาน PFOA และ PFOS จากปี 2029 เป็น 2031 ➡️ PFAS ปนเปื้อนน้ำดื่มของประชาชนกว่า 200 ล้านคนทั่วสหรัฐฯ ➡️ นักกฎหมายสิ่งแวดล้อมชี้ว่า EPA กำลังหลบเลี่ยงข้อห้ามตามกฎหมาย Safe Drinking Water Act ✅ ความเคลื่อนไหวจากภาคประชาชน ➡️ Earthjustice และ NRDC ร่วมมือกับกลุ่มชุมชนในหลายรัฐเพื่อปกป้องมาตรฐานเดิม ➡️ มาตรฐานปี 2024 เป็นครั้งแรกที่มีการกำหนดค่าควบคุม PFAS อย่างเป็นทางการ ➡️ มาตรฐานเดิมครอบคลุม PFAS 6 ชนิด และกำหนดให้ระบบน้ำต้องตรวจสอบและรายงานผล ➡️ EPA เคยประกาศว่าไม่มีระดับที่ปลอดภัยสำหรับ PFOA และ PFOS ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ PFAS เป็นสารที่ใช้กันแพร่หลายในอุตสาหกรรม และมีความทนทานต่อความร้อนและคราบ ➡️ การสัมผัส PFAS แม้ในระดับต่ำสามารถก่อให้เกิดโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งและโรคหัวใจ ➡️ เทคโนโลยีการกรอง PFAS มีอยู่แล้ว เช่น การใช้ activated carbon และ reverse osmosis ➡️ การควบคุม PFAS เป็นประเด็นสำคัญในหลายประเทศ เช่น เยอรมนีและแคนาดา https://earthjustice.org/press/2025/epa-seeks-to-roll-back-pfas-drinking-water-rules-keeping-millions-exposed-to-toxic-forever-chemicals-in-tap-water
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ยาภูมิคุ้มกันบำบัด 2141-V11 ทำมะเร็งหายทั้งร่าง! ทดลองฉีดเฉพาะจุดแต่ได้ผลทั่วร่าง — ความหวังใหม่ของผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลาม”

    ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ยาภูมิคุ้มกันบำบัดกลุ่ม CD40 agonist antibodies ถูกมองว่าเป็นความหวังใหม่ในการรักษามะเร็ง เพราะสามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้โจมตีเซลล์มะเร็งได้โดยตรง แต่ในทางปฏิบัติ กลับพบว่ามีผลข้างเคียงรุนแรง เช่น ภูมิไวเกินทั่วร่าง, เกล็ดเลือดต่ำ, และพิษต่อตับ แม้จะใช้ในขนาดต่ำก็ตาม

    จนกระทั่งในปี 2018 ห้องทดลองของ Jeffrey V. Ravetch แห่งมหาวิทยาลัย Rockefeller ได้พัฒนายา CD40 รุ่นใหม่ชื่อว่า 2141-V11 โดยปรับโครงสร้างให้จับกับตัวรับ CD40 ได้แน่นขึ้น และเพิ่มการเชื่อมโยงกับ Fc receptor เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน พร้อมเปลี่ยนวิธีการให้ยา จากเดิมที่ฉีดเข้าหลอดเลือด มาเป็นการฉีดตรงเข้าเนื้อมะเร็งโดยตรง

    ผลการทดลองในมนุษย์ระยะที่ 1 ล่าสุดเผยว่า จากผู้ป่วย 12 คนที่มีมะเร็งระยะลุกลาม เช่น เมลาโนมา มะเร็งไต และมะเร็งเต้านม พบว่า 6 คนมีขนาดก้อนมะเร็งลดลง และ 2 คนหายขาด — โดยฉีดยาเพียงแค่ก้อนเดียว แต่ก้อนอื่นในร่างกายก็หายไปด้วย

    ตัวอย่างที่น่าทึ่งคือ ผู้ป่วยเมลาโนมาที่มีมะเร็งแพร่กระจายทั่วขาและเท้า แต่หลังจากฉีดแค่ก้อนที่ต้นขา ก้อนอื่นทั้งหมดก็หายไป เช่นเดียวกับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีมะเร็งในผิวหนัง ตับ และปอด — แต่ฉีดแค่ก้อนที่ผิวหนัง ก็ทำให้ก้อนอื่นหายไปทั้งหมด

    การตรวจเนื้อเยื่อพบว่า ภายในก้อนมะเร็งมีการรวมตัวของเซลล์ภูมิคุ้มกันหลายชนิด เช่น T cells, B cells และ dendritic cells ที่จัดเรียงตัวคล้ายโครงสร้างของต่อมน้ำเหลือง (tertiary lymphoid structures) ซึ่งเป็นสัญญาณของการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันที่ดี

    ผลลัพธ์นี้นำไปสู่การทดลองเพิ่มเติมในมะเร็งชนิดอื่น เช่น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ, ต่อมลูกหมาก และ glioblastoma โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 200 คน เพื่อศึกษาว่าอะไรทำให้บางคนตอบสนองดี และบางคนไม่ตอบสนองเลย — โดยพบว่าผู้ที่หายขาดมี T cells ที่มีความหลากหลายสูงตั้งแต่ก่อนเริ่มการรักษา

    ข้อมูลจากการทดลองยา 2141-V11
    เป็น CD40 agonist antibody ที่ปรับโครงสร้างให้จับกับ Fc receptor ได้ดีขึ้น
    ฉีดตรงเข้าเนื้อมะเร็งแทนการฉีดเข้าหลอดเลือด
    ลดผลข้างเคียงรุนแรง เช่น ภูมิไวเกินและพิษต่อตับ
    กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้โจมตีเซลล์มะเร็งได้ทั่วร่าง แม้ฉีดแค่ก้อนเดียว

    ผลลัพธ์จากการทดลองระยะที่ 1
    ผู้ป่วย 6 จาก 12 คนมีขนาดก้อนมะเร็งลดลง
    2 คนหายขาดจากมะเร็งเมลาโนมาและมะเร็งเต้านม
    พบการสร้าง tertiary lymphoid structures ภายในก้อนมะเร็ง
    เซลล์ภูมิคุ้มกันเคลื่อนที่ไปยังก้อนที่ไม่ได้ฉีดและทำลายเซลล์มะเร็ง

    การทดลองเพิ่มเติม
    ขยายการทดลองไปยังมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ, ต่อมลูกหมาก และ glioblastoma
    มีผู้เข้าร่วมกว่า 200 คนในระยะที่ 1 และ 2
    ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง T cell clonality กับการตอบสนองต่อยา
    เป้าหมายคือการเปลี่ยนผู้ไม่ตอบสนองให้กลายเป็นผู้ตอบสนอง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    CD40 เป็นตัวรับบนเซลล์ภูมิคุ้มกันที่กระตุ้นการตอบสนองแบบเฉพาะเจาะจง
    การฉีดยาเฉพาะจุดช่วยลดการกระตุ้นเซลล์ที่ไม่ใช่มะเร็ง
    FcγRIIB เป็นตัวรับที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเชื่อมโยงภูมิคุ้มกัน
    Tertiary lymphoid structures เป็นตัวชี้วัดการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันที่ดี

    https://www.rockefeller.edu/news/38120-immunotherapy-drug-eliminates-aggressive-cancers-in-clinical-trial/
    🧬 “ยาภูมิคุ้มกันบำบัด 2141-V11 ทำมะเร็งหายทั้งร่าง! ทดลองฉีดเฉพาะจุดแต่ได้ผลทั่วร่าง — ความหวังใหม่ของผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลาม” ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ยาภูมิคุ้มกันบำบัดกลุ่ม CD40 agonist antibodies ถูกมองว่าเป็นความหวังใหม่ในการรักษามะเร็ง เพราะสามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้โจมตีเซลล์มะเร็งได้โดยตรง แต่ในทางปฏิบัติ กลับพบว่ามีผลข้างเคียงรุนแรง เช่น ภูมิไวเกินทั่วร่าง, เกล็ดเลือดต่ำ, และพิษต่อตับ แม้จะใช้ในขนาดต่ำก็ตาม จนกระทั่งในปี 2018 ห้องทดลองของ Jeffrey V. Ravetch แห่งมหาวิทยาลัย Rockefeller ได้พัฒนายา CD40 รุ่นใหม่ชื่อว่า 2141-V11 โดยปรับโครงสร้างให้จับกับตัวรับ CD40 ได้แน่นขึ้น และเพิ่มการเชื่อมโยงกับ Fc receptor เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน พร้อมเปลี่ยนวิธีการให้ยา จากเดิมที่ฉีดเข้าหลอดเลือด มาเป็นการฉีดตรงเข้าเนื้อมะเร็งโดยตรง ผลการทดลองในมนุษย์ระยะที่ 1 ล่าสุดเผยว่า จากผู้ป่วย 12 คนที่มีมะเร็งระยะลุกลาม เช่น เมลาโนมา มะเร็งไต และมะเร็งเต้านม พบว่า 6 คนมีขนาดก้อนมะเร็งลดลง และ 2 คนหายขาด — โดยฉีดยาเพียงแค่ก้อนเดียว แต่ก้อนอื่นในร่างกายก็หายไปด้วย ตัวอย่างที่น่าทึ่งคือ ผู้ป่วยเมลาโนมาที่มีมะเร็งแพร่กระจายทั่วขาและเท้า แต่หลังจากฉีดแค่ก้อนที่ต้นขา ก้อนอื่นทั้งหมดก็หายไป เช่นเดียวกับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีมะเร็งในผิวหนัง ตับ และปอด — แต่ฉีดแค่ก้อนที่ผิวหนัง ก็ทำให้ก้อนอื่นหายไปทั้งหมด การตรวจเนื้อเยื่อพบว่า ภายในก้อนมะเร็งมีการรวมตัวของเซลล์ภูมิคุ้มกันหลายชนิด เช่น T cells, B cells และ dendritic cells ที่จัดเรียงตัวคล้ายโครงสร้างของต่อมน้ำเหลือง (tertiary lymphoid structures) ซึ่งเป็นสัญญาณของการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันที่ดี ผลลัพธ์นี้นำไปสู่การทดลองเพิ่มเติมในมะเร็งชนิดอื่น เช่น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ, ต่อมลูกหมาก และ glioblastoma โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 200 คน เพื่อศึกษาว่าอะไรทำให้บางคนตอบสนองดี และบางคนไม่ตอบสนองเลย — โดยพบว่าผู้ที่หายขาดมี T cells ที่มีความหลากหลายสูงตั้งแต่ก่อนเริ่มการรักษา ✅ ข้อมูลจากการทดลองยา 2141-V11 ➡️ เป็น CD40 agonist antibody ที่ปรับโครงสร้างให้จับกับ Fc receptor ได้ดีขึ้น ➡️ ฉีดตรงเข้าเนื้อมะเร็งแทนการฉีดเข้าหลอดเลือด ➡️ ลดผลข้างเคียงรุนแรง เช่น ภูมิไวเกินและพิษต่อตับ ➡️ กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้โจมตีเซลล์มะเร็งได้ทั่วร่าง แม้ฉีดแค่ก้อนเดียว ✅ ผลลัพธ์จากการทดลองระยะที่ 1 ➡️ ผู้ป่วย 6 จาก 12 คนมีขนาดก้อนมะเร็งลดลง ➡️ 2 คนหายขาดจากมะเร็งเมลาโนมาและมะเร็งเต้านม ➡️ พบการสร้าง tertiary lymphoid structures ภายในก้อนมะเร็ง ➡️ เซลล์ภูมิคุ้มกันเคลื่อนที่ไปยังก้อนที่ไม่ได้ฉีดและทำลายเซลล์มะเร็ง ✅ การทดลองเพิ่มเติม ➡️ ขยายการทดลองไปยังมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ, ต่อมลูกหมาก และ glioblastoma ➡️ มีผู้เข้าร่วมกว่า 200 คนในระยะที่ 1 และ 2 ➡️ ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง T cell clonality กับการตอบสนองต่อยา ➡️ เป้าหมายคือการเปลี่ยนผู้ไม่ตอบสนองให้กลายเป็นผู้ตอบสนอง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ CD40 เป็นตัวรับบนเซลล์ภูมิคุ้มกันที่กระตุ้นการตอบสนองแบบเฉพาะเจาะจง ➡️ การฉีดยาเฉพาะจุดช่วยลดการกระตุ้นเซลล์ที่ไม่ใช่มะเร็ง ➡️ FcγRIIB เป็นตัวรับที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเชื่อมโยงภูมิคุ้มกัน ➡️ Tertiary lymphoid structures เป็นตัวชี้วัดการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันที่ดี https://www.rockefeller.edu/news/38120-immunotherapy-drug-eliminates-aggressive-cancers-in-clinical-trial/
    WWW.ROCKEFELLER.EDU
    Immunotherapy drug eliminates aggressive cancers in clinical trial - News
    The researchers demonstrate that an engineered antibody improves a class of drugs that has struggled to make good on its early promise.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘วันชัย’! ชี้รัฐบาล ‘อนุทิน’ เหมือน ‘มะเร็งระยะสุดท้าย’ อยู่ได้แค่ 4 เดือนเพื่อทำ 2 ภารกิจ
    https://www.thai-tai.tv/news/21344/
    .
    #ไทยไท #วันชัยสอนศิริ #อนุทินชาญวีรกูล #รัฐบาลมะเร็งระยะสุดท้าย #พรรคประชาชน #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    ‘วันชัย’! ชี้รัฐบาล ‘อนุทิน’ เหมือน ‘มะเร็งระยะสุดท้าย’ อยู่ได้แค่ 4 เดือนเพื่อทำ 2 ภารกิจ https://www.thai-tai.tv/news/21344/ . #ไทยไท #วันชัยสอนศิริ #อนุทินชาญวีรกูล #รัฐบาลมะเร็งระยะสุดท้าย #พรรคประชาชน #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากวงการเภสัชกรรม: เมื่อ AI กลายเป็นนักวิจัยที่ไม่ต้องใช้สัตว์

    ในปี 2025 การพัฒนายาด้วย AI ไม่ใช่แค่แนวคิดอีกต่อไป แต่กลายเป็นแนวทางหลักที่บริษัทเภสัชกรรมและหน่วยงานวิจัยทั่วโลกกำลังเร่งนำมาใช้ โดยเฉพาะเมื่อ FDA (สำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ) ประกาศแผนลดการใช้สัตว์ทดลองในกระบวนการ pre-clinical testing ภายใน 3–5 ปีข้างหน้า

    บริษัทอย่าง Certara, Recursion Pharmaceuticals และ Schrodinger กำลังใช้ AI เพื่อจำลองว่าโมเลกุลใหม่จะถูกดูดซึม, กระจาย, หรือก่อให้เกิดพิษในร่างกายอย่างไร โดยไม่ต้องใช้สัตว์ทดลองจริง ตัวอย่างเช่น Recursion ใช้แพลตฟอร์ม AI ของตนเพื่อพัฒนาโมเลกุลต้านมะเร็งจนเข้าสู่การทดลองทางคลินิกภายในเวลาเพียง 18 เดือน—เทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ใช้เวลา 42 เดือน

    Charles River ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับจ้างวิจัยรายใหญ่ของโลก ก็หันมาใช้ “NAMs” หรือ New Approach Methodologies ที่รวม AI, โมเดลคอมพิวเตอร์, และอุปกรณ์จำลองอวัยวะมนุษย์ (organ-on-a-chip) เพื่อทดสอบฤทธิ์ยาโดยไม่ต้องใช้สัตว์

    แม้จะมีความก้าวหน้าอย่างมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การเลิกใช้สัตว์ทดลองโดยสิ้นเชิงยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ทันที โดยเฉพาะในกรณีของโมโนโคลนอลแอนติบอดี ที่ยังต้องใช้สัตว์ทดลองเพื่อประเมินความปลอดภัยในบางขั้นตอน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/02/ai-driven-drug-discovery-picks-up-as-fda-pushes-to-reduce-animal-testing
    🎙️ เรื่องเล่าจากวงการเภสัชกรรม: เมื่อ AI กลายเป็นนักวิจัยที่ไม่ต้องใช้สัตว์ ในปี 2025 การพัฒนายาด้วย AI ไม่ใช่แค่แนวคิดอีกต่อไป แต่กลายเป็นแนวทางหลักที่บริษัทเภสัชกรรมและหน่วยงานวิจัยทั่วโลกกำลังเร่งนำมาใช้ โดยเฉพาะเมื่อ FDA (สำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ) ประกาศแผนลดการใช้สัตว์ทดลองในกระบวนการ pre-clinical testing ภายใน 3–5 ปีข้างหน้า บริษัทอย่าง Certara, Recursion Pharmaceuticals และ Schrodinger กำลังใช้ AI เพื่อจำลองว่าโมเลกุลใหม่จะถูกดูดซึม, กระจาย, หรือก่อให้เกิดพิษในร่างกายอย่างไร โดยไม่ต้องใช้สัตว์ทดลองจริง ตัวอย่างเช่น Recursion ใช้แพลตฟอร์ม AI ของตนเพื่อพัฒนาโมเลกุลต้านมะเร็งจนเข้าสู่การทดลองทางคลินิกภายในเวลาเพียง 18 เดือน—เทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ใช้เวลา 42 เดือน Charles River ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับจ้างวิจัยรายใหญ่ของโลก ก็หันมาใช้ “NAMs” หรือ New Approach Methodologies ที่รวม AI, โมเดลคอมพิวเตอร์, และอุปกรณ์จำลองอวัยวะมนุษย์ (organ-on-a-chip) เพื่อทดสอบฤทธิ์ยาโดยไม่ต้องใช้สัตว์ แม้จะมีความก้าวหน้าอย่างมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การเลิกใช้สัตว์ทดลองโดยสิ้นเชิงยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ทันที โดยเฉพาะในกรณีของโมโนโคลนอลแอนติบอดี ที่ยังต้องใช้สัตว์ทดลองเพื่อประเมินความปลอดภัยในบางขั้นตอน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/02/ai-driven-drug-discovery-picks-up-as-fda-pushes-to-reduce-animal-testing
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI-driven drug discovery picks up as FDA pushes to reduce animal testing
    (Reuters) -Drug developers are increasing adoption of AI technologies for discovery and safety testing to get faster and cheaper results, in line with an FDA push to reduce animal testing in the near future.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้นำผู้ปกครองเราปัจจุบัน ยังไม่ประกาศเปิดเผยอะไรในค่าจริงใดๆเลยแม้อุ๊งอิ๊งมาและก็ไปแล้ว,ค่าจริงต่างๆก็ยังถูกปกปิดอยู่เหมือนเดิม สงครามเขมรกับไทย ที่เขมรเปิดก่อน อาจหักเหความสนใจของสิ่งนี้ก็ได้ด้วย,แผนสงครามทั่วโลกก็เพื่อให้ชาวโลกไม่มีเวลาตั้งสติคิดนั้นเองต่อสุขภาพตนเอง ผู้นำแต่ละประเทศพยายามลดภาวะค่าใช้จ่ายตนเองสังหารประชาชนตนเองผ่านสงครามด้วยก็ได้แบบฮุนเซน,
    ..พิษร้ายแรงยังเต็มหลอดเลือดในร่างกายคนไทยทุกๆคนที่ไปฉีดวัคซีนโควิดจริงกว่า60ล้านคนจริง.เลือดๆหลายๆท่านไม่แดงสดก็มากผิดปกติจริงๆ,คนไทยส่งต่อเชื้อโรคผ่านทางบริจาคเลือดมิน้อยกันเลย,เอดส์ มะเร็ง ชาร์ ลิ่มเลือด กราฟีนจากคนหนึ่งสู่คนหนึ่ง.ผ่านสายเลือด,อนาถจริงๆ,แต่พวกชนชั้นปกครองมันใช้เข็มหลอกเข็มปลอมฉีดให้เราดูหรือน้ำเกลือแร่ก็มาก.ถุงเลือดปะทะถุงเชื้อโรคเพื่อการส่งต่อโรคร้ายกระจายทั่วไทย,ยุคลุงเต็มๆนะจ๊ะจะบอกให้.
    ผู้นำผู้ปกครองเราปัจจุบัน ยังไม่ประกาศเปิดเผยอะไรในค่าจริงใดๆเลยแม้อุ๊งอิ๊งมาและก็ไปแล้ว,ค่าจริงต่างๆก็ยังถูกปกปิดอยู่เหมือนเดิม สงครามเขมรกับไทย ที่เขมรเปิดก่อน อาจหักเหความสนใจของสิ่งนี้ก็ได้ด้วย,แผนสงครามทั่วโลกก็เพื่อให้ชาวโลกไม่มีเวลาตั้งสติคิดนั้นเองต่อสุขภาพตนเอง ผู้นำแต่ละประเทศพยายามลดภาวะค่าใช้จ่ายตนเองสังหารประชาชนตนเองผ่านสงครามด้วยก็ได้แบบฮุนเซน, ..พิษร้ายแรงยังเต็มหลอดเลือดในร่างกายคนไทยทุกๆคนที่ไปฉีดวัคซีนโควิดจริงกว่า60ล้านคนจริง.เลือดๆหลายๆท่านไม่แดงสดก็มากผิดปกติจริงๆ,คนไทยส่งต่อเชื้อโรคผ่านทางบริจาคเลือดมิน้อยกันเลย,เอดส์ มะเร็ง ชาร์ ลิ่มเลือด กราฟีนจากคนหนึ่งสู่คนหนึ่ง.ผ่านสายเลือด,อนาถจริงๆ,แต่พวกชนชั้นปกครองมันใช้เข็มหลอกเข็มปลอมฉีดให้เราดูหรือน้ำเกลือแร่ก็มาก.ถุงเลือดปะทะถุงเชื้อโรคเพื่อการส่งต่อโรคร้ายกระจายทั่วไทย,ยุคลุงเต็มๆนะจ๊ะจะบอกให้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • กฎหมายเลือกตั้งปัจจุบันทำพิษจริง ยุคลุงเขียนชัดเจน นายกฯดับอนาถก็ยุบสภาไม่ได้ ก็ยุบชุดรัฐบาลทั้งคณะแบบเก่าๆไม่ได้คือเลือกตั้งใหม่ล้างไพ่ทันที,แต่แก่พากันเขียนใหม่เพื่อสืบทอดอำนาจจนจบสมัยเลยห้ามเกิดการเลือกตั้งใหม่ง่ายๆแบบนายกฯสิ้นสถานะ ก็เอาคนใหม่ขึ้นมาแทนได้ตลอดสมัยการเป็นรัฐบาลชุดตนจัดตั้งรัฐบาลได้,นี้คือหายนะแก่แผ่นดินชัดเจนก็เหมือนพวกๆเลวๆชั่วๆนี้ก็วนกันขึ้นมาอีก,จากเป็นครม.ก็อาจผันตัวเองมาเป็นนายกฯได้,กฎหมายการเลือกตั้งนี้อันตรายมากจริงๆ,ประเทศไทยต้องทหารไทยยึดอำนาจเถอะ,ฉีกกฎหมายพวกนี้ทิ้งทั้งหมดที่,เขียนใหม่ให้มันดีขึ้นจริงๆได้.เพราะทหารชุดก่อนที่ยุดอำนาจ ค่าจริงชัดเจนแล้วว่าปล่อยให้เสียดินแดนในอีสานใต้กว่า11จุด,นั้นย่อมแสดงว่า กฎหมายทั้งหมดที่ยุคทหารชุดนั้นยึดอำนาจมีปัญหาจำนวนไม่น้อยแน่นอน.,แบบนายกฯไม่เลือกตั้งตรงจากการกาตรงของประชาชนได้อีก,นายกฯพ้นสถานะนายกๆทุกๆกรณีต้องสิ้นสุดอำนาจรัฐบาลชุดนั้นไปด้วยทันที,เลือกตั้งใหม่และห้ามพรรคหลักพรรคร่วมรัฐบาลลงสมัครรับเลือกตัังใดๆอีกในสมัยใหม่นี้,เป็นต้น.
    ..ประเทศไทยถือว่าถอยหลังจริงๆลงคลองด้วย,นายกฯพ้นสถานะเสือกไม่เลือกตั้งใหม่ สรรหาเหี้ยอะไรแบบนี้,ประชาชนต้องเอาอำนาจตัวแทนนั้นคืนทันทีสิ, พรรคการเมืองคตโกงฉ้อฉลอำนาจประชาชนชัดเจน,ประชาชนสามารถโมฆะอำนาจที่ตนกาสส.ในพรรครัฐบาลได้ทันที ,ขาดจริยธรรมร้ายแรงขนาดนี้ยังจะมีหน้าพากันไม่เลือกตั้งใหม่หน้ามึนหน้าหนาหน้าด้านมาก,คะแนนที่ตนจัดตั้งรัฐบาลได้ก็มาจากคะแนนประชาชนกาให้ในแต่ละพรรคนั้นรวมถึงพรรคหลักรัฐบาล,เสมือนใช้อำนาจตัวแทนประชาชนมิชอบขัดจริยธรรมไว้วางใจประชาชนชัดเจนด้วยคะแนนรวมการเอาไปเป็นฐานคะแนนจัดตั้งรัฐบาลทั้งอ้างอิงคะแนนเสียงนี้สรรหานายกฯขึ้นปกครองด้วย,นายกฯทำผิดต่อจรรยาบรรณจริยธรรมประชาชนด้วย พรรคที่ได้คะแนนเป็นการรวมกันจัดตั้งรัฐบาลด้วยก็ผิดจริยธรรมร้ายแรงต่อประชาชนที่เสนอนายกฯผิดจริยธรรมร้ายแรงนั้น,ทั้งรัฐบาลผิดจริยธรรมต่อประชาชน จึงมีสถานะพ้นสภาพการเป็นสส.ด้วยในฝ่ายรัฐบาลทั้งหมดที่ผิดต่อประชาชนเหมือนคณะครม.ตน.และนายกฯที่พ้นสถานะตำแหน่งไปด้วย,ไม่สามารถมากระทำดำเนินการสรรหานายกฯใหม่ที่ไร้สามัญสำนึกแบบนี้,กฎหมายด้านนี้จึงเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติชัดเจน,เสมือนเนื้อเน่าที่ตัดทิ้งไม่หมดเสมือนมะเร็งร้ายที่ตัดทิ้งไม่สิ้น จะสืบสันดานชั่วเลวสันดานสร้างความหายนะทายาทอสูรต่อบ้านต่อเมืองไม่จบสิ้น,พ้นสถานะนายกฯคนที่1ก็ชั่วเลวเอานายกฯคนที่2มา,พ้นสถานะนายกฯชั่วเลวคนที่2ไปก็สามารถสืบทอดต่อเนื่องอุดมการณ์นโยบายชั่วเลวนายกฯคนที่2ได้สู่นายกฯคนที่4,5,6,7,8,9,...ต่อๆไปจนครบวาระเวลาสืบสันดานสร้างโอกาสชั่วเลวได้,นี้คือกฎหมายทำลายแผ่นดินไทยตนเองชัดเจน,ยุบสภา หรือนายกฯพ้นสถานะนายกฯจะกรณีใดๆต้องสิ้นสุดอำนาจรัฐบาลอำนาจสภาทันที แล้วมีการเลือกตั้งใหม่ทันที.นี้คือพื้นฐานที่สวยงามการมีส่วนร่วมของประชาชน.,ปัจจุบันกากลงต่ำลงทรามลงทุกๆที.



    https://youtube.com/shorts/aEyB27Lm2Pc?si=Q2mXlmc0FFNbsePH
    กฎหมายเลือกตั้งปัจจุบันทำพิษจริง ยุคลุงเขียนชัดเจน นายกฯดับอนาถก็ยุบสภาไม่ได้ ก็ยุบชุดรัฐบาลทั้งคณะแบบเก่าๆไม่ได้คือเลือกตั้งใหม่ล้างไพ่ทันที,แต่แก่พากันเขียนใหม่เพื่อสืบทอดอำนาจจนจบสมัยเลยห้ามเกิดการเลือกตั้งใหม่ง่ายๆแบบนายกฯสิ้นสถานะ ก็เอาคนใหม่ขึ้นมาแทนได้ตลอดสมัยการเป็นรัฐบาลชุดตนจัดตั้งรัฐบาลได้,นี้คือหายนะแก่แผ่นดินชัดเจนก็เหมือนพวกๆเลวๆชั่วๆนี้ก็วนกันขึ้นมาอีก,จากเป็นครม.ก็อาจผันตัวเองมาเป็นนายกฯได้,กฎหมายการเลือกตั้งนี้อันตรายมากจริงๆ,ประเทศไทยต้องทหารไทยยึดอำนาจเถอะ,ฉีกกฎหมายพวกนี้ทิ้งทั้งหมดที่,เขียนใหม่ให้มันดีขึ้นจริงๆได้.เพราะทหารชุดก่อนที่ยุดอำนาจ ค่าจริงชัดเจนแล้วว่าปล่อยให้เสียดินแดนในอีสานใต้กว่า11จุด,นั้นย่อมแสดงว่า กฎหมายทั้งหมดที่ยุคทหารชุดนั้นยึดอำนาจมีปัญหาจำนวนไม่น้อยแน่นอน.,แบบนายกฯไม่เลือกตั้งตรงจากการกาตรงของประชาชนได้อีก,นายกฯพ้นสถานะนายกๆทุกๆกรณีต้องสิ้นสุดอำนาจรัฐบาลชุดนั้นไปด้วยทันที,เลือกตั้งใหม่และห้ามพรรคหลักพรรคร่วมรัฐบาลลงสมัครรับเลือกตัังใดๆอีกในสมัยใหม่นี้,เป็นต้น. ..ประเทศไทยถือว่าถอยหลังจริงๆลงคลองด้วย,นายกฯพ้นสถานะเสือกไม่เลือกตั้งใหม่ สรรหาเหี้ยอะไรแบบนี้,ประชาชนต้องเอาอำนาจตัวแทนนั้นคืนทันทีสิ, พรรคการเมืองคตโกงฉ้อฉลอำนาจประชาชนชัดเจน,ประชาชนสามารถโมฆะอำนาจที่ตนกาสส.ในพรรครัฐบาลได้ทันที ,ขาดจริยธรรมร้ายแรงขนาดนี้ยังจะมีหน้าพากันไม่เลือกตั้งใหม่หน้ามึนหน้าหนาหน้าด้านมาก,คะแนนที่ตนจัดตั้งรัฐบาลได้ก็มาจากคะแนนประชาชนกาให้ในแต่ละพรรคนั้นรวมถึงพรรคหลักรัฐบาล,เสมือนใช้อำนาจตัวแทนประชาชนมิชอบขัดจริยธรรมไว้วางใจประชาชนชัดเจนด้วยคะแนนรวมการเอาไปเป็นฐานคะแนนจัดตั้งรัฐบาลทั้งอ้างอิงคะแนนเสียงนี้สรรหานายกฯขึ้นปกครองด้วย,นายกฯทำผิดต่อจรรยาบรรณจริยธรรมประชาชนด้วย พรรคที่ได้คะแนนเป็นการรวมกันจัดตั้งรัฐบาลด้วยก็ผิดจริยธรรมร้ายแรงต่อประชาชนที่เสนอนายกฯผิดจริยธรรมร้ายแรงนั้น,ทั้งรัฐบาลผิดจริยธรรมต่อประชาชน จึงมีสถานะพ้นสภาพการเป็นสส.ด้วยในฝ่ายรัฐบาลทั้งหมดที่ผิดต่อประชาชนเหมือนคณะครม.ตน.และนายกฯที่พ้นสถานะตำแหน่งไปด้วย,ไม่สามารถมากระทำดำเนินการสรรหานายกฯใหม่ที่ไร้สามัญสำนึกแบบนี้,กฎหมายด้านนี้จึงเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติชัดเจน,เสมือนเนื้อเน่าที่ตัดทิ้งไม่หมดเสมือนมะเร็งร้ายที่ตัดทิ้งไม่สิ้น จะสืบสันดานชั่วเลวสันดานสร้างความหายนะทายาทอสูรต่อบ้านต่อเมืองไม่จบสิ้น,พ้นสถานะนายกฯคนที่1ก็ชั่วเลวเอานายกฯคนที่2มา,พ้นสถานะนายกฯชั่วเลวคนที่2ไปก็สามารถสืบทอดต่อเนื่องอุดมการณ์นโยบายชั่วเลวนายกฯคนที่2ได้สู่นายกฯคนที่4,5,6,7,8,9,...ต่อๆไปจนครบวาระเวลาสืบสันดานสร้างโอกาสชั่วเลวได้,นี้คือกฎหมายทำลายแผ่นดินไทยตนเองชัดเจน,ยุบสภา หรือนายกฯพ้นสถานะนายกฯจะกรณีใดๆต้องสิ้นสุดอำนาจรัฐบาลอำนาจสภาทันที แล้วมีการเลือกตั้งใหม่ทันที.นี้คือพื้นฐานที่สวยงามการมีส่วนร่วมของประชาชน.,ปัจจุบันกากลงต่ำลงทรามลงทุกๆที. https://youtube.com/shorts/aEyB27Lm2Pc?si=Q2mXlmc0FFNbsePH
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • Therac-25 — เมื่อซอฟต์แวร์ที่ไม่มีการทดสอบกลายเป็นอาวุธร้ายในโรงพยาบาล

    ย้อนกลับไปในยุค 80s เครื่อง Therac-25 ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการรักษามะเร็งด้วยรังสี โดยสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ลำอิเล็กตรอนโดยตรง หรือเปลี่ยนเป็นรังสีเอกซ์ผ่านแผ่นโลหะ เครื่องนี้ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ PDP-11 และเป็นเครื่องแรกที่ยกเลิกระบบป้องกันแบบฮาร์ดแวร์ แล้วใช้ซอฟต์แวร์แทนทั้งหมด

    ในปี 1986 ที่ศูนย์มะเร็ง East Texas Cancer Center (ETCC) เกิดเหตุการณ์ที่ผู้ป่วยได้รับรังสีเกินขนาดถึง 25,000 rads ทั้งที่ระบบรายงานว่าไม่ได้ฉายรังสีเลย ความผิดพลาดเกิดจาก race condition ในซอฟต์แวร์ เมื่อเจ้าหน้าที่พิมพ์ข้อมูลเร็วเกินไป ระบบไม่ได้ recalibrate คำสั่งใหม่ ทำให้ลำอิเล็กตรอนพุ่งเข้าใส่ผู้ป่วยโดยไม่มีการกรองหรือควบคุม

    ผู้ป่วยรู้สึกเหมือนถูกน้ำร้อนราดหลัง และแม้จะร้องขอความช่วยเหลือ แต่ intercom และกล้องก็เสีย เจ้าหน้าที่จึงกดปุ่ม “unpause” โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผลคือผู้ป่วยได้รับรังสีเกินขนาดอย่างรุนแรง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

    AECL ผู้ผลิตเครื่อง Therac-25 ปฏิเสธว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิด overdose และไม่มีการทดสอบซอฟต์แวร์อย่างเป็นระบบ เพราะเชื่อว่า “ซอฟต์แวร์ไม่เสื่อม” และ “ใช้มานานแล้วจึงปลอดภัย” แม้จะมีผู้ป่วยเสียชีวิตหลายราย ก็ยังไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจัง จน FDA ต้องเข้ามากดดันให้จัดทำ Corrective Action Plan (CAP)

    ในที่สุดพบว่าไม่ใช่แค่ race condition เท่านั้น แต่ยังมี bug ที่ทำให้ตัวแปรควบคุมการตรวจสอบตำแหน่ง turntable กลับเป็นศูนย์ทุก 256 ครั้ง ซึ่งทำให้ลำแสงถูกยิงออกไปโดยไม่มีการตรวจสอบตำแหน่งเลย

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Therac-25 เป็นเครื่องฉายรังสีที่ควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ทั้งหมด โดยไม่มีระบบป้องกันแบบฮาร์ดแวร์
    เกิดอุบัติเหตุที่ ETCC ในปี 1986 ผู้ป่วยได้รับรังสีเกินขนาดถึง 25,000 rads
    สาเหตุหลักคือ race condition เมื่อเจ้าหน้าที่พิมพ์ข้อมูลเร็วเกินไป
    ระบบไม่ได้ recalibrate คำสั่งใหม่ ทำให้ลำอิเล็กตรอนถูกยิงโดยไม่มีการกรอง
    AECL ปฏิเสธว่า overdose เป็นไปไม่ได้ และไม่มีการทดสอบซอฟต์แวร์อย่างเป็นระบบ
    FDA เข้ามากดดันให้จัดทำ Corrective Action Plan (CAP)
    พบ bug เพิ่มเติมที่ทำให้ตัวแปรควบคุมตำแหน่ง turntable กลับเป็นศูนย์ทุก 256 ครั้ง
    AECL แก้ไขโดยแนะนำให้ผู้ใช้ “ถอดปุ่ม UP” และใช้เทปพันไว้เพื่อป้องกันการกด
    มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจาก Therac-25 อย่างน้อย 6 รายระหว่างปี 1985–1987
    บทเรียนสำคัญคือการพึ่งพาซอฟต์แวร์โดยไม่มีการทดสอบที่เข้มงวดในระบบที่มีความเสี่ยงสูง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Therac-25 กลายเป็นกรณีศึกษามาตรฐานในวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์และจริยธรรมคอมพิวเตอร์
    Race condition คือการที่หลาย process เข้าถึงข้อมูลร่วมกันโดยไม่มีการจัดลำดับที่แน่นอน
    PDP-11 เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมในยุคนั้น
    FDA ปรับปรุงกฎระเบียบด้านการทดสอบซอฟต์แวร์หลังเหตุการณ์นี้
    เหตุการณ์นี้ส่งผลให้วงการแพทย์ระแวงการใช้คอมพิวเตอร์ในระบบรักษาไปอีกหลายปี

    https://thedailywtf.com/articles/the-therac-25-incident
    ⚠️ Therac-25 — เมื่อซอฟต์แวร์ที่ไม่มีการทดสอบกลายเป็นอาวุธร้ายในโรงพยาบาล ย้อนกลับไปในยุค 80s เครื่อง Therac-25 ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการรักษามะเร็งด้วยรังสี โดยสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ลำอิเล็กตรอนโดยตรง หรือเปลี่ยนเป็นรังสีเอกซ์ผ่านแผ่นโลหะ เครื่องนี้ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ PDP-11 และเป็นเครื่องแรกที่ยกเลิกระบบป้องกันแบบฮาร์ดแวร์ แล้วใช้ซอฟต์แวร์แทนทั้งหมด ในปี 1986 ที่ศูนย์มะเร็ง East Texas Cancer Center (ETCC) เกิดเหตุการณ์ที่ผู้ป่วยได้รับรังสีเกินขนาดถึง 25,000 rads ทั้งที่ระบบรายงานว่าไม่ได้ฉายรังสีเลย ความผิดพลาดเกิดจาก race condition ในซอฟต์แวร์ เมื่อเจ้าหน้าที่พิมพ์ข้อมูลเร็วเกินไป ระบบไม่ได้ recalibrate คำสั่งใหม่ ทำให้ลำอิเล็กตรอนพุ่งเข้าใส่ผู้ป่วยโดยไม่มีการกรองหรือควบคุม ผู้ป่วยรู้สึกเหมือนถูกน้ำร้อนราดหลัง และแม้จะร้องขอความช่วยเหลือ แต่ intercom และกล้องก็เสีย เจ้าหน้าที่จึงกดปุ่ม “unpause” โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผลคือผู้ป่วยได้รับรังสีเกินขนาดอย่างรุนแรง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา AECL ผู้ผลิตเครื่อง Therac-25 ปฏิเสธว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิด overdose และไม่มีการทดสอบซอฟต์แวร์อย่างเป็นระบบ เพราะเชื่อว่า “ซอฟต์แวร์ไม่เสื่อม” และ “ใช้มานานแล้วจึงปลอดภัย” แม้จะมีผู้ป่วยเสียชีวิตหลายราย ก็ยังไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจัง จน FDA ต้องเข้ามากดดันให้จัดทำ Corrective Action Plan (CAP) ในที่สุดพบว่าไม่ใช่แค่ race condition เท่านั้น แต่ยังมี bug ที่ทำให้ตัวแปรควบคุมการตรวจสอบตำแหน่ง turntable กลับเป็นศูนย์ทุก 256 ครั้ง ซึ่งทำให้ลำแสงถูกยิงออกไปโดยไม่มีการตรวจสอบตำแหน่งเลย 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Therac-25 เป็นเครื่องฉายรังสีที่ควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ทั้งหมด โดยไม่มีระบบป้องกันแบบฮาร์ดแวร์ ➡️ เกิดอุบัติเหตุที่ ETCC ในปี 1986 ผู้ป่วยได้รับรังสีเกินขนาดถึง 25,000 rads ➡️ สาเหตุหลักคือ race condition เมื่อเจ้าหน้าที่พิมพ์ข้อมูลเร็วเกินไป ➡️ ระบบไม่ได้ recalibrate คำสั่งใหม่ ทำให้ลำอิเล็กตรอนถูกยิงโดยไม่มีการกรอง ➡️ AECL ปฏิเสธว่า overdose เป็นไปไม่ได้ และไม่มีการทดสอบซอฟต์แวร์อย่างเป็นระบบ ➡️ FDA เข้ามากดดันให้จัดทำ Corrective Action Plan (CAP) ➡️ พบ bug เพิ่มเติมที่ทำให้ตัวแปรควบคุมตำแหน่ง turntable กลับเป็นศูนย์ทุก 256 ครั้ง ➡️ AECL แก้ไขโดยแนะนำให้ผู้ใช้ “ถอดปุ่ม UP” และใช้เทปพันไว้เพื่อป้องกันการกด ➡️ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจาก Therac-25 อย่างน้อย 6 รายระหว่างปี 1985–1987 ➡️ บทเรียนสำคัญคือการพึ่งพาซอฟต์แวร์โดยไม่มีการทดสอบที่เข้มงวดในระบบที่มีความเสี่ยงสูง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Therac-25 กลายเป็นกรณีศึกษามาตรฐานในวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์และจริยธรรมคอมพิวเตอร์ ➡️ Race condition คือการที่หลาย process เข้าถึงข้อมูลร่วมกันโดยไม่มีการจัดลำดับที่แน่นอน ➡️ PDP-11 เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมในยุคนั้น ➡️ FDA ปรับปรุงกฎระเบียบด้านการทดสอบซอฟต์แวร์หลังเหตุการณ์นี้ ➡️ เหตุการณ์นี้ส่งผลให้วงการแพทย์ระแวงการใช้คอมพิวเตอร์ในระบบรักษาไปอีกหลายปี https://thedailywtf.com/articles/the-therac-25-incident
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทิดอลงกต2,ทำไม เพราะติ่งลุงตู่ชูเชิดว่าพ่อพระแท้ๆดีเลิศเกินคำบรรยาย นี้ไม่รวมนำเข้าชี้ชวนชี้ช่องรณรงค์คนมาฉีดวัคซีนฉีดเอดส์ฉีดมะเร็งฉีดเชื้อโรคเข้าร่างกายยุคโควิดอีกนะ วัคซีนก่อโรคกว่า1,291โรคตามแต่ภูมิใครตก จากนั้นมันแปลงร่างโจมตีตามสไตล์โรคใครมันเลย วูบตายบ้าง ลิ่มเลือดสมองอุดตันบ้าง หัวใจวายเฉียบพลันบ้าง มะเม็งเทอร์โบบ้าง เอดส์บ้างทุบสถิติสูงขึ้นผิดปกติกันเลย ไม่มั่วอะไรเสือกมีเชื้อเฉยเลย แท้จริงไปเอามาจากวัคซีนนั้นล่ะ เอาแต่มันผสมอะไรชุดโกดังรหัสไหน,พ่อพระพระบาทน้ำพุ เลื่อมใสศรัทธามานานเมียเก็บตรึม ตายเพราะเมียเก็บผิดใจกัน กรณีทิดอลงกต.ในสายตาคนทั่วไทยคือคนดีพ่อพระ,คนโหยหาลุงตู่ที่ผ่านๆมาเพราะคนไม่รู้ความจริงแบบทิดอลงกตนั่นล่ะ,ความแตกเมื่อแม่ทัพภาค2ยึดคืนพื้นที่จากเขมรบนดินแดนไทยได้คืนกว่า11จุด ,ทหารแบบลุงตู่จึงโดนแฉความจริงจากกูรูทั่วไทยสพร้อมพยานหลักฐานชัดอีก,อดีตนายพลทหารทั้งหลาย หากท่านยังนิ่งนอนใจ พากันปกป้องทหารเลวชั่วอยู่ ท่านๆถูกยึดทรัพย์แน่นอนเมื่อตรวจสอบกระแสการเงินเถื่อนๆสาระพัดถึงได้แบบ"ตังนี้ทรัพย์สินนี้ท่านได้แต่ใดมา เมื่อเงินเดือนราชการสวัดิการก็แค่นี้ ไม่มีธุรกิจอะไร มีก็แสดงกิจการขาดทุนตลอดหรือกำไรนิดเดียว."เป็นต้น.

    #ทิดอลงกต2

    https://youtube.com/shorts/fV1P9AQR6NA?si=8XbciSBXyRhP9UIu
    ทิดอลงกต2,ทำไม เพราะติ่งลุงตู่ชูเชิดว่าพ่อพระแท้ๆดีเลิศเกินคำบรรยาย นี้ไม่รวมนำเข้าชี้ชวนชี้ช่องรณรงค์คนมาฉีดวัคซีนฉีดเอดส์ฉีดมะเร็งฉีดเชื้อโรคเข้าร่างกายยุคโควิดอีกนะ วัคซีนก่อโรคกว่า1,291โรคตามแต่ภูมิใครตก จากนั้นมันแปลงร่างโจมตีตามสไตล์โรคใครมันเลย วูบตายบ้าง ลิ่มเลือดสมองอุดตันบ้าง หัวใจวายเฉียบพลันบ้าง มะเม็งเทอร์โบบ้าง เอดส์บ้างทุบสถิติสูงขึ้นผิดปกติกันเลย ไม่มั่วอะไรเสือกมีเชื้อเฉยเลย แท้จริงไปเอามาจากวัคซีนนั้นล่ะ เอาแต่มันผสมอะไรชุดโกดังรหัสไหน,พ่อพระพระบาทน้ำพุ เลื่อมใสศรัทธามานานเมียเก็บตรึม ตายเพราะเมียเก็บผิดใจกัน กรณีทิดอลงกต.ในสายตาคนทั่วไทยคือคนดีพ่อพระ,คนโหยหาลุงตู่ที่ผ่านๆมาเพราะคนไม่รู้ความจริงแบบทิดอลงกตนั่นล่ะ,ความแตกเมื่อแม่ทัพภาค2ยึดคืนพื้นที่จากเขมรบนดินแดนไทยได้คืนกว่า11จุด ,ทหารแบบลุงตู่จึงโดนแฉความจริงจากกูรูทั่วไทยสพร้อมพยานหลักฐานชัดอีก,อดีตนายพลทหารทั้งหลาย หากท่านยังนิ่งนอนใจ พากันปกป้องทหารเลวชั่วอยู่ ท่านๆถูกยึดทรัพย์แน่นอนเมื่อตรวจสอบกระแสการเงินเถื่อนๆสาระพัดถึงได้แบบ"ตังนี้ทรัพย์สินนี้ท่านได้แต่ใดมา เมื่อเงินเดือนราชการสวัดิการก็แค่นี้ ไม่มีธุรกิจอะไร มีก็แสดงกิจการขาดทุนตลอดหรือกำไรนิดเดียว."เป็นต้น. #ทิดอลงกต2 https://youtube.com/shorts/fV1P9AQR6NA?si=8XbciSBXyRhP9UIu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคยสงสัยไหมว่าทำไม ฉีดไปตั้งนานแล้ว แต่ยังมี โปรตีนหนามไหลเวียนอยู่ในร่างกาย?
    คำตอบอยู่นี่ไง
    ในยาฉีด mRNA
    มีสารพันธุกรรมที่เรียกว่า พลาสมิด ดีเอ็นเอ plasmid DNA
    สารพันธุกรรมที่ปนเปื้อนมาจากกระบวนการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน!!
    สารพันธุกรรม plasmid DNA นี้สามารถแทรกซึมเข้าไปรวมกับสารพันธุกรรมของคนที่ฉีดได้
    กลายเป็นส่วนหนึ่งของพันธุกรรม ของคนๆนั้น ทำให้คนเหล่านั้นกลายเป็น
    GMO Genetic Modified Organism สิ่งมีชีวิตที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม
    หรือ เอาชัดๆ คือ GMH Genetic Modified Human
    มนุษย์ดัดแปลงพันธุกรรม!!
    ผลกระทบที่ตามมามีมากมาย หนึ่งในนั้นคือ
    "มะเร็ง"
    ใครรู้ว่า ตนโดนหลอกขนาดนี้ แล้วไม่สนใจที่จะโวย
    เรียกร้องความเป็นธรรมให้ตนเอง
    เอาคนผิดมารับผิด
    ก็ตามใจครับ แต่อย่าหวังว่ามีใครจะมาช่วย ถ้าหากว่า พวกคุณไม่คิดจะช่วย ตนเอง ช่วยคนอื่น
    อัตตาหิ อัตตโน นาโถ
    ตนเป็นที่พึ่งของตนแล
    อยากได้ความเป็นธรรม
    อยากได้วิธีรักษา
    ต้องออกมาเรียกร้องให้ รัฐบาล เอาคนผิดมารับโทษ
    https://www.facebook.com/share/p/1NdcMFfEVK/
    ✍️เคยสงสัยไหมว่าทำไม ฉีดไปตั้งนานแล้ว แต่ยังมี โปรตีนหนามไหลเวียนอยู่ในร่างกาย? คำตอบอยู่นี่ไง ในยาฉีด mRNA 💉☠️ มีสารพันธุกรรมที่เรียกว่า พลาสมิด ดีเอ็นเอ plasmid DNA สารพันธุกรรมที่ปนเปื้อนมาจากกระบวนการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน!! สารพันธุกรรม plasmid DNA นี้สามารถแทรกซึมเข้าไปรวมกับสารพันธุกรรมของคนที่ฉีดได้ กลายเป็นส่วนหนึ่งของพันธุกรรม ของคนๆนั้น ทำให้คนเหล่านั้นกลายเป็น GMO Genetic Modified Organism สิ่งมีชีวิตที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม หรือ เอาชัดๆ คือ GMH Genetic Modified Human มนุษย์ดัดแปลงพันธุกรรม!! ผลกระทบที่ตามมามีมากมาย หนึ่งในนั้นคือ "มะเร็ง" ใครรู้ว่า ตนโดนหลอกขนาดนี้ แล้วไม่สนใจที่จะโวย เรียกร้องความเป็นธรรมให้ตนเอง เอาคนผิดมารับผิด ก็ตามใจครับ แต่อย่าหวังว่ามีใครจะมาช่วย ถ้าหากว่า พวกคุณไม่คิดจะช่วย ตนเอง ช่วยคนอื่น อัตตาหิ อัตตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งของตนแล อยากได้ความเป็นธรรม อยากได้วิธีรักษา ต้องออกมาเรียกร้องให้ รัฐบาล เอาคนผิดมารับโทษ https://www.facebook.com/share/p/1NdcMFfEVK/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว

  • #อย่าตกเป็นเหยื่อ...สินค้าอเมริกาหรือต่างชาติที่ได้เข้ามาจำหน่ายในตลาดของไทย ภายในประเทศไทยจากภาษีทรัมป์คือตัวอย่างในอนาคตก็ตาม.

    ..เตือนภัยสัญลักษณ์ที่ใช้ในอเมริกาและทางการอเมริกาไม่บอกประชาชนเขาตรงๆ

    เลขนำหน้าเป็น 9 = ออร์แกนิก
    เลขนำหน้าเป็น 4 = ปลูกด้วยยาฆ่าแมลง
    เลขนำหน้าเป็น 8 = จีเอ็มโอ

    #อย่าตกเป็นเหยื่อ...

    ... "วิธีการลดประชากรโลก" มีหลายวิธี เช่นการใช้วัคซีนแบบวัคซีนโควิด ,สงครามตัวแทนต่างๆแบบไทยกับเขมร รัสเชียกับยูเคน อิสราเอลกับอิหร่านกับปาเลสไตน์ , สารเคมี หรือใส่ฟลูออไรด์ลงไปในน้ำ แบบฮิตเลอร์ทำ,หรือในยาสีฟันต่างๆทั่วโลก, การทำผ่านบริษัททาง เช่น อุตสาหกรรมทางอาหาร และเกษตรต่างๆแบบขนาดใหญ่บริษัทมอนซานโต, หรือผ่านอาหาร พืช ผัก ผลไม้ สัตว์อาหารต่างๆตัดแต่งพันธุกรรม GMO ร่างกายมนุษย์ก็จะเข้าสู่โหมดสาระพัดโรคภัยไข้เจ็บเป็นอันมาก , วัคซีนป้องกันโควิด-19 มีคุณสมบัติเป็นผลิตภัณฑ์ GMOด้วย, ตลอดไวรัสในวัคซีนก็ด้วยGMOตรึมก็ว่าในวัคซีนนั้น(สิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม)

    ระบบการแพทย์ที่ทุจริตจะต้องล้มละลายหากผู้คนรู้เรื่องนี้

    แพทย์ท่านหนึ่งที่สั่งอาหารปลอดจีเอ็มโอให้กับคนไข้ 5,000 คน กล่าวว่า “คนไข้ [ของเธอ] ทุกคน” มีอาการดีขึ้นหลังจากเปลี่ยนมารับประทานอาหาร

    ซึ่งรวมถึงอาการดีขึ้นจากโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคอ้วน ปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ และแม้แต่โรคมะเร็ง

    เจฟฟรีย์ สมิธ รู้สึกประหลาดใจกับรายงานนี้ จึงได้ทำการสำรวจผู้เข้าร่วม 3,256 คน เพื่อเปิดเผยถึงผลกระทบของการเปลี่ยนมารับประทานอาหารปลอดจีเอ็มโอ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าทึ่งมาก

    เปอร์เซ็นต์ที่ดีขึ้นจากการเปลี่ยนไปรับประทานอาหารที่ไม่ใช่ GMO:

    • ปัญหาระบบย่อยอาหาร - 85.2%
    • ความเหนื่อยล้า - 60.4%
    • น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน - 54.6%
    • ภาวะสมองล้า (Brain Fog) - 51.7%
    • ปัญหาอารมณ์ / ความวิตกกังวล / ภาวะซึมเศร้า - 51.1%
    • อาการแพ้อาหารหรือความไวต่ออาหาร - 50.2%
    • ความจำและสมาธิ - 46.9%
    • อาการปวดข้อ - 47.5%
    • อาการแพ้ตามฤดูกาล - 46.2%
    • ความไวต่อกลูเตน - 42.6%
    • นอนไม่หลับ - 41.2%
    • โรคผิวหนังอื่นๆ - 30.9%
    • ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน - 30.4%
    • อาการปวดกล้ามเนื้อและกระดูก - 30.2%
    • โรคภูมิต้านตนเอง - 21.4%
    • โรคผิวหนังอักเสบ - 20.8%
    • ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดและความดันโลหิตสูง - 19.8%
    • โรคหอบหืด - 14.8%
    • ปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน - 13.4%
    • โรคเบาหวาน - 10.6%
    • โรคทางจิตเวชอื่นๆ - 7.9%
    • น้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ - 6.5%
    • โรคมะเร็ง - 4.8%
    • โรคไต - 4.3%
    • ภาวะมีบุตรยาก - 2.8%
    • กลุ่มอาการออทิสติก - 2.4%
    • โรคอัลไซเมอร์ - 2.4%
    • โรคพาร์กินสัน - 1.4%

    - - - - - -

    พวกเขาโกหกคุณเรื่องสุขภาพและยามานานหลายทศวรรษ เพราะเมื่อคุณป่วย คุณก็จะมีเงินมากขึ้น



    #อย่าตกเป็นเหยื่อ...สินค้าอเมริกาหรือต่างชาติที่ได้เข้ามาจำหน่ายในตลาดของไทย ภายในประเทศไทยจากภาษีทรัมป์คือตัวอย่างในอนาคตก็ตาม. ..เตือนภัยสัญลักษณ์ที่ใช้ในอเมริกาและทางการอเมริกาไม่บอกประชาชนเขาตรงๆ เลขนำหน้าเป็น 9 = ออร์แกนิก เลขนำหน้าเป็น 4 = ปลูกด้วยยาฆ่าแมลง เลขนำหน้าเป็น 8 = จีเอ็มโอ #อย่าตกเป็นเหยื่อ... ... "วิธีการลดประชากรโลก" มีหลายวิธี เช่นการใช้วัคซีนแบบวัคซีนโควิด ,สงครามตัวแทนต่างๆแบบไทยกับเขมร รัสเชียกับยูเคน อิสราเอลกับอิหร่านกับปาเลสไตน์ , สารเคมี หรือใส่ฟลูออไรด์ลงไปในน้ำ แบบฮิตเลอร์ทำ,หรือในยาสีฟันต่างๆทั่วโลก, การทำผ่านบริษัททาง เช่น อุตสาหกรรมทางอาหาร และเกษตรต่างๆแบบขนาดใหญ่บริษัทมอนซานโต, หรือผ่านอาหาร พืช ผัก ผลไม้ สัตว์อาหารต่างๆตัดแต่งพันธุกรรม GMO ร่างกายมนุษย์ก็จะเข้าสู่โหมดสาระพัดโรคภัยไข้เจ็บเป็นอันมาก , วัคซีนป้องกันโควิด-19 มีคุณสมบัติเป็นผลิตภัณฑ์ GMOด้วย, ตลอดไวรัสในวัคซีนก็ด้วยGMOตรึมก็ว่าในวัคซีนนั้น(สิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม) ระบบการแพทย์ที่ทุจริตจะต้องล้มละลายหากผู้คนรู้เรื่องนี้ แพทย์ท่านหนึ่งที่สั่งอาหารปลอดจีเอ็มโอให้กับคนไข้ 5,000 คน กล่าวว่า “คนไข้ [ของเธอ] ทุกคน” มีอาการดีขึ้นหลังจากเปลี่ยนมารับประทานอาหาร ซึ่งรวมถึงอาการดีขึ้นจากโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคอ้วน ปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ และแม้แต่โรคมะเร็ง เจฟฟรีย์ สมิธ รู้สึกประหลาดใจกับรายงานนี้ จึงได้ทำการสำรวจผู้เข้าร่วม 3,256 คน เพื่อเปิดเผยถึงผลกระทบของการเปลี่ยนมารับประทานอาหารปลอดจีเอ็มโอ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าทึ่งมาก เปอร์เซ็นต์ที่ดีขึ้นจากการเปลี่ยนไปรับประทานอาหารที่ไม่ใช่ GMO: • ปัญหาระบบย่อยอาหาร - 85.2% • ความเหนื่อยล้า - 60.4% • น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน - 54.6% • ภาวะสมองล้า (Brain Fog) - 51.7% • ปัญหาอารมณ์ / ความวิตกกังวล / ภาวะซึมเศร้า - 51.1% • อาการแพ้อาหารหรือความไวต่ออาหาร - 50.2% • ความจำและสมาธิ - 46.9% • อาการปวดข้อ - 47.5% • อาการแพ้ตามฤดูกาล - 46.2% • ความไวต่อกลูเตน - 42.6% • นอนไม่หลับ - 41.2% • โรคผิวหนังอื่นๆ - 30.9% • ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน - 30.4% • อาการปวดกล้ามเนื้อและกระดูก - 30.2% • โรคภูมิต้านตนเอง - 21.4% • โรคผิวหนังอักเสบ - 20.8% • ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดและความดันโลหิตสูง - 19.8% • โรคหอบหืด - 14.8% • ปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน - 13.4% • โรคเบาหวาน - 10.6% • โรคทางจิตเวชอื่นๆ - 7.9% • น้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ - 6.5% • โรคมะเร็ง - 4.8% • โรคไต - 4.3% • ภาวะมีบุตรยาก - 2.8% • กลุ่มอาการออทิสติก - 2.4% • โรคอัลไซเมอร์ - 2.4% • โรคพาร์กินสัน - 1.4% - - - - - - พวกเขาโกหกคุณเรื่องสุขภาพและยามานานหลายทศวรรษ เพราะเมื่อคุณป่วย คุณก็จะมีเงินมากขึ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 412 มุมมอง 0 รีวิว
  • มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน เมล็ดพันธ์พิฆาต (3)

    นิทานเรื่ิองจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 8 : เมล็ดพันธ์พิฆาต (3)
    ตัวอย่างเช่นที่กล่าวมาแล้ว มีอีกมากมาย ที่พูดถึงแต่ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแท้ที่จริงผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่เป็นการถาวร มันเป็นเฉพาะช่วงแรกๆ เท่านั้น แต่คนขายเมล็ดพันธ์ GMO ย่อมไม่บอกผู้ซื้อ
    นอกจากนี้ที่น่าเป็นห่วง คือผลกระทบต่อการเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจ กับ ชาวไร่ ชาวนา รายย่อย อย่างที่พวกเขาไม่รู้ตัว พวกเขาเคยทำไร่ทำนา จากเมล็ดพันธ์พืชที่ไม่มีต้นทุน ใช้ปุ๋ยธรรมชาติ และไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง ต่อมาต้องซื้อทั้งเมล็ดพันธ์ ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมี พวกเขาขายผลผลิตได้ราคาสูงก็จริง แต่ต้นทุนก็สูงตามไปด้วย ท้ายที่สุดก็เป็นหนี้ และส่วนใหญ่ก็ไม่มีเงินใช้หนี้ ทำให้ต้องเสียที่ดินไร่นาไป แล้วก็มีบริษัทที่ทำธุรกิจเกษตร มาไล่ซื้อที่ดิน ไปทำต่อ หรือซื้อที่ไปทำอย่างอื่น แล้วชาวไร่ชาวนาเหล่านี้ ก็ไม่มีทางเลือก ต้องอพยพเข้าเมือง ขายแรงงานแทน เป็นปัญหาของบ้านเมืองอีกแบบหนึ่ง
    สิ่งเหล่านี้มักจะไม่อยู่ในรายงานของหน่วยงานที่ทำการวิจัย หรือคิดค้นพันธ์พืช เขามักจะพูดถึงแต่ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น เพราะเป้าหมายที่แท้จริง ของการให้ใช้เมล็ดพืช GMO มันคือการปล้น เอาไร่ เอานา เขามาในราคาถูก
    นอกจากปัญหาเรื่องการเสียไร่นาแล้ว ปัญหาที่สำคัญอีกประการคือการใช้ยาฆ่าแมลง ซึ่งในหลายๆ กรณีเป็นอันตราย ต่อสุขภาพของชาวไร่ชาวนา อย่างถึงขนาดหลายๆ หมู่บ้านมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งกันทั้งหมู่บ้าน
    ความจนกับความไม่รู้ ทำให้พวกเขาไม่รู้จักหรือไม่สามารถแสวงหาหน้ากาก ป้องกันยาฉีดฆ่าแมลง
    ในปี ค.ศ.1989 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประมาณว่ามีคนได้รับสารพิษของยาฆ่าแมลงสูงถึง 1 ล้านคนต่อปี และประมาณ 20,000 คน เสียชีวิต ทั้งหมดนี้ส่วนมากเกิดขึ้นกับประชาชนในประเทศที่กำลังพัฒนา!
    ขบวนการนี้ เกิดขึ้นจากสิ่งที่เราเรียกว่าโลกาภิวัฒน์ ที่ชาวเราภาคภูมิใจอยากให้มี อยากให้เป็น เพราะเรามองแต่ ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างลวงตา
    โลกาภิวัฒน์ย่นระยะเวลา ในการสร้างกลไก สร้างระบบเกษตรอุตสาหกรรมระหว่างประเทศขึ้นมา ทำให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย บวกกับการให้เงินสนับสนุนจากต่างชาติ เช่น มูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Ford และหน่วยงานของ USAID โดยเราไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริง หรือผลลัพธ์ ปลายทางที่เกิดขึ้นกับเรา
    นี่แหละ ผลของการมองแต่ผลได้ อย่างผิวเผิน ไม่นึกถึงผลเสีย หรือผลข้างเคียง ทั้งระยะใกล้ ระยะไกล เขียนแล้วเศร้า ตลกไม่ออกเลย!


    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน เมล็ดพันธ์พิฆาต (3) นิทานเรื่ิองจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ” ตอนที่ 8 : เมล็ดพันธ์พิฆาต (3) ตัวอย่างเช่นที่กล่าวมาแล้ว มีอีกมากมาย ที่พูดถึงแต่ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแท้ที่จริงผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่เป็นการถาวร มันเป็นเฉพาะช่วงแรกๆ เท่านั้น แต่คนขายเมล็ดพันธ์ GMO ย่อมไม่บอกผู้ซื้อ นอกจากนี้ที่น่าเป็นห่วง คือผลกระทบต่อการเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจ กับ ชาวไร่ ชาวนา รายย่อย อย่างที่พวกเขาไม่รู้ตัว พวกเขาเคยทำไร่ทำนา จากเมล็ดพันธ์พืชที่ไม่มีต้นทุน ใช้ปุ๋ยธรรมชาติ และไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง ต่อมาต้องซื้อทั้งเมล็ดพันธ์ ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมี พวกเขาขายผลผลิตได้ราคาสูงก็จริง แต่ต้นทุนก็สูงตามไปด้วย ท้ายที่สุดก็เป็นหนี้ และส่วนใหญ่ก็ไม่มีเงินใช้หนี้ ทำให้ต้องเสียที่ดินไร่นาไป แล้วก็มีบริษัทที่ทำธุรกิจเกษตร มาไล่ซื้อที่ดิน ไปทำต่อ หรือซื้อที่ไปทำอย่างอื่น แล้วชาวไร่ชาวนาเหล่านี้ ก็ไม่มีทางเลือก ต้องอพยพเข้าเมือง ขายแรงงานแทน เป็นปัญหาของบ้านเมืองอีกแบบหนึ่ง สิ่งเหล่านี้มักจะไม่อยู่ในรายงานของหน่วยงานที่ทำการวิจัย หรือคิดค้นพันธ์พืช เขามักจะพูดถึงแต่ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น เพราะเป้าหมายที่แท้จริง ของการให้ใช้เมล็ดพืช GMO มันคือการปล้น เอาไร่ เอานา เขามาในราคาถูก นอกจากปัญหาเรื่องการเสียไร่นาแล้ว ปัญหาที่สำคัญอีกประการคือการใช้ยาฆ่าแมลง ซึ่งในหลายๆ กรณีเป็นอันตราย ต่อสุขภาพของชาวไร่ชาวนา อย่างถึงขนาดหลายๆ หมู่บ้านมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งกันทั้งหมู่บ้าน ความจนกับความไม่รู้ ทำให้พวกเขาไม่รู้จักหรือไม่สามารถแสวงหาหน้ากาก ป้องกันยาฉีดฆ่าแมลง ในปี ค.ศ.1989 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประมาณว่ามีคนได้รับสารพิษของยาฆ่าแมลงสูงถึง 1 ล้านคนต่อปี และประมาณ 20,000 คน เสียชีวิต ทั้งหมดนี้ส่วนมากเกิดขึ้นกับประชาชนในประเทศที่กำลังพัฒนา! ขบวนการนี้ เกิดขึ้นจากสิ่งที่เราเรียกว่าโลกาภิวัฒน์ ที่ชาวเราภาคภูมิใจอยากให้มี อยากให้เป็น เพราะเรามองแต่ ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างลวงตา โลกาภิวัฒน์ย่นระยะเวลา ในการสร้างกลไก สร้างระบบเกษตรอุตสาหกรรมระหว่างประเทศขึ้นมา ทำให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย บวกกับการให้เงินสนับสนุนจากต่างชาติ เช่น มูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Ford และหน่วยงานของ USAID โดยเราไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริง หรือผลลัพธ์ ปลายทางที่เกิดขึ้นกับเรา นี่แหละ ผลของการมองแต่ผลได้ อย่างผิวเผิน ไม่นึกถึงผลเสีย หรือผลข้างเคียง ทั้งระยะใกล้ ระยะไกล เขียนแล้วเศร้า ตลกไม่ออกเลย! คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อ AI กลายเป็นดาบสองคมในวงการแพทย์

    ในยุคที่ AI ถูกนำมาใช้ช่วยแพทย์ตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่ผ่านการส่องกล้อง (colonoscopy) หลายคนเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดความผิดพลาด แต่ผลการศึกษาจากโรงพยาบาลในโปแลนด์กลับพบสิ่งตรงกันข้าม

    นักวิจัยวิเคราะห์การส่องกล้องกว่า 1,400 ครั้ง พบว่าแพทย์ที่เคยใช้ AI ช่วยตรวจ มีความสามารถลดลงถึง 20% เมื่อกลับไปตรวจโดยไม่ใช้ AI โดยเฉพาะการตรวจหาก้อนเนื้อก่อนเป็นมะเร็ง (adenoma)

    เหตุผลคือ เมื่อแพทย์พึ่งพา AI เป็นประจำ พวกเขาเริ่มลดการใช้ทักษะของตัวเอง เช่น การสังเกต การตัดสินใจ และความรับผิดชอบในการวินิจฉัย ส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลงแม้จะเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง

    งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet Gastroenterology & Hepatology และถือเป็นครั้งแรกที่มีหลักฐานชัดเจนว่า AI อาจทำให้เกิด “การสูญเสียทักษะ” (deskilling) ในวงการแพทย์

    แม้ AI จะช่วยเพิ่มอัตราการตรวจพบในบางกรณี แต่การใช้แบบไม่ระวังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพผู้ป่วยในระยะยาว นักวิจัยจึงเรียกร้องให้มีการศึกษาเชิงพฤติกรรมเพิ่มเติม เพื่อเข้าใจกลไกที่ AI ส่งผลต่อความสามารถของแพทย์

    ข้อมูลจากงานวิจัย
    ศึกษาจากโรงพยาบาล 4 แห่งในโปแลนด์ รวมกว่า 1,400 colonoscopies
    พบอัตราการตรวจพบ adenoma ลดลงจาก 28% เหลือ 22% หลังใช้ AI
    แพทย์ที่เคยใช้ AI มีประสิทธิภาพลดลงเมื่อกลับไปตรวจแบบเดิม
    งานวิจัยตีพิมพ์ใน The Lancet Gastroenterology & Hepatology
    เป็นหลักฐานแรกที่ชี้ว่า AI อาจทำให้แพทย์สูญเสียทักษะ
    นักวิจัยเรียกร้องให้มีการศึกษาเชิงพฤติกรรมเพิ่มเติม

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ADR (Adenoma Detection Rate) เป็นตัวชี้วัดคุณภาพของการส่องกล้อง
    การใช้ AI ในการตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่เริ่มแพร่หลายตั้งแต่ปี 2021
    แพทย์ที่เข้าร่วมการศึกษามีประสบการณ์มากกว่า 2,000 ครั้งต่อคน
    การพึ่งพา AI อาจทำให้ลดการคิดเชิงวิเคราะห์และความรับผิดชอบ
    งานวิจัยจาก MIT และ Microsoft พบว่า AI ทำให้ผู้ใช้คิดน้อยลงในหลายวงการ
    สมาคมแพทย์อเมริกันระบุว่า 2 ใน 3 ของแพทย์เริ่มใช้ AI ในการทำงาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/17/ai-dependent-doctors-risk-failing-to-detect-colon-cancer---study
    🧬 เมื่อ AI กลายเป็นดาบสองคมในวงการแพทย์ ในยุคที่ AI ถูกนำมาใช้ช่วยแพทย์ตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่ผ่านการส่องกล้อง (colonoscopy) หลายคนเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดความผิดพลาด แต่ผลการศึกษาจากโรงพยาบาลในโปแลนด์กลับพบสิ่งตรงกันข้าม นักวิจัยวิเคราะห์การส่องกล้องกว่า 1,400 ครั้ง พบว่าแพทย์ที่เคยใช้ AI ช่วยตรวจ มีความสามารถลดลงถึง 20% เมื่อกลับไปตรวจโดยไม่ใช้ AI โดยเฉพาะการตรวจหาก้อนเนื้อก่อนเป็นมะเร็ง (adenoma) เหตุผลคือ เมื่อแพทย์พึ่งพา AI เป็นประจำ พวกเขาเริ่มลดการใช้ทักษะของตัวเอง เช่น การสังเกต การตัดสินใจ และความรับผิดชอบในการวินิจฉัย ส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลงแม้จะเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet Gastroenterology & Hepatology และถือเป็นครั้งแรกที่มีหลักฐานชัดเจนว่า AI อาจทำให้เกิด “การสูญเสียทักษะ” (deskilling) ในวงการแพทย์ แม้ AI จะช่วยเพิ่มอัตราการตรวจพบในบางกรณี แต่การใช้แบบไม่ระวังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพผู้ป่วยในระยะยาว นักวิจัยจึงเรียกร้องให้มีการศึกษาเชิงพฤติกรรมเพิ่มเติม เพื่อเข้าใจกลไกที่ AI ส่งผลต่อความสามารถของแพทย์ ✅ ข้อมูลจากงานวิจัย ➡️ ศึกษาจากโรงพยาบาล 4 แห่งในโปแลนด์ รวมกว่า 1,400 colonoscopies ➡️ พบอัตราการตรวจพบ adenoma ลดลงจาก 28% เหลือ 22% หลังใช้ AI ➡️ แพทย์ที่เคยใช้ AI มีประสิทธิภาพลดลงเมื่อกลับไปตรวจแบบเดิม ➡️ งานวิจัยตีพิมพ์ใน The Lancet Gastroenterology & Hepatology ➡️ เป็นหลักฐานแรกที่ชี้ว่า AI อาจทำให้แพทย์สูญเสียทักษะ ➡️ นักวิจัยเรียกร้องให้มีการศึกษาเชิงพฤติกรรมเพิ่มเติม ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ADR (Adenoma Detection Rate) เป็นตัวชี้วัดคุณภาพของการส่องกล้อง ➡️ การใช้ AI ในการตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่เริ่มแพร่หลายตั้งแต่ปี 2021 ➡️ แพทย์ที่เข้าร่วมการศึกษามีประสบการณ์มากกว่า 2,000 ครั้งต่อคน ➡️ การพึ่งพา AI อาจทำให้ลดการคิดเชิงวิเคราะห์และความรับผิดชอบ ➡️ งานวิจัยจาก MIT และ Microsoft พบว่า AI ทำให้ผู้ใช้คิดน้อยลงในหลายวงการ ➡️ สมาคมแพทย์อเมริกันระบุว่า 2 ใน 3 ของแพทย์เริ่มใช้ AI ในการทำงาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/17/ai-dependent-doctors-risk-failing-to-detect-colon-cancer---study
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI-dependent doctors risk failing to detect colon cancer – study
    Doctors and other medical professionals who lean on "routine assistance" from artificial intelligence (AI) to carry out colonoscopies are at risk of losing the life-saving skills they have developed over years of on-the-job training.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 306 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภัยอันตรายที่สุดคือพวกโหนเจ้าจริงๆนี้ล่ะ.,บ้านเมืองไม่สงบสุขทุกๆวันนี้ก็พวกนี้ด้วยมิใช่แค่ต่างชาติ,สรุปสถาบันกษัตริย์ถูกพวกนี้จับเป็นตัวประกันนั้นเอง,หรือเดอะแก๊ง2475ยึดอำนาจพระมหากษัตริย์ร่วมกับdeep stateอีลิทสากลโลก13ตระกูลหลักนั้นเอง,ควบคุมครอบงำบงการวิถีปกครองของไทยทั้งหมด ชี้นำแทรกแซงแทรกซึมวางคนของตนบนรากฐานระบบการปกครองทั้งหมด ทหาร ตำรวจ ศาล นักการเมือง นักวิชาการ ดารานักร้อง นักแสดงมันควบคุมสั่งการประสานงานให้ภาระกิจปฏิบัติการสำเร็จบรรลุผลตามคำสั่งอีลิทโลกหมดให้ได้ ตย.ชัดเจนคือสามารถืสั่งฉีดตายวัคซีนแก่คนไทยครบทุกๆคนทั่วประเทศ เชื้อโรคเดินได้ทั่วไทย ซอมบี้ตัวพ่อก็ได้ หนังเน่าผอมเละติดกระดูกเดินเข้าโรงพยาบาลเริ่มมากขึ้นเรื่อยแล้วทั่วโลก,มนุษย์แม่เหล็กคือข้อพิสูจน์ชัดหลังคนรับวัคซีนไปกราฟีนสั่งตายดีๆนี้เองบวก1,291โรคหากโฮสต์ร่างนั้นภูมิตก โรคใดๆใน1,291โรคจะทะลุเกิดแก่ร่างกายนั้นๆทันที เอดส์ มะเร็ง ซาร์สามตัวนี้คือต้องมีในวัคซีนเกือบทุกๆยี่ห้อ ปัจจุบันคนไทยตามหมู่บ้านต่างๆตายรายวันมากขึ้นเรื่อยแล้ว ไม่นับป่วยเรื้อรังเป็นจำนวนมากในหมู่คนไทยโดยเฉพาะหมอแพทย์พยาบาลทหารตำรวจจะถูกเก็บก่อนจะได้ไม่มีใครมาปกป้องประเทศรักษาคนรักษาประชาชนดูแลประชาชนนั้นๆ,ลดประชากรนี้ล่ะนอกจากมุกฆ่าสังหารผ่านสงครามแบบไทยกับเขมร ฮุนเซนรับใช้อีลิทอเมริกาdeep state agendaลดประชากรโลกตัวพ่อ คนของdeep stateจึงถูกปกป้องจำนวนมาในประเทศเขมร คนไร้ค่าไร้คุณภาพมันส่งไปเกิดใหม่หมด.

    https://youtube.com/watch?v=RVD27iSoDrQ&si=n8nMG6gtL2YWM3cl
    ภัยอันตรายที่สุดคือพวกโหนเจ้าจริงๆนี้ล่ะ.,บ้านเมืองไม่สงบสุขทุกๆวันนี้ก็พวกนี้ด้วยมิใช่แค่ต่างชาติ,สรุปสถาบันกษัตริย์ถูกพวกนี้จับเป็นตัวประกันนั้นเอง,หรือเดอะแก๊ง2475ยึดอำนาจพระมหากษัตริย์ร่วมกับdeep stateอีลิทสากลโลก13ตระกูลหลักนั้นเอง,ควบคุมครอบงำบงการวิถีปกครองของไทยทั้งหมด ชี้นำแทรกแซงแทรกซึมวางคนของตนบนรากฐานระบบการปกครองทั้งหมด ทหาร ตำรวจ ศาล นักการเมือง นักวิชาการ ดารานักร้อง นักแสดงมันควบคุมสั่งการประสานงานให้ภาระกิจปฏิบัติการสำเร็จบรรลุผลตามคำสั่งอีลิทโลกหมดให้ได้ ตย.ชัดเจนคือสามารถืสั่งฉีดตายวัคซีนแก่คนไทยครบทุกๆคนทั่วประเทศ เชื้อโรคเดินได้ทั่วไทย ซอมบี้ตัวพ่อก็ได้ หนังเน่าผอมเละติดกระดูกเดินเข้าโรงพยาบาลเริ่มมากขึ้นเรื่อยแล้วทั่วโลก,มนุษย์แม่เหล็กคือข้อพิสูจน์ชัดหลังคนรับวัคซีนไปกราฟีนสั่งตายดีๆนี้เองบวก1,291โรคหากโฮสต์ร่างนั้นภูมิตก โรคใดๆใน1,291โรคจะทะลุเกิดแก่ร่างกายนั้นๆทันที เอดส์ มะเร็ง ซาร์สามตัวนี้คือต้องมีในวัคซีนเกือบทุกๆยี่ห้อ ปัจจุบันคนไทยตามหมู่บ้านต่างๆตายรายวันมากขึ้นเรื่อยแล้ว ไม่นับป่วยเรื้อรังเป็นจำนวนมากในหมู่คนไทยโดยเฉพาะหมอแพทย์พยาบาลทหารตำรวจจะถูกเก็บก่อนจะได้ไม่มีใครมาปกป้องประเทศรักษาคนรักษาประชาชนดูแลประชาชนนั้นๆ,ลดประชากรนี้ล่ะนอกจากมุกฆ่าสังหารผ่านสงครามแบบไทยกับเขมร ฮุนเซนรับใช้อีลิทอเมริกาdeep state agendaลดประชากรโลกตัวพ่อ คนของdeep stateจึงถูกปกป้องจำนวนมาในประเทศเขมร คนไร้ค่าไร้คุณภาพมันส่งไปเกิดใหม่หมด. https://youtube.com/watch?v=RVD27iSoDrQ&si=n8nMG6gtL2YWM3cl
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 379 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรียกร้องสิทธิเกินขอบเขต จนกลายเป็นละเมิดเอาเปรียบคนในสังคมซะแล้ว ผ่าตัดแปลงเพศสำคัญกว่าการรักษามะเร็งซะแล้ว คิงส์จะไปขอผ่าบ้างละ ลดขนาดลงซะหน่อย เดินเหินไม่โทงเทง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ยุบสปสช
    เรียกร้องสิทธิเกินขอบเขต จนกลายเป็นละเมิดเอาเปรียบคนในสังคมซะแล้ว ผ่าตัดแปลงเพศสำคัญกว่าการรักษามะเร็งซะแล้ว คิงส์จะไปขอผ่าบ้างละ ลดขนาดลงซะหน่อย เดินเหินไม่โทงเทง #คิงส์โพธิ์แดง #ยุบสปสช
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลที่คุณต้องรู้ ก่อนฉีดวัคซีนใดๆ
    ความเสียหายทางระบบประสาทจากวัคซีนได้รับการบันทึกมานานกว่า 200 ปี
    https://expose-news.com/2025/07/02/neurological-damage-from-vaccines/
    วัคซีนไข้หวัดใหญ่จำเป็นจริงหรือ?
    https://www.facebook.com/share/p/1BVHA1t4me/
    วัคซีนงูสวัด จำเป็นแค่ไหน?
    https://www.facebook.com/share/p/1CcF8xosgf/
    วัคซีนฝีดาษลิง จำเป็นแค่ไหน?
    https://www.facebook.com/share/p/1CSQHJ763n/
    ข้อมูลอันตรายของวัคซีนมะเร็งปากมดลูก HPV
    https://www.facebook.com/share/p/1FvDtVqa3N/
    วัคซีนป้องกันบาดทะยักอาจอันตรายถึงชีวิต
    https://expose-news.com/2025/06/02/tetanus-vaccines-can-cause-harm-even-death/
    วัคซีนป้องกันไวรัส RSV (ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่าง) ปลอดภัยจริงหรือ
    https://www.facebook.com/share/p/1HQToxr4DM/
    วัคซีนไอกรน ตรรกะวิบัติสร้างความกลัว
    https://www.tiktok.com/@adithepchawla01/video/7437361882270272775?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351
    https://t.me/goodthaidoctorclip/1587
    วัคซีนป้องกันมะเร็งตัวใหม่ชนิด มรณา mRNA ก็จะยังคงกระจายตัวไปตามอวัยวะต่างๆ และก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อหัวใจ
    เทเลแกรม : Mel Gibson https://t.me/RYhGQIPoxmOTk0/402
    https://www.facebook.com/61569418676886/videos/1477875523214599
    วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีปลอดภัยและจำเป็นจริงหรือ?
    https://www.facebook.com/share/p/1BBG9G8ZaS/
    เส้นเลือด ตีบ แตก หลังฉีดวัคซีนโควิด
    https://www.facebook.com/share/p/1FMv6fvTTx/
    กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลัง​จากมีการฉีดวัคซีน​โควิด
    https://www.facebook.com/share/p/1BC2kyWTx7/
    มะเร็งเกิดขึ้นหรือถูกกระตุ้นให้กลับมาหลังฉีดวัคซีนโควิด
    https://www.facebook.com/share/p/19coWy5tEV/
    ออทิสติคส์ ความจริงที่ถูกปิดกั้น
    https://www.facebook.com/share/p/1Cwnup2WRN/
    วัคซีนเล่มสีชมพู – ดร. เชอร์รี เทนเพนนี
    https://www.rookon.com/?p=1112
    หมอคานาดา ออกมาพูดเรื่อง การเสียชีวิตของทารกน้อยในครรภ์หลังจากที่แม่ได้รับวัkซีu https://www.bitchute.com/video/wSPhikTOBEZr/
    วัคซีนทำให้แท้ง ไปสะสมที่รังไข่และสมองของแม่ และส่งผลต่อทารกในครรภ์
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122114049056647289/?
    เด็กและคนท้องไม่ต้องฉีดโควิด โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ ประกาศ 27พ.ค.2568
    https://www.facebook.com/photo/?fbid=1121646353337011&set=a.407239901444330
    งานวิจัยหลากหลายชิ้น คอนเฟิร์มว่าเด็กที่ฉีดวัคซีน จะป่วยและเป็นโรคได้มากกว่าเด็กที่ไม่ได้ฉีดเลยหลายเท่า
    https://www.facebook.com/share/p/16LRcRdzGv/
    เมื่อลูกสาวเจ้าพ่อวัคซีนไม่เคยรับวัคซีนทุกชนิด
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122113737374647289/?
    เด็กที่ไม่ฉีดวัคซีนต่างๆสุขภาพดีกว่า
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/pfbid02JmQX1hm7PR6MN6YUTTHrJ5PcZoEH3KoVVqBwtdmY9m17HAxqH4yunYDFHTevfn9Ml/?
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122113613522647289/?
    อย่าให้เด็กรับวัคซีนหากคุณไม่ได้ดูข้อมูลนี้
    https://www.facebook.com/share/p/1FHoBGKg3S/
    รวบรวมโดย
    ทีมแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ✍️ข้อมูลที่คุณต้องรู้ ก่อนฉีดวัคซีนใดๆ ✅ ความเสียหายทางระบบประสาทจากวัคซีนได้รับการบันทึกมานานกว่า 200 ปี https://expose-news.com/2025/07/02/neurological-damage-from-vaccines/ ✅ วัคซีนไข้หวัดใหญ่จำเป็นจริงหรือ? https://www.facebook.com/share/p/1BVHA1t4me/ ✅ วัคซีนงูสวัด จำเป็นแค่ไหน? https://www.facebook.com/share/p/1CcF8xosgf/ ✅ วัคซีนฝีดาษลิง จำเป็นแค่ไหน? https://www.facebook.com/share/p/1CSQHJ763n/ ✅ ข้อมูลอันตรายของวัคซีนมะเร็งปากมดลูก HPV https://www.facebook.com/share/p/1FvDtVqa3N/ ✅ วัคซีนป้องกันบาดทะยักอาจอันตรายถึงชีวิต https://expose-news.com/2025/06/02/tetanus-vaccines-can-cause-harm-even-death/ ✅ วัคซีนป้องกันไวรัส RSV (ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่าง) ปลอดภัยจริงหรือ https://www.facebook.com/share/p/1HQToxr4DM/ ✅ วัคซีนไอกรน ตรรกะวิบัติสร้างความกลัว https://www.tiktok.com/@adithepchawla01/video/7437361882270272775?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351 https://t.me/goodthaidoctorclip/1587 ✅วัคซีนป้องกันมะเร็งตัวใหม่ชนิด มรณา mRNA ก็จะยังคงกระจายตัวไปตามอวัยวะต่างๆ และก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อหัวใจ เทเลแกรม : Mel Gibson https://t.me/RYhGQIPoxmOTk0/402 https://www.facebook.com/61569418676886/videos/1477875523214599 ✅วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีปลอดภัยและจำเป็นจริงหรือ? https://www.facebook.com/share/p/1BBG9G8ZaS/ ✅ เส้นเลือด ตีบ แตก หลังฉีดวัคซีนโควิด https://www.facebook.com/share/p/1FMv6fvTTx/ ✅ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลัง​จากมีการฉีดวัคซีน​โควิด https://www.facebook.com/share/p/1BC2kyWTx7/ ✅ มะเร็งเกิดขึ้นหรือถูกกระตุ้นให้กลับมาหลังฉีดวัคซีนโควิด https://www.facebook.com/share/p/19coWy5tEV/ ✅ ออทิสติคส์ ความจริงที่ถูกปิดกั้น https://www.facebook.com/share/p/1Cwnup2WRN/ ✅ วัคซีนเล่มสีชมพู – ดร. เชอร์รี เทนเพนนี https://www.rookon.com/?p=1112 ✅ หมอคานาดา ออกมาพูดเรื่อง การเสียชีวิตของทารกน้อยในครรภ์หลังจากที่แม่ได้รับวัkซีu https://www.bitchute.com/video/wSPhikTOBEZr/ ✅ วัคซีนทำให้แท้ง ไปสะสมที่รังไข่และสมองของแม่ และส่งผลต่อทารกในครรภ์ https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122114049056647289/? ✅ เด็กและคนท้องไม่ต้องฉีดโควิด โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ ประกาศ 27พ.ค.2568 https://www.facebook.com/photo/?fbid=1121646353337011&set=a.407239901444330 ✅ งานวิจัยหลากหลายชิ้น คอนเฟิร์มว่าเด็กที่ฉีดวัคซีน จะป่วยและเป็นโรคได้มากกว่าเด็กที่ไม่ได้ฉีดเลยหลายเท่า https://www.facebook.com/share/p/16LRcRdzGv/ ✅ เมื่อลูกสาวเจ้าพ่อวัคซีนไม่เคยรับวัคซีนทุกชนิด https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122113737374647289/? ✅ เด็กที่ไม่ฉีดวัคซีนต่างๆสุขภาพดีกว่า https://www.facebook.com/61569418676886/posts/pfbid02JmQX1hm7PR6MN6YUTTHrJ5PcZoEH3KoVVqBwtdmY9m17HAxqH4yunYDFHTevfn9Ml/? https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122113613522647289/? ✅ อย่าให้เด็กรับวัคซีนหากคุณไม่ได้ดูข้อมูลนี้ https://www.facebook.com/share/p/1FHoBGKg3S/ รวบรวมโดย ทีมแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 574 มุมมอง 0 รีวิว
  • กัมพูชายิงโรงพยาบาลและอนามัยไปทั้งหมด"21แห่งแล้วยังจะหน้าด้านมาให้ไทยช่วยรักษาไม่มีที่ไหนในโลกเขาทำกันหรอก"สมองมีใว้คิดไม่ใช่ไว้กันหูมึง #ไอพวกมะเร็งร้ายของไทยอ้างสิทธิมนุษยธรรม พวกมึงตอนคนไทยตาย ปากพวกมึงอยู่ไหนเหรอเอาไว้หรือไง"ถ้าพวกมึงเก่งจริงไปถามอิสราเอลซิว่าเมื่อไหร่จะหยุดฆ่าคนในกาซ่า#นักการเมืองมีไว้ทำไม???
    กัมพูชายิงโรงพยาบาลและอนามัยไปทั้งหมด"21แห่งแล้วยังจะหน้าด้านมาให้ไทยช่วยรักษาไม่มีที่ไหนในโลกเขาทำกันหรอก"สมองมีใว้คิดไม่ใช่ไว้กันหูมึง #ไอพวกมะเร็งร้ายของไทยอ้างสิทธิมนุษยธรรม พวกมึงตอนคนไทยตาย ปากพวกมึงอยู่ไหนเหรอเอาไว้💩หรือไง"ถ้าพวกมึงเก่งจริงไปถามอิสราเอลซิว่าเมื่อไหร่จะหยุดฆ่าคนในกาซ่า#นักการเมืองมีไว้ทำไม???🤔
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • วันนี้เมื่อ 80 ปีก่อน: เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 เป็นวันที่สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ หรือที่มีเรียกว่า "ลิตเติลบอย" (Little Boy) ลงที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น

    ระเบิดลูกนี้มีปริมาณระเบิดเทียบเท่ากับทีเอ็นที 15,000 ตัน ทำลายเมืองและเผาผลาญเมืองไปประมาณ 70%
    หลังการทิ้งระเบิดเพียงไม่กี่เดือนในฮิโรชิมา ผู้คนล้มตายไปประมาณ 140,000 คน
    ราว 50% ของผู้ที่อยู่ภายในรัศมี 1.2 กิโลเมตรจากศูนย์กลางการระเบิดเสียชีวิตทันทีในวันนั้น โอกาสเสียชีวิตสูงถึง 80-100% หากอยู่ในรัสมีการระเบิด
    ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีผู้เสียชีวิตตามมาอีกจำนวนมากในปีต่อๆ มา จากผลกระทบของการได้รับรังสี รวมถึงโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็ง และโรคอื่นๆ
    วันนี้เมื่อ 80 ปีก่อน: เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 เป็นวันที่สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ หรือที่มีเรียกว่า "ลิตเติลบอย" (Little Boy) ลงที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น 👉 ระเบิดลูกนี้มีปริมาณระเบิดเทียบเท่ากับทีเอ็นที 15,000 ตัน ทำลายเมืองและเผาผลาญเมืองไปประมาณ 70% 👉 หลังการทิ้งระเบิดเพียงไม่กี่เดือนในฮิโรชิมา ผู้คนล้มตายไปประมาณ 140,000 คน 👉 ราว 50% ของผู้ที่อยู่ภายในรัศมี 1.2 กิโลเมตรจากศูนย์กลางการระเบิดเสียชีวิตทันทีในวันนั้น โอกาสเสียชีวิตสูงถึง 80-100% หากอยู่ในรัสมีการระเบิด 👉 ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีผู้เสียชีวิตตามมาอีกจำนวนมากในปีต่อๆ มา จากผลกระทบของการได้รับรังสี รวมถึงโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็ง และโรคอื่นๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 347 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • วันนี้เมื่อ 80 ปีก่อน: เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 เป็นวันที่สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ หรือที่มีเรียกว่า "ลิตเติลบอย" (Little Boy) ลงที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น

    ระเบิดลูกนี้มีปริมาณระเบิดเทียบเท่ากับทีเอ็นที 15,000 ตัน ทำลายเมืองและเผาผลาญเมืองไปประมาณ 70%

    หลังการทิ้งระเบิดเพียงไม่กี่เดือนในฮิโรชิมา ผู้คนล้มตายไปประมาณ 140,000 คน

    ราว 50% ของผู้ที่อยู่ภายในรัศมี 1.2 กิโลเมตรจากศูนย์กลางการระเบิดเสียชีวิตทันทีในวันนั้น โอกาสเสียชีวิตสูงถึง 80-100% หากอยู่ในรัสมีการระเบิด

    ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีผู้เสียชีวิตตามมาอีกจำนวนมากในปีต่อๆ มา จากผลกระทบของการได้รับรังสี รวมถึงโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็ง และโรคอื่นๆ
    วันนี้เมื่อ 80 ปีก่อน: เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 เป็นวันที่สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ หรือที่มีเรียกว่า "ลิตเติลบอย" (Little Boy) ลงที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น 👉 ระเบิดลูกนี้มีปริมาณระเบิดเทียบเท่ากับทีเอ็นที 15,000 ตัน ทำลายเมืองและเผาผลาญเมืองไปประมาณ 70% 👉 หลังการทิ้งระเบิดเพียงไม่กี่เดือนในฮิโรชิมา ผู้คนล้มตายไปประมาณ 140,000 คน 👉 ราว 50% ของผู้ที่อยู่ภายในรัศมี 1.2 กิโลเมตรจากศูนย์กลางการระเบิดเสียชีวิตทันทีในวันนั้น โอกาสเสียชีวิตสูงถึง 80-100% หากอยู่ในรัสมีการระเบิด 👉 ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีผู้เสียชีวิตตามมาอีกจำนวนมากในปีต่อๆ มา จากผลกระทบของการได้รับรังสี รวมถึงโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็ง และโรคอื่นๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 0 รีวิว
Pages Boosts